Fanboi Channel

นิยายเด็กดี บทที่ 9 (DDN IX) ภาคนิยายคุณตะพาบกับกระทู้กลายพันธุ์ สับบ้างไม่สับบ้าง คุยเรื่องแยกร่าง-อัพหลอกไปมู้นินทาสิเฟ้ย!!!

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:bEonUB8TD

แหล่งอัพเดทรายชื่อรอสับกับรายการที่สับไปแล้ว เพื่อใช้ศึกษาพัฒนางานเขียน เสริมจุดเด่น ลบจุดด้อย วิจารณ์นิยายเรื่องต่างๆ สไตล์โม่ง

<<คลังกระทู้เก่า>>

นิยายเด็กดี บทที่ 1 -- https://fanboi.ch/webnovel/2403/
นิยายเด็กดี บทที่ 2 -- https://fanboi.ch/webnovel/2703/
นิยายเด็กดี บทที่ 3 -- https://fanboi.ch/webnovel/2907/
นิยายเด็กดี บทที่ 4 -- https://fanboi.ch/webnovel/3066/
นิยายเด็กดี บทที่ 5 -- https://fanboi.ch/webnovel/3187/
นิยายเด็กดี บทที่ 6 -- https://fanboi.ch/webnovel/3229/
นิยายเด็กดี บทที่ 7 -- https://fanboi.ch/webnovel/3388/
นิยายเด็กดี บทที่ 8 -- https://fanboi.ch/webnovel/3594/

เรื่องรายชื่อนิยายสับกำลังรวบรวมอยู่ ใช้เวลานิดนึง(แม่งเยอะสาด)

2 Nameless Fanboi Posted ID:bEonUB8TD

รายชื่อนิยายแปะไว้แล้วไม่ได้สับ (อัพเดท 30/4/2560)

https://writer.dek-d.com/soramumei/story/view.php?id=1552115
https://writer.dek-d.com/hellokotori/story/view.php?id=1547491
https://writer.dek-d.com/Malisza/story/view.php?id=1498891
https://writer.dek-d.com/kittikan111/story/view.php?id=1430201
https://writer.dek-d.com/audra/story/view.php?id=1541315
https://www.dek-d.com/board/view/3711427/
https://my.dek-d.com/misterheart/writer/view.php?id=958701
https://writer.dek-d.com/kahathanan/story/view.php?id=1529577
https://writer.dek-d.com/Fungq/story/view.php?id=1547378
https://writer.dek-d.com/vvviiinnn2/story/view.php?id=1545559
https://writer.dek-d.com/sakur/story/view.php?id=1539350
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1442437
https://writer.dek-d.com/Nakatokung/story/view.php?id=65732
https://writer.dek-d.com/kittikan111/story/view.php?id=1512736
https://writer.dek-d.com/Hestia/story/view.php?id=121556
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1582546
https://writer.dek-d.com/popee/story/view.php?id=577118
https://writer.dek-d.com/stima/writer/view.php?id=1501650
https://my.dek-d.com/guillietsig/writer/view.php?id=1401317
https://writer.dek-d.com/oongga/story/view.php?id=1048031
https://writer.dek-d.com/nimamoko/story/view.php?id=1374220
https://writer.dek-d.com/fytius/story/view.php?id=1374209
https://writer.dek-d.com/lonoline/story/view.php?id=1532866
https://writer.dek-d.com/ruijnan/writer/view.php?id=1276392
https://writer.dek-d.com/Maosappy/story/view.php?id=1593123
https://writer.dek-d.com/maru-sama/story/view.php?id=1523638
https://writer.dek-d.com/nn_areya/story/view.php?id=1594693
https://writer.dek-d.com/bluesea25/story/view.php?id=880244
https://my.dek-d.com/Demon1Ce/writer/view.php?id=1416003
https://writer.dek-d.com/Artcyber/story/viewlongc.php?id=1620743
https://writer.dek-d.com/Poeei/story/view.php?id=1546832
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1383841

3 Nameless Fanboi Posted ID:bEonUB8TD

ทำเนียบการสับนิยายตั้งแต่เริ่มกระทู้แรก
เพื่อการศึกษาและพัฒนาทักษะการเขียนนิยาย

[อัพเดทล่าสุด 12/3/2560]

Guardian of Life >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2403/568-569/
Ability High School >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2403/589-590/
เกิดใหม่ที่ต่างโลกกับหนังสือแห่งพระเจ้า >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2403/641/
เชื่อสิ ข้าน่ะธรรมดาที่สุดในเรื่องแล้ว >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2703/88/
มหากาพย์มิกซ์แฟคฟิคโรเซียเน (บทเปิดโปงจนถึงบทเทียบตัวเกม) >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2703/521-545/
มหากาพย์มิกซ์แฟคฟิคโรเซียเน (บทวิแคะเนื้อเรื่องเปรียบเทียบ) >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2703/546-560/
ลำนำวาริธร >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2703/863/
สายลับข้ามภพ >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2703/867/
อลหม่านป่วนพิภพอลเวง >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2703/872-873/
Desiderium Foro - ตลาดปรารถนา >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2907/51-52/
เมืองแนวตั้งโครงสร้างประหลาด ผู้คนไม่มีวันตาย กับเด็กชาย >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2907/56-57/
Zero Man : บุรุษท้องนภา >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2907/65-66/
the Earthquest : หากข้ามิใช่มนุษย์ >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2907/69-76/
Nova to Terra >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2907/109/ (A.K.A. นิยายพี่ถุย)
ตงฟาง บูรพาสิบทิศ >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2907/201/
The Parallel Dimensions >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3066/18-19/
ซูฉี สาวงามสีขาว >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3066/174/
ยุทธการครองรัก >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3066/175/
ฝนโลหิตคาววายุ ร่วมรื่นรมย์ชั่วคราว >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3066/178/
Beyond Infinite | ปฏิวัติรัฐอำพราง >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3066/237-238/
Empire Link ภาค สงครามเกมนอกจอ >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3066/319-320/
World without rules Online >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3066/384/
SUPER TEACHER ครูสาวยอดนักสู้ >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3066/496-499/
New World Online >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3066/693-713/
Falconia de Lorenis ลำนำผู้กล้าหญิงผมทอง >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3066/772/
เพราะเธอคืออีกครึ่งของหัวใจ Give me your heart >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3066/773-774/
Ame ni Nureta Ran no Hana: หยาดฝนบนดอกกล้วยไม้ >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3066/827/
Cosmos ULTIMATE Academy >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3066/911-918/
Selection Online >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3066/984/
ตานี - (หมอ)ผีสาวผู้มีอาวุธเป็นกล้วย A.K.A. นิยายเครื่อง >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3187/35-57/
นิยายเจ๊มุ >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2403/543-545/
นิยายเจ้าชายหิมะของ WhiteflowerRi (คนละคนกับดอกขาว) >>>/https://fanboi.ch/webnovel/2403/510-513/
My Memory ความทรงจำของฉันอยู่ที่เธอ >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3187/479/
Rosyria, legend of half blood ตำนานเลือดผสม >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3187/787-797/
ยอดคนเหนือฟ้า >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3187/977-980/
"เจาะเวลามาเป็นมือปราบ" >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3187/996/
Snowwhite Is My Sin >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3229/973/
The Curse เมื่อคำสาปสูญสลาย >>>/https://fanboi.ch/webnovel/3229/980/

4 Nameless Fanboi Posted ID:bEonUB8TD

สาปรักห้วงวารี >>>/webnovel/3388/110/
Guildmystic มนตราพันธนาการ >>>/webnovel/3388/888-892/
Fusei no Seikai >>>/webnovel/3388/851-854/
Artoforbis : The artificial land แดนลับดับโลก >>>/webnovel/3388/923-924/
AMARA | อมรา >>>/webnovel/3388/935-936
สาวน้อยเวทมนตร์ ผู้ไร้บ้าน >>>/webnovel/3388/947-948
The recorder ผู้พิทักษ์บันทึกแห่งชีวิต >>>/webnovel/3388/816-817/
Corsair's King ปริศนาโจรสลัดสะท้านโลก >>>/webnovel/3388/759/
Legends of the Dark fantasy (เปิด ตำนาน รัตติกาลแห่งใหม่) >>>/webnovel/3388/847/
Loligend ตำนานสาวน้อยจอมเผด็จการ >>>/webnovel/3388/86/
Trappist-1 Traps : สุริยะสาวดุ้น >>>/webnovel/3388/539/
Bearry หมีผจญภัย ??? >>>/webnovel/3388/798/
ระเบิดเวลาล้างโลก [Dark Fantasy] >>>/webnovel/3388/861/
ฉันนี่แหละคือเศรษฐี >>>/webnovel/3388/879/
การผจญภัยของผม >>>/webnovel/3388/922/
Contian เจ้าชายที่แสนอร่อย >>>/webnovel/3594/19/
AMBROSIOS ONLINE >>>/webnovel/3594/61
Herou X Maowwww หันไปด้านหลังสิ มันคืออะไร? มันคืออาวุธในการปราบจอม >>>/webnovel/3594/85
Winter's Whispering >>>/webnovel/3594/103-107
Color clash โลกออนไลน์แห่งสีสัน >>>/webnovel/3594/108
REN VENTEL >>>/webnovel/3594/134
ถ้าผู้กล้าผันตัวเป็นจอมมาร ลูกชายของจอมมารแท้ๆอย่างผมจะทำยังไงดี >>>/webnovel/3594/574
Raphael de l'air : เจ้าชายแห่งสายลม >>>/webnovel/3594/589

ตายหมู่ ก็ไปต่างโลกกันทั้งหมู่
สร้างตัวต่างโลก ต้องไปกับความเทพสิครับ!!
เกิดใหม่ ณ โลกเวทมนต์
สามเรื่องนี้สับรวมกันใน >>>/webnovel/3594/826

God of Dreamland
King of Protector
seven pearl
โคริซอล
Tales of Bones : ผู้พิทักษ์คำสาปเเห่งกาลเวลา
ห้าเรื่องนี้สับรวมกันใน >>>/webnovel/3594/827

[Thunder Wizard] จอมเวทย์สายฟ้า >>>/webnovel/3594/871

5 Nameless Fanboi Posted ID:bEonUB8TD

(จากกูคนตั้งกระทู้) กูคิดว่ากระทู้หน้ากูอาจจะไม่เปิดให้แล้ว ใครจะเปิดภาค 10 ใหม่ก็แล้วแต่ เพราะจากที่กูอ่านๆ มา กูเห็นด้วยกับโม่งคนนึงที่บอกว่า เฮ้ย! พวกเราสับไปเจ้าของเรื่องก็ไม่ได้แคร์อะไรหรอก ต่อให้เอาไปแปะไว้หน้านิยายมัน ถ้ามันไม่เห็นด้วยหรืออ่านแล้วไม่ชอบ มันก็ลบทิ้งอยู่ดี ดังนั้นการสับที่ทำอยู่อาจมีประโยชน์แค่เปิดมุมมองของโม่งหลายๆ คนต่อนิยายเรื่องนั้นเฉยๆ

คิดไปคิดมากูว่าแม่งเหนื่อยเปล่า ทีมสับเก่าๆ กับโม่งสับดีๆ หน้าใหม่ก็หายหน้าไปทำเรื่องส่วนตัวกันหมด ส่วนกูก็คิดว่าจะเอาเวลาไปตั้งใจเขียนนิยายของตัวเองให้จบซะที

ถ้าพวกมึงที่มาใหม่ไม่รู้ว่าทิศทางของกระทู้นี้คืออะไร ในห้องแรกมีบอกอยู่แล้วว่าห้องนี้มีไว้สำหรับ "ด่า-อวย-วิจารณ์(สับ)" เฉพาะตัวนิยายในเด็กดี ถ้าจะด่าคนแต่งเรื่องหรือดราม่านิสัยหมาๆ ของนักเขียน ควรไปกระทู้นินทาที่ Netwatch >> https://fanboi.ch/netwatch/3558/

อนาคตนิยายไทยทั้งในและนอกเว็บเด็กดีเป็นยังไง กูคงไม่ต้องพูดอะไรเพิ่ม ถ้ามึงที่อ่านอยู่เป็นโม่งอายุน้อย เด็กรุ่นใหม่ นักเขียนไฟแรงมีฝันเต็มหัวใจ กูหวังแค่ให้เขียนงานที่ไม่ห่วยลงไปกว่านี้ ใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง หลีกเลี่ยงการเขียนเรื่องหีๆ ควยๆ ในนิยายตัวเอง มีอุปมา-พรรณาบ้างให้สมเป็นนักเขียน ภาษาสำนวนมึงไม่ต้องเทพ มีข้อคิดสอนใจตอนจบเรื่องสักนิด บอกนักอ่านได้ว่ามึงอยากจะสื่ออะไรตลอดการเล่าเรื่องที่ผ่านมา ไม่มีอะไรที่ห่วยหรือขยะอย่างแท้จริง ทุกวันคือการพัฒนา ถ้าฝึกฝนไปเรื่อยๆ อ่านผลงานดีๆ จับจุดมาปรับปรุงงานของตัวเอง แล้วจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง

โชคดี

6 Nameless Fanboi Posted ID:ebQ0F6ycn

>>5 กูเห็นด้วยกะมึงนะ เหตุผลที่กูเข้ามาบอร์ดนี้ก็แนวๆนี้แหละ อยากหาอะไรที่แม่งจรรโลงใจในการอ่าน
ไม่ต้องเทพอะไรหรอก แค่มีเหตุผลรองรับกูก็ดีใจตายห่าแล้ว
อีกอย่างก็คือเติมไฟ กูจะได้เขียนให้แม่งจบสักที กูค้างบทแรกมาชาติเศษแล้ว
ในโครงเรื่องกูคิดได้แต่บทกลาง-จบ แต่แม่งหาเหตุผลมารองไม่ได้ ไม่รู้จะเริ่งยังไง กูก็อาศัย มู้สับนี่แหละมาเติมไอเดีย
ไม่รู้นะ กูแสดงความคิดเห็นไม่ค่อยเก่ง เอาเป็นว่ากูก็มีความคิดแนวๆนี้ละ เพิ่มเติมเอาเองละกัน

7 Nameless Fanboi Posted ID:xQiHZ5ORL

>>5 กุว่าประโยชน์มันอยู่ที่คนอ่านมากกว่า คือกุจะได้ไม่แตะนิยายเรื่องนี้ ไรเงี้ย

8 Nameless Fanboi Posted ID:jV6LZOAli

>>6 งั้นก็เอาที่สับไปลงบอร์ดเด็กดีเลยขนเขียนจะได้เห็น

9 Nameless Fanboi Posted ID:xQiHZ5ORL

>>8 จะโดนหาว่าเสือกอีก

ซึ่งแม่งถ้าทำงั้นก็เสือกจิงๆว่ะ

10 Nameless Fanboi Posted ID:yBDzC7mHG

กูเห็นโม่งหลายคนสับนิยายเด็กดี ว่าเบียวบ้างล่ะงานห่วยบ้างล่ะ แต่ก็ไม่เห็นโม่งตัวไหนจะเขียนนิยายสนุกกว่าเรื่องพวกนั้นเลยว่ะ เมื่อมึงเอานิยายดีๆกับจำนวนโม่งมานับมึงจะเห็นตัวเลขอันน่าทึ่ง ถ้ามีโม่งเก่งๆบ้าง อย่างน้อยต้องมีนิยายดีๆ โผล่ในท็อปสักเรื่องสองเรื่องดิ กรูเห็นนิยายที่หยิบมาสับส่วนใหญ่ก็โดนเละทั้งนั้นอะ หรือโม่งจะเก่งแค่วิจารณ์ แต่ไม่มีปัญญาเขียนเอง บางคนแค่บทนำยังเอาตัวไม่รอด บางทีกูรู้สึกเหมือนโม่งอิจฉานิยายเด็กดีที่กากๆแต่ติดท็อป ไม่มีปัญญาเขียนให้ดีกว่านั้น(ถึงเรื่องในท็อปมันจะกากมากก็เหอะ) กรูว่ามีโม่งหลายตัวละ ที่ดีแตกปาก นี่เป็นแหล่งรวมพวกขี้อิจฉา และกรูอาจเป็นหนึ่งในนั้น

11 Nameless Fanboi Posted ID:xQiHZ5ORL

>>10 ตรรกะเหี้ยนี่อีกแล้วเหรอวะ

คือถ้าดุซื้อกับข้าวมาไม่อร่อยนี่ก็ด่าไม่ได้เลยใช่ไหม? ต้องให้กุไปเป็นเซฟ10ดาวก่อนค่อยด่าใช่ไหม???

12 Nameless Fanboi Posted ID:jV6LZOAli

>>11 กุเห็นด้วย

13 Nameless Fanboi Posted ID:jV6LZOAli

กุว่าโม่งหลายคนซุ่มเขียนอยู่นั่นแหล่ะ เช่นไอนิยายจิกกัดวันก่อน

14 Nameless Fanboi Posted ID:/Vp98VoGn

>>10 กูก็สับของไอ้ท้องฟ้าอยู่นะ กูก็ไม่คิดว่ากูจะเลิศเลอกว่ามันนัก กูสับไปกูก็ได้เห็นข้อดีข้อเสียของมัน ส่วนมันได้หรือเสียเหี้ยอะไรไหม? กูไม่สน

ว่าแต่มึงเป็นเหี้ยอะไร?

กูไม่ได้สับเอามันปากเหมือนะพวกกากๆในบอร์ดนะ กูสับเพื่อเตือนใจตัวเองว่ากูจะไม่ทำแบบนี้ ส่วนคนโดนสับจะพัฒนาไปทางไหน มันไม่ใช่เรื่องของกูเลย

กูน่ะก้าวข้ามพิมพ์ตกสะกดผิด รูปตัวละคร เพลงออโต้ อิโมจิค่อน เสียงเอฟเฟกต์ไปแล้ว ตรงนี้กูไม่ทักแล้ว คือช่างหัวแม่ม ไอ้แบบนั้นหมาที่ไหนก็สับได้ปะวะ?

อ่ออีกอย่าง บางตัวสับเป็นงาน ก็ช่างหัวแม่ม คุ้ยขี้ไปส่ง สนพ นั่นก็เรื่องของมัน กูไม่แคร์

กูเชื่อว่านักเขียนน่ะต้องสับงานตัวเองเป็น การสับงานคนอื่นมันเป็นแค่ขั้นตอนแรกว่ะ

มึงยังประสบการณ์น้อย มึงลองสับดู แปะในนี้ เดี๋ยวกูจะดูให้ว่ามึงยังไง

ลงชื่อ เซฮุน กำลังโกนขนไข่

15 Nameless Fanboi Posted ID:jV6LZOAli

>>14 ระวังมีดโกนบาดไข่ด้วย

16 Nameless Fanboi Posted ID:xa7fNUKWf

>>10 ลองเอาไปพูดแบบนี้กับ บก. ที่ดูงานให้นักเขียนนะครับ 55555

17 Nameless Fanboi Posted ID:Mq7RYdP/7

>>10 ถึงเขียนดีกว่านิยายท็อปก็อาจจะไม่ดังหรอก เพราะนักอ่านส่วนใหญ่ชอบนิยายแบบที่ติดท็อป(ไม่งั้นมันจะติดได้ไง) และมึงต้องยอมรับสภาพประชากรเด็กดวกด้วยว่าเด็กเยอะ แล้วพวกเด็กๆ ก็เสือกชอบนิยายทำนองนี้ กูแต่งนิยายนอกแนวนิยมกูรู้ดีว่าคนที่อ่านงานเขียนของกูนี่คือคนที่ไม่ใช่เด็กเห่อหมอยเกินไป แล้วจำนวนสัดส่วนนักอ่านแบบนี้ก็มีน้อย แล้วจะไปถึงท็อปได้ไง ถ้ากูไม่ขายวิญญาณแต่งนิยายเบียวๆ ซะเอง

18 Nameless Fanboi Posted ID:qm7jNVthZ

>>16 มึงมีหมอยขึ้นไข่ให้โกนหรือยัง?

