Fanboi Channel

วิพากษ์วิจารณ์งานเขียนบนเว็บเด็กดี.คอม ทั้งจบแล้วและยังไม่จบ ตีพิมพ์แล้วและยังไม่มีใครเหลียวแล รวมไปถึงพูดคุยเกี่ยวกับวงการนิยายเว็บ (เด็กดี) เพื่อความหวังของวรรณกรรมไทยในอนาคต ทั้งนี้ ไม่สนับสนุนให้นำเรื่องส่วนตัวของนักเขียนแต่ละคนออกมาตีแผ่ ควรเน้นเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานเขียนเท่านั้น

<<คลังกระทู้เก่า>>

นิยายเด็กดี บทที่ 1 -- https://fanboi.ch/webnovel/2403/
นิยายเด็กดี บทที่ 2 -- https://fanboi.ch/webnovel/2703/
นิยายเด็กดี บทที่ 3 -- https://fanboi.ch/webnovel/2907/
นิยายเด็กดี บทที่ 4 -- https://fanboi.ch/webnovel/3066/
นิยายเด็กดี บทที่ 5 -- https://fanboi.ch/webnovel/3187/
นิยายเด็กดี บทที่ 6 -- https://fanboi.ch/webnovel/3229/
นิยายเด็กดี บทที่ 7 -- https://fanboi.ch/webnovel/3388/
นิยายเด็กดี บทที่ 8 -- https://fanboi.ch/webnovel/3594/
นิยายเด็กดี บทที่ 9 -- https://fanboi.ch/webnovel/3852/
นิยายเด็กดี บทที่ 10 (แต่คนตั้งมู้นั้นแม่งเสือกเขียนว่า 9) -- https://fanboi.ch/webnovel/4106/
นิยายเด็กดี บทที่ 11 -- https://fanboi.ch/webnovel/4265/
นิยายเด็กดี บทที่ 12 -- https://fanboi.ch/webnovel/4393/

ไม่มีใครเปิด กูเปิดละกัน ปูเสื่อรอ

เจิมๆ
ไปงานหนังสือพรุ่งนี้เจอแต่หนังสือไทยดีๆ

เจิมด้วย ดีมากที่ไม่ลืมกุดุส ๆ

ขอถามหน่อย กูเขียนนิยายแฟนตาซีที่ไม่มีเวทมนตร์ว่ะ แล้วเจอคนอ่านท้วงว่าน่าจะไปอยู่หมวดวิทย์ คือกูเซ็ตติ้งให้โลกนี้มีสัตว์ประหลาดหนังหนาแรงเยอะฟันคม ไม่มีเวทมนตร์พ่นลูกไฟแต่พ่นพิษที่เก็บไว้ในตัวได้ และคนในโลกนี้ส่วนหนึ่งจะมีพลังจิตไว้ซัดกับพวกสัตว์ประหลาด ก็ไม่ค่อยได้ใส่ทฤษฎีอะไรมากนักแต่พอแทรกๆให้รู้หลักการ และพลังจิตบางส่วนก็คิดขึ้นมาเองที่ค่อนข้างจะไร้หลักการ เช่นแปรสถานะสสารจากของแข็งเป็นเหลวโดยไม่ต้องใช้ความร้อน โดยคิดทฤษฎีรองรับว่าเพราะเปลี่นรูปแบบอะตอมโมเลกุลไรก็ว่าไป คือกูคิดว่าเนื้อหามันก็เหนือจินตนาการพอถึงขั้นแฟนตาซีได้แล้วนะ ไม่ได้ยัดข้อมูลวิชาการอย่างกับก็อบมาจากวิกิด้วย มันจะไปแนววิทย์ได้ไงวะนั่น โม่งไหนอ่านงานวิทย์งานแฟนตาซีจนแตกฉานช่วยชี้แจงกูที

>>4 เข้าข่าย Sci fi fantasy แหละ ลงไปเถอะอย่าคิดมาก

ฉัว ฉัว ฉัว

กุดุส คือไรวะ

>>4 แฟนตาซีมันกว้างจะตายมึงไม่ต้องคิดมาก ยังดีนะที่มึงมีคนอ่านเขามาคิดแทนให้ ไม่เหมือนกุ

>>4 ลองดู Shin Sekai Yori นั่นละ Hard Sci-Fi เต็มตัวเลย แต่ก็เป็น High Fantasy ได้ด้วย

ถ้ากล่าวให้เข้าใจง่าย การนำทฤษทางวิทยาศาสตร์ไปอธิบายพลังหรือปรากฎการเหนือธรรมชาติในนิยายสามารถถูกนับเป็น Sci-Fi ได้หมด อย่าง Release That Witch ก็เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องการจัดหมวด

ขอ Spoil นิดนะ
.
.
.
.
.
.
ที่แม่มดใช้พลังแปลกประหลาดต่างๆ ได้ พระเอกก็อธิบายว่ามันเป็นพลังในการควบคุมอะตอม นางเอกเลยมองพลังไฟของตนเองว่าเป็นอะตอมแบบหนึ่งที่ประกอบกันขึ้นมา เท่านั้นละ พลังของนางเอกก็พัฒนนากลายเป็นไฟระดับอะตอมเลย ของแม่มดคนอื่นก็เหมือนกัน
.
.
.
.
.
.
พูดอีกอย่าง ถ้าพลังพวกนี้ใช้วิทยาศาสตร์ธรรมชาติมาอธิบายในเรื่อง มันก็ติด Tag Sci-Fi ได้ และก็เป็น Fantasy ได้เช่นกัน

>>7 มีนิยายในมู้ที่แล้ว บรรยายตอนสู้หมาป่าว่า ฉัวๆ กุดุสๆ ไง

อ๋อ เก็ตละ ขอบใจมากสหายโม่ง กูจะได้ปั่นต่อแบบสบายใจอีก

ทำไมอยู่ๆกูอยากให้มีเพจเฟสบุ้คโม่งวะ น่าจะสับกันมันส์ชิบ

>>12 มีเฟสใครจะไปกล้าสับวะ แม่งเห็นหน้า เข้าไปส่องหมดว่าเป็นใครอะไรยังไง

กุก็ไปงานหนังสือพรุ่งนี้ ...จะหมดเท่าไรวะเนี่ย

>>14 เหลือค่ารถกลับบ้านเป็นพอ

อย่างหนังเรื่อง Interstellar ก็นับเป็นแฟนตาซีใช่ไหมวะ มีเข้าไปในหลุมดำ มีย้อรเวลามีข้ามเวลา มีคุยกับพระเจ้าต่างมิติ

แปะจองสับ

https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523 (สาวใช้พันธุ์ดุ Maid-at-Arms ... ชื่อเรื่องเพราะดี)

https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849 (จอมราชันย์หลงยุค... ข้าขอคำชี้แนะ เตรียมรับมือ)

https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272 (Evolve ฟองเบียร์)

>>16 ด็อกเตอร์แฟรงเกนสไตน์เป็นแนวไซไฟหรือแนวผีล่ะ? เรื่องคนเหล็กของอาร์โนลด์งี้ เรื่องทรานฟอร์มเมอร์ แปซิฟิคริม ไอรอนแมนเข้าข่ายไหม?

หมวดอดีต ปัจจุบัน อนาคต เห็นมีแต่พีเรียดย้อนยุค
พวกโลกอนาคตหรือเดินทางข้ามไปอนาคตจะเห็นกระจุกอยู่ในแฟนตาซีกับวิทยาศาสตร์ แต่พวกนี้ก็ลงในหมวดนั้นได้เหมือนกันใช่ไหม?

มีคนอ่านแนะนำให้ย้ายนิยายไปหมวดนี้เลยสงสัย

>>19 หมวดอดีต ปัจจุบัน อนาคต กูว่าค่อนข้างล้มเหลววะ ความหมายคลุมเครือเกินไป

แฟนตาซีมันน่าจะครอบคลุม หมวดอดี ปัจจุบัน อนาคตได้นะ

เรา >>19 นะ แปลว่าหมวดอดีต ปัจจุบัน อนาคตไม่ค่อยเวิร์กสำหรับแนวนี้ใช่เปล่า

ที่จริงก็คิดว่าจะไปหมวดแฟนตาซีแหละ เผื่อจะได้อานิสงส์มีคนอ่านเพิ่มขึ้น แต่ประเด็นคือนิยายเราตั้งแต่กลางเรื่องไปมันไม่แฟนตาซีเลยนี่สิ กลัวว่าย้ายไปแล้วจะไม่ตรงสายจนคนอ่านน้อยลงกว่าเดิม ตอนนี้เลยอยู่หมวดวิทย์ไปก่อน

ช่วงนี้ก็คงคิดดูเรื่อยๆ จนกว่าจะเปลี่ยนหมวดได้อีกทีในวันที่ 29 แหละ

มันก็ไม่ล้มเหลวสิ้นเชิง ดูยอดคนอ่านก็รู้แล้วว่าหมวดนี้คนเยอะ หมวดนี้ธีมทะลุมิติกับแนวจีนมากระจุกรวมๆ กันเพราะมันไม่มีหมวดจีนทั้งที่คนก็เขียนกันเยอะและนานพอสมควรแล้ว แนวไทยย้อนยุคก็มีปะปนบ้าง แต่เห็นว่าเดิมก็ไม่ได้ตั้งมาให้เป็นแนวนี้ แต่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อหมวดไปเลยคนเขียนไม่น่าจะว่าอะไรด้วยซ้ำ แล้วให้คนอื่นที่อยู่ย้ายหมวดฟรีๆ ไมต้องรอไม่ต้องเสียสิทธิ์ คนอ่านส่วนใหญ่มาหมวดนี้ก็หานิยายแนวนี้อ่านกันทั้งนั้นแหละ ในความเห็นกูมันก็ไม่ได้ล้มเหลว แค่เป็นตามประสงค์คนอ่านกับคนเขียนในหมวดไม่ได้เป็นตามความต้องการเว็บ

ส่วนจะไปลงวิทย์หรือแฟนตาซี มีแฟนตาซีนิดเดียวก็ลงแฟนตาซีได้แล้ว แต่มีแฟนตาซีนิดเดียวไปลงวิทย์มึงอาจจะโดนด่าได้เลยว่าวิทย์ตรงไหน ถ้าอยากให้คนอ่านก็ไปลงหมวดแฟนตาซีคนอ่านหมวดนี้ยังไงก็เยอะกว่า ถ้าไม่อยากแมสก็ไปลงวิทย์คนอ่านไม่เยอะก็ไม่ต้องคิดมาก มันธรรมดาของโลก เหมือนมึงไปขายของชนบทห่างไกลกับขายของอยู่ใจกลางนครหลวง คนมันต่างกันเห็นๆ อยู่แล้ว ถ้าใจรักจะเขียนวิทย์ล้วนๆ ก็ลงวิทย์ไป แต่อย่าไปคาดหวังคนอ่านมากไม่ว่ามึงจะเขียนดีหรือไม่คนก็ใช่ว่าต้องตามมาอ่านงานมึงถึงที่

ส่วนจะไปลงหมวดไหนมึงอย่าไปกลัวว่ามันจะเวิร์กไม่เวิร์ก งานมึงล้วนๆ งานมึงคนชอบมึงก็ไต่ลำดับขึ้นเรื่อยๆ งานมึงคนไม่ชอบต่อให้มึงเขียนดีแต่มึงอย่าคิดว่าคนอยากอ่านงานดีๆ เยอะขนาดนั้น หมวดแฟนตาซี หมวดอดีตคนอ่านส่วนใหญ่อยากอ่านงานสนุก พื้นที่งานดีหรืองานที่เป็นตัวของตัวเองมันก็อยู่ในนั้นแหละ มึงเขียนไปมันมีคนอ่าน แต่คนอ่านไม่ใช่คนส่วนใหญ่

ส่วนงานไม่ใช่ต่างโลก เกิดใหม่ ซู ฮาเร็ม อะไรก็แล้วแต่ กูบอกเลยนะว่าถ้างานมันสนุกจริงๆ งานมึงทะลุขึ้นมาได้แน่ๆ ก่อนหน้านี้ออนไลน์ก็ทะลุ โรงเรียนเวท ตอนนั้นมันฮิตแล้วหรือเปล่า ต่างโลกทะลุกลางดงออนไลน์ ตอนแรกมันฮิตแล้วหรือยัง มึงจะว่าเพราะกระแสต่างประเทศก็ได้ แต่ต่างประเทศไม่ว่าที่ไหนเองมันมีจุดเริ่มต้นทั้งนั้น งานที่ไม่ใช่ต่างโลกมันทะลุขึ้นมากูก็เห็นแต่ไม่อยากเอ่ยชื่อเดี๋ยวจะหาว่ากูอวย แต่มันแค่ทะลุมาไม่กี่เรื่อง ในข้อแม้ที่ว่างานมึงอ่านแล้วสนุกจริงๆ มึงทำได้เดี๋ยวก็มีคนอ่านเอง ส่วนงานอื่นที่ใครว่าดี คนอ่านถ้าไม่ได้รู้สึกสนุกเขาก็อ่านกันน้อย มึงดูผลลัพธ์แล้วคิดดูเอาแล้วกันว่าสาเหตุเพราะอะไร

>>23 โอ้โฮ ขอบใจมากนะโม่ง ขอตัวกลับไปอ่านแก้และรีไรท์นิยายตัวเองก่อนละ

โทษที เพิ่งว่างมาตอบ

หมวดอดีต ปัจจุบัน อนาคต...
มันก็หมวดนิยายเกิดใหม่ต่างโลกเบียวๆ ที่ผู้หญิงอ่านนั่นล่ะ!
โทษว่ะ แมวพิมพ์

ต่อนิด... แปลกมั้ยถ้ากุรู้สึกอยากจะให้เด็กดอยมันกลายเป็นแบบ Novel update ไปเลย
คือไม่ต้องแบ่งหมวดแม่งละ อยากหาอ่านแนวไหนไปหาตาม Tags เองเลย ใช้ระบบ Tags ให้เป็นประโยชน์อะไรทำนองนี้
หรือว่ากุแค่ชินกับไอ้ระบบเว็ปแบบนั้นวะ? ใครมีความเห็นยังไงมาค้านโขกหัวกุที

>>26 ถ้าจะจัด Tag ดีๆ ก่อนอื่น ทีมงานควรกลับไปศึกษาความหมายของหมวดแต่ละอย่างใหม่เลย หมวดอดีต ปัจจุบัน อนาคตเฟลเรื่องแง่ความหมายในตัว ตอนแรกกูนึกว่าจะเป็นแนว Dr.Who, Doraemon, Back to the Future, Steins;Gate, Fate/Grand Order, Chrono Trigger

>>27 แต่ Tags ใน Novel update นี่แม่งตรงมากเลยนะ ยกตัวอย่างจะหาเรื่องที่ตัวเอกฉลาดๆ
หน่อยก็จะมีแท็ก Cunning Protagonist เลย พอกดเข้าไปนิยายที่ตรงตามต้องการก็โผล่มา
ทำให้กุรู้สึกว่าหาง่ายแบบสุดๆ อะ

กุเห็นด้วยว่าเด็กดอยควรปรับปรุงระบบ Tags เพิ่ม... ทุกวันนี้ระบบ Tags ไม่มีความสำคัญเท่าไร เมื่อเทียบกับการแยกหมวดหมู่เนี่ยล่ะ

>>26 ไอเดียดี กูชอบนะ แต่กูว่ามีปัญหาแท็กมั่วเรียกวิวแน่ ๆ

>>26 เด็กดอยก็มีแท็กนะ แต่ไม่ใช่กันไง ใส่มั่วซั่ว

>>30 กูเป็น 1 คนที่ใส่ tag มั่วๆ เพราะไม่รู้มันคืออะไร...

เรื่อง tag มันเป็นเรื่องใกล้เคียงกับวัฒนธรรม มันต้องให้คนเรียนรู้ก่อนถึงจะใช้ได้โดยมีประสิทธิภาพ แต่คนไม่เรียนรู้กันจะให้ทำยังไง ถ้าหักดิบบังคับใช้ ทำแบบนั้นแล้วเกิดคนไม่ชอบหนีไปใช้เว็บอื่นหมดก็คงแย่ มันเป็นเรื่องมีส่วนได้เสียมีความเสี่ยงจะให้เปลี่ยนทันทีคงยาก คนก็ไม่ค่อยอยากจะเรียนรู้กันมากเท่าไหร่ กูไม่ค้านว่าถ้าเรียนรู้แล้วมันมีประโยชน์ แต่เรื่องการเปลี่ยนแปลงมันมีเงินเข้ามาเกี่ยวแล้วเปลี่ยนตอนนี้ถามว่ามีประโยชน์อะไรที่เป็นตัวเงินให้เขาไหม มีแต่เสมอตัวกับเจ๊งไม่มีเพิ่มก็ต้องให้เขามั่นใจก่อนว่าคนเป็นหมื่นเป็นแสนที่เปิดนิยายอ่านกันทุกวันนี่เริ่มเข้าใจระบบแล้วตอนนั้นความเปลี่ยนแปลงค่อยเกิดเอง หรือจะไปลองเสนอเว็บเขาดูก็ได้ ทำ tag ข้างหน้าเว็บหรือใน app เลือกเอาอันฮิตๆ มาเปิดทางก่อน คนเริ่มชินเริ่มใช้กันเยอะก็เพิ่ม tag หลักอะไรก็ว่าไปให้มันเกิดการเรียนรู้

ส่วนเรื่องหมวดนี่กูอยู่ข้างเว็บว่ะ คนเขียนกับคนอ่านใชกันผิดวัตถุประสงค์แต่แรกตอนนี้กลายเป็นความเข้าใจโดยไม่ต้องเป็นลายลักษณ์อักษรไปแล้ว อยาทำให้ถูกก็แก้ชื่อหมวดไปไม่ต้องใช้ชื่อ อดีต ปัจจุบัน อนาคต ก็เปลี่ยนไปเลย แนวจีนกับอะไรสักอย่างดั้งเดิมแล้วให้คนที่อยู่หมวดนั้นเลือกย้ายไปอยู่กันตามสบาย กูยังงงอีกรอบ แฟนฟิคยังมีทำไมนิยายแนวจีนมันไม่มีหมวดวะ เออเขียนไปเขียนมาก็นึกขึ้นได้ เอาธีมนิยายมาทำเป็น tag ก่อนก็ดี เช่น นิยายจีน นิยายญี่ปุ่น นิยายต่างโลก พวกที่คนอ่านเยอะแล้วแยกง่ายก็เปิด tag หลักมาก่อน

>>23 ในฐานะที่เกิดทัน ต้องแย้งนิดนึงว่าที่ออนไลน์มันทะลุมาได้ เพราะราชาแห่งราชันมันบูม ถ้าไม่มีราชาแห่งราชัน (หรือ exe) นิยายออนไลน์ก็ไม่น่าจะบูมขึ้นมาจนแซงแนวโรงเรียน หรือมันอาจไม่มีนิยายออนไลน์ไทยอย่างพวกยุทธภพออนไลน์ พรายออนไลน์ มอนสะเต้อโซออนไลน์ เลยด้วยซ้ำ

>>33 ถึงได้บอกไงว่าเพราะกระแสต่างประเทศก็ได้ แต่ต่างประเทศไม่ว่าที่ไหนเองมันมีจุดเริ่มต้นทั้งนั้น ตรงพารากราฟสุดท้าย ราชาแห่งราชันเองก็คงมีจุดเริ่มต้นเหมือนกัน กูอยากจะเน้นว่าถ้าอยากให้คนอ่านในเว็บน่ะต้องเขียนให้คนอ่านสนุกก่อน มึงจะเขียนแนวไหนมาคนก็อ่านทั้งนั้น

กูไม่รู้ว่ากูเกิดทันไหม แต่ก่อนราชาแห่งราชันออกเล่มแรกกูน่าจะเรียนประมาณมหาวิทยาลัยปีสามหรือปีสี่แล้ว

กูงงว่ากระแสนิยายจีนนี่มาจากไหนวะ พวกนิยายแปลที่เคยเป็นดราม่าปะ?

>>35 ดราม่าเรื่องอะไร

นิยายจีนแนวขายความซูพระเอก กุไม่ค่อยจบสวยเท่าไรว่ะ ส่วนใหญ่มักจะออกทะเลจบไม่ลง ยืดไปเรื่อยๆ

>>36 ในเด็กดีมีคนเอานิยายจีนแปลมาลง แล้วมันติดท็อปกันโครม ๆ คนก็โวยอะ ว่ามันไม่ได้สร้างสรรค์เอง แล้วมันถือละเมิดลิขสิทธ์รึเปล่า บลา บลา บลา ตอนนี้ก็ไม่มีละมั้ง ไปลงที่อื่นหมด

พอคลำๆได้หน่อย ดราม่านิยายแปลปีที่แล้ว https://www.dek-d.com/board/view/3709059/

>>39 เจอแล้ววะ ขอเสริม
https://www.dek-d.com/board/view/3707462/
https://www.dek-d.com/board/view/3708108/

ปีที่แล้วมันมีดราม่า เพราะนิยายแปลเกลื่อนคลองหมวดแฟนตาซี เอาง่ายๆ คือเปิดไปไหนหน้าก็เจอแต่นิยายแปลๆๆ จนจะกลายเป็นเว้ปนิยายแปลแทนไปกันเลย แล้วไอ้นิยายแปลเนี่ย ไปขโมยเขามาทั้งนั้น แต่กลับมาลงร่วมกับนิยายที่คนเขาอุตส่าห์เขียน จนทำให้คนเขียนในไทยหมดกำลังใจหยุดเขียนกันไปเลยก็มี

ส่วนกระแสนิยายจีน... อันนี้กุไม่แน่ใจ แต่เพิ่งจะสังเกตเมื่อปีนี้แหละ เมื่อปีก่อนนิยายจีนไม่บูมขนาดนี้ ขนาดเว้ป Novel update เมื่อปีที่แล้วติด Top ยังเป็นนิยายจากญี่ปุ่น มีจีนประปราย แต่พอเริ่มต้นปีนี้เท่านั้น นิยายจีนก็โผล่มาเพียบจนตอนนี้ Top 20 ในเว้ปเป็นนิยายจีนหมดแล้วซะงั้น

อ้อ! เพิ่งนึกได้ แล้วที่ดราม่ากันที่สุดก็คือ นิยายแปลพวกนี้มันรับ Donate เว้ย! ซึ่งแม่งนอกจากขโมยมาแล้วยังจะขอตังเขาซะงั้น มันเลยกลายเป็นดราม่าขนาดใหญ่ที่ลุกลามไปถึงเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์กันเลยทีเดียว

ปัจจุบัน... นิยายแปลก็ยังมีอยู่ในเว้ป ในกลุ่มลับ และยังคงขอรับ Donate เหมือนเดิม และก็ยังมีผู้บริโภคอุดหนุนเยอะเหมือนเดิม

พวกมึงคิดยังกับการ donate ในเด็กดี

>>43 พวกมึงคิดหรือยัง... พวกมึงคิดอย่างกับ...

oh dear I'm a shiny idea chaser, one-hit-wonder, literary axe-murderer and multi-tasker writer so that's why I have never finished writing my novels lololo

เด็กนอกว่ะมึง

>>44 ยังไงกับ ปะ?

>>44 โทดที คิดยังไง*

กูจะถามว่าพวกมึงคิดยังไงกับการ donate ในเด็กดี เอาที่เป็นการใช้ coin เหมือนซื้อนิยายอะ

>>45 มันจะบอกว่ามันเคยเป็นฆาตกร? ที่ใช้ขวาน?

>>48 มาจากกระทู้นักเขียนสิบแบบอะ

>>48 เขาแค่เปรียบเปรยรึเปล่า

>>43 นิยายแต่งเองจะเปิด Donate หรือไม่ก็แล้วแต่ ส่วนนิยายแปล ถ้าเจ้าของอนุญาตให้เปิดก็แล้วไป แต่ถ้าเจ้าของไม่ให้หรือไม่รู้แล้วยังหน้าด้านเปิด Donate กูว่าแม่งเหี้ยมากอะ คหสต.

>>43 ถ้าแต่งเองแล้วเปิด Donate กุไม่ว่า ยังไงก็ความสามารถมึง
แต่ไอ้ขโมยงานเขามาแปลแล้วขอ Donate เนี่ยเขาเรียกโจร สมควรโดนตัดหรรม

>>52 แล้วถ้าไม่มีหรรม?

>>53 ใช้เครื่องถ่างถ่างหีออกมา แล้วใช้กระดาษทรายขัดช่องคลอดจนเยิน ทั้งชีวิตไม่อาจมีความสุขกับการสอดใส่ได้อีก

>>54 อะไรของเมิงเนี่ย 555

>>52 >>53 >>54 >>55 มึงควรดูการประหารโจร Donate เป็นตัวอย่างให้ดี
https://www.youtube.com/watch?v=h9D5pO9W3qs

>>54 จับมากระทุ้งด้วยมะระอวบๆ ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมงรวด

คนสับไม่สับนิยาย เพราะไปงานหนังสือหาเรื่องมาสับใหม่รึเปล่า

>>58 สับแล้วไม่ได้ตัง ท้อ มีนิตยสารหรือสื่อออนไลน์ไหนรับคอนเทนท์วิจารณ์นิยายแบบไม่จำเป็นต้องอวยบ้างปะวะ

>>58 กูติดน้องเบลอยู่ นี่เพิ่งกลับมาจากงานหนังสือ เดี๋ยวอ่านเสร็จ 17 บท จะสับต่อ แต่เข้าหน้าสรุปละ
หลังจากนั้นก็จะหาเรื่องอื่นที่น่าสนใจต่อนะ
เค้าม่ายลืมหรอก

เว็บเด็กดวกเข้าไม่ได้เที่ยงคืน

>>61 นึกว่าเป็นคนเดียว

เด็กดอยแม่งมาล่มเอาตอนนี้ สัด กูกำลังพิมนิยายลงเว็บ ดีนะก็อปออกมาทัน

ลิสต์นิยายที่ยังไม่สับอยู่ไหนวะ

เด็กดอยมะกี้ติดอยู่ตอนนี้ล่มอีกละ

>>64 มึงไปดูตอน 12 ก็ได้ ใครจะไปรู้ว่าเรื่องไหนได้สับไม่ได้สับ

นี่กระทู้เราเองนะเพื่อนๆ ฝากติดตามด้วยนะ จุ๊บ

https://www.dek-d.com/board/view/3802213/

ในเด็กดอยนี่มันดูวันแรกที่ลงนิยายยังไงวะ อัพเดทหลายรอบวันที่เปลี่ยนหมด

>>68 มึงใช้แอพเด็กดีสิวะ มันบอกไว้

>>69 เจอละ ขอบใจมาก

ไม่กล้าเข้าโม่งในงาน กลัวโม่งแตกจรุง

>>71 อย่าไปกลัว กูเคยเข้างานแล้วไม่มีใครจับได้ว่ากูเล่นโม่ง

ลืมแล้วว่าเรื่องไหนโดนสับ
[อัพเดทล่าสุด 16/8/2560]

Guardian of Life >>>/webnovel/2403/568-569/
Ability High School >>>/webnovel/2403/589-590/
เกิดใหม่ที่ต่างโลกกับหนังสือแห่งพระเจ้า >>>/webnovel/2403/641/
เชื่อสิ ข้าน่ะธรรมดาที่สุดในเรื่องแล้ว >>>/webnovel/2703/88/
มหากาพย์มิกซ์แฟคฟิคโรเซียเน (บทเปิดโปงจนถึงบทเทียบตัวเกม) >>>/webnovel/2703/521-545/
มหากาพย์มิกซ์แฟคฟิคโรเซียเน (บทวิแคะเนื้อเรื่องเปรียบเทียบ) >>>/webnovel/2703/546-560/
ลำนำวาริธร >>>/webnovel/2703/863/
สายลับข้ามภพ >>>/webnovel/2703/867/
อลหม่านป่วนพิภพอลเวง >>>/webnovel/2703/872-873/
ทำเนียบการสับนิยายตั้งแต่เริ่มกระทู้แรก
เพื่อการศึกษาและพัฒนาทักษะการเขียนนิยาย

[อัพเดทล่าสุด 16/8/2560]

Guardian of Life >>>/webnovel/2403/568-569/
Ability High School >>>/webnovel/2403/589-590/
เกิดใหม่ที่ต่างโลกกับหนังสือแห่งพระเจ้า >>>/webnovel/2403/641/
เชื่อสิ ข้าน่ะธรรมดาที่สุดในเรื่องแล้ว >>>/webnovel/2703/88/
มหากาพย์มิกซ์แฟคฟิคโรเซียเน (บทเปิดโปงจนถึงบทเทียบตัวเกม) >>>/webnovel/2703/521-545/
มหากาพย์มิกซ์แฟคฟิคโรเซียเน (บทวิแคะเนื้อเรื่องเปรียบเทียบ) >>>/webnovel/2703/546-560/
ลำนำวาริธร >>>/webnovel/2703/863/
สายลับข้ามภพ >>>/webnovel/2703/867/
อลหม่านป่วนพิภพอลเวง >>>/webnovel/2703/872-873/
Desiderium Foro - ตลาดปรารถนา >>>/webnovel/2907/51-52/
เมืองแนวตั้งโครงสร้างประหลาด ผู้คนไม่มีวันตาย กับเด็กชาย >>>/webnovel/2907/56-57/
Zero Man : บุรุษท้องนภา >>>/webnovel/2907/65-66/
the Earthquest : หากข้ามิใช่มนุษย์ >>>/webnovel/2907/69-76/
Nova to Terra >>>/webnovel/2907/109/ (A.K.A. นิยายพี่ถุย)
ตงฟาง บูรพาสิบทิศ >>>/webnovel/2907/201/
The Parallel Dimensions >>>/webnovel/3066/18-19/
ซูฉี สาวงามสีขาว >>>/webnovel/3066/174/
ยุทธการครองรัก >>>/webnovel/3066/175/
ฝนโลหิตคาววายุ ร่วมรื่นรมย์ชั่วคราว >>>/webnovel/3066/178/
Beyond Infinite | ปฏิวัติรัฐอำพราง >>>/webnovel/3066/237-238/
Empire Link ภาค สงครามเกมนอกจอ >>>/webnovel/3066/319-320/
World without rules Online >>>/webnovel/3066/384/
SUPER TEACHER ครูสาวยอดนักสู้ >>>/webnovel/3066/496-499/
New World Online >>>/webnovel/3066/693-713/
Falconia de Lorenis ลำนำผู้กล้าหญิงผมทอง >>>/webnovel/3066/772/
เพราะเธอคืออีกครึ่งของหัวใจ Give me your heart >>>/webnovel/3066/773-774/
Ame ni Nureta Ran no Hana: หยาดฝนบนดอกกล้วยไม้ >>>/webnovel/3066/827/
Cosmos ULTIMATE Academy >>>/webnovel/3066/911-918/
Selection Online >>>/webnovel/3066/984/
ตานี - (หมอ)ผีสาวผู้มีอาวุธเป็นกล้วย A.K.A. นิยายเครื่อง >>>/webnovel/3187/35-57/
นิยายเจ๊มุ >>>/webnovel/2403/543-545/
นิยายเจ้าชายหิมะของ WhiteflowerRi (คนละคนกับดอกขาว) >>>/webnovel/2403/510-513/
My Memory ความทรงจำของฉันอยู่ที่เธอ >>>/webnovel/3187/479/
Rosyria, legend of half blood ตำนานเลือดผสม >>>/webnovel/3187/787-797/
ยอดคนเหนือฟ้า >>>/webnovel/3187/977-980/
"เจาะเวลามาเป็นมือปราบ" >>>/webnovel/3187/996/
Snowwhite Is My Sin >>>/webnovel/3229/973/
The Curse เมื่อคำสาปสูญสลาย >>>/webnovel/3229/980/
วิกฤตเกมออนไลน์ >>>/webnovel/3229/163-166/
สาปรักห้วงวารี >>>/webnovel/3388/110/
Guildmystic มนตราพันธนาการ >>>/webnovel/3388/888-892/
Fusei no Seikai >>>/webnovel/3388/851-854/
Artoforbis : The artificial land แดนลับดับโลก >>>/webnovel/3388/923-924/
AMARA | อมรา >>>/webnovel/3388/935-936
สาวน้อยเวทมนตร์ ผู้ไร้บ้าน >>>/webnovel/3388/947-948
The recorder ผู้พิทักษ์บันทึกแห่งชีวิต >>>/webnovel/3388/816-817/

Corsair's King ปริศนาโจรสลัดสะท้านโลก >>>/webnovel/3388/759/
Legends of the Dark fantasy (เปิด ตำนาน รัตติกาลแห่งใหม่) >>>/webnovel/3388/847/
Loligend ตำนานสาวน้อยจอมเผด็จการ >>>/webnovel/3388/86/
Trappist-1 Traps : สุริยะสาวดุ้น >>>/webnovel/3388/539/
Bearry หมีผจญภัย ??? >>>/webnovel/3388/798/
ระเบิดเวลาล้างโลก [Dark Fantasy] >>>/webnovel/3388/861/
ฉันนี่แหละคือเศรษฐี >>>/webnovel/3388/879/
การผจญภัยของผม >>>/webnovel/3388/922/
Contian เจ้าชายที่แสนอร่อย >>>/webnovel/3594/19/
AMBROSIOS ONLINE >>>/webnovel/3594/61
Herou X Maowwww หันไปด้านหลังสิ มันคืออะไร? มันคืออาวุธในการปราบจอม >>>/webnovel/3594/85
Winter's Whispering >>>/webnovel/3594/103-107
Color clash โลกออนไลน์แห่งสีสัน >>>/webnovel/3594/108
REN VENTEL >>>/webnovel/3594/134
ถ้าผู้กล้าผันตัวเป็นจอมมาร ลูกชายของจอมมารแท้ๆอย่างผมจะทำยังไงดี >>>/webnovel/3594/574
Raphael de l'air : เจ้าชายแห่งสายลม >>>/webnovel/3594/589
ตายหมู่ ก็ไปต่างโลกกันทั้งหมู่
สร้างตัวต่างโลก ต้องไปกับความเทพสิครับ!!
เกิดใหม่ ณ โลกเวทมนต์
สามเรื่องนี้สับรวมกันใน >>>/webnovel/3594/826
God of Dreamland
King of Protector
seven pearl
โคริซอล
Tales of Bones : ผู้พิทักษ์คำสาปเเห่งกาลเวลา
ห้าเรื่องนี้สับรวมกันใน >>>/webnovel/3594/827
[Thunder Wizard] จอมเวทย์สายฟ้า >>>/webnovel/3594/871

destinycyber สายลับ รัตติกาลสีเลือด >>>/webnovel/3582/65-70
กองทัพแห่งความมืดของไรซ์ที่ 4 >>>/webnovel/3582/375-376
Four Destinies online [ภาคเทรน] >>>/webnovel/4106/274
เฟส ผู้ท้าทายลิขิตสวรรค์ ปฐมบทผู้สร้าง >>>/webnovel/4106/274
Sorcerer Lord จ้าวมนตรา ราชันย์แดนต้องสาป >>>/webnovel/4106/274
Mirage Memory :โรงเรียนมหาเวทเซเลทีน >>>/webnovel/4106/320
ช่วยด้วย! ผมเกิดใหม่เป็น (ว่าที่) ตัวหายนะ >>>/webnovel/4106/363-364
(Ms.Lolicon sense) คุณครูสอนพิเศษของผมคือ มิสโลลิค่อนบนสวรรค์ >>>/webnovel/4106/647
XENON LIFER อมนุษย์พันธุ์ทมิฬ >>>/webnovel/4106/830-831
Bosses ปาร์ตี้ป่วนตะลุยบอสสุดโกง >>>/webnovel/4106/787-789
god of weed กัญชางามข้ามภพ [จบ] >>>/webnovel/4106/820

อันนี้ที่เคยมีคนสับตั้งแต่กระทู้แรก ( ภาค 1 )

RUNECHEER >>>/webnovel/4265/70/
หนุ่มเรียนเก่งกับยัยมืดมนที่รัก (กียุล ทิวา) >>>/webnovel/4265/122/ , >>>/webnovel/4265/123/ , >>>/webnovel/4265/125/ , >>>/webnovel/4265/126/ , >>>/webnovel/4265/127/ , >>>/webnovel/4265/131/ ,>>>/webnovel/4265/133/ , >>>/webnovel/4265/136/ , >>>/webnovel/4265/138/ และ >>>/webnovel/4265/139/
มาโครว์ >>>/webnovel/4265/146/ , >>>/webnovel/4265/157/ และ >>>/webnovel/4265/219/
อาสึกะจัง สาวน้อยเวทมนตร์ >>>/webnovel/4265/223/ กับ >>>/webnovel/4265/224/
ขอโทษทีข้าคือแม่ทัพสโลว์ไลฟ์ >>>/webnovel/4265/240/ , >>>/webnovel/4265/242/ , >>>/webnovel/4265/262/ และ >>>/webnovel/4265/264/
G.O.S LAND แดนมฤตยู >>>/webnovel/4265/285/
RUNECHEER >>>/webnovel/4265/70/
หนุ่มเรียนเก่งกับยัยมืดมนที่รัก (กียุล ทิวา) >>>/webnovel/4265/122/ , >>>/webnovel/4265/123/ , >>>/webnovel/4265/125/ , >>>/webnovel/4265/126/ , >>>/webnovel/4265/127/ , >>>/webnovel/4265/131 , >>>/webnovel/4265/133/ , >>>/webnovel/4265/136/ , /webnovel/4265/138/ และ /webnovel/4265/139/
มาโครว์ >>>/webnovel/4265/146/ , >>>/webnovel/4265/157/ และ >>>/webnovel/4265/219/
อาสึกะจัง สาวน้อยเวทมนตร์ >>> /webnovel/4265/223/ กับ /webnovel/4265/224/
ขอโทษทีข้าคือแม่ทัพสโลว์ไลฟ์ >>> /webnovel/4265/240/ , /webnovel/4265/242/ , /webnovel/4265/262/ และ /webnovel/4265/264/
G.O.S LAND แดนมฤตยู >>>/webnovel/4265/285/
RUNECHEER >>>/webnovel/4265/70/
หนุ่มเรียนเก่งกับยัยมืดมนที่รัก (กียุล ทิวา) >>>/webnovel/4265/122-139

ทำเป็นDoc.กู้เกิ้ลเก็บไว้เลยปะโม่ง เวลาขึ้นมู้ใหม่จะได้ยกมาสะดวก

ปล.มิกซ์แฟนฟิกกูยังเห็นออกภาคต่ออยู่เลย นิยายเหี้ยๆแบบนี้ยังถูกสนับสนุนต่อได้เหรอวะนั่น

>>76 กุเห็นด้วยทำเป็น Doc แล้วเขียนคอมเมนท์เอาไว้ก็พอ ความยาวประมาณ 3-5 บรรทัด เหมือนกับห้อง Light Novel เคยทำอะ

>>77 เราลองทำให้ แบบนี้ได้หรือเปล่า

https://docs.google.com/document/d/1ouFhwS9WeoBzEgYHVNYWkeUAbhQ2YkCg4ozpTpx1-94/edit?usp=sharing

>>78 ระวังโม่งแตกนาจา

>>79 ไม่เป็นไรหรอก เราไม่เคยก่อเรื่องอะไรในโม่งอยู่แล้ว 5555

ไม่ต้องห่วง โม่งจะแตกได้แค่สองสาเหตุ
1.เกรียนจนโม่งอยากแหก
2.เป็นผู้เสียผลประโยชน์เลยหาเรื่องแหก

เรา >>78 นะ

รวมเสร็จหมดแล้ว ทั้งในกระทู้นี้ และที่ตกหล่นไป ถ้ามีเรื่องไหนหลุดไปอีกโม่งๆ ก็เพิ่มกันเอาเองเลยนะ

ไปละ ง่วง

เพื่อนโม่งไม่สับนิยายวาย นิยายสืบสวนบ้างเหรอ เห็นส่วนใหญ่เป็นแฟนตาซี กับนิยายจีน

>>83 นิยายรักก็แทบไม่เห็นมีใครสับ

>>83 >>84 นิยายวาย ไปห้องฟุ นิยายสืบสวนไม่น่าจะมีใครถนัด และในเด็กดีก็ไม่น่าจะมีเรื่องไหนเขียนดี (กาหลมหรทึก?)

ส่วนนิยายรักนี่จำได้ว่ามีคนสับละนะ แต่คนอื่นๆ อาจไม่สันทัดล่ะมั้ง

>>85 ขอบคุณนะ ได้นิยายหลายเรื่องจากตรงนี้เลยลองถามดู

ถ้ามีโม่งเกย์สักคนก็สับไหว นิยายวายเนี่ย กูไม่ใช่เกย์ กูไม่สนใจ

>>87 กูว่าโม่งหญิงก็สับวายได้

นิยายวาย ห้องฟุสับเยอะแยะ ไปดูได้
นิยายสืบสวน กูไม่หวังจากเด็กดีเท่าไหร่ 555
นิยายรัก นานๆมีที ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อยากเห็นคนสับอยู่นะ

>>83 นิยายวายมู้ชั้นหนังสือสาวฟุมีหิ้งอยู่ ถ้ามึงอยากสับก็สับใส่มู้เดี๋ยวคนทำหิ้งจะได้เอาไปใส่ในหิ้งไว้ให้

นิยายสืบสวนกุถนัดมาก แต่กุไม่ได้อ่านของไทยว่ะ...

>>91 แนะนำชื่อให้หน่อยดิ กูอยากได้เป็นต้นแบบเผื่อกูเขียนแนวนี้บ้าง

ชอบอ่านแนวสืบสวนนะ ในเด็กดีมีเรื่องไหนแนะนำบ้างล่ะ

สำหรับกูไม่เคยอ่านนิยายแนวสืบสวนแล้วประทับใจเลยวะ อ่านกี่เรื่องๆก็รู้สึกไม่สมเหตุสมผล ดำเนินเรื่องน่าเบื่อไร้ความตื่นเต้น ไม่น่าติดตาม เคยอ่านจบแค่เล่มเดียวเอง แถมพออ่านจบก็ให้ความรู้สึกอึนแปลกๆ แบบฆาตกรมันโง่หรือฉลาดกันแน่วะ หลอกง่ายชิบ

>>92 ต้องถามว่าชอบแนวไหนอะ เพราะมันมีหลายแนวมาก
ถ้าอยากได้แนว Thriller อ่านไปลุ้นไปก็ต้องนิยายแปลตะวันตก ของพวกฝรั่ง ส่วนใหญ่พวกนี้จะเป็นแนวฆาตกรรม ไม่ก็เรื่องลึกลับ

แต่ถ้าอยากได้สืบสวนแปลกๆ ที่ไม่เกี่ยวการฆ่ากันก็ต้องของญี่ปุ่น อย่างที่กุอ่านอยู่ตอนนี้ก็มี บิเบลีย อะ ขอบอกว่าเรื่องนี้ดีมาก แปลดี สำนวนดี นางเอกน่าเย็ดเฮ้ย! น่ารัก! พระเอกขี้เงี่ยนไปหน่อยแต่ก็ไม่น่ารำคาญ ใช้สำนวน show ได้ดีมาก จนกุต้องก๊อบสำนวนมาเขียนตามอะ

นิยายสืบสวนของเด็กดวกของดีจริงหายากสัสๆ (เชื่อว่ามี) ส่วนใหญ่เพ้อเจ้อ เขียนให้นักสืบฉลาดคนเดียว แต่การวางปมหลวมเกินไป ไม่เดาง่ายก็ plot hole สร้างปมให้นักสืิบแก้คนเดียว ไม่ยอมให้คนอ่านช่วยคลี่คลาย เหมือนนักสืบเก็บหลักฐานชิ้นสำคัญไว้ในมือเพียงคนเดียว คนร้ายมีแรงจูงใจก่อเหตุเบาหวิว

>>95 เออ ได้ยินมาว่าเรื่องนี้สำนวนshowดี แต่ยังไม่เคยอ่านมาก่อน ยกตัวอย่างที่คิดว่าน่าประทับใจหน่อยได้ป่ะ จริงๆก็ต้องชมคนแปลด้วยนะที่แปลดีน่ะ 555 ปล. อีกเรื่องที่นึกถึงคือเฮียวกะ ไม่เคยอ่านฉบับนิยายนะ แต่ดูอนิเมแล้วชอบมากๆ

>>97 ยกตัวอย่าง...
กุไม่รู้จะยกยังไงว่ะ แต่ขอบอกเลยว่ากุเห็นภาพชัดมาก คือนางเอกปกติจะเป็นพวกขี้อายไม่สามารถคุยกับคนปกติได้ เวลาเจอคนอื่นก็จะหลบหน้า งุดไปอยู่หลังพระเอกบ้าง หรือไม่ก็พูดตะกุกตะกักบ้าง ตรงนี้ล่ะที่บรรยายได้ชัดและกระชับมาก คือแม่งเห็นภาพเลยว่าผู้หญิงสวยคนหนึ่ง กำลังก้มหน้าตัวสั่นเวลาคุยกับผู้ชายที่ทำท่าข่มอะ แม่งน่าเย็ด เฮ้ย! น่ารักสัด

ส่วนนิยายสืบสวนเด็กดี กุไม่เคยเห็นนะ

ส่วนสาเหตุที่กุไม่อ่านนิยายสืบสวนไทย...
เพราะมันวาย!! สนพ. พูนิก้า เนี่ยมึงจะทำสืบสวน หรือไม่ก็ดาร์กก็ได้ แต่ทำไมต้องยัดความวายเข้ามาด้วย!!

