Fanboi Channel

นิยายเด็กดี บทที่ 15 (DDN XV) ภาคต่อไปนี้คือ Man vs Nature ศึกระหว่างทีมสับนิยายสุดร้อนแรงปะทะความหนาวเหน็บที่ทำให้ไข่หดกันถ้วนหน้า Winter is Coming

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:F6gbkeWO3

วิพากษ์วิจารณ์งานเขียนบนเว็บเด็กดี.คอม ทั้งจบแล้วและยังไม่จบ ตีพิมพ์แล้วและยังไม่มีใครเหลียวแล รวมไปถึงพูดคุยเกี่ยวกับวงการนิยายเว็บ (เด็กดี) เพื่อความหวังของวรรณกรรมไทยในอนาคต ทั้งนี้ ไม่สนับสนุนให้นำเรื่องส่วนตัวของนักเขียนแต่ละคนออกมาตีแผ่ ควรเน้นเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานเขียนเท่านั้น

<<คลังกระทู้เก่า>>

นิยายเด็กดี บทที่ 1 -- https://fanboi.ch/webnovel/2403/
นิยายเด็กดี บทที่ 2 -- https://fanboi.ch/webnovel/2703/
นิยายเด็กดี บทที่ 3 -- https://fanboi.ch/webnovel/2907/
นิยายเด็กดี บทที่ 4 -- https://fanboi.ch/webnovel/3066/
นิยายเด็กดี บทที่ 5 -- https://fanboi.ch/webnovel/3187/
นิยายเด็กดี บทที่ 6 -- https://fanboi.ch/webnovel/3229/
นิยายเด็กดี บทที่ 7 -- https://fanboi.ch/webnovel/3388/
นิยายเด็กดี บทที่ 8 -- https://fanboi.ch/webnovel/3594/
นิยายเด็กดี บทที่ 9 -- https://fanboi.ch/webnovel/3852/
นิยายเด็กดี บทที่ 10 -- https://fanboi.ch/webnovel/4106/
นิยายเด็กดี บทที่ 11 -- https://fanboi.ch/webnovel/4265/
นิยายเด็กดี บทที่ 12 -- https://fanboi.ch/webnovel/4393/
นิยายเด็กดี บทที่ 13 -- https://fanboi.ch/webnovel/4626/
นิยายเด็กดี บทที่ 14 -- https://fanboi.ch/webnovel/4810/

2 Nameless Fanboi Posted ID:byFY3hQyY

>>1 เจิม ๆ กูไม่มีไข่ให้หดว่ะ ทำไงวะ555

3 Nameless Fanboi Posted ID:U959rV1kw

ไม่มีนางร้ายกับเจ๊ลิสอะ

4 Nameless Fanboi Posted ID:G.165OftU

ของกูถึงหดแล้วก็น่าจะใหญ่ยาวกว่าของพวกมึงทุกคนรวมกัน บิบิ

5 Nameless Fanboi Posted ID:EL3+7aLeM

ชอบชื่อมู้วะ หนาวจริงอะไรจริง

6 Nameless Fanboi Posted ID:VhmdSjzVr

ชื่อมู้เยี่ยมมาก ฮึกเหิม ๆๆๆ

7 Nameless Fanboi Posted ID:F6gbkeWO3

เจอซะที รายชื่อโดนสับไปแล้ว https://docs.google.com/document/d/1ouFhwS9WeoBzEgYHVNYWkeUAbhQ2YkCg4ozpTpx1-94/edit

8 Nameless Fanboi Posted ID:xhZT4w3W4

หนาวจังวะมู้นี้

9 Nameless Fanboi Posted ID:PwMC5JN1O

ไหนๆ ใครว่าจะสับ กูรออ่านอยู่นะ

10 Nameless Fanboi Posted ID:hgo2n3gEQ

ใครตั้งชื่อมู้วะ พ่อกูเดินมาข้างหลังพอดี เซ็งเรย

11 Nameless Fanboi Posted ID:NrrEcVtJp

คุณหยงเล่อ Skyless Star Night aka Starless Night sky เป็นแฟนพันธุ์แท้ Star Wars สินะ

12 Nameless Fanboi Posted ID:M/bDRt6U/

>>11 นายหะริดน่ะเหรอ คนแต่งเรื่องฑูตแห่งเซนทาเรีย พิมพ์ภาคแรกแต่ไม่ได้พิมพ์ภาค 2 เพราะแฝงการเหมือง ต่อมาโดนดูดไปอยู่ต่างโลกช่วงหนึ่งเพราะเปิดเพจเสียดสีการเหมือง ผลงานล่าสุดทำรีวิวยัวร์เนมแต่โดนรุมด่าเพราะไม่เข้าใจระบบในวงการภาพยนตร์ ล่าสุดสตาร์วอร์รีวิวโอเคในระดับหนึ่ง แต่ก็เป็นแค่การตีความจากผู้ชม รอดูภาคต่อไปดีกว่าว่าเรื่องนี้จะแย่ลงหรือดีขึ้น

13 Nameless Fanboi Posted ID:djto.CDIl

>>12 กูว่ารีวิว TLJ แม่งเมากาวเหมือนกันนะ แต่ก็ปกติของมันอยู่แล้วมั้ง

14 Nameless Fanboi Posted ID:NhhkobfQj

กูอยากจะเตือน+บ่นเรื่องนิยายของนามปากกา ณ พรรณาว่ะ
คือแต่ละเรื่องแม่งจบได้เหี้ยมาก คิดจะตัดจบก็ตัดฉับแบบไม่เกรงใจปมประเด็นที่แม่งเปิดไว้เลย ถ้าอ่านฟรีแม่งจะไม่ว่าเลยเสือกขายเก็บตังทุกเรื่องพอเบื่อๆแม่งก็ไปเปิดเรื่องใหม่ส่วนเรื่องเก่าก็ตัดฉับจบแบบWTF
ไม่ว่าจะเรื่องเกิดใหม่ ณ โลกเวทมนตร์ เกิดใหม่ ณ โลกปัจจุบัน A game of life ทุกเรื่องแม่งตัดฉับเอาดื้อๆ
ล่าสุดไปเปิดเรื่องใหม่ที่เป็นเกมออนไลน์
เตือนๆกันไว้หากใครรู้แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้แล้วยังอยากซื้อก็ไม่เป็นไรแต่สำหรับคนที่ซีเรียสจะได้ไม่ต้องมาผิดหวังเสียดายตังอย่างกู...
ปล.ตอนในส่วนที่กูซื้อไปมีคำผิดเห็นได้ชัดคอมเมนท์คนอ่านก็บอกกันอยู่แต่แม่งก็ไม่ได้แก้ไขอะไร

15 Nameless Fanboi Posted ID:s2h.R4vTR

>>14 แจ้งหลอกลวงผู้บริโภคได้นะ ลองรวมชื่อไปสัก 10-20 คนสิ มาบ่นในนี้ก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรหรอกแก ถ้ามันทำบ่อยๆอย่าปล่อยให้เลยตามเลย

16 Nameless Fanboi Posted ID:a/kkCpSUK

>>13 หยงเล่อนี่สายพรรณาตั้งแต่ตอนเขียนอยู่เด็กดีแล้ว คนชอบก็อ่านเพลิน คนไม่ชอบก็อาจคิดว่ายาวไปไม่อ่าน หาทางออกด้วยการอ่านจับใจความเอาละกัน

17 Nameless Fanboi Posted ID:a/kkCpSUK

>>14 ทำใจว่ะเพื่อนโม่ง นิยายแนวขายแกรี่มันหาทางลงยาก นักเขียนไม่มีแผนสุดท้ายไม่ออกทะเลแล้วดองยาวก็ตัดจบห่วยๆ ห้วนๆ งี้ล่ะ กูถึงไม่อ่านนิยายที่พอเห็นว่าหากินได้ยาวแล้วยืดเรื่อง มันเหมือนทรยศคนอ่านน่ะ

18 Nameless Fanboi Posted ID:zu8zZfSxz

>>16 สายพรรณาไม่ใช่ปัญหาสำหรับกูนะ แต่แบบ อืม จะว่ายังไงดีละ เหมือนจับแพะชนแกะมาเย็ดกันให้ลูกออกมาเป็นยูนิคอร์นไปหน่อย คือรวมประเด็นยิปย่อยทุกอย่างแล้วตีความออกมาให้ดูสวยงามแบบเหมือนจงใจมองแต่แบบนั้นไป

อย่างตอนเขียนเรื่องประชาธิปไตย มันก็มองแต่ด้านดีโดยละเลยบริบทและพัฒนาการทางสังคมของประวัติศาสตร์ไป และด่าเพลโตและอริสโตเติ้ลว่าทำให้ประชาธิปไตยไม่เจริญในโลกตะวันตกซะงั้น ตลกดี แต่นอกนั้นมันก็เขียนได้ไม่เลวนะ

19 Nameless Fanboi Posted ID:uIsbhC2kK

>>17 นิยายจีนตาม fictionlog อ่ะตัวดี ถึงตอนละไม่กี่บาทแต่ ตอนหนึ่งสั้นจุ๊ดจู๋ แถมมีทีท่าจะยืดไปเรื่อยๆจนหมดมุขจริงๆแล้วตัดจบ

20 Nameless Fanboi Posted ID:O4E8Hsccd

fiction log นี่ถ้าไม่นับพวกนิยายแปล พวกแฟนตาซีไรงี้อย่างอื่นมีคนอ่านบ้างป่าววะ กูนึกว่าร้างไปแล้ว

21 Nameless Fanboi Posted ID:NhhkobfQj

>>15 ที่มาบ่นในนี้เพื่อเตือนๆโม่งด้วยกันนี่แหละจะได้ไม่เผลอซื้อแล้วมาเสียความรู้สึกกันทีหลังเหมือนที่กูเจอ

>>17 ตามนั้นเลยเหอะ แม่งเปิดปมจับฉ่ายมากกูเองก็ไม่ดูให้ดีด้วยเพราะเห็นมันอันดับ1หมวดแฟนตาซี กูอ่านช่วงแรกๆก็เอออ่านได้ฆ่าเวลาดีเรื่องไม่เครียดกูเลยตัดสินใจซื้อ ไปๆมาๆแม่งเปิดปมไว้เพียบเขียนต่อไปได้เรื่อยๆดูยังไงก็ไม่น่าจะจบกันง่ายๆสุดท้ายก็ตัดทิ้งทั้งๆที่ไม่เคลียร์ประเด็นHAอะไรเลยเพื่อที่จะเปลี่ยนไปเขียนเรื่องใหม่

22 Nameless Fanboi Posted ID:6pvlNDsTP

>>20 ขอถามได้มั้ย ไอ้พวกนิยายแฟนตาซีแนะนำที่เว็บนั่นโปรโมตนี่มันสนุกปะวะ กูอ่านแค่เรื่องย่ออ่ะ มันไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ หรือเนื้อในมันอาจสนุกหรอ?

23 Nameless Fanboi Posted ID:VFGsALXpu

>>22 ส่วนตัวกุว่างั้นๆ ตามกระแสมากกว่า

24 Nameless Fanboi Posted ID:TxEu1QB/M

เราคือคนที่บอกว่ากดออกจากกลุ่มนิยายแกรี่สตูไปแล้วนะ คือจริงๆ เรากดออกไม่หมดเว้ย มันยังเหลืออยู่อีกกลุ่มนึง คราวนี้แม่งมีคำถามเด็ดๆ มาอีกแล้วจ้า คือแม่งถามว่า "พระเอกเรื่อง xxx จะเก่งตอนไหนครับ"

คือกูไม่เข้าใจเลยจริงๆ นะ จะว่าคนอ่านเป็นเด็กเห่อหมอยก็ไม่น่าใช่ เพราะหลายๆ คนแม่งก็เรียนจบทำงานกันแล้ว กูสงสัยนะว่าไอ้พวกที่ร่ำร้องหาพระเอกเทพเนี่ยมันมีปมอะไรเปล่าวะ แบบในชีวิตจริงแม่งเป็นลูซเซอร์อ่อ ถึงได้อยากเซลฟ์อินเซิดเข้าไปเป็นพระเอกเก่งเทพหล่อสาดสาวติดตรึม

25 Nameless Fanboi Posted ID:VFGsALXpu

>>22 แต่ถ้ามึงดองเหรียญเยอะ ก็ลองอ่านฟรีก็ได้

26 Nameless Fanboi Posted ID:QpyKb4nX3

>>24 บางคนเป็นพวกไม่ยอมรับตัวเองไง ในชีวิตจริงไม่รู้ว่าตัวเองเป็นลูเซอร์ไปวันๆ ไม่เคยเรียนรู้ว่าคนอื่นเทพกว่าตนได้ไงด้วย ก็เลยมีปมเพี้ยนๆ

27 Nameless Fanboi Posted ID:65IPQQMlr

>>26 กูว่ามันเป็นเรื่องความชอบหรือรสนิยมส่วนบุคคลด้วย กลุ่มนี้อาจเป็นพวกชอบอะไรอภินิหารยิงพลังตูมตาม เหมือนหนังจีนสมัยก่อนยิงพลังซัดฝ่ามือ พระเอกเจอคัมภีร์ฝึกวิชาออกถ้ำมาเทพทันที โชว์พลังแล้วมีสาวๆ มาหลงตรึมอะไรงี้

เป็น 1 ใน 3 แรงจูงใจให้คนอยากอ่านเรื่องต่อ (ตัวละครแข็งแกร่ง, ตัวละครขี้เสือก, ตัวละครพบความชิบหายหรือเรื่องซวยๆ)

อาจฟังดูไร้สาระ แต่คนทั่วไปชอบ 3 อย่างนี้จริงๆ ถึงจะซ้ำซากก็ตามที

28 Nameless Fanboi Posted ID:COfaO0z.m

1 - Likability
2 - Competency
3- Activity

29 Nameless Fanboi Posted ID:Cw0ErVqmp

>>24 เอาจริง ๆ กูก็อยากรู้ว่ะ เพราะบางเรื่องพระเอกแม่งไม่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ ไม่ก็วิ่งไปมา โดนยืดตอน ความอยากอ่านมีแต่ความหงุดหงิดมีมากกว่า กูแบบอยากอ่านตอนไคลแมกซ์ เคลียร์ปม หลายเรื่องกูต้องสุ่มเปิดตอนข้าม ๆ เพราะทนการออกทะเลไม่ไหว

30 Nameless Fanboi Posted ID:QpyKb4nX3

อะไรของมัน https://www.dek-d.com/board/view/3816079/

31 Nameless Fanboi Posted ID:jcgYYW9AN

เออดี มีคนตอบกวนแทนกูละ คห.4 555

32 Nameless Fanboi Posted ID:1Ei7Q5Le2

https://writer.dek-d.com/grammarvi/story/view.php?id=1102655 แปะเจิมกระทู้ใหม่

33 Nameless Fanboi Posted ID:UXwNkMdoA

>>32 งั้นกูเจิมนิยายมึงก่อน 1 ประโยค "ใครสอนให้ใส่ข้อมูลตัวละครตรงปกรอง" กว่าจะเลื่อนลงไปกดอ่านตอน 1 ได้อย่างเยอะ

34 Nameless Fanboi Posted ID:VFA8bPe6F

ไอ้นิยามของหมวดอดีต ปจบ อนาคต มันคืออะไรวะ จำเป็นที่จะต้องแบบ ย้อนเวลาไปในอดีต หรือข้ามเวลาจากอดีตมาปจบ (หรืออนาคต) ปะ คือนิยายกูมันเป็นแนวพีเรียดอะ แต่เป็นเป็นเมืองสมมติ (ไม่มีอยู่จริงตาม ปวศ) นะ แบบนี้จะเข้าเกณฑ์หมวดนี้ป่าววะ หรือว่าต้องเอาไปไว้ที่อื่น

35 Nameless Fanboi Posted ID:uDb6lT94b

>>34 พีเรียดคือเข้าเกณฑ์ มึงใส่ลงในหมวดนี้ได้เลย

36 Nameless Fanboi Posted ID:VFA8bPe6F

>>35 กูชักจะไม่แน่ใจคำว่าพีเรียดแล้วอะ 555 ประมาณดั่งดวงหฤทัยนี่มันพีเรียดป่าววะ แต่ไม่ได้เน้นรักๆ ใคร่ๆ นะ เน้นเดินทาง+ปัญหาการเมือง(สมมติ) มากกว่า

37 Nameless Fanboi Posted ID:9ooe1MxZl

ky ด้วยความว่าง กูเลยไปเปิดหมวดรักแฟนตาซีอีกครั้ง ก็เห็นเรื่อง "ฉันจะสร้างประเทศของฉันเอง!!!" [top อันดับ 2 ของหมวดรักแฟนตาซี 22/12/2560]
กูเห็นชื่อเรื่องก็เออ ลองสักนิดสักหน่อย ไม่มีคำว่านางร้ายด้วย....สุดท้ายแม่งก็นางร้าย!! แต่แค่ไม่กลับชาติมาเกิด เปิดตอนแรกก็เหมือนเรื่องอื่นๆ วะ นางร้าย[ก็นางเอกของเรื่องอะแหละ]กำลังด่า+ตบนางเอก [ที่โดนยัดบทตอแหลผ่านปากนางเอกของนิยาย] แต่สถานที่คือที่ใดรู้ไหม? ติกต๊อก ติกต๊อก
คำตอบคือ วังหลวงจ้า ตบกันไม่เกรงใส่ความเป็นวังหลวงที่พำนักของกษัตริย์เลย
ตอนแรกบอกว่านางร้ายเรื่องนี้ไม่มีพลังธาตุใดๆ กูก็พอลุ้นไปด้วยว่าจะสร้างประเทศตัวเองยังไงหลังจากเรื่องทั้งหมดตรงนี้ การสร้างประเทศใหม่แม่งยากกว่าการรัฐประหารประเทศเดิมเยอะนะ นอกจากมึงต้องทำให้ผู้ใต้ปกครอง/ประชาชนมีความคิดความเห็นไปในทางเดียวกันแล้ว มึงจะต้องเชื่อมสัมพันธ์และทำให้นานาชาติยอมรับอธิปไตยของมึงอีก นี่กูยังไม่ได้นับเรื่องปัญหาชาติพันธ์ุ ภาษา และศาสนาด้วยนะ แม้กูจะเดาได้ว่าตระกูลนางร้ายต้องโครตรวย แต่มีเงินอย่างเดียวแม่งไปไม่รอด มึงอาจจะจ้างทหารรับจ้างได้ แต่จะมีทหารรับจ้างสักกี่กองเชียวที่จะสู้จนตัวตายเพื่อเงินจริงๆ ? ส่วนใหญ่พอเห็นว่าสถานการณ์มันแย่หรือคิดว่ายังไงก็ไม่รอด ก็จะหนีทัพเอาตัวรอดไปก่อนทั้งนั้น แล้วถึงจะจ้างได้ แต่จะได้นานเท่าไหร่? ถ้าจะสร้างประเทศขึ้นมาใหม่จาก 0 อย่างน้อยที่สุดเลย ต้องมีทหารไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ถ้าทำสงครามต้องระดับ 5,000 ขึ้นไป ค่าจ้างทหารรายคน + ค่าเสบียงอาหาร ยารักษา และค่าใช้จ่ายในการซื้อใจประชาชนไม่ให้ลุกฮือขึ้นต่อต้าน ยิ่งเป็นแดนรกร้างพึ่งค้นพบ ทั้งแรงงาน ค่าก่อสร้างเมือง ปราสาท หมู่บ้านอีก
กูมีหัวคิดแบบนี้ กูเลยอ่านตอนแรกผ่านไปได้....
พอตอน 3 แม่งเสือกบอกว่าอีกนางร้ายมีพลังระดับเทพสุดในเรื่อง อีผีเหี้ย! เรื่องนี้มันมีธาตุบลาๆ แต่มีพลังสองอย่างที่เทพสุดคือ ชุบชีวิตได้ กับมองใคร คนนั้นตาย แต่ที่ในตอนหนึ่งบอกว่าไม่มีพลังก็เพราะพ่อของนางร้ายผนึกพลังของนางร้ายเอาไว้ แล้วนางร้ายไปเจอบันทึกของพ่อตัวเองที่เขียนเรื่องผนึกไว้
ความรู้สึกคาดหวังของกูแม่งพังทลายไม่เหลือซากเลย...

38 Nameless Fanboi Posted ID:as36I.Lae

>>37 ชื่อเรื่องคุ้นๆ อยู่นะ เรื่องเจ๊ลิสป่าววะ กูคุ้นหนักมาก

39 Nameless Fanboi Posted ID:as36I.Lae

>>34 หมวดนี้กูเคยอ่านบทความเก่ามากๆ ของพี่เว็บเค้าบอกว่าเป็นหมวดไซไฟ เพราะสมัยนั้นมีนิยายสไตล์ข้ามเวลาย้อนอดีตหรือไปโผล่อนาคตอยู่เยอะ ต่อมาโดนเข้าใจผิดว่าหมายถึงแนวจีนโบราณและแนวโลกอนาคตไฮเท็ค จนต้องย้ายไปเปิดหมวดวิทยาศาสตร์ขึ้นใหม่ แล้วปล่อยให้จีนโบกับพีเรียดไทยยึดหมวด (อันที่พอเข้าคอนเซปก็มีแค่ ทวิภพ กับ เจาะเวลาหาจิ๋นซี เท่านั้นแหล่ะ)

40 Nameless Fanboi Posted ID:plL68RqhG

>>38 ไม่ใช่ เรื่องนี้เหมือนมีคนบ่นอยู่ในบทที่แล้วอ่ะ แต่เจ๊ลิสนี่คือข้ามมิติ

41 Nameless Fanboi Posted ID:9ooe1MxZl

>>38 ไม่ๆ คนละเรื่อง เจ๊ลิสมัน ฉันคือนางร้ายทีโครตร้าย แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น Cruel อะไรสักอย่างนี่แหละ

42 Nameless Fanboi Posted ID:plL68RqhG

>>41 ผิดหรือที่ฉันจะร้าย พึ่งไปกดดูมา

43 Nameless Fanboi Posted ID:plL68RqhG

>>42 เพิ่งดิ ผิด ๆ

44 Nameless Fanboi Posted ID:6qHZ5ReLk

พอกูอ่าน >>37 แล้วกูอยากให้เด็กดอยเปลี่ยนไปใช้ระบบค้นหาตาม Tags แทนการแยกหมวดเลยว่ะ
ที่อยากให้เป็นอย่างนั้นเพราะอย่างแรกเลย นิยายเดี๋ยวนี้มันมีหลายแนวในเรื่องเดียว ไม่ใช่จำกัดแค่ในหมวดแฟนตาซีกับออนไลน์ที่มีแต่เด็กดวกเห่อหมอย หรือมีแต่นักอ่านหญิงอย่างหมวดรักแฟนตาซีกับ อดีต ปัจจุบัน อนาคต แบบนี้

45 Nameless Fanboi Posted ID:+92jarrqj

มีคำถามว่ะ การอธิบายสกิลในหมวดเกมออนไลน์นี่มันถือเป็นinfodumpป่าววะ

46 Nameless Fanboi Posted ID:kIhsKIhhX

>>45 เป็นแบบเบาๆ

47 Nameless Fanboi Posted ID:3mrOcYcoz

>>39 จริงดิ เพิ่งรู้ เค้าเรียกว่าปัญหาการสื่อสารด้าน content ระหว่างกันแล้วล่ะ ทีมงานกับผู้ใช้เว็บคุยกันไม่รู้เรื่อง

48 Nameless Fanboi Posted ID:3mrOcYcoz

>>44 ถ้างั้น ระบบนี้เป็นไง http://mangafox.la/search.php
>>45 กูให้ถือว่า infodump เพราะเป็นการใช้วิธี Tell Don't Show

49 Nameless Fanboi Posted ID:+92jarrqj

>>46 >>48 สงสัยกูติดเกมมากไป เลยไม่รู้สึกอะไร แต่เอะใจว่ามันก็น่าจะเป็นแหละ

50 Nameless Fanboi Posted ID:3mrOcYcoz

>>49 นักเขียนบางคนแม่งแยกนิยายกับนิตยสารเกมไม่ออก เลยเขียนสกิลกับพลังโน้นนี่ สเตตัสเป็นค่าเลขทั้งที่ไม่รู้จะเอาไปคำนวณอะไรอย่างเป็นรูปธรรม ตราบใดไม่มีสูตรคณิตศาสตร์หรือฟิสิกส์แม้แต่นิด

51 Nameless Fanboi Posted ID:8cLcMTV+L

กูว่าไม่นะ เพราะถือเป็น necessary information ที่ต้องรู้ ถ้าให้เทียบก็ เหมือนต้องรู้กติกา/กฎระเบียบก่อนทำอะไรนั่นละ

ถ้าใช้หลักแบบ>>48 Tell Don't Show = infodump หมด มันจะไร้สาระไป เพราะเวลาเราบอกข้อมูลอะไรก็ไม่ได้ใช้ show อย่างเดียว

อย่างถ้ามีคนบอกว่า "แจกันใบนี้แข็งมากนะ" ตามหลัก>>48 ประโยคนี้เป็น infodump เพราะไม่ได้ show ให้เห็นว่าแข็งโดยการเอามาทุบหัวพระเอก

>>50 เขาเรียกว่าการสร้างความน่าเชื่อถือ ให้คนคิดว่ามันมีระบบแบบนี้จริงๆ ไม่ได้มั่วจะกุอะไรขึ้นมาตามสดวก

อย่างพวกนิยาย sci-fi ก็มักโยนตัวเลขหรือสูตรแปลกๆ อะไรมาเต็มไปหมด ซึ่งถ้าวัดตามหลักของมึง อาซิมอฟคงเล่นเกมส์มากเกินไป

52 Nameless Fanboi Posted ID:3mrOcYcoz

>>51 มึงรู้จักความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอดรึเปล่าล่ะ

53 Nameless Fanboi Posted ID:8cLcMTV+L

>>52 เอาเถอะ ดูแล้วกูคงสอนอะไรคนที่คิดว่า Tell Don't Show = infodump ได้หรอก

54 Nameless Fanboi Posted ID:e53vCXIeR

ไม่รู้ว่ะ อาจเป็เพราะกูเล่นเกมแล้วชอบอ่านอะไรละเอียดๆมั้ง เลยอ่านพวกสกิลในนิยายแล้วไม่รู้สึกว่ามันยัดเยียดinfodumpเท่าไร ส่วนไอ้พวกค่าตัวเลขพวกนี้ มันก็แล้วแต่คนว่ะ ส่วนตัวกูคือชอบเพราะมันแบ่งแยกอะไรง่ายดี แต่ความจริงกูก็อ่านผ่านๆอ่ะแหละ

55 Nameless Fanboi Posted ID:e53vCXIeR

หรือตรรกะกูจะใช้กับนิยายไม่ได้วะ กูไม่เคยเขียนนิยายอ่ะ

56 Nameless Fanboi Posted ID:SZzjgqUl2

>>53 ถ้ามึงคิดจะสอนกับกู ไม่ต้องเอาคำสอนจากเด็กดวกอย่างเดียวหรอก แล้วนิยาย sci-fi มันต้องเจาะกลุ่มคนอ่านที่เป็นนักวิทยาศาสตร์อย่างเดียวเท่านั้นเหรอ งั้น นิยายเกมออนไลน์ล่ะ เขียนยังไงให้คนไม่มีประสบการณ์เล่นเกมอ่านรู้เรื่องแล้วคล้อยตามล่ะ

57 Nameless Fanboi Posted ID:rARVTdk3j

>>56 คำสอนจากเด็กดีตรงไหน นิยาย sci-fi เกี่ยวอะไรกับเจาะกลุ่มคนอ่านที่เป็นนักวิทย์อย่างเดียว

มึงไปกันใหญ่แล้ว ตอนแรกกูแค่ท้วงว่าการที่มึงบอกว่า Tell Don't Show = infodump เป็นอะไรที่ไร้สาระ เพราะเรา show ทุกอย่างไม่ได้

แทนที่มึงจะพูดกันดีๆ ก็มาแขวะกูก่อน พอกูด่ากลับก็หัวร้อน ทั้งยังยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องมาอีก

ถ้าจะให้กูสอนนะ

การเขียนนิยายแต่ปละ genre มันมีขนบของมัน อย่าง sci-fi การยกพวกตัวเลขหรือสูตรแปลกๆ มาลงเป็นเรื่องปรกติ

นิยายเกมออนไลน์จะเขียนอธิบายเรื่องสกิลก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิด เพราะมันเป็นการอธิบายตัวเกมและความสามารถ

แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไป เพราะวิธีการเขียนไม่ได้มีเพียงวิธีเดียว กลวิธีการเขียนคือเครื่องมือ ที่นักเขียนเลือกจะใช้ตามอิสระ

58 Nameless Fanboi Posted ID:rARVTdk3j

กดส่งแล้วพึ่งนึกออก เทียบแบบนี้ก็ได้ การอธิบายสกิลในนิยายเกมออนไลน์ ก็เหมือนกับการอธิบายเรื่องอาวุธในนิยายสงครามนั่นละ

มันเป็น necessary information อย่างบอกว่าดาบของ A มีความยาวเท่านี้ หนักเท่านี้ ฆ่าคนมาเท่านี้ เพื่อสร้าง X ให้คนอ่านรับรู้

การเล่านี้ถือเป็น infodump หรือไม่ ถ้าเป็น ประโยคบอกเล่า/การบรรยายทุกอย่างในนิยายก็คงเป็น infodump นั่นละ

59 Nameless Fanboi Posted ID:QGO3t3MxX

>>52 5555 เกี่ยวเหี้ยอะไรกันวะ โดนคนอื่นแย้งแค่นี้ถึงกับหัวร้อนเลยเหรอวะ

60 Nameless Fanboi Posted ID:daA..QP49

แล้ว Infodump คืออะไรกันแน่วะ นิยามของมัน แล้วมันข้อดี-เสียยังไง กูจะได้ระวังเวลาเขียน

61 Nameless Fanboi Posted ID:ZxD/w0FgH

>>60 มันคือการ tell ที่มากเกินไป (ไม่ใช่ tell ทุกอันจะต้องเป็น infodump)

รายละเอียดลองดูในนี้ดีกว่า
https://ellenbrockediting.com/2014/07/03/novel-boot-camp-lecture-3-how-to-avoid-info-dumping/

62 Nameless Fanboi Posted ID:twn1LJ8xY

>>61 ขอบใจมาก กูว่าชัดเจนนะ

63 Nameless Fanboi Posted ID:Ht9D8.Ul7

https://ellenbrockediting.com/novel-critique/

NOVEL CRITIQUE
A Novel Critique provides an overview of the major issues in your novel. It covers both developmental and style-related issues. It will be returned to you in the form of a letter, which lists categorically the areas that could use improvement.

The Novel Critique includes advice on:

Voice/Style
Plot
Pacing
Characterization
Character Arc
Marketability
Age-Appropriateness (for YA and MG)
Each of the areas listed above will be assessed to identify your strengths and weaknesses and how each could be improved to boost your odds of publishing success.

The Novel Critique also identifies:

Plot Holes
Inconsistencies
Point of View Issues
Too Much or Too Little Description
Confusing Concepts (especially in SciFi & Fantasy)
And Anything Else that Could Hurt Your Odds of Publishing Success
Unlike the developmental edit, the Novel Critique does not include a chapter-by-chapter breakdown. It also does not include the sentence-by-sentence editing of a line edit. This is my lightest and cheapest editing option.Perfect for those who need guidance on where to focus their revisions.

COST: $10 per 1,000 words (minimum of 10,000 words)

Please read my New Client Guide before booking.

Ready to book? Click here!

64 Nameless Fanboi Posted ID:UFY/Lx6Nv

>>63 อันที่เอามาให้อ่ะ มันโฆษณาขายของของเขานะ

65 Nameless Fanboi Posted ID:40xWIPp/j

>>63 จะให้กูซื้อหนังสือเหรอ

66 Nameless Fanboi Posted ID:Ajjqix7nN

>>64 $10 ต่อ 1000 คำ

67 Nameless Fanboi Posted ID:ZxD/w0FgH

>>65 ไม่ได้ขายหนังสือ มันรับวิจารณ์นิยายต่างหาก โดยที่คิด 1000 คำ 10 เหรียญ รับขั้นต่ำ 10000 คำ

ไอ้สัส กูไปเปิดรับวิจารณ์บ้างได้ป่าววะ มาเขียนในโม่งแม่งไม่ได้สักกะแดงเดียว ขอ 1000 คำ 20 บาทพอ

68 Nameless Fanboi Posted ID:twn1LJ8xY

>>67 ถ้ากูคิดเรทมึง กูลืมตาอ้าปากได้เลย

69 Nameless Fanboi Posted ID:40xWIPp/j

>>67 เออว่ะ

ขั้นต่ำหมื่นคำ = 100$ รวยละมึง

70 Nameless Fanboi Posted ID:R5Ku8wF8Y

KY ไปเจอนี่มา https://www.dek-d.com/board/view/3816386/

งงที่สุดก็ คห.1 นี่แหละ อะไรของมันวะ

71 Nameless Fanboi Posted ID:53am+RtXf

Voice/Style (สำนวน/สไตล์)
Plot (พล็อต)
Pacing (จังหวะ)
Characterization (การวางตัวละคร)
Character Arc (อาร์คชีวิตตัวละคร)
Marketability (ค่าสำหรับการวางตลาด)
Age-Appropriateness (for YA and MG) (เหมาะกับกลุ่มลูกค้าวัยไหน)

แล้วจะประเมินจุดแข็งจุดด้อยของคนเขียน นอกจากนี้ยังชี้ถึง

Plot Holes (ช่องโหว่ของพล็อต)
Inconsistencies (ความไม่ต่อเนื่อง)
Point of View Issues (ปัญหามุมมอง)
Too Much or Too Little Description (รายละเอียดเยอะไป หรือน้อยไปตรงไหน)
Confusing Concepts (especially in SciFi & Fantasy) (การสับสนคอนเซ็ปต์)

และอื่นๆที่จะทำให้อดตีพิมพ์ แต่จะไม่มีวิจารณ์บทต่อบทหรือประโยคต่อประโยค $10 ต่อ 1000 คำ

72 Nameless Fanboi Posted ID:Mlz2EysQ4

มีเรื่องไหนรอสับ หลุดจอง จองแล้วไม่สับ หรือแปะแล้วยังไม่มีใครจะสับอยู่ป่าวขอ list หน่อย ขอบคุณ เผื่อเข้าไปช่วย ถ้าโพสต์ไปแล้วก็ขออภัย

73 Nameless Fanboi Posted ID:eUZCzyTXm

>>70 บุคคลผู้นี้ไม่เคยมีความพยายามที่จะลดตัวลงมาสร้างความเข้าใจกับคู่สนทนาเลยสักนิด ต่อให้ตัวเขาเองเข้าใจคู่สนทนามากแค่ไหนว่าจะสื่ออะไร กำลังอยู่ในอารมณ์ไหน และอยากได้ยินอะไรมากที่สุด เขาก็ไม่เคยสนใจที่จะถ่ายทอดความหมายตรงๆออกมา นั่นคือเขาล่ะ

เราตามดูพฤติกรรมเขามาหลายปีแล้ว แถมไปอ่านนิยายเขามาด้วยนะ เขาเป็นคนไม่มีพิษมีภัยอะไรหรอก บางครั้งก็น่ารักสนุกสนาน บางครั้งก็เกรียนเหมือนเด็ก เมากาแฟบ้าง วาดรูปบ้าง

เขาเหมือนคนที่ต้องการคนมาคุยด้วยมากๆ แต่เหมือนกับว่าทุกครั้งที่เขาพูดอะไรออกมามันเป็นการทำให้ห่างไปมากกว่าเดิมมากกว่า

โม่ง คริสต์มาส

74 Nameless Fanboi Posted ID:Yo6KR3IB7

>>73 อวยบุคคลไปที่ Netwacth นะจ๊ะ

75 Nameless Fanboi Posted ID:i3s6XiALh

>>67 นิยายเด็กดีตอนนี้ตอนนึงอย่างมากก็ไม่เกิน 5,000 คำ แปลว่าตอนนึงมึงจะได้ไม่เกิน 100 บาท

ไม่เลวนะ แต่กูไม่คิดว่าจะมีคนจ่ายมึงหรอก

76 Nameless Fanboi Posted ID:ZxD/w0FgH

>>75 สมมติให้ตอนละสองพันคำ ถ้าตั้งไว้ว่าขั้นต่ำคือ 10 ตอน ก็ 20,000 คำ 400 บาท ก็พอได้อยู่นะ ถ้าเป็นกู เจอร้านรับวิจารณ์นิยายที่อ่านละเอียดจริง พร้อมให้คอมเมนต์จริงจัง กูก็พร้อมจ่ายอะ

แต่แม่งก็แอบแพงจริงๆนั่นแหละ ต้นฉบับส่วนใหญ่ประมาณ 250-300K คำปะ ถ้ามีคนจะส่งต้นฉบับมาให้ดู ต้องจ่าย 6,000 เหอๆ

77 Nameless Fanboi Posted ID:ZxD/w0FgH

>>76 กลับไปเปิดดูงานตัวเองที่กำลังจะส่งสนพ. แม่งแค่ 190k เองนี่หว่า ถถถ

78 Nameless Fanboi Posted ID:hCHhxaMz7

เราเข้าใจว่าเป็น 10$ ต่อ 1000 คำนะ หรือเราเข้าใจอะไรผิด?

79 Nameless Fanboi Posted ID:eMR+0iMAo

>>78 10$ ต่อ 1000 คำแหละ แต่ที่ >>67 คนนี้เขียนไว้คือ 20 บาทต่อ 1000 คำ

80 Nameless Fanboi Posted ID:P/tQ3YfNu

>>79 อ๋อ โทดที เราก็งง

81 Nameless Fanboi Posted ID:W12MTVEaz

กุอยากพูดเรื่อง infodump กับ show dont tell ด้วย ไม่รู้มาช้าไปรึเปล่า
ตามความคิดกุ กุว่าสองอันนี้มันคนละเรื่องกันเลย

infodump คือการอัด exposition ใส่คนอ่านทีเดียวโดยที่คนอ่านได้ข้อมูลนั้นมาแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะเอาไปปะติดปะต่อกับอะไร นึกภาพพวก mediaval fantasy ที่ต้องร่ายประวัติศาสตร์การสร้างโลกมาก่อน พูดภูมิศาสตร์ของโลกนั้นว่ามีทวีปอะไรบ้าง แล้ววกมาพูดถึงประวัติอาณาจักร ราชวงศ์ เยอะไปหมด แต่ถามว่าข้อมูลพวกนี้ใส่มาแล้วจะเป็น infodump ตลอดเลยรึเปล่า ก็ไม่นะ สมมติเรื่องนี้เกี่ยวกับสงครามเทพกับปีศาจ จะร่ายที่มาของสงครามมา(ในปริมาณที่พอดี) กุก็ไม่ถือว่าเป็น infodump เพราะคนอ่านต้องใช้ข้อมูลนี้เป็นพื้นฐานในการเข้าใจเรื่อง พูดง่ายๆมันก็คือส่วนนึงของเนื้อเรื่อง

ส่วน show don't tell & vice versa กุว่าการเขียนนิยายคือการ tell อยู่ในตัวแล้ว ยังไงมึงก็เลี่ยงสิ่งนี้ไม่ได้หรอก อีวลีข้อนี้มันหมายถึงคนเขียนต้องมีวิจารณญาณว่าอันไหนควรเขียนบรรยายให้นักอ่านเห็นภาพจนเกิดอารมณ์ร่วมไปด้วย อันไหนแค่เขียนบอกเฉยๆก็พอ ของบางอย่างมึงจะเขียนให้ตายยังไงก็โชว์ไม่ได้ อย่างอีแจกันแข็งเนี่ย มึงจะ show ยังไงว่าแข็งวะ ทุบกับหัวหมาแล้วไม่แตก งี้หรอ
สมมติว่าเป็นนิยายสืบสวน นักสืบบอกว่าแจกันนี้แข็งอาจจะเป็นอาวุธได้ แค่นี้ก็พอแล้ว เราทุกคนรู้ว่าแจกันหน้าตาเป็นยังไง มีแข็งมีเบา เรารู้ ไม่ต้องเสียเวลาบรรยาย สิ่งที่มึงควร show อาจจะเป็นอารมณ์ตัวละคร เป็นต้น (ใช้คำว่าอาจ เพราะจริงๆก็แล้วแต่คนเขียน)

อีกอย่างถ้ามึงยืนกรานจะ show ตลอด สุดท้ายมึงจะตายด้วยกับดัก purple prose (เขียนบรรยายยืดเยื้อ ไม่มีใจความ เน้นแต่ความสวยของภาษาในมโนของผู้แต่ง) เอานะ ซึ่งpurple prose มันก็ไม่ใช่ infodumpอยู่ดี

สรุปทริคของกุในการเขียนไม่ให้เจอ infodump หรือ show/tell มากเกินไปคือ คิดว่าข้อมูลชุดนี้คนอ่านควรรู้ไหม ถ้าควรแล้วต้องรู้ละเอียดแค่ไหน แล้วก็เขียนไปตามนั้น

บ่นยาวไปหน่อย ช่วงนี้สอบไม่ได้เขียนนิยายเลย เหงา ฮรือ

82 Nameless Fanboi Posted ID:eMR+0iMAo

มีคนอ่านเหลือสามสิบคนจากคนตามร้อยกว่าๆถือว่าเยอะปะ

83 Nameless Fanboi Posted ID:fVwQO6189

>>81 กูเห็นด้วยนะ เพราะในทุกเรื่องมันหนีไม่พ้นหรอกที่จะต้อง "เล่าให้ฟัง" กับข้อมูลบางส่วนอย่างภูมิหลัง หรือข้อมูลจำเพาะบางอย่าง ถ้าใช้ "แสดงให้เห็น" ทั้งเรื่อง ก็จะเจอแบบที่กูเจอ นั่นคือนักอ่าน (โดยเฉพาะพวกเด็กหัวโปกสมัยนี้) บ่นเอาไว้ว่ารีดจะอุปมาอุปไมยอะไรเยอะแยะค่ะหนูอ่านไม่รู้เรื่อง กับ จะเน้นอารมณ์ดราม่าตรงนี้ยาวทำไมคัฟ ผมต้องเลื่อนข้ามไปตั้งเยอะกว่าจะเจอตอนพระเอกฟาร์มจนเทพ ควยมากๆ

กูนี่นะลองกลับไปอ่านงานเก่าๆ ทั้งไทยทั้งจีน มันก็แม่งมี "เล่าให้ฟัง" อยู่เต็มไปหมดแหล่ะ จะโกวเล้ง กิมย้ง หวงอี้ ลวิตร พนมเทียน ก็ใช้ Tell กับ Show ในปริมาณที่ไม่ได้สมดุลกันเท่าไหร่ แต่จังหวะการเล่าของเขาดี ใช้ Tell ได้ถูกที่ คือ Tell แล้วมันเกี่ยวข้องกับการดำเนินเรื่องจังหวะนั้น ไม่ใช่กำลังต่อสู้กันอยู่มา dump ว่าวิชานี้เป็นของสำนักอะไร คิดค้นโดยใคร อารมณ์จะอ่านฉากแอคชั่นได้หายหมดพอดี ตามความคิดกูนี่นะ จะใช้ Tell หรือ Show มันต้องขึ้่นอยู่กับจังหวะเวลา ถ้าเท Tell มาพรวดเดียวทั้งตะกร้า มันก็เหมือนที่อาจารย์พูดอะไรไม่รู้หน้าห้องยาวเหยียดน่าเบื่อ พวกมึงฟังแล้วง่วง คนอ่านก็เหมือนกัน ถ้าจังหวะไม่ดี เรื่องมึงอ่านแล้วน่าเบื่อก็มีสิทธิ์โดนนักอ่านเทได้ง่ายๆ นั่นแหล่ะ

>>82 ถ้าหมายถึงตอนท้ายๆ ก็ถือว่าเยอะอยู่ มันเป็นเรื่องปกติที่ตอนแรกๆ จะมีคนอ่านเยอะกว่าตอนหลัง เพราะหลายคนหลังจากลองอ่านแล้วถ้าไม่ชอบก็จะหยุดอ่านไปในช่วง 2 - 3 ตอนแรก ยอดวิวช่วงหลังตอนที่ 10 เป็นต้นไปนั่นแหล่ะ คือจำนวนคนที่ชอบและตามอ่านเรื่องมึงอย่างจริงจัง ยอด Fav มันแค่ของหลอกตาบางคนแอดไว้ไม่ได้กลับมาอ่านก็มี

84 Nameless Fanboi Posted ID:MPi7mL2OX

จะว่าไปแล้ว ยุคนี้ สนพ. ไทยยังจำกัดเนื้อหาที่ 200-300k คำต่อเล่มอีกรึเปล่าวะ
กูอ่านนิยายแปลญี่ปุ่น ส่วนใหญ่แล้วเล่มนึงไม่ค่อยถึงอะ ตกราวๆ 120k เองมั้ง ถ้าเป็น LN ก็ 70-100k

85 Nameless Fanboi Posted ID:MK2.AVBu4

>>84 ของไทยนับเป็นตัวอักษรแทนแล้วมั้ง เท่าเราที่หาดูอ่ะ

86 Nameless Fanboi Posted ID:+RePzom7m

เมอร์รี่คริสโม่ง ขอให้มีความสุขมากๆ กันทุกคน

87 Nameless Fanboi Posted ID:9NYzSox1S

มีใครได้อ่านป่ะ
https://www.dek-d.com/board/view/3816386/

88 Nameless Fanboi Posted ID:Q382Y9KRV

>>86 Merry Christmas ทุกคนด้วย จะปีใหม่แล้วนิยายกูยังรีไรต์ไม่จบซะที 5555555
>>87 อ่านแล้ว ข้างบนเพิ่งพูดถึงไปนิ มันก็ปกติสำหรับนักอ่านเด็กๆ ส่วนใหญ่สมัยนี้อ่ะ มันย่อยง่าย แต่สำหรับกูคือไม่ชอบเลย อยากอ่านงานเขียนที่ใช้ความคิดบ้าง ไม่โชว์เมพโง่ๆ คนเดียว ไม่เทพทรูแต่แรก จนเดี๋ยวนี้กูแทบจะเลิกอ่านนิยายดด.ละ มันไม่มีเรื่องไรน่าสนใจเท่าไหร่

89 Nameless Fanboi Posted ID:SCanjbfAL

>>88 เด็กดีเดี่ยวนี้กำลังเข้าสู่ยุคเสื่อมถอยแห่งปัญญาไปแล้ว

90 Nameless Fanboi Posted ID:VIKvn+eaI

>>89 ในเด็กดีจะรอดได้มึงต้องแต่งแนวขายเด็กที่เด็กชอบ (แต่สุดท้ายแม่งไม่ซื้อ) ถ้าแต่งแนวจริงจังก็อาจจะมีคนอ่านบ้างประปราย ไม่ก็ต้องลองย้ายเว็บเอา

91 Nameless Fanboi Posted ID:wGxI4+Yha

>>90 ก็มันแต่งง่ายแนวนั้นไง ไอ้เรื่องนี้เปิดก็ย้ายไปเรื่องอื่นเยอะแยะ

92 Nameless Fanboi Posted ID:SCanjbfAL

>>90 ที่ไม่ซื้อกัน เพราะเด็กไม่มีรายได้เสริมมาเก็บออมใช่มั้ย

93 Nameless Fanboi Posted ID:StkM.vqpl

>>87 เลื่อนไปเจอมู้ข้าง ๆ อันนี้ https://www.dek-d.com/board/view/3816414/ แม่งก็น่าสนใจ

94 Nameless Fanboi Posted ID:VIKvn+eaI

>>93 เจอความเห็น 4 กูปิดเลย เล่นมือถือเลื่อนยากสัสๆ

95 Nameless Fanboi Posted ID:HphYmZvIL

>>94 แบ่งประโยคยากมาก อ่านละปวดหัวชิบหาย
ปล.ใส่สรุปความคห.4ได้วานบอกกุที อ่านแล้วรู้สึกเหมือนมันวนๆแปลกๆว่ะ

96 Nameless Fanboi Posted ID:pmo5aSlAT

>>94 >>95 พวกมึงดูชื่อคนโพสก็น่าจะรู้นะ

97 Nameless Fanboi Posted ID:9v4gmKF0+

>>92 กูว่าไม่ซื้อเพราะอ่านเรื่องไหนก็เหมือนๆ กันมากกว่า อ่านได้ แต่ซื้อไปทำใม

98 Nameless Fanboi Posted ID:doNq2wb+2

จะว่าไป คห.4 นี่เขามีวิธีพิมพ์แบบ ...เอิ่ม เอาเป็นว่าเอกลักษณ์แล้วกัน แต่พออ่านแล้วเหมือนเจ้าตัวคุยกับตัวเองยังไงก็ไม่รู้แฮะ

99 Nameless Fanboi Posted ID:IltdId6vA

เรื่องตลก

เห็นกระทู้เรย์กะตั้ง happy anniversary กระทู้ครบ 1 ปี เลยไปย้อนดูบ้างว่ากระทู้ที่ 1 ของเราตั้งวันไหน เผื่อจะได้มีกิจกรรมอะไรบ้าง แม่ง

29 กุมภาพันธ์

100 Nameless Fanboi Posted ID:KwmVsgGQY

>>99 5555 4 ปีมีหนนึงสินะ

101 Nameless Fanboi Posted ID:4ZhyjmuC+

>>99 หยุดขำไม่ได้จริงๆ ว่ะ 5555

102 Nameless Fanboi Posted ID:mVFyu9zkJ

>>99 ในรอบ 4 ปีเชียวนะมึง ดูศักกิ์สิทธิ์สัส ๆ 555

103 Nameless Fanboi Posted ID:StkM.vqpl

>>93 กูให้มาดูคหสี่นี่แหละ ดอกขาวมาทีไรเหมือนสมองกูโดนสูบไปทุกที

104 Nameless Fanboi Posted ID:bre6A6svW

ไม่มีใครสับนิยายแล้วสินะ

105 Nameless Fanboi Posted ID:MPi7mL2OX

>>99 เหี้ยยยย

106 Nameless Fanboi Posted ID:4ZhyjmuC+

>>104 คงหายไปตามเทศกาลละมั้ง

107 Nameless Fanboi Posted ID:qzsq8yH43

>>104 ก็นี่มู้นินทาในคราบมู้นิยาย

108 Nameless Fanboi Posted ID:SCanjbfAL

คนสับนิยายอยากเป็นซานต้ามั้ง

109 Nameless Fanboi Posted ID:W9z4AqrXT

>>108 เห็นเซฮุนมันจะสับอยู่สองสามเรื่องนี่ โดนแบนไปอีกแล้วมั้งกูว่า

110 Nameless Fanboi Posted ID:+gAvrbe/d

>>109 ไม่ แอดมินยังไม่แบน บอกเกรียนอีกค่อยมาแจ้ง ตอนนี้มันขนาดใส่ชื่อตัวเองยังไม่กล้าใส่เลย

111 Nameless Fanboi Posted ID:+R6VTcQMI

กูอ่านของน้อง Zealia อยู่ เค้าให้อ่านแค่สามตอนเองนะ แต่กูยังไม่รู้จะลงสับยังไงเลย ความรู้สึกแม่งแบบอึน ๆ ไม่ดีไม่เหี้ย ทำกูไปไม่เป็นเลย

สัปดาห์นี้คงมีคงคนลงสับแหละ อย่างน้อยก็กูคนนึง พวกมึงว่างจากนินทาก็มาช่วยสับด้วยดิสัส

112 Nameless Fanboi Posted ID:KS/AHw0mO

มีกูจองเรื่อง Voice of a Rebel แต่ติดงานว่ะ นายสั่งเยอะชิบหาย Onz ยิ่งใกล้ปีใหม่ยิ่งงานเยอะ คาดว่าได้สับหลังปีใหม่แน่ๆ ขอโทษเพื่อนโม่งที่รอด้วยนะ

113 Nameless Fanboi Posted ID:FOD745.B2

>>111 คุณจะรอเรารีไรท์อีกประมาณสามตอนก่อนก็ได้นะคะ อันที่จริงเนื้อเรื่องเพิ่งมาลงตัวได้ตอนที่สิบกว่าๆ ตอนรีไรท์เราเลยคิดจะตัดเนื้อหาบางส่วนที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องหลักมากนักในตอนเก่าๆ น่ะค่ะ

114 Nameless Fanboi Posted ID:FOD745.B2

>>113 แต่คงจะอีกสักพักเลยล่ะค่ะ ตอนนี้ต้องทำเรื่องงานกีฬาสีก่อนเป็นหลัก

115 Nameless Fanboi Posted ID:+R6VTcQMI

>>114 ไม่เป็นไรครับ พี่อ่านสามตอนแรกก่อนแหละ

116 Nameless Fanboi Posted ID:LzUHbK4bf

Master Pop คืออะไร?

117 Nameless Fanboi Posted ID:0ChrsqIGz

>>116 คือ Dr.pop ที่เปลี่ยนชื่อใหม่

118 Nameless Fanboi Posted ID:d6JRlcM/n

>>116 กูกำลังจะเล่นเลย

119 Nameless Fanboi Posted ID:qL50R6mb4

ดอกปอบฝึกเจไดสำเร็จขั้นสูงจนตัวเขียวเหมือนท่านโยดา เลยอัพเกรดตัวเองเป็น Master Poop บ้าง

120 Nameless Fanboi Posted ID:+c/HFdJj9

เราว่าเป็นไอดีที่ดีนะ เราเคยมีความคิดนี้เหมือนกัน จะเอาคำว่า Saint นำหน้า ชื่อเราจะได้ดูดาร์กขึ้นมาหน่อย ลองอ่านออกเสียงสิ เซนต์เซฮุน

121 Nameless Fanboi Posted ID:ek1XTlmXj

Dr. Strange -> Master Strange
Dr.Pop -> Master Pop

122 Nameless Fanboi Posted ID:hMnh2nRPU

กูเอาวิธีนี้ไปใช้มั่งดีกว่า สัด ลืมไปกูยังเขียนไม่จบ
https://www.dek-d.com/board/view/3817141/

123 Nameless Fanboi Posted ID:yfvUARAIj

จะบอกว่ากูรอพวกมึงสับนิยายทุกวันเลยนะ

124 Nameless Fanboi Posted ID:9061AQ5.i

ระหว่างหยุดปีใหม่กับไปเรียน อย่างไหนมีเวลารีวิวสับนิยายว่างกว่าวะ

125 Nameless Fanboi Posted ID:6jBIMFQLr

>>124 ไม่ว่างทั้งคู่ อย่างกูทำงานแล้วต้องเคลียร์งานก่อนสิ้นปี บางคนยังเด็กก็ไปเรียนเสริม ถ้าสายชิลก็อาจพักผ่อน นอน ดูหนัง ดูเมะ หรือไปเที่ยวต่างจังหวัดกับที่บ้าน

126 Nameless Fanboi Posted ID:s5THh+CNE

กูนี่เคลียร์งานก่อนปีใหม่หัวหมุนเลยเนี่ย
ตอนแรกตั้งใจจะเขียนให้เสร็จๆ ก่อนปีใหม่ แต่พอเอาเข้าจริงเวลาว่างแทบไม่มี พอมีก็หมดไปกับการดูซีรีย์ละ

127 Nameless Fanboi Posted ID:XNHkqwwTY

เรามีเรื่องจองไว้ แต่เรากำลังพิจารณาคิดวิธีวิจารณ์นิยายอยู่น่ะ เคยวิจารณ์ไปแล้วเพื่อนโม่งหลายคนบอกว่าไม่ได้สาระประโยชน์อะไร ซึ่งทำเราดาวน์มากๆเลยตอนนั้น เราเลยตัดสินใจไม่เข้าโม่ง หายตัวไปเงียบๆสิบสี่วัน นี่เห็นว่าบรรยากาศดีขึ้น เราก็คิดว่าจะลองดูใหม่กับมันสักตั้ง คือตอนนี้เรายังไม่ค่อยแน่ใจว่าต้องทำยังไง ปรับปรุงอะไร ยังไงก็ขอเวลาหน่อยนะสำหรับเรื่องต่อไปที่จะวิจารณ์ มันด้วยจิตใจเราตอนนี้เหมือนชีวิตต้องเริ่มต้นใหม่ทุกอย่าง สภาพกลายเป็นศูนย์ แถมอากาศช่วงนี้ก็หนาวจับใจ มันทำให้เศร้าหมองหดหู่มากๆ เราก็อยากให้ข้ามพ้นจุดนี้ไปได้เร็วๆเหมือนกัน

128 Nameless Fanboi Posted ID:oyUcuAzix

สัสมีดราม่าสับนิยายด้วย กุไม่เคยเห็นโม่งด่าใครสับนะ จะมีก็แค่คนเดียวซึ่งมันน่าพิจารณาตัวเองว่ะ สับนิยายไม่ใช่สำเร็จความใคร่ผ่านตัวอักษร วิจารณ์เชี่ยไรไม่รู้บอกสับหล่ะฟินน้ำแตกคนเดียว ไร้สาระชิบหายสมควรโดนด่าป่ะวะ

129 Nameless Fanboi Posted ID:eoELXM0Y/

>>127 อย่าไปแคร์ ผมรออยู่ จริง ๆ นะ

130 Nameless Fanboi Posted ID:tdjkFae5i

>>128 ถ้าพูดแบบนี้เราคงไม่วิจารณ์อะไรแล้วล่ะ ขอโทษด้วยนะ

131 Nameless Fanboi Posted ID:tdjkFae5i

>>128 อีกอย่าง พูดจากับเราดีๆก็ได้นะ ไม่จำเป็นต้องหยาบคายเราก็เข้าใจ

132 Nameless Fanboi Posted ID:agiOqFvvb

>>128 ตอนเราวิจารณ์

ใช่เรา 'ฟิน' นะ แล้วเราก็ถามเจ้าของเรื่องแล้วว่าเขาได้อะไรบ้างไหม เขา 'ฟิน' ไหมเราไม่รู้หรอก แต่ก็มีสองคน คือเจ้าของเรื่องกับเราที่ปฏิสัมพันธ์ ณ ตอนนั้น

ปัญหาของเราคือโม่งสไตล์คุณนี่แหละ คือคุณไม่ทำอะไร มาด่าเรา พูดหยายคายใส่เรา เราก็เป็นคนธรรมดา มีหัวใจคนหนึ่งนะ

คือไม่พอใจอะไรตรงไหน คุยกันดีๆได้ไหม เราถามจริงๆ

133 Nameless Fanboi Posted ID:agiOqFvvb

>>128

สัส (คำนี้จำเป็นไหม? คุณเป็นนักเขียนหรือเปล่าลองตัดทิ้งดูความหมายคงเดิมไหม? หรือคุณจะเอาแค่ 'ฟิน' ของคุณ)

มีดราม่าสับนิยายด้วย (ถ้าไม่มีเราจะกุเรื่องขึ้นมาทำไม ได้ประโยชน์อะไร?)

