Fanboi Channel

นิทานเด็กดีบทที่ 40 (DDN XL) ภาคโม่งกำลังตายทั้งเป็น แต่พระครูบัวเตือนสติทันหวุดหวิด จึงกลับไปฝึกวิชานาฏยุทธ์ ในที่สุดก็กลายเป็นโม่งบาก 3

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:jFeJi.GkV2

นิทานเด็กดีบทที่ 40 (DDN XL) ภาคโม่งกำลังตายทั้งเป็น แต่พระครูบัวเตือนสติทันเวลาพอดี จึงกลับไปฝึกวิชานาฏยุทธ์ จึงกลายเป็นโม่งบาก 3

วิพากษ์วิจารณ์งานเขียนบนเว็บเด็กดีดอทคอม ทั้งจบแล้วและยังไม่จบ ตีพิมพ์แล้วและยังไม่มีใครเหลียวแล รวมไปถึงพูดคุยเกี่ยวกับวงการนิยายเว็บเด็กดี เพื่อความหวังของเว็บโนเวลไทยในอนาคต ทั้งนี้ ไม่สนับสนุนให้นำเรื่องส่วนตัวของนักเขียนแต่ละคนออกมาตีแผ่ ควรเน้นเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานเขียนเท่านั้น

<<คลังกระทู้เก่า>>

นิยายเด็กดี บทที่ 1 -- https://fanboi.ch/webnovel/2403/
นิยายเด็กดี บทที่ 2 -- https://fanboi.ch/webnovel/2703/
นิยายเด็กดี บทที่ 3 -- https://fanboi.ch/webnovel/2907/
นิยายเด็กดี บทที่ 4 -- https://fanboi.ch/webnovel/3066/
นิยายเด็กดี บทที่ 5 -- https://fanboi.ch/webnovel/3187/
นิยายเด็กดี บทที่ 6 -- https://fanboi.ch/webnovel/3229/
นิยายเด็กดี บทที่ 7 -- https://fanboi.ch/webnovel/3388/
นิยายเด็กดี บทที่ 8 -- https://fanboi.ch/webnovel/3594/
นิยายเด็กดี บทที่ 9 -- https://fanboi.ch/webnovel/3852/
นิยายเด็กดี บทที่ 10 -- https://fanboi.ch/webnovel/4106/
นิยายเด็กดี บทที่ 11 -- https://fanboi.ch/webnovel/4265/
นิยายเด็กดี บทที่ 12 -- https://fanboi.ch/webnovel/4393/
นิยายเด็กดี บทที่ 13 -- https://fanboi.ch/webnovel/4626/
นิยายเด็กดี บทที่ 14 -- https://fanboi.ch/webnovel/4810/
นิยายเด็กดี บทที่ 15 -- https://fanboi.ch/webnovel/5006/
นิยายเด็กดี บทที่ 16 -- https://fanboi.ch/webnovel/5346/
นิยายเด็กดี บทที่ 17 -- https://fanboi.ch/webnovel/5535/
นิยายเด็กดี บทที่ 18 -- https://fanboi.ch/webnovel/5769/
นิยายเด็กดี บทที่ 19 -- https://fanboi.ch/webnovel/6022/
นิยายเด็กดี บทที่ 20 -- https://fanboi.ch/webnovel/6295/
นิยายเด็กดี บทที่ 21 -- https://fanboi.ch/webnovel/6506/
นิยายเด็กดี บทที่ 22 -- https://fanboi.ch/webnovel/6868/
นิยายเด็กดี บทที่ 23 -- https://fanboi.ch/webnovel/7834/
นิยายเด็กดี บทที่ 24 -- https://fanboi.ch/webnovel/8477/
นิยายเด็กดี บทที่ 25 -- https://fanboi.ch/webnovel/8614/
นิยายเด็กดี บทที่ 26 -- https://fanboi.ch/webnovel/8685/
นิยายเด็กดี บทที่ 27 -- https://fanboi.ch/webnovel/8795/
นิยายเด็กดี บทที่ 28 -- https://fanboi.ch/webnovel/8876/
นิยายเด็กดี บทที่ 29 -- https://fanboi.ch/webnovel/9247/
นิยายเด็กดี บทที่ 30 -- https://fanboi.ch/webnovel/9744/
นิยายเด็กดี บทที่ 31 -- https://fanboi.ch/webnovel/10135/
นิยายเด็กดี บทที่ 32 -- https://fanboi.ch/webnovel/10275/
นิยายเด็กดี บทที่ 33 -- https://fanboi.ch/webnovel/10680/
นิยายเด็กดี บทที่ 34 -- https://fanboi.ch/webnovel/10887/
นิยายเด็กดี บทที่ 35 -- https://fanboi.ch/webnovel/11174/
นิยายเด็กดี บทที่ 36 -- https://fanboi.ch/webnovel/11834/
นิยายเด็กดี บทที่ 37 -- https://fanboi.ch/webnovel/12989/
นิยายเด็กดี บทที่ 38 -- https://fanboi.ch/webnovel/13803/
นิยายเด็กดี บทที่ 39 -- https://fanboi.ch/webnovel/15451/

รายชื่อนิยายโดนสับไปแล้ว https://docs.google.com/document/d/1ouFhwS9WeoBzEgYHVNYWkeUAbhQ2YkCg4ozpTpx1-94/edit

2 Nameless Fanboi Posted ID:RZzJcjYF0u

สร้างแล้ว ทำไฮไลท์ด้วยเฮ้ย

3 Nameless Fanboi Posted ID:M7Tdyothfh

>>2 ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูทำให้เอง

4 Nameless Fanboi Posted ID:M7Tdyothfh

ก่อนทำไฮไลท์เดี๋ยวขอลงอันนี้ก่อน

*** ระบบป้องกันการ spam ต่างๆ (เนื้อเพลง, อีโมท, พิมพ์ 1 ตัวอักษรลงไป 100 บรรทัด) ***

ถ้ามึงใช้ Chrome ก็ใช้ตัว Chrome Extension Script Runner Pro (ซึ่งจะทำงานเฉพาะบนโม่ง)

link โหลด : https://chrome.google.com/webstore/detail/block-mong-flood/denknahekobanhmcekkdglcogpecegbf
ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก แค่โหลด+ติดตั้งตามปกติ แล้วค่อยเอา Script ไปใส่อีกต่อ

ใส่ที่ไหนยังไง กดดูในรูปนี้ >> https://imgur.com/a/ub4Nx6y ถ้าดูแล้วงง อ่านเป็นข้อๆ ด้านล่างประกอบไปด้วย

1.กดไอค่อนของ Script Runner Pro ถ้ามองไม่เห็นแปลว่ามึงมีส่วนขยายเยอะ ให้กดเข้าส่วนขยาย (รูปจิ๊กซอว์ขวาบน) ไปปักหมุดตัวนี้ก่อน มันจะเด้งโชว์ขึ้นมาจากนั้นก็กดเข้าส่วนขยาย

2.ในหน้าต่างส่วนขยาย ให้กดที่ Open Dashboard ตามด้วยเครื่องหมาย + แล้วกด Install from URL

3.ในช่อง Input URL ให้ก็อปอันนี้ไปวาง >> https://pastebin.com/raw/s3FgDJ59

4.กด CONFIRM INSTALLATION

*** กรณีมึงใช้ Firefox *** เปลี่ยนไปลงปลั๊กอิน Tampermonkey แทน SRP วิธีลงสคริปต์ก็คล้ายๆ กันกับข้างบน

## วิธีใช้งานอย่างง่าย >> https://imgur.com/a/2ZdAfDq ##

หลังติดตั้ง extension แล้วจะมีคำว่า BLOCK ต่อท้ายหมายเลขความเห็น แค่กดจิ๊กเดียวความเห็นนั้นก็จะหายไปเลย กรณีกดซ่อนความเห็นผิดอันแล้วอยากให้ความเห็นนั้นกลับคืนมา ให้เลื่อนลงล่างสุดข้างๆ Reload posts มองหากรอบสีแดงของ extension แล้วกดจนกว่าจะเป็น Show ต่อด้วยกลับไปกด Unblock ความเห็นนั้นจะกลับมาเหมือนเดิม

ตัวเลือกมี 4 อย่างคือ ซ่อน / จาง / เห็นเลขไม่เห็นเมนต์ (จะแสดงข้อความถ้าเอาเม้าส์ไปวาง) / แสดง

5 Nameless Fanboi Posted ID:M7Tdyothfh

:: Topic Highlight ประจำมู้ที่ 39 ::

สับนิยาย: ข้าจะเป็นหมอ.ยา >>>/webnovel/15451/58-61/
โม่งเฮฮา: คำสาปห้องเว็บโนเวล >>>/webnovel/15451/80/
สับนิยาย: เด็กวัด สร้างตำนานลุยโลกแฟนตาซี >>>/webnovel/15451/104-107/
สับนิยาย: ฮัวเหมยสุดยอดตำนานเจ้าเมืองหญิง >>>/webnovel/15451/115-121/
สับนิยาย: The LinkSlayer : Cycle of Other-World >>>/webnovel/15451/235-246/ (มี Tier list ตัวร้ายด้วยด้านล่าง)
สับนิยาย: เกิดใหม่เป็นเเม่มดผู้มีพลังทำลายล้างเทียบเคียงพระเจ้า ภาค ปฐมบทเเม่มดทมิฬ >>>/webnovel/15451/389-391/
ตำนานใหม่ภาค "กลไกนิตยสาร" >>>/webnovel/15451/450-453/
สับนิยาย: ผู้สังหารความมืด (Thai Version) >>>/webnovel/15451/479-480/
สับนิยาย: ต่างโลกพร้อมพลังแห่งการกลืนกิน >>>/webnovel/15451/495-498/
โม่งพูดคุย: ความวน loop ของนิยายแนวเทพซ่าส์ >>>/webnovel/15451/588-589/
โม่งประวัติศาสตร์: มู้นินทาเด็กดวก+ตำนานดอกปอบ >>>/webnovel/15451/830/

มู้ 39 นี่ร้างจริงจัง เปิดมาตั้งแต่เดือนเมษาเพิ่งจะมาปิดตอนเดือนนี้

6 Nameless Fanboi Posted ID6:wkps0kfKgB

โทษที ลืมไฮไลท์สนิท โดนสั่งงาน

7 Nameless Fanboi Posted ID6:uQ65rRv1NG

โม่ง ถ้าอยากจะหาแนว ขับยานรบ ยายอวกาศ ผจญภัย แนวๆstar treks พระเอก นางเอก เป็นกัปตัน ไรงี้ ในเด็กดีมันมีไหม แล้วต้องใช้คำค้นหาอะไร
ลองหาดูแล้วไม่ค่อยเจอแต่คิดว่าอาจใช้คำไม่ถูกมากกว่า
หาในหมวดไซไฟก็รู้สึกกว้างไป อยากได้tag

8 Nameless Fanboi Posted ID:.Z9vUUoVZy

>>7 ใช้ Tag ในเด็กดีนี่ลำบากอยู่นะ มึงคงต้องวัดดวงค้นหาเอาเองแทน

9 Nameless Fanboi Posted ID6:Vhb726HQ1W

>>7 ลองไปหาหมวดอื่นที่ดูใกล้เคียงดูปะ แบบสงครามไรงี้

10 Nameless Fanboi Posted ID:ly2Z+1XwMy

จากมู้ก่อนนะ ช่วยแนะนำนิยายแนวปลูกผักให้หน่อย (เอาแบบเรื่องโรแมนซ์รักๆ ไม่มากเกินนะ กุไม่ชอบ NC)

กุเพิ่งกลับมาอ่านนิยายเว็บไม่ค่อยรู้เรื่องหรือแนวใหม่ๆ ที่นิยมกันเท่าไหร่ แนะนำแนวอื่นด้วยก็ได้แต่ของานที่โม่งคิดว่าดีๆ หน่อย จะเอาที่โม่งเขียนกันเองก็ได้ 555

11 Nameless Fanboi Posted ID:8k6r6RxnZd

>>10 ขอที่โม่งเขียนคงไม่ค่อยดีมั้ง ส่วนตัวกูแนะนำไม่ได้เหมือนกันเพราะไม่อ่านแล้วปลูกผัก ค้นหาเอาจากคำว่า ทำสวน, ฟาร์ม อะไรพวกนี้คงเจออยู่มั้ง (แต่คุณภาพดีหรือไม่นี่แล้วแต่ดวงนะ)

12 Nameless Fanboi Posted ID:cchFkT9dsC

>>10 แนะนำของคนที่กุรุ้จักงานรู้จักฝีมือแล้วกัน
อ่าน "เกิดใหม่เป็นท่านอ๋องปลูกผักแห่งหนองน้ำ" ในนิยาย Dek-D หรือยัง

http://writer.dek-d.com/mormaew/writer/view.php?id=2220822

13 Nameless Fanboi Posted ID:8wpDKi6ci3

>>10 เคยอ่านเรื่องท่านคารันรึยัง มีอีบุ๊คในเมบด้วยนะ

14 Nameless Fanboi Posted ID6:yHlZKTe3kO

คิดว่านิยายจีนโบควรเปลี่ยนพล็อตมั้ย เดาเรื่องง่ายไป

15 Nameless Fanboi Posted ID:YflRECsu4Z

>>14 เดี๋ยวนี้อะไรขายได้ก็ทำซ้ำไปเรื่อยๆ อะ อย่าไปหวังให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในช่วงนี้เลย

16 Nameless Fanboi Posted ID:QQ29lUp3UI

>>14 อะไรที่มันยังขายได้ แปลว่ายังมีคนอ่าน เดี๋ยวต่อไปมีอะไรใหม่ๆ ว้าวๆ กว่าเข้ามา มันก็จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปเอง อย่างตอนนี้นิยายเกมออนไลน์ก็ซบเซาลงละ นิยายแนวโรงเรียนเวทมนตร์ก็ไม่ค่อยเห็น

พูดแล้วก็อยากอ่านนิยายแนวเกมออนไลน์กาวๆ สักเรื่องเหมือนกันนะ

17 Nameless Fanboi Posted ID6:N3kzIvYGdL

>>16 เกมออนไลน์นี่ตอนนี้คือตามเรื่องเก่าที่ยังไม่จบอย่างเดียวเลย แทบไม่ได้เปิดเรื่องใหม่ แถมไอ้เรื่องเก่า ๆ ที่ว่านี่ก็โดนคนแต่งดองไปอีกซะเยอะ

18 Nameless Fanboi Posted ID:dK9DU0Hvep

>>17 ไฟมันมอดหมดแล้ว ลองถ้ามีแนวใหม่มา จีนโบ ปลูกผัก ระบบ ที่มีอยู่ตอนนี้ก็จะกลายเป็นแบบเดียวกัน อาจจะไม่ได้ตกวูบหายไปเลย แต่คนก็จะหันไปจับกระแสอื่นที่ใหม่กว่าเพราะมันขายดีกว่า

19 Nameless Fanboi Posted ID6:acjCmj+FkS

>>18 ขอถามแนวปลูกผัก ทำไมกูหาไม่เจอวะ ไปหลงหมวดไหนหว่า

20 Nameless Fanboi Posted ID6:DcULA5pfdY

ยุคนี้ใครเขาปลูกผักกันวะ ท็อป20 เขามีแต่ย้อนไปยุค 80

21 Nameless Fanboi Posted ID:A6hb8x5YyO

มีแนวโรงเรียนมัน ๆ ไหมวะอยากอ่าน

22 Nameless Fanboi Posted ID6:QNZaiD8c6s

>>21 ไม่น่าเจอ มีแต่แฮรี่ช่างปั้นหม้อวอนนาบี

23 Nameless Fanboi Posted ID6:jjN7AdyHkS

เบื่อพวกโฆษณาในบอร์ดว่ะ ทุกวันทุกสัปดาห์ดันกระทู้อื่นลงหมด

24 Nameless Fanboi Posted ID:AfxkJDPXCO

>>23 เอากระทู้โฆษณาออก ไม่ต้องให้มันแสดงได้

25 Nameless Fanboi Posted ID6:O9v/AG9Q/V

>>23 กดหมวดย่อยอื่นสิ

26 Nameless Fanboi Posted ID6:nVtES6MQug

>>23 เพื่อนโม่งมึงหมายถึงพวกขาจรป่าววะ

27 Nameless Fanboi Posted ID6:Zd5FovbA0D

กูเอะใจกับมนุษย์ต่างดาว หน้าตาเป็นไงวะ ในโลกนิยายจีน https://www.dek-d.com/board/writer/4072614/

28 Nameless Fanboi Posted ID6:3akVOkFOqq

>>27 รอบนี้กูเห็นด้วยอีตุ๋นกบ สะท้อนสังคมไทยชัดๆ

29 Nameless Fanboi Posted ID6:CcJYT6IXeP

อยากจะตอบเขาจริงๆ แต่มู้ไม่เปิดให้นอนเมนตอบ
กูขอตอบว่า อย่าสักแต่ยอดวิวเพิ่ม มึงควรดูสถานที่ด้วยว่าแต่ละเว็บเน้นขายอะไรกัน นิยายดีแค่ไหน แต่ลงเว็บผิดที่ก็ได้ยอดไม่สู้ดีหรอก
https://www.dek-d.com/board/writer/4072959/

30 Nameless Fanboi Posted ID:G0g1krTgE4

>>29 ลุงมิกกี้แม่งตกยุค นิยายเรื่องเก่าจะเรียกว่าเป็นนิยายยังไม่ได้เลย เขียนมาเป็น 10 ปี ยอดวิวก็มีอยู่แค่นั้น กูไม่ได้จะใจร้ายนะ แต่นิยายลุงไม่ไหวจริงๆ ขนาดคนรักการอ่านอย่างกูยังต้องยอมแพ้ กูจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับนิยายเมกานิเตอร์ซาก้าของไอ้เวคเตอร์-เหรดเลยล่ะ

31 Nameless Fanboi Posted ID6:LZOs/9sLz5

ไม่รู้ควรเชื่อใครดี https://www.dek-d.com/board/writer/4073431/

32 Nameless Fanboi Posted ID:jD/fUimtLY

>>31 เชื่อกุ กุศึกษามา แต่กุขอนิยายที่ใช้บ่มเพาะไม่มีใครโยนมาให้นี่ ไม่มีน้ำใจกันเลย

33 Nameless Fanboi Posted ID6:UmdfKPYaNM

อยากเขียนแนวโลลิ ลงเว็บไหนดีสุดโม่ง

34 Nameless Fanboi Posted ID:WFDvLWYknE

ร้างเรอะ... ก็ดีเหมือนกัน

>>33 มีเย็กไหม ถ้ามีไป ธวล. ถ้าไม่มีลงเด็กดวกก็ได้ เห็นไอ้กวี (K.W.E) เขียนมาตั้งนานแล้วนี่เรื่องมีอา(พี่จ๋าๆ) น่ะ

35 Nameless Fanboi Posted ID:AkG4WuJ+Ue

กลับมาอีกครั้งหลังมีข้อความลับส่งเข้ามาในมายไอดี หัวเรื่องเขียนว่า "ผลักดันไก่ใหญ่" ตอนแรกกูพยายามมองโลกในแง่ดีว่าบางทีมันอาจเป็นการประชาสัมพันธ์โครงการทางการเกษตร พอเปิดเข้าไปอ่านประโยคแรกปุ๊บ "ฉันอยากจะดูดไก่" ทีนี้แม่งชัดเลย แล้วทางเว็บก็ไม่เคยคิดจะแก้ด้วยนะ เห็นแล้วก็ขำขึ้นมาเพราะเคยมีคุยกันในโม่งเรื่องแนวนี้มาหลายครั้งละ (เรื่องโฆษณาเว็บโป๊ที่ใช้ google แปลไทย) ก็เลยว่าแวะมาสับนิยายหน่อยดีกว่า

เปิดบัญชีหนังหมาขึ้นมาเรื่องล่าสุดที่จะโดนคือเรื่อง Tales Of New World จบ!!! สงสัยกลัวไม่รู้ว่าแต่งจบแล้ว คือกูเข้าใจนะว่าด้วยความที่มีระดับพลังและใช้ชื่อตัวละครเป็นชื่อจีน คงระแวงว่าคนจะไม่ตามอ่านเพราะเป็นแนวยืดตอนหลอกขาย อย่างไรก็ตามถึงจะจบลงได้ แต่เป็นการตัดจบแบบไม่เคลียร์ปมหลักของเรื่องจนโดนรีวิว 2 ดาวติดหน้าผากคนเขียนไว้ตรงหน้าแรก ถ้าถามความเห็นกูที่ไม่เป็นกลางอยู่แล้ว บอกได้เลยว่ามักง่าย แต่งมาได้ตั้ง 485 ตอนแล้วก็น่าจะมีความสามารถพอที่จะจบเรื่องได้สวยๆ แต่ดันไม่ยอมทำ