ที่มึงพูดมานี่ ลองวางวัฒนธรรมไทยลง แล้วลองมองใหม่นะ ลองใช้ความเป็นคนคิดบ้างนะ

ถ้าคิดว่ากูพูดแบบนี้ไม่ได้ บก คนนั้นก็อย่าทำสื่อสิ่งพิมพ์เลยว่ะ

19 Nameless Fanboi Posted ID:qm7jNVthZ

เออใครอ่านอันนี้แล้วสรุปให้หน่อย บ่นเหี้ยอะไรยาวๆวะ

https://writer.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=602930&chapter=141

20 Nameless Fanboi Posted ID:bntjseAFJ

พูดถึง บก.ไทยก็นึกถึงบก.นรกที่รู้ว่าโรเซเนียลอดแต่อยากเอาไปขาย จรรยาบรรณพังมาก แถมเรื่องใหม่ของเจ้าเดิมคนเดิมก็เตรียมออกเรื่องใหม่

21 Nameless Fanboi Posted ID:bntjseAFJ

โทดๆกูจะพิมพ์ว่า ลอก#

22 Nameless Fanboi Posted ID:Y90ROxXYm

>>18 พวกหมอยยังไม่ขึ้นไข่คือพวกรับคำวิจารณ์ไม่ได้แล้วมาเที่ยวไล่คนวิจารณ์ให้ไปเขียนเองนะครับ วัฒนธรรมไทย? ความเป็นคน? แพล่มเหี้ยอะไร
นี่พูดให้เห็นภาพง่ายๆแล้วนะ บก. น่ะถึงจะไม่มีงานเขียน แต่เขาก็รู้ว่าเรื่องไหนสนุก เรื่องไหนขายได้ เรื่องไหนมีจุดบกพร่องยังไง <ทำไมจะพูดไม่ได้>ลองไปบอกว่าเขาอิจฉาเวลาวิจารณ์นิยายห่วยๆหรือไล่ให้เขาไปเขียนเองดูสิจะได้โดนตอกหน้าหงายกลับมา

ถามหน่อย เวลาเจออาหารรสชาติส้นตีนเมิงต้องไปเรียนทำอาหารให้โปรก่อนเปล่าววะถึงจะด่าได้ ไม่งั้นจะกลายเป็นขี้อิจฉา ดีแต่ปากไปซะอย่างงั้น

23 Nameless Fanboi Posted ID:Y90ROxXYm

แต่ท๊อบสมัยนี้ก็แทบจะไม่แต่งเองกันแล้วนี่หว่า ยำใหญ่นิยายแปลกลิ่นแรงบันดาลใจหึ่งกันหลายเรื่องเลย

24 Nameless Fanboi Posted ID:0zjjRASNa

ในลิสต์หายไปเรื่องนึง

วิกฤตเกมออนไลน์ >>>/webnovel/3229/163-166/

25 Nameless Fanboi Posted ID:Mq7RYdP/7

>>24 เรื่องนี้ดี มีความหมายแฝง

26 Nameless Fanboi Posted ID:qm7jNVthZ

>>22 กูตอบผิดอันสัด โทษ ฮ่าๆ

27 Nameless Fanboi Posted ID:6zjFItkXY

พวกมึงก็แค่ยอมรับมาว่าอยากวิจารณ์ แต่ไม่มีปัญญาเขียนได้ดีกว่า ก็จบละ เอาไปเปรียบเทียบกับเรียนอาหาร เชฟ เชี้ยไร เลอะเทอะ อ้อมอยู่นั่นล่ะ ห่วยพอๆกับพวกนั้นก็บอก เพราะวิจารณ์ชาวบ้านมันง่ายกว่าเขียนเอง

28 Nameless Fanboi Posted ID:qm7jNVthZ

>>27 มึงใช่ >>10 ใช่ไหม? กูจะได้เถียงถูก

29 Nameless Fanboi Posted ID:SeL/TjrJu

>>27 ตรรกะเชี้ยไรมึง แล้วมึงรู้จักคำว่าเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมั้ยวะ
มันก็มีส่วนถูกบ้างที่ วิจารย์มันง่ายกว่าเขียนเอง แล้วมึงคิดว่ามันง่ายกว่าแค่ไหนกัน
สับยังไง ให้รู้ว่ามีข้อดี ข้อเด่นยังไง สามารถพัฒนารูปแบบให้ไปในทิศทางไหน
ทำยังไงให้ผู้เขียน/คนแต่งรู้สึกไม่รู้สึกว่าโดนตบหน้า และยอมรับข้อคิดเห็นของผู้สับ

30 Nameless Fanboi Posted ID:JemRv7iOv

ไอ้พวกชอบไล่คนไปเขียนเอง แม่งเคยเขียนนิยายมาก่อนรึเปล่าถึงมาตัดสินคนอื่นว่าวิจารณ์เก่งแต่เขียนไม่ได้ ถุ้ย

31 Nameless Fanboi Posted ID:jp8vXu4VT

>>27 ตรรกะมึงวิบัติหมามาก วิจารณ์ก็ง่ายกว่าอยู่แล้วปะวะ แค่เปรียบเทียบมึงยังไม่เข้าใจเลย คนอ่านยังไงก็เห็นภาพรวมเรื่องดีกว่าคนเขียน ถ้ามึงไม่รู้ถึงข้อนี้มึงมันก็ไม่มีปัญญากระทั่งการวิจารณ์ว่ะ แล้วตัวมึงอ่ะดีอะไรนัก เขียนนิยายเก่งมากไง วิจารณ์นิยายดีแค่ไหน ไหนลองทำให้พวกกูดูดิ

32 Nameless Fanboi Posted ID:m9FwoiW/J

>>27 งั้เพจวิจารณ์หนังในเฟสต้องทำหนังเป็นรึเปล่า?

33 Nameless Fanboi Posted ID:SUPLFy.Yq

>>31 ไล่ต้อนมันมากไป มันเงิบแดกเลยเห็นมั้ย สรุปคนบ่นก็ทำไม่ได้เหมือนกัน ละมึงจะบ่นเพื่อไรวะ ไอ้ >>27

34 Nameless Fanboi Posted ID:8YWt/BhTC

>>27 แบบนี้ไอ้พวกรีวิวโทรสัพ โนตบุค ของITต่าง ก็ต้องเปิดบริษัทผลิตเองหมดรึเปล่าวะ?

เยดเข้ ตรรกะเด็ก5ขวบแถวบ้านกุยังดีกว่านี้เลย

35 Nameless Fanboi Posted ID:mQuMq1/cq

กูทำอาหารไม่เป็น แต่กูบอกได้ว่าอาหารร้านไหอร่อย

36 Nameless Fanboi Posted ID:jp8vXu4VT

>>33 เอ้ากูต้อนมันจนคอกหรอ โทษทีว่ะ5555

37 Nameless Fanboi Posted ID:C0v2BknBX

พวกมึงโมโหไรกันวะ อยากวิจารณ์ก็เรื่องของพวกมึงดิ กูไม่ได้ห้าม ที่ถามเพราะแค่อยากรู้ว่าพวกมึงมีปัญญาเขียนนิยายให้ดีกว่าพวกที่มึงวิจารณ์มั้ย ตอนนี้กูก็ได้คำตอบแล้วว่าพวกมึงทำไม่ได้ อาจห่วยกว่าด้วยซ้ำ ก็แค่นั้น

38 Nameless Fanboi Posted ID:5U8UoAUc4

>>37 เขียนให้ดีกว่า ทำได้ครับ แต่เขียนให้มียอดวิวเด็กดีมากกว่าคงทำไม่ได้ เพราะเว็บนี้ส่วนใหญ่เด็กเล่น คุณภาพกับยอดวิวมันเลยสวนทางกันน่ะ

39 Nameless Fanboi Posted ID:tscRf+U8D

>>37 ดีหรือไม่ดีมันดูตรงไหนวะ เขียนสนุกแต่วิวต่ำนิยายดีป่ะ เขียนกากแต่ถูกใจเด็กวิวมหาศาลนิยายดีมั้ย มึงไปหาตัววัดมาก่อนเหอะ น่ามคาน

40 Nameless Fanboi Posted ID:SUPLFy.Yq

>>38 สรุปได้ตรงใจมาก

41 Nameless Fanboi Posted ID:LVdcgmA+w

>>37 ถามเอง ตอบเอง ปัญญาอ่อนจังครับ ต่อให้มีวิวหลักแสนหลักล้านแต่ใครเขาจะเผยตัวในโม่งกัน ใช้สมองเล็กๆคิดหน่อยนะครับ

42 Nameless Fanboi Posted ID:8YWt/BhTC

>>37 ตกลงมันตรรกะเหี้ยไรวะที่ต้องเขียนให้ดีกว่า ถึงวิจารณ์ได้? ตกลงคือถ้ากุทำกับข้าวไม่เป็น กุด่าร้านที่ขายอาหารหมาไม่แดกไม่ได้เลยว่างั้น?

นี่ยังไม่นับว่าดีของมึงคือแบบไหน ยังไง มาตราฐานไร

43 Nameless Fanboi Posted ID:JemRv7iOv

มึงคิดว่าเด็กดีเป็นตัวตัดสินความเป็นไปของวงการนิยายแห่งประเทศไทยเหรอ มึงลืมธัญวลัย ฟิคชั่นลอค และอื่นๆหลายสิบแห่งรึเปล่า
พวกนักเขียนชั้นครูเนี่ย ไม่ได้โตมากับเด็กดีซะหน่อย

44 Nameless Fanboi Posted ID:Vgq.9vAB/

>>37 เอางี้ ถึงกูจะไม่ใช่คนมาวิจารณ์นิยายในนี้เพราะกูอ่านอะไรที่มันขัดหูขัดตานานๆไม่ได้ แต่ในฐานะที่กูชอบมาอ่านคำวิจารณ์นิยายของคนอื่นในนี้เพื่อจะดูว่าอันไหนน่าเอาไปปรับใช้ในนิยายกู กูยอมรับว่านิยายที่กูแต่งก็ไม่ได้ดีเด่ไปกว่านิยายที่โดนวิจารณ์ในนี้บางเรื่องหรอก (เน้นว่าบางเรื่องนะมึง บางอันแม่งก็แย่กว่าสมัยที่กูหัดแต่งนิยายเรื่องแรกอีก)
ซึ่งกูก็ให้คำตอบไม่ได้หรอกว่าพวกที่มาวิจารณ์นิยายจะเขียนนิยายได้ดีกว่านิยายที่ถูกเอามาวิจารณ์ไหม แต่ที่แน่ๆพวกจุดผิดที่โดนติกับตรรกะวิบัติในเรื่องที่ถูกเอามาวิจารณ์ไม่น่าจะไปปรากฏอยู่ในนิยายที่พวกนี้แต่งแน่ (ซึ่งกูคิดว่าเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้วล่ะ)
แต่แปลกนะ ปกติเวลาคนเขาเห็นอะไรที่ไม่ชอบก็จะเลี่ยงไปที่อื่นแทน มาถามหาเรื่องขนาดนี้ เห็นนิยายของมึงหรือนักเขียนที่รักของมึงถูกเอามาวิจารณ์ในนี้หรือไง

45 Nameless Fanboi Posted ID:tscRf+U8D

>>44 น่าจะจริงอย่างที่โม่งสงสัยวะ เพิ่งเริ่มมู้บทที่9ด้วย แม่งคงเห็นชื่อนิยายตัวเองโดนด่าเลยพาล

46 Nameless Fanboi Posted ID:LnXORxH6.

เห็นคนที่น่าจะออกมาโวยเรื่องนิยายตัวเองถูกวิจารณ์ (?) ทำให้กูอยากออกจากเงามืดมาตอบว่ะ แอบซุ่มอ่านมานาน
คืองี้ กูตามลิงค์นิยายของกูมาจากกูเกิลว่ะ มันมีชื่อกูติดอยู่ แล้วก็รออยู่นานว่านิยายของกูจะถูกสับหรือเปล่า แล้วก็มีคนยกมันขึ้นมาสับ
คือตอนแรกยอมรับโดนไปเยอะกูก็ซึมนะ แต่คือหลังจากนั้นกูประทับใจว่ะว่ามึงสับได้โคตรรู้เลยว่ากูมีจุดอ่อนด้านนี้อยู่ คือขนาดกูยังไม่รู้ตัวเองเลย นี่คือพูดจริงๆ ชมจริงๆ นะไม่ได้หลอกด่าหรืออะไร ถึงมึงจะบอกว่าอ่านผ่านๆ แล้วสับตอนที่อารมณ์เสียก็เถอะ
คือแล้วเหมือนนิยายกูมันจะทำให้พวกมึงเถียงกันผิดใจกันไม่อยากสับนิยายต่อแล้วหรือเปล่า? กูเข้าใจว่าอย่างนั้นเพราะหลังจากนั้นเหมือนจะยกนิยายมาสับน้อยลงหรือเปล่า?
คือกูขอบใจทั้งคนที่สับให้กู ทั้งคนที่ออกมาเถียงแทนนิยายของกูว่ามันไม่ได้แย่ขนาดนั้นว่ะ แต่อยากบอกว่าให้สับต่อเถอะ กูชอบอ่านสับนิยายแบบที่มันมีเหตุผลอย่างที่พวกมึงสับอยู่ว่ะ มันทำให้กูพัฒนาดี (แต่กูขอเวลาทำใจหลังจากโดนสับแป้บ กูไม่ใช่มาโซคิส กูไม่ได้ชอบโดนด่า)
แล้วพวกมึงรู้ไหมไอ้การตามหาคนสับงานดีๆ ทำให้กูพัฒนาได้นี่มันยากขนาดไหน กูแต่งนิยายลงเด็กดีมาสามสี่ปี กูเจอคนสับงานดีๆ ให้กูในเด็กดีแค่คนสองคน นอกนั้นด่าอย่างเดียวไม่ก็เข้ามาอวย (แล้วกูไม่ชอบไปตามหาร้านสับนะ)
อีกอย่าง ถ้าคนที่ออกมาด่านั่นด่าเพราะนิยายตัวเองถูกตินี่กูอยากให้มึงหยุดคิดทบทวนตัวเองสักนิดนะ กูเข้าใจตอนโดนมันเจ็บว่ะ (แล้วกูก็ไม่ใช่มาโซคิส) แต่ตอนที่มึงอยากพัฒนาแล้วไม่มีใครมาติมึง มึงจะรู้ซึ้งว่าไอ้คนตินิยายเพื่อก่อมันหายาก (หรือมึงไม่อยากพัฒนาวะ? อันนี้กูก็ไม่รู้)
สุดท้ายกูว่าอาจมีคนเดาถูกว่ากูเป็นใคร กูหนีกลับไปในเงามืดต่อดีกว่า โชคดีว่ะเพื่อนโม่ง

//ที่บอกว่าจะตามมาอ่านตอนแก้ไขแล้ว คงอีกนานว่ะ กูติดแต่งนิยายเรื่องอื่นอยู่ มึงไม่ต้องรอนะ
//ส่วนเรื่องแก้ไขกูขอเลือกนะว่าจะแก้ตรงไหน บางจุดกูแก้ตามแบบกูแล้ว (ในเรื่องอื่น) แต่บางจุดมันเป็นรูปแบบการเขียนที่กูถนัดนะ แล้วกูยังไม่รู้ว่าจะเอาเรื่องที่ถูกติมาปรับให้เข้ากับแนวของกูยังไงด้วย ภาษานิยายกูอาจเป็นทางการไปหน่อยว่ะ แต่พอกูจะเขียนคำพูดล้อเล่นหรือคำพูดหวานๆ แล้วกูเสียวตัวเองจริงๆ
//ปกติกูจะพูดคำหยาบแค่ตอนอารมณ์เสียนะ แต่เห็นบรรยากาศมู้เป็นอย่างนี้ขอสักหน่อย

47 Nameless Fanboi Posted ID:0yI7Tvx0S

สับนี่ ไม่เหมือนรีวิวนะ

48 Nameless Fanboi Posted ID:Em5nmNe2i

โคนันยุโรปย้อนยุคเรอะ https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1383841

49 Nameless Fanboi Posted ID:JeXM9.pD6

>>48 ภาษาอย่างกับนิยายจีน มีใครสนใจสับป่ะ

50 Nameless Fanboi Posted ID:AtN3/ITaw

>>47 รีวิวทุกอันไม่ใช่การสับ แต่การสับทุกอันคือการรีวีว

งงป่ะ?

51 Nameless Fanboi Posted ID:KzVu15P8N

ก็ปล่อยให้แม่งโง่ดักดานต่อไป ปล่อยให้แม่งขี้ออกมาเป็นนิยายเน่า ๆ อยู่อย่างนั้น
หลายคนที่เขาอยากให้มีคนสับ เขายังไม่เคยได้โอกาสนั้น นี่โดนสับแล้วมาด่าว่ามีปัญญาแต่งได้เหมือนแม่งเปล่า
ถ้าไม่รู้จักเลือกรับแล้วเอาไปปรับปรุงก็ขอด่าว่าครวยเถอะครับ

52 Nameless Fanboi Posted ID:Em5nmNe2i

กูถามหน่อย มีแฟนตาซีแนวไหนบ้างยังไม่มีใครเขียน แต่น่าสนใจอยู่

53 Nameless Fanboi Posted ID:AtN3/ITaw

>>52 ยังไม่มีคนเขียนแล้วจะรู้ได้ไงว่าน่าสนใจวะ

54 Nameless Fanboi Posted ID:h6EzzlFxs

กูตามลิงก์นิยายตัวเองมาเหมือนกัน แต่กูคงจืดจางเกินไป แม่ง ตกสำรวจมาได้ตั้งหลายมู้ TwT กูยังรออยู่นะเพื่อนโม่งทั้งหลาย ลาก่อย

55 Nameless Fanboi Posted ID:USYVqFKLn

>>54 เหมือนกันเลยโม่ง มีนิยายอยู่ในลิสต์รอสับนะ แต่ตกสำรวจซะงั้น ;w;

56 Nameless Fanboi Posted ID:AtN3/ITaw

>>54-55 ตอนนี้คงไม่ค่อยมีใครอยากสับเท่าไร เดวเจอไล่ให้ไปแต่งเองอีก กุเบื่อ

เลยกลายเป็นมู้สังสรรค์นิยายแทน

57 Nameless Fanboi Posted ID:ZXqpoRDuN

กูเห็นด้วยครึ่งนึงกับ 27 วิจารณ์คนอื่นมันง่ายกว่าเขียนเองเยอะ

ลองคิดกลับกัน สมมติมีคนมาบอกว่าร้านมึงอาหารไม่อร่อย ด้วยถ้อยคำรุนแรงระดับโม่ง มึงจะรู้สึกดีมากน้อยแค่ไหนลองคิดดู ถ้ามึงเข้มแข็งมึงก็เลือกแต่ความจริงมาปรับปรุงฝีมือ แต่ถ้าอ่อนแอ ก็จะมางอแงอย่างที่เห็น ๆ กันเนี่ยแหละ

58 Nameless Fanboi Posted ID:0POuS2HZ7

กูคิดว่าบอร์ดนี้สับนิยายได้สบายๆ ไม่มีใครรู้ว่าตัวเองเป็นใครแล้วนะ มันน่าจะลดกระแสความเกลียดชังของพวกไม่ยอมรับความจริงได้บ้างหรือเปล่า? ส่วนเรื่องสับนิยายไปแล้วยอมรับไม่ได้อันนั้นกูถือเป็นเรื่องปกติว่ะ นักเขียนหลายๆ คนทั้งใหม่ทั้งเก่าเขียนงานมาต่างพอใจงานตัวเองจนเหลิงไม่รู้ตัว (อาจเว้นไว้เฉพาะคนที่พัฒนาแล้วก็ทำใจได้) งานเขียนมันเป็นงานที่ทำสำเร็จแล้วจะเกิดความรู้สึกมี self esteem สูงขึ้นนะ พอโดนฟาดให้หล่นจากบัลลังก์ฟ้าเป็นใครก็ต้องโกรธบ้างธรรมดา

คือกูเล่าเลยกูเคยไปงานอบรบนิยายแห่งหนึ่ง บรรยากาศตอนเริ่มงานนี่อย่างสังสรรค์เฮฮา (ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าแต่ละคนดูหยิ่งๆ จับกลุ่มกันเองไม่คุยกับคนอื่น) พอจบงานโดนนักเขียนนิยายชื่อดังสับงานไปเท่านั้นแหละบรรยากาศในงานเหมือนมีความรู้สึกเสียดสีปนมา คือกูว่ากูอ่านบรรยากาศเก่งอยู่พอตัวนะ กูคงไม่ได้รู้สึกไปเองใช่ไหม? แบบ...มันเหมือนความเกลียดชังมันมุ่งไปที่นักเขียนที่ติงานคนที่เข้าร่วมงานอะไรแบบนั้น เหมือนดูถูกเขาอยู่ ส่วนนักเขียนคนอื่นนี่ทำตัวเป็นนินจากันไปเลย

กูไม่รู้นะว่านักเขียนคนนั้นเขียนงานยังไง กูไม่ได้อ่านงานเขาว่ะ เมื่อก่อนกูติดงานแปลเลยไม่ค่อยได้อ่านงานคนไทยแต่งเท่าไร แล้วนักเขียนคนนั้นถึงเขาจะปล่อยไก่บ้าง เขาปล่อยไก่เรื่องชื่อนิยายกูคำเบ่อเร่อเลย แต่หลังจากกลับมาจากงานกูลองเอาคำติเขามาปรับเปลี่ยนแล้วเฮ้ย...กูรู้สึกกูเขียนดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยว่ะ (บอกว่าหลายร้อยเท่านี่จะเวอร์ไปไหมวะ?) แบบ ที่อบรมกันมาก่อนหน้านี้เยอะแยะมากมายนี่แทบไม่มีค่าเลยถ้าเทียบกับการถูกติแบบตรงจุดครั้งเดียวเนี่ย