>>99 เพราะมันคือเวทมนตร์...

>>99 เออใช่ เอานิยายสืบสวนเขามารีใหม่ซะไม่ขลัง ปมแม่งง่อยลงถนัด ยัดเวทมนตร์ไสยศาสตร์มาซะยังกะการินสอง เหมือนเอาแค่ชื่อตัวละครศรัญญูแล้วก็เอาดีใส่ชื่อให้เข้ากัน ทั้งทั่จริงมันน่าจะเป็นออริจักรวาลใหม่ไปเลย คือเคยเจอพล็อตโลกเชอร์ล็อกโฮมที่ดัดแปลงมาเยอะ แต่พูนิก้านี่ทำเหี้ยที่สุดเท่าที่กูเคยอ่านละแม่ง

>>101 โทษ ๆ แป้นขึ้นคำอัตโนมัติ เหมือนเอาชื่อตัวละครมาใส่เรียกคนอ่าน

>>96 โคนันโมเดล

>>101 นั่นล่ะ สาเหตุที่กุเลิกซื้อ พูนิก้า ขาดเลย
สมัยกุเรียน ม.ปลาย กุนี่เจียดตังซื้อเต็มที่กับพูนิก้า เพราะกุชอบการินมากเป็นแนวสืบสวนสยองขวัญที่มันใช่ แต่พอมาหลังๆ นี่กระแสวายเข้ามากลบ พูนิก้า ก็เริ่มวายตาม ที่กุเฟลสุดก็แวนเฮลซิ่งไทยนั่นล่ะ แม่งมาวายกับหมอวัตสันซะงั้น

>>97 อย่าไปเชื่อ นิยายจากญี่ปุ่นส่วนใหญ่สำนวนมันจะออกมาแนวญี่ปุ่นนิยมอยู่แล้ว ถ้าอยากจะฝึกสำนวน หรือฝึกการใช้ภาษา show แนะนำนิยายภาษาอังกฤษหรือฝรั่งเศส ชัดเจนกว่า

>>105 มีเรื่องแนะนำไหม กูอยากอ่านแบบที่วางพล็อตแน่น ภาษาน่าติดตาม ไม่ต้องแปลไทยก็ได้ ส่วนพวกแนว thriller กูเคยอ่านแนวๆนี้อยู่บ้าง นิยายที่แนะนำจะเน้นเหรอไม่เน้นก็ได้
>>95 บิเบลียเคยอ่านอยู่เล่มหนึ่ง กูชอบในแง่ภาษา แต่เรื่องการสืบสวนกูยังไม่อินเท่าไร แต่ชอบตอนเฉลยอดีตปลิงสุเกะ
>>101 กูยังคิดเลยว่าผิดลิขสิทธ์เปล่า...
>>104 วายขายดี ทำใจซะ แต่กูว่าพูนิก้าขายความเบียวเหอะ ตามมาสักพักกูได้กลิ่นญี่ปุ่นมาเป็นหย่อมๆ เรื่องการินทำดาร์กกว่านี้ก็ทำได้ แต่คนเขียนทำบทไม่ถึง คือเน้นเลือดเน้นแผล ทำร้ายร่างกาย แล้วพอเฉลยปมก็บอกความบิดเบี้ยวของมนุษย์ ซึ่งกูว่ามันแบน ตัวละคนหญิงหลายคนในสนพถูกเขียนมาว่าเก่งโน้นนั้น แต่ก็แค่ตัวประกอบ อย่างลัลทริมา ระดับจิตใจควรเข้าขั้นลักซ์(gundum)ได้แล้ว พัฒนาการช้าเต่าเดิน พอดีก็กลับไปแย่เหมือนเดิม กูเฟลกับสนพพู เพราะกูสนใจตัวลัลที่ควรจะไปได้ไกลกว่านี้ แต่โดนกดเพื่อให้การินได้โชว์ความซู เป็นดาร์กแฟนตาซีพล็อตดีแต่ดาร์กเกรดบี อย่างน้อยกูอยากให้ดาร์กเท่าเซเลอร์มูน...

>>106 พูดถึงการินก็ต้องความซูและดาร์กแบบเด็กน้อย ส่วนลัล กูยังแปลกใจที่มันยังเป็นคนปกติมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ไม่ใช่ว่าน่าจะบ้าตั้งแต่เหตุการณ์โรงเรียนเก่าที่มีคนตายเยอะๆแล้วไม่ใช่เรอะ ไม่ได้อ่านนาน ชักลืม

>>105 แต่ Show แบบฝรั่งน้ำเยอะมากขายในไทยยากนะ ขนาดเขียนลงเว็ปคนยังขยาดที่จะอ่านเลย

>>107 จะเอาอะไรมากกับแนวสืบสวนแฟนตาซี ถ้าอยากได้สมจริงก็ต้องของฝรั่งนั่นล่ะ
แต่ถ้าพูดถึงแนวสืบสวนแฟนตาซีนะ ที่ห้องทำงานกุมีวางเอาไว้เรื่องนึง ชื่อเรื่อง The Wolfman ของ Nicholas Pekearo แนวสืบสวนนี่ล่ะ เรื่องเกี่ยวกับพระเอกที่เป็นมนุษย์หมาป่าแปลงร่างทุกวันเพ็ญ กับคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในเมืองเล็กๆ
เรื่องนี้เขียนได้ค่อนข้างดี คนเขียนเองก็เป็นตำรวจการสืบสวนจึงค่อนข้างถึงใจ แต่น่าเสียดายที่คนเขียนโดนยิงตายไปแล้วเลยมีแค่เล่มเดียวเท่านั้น

>>106 ดาร์กเท่าเซเลอร์มูน ยังไงวะ
>>108 ทำไมกูนึกถึง The Wolf Among Us ล่ะวะ เป็นหมาป่า เป็นนักสืบ(นายอำเภอ)

>>109 เซเลอร์มูน ฉบับมังงะ ดาร์กมาก
มึงลืมฉบับอนิเมะไปได้เลย

กู 110 เอง
นี่สำหรับมึง 109 ระวังสปอล์ยนะ
https://m.pantip.com/topic/31972795?

>>109 เซเลอร์มูนฉบับมังงะเท่าที่กูจำได้นะ
1.อุซางิน้อยคิดว่าแม่ไม่รักเลยเกลียดแม่ พอเข้าสู่ดาร์กไซด์ก็อยากจับพ่อทำผัวเพื่อเอาชนะแม่ เล่นปมอิเลกตร้า
2.พ่อดัดแปลงร่างกายลูกสาวที่ป่วยออดๆแอดๆขี้โรค ไม่ใช่เพราะรักลูก แต่เพราะความแค้นที่โดนไล่ออก และต้องการเอาชนะคำสบประมาท แล้วก็ทะเยอทะยานอยากมีพลังอำนาจยิ่งใหญ่แบบพระเจ้า
3.ช่วงท้ายๆรู้สึกจะภาคสตาร์มั้ง ที่พวกเพื่อนๆอุซางิโดนล้างสมองให้เป็นพวกเดียวกับตัวร้าย เซเลอร์มูนเลยต้องฆ่าเพื่อนๆตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ฆ่ายังไงก็ไม่ตายเพราะมีผลึกเงินประจำตัวอยู่ ชุบชีวิตขึ้นมาให้ฆ่าใหม่ได้เรื่อยๆ แล้วตัวร้ายก็โยนผลึกเงินพวกนั้นเข้าอวกาศอะไรซักอย่างที่ทำให้ร่างกายและผลึกเงินสลายไป เซเลอร์มูนเหลือตัวคนเดียวด้วยความสิ้นหวังที่ต้องมาเห็นเพื่อนตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ประมาณนี้มั้งนะ ถ้าผิดตรงไหนก็แย้งได้

>>110 เจาะจงหน่อยก็อนิเมเวอร์ชั่นแรกด้วยนะ 555

เซเลอร์มูนดาร์กกว่าเบอเซิกปะวะ กูอ่านแต่มังงะผู้ชาย

>>114 ไม่เชิงนะ เบอร์เซิร์กมันดาร์กแบบดิบๆเถื่อนๆสไตล์ชายๆ แต่เซเลอร์มูนมันดาร์กแบบผู้หญิงๆอะ แล้วการฆ่าในเรื่องหลักๆนี่คือทุกคนฆ่าคนที่ตัวเองรักทั้งนั้นเลย อย่างพวกสี่จตุรเทพที่เคยเป็นคนรักของพวกวีนัส มาร์ไรงี้ เหล่าผัวโดนล้างสมองบวกกับสาวๆพวกนี้จำผัวตัวเองในชาติที่แล้วไม่ได้ ปล่อยไว้ก็เป็นภัยเลยกำจัดทิ้งแม่ง อีเซเลอร์มูนมันก็ฆ่าหน้ากากทักซิโด้ทิ้งแล้วแทงตัวเองตายตามเหมือนกันแต่ไม่ตายคู่เพราะโดนของที่พกไว้ในเสื้อแทน ตัวเองสมหวังในรักคนเดียว ได้ดีมีผัว ปล่อยเพื่อนๆมึงขึ้นคานกันไปเพราะเชือดทิ้งหมดแล้ว ถถถถถถถถถถถถถ

ดาร์กกับน้ำเน่ามันมีแค่เส้นบางๆนะพวกมึง

ลงชื่อ เซฮุน เพราะวง Exo มีทุกบ้าน

>>114 ถ้ากูวาดเป็น กูจะวาดไอ้กัสมใส่ชุดเซเลอร์มูน ติดคทาจันทราแทนปืนกลหน้าไม้

>>117 ไม่ก็ติดคทาจันทราแทบดาบควาย

มันดาร์กสุดตอนที่เซเลอร์มูนน้อย จะฆ่าแม่เพื่อจะฟักพ่อนี่แหละ ปมอีเรกตร้าแรงกล้า

ส่วน Berserk กุว่าดาร์ก+ดิบเถื่อนนะ แต่แค่ช่วงแรกๆ เท่านั้นพอเลยช่วงหอคอยแห่งแสงไป กัสเริ่มมีปาร์ตี้ก็เริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ ซะงั้น

กูให้ Berserk 9/10 Sailor Moon 8.5/10

เอ๊ย กูขอถามหน่อย เด็กดวกชอบแนวดาร์กแบบไหนวะ

>>122 นักฆ่าอัจฉริยะวัย12ฆ่าคนเป็นผักปลาตาไม่กะพริบแต่พอเกิดใหม่ต่างโลกแล้วกลายเป็นตะมุตะมิสร้างฮาเร็ม

>>123 แล้วจะต้องกุดุสกุดุสป่าว ถ้าจะฆ่าขนาดนี้

>>124 แล้วอย่าลืมฉากกินตับ อ๊าๆๆๆๆๆ ด้วย

กระทู้เพ้อสัดๆ

https://www.dek-d.com/writer/47236/

คำว่า ดาร์ก ในนิยายมันแบบไหน สืบสวนฆาตกรรมนี่ดาร์กรึเปล่า

>>127 มึงอยากได้แนวสืบสวนดาร์กต้องดูแบทแมน อย่าเอาโคนันมาเยี่ยงอย่าง

>>128 ชอบตอนระเบิดเรือนะ

>>127 Dark มันมีหลายแนวเหมือนกัน แต่ที่กุชอบคือแนวที่เล่นกับจิตใจของตัวละครอะ

แนวผ้าขาวโดนสาดด้วยโคลนดำนี่อ่านแล้วฟินสุดละ ...ประมาณว่าตัวเอกบริสุทธิ์มาก แต่สภาพแวดล้อมที่เลวร้ายได้ค่อยๆ เปลี่ยนตัวละครให้กลายเป็นสีดำทีละน้อยๆ เนี่ยล่ะ

>>130 หายากอยู่นะแนวแบบนี้

พวกนิยายจิกกัดเสียดสีเนี้ย มันเป็นนิยายดาร์กไหมวะ

>>130 แนวนี้กูกำลังเขียนเลย บอกตามตรงว่าเขียนยากสลัด ขอระบายหน่อยเขียนไปก็อึดอัดไป คือต้องเขียนให้ตัวเอกขาวสะอาด แต่สภาพแวดล้อมแม่งต้องคอนโทรลดีๆ ไม่งั้นดับอนาถ ไม่ใช่แค่สภาพแวดล้อมแม้แต่เรื่องจิตใจก็ต้องดิ่งไปกับตัวละคร ยากสุดก็ตอนที่ตัวเอกจะกลายเป็นสีดำ มันต้องมีแรงจูงใจที่มากพอจะให้ตัวเอกกลายเป็นสีดำ มีวิธีไรแนะนำมั่งมะ

>>133 ที่คิดออกตอนนี้คือ ต่อให้พยายามสักเท่าไหร่เรื่องก็ไม่ดีขึ้นเลย ต่อให้พยายามมองโลกในแง่ดีสักเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้เพราะไม่มีอะไรในโลกดีแล้ว บอกว่า ‘เฮ้ย! ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง’ ให้คนอื่นฟังแต่ทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ลงเพราะมันทำไม่ได้ และคนอื่นก็ไม่คิดจะฟังด้วย หรือไม่ก็โดนขยี้ความหวังเพียงหนึ่งเดียวต่อหน้าต่อตา
ใช่ปะ? ไม่แน่ใจเหมือนกัน

ที่แน่ๆ อย่าหวังแนวดาร์คในเด็กดีมากนักเลยนะ 555

>>133 ส่วนใหญ่ที่เห็นมากสุดคือขยี้ความหวังทิ้งแบบหมดทุกทางอ่ะ//แต่ที่พลาดไปเป็นนิยายเบียวๆก็เยอะ ระวังด้วยนะมึง

ดาร์กสำหรับกูที่สาแก่ใจอีช้อยนัก คือจบแบบสิ้นหวังแล้ว! เจ็บจี๊ดในใจว่ะ ประมาณดิสโทเปียนิด ๆ แบบในโลกที่ตัวเอกอยู่มันดูดีไปหมด สังคมก็มองว่านี่คือความดีงาม แต่ตัวเอกมันเป็นส่วนน้อยที่รู้ว่าไม่ใช่และพยายามเปลี่ยนแปลง แล้วจบลงที่ความล้มเหลวสังคมยังมองว่านี่ยูโทเปียอันไร้ที่ติ สิ่งที่ตัวเอกพยายามจะทำคือการบ่อนทำลายโลกอันสมบูรณ์แบบนี้ เป็นตัวร้ายตัวโกง

ซึ่งเด็กดวกที่ขึ้นป้ายชูหราว่านีีดิสโทเปียนะคะ ดาร์กจัดเต็มดราม่าแน่นนะจ๊ะ แต่กูอ่านละรู้สึกแค่ดิสโทเปียเซิ่นเจิ้นหรือดาร์กวอนนาบีว่ะ แค่ตัวละครตายนิดหน่อยมาบิ้วดราม่าให้เข้าสู่ด้านมืด ห่าราก! อีตัวละครนั่นมันเป็นใครกูยังไม่ทันได้รู้จักดีเลย มาพร่ำบอกว่าสำคัญเป็นคนดีเป็นที่รัก แต่ยังมีอีกพวกหนึ่งที่พยายามหักมุมอินเซปซั่น คือเอาตัวละครนี้ที่บอกว่าตายแล้วมาเป็นลาสบอสของเรื่อบว่ะ ละมาบอกว่าที่ผ่านมาแค่สวมหน้ากากแสดงละคร ซึ่งพอเฉลยแล้วกูก็อ้อเหรอ คือแบบเหตุผลที่เป็นลาสบอสโคตรง่อยไม่ค่อยพีคอะ ละผูกปมไม่แน่นเหมือนกลัวคนอ่านขี้เกียจคิดเลยเฉลยให้หมด นี่ยังไม่นับเรื่องที่นางเอกโดนข่มขืนละมาไว้ใจพระเอกทีีเป็นผู้ชายแปลกหน้าเพิ่งเคยเจอกันแต่แสดงความทรูปุ๊บละยอมเชื่อง่ายๆเฉย

>>137 แบบ 1984 สินะ สังคมที่ทุกคนเห็นดีเห็นงามว่ามันต้องเป็นตามนี้ ตัวเอกมีแนวคิดต่อต้านแต่ไม่กล้าทำโจ่งแจ้งเพราะกลัวอำนาจมืด พอได้เจอกับกลุ่มต่อต้านก็เข้าร่วม แต่โดนเหยียบขยี้ความเชื่อมั่นกับความหวังลงในพริบตา แล้วก็กลับไปสู่วังวนเดิมๆแบบที่ควรจะเป็น ทุกอย่างที่ตัวเอกทำมาไร้ค่าและสูญเปล่า แบบนี้ก็จี๊ดดี

>>138 ต้องโดนล้างสมองด้วยสิถึงจะดี

>>139 ที่บอกว่ากลับไปสู่วังวนเดิมๆแบบที่ควรจะเป็นก็หมายถึงเรื่องนี้ด้วยล่ะ ไม่ให้ต่อต้านระบบ ปลูกฝังความเชื่อมั่นในระบบให้ซึมลึกเข้าไปในสมองเลย

ถามหน่อย โลกที่แบบว่า...โลกยุคอนาคต มีเทคโนไฮเทค ไร้สงครามเพราะถูกปกครองโดยผู้นำเพียงคนเดียว ทุกคนมีชีวิตได้เป็นปรกติ แต่ห้ามไม่มีความสุข ทุกครั้งที่ออกจากบ้านต้องยิ้มเสมอ ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรต้องหัวเราะเสมอ หากพบว่าทำตัวไม่มีความสุข ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ก็จะถูกประหาร ณ ตอนนั้นเลยโดยไม่ต้องขึ้นศาล...แบบนี้ถือว่าเป็น Utopia หรือ Dystopia วะ ?

>>141 คนนะไม่ใช่ตุ๊กตายางใครมันจะมีอารมณ์เดียวได้ตลาดเวลา พล็อตดิสโทเปียสัส

>>141 กูนึกได้แค่ We Happy Feel ที่ความสุขกับความทุกข์ผันแปรตามบริโภคยาแคปซูลใบกระท่อม ลองไปดู youtube สิ

>>143 เขียนผิด We Happy Few

>>141 ดิสโทเปียดิ ดิสคือโลกที่สังคมเลวร้าย หรือเหมือนจะดีแต่แท้จริงไม่ใช่ เป็นฝันจอมปลอม ส่วนยูโทเปียคือโลกในฝัน ในอุดมคติ ดีงามสมบูรณ์พร้อม ยกตัวอย่าง

ยูโทเปีย-ทุกคนยิ้มเพราะมีความสุข ความสุขที่เกิดจากโลกสงบมีแต่สันติ ทุกคนเลยมีมิตรไมตรีต่อกัน เพราะสันติทุกคนเลยไม่ขัดแย้งกัน แตแบ่งปันคอยช่วยเหลือกันและกัน
ดิสโทเปีย-ทุกคนยิ้มเพราะต้องการให้เห็นว่าโลกนี้มีความสุขสงบ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งจากการแตกต่าง ทุกคนจึงต้องทำสิ่งเดียวกันเหมือนกันคือทำตัวให้มีความสุข คนที่แสดงตัวว่าไม่มีความุขคือความแตกต่าง จึงต้องกำจัดเพื่อไม่ให้เกิดควาขัดแย้งที่เป็นต้นเหตุทำลายความสงบสุข

Dytopia เองก็มีหลายแบบนะมึง ถ้าจัดหลักๆ เลยแนว Dytopia จะมี 3 แบบหลักๆ ก็คือ

1. เทคโนโลยีก้าวหน้า แต่ศีลธรรมต่ำตม มีการแบ่งชนชั้นชัดเจน คนฐานะสูงจะได้รับกฎปฏิบัติที่ดีกว่า กลับกันคนฐานะต่ำก็จะไม่มีใครให้ความสนใจ และอาจจะมีการฆ่ากันอย่างอิสระด้วย ยกตัวอย่างแนวนี้ก็คือเรื่อง Gunnm เป็นต้น

2. เทคโนโลยีสูง โลกมีกฎหมาย มีขื่อมาแปที่เข้มงวด แต่ว่ารัฐไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมด จึงมีช่องโหว่ มีจุดที่ดูแลไม่ทั่วถึงก่อให้เกิดอาชญากรรมหรือการเล่นอะไรพิเรนๆ ที่สามารถก่อให้เกิดหายนะขึ้นได้ ถ้ายกตัวอย่างแนวเรื่องก็คือ Akira , Ghost in the shell เป็นต้น

3. เป็นโลกที่กฎระเบียบจัดมาก ไม่สามารถขัดขืนต่อกฎหมายได้ หากขัดขืนกฎก็เท่ากับตาย ถ้าให้ยกตัวอย่างก็ Psycho pass เป็นต้น

กุพิมพ์ Dystopia ขาดตัว s ไปตัว คงไม่เป็นไรมั่ง

Dystopia 🤔🤔🤔🤔

https://www.dek-d.com/board/view/3803013/
นี่คือสาเหตุที่คนไม่ค่อยอยากวิจารณ์ ดู คห.10 วิจารณ์ แล้วดูเจ้าของเรื่องมันตอบ

อีโก้มาเต็ม จะจั่วหัวขอให้รุมสับทำไมว้า ตั้งกระทู้ขอให้ชมเลยเถอะ ไม่เสียเวลาคนอื่น

>>150 จริงว่ะ แล้วพวกนี้แม่งก็แปลกนะ เพรียกหาแต่คำวิจารณ์ พอเจอจริง ๆ แม่งรับไม่ได้ สงสัยเจอโม่งสับนี่ช็อคตาย

>>149 กุเห็นผ่านตาเมื่อวานว่าจะช่วยดู เจอแบบนี้กุลาว่ะ เสียเวลาอ่านเสียเวลาพิมพ์แต่โดนเถียงกลับฉอดๆ ไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องแก้ดิวะ ตอบโต้ด้วยอีโก้เต็มเปี่ยมจะหาคนสับทำไมวะ จะเดบิวต์เป็นมารเทาตัวสองรึไงวะ

เหมือน จขกท แม่งจะเหงาจริงๆว่ะดูไม่ได้ตั้งใจมาหาคอมเม้นเลย อยากได้ความรักความเมตตาขนาดนั้นเลยเรอะ

>>149 อีเหี้ย กูอ่านแล้วขึ้น ขนาดน้องเบลเจอกูสับ/ด่า/บ่น สารพัด เค้ายังเข้าใจ (แม่งน่ารักเกินไปแล้ว) นี่ถ้ากูไปสับอีน้องคนนี้นี่แม่งไม่หัวร้อนไฟออกหีตายห่าเลยเหรอ ขนาดคนเค้าอุตส่าห์แนะนำดี ๆ (ถึงขั้นดีมาก) แล้วนะ

อีห่าบอกอยากได้งานเนี๊ยบ ไม่ใช่งานชุ่ย กูขำเหี้ย ๆ

ส่วนน้องเบลที่รัก พี่กำลังสรุปให้อยู่นะครับ ไม่ลืม ๆ

>>154 ออคนนี้แก๊งมารเทา ไม่แปลกใจ

ใครสนใจเอางานของแม่งมาสับมั้ยล่ะ ดูมันมั่นใจในฝีมือการเขียนของตัวเองดี สับเสร็จแปะลงกระทู้ รับรองว่าหีสั่นมาแต่ไกลเหมือนโดนไฟลน ต่อด้วยเข้ามาดิ้นๆ ในนี้ต่อแน่

>>156 ไม่ได้หรอกเพื่อนโม่ง นางบอกว่ากระทู้นางใหญ่สุดแปะไปก็โดนลบทิ้งป่าวๆ สับในโม่งกับแปะลงเป็นคำนิยมบทวิจารณ์ในหน้านิยายเลยดีก่า

>>157 มึงแม่งอำมหิตย์กว่ากูอีก แปะตรงคำนิยมนี่ อย่างกับเอาปากกาเคมีเขียนคำว่ากากตรงกลางหน้าผากมันเลยนะ

เป็นนักเขียน IQ สูง แต่ EQ เสือกต่ำลง

>>149 ทำไมกูเจอคนแบบนี้ยิ่งอยากสับวะ งานเนี๊ยบห่านไร อ่านที่คนอื่นวิจารณ์มานี่แม่งยำรวมมิตร เอาเกมออนไลน์มาบวกกับเรื่องพี่ชาย ทำเป็นโทนหม่นๆ วอนนาบีเบียว โฮะๆๆ กรูอยากขำ น่าแปะในหน้านิยายจริงๆ ว่ะ

>>160 ความจริงมันทำได้นะ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นแนวพี่ชายเล่นเกมส์ออนไลน์แล้ววิญญาณค้างข้างใน แล้วเข้าไปค้นพบความลับว่าความจริงเกมส์ออนไลน์มันไม่ใช่เกมส์แต่เป็น...... (ออกแนวปีศาจซาตาน)

>>161 ทำไมกูนึกถึง Exceed limit online วะ

สับเลยๆ สับลงในนี้นี่แหละ อยากรู้นักว่าจะงานดีแค่ไหนกันเชียว

ส่วนตัวกูคิดว่านิยายdystopia คือนิยายวิพากษ์การเมืองว่ะ ดังนั้นเบียว ๆในเด็กดีเลนไม่ได้ใจกูเท่าไหร่

นางกลับมาตอบคนวิจารณ์แล้วนะ กูขอใช้คำว่าไม่เหี้ยทำไม่ได้ หายไปนึกว่าจะสงบสติอารมณ์ มาใหม่หัวร้อนกำลังสอง
ไอ้คนวิจารณ์มันก็ผิดนะเรื่องที่ตั้งเงื่อนไขกลับ กะขอของตอบแทนเป็นรูปวาด แต่เมิงมันเหี้ยตรงมันอุตส่าบอกว่าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เด๋วหายไปเงียบๆเอง แต่เมิงยังจะไปด่า ไอ้เรื่องที่วิจารณ์ๆไปเลยกลายเป็นหมา ไหนบอกว่าแยกแยะเป็น เมิงนี่อคติชิบหาย ตอบเหตุผลอะไรก็แถ ไม่แก้ก็บอกไม่แก้ไม่ใครด่ามึงตรงจุดนี้หรอก เหนื่อยแทนคนอ่านว่ะ นักเขียนแม่งอีโก้ทะลักทะล้น

ล่าสุดนางมาตอบละ เหมือนจะไม่เข้าใจที่คนวิจารณ์เรื่องนั้นต้องการจะสื่อรึเปล่าวะ หรือกูไม่เข้าใจที่นางพิมพ์
>>161 สำหรับกูนะเรื่องนี้อ่ะทำได้ แต่ด้วยฝีมือแบบเอาตัวเองไม่รับความเห็นใคร กูคิดว่าไม่น่าทำออกมาได้ดีว่ะ

>>166 เออกุพึ่งคิดออก ถ้ามันประมาณเอาไอ้พวกคลื่นสมอง Data เกี่ยวกับพี่ชายภายในเกมส์ เพื่อมาฟื้นความจำ (พี่ชายความจำเสื่อม) อาจจะดูเมกเซนส์กว่าโดนรถชนจะตายแล้วเข้าไปในเกมส์

เอออ.... กุเพิ่งเปิดคอม นี่มันเกิดเหี้ยอะไรขึ้นวะ

>>157 กูว่านะ วิธีจะจัดการคนพวกนี้ คือ สับข้อเสียแม่งให้ยิบ เน้นข้อเสียล้วนๆ แล้วใช้ภาษาดอกไม้ ภาษาสุภาพแบบให้มันตอกกลับไม่ได้ว่าเราหยาบคาย แล้วก็ไปแปะหน้านิยายแม่ง

>>169 ถ้ามึงทำ กูจะไปเม้นอวยมึงว่าวิจารณ์ได้เยี่ยมเลย นักเขียนโชคดีจริงๆที่มีมึงมาวิจารณ์ ชาบูๆ

>>170 พูดซะกูฉุกใจคิดเลย มันจะกลายเป็นสำหรับมันป่าวว่ะ 555

>>171 กูจะพิมพ์ว่า มันจะกลายเป็นประโยชน์สำหรับมันไปป่าวว่ะ จุดประสงค์คือไม่ใช่ไง555

>>172 นึกถึงหนูพริมขึ้นมาเลย โดนโม่งด่าจนได้ดี ตีพิมพ์อีกต่างหาก

>>172 กูไม่คิดเรื่องนักเขียนอยู่แล้ว มันจะได้ ไม่ได้ประโยชน์ก็ขึ้นอยู่กับมันเอง กูอยากช่วยพวกสับนิยายมากกว่า พวกสับนิยายดีๆจะได้มีกำลังใจ สนับสนุนนักเขียนดีที่อยากได้คำวิจารณ์

>>172 มึงไม่ต้องคิดมาก ตั้งใจสับถึงจะเล่นแต่ข้อเสีย ถ้านางเอาไปปรับปรุงมึงก็ได้กศุลกรรม แต่จะสับยังไงให้นางแถไม่ออกสิถึงจะเด็ดกว่า

>>146 Post- Apocalypsed ก็จัดอยู่ใน dystopia นะ พวก Madmax พวกเกม Fallout พวกหมัดเทพเจ้าดาวเหนือ

>>176 มึงผิดแล้วว่ะเพื่อน โพส-อะโพ ไม่ถือว่าเป็นดิสโทเปียถึงจะดูคล้ายก็เถอะ เพราะดิสโทเปียคือ [คน สู้กับ ระบบหรือระบอบ] อันที่มึงยกมาคือ [คน สู้กับ คน], [คน สู้กับ สภาพแวดล้อม] เรื่องนี้โม่งรุ่นเก่าเขาสรุปกันไปนานแล้วในกระทู้ก่อนๆ

>>177 มันคล้ายกันมากนะ ถ้าไม่ลำบาก ขอลิ้งค์สรุปได้ไหม? กูเพิ่งมาโทษที

>>178 https://www.google.co.th/url?sa=t&source=web&rct=j&url=http://www.traciloudin.com/2015/07/dystopian-vs-apocalyptic-fiction-whats-the-difference.html&ved=0ahUKEwiOzdLJiIvXAhVIkZQKHcaRDZAQFggqMAI&usg=AOvVaw2OKlm5phL2RzyczVB7EBYS

>>178 อ่านใน >>179 ดู เขียนไว้ครบทั้งลักษณะ คุณสมบัติ และตัวอย่างนิยาย (โดยส่วนตัวกูชอบเรื่อง อุณหภูมิเผานิยาย รัฐบาลแม่งส้นตีนดี)

ย้อนหาลำบากมากว่ะ งั้นกูบอกเป็นข้อๆ ละกัน

โพส-อะโพ : โลกหลังเกิดภัยพิบัติ คนที่เหลือพยายามเอาชีวิตรอด มีทั้งคนฆ่าคน และภัยธรรมชาติฆ่าคน มึงอาจเจอโรคระบาดแบบใหม่ สัตว์ประหลาดกลายพันธุ์เพราะกัมมันตภาพรังสี หรือกลุ่มคนเหี้ยๆ รวมกลุ่มกันตั้งตนเป็นใหญ่ ปล้น ฆ่า ข่มขืน ความแร้นแค้นขาดน้ำ-อาหาร มหันตภัยอื่นๆ

ดิสโทเปีย : โลกจะเป็นปกติหรือพังพินาศก็ได้ แต่จะมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกุมอำนาจไว้แบบเบ็ดเสร็จ สร้างกฏเกณฑ์ขึ้นมาให้คนในปกครองทำตาม ถ้าไม่ใช่คนรวยก็มักจะเป็นรัฐบาล สร้างค่านิยมบางอย่างขึ้นมาให้คนคิดว่ามันเป็นเรื่องดี มึงทำตามนี้นะแล้วทุกคนจะสงบสุข จะไม่มีความขัดแย้ง ปิดหูปิดตาโฆษณาชวนเชื่อมึง หรือไม่ก็บีบบังคับให้มึงต้องทำตามนั้น ถ้ามึงหือคิดต่อต้าน มึงก็ลงไปนอนคุยกับรากมะม่วง

ตัวจุดชนวนในดิสโทเปียมักจะเป็นความขบถของตัวเอกหรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เริ่มด้วยการตั้งคำถามว่า "สังคมที่พวกเราใช้ชีวิตอยู่นี่มันมีความสุขจริงเหรอวะ" ไม่ก็ "ทำไมพวกเราถึงต้องตกเป็นเบี้ยล่าง เป็นทาสรับใช้คนแบบพวกนั้นด้วย ใครเป็นคนกำหนดเรื่องนี้"

พอมีแนวคิดแล้ว กลุ่มต่อต้านก็เกิดขึ้น จะมีการรวมตัวแล้วพยายามโค่นล้มฝ่ายที่มีอำนาจ หรือไม่ก็ถูกโค่นล้มเสียเองตอนท้ายเรื่อง แถมขยี้ความรู้สึกคนอ่านด้วยความพ่ายแพ้ของฝ่ายต่อต้าน พวกเขาเจออะไรบ้าง หรือมันนำไปสู่สภาวะสังคมใหม่ยังไง (เช่นพอทางรัฐล้มกบฏได้ ชนเผ่า,เพื่อนๆ ของกลุ่มตัวเอกเจอจับตัดแขน-ขาทั้งหมดทุกคน, โดนจับเข้าเครื่องล้างสมอง สวมชุดของทางการกลับไปไล่ฆ่าพวกเดียวกัน ฯลฯ)

ดิสโทเปียคือการที่มึงลุกขึ้นต่อต้านการกดขี่จากฝ่ายผู้มีอำนาจ ไม่ก็พยายามเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยเป็นมา(หลังจากมึงพบว่าสิ่งนั้นมันไม่ดี มันไม่ยุติธรรม) ปลดปล่อยผู้คนจากกฏเกณฑ์แปลกๆ หรือการควบคุมแบบเย็ดเสร็จ เปิดเผยความดีจอมปลอมของสังคมนั้น ทำให้คนตาสว่างว่าสิ่งที่ถูกสอนมายาวนานคือคำลวง หรืออื่นๆ

ดิสทอเปียส่วนใหญ่จบไม่ค่อยสวย ตัวเอกมักจะหนีไปใช้ชีวิตสงบๆ ไม่ยุ่งการเมืองต่อ ไม่ก็ bad end

>>180 อ่านของมึง กูรู้สึกเหมือนเรื่องการเดินทางของคิโนะเป็นดิสโทเปีย ตอนโคลอสเซียมนี้ใช่เลย

>>182 คิโนะนับเป็น โพส-อะโพ แต่บางตอนมันจะใส่บทแนว Dystopia มาน่ะ
Guilty Crown อะเป็นดิสโทเปีย แต่เนื้อหาแม่งพัง~

>>180 เออ แต่จะว่าไป... ถ้าอิงแบบนี้ วันพีชนี่นับเป็น Dystopia ด้วยรึเปล่าวะ!?
อย่าเพิ่งขำกุ ...คือไอ้วันพีชเนี่ย เบื้องหน้ามันอาจจะเป็นแค่แนวผจญภัยโชเน็น ถ้ามองลึกๆ แล้วโลกมันโดนปกครองโดยรัฐบาลโลกใช่มะ? มีกฎเข้มงวด และก็มีพวกโจรสลัดคอยทำตัวต่อต้าน รัฐบาลคอยกวาดล้างโจรสลัดอยู่เรื่อยๆ มีเผ่ามังกรฟ้าเป็นพวกชนชั้นปกครอง ใครบังอาจขัดขืนเผ่ามังกรฟ้าก็เท่ากับตาย ใครริทำตัวเป็นโจรสลัดก็เท่ากับตาย มีการควบคุมเบ็ดเสร็จและประชาชนส่วนใหญ่ก็โดนสอนว่าโจรสลัดเป็นพวกชั่ว

พอคิดแบบนี้แล้ว... กุว่าแม่งเข้าข่ายว่ะ มีใครคิดแบบกุมั่งมะ

>>184 กูคิด กูว่าเผ่ามังกรฟ้านี้ใช่เลย

>>184 แล้วแต่มุมมองคนว่าเข้าข้างฝ่ายไหน

เดี๋ยวสับอันนี้ เห็นในบอร์ดอยู่บ่อย ๆ
https://my.dek-d.com/sulatchaya/writer/view.php?id=1706818

>>186 กูอยากรู้จังว่ามีคนเข้าข้างฝ่ายมังกรฟ้าไหม...

>>184 มันอ่อนไป โทนเรื่องไม่หม่นพอ

>>184 วันพีชมันเป็นดิสแบบอ้อมๆ เพราะแกนหลักของเรื่องมันเป็นผจญภัย เนื้อเรื่องมันส่งให้เป็นดิสในภายหลังเฉยๆ (เนื้อเรื่องโดนยืดเพราะการ์ตูนมันดัง ทั้งๆ ที่ควรจบตั้งแต่แกรนด์ไลน์แล้ว)

อันนี้กูเอามาฝาก เป็นบทความสมัยพี่เว็บยังพึ่งพาได้

นิยามดิสโทเปีย: สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสมบูรณ์แบบจอมปลอม
https://www.dek-d.com/writer/33569/

แนะนำวิธีแต่งนิยายดิสโทเปีย
https://www.dek-d.com/writer/35801/

เมืองไทยดิสโทเปียไหมมึง

ลงชื่อ เซฮุน เคยไปยูโทเปีย

>>191 มึงอย่าลากไปการเมืองเฮ้ย!

>>191 ถ้ามองเป็นการปกครองโดยรัฐบาล(แบบเผด็จการ).....

>>192 กูไม่ได้พูดถึงการเมือง กูพูดถึง สังคม dystopia

>>180 อ่านวรรค ดิสโทเปีเป็นต้นไป สังคมล้วนๆ

โอเค มาสับแล้ว
ชื่อเรื่อง - ตามหาน้องสาวค่ะ! (มันเป็นเวอร์.รีไรท์)
ลิ้งก์ - https://my.dek-d.com/sulatchaya/writer/view.php?id=1706818
ผู้เขียน - ชิงช้าไร้เงา

ก่อนอื่นขอพูดไว้เลยว่า ที่อยากจะวิจารณ์เรื่องนี้เพราะเห็นคนเขียนมาเจ๊าะแจ๊ะในบอร์ดบ่อย ๆ แล้วบางคอมเม้นท์ดูเหมือน.........(เติมคำตอบ) แต่เอาเหอะ เข้าเรื่อง

>>191 ดิสโทเปียของมึงคือที่ไหนวะเซฮุน แถวรัชดาเหรอ

>>197 โทษทีกูหมายถึงยูโทเปีย (แถวโพเซดอนป่าววะ)

ไอ้เหี้ยเซฮุน อยากใช้สันดานนีก็ไปเล่นเฟสเอธีสวอนนาบีหรือมิตรสหายท่านหนึ่งนู่น อย่าเอาสันดานลิเบอร่านมาบอร์ดนี้

>>196 เข้าเรื่องนานจังมึง

>>199 ถ้ามึงเข้าใจกูผิด กูจะขออธิบาย กูไม่ได้เป็นลิเบอร่าน กูเป็น Anarchist (บ้านมึงไฟฟ้าเข้าแล้ว
อานากี้เข้ายัง?)

แล้วกระทู้เก่าเรื่องดิสโทเปียก็กูเองนั่นแหละที่เคยอธิบาย

ถ้าสังคมไทยไม่ดิส มึงก็ตอบไม่ ถ้าใช่มึงก็ตอบใช่ จะมาไล่กูหาพ่อมึงหรอ?

ลงชื่อ เซฮุน ไหนมึงจะย้ายที่สิง กลับมาทำส้นตีนอะไรไอ้สัด

(ตรงหัววิจารณ์เผลอกดโพสต์)
สำหรับเรื่องมันดูโคตรเบาแบบงง ๆ นะในความคิดเรา โดยเปิดมา(ตอน 1) เป็นการแนะนำตัวละครซึ่งเราก็ไม่ค่อยได้จำเท่าไรว่ามันธาตุไรพลังไร แต่ดูจากตรงนี้ก็รู้เลยว่าคนเขียนยังใช้สำนวนงง ๆ อยู่สำนวนแปลก ๆ

เริ่มเรื่อง
- เล่าประมาณว่าพ่อนางเอกโดนยักษ์จิ๋วฆ่าตาย แล้วน้องสาวหนีไปหมดตอนต่อสู้อยู่ พ่อไอ่นางเอกเนี่ยเลยให้ไปหาน้องสาวก่อนที่พ่อนางเอกจะตาย
ซึ่งส่วนที่ขัดใจก็มีตรง(ความจริงขัดใจหมดนั่นแหละ แต่เลือกเอาเป็นช่วงที่มันแปลก ๆ )
- " แสงไฟพินาศลุกโชนขึ้นในราชวัง ก่อนจะมีเสียงดาบปะทะกันดังเป็นทอด ๆ " รู้สึกขัดใจนิดหน่อย ควรจะเปลี่ยนเป็น " เพลิงพินาศลุกโชนขึ้นภายใน
ราชวัง ตามด้วยเสียงดาบปะทะกันเป็นช่วง ๆ " จะดูเข้ากว่า(ถึงจะยังไม่ดีก็ตาม เราก็ไม่มีสกิลเท่าไรหรอก)
- " เสียงท่านพ่อทักท้วง เอกมองปลายตา ก่อนจากหันไปมองที่ศัตรูอีกครั้ง " เป็น " เสียงของท่านพ่อท้วงขึ้นมา เอกปรายตามอง ก่อนจะหันไปเผชิญ
หน้ากับศัตรูอีกครั้ง "
ย่อหน้าอีกย่อหน้าคำซ้ำเยอะพอสมควร ดูแล้วคลังคำศัพท์ของคนเขียนมีไม่เยอะเท่าไรหรือไม่ก็เลือกใช้คำไม่ดี
" เอกสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจับดาบไว้มั่น และวิ่งเข้าไปปะทะดาบกับอีกฝ่ายที่เป็นยักษ์เสียงปะทะกันของดาบดังสนั่นไปทั่วพื้นที่การต่อสู้ ดาบเล่มบางในมือได้เปลี่ยนกลายเป็นดาบยักษ์ เอกจับไว้มั่นก่อนจะวาปไปข้างหลังและฟันอีกฝ่ายจนข้างหลังเป็นแผลเหวอะหวะดูไม่ได้ " อันนี้คือที่คนเขียนเขียน จะเห็นว่าเลือกใช้คำซำ้เยอะ ถ้าจะเปลี่ยนต้องประมาณ " เอกสูดลมหายใจลึก มือจับอาวุธไว้มั่น แล้ววิ่งเข้าไปปะทะฝีดาบกับอีกฝ่ายที่เป็นยักษ์ทันที เสียงกระทบกันของโลหะดังไปทั่วบริเวณ ก่อนที่ดาบเล่มบางเล่มในมือของเธอจะกลายเป็นดาบขนาดใหญ่ เธอจับมันไว้แน่น วาปไปปรากฏตัวด้านหลังของศัตรูและฟันลงกลางหลังของอีกฝ่ายจนเป็นแผลเหวอะหวะดูไม่ได้ "

แต่คนวิจารณ์ก็ขี้เกียจจะอ่านต่อแล้ว อย่างที่เห็น คนเขียนยังเด็กอยู่เลย12 ขวบเอง แต่ที่พีคกว่าคือคนที่วิจารณ์(เราเอง)เด็กกว่าคนเขียนอีก..
ต่อไปจะเข้าเรื่องความสมเหตุสมผลกับเรื่องของตัวละครครแล้ว (สำหรับบรรยายเอาไป 4/10 พอ(คิดว่าเยอะแล้วนะ))

>>202 สรุปคนวิจารณ์อายุเท่าไหร่?