สาเหตุที่ติดมาในบัญชีหนังหมาเพราะพี่เว็บเอานิยายเรื่องนี้มาทำบทความเกี่ยวกับความสามารถโกงๆ ของพระเอกนิยาย มันจะไม่มีปัญหาอะไรเลยถ้าในบทความไม่เขียนว่า "สนุกพอๆ กับนิยายเรื่อง MSO" อ่านแล้วกูเลยต้องจดเอาไว้ก่อน ถ้าใครสงสัยว่าความสามารถนั้นคืออะไร เฉลยสั้นๆ ว่า พระเอกเห็นอนาคตในโลกเกมล่วงหน้าได้ 5 วินาที หรือก็คือมีหน้ากากอิพิธาปเล็กๆ ติดบนหน้าผากเหมือนบอสเรื่องโจโจ้ภาค 5 นั่นเอง ส่วน MSO นายศิลาของเราเป็น Healing factor แบบพี่วูฟเวอร์รีนจาก X-Men

ในยุคที่นิยายออนไลน์ยังเขียนด้วยพล็อตเวอร์วังอลังการ แม้ MSO ยุคหลังจะสเกลพลังเกินขีดจำกัดของความพอดีไปแล้ว แต่ช่วงแรกก็ถือว่าสนุกจริงๆ การเอา MSO มาเทียบกับนิยายระดับพลังแบบนี้เลยทำเอากู tilt เบาๆ จบช่วงบ่นแล้วก็เข้าเรื่องเลยดีกว่า

Tales Of New World จบ!!!
https://writer.dek-d.com/Dragonfly45/writer/view.php?id=2006873

ชื่อเรื่องธรรมดา แต่คำโปรยขายของว่าเป็นแนวกลับมาเกิดใหม่ เพื่อให้เข้าตาลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้ทันที ภาพปกลงทุนจ้างวาดมาอย่างดี คุณภาพถือว่าโอเค ปกรองเป็นเรื่องย่อของพระเอกก่อนย้อนเวลามาตอนอายุ 18 เขียนระดับพลัง/ค่าชื่อเสียง/ความสามารถเฉพาะของจิตแบบต่างๆ กูว่ากูคงไม่พูดอะไรเยอะเพราะมันอาจกำลังเป็นที่นิยมในตอนนั้น

ตอนที่ 1 : เสียเวลา

เปิดฉากด้วยการถูกมือปืนรุมของพระเอก แถมโดนหนึ่งในนั้นเย้ยว่านอกจากมึงมันก็เป็นได้แค่ไอ้กระจอกคนหนึ่งนี่หว่า หลังจากหมดลมหายไปใจอยู่ดีๆ พระเอกของเราก็ฟื้นขึ้นมาในห้องนอนตอนอายุ 18 แล้วพูดคนเดียวว่าเราย้อนเวลามา 20 ปี (แปลว่าก่อนตายนี่มึง 38 แล้วสิ) มีการโอดครวญว่าชาติที่แล้วตอนเข้ามหาลัยกูติดเกมจนทิ้งทางบ้านไปอยู่กับเพื่อนในเกม ถึงจะรุ่งในโลกเกมแค่ไหน ชีวิตจริงกลับพังไม่เป็นท่า พ่อตาย แม่กับน้องสาวหมดตัว ธุรกิจที่บ้านก็ล้มละลาย เอาเป็นว่าชาตินี้เดี๋ยวเอาใหม่อีกที

ตอนที่ 2 : เหวิน เหวิน

ก่อนจะไปต่อ กูขอถอดสมองและความสมเหตุสมผลทิ้งไปชั่วคราว เพราะเราคุยกันเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้วว่านิยายเกมมันไม่เคยมีสมดุลทั้งเรื่องเมคานิคของระบบและเทคโนโลยีเครื่องเล่นที่ล้ำสมัยเกินกว่าจะเกิดขึ้นในปีที่ตัวเอกย้อนเวลากลับมา ... ในห้องประชุมของห้างที่พ่อพระเอกเป็นเจ้าของ อยู่ดีๆ พี่เทพ (ในเรื่องมันชื่อนี้จริงๆ) ก็ขอเสือกเข้ามาประชุมด้วย ความจริงแล้วพระเอกตอน 18 พูดจีนได้แค่ มีน้างแลงจะกิงน้างส้วม แต่ความทรงจำจากยุคอนาคตทำให้พี่เทพเกิดเทพภาษาจีนขึ้นมาเพราะเพื่อนในเกมแม่งเป็นคนจีน ว่าแล้วก็เสนอว่าให้สั่งซื้อเครื่องเกมมาขายที่ห้างไปเลย 200 เครื่องรวด เพราะในอนาคตเกม tale of new world จะต้องฮิตระเบิดแน่นอน ประชุมเสร็จก็ติดต่อไปที่บริษัทแม่ของเกมในจีน ขอสายคนชื่อเหวิน เหวิน เพื่อนในเกมที่พระเอกเคยเล่นด้วย ใช้ความกวนตีนหลอกล่อนิดหน่อย นักเจรจาทางการค้าของฝั่งโน้นก็ถูกคอกับพระเอกและตกลงว่าจะมาเข้าไปเล่นเกมด้วยกันได้อย่างง่ายดาย

36 Nameless Fanboi Posted ID:AkG4WuJ+Ue

ตอนที่ 3 : ลูกชาย!?

เนื้อหาในตอนไม่เกี่ยวกับชื่อตอนแม้แต่นิดเดียว สรุปย่อๆ ได้ว่าพี่เทพไปฟิตเนสเพราะรู้สึกว่าต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรงเท่ากับอีก 20 ปีข้างหน้า มีสาวๆ แอบมองแล้วบอกว่าพี่เทพเค้าหล่อจริง แล้วจบตอนตรงพี่เทพเล่นเครื่องต่างๆ จนครบใช้เวลารวม 5 ชั่วโมง จากใจคนที่พอรู้เรื่องกล้ามเนื้ออยู่บ้างแบบกู สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นกีฬาอะไร แล้วจู่ๆ มาเล่นหนักต่อเนื่องกันแบบนี้ รับรองว่าวันรุ่งขึ้นขยับตัวไปไหนไม่ได้เพราะปวดกล้ามเนื้อเหี้ยๆ หนักหน่อยก็มวลกล้ามเนื้อสลาย ตับ-ไตมีปัญหา แต่ก็ช่างแม่ง กูถอดสมองไปแล้ว ถ้าจะให้แนะนำคงอยากบอกแค่ว่าช่วงแรก ให้เล่นเบาๆ และใช้เวลาสั้นๆ ก่อน พอปรับสมดุลได้แล้ว ก็ให้เพิ่มความหนักและระยะเวลาขึ้นทีละน้อยเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม (ปกติคือ 15-30 วัน) ไม่งั้นเดี๋ยวจะเกิดเรื่องเหมือนข่าว รด. เมื่อวาน

ตอนที่ 4 : ถงเวย

ชื่อตอนเป็นชื่อไอดอลสาวชาวจีน เนื้อเรื่องพูดถึงข่าวการโปรโมตเกม tale of new world และใช้ไอดอลชื่อถงเวย (ไม่ใช่ถงเหวยเหรอวะ) มาร่วมงาน ไม่รู้ทำไมพี่น้องชาวไทยพากันรู้จังน้องถงเวยกันหมด แล้วบอกว่าจะต้องไปร่วมงานนี้ให้ได้ (เพราะในงานมีแจกเครื่องเกมฟรีด้วย) พี่เทพที่รู้ว่าถงเวยจะมาก็ออกไปรับด้วยตัวเอง แกล้งบอกว่าตัวเองเป็นพนักงานกากๆ แล้วหลอกด่าแม่สาวไอดอลด้วยภาษาไทยทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าเธอพูดไทยได้

ตอนที่ 5 : แสดงว่านายยังไม่เจอฉัน

ความคืบหน้าในตอนมีแค่ พี่เทพรู้ว่าน้องถงเวยเป็นแฟนไอ้เหวินอย่างลับๆ ก่อนจะเริ่มการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่จากจีนกับบริษัทพ่อ พี่เทพเลยแกล้งถามว่าแฟนเธอจะมาถึงหรือยัง ทำเอาไอดอลของเราสะดุ้งเล็กน้อย พอเฮียเหวินมาเทพก็เข้าไปทัก ทำเอาพวกตัวละครรองพากันมึนตึ๊บว่าพระเอกมันรู้ได้ไงวะ ประชุมเรื่องงานเกมจบ พี่เทพก็พาเหวินกับถงไปกระดกไวน์กันก่อนกลับ แลกไอดีแชทโปรแกรมคล้ายๆ ดิสคอร์ดกันเสร็จก็จบตอน

การบรรยาย : เนื้อหาต่อตอนค่อนข้างสั้น แต่ก็ไม่ได้สั้นมากจนน่าเกลียด จะว่าไงดี อาจเหมาะกับแนวยืดเรื่องขายแบบนี้แล้วก็ได้ บทสนทนาทำได้โอเค คำผิดไม่ค่อยมี อ่านแล้วรำคาญเล็กน้อยตรงที่ใส่พินอินในบทสนทนาโดยไม่จำเป็น มีการใส่ตัวหนาว่าตรงนี้กำลังจะคุยไทย ตรงนี้กำลังจะคุยจีน ตามด้วยคำว่า "จ้า" บทบรรยายมีการเทข้อมูลใส่บ้างแต่ไม่มากเท่าไหร่ เทได้ถูกที่และทำให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์ขึ้น ถือว่าทำได้ดีในระดับนิยายแปลจีน โลกหมุนรอบตัวพระเอก ผู้ซึ่งถูกนักเขียนอวยว่าหล่อและฉลาดจากความรู้เก่าในชาติก่อน ตามแบบฉบับนิยายจีนตายแล้วย้อนเวลามาแก้ไขเรื่องที่พลาดไปในอดีต

ตัวละคร : กูรู้สึกเฉยๆ กับพระเอก แต่ดันชอบตัวละครรอบๆ แทน อย่างน้องสาวที่ชื่อฟ้า เพื่อนเหวินกับแฟนเพื่อนน้องไอดอล ตัวละครพวกนี้มีบทพูดที่น่าสนใจกว่าตัวพี่เทพ ส่วนพระเอกของเราเป็นพวกคุยเรื่อยเปื่อยและมีหน้าที่แค่โดนอวยว่าหล่อ

เนื้อเรื่อง : แนวย้อนเวลากลับมาแก้ไขอดีตผสมเกมออนไลน์ มีปมแค่จำทะเบียนรถพวกมือปืนได้ เนื้อหา 5 ตอนแรกยังไม่ได้เข้าเกม มันไม่ได้เดินเรื่องช้า แต่ด้วยความที่ตอนมันสั้นก็เลยไปไม่ถึงไหน แหกขนบนิยายเกมตรงที่ได้เครื่องเกมมาทันทีเพราะผมรวย ซึ่งปกติมักได้มาฟรีจากงานเปิดตัวเกมในนิยายเรื่องอื่น

จุดเด่น : ความหล่อของพระเอก

จุดด้อย : เปิดเรื่องได้กาก ฉากโดนฆ่าของพระเอกไม่เกิดอิมแพคเหี้ยอะไรเลย พอย้อนมาก็มีดึงดราม่านิดหน่อยว่าชาติก่อนหนีออกจากบ้านจนพ่อมึงตาย เดินเรื่องตามขนบอย่างมีสไตล์ (เพราะผมเป็นลูกเจ้าของบริษัท) 5 ตอนแล้วก็ยังไม่ได้เข้าเกม

คะแนน : ปวดกล้ามเนื้อหลังไปฟิตเนส/10

ความเห็นส่วนตัว : ยอดวิว 5 แสนจาก 485 ตอนถือว่าอยู่ในระดับพอใช้ ต่อไปนี้ถ้าเป็นนิยายเกมออนไลน์กูจะเลิกพูดถึงความเร็วของการเดินเรื่อง (เพราะแม่งชอบซอยตอน) แต่จะพูดถึงการเปิดฉากในตอนที่ 1 แทนว่าทำได้ดีแค่ไหน ตามขนบหรือแหวกได้อย่างน่าสนใจ สำหรับเรื่องนี้ถือว่าแหวกนิดๆ แต่ยังไม่สามารถทำให้ประทับใจได้ พระเอกใช้ข้อมูลที่รู้อยู่แล้วจากชาติก่อนมาสร้างความได้เปรียบให้ตัวเอง ส่วนเรื่องสมดุลเกมและฉากต่อสู้ยังให้ความเห็นไม่ได้เพราะเรื่องยังวนอยู่แค่ที่บ้าน ฟิตเนส และห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

37 Nameless Fanboi Posted ID6:qIbY2g2Td6

>>35 ไม่ได้อ่านวิจารณ์มานานแล้ว เยี่ยมมากโม่ง

38 Nameless Fanboi Posted ID:jZzXGHSylb

>>35 ยังไงก็ต้องขอบคุณในความเหนื่อยยากที่เขียนรีวิวมาให้อ่านกัน

39 Nameless Fanboi Posted ID:qCzQS4u5xM

เรื่องต่อไป...

Top Up Now 2 ภาคบุรุษหมื่นเหรียญ
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=2027568

เหยดดดด ภาคต่อของนิยายที่มี pacing ห่วยที่สุดในประวัติศาสตร์การสับ (ความเดิมตอนที่แล้ว >>>/webnovel/9744/26-33/ ) รอบก่อนคิดว่าจะไม่สับแล้วแต่ลองดูก็ได้วะ ภาพปกดูดีขึ้นมาจากภาคแรกแต่ก็มีจุดที่โดนติอยู่ตามความเห็นของเพื่อนโม่งในมู้ที่ 32 คำโปรยพยายามจะทำให้ดูขลังตามสไตล์แฟนตาซีแต่อ่านกูแล้วขนลุก และอาจมีเพียงคนที่ชอบภาคแรกแล้วตามมาอ่านต่อเท่านั้นถึงจะสามารถอินไปกับคำโปรย cringeๆ แบบนี้ ปกรองมีเรื่องย่อประมาณว่าภาคนี้พระเอกของเราเขาเทพแล้วนะ พวกมึงไม่ต้องมาคอยบ่นแล้วว่าเดินเรื่องช้าสัสเมื่อไหร่พระเอกจะเก่ง จากหนุ่มหน้ามนคนขุดเหมืองกลายเป็นชนวนสงครามระหว่างเหล่าเทพและทัพมาร สปอยนิยายตัวเองเรียบร้อยแล้ววกกลับมาบอกว่าตอนนี้อยู่เมืองหลวง เป็นศิษย์มีครูเต็มตัว ผัวยังไม่มีแต่เมียกำลังจะมา รูปแบบปกรองแม่งแทบจะเหมือนเดิม ส่วนท้ายมีคำชี้แจง 3 ข้อ กับ add-on เพจเฟซบุ๊กที่มีผู้ติดตามมหาศาลถึง 33 คน ถ้าอยากให้ข่มกูคงบอกว่านิยายที่แต่งด้วยไอดีรองโนเนมของกู เรื่องใหม่ลงไปแค่ 20 ตอนแรกก็มีคนตามหน้าเพจหลักร้อยแล้ว เดี๋ยวมาดูกันว่าเพราะอะไรนิยายที่มาถึงภาค 2 และกำลัง on going ไปที่ 769 ตอนถึงมีผู้ติดตามเท่าปลายxมอยแบบนี้

ตอนที่ 1 : บทนำ

ไอ้เหนือภพหมดสติลอยตามน้ำมาติดเบ็ดตาลุงท่าทางมอซอ ลุงช่วยไว้แล้วพระเอกก็ฟื้นมาถามทาง ลุงบอกไม่ต้องไปที่นั่นหรอกฝึกวิชากับอาจารย์ลุงเก่งเร็วกว่า เจ้าหนุ่มบอกโอเคก่อนจะสลบต่อ แล้วอยู่ดีๆ ก็ตัดฉากว่ามีแม่นางคนสวยชื่อจี๊นจีน (ประชด) ว่าอังกาบมาบ่นว่าลุงแม่งแดกเหล้าเก่ง ทำไว้ 100 ไห ไม่ถึงเดือนลุงล่อไปแล้ว 80 เกินโควต้าส่วนที่ต้องแบ่งเอาไปกำนัลให้จ้าวตึกคนอื่นๆ สรุปว่าลุงเองก็เป็นคนใหญ่คนโตพอตัว แต่เขียนหนังสือไม่ได้เลยขอให้อังกาบเขียนจดหมายแทนหน่อย แล้วก็ส่งไปให้อาจารย์ลุงด้วยนะ จบตอนไปแบบงงๆ ว่าพระเอกของเรามันไปนอนแดกฝุ่นอยู่ตรงไหนของตลิ่งละวะ

ตอนที่ 2 : ตอนที่ 1 จดหมายของเหนือฟ้า

เออ... ทั้งตอนก็ตามชื่อตอนเลย คือเป็นจดหมายของน้องสาวพระเอกเขียนถึงเจ้าตัวที่หายไป 1 ปีเต็มแล้ว ไม่มีความคืบหน้าเหี้ยไรเกี่ยวกับเนื้อเรื่องแม้แต่น้อย ที่กูจำได้มีแค่บอกว่าน้องฟ้าเพิ่มพลังเทพีซ่าส์มากขึ้นอีกแล้วนะคะพี่ชาย ตอนนี้หนูเป็นฮันเตอร์แรงค์ D ขั้นที่ 40 นอกนั้นคือเล่าถึงตัวละครภาคแรกที่บางส่วนกูพอจำชื่อได้ ก็คงเป็นคนในก๊วนพระเอกนั่นแหล่ะ แล้วเล่าหมดจนครบทุกตัว (ราว 20 คน) จนผิดหลักเรื่องการเขียนข้อมูลลงในบทสนทนาด้วย คือมีแค่ไอ้ม้าศึกกับช้างศึกเท่านั้นที่หายไป แต่มีคนชื่อเฮงเฮงกับซวยซวยโผล่มาแทน (สาบานนะว่านั่นคือชื่อคน)

ตอนที่ 3 : ตอนที่ 2 เรื่องราวเมื่อสี่ปีที่แล้ว

เปิดตอนมาด้วยไอ้เหนือภพกำลังเคาะบักฮือสวดมนต์ (เขาเรียกบักฮื้อค่ะอีชิบผาย) พระอาจารย์ชื่อสิริซึ่งน่าจะเป็นคนที่ลุงในตอน 1 ส่งพระเอกมาหาบอกว่า มึงฝึกวิชามาครบ 4 ปีควรกลับออกไปสู่โลกภายนอกได้แล้ว ไม่ทันได้พูดอะไรหลวงพ่องก็จับไอ้ภพสึก พระเอกของเราได้แต่บอกลาแล้วโดดลงน้ำตกไป ทางเดินดีๆ ก็มีอยู่แถวนั้นทำไมมึงไม่เดินลงเขาไปวะ ขึ้นย่อหน้าใหม่ตัดฉากย้อนไปเมื่อ 4 ปีก่อน ไอ้ภพสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายตรงหน้าวัด เพราะในฝันน้องกลิ่นจันทร์ (น้องคนที่จะโดนจับไปขายซ่องในภาคแรก) โดดหน้าผาต่อหน้าพระเอก แล้วหลวงพ่องก็โผล่มารับตัวถูกเวลาตอนตื่นพอดี มีการเทข้อมูลที่ไม่จำเป็นในส่วนกลางและท้ายตอน เกี่ยวกับวัดในถ้ำใต้น้ำตกและการลดจำนวนลงของพระสงฆ์

ตอนที่ 4 : ตอนที่ 3 บรรพชิตย่อมไม่เหงา

เนื้อหาเป็นบทบรรยายเสียส่วนใหญ่ เล่าว่าจารย์ให้เหนือภพออกบวชเพื่อสลายความแค้นในใจ วันๆ ก็ทำกิจของสงฆ์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ กวาดลานวัด มีอยู่อย่างเดียวที่ดูคล้ายการฝึกฝนคือโดนใช้ให้ไปตักน้ำที่แหล่งน้ำห่างออกไป 10 กิโลเมตร ครั้งแรกที่ไปใช้เวลาตั้ง 3 วันกว่าจะกลับมาถึงเพราะทางทั้งไกลทั้งชัน ท้ายตอนไอ้ภพแซวจารย์ว่าที่ให้บวชเป็นเพราะไม่อยากให้ตัวเองหนีไปใช่ไหม จารย์บอกความรู้สึกแบบนั้นสำหรับผู้ละทางโลกไปแล้วมันไม่มีอยู่หรอก พระเอกก็คิดในใจว่าท่านอาจารย์อย่ามาซึนเดเระ