กุ (ทำไมต้องหยาบ)ไม่เคยเห็นโม่งด่าใครสับนะ

จะมีก็แค่คนเดียวซึ่งมันน่าพิจารณาตัวเองว่ะ (ใครล่ะ ไหนบอกที่นี่ไม่ตัวตนกันไง)

สับนิยายไม่ใช่สำเร็จความใคร่ผ่านตัวอักษร วิจารณ์เชี่ยไรไม่รู้บอกสับหล่ะฟินน้ำแตกคนเดียว ไร้สาระชิบหายสมควรโดนด่าป่ะวะ (เราอธิบายแล้วตรงนี้>>132 )

134 Nameless Fanboi Posted ID:agiOqFvvb

>>129 เราบอกคุณไว้เลยนะ แค่ดูวิธีคุณเคาะไม้ยมกหน้าหลังเนี่ย เราก็ต้องยิ่งใส่ใจนิยายที่จะสับมากขึ้น

135 Nameless Fanboi Posted ID:8LTtEq/Hh

ขำดีว่ะมีเล่นบทนางเอกด้วย นึกว่าดูละครน้ำเน่า

136 Nameless Fanboi Posted ID:.R7NTfZ.s

>>127 มึงโดนแบนไม่ใช่เหรอ

137 Nameless Fanboi Posted ID:7lo/WMxL6

>>135 เราดีใจที่ได้สร้างเสียงหัวเราะให้กับคุณส่งท้ายปีนะ

>>136 นั่นอีกคนนะ เราไม่ใช่เขาคนนั้น

138 Nameless Fanboi Posted ID:fRNpOK1pF

กูจำได้ว่ามีคนเดียวนะที่โดนว่าว่าสับไปแล้วไม่มีประโยชน์อะไรเลยน่ะ 555

139 Nameless Fanboi Posted ID:W3ElrwSi9

คนเรานี่ก็แปลก อยู่ในโม่งที่ไม่มีตัวตนก็ยังตั้งชื่อให้ตัวเอง แต่พอเลิกใช้ชื่อก็ทำตัวแบบเดิมให้เขาจับได้อีก ไม่เข้าใจมันจริงๆ

140 Nameless Fanboi Posted ID:6jBIMFQLr

จะสับจะอะไรก็เอาเหอะ กูไม่คิดอะไรมากเพราะกูดูที่งานมากกว่าเป็นใครสับ กูมองข้ามความเกรียนหรือการดีเบตประเด็นแจกัน, ลูซิเฟอร์อะไรนี่ไปนานละ (แต่ก็ยังคงมีโม่งงับเหยื่อเถียงรัว ๆ มันเลยไม่จบสักทีแบบคราวก่อน) คือถ้าเลิกคิดจะเอาชนะกันแล้วเอาเวลามาสับนิยายแทน กูว่าลิสต์รอสับคงหมดไปนานแล้วว่ะ

สไตล์การสับของไอ้ ซ. มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ถึงจะเวิ่นเว้อไปหน่อยแต่ถ้ามันสับได้ก็ให้มันสับเหอะ อย่างน้อยคิวในลิสต์จะได้ลดลงไปบ้าง ดีกว่ามาบ่นหรืออคติเพราะมันจะไม่มีอะไรดีขึ้น (ยกเว้นคนที่บ่นอยู่เนี่ยมึงจะออกมาสับเสียเอง)

ปล. กูขนลุกหน่อย ๆ เวลาอ่านคำพูดสุภาพของมัน
ปลล. ถึงมึงบอกว่าไม่ใช่คนเดียวกัน กูก็ไม่เชื่อมึงหรอกนะ ทำตัวสาวน้อยผิดปกติแบบนี้มันโคตรจะมีพิรุธเลยว่ะ

141 Nameless Fanboi Posted ID:9061AQ5.i

ก่อนสิ้นปี สับสักเรื่องเลยมั้ย ของง่ายก็ได้

142 Nameless Fanboi Posted ID:ojSdt0tXE

อยากโดนสับเลยลองแต่งนิยายลง dek d
อันแรกเขียนแนวเบียวๆต่างโลกไม่พล็อตแต่งสดล้อเพื่อน เอาคนรอบตัวมาใส่ประหนึ่งมาสเตอร์ปอป
ทิ้งโง่ๆไว้ 2ชม. อ่าน 100 กว่าคน

อีกอันพล็อตมาอย่างดีเช็คแล้วเช็คอีกก่อนลงทำไมไม่มีคนอ่านวะ

แต่มาบ่นกูไปละ

143 Nameless Fanboi Posted ID:ojSdt0tXE

มือลั่น ว่าแต่ลูซิเฟอร์มีด้วยเหรอวะกูอยู่มาตั้งนานนึกไม่ออก เท้าความที🤔🤔🤔

144 Nameless Fanboi Posted ID:/XDrxWIAY

มีใครเคยสับ H.A.C.K. เจาะระบบไขรหัสมรณะ ไว้ไหม
คือเห็นมันออกมา 17 เล่มละมีคนบอกแม่งยังไม่จบ

145 Nameless Fanboi Posted ID:7i.LR3Kdh

>>143 เซฮุนบอกว่าลูซิเฟอร์แปลว่าแสงสว่างจากคำว่า Light Bringer ที่เป็นอีกชื่อของลูซิเฟอร์

โม่งอีกคนเถียงว่า Light Bringer แปลว่าผู้นำแสงสว่างมา ไม่ได้แปลว่าแสง แล้วก็เถียงกันยกใหญ่

ดราม่าพร้อมกับเรื่องบาตรแจกันนั่นละ กลับไปอ่านได้

146 Nameless Fanboi Posted ID:r07WuMjez

ได้ข่าวว่ามารเทารีไรท์เนื้อเรื่องใหม่ล่ะ เห็นมีคนเม้นบอกเนื้อเรื่องภาษาดีขึ้นเยอะ

147 Nameless Fanboi Posted ID:J0g/omeHK

>>146 สวัสดีพี่มารสีดวก โฆษณาเก่งเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ

148 Nameless Fanboi Posted ID:6chbDdpt.

>>143 น่าจะเป็นมู้ที่เขียนเลขผิด ปะ?

149 Nameless Fanboi Posted ID:PtAdBZSEA

เรื่องมันผ่านไปแล้วก็อย่าไปรื้อฟื้นเลย กูรอคนสับมากกว่า สงสัยต้องหลังปีใหม่นู่นมั้งแบบนี้

150 Nameless Fanboi Posted ID:JKJe00+IK

>>144 กูอยากขายยกเซ็ตมาก แพงและไม่ได้สนุกเลย

151 Nameless Fanboi Posted ID:5WxTDkcMs

>>145 มู้ไหนวะ

152 Nameless Fanboi Posted ID:nH25Wo0VQ

การแก้ปัญหาชื่อซ้ำ
https://www.dek-d.com/board/view/3817334/

153 Nameless Fanboi Posted ID:XiIXRAizT

สรุป กูไม่ใช่เซฮุน มีคนมาคอสเป็นกู? เขร้เย็ด ซับซ้อนฉิบมาเต๊อะบอร์ด

ลงชื่อ เซฮุน ตัวจริง บาตรคือแจกัน ลูซิเฟอร์ชื่อเล่นว่าไอ้จรัส

154 Nameless Fanboi Posted ID:2gbSijNB3

จะว่ากูมองโลกในแง่ร้ายหรือขวางโลกอะไรก็ได้นะ แต่กูคนนึงอ่ะ ที่ไม่เคยคิดจะเอานิยายไปแปะในมู้แบบนี้เลย เมนต์มาเมนต์กลับ แล้วไงวะ? ก็ได้แค่เมนต์เพิ่มขึ้นมาอันนึงกับวิว แม่งก็ไม่ได้จริงใจ หรือตั้งใจมาอ่านมาดูนิยายเราให้หรอก เพราะมันก็อยากได้เมนต์เหมือนกัน
อ่อ แต่ถ้านิยายใครดีใครปัง มึงอาจฟลุ๊คได้แฟนคลับเพิ่ม
https://www.dek-d.com/board/view/3817443/

155 Nameless Fanboi Posted ID:E5YORdGPs

>>154 ใช่ปะล่ะ 555 เราก็คิดงั้นเหมือนกัน ก็รู้อยู่หรอกว่าที่เม้นมาซะส่วนใหญ่จะมาเพื่อเอาเม้นคืนบ้างอะไรบ้าง แต่อย่างน้อยเราก็ขอกำลังใจจากเม้นพวกนั้นหน่อยก็แล้วกัน 55 ต่อจะให้เขียนเม้นแบบส่ง ๆ ก็เถอะนะ

156 Nameless Fanboi Posted ID:rTe6YNUfi

>>154 กูอยากได้คนที่อ่านเรื่องของกูจริงๆ มากกว่าว่ะ ถ้าจะแลกเม้นแบบนี้ ไร้สาระ

157 Nameless Fanboi Posted ID:nH25Wo0VQ

>>154 ถ้าเป็นโม่งเมื่อก่อนๆ แหล่งสับนิยายยามว่างเลย

158 Nameless Fanboi Posted ID:36jlk+/ke

งี้ถ้ากูมีนามปากกาว่า เบชัน แล้วกูเรียกตัวเองว่า มาสเตอร์ มันจะฟังดูคูลเหมือนมาสเตอร์ป็อปไหมวะ

159 Nameless Fanboi Posted ID:raGp+e5q+

กูเคยแปะ แต่ไม่เม้นกลับ กวนตีนแมะ กูเหี้ย กูรู้๕๕๕

160 Nameless Fanboi Posted ID:SFG07jIwG

>>159 เหมือนกัน กูได้ "สนุกมากจ้า" มาเต็มเลย กูเลยไม่เม้นกลับ อิห่านจิก สัมผัสได้ถึงความตั้งใจอ่านฝุด ๆ เบย

161 Nameless Fanboi Posted ID:4wc1YGFQy

เราก็ได้สำนวนดีกับเนื้อเรื่องน่าติดตามมาเต็ม ถถถ

162 Nameless Fanboi Posted ID:bO.v/HzQ6

https://www.dek-d.com/board/view/3817506/ พออัพนิยายติดก็ไปตามด่า มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอวะ

163 Nameless Fanboi Posted ID:ziKneILss

>>162 มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอวะ แม่ง เน่าหนอนเหี้ยๆ

164 Nameless Fanboi Posted ID:LcXhDwwRT

>>162 อีนิยาย 50 เทาใช่มั้ย

165 Nameless Fanboi Posted ID:LcXhDwwRT

10 วิธีนิยายเกมออนไลน์ของพวกนักอ่านกากๆ
https://www.dek-d.com/board/view/3817480/

166 Nameless Fanboi Posted ID:raGp+e5q+

>>160 >>161 กูได้ ตัวละครเก่ง ฝากนิยายด้วย
ตัวละครกูยังไม่ได้โชว์พาวซักตอน

167 Nameless Fanboi Posted ID:Hv1N1sdsh

อ่ะ กูแปะให้อีกกระทู้ แม่งเขียนซะยืดยาว กูสรุปให้ ใจความสำคัญของมันคือ 'อ่านนิยายมันแล้วห้ามติ ถ้าจะติเป็นนักอ่านเงาไปเลยดีกว่า หรือไม่ชอบใจมาก ๆ ก็กดออกซะ'
ก็เป็นกันซะอย่างนี้ เมื่อไหร่แม่งจะพัฒนา
https://www.dek-d.com/board/view/3817588/

168 Nameless Fanboi Posted ID:raGp+e5q+

>>167 ประสาทจขกท กุไม่ไปอ่านนิยายมันหรอกมาตั้งทุ้แบบนี

169 Nameless Fanboi Posted ID:vdmBHmgs5

กูลองไปอ่านมาแล้ว เป็นนิยายจีนที่ไม่ค่อยจีนเท่าไหร่ แต่ก็สมกับเป็นนิยายกระแส Fav มีตั้ง 7800

170 Nameless Fanboi Posted ID:EIhpcWMMH

>>169 หมวดจีนแม่งคนอ่านเยอะ อย่างกระจอก ๆ ก็ 1000+นะกูว่า อ่อ...กูลืมไป มันชื่อหมวด 'อดีต ปัจจุบัน อนาคต' นี่หว่า 555

171 Nameless Fanboi Posted ID:wvrhzVczA

ทำไมพวกพระเอกกำลังภายในถึงตั้งเป้าเข้าสำนักชื่อดังแล้วพอเข้าได้เสือกลาไปฝึกคนเดียวเป็นปีๆ วะ?

172 Nameless Fanboi Posted ID:uIf/7i74F

>>171 สันนิษฐานว่า คนเขียนคุมเรื่องไม่เป็น

173 Nameless Fanboi Posted ID:ju1QCZ+al

>>171 มันเป็นสูตร วิชาที่เจอโดยบังเอิญตามป่าเขาหรือตามถ้ำ มันมักจะเทพกว่าวิชาในสำนัก

174 Nameless Fanboi Posted ID:N1x.gS.9h

สุขสันต์ปีใหม่นะโม่งทุกคน ขอให้ปีหน้าได้พบแต่สิ่งดีๆ สุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ เขียนนิยายคมคาย จบปิ๊งและปิดปัง เงินทองไหลมาเทมนะ

ลงชื่อ เซฮุน ไอพีเดิม

175 Nameless Fanboi Posted ID:DS7fTrB7u

>>171 เพราะถ้าเป็นเด็กตักน้ำในสำนักนานเกินไป คนอ่านได้หายหมดแน่ ถถถ พวกความอดทนต่ำก็งี้

กูเคยได้ฟังความเห็นของพวกนักอ่านกากๆ ว่า นิยายแปลจีนสนุกตรงที่มันตื่นเต้นไปเรื่อยๆ ไม่เหมือนนิยายคนไทยแต่ง ที่สนุกแค่ตอนแรกๆ จากนั้นตอนหลังก็ไม่มีอะไรพีคแล้ว ถถถ กูก็อยากจะบอกว่า ที่นิยายจีนมันตื่นเต้นไปเรื่อยๆ เพราะแม่งไม่มีปมเรื่องหลักเลยไง เน้นพระเอกเก่งเทพผจญภัยไปวันๆ มันเลยเล่นง่าย แต่ถ้าเป็นนิยายที่มีการวางพล็อตรัดกุม ก็แน่นอนว่าตอนแรกๆ มันก็ต้องสนุกตื่นเต้นกว่าตอนท้ายอยู่แล้ว เพราะตอนท้ายเป็นส่วนเคลียร์ปมปิดเรื่อง จะให้ตื่นเต้นห่าไรอีก (อาจมีแค่หักมุมหนักๆ สักทีสองที)

176 Nameless Fanboi Posted ID:ju1QCZ+al

>>175 คิดแล้วเหนื่อยใจ ยุคนี้อะไร ๆ ก็ต้องเร็ว คนอ่านก็แม่งชอบแต่อะไรย่อยง่าย พวกคนเขียนจะเขียนอะไรย่อยยากก็ขายไม่ได้ พอแต่งแบบง่าย ๆ กาก ๆ ออกมา ก็ด่าว่าไม่พัฒนา เหี้ยเอ๊ย... ไม่มีทางเลือกให้พวกกูเลย

177 Nameless Fanboi Posted ID:Umxs2nFcV

>>176 ต้องทำใจ เดี๋ยวนี้เด็กมีความอดทนโคตรต่ำ รอนิดรอหน่อยก็ไม่ได้

178 Nameless Fanboi Posted ID:WEPfA+iU5

>>176 +10
เขียนดีๆย่อยยากก็ไม่มีคนอ่าน เขียนกากๆเบียวๆก็โดนด่า ทำไงดีวะ 55555555555

179 Nameless Fanboi Posted ID:uIf/7i74F

กูว่าคนอ่านสมัยนี้ชอบตัวเอกที่พยายามหาทางลัดและไม่มีเป้าหมายของตัวเอง เหมือนกูอยากเป็นดาราเกาหลีดังๆ แต่ไม่รู้ไม่สนว่ากว่าจะเป็นคนดังเหมือนเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง

180 Nameless Fanboi Posted ID:ju1QCZ+al

>>179 นึกถึงคำพูดของประธานคาโดกาว่า ที่เขาบอกว่านิยาย มังงะ อนิเมะ เดี๋ยวนี้จะขายได้ตัวเอกต้องเทพ ทำอะไรสำเร็จได้โดยไม่ต้องพยายาม และสาว ๆ ในเรื่องจะต้องชื่นชมตัวเอกจนมีใจให้อย่างง่าย ๆ นิยายบ้านเราก็ชักจะเข้าสูตรแบบนี้มากขึ้นทุกที เกิดใหม่ย้อนยุคจีน เอาความรู้ไปสร้างอะไรเจ๋ง ๆ มีพลังติดตัวเพราะพระเจ้ามอบให้ สำเร็จวิชานั่น นู่น นี่ ง่ายเพราะพลังเยอะอยู่แล้ว มีฉากอลังเอาชนะยอดฝีมือเพิ่มความซูเข้าไปอีก จะไปเกิดเป็นตัวร้ายหรือเป็นจีนโบราณ จะผู้ชายหรือผู้หญิง ถ้าทำตามสูตรนี้ขายได้แน่นอน

ส่วนตัวกูเหรอ... แต่งนิยายแบบของกูต่อไป จะให้กูแต่งนิยายตามกระแสหรือแต่งวายเพื่อให้ขายสาววายได้ กูทำไม่ไหววะ อะไรที่มันฝืนใจ ทำมาก ๆ เข้ามันจะเป็นบ้า กูอยากแต่งนิยายอย่างมีความสุขมากกว่า เรื่องเงินกูไม่ได้ขัดสนขนาดนั้น

181 Nameless Fanboi Posted ID:OHGNHQoWw

>>180 ถึงทำแบบนั้นยังไงคนส่วนใหญ่มันก็ซื้อแค่ญี่ปุ่น จีน ไม่มาซื้อคนไทยหรอก

182 Nameless Fanboi Posted ID:CMfHUwANE

หวัดดีปีใหม่ชาวโม่ง ขอให้ปีนี้สับนิยายได้เยอะๆ

183 Nameless Fanboi Posted ID:LXwBfxTaZ

>>182 สวัสดีปีโม่ง

184 Nameless Fanboi Posted ID:XMoZSJZJU

>>175 มึงเข้าใจไรผิดป่าววะ องค์ 3 ที่เป็นบทเคลียร์ปมควรสนุกที่สุดนะ เพราะเป็นจุด Climax ของเรื่อง มันจะสนุกน้อยกว่าตอนแรกได้ไงวะ

ถ้ามึงเขียนนิยายรับรองว่าห่วยแน่นอน มายเซ็ตแบบนี้

185 Nameless Fanboi Posted ID:FSlvxhESp

>>184 อธิบายผิดไปหน่อย หมายถึงโชว์เบียวได้ยาก เขียนอะไรเอามันส์ไม่ได้เพราะว่าต้องขมวดปมเรื่องน่ะ

186 Nameless Fanboi Posted ID:dTbE.tl1o

>>185 เขียนคนละเรื่องกันเลยนะ

187 Nameless Fanboi Posted ID:.JwgJ99DA

>>186 ที่จะสื่อคือ นิยายจีนที่เขาชอบๆอ่านกันเนี่ยมันไม่มีปมหลักแบบจริงจังไง คือเน้นพระเอกฝึกวิชา แล้วจากนั้นก็ออกเดินทางฝ่าอุปสรรค์ไปเรื่อยๆ โดยจะเกิดปมขึ้นมาเป็นส่วนๆ พอเคลียร์ปมนี้เสร็จก็ไปเจอปัญหาต่อไป มันเลยเฟรชอยู่ตลอด เพราะมีลูกเล่นเยอะ ข้อเสียคือหาทางลงยาก และสุดท้ายมักจะถูกตัดจบแบบปาหมอน เช่น พระเอกที่ผจญภัยมาอย่างยาวนานตัดสินใจวางอาวุธ ใช้ชีวิตอย่างผาสุกกับลูกเมียในบ้านนอก หรือมีงานประลองยุทธเกิดขึ้น แล้วพระเอกก็ชนะ กลายเป็นเจ้ายุทธภพ จบ

แต่กับนิยายไทย (ไม่อยากใช้คำนี้ เอาเป็นนิยายที่ไม่ใช่นิยายจีนตลาด) โดยทั่วไปมันจะมีปมหลักอยู่ก่อน และแน่นอนว่ามันจะต้องมี turning point หรือจุดพลิกผันอะไรบางอย่างให้โฟกัส เช่น หลังจากเดินทางฮาเฮอยู่ครึ่งเรื่อง พระเอกก็พบความจริงบางอย่างที่ทำให้เรื่องหม่นลง การดำเนินเรื่องเลยเปลี่ยนรูปแบบไปโฟกัสที่ปมนั้นแทน อันนี้จะบอกว่านักเขียนอาจเขียนไม่ดึงดูดก็ได้นะ เพียงแต่เท่าที่เห็น เหมือนปัญหาจะอยู่ที่นักอ่านมากกว่าที่ไม่ชอบอ่านอะไรจริงจัง อยากจะอ่านอะไรสบายสมองมากกว่า เลยบอกว่าไม่สนุกไป

188 Nameless Fanboi Posted ID:dTbE.tl1o

>>187 มึงกลับไปอ่านที่มึงเขียนเองใน >>175 ดีกว่านะ

อ่านแล้วนึกถึงโม่ง Infodump แฮะ ลอจิคการเขียนนิยายเพี้ยนๆ เหมือนกัน

189 Nameless Fanboi Posted ID:.JwgJ99DA

>>188 เอาเถอะ ยอมแพ้ก็ได้

190 Nameless Fanboi Posted ID:x3pB2UInK

มีนิยายสนุก ๆ มาแนะนำไหม?

191 Nameless Fanboi Posted ID:DUSKDwPTY

>>188 มันพูดผิดตรงไหนวะ อันนี้กูไม่ได้กวน กูไม่รู้จริงๆ

192 Nameless Fanboi Posted ID:49CVGgTVc

>>191 มันพูดไม่ผิด แค่มันขี้เกียจเถียงต่อ

193 Nameless Fanboi Posted ID:eu9+LEGI2

ไปอ่าน>>175 ดีๆ ประเด็นคือประโยคนี้

ถ้าเป็นนิยายที่มีการวางพล็อตรัดกุม ก็แน่นอนว่าตอนแรกๆ มันก็ต้องสนุกตื่นเต้นกว่าตอนท้ายอยู่แล้ว เพราะตอนท้ายเป็นส่วนเคลียร์ปมปิดเรื่อง จะให้ตื่นเต้นห่าไรอีก (อาจมีแค่หักมุมหนักๆ สักทีสองที)

เห็นปัญหามั้ย เมื่อเทียบกับที่มันพูดใน>>185 และ>>187 นิยายเบียวที่ในบอกก็ต้องมี Arc เหมือนกัน

และเดินเรื่ององค์ 1 (แนะนำตลค/สร้างปม)
องค์ 2 (เดินเรื่อง/พัฒนาการ)
องค์ 3 (ขมวดปม/บทสรุป)

ซึ่งความสนุกมันก็จะไล่จากมากไปน้อยเหมือนกัน นิยายเบียวๆ ถ้าให้เทียบในแง่หนึ่งก็เหมือนแฮรี่ ที่มี Arc ย่อย 7 Arc แต่ไม่มี Arc ใหญ่ก็แค่นั้น ไม่ใช่ว่านิยายเบียวพวกนี้จะไม่มีเรื่องแบบนี้

แทรกนิดนึง ของแฮรี่องค์ 2 มันยาวเกิน แทบจะทั้ง 7 เล่มก็ว่าได้ เพราะแฮรี่มีพัฒนาการตลอด แต่จุดที่เริ่ม Arc 1 จริงๆ กูว่าอยู่ที่เล่ม 4 ที่มีประเด็นต่อเนื่องยาวมาจนบทสรุปที่การดวลที่ฮอกวอร์ด ถ้าไม่มีเหตุการณ์ตั้งแต่ 4 มาจะไม่มีฉากการดวลสุดท้ายนั่นนั่น

แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาที่กูแซะมัน ที่กูแซะมันคือมันพูดคนละเรื่อง ที่พูดใน >>>187 ก็มีส่วนถูก แต่ลองกลับไปอ่านประโยค >>>175 ที่กูยกมา มันคนละเรื่องกัน มันบอกว่าองค์ 3 สนุกน้อยกว่าองค์ 1 นั่นคือประเด็นของเรื่อง แต่มันพูดอะไรตอบกลับละ มันเขียนขยายความเกินกว่าและคนละเรื่องกับที่พูดตอนแรก นั่นละที่กูบอกให้มันกลับไปอ่านของมันดีๆ

แต่ถึงยังไงมันก็เข้าใจผิดอยู่ดีไอ้นั่นมันไม่เข้าใจเรื่องการเขียนนิยาย เพราะนิยายเบียวยังไงก็ตีองมี 3 องค์โดยธรรมชาติ ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม อย่างที่กูยกตัวอย่างแฮรี่ นิยายจีนมันแบ่งเป็น Arc ย่อยๆ โดยไม่มี Arc ใหญ่ แต่โดยหลักแล้วก็มี 3 องค์เหมือนกันอยู่ดี

194 Nameless Fanboi Posted ID:49CVGgTVc

>>193 จากที่อ่าน >>175 ช่วงท้ายๆมันพูดมั่วเหมือนที่มึงว่ามานั่นแหละ แต่จากที่อ่านใน >>187 มันก็พูดไม่ผิดทั้งหมด แต่มึงสรุปใน >>193 มึงควรยกตัวอย่างให้ชัดเลยว่า 3 Arc / 7 Arc ของแฮรี่คืออะไร

195 Nameless Fanboi Posted ID:XQdqkMaUz

>>192 ที่จริงแล้ว >>188 ไม่รู้ว่าที่ >>175 บ่นเป็นความคิดเห็นนักอ่านกากๆ ไม่ใช่ >>175 คิดเองพูดเองเออเองซะหน่อย >>188 เลยจำผิดคนบ่นผิดคน

196 Nameless Fanboi Posted ID:DUSKDwPTY

อ่านที่>>193-194 กูงงยิ่งกว่าเดิมอีกชิบหาย

197 Nameless Fanboi Posted ID:DUSKDwPTY

กดผิด ต้อง >>193-195

198 Nameless Fanboi Posted ID:S6e09RRFd

>>194 7 Arc ของแฮรี่คงหมายถึง 7 เล่มมั้ง

199 Nameless Fanboi Posted ID:XQdqkMaUz

ถ้าพวกมึงอยากจะเถียงชนะหรือเกลียดความพ่ายแพ้ละก็ ช่วยหัดแยกแยะความคิดเห็นกับข้อเท็จจริงให้ออกเถอะ

https://kunkrunongkran.wordpress.com/ภาษาไทย-ม-2/ภาษาไทย-ม-2-เทอม-2/การแยกข้อเท็จจริง-ข้อคิ/

200 Nameless Fanboi Posted ID:eu9+LEGI2

>>195 มึงอ่านไม่ละเอียดเอง

>>175 ตั้งแต่ "กูก็อยากจะบอกว่า" เป็นความคิดมันเอง รวมถึงที่กูมีประเด็นด้วย

201 Nameless Fanboi Posted ID:XQdqkMaUz

>>200 ก็มีคนด่วนสรุปไง จะให้อ่านละเอียดก็ใช่ที่เรอะ

202 Nameless Fanboi Posted ID:yA9UwKAGc

ทะเลาะกันเฉย ไม่สับนิยายแล้วรึไง

203 Nameless Fanboi Posted ID:eu9+LEGI2

>>199 กูด่ามันเพราะมัน้ถียงไม่ตรงประเด็น ซึ่งเป็นอีกเรื่องกับความคิดเห็นและข้อเท็จจริง รวมถึงหลักการเขียนนิยายด้วย

204 Nameless Fanboi Posted ID:eu9+LEGI2

>>201 อ่านไม่ละเอียดเองแล้วจะโทษใครละ

205 Nameless Fanboi Posted ID:XQdqkMaUz

>>204 มึงไม่ต้องอวดรู้ก็ได้นี่ กูไม่คิดว่ามันพูดความจริง เพราะไม่รู้ว่าไอ้ >>175 มันคิดเองหรือได้ยินชาวบ้านพูดมา ถ้ามึงมีหลักฐานกูจะเชื่อมึงก็ได้

206 Nameless Fanboi Posted ID:S6e09RRFd

5565 สรุปคือดราม่าเกิดจากอ่านไม่ละเอียด จับใจความไม่ได้กันเอง อันนี้ฮา

207 Nameless Fanboi Posted ID:K3vXuFZP1

คนหนึ่งพูดเรื่องนิยายมี arc แล้วปิด arc 3 หรือ 7 ก็ว่ากันไป ส่วนอีกคนพูดเรื่อง arc เรื่อยๆจะปิดไม่ดี บางทีตัดจบ แล้วก็ arc ที่ปิดซีเรียสไม่มีใครอ่าน

อันนี้กูเข้าใจถูกไหม?

ลงชื่อ เซฮุน

208 Nameless Fanboi Posted ID:eu9+LEGI2

>>205 อวดรู้เหรอ? ที่มึงเอาลิงค์มาแปะนี่อวดรู้กว่าอีกนะ ทั้งทีาอ่านไม่ละเอียดแท้ๆ

แล้วจะหาหลักฐานอะไรอีก ในเมื่อมันพูดเองว่าในความคิดมัน ไร้สาระ เถียงไม่ได้แก่นสารเลย

209 Nameless Fanboi Posted ID:eu9+LEGI2

>>175 ตั้งแต่นี้

ถถถ กูก็อยากจะบอกว่า ที่นิยายจีนมันตื่นเต้นไปเรื่อยๆ เพราะแม่งไม่มีปมเรื่องหลักเลยไง เน้นพระเอกเก่งเทพผจญภัยไปวันๆ มันเลยเล่นง่าย แต่ถ้าเป็นนิยายที่มีการวางพล็อตรัดกุม ก็แน่นอนว่าตอนแรกๆ มันก็ต้องสนุกตื่นเต้นกว่าตอนท้ายอยู่แล้ว เพราะตอนท้ายเป็นส่วนเคลียร์ปมปิดเรื่อง จะให้ตื่นเต้นห่าไรอีก (อาจมีแค่หักมุมหนักๆ สักทีสองที)

อ่านให้ละเอียดก่อนพูดนะ

210 Nameless Fanboi Posted ID:K3vXuFZP1

>>209

>>188 เขียนว่า 187 มึงกลับไปอ่านที่มึงเขียนเองใน >>175 ดีกว่านะ

อ่านแล้วนึกถึงโม่ง Infodump แฮะ ลอจิคการเขียนนิยายเพี้ยนๆ เหมือนกัน

211 Nameless Fanboi Posted ID:K3vXuFZP1

>>209 สรุปคือ มันอ่านไม่ละเอียด แต่บอกให้ 187 กลับไปอ่าน ที่เขียนไว้ใน 175 เพราะมันชวนนึกถึงโม่ง infodump เพราะลอจิคการเขียนเพี้ยนๆเหมือนกัน (อีนนี้ข้อเท็จจริง หรือ ความเห็นส่วนตัว?)

212 Nameless Fanboi Posted ID:/g3sqSfRR

อ้าวๆ อย่าตีกัน กู >>175 นะ HNY2018 ก่อนอื่น ต้องดีเฟนตัวเองก่อนว่ากูไม่ใช่ infodump อะไรนั่นนะ สำหรับวันนี้ไปเที่ยวมาว่ะ ตอนนี้เพิ่งถึงบ้าน ตอนกลางวันขับรถ แล้วก็มีกิจกรรมหลายอย่างด้วย ไม่มีเวลามานั่งอ่านจริงจัง เลยตอบยาวๆ ไปทีเดียวใน >>187 แต่เห็น >>188 ยังข้องใจเลยยอมๆไป จริงๆ ประเด็นแม่งไม่มีห่าอะไรเลย ไม่เห็นด้วยกับกูก็ไม่เป็นไร ไม่คิดเลยนะว่าแม่งจะยาวได้ขนาดนี้ 555

สั้นๆ แล้วกัน ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ เรามาโฟกัสกันเลยว่าคนอ่านอยากอ่านอะไร ตอบ คนอ่านอยากอ่านพระเอกโชว์เทพ เพราะงั้นช่วงที่คนอ่านจะตื่นเต้นไปกับนิยายที่สุดคือช่วงเดินเรื่อง ช่วงที่พระเอกฟาร์มของหนักๆ สาวติดตรึมๆ อันนี้คนอ่านจะชอบนะ แบบอยากรู้ว่าพระเอกจะได้ของเทพอะไรมาอีก จะมีสาวคนไหนถูกพระเอกตกมาได้อีก อะไรทำนองนี้ ส่วนไอ้การตบเกรียนตัวโกงนี่ของตาย สุดท้ายแล้วก็เอาชนะได้ด้วยพลังแห่งความเทพอยู่ดี แล้วจากนั้นเรื่องก็จะวนลูป มีปัญหาใหม่มาให้พระเอกแก้/ออกผจญภัยต่อ แล้วก็ฟาร์มของเทพ สะสมฮาเร็ม เจอตัวโกงตัวใหม่ ปราบตัวโกง มีปัญหาใหม่ ฯลฯ

สรุป คนอ่านรู้สึกตื่นเต้นกับการที่พระเอกได้โชว์เทพ มากกว่าการที่พระเอกเคลียร์ปมเรื่อง ดังนั้นคนอ่านจึงชอบนิยายที่ไหลไปเรื่อยๆ ไม่ต้องผูกปมหลักให้แน่นหนา (หรือไม่ต้องมีด้วยซ้ำ แบบเนื้อเรื่องหลักคือการใช้ชีวิตไปวันๆ) นั่นเอง

213 Nameless Fanboi Posted ID:/cSWs4yfr

ky กูเข้าใจว่าพวกแนวนางร้าย ดยุกต้องมีอำนาจมากกว่าหรือใกล้เคียงราชา/จักรพรรดิ แต่กับเรื่องนี้ นางร้ายวิลแชร์...อีเหี้ย แม่ง ดยุก[พ่อนางร้าย] ชกหน้าเจ้าชายจนเลือดออกจมูกต่อหน้าจักรพรรดิที่เป็นพ่อเจ้าชายเลยจ้าาา ไม่พอยังมีขู่จักรพรรดิ แล้วจักรพรรดิแม่งไม่เอาความเพราะเห็นเป็นเพื่อนกัน สัส มึงไม่น่าเป็นจักรพรรดิเลยเอาตรงๆ

214 Nameless Fanboi Posted ID:S6e09RRFd

>>211 มันเถียงกันอีกเรื่องเลย มึงเปิดประเด็นใหม่ที่ไม่เคยคุยกันมาก่อนเลยนะ มันอ่านไม่ละเอียดยังไงวะ

215 Nameless Fanboi Posted ID:q2hUWaW7J

>>214 ก็ถ้ามันคุยกันคนละเรื่อง แสดงว่าคนที่ตั้งข้อกล่าวหามันอ่านไม่ละเอียดสิวะ มี 3 arc /7 arc มีหลักข้อเท็จจริง แลัวก็ความเห็นว่วนตัวด้วยมึง

216 Nameless Fanboi Posted ID:lyK+SToqb

>>212 มันแย้งที่มึงบอกว่าบทแรกสนุกกว่าบทท้ายเพราะไม่มีอะไรไม่ใช่เหรอ ที่มึงพูดมาไม่เกี่ยวกับที่มันแย้งเลย

217 Nameless Fanboi Posted ID:lyK+SToqb

>>215 กูว่าคนอื่นอ่านไม่ละเอียดแล้วพูดนอกประเด็นกว่านะ
กูว่ามันใช้ Arc กับองค์ สับสนกันด้วยละ เพราะองค์ก็คือ Arc มันควรใช้ว่าบทมากกว่า

218 Nameless Fanboi Posted ID:dlxnc8qjv

>>213 ตอนแนวนี้มาใหม่ ๆ มีหลายเรื่องที่ดีนะ แต่ตอนนี้เหมือนเขียนเลียนแบบกัน ตาม ๆ กัน เพราะมันเป็นแนวกระแส มันก็จะเละ ๆ หน่อย กูก็ชอบหานิยายหมวดนี้อ่านนะ แต่กูจะไม่อ่านแนวนี้เลย กูอ่านเรื่องอื่นที่ไม่ใช่นางร้าย เห็นมีเข้าท่าหลายเรื่องอยู่

219 Nameless Fanboi Posted ID:/g3sqSfRR

>>216 ก็ที่บอกว่าบทแรกสนุกตื่นเต้นกว่าบทท้าย เพราะมุมมองของคนอ่านพวกนั้นไม่ได้มองว่าการคลี่คลายปมเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นไง แต่กลับไปมองว่าการที่ได้ดูพระเอกโชว์เทพ สะสมของ สะสมฮาเร็ม เป็นเรื่องสนุกตื่นเต้นมากกว่า

220 Nameless Fanboi Posted ID:U+2jRMJBa

มีใครแต่งแนวตัวเอกมาแม่งเทพแล้วกากลงเรื่อยๆ กันยัง กุจะได้แหกแนว

221 Nameless Fanboi Posted ID:q2hUWaW7J

>>220 มีแล้ว

222 Nameless Fanboi Posted ID:yA9UwKAGc

>>220 มี แต่ไม่มาก มึงจะลองดูก็ได้

223 Nameless Fanboi Posted ID:2r/+J2wsl

>>213 กรรม เรื่องนั้นเราเล็งๆไว้ว่ากะจะอ่าน เจอแบบนี้เปลี่ยนใจแปป 555
พ่อแม่นางร้าย(นางเอก)เป็นเพื่อนราชาและราชาต้องเกรงใจไม่ก็กลัว... นี่ไม่ได้เขียนไปเกิดในเกมจีบหนุ่ม แต่ไปเกิดในโลกแฟนตาซีเฉยๆ แต่กลิ่นไอของแนวนี้เราแรงไม่ใช่เล่น อะไรๆที่เพื่อนโม่งบ่นๆกันว่าเจอบ่อยๆเราก็มีแทบทุกอัน ทำไมรู้สึกเจ็บแปลกๆ 555
>>220 เคยอยากเขียนแนวนี้เหมือนกัน แต่คาดว่าอาจมีนักอ่านเด็กๆด่าไม่มากก็น้อย(ขนาดแค่นิยายมีปมเพิ่มมายังโดนบ่นเบาๆว่าปมเยอะ ทั้งๆที่เพิ่งมีปมแรกมาแบบค่ดเล็ก วอททท 555)

224 Nameless Fanboi Posted ID:VTsV7AYAJ

ชิ เซ็งกูนึกพล็อตใหม่แปบ

225 Nameless Fanboi Posted ID:Ek84eS2Um

กูแว่บไปเที่ยวมาแป๊บเดียวไม่วายทะเลาะกันอีกแล้วห้องนี้
กูเองก็อยากเขียนแนวย่อยง่ายนะ แต่พอเขียนไปเขียนมาเรื่องก็ดันซับซ้อนซะงั้น
>>220 จำได้คร่าวๆ ว่าเรื่องล่าสุดไอ้ฟองเบียร์ก็เป็นแนวๆ นี้ แน่นอนว่าโดนนักอ่านเด็กด่ายับ

226 Nameless Fanboi Posted ID:eQyJXWQPo

>>213 เอาจริง ๆ ดยุคที่มีอำนาจมาก ๆ จักรพรรดิก็อาจจะทำอะไรไม่ได้เลยนะ เช่นจักรพรรดิของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์งี้ คือเป็นจักรพรรดิแค่ชื่ออะจนตอนหลังแพ้สงครามโดนนโปเลียนยุบจักรวรรดิไปเลย(เอาจริง ๆ มันก็จักรวรรดิแค่ชื่ออยู่แล้วข้างในแตกเป็นร้อย ๆ ประเทศมีทั้งพระราชา เจ้าชาย บิชอป ดยุค บลา ๆ เต็มไปหมดจักรพรรดิทำอะไรไม่ได้เลย)

227 Nameless Fanboi Posted ID:eQyJXWQPo

>>226 ต่ออีกนิด อย่างสงครามร้อยปีนี้เริ่มจากการที่กษัตริย์อังกฤษที่มีต้นตระกูลเป็นดยุคแคว้นนอร์มังดียกทัพไปยึดอังกฤษได้แล้วก็เป็นมันทั้งดยุคแห่งนอร์มังดี ทั้งพระราชาแห่งอังกฤษ ทีนี้ตระกูลของพี่แกก็แต่งงานไปมา กลายเป็นว่าดยุคนอร์มังดีมีที่ดินในฝรั่งเศสเยอะกว่ากษัตริย์ฝรั่งเศสตัวจริงซะอีก จนพี่แกคิดจะตั้งตัวเองเป็นกษัตริย์แทนเลย(เพราะมีดินแดนในปกครองเยอะกว่ากษัตริย์ตัวจริงซะอีก)

เอาจริง ๆ เรื่องของอำนาจมันไม่น่าจะขึ้นกับหัวโขนนะ แบบถ้าตำแหน่งเล็ก ๆ แต่มีอำนาจมากก็ไม่แปลกอะสนมลับยังเป็นที่ปรึกษาทางการเมืองได้อะมึง
//นี่กูพูดถึงแค่ส่วนดยุคกับจักรพรรดินะ เนื้อเรื่องดีร้ายยังไงกูไม่ได้อ่าน

228 Nameless Fanboi Posted ID:dvKu2UZ0L

>>226 ทำอะไรไม่ได้ก็ถูกแหละ แต่พอนิยายมันเขียนแบบหน่อมแหน้มไง มีทั้งพุ่งไปทำร้ายร่างกายโจ่งแจ้งหรือปฎิเสธแบบไร้เหตุผลงี้ หมดมาดหมดเลย แบบนี้มันต้องสงครามประสาทสิถึงจะมัน

229 Nameless Fanboi Posted ID:9+YMx3WSF

ถ้ามึงวางฐานสักหน่อยว่าจักรพรรดิทำอะไรดยุคไม่ได้เพราะอะไรก็โอนะ แต่แบบที่โม่งบนๆว่ามา แม่งก็เพลียจริงๆว่ะ

230 Nameless Fanboi Posted ID:kFA1R.cU7

>>226 >>227 HRE แม่งกลายเป็นซากก็ไม่แปลกหรอก เดิมทีก็มาจากการรวมตัวกันหลวมๆ ของพวกอนารยชนอยู่แล้ว ขนาดตำแหน่งจักรพรรดิยังต้องมาจากการคัดเลือกของเหล่ารัฐอิเล็คเตอร์เลย ส่วนของสงครามร้อยปี อันนั้นจะมองว่าราชวงศ์อังกฤษเป็นดยุคแห่งนอร์มังดีอย่างเดียวไม่ได้ เพราะมันพ่วงคำว่ากษัตริย์แห่งอังกฤษด้วย ไม่ใช่แค่ดยุค
ที่เขียนไปข้างบนไม่ใช่ไรหรอก ในนิยายเรื่องพวกนี้คือมันเอาแต่ผิวเผินอะ บอกแต่แค่ว่าตระกูลดยุครวยกว่า แต่ไม่บอกสถานการณ์โดยรวมอื่นๆ อย่างพวกขุนนางคนอื่นๆ มีความเห็นยังไง สนับสนุนฝ่ายไหน ยังไงกูว่าอะ ไม่มีทางที่ทั้งประเทศจะมีขุนนางใหญ่คนเดียว แต่นิยายพวกนี้มันโฟกัสไปที่ดยุคพ่อนางร้ายมีอำนาจกับราชวงศ์เกรงใจอย่างเดียวมันเลยเป็นปัญหา
ปล. กู 213 เองนะ

231 Nameless Fanboi Posted ID:VTsV7AYAJ

GARIAUS : มหาบุรุษแห่งโอดิธัน มีใครสับยังเห็นโฆษณาแม่งทุกที่

232 Nameless Fanboi Posted ID:Dk0uPRpQX

>>231 คนเดียวกับที่เคยถอดเสื้อโชว์โฆษณานิยายตัวเองหรือเปล่าวะ

233 Nameless Fanboi Posted ID:YIZjSwWF.

>>232 อะไรวะ เพิ่งเคยได้ยิน แต่สับก็ดี เห็นเอามาลงถึงโม่งเลย แต่เอาตรงๆ มีเหตุผลนะ ไม่งั้นเดี๋ยวตะหาว่ารังแกเปล่าๆ 555

234 Nameless Fanboi Posted ID:idyPkNL8B

อ่านไม่ได้ศัพท์แล้วจับมากระเดียด

235 Nameless Fanboi Posted ID:HTbYs2Wfw

>>232 คนเดียวกับคนที่วาดแผนที่ด้วย paint ปะ

236 Nameless Fanboi Posted ID:Iqn5H4VBa

>>235 ใช่ ทุกวันนี้กูยังมองไม่ออกอยู่ดีว่าไอ้แม่น้ำดรายของแม่งเป็นแม่น้ำตรงไหน

https://fictionlog.co/c/5a412183ccd9a94d648e918c

แต่มันไม่ได้วาดด้วย Paint นะ มันวาดบนเว็ปทำแผนที่

237 Nameless Fanboi Posted ID:GyRdZMao6

>>236 เจ้าตัวลบเรื่องเก่าทิ้งไปแล้วเรอะ แถมเปลี่ยนนามปากกาส่วนหลังด้วย

238 Nameless Fanboi Posted ID:GyRdZMao6

กรุ >>237 เอง

ลองไปอ่านแล้ว เจ้าเรื่อง gariaus มันก็เรื่องเก่าของคนแต่งนี้ไม่ใช่เรอะ เปลี่ยนชื่อเรื่อง แต่เริ่มเรื่องยังคล้ายเรื่องเดิมเลย

239 Nameless Fanboi Posted ID:VTsV7AYAJ

>>236 นะ นั่นมันทะเลสาบ?

240 Nameless Fanboi Posted ID:G5HL1wW1L

>>239 สัส แม่น้ำดราย ความรู้ภูมิศาสตร์เฮียแกต่ำตมมาก 555555

241 Nameless Fanboi Posted ID:P.BvLTReD

>>236 ขวาบนมีแม่น้ำจระเข้ 3,000 ด้วย

242 Nameless Fanboi Posted ID:iUgMZaubo

>>236 แผนที่โลกแม่งรู้สึกภูมิประเทศส่วนกลางมีขนาดพอๆพื้นที่นครราชสีมาวะ ขั่วโลกเหนือกับขั่วโลกใกล้กันเกิ๊น

243 Nameless Fanboi Posted ID:X9VGRpPnC

>>236 โลกเล็กชิบหายเลย

244 Nameless Fanboi Posted ID:om96Q3lx4

เห็นเพจเด็กดีแม่งแชร์เรื่องนี้

https://writer.dek-d.com/nahero40/story/view.php?id=1725611 ตื่นขึ้นมาพร้อมกับสกิลพระเอก? เเต่ขอโทษ! ผมเป็นฆาตกรโรคจิต!!

กูลองไปอ่านดูละ โคตรเบียว ญี่ปุ่นปลอม ไม่รู้ว่าแอดมินเพจแม่งเอาเกณฑ์อะไรมาเป็นตัวตัดสินใจเลือกเรื่อง เว้นแต่ว่าเรื่องนี้มีแพคตอนขายด้วย หรือว่าเว็บแม่งอยากให้คนไปกดซื้อเยอะๆ เพื่อเอาส่วนแบ่ง เลยแชร์ให้วะ?

245 Nameless Fanboi Posted ID:k/v1Qux1h

>>244 เหมือนที่กูมาบ่นคราวก่อนไง นิยายเบียว ๆ หลวม ๆ แต่ติดขายเหรียญ บอกว่าเป็นนิยายสยองขวัญแต่ไส้ในเป็นหมอผีมีระบบเกมเก็บเลเวล แม่งเอ๊ย

246 Nameless Fanboi Posted ID:xl.2ELDMf

เห็นเรื่อง GARIAUS มาโฆษณาในคอมเม้นเรื่องอื่นด้วยล่ะ เขาโฆษณากันอย่างนี้ก็ได้ด้วยเหรอ

247 Nameless Fanboi Posted ID:iUgMZaubo

>>245 ถ้ากูเป็นแอดมินกลืนไม่เข้าคายไม่ออก นิยายยุคนี้แม่งคุณตะพาบสัสๆ

248 Nameless Fanboi Posted ID:MKm5sd/hq

>>246 ถ้ามีมารยาทก็ไม่ได้ ถถถถ

249 Nameless Fanboi Posted ID:6RIJhPrCb

>>244 เกณฑ์หลักๆที่กูเห็นจากนิยายที่มาโปรโมทนะ
1.ติดเหรียญ
2.ติดท็อป
3.ยอดแฟบ 2,000+

ต่อให้ติดเหรียญเหมือนกันแต่ถ้าไม่เคยติดท็อป ยอดแฟบหลักสิบหลักร้อย เขาก็ไม่เอามาโปรโมทให้เปลืองหน้าเพจว่ะ ไม่คุ้มฆ่าโฆษณา

250 Nameless Fanboi Posted ID:z4/aonfip

แม่งธุรกิจอ่ะ ก็เอาความคุ้มค่าด้านรายได้มาก่อนอยู่แล้ว แต่กูสงสัยว่าแค่ค่าโฆษณามันไม่พอเหรอวะ ถ้าเปนเรทนอก วันนึงก็ว่าเหยียบหมื่นเหยียบแสนusdแล้วนะ

251 Nameless Fanboi Posted ID:LKBpnP6OH

>>250 จริงๆน่าจะมีช่องทางโปรโมตนิยายนะ แบบจ่าย 1000 นึง เรื่องจะขึ้นไปโผล่ที่หน้าแรกบ่อยๆ พวกชอบฝากนิยายจะได้ลดลงบ้าง

252 Nameless Fanboi Posted ID:WAG8JGlAC

>>251 จัดคิวยาก แม่งแย่งกันซื้อ เว็บมาสยิ้มเลย

253 Nameless Fanboi Posted ID:LKBpnP6OH

>>252 กำลังคิดถึงเรื่องขายยอดวิว แบบวิวละบาทอะไรงี้ ถถถ แต่เรื่องนี้ถ้าจะทำก็คงประกาศออกมาตรงๆ ไม่ได้ ถ้ากูหลังไมค์ไปจะได้ปะวะ

254 Nameless Fanboi Posted ID:WAG8JGlAC

>>253 มึงได้เจอการกลับมาของ "เทพกระบี่หลงยุค" แน่นอน นิยายกากใช้พลังเงินเข้าสู้ จะกี่หมื่นทรูกูก็จ่ายไหว

255 Nameless Fanboi Posted ID:om96Q3lx4

>>252 ตอนนี้ที่หน้านิยายส่วนล่าง บางทีมันจะมีคอลลัมน์นึงที่ชื่อประมาณ "นิยายที่ผู้อ่านเรื่องนี้นิยมอ่านต่อ" แล้วก็มีรายชื่อพร้อมลิงค์ประมาณ 4-5 เรื่อง ให้ลองกดไปอ่าน

กูก็คิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าเด็กดีทำแบบป๊อบอัพ หรือคอลลัมน์ท้ายตอนเพื่อใช้โฆษณานิยายเรื่องอื่นที่ยอมจ่ายค่าโฆษณา ก็น่าจะหารายได้เพิ่มได้นะ แล้วก็ใช้ระบบจัดการแบบเฟซบุค ที่ว่าถ้ามึงจ่ายมาก นิยายของมึงก็จะมีโอกาสโผล่ขึ้นมาบ่อย ลดหลั่นกันลงไปตามอำนาจเงินที่มึงเปย์

256 Nameless Fanboi Posted ID:GaMcvioaD

นิยายกูไม่ได้ผุดได้เกิดแน่ ว่าแล้วกูไปเป็นเว็บdeveloper รอเก็บเงินจากโฆษณานิยายดีก่า555 ได้ไอเดียดีย์งาม

257 Nameless Fanboi Posted ID:3kPV8RzO0

เจ๊กัลมีภาคแยกอีกละว่ะ ใครสนใจทดลองอ่านมะ กูชักเริ่มขี้เกียจตามละ อยากให้นางแต่งเปิดเรื่องอื่นไปเลย แต่งภาคแยกแล้วมันรู้สึกว่าจบไม่ลงเท่าไหร่ว่ะ

258 Nameless Fanboi Posted ID:86XXA.J2h

>>257 ชื่ออะไรวะ จะลองไปค้นข้อมูลดู

259 Nameless Fanboi Posted ID:3kPV8RzO0

>>258 The Dagrolet’s Rule

260 Nameless Fanboi Posted ID:86XXA.J2h

>>259 เดี๋ยวนะ ภาคต่อเดรกเกอร์สินะ แล้วเดรกเกอร์ก็จักรวาลเดียวกับเซวีน่าใช่ป่ะ ชักงงจนอยากได้แผนผัง 555

261 Nameless Fanboi Posted ID:6RIJhPrCb

>>260 มีเรื่องบาเรีย มิชชาร์พด้วยนะ

262 Nameless Fanboi Posted ID:3kPV8RzO0

>>260 ไม่เชิงว่าจักรวาลเดียวกัน (สำหรับกูนะ) ต้องเรียกว่ามิติทับซ้อน ที่กูตาม [สมัยเด็กน้อยนู้น]
เริ่มจากโลกเซวี่จบปุ๊บก็โลกมังกร ทีนี้นุ้งฟายด์จากโลกมังกร เป็นลูกตัวเอกจากโลกเซวี่ (ด้วยความสามารถพิเศษของตระกูล ทำให้นางเดินทางไปมิติอื่นได้ จนมาโผล่ในโลกมังกรนี่แหละ)
>>261 เรื่องบาเรีย กูว่ามันก็มิติเดียวกับเซวี่แหละ แต่แค่แต่งเพิ่มเพื่อขยายสตอรี่ออกไป (กูผิดหวังกับบาเรียพอสมควรเลยว่ะ)

263 Nameless Fanboi Posted ID:8JF6/4jgz

>>262 ทำไมกูเห็นคนเขาผิดหวังกับภาคเสริม, ภาคต่อ ของเซวีน่ากันเยอะจังวะ (ถ้าไม่รวมเรื่องที่เขาเขียนฉากเยกันนะ)

264 Nameless Fanboi Posted ID:m36z4RFf3

>>263 สำหรับกูนะมันเหมือนเอาพล็อตเดิมมาแปรสภาพใหม่ ทั้งพระนางมันแทบจะถอดแบบกันมา การดำเนินเรื่องเองก็ไม่ได้อ่านแล้วรู้สึกว้าวแบบอ่านไปละร้องว่าเจ๋งอ่ะ แถมพวกบทรักหรือการจีบกันของตัวเอกรู้สึกได้เลยว่าเป็นการยัดเข้ามาเพื่อให้มีบท สรุปง่ายๆ คือพวกภาคต่อภาคเสริม ในความคิดกูคือยังก้าวข้ามเรื่องต้นไม่ได้ นี่กูยังงงกับตัวเองนะ ทำไมเมื่อก่อนถึงบ้าเห่อตามเค้าวะ555555
ส่วนไอ้ฉากเยกันกูเกลียดมาก ตั้งแต่ 'ปฏิทิน' มาจนเรื่อง 'หาย' กูไม่เข้าใจเลยยัดบทพวกนี้มาทำมะเขือไรวะ มันไม่ใช่หนังสือในหมวดวรรณกรรมเยาวชนหรอ ละเด็กอ่านเรื่องนางก็เยอะนะ ตรงนี้ก็เป็นส่วนนึงให้กูเลิกตามนางอีกเช่นกัน (ถึงจะแว่บไปดูบ้างติสนึงก็เหอะ)

265 Nameless Fanboi Posted ID:aL38nTE+N

>>264 เซม เกลียดฉากเยของปฏิทินมาก ใส่มาทำไม กูอ่านเพลินๆ มาเกือบตลอดเล่ม เจอฉากพวกนี้ไป สะดุดกึก อ่านที่เหลือแบบให้จบๆ ไป แล้วหยิบเล่มใหม่มา หวังว่าจะดีขึ้น... ซึ่งก็ไม่
โดยเฉพาะเล่มสุดท้ายที่แม่งเป็นพี่น้องต่างแม่มาได้กันเอง อี๋มาก

266 Nameless Fanboi Posted ID:JtJVojRio

สงสัยคนเขียนรายนี้ขี้เงี่ยน

267 Nameless Fanboi Posted ID:o1Xqs8z4G

จะไปเหมาว่างั้นก็ไม่ถูกหรอก เขาอาจเขียนเพื่อให้ขายได้เพราะพักหลังมานิยายขายเย, ขายวายจิ้นอัดตูดมันแพร่เยอะ เพื่อความอยู่รอดเลยต้องปรับตัวให้เข้ากับตลาด (ส่วนเรื่องเด็กอ่านเยอะจริงกูนี่เถียงไม่ออก)

แต่เด็กในเว็บสมัยนี้ก็ตัวดีเหมือนกัน ทำตัวแก่แดดไม่สมชื่อเว็บเข้าไปทุกที เป็นเด็กดีที่ไม่ได้ใสเท่าไหร่หรอก

268 Nameless Fanboi Posted ID:bcfYtGlDs

นึกถึงละครน้ำเน่าและหนังพจน์อานน

269 Nameless Fanboi Posted ID:ANkKAjklg

>>264 ช่วยยกฉากเยนั่นมาพอคร่าวๆดิ บรรยายยังไงไม่ให้หลุดกรอบเยาวชนวะนั่น หรือสนพ.เห็นว่าเป็นนักเขียนดังอยู่แล้วเลยกะเอาฐานคนอ่านเดิมเลยไม่เปลี่ยนหมวด

270 Nameless Fanboi Posted ID:m36z4RFf3

>>269 ใจเย็นๆ นะมึง กูบอกว่าหนังสือนั่นอยู่ในหมวดวรรณกรรมเยาวชน ซึ่งไอ้ฉากเยกันเนี่ยไม่ควรมี เพราะเด็กอ่านเยอะ และไม่ว่าจะบรรยายยังไงกูก็ไม่เห็นด้วยกับการยัดเยียดฉากแบบนี้ให้เด็ก ถึงเด็กหลายๆ คนแม่งไม่ได้ใสเหมือนที่ >>267 บอกก็เหอะ แน่นอนว่าฉากพวกนี้พอบรรยายปุ๊บต่อให้สรรหาคำอื่นมาแทน แต่ไม่ว่ายังไงมันก็หลุดกรอบเยาวชนนั่นล่ะ (เพราะงั้นกูไม่ยกตัวอย่างนะ)
ถ้าไม่งั้นควรเขียนเรทให้หนังสือไปเลย (ถึงแม้ว่าเด็กแม่งไม่สนใจก็เหอะ)

ปล. กูเข้าใจคำถามมึงถูกมั้ย บางทีกูก็สับสนกับตัวเอง5555

271 Nameless Fanboi Posted ID:JtJVojRio

มู้นี้โม่งตั้งรึเปล่า https://www.dek-d.com/board/view/3818431/

272 Nameless Fanboi Posted ID:Ja1BNv8R0

สำหรับฉากอย่างว่าจะมีก็ได้ แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องอีโรแล้วละก็ถึงตัดไป เรื่องก็ยังมีอะไรให้สนุกและบิ้วแบบดีๆ ไม่ใช่ยัดเยียดเช้ามาก็โอเค

273 Nameless Fanboi Posted ID:wUfCADqNP

อยากให้ช่วยแนะนำนิยายแฟนตาซีdekdสนุกๆหน่อย เอาประมาณท็อป3ของทักคนก็ได้

274 Nameless Fanboi Posted ID:EhBLNr.4P

>>273 ทำไม่ได้หรอกเพื่อนโม่ง แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเรื่องที่ถูกพูดถึงบ่อยก็จะมี "LAS - ศาสตร์ลับหลอมวิญญาณ" ของนักเขียนชื่อท้องฟ้า กูอ่านแล้วคิดเหมือนโม่งในนี้ว่ามันดีในระดับหนึ่งอ่านได้ไม่ติดขัดอะไรแต่ไม่ประทับใจยังไงก็ไม่รู้แฮะ อ่านจบแล้วไม่ได้แหยงแต่มันก็ไม่ว้าว ปัญหาใหญ่คือการตัดประโยคที่ "ทื่อ" ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูกต้องลองไปอ่านเอง ถ้าลองย้อนไปอ่าน ALL Online จะพบว่าอันนั้นเหมือนเรียงความข้อมูลยัดมาเป็นพักๆ ซึ่งมันแย่กว่าเรื่อง LAS

ส่วนตัวกูตะขิดตะขวงใจตรงที่มันเปิดพล็อตคล้ายการ์ตูนจีนเรื่อง "Doupo Cangqiong" พอกลางเรื่องก็ไปคล้ายนิยายฝรั่งเก่าๆ อีกเรื่องด้วย เพราะจากเพื่อนกลายเป็นศัตรูแล้วอริกลายมาเป็นพวกแบบไม่น่าเป็นไปได้ กูว่ากลิ่นมันแรงมาก พยายามคิดว่ากูอ่าน, ดูอะไรมากเกินไปเลยคิดไปเองว่าไปเหมือนเรื่องนั้นเรื่องนี้ เป็นความผิดของกูที่จมูกไวได้กลิ่นแรงบันดาลใจขึ้นมาเองดื้อๆ สุดท้ายเลยอ่านได้แต่ไม่ประทับใจว่ะ

275 Nameless Fanboi Posted ID:lbICjAejc

>>273 โม่งห้องนี้มีเอาไว้หาจุดติสำหรับนิยายแต่ละเรื่อง เพราะงั้นมันเลยค่อนข้างยากนะที่จะหาว่าเรื่องไหนมันดี

276 Nameless Fanboi Posted ID:V1W26M.mZ

>>275 ไอ้เชี่ย สับมันไม่ได้แปลว่าชำแหละเอาออกมาแต่ข้อเสียป้ะวะ กูว่ามันคือการวิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย นิยายแต่ละเรื่องให้คุณค่าอะไร ดีตรงไหน ขาดอะไรไปบ้าง แล้วก็ให้คำแนะนำอ่ะ ถ้านั่งหาแต่ข้อเสีย คำวิจารณ์มันก็ไม่สมบูรณ์ป้ะ

277 Nameless Fanboi Posted ID:74f9ndRSY

>>274 กูไม่ใช่ 274 แต่จะมาปล่อยลิงค์ https://my.dek-d.com/bran/writer/view.php?id=1368677 ให้ขาจรเข้าไปดู
Doupo Cangqiong ตอนกูอ่านแรกๆ กูก็คิดว่าเออ สนุกดี แต่ช่วงหลังๆ นี่เหมือนอ่าน ตามติดชีวิตเด็กติดยา
เอะอะแม่งยัดยาบัพพลังลูกเดียว

278 Nameless Fanboi Posted ID:EhBLNr.4P

>>277 Doupo มันก็คือนิยายกระแสแบบจีนๆ หาทางลงไม่ได้ก็ให้พระเอกโชว์เทพขึ้นไปเรื่อยๆ คนชอบอ่านอะไรแนวนี้ นี่ขนาดเพิ่งจะเข้าเรียนในโรงเรียนเอง ยังค้างตบรุ่นพี่ ตามหาไฟขั้นที่ OP กว่าที่มีอยู่ พัฒนาระดับพลังจนไปถึงขั้นสูงสุดแล้วตบกับเทพบนสวรรค์ ดีไม่ดีจะได้ตบกับผีอาจารย์ตัวเอง มีอะไรให้เล่นอีกเยอะแยะระหว่างทาง

ส่วนเรื่อง LAS เหมือนจะยืมไอเดียมาแค่ 25% แรกของเรื่อง หลังจากนั้นค่อยเดินเรื่องแบบอื่นต่อก่อนจะกลายเป็น Doupo เต็มตัวไป

279 Nameless Fanboi Posted ID:PBGmuSBgh

Doupoกูอ่านจนแม่งเลิกอ่าน หลังๆเบื่อสัส มึงจะบัฟห่าไรนักหนาเรื่องไม่เดินเลย

280 Nameless Fanboi Posted ID:N1G8zYeN9

>>279 กูยังโอเคตอนที่มันกลับไปสู้กับน่าหลันเอี้ยนหยันหลังครบ 3 ปี แต่พอจบอาร์คนั้นแล้วอ่านไปได้ไม่ถึง 10 ตอนกูก็เลิกเหมือนกันเลอะเทอะเหี้ยๆ

281 Nameless Fanboi Posted ID:dCrxNykvL

ไอ้เรื่อง Doupo ยังสู้พงศวดารภูติเทพไม่ได้หรอก

282 Nameless Fanboi Posted ID:Nq7u7u5U/

>>278 ถาม นิยายพวกนี้จะหาทางลงยังไงให้มันใช้ได้

283 Nameless Fanboi Posted ID:PBGmuSBgh

ว่าแต่พวกมึงลองอ่าน โลกเวทของคาอส ฉบับตีพิมพ์ยังวะ
กูอ่านแล้วแม่ง
https://writer.dek-d.com/GriMMix/story/viewlongc.php?id=1504276&chapter=2

284 Nameless Fanboi Posted ID:X3wB3jvis

>>282 เคยเจอแต่ตัดจบ, พระเอกปราบเทพแล้วครองโลก ไม่งั้นก็พระเอกไม่ไปสู้ศึกสุดท้ายตามนัดแต่ดันหนีไปใช้ชีวิตในชนบทซะงั้น

285 Nameless Fanboi Posted ID:gMdQU79T0

>>282 ก็ตามที่ >>284 บอก คือปาหมอน+ตัดจบ เพราะเนื้อหาจริงๆ มันโฟกัสไปที่ตัวพระเอกอย่างเดียว เหมือนมึงกำลังอ่านเรื่องการผจญภัยของพระเอก ไม่จำเป็นต้องคิดหาทางลงให้ epic ขอแค่คนอ่านได้รู้ว่าสุดท้ายแล้วพระเอกเลือกทางไหนก็พอ (เช่น เป็นเจ้ายุทธภพ หรือเป็นเซียนปลีกวิเวกอยู่หลังเขา)

286 Nameless Fanboi Posted ID:dCrxNykvL

>>285 ไม่ว่าสร้างโลกมายังไง เดินเรื่องกับตอนจบเหมือนกันสินะ

287 Nameless Fanboi Posted ID:dCrxNykvL

หรอ เป็นคำถูกต้องป่ะ https://www.dek-d.com/board/view/3818728/

288 Nameless Fanboi Posted ID:9YhMyZZ8D

>>287 เวลาพวกมึงด่าเรื่องตรรกะเงินบวก กูก็ยังสงสัยว่ามันขนาดนั้นเลยเหรอวะ จนกระทั่งกระทู้นี้ เห็นแล้วก็ได้แต่พยักหน้า เออ จริง

289 Nameless Fanboi Posted ID:W1uUNbos3

>>287 กูใช้ "เหรอ" ตลอดเลย แต่ใช้ตอนตัวละครพูดอะนะ ถ้าในช่วงบรรยายกูจะใช้ "หรือ"
แบบนี้กูต้องแก้เปล่าวะ

290 Nameless Fanboi Posted ID:cs/XUuQF5

>>288 ยังมีอีกเหรอวะ เจอเม้นต์พี่แกในกระทู้แชริตี้ บอกงานบริจาคไม่จำเป็นต้องเขียนดี ไว้ตอนงานขายเอาตังค์ค่อยเขียนดีๆ กูนี้ส่ายหน้าตรรกะเชี้ยชิบ

291 Nameless Fanboi Posted ID:BLNvSC45g

>>288 เอาจริง ๆ แม่งต้องการอย่างเดียว คือทำไงก็ได้ให้ความเห็นฉีกออกจากคนส่วนใหญ่ในกระทู้นั้น ๆ แล้วก็

เละเทะ

292 Nameless Fanboi Posted ID:U3VZqD5d8

อันนี้กูแอบเห็นด้วยกับขุ่นพี่เงินบวกนะ เรื่องวิวัฒนาการของภาษา กูว่าบางครั้งพี่แกก็ตอบได้เข้าทีนะ แต่ก็น้อยอยู่55555
สารภาพตามตรงในงานเขียนกูเองยังใช้ 'หรอ' เยอะมาก ส่วนนึงเพราะกูไม่รู้อ่ะว่ามันผิด แต่ยังดีที่นักอ่านคนนึงมาเตือนว่าต้องใช้ 'เหรอ' ไม่ก็ 'หรือ' เลยพยายามแก้งานอยู่

293 Nameless Fanboi Posted ID:mTCbDx+sa

หรอ นี่มันเพี้ยนเพราะคนเล่นเกมออนไลน์ยุคบุกเบิก ถือเป็นการใช้ภาษาวิบัติที่เก่าแก่มากพอๆ กับคำว่า ก้อ กับ แระ

294 Nameless Fanboi Posted ID:KiATMKYWF

>>283 นี่ต้นฉบับหรือปรับปรุงแล้ววะ (ประโยคที่ตราตรึงใจที่สุดของกูในตอนแรกคือ คนคนนี้!! แข็งแกร่ง!!ว่ะ ไม่รู้ทำไมติดใจชิบหาย 555)

295 Nameless Fanboi Posted ID:tdp/Dj9Ch

Ky บทสรุปดราม่าก็อปนิยายอันโด่งดัง
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1511807935521345&id=165341090168043

ในที่สุดก็มีเคสลอกนิยายที่คนผิดได้รับโทษจัง ๆ และมีคนเข้าใจกันมากขึ้นเรื่องการทำผิดนี้ สนพ.ก็คงระวังเรื่องการกรองงานมากขึ้นนะ

ปล.เห็นละนึกถึงมิกซ์แฟนฟิก แต่นั่นต้องให้ญี่ปุ่นมาเอาเรื่องจริง ไทยไม่มีใครทำไรนางได้ ชะลาล้า

296 Nameless Fanboi Posted ID:pcfCwNvnZ

>>295 คนนี้กูเทตั้งแต่มีดราม่าอ่านก่อนไปละ นิสัยแม่ง...