ลงชื่อ เซฮุน

>>203 คิดว่าเท่าไหร่ล่ะ

>>204 ให้คะแนน 4/10 ก็น่าจะสัก สี่สิบ ไม่เป็นมะพร้าวยิ่งแก่ยิ่งมัน

ลงชื่อ เซฮุน แม่นกว่าหมอหยอง

>>202 กูว่าจุดที่มึงยกมาไม่ได้ผิดพลาดร้ายแรงอะไรถึงขนาดต้องยกมานะ อันนี้กูยังไม่ได้อ่าน
ดูจากที่มึงยกมา มันก็อ่านเข้าใจง่ายดี แต่ไม่ได้มีพลังดึงดูดให้อ่านมากเท่าไร ให้ 4 นี้มีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า (เนื้อเรื่องแย่ ไม่สมเหตุสมผล อะไรประมาณนี้)

มีความไม่สมเหตุสมผล กับเนื้อเรื่องด้วย แต่ยังไม่ได้ยกมา

>>201 สวะกว่าลิเบอร่านก็อนาขี้นี่แหละ

>>208 แล้วมึงเป็นอะไรวะ ไปเรียกเขาสวะ

>>209 กูเกลียดพวก anarchist พวกมันสนแค่ตัวมันเอง ไม่สนกฎบ้านกฎเมืองหรือสังคม กูเกลียดพวกมัน

>>210 เซฮุนชัดๆ

พวกนาซี กับนีโอนาซี สนใจบ้านเมืองนะมึง ไหนจะ kkk ไหนจะ ผู้ก่อการร้าย

Anarchist มันก็โจรสลัดวันพีซปะวะมึง?

>>212 นาซี กับนีโอนาซีและ KKK มันขวาจัดนะมึง anarchist มันพวกซ้ายจัด มันเป็นคนละพวก แต่เหี้ยพอกันอะ

>>213 กูนึกว่าซ้ายจัดคือ คอมมิวนิสต์

>>214 anarchist แม่งหนักกว่า คอมมิวนิสต์อีกมึง...

พวกลูฟี่เป็น อานากี้ กูอ่านวันพีซเลยเป็น Anarchist

ลงชื่อ เซฮุน ดี มังกี้

>>184 เข้าข่าย Anarchist เพราะเป็นโจรสลัด แบบ Jack Sparrow

ดิสโทเปีย สิ้นหวัง ปู่กู triggered เลยสัส
//ไปเรียนลูกเสือแปป โตไปจะได้ผูกเงื่อนเก่งๆ

โทษๆ กูนึกว่าห้อง lounge เปิดหลายแท็บเลยสับสน

พี่เงินเกือบหล่อละ แต่ทิ้งท้ายซะ...
https://www.dek-d.com/board/view/3803082/
นอกจากฟิกชั่นล็อกแล้ว เว็บนิยายอื่นก็มีเว็บบอร์ดหมดแหละ แต่ไม่ค่อยมีคนมาตั้งกระทู้ไร้สาระเหมือนเด็กดีเลยเงียบเป็นป่าช้า แต่ขณะเดียวกัรมันก็ลดเกรียนคีย์บอร์ดด้อยดราม่าด้วยแหละว่ะ อ๊ะ! แต่เพราะงี้เปล่าวะเด็กดีเลยคึกคักเพราะแม่งมีดราม่าให้เสพตลอด

>>220 เงินบวกเป็นพวกหอคอยงาช้างรึเปล่า

>>214 ซ้ายจัดทั้งคู่ แต่อยู่ขั้วตรงข้ามกัน Anarchism กระจายอำนาจมาก
ในขณะที่ Communism จะรวมศูนย์อำนาจมาก
(ไม่นับเรื่องที่ Anarchism มีหลายสาย สายขวาจัดก็มีเหมือนกัน)

>>222 คอมมี่ในทางทฤษฎีมันก็กระจายอำนาจมากอยู่นะ แต่พอเอาปฏิบัติจริงๆอำนาจแม่งก็มากระจุกอยู่กับพวกหัวหน้าคณะปฏิวัติที่มีอำนาจชี้เป็นชี้ตาย ทฤษฎีมันแม่งขัดแย้งอยู่นะ จะลดความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นแต่เสือกส่งเสริมให้รัฐมีอำนาจชี้เป็นชี้ตายให้กับประชาชน กลายเป็นนักปฏิวัติไล่รัฐบาลเก่ากับพ่อค้าออกไปแล้วสถาปนาตัวเองขี่คอประชาชนแทน ที่ว่าจะจัดสรรทุกอย่างให้ประชาชนอย่างเท่าเทียมก็ไม่ได้โกหกนะ โอกาสอดตายเท่ากัน มีสภาพเป็นขี้ข้ารัฐบาลเหมือนกัน ถ้าเจอผู้นำบ้าๆอย่างสตาลินนี่ซวยตายห่า ไม่รู้วันดีคืนร้ายจะเอาพวกมึงพวกกูไปยิงเป้าหรือหมกค่ายแรงงาน

กูดีใจที่พวกมึงไปเริ่มศึกษา anarchism กันนะ

ลงชื่อ เซฮุน

คุยเรื่องการเหมืองกันเข้าไป เดี๋ยวกระทู้ก็โดนปิดพอดี

>>225 คุยยังงี้โอนะมึง ยังไม่เสี่ยงเท่าไหร่เลย มึงจะห้ามพูดเลยแม่งไม่แยากว่าอีกอ่อวะ

>>226 กูเข้าใจว่าถกประเด็นข้อเท็จจริงหรือแนวคิดมันไม่ผิด แต่นี่มันห้องสับนิยายไม่ใช่เหรอวะ

ถ้าถกการเมืองแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์กับนิยาย ไปเล่น pantip ดีกว่า

หรือถ้าอยากจะถกนิยายกับการเมืองไปด้วย ลองคิดเล่นๆดูสิ ไอ้คลิเช่ยอดฮิด ทำไมจักรวรรดิมักจะเป็นฝ่ายร้าย

>>229 กุว่ามันดูเป็นกำแพงอุปสรรคใหญ่ให้พระเอกจัดการ อีกอย่างก็เป็นโปร ปชต ไปในตัวด้วยแหละ

>>229 ลองย้อนมองวีรกรรมของจักรวรรดิต่างๆ ที่ผ่านมาสิ ส่วนใหญ่เน้นการล่าอาณานิคมกับล้างบางชนพื้นเมืองทั้งนั้น พวกอยู่แบบสงบๆ ไม่ระรานใครมันแทบไม่มีเลย ไม่แปลกที่จะถูกยกให้เป็นฝ่ายร้ายหรอก

>>230 >>231 ใช่มั้ยล่ะ ถ้าเป็นคนเขียนอยากจะให้จักรวรรดิเป็นฝ่ายดี ต้องหาเหตุผลให้คนอ่านน่าฟัง และต้องหากฎเกณฑ์อะไรมาตัดสินว่าใครเลว

>>229 จักรวรรดิมันมากับแนวคิดขยายอำนาจด้วยไง มึงเคยได้ยินคำว่าจักรวรรดินิยมมั้ย อังกฤษสมัยก่อนสงครามโลกนี่ตัวดีเลย ล่าอาณานิคม ถ้าหาข้ออ้างได้ก็ทำสงคราม มาจบลงเพราะโดนเยอรมันเล่นจนอ่วมกับมีมหาอำนาจใหม่มาแทนที่

หรือถ้าเป็นเรื่องแต่งมึงดู Warhammer 40000 ดิ มนุษย์ปกครองด้วยระบบจักรวรรดิ ประชาชนถูกล้างสมองให้เคารพจักรพรรดิ ใครคิดอย่างอื่นโดนหาเป็นนอกรีต เหยียดเอเลี่ยน มีกฏให้ล้างดาวทั้งดวงที่มีแนวโน้มจะเป็นพวกนอกรีต แต่คนชอบเพราะ space marine แม่งเท่ดี แต่จัดว่าเป็นฝ่ายดีเพราะสู้กับพวก chaos ที่ระยำกว่า

>>233 https://www.pinterest.com/pin/393783561138888526/

>>233 ควยกุแฟน wh40k เรื่องแม่งเทาทุกเผ่าอ่ะ 555 จักรวรรดิแม่งรวมความเหี้ยหมดเลย นาซี คลั่งศาสนาคริสต์ คอมมิวนิสต์

>>233 ถ้ากูไม่รู้จักจักรวรรดินิยม กูไม่มาถามแบบ >>229 หรอก

ky กูอ่านนิยายในเด็กดีเห็นมีหลายเรื่องล่ะ ที่เขียนเปลี่ยนมุมมองตัวละครสลับไปมา เป็นงี้นะเริ่มด้วยมุมมองตัวเอก พอจบเนื้อเรื่องในบทนั้นก็เปลี่ยนเป็นมุมมองคนอื่นเสริมต่อ จะตัวรองหรือตัวประกอบก็ว่าไปโดยที่เนื้อหาเดียวกับตัวเอกแต่กลับมุมมอง กูอธิบายงงมั้ย
สิ่งที่กูอยากถามคือมันฮิตมาจากไหน ไลท์โนเวลยุ่นช่วงนี้ป่ะวะ กับมีประโยชน์อะไรบ้างที่เขียนแบบนี้ ที่กูเห็นนะ มันยืดเรื่องเพิ่มเนื้อหาได้ เหตุการณ์เดียวแมร่งเขียนตั้งหลายมุมมอง อีกอย่างก็ช่วยให้คนอ่านรู้จักตัวละครอื่นๆบ้างนอกจากตัวเอก

>>237 ราโชมอน?

>>238 มันไม่เป็นclueแบบราโชมอนอ่ะดิเพื่อนโม่ง บางคนแค่เขียนไปงั้นๆเสริมความเมพของตัวเอก

>>237 ของยุ่นนี่มันยังเปลี่ยนมุมได้ไม่งงเท่าไทยว่ะ บางเรื่องกูยังงงเลยว่าใครพูดใครคิด ไม่มีวงเล็บหรือชื่อกำกับว่ามุมมองของใคร หรือมีแต่ตัดถี่เกินไม่ติดต่อกัน แต่แม่งเปลี่ยนกันดื้อๆแบบย่อหน้าต่อย่อหน้าเลย แบบย่อหน้าแรกมุมมองพระเอก ย่อหน้าต่อมามุมมองตัวร้าย ย่อหน้าต่อมามุมมองภาพรวมบุคคลที่สาม ย่อหน้าต่อมามุมมองนางเอก อีเหี้ยยย ทำไมมึงไม่เขียนแยกเป็นบทไปวะ หรือจะขีดคั่นฉากหน่อยก็ได้ บทเดียวสองมุมมองกูว่าน่างงพอละ แม่งยัดมาทั้งคณะแบบนี้กูประมวลผลไม่ทัน หรือถ้าอยากได้อารมณ์เก็บครบทุกมุมมองในฉากนั้นมึงก็เขียนเป็นมุมมองที่สามไปเพียวๆเลยสิวะ จะมาเฉลี่ยทให้คนอ่านงงทำเหี้ยอะไร!

นี่ยังไม่นับนิยายแนวเปลี่ยนเพศที่ชายไปสิงร่างหรือเกิดใหม่เป็นหญิงแต่เสือกใช้คำแทนตัวว่าผมงั้นงี้ยันตอนจบทั้งที่เริ่มสาวแตกสนผู้ด้วยกันไปแล้ว มันทำให้ฟินไม่สุดว่ามึงเปลี่ยนเพศแล้วจริงๆนะ คือแรกๆจะเป็นผมไปก็ได้ แต่ยันตอนจบนี่มึงไม่มีพัฒนาการหน่อยเรอะ อุตส่าห์บอกว่าสนเรื่องความงามแบบหญิงแท้ มีโมเม้นต์ใจเต้นกับพระเอก แทนตัวเองว่าหนูหรือฉันกับคนอื่นแต่ยังใช้คำว่าผมตอนบรรยาย อ่านๆไปแทนที่จะโรแมนติกสไตล์นอมอลมันจะกลายเป็นวายไปเสียชิบ

>>229 กูมองว่ามันเป็นตัวร้ายถ้ามองในแง่ว่าประเทศทุกประเทศมีสิทธิของตัวเอง แต่empireคือประเทศที่อยากจะขยาย อยากจะครอบครองประเทศอื่น ไอ้ความคิดที่ว่ามันขยายตัว มันกดประเทศอื่น มันสร้างชนขั้น ลำดับชั้นขึ้นมานี่แหละ คือเหตุที่จักรวรรดิมันร้าย แต่คนสมัยก่อนจะมองว่ามันเป็นช่วงเวลาของการผจญภัย น่าเขียนนิยายที่มีคนมองสองมุมนี้จังวะ

>>229 นิยายกุนี่มีฝ่าย "จักรวรรดิ" ทุกเรื่องเลย (ฮา)
เอาง่ายๆ คือมันเหมือนพวกระรานชาวบ้านเขาไปทั่วอะ อ้างอุดมการณ์ว่ารวบรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่ง โดยที่ไม่สนใจเลยว่าไอ้คนที่กำลังจะโดนรวบเนี่ยมันอยากจะเข้าร่วมด้วยรึเปล่า แถมยังใส่คลีเช่ประเภทคนถูกล้างสมอง ศาสนามีอำนาจ คนกลุ่มเล็กเคลื่อนไหวสู้กับคนกลุ่มน้อยได้ด้วย กุเลยชอบให้นิยายทุกเรื่องของกุมีฝ่ายที่เป็นจักรวรรดิ เพื่อบีบให้พวกตัวเอกมันเลือกข้างยังไงล่ะ

>>240 ของยุ่นที่กุเจอนะ... ส่วนใหญ่ถ้าเปลี่ยนมุมมองมันจะขึ้นตอนใหม่ หรือไม่ก็บอกกำกับว่า [มุมมองของ...] เอาไว้เลย
ส่วนของไทยเป็นไงมั่งกุไม่รู้ว่ะ กุเองก็ใช้แค่ POV1 และถ้าจะเปลี่ยนมุมมองคนอื่นกุก็ใช้ POV3 เพราะกุขี้เกียจมาปั้นอารมณ์เป็นตัวละครอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอก

เออ... ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วกุขอถามเพื่อนโม่งหน่อย
ถ้ากุเขียนนิยายเรื่องนึง กุควรลิมิตการปูเนื้อหาแค่กี่ตอนดีวะ?
คือไอ้เรื่องที่กุเขียนอยู่เนี่ย กุใช้เวลา 3 ตอนปู setting และชีวิตของพวกตัวเอก ก่อนจะเริ่มเข้าเรื่องในตอนที่ 4 ซึ่งเพื่อนกุมันบอกว่ามันยืดไป ทั้งที่กุตัดซะเหี้ยนจนแทบไม่เหลืออะไรแล้วนะนั่น
กุเป็นพวกเขียนดำเนินเรื่องช้าด้วย เลยไม่มั่นใจจนอยากจะลบไอ้ที่เขียนนี่ทิ้งอยู่ละเนี่ย

>>244 กูว่าปล่อยให้การกระทำและอารมณ์ของตัวเอกเป็นคนอธิบายเองดีกว่านะ ไม่ต้องปูให้ยืดยาว แต่ปล่อยให้มันไหลเรื่อยๆ

>>244 อันไหนไม่จำเป็นก็ตัด ค่อยไปใส่ตอนหหลังก็ได้

How to เริ่มนิยายสไตล์เด็กดี?🤔🤔🤔🤔

>>244 วางพล็อตครบรึยัง ถ้าวางแล้วก็ต้องเอามากางดูว่ามีกี่ตอน ก็เฉลี่ยให้ลงตัว คือถ้ามี 100 ตอน ปูเรื่องสามตอนไม่แปลกหรอก แต่ถ้ามี 20 ตอน ปูเรื่องแค่ตอนเดียวก็พอแลัว

>>243 ของยุ่นที่กูเจอก็งั้นแหละ จองไทยส่วนใหญ่มันไม่ใช่ไง นึกอยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน หรือจั่วหัวบอกแต่บทเดียวยัดมาซะเยอะ อย่างเรื่องบีกิ้นอเกนแก๊งทะเล้น แรกๆก็เขียนแยกดีอยู่หรอก แต่พอบทที่เจ็ดเป็นต้นไป ชักเละ

>>237 ก็อาจจะจากยุ่น แต่น่าจะหลายปีแล้ว แต่ถ้าไม่ใช่มุมมองของแล้วเป็น นาย ก talk นาย ข talk อาจจะมาจากนิยายวาย
ประโยชน์ก็เป็นการนำเสนออีกแบบ นำเสนอดีคนอ่านเข้าใจมันก็เป็นลูกเล่นแบบหนึ่ง นำเสนอไม่ดีคนอ่านไม่เข้าใจมึงก็ใช้ประโยชน์มันไม่ได้เต็มที่ มึงอ่านของยุ่นดูก็ได้เรื่องเกิดชาตินี้อะนะ อีกเรื่องก็คุณชายปากหมา กูจำชื่อไม่ได้ละ กุ๊กทหารด้วยมั้ง
>>244 ถ้ามึงเขียนแล้วน่าเบื่อ 1 ตอนก็มากไป ถ้ามึงเขียนแล้วคนอ่านสนุกมึงจะปูสิบตอนก็ได้ โจทย์คือมึงต้องเขียนไม่ให้มันดูน่าเบื่อแม้จะเป็นการปูเรื่องก็ตาม ชีวิตตัวเอกมึงปูย่อหน้าเดียวสั้นๆ เลยก็ได้แล้วไปใส่เรื่องการกระทำให้คนเห็นภาพแทน เช่นตัวเอกจน มึงก็ไม่ต้องเขียนฐานะว่ามันจน บ้านมันจน มึงเขียนไปที่การกระทำเลย เช่นเปิดมาพระเอกถือแอปเปิ้ลวิ่งผ่านเด็กผอมคนนึง เด็กพยายามมาเกาะขาขอแอปเปิ้ลลูกนั้น พระเอกเลยตบหัวแล้วด่าไปว่ามีแรงเกาะขาก็ไปหาเอง ต่อจากนั้นพระเอกถึงบ้านค่อยเฉลยว่ามีคนที่บ้านรอแดกอยู่ จากนั้นพระเอกก็ด่านั่นนี่ เช่นมึงจะเซ็ตติ้งโลกว่าเหี้ยยังไง สังคมไม่ดียังไง สภาพแวดล้อมยังไง ก็ให้พระเอกด่าไปปอกแอปเปิ้ลไป หรือสภาพแวดล้อมดีมึงก็เปิดมาพระเอกฟังเพลงหรู มีคณะดนตรีมาแสดงในห้องกินข้าว คุยกันเรื่องชนชั้นสูง หลักการปกครอง นินทาขุนนางหญิง ดูหมิ่นขุนนางยศต่ำกว่า มึงจะเสนอยังไงก็ได้แต่อย่าเปิดให้น่าเบื่อ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็อย่าให้มันนาน มึงจะเขียนให้น่าเบื่อนานๆ ได้ตอนมึงดังแล้วเพราะมันจะมีคนตามอ่านงานของมึงอยู่ดี แต่เขียนแบบนั้นมึงก็จะโดนด่า หรือถึงมึงเขียนดีกูว่าคนก็น่าจะด่าอยู่ดีเพราะมึงดังแล้วมันก็จะมีคนชอบกับไม่ชอบ แต่ถ้ามึงมั่นใจว่านิยายมึงต้องปูเรื่อง มึงก็อย่าได้แคร์มากเดี๋ยวมึงจะเขียนไม่จบ เขียนให้จบแล้วเริ่มเรื่องใหม่ดีกว่า
>>249 ทำไมเห็นชื่อเรื่องแล้วกูอยากกินโดนัทขึ้นมาวะ งงใจตัวเอง

>>243 กูว่าไอ้ pov1 แล้วเปลี่ยนมา pov3 ของมึงนี่แม่งมั่วไม่ได้ต่างกับพวกบทนึงหลายมุมมองเลยนะ

เรื่องสลับมุมมองได้ชัดเจนไม่งงนี่ถ้ายุ่นกูยกให้แมงมุม แต่ความงงของเรื่องนั้นมันจะอยู่ที่การสลับไทม์ไลน์ ซึ่งก็เป็นลูกเล่นที่แปลกใหม่ดีและมีความเสี่ยง คือถ้าคนอ่านเข้าใจก็จะว้าว ถ้าคนอ่านไม่เข้าใจก็จะเหี้ย แต่ก็มีนิยายเรื่องอื่นที่ใช้มุมมองตัวเอกมาตลอดแช้วตัดไปบุคคลอื่นหรือPov3ตอนจบภาคหรือขึ้นภาคใหม่ ซึ่งก็ไม่งงนะกูว่า เพราะมันแยกเป็นบทต่างหาก ไม่ได้อัดใส่บทเดียวกัน หรือถ้าอัดใส่บทเดียวกันจะเป็นPov3ฉากสั้นๆตอนท้าย ประมาณหนึ่งย่อหน้าไม่ถึงสิบบรรทัด

ส่วนไทย กูหาแทบไม่เจอเลยว่ะ ในเด็กดีกูเคยเจอแค่เรื่องสองเรื่องเองที่แยกออกชัดเจน เรื่องหนึ่งจั่วหัวข้อไว้แบ่งเป็นสองช่วงสองตัวละคร อีกเรื่องใส่Pov3ตอนท้ายกับมุมมองตัวละครอื่นบทแยก

Ky อธิบาย ความเห็น#7 มู้ทำไมดองหน่อย กูติดใจคำว่ามือไม่ถึงมากๆ

#7
ถ้าดองแล้วกลับมาเขียนต่อได้จนจบ ก็น่าจะ 5 ปีนะคะ (รออายุและประสบการณ์ให้มือถึงพอจะเขียนได้ค่ะ)

แต่ถ้าเรื่องที่ดองแล้วตั้งใจจะมาเขียนต่อ ปีนี้เข้าปีที่ 11 ปีค่ะ (เนื้อหาหนักกว่าเรื่องแรก เลยยิ่งต้องรออายุและประสบการณ์ กระทั่งตอนนี้ยังมือไม่ถึง อาจยังต้องบ่มไปอีกสัก 5 ปีมั้ง หวังว่านะคะ)

https://www.dek-d.com/board/view/3803571/

คือสิ่งที่อยากจะเขียน พล็อตมันอาจจะดีอยู่แล้ว แต่การถ่ายทอดออกมาทำได้ไม่ดีพอที่จะถ่ายทอดสิ่งดีๆ ที่ว่านั่นได้เพราะตัวเองตอนนั้นเจ๋งไม่พอ

>>250 อันนี้ล่ะที่กุอยากรู้ว่า "ไม่น่าเบื่อ" ของคนอ่านนี่มันคืออะไร... คือทั้งชีวิตมากุอ่านแต่นิยายแปลเล่มหนาๆ ไม่ค่อยอ่านเว็ปโนเวลของเด็กดวกเท่าไร นิยามของคำว่า "น่าเบื่อ" ของกุมันเลยแตกต่างไปจากพวกอ่านเว็ปโนเวลไปเยอะเลย ซึ่งไอ้พวกที่กุอ่านเนี่ยแม่งก็ปู setting กัน 1 ตอนเต็มๆ (ประมาณ 20 หน้าขึ้นไป) ทั้งนั้นเลย เรียกได้ว่าเทียบกับนิยาย 3 ตอนกุพอดีนั่นล่ะ

เพื่อนกุก็ลองแนะนำให้เปลี่ยนมาเขียนแบบเล่าการกระทำตัวเอกเลย แต่กุไม่มี ref ว่ะ ...ใครพอมีตัวอย่างดีๆ ที่เห็นภาพให้กุลองอ่านดูบ้างวะ?

>>251 ถ้าต้องสลับ POV กุจะขึ้นบทใหม่เลย มันคงไม่งงขนาดนั้นหรอกมั้ง

>>255 "น่าเบื่อ" ของท่านผู้ชม คือเขาไม่ถึง ไม่เข้าใจ ไม่อิน น้ำไม่เดิน

คนส่วนใหญ่สนุกกับอารมณ์ง่ายๆ หิว หัวเราะ เงี่ยน เกลียด แค้น

มึงเล่าอะไรก็เล่าไป พล็อตมันไม่มีอะไรมากหรอ เริ่มให้คนอ่านจับใจความได้ว่า ไอ้นี่แค้น ไอ้นี่ขำ ไอ้นี่เงี่ยน มันก็พอแล้ว

จุดหมายปลายทางคนอ่านจะคิดเองว่า มันจะอ่านทำไม... คนอ่านหนังสือโป๊ได้พันเล่ม อ่านนิยายรักน้ำเน่าได้ข้ามวัน เพราะมันกระตุ้นให้น้ำเดิน

หนังโป๊เย็ดกันไม่มีสตอรี่ ก็ดูกันได้ พอมีสตอรี่มันก็จับใจ

เรื่องราวมันไม่มีเหี้ยอะไรมาก อำนาจ หีควย เงิน มรดก

บอกคนอ่านได้ว่าอะไรเป็นแก่น แม่งก็เข้าใจแล้ว คนอ่านตามสิ่งที่มันขาดมึงต้องเข้าใจด้วย

คนส่วนใหญ่จน อยากเย็ดคนหน้าตาดี ไม่มีอำนาจ นิยายก็แค่สินค้าหนึ่งในร้านสะดวกซื้อว่ะ เด็กดีมันถึงใช้ หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา

สวัสดีเพื่อนโม่ง และน้องเบลผู้น่ารัก
ขออนุญาตไม่หยาบคาย(มาก)สักวันนะ ไหน ๆ เจ้าของเรื่องก็เข้ามาอ่านแล้ว ขอแทนตัวกูว่าพี่ละกัน

เรื่อง: princess of curse
ลิงก์: https://writer.dek-d.com/a/story/view.php?id=577118

verdict:
การบรรยาย
น้องเบลมีทักษะการใช้ภาษาอยู่ในเกณฑ์ดี(ในความคิดของพี่) มี show don't tell ไม่ค่อย info dump มากนัก
ex. ตอน curse spell 6 เป็นหนึ่งในตอนที่พี่ชอบ คือไม่ต้องบรรยายโต้ง ๆ ว่า โจ๊กเกอร์ แหม่ม คิง เอซ แจ็ค เป็นราชองครักษ์ของโรนาน แต่ใช้การพูดคุยของต้วละครแสดงตัวตนของแต่ละคนออกมา ซึ่งพี่ก็เกือบงงว่าใครพูดอะไร แต่ก็ยังพอถู ๆ ไถ ๆ ไปได้
แต่ปัญหาใหญ่ ๆ ในการบรรยายของน้องคือ แม่งงงมาก ซึ่งแฟน ๆ ของน้องอาจจะไม่กล้าแนะนำตรง ๆ ได้แต่อดทนอ่าน ไม่ก็มีสกิลเชื่อมโยงสูง หรือไม่แน่ก็อ่านข้าม ๆ ไป โดยไม่ใส่ใจมากว่าใครพูดอะไรในรายละเอียด แต่สนใจแค่จุดที่ขับเคลื่อนเนื้อเรื่องให้ไปข้างหน้า บางทีก็เพียงพอ แต่เวลาพี่อ่าน พี่ชอบอ่านรายละเอียด อยากรู้ว่าใครพูดอะไร อยากรู้แม่งหมดแหละ
และพี่จะชี้แจงว่าทำไมถึงงง ตามนี้นะ

1. ปัญหาในการจัดเรียงไดอะล็อก โดยน้องเบลจะชอบเรียงไดอะล็อกแบบนี้
ex. (ไดอะล็อกนาย A + บรรยายท่าทางนาย B) พี่ขอยกย่อหน้านรกมาให้อ่านนะ(จาก Curse Spell 1)

"เร็กซ์...? อย่าบอกนะว่าฝ่าบาทส่งพี่มาคุ้มครองคุณชาร์เลน" เด็กสาวมองสองหนุ่มสลับไปมาด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ และเตรียมตั้งท่าจะหนี หากไม่ใช่เพราะสองหนุ่มนี้ยกมือขึ้นเหนือหัวเป็นเชิงว่า พวกเขาไม่ใช่คนน่าสงสัยจริง ๆ "คนนั้นชื่อเร็กซีนัส ทาริออส ครับ เป็นตระกูลสายรองจากเซซีน"

ถ้ายกมาแค่นี้ จะเห็นว่ามันยากจะเข้าใจว่าใครพูดไดอะล็อกแรก น้องไม่ควรเอาคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าของไดอะล็อกมาบรรยายต่อกันในย่อหน้าเดียวกัน
วิธีแก้ก็แค่เคาะขึ้นบรรทัดใหม่หลังจากไดอะล็อกแรก เติมบรรยายว่าใครพูดเข้าไปอีก เช่น
A"เร็กซ์ บลา บลา บลา" Bบรรยายท่าทางเร็กซ์
Cบรรยายน้องเลนบลา บลา บลา
หรือ
ถ้าน้องไม่อยากเติม B ก็ต้องมั่นใจว่าย่อหน้าก่อนหน้านี้คนอ่านรู้ว่าใครเป็นประธาน ซึ่งย่อหน้าก่อนหน้านี้น้องใช้ผู้ชายตาสีม่วงเป็นประธาน ซึ่งพี่อ่านตอนแรกก็งงว่าใครวะ ต้องย้อนกลับไปอ่านว่าใครตาสีม่วง(หนุ่มแว่น) มันเสียจังหวะเวลาอ่านนะ

2. น้องชอบใช้สรรพนามแทน(ใช้คำนี้ถูกป่าววะ) ex คนโดนเอ็ด คนบลา บลา บลา ซึ่งส่วนตัวพี่เฉย ๆ จะใช้สรรพนามเพื่อเน้นกริยาของผู้ที่กล่าวถึงนั้น ๆ ก็ได้ แต่มันเป็นดาบสองคม ซึ่งพี่แม่งโดนเสียบหลายรอบมาก เราต้องมั่นใจระดับนึงว่าคนอ่านจะไม่งง อย่าเชื่อใจคนอ่านมากไป คิดซะว่าคนอ่านเขาไม่ได้มานั่งคิดนั่งเขียนกับเราด้วย มันเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะเข้าใจทุกอย่างที่เราบรรยาย
ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบนะ
สมมติว่านิยายน้องเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ สักที่ ส่วนน้องเป็น Guide และคนอ่านเป็นนักท่องเที่ยว
นักท่องเที่ยวมาเที่ยว เห็นว่าสถานที่เที่ยวน่าสนใจและสวยดี อยากเข้าประวัติความเป็นมา แต่ Guide พาเข้ารกเข้าพงตลอด นักท่องเที่ยวบางคนอาจจะไม่ถือสา เพราะชอบในสถานที่ท่องเที่ยวนี้อยู่แล้ว แต่บางคนอาจจะหมดอารมณ์เที่ยวไปเลยก็ได้ Guide ที่ดี ไม่ควรพาใครไปหลงทาง แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายทุกอย่าง เก็บให้นักท่องเที่ยวไปมโนต่อเอง

คำผิด
หรอ->เหรอ แค่นี้ละกัน ที่เห็นว่าหลงผิด คำอื่น ๆ ก็มีบ้างแต่เป็นพวกพิมพ์ตกนิดหน่อย จริง ๆ ก็รู้สึกว่าน้องเขียนผิดน้อย

เดี๋ยวมีต่อ

>>257

ไดอะล็อก(ตัดเรื่องงงออก)
บทสนทนาค่อนข้างเป็นธรรมชาติ รู้สึกว่าเหมือนคนพูดกันจริง ๆ ไม่ใช่ท่องบท แต่ก็มีสาระ(เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง)เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งพี่ค่อนข้างชอบ
แต่ขอเสริมนิดนึง เราสามารถใช้ไดอะล็อกเป็นจุดแข็งนิยายเราได้ คือเราใชัไดอะล็อกมาเชือดเฉือนตอบโต้กันเพื่อเพิ่มความน่าสนใจของไดอะล็อกนั้น ๆ ได้ ถ้าสงสัยก็ลองดูเกมออฟโทรน คือแทบจะทุกไดอะล็อกมีการไฝว้กันตลอด ซึ่งส่วนตัวพี่ชอบมาก มันทำให้ตัวละครดูฉลาดในแบบที่เราไม่ต้องบรรยายตรง ๆ ว่ามันฉลาด เข้าใจมะคะ

เวทมนต์
เรื่องนี้ ทำไมพี่ต้องพูด ก็มันเป็นแฟนตาซีนี่ จะใช้เวทมนต์ท่าไหนยังไง เมื่อไหร่ มันก็สิทธิ์ของคนเขียนไม่ใช่เหรอ? ใช่ แต่ถ้าพี่เขียน พี่จะให้มันมีระบบของมัน มีเงื่อนไขในการใช้ มีที่มาที่ไป เช่น เวทมนต์ในเรื่องนั้น ๆ เกิดจากอะไร ทุกคนมีเหมือนกันหมด หรือว่าต้องไปเรียน แล้วใช้เวทได้ตลอดทั้งวันโดยไม่เหนื่อยเลยหรือเปล่า อะไรคือเชื้อเพลิงในการใช้เวทมนต์ แล้วตัวละครมันมีเวทกี่บท? นึกจะใช้ก็ใช้ เวทใหม่ผุดมาเรื่อย ๆ มันก็ op ไป ไม่มีความลุ้น เพราะรู้ว่าเดี๋ยวตัวละครมันก็งัดเวทลับมาแก้สถานการณ์ได้ หรือในบางสถานการณ์ที่เสียเปรียบ คนอ่านก็อาจจะคิดว่าแล้วทำไมไม่ใช่เวท A มาช่วยละ มึงเวทเยอะไม่ใช่เหรอ ทีตอนนั้นยังใช้ได้เยอะแยะ
กล่าวโดยสรุปคือ เราควรเสียเวลากับการคิด Magic/Power system ด้วย ตัวอย่างที่ดีคือ เน็น ใน Hunter x Hunter น้องน่าจะรู้จักเนอะ ไม่ก็ Stand ในเรื่องโจโจ้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า เวลาพลัง/เวทมนต์มันมีเงื่อนไข เวลาต่อสู้กัน มันจะทำให้ซับซ้อนเจ้มจ้น น่าติดตามไปโดยปริยาย เพราะคนอ่านรู้ข้อจำกัดของแต่ละฝ่ายแล้ว ก็คงสงสัยว่า อีนายเอ พลังมึงเทพขนาดนี้ อีนางบีแม่งโดนกระซวกแคมเยินแน่ ๆ แต่พอน้องสามารถเขียนให้นางบีพลิกกลับมาชนะได้ภายใต้ข้อจำกัดพลังของนางบี ที่คนอ่านเข้าใจว่าแม่งไม่น่าจะสู้ได้ มันก็ทำให้ฉากต่อสู้ของน้องทรงคุณค่าขึ้นมาในทันใด
หรือถ้าไม่อยากคิด ก็จำกัดให้มันใช้น้อย ๆ เหมือนเกมออฟโทรน มีนิดหน่อย ให้รู้ว่ากูเป็นนิยายแฟนตาซีนะ
หรือจะปล่อยฟรีแบบที่น้องทำอยู่ก็ได้ เพราะใคร ๆ ก็ทำกัน แต่พี่อยากเห็นน้องไปไกลกว่าคนอื่น นี่พูดจากใจ

แล้วถ้ามี Magic System แล้ว จะทำยังไงให้คนอ่านรู้ ก็เหมือนเดิม show don't tell สมมติเรากำหนดไว้ว่า เชื้อเพลิงในการใช้เวทมนต์คือผงวิเศษตราร่มชูชีพ คือเอามันมาใส่ในอุปกรณ์เวทมนต์ของเรา เวลาใช้เวทมนต์ผงวิเศษตราร่มชูชีพก็จะถูกเบิร์นไปเรื่อย ๆ มากน้อยตามความโหดของเวทบทนั้น ๆ
เวลาบรรยาย ก็แค่บรรยายว่าตัวละครตัวใช้เวทไม่ได้ เลยไปซื้อผงวิเศษในร้านขายของ หลังจากนั้นก็ใช้เวทได้อีกครั้ง แค่นี้คนอ่านก็รู้เงื่อนไขในการใช้เวทมนต์แล้ว (ซึ่งเชื่อว่าน้องเบลมีศักยภาพในการใช้ show don't tell ที่โอเคอยู่แล้ว)

ต่อไปเป็นพาร์ทเนื้อเรื่องและส่วนเสริมอื่น ๆ ซึ่งขอใช้เวลาอีกตามเคย พี่ขออ่านรอบที่สองก่อน เมื่อเสร็จแล้วจะมาลงรายละเอียด(เอาแต่เนื้อ ๆ)ให้ได้มากที่สุดใน 17 ตอนแรก แล้วจะมาต่อนะ อย่างช้าก็อาทิตย์หน้าค่ะ
รักนะคะ

by โม่งเงี่ยน

>>255 สำหรับกูถ้านิยายแปลฝรั่งไม่น่าเบื่อคือแฮรี่ น่าเบื่อคือ LOTR สำหรับคนทั่วไป มึงจะอ้างว่า LOTR งานดีชิบหายวายวอดจนชอบชมทั่วโลกก็ได้ แต่กูว่าคนไทยอ่านร้อยละ 80 น่าจะตอบว่าน่าเบื่อ คนอ่านมันก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย มึงต้องพิจารณาขณะที่มึงกำลังเขียนว่าต้องการอะไรจากการเขียน สมมุติต้องการยอดวิวมึงก็ต้องดูคนอ่านในตอนที่มึงเขียน มึงอ่านนิยายแปลฝรั่งมาถ้าไม่ใช่แฮรี่ กูคิดว่ามึงเป็นคนกลุ่มน้อยในคนอ่านในเว็บ ถ้าต้องการขาย กูเคยเห็นนิยายแปล got นะ กูก็มีเล่ม แต่อ่านไม่จบ แต่ตอนซื้อกูซื้อเพราะดูซีรี่ย์มาพอเปิดแล้วรู้สึกมันเนือยชิบหาย กูต้องการความบันเทิงไง งานระดับนี้กูก็บอกได้ว่ามันงานดี แต่กูขี้เกียจอ่าน กูไม่หลอกตัวเองหรอกแต่ถ้ามึงเขียนแบบ got มึงก็ขายในไทยไม่ได้ กูเคยเห็น got แปลขายใน ebook แต่กูคิดว่ามันขายไม่ดีว่ะลำดับที่จัดจากยอดขายก็ไม่ไหว สู้นิยายเบียวๆ เรื่องอื่นไม่ได้ทั้งที่เป็นงานระดับโลก นิยายไม่ผิดหรอก แต่ตลาดในประเทศไม่ใช่ที่ของเขาเท่านั้น อีกอย่างคนซื้อพวกนี้จริงๆ กูเห็นแต่บ่นกันชิบหายแล้วก็ไปซื้อเล่มต้นฉบับต่างประเทศกันมากกว่านะ ถ้าเป็นคนไทยเขียนแนวนี้คนก็อคติตั้งแต่ยังไม่เปิดอ่านกันแล้ว ขนาดแปลเขายังอคติเลย ห่ารากมาก
ส่วนเรื่องน่าเบื่อไม่น่าเบื่ออย่างแรกมึงถ้ามึงระบุมันจากความยาวเนื้อหากูว่ามึงมาผิดทางแล้ว น่าเบื่อไม่น่าเบื่อมันเป็นความรู้สึกระหว่างอ่าน มึงเขียนสั้นเขียนยาวก็ได้ แต่ระหว่างอ่านคนอ่านต้องอยากอ่านต่อ จริงๆ กูอยากแนะนำพวกนิยายจีนมากกว่าแต่ตอนนี้นึกค่อยไม่ออกเท่าไหร่ที่เปิดนิดเดียวแล้วอยากอ่านต่อชิบหายก็เรื่องผลาญ นิยายแปลตะวันตกกูอ่านไม่เยอะมาก อ่านแค่พวกแฮรี่กับพวกที่มีหนังเช่นฮังเกอร์เกม เท่าที่กูอ่านกูก็บอกได้ว่าหลายๆ เล่มงานดี แต่ถ้าเป็นนิยายเฉยๆ กูไม่ได้รู้สึกว่าอยากอ่านขนาดนั้น
ถ้ามึงไม่เข้าใจว่าที่คนส่วนใหญ่ชอบมันเป็นยังไงกูก็ไม่รู้จะบอกยังไงเหมือนกัน แต่ถ้ามึงอ่านของตัวเองแล้วรู้สึกว่ามันน่าจะมีการอธิบายตรงนี้นะ หรือรออีกนิดก็พ้นละ ถ้ามึงคิดแบบนั้นแสดงว่านิยายมึงกำลังเข้าข่ายน่าเบื่อแล้ว มึงต้องเขียนแล้วรู้สึกว่า คนอ่านแม่งต้องอยากรู้แน่ๆ
กูคิดว่ากูนี่แหละคนส่วนใหญ่เพราะนิยายที่ก็อ่านขายดีจนเล่มหมดอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่เปิดขาย ส่วนในเว็บกูอ่านส่วนใหญ่ก็กลายเป็นนิยายที่ยอดวิวสูงตั้งแต่ตอนมันมีตอนไม่เยอะแล้ว
ref ช่วงเปิดมึงลองไปอ่านผลาญดูแล้วกัน อ่านแบบไม่ต้องคิดอะไรมากก่อนแล้วค่อยมาอ่านอีกรอบแบบคิดอีกที

>> 255 >> 259 กูขอส่งซีรี่ย์ Calamity ของ Brandon Sanderson เข้าประกวด อ่านแล้วรู้สึกดี สนุก อ่านได้แม่งทั้งวันราวกับแม่งใช้กัญชามาทำกระดาษ แม่งเขียนกระชับดี บรรยายฉากบู๊ได้เยี่ยม เป็นนิยายเรื่องเดียวที่ก็ต้องกลับมาอ่านฉากบู๊(ตอนศาสตราจารย์มาช่วยพระเอก)อยู่เรื่อย ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ แม่งถูกจริตกูสุด ๆ ตั้งแต่อ่านนิยายแปลมาเลย

>>259 แสดงว่าแม่งเป็นปัญหาด้านรสนิยมกุสินะ เพราะกุเบื่อนิยายจีนมาก กลับกันกุชอบนิยายตะวันตกแทนซะงั้น
กุไม่ชอบนิยายจีนตรง Cliche มันดูไม่มีน้ำหนักเท่าไร ประมาณว่าคนเขียนมันอวยเนี่ยล่ะ

>>261 ไม่อวย ไม่ซู ไม่เด้า มันขายยาก

>>257 เรื่องของน้องคนนี้มีจุดไหนที่ show don't tell เด่นๆ ให้กูศึกษามั้ยวะ นอกจากตัวอย่างที่มึงบอกมาอ่ะ กูติดแต่ tell don't show 5555
แต่พอมึงพูดเรื่อง magic system กูคิดว่านิยายส่วนใหญ่ในดด. เปิดกว้างจนบางครั้งกูก็มองขอบเขตการใช้ไม่ออก จังหวะบวกกันของตัวละครเลยไม่ค่อยลุ้น บางเรื่องแม่งก็เวทนั่นนี่เหมือนที่มึงบอกเลย

>>261 กูคิดว่าใช่ มึงไม่แมสพอ ถ้าจะหากินด้านนี้มึงเขียนขาย ebook ต่างประเทศดีกว่า บางทีตลาดใหญ่มึงก็อาจแมสไม่พออยู่ดีเพราะทไวไลน์ยังเป็นนิยายติดอันดับขายโคตรจะดีได้ แต่มันน่าจะมีกลุ่มอ่านใหญ่กว่าแค่ในประเทศแหละ

>>259 555555 กูขนลุกกับมึงจริงๆ แต่ก็ดีใจแทนน้องเขาด้วย

>>263 เดี๋ยวใส่ในช่วงสรุปเนื้อเรื่องนะ งานน้องเค้าก็น่าศึกษาอยู่(ทั้งด้านดีและไม่ดี)

>>266 เคคนับ

>>255 ขึ้นบทใหม่นั่นแหละดีกูว่า แยกต่างหากไม่ต้องงง แต่ส่วนใหญ่แม่งชอบเอามายัดใส่บทเดียวกันไง ไม่รู้เพราะเนื้อหาน้อยไปเลยต้องเพิ่มหรืออยากเก็บรายละเอียดให้ครบเลยใส่มา

GOT ได้ข่าวว่าแปลห่วยจริงๆนะ ยอดขายไม่ดีก็ไม่แปลกหรอก

>>269 อยากได้มาสะสม + อ่านเล่นอยู่นะ แต่แผงหนังสือแถวบ้านดันไม่มีขาย

>>270 กูหมายถึงแบบนิยายนะ

เพิ่งเลิกงงานกลับมาถึงบ้าน เหนื่อยชิบหาย...

>>262 กุเองก็อยากเขียนแนวอวย แนวซู นะ ...แต่ไม่รู้เป็นเพราะ ego กุ หรือว่าอะไรกันแน่ กุถึงพยายามไม่เขียนแนวนั้นซะงั้น เฮ้อ... อยากลด ego ตัวเองชิบหาย แต่ไม่รู้ทำไง

>>269 ไม่ได้มีแต่ GOT อย่างเดียวหรอกที่ห่วย นิยายแปลของฝรั่งน่ะ กุขอบอกเลยว่าส่วนใหญ่แปลห่วยโดยเฉพาะพวกเล่มหนาๆ ดูอย่างของ Postbook แต่ละเรื่องงี้กุแทบอยากจะเขวี้ยงทิ้ง
ทำไม? ก็คือนอกจากเน้น show จนน้ำเยอะแล้ว แม่งไอ้ค่ายนี้ก็ไม่คิดจะจัดหน้ากระดาษเว้นย่อหน้าให้อ่านง่ายเลย เล่นจัดหน้ากระดาษตามฝรั่งตัวหนังสือยาวเป็นพรืด บางหน้าไม่มีการเปลี่ยนย่อหน้าเลย มันก้ไม่น่าแปลกหรอกที่คนอ่านจะยี้กัน

>>272 ปัญหากุว่า บก ไทยไม่ค่อยมีคุณภาพว่ะ วงการพิมพ์บ้านเราทั้งการคัดกรอง ทั้งด้านการตีพิมพ์ แถมเรื่องเยอะ ส่วนใหญ่มักจะเลียกันเอง แม้แต่ผลงานอ่านเขียนวกไปวนมา ไม่มีความอะไร ยังได้รางวัลซีไรต์เลย

>>273 ต้องเป็นเรื่องที่อ่านแล้วไม่เข้าใจนั่นแหล่ะ ถึงจะได้ซีไรต์

>>273 บก ก็ผิด แต่กลุ่มตลาดแม่งก็ผิด ก็เสือกชอบกันแต่แนวซู เบียว เย็ด

>>274 คือซีไรต์กุอ่านเข้าใจนะ แต่ไม่เข้าใจมันจะเขียนวนไปมาสิบตลบทำไม แล้วได้ความนิดเดียว ถึงกุไม่ชอบเบียวๆ ซู เย็ดๆ แต่ถ้าวงการเขียนชั้นนำสนับสนุนงานเขียนเน้นน้ำแต่เนื้อน้อยแบบนั้นก็ไม่แปลกใจหรอกว่าทำไม วรรณกรรมไทยถึงได้ต้อยต่ำ

ซีไรต์คือรางวัลกระจอก นักเขียนมีแต่กากๆ เอาไปแปลเมืองนอกก็ส่ายหัว งานคนโง่เขียน ให้คนฉลาดอ่านเขาก็ขำว่ะ

เอาแค่เอเชีย ไม่ได้ครึ่งญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้

วรรณกรรมคลาสสิกมีแต่เย็ดกัน สถุลสัด

ต่างประเทศเขามีรางวัลแบบนี้มั่งปะ แบบรางวัลงานเขียนดีเด่นประจำปีอะ ไม่จำแนวส่งได้หลายสาขา มีบ้างมะ

มึงอยากอ่านงานกันแบบไหนมึงก็หาสำนักพิมพ์ที่พิมพ์งานแบบนั้น สำนักพิมพ์ส่วนใหญ่พิมพ์ตามความต้องการตลาดเพื่อความอยู่รอด ถ้ามึงอยากอ่านงานที่พวกมึงคิดว่าดีๆ ก็หามาอ่านแล้วก็แนะนำคนอื่น ถ้าคนอ่านกันเยอะเดี๋ยวก็แห่กันมาพิมพ์เอง สำนักพิมพ์มันยืนหยัดด้วยตัวคนเดียวนานๆ ไม่ได้หรอกมันต้องมีคนอ่านยืนเคียงข้างเขาด้วย ถ้าไม่มีกำไรนอกจากพวกทำเอารางวัลหรือทำตามความพอใจมีเงินจากงานอื่นอยู่แล้วมาทำแบบนั้นอาจจะยังอยู่ไปเรื่อยๆ ได้ ถ้ามึงหาสำนักพิมพ์แบบนั้นไม่เจอมึงก็ทำเอง กูไม่ได้ประชดนะแต่หมายความอย่างงั้นจริงๆ ทำหนังสือมันไม่ได้ยุ่งยากมากหรอกทำเป็นสักเล่มเดี๋ยวเล่มอื่นๆ ก็สบายเอง

ทำไมกูรู้สึกว่าวรรณกรรมไทยสมัยนี้ไม่นิยมขายนิยายให้คนอ่านเลิกโง่ล่ะวะ

>>280 ไม่สิ ยิ่งอ่านยิ่งโง่ลง ไม่อยากจะอคติวะ

>>278 ส่วนใหญ่จะแบ่งตามแนวมากกว่า แม้แต่ซีไรต์ก็กึ่งๆ กำหนดแนว ไม่ได้ครอบจักรวาลหนังสือทุกประเภทซะทีเดียว

>>280 จริงๆ ทุกประเทศก็เป็นแบบนี้นะ แต่ตลาดเขากว้างกว่า มีคนเขียนหลายแนวกว่า ที่สำคัญคือคนอ่าน/ซื้อหลายแนวกว่า ของไทยเขียนดีก็มี แต่คนไม่ซื้อ เลยอยู่ไม่ได้ ที่นักเขียนซีไรต์อยู่ได้เพราะถ้าชนะหรือเข้ารอบลึกๆ ห้องสมุดทั่วประเทศต้องซื้อหนังสือไปวาง อย่างต่ำก็หมื่นเล่ม งานก็จะมีคนสนใจซื้อมาอ่าน

เมืองนอกจริงๆ ก็อิงยอดขายจากรางวัลเหมือนกันนะ แต่ไม่ได้เน้นแบบบ้านเรา เพราะเขาอ่านหลายแนวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อเสียงจากรางวัลอย่างเดียวเพื่อกระตุ้นยอดขาย แต่หมวดที่ขายดีที่สุดก็พวก 50 เทานั่นละ

>>282 50 เฉด.. ยังคงหนีไม่พ้นเรื่องเด้า

เอิ่ม... นี่กุแก่เกินหรือว่ายังไงวะ กุถึงรู้สึกว่าไอ้เรื่องนี้แม่งเหี้ยชิบหายแต่ขึ้น top ได้ไง...

https://writer.dek-d.com/Destruction1/story/view.php?id=1702328

กุพยายามทำใจอ่านไป 10 ตอน ก็พบว่าความเบียวเต็มพิกัด สำนวนบัดซบ คำซ้ำคำฟุ่มเฟือย พล็อตแกรี่หลงตัวเอง ถึงกับขนาดกล้าบรรยายว่าพระเอกหล่อเหลาราวกับต้องมนต์สะกัด แถมเปิดฮาเร็มไปทั่วอีกต่างหาก ...นี่สินะ แนวนิยมของสมัยนี้

หรือว่ากุอคติเกินไป ...กุว่ากุพยายามปล่อยวางแล้วค่อยอ่านแล้วนะ

>>284 มันแล้วแต่คนละมั้ง ถูกจริตเราแต่คงไม่ถูกจริตทุกคนอ่ะ ถถถถถถ แล้วที่ว่าแก่เกินนี่ ขอบังอาจถามอายุได้ไหมเจ้าคะ หุหุ

>>284 กูมั่นใจว่า คนเขียนเรื่องนี้คือพระเอก

>>284 กูอ่านบทแรกไม่ถึงครึ่งเลย กลิ่นเบียวมาเต็ม 555 เปิดมาก็งงชิบหาย คือเข้าใจว่าคนอ่านจะรู้จักตลค.จากหน้าแนะนำนั่นแล้วสินะ ในนิยายก็ยัดข้อมูลใส่ปากตาเฒ่าอะไรนั่นโครมๆ

>>284 ไม่แปะเครดิตภาพประกอบด้วย...

>>284 กูนับถือมึงเลยว่ะ อ่านได้ตั้ง 10 บท กูอ่านถึงกลางบทแรกก็ไม่ไหวละ

เป็นผลงานแบบที่เด็กๆ ชอบกัน เบียว ซู แต่เด้าจะมีด้วยมั้ยนี่ยังไม่รู้(อาจมี) ถ้าอยากติด top ก็ต้องแต่งเรื่องแนวนี้ มึงทำไหวมั้ยล่ะ

>>284 แม่งมีคำผิดตั้งแต่แนะนำเรื่องแบบย่อ ส่วนที่กูไม่เข้าใจสำหรับนิยายแฟนตาซีสมัยนี้คือ ทำไมมึงต้องใส่ระดับขั้นพลังเหี้ยห่าอะไรเอาไว้ในคำโปรยด้วยว่ะ กูล่ะนับถือมึงจริงๆอ่านไปได้ตั้ง10ตอน กูนี่ปิดแม่งตั้งแต่คำโปรย

มู้ไดโนเสาร์บ่นหรอวะเนี่ย

>>285 อุอุ อายุเป็นความลับบอกไม่ได้เดี๋ยวโม่งแตก

>>289 - >>291 ต้องบอกว่าเป็นโชคดีที่หลังตอนที่ 1 ไป ตอนนึงมันสั้นแค่ประมาณ 2-3 หน้ากระดาษ กุเลยฝ่าไปถึงนั้นได้ แต่ก็ไปต่อไม่ไหวแล้ววว ถถถถ

>>290 ถ้าเป็นประมาณ 15 ปีก่อนนี่กุเขียนได้แน่ แต่ปัจจุบันนี่ต่อให้มีเงินล้านมาวางตรงหน้ากุก็ไม่มั่นใจว่าจะเขียนได้วุ้ย

>>293 เงินล้านวางตรงหน้า มึงแถมเลียไข่ด้วยกูเชื่อ

>>292 เด็กก็บ่นได้เหมือนกันล่ะวะ หรือมึงอ่านแล้วเทิดทูนมากว่างั้น?

>>293 เอาเงินล้านไปซื้อ gacha คุ้มกว่า ยอมเกลือดีกว่าถูกตำหนิงานเขียนว่าไร้ค่าว่ะ

>>296 นั่นมันความคิดแบบเกมเมอร์ ไม่ใช่ไรท์เตอร์

งานเขียนเข้าประกวด งานเขียนสร้างความบันเทิง ต่างจุดประสงค์กันมาก
ระบบท็อปเด็กดี วัดที่ยอดวิวคนอ่านรายวัน ไม่ได้วัดงานระดับส่งเข้าประกวดที่ไหน
ถ้าไม่เข้าใจหลักเกณฑ์ก็ยากวิจารณ์ว่ะ
ไม่ต้องเดือดร้อนอะไรหรอก ถ้าคนแต่งยังไม่สนใจ เพราะเวลาขายจริงในรูปแบบต่างๆ คนอ่าน แฟนคลับจะเป็นคนตัดสินใจจ่ายเงินซื้อเรื่องนั้นๆ เอง
ในเรื่องแฟนคลับที่เข้ามาอ่าน
จะหวังซื้อจริงไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำ
บางเรื่องยอดอ่านเป็นล้าน แต่ขายจริงหลักพันเท่านั้น
โม่งบ่นในนี้ ไม่เอาไปแซะในหน้านิยาย หรือคอมเมนต์ ก็เหนื่อยเปล่า สุดท้ายถ้าหวังขายจริง คนเขียนยังไม่ปรับปรุง เค้าจะรับรู้ประสบการณ์จริงได้เองแหละ

>>298 แล้วถ้าจะส่งประกวดด้วย เอาบันเทิงได้ด้วยนี่มันจะไปกันได้มั้ยวะ

>>299 ไม่

งานประกวดไม่มีตลาด จนกระทั่งมันชนะประกวดนั่นแหละ

แ ล ้ ว ซี ไ ร ต์ vs F a t e D i a r y พ ว ก โ ม่ ง เ ลื อ ก อ ะ ไ ร

>>301 อย่าทำเป็นเล่นไป ดอปปอบเคยจะเอาถนน(แยม)ขาวไปส่งซีไรต์นะเว้ย

>>302 เฟทไดอารี่มีชื่อไปซีไรต์ แต่ตกรอบแรก

>>303 พอรู้อะไรบ้างรึเปล่า ทำไมตกรอบแรก

>>300 แม่ง อารมณ์เดียวกับหนังตลาดกับหนังรางวัลออสก้าเลยนี่หว่า

>>299 ส่งประกวด กรรมการเป็นผู้ตัดสิน พื้นฐาน ทางความคิดจะเป็นแบบหนึ่ง
ส่วนบันเทิง คนอ่านทั่วไปและยอดขายเป็นคนตัดสิน ว่าเรื่องไหนจะดัง
แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

>>304 อันนี้ฟังเขามานะ เขาบอกว่า การมีชื่อชิงรางวัลซีไรต์นั้นไม่ยาก แค่ให้มีคน (สนพ) เสนอเข้าไป ก็จะมีชื่อเข้าประกวดละ ที่ตกรอบแรกคือโดนปัดตกอะ เหมือนมึงส่ง arc award แล้วไม่ผ่านตั้งแต่รอบแรก

>>307 ดูท่าน่าสับนิยาย สงสัยว่าดอกปอบพลาดได้ไง

ถ้าให้ผ่านนี่สิ 555

ถ้าเฟทไดได้รางวัลซีไรต์กูจะเลิกให้ราคากับรางวัลเหี้ยนี่ไปชั่วชีวิต

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1722107

กูว่ามันก็ใช้ได้อยู่นะ พวกมึงคิดว่ายังไงกันบ้าง? ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่ารูปสวยดีและเนื้อหาก็น่าสนใจในระดับนึงนะ แต่ที่ขัดใจคือการจั่วหัวตอนด้วยคำคม มันแหม่งๆ ยังไงก็ไม่รู้ หรือเพราะโลกมันหมุนไปไกลเกินกว่าที่สมองกูจะประมวลผลได้ก็ไม่รู้...

>>311 อื้มหืม ใช้เซ็ตติ้งญี่ปุ่นด้วยเหรอ ท่าจะยากนะเนี่ย

>>311 มีแนวสงครามโลกเป็น Base แต่ธีมเรื่องเป็นแนวสงครามและความรัก ...อย่างกับคู่กรรมเลยวุ้ย
ส่วนไอ้การจั่วหัวด้วยคำคมน่ะกุว่าไม่แปลกหรอก กุอ่านนิยายฝรั่งก็เจอบ่อย
แต่คนเขียนเขาลงทีเดียวจบเลยวุ้ย

>>311 มีเพลงออโต้ = กดปิดออโต้

กระทู้นี้สับนิยาย แปะมานี่จะให้สับ หรือจะพวกกูเลียไข่ หรือจะให้โม่งสวะไปส่องแล้วบ่น?

>>315 มันก็สุดแล้วแต่มึงจะพิจารณากันหนิ?

>>314 เราพวกเดียวกัน

>>291 กุก็งงนะว่าทำไมขั้นพลังมันต้องเว่อร์อะไรเบอร์นั้นด้วย กุว่ากุอ่านนิยายมาตั้งแต่เด็กๆนะ ไม่เห็นจะมีขั้นพลังอะไรนั่นเลอ มันเริ่มช่วงที่อินิยายแปลของจีนที่มันแนวๆออนไลน์เริ่มมา แม่งก็เริ่มตั้งแต่ตอนนั้นแหละ
แล้วพวกเนี่ย ทะลุมิติเอย พระเจ้าส่งมาเกิดเอย พระเจ้าทำเชี่ยอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ ยังไงมึงก็ต้องได้ไปต่างโลกอ่ะ กุเบื่อมากเลย สามารถเข้าไปไถดูได้ในหมวดแฟนตาซีของเด็กดี แรกๆกุว่ามันก็สนุก หลังๆมันน่าเบื่ออ่ะ ชีวิตแม่งยังกะเติมทรู ห่า บางเรื่องก็แบบ เออนะ มึงตั้งชื่อดีๆสิ เผื่อกุจะได้เข้าไปอ่าน คนอื่นไม่เห็นด้วยก็ไม่ว่าอะไรนะ
กุแม่งเป็นคนเรื่องมากเวลาอ่านนิยาย ดูตั้งแต่ชื่อเรื่อง คำโปรย จัดหน้านิยาย นิสัยตัวละคร ถถถถ #โลกหมุนเร็วจนฉันตามไม่ทันแล้วพี่ชายยย

>>318 เรื่องขั้นพลังกุก็สงสัย ทำไมต้องมีแบบนั้นด้วย
ส่วนไอ้พวกทะลุมิติ ไปต่างโลกเนี่ยมันเป็นพื้นฐานของแนวแฟนตาซีอยู่แล้วกุไม่ซีเรียส แต่ถ้าไปพร้อมพลังเทพแบบว่าคนอื่นสู้ไม่ได้เลยเนี่ยกุขอบาย

เออพูดถึงจัดหน้านิยาย... มีใครแนะนำการจัดหน้ากระดาษที่ออกมาดูดีได้บ้างวะ?
เวลาอัพลงกุต้องมาเคาะ enter เว้น 1 ช่องทุกที เพราะถ้าไม่เคาะมันจะติดกันมากไปหน่อย

>>320 ลองกด Tab ดิ

>>318 ขั้นพลังกูเห็นครั้งแรกก็การ์ตูนโปรโมทนิยายจีน ตอนแรกกูไม่คิดไร แต่อีก 4 เรื่องที่อัพเดทพร้อมกันแม่งเหมือนแข็งกันว่าใครมีพลังหลายขั้นกว่ากัน...เป็นสิบๆ ขั้นไอ้ห่า...

>>322 ระดับพลัง กูว่าไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในท้ายที่สุด พระเอกแม่งได้ระดับสูงถึงสูงที่สุด ที่เหลือมีไว้สำหรับตัวประกอบกับตัวร้าย นิตยสารเกมยังมีสาระกว่า

เจอคนเดบิวต์เป็นมาเควี่ยตัวใหม่แล้ว ไม่วอร์ไม่บังคับใครนะจ๊ะ แต่เถียงกลับทุกความเห็นที่ขัดกู
https://www.dek-d.com/board/view/3804112/

>>319 เล่นเกมแล้วไม่เทพ อัดอั้นตัดตูดเลยเอามาเขียนลงนิยาย self-insert ให้ตัวเองเทพ
>>324 มึงต้องการอะไรจากสังคม

>>324 บางทีมึงควรโฟกัสที่การสับนิยาย มากกว่าหาเรื่องไร้สาระ สร้างดราม่าไปวันๆ จะตอนยาวตอนสั้นหีแตด ทำไมต้องสนใจ ตราบใดที่มันยังมีเนื้อหาให้อ่าน

>>324 กระทู้นินทาเชิญ netwatch นะ

>>311 เดี๋ยวขอจองสับเรื่องนี้ก็แล้วกัน แต่ไม่รู้จะสับได้เยอะแค่ไหน เปิดเรื่องมาเจอชื่ออาณาจักรโน้น เกาะนั่น ตระกูลนี่ โผล่มายุบยับเลย จำยากฉิบ

>>324 ถ้ามึงหมายถึงตับแกตามหาเล่าปี่นี่ล่ะก็ หึๆ บอกตามตรงกูเห็นที่ไหนต้องกลอกตาสามตลบ นางเคยตั้งกระทู้ตอนโล้สำเภามาเด็กดวกใหม่ๆ ให้ช่วยแนะนำเรื่องการเขียน เออ กูก็เข้าไปอ่าน อันดับแรกกูก็ชมนาง เออ ว่าสำนวนดีนะ จากนั้นกูก็แนะนำบางจุดซึ่งมันมาจากประสบการณ์ที่กูได้ตีพิมพ์ และเห็นว่านิยายนาง สำนวนนางมันเฮ่ย น่าจะพัฒนาได้ ที่แนะนำก็คือแนะนำ ไม่ได้บังคับว่าจะต้องทำตาม คราวนี้มาเลยจ้า อารมณ์แบบตรูจะทำอย่างนี้จะทำไม(ด้วยภาษาสุภาพตามสไตล์นาง แต่มีแฝงความอยากวอร์) กูก็บอก...ก็แล้วแต่นางไม่ได้บังคับ แค่แนะนำเฉยๆ แม่มเปิดตอนใหม่เถียงกูเลยจร้า ยกสารพัดวิชาการมาจนกูต้องมองบน กูรู้สึกเสียเวลาชีวิตมากที่คิดหวังดี เหตุการณ์นี้ทำให้กูสงสัยว่าเจอกับคนแบบไหนจนต้องไปเสือกดราม่านาง จากบ้านเก่า ยาวไปหน้าเฟสนาง จนถึงเฟสคู่กรณี แล้วกูก็รู้เลยว่ากูเจอกับคนยังไง จากนั้นกูก็อคติกับนางจนแก้ไม่ได้ เฮ้อ กูเก็บกดมากเวลาเห็นนางทำตัวมากวิชาการ วัลลาบี เหมือนพยายามจะเป็นเซเล็บ แต่กูก็ได้แต่ปล่อยไปตามธรรมชาติ ธรรมชาตินางเป็นยังไงเดี๋ยวคนก็คงเห็นกันเอง

ขอโทษถ้านอกเรื่องแต่กูเก็บกด ตั้งแต่นางมาสิงบอร์ดกูนี่แทบบอกลาบอร์ดนักเขียนถาวร

>>329 เออนางนี้ก็ไปแสดงอิทธิพลในเว็บของเมพด้วยการเปิดบทความที่หัวข้อดูมีสาระแต่เนื้อหาแทบไม่มีเหี้ยไรเลยบางส่วนเหมือนก็อปวางด้วยซ้ำ

เปิดห้องเน็ตวอชต่อเลยสิ สิ สิ สิ สิ

เคยไปเปิดแล้วโดนลบไปแล้ว

กลับไปสับนิยายกันเถอะ เมื่อไหร่ที่นางแกะซองมาม่าห่อใหม่ ห่อใหญ่ค่อยตามสับ เชื่อว่าจากนี้บอร์ดนักเขียนจะได้นางมาเพิ่มสีสันกันบ่อยๆ แน่นอน //กูถอนใจไว้รอ

เปิด netwatch ต้องมีคนช่วยเปิดสิบฟคนด้วย จะได้ไม่ถูกลบ

>>334 ทำไมถูกลบวะ กูตกข่าว

>>334 เออทำไมวะ

>>329 สรุปวอนนาบีจากที่อื่น อพยพมาเด็กีเพราะคนเยอะเด่นดังกว่าสร้างลูกหาบได้มากว่างั้นเหอะ เห็นรับส่งกันดีกับแมวเมาในอีกมู้ ถ้าอีพวกนี้เป็นมาเฟียเจนใหม่แมร่งก็โคตรกระจอกไม่มีสาระ

>>337 ไม่อยากนอกเรื่อง แต่ขอแสดงความคิดเห็นว่า จริงๆ มาเฟียรุ่นเก่าก็กระจอกประมาณนี้ แต่เมื่อก่อนมันยังไม่มีสมาร์ทโฟนไง ไม่สามารถตอบกระทู้ได้ทุกเวลาที่ต้องการ ถ้าอยากจะวอร์ จะดราม่า แม่งต้องนั่งฟัดกันหน้าคอมลูกเดียว เพราะงั้นทุกอย่างมันเลยต้องมีการวางแผน ไม่ใช่คิดจะใส่ก็ใส่ และคนที่ใช้คอมเล่นเว็บบอร์ดเมื่อก่อนส่วนใหญ่ก็อายุประมาณ 20-30 มันเลยดูมีเหตุผล มีการรวมกลุ่ม ไม่ได้ดูวอนนาบีเท่าไหร่

>>337 มึงหมายถึงมู้นี้? https://www.dek-d.com/board/view/3804119/

เออ กูเพิ่งสังเกตว่า netwatch สร้างมู้ใหม่ไม่ได้ แต่ web novel สร้างได้ งงวะ
>>335 >>336 กูอาจจะจำผิดก็ได้ เพราะจริงๆแล้ว มู้ที่ถูกลบเป็นมู้ศาสนาเซฮุน แต่เสือกลงหมวด web novel เลยถูกเป่าทิ้ง

>>340 มึงๆ ลัทธิเซฮุน กูเป็นศาสนาไม่ได้ Cult of Sehun

ลงชื่อ เซฮุน ผู้นำลัทธิ

ไปไหนกันหมดวะ กลับมาสับนิยายก่อน

กระทู้ท้าทายจรรยาบรรณคนเขียนเรอะ
https://www.dek-d.com/board/view/3804223/
เออ จะว่าไปกูก็สงสัย เห็นนิยายติดเหรียญหลายเรื่องมีธีมเหมือนกัน ได้จ่ายค่าธีมกันบ้างปะนั่น ละพวกร้านธีมนี่ไม่มีมาตการเชิงพานิชย์มั่งเรอะ กูว่าก็ถือเป็นลิขสิทธิ์ทางปัญญาอย่างหนึ่งนะ ถ้ามีกูรับรองว่ารุ่งเลยพวกร้านธีม ได้คอมมิชชั่นเพียบ เดี๋ยวนี้เว็บนิยายหลายเว็บมีระบเหรียญกันละ ถ้าทำโค้ดสำหรัยเว็บอื่นด้วยมีรายได้ระหว่างเรียนอื้อซ่าแน่ ธีมก็เหมือนปกนิยายสำหรับนิยายบนเน็ต ถ้ามีก็ดูน่าสนใจกว่าหน้าเว็บเดิม ๆ แต่เลือกใช้ให้เหมาะสมกันหน่อยละกัน

>>343 กูคิดว่า แม่งอาจเป็นหนึ่งในผู้ทำธีมมาตั้งกระทู้เองก็ได้ อาจจะกลัวดราม่าเลยต้องทำเป็นคนอื่นมาพูด เพราะถ้ากูเป็นเจ้าของนิยาย กูจะไม่ถอดล็อคอินออก เพื่อโชว์ความมีจรรยาบรรณของกู และเนียนโปรโมตนิยายไปในตัว 555

>>343 ไม่มีทางรวย ในเมื่อยังมีธีมฟรีให้เลือกใช้อีกเป็นตันๆ ถ้ากูจะเลือกใช้ธีม ทำไมกูต้องไปซื้อ ในเมื่อมีตัวเลือกฟรีตั้งเยอะแยะ เว้นแต่ว่าธีมมึงจะโคตรสวย สวยแบบไม่สามารถหาธีมอื่นมาเทียบได้

>>344 เออว่ะ มีความเป็นไปได้
>>345 เอาจริง ๆ นะ องค์ประกอบหลักมี่ทำให้ธีมสวยคือภาพพื้นหลังซึ่งหาได้ทั่วไปในเน็ต ฝีมือคนทำธีมจริงๆอยู่ที่พวกลูกเล่นอย่างพื้นหลังใสหรือทึบ กรอบรูปแถบชื่อ แต่ก็มีบางร้านที่แม่งอินดี้ไม่เอารูปมาใส่แต่ทำเป็นสีพื้นๆไปเลย แล้วค่อยมามส่ลูกเล่นอื่นๆแซมต่อ

>>340 บางห้องมีการล็อคตั้งกระทู้เพื่อควบคุมเนื้อหาในระดับหนึ่ง(เพราะมีปัญหามาก่อนไปตามๆเอาใน meta ของ netwatch น่าจะเรื่องคอสมั่ง)แต่ห้องที่ไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องไปขอตั้งเองได้

ห้องนินทาที่โดนปิด ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะมีการเล่นหิ้งในกระทู้ แล้วมันไม่ค่อยเกี่ยวกับบอร์ดเด็กดวกเลยเจอปิดมั้ง

สับเรื่อง Into the Light - มุ่งสู่แสงสว่าง ภาค สงครามปลายบูรพาทิศ

ลิงค์ https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1722107

คำเตือน หน้านิยายมีเพลงเปิด Auto

ตอน 1
ก่อนที่จะตัดสินใจสับเรื่องนี้ กูก็ลองไปอ่านคำโปรยคร่าว ๆ เห็นว่าเป็นแนวสงคราม-แฟนตาซี เป็นแนวที่กูค่อนข้างชอบ แถมกูอ่านพวกไลท์โนเวลอยู่แล้ว คิดว่าค่อนข้างคุ้นเคยกับชื่อยุ่นอยู่ แต่พออ่านตอนแรกไปไม่ถึงครึ่งตอน ยอมรับเลยว่ากูอ่านไม่รู้เรื่องเลย ปัญหาของเรื่องนี้คือชื่อแม่งเยอะมาก ชื่อปีศักราช ชื่อประเทศ ชื่อเมือง ชื่อตระกูล ชื่อคน ชื่อแม่งยุ่บยับไปหมด แถมเปิดตัวฉากแรก (ไม่นับ Quote ที่ลอกมาจากของจริงตอนแรกนะ) เป็นฉากงานเลี้ยง แล้วแนะนำตัวละครที 4 – 5 ตัวพร้อม ๆ กัน กูอ่านแล้วจับไม่ได้เลยว่าใครเป็นใคร แถมไม่รู้ด้วยว่ากูควรจะต้องจำตัวละครพวกนี้ด้วยไหม เดี๋ยวกูจะลองลิสต์ชื่อและรายละเอียดสั้น ๆ ที่โผล่มาให้ดูแล้วกัน

- ท่านหญิงโซกะ อิโนฮะ ภรรยาของแม่ทัพโซกะ คัตสึโยริ แห่งกองทัพเขตโทงัง เผ่ามนุษย์
- แม่ทัพโซกะ คัตสึโยริ แต่ตอนบรรยายบอกแค่ว่าแม่ทัพโซกะ
- แม่ทัพนากาโตมิ โนะ โทโกนามิ เจ้าชายประมุขราชสกุลนากาโตมิแห่งเขตโมกิตะ หนึ่งในสองราชสกุลที่มีความสัมพันธ์ทางสายโลหิตกับราชวงศ์มิยาโอกะ เป็น ผบ. กองทัพเขตเมืองหลวง เจ้าภาพงานเลี้ยง
- เจ้าชายนากาโตมิ โนะ ฮิเดทากะ ลูกชายแม่ทัพนากาโตมิ อายุ 22 ปี ยศพันตรี ในกรมทหารรักษาพระองค์ที่สามของพันเอกยามานะ โซสึเกะ เผ่ามนุษย์
- เจ้าชายอาริสึงาวะ โนะ คัตสึโอะ เจ้าชายประมุขของราชสกุลอาริสึงาวะแห่งเขตบูรพา ไว้ผมบ็อบ ยศร้อยเอก ในกรมทหารรักษาพระองค์ที่สาม (กรมเดียวกับคนข้างบน) เก่ง เลื่อนยศเร็ว หัวก้าวหน้า นิยมแนวคิดทหารของไฮราส
- ร้อยโทยามาดะ อิซาโอะ เพื่อนทหารร่วมรุ่นกับคัตสึโอะ มาจากแคว้นไอซาวะที่อยู่สุดปลายตะวันตกของเกาะโอโมชิม่า ลูกขุนนางตกอับ เผ่ามนุษย์ อายุ 17
- เจ้าหญิงอาริสึงาวะ โนะ อากิโกะ อายุ 14 นมแบน เจ้าหญิงแห่งวังอาสุมะ น้องสาวคัตสึโอะ (กูเดาว่าเป็นคนนี้นะ เพราะคนเขียนแม่งบรรยายกับอีกคนติดกันจนอ่านรอบแรกกูสับสนว่าสรุปคนนมแบนเป็นเจ้าหญิงหรือเพื่อนสาววัยเด็กของคัตสึโอะกันแน่) น่าจะคู่กับอิซาโอะ
- คุณหนูโซกะ คาเอดะ ลูกสาวแม่ทัพโซกะ อายุ 17 ปี เพื่อนสาววัยเด็กของคัตสึโอะ
- ท่านย่าชิฮารุกับมิยูกิ คนรับใช้ ตระกูลของฝั่งคัตสึโอะ

นอกจากนี้ มีตัวละครต่างเผ่าพันธุ์ยิบย่อยเช่น โอนิ เทนกุ ชื่อพื้นที่ในยาชิม่า ชื่อประเทศที่โผล่มาเรื่อย ๆ เช่น จักรวรรดิยาชิม่า (ประเทศพวกตัวเอก อิงจากจักรวรรดิยุ่น) เอลีเซีย (พวกมะกัน ฝ่ายศัตรู) ไฮราส (น่าจะเป็นเยอรมันมั้ง เบี้ยวไม่ยอมช่วยประเทศตัวเอก)

อ่านรอบแรกกูแทบจะยอมแพ้เลยล่ะ แล้วบางทีคนเขียนบรรยายโดยใช้สีตาบ้าง บรรยายว่าราชสกุลบลา ๆ บ้าง เด็กหนุ่มบ้าง สามีของคนนี้บ้าง คือชื่อแม่งเยอะสัส ๆ อ่ะ กูต้องเขียนสรุปตัวละครข้างบนไว้ ถึงพอจะจับได้ว่าใครเป็นใครตอนอ่านรอบที่สอง
พอจบงานเลี้ยง ดันตัดเป็นฉากบันทึกของตัวละครโน้น คำพูดของตัวละครนี้ บรรยายท้องเรื่องของโลก มีชื่อประเทศ ชื่อผู้นำโผล่มาอีกบาน จนกูขี้เกียจสรุปละ เลยตามเลยก็แล้วกัน

คือบอกตรง ๆ ว่ากูมึน... ถึงพอจะเดาออกได้ว่าคนเขียนพยายามอิงท้องเรื่องกับโลกช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพียงแต่ให้ฝ่ายเมกาเป็นฝ่ายโจมตียุ่นก่อน แทนที่จะเป็นฝ่ายยุ่นโจมตีเพิร์ล ฮาร์เบอร์ พยายามแนะนำตัวละครผ่านฉากงานเลี้ยง และท้องเรื่องผ่านบันทึกในครึ่งหลัง แต่กูขอบอกตามตรงเลยว่าเป็นตอนแรกที่ล้มเหลวในการทำให้กูอยากติดตามตอนต่อไปว่ะ... ถ้ากูไม่บอกว่าจะสับเรื่องนี้ กูคงเลิกอ่านตั้งแต่เจอชื่อเมือง ชื่อตัวละคร ชื่อศักราชโผล่มายุ่บยับแล้ว (มี Footnote รายละเอียดบางอย่างเพิ่มด้วยนะ) อยากจะบอกคนเขียนเหลือเกินว่า เมิงไม่ต้องพยายามอธิบายท้องเรื่องทุกอย่างภายในตอนเดียวก็ได้... คนอ่านจำไม่ได้หรอก

ถ้าให้กูแนะนำนะ พยายามแนะนำตัวละครทีละ 2 – 3 ตัวต่อตอนพอ แล้วค่อย ๆ World Building ทีละส่วนต่อตอนไปเรื่อย ๆ ให้คนอ่านมีเวลาทำความคุ้นเคยกับตัวละครกับโลกของเรื่องทีละนิดทีละหน่อย

อ้อ ตอนแรกมันไม่ค่อยดึงดูดด้วยว่ะ อาจจะเรียงเหตุการณ์ใหม่ก็ได้ เช่น เริ่มต้นเรื่องด้วยบันทึกหรือคำพูดในส่วนที่ 2 ของตอนแรกก่อน แล้วขึ้นตอนต่อไปเป็นฉากสงครามเลย อาจจะแนะนำตัวละครเอกกับเพื่อนในระหว่างนั้นก็ได้ ให้เจออุปสรรคหรือวิกฤติบางอย่าง แล้วตัดไปฉากย้อนอดีตงานเลี้ยงก่อนรบ แล้วแนะนำตัวละครเพิ่มระหว่างนั้นก็ได้ แต่อาจมีปัญหาในส่วนที่คนอ่านบางคนไม่ชอบแนวเปิดเรื่องแบบตำราเรียนประวัติศาสตร์ ก็อาจจะปิดเรื่องไปเลยเหมือนกัน มันก็แล้วแต่กึ๋นกับสไตล์ของคนเขียนล่ะนะ

พอแค่นี้ก่อน ถ้าว่าง ๆ จะมาสับตอนต่อไป

>>349 แนะนำตัวละครจากงานเลี้ยง นึกถึง the godfather

>>349 กุอ่านแล้ว กุเห็นด้วย คือพล็อตน่ะโอเคเว้ย แต่คนเขียนเล่นยัดตัวละครลงมาทีเดียวจนตัวละครเยอะไปอะ
กุอ่านแล้วนึกถึงเรื่อง Metro ในช่วงแรกๆ เลย ตัวละครที่เป็นตัวประกอบ (แต่ดันมีชื่อ) โผล่มาเยอะแยะจนกุจำไม่ได้
อันนี้ความเห็นส่วนตัวกุ ถ้าเรื่องนี้ทำออกมาเป็นเล่มอะกุว่ากุคงอ่านไหว แต่ถ้าให้อ่านในเว็ปแบบนี้กุก็ขอบายไม่ไหว

>>349 ให้กูเดา แม่งได้แรงบันดาลใจจาก game of thrones แน่ๆ

>>352 แล้วก็เอาประสบการณ์ในการเล่นเกม Crusader King II (บริหารตระกูลยุคกลาง) กับ Hearts of iron IV (กลยุทธ์ุสงครามโลกครั้งที่ 2) เป็นแรงบันดาลใจด้วยนะ เห็นบอกแบบนั้นตอนเอาไปนิยายแปะในกลุ่มคนเล่น 2 เกมนี้พอดี

>>353 แต่ไอ้ 2 เกมนี้มันเล่นแล้วติดจริงๆ นะ กุคนนึงล่ะที่ปาไปเกมละ 300 ชั่วโมง

>>354 ของค่ายนี้ กุเคยเล่นแต่ Europa Universalis 4 ว่ะ CK พยายามลองเล่นแต่เข้าไม่ถึง

กูชอบ Civilization V มากกว่า ตอนนี้เลย 1,000 ชั่วโมงไปแล้ว

>>356 พอกันเลย CIV V เนี่ยสุดยอด ผลาญเวลากุเพียบ
แต่ตอนนี้กุติด Total War : Warhammer II อะ ขนาดเกมเพิ่งออกไม่กี่อาทิตย์ ผลาญเวลากุไปหลักร้อยชั่วโมงละ

พวกมึงจะรีวิวเกมไหมครับ?

ยังไงซะ พวกคนอ่านไม่ได้ติดเกมเหมือนพวกมึงหรอก นิยายยัดเมืองยัดประเทศยัดตัวละครห่าเหวไร ถ้ามึงไม่เคยดู game of thrones มึงจำตัวละครเกินครึ่งได้รึเปล่าล่ะ นิยาย >>349 ก็คงจะเป็นเหมือนกันวะ

>>359 ขนาดกุเล่นเกมวางแผน + อ่าน GOT ยังจำแนกเรื่องนี้ลำบากเลย...
ถ้าค่อยๆ ทยอยออกมาก็คงไม่เท่าไรหรอก แต่นี่โผล่มาตูมเดียวมันเยอะไปจริงๆ นั่นล่ะ

พี่ถุยขาเขียนของตัวมึงเองให้รู้เรื่องก่อนนะคะ

https://www.dek-d.com/board/view/3804177/

มาช่วยตบกลับเข้าทะเลให้

>>349 กุอ่านไปได้ไม่ถึงตอนดีไม่ไหวขอบาย กุว่าเขาขาดคุณสมบัติของนวนิยายเพราะไม่รู้จักการวางจุดโฟกัส

สำหรับกุนิยายมีส่วนประกอบทำให้สนุก นิยายแต่ละเรื่องมีพวกนี้ไม่เท่ากัน
-เนื้อเรื่อง
-ตัวละคร
-การบรรยายอากัปกิริยาว่าใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร
-การใช้มุมมองบอกเล่า

บางคนอาจบอกว่าเนื้อเรื่องดี แต่ถ้าเล่าในแบบนิยายไม่ได้ก็เปล่าประโยชน์ เหมือนอ่านบทสรุปเล่มนึงมากกว่านิยาย

ยกตัวอย่างเรื่องนี้เหมือนกับหนังที่เปิดเรื่องมาถ่ายโครสอัพตัวละครทุกตัวไม่ว่าจะเป็นตัวประกอบแค่ไหนพร้อมขึ้นชื่อเพียงแต่ตามเนื้อหาเริ่มมาเน้นเด็กคนนึง ทั้งๆที่มึงสามารถถ่ายมุมกล้องงานเลี้ยงๆหนึ่งที่เล่าว่าคนคุยกันเรื่องการเมืองโดยไม่จำเป็นต้องรู้จักชื่อซักคนก็ยังได้

แว่บไปนั่งหาหมวดแฟนตาซีเด็กดอยวันนี้ เจอเรื่องนี้

https://writer.dek-d.com/Penceil/writer/view.php?id=1720064

เบียว... แกรี่... ระดับพลัง... และที่สำคัญ รับสมัครตัวละคร...

กุว่าดำเนินไปได้ไม่ถึง 20 ตอน

>>363 กูว่ายังไงก็เบียวไม่เท่า ฉัว ฉัว กุดุส กุดุส ได้

>>363 ไปไล่อ่านเม้น เห็นว่ามาจากกลุ่มนิยายแปลจีนฟรีกันเยอะนะ

มาสับ ๆ งานเราเอง
https://my.dek-d.com/Sir_Extract/writer/view.php?id=1716020

>>366 ว่างพอดี เดี๋ยวดูให้นะ

>>361 มู้นินทาปิดไปแล้วนะ

>>366 ภาษาอังกฤษพังมากนะคนับ กูไม่ค่อยแม่นแกรมม่าเท่าไหร่นะ ถ้ากูผิดพลาดตรงไหนรบกวนเพื่อนโม่งช่วยชี้แนะกูที (ขอบคุณล่วงหน้าคนับ) แต่แนะนำเอาไปให้คนเก่งแกรมม่าช่วยเช็คอีกรอบก็ดี กูยกตัวอย่างสักสองประโยคนะ
--> Please wait now dowloading data.....
จริงๆ ไม่ต้องใส่ now เข้าไปก็เข้าใจประโยคได้
เพราะ dowloading ก็บ่งบอกว่ากำลังทำอยู่แล้ว แต่มึงควรเติม ( , ) เข้าไปด้วย จะได้เป็น Please wait, dowloading data. หรือ Dowloading data, please wait.

---> What your game? อันนี้ผิดแกรมม่าแหงมๆ v.be หายไปไหน เหมือนประโยคล่างที่มึงไม่น่าผิดอ่ะ What your name? ฮัลโหลลมึง...ประโยคโคตรเด็กป.1 ป.2 เลยนะ ควรเป็น What's your game? กับ What's your name? รึเปล่า

เนื้อเรื่องกูขอผ่าน ไม่ชอบอ่านแนวนี้เท่าไหร่ แต่ไปอ่านประโยคสนทนาในเรื่อง มึงยังแข็งเหมือนประดิษฐ์คำ บางประโยคการคุยกันจริงๆ ก็ไม่ใช้กันนะ เช็คตัวเองด้วยการออกเสียงเอา

มาต่อจาก >>349

ตอนที่ 2

หลังจากสับตอนแรกไปอย่างงงงวย กูก็กัดฟันอ่านอีกรอบ พยายามท่องชื่อตัวละคร ชื่อเมือง ชื่อประเทศ นั่งอ่านลิสต์รายชื่อที่กูเขียนสรุปไว้ เอามือตบหน้าแปะ ๆ เอาล่ะ กูพร้อมแล้วเฟ้ย กดอ่านตอนต่อไปล่ะ...