40 Nameless Fanboi Posted ID:qCzQS4u5xM

>>39

ตอนที่ 5 : ตอนที่ 4 พหุยุทธ์

หลังฝึกมาได้ปีเศษจารย์ก็เริ่มสอนวิชามวยตามชื่อตอน แนวคิดคล้ายการออกอาวุธของมวยไทยมีทั้งหมด 147 ท่า ฝึกไป 1 ปี ก็จำ 30 ท่าแรกที่เป็นท่าพื้นฐานได้ พอครบ 2 ปีพระเอกของเราก็จำ 31-147 ได้ครบทั้งหมด แต่โดนจารย์สั่งไว้ว่าอย่าใช้ท่าพวกนี้ เพราะอาจเป็นอันตรายจากการเปิดช่องโหว่ให้ศัตรูสวนกลับได้ ฝึกใช้ 30 ท่าแรกให้ชำนาญมากๆ ส่วนท่าที่เหลือให้ใช้ก็ต่อเมื่อเห็นว่าสบโอกาสจริงๆ เท่านั้น มีพูดถึง มวยแข็ง-มวยอ่อย แต่เป็นคนละแบบกับที่กูเคยบอก เพราะอันนั้นหมายถึง มวยที่ทำให้แตกหักและฉีกขาดภายนอกกับมวยที่ทำลายอวัยวะภายในและการหายใจ สำหรับเรื่องนี้ผึ่งพุงบอกว่ามวยแข็งคือการโจมตีแบบตรงไปตรงมา ส่วนมวยอ่อนคือการโจมตีที่พลิ้วไหวและจับทางได้ยาก แล้วก็จบตอน

การบรรยาย : อยู่ในเกณฑ์ปกติและยังคงพบความขี้เล่นแฝงอยู่ในคำพูดของตัวละครหลายตัว เหมือนพยายามจะให้เนื้อเรื่องติดฮาบ้างซึ่งบางครั้งก็ไม่เหมาะกับความตึงเครียดในเหตุการณ์ บทบรรยายเป็นแบบเทข้อมูลที่ยังคงมีสัดส่วนของ show น้อยกว่า tell บทสนทนาเป็นธรรมชาติไม่ติดขัด voice และวิธีการพูดของแต่ละตัวละครทำให้สามารถแยกได้ว่าใครกำลังพูดอยู่ คำผิดมีน้อยลงจากภาคแรกและเขียนคำว่าเชี่ยวกรากได้ถูกแล้ว (จากที่เคยเขียนว่าเชี่ยกราด) สิ่งที่ยังคงมีอยู่อย่างเสมอต้นเสมอปลายคือปัญหาด้านลำดับการเล่าเรื่อง รวมไปถึงจังหวะการให้ข้อมูล เดาว่านักเขียนแม่งคงไม่เก่งด้านนี้จริงๆ เพราะการตัดฉากทำได้ค่อนข้างแย่ นึกจะตัดก็ตัด นึกจะข้ามก็ข้าม อะไรที่ควรให้ข้อมูลดันตัด สิ่งที่ควรลดหรือข้ามดันเล่ายืดยาว

ตัวละคร : เหนือภพทางกายภาพดูเหมือนว่าจะเก่งขึ้นกว่าภาคแรกและกำลังเดินหน้าฝึกวิชาเพิ่มเติม จากฝันร้ายในตอน 3 กูเดาว่าน้องกลิ่นจันทร์คงม่องเท่งไปเรียบร้อยจนกลายเป็นเหตุให้พระเอกของเราเกิดความแค้น อย่างไรก็ตามกูคงต้องบอกตรงๆ ว่า วิธีการพูดของไอ้ภพดูไม่เหมือนคนมีความแค้นเท่าไหร่ หลายจุดยังดูดี๊ด๊ากวนตีนเหมือนเคย น้องเหนือฟ้ายังดูจริงจังมากกว่าคนเป็นพี่ ตัวละครประกอบอื่นๆ ทำได้ดีทั้งนิสัยใจคอและวิธีการสนทนาที่มีความเฉพาะตัว สำหรับพระเอกของเรากูยังคงยืนยันว่าไม่เด่นพอจะเป็นตัวเอกได้ ทั้งด้านความเท่และนิสัย โดยเฉพาะเรื่องการชอบหนีปัญหาตามที่เรื่องย่อสปอยไว้ พัฒนาการของตัวละครควรเดินไปข้างหน้าไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่ ไม่ต้องพูดถึงภาค 2 แต่มันควรดีขึ้นตั้งแต่ภาคแรกหลังจากต้องเผชิญปัญหาต่างๆ มาจนถึงท้ายเรื่อง อันนี้คือสิ่งสำคัญที่นักเขียนทุกคนต้องทำให้นักอ่านเชื่อหรือรู้สึกได้ว่าตัวละครเอกนั้นเปลี่ยนไปในทางบวก ทั้งเขาและพรรคพวกควรเติบโตทางความคิดจากประสบการณ์ที่ได้พบเจอ หรืออย่างน้อยที่สุดคือควรมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

เนื้อเรื่อง : แฟนตาซีที่บทบรรยายและบทสนทนายังคงจี๊นจีน ภายใต้การตั้งชื่อที่ไท๊ยไทยทั้งตัวละครและวิชา ในภาคที่แล้วกูคิดว่าที่แต่ละตอนเดินเรื่องแบบไม่มีคลิฟแฮงเกอร์เป็นเพราะนักเขียนจงใจ แต่มาตอนนี้กูเดาว่าคงเป็นเพราะแต่ละตอนสั้นลงกว่าภาคที่แล้วเลยไม่รู้จะหาจังหวะไหนมาใส่ดี คลิฟแฮงเกอร์เป็นเครื่องมือช่วยให้เกิดความน่าติดตาม แต่พอตอนมันสั้นเลยเกิดปัญหาว่า ไอ้เหี้ย... กูจะทำยังไงให้มันน่าติดตามทุกตอนได้ ในเมื่อ 1 ตอนหลังลดตัวอักษรลงเหลือ 14 pt แล้วมันยาวแค่หน้านิดๆ นี่แหล่ะคือดาบ 2 คมของการซอยตอน เพราะต่อให้แยกเป็น 5 ตอนย่อยในชื่อตอนเดียวกัน การใส่คลิฟแฮงเกอร์ในตอนย่อยที่ 5 อาจไม่สามารถสร้างความรู้สึกใดๆ ได้ เพราะความสั้นของตอนที่นักอ่านเคยชิน

อีกอย่างที่กูต้องพูดถึงให้ได้คือกิมมิคของเรื่องมันหายไปไหนแล้ววะ 5 ตอนแรกของภาค 2 ไม่มีการพูดถึงทั้ง Tablet และการเติมเงินที่เป็นจุดขายของนิยายภาคหลักแม้แต่ที่เดียว หรือจงใจปูทางเรื่องไปยาวๆ แล้วค่อยใช้ plot device ตัวนี้ทีหลังเหมือนภาคที่แล้ว แม่ง... กูบอกได้เลยว่าพัง ภาคก่อนก็เคยโดนด่าไปแล้วเกี่ยวกับความช้าของการเดินเรื่อง มาภาคนี้ก็ยังจะทำเหมือนเดิมอีกเหรอ กูไม่รู้ว่ากูอคติเองหรือเปล่าเพราะกูไม่ได้อ่านช่วงท้ายของภาคแรก บางทีอาจมีเหตุการณ์ให้เหนือภพใช้ Tablet กับระบบเติมเงินไม่ได้ชั่วคราว แต่ถ้าไม่ใช่แบบนั้นแล้วล่ะก็ แปลว่านักเขียนล้มเหลวด้านการขยี้จุดขายของตัวเอง เป็นมีดมันต้องคม เป็นพริกมันต้องเผ็ด เป็นนิยายเติมเงินให้เทพแต่ไม่ abuse ความได้เปรียบจากระบบเติมเงิน แล้วมึงตั้งชื่อนั้นมาทำไม

41 Nameless Fanboi Posted ID:qCzQS4u5xM

>>40

จุดเด่น : การตัดฉากแบบ ไม่สนหิสนแต๊ด ใดๆ

จุดด้อย : เยอะแยะมากมายและความผิดพลาดนั้นยังคงเป็นเรื่องเดิมๆ

คะแนน : ผู้ติดตาม 33 คน จากนิยาย 2 เรื่อง จำนวนรวม 877 ตอน/10

ความเห็นส่วนตัว : Pacing เหี้ยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงไม่มีคลิฟแฮงเกอร์ซึ่งคาดว่าใส่ไม่ได้เพราะตอนๆ หนึ่งสั้นเท่าxมอยนก พยายามเร่งเนื้อเรื่องด้วยการเทข้อมูลและ tell เป็นช่วงๆ ในทางกลับกันเนื้อหาที่ควรเน้นกลับถูกข้าม เหมือนนักเขียนมีปัญหาเรื่องการจัดลำดับความสำคัญของเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การสึกของไอ้ภพแล้วโดดลงน้ำตกหลังฝึกครบ 4 ปี ช่วงต้นของตอนที่ 3 ควรถูกตัดออกเพราะมันอยู่ผิดที่ผิดทาง ที่ถูกต้องคือเขียนบอกให้ชัดเจนไปเลยว่าย้อนไป 4 ปี แล้วเล่าการฝึกไปเรื่อยๆ พอฝึกเสร็จถึงค่อยใส่ฉากสึกออกจากวัดปิดท้าย ความไม่กลมกล่อมของตัวนิยายก็เป็นปัญหาอีกเหมือนกัน ภาพปกที่ดูคล้ายเรื่องยุคกลาง สำนวนการพูดจาและการใช้คำบรรยายกลิ่นออกจีน กับชื่อที่ไท๊ยไทยอย่างไม่มีเหตุผลรองรับ จะแถยังไงก็ฟังไม่ขึ้นสักนิด

ยุคกลางเหี้ยไรไม่มีบาทหลวงแต่ดันมีหลวงจีนชื่อสิริแทน (ยังมีเคาะบักฮื้อตอนสวดอยู่เลยอย่ามาเถียง) เวทมนตร์เป็นระบบลมปราณแต่ชื่อปราณพญาสุบรรณ แม่นางสวมชุดแขนบานปักลายใช้ปิ่นแต่ชื่ออังกาบ เซตติ้งแบบนีโอฟิวชั่นรึไง

เรื่องสำคัญอีกอย่างคือต่อให้มันเป็นนิยายภาคต่อ นักเขียนมีหน้าที่ต้องเปิดเรื่องให้น่าสนใจ การเปิดเรื่องด้วยบทนำที่เกี่ยวข้องกับตอนจบของภาคก่อนแค่เล็กน้อยแบบนี้ถือเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่า เพราะอะไร? เพราะไม่ใช่ว่านักอ่านทุกคนที่เข้ามาเป็นคนที่ตามมาจากการอ่านภาคแรกจบ ความสดใหม่ของนิยายในแต่ละภาคจึงต้องถูกสร้างขึ้นอย่างเหมาะสม ถ้าช่วงแรกของนิยายทำให้นักอ่านประทับใจไม่ได้ก็คือจบเห่ พวกมึงคิดว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่คนอ่านภาค 2 จะอยากรู้ว่าเคยเกิดอะไรขึ้นในภาคก่อน ในเมื่อนิยายตอน 2 ตอนแรกมีเหตุการณ์แค่พระเอกลอยตามน้ำมาติดเบ็ดกับน้องสาวพระเอกเขียนจดหมายทั้งตอนแบบนี้

ส่วนสถิติที่น่าสนใจสำหรับคนชอบเสพตัวเลขก็มีดังต่อไปนี้

ผู้ติดตามหน้าเพจ 33 คนจากนิยาย 877 ตอน [ 0.038 : 1]
นิยายภาคแรก 108 ตอน ยอดวิว 32,000 เมนต์ 400 ติดตาม 1,800 หรือ [ 1 : 297 : 4 : 17 ]
นิยายภาคสอง 769 ตอน ยอดวิว 31,000 เมนต์ 260 ติดตาม 1,000 หรือ [ 1 : 40 : 0.4 : 1.3 ]

หรือก็คือ... เจริญลงนั่นเอง

42 Nameless Fanboi Posted ID:qCzQS4u5xM

ต้องตรวจเยี่ยวตัวเองแล้วมั้งเนี่ย คึกเป็นม้าโดนไฟเลยกูวันนี้ เริ่มระแวงว่ากูหยิบขวดยาสลับหรือเปล่าเมื่อคืนเพิ่งออกจากแลปมาด้วยสิ

ถ้าพ่อค้าจะครองโลก(เสมือน)
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1847162

อะไรวะทำไม list ข้างเขียงมันถึงมีนิยายเกมออนไลน์ติดกันหลายเรื่องแบบนี้ จริงๆ ก่อนมาถึงเรื่องนี้ก็มีแนวเดียวกันคั่นอยู่แต่นักเขียนปิดตอนทั้งเรื่องเลยข้ามมา กูคิดว่าตัวเองไม่ค่อยชอบแนวเกมออนไลน์แท้ๆ แต่ดันมีเข้าคิวอยู่หลายเรื่องซะงั้น เห็นหน้าปกแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าตอนแรกปกมันไม่ใช่ปกนี้ ตัวละครหรือฉากหลังอะไรดูคล้ายๆ กัน แต่เวอร์ชั่นนี้คงเป็นแบบจ้างวาดขึ้นใหม่ คาดว่าคงขายได้หลายตังค์อยู่ก็เลยมีทุนมาปรับปรุงปก

ชื่อนิยายเชยดีแต่พอมารวมกับคำโปรยเกี่ยวกับอดีตผู้เล่นแนวหน้าผันตัวมาเอาดีด้านการค้าก็เลยน่าสนใจขึ้นบ้าง ปกรองถูกเอาหน้าปกหลักมาขยายแปะคู่แผนที่ในเกม ด้านล่างเป็นข้อมูลเกมที่อธิบายไว้อย่างหลวมๆ กับ add-on ขายนิยายที่เชื่อมไปยังเมปมาร์เก็ต

ตอนที่ 1 : ข้อมูลเบื้องต้น 2021

ตอนแรกเป็นข้อมูลเซตติ้งที่เขียนไว้บนปกรองนั่นแหล่ะ (ละจะเอามาเขียนซ้ำเพื่อ?) มีการกำกับไว้ด้วยว่านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายตามชื่อเว็บ ไม่มีเนื้อหา 18+ เน้นฮาเป็นหลัก เนื้อหาส่วนใหญ่ถูกรีไรท์แล้ว ตามที่เห็นว่ามีการเขียนปี ค.ศ. ตามหลังตอนที่ถูกแก้ไข

ตอนที่ 2 : บทที่ 1 เส้นทางการค้า(2021)

เริ่มเรื่องในฉากที่เป็นโกดังสินค้าของชายหนุ่มชื่อภาร์หรือพระเอกของเรา ผู้ซึ่งกำลังขายของให้ลูกค้าที่มารับสินค้า ตรงหน้าร้านมีไอ้หนุ่มลูกครึ่งชื่อจอห์นกำลังชวนให้ภาร์ไปเล่นเกมใหม่ชื่อ "โซลเวิร์ล" แต่เจ้าตัวปฏิเสธเพราะคิดว่าคงจะตามผู้เล่นเก่าที่เล่นกันมาตั้ง 2 ปีแล้วไม่ทัน อีกอย่างคือโกดังเก่าเพิ่งเกิดเหตุไฟใหม้ทำให้พระเอกของเราเป็นหนี้ตั้ง 10 ล้าน ทำให้ต้องรีบหาเงินมาใช้หนี้ก่อนจะไม่มีแต่กระทั่งที่ซุกหัวนอน นายจอห์นจอมตื้อไม่ยอมละความพยายามง่ายๆ พยายามล่อพี่ชายคนสนิทว่าในเกมนี้หาเงินได้ด้วยนะ คนที่เคยเป็นถึงโปรเพลย์เยอร์จากเกมออนไลน์อันดับหนึ่ง ถ้าจะมาเปิดตลาดใหม่ในเกมออนไลน์อันดับสองที่ไต่อันดับขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว น่าจะทำกำไรจากระบบการค้าของเกมได้เยอะแน่ ตอนแรกไอ้ภาร์ลังเลแต่บักจอห์นพยายามยืนยัน นั่งยัน และนอนยันว่าพี่แกจะไม่เสียเวลาเปล่าแน่ สุดท้ายเลยตอบตกลงว่าจะลองไปเล่นดู แต่จะลองเล่นแค่เดือนเดียวเท่านั้น ถ้าไม่เวิร์คก็เลิกเลย

ตอนที่ 3 : บทที่ 2 ชัยชนะของผู้เริ่มต้น (2021)

ตกเย็นวันนั้นนายภาร์ของเราก็แวะไปซื้อเครื่องเล่นมาเตรียมตัว แล้วดัดแปลงคอมและโต๊ะทำงานในห้องพักเป็นเกมมิ่งเกียร์ชั่วคราว อุปกรณ์คล้ายหมวกกันน็อคถูกเชื่อมเข้ากับคอมแล้วล็อคอินเข้าสู่ตัวเกม มีการอธิบายอย่างโม้ๆ ว่า เจ้าภาร์อ่านข้อมูลเกมยาวเป็นพันหน้าเสร็จเรียบร้อยมาตั้งแต่ตอนบ่าย อันนี้คือความเก่งเวอร์อย่างแรกของพระเอก ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังนายจอห์นกลับไปก็จำทุกอย่างในเกมได้หมด (เทพเกิ๊น) พระเอกของเราตั้งชื่อตัวละครว่า "ฟูเหลา" มีการปรับแต่งเล็กน้อยแต่ปล่อยให้ตัวละครสูง 185 เหมือนตัวจริง (นี่คนหรือเปรต) โอเค หล่อ เข้ม สูง ฉลาด ยังขาดอะไรอีกไหมทีนี้ แต่งตัวเสร็จมี GM โผล่มาอธิบายระบบเบื้องต้นว่าต้องเก็บเวลให้ถึง 20 ในเกาะเริ่มต้นก่อนถึงจะซื้อตั๋วไปเปลี่ยนอาชีพในทวีปหลักได้ ซึ่งฟูเหลาพระเอกของเราก็ออกเดินทางหาเก็บเวลทันที

พอออกมาจากตึกเริ่มเกมได้สักพัก ก็มีผู้เล่นต่างเผ่าเข้ามาหาเรื่องแล้วเยาะเย้ยว่ามึงนี่บ้าหรือเปล่าวะ อาชีพเก่งๆ เท่ๆ มีตั้งเยอะไม่ยอมเลือก เสือกเลือกมนุษย์ธรรมดามาเล่น พี่เหลายิ้มแห้งแล้วกวนตีนกลับ พวกตัวร้ายเกรดบีทั้ง 5 ที่เลเวล 10 กันเรียบร้อยเลยพุ่งเข้ามาทำการเสิร์ฟยำตีน ถึงแม้จะเลเวล 1 แต่ด้วยสกิลพระเอกที่เคยเป็นผู้เล่นแนวหน้าของเกมเก่า พี่เหลาก็สามารถแย่งมีดแล้วเชือดพวกอันธพาลกลับจุดเซฟได้ยกแก๊งค์ ท่ามกลางสายตาของพวกไทยมุงที่พากันชื่นชมว่าพี่เหลาแม่งโคตรเท่เลยว่ะ

43 Nameless Fanboi Posted ID:qCzQS4u5xM

>>42

ตอนที่ 4 : บทที่ 3 มิตรสหายใหม่ (2021)