297 Nameless Fanboi Posted ID:VcOkFMFdW

>>296 ดราม่าไรวะ

298 Nameless Fanboi Posted ID:pcfCwNvnZ

>>297 เซิร์จว่า คฤหาสน์กลางไร่เผือก ละหาอ่านดู

299 Nameless Fanboi Posted ID:gMdQU79T0

>>295 ไม่ได้ตาม สรุปให้หน่อยได้ไหมว่าก๊อปเนี่ย ก๊อปเหมือนขนาดไหน คือถ้าไม่ถึงขนาดคัดมาคำต่อคำเนี่ย ก็ยังพอมีโอกาสสู้คดีแล้วชนะอยู่เหมือนกันนะ ต่อให้การดำเนินเรื่องจะเหมือนกันตั้งแต่ต้นจนจบ แต่สำนวนต่าง ชื่อพระเอกนางเอกและสถานที่ต่าง บทพูดไม่เป๊ะ ถ้ากูเป็น สนพ. ของจำเลย กูสู้นะ ปล่อยให้ฟ้องเลย แล้วไปวัดกันในศาล

แต่ถึงขนาด สนพ. ที่พิมพ์นิยายก๊อปไม่ดันนักเขียนให้สู้เนี่ย ทำให้อยากจะรู้เลยว่าแม่งก๊อปมาถึงขั้นไหน ถึงได้คิดว่ายังไงก็แพ้

300 Nameless Fanboi Posted ID:CWvorGPeY

>>299 เหมือนเกือบหมด เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนคำนิดหน่อย แต่ลองเอามาวางเทียบหน้าต่อหน้าคือใช่

301 Nameless Fanboi Posted ID:/gNVIA4EL

>>299 อะ แบบเปรียบเทียบ https://www.facebook.com/naragade/photos/a.165543253481160.26871.165341090168043/1426381297397343/?type=3&theater

302 Nameless Fanboi Posted ID:latKpN06p

>>301 สัส copy-cat

303 Nameless Fanboi Posted ID:gMdQU79T0

เผื่อใครอยากสับนิยาย กูแนะนำเรื่องนี้ https://writer.dek-d.com/buyjung/story/view.php?id=1724086 !!! + มากเมฆ ออนไลน์ + !!!

ความเหี้ยของมันคือแม่งทำให้กูอ่านได้แค่ 5 ย่อหน้าของบทที่ 1 จากนั้นกูก็รู้สึกเจ็บตา เลยต้องปิดไป และความเหี้ยต่อมาคือ ไอ้เรื่องเหี้ยนี่แม่งเสือกติดท๊อป ได้ที่ 2 ในหมวดเกมออนไลน์ เป็นรองนิยายของไอ้ปากกาแดงดำคนเดียว

ความสะเหล่ออันดับแรกคือชื่อเรื่องนี่แหละ !!! + มากเมฆ ออนไลน์ + !!! มึงจะตกใจอะไรกันนักหนา หรือมึงคิดว่าชื่อเรื่องคือชื่อ msn ไอ้สัส คิดว่าใส่เครื่องหมายตกใจแล้วมันจะเปลี่ยนเป็นแถบสีหรือห่าอะไรทำนองนี้เหรอ ความสะเหล่ออันดับที่ 2 คือเรื่องนี้เซ็ตติ้งอยู่ใน พ.ศ. 4444 โคตรเบียว ทำไมต้อง 4444 วะ? คิดว่าเท่เหรอไอ้สัส เรื่องต่อมาคือแม่งใส่บทนำไว้ในหน้าข้อมูลเบื้องต้น พออ่านไปแล้วรู้สึกว่าโคตรตลก ไม่ต้องพูดถึงสำนวนประหลาดๆ ที่ใช้ เอาแค่เนื้อหาในนั้นก็ตลกแล้ว

1. แม่งบอกว่าเกมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ 3 เกม จะรวมกันเป็นเกมเดียว เกมแรกชื่อ cosmos online เกมที่สองชื่อ magic online ส่วนเกมที่สามชื่อ asia fantasia online ไอ้สัส ชื่อแม่งโคตรเห่ย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีบริษัทเกมที่ตั้งชื่อได้อุบาทว์ขนาดนี้ หรือว่านี่คือการตั้งชื่อแบบสมัยนิยมใน พ.ศ. 4444 วะ?

2. และชื่อเกมใหม่หลังจากเอาไอ้ 3 เกมนั่นมารวมกัน คือ "สามพิภพออนไลน์" ไอ้สัส ไอ้เหี้ย แม่งตั้งชื่อไม่เกรงใจกันเลย ขอร้องเหอะไอ้บอริสัดเกม มึงจะตั้งชื่อเหี้ยอะไรก็ขอให้คำนึงถึงความสอดคล้องบ้าง คอสมอส+เมจิก+เอเชียแฟนตาเซีย = สามพิภพออนไลน์ สัส

3. วงเล็บไว้ตัวเล็กๆ ท้ายบทนำว่าเป็นแนวพระเอกเทพเวอร์ ไม่ชอบขอให้ผ่านเลย

4. อันนี้อยู่ในบทที่ 1 พระเอกชื่อเมฆาเทพ เกิดในตระกูลโคตรมหาเศรษฐีที่ยิ่งใหญ่และมหาอำนาจสัสๆ แต่ปูมหลังแม่ง wtf มาก ตอนอายุได้ 2 ขวบมันถูกทิ้งให้อยู่กับแม่นม พอ 8 ขวบก็โดนตระกูลตัวเองจับไปทดลองจนป่วยเป็นโรคร้าย พออายุได้ 12 ก็ถูกขับออกจากตระกูลอีก แม่งเอ๊ย น่าสงสารสัสๆ คือสงสารตัวกูเนี่ย ว่ากำลังอ่านเหี้ยอะไรอยู่ เบียวจังโว้ยยย

พอ

304 Nameless Fanboi Posted ID:uC+MVMx94

>>303 แค่อ่านความเห็นของมึงเซลล์สมองกูก็เกิดการต่อต้านแล้ว ถ้ายังฝืนไปอ่านเซลล์สมองกูต้องฆ่าตัวตายหมู่ประท้วงแน่นอน

305 Nameless Fanboi Posted ID:rkRx1d1Uj

>>301 หน้าด้านสุด ๆ ว่ะ ก๊อปซะขนาดนี้ มันไม่ยืมต้นฉบับเขาเอาไปขายเลยวะ

306 Nameless Fanboi Posted ID:/N7cyqGPq

>>303 สงสัยว่าที่พูดมาจะจริงไหมเลยกดเข้าไป..
ผลคือ นี่เป็นเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกย้อนแย้งในตัวเองได้สุด ๆ เลยล่ะ คือก็ไม่ได้อะไรหรอกนะแต่เท่าที่อ่านมาจากบทแรก (ไม่นับบทนำ)

1. ถ้าถูกปฏิบัติแบบไร้ตัวตนมาตลอดแล้วทำไมที่บ้านถึงส่งเงินมาให้อยู่? ทั้ง ๆ ที่ย่อหน้าต่อ ๆ มาก็บอกว่าตระกูลลงความเห็นว่าเขาไร้ค่าและไม่ควรจะเสียเวลากับขยะชิ้นนี้? อ้าว ถ้าถ้าไร้ค่าแล้วทำไมถึงยังส่งเงินมาให้อยู่ล่ะ?? ไม่เปลืองเงินแย่เหรอ???

2. ย่อหน้าหนึ่งบอกว่าไม่เคยมีเพื่อนแต่ย่อหน้าต่อมาบอกว่ามีเพื่อนเป็น AI เก่า ๆ ?

3. ตกลงจะเขียนว่า AI หรือเอไอ เลือกสักอย่างหน่อยไหม?

4. มากกว่า มากว่า มากว่า ... มากกว่า ตอนแรกจะไม่ทักนะแต่อดไม่ได้ จิตวิญญาณนักหาคำผิดมันตื่นขึ้นมาแล้ว

5. ปัญญาประดิษฐ์จะสามารถทำสิ่งอื่นนอกเหนือจากที่เจ้านายสั่งได้ด้วย?? ห๊ะ???

สรุปคือ เอ๊อะ??? เด็ก ๆ ชอบอ่านอะไรแบบนี้เหรอ เราว่าเราก็ไม่ได้แก่มากถึงขั้นไม่เข้าใจตรรกะเด็กนะ แต่??? ติดท็อปได้ไง??? แค่พระเอกเทพก็ผ่านเกณฑ์แล้วเหรอ???

307 Nameless Fanboi Posted ID:latKpN06p

>>303 กูเคยอ่านแล้ว อ่านข้อมูลเบื้องต้นมัน

ไอ้ชื่อเรื่องกับพศ.ห่าไรนั่นไม่เท่าไร แต่กูจ้องใจว่าทำไม3เกมแรกแม่งยุโรป พอรวมกันแล้วแม่งออกทามตะวันออกวะ

308 Nameless Fanboi Posted ID:81MonKBMJ

>>303 คนเขียนไม่น่าจะเคยเล่นเกมออนไลน์สักเกม แถมพระเอกไม่ใช่สายเทพแล้ว ดาร์ดวอนนาบีชัดๆ

309 Nameless Fanboi Posted ID:oNxE915oB

>>303 กูเข้าไปดู เห็นชื่อตอนที่47ของมัน ประกาศเกี่ยวกับที่มันโดนก๊อปนิยาย กูรู้สึก เอิ่ม...ยังจะมีคนก๊อปมันอีกเหรอวะ 555

310 Nameless Fanboi Posted ID:bymaQIC.M

>>303 อ่านถึงคำว่าสเปซโคโลนีนี่ภาพโคโลนีตกลอยเข้ามาในหัวเลย โบ้มมม

เผื่อคนไม่เก็ต >>>> https://vignette1.wikia.nocookie.net/gundam/images/c/c0/Sydney_Colony_Drop_Unicorn.png/revision/latest?cb=20170714233128

311 Nameless Fanboi Posted ID:dt1GD+Okc

>>309 เฮ้ย มึง ก็ที่สองหมวดเกมออนไลน์อ้ะ 555

312 Nameless Fanboi Posted ID:L.gPeaXqa

>>303 นี่ก็คิดแบบ เอ ที่สองทั้งทีเขาต้องมีอะไรดีสิเลยเข้าไปอ่าน อ่านได้สองย่อหน้าที่บทนำหน้าบทความนี่ก็รู้สึกไม่อยากอ่านต่อละ 555 มีความย้ำในความยิ่งใหญ่ของทั้งสามเกม มีความเบียวอย่างไม่ทราบสาเหตุ สองหมื่นล้านคนเลยรึ เหยดดดด
คือนี่กำลังตัดสินใจเปิดนิยายแนวเกมออนไลน์ไง เจอแบบนี้เข้าไป...รู้สึกลังเลไงไม่รู้ 555 เปิดไปก็คงไม่ได้เกิด เดี๋ยวก็กลายเป็นนิยายในซอกหลืบเหมือนเดิม เฮ้อ

313 Nameless Fanboi Posted ID:Mn3w88Mf9

>>312 อย่าเปิดเลย นอกกระแสในหมวดกระแสอะดับยิ่งกว่าเขียนแนวนอกกระแสจริงๆ อีก แค่เห็นไอ้เรื่องหัวควยนี่ติดท็อปก็น่าจะรู้คุณภาพของนักอ่านได้แล้วนะ

314 Nameless Fanboi Posted ID:L.gPeaXqa

>>313 นั่นสิ นี่ก็คงไม่ได้เปิดหรอก เพราะมันก็ไม่ได้แนวกระแสซะทีเดียวจริงๆนั่นแหละ เปิดไปก็ดับยิ่งกว่าดับ ดับในดับ(?)
เป็นแนวเกมแบบแนวopen world ยิงซอมบี้ เครื่องเล่นที่ใช้ก็เป็นวีอาร์นี่แหละ แต่ไฮเทคกว่าไรงี้ ตัวนำก็เป็นผู้หญิงอีก
ก็เป็นแนวสนองนี๊ดแบบนางเอกเทพไรงี้นะ แต่ก็นั่นแหละ แค่ไม่ใช่เกมเก็บเวล พระเอกเทพเราว่าโอกาสเกิดน่าจะยากแล้วล่ะ
พูดแล้วก็เศร้า เขียนเองอ่านเองก็ได้วะTwT

315 Nameless Fanboi Posted ID:g9rJsoO0w

ถ้านิยายเกมออนไลน์ที่กูคิดว่าดีนะ error online นี่โอเคเลย แต่คนเขียนแม่งดองไปล่ะ

316 Nameless Fanboi Posted ID:AZpdhkvQa

>>303 แค่ อ่านก็ รู้สึกว่า ทำไมเว้นวรรค ประหลาด จัง

317 Nameless Fanboi Posted ID:81MonKBMJ

ว่าด้วยนิยายเกมออนไลน์ พวกมึงไม่แปลกใจกันบ้างเรอะว่าทำไมต้องเป็น vr ไม่สนใจ ar เรอะ

318 Nameless Fanboi Posted ID:wQh.5Hbva

ทำไมไม่มีนิยายเกมออนไลน์ที่ทำพวก grand strategy games

319 Nameless Fanboi Posted ID:Mn3w88Mf9

>>318 ช่วยดูระดับสติปัญญาของตลาดด้วย

320 Nameless Fanboi Posted ID:OoOnO.Bdm

>>318 กูเคยอ่านเรื่องนึงแว่บๆ เห็นมีคนในเด็กดีเคยเขียนนะ

321 Nameless Fanboi Posted ID:zJcCaJeSF

>>319 พูดได้ดี

322 Nameless Fanboi Posted ID:0r/oJuOne

>>321 ได้ดี

323 Nameless Fanboi Posted ID:OS92h9OTC

กูอยากลอง เพราะตอนนี้กูติดเกมแนวนี้อยู่...แต่...
มันต้องสร้างโลกเกมใหม่เลย กูขี้เกียจ

324 Nameless Fanboi Posted ID:/Uy..TD7e

>>319 กูเห็นด้วยว่ะ พวกนิยายที่ใช้สมองและให้คิดตามมาก ๆ มันไม่ค่อยมีใครอ่านกันว่ะ เด็กดวกชอบอ่านที่มีฉาก ฉัว ฉัว กุดุส กุดุส เยอะ ๆ

325 Nameless Fanboi Posted ID:6NpEw9/LX

ฉัน = ชั้น?
https://www.dek-d.com/board/view/3819152/

326 Nameless Fanboi Posted ID:6ter4mxZQ

>>325 ฉันเป็นคำที่ถูกต้อง จำได้ว่าเคยอ่านเจอนักแปลคนหนึ่งแม่งปรี๊ดแตก ด่าราชบัณฑิตกราดๆ ว่าทำไมใช้คำว่า "ชั้น" แทนคำว่า "ฉัน" ไม่ได้ แล้วก็มีวาทะเด็ด บอกว่า มีคนไทยคนไหนพูดว่า "ฉัน" ด้วยเหรอ

พอโดนท้วงว่า คนแถบอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี สุพรรณบุรี เขาก็พูด "ฉัน" กันทั้งนั้น มีแต่คนกรุงเทพที่เอามาแผลงจนนึกว่าสำเนียงตัวเอง "ไทย" ที่สุดแล้ว นักแปลคนนั้นแม่งเลยหน้าม้าน ต้องแถข้างๆ คูๆ ต่อไป หมดราคาจริงๆ ถถถ

327 Nameless Fanboi Posted ID:IPvx2rB+1

อิเหี้ยนี่ก็ขยันโปรโมทเนอะ อีวงกลมอันพิศวงเนี่ย กูเห็นแม่งอวตารมาแปะในบอร์ดทุกวัน แม่งขยันเขียนนิยายงี้ป่าววะ
https://www.dek-d.com/board/view/3819368/

328 Nameless Fanboi Posted ID:IPvx2rB+1

>>326 กูขอเสริมนิดนึงพอดีเห็นพูดถึงนักแปล ส่วนตัวกูก็รู้จักนักแปลอยู่คนนึง ในนิยายของมัน (มันเขียนนิยายด้วยนะ) แม่งใช้คำว่า 'มั๊ย' นะ ไม่ใช่ 'ไหม' กูสงสัยนะว่า แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ แต่ขี้เกียจไปขัดมัน เดี๋ยวเจอมันย้อนว่า ไม่ใช่นักแปลอย่าเสือก กูเข้าใจนะว่า ประโยคสนทนา สามารถแทนคำให้ตรงกับที่ออกเสียงได้ แต่แม่งแปลก ๆ ป่าววะ ในฐานะคนเขียนนิยาย กูรู้สึกว่า ยังไงแม่งก็ไม่ได้ว่ะ แล้วตกลงแม่งได้รึเปล่าวะ พวกมึงช่วยบอกกูที

329 Nameless Fanboi Posted ID:gUgoarGTf

>>327 กูว่าจะถามพอดี แม่งเปนเหี้ยอะไรกุถึงได้เจอมันที่หน้าแรกทุกครั้งวะ ไอ้คนที่มาเม้นสองคนแม่งก็อวตารมันควย กูเคยเปิดเจอipมัน

330 Nameless Fanboi Posted ID:Lh0UUJrq+

>>329 ถ้ามันแปะแล้วอัพกูคงไม่คิดมาก แต่นี่ไม่อัพไรเลยแล้วโฆษณาหาพ่อง

331 Nameless Fanboi Posted ID:S9ScOQEXu

มันแปะเพลงแม่งทุกบทเลยป่าววะ เรื่องแบบนี้มีfavเกือบ3kได้ไงวะ

332 Nameless Fanboi Posted ID:IZ74ZdCrO

หรือจริงๆพวกเราติดการนินทากันเป็นสันดานแล้ว

333 Nameless Fanboi Posted ID:vqCC0iENF

>>332 พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า 'ไม่มีมนุษย์คนใดไม่เคยถูกนินทา' นั่นแสดงว่า มนุษย์ทุกคนต้องนินทา มากน้อยต่างกันไปแล้วแต่สันดาน
อันนี้เอาความจริงเลย ปกติกูก็เป็นคนธรรมดา ที่เห็นอะไรชอบไม่ชอบก็ต้องเก็บไว้ในใจ รวมทั้งการแสดงความเห็นบางอย่างในบอร์ดเด็กดวก ซึ่งบางทีก็ไม่ได้ออกมาจากก้นบึ้งของใจกูจริงๆ แต่กับที่นี่ กูรวมทั้งหลายๆคน ใส่ได้เต็มที่ เพราะไม่มีใครรู้ตัวตน เป็นเหตุผลที่กูชอบที่นี่นะ ระยะหลังกูมาสิงที่นี่มากกว่าบอร์ดเด็กดวกอีก เพราะงี้แหละ
นี่กูสาระมากไปป่าววะ สัส วันจันทร์ตื่นเช้าไปทำงาน เข้าสู่โหมดชีวิตจริงจัง

334 Nameless Fanboi Posted ID:bmOnzuj66

งั้นขอนิมนต์พระพุทธเจ้าไปใช้มู้นินทานะครับ เพราะนี่มู้นิยาย

335 Nameless Fanboi Posted ID:cdZopZhog

>>328 ถ้ามันไม่มีผลห่าอะไรกับเนื้อเรื่อง กูก็คิดว่าควรใช้คำที่ถูกตามหลักนะ ไม่ใช่เขียนเอาตามเสียง ที่ว่ามีผลกับเนื้อเรื่องนี่หมายถึง ตัวละครตัวนั้นติดรูปแบบการพูดแบบนั้นมาทำให้ต่างออกไปจากชาวบ้าน ก็อาจอนุโลมให้ใช้คำพวก "ชั้น" "มั้ย" "งัย" ได้

336 Nameless Fanboi Posted ID:amNNsdjtS

>>328 ถ้าเป็นประโยคสนทนา ได้สิ ทำใมจะไม่ได้ละ

ประโยคสนทนาเป็น "ภาษาพูด" ของตลค. อยากพูดยังไงก็ใส่ไปยังงั้นได้เลย เขียนประโยคผิดๆ ให้ยังได้ เพราะถือเป็นคาร์หรือสถานการณ์ของตลค. อย่างติดอ่าง พูดผิด หลุดปาก ล้อเลียน ฯลฯ เขียนได้ตามสบาย

337 Nameless Fanboi Posted ID:SmFlAY+o4

ตกลงนิยายเป็นภาษาเขียนหรือภาษาพูดวะ

338 Nameless Fanboi Posted ID:amNNsdjtS

>>337 บรรยายเป็นภาษาเขียน สนทนาเป็นภาษาพูด

339 Nameless Fanboi Posted ID:J7ufqcyQS

>>338 ภาษาพูดนี่ รวมภาษาสก๊อยไหม ถ้าสมมตืตัวละครกูเป็นสก๊อยล่ะ

340 Nameless Fanboi Posted ID:vIxjSgvV0

ภาษาพูดมันใส่ได้ แต่มันได้ไม่เยอะ ถ้าเป็นไปได้อย่าไปใส่มาก แต่ถ้าเขียนเอามันไม่ได้จะส่งที่ไหนก็ใส่ไปเหอะ
แต่ถ้าคิดจะส่งตีพิมพ์ เจอสำนักพิมพ์ที่เข้มจริง ๆ มึงโดนตีกลับหมดแหละ
นักเขียนที่เขาเชี่ยว ๆ มักจะเลี่ยงคำเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางคนเข้มขนาดไม่ใช้คำว่า "ยังไง" เลยนะ
ถามว่าอ้าว แล้วจะได้อรรถรสเหรอวะ
เนี่ย ความท้าทายมันอยู่ตรงนี้!!
มึงจะทำยังไงให้เขียนไปแบบไม่ใช้ภาษาพูด แต่ให้ได้ความรู้สึกที่เป็นภาษาพูด มันเป็นชาร์เลนจ์นะ

341 Nameless Fanboi Posted ID:uinb+QagT

>>340 กูอ่านนิยายภาษาอังกฤษเขาก็พูดภาษาพูด ภาษาแสลง ภาษาเฉพาะถิ่นตามพื้นฐานตลค.นะ แต่มันคนละภาษาคนละสนพ. เทียบกันยาก

342 Nameless Fanboi Posted ID:2FNZo8EvX

>>339 เคยอ่าน No Game No Life เล่ม 2 มีช็อตนึงที่จิบิลพูดด้วยภาษาสก๊อยเต็มพิกัด (คนแปลก็อุตส่าห์ไปเขียนภาษาสก๊อยบ้านเราเข้าไปได้เนอะ) เช่นเดียวกันเรื่อง นายแบงค์ฯ เล่ม 2 ตัวละครก็พูดภาษาคันไซกัน (คนแปลก็ยัดภาษาอีสานบ้านเราเข้าไปโลด) ตอนนั้นเองทำเอากูรู้เลยว่า ถ้าช่วงบทสนทนาจะใส่อะไรก็ใส่ไปเถอะ มันสามารถบ่งชี้ได้ถึงระดับสติปัญญา พื้นเพและชาติพันธุ์ของตัวละครนั้นๆ ด้วย

343 Nameless Fanboi Posted ID:YTJRUslqZ

>>342 กูเคยทำตามที่มึงบอก ผลก็คือก่อนจะตีพิมพ์ บก. แม่งให้แก้ทั้งเรื่อง หลังจากนั้นกูก็ไม่ยอมใช้ภาษาพูดในนิยายของกูอีกเลย

จริงอยู่ว่าเรื่องวิบัติเพื่อเสียงหรือวิบัติเอาฮามันทำให้คนอ่านบางส่วนเข้าใจหรืออินเนื้อเรื่องจังหวะนั้นได้ดีขึ้น แต่มันใช้ไม่ได้กับงานตีพิมพ์ที่กูรู้จักว่ะโม่ง คือตอนนี้ไม่รู้ว่า สนพ. หลาย ๆ แห่งจะตกต่ำลงหรืออะไรไม่แน่ใจ นอกจากภาษาพูดแล้วคำผิดกับภาษาวิบัติยังเห็นได้ในนิยายตีพิมพ์อยู่เลย

344 Nameless Fanboi Posted ID:IZ74ZdCrO

>>340

จะให้ฉันทำอย่างไร
จะให้ถอนใจจากเธอ
ก็คงสายจนเกินไป
แต่ถ้าฉันจะไปต่อ
ก็ไม่เห็นหนทางจะไป
ไม่มีหวังอะไรอยู่เลย

345 Nameless Fanboi Posted ID:2FNZo8EvX

>>343 อันนี้ปัญหาอยู่ที่ บก. หัวแข็งแล้วล่ะเพื่อนโม่งเอ๋ย เพื่อนกูเคยแปลงานใน สนพ. นึง ใช้ภาษากลางที่คนทั่วไปรู้จักแต่ก็ยังโดนแก้ให้ไปใช้ภาษากู (บก.) เช่นเดียวกัน

346 Nameless Fanboi Posted ID:SmFlAY+o4

>>345 บก.คนนั้นไม่ใช่คนภาคกลางเรอะ

347 Nameless Fanboi Posted ID:gZ5c58CS4

>>345 ภาษากูที่ว่านี่คือตามราชบัณฑิตรึเปล่า มันมีการขอความร่วมมือให้ภาคสิ่งพิมพ์ใช้ภาษาไทยตามราชบัณฑิตอยู่นะ

348 Nameless Fanboi Posted ID:EnZWW.bTP

ky ตอนนี้กูกำลังหานิยายแนวถูกอัญเชิญไปต่างโลก [แบบหมู่ยกห้องเรียน] มาอ่านอยู่ เพราะกูว่าจะลองแต่งแนวพวกนี้เลยอยากหาอ่านของคนอื่นๆ ดูมั้ง
ปล.นี่กูตกกระแสหรือเปล่าวะ

349 Nameless Fanboi Posted ID:KefAYpKp6

>>348 ตกรถไป 2 - 3 ปีนะเพื่อนโม่ง ตอนนี้แนวที่กำลังฮิตมันกลายเป็นเกิดใหม่ย้อนเวลาจีนโบราณ แต่จะแต่งก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก

350 Nameless Fanboi Posted ID:bdOCT7NX3

>>349 หมายถึงแบบไหนวะ เกิดใหม่ไปยุคจีนโบราณแบบเนี้ยเหรอ

351 Nameless Fanboi Posted ID:SmFlAY+o4

>>348 ลองดู Battle Royale เกมนรก โรงเรียนพันธุ์โหด แค่เปลี่ยนสถานที่เป็นต่างโลก

352 Nameless Fanboi Posted ID:KefAYpKp6

>>350 ตายในโลกปัจจุบันด้วยสาเหตุโง่ๆ พระเจ้าให้พลังพิเศษเทพๆ ติดตัวไว้ แล้วย้อนเวลาไปเกิดใหม่ในยุคจีนโบราณ เพื่อความแมรี่ซูค้องยังมีความทรงจำเดิมในชาติก่อนมาตั้งแต่เกิด ถ้าอยากผสมแนวนิยมอีกแบบก็ใส่ให้ตัวเองเป็นนางร้ายเป็นจอมมารอะไรก็ว่าไป เพื่อนๆ ในกลุ่มก็เข้าร่วมเป็นพวก โชว์เทพรัวๆ จนสมดุลสเกลพลังของเรื่องพัง หน้าแรกต้องมีระดับพลังด้วยนะมึง ระดับทหาร 1-100 กษัตริย์ 1-100 เทพเจ้ามาวิน 1-100 อะไรก็ว่าไป (แต่ตัวเอกมึงต้องได้ระดับมหาเทพผู้สร้างจักรวาล ขั้น 100 มาตั้งแต่แรกเลย) ใส่อะไรอีกทีที่เบียวๆ ซูๆ รับรองติดท็อปแน่นอน 555555555555

353 Nameless Fanboi Posted ID:SmFlAY+o4

>>352 เสริม และมักจะตัดจบหรือลอยแพ เพราะจบหาความประทับใจยากมาก

354 Nameless Fanboi Posted ID:bdOCT7NX3

>>352 ไอสัส กูโคดเกลียดเลยไอ้ระดับพลังเนี่ย 5555555555

355 Nameless Fanboi Posted ID:KefAYpKp6

>>353 เห็นจบอยู่เรื่องที่เป็นไลท์โนเวลชื่อ Arifutera ตอนโดนอัญเชิญไปทั้งห้อง แต่หลังจากจบอาร์คแรกกลายเป็นเหลือแค่พระเอกโชว์เทพเก็บหญิงเข้าฮาเร็ม ตอนจบก็กลับโลกพร้อมเมียเป็นขโยงกับลูกบุญธรรม (แล้วมึงจะเอาเพื่อนมาทำไมตอนแรก)

อีกเรื่องคล้ายๆ กันก็ Dungeon Seeker โดนวาร์ปมาพร้อมเพื่อนแล้วโดนเพื่อนหักหลังเหมือนกัน จบอาร์คแรกพระเอกกลายเป็นไอ้หนุ่มมืดมนคนเอจจี้เหมือนกันอีก ต่างกันนิดหน่อยตรงเรื่องนี้แม่งหาทางฆ่าเพื่อนในห้องระหว่างเดินเรื่อง

356 Nameless Fanboi Posted ID:gZ5c58CS4

กูชอบดูหนัง อ่านนิยายฝรั่ง จะบอกว่ามันมีพล็อตน่าลอกเยอะมาก เป็นพล็อตเทพๆ ที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่น่าจะเคยได้เห็นแน่ๆ ก็เคยคิดนะว่าอยากจะไปลอกนิยายฝรั่งมาเลย แต่เปลี่ยนบริบทให้เป็นไทย น่าจะเอามาส่งสำนักพิมพ์ขายได้ (นิยายรัก)

357 Nameless Fanboi Posted ID:OLnc5gHBw

>>355 กู 248 นะ กูได้แรงบันดาลใจอยากเขียนจากเรื่อง Arifutera แต่เฉพาะเรื่องอัญเชิญหมู่ทั้งชั้นเรียนนะ เรื่องอื่นๆ อย่างฮาเร็มและแดกมอนเอาสกิลกูไม่อยากจะเอา เลยอยากจะหาดูว่าเรื่องอื่นๆ เขามีหนทางให้พระเอกเก่งขึ้นยังไงบ้าง
Dungeon Seeker นี่ก็เคยอ่านนะ แต่เหมือน Arifutera อะแหละ พอรู้ว่าแดกมอนเอาสกิลกูก็เลิกไม่ตามต่อเลย...

358 Nameless Fanboi Posted ID:vooOiPoxF

>>357 ลองอ่านพล็อตนี้ดีกว่า ไม่ Edgy เบียวๆ แบบ Arifutera และเรื่องที่ลอกมาอย่าง Dungeon Seeker ด้วย

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=918813141619756&id=547541355413605

วันที่ 22 เดือนกรกฎาคม 2015

โรงเรียนมัธยมปลายฮิโรฮาชิและเหล่าบุคลากรของโรงเรียนไม่ว่าจะเป็นครูอาจารย์ หรือนักเรียนทั้งหลายกว่า 494 คนได้หายสาบสูญไปอย่างเป็นปริศนา หลงเหลือไว้เพียงรูโหว่ขนาดยักษ์ที่ปรากฎขึ้น ณ จุดที่เคยมีโรงเรียนตั้งอยู่ แม้ทางรัฐบาลและกรมตำรวจจะรีบเร่งทำการสำรวจค้นหาอย่างไรก็ไม่พบร่องรอย จนกระทั่ง--

--30 วันให้หลัง โรงเรียนฮิโรฮาชิที่หายสาบสูญไปก็พลันปรากฎขึ้น ณ ตำแหน่งเดิมที่มันเคยอยู่ ผลจากการสืบสวน พบว่าในจำนวน 494 คน ได้มีตัวเลขผู้เสียชีวิตไปในเหตุการณ์ปริศนานี้มากถึงกว่า 200 คน---

นักเรียนและบุคลากรของทางโรงเรียนได้ให้ปากคำว่า 'พวกตนเองได้ถูกผู้ใช้เวทมนตร์ลึกลับที่เรียกตัวเองว่า [ทาทา] พาตัวไปยังต่างโลก' ---แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อคำพูดพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นกรมตำรวจ รัฐบาล หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเหล่านักเรียนเอง แต่กระนั้นก็ไม่มีใครทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่อีกเช่นกัน

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ที่จะถูกกล่าวขานกันว่าเป็น 'เหตุการณ์คนเป่าขลุ่ยแห่งฮาเมลิน' ---เหล่านักเรียนที่รอดชีวิตกลับมาได้ต่างก็มุ่งมั่นพยายามพัฒนาตนเพื่อไปสู่อาชีพที่ตนเองใฝ่ฝัน--ไม่มีนักเรียนที่ย่อท้อ หรือเป็นแผลใจเก็บตัวเองอยู่ในห้องอย่างที่ใครๆคาดคิดกันเลยแม้แต่คนเดียว

สาเหตุก็คงเป็นเพราะ 'ความยากลำบาก' ที่พวกเขาได้พบเจอใน 'ต่างโลก' ในระหว่างช่วงหนึ่งเดือนได้เปลี่ยนแปลงหล่อหลอมพวกเขาให้พร้อมจะรับมือกับความเป็นจริงกระมัง----

และนี่คือเรื่องราวของหยาดเหงื่อและน้ำตาของเหล่ากลุ่มคนที่เฝ้าต่อสู้ ดิ้นรนตลอดเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆเพื่อมีชีวิตรอดกลับสู่โลกเดิม--เหตุการณ์ที่ช่วยให้เหล่าเด็กน้อยพร้อมที่จะมุ่งตรงสู่อนาคต

.
.
.

เรื่องนี้จะใช้บทบรรยายเหมือนเรากำลังอ่านหนังสือครับ ในบริบทคือเรา (คนอ่าน) กำลังอ่านหนังสือที่พี่ชายของตัวเอกเรื่อง (อาโอกิ ฮิโรชิ) เป็นคนเขียนขึ้นมา มีการบรรยายพร้อมใช้พวกไดอารี่หรือปากคำของเด็กที่รอดชีวิตมาได้ประกอบเป็นช่วงๆ แต่เขียนได้อย่างลื่นไหลและได้ฟีลลิ่งมาก ไม่ต้องห่วงเรื่องคำบรรยายครับ

สรุปเรื่องคร่าวๆก็คือจู่ๆ 'ผู้ใช้เวทมนตร์' ที่เรียกตนเองว่า 'ทาทา' ก็พลันปรากฎขึ้นมากลางโรงเรียนฮิโรฮาชิ พร้อมบอกเช่นนี้พลางถือหนังสือรวมแบบฟอร์มความหวังในอนาคตของนักเรียนทุกคนไว้ในมือ

'ดิฉันจะทำคำขอของทุกคนที่อยู่ภายในมิติปิดกั้นที่ชื่อว่าโรงเรียนแห่งนี้กลายเป็นความจริงเองค่ะ'

-อยากจะเป็นผู้ใช้เวทมนตร์

-อยากจะพูดภาษาญี่ปุ่นได้คล่องแคล่ว

-อยากไปในที่แปลกใหม่

-อยากวาดรูปเก่ง

-อยากให้พวกนักเลงหายไป

-อยากไปต่างโลก---

.

ผลจากการที่คำขอภายในแบบฟอร์มของทุกคนกลายเป็นจริง ทั้งโรงเรียนจึงถูกเรียกตัวไปยัง 'โลกของทาทา' และแล้วการต่อสู้เอาชีวิตรอดจากต่างโลกที่แสนโหดร้าย เพื่อค้นหาหนทางกลับคืนสู่ชีวิตประจำวันก็พลันเริ่มต้นขึ้น

ตัวเอก (มั้ง) อาโอกิ ฮิโรชิ คือคนที่เขียนลงแบบฟอร์มถามว่า 'อนาคตอยากทำอะไร/อยากเป็นอะไร' ลงไปเล่นๆว่า 'อยากเป็นผู้ใช้เวทมนตร์' ก็เลยกลายเป็นขึ้นมาได้จริงๆ นอกจากนี้ก็ยังมีคนที่ได้เป็นทหาร วาดรูปเก่งขึ้นมาเช่นกัน

แม้ว่าผลจากคำขอเช่น 'ขอให้พวกนักเลงหายไป' จะมีผลในแง่ลบให้นักเรียนบางคนหายสาบสูญไปบ้างก็ตาม--แม้ว่าความหวัง 'ขอให้หมุนกาช่าได้ตัวแรร์ๆไม่เกลือทุกครั้ง' จะสูญเปล่าในโลกที่ไม่มีเซิร์ฟเวอร์เกมก็ตาม--แม้ว่าคำขอ 'ไม่อยากหัวล้าน' จะไม่มีประโยชน์อะไรในการต่อสู้กับอสูรอันดุร้ายและกองทัพทหารจากต่างแดนเลยแม้แต่นิดก็ตาม--

แม้ว่าการตัดสินอย่างผิดๆที่เป็นผลมาจาก 'การยึดติดกับความเป็นจริงมากเกินไป' จะนำพาผลลัพธ์ที่เรียกได้ว่าเป็นโศกนาฎกรรมมาถึงก็ตามแต่---

สุดท้ายแล้วเหล่านักเรียนและครูบาอาจารย์ที่มีอำนาจต่อกรเพียงหยิบมือ จะสามารถดิ้นรนต่อสู้ไขว่คว้าหาเส้นทางรอดกลับไปมาได้อย่างไร และในระหว่างทาง พวกเขาสูญเสียอะไรไปและเติบโตได้รับอะไรกลับมาบ้าง

359 Nameless Fanboi Posted ID:EpFKm/jqv

>>358 น่าสนใจ

360 Nameless Fanboi Posted ID:KJpdPOT.Z

>>358 จู่ๆก็นึกถึงหนังญี่ปุ่นเรื่องนึงที่รร.โดนดูดไปต่างโลกอะไรนี่แหละ เก่าแล้วมีหลายภาด้วย แต่จำชื่อไม่ได้ 555

361 Nameless Fanboi Posted ID:7fd3RYj7y

>>346 >>347 โทษทีพูดไม่เคลียร์ "ภาษากู" ที่ว่านี่ หมายถึงภาษาที่ บก. เขาพอใจคนเดียวน่ะ

เออจะว่าไปพูดถึงแนวหักหลัง กูเห็นแต่มีแนวเพื่อนร่วมชั้นไม่สนิทหักหลัง แต่ไม่เคยเห็นเรื่องไหนที่เขียนแนวเพื่อนสนิทหักหลังกันเลยวะ?

362 Nameless Fanboi Posted ID:4h6kJMUac

>>358 น่าสนใจแหะ จำนวนเล่มดูไม่น่าเยอะด้วย เพราะจำกัดเวลาในเรื่องไว้แค่ 1 เดือน ดูแล้วไม่น่าออกทะเล....ยกเว้น 1 เดือนโลกจริง = xx ปีโลก ทาทา อะนะ

363 Nameless Fanboi Posted ID:jMdTsft3V

เอิ่ม https://www.dek-d.com/board/view/3819684/

364 Nameless Fanboi Posted ID:QXckqf5Rj

>>363 จัดการแล้วแฮะ เด็กดีน่าจะจ้างทีมงานเพิ่มมั่ง จะได้ดูแลให้ทั่วถึง

365 Nameless Fanboi Posted ID:jMdTsft3V

>>358 พล็อตนี้กูมองได้ 2 แบบวะ ขอตอบ 2 เรปคอมโบละกัน มุมมองของพวกถูกดูดไปโลกของทาทา ตามรูปแหล่งที่มาแหละ https://i.imgur.com/a36biI1.png

366 Nameless Fanboi Posted ID:jMdTsft3V

>>358 >>365 แต่พวกคนนอกที่รู้ข่าวหลุมดำแต่ไม่ได้โดนดูดตามพวกแรก จะมองแบบในยูทูปแทน ถ้ามองไอ้ตัวขาวในเรื่องคือทาทา (เป็นเซลแมนขายของจากผู้ผลิตรถรึไง) https://www.youtube.com/watch?v=31kJ3IKZ9q4

367 Nameless Fanboi Posted ID:ao+qwa6tV

ช่วงนี้กูอยากลองแต่งนิยายแนว Made of Abyss บ้าง ผจญภัยแบบไม่ค่อยรู้อะไรนี่แหล่ะ เจอเกิดใหม่ เทพจีน นางร้ายเต็มเว็บแล้วอยาก back to basic มั่ง ท่าจะดี

368 Nameless Fanboi Posted ID:jMdTsft3V

>>367 Made in Abyss
กูชอบการสร้างโลกความอินดี้ของมันเลย แทนที่จะออกเดินทางสไตล์นิยายสายหลักที่มักจะสำรวจโลกข้ามแดนข้ามทวีป ไอ้เรื่องนี้กลับสร้างโลกใต้พิภพเป็นแนวดิ่งเลย แถมเรื่องผ่านไป 1900 ปี ยังสำรวจไม่หมดเลย ลงไปแล้วกลับบ้านยากอีก แถมตัวเอกมีแรงจูงใจให้ตัดสินใจเดินทางด้วย

369 Nameless Fanboi Posted ID:I5PawymQM

หรือจริงๆมันจะ Made on Abyss

370 Nameless Fanboi Posted ID:jMdTsft3V

บทวิเคราะห์ของฝรั่งการสร้างโลก Made in Abyss
https://peachsalmanac.com/worldbuilding-made-in-abyss-anime-analysis/

371 Nameless Fanboi Posted ID:DaCFhPvso

>>369 "ใน" รู อะถูกแล้ว

372 Nameless Fanboi Posted ID:u7Oz2yxB9

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=269324190266863&id=113397052526245&fs=1

เด็กดีรวยกว่าที่คิดแฮะ

373 Nameless Fanboi Posted ID:B.3B4cXEc

>>372 ควรจะเชื่อดีมั้ยเนี่ย

374 Nameless Fanboi Posted ID:a.n1XE/Tp

>>373 เพจนี้เชื่อถือได้ อีกอย่าง นี่เป็นข้อมูลเปิดเผยต่อกระทรวงพาณิชย์ ถ้าไม่จริงมึงแจ้งจับได้เลย

375 Nameless Fanboi Posted ID:dJiHwtOSH

เพื่อน เราอยากอ่านนิยายไทยแนวๆพีเรียดอ่ะ สมัยช่วง ร6 ปลายๆ ร7 กระโปรงฟู่ๆอ่ะ อยากอ่านมากกก ไม่เอาแบบข้ามเวลานะ พรีสส

376 Nameless Fanboi Posted ID:amHdB72E/

>>375 4 แผ่นดินคลาสสิคที่สุดแล้ว

377 Nameless Fanboi Posted ID:dJiHwtOSH

>>375 4 แผ่นดินอ่านแล้ว เรื่องโปรดเลย นี่อยากหาอ่านในเวปอ่า เด็กดีก็ได้ ธัญก้ได้

378 Nameless Fanboi Posted ID:LT/3u6dkw

>>377 ไม่มีดีๆหรอกมั้ง ทั้งฝ่ายนักเขียนไม่นิยมหาข้อมูลลึกๆ ทั้งฝ่ายนักอ่านที่ไม่สนหีสนแตดอะไรมากกว่าเบียวๆซูๆ

379 Nameless Fanboi Posted ID:ia/Zf7c8G

>>378 มีนะ นิยายดี ๆ ข้อมูลแน่น ๆ แต่เด็ก ๆ ในเว็บมันยี้ เห็นเรื่องไหนจริงจังหน่อยก็ไม่ยอมอ่านกัน เรื่องพวกนั้นเลยดับไปแบบเงียบ ๆ ไม่ว่าจะแต่งจบหรือไม่ก็เหอะ

380 Nameless Fanboi Posted ID:p6nZjGElu

เท็จจริงเป็นไง ตามไปดูเด็กดวกเลย https://www.dek-d.com/board/view/3820115/

381 Nameless Fanboi Posted ID:y9U6+D290

ดีครับ เราจอมมารสีเทา นะ นานๆทีจะแวะเข้ามา

เราจะมาบอกว่าขอบใจเพื่อนโม่งมาก ที่ตอนนั้นช่วยสับนิยายให้ ทำให้รู้จุดที่ควรปรับปรุง พล็อตเนื้อเรื่องที่ยังขาดๆเกินๆ และอื่นๆ ทำให้ตอนนี้เราตัดสินใจรีไรท์นิยายใหม่ทั้งกระบิ พล็อตเรื่องให้ดีขึ้น ปรับภาษา และอะไรหลายๆอย่าง

ตอนนั้นต้องขอโทษด้วยที่เราอีโก้สูง คิดว่านิยายตัวเองดีเลิศ ทั้งที่เรายังมือใหม่มากในวงการนี้ และพูดถึงโม่งแบบเสียหาย

ยังไงก็รบกวนเพื่อนโม่งเข้ามาลองอ่าน และสับนิยายTW ฉบับรีไรท์ใหม่ให้หน่อยนะครับ ตอนนี้เราลดอีโก้แล้ว พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น
https://writer.dek-d.com/dekd/writer/view.php?id=1620743

382 Nameless Fanboi Posted ID:e.1Y/gtpH

>>381 จะบอกว่าโม่งแบนไม่พูดถึงมึงให้เสียเวลาไปแล้วว่ะ

383 Nameless Fanboi Posted ID:oldvVCPtf

>>381 ใครเพื่อนมึง?