ขึ้นตอนมาก็เจอสาวน้อยอายุสิบหกปีรำพึงว่า “ฮิเดะคุงยังไม่กลับมาสินะ”

อ้ากกกกกก ตัวละครใหม่อีกแล้วเหรอวะ ตอนแรกคิดในแง่ดีว่า คนที่พูดถึงอาจจะเป็นฮิเดทากะที่เป็นเจ้าชาย แต่อีกไม่กี่ย่อหน้าต่อมา ฮิเดะคุง คือ ฮิเดโยชิ ตัวละครใหม่ สรุปเปิดเรื่องไม่กี่ย่อหน้ามาเจอตัวละครใหม่อีก 3 - 4 ตัว “มิตสึกิ” มิโกะสาวอายุ 16 ปี ป้ามาสึดะ ซึ่งน่าจะเป็นตัวละครที่ไม่ต้องจำก็ได้ ฟุตาบะ ยายของมิตสึกิ แล้วก็ฮิเดโยชิ เพื่อนชายที่พูดถึง แถมมีการอธิบายถึงหมู่เกาะโล่กำบัง ดินแดนที่มิตสึกิอยู่ แต่ไม่รู้เพราะว่ากูทำการบ้านมาดี หรือเพราะว่าโฟกัสที่มิตสึกิเป็นหลัก ทำให้กูว่าตอนนี้อ่านง่ายขึ้นเยอะเลยว่ะ

ตอนนี้ก็ยังปูท้องเรื่องอยู่ แต่กูว่าทำได้ดีขึ้นกว่าตอนแรกเยอะเลยนะ อย่างน้อยนำเสนอถึงบรรยากาศก่อนสงคราม อารมณ์ความกังวลของสถานการณ์สู้รบที่ไม่สู้ดี และสภาพบ้านเมืองของยาชิม่าได้ชัดเจนขึ้นเยอะ มีเหตุการณ์ให้มิตสึกิเจอกับร้อยโทยามาดะ อิซาโอะ (ถ้าใครจำไม่ได้ว่าหมอนี่เป็นใคร ลองไปอ่านลิสต์ตัวละครใน >>349 เอาแล้วกัน) แล้วมีการวางเหตุผลให้มิตสึกิกับยายไม่หนีจากพื้นที่เหมือนคนอื่น

แต่ที่กูรู้สึกแปลก ๆ คือลักษณะของอาวุธและเครื่องแบบในเรื่องนี่ล่ะ เท่าที่ดูคิดว่าน่าจะเป็นยุคประมาณสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ร้อยโทยามาดะ ยังแต่งชุดแนวซามูไร ขี่อาชาจักรกล (ตอนแรกกูนึกว่ารถถัง แต่จริง ๆ มันคือม้าสี่ขาที่เป็นหุ่นกลนี่หว่า) มีใช้เวทมนตร์ มีอมนุษย์ บลา ๆ ก็คิดว่ากูคงใช้เวลาสักพักมั้งถึงจะชิน ยังดีที่เรื่องนี้ไม่ได้บ้าพวกยุทโธปกรณ์มาก เลยไม่มีพวกรุ่นปืน รุ่นรถถัง โผล่มาให้ยุ่บยับ ไม่งั้นกูคงกุมขมับอีกแน่

อ่านมาสองตอนแล้ว กูอยากให้คนเขียนเรื่องนี้ลองไปอ่านมังหงะเรื่อง Trench Flowers กับเรื่อง Koukoku no Shugosha เป็นแนวแฟนตาซี มีเรื่องเวทมนตร์ ที่ผสมกับโทนเรื่องสงครามโลก/ สงครามญี่ปุ่น-รัสเซีย ได้ดีมากเลย แต่โดยรวมแล้วถือว่าตอนสองทำได้ดีกว่าตอนแรกเยอะเลย แต่ก็คงต้องดูกันต่อไป เพราะตอนที่อ่านกูยังต้องกลับไปอ่านลิสต์สรุปตัวละครที่กูเขียนไว้ประกอบด้วยเรื่อย ๆ

ถ้าว่าง ๆ จะมาสับตอนต่อไปนะ กะว่าจะพยายามสับถึงฉากสงครามแล้วค่อยหยุดนะ

บรรยายโดยรวมคือดี
มีจุดที่เขียนบทสนทนาของสองคนใน dialogue เดียวกันทำให้งงอยู่

มีภาษาอังกฤษผิดหลักอยู่ บางส่วนก็ตามที่>>369 เขียน แต่อีกส่วนคือจุดที่เราอ่านแล้วขัดๆ

Game start เกมมีหนึ่ง start เป็น verb ดังนั้นต้องเดิม s ต่อท้ายไม่ก็เติม ed ไปเลย ง่ายดี
Downloading complete. ดาวน์โหลดเสร็จแล้วจึงเป็นอดีต ดังนั้น past tense ของ complete ก็ completed.

Game driver now install... now คือการบอกว่ากำลังเกิดขึ้นอยู่เป็น continuous ควรเติม ing ต่อท้าย verb (ในที่นี้คือ install)

Let’s to play game. Let’s ย่อมาจาก let us ดังนั้นก็กลายเป็น let us to play game ซึ่งเป็นประโยคแปลกๆ ดังนั้นตัด to ออกได้ก็น่าจะดี

You are adventurer มันให้ความอารมณ์ประมาณ I am girl. ซึ่งไม่ได้ผิดแต่ก็ไม่ได้ดีด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าเติม the/a/an หน้า noun ได้จะดีมากขึ้น

อันไหนเป็นการกระทำในอดีต (หนึ่งนาทีก่อนก็อดีต หนึ่งวิก็ด้วย) เติม ed ไม่ก็เปลี่ยนรูปบ้างเถอะ (เรียกว่าอะไรไม่รู้จำไม่ได้)
Completed!
You selected Forison
บลาๆ

คนอื่นเห็นว่ายังไงก็บอกด้วย เราก็ไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกัน ง่วงแล้วเลยอ่านแค่บทเดียวและอาจเขียนได้งงๆ หน่อย

>>366
เรื่อง : Original Online
link : https://my.dek-d.com/Sir_Extract/writer/view.php?id=1716020
จำนวน : 4 ตอน
สถานะ : ยังไม่จบ

โอเค ไม่ได้รีวิวนาน ผิดพลาดตรงไหนขออภัย ถ้าจะให้บอกความรู้สึกตามตรงคือ "เฉยๆ" กับเรื่องนี้ ซึ่งเหตุผลจะแจกแจงต่อไป

เนื้อเรื่อง พระเอกชื่อเฟริค แอชเชอร์ เปิดตัวมาด้วยความจน พอดีไปเจอลุงแก่ๆ เปิดร้านรูเล็ตเสี่ยงโชค ก็ตามนั้น แม่งก็ได้รางวัลที่หนึ่ง (เพราะเป็นคนดวงดี - อีกแล้ว) รางวัลนั้นคือเครื่องเล่นเกมห่าเหวนั่นล่ะ จากนั้นพระเอกก็ไปเล่นเกม สร้างตัวละคร ทำเควส จากนั้นก็ไปเจอเหตุการณ์คนในปาร์ตี้ทะเลาะกัน มีนักบวชหญิงคนนึงแยกตัวออกมา แล้วมาขอร่วมตี้กับพระเอก ตอนแรกพระเอกจะไม่ยอม แต่นักบวชหญิงฉกเอาหนังสือประจำตัวของพระเอกไป พระเอกเลยต้องยอมตามนั้น จากนั้นก็ไปตีแมงมุม ตู้มๆ แม่งก็ประมาณนี้อะ จบ 4 ตอน

ต่อไปเป็นการให้คะแนน

คำผิด : เยอะนะ ไอ้ตัวหนังสือเสียงเนี่ยปกติก็ไม่ชอบอยู่แล้ว ยังสะกดเป็น "กริ่งๆ" อีก (มันคือ กริ๊งๆ ใช่ไหม) นะจุดๆนี้ (ณ จุดๆนี้) หน่ะ หล่ะ (อันนี้ไม่ชัวร์ว่าใช้ น่ะ ได้ไหม แต่ ล่ะ สะกดงี้) และก็มีคำผิดประปราย กูให้ 5/10

การบรรยาย : พอใช้ แต่ไม่ดึงดูด คือใช้ภาษาได้พอไหลลื่นโอเค แต่มันไม่ชวนให้กูอ่านคำต่อคำอะ ยัดนู่นนี่มาเต็มไปหมด บางช่วงเต็มไปด้วยการยัดข้อมูล และก็ชอบใช้ตัวอักษรไทยกับตัวอักษรโรมันปะปนกัน เช่น บางทีก็เขียนทับศัพท์ว่า ไอเท่มบ็อกซ์ บางทีก็ใช้ตัวอักษรโรมัน take all ไรงี้ ถ้าให้กูแสดงความเห็น กูขอบอกว่าสมควรทับศัพท์เป็นไทยให้หมด ถ้ามันสำคัญมากก็วงเล็บภาษาอังกฤษไว้แทน แต่ไม่ต้องพร่ำเพรื่อ อย่าง เลเวล (level) งี้ไม่รู้จะวงเล็บทำไม เอาคะแนนมิตรภาพไป 6/10

ตัวละคร : กูเกลียดการเสี่ยงโชคได้ของรางวัล ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลมากๆ (จะยกยอดไปพูดในส่วนของวิจารณ์เนื้อเรื่อง) เรื่องมิติของตัวละครเนี่ยยังตอบไม่ได้ เพราะมันมีแค่ 4 ตอน แต่ต้องบอกว่ากูรำคาญอี ผญ. นักบวชมาก นี่ขนาดปกติเป็นคนรับได้กับผู้หญิงแนวนี้นะ ยังรู้สึกว่าไม่ชอบ คือเหมือนวอนนาบีอะ เหมือนพยายามจะเขียนให้ออกมาเป็นสไตล์นี้ แต่ยังเข้าไม่ถึง มันไม่ให้ความรู้สึกแก่นแก้วน่ารัก หักเหลี่ยมเฉือนคมกับพระเอกเลย ดูแล้วน่ารำคาญและแบนมากๆ ให้ 5/10

เนื้อเรื่อง : กูเห็นอะไรแปลกๆ เยอะมากในเรื่องนี้ ตัวอย่างเช่น เซ็ตติ้งของโลกนี้แม่งไม่ใช่โลกจริงใช่ไหม คือกูอ่านแล้วไม่รู้ว่ามันเป็นประเทศไหนนะ ชื่อตัวละครก็ออกฝรั่งๆ ตอนพูดถึงค่าเงินในบัญชีของพระเอกตอนแรกบอกเป็นหน่วยเครดิต แต่ในบทบรรยายเขียนว่าบาท เรื่องภาษาก็เหมือนกัน บทบรรยายพูดถึง "ภาษาสากล" ประมาณว่าโอเค โลกนี้ไม่ได้ใช้ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษนะ แต่มีภาษาสากลเป็นภาษาที่ใช้กันแพร่หลาย คำถามคือ ถ้าคนมันใช้ภาษาสากล มันจะต้องมีเหตุผลกลใดที่ทำให้มึง (ผู้เขียน) ใช้สองภาษาสลับไปสลับมาทั้งเรื่อง (เดี๋ยวไทย เดี๋ยวอังกฤษ - เดี๋ยวอักษรไทย เดี๋ยวอักษรโรมัน)

ไอ้เรื่องเสี่ยงโชคนี่ก็งี่เง่าสิ้นดี กูมองข้ามความดวงดีไปก็ยังเจออะไรแปลกๆ คือพระเอกไม่มีจะแดก แถมบอกว่าไอ้เครื่องเล่นเกมนี้เป็นของมีราคา จำกัดจำนวนจำหน่าย ทำไมพระเอกแม่งเสือกเอามาเล่นวะ ทำไมแม่งไม่เอาไปขายหาเงินมาแดกข้าว นี่งงจริงๆ นะเนี่ย เอาแค่นี้ก่อนแล้วกัน ให้คะแนนมิตรภาพ 6/10

รวม 22/40

>>366 ตามเพื่อนโม่งไป กูอ่านแค่ตอนแรกก็ไม่ไหวแล้ว นิยายอ่านได้กลางๆนะแต่ขาดความน่าสนใจอย่างแรง แวบแรกที่กูคิด นิยายโคตรเอ้าท์เลย เริ่มเรื่องได้ตามแบบฉบับนิยายเกมออนไลน์ที่เคยบูมเมื่อ3-4ปีก่อน แต่มาเขียนแบบนี้ในตอนนี้เชยสัสๆ

เห็นพูดถึงนิยายเกมส์ออนไลน์ ตามความเข้าใจของกูคือ มันคือนิยายสนองนี๊ดที่ว่าอยากเล่นเกมส์ที่เข้าไปในโลกเสมือนจริงเลยแต่งขึ้นมา ส่วนกูก็อยากเล่นเกมส์ที่ว่าเหมือนกันก็เลยอ่าน แล้วพอกูเข้าไปอ่านนิยายบางเรื่องที่จั่วหัวว่าเกมส์ออนไลน์ แต่อ่านไปอ่านมาเหมือนคนแต่งแมร่งไม่เคยเล่นเกมส์มาก่อนโคตรจะหงุดหงิดที่เข้าไปอ่านเลยหวะ บางเรื่องระบบเกมส์แมร่งก็โคตรไม่สมเหตุสมผล (บางเรื่องมีคนไปแย้งเสืิอกมีลูกหาบมาด่าอีกว่าเขาแต่งให้อ่านฟรีก็ดีแล้ว มึงแต่งได้แบบเขาปะหละ)

>>374 แบบนั้นกูยังรับได้ แต่ไอ้ที่ว่าตอนแรกเป็นเกม แล้วหลังๆ เสือกไปเป็นโลกคู่ขนานนี่กูโครตเกลียดอ่ะ

>>374 แนวเกมออนไลน์เกร่อไปแล้ว ชอบจับนู้นผสมนี่ บางเรื่องกูเห็นเอาแฟนตาซี ต่างโลก ออนไลน์กับแนวจีน มาบวกๆ กันละบอกออนไลน์
แถมๆ ด้วยเกิดใหม่อีก
อีพวกลูกหาบก็ตรรกะพินาศชิบ กูไปซื้อข้าวแดก ถ้าแม่งทำไม่อร่อยกูคงติไม่ได้เลยดิ
กูเจอละปิดทิ้งหมดอ่ะ หมดอารมณ์อ่าน ต่อให้เรื่องแม่งสนุกแค่ไหนก็เหอะ (แต่หาเรื่องที่สนุกได้น้อยโคตร)

>>376 เกร่อไม่เกร่อกูไม่ค่อยสนเท่าไหร่นะ ถ้าบอกเกร่อแนวจีนนี่โคตรเกร่อกว่าอีก กูขอแค่อ่านสนุกเพลินๆไม่หงุดหงิดก็พอละ

Original Online -----> Enrish Online (Enrish หมายถึงการใช้ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ)

ที่จริงถ้าจะเขียนแนวเกมออนไลน์ นอกจากเซ็ตติ้งแล้วยังต้องมีการศึกษาแนวเกมออนไลน์ที่นิยมในปัจจุบันด้วยเว้ย
ตอนนี้ถ้าจะออนไลน์ต้องแบบแนว king avatar (เทพยุทธเซียน Glory) นั่นล่ะ เพราะยุคนี้มันไม่ใช่ยุคเกมออนไลน์ที่สักแต่เก็บ lv แล้วไปเจอ event แล้วแต่เป็นแนว e-sport หรือไม่ก็ end game content ที่เน้นใช้ฝีมือและ item วัดกันตอน lv ตัน ไม่ใช่ว่าจะมาไล่ผจญภัยตบเควสเหมือนกับเมื่อก่อนได้

จะว่าไป... กุจำได้ว่าเมื่อก่อนในเว้ปเด็กดอยเคยมีคนเขียนนิยายเกมออนไลน์แนว CIV V ด้วย... คอนเซ็ปเขาดีนะ แต่เสียดายคนเขียนมือไม่ถึงเลยล่ม

>>379 ใน mmorpg ที่ดังๆ พวก end game content ก็คือยุทธศาสตร์ทหารดีๆนี่เองนะมึง

คือมึงต้องเตรียมพร้อม เกียร์มึงต้องถึง ต้องเคลียร์ low dungeon มาเองให้ได้ อาวุธกับเกราะต้องมีครบ จนพวกคณะหัวหน้า guild เขาเชื่อใจมึงก่อน

ถ้ามึง dps มึงต้องอย่างนี้ ถ้ามึง heal มึงต้องอย่างนี้ เขาถึงจะเอามึง ไม่ใช่แต่งเกียร์ตามใจ แต่งสกิลตาม ถ้ามึงไม่ทำตามเขาสั่ง มึงก็เตะฝุ่นต่อไป

เข้ามาแล้วมีนัดวัน เคทุกศุกร์นะ มึงต้องฟาร์มของ มีบัฟให้ครบ มีโน่นนี่โพชั่นห่าเหวราคาแพงๆ จำแผนมีเวลาแบ่งหน้าที่ ตอนสู้ใครโง่หน่อย ตายหมด 40 คน เอาๆ ค่าซ่อม ค่าโพชั่น ค่าทุกอย่างหายหมด

โทษมึงเลยล่ะไอ้เหี้ย ไม่ต้องทำเงียบ ไอ้สัด โง่ดักดานมากคนปัญญาอ่อนอย่างมึง เตะแม่งออกจาก guild เอาคนใหม่มา อย่างกับบริษัท

ของ drop ก็แย่งกันเหมือนหมา บางทีไปยี่สิบรอบยังไม่เคยได้เลยของที่กูอยากได้

นี่กูข้ามกระบวนการที่ไปลุยสด new content ด้วย แม่งลองผิดลองถูกกัน หาวีดีโอพวก curse ดูกันใหญ่

ลงชื่อ เซฮุน กูไม่เคยคิดจะเขียนนิยาย online เลยว่ะ กูขอเก็บมันเป็นความทรงจำที่ดีของกูดีกว่า กูมือถึงยิ่งกว่าถึงนะ แต่มันก็จะแค่เหมือนเขียนชีวประวัติตัวละครกูไง มันเป็นความจริงไม่ใช่นิยาย

นิยายเกมออนไลน์เด็กดวก พวกเนื้อเรื่องแม่งไม่อำนวยต่อพล็อต e-sport ละว่ะ

>>366 โดนลบไปแล้ว

ขยันจีจี กูล่ะเซ็ง สร้างมาม่าเก่งชิบ
https://www.dek-d.com/board/view/3804605/

>>383 เป็นเซเลปมีเรื่องอะไรต้องรีบโพสลงบอร์ดให้ลูกหาบได้รับทราบกันถ้วนหน้า

>>382 ถ้าจะท้อใจง่ายขนาดนี้ ไม่ต้องเอามาให้สับก็ได้นะ แหม

>>382 เสียเวลาสับเลยสลัด เข้าโม่งมาคิดจะให้มาโอ๋เอ๋เป็นเด็กน้อยไงวะ แค่นี้ทำใจไม่ได้ก็สมควรปิดไป ที่สับก็โคตรเบาเลย
ปล.โม่งเงี่ยนคนับ กูรออ่านที่สับน้องเบลอยู่นะเพิ่ล กูเพิ่งอ่านนิยายนางจบไป กลัวสปอยเลยไม่ได้เขียนก่อน

>>366 GGEZ

>>383 เว็บนั้นมีบอร์ดนะเว้ย แต่คนมันน้อยไงเลยเงียบๆ ที่มาตั้งเด็กดวกเพราะคนเยอะ+ลูกหาบมีปะ

>>380 ผิดมั้ยถ้ากุอยากขอกอดมึง ...ทุกวันศุกร์กุต้องกลับมานั่งรอหน้าคอมยัน 4-5 ทุ่มเพื่อรอปาร์ตี้ในกิลด์ลงเรด จัดกระบวนทัพกันแทบตาย สุดท้ายเฟลเพราะมีคนเดินพลาดแค่คนเดียว ทำกระบวนทัพทั้งหมดเสียเนี่ย Orz

>>381 ไม่ต้องเด็กดวกหรอก คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจว่า e-sport คืออะไรเลย

>>382 ลบเร็วเหี้ย!

กูเห็นแต่ล่ะกระทู้แม่ง มีแต่บ่น ดราม่า เรียกร้องความสนใจ =.=
https://www.dek-d.com/board/user/Guojia/

โม่งถามหน่อย ถ้าให้ตัวเอกแม่งทำตามเป้าหมายเสร็จตั้งแต่ช่วงแรกๆ แล้วมีเหตุการณ์ในตอนหลังมาสร้างเป้าหมายให้ตัวเอกใหม่เรื่อยๆ แบบนี้มันเรียกว่าออกทะเลไหมวะ

>>383 ดูวิธีการตอบใน คห. 4 นางแล้วแบบ อารมณ์เดียวกับที่กูโดนตอนไปแนะนำในหน้านิยายนางเลย กูมั่นใจละ ว่ากูไม่ได้อคติและคิดไปเอง ขอบคุณ

>>391 ถ้ามึงคุมพล็อตดีๆ มันก็ไม่ออกหรอก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมึงต้องรู้ด้วยว่าหัวใจหลักหรือแก่นเรื่องอันแท้จริงของนิยายที่มึงเขียนและต้องการจะสื่อออกไปคืออะไร ถ้ามึงคุมตรงนี้ได้ มึงจะเปลี่ยนกี่เป้าหมายมันก็ไม่มีทางออกทะเลอะ อันนี้กูพูดในฐานะที่กูเคยแต่งแนวนี้ และจบไม่ออกทะเลอะนะ

>>391 ไม่น่านะ เหมือนพวกการ์ตูนที่มีเป็นอาร์คๆ ช่วงๆไปใช่ป่ะ อย่างช่วงนึงเน้นสู้มังกร ช่วงต่อมาเน้นกอบกู้ดินแดนไรงี้ใช่มะ

>>392 กูอ่านแล้วแทนที่จะสงสาร แม่ง...

>>395 กูบอกเลยว่าไม่ใช่เพราะนางหัวร้อนเลยเป็นงี้หรอก เพราะกูเจอกับตัวและพบเห็นสถานการณ์อย่างนี้อยู่เป็นระยะตามกระทู้ที่นางตั้งหรือตอบ เรียกได้ว่าเป็นลักษณะนิสัยส่วนตัวที่ฝังรากลึกแล้ว อย่าหลวมตัวไปเห็นต่าง หรือแนะอะไรที่ขัดใจนางแล้วกันถ้าไม่อยากต้องเสียสุขภาพจิต กูนี่โคตรสงสารเหล่าผู้หวังดีสุดๆ ต่อไปจะกล้าไปแนะอะไรใครมั้ย กูนี่เข็ดขยาดแบบฝังรากมาก

ตกลงพวกมึงจะสับนิยายหรือจะสับคน เปิดประเด็นกันตลอด

>>389 คนเดียวพลาดแล้วตายทั้ง raid นี่เป็นไรที่เหี้ยสุดละ วิ่งหนีสุดชีวิตให้หลุดจาก combat ถอดเกราะถอดดาบ เพื่อลดค่าซ่อมที่แสนแพง มึงครับ Backpack ไม่มีที่ว่างพอ ต้องเลือกชิ้นที่คุ้มที่สุด บอสแม่งก็เก่งชิบ ทั้ง Lag ทั้ง Glitch มาจน 5% hp server reset

ลงชื่อ เซฮุน กูบอกตรงๆ เอาชีวิตจริงเขียนเป็นนิยายไม่ไดั มึงต้องผจญเองว่ะถึงจะเข้าใจ

>>392 อ่านคห.4กูสงสารคนหวังดีชิบผาย โดนนางด่าหุบปากออกสื่อเลย โคตรยิ่งใหญ่เลยขอบอก

>>397 ถ้า netwatch ตั้งมู้ได้ ป่านนี้คนย้ายไปนินทามู้นั้นกันหมดแล้ว

>>386 อ่านจบละเหรอ ดีเลยอะ รอกูลงสรุปวีกนี้นะ กูเห็นหลุมเบ้อเริ่มในโครงเรื่องน้องเค้า น้ำตาจิไหล ไม่อยากแตะพล็อตชาวบ้านเล๊ย แต่เพื่อน้องเบลกูยอม

>>400 ถ้าโถส้วมมันติดตั้งได้ คนมันคงไม่ขี้ใส่อ่างล้างหน้าหรอก ป่านนี้มันก็ย้ายไปขี้ในโถส้วมกันหมดแล้ว

ลงชื่อ เซฮุน กูแปลให้นะ เดี๋ยวพวกมึงจะไม่เข้าใจ

>>401 น้องเบลต้องเข้าใจมึง กูเชื่องั้น

>>400 ก็ตั้งได้ พวกมึงไม่ไปขอตั้งเอง

>>404 กูเคยขอ แอดมินไม่ยอมให้ มึงลองทำแทนสิ ดวงกูไม่ดีอยู่

มีใครสับเรื่องนี้ยัง?

https://www.dek-d.com/writer/47346/

>>405 แถวบ้านกูมีโทรลอยู่ โดนแบน ISP มาเป็นเดือน ไม่งั้นกูไปตั้งให้ละ

>>407 มึงเดาอย่างนี้ทุกเรื่องปะวะ?

>>408 เดาอะไร? มึงไม่เคยไปอ่านใน Meta เหรอ เวลาแบนเขาบอกทุกครั้งนะว่าแบน มีแสดง IP Address ด้วย กูถึงรู้ว่าแถวบ้านกูมีโทรล

นิยายของกุยแกฯ เกี่ยวกับอะไรวะ เปิดให้อ่านฟรีปะ ไหนขอลองอ่านหน่อยได้ไหม เผื่ออยากสับ

>>410 ตามไปดู https://my.dek-d.com/Guojia/writer/

>>410 เราเคยอ่าน การบรรยายไม่ถูกใจ (เราเป็นพวกเรื่องมาก) เริ่มมาสองย่อหน้าแรกก็ใส่ใจกับบรรยากาศรอบตัว (มันก็ดีอยู่หรอก แต่นี่เกินไป) บรรยายถึงราคาอาหาร ทนอ่านต่อไม่ไหวเลยปิดไปแค่นั้น

อ่ะ มีคนสับที่ห้องลิทแล้ว

https://fanboi.ch/literature/4668/48-/

>>410 ลิงค์มาจากในบอร์ดว่ะ คนโพสไม่ใช่กูนะ

https://imgur.com/HMJIAKm

>>414 แม่ง ขาย sex story เลยนะเนี่ย

>>414 คนเขียนแมร่งขี้เงี่ยนเลยส้ม ถึงว่าคนหวังดีโดนด่ากลับ

>>414 เดี๋ยวนี้คนพรรค์นี้ใหญ่โตคับบอร์ดด่าคนอื่นสั่งหุบปาก เมื่อก่อนต้องมุดอยู่ในซอกหลืบไม่ใช่รึวะ อนาจจิตเว็บเด็กดี

มันก็ขายนิยายเรตในเว็บขี้เงี่ยนมาก่อน พอโดนคนอ่านทวงฉากเรต เสือกหงุดหงิดอะไรวะ
กูตะหงิดๆ ตั้งแต่มันบอกว่าคนทวงเป็นคนเดียวกับที่ก๊อปฉากเรตของมัน สกิลมโนสูงส่งรึเปล่า แต่ก็ช่างเถอะ

>>414 ไอ้สัส ถถถถถถถถถถถถ ไม่รู้จะพูดไงดีเลย ดูชื่อแต่ละตอน horny as hell สัสๆ

>>418 อยากเรียกเรตติ้งสร้างลูกหาบเฉยๆ

https://my.dek-d.com/linklight/writer/view.php?id=1684106
ใครว่างลงมาสับให้หน่อย เหลืออีกตอนหนึ่งก็จะจบช่วงเกริ่นนำแล้ว
แนะนำว่าสายฟรีเข้าไปลองอ่านดูก่อนนะครับถ้าสนใจเพราะเดี๋ยวจะปิดตอนขาย คงประมาณเที่ยงคืนของวันที่หนึ่งแหละ

กูก็เคยโดนแบน แถวบ้านกูแม่งมีโทรลแน่ๆ

ลงชื่อ เซฮุน

มีคนสับเรื่องนี้ไปยังนะ
https://writer.dek-d.com/ArisaChuchu/writer/view.php?id=1670244

เห็นมาตั้งกระทู้เหงาอยู่ในบอร์ด
https://www.dek-d.com/board/view/3803013/

>>424 เนียนโปรโมทนิยายตัวเองเหรอจ๊ะ

>>421 ประทานโทษนะ ถ้ามึงจะให้ช่วยสับแต่แม่งจะเปิดขายวันนี้แล้วโม่งไหนจะมีเวลาตาลีตาเหลือดไปลุยอ่านจนจบแล้วต้องใช้ค.ว.ย (คิดวิเคราะห์แยกแยะ) สับให้มึงทันละเว้ย อย่างน้อยควรขยายเวลาสักอาทิตย์นึงนะ
ปล. ขอชื่นชมมี่มึงกล้าลากนิยายให้โม่งมาสับถึงที่
>>424 บางทีกูก็สงสัย นี่น้องมุมาจุติปะวะ มีความเวิ่นพอกัน ถ้าให้กรอกแบบฟอร์มเลือกช้อยนี่ใช่เลย

>>423 >>424 แต่อ่านตอนแรกแล้วคิดว่าน่าสนใจ เดี๋ยวพรุ่งนี้ว่างๆ จะสับให้ละกัน

>>426 มี 10 ตอน ตอนละประมาณสองพันกว่าคำเองมั้ง
แต่ถ้าเพื่อนโม่งต้องใช้เวลา ค.ว.ย ในการสับก็ยืดออกไปให้ได้เสมอ

เปิดเทอมแล้ว คนสับไม่น่าจะว่าวทั้งวัน

>>429 ว่าวทั้งวันเมื่อยมือตายห่า555555

>>430 เมื่อยหรรม

>>429 กูรู้ว่ามึงจงใจชัดๆ 555

ไอ้เรื่อง Doombringer นี่มันดีป่าววะ ใครช่วยสับหน่อย
กุลองอ่านไปสองตอนรู้สึกเฉยๆ แต่นิยายมันมีเกือบสองร้อยตอนแล้ว และเห็นเด้งขึ้นมา top 20 เป็นระยะๆ
แปลว่าน่าจะมีดีอะไรบางอย่าง?

>>433 ก็ดีนะ เทียบกับนิยายเด็กดีทั่วไป แต่ไม่ใช่สมัยนิยมอย่างมาก อีกทั้งเดินเรื่องน่าเบื่อไปหน่อย

>>433 กูจองสับ Doombringer นะ อยู่ในลิสต์ของกูพอดี(คิวต่อจากน้องเบลที่รัก) มันเป็นนิยายน้ำดีที่เนิบนาบ แต่มันก็มีการวางแผนมีชิงไหวชิงพริบกัน ขนาดที่กูอ่านข้ามไปถึงตอนร้อยกว่า ๆ กูยังสามารถสนุกกับเนื้อหาในตอนนั้น โดยที่ยังไม่รู้เนื้อเรื่องก่อนหน้าเลย ก็ค่อนข้างประทับใจว่ะ
อีกอย่างกูเคยเห็น Yoyotanya(คนเขียน) ตอนสมัยเล่นประมูลด้วย ถือว่าทักทายเพื่อนเก่าไปด้วยในตัวละกัน

by โม่งเงี่ยน

>>435 มันไปโพสทั้งเด็กดวกกับแมวดุ้นด้วย เนี่ย แมวดุ้น http://www.nekopost.net/novel/2629

>>436 โพสต์ตั้งแต่สมัยแมวดุ้นยังรับนิยายไทย ถ้ายังทนเขียนมาจนถึงบัดนี้กุก็นับถือแล้วล่ะ

Ky เอาสาระมาฝาก เกี่ยวกับการปล่อยเถื่อนที่ทำให้ยอดขายหนังสือตกแล้วสนพ.แม่งโบ้ยให้เพราะไม่ใช่การตลาด
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1646841538669365&id=197368946949972&refid=18&__tn__=*s-R

มาเฟียในบอร์ดมีการใช้ตรรกะที่ผิดๆเยอะนะ

พิมพ์ยาว ใส่ใจพิมพ์ ไม่ได้แปลว่าเจตนาจะดีเสมอไปนะครับ (ไม่ได้บอกว่าเขาเจตนาไม่ดี แต่การใส่ใจมันมีได้หลายแบบ ฆาตกรที่ฆาตกรรมอย่างแนบเนียนเขาก็ใส่ใจในการกระทำ เผด็จการที่ว่าอำมหิตอย่างฮิตเลอร์ก็ใส่ใจในการวางแผนยึดครองและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เหมือนกัน)

เจตนาของเขาสามารถเห็นได้จากหลายๆครั้งที่มีกระทู้ถกเถียงแบบมีฝ่ายที่ผิดอย่างเห็นได้ชัดเจน หรือมีฝ่ายที่ถูกรุมอย่างเห็นได้ชัดเจน (บางทีถูกรุมไม่ได้แปลว่าผิด แต่บอร์ดนี้ส่วนใหญ่คนไม่ผิดไม่ค่อยถูกรุม)

คงไม่พูดมากไปกว่านี้เพราะขี้เกียจหาหลักฐานมาให้ดู และเดี๋ยวจะกลายเป็นจ้องจับผิด เจ้าคิดเจ้าแค้น ขาใหญ่ มาเฟีย ตัวเองก็ไม่ได้ดีอะไร ฯลฯ อะไรก็ไม่รู้ไปอีก แต่มันมีเหตุผลอยู่ครับว่าทำไมหลายๆคนถึงไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับการตอบของสมาชิกคนนี้ ไม่ใช่แค่เพราะยาวหรือเวิ่นเว้อครับ

>>439 มึงต้องการอะไรจากโม่งหะเงินบวก

สบายดีมั้ยเพื่อนโม่ง แวะมาทักทาย

พี่ไม้ป่าเดียวมาแล้ว
https://www.dek-d.com/board/view/3804885/

>>442 ไม่เข้าใจว่ะ อธิบายที

>>442 พวกเดียวกับดอกขาวปะวะ เห็นอีมู้มีคนตั้งถามถึงดอกขาวอยู่

>>444 *อีกมู้
ตกคำไปหน่อย

>>443 กูแค่ล้อชื่อมัน Louis Forest เป็นไม้ป่าเดียวกัน (เกย์) ส่วนหัวกระทู้พอเข้าใจนะว่าล่าแม่มด แต่กูว่ามันอธิบายไม่รู้เรื่องว่ะ

มีคนเข้าไปด่าพี่ถุยละ

>>447 น่าด่าอยู่หรอก ทำตัวหล่อ คนกลางแต่ไม่รู้อะไรเลย สะเหล่อสัสๆเป็นอีกตัวที่งี่เง่าพอๆกับดอกขาว

>>448 สรุปนี่มันพูดถึงอีดอกขาวหรอ?

ไอ้ถุย เอาเวลานินทาชาวบ้านไปฝึกเขียนนิยายเถอะ

>>450 มึงคือเซฮุน ปะ สงสัย

ฝากสับ
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1708786&chapter=21

>>452
ถ้ากูสับ รับรองว่าจะเลียจนหีชุ่ม

>>453 นี่มันนิยายโม่งแต่งนี่หว่า สาส

>>452 ถถถถถถถถ สนใจเลีย ค.ว.ย มั้ยมึง
>>453 ถถถถถถ มีโปรโมทบ้าง ไรบ้าง

>>453 >>454 กูแท็กผิด โธ่ถัง 55555

อะไรคือกุดุสกุดุสวะ

>>457 เสียงเอฟเฟคตอนฟันหมาป่า ในนิยายเรื่องหนึ่ง ฉัวะๆๆ กุดุสๆๆ

>>457 ย้อนไปอ่านกระทู้ภาคที่แล้วละกดค้นหาในหน้าเว็บว่ากุดุส แล้วจะเข้าใจเอง

>>458 ต้องฉัวๆ กุดุสๆต่างหากล่ะ 555

ต่อให้สวยแค่ไหน ไม่มีคนรักก็เท่านั้นแหละ แต่ก็ดีกว่าคนไม่สวยนิดนึง

>>461 เพ้ออะไรมาวะเนี่ย 555

>>458 อ๋อ แต๊งกิ้วนะ
ซาวน์เอฟเฟคของพวกนิยายแปลนี่เอง
ว่าแต่นิยายแปลในเว็บเด็กดอยยังเหลืออยู่อีกหรอวะนึกว่าสูญพันธุ์ไปแล้วซะอีก

>>463 ไม่หรอกมึง โดนฉะเรื่องขอโดเนทไปรอบหนึ่งก็ลงใต้ดินไปโพสของโดเนทที่อื่นที่ไม่ใช่ในเด็กดีแทน สรุปไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่ะ

Your Questions Answered: How to Introduce Multiple Characters at Once?
Q. I have a quick question! If you have a protagonist stepping out of his Normal World and there meets a group of four other main characters (and this would be the first time the readers meet them too), how would you go about having the first meeting? Being that the protagonist is generally nice and avoids conflict, should the nicer group member be met first? Or the more abrasive one? Or all of them at once? Basically how do you write for a group of characters with one main protagonist (i.e.: Guardians of the Galaxy)?—Tiffany S.
A. Introducing multiple characters is always tricky. Basically you have to:
1. Create mini-characteristic moments for each character, so they are all immediately distinct in the reader's mind.
2. Maintain flow and causal progress within the plot, so their introductions don't feel like a grocery list.
Dialogue is one of the best and easiest ways to immediately characterize a diverse cast. If it's in any way possible to layer the introductions, so you can manage only two at a time, that's great. For example, perhaps part of the group is off hunting and comes back in later. If they can be off doing something that turns the plot when they return, so much the better.
As for interpersonal conflict, always keep all the characters' personal goals in mind. What does each individual person in this scene want to accomplish? And how can some of those goals conflict with each other?
When you're able to create organic conflict, it's also one of the best ways to easily characterize characters—since it gives them something pertinent and passionate to talk about.

>>465 ขอซับไทยด้วยค่ะ

>>465 มีประโยชน์นะ กูขอลิ้งก์หน่อยดิ

>>466 กูไม่ถอดทุกคำพูดละกัน

อีทิฟฟานี่มันถามว่าทำไงกูถึงจะแนะนำกลุ่มตัวละครหลักหลาย ๆ ตัวให้คนอ่าน(ที่ยังไม่รู้จักพวกห่านี่)ได้

แล้วจะให้การพบเดอะแก๊งค์ครั้งแรกเป็นแบบไหน
สมมติว่าตัวเอกที่กูเขียนมันช่างแสนดี ไม่ชอบมีปัญหากับขาวบ้าน พวกมึงจะให้เจอพวกที่นิสัยดี ๆ ก่อน หรือเจอพวกจังไร(น่ารำคาญ)ก่อน หรือเจอแม่งทุกแบบพร้อมกันไปเลยทีเดียว (กูว่าเจอกันทุกแบบน่าสนใจนะ แต่เขียนให้อ่านสนุกยากแน่) จริง ๆ กูอยากรู้ว่ามึงเขียนนิยายที่ตัวเอกต้องไปอยู่ในแก๊งค์กันยังไง แบบเรื่องการ์เดี้ยนเงี้ยอะ

คำตอบ
ตั้งใจฟังนะอีดอก การเขียนตัวละครหลักหลาย ๆ ตัวแบบที่มึงถามมาเนี่ย มันชวนให้ปวดแตดอยู่แล้ว แต่กูปลดปล่อยมึงจากความเจ็บปวดนั้นได้ แค่มึงทำตามนี้
1. สร้างฉากย่อยที่แสดงความเป็นตัวตนของแต่ละตัวละคร เช่น นายเอเป็นคนขี้เงี่ยนชอบเย็ดมือตัวเองเป็นประจำ ก็อาจจะบรรยายว่านายเอกำลังชักว่าวในห้องน้ำ ในขณะที่นางบีกับนางซีกำลังคุยกันเรื่องสงกรามจะหย่าแอ๊ฝว์มั้ย ก็จะทำให้คนอ่านรู้ว่าอีดอกสองคนนี้ขี้เมาท์ และรู้จักพวกมันไปด้วยในตัว รวมถึงนายเอที่กำลังชักว่าวอยู่ด้วย พอตัวเอกมาเจอพวกมัน(อีบีอีซี)ก็ชวนอีตัวเอกมาร่วมวงเมาท์ด้วยก็ได้ ก็จะทำให้รู้ตัวเอกเราก็ขี้เสือกเหมือนกัน (กูว่ากูยกตัวอย่างไม่ค่อยดีนะ แต่ที่เข้าใจก็ทำนองเนี้ยแหละ) คือกูลองนึกตาม มันก็จริงนะ กูสามารถแยกจำตัวละครห่าพวกนี้ได้เลย ถ้าเขียนแบ่งฉากย่อย ๆ ภายใต้ฉากใหญ่ที่มึงต้องการแนะนำตัวละครทั้งหลายทั้งปวงนี่
2.มึงยึดหลักการดำเนินเรื่องของมึงให้มั่น คือก็ปล่อยให้การบรรยายลื่นไหลและเป็นเหตุเป็นผลไปกับพลอตที่วางไว้ ไม่ต้องจงใจเน้นว่ากูต้องแนะนำ นายเอ นางบี นางซี คนละย่อหน้า แต่ละย่อหน้าก็บรรยายสีตาสีแตดของแต่ละคน มึงอย่าทำแบบนี้ ไม่งั้นการแนะนำตัวละครของมึง จะเหมือนมึงกำลังอ่านลิสต์ของที่แม่มึงใช้ให้ไปซื้อที่เซเว่น

ไดอะล็อกก็เป็นอีกวิธีที่แยกแยะคาแรคเตอร์ของตัวละครได้อย่างสบายแตด (ซึ่งกูบอกเลยว่า ถ้าไดอะล็อกดี นิยายพวกมึงไม่น่าเบื่อแน่นอน อย่างน้อยก็กูคนนึงที่ไม่เบื่อ จริง ๆ กูชอบฟังคนเถียงกันอย่างทีเหตุมีผล มันวัดไหวพริบของแต่ละคนได้จากคำพูดแต่ละคำ/ประโยคที่แต่ละฝ่ายใช้)
ตัวอย่าง ให้ตัวละครสักสามคนออกไปล่าแย้ ส่วนตัวเอกกับนางบีกำลังช่วยกันหั่นตะไคร้ ซอยผักชี เตรียมตัวปรุงอาหารกันไป คราวนี้มึงง่ายละ เหลือแค่สองคน มึงก็ให้มันเมาท์กันไป แล้วนางบีก็อาจเผลอแย้มว่า ตอนเย็ดกับผัว บางทีมันก็มโนว่าผัวคือมิสเตอร์เกรย์ ลึก ๆ อยากให้ผัวเอาแส้เฆี่ยนดากมันบ้างในบางเวลา
คือง่าย ๆ มึงก็แค่ปล่อยตัวละครดำเนินชีวิตของมันไป ไม่ต้องบังคับให้พวกมันมายืนเรียงแถวหน้ากระดานแนะนำตัวทีละคน
แล้วพอไอ้สามคนล่าแย้กลับมาเสร็จ ก็ให้เนื้อเรื่องเดินด้วย โดยการให้ไอ้สามคนนั้นไปเจอเรื่องราวบางอย่างเกี่ยวกับองค์กรลับที่เป็นศัตรูกันอยู่ หรือเกิดปมขัดแย้งในภารกิจ เช่นต่อยกันเพราะแย่งกระหรี่ระหว่างทางไปล่าแย้ ไม่ก็ใครสักคนถูกจับไปเรียกค่าไถ่ คือเวลาพอมันมีปมขัดแย้งขึ้นมาเนี่ย เวลาเมาท์มอยกันตอนที่กลับมารียูเนี่ยนแล้วเนี่ย มันจะแซ่บขึ้นหลายเท่า ทำให้รู้สันดานของแต่ละคนได้ดีขึ้นด้วย โดยดูจากการตอบสนองของแต่ละตัวละครต่อปมขัดแย้งนั้น ๆ และอย่าลืมให้มันสอดคล้องกับเป้าหมายของตัวละครด้วยล่ะอีดอก

ปล1. ออกตัวเลยว่ากูแปลเหี้ยอยู่ ผิดถูกยังไงแนะนำ/เสริมได้เลย กูไม่ค่อยเก่งมาก แค่พอถามราคากระหรี่เมืองนอกได้นิดหน่อย แต่หวังว่าพวกมึงได้ประโยชน์กันบ้าง ไม่มากก็น้อยนะ (กูเองก็ได้ประโยชน์ เดี๋ยวเอาไปใช้ในนิยายกูมั่ง)

ปล2. น้องเบลจ๋า รอพี่อีกนิดนะคะ

by โม่งเงี่ยน

>>467 มึงแต่งแนวไหนวะ

>>468 แฟนตาซี ไซไฟคับ

>>467 ใช้ไม่ได้กับนักอ่านไทย ถ้ามึงอยากจะให้คนอ่านเข้าใจว่าตัวละครขี้เม้าท์ มึงต้องบอกให้ชัดๆว่า ตัวละครตัวนี้ขี้เม้าท์ การแทรกหรือแฝงข้อมูลผ่านบทสนทนาใช้ได้เฉพาะกับนักอ่านที่มีคุณตะพาบเท่านั้น

>>470
กูเถียงไม่ออกเลยอีห่า

>>470 กูเห็นด้วย นักอ่านไทยส่วนใหญ่อ่านนิยายผ่านๆ ไม่ค่อยเอาประเด็นอะไรมาย่อย ต้องให้คนเขียนเคี้ยวมาให้ กูสังเกตว่าแนวกระแสส่วนใหญ่เป็นเนื้อเรื่องแบบไม่ต้องใช้สมองอ่านมากทั้งนั้น

>>467 เด็กดวกส่วนใหญ่ชอบใช้วิธี Tell and Show หรือ Tell Don't Show ซึ่งผิดหลักการเขียนวรรณกรรมสุดๆ พูดอีกก็คือ แม่งไม่ใช้สมองให้เป็นประโยชน์เลย

>>473 บางทีก็ต้องจำใจใช้วิธีนี้นะ ไม่งั้นคนอ่านแม่งไม่เข้าใจอะ ถ้าคนอ่านแม่งไม่ตาม สนพ. ก็ไม่พิมพ์ แล้วนักเขียนจะเอาอะไรแดก

>>470 >>473 >>474 เห็นด้วย เพราะในเด็กดีมีมีแต่เด็กไง จะหาเว็บที่มีนักอ่านมีคุณภาพตามได้ที่ไหนดีวะ
ธัญวลัยแม่งไม่ต่างไรจากเว็บเสียว

>>469 อาจจะไม่มีหรอก แต่ผมขอออกตัวไว้ก่อน... ถ้าใครกำลังคิดว่าคุณโม่งเงี่ยนเป็นผม Louis Forest ผมขอแจ้งไว้ตรงนี้เลยว่าไม่ใช่นะครับ ถ้าจะใช้แค่หลักฐานของ เขียนไซไฟแฟนตาซี กับ แปลอังกฤษได้ มันไม่ใช่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์นะครับ

ปล อย่าลืมทำตามที่ตกลงไว้กับนิยายผมด้วยนะครับ

>>476 เหอๆ ร้อนตัวเชียวนะ ยังไม่ได้มีคนบอกว่าสงสัยมึงเลย

>>476 โม่งไม่มีระบบ edit ลบหนีความผิดหรอก พลาดแล้วพลาดเลย

>>477 จะมองว่าร้อนตัวก็ไม่ผิดครับ แต่ผมไม่อะไร มองว่าความกระจ่างสำคัญกว่า (เดี๋ยวโม่งเงี่ยนตัวจริงคงมาคอนเฟิร์มด้วย)

>>478 ไม่มีตัวตนก็ไม่ความผิดตั้งแค่ต้นนะครับ เช่น โม่งชื่อ จีดราก้อน ที่เคยก่อกวนหายไป ต่อมามีโม่ง ชื่อ ผลิตเคราะห์ มาแทน... ระบบนิเวศ คิดแบบอภิปรัชญาพื้นฐาน มันก็เหมือนใส่หน้ากาวาดรูปด้วยปากกาหมึกซึมน่ะครับ (undo ไม่ได้ก็จริง แต่ไม่รู้ว่าใครวาด)

>>479 มึงควรเขียนให้รู้เรื่องนะไอ้ถุย

ลงชื่อ เซฮุน อย่าแซะเคป็อปไอ้สัด

>>480 ไม่ได้แซะครับ แค่ยกตัวอย่าง

>>479 มึงนี่ท่าจะเหงา ตั้งมู้อ้อนตีนในบอร์ดไม่มีใครสนใจต้องเข้ามาสร้างกระแสในโม่ง โอเครคนละคน รีบไสหัวไปไกลๆเหอะมึง

>>479 ความรู้ปลอมๆในหัวมึง ถ้าอธิบายให้ใครเข้าใจไม่ได้นอกจากคุยกับตัวเอง กูว่าเป็นความรู้ที่ไร้ประโยชน์

>>479 กูคอนเฟิร์มเลย ว่ากูไม่ใช่หลุยส์(แต่มันเคยมาเมนต์ให้กูอยู่) ไม่ใช่เซฮุน(กูถือว่ามันเป็นไอดอลการสับและเป็นแรงบันดาลใจของกู) และกูเขียนลงหมวดวิทย์ของเด็กดวกเนี่ยแหละ(ตอนนี้พักยาวอยู่) กูบอกแล้วกูมาสับอย่างเดียว ขี้เกียจมาดราม่าด้วยจริง ๆ กูเถียงชาวบ้านไม่เก่ง อีห่า

>>482 เก่งครับ ขออนุญาตเลื่อนเก้าอี้แป๊ป จะลุกขึ้นปรบมือให้ แปะ... แปะ... แปะ... กุตุส กุตุส แต๊บแก โอเคนะครับ

>>483 ประโยชน์ให้คนอื่นผมไม่แนใจ น่าจะมีคนเก็ท อาจจะแค่คุณเองที่ 'โง่' ไปหรือเปล่า คือ 'ความรู้ปลอมๆ' ของผมก็พอมีประโยชน์ครับ ให้ Louis Forest มีข้าวทาน มีเงินให้ ปตท กับ สตาร์บัคส์ จ่ายค่าเน็ตให้ทรู

>>484 จากที่อ่าน ถ้าให้ผมอนุมาน ผมก็พอรู้ว่า โม่งเงี่ยน เป็นใครแล้วครับ... เซฮุนผมก็รู้ว่าใคร...

เด็กดวกเขียนไซเบอร์พังค์เป็นรึเปล่าวะ https://www.youtube.com/watch?v=YLALR7CRwbQ

>>485 จ้ะ อวดฉลาดยังไงก็ตามสบาย แต่เค้าก็รู้กันทั่วบอร์ดแล้วล่ะมึง ถ้าคนเกิน 80% ไม่มีใครรู้เรื่อง เป็นกูก็พิจารณาตัวเองแล้วว่ะ จะอีโก้หนาคิดว่าตัวเองฉลาด สอนใครได้รู้เรื่องจริงๆ ต่อไปก็เรื่องของมึงเถอะ สัด ไม่ใช่ปัญหากูอยู่แล้ว

>>488 งั้นผมก็โชคดีที่ยังมี 20% สินะครับ... ดีใจจัง ถ้าคนทั้งบอร์ดมีคนร้อยคน นี่มี 20 คนที่เข้าใจเลยนะเนี่ย! Success Rate 20% กับ Failure Rate 80% ไม่เหงาแฮะ

>>489 ถ้าไม่เหงามึงคงไม่ตั้งบอร์ดโชว์ความพ่อพระ กับลงทุนแวะมาส่องถึงในโม่งมั้ง

>>489 มึงบอกทำงาน ปตท. แต่ดูความน่าสมเพชนี้สิ กูว่าคนทำงานที่นั่นคงมีความคิดความอ่านอะไรดีกว่านี้ และคงไม่เสียเวลาเข้ามาส่องในโม่ง ตั้งกระทู้เรียกร้องความสนใจในเด็กดวกหรอกว่ะ มึงก็แค่โม้ไปวันๆว่ามึงมีดีกว่าคนอื่น

>>490 เดาไปเรื่อย... ฮ่าๆ

>>491 นี่ลุง (หรือป้าน่ะ) ขยี้ตานะ หรือไปล้างหน้า อ่านใหม่นะ ใจเย็นๆ ใครทำงาน ปตท. โอยตายๆ ให้ทวงคืนพอได้

>>491 ฮ่าๆ โอเค ผมสื่อสารพลาดเอง ผมควรบอกว่า มีตังค์เติมน้ำมัน กับซื้อกาแฟ อ่ะเนอะ ฮ่าๆๆๆๆ

ถึงว่าไม่มีใครเข้าใจ อ่านกันยังไง!

>>490 ติดคำตอบได้ละ ก็เหงาบ้างครับ เรื่องความเป็นพ่อพระมันอยู่ในสายเลือดครับ ส่วนเล่นโม่ง... มันถือว่าเป็นลงทุนยังไง?

>>492 >>493 ดีๆ สิ่งที่กูต้องการคือให้คนในบอร์ดเด็กดีที่กำลังส่องเว็บโม่ง มาเห็นความคิดความอ่าน และอีโก้อยากเอาชนะ ความอวดฉลาดของมึงเนี่ยแหละ เขารู้ตัวตนมึงกันหมดแล้ว ขอให้โชคดีกับการตั้งกระทู้เหงาครั้งต่อไป

>>489 นี่ไม่คิดจะกลับไปพิจารณาว่าทำไมถึงมีตั้ง 80 คนที่ไม่เข้าใจเหรอ

และมึงก็ไม่รู้อยู่ดีว่ากูคือใคร แต่อย่าลืมว่าในโม่งรู้ว่ามึงคือใคร และที่มึงตอบประชดเอาชนะ ไหนล่ะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของมึง ?

>>495 ผมธรรมดาๆครับ มีคนเกลียดได้ ไม่สนไม่ชอบก็ได้ ด่าว่าผม ผมก็ไม่อะไรครับ

คิดกับผมยังไงผมไม่ว่า แต่ขอให้เรื่องที่เขาคิดเป็นผมก็พอ

>>496 80% ของคนชอบเพลงกังนัมสไตล์ครับ มี 20% ไม่ชอบ มันไม่ได้หมายความว่ากังนัมสไตล์เป็นเพลงที่เพราะที่สุดนี่ครับ

ถ้า 20% นั้นมีจริง มันเป็นตัวเลขที่ผมยินดีมากนะ

โม่งทำกุงง กุเอาท์ซอร์ซปตท.ตกใจเลย นึกว่าแมร่งอยู่ปตท.จริงๆเกือบด่ารับคนพรรค์นี้ด้วยหรอวะ

>>497 ใช่ผมไม่รู้ครับว่าคุณคือใคร ใช่ครับโม่งรู้วาผมคือใคร ... ที่ผมตอบประชดหรอ... วิทยาศาสตร์มีหลายสาขาครับ ฮ่าๆ

>>500 โทษทีว่ะ อันนี้กูอ่านผิดเองจริงๆ

>>500 แปลให้นะครับ

Fanboi got me confused. I was shocked, cuz I'm a PTT Outsource, thought that he really works there--- almost burst out that they actually hire such person.

... เพิ่งกลับมาถึงบ้านงง นี่มันเหี้ยอะไรกัน
เอาเป็นว่า... ช่างแม่งแล้วมาฟัง eurobeat กับกุเถอะ
https://www.youtube.com/watch?v=V4BGSu-lBmU

>>502 ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือสา ผมให้อภัยครับ... it's alright, I don't mind. I forgive you.

>>504 จัดไปครับ

https://youtu.be/2Z4m4lnjxkY

ว่าแต่จะแปลอังกฤษทำไม 555

>>507 ผมเคยตัวเองครับ แต่ยังหาคำตอบไม่ได้

>>508 *เคยถามตัวเอง (ขออภัย)

แปลไทย
PTT Outsource = พนักงานเติมน้ำมัน ปตท. / เด็กปั้ม ปตท.

แต่ไม่ต้องมาเล่นมุกหรอก สงสารหลุยส์เหมือนกันนะที่มีพวกชอบมาแอบอ้างเป็นมันแบบนี้ หรือถ้าเป็นตัวจริงก็ช่วยไปตั้งกระทู้ในบอร์ดหน่อย ตั้งเรื่องอะไรก็ได้แต่ขอให้ตัวอักษรแรกของกระทู้เป็น ค.

>>510 ตัวจริงเดี่ยวตั้งมู้เด็กดวกออกมาเอง

นิยายไม่สับ คอสกันสนุกเลยห่า

วงกลมอันเหลือเชื่อ อีกแล้ว
https://www.dek-d.com/board/view/3805154/

กูเบื่อเด็กดวกว่ะ มีแต่ดราม่าเหมือนไร้สมองกันแม่ง

>>514 ก็ไม่ต้องเล่นดิ

>>514 กุก็เบื่อว่ะ
>>515 ว่าจะไม่เข้าสักพักใหญ่ๆ

>>515 >>516 กูก็ว่างั้น

500 กว่า คคห. แล้วนะพวกมึง ทำอะไรกันอยู่

>>518 กูลงสับน้องเบลในวีกนี้แหละ แอบเหนื่อย คิดถึงพวกคนที่สับกันรุ่นแรก ๆ

>>519 กูยังรอเสมอ

แปะจองสับ

https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523 (สาวใช้พันธุ์ดุ Maid-at-Arms ... ชื่อเรื่องเพราะดี)

https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849 (จอมราชันย์หลงยุค... ข้าขอคำชี้แนะ เตรียมรับมือ)

https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272 (Evolve ฟองเบียร์)

ลงชื่อ เซฮุน กูคงไม่ดูธอร์ภาคสามว่ะ

>>521 มึงจองนานละนะ กูนี่รอ ร๊อ รอ
แล้วแวะไปอ่านเรื่องแรกมา ก็โอเคอยู่ว่ะ น่าสนใจ

>>522 กูก็อ่านไปบ้างแล้วล่ะ เรื่องแรกมีอะไรให้พูดถึงเยอะอยู่

ลงชื่อ เซฮุน

ตกลงผิดที่ระบบเว็บหรือผิดที่เร้าเตอร์ของจขกท.วะ
https://www.dek-d.com/board/view/3805316/

>>524 บ่นเรื่องแบบนี้ เด็กสมัยนี้รู้จัก 56k modemหรือเปล่าวะ

เผยแพ่ ดีเร /กุมอก

>>524 อ่านแล้วหงุดหงิด ชห

>>524 ไอ้ห่านี่มันวอนนาเบียวคิริโตะ (Sword Art Online)

>>524 มีใครใจดีแปลภาษาแม่งให้กูได้บ้างวะ อ่านละปวดหัวชิบหาย

>>529 กูถอดรหัสให้ แม่งบอกว่าระบบใหม่มีปัญหาหนัก กดเผยแพร่แล้วอาการแลค ห้องแชตมีความหน่วงในการตอบสนอง มึงอาจจะดูออกว่าเกิดจากอะไร แต่แม่งเสือกพูดซะใหญ่โตเลย

กูรอสับนิยายอยู่นะ

>>519 เบลล์แวะมาบอกว่าอ่านถึงครั้งล่าสุดแล้วนะคะ ขอโทษที่ไม่ได้เขียนตอบตั้งนานค่ะ ตอนกดส่งมันบอกว่าไอพีโดนแบน

>>524 ลูโบ่ ช่องโห่ว และดีเร ที่สำคัญ เขียนภาษาอังกฤษมาให้ด้วย D-re เย็ดเข้

>>534 อย่าลืม ซาบ ดิ

>>532 ถ้าเป็นตัวจริงก็ขอบอกว่าที่โดนแบนเพราะบังเอิญใช้เน็ตเครือเดียวกับพวกโทรล พอเขาแบนก็แบนทีเดียวทั้งเครือข่ายเลย บางทีหลายคนก็มักโดนลูกหลงบ่อยๆ
>>534 กูยังไม่ได้กดอ่านแต่เห็นd-reแล้วอยากอ่านทันที 555

>>533 ขอโทษนะคะ บ้านเรากับคุณคงไม่ได้อยู่ในละแวกเดียวกันค่ะ และเราไม่เคยเป็นโทรล
ที่สำคัญคุณกับเราไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว ไม่ทราบว่าเราทำอะไรให้คุณไม่พอใจรึเปล่าคะ ถึงต้องใช้คำหยาบคายใส่กันขนาดนี้

ปล. เราไม่ได้มาคอสค่ะ เราคือเจ้าของเรื่องที่พี่โม่งอีกท่านสับนิยายให้
ขอบคุณค่ะ

จุดประสงค์คือการสับนิยายไม่ใช่เหรอ

>>536 ไอพีเรามันขึ้นว่าโดนแบนมาเป็นสัปดาห์เลยค่ะ เลยไม่สามารถมาพิมพ์ตอบได้ ขอบคุณพี่ที่ช่วยชี้แนะนะคะ
>>538 เราเข้ามาก็เพราะรออ่านที่พี่โม่งอีกท่านสับนิยายให้ค่ะ ไม่ได้มีเจตนาก่อกวนหรืออื่นใดนะคะ

>>540 เชิญคุณไปตั้งกระทู้ดีกว่าค่ะ แล้วเราจะเข้าไปตอบด้วยไอดีเรา
เพราะเราไม่มีความจำเป็นต้องตั้งกระทู้ค่ะ

น่ามสานคนแถวนี้นะ ประกาศปาวๆว่าจะแยกไปสับนิยายสไตล์ตัวเอง ถึงขนาดแยกมู้
แต่ได้ข่าวว่าเงียบกริบ น่าวงวาร ถถถถถถถถถถ
ทุกคนก็เอ็นดู ให้พื้นที่ให้เขาวิ่งเล่นหน่อยนะ สงสารเขาหน่อย ไร้ตัวตนแล้วมันเจ็บปวด

>>541 ตอบได้ดี ฉลาดกว่าเซฮุนเยอะ เอฟซีน้องเบลล์จ้ะ

>>544 ในบอร์ดไหนคะ เราหาไม่เจอค่ะ ถ้าเป็นไปได้ขอลิงค์ด้วยนะคะ
>>543 ขอบคุณนะคะ ^ ^

เอาตรงๆ มันควรจะมุ่งไปที่การสับนิยายเป็นหลักไม่ใช่เหรอ เห็นแต่ยกนู่นนี่นั่นมายำแหลกมั่วซั่วไปหมด ผิดหวังฉิบหาย

>>548 กระทู้วันอังคาร? ย้อนเวลาไปตั้งหรอ

ว้ายๆ คนไม่มีตัวตนโกรธแว้ววว กัวๆๆๆๆๆๆ

โคตรน่าอาย เซฮุนใจหมาจริงๆ จะต้อนน้องเบลล์แต่โดนตบกลับไปไม่ถูกเลยมึง ตลกสัสๆ

>>548 ถ้าเอาตามเงื่อนไขคุณ คือตั้งกระทู้ขึ้นต้นด้วย ห.หีบ สระอี ซึ่งกระทู้นั้นไม่ได้ตรงตามเงื่อนไขค่ะ
และไม่สามารถยืนยันได้ด้วยว่าเจ้าของกระทู้ดังกล่าวคือคุณ (ถ้าเป็นคนเดียวกันเบลล์เลิกนับถือเลยค่ะ เพราะคิดว่าควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้) ดังนั้นเบลล์ไม่ขอเข้าไปตอบค่ะ

ปล. เบลล์ไม่ชอบคนโยนขี้ให้คนอื่น ถ้าไม่ใจก็เลิกพูดค่ะ
ปล.2 เบลล์ขออนุญาตเมินความเห็นของคนนี้นะคะ รู้สึกจะทำให้ท่านอื่นๆ ในบอร์ดเสียอารมณ์ไปด้วย เบลล์ขอโทษท่านอื่นๆ ที่ตามอ่านกันด้วยนะคะ จากนี้ไปเบลล์จะไม่ขอตอบโต้ในเรื่องที่คนๆ นี้พูดอีก ไม่ว่าคำพูดนั้นจะจาบจ้วงหรือหยาบคายเพียงใดค่ะ

ขอบคุณค่ะ

กุมั่นใจไอ้คนตั้งมู้นั้นไม่ใช่เซฮุนชัวร์

เชื่อเหอะ เซฮุนไม่คิดจะสับนิยายหรอก รอปีหน้าดีกว่า

>>553 ช่างเถอะน้อง นั่นก็โทรล กัดไปทั่วนั่นแหละ

>>539 ตามที่แอดมินชี้แจง >>>/meta/3581/641-642 ถ้าข้างบ้านเป็นโทรลก็ซวยไป

แล้วก็ >>>/meta/4675/8-9 ถ้าโดนแบนอีกก็แปลว่าเซฮุนอยู่แถวบ้านละนะ

>>553 แนะนำว่าอย่าไปคุยกับมันดีกว่า คนในห้องนี้หลายคนเบื่อมันกันทั้งนั้น

แล้วก็คนตั้งกระทู้นั้นไม่ใช่เซฮุนเหรอก มันไม่ชอบหน้าคนตั้งกระทู้นั้น เลยโยนขี้ประจำ

>>554 >>559 เบลล์ก็มั่นใจค่ะ ว่าคนตั้งกระทู้นั้นต้องไม่ใช่แน่ๆ วุฒิภาวะการตอบคนละแบบเลย
>>556 จากหลายๆ ความเห็นในนี้ก็ว่าเหมือนกันค่ะ ก็คงไม่ฟีดต่อแล้วค่ะ ดูเสียเวลาเปล่า

ใครอยากสร้างตัวละครนิยายแบบน่าสมเพชโครตๆ จนชวนให้คนอ่านขยะแขยงน่ารังเกียจ มึงมีวัตถุดิบชั้นดีล่ะ ศึกษาพฤติกรรมมันได้เลย ไม่มีวัตถุดิบเขียนนิยายไหนจะดีไปกว่าประสบการณ์จริงล่ะ

>>562 ถถถถถถถถ กูเห็นด้วย

ใครเอากูเป็นไอดอลก็โง่พอสมควรอ่ะมึง

ลงชื่อ เซฮุน วัตถุดิบชั้นดีในการเขียนนิยาย

>>564 มึงยอมรับเองไมวะ ว่าตัวเองน่าสมเพช ขยะแขยงน่ารังเกียจ กุไม่ได้ระบุนะเซฮุน เออแต่ก็ดีล่ะ ก้าวแรกของการพัฒนาตัวเองคือการยอมรับ

เห็นทะเลาะกับเซฮุนมาหลายกระทู้ละก็ยังไม่เลิกกันอีกเหรอ

>>566 นันดิ

ลงชื่อ เซฮุน

พอๆพวกมึง สับนิยายกันต่อ อย่าลืมหัวข้อมู้ดิ

>>423 สำหรับเรื่องนี้ที่บอกว่าจะสับให้ใน >>427 ไม่ได้ลืมนะ แต่ยุ่งๆ อยู่ เดี๋ยววันนี้จะลองอ่านดูก่อนและกัน

ก็มัวแต่เล่นปัญญาอ่อนกันไม่เลิก แล้วก็มาบ่นว่าคนเก่าๆในมู้หายไปไหนหมด

🤔 เมื่อไรห้องจะเลิกสวะ แล้วเริ่มสับครับ

อยากให้ห้องนี้เข้าที่เข้าทางก้อเลิกสนใจเซฮุน เบลอมันทุกอย่างไม่ว่าจะคุยหรือสับ แม่งจ้องสับข้ามชาติไม่สับสักที กุว่ามีเรื่องของแมร่งอยู่ใน3เรื่องนั่นแหละเนียนโฆษณา

นี่กูต้องย้อนไปไกลแค่ไหน กูถึงจะตามเรื่องน้องเบลล์ไอดอลโม่ง กับเซฮุนไอเด้าโม่งทันวะ

>>572 สัดฉลาดอีก แดกปลาปะเนี่ย

ลงชื่อ เซฮุน

>>573 สมัยลุงตู่เพิ่งเข้าล่ะมั้งครับ 🤔

>>575 ตู่ ภพธร ชำนิ

กูเพิ่งรู้ว่ามีคนอยากคอสเป็นเซฮุนด้วย ถถถ

>>577 คนมันก็ ใฝ่ต่ำตา มธรร มช าติ อ่ะมึง ง ชอบมีความสุ ขชั่วคราวว โทรลไป วันๆๆ อยา กเด่นน อยาก ดังง อยาก มีคนน สนใจจ ทั้ง ๆที่ เว็บนี่แม่ง ควรจ ะเล่น กันแบบไร้ อัตตา ไร้ตัวตน ใครจ ะเป็น ใครก็ง่าย นิดเดียวแค่ ปลายนิ้ว คอสกัน เป็นว่าเล่ น จนวันนี้ พี่ป่า ยังโดนคอส อยู่เลย 😥😥😥 มันก็เหมือนตกปลาอ่ะ ตกได้เคปอป หรือตกได้ ดร.ปอป มันก็ปอปเหมือนกัน เอาเวลาตกปลาไปร่างแผนงานดีกว่า กูจบวิศวะมาสี่ห้าปีแล้ว ชอบออกไปตกปลาทุกวัน เบ็ดแม่งได้เป็นกระบุงเลย ทั้งปลาโง่ ปลาดี ปลาคอมมี่ ปลาอนา 🎏 ปลาสามโพ ก็มี บางทีพวกปลาก็มาขโมยแตงโมไป อันนี่กูยอมได้ แต่บางทีเว่ย จักรยานกู แม่งก็เอาไป กูคิดว่าเราควรจัดการพวกนี้จริงๆจัง เลยไปแจ้งตำรวจ แต่บางที่แม่ง ไปด่าท้าตีชกต่อย พวกปลาสวะมันเลย เลงหนัก เก๋าหนักกว่าเดิมอีก 😒😒 กูถึงพบว่าสิ่งที่้ราคงรทำจริงๆ ก็อย่าไปยุ่งกับแม่ง วันไหนมันทำผิดกฏหมาย มันก็โดนตำรงจจับเอง ไปด่าท้าตีชกต่อยกับมันให้เจ็บตัวไปทำไม มันเก่งนี่ โคตรเก่ง คงไม่มีใครบนโลกเก่งกว่าแม่งละ เราไปพบ ก็คงเจอ แจกัน ฟาดหัวแตกตายอ่ะ สุดท้ายนี้ก็ฝากเม้นกูไว้ใสตังมึง ถ้าชอบก็อย่าลืมกดไลค์หรือสับตะchrist กันได้ กับงานเขียนซีไรต์ทุกสัปดาห์ สวัสดีคับ🤗🤗

ลงชื่อ โม่ง แค่นั้นแหล่ะอยากมีตัวตนกันนักหรอวะ ชีวิตจริงมึงคงกลมกลืน ไปกลับพื้นหลังSiNa

>>578 ดอกไม้ขาวมาเล่นโม่งเหรอวะ

>>578 มึงเป็นนักเขียนป่าวอะ

สับต่อจาก >>370 โทษทีที่หายไปนานหน่อย พอดีช่วงนี้เผลอไปติดเจ้าแม่เรย์กะ เลยอ่านไปยาว ๆ

เผื่อใครลืมว่ากูสับเรื่องอะไร Into the Light - มุ่งสู่แสงสว่าง ภาค สงครามปลายบูรพาทิศ

ลิงค์ https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1722107
ตอนที่ 3

ตอนนี้ก็ยังมีการแนะนำตัวละครใหม่เพิ่มอีกอย่างน้อย 2 คน คือ ทหารในหน่วยของคัตสึโอะ (กูจะเรียกมันว่าตัวเอกก็แล้วกัน) แต่จากสองตอนที่ผ่านมาทำให้กูปลงแล้วล่ะ ถึงตัวละครจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กูคงจะไม่บ่นอีกแล้วล่ะ

ตอนนี้รู้แล้วว่าต้องโฟกัสที่ตัวละครไหน เลยทำให้ตอนนี้อ่านรู้เรื่องมากกว่าตอนที่ผ่านมาโขเลย ตอนนี้คงจะแบ่งได้เป็นสองส่วน ส่วนแรกก็เป็นพวกตัวเอกขุดสนามเพลาะตั้งรับการบุกพลางบ่นเรื่องแผนการรบไปพลาง กูว่าตรงนี้คนเขียนค่อนข้างทำการบ้านมาได้ดีเหมือนกัน มีเถียงกันเกี่ยวกับวิธีการตั้งรับการยกพลขึ้นบก ระหว่างป้องกันที่ชายหาด กับถอยเข้าไปลึก ๆ เพื่อให้อยู่นอกวิถีปืนใหญ่เรือแล้วค่อยยิงศัตรูที่ขึ้นมาบนหาด

ส่วนที่สองเรียกได้ว่าเป็นฉากเลิฟ ๆ ล่ะมั้ง ตัวเอกต้องไปร่วมพิธีเคารพเทพเจ้ากับบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ แล้วก็ตามสูตร ต้องเจอกับมิตสึโกะที่เป็นมิโกะสาวมาร่ายรำโชว์ให้พวกผู้หลักผู้ใหญ่ ซึ่งกูไม่ค่อยเข้าใจว่าคนเขียนจะบรรยายขนาดหน้าอกทำไมวะ แถมพระเอกยังใช้ขนาดหน้าอกตัดสินอีกว่ามิตสึโกะน่าจะอายุกับตัวเอก

กูเห็นมาสองรอบแล้วมั้ง จริง ๆ แล้วถ้าเมิงไม่ได้เขียนแนวขายโมเอะให้คนบุฮี้ตัวละครนมแบนนมโต เมิงไม่จำเป็นต้องบรรยายขนาดหน้าอกก็ได้นะ เมิงเห็นเรื่องแฮรี่ขี้ป็อดบรรยายขนาดหน้าอกของเฮอไมโอนี่หรือเปล่า ? แต่ถ้าบรรยายเมิงน่าจะมีลูกเล่นกับจุดประสงค์หน่อย อย่างเช่นถ้าจะให้มิตสึโกะนมโตมาก เมิงก็บรรยายประมาณว่าท่วงท่าเต้นรำของมิตสึโกะงดงามมาก แต่สิ่งที่ทำให้ตัวเอกต้องกรอกตาตามไปมาคือลูกเมล่อนสองลูกที่เด้งดึ๋งดั๋งแหกกฎฟิสิกส์ใต้ชุดมิโกะขาว ๆ ซึ่ง...กูว่าอย่าทำตามที่กูแนะนำเลย (ฮา)

เอาเป็นว่ากูอ่านแล้วยังไม่ค่อยรู้สึกโดขิโดขิกับฉาก boy meets girls ตอนนี้สักเท่าไหร่ คงเพราะที่ผ่านมาเรายังไม่รู้สึกถึงตัวละครที่ชื่อมิตสึโกะสักเท่าไหร่ รู้แต่ว่ามีความเอ๋อ เข้าใจความหมายชื่อของพระเอกผิด แต่มันก็ยังแค่นั้น ยังไม่รู้สึกว่ามิตสึโกะเป็นตัวละครที่มีความแตกต่างจากตัวละครอื่น ๆ เป็นแค่ตัวละครที่มีขึ้นเพื่อขับเคลื่อนเนื้อหาของเรื่อง ขณะที่ตัวของคัตสึโอะยังมีลักษณะที่ชัดเจนกว่า กูอ่านตัวละครคัตสึโอะแล้วรู้ว่า อ้อ...เจ้าชายหัวสมัยใหม่นี่เอง แต่ก็นะ คิดว่ามันก็คงไม่ใช่จุดขายหลักของเรื่องนี้ กูคงไม่บ่นไปมากกว่านี้ก็แล้วกัน

กูว่ากูคงสับต่ออีก 2 ตอนแล้วคงพอแล้ว โดยรวมกูคิดว่าเรื่องนี้ก็ไม่เลวเลยนะ ถ้าเกิดคนเขียนแก้ตอนแรกให้มีความงงน้อยกว่านี้ คงมีคนเข้ามาอ่านเยอะกว่านี้นะ

>>581 ดีมากเพื่อนโม่ง กูรออ่านอยู่

>>581 การสับนิยายที่ไม่ได้เห็นมานาน
ปล. ท่านเรย์กะล่าสุดเป็นไงบ้างวะ ช่วงดราม่าเลิกแปลกูหายยาวไม่ได้ตามต่อเลย

>>581 เป็นกำลังใจให้นะ 😘 ในที่สุดก็กลับมาสับกันสักที

>>581 เออดีว่ะ นึกว่าจะสับแต่นิยาย "ปลวกระฆัง" 👏👏👏👏👏👏👏👏👏👏👏

ลงชื่อ เซฮุน ดูบอลละ

>>580 แค่แตงโมที่ผ่านทางมาน่ะค่ะ 🤣🤣🤣
ความจริงมาเล่นโม่งนี่อย่าหวังเรื่องตัวตนกับใครเลยนะคะ ดิฉันอาจจะนั่งอยู่ด้านหลังคุณในตอนนี้ก็เป็นdye

>>258
ต่อนะ
พาร์ทเนื้อเรื่อง

โดยส่วนตัวเนี่ย พล็อต/เนื้อเรื่อง เป็นอะไรที่พี่ไม่อยากจะแตะมากเท่าไหร่ เพราะมันเป็นไอเดียของชาวบ้านเขา มุมมองของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน และพี่เคารพจินตนาการของคนเขียนแต่ละคนอยู่แล้ว

แต่เรื่องความเป็นเหตุเป็นผลต้องมี ถ้าไม่มี นิยายของน้องจะดูเบาโหวง ขาดความหนักแน่น ซึ่งเราทุกคนต่างรู้ดี และพยายามหาเหตุผลในการกระทำของแต่ละตัวละครกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจะแตะตรงส่วนที่เห็นว่ามันยังมีข้อสงสัยอยู่

จุดหลัก ๆ ของเรื่องนี้คือ ตัวตนของเจ้าหญิงแห่งฟาโรทีส(ชาร์เลน) ซึ่งตามความเห็นพี่แล้ว มันมีข้อสงสัยและขาดน้ำหนักไปหน่อย

1. ในช่วงที่ฟาโรทีสถูกกวาดล้าง ทำไมมีแต่ยูรีเอลที่พิสูจน์ตัวตนได้ พิสูจน์ยังไง? ทำไมใช้วิธีการพิสูจน์นั้นกับชาร์เลนบ้างไม่ได้?

2. สภากลางเป็นคนส่งจดหมายไปหาชาร์เลนเอง ก็เท่ากับรู้ว่าชาร์เลนเป็นเจ้าหญิงแห่งฟาโรทีสอยู่แล้ว(เหลือแค่รอการทดสอบ) ถึงแม้จะถูกนางเอกชิงของที่ช่วยพิสูจน์ตัวตนไปก็เถอะนะ

3. ชาร์เลนก็สามารถถูกเบิร์นทั้งเป็นได้ ถ้าพิสูจน์ตรงนี้แล้วก็เท่ากับฟาโรทีสมีเจ้าหญิงสองคน ก็เข้าทดสอบกันทั้งคู่เลยไม่ได้เหรอ หรือเพราะชาร์เลนไม่มีบัตรเชิญ? สรุปว่าบัตรเชิญกับพิธีเบิร์นทั้งเป็น อันไหนมันน่าเชื่อถือกว่ากัน ในเมื่อจุดประสงค์ของสภากลางก็คือต้องการหาผู้นำตระกูลฟาโรทีสอยู่แล้ว

4. ยูรีเอล ในฐานะที่เป็นผู้รอดชีวิตจากการกวาดล้าง และในเมื่อเขาถูกยืนยันตัวตนแล้ว ก็ควรจะยืนยันตัวตนของชาร์เลนได้(แต่น้องบอกคำพูดคนฟังดูไม่น่าเชื่อถือ) ซึ่งปัญหามันอยู่ตรง "ยูรีเอลรู้จักชาร์เลน น้องสาวของตัวเองเป็นอย่างดี" น้องท่องประโยคประโยคนี้สามรอบนะ ถ้ายูรีเอลรู้จักชาร์เลนแล้วก็สามารถช่วยยืนยันกับสภากลาง และให้ชาร์เลนทำพิธีเบิร์นทั้งเป็นด้วยไปเลย ซึ่งจะดูมีน้ำหนักกว่าฝั่งนางเอกด้วยซ้ำ ไม่เห็นต้องมานั่งค้นหาเอกสารยืนยันตัวตน-ที่ไม่รู้ว่ามันจะถูกแก้ไขดัดแปลงได้อีกหรือเปล่า-ให้วุ่นวายเลย เรื่องน้องใช้เวทมนต์นะ ทำไมเรื่องสำคัญ ๆ เช่นตัวตนของเจ้าหญิงแห่งฟาโรทีส กลับไม่ให้ความสำคัญของกลไกเวทมนต์(พิธีเบิร์นทั้งเป็น) แต่กลับให้น้ำหนักกับบัตรเชิญ และเครื่องรางประจำตระกูลมากกว่า ซึ่งถ้าเป็นพี่ พี่ไม่เชื่อไอ้สองอย่างหลังมากเท่าอย่างแรกแน่ ๆ (พี่ศรัทธาแอ่นไลก์ในพิธีเบิร์นทั้งเป็นของน้องมากกว่าค่ะ)

น้องเบลต้องปิดตายรอยรั่วพวกนี้ให้ได้ ทำให้มันไม่เหลือทางพิสูจน์อื่น ยกเว้นแต่ทางที่น้องเลือกตามพลอตที่วางไว้ ไม่อย่างนั้นคนอ่านก็เกิดคำถามอยู่เรื่อย ๆ ว่าทำไมไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ล่ะ ทั้งที่สุดท้ายก็ได้ผลลัพธ์เหมือนกัน

จริง ๆ พี่เห็นว่าน้องเบลก็พยายามปิดช่องโหว่อยู่ แต่เหตุผลที่ยกมาปิดนั้น มันไม่มีน้ำหนักมากพอให้พี่เชื่อน่ะค่ะ

ยกตัวอย่าง ถ้าจะอุดข้อ 4
พี่จะไม่ให้ยูรีเอลรู้จักน้องสาวตัวเองเด็ดขาด จะเขียนให้สองคนแยกกันแต่เล็ก ให้จำกันไม่ได้
ซึ่งถ้าดูจากที่น้องวางพลอตไว้แล้ว คงไม่สามารถทำให้ยูรีเอลไม่รู้จักน้องสาวตัวเองได้ เพราะน่าจะกระทบเยอะ

5. เรื่องที่เร็กซ์กับนางเอกรู้จักกัน คือ ถ้าพี่เป็นชาร์เลน แล้วรู้ว่าเร็กซ์อยู่กับเฟส ผู้หญิงที่ขโมยของของตัวเองไป พี่คงไม่ยอมให้เร็กซ์มาเป็นองครักษ์หรืออยู่ใกล้กับตัวเองเด็ดขาด เพราะคิดว่ามันก็เป็นพวกเดียวกันอยู่แล้ว ถ้าเร็กซ์ปกปิดความสัมพันธ์ของตัวเองกับเฟสให้มิดชิด มันก็จะกลายเป็นเซอร์ไพรซ์ให้คนอ่านในตอนที่น้องเฉลยความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้ แต่น้องเลือกให้คนอ่านรู้ตั้งแต่ตอนแรก ๆ บอกตรง ๆ ว่าพี่เสียดาย แต่เข้าใจด้วยโครงเรื่องอาจจะวางไว้แบบนี้แล้ว ก็ไม่เป็นไรค่ะ

เอาแค่นี้ก่อนนะ กลับมาต่อ หลังจากที่มีเหตุการณ์นักฆ่ามาบุก โซเรสก็เฉลยว่าเฟสคือใคร ทุกคนรู้แล้วว่าเฟสทำไปก็เพื่อชาร์เลน ยอมเป็นไม้กันหมาเพื่อให้พวกนักฆ่ามาล่าเธอเธอแทนเจ้าหญิงแห่งฟาโรทีส(ชาร์เลน)

ไอ้เรื่องนักฆ่าพี่ก็สงสัยนะ ทำไมต้องเจาะจงเฉพาะเจ้าหญิงแห่งฟาโรทีสด้วย แล้วเจ้าชายแห่งฟาโรทีส(ยูรีเอล)ล่ะ ไม่มีใครอยากฆ่าบ้างเหรอ เพราะเข้าใจว่าคนที่จ้างนักฆ่าคือคนที่อยากกวาดล้างฟาโรทีสให้หมด

และขอบ่นเรื่องระดับพลังของเฟสหน่อยนะ ที่กับคนอื่นนี่เก่งมาก แต่มีตอนนึงเฟสถูกชาร์เลนที่ไม่ได้ฝึกต่อสู้เลยตบหน้าได้ง่าย ๆ ซะงั้น หรือว่าเฟสยอมให้ชาร์เลนตบเอง

มีต่อ

>>587
ในตอนที่ 11-12 ที่จะเป็นพล็อตหลักจริง ๆ ของเรื่อง(ใช่มะคะน้องเบล) พี่ต้องอ่านตรงนี้หลายรอบหน่อย ไม่อยากพลาด

โซเรส(พ่อคารอส)กษัตริย์ของเซ็คเซ็นดาร์ เปิดรอยช้ำ(คล้ำ)ที่แขนอันเป็นผลมาจากคำสาป ซึ่งมันเริ่มมาจากตระกูลฟาโรทีส องค์หญิงอันริเอลเป็นคนเปิดก่อน หลังจากนั้นตระกูลต่าง ๆ ก็เป็นตาม ๆ กัน
คำสาปเนี่ยมันจะไม่ได้มาในรูปแบบร่องรอยในร่างกายอย่างเดียว แต่อาจจะเป็นรูปแบบอื่น และมันทำให้ร่างกายต้องจ่ายค่าตอบแทนต่างกันไป คือ จริง ๆ คำสาปมันไปจำกัดความสามารถอะไรต่าง ๆ ของผู้ต้องสาป ไม่น่าจะเรียกว่าค่าตอบแทน จริง ๆ มันก็เป็นผลของคำสาปนั่นแหละ เราไม่ได้เอาความสามารถในร่างกายแลกคำสาปมาสักหน่อย หรือว่าเป็นผลจากการถ่ายโอนคำสาป เลยต้องมีข้อแลกเปลี่ยน? จริง ๆ ลำพังตัวคำสาปมันน่าจะมีผลลบอยู่แล้ว แต่พอถ่ายโอนไปที่คนอื่น ไอ้คนรับคำสาปก็ต้องยอมเสียอะไรไปเพื่อรับคำสาปมาอีกเหรอ แล้วเราเลือกได้เหรอว่าจะแลกกับอะไร ตามความเข้าใจพี่ คำสาปมันควรเลือกค่าตอบแทนของมันเองแบบอัตโนมัติ อันนี้น้องเบลชี้แจ้งหน่อยนะ พี่งง

แล้วทำไมยูรีเอลกับชาร์เลน(ที่เป็นสายเลือดฟาโรทีส)ไม่ได้รับผลของคำสาป ก็เพราะคำสาปมันถ่ายโอนไปที่ เฟส นางเอกผู้แสนดีของเรานั่นเอง (นี่อาจเป็นเหตุผลที่ความจำของสองพี่น้องฟาโรทีสถึงขาด ๆ หาย ๆ ซึ่งน่าจะโดนเวทปิดกั้นความทรงจำไว้ และที่สำคัญเฟสน่าจะมีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดของฟาโรทีสด้วย เดาว่าถ้าเป็นคนสายเลือดเดียวกัน น่าจะมีโอกาสถ่ายโอนคำสาปสำเร็จในอัตราที่มากกว่าคนต่างสายเลือด)

โซเรสเมาท์ต่อว่าเนี่ย ตระกูลทั้งห้าก็หาวิธีรักษาคำสาปกันหัวหมุน แต่ทำได้ดีที่สุดคือดึงเอาคำสาปสามในสี่ส่วนไปไว้ในภาชนะที่เรียกว่าบลาซอง มันมีห้าอัน แยกตามตระกูล คือไม่รู้ว่าตกลงโดนสาปกันทุกตระกูลเลยเหรอ ตอนแรกโซเรสบอกว่าไม่รู้ว่าคำสาปมายังไง สักพักนางเอกเล่านิทานแห่งอาณาจักรซึ่งเสือกบอกโต้ง ๆ ว่าตระกูลซาเรสกับเซคเซนดาร์เป็นคนสาปฟาโรทีสเอง เพราะแค้นที่ผู้ก่อตั้งฟาโรรีสอันริเอลหักหลังอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ แล้วก็ทำให้คำสาประบาดมาถึงทุกวันนี้ หรือมันเป็นแค่นิทานเฉย ๆ? นิทานยังบอกอีกว่าผู้ก่อตั้งเซคเซนดาร์และซาเรส)จะใช้บลาซองทั้งห้าทำลายอาณาจักร(ฟาโรทีสที่เดียว?) ให้สิ้นซาก

คืองงกับกลไกการสาปมาก ตั้งใจสาปชาวบ้านแต่ดันเข้าตระกูลตัวเอง

ตอนที่ 11 ทิ้งท้ายด้วยว่าเลือดชาร์เลนสามารถสร้างปิศาจได้ (เงื่อนไขคืออะไร เลือกต้องโดนดอกไม้อย่างเดียวเหรอ หรือว่าโดนอะไรก็ได้ อีกอย่างเลือดชาร์เลนมันก็น่าจะอันตรายอยู่ ทำไมเฟสที่แอบปาดเอาเลือดชาร์เลนไปในตอนแรก ๆ ถึงไม่เป็นไร หรือเฟสรู้เงื่อนไขในการสร้างปีศาจจากเลือดชาร์เลนอยู่แล้ว? เลยระวังตัวดี)

ต่อมา โซเรสบอกว่ามีมติให้ผู้สืบทอดตระกูลไปรวบรวมบลาซองทั้งห้า แล้วเอาไปทำลายทิ้งในสถานที่ชื่อว่า "เปลวไฟในสายหมอก" only ด้วยเหตุผลว่าที่นั่นมันไม่มีเวลา เลยน่าจะบล็อกคำสาปได้ เอ้อ อันนี้ก็งง แต่ไม่เป็นไร มันคือแฟนตาซี

แล้วก็มาถึงจุดย้อนแยง โซเรสบอกว่าเดี๋ยวจะปลดเฟสออกจากตำแหน่งรัชทายาทของฟาโรทีส เพราะว่ามันไม่ถูกต้อง ใคร ๆ เขาก็รู้ ยูรีเอลก็ถามว่าแบบนี้ตำแหน่งก็ตกที่ชาร์เลนแล้วสิ แต่โซเรสบอกว่า ไม่ได้หรอก ชาร์เลนต้องผ่านพิธีเบิร์นทั้งเป็นจากพ่อแม่ถึงจะรับรองได้
"""จากพ่อแม่"""
อ้าว...แล้วที่เฟสโชว์การถูกเบิร์นทั้งเป็นในตอนแรกคืออะไร ทำไมไม่เห็นต้องใช้พ่อแม่เลย? สรุปพิธีนี้มันมีกลไลยังไงกันแน่ น้องต้องชัดเจนนะคะ

ต่อมาคือเรื่องผู้ก่อตั้งตระกูลเซ็คเซ็นดาร์กับซาเรส สองคนนี้กำลังเคลื่อนไหวอยู่ จริง ๆ ก็น่าจะแก้ตายไปแล้ว แต่ด้วยความเมพของ "เปลวไฟในสายหมอก" กระมัง ถึงยังอยู่มาได้จนป่านนี้

โซเรสให้เด็ก ๆ ไปสืบว่าทำไมสองคนนี้ถึงแค้นจนต้องสาปฟาโรทีส และสืบหาข้อมูลของบลาซองด้วย โดยให้ไปสืบที่ห้องสมุดของโรงเรียนอนาวารัน แต่ไม่ใช่เข้าไปในแบบนักเรียน แต่เป็นนักศึกษาดูงาน ซึ่งพี่ก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะตอนแรกหลงดีใจว่าจะไม่มีแนวโรงเรียนเวทมนต์แล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร ช่างเถอะ พออ่านได้

สรุปได้ใจความคือ
1. หาบลาซองทั้งห้าเอาไปทำลายที่ที่เรียกว่าเปลวไฟในสายหมอก
2. หาว่าทำไมเจไนท์(ผู้ก่อตั้งเซ็คเซ็นดาร์)กับราทีเอล(ผู้ก่อตั้งซาเรส)ถึงแค้นฟาโรทีสจนต้องสาป

มีต่อ

>>588
พาร์ทที่เป็นโรงเรียนพี่ขอไม่พูดอะไรมาก เนื้อเรื่องมันก็ดำเนินมาเรื่อย ๆ ส่วนที่ยังขัดข้องใจก็คือ
1. ตัวตนของรีดาเทีย(หนึ่งในกลุ่มนักฆ่าได้รับคำสั่งจากราทีเอล) ที่แฝงตัวมาเป็นนักศึกษาดูงานกับพวกนางเอก คือถึงน้องจะไม่เฉลยว่านางเป็นนักฆ่าของราทีเอล แต่พี่ก็สงสัยแต่แรกแล้ว ว่านางนี่เป็นใคร ทำไมตีสนิทกับชาร์เลนแบบจงใจแบบนี้ แต่ในไม่มีใครสงสัยเหรอว่าอยู่ ๆ มีนักศึกษาดูงานเข้ามาในช่วงเวลานี้พร้อมกัน หรืออนาวารันมีนักศึกษาดูงานเข้ามาเรื่อย ๆ อยู่แล้ว
สรุปคือเสียดาย ไม่น่ารีบเฉลยตัวตนรีดาเทียก่อนเลย และไม่น่าจะให้นางเข้าหาชาร์เลนแบบน่าสงสัยแต่แรกด้วย(ไอ้ที่บอกว่าจะปกป้องชาร์เลนเอง) น่าจะให้เนียนกว่านี้โดยอาจจะสร้างสถานการณ์ขึ้นมาเองก็ได้ เช่น ช่วยชาร์เลนจากเหตุการณ์ร้าย เพื่อเพิ่มความน่าไว้ใจ
2. ชาร์เลนยังไร้เดียงสา(ไม่อยากใช้คำว่าโง่)เสมอต้นเสมอปลาย รู้ว่าตัวเองโดนหมายหัวอยู่แท้ ๆ ยังเปิดรับรีดาเทียเข้ามาง่าย ๆ ไม่เว้นระยะห่างเลย และทั้ง ๆ ที่รู้แล้วว่าเฟสทำเพื่อตัวเองมาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่เลิกตั้งแง่กับเฟส

แล้วก็มาถึงตอนที่พี่รู้สึกสนุกจริง ๆ ก็คือตอนที่เฟสแยกตัวไปทำภารกิจที่โรนานกับเกรย์ ตอน17-18 (อาจเพราะมันหลุดจากธีมโรงเรียนที่พี่เบื่อมาแล้วก็ได้)
นางเอกได้รับภารกิจให้คุ้มครองคหบดีชายหญิงคู่หนึ่งไปสักที่ โดนต้องผ่านป่าแถวโรนาน นางเอกถูกล่อลวงให้ไปจับท่อนฟืนที่มันทำให้ร่างกายชาได้ เฟสใช้แรงสุดท้ายยิงปืนพลุสัญญาณเตือนคนอื่น แต่แล้วก้ถูกจับไปนั่งยางในกระท่อมกลางป่าที่อีคนจ้างมัยเตรียมไว้(คนจ้างงานเฟสคือนักล่าฆ่าหัวเจ้าหญิงแห่งฟาโรทีส) แล้วเกรย์กับคารอส(ที่รู้ข่าวว่าจะมีการลอบสังหารรัชทายาทฟาโรทีส) ก็มาช่วย สู้ไปสู้มา เกรย์ก็สละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเฟสเอาไว้
มันก็เข้มข้นขึ้นจริง ๆ พี่ชอบ
แต่ก็ยังมีความคับข้องใจอีกแล้ว
1. ไอ้ท่อนไม้ยาชาเนี่ย อยู่ ๆ มันก็โผล่พรวดขึ้นมา แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย น้องไม่เคยเกริ่นเลย แล้วอยู่ ๆ ก็เอามาใช้เล่นงานนางเอก ซึ่งมันก็แบบเซอร์ไพรซ์นะ แต่เป็นเซอร์ไพรซ์ที่ไม่ค่อยประทับใจ มันมีแต่คำว่า "อะไรวะ" ในหัวเต็มไปหมด ถ้าน้องเกริ่นเรื่องท่อนไม้ยาชาแต่แรกแบบเนียน ๆ พอมาถึงตอนนี้ พี่จะรู้สึกว้าวขึ้นมาแน่นอน
2. นักฆ่านี่ไม่รู้ว่าโง่หรือโง่ ทำไมพอเฟสโดนยาชาแล้วไม่ปาดคอไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ดันเอาไปเผาในกระท่อม ตกลงอยากฆ่าหรืออยากรอให้มีคนมาช่วยกันแน่

verdict: อ่านมาทั้งหมดสิบแปดตอน มันก็ให้ความรู้สึกหลากหลายดี ทั้งเบื่อ หงุดหงิด รำคาญ สนุก ลุ้น งงงวย
การบรรยายของน้องเป็นสำนวนพวกนิยายรัก ผู้หญิ๊ง ผู้หญิง คำผิดมีไม่มาก พิมพ์ตกเสียเป็นส่วนใหญ่ (ก่อนหน้าเคยบอกไปแล้วว่าควรแก้ไข"หรอ>เหรอ/หรือ") จริง ๆ พี่ก็ไม่ค่อยชอบสำนวนพวกนี้มากเท่าไหร่ แต่มันไม่ได้แย่จนถึงขั้นอ่านต่อไม่ได้

ไอ้ที่แย่ที่สุด แย่จริง ๆ คือ ความงง ซึ่งเคยยกตัวอย่างไปเยอะแล้ว ถึงหลัง ๆ พี่จะพอจับทางได้ แต่ก็ไม่อยากให้น้องคิดว่าเขียนแบบนี้มันโอเคกับผู้อ่านทุกคน อยากให้แก้จริง ๆ นี่ไม่รู้ว่าน้องไปติดโครงสร้างการบรรยายแบบนี้มาจากนิยายในเด็กดีเรื่องไหนมาหรือเปล่า และน้องยังชอบยัดตัวละครมาในฉากเดียวกันเยอะ ๆ อีก ยิ่งทำให้การคุมการบรรยายยากขึ้นเป็นเท่าตัว น้องอาจจะรู้สึกว่าไม่ยาก แต่พี่อ่านยากและงงมาก

พูดถึงตัวละครกันบ้าง ที่เห็นเด่นชัดคือเฟส กับชาร์เลนจะมีคาร์แรกเตอร์ชัดเจน คนแรกเท่ห์สมกับเป็นนางเอก อีกคนไร้เดียงสาน่ารำคาญ ส่วนคนอื่น ๆ ยังไม่เห็นมากนัก พี่คงต้องติดตามดูว่าจะมีพัฒนาการอะไรหรือเปล่า เสียตรงที่บรรยายตรง ๆ ว่าเฟสฉลาด ทั้ง ๆ ที่พี่ยังไม่เห็นว่าฉลาดตรงไหน แต่การเรื่องเสียสละ และการเป็นคนดีในคราบคนเลวนี่เห็นได้ชัด

มีต่อ

>>589
ฉากต่อสู้ ทำได้โอเค แต่เนื่องจากสู้กันด้วยเวทมนต์ที่ไม่รู้ว่ามีข้อจำกัดอะไรบ้าง (เวลาร่าย? มานา? คูลดาวน์?) เลยทำให้มันไม่กดดันเท่าไหร่ และที่สำคัญคือน้องต้องบรรยายตำแหน่งของตัวละครให้ชัดเจนมากกว่านี้หน่อย อย่างตอน 18 พี่อ่านรอบเดียวแล้วงงนะ ว่าตอนสู้กันเนี่ย ใครยืนตำแหน่งไหนบ้าง ต้องมาอ่านซ้ำและมโนควบคู่กันไปถึงจะนึกภาพออก

พลอต พี่ถือว่าสนุกดีอยู่นะ และถ้าน้องเคลียร์ช่องโหว่/คำถาม/ความคับข้องใจ(ดังที่กล่าวไปข้างต้น)ได้จะยิ่งดีมาก และบางครั้งไอ้การปกป้องตระกูล ช่วยโลก ฯลฯ มันก็ควรจะมีเหตุผลดี ๆ ว่าทำไมต้องปล่อยให้เป็นฝีมือของเด็ก ๆ ทั้งหลายนี่ด้วย ทำไมพวกผู้ใหญ่ที่เก่ง ๆ ไม่ช่วยกันทำมาหากินบ้างวะ
และพี่ชอบส่วนของอาชีพเฟสมาก ถ้ามีเนื้อเรื่องแยกของเหล่านักฆ่าแห่งโรนานจะแหล่มมาก พี่ชอบธีมแบบนั้นมากกว่า แต่ละคน(แจ็คแหม่มคิงเอซ)ดูน่าสนใจดี

เสริมนิด พลอตนี่อยากให้น้องตั้งคำถามไปในจนสุดเลย ว่าในแต่ละจุดหลักของเรื่องมันมีความสมเหตุสมผลมากน้อยแค่ไหน พยายามเถียงตัวเองด้วย ไม่ก็หาเพื่อน แล้วถามดูว่าเนื้อเรื่องตรงจุดนั้น ๆ มันโอเคมั้ย ลองฟังมุมมองจากคนอื่นดู

สุดท้ายก็อยากให้พิจารณาข้อแนะนำตามนี้
สรุปให้อีกที
1. กำจัดจุดงงให้หมด แก้ไม่ยาก ลองย้อนกลับไปอ่านดูนะ
2. ระวังขีดจำกัดการใช้เวทมนต์ให้ดี เพราะน้องไม่ได้กำหนดเงื่อนไขการใช้เวทมนต์เอาไว้ ควรจดไว้เลยว่าใครมีเวทมนต์อะไรบ้าง เช่นคารอสมีเวทเคลื่อนย้าย จะใช้แก้สถานการณ์ไหนได้บ้าง (ที่เห็นว่าโอเคก็ตอนวาร์ปไปหานางเอก)
3. คาแร็กเตอร์ของตัวละคร อยากให้มันชัดเจนกว่านี้ มันดูกลืน ๆ กันไปหมด ลอ โร เร็กซ์ คารอส(อาจจะเป็นพระเอกปะ) ทำยังไง ก็อย่าให้มีนิสัย/บุคลิกคล้ายกันมากไปนัก เช่นโรใส่แว่นก็น่าจะเป็นหนอนหนังสือ บางฉากอาจจะบรรยายว่าโรอ่านหนังสืออยู่ในมุมหนึ่ง ส่วนเร็กซ์ดูท่าจะเป็นพวกเจ้าสำราญก็อาจจะให้มีฉากหยอดสาวบ่อย ๆ ยกตัวอย่างสมมติเฉย ๆ นะ พี่ไม่รู้ว่าน้องวางคาแร็คเตอร์ของหนุ่ม ๆ แต่ละคนไว้แบบไหน
4. ลดตัวละครในฉากลงบ้าง less is more อะค่ะ แล้วใช้การพูดถึงคำบอกเล่าของตัวละครที่ไม่ได้อยู่ในฉากแทน ส่วนฉากต่อสู้ก็คุมตัวละครดี ๆ ลองคิดว่าเราจำเป็นต้องให้ตัวละครหลักอยู่ในฉากนั้นมากน้อยแค่ไหน แล้วถ้ามันอยู่กันเยอะ ๆ แล้ว ก็ต้องมีเรื่องเวทมนต์ของแต่ละคนอีก มันทำให้คุมการต่อสู้ยาก เพราะมีความเป็นไปได้มากเกินไป ถ้าพวกตัวหลักแพ้ทั้ง ๆ ที่ตัวละครในกลุ่มที่เราเลือกมามันมีเวทแก้ทางศัตรูได้อยู่แล้ว จะทำให้ดูไม่สมเหตุสมผล
5. เพิ่ม Show don't tell อีก เช่น เฟสฉลาด ก็อย่าไปบรรยายตรง ๆ ว่าฉลาด ถ้าน้องลรรยายการกระทำของเฟสได้ดีพอ คนอ่านจะรู้สึกว่านางฉลาดได้เอง โดยไม่ต้องให้ใครบอก แต่เท่าที่เห็นน้องก็มี Show don't tell อยู่เนือง ๆ นะ ที่ชัด ๆ ก็คือความเสียสละที่เฟสมีให้กับชาร์เลนเนี่ยแหละ ลึก ๆ เฟสรัก/เป็นห่วงชาร์เลนมาก ทั้งยอมรับคำสาปเอง ยอมเอาตัวเข้าขวางจนบาดเจ็บ เสกธนูให้ชาร์เลนฝึกป้องกันตัว แอบมองขาร์เลนฝึกซ้อมธนูแบบไม่ให้ใครรู้ เป็นต้น
6. ลดการใช้สรรพนามแทนตัว เช่นคนโดนเอ็ด คนถูกบ่น ฯลฯ (ซึ่งจะแก้ปัญหาข้อ 1 ไปได้ด้วยส่วนหนึ่ง) ใช้ชื่อบ้าง ไม่ก็ใช้ตอนที่มีตัวละครน้อย ๆ

สำหรับพี่เอง กว่าได้ความบันเทิงก็ตอนที่ 17 ทั้งที่ปกติอ่านแค่ 1-3 ตอนก็อาจจะวางแล้ว นี่เห็นว่าน้องมาอ่านเอง เลยอ่านไปให้จนสุด สรุปมันก็โอเค พอไหว และคิดว่าหลังจากนี้จะสนุกขึ้นเรื่อย ๆ จะคอยติดตามนะครับ(รวมถึงอีกเรื่องด้วย) ขอให้น้องโชคดีและมีความสุขในการเขียนนิยาย และขอให้มีรักษาระดับอีคิวสูง ๆ แบบนี้เอาไว้ เวลาเจอคนเหี้ย ๆ จะได้ไม่ห้วร้อนมาก

รักนะคะน้องเบลล์

by โม่งเงี่ยน

ky ตกลงโม่งเงี่ยนเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง กูนึกว่าเป็นผู้ชายจนได้เห็นคำว่า “คะ”

>>591 เป็นผู้ชายครับ

กุไปเจอเรื่องนี้มา น่าสนใจดี พวกมึงลองสับดู
https://writer.dek-d.com/lavender_blue/story/view.php?id=1674497

เพื่อนโม่ง... คิดว่าจริงรึเปล่าวะที่ว่ายุคนี้นิยายในไทยยุคนี้มันต้องเมากาวเป็นหลัก
กุโดน บก. แนะมาว่าให้ลองเขียนตามกระแส โดยส่วนตัวกุไม่เคยเขียนแนวเมากาวมาก่อน (แถมไม่รู้จะเขียนได้ด้วยรึเปล่า) ด้วย
กุควรเชื่ออี บก. นี้ดีรึเปล่าวะ?

>>594 มึงแคร์ตลาดหรือแคร์ตัวเองอะ
ถ้ายังพอมีตังแดก ก็เป็นตัวของตัวเองเหอะ

>>594 กูว่าถึงจะตีพิมพ์จะมีคนอยากซื้อจริงๆเรอะ ไม่ใช่ว่าคนสนใจอ่านเยอะเพราะชอบของฟรี

กระแสมันเยอะ ของฟรีก็มีเยอะนะ ไม่เข้าใจทำไมชอบกินซ้ำกินซากกันเลยจริงๆ

คนอ่านตอนนี้ส่วนใหญ่ก็เหมือนไส้เดือน กับพยาธิเว่ย กินของที่ย่อยง่ายๆเพราะไม่มีฟันบด เอาแต่สิ่งที่แม่งเสร็จสรรพแล้ว กินซ้ำๆก็ไม่มีปัญหา
เอาแต่ที่เคยชิน 🏳️🏳️🏳️

พวกมึงนักเขียนก็เลือกเองละกัน ปลายปากกาอยู่ที่มึงคิดนี่
ลงชื่อ ท่านโครนอส 😎😎

>>594 มึงต้องเข้าใจตลาดก่อน มึงแอนตี้ตลาดมึงก็จะไม่เข้าใจ บก. จริงๆ เห็นอยู่อีกห้องด้วยมึงคนเดียวกันหรือเปล่า

เอาจริงๆ กูรู้สึกว่ามึงน่าจะแอนตี้นิดหน่อยตั้งแต่เริ่มเขียนแล้วละ น่าจะลำบากนะ ในตลาดพอมีอะไรมากๆ คนก็จะเอียนแล้วเบนไปหาแนวอื่นเป็นเรื่องธรรมดา มึงจะรู้ได้ยังไงว่าตลาดเรื่องแบบไหนเยอะ มึงก็ต้องเป็นนักอ่านที่ตามอ่านงานอยู่ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้นิยายสายดราม่ามันมา ดราม่า แก้แค้น ทำนองนี้แหละ เยอะชิบหาย แต่กูก็อ่านไง สนุกก็อ่าน หลังๆ มาช่วงไม่นานมานี้นิยายติดตลกเริ่มลงตลาดมากขึ้น กูรู้สึกได้ถ้ามึงเป็นสายอ่านสายพรี ซื้อเล่มบ่อยๆ มึงจะรู้ว่าแนวตลกกำลังเข้ามาตามแนวที่ สนพ. หลายที่เริ่มหยิบมา สนพ.มันทำธุรกิจ บก. บอกมึงอยากเขียนอะไรเขียนไปเลยก็ไม่ใช่แล้ว ตอนนี้สายนี้ยังไม่ใช่เป็นสายหลักหรอก แต่มันมีแนวโน้มจะได้รับความนิยม แนวโน้มดีก็มีโอกาสขายได้มันก็แค่นั้น มึงเขียนหรือไม่เขียนกูไม่รู้ว่า บก. มึงซีเรียสไหม กูรู้แต่ว่านิยายตลกมันไม่ได้เขียนง่าย เขียนให้คนตลกมันยาก ถ้าจะเล่นมุกฝืด จังหวะจะโคนไม่ดี มึงเซฟงานแล้วไปเริ่มเรื่องอื่นเลยดีกว่า
คนซื้อน่ะมี เยอะด้วย แต่งานมึงต้องดีพอให้คนซื้อนะ สนพ.เอานิยายแปลแนวตลกมาถ้ามึงตามอ่านมึงก็จะรู้ว่าเรื่องไหนบ้าง แต่ถ้ามึงคิดว่าเมากาวเป็นหลักคือแม่งเขียนไร้สาระไปเรื่อยเปื่อย กูก็แนะนำให้ไม่ต้องเขียนดีกว่ามันไม่ได้เขียนง่ายขนาดนั้น ยิ่งมึงตั้งใจมึงยิ่งเขียนไม่ได้
คนอ่านที่ซื้อหนังสือจำนวนมากซื้อเพื่อความบันเทิง มึงคิดว่าหนังรางวัลกับหนังซุปเปอร์ฮีโร่ตลาดๆ เรื่องแบบไหนขายดีกว่ากัน

>>598 กุคนเดียวกับห้องลิทนั่นล่ะ
คือกุไม่ได้แอนตี้หรอกนะ แต่รู้สึกว่าไอ้แนวเมากาวเนี่ยไม่ใช่สไตล์การเขียนกุเท่านั้น ซึ่งจริงอย่างที่มึงว่าเลย กุลำบากมากเวลาคิดยิงมุกเนี่ยล่ะ ขนาดให้เพื่อนลองอ่านมันยังถามเลยว่า "นี่ยิงมุกแล้วเหรอ?" เลย
สงสัยงานชิ้นนี้กุต้องดรอปไปก่อน

>>599 เพิ่มเติมเผื่อเข้าใจผิด
ที่กุมาถามในนี้เพราะ บก. กุเขาชอบบอกว่า
"ไปลองลงเน็ตดูก่อน ถ้ากระแสดีจะเอาเข้าพิจารณา"
ซึ่งนั่นล่ะ ทำให้กุต้องลองเขียนแล้วอัพขึ้นเด็กดอยก่อนทุกรอบเลย

>>598 เห็นด้วยตรงนิยายตลกแม่งเขียนให้ตลกยากมาก

>>590 เดี๋ยวเบลล์ขอเขียนก่อนนะคะ แล้วจะมาตอบให้น้า ^ ^

>>601 ที่ยาก เพราะคนเขียนไม่รู้ว่าคนอ่านเก็ทมุกได้แค่ไหน ถ้ากูถามมึงว่า อะไรเอ่ย โกคูอยู่จ.ระยอง แล้วเฉลยว่าอาณาจักรโครยอ มึงขำมุกกูมั้ย

>>602 รออ่านนะจ๊ะ
>>603 กูเก็ตนะ กูว่ามันอยู่ที่บริบทแวดล้อมด้วยว่ะ มันต้องขำด้วยตัวโครงสร้างนิยายด้วยแหละ ยากเหี้ย ๆ

>>593 เฮ้ยยย มึง กูชอบบ นางเอกกาวมาก พังมาก กูให้ผ่าน

>>600 ถ้านอกจากแนวตลกแล้วกูคิดว่าแนวสืบสวนผสมรักกำลังมาพอๆ กัน ตอนนี้นิยายแปลหลายเรื่องก็เป็นแนวสืบสวนผสมรักแต่กูไม่ค่อยได้อ่านงานสืบสวนที่คนไทยเขียนเท่าไหร่ กูมีอคติ กูยอมรับ กูว่าคนอื่นอีกหลายคนก็น่าจะอคติเหมือนกูไม่น้อยเลยแหละ แต่คนไม่อคติก็คงมีเหมือนกัน ถ้าคนยอมรับกูว่ามีโอกาสเปรี้ยงกว่าตลกนะ มึงลองดูงานทางนี้ดูว่าน่าจะโอเคกว่าไหมแล้วถาม บก. ดู กูว่าถ้า บก. มึงเป็นสายอ่านคล้ายๆ กูจะต้องนึกออกว่าช่วงนี้สืบสวนก็แรงอยู่ สนพ.ใหญ่หลายที่ก็เอาเข้ามาแปล แต่สืบสวนมึงต้องรักสืบสวนนะกูว่ามันขายกว่า
ส่วนที่เข้าใจมึงผิดไปต้องขอโทษด้วย กู >>598 เอง

>>587
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์ของพี่โม่งอีกครั้งนะคะ รวมถึงพี่ๆ โม่งคนอื่นที่ให้คำแนะนำด้วย จากคำวิจารณ์ทำให้เบลล์เห็นข้อผิดพลาดของนิยายเรื่องนี้ในมุมมองของนักอ่าน ตัวเบลล์เองพยายามหาข้อผิดพลาดในนิยายในมุมมองคนอ่านเหมือนกันค่ะ แต่เหมือนจะทำออกมาไม่ดีเท่าไหร่
เบลล์ได้อ่านคำวิจารณ์ทั้งหมด และขอมาตอบข้อสงสัยตั้งแต่มู้ที่แล้ว (แน่นอนค่ะว่า ในส่วนที่มึนงง เบลล์จะนำไปปรับปรุงและลงใหม่ ให้นักอ่านสนุกกับนิยายมากยิ่งขึ้นค่ะ) อาจจะยาวไปหน่อยและมีสปอยไปบ้างนะคะ

>>>/webnovel/4393/868 ในเรื่องคำแทนเสียง เบลล์จะพยายามปรับลดลง และการเขียนอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นค่ะ แต่ขอเป็นบางครั้งนะคะว่าจะใช้คำแทนเสียงในการเน้นเหตุการณ์หรือการตัดฉาก (ซึ่งเบลล์จะพยายามทำให้มันน้อยที่สุดค่ะ)

>>>/webnovel/4393/877 ในประโยคแรกเบลล์พิมพ์ผิดค่ะ5555 ขอโทษจริงๆ นะคะ จะรีบแก้ไขโดยด่วนเลย ที่จริงตั้งใจจะพิมพ์ว่า 'เสียงของเด็กน้อย...' เหมือนมือไปก่อนสมองเลยกลายเป็นคำว่าร่างซะงั้น

ในเรื่องสรรพนามที่ใช้ 'ชายหนุ่มกับหญิงสาว' บางทีเบลล์นึกสรรพนามที่ใช้ไม่ค่อยออกค่ะ เลยเลือกใช้ตามเพศภาพให้ตรงกับช่วงวัย ตรงส่วนนี้เบลล์จะเก็บเป็นการบ้านไปศึกษาเรื่องการใช้สรรพนามเพิ่มเติมนะคะ (หากพี่โม่งท่านไหนพอมีหนังสือแนะนำ รบกวรบอกเบลล์หน่อยนะคะ) และการบรรยายในส่วนนี้เบลล์ได้ทำการแก้ไขให้อ่านได้เข้าใจมากขึ้น

ในเรื่องกล้องถ่ายรูป จริงๆ เบลล์อยากอธิบายเพิ่มเติมเหมือนกันค่ะ ว่าพื้นฐานของโลกนี้จะอยู่ในช่วงกำลังวิวัฒนาการนำเวทมนตร์มาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยี แต่ในตอนนี้เป็นแค่ช่วงเริ่มต้นของเทคโนโลยีเท่านั้น เพราะงั้นเทคโนโลยีที่นำมาใช้จึงยังไม่เป็นที่นิยมและยังไม่แพร่หลายค่ะ

เรื่องที่เฟสกระโดดไปบนระเบียงชั้นสองเพื่อซุ่มมอง อันนี้เบลล์ลืมอธิบายค่ะ (เขียนตกตอนสำคัญด้วย55555) คือจริงๆ ในฉากนี้เฟสมอบรูปถ่ายให้เร็กซ์ เพื่อให้เขาไปคุ้มครองชาร์เลน และประจวบเหมาะกับที่ชาร์เลนโผล่มาพอดี เฟสเลยตั้งใจจะแหย่เพื่อแสดงละครตบตาค่ะ แต่ชาร์เลนโดนรังแกเสียก่อน เลยเปลี่ยนเป็นให้เร็กซ์เข้าไปช่วยเพื่อที่เฟสจะได้แสดงบทนางร้ายให้เต็มที่ แต่ดันถูกโร (องครักษ์คารอส) เข้ามาช่วยแทนและก็เป็นเรื่องหลังจากนั้นค่ะ

>>>/webnovel/4393/878 ทำไมคนถึงกลัวโรเอนาส เพราะเขาใช้เวทมนตร์ดำได้ค่ะ ซึ่งผู้ใช้เวทมนตร์ดำถือเป็นคนอันตรายและน่ารังเกียจ แน่นอนว่าอัตราผู้ใช้มนตร์ดำได้มีน้อยมากค่ะ (ในเรื่องนี้มีประมาณเจ็ดคน) ผู้ที่ใช้มนตร์ดำได้ส่วนใหญ่จะมาจากซาเรสที่เป็นผู้ถือครองคำสาป (อันนี้เบลล์ตั้งใจจะเขียนในบทหน้าๆ แต่ยังคงไม่เฉลยในภาคแรกนะคะ)

หนุ่มแว่นของเบลล์ (โร) กับเร็กซ์ไม่ได้มีซัมติงกันแบบนั้นนะคะ555555 (พี่โม่งคิดไปไกลมาก) จริงๆ คือโรไม่ค่อยชอบขี้หน้าเร็กซ์ค่ะ เพราะตอนเด็กเร็กซ์ชอบแหย่ ที่ตาวาวๆ คืออยากเอาคืนค่ะเพราะแกล้งเร็กซ์ทีไรไม่เคยได้เลย (เรื่องราวระหว่างเร็กซ์ คารอสและโรเดี๋ยวเบลล์เขียนเป็น side story เล็กๆ หลังจากนี้ค่ะ)

ย่อหน้าที่งงสับสนเกินบรรยาย เบลล์ปรับให้เข้าใจไดอะล็อคมากยิ้งขึ้นแล้วค่ะ (แต่ยังไม่ได้ลงในเว็บนะคะ) ว่าใครพูดประโยคดังกล่าว เบลล์เคยชินกับการบรรยายโดยไม่บอกว่าใครพูด และให้เดาว่าประโยคนี้ใครพูดค่ะ ต่อไปในส่วนนี้เบลล์จะระวังให้มากขึ้น เพราะถ้าไม่ระวังในจุดนี้ คนที่เข้าใจบริบทจะไม่ใช่นักอ่านแต่เป็นเบลล์คนเดียว และคิดว่านักอ่านต้องเสียอรรถรสในการอ่านนิยายแน่ๆ ต้องขอบคุณพี่โม่งที่ทำให้เห็นจุดบอดนิยายนะคะ

>>>/webnovel/4393/879 ชาร์เลนในตอนนี้ยังอ่อนประสบการณ์เรื่องการต่อสู้และพลังเวทค่ะ เพราะงั้นเลยโดนแย่งจดหมายไปได้ง่ายๆ ถ้าถามว่าทำไมโรกับเร็กซ์ไม่ช่วย คำตอบคือเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็ว (ชาร์เลนตอบสนองต่อการใช้เวทได้เร็ว แต่อ่อนด้อยประสบการณ์จริงค่ะ) โรยังตั้งตัวไม่ทันเพราะไม่คิดว่าจะโดนโด้จดหมาย ส่วนเร็กซ์เข้าข้างเฟสเสมอค่ะ

>>607 มาต่อค่ะ
ส่วนเรื่องความฝัน ทำไมเฟสถึงฝันและโดนเรียกว่าชาร์เลน งั้นขอสปอยตรงนี่เลยนะคะ
(เนื่องจากในส่วนนี้ไม่ได้เป็นความลับอะไรค่ะเพราะเบลล์เขียนจบไปแล้วเนอะ ถ้าอยากอ่านเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ในนิยายนะคะ) จริงๆ ตระกูลฟาโรทีสทุกรุ่นคลอดลูกแฝดค่ะ ถามว่าทำไมต้องคลอดลูกแฝดทุกรุ่นคือ เป็นคำสาปของซาเรสที่ผูกกับฟาโรทีสตั้งแต่ในอดีต (มีภาคอดีตของเหล่าผู้ก่อตั้งค่ะ น่าจะหลังภาคแรก เดี๋ยวเบลล์อธิบายจุดนี้อีกทีค่ะ) คือ ลูกคนนึงต้องเกิดมาเพื่อรองรับคำสาปและต้องกลายเป็นส่วนดำมืดของตระกูล ประวัติของคนที่รองรับคำสาปจะไม่ได้จารึกเอาไว้ แต่ได้รับการขนาดนามว่า ‘เจ้าหญิง/เจ้าชายรัตติกาล' (แต่เฟสก่อตั้งสุสานให้ทุกคนค่ะ ในสถานที่แห่งหนึ่งภายใต้ปราสาทของราชวงศ์ฟาโรทีส จากเวทมนตร์ของห้องแห่งกาลเวลา <อันนี้จะมีอธิบายในภาคสองค่ะ>) ส่วนอีกคนเกิดมาเพื่อสืบทอดตระกูลให้คงอยู่ จากเหตุผลข้างต้นและข้อความที่เบลล์หย่อนระเบิดเอาไว้ว่า เฟสกับชาร์เลนหน้าคล้ายกันก็น่าจะเดาออกนะคะ ว่าสองคนนี้เป็นแฝดกัน (ชาร์เลนเป็นพี่ ส่วนเฟสเป็นน้อง) และบทถัดๆ ไปเบลล์ก็แอบเฉลยเรื่องที่เฟสถือครองคำสาปเอาไว้ จากการโยกย้ายคำสาปมาไว้ที่ตัวโดยมีข้อแลกเปลี่ยนคือ เฟสสามารถใช้เวลาในการต่อสู้ได้เพียง 20 นาทีเท่านั้น หากมากกว่านี้คำสาปจะกัดกินร่างจนตายค่ะ

อย่าเพิ่งถามค่ะว่าเฟสรู้ชื่อทุกคนในตระกูลได้ไง มันก็เกี่ยวกับหลายส่วนค่ะ55555 (มันเกี่ยวกับกระจกสะท้อนเวทดำ ห้องแห่งกาลเวลา ผู้ควบคุมกาลเวลา รวมทั้งอดีตของอดีตเฟส// อันนี้ในบทรีไรต์เบลล์ยังเขียนไม่ถึงค่ะ แต่ในเนื้อเรื่องก่อนรีไรต์เบลล์บอกไปหมดแล้วนะ) เนื้อเรื่องซับซ้อนไปไหนเนี่ย 55555

มาต่อค่ะทำไมบัตรเชิญถึงเป็นชื่อเฟสไม่ใช่ชาร์เลน คำตอบคือ จริงๆ บัตรเชิญจากสภากลางของฟาโรทีสมี 3 ฉบับค่ะ คือ ของเฟส ชาร์เลนและยูรีเอล (พี่ชาย) พอเฟสโด้จดหมายได้เลยแกะของตัวเอง (ที่เตรียมไว้) อ่านและแสดงให้ชาร์เลนดู แต่เพราะชาร์เลนถูกเวทจำกัดความทรงจำแต่เด็กเลยไม่อาจจดจำเรื่องราวของเฟสได้ค่ะ รวมถึงยูรีเอลด้วย (หลังจากโดนลอบโจมตีใน ‘งานเทศกาลสีเลือด' เมื่อ 12 ปีก่อน ชาร์เลนถูกส่งตัวไปอยู่กับฟอคิวบัส (กลายเป็นพ่อบุญธรรมของชาร์เลน) ที่เป็นเพื่อนในก๊วนของพ่อ ส่วนยูรีเอลให้ไปอยู่ที่พระราชวังท้ายสระกับปู่และย่า)

>>>/webnovel/4393/882 ขอบคุณสำหรับความเห็นนะคะ เบลล์จะเก็บไปปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ และจะระวังในส่วนนี้ด้วย

>>>/webnovel/4393/900 ในส่วนใจความที่งงเบลล์ปรับแล้วนะคะ เรื่องจดหมายเวทมนตร์เป็นคนละส่วนกับจดหมายเชิญค่ะ จดหมายเวทมนตร์เอาไว้ติดต่อสื่อสารคล้ายกับการส่งไปรษณีย์ อันนี้เบลล์ใส่ footnote ขยายความแล้วค่ะ

>>>/webnovel/4393/901 ฟอคิวบัสเป็นพ่อบุญธรรมของชาร์เลนค่ะ ไม่ใช่พี่ชายหรือพ่อของเร็กซ์นะ ส่วนเรื่องที่เร็กซ์รู้เรื่องราวชาร์เลนได้ไง ส่วนหนึ่งเพราะสืบมา อีกส่วนคือรับงานมาจากสภากลาง รวมถึงเฟสและเร็กซ์รู้จักกับฟอคิวบัสอยู่แล้ว และทั้งสองก็ติดต่อกันอยู่บ่อยครั้งค่ะ (อันนี้ในส่วนรีไรต์เบลล์ยังไม่ได้กล่าวถึงนะ) ที่เฟสให้รูปถ่ายเพราะจะได้ยืนยันลักษณะในปัจจุบันเพื่อป้องกันการดูแลผิดคน ถึงจะติดต่อกันแต่ก็เป็นทางจดหมายและไม่ได้มีรูปอยู่ด้วยค่ะ

กระดาษที่ถูกเผา = เบลล์อธิบายส่วนนี้ไม่เคลียร์เองค่ะ คือโรใช้กระดาษติดตามบุคคลใส่เฟส เพื่อหวังจะหาที่อยู่ของเฟสแล้วไปเอาข้าวของของชาร์เลนคืนมา แต่เฟสจับได้ก่อนเลยโดนเผาเหี้ยนค่ะ เร็กซ์ถึงได้ปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้ทำ (แต่รู้ว่าใครทำ// แอบร้ายนะคะตาคนนี้)

>>>/webnovel/4393/927
สร้อยคอประจำตระกูล เฟสแอบโด้มาพร้อมกับบัตรเชิญนั่นแหละค่ะ แต่กะเอามาเซอร์ไพรส์ว่าเฟสเป็นคนเอามาให้ทุกคนแปลกใจ

จดหมายที่ยูรีเอลเอาขึ้นมาคือจดหมายเวทมนตร์ที่ชาร์เลนใช้ติดต่อเมื่อบทก่อนหน้าค่ะ ข้อความด้านในเป็นการเล่าเรื่องจากฝั่งของชาร์เลนว่าเธอโดนโด้ของไปนะ และเฟสก็สร้างหลักฐานปลอมด้วยการเขียนจดหมายถึงยูรีเอลบ้าง (แน่นอนว่ามีการแสตมป์จากไปรษณีย์เวทมนตร์ แล้วเฟสก็ตามไปเอาจดหมายคืนก่อนยูรีเอลจะเป็นคนรับจดหมาย โดยทำทีเป็นจดหมายของเธอโดนตีกลับ// เล่นใหญ่ใจต้องนิ่งค่ะ5555 <ยูรีเอลพักอยู่ในเมืองมาราออสแน่นอนค่ะ เพราะสะดวกต่อการเดินทางไปยังลานตัดสิน เพราะงั้นเฟสเลยตามไปเอาจดหมายได้ง่าย> ) ถ้าถามว่าเฟสรู้ที่อยู่ยูรีเอลได้ไงก็ตอบค่ะว่าเอามาจากเร็กซ์นั่นแหละ เร็กซ์ก็ไม่ได้คิดว่าเฟสจะดักทางชาร์เลนจนจนแต้มขนาดนี้เหมือนกันค่ะ (เบลล์ลืมเขียนอธิบายเรื่องนี้ตอนที่เร็กซ์มาเจอเฟสหลังจากนั้น เดี๋ยวจะเอาไปแก้ไขอีกทีนะคะ)

>>608
>>>/webnovel/4393/882 ขอบคุณสำหรับความเห็นนะคะ เบลล์จะเก็บไปปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ และจะระวังในส่วนนี้ด้วย

>>>/webnovel/4393/900 ในส่วนใจความที่งงเบลล์ปรับแล้วนะคะ เรื่องจดหมายเวทมนตร์เป็นคนละส่วนกับจดหมายเชิญค่ะ จดหมายเวทมนตร์เอาไว้ติดต่อสื่อสารคล้ายกับการส่งไปรษณีย์ อันนี้เบลล์ใส่ footnote ขยายความแล้วค่ะ

>>>/webnovel/4393/901 ฟอคิวบัสเป็นพ่อบุญธรรมของชาร์เลนค่ะ ไม่ใช่พี่ชายหรือพ่อของเร็กซ์นะ ส่วนเรื่องที่เร็กซ์รู้เรื่องราวชาร์เลนได้ไง ส่วนหนึ่งเพราะสืบมา อีกส่วนคือรับงานมาจากสภากลาง รวมถึงเฟสและเร็กซ์รู้จักกับฟอคิวบัสอยู่แล้ว และทั้งสองก็ติดต่อกันอยู่บ่อยครั้งค่ะ (อันนี้ในส่วนรีไรต์เบลล์ยังไม่ได้กล่าวถึงนะ) ที่เฟสให้รูปถ่ายเพราะจะได้ยืนยันลักษณะในปัจจุบันเพื่อป้องกันการดูแลผิดคน ถึงจะติดต่อกันแต่ก็เป็นทางจดหมายและไม่ได้มีรูปอยู่ด้วยค่ะ

กระดาษที่ถูกเผา = เบลล์อธิบายส่วนนี้ไม่เคลียร์เองค่ะ คือโรใช้กระดาษติดตามบุคคลใส่เฟส เพื่อหวังจะหาที่อยู่ของเฟสแล้วไปเอาข้าวของของชาร์เลนคืนมา แต่เฟสจับได้ก่อนเลยโดนเผาเหี้ยนค่ะ เร็กซ์ถึงได้ปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้ทำ (แต่รู้ว่าใครทำ// แอบร้ายนะคะตาคนนี้)

>>>/webnovel/4393/927
สร้อยคอประจำตระกูล เฟสแอบโด้มาพร้อมกับบัตรเชิญนั่นแหละค่ะ แต่กะเอามาเซอร์ไพรส์ว่าเฟสเป็นคนเอามาให้ทุกคนแปลกใจ

จดหมายที่ยูรีเอลเอาขึ้นมาคือจดหมายเวทมนตร์ที่ชาร์เลนใช้ติดต่อเมื่อบทก่อนหน้าค่ะ ข้อความด้านในเป็นการเล่าเรื่องจากฝั่งของชาร์เลนว่าเธอโดนโด้ของไปนะ และเฟสก็สร้างหลักฐานปลอมด้วยการเขียนจดหมายถึงยูรีเอลบ้าง (แน่นอนว่ามีการแสตมป์จากไปรษณีย์เวทมนตร์ แล้วเฟสก็ตามไปเอาจดหมายคืนก่อนยูรีเอลจะเป็นคนรับจดหมาย โดยทำทีเป็นจดหมายของเธอโดนตีกลับ// เล่นใหญ่ใจต้องนิ่งค่ะ5555 <ยูรีเอลพักอยู่ในเมืองมาราออสแน่นอนค่ะ เพราะสะดวกต่อการเดินทางไปยังลานตัดสิน เพราะงั้นเฟสเลยตามไปเอาจดหมายได้ง่าย> ) ถ้าถามว่าเฟสรู้ที่อยู่ยูรีเอลได้ไงก็ตอบค่ะว่าเอามาจากเร็กซ์นั่นแหละ เร็กซ์ก็ไม่ได้คิดว่าเฟสจะดักทางชาร์เลนจนจนแต้มขนาดนี้เหมือนกันค่ะ (เบลล์ลืมเขียนอธิบายเรื่องนี้ตอนที่เร็กซ์มาเจอเฟสหลังจากนั้น เดี๋ยวจะเอาไปแก้ไขอีกทีนะคะ)

เบลล์ขอเล่าเนื้อเรื่องย่อบทนี้ใหม่นะคะ (พี่โม่งเงี่ยนน่าจะสับสนจากจดหมายสองแบบของเบลล์ // ขอน้อมรับความผิด และจะกลับไปแก้ไขเนื้อหาให้กระจ่างกว่านี้นะคะ)
ชาร์เลนบอกทุกคนในลานตัดสินว่าเฟสโกหก เฟสเลยสวนไปว่าถ้าโกหกสร้อยประจำตระกูล+จดหมายจากสภากลางจะมาอยู่กับตนได้ยังไง (อันนี้ตรงกับที่พี่โม่งเงี่ยนสรุปมาค่ะ) เฟสเลยคลี่จดหมายจากสภากลางในหนึ่งในผู้ร่วมงานดู และท้าทายไปว่าจริงอย่างตนบอกหรือไม่ ถ้าไม่เชื่อก็ลองใช้เวทเปลี่ยนชื่อในจดหมายดู (เพราะเวทมนตร์ทุกบทใช้กับบัตรเชิญไม่ได้ผลค่ะ) แต่เพราะชาร์เลนก็เคยเปิดบัตรเชิญนั่นและเห็นชื่อตัวเองจริงๆ เธอจึงมั่นใจว่าต้องเล่นกลโกงแน่นอน (เฟสโกงจริงๆ ค่ะ สลับบัตรเชิญของตัวเองมา) ยูรีเอลเลยพูดช่วยชาร์เลนค่ะว่าเขารู้เรื่องที่ทั้งหมดผ่านการติดต่อทางจดหมายเวทมนตร์โดยชูจดหมายที่ชาร์เลนติดต่อขึ้นมา ซึ่งเป็นตามที่เบลล์อธิบายไว้ด้านบน (อันนี้ที่สรุปไม่เหมือนกันค่ะ) และให้ทั้งเร็กซ์และโรเป็นผู้ยืนยันว่าเหตุการณ์ตรงกับข้อความในจดหมายจริงๆ พอเร็กซ์กับโรยืนยัน เฟสเลยถามเพื่อให้ทุกคนเชื่อในคำพูดของเธอ จากหลักฐานในตัวที่มีคือ
1. ยืนยันอีกครั้งว่าเวททุกบทใช้กับจดหมายจากสภากลางไม่ได้ เฟสท้าให้ใครสักคนเป็นคนพิสูจน์ต่อหน้า
2. เฟสถามไปที่ยูรีเอลว่าเชื่อข้อความในจดหมายเวทมนตร์จริงๆ หรือ เพราะระหว่างทางจดหมายเวทมนตร์สามารถูกเปลี่ยนแปลงได้นะ
3. และข้อสุดท้ายคือเฟสหลอกต่อว่าโรกับเร็กซ์ค่ะ ว่าทั้งที่มีองครักษ์สองคนอยู่ข้างตัว ทำไมถึงถูกขโมยของง่ายขนาดนั้น
< องครักษ์ก็ต้องมีฝีมือบ้างจริงมั้ยคะ เป็นถึงองครักษ์รัชทายาทของราชวงศ์เซ็คเซ็นดาร์ และองครักษ์ของฟาโรทีสเชียวนะ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเบลล์ถึงชมเฟสในย่อหน้าถัดไปว่าเธอฉลาดค่ะ // ตอนนี้เบลล์ส่งบทให้เธอดูฉลาดกว่าชาวบ้านเพราะเธอรู้เรื่องในอดีตมากกว่าใคร และมีการเตรียมการมาพร้อมค่ะ >
>>>/webnovel/4393/298
หลังจากนั้นเฟสก็เอาจดหมายเวทมนตร์ออกมาให้ดูบ้าง และถามว่าทำไมจดหมายเวทมนตร์เธอถึงโดนตีกลับมา ชาร์เลนก็ลมจับทันทีเพราะที่พึ่งสุดท้ายของเธอ ก็ยังไม่อาจยืนยันสิทธิของเธอได้ เร็กซ์ก็ไม่คิดว่าเฟสจะเตรียมการดักมาทางซะเหี้ยนขนาดนี้ เมื่อเห็นว่าชาร์เลนไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป เฟสเลยยืนยันต่อทุกคนในลานตัดสินว่า ถ้าชาร์เลนเป็นผู้สืบทอดจริง ทำไมของทุกอย่างจึงมาอยู่กับเธอ ไม่ใช่เพราะชาร์เลนอยากแอบอ้างในตำแหน่งเจ้าหญิงที่หายสาบสูญหรอกนะ พอได้ยินดังนั้นลอเรนทร์(องครักษ์คารอส) ก็ไม่พอใจเลยต่อว่าเฟส

>>609

เพื่อยุติเรื่องราวและแสดงให้แน่ชัดว่าเฟสพูดจริงหรือโกหก คารอสเลยเสนอทางออกเดียว นั่นคือพิธีโลหิตสาบาน (ที่ชาร์เลนเคยบอกว่าใช้พิสูจน์ตัวตนของฟาโรทีส) และหลังจากนั้นจนจบบทก็เป็นอย่างที่พี่โม่งเล่าค่ะ

>>>/webnovel/4393/941 เป็นอย่างที่คาดค่ะ จดหมายมีสองแบบ แต่เฟสกับชาร์เลนเป็นคนละคนนะคะ
>>>/webnovel/4393/942 เฉพาะแค่ตอนแรกๆ เท่านั้นค่ะที่เฟสดูฉลาด (ฉลาดเพราะรู้ปูมหลังของทุกคน และรับรู้เรื่องราวในอดีต) หลังจากนั้นเธอก็จะเหมือนคนอื่นทั่วๆ ไป แน่นอนว่าเบลล์ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นเฟสนะคะ (เบลล์ชอบบทของตัวโกงกับตัวประกอบมากกว่าค่ะ เล่นมันและสนุกกว่ามาก5555)
>>>/webnovel/4393/943 เฟสไม่ได้เก่งเลยนะคะ แต่ฝีมือเพื่อนๆ ในเรื่องตอนนี้ยังไม่ได้ขัดเกลาค่ะ ตอนนี้ทำให้ดูโดดเด่นเกินหน้าชาวบ้านไปหน่อย แต่เดี๋ยวเนื้อเรื่องฉบับรีไรต์หลังจากนี้ จะได้เห็นตัวละครหลายๆ ตัวออกมาแสดงฝีไม้ลายมือความเก๋าค่ะ
>>>/webnovel/4393/948 ขอบคุณที่อวยเบลล์น้า เบลล์ชอบการแลกเปลี่ยนความเห็นค่ะ เพราะยิ่งเรารับฟังความเห็นคนอื่นมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งพัฒนานิยายของเราได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการรับฟังความเห็นก็ต้องมาควบคู่กับวิจารณญาณและการวิเคราะห์ค่ะ จึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนานิยายอย่างแท้จริง

>>258 ดูท่าเบลล์ต้องไปดู GOT อย่างจริงจังสักครั้งแล้วค่ะ55555 เบลล์ยังไม่เคยดูเรื่องนี้เลย // สาบานได้ว่าจริง (เห็นเพื่อนดูแล้วติดงอมแงม กลัวติดแล้วซีซั่นใหม่ไม่ออก เดี๋ยวมันจะเว้าหวือเอาค่ะ555) เรื่องนี้น่าจะให้ประโยชน์ได้หลายอย่างเลย

เรื่องเวทมนตร์เบลล์ก็ลืมกำหนดขอบเขต เงื่อนไขและการใช้ ส่วนนี้ขอเก็บไปทำเป็นการบ้านเพิ่มเติมนะคะ ที่จริงเบลล์วางไว้แค่ว่าการใช้เวทอาศัยพลังในร่างกายในการขับเคลื่อน คล้ายๆ กับการต่อสู้ด้วยอาวุธค่ะ คือถ้าใช้มากก็จะเหนื่อย หรือถ้าเวทมีความยากและซับซ้อนหากผู้ร่ายเวทมือไม่ถึงก็เท่ากับเสียพลังฟรีไปค่ะ

>>578 มาตอบคำถามส่วนเนื้อเรื่องนะคะ เบลล์ขอตอบรวมๆ เลยนะในเรื่องตัวตนของเจ้าหญิงฟาโรทีส
Q: ทำไมยูรีเอลสามารถยืนยันตัวตนได้
A: เพราะหลังจากมีการกวาดล้างฟาโรทีส ยูรีเอลถูกส่งตัวไปที่พระราชวังท้ายสระ ให้ปู่และย่าเป็นผู้ดูแล และการยืนยันตนในครั้งนี้ สภากลางกำหนดคุณสมบัติของทายาทสืบทอดตระกูลจากจดหมายที่สภากลางส่งให้ผู้สืบทอดเป็นหลักค่ะ (ซึ่งอย่างที่มีบอกในเนื้อเรื่องค่ะ ว่าจดหมายนี้จัดทำขึ้นมาเกือบสิบปีแล้ว) ประกอบกับหลักฐานอื่นๆ คือ สร้อยคอประจำตระกูลและพยานบุคคล (ในกรณียูรีเอล พยานคือปู่และย่า ซึ่งมีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดโดยตรง แต่ชาร์เลนไม่ใช่ค่ะ หากเอาฟอคิวบัสที่เป็นพ่อบุญธรรมมายืนยัน ต่อให้ฟอคิวบัสเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของพ่อชาร์เลน แต่น้ำหนักทางคำพูดยังไงก็ยากจะพิสูจน์ให้สักขีพยานในการรับรองในสิทธิ์ดังกล่าว หรือแม้แต่คำพูดของยูรีเอล ถึงจะเป็นพี่ชายก็จริงแต่เพราะเขาแยกกันอยู่กับชาร์เลนค่ะ คำถามคือ ‘ทำไมเฟสถึงได้รับการรับรอง ทั้งที่ไร้ซึ่งพยานบุคคลเช่นกัน’ เดี๋ยวขอเอาไปเฉลยข้างหน้านะคะ) ดังนั้นในครั้งนี้เมื่อขาดหลักฐานใดไปจึงไม่อาจรับรองสิทธิ์ให้ได้ค่ะ

>>610
Q: สภากลางรู้เรื่องชาร์เลนเป็นทายาทอีกคนของฟาโรทีส เพราะส่งจดหมายไปเอง ทำไมไม่ให้ให้สิทธิ์น้องนางยืนยันตัวล่ะ
A: สภากลางทราบดีค่ะว่าฟาโรทีสมีทายาท 3 คน แต่ในส่วนเนื้อเรื่องปัจจุบันเบลล์ยังไม่ได้เขียนเฉลย เพราะกะจะเอาไปเฉลยตอนจบภาคแรก คือ อาชีพจริงๆ ของเฟสค่ะ (ถึงจะเคยแง้มๆ ตอนคารอสเข้าไปเจอกองงานจากสภากลางไปบ้าง รวมทั้งเรื่องที่จำเป็นต้องปลดเฟสจากตำแหน่งเจ้าหญิงฟาโรทีส) ที่จริงเฟสเป็นหนึ่งในสภากลางชุดปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนค่ะ

อ่านไม่ผิดค่ะ ผู้สำเร็จราชการแทนจริงๆ และมีคนสภากลางชุดปัจจุบันหนุนหลัง พร้อมแบล็คอย่างดีจากโซเรส รวมทั้งเป็นคนก่อตั้งกลุ่มนักฆ่า (พวกแจ็คควีนคิงเอซ) ในการช่วยเหลือฟาโรทีสค่ะ และคงมีคำถามอีกว่าทำไมปล่อยให้เด็กตัว กระเปี๊ยกมาเป็นผู้นำ แล้วมันเกี่ยวข้องยังไงกับการไม่ให้ชาร์เลนพิสูจน์ตัวตน

จากตรงนี้ที่เบลล์บอก เริ่มตอบจากการไม่ให้สิทธิ์ชาร์เลนพิสูจน์ตัวตน เพราะจดหมายเชิญจากสภากลางเฟสเป็นคนลงนามด้วยตัวเอง (ตามที่บอกในเนื้อเรื่องไปค่ะว่า ผู้สำเร็จราชการแทนลงนามด้วยตัวเอง และก็ไม่อาจเปลี่ยนข้อความในจดหมายได้) โดยเฟสมอบหมายให้แกรนิส (รักษาการผู้สำเร็จราชการ) เป็นคนจัดส่งไปยังทายาทแต่ละตระกูลเมื่อถึงเวลาที่กำหนด แต่ก่อนหน้านั้นเฟสก็ขอร้องกับโซเรสรวมทั้งเจ้าหน้าที่สภากลางชุดปัจจุบัน ให้ตัดชาร์เลนจากการถือสิทธิ์เจ้าหญิงฟาโรทีส เพื่อปกป้องน้องนางทางอ้อมไม่ให้นักฆ่าเข้าถึงตัวได้ง่าย ส่วนเฟสก็จะออกหน้ามาในฐานะเจ้าหญิงฟาโรทีสแทน ดังนั้นในการยืนยันตัวตนของฟาโรทีส ต่อให้ชาร์เลน ยูรีเอลหรือพวกคารอสยืนกรานจะพิสูจน์ตัวตนน้องนางยังไง สภากลางและโซเรสก็เลือกที่จะเตะถ่วงเวลาไว้ให้นานที่สุดด้วยการโบ้ยให้ทำอย่างอื่นพิสูจน์แทนการใช้พิธีโลหิตสาบานในเวลานี้ค่ะ (ในส่วนนี้ที่้เบลล์คิดนะคะ เพราะทั้งโซเรสและสภากลางยืนยันว่าพิธีโลหิตสาบานใช้ยืนยันตัวตนเจ้าหญิงฟาโรทีสได้ แต่ภายหลังกลับปลดเฟสจากตำแหน่งทั้งที่รับรองด้วยตัวเอง ความน่าเชื่อถือในพิธีกรรมนี้ รวมทั้งความเชื่อถือของสักขีพยานต่อเหล่าสภากลางและโซเรสจะหายไปค่อนข้างมาก นั่นจึงทำให้โซเรสต้องหาแผนรองรับหากเกิดกรณีนั้นขึ้นมา จึงให้พวกชาร์เลนไปหาเอกสารมาอ้างอิงในสิทธิ์ของตัวเองค่ะ) // แอบปาดเหงื่อกับพล็อตยุ่งๆ5555 (แน่นอนว่าในเนื้อเรื่องกว่าจะเฉลยก็ภาคสองไม่ก็เกือบๆ จบเรื่องเลยค่ะ)
และอีกหนึ่งคำถามว่าทำไมให้เฟสเป็นผู้นำ ทั้งที่เธอยังเป็นเด็กตัวเล็กๆ (ตอนรับตำแหน่งครั้งแรกอายุราวๆ 8 ขวบ) ขอย้อนความไปก่อนเกิดเหตุการณ์เทศกาลสีเลือดนะคะ (ก่อนฟาโรทีสโดนกวาดล้าง) เพราะเฟส *คืนความทรงจำในยุคก่อตั้งอาณาจักร* ได้บางส่วน (เรื่องนี้โซเรสรู้ และยังถามว่าความทรงจำคืนมาครบหรือยัง) ทำให้เธอรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับฟาโรทีสบ้างจาก ‘กระจกสะท้อนเวทดำ' (หนึ่งในบลาซอง ที่มีอำนาจในการดูแลห้องแห่งกาลเวลา) เฟสเลยบอกเลดี้ (แม่) กับนีอา (พ่อ) ให้รับรู้ แต่ทั้งสองไม่ยอมเชื่อและรั้งไม่ให้ชาร์เลนกับยูรีเอลต้องแยกกัน จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้น <เบลล์ตัดรายละเอียดปลีกย่อยตรงนี้ออกนะคะ5555 กลัวจะยาวแน่ๆ> หลังจากนั้นเฟสก็ขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนและแสดงความสามารถจนสภากลางยอมรับ
*[เล่ายาวอีกหน่อยค่ะเรื่องความทรงจำ: อันที่จริงเฟสเป็นหนึ่งในกลุ่มของผู้ก่อตั้งอาณาจักร ชอบเขียนบันทึกในยุคก่อตั้งฯ จนหลงเหลือมาในยุคปัจจุบัน (เบลล์แง้มไปแล้วนิดหน่อยค่ะ แต่ยังไม่ได้เขียนเนื้อเรื่องในตอนปัจจุบันให้เชื่อมโยงนะคะ) แต่เธอตั้งใจไม่ให้จารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์ จากความขัดแย้งของฟาโรทีสกับซาเรสและเซ็คเซ็นร์ดาร์ ทำให้เธออยากแก้ไขเรื่องราวนั้นเพราะคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ จึงได้ฝังความทรงจำในยุคการก่อตั้งอาณาจักร เพื่อรอการมาเกิดใหม่และแก้ไขเรื่องราวที่ตนเองก่อในอดีตในยุคปัจจุบัน // อันนี้เป็นเรื่องเล่าย่อๆ นะคะ ที่จริงค่อนข้างซับซ้อนกว่านี้ ถ้าเล่าเบลล์กลัวจะยาว]*

Q: ทำไมไม่ปิดความสัมพันธ์ระหว่างเร็กซ์กับเฟสให้เป็นความลับ ทั้งที่มันน่าจะเซอร์ไพรส์กับคนอ่านมากกว่า
A: อันนี้ตอนแรกเบลล์ลังเลใจเหมือนกันค่ะ แต่ที่เบลล์เลือกเฉลยออกไป เป็นเพราะต้องการให้ทางฝ่ายชาร์เลนกังขาในตัวเร็กซ์ ว่าสรุปแล้วคนนี้มาดีหรือมาร้าย และชาร์เลนก็เลือกจะเก็บเร็กซ์ไว้ข้างตัวเพราะต้องการให้โอกาสเร็กซ์พิสูจน์ความจริงใจ เหตุผลจริงๆ มีแค่นี้ค่ะ // สนองนี้ดตัวเองหน่อยๆ 55555

>>611
Q: เจ้าชายฟาโรทีสนักฆ่าไม่สนเหรอ
A: จริงๆ นักฆ่าที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง รวมถึงสมาพันธ์นักฆ่าในตลาดมืดเป็นของซาเรสค่ะ คนก่อตั้งคือราทีเอลและเจไนท์ (อันนี้เบลล์ยังไม่ได้เฉลยในเรื่องนะ) ทั้งสองคนต้องการจะแก้แค้นเรื่องราวในอดีตโดยการทำให้อาณาจักรล่มสลาย อย่างที่เบลล์เกริ่นไปไม่ว่าจะเรื่องบลาซอง หรือสายเลือดของฟาโรทีสที่เป็นผู้หญิงสามารถสร้างปิศาจได้ (แต่ต้องควบคู่กับเวทเฉพาะ ถึงจะสามารถสร้างปิศาจได้ // ถ้าใช้แค่เลือดอาณาจักรล่มสลายแน่นอนเลยค่ะ5555) เจไนท์และราทีเอลจึงอยากได้ตัวของเจ้าหญิงฟาโรทีสเพื่อทำลายบลาซอง แล้วเพิ่มพลังในคำสาปจากการใช้เลือดของเจ้าหญิงฟาโรทีส เพราะงั้นเลยเมินเจ้าชายไปค่ะ

เรื่องที่ชาร์เลนตบเฟสได้ เพราะเฟสไม่คิดว่าชาร์เลนจะกล้าทำค่ะ เฟสประเมินบุคลิกน้องนางเป็นสาวนุ่มนวล อ่อนหวาน แต่พอชาร์เลนโดนตอกย้ำ ต่อว่าและเย้าแหย่บ่อยๆ น้องนางของเบลล์เลยเหลืออดกับพฤติกรรมค่ะ (ฉากนี้เบลล์ก็แอบสงสารเหมือนกันนะ)

Q: ทำไมเฟสถึงเลือกผลลัพธ์ของคำสาปได้
A: ในเรื่องค่าตอบแทนคำสาป เหมือนอย่างที่พี่โม่งคาดเอาไว้ค่ะ เป็นผลจากการโยกย้ายคำสาป เฟสเพียงสร้างเงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทน ถ้าเป็นกรณีที่คำสาปติดตัวมาแต่แรก คำสาปจะเลือกผลที่แสดงออกมาในรูปแบบต่างๆ โดยอัตโนมัติ แต่หากเป็นการโยกย้ายตอนทำพิธีกรรมถ่ายทอดคำสาป ร่างที่รองรับคำสาปสามารถสร้างเงื่อนไขในการจ่ายค่าตอบแทนในระดับที่เท่าเทียม หากเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ คือ คำสาป = สินค้า ค่าตอบแทน = เงิน เมื่ออยากได้สินค้าก็ต้องจ่ายเงินน่ะค่ะ (อันนี้คือที่เบลล์เขียนเอาไว้ และคาดว่าจะเฉลยในภาคอดีตที่ก่อตั้งอาณาจักรค่ะ) ส่วนเรื่องความทรงจำของยูรีเอลและชาร์เลนที่ขาดหาย เป็นเพราะโดนผนึกความทรงจำหลังเทศกาลสีเลือดค่ะ (การกวาดล้างครั้งนั้นมันดูโหดร้ายไปสำหรับเด็ก เฟสเลยอยากให้ทั้งสองลืมมันไปมากกว่าให้จดจำเรื่องราวในวันนั้นค่ะ)

-. คำสาปมีเฉพาะฟาโรทีสกับเซ็กเซ็นดาร์ค่ะ โดยมีซาเรสเป็นผู้ถือครองคำสาป (และอีกคนหนึ่ง ซึ่งในเนื้อเรื่องตัวละครนี้จะโผล่ในต้นภาคสองค่ะ) ส่วนตระกูลที่เหลือมีหน้าที่เพื่อรักษาบลาซอง

Q: ทำไมเซ็คเซ็นดาร์โดนคำสาปนั้น…
A: เรื่องราวความแค้นและคำสาปในอดีตต้นเหตุจริงๆ ไม่ได้เกิดจากราทีเอลและเจไนท์ค่ะ แต่เป็น ‘ไอโดลอน’ ตัวละครวายร้ายจริงๆ ของเรื่อง ซึ่งจะปรากฏในภาคสองเป็นต้นไป
ความจริงคำสาปในอดีตเกิดขึ้นจากความแค้นส่วนตัวของไอโดลอน (หนึ่งในผู้ช่วยก่อตั้งอาณาจักร แต่ไม่ได้จารึกชื่อเอาไว้เพราะเกิดความผิดพลาดตอนรับรองหัวหน้าตระกูลรุ่นแรก) ไอโดลอนรู้สึกว่าตัวเองโดนหลอกใช้งานฟรี เลยแค้นต่อเพื่อนๆ โดยเฉพาะกับอันริเอล (เจ้าหญิงฟาโรทีส) กับโรเอลี (พี่ชายราทีเอล, ตระกูลซาเรส) ที่เป็นตัวตั้งตัวตีก่อตั้งอาณาจักร จึงวางแผนยืมมือราทีเอลในการจัดการอันริ แต่โดนยูริน (น้องสาวของเจไนท์, ตระกูลเซ็คเซ็นดาร์) จับได้เลยยืมมือเจไนท์อีกคนในการจัดการอันริ และในที่สุดก็เกิดคำสาปทั้งฟาโรทีส และเซ็คเซ็นดาร์
ทั้งหมดนี้ (ในแบบย่อๆ ในเรื่องมีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างเยอะค่ะ เบลล์กลัวว่าจะเขียนเยอะไปเลยย่อเอาจุดสำคัญมา) คือที่มาคำสาปของฟาโรทีส และเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเซ็คเซ็นดาร์ถึงต้องสาปค่ะ

-. เงื่อนไขการสร้างปิศาจคือเลือดของเจ้าหญิงฟาโรทีส + เวทมนตร์เฉพาะอีกบทค่ะ

Q: ทำไมต้องผ่านพิธีโลหิตสาบานจากพ่อแม่ ทั้งที่เฟสไม่ต้องทำ
A: พิธีโลหิตสาบานที่ชาร์เลนจะทำ ใช้เลือดของพ่อกับแม่และเลือดของชาร์เลน เพื่อพิสูจน์ตัวเองค่ะ (คล้ายกับการตรวจ DNA ว่ามันตรงกันมั้ย ประมาณนั้นค่ะ) ซึ่งพิธีกรรมตรงนี้จะแตกต่างจากที่เฟสทำ ตอนที่เฟสพิสูจน์ตัวตนเป็นแค่ตรวจสอบว่ามีสายเลือดฟาโรทีสจริงหรือไม่ ในขณะพิธีกรรมที่ชาร์เลนจะทำคือพิสูจน์ว่า ชาร์เลนคือลูกของกษัตริย์ฟาโรทีสจริงมั้ยน่ะค่ะ
สรุปคือพิธีโลหิตสาบานนั้น ใช้เพื่อการตรวจสอบภายในตระกูลฟาโรทีสค่ะ

-. ที่ราทีเอลกับเจไนท์ยังอยู่มาได้จนถึงปัจจุบัน เป็นผลจากการผูกคำสาปและการสร้างบลาซองค่ะ และไม่ใช่แค่ทั้งสองคนนี้เท่านั้น ยังมีผู้ก่อตั้งที่เหลือก็ด้วย

>>612
-. นิยายเบลล์ไม่ใช่แนวโรงเรียนเวทมนตร์แน่นอนค่ะ แต่ที่เลือกให้เข้าไปในโรงเรียนในฐานะนักศึกษาดูงาน เพราะมีบันทึกของโรเซล่า รวมทั้งสถานที่ที่ชื่อ ‘เปลวไฟในสายหมอก’ อยู่ เลยยืมมือเด็กๆ ในการตรวจสอบ (ในเรื่องตอนนี้โซเรสยังแค่สงสัยว่าภายในโรงเรียนมีสถานที่นั้นจริงรึเปล่าค่ะ)

>>589
-. เรื่องนักศึกษาดูงาน ถึงพวกเฟสจะไม่ใช่กลุ่มแรกก็ตาม แต่มีหนังสือขอความร่วมมือ (กึ่งบังคับจากสภากลาง) ร่อนมาให้ซิกท์ (อาจารย์ใหญ่อนาวารัน, เพื่อนสนิทโซเรส) ก็จำต้องรับเอาไว้ค่ะ

-. ตอนนี้พวกชาร์เลนและคารอสยังไม่รู้นะคะว่ารีดาเทียเป็นนักฆ่าของราทีเอล มีแต่เฟสที่สงสัยในตัวรีดาเทีย เพราะเฟสไม่ได้ยื่นทะเบียนประวัติรีดาเทียเข้ามาด้วย (แต่รีดาเทียได้รับการรับรองมาจากไอโดลอนค่ะ ที่จริงรีดาเทียก็เป็นนักฆ่าจากฝั่งไอโดลอน ที่แฝงตัวเข้ามาอยู่กับราทีเอลเพื่อจับตาความเคลื่อนไหว และหนังสือที่รีดาเทียได้รับการรับรอง เอนเดอร์เซียขโมยตราของแกรนิสมาประทับค่ะ // แอนเดอร์เซียทรยศต่อสภากลาง และในส่วนนี้จะมีผลต่อเนื้อเรื่องช่วงที่เฟสโดนปลดจากตำแหน่งในท้ายภาคหนึ่งค่ะ)
และแน่นอนค่ะว่าระหว่างที่เฟสไปทำภารกิจคุ้มกัน เบลล์จะปูบทรีดาเทียให้ทำเหมือนที่เธอบอกว่าจะปกป้องชาร์เลน (ตรงนี้เบลล์กำลังเขียนเลยค่ะ55555) เป็นการเพิ่มความไว้ใจไปอีก

-. ในส่วนที่ชาร์เลนตั้งแง่ใส่เฟส หลังจากบทที่ 15 เบลล์คิดว่าถึงเวลาสมควร จะปรับลดเรื่องการตั้งแง่ใส่เฟสแล้วค่ะ เพียงแต่ยังไม่ได้บรรยายอย่างเต็มที่ในส่วนนี้ (เพราะคั่นด้วยบทที่เฟสไปทำภารกิจก่อน) ถ้าถามว่าตอนนี้ชาร์เลนรู้สึกยังไงกับเฟส คำตอบคือเธอยังรู้สึกขัดแย้งในตัวค่ะ ว่าควรดีด้วยหรือตั้งแง่ใส่ เพราะเธอก็เริ่มรับรู้ว่าเฟสทำเพื่อเธอ ขณะเดียวกันเฟสก็ยังไม่ปล่อยเรื่องของฟาโรทีสไปและชอบแหย่อยู่เนืองๆ ค่ะ
แต่เรื่องเปิดรับคนง่ายๆ น่าจะนับเป็นนิสัยซื่อๆ ของน้องนางค่ะ55555 ถือเป็นจุดขายของชาร์เลนก็ตรงซื่อจนเซ่อนี่แหละ

-. เรื่องท่อนไม้ยาชา ที่จริงที่เฟสตัวชาเป็นผลจากการเผาไหม้ของฟืนนะคะ ไม่ใช่จากการสัมผัสนะ แต่เป็นการสูดดม เมื่อสูดดมควันไฟจากการเผาไหม้ชนิดนี้เข้าไป จะทำให้เกิดอาการชาขึ้นมาตามปริมาณที่ได้รับค่ะ (สูดดมมาก ก็จะยิ่งออกอาการเร็วและรุนแรง)
จากคำแนะนำของพี่โม่ง เบลล์จะเอาไปแก้ไขเนื้อหาในส่วนนี้นะคะ ขอเอาไปเป็นการบ้านดูว่าควรปรับแก้ยังไงอีกทีค่ะ

-. ตอนที่เฟสตัวชาทำไมพวกนักฆ่าไม่จับเชือดเลย ขืนทำแบบนั้นนางเอกเบลล์ก็หายเลยสิคะ555555

ไม่ใช่อะไรค่ะ เพราะพวกนั้นคิดว่าต่อให้กองหนุนเข้าไปช่วยจริง ด้วยเชื้อไฟที่พวกนั้นจุดจากไม้ที่ทำให้ตัวชาได้ และระยะเวลาในการมาช่วยคงไม่รวดเร็วขนาดนี้ค่ะ (ทางด้านเกรย์ไลท์กับคิงก็มีนักฆ่าที่เป็นนักเวทอยู่ แต่ก็ผิดคาดเพราะเกรย์ไลท์ชำนาญเวทกว่ามากค่ะ เลยทำลายเวทได้แทบจะทันที ส่วนกองหนุนก็มีคารอสใช้เวทเคลื่อนย้ายเข้ามาช่วยสมทบอีกแรง) สรุปคือพวกนี้ก็ประมาทในการลงมือ เลยทำให้เฟสรอดได้ค่ะ (เย้!)

เรื่องการบรรยายที่งงๆ รวมทั้งการออกมาของตัวละครที่มากเกินไป เบลล์จะระวังในส่วนตรงนี้ให้มากค่ะ และจะพยายามปรับแก้ไขเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่านให้มากยิ่งขึ้นนะคะ

ขอบคุณพี่โม่งที่ช่วยเตือนในส่วนข้อบกพร่องของเบลล์นะคะ

>>590 เบลล์อ่านครบถ้วนตามที่พี่โม่งบอกมา และจะนำไปปรับปรุงแก้ไขนะคะ ในส่วนเนื้อเรื่องแยกของเฟสกับองครักษ์โรนาน เบลล์ขอเก็บไปเป็น side story นะคะ กลับไปเตรียมการบ้านก่อนค่ะ5555 ถ้าเขียนตอนนี้น่าจะราวๆ 5 ตอนจบได้

แต่เบลล์ไม่แน่ใจว่า จากข้อสงสัยของพี่โม่งที่เบลล์ตอบไปข้างบน มันดูสมเหตุสมผลกันหรือเปล่า ตอนที่คิดพล็อตเบลล์คิดแต่ว่าทุกการกระทำของตัวละคร จะต้องมีเหตุผลมารองรับเพื่อไม่ให้การกระทำนั้นๆ ไร้เหตุผลน่ะค่ะ บางครั้งเลยจำต้องเปลี่ยนโครงเรื่องบางจุดไปบ้าง
ถ้าไม่เป็นการรบกวน อยากให้พี่โม่งช่วยแนะนำหน่อยนะคะว่าประมาณนี้ถือว่าเป็นเหตุผลที่พอรับได้มั้ย หรือว่าเหตุผลมันอ่อนไปน่ะค่ะ

ขอบคุณพี่โม่งอีกครั้ง ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่ช่วยชี้แนะข้อผิดพลาดในนิยาย เพราะเป็นไม่กี่ครั้งที่นิยายเรื่องนี้ได้รับคำวิจารณ์แบบเข้มข้นขนาดนี้ ขอบคุณพี่โม่งจริงๆ ค่ะ ^ ^

>>612 พี่โม่งเงี่ยนเองนะ
ขอบคุณมากครับน้องเบล คือฟังน้องเบลสปอล์ยแล้ว มันก็น่าสนุกดีนะ ถ้าน้องเบลสื่อสิ่งที่เบลวางไว้ออกมาให้ชัดเจน โดยไม่ให้ปัญหาเรื่องงงมันเข้ามาบดบัง พี่ก็จะถือว่าทำได้ดีเลย เชื่อว่าเดี๋ยวน้องก็ปรับปรุงได้

แต่พี่ขอถามประเด็นเจ้าหญิงแห่งฟาโรทีสหน่อย สรุปราทีเอลอยากฆ่าหรืออยากจับตัว
คือที่ผ่านมาจากการกระทำของนักฆ่า พี่รู้สึกว่าราทีเอลอยากจะฆ่าเจ้าหญิงแห่งฟาโรทีสมากกว่า ในประกาศจับก็ควรเป็นจับเป็นอย่างเดียวหรือเปล่าครับ
และในตอน 17-18 เห็นได้ชัดว่านักฆ่าอยากเผาเจ้าหญิงแห่งฟาโรทีส(เฟส) มากกว่า ซึ่งถ้าเผาแล้ว เลือดมันจะเหลือมากน้อยแค่ไหนในศพ พี่ก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าพี่เป็นราทีเอล ก็คงจับเป็นแล้วรมควันจากท่อนไม้ยาชาแทน แล้วค่อยเชือดรีดเลือดออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่ออัพเกรดคำสาปให้ได้สูงสุด

ประเด็นที่เหลืออ่านแล้วก็พอใจอยู่ครับ ถ้าว่างจากงานจะหาเวลามาเสริมสิ่งที่น้องเบลล์ถามไว้นะครับ

>>614 ครับๆเชียวนะเมิง เจอน้องเบลที โม่งเงี่ยนสมชื่อจริงๆ
ลงชื่อ เซฮุน กูรู้ว่ามึงอยาก

>>614 นักฆ่าในบทที่ 17-18 เป็นคนละชุดของราทีเอลค่ะ ในสองบทนั้นเป็นนักฆ่าอีกกลุ่มที่คหบดีจ้างมาเพื่อต้องการเงินรางวัลจากตลาดมืดเท่านั้น
ดูท่าอันนี้เบลล์ต้องเสริมตรงนี้เข้าไปด้วย55555

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ เบลล์จะพยายามแก้ไขให้งานออกมาดีที่สุดนะคะ เรื่องงานของพี่ก็สู้ๆ นะคะ 😁

>>615 ไอ้สัสรู้มาก

>>616 โอเค งั้นเคลียร์ แต่เท่ากับมีสองกลุ่ม
1. อยากฆ่า+อยากกวาดล้างฟาโรทีส ตลาดมืด(แต่ก็สงสัยว่าทำไมอยู่ดี)
2. อยากจับเป็น เพื่อบัฟคำสาป โดยราทีเอลและเจไนท์

เข้าใจถูกมะจ๊ะ

น้องเบลล์นี่อายุเท่าไร ใช้หน้าบทความยุคเก่าด้วย กุยังมาไม่ทันเลยว่ะ

ทำไมกุรู้สึกว่าห้องนี้เหมือนกำลังจะมีไอดอลวะ!?

>>617 ตามที่พี่โม่งเข้าใจค่ะ กลุ่มแรกมีไอโดลอนหนุนอยู่ คนนี้คิดเพียงกำจัดฟาโรทีสกับเซ็คเซ็นดาร์โดยไม่ได้สนเรื่องการสร้างปิศาจค่ะ แน่นอนว่าหลังจากภาคสองเฟสก็ไม่ใช่แค่คนเดียวที่โดนหมายหัวค่ะ

>>618 เบลล์ก็ยังวัยรุ่นอยู่นะคะ55555 แค่เล่นเด็กดีมานานเท่านั้นเอง ถ้าจำไม่ผิดไอดีนี้เปิดตั้งแต่ปี 51 มั้งคะ

>>620 งั้นรุ่นเดียวกัน กูเปิดตอนปี49 555

>>620 เรียกพี่เบลล์ดีกว่ามั้ย เฉียดรุ่นวัตถุโบราณแล้วนะนี่

Ky อยากคุยเรื่องนิยายยูริไปห้องไหนวะ เจอแต่ยาโอยกับเกิร์ลกรุ๊ป

>>623 เคยมีห้องยูริอยู่ตรงanime&manga แต่แม่งโดนดองไปละว่ะ แต่ถ้ามึงอยากเน้นคุยฝั่งนิยายก็หย่อนห้องนี้ได้แหละมั้ง หรือถ้าอยากเน้นฝั่งยูริก็ลองถามฝั่งblเอา

อัลไลว่ะเนี่ย https://www.dek-d.com/board/view/3805967/

>>621 หู้วว เปิดก่อนเบลล์อีก 5555
>>622 ยังไม่เฉียดรุ่นวัตถุโบราณนะ เรียกน้องเหมือนเดิมดีกว่าค่ะ5555

>>625 วั้ยยย นุ้งซอแนะนำนิยายโม่งให้ด้วยแหละ

เอาตรงๆนะ ชื่อเรื่องยาวไปถึงจะแปลกยังไงก็ไม่ค่อยน่าอ่านเท่านิยายชื่อเรื่องสั้นๆกลางๆ เพราะเหมือนคนเขียนมันอัดมุกใส่ชืเรื่องไปหมดละ เนื้อหาเลยจืดไม่น่าดึงดูด ถ้าชืาอเรื่องธรรมดาแต่เนื้อหาเด่นกว่านี่สิถึงจะน่าอ่าน

>>627 พี่เรียกหนูเหรอคะ!?

ชื่อยาว ๆ ตามที่พี่เว็บมาสยกมาคิดว่าคงได้รับอิทธิพลจากไลท์โนเวลนะ ก็ดูดึงดูดดีในประมาณหนึ่ง แต่สำหรับเรา ยาวไปก็จำไม่ได้+หมดความสนใจในเนื้อเรื่องไปโดยปริยาย

>>625 รัชทายาทเสิ่นเจิ้น!

จริงป่าววะ ยิ่งอ่านเยอะ เขียนนิยายเด็กดวกยิ่งเก่งขึ้น
https://www.dek-d.com/board/view/3806132/

>>630 จริงมั้ง

>>621 เชี่ย โคตรดึกดำบรรพ์ กูเปิด 52 แต่ตอนนั้นเด็กโปกสัส ๆ อย่างหมอยอ่ะ 55555

>>630 คห.ที่ 4 เมิงเมาเหมือนเดิมเลยนะ ป่าไม้หลุยส์เนี่ย

>>630 กุเห็นคนตอบกระทู้แต่ละคนแล้ว ...เออ
เห็นมีกวีนี่ล่ะที่ตอบดูเข้าท่าสุด

>>634 เมิงก็เนียนเข้าไปตอบบ้างดิ

>>634 เผื่อจะเข้าท่ากว่าทุกความเห็น

>>630 จขกท.นี่คือ ค.ห.10ใน >>149 นี่หว่า แต่คิดจะมาหาสาระในบอร์ดเด็กดีนี่หวังยากแล้วว่ะ

เด็กดี ชื่อก็ชัดอยู่แล้วว่ามีแต่ 'เด็ก' เห่อหมอย และเสแสร้งว่าตัวเองมี 'ดี' เหนือคนอื่น

>>638 มึงคือ'ผู้ใหญ่เหี้ย'สินะ ทำเป็นรู้ดีแล้วหาเรื่องด่าได้ตลอด

กูว่า กูได้อะไรจากเด็กดีเยอะนะ มันไม่ได้แย่ไปหมดหรอก

>>639 >>640 เหมือนกูเห็นเด็กแถวนี้ร้อนตัวว่ะ

พวกที่ไม่รู้ักตัวเองดีพอ มักจะเป็นพวกเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่นน่ะแหละ

โอเค เอาเป็นว่า จะว่าอะไรก็ตามสบาย กูแค่พูดรวมๆ ไม่ได้เจาะจงใคร กูขี้เกียจเถียง

>>642 จ้ะๆ มึงถูก และดีเลิศ เหนือคนอื่นในเด็กดี

กูไปอ่านเจอเรื่องนี้มา http://writer.dek-d.com/Gyozaten/writer/view.php?id=1714735
อ่านได้10ตอนแรกก็พอแล้ว อีเหี้ย อีพระเอกนี่น่ากลัวว้อย ไม่รู้จักกันละมาจูบ นางเอกนี่อะไรของเขาวะ นึกภาพคนปกติโดนคนที่รู้จักแค่ชื่อมาจูบดิ กูว่าต้องเล่าเพื่อน+ประจานว่าอีนี่โรคจิตแน่ๆ นิยายไม่ต้องเรียลมากก็จริงแต่ฉากนี้อย่างน้อยภาพลักษณ์อีพระเอกในสายตานางเอกมันก็ควรดูแย่ไหมวะ คนแต่งคิดว่าเป็นพระเอกแล้วจะทำอะไรก็ได้เรอะ!!!

>>645 ก็คนเขียนบอกว่าสนองนี้ด ด้นสด มึงคาดหวังอะไรมาก

>>645 เขียนมายังงี้ กูมั่นใจว่าคนเขียนโสดสนิท

>>645 พล็อตเรื่องแม่งเหมือนพวก hentai
บางทีแค่เจอหน้ากัน ก็จับเย็ดแล้ว

>>645 ทำให้กูนึกถึงนิยายเรื่องนึงที่เคยอ่านนานมาแล้ว พระเอกชนทับนางเอก (ที่ไม่เคยรู้จัก) บีบนม นางเอกร้อง อ๊างงง
อ๊างเหี้ยอะไร คนไม่รู้จักมาลวนลามมึงยังมีหน้ามาทำหน้าฟินอีกอีเหี้ย

>>645 ลองทำงี้ในชีวิตจริงมึงโดนจับขังคุกขี้ไก่ไปแล้ว

กูว่าจะสับนิยายรักบ้าง มีอันไหนน่าสนใจบ้างมะ ขอนิยายรักน้ำดีหน่อย กูอ่านนิยายเย็ด ๆ มาเยอะพอละ

อยากอ่านแนวสืบสวน มีเรื่องไหนแนะนำบ้าง ไม่ต้องดีเลิศเอาอ่านฆ่าเวลาก็ได้ เราไม่คอมเม้นว่าดีหรือแย่นะแต่จะติดตามอ่านเรื่อยๆ พอดีว่าง

>>651 https://writer.dek-d.com/slowlate/writer/view.php?id=1499643

กูสายโอจิค่อนอะ ตามความคิดเห็นกูนะ เรียงเหตุการณ์ไม่ค่อยลื่นเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยคำผิดก็ไม่ค่อยมีละวะ

>>653 ใจมาก เดี๋ยวลองดู ตอนไม่เยอะเท่าไหร่

>>653 เหยยย กูกำลังหาสายโอจิอ่านพอดีเลยมึง ถ้ามีเรื่องอื่นอีกขอด้วยย

>>653 กูคนแปะลิงก์นะ 5555 กูขอด้วยยยย ฮือ อ่านเล่มบางเรื่องละโอจิจริงอยู่ แต่หญ้าก็อ่อนเกิน ไม่ไหวว่ะ เลี่ยนฉิบหาย อยากได้คู่สมๆ กันหน่อย

สายโอจิคืออะไร?