ตอนพี่เหลากำลัง loot ของจากเหยื่อทั้ง 5 มีการสื่อสารของแมวมองจากกิลด์ใหญ่ๆ หลายกิลด์ส่งข่าวว่าเจอผู้เล่นใหม่ที่น่าสนใจ เพราะสามารถตอบสนองและเคลื่อนไหวร่างกายได้ดีจนดูไม่เหมือนผู้เล่นเวล 1 ธรรมดา ก่อนที่พระเอกใช้แผนที่สำหรับผู้เล่นใหม่นำทางตัวเองไปที่ป่าหินอ่อน พอไปถึงก็พบกับผู้เล่น 3 คน คนนึงใส่ชุดกาวน์เหมือนนักวิทยาศาสตร์ ที่เหลือใช้ธนูกับดาบใหญ่กำลังสู้กันมอนแถวๆ นั้นอยู่ พระเอกสังเกตเห็นว่าอาวุธของคนพวกนี้เป็นอาวุธแบบคราฟขึ้นใหม่จากแกนเวทมนตร์ซึ่งวัตถุดิบไม่สามารถหาได้จากเกาะเริ่มต้น ก็เลยคุยกับนายเสื้อกาวน์ดู นักวิทย์บอกว่าของที่เห็นเป็นอาวุธที่เขาผลิตเองเอาไว้ให้เพื่อนๆ อีก 2 คนใช้เก็บเวลได้ง่าย พออีก 2 คนสู้จบก็เดินมาร่วมวงสนทนาก่อนทักว่าพี่เหลาเป็นคนดังนี่นา พร้อมโชว์คลิปตอนพี่เหลาโดนไทยมุงแอบถ่ายการต่อสู้ลงบอร์ดสนทนาของตัวเกม ไอ้คนใช้ธนูบอกว่าสักพักคงมีคนมาตามหาพระเอกชวนไปร่วมกิลด์แน่ พระเอกหัวเราะแล้วบอกว่าจะไม่เข้ากิลด์ไหนทั้งนั้น ที่เหลือเลยขำบ้างเพราะคิดว่าพระเอกคงล้อเล่น ตอนนั้นเองพระเอกคิดในใจว่า 3 คนนี้ก็เล่นเผ่ามนุษย์เหมือนกันแฮะ

ตอนที่ 5 : บทที่ 4 ทดสอบอาวุธ (2021)

นายนักประดิษฐ์ผมหยิกบอกว่าพระเอกมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว ขาดแต่อาวุธเหมาะๆ สักชิ้น ว่าจบก็ถามว่าพระเอกอยากเล่นสไตล์ไหน ฟูเหลาของเราตอบว่าน่าจะเป็นต่อสู้ด้วยมือเปล่าระยะประชิด คนผมหยิกที่เลเวล 50 เพียงคนเดียวในปาร์ตี้หยิบถุงมือแปลกๆ ออกมาคู่หนึ่งแล้วยื่นให้พระเองลอง ก่อนอธิบายว่าระบบของเกมโซลเวิลด์ ผู้เล่นต้องพยายามหาอุปกรณ์ที่มีสกิลดีๆ และเหมาะกับตัวเองมาใช้ บางครั้งของที่ดรอปจากมอนก็อาจมีสกิลที่ไม่ตรงกับที่เราต้องการเลยต้องขายทิ้งไปถูกๆ ส่วนของที่คราฟขึ้นสามารถใช้แกนเวทมนตร์เพิ่มแนวโน้มว่าสกิลติดอุปกรณ์ควรจะออกมาเป็นแบบไหน ทำให้คนอย่างนายผมหยิกเนี่ยเป็นที่ต้องการอย่างมากจากกิลด์ใหญ่หลายกิล เพราะสามารถทดลองสร้างได้เรื่อยๆ จนกว่าจะได้สกิลตามที่ต้องการ

แต่นอกจากเรื่องอาวุธกับชุดป้องกันเกรดสูง กับสกิลที่เหมาะสมแล้ว ตัวละครเองก็ต้องรีบเก็บเวลให้ค่าพลังต่างๆ สูงขึ้นด้วย เพราะถ้าตัวละครอ่อนแอถึงจะมีของดีไปก็รักษาไว้ไม่ได้ ทำนองเดียวกัน ถ้าตัวละครเลเวลสูงแต่อุปกรณ์กากก็ทำอะไรได้ไม่เต็มที่นัก พี่เหลาขอบคุณแล้วลองสวมถุงมือดู ค่าพลังที่ติดมาค่อนข้างสูงพอสมควรแม้จะเป็นแค่ของเกรด C ในคำอธิบายมีสกิลเขียนอยู่ว่าสามารถจ่ายมานา 300 เพื่อสั่งใช้งานสกิลคลื่นกระแทก เพิ่มความเสียหาย 2 เท่าเมื่อกระทบโลหะ พี่เหลาได้ของมาก็คิดอะไรเจ๋งๆ ได้ แล้วขอใส่เดียวกับโกเลมหินอ่อน

ช่วงแรกของการต่อสู้พระเอกใช้สกิลคลื่นกระแทกเพื่อให้โกเลมล้มลง แล้วจ่ายมานาซ้ำก่อนชกเข้าใส่ด้ามมีดเกรด F จากโรงฝึกที่โยนไว้กลางอากาศก่อนหน้านี้ แรงกระแทกบนด้ามมีดเพิ่มเป็น 2 เท่าตามเงื่อนไขสกิล เปลี่ยนมีดกากๆ เป็นอาวุธบินที่คิดพลังโจมตีจากถุงมือพุ่งทะลุหัวโกเลมตายหองทันที ไอ้คนใช้ดาบกับคนใช้ธนูเลเวล 9 และ 11 ได้แต่อึ้งเพราะโดนพี่เหลาเลเวล 4 โชว์เทพให้เห็นกันจะๆ ส่วนไอ้ผมหยิกคนผลิตอาวุธเวล 50 ลูบคางมองดูอย่างพอใจ แล้วคิดว่าปาร์ตี้เผ่ามนุษย์ 4 คนของเรานี่ต้องอนาคตไกลแน่นอน

การบรรยาย : ทำได้ดีหมดทั้งการบรรยายและบทสนทนา มันไม่ห้วนหรือล้นเกินไป แต่ความไม่สมดุลคือการเน้นไปที่ความเทพซ่าส์ของพระเอกอย่างออกหน้าออกตา ซึ่งกูพอเข้าใจได้ว่ามันเป็นจุดขายของเรื่อง นักเขียนรีไรท์ได้ดี เพราะจากที่กูเคยสกิมไว้คราวก่อน การเล่ายังติดขัดกว่านี้มาก คำผิดบานเบอะ สามารถใช้เซนส์ของความเป็นโปรเพลย์เยอร์ในตัวพระเอก สร้างการ show ฉากต่อสู้เท่ๆ ออกมาได้อย่างมีชั้นเชิง ใช้ตัวละครรองอธิบายเซตติ้งอย่างถูกจังหวะไม่ยัดเยียด ปริมาณ tell ก็ทำได้ดีไม่เยอะเกินไม่น้อยเกิน

ตัวละคร : ทุกตัวละครมีเอกลักษณ์ทำให้รู้สึกได้ว่าไม่แบนและมีบุคลิกเฉพาะตัว เสียอย่างเดียวตัวร้ายเกรดบีไปหน่อย แต่ให้อภัยได้เพราะช่วงแรกจำเป็นต้องมีพวกนี้มาให้พระเอกเหยียบขึ้นไปเจอกับพวกโหดๆ ที่น่าสนใจกว่าภายหลังเมื่อเดินเรื่องไปได้สักระยะ การออกแบบตัวละครเน้นความแกรี่เต็มสูบเพื่อให้ขายได้ในนิยายแนวพระเอกเก่งเทพ ตัวละครรองในตี้พระเอกแต่ละคนมีจุดเด่นต่างกัน ในบทสนทนาสามารถแยกได้ทันทีแม้ไม่เขียนตามหลังว่าใครกำลังพูดอยู่ สิ่งเดียวที่กูกังวลคือถ้าใส่ความเทพให้พระเอกมากเกินไป สุดท้ายเนื้อหาอาจดูจืดชืดเพราะคนอ่านจะไม่ต้องลุ้นอะไรมาก แต่กูเคยได้ยินมาว่านักอ่านเขาชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้วก็คงไม่ไรมั้ง

44 Nameless Fanboi Posted ID:qCzQS4u5xM

>>43

เนื้อเรื่อง : เปิดฉากได้แปลกใหม่ แต่ยังขาดความสมเหตุสมผลในบางอย่าง (ซึ่งถ้าเป็นนิยายเกมออนไลน์กูจะมองข้ามข้อนี้) เพราะนักเขียนไม่สามารถทำให้กูเชื่อได้ว่าพระเอกมีความจำเป็นอะไร ถึงต้องเข้าไปเล่นในเกมนี้ให้ได้ คือมีแค่บักจอห์นมาชวนให้ไปลองหาเงินในนั้นสัก 1 เดือนดูเท่านั้นเอง พูดตามตรงถ้ากูกำลังเป็นหนี้สิบล้านเพราะโกดังสินค้าเพิ่งโดนไฟใหม้ไปหมาดๆ กูคงไม่มีกะใจจะเข้าไปเล่นเกมอะไรทั้งนั้น ยกเว้นเสียแต่ว่าบักจอห์นจะยื่นข้อเสนอว่าจะล้างหนี้ก้อนนี้ให้ก่อน ละให้พระเอกเข้าไปหาเงินในเกมมาคืน หรือเดินเรื่องด้วยเส้นเรื่องภาคบังคับและแรงจูงใจที่มีผลกระทบสูง อย่างเช่นการเข้าไปร่วมกิจกรรมเก็บเลเวลของผู้เล่นแบบ Speed runner ประเภทสร้างตัวเวล 1 แล้วแข่งกันว่าใครจะไปถึงเลเวล 40 ได้ในเลเวลที่น้อยที่สุดชิงรางวัลเงินจริงก้อนใหญ่ สามารถจ่ายหนี้ได้ทันทีแถมมีเงินเหลือไว้ทำทุนด้วย

ถ้าทำแบบนั้น ด้วยปัจจัยประกอบที่ว่าพระเอกเคยเทพอยู่แล้วจากการเป็นโปรเพลย์เยอร์มาก่อน มันสามารถทำให้กูยอมซื้อพล็อตนี้ว่าพระเอกจะทำสำเร็จ เป็นการเปิดตัวที่สวยงามและต่อยอดได้ไกลในเกม อีกข้อที่ขัดกับความเป็นไปได้คือการผูกขาดทางการค้าในเกมโซลเวิร์ล ถ้าพระเอกจะเข้าไปทำธุรกิจในเกมที่มีปัญหาใหญ่อย่างวัตถุดิบถูกผูกขาดและพ่อค้าถูกคนต่างเผ่าปล้นฆ่าได้ทันทีที่ออกนอกเมือง โอกาสที่พระเอกจะทำเงินได้จากเกมนี้แทบจะเป็น 0 ภายในเวลา 1 เดือนโลกจริงหรือ 4 เดือนในเกม ไม่ต้องพูดถึงการหากำไรแค่เก็บเวลเฉยๆ ก็อาจจะยังไม่พอด้วยซ้ำ แต่กูคิดว่านักเขียนมันคงหาทางทำให้พระเอกที่เทพซ่าส์สามารถใช้ความเก่งไปเป็นฝ่ายปล้นชาวบ้านเผ่าอื่นได้แทน แต่ก็นั่นแหล่ะ ถามหาความสมดุลและความสมเหตุสมผลในนิยายเกมออนไลน์มันเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะนักอ่านเขาอยากได้อะไรที่อ่านแล้วสนุกก็พอ

จุดเด่น : ความเทพซ่าส์ของพี่ภาร์อดีตโปรเพลย์เยอร์ (หรือฟูเหลาในเกม)

จุดด้อย : โดนกูจับพล็อตโฮลได้ตั้งแต่ขั้นตอนเปิดเรื่อง และชื่อเรื่องไม่มีคำว่าออนไลน์ (ล้อเล่น)

คะแนน : เป็นหนี้ 10 ล้านแต่งานไม่ทำ/10

ความเห็นส่วนตัว : ทำได้ดีในระดับที่อาจรุ่งได้ง่ายๆ เลยถ้าแต่งในยุคแนวออนไลน์เฟื่องฟู ขายความแกรี่ได้อร่อยถ้านักเขียนเป็นคนชอบอ่านแนวพระเอกเทพสุดติ่ง มี element ที่เหมาะสมครบตามขนบของนิยายเกมออนไลน์แท้ๆ ควรมี คือ ตัวเอกเทพจากความสามารถเฉพาะตัวและประสบการณ์จากเกมเดิม มีเพื่อนในเกมใหม่สังกัดอยู่ในกิลด์ที่มีอำนาจรอให้พระเอกไปเข้าร่วม เจอเพื่อนที่ดีระหว่างเดินทางเก็บเลเวล การได้อุปกรณ์เกรด C เป็นใบเบิกทางที่ดีให้การได้รับอุปกรณ์ที่เทพกว่าในอนาคต แนวโน้มที่เป็นโอกาสปลดล็อคความเทพเพิ่มเติมเช่น อาชีพลับ เงื่อนไขลับ เควสลับ ของลับ(หมายถึงอุปกรณ์ในเกมนะไม่ใช่อวัยวะ) สรุปว่านิยายคงขายดีพอดู เพราะแต่งออกมาได้ตามที่โม้ไว้บนปกคือเน้นสนุกและเฮฮา เป็นนิยายออนไลน์ที่ใช้ได้เรื่องหนึ่งหลังรีไรท์เรียบร้อย

45 Nameless Fanboi Posted ID:IDsqGZrbpK

>>44 กูไม่น่าไปค้นกูเกิ้ลคำว่าของลับเล้ย ความสงสัยพาซวยแท้ๆ

46 Nameless Fanboi Posted ID:ifsUtQrvLQ

เมิงไปโดนตัวไหนมาวะ
ที่ถามกุจะได้ไปแหลกบ้าง
ยังไงก็ขอบคุณในความเหนื่อยยาก
ของแสดงความคารวะ m(_ _)m

47 Nameless Fanboi Posted ID6:CUfGds4wGQ

"บทบาทผมมันเทพ"
ขอสั้นๆแล้วกัน ดึกแล้ว
ไปเจอมาเพราะไม่คิดว่ามันจะเอาเวลาการ คิดสตอรี่ Role Play จากเกมเกรียนเทพอัตโนมัติมานั่งพิมพ์นิยายแบบนี้ ในเมื่อกล้าทำกุก็กล้าสับแล้วกัน
https://writer.dek-d.com/December99/writer/view.php?id=2294464
เปิดมาด้วยหน้าปกสุดหล่อเหลาเร้าใจ จะไม่หล่อได้ไงเล่นเอามาจาก photo mode ในเกมทั้งดุ้น + พลัง Gshade หรือไม่ก็โฟโต้ชอปนี่ล่ะ ออกมาซะอย่างกับพรี่จีมึนวงรถไฟฟ้าเลย

ปกรองก็มาซะเป็นเชิงอรรถต้นเล่ม ตั้งแต่กุอ่านหนังสือมาจนเป็นวัยรุ่นปวดหลัง เพิ่งเคยเจอเชิงอรรถต้นเล่มนี้ล่ะ แปลกดี แถมมีจบแบบเข้าตำรา "ไปทำความเข้าใจนิยายกูด้วย101"
ตอนที่ 1
เริ่มเรื่องด้วยเด็กชายคนนึงเล่น GTAV น่าจะขับรถเสยNPCเรียกตำรวจแล้วโทรหาเลสเตอร์ให้ลดดาวอยู่แล้วเพื่อนก็โทรมาชวนเล่น FiveM แถมขายตรงว่าแม่งโคตรเหมือนชีวิตจริงเลย ทำให้รู้ว่าไอ้เด็กเชี่ยนี่กดข้ามเนื้อเรื่อง แถมไม่เคยเล่นโหมด online ไปอีก แล้วไอ้เด็กนี่ก็ติด FiveM ยาวๆไปเจ็ดปี (ใช่แล้ว ผ่านไปเจ็ดปี GTAVI ก็ยังไม่ออก) ครองเซิฟมาแล้วทุกเกือบทุกเซิฟ อ่อ ลืมบอก ไอ้เด็กนี่ชื่อโจ แต่ไม่ต้องห่วง สไตล์นิยายเกมเดี๋ยวมันต้องเปลี่ยนชื่อ โจก็เล่นมาเรื่อยๆจนอายุ 20 มันก็งัดกับพ่อด้วยปัญหาสามัญประจำบ้านอย่างโตแล้วไม่ทำงาน เล่นแต่เกม ทำให้รู้ว่ามีปมเรื่องแม่ทิ้ง เรื่องเด็กข้างบ้านที่น่าจะเป็นรักแรกแต่แหกโค้งตายไปซะก่อนเพราะมะเร็ง แล้วเป็นคนที่ชี้ทางสว่างให้มาสู่วิถีเด็กติดเกมจนกรอบ (เป็นกุ กุเปิดเซิฟ FiveM ขับแลมโบโชว์หญิงแล้วโจเอ๊ย) ก่อนจะจบการทะเลาะด้วยการปล่อยให้คนอ่าน cliff hanger ที่สุดในสามโลก

48 Nameless Fanboi Posted ID6:CUfGds4wGQ

ตอนที่ 2
เปิดมาด้วยโจคุยกับเพื่อนเรื่องผู้เล่นทยอยหายไปเรื่อยๆ ประมาณว่าอาจมีการโดนสอยนอกเกม แล้วก็มีแชทปริศนาเด้งมาชวนโจไปเล่นเซิฟใหม่ที่โฆษณาเหมือนชวนไปเป็นแมงเม่าคริปโตมากกว่าไปเล่นเกม แต่โจผู้นี้มีความฝันที่จะพิชิตทุกเมืองที่เค้าเหยียบย่าง มีคนมาท้าทายแบบนี้ก็มาดิค้าบ ทันใดนั้น คอมของโจก็ระเบิดตู้มม (เชื่อกุมั้ยว่าโจมันไปต่างโลกด้วย Baidu PC destroyer เรียบร้อยแล้ว) โจก็ได้เข้าไปในเซิฟแบบเข้าไปจริงๆ เข้าไปเป็น overlord เลยไอเวร แล้วโจก็ได้รู้ตอนนี้เค้าติดอยู่ในเกม FiveM เซิฟ Dynalog City พร้อมกับระเบียบข้อบังคับที่ยาวเป็นหางอึ่ง โจก็เลยถือโอกาสที่จะเปลี่ยนเป็นใหม่โดยใช้ชื่อว่ากาย มีการอธิบายนิสัยใจคอเสร็จสรรพแบบที่คนอ่านไม่ต้องไปเดา แล้วก็เริ่มเกมด้วยความสปีดรันไม่สนคนอ่านว่า "มันทำเชี่ยอะไรอยู่" รู้ตัวอีกทีก็ไปแกว่งเท้าหาเสาเข็ม หาเรื่องกับแก๊งโอนิเจ้าถิ่นที่เป็น 1 ใน 4 จักรพรรดิ กายก็โชว์สเต็ปเดมซีย์โรล 1 v 5 แบบสปีดรัน จนแก๊งโอนิชวนเข้าแก๊ง กายก็ไม่ปฏิเสธไม่เล่นตัวเข้าแก๊งเฉย

ตอนที่ 3
เปิดมาด้วยการสนทนาภาษา FiveM ของหัวหน้าที่มีชื่อว่าเอก กายก็ไม่รู้ว่าไปหิวตีนมาจากไหนท้าซัดกัน 1 - 1 แบบ FiveM (มันต่อยกันแทบจะเป็นเกมเทิร์นเบสเลยนะเห้ย) แน่นอนว่ากายชนะแบบหืดจับ แล้วหัวหน้าก็รับเข้าแก๊ง (กายเอ๊ย รู้จักไอ้โจแถวบ้านกุมั้ย เข้าแก๊งไม่ทันไรมันตบหัวหน้าทีเดียวได้เป็นดอนเลยนะเว้ย) แล้วได้รู้จักเพื่อนใหม่ชื่อเรย์ และกิจกรรมที่กระชับความสัมพันธ์ที่ดีของลูกผู้ชายชาตรีคือ ไปจกปูนกัน จกไปคุยหยอกล้อไปชวน ใ จ เ ก เ ร จกไปจกมาได้ไม่นานตำรวจก็มา แล้วกายก็อาสาไปเคลียร์เอง