อันที่จริงหลังจากนั้นกูก็อยากส่งงานไปให้เขาสับใหม่อยู่นะ แต่กูขี้อายว่ะ

59 Nameless Fanboi Posted ID:Em5nmNe2i

>>58 บางคน self esteem มากๆจนกลายเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีแทน คนประเภทนี้ดักดานสุดๆ

60 Nameless Fanboi Posted ID:0POuS2HZ7

>>59 กูเห็นประเภทนี้เยอะอยู่นะ

อีกอย่าง ถ้ามึงสับงานแล้วไม่อยากโดนด่ามึงหลีกเลี่ยงงานเด็กๆ ไว้จะดีมาก ธรรมชาติเด็กมัน ego centric สูง คือเด็กจะมองแต่สิ่งที่ตัวเองทำ ว่าตัวเองเก่งที่สุดในโลก มึงเถียงไปมึงไม่ชนะหรอกว่ะ สับไปเขาก็ไม่รับฟังมึงด้วย มึงไปสับงานคนโตๆ แล้วยังจะโอกว่า (แต่ว่าก็ว่าเถอะ นักเขียนหลายๆ คนเขาก็ไม่ได้บอกหรอกตัวเองอายุเท่าไร เพราะงั้นก็มีแต่ทำใจ)

แต่ถ้าโตแล้วยังไม่เลิก ego centric อันนั้นกูถือว่าโตช้า ไม่พัฒนา

61 Nameless Fanboi Posted ID:0POuS2HZ7

เพิ่มเติมว่ากูอยากสับนะ แต่ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไร แล้วอีกอย่างว่ากูไม่ค่อยได้อ่านงานคนไทยแต่ง เพิ่งมาอ่านช่วงหลังๆ นี่เอง แถมยังมีช่วงหนึ่งไปอ่านงานแปลอังกฤษเยอะมากไม่อ่านงานไทยด้วย งานแปลก็ไม่อ่านเลย เรื่องภาษากูว่ากูไม่แม่นเหมือนคนอื่นเขาว่ะ แต่ถ้าเรื่องอื่นกูว่าคงพอได้อยู่

62 Nameless Fanboi Posted ID:lAaBt3GjJ

คนรีวิวนิยายเพื่อนแล้วเสียเพื่อนกูก็เห็นมาแล้ว

63 Nameless Fanboi Posted ID:MecVGxUGY

>>62 ในนี้ถึงสะดวกไง เพราะจะได้มุ่งสนใจเนื้อหามากกว่าว่าใครเป็นคนสับ

64 Nameless Fanboi Posted ID:tnue7rAk4

พวกมึงบ่นห่าอะไรกันวะ

การเมืองเสียเพื่อน สับปรับปรุง อายุนักเขียน ego the living planet บรรยากาศเกลียดชัง นิยายฝรั่งอ่านแปล

ลงชื่อ เซฮุน ไม่น่าโกนเลยมันงอกแล้วแข็ง

65 Nameless Fanboi Posted ID:A93i+tL0T

อันนี้กูลองมาสับดู กูจะสับเท่าที่กูรู้สึกว่ามันทะแม่งๆ สำหรับกู กูคิดผิดยังไงแย้งได้ แต่ถ้ามึงแย้งตอบถามกูว่ากูเขียนได้เก่งเท่ามึงหรือเก่งกว่าหรือยัง มึงใจดีจังเลยว่ะ ยอมหยุดนิ่งรอกูพัฒนาไปไกลกว่ามึงด้วย กูก็ไม่รู้ว่ากูจะวิ่งไปไกลกว่ามึงตอนไหนนะ แต่กูจะพยายามไม่เป็นตัวถ่วงมึงให้มึงต้องหยุดวิ่งนานๆ นะ

เรื่อง : destinycyber สายลับ รัตติกาลสีเลือด
ลิงค์ : https://writer.dek-d.com/Malisza/story/view.php?id=1498891
ตอนแรกกูว่าจะสับเรื่องหนึ่งที่เคยเห็นอยู่ในลิสต์ แต่มันหายไปไหนก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าช่างมัน กูเลยเลือกจากบนลงล่างแทน สองเรื่องบนนี่ลิงค์เสียหรือเจ้าของลบเรื่องวะ?
กูขอสับไปทีละจุดแล้วกัน จะได้ง่ายๆ
หน้าแนะนำเรื่อง : ปกติกูไม่ค่อยอ่านส่วนนี้และข้ามไปอ่านบทนำเลย แต่เห็นเรื่องน่าขัดใจอยู่บางอย่างเลยยกมาสับหน่อยแล้วกัน เรื่องชื่อตัวละคร กูไม่ได้จะด่าว่ามึงใช้ชื่อญี่ปุ่นไม่สมควรนะ แต่บางชื่อกูเห็นแล้วตงิดๆ ไล่ตั้งแต่ชื่อแรกเลยแล้วกัน ฮานะสึกิ เรย์ อันนี้โอเค ผกาจันทรา กับแสงสว่าง (เรย์) ชื่อสองคาสึจิ ยูกิ เข้าใจว่าหมายถึงคะ(ไฟ) กับสึจิ(ดิน) ส่วนยูกิคงหมายถึงความกล้า (หรือมันจะหมายถึงหิมะวะ?)
แต่ชื่อสามนี่กูตงิดๆ อยู่ นาสึโอกิ นาสึตัวแรกกูคิดถึงนาสึที่เป็นอาหาร (มะเขือม่วง?) ก่อนเลยว่ะ (ตอนแรกกูนึกถึงถั่ว ไม่รู้ทำไม) พอลองไปเปิดดิกยุ่นดูโอเค มันหมายถึงการทำ แล้วมันทำให้กูนึกถึงคำว่า nasubekimono สิ่งที่ควรทำ แต่อันนี้ไม่เกี่ยวกูปล่อยไป อันหลังโอกิกูนึกถึงเกมว่ะ ท่าไม้ตายโอกิ (ตรงจุดนี้กูอยากตะโกนชื่อท่าไม้ตายขึ้นมาตงิดๆ) แต่พอเปิดดิกกูก็ไม่รู้นะว่ามึงลากเสียงคำยังไง เอาเป็นว่ากูจะใช้คำว่า ouki อาการคลื่นไส้วิงเวียนศีรษะ ชื่อรวมกันมันหมายความว่ายังไงวะ? คิริกะก็โอเค มันมีคนญี่ปุ่นชื่อนี้อยู่
ชื่อต่อไปฮาซากิ ทัตสึยะ ตอนแรกคิดว่าชื่อมันแปลก พอไปดูความหมายเออ คนนี้ชื่อเข้าท่าหน่อย hasaki หมายถึงคมดาบ ส่วนทัตสึยะกูไม่ขอหาความหมายเพราะมันมีคนญี่ปุ่นชื่อนี้อยู่ ซาโตชิก็เหมือนกัน มันมีคนชื่อนี้อยู่
คือกูไม่ได้จะด่ามึงเสียๆ หายๆ ว่าใช้ชื่อผิดความหมายไม่ได้ เพราะกูตอนแต่งนิยายแรกๆ ไม่รู้ญี่ปุ่นกูก็ตั้งชื่อมั่วๆ เอาตามที่คิดว่าเท่ห์เหมือนกัน อีกอย่าง ชื่อญี่ปุ่นบางทีมองแวบแรกอาจเห็นว่าไม่มีความหมายก็มี ต้องไปดูคันจิที่ใช้เขียนนั่นแหละ (แต่ก็ไม่คิดว่าคนญี่ปุ่นจะละเลยชื่อ วัฒนธรรมญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับชื่อพอตัว) ชื่อนาสึโอกินั่นถ้าเอามาแยกคำเป็น na-su-ou-ki แล้วหาคันจิมีความหมายมาให้แต่ละคำมันก็โอเค กูไม่แน่ใจนะว่าคนญี่ปุ่นนิยมตั้งชื่อแบบนี้กันเยอะหรือเปล่า แต่มันมีกรณีคำว่า Amerika คนญี่ปุ่นก็ให้เสียงคันจิแบบนี้แหละ ใช้แถเรื่องชื่อก็พอได้อยู่ กูใช้อยู่
อันนี้กูแค่บ่นเรื่องการใช้ภาษา ไม่เกี่ยวกับนิยาย ถ้าจะเอามารวมกับนิยายหน่อยก็อาจจะเป็นเรื่องโดนล้อชื่อ นาสึมันชื่อเหมือนถั่ว (มะเขือม่วง?) แต่ถ้ามึงไม่เล่นเรื่องนี้ในนิยายมันก็โอเค

บทนำ : เนื้อเรื่องเปิดเรื่องมาก็มีใครบางคนร้องเลือดๆๆๆ จะแก้แค้นเอาเลือดมาล้างแค้น จากนั้นตัดไปที่ตัวเอกในห้องเรียน นอนอยู่แล้วมีคนมาเรียกให้ตื่น บอกว่าตัวเอกที่เป็นผู้หญิงเนี่ยมีคนมารุมชอบเยอะเลย มากรี๊ดอยู่หน้าห้องเรียน จากนั้นก็ตัดไปอีกเป็นหลังเลิกเรียนเลย เดินกลับบ้านกันช่วงสี่โมงกว่าๆ แล้วตะโกนว่าจะไปทำงานสายแล้ว พวกงานหน่วยพิเศษของรัฐบาลอะไรแบบนั้น จากนั้นก็ตัดไปตอนมืดโจรหรืออะไรก็ไม่รู้มาบุกอาคารโดโคโมโยะโยงิ บุกๆ ไปแยกทางกันไปทำภารกิจ ปรากฏคนหนึ่งเจอยามเลยต้องปะมือกันแล้วจบตอน (มันยาวไป กูต่อเมนต์ถัดไป)

66 Nameless Fanboi Posted ID:A93i+tL0T

เอาโดยรวมก่อน ตัดเนื้อหามาก ตัดฉับๆ เป็นหั่นมะเขือม่วงเลย ฉากหนึ่งขึ้นมาแล้วตัดฉับ ไปอีกฉากหนึ่ง จากนั้นก็ตัดฉับไปอีกฉากหนึ่งทันที ในด้านกระชับมันก็โอเคมั้ง แต่มันดูหั่นอารมณ์มาก คำโปรยที่ขึ้นมาร้องเลือดๆ ตอนแรกนั่นก็ดูไม่ค่อยเกี่ยวกับส่วนสองที่ตัวเอกตื่นขึ้นมาในห้องเรียนเท่าไร ทำไมถึงมีคนร้องเข่นฆ่าขนาดนั้น คือเหมือนตัวเอกก็ไม่ได้ฝันหาคนที่ขู่ฆ่าตัวเองหรือรู้สึกตัวอะไรเรื่องนี้ด้วยนะ แล้วก็ดันเขียนบรรทัดติดกันจนเหมือนสองเรื่องนั้นมันเกี่ยวกัน เข้าใจว่ามันอาจมีฉากที่ใครบางคนเคียดแค้นอยู่ด้านหลังแล้วตัดฉากมาที่ตัวเอกเหมือนในอนิเมะ แต่นั่นมันอนิเมะไม่ใช่นิยาย เมื่อเป็นนิยายมึงต้องอธิบายมากกว่านี้ (อารมณ์แบบมีฉากเป็นสีดำใช่ปะ? แล้วมันวูบวาบไปมาพร้อมมีเสียงใครบางคนกร่นว่าจะฆ่า จากนั้นพอตะโกนคำสุดท้ายก็วาบเป็นสีเลือดก่อนจะหายไปออกมาที่ตัวเอกนอนอยู่ในห้องเรียนอะไรแบบนั้น กูคิดถึงฉากประเภทนั้นจริงๆ นะ)
อย่างที่กูว่า ฉากที่มึงเขียนมันเหมือนอนิเมะเกินไป ถ้ามึงจะเขียนนิยาย มึงใช้ฉากแบบนี้ได้กูไม่ว่า แต่มึงต้องเพิ่มรายละเอียดฉากไปมากกว่านี้ อันที่จริงกูไม่ค่อยอยากให้ตัวอย่างเท่าไรเพราะมันเหมือนจำกัดความคิดกันเกินไป แล้วกูไม่รู้จะเขียนยังไง ให้ตัวอย่างเขียนทั้งตอนเลยมันก็ยาวไปเปล่าวะ? แล้วกูว่าถ้ากูเขียนไปมึงก็บอกมันไม่ใช่แบบมึงอีก มาบอกว่ากูจำกัดความคิดมึงอีก กูอยากให้มึงคิดวิธีแก้ไขของมึงเองที่มันเข้ากับงานของมึง
อันที่จริงกูคิดว่าฉากที่มึงยกขึ้นมาเขียนเนี่ย มันเอามากระจายเรื่องให้กลายเป็นตอนที่หนึ่งตอนที่สองได้สบายๆ เลยนะ มันยาวมากอ่ะถ้าเขียนจริงๆ แล้วมันเชื่อมกับเรื่องหลังจากนั้นได้ดีมากตามที่กูจินตนาการไปแล้วของกูนะ แต่มึงเอามาหั่นซะกลายเป็นบทนำเลย กูอยากให้มึงไปทดลองเขียนบทนำมาดีๆ นะ เนื้อเรื่องให้สมกับเป็นบทนำจริงๆ มีฉากเดียวหรืออนุโลมหน่อยก็สองฉาก แต่ส่วนใหญ่เขาให้มีฉากเดียว (เพียงแต่กูก็อินดี้เอาหลายฉากของกู เพียงแต่มันเป็นฉากสั้นๆ มันไม่ยาวขนาดนี้) คิดเหมือนมึงเขียนเรื่องสั้นเพื่อโปรยเรื่องของมึงก็ได้ ทำนองเรื่องต้องกระชับเข้ากับความยาวเรื่อง ไม่ใช่มึงเอาเรื่องยาวมาตัดฉับๆๆๆเป็นบทนำ
ส่วนเนื้อเรื่องของมึง มันเหมือนอนิเมะแนวจารชนสู้กัน แต่กูไม่ได้ว่ามันไม่ได้ มันค่อนข้างโอเค เพียงแต่แนวนี้ถ้าจะเขียนดีๆ เอาแบบจริงจังไปเลยมึงต้องมีความรู้เยอะๆ รู้เรื่องในองค์กรหน่อยก็ดี เข้ามหาลัยเรียนเรื่องการบริหารองค์กรมานะ (แต่ถ้ามึงบอกว่ามึงเรียนอยู่แล้ว หรือรู้อะไรราวๆ นี้อยู่แล้วกูก็โอเค) แต่ถ้ามึงไม่ได้อยากจะจริงจังมาก เอาแบบสนุกๆ นิยายวัยรุ่นทั่วไปก็เขียนไปตามจินตนาการนั่นแหละ (แล้วเอาตามจริงเขียนแบบหลังจะเข้าตาคนอ่านมากกว่า กูมีนิยายเรื่องหนึ่งคล้ายมึง เรื่องปัจจุบันกูเนี่ยแหละ บทเรื่อยๆ ตอนแรกนี่คนเข้าอ่านเรื่อยๆ นะ แต่พอเข้าบทเครียดเฉือนคมกันแล้วคนอ่านหายจ้อยเหลือไม่กี่คน//หรือกูเขียนไม่ดีเองวะ? แต่กูฆ่าตัวละครว่ะ//นี่แหละประเด็น)
เรื่องภาษาก็เรียบๆ ธรรมดา กูไม่ได้มีอะไรติ แต่กูติดใจตรงคำว่า “ร่างบาง” ของมึงเนี่ยแหละ ความเข้าใจกู คำว่า “ร่างบาง” เนี่ยมันเป็นคำที่เอาไว้ใช้ในนิยายอีโรติก มันเพิ่มความอีโรติกให้ฉากได้ อย่างฉากเซเมะช้อนร่างอุเคะที่อ่อนปวกเปียกขึ้นมาจูบนั่นก็ใช้แทนตัวอุเคะว่า “ร่างบาง” ได้ มันเหมาะมาก (เพียงแต่มันอาจดูเกร่อไปหน่อยจนอาจหมดอารมณ์) อนึ่งกูไม่คิดว่านิยายของมึงเหมาะกับคำแนวอีโรติกแบบนี้
และเหมือนมึงจะสนใจศัพท์แนวอีโรติกแบบนี้ งั้นกูแนะนำอีบุ๊คเล่มหนึ่งให้มึงได้คำมากมายที่แสนโรเมนติกไปใช้ในนิยายได้มากขึ้น ไม่เกร่อ เรื่องนี้เลย 400 คลังศัพท์นิยาย โทรสั่งซื้อตอนนี้คุณจะได้รับ...ไม่ใช่ ราคาเล่มไม่ถึงร้อยมั้ง แล้วมันมีศัพท์ที่ใช้ประยุกต์ในนิยายได้เยอะมาก มึงลองโหลดตัวอย่างมาดูก่อนก็ได้
https://www.mebmarket.com/?action=BookDetails&book_id=44105

ตอนต่อไปกูขอเวลาอ่านก่อน

67 Nameless Fanboi Posted ID:TYpZzJU74

>>65 >>66 ทำดีย์แล้ว ลุยต่อเลย

68 Nameless Fanboi Posted ID:A93i+tL0T

>>66 เพิ่มเติมหน่อย อันที่บอกว่าต้องไปเรียนมหาลัยก่อนถึงจะเขียนได้นั่นกูพูดเกินไป กูแค่สงสัยว่าคนแต่งเป็นเด็กที่ยังไม่รู้เรื่องการบริหารงานองค์กรหรือเปล่า มึงจะเป็นลูกของพนักงานบริษัททั่วไปหรือเป็นพนักงานบริษัททั่วไปก็ได้ กูอยากให้มึงรู้เรื่องภายในองค์กรสักหน่อยก่อนจะมาเขียนเรื่องแนวนี้ ถ้าไม่รู้มันจะกลายเป็นนิยายเบียวทั่วไป โอเค เดี๋ยวกูขออ่านตอนต่อไปก่อน นานหน่อย

69 Nameless Fanboi Posted ID:A93i+tL0T

(ต่อๆ)
ตอนที่ 1 : โดยรวมตอนนี้กูว่าทำได้ดีนะ แต่มันจะไปเบียวหลายจุดมากในรายละเอียด ที่ว่าทำได้ดีคือจังหวะเรื่อง จังหวะสนุกสนานหน่อยๆ ไม่ช้าอืดเกินไป ไม่เร็วเกินไปจนตัดฉับๆ แบบบทนำ ส่วนตัวกูชอบจังหวะเรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นกูจังหวะเรื่องคงช้ากว่านี้และคงน่าเบื่อกว่านี้หน่อย ข้อเสียคือจังหวะเรื่องแบบนี้มันเข้าไม่ถึงความคิดตัวละคร มันเร็วจนมองความความคิดตัวละคร แต่ถ้ามึงเขียนเรื่องอิงพล็อตเอาตัวละครกลมๆ กูก็โอเค ความเร็วแบบที่เด็กหรือวัยรุ่นน่าจะชอบ แต่ถ้าผู้ใหญ่อ่านอาจตะขิดตะข่วงหน่อย แล้วการบรรยายก็มีหลายๆ ครั้งที่กูรู้สึกเหมือนกูสะดุดอะไรบางอย่างมันเล็กมากๆ จนไม่สนใจก็ได้ แล้วมันสะดุดเป็นจังหวะๆ นะ เหมือนมึงยังบรรยายไม่ไหลลื่นพอ ส่วนรายละเอียดกูสับตามด้านล่าง