384 Nameless Fanboi Posted ID:y9U6+D290

ไม่เป็นไร แค่อยากมาบอกเฉยๆ ก็รู้ว่าเรื่องมันคงไม่จบง่ายขนาดนั้นอยู่แล้ว

385 Nameless Fanboi Posted ID:CUqZ9iU8c

ทำอย่างกับยุคก่อนดีหนักหนา ตอนกูใช้เด้กดีเหมือนสิบปีที่แล้วนิยายกากใช้ผิดก็ขึ้นท็อปเหมือนกัน มันขยันอัพกว่าพวกใช้ถูกไง

386 Nameless Fanboi Posted ID:CUqZ9iU8c

อุ๊บส์กูไม่ได้แก่อะไรขนาดนั้น

387 Nameless Fanboi Posted ID:gTj8lyVrq

>>386 หราาาาา

388 Nameless Fanboi Posted ID:+RGICw1kR

>>381 ผิดมู้แล้ว นี่มู้นินทา

389 Nameless Fanboi Posted ID:efV7cfdM1

>>381 กุก็ไม่อยากพูดไรมากหรอกนะ เข้าใจว่ามารเทาอาจจะใส่ความชอบลงตัวละคร แต่กุอ่านบทนำแล้วชวนให้รู้สึกว่ามีปมน่าสงสาร แต่พอไปอ่านบทต่อไปอารมณ์มันเหมือนการ์ตูนเชิฟคอเมดี้มากกว่า ประมาณพ่อสละชีพไปเพื่อให้ลูกเป็นเกรียน นอกจากมารจะเชื่อมไรได้นะ ว่าเกรียนไปแล้วบทนำตอนแรกมันสนับสนุนได้ยังไง

390 Nameless Fanboi Posted ID:33urnmW0S

>>382 เอาน่า มันอุตส่าห์กลับตัวกลับใจลดอีโก้ละ ก็ช่วยหน่อยละกัน เท่าที่แวบไปส่องมา ก็ถือว่าดีขึ้นกว่าเดิมอยู่ แต่ยังคงต้องพัฒนาอีก

391 Nameless Fanboi Posted ID:uKVgmzhEn

>>389 >>390 ขอบคุณที่ลองช่วยดูให้นะครับ ถ้ามีจุดไหนที่ควรปรับปรุงอีกบอกได้เลย จะแวะเข้ามาเรื่อยๆ

392 Nameless Fanboi Posted ID:UzA6GIHlW

>>391 เอาเหอะ กุจะแนะนำมึงล่ะกัน มึงไม่ต้องทำตามก็ได้ แต่มารเทาควรจะตัดสินใจได้แล้วว่ะ อยากเขียนแนวเลิฟคอเมดี้ หรือ แนวเนื้อเรื่องเข้มข้นสร้างโลกขลังๆประหนึ่งเดอะลอร์ดกันแน่ เพราะตอนนี้เหมือนมารอยากควบสองทางจนไปไม่สุดสักทางว่ะ ถึงทั้งของเก่าของใหม่มันสะท้อนว่าไปเลิฟคอมเมดี้แล้วก็เหอะ แต่ใจหนึ่งก็กังวลว่าอยากอลังการเหมือนหนังเอฟเฟค ไมเคิล เบย์ กุอยากจะบอกว่าของเก่ามึงถ้าอ่านแนวเลิฟคอเมดี้มันก็โอเคอยู่ แต่ทั้งคำแนะนำ
เปิดบทมาสร้างโลกซะเลิศหรูถึงตอนแรกสุดก็ใช้ศัพย์วิทย์ซะสูงลิ่วจนชวนให้คิดว่าตอนต่อๆไปน่าจะไปทางขลังๆ อลังการแน่ๆ คิดว่าพวกชอบอ่านเลิฟคอเมดี้ส่วนใหญ่จะอ่านต่อไหมละ เมื่อจุดขายแนวนี้มันอยู่ที่ พระเอกกับนางเอกที่มีโมเอะแฟคเตอร์ว่าเคมีเข้ากันไหม ทำไงถึงรักกันได้ ให้เทียบก็คงประมาณเรื่อง Death Note เนื้อเรื่องเข้มข้น จุดขายคือการชิงไหวพริบและพลังทำให้พระเอกเปลี่ยนไปเช่นใด กับ Zero no tsukaima ที่เนื้อเรื่องระดับล่างๆถึงกลางๆ แต่ใช้จุดขายเป็นสาวๆกับพระเอกแทน (ต่อล่าง)

393 Nameless Fanboi Posted ID:UzA6GIHlW

กุ391 ถ้าจะแนะนำรีไรท์อ่ะนะ ถ้ามารหัวใจไปทางกุโระซาดิส คอมเมดี้เพราะตัวเองชอบแนวนั้น กุคงไม่ถือว่าดาร์คอ่ะนะ มันรุนแรงแต่พอไม่มีเหตุผลแรงจูงใจที่ให้พระเอกทำแบบนั้นมันเลยดูตลกเหมือน Happy tree friend หรือ Family guy บทรุนแรงเลือดสาด ไม่เหมือนตัวละครที่เขียนดีเช่น Kira จาก Jojo ที่พยายามปกปิดรสนิยมชอบมือผู้หญิงเพราะทนแรงกระตุ้นภายในไม่ไหว Stephano จาก the evil within2 ที่ชื่นชอบศิลปะในการเก็บภาพวาระที่เหยื่อกำลังตาย จนเป็นเอกลักษณ์ ตัวร้ายที่น่าจดจำ(ทั้งหมดเป็นตัวร้ายเกือบทั้งนั้น) แต่ถ้าอย่างสร้างแนว Anti hero แบบดีๆ มารต้องให้เหตุผลรองรับดีๆด้วยว่ะ ไม่ใช่เอะอะก็เลือดสาด ซาดิส เลียเลือด เช่น กัซจากเบอร์เซิก ที่ทำตัวมืดมนเพราะตัวเองไม่อยากให้ใครมายุ่งกับตัวเอง เพราะอาจจะซวย เนื่องจากตัวเองเป็นแม่เหล็กดูดปีศาจ หรือ Nick จาก zootopia ที่ทำตัวแย่ๆหลอกลวงชาวบ้าน เพราะสังคมดูถูก ตีกรอบให้เป็นแบบนั้น แต่เพราะจูดี้ยอมรับนิค นิคก็กลับตัว แสดงให้เห็นเนื้อแท้ว่านิคไม่ใช่คนแบบนั้น (ต่อล่าง)

394 Nameless Fanboi Posted ID:UzA6GIHlW

ถ้าอยากเขียนแนวคอเมดี้ ซาดิสก็ตัดตอนแรกทิ้งไปเลยก็ได้ เพราะมันไม่มีเหตุผลอะไรสนับสนุนเลยว่าทำไมพระเอกควรทำแบบนั้น ให้คิดจริงๆก็ลองถอยมาก้าวหนึ่งแล้วลองคิดว่าตัวละครที่กำลังเขียนว่า สมมุติดูทีวีออกข่าวว่านายA ถูกจับแล้วให้การว่าแรงจูงใจที่ทำแบบนี้เพราะว่าอะไร พอมารฟังแล้วมารรู้สึกยังไงกันแน่ แต่ของมาร นายเทเวอร์โดนจับข้อหาต้มตุ๋นชาวบ้านพร้อมให้การว่า "เพราะพ่อผมเสียสละให้ผมหนีจากซอมบี้ครับ" มารจะรู้สึกยังไงล่ะ เห็นใจไหม การมีอดีตเลวร้ายไม่ใช่ข้ออ้างให้ทำเลวได้ทุกกรณีหรอกนะ ประมาณพวกเด็กทำตัวต้านสังคมเกเรแล้วอ้างพ่อแม่เลิกกัน แล้วก็ลองคิดๆดูก็ได้ว่าจะใส่ตัวละครหญิงมีเสน่ห์ โมเอะแฟคเตอร์ไปช่วงแรกๆตอนไหนได้นี่เป็นจุดขายแนวนี้เลย ถ้าเป็นเรื่องแนวนี้มาตอนแรกส่วนใหญ่พระเอกจะเจอนางเอกแล้ว ไม่ก็กลับบ้านมาอย่างน้อยต้องมีน้องสาวแท้ไม่แท้ก็อีกเรื่อง

แต่ถ้าอยากแนวเข้มข้นแต่ไม่อยากเปลี่ยนบุคลิก ก็ลองให้พระเอกหรือหมาสอดๆไปว่าไอ้ที่เกรียนๆ หลอกมาเฟียแรกๆนั้นเป็นแผนการแรกที่จะเปิดโปงองค์กรอะไรที่เป็นเหตุให้เกิดซอมบี้ระบาดตอนแรก หรือเป็นก้าวแรกของการแก้แค้นอะไรก็ว่าไป บลาๆ ไปดัดแปลงเอาเองได้

สุดท้ายแล้วมารอยากเขียนอะไรก็เขียนไปเถอะ แต่ถ้าอยากเขียนแนวไหนก็แนะนำให้ไปอ่านแนวที่อยากเขียนแล้วดังหลายๆเรื่อง แล้วลองคิดๆดูว่ามันมีจุดอะไรที่เรามาดัดแปลงได้แต่ไม่ใช่ลอกทั้งดุ้นนะ เขาเรียกการขโมยเทคนิค แต่ถ้ามารเทากังวลว่าอยากดังเร็ว กุคิดว่ามารเลือกเขียนผิดหมวดว่ะ แฟนตาซีไทยอยู่ในช่วงตกต่ำอยู่ แนะนำให้มารไปเขียนแนวรักๆ จีนดีกว่า ถ้ากังวลยอดคนอ่าน แฟนคลับมากล่ะก็

395 Nameless Fanboi Posted ID:YvunaAIqh

>>392 >>393 >>394
โห ขอบคุณมากที่แนะนำ ลองคิดตามแล้วเห็นภาพขึ้นเยอะ จะลองเอาปรับใช้ดูครับ
จริงๆ เราไม่ได้กะเขียนแนวเลิฟคอมเมอดี้หรอกครับ แต่ที่มีสอดแทรกความฮา และนางเอกให้จิ้น เพราะแค่กลัวคนอ่านจะเครียดไปน่ะ เพราะพล็อตเรื่องจริงๆมันดาร์คมาก ออกแนวดิสโทเปียนิดๆด้วย แต่ช่วงที่ดาร์คมันคือระหว่างที่พระเอกเติบโตขึ้นมา ซึ่งตรงช่วงนี้ยังไม่ได้เล่าถึง แต่เดี๋ยวจะมีขยี้เรื่อยๆ เราเองก็มีส่วนผิดที่ตัดฉากมาที่เมืองเร็วไปหน่อย พอซอมบี้เสร็จก็วาร์ปมาเลย คนอ่านก็เลยปรับอารมณ์ตามยาก 555

ยังไงก็ thank you มากนะ เราจะลองไปปรับจุดประสงค์พระเอกให้ชัดเจนกว่านี้ แบบจะหาตัวคนที่เผาหมู่บ้าน หรือ หาสาเหตุที่มันเกิดขึ้น ก็ว่าไป

396 Nameless Fanboi Posted ID:YvunaAIqh

แล้วถามนิดนึงครับ ว่าภาษา และสำนวนในตอนนี้จัดว่าเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นกว่าเดิมมั้ย หรือมีจุดไหนที่น่าจะปรับให้ดีขึ้นได้

397 Nameless Fanboi Posted ID:gGNgo68TP

ถ้ากูรู้ว่าโม่งจะสับกันสนุกแบบนี้ รู้งี้กูเอาเรื่องไปปั่นในบอร์ด พอโดนโม่งติงกูเข้ามาด่าชาวโม่งสาดเสียเทเสียบ้างดีก่า

398 Nameless Fanboi Posted ID:UzA6GIHlW

>>396 สำหรับกุภาษามึงบางจุดมีเวิ่นเว้อเล็กน้อย และใช้ที่ฟุ่มเฟือยนิดหนึ่งแต่ก็ถือว่าโอ กุว่าภาษาไม่ใช่จุดอ่อนของมารนะ ยิ่งเทียบระดับเด็กดีกุว่าระดับบนๆด้วยซ้ำ แต่กุไม่ค่อยซีเรียสเรื่องภาษาว่ะ ถ้าไม่ผิดจนน่าเกลียด ระดับทุกๆสองสามบรรทัดเห็นสิบคำแบบนี้ กุเสพเนื้อเรื่องมากกว่าภาษาว่ะ นี่ถือว่ากุลองให้ไอเดียล่ะกันจะใช้ไม่ใช้ก็ไม่ว่ากัน

บอสท้ายอาจจะเป็นหมาเฟนริสก็ได้ ถ้าอยากคงความเกรียนหมาที่พระเอกอาจจะไม่ชอบ แต่ก็ยอมๆไปเพราะหมาอ้างว่าตัวเองเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงความจริงในเหตุการณ์ตอนแรก อีกทั้งตอนพระเอกเป็นเด็กอาจจะมีเพื่อนบ้านสาวคนหนึ่งเลี้ยงหมาคล้ายๆกัน ทุกครั้งที่มองไอ้หมาเกรียนนี่ทำให้พระเอกนึกถึงเธอคนนั้นแต่พระเอกคิดว่าเธอคงตายในเหตุการณ์ซอมบี้แล้ว ส่วนจะกลับมาเป็นนางเอกไหมก็อีกเรื่อง เพราะงี้พระเอกถึงไม่คิดจะขายมัน

เฟนริสอาจจะกึ่งๆพูดต่อรอง เกรียนๆ ใช้วิธีที่พระเอกไม่ชอบ ดาร์คโหดเกิน แต่ความจริงพอดำเนินเรื่องไปสุดท้ายก็เปิดว่าความจริงมันคือมารร้ายในอดีตแฝงตัวมา ชักใยพระเอกเพื่อรวบรวท หรือ ทำลายสามโลก หรือเป็นไซบอร์กที่โลกวิทย์ส่งมาเพื่อแผนการสักอย่าง ถ้าอยากให้หักมุมอ่ะนะ

399 Nameless Fanboi Posted ID:hGruFaAG/

>>398 ไอเดียแหล่มมากเลยครับ ไว้เราจะลองเอาไปตบๆ พล็อตดูอีกที :D

400 Nameless Fanboi Posted ID:CUqZ9iU8c

การที่คนโหวตให้คะแนนแต่ละตอน ทำไมมันไม่ขึ้นคะแนนรวมวะมึง

401 Nameless Fanboi Posted ID:g2EeDHc2s

ทำไมคนสับมีกลิ่นโม่งมี่

ลงชื่อ โม่งเซฮุน

402 Nameless Fanboi Posted ID:Xa0t6/5KU

>>399 ถ้าเอาไปทั้งดุ้นหรือดัดแปลงนี่จ่ายค่าไอเดียให้มันด้วยนะมึง

403 Nameless Fanboi Posted ID:90aBIO66S

>>402 ไม่ต้องห่วง 555 เราพล็อตไว้ครบทั้งเรื่องแล้ว แต่แค่บางเหตุการณ์อาจเอาไอเดียจุดนี้มาเสริม เป็นการ apply แน่นอน ไม่ copy

404 Nameless Fanboi Posted ID:Xa0t6/5KU

>>403 เรียกว่าครบแล้วเหรอวะน่ะ งั้นเอาที่มึงสบายใจ

405 Nameless Fanboi Posted ID:78ru1WvSM

>>404 ตอนนู้นยังไม่ครบ แต่มีช่วงนึงที่กลับไปนั่งพล็อตใหม่เกือบเดือน ก่อนมารีไรท์เป็นอันล่าสุด

406 Nameless Fanboi Posted ID:VGyt.L8BX

ห้องนี้มู้ส่วนตัวของมารสีดวกหรอว่ะ

407 Nameless Fanboi Posted ID:9jrw63aoW

>>406 ไม่ใช่หรอก 555 จะเปลี่ยนเรื่องคุยก็ตามบายสิ มาสีดงสีดวกอะไร ถถถ

408 Nameless Fanboi Posted ID:GbJX4lNhS

ระบบเกมควรลงในนิยายแฟนตาซีมั้ย ไม่ใช่หมวดเกมออนไลน์
https://www.dek-d.com/board/view/3820346/

409 Nameless Fanboi Posted ID:3skm/E2/T

ปั่นกระแสเหรอมาร เดี๋ยวกุเอามั่ง ไปด่าๆๆโม่งให้เสียหายให้โม่งสนใจไปอ่านนิยายกุ ละแกล้งทำอีโก้สูงให้มันอยากอ่านนิยายกุแบบจับผิดให้มีเรื่องด่านิยายกุเยอะๆ เป็นการโปรโมตอ้อมๆ กุก็ได้อ่านคอมเม้นต์แบบเนียนๆ พอคนอ่านชักเยอะกุก็ปั่นกระแสอีกรอบด้วยการทำตัวเป็นคนกลับใจ แหม~ ดีจังเลยน้า~~

410 Nameless Fanboi Posted ID:9jrw63aoW

>>409 ไม่ได้ปั่นสิ ถถถ คิดมากกันไปเปล่านี่ ใครมันจะไปลงทุนให้คนมาด่าขนาดนั้น มีวิธีอื่นดีกว่าตั้งเยอะ 555

411 Nameless Fanboi Posted ID:9jrw63aoW

>>409 อย่าอคติสิครับ เรื่องที่แล้วมันก็แล้วไป

412 Nameless Fanboi Posted ID:5fB4ofFiD

>>409 มึงก็ อคติไปป่ะ ถ้ามันอยากให้ด่าก็มีวิธีง่ายกว่านั้นตั้งเยอะแยะ แค่ตั้งกระทู้ยังได้เลย มันอยากให้วิจารณ์ คนก็วิจารณ์ มันอะไรนักหนาวะ

413 Nameless Fanboi Posted ID:quAGQG+cY

>>408 ลงไหนก็ลงเหอะ นิยายสยองขวัญหมอผีอยู่แฟนตาซียังเก็บเวลได้เลย แถมติดเหรียญขายแล้วเว็บยังโปรโมตให้อีกด้วย โคตรเทพ

414 Nameless Fanboi Posted ID:YUBYbUE1p

กุคนแนะนำมารเองนะ บอกตามตรงว่าคนเรามันผิดพลาดกันได้ว่ะ ให้โอกาสกันบ้างเถอะ อะไรที่แล้วมาไม่ได้ร้ายแรงมาก ขนาดคอขาดบาดตายหรือไปก่อคดีร้ายแรง เจ้าตัวก็ยอมรับผิดแล้ว

415 Nameless Fanboi Posted ID:Wu4HbVy0t

ดูสิขนาดเรายังได้รับโอกาสเลยนะ

ลงชื่อ เซฮุน ผู้ได้รับโอกาส

416 Nameless Fanboi Posted ID:Xa0t6/5KU

หลายครั้งกูติดความอคตินิดหน่อยเพราะสุดท้ายมันทำดีขอโอกาสเราด้วยเพราะได้รับผลประโยชน์นี่ล่ะว่ะ ก่อนหน้าไม่เคยถูกทำเชี่ยไรก็ชิงสาดเสียเทเสียก่อนแล้ว พอทำประโยชน์ให้ก็กระดิกหางเชียว แต่เรื่องมันแล้วก็แล้วไป ตามนั้น

417 Nameless Fanboi Posted ID:Wu4HbVy0t

>>416 ทำไมต้องเขียนให้กูอ่านสามรอบแล้วยังงงๆ

418 Nameless Fanboi Posted ID:XG0xvhTpV

ทำไมเรายังคุยเรื่องมารสีดวก? เพราะแมร่งปั่นมู้ไม่ยอมหยุด กูไม่อคตินะแต่รำคาญ อยากอ่านเดี๋ยวกูอ่านเอง ทำไมเวลาคนเหี้ยๆกลับตัวขอโอกาสแล้วต้องให้วะ ทั้งที่มันยังไม่ได้อะไรดีๆ หาเรื่องด่าโม่งเล่นๆสักพักก็ขอให้ช่วยทีหลังง่ายจังว่ะ เอาแต่ได้มากไปหน่อยป่ะ

419 Nameless Fanboi Posted ID:9jrw63aoW

>>418 นี่ผมเลวถึงขั้นต้องใช้คำนั้นเลยเหรอ =_= คือจริงๆ เราเป็นฝ่ายที่โดนด่ามาตลอดตั้งแต่ตั้งกระทู้แรกๆนะ ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร คิดว่าก็มีคนไม่ชอบเราได้เป็นเรื่องธรรมดา แต่พอเราแสดงความไม่พอใจในกระทู้นิดหน่อย (ไม่ได้ใช้คำหยาบด้วย) เรากลับกลายเป็นคน here เลยเหรอครับ เอ่อ คือ ผมก็ยังงงๆนะ ว่าทำไมถึงโกรธแค้นเราขนาดนั้น 555

420 Nameless Fanboi Posted ID:9jrw63aoW

>>418 แล้วที่เรามาขอโทษ และชี้แจงนี่ คือ เราสำนึกผิดในส่วนของเรา ทั้งที่ว่าเหมารวมโม่ง ทั้งที่โม่งดีๆก็มีเยอะ และความอีโก้สูงของเราในตอนนั้น แค่นั้นเองครับ

421 Nameless Fanboi Posted ID:3c9mO/dEC

>>418 คือมันเป็นเรื่องของคนสับกับมารเทาปะวะ? ถ้าทุกคนเห็นตรงกับมึง ก็จะไม่มีใครสับ หรือไม่มีใครแคร์เลย เขาก็ไม่สับให้มัน ก็จบ

นี่มันมาแปะ เขาก็สับไปแล้ว แต่มึงยังเดิอดร้อน ไม่คติแต่รำคาญ... สงสารว่ะ มีแฟนไหม? มีข้าวกินไหม? ชีวิตเป็นไงบ้าง

422 Nameless Fanboi Posted ID:3c9mO/dEC

>>419 >>420 มารเทามึงไม่ต้องไปใส่ใจว่ะ มึงทำอะไรก็ทำไปเลยอย่าสนใจ มึงเชื่อกู มึงจะโฆษณานิยาย จะดราม่า มึงคิดว่ามึงรับผิดชอบได้มึงก็ทำไป เอาที่มึงสบายใจ อย่าตามใจคนอื่น

โดยเฉพาะคนอื่นที่ไม่มีตัวตน

ลงชื่อ เซฮุน

423 Nameless Fanboi Posted ID:VGyt.L8BX

มู้กลายพันธุ์อีกหล่ะเบื่อพวกลงชื่อกับแสดงตัวก็งี้หละ พวกมึงสับนิยายดีกว่ามั้ย มารมึงกลับบอร์ดเด็กดีไปเหอะโม่งไม่ใช่ห้องแชท

424 Nameless Fanboi Posted ID:bOw7.Bnfk

ต้องเป็นประเด็นสินะ โม่งถึงจะสับเรื่องให้ไว ยิ่งประเด็นแรง ๆ นี่ โม่งจะวิ่งแจ้นเข้าไปสับแทบจะทันที โอเค จะได้รู้ไว้ กูเจอทางลัดแล้ว

425 Nameless Fanboi Posted ID:GbJX4lNhS

โม่งไม่มี LINE หรอกเว้ย หัดสำรวมกันหน่อยพวกมึง

426 Nameless Fanboi Posted ID:YUBYbUE1p

กุคนแนะนำไอ้มารเอง สาเหตุที่กุไม่ค่อยสับเพราะกุไม่สันทัดนิยายดำเนินเรื่องแนวญี่ปุ่นกับแนวจีนเท่าไร กุคงสับเฉพาะนิยายที่มึงตั้งใจเขียนออกแนวสากลหรือตะวันตกหน่อยแค่นั้นแหละ ไม่เกี่ยวกับต้องแรงไม่แรงหรอก

427 Nameless Fanboi Posted ID:vVO0ldNHa

คุณมารเทา มาในที่แบบนี้ย่อมมีทั้งคนด่าและคนเฉยๆ คนชมจะแทบไม่มีอยู่แล้ว ยังไงก็เป็นตัวเองแล้วตั้งใจแต่งนิยายนะ ถ้าคุณรู้ตัวดีว่าทำเต็มที่ก็ทำต่อไป แต่ขออย่างเดียว อันนี้ฝากถึงทุกคนที่เขียนนิยาย...

อย่าคิดว่างานตัวเองดีที่สุด (แบบโดนวิจารณ์แล้วรับไม่ได้ ด่าคนวิจารณ์ว่าไม่มีรสนิยม/หัวไม่ถึงถึงได้อ่านไม่เข้าใจตามที่ผู้เขียนสื่อ หรือว่าคนวิจารณ์ว่าวิจารณ์แบบนี้ทำไมไม่เขียนเอง อารมณ์เหมือนติชมอาหาร แล้วแม่งเล่นมุขนี้ว่าถ้ากุทำไม่อร่อยแล้วทำไมมึงไม่ทำแดกเอง เอ้า กุแดกก็ก็มีสิทธิ์พูดนะว่ามันหมาไม่แดกยังไงหรือดีแล้วแต่ขาดรสอะไรไป คนแบบนี้พูดละอยากตบมากๆ) เพราะถ้าคุณคิดว่างานตัวเองเลิศเลอที่สุดจนตีนเหยียบดินไม่ได้เมื่อไหร่ งานคุณกำลังกากลงแล้ว เราเคยวิจารณ์นิยายให้คนหลายคน เจอคนประเภทนี้เยอะ จึงขอเตือนให้ระลึกไว้เสมอ เพราะตอนนี้เลิกเป็นนักวิจารณ์แล้ว เสียเวลาชีวิตแล้วยังโดนด่าทั้งที่เราหวังดีแท้ๆ ถ้าเราอยากด่านิยายคุณเราแกล้งทำไอดีปลอมมาด่าคุณเสียๆหายๆเยอะๆก็ได้ ไม่ต้องเสียเวลาอ่านแม่งทุกตอนแล้ววิจารณ์ว่าควรปรับปรุงอะไรหรอก ถ้าคุณไม่ชอบคำวิจารณ์นั้น ไม่เห็นด้วย ขอให้แย้งดีๆ อย่า "โจมตี" ผู้วิจารณ์ หรือไม่ก็รับฟังเงียบๆแล้วเอาเวลาไปแก้ไขงานตัวเองให้ดีขึ้นจะดีกว่า เพราะแม้งานคุณอาจจะไม่ถูกใจทุกคนบนโลกอยู่แล้ว

เจริญพร

428 Nameless Fanboi Posted ID:5zQAh973W

>>427 วงเล็บยาวไปนะ

429 Nameless Fanboi Posted ID:9jrw63aoW

>>427 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆนะครับ ตอนนี้เราเข้าใจในมุมมองของคนวิจารณ์มากขึ้นแล้ว และเราก็วางอีโก้ของตัวเองลง เพราะมันเป็นสิ่งที่ขัดขวางการพัฒนาของตัวเราเอง พร้อมรับคำวิจารณ์ทุกอย่างเพื่อเอามาปรับใช้ครับ

430 Nameless Fanboi Posted ID:YUBYbUE1p

แต่มึงต้องดูด้วยแหละ คนวิจารณ์ว่าที่เขาชี้มันมีประโยชน์ไหม เป็นกลุ่มคนอ่านตลาดที่มึงเล็งหรือเปล่า บางทีมึงก็เขียนอะไรให้คนทั้งโลกชอบไม่ได้หรอกว่ะ มึงไม่จำเป็นต้องรับฟังสุดโต่งแต่ก็ไม่ใช่ไม่ฟังแบบสุดโต่งเหมือนกัน ฟังอ่านคำวิจารณ์อะไรแล้วก็รอสักพักก็ได้ แล้วมาทบทวนว่ามันมีประโยชน์ไหม

431 Nameless Fanboi Posted ID:Kz..QOYZ0

>>429 "ราชาที่แท้จริงย่อมรับฟังคำแนะนำของที่ปรึกษา แต่เขาจะฟังเสียงหัวใจตนเสมอ"

คำแนะนำที่ดีช่วยให้เราพัฒนาขึ้นได้ แต่ถ้าสักแต่ทำตามมากไปก็จะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง ดังนั้นก็ "พอเพียงปรับปรุงอย่าให้เกินจนปรับเปลี่ยน"

432 Nameless Fanboi Posted ID:97HZGXr4M

>>431 เชี่ย Prince of Persia: The Sand of Time ก็มา คิดถึงหนังเรื่องนี้แล้วก็อยากให้เกมแม่งมีภาคต่อ (ที่ดี ๆ)

433 Nameless Fanboi Posted ID:Y.G3/yXeG

>>432 ก็ว่าคุ้นๆ ว่าประโยคมาจากหนังเรื่องไหน 555

434 Nameless Fanboi Posted ID:rTWpbd2P1

>>432 มีภาคต่อแน่ ถ้ายูบิซอฟไม่ทำเกม Assassin's Creed ตั้งแต่แรก

435 Nameless Fanboi Posted ID:qP6WTCZMr

Ky คือกูไม่รู้จะถามตรงไหน คือกูอยากรู้เวลาพวกมึงจะอ่านนิยายสักเรื่องเวลาขึ้นบทนำเรื่อง ตอนแรกของเรื่อง มึงจะโอเคไหมถ้าเปิดมาเป็นการกล่าวคล้ายๆเล่าประวัติสั้นๆเจ็ดถึงสิบบรรทัด ประมาณสองสามตัวนี้เพื่อนกันชื่อนี้รู้จักกันแต่เด็ก แล้วค่อยเปิดเรื่อง...กูรู้สึกกูเปิดนิยายแบบนี้กูกังวลกลัวคนอ่านเบื่อ...คือ กูไปนั่งอ่านโม่งมาจนกูระแวงเพราะมีคนพิมพ์ว่านักเขียนจะไม่เขียนประวัติอะไรยาวๆแต่สอดแทรกให้ดูเป็นธรรมชาติกับเนื้อเรื่อง...กูคิดมากไปใช่ไหมวะ...กูควรเชื่อมั่นในตัวเองใช่ไหม ฮือ

436 Nameless Fanboi Posted ID:ExP6+fVhX

>>435 ยังไงวะ อารมณ์แบบ
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งนอกเขตเมือง ห่างไกลความเจริญ
เด็กชาย ก. เป็นเพื่อนสนิทกับเด็กชาย ข. ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน
งี้เหรอ?

437 Nameless Fanboi Posted ID:FAd8r26af

>>435 กูก็เป็นว่ะ ระแวงไปหมดจนเขียนแทบไม่ออก บางทีก็คิดนะว่าไม่รู้อะไรบ้างก็ดี 555

438 Nameless Fanboi Posted ID:rTWpbd2P1

บทนำต้องเขียนสั้นที่สุดเท่าที่จำเป็น ถ้ารับไม่ไหวก็ตัดออกไปเล่าส่วนเนื้อเรื่องหลักดีกว่า เกรงว่าบทนำอาจจะสปอยเนื้อเรื่อง

439 Nameless Fanboi Posted ID:qP6WTCZMr

>>436 ประมาณนั่นอ่ะมึง แบบ ก เป็นตัวเอกชื่อนี้นะ โตมาจนอายุเท่านี้มีเพื่อนสองคนคือ ข กับ ค บอกชื่อ ข กับ ค นิสัยคร่าวๆ แล้วก็เขียนประมาณ เพราะเขายังคงคิดถึงเสมอ เพื่อเปิดประเด็นให้เข้าสู้เนื้อเรื่อง...

440 Nameless Fanboi Posted ID:rsPde5OXO

>>439 ถ้าแบบนั้น กุว่าเมิงเล่าให้มันเนียนๆ ก็ได้ เช่น ให้ตัวละครคุยกันแล้วพูดถึงเพื่อน เล่าระลึกดหตุการณ์ความหลัง กุว่ามันจะดูเป็นธรรมชาติกว่าเล่ามาโต้งๆ เลยว่า นาย a เป็นเพื่อนกับนาย b แต่ก็หวัง ntr นาง c ที่เป็นแฟนนาย b นะ

441 Nameless Fanboi Posted ID:qP6WTCZMr

>>440 กูแต่งโบราณหน่อยๆแล้วตัวละครมันอยู่ไม่ครบ คล้ายๆกูเกริ่นๆให้รู้จักจะได้เข้าใจง่าย กูควรตัดออกแล้วค่อยไปบอกในเนื้อเรื่องใช่มะ ทีนี่กูก็ติดนิดนึงว่ากูจะเปิดเรื่องยังไง555 จะให้เปิดมาเป็นคำพูดกูว่ามันก็ไม่ใช่

442 Nameless Fanboi Posted ID:rsPde5OXO

>>441 กุขอไม่ก้าวก่ายวิธีเขียนของเมิงแล้วกันนะ แต่เรื่องแนวโบราณๆ มันก็เริ่มต้นเรื่องก้วยบทสนทนาได้นะ อย่างเรื่อง war and peace ที่ดำเนินเรื่องสมัยสงครามนโปเลียนยังเปิดเรื่องด้วยบทสนทนาเลย

443 Nameless Fanboi Posted ID:RzBlAl2bv

เปิดเรื่องยังไงก็ได้ แต่ที่กูไม่ชอบสุดคือเปิดเรื่องด้วยตำนานโลกอะ แบบในอดีตปิศาจกับมนุษย์ต่อสู้กัน มีผู้กล้าในตำนาน บลาๆๆๆ แล้วก็จบบทนำด้วยประโยค ประมาณว่า เวลาผ่านมากี่ร้อยปี ตำนานบทใหม่กำลังจะเริ่มต้น, หรือมีคำพยากรณ์อะไรสักอย่างที่ก็ต้องหมายถึงตัวเอก

444 Nameless Fanboi Posted ID:FAd8r26af

>>443 แต่ แต่มันง่ายนี่นา 555

445 Nameless Fanboi Posted ID:RzBlAl2bv

>>444 ก็เข้าใจแหละว่าง่าย แต่แบบ กูเบื่ออออ ใช้กันเกร่ออะ แล้วถ้าเขียนไม่น่าสนใจจริงนี่กูปิดเลย อ่านแล้วจะหลับ

446 Nameless Fanboi Posted ID:qP6WTCZMr

>>422 โอเค ขอบคุณพวกมึงมาก กูพอได้ไอเดียล่ะ กูแค่กลัวกูเปิดมาแบบนั่นแล้วดูแจ่--- แค่กๆ นั่นแหละ แล้วบังเอิญกูไปอ่านอา องค์ชายอัปลักษณ์มาเห็นเปิดเรื่องประมาณนี้กูเลยลองเขียนดูแต่เห็นในโม่งอื่นๆบอกมันดูน่าเบื่อเลยมาปรึกษา กูกลับไปแต่งต่อล่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะ

447 Nameless Fanboi Posted ID:.AcQAzbQG

เขียนบรรยายว่า "มาตรฐานสูงขึ้นจม" แบบนี้ผิดไวยากรณ์ไหมวะ?

448 Nameless Fanboi Posted ID:G0Kc38BAq

>>447 กูว่ามันดูเป็นภาษาพูดว่ะ เหมือนแบบ "ตัวสูงขึ้นจมเลยนะเมิง" ไรงี้

449 Nameless Fanboi Posted ID:.AcQAzbQG

>>448 คือเราถามว่าผิดไวยากรณ์ไหม ไม่ได้ถามว่ามันเป็นภาษาพูดหรือเปล่านะ สูงขึ้น+จม มันเข้าใจแต่มันย้อนแย้งทางไวยากรณ์ไหม

450 Nameless Fanboi Posted ID:F+9Z4jlmS

>>447 ไม่ผิด จมเป็นคำวิเศษณ์ แปลว่ามาก

451 Nameless Fanboi Posted ID:.AcQAzbQG

>>450 มันเหมือนกับประโยคแบบ "เขาเป็นคนดีเหี้ยๆ" หรือ "น้องคนนั้นสวยสัด" ใช่ไหม?

452 Nameless Fanboi Posted ID:ueyX58Fwl

>>451 มึงเปิดพจนานุกรมดีกว่านะ คำว่า "จม" มันมีใช้มานานมากๆ ละ อย่างที่กูบอกไปใน >>450 ว่ามันเป็นคำวิเศษณ์ที่เป็นภาษาปาก แปลว่า "มาก" เช่น วันนี้มีการบ้านจมเลย ก็แปลว่าวันนี้มีการบ้านมาก ไม่ได้ย้อนแย้งห่าเหวอะไรเลย

ส่วนไอ้เรื่อง สวยเหี้ยๆ หล่อเหี้ยๆ อะไรของมึงน่ะมันยังไม่ได้รับการบัญญัติ ขึ้นอยู่กับผู้พูดล้วนๆ ว่ามีเจตนาจะสื่อไปในทางไหน

453 Nameless Fanboi Posted ID:.AcQAzbQG

>>452 ขอบใจ กูเข้าใจขึ้นจม เลย

454 Nameless Fanboi Posted ID:4sovzz.WU

ไอ้เหี้ย หักมุมแล้วไง รถถบรรทุกไม่ใช่อันดับ 1 ของการตายเกิดใหม่ต่างโลกวะ
http://akibatan.com/2018/01/biggest-causes-protagonist-deaths-isekai-series-ranked/

455 Nameless Fanboi Posted ID:Z7QLSa6iv

สงสัยกลัวซ้ำเลยไม่พูดถึงเสียเลยว่าตายยังไง

456 Nameless Fanboi Posted ID:2d7sxP68f

จะให้ตายพิสดารแบบ final destination สระดูดก้นตายกันรึไงวะ 555

457 Nameless Fanboi Posted ID:WWUWHRElk

พวกมึงพอมีพล็อตเเนะนำไหมวะขอพล็อตเเบบเรื่องสั้นนะ

458 Nameless Fanboi Posted ID:LNSIMBEBx

>>457 ในชีวิตจริงเวลาถามหรือขอร้องอะไรใครพูดสำนวนแบบนี้หรือเปล่า?

459 Nameless Fanboi Posted ID:Z7QLSa6iv

>>457 (เก๊กเสียงกัปตันโรเจอร์) "สุภาพหน่อย"

460 Nameless Fanboi Posted ID:4CewdKcn/

>>457 อ่ะๆกุให้ มีเด็กคนหนึ่งอยากเขียนเรื่องสั้นก็เลยมาถามพล็อตในเว็บบอร์ดไม่ระบุตัวตน เพื่อจะได้เอาไปเขียน ซึ่งมีคนหนึ่งให้พล็อตที่เกี่ยวกับเด็กที่เขียนเรื่องสั้นก็เลยมาถามพล็อตในเว็บบอร์ดไม่ระบุตัวตน เพื่อจะได้เอาไปเขียน เด็กคนหนึ่งอยากเขียนเรื่องสั้นก็เลยมาถามพล็อตในเว็บบอร์ดไม่ระบุตัวตน เพื่อจะได้เอาไปเขียน

461 Nameless Fanboi Posted ID:Z7QLSa6iv

>>460 งงเหี้ย ๆ เอาไป 7 คาเงโร่

462 Nameless Fanboi Posted ID:+6kHldWB5

>>460 กูชอบไอเดียนี้ สนับสนุนให้มึง >>457 เอาไปเขียน >.<

463 Nameless Fanboi Posted ID:5cHoKXjA0

>>460 คือหมายถึงเรื่องว่า 'มีเด็กถามเรื่องพล็อตในบอร์ด' แล้วซ้อนเรื่องไปเรื่อยๆ?

464 Nameless Fanboi Posted ID:iEdhny0Wx

>>463 Dream within a dream within a dream...

465 Nameless Fanboi Posted ID:cqEiMXePX

>>457 สรุปได้พล็อตหรือยัง ถ้ายังไม่ได้ก็ลองเอาพล็อตเรื่องสั้นที่กุเสนอไปแต่งสิ กุใจกว้างนะ มึงไม่ต้องเครดิตกุกุก็ไม่โกรธ เพราะมึงไม่รู้อยู่แล้วว่ากุคือใคร 55555+

466 Nameless Fanboi Posted ID:FX/ViP4c.

>>457 เอา 9 ศาสตราไปแต่งวายดิ กำลัง fever

467 Nameless Fanboi Posted ID:QAXUabACb

https://www.dek-d.com/board/view/3820941/
เอ้า โม่งๆ ช่วยแนะกันหน่อยว่ะ

468 Nameless Fanboi Posted ID:6sV.ke14A

>>467 จะเก่งได้มันต้องพัฒนาอ่ะ ถ้าเขียนแต่แบบเดิม ๆ คนติมาไม่ยอมพัฒนามันก็ไม่มีวันเก่งหรอก

469 Nameless Fanboi Posted ID:D1/pCgNYw

>>466 อ๊อดโดนครูมวยถ่ายทอดวิทยายุทธจากด้านหลังจนตูดฉีกนอนโรงพยาบาลไป 7 วันป่าว

470 Nameless Fanboi Posted ID:3cXlpH5/O

>>469 เห็นแบบนี้โดจินผุดเป็นดอกเห็ดเลยนะเว้ย หนังมันออกมาให้จิ้นได้หลายคู่มาก ตัวละครมันจิ้นได้ทั้งวาย อ๊อด-เทหะยักษา รักต่างสายพันธุ์ วาตะ-อสูรสีชาด รวมทั้งคู่ธรรมดาแบบ อ๊อด-เสี่ยวหลาน 555+ เดี๋ยวก็มีแฟนฟิคออกมาแน่ กูว่า

471 Nameless Fanboi Posted ID:e1hoBlOSk

โม่งตรงนี้เป็นนักอ่านหรือนักเขียนกัน
ถามโม่งนักอ่าน เคยอ่านที่นักเขียนมาคอมเม้นในคอมเม้นตัวเองไหม รู้สึกไง
ถามโม่งนักเขียน เคยอ่านที่นักอ่านมาคอมเม้นไหม แล้วตอบกลับบ้างไหม รู้สึกไง

472 Nameless Fanboi Posted ID:ikbwBKThh

>>471 นักเขียนมาคอมเม้นในคอมเม้นตัวเองคือยังไง ถ้าแบบว่านักเขียนคอมเม้นในนิยายตัวเองคือค่อนข้างชินละ ตราบใดที่ไม่เขียนเข้าทำนองว่า ไม่เม้นครบบลา ๆ ไม่ลงตอนใหม่ อะนะ
ส่วนตัวอ่านที่นักอ่านคอมเม้นและตอบกลับอยู่แล้ว ก็รู้สึกดีอะนะ คล้าย ๆ ได้กำลังใจอะ

473 Nameless Fanboi Posted ID:XfkOhHIWS

https://www.dek-d.com/board/view/3821057/
อย่าลึมไปใช้บริการนะครับ

474 Nameless Fanboi Posted ID:urhxbridJ

>>473 เค

475 Nameless Fanboi Posted ID:rtuVR/o8v

>>473 Posting here is unnecessary. But thx anyway, whoever you are.

476 Nameless Fanboi Posted ID:FdI9O8e+5

กูเบื่ออออออ ไม่ได้เขียนนิยายนาน พอจะกลับมาเขียนรู้สึกตามโลกนิยายเว็บไม่ทันแล้วอีเหี้ย

477 Nameless Fanboi Posted ID:rzhdUZzup

>>473 We're NOT devianartians!

478 Nameless Fanboi Posted ID:rtuVR/o8v

>>477 Discriminating?

479 Nameless Fanboi Posted ID:0NyaaPHfI

>>473 ทำไมต้อง +3 ด้วย เขียนไปว่า 17 เฉย ๆ เลยไม่ได้เหรอ? อันนี้งงจริงนะ

480 Nameless Fanboi Posted ID:3cXlpH5/O

>>479 น่าจะแบบแถมๆล่ะมั้ง ถ้าเกิดจำนวนคนสนใจถึง 14 ก็จะบวกอีก 3 ให้ไรงี้

481 Nameless Fanboi Posted ID:3cXlpH5/O

>>475 ใช่ป่ะ คุณป่าไม้

482 Nameless Fanboi Posted ID:rtuVR/o8v

>>481 ใช่ครับ ผมเอง Louis Forest

483 Nameless Fanboi Posted ID:rtuVR/o8v

>>480 14 คือวัน Valentine's Day ครับ บวก 3 มันจะได้เป็น 17 จะได้เป็น Prime Number ครับ

484 Nameless Fanboi Posted ID:0NyaaPHfI

>>483 จำนวนเฉพาะเกี่ยวอะไรกับการรับจำนวนเหรอ?

485 Nameless Fanboi Posted ID:rtuVR/o8v

>>484 ในประโยคคำถามของคุณมีคำตอบอยู่แล้วครับ

486 Nameless Fanboi Posted ID:9/0PyvJmA

ยังพูดไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม 555

487 Nameless Fanboi Posted ID:esXJ4HP36

ทำไมต้องแสดงตัวเองว่าฉลาดตลอดเวลาด้วยวะครับพี่ Louis Forest

488 Nameless Fanboi Posted ID:3cXlpH5/O

>>483 การบวกกันให้ได้ prime number มีประโยชน์ยังไงหว่า

489 Nameless Fanboi Posted ID:u7gCqEeTo

ก็จำนวนเฉพาะไงมึง
เฉพาะคน เฉพาะตัว งี้ปะขุ่นพี่ป่า

490 Nameless Fanboi Posted ID:3cXlpH5/O

โอยยย กูเขียมมม หัวทู้ 555
https://www.dek-d.com/board/view/3821130/

491 Nameless Fanboi Posted ID:fTXP+p493

>>490 ตรงดีออก ไม่ต้องดราม่า ไม่ต้องอวด ไม่ต้องเหี้ยไรเลย
สัส กูขรรม ถถถถ แม่นาง(?)ช่างกล้าหาญปานขุนศึก //ปรบมือ

492 Nameless Fanboi Posted ID:MKAh4bPv/

มีนิยายเรื่องไหนรอสับแล้วยังไม่ได้สับบ้าง เดี๋ยวช่วยครับ ถามมาสองรอบแล้ว

493 Nameless Fanboi Posted ID:lZTs27ZiP

>>492 ใน list มีอยู่เพียบ

494 Nameless Fanboi Posted ID:3PPruZh.4

>>492 เรื่องนี้ https://writer.dek-d.com/kkyochan/story/view.php?id=1590076
ตอนแรกคิดว่าจะสับเองอยู่ แต่อ่านๆ ไปแล้วกูเข้าไม่ถึงนิยายแนวผู้วิเศษวะ ดังนั้นฝากด้วยนะ 492

495 Nameless Fanboi Posted ID:MKAh4bPv/

ใครเมตตาบอก list นิยายที่ยังไม่ได้สับให้ทีครับ หาไม่เจอ พอดีเพิ่งเล่นที่นี่

496 Nameless Fanboi Posted ID:lZTs27ZiP

>>495 https://fanboi.ch/webnovel/4106/5/

497 Nameless Fanboi Posted ID:nMEceDf9X

>>494 >>492 รอๆเรื่องนี้อยู่นะ เห็นขยันโปรโมทตามมู้ อยากรู้ว่าหนุกจริงไหม

498 Nameless Fanboi Posted ID:4WNQBeqrt

เอาเวลาไปใกเขียนนิยายให้รู้เรื่องดีกว่าไหมวะ?

https://www.dek-d.com/board/view/3821057/

499 Nameless Fanboi Posted ID:Dr8XuY7Zs

>>498 กูเคยไปอ่านแล้ว นิยาย Nova to Terra ของมัน บอกตรงๆ อ่านไม่รู้เรื่องเลย ลำดับภาพ และเนื้อเรื่องสับสนไปหมด ไม่รู้เขียนไว้อ่านเองรึเปล่าว่ะ

500 Nameless Fanboi Posted ID:jl8WJTItC

>>498 มึงช้าไปนะพี่เค้ามาแปะเองตั้งแต่เมื่อวานหล่ะ แล้วก่อนจะเขียนนิยายให้รู้เรื่องต้องบอกพี่เค้าเขียนภาษาคนให้รู้เรื่องก่อนดิวะ

501 Nameless Fanboi Posted ID:GGsjLT6eh

>>496 ขอบคุณครับ เดี๋ยวไปไล่ดู แต่คงไม่เชิงสับเละถึงขั้นแบ่งเป็นบท ๆ นะ คงจะแค่รีวิว และจะเอาให้จบภายใน 1 ความคิดเห็น ไม่อยากให้เปลืองกระทู้

502 Nameless Fanboi Posted ID:Gb0B4MXU6

>>499 รีไรท์ใหม่แล้วนี่มึง

503 Nameless Fanboi Posted ID:p2VHLhELT

>>502 รีไรท์แล้วก็ยังไม่ดีขึ้นเลยนะ หรือใครว่าไงมั่ง

504 Nameless Fanboi Posted ID:cMJRyxxij

>>503 ไม่เคยอ่านก่อนเขารีไรท์นะ แต่เคยเข้าไปอ่านแวบหนึ่ง รู้สึกเฉยๆ ว่ะ ไม่เข้าขั้นแย่มากแต่ก็ไม่ได้ดีเลิศขนาดนั้น

505 Nameless Fanboi Posted ID:WbVJRFwlp

>>504 รู้ว่าเอารูปกันดั้มมาแปะ ใช่นิยายกันดั้มวอนนาบีรึเปล่า

506 Nameless Fanboi Posted ID:LtRlD7Cay

คอมเมนต์ในกลุ่มนิยายแห่งหนึ่ง ถึงเรื่องมากเมฆออนไลน์ที่โม่งเคยด่ากัน

- สนุกนะ ช่วงต้นๆอาจไม่ค่อยเข้าใจเพราะผู้แต่งปูเนื้อเรืาองแต่หลังจากบทที่ 4 ไปสนุกอย่าบอกใคร มีสตอรี่ตัวละครที่น่าสงสารมาก
- สนุก... แต่หลังๆๆ น่าเบื่อ
- ผมว่าก็ยังสนุกอยู่น่ะ หลังๆมา พระเอกเก่งเวอร์ แต่ยังอยู่ในขอบเขตที่สนุกครับ อ่านแล้วหน้าติดตามต่อครับ บางมุมทำให้เศร้าได้จนซึ้งมากครับ บางมุมสนุกมากครับ มีบู๊เลือดสาด มีซึ่งน้ำตาไหล มีทำเงินจะรวยเลย น่าติดตามครับเรื่องนี้

คงไม่แปลกใจนะว่าทำไมถึงติดท๊อป ก็เรื่องมันสนุกถึงขนาดนี้นี่หว่า

507 Nameless Fanboi Posted ID:WbVJRFwlp

>>506 กูว่าคนอ่านบางคนไม่ได้เล่นเกมออนไลน์เป็นล้ำเป็นสัน

508 Nameless Fanboi Posted ID:2xSDLV3/S

>>506 เอายอดขายดีกว่า แนวนี้ขึ้นชื่ออ่านฟรีชมกัน แต่พอให้ควักเงินหายจ้อย

509 Nameless Fanboi Posted ID:DKHOckXLc

นิยาย Nova to Terra นี่

ในฐานะคนอ่านนี่ คนอื่นไม่รู้ว่ายังไงนะ แต่กูว่ามันก็ไม่ได้แย่อะไร ถึงจะมีศัพท์เทคนิคกับข้อมูลต่าง ๆ ก็ยังโอเค กูเองก็เคยอ่านหนังสือมาประมาณหนึ่ง พอรู้อะไรมาบ้างเลยไม่มีปัญหาเท่าไหร่กับเรื่องพวกนี้ และต่อให้เขียนว่าเป็นนิยายสำหรับปัญญาชนเหมาะสำหรับคนที่มีความสามารถจริง ๆ ถึงจะอ่านเข้าใจ กูก็คงสรุปให้ไม่ได้ว่ามันเป็นจริงหรือไม่ เพราะกูไม่ใช่นักอ่านขั้นเทพจนอวดอ้างตัวเองได้ อย่างเดียวสำหรับกูที่สลัดออกจากใจไม่ได้คือความสะดุดระหว่างอ่าน มันมีหลายจุดมาก ๆ ที่อ่านแล้วต้องหยุดกึกไปกลางคัน ย้ำอีกครั้งว่าถึงมีการแทรกข้อมูลเยอะกูไม่มายด์ แต่ที่ละเลยไม่ได้คือความสมูท ถ้าวันหนึ่งนายป่าแก้ไขเรื่องนี้ได้ กูว่ามันจะดีขึ้นมาก

ไม่แน่ใจว่าเคยเห็นมาจากไหน ที่ว่านิยายเลือกผู้อ่าน แล้วก็มีคนเขียนว่าถ้าคนอ่านเข้าไม่ถึงนิยายของเรา มันจะแปลว่าเราแต่งนิยายเทพเกินไปหรือคนอ่านแม่งโง่เอง กูก็สรุปอะไรให้ไม่ได้เหมือนกันเลยพูดเรื่องนี้ต่อในฐานะคนเขียนบ้าง ว่าการแต่งนิยายก็คือการเล่าเรื่อง คนอ่านก็มีเยอะแยะมากมายร้อยพ่อพันแม่ ถ้าคิดว่าจะเขียนให้แต่คนชอบวิทยาศาสตร์อ่านอันนั้นก็คงต้องทำใจ แต่อาจารย์ของกูเคยพูดว่างานเขียนที่ดีย่อมเปิดกว้างต่อผู้อ่านหลากหลาย อย่างน้อยแล้วเราควรเขียนเรื่องให้คนหลายกลุ่ม, หลายระดับสามารถสนุกไปกับมันได้ ถ้าเขียนงานที่มีแต่คนอ่านเทพ ๆ เท่านั้นจะสัมผัสและเข้าถึง เรื่องของเราก็แม่งมีคนอ่านจึ๋งเดียว เรื่องเอาไปตีพิมพ์ขายยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะเรื่องจะขายได้เฉพาะกลุ่มคนที่สนใจเท่านั้น

ข้อสุดท้ายที่อยากบ่นส่วนตัวคือการผสมผสานหลายอย่างเข้าด้วยกัน ถ้าคุมไม่ดีมันจะกลายเป็นดาบสองคม อวกาศ - ไซไฟ พอเข้าใจ แต่ทำไมถึงแถมสามก๊กมาด้วย ยุคเทคโนโลยีไฮเทคพอเข้าใจว่าคนจากหลายเชื้อชาติอาจเข้ามาใช้ชีวิตร่วมกันในโคโลนีได้ แต่ไม่รู้ทำไมกูถึงทำใจไม่ได้เรื่องชื่อของแต่ละตัวละครก็ไม่รู้ ต่อให้คิดว่าอาจเหมือนฝ่ายต่าง ๆ ของเกมแนวสร้างฐานอย่างสตาร์คราฟ หรือ C&C ต่างทวีป ต่างอาวุธ ต่างเทคโนโลยีรบ แต่ก็ไม่สามารถทำให้มันลงตัวได้ เนี่ยความคิดเห็นของกูเกี่ยวกับ NtT

510 Nameless Fanboi Posted ID:8C0GF8zJp

>>509 After done reading this, I think people here will hate me more.

511 Nameless Fanboi Posted ID:Dr8XuY7Zs

>>510 หวังให้คนชอบทั้งโลก ก็มักจะผิดหวัง

512 Nameless Fanboi Posted ID:WbVJRFwlp

>>509 ยังงี้ก็เหมือนกับว่า รู้วิธีสร้างบ้านทั้งหลัง แต่ขาดความรู้การตอกเสาเข็มบ้าน

513 Nameless Fanboi Posted ID:/inDdIvJd

>>512 ประมาณรู้ทั้งวิธีสร้างบ้านทั้งหมดแต่เป็นพวกบ้านเอสกีโมอย่างเดียวดีกว่าว่ะ

514 Nameless Fanboi Posted ID:mBI+DQc7y

>>511 เพราะเป็นแบบที่มึงพูดไง กูถึงต้องเสริมใน >>509 ว่าก่อนแต่งนิยายต้องเลือกเป้าหมายก่อน ว่าแนวนิยายนั้นพุ่งเป้าไปที่คนอ่านแบบไหน แล้วจากนั้นค่อยหาทางเขียนเรื่องยากให้ออกมาเข้าใจง่าย คนอ่านอ่อนประสบการณ์ก็ทำความเข้าใจหรือค้นคว้าต่อเองได้ ส่วนคนอ่านที่เก่งแล้วก็เอนจอยไปกับเนื้อเรื่องได้ทันที

ความท้าทายของคนเล่าเรื่องแนววิทย์คือ "คุยเรื่องอนุภาคควาร์กให้ฟังแล้วเข้าใจง่ายเหมือนสอนเด็กเรียนเรื่องสสาร แต่แม่งต้องสนุกด้วย" ซึ่งมันไม่ง่ายดายนักหรอก

515 Nameless Fanboi Posted ID:oNKMv.v.s

>>514 อีกนัยคือ นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะพยายามสอนทฤษฎีควอนตัมยังไงให้เด็กมัธยมเข้าใจรู้เรื่องสินะ

516 Nameless Fanboi Posted ID:xq0XXSxEW

>>515 เข้าใจแต่ไม่สนุก็ไม่มีใครอ่านนะ

517 Nameless Fanboi Posted ID:/2ddcUHvl

>>515 ถูกเพียงครึ่งเดียว เพราะถ้าแค่สอนเข้าใจได้หมายถึงประสบความสำเร็จในฐานะครู แต่สำหรับการเป็นนักเขียนมันต้องทำได้มากกว่านั้น การผลิตอะไรบางอย่างที่เป็นความรู้คู่ความบันเทิงคืองานศิลปะ ไม่ใช่เฉพาะหมวดวิทย์แต่หมวดอื่น ๆ ก็ด้วย

เคยอ่านหรือดูการ์ตูนเรื่อง Initial D กันหรือเปล่า นั่นคือการเล่าเรื่องผ่านตัวละครที่ขับรถ แล้วเราได้ทั้งความรู้เรื่องรถพร้อมความสนุกตื่นเต้นในการแข่งขันไปพร้อมกัน คนไม่ค่อยรู้เรื่องรถก็ยังเข้าถึงได้ แม้บางช่วงดูขี้โม้ไปบ้าง (เพราะยังไงมันก็คือเรื่องแต่ง) แต่การ์ตูนลายเส้นไม่ค่อยสวยเรื่องนี้ก็ประสบความสำเร็จกับกลุ่มเป้าหมายหลักอย่างคนในวงการรถแข่งอย่างมากเลยทีเดียว

518 Nameless Fanboi Posted ID:x/3r83vb9

>>517 แถสีข้างถลอก ดริฟคร่อมรางเลยนะมึง

519 Nameless Fanboi Posted ID:/2ddcUHvl

>>518 อันนั้นมันล้อเลียนเอาฮานี่หว่า รถไฟพ่องบินข้ามรางหน้าตาเฉย แต่ดันทำไปตั้ง 20 กว่าเล่มซะงั้นไอ้ภาคเด็งฉะรถไฟดริฟเนี่ย

พวกทำมาพาโรดี้กูชอบอันนี้ที่สุดละ
https://youtu.be/758Y3qGecX4

520 Nameless Fanboi Posted ID:VJP/jCfxv

ดริฟไปกับท่อ มีคนลองแล้วสรุปก็คือคว่ำ!!

521 Nameless Fanboi Posted ID:/2ddcUHvl

ชักจะออกทะเลละวะ

กลับมาเรื่องนิยายก่อนดีไหม มีใครจะสับเรื่องไหนหรือเปล่า ใจจริงกูอยากได้พวกใจถึงมาแปะลิงค์นิยายในนี้มากกว่า รายชื่อเก่าในลิสต์มีแต่งต่อไม่ถึง 10 เรื่อง บางเรื่องลบไปแล้วก็มี

อยากได้อะไรที่มันสดใหม่เป็นปัจจุบันหน่อย ถึงจะสู้นิยายกระแสอย่างแปลจีน นางร้าย วาย ไม่ได้เหอะ ลองมาสับกันดูมั่งอาจได้อะไรดี ๆ นะเว้ย

522 Nameless Fanboi Posted ID:kNQM8.8Fw

>>521 ช่วงนี้แนว abyss มุดรูมาแรง

523 Nameless Fanboi Posted ID:/2ddcUHvl

>>522 มันเป็น ไซไฟ + ผจญภัย + แฟนตาซี ที่กูชอบนะ เหมือนย้อนกลับไปอ่านนิยายเก่า ๆ ที่มีเสน่ห์ดี หลังจากต้องทนดูเกิดใหม่ต่างโลกต่อเนื่องกันมาหลายปี

524 Nameless Fanboi Posted ID:oNKMv.v.s

>>522 นิยายเรื่องไหนวะ ไอ้แรงบันดาลใจ Made in Abyss?

525 Nameless Fanboi Posted ID:WoEq6mqhm

ถ้าอยากจะบอกว่านิยายเลือกคนอ่าน และอ้างเรื่องนักวิทย์สอนควอนตัมฟิสิกส์เด็กม.ปลายไม่รู้เรื่องหรอก งั้นมึงก็คงเป็นนักเขียนนักคิดที่เห่ยมากอ่ะ เพราะไอน์สไตน์บอกว่า ถ้ามึงเข้าใจจริงๆ มึงต้องอธิบายเรื่องนั้นให้เด็กสามขวบรู้เรื่อง

526 Nameless Fanboi Posted ID:8ihO7HwpY

>>525 การเขียนนิยายเป็นศิลปะ คนอ่านต่างกันเข้าใจต่างกันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร การเขียนนิยายไม่ใช่แค่การอธิบายเรื่องราวให้คนอ่านเข้าใจ ถ้ามึงจะเน้นอธิบายก็ไม่ต้องวางปมห่าอะไรแล้ว สรุปมา 1 หน้า A4 แบบตอนที่เขียนเรื่องย่อส่งสำนักพิมพ์

527 Nameless Fanboi Posted ID:WoEq6mqhm

>>526 กุเข้าใจ กุหมายถึงกรณีที่มีคนบอกว่านิยายเลือกคนอ่านน่ะ ก็จริง แต่กุเห็นไอ่นี่มันชอบโหนโควตนักคิดนักวิทย์ไรงี้ กุก็เลยแค่โหนกลับให้ฟังเฉยๆ เพื่อจะบอกว่า มันไม่ได้จริง exactly ซักหน่อย มันมีกรณียกเว้น กรณีที่ควรพิจารณา อะไรทำนองนั้น

528 Nameless Fanboi Posted ID:g5UYmq3R2

>>527 ทุกอย่างบนโลกมันก็มีข้อยกเว้นหมดแหล่ะ นักเขียนบางคนไม่เคยผ่านการฝึกหรือเป็นนักเขียนหน้าใหม่ก็อาจสร้างนิยายดี ๆ ขึ้นมาได้ก็ได้

529 Nameless Fanboi Posted ID:WkqnO6ZmP

นิยายเลือกคนอ่าน... แต่ถ้ามึงอยากติดอันดับก็ต้องเบียว ต้องซู ตามกระแสตลาดว่ะ

วันนี้กูได้มีโอกาสไปคุยกับเด็ก ม.3 โรงเรียนดัง เกี่ยวกับรสนิยมนิยายเนี่ยล่ะ 8 ใน 10 คนตอบชอบแบบนิยายจีนหมด กลับกันพอพูดถึงแนววิทย์นี่ไม่มีใครตอบกลับเลย

530 Nameless Fanboi Posted ID:NOEsZ6A29

>>529 ตลาดเฉพาะเว็บเด็กดีรึเปล่า สงสัย

531 Nameless Fanboi Posted ID:NOEsZ6A29

>>530 แก้ๆ ถามรสนิยมเฉพาะเว็บเด็กดีรึเปล่า หรือถามนิยายทั้งหมด

532 Nameless Fanboi Posted ID:buLPjUgIy

กูยอมแพ้แล้วว่ะเพื่อนโม่ง จบเรื่องนี้กูจะแต่งนิยายกระแสแล้ว ตลาดแม่งไม่เป็นใจเลย เขียนแบบนี้ขายยากสัสเอ๊ย

533 Nameless Fanboi Posted ID:doiHQ.feH

อยากขายได้ ก็ไปเน้นตลาดสาวๆหรือวายดีกว่า แน่นอนว่าต้องเขียนให้ดีด้วยนะ

534 Nameless Fanboi Posted ID:5W8CXhftR

>>530 ก็นี่มันมู้เด็กดวก จะให้ไปหาตลาดไหนวะ?