49 Nameless Fanboi Posted ID6:KDy4YzQf1L

ตอนที่ 4
เปิดมาด้วยกายและเรย์โดนตำรวจไล่ไม่ให้จกปูน (ด้วยความสัจจริงนะ แม่งสปีดรันแถมคิงคริมสันจนกุไม่รู้ว่าจกปูนไปขายมันผิดกฎหมายยังไง) กายรู้สึกหัวร้อนที่โดนตำรวจไล่ ไม่ให้จกปูน เลยทำสิ่งที่เย้ยกฎหมายละระบบความยุติธรรมที่สุดคือการขับรถหนี (ห้ะ?) แล้วตำรวจก็ขับรถไล่ล่ายิ่งกว่าฟาสห้า (ห้ะ??) กายเลยโชว์สกิลที่สั่งสมมาจากเซิฟก่อนๆแบบสปีดรันจนหนีตำรวจมาได้ กายกับเรย์ก็พูดถึงเรื่องตัวตนในเกมกับนอกเกมที่ดูยังไงก็ เ ก เ ร
แล้วคุยเรื่องที่มาที่ไปว่าทำไมเรย์มาอยู่แก๊งนี้ได้ และกายก็ตั้งใจแล้วว่าจะไม่กลับไปโลกความเป็นจริง เพราะกายผู้นี้มีความฝัน แล้วก็เข้าสู่ช่วง "ทำเชี่ยอะไรไม่บอกคนอ่าน" แล้วจบตอนด้วยความมีแววจะไปเสือกแก๊งอื่นที่ทะเลาะกันอยู่

ตอนที่ 5
เปิดมาด้วยการทะเลาะกันของแก๊งตัวประกอบสองแก๊ง โดยที่ดูท่าจะบานปลายไปถึงขั้นยุบแก๊งไม่ก็ตายกันไปข้าง (จากความเข้าใจกุนะ เพราะคนแต่งมันไล่กุไปทำการบ้านเอง) แล้วต่างฝ่ายก็เริ่มใส่นัวกันในระดับคิงคริมสัน (แม่งตัดจบให้กุในสองบรรทัด) สุดท้ายแก๊งนึงโดนบังคับตายห้าคนแบบไม่รู้ชื่อ (จะไปรู้ได้ไง แม่งใส่ไข่ปลาให้กุ) GM ก็ไล่จ้วงเรียงตัว แต่แทนที่มันจะตายในเกมแล้วเด้งไปโลกจริง GM เซิฟแม่งบอกว่าพวกเมิงต้องตายจริงว่ะ ในขณะที่กายได้แต่อึ้งว่ามันเอาตายเลยว่ะ เลยได้รู้ว่าตราบใดที่ GM ไม่เอามีดไล่จ้วงเพื่อจบเกม พวกเมิงจะ Git gud กี่รอบก็ได้เพื่อให้ได้ครองเซิฟนี้ กายจึงตั้งใจที่จะตบคนพาล อภิบาลคนดีที่ไม่รู้เรื่องเลยว่าถ้า GM เอามีดไล่จ้วงใครก็ตายห่าสถานเดียว

50 Nameless Fanboi Posted ID6:KDy4YzQf1L

ข้อดี : เออ FiveM มากๆ เ ก เ ร นิดๆ

ข้อเสีย : เมิงบอกกุมาเดี๋ยวนี้ว่าเมิงรับตังค์สตรีมเมอร์คนไหนมาเขียนนิยายโปรโมตเซิฟ นิยายเมิงไล่กุให้ไปนั่งดูคนเล่น FiveM สัสๆ ไล่แบบไล่เลยอะ "ทำเชี่ยอะไร" แม่งไม่บอกไม่อธิบายซักแอะ จกปูนงี้ กาชารถเริ่มเกมงี้ เมิงเล่าหน่อยซิว่ามันเป็นอะไรยังไง เมิงบอกกุว่าอะไรนะ อยากให้คนรู้จัก FiveM เลยต้องเอาประโยคสนทนาแบบ FiveM มาใช้ เอาจริงดิ เมิงเล่นเซิฟไหนทำไมแม่งมีแต่คำที่อ่านแล้วไม่ได้ลื่นไหลส้นตีนอะไรเลย เล่าเหตุการณ์โดดไปโดดมาชิบหาย โรลเพลย์อีท่าไหนมีแต่คำที่ทำให้คนเล่นโรลเพลย์ Trigger IC OOC งี้ คือมันทำให้ไปแนวนิยายเกมแก๊งสเตอร์ได้เว้ย โดยอาศัยโครงเรื่องกับบรรยากาศสังคม FiveM ก็พอ ไม่ใช่เอาสตอรี่ที่เมิงโรลเพลย์แบบไม่โรลเพลย์มาเขียนทั้งดุ้นแบบนี้ จกปูนผิดกฎหมายยังไงไม่บอก ขับรถหนีตำรวจทั้งที่ไม่ทำผิด จริงอยู่ที่มันน่าสงสัยแต่ถึงกับต้องไล่เป็นฟาสห้ามั้ย ไม่เลย
แล้วเรื่องตัวละคร แบน แบนเหี้ยๆ กระดาษA4 70แกรมยังหนากว่าเลย แล้วไม่มีเหี้ยอะไรให้จดจำด้วย นอกจากหัวหน้าแก๊งไข่ปลาคาเวียร์เนี่ย สะกิดใจกุชิบหาย
แล้ววิธีเล่าเรื่อง คือกุรู้ว่าเมิงรีบ แต่เมิงรีบแบบสปีดรันจนไม่สนคนอ่านว่าตามเมิงทันมั้ย เขียนนิยายสไตล์บอสโจโจ้มาเกือบหมด แช่ในจุดที่ไม่ควรแช่แบบเดอะเวิลด์ ย้อนหัวข้อไปย้อนมาเป็นไบท์เดอะดัสท์ ข้ามทุกเหตุการณ์ตัดจบทุกกรณีแบบคิงคริมสัน เร่งสปีดราวกับว่าจะเขียนจักรวาลใหม่ใน 20 ตอนแบบเมดอินเฮฟเว่น แต่นิสัยตัวละครเป็นคนละคนนี่ไม่มีเพราะแม่งอยู่ในโลกมิติเดียว ไม่ต้องไปตามหาตัวเองในจักรวาลอื่นแบบ D4C

"ผ่านไปเจ็ดปี GTA VI ก็ยังไม่ออก / 10"

51 Nameless Fanboi Posted ID:6BmKLGaGKa

>>47 ขอบใจที่เสียเวลา กูเพิ่งเคยได้ยินเนี่ย เอาโรลเพลย์มาลงเป็นนิยายเฉยเลย คือเคยได้ยินมาบ้างนะเรื่องมีคอมมูเปิดให้เขียนสวมบทบาทตอบโต้กันได้ผ่านคนคุมมู แต่แบบนี้เคยเจอครั้งแรกเลยวุ้ย

52 Nameless Fanboi Posted ID:pz6eb0wLOe

K-say หัวร้อนน่าดูเลย https://www.dek-d.com/board/writer/4073822/

53 Nameless Fanboi Posted ID:ju8UEj4i.p

>>52 วัยทองแล้วต้องเข้าใจ มนุษย์ป้าระยะแรกเริ่ม ดูจากคราวนี้คงพอเข้าใจว่าทำไมคนถึงเรียกมาเฟีย สมัยก่อนหนักกว่านี้อีก

54 Nameless Fanboi Posted ID:lUr5mZ4lgr

>>49 จกปูนนี่คือศัพท์แทนกิจกรรมในเกมส์ป่าวน่ะ หรือมันขโมยปูนจริงๆ ถ้ารู้ก็ช่วยอธิบายหน่อย จากคนไม่ได้เล่นทั้ง GTA และ FiveM

55 Nameless Fanboi Posted ID:+fd7IGt6LZ

>>54 จกปูนคือการหาโคเคนในถุงปูน

56 Nameless Fanboi Posted ID:6AGWfRk8u0

ขอบคุณในความยากลำบากอีกรอบ

57 Nameless Fanboi Posted ID:.zI4pwrOYw

>>52 มันกลับมาแล้วรึ เคย์เซย์

58 Nameless Fanboi Posted ID:Y9f8bi3z61

>>57 ก็วนเวียนอยู่แถวนั้นแหล่ะ แค่โผล่บ้างไม่โผล่บ้าง

59 Nameless Fanboi Posted ID6:.oCHVcUA4h

โม่งคิดยังไงกับระบบเอไอที่เขียนนิยายได้ ในอนาคตอันใกล้เอไอจะแต่งเรื่องเก่งขึ้นและทำให้นักเขียนตกงานหรือไม่ ตอนนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงในวงการนักเขียน

60 Nameless Fanboi Posted ID:qXFoiWubRs

>>59 มีผลงานออกมาแล้วเหรอถึงได้ถกเถียงกัน โดยส่วนตัวกุเป็นพวกเลิกฝันเป็นนักเขียนนิยายเพราะตัวเองโง่ สู้คนเก่ง ๆ เขาไม่ได้ ก็เลยรู้สึกว่าถ้าเมิงเขียนนิยายสู้ AI ไม่ได้ ก็เลิกเขียนไปเถอะ เอาเวลาชีวิตไปพยายามอย่างอื่นดีกว่า

61 Nameless Fanboi Posted ID:zywh6ogDOI

>>59 มันเขียนมาได้พักใหญ่แล้ว แต่อ่านไม่รู้เรื่องเหมือนใช้กุเกิ้ลแปล แล้วคนที่ใช้เอไอก็คือนักเขียนนั่นแหล่ะ เขาก็เอาอันที่ได้มาแก้ไขปรับใหม่ให้เป็นภาษาคนแล้วเอาออกมาอัพเดท ชีวิตก็ง่ายขึ้นแค่เปลี่ยนบทบาทจากเขียนเองมาเป็น บก.

62 Nameless Fanboi Posted ID6:S41ODbUvzQ

>>59 มันมีมานานก่อนเอไอวาดรูปอีก ทำไมเพิ่งมากลัวกันวะ
>>61 เห็นพวกฝรั่งมันเอามาใช้เป็นไกด์ช่วยแต่งได้อยู่นะเว้ย แบบโยนไอเดียเป็นคำๆไปให้ทันแต่งเนื้อหามา แล้วค่อยมาปรับๆแต่งเองเพิ่ม ทำเอาคนต่อต้านกันเยอะเลย อย่างเว็บao3นี่ถึงขั้นล็อกแอคแบบไม่ใช่สมาชิกเว็บจะอ่านงานไม่ได้ เพราะกลัวโดนดูดงานไปทำเอไอนี่แหละ

63 Nameless Fanboi Posted ID6:SctjRDKYSO

>>59 พื้นฐาน AI มันก็เรียนมาจากนิยายที่เคยมีอยู่มาก่อน โดยเฉพาะเรื่องดังๆ ขายดี คนที่จะเหนื่อยก็พวกนิยายในกระแส ถ้ามึงสร้างอะไรใหม่ๆอยู่แล้วก็ไม่มีอะไรต้องกลัว แต่ถ้าพล็อตมึงใครๆ ก็เขียนได้ ก็เตรียมหา AI มาช่วยได้เลยไม่งั้นมึงเองนั่นแหละที่จะโดนคนใช้ AI ปั้มนิยายแข่ง ของแบบนี้แม่งสูงสุดคืนสู่สามัญ สุดท้ายมึงก็แค่ต้องรักษาฐานแฟนคลับจริงๆจังๆ หาคนที่จะอ่านงานของมึงเท่านั้น และเขียนแนวที่มึงเท่านั้นที่จะเขียนได้น่าสนใจ

64 Nameless Fanboi Posted ID6:t2sEHKIPtX

https://www.dek-d.com/board/writer/4074051/
กุล่ะชอบชื่อกระทู้ชิบหาย [พล็อตไม่ซ้ำแล้วนะ] 55555555

65 Nameless Fanboi Posted ID:u/mP+mqdP7

>>64 พันชั่งนี่มันขยันดีนะ ถึงนิยายคนอ่านน้อยมันก็ยังเขียนเรื่อยๆ

66 Nameless Fanboi Posted ID6:87HgOcNIZQ

>>65 ประเด็นคือเดินเนื้อเรื่องเรียบไป ความจริงนิยายไม่ใช่แนวกระแส สามตอนแรกคือต้องว้าวอะ มันอาจต้องใช้ฉากเร้าอารมณ์ ฉากอลังการ หรือฉากเปิดประหลาดๆ ไม่ก็คำพูดโดนๆ ไม่งั้นดึงคนอ่านให้อยู่อ่านต่อยาก

67 Nameless Fanboi Posted ID:eEmUS74yKg

>>66 กุเคยไปอ่านแล้วมันง่วงๆ เลยเลิก

68 Nameless Fanboi Posted ID6:Qxum0kbhyD

https://www.dek-d.com/board/writer/4074141/
เดี๋ยวนี้มีนโยบายชวนคนลงโม่งแล้วเหรอวะ

69 Nameless Fanboi Posted ID:k+fSsskqwP

https://twitter.com/elonmusk/status/1601862965384269825?t=CJYc-V-gQzpfi8cR-Ekt4A&s=19
เตียมตัวโพสนิยายรายในทวิตได้เลยพวกมึง 5555

70 Nameless Fanboi Posted ID6:PfLzC/aPwC

>>68 ไม่หิวแสงก็เหงาอะ555 โม่งมันไม่ใช่ที่ดีขนาดเอาไปแนะนำโจ่งแจ้งได้ขนาดนั้น

71 Nameless Fanboi Posted ID:0C8m8W91kO

>>69 แบบนั้นมันก็ไม่ใช่ทวิตแล้วดิวะ นึกภาพนกร้องจิ๊บๆๆๆ ติดกันยาวๆ สัก 5 นาที แม่งประหลาดเกิน

72 Nameless Fanboi Posted ID6:ynyWVFfQsW

ถ้ามองในแง่ลงนิยายรายตอน 4000 ตัวอักษร ตัดเว้นวรรค ตัดเครื่องหมายคำพูด ตัดชื่อเรื่อง คงเหลือจริงๆสักแค่ 2500-3000 ตัวอักษร พวกเด็กดอกเขียนนิยายสั้นเท่าหม่อยหมาปรับตัวได้แน่นอน ที่เหลือคือการตลาดละมึง จากนี้แม่งจะไม่มีแค่โฆษณาขายของใต้โพส แต่จะมีไอ้งามไส้เอานิยายตัวอย่างไปแปะใต้โพสโปรโมทหนัง มังงะ อนิเมะ แค่คิดก็บันเทิงแล้วไอเหี้ย 555555555555

73 Nameless Fanboi Posted ID6:RF80IdT/Ek

เดี่ยวคอยดูละกัน พวกเด็กดีอยากจะเขียนนิยายบน twitter จริงๆจังๆมั้ย

74 Nameless Fanboi Posted ID6:YCyvjGxSGb

>>73 ลงแฟนฟิคบอยแบนด์แบบ NC ให้ติ่งเกาหลีแหกอกเล่น

75 Nameless Fanboi Posted ID6:l+WGqEAQeN

สูตรสำเร็จแนวเกิดใหม่ที่เราเคยอ่านมานะคับ

1. การเกิดใหม่มี3 แพ๊คเกจ แพ๊คเกจย้อนเวลา, แพ๊คเกจร่างใหม่, แพ๊คเกจต่างโลก

2. ไม่ว่าชีวิตตัวเอกจะเคยระยำบัดซบเพียงใด พอเกิดใหม่ชีวิตจะมือขึ้นยิ่งกว่าถูกหวย(ต่อให้แทบไม่ทำอะไรก็ตาม)

3. ถ้าตัวเอกเกิดในนิยายแอ๊คชั่น Plot Armor จะหนาโคตร ๆ และได้ทักษะได้อาวุธมาอย่างรวดเร็ว

4. ถ้าตัวเอกเกิดเป็นท่านหญิงผู้สูงศักดิ์ เธอจะหนีการแต่งงานและได้สามีโบ้ใหม่ตั้งแต่ยังไม่ถึงกลางเรื่อง

5. สามีคนนั้นต้องรวยล้นฟ้ามีเงินตราและอำนาจแถมน่ากลัวต่อหน้าคนข้างนอก แต่เป็นโบ้เมื่ออยู่กับเมีย

6. และทำข้อตกลงว่าถ้าได้สิ่งที่ต้องการเราจะหย่ากัน

7. ไม่เห็นมันจะหย่ากันจริง ๆ สักที แถมมีลูกด้วย

8. ถ้าตัวเอกเกิดในร่างเดิม สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าต้องแก้แค้น

9. บางเรื่องคนอ่านไม่รู้จักชีวิตเก่าของตัวเอกด้วยซ้ำ อาจรู้แค่ว่าโดนรถบรรทุกชนตาย

10. ใครเคยตายในชาติที่แล้ว ชาตินี้มักรอด และเป็นเพื่อนตัวเอกที่ซื่อสัตย์ยันจบเรื่อง

11. ตัวร้ายชาติที่แล้วฉลาดแค่ไหนไม่สำคัญ แต่ชาตินี้ต้องโง่กว่าตัวเอก

12. และชาตินี้ห้ามเก่งกว่าตัวเอกด้วย

13. และกราฟชีวิตตัวร้ายจะดิ่งลงเหวสุดๆ

14. ตัวเอกบางคนไม่ได้เรียนรู้อะไรจากชาติที่แล้วด้วยซ้ำ งี่เง่ายังไงก็งี่เง่ายังงั้น

15. บางเรื่องไม่มีคำตอบให้คนอ่านว่าทำไมต้องเกิดใหม่

16. พล๊อตแก้แค้นมักจบโดยการให้อภัย ทั้งที่ทำกับตัวร้ายซะปางตายแล้ว

มาเพิ่มต่อ*

17. ทุกคนตกตะลึงการเปลี่ยนไปของตัวเอก แต่หาคำตอบไม่เคยได้

18. เพราะตัวเอกจะอ้างความทรงจำเสื่อมบ้าง ป่วยบ้าง(จากอุบัติเหตุเจ้าของร่างเดิม)

19. มีตัวประกอบโผล่มาเป็นกระสอบทรายเสมอ

20. เริ่มต้นด้วยการเหยียดหยามดูถูกเจ้าของร่างเดิมและจะจบด้วยการโดนตัวเอกตบเกรียนสวยๆ

21. ถ้าตัวเอกเป็นผญ. จะมีบ่าวหญิงที่จงรักภักดี แต่ชาติที่แล้วตุย ถ้าตัวเอกผช. มักใช้ความทรงจำชาติที่แล้วหาพรรคพวกดี ๆ

22. ตัวเอกจะกลายเป็นคนโปรดของคนมีอำนาจสักคน(ที่ไม่ใช่พระเอกนางเอก) และคนๆนั้นจะเป็นจะกลายเป็นแบ๊คสำคัญของตัวเอก

23. พอมีแบ๊ค ตัวร้ายจะกลายเป็นพลเมืองชั้นสองทันที และพลิกเกมไม่ได้เลย

24. ตัวร้ายมีแต่จะงงกับตัวเอก และไม่เคยตามเกมทัน

76 Nameless Fanboi Posted ID6:UE0kfOGU6O

เล่าเป็น 1000 ข้อก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนหรอก เป้าหมายในการสร้างงานแบบนี้มันก็แค่ต้องการให้คนอ่านฟินไปกับโอกาสที่สอง มีอำนาจที่ไม่เคยมี จะพล็อตแบบไหนก็ไม่ห่างกันมากหรอก เหมือนพวกละครสั้นคุณธรรมอะ เน้นสะใจ Karma is real หาทางมาอะแดปใช้เอาดีกว่า

77 Nameless Fanboi Posted ID:FRB2UZLwL0

อนไม่หลับทำไงดีคะ สับนิยายเล่นจนกว่าจะง่วงก็แล้วกัน

พระเจ้าส่งผมไปรบ (INTO THE BATTLEFIELD)
https://writer.dek-d.com/totsos2009/writer/view.php?id=2025099

เรื่องนี้จำได้ว่าเจอในกระทู้รับสับนิยายแต่คิวมันเต็มไปแล้วกูเลยจดไว้เพราะสงสารนักเขียน อีกอย่างคือชื่อเรื่องกับพล็อตมันฟังดูเข้าท่า มาดูกันเลยว่าจะออกหัวหรือก้อย

หน้าปกไม่ค่อยดึงดูดเท่าไหร่ในสายตากู คือเข้าใจแหล่ะว่ามันเป็นหมวกทหารซึ่งเกี่ยวข้องกับชื่อเรื่องแน่ๆ แต่การใช้สีแม่งแย่ บางทีนักเขียนอาจชอบงานศิลป์สไตล์วินเทจๆ หน่อย ก็แล้วแต่รสนิยมไป คำโปรยใบ้ว่าเป็นแนวอิเซไคที่ไม่ได้ไปโผล่โลกแฟนตาซีทว่ากลับกลายเป็นสนามรบแทน ขายของกับคนชอบอ่านแนวสงครามที่ผสานความเป็นแฟนตาซีเข้าไป ปกรองเป็นข้อความแนวแจ้งธีมเรื่องก็ง่ายๆ ดี แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ ไม่ค่อยดึงดูดเหมือนกับภาพปก ในส่วนแรกกูเลยให้ผ่านแค่ชื่อเรื่อง เพราะมันขายของได้ถูกจุดดี