จุดแรก ตัวละครเบียว ค่อนข้างเก่งเกินไป แสดงความเบียวสองจุดตรงเลื่อนรหัสผ่านหน้าประตูกับตรงทำระเบิด ที่ใช้คำว่า ‘ค่อนข้าง’ เพราะเวลาแก้ปริศนามันยังพอแถๆ ได้อยู่ว่ามองพาสเวิร์ดแป้บเดียวก็คิดออกแล้วเลยใช้เวลา 30 วินาทีที่เหลือเลื่อนรหัสผ่านทั้งสามสิบกว่าตัวนั่นให้ลงล็อค (แต่กูว่าสับนิ้วเร็วขนาดไหนก็ไม่น่าจะทัน 30 วินาทีหรือเปล่าวะ? ตั้งสามสิบกว่าตัวเชียวนะมึง) ถ้าสงสัยรหัสผ่านเป็นแบบไหนพวกมึงลองไปเปิดดูหน้านิยายดู มันมีภาพบรรยายไว้ อันที่จริงตอนแรกกูจะแซวว่าตัวเอกมันเป็นเทพศาสตร์ซากาโมโตะ วาดมือสร้างลมวูบเดียวรหัสผ่านมันก็หลุดออกแล้วเลื่อนต่อกันเองเปิดให้เข้าไปข้างในได้ แต่พอดูเวลาแล้วโอเค กูเข้าใจผิด มันยังพอมีเวลาเลื่อนรหัสอยู่บ้างนี่หว่า...แต่ก็ค่อนไปในทางเส้นยาแดงผ่าแปดนะ เวลาเลื่อนรหัสผ่านน่ะ
ความเบียวจุดสองตรงระเบิดปลอม บอกว่าทำเสร็จได้ไว แต่ตรงนี้ใช้คำว่า “สักพัก” เลยไม่รู้เวลาจริงๆ ว่าใช้นานแค่ไหน มันเลยจับผิดได้ยากหน่อย แล้วกูไม่รู้เรื่องระเบิด แต่เบียวจริงๆ จุดนี้คือเรื่องโครงสร้างระเบิด บอกว่าไม่ระเบิดจริง โอเค เพราะเป็นระเบิดปลอม แต่กู้ระเบิดแล้วจะเปลี่ยนไปเป็นระบบสั่งการทางไกลแทน สั่งการทางไกลมันก็ต้องมีตัวรับสัญญาณสั่งการทางไกลในระเบิดอยู่นะเว้ย ถ้ามีคนหาได้ก็จบเห่ มึงสั่งการทางไกลระเบิดไม่ได้ นอกจากมึงจะวางกับดักไว้ในระเบิดเหมือนในเดอะมูฟวี่โคนัน มีเส้นอยู่สองเส้นแดงกับฟ้า ระเบิดกับไม่ระเบิด เล่นจิตวิทยาว่าตัดเส้นหนึ่งมึงระเบิดแน่ มึงกล้าเหรอ? แต่ถ้าคนตัดใจกล้าบ้าบิ่น ตัดไปเส้นหนึ่งแล้วพบว่าไม่ระเบิด กลนี้มึงถูกเผยทันที ไม่เวิร์ค
ส่วนตัวกูคิดว่าระเบิดปลอมทำได้แค่ “ยื้อเวลา” แล้วมึงควบคุมการยื้อเวลาไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่าคนจัดการกับระเบิดเป็นคนแบบไหน ใจกล้าบ้าบิ่นมากแค่ไหน มึงเจอคนใจกล้าบ้าบิ่น แผนระเบิดปลอมมึงตายเอาตั้งแต่ต้น มึงเจอคนรอบคอบ มึงชนะ เพราะพวกมันจะไม่กล้าแตะระเบิดแน่จนกว่าระเบิดจะถึงเวลาระเบิดจริงๆ แล้วมันไม่ระเบิด
แต่ก็แหม...ถ้ามีคนอยู่รอบๆ หลายคนมันก็ต้องมีบ้างแหละพวกรอบคอบมาขวางทางไม่ให้ตัดพิสูจน์ระเบิด โอเค กูให้ระเบิดปลอมมึงผ่าน ถ้าใช้ถูกเวลา

จุดสอง ความเบียวเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยก่อนเข้าอาคาร ตรงนี้กูว่าคล้ายเบียวระเบิดแต่มันเบียวกว่า ระบบรักษาความปลอดภัยมึงอ่อนไปหน่อยไหม? มึงใช้พัซเซิลมาเป็นระบบรักษาความปลอดภัย? คนฉลาดเดินผ่านมาเปิดเล่นได้สบายๆ เลยนะ หรือไม่ก็พวกลองของอยากลองเปิดเข้าไปดูแต่อาจใช้เวลานานหน่อย แต่ระบบรักษาความปลอดภัยที่สองที่มีขานชื่อคนเข้าอาคารนั่นกูเข้าใจว่ามันตรวจจับอะไรสักอย่างในร่างของคนเข้ามา โอเค กูให้ผ่าน แต่อันแรก...โอเค กูจะมองว่าบริษัทนี้แม่งต้อนรับคนเข้าส่วนล็อบบี้แค่คนฉลาด คนโง่ห้ามเข้า ซึ่งถ้าอธิบายแบบนั้นก็ไม่แปลกเลย เพราะบริษัททั่วไปเขาก็ให้คนนอกเข้าออกได้แค่ส่วนล็อบบี้อยู่แล้ว มันจะกลายเป็นบริษัทหรือองค์กรนี้แม่งรับแต่คนฉลาดเข้ามาติดต่องานว่ะ...คนโง่ไม่มีอะไรดีตรงไหนถึงเข้าไม่ได้วะ?

70 Nameless Fanboi Posted ID:A93i+tL0T

อีกส่วนกูแค่ติดใจเอง คนที่ชื่อลูซนี่อารมณ์ร้อนไปหน่อยไหมวะ...แต่ก็ไม่ผิดอะไรหรอก กูแค่ไม่ชอบคาแรกเตอร์แบบนี้ เรื่องส่วนตัวของกู มึงไม่ได้ผิด อ้อ ส่วนที่กูประทับใจคือเครื่องปรับสรีระ เข้าไปแล้วปรับให้ร่างกายสูงใหญ่หรือเล็กลงได้ตามต้องการ ส่วนลึกๆ กูอยากให้มึงไปคิดพวกหลักการสนับสนุนเครื่องนี้มาหน่อยว่ามึงใช้อะไร เวทมนตร์หรือ ถ้าเวทมนตร์ก็ผ่านเพราะมันทำอะไรก็ได้ แต่อาจไม่ตรงกับธีมเรื่องที่ดูเป็นวิทยาศาสตร์ แต่ถ้าเป็นวิทยาศาสตร์นี่มึงต้องคิดหนักเลย มึงจะใช้อะไรมาทำเครื่องนี้ ทำให้ร่างกายมึงยืดได้วะ? กูนึกไม่ออก แต่โอเค เคยมีคนเขียนนิยายเรื่องตึกระฟ้าแล้วมีคนด่ากันกระหึ่มว่าจะสร้างเรื่องแบบนี้ได้ยังไง สุดท้ายมันก็ทำได้ (ในอดีตที่มันยังไม่มีตึกระฟ้านะ) เพราะงั้นกรรมวิธีมันอาจจะยังหาไม่ได้ในปัจจุบัน กูให้ผ่าน และกูให้ผ่านมากๆ ตรงไอเดียเครื่องนี้ มันดูน่าสนุกดี (แต่ดูแล้วตัวเครื่องมันสร้างความวุ่นวายให้สังคมได้อยู่ อย่างผู้ใหญ่เข้าเครื่องไปเปลี่ยนให้กลายเป็นเด็กแล้วไปหลอกคนอื่นเขา เพราะงั้นต่อให้มีเครื่องนี้ก็คงจำกัดให้ใช้ได้แค่ในองค์กร “ที่จำเป็นต้องปรับร่างกาย” อย่างเช่นสายลับเป็นต้น)

ชื่อตัวร้ายดูแฟนตาซีไปหน่อย แต่ถ้าจะทำให้แปลกใหม่มันก็โอเค เพียงแต่ความรู้สึกคือมันโดดออกมาจากโทนเรื่องมาก น่าจะมีวิธีเขียนให้มันเข้ากับตัวเรื่องหน่อย อ้อ พออ่านบทนี้แล้วกูนึกถึงบทนำก่อนหน้านี้ มันทำให้กูพอรู้แล้วถ้าเป็นกูกูจะเขียนบทนำยังไง ถ้าเป็นกูกูจะตัดส่วนแค้นๆ กับส่วนตัวเอกในห้องเรียนและตอนกลับบ้านออกไปเลย ไปเขียนตอนที่โจร(?) บุกเข้าอาคารโดโมอะไรสักอย่างนั่นเลย จากนั้นเขียนเจาะให้ตัวละครมันโชว์เทพให้เต็มที่ แล้วค่อยไปปะกับตัวเอก(?) ที่โผล่ออกมาห้าม ซึ่งถ้านั่นเป็นตัวเอกจริงๆ “มึงต้องอธิบายให้คนอ่านรู้ว่านั่นเป็นตัวเอก” ไม่ใช่บอกแค่ว่าเป็นยาม แล้วถ้ามึงบอกว่านั่นเป็นแค่ยามจริงๆ บทนำที่มึงเขียนก็คือไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวเอกเลย มึงตัดทิ้งแล้วเลือกฉากอื่นซะ (หรือโจรที่ว่านั่นเป็นตัวเอกบุกเข้าอาคารเสียเองวะ? ถ้าใช่ก็เอาตามนี้แหละ)

บทนำมันเหมือนมึงกำลังบอกคนอ่านว่าทั้งเรื่องของมึงจะเป็นยังไงอ่ะ อาจจะไม่ทั้งเรื่อง แต่บอกให้คนอ่านรู้ “จุดสำคัญ” ของเรื่องมึง มึงไปเอาจุดไม่สำคัญมา ในบทนำมีตัวรองออกมากูว่ามันแป้กนะ แต่ถ้าตัวรองมึงจะเด่นกว่าตัวเอกหรือที่โผล่มาเป็นตัวร้ายระดับพ่อ ตัวร้ายอันดับหนึ่งของเรื่อง หรือตัวละครที่มีบทเด่นที่สุดในเรื่อง อาจไม่ใช่ตัวเอก โอเค มึงเอาใส่มาเถอะ แต่ให้กูพูด มึงเอาตัวเอกมาใส่จะดึงดูดดีที่สุด (ซึ่งอันที่จริงหลายเรื่องกูก็ใส่ตัวประกอบมาในบทนำนะ เพียงแต่ใส่ตัวเอกให้เด่นตั้งแต่บทนำจะปั้งกว่า//เพราะงั้นกูเลยไม่ห้าม//หัวเราะ)

อ้อ อีกเรื่อง ส่วนเพิ่มเติมที่มึงใส่มาอธิบายเรื่องของมึงท้ายเรื่องน่ะ มึงหาที่ใส่ในนิยายมึงจะดีมาก บอกปาวๆ มันเสียอารมณ์นิยาย สอดแทรกให้มันมีศิลปะหน่อยสิวะ แล้วรูปตัวละครน่ะจะใส่มาก็ได้ แต่ไม่ใช่ใส่รูป บรรยายรายละเอียดเรื่องด้านนอกนิยายแล้วมึงจะไม่ใส่รายละเอียดที่ว่านั่นในนิยายนะเว้ย รวมเล่มเขาไม่เอารายละเอียดเพิ่มเติมมึงมาใส่ให้หรอกว่ะ ถึงใส่ได้กูว่ามันก็ไม่ค่อยโอเคว่ะ ดีที่สุดคือมึงต้องสอดเข้าเรื่องให้ได้ (นอกจากว่ามึงจะอยากเขียนเรื่อยๆ ไม่ได้อยากส่งสำนักพิมพ์)

กูขอแค่สองบทนี่แหละ สับมากๆ กูปวดหัว

71 Nameless Fanboi Posted ID:A93i+tL0T

กูลืมไปเรื่องพิมพ์เขียวที่มึงสอดมานิดๆ ตอนลูซปัดของตกโต๊ะ พิมพ์เขียวดูแล้วมันคือแบบก่อสร้างนะ องค์กรลับที่มีหน้าที่เพื่อกำจัดเหล่าร้าย (หรือเปล่า?) เอาพิมพ์เขียวมาทำอะไรวะ?

72 Nameless Fanboi Posted ID:CHWfLzls5

เจอชื่อญี่ปุ่นก็ไม่อยากอ่านละอะ แม่งได้กลิ่นความเบียวลอยมาเลย

73 Nameless Fanboi Posted ID:A93i+tL0T

เออ ใช่ กูลืมอีก ให้คะแนน กูให้สัก 6/10 แล้วกัน ส่วนตัวถ้าอ่านแบบเจาะลึกไว้สับกูคงพอทนอ่านได้ไม่ได้ฝืนอะไรมาก ติดที่บทแรกตอนจะเริ่มเรื่องนี้ภาษามันมึนงงไปนิด (กูคงรู้สึกไปเองว่ามันกลับไปกลับมา) แต่ถ้าให้กูอ่านแบบสบายๆ อ่านเร็วๆ มันยังไม่มีจุดอะไรดึงดูดความสนใจกูนะ กูจะปิดตั้งแต่บทนำด้วยซ้ำ กูขอกลับไปอ่านนิยายเล่มหรือนิยายแปลญี่ปุ่นเป็นอังกฤษแบบเดิมดีกว่า แต่โดยทั่วไปคงพออ่านได้ล่ะมั้ง (เสริมว่ากูไม่ค่อยอ่านนิยายในเว็บนะ มาตรฐานกูเลยค่อนข้างสูงหน่อย)

74 Nameless Fanboi Posted ID:5+Qf2EiVe

>>66 อยากถามนานละ หนังสือที่มึงแปะนี่ที่เขาว่ากันว่าควรซื้อเก็บไว้ใช่ป่าววะ

75 Nameless Fanboi Posted ID:A93i+tL0T

>>74 กูไม่รู้คนอื่นพูดยังไงกันนะ กูแต่งนิยายอย่างเดียวไม่ค่อยเข้าบอร์ดไปคุยเท่าไร แต่กูซื้อมาแล้วมันเป็นหนังสือที่ดีมากเล่มหนึ่ง แนะนำให้ซื้อเก็บอีกเสียง

อีกเรื่องเกี่ยวกับศัพท์มันเป็นเล่มของทางการ ชื่อคลังศัพท์อะไรก็ไม่รู้ เล่มหนา หาซื้อยาก เหมือนพจนานุกรมราชบัญฑิตยสถาน แล้วมึงเขียนนิยายมึงคงไม่นั่งเปิดอ่านดิกเล่มหน้า กูแนะนำแอพดีกว่า แอพที่กูใช้อยู่ก็ wordy guru ใช้ได้พอตัว

ส่วนเล่มแรกมันไม่หนา ถ้ามึงจำคำศัพท์ในเรื่องหรืออ่านจนพอจับหลักการใช้งานได้กูว่ามึงบรรยายดีขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย ศัพท์มันสวยและเหมาะกับนิยายวัยรุ่น

76 Nameless Fanboi Posted ID:5+Qf2EiVe

>>75 อันเล่มหนาแม่ง700กว่าบาท

ส่วนตัวกุชอบซื้อเป็นเล่มมากกว่าแอปป

ปล.กุไม่ได้แต่งนิยาย สายอ่านว่ะ

77 Nameless Fanboi Posted ID:A93i+tL0T

>>76 ของกูสายเล่นแอพแฮะ ถ้าอ่านกูชอบอ่านรวดเดียวให้จับหลักได้ ไม่ชอบเปิดหา นอกจากจะอยากได้รายละเอียดที่จำไม่ได้

กูเคยคิดจะซื้อเล่มหนา แต่เห็นแพงอยู่แล้วหาซื้อยากด้วย คิดว่ากูคงไม่ได้ใช้ด้วยเลยเปลี่ยนใจ

78 Nameless Fanboi Posted ID:g/tLIpqSb

เล่มหนา เข้าใจว่าหมายถึงหนังสือ "คลังคำ" เพิ่งมีตีพิมพ์​ใหม่​ปีที่แล้ว รู้สึก​ขายแค่ที่ร้านนายอินทร์
สำหรับ​กู​เป็นหนังสือ​ที่ดีมาก ควรค่าแค่การเก็บไว้ใช้ประกอบการแต่งนิยาย

79 Nameless Fanboi Posted ID:A93i+tL0T

>>78 เล่มนั้นแหละ แต่กูไม่แน่ใจว่ากูจะได้เปิดใช้มันหรือเปล่าเนี่ยสิ

80 Nameless Fanboi Posted ID:TYpZzJU74

หนังสือคลังคำดีมาก ทำใฟ้กูหลุดพ้นจากนรกคำซ้ำ กับนรกคำเชื่อม

81 Nameless Fanboi Posted ID:yQst6w3VC

สูตรการเขียนนิยายของเซฮุน

เอาหนังสือคลังคำกับพจนานุกรมราชบัณฑิตมาวาง แล้วหยิบคำในมาเรียงกันเป็นนิยาย

จบ

ลงชื่อ เซฮุน กูโกนซ้ำดีกว่า คันว่ะ

82 Nameless Fanboi Posted ID:TYpZzJU74

>>81 อย่าโกนสัส เดี๋ยวแข็งกว่าเดิม ทนไปก่อนละค่อยเอากรรไกรเล็มปลาย

83 Nameless Fanboi Posted ID:A93i+tL0T

>>80 คือดีขนาดนั้นกูแอบสนใจ ตอนแรกกูคิดว่ามันจะเหมือนพจนานุกรมธรรมดาทั่วไปหรือเปล่า แต่กูขอดูก่อน มันแพงว่ะ

84 Nameless Fanboi Posted ID:ZoSwNej8D

คุยเรื่องคำศัพท์อยู่ก็ก็นึกอยากบ่นเรื่องคำผิดขึ้นมา
คือเรื่องการเขียนคำผิดนี่โคตรเลวร้ายสำหรับนิยายเลยนะเว้ย แบบบางทีอ่านเพลินไปเจอคำผิดที่ไม่น่าผิดซึ่งมันทำลายบรรยากาศการอ่านมาก
เวลาพวกมึงเขียนนิยายกันมึงตรวจคำผิดไงว่ะ กูเขียนนิยายกูจะเขียนใส่เวิร์ดก่อนเพราะมันจะเช็คคำผิดได้

85 Nameless Fanboi Posted ID:A93i+tL0T

เมื่อก่อนกูอ่านทวนซ้ำก่อนลงเน็ตนะ แต่หลังๆ กูพิมพ์ไปมองหน้าจอไป เจอคำผิดมันก็เห็นเดี๋ยวนั้นแหละ บางทีพิมพ์เสร็จหนึ่งย่อหน้าช่วงรวบรวมความคิดก็มาอ่านย่อหน้าเดิมซ้ำมันก็ช่วยกรองได้ส่วนหนึ่ง แล้วกูพิมพ์ในเวิร์ดด้วย

86 Nameless Fanboi Posted ID:6+keFlosK

>>85 กูก็ทำแบบนี้ เห็นแล้วต้องแก้ แต่ที่พลาดบ่อยๆ คือพิมพ์ตก พิมพ์เกิน บางทีอัพไปแล้ว แต่เพิ่งมาเห็นตอนอ่านทวนในเว็บก็เคืองนะ กลับบ้านไปต้องรีบแก้กันลืม

87 Nameless Fanboi Posted ID:12zY9vATY

>>85 กูก็ทำแบบนั้น แต่บางทีกูก็ทวนซ้ำอีกรอบสองรอบหลังพิมพ์เสร็จ ตัวแดงในเวิร์ดไม่ค่อยช่วยกูเท่าไหร่ ส่วนใหญ่กูพิมพ์ผิดแบบกลายเป็นคำอื่นไปเลย เช่น "เป็น" กลายเป็น "เป็ด" ถถถถ

88 Nameless Fanboi Posted ID:R0nvL4f1+

>>87 microsoft word รุ่นไหนว่ะถึงได้เป็ด

89 Nameless Fanboi Posted ID:O1vN4JXWQ

>>88 2010
กูจะบอกว่ากูพิมพ์ผิดชนิดกลายเป็นคำอื่น มันเลยไม่ขึ้นตัวแดง เทพแมะ ถถถ
เออ กูสงสัยมันโหลดคำเพิ่มได้ไหม หรือต้องเพิ่มในพจนานุกรมเอง

90 Nameless Fanboi Posted ID:E2WRffInt

เอาข่าวมาฝาก นิยายแฟนตาซีอัพหลอกทุกชม.กลับมาเปิดให้คนคอมเมนต์ได้แล้วนาจา ปิดหนีคนด่าพักหนึ่ง เรื่องเงียบแล้วเปิดจะได้เมนต์อวยตัวเองได้

91 Nameless Fanboi Posted ID:43eV+oK5E

>>90 เรื่องไหนๆ

92 Nameless Fanboi Posted ID:BofCXByGs

ข่าวเด็ดเว้ย! สนพ.น้องวายน้องใหม่ชื่อย่อ รสต มีนักเขียนมาแหกว่าโกงเงินว่ะ นักเขียนโดนไปหลายรายละ และคนโกงเหมือนจะเป็นเด็กม.ปลายเองว่ะ แล้วจดทะเบียนของจริงได้นะ จีเนียสสสส ช่วงนี้นิยายวายทำไมเรื่องโกงตังถี่จังวะ กูจะตามไปสืบต่อ โพสจองคนเขียนนั่นหายไปละ ใครมีวาร์ปมั่งวะ

ปล.กูเห็นจากกลุ่มฟาร์มว่ะ

93 Nameless Fanboi Posted ID:43eV+oK5E

แอบดู https://www.dek-d.com/board/view/3755609/

94 Nameless Fanboi Posted ID:XAtXHnCQq

>>92 >>93 อยากนินทาเชิญที่นู่น https://fanboi.ch/netwatch/3558/recent/#reply

95 Nameless Fanboi Posted ID:43eV+oK5E

>>94 ไม่ได้มานินทา แต่อยากรู้ว่าเขียนนิยายได้ต้องเคยเชียนแฟนฟิคป่าว

96 Nameless Fanboi Posted ID:u6jY3LIme

>>95 กูว่าไม่จำเป็นนะ

97 Nameless Fanboi Posted ID:43eV+oK5E

>>96 เปลี่ยนเรื่องก็ได้ แล้วคิดยังไงกับการทำแผนที่ จำเป็นแค่ไหนสำหรับเด็กดี ถ้าเกิดดองจะสูญเปล่ามั้ย
https://www.dek-d.com/board/view/3755578/

98 Nameless Fanboi Posted ID:jPnoPcHpy

>>97 กูว่ามันค่อนข้างจำเป็นกับนิยายแนวเปิดโลกหรือแนวผจญภัยนะ มันทำให้รู้ที่ทางตัวละครว่าจะเดินทางไปเมืองไหนต่อ ระยะทางแค่ไหน เมืองที่อยู่ใกล้ๆ นั่นสภาพเป็นยังไง เดินทางไปทางไหน ไกลเท่าไรถึงจะเป็นป่า มีแม่น้ำตัดผ่านทางนั้นไหม? แล้วแม่น้ำนั้นทอดจากส่วนไหนไปส่วนไหนของเมือง มันใช้บอกได้ว่าเมืองต่อไปจะอยู่ชิดแม่น้ำหรือเปล่า หรือว่าไม่ คือใช้กำหนดความคิดหรือวางโครงเรื่องให้ง่ายขึ้นนั่นแหละ

แต่จะเขียนมั่วๆ แล้วเอาไปรวมเป็นแผนที่ทีหลังก็ได้แหละ ไม่มีปัญหา แต่เพื่อเป็นไกด์ไลน์ที่ดีสร้างเอาไว้ดีกว่า ไม่จำเป็นต้องละเอียดมากแบบใช้โปรแกรมทำก็ได้ ภาพวาเล่นๆ ร่างรูปแบบโลกของมึงว่ามีเกาะกี่เกาะ สถานที่สำคัญอยู่ตรงไหนบ้าง แค่นั้นก็ได้ ที่เหลืออยากได้เมืองอะไรเพิ่มเติมก็ไปมาร์คเอาในแผนที่เขียนเล่นทีหลัง

99 Nameless Fanboi Posted ID:dgc0fkNrr

อัพหลอกในตำนานเปิดไลน์รักแฟนตาซีแล้วว่ะ คือชีจะกวาดเอาทุกหมวดจริงชะ เห็นละรำคาญลูกตา อัพหลอกก็ถี่ เปิดเรื่องเกือบทุกหมวด เว็บมาสไม่ทำไรบ้างวะ

100 Nameless Fanboi Posted ID:CD1pEdxAk

>>99 มึงแจ้งดิ

101 Nameless Fanboi Posted ID:8OtCGIyG/

รำคาญกว่าอัพหลอกคือนางร้าย

ไม่เป็นไรหรอกมึง หมวดนั้นนางร้ายครอง อัพแล้วเดี๋ยวก็โดนดัน 555555

102 Nameless Fanboi Posted ID:mRBracjZP

https://www.dek-d.com/board/view/3755578/

กระทู้ดีมีคุณค่า

103 Nameless Fanboi Posted ID:43eV+oK5E

>>102 ซ้ำ >>97

104 Nameless Fanboi Posted ID:ZK.+82Da.

อยากรู้จัง โม่งเป็นคนตั้งรึป่าว https://www.dek-d.com/board/view/3755795/

105 Nameless Fanboi Posted ID:dzJTOuhFM

>>104 ไม่น่าจะใช่ อาจเป็นแค่เกรียนปิดเทอมธรรมดา

106 Nameless Fanboi Posted ID:OrgCzHpTv

เพิ่งเห็นนิยายใหม่ของปากกาแดงดำ ผิดตั้งแต่ชื่อเรื่องละสัส มีคนไปเขียนคำนิยมเตือนเรื่องการใช้ น่ะคะ น่ะคะ ด้วย ทำเอากูไม่กล้ากดเข้าไปดูเนื้อเรื่องเลย

107 Nameless Fanboi Posted ID:dzJTOuhFM

>>106 นะค่ะ นี่ถ้าใช้ผิดคือโคตรจะแย่เลยนะสำหรับนักเขียน

108 Nameless Fanboi Posted ID:9B2Veyq+S

>>106 เดี๋ยวแม่งก็งอแงอีก ผมไม่เคยได้เกรด 4 ภาษาไทยเลย

และพระเอกเรื่องนี้ชื่อธันวา เอิ่ม ไอ้สัส พ่อมึงเป็นปฏิทินรึไงวะ

109 Nameless Fanboi Posted ID:chV1HfJ56

>>108 ชื่อธันวามีความผิดใดรึ คนชื่อธันวาที่พ่อไม่ได้เป็นปฏิทินมีเยอะแยะไปนะ

110 Nameless Fanboi Posted ID:n+kfxfWlE

>>108 ปัญญาอ่อนน่า เอาเรื่องแค่นี้มาด่า เน็ตเข้าไม่ถึงเหรอไงถึงไม่รู้ว่ามีคนชื่อนี้

111 Nameless Fanboi Posted ID:9B2Veyq+S

>>109 >>110 เรื่องเก่ามันพระเอกชื่อกุมภา มีตัวละครอื่นๆในเรื่องชื่อมกรา และถ้าจำไม่ผิด มีมีนา และเมษด้วย

112 Nameless Fanboi Posted ID:S7zk6MNUw

>>111 งั้นถ้าจะแอดวานซ์ต้องให้มีชื่อ อธิกสุรทิน ไม่ก็โกอินเตอร์ไป แจน เฟบ มาร์ช เอพริล

113 Nameless Fanboi Posted ID:0qRZ6vEg8

>>112 ทำไมกูฮา

114 Nameless Fanboi Posted ID:C/chREoPf

>>113 มึงเส้นตื้นไง

115 Nameless Fanboi Posted ID:XLVdgrrGF

เพื่อนโม่งกูมีเรื่องปรึกษา พอดีช่วงนี้เบื่อสัส อยากเขียนนิยายเบียวแก้เครียด แต่พอกูเขียนแล้วมันไม่เบียวอย่างที่คิด สมองกูใช้ตรรกะมากไปบางทียังรำคาญตัวเองจะคิดเยอะไปไหน ขอคำชี้แนะทำไงกูถึงจะเขียนนิยายเบียวได้แบบพวกติดท็อปบ้าง หมวดแฟนตาซีกับกำลังภายในน่ะ กูจริงจังนะไม่ได้กวนตรีน

116 Nameless Fanboi Posted ID:3DTu+wGdf

พระเอกชื่อตุลาเฉยๆ คิดว่ามันเป็นใครล่ะ ตุลาการทมิฬเรอะ

117 Nameless Fanboi Posted ID:YMHrgq9Db

>>115 เออ กูเข้าใจ อยากทำหลายรแยแล้วปต่สมองมันไม่ยอมซักที 555

118 Nameless Fanboi Posted ID:aQLOsl.GD

>>115 same กู เขียนแล้วตัน ตรรกะความเป็นไปได้ในหัวสกัดกูจนเขียนไม่ได้ ทำไงก็เบียวไม่ได้จริงๆ ประเภทอยู่ดีๆ ก็บังเอิญเจอของเทพ หรือชนะแบบฟลุ๊คโชว์เท่ปักธง กูแม่งทำไม่ได้เลยว่ะ

119 Nameless Fanboi Posted ID:XLVdgrrGF

>>117 >>118 นึกว่ากูเป็นคนเดียว นั่นเลยๆเจอของเทพปังธงหญิงอวยไส้แตก มันใส่ตอนไหนดีวะหาจังหวะใส่ไม่เป็นเลยว่ะ

120 Nameless Fanboi Posted ID:PPsna8hBT

>>119 เบียวเกินความจริงกูทำได้อย่างมากก็แนวล้อเลียนว่ะ คือจะเขียนเอาจริงๆ ก็น่าจะพอได้มั้ง แต่พอจะเขียนแล้วหัวมันกลวงโบ๋สุดๆ คือมึงไม่ต้องคิดอะไรมาก มึงตัดความจริงจังในการเขียนออกได้เลย ความลึกซึ้งมึงตัดออกให้หมด ของเจอของเทพก็อารมณ์แบบมันต้องโผล่มาเพื่อตัวเอกเท่านั้น ใครจับอาวุธของตัวเองหรือพยายามใช้ก็ให้มันตายไปเลย ผู้หญิงทั้งโลกต้องมองมาที่ตัวเอกคนเดียว หรือไม่มึงต้องใส่ความหลงตัวเองมาให้เต็มที่ คนอื่นเก่งเท่ามึง ดีเท่ามึงไม่ได้ แล้วเอาตัวมึงนั่นแหละมาเล่นเป็นตัวเอก มึงเหยียบหน้าคนอื่นได้เต็มที่ จะใจดีช่วยใครก็ได้แต่นั่นมันต้องทำให้มึงดูดี ดูเป็นฮีโร่ ใครขวางความคิดมึงมึงต้องฆ่ามัน เหวี่ยงมันให้กลายเป็นตัวร้ายแบนๆ ให้หมด ตัวละครมึงทุกตัวต้องกลม เหมือนหยิบขึ้นมาเพื่อเล่นละครหุ่นอ่ะมึง เพราะถ้าตัวละครมึงกลมนี่มึงเบียวไม่ได้จริงๆ นะ ตัวละครมันจะพาเนื้อเรื่องไป มึงต้องคิดเนื้อเรื่องที่มันเบียวขึ้นมา แล้วบังคับตัวละครให้เล่นตามเนื้อเรื่อง ห้ามตัวละครปฏิเสธเหมือนมึงเป็นพวกเผด็จการอ่ะมึง อารมณ์แบบนั้น

121 Nameless Fanboi Posted ID:PPsna8hBT

>>120 กูพูดผิด ตัวละครมึงทุกตัวต้องแบน

122 Nameless Fanboi Posted ID:XLVdgrrGF

>>120 เชี่ยมึงเนี่ยเทพมากกูขอคาราวะ มีความหวังขึ้นมาเลย หลักการมึงแม่งจริงว่ะ

123 Nameless Fanboi Posted ID:PPsna8hBT

>>122 คือกูได้แนวคิดจากการปกครอง อยากปกครองมึงต้องทำให้ตัวละครโง่ มึงอย่าให้ตัวละครฉลาด จากนั้นมึงจะวางตัวละครตรงไหนก็ได้เหมือนเนื้อเรื่องเป็นกระดานหมากรุก ตัวละครเป็นตัวหมาก ถ้ามึงให้ตัวละครมีชีวิตจิตใจ มึงต้องเล่นจิตวิทยาซึ่งมันก็ไม่โอละ เนื้อหาจะหนักเกิน เด็กไม่อ่าน (แต่ถ้ากูจะแต่งจริงๆ กูจะรู้สึกเศร้า ว่าพวกเด็กๆ นี่ชอบเผด็จการแฝงเหรอวะ?)

คือเหมือนเด็กแต่ละคนมันมีความเผด็จการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางอยู่ในตัว ซึ่งเผด็จการมันไม่สนใจความคิดคนรอบข้างไง มึงจะแต่งนิยายแนวนี้มึงใส่ความคิดคนรอบข้างมาคือมึงผิดแล้ว เอางี้ มึงใส่ความคิดได้แค่คนเดียวคือตัวเอก แล้วต้องเป็นความคิดเด็กๆ หน่อยแบบอยากให้ทุกอย่างเป็นของตัวเอง แต่อาจปกปิดด้วยเรื่องสวยหรูที่ผู้ใหญ่สอนมา บังหน้ามันเอาไว้ให้เหมือนมันเป็นเรื่องดี ตัวละครรอบข้างแบนไร้ความคิดให้หมด เรื่องไม่ดีเอามาเปลี่ยนให้กลายเป็นเรื่องดี เชี่ย กูพูดไปแล้วกูรู้สึกเหมือนตัวเอกแม่งไร้ความหวังมาก เหมือนเด็กคนเดียวที่ยืนอยู่กลางกระดานหมากรุกที่ตัวหมากไร้จิตใจว่ะ

เออ ถ้ากูเขียนโยงเข้าเรื่องการปกครองเกินไปก็ขอโทษด้วย ไม่เขียนแล้วโยงให้คิดตามไม่ออกจริงๆ

124 Nameless Fanboi Posted ID:aQLOsl.GD

>>123 กูไม่อยากพูดประเด็นนี้เท่าไหร่ แต่กูเห็นด้วยกับมึงนะเรื่องเผด็จการแฝง หรือบ้านเมืองเราอยู่ในยุครัฐบาลทหารนานเกินไปแล้ววะ(ไม่ต้องพูดต่อแล้วนะมึงเดี๋ยวเจอปิดห้อง) ความฝันสีลูกกวาด มุกพระเอกเป็นผู้กล้าดีงาม ทำดี ได้ดี ทำชั่ว ได้ชั่วหายไปไหนหมด เดี๋ยวนี้เอะอะๆ พระเอกก็ฆ่าคน แล้วบอกว่านี่คือดาร์คแฟนตาซี(พ่องมึง) มันไม่ได้ดาร์คเลย เบียวล้วนๆ แถมพระเอกก็ไร้เหตุผลอย่างที่ความเห็นบนๆ บอกไว้ ว่าการฆ่าคนได้หน้าตาเฉย ดันถูกใจเด็กๆ สมัยนี้ เห็นว่ามันเท่ดี หอกหัก.. ดูเมะกันเยอะเกินไปแล้วไอ้พวกเด็กเห่อหมอย

125 Nameless Fanboi Posted ID:3DTu+wGdf

นิยายเบียวทุกเรื่อง สโลแกนของตัวเอกเบียวต้องมี 5 ข้อ
1.กูถูก
2.กูถูกต้อง
3.กูถูกต้องที่สุด
4.ถ้ากูผิด แปลว่ากูถูก
5.ใครไม่ใช่กู ผิดคือผิด อย่ามาปากดีกับกู

กูที่ว่าหมายถึงตัวมันเองไง เบียวมั้ยล่ะ

126 Nameless Fanboi Posted ID:anz69sPXy

เพราะคนเรามักชอบอะไรที่ทำให้ตัวเองสบายใจและไม่ว่าใครๆก็อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตนคิดอยากให้โลกหมุนรอบตัวเอง
ด้วยเหตุนี้เลยเกิดนิยายเบียวขึ้นเพื่อสนองนีทความคิดเหล่านี้

127 Nameless Fanboi Posted ID:DCTz/fB/a

กูว่าที่พวกมึงร่ายไม่ใช้นิยายเบียวแต่เป็นนิยายแกรี่แม่รี่นะ(ถึงไอ้จุดอย่างฆ่าแบบสนุกสนานนี้จะเป็นส่วนเบียวก็เหอะ)

128 Nameless Fanboi Posted ID:aQLOsl.GD

>>127 ไหนยกตัวอย่างคำว่าเบียวล้วนๆ แบบที่มึงว่าหน่อย เพราะกูเห็นเรื่องไหนเบียวๆ มันก็พ่วงแกรี่เทพทรูมาด้วยอยู่ดี

129 Nameless Fanboi Posted ID:LEwKwnXYY

>>128 กูคนละคนกับ >>127
นิยายเบียวล้วนๆมีเรื่องเดียว เรื่องที่มีดาร์กเฟรมมาสเตอร์ ตาจอมมรราช โมริซัมเมอร์ อะไรเทือกนั้น
นอกนั้นทั้งเบียวทั้งแกรี่แมรี่ในเรื่องเดียวกันหมด

130 Nameless Fanboi Posted ID:LEwKwnXYY

แปะรอคนสับ https://my.dek-d.com/mataweekongchid9/writer/view.php?id=1636651

131 Nameless Fanboi Posted ID:RO.b0P/xN

>>123 มึงคือหยงเล่อ? ออกจากคุกแล้วหรอ?

132 Nameless Fanboi Posted ID:bcxFuAU3l

>>131 ถ้าคนที่เมิงพูดคือกูเข้าใจถูกต้อง กูจำเป็นต้องเป็นเขาเหรอวะ?

133 Nameless Fanboi Posted ID:PNZRl/geO

>>131 แกออกจากวัลฮัลล่านานแล้ว
>>128 กูหมายถึงพวกมึงร่ายคุณสมบัติมันคุณสมบัตินิยายแกรี่มากกว่าคุณสมบัตินิยายเบียวไงถึงความเบียวมันต้องมีความแกรี่แมรี่ก็เหอะ

134 Nameless Fanboi Posted ID:bcxFuAU3l

>>133 อันนี้กูเห็นด้วยกับเมนต์บนๆ นะว่าเบียวอย่างเดียวกูนึกถึงเรื่องนั้นจริงๆ ดาร์กเฟรมมาสเตอร์ นอกนั้นกูนึกไม่ออกว่ะว่าเบียวอย่างเดียวมันเป็นยังไง จะให้ยกมาพูดก็ไม่รู้จะพูดยังไง ป.ล. กูคือเมนต์ >>132 แต่เปลี่ยนมาใช้คอม

135 Nameless Fanboi Posted ID:PNZRl/geO

>>134 ถ้าให้กูยกกูจะยกเรื่องการิน

136 Nameless Fanboi Posted ID:8qTAFZE1O

>>135 เบียวไสตยศาสตร์เหรอวะ คือกูก็ไม่ได้อ่านนะ แต่เคยได้ยินมาเยอะเหมือนกันเลยพอรู้ว่าเบียวยังไง

เอาตามตรงก็ยังนึกคำจำกัดความเบียวแบบชัดๆ ไม่ออกแฮะ ถ้าจะให้กูจำกัดความจริงๆ กูจะบอกว่าเป็นพวกทำอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน หลงอยู่ในโลกแฟนตาซีจนแยกไม่ออก ไม่สนใจความคิดคนรอบตัวอะไรแบบนั้น จะเขียนเป็นนิยายตัวเอกคงออกมาเป็นราวๆ นั้นกับมีบรรยกาศเรื่องสนับสนุนนิดๆ หน่อยๆ ล่ะมั้ง

137 Nameless Fanboi Posted ID:8qTAFZE1O

เมื่อกี้กูเพิ่งนึกได้อีกแนว กูว่ามันเหมือนแฟนตาซีที่มีเหตุผลรองรับไม่แน่นเท่าไร หรือไม่ก็ขัดเหตุผลปกติอย่างเห็นได้ชัดแล้วไม่ได้มีเป้าหมายอื่น เอาเพื่อความสนุกเฉยๆ คล้ายๆ แนวแกร์รี่ แมร์รี่ที่มักมีเรื่องไม่สมเหตุสมผลอยู่เยอะอ่ะ แต่ตัวเอกอาจไม่แกร์รี่หรือแมร์รี่ก็ได้ ความขัดแย้งจะไม่ค่อยชัดเจนหรือลอยๆ หน่อย บางทีอ่านแล้วรู้สึกได้เลยว่าไม่สมเหตุสมผล ไม่มีความหมายแอบแฝงในเรื่องที่มันหนักหัวหรือมีก็คงไม่หนักขนาดนั้น เน้นที่ความสนุกหรือจินตนาการ กูว่ามันให้คำจำกัดความยากแฮะ คำว่าเบียวกูว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไร แต่พูดไปแล้วมันก็เหมือนแนวแฟนตาซีที่เหตุผลรองรับไม่แน่นทั่วไป เหมือนคนเขียนอยากไปอยู่ในโลกแบบนั้นเลยเขียนออกมาให้มันดูมีความฝันเกินจริงเพื่อหลีกหนีความจริงอะไรแบบนั้น แต่คนเขียนอาจไม่ต้องการเด่นดังอยู่คนเดียวเลยไม่มีความแกร์รี่ แมร์รี่อยู่ กูคิดอย่างนั้นนะ

138 Nameless Fanboi Posted ID:ZnPd4yKNS

เรื่องเบียวนี่ ถ้าเป็นเมะกูนึกถึงคนที่ทำตัวเหมือนนางเอกเรื่องนี้ > Chuunibyou Demo Koi ga Shitai
แต่ถ้าเป็นคนจริงๆ กูนึกถึงมหาเมพกีบแกะ 123 กับไอ้พลัง 7 ธาตุอย่างท่านเพอร์ซีอุสว่ะ

139 Nameless Fanboi Posted ID:PNZRl/geO

เรื่องเบียวนี้กูว่ามันเหมือนอะไรที่พยายามทำให้มันเท่ ดูคูลลล ดูจริงจัง ดูฉลาดแต่จริงๆแล้วไร้สาระ กลวงๆ

140 Nameless Fanboi Posted ID:8qTAFZE1O

>>139 เออ กูเห็นด้วยว่ะ ใช้อธิบายแนวนี้ได้ดีเลย

141 Nameless Fanboi Posted ID:LCfeX12rc

>>137 ใช่ๆกุเห็นด้วย ที่มึงว่ามามันตรงกับนิยายของจูนิเบียวมาก

142 Nameless Fanboi Posted ID:tPzbjqeFV

ระบบ Dues Ex Machina น่าเกลียดนะ พวกตกหน้าผาเจอวิชา เข้าป่าเจอเห็ดเทพ พระเอกเป็น the chosen one พวกนั้น

สำหรับกูแม่งพอๆกะ Mary Sue นะ แค่ Mary Sue คือ ทำอะไรก็ดีไปหมดจนเกินไป

ส่วนเรื่องเบียวนี่แล้วแต่รสนิยมว่ะ รับเมะญี่ปุ่นมากๆก็เบียวง่าย แต่มึงอ่านคาฟก้ามึงก็ไม่กล้าเบียวปะวะ งานกระแดะดาร์กกูให้ห้าบาทสิบบาท แต่กูให้ราคาเบียวยี่สิบบาทนะ

143 Nameless Fanboi Posted ID:ZnPd4yKNS

>>142 เรื่อง Dues Ex Machina มีโม่งคนนึงมาพูดไว้ก่อนหน้านี้ละเหมือนกัน แล้วยกตัวอย่างเรื่องแอร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งกูก็เห็นด้วยนะ เพราะแม่งหลายจุดโชคดีเกินไปหน่อย บางทีจะตายอยู่แล้ว รอดเฉยเลย กับฉากนกยักษ์ในเดอะลอร์ดอีกอัน ที่หนีออคขี่หมาป่าไปได้แบบฉิวเฉียด ทั้งๆ ที่เพื่อนกัลดาฟ ไม่น่าจะส่งนกมาช่วยพาหนีได้ทันตอนจบภาคในหนังอะ

144 Nameless Fanboi Posted ID:K2i/eTBTn

>>130 ปิดตอนแล้วจะสับยังไงจ๊ะ

145 Nameless Fanboi Posted ID:ZnPd4yKNS

>>144 มันเปิดนะ แต่ระบบเว็บรวนอยู่ ถ้ามันขึ้นว่าไม่พบตอน ให้กด F5 ไปทีนึงก่อน

146 Nameless Fanboi Posted ID:K2i/eTBTn

>>144 เอ่อ โทษที เครื่องกูรวนเอง มันไม่ได้ปิด แต่แค่เจอคำผิดเบสิคอย่าง นะค่ะ กูก็หมดอารมณ์ละ ยังไม่นับตอนสั้นกุด การเขียนบทสนทนาเหมือนละคร ฮือ ส่วนเนื้อเรื่องจะมาดูให้อีกที

147 Nameless Fanboi Posted ID:Huom7zdK4

>>130 ติ๋งต๋อง ติ๋งต๋อง กูขำพรืด 555

148 Nameless Fanboi Posted ID:LCfeX12rc

สมกับเป็นปิดเทอมจริงๆ
https://writer.dek-d.com/avalanche2512/story/view.php?id=1609693
ทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นเจ้าของพล็อตทั้งที่พล็อตกากๆแบบนี้ใครๆก็คิดได้ แล้วยังบอกอีกมว่ารับปรึกษาการเขียนนิยายทั้งที่นิยายตัวเองยังใช้สำนวนกากๆอยู่เลย

149 Nameless Fanboi Posted ID:5zEp8zTk3

>>142-143 Dues Ex Machina ไม่ใช่ plot armor นะ

Dues Ex Machina เป็น plot device ไว้แก้ใขหรือกลบจุดที่แก้ไม่ได้ให้ผ่านไปแบบกำปั้นทุบดิน อย่าง "ผัวเทพ" ในเต้ามู่

ส่วน plot armor มีไว้เป็น "ข้ออ้าง" ให้ตัวละครรอดพ้น อย่าง "ความรัก" ในเรื่องแฮรี่ อะไรแบบนี้

แต่ plot armor ไม่จำเป็นต้องไม่ดี เพราะมันสามารถเป็นองค์ 2 หรือ forshadow ได้ อย่าง "ไม้เอลเดอร์" ของแฮรี่ที่เขียนได้ดีมาก และผูกพันเนื้อเรื่องตั้งแต่เล่ม 4 ไปจนถึง climax ของเล่ม 7 ซึ่งเกี่ยวโยงไปถึงเรื่องของสเนปที่วางปมไว้ตั้งแต่เล่ม 1 ในแง่นี้คือวางได้ดี

150 Nameless Fanboi Posted ID:cAuV18oMR

>>142 สัส มึงหมิ่นนีโอกุ ออกจะสนุก

151 Nameless Fanboi Posted ID:IIXRb+M.d

>>149 Harry Potter มี Dues Ex Machina ชัดๆตอน Harry ปราบ Quirrel ด้วยพลังความรัก อันนี้ชัดเจน

152 Nameless Fanboi Posted ID:IIXRb+M.d

>>149 ใช่มึงจะแก้ Dues ex Machina ด้วยการวาง foreshadow

ไอ้ Plot armor นี่มึงจะไปจำแนกทำไมวุ่นวาย

153 Nameless Fanboi Posted ID:ZnPd4yKNS

ถ้าผูกที่มาที่ไปไว้ดีๆ ก็จะพ้นข้อหากำปั้นทุบดินได้งั้นสินะ โห งี้คนแต่งต้องทำการบ้านมาดีไม่ใช่เล่นเลยนะมึง กว่าจะโยงให้มันสัมพันธ์แล้วดูน่าเชื่อได้

154 Nameless Fanboi Posted ID:3ztBu1L+L

กูว่าวัฒนธรรมญี่ปุ่นมีผลอย่างมากต่อเด็กไทย แถมที่ซึมซับมาเสือกมีแต่ความเหี้ย หรือเป็นเพราะเมะ มังงะ ไลท์โนเวล มันมีกลุ่มเป้าหมายเป็นลูสเซอร์วะ ถึงได้ฝังแนวความคิดเทพทรู พระเอกต้องชนะ ใครกวนตีนพระเอกต้องพบจุดจบแย่ๆ กันหมด

155 Nameless Fanboi Posted ID:ZnPd4yKNS

>>154 ผลงานสนองนี้ดไง คือทำแบบนี้แล้วขายได้ ก็ทำออกมาเรื่อยๆ สุดท้ายเลยกลายเป็นค่านิยมที่ผิด(ต้องโทษเด็กบ้านเราที่โง่เองด้วยส่วนหนึ่ง)

156 Nameless Fanboi Posted ID:IIXRb+M.d

>>154 เมะ มังงะ ไลท์โนเวล มันง่ายและสะดวก แต่ว่า... สะดวกแบบ คนแดกข้าวแกง เข้าเซเว่น แดกมาม่า พวกนี้นี่เป็น loser ในสายตามึงหรอ?

คือคนส่วนน้อยจะอ่านงานหินๆนะมึง หนังสือตาเซเว่นนี่มึงไปดูถูกหรอ? คือพวกงานยากๆมันก็เหมือนพวกสลัดผักแต่มีประโยชน์ปะวะ มันต้องสนใจจะดูแลตัวจริงๆ

นั่นแหละถ้ามีดูแลตัวเอง ดูแลการอ่าน มึงจะแซะคนอ้วน คนที่ไม่ดูแลสุขภาพ รักสะดวก แดกง่าย กินหนังไก่ งับขาหมูหรอ?

พวกพระเอกเมพเติมเงิน ก็แค่เครื่องปรุงเยอะ ซอสหนาเท่านั้นแหละ ไม่ต่างกับละครตบตีแย่งผัวหรอก คนเขาเสพย์ที่รสชาติหรอก

ทุกอย่างอิ่มเหมือนกัน มึงเบ็ดมึงว่าวกับหนังโป๊แบบไหนก็ตาม มึงไปดูถูกคนที่ว่าวแต่กับแนวบางอย่างไม่ได้

สมมติ (ตัวอย่างกูจะไกลหน่อยนะ)

ถ้ามึงชอบ เป็ก ผลิตโชคที่ 'เสียงดี' แล้วมีคนไปเทียบดาราคนอื่นที่ร้องเพลงได้และหน้าตาดีกว่า เขาดูถูกมึงเพราะรสนิยมบางอย่าง มึงก็ไม่ควรดิ้น

ทุกอย่างมันเรื่องของคนแต่ละคน

ไม่มีใครดีกว่าใครในรสนิยมนะ มึงต้องเข้าใจว่าคน วันยังค่ำแม่งก็คน คือถึงหมาจะตัวละแสน เลี้ยงดีแค่ไหน เผลอๆมันก็แดกขี้ว่ะ สันดานมันแบบนั้น

157 Nameless Fanboi Posted ID:5zEp8zTk3

>>152 Dues ex Machina คือไม่มีที่มาที่ไป ใส่มาเพื่อยุติประเด็น มันเป็น plot device ขั้นสุดท้าย เพราะใส่มาก็จบ ไม่ต้องหาเหตุผล

แต่ plot armor มันไม่ใช่ไง มันให้เหตุผลได้ จะเนียนไม่เนียนก็อีกเรื่อง

158 Nameless Fanboi Posted ID:QG++YT9Cw

>>156 เมะ มังงะ LNที่เนื้อหาหนักๆหินๆก็มีที่ดังๆไอห่า บางทีกุก็งงแม่งทฤษฎีจะเยอะไปไหน จะเอาไปพิมพ์ขายเหรอ

แต่กุชอบนะ แม่งแน่นดี

159 Nameless Fanboi Posted ID:QG++YT9Cw

สัยสงกุจิ้มผิด ช่างแม่ง

160 Nameless Fanboi Posted ID:PNZRl/geO

>>154 นิยายเด็กเขียนเป็นแบบนี้ทุกชาติเพื่อนโม่ง

161 Nameless Fanboi Posted ID:zPdxm+cP1

เมะกับLNกุว่ามีผลน้อยว่ะ ที่เป็นมีผลคือเมะมากว่าเพราะคนส่วยใหญ่ชอบดูมากกว่าอ่าน โดยเฉพาะคนที่ดูแต่เมะแล้วไม่เสพสื่อที่เนื้อหาหนักอื่นๆเช่นหนังหรือซีรีส์เลย ถ้าคนๆนั้นไม่มีวิจารณญาณมากพอมันก็จะซึมซับเอาสิ่งเบียวๆจากเมะมาเยอะมากและเมื่อใดก็ตามที่คนเหล่านี้มาจับคีย์บอร์ดแต่งนิยายแล้ว...........

162 Nameless Fanboi Posted ID:5zEp8zTk3

fast food culture น่าจะส่งผลมากกว่า ถ้าให้อธิบายง่ายๆ ก็ เป็นวัฒนะธรรมที่ชอบอะไรด่วนและง่ายทุกอย่าง

ยกตัวอย่างนิยายที่กำลังฮิตของไทยและจีน จุดร่วมคือออกไว ย่อยง่าย ไม่ต้องใช้ความคิดวิเคราะห์ในการอ่านมากนัก

นิยายที่มีองค์ประกอบแบบนี้สูงจะได้รับความนิยมง่ายกว่า และเขียนง่ายกว่า เพราะไม่ต้องซับซ้อนอะไร แบบอาหาร fast food นั่นละ

จะไปโทษ LN อย่างเดียวก็ไม่ถูก เพราะสมัยนี้อะไรก็เป็น fast food culture แบบนี้หมด แม้แต่นสพ.

ไอ้การใช้พาดหัว click bait ก็เป็นผลมาจากเรื่องนี้ ให้หัวเรื่องสรุปให้หมด ไม่ต้องอ่านให้ละเอียดก็ได้

163 Nameless Fanboi Posted ID:QG++YT9Cw

>>162 แม่งก็มาจากสังคมการใช้ชีวิตอย่างที่มึงพูดแหละ ช่วงนี้ห่าไรก็เร่งรีบ

164 Nameless Fanboi Posted ID:YmWMGUNO6

กูนึกสงสัย นิยายสมัยนี้ยิ่งอ่านยิ่งหายโง่ป่าว

165 Nameless Fanboi Posted ID:o.IhRYg3H

>>164 อยู่ที่ว่ามึงอ่านเรื่องอะไร

166 Nameless Fanboi Posted ID:PyJLXD4SO

>>165 เอาแค่เด็กดี พอ

167 Nameless Fanboi Posted ID:tIWz8kkPF

เฮ้ยพวกมึง กูจะใช้ประโยค 'นั่นมุกหรือดาหาร' มันจะขำไหม หรือกูควรคงไว้ที่ 'นั่นมุกหรือเปลือกหอย' แบบปกติวะ?

168 Nameless Fanboi Posted ID:NX08q4fdK

>>167 เอาจริงๆกูเฉยกับมุกนี้นะ แต่ก็เรื่องของกู 555 เพราะงั้น กูว่าอันหลังดีกว่าว่ะ เซ็ตติ้งมึงเมืองไทยป่ะล่ะ แล้วแบบสองคนน่าจะคุ้นชินกว่ามั

169 Nameless Fanboi Posted ID:tIWz8kkPF

>>16 เมืองไทยนิยายรัก ขอบใจว่ะ สงสัยได้ใช้เปลือกหอย

170 Nameless Fanboi Posted ID:NO+bYCoNS

>>169 อย่าใช้อันแรก เดี๋ยวโม่งแตกนะมึง

171 Nameless Fanboi Posted ID:qM/4vf.DK

https://writer.dek-d.com/jeanbushido/story/view.php?id=1635783
ชื่อคนเขียนคล้ายๆกับไอจิกกัดแฟนตาซีวันก่อนเลย(มีคำว่าbushido)และสำนวนก็คล้ายๆกันด้วยหรือว่าเป็นคนเดียวกันแต่เปลี่ยนไอดีว่ะ??
กุรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันเปิดได้ดีนะมาเรียบๆไม่หรือหวาแล้วถ้าเป็นคนที่จิกกัดวันก่อนจริงก็น่าจะมั่นใจได้ว่าเรื่องนี้ไม่เบียวไม่แกรี่แน่นอน

172 Nameless Fanboi Posted ID:NOXYOUqKC

>>171 อย่างกะนิยายล้อเรื่อง LAS

173 Nameless Fanboi Posted ID:kbvzoBVe7

>>172 ตรงไหนวะ?

174 Nameless Fanboi Posted ID:qg7cTZ0WZ

>>171 ไอ้เรื่องกัดจิกแฟนตาซีต่างโลกเรอะ ดองไปแล้ว หรือพยายามกัดจิกพวกชอบดองอยู่เรอะว่ะ

175 Nameless Fanboi Posted ID:PGE9FouIM

>>173 อ่านบทหลอมยาด้วยมานาไปรึยัง

176 Nameless Fanboi Posted ID:Sp5aN6OtN

>>175 อ๋อ... เข้าใจละ

177 Nameless Fanboi Posted ID:Sp5aN6OtN

สับให้หน่อยสิ

https://my.dek-d.com/inthedarkz/writer/viewlongc.php?id=1513653&chapter=1

178 Nameless Fanboi Posted ID:Hx7c0RUKq

>>177 ชื่อเรื่องไม่ดึงดูดให้อ่าน แค่เห็นว่าชื่ออังกฤษลงท้ายด้วยคำว่า online ก็อยากกดปิดละ ฉากเปิดเรื่องก็ไม่น่าสนใจ ก็เหมือนเรื่องอื่นๆ มีเกริ่นเกี่ยวกับเครื่องเกม เปิดตัวตัวละครอีกนิดหน่อย แต่ต้องยอมรับว่าสำนวนดีกว่านิยายเกมออนไลน์ทั่วไป อ่านแล้วลื่นไหลใช้ได้เลย คำผิดไม่แน่ใจว่ามีไหมแต่ดูรวมๆแล้วก็ไม่มีนะ ส่วนเรื่องพล็อตโนคอมเม้นว่ะ บทแรกบอกอะไรมากไม่ได้

179 Nameless Fanboi Posted ID:vViIM8HMU

>>177 นิยายไอ้วันโนนี่หว่า

180 Nameless Fanboi Posted ID:+ef5CeWcF

>>177-179 ดูหัวบทก็ได้นะ ท่าทางไม่ใช่หน้าใหม่ปลากรอบ https://my.dek-d.com/inthedarkz/writer/view.php?id=1513653

181 Nameless Fanboi Posted ID:3xJuLBoci

โนวันมีสไตล์การเขียนเหมือนพี่ถุย

ลงชื่อ เซฮุน กำลังหม้อหญิง

182 Nameless Fanboi Posted ID:nsQcMZ+Mg

>>180 มันเหมาะกับการเขียนแก๊กจบในตอนมากกว่า เรื่องเก่าๆ แม่งก็ทำดีแล้ว

183 Nameless Fanboi Posted ID:UIkxKAtt6

>>182 เรื่องเก่าๆ มันมีใครสับไปรึยังวะ

184 Nameless Fanboi Posted ID:nsQcMZ+Mg

>>183 ไม่มีมั้ง ดังแค่ในบอร์ดเพราะเป็นคนจัดงานประกวดเรื่องสั้นประจำฤดู แต่เรื่องนิยายนี่เหมือนว่าจะไม่ดังซักเรื่อง ล่าสุดที่เขียนได้ยาวก็ไอ้นิยายออนไลน์พระเอกชื่อสมนะเนี่ยแหล่ะ

185 Nameless Fanboi Posted ID:uSmbjLce.

>>181 ตรงไหนวะ?

186 Nameless Fanboi Posted ID:UwfxC7o6E

"ขอบคุณที่ร่วมมือกันทำให้บ้านของเราดีขึ้น"

ประโยคนี้นาซีมากๆ

https://www.dek-d.com/board/view/3757580/

187 Nameless Fanboi Posted ID:lvdSF.LY9

>>186 มึงปญอ.ป่ะ ทำให้ดีขึ้นตามกฏเกี่ยวเหี้ยไรกับนาซี

188 Nameless Fanboi Posted ID:UwfxC7o6E

>>187 ถ้ามึงไม่เข้าใจ reference ว่าเกี่ยวกันยังไง มึงด่ากูปัญญาอ่อนนี่สมควรหรอวะ?

'ดีขึ้นตามกฎ' ก็นะ

189 Nameless Fanboi Posted ID:m1fUUi0O7

>>187 กูไม่ได้เข้านาน อาจตามอะไรไม่ทันแต่กูพอเข้าใจนะ ในนั้นแม่งมีชนชั้นจะตาย

190 Nameless Fanboi Posted ID:lvdSF.LY9

>>188 ทำไมกูจะด่าไม่ได้ พวกปญอ.หาเรื่องแขวะชาวบ้าน ตัวเองมือไม่พายแกว่งปากหาตีน ต้องประชดชันแบบมึงถึงจะสมควร?

"ประโยคนี้นาซีมากๆ"
วลีนี้แม่งปัญญาอ่อนโคตรๆ
แทกreference >>186

191 Nameless Fanboi Posted ID:UwfxC7o6E

>>190 ในแง่หนึ่ง กูว่านาซีเป็นคำชมนะ ยุคนาซีก็เห็นแก่ผลประโยชน์แห่งชาติในเยอรมันยุคนั้น ยุคนาซีคือยุคที่ความรู้และวิทยาการเจริญเติบโตเร็วมาก ผลเสียของมันอย่างเดียวคือฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เท่านั้นแหละ นอกนั่นยิ่งใหญ่เกรียงไกรสุดๆนะ ไม่พูดถึงในแง่ propaganda หรืออะไร

192 Nameless Fanboi Posted ID:CUjUDl3Bb

>>191 วางถุงกาวก่อนเถอะ มึงจะเบียวนาซีไปไหน

193 Nameless Fanboi Posted ID:JC6NKVfw6

>>192 กูไป Google มาละประวัติศาสตร์ของการดมกาวไม่มีนาซี

194 Nameless Fanboi Posted ID:xA76REM0G

ทำผิดกฏแล้วโดนลงโทษ ถ้าโผล่มางอแงนี่กูจะซ้ำให้จมตีนเลย

195 Nameless Fanboi Posted ID:5dgMdO7lf

>>191 มันเป็นฟาสซิสต์อะครับ กรุณาเข้าใจคำนี้ก่อนนะ

196 Nameless Fanboi Posted ID:xmcAGVzbe

ช่วยกันๆ

Fascist = เผด็จการทหาร

ไม่เกี่ยวกับ Fascinating, Fascinated, หรือ Fascination นะครับ ไม่ใช่ Fast and the Furious Franchise ด้วย

197 Nameless Fanboi Posted ID:xmcAGVzbe

>>195 อ่อ ประเทศไทยตอนนี้ก็คือ Fascist เผด็จการทหารแบบหนึ่งนะ สรุปว่าดีหรือไม่ดีล่ะ

นาซีก็เป็น Fascist แต่ต่างจาก ของอิตาลีมุสโซลินี่ เพื่อนร่วมรบยุคนั้นนะ

198 Nameless Fanboi Posted ID:gJv11jLny

>>197 ถ้าเอารายละเอียดลึกๆ Fascist ไม่ใช่เผด็จการทหารนะ มีส่วนทับกันหลายอย่าง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเผด็จการทหารเสมอไป

Le Pen ก็นับเป็น Fascist นะ ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทหารเลย

199 Nameless Fanboi Posted ID:xmcAGVzbe

>>198 อ่ะ อันนั้นก็ใช่ ขวาจัดมันมีหลายระดับ (ขี้เกียจเรียง) ทว่า... ไม่เสมอไปแต่ก็ได้อยู่ พอสมควร

ไม่ต่างอะไรกับบางที่บอกว่าตัวเอง ประชาธิปไตยเนอะ แต่ไม่ใช่สักนิดก็มี ลึกๆแม่งอะไรก็ไม่รู้ ตามนิยาม ทุกวันนี้สังคมนิยมกับคอมมิวนิสต์ยังสับสน

ยังไงๆลัทธิ Fascist ก็ ขวาจัด ยึดตามกฎเคร่งครัด เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียว

มันเหมือนรากศัพท์ชื่ออาณาจักรโรมันสมัยก่อน คือไม้เมื่อไม้มีอยู่แท่งเดียวก็จะหักได้ง่าย แต่เมื่อนำไม้มารวมกันนั้นจะหักได้ยากมาก (รากชื่อมัน จากวิกิฯ) สรุปคือประชาชนมารวมกันก็จะทำให้ชาติแข็งแกร่งไร้เทียมทาน

คราวนี้เราควรจะสงสัยว่า เออ มันไม่ดียังไงวะ เป็นปึกแผ่น 'ดีขึ้นตามกฎระเบียบ'

คลั่งผลประโยชน์แห่งชาติ คลั่งชาติ คลั่งผู้นำ นี่ Fascist นิยาม

แล้วมันไม่ดียังไง?

200 Nameless Fanboi Posted ID:AfrEO4FRa

"ขอบคุณที่ร่วมมือกันทำให้บ้านของเราดีขึ้น" มันนาซีตรงไหนวะ ถ้าอยากเทียบการเมืองการปกครองกูว่า nationalism ตรงกว่าไหม
ถ้า Fascist เผลอๆไอดีก็โดนสอยไปด้วยแล้ว

201 Nameless Fanboi Posted ID:gJv11jLny

>>199 ซ้ายก็ Fascist ได้ ดูอย่างฮูโก้ ชาเวสของเวเนซูเอล่าหรือคาสโตรของคิวบาสิ

202 Nameless Fanboi Posted ID:xmcAGVzbe

>>200 คืองี้มึง ถ้าเข้าใจว่ากฎคือมาตรฐาน ใต้กฎคือเป็นระเบียบเรียบร้อย

ที่กูบอกว่า ดีขึ้น หรือ ดีขึ้นตามกฎ มันนาซี หรือมึงจะ nationalism ก็ตาม มันไม่ใช่

มุมมองของคนพูดคือมองสิ่งผิดกฎไม่ดี ไม่ใช่แค่ไม่เรียบร้อย

ถ้ากูกับแม่ช่วยกันจัดบ้านนิดหน่อย เพราะบ้านมันไม่เป็นระเบียบ คงไม่สถาปนาขึ้นเป็นวันหยุดแห่งชาติ เพราะมันดีขึ้นปะวะ?

ไม่ได้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ไม่ได้แต่งบ้านใหม่ คือ setup เดิม theme เดิม ฮวงจุ้ยเดิม กฎระเบียบเดิม

"ดีขึ้น" หรือ "ดีขึ้นตามกฎระเบียบ" มันเลยฟังดูนาซี หรือ nationalist มากๆไง

กลิ่นความคลั่งมันฟุ้งในตัวหนังสือ

203 Nameless Fanboi Posted ID:xmcAGVzbe

>>201 ไม่ใช่ละมึง ทีละจุดนะ

อุดมการณ์ของพวกนั้นคือสังคมนิยม จะเลนินมาร์กซ์ ก็ว่าไป อันนี้ชัดเจน เขาต้านทุนนิยม ประชาชนเท่าเทียม บลาๆ ไม่ได้เน้นสถาบันรัฐแบบ Fascist หรือคลั่งความเป็น เวเนฯ หรือ คิวบา แต่อย่างใด

ถ้าจะเรีกยกว่าสองคนนั้นผู้นำทหาร ชาเวส เคยเป็นทหาร อ่ะถูก คาสโตรเป็นผู้นำกลุ่มต่อต้านตินนี้ทหารเพียบ อ่ะก็ถูก แต่เขาไม่ได้ใช้อุดมการณ์ชาติว่าต้องชาติมาก่อน ผู้นำมาก่อน

คือ สังคมนิยม หรือคอมมิวนิสต์ เอา ประชาชนมาก่อน (ส่วนเรื่องเผด็จการไหม แบบจีน รัสเซีย หรือเจริญไหม อันนี้ เดี๋ยวจะยาว)

204 Nameless Fanboi Posted ID:xmcAGVzbe

บอกก่อน

กูไม่ได้จะโน้มน้าวความคิดพวกมึงนะ ที่กูร่ายยาวมาเนี่ยไม่ใช่อะไร

คือกูก็แค่เผลอแสดงความเห็นแปลกๆ คนมองกู ปญอ ก็ไม่แปลกหรอกว่ะ (กูเช็คตัวเองละ กูก็ reference เมากาวไปจริงๆ)

เอางี้ พวกมึงมีสิทธิ์คิดเองได้หมด โตๆกันแล้ว ไม่มีความคิดอะไรถูกไปตลอดหรอก

ลงชื่อ เซฮุนละกัน โยนขี้ไป ฮ่าๆ

205 Nameless Fanboi Posted ID:gJv11jLny

>>203 คาสโตรอาจจะไม่นับว่าเป็น fascist ได้ แต่ชาเวสนี่เป็นแน่ๆ ตามแบบลัทธิบูชาบุคคลเลย

206 Nameless Fanboi Posted ID:xmcAGVzbe

>>205 ชาเวส เทียบได้เหมือนสตาลิน แต่เบากว่า คล้ายเหมาเจ๋อตุง แต่ไม่ชาวนาเท่าไหร่ จะบอกว่าเหมือนตระกูลคิมก็ไม่ได้ทำประเทศมึนขนาดนั้น

แต่บูชาพอสมควร ชาเวสคือรัฐบุรุษแห่งเวเน ฮีโร่พอสมควร คนเวเนฯรักชาเวสมากนะ แต่นางงามก็ไม่อวยออกเวทีนี่นา...

เรียกว่าลัทธิบูชาบุคคลไหม ชาเวส ก็เข้าข่าย

แต่ไม่ได้ยกศาสนามาช่วย ชาเวสไม่ใช่โอรสสวรรค์ บูชาแค่ผลงานชาเวส กูให้ความเข้าข่าย 7/10 ไม่มีพิธีกรรมหรือ propaganda หนักๆแบบบางที่นะ

207 Nameless Fanboi Posted ID:cR4PZmtiM

นี่มู้นิยายไอสัส

208 Nameless Fanboi Posted ID:xmcAGVzbe

>>207 เออกูเสียใจที่อธิบายผิดหัวข้อมู้นะไอ้ไข่กะโปก แต่เผื่อบางคนเอาไปเขียนนิยาย ข้อมูลจะได้แน่น

เอาเป็นว่าผิดมู้ก็แล้วกันนะ ฮ่าๆๆๆๆ

209 Nameless Fanboi Posted ID:jxPXYGV4I

>>207 อันนี้ถือเป็น ดีขึ้นตามกฎมู้
>>208 เป็นระเบียบตามที่มึงว่า

ลงชื่อ เซฮุน เลิกแอบบอ้างกูสักวันเถอะนะ

210 Nameless Fanboi Posted ID:Lngb91Rsw

กลับเข้ากระทู้ก็ได้ Fascist มี Comparative คือ Fascer กะ Fascest

#ความรู้ฉบับเด็กดี

211 Nameless Fanboi Posted ID:jxPXYGV4I

นี่เซฮุนนะ กูพอจะรู้ละใครอ้างชื่อกู ไอ้สัด

ลงชื่อ เซฮุน Fuck your sis

212 Nameless Fanboi Posted ID:7voJ4RIjT

>>211 ตกลงใครอ้างชื่อมึง

213 Nameless Fanboi Posted ID:jxPXYGV4I

>>212 กูเชื่อว่ามันคือไอ้วิดสวะ ดูจากคำพูดคำจาการใช้เหตุผลของมัน หัวร้อนง่าย หยาบคายและเห่อหมอย คิดว่าตัวเองถูก กูจำลายมือมันได้

ลงชื่อ เซฮุน ออนเดอะฟลอร์

214 Nameless Fanboi Posted ID:r9qvWVDsd

จากประโยคๆ เดียว พวกมึงออกทะเลไปได้ไกลมากจริงๆ (ปรบมือให้พร้อมไชโย โห่แถมอีก 3 ที)

215 Nameless Fanboi Posted ID:jxPXYGV4I

>>214 แต่กูอ่านแล้ว กูชอบมาก คือเขียนได้ดี เขียนได้ถูกต้อง

216 Nameless Fanboi Posted ID:./UrXhA5C

>>212 คือใช่จริงป่าวไม่รู้ แต่กูรำคาญ ยึดติดกับ"วิดสวะ"อะไรขนาดนั้นวะ

217 Nameless Fanboi Posted ID:jxPXYGV4I

>>216 เดี๋ยวๆ

กูแค่รำลึกถึง ไม่ได้ยึดติด เหมือนวันครบรอบ anniversace on the floor ไงมึง

218 Nameless Fanboi Posted ID:WMTalg8ns

พวกมึงใกล้จะเปิดเทอมแล้วสินะ เรียนไปไม่มีเพื่อนนอกจอก็เลยเม้าที่นี่จนเละสินะ

219 Nameless Fanboi Posted ID:rIivclJqn

>>218 กูล่ะอยากปิดเทอมมั่ง เหนื่อย 555

220 Nameless Fanboi Posted ID:oH4T8vSyx

>>219 นั่นดิ แม่งคิดถึงตอนยังเรียนอยู่ สบายชิบหาย

221 Nameless Fanboi Posted ID:tswWoNBTQ

ถึงปิดเทอม แต่ก็มีโปรเจคทำอยู่ดี ว้อย

222 Nameless Fanboi Posted ID:oZWqVBZ4H

https://www.dek-d.com/writer/44983/
ทำไมไม่มีโรเซเนียกับห้าสิบเฉดเทา

223 Nameless Fanboi Posted ID:XytB6V9bb

>>222 เอาบารามอสด้วยมั้ย 555

224 Nameless Fanboi Posted ID:.yczG7RTe

>>222 ห้าสิบกุแปลกใจ แต่โรมาเนียที่ไม่มีก็ถูกแล้ว

เพราะมันไม่ดังไง

225 Nameless Fanboi Posted ID:6PgTo.LVr

ว่างๆช่วยสับบ้างนะ https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523

226 Nameless Fanboi Posted ID:SJd0EM1fp

มีแนวแฟนตาซีที่อ่านแล้วไม่ขัดใจแนะนำบ้างป่าววะ

227 Nameless Fanboi Posted ID:k/TZdTaB0

นิยายกูไง เมพเมพเมพ

ลงชื่อ เซฮุน ชอบเลียเห็บหมา

228 Nameless Fanboi Posted ID:bQ58YSyXS

>>226 กูจะรู้ใจมึงมั้ยล่ะ มึงชอบไม่ชอบยังไงบ้างไม่บอก

229 Nameless Fanboi Posted ID:bzjqwNpo1

>>227 ไหนวะ เอามายลเด๊ะ

230 Nameless Fanboi Posted ID:i3RIjHm2G

>>227 หวัดดีนี่เซฮุนเอง ไหนเอานิยายมึงมาสิ ไอ้@#$$ เลียเห็บ@#$/แม่มึงสิ

ถ้าตุ๊ดไม่แปะ มึงเขียนมาเลยหนึ่งฉากตรงนี้ กูสับให้ ไอ้แม่@#$$

ลงชื่อ เซฮุน เบื่อจริงๆไอ้พวกเห็บ##$ในวันหยุดเนี่ย มีปัญหา##@$อะไรกับกูนัก กูไป#@$=รูหูแม่มึงตอนไหน

231 Nameless Fanboi Posted ID:0YdMO036w

กูวางโครงเรื่องนิยายใหม่ไว้ละ ชื่อเรื่อง เปลี่ยนต่างโลกให้เป็นคอมมิวนิสต์

เรื่องประมาณว่าย้อนกลับไปในไทยช่วง พศ. 2520 พระเอกเป็นนศ.มธ. ที่ถูกล้อมฆ่า แต่หนีไปได้ เลยไปเข้าป่าร่วมกับ พคท. แต่ถูกยิงตาย แล้วไปเกิดใหม่เป็นเจ้าชายในอาณาจักรโบราณ จึงพยายามเอาแนวคิดเลนิน+เหมา ไปใช้กับอาณาจักรของตนเอง แบบนี้ดีไหม

232 Nameless Fanboi Posted ID:grRBFPzTz

จะลุ้นกว่านิยายก็ตรงที่คนแต่งจะโดนหิ้วไปวันไหนเนี่ยแหละ

233 Nameless Fanboi Posted ID:qiDAQWJY7

มันสมองน้ำตื้นเท่าแคมเม็ดละมุด แต่สะเออะจะเพาะฝูงปลา

วรรณกรรมอุดมการณ์จีนมีทั่วแล้ว ไม่ต้องเหนื่อยกากสุนัขกากสุกรอย่างมึงหรอกว่ะ

เก็บความต่ำตมของความรู้มึงไว้เถอะ ถุย!

มึงปากดีก็ได้แค่ตรงนี้แหละ เป็นกายหยาบ ภาชนะใส่วิญญาณที่ไม่มีจุดหมายปลายทาง

234 Nameless Fanboi Posted ID:aTe0T/2l+

>>231 ถึงไม่มีใครเอาคอมมิวนิสต์มาเล่นก่อน พล๊อตแม่งโหลว่ะ ไอ้มุกไปต่างโลกที่ล้าหลังกว่า ชาติก่อนใช้แล้วทิ้ง เอาความคิดตัวเองเสี้ยนสอนพวกล้าหลังในต่างโลก มีคนเล่นเกิน 500 เรื่องแล้วล่ะ

235 Nameless Fanboi Posted ID:aTe0T/2l+

>>234 เพิ่มเติม และทำทุกอย่างให้คนมาจากโลกชาติก่อนแม่งดูดีสุดในต่างโลก เอาให้พวกต่างโลกโตเป็นควายไร้การศึกษาทุกคน

236 Nameless Fanboi Posted ID:u28Hgvc+B

นศ.ย้อนไปโลกโบราณแล้วมึงจะทำอะไรเป็น เดินเข้าป่าก็โดนหมากัดตายแล้วมั้ง

237 Nameless Fanboi Posted ID:oq7QkJnei

>>231 มึงเขียนเลยแล้วบอกด้วยกูจะได้แจ้งตำรวจ มึงโดนอุ้มนิยายดังแน่นวล

238 Nameless Fanboi Posted ID:0YdMO036w

>>234 ไม่ดิ ชาติก่อนเป็นแค่พวกประชาชนตัวเล็กๆ ไร้ค่าในสายตาของรัฐ ที่มีอุดมการณ์สังคมนิยมไง แต่พอชาตินี้แม่งไปเกิดเป็นเจ้าชายรัชทายาท ที่จะสืบทอดอาณาจักรต่อจากพ่ออะไรงี้ + ประชาชนในยุคโบราณที่ยังมีความเชื่อฝังหัวเกี่ยวกับเจ้าชีวิต ชนชั้น และความฟุ้งเฟ้อของเหล่าขุนนาง แล้วพระเอกของเราจะสามารถเปลี่ยนอาณาจักรแห่งนี้ให้กลายเป็นโลกสังคมนิยมอุดมคติตามที่เคยหวังเอาไว้ในชาติก่อนได้หรือไม่ หรือจะเสพสุขกับการเป็นกษัตริย์จนไม่สนใจอุดมการณ์

>>236 เริ่มตั้งแต่เป็นทารกเลย

239 Nameless Fanboi Posted ID:tYseMK6FB

>>238 อุดมการณ์สังคมนิยมคืออะไร คอมมิวนิสต์คืออะไร จงอภิปรายแยกกัน พร้อมทั้งหาความเกี่ยวข้อง การจำแนก และข้อโต้แย้งทั้งสองอุดมการณ์อย่างละเอียด 100 คะแนน เวลาทำ 3 ชั่วโมง (180 นาที)

240 Nameless Fanboi Posted ID:aTe0T/2l+

>>238 ก่อนจะเปลี่ยนเป็นคอมมิวนิสต์ ประชาชนพร้อมใจกันเปลี่ยนระบอบการปกครองหรือไม่

ก่อนอื่นเลย มึงอ่านประวัติศาสตร์คอมมิวนิสต์ต่างประเทศแล้วยัง แค่ไทยอย่างเดียวไม่พอหรอก

241 Nameless Fanboi Posted ID:pXyNtfOpT

กูรู้ว่าคอมมิวนิสต์คืออะไร แต่ขี้เกียจเขียนว่ะ เอาเวลาไปนั้งเกาไข่ เลียเห็บหมาดีกว่า เพลินๆ

ลงชื่อ เซฮุน คนไร้หมอย (ชอบกินเห็บหมา)

242 Nameless Fanboi Posted ID:3rm/sf9wP

>>238 คือกูเข้าใจมึงพูดนะ ราวๆ ว่ามึงอยากเขียนนิยายสื่อถึงเรื่องการเมือง แสดงอุดมการณ์ของมึงหรือเปล่า ถ้างั้นกูแนะนำว่ามึงไม่ควรใช้แนวต่างโลก

คือมึง กูมองว่าแนวต่างโลกแม่งเป็นแนวหนีความจริงนะ มึงเปลี่ยนแปลงอะไรในปัจจุบันไม่ได้มึงก็เลยไปเปลี่ยนแปลงเอาในโลกอื่นซึ่งมันง่ายกว่า คนอื่นฟังมึงพูดมากกว่า มึงมีฐานะคอยคุมหัวให้มึงใหญ่อยู่ ถ้ามึงจะเขียนให้มันง่ายราวๆ นี้มันจะเป็นนิยายเบียวธรรมดา แล้วมันไม่ได้สะท้อนเลยว่ามึงเขียนออกมาเพื่ออะไร เพื่อจิกกัดคนอื่นให้ฟังอุดมการณ์มึงบ้าง ถ้าฟังแล้วบ้านเมืองจะพัฒนาไปดีขึ้นอะไรแบบนี้เหรอ?

เออ แต่ถ้าไม่นับเรื่องเขียนกระทบประวัติศาสตร์จริงเสี่ยงคุก แล้วมึงวางพล็อตดีๆ ไม่เบียวกูว่าน่าสนใจ คือต่างโลกถ้ามันเก่ามากความคิดยังแตกต่างจากปัจจุบันอยู่มากมึง ต่อให้มึงเป็นเจ้าชายมึงอย่าคิดว่าทุกคนจะเห็นด้วยกับมึง พวกเขาจะป้ายสีมึงว่าเป็นปีศาจมาเกิด เป็นแม่มด แล่วไล่ล่าฆ่ามึงบอกว่าเป็นเจ้าชายปีศาจที่ทำให้เสื่อมเสียวงศ์ตระกูลก็ได้ คือมึงต้องตีโจทย์เรื่องให้แตกด้วย อย่าเขียนเบียวๆ มาว่าเป็นเจ้าชายแล้วจะสบายมีคนฟังมึงทุกอย่าง ถ้าเบียวอย่างนี้กูไม่โอเค

ส่วนเรื่องการปกครองคอมมิวนิสอะไรกูไม่รู้นะ กูไม่เก่งด้านนี้ กูไม่ขอออกความเห็นและกูขอบาย

243 Nameless Fanboi Posted ID:40oEwamcv

พูดถึงเรื่องการปกครองกูนึกถึงเซนทาเรียแฮะ ถ้าแต่งดีๆแบบท้ายภาค2ของเรื่องนี้ก็โอเคแหละ แต่ดูแล้วมือมึงไม่น่าถึง

244 Nameless Fanboi Posted ID:0YdMO036w

แหม่ เหยียดกูจิงๆเบย ทำไมถึงคิดว่ากูจะเป็นพวกนักเขียนเบียวๆ สักแต่เขียนเอามัน ไม่คิดว่าจะเป็นใครสักคนที่มีปัญญาเขียนได้วะ

245 Nameless Fanboi Posted ID:40oEwamcv

>>244 ก็มึงไม่ทำตัวให้น่าเชื่อถือ(และกูก็ไม่คิดว่ามึงจะมีความสามารถพอหรอกนะ)
ปล. กูอยากเห็นมึงตอบ >>239 จัง

246 Nameless Fanboi Posted ID:qVuqhO+FO

>>241 สรุปเซฮุนเป็นคอมมิวนิสต์?

247 Nameless Fanboi Posted ID:0YdMO036w

>>245 เอาเถอะ ไม่คิดจะต่อล้อต่อเถียงอะไรอยู่แล้ว

และที่ไม่ตอบ คห. นั้น เพราะเดาเอาว่ามันคงไม่ได้อยากรู้จริงๆ หรอก ลองภูมิไปก็เท่านั้น ถ้าให้พูดเรื่องสังคมนิยมมันก็คงยาว จะเอาแบบไหนล่ะ? การต่อสู้ทางชนชั้นของมาร์กซ์ เรื่องเกี่ยวกับทุนและนายทุน ความเป็นเจ้าของทรัพย์สิน บลาๆ

ตอบไปเดี๋ยวก็บอกว่า google มาอยู่ดี ไลฟ์บอยว่ะ

248 Nameless Fanboi Posted ID:40oEwamcv

>>247 แต่กูอยากรู้(ดังนั้นกูเลยอยากเห็น)
มึงเขียนนิยายได้เมื่อไรกูจะลบคำวบประมาทมึงเอง

249 Nameless Fanboi Posted ID:3rm/sf9wP

>>244 กูเห็นมึงเขียนพล็อตไว้ก่อนหน้าทำให้รู้สึกแบบนั้นว่ะ อารมณ์แบบเปลี่ยนแปลงการปกครองในโลกจริงไม่ได้มึงก็เลยไปเปลี่ยนในโลกแฟนตาซีแม่งเลย แก็บแม่งก็เดิมๆ ตัวเอกรู้อะไรมามากเลยไปโชว์เทพต่างโลก คือกูไม่ได้รู้สึกเหมือนมึงตั้งใจจิกกัดการเมือง มึงแค่เอาการเมืองมาเล่นให้เป็นแฟนตาซีเฉยๆ หรือกูคิดไปเองวะ?

คือกูไม่ได้จะบอกให้มึงเขียนเปลี่ยนแปลงการปกครองในโลกจริงนะเว้ย เดี๋ยวคุกถามหา กูแค่คิดว่าพล็อตแนวนี้เอาไปรวมกับพล็อตแนวเกิดใหม่ต่างโลกแม่งเบียวชิบหาย มึงอาจคิดอะไรดีๆ กว่านี้ได้คือกูโอเค แต่สำหรับกูพล็อตแนวนี้มันพล็อตแนวหนีความจริง จะเขียนเอาฮาเอาเพลินก็ได้ แต่เอามารวมกับเรื่องจริงจังอย่างการเมืองมันดูไม่เหมาะ เหมือนมึงไปไม่สุด มึงจะเขียนความจริงแต่มึงพยายามหนีความจริงให้ตัวเอกหลบหนีจากโลกความจริงไปโลกแฟนตาซี คือมันไม่ใช่แล้วป๊ะ? ต่อให้มึงใส่หลักการการเมืองเข้าไปมันก็ยังเป็นเรื่องในจินตนาการ แล้วมึงจะพยายามโยงกับความจริงหรือเหตุการณ์ที่นักศึกษา มธ.ถูกทำร้ายทำไมวะ กูถาม มันจะไม่มีอะไรหลงเหลือจากเหตุการณ์นั้นเลย คือมึงหยิบเหตุการณ์นั้นมาใช้แล้วทิ้งในนิยายของมึงเพื่อนำเข้าโลกแฟนตาซีของมึง กูพูดถูกป๊ะ?//หรือกูคิดมาก ความจริงมึงไม่ได้จะเขียนจิกกัด แต่มึงจะเขียนเอาสนุกวะ?

250 Nameless Fanboi Posted ID:3rm/sf9wP

>>249 เอาตามจริงกูแค่รู้สึกว่าพล็อตมึงเบียวโคตร แต่ข้างบนนี้คือกูพยายามอธิบายความรู้สึกกูออกมาเป็นเหตุผล อาจพูดเกินไปหน่อยกูขอโทษ

251 Nameless Fanboi Posted ID:l6loe/IR4

แต่งๆมาเหอะจะต่างโลกหรืออะไรก็แล้วแต่มึงเลยแค่นิยายสนุกก็พอกุอยากอ่าน ถึงมึงก็เขียนนิยายให้ถูกใจโม่งทุกคนไม่ได้แต่ถ้านิยายมึงสนุกกุสัญญาว่าจะตามอ่านนิยายมึงแน่นอน

252 Nameless Fanboi Posted ID:5jfC3SliA

ห้องจะบินเพราะพวกมึงเนี่ยล่ะ เปลี่ยนหัวข้อทีสิวะ

253 Nameless Fanboi Posted ID:Wh0tCBIUj

>>252 มันมีประเด็นอะไรให้บินวะ คุยเรื่องคอมฯ ไม่น่าผิดกฎอะไรนะ แถมนี่ยังเป็นการคุยเรื่องพล็อตนิยายด้วย ไม่ได้โยงเข้ากับห่าอะไรเลย ขวัญอ่อนจัง

254 Nameless Fanboi Posted ID:JaVvjho8D

>>241 เซฮุนเหมือนมาริโอ้ กินเห็บแล้วตัวใหญ่

255 Nameless Fanboi Posted ID:UDTNVOl0t

อย่าว่าแต่ห้องโม่งเลย เด็กดีอนุญาตนิยายการเมืองที่ยกมาได้รึเปล่าล่ะ แค่พูดเรื่องการเมืองไทยนิดเดียวมู้บินไปแล้วว่ะ

256 Nameless Fanboi Posted ID:JaVvjho8D

>>255 นั่นมันจัสตินบีเบอร์หน้าพิซซ่าไง

257 Nameless Fanboi Posted ID:UDTNVOl0t

มีเรื่องให้สับ https://writer.dek-d.com/-NemuriHime-/story/view.php?id=1593950

258 Nameless Fanboi Posted ID:.XI8mnE0+

>>257 เซฮุนเอง

กูเคยอ่าน ค่ะคะค๊ะค๋ะ กองฝืน กองฟืน แล้วฉันจะฟื้น ฝืนหัวจายยยย ตัวเองได้หมาย ฮะ หาย ฮะ หายยย

แล้วจาฝืนความรู้สึกของฉันได้ยังงาย

259 Nameless Fanboi Posted ID:biDLw30Jt

https://writer.dek-d.com/GriMMix/story/viewlongc.php?id=1504276&chapter=200
ไปเป็นทหารแล้ววุ้ย ดีใจชิบหายที่ไม่ต้องมาทนเห็นนิยายๆกากขึ้นอันดับ1หมวดแฟนตาซี

260 Nameless Fanboi Posted ID:UDTNVOl0t

>>259 อยู่ค่ายทหารจะมีโอกาสลงนิยายได้ป่ะ
ปล.กูไม่เคยเกณฑ์ แต่จบรด.มา

261 Nameless Fanboi Posted ID:biDLw30Jt

>>260 คงยาก
น่าจะได้ลงตอนกลับมาเยี่ยมบ้านนั่นแหล่ะ

262 Nameless Fanboi Posted ID:b0r9+6ruS

ในนิยายตอนใหม่นี่ กลับมาพร้อมความเบียวแบบทหารๆ แน่

263 Nameless Fanboi Posted ID:mZMMEc7Wb

นิยายไม่จำเป็นจะต้องมีพล็อตกันเรอะ https://www.dek-d.com/board/view/3758931/

264 Nameless Fanboi Posted ID:/6fPp.rSr

>>263 พวกนี้แม่งเพ้อ ๆ ไงไม่รู้ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีพล็อตหลวม ๆ (แบบเชี่ย ๆ) นั่นแหละ

265 Nameless Fanboi Posted ID:/If4rJ+Pu

>>263 ของกูก็ไม่ได้วางพร็อตอะไร ใช้ด้นสด ตามแต่ใจคิดวะ
แต่แต่งจบ ได้ตีพิมพ์

266 Nameless Fanboi Posted ID:ISjVESEJ5

คนตอบบอร์ดเดี๋ยวนี้แม่งมีแต่พวกรู้ไม่จริงกับคิดเองเออเอง วอนนาบีขยันปั้มเรปแต่มั่วชิบหาย

267 Nameless Fanboi Posted ID:Wxew05WQa

>>265 แปะลิงค์มาให้สับหน่อยสิ อยากรู้ว่ามันจะดีแค่ไหน

268 Nameless Fanboi Posted ID:XZeibFBy0

>>265 อธิบายให้กูที กูนึกไม่ออกเลยว่าแต่งนิยายแบบไม่มีพล็อตได้ยังไง คือมึงด้นสดไปเรื่อยๆทีละบรรทัด พอยาวได้ที่แล้วก็จบตอนงี้เหรอวะ แบบตอนนึงไม่ได้คิดไว้ก่อนว่าจะให้ตัวละครทำอะไรบ้างแบบนี้ใช่มั้ย

269 Nameless Fanboi Posted ID:mZMMEc7Wb

>>265 มึงแต่ง 4koma กูไม่ว่าอะไร

270 Nameless Fanboi Posted ID:JPbm7.UFY

บ้าแล้วไม่มีพล็อตมึงจะเขียนได้ไง ไม่มีนิยายเรื่องไหนไม่มีพล็อตหรอก อย่างน้อยมึงก็ต้องวางไว้บ้างแหล่ะว่าจะเริ่มยังไงจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างแล้วก็จบยังไง

271 Nameless Fanboi Posted ID:JPbm7.UFY

https://writer.dek-d.com/kerrymatthew/story/view.php?id=1617601
เชี่ย!!! มันกลับมาแล้ววุ้ย

272 Nameless Fanboi Posted ID:mZMMEc7Wb

>>271 ตกลงเว็บมาสเตอร์รัดกุมผู้กระทำผิดจริงรึเปล่าเนี่ย

273 Nameless Fanboi Posted ID:6mFbB/M29

>>กูเขียนเป็นตอน นึกอะไรได้ก็เขียนไป ตอนหนึ่งเขียนไปหนึ่งสัปดาห์ แล้วค่อยคิดว่าจะมีตัวละครมีอะไร ได้เจอกันแบบไหน คุยกันยังไง ในตอนที่นั่งเขียนเลย ประมาณด้นสดตามแล้วจะเกิดความคิดผ่านมาในหัว
แต่มันจะเขียนได้ช้า ปล่อยมันไปตามอารมณ์ พอได้ตัวละครเอกมาครบแล้ว มันก็ง่ายในการคิดให้ทำอะไร
ตอนท้ายแค่คิดให้ลงเอยกันยังไง ก็จบเรื่อง ประมาณนี้
แค่คิดว่าทะเลาะกัน ดีกัน

274 Nameless Fanboi Posted ID:Wjt4lKaIz

อ้อ..นิยายกูแนวรัก เบาสมอง ไม่มีคิดอะไรมาก เน้นอ่านสนุก ไม่มีสาระ

275 Nameless Fanboi Posted ID:j0YVRp2O+

นึกถึงสแตมป์เบอรี่ เจ้าแม่นิยายขยะทำลายสมอง

276 Nameless Fanboi Posted ID:Qj0EXhC2k

อยากรู้ว่าจะมีคนแถมั้ย ถ้าเจอคลิเช่แบบนี้ https://www.dek-d.com/board/view/3759311/

277 Nameless Fanboi Posted ID:VZZagNzL5

>>276 อ่านแล้วไม่ชอบ จขกท. แฮะ

278 Nameless Fanboi Posted ID:y4KU+7Iy7

>>276 คลิเช่ไม่สำคัญ ถ้าเขียนแล้วมันสนุกอะ

ปล จขกท เป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอทำไมใช้คะ

279 Nameless Fanboi Posted ID:ttCAovSLD

>>259 แต่เขาได้ตีพอมพ์แล้วนะ....

280 Nameless Fanboi Posted ID:Qj0EXhC2k

>>279 PromptPay?

281 Nameless Fanboi Posted ID:36lAG5Msh

>>279 สุดยอด ได้ ตีนอม พ์ด้วย

282 Nameless Fanboi Posted ID:Qj0EXhC2k

แมรี่ซู https://www.dek-d.com/board/view/3758676/

283 Nameless Fanboi Posted ID:He2a3SPKY

>>282 ใครสอนมันวะ ว่าแค่มีจุดอ่อนก็ไม่แมรี่ซู

284 Nameless Fanboi Posted ID:87xD0tVf8

>>283 เด็กม.5มึน ๆ คนนึง ช่างแม่งเหอะ ตรรกะมันป่วย ๆ มาสองกระทู้แล้ว ฟัคอิท ๆ

285 Nameless Fanboi Posted ID:yVkr1Wdrp

กูเพิ่งเห็น... อีถุยมึงจำไว้นะ

https://www.dek-d.com/board/view/3757910/1/

286 Nameless Fanboi Posted ID:aZHXBVZKw

ถามตรงๆเลยนะ วิธีการวางพล็อตนี่มันมีหลัการอะไรบ้างวะ จะด่าจะแดกดันก็ตามสบาย แต่ช่วยแนบความรู้มาด้วยหน่อยนะ

287 Nameless Fanboi Posted ID:G1ri3MvKv

อธิบายเรื่องพล็อตไม่ถูกแต่ยกตัวอย่างได้ เช่นมึวงจะเขียนแนวรักมึงจะต้องคิดก่อนว่าเริ่มมาต้องมีพระเอกนางเอกแบบนี้มาเจอกันแล้วก็รักกันแบบไหน
มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่อยู่ดีๆหัวโล่งๆมานั่งหน้าคอมแล้วคิดว่า "ว่างว่ะเขียนนิยายดีกว่า" แล้วก็เปิดเวิร์ดมาพิมพ์โดยที่ไม่ได้คิดอะไรไว้ก่อนเลย
แล้วการด้นสดที่ว่ามันก็ด้นสดได้แค่สถานะการณ์กับบทสนทนาเท่านั้นแหล่ะ หากจะเขียนด้นสดทั้งตอนโดยที่ไม่ได้คิดว่าจะต่อตอนต่อไปอย่างไรไว้เลยรับรองได้เลยว่าบทมึงจะ"พัง"
คิดพล็อตไว้รึเปล่าก็รู้อยู่แก่ใจไม่ต้องมาโชว์พาวว่าด้นสดจนได้ตีพิมพ์ เพียงแค่คิดว่าจะดำเนินเรื่องยังไงนั่นแหล่ะก็เป็นพล็อตแล้วถึงแม้พล็อตมันจะหลวมๆยังไงก็ตามหรือจะเล็กน้อยแค่ไหนหรือจะคิดไว้เพียงแค่เป็นช่วงๆของเรื่องแล้วที่เหลือด้นสดมันก็เรียกว่าพล็อตแล้ว
สรปง่ายๆ พล็อตจำเป็นต้องมีหากไม่มีก็จะไม่สามารถดำเนินเรื่องได้อย่างราบรื่นและจะเกิดการติดขัดได้และตันในที่สุด แล้วสุดท้ายก็ต้องมาวางพล็อตทีหลังอยู่ดีเพื่อเชื่อมโยงเนื้อเรื่อง
ปล.ยกเว้นเรื่องตลกและอื่นๆ(นึกไม่ออก)ไม่ต้องมีพล็อตก็ได้

288 Nameless Fanboi Posted ID:Qj0EXhC2k

>>286 การเขียนพล๊อตให้กับนิยาย ก็เหมือนมึงออกแบบร้านขายของยังไงเป็นที่สนใจของคนขาจร

289 Nameless Fanboi Posted ID:XDvG04Ooe

>>286 ส่วนใหญ่คือการกำหนดเส้นเรื่องหลักๆ
หรือเส้นทางที่ตัวเอกจะทำ มีเหตุการณ์ที่ต้องเจอ ไปถึงตอนจบ
มันดีในแง่ที่ทำให้ไม่หลงทาง ออกทะเล กู่ไม่กลับ และเขียนสู่จุดหมายของเรื่องได้จนจบเรื่อง ไม่ดองไม่ทิ้งเรื่องไปก่อน
แต่ส่วนใหญ่ออกแบบไว้หลวมๆ

290 Nameless Fanboi Posted ID:2ScbgA2rV

ยุคมืดแล้วมั้ง https://www.dek-d.com/board/view/3759285/

291 Nameless Fanboi Posted ID:EuwiSUYUE

>>290 ไม่มีไฟฟ้าใช้สินะ

292 Nameless Fanboi Posted ID:N/6qVhkNs

>>291 นี่มุกหรือเปลือกหมอย

293 Nameless Fanboi Posted ID:Cq/.tyxby

>>292 นี่มุกหรือ... ดาหาร ยืมคนแถวนี้มาใช้

294 Nameless Fanboi Posted ID:xIwgkFi1r

นิยายของบ้านเราก็รู้กันอยู่ ยังไงก็รักครองตลาด ไปดูอันดับในเว็บebook อย่างเมพ ก็ได้
ขายดีหน้าแรก แนวรัก โรมานซ์ กวาดเรียบ
กำลังซื้อจากคนอ่านกลุ่มนี้มากที่สุดอยู่แล้ว

295 Nameless Fanboi Posted ID:6uDKp5M63

>>294 และก็นิยายวายของพวกอยากโสด

296 Nameless Fanboi Posted ID:hBaz1eTq7

สมัยนี้การเขียนนิยายต้องเคยดูการ์ตูนมาก่อนรึ https://www.dek-d.com/board/view/3760552/

297 Nameless Fanboi Posted ID:VrW145PEy

>>296 แล้วสมัยมึงมันสมัยไหนล่ะ? เวลาตั้งคำถามมึงก็ช่วยคิดนิดนะ อย่าสักแต่ว่าถาม คนที่จะตอบอย่างกูจะได้ตอบได้ด้วยอีเหี้ย

สมัยนี้การเขียนนิยายต้องเคยดูการ์ตูนมาก่อนรึ?

ถามเอาเหี้ยอะไร? คิดคำตอบเองได้ปะมึงถามแบบนี้ต่างเหี้ยอะไรกับพวกขยะในบอร์ดวะ

298 Nameless Fanboi Posted ID:ib..wq4tm

>>296 กูเข้าไปอ่านกท.แล้วไม่เข้าใจมึง เขาถามว่าอ่านการ์ตูน มังงะไหม ถ้าอ่าน มันมีอิทธิพลต่องานเขียนของเราไหม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับว่าต้องเคยดูการ์ตูน อ่านมังงะถึงจะเขียนนิยายได้ อิห่าราก

299 Nameless Fanboi Posted ID:LTds8oz2j

>>297 ดุจัง เฝ้าบ้านได้เป่า

300 Nameless Fanboi Posted ID:cwo/BJMa4

>>296 มันก็แค่ถามดูว่าใครอ่านใครไม่อ่านไม่ใช่เหรอวะ เอ๊ะ หรือกูงงเอง

301 Nameless Fanboi Posted ID:W1GaTdpH.

>>297 หัวร้อนมาจากไหนวะครับ อ่านดีๆ เอาใหม่ๆ เค้าแค่ถมเอาความเห็นคนอื่นเรื่องอิทธิพลการ์ตูนยุ่น มีในนิยายไทยมั้ย
ซึ่งจริงๆ กูคิดว่านิยายไทยส่วนมาก ได้รับอิทธิพลจากพวกการ์ตูนยุ่น นิยายต่างประเทศค่อนข้างเยอะเลยว่ะ

302 Nameless Fanboi Posted ID:W4CHaN/Et

>>301 กูไม่เคยหัวร้อน ชีวิตกูเย็นศิระเพราะพระบริบาล

ข้อสังเกตของมึงที่ว่า "นิยายไทยส่วนมาก ได้รับอิทธิพลจากพวกการ์ตูนยุ่น นิยายต่างประเทศค่อนข้างเยอะเลยว่ะ"

จริงๆ มันไม่ใช่เรื่องเหี้ยอะไรใหม่เลย

นิยายจีนเสินเจิ้น นิยายรักสลับร่าง นิยายสงครามยุคกลาง นิยายเทววิทยาฮินดู พวกนี้อิทธิพลมันได้มาแตกต่างยังไง?

อะไรคือทางเลือกของอิทธิพลที่มึงว่าล่ะ?

คึกฤทธิ์ ทมยันตี รพีพร พงศกร โบตั๋น นาวิกา ร่มแก้ว ณารา เก้าแต้ม ปิยะพร ประภัสสร ดวงตะวัน บินละเว พัดชา รอมแพง ชาครียา กิ่งฉัตร

วรรณกรรมไทยมีอะไรนำเสนอเด็กมันบ้างล่ะ?

กระแดะได้ก็อ่านไปสิ อย่าจมแค่ เจเค จอร์จอาร์อาร์ โทลเคียน สตีเฟนคิง ทอมแคลนซี่ สุวิทย์ขาวปลอด

มติชนก็การเมือง ซีไรท์สาระ

ถ้ามึงจะเอาประเด็น 'อิทธิพลส่วนใหญ่' กูจะถกด้วยก็ได้

โลกมันเชื่อมต่อแล้ว ใครจะรับอิทธิพลอะไรมาก็ช่างมันสิวะ จะฮอลลีวูด จะมังงะ จะลิเกเคป็อป

ลงชื่อ เซฮุน กูอีกแล้วสินะ

303 Nameless Fanboi Posted ID:YGjndIwWG

https://writer.dek-d.com/ssakun99/story/view.php?id=1584196 มีใครรู้ไหมว่าเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากนิยายแปลเรื่องอะไร จะไปหาต้นