>>605 มึงโง่เองมากกว่า สักแต่จะกินอะไรง่ายๆ จนชิน กินของที่ต้องเคี้ยวไม่เป็น ลองไปอ่านงานวรรณกรรมของยุโรปบ้าง ภาษาวกวนมาก ถ้าให้โม่งในกระทู้นี้สับคงด่าว่าไม่มีทางขายออก
คนทั่วไปเขามีหลากหลาย อย่างที่กูยกตัวอย่าง คนฝรั่งเศสเขาถือว่าอะไรที่อ่านง่ายๆ เป็นของชั้นต่ำ จืดชืดไร้ราคา แต่ยิ่งอ่านเข้าใจยากเท่าไหร่ก็จะเป็นของชั้นสูง มีคุณภาพ ค่านิยมนี้เป็นเรื่องทั่วไปในยุโรป แม้แต่อิตาลี่ที่สโลวไลฟ์ยิ่งกว่าไทยยังชอบอ่านนิยายที่ต้องวิเคราะห์ตีความซับซ้อนเลย
แล้วมึงจะอ้างว่าที่นี่เด็กดีไม่ได้หรอก เพราะเราคุยเรื่องงานประกวดนิยายอยู่ มันอยู่นอกเหนือสโคปของนิยายเด็กดี ซึ่งถ้าให้พูดตามตรงแล้วควรไปคุยที่ห้อง Lit มากกว่า แต่คุยที่นี่ก็คุยไป และนิยายที่ส่งไป ARC มันไม่ได้ลงในเด็กดี การที่มึงพูดถึงนิยายเด็กดีจึงผิดเข้าไปอีก ไม่รู้ประเด็นพูดคุยแล้วยังเสร่อโง่ๆอีก
กูจะชี้แจงให้คนอื่นฟังนะ เพราะกูว่ามึงคงอ่านอะไรไม่เข้าใจ
1.>>599 มึงบอกว่านักอ่านทั่วไปกำหนดกระแสตลาด สนพ.ต้องเอารายได้ตรงนี้เป็นหลัก
2.>>600 กูบอกว่านิยายรางวัลมักถูกห้องสมุดซื้อ ซึ่งเป็นจุดที่รับประกันยอดขายที่สุดแล้ว
3. มึงยอมรับเรื่องยอดขาย แต่บอกว่าคนละระบบกัน
ข้อ 1 - 3 นั้นย้ำว่าเราคุยกันเรื่องยอดขายและงานประกวด ซึ่ีงไม่เกี่ยวกับเด็กดี และข้อ 4 เป็นจุดที่มึงออกนอกเรื่อง
4. มึงเขียนตามนี้ >>601
สรุปเขียนเพื่อให้ได้รางวัลให้หห้องสมุดซื้อไปเก็บไว้
กับเขียนให้คนทั่วไปซื้ออ่านเข้าใจง่ายๆ และอ่านจริง
เพื่อนโม่งว่าอย่างไหนน่าสนใจกว่ากัน คงต้องแยกแล้วละ ว่าเพื่อเงิน เพื่อรางวัล เพื่อชื่อเสียง
แล้วพอตอบรับเชิงวิจารณ์ ว่าอ่านแล้วเข้าใจยาก กรรมการตัดสินเขาจะยอมรับบ้างมั้ย?