ตอนที่ 1 : INTO THE BATTLEFIELD

เล่าด้วย POV 3 เปิดฉากมาบนสมรภูมิต่างโลกแห่งหนึ่งในปี 1872 นายอิทธ พรางกูล อิเซไคมาสวมร่างเด็กหนุ่มอายุ 16 ชื่อชาร์ลหลังทดลองขับรถยนต์ที่ซื้อมาใหม่แล้วคันเร่งค้างจนรถชนตายห่า (วันแรกก็แหกเลยมึงซื้อรถ MG รึไง) เด็กชาร์ลนี่จริงๆ ตายไปแล้วเพราะถูกยิงแต่พอพี่อิทมาเสียบก็ฟื้นเฉย บริเวณนั้นมีแต่ศพทหารที่โดนเกณฑ์มาอย่างลวกๆ คนแก่บ้าง เด็กวัยรุ่นบ้าง เป็นแค่ชาวบ้านจำนวนหยิบมือโดนทางการบังคับให้รบทั้งๆ ที่ใช้ปืนไม่เป็นจนตายเรียบ ระหว่างทางหนีตัวเอกเจอทหารอีกฝ่าย ตอนแรกฟังภาษาไม่เข้าใจ แต่พอความจำของชาร์ลแล่นเข้ามาก็ปวดหัวแล้วฟังรู้เรื่องตามสไตล์นิยายทะลุมิติแบบเปลี่ยนคนสิง มีการยิงกันขึ้นเล็กน้อยก่อนจบตอน

ตรงนี้กูขอคุยเรื่องชื่อตัวเอกก่อน เพราะคิดว่านักเขียนคงเอาชื่อพี่อิท (อิทธิ พลางกูล) มาตั้งชื่อล้อตัวละคร โดยส่วนตัวแล้วกูโคตรจะหลีกเลี่ยงเลยตามหลักการพื้นฐานว่าด้วยการตั้งชื่อ การเอาชื่อคนจริงๆ มาตั้ง แถมตายไปแล้วอีกเป็นเรื่องไม่โอเค คนอื่นอาจเห็นต่างแต่กูคือโนๆ

ตอนที่ 2 : หลบหนีออกจากสงคราม

พี่อิทหรือนายชาร์ลของเราวิ่งหนีไปจนเจอข้าศึกอีก 2 คน คราวนี้ไม่รู้จะหนียังไงเลยยอมมอบตัวบอกพาไปเป็นเชลยก็ได้ (ดีกว่าตาย) ฝั่งศัตรูได้ยินก็ขำก๊าก บอกว่าพลทหารอย่างมึงเนี่ยนะ ไม่มีค่าพอให้จับตัวไปหรอกโว้ยเพราะยศมึงไม่ใหญ่พอ ว่าจบก็ตอกดินปืนเข้าปากกระบอกปืนคาบศิลา ทำเอากูเห็นภาพการรบในทุ่งหญ้ายุคนโปเลียนที่การรบยังพึ่งปืนแบบนี้และมีดปลายปืนกันเป็นส่วนใหญ่ ตัวเอกของเราที่รู้กลไกของปินเป็นอย่างดีว่าต้องใช้เวลาพอสมควรก่อนจะพร้อมยิง ก็แย่งปืนมาแล้วฟาดพานท้ายปืนเข้ากลางเบ้าหน้าคนตอก เพื่อนที่มาด้วยกันตั้งตัวไม่ทันเลยโดนด้ามปืนไปอีกราย พี่อิทเลยรอดมาได้อย่างหวุดหวิด หนีไปซักพักก็เจอคนอีกลุ่มแต่พวกนี้ไม่ใช่ทหาร เป็นชวาบ้านตาดำๆ ที่หมู่บ้านอยู่ใกล้เลยโดนลูกหลงไปด้วย ตัวเอกพูดคุยเก็บข้อมูลทั่วไปมาได้เพียบ ฝากการเทข้อมูลอย่างแนบเนียนผ่านบทสนทนาที่ไม่ได้ยัดเยียดมากนัก ก่อนจะจบตอนด้วยการที่พวกชาวบ้านเห็นว่าชาร์ลอยู่ในเครื่องแบบ เลยขอให้ชาร์ลรับตำแหน่งผู้นำทางการทหารในเขตนั้น

ตอนที่ 3 : สุนทรพจน์ขับไล่

นายอิทตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่หวังว่าจะได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกแล้วลุกไปทำงานตามปกติ แต่เรื่องเมื่อวานแม่งไม่ใช่ความฝันเพราะคนที่มาปลุกคือลุงอาเธอร์ผู้ใหญ่บ้านที่ตัวเอกหนีมาหลบอยู่ ไอ้หนุ่มไม่รู้จะทำยังไงเลยคิดว่าวันนี้จะเรียกรวมตัวคนในหมู่บ้านเพื่อมาพูดคุยแล้วหาทางล้มเลิกแผนรวบรวมคนเพื่อตั้งกองกำลังป้องกันตนเอง แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆ แทนที่ชาวบ้านจะเริ่มหอบข้าวของหนีภัยสงคราม คำพูดของไอ้อิทดันไปปลุกใจประชาชนจนคึกขึ้นมาแทน สุดท้ายเลยต้องเรียกพวกหน่วยสอดแนมมาคุย ถามไปถามมาคนในหมู่บ้านมีแค่ 400 แต่พวกที่ยกมามี 5,000 ประสบการณ์ด้านการรบก็ต่างกันมาก เลยต้องหาทางใช้แผนซุ่มโจมตีบริเวณซอกเขาแคบๆ

78 Nameless Fanboi Posted ID:FRB2UZLwL0

>>77

ตอนที่ 4 : อาวุธลับ

เปิดตอนด้วยการบ่นของพี่อิท เพราะลุงผู้ใหญ่แม่งโยนงานมาให้กูทำหมดเลย สักพักมีเด็กหนุ่มคนนึงโผล่มาบอกว่าของที่สั่งได้แล้วครับ จำนวนมากพอที่ต้องการด้วย แต่เขาอยากรู้ว่าหัวหน้าของเราจะใช้มันทำอะไร ตัวเองในร่างชาร์ลเลยบอกว่า นี่คือระเบิดเพลิงรุ่นที่เก่าแก่ที่สุดในโลก "โมโลต๊อป คอกเทล" ถ้าข้าศึกบุกมาในที่แคบแค่โยนขวดพวกนี้ลงไป รับรองมีแต่แพ้กับแพ้ หมู่บ้านส่งคนมาประจำการตรงช่องเขาได้ไม่นาน พวกข้าศึกก็ยกทัพมา พี่อิทเลยสั่งให้ทุกคนซุ่มอยู่เงียบๆ เพื่อรอจังหวะโจมตี

ตอนที่ 5 : สำแดงเดชโมโลตอฟ

เข้าสู่ฉากการรบแบบซุ่มโจมตี ปล่อยให้ข้าศึกเดินทัพเลยเข้าไปก่อนแล้วโยนระเบิดเพลิงขวางหน้า-หลัง พวกที่อยู่ตรงกลางก็ปาระเบิดแล้วใช้ปินยิงซ้ำ
มีการพูดถึงรูปแบบการจัดกระบวนทัพของทหารราบญี่ปุ่นยุคเก่าหลายแบบ การรบผ่านไปได้ด้วยดี มีคนเจ็บและตายค่อนข้างน้อย แต่ทัพของจักรวรรดิตายเพียบเจ็บอีกครึ่งต่อครึ่งจนต้องถอนกำลังกลับไป ลุงผู้ใหญ่เห็นผลงานของอิทแล้วก็ประทับใจ บอกว่าจะส่งเรื่องนี้ไปที่สำนักงานข่าวอีกหมู่บ้าน ให้พวกนั้นพานักข่าวมาดูสนามรบ แล้วให้หนังสือพิมพ์ในเมืองหลวงตีพิมพ์ข่าวนี้ พอวันรุ่งนี้หนังสือพิมพ์ถูกวางขายพี่อิทหรือนายชาร์ลคนโนเนมแห่งหมู่บ้านชายแดน ก็กลายเป็นซุปตาร์ของเมืองหลวงแบบชั่วข้ามคืน

การบรรยาย : เล่าด้วย POV 3 ความยาวต่อตอนนับได้ว่ายาวเทียบกับค่าเฉลี่ยของนิยายปัจจุบัน บทพูดให้ความรู้สึกยุคเก่าแต่ความคิดในใจชาร์ลหรือตัวพี่อิทมาแนวโบ๊บ๊ะขายขำ อ่านมากๆ แล้วนึกถึงนิยายสายกาว เล่าเรื่องได้เห็นภาพ มีการเทข้อมูลเกี่ยวกับการจัดทัพบ้างซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปกติสำหรับนิยายสายสงครามจนเนื้อหาแต่ละตอนอาจยาวยืดเพราะตัวข้อมูลและการอธิบาย

ตัวละคร : ออกแบบมาได้ดีแต่มีความขัดแย้งอยู่บ้าง เพราะตัวเอกอย่างพี่อิทเกิดการหลุดคาร์แบบไม่มีเหตุผลขึ้นในตอนที่ 4 เพราะตอนแรกพี่แกทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้หนีออกจากสนามรบ แล้วจู่ๆ กลับกลายเป็นหัวหอกของกองกำลังไปซะงั้น แถมจริงจังขนาดสร้างตารางฝึก การผลัดปลี่ยนเวรยาม และควบคุมทุกอย่างในส่วนของกิจการพลเรือนด้วย เหมือนกลายเป็นเจ้าของประเทศขนาดย่อมไปเลย ช่วงแรกขายขำจากความขัดแย้งกันของเบื้องหน้าและฉากหลัง ที่ต้องแสดงเป็นชาร์ลแต่มีพี่อิทบ่นอย่างฮาๆ ในความคิด แต่หลังจากเข้าสู่ตอนที่ 4 พี่แกก็กลายร่างเป็นสุพรีมคอมมานเดอร์เต็มขั้นจนทำให้กูแปลกใจนิดหน่อย เนื่องจากไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ส่งผลกระทบให้ตัวละครตัดสินใจทำแบบนี้ได้ อีกเรื่องนึงที่ถือว่าไม่เหมือนอิเซไคเรื่องอื่นคือ การตระหนักรู้ถึงสถานการณ์รอบตัวของพระเอก เพราะแม่งเข้าใจเซตติ้งโลกที่ตัวเองข้ามมาได้เร็วเกินไป ไม่มีอาการสับสนหรือตกใจ ผิดกับเรื่องอื่นๆ ที่ช่วยแรกต้องมีเสียอาการหรือหวาดกลัวกันบ้าง

เนื้อเรื่อง : แนววางแผนการรบ หลังจากอิเซไคมาเพราะซื้อรถ MG (ใครไม่รู้จักให้ไปอ่านได้ที่เพจ อวย MG) ตัวเอกไม่มีการอธิบายว่าเป็นโอตาคุสงครามแต่ดันรู้เรื่องแผนการรบต่างๆ เป็นอย่างดี คือมันบอกแค่ว่าเป็นพนักงานทำงานบริษัท แต่ไม่มีบอกว่าสนใจในด้านนี้เป็นพิเศษ ดังนั้นความรู้ที่อธิบายมาในระหว่างเดินเรื่องเลยทำให้กูอินบ้างไม่อินบ้าง ว่าทำไมมึงเชี่ยวเรื่องพวกนี้จังวะ ถ้าเล่าตอนแรกว่าเป็นพวกชอบสงครามยุคเก่าแล้วโดนส่งมาเพราะพระเจ้าเห็นว่าชอบแนวนี้อยู่แล้ว กูก็จะได้เออได้มารบสมใจแล้วศึกษามาเยอะจะได้โชว์ภูมิเต็มที่เสียที แต่นี่มันไม่มีเลยรู้สึกแปลกๆ อย่างนึงที่กูต้องชมเกี่ยวกับเนื้อหาคือคนเขียนไม่มีการแวะเยี่ยวใดๆ บอกว่าแนวสงครามโผล่มาก็แม่งนอนแดกดินอยู่กลางสนามรบจริงๆ เนื้อหาต่อจากนั้นก็ยังวนเวียนอยู่แต่กับการรบ จังหวะการเดินเรื่องก็สมดุลไม่เร่งหรือช้าเกิน ให้อรรถรสเกี่ยวกับการทหารเต็มเปี่ยม แต่น่าเสียดายที่แนวนี้ไม่นิยมในเด็กดวก

จุดเด่น : เป็นแนวสงครามที่โอเคและเล่าเรื่องได้ลื่นไหลไม่แวะเยี่ยว

จุดด้อย : ใช้ชื่อคนตายมาล้อเป็นตัวละครเอก ตัวละครหลุดคาร์แบบไม่มีแรงกระตุ้นที่น่าเชื่อถือ พิมพ์ผิดแบบพิมพ์สลับที่บ่อยเช่น ไปเอาขึ้นเงิน-เอาไปขึ้นเงิน

คะแนน : เก็บตะวันที่เคยส่องฟ้าาาา/10

ความเห็นส่วนตัว : ทำได้ค่อนข้างดีในแนวทางของตัวเอง มีวินัยและแต่งจบไปแล้ว น่าเสียดายที่ไม่มีสกิลเทพซ่าส์อะไรเลยขายไม่ออกในเด็กดวก เป็นอิเซไคแนวใช้ความรู้จากวิชาประวัติศาสตร์ด้านการรบ เอามาประยุคใช้ในโลกใหม่ที่ล้าหลังกว่า (ชวนให้นึกถึงเรื่องราชาอาชาไนย์หรือเรื่องสาว ม.ปลายเซ็นโกคุ ที่โดนอิเซไคไปใช้เทคนิคพวกนี้ทั้งคู่) อ่านได้เรื่อยๆ ถ้าชอบแนวรบพุ่ง ถ้าสร้าง conflict หรือเหตุการณ์อะไรหนักๆ สักอย่างให้ตัวเอกต้องตัดสินใจเด็ดขาดในการเข้าสู่โลกสงครามนี้ได้ กูจะโอเคกว่านี้มาก

79 Nameless Fanboi Posted ID:EKY2m0BQ7Q

ขอบคุณในความเหนื่อยยาก ตกลงเมิงจะบอกว่านิยายเรื่องนี้ดีระดับเพลงเก็บตะวันใช่ไหมวะ

80 Nameless Fanboi Posted ID:Cc9Zu4xwUy

>>79 เปล่า กูล้อที่มันเอาชื่อพี่อิทมาใช้ ตอนแกเป็นมะเร็งเสียไปกูนี่เศร้าเลย ละในเรื่องที่นามสกุลไม่เหมือนกันซักที พรางกูลบ้าง พยางกูลบ้าง เห็นแล้วขำ

81 Nameless Fanboi Posted ID6:35/Wg0w0lR

>>77 ขอบคุณโม่งมาก นี่ซิบอร์ดคุณภาพ

82 Nameless Fanboi Posted ID6:NZx1dIEfia

>>79 มันเป็นมีมการใส่คะแนน out of context / 10 อะ
อย่างนิยายที่สับแม่งมีจุดพีคอย่างเอาชื่ออิทธิที่เป็นนักร้องที่เสียไปแล้วมาใช้เป็นชื่อตัวเอก เวลาให้คะแนนก็เลยเอาเนื้อเพลงเก็บตะวัน / 10 เพราะมันคือการสับ ไม่ได้รีวิวอะไรให้เป็นเกณฑ์ขนาดนั้น

83 Nameless Fanboi Posted ID6:I6rexX13HI

คห.4 มาเพื่อระบายอารมณ์ แต่กูไม่เถียงเลย แอบเห็นด้วยหลายอย่าง https://www.dek-d.com/board/writer/4074419/

84 Nameless Fanboi Posted ID:Cc9Zu4xwUy

>>83 เก็บกดมาจากไหนวะน่ะ ใส่เต็มคาราเบ้วอย่างกับผัวดอกขาว

85 Nameless Fanboi Posted ID6:dCOJ4wIiPX

มีคนรู้จักเป็นนักเขียนติด Top หมวดแฟนตาซีมาบ่นให้ฟังแล้วรู้สึกไม่อยากกลับไปเขียนเลยแฮะ
เห็นว่าทุกวันนี้ลงวันละ 3 ตอนคนอ่านยังบ่นว่าช้า พอขาดลงแค่วันเดียวยอดคนอ่านหายฮวบอีก ความสะดวกของผู้บริโภคนี่แลกมาด้วยความลำบากของผู้ผลิตจริงๆ วุ้ย

86 Nameless Fanboi Posted ID6:GlXdw9Z0Tm

>>85 ตลาดไทยไม่เหมือนตลาดจีน ทำใจๆ

87 Nameless Fanboi Posted ID6:R3ZE0XziGi

มีใครลงนิยายรักในเด็กดีไหม ทำไมรู้สึกยอดวิวมันห่างกับในรี้ดอย่างเห็นได้ชัด

88 Nameless Fanboi Posted ID6:H4XRopWc6Q

>>87 กูไม่รู้ ไม่ได้ติดตามเป็นชาติ

KY เห็นมู้ถามถึงนิยายระทึกขวัญ ปกติจะต้องเป็นเรื่องคาดเดายากๆรึเปล่า หรือเพิ่มความยากตามคอมเม้นบอกมา

89 Nameless Fanboi Posted ID:dlgfiWlk3F

>>88 เมิงเขียนนิยายระทึกขวัญ (thriller) ก็ต้องมีฉากระทึกขวัญเท่านั้นเอง
ถ้าเมิงเขียนแนวลึกลับ (mystery) ก็ขายความลึกลับขายปริศนา
ถ้าเมิงเขียน mystery thriller ก็คือมีจุดขายที่ปริศนาความลึกลับของเรื่อง แล้วก็มีฉากระทึกขวัญ
มันเข้าใจยากหรือกูเข้าใจผิด กุอ่าน ๆ ที่คุยกันจะพากุงงไปด้วยแล้ว

90 Nameless Fanboi Posted ID:1lyryCuLLh

เมอร์รี่คริสโม่งงง โฮ่ๆๆ

91 Nameless Fanboi Posted ID6:46NPY8Km+P

ช่วงปีใหม่นี้โม่งหายตัวพักนึงแหง

92 Nameless Fanboi Posted ID6:Q8nBOEX2tl

https://www.dek-d.com/board/writer/4075301/
คาบ้าน

93 Nameless Fanboi Posted ID:.mqyoXnY0f

สวัสดีปีโม่งงงง

94 Nameless Fanboi Posted ID6:BV4rldBQIA

มู้เด็กดวกไม่มีน่าสนใจเบน

95 Nameless Fanboi Posted ID:MhD937LMsD

นานๆถึงจะมีอะไรให้ดูที
https://www.dek-d.com/board/writer/4075814/13/14

96 Nameless Fanboi Posted ID6:fRUNOWQtJ3

กลายเป็นมู้นินทาบอร์ดเด็กดอยไปซะแล้ว วิวัฒนาการย้อนกลับเหรอวะ

97 Nameless Fanboi Posted ID6:JX.8m1ypFJ

มีอะไรให้นินทา เห็นวันๆ มีแต่คนมาขอกำลังใจ ทั้งกำลังใจกัน ทั้งคนขอคนให้ก็นะ… อีโก้สูงชิบ

98 Nameless Fanboi Posted ID6:o/pMSiJnqE

>>96 ก็มันไม่มีเรื่องอะไรให้อ่านแล้วนิหว่า

99 Nameless Fanboi Posted ID6:1mgOOOd2G9

กูอยากเขียนนิยาย แต่กูไม่มั่นใจเรื่องตารางเวลาลงให้โดนใจคนอ่านว่ะ
เห็นเพื่อนที่พยายามดันนิยายตัวเองติด top เขียนแบบตะบี้ตะบัน ลงวันละ 2-3 ตอน ยังโดนบ่นว่าลงช้า แล้วกูที่ทำงานประจำด้วย สปีดลงคงได้แค่อาทิตย์ละ 2-3 ตอน นี่จะโดนจวกยับขนาดไหนหนอ