535 Nameless Fanboi Posted ID:JFDVf5gMm

>>505 Absolutely, of course, it's a Gundam-wannabe story.

https://www.dek-d.com/board/view/3821748/

536 Nameless Fanboi Posted ID:KzPCowq0G

>>535 จะว่าอะไรไหม หากชั้นบอกว่าเกลียดลายเส้นนี้มาก พัฒนาสัดส่วนบ้างเถ อะ

537 Nameless Fanboi Posted ID:L6l8aNwTW

>>536 +1 ฝีมือกากๆ แต่ชอบอวด

538 Nameless Fanboi Posted ID:TOMjfvpeb

>>536 สำหรับกูขอบอกว่าอุบาทว์ตามาก กดเข้าไปในมู้ไม่คิดว่าจะเจอรูปเชี่ยนี่แมร่งแปะส่งเดชสัส

539 Nameless Fanboi Posted ID:4VoPYXGs0

>>536 อดเห็นใจคนวาดไม่ได้ว่ะ คงคิดว่าสวยแล้วเลยแปะ อยากบอกว่ามันไม่สวยเลยนะครับพี่

540 Nameless Fanboi Posted ID:gIKoaxm+v

กูเปิดกระทู้นั่นบนรถไฟฟ้าอะคิดดู คนเต็มเลยสัด

541 Nameless Fanboi Posted ID:syBGPVvXe

>>540 555 สถานการณ์เดียวกับกูเป๊ะ บีทีเอสตอนเลิกงานคิดดูละกันคนแม่งเยอะแค่ไหน

อันนี้ขอถามทุกคนหน่อย กูกำลังคิดจะกระชับเนื้อหา เรื่องที่กูแต่งมีทั้งความรักและแฟนตาซี แต่กูเน้นไปที่รักมากกว่า กูวางพล็อต วางปมไว้แล้ว กูกะสัดส่วนของกูเองว่า รัก70% แฟนตาซี30% แต่เพราะกูเน้นรักมากกว่าง เปิดเรื่องมากูจึงโฟกัสไปทีความสัมพันธ์ของพระนางก่อน ความแฟนตาซีมีแพลมมา แต่น้อยมาก พอพระนางเหมือนเริ่มจะชอบกัน(ยังไม่รักนะ) กูก็เริ่มแทรกแฟนตาซีเข้ามามากขึ้น ทีละนี้ละมึง รู้สึกว่ากริบลง สังเกตจากยอดวิวตอน คงเพราะกูเขียนแฟนตาซีไม่ค่อยหนุกด้วยมั้ง กูก็เลยกำลังตัดสินใจว่า
1.ตัดส่วนที่เป็นความแฟนตาซีออกให้น้อยลง เน้นหนักไปที่ความรัก เนื้อหาจะสั้นลง
2.เขียนต่อไป พยายามทำให้นักอ่านชอบให้ได้ และพัฒนาตัวเอง
กูจะเอาไงดีวะ

542 Nameless Fanboi Posted ID:xXUVTWA6l

>>541 กูชอบแบบ 2 ท้าทายตัวเองดี
แต่สุดท้ายคือแล้วแต่มึงนะว่าโอเคมั้ย หรือวางโครงไว้ยังไง

543 Nameless Fanboi Posted ID:v6yWaAyYN

มีใครว่างช่วยวิจาณ์ให้ไหมครับ พอดีผมกำลังแต่งเรื่องใหม่อยู่
https://writer.dek-d.com/nakarin0o/writer/view.php?id=1748050

544 Nameless Fanboi Posted ID:yROwxf2RF

>>543 เชี่ย 19 ตอน 195 วิว 13 คนติดตาม การแข่งขันมันสูงหรือต่ำไปหรือยังไงวะหมวดเกมออนไลน์...[กูสิงอยู่แค่แฟนตาซีกับกำลังภายใน]

545 Nameless Fanboi Posted ID:uhYNvdneg

>>543 ผิดมู้แล้วนี่มู้นินทา

546 Nameless Fanboi Posted ID:8SaTIPFO+

>>544 หมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่แนวหลักก็งี้แหละค่ะมึง

547 Nameless Fanboi Posted ID:naTjGY.oj

>>543 อ่านแค่ตอนแรก

ชื่อเรื่องภาษาไทยไม่โดนเท่าไหร่ ดูราบเรียบเหมือนเรียงความส่งอาจารย์

ตอนแรก ช้า การดำเนินเรื่อง เล่าเรื่อง ในขณะที่ฉากต่อสู้มันควรจะมีสปีดที่เร็วกว่านี้ ทุกอย่างมันช้าไปหมด ยัดข้อมูล ยัดวิธีคิด ยัดวิธีเล่น การปูพื้นตอนแรกทำออกมาไม่ดี อารมณ์ขันรู้สึกมันราบเรียบไปขาดเสน่ห์

คำผิดเยอะอยู่ แต่สาระสำคัญยังอยู่การเล่าให้น่าติดตามตรงนี้ทำออกมาไม่ดีเท่าไหร่

เขียนคล้ายจะเป็นแนวนิยายต่างประเทศที่นิยมในไทย ทั้งเปลี่ยนเป็นโลกเกม ทั้งระบบเลเวล แต่ยังไม่ดึง การบรรยายไม่ได้แย่มากแต่ไม่น่าสนใจ

548 Nameless Fanboi Posted ID:Xp3v5fejO

>>547 ขอบคุณครับคือเป็นการลองเขียนมุมมองบุลคลที่หนึ่งครั้งแรก จะนำไปปรับปรุงนะครับ

549 Nameless Fanboi Posted ID:naTjGY.oj

>>548 ไม่แน่ใจนะว่าเกี่ยวกับมุมมองบุคคลที่หนึ่งไหม แต่คิดว่าเปลี่ยนเป็นบุคคลที่สามผลลัพธ์ก็ไม่น่าต่างกันมาก ปัญหาอาจจะเกิดจากการคิดอ่านวางแผนว่าจะเขียนอะไรอย่างไรให้คนเข้าใจ แต่ไม่ได้มองในมุมคนอ่านหรือคนอยากอ่านว่าเขาอยากที่จะอ่านอะไร (งงไหม) ปกติอ่านหนังสือบ่อยไหม นิยายที่อ่านเป็นแนวไหน เวลาเจอนิยายที่ชอบแล้วนึกออกไหมว่าทำไมเราถึงชอบ ถ้าเอาเขียนเพราะอยากเขียนก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าอยากเขียนให้คนอื่นอ่าน คนอื่นติดตาม ต้องย้อนนึกดูว่าความรู้สึกคนอ่านดูว่าทำไมเขาอยากอ่าน

อะไรที่บอกว่าต้องซู ต้องเบียว ตามกระแส พวกนี้กูไม่ค่อยเห็นด้วยหรอกนะ นิยายสนุกมันมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างกับนิยายที่ไม่สนุกอยู่ที่คนเขียนจะเข้าใจมันหรือเปล่า มันอาจจะไม่มีนิยายที่สนุกสำหรับทุกคน แต่มันมีแน่ๆ นิยายที่คนส่วนใหญ่รู้สึกสนุก นิยายต่อให้ตามกระแสมันก็มีทั้งเรื่องคนอ่านมากคนอ่านน้อย อัพเดทต่อเนื่องเกี่ยวไหม ก็เกี่ยว จำนวนตอนก็เกี่ยว แต่ถ้านิยายไม่สนุกสำหรับคนอ่านมันก็ไม่มีคนอ่านต่อหรอก ถ้าอ่านนิยายตามเว็บก็ลองมองหาข้อดีที่ทำให้คนรู้สึกอยากอ่าน แต่ถ้าเปิดๆ ไปแล้วรู้สึกยี้ รู้สึกแย่ อ่านผ่านๆ แล้วไม่โอเค ก็อาจเป็นเรื่องรสนิยมที่แตกต่างไม่ก็มีอคติบัง มันเป็นไปได้ยากที่นิยายคนอ่านเยอะจะไม่มีอะไรเลยมันต้องมีอะไรบางอย่างที่นักอ่านชอบอยู่เลยอ่านต่อไปเรื่อยๆ

ถ้าอยากทำความเข้าใจก็หาพวกเป็นเล่มอ่าน หรือเป็น ebook ก็ได้ เอาเล่มที่ขายดีหน่อย นิยายแปลก็ได้ลองเปิดดูว่าตรงรสนิยมเราไหม อ่านแล้วสนุกไหม อ่านที่มันสนุกให้มากๆ ให้มันปรับเปลี่ยนมุมมองการเล่าเรื่องตัวเอง แต่ถ้าอ่านอันที่คนนิยมอ่านแล้วกี่เรื่องๆ ก็ไม่ถูกใจ อาจเป็นเรืองรสนิยม อันนี้ก็ยากหน่อย เหมือนคนมองโลกไม่เหมือนกัน จะเปลี่ยนให้คนอ่านชอบโลกที่มึงมองก็ยาก จะเปลี่ยนให้มองโลกที่คนอ่านชอบก็ยากเช่นกัน

อีกข้อแล้วกัน คอมเม้นต์ในหน้านิยายจะถือเอาส่วนน้อยเป็นตัวแทนความคิดคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ ถ้าเขียนไประดับหนึ่งแล้วมันจะดูออกเองว่าแบบไหนคนอ่านชอบ เขียนแล้ววิวยังเพิ่มต่อเนื่อง อาจมีคนไม่เห็นด้วยแต่แบบนี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นตัวแทนคนส่วนใหญ่ หรือมีคนชมหน่อยแต่ยิ่งเขียนคนอ่านยิ่งลด ติดตามน้อยลง แสดงว่ามีปัญหา คนส่วนใหญ่ไม่ออกมาคอมเม้นต์หรอก สนุกเขาก็ตาม ไม่สนุกแล้วเขาก็พอ หมวดเกมออนไลน์กูไม่ได้อ่านนานมากแล้ว แต่ดูจำนวนกลุ่มคนอ่านแล้วก็น่าจะมีอยู่ จำนวนตอนกับยอดวิวกูว่าของมึงน้อยเกินไป แต่ดีแล้วที่มึงเขียนต่อกันมาได้หลายตอน ถ้าตอนน้อยๆ แล้วไม่มีคนอ่านมันไม่แปลก

550 Nameless Fanboi Posted ID:Iwve4JYqy

กูเชื่อเหลือเกินว่าให้คำแนะนำขนาดนี้ไปมันก็ไม่พัฒนาขึ้น ช่วยทำให้กูคิดผิดหน่อยเถอะวะ 5555555+

ลงชื่อ เซฮุน

551 Nameless Fanboi Posted ID:Xp3v5fejO

>>549 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ผมเป็นคนอ่านนิยายน้อยมาก ที่อ่านอยู่มีแค่นิยายแปลของ Fate Zero เล่มเดียวที่เอามาศึกษา ส่วนเรื่องลงนิยายผมลงวันละตอนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องคอมเม้นต์ผมเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากนอกจากจะเก็บคำแนะนำที่มีประโยชน์ไปครับ

552 Nameless Fanboi Posted ID:naTjGY.oj

>>551 แนะนำให้อ่านมากกว่านี้ แนวออนไลน์อันที่จริงถ้าได้อ่านราชาแห่งราชันก็น่าจะดี แต่อ่านเรื่องที่เอามาลงแล้วมันไปทางต่างโลกแบบจีนมากกว่า เปลี่ยนโลกให้กลายเป็นโลกเกมนี่จีนเขียนเยอะ แต่ถ้าอ่านไลต์โนเวล แนะนำตามนี้

แนวตลก เรื่องขอให้โชคดีมีชัยในโลกแฟนตาซี
แนวหม่นๆ หน่อย ขี้เถ้าในกริมการ์แดนมายา
แนวตัวเอกเทพ overlord เดธมาร์ช

เอามาแต่แนวต่างโลกนะมันใกล้เคียงเรื่องที่เขียน

553 Nameless Fanboi Posted ID:Xp3v5fejO

>>552 ขอบคุณที่แนะนำจะลองไปหาอ่านดูครับ

554 Nameless Fanboi Posted ID:InFq7PhOn

กุเอานิยายมาให้สับได้ไหม พอดีเอาไปฝากร้านวิจารณ์แล้วโดนปิดหนีหมดเลยTT

555 Nameless Fanboi Posted ID:e7Y.aOPL1

>>554 ใจแข็ง ไม่กลัวโม่งแตกก็วางมาเลย
พวกให้สับพอโดนเยอะหน่อยงอแงนี่อย่ามาให้สับในนี้เลย

556 Nameless Fanboi Posted ID:naTjGY.oj

>>554 เอาลงมาสิ วันนี้มีเวลาเดี๋ยวจะดูให้ แต่คงไม่ได้อ่านทั้งเรื่องนะ

557 Nameless Fanboi Posted ID:4wIQa7iQb

ไม่ใช่แนวกระแส คนติดตามอ่านตอนละร้อยคนถือว่าเยอะไหม?

558 Nameless Fanboi Posted ID:Iwve4JYqy

>>557 ไม่เยอะนะ

559 Nameless Fanboi Posted ID:ijGEO2bf.

>>557 น้อยมากตอนกูลงคนอ่านตอนละสามสี่พันคน

560 Nameless Fanboi Posted ID:rIXOCoa0L

>>557 ของกูมีตอนละ 40-50 มีคอมเมนท์ประปราย 5-6 อัน

561 Nameless Fanboi Posted ID:S7v5/8C8m

554 เองนะ https://writer.dek-d.com/blackbank/writer/view.php?id=1442437 คือจะรีไรท์แก้หลายๆอย่างที่รู้สึกไม่โอตั้งแต่บทนำ ตัวละคร การบรรยาย เลยอยากได้คำวิจารณ์เพื่อเปิดมุมมองด้านอื่นด้วย ขอความกรุณาด้วยครับ

562 Nameless Fanboi Posted ID:R9PTf3yYe

>>561 แรงบันดาลใจจากก็อบลินสเลเยอร์ใช่ไหมจ๊ะ เห็นภาพอิมเมจกับระดับนี่กลิ่นลอยมาเลย ตรงส่วนนี้คงไม่มีในเนื้อหาเยอะเกินไปนะ

563 Nameless Fanboi Posted ID:ijGEO2bf.

>>559 ปล.แวะมาบอกเผื่อหมั่นไส้กูประชด
แรกๆ ก็งี้แหละ ใจเย็นโยม
เดี๋ยวก็โผล่มาจากไหนไม่รู้กัน

564 Nameless Fanboi Posted ID:naTjGY.oj

>>561 อ่านไป 5 ตอนนะ แต่อย่างแรกถ้าจะรีไรต์นี่เขียนให้จบก่อนค่อยทำดีกว่า เห็นหลายคนตกในวังวนรีไรต์แล้วเขียนต่อไม่ได้สักที

เรื่องที่เอามาลงภาษาเหมือนนิยายแฟนตาซีที่มัน old school หน่อยๆ ในแนวทางนั้นการเขียนทำได้ดีนะ ส่วนเนื้อเรื่องก็อาจจะมีแนวทางในนิยายที่เป็นนิยายสมัยใหม่ คิดว่าคนเขียนน่าจะโตมาในยุคที่คนนิยมอ่านแฮรี่ บารามอส อะไรทำนองนี้ อายุน่าจะ 20+ รูปแบบภาษาที่ใช้มันมีกลิ่นนิยายยุคก่อนผสมกับพวกนิยายตะวันตก นักเขียนสมัยใหม่หรืออายุน้อยไม่น่าจะบรรยายแบบนี้ได้มากนัก

ลำดับเรื่อง ลำดับเหตุการณ์ก็ไม่สับสนถึงจะมีส่วนที่บรรยายยืดยาวก็ดูไม่ได้ใช้คำฟุ่มเฟือยมากไป ภาพรวมจริงๆ ก็คือทำได้ดีนะ จังหวะก็พอไหว แต่รู้สึกว่ามันขาดจุดพีคไปบ้าง จุดพีคของกูหมายถึงจุดที่จะดึงให้คนอ่านอยากอ่านอยากตามต่อ สักสองสามตอนมันน่าจะมีสักจุด มีทุกตอนเลยยิ่งดี อย่างห้าตอนแรกที่กูอ่านไปมันก็เป็นแพทเทิร์นของนิยายแฟนตาซีสมัยใหม่ จบด้วยเข้าเมืองไปเป็นนักผจญภัย จริงๆ การเขียนอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐานนักเขียนส่วนใหญ่ในเว็บนะ แต่อารมณ์กราฟคล้ายๆ เส้นตรงที่ลอยเหนือเส้นมาตรฐาน คือมันก็ดีแหละแต่เหมือนจะทำให้ดีกว่านี้เป็นจุดๆ ได้อยู่

เรื่องที่เขียนดึงคนอ่านได้ถี่ๆ กูแนะนำให้อ่านนิยายแปลจีนที่มีตอนเยอะๆ พวกนี้มีจุดดึงอารมณ์คนอ่านถี่มาก ลองมองหาข้อดีมันเอามาปรับใช้คิดว่าดึงคนอ่านได้อีกเยอะมาก อย่าไปคิดว่านิยายพวกนั้นมันไม่มีจุดจบเขียนไปเรื่อย มันมีข้อดีของมันอยู่นะถ้าจับจุดได้อาจจะช่วยได้บ้าง แต่เอาจริงๆ เวลาเขียนแล้วรู้สึกในใจว่า นี่แหละ ใช่เลย พีคแน่ แบบนั้นก็โอเคแล้ว ไม่ได้มีสูตรอะไรมากหรอก กูคิดว่าเวลามึงเขียนแรกๆ กลับไปอ่านอาจจะรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรไม่ดี แต่มันเหมือนมีปัญหาอะไรสักอย่างแต่นึกไม่ออก บางทีเวลาเขียนอาจจะขาดความรู้สึกว่า นี่แหละ ใช่เลย ในตอนแรกๆ อยู่หรือเปล่า (กูอ่านแค่ 5 ตอนแรกนะ)

ด้วยภาษาที่มึงใช้นี่จริงๆ ถ้าเขียนเร็วกว่านี้สักสิบปีสิบห้าปีถือว่าเจ๋งพอตัว ปัจจุบันเทรนการอ่านอาจจะเปลี่ยนไปบ้างตามนิยายสมัยใหม่กับเรื่องที่เข้ามาทำให้เห็นงานเขียนที่กระชับเรียบง่าย แล้วก็ดึงอารมณ์คนได้เร็ว ของมึงจริงๆ คนก็อ่านเยอะพอสมควรแล้วนะ แต่ถ้าให้ความเห็นก็ลองกลับไปอ่านแฮรี่ดูอีกที ในรูปแบบภาษาที่ใช้แบบนี้กูคิดว่าแฮรี่เป็นนิยายที่มีการเขียนแบบที่ดึงคนอ่านได้ดีมากเรื่องหนึ่ง นิยายแปลตะวันตกกูอ่านไม่เยอะมากสักสิบยี่สิบเรื่อง กูเห็นว่าแฮรี่น่าจะเหมาะกับจริตคนไทยสุด

แต่กูสัมผัสได้ว่ามึงน่าจะอ่านนิยายมาเยอะพอสมควรหลายแนวด้วย เมนหลักอาจจะแนวแฟนตาซี แต่มึงอยากให้เกิดความสมจริงในเรื่อง คาร์แรคเตอร์ที่ถูกเขียนมันเลยไม่ค่อยสุด ตัวละครที่กูอ่านทั้งแมรี่ทั้งแอริธเลยเหมือนมีเงาอะไรบางอย่างที่คล้ายๆ กัน ทั้งที่เขียนให้แมรี่สดใสร่าเริงแต่เจอเรื่องร้ายแรงเลยดูหม่นๆ แอริธอ่านไปตอนแรกมันก็ดูหม่นๆ นิ่งๆ รู้สึกว่าคาร์แรคเตอร์สองตัวนี้ช่วงแรกที่อ่านมันทับกันในบางจุด การปฏิสัมพันธ์ช่วงแรกก็จะดูราบเรียบหน่อย อันนี้คิดว่าเกิดจากคาร์แรคเตอร์ ไม่ใช่ว่ามันไม่สมจริงนะ เพียงแต่เคมีมันไม่ค่อยมีอะไรในช่วงแรก บางทีถ้าอ่านไปมากกว่านี้อาจจะเจออะไรก็ได้แต่กูยังไม่ได้ลองอ่าน

565 Nameless Fanboi Posted ID:S7v5/8C8m

>>562 ใช่ครับ พอดีช่วงนั้นอยากได้พระเอกแนวๆดาร์คโซลหรือก๊อบลิน สเลเยอร์ แต่พยายามไม่ให้เหมือนเกินไป

566 Nameless Fanboi Posted ID:S7v5/8C8m

>>564 โอ้ ใช่เลย เราโตมาในยุคนั้นแต่ไม่เคยอ่านทั้งบารามอสกับแฮรี่ >o< สมัยนั้นเก็บแต่เดอะลอร์ด เรื่องเดียว กับแฟนตาซีไทย อย่างมาฮาเดล

เรื่องจุดพีค อันนี้อยากถา่มต่ออีกหน่อยครับ ว่ามันขาดฉากว้าวๆ หรือเราบรรยายไม่ว้าวเอง

เรื่องการบรรยาย ตอนแรกคิดว่าจะคงแบบนี้ไว้+ลดคำฟุ่มเฟือยและปรับให้กระชับในบางจุดบางจังหวะ แต่เดี๋ยวจะลองไปหายืมแฮรี่ตามคำแนะนำนะครับ

เรื่องตัวละคร จริงที่สุด สงสัยคิดหลักเหตุผลมากเกินไปเลยกลายเป็นกรอบจำกัด จะทำให้เป็นตัวเอกบุคลิกเด่นแบบแนวอนิเมก็กลัวคุมไม่อยู่ ตอนนี้เลยพยายามหาจุดที่มันลงตัว

สุดท้ายขอบคุณมากๆสำหรับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์นะครับ ได้รู้อะไรเพิ่มเติมหลายอย่างๆเลย

567 Nameless Fanboi Posted ID:naTjGY.oj

เรื่องจะให้ ว้าว นี่มันก็ไม่มีกรอบหรือกฎเกณฑ์ตายตัวอะไร พออ่านแล้วใช่มันก็ใช่น่ะนะ บางทีฉากธรรมดาแต่เล่าให้ว้าวมันก็ทำได้เป็นไอเดียที่มันเกิดขึ้นได้ขณะเขียน ยกตัวอย่างโฆษณาแล้วกัน โฆษณาเรื่องคนเก่งคนดีน่ะ เอาเรื่องที่ว่าเราจะเลือกคนเก่งหรือคนดีแล้วใช้เรือยางที่พาคนไป ในการเล่าให้มันพีคก็คล้ายๆ กัน บางทีก็เป็นการสร้างสภาพแวดล้อม เรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนจะถึงสิ่งที่เราต้องการสื่อสารให้คนอ่านเข้าใจ บางทีก็เป็นเรื่องของจังหวะ พอมาถึงจุดของมันแล้วเรารู้สึกว่ามันมีของให้ปล่อยก็ปล่อยออกมา ดังนั้นเลยบอกไม่ได้เหมือนกันว่ามันเป็นเพราะฉากหรือเพราะการบรรยายเพราะเราคิดว่ามันไม่ได้ตายตัว มันอ่านแล้วว้าวก็ว้าวเอง

568 Nameless Fanboi Posted ID:a7l5uhIyU

นิยายดีมันเป็นยังไง มีเรื่องไหนในเด็กดีบ้าง?
ช่วยแนะนำทีครับ

569 Nameless Fanboi Posted ID:2gBdQ5FzQ

เทพกระบี่หลงยุคเลยมึง โด่งดัง โจษจันกันไปทั่ว

570 Nameless Fanboi Posted ID:naTjGY.oj

>>568 นิยายดีมันแล้วแต่คนมอง นิยายดังแล้วแต่ยอดวิวคนอ่าน ปกติอ่านไม่กี่หมวด ที่อ่านแล้วถูกจริตมีดังนี้

ของออนไลน์ ที่ชอบหน่อยเท่าที่จำได้ก็ยอดยุทธสะดุดรัก เรื่องที่ออกเล่มแล้วก็โอเคหลายเรื่อง ขณะอ่านมันสนุกดีก็โอเคแล้ว
ของแฟนตาซี ถ้าเก่าหน่อยก็ซาเทียร่า i am normal ก็สนุกดี เรื่องที่ออกเล่มทั้งยุคก่อนกับยุคหลังๆ ก็สนุกหลายเรื่องอยู่
ของหมวดอดีต ปัจจุบัน อนาคต เรื่องปราชญ์หญิงพลิกแผ่นดินก็สนุกดี หลายๆ เรื่องที่ออกเล่มหลายเรื่องก็สนุกอยู่พอสมควร

เรื่องที่ออกเล่มขอไม่เอ่ยชื่อแล้วกัน หลายเรื่องก็ปิดตอนแล้ว เรื่องใหม่ๆ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อ่านเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ซื้อเล่มซื้อ ebook มาอ่านเลยมากกว่าแถมยังอ่านยังไม่หมดด้วยเลยช่วงนี้หนังสือออกถี่เลยไม่ได้อ่านในเว็บนัก

571 Nameless Fanboi Posted ID:eWND7ZpNs

เพื่อนโม่ง ช่วยกูตัดสินใจหน่อยสิ พอดีเลือกไม่ถูกว่าจะบรรยายด้วย POV 1 หรือ 3 ดีอะ
ก่อนหน้านี้กูเขียน draft เอาไว้เป็น POV 1 แต่พอตั้งใจจะเอามาเขียนแก้ก็มีความคิดว่าถ้าเป็น POV 3 ก็น่าจะดีเหมือนกัน
เนื้อหาเป็นแนวแฟนตาซี มีการแบ่งเป็น 2 Part คือช่วงแรกจะเป็นแนวสดใสวัยรุ่นเกี่ยวกับกลุ่มเด็กที่ไม่มีใครต้องการและถูกใช้งานเยี่ยงสิ่งของ ก่อนจะปูเข้าช่วงหลังซึ่งเป็นความดาร์กก่อนจะปิดท้ายด้วยการหักหลังของเพื่อนที่ไว้ใจได้

ตอนนี้เพิ่งเขียนแก้ไปแค่ตอนเดียว เลยยังสามารถแก้ POV ได้ง่ายๆ อยู่ ตอนแรกมันก็อยากจะเขียน POV 1 เพื่อเป็นการ Challenge ตัวเองนะ แต่อีกใจนึงมันก็คิดว่าถ้าเปลี่ยนไปเขียน POV 3 มันอาจจะเขียนง่ายกว่า กูเลยโคตรลังเลเลยล่ะว่าจะเอายังไงดี

572 Nameless Fanboi Posted ID:fMe0mpO6q

>>571 กูใช้สลับกัน สนุกมากกกกกกกก

573 Nameless Fanboi Posted ID:5W9BK8ocj

>>571 ลองเขียนทั้งสองแบบแล้วมาแปะในนี้ เดี๋ยวจะช่วยดูให้

574 Nameless Fanboi Posted ID:bbRSvggIY

อันนี้ไม่รู้ว่าควรอยู่ในกระทู้นิยายเด็กดีรึเปล่า แต่ไปเจอว่าฟิกชั่นล็อกกำลังรับสมัครงาน

Fictionlog ตามหาผู้ช่วยบรรณาธิการคัดสรรนิยายไทย
(Assistant Editor)

คุณสมบัติ

- อายุ 21-30 (ยินดีรับนักศึกษาจบใหม่)
- รักการอ่านนิยายออนไลน์เป็นชีวิตจิตใจ
- เข้าใจโลกของนิยายออนไลน์เป็นอย่างดี เล่มไหนขายดี นักเขียนคนไหนกำลังมาแรง เรื่องไหนที่พลาดไม่ได้ รู้หมด!
- มีความละเอียดรอบคอบและมีความรับผิดชอบต่องาน
และทำงานเป็นทีมได้และมีทักษะในการติดต่อสื่อสารที่ดี

เงื่อนไขและหน้าที่การทำงาน
- คัดสรรนิยายออนไลน์
- ประสานงานกับบรรณาธิการ
- ดูแลและคอยให้คำแนะนำนักเขียน

ไอ้คุณสมบัติเนี่ยกูเข้าใจได้นะ แต่ตะหงิดๆ ใจตรงที่แม่งเน้นนิยายมาแรงเนี่ยแหละ หมายความว่าแม่งจะเน้นซูๆ ใช่มะ และในหน้าที่คือ ดูแลและคอยให้คำแนะนำนักเขียน อันนี้ก็คือการเอางานซูๆ มาตบๆ ให้มันไม่เวอร์จนน่าเกลียดเกินไปนักใช่ปะ ถถถถถ แม่งดูขายวิญญาณสัสๆเลยงานนี้

575 Nameless Fanboi Posted ID:RGI.z.KWP

>>574 สงสัยคนเก่าพวกทำนิยาย original series สร้างยอดไม่น่าพอใจ เลยรับใหม่

576 Nameless Fanboi Posted ID:B8aS4q3pU

ขอถามที่นี่ได้ป่าววะ

คนเขียนเรื่องนี้ https://my.dek-d.com/isarang/writer/view.php?id=1383077 ตายแล้วเหรอ แต่มีอีกคนบอกว่าเป็นคนเดียวกับที่แต่งเรื่อง https://my.dek-d.com/senai/writer/view.php?id=1518418

กูแม่งไม่รู้จะไปถามที่ไหนจริงๆ

577 Nameless Fanboi Posted ID:QYVlcswSg

เอาซะกูอยากรู้ด้วยเลย 5%5

578 Nameless Fanboi Posted ID:ejXYPGDDe

>>577 5%5 = 0
credit google

579 Nameless Fanboi Posted ID:E3jrtcvfd

>>578 ทำไมไม่คิดว่ามือสากไปโดน shift คีย์

580 Nameless Fanboi Posted ID:iCw+3G.Xd

เควาย
กูขอความเห็นพวกมึงหน่อยดิ
กูอัพงานตามปกติ มีสนพ.มาขอพิมพ์ พอหนังสือออก กูก็หยุดอัพ (กูอัพไป 70%ของเล่ม) แล้วก็แปะช่องทางซื้อไว้
แล้วทีนี้คนอ่านมาเม้น

คงไม่เข้ามาอัพเพราะขายของแล้ว
ไรท์ลงน้อย เราอ่านของไรท์ท่านอื่นที่ขายหนังสือเหมือนกัน
ขอลาก่อน ขอบคุณที่อัพให้อ่านแต่ไม่จบนะ

กูไปต่อไม่ถูกเลยวะ กูควรตอบยังไงไม่ให้ดราม่าวะ กูยอมรับว่าตอนนี้กูหัวร้อนอยู่ เฮ้อ

581 Nameless Fanboi Posted ID:ejXYPGDDe

>>580 คนอ่านอาจจะไม่มีเงินเดือน

582 Nameless Fanboi Posted ID:9nzq5GomN

>>580 วิธีแก้ปัญหาที่คลาสสิคที่สุดแต่ได้ผลนะ คือการลงจนจบ แต่มีระยะเวลาระเบิดตัวเอง เช่น เปิดให้อ่าน เดือนหน้าเค้าลบนะตัวเอง อะไรแบบนี้ คนอ่านก็จะไม่ว่าอะไรแล้วจ้ะ

583 Nameless Fanboi Posted ID:NJAY46+CK

>>580 อีกวิธี มึงเขียนแยกเป็นฉบับ Web Novel กับฉบับตีพิมพ์ไปเลย
เค้าโครงอาจจะคล้าย แต่เนื้อหาภายในแตกต่างอะไรทำนองนี้ นิยายแปลส่วนใหญ่ก็ใช้ระบบนี้

584 Nameless Fanboi Posted ID:UjoPvEMYF

>>580 ไม่งั้นก็ใช้วิธีเป็นใบ้ ช่างแม่งมัน ไม่ต้องไปตอบ

ว่าแต่ไม่มีใครตอบ >>576 กูมั่งเหรอ หรือกูควรไปถามที่ไหนวะเพื่อนโม่ง

585 Nameless Fanboi Posted ID:gV7hFahFA

>>584 ลองถามในเว็บบอร์ดเด็กดีดูยัง?
คำตอบ :กูไม่รู้
ป.ล. กูได้ข่าวแค่นักเขียนนิยายวายเสียชีวิตไปคนหนึ่งนะ

586 Nameless Fanboi Posted ID:UjoPvEMYF

นามปากกาเหมือนกัน การวางตัวอักษรเหมือนกัน รูปโปรคล้ายๆกัน กูว่าคงใช่ละ ถามเองตอบเองเลยกู 5555

587 Nameless Fanboi Posted ID:ycHb/U1zr

>>586 ทำไมหายตัวไปหว่า นิยายก็ดูกระแสตอบรับดีนะ

588 Nameless Fanboi Posted ID:K3+UxAnMh

https://writer.dek-d.com/Shettawat2542/story/view.php?id=1745640

คือ... กูควรทำยังไงกับมันดี มันลบเนื้อเรื่องเก่า ตอนเก่าทิ้งนะ ไม่ได้ลบนิยาย แล้วมันลงเรื่องใหม่ที่แทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ทับเลยว่ะ ถ้าแม่งแค่กดเปิดเรื่องใหม่มันจะง่ายกว่าไหมวะ

589 Nameless Fanboi Posted ID:9yy+wO1Yc

>>588 นิยายของนายคนถอดเสื้อโปรโมตนิยายนี่หว่า

590 Nameless Fanboi Posted ID:4sjKmm7A9

>>587 เห็นว่าโดนตัดจบที่ภาค4 แล้วคนอ่านไม่พอใจเลยหนีมั้ง อันนี้กูเดา

591 Nameless Fanboi Posted ID:rcGeOTAEI

ปรึกษาหน่อยดิ นิยายกุรีไรท์ยกเรื่อง มีเปลี่ยนชื่อตัวละครหลักบางตัว ตอนนี้ปิดการอ่านอยู่เพราะแจ้งว่าไม่แน่ใจกับชีวิตตอนนี้ ถ้ากุลงใหม่จะน่าเกลียดมั้ย หรือเปิดเรื่องใหม่ดีกว่า

592 Nameless Fanboi Posted ID:V/nRQuL5p

>>591 ไม่ต้อง ลงไปเลย ไม่น่าเกลียดโม่งไม่ว่ามึงวหรอก

593 Nameless Fanboi Posted ID:oo9wqOhat

>>588 เสียดายยอด fav กัยอดเม้นอ่ะดิ
ไม่เกี่ยวกะคนนี้นะ แต่เคยมีกรณีลักไก่ ทำคล้ายๆกัน นข.ดังเขียนนิยายภาคต่อ แล้วขี้เกียจเปิดเรื่องใหม่ ขี้เกียจนับหนึ่ง เพราะเสียดายที่ภาคแรกติดท๊อปแบบถล่มทลาย ก็เลยอัพภาคต่อเลย
ทำให้ติดท๊อปหนักอีก
ฟังดูไม่แปลกชิมิ คนเขียนหลายเรื่องก็อัพภาคต่อ ก็มีเยอะแยะ แต่กรณีนี้คือ มันเป็นนิยายคนละชื่อ คนละเรื่อง เเค่มีตัวละครภาคแรกโผล่มา (เป็นญาติกัน)

คนอื่นคืดว่าไม่แฟร์ที่เอานิยายติดท๊อปอยู่แล้วมาปั่นต่อ คนที่เปิดเรื่องใหม่สะสมยอดมาอย่างถูกต้องกลับโดนเบียดร่วง เวบมาสเตอร์เลยประกาศข้อห้ามเลยจร้าา ตบกลับ ปลดจากท๊อป

ถ้ามึงติดใจประเด็นย้อมนิยาย ก็ลองส่งไปให้เวบพิจารณาดู

594 Nameless Fanboi Posted ID:AiDM.yHrD

>>588 ไล่ลบเม้นเรื่องเก่าด้วยนะมึง ยอมใจมันจริงๆนักอ่านไม่เคืองหรอวะ คือแมร่งบอกกลัวคนอ่านใหม่เข้าใจผิด แต่คนเฟบนิยายไว้ก็เข้ามางงอยู่ดีป่ะวะ สัสเปลี่ยนเรื่องลบเม้นหมด

595 Nameless Fanboi Posted ID:g2h20Q4la

>>594 เจอพลังแม่น้ำดรายเข้าไป ถึงกับต้องหนีไปแต่งนิยายหุ่นรบแทน

596 Nameless Fanboi Posted ID:V/nRQuL5p

เคยเบลอกดเปิดเรื่องทั้งๆ ที่ลงเนื้อเรื่องไม่หมดกันมั้ยมุง

597 Nameless Fanboi Posted ID:YYTQMrphp

ขอ KY + ระบายหน่อย
กูว่ากูควรดรอปนิยายเรื่องที่กำลังเขียนอยู่ดีรึเปล่าวะ? คือแม่งเหมือนทำให้ชีวิตกูยากขึ้นเยอะเลย
คือไอ้นิยายเรื่องนี้กูเขียนมาประมาณช่วงกลางปีที่แล้ว ตอนแรกก็ตั้งใจจะเขียนตามปกติใช้เวลา 2 เดือนเขียนฉบับร่างจบ แต่พอเขียนจบแล้วกลับมาอ่านก็พบว่ามันไม่สมเหตุสมผลหลายอย่างๆ โดยเฉพาะตัวร้ายที่เป็นเพื่อนซี้เพื่อนที่ดีของพระเอกมาตลอด แต่กลับหักหลังในตอนท้ายโดยการ NTR พี่สาวพระเอก + ถีบพระเอกลงเหวซะงั้น
...เท่าที่พิเคราะห์ถึงปัญหาก็คือกูเข้าไม่ถึงตัวละครอะ ยิ่งเขียน POV1 ยิ่งเข้าไม่ถึง กูไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงให้ไอ้ตัวละครที่ทำดีในเรื่องมาตลอดมันกลายเป็นตัวที่เหี้ยที่สุดในเรื่องได้ กูพยายามลองสวมบทบาทให้ตัวกู (คนเขียน) เป็นตัวร้ายที่ว่านั่น แต่ก็ยังไม่อาจเข้าใจความคิดของมันได้ แก้งานแล้วแก้งานอีก จนตอนนี้กูเขียนต่อไม่ได้เลยมาเป็นเวลามากกว่า 3 เดือนแล้วเนี่ย
ทุกวันนี้กูพยายามนั่งคิดนอนคิดหาเหตุผลที่เข้าท่าให้ตัวร้ายอย่างเดียว จนกูรู้สึกเป็นทุกข์หาความสุขให้ชีวิตกันไม่ได้เลยว่ะ ถ้ามันจะตันถึงขั้นนี้แล้วกูควรทิ้งเรื่องนี้ไปเลยดีกว่ามั้ยวะ?

598 Nameless Fanboi Posted ID:QmBujW7Np

>>597 เขียนpov1 ตัวไหนล่ะ มึงไป pov1 ตัวเอก ใช่ปะ การเห็นตัวละครอื่นจากดีแล้วมาเลว มึงจะไปเข้าถึงตัวละครตัวนั้นทำไม มึงควรจะประหลาดใจสิวะ อารมแบบ เออ กูก็งง การที่มึงพยายามจะไปเข้าถึงมัน มันทำได้เพียงสังเกต เอาตัวเอกที่เป็นเจ้าของ pov ไปสังเกตโว้ย ไม่ใช่ให้มึงไปสวมบทมัน pov1 มันไม่ได้รู้ทุกเรื่อง

599 Nameless Fanboi Posted ID:YYTQMrphp

>>598 ที่กูสมมุติตัวเองเป็นตัวร้าย ก็เพราะกูอยากทำความเข้าใจตัวละครก่อนไงว่ามันคิดยังไง วางแผนอะไรเอาไว้อยู่
แต่ก็ติดปัญหาที่ตามมาก็คือกูหาเหตุผลไม่ได้เลยว่าทำไมจู่ๆ ถึงจากคนดีถึงกลายเป็นคนเลว ซึ่งถ้ายังหาเหตุผลไม่ได้ กูก็ไม่รู้ว่าจะวางบทให้มันยังไงดี และให้มันทำตัวยังไงให้พระเอกมองยังไงล่ะ

600 Nameless Fanboi Posted ID:d/B4lTsSm

>>596 กูหนักกว่านั้น กูลงผิดตอน ประมาณว่ากูเขียนไว้ 5 ตอนใน word ลงเว็บให้อ่านแล้ว 3 กำลังจะอัพตอน 4 แต่สมองเบลอไปเอาตอน 5 มาอัพแทนตอน 4 แล้วปล่อยทิ้งไว้ทั้งคืน...

601 Nameless Fanboi Posted ID:d/B4lTsSm

>>599 มึงลองไปดู Superman ในจักรวาล Injustice สิ น่าจะเป็นแนวทางได้

602 Nameless Fanboi Posted ID:YYTQMrphp

>>601 มีพิกัดวาปมั้ยเพิื่อนโม่ง? หรือจะใบ้แค่พิกัดก็ได้
คือถ้ามันเป็นตัวร้ายหัวโปกทั่วไปก็คงไม่ปวดหัว แต่ไอ้เจ้านี่นี่คือเพื่อนซี้พระเอก เพื่อนที่หักหลังจนกลายเป็นปมให้พระเอกกูลุกขึ้นสู้เนี่ยล่ะ มันเลยต้องละเอียดกันหน่อย

603 Nameless Fanboi Posted ID:VDx+rv/py

>>602 ทำไมเพื่อนต้องหักหลังพระเอก แล้วทำไมต้องNTRพี่สาวมันด้วย(เพราะเงี่ยน?) ถ้ามึงกำหนดตรงนี้ไว้มันจะช่วยมึงได้เยอะเลย

ตัวละครมันหักหลังได้ด้วย2วิธี 1.เปลี่ยนใจตอนหลัง 2.เหี้ยมาตั้งแต่แรกแล้วตีสนิทกับพระเอกเพื่อจุดหมายบางอย่าง ซึ่งพวกหลังจะต้องเป็นคนที่ใส่หน้ากากเป็นเวลาเข้าหาคนอื่น เพื่อนพระเอกเป็นคนแบบไหนมึงลองไปคิดดู

604 Nameless Fanboi Posted ID:f4OYxjrJm

>>603 นั่นล่ะคือจุดที่กูกำลังคิดเลย - - แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก
ตอนเขียนร่างครั้งแรกกูก็เขียนให้มันง่ายๆ ไป เลยเขียนไปแค่ว่าเงี่ยน อยากอึ๊บพี่สาวพระเอก
แต่พอเอากลับมาเขียนแก้ก็พบว่าเนื้อหามันมีเยอะกว่านั้น มันมีทั้งประเด็นการเมือง ความรักต่างชนชั้น กับสถานการณ์ที่บีบคั้น ซึ่งตรงนี้ล่ะที่กูยังหาจุดที่ลงตัวไม่ได้
แถมระหว่างเขียนแก้นี่ กูลองเปลี่ยนนิสัยไอ้เพื่อนพระเอกไปมาหลายรอบละ เดี๋ยวดีเดี๋ยวเหี้ย จนไอ้นี่เป็นตัวละครที่กูรื้อใหม่จนเบื่อละเนี่ย

605 Nameless Fanboi Posted ID:pJ41oLCHh

https://www.dek-d.com/board/view/3822617/ งับ Bait กันเพียบ เด็กหนอเด็ก

606 Nameless Fanboi Posted ID:pJ41oLCHh

>>576 อ่านเรื่องที่ 2 แล้วเหมือนจะดีพอเจอคำว่า "โรงศพ" เข้าไป กูนี่ปวดขมับเลย

607 Nameless Fanboi Posted ID:qF9XUq4rf

>>604 สนใจแบบนารูโตะไหม มีบอสเบื้องหลังของบอสอีกที หรือโดนชักใย หรือตายห่า กลายเป็นศพให้คนอื่นควบคุม หรือโดนวิญญาณสิง

608 Nameless Fanboi Posted ID:0fxLkqm2Y

>>580 ทำให้นึกถึงเรื่องเซน จอมเวท
เรื่องนั้นหักดิบปิดตอน ลงไม่จบ โดนคอมเมนต์ถล่มด่าไปหลายร้อย
ปัจจุบันยังมีเรื่อง ebook ที่ไม่ยอมออกเล่บจบด้วย มีคอมเมนต์ไล่ทวงอยู่ตลอด
แต่คนเขียน เค้าเงียบๆ ไม่ค่อยพูดบอกอะไร
วันนี้ก็ยังเขียนภาคต่อ ตอนใหม่มาเรื่อยๆ แต่ดูแล้วยอดคนอ่านตกลงไปเยอะ รวมคอมเมนต์ด้วย
เรื่องแบบนี้คงขึ้นอยู่กับคนเขียนว่าเป็นไงด้วยมั้ง

609 Nameless Fanboi Posted ID:WrdrvppJ1

>>603 อิจฉา น้อยใจไง ทับถมๆๆไปเรื่อยๆๆ จนมาปรี้ดแตกเอาตอนท้าย(ไปหาชนวนเหตุเอง) เพื่อนพระเอกเป็นกันบ่อย ในแฮร์รี่ รอนยังมีจังหวะที่น้อยใจเลย
แบบ กูก็เก่งนะเว้ย ชมแต่แฮร์รี่ นู่นนี่กูก็ช่วยมันมานะเว้ย ไมมันดังคนเดียว ไมก็โดนด่า โดนมัลฟอยเหยียด ไมแฮร์รี่มัลฟอยอยากเอาเป็นพวก
ntrพี่สาวคือไรวะ พระเอกincest กับพี่สาวหรอ

610 Nameless Fanboi Posted ID:0fxLkqm2Y

>>597 เป็นกูคงเขียนเล่นในเรื่องความแค้นของคนรุ่นเก่าไปเลย
เช่นเพื่อนสนิท ที่จริงวางแผนเนียนมาตั้งแต่แรก หาเหตุผลหนักๆ เช่นพ่อพระเอกไปทำลายธุรกิจของครอบครัวเพื่อนคนนี้จนพังพินาศบ้านแตก
จนพ่อตายแม่ป่วย พี่สาวน้องสาวถูกขายเข้าซ่อง บราบราบรา
ถ้ามึงคิดเหตุที่ง่ายๆไม่ออก ก็ต้องข้ามไปเล่นปมแค้นใหญ่แบบอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้เลย ซึึ่งก็มีจากปมพื้นฐานครอบครัวนั่นแหละ

611 Nameless Fanboi Posted ID:V/nRQuL5p

โม่งนักอ่านนักเขียนใครก็ได้แถวนี้ ถ้าหน่อย ถ้ามึงรู้สึกเขียนเรื่องนึงแล้วแบบ มีคนบอกให้กูตอนจบเรื่องก่อนแล้วค่อยรีไรต์ แบบเพราะปมมันเยอะ
กูแบบตอนนี้กูไม่สนุกกับงานเขียนมากกกกก ฝืนไปไม่ไหว
กูเอามาใส่หลังๆ แล้วเฉลยคนไม่เข้าใจกันว่ะ กูรีไรต์แบบค่อยๆ แฝงปมไปทีละนิดดีไหม
เนื้อเรื่องกูตอนนี้แบบ ราบเรียบยาว แต่ตอนเจ็ดแปดเก้านี่เต็มไปด้วยปริศนา บางคนเดาทางเรื่องกูได้ละแต่กูตลบหลังตอนที่สิบ แบบplot twist คนบ่นงงกัน
กูจะเปลี่ยนไหมเป็นใส่ปมตั้งแต่แรกเลยดีไหมวะ

612 Nameless Fanboi Posted ID:EiRcP.C76

>>609 ntr ก็ตีท้ายครัว ประมาณนี้มั้ง

613 Nameless Fanboi Posted ID:PRyZGP1Xa

>>611 ต้องทำใจว่ะ บางทีวางปมเรื่องไว้ดีแล้ว แต่คนอ่านบางคนก็อ่านผ่านๆ หรือไม่ได้คิดตามก็มี
แนะนำว่าอย่าเปลี่ยนย้ายปมในเรื่องเพราะคนสองคนบอกว่างงเลย (ถ้าวางแผนไว้ดีแล้ว)

614 Nameless Fanboi Posted ID:S25WFIggy

>>612 เออเลยงงว่าเอามาใช้กับคสพพี่สาวน้องชายหรอ
ntr เคยเจอแต่กรณีคู่รักแล้วไปเป็นมือที่สาม

615 Nameless Fanboi Posted ID:W05jQfgu3

>>611 มันเป็นปัญหาที่นักเขียนหลายคนเจอ วิธีแก้มีนะ เราจะมาหวังให้นักอ่านทุกคน อ่านอย่างถี่ถ้วนไม่ได้หรอก บางทีตัวหนังสือเป็นแสนอักษร จุด hint มันมีแค่ประโยคเดียว ถ้าอ่านผ่าน ๆ คือจบเห่
แล้วจะทำยังไง ?
วิธีแก้ของกูคือ เพิ่ม hint ไปอีกจุด หรือสองจุดเลย ในเวลาและสถานที่ที่ต่างกัน ในกรณีที่จุดเฉลยนั้นมันใหญ่พอ ใส่ไปโลด แต่ต้องเนียน ๆ นะมึง ใส่ไม่ถูกที่นี่กากไปเลยนะ มึงก็ไปคิดเองละกันว่าจะใส่อีกยังไงเพื่อไม่ให้คนอ่านจับได้ เพื่อให้ถึงตอนเฉลยแล้วนักอ่านยังร้อง "อ๋อออออออ" ออกมาดัง ๆ

616 Nameless Fanboi Posted ID:xqRiIDfnT

>>615 จุดhintของกูอยู่ทุกคำพูดของนางเอกเลยนะมึง คนยังจับทางไม่ได้ //ร้องไห้

617 Nameless Fanboi Posted ID:2a9oIalFf

กุ >>603 เมื่อวานหลังตอบแล้วหายยาวเลยเพิ่งมาอ่าน- -
>>604 การเมือง รักต่างชนชั้น เกี่ยวอะไรกับเพื่อนพระเอกวะ แต่ว่าถ้าหักหลังเพราะเงี่ยนจริงๆ มึงหาเลยว่ามีเหตุอะไรที่มันจัดการพระเอกตอนสุดท้าย
เพราะถ้าแค่เงี่ยนจริงๆมันไม่รอมาหักหลังตอนสุดท้ายหรอก ถึงขั้นถีบตกหน้าผานี่คือมึงต้องมีความแค้น มีเหตุผลที่ต้องทำลายพระเอกจริงๆจังๆแล้ว(เยพี่มันอาจเป็นแค่ของแถมไรงี้) จะแค้นส่วนตัว โดนสั่งมาหรือโดนเชิดแบบ >>607 ก็ได้

618 Nameless Fanboi Posted ID:J.+b3yflR

อ่า... นี่กู >>597 นะ
ไม่ไหวว่ะ ถึงเพื่อนโม่งจะแนะนำมาหลายทาง แต่ตัวกูเองก็ยังนึกหาทางออกไม่ได้อยู่ดี
กูพยายามคิดจะเขียนแก้พล็อตทั้งหมด แต่ไม่รู้ทำไมในใจถึงยึดติดอยากให้เป็นไปตามพล็อตเก่าตลอดเลย เหมือนว่าสลัดออกจากหัวไม่ได้ พอจะนั่งนึกพล็อตสำหรับเรื่องใหม่ ไอ้เรื่องที่ติดอยู่นี่ก็แว่บเข้ามาทำเอาหมดอารมณ์จะเขียนเรื่องใหม่กันเลย
ตอนนี้กูแม่งปวดหัวเครียดมาก (ขนาดงานประจำยังไม่เครียดขนาดนี้) เครียดถึงขนาดไม่อยากเปิด word ขึ้นมาเขียนเลย
จากที่เคยเขียนนิยายมาหลายปี มีคราวนี้นี่ล่ะที่ตกต่ำที่สุดเท่าที่เคยเป็น

619 Nameless Fanboi Posted ID:QcHxx1k6m

>>618 ถามหน่อยดิตัวร้ายมีอะไรด้อยกใาพระเอกบ้าง ตอบแค่มีเยอะ มีน้อย หรือ ไม่มีพอ

620 Nameless Fanboi Posted ID:QcHxx1k6m

>>619 *กว่า

621 Nameless Fanboi Posted ID:iDpAUetld

>>619 ตัวร้ายเป็นลูกคุณหนู รูปหล่อพ่อรวยสาวหลง ส่วนพระเอกเป็นแค่คนรับใช้ที่ถูกเก็บมา เพราะเห็นแววว่าใช้งานได้
ตามพล็อตคือตัวร้ายกับพระเอกเป็นเพื่อนกันแต่เด็ก แต่ปกปิดฐานะเอาไว้จนกระทั่งพระเอกก่อเรื่องใหญ่ เลยเผยตัวเพื่อให้พระเอกรอดจากโทษโดยแลกกับการให้พระเอกกับพี่สาวไปเป็นคนรับใช้ในบ้าน
พระเอกมีข้อดีคือ ฉลาด เป็นจอมวางแผน และมักถูกส่งไปทำงานเบื้องหลังให้ตัวร้ายตลอด จนกระทั่งถึงจุดแตกหักที่พระเอกไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของตัวร้าย แล้วทำตัวต่อต้าน

622 Nameless Fanboi Posted ID:iDpAUetld

>>621 อันนี้เป็นพล็อตคร่าวๆ ที่คงไม่ได้ใช้แล้ว (กำลังคิดจะเปลี่ยน)

623 Nameless Fanboi Posted ID:zKUVMSTdV

แอบรอเธออยู่นะจ๊ะ เธอไม่สับบ้างเลย อยากโดนสับอยู่นิด ๆ เธอดูช่างเฉยเมย

624 Nameless Fanboi Posted ID:3CTip6cWp

>>623 มึงแนะเรื่องแนวสากล ที่จุดขายไม่ใช่ความซู หรือ ฮาเรมมาดิ เดี๋ยวกุสับ

625 Nameless Fanboi Posted ID:tFAynCTs5

คิดเหมือนกูมั้ย นิยาย top 20 ในสายตาพวกเด็กดวกคือนิยาย AAA แต่สายตาคนนอกคือเป็นแค่นิยายเกรด B

626 Nameless Fanboi Posted ID:idVZyh47s

>>625 เกรดบียังมากไปอะ

627 Nameless Fanboi Posted ID:sioGWXFB+

>>625 กูให้ E+

628 Nameless Fanboi Posted ID:lkHyvBY4w

>>625 กูให้ E Dok

629 Nameless Fanboi Posted ID:ztwXeiARc

กูก็อยากสับนะ แต่หาเรื่องที่เข้าตากรรมการไม่ได้เลย

630 Nameless Fanboi Posted ID:15q/7Jm52

KY
มึงกูจะทำไงให้ตัวเองมีไฟเขียนนิยายต่อวะ กูทำหลายๆ แบบก็แล้ว ทั้งทิ้งนิยายไว้สักพัก หาอย่างอื่นทำ ลองอ่านนิยายการ์ตูนดูเมะอ่านมังงะ ลองร่างพล็อตคร่าวๆ ในแต่ละบทก็แล้ว สุดท้ายตัวกูรู้สึกเนือยๆ กับนิยาย จะบอกว่าไม่อยากเขียนต่อก็ไม่ใช่ เพราะก็อยากทำแต่แม่งไม่มีไฟ กว่าจะเข็นออกมาได้แต่ละตอนคือยากสัดอ่ะ ทุกวันนี้กูอัพเดือนละตอนสองตอนเองมั้ง รู้สึกผิดกับนักอ่านนะ กูจะทำไงดีวะมึง

631 Nameless Fanboi Posted ID:6HUIYtA.w

>>630 เป็นไปได้สองอย่างว่ะ ใจไม่ได้รักการแต่งนิยายจริง (หวังยอดคนติดตาม) หรือ เหนื่อยจากอย่างอื่น เลยทำให้หมดไฟ

632 Nameless Fanboi Posted ID:MwhUxiNCU

วันก่อนกูว่างเลยนั่งอ่านนิยายติด Top ในหมวดแฟนตาซีเด็กดวกนะ กูไม่เข้าใจถึงความสนุกเลยซักนิด Orz

633 Nameless Fanboi Posted ID:w5TGg7UeB

>>630 ลองฝืนดูมึง เวลาคิดอะไรได้ก็ค่อยเขียนไปทีละนิด

634 Nameless Fanboi Posted ID:22H+qH7m1

อ้าว เผลอกดส่งซะงั้น
จะบอกว่าวิธีของกูคือเขียนไปทีละนิด อย่างน้อยเรื่องก็เดินไปได้นิดหน่อย แล้วก็จะได้ใช้เป็นโครงร่างให้เขียนต่อได้จนจบตอน
ปกติก็ทำแบบนี้นะ ยิ่งกูเป็นพวกลืมค่อนข้างง่าย ถ้าไม่ได้เขียนนานๆ จะลืมว่าเหตุการณ์ในตอนมีอะไรบ้าง ยิ่งลืมไปมากๆ ก็ยิ่งหมดไฟในการเขียน แล้วเวลาเห็นจุดที่เขียนล่วงหน้าไปแล้วก็พอมีกำลังใจขึ้นมานิดหน่อย ตรงที่อย่างน้อยก็ไม่ต้องเริ่มเขียนตั้งแต่ต้น จากนั้นจะเขียนต่อหรือลบแก้ใหม่ก็ไม่มีปัญหา

ไม่รู้ว่าจะช่วยได้หรือเปล่านะ

635 Nameless Fanboi Posted ID:42E6cbQy+

กูก็เป็นเหมือนกัน คือไอเดียกูมีเว้ยเยอะสัดๆ แต่ปัญหาคือแม่งขี้เกียจ ขี้เกียจล้วน แล้วตอนขยันๆแม่งก็มมีกิจกรรมเช่นการเรียน แข่งกีฬาอะไรพวกนี้มึงหยุดไว้ตลอกเลย พอนึกได้แม่งก็ไม่มีแรงจะทำ วนลูปสัดๆ
>>625 เอาเกรดCไป เรื่องดีๆก็มีอยู่ แต่นานๆจะได้เจอที+คนแต่งทิ้งเรื่อง บางเรื่องขนาดเลิกเบียวแล้วกลับมาอ่านยังสนุกก็มี
>>619 ถ้าแบบของกูคือ ความแน่วแน่ ความเชื่อมั่นในอะไรสักอย่างที่ตัวร้ายไม่มีหรือเคยมีแต่ถูกทำลายทิ้งอะไรแบบนี้ก็ใช้ได้นะ แถมดูเรียวจับต้องได้จริงด้วย แบบเคยเป็นแบบพระเองมาก่อนแล้วถูกทำลายความเชื่อใจจนกลายมีเป็นคนชั่วเอง
อารมณ์หรือรูปแบบตัวร้ายที่กูค่อนข้างชอบแบบที่มันจะมีในตอนแรกก็ยืนคู่กับพระเอกมาเรื่อยๆ แต่ถูกมองข้ามบางแต่ก็ทนใจแข็ง บอกว่าไม่เป็น(อารมณ์ตั้งไว้ว่าให้พระเอกเป็นแสงสว่าง ส่วนตัวของมันเองจะเป็นแบ็คกราวน์ให้พระเอกเจิดจรรัส) ซึ่งมันก็มีความน้อยใจเล็กๆเป็นปมให้ พองๆไปเรื่องรวมกับโดนกระตุ้นจากอะไรบางอย่างจนระเบิด กูบอกเลยร้ายได้ใจเพราะเมื่อก่อนกูก็เป็นแบบนั้น ทำลายได้ทำลายจนเละเทะไปแล้ว แต่ต้องดูตั้งMind setของตัวละครของมึงด้วยนะ

636 Nameless Fanboi Posted ID:3zIRfqO+x

พล็อตแม่งล้ำมากว่ะ กูซูฮก 555
https://www.dek-d.com/board/view/3823515/

637 Nameless Fanboi Posted ID:vr4JDQOfn

>>636 ลบละ

638 Nameless Fanboi Posted ID:e72MeL9LT

>>636 มาไม่ทัน เหลาหน่อย

639 Nameless Fanboi Posted ID:22H+qH7m1

>>636 พล็อตอะไร ล้ำขนาดไหนเล่าหน่อย

640 Nameless Fanboi Posted ID:3zIRfqO+x

>>637 >>638 >>639 เปล่า กูประชด 555 อย่าเห็นเลย แม่งแค่เอาฮา จำได้แต่ประโยคเริ่มต้น
หมอเหลียดเป็นหมอที่เลวมากมันจะรับลูกค้าชายโดยเฉพาะมันจะคิดค่าใช้จ่ายโดยการจับอัดตูดเพื่อความสุขของมัน...
...( แล้วก็บลาๆๆ อะไรสักอย่าง จำไม่ได้ )...
แม้แต่ joker ก็โดนมันอัดมาแล้วครั้งนึง และมันก็อยากให้แบทแมนโดนเหมือนที่มันโดน เลยทำทุกวิถีทางเพื่อล่อลวงแบทแมนมาให้มาบุกยังที่ลับของตัวเอง

641 Nameless Fanboi Posted ID:3zIRfqO+x

ไม่ดิ เจออันเต็มแล้วจาก cache กูเกิ้ล 555

หมอเหลียดเป็นหมอที่เลวมากมันจะรับลูกค้าชายโดยเฉพาะมันจะคิดค่าใช้จ่ายโดยการจับอัดตูดเพื่อความสุขของมัน มีคนเคยหลงเข้าไปและโดนอัดตูด มาแล้ว มากกว่า 10ราย มันมีคลินิคเถื่อนอยู่ก็อตแท็ม มันเคยทำฟันให้joker และมันก็ได้อัดตูดjokerไปแล้ว มันโดนjokerทรมารและหมอเหลียดได้กลายเป๋นjoker gayแน่นอนว่ามันได้บุกไปยัง Batcave เพื่อไปอัดตูดBatmanมันได้โดนBatmanตัด-ทิ่ง!!!

642 Nameless Fanboi Posted ID:Hp29dvaQ/

>>641 กระทู้ปลิวไวจริง ทีนิยายอัดตูดไม่ต่างกันทำไมตายยากจังวะ

643 Nameless Fanboi Posted ID:m0PzXD3XS

>>642 สงสัยแอดมินเป็นพวกติ่งแบทแมนกับโจ๊กเกอร์

644 Nameless Fanboi Posted ID:0YqWFP3No

>>641 มันฟังดูปัญญาอ่อนยังไงชอบกล

645 Nameless Fanboi Posted ID:k0BXre3jW

>>631 ถ้าลองคิดดู อันนี้อาจจะมาจากอย่างหลังมากกว่าว่ะ
>>633 เคยลองทำเหมือนกันนะ แต่ไม่เคยเกิน 2 บรรทัดอะ สงสัยต้องบังคับตัวเองมากกว่านี้

646 Nameless Fanboi Posted ID:0IvzbPP+h

เซ็งวะ อ่านนิยายท็อปแต่ละเรื่องไม่เคยผ่านตอนที่ 2 ไม่ได้เลย หรือกูแก่เกินไปวะ

647 Nameless Fanboi Posted ID:0IvzbPP+h

>>646 แก้เป็น
เซ็งวะ อ่านนิยายท็อปแต่ละเรื่องไม่เคยผ่านตอนที่ 2 เลย หรือกูแก่เกินไปวะ

สงสัยกูต้องกินพาราแล้ว อ่านแล้วสมองกูเพี้ยน

648 Nameless Fanboi Posted ID:NG7flPpFO

มึงต้องเป็นเด็กหมอยเพิ่งขึ้น จะรู้สึกสนุกยิ่งถ้ามึงเสพนิยาย ไลฟ์โนเวล การ์ตูนจากฝั่งญี่ปุ่นมากๆ มึงจะชอบสัดๆ

649 Nameless Fanboi Posted ID:Xxxo+45Cq

>>648 ก็ตามนี้เลย เพราะมันดูอนิเมะนักหลวมมากไปเลยจบลงที่ความแกรี่ หรือเน้นฮาเร็มทั้งเรื่องด้วย

650 Nameless Fanboi Posted ID:FSMnoLDHF

บทความนี้ดีจัง
https://www.dek-d.com/writer/48227/

651 Nameless Fanboi Posted ID:35JzPgbsb

กูคิดถึงสมัยอ่านเด็กดอกเเรกๆชิบหาย

652 Nameless Fanboi Posted ID:Xxxo+45Cq

>>650 อ่านแล้วคิดถึงพี่น้อง

653 Nameless Fanboi Posted ID:nTgGlNr/8

ใครบ่นว่าอยากหานิยายสับ ลองเอาสักเรื่องที่มาโปรโมตในมู้นี้ไปสับสิ

https://www.dek-d.com/board/view/3823701/

654 Nameless Fanboi Posted ID:Xxxo+45Cq

>>653 อยากบอกว่าหลายเรื่องอยู่ในนี้แล้ว บางเรื่องสับไปแล้วด้วย

655 Nameless Fanboi Posted ID:dOVo3D6UI

>>654 ในกระทู้นั่น นอกจากเรื่อง TW ที่โดนสับแล้ว ไหนมึงลองลิสมาสัก "หลายเรื่อง" ที่อยู่ในนี้หน่อยสิวะ

656 Nameless Fanboi Posted ID:0IvzbPP+h

>>653 บางเรื่องจำนวนตอนไม่ถึง 3 ตอน

657 Nameless Fanboi Posted ID:9B96Inyi4

>>655 หลายเรื่องที่ว่ากูหมายถึงอยู่ในลิสต์รอสับส่วนหนึ่ง เรื่อง TW กูเห็นเจอสับไปแล้ว กับนิยายของคนที่รูปดิสเป็นผู้ชายเสื้อขาวเคยเข้ามาดราม่าเรื่องลูซิเฟอร์กับแสงอะไรสักอย่างรอบหนึ่งละเหมือนกัน ถ้าอันไหนจำผิดก็ขอโทษด้วย

658 Nameless Fanboi Posted ID:RVb0efaXf

>>653 กูนี่แหละคนบ่น555 แต่กูหาได้แล้วเว้ย กูเข้าไปวนๆดูตามหมวดที่ชอบอ่าน ไล่ดูจากท๊อป100 (เพราะรู้สึกจะหาคุณภาพจากท๊อป20ยาก) ก็ไปเจอเรื่องนี้เข้า
https://writer.dek-d.com/PimPern/writer/view.php?id=1650673
โปรยซะกูคิดว่าน่าจะเป็นแนวเน้นเย็...เลยตั้งใจเข้าไปจับผิดเต็มที่ แต่อ่านๆไปมันไม่ใช่แหะ พอใช้ได้อยู่ มันไม่ทำให้กูนอยด์หนักอย่างที่คิด แต่ตอนช่วงกลางๆเรื่องแต่ละตอนแม่งยาวชิปเป๋ง กว่ากูจะอ่านจบน่าจะวันจันทร์ ถ้ายังไงเดี๋ยวกูมาสับนะ

659 Nameless Fanboi Posted ID:twlIo.Je7

>>657 แค่จะมาบอกว่าเราไม่ได้เป็นคนเข้ามาดราม่าเรื่องลูซิเฟอร์นะ เราแค่มาแปะให้วิจารณ์เฉยๆ แล้วจู่ๆ พวกคุณก็เถียงกันเรื่องชื่อลูซิเฟอร์กับเรื่องภาชนะอะไรสักอย่าง

660 Nameless Fanboi Posted ID:LwlBehvyS

>>659 แจกัน !!

661 Nameless Fanboi Posted ID:Q/fFq.0fB

อ้าวเฮ้ย! สตัน"แจกัน" กันหมดเลยพวกเมิง 555

662 Nameless Fanboi Posted ID:3rU5kyaTC

มีใครจะสับอะไรต่อมั้ย

663 Nameless Fanboi Posted ID:Wv4JQG0Pe

อยากกลับมาวิจารณ์นิยายดูสักหน่อย แต่ท้อแท้ใจกับนิยายธีมจีน แกรี่สตูฮาเร็มเดินทางออกทะเลไปเรื่อยมาก ความจริงแล้วอยากจะพูดถึงซีไรต์ แต่ในเมื่อนี่เป็นห้อง webnovel กระทู้นิยายเด็กดี เพราะงั้นคงทำไม่ได้ ยังไงๆ ก็ต้องพูดถึงนิยายเด็กดี

แต่เอางี้ เพื่อไม่ให้เสียธีมของห้อง และไม่เป็นการทรมานสายตาของกูจนเกินไปที่จะต้องไปไล่อ่านงานห่วยๆ ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ เลยจะขอย้อนวันวานกลับไปพูดถึงนิยายเด็กดีในอดีต ที่เคยได้ตีพิมพ์เป็นรูปเล่มวางขายแล้วด้วย คืออย่างน้อยมันก็ต้องสนุก และ (พอจะ) มีคุณภาพบ้างแหละน่า

เรื่อง : Tale of the other world
ผู้แต่ง : Indiana P
link : https://my.dek-d.com/Indiana_P/writer/view.php?id=43517

ต้องออกตัวไว้ก่อนว่า กูไม่ได้ย้อนกลับไปอ่านใหม่แต่อย่างใด ที่เอามารีวิวเนี่ยคือจากความทรงจำที่เคยอ่านเมื่อครั้งเพิ่งแตกเนื้อสาวล้วนๆ อิอิ เล่าเรื่องโดยย่อได้ว่า มีเพื่อนสนิทสองคนนัดเจอกัน คนนึงชื่อรวินทร์ อีกคนชื่อธันวา แต่ก่อนที่จะทันได้ทำห่าอะไรนั้น ไอ้ธันวาก็โดนจอมมารจากต่างโลกอัญเชิญไปเพื่อสิงร่าง แต่ก็ดันพลาด เพราะแทนที่จะดูดไอ้ธันวาไปคนเดียว แม่งดันพ่วงรวินทร์ไปด้วย ดังนั้นพลังจอมมารแอร์ไลน์แม่งเลยโอเวอร์โหลด พาไอ้สองตัวนั่นตกลงกลางป่าก่อนจะไปถึงวิหารจอมมาร

เล่าตั้งแต่ต้นจนจบแบบย่อสัสๆ ก็ประมาณว่า ไอ้ธันวาเนี่ยถูกวางให้เป็นร่างของจอมมารใช่มะ แต่ไอ้รวินทร์แม่งเสือกดวงดี ได้รับพลังจากดาบของเอเซล (ชื่อนี้มั้ง จำไม่ค่อยได้) กลายเป็นทายาทของสายเลือดระดับตำนานที่ต่อสู้กับจอมมาร ไอ้สองตัวนี่ก็ผจญภัยกันไปเรื่อยๆ เพื่อตามหาสิ่งที่เรียกว่า "วัลฮัลลา" ที่เป็นประตูใช้กลับไปยังโลกเดิม แต่สุดท้ายก็ต้องมาพัวพันกับการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับปีศาจ ซึ่งบอสของตัวโกงจริงๆ ไม่ใช่จอมมารดราเกียร์ที่ซัมมอนไอ้ธันวามา แต่เป็นอีกตัวนึง และตอนจบ วิญญาณของจอมมารที่สิงร่างของธันวาอยู่ก็สละตัวเองเพื่อกำจัดปีศาจ ธันวาก็เป็นอิสระ เผ่ามนุษย์ก็ชนะ สุดท้ายรวินทร์ก็ไม่กลับบ้าน แต่งงานมีเมียเป็นราชาอยู่ในต่างโลก ส่วนไอ้ธันวาพาเมียที่เป็นลูกครึ่งปีศาจกลับมากรุงเทพ ในบทส่งท้าย ประตูมิติเปิดออกมาอีกครั้ง ลูกชายของรวินทร์โผล่มาขอร้องให้ธันวาไปช่วยพูดกับพ่อมัน บอกให้ยกเลิกการคลุมถุงชนให้หน่อย

อันนี้จะขอไม่ให้คะแนน แต่อยากจะลองรีวิวข้อดีข้อเสียดู
ข้อดี:
- นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายต่างโลก ซึ่งเปิดมาก่อนปี 48 (ไม่ทราบวันที่ลงครั้งแรกแน่ชัด) แปลว่านี่ก็ผ่านมา 13 ปีแล้ว ต้องบอกว่ามันเป็น "ผู้มาก่อนกาล" ตัวจริง
- การเริ่มต้นชีวิตในต่างโลกไม่แกรี่ ในตอนแรกพวกพระเอกพูดภาษาถิ่นของต่างโลกไม่ได้เลย แต่บังเอิญโชคดีไปเจอเข้ากับปราชญ์เอลฟ์ เลยได้เรียนวิชา + เรียนภาษาในโลกนั้นจนพูดได้
- มีการประยุกต์ใช้ความรู้ในโลกปัจจุบันเข้ากับต่างโลกได้อย่างน่าสนใจ คือไม่ได้ยกประวัติของตัวเอกมาพูดลอยๆ ว่าเป็นนักศึกษาแพทย์ วิศวะ งั้นนี้ แต่มีการเอาความรู้จริงๆ มาปรับใช้ในการเอาตัวรอด เช่น มีอยู่ตอนนึงที่ธันวาติดอยู่ในเมืองที่มีแต่ซอมบี้ มันก็เลยใช้แผนวางกระจกเงาสะท้อนมุมตามตรอกซอยต่างๆ เพื่อหลอกให้ซอมบี้หลงทาง หรืออย่างการใช้เวทมนตร์ ที่มีการประยุกต์เอาหลักฟิสิกส์ (จริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่เขียนดูน่าเชื่อถือ) เข้ามาเสริมพลังให้โหดขึ้นกว่านักเวททั่วๆไปในโลกนั้น
- ตัวละครมี voice ที่ชัดเจน คาแร็คเตอร์ไม่แกว่ง การตัดสินใจต่างๆ อยู่บนพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ที่มีอารมณ์ความรู้สึก
- มุกตลกสอดแทรกทำได้ดี อ่านแล้วอมยิ้มไปได้ในหลายๆ ตอน เช่น ตอนที่ธันวาถูกโจรสลัดจับกรอกยาให้เป็นใบ้ (จะได้ร่ายเวทไม่ได้) ธันวาจึงต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิงเพื่อหนีโจรสลัด แล้วบังเอิญไปเจอกับเจ้าชายที่ถูกทำร้าย เลยเอามารักษาด้วยวิชาแพทย์ (ประยุกต์) พอเจ้าชายตื่นมาเสือกเห็นว่าเป็นผู้หญิงสวย เลยตกหลุมรัก

ข้อเสีย:
- คลิเช่ไปหน่อยในหลายๆ ส่วน เช่น นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชาย นางเอกเสียสละตัวเองเพื่อพระเอก
- คนเขียนไม่ได้วาดแผนที่โลกไว้ก่อนล่วงหน้า ทำให้การเดินทางในบางจุดดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่

สรุป เป็นนิยายเด็กดีที่สนุกใช้ได้ สำนวนอ่านลื่นไหล และยังดูเฟรชอยู่ถึงแม้ว่าจะผ่านมาเป็นสิบๆปีแล้วก็ตาม

664 Nameless Fanboi Posted ID:3rU5kyaTC

>>663 บังเอิญดีจริง กูกำลังอ่านเรื่องนี้อยู่พอดี วางข้างจอคอมกูเนี่ย

665 Nameless Fanboi Posted ID:AAQiME9g/

>>663 คนเขียนหายสาบสูญ แต่ดีกว่านิยายยุคนี้พอควร

666 Nameless Fanboi Posted ID:3rU5kyaTC

>>665 คงทำงานทำการแล้วมั้ง 10 กว่าปีละนี่

667 Nameless Fanboi Posted ID:OjZOiqxfD

อ๋อ จริงๆ ลูซิเฟอร์มันเป็นแจกัน 'หรอ' วะ?

668 Nameless Fanboi Posted ID:e7UsORMBD

>>667 ลูซิเฟอร์ กับแจกันที่หายไปไง

669 Nameless Fanboi Posted ID:AAQiME9g/

>>666 กูเข้าใจถูกรึเปล่า คนเก่งในยุคก่อนๆ หายไปเยอะเลย คนเก่าที่เหลือดูเหมือนยอมรับชะตากรรม คนเขียนรุ่นหลังก็ขาดผู้สอนจากคนเก่ง

670 Nameless Fanboi Posted ID:ZVsiwLK5P

กูว่าคิดไปเอง คนรุ่นก่อนถ้านับเฉพาะช่วงมีเว็บเขียนนิยายกูคิดว่าสู้รุ่นใหม่ไม่ได้ เท่าที่เคยอ่านส่วนใหญ่เขียนกันฟุ่มเฟือยน้ำเยอะ ภาษาพยายามสวยแต่กลายเป็นเวิ่นเว้อ รุ่นที่เขียนดีหน่อยเป็นช่วงออนไลน์ ฝีมือพอไปได้กันหลายคน แต่ช่วงนี้มันเริ่มเป็นนิยายไร้จุดจบ เกิดกันหลายคนแต่งานมันยึดเป็นอาชีพหลักไม่ได้เลยทยอยกันออกไป รุ่นใหม่สุดจริงๆ เอาปัจจุบัน ถ้าสายแฟน ภาษากูว่าดีกว่ารุ่นโรงเรียนเวทเยอะ เบียวซูมันเป็นทุกยุคงานในเอเชียก็เป็นกันแทบทุกชาติคนอ่านจริงๆ ก็อ่านเหมือนเดิมทุกยุค บางคนแก่ขึ้นอ่านไม่สนุกก็ไปหาอ่านงานที่โตตามวัยไป บางคนไม่คิดมากก็ยังอ่านอยู่ดีและยังเยอะเหมือนเดิมดูได้จากยอดวิว แค่เขียนให้เบียวหรือซูแล้วมันสนุกถูกจริตคนก็พอ เอาจริงๆ รุ่นเขียนกันช่วงนี้ถ้าดูหมวด อดีต ภาษา เนื้อหา การบรรยายกูว่าดีกว่ารุ่นบุกเบิกแบบค่าเฉลี่ยสูงกว่ากันมาก กูอ่านตั้งแต่บารามอส ยังอ่านมาเรื่อยๆ ปัจจุบันอ่านน้อยลงแต่กูว่ารุ่นใหม่เก่งๆ เยอะ

671 Nameless Fanboi Posted ID:3rU5kyaTC

>>669 มึงถามกูใช่มั้ย คำตอบคือก็ไม่ใช่อย่างนั้นเสียทีเดียว คนที่ยังเขียนอย่างที่ตัวเองอยากก็ยังมีอยู่ แต่ตลาดที่รับงานพวกนี้คือลูกค้าที่เคยเป็นวัยรุ่นสมัยก่อน เวลาผ่านไปแนวนิยมในตลาดก็เปลี่ยนตาม จากโรงเรียนเวทมนตร์มาเป็นออนไลน์ ต่อมาก็ต่างโลก แล้วตอนนี้ก็จีน

คนเก่าๆ ที่เหลือไม่ได้ยอมรับชะตากรรม แต่ต้องเรียกว่าจำใจและจำเป็นต้องปรับตัว มึงลองคิดถึงหัวสถาพรที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำแฟนตาซียุคก่อนดู ปัจจุบันเป็นยังไง ถึงขั้นร้างแล้วก็ไม่ค่อยออกนิยายแฟนตาซีมากนัก ถ้านักเขียนคนไหนยังมีแฟนติดตามอยู่พอสมควรเขาก็หนีไปทำมือเอาแหล่ะ

ส่วนประเด็นเรื่องนักเขียนหน้าใหม่ขาดแนวทาง อันนี้กูไม่อยากพูดถึงเลยวะ รอยต่อระหว่างยุคที่แม่งเปลี่ยนแปลงมากเกินไปมึงก็คงเข้าใจอยู่ เหมือนนิยายยุคป้าทม แล้วมายุคแฮร์รี่บูม พอมาถึงตอนนี้ตลาดนักอ่านแม่งก็เปลี่ยนไปแล้วเหมือนกัน เด็กเจนใหม่มันชอบอ่านอะไรง่ายๆ เทพๆ ตลกๆ นักเขียนสมัยนี้เลยเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้แม่งดีแล้ว เขียนแล้วมีคนสนใจ ไม่ได้สนใจถึงคุณค่า แต่สนยอดวิวเหมือนคนโพสอะไรในเฟสแล้วหวังแค่ยอดไลค์ ขอให้มีคนชอบเยอะๆ เข้าว่า ที่ร้ายสุดคือความสนใจมันไหลไปทาง Y ไม่ว่าจะเป็นยาโอยหรือยูริ

ตอนนี้อนิเมะ มังงะ ไลท์โนเวล เริ่มมีแนวยูริมากขึ้น กูก็ไม่ค่อยเข้าใจ(อาจเป็นเพราะกูแก่ด้วย)เลยเข้าไม่ถึงความชอบของเด็กเจนนี้ เมื่อกำลังเปย์มันอยู่ในมือเด็กผู้หญิงวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ อีกไม่นานพวกมึงอาจต้องยอมรับด้วยว่านิยายนอมอร์อาจกลายเป็นของหายาก ทั้่งจากที่นักอ่านชอบ Y และนักเขียนสายนอมอร์พากันถอดใจ หรือบางคนจงใจป้อนนิยาย Y เสียเองเพราะมันขายได้

ตามเว็บเรื่องเสียวกูไปสุ่มสำรวจดู เรื่องเล่าแนวเกย์ แนวฉิ่ง กับแนวลูกกับแม่, ลูกกับพ่อเย็-กัน มีอยู่เกือบจะพอๆ กับแนวปกติแล้ว กูวัดความเป็นไปจากเรื่องเสียวเพราะคนเรามันหนีไม่พ้นอะไรใต้ดินพวกนี้เวลาต้องการปลดปล่อยอารมณ์ ที่เหี้-กว่านั้นคือแนววนิลา(ชาย-หญิงอายุใกล้กัน เหมาะสมกัน หรือรักกันมุ้งมิ้งแล้วเย็-กัน) เหลืออยู่น้อยที่สุด แนวนอมอลที่มีเยอะเสือกเป็นเรื่องเสียวเย็-เด็ก อนาถใจสุดๆ ไปเลย

672 Nameless Fanboi Posted ID:v7A0uzZ4t

มาอีกแล้วกรณีนี้ กูว่าทางเด็กดวกต้องหาวิธีจัดการแล้วล่ะ
https://www.dek-d.com/board/view/3824040/

673 Nameless Fanboi Posted ID:3rU5kyaTC

>>672 มันไม่ผิดกฏ แค่น่าเกลียดเฉยๆ

674 Nameless Fanboi Posted ID:f/0RtDd+5

นิยายที่เอาแต่เปิดตอนใหม่เพื่อโปรโมทนิยายตัวเองที่วางขายแล้วลงนิยายตัวเองเท่าฮีมดนี่นับว่าน่ารังเกียจไหม

675 Nameless Fanboi Posted ID:XlT9bH+S5

>>672 ไม่ผิด แต่น่ารำคาญชิบหาย
ฝั่งวายก็มีคนนึงทำงี้ ซอยอัพทีละ 30% ทั้งๆที่เขียนจบแล้ว ขายแล้ว แต่แบ่งอัพทีละนิดๆ เลยกลายเป็นว่ามีนิยาย 3-4 เรื่องที่ยังลงไม่จบสักที
ยังดีไม่มีคนเลียนแบบมีแค่นางทำงี้อยู่คนเดียว

676 Nameless Fanboi Posted ID:coUrHcP+0

https://www.dek-d.com/board/view/3824182/
รับวิจารณ์นิยายโดยนักเขียนติดท็อป 12 หมวดแฟนตาซี

677 Nameless Fanboi Posted ID:qaHhC3srH

>>670 รู้มั้ยว่าทำไมคนยุคก่อนถึงเขียนฟุ่มเฟือยน้ำเยอะ

เพราะ สนพ. สมัยก่อน แม่งบังคับให้มีจำนวนคำไม่น้อยกว่า 200k ตัวคำต่อเล่มยังไงล่ะ
วรรณกรรมยุคก่อนกับยุคนี้มันต่างกันตรงที่ว่า สมัยก่อนถ้าพูดถึงนิยาย คนเราจะยังยึดติดกับรูปเล่มใหญ่ๆ หนาๆ จำนวนหน้าเยอะๆ เปิดมาทีเจอตัวอักษรติดกันเป็นพรืด ซึ่งค่านิยมในยุคนั้นการเขียนแบบนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ "ดี" เพราะคิดว่ายิ่งบรรยายเยอะก็ยิ่งทำให้คนอ่านเห็นภาพ ใครไม่เชื่อลองไปเปิดอ่านนิยายแปลยุคก่อนเลยได้อาทิเช่น The Lord of The Ring , Sherlock Holmes หรือจะมาร่วมสมัยหน่อยก็เช่น Tom Clancy : The Hunt of Red October รวมถึงของไทยเราอย่าง เพชรพระอุมา มึงจะเห็นเลยว่านิยายยุคที่เขียนยุคก่อนๆ นั้นจะบรรยายเยอะ + ละเอียดมาก และแน่นอนว่าเห็นภาพแบบสุดๆ

แต่ไอ้ค่านิยมนี้ก็ค่อยๆ ทยอยถดถอยและหดหายไปเมื่อเข้าสู่ยุคที่ Harry Potter ตีพิมพ์ ซึ่งไอ้เรื่องแฮร์รี่เนี่ยเล่มแรกๆ มันถูกจัดเป็นวรรณกรรมเยาว์ชน J.K. จึงต้องใช้คำบรรยายง่ายๆ ไม่ฟุ่มเฟือยคล้ายกับเป็นแค่นิทานที่บรรยายให้เห็นภาพมากขึ้น ผลที่ได้ก็คือมัน work! คนอ่านแค่อ่านนิดหน่อยแล้วไปจินตนาการภาพรวมเอาเอง แทนที่นักเขียนจะบรรยายให้เห็นภาพทั้งหมด ซึ่งนั่นก็ได้ทำให้วงการนิยาย (โดยเฉพาะในไทยช่วงกลางๆ ปี 2000) เริ่มเปลี่ยนรูปแบบการบรรยายมาเป็นแบบสั้นๆ และก็ยิ่งสั้นเข้าไปใหญ่เมื่อ Light Novel จากญี่ปุ่นเข้ามา จนทำให้รสนิยมการอ่านของคนเราเปลี่ยนไปชอบอะไรสั้นๆ ง่ายๆ และมองว่าการบรรยายเยอะ = น้ำเยอะแทนยังไงล่ะ

สังเกตได้เลยว่าปัจจุบันน้อยคนนักที่จะทนอ่านนิยายเล่มหนาๆ ได้ ถ้ากูจำไม่ผิดขนาดในโม่งยังมีคนเคยบ่นประมาณว่า ถ้าให้ไปอ่าน The Lord of The Ring ตอนนี้ก็คงทนอ่านไม่ได้แน่ๆ ซึ่งกูเองก็ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะทุกวันนี้กูยังทนอ่าน Metro 2033 ไม่จบเหมือนกัน 5 5 5 เหี้ยเถอะ นิยายห่าอะไรบรรยายเยอะชิบหาย + ตัวอักษรติดกัน ไม่มีขึ้นย่อหน้าใหม่ด้วย

>>671 ส่วนอันนี้... กูเห็นด้วยเลยว่ากระแสมันไปไวเกินว่ายุคนี้

ยุคก่อนๆ กว่าจะเปลี่ยนแนวกระแสกันทีใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3-4 ปี อาทิเช่นยุคโรงเรียนก็เป็นแนวโรงเรียนอยู่แบบนั้นไปยาวๆ ยุคออนไลน์ก็อยู่ยาว แต่พอมาช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้รู้สึกมันไปไวมาก อย่างที่ช่วงปี 2014-2015 นี่แนวตัวเอกเป็นจอมมาร 2016 ก็กระแสแนวเกิดใหม่มาแรง แต่พอเข้าช่วง 2017 กลับเป็นแนวจีน ซึ่งพอมองโดยรวมแล้วมันเปลี่ยนแนวกันแทบทุกปีเลย แต่ตอนนี้คงไม่มาแรงแซงแนววายแน่ เพราะพวกสาวฟุที่เคยเน่าหนองในอดีตตอนนี้ก็น่าจะโตกันมีเงินเปย์กันแล้ว แล้วพวกนี้เปย์กันไม่สนเนื้อหาด้วยขอแค่ได้อ่านแล้วเข้า bone zone ก็จ่ายตังละ

เอาเป็นว่าสรุปง่ายๆ ยุคแม่งเปลี่ยนไปเยอะมากจนนักเขียนเก่าๆ ตามไม่ทันละ กูเองก็คนนึงที่ไม่ทันยุคจนต้องหยุดเขียนเช่นกัน ...ไม่ไหวอะ อยากเขียนแต่กูเบียวไม่พอ แถมเขียนไปโดนเด็กด่าอีก เอ้า!

678 Nameless Fanboi Posted ID:rQSDiLig3

>>670 >>671 >>677
กู >>669 ดูเหมือนกูต้องเปิดกว้างแล้วล่ะ สิงแต่เด็กดีก็ไปได้เท่านี้ ตามโลกไม่ทันจริงๆ นิยายไทย

679 Nameless Fanboi Posted ID:rQSDiLig3

โลกของ dek-d ตลาดสำคัญกว่าจินตนาการ https://www.dek-d.com/board/view/3824238/

680 Nameless Fanboi Posted ID:qaHhC3srH

>>678 ถ้ามึงเปิดกว้างและยอมรับความซู ความเบียวของนิยายยุคนี้ได้ มึงก็เขียนได้ไม่ยาก
แต่สำหรับกูนี่ท่าจะไม่ไหว พยายามลองอ่านนิยายจีนหลายเรื่องละ แต่ก็ไม่อิน แค่เห็นชื่อตัวละครเป็นจีนกูก็แอนตี้ละ

681 Nameless Fanboi Posted ID:MnFcyYv2E

>>679 ส่วนตัวกูว่ามันต้องมีจินตนาการนำมาก่อนว่ะ ถึงจะไปต่อในตลาดได้

682 Nameless Fanboi Posted ID:rQSDiLig3

>>680 กูไม่ถนัดนิยายจีนที่สุด แค่ชื่อตัวละครจำได้แค่ชื่อตัวเอกคนเดียว เจอตัวเดียวชื่อหลายชื่อ ขอบาย นับประสาอะไรกับพล็อตเรื่อง

683 Nameless Fanboi Posted ID:aaNUX1AEq

>>677 กูนับเฉพาะตอนเริ่มมีคนเขียนนิยายลงเว็บ รุ่นนั้นฝีมือไม่ได้ดีมาก คนเก่งไม่มาก อย่าเอาไปเทียบระดับงานขึ้นหิ้ง บรรยายเยอะไม่ได้หมายความว่าฟุ่มเฟือยน้ำเยอะ ฟุ่มเฟือยน้ำเยอะคือบรรยายไม่ประโยชน์อะไร ไม่ใช่การบรรยายละเอียด เป็นบรรยายไร้แก่นสาร นิยายสมัยก่อนของนักเขียนระดับอาจารย์กูก็ผ่านตาหลายเรื่อง ภาษามันสวยงามส่วนไหนบรรยายเยอะมันก็อ่านสนุกน่าติดตาม นิยายสมัยนี้อย่างนิยายจีนบรรยายกันยาวๆ กูก็ว่าน้ำไม่เยอะ เพราะมันอ่านสนุกมีรายละเอียดน่าติดตาม แต่นักเขียนลงเว็บรุ่นบุกเบิกมันไม่ใช่ บรรยายเยอะแต่ไม่มีประโยชน์ อ่านไม่สนุก ไม่ค่อยมีชั้นเชิงแบบรุ่นอาจารย์หรือนิยายแปล กูถึงบอกว่ารุ่นนี้จริงๆ ฝีมือดีมีไม่มาก มายุคออนไลน์หลายคนบรรยายเยอะแต่ดูดีกว่ารุ่นบุกเบิก แต่ในยุคออนไลน์เองพวกที่เขียนโรงเรียนเวทหรือแฟนตาซีธรรมดาอยู่ก็ยังมีปัญหาบรรยายฟุ่มเฟือยอยู่ดี เหมือนสักแต่บรรยายไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับนิยาย ถ้าบรรยายไร้ชั้นเชิงแบบนี้กูว่าฟุ่มเฟือยหมด ถ้าบรรยายเยอะ ยาว แต่ดี กูก็ไม่คิดว่ามันฟุ่มเฟือย ต่อให้อ่านยากๆ แบบลอร์ด กูก็ยังมองว่าไม่ถึงกับฟุ่มเฟือย แค่มันอ่านยาก อาจเพราะคนเขียนแฟนตาซีเริ่มเขียนตอนอายุไม่มากก็เป็นได้ พวกนี้มีปัญหาเชื่ออะไรผิดๆ ขาดๆ เกินๆ ต่อกันมา เชื่อว่าบรรยายยิ่งยาวยิ่งดี แต่หลายคนมือยังไม่ถึง

684 Nameless Fanboi Posted ID:rQSDiLig3

เออ กูมีคำถามเอะใจ ถ้าเมื่อก่อน ฝีมือคนเขียนแย่จริงๆ แล้วพวกที่ได้ตีพิมพ์ช่วงรุ่นบุกเบิกล่ะ เขียนดีรึเปล่า (ไม่ได้ตั้งใจกวนตีน)

685 Nameless Fanboi Posted ID:qaHhC3srH

>>684 เอาคนไหนล่ะ?
ถ้าอย่าง "มาสเตอร์" ป๊อบ มันใช้เส้นสายทางบ้านให้โหมกระแสจนได้ตีพิมพ์กับเครือสยาม ส่วนฝีมือก็ระดับ ฟิ้ว ตูม บรึ้ม! ปล่อยพลังตะโกนชื่อท่านั่นล่ะ

686 Nameless Fanboi Posted ID:qaHhC3srH

>>683 เออจะว่าไป ไอ้การบรรยายไม่มีประโยชน์แบบที่มึงว่านี่มันเป็นยังไงวะ? เห็นหลายมู้ก่อนก็เคยมีโม่งพูดถึง กูเองก็อ่านมาเยอะ แต่ยังแยกไม่ออกระหว่างน้ำที่ใส่เข้ามาเพื่อให้คนอ่านเห็นภาพ กับส่วนที่ใส่เข้ามาแบบไร้ความหมายอย่างที่ว่า

อย่าง Metro 2033 ที่กูอ่านไปบ่นไปนี่ ส่วนที่เป็นน้ำมันก็ยังบอกให้เห็นถึงสภาพสังคมและเซ็ตติ้งของเรื่องอยู่บ่อยๆ ซึ่งอาจไม่ใช่ส่วนสำคัญแต่ก็ทำให้คนอ่านอินไปกับโลกในเรื่องอยู่นะ

687 Nameless Fanboi Posted ID:rQSDiLig3

>>685 กัลฐิดา ไม่ก็คนอื่น รู้อีปอบจนเบื่อแล้ว

688 Nameless Fanboi Posted ID:rQSDiLig3

>>686 ฟุ่มเฟือยคงจะหมายถึง https://writer.dek-d.com/mr-pink/story/viewlongc.php?id=1290967&chapter=6

689 Nameless Fanboi Posted ID:bMUFRyO4T

>>686 สมมติว่าใจความหลักมีแค่ "แม่เดินตลาดกับลูก" แต่ตอนที่เขียนบรรยาย บอกลักษณะแผงแม่ค้าตั้งแต่ร้านแรกไปร้านสุดท้าย บอกลักษณะคนเดินตลาดทุกคนที่เดินผ่าน ประมาณนี้อ่ะ

690 Nameless Fanboi Posted ID:aaNUX1AEq

>>684 มีคนที่เขียนดีสำหรับสมัยนั้น แล้วก็ไม่ถึงกับดีถึงจะได้ตีพิมพ์ กูไม่บอกชื่อแล้วกัน เล่มไหนคนอ่านมีความรู้สึกว่าต้องทนอ่านหรือรู้สึกว่าไม่ต้องอ่านก็ได้กูว่าเล่มนั้นคนเขียนยังทำได้ไม่ดีพอ แต่บางเล่มมันก็เกี่ยวกับจริตผู้อ่านว่าถูกกันไหม

>>686 คล้ายๆ >>688 แต่ปัญหาใหญ่เลยคือเมื่อก่อนบรรยายกันไม่สวย ไม่ดึงดูด ไม่น่าติดตาม สักแต่บรรยายมาให้เยอะๆ หรือบางทีคนเขียนตอนนั้นยังประสบการณ์ไม่มากเลยมองงานตัวเองไม่ออก ใส่มาจนล้น ปัญหาพวกนี้ช่วงหลังๆ เกิดน้อยลงแล้ว ถ้าไปอ่านช่วงบุกเบิกหรือช่วงออนไลน์รุ่งเรืองจะเห็นอยู่หลายเรื่องที่เป็นแฟนตาซีธรรมดาหรือแนวโรงเรียนเวท บรรยายให้เห็นภาพกูคิดว่ามันควรจะเอาพอประมาณและมีโฟกัสที่เนื้อเรื่องว่าอยากให้นักอ่านเห็นเรื่องอะไร บางคนเจอตัวละครใหม่แล้วจะบรรยายสีตา สีผม จมูก ริมฝีปาก เสื้อผ้า ย่อหน้าต่อมาตามด้วยท่วงท่า ฉากเปิดตัว ย่อหน้าต่อมาประวัติตามหลัง บางทีกูว่าก็เยอะไป ถ้าทำกับตัวละครหลักไม่กี่ตัวพอรับได้ แต่ถ้าทำกับแทบทุกตัวที่โผล่มากูว่าเยอะ เอาแค่กระชับได้ใจความสร้างความประทับใจได้ก็พอ

ฟุ่มเฟือยน้ำเยอะบางทีกูก็รู้สึกว่าจำกัดความมันไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกระหว่างอ่าน พออ่านแล้วรู้สึกว่าจะเขียนมาทำไมวะนี่ กูก็คิดว่ามันฟุ่มเฟือยแล้ว ถ้าเขียนมาแล้วมันมีความงาม มันน่าติดตาม มันมีอารมณ์ขัน เขียนมาแล้วคนอยากอ่าน ต่อให้เยอะกูก็ไม่คิดว่ามันฟุ่มเฟือย เพราะอ่านแล้วไม่เปลืองเวลาอ่าน

แต่ถ้าเขียนเพราะเป็นสิ่งสำคัญต่อเรื่อง แต่คนอ่านแล้วไม่อยากอ่าน หรือคนรู้สึกว่ามันฟุ่มเฟือย ต้องมองว่างานมันมีปัญหาในเรื่องชั้นเชิงการเล่าเรื่องหรือเปล่า อันนี้ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง

691 Nameless Fanboi Posted ID:swCXr+lZy

>>690 เออ... พออ่านแบบนี้แล้วเข้าใจขึ้นเยอะเลย ขอบใจมากเพื่อนโม่ง

692 Nameless Fanboi Posted ID:Gu5IvWcnk

มีใครจะรีเควสให้รีวิวนิยายเรื่องไหนไหม เอาเป็นนิยายเด็กดีที่ได้พิมพ์เป็นเล่ม เก่าๆ หน่อยก็ได้ คือขี้เกียจอ่านใหม่อะ ถถถถ อาศัยมโนรีวิวเลย

อ้อ นึกออกเรื่องนึวคือปริศนาวิทยาห่าไรสักอย่าง กูอุตส่าห์ซื้อเล่มหนึ่งมา ปรากฏว่าไม่สนุกแบบไม่สนุกเหี้ยๆ ไม่รู้ว่าได้พิมพ์ได้ไง

693 Nameless Fanboi Posted ID:n0Rkzjfli

>>658 กูอ่านจบแล้ว จะเริ่มสับล่ะ
https://writer.dek-d.com/PimPern/writer/view.php?id=1650673
ชื่อเรื่อง: BLOODY LOVE เหยื่อรัก สังเวยเลือด
หมวด:รักแฟนตาซี
สถานะ 41ตอน ยังไม่จบ และยังไม่ลงไห
ปกติกูชอบพารานอมอลอยู่แล้ว เลยเลือกเข้าไปอ่าน ทีแรกก็ลังเลนะเพราะเห็นเป็นแนวแวมไพร์ คือกูเบื่อแล้วไง สมัยก่อนอ่านมาเยอะ พอกับแนวนางเอกหลงยุคไปเจอฟาโรห์
มามะๆเข้าเรื่อง กูจะบอกว่าพอเข้าไปอ่าน ความประทับใจแรกพบนี่ไม่มีเลย แม่งโปรยซะกูคิดว่าต้องแนวเย็xแน่ๆ ถึงแม่งจะพยายามฮาแทรกมาก็เหอะ แค่มุกแม่งก็ใต้สะดือ (ใต้สะดือจริงๆนะมึง) แต่กูก็ไม่ใจแคบพอจะตัดสินแม่งแค่คำโปรย เพราะล่างๆกูเห็นคนเขียนมันอวยตัวเองไว้อยู่ว่าของมันครบรส ไม่ได้เน้นแค่หื่น เจออย่างนี้กูยิ่งชอบจับผิดเลย ถ้ามึงขายแต่ความหื่นนี่สนุกกูล่ะ
แต่พอกูเปิดไปอ่านบทนำ อารมณ์แม่งเปลี่ยน กล่าวถึงนางเอกประมาณว่าเห็นวิญญาณมาแต่เด็ก เลยดึงดูดสิ่งชั่วร้าย แล้วนางเอกแม่งก็ได้จี้พระมาเส้นนึง คล้องไว้ป้องกันตัว แค่นั้นจบ
บทต่อมา ตัดภาพมาที่นางเอกโตแล้ว(นางเอกคนไทยนะ) มาเรียนภาษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น (ทำไมต้องญี่ปุ่นวะ กูล่ะข้องใจ เออเเต่ช่างแม่งเหอะ) บทนี้นางเอกกับพระเอกเจอกัน เพราะพระเอกมาไล่จับแมว แต่แมวตัวนี้แม่งไม่ธรรมดา มันเป็นปีศาจ นางเอกมัวแต่ตกตะลึงกับความหล่อของพระเอก(ตามสูตร)เลยโดนดี แมวแม่งใช้ภาพลวงตา(น่าจะนะ)เสกตัวเหี้ยอะไรสักอย่างใส่นางเอก พระเอกแม่งเลยจะจับ แต่ไปคว้าเอาไฟหน้านางเอกเข้า กูเก็ตเลยว่า แมวนี่แม่งเซอร์วิสสินะ555 แต่กูยังโอเคอยู่นะ เพราะอย่างน้อยแม่งก็ยังโชว์ฉากหื่นแบบมีเหตุผลมารองรับ ถ้าสมมติมาถึง แม่งบรรยายว่า นางเอกหุ่นเอ็กซ์ พระเอกเห็นแล้วหื่นไปไล่บีบนม ตีตรูดกูก็คงเซย์บ๊ายบาย อีกเหตุผลนึงที่ทำให้กูพอทนอ่านได้คือ การบรรยายของมัน คือมันก็ไม่ได้ดีเลิศอะไรนะ รู้สึกจะแอบฟุ่มเฟือยนิดนึงด้วยซ้ำ แต่กูชอบตรงที่แม่งไม่ได้บรรยายความหล่อของพระเอกไปสิบย่อหน้า ไม่มัวอวยแต่ความหล่อสวยของตลค. แล้วก็นางเอกที่ยังดูเป็นคนปกติหน่อย ที่ถูกพระเอกลวนลามแล้วรู้สึกไม่ชอบถึงพระเอกมันจะหล่อแค่ไหน ถ้าเป็นกรณีแบบ เจอเขาจับนมแบบนี้แล้วรู้สึกไม่ชอบ แต่ก็แอบใจเต้นแรง เขินให้กับความหล่อของพระเอก(ที่เพิ่งจับนมเมิงไป) อันนี้กูไม่ให้ผ่านนะ แรดเกิน เข้าตำราคนหล่อทำอะไรไม่ผิด โชคดีที่อีเรื่องนี้มันไม่เป็น ไม่งั้นเจอกูอวตารด่าไปล่ะ555 อย่าว่ากู กูเก่งอยู่แค่หลังคีย์บอร์ด กูไม่ถูกจริตกับแนวนี้จริงๆ
ต่อกันที่บทต่อไป จะรวบรัดล่ะ นางเอกขับจักรยานแล้วก็เกือบเจอรถคันนึงชน แต่มันไม่เป็นไรมาก แค่ตกใจจนรถล้ม ไอ้คนที่จะชนมันเลยจะพาไปโรงบาลแต่อีนางเอกมันไม่ไป ผู้ชายนั่นมันเลยขอเลี้ยงข้าวตรงร้านใกล้ๆแทนเพราะรู้สึกผิด สรุปมันชวนนางเอกไปทำงานเป็นครูสอนภาษาไทยให้ลูกชายมัน(ไอ้คนนี้เป็นพ่อพระเอก) นางเอกมันก็ไม่ได้ตัดสินใจทันทีนะ มันก็คิดหลายตลบอยู่ แต่สุดท้ายมันก็ตัดสินใจทำ(ไม่งั้นเนื้อเรื่องไม่เดิน)
ตอนต่อมา มันก็เฉลยให้เรารู้ว่า ที่แท้การที่พ่อพระเอกขับรถไปทำท่าจะชนนางเอก เป็นแผนการเพื่อจะได้เข้าไปทำความรู้จัก เพื่อล่อนางเอกไปให้ลูกชายตัวเอง เพื่อแผนการบางอย่าง
แล้วก็เปิดตัวตัวละคร พี่น้องพระเอก พระเอกเป็นลูกคนกลางสามพี่น้องชายล้วน มีการสนทนาโต้ตอบกันไปมาทั้งตอน จุดประสงค์คือ คนเขียนมันคงอยากให้เราทำความรู้จักอุปนิสัยตัวละคร ตรงนี้บางประโยคกูแอบงงนิดหน่อยว่าตรงไหนใครพูด เพราะแม่งก็พูดกันเยอะ แต่พออ่านไปได้สักพักกูก็เริ่มชิน เพราะไอ้สามตัวพี่น้องนี่รูปแบบประโยคมันไม่เหมือนกัน ใจความของตอนนี้ก็คือ พ่อมันส่งจดหมายมาให้ลูกชาย (มันใช้จดหมายนะมึง เพราะพ่อแม่งเป็นแวมไพร์อายุเยอะแล้ว ไม่ถูกกับเทคโนโลยี) จดหมายก็สั่งประมาณว่า นางเอกจะมาสอนภาษาให้พระเอก ให้ปกปิดตัวตนไว้อย่าให้นางเอกรู้ว่า เป็นแวมไพร์ แน่นอนว่าพระเอกแม่งไม่เอาด้วย
(เดี๋ยวต่อ)

694 Nameless Fanboi Posted ID:n0Rkzjfli

>>693 ตอนต่อมา นางเอกก็มาเจอกับพระเอกที่บ้านแล้วก็โดนไล่กลับ ในตอนจะแง้มๆว่า พระเอกแม่งใช้พลังไล่ แต่คนเขียนไม่ได้เฉลยว่าพลังอะไร มีการใบ้ผ่านตัวละครพี่น้องพระเอกว่า แปลกมากที่พลังของพระเอกใช้กับนางเอกไม่ได้ผล คือนางเอกไม่ยอมทำตามที่พระเอกพูด กูก็เดาไปว่า น่าจะเป็นพลังให้ทำตามคำสั่งทำนองนี้ สรุปว่า พระเอกมันเลยแปลกใจมาก แต่ไม่เชิงว่าสนใจ และรักนางเอกนะ มันแค่แปลกใจเฉยๆ แล้วพระเอกมันก็ไล่นางเอกกลับไปได้ แต่ครั้งต่อไปนางเอกแม่งก็ยังมาทำงานอยู่ เพราะพ่อแม่งไม่ยอม
สุดท้าย พระเอกมันก็ทำให้รู้สึกแย่ จนนางเอกไม่อยากทำงานนี้ต่อ แต่ก่อนมันจะแยกย้ายกัน มันก็เคลียร์กัน จบด้วยดีนะ คือกูจะบอกว่า เรื่องนี้ความสัมพันธ์มันค่อนข้างช้าจนกูแปลกใจ ปกตินิยายแนวๆนี้มันจะตกหลุกรักกันเร็วมาก (เท่าที่กูเคยอ่านมานะ) ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง (ส่วนใหญ่จะเป็นพระเอก) จะตกหลุมรักอีกฝ่ายก่อนอย่างง่ายดาย กูเคยเจอแบบแค่มองตาโลกก็เหมือนหยุดหมุน พอนางเอกยิ้มทุกอย่างก็สว่างไสว แค่นั้นตกหลุมรักเลย กูก็ไม่ได้จะว่าเรื่องนี้ดีนะ กูว่ามันก็ช้าไปอีก(อ้าว) แต่กูกำลังเบื่อๆกับแนวตกหลุมรักกันแบบสายฟ้าแล่บพอดี จึงทนอ่านมันไปได้
สุดท้าย กูก็จำไม่ได้ล่ะว่าเพราะอะไร แต่เหมือนพระเอกกับพี่น้องมันจะคาใจในตัวนางเอกมาก เพราะนอกจากพลัง(ที่ยังไม่เฉลยสักที)ของพระเอกจะใช้ไม่ได้ผล กลับไม่ได้กลิ่นเลือดจากตัวเอง เท่าที่กูเข้าใจก็คือ พวกแวมไพร์ในเรื่องนี้ มันจะได้กลิ่นสองแบบจากตัวมนุษย์ คือกลิ่นเลือด กับกลิ่นกายตามธรรมชาติ คนไหนเลือดหอมคนนั้นน่ากิน แต่คือพวกมันไม่ได้กลิ่นเลือดนางเอก ได้แต่กลิ่นตัวที่หอมมาก พระเอกมันก็เลยกะจะตามไปสืบให้รู้เรื่อง แต่ก็ไม่รู้จะทำไง เพราะแม่งเสือกล่องหนไม่ได้ สุดท้ายมันเลยแปลงร่างเป็นแมว - - เพราะพระเอกมันจำได้ว่า ตอนเจอกันครั้งแรกเห็นนางเอกชอบแมวมาก ถ้าแปลงเป็นแมวคงเข้าใกล้ได้ง่ายกว่า (กูจะให้เหตุผลมันผ่านดีไหม)
พอตอนต่อไป แม่งก็มีอธิบายว่า พวกพระเอกสามพี่น้องเรียนวิชาแปลงร่างมาพร้อมกัน แต่ต่างคนต่างถนัดไม่เหมือนกัน คือพวกมันก็แปลงร่างเป็นตัวอะไรได้หมด แต่จะมีที่ถนัดเป็นพิเศษ พี่พระเอกถนัดแปลงเป็นสัตว์ปีก น้องพระเอกถนัดแปลงเป็นสัตว์นักล่า ไอ้พระเอกเสือกถนัดแปลงเป็นสัตว์เลี้ยง (ตรงนี้ทำไมกูฮา) มันเลยแปลงเป็นแมวได้อย่างแนบเนียน จนนางเอกที่เป็นทาสแมวไม่สงสัยในตัวแม่งเลยสักนิด แล้วแม่งก็เป็นแมวหื่นๆหน่อย แทนที่แม่งจะไปตั้งใจสืบความลับ เสือกไปจิ้นหุ่นนางเอกตอนนุ่งผ้าเช็ดตัวอาบน้ำ แต่มันก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น อยู่กับนางเอกไปได้เป็นอาทิตย์ สุดท้ายมันก็ได้รู้ว่า ที่ไม่ได้กลิ่นเลือดจากตัวนางเอก เพราะสร้อยพระ (มันช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้าย) สุดท้ายพระเอกแม่งชักท่าไม่ดี มันไม่อยากผูกพันกับมนุษย์ โดยเฉพาะคนที่พ่อมันพยายามยัดเยียดให้อย่างนางเอก มันเลยชิ่ง ตัดสินใจจะไม่ยุ่งกับนางเอกอีก ทั้งที่มันก็ยังคาใจว่า เพราะสร้อยพระเส้นนี้หรือเปล่าที่ทำให้พลังของมันใช้กับนางเอกไม่ได้ผล สรุปมันเริ่มรู้สึกดี ๆ กับนางเอกแล้ว ณ.ตอนที่11
(เดี๋ยวมาต่อ)

695 Nameless Fanboi Posted ID:fWuzPj2dW

>>692 อาจเป็นพลังงานแบบเดียวกับดอกปอบก็เป็นได้

696 Nameless Fanboi Posted ID:LZhLi3yYZ

แวะมาถามเรื่องความยาวในการลงแต่ละตอน ตอนนึงประมาณ 4000 - 5000 คำ ควรลงไปทั้งหมดเป็นตอนเดียว แต่ลงได้สามวันครั้ง หรือแบ่งวัน/สองวันต่อครึ่งดี อยากให้มีหน้าใหม่ ๆ หลงคลิกมาเจอบ้าง นี่อยู่แต่กับเฟบตัวเองมาสักพักแล้วง่ะ //แต่กูจะไม่เอาไปเนียนแปะบอร์ดแฝงโฆษณาเด็ดขาด

697 Nameless Fanboi Posted ID:DOnw2utnz

>>696 ตัดเป็น 2 พาร์ท ๆ ละ 2,000 - 2,500 คำ แยกลง 2 วัน วันแรก 10 โมงเช้า วันถัดมา เลือกเอาระหว่าง 4 โมงเย็นกับ 2 ทุ่ม อันใดอันนึง

698 Nameless Fanboi Posted ID:etJC24wN8

>>697 ทำไมต้อเป็น4โมงเย็นกับ2ทุ่มวะเพื่อนโม่ง

699 Nameless Fanboi Posted ID:DOnw2utnz

>>698 สี่โมงเย็นเกรียนเลิกเรียน อ่านนิยายบนรถ หรือรอ ผปค. มารับ กับอีกช่วงสำหรับกลุ่มเรียนพิเศษพอเรียนเสร็จว่างก็อ่านนิยาย ดักพวกออกกำลังกายได้ด้วยเพราะอาบ, ทานข้าวเย็นเสร็จพอดี

ลงช่วงเช้าดีตรงหน้าแรกเลื่อนน้อยแต่คนอ่านก็ไม่เยอะ ลงตอนเย็นต้องวัดดวงด้วย ว่าจะเจอพวกอัพหลอก อัพโปรโมต อัพเปอร์เซนต์หรือไม่ เพราะถ้าชนกันนิยายมึงก็ร่วงไปหน้า 3 เกือบจะทันที ทั้งๆ ที่แม่งใช้เวลาแต่งมาตั้ง 4-5 วัน

700 Nameless Fanboi Posted ID:HaihtQ5bn

Jumanji ทำรายได้รอบโลกชนะ Spider-Man Homecoming หรือนี่คือสัญญาณว่าแนวเกมจะมาวะ?

701 Nameless Fanboi Posted ID:kUA4+1W9d

>>700 น่าจะเพราะในเรื่อง jumamji มันมีแต่นักแสดงรุ่นเก๋ามากกว่าว่ะ กูว่า

702 Nameless Fanboi Posted ID:+lRxu1w1T

>>699 ถ้ามาหมวดแฟนมึงต้องดูด้วยว่าอีวงกลมสยองมันอัพไปรึยึง

กุเพิ่มให้

703 Nameless Fanboi Posted ID:5Xe6or04q

>>702 เกี่ยวกันยังไงเหรอ?

704 Nameless Fanboi Posted ID:2IKmqnpAg

>>694 กูมาต่อนะ
ตอนต่อมา ห้องที่นางเอกเช่าพักอยู่ไฟไหม้ สาเหตุเพราะอีนี่สะเพราะลืมปิดฮีตเตอร์หรืออะไรสักอย่าง นางเอกได้หนี้ก้อนโตมา ไม่มีปัญญาใช้เอง จะบอกทางบ้านก็ไม่กล้า เพราะบ้านแม่งก็ไม่ได้รวยขนาดนั้น ทีนี้ใครมาช่วยล่ะ? ก็พ่อพระเอกที่มาได้จังหวะพอดีเกิ๊น มันจ้างนางเอกไปเป็นเมดที่บ้านจนกว่าจะเรียนจบเป็นการใช้หนี้ที่มันจ่ายแทนให้ แถมที่ซุกหัวนอนให้เสร็จสรรพ นางเอกไม่มีที่ไปอยู่แล้ว เลยตกลง ตอนนี้ทำกูพีคแบบเบาๆว่า ที่พ่อพระเอกแม่งมาช่วยโคตรได้จังหวะ เพราะมันอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เอง(อื้อหือ) แล้วตอนนี้กูก็กำลังลุ้นว่า ถ้าแม่งมาแนวพระเอกจับคนใช้(นางเอก)ไปขัดดอกด้วยการลากขึ้นเตียงแบบนิยายที่มีคำว่า สวาท เถื่อน ทั้งหลายแหล่ในชื่อเรื่องทำ กูจะเลิกอ่านแมร่ม

แต่กูก็ไม่พบความเหี้ยนั้นอย่างที่คิด(ค่อยยังชั่ว) พอนางเอกเข้าไปเป็นคนใช้บ้านพระเอก ก็เป็นช่วงพัฒนาความสัมพันธ์กัน(อย่างช้าๆ) มีหวือหวาบ้างนิดหน่อย(นิดหน่อยจริงๆนะ) แต่สำหรับคนอ่านรวดเดียวอย่างกูก็ไม่ได้น่าเบื่อจนเกินไป พอมาถึงช่วงนี้ กูก็ได้เข้าใจแล้วว่า ทำไมเรื่องมันแลช้าๆ เป็นเพราะการบรรยายแบบPOV3แต่แทรกความคิดตัวละครเข้าไปตลอด ไม่ใช่แบบ (..../ชื่อตัวละคร)ปัญญาอ่อนแบบนั้นนะ แต่เป็นความรู้สึกนึกคิดของตัวละครในขณะนั้น กูว่าบางจุดมันก็ดีนะ ตรงที่ทำให้นักอ่านอย่างกูรู้สึกเข้าใจตัวละครมึงมากขึ้น แต่ถ้าเยอะไปจะกลายเป็นเวิ่นเว้อ ซึ่งเรื่องนี้เกือบแระ
กูสรุปดีกว่า เนื้อเรื่องช่วงต้นไม่ได้หวือหวามาก เรื่อยๆ ถ้าใครชอบแนวพระนางค่อยๆทำความรู้จักกัน เรื่องนี้ตอบโจทย์ แต่พอตั้งแต่ช่วงกลางไป ที่นางเอกรู้ตัวจริงของพวกพระเอกว่าเป็นแวมไพร์ มันก็เริ่มตื่นเต้นขึ้น แต่ข้อเสียกูพบก็คือเรื่องปม ไม่ใช่ปมใหญ่ของเรื่องนะ กูจะหมายถึงปริศนาเล็กๆที่คนเขียนมันขยันใส่มาในช่วงกลางเรื่อง แล้วแม่งก็ไม่เฉลย เงียบไปซะอย่างนั้น กูก็เลยสงสัยว่า แม่งลืม หรือยังไม่ได้จังหวะปล่อย แล้วมันหมกเม็ดไว้นานๆแบบนี้ ถ้าเฉลยแล้วไม่ว้าวนี่คือเน่าสนิท เรื่องการบรรยายมันทำได้ดีนะ มึงจะไม่ได้เห็นการพล่ามถึงตึกรามบ้านช่อง โต๊ะเก้าอี้ รู้สึกถึงสายลมแสงแดดไปเรื่อย แต่มันจะมาเสียตรงใส่อารมณ์เยอะไปหน่อย แต่ละตอนแม่งเลยยาวมาก
สาเหตุอีกอย่างที่ทำให้กูทนอ่านไปได้จนถึงตอนล่าสุดของมันได้ ก็ตัวละครมันนี่แหละ นอกจากนางเอกที่ไม่มีความเทาเลย กับพระเอกที่เทานิดๆ กูชอบความสัมพันธ์เหี้ยๆระหว่างพระเอกกับพี่ชายแล้วก็น้องชายของมัน แม่งไม่ได้มีความรักใคร่กลมเกลียวกันเลย ถ้าใครพลาดอีกคนก็พร้อมจะซ้ำทันที กูชอบแบบนี้มากกว่าจะมาแนวสามพี่น้องแสนเพอร์เฟคซ์ หล่อ รวย นิสัยดี แย่งกันขายขนมจีบนางเอก แต่เรื่องนี้คือ นอกจากพระเอก แม่งไม่มีใครเอานางเอกเลย555 น้องชายคนเล็กมันก็จ้องจะแดรกนางเอกอยู่นะ แต่แค่อยากแดรกไง ไม่ได้พิศวาส
พระเอก-นางเอกของเรื่องก็ถือว่าพอได้ ไม่ได้เป็นคนดีเว่อร์เพอร์เฟคซ์มาก การกระทำสมเหตุสมผลพอได้ นางเอกไม่ติงต๊อง ปัญญาอ่อน ไม่ใช่แบบไปเป็นคนใช้บ้านเขา แต่ทำไอ้นู่นตก ไอ้นี่แหก พวกพระเอกกับพี่น้องเห็น รู้สึกน่ารัก? อีนางเอกเรื่องนี้จริงจังกับชีวิตพอสมควร จากที่กูอ่านถึงตอนล่าสุดพัฒนาการพอมีให้เห็น ส่วนพระเอกคนเขียนเฉลยไว้ในบทนึงว่าอายุเก้าสิบกว่า ซึ่งกูก็โอเคกับคาแรคเตอร์ของมัน ไม่ใช่ปูนนี้แล้ว เจอแค่นางเอกส่งยิ้มให้ หรือนางเอกเข้าไปกอดแล้วรู้สึกขวยเขินหวั่นไหว เห็นมาหลายเรื่องที่ชอบปูมาว่า ตัวเอกอายุเป็นร้อยเป็นพันปี แต่อายุสมองนี่แม่งแค่สิบขวบกว่า แบบนั้นกูไม่โอเค
เรื่องนี้ไม่แนะนำสำหรับใครที่ชอบอะไรสั้นๆกระชับ ความสัมพันธ์ดำเนินอย่างรวดเร็ว นางเอกสวย เก่ง ซู ผู้ชายชอบเยอะ และไม่ชอบการบรรยายความคิดของตัวละครมากมาย มึงคงอ่านไม่ได้แน่ แต่แนะนำสำหรับใครที่เบื่อนางร้าย และมองหารักแฟนตาซี ที่เน้นหนักไปทางรักมากกว่า เป็นแนวแวมไพร์ที่ไม่ซ้ำซาก(สำหรับกู) ไม่หื่นจัดหนักจนน่าเกลียด มีมุกให้พอหัวเราะได้ กูมีที่ชอบอีกอย่างก็คือคนเขียนเรื่องนี้ ตอนกูอ่านไปเห็นตอนนึงที่มีคนมาเมนต์ติมันยาวๆ มันก็ตอบกลับไปดีมาก ดูมันไม่อีโก้ จนกูอยากไปติมันบ้าง แต่ไม่เอาดีกว่า (กูบอกแล้วกูเก่งอยู่แค่หลังคีย์บอร์ด)
สรุปสุดท้าย เรื่องนี้กูให้ผ่านไปที่ 7/10 มันไม่ได้ดีมาก ข้อติเยอะแยะอย่างที่กูจาระไนไป แต่อย่างน้อยแม่งก็ทำให้กูไม่นอยด์ไปกลางทาง และ(ทน)อ่านมันจนถึงตอนปัจจุบันได้ ส่วนนึงอาจเป็นเพราะกูเบื่อนิยายแนวกระแสในหมวดรักแฟนตาซีตอนนี้อยู่พอดี เลยลองให้โอกาสนิยายที่ไม่ใช่แนวกระแสดู

705 Nameless Fanboi Posted ID:+lRxu1w1T

>>703 มันจะอัพหลอกทุกๆ3ชั่วโมง

706 Nameless Fanboi Posted ID:DOnw2utnz

>>705 หรือถี่กว่านั้น

707 Nameless Fanboi Posted ID:1OwFO+qCt

>>702 ตอนนี้มันเพิ่มระดับการอัพหลอกคือลงเนื้อหาซ้ำกันตอนละสองรอบ เพิ่มตัวอักษรให้บทความจนมันขึ้นหน้าแรก โครต 555555555

708 Nameless Fanboi Posted ID:t3sh.xDvT

>>707 มึงแจ้งพี่เว็บรึยัง แคปหลักฐานประจานเลยก็ดี

709 Nameless Fanboi Posted ID:kUA4+1W9d

กล้ามากนะรายนี้ หรือมันกำลังอัพหลอกอยู่
https://www.dek-d.com/board/view/3824488/

710 Nameless Fanboi Posted ID:1OwFO+qCt

>>708 ไม่รู้จะบอกว่าอะไรดีว่ะ ตอนอื่นกูก็งงว่าทำไมมันขึ้นหน้าแรกบ่อยแบบนี้ หรือมันลบตอนแล้วสร้างใหม่วะ
กูแปะลิ้งนิยายมันให้พวกมึงเข้าไปดูได้มะว่ามันอัพสองรอบจริง โครตตลกที่ไม่มีคนด่าเลย

711 Nameless Fanboi Posted ID:+lRxu1w1T

>>710 คนด่าอ่ะมีเว้ย แม่งด่าตั้งแต่ปีที่แล้วด้วย ตั้งกระทู้ด่ายังมี ไอ้เรื่องนี้แหละที่ทำให้เว็ปแม่งเปลี่ยนระบบอ่ะ แล้วก็ทำทีเป็นสำนักครั้งนึง ส่วนที่ทำไมคนแม่งไม่ไปเตือนกันแล้ว เพราะมันลบเม้นทิ้ง ที่เม้นๆก็มีแต่อวตารตัวเอง กูเคยเข้าไปดูไอพีตอนมันหลุดมาแล้ว เสียดายไม่ได้แคปไว้

712 Nameless Fanboi Posted ID:1OwFO+qCt

>>711 มันทำมาเป็นเดือนแล้ว แม้แต่เงายังไม่มีคนด่าน่ะสิ ยอดวิวตั้งหมื่นนึงจะไม่มีคนนอกมาด่าเลยเหรอวะ

713 Nameless Fanboi Posted ID:KjJ21DZv3

>>712 สงสัยเจอคนด่ามันก็ลบเมนต์ป่ะ

714 Nameless Fanboi Posted ID:DOnw2utnz

>>713 ถ้าจำไม่ผิดใครตินิยายมันก็เจอลบด้วย คอมเม้นชมก็อวตารตัวเองหลายอันเลย

715 Nameless Fanboi Posted ID:+lRxu1w1T

>>712 มันทำมาเป็นปีแล้ว คนด่ามีตั้งเยอะแต่มันลบเหี้ยนจนเขาไม่ด่ามันแล้ว มึงคิดดู

716 Nameless Fanboi Posted ID:1OwFO+qCt

หมายถึงที่มันเริ่มลงเนื้อหาซ้ำสองรอบก็อะมึง กูทันตั้งแต่นางย้ายไปหมวดวายเพื่อเอายอดวิว พออิ่มแล้วก็กลับมาเป็นแฟนตาซี ตีเนียนว่าไม่เคยเข้าหมวดวายมาก่อน โครตหิวว่ะ พี่เว็บลงดาบนางที พวกอัพหลอกทีละห้าบรรทัดยังน่าเกลียดน้อยกว่านี้

717 Nameless Fanboi Posted ID:15HFdCkgS

ใครวะ? ใช่คนเดียวกับกระทู้นั้นปะ ที่ชื่อแมงมุมไรนั่นน่ะ เคยไปส่องอยู่ คือนิยายแต่ละเรื่องมึงไปธัญวลัยน่าจะรุ่งกว่านะ ไม่ต้องเปลืองเวลาซอยอัพขนาดนี้

718 Nameless Fanboi Posted ID:+lRxu1w1T

>>716 กูก็หมายถึงอันนั้นแหละ มันลงเนื้อหาซ้ำสองรอบมาเป็นปีแล้ว ก่อนที่ที่สมัยแก้คำผิดแล้วเด้งอ่ะ

719 Nameless Fanboi Posted ID:1OwFO+qCt

>>718 เพลียว่ะ แจ้งพี่เว็บว่ายังไงให้เขาลงดาบนางดี

720 Nameless Fanboi Posted ID:+lRxu1w1T

>>719 แจ้งกันไปเยอะจนเลิกกันหมดแล้วว่ะเพื่อนโม่ง แม่งกลายเป็นเหมือนอาบอบนวดไปละ ห้ามค้า แต่ตำรวจไม่จับนะจ๊ะ ไรงี้

721 Nameless Fanboi Posted ID:dGIuu5u/9

ทำไมกูยังไม่วาร์ป
เฮ้ยเดี๋ยว ๆ ข้างบนมีคนสับนิยาย ก่อนแปะวาร์ป พวกมึงสนใจคนสับนิดนึง

722 Nameless Fanboi Posted ID:z9iffdW0G

>>721 แม่งก็งี้ล่ะ คนเขาคุยกัน แม่งก็จะมีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาถามว่าไม่สับนิยายเหรอ พอมีคนมาสับ แม่งก็ปล่อยเบลอ ตลกเหี้ยๆ หรือความจริงเป็น hidden agenda วะ แบบมาขอให้สับนิยาย เผื่อนิยายของตัวเองจะถูกขุดขึ้นมาสับบ้าง แต่พอเห็นว่าเรื่องนั้นไม่ใช่ของตัวเองก็ปล่อยเบลอ

723 Nameless Fanboi Posted ID:6St4wNItZ

มีใครจะสับเรื่องอะไรอีกมั้ย

724 Nameless Fanboi Posted ID:Rdlp5D/4+

>>722 กูเห็นด้วย เพราะงี้ป่าววะพวกนักสับขาประจำมันถึงหายไปกันหมด

725 Nameless Fanboi Posted ID:1OwFO+qCt

>>722 แต่กูอ่านแล้วจะให้พูดว่าอะไรต่อวะ ให้ร่วมวงไปอ่านแล้วถกเถียงกันงี้เหรอ

726 Nameless Fanboi Posted ID:dGIuu5u/9

>>725 เปล่า กูกลัวมันเหงา ปกติใครสับเรื่องเหี้ยไรมากูก็ไม่สนหีสนแตดไรอยู่ละ กูแค่มาขอวาร์ปไปนิยายเหี้ย ๆ ที่แม่งบ่นในกระทู้

727 Nameless Fanboi Posted ID:1OwFO+qCt

>>726 วาร์ปนิยายที่กูบ่นเหรอ มึงเสริชวงกลมพิศวง Incredible Sphere

728 Nameless Fanboi Posted ID:NbFiml4UP

>>724 ตกลงมู้นี้เกิดมาเพื่ออัลไลวะ

729 Nameless Fanboi Posted ID:6St4wNItZ

มู้นินทา

730 Nameless Fanboi Posted ID:+lRxu1w1T

เรื่องมันก็จบตั้งแต่เม้น>>720 แล้วไม่ใช่เหรอวะ พวกมึงจะต่อกันทำไมนิ

731 Nameless Fanboi Posted ID:kUA4+1W9d

วงกลมอันน่าเหลือเชื่อ มันตายไปแล้วไม่ใช่เหรอวะ หรือแม่งยังเหลือฮอครัสอีก ?