- มึงเมาเอง เพราก่อนหน้านี้มึงก็ยอมรับเรื่องยอดขาย
"รู้สิ เขาไม่ได้ขายหวังหลักพันแต่เป็นหลักหมื่อถึงแสน"
แปลว่า "เพื่อเงิน เพื่อรางวัล เพื่อชื่อเสียง" ไม่จำเป็นต้องแยกจากกันก็ได้ ถ้างานเราดีพอ นักเขียนรุ่นก่อนก็งานดีเนื้อเรื่องดีโดยไม่ต้องแยกอะไรแบบนี้ซะทีเดียว ที่มึงพูดก็แค่ข้ออ้างเท่านั้นละ
5. กูตอบโต้มึงตั้งแต่ วรรคที่ 2 ของ >>602
6. มึงตอบกลับมาว่า
หนังสือต้องให้อ่านง่าย มันไม่มีค่านิยมมาจากที่ไหนหรอก
มันแค่เป็นเรื่องที่ง่ายๆ ในการเข้าใจชีวิตมากกว่า ดูละครสนุก อ่านหนังสือสนุกไปตามเรื่องตามราว ของคนปกติทั่วไป
ที่พอใจรับรู้อะไรง่ายๆ
ซึ่งตอบโต้
กูไม่รู้นะว่าค่านิยม "หนังสือต้องให้อ่านง่าย" นี่มาจากไหน แต่ว่ากันตามตรงไม่จำเป็นเสมอไปหรอก หนังสือคือสิ่งที่นักเขียนเป็นผู้สร้าง มันคือสิ่งที่ถูกสร้างมาเพื่อแสดงความคิดของนักเขียน นักอ่านเข้าใจยากหรือง่ายไม่สำคัญเท่านักเขียนพอใจหรือไม่พอใจมากกว่า
- อันนี้เป็นการเข้าใจผิดแบบตลกๆ เพราะอย่างที่กูชี้ให้ดู คนฝรั่งเศสและยุโรปชอบอ่านหนังสือยากๆ เพื่อบอกรสนิยม และขบคิดตีความตามแนวทางของ death of the author ดังนั้นข้ออ้างว่า "ที่พอใจรับรู้อะไรง่ายๆ" นั้นจึงใช้ไม่ได้ และอย่าลืมว่าในตอนต้น 1 - 3 ไม่มีการพูดแนวหนังสือ เพราะ ARC ไม่กำหนดแนวหนังสือ ดังนั้นการถกเถียงจึงไม่จำกัดแค่ "นิยายประโลมโลก"
7. ประโยคนี้ของมึง
อย่างคำตอบของเพื่อนโม่ง คือดูจะมีอัตตาในเรื่องที่แซะการตัดสินกรรมการ หรือความต้องการของคนทั่วไปส่วนใหญ่
คือพอแซะนิดหน่อย ก็เอาอะไรต่ออะไรมาเปรียบเทียบ
น่าจะมองในมุมคนทั่วไปมองบ้าง มองในมุมธุรกิจบ้าง ถ้ามองว่ากูสนใจแต่ชื่อเสียง งานดี มันก็ต้องไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งพอดูหัวข้อแล้ว
ที่นี่คือ นิยายเด็กดี ที่คนเขียนมีความต้องการหลากหลาย ไม่ได้มุ่งเอารางวัลอะไร
แค่ยกนิยายโนเบลมาเปรียบกับการเขียนระดับฝึกหัดลงเว็บ มันก็ทำให้พูดไม่ออกในมุมมองที่คิดอะนะ มวยมันคนละรุ่นหรือเปล่า วิถีทางมันคนละสายหรือเปล่า
หรือต้องเอารางวัลมาเป็นเกณฑ์ชีวิตของเพื่อนโม่ง กูว่าแม่งน่าเศร้าเลยวะ
ตอบโต้ประโยคนี้ของกู
สุดท้ายนะ ข้ออ้างเรื่องกรรการ VS คนส่วนใหญ่ อันนี้แล้วแต่มึงเลย กูเชื่อว่าพวกมึงส่วนใหญ่อ่านงานระดับโนเบลไม่รู้เรื่องหรือไม่สนุก แต่ถ้ามึงบอกว่า 50 เทาดีกว่าเพราะคนอ่านเข้าใจกว่าเยอะกว่าก็เรื่องของมึงเถอะ
- กูขอแยกเป้น 2 ข้อ คือข้อ 8 - 10 เพราะมันยาว