100 Nameless Fanboi Posted ID6:yXnY05gnSo

>>99 ต้องถามก่อนจะเขียนแบบเปิดอ่านฟรี หรือเขียนหารายได้ แล้วมีฐานแฟนคลับหรือยัง ถ้าไม่มีต้องการสร้างฐานแฟนคลับไหม การเขียนนิยายมันมีจุดประสงค์อยู่ จุดประสงค์ต่าง แนวทางก็ต่างนะ

101 Nameless Fanboi Posted ID6:YvmJJ+taY7

>>99 โดนใจนักอ่าน? คือลงถี่ๆเหรอ งั้นมึงก็เขียนสต๊อกไว้สิ อยากลง2-3ตอนต่อวันต่อเนื่องหนึ่งเดือน มึงก็ต้องมีเก็บในมือ60-90ตอนก่อนเริ่มลงครั้งแรก

102 Nameless Fanboi Posted ID6:3wMBb.Qhid

>>100 กูอยากสร้างรายได้บ้างแฮะ แต่ไม่มั่นใจเลยว่าเขียนแล้วจะมีคนซื้อ

>>101 ถ้าเอาความยาวเฉลี่ยกู นิยายเล่มนึงมีราวๆ 30 ตอน ถ้าเอายาวแค่ 3 เล่มจบนี่หมายความว่ากูต้องเขียนให้จบก่อนเลยนะนั่นถึงเอามาลงได้

103 Nameless Fanboi Posted ID6:yXnY05gnSo

>>102 ลองลงแบบอ่านฟรีไปก่อน ถ้ามีคนอ่านนิยายระดับหนึ่งแล้วค่อยติดเหรียญตอนหลังๆ หรือไม่ก็เปิดอ่านฟรีในระยะเวลาที่กำหนดแล้วค่อยติดเหรียญ นักเขียนแต่ละคนมีเทคนิคการขายไม่เหมือนกัน ลองไปไล่ดูนิยายติดท๊อปอะว่าเขาขายกันยังไง แล้วลองเลือกมาสักวิธี

104 Nameless Fanboi Posted ID6:j.37MYVwtV

ปกติเตั้งราคาตอนละกี่เหรียญ อยากรู้จัง

105 Nameless Fanboi Posted ID6:3DKm7QQxA8

>>104 ตามจำนวนตัวอักษร ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 2-6 เหรียญ ราคานิยายไทยส่วนใหญ่จะถูกกว่านิยายแปล เพราะเสี่ยงไม่จบสูง แพงไปคนอ่านไม่อยากจ่าย ส่วนนิยายแปลคือมันจบแล้วเลยเอามาแปล ยกเว้นจะมีแฟนคลับ ถึงตั้งราคาสูงได้

106 Nameless Fanboi Posted ID:Qbwmlg3IOU

>>97 คนแต่งนิยาย แถมยังเด็กวัยรุ่น เมิงให้อีโกมันต่ำเหรอ เมิงก็พูดเหมือนห้ามวัยรุ่นหงี่นั่นล่ะ

107 Nameless Fanboi Posted ID6:TmOqeDi5LS

อยากแต่งนิยายหรืออยากมีเพื่อน
https://www.dek-d.com/board/writer/4076059/

108 Nameless Fanboi Posted ID6:P79x.BTDnB

>>107 น่าจะมาแค่ขอกำลังใจหรือหาแนวร่วมแหละ เห็นหลายเม้นท์แนะนำให้ปรับปรุงฝีมือเห็นไม่หือไม่อืออะไร ส่วนใหญ่คนในบอร์ดจะประมาณนี้ เพราะนักเขียนมีฝีมือจริงๆ เขาไม่ค่อยมาสนใจบอร์ดหรอก แค่ปั้นนิยายตัวเองก็เหนื่อยแล้ว ไหนจะเกลาแล้วเกลาอีกกว่าจะพอใจกับแต่ละตอน

109 Nameless Fanboi Posted ID6:FpjRmQuDsn

ถามหน่อย ถ้าคิดพล็อตออกมาได้ละหลายเรื่อง แล้วคิดว่ามันน่าสนใจหมด และก็ชอบหมดเช่นกัน แต่มีเวลาเขียนในแค่เรื่องเดียว

ในฐานะมือใหม่ จะเลือกเรื่องที่เอามาเขียนยังไง เมื่อไม่มีบก.หรือคนอื่น ให้ปรึกษาเลย มีเกณฑ์เลือกเรื่องเขียนใหม่ อะไรงี้

อนึ่ง ไม่ได้คิดจะติดเหรียญหรือขาย และยังไม่มีแฟนคลับ เอาแค่ให้กลุ่มเป้าหมายมาอ่านสร้างฐาน ชื่อเสียงเปิดตัวพอ

110 Nameless Fanboi Posted ID6:4RpwkEnJgk

>>109 มีแนวกระแสไหม ถ้ามีเอาแนวกระแสก่อน ถ้าไม่มี เอาเรื่องที่ชอบที่สุด ถ้าหัดเขียนใหม่เนื้อเรื่องไม่ต้องเอาถึงระดับมหากาพย์ เอาแค่เกิดขึ้นในพื้นที่หนึ่งก็พอ ปมไม่ต้องเยอะ สเกลพลังไม่ต้องสูง เนื้อเรื่องอย่าวนลูบ ความยาวไม่ต้องยาวมาก ไม่ควรเกิน 200 ตอน ตอนนึงประมาณ 1500-2000 คำ เน้นลงบ่อย ไม่ต้องไปตบตีกับคอมเม้นคนอ่าน เขาจะเม้นอะไรช่างมัน ถ้าเม้นกำลังใจก็ขอบคุณ เม้นด่ามองข้ามไปเลย คิดว่าตัวเองฝึกงานซะก็สิ้นเรื่อง (ตอนฝึกงานอาจโดนด่ามากกว่านี้อีก) (ปล. ตอนกูหัดเขียนเอาพล็อตขยะมาฝึกเขียนก่อน ส่วนพล็อตดีๆ ไว้เขียนตอนที่คิดว่าฝีมือถึง แต่มันก็เสี่ยงจะไม่มีคนอ่าน)

111 Nameless Fanboi Posted ID6:ttj3Ze8VR6

>>109 ลองเอาไอ้สิ่งที่ "น่าสนใจ" ในหัวมึงมากางดูก่อน ว่ามันน่าสนใจจริงขนาดนั้นเลยไหม ตอนเด็กๆแค่ดาบติดไอพ่นกูก็คิดว่ามันน่าสนใจแล้ว แต่พอเอามาเขียนจริงแม่งก็ไม่ได้มีอะไรต่อยอด เขียนปุ้บ ฟิน... หมดความสนใจ ดอง

ถ้าคิดว่ามันน่าสนใจจริงก็ขุดให้ลึกๆ เขียนออกมา อย่าขังไว้ในหัว เพราะมึงจะเริ่มโม้กับตัวเองว่า "ไอเดียนี้เจ๋งนะ มันดีจริงๆแค่ฝีมือการเขียนกุยังไม่ถึง" ถ้าเอามาเขียนแล้วมึงมีแต่เรื่องอยากเล่าเพิ่ม อันนี้คือมึงมีแพชชั่น มึงลากยาวจนจบเล่มได้แน่ๆ แล้วถ้ามันน่าสนใจสำหรับคนอื่นด้วยอันนี้ก็ Win-Win

112 Nameless Fanboi Posted ID6:jpNDH/aOf1

>>110 ขอบใจมากโม่ง

>>111 อันที่จริงก็ระวังข้อนี่อยู่แหละ จริงโตแล้วยิ่งไม่มีเวลา ต้องเลือกเรื่องเขียนให้ดี ว่าแต่จะลองเขียนยังไงตามที่ว่ามาละ เขียนเป็นทรีตเม้นรึ?

ปอลิ่ง รู้เปล่าว่าไอ้ดาบติดไอพ่นของโม่งมีมังฮวา เอาไปเขียนขายได้โคตรดี 555 โม่งพลาดแล้ว

113 Nameless Fanboi Posted ID6:YMnswlKqQY

>>112 เยสเข้ มีคนเอาไปใช้จริงด้วยสัส 5555

ส่วนเรื่องลองเขียน มันก็แค่ลองเขียนอะ เขียนดราฟแรกโง่ๆ ออกมาสัก 1 ตอน ถ้ารู้สึกว่ามันน่าสนใจมึงก็จะเขียนต่อได้ แต่ถ้าฟินน้ำแตกแล้วไม่อยากแตะมันอีกก็ดองไว้ไม่ก็โยนทิ้ง

114 Nameless Fanboi Posted ID6:11yFFBbZTY

แปลกมั้ยที่กูชอบเขียน POV ตัวละครหญิงมากกว่าชาย ทั้งที่กูก็โม่งชาย
เขียน POV ชายทีไรออกมาเป็นตาลุงขี้บ่นทุกที ในขณะ POV หญิงจะเป็นอีกแบบเลย ถถถ

115 Nameless Fanboi Posted ID:nWkW9O+MVC

>>114 ไม่แปลก เวลาดูหนังโป๊กูก็ชอบดูหีดูนมมากกว่าดูกระดอเหมือนกัน

116 Nameless Fanboi Posted ID6:UtuVXFzxke

เออว่าแล้วอยากถามความเห็นไปประกอบการพิจารณาหน่อยแฮะ เหล่านักอ่านหญิงนี่คิดยังไงกับการที่ตัวเอกมีภรรยาหลายคนหว่า
ไม่เชิงฮาเร็มแบบเจอหน้าปุ๊บอยากจับกดเลยเลย แต่เป็นแนวผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะเลยยอมๆ กันไป คล้ายๆ กับรูดี้กับเมียทั้ง 3 อะ

117 Nameless Fanboi Posted ID6:heliq+NERy

>>116 กุไม่ใช่นักอ่านหญิงนะ แต่มันก็แค่เรื่องกลุ่มเป้าหมายไม่ใช่เหรอวะ กุตัวผู้ กุก็อยากอยู่ในดงสาวๆ เพราะเหม็นฆวย ส่วนผู้หญิงก็อยากอยู่ท่ามกลางผู้ชาย (หรืออยากเห็นผู้ชายได้กันเองกุก็ไม่รู้เหมือนกัน) มึงถามเหมือนกลัวโดนคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายตัวเองด่างั้นแหละ

118 Nameless Fanboi Posted ID:BH/wmnoFBH

>>116 ถ้าแค่ 2-3 คนแล้วเนื้อเรื่องน่าติดตาม เขาจะไม่คิดอะไรมาก แต่ถ้าเยอะๆ คงไม่ไหวกัน

119 Nameless Fanboi Posted ID6:QRkWCPEqjq

>>116 กุโอเคถ้าตัวละครมันมีเหตุผล มีเคมี ไม่ใช่เดินๆ แล้วหลงหำพระเอก แบบนั้นกุขยะแขยง

120 Nameless Fanboi Posted ID6:fSMvl6wyRk

>>117 ใช่กูกลัวแหละ เพราะไม่ได้อยากเขียนแนวฮาเร็ม แต่ถ้าเขียนยาวแล้วดันมีคนเดียวเนี่ยกูมองว่ามันน่าเบื่อน่ะ อีกอย่างถ้าเขียนแบบไม่หามีเพิ่มเดี๋ยวโดนหาว่าโง่แดกผักอีก

121 Nameless Fanboi Posted ID:pJql2jf.DQ

>>120 ทำไมไม่ใส่แบบให้จิ้นล่ะ สุดท้ายจะลงเอยกับใครก็สุดแล้วแต่ แบบนี้ได้แฟนคลับหลายกลุ่มด้วย ยกเว้นมึงจะขาย nc

122 Nameless Fanboi Posted ID6:Q5Q/FvlSLJ

ถามหน่อย ถ้าเขียนให้นางเอกโดนเย้หรือเสียซิง โดนจัดแบบhard core โดยตัวละครอื่นที่ไม่ใช่พระเอกหรือคู่จิ้น ในฝัน คนอ่านมันจะดรอปไหม

รู้แหละ รี้ดชอบนางเอกซิง แต่บางทีไรท์ก็แอบเบื่อนะ 555

123 Nameless Fanboi Posted ID6:mmxQoggoLK

>>122 ทำไปเพื่อ? มันเป็นปมหรือสตอรี่จำเป็นเหรอ

124 Nameless Fanboi Posted ID6:iqChK7ANDG

>>122 จะใส่อะไรลงไป คิดแค่ว่ามันเป็นพล็อตโฮลหรือเปล่า บางอย่างมีหรือไม่มีก็ไม่ได้กระทบต่อเนื้อเรื่องไม่จำเป็นต้องใส่ ไม่งั้นนิยายมึงจะเกรดต่ำลงทันที

125 Nameless Fanboi Posted ID6:.nTDQ4gLPN

โม่งไม่ได้คิดไปเอง มีคนคิดเหมือนกันด้วย
https://www.dek-d.com/board/writer/4077181/

126 Nameless Fanboi Posted ID:OpyslO13sO

ไหนๆ เด็กดีก็อนุญาต nc แล้ว เลยอยากถามเพื่อนโม่งเป็นวิทยาทานหน่อย
ใครในนี้เคยเขียนแนวนี้บ้าง พอรู้ปะว่าคนอ่านส่วนใหญ่ชอบ nc เข้มข้นดุดัน หรือมีโมเมนต์หวานๆ ผสมโรง มากกว่ากัน?

127 Nameless Fanboi Posted ID6:ll7bDYKELH

Pwp เจอค่อนข้างบ่อย

128 Nameless Fanboi Posted ID6:+R5P3vGuKE

>>126 ห้อง lit มีคุยเรื่องนี้อยู่ ลองไปอ่านดู

129 Nameless Fanboi Posted ID6:ll7bDYKELH

สมัยนี้สนใจปริมาณระดับ Forspoken ไม่สนใจคุณภาพระดับ Dead Space Remake แล้ว
https://www.dek-d.com/board/writer/4077279/

ที่ต้องการสื่อคือ Forspoken คือเล่นใหญ่แต่กลวงสัส Dead Space Remake น่าสำรวจมีอะไรให้ทำจริงๆ ไม่ใช่มีไว้ประดับแต่งบ้าน

130 Nameless Fanboi Posted ID6:4IliyWA8Vo

>>128 แท้งกิ้วมากเพื่อนโม่ง

131 Nameless Fanboi Posted ID6:7zsOtUEhKh

เชี่ยนี่เรียกว่ามือตกสินะ
เขียนนิยายครั้งสุดท้ายคือช่วงปี 61 พอกลับมาเขียนนี่ถึงกับไปไม่เป็น เขียนมา 2 วันละเพิ่งได้ 5000 คำเอง
มาส่องเรื่องเก่าๆ ที่เคยเขียนนี่คือความยาวตอนละ 2 หมื่นคำ (แบ่งลง) แล้วเล่มนึงมาตั้ง 8-10 ตอนแน่ะ
โอ้ยยย รู้สึกเฟลชะมัด ต้องมารื้อฟื้นความรู้สึกกันใหม่แต่ต้นเลยสิเนี่ย

132 Nameless Fanboi Posted ID:+1qEZFJlAu

>>131 ลงไปเขียนไป จั่วหัวว่าลงวันละ 4 ตอน แล้วมึงจะโดนคนอ่านทวงแทบร้องขอชีวิต ถ้าลงไม่ครบนี่มึงจะโดนด่ายับจนกัดฟันเขียนจนครบ

133 Nameless Fanboi Posted ID:MmmIxfyY2b

งบ 60000 บาท ค้องการเขียนนิยาย แหมมมม
https://www.dek-d.com/board/writer/4077661/

134 Nameless Fanboi Posted ID6:AjnF9Hs7aw

แนวระบบ นี่คือยังไง? ดูๆไปแอบคล้ายกับพวกแนวต่างโลกที่มีหน้าต่าง status แต่ค่ไม่ต้องต่าวโลกเกิดใหม่ก็ได้
สรุปแล้วมันคือแนวยังไงหว่า เอกลักษณ์ จุดเด่น ของแนวนี้คืออะไร ที่มันขายได้ในยุคนี้?

135 Nameless Fanboi Posted ID:XGB0LmrMah

>>134 คือมันคุยกับตัวเอกได้ มอบภารกิจ มอบของรางวัล ที่มันขายได้เพราะคนอ่านชอบตรงที่มันมีภารกิจ มีรางวัลให้ เปย์ชนิดที่ตัวเอกกลายเป็นเทพซ่าไปตบเกรียน ไปทำให้คนอื่นอึ้ง แล้วระบบก็มอบภารกิจที่ตัวเอกลำบากนิดหน่อย (ย้ำว่านิดหน่อย) พระเอกก็โชว์เทพทำภารกิจสำเร็จ กับอีกแบบคือระบบแนวทะลุมิติไปในนิยายหรือในเกมจีบ… มันก็มีไว้สปอยเนื้อเรื่อง คุยกับตัวเอกแก้เหงา เป็น GPS ตามติดชีวิตคนที่เล็งไว้

136 Nameless Fanboi Posted ID:ThMI+I5Dfb

>>134 แนวระบบไม่ต้องมีหน้าต่างก็ได้ เมิงนึกภาพมีเซียนมามอบภาระกิจ เมิงทำเสร็จ เซียนก็มาให้รางวัลเมิง นั้นคือเอเลเม้นท์ของแนวระบบ พอเป็นเซียนก็เรียกระบบเซียน พอเป็นปิศาจก็เรียกระบบปิศาจ พอเป็นโปลิ่งเมิงก็เรียกระบบโปลิ่ง ว่ากันไปตามที่ใครจะให้รางวัลเมิง
เอเลเม้นท์ย่อย ๆ คือ การเล่นหลายเซ็ทติ้งในเรื่องหนึ่ง มีหลายโลกในเรื่องหนึ่ง มีกฏการเอาชนะที่เปลี่ยนไป รวมถึงมีการแหกกฏเพื่อชนะด้วย

137 Nameless Fanboi Posted ID6:8iJAEcO.5t

>>135 >>136 เชี่ยละ ถ้าแนวระบบเป็นแบบที่มึงว่ามากันนี่ เรื่องที่กูกำลังเขียนอยู่นี่แม่งก็เข้าข่ายแนวระบบไปเลยนะเนี่ย ถถถถถ

138 Nameless Fanboi Posted ID:MosrWCZCiY

>>137 ไม่ผิดอะไร ใครๆ เขาก็แต่งกัน

139 Nameless Fanboi Posted ID:dUlu2MYIBI

มีไซไฟที่คนเขียนแม่งไป research จริงๆ อ่านแล้วไม่ cringe แนะนำสักเรื่องสองเรื่องมั้ยสัส ใครมีมึงขายมาดิ๊

140 Nameless Fanboi Posted ID6:tB55uvjDFN

>>139 DUNE คนเขียนแม่งหาข้อมูลเยอะมาก

141 Nameless Fanboi Posted ID6:/lrPXzsVPB

Andromeda strain ดีจนทำหนังและทีวีซีรี่สั้น ๆ

142 Nameless Fanboi Posted ID6:esmMGxT8yq

เด็กดอย ี่เรารักกำลังจะมีระบบโดเนทแล้วว่ะมึง มีนาคมนี้เจอกัน
เออดี พอขายกิจการให้อมร.ละระบบเริ่มะัฒนาขึ้นทีละสเตป ต่อไปจะผูกอีบุ๊คกับนายอินปะวะ

143 Nameless Fanboi Posted ID:U82PNwiWz8

>>142 กุว่ามีโอกาสที่นิยายที่ทำเงินได้ในเว็บจะออกเล่มมากกว่า พวกขายรายตอนไม่ออกอีบุ๊ค หรือออกอีบุ๊คแล้วปังๆ ยังไงกลุ่มลูกค้าสามกลุ่มก็คนละกลุ่มกัน

144 Nameless Fanboi Posted ID6:+98b3iaJXW

ระบบโดเนทมองในแง่ดีคือเป็นกำลังใจที่จับต้องได้สำหรับนักเขียนที่อยากแค่เขียนเอาสนุก ไม่ได้หวังผลกำไร
แต่มองในอีกแง่ คือแม่งเปิดช่องให้ไอ้พวกปลิงมิจฉาชีพหารายได้ด้วย เช่นพวกที่ไปขโมยงานคนอื่นมาแปลงี้