732 Nameless Fanboi Posted ID:BZWjtz5FK

>>731 ฮอครัชมันหมดแล้ว แต่ร่างมันยังไม่ตาย

ความจริงคุยเรื่องไอ้วงกลมนี่มันก็เป็นนิยายเด็กดีไม่ใช่เหรอวะ หรือห้ามคุย หรือว่าต้องสับอย่างเดียว

733 Nameless Fanboi Posted ID:IiA4Ix7MO

มู้นี้มู้นินทา กับบ่นนิยายติดท็อปว่ากาก

734 Nameless Fanboi Posted ID:jkCpC35n+

ก็ไม่มีใครตั้งมู้นินทาต่อนี้หว่า

735 Nameless Fanboi Posted ID:FuzIM5wuV

>>732 ถ้าคุยเรื่องวงเกรียนอันน่าเหลียเชี่ยในเชิงเนื้อเรื่อง ก็โอเคไง แต่นี่ดันคุยเกี่ยวกับอัพหลอก นักเขียนเหี้ย มันเลยกลายเป็นเรื่องของตัวบุคคลไปแทน

736 Nameless Fanboi Posted ID:fgvQ7PQFQ

Exo มีอัลบั้มใหม่แล้วนะ Countdown ช่วยเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะทุกคน

737 Nameless Fanboi Posted ID:xsqARabAT

>>735 อ้าวมันไม่เกี่ยวกับนิยายบนเว็บเหรอวะอย่างการอัพหลอกอะไรงี้ กูเข้าใจผิดเลย นึกว่าหมวดมันครอบคลุมทุกอย่างเกี่ยวกับนิยายบนเว็บ สงสัยกูอ่านไม่ดี

738 Nameless Fanboi Posted ID:nNoR/bgM9

>>736 คุยเรื่องนิยายอยู่ดีๆ ชวนกูไปเกาหลีเฉยเลย 555

739 Nameless Fanboi Posted ID:FuzIM5wuV

>>737 ช่วงที่มีคนก่อดราม่าในนี้ประโยคที่เจอบ่อยๆ คือ "นินทาหรือพูดถึงตัวบุคคลเชิญเนตวอช" แต่แม่งไม่มีคนตั้งกระทู้ห้องนั้น เพราะต้องไปขอลุงเสิร์นในห้องเมต้าก่อน สรุปกระทู้นี้เลย 2 in 1

เอาเป็นว่าถ้าจะคุยก็คุยเกี่ยวกับตัวนิยายหน่อย นักเขียนจะนิสัยแบบไหนก็ปล่อยเบลอไป

740 Nameless Fanboi Posted ID:5LN5GbfVW

กูมองว่าห้องนี้ยังพอพูดพาดพิงได้นะ เช่น เวลามึงด่าเรื่องนิยายเรื่องนี้ชอบอัพหลอก ก็อาจโยงไปว่าคนแต่งมันมีนิสัยอย่างนี้ๆ เมื่อก่อนก็เคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง หรือบอกว่านิยายเรื่องนี้ห่วยจัง ก็อาจพูดถึงว่าคนแต่งแม่งไม่รู้จักพัฒนาฝีมือเขียน เสือกเน้นวาดรูปห่าเหวอะไรไม่รู้ลงบอร์ดอย่างเดียว

แต่ถ้ามึงจะเอาเรื่องของตัวบุคคลมาเป็นตัวนำ แบบ นักเขียนคนนี้ๆ มีนิสัยเหี้ยๆ อย่างนี้ หรือพูดถึงดราม่าคนตีกันในบอร์ดนักเขียน อันนี้ก็ควรไปเปิดกระทู้ในเน็ตวอชนะ

741 Nameless Fanboi Posted ID:xsqARabAT

กูก็งง ประเด็นคือมันเริ่มมาจากเวลาการลงนิยาย ซึ่งกูว่าแม่งเกี่ยวกับมู้แน่ๆ แล้วก็มีคนมาถามว่า ทำไมต้องหนีอีวงกลมสยอง ก็ต่อกันไปเรื่อยๆ ไม่ได้เปิดมาแบบ อีนักเขียนวงกลมสยองแม่งสันดานเสียชิบหาย นินทาแม่งกัน งี้นี่หว่า

742 Nameless Fanboi Posted ID:C5WSVDxRm

คุยอะไรก็คุยเถ๊อะ กูว่า ลองดูชื่อห้องนี้ก่อน มีคำว่าสับนิยายให้เห็นมั้ย ถถถ

743 Nameless Fanboi Posted ID:FuzIM5wuV

>>742 มีหนาวไข่

744 Nameless Fanboi Posted ID:nNoR/bgM9

>>743 มีตั้งคำนึงแน่ะ ทีม'สับนิยาย'สุดร้อนแรง กับความหนาวไข่

745 Nameless Fanboi Posted ID:p.JkdZjls

ทีมสับจำศีลอยู่ รอเข้าฤดูร้อนก่อนค่อยออกถ้ำ...

746 Nameless Fanboi Posted ID:Z2gDdlmEh

>>745 กว่าจะหมดจำศีล คนสับเล่นว่าวจนไข่แสบร้อนมั้ง

747 Nameless Fanboi Posted ID:UVvTqWmUc

>>740 I sneezed.

748 Nameless Fanboi Posted ID:ZXSq3sWSt

มีใครได้ข้อความลับจาก meb ebook ชวนไปทำอีบุ๊คขายบ้าง?

อันนี้คือแค่ฟลัดๆ โปรโมท meb ใช่ปะ เพราะปกติใครๆ ก็ส่ง ebook ไปขายกับ meb ได้ไม่ใช่เหรอ ถถถถถ

749 Nameless Fanboi Posted ID:p8kIImW93

>>748 กูเคยเห็นน้องๆในกลุ่มนี่แหละได้(แนวนางร้าย)นางดีใจใหญ่ เพราะคิดว่าตัวเองดังแล้ว555

750 Nameless Fanboi Posted ID:D7g5npjCZ

>>749 น่าสงสาร 55555

751 Nameless Fanboi Posted ID:szMK2ADZw

แหม่ กุก็เผลอดีใจนะ นึกว่าเป็นโครงการใหม่ของmeb ซะอีก 555

752 Nameless Fanboi Posted ID:7HYwRseQB

>>748 กูก็ได้ คงเป็นการโปรโมทแหละ สสงัยช่วงยอดตก พอมีพวกเปิดขายในเว็บได้เลยเลิกทำอีบุ๊กกัน

753 Nameless Fanboi Posted ID:rWrsp89ur

สรุป MEB มันแค่สุ่มส่งข้อความให้กับพวกนิยายที่มีคนอ่านเยอะๆ เพื่อโฆษณาให้มาลงกับเว็บมันใช่มะ

754 Nameless Fanboi Posted ID:8X1jwu3cF

https://www.dek-d.com/board/view/3824959/
แค่เขียนเล่นๆนะแกร๋ แต่ติดท็อปอันดับหนึ่ง ได้ตีพิมพ์ชิวๆ ทำไมชั้นเริ่ดปานนี้

755 Nameless Fanboi Posted ID:d3+9Xb1XK

>>754 อีนี่อีกแล้วเรอะ! หลังจากโดนโม่งตนนึงในตำหนักเสิ่นเจิ้นอวตารไปแสดงความเห็นในหน้านิยาย กูก็เห็นสงบไปพักใหญ่ นี่มันเอาอีกแล้วครับท่าน

756 Nameless Fanboi Posted ID:F7FAJSiHA

คนนี้มีอะไรเหรอวพ

757 Nameless Fanboi Posted ID:BaOhD5OdL

>>756 ลองไปส่องในไอดี ดูกระทู้ที่มันเคยตั้ง แล้วมึงจะพบกับ ความมั่นหน้าของสุดยอดนักเขียนท่านนี้

758 Nameless Fanboi Posted ID:F7FAJSiHA

>>756 โอเค เดี๋ยวตามไปดูก่อน

759 Nameless Fanboi Posted ID:hRWLeYenY

>>754 อีดอกปอบหมายเลข 3 เหรอวะ

760 Nameless Fanboi Posted ID:.Q8UkfA5D

>>759 ใครคือหมายเลข 2

761 Nameless Fanboi Posted ID:F7FAJSiHA

ไม่เจออ่ะมึง กดไปดูmy boardแล้วมันไม่มีอะไรเลยอ่ะ เป็นที่กูหรือนางลบหรืออะไรรึเปล่าวะ แต่เข้าใจละว่าชอบอวด 555

762 Nameless Fanboi Posted ID:uZmZPEP5X

คราวก่อน อวดนิยายตัวเองติดท็อป 2 เรื่องพร้อมกัน รอบนี้อวดติดอันดับ 1 แถมตีพิมพ์ด้วย เห็นแล้วรู้สึกยังไงดี มันไม่น่าชื่นชมอะไรเลยวะ แล้วกูไม่ได้รู้สึกอิจฉาพาลจะสมเพชด้วยซ้ำ ถ้าวันนึงกูไปเจอนิยายดีๆ นักเขียนคมในฝักไม่พูดเยอะ ก็ยังรู้สึกอยากเอาใจช่วยมากกว่าแบบคนๆ นี้ว่ะ เห็นทีไรหมดอารมณ์ทุกที

763 Nameless Fanboi Posted ID:BaOhD5OdL

>>761 อ่ะ กูเปิดวาร์ปให้ อันที่สองเหมือนจะมีสาระนะ แต่ปิดท้ายที่อวยตัวเองอยู่ดี
https://www.dek-d.com/board/view/3812467/
https://www.dek-d.com/board/view/3814155/
จริงๆมีอีกอัน แต่รู้สึกจะโดนแซะมันเลยลบไปล่ะ
(กูแฟนเผือกมัน)

764 Nameless Fanboi Posted ID:9h0xTEUia

ky กูวางแผนนิยายของกูไว้ว่า เหตุการณ์สำคัญจะเกิดในช่วงที่พระเอกอยู่วัยรุ่น แล้วกูจะใช้เวลาช่วงพระเอกยังเด็กเน้นปูพื้นความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกกับตัวละครที่จะมีบทสำคัญในช่วงวัยรุ่น [อย่างเช่นบทตาย]
แล้วมีคนบอกว่าเนื้อเรื่องมันเดินช้า ซึ่งกูก็คิดหนักเหมือนกัน กูควรทำไงดีวะ...

765 Nameless Fanboi Posted ID:QExyGBo.M

>>763 หลงตัวเองน่หว่า

766 Nameless Fanboi Posted ID:p+0bpz68W

>>764 อาจจะปูพื้นนานเกินไป ถ้าเป็นเราจะเริ่มเขียนตอนพระเอกเป็นวัยรุ่นเลย ก็เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นตอนนั้นนี่ แล้วค่อยแทรกโมเมนต์ผูกพันกับตัวละครเสริมเป็นช่วงๆ ให้รู้ว่าอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วดันให้ความสัมพันธ์นั้นส่งผลต่อเนื้อเรื่องไม่มากก็ไม่น้อย
กว่าจะถึงบทสำคัญ ผู้อ่านก็คงซึมซับไปแล้วว่าตัวละครนี้สัมพันธ์ต่อพระเอกยังไง

767 Nameless Fanboi Posted ID:CyVPdv/iH

>>764 กูนึกว่ากูเป็นมึง ของกูเริ่มแต่ยังเด็กปูนิสัยใจคอของอีนางเอก(?)มาเพราะสำคัญมาก คนบอกมันช้า พอกูเร็วก็ไม่เข้าใจ...อืม คนอ่าน กูจะแต่งแบบที่กูแต่งเนี่ยแหละ

768 Nameless Fanboi Posted ID:M4FkP.IpK

ท้อโว้ย เลิกเป็นนักเขียนแม่งงง

769 Nameless Fanboi Posted ID:xIBrW4.24

>>768 มึงเพิ่งเลิกเหรอกูพักใหญ่ล่ะ กูไม่ได้ท้อแต่รู้สึกงานกูไปไม่ได้กับค่านิยมคนอ่านเดี๋ยวนี้ เผือกเขียนเบียวจีนนางร้ายไม่เป็น ลองศึกษาแล้วพยายามเขียนมันก็ยังไม่เวิร์ค กูรู้ว่านักเขียนต้องปรับตัวให้เข้ากะยุคสมัย แต่กูยังไม่พร้อมสละแนวทางตัวเอง ขอเวลาทำใจกับตั้งตัวสักระยะ

770 Nameless Fanboi Posted ID:FE2rTHwVN

กูก็ท้อแต่กูเลิกไม่ได้ว่ะ กูแค่อยากเขียนอะไรก็เขียน ยังไงกูก็มีงานประจำอยู่แล้ว แต่คนที่เขียนเป็นอาชีพนี่ท่าจะเลิกยากว่ะ ต้องตามกระแสจริงๆ ยกเว้นจะฐานแฟนแน่นจนอยู่ตัวแล้วนั่นแหละนะ

771 Nameless Fanboi Posted ID:l3pT27oj4

กูเขียนแนวพระเอกนางเอก จีนโบราณอินดี้ มึงไม่เคยเห็นคนอินดี้ทุกยุคทุกสมัยเหรอ ไม่งั้นคอมมิวนิสต์ตั้งขึ้นมาไม่ได้หรอก

772 Nameless Fanboi Posted ID:l3pT27oj4

>>771 เพิ่มมีคนบอกว่าแบบคนถือธรรมเนียมโบราณครอบครัวรักกันเคารพกัน ถ้าถือกันจริงไม่มีการฆ่ากันตายในครอบครัวเพื่ออำนาจแล้ววว

773 Nameless Fanboi Posted ID:QExyGBo.M

นิยายวายเด็กดวกคือนิยายขายความเงี่ยน?
https://www.dek-d.com/board/view/3825193

774 Nameless Fanboi Posted ID:FE2rTHwVN

>>773 ตัด?ออกไปเลยก็ได้มั้ง แต่ก็คงมีบางเรื่องแหละที่ดี แต่ส่วนใหญ่ก็นะ...555

775 Nameless Fanboi Posted ID:zYcWe+qJs

ถ้าเขียนห่วยพล็อตตลาดแล้วมีคนอ่านเป็นหมื่น ใครมันจะหยุดเขียนวะ ตรงข้ามกับถ้าเขียนดีให้ตาย แต่มีคนอ่านหยิบมือ สักพักคนเขียนก็จะตายเองเท่านั้นแหละ

พวกมึงก็เห็นนิยายตลาดตามแผงหรือหนังกากๆที่ปัญญาอ่อนแต่ออกมากันจังนักใช่ไหม?

776 Nameless Fanboi Posted ID:.Uqn/E..M

>>775 Transformers ของไอ้ไมเคิล เบย์ ไง พล็อตกากๆ บทพูด ปญอ. แต่แม่งออกมากี่ภาคไม่เคยขาดทุน มันจะเลยทำอีกไงล่ะ ถ้าให้เลือกเงินกับออสการ์ กูก็เอาเงินเหมือนกัน

777 Nameless Fanboi Posted ID:S9g947nUS

หนังบล็อคบลัสเตอร์พวกนี้ยังไงก็ขายออกไง อะไรที่ขายได้ ณ เวลานั้นก็ควรรีบขาย เหมือนเซวี่ บารา ที่พอกูกลับไปอ่านอีกทีรู้สึกไม่พีคเท่าตอนแรก อย่างเด็กที่ซื้อนิยายจีนตอนนี้ พอโตขึ้นแล้วอ่านนิยายที่มันซื้อมาก็อาจรู้สึกเสียดายเงิน

ถ้าเป็นบ้านเราก็หนังพอช อาโนลด์ สาระเหี้ยไรไม่มีเลยแต่เน้นยึดโรงฉาย เสือกขายได้ด้วยนะ

778 Nameless Fanboi Posted ID:OD65HLCc0

เขียนสอดแทรกให้สื่อไปทำนอง ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ก็ขายไม่ออกนะ ตัวร้ายต้องได้รับกรรม ตัวดีต้องได้ดี คนอ่านไม่เชื่อเรื่องแบบนี้แล้ว มันไม่ดาร์กไม่เรียล เดี๋ยวนี้กูต้องเขียนเน้นสะใจเอามันเอาฟิน เขียนให้ซึ้งตอนจบยังโดนด่าเลย

779 Nameless Fanboi Posted ID:S9g947nUS

>>778 ยังไงวะ ถ้าไม่ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ต้องเขียนประมาณไหน ขยายความที

780 Nameless Fanboi Posted ID:PRqbS.f1.

>>778 กูว่าเด็กดวกทำแบบนี้ไม่ได้หรอก ดาร์กวอนนาบี

781 Nameless Fanboi Posted ID:Z+vQMI7GV

>>776 มึง... ไปตามข่าวไหนวะว่าไม่ขาดทุน

TF นี่เจ๊งยับในแถบ อเมริกา-ยุโรป แบบไม่เหลือเหี้ยอะไรแล้ว ในตอนนี้แม่งเลยต้องใช้ตลาดจีนมาช่วยพยุงเป็นหลัก เรียกได้เลยว่าถ้าไม่มีจีนนี่ TF ของป๋าเบย์คงลงหลุมไปตั้งแต่ภาค 2 แล้ว ฉะนั้นบอกได้อย่างเดียวเลยประชากรกว่าพันล้านคนของจีนแม่งเกินครึ่งเป็นพวกชิสเทส ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกกับประเทศที่ความเหลื่อมล้ำระหว่างประชากรสูงลิ่ว ประกอบกับสามารถทำให้ทุกอย่างระเบิดได้เนี่ย

782 Nameless Fanboi Posted ID:34NvoFqJe

>>781 ชิสเทสคือยังไง

783 Nameless Fanboi Posted ID:gwft.xc/S

>>781 มึงหมายถึง shit taste?

784 Nameless Fanboi Posted ID:O8IEOTpJQ

จีนชอบหนังหุ่นยนต์สัดๆ แค่มีหุ่นยนต์เท่ๆแม่งก็ขายได้แล้ว หรือระเบิดตูมตามๆหน่อย สบายมึงละ

กูไปอ่านไอ้นิยายอะไรสักอย่างที่เป็นเกมส์ออนไลน์ แต่เนื้อเรื่องเหมือนเกมออฟไลน์อะ ทำไมมันฮิตจังวะ
หรือชาวเด็กดีชอบความเด่น(จูนิเบียวจ๋าสัดๆ)ปนฮาเร็ม ซึ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นมใหญ่ๆหน้าสวยๆ(?)หลงรัก แนวๆนี้วะ

หรือแม่งก็เป็นปกติของวัยนี้วะ แบบพอเริ่มโตค่อยรู้ตัวแล้วลดดีกรีลง

785 Nameless Fanboi Posted ID:S9g947nUS

>>784 เด็กในนั้นมันมีแต่วัยเห่อม๋อย พวกเด็กผู้ชายส่วนใหญ่นี่ตัวหื่นเลย ร้องหานิยายฮาเร็มกันใหญ่ เดินผ่านโรงเรียนมัธยมตอนเลิกงานแอบได้ยินมันคุยกันเรื่องสาวในฮาเร็ม มีอวยโลลิ ชอบสาวตัวเล็กในห้อง กับบ่นว่าน้องสาวมันไม่เห็นน่ารักเหมือนใน LN เลย (ยอมรับความจริงเหอะไอ้น้อง) วัยกำลังโตก็งี้ อยากเด่น อยากเป็นคนสำคัญ อยากเป็นพระเอก เรื่องแนวฮาเร็มเทพทรูก็เลยขายดี

ส่วนเรื่องจีนชอบหนังหุ่นยนต์ระเบิดตูมตาม งั้นให้อาหลองทำหนังหุ่นรบดู อาจขายจีนออกนะมึง ไหน ๆ ก็ระเบิดภูเขาทุกเรื่องอยู่แล้ว

786 Nameless Fanboi Posted ID:ATwv0hg65

ใครไปดู 9 ศาสตรามาแล้วบ้าง คิดว่าหนังเป็นไง ดีไม่ดี มาสับกันหน่อยเพื่อนโม่ง

787 Nameless Fanboi Posted ID:7s8LnK/QK

>>786 ไปสับห้อง Anime&Manga สิวะ ไปไป๊

788 Nameless Fanboi Posted ID:O8IEOTpJQ

>>785 เชี่ยจริงๆ ถ้าน้องสาวพวกคุหน้าตาดีนะ อย่างน้อยตัวมันก็ต้องหน้าตาดีในระดับหนึ่งเหมือนกันเพราะพ่อแม่ก็คนเดียวกัน
แล้วโดยส่วนใหญ่ ถ้าแม่งหน้าตาดีขนาดทั้งครอบครัวแล้วคงไม่เป็นคุแบบนี้หรอกกูว่านะ

กูอาจจะสื่อผิดไปนะ ถึงแม้จีนจะชอบแนวนั้นแต่CGแม่งก็ต้องมีคุณภาพระดับนึงเหมือน เอาตรงๆจีนไม่ได้ชอบหุ่นยนต์จ๋าหรือฉากตูมตามหรอก แม่งชอบเสพCGเฉยๆนี่แหละ

789 Nameless Fanboi Posted ID:DiIvwIvg4

>>786 https://fanboi.ch/animanga/5185/
เข้าไปคุยห้องนี้เลย

790 Nameless Fanboi Posted ID:fbX/OeQrs

China loves CG robots? This is news to me.

791 Nameless Fanboi Posted ID:Z+vQMI7GV

อีกอย่างนึงที่กูสังเกตได้ก็คือที่จีนนิยม หนัง / นิยาย แนวรักชาติด้วยว่ะ
สังเกตได้ง่ายๆ ว่าเรื่องที่ทำรายได้ในจีนเยอะๆ มักจะเป็นหนังที่มีทหารเป็นตัวเอก หรือไม่ก็หนังที่ทำขึ้นเพื่อโปรโมตกองทัพอเมริกา ซึ่งพวกนี้จะนับว่าเป็นหนัง Patriot ปลุกความรักชาติ
ไอ้ตรงนี้ล่ะที่กูงง ว่าทำไมพวกจีนถึงชอบกันทั้งที่มันไม่ใช่หนังบ้านพวกมึงแท้ๆ

แต่พอลองหันมาดูทางนิยายแล้วกูก็คิดว่า พวกคนจีนน่าจะมีความชาตินิยมอยู่ด้วยเหมือนกันว่ะ กูเห็นนิยายแต่ละเรื่องมีแต่พระเอกฝึกวิชากู้โลก กู้สำนัก ไล่ตบตัวร้ายที่บังอาจมารุกรานกันทั้งนั้นเลย เพราะงี้ล่ะมั้งมันถึงชอบหนังแบบนั้นกัน

792 Nameless Fanboi Posted ID:ADrQjWAnN

>>790
news = ข่าว
new = ใหม่

new ไม่สามารถเขียนเป็นพหูพจน์

793 Nameless Fanboi Posted ID:4AlUhga/u

>>791 อ่านประวัติจีนแล้วมึงจะรู้
โดนพวกล่าอาณานิคมรุมเข้ามาเผาพระราชวัง บังคับให้ติดฝิ่น ญี่ปุ่นก็โหดสัลในช่วงสงครามโลก
ปัจจุบันก็โดนอเมริกาจ้องบีบ ยุแยให้ประเทศแตก
ถ้าคนจีนไม่รักชาติ ก็คงเหมือนรัสเซียที่แตกเป็นสิบประเทศในตอนนี้

794 Nameless Fanboi Posted ID:z57jfYxVy

>>792 First of all, ask yourself: how much education you have.Second, I always think of myself as a dumb one. So please... please don't correct me. Pretty please?

https://idioms.thefreedictionary.com/That's+news+to+me

795 Nameless Fanboi Posted ID:rzPGx14Uq

P.S. if the link didn't work try type the idiom in the searching tab. Good luck.

796 Nameless Fanboi Posted ID:1/UVzNec9

>>794 your link said "Word not found in the Dictionary and Encyclopedia." Can you explain it?

797 Nameless Fanboi Posted ID:VEfn6T0Xq

มาอีกละ ไอ้โม่งอวดอิ้ง...

798 Nameless Fanboi Posted ID:VEfn6T0Xq

อ่านอันนี้เหมือนออกแนว "เป็นข่าวใหม่สำหรับฉัน"อ่ะ ว่าไงดี เหมือนเล่นคำรวมกันระหว่างnewกับ news
https://www.urbandictionary.com/define.php?term=That's news to me

799 Nameless Fanboi Posted ID:VEfn6T0Xq

ลิ้งค์แม่งไม่ติด ก้อปไปวางเองละกัน

800 Nameless Fanboi Posted ID:xzOOOEGkj

>>796 I have explained it in >>795

But if you're too naive or dumb to search it yourself here is another link. I apologize for the Inconvenience.

https://idioms.thefreedictionary.com/news

Please scroll down to section eight. It will say: (that's) news to (one)
This is something I was not aware about or did not know. A: "Yeah, Jeff and Anthony have been going out for a few months now." B: "News to me. I thought they were just friends." You aren't allowed to dump your grass clippings here? Well, that's news to me!"

Good luck.

801 Nameless Fanboi Posted ID:YxP7QYI2N

ฟัค ยู

802 Nameless Fanboi Posted ID:sA9GOy4Xv

กูอ่านออกนิดหน่อยๆนะ แต่จะสื่ออะไรวะ แปลให้กูหน่อย
ที่กูบอกว่าจีนชอบเสพCG หุ่นยนต์อะไรนี้ กูก็สังเกตจากสถิติแหละ
เห็นหนังHollywoodแนวนี้เรื่องไหนเจ๋งในบ้านตัวเอง พอโยนไปตลาดจีนแม่งก็ฟาดเงินได้เฉยเลย
กูก็สรุปเอาจากความคิดตัวเองบวกกับเสพเพจหนังมารวมๆกันนะแหละ
ถ้าจะแย้งเรื่องข้อมูลก็ไม่ว่าครับ แต่เอาภาษาไทยมาแย้งนะ

803 Nameless Fanboi Posted ID:xRdFEQUxI

>>802 ผมไม่ได้จะแย้งอะไรครับ ที่พิมพ์ไปแบบนั้น (ด้วยภาษาอังกฤษซึ่งวิธีนี้มันเป็น signature กลายๆและสะดวก) เหตุว่าคนแถวนี้เรียกนิยายผม "กันดั้มวอนนาบี" มาก่อน (ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรนะยอมรับว่าตัวเองก็ชอบทางนี้ จะให้เขียนยักษ์วัดแจ้งสู้กับยักษ์วัดโพธิ์ก็กลัวเพื่อนๆมันด่าเอา)

พอดีงี้ คือผมเห็นข้อมูลหุ่นยนต์ก็กระโตกกระตากไปตามประสาเนิร์ดทั่วไปครับ (คนเรามีพลาดกันได้ เหมือนสุภาษิต สี่ตีนล้วงกระเป๋านักปราชญ์ก้าวเข้ามายังรู้ว่าใบบัวปิดไม่มิดขี้ตามช้างจับตั๊กแตนละลายแม่น้ำขึ้นภูเขา)

สรุปคือ ผมสนใจข้อมูล ไม่ได้จะท้าตีดีเบตอะไรใครครับ ผมไม่ค่อยมีความรู้หรอก เก่งสู้ใครๆในนี้ไม่ได้หรอกครับ ผมขอเอาความไม่เอาไหนของผมไปทำมาหารับประทานดีกว่าครับ มาแสดงสติปัญญาอันต่ำต้อยของตัวเองในสถานที่ลับแบบนี้มัน 'คุ้มไม่ได้เสีย'

ผมน่ะนานๆทีจะแวะมาในนี้ ส่วนใหญ่จะหลังจากตั้งกระทู้ เช็คผลตอบรับฟีดแบ็คทั่วไป ปากหอยปากปูหน้าต่างทีหูประตูมีตา อะไรแบบนั้น ผมเองขอไปวอนนาบีในที่แจ้งดีกว่าครับ ผมเป็นพวกมีอะไรจะเสีย และชอบที่จะเสีย

>>801 Oh hi, Mark.You're tearing me apart, Lisa.

804 Nameless Fanboi Posted ID:gjD1l.Daa

ใครกล้าเรียกนิยายพี่ถุยว่ากันดั้มวอนนาบีวะ มึงไปอ่านมาใหม่เลย

805 Nameless Fanboi Posted ID:sA9GOy4Xv

>>804 เจ็ทเข้ นี่กูคุยกะคนดังเลยหรอวะ
ก็ว่ากูงงๆกะแกพอสมควร จะสื่ออะไรสักประเด็นก็ไม่ชัด
กูอ่านแล้วอ่านอีกไอ้ห่าเอ้ย ความคิดของศิลปินมันเข้าใจยากอย่างนี้นี่เอง

806 Nameless Fanboi Posted ID:VEfn6T0Xq

>>805 กูก็ว่าว่าต้องเป็นมัน วันหลังจำไว้ให้มั่น มีโม่งโผล่มาพิมพ์อิ้งเมื่อไหร่ ถุยแน่นอน

807 Nameless Fanboi Posted ID:V2Jz+UjJi

อะไรคืออยากพิมพ์อังกฤษเท่ๆ แต่พอคนมาแก้แกรมม่าให้ก็บอกอย่ามาแก้วะ งงใจ 555555555

808 Nameless Fanboi Posted ID:VoqX1LBxC

ไม่เก่ง สติปัญญาต่ำต้อย "คุ้มไม่ได้เสีย" แต่เสือกมาตอบอิ้งโชว์บ่อยจังนะ 555

809 Nameless Fanboi Posted ID:YxP7QYI2N

เขาอยากโชว์อิงบ้างงี้

810 Nameless Fanboi Posted ID:ADrQjWAnN

ถ้ามีคนพูดอังกฤษแล้วคนอื่นรู้เรื่อง หมายความว่าคนพูดคือพี่ถุยตัวปลอม เพราะตัวจริงคุยรู้เรื่องซะที่ไหน

811 Nameless Fanboi Posted ID:DJ4kWiqEZ

พวกที่อ่านนิยายที่สะกดผิดพร่ำเพรื่อเนี่ยมันทำลงไปได้ยังไงวะ กูนี่แค่เห็นพวกที่จัดหน้าเหี้ยๆ ก็อ่านไม่ได้ละ พูดละหงุดหงิดสัส

812 Nameless Fanboi Posted ID:Hwzvvcrac

>>811 กูสงสัยพวกทนอ่านได้มากกว่า
บางคนแม่งไม่มีย่อหน้าไม่มีเครื่องหมายอันไหนคำพูด อันในคิดไม่รู้ ไม่ยอมแบ่งวรรค ติดกันเป็นพรืด
อ่านได้ไงงงงง กูอ่านไม่รุ่เรื่อง

813 Nameless Fanboi Posted ID:YJmUGsg4p

>>812 แล้วถ้าได้ตีพิมพ์โดยไม่มี QC ตรวจคำผิด กูจะเอามาใช้เป็นกระดาษเช็ดก้นแทน

814 Nameless Fanboi Posted ID:7jkNhwOuJ

>>813 แพงไปนะสำหรับกระเช็ดก้น

815 Nameless Fanboi Posted ID:jt50T/Ft5

>>807 ก็มันเป็น idiom (สำนวน) ไง idiot (อีโง่) ประโยคมันไม่ผิดแกรมม่า คนทักนั่นแหละควายเอง ถุยมันก็ไม่ได้ห้ามว่าไม่ให้ทัก มันบอกว่า ข้อแรกมึงมีความรู้แค่ไหน ข้อสองตัวมันคิดว่ามันโง่อยู่แล้ว ก็ข้อร้องอย่าไปทักมัน มึงอ่านตีความแบบไหน? เป็นนักเขียนจริงๆหรือแค่วอนนาบีไปวันๆวะ อ่านแค่นี้ไม่รู้เรื่อง

816 Nameless Fanboi Posted ID:Bf2lnpOWw

>>815 ยินดีด้วย มึงงับเบ็ดเข้าเต็มเปา

817 Nameless Fanboi Posted ID:e6to7ZTEz

>>815 คนเขารอดกันมาเป็นสิบเม้น มึงก็ยังจพพุ่งไปหาเหยื่ออีกนะ

818 Nameless Fanboi Posted ID:lqMjMwxF/

DON'T FEED THE TROLL

819 Nameless Fanboi Posted ID:FoBejpg9h

ช่วงนี้พี่เครื่องมาโหดว่ะ ตอบกระทู้ชนิดไม่ออมมือเลย แต่ส่วนหนึ่งกูก็เห็นด้วยนะ

820 Nameless Fanboi Posted ID:02zNNrzwP

>>819 กระทู้ไหนนิ

821 Nameless Fanboi Posted ID:FoBejpg9h

>>820 ในบอร์ดนั่นแหล่ะ กระทู้ล่าสุดกับย้อนไป 1-2 อันมั้ง

822 Nameless Fanboi Posted ID:d9pRufzDt

เครื่องกับเงินบวกมีความคล้ายกันพอสมควร

823 Nameless Fanboi Posted ID:vWrzmwaGY

>>819 ดูแต่ละกระทู้ถามดิ จะเขียนฉากเยกันเพื่อเซอร์วิสนักอ่าน ไม่เขียนมันไม่ได้อรรถรส แต่อยากลงดด. ทำยังไงดีลดแล้วลดอีก ยังโดนแบน
มีกฎยังเสือกแหก เป็นกูด่าเปิงไปนานละไม่ใจดีแบบนั้นหรอก
อีกมู้ทำไมเดี๋ยวนี้กฎแม่งเยอะจังวะ ไม่น่าอยู่เหมือนก่อนๆ <ย้ายสำมะโนครัวไปสิคนับ ใครรั้งไว้หืมมมมม> เอาไว้อัพนิยายอ่านเองไง อีมู้นี้มึงอ่านอันล่าสุดแล้วจะรู้เหตุผลทำไมกฎเยอะแยะ

ปล.โทดๆ ถ้ากูใส่อารมณ์มากไป เห็นมีแบบนี้ทีไรอดหัวร้อนแทน WM ไม่ได้ โช่ววววว

824 Nameless Fanboi Posted ID:s9YoXeMpf

>>823 สนีคเกอร์หน่อยมั้ย ?

825 Nameless Fanboi Posted ID:xjh.EV+/v

>>822 ตรรกะวิบัติทั้งคู่เรอะ

826 Nameless Fanboi Posted ID:vWrzmwaGY

>>824 ขอฮอลล์คูลสักเม็ด5555555

827 Nameless Fanboi Posted ID:W.PKaeVNe

พี่เครื่องก็ตอบเหมือนเดิมนะแรงตามปรกติ แค่เงินบวกที่เปลี่ยนไป ไม่แสดงตรรกะโง่ๆแล้วแต่ใช้วิธีลอกคำตอบแทน ถ้าเห็นพี่เครื่องหรือใครตอบดีก็ลอกมาเสริมเพิ่มโน่นนี่นิดหน่อย ก็ไม่รู้นะว่าดีป่ะที่ทิ้งจุดยืนโง่ๆมาตามน้ำคนอื่น รู้แต่เงินบวกแมร่งว่างดีตอบทุกกระทู้

828 Nameless Fanboi Posted ID:s9YoXeMpf

จะว่าไปมีใครเคยสับนิยายเงินบวกยังวะ ไอ้นี่ไม่ธรรมดานะเว้ย แฟนคลับมีเยอะ ติดเหรียญขายหลายเรื่อง เกรียนติดตามเพียบ

829 Nameless Fanboi Posted ID:W.PKaeVNe

>>827 กุเคยอ่านนะหลายเรื่องด้วย แฟนคลับไม่เยอะนะถือว่าน้อยถ้าเทียบเรื่องอื่นที่แนวเดียวกัน นิยายก็ดีระดับหนึ่งอ่านได้ไม่อารมณ์เสียไม่ปิดตั้งแต่บทแรก แต่ข้อเสียหลักคือไม่สนุกๆๆๆๆๆๆๆ อธิบายไม่ถูกว่ะต้องลองอ่านเองจะรู้ มันไม่อินไม่ฟินรู้สึกครึ่งๆกลางๆเบียวก็ไม่สุด แล้วกูว่าเงินบวกก็รู้ปัญหา คนอ่านลดลงเรื่อยๆ แมร่งเลยเขียนไม่จบเปลี่ยนเรื่องใหม่ตลอด

830 Nameless Fanboi Posted ID:xjh.EV+/v

รู้แต่วิธีการพูดของเงินบวกแข็งไปหน่อย ไม่เป็นธรรมชาติ

831 Nameless Fanboi Posted ID:s9YoXeMpf

>>830 หมายถึงตัวมันเองหรือบทสนทนาในนิยายมัน ?

832 Nameless Fanboi Posted ID:HuZjSM6+6

กูเคยสับนิยายเงินบวกไปแล้ว เรื่องนาซีโลลิอะไรสักอย่าง

833 Nameless Fanboi Posted ID:s9YoXeMpf

>>832 ย้อนอ่านแปป

834 Nameless Fanboi Posted ID:s9YoXeMpf

>>832 อ่านสับแล้วตามไปอ่านของจริงเรื่องอื่นต่อ แล้วเห็นด้วยกับโม่งที่บอกว่าทื่อ เหมือนดูอนิเมะแล้วเอามาเขียนบรรยาย ส่วนตัวกูว่าไอ้หมอนี่สายหมีคลั่งโลลิแน่นอน

835 Nameless Fanboi Posted ID:lhLWaJ5gt

กูรู้นะว่าเป็นเรื่องปกติ แต่พอเจอกับตัวแม่งก็อดเซ็งไม่ได้ว่ะ
คนรู้จักกัน แม่งแต่งเพิ่งนิยาย บรรยายไม่ได้เรื่อง คำผิดพอสมควร ตัวละครก็แปลกๆ ความสมเหตุสมผลก็ไม่ค่อยมี
แต่แค่ชื่อเรื่องแม่งมีคำว่า นางร้าย กับ สัญลักษณ์ !! เท่านั้นแหละ ลงนิยายเวลาไล่ๆกัน กูอัพตอนใหม่ มันเปิดเรื่องใหม่ Fav.แม่งพุ่งพรวด ชนิดที่ว่ากูอัพสามรอบยังไม่รู้จะได้เท่ามันหรือเปล่า
เฟลเลย

836 Nameless Fanboi Posted ID:s9YoXeMpf

>>835 ธรรมดาเพื่อน กูเคยตกขบวนเหมือนกันตอนนิยายเกมออนไลน์ดัง ไม่รู้คิดไงถึงไม่ยอมแต่ง ส่วนเพื่อนๆ แม่งได้ดิบได้ดีทั้งที่นิยายโคตรเบียว จะแต่งตอนนี้มันก็ไม่พีคแล้ว

837 Nameless Fanboi Posted ID:lhLWaJ5gt

>>836 กอดคอ ร้องไห้

838 Nameless Fanboi Posted ID:QE5Kr2NIA

กูตกขบวนตอนโรงเรียนเวทมนต์ว่ะ (นานมาก 555) แบบไม่อยากตามกระแส แล้วเป็นไงล่ะ จนถึงปัจจุบันก็ไม่ได้ดิบได้ดีอะไรเล้ย /ร้องไห้แป้บ

839 Nameless Fanboi Posted ID:s9YoXeMpf

>>838 กอดกันวนไปสามคน T^T

840 Nameless Fanboi Posted ID:o6Kkn4HBW

เชี่ย นึกว่าเป็นอยู่คนเดียว กูตกขบวนตอนแนวออนไลน์กับต่างโลก กูเสือกอยากอินดี้แล้วก็ดูผลลัพธ์ดิ แม่งงงงง เริ่มท้อละ

841 Nameless Fanboi Posted ID:IcKMsQnkL

ky พวกมึง กูกำลังกลุ้มใจกับเม้นท์ใหม่ในนิยายของกู
เม้นท์นี้เขาบอกว่า พระเอกของกูมันกาก โง่ อ่อนแอ ช่วยแม่ไม่ได้ ให้กูลบนิยายทิ้ง
กูเจอเม้นท์นี้เข้าไปท้อใจทำอะไรไม่ถูกเลย กูไม่รู้จะทำยังไงให้เขาและคนติดตามคนอื่นๆ ถูกใจ เพราะฉากที่ว่าคือแม่พระเอกถูกบังคับให้เลียรองเท้าของตัวร้ายต่อหน้าพระเอกที่เพิ่งอายุ 9 ขวบ ซึ่งพระเอกถูกล็อคคอโดยอัศวินระดับยอดฝีมืออายุ 25 ปี ที่ผ่านศึกมาโชกโชน กูก็ว่ากูวางไว้ลงตัวแล้วนะว่าทำไมพระเอกถึงช่วยไม่ได้แม้จะต้องการจะช่วย แต่ก็โดนจนได้ เอาซะกูเป๋เลย...

842 Nameless Fanboi Posted ID:43+tD07+Z

กูตกขบวนแนวไปเกิดใหม่
เมื่อช่วงนี้ปีที่แล้วแนวเกิดใหม่บูมมากจนขึ้นชื่อว่าแค่เขียนชื่อเรื่องว่า "เกิดใหม่" คนก็เข้าอ่านเพียบ
แต่กูดันมาเขียนเอาตอนช่วงท้ายแล้ว ประกอบกับลงช้าเดือนละ 10 ตอนงี้ กลายเป็นว่ากว่าจะตั้งตัวได้ กระแสจีนก็เบียดเข้ามาก่อนซะงั้น เศร้าชิบหาย

843 Nameless Fanboi Posted ID:+myxasynY

>>838 กอดคอมึงด้วย

844 Nameless Fanboi Posted ID:s9YoXeMpf

>>841 ก็ไม่เห็นต้องไปคิดมาก จากเหตุการณ์ที่มึงปูนี่เอาไปใช้ได้หลายทางเลย ถ้าคนอ่านแม่งคับแคบเสพแต่พระเอกเทพซ่าส์จนเคยตัว แล้วคิดว่านิยายมึงไม่สนุกก็ปล่อยแม่งไปอ่านเรื่องอื่นที่มันชอบเอา มึงก็ไม่ต้องไปตอบโต้อะไรนะ กูเชื่อว่าต้องมีคนอื่นเถียงแทนมึงเอง ถ้ามีนักอ่านที่เข้าใจมึงผ่านมาเจอ

845 Nameless Fanboi Posted ID:43+tD07+Z

>>841 กูเข้าใจความรู้สึกมึง ของกูนี่พระเอกแพ้ยอดฝีมืออันดับ Top 3 ของเรื่องแล้วตกเขาปุ๊บคนอ่านด่ากันเปิง
พอเข้า dashboard นี่สังเกตเห็นได้ชัดเลยว่ายอดคนอ่านหายหลังจากพระเอกแพ้

846 Nameless Fanboi Posted ID:RfIpdQOPN

>>841 ช่างหัวแม่งมันเหอะ ชิบหาย มึงคิดจะให้คนพวกนี้ติดตามนิยายมึงจริงๆเหรอวะ

847 Nameless Fanboi Posted ID:43+tD07+Z

เออกูถามเป็นวิทยาทานหน่อย
ช่วง Boss fight นี่กูควรจัดการให้จบซักกี่ตอนดีวะถึงจะไม่ยืดจนน่าเบื่อ และไม่เร็วจนอ่านไม่รู้เรื่อง

สมมุติว่ามีบอส 2 คนงี้ พอจัดการคนแรกเสร็จ บอสคนที่สองก็ลงมาสู้แทน ก่อนจะแปลงร่างเป็นร่าง 2 งี้ กูควรวางไว้ซักกี่ตอนดีอะ

848 Nameless Fanboi Posted ID:xjh.EV+/v

กูแก่เกินกว่าจะเขียนเบียวๆแล้ว เก็บยอดวิวยอดแฟ่บ ตีพิมพ์กูจะมีรายได้เลี้ยงปากท้องรึเปล่าไม่รู้ แค่ค่าน้ำค่าไฟก็คิดหนักแล้ว

849 Nameless Fanboi Posted ID:RfIpdQOPN

กูว่าตลาดนิยายพิมพ์เล่มแม่งใกล้ตายแล้วว่ะ สมัยนี้ออนไลน์น่าจะรุ่งกว่า หรือว่าไงกัน?

850 Nameless Fanboi Posted ID:43+tD07+Z

>>848 กูเองก็คิดเหมือนมึงนะ ตอนนี้เลยไม่หวังจะตีพิมพ์ล่ะ
แต่ที่เขียนทุกวันนี้ต้องบอกว่าเป็นงานอดิเรกว่ะ กูเขียนนิยายมาเกือบสิบปี จู่ๆ จะให้ทิ้งไปแม่งก็เสียดายใช่มั้ย? ตอนนี้กูเลยยกมาทำเป็นงานอดิเรกไปละ ไม่ได้หวังจะสร้างกำไรหรืออะไรแล้วล่ะ

851 Nameless Fanboi Posted ID:xjh.EV+/v

>>831 การพูดในบอร์ด กูอ่านไอ้เครื่องบ่น 1-2 รอบเข้าใจ แต่เงินบวกต้องอ่านหลายรอบถึงจะเข้าใจ เหมือนตัวมันพยายามจะพรรณนาทำเป็นว่า ยิ่งพูดมากยิ่งดูมีการศึกษาดีกว่าคนพูดน้อย

852 Nameless Fanboi Posted ID:RfIpdQOPN

>>851 ถ้ามึงเจอของพี่ถุยมึงไม่อ่านทั้งวันเลยเหรอวะ

853 Nameless Fanboi Posted ID:s9YoXeMpf

>>847 บอกไม่ได้เหมือนกันว่ะ ถ้าเอาอย่างที่กูเคยแต่งมันมีบอสไฟต์หลายช่วงก่อนถึงบอสใหญ่

บอสระหว่างเดินเรื่องกูใช้ 2 ตอน ครึ่งแรกส่วนใหญ่ลองเชิงแล้วอธิบายข้อได้เปรียบเสียเปรียบ ครึ่งหลังคือวิธีที่ตัวเอกใช้พลิกสถานการณ์

ลาสบอสใช้ 4 ตอน เพราะต้องมีเฉลยแผนชั่วก่อนสู้ แล้วพูดประมาณว่าสายไปแล้วที่จะหยุดแผนนั้น บทต่อสู้จริงๆ ใช้ 3 คือพอเป็นลาสบอสกับตัวเอกที่มาถึงจุดเกือบพีคมันต้องมีการต่อสู้ที่ดุเดือดหน่อย พอตอนท้ายก็เขียนฉากพลิกเอาชนะให้สมเหตุสมผลหน่อย (พลังมิตรภาพเดี๋ยวนี้เชยแล้วนะมึง) ปิดด้วย ตัวเอก save the day อะไรก็ว่าไป

854 Nameless Fanboi Posted ID:xjh.EV+/v

>>852 ขี้เกียจอ่าน ตัวจริงพูดรู้เรื่องซะที่ไหน

855 Nameless Fanboi Posted ID:s9YoXeMpf

>>850 ก็แต่งไว้ติดเหรียญขาย ไม่ก็เอาไปขายเป็นอีบุ๊กในเมพก็ดีนะ

>>854 พวกมึงยังไม่เคยเจอมหาสงคราม พี่ถุยปะทะดอกขาว อย่าเพิ่งคิดว่าอันที่เจออยู่คือที่สุด เพราะมันมีอะไรที่ยิ่งกว่านั้นอยู่

856 Nameless Fanboi Posted ID:xjh.EV+/v

>>855 เหมือนเคยอ่าน แต่ลืมไปแล้ว ไม่ชอบทั้งคู่แหละ คนบ้ากับคนบ้าทะเลาะกับเหมือนจีบกัน

>>847 >>853 กูเสริม ขอแค่อย่าเล่นมุกแบบฟรีเซอร์บอกดาวนาเม็กจะระเบิดในอีก 5 นาที ปากี่ตอนกว่าจะหมดเวลา

857 Nameless Fanboi Posted ID:3uo572LUn

>>849 ออนไลน์รุ่งกว่า ขอแค่มึงมี content ดีๆไว้ในมือเถอะ

858 Nameless Fanboi Posted ID:QE5Kr2NIA

>>848 ถูกที่สุด แก่แล้วเขียนเบียวไม่ไหวจริงๆว่ะ
>>850 เออ กูก็เขียนเป็นงานอดิเรกละ ให้ทำเป็นอาชีพหลักแล้วต้องตามกระแสเรื่อยๆเพื่อให้ขายได้นี่ ทำไม่ไหวจริงๆ

859 Nameless Fanboi Posted ID:QyYhFy49/

ตลาดเล่มภาพรวมลดลง ออนไลน์โตขึ้น แต่ขนาดตอนนี้ตลาดหนังสือเล่มยังใหญ่กว่า

ระหว่างแย่แทบทุกอย่างแต่สนุกกับดีแทบทุกอย่างแต่ไม่สนุก คนอ่านส่วนใหญ่จะเลือกอย่างแรก

แต่ถ้าดีด้วยสนุกด้วยกับแย่แทบทุกอย่างแต่สนุก คนอ่านจะเลือกทั้งสอง

860 Nameless Fanboi Posted ID:3uo572LUn

>>859 สวัสดีค่ะพี่ถุย เขียนให้รู้เรื่องบ้างนะคะ

861 Nameless Fanboi Posted ID:/Ah8Of48r

นี่ไงอันดับ1 ของทุกหมวด และที่เด็กดวกกำลังอวยนักหนา
https://writer.dek-d.com/bloodgirl/story/view.php?id=1738120
กูก็ไม่ได้จะว่าของเขาไม่ดีนะ แต่มันก็ไม่น่าจะถึงขนาดนี้ป่าววะ??? หรือกูต้องเปลี่ยนไปโปรยแบบเสียวๆบ้าง

862 Nameless Fanboi Posted ID:3uo572LUn

>>861 ตอนนี้ตลาดเกาหลีมันซบเซาลง คนมองญี่ปุ่นอีกครั้ง ไม่มีอะไรพิเศษ

863 Nameless Fanboi Posted ID:QE5Kr2NIA

>>861 ทำไมต้องมีภาษาญี่ปุ่นในชื่อตอน ไม่อะไรนะแค่มันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นมั้ยอะ ปล. กดเข้าไปเจอชื่อนักเขียน ตอนแรกนึกว่าโนเนมธรรมดา ที่ไหนได้ คนดังซะด้วย หึๆ

864 Nameless Fanboi Posted ID:AfI/G9ooi

>>861 น้องคนนี้ยังใช้อิโมจิคอนเวลาเขียนอยู่หรือเปล่า?

ลงชื่อ เซฮุน ขี้เกียจอ่าน รบกวนอย่าอวยตัวเองในมู้นินทา

865 Nameless Fanboi Posted ID:fHD3RJvDE

เว็บดันจนแชร์ไป 8,000 กว่าแขร์ เย็ดเข้

866 Nameless Fanboi Posted ID:4eKBRyHwX

ชื่อเรื่องไม่น่าอ่านเลยว่ะ กูสายหวานแหววตาหวานนะ แต่แบบนี้กูว่าไม่

867 Nameless Fanboi Posted ID:xjh.EV+/v

นิยายโป๊ป่าววะ

868 Nameless Fanboi Posted ID:Rng8srQDC

กู >>861 นะ ถ้าจิ้มไปที่คลิ๊ก มันจะเข้าไปที่หน้านิยายแบบอ่านจากเบราว์เซอร์ใช่ป่ะ แต่ถ้าเข้าไปในแอพอ่านนิยายเด็กดวก เจอรูปปกนิยายแล้วจะระทึก แว่บแรกที่กูเห็น นึกว่านิยายโป๊อย่าง >>867 มันว่าเลย

869 Nameless Fanboi Posted ID:TSR7qoW2G

อ่าห์ คนใฝ่หาเรื่องใต้สะดือเยอะสินะ

870 Nameless Fanboi Posted ID:fh/S3Xa.K

เหมือนพวกนักเขียนรุ่นเก่านี้จะเริ่มเปลี่ยนแนวมา18+ กันหมดละ แต่ยังลงในเด็กดีเพราะฐานอยู่นี่ และเว็บไม่ค่อยทำไรเพราะคือตัวท็อปเรียกตัว เลยออกมาย้อนแย้งสัสๆ เว็บเด็กวัยรุ่นต่อต้านนิยายแนวนี้แต่มีท็อปแนวนี้เป็นพรืด

871 Nameless Fanboi Posted ID:xjh.EV+/v

>>870 dek-d (เด็กดี) ---> dek-hueen (เด็กหื่น)

872 Nameless Fanboi Posted ID:fHD3RJvDE

คิดแล้วขำเรื่องนิยายรัชทายาทเสิ่นเจิ้นที่โดนแบนเพราะคำว่า "คราง" คำเดียว ส่วนนิยายเรื่องอื่นๆ ในหมวดเดียวกันหนักกว่านี้เสือกรอด ติดท็อปอีกต่างหาก

873 Nameless Fanboi Posted ID:Rng8srQDC

>>872 ไม่ได้ติดท๊อปอย่างเดียวนะมึง ทางทีมงานช่วยดันอีกต่างหาก โพสโปรโมตให้รัว ๆ

874 Nameless Fanboi Posted ID:C9zsvdCdf

>>872 อย่าพยายามบิด เรื่องนั้นมันไม่ได้โดนเพราะคำว่าครางอย่างเดียวสักหน่อย ครางแค่เป็น keyword ที่ใช้ในการหาคำอื่น พอเจอฉากที่อธิบายแบบโจ่งครึ่มไปหน่อยก็เลยโดนแบน

875 Nameless Fanboi Posted ID:mYOWnwOTw

ว่าแต่ตอนนี้ยังมีแนว old school fantasy เหลืออยู่ไหมวะ

876 Nameless Fanboi Posted ID:e9P4Uk0CA

>>875 น่าจะดองกันหมด เด็กดวกมีแต่นิยายเห่อหมอย

877 Nameless Fanboi Posted ID:C62WCR3yP

>>875 มีแต่ไม่สนุกนะ ลองส่องหลายๆ เรื่อง แทบไม่ผ่านเกณฑ์กูสักเรื่อง

878 Nameless Fanboi Posted ID:uFqSvV1Gs

>>875 กูแต่งนะ แต่ยอดวิวต่ำโคตรๆ

879 Nameless Fanboi Posted ID:3qky91Tv3

>>875 เป็นแบบไหนวะ

880 Nameless Fanboi Posted ID:e9P4Uk0CA

>>879 Fantasy ดั้งเดิมก่อนยุคแฮรี่พ่องตาย

881 Nameless Fanboi Posted ID:uFqSvV1Gs

>>879 OSF ก็แนวแฟนต้าดั้งเดิมสุดๆ มีเผ่าไม่กี่เผ่า มีผู้กล้า มีคณะปราบจอมมาร ในปาร์ตี้ก็มีผู้กล้าใช้ดาบในตำนาน นักเวทขาว จอมเวทมนต์ดำ นักธนูที่มักจะอกหักจากผู้กล้า นักบวชที่มักจะเป็นนางเอก บุกตะลุยจากศึกเล็กๆ ไปจนถึงศึกสุดท้ายที่ปราสาทจอมมาร สู้กันแล้วก็ชนะตามบท ความสงบสุขกลับคืนมา... เย้

เดินเรื่องยังไงก็ตามความสามารถในการโยงเรื่อง, ผูกปม ของนักเขียน

ถ้าเอาที่คลิเช่สุดก็มีผู้กล้าปราบมังกร ต้องมีราชาเอาลูกสาวมาล่อว่าจะให้แต่งงานด้วยถ้าปราบสำเร็จ เจ้าหนุ่มหล่อเหลา(และต้องผมทอง)จะเป็นคนดึงดาบวิเศษออกจากก้อนหินได้ หรือไม่ก็ไปตามหาดาบเจอกลางป่าทั้งๆ ที่เมื่อวานซืนมึงยังเลี้ยงไก่ไถนาอยู่เลย พอปราบมังกรได้ ก็ได้สมบัติในถ้ำแถมมา กลับไปก็ได้เมียอีก ชีวิตดี๊ดีย์

ไอ้เรื่องมีกิลด์รับสมัครนักผจญภัยไปให้กอบลินฆ่าเล่นนี่ ไม่มีแน่นอน แต่ไม่รู้ทำไมชอบ setting แบบนี้กันจัง

882 Nameless Fanboi Posted ID:eRsvXkY1s

อนุรักษนิยม

883 Nameless Fanboi Posted ID:e9P4Uk0CA

>>881 กิลด์ให้เควสทำ ดังมาตั้งแต่ยุคเกมออนไลน์

884 Nameless Fanboi Posted ID:fOrUeNurZ

>>881 แต่กูชอบgoblin slayerนะ

885 Nameless Fanboi Posted ID:g+9L7XgIo

กูไปเจอเพจนิยายจีนแปลไทยมา หงุดหงิดชิบหาย แม่งมีคนมาด่านิยายเรื่องนึงยืดยาว บอกว่าพระเอกกากงั้นงี้ ทำไมถึงโง่ให้คนอื่นหักหลัง ใครจะไปทนอ่าน แล้วก็มีคนมาคอมเมนต์ประมาณว่า มันสมเหตุสมผลนะ เพราะพระเอกโดนหักหลังตอนแรกๆ มันเลยพัฒนาตัวเองไง แบบไปเก่งขึ้นหลังตอนที่ 90 ไอ้คนที่มาด่าตอนแรกแม่งก็พล่ามอีก ประมาณว่าเดี๋ยวจะลองไปอ่านดู แล้วก็ด่าคนเขียนว่าทำไมไม่ยอมจั่วหัวไว้แต่แรกว่าพระเอกจะเก่งตอนไหน จะได้ตามไปอ่าน จากนั้นก็ประกาศขอสปอยตอนต้น เพราะจะข้ามไปอ่านตอนพระเอกเก่งเลย

ควย กูพูดแค่นี้ล่ะ ควย

886 Nameless Fanboi Posted ID:fOrUeNurZ

>>885 คนอ่านแบบนี้มีเยอะมึง ขึ้นชื่อว่าพระเอกแม่งต้องเทพ ห้ามผิดพลาด แต่ไอ้เรื่องสปอยนี่แถวบ้านกูเรียกเหี้ย

887 Nameless Fanboi Posted ID:Nq3NLCXLp

กูละเกลี้ยดเกลีบดพวกหาความเทพแต่ต้น ในชีวิตจริงไม่มีโว้ย มันฝึกกันหมดแหละ ห้ามผิดพลาด
มันเข้ายุคคนอยากซูตั้งแต่เมื่อไหร่วะ มีปมไรในชีวิตเยอะเหรอ คนอ่าน555

888 Nameless Fanboi Posted ID:4ww+VY6xa

โอ้ยยยย หมดไฟแฮะ นึกพล็อตที่เหมาะกับนิยายยุคนี้ไม่ออกเลยแฮะ
กูเองก็ชอบสไตล์ OSF นะ แต่อยากจะหาทางปรับให้เข้ากับยุคสมัยซักหน่อย แต่นั่งคิดมานานละก็ยังคิดไม่ออกวุ้ย

889 Nameless Fanboi Posted ID:fOrUeNurZ

>>887 มึงไปดูในเดกดวกดิ นิยายไหนพระเอกไม่เทพตั้งแต่แรกถ้าไม่โดนด่าก็ไม่มีคนอ่านอ่ะ

890 Nameless Fanboi Posted ID:uFqSvV1Gs

>>888 เทพซ่าส์ 007 เบียว ซู ฮาเร็ม มี nc ... เขียนแล้วปังแน่นอนถ้าใจมึงทนเขียนไหว

891 Nameless Fanboi Posted ID:2be9mLbri

>>888 ง่ายๆ พอถึงฉากสู้ให้ทำเหมือนเด็กประถมเล่นกัน คือพูดชื่อท่าเทห์ๆ หรือฟังแล้วยิ่งใหญ่เกทับกันไปเรื่อยๆ แล้วสันธยายว่าไอ้ท่าบางท่ามันทำเหี้ยไรพินาศบ้าง

892 Nameless Fanboi Posted ID:uFqSvV1Gs

>>884 พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ถ้าไม่ติดว่าพระเอกมันเอจจี้เกินไปหน่อย กูคงจะให้คะแนนเยอะขึ้น

893 Nameless Fanboi Posted ID:fOrUeNurZ

>>892 แปลว่าไรวะเพื่อนโม่ง กูไม่ทันศัพท์พวกนี้ว่ะ

894 Nameless Fanboi Posted ID:W/UA0TPcc

https://writer.dek-d.com/kerrymatthew/story/view.php?id=1617601 อีนี่มันทำงานทำการบ้างเปล่าวะ อัพหลอกแม่งทุกวัน กูสงสัยไอ้เวลาว่างของมันที่มันเอามาอัพหลอกเนี่ย มันยังเขียนนิยายไม่จบอีกหรือ

895 Nameless Fanboi Posted ID:0C6Mh+nfn

>>890 แบบนี้ยังพอเขียนได้
>>891 แต่แบบนี้ท่าจะไม่ไหว

896 Nameless Fanboi Posted ID:0C6Mh+nfn

>>893 edgy = น่ารำคาญ อยากทำตัวแตกต่างจากชาวบ้าน

897 Nameless Fanboi Posted ID:e9P4Uk0CA

ตัวอย่างนิสัย edgy
http://th.uncyclopedia.info/wiki/ไร้ชีวประวัติ:Underworld_City

898 Nameless Fanboi Posted ID:fOrUeNurZ

>>896 ขอบใจเพื่อนโม่ง

สำหรับกูแล้วกูรับได้นะ คือพระเอกแม่งเจอก็อบลินรุมrape+ฆ่าคนสำคัญไปขนาดนั้น กูก็เข้าใจแหละ แล้วตอนหลังๆมันก็ดีขึ้นแล้วนะ

หรือว่ากูอวยเกินไปวะ?

899 Nameless Fanboi Posted ID:ho2RCOoIh

>>894 เชี่ย 8 หมื่นวิวแล้ว

900 Nameless Fanboi Posted ID:cbGdgE.sv

>>894 กูขี้เกียจจะยุ่งแล้ว แจ้งไปเว็บก็ไม่ทำห่าไร คนโกงแมร่งลอยนวลลอยหน้าลอยตาในเดกดวก

901 Nameless Fanboi Posted ID:fOrUeNurZ

>>899 นิยายเรื่องนี้กูเห็นมาหลายปีแล้วนะมึง 8หมื่นกูว่าน้อยไปด้วยซ้ำ

902 Nameless Fanboi Posted ID:0C6Mh+nfn

เพื่อนโม่งกูขอถามหน่อย พอดีกูไม่เข้าใจว่าการดำเนินเรื่อง ช้า-เร็ว นี่เขาดูกันตรงไหนว่ะ?
เป็นปัญหาที่กูพยายามเข้าใจเพื่อเอาไปปรับแก้มานานละ แต่ยังไงก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่ายังไงถึงจะเห็นว่าเรื่องนี้เดินเรื่องช้า เรื่องนี้เดินเรื่องไว
ในโม่งมีคนเคยบอกว่า ถ้า 10 ตอนเรื่องยังไม่ไปไหนก็เท่ากับเดินเรื่องช้า ...ซึ่งต่อให้พูดอย่างนี้กูก็ยังไม่เห็นภาพอยู่ดีว่ามันยังไง

ถ้ามีตัวอย่างก็ช่วยกูหน่อย เพราะกูแยกไม่ออกจริงๆ อะ

903 Nameless Fanboi Posted ID:ho2RCOoIh

>>902 เดินเรื่องเร็ว > มีคนบ่นว่านิยายมึงอ่านไม่รู้เรื่อง ตามไม่ทัน งงว่าใครมายังไง
เดินเรื่องช้า > มีคนบ่นว่าน่าเบื่อ ง่วง เมื่อไหร่จะมีอีเวนท์ใหม่ๆ เกิดขึ้นซะที

904 Nameless Fanboi Posted ID:g+9L7XgIo

>>902 นิยายมึงมีกี่ตอนล่ะ

ถ้าวางไว้ 100 ตอน แล้ว 10 ตอน พระเอกเพิ่งจะเริ่มออกเดินทาง อันนี้ไม่เป็นไร
แต่ถ้าวางไว้ 20 ตอน แล้ว 10 ตอน กลุ่มของพระเอกยังไปไม่ถึงไหน อันนี้คือช้าไปแล้ว

905 Nameless Fanboi Posted ID:0C6Mh+nfn

>>904 อืมมม ถ้าเอาเรื่องล่าสุดที่เพิ่งปิดไปเมื่อปีที่แล้วนะ
เล่มนึงมี 40 ตอน (ตอนละ 3000-4000 คำ) กูเขียน 2 เล่มจบ ก็รวมๆ 80 ตอนอะ
แต่เรื่องใหม่ที่ตั้งใจจะเขียน กะจะไม่พิมพ์ละ แต่เน้นลงเว็ปยาวไปเป็นร้อยๆ ตอนเลย

906 Nameless Fanboi Posted ID:fOrUeNurZ

>>905 เขร้ ตีพิมพ์แล้ว

907 Nameless Fanboi Posted ID:W/UA0TPcc

https://www.dek-d.com/board/view/3826169/ กูว่าสาเหตุก็มาจากความต้องการนี่แหละ หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าเงี่ย...

908 Nameless Fanboi Posted ID:e9P4Uk0CA

NC กับหนังโป๊เหมือนกันมั้ย

909 Nameless Fanboi Posted ID:Nq3NLCXLp

>>907 กูจะพิมพ์ว่าเงี่ยนก็เกรงใจบอร์ด กูเลยตอบซอฟต์ๆ ว่าอยากรู้อยากเห็น

910 Nameless Fanboi Posted ID:ho2RCOoIh

>>908 ก็เหมือนๆ กันนั่นแหล่ะ เพราะมันแปลว่า "ไม่เหมาะสำหรับเด็ก"

911 Nameless Fanboi Posted ID:g+9L7XgIo

>>908 หลายคนอาจคิดว่า nc คือเย็ดๆ อย่างเดียว แต่จริงๆ มันคือ "ไม่เหมาะกับเด็ก" เพราะงั้นไอ้พวกดาร์กๆ (ไม่ว่าจะวอนนาบีหรือไม่ก็ตาม) ประเภทฆ่าแหลก บีบหัวแตกสมองไหล มีการสอนให้ใช้ยาเสพติด ก็เป็น nc เหมือนกัลลล

912 Nameless Fanboi Posted ID:ho2RCOoIh

>>911 ปัญหาคือเด็กเสือกชอบวอนนาบีดาร์คแล้วเป็นคนเขียนมันออกมาเองซะงั้น ถ้าเป็นต่างประเทศเขาจะเพิ่มเรื่องการใช้อาวุธเข้าไปในหมวด nc ด้วยน่ะ

913 Nameless Fanboi Posted ID:Lq4NCUrts

กูขอนอกเรื่องหน่อย ระบายหน่อย ป้ากูชอบอ่านนิยายมาก แล้วแกก็เข้าไปอ่านเรื่องที่กูแต่งเว้ย อ่านแค่บทแรกเท่านั้นแหละ ป้าบอกแบบนี้ไม่อ่านต่อ
เพราะอะไรรู้ป่ะ?
เพราะกูไม่มีแนะนำตัวละคร!!!!
ได้ยินงี้กูช็อคแดร๊กเลย กูถามจำเป็นมากไหมป้า ป้าบอกจำเป็นมาก เพื่อที่คนอ่านจะได้รู้ว่า พระเอกนางเอกหน้าตาเป็นไง ดูอย่างนิยายจีนสิ (ป้ามาสายจีน) มีรูปพระเอกนางเอกให้ดู เลยรู้หน้าตาเป็นไง กูเลยย้อนป้าไปว่า หน้าที่นักเขียนอย่างกูก็คือ บรรยายให้คนอ่านมันจินตนาการหน้าตาตัวละครได้ โดยไม่ต้องแปะภาพช่วยไง ป้ากูแม่งบอกว่า จะไปจินตนาการทำไม คนเขียนก็แปะรูปมาเลยง่ายกว่า (???) แต่กูก็ไม่ยอมแพ้นะ เลยกวนตีนกลับไปว่า
โหยป้า แล้วถ้าเป็นคนละเรื่องแต่พระเอกหน้าตาเหมือนกันล่ะ ทำไง (รูปอิมเมจที่ขโมยมาจากเน็ตซ้ำ) บ้าแม่งอึ้งไปนิดนึง แต่ก็ยังยืนยันว่า ยังไงก็ต้องมี ไม่มีไม่อ่าน!
แล้วป้ากูก็แนะว่า ให้กูใส่ความเทพลงไปในตัวนางเอก ให้นางเอกมีพลังวิเศษ บลา ๆ ๆ (ซึ่งเนื้อเรื่องกู ไม่ใช่แนวปล่อยพลัง) พอกูบอกของกูมีแต่คนธรรมดา บ้าเลยบอกงั้นให้นางเอกเก่งทำอาหารก็ได้(อันนี้พอรับได้ แต่ทำอาหารก็ไม่จำเป็นกับเนื้อเรื่องกูป่าววะ) ไม่ก็ให้นางเอกไปเจออาจารย์เก่ง ๆ แล้วเรียนวิชา (เอิ่ม) ประเด็นคือนางเอกกูต้องซูหูดับตับไหม้
สรุป กูทั้งเอือมทั้งขำเลยว่ะ ไม่ได้มีแต่พวกเด็กสินะที่ตรรกะในการเลือกนิยายอ่านดูเบียว ๆ เบี้ยว ๆ ป้ากูก็เช่นกัน
(แวะมาบ่น)

914 Nameless Fanboi Posted ID:g+9L7XgIo

>>913 เออ ตบบ่านะ ตลาดมันก็เป็นงี้แหละมึง เน้นอะไรย่อยง่าย แถมเรื่องแบบนี้ไม่เกี่ยวกับการศึกษานะ เด็กมหาลัยดังๆ เรียนหมอเรียนวิศวะ ก็ชอบอ่านนิยายเบียวๆ ซูๆ กันเยอะแยะ เอ๊ะ หรือไอ้พวกนั้นมันหัววิทย์ เลยไม่เข้าใจเรื่องของความสวยงามทางภาษาหรือวรรณกรรมดี ๆ 555 ต้องลองไปสำรวจดูนะว่าพวกเด็กอักษรสินสาดจะชอบอ่านอะไรแบบนี้ไหม

กูเพิ่งไปติดตามไอ้กระทู้ที่ถามว่าจำเป็นไหมที่นักเขียนต้องอ่านนิยายเยอะ คือในบอร์ดคนมันก็มาทางอวยแหละว่ายังไงๆ นักเขียนก็ต้องเป็นนักอ่านมาก่อน แต่พอมาวันนี้กูเห็นเพจเด็กดีในเฟซบุคแม่งแชร์กระทู้ คนที่มาคอมเมนต์แม่งไม่มีใครชอบอ่านเลยสักคน ตัวอย่างเม้นก็เช่น

[เรา ไม่อ่านนิยาย ไม่อ่านเลย เพราะไม่ชอบอ่านนิยายแต่ชอบเขียนมาก 55555555555], [นิยายแฟนตาซีที่เขียนอยู่เคยอ่านแค่สามเรื่องค่ะ]

ก็เลยไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่จะมีนิยายห่วยๆ โผล่มาเรื่อยๆ แถมยังมีคนอ่านนะ เพราะ 1 นักเขียนแม่งไม่รู้ว่านิยายดีๆ ต้องเป็นยังไง 2 นักอ่านแม่งก็ไม่รู้ว่านิยายดีๆ ควรจะเป็นแบบไหน สรุปคือนักอ่านไม่เคยอ่านงานดีๆ พอมาเจองานกากๆ ในเว็บก็เข้าใจว่าแบบนี้น่ะดีแล้ว ส่วนนักเขียนก็ไม่เคยอ่านงานดีๆ เหมือนกัน พอเห็นมีคนอ่านนิยายของตัวเองเยอะ ก็เข้าใจไปเองเหมือนกันว่า เขียนแบบนี้น่ะดีแล้ว ถถถ

915 Nameless Fanboi Posted ID:Ljp+YcNYJ

>>914 3.ระหว่างนิยายกับหนัง แม่งเลือกหนังก่อน เพราะแม่งขี้เกียวอ่านนิยายทั้งที่หนังหลายเรื่องดัดแปลงจากนิยาย ต่อให้คนดูหนังมีเงินเยอะผ่อนรถไม่ขาดสายก็เถอะ

916 Nameless Fanboi Posted ID:520fZvHzV

>>913 อ่านแล้วขำปนสลดใจ 55555

917 Nameless Fanboi Posted ID:y.BhU5acP

>>902 ช้าเร็วมันดูภาพรวม บอกยิบย่อยไม่ได้หรอก 10 ตอนมึงกับ 10 ตอนคนอื่นมันก็อาจจะไม่เท่ากัน เรื่องนี้มันแล้วแต่ประสบการณ์ หลายคนเขียนแต่ไม่ได้อ่านมากอาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกความต้องการของนักอ่าน ถ้าเข้าใจจะไม่มีคำถามอะไรทำนองนี้อ่านงานตัวเองก็น่าจะดูออก ถ้าคิดว่าตัวเองอ่านมามากพอดู ขนาดรู้ว่าเดือนนี้หนังสืออะไรออก งานหนังสือนี้สำนักพิมพ์ที่ตามจะออกเรื่องอะไร ถ้าอ่านกันแบบนี้แล้วยังมองไม่ออกแสดงว่าเป็นเรื่องเทส เทสมึงกับคนอ่านจำนวนมากไม่เหมือนกัน บางคนอยากอ่านอะไรที่มันบรรยายยาวเหยียดเห็นภาพสามร้อยหกสิบองศาแบบนี้เอาไปเทียบกับคนส่วนใหญ่ไม่ได้ คนส่วนใหญ่อาจจะโฟกัสแค่เก้าสิบองศาตรงหน้าก็พอ แต่ถ้ามึงบรรยายยาวเหยียดสามร้อยหกสิบองศาแต่ไม่ชอบอ่านพวกบรรยายยาวแบบนี้ ปัญหาเป็นเรื่องการเขียนของมึงแล้ว ทั้งที่รู้ว่ามันยาวไปแต่ไม่ตัดออก บางคนก็เสียดาย แต่มึงลองไปอ่านพวก tip นั่นนี่ของพวกนักเขียนเถอะ ส่วนใหญ่ก็บอกเหมือนๆ กันว่าถ้ามันยาวให้ตัด นักเขียนฝรั่งก็บอกแบบนี้

ช้าไม่ช้ามันต้องมองเป็นภาพรวม กำหนดจำนวนหน้าจำนวนตอนไม่ได้หรอก ถ้าเขียนดีสิบตอนเรื่องไม่ไปไหนแต่คนอ่านชอบกูก็ว่ามันยังไม่ช้า นิยายบางเรื่องทั้งเล่มดำเนินเรื่องอยู่วันเดียว ถ้ามันสนุกเอาคนอ่านอยู่มันก็ไม่ช้าไป หรือมันมีอะไรบางอย่างเป็นเอกลักษณ์ของงาน อย่างงานมุราคามิบรรยายลิฟต์สิบหน้าคนยกขึ้นหิ้ง

918 Nameless Fanboi Posted ID:w1j9pupSo

>>914 เราเรียนสินสาดนะ เรื่องภาษาอะเลือกอ่านจนเรื่องมาก ส่วนเรื่องจริต เราชอบความซู(แต่ก็ไม่ใช่ว่าเวอร์เกิน) คิดว่าเรื่องจริตกับความชอบพวกนี้ไม่เกี่ยวกับคณะหรอก เกี่ยวกับคน ๆ ไปมากกว่าค่ะ ขอบคุณค่ะ

919 Nameless Fanboi Posted ID:LZ9O1wAnE

>>914 เราสายวิทย์แต่ไมาชอบอะไรซูๆ อะ แบบจะยัดความวิเศษให้ตัวละครไปทำไมเยอะแยะ แถมเหตุผลก็ใช่ว่าจะมี

920 Nameless Fanboi Posted ID:TU4SBIG6/

การอ่านนิยายมันเป็นเรื่องรสนิยม คนอ่านส่วนใหญ่ก็อ่านเพื่อความบันเทิง กูคิดว่าไม่ควรไปเหยียดคนอ่าน

921 Nameless Fanboi Posted ID:IqdtU0kYL

>>920 หมู่นี้มันเยอะจนระรานคนเขียนไงมึง ที่เขาเดือดร้อนกัน

922 Nameless Fanboi Posted ID:VEgkodNTo

กูก็ชอบนะ จะเบียวชูระะเบิกโลกแตกไงก็ได้ แต่ขอเหตุผลดีๆในการกระทำหน่อย ไม่ใช่ฆ่าเพราะแม่งสะใจ ปล่อยพลังเพราะแม่งอยากอวด

923 Nameless Fanboi Posted ID:VEgkodNTo

>>922 *ระเบิด

924 Nameless Fanboi Posted ID:9DfiXRdw/

>>920 ต้องลองไปตามพวกกรุ๊ปนักอ่านดู มึงจะเห็นความพิลึกของชุดความคิด กูไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงทนอ่านตอนที่พระเอกไม่เก่งไม่ได้ คือหลายๆ อย่างมันก็มีเหตุผลปะว่าทำไมพระเอกต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อน แล้วค่อยกลับมาเก่งทีหลัง

925 Nameless Fanboi Posted ID:ptqT.crOM

>>924 ขนาดนั้นเลยเหรอวะ ไอ้เราก็พยายามทำให้สมเหตุสมผลมีที่มาที่ไป อะไรทำให้มุ่งมั่นฝึกจนเก่ง นักอ่านดันไม่อยากอ่านช่วงนี้ของเนื้อเรื่อง จะอ่านตอนเติมทรูมาเรียบร้อยแล้ว แบบนี้ก็ไม่ต้องมีเหตุผลรองรับอะไรแล้วมั้ง

926 Nameless Fanboi Posted ID:9DfiXRdw/

>>925 กูว่านักอ่านพวกนี้ต้องมีปมอะไรสักอย่างในชีวิตอะ คือไม่ใช่แค่ให้พระเอกค่อยๆ เก่งไม่ได้นะ แต่พระเอกต้องเก่งแล้วเก่งเลย เก่งแบบเป็นผู้ไร้เทียมทาน จะยอมผู้หญิงก็ไม่ได้ จะสู้พลาดแพ้ตัวร้ายจนเสียหายก็ไม่ได้ (เดินเรื่องเป็นเส้นตรง ปราบตัวร้ายตัวนี้ แล้วก็ไปเจอตัวร้ายตัวต่อไป พอปราบเสร็จ ก็ไปเจอตัวร้ายตัวใหม่อีก) หรืออย่างฮาเร็มงี้ ตอนพระเอกตามหมาหยอกไก่ผู้หญิงคนก็ชอบอยู่หรอก แต่พอได้กันแล้วปุ๊บ กองเชียร์แม่งก็ให้ไปหาคนใหม่เลย เหมือนเย็ดแล้วไม่ต้องสนใจความรู้สึกอะ ถถถถ

927 Nameless Fanboi Posted ID:snQ99RIGP

>>926 แบบนี้เขาเรียกว่าพวกเสพย์ติดนิยม Alpha male MC น่ะ

928 Nameless Fanboi Posted ID:ptqT.crOM

>>927 ขยายความคำว่า alpha หน่อย แล้วถ้าเป็น beta m MC จะต่างยังไงเหรอเพื่อนโม่ง

929 Nameless Fanboi Posted ID:snQ99RIGP

>>928 Alpha เป็นศัพท์ที่ใช้กับสิ่งมีชีวิตที่อยู่กันเป็นกลุ่มเป็นฝูงน่ะ ยกตัวอย่างก็ Wolf pack (ฝูงหมาป่า) หรือสังคมของกอลิล่า ซึ่งเจ้า Alpha เนี่ยมีความหมายว่า "จ่าฝูง" น่ะ

ถ้าเอามาใช้ในนิยาย จะเป็นคำนิยามของตัวละครที่มีความแข็งแกร่ง เป็นผู้นำและไร้เทียมทาน ซึ่งนั่นก็คือนิยามของตัวละครในนิยายซูๆ ทั้งหลายนั่นล่ะ

ส่วน Beta ไม่นิยมใช้กัน แต่ถ้ามีก็จะหมายถึงตัวละครที่รองลงมาจากจ่าฝูง อาจจะแข็งแกร่งน้อยกว่า แต่เป็นจอมบงการวางแผนอะไรแบบนี้

ส่วนลำดับต่ำที่สุดของ Pack (ฝูง) ก็คือ Omega แต่ที่เขานิยมใช้กันคือคำว่า Underdog คืออยู่จุดต่ำสุดของสังคมเลย ตัวละครพวกนี้มักจะโดนดูถูก โดนแกล้ง โดนเหยียดต่างๆ นานา

930 Nameless Fanboi Posted ID:ptqT.crOM

>>929 สรุปคือชอบ MC ที่มีฝีมือดีผ่านการฝึกมาจนเก่งแล้วหรือแข็งแกร่งมาตั้งแต่แรก ส่วนตัวละครที่ยังอ่อนหัดกับตัวละครที่เป็นชนชั้นต่ำไม่ค่อยได้รับความนิยม

931 Nameless Fanboi Posted ID:Zc0K47.SM

>>930 มันสนองสิ่งที่ตัวเองขาด อยากเทพแบบไม่ต้องพยายาม มองพระเอกสายพยายามเหมือนตัวเองโดนด่า

932 Nameless Fanboi Posted ID:snQ99RIGP

>>931 แต่ในสายตากูนะ พระเอกแบบ Omega หรือ Underdog เนี่ยสนุกกว่าว่ะ
ได้เห็นมันพยายาม ได้เห็นมันดิ้นรน อาจจะมีเหลวบ้างแต่ถ้าสุดท้ายมันลุกขึ้นมาได้ก็ทำให้รู้สึกอยากจะยินดีไปกับมันด้วย
แต่น่าเสียดายที่แนวนี้หายากมากในยุคนี้ แถมไม่เป็นที่นิยมด้วย

933 Nameless Fanboi Posted ID:VEgkodNTo

กูชอบแบบbetaสุดละงั้นอ่ะ

934 Nameless Fanboi Posted ID:kwOrrWR/F

>>932 ก็พวกอัลฟ่าในชีวิตจริงมันไม่ค่อยอ่านไง
มีสาวๆ อะไรพัฒนาตัวเอง 55 เบต้าพวกหาทางปลอบใจตัวเองหานิยายอ่านเยอะกว่า

935 Nameless Fanboi Posted ID:VEgkodNTo

เดี๋ยวนี้ที่นิยมมันคือสเตป omega >>>>>> alphaแบบก้าวกระโดนทีเดียวถึงมากกว่าว่ะ มึงลองไปอ่านจีนได้

เด็กสวะเศษขยะของตระกูลกันทั้งนั้น

936 Nameless Fanboi Posted ID:auia3uab4

>>935 การแข่งขันบ้านเขาสูงไง ใครตามไม่ทันก็เศษสวะ มันเลยต้องใช้เรื่องแนวนั้นปลอบใจ

937 Nameless Fanboi Posted ID:snQ99RIGP

>>936 อันนี้่ใช่เลย กูเคยดูสารคดีเกี่ยวกับชีวิตชาวจีน
แม่งแข่งกันจนแบบเป็นบ้าเป็นหลัง เพื่อสอบเข้ามหาลัยฯ ถ้าสอบได้ก็ถือว่าชีวิตของเจ้าตัว + บ้านดีขึ้นทันที เพราะสามารถทำงานระดับสูงๆ ได้
กลับกันถ้าสอบเข้ามหาลัยไม่ได้ ก็หมายความว่าบ้านนั้นมีชะตาชีวิตต้องเป็นชนชั้นแรงงานต่อไป และเหมือนจะไม่มีโอกาสที่สองด้วย

พอนึกย้อนได้แบบนั้นกูไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนิยายจีนถึงชอบใช้สเตป omega >>>>> alpha กันนัก แถมไปแบบไม่ต้องพยายามด้วย เพราะแม่งไม่รู้ว่าต้องพยายามยังไงถึงจะได้เป็น alpha กัน

938 Nameless Fanboi Posted ID:ptqT.crOM

>>935 นึกถึงเรื่อง Doupo Cangqiong ขึ้นมาทันที หรือเรื่องอื่นๆ มาแรกๆ อย่างผลาญก็เริ่มจากตัวเอกถูกกระทำแล้วค่อยเอาคืนแบบเก่งเทพ

ส่วนเรื่องการแข่งขันในจีนนี่มันคล้ายญี่ปุ่นแล้วนะนั่น เรียนหนักเพื่อเข้ามหาลัยดีๆ แล้วจบให้เกรดสวยๆ เพื่อเข้าทำงานบริษัทใหญ่ๆ พอเข้าไปก็ยังต้องทำงานหนักอีก ไม่งั้นก็กลายเป็นชนชั้นกลาง, ล่าง มิน่าในเมะถึงชอบขายฝันให้คนหนีไปเทพต่างโลกกันนัก

939 Nameless Fanboi Posted ID:9DfiXRdw/

กูมองว่าประเด็นคือ ชีวิตคนเรามันไม่มีจุดสูงสุดแบบสูงสุดจริงๆ ไม่ว่าคนๆ นั้นจะมีศักดิ์ฐานะแบบไหน บ้านจะรวยยังไง มันก็อยากที่จะไปให้สูงขึ้นกว่านั้นอีกเรื่อยๆ กันทั้งนั้นแหละ เพราะงั้นไอ้ตัวละครแบบเก่งเทพ เป็น 1 ในใต้หล้ามันถึงเป็นที่นิยมไง เพราะไม่ว่าจะเป็นลูสเซอร์ คนทั่วไป หรือคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ก็อยากที่จะไปให้ไกลกว่าจุดที่ตัวเองยืนอยู่กันทั้งนั้น

ก็เหมือนหนังสือฮาวทูหรือชีวประวัติทั้งหลายนั้นแหละ คงไม่มีใครสนใจเรื่องของลูสเซอร์หรอกจริงไหม เขาก็อยากรู้กันทั้งนั้นแหละว่าคนที่ประสบความสำเร็จมีที่มาที่ไปยังไง เพียงแต่นิยายห่วยๆ แม่งชอบลัดขั้นตอนเอาใจลูสเซอร์ ด้วยการตัดช่วงพัฒนาตัวเองออก แล้วเอาพวกดวง หรือห่าอะไรวิเศษๆ ยัดเข้าไปแทน

940 Nameless Fanboi Posted ID:Ljp+YcNYJ

พวกมึงคิดเห็นยังไง ประเด็นนี้ https://www.dek-d.com/board/view/3826492/

941 Nameless Fanboi Posted ID:q+EYwHK20

>>940 คิดว่าแมร่งอ่านโม่งแล้วไปตั้งกระทู้ ไอ้จขกท.ก็แค่อยากหาพวก เขียนกากแต่พยายามหาเหตุผลอย่างโน้นนี้ คนอื่นตอบดีนะมีแต่จขกท.ที่ลูสเซอร์ชิบผาย

942 Nameless Fanboi Posted ID:6FXeEYx/w

จะว่าไปสมัยนี้แม่งก็เขียนกันแบบแดกด่วนไม่ประณีตซะเยอะ

943 Nameless Fanboi Posted ID:TU4SBIG6/

>>940 ในแต่ละสมัยมันก็มีนิยายดีกับไม่ดีปะปนกันไปอยู่แล้ว คนที่พูดว่านิยายสมัยก่อนดีกว่าสมัยนี้จริงๆ อาจจะอ่านแค่ไม่กี่เรื่องไม่กี่แนว หรือพูดจากความทรงจำที่เหลือแต่สิ่งดีๆ ไว้

ไอ้เรื่องซูๆ นี่กูก็เห็นมาหลายสิบปีแล้วไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยน แฟนตาซีสมัยก่อนไม่พระเอกก็นางเอกเป็นด็กผู้ถูกเลือก เด็กอัจฉริยะ ฝึกแปบเดียวเก่ง กูไม่เห็นว่าจะต่างจากสมัยนี้ตรงไหน ลองนึกเรื่องดังมาสักห้าเรื่องดูมีกี่เรื่องหลุดจากนี้ นิยายรัก พระเอกก็หล่อ รวย เก่ง เป็นเจ้าของบริษัทใหญ่โตหรือมีตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบสูงตั้งแต่อายุยังน้อย กี่ปีๆ ก็เห็นแบบนี้ ที่เห็นต่างกันก็เรื่องการบรรยาย สมัยก่อนได้รับอิทธิพลจากนิยายแปลตะวันตกก็บรรยายกันแบบหนึ่ง สมัยนี้ก็ได้รับอิทธิพลจากนิยายแปลญี่ปุ่น จีน ก็มาอีกแบบหนึ่ง มันก็แค่นั้น

944 Nameless Fanboi Posted ID:VEgkodNTo

คือนิยายสมัยก่อนมันเข้าถึงยากด้วยเว้ย ไอ้นิยายลวกๆรีบๆชูๆมันไม่ได้เปิดมาก็เจอเลยเหมือนปัจุบันไง

945 Nameless Fanboi Posted ID:J7.9k822.

นักเขียนมือสมัครลวกมันมีเยอะขึ้นมากกก เด็กสมัยใหม่เข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายและกว้าง คอมกับมือถือถูกลงขอแค่มี 2 อย่างนี้ก็แต่งนิยายลงเว็บได้แล้ว ละยังไงต่อ ?

นิยายกากๆ เลยเต็มบ้านเต็มเมืองไง เกรียนเขียนให้เกรียนอ่าน เกรียนอ่านแล้วสนุกเชียร์เกรียนเขียนต่อ >> loop

946 Nameless Fanboi Posted ID:6McrEXKd3

ไม่เข้าใจเลยว่ะ ที่คนอ่านกูน้อยเนี่ยเพราะสำนวนเด็กสมัยนี้เข้าไม่ถึง หรือกูกากจริงๆ GG

947 Nameless Fanboi Posted ID:FskU+dSv4

กูเขียนใช้สำนวน หมาเห่าใบตองแห้ง มีคนเมนต์ว่าไม่เข้าใจด้วยว่ะ กูคงต้องปล่บเบลอ สงสัยว่าจะมีพม่าหรือกะเหรี่ยงอ่านนิยายกูแน่ๆ

948 Nameless Fanboi Posted ID:yXn3OGYJ3

55555 ถึงขนาดไม่รู้จักสำนวนไทยนี่ การศึกษาไทยแม่งเป็นอะไรไปหมดแล้ว อนาคตต่อไปกูคงต้อง * ใส้เชิงอรรถไปด้วยว่าสำนวนนั้นแปลว่าอะไร

949 Nameless Fanboi Posted ID:hox1Nuj0t

>>947 กูเคยเจอเหมือนกัน เด็กม.ต้น ตามเมนต์ให้กูประจำ ถามกูว่า คำว่า ผูกขาด คืออะไร มีความหมายยังไง กูตอบไปไม่เป็นเลย

950 Nameless Fanboi Posted ID:YhZLkuPET

>>946 ถ้ามีจำนวนตอนมาพอสมควรแล้วคนยังไม่อ่าน เป็นไปได้ว่างานมึงไม่ได้สนุกให้คนอ่านอยากติดตามพอ เว็บมันเปิดมานานแล้ว พวก 20 กว่า - 30+ อ่านกันเยอะแยะไป ไม่ได้มีแต่เด็ก คนอ่านส่วนใหญ่ไม่ได้ตามอ่านนิยายจากสำนวน แต่อ่านเพราะมันสนุก

951 Nameless Fanboi Posted ID:m+imIjbQ7

>>950 ไม่เสมอไปนะ มันขึ้นอยู่กับหมวดที่ลงด้วย กูเคยลงในหมวดนึงแทบไม่มีคนอ่านเลย แต่พอย้ายหมวดเสือกติดท๊อปแถมมีคนอ่านเยอะพอสมควรด้วย

952 Nameless Fanboi Posted ID:+GAUHmdAv

>>946 คงเพราะมึงกาก

953 Nameless Fanboi Posted ID:hEn+gJ2Yn

กูคิดไปเองรึเปล่า นิยายเด็กดวกหลายเรื่องทำมาเพื่อคนอ่อนวิชาภาษาไทย

954 Nameless Fanboi Posted ID:ezvbYg8bT

>>953 กูจะผันตัวไปเป็นคนแต่งไลท์โนเวลละเนี่ย ใช้คำยากๆ สำนวนคำพังเพย คำสละสลวยเสือกบอกว่ากูลิเก เดี๋ยวมึงเจอ อ๊ะ ไม่นะ สาวหูสัตว์ละมึงจะหนาว

955 Nameless Fanboi Posted ID:F4m46W53t

>>946 ขยายความคำพูดของตัวเองใน >>951 หน่อย คือถ้ามึงคิดว่านิยายของมึงดีและสนุก แต่ไม่มีคนอ่าน ก็ยังมองโลกในแง่ดีได้ว่ากลุ่มเป้าหมายของมึงอาจยังไม่เห็นนิยายของมึง

โดยปกตินิยายมันมีหลายแง่มุม มึงเอาไปลงได้ในหลายหมวดอยู่แล้ว สมมติมึงเขียนลงหมวดแฟนตาซีแล้วไม่มีคนอ่าน ก็ลองทบทวนดูว่างานมึงจะไปลงหมวดไหนได้อีกไหม อย่างผจญภัย หรือรักแฟนตาซี แล้วรอดูผลว่ามีการเปลี่ยนแปลงไหม ถ้ายังกริบเหมือนเดิม ก็ไม่ต้องคิดไปนะว่าตัวเองกาก ปลอบใจว่านักอ่านมันห่วยก็ได้ ฮรี่ๆ

956 Nameless Fanboi Posted ID:zqXYpIUDD

>>955 หรือกลุ่มเป้าหมายมันไม่คิดจะแวะเข้ามาอ่านในเว็บเด็กดีเพราะรู้ว่ามีแต่นิยายแบบไหน

957 Nameless Fanboi Posted ID:F4m46W53t

>>956 ก็เป็นไปได้ แต่ถ้านิยายมึงสนุกจริงๆ อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีคนตามอ่านบ้างล่ะ ถ้ากริบแบบยอดวิวแค่ 1 (มีแค่ตัวเองที่อ่าน) ก็ควรต้องทบทวนละ

958 Nameless Fanboi Posted ID:6McrEXKd3

>>955 >>957 คนอ่านกูไม่เยอะและไม่น้อยระดับเงียบเป็นป่าช้านะ แต่พอดูคนเขียนแนวเดียวกันแต่สำนวนแย่กว่าแล้วติดท๊อป มันก็จะสะเทือนใจหน่อยๆ

959 Nameless Fanboi Posted ID:hEn+gJ2Yn

เห็นข่าวกำจัดมังงะ น่าจะโยนนิยายไทยที่ขายไม่ออกเกิน 5 ปีไปรีไซเคิลบ้าง ร้านหนังสือซีเอ็ด นายอินทร์ อื่นๆ จะมีที่วางบ้าง
http://akibatan.com/2018/02/unsold-mangas-will-become-a-mere-tissue-papers/

960 Nameless Fanboi Posted ID:omtmyAESm

>>954 เขียนเสร็จเอามาให้กูอ่านมั่ง กูชอบสาวหูสัตว์ แฮ่กๆๆๆ

โดยส่วนตัวแล้วกูว่ากูอยากให้เด็กดวกเลิกใช้การจัดหมวดว่ะ แต่ให้หันไปใช้ระบบติด Tag แต่ไม่แบ่งหมวด แบบ Webnovel ไปเลยจะดีกว่า เพราะนิยายเดี๋ยวนี้ใน 1 เรื่องมันมีหลากรส จนไม่น่าจะถูกจำกัดอยู่แค่หมวดเดียวแล้ว

กูอยากจะลองเขียนบทความส่ง webmaster นะ แต่นั่นมันเป็นแค่ความเห็นส่วนตัวกู ยังหาเหตุผลที่หนักพอให้เด็กดวกมันเปลี่ยนไม่ได้ว่ะ

961 Nameless Fanboi Posted ID:omtmyAESm

เออว่าไปกูขอบ่นหน่อย

วันนี้มีโอกาสได้คุยกับนักเขียนรุ่นพี่ เกี่ยวกับเรื่องที่กูเค้นไอเดียมาเขียนไม่ได้
รุ่นพี่กูเลยแนะนำว่าให้ลองมองย้อนดูตัวเองแล้วเอา "สิ่งที่อยากทำ" มาเป็นแรงบันดาลใจเขียนดู
ซึ่งพอกูฟังไอ้ที่เขาอธิบายกูก็เข้าใจนะว่าจะทำให้สนุกไปกับการเขียนด้วย แต่พอหันมามองตัวเองแล้วกูถึงกับกุมขมับ
...เพราะกูในตอนนี้เป็นโรคเบื่อชีวิตแบบสุดๆ เลย ทำงาน กลับบ้านมา สิ่งที่อยากทำก็คืออาบน้ำแล้วนอนอยู่เฉยๆ ไม่มีความปรารถนา ไม่มีสิ่งที่อยากทำเลยนอกจากให้ชีวิตผ่านไปวันๆ
เออ... เจอแบบนี้แล้วกูจะเอาแรงบันดาลใจไหนมาเขียนวะเนี่ย

962 Nameless Fanboi Posted ID:hEn+gJ2Yn

>>960 ขนาดหมวดอดีต ปัจจุบัน อนาคต จ้างใครมาตั้งชื่อวะ

สาวหูสัตว์ Kemeko Friend เรอะ

963 Nameless Fanboi Posted ID:omtmyAESm

>>962 ก็ถูกของมันแล้ว หมวด อดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นหมวดที่สร้างขึ้นเพื่อนิยายแนวข้ามเวลาไปพบรัก ซึ่งเป็นของที่ไทยนิยมเขียนในสมัยก่อน ยกตัวอย่างเช่นงานของป้าทมยันตี

แต่มาปัจจุบันหมวดนี้มันกลายเป็นแนวเกิดใหม่ไปต่างโลกเพื่อเปิดฮาเร็ม ตามสไตล์ที่ผู้หญิงเขาชอบแทนซะงั้น

964 Nameless Fanboi Posted ID:hEn+gJ2Yn

>>963 แล้วถ้าพล็อตนิยายเหมือนโดราเอม่อนขี่ไทม์แมชชีนได้ จัดว่าหมวดอดีต ปัจจุบัน อนาคตรึเปล่า

965 Nameless Fanboi Posted ID:xzpXgw8IW

>>964 สำหรับกู กูว่าได้นะ

966 Nameless Fanboi Posted ID:0OMX4kV+k

ky หน่อย กูสงสัยจริง ๆ ว่าพวกนิยายต่างโลกฮาเร็มนี่ในเด็กดี (หรือเด็กดวก หลัง ๆ กูเริ่มไม่แน่ใจ) แต่ละเรื่องแม่งมีเอกลักษณ์ของตัวเองเปล่าวะ ? แม่ม เห็นตายโหง (น่าจะใช่เพราะประสบอุบัติเหตุ) ไปเจอพระเจ้า ได้พลัง op เก็บฮาเร็ม NC แล้วออกทะเลไปตามวันพีช(ฮา) แล้วจบแบบยอดเยี่ยมระดับปาหมอนในตำนาน (เผลอ ๆ แม่มไม่น่าจดจำเท่าปาหมอนอีก)

967 Nameless Fanboi Posted ID:omtmyAESm

>>964 หมายถึงแบบไปๆ กลับๆ สินะ?
ที่จริงถ้ามันแค่มีการข้ามเวลาก็นับอยู่ในหมวดนี้ได้แล้วล่ะ

968 Nameless Fanboi Posted ID:0OMX4kV+k

>>963 พูดถึงทมยันตี ยังหาเรื่อง "ล่า" ได้อยู่ไหมวะ ดูละครแล้วอยากไปหาต้นฉบับเลยว่ะ

969 Nameless Fanboi Posted ID:q8H56gFsI

>>966 สูตรสำเร็จน่ะ ถ้าเป็นนิยายแนวจีนก็ต้องเป็นเศษสวะของตระกูลก่อน แล้วจากนั้นก็แปลงร่าวกลายเป็นเทพ กลับมาตบพวกที่เคยเหยียดหยามเอาไว้ ส่วนใหญ่เรื่องมันก็ประมาณนี้แหละ ที่ต่างก็เป็นพวกอีเวนท์ต่างๆ ที่พระเอกเจอระหว่างทาง แล้วก็คาแรคเตอร์สาวๆ ในฮาเร็มที่อาจต่างกันนิดหน่อย (แต่พวกไทป์พื้นๆ อย่างคุณหนูเอาแต่ใจ หรือสาวเรียบร้อย รักเทิดทูนพระเอกคนเดียวนี่น่าจะมีทุกเรื่องนะ)

970 Nameless Fanboi Posted ID:jOORst1ZS

>>969 พอเก่งแล้วก็หลอมยาแดก จากนั้นก็ไปตามหาเปลวไฟที่แท้จริงกันเถอะ

971 Nameless Fanboi Posted ID:LnxVA+vrp

ในนิยายๆจีนๆทั้งหลายกูว่าsoul landนี่แม่งดูดีสุดสำหรับกูละ ถึงหลังๆจะเพ้อเจ้อไปหน่อยก็เถอะ

972 Nameless Fanboi Posted ID:Eu+ztkU28

>>966 กูไม่เข้าใจจุดหายของเรื่องวะ แบบBossของเรื่องคืออะไร ไม่ใช่สักแต่ว่าเก่ง ออกไปอวดชาวบ้าน เจอพลังใหม่ ฝึก ออกไปอวดชาวบ้าน น่าเบื่อ

แล้วพวกแฟนตาซีตอนนี้มีไรอัพเดตมั่งป่าว กูเห็นแต่ชาวดอง ชาววาย แล้วก็ชาวรับสมัครตัวละครเพื่อ?? คงเอาไว้ปลดปล่อยความเบียวตัวเองละมั้ง
แต่กูอยากอ่านเนื้อเรื่องโว้ย แนะนำไปดิ10-20ตัว กูจำชื่อไม่ได้สักตัว

973 Nameless Fanboi Posted ID:gMl4lojkt

>>972 มึงลองหาแถวๆ หน้าอัพเดตล่าสุดดู มันก็พอมีอันดีๆ อยู่บ้างแหละ

974 Nameless Fanboi Posted ID:Az+gXYe6G

นิยายจีนไม่มีบอส ไม่มีแก่นของเรื่องเท่าไรน่ะ
ประเด็นหลักของมันคือการพาตัวเอกไปเผชิญกับเหตุการณ์เหี้ยๆ แล้วเอาชนะ + พัฒนาตนเองไปเรื่อยๆ
ตรงนี้ล่ะที่ทำให้กูยังเห็นว่านิยายจีนยุคนี้มันสนุกไม่เท่านิยายชาติอื่น

975 Nameless Fanboi Posted ID:sLMbRvA6b

>>973 แล้วต้องดูแถวหน้า 5-20 ด้วยนะ เพราะหน้าแรกๆ อัพหลอกเพียบ

976 Nameless Fanboi Posted ID:0A51ypHyW

>>972 ไอ้เรื่องชาวดองกับชาววายนี่ส่วนตัวมองว่ามันเป็นเรื่องของนักเขียนว่ะ แต่ไอ้พวกรับสมัครตัวละครนี่ กูก็สงสัยว่าพวกแม่มคิดกันเองไม่เป็นรึไงวะ ถึงต้องให้คนิื่นคิดให้เนี่ย นิยายมึงนะเว้ยยย คือกูเห็นแล้วแบบ มองบน

977 Nameless Fanboi Posted ID:s4iL9Io4g

>>976 ได้กระแสตอบรับดีกว่ามั้ง เห็นหลายเรื่องลงตอนเดียวก็มีคนเม้นคนเฟบมาเป็นสิบละ

978 Nameless Fanboi Posted ID:dRF+CB8Ml

>>976 เน้นกระแสตอบรับไง ประมาณว่าคนอ่านที่มาเสนอตัวละคร ก็จะติดตามอ่านเพราะอยากเห็นตัวละครของตัวเองออกมามีบท

แต่ก็ไม่เห็นไปรอดสักเรื่องนะ แหม ก็คาแรคเตอร์แม่งโดดซะขนาดนั้น จะเอามามิกซ์ยังไงให้มันกลมกล่อมวะ

979 Nameless Fanboi Posted ID:0A51ypHyW

>>978 นั่นแหละ สาเหตุที่ทำให้กูมองบน คาแรกเตอร์ที่เด่นทุกตัวตามความคิดเด็กเบียว เด็กดวก(ซึ่งความจริงแม่มวานนาบีเอกกี้สัส ๆ เห็นแล้วโครต cringe) กูสาบานเลย ชาตินี้กูไม่ทำแนวรับสมัครตัวละครเด็ดขาด แต่เดี๋ยวนี้ดีหน่อย ไม่เกลื่อนเหมือนแต่ก่อน(แต่แม่มก็เยอะอยู่ดี)

980 Nameless Fanboi Posted ID:LnxVA+vrp

ky กูเห็นเรื่องgoblin slayerที่เม้นบนๆบอกว่าตัวเอกมันเอจจี้ (น่ารำคาญ อยากทำตัวแตกต่างจากชาวบ้าน) มันน่ารำคาญประมาณไหน ถ้าแต่งแบบเอจจี้บ้างนี่ทำให้ดีได้ปะ

981 Nameless Fanboi Posted ID:dRF+CB8Ml

ขอ ky เหมือนกัน และอาจผิดประเด็นกระทู้ด้วย แต่ไปดูคลิปย้อนหลังคลินิกนักเขียนของเด็กดี ที่เอาเจ้าหญิงผู้เลอโฉมมาออก แม่งทำให้กูเข้าใจคำว่าเนื้อในไม่ตรงปกเลยห่า ศัลย์ยังไงให้ไม่สวยวะ พับผ่าสิ

982 Nameless Fanboi Posted ID:sAvmDR3Ut

มึงว่านิยายเด็กดวกมีปัญหาขาดครูรึเปล่า รู้วิธีสร้างพล็อตยังไง สร้างตัวละครยังไง แต่ไม่มีคนชี้แนะหรือให้คำปรึกษาที่ดี นักเขียนทำได้แต่โยนหินถามทาง จะไปรอดหรือดอง คือมึงมีความรู้เยอะแค่ไหน แต่ไม่มีคนสอนเก่งช่วย มึงทำได้แค่ช่วยตัวเองรอดแหลไม่รอดแหล

983 Nameless Fanboi Posted ID:0A51ypHyW

>>982 ส่วนตัวกูเห็นด้วยว่ะ บางเรื่องกูว่ามันพอไปรอดอยู่นะ(ถึงจริง ๆ กูไม่ค่อยมีประสบการณ์การอ่านมากหรอก แต่พอมีเซ้นส์อยู่บ้าง) แล้วพอคนเขียนเจอพวกเด็กเบียวแนะนำไป นักเขียนบางคนก็ไหลตาม สุดท้ายแม่งจากนิยายที่พอจะไปรอดก็จะกลายเป็นนิยายส่วนใหญ่ในเด็กดีที่เป็นยังไงก็น่าจะรู้ ๆ กันอยู่

984 Nameless Fanboi Posted ID:GakIijcOZ

>>982 ผิดแล้วมึง ถึงมีบทความสอนดีๆหรือครูชั้นเยี่ยมมาแนะนำมันก็ไม่ฟังว่ะ เด็กสมัยนี้เอาอะไรที่ไหนนอกจากตัวเอง จะเขียนกับอ่านที่ตัวเองชอบเท่านั้น ไม่ศึกษาไม่ขวนขวายแค่ตามกันไปเกาะกระแสเข้าว่า สะเหล่อไปสอนจะโดนด่ากลับเปล่าๆ

985 Nameless Fanboi Posted ID:sLMbRvA6b

>>980 เอาจริงๆ ความเอจจี้ของมันก็มีที่มา เรื่องหมู่บ้านโดนทำลายกับพี่สาวโดนโทรม เลยกลายมาเป็นอย่างในปัจจุบัน กูว่าที่เรื่องนี้โดนโจมตีมาจากความที่มันเอจจี้ได้ไม่สุดมากกว่า ถ้าคนเคยอ่านเบอร์เซิคยุคพีคๆ มาก่อนจะเข้าใจดี ว่าก๊อบสเลมันดาร์คเปิดฉากแต่หลังจากนั้นก็กลายเป็นปาร์ตี้ผจญภัย รับเควสฆ่ามอน และฮาเร็มกลายๆ

ในเนื้อเรื่องเบอร์เซิคเทียบกับก๊อบสเล ความดำมืด หดหู่ น่าสะอิดสะเอียนยังห่างชั้นกันอยู่มาก ถ้านางเอกโดนเย พระเอกเคยโดนตุ๋ย เพื่อนลอบ NTR ตีท้ายครัว เพื่อนโดนถวายทั้งกองพันก็อาจพอคุยได้ว่าก๊อบสเลดาร์ดสู้ได้ แต่ดูยังไงก็สไตล์ปาร์ตี้ผู้กล้าฆ่ามอน สะสมฮาเร็ม โดยมีลุงแคระกับบาทหลวงแย้เป็นตัวประกอบ

>>981 นามปากกากับตัวจริงไปด้วยกันไม่ได้ สมัยก่อนตอนเข้าแจ่มใสใหม่ๆ กูว่าน่ารักดีแล้ว เพื่อนกูหลายคนก็น่ารักอยู่แล้วไม่รู้จะไปทำหน้าทำไม พอทำทีไม่พอใจก็เฉาะแก้อีก เจ็บตัวเปลืองตังค์ทำไมก็ไม่รู้ (พอห้ามก็ว่าเสือก งั้นก็แล้วแต่มึงเลยจ้า) อีกอย่างที่กูจะบอกคือทำไมโฆษณาเรื่องนายคะ อย่ามาอ่อย ทำไมเยอะจริงจังวะ จะตั้งต้นเป็นมาสปอบคนใหม่รึไง

986 Nameless Fanboi Posted ID:OjAZhECun

ยอดเยี่ยมมากน้องซอ (กูยืนขึ้นและปรบมือ)
https://www.dek-d.com/board/view/3826878/
เดาเองว่า น่าจะหมายถึงอีเรื่อง นายคะ อย่ามาปี้ เอ้ย! อ่อย

987 Nameless Fanboi Posted ID:sLMbRvA6b

>>986 นายคะ อย่ามาโปรโมต

MEGALUL

988 Nameless Fanboi Posted ID:OjAZhECun

>>987 กูมาด่ามันจ้ะ แค่ทางเว็บโปรโมตให้มันโครมๆกูก็รำคาญแย่แล้ว
>>985 >>981 กูเห็นด้วย แม่งน่ากลัวฉิบหาย โดยเฉพาะจมูกยังกะแม่มด ศัลยกรรมที่ประสบความสำเร็จคือ ศัลย์แล้วสวย และไม่ให้ดูออกเกินไปว่าศัลย์ แต่นี่คือชัดเจนมาก

989 Nameless Fanboi Posted ID:sLMbRvA6b

>>988 กู 987 ไม่ได้จะว่ามึง กูแค่แปลงชื่อนิยายมันให้เข้ากับกระแสโฆษณาเฉยๆ ขี้น้อยใจจังวะ

990 Nameless Fanboi Posted ID:sAvmDR3Ut

>>984 ถ้างั้น พวกนั้นคิดว่าตัวเองเขียนจบจริงๆรึเปล่า ดองแล้วเป็นความผิดของใครล่ะ

991 Nameless Fanboi Posted ID:sAvmDR3Ut

ช้าก่อน เตรียมขึ้นบท 16 แล้วเว้ย จะครบ 1000 เรปว่ะ

992 Nameless Fanboi Posted ID:sLMbRvA6b

>>990 ต่อให้กลับมาแต่งจนจบ ก็มีคนอ่านน้อย เดี๋ยวนี้ต้องเก่งเทพซ่าฮาเร็มต่างโลกหูสัตว์ OP gg no re

มู้จะเต็มแล้วเพื่อนโม่ง เสนอชื่อใหม่ได้เลยปะ กูเสนอให้มีคำว่า ดีแต่ขายไม่ออกก็หมดท่า กับ นายคะ อย่ามากาก

993 Nameless Fanboi Posted ID:QqhAZPiC7

อาจจะนอกเรื่องแต่ถามหน่อยว่าพวกมังกรทั้งจีนและตะวันตก นี่คือคนโบราณห็นกระดูกไดโนเสาร์แล้วมโนเอาใ่ชหรือเปล่า

994 Nameless Fanboi Posted ID:0A51ypHyW

>>991 ครบแน่
>>992 ชื่อโม่งผู้สับนิยาย กับนิยายเด็กดวกแหวกแนวที่หายไป (ฮา)

995 Nameless Fanboi Posted ID:sLMbRvA6b

>>993 ไม่แน่ใจเหมือนกัน อาจเกิดจากความเบียวของคนสมัยก่อน

996 Nameless Fanboi Posted ID:sAvmDR3Ut

>>993 ถ้าเจอไดโนเสาร์จริง ฝรั่งไม่ใช่ชาติแรกของโลกหรอกที่ไปเจอ

997 Nameless Fanboi Posted ID:0A51ypHyW

จะหมดมู้แว้วววว

998 Nameless Fanboi Posted ID:OjAZhECun

>>989 ซอรี่ กูเข้าใจผิด มามะกอดที

999 Nameless Fanboi Posted ID:QqhAZPiC7

>>996 อื้ม น่าจะตั่งแต่สมัยเริ่มคริสตกาลแล้วล่ะมั้ง พวกเลเวียธานหรือเบเฮมอท น่าจะเข้าข่าย

1000 Nameless Fanboi Posted ID:sAvmDR3Ut

โยนหินถามทาง https://fanboi.ch/webnovel/5346/

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.