145 Nameless Fanboi Posted ID:Um9Z+Gs01G

>>144 เออจริง คนไม่รู้ก็เปย์ให้แม่ง หาแดกง่ายๆ เลย

146 Nameless Fanboi Posted ID6:Y7SIq4KdqV

มือใหม่เคยแต่งนิยายนานมาหลายสิบปีละ วัยทำงาน กลับมาแต่ง ไม่เก็บเงิน ไม่nc เรื่องแรกควรแต่งแนวไหนดี คิดได้3เรื่อง
1. แนวเกิดใหม่ในเกม บริหารเมือง มีรบทัพจัดศึก การเมือง หักเหลี่ยมกลยุทธ์ (นึกถึงไอ้พวกเกมพิชิตสามก๊กในมือถือแบบนั้นอะ) แต่อาจแต่งให้ไม่เครียดมาก มีกาวๆ เบาสมองหน่อย แฟนตาซี

2. แนวนักฆ่า/นักจารกรรม/ก่อการร้าย/จอมยุทธพรรคมาร/sith lord มีมาสเตอร์กับลูกศิษย์ มาdarkนิดๆ ลอบเร้นแทรกซึม วางแผนแยบยลสังหารเป้าหมาย บ่อนทำลายแล้วยึดเมือง มีหักเหลี่ยม วางแผนเช่นกัน แต่ตัวเอกอาจแปลกๆ เช่น เนิดๆหน่อย (ลองจินตนาการว่าเอาเด็กเนิด introvert ติดนิยาย วิชาการ อนิเม มาฝึกเป็นนักฆ่า/จารกรรม/ sith lord ไรงี้ อาจมีแฟนตาซีหน่อยๆ

3. แนวตัวเอกสายintrovert ฟลุ๊คได้เป็นผบ.ทหาร อายุน้อย นำกองกำลัง(ไม่ถึงขั้นกองทัพ) ให้กับจักรวรรดิ มีสืบสวนนิดๆบ้าง การเมืองนิดๆ มีกลยุทธ สงคราม ตายบ้าง แต่เน้นกาวๆหน่อย

อยากรู้ว่าควรเลือกเรื่องไหนมาแต่งเรื่องแรกดี วัดความแต่งยากง่ายแล้วก็
เรื่องไหนมันเป็นแนวกระแส อันไหนนอกกระแสคนไม่น่าอ่าน เรียงลำดับมาเลยก็ได้
ขอบใจโม่งล่วงหน้าจ้า

147 Nameless Fanboi Posted ID6:41EkBSMSGL

>>146 กูเขียน 1. อยู่บอกเลยว่าไม่ใช่ง่าย พยายามเขียนให้กาวแต่สุดท้ายแม่งกาวไม่ออก เพราะเรื่องมันดึงไปทางนั้น

ถ้าอยากจะกาวมึงต้องเตะเหตุผลทิ้งไปให้หมด ประเคนพล็อตอาเมอร์กำหนดให้พวกตัวเอกเป็นแค่กลุ่มคนนิรนามแต่มีแบคระดับพระเจ้าหรือจอมมาร เอาให้การเคลื่อนไหวทีดันสะเทือนทั้งแผ่นดินอะไรทำนองนั้น ยกตัวอย่างเช่นพระเอกทำฟาร์มอยู่ดีๆ ครอบครัวดันมีแวมไพร์+นางฟ้า+เอลฟ์+มังกร บลาๆ มาเป็นเมีย ซึ่งแต่ละคนดันมีสเกลพลังระดับถล่มประเทศได้ พอลูกโดนรังแกก็ยกทัพไปถล่มงี้

2. เปลี่ยนเด็กเนิร์ด Introvert เป็น Alpha male ก็จะกลายเป็นแนวเทพซ่า ใส่สิ่งที่เรียกว่าระบบไปหน่อยก็กลายเป็นแนวที่นิยมเขียนกันในปัจจุบัน ใส่ความเบียวพูดเท่ๆ เข้าไปอีกนิดให้ตัวละครดูเอ็ดจี้นิดหน่อยเด็กๆ น่าจะชอบ ...อันนี้กูไม่ชัวร์เพราะไอ้แนวนี้มันเคยนิยมเมื่อ 4-5 ปีก่อน ไม่รู้ปัจจุบันยังนิยมกันอยู่รึเปล่า

3. แนวจูนิเบียวเข้าใจยาก นอกจากคนไม่ค่อยอยากอ่านแล้ว มึงได้โดนโม่งเอามาสับแหง เหมือนเคยมีเคสตัวอย่างอยู่แถวๆ นี้เมื่อนานมาแล้ว ถถถถถ

148 Nameless Fanboi Posted ID6:10rOJpKiEO

ว่าไปมีใครบริหารเวลาเขียนได้ลงตัวมั่งวะ
กูนี่คือต้องแอบเขียนระหว่างทำงาน บางวันต้องเขียนลงสมุดไม่ก็ไฟล์ notepad แล้วกลับบ้านมาพิมพ์ กว่าจะกลับถึงบ้านก็ 2 ทุ่มละ ทำธุระนั่นโน้นนี่กว่าจะเสร็จ เหลือเวลาเขียนนิยายนิดเดียวเองก็ต้องเข้านอนละ

นี่เขียนมาได้อาทิตย์กว่าเพิ่งได้ 40 หน้า ตั้งใจจะเขียนซักร้อยตอนก่อนค่อยลง แต่ถ้าสปีดเท่านี้ร้อยตอนแม่งก็สต๊อกไม่พอแหง

149 Nameless Fanboi Posted ID6:VYWO7w.d7g

>>148 ก่อนนอนหัวแล่นไหมล่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็เขียนในมือถือจนกว่าจะหลับ แต่ถ้าไม่ไหวก็เขียนตามที่สะดวก

150 Nameless Fanboi Posted ID6:Y3m3gFd1QL

>>147 ใจมากโม่ง เอาเรื่องเบอร์1 ของโม่งมาแชร์ทีซิ อยากเห็นตัวอย่าง

151 Nameless Fanboi Posted ID6:WX3vrcXVWv

>>147 ไม่จำเป็นก็ได้มั้ง ให้ตัวเอกมึนๆ อึนๆ บริหารบ้านเมืองไป แต่ตัวประกอบดันไปทำให้เรื่องใหญ่โตเองโดยที่ตัวเอกไม่รู้ก็ได้นี่ มันก็กาวเหมือนกัน ประมาณ 'ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน' มันมีกาวอยู่สองแบบ กาวจากตัวเอกกับกาวจากตัวประกอบ ส่วนใหญ่กาวจากตัวเอกจะควบคุมเนื้อเรื่องยาก แต่กาวจากตัวประกอบนี่ทำง่าย มึงสร้างตัวประกอบมากาวแค่ไม่กี่ตอนแล้วบทหายไปเลยก็ได้ ไม่ต้องกลัวคุมเนื้อเรื่องไม่ได้

152 Nameless Fanboi Posted ID:YWwqDkR6/7

เอากาวหรือไม่เอากาว เลือกสักอย่างเถอะ เล่นผสมแล้วได้ครึ่งๆกลางๆ ไปไม่สุดซะที

153 Nameless Fanboi Posted ID:YWwqDkR6/7

>>147 แล้วไอ้ข้อ 2 ก็พวกนักฆ่ามีรถแลนโบกินี่เป็นของตัวเอง ประกาศศักดาตนต่อทุกคนกับตำรวจว่า กูนี่แหละคือนักฆ่าเก่งที่สุดในกาแลคซี่ทางช้างเผือก เป็นแบบนี้หลายเรื่องเลย ไม่นับเรื่องมาเฟียคุณธรรมเอาใจนักอ่านสาวฝันเปียก

154 Nameless Fanboi Posted ID6:dt03m6deYJ

>>152 ยุคนี้มันต้องกาวรึเปล่าถึงขายได้ ไม่งั้นต้องมือถึง+มีแฟนคลับส่วนหนึ่งก่อนถึงขายได้แบบไม่กาว

155 Nameless Fanboi Posted ID6:dt03m6deYJ

>>153 ว่าแต่แนวพวกนักฆ่า อาชญากรนี่ สาวๆชอบอ่านหรอ นึกว่ามีแต่เด็กผู้ชายเอ็ดจี้ ถ้านางเอกเป็นนักฆ่าบ้าง มีอาจารย์เป็นผู้ชายเท่ๆไรงี้ ใครจะอ่านมากกว่ากันระหว่าง รี้ดญ หรือชาย

156 Nameless Fanboi Posted ID6:wq+Kr55QO0

กูนี่พยายามเขียนกาว แต่คือกาวไม่ออกกลายเป็นมุกแป๊กแทนตลอดเลย เศร้าว่ะ

157 Nameless Fanboi Posted ID6:1Y2zvRw+yl

ดราม่าที่ยายละเมิดลิขสิทธิ์ใน DD กุเข้าไปอ่านคอมเม้นต์แฟนคลับของนิยาย พอเจอคำว่า ทำกลุ่มแปลต่อก็ได้ครับ ช่างหัวเด็กดีมัน กูช็อคแบบสุด คือนิยายเรื่องนี้มันไม่มีคำว่านิยายแปลเขียนไว้เลยนะ กะเคลมมาเป็นผลงานตัวเองชัดๆ ทำไมยังสนับสนุนกันวะ

>>155 ญ อ่านมากกว่า เพราะส่วนใหญ่ถ้า ญ เป็นตัวเอกจะไม่ค่อยฮาเร็ม ตัวละคร ญ จะไม่น่ารำคาญ (ส่วนใหญ่จะใส่มาฟิลตัวร้าย) ถ้า ช เป็นตัวเอก ต้องมาลุ้นว่าจะฮาเร็มไหม ตัวละคร ญ จะน่ารำคาญไหมอีก ผญ เขาค่อนข้างซีเรียสเรื่องพวกนี้
>>156 ถ้าพยายามเขียนกาวมันจะไม่กาวนะ เหมือนกับเราพยายามเฟคอะ มึงลองปรับใหม่ แบบเขียนไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องยัดมุกอะไรมากมาย แล้วกลับมาอ่านดู มันจะสนุกแบบแปลกๆ

158 Nameless Fanboi Posted ID6:dt03m6deYJ

>>157 แล้วแนวพวกนี้นี่ ระหว่างคู่ชาย ญ กับ คู่ยูริ แบบไหนนิยมกันมากกว่า ตอนนี้ ไม่รู้นะแต่เห็นแนวยูริเยอะมาก โดยเฉพาะถ้านางเอกน่ารักอายุน้อย(โลลิ)

159 Nameless Fanboi Posted ID:9Z8UC9FtHF

>>158 ชญ ขายได้ดีกว่า ยูริเฉพาะกลุ่มเกิน

160 Nameless Fanboi Posted ID6:bjSqHvbVtJ

โม่งมีวิธีแก้นิสัยชอบรีไรท์ไหมวะ เหมือนกูติดความสมบูรณ์แบบเขียนตอนเดิมซ้ำไปซ้ำมาไม่พอใจสักที อยากแก้คำสาปนี้แล้วไปเขียนตอนใหม่หรือให้จบเรื่องสักที

161 Nameless Fanboi Posted ID:rx+oN5gdRi

>>160 กูเคยเป็นนะ ต้องหักดิบเอา แบบว่าเวลารู้สึกอยากรีไรท์ กูจะพิมพ์นิยายตอนเดิมซ้ำในตอนใหม่ พอพิมพ์ไปได้สักพักแล้วจะนึกได้เองว่า ไอ้เหี้ย เสียเวลาชีวิตไปอย่างเปล่าประโยชน์

เพราะมันมีค่าเท่ากันระหว่างรีไรท์บทเดิมรัวๆ กับขึ้นบนใหม่แต่เขียนเหมือนเดิม ดังนั้นเขียนเนื้อหาใหม่ดีกว่าวนในอ่างไปเรื่อยๆ แบบนี้

อีกผลพลอยได้ที่มึงจะพบคือ เวลาเขียนคำผิดเยอะๆ มันมีคนมาคอยแก้ไขให้จนได้คอมเมนต์ฟรี กับการรีไรท์ตอนจบเรื่องแล้ว มึงจะมองเห็นภาพรวมได้ชัดกว่าเขียนไปแก้ไป

เหมือนเวลามึงเห็นว่าบนสนามหญ้ามีหลุม มึงอยากถมหลุมนั้นเลยขุดดินจากพื้นข้างๆ มาถม แล้วเกิดอะไรขึ้น... ห่า หลุมแรกหายไปก็จริง แต่หลุมใหม่ที่เพิ่งขุดเอาดินมาเติมหลุมแรกกลายเป็นปัญหาแทน ถ้ามึงเขียนไปแก้ไปก็เหมือนมึงขุดหลุมใหม่มาถมหลุมเก่าวนลูป แต่ถ้ามึงปล่อยไปก่อน จนถึงตอนที่มึงมีดินจากแหล่งอื่น (ภาพรวมเรื่องต้นถึงจบ, เวลาว่างหลังแต่งจบแบบไม่ต้องรีบ ไม่มีแรงกดดัน, ทางแก้พล็อตโฮลที่นักอ่านชี้ให้เห็น) ถึงตอนนั้นมึงก็สามารถถมหลุมได้โดยไม่ทำให้สนามหญ้าเกิเความเสียหายเพิ่ม

มึงสามารถยืนข้างสนามแล้วไล่กวาดสายตาดูได้ทั่วเลยว่ามันมีหลุมตรงไหนและต้องใช้ดินเท่าไหร่ ทำได้แบบม้วนเดียวจบ กลบได้ทั้งหมด ดีกว่าขุดหลุมใหม่เติมหลุมเก่า หรือต่อให้ขนดินนอกมาถมรูนั้นได้ แต่ก็อาจมองไม่เห็นว่ามีหลุมอื่นๆ อยู่อีก เพราะทุ่มความสนใจมาแก้หลุมตรงหน้า

มันดีและง่ายกว่ากัน ไอ้โรคบ้าความเป๊ะเว่อร์เนี่ย มันไม่มีวันหายไปได้ แก้แล้วก็ไม่พอใจจะแก้ใหม่เรื่อยๆ ต้องฝืนใจตัวเองปล่อยผ่านไปก่อนแล้วจัดการทีเดียวตอนท้าย แรกๆ จะยากมาก ฝึกให้ชินแล้วทำได้เอง กูก็ฝืนอยู่เป็นปีๆ กว่าจะหายหงุดหงิดได้เอง

162 Nameless Fanboi Posted ID6:TE0cFwZ5U0

ถ้าเรื่องที่แต่งคาดว่าน่าจะมีรี้ดญอ่านด้วยเยอะ แล้วเรื่องที่แต่งโฟกัสที่นางเอกเป็นตัวหลัก เป็นแนวแอคชั่นหน่อยๆ นางเอกอายุน้อยแต่ออกแนวตัวร้ายหน่อยๆ จะให้นางเอกแต่งโป้หน่อยได้ไหม มันจะเหมาะไหม (ส่วนสาเหตุหลักคือเป็นเฟติสไรต์แค่นั้นแหละ555)

163 Nameless Fanboi Posted ID:rx+oN5gdRi

>>162 ได้หมดถ้ามึงกล้าพอ

164 Nameless Fanboi Posted ID6:XRWEg0.VHw

>>160 เคยมีคนบอกว่า นักเขียนมืออาชีพต้องรีไรท์หลายรอบกว่าจะไม่มีอะไรแก้ไข (การตีพิมพ์ครั้งที่เท่าไร เสมือนการนับรีไรท์ทีละรอบ) วิธีรีไรท์ถูกต้องคือแต่งให้จบก่อน จบเฉพาะภาคก็ได้ถ้ามีภาคต่อ แล้วค่อยรีไรท์ใหม่ ให้คิดซะว่ามันคือการ Remaster หรือ Remake (Reboot เหมาะกับแต่งเรื่องใหม่มากกว่า) แต่สมัยนี้แต่งลงเว็บเผยแพร่ทันทีไม่รอ บ.ก. สิ่งที่ทำได้คือ Remaster อย่างเดียว เพราะทุกคนอ่านก่อนจะได้รีไรท์หมดแล้ว

165 Nameless Fanboi Posted ID6:XRWEg0.VHw

อย่าง Dead Space Remake คือการขัดเกลาเนื้อเรื่อง ออกแบบด่าน และเสียง มันคือการรีไรท์ของ Dead Space 2008 ที่ทำเสร็จตอนนั้นแล้ว เราต้องเห็นภาพรวมชัดเจนถึงจะแก้ถูกจุด อย่างที่ >>160 บ่นน่ะแหละ

166 Nameless Fanboi Posted ID6:KMuqOWyglb

เพื่อนกูเขียนนิยายขายมันก็แนะนำมาตลอดว่าเขียนให้จบก่อน แล้วค่อยรีไรท์
แต่เคสมันคือเขียนเป็นเล่มขายในสมัยก่อนอะนะ ปัจจุบันก็เขียนแบบ 2-3 เล่มจบ ซึ่งมันทำได้อยู่ที่จะรีไรท์

แต่เคสกูนี่คือตั้งใจเขียนขายออนไลน์ วางไว้เป็นร้อยๆ ตอน แม่งคงรีไรท์ลำบากชิบหายเลย

167 Nameless Fanboi Posted ID6:TE0cFwZ5U0

โม่ง เราสามารถเขียนให้ตัวเอกมีความสัมพันธ์แบบทั้งคู่นอมอล และคู่ยูริ ในเรื่อวเดียวได้ไหม อารมณ์ มีทั้งเรือพระเอก และเรือยูริ ทีเดียว

168 Nameless Fanboi Posted ID6:eshVpLwHql

>>167 ได้ แต่การเหยียบเรือสองแคม อาจทำให้มึงจับลูกค้าไม่ได้สักทาง

169 Nameless Fanboi Posted ID6:FkpGhU8W8+

>>167 ลูกค้าคนละกลุ่มกันเลย มึงเลือกสักอย่างเถอะ หรือถ้ามึงอยากจับลูกค้าหลายกลุ่มมีวิธีเดียว ไม่ต้องมีพระเอก โสดจนจบ ให้คนอ่านไปจิ้นเอาเอง

170 Nameless Fanboi Posted ID6:TE0cFwZ5U0

>>169 คือ เขียนให้ความสัมพันมันไม่ชัดใช่ไหม ว่าจะชอบใคร แต่ใส่แค่โมเม้นชวนจิ้นให้รี้ดฟินก็พอ แบบงี้ได้ปะ คือที่เขียนไม่ใข่แนวรักอะนะ แค่เป็นซับพล็อต แต่อยากให้รี้ดมีสงครามอวยหน่อยๆให้กระชุ่มกระชวย

171 Nameless Fanboi Posted ID6:FkpGhU8W8+

>>166 กูไม่รีอะ แค่เข้าไปแก้คำผิดกับปรับสำนวนในบางครั้ง ถ้าออกอีบุ๊คค่อยว่ากันใหม่

172 Nameless Fanboi Posted ID6:cwu40RPvXr

ขอบใจมากเพื่อนโม่งที่มาตอบเรื่องรีไรท์ ไว้กูเขียนเสร็จเมื่อไหร่จะให้พวกมึงสับ

173 Nameless Fanboi Posted ID:zHmpRm09pU

>>170 ถ้าให้ชวนจิ้น ตัวเอกต้องไม่ได้ชอบใคร แค่ทำดีด้วยตามนิสัยหรือสถานการณ์ แต่คนที่จะให้จิ้นคือชอบตัวเอกไปแล้ว เพราะถ้าตัวเอกมีความรู้สึกชอบ มันจะไม่ใช่จิ้น

174 Nameless Fanboi Posted ID6:eh76bl6x6z

>>173 อย่างอิจิกาก Infinite Stratos เหรอ

175 Nameless Fanboi Posted ID6:vNuc2t1dwF

กูสงสัยอย่างแฮะ ทำไมหลายๆ เรื่องเขียนเป็นนิยายแฟนตาซีไปต่างโลกแต่หรือหลุดไปในยุทธภพ แต่ตัวละครเป็นชื่อไทยซะงั้น

176 Nameless Fanboi Posted ID6:eh76bl6x6z

>>175 เพื่อให้คนอ่านรับรู้ว่าเรื่องนี้คนไทยแต่ง เพราะคนต่างชาติไม่ค่อยเรียนภาษาไทยกัน

177 Nameless Fanboi Posted ID6:iVHKGLJq9d

รำคาญระบบบอทคอมเม้นต์เด็กดีชิบ จะเม้นต์อะไรกันนักหนาก็ไม่รู้

178 Nameless Fanboi Posted ID6:vNuc2t1dwF

พอเริ่มเขียนมาได้ราวๆ 50 หน้า ก็ชักกังวลแฮะว่าจะเขียนต่อไปไหวรึเปล่า
คือสปีดการเขียนกูแม่งช้ามาก ต่อให้เขียนดองไว้เยอะๆ แล้วลงก็กลัวว่าจะลงไม่ทันจริงๆ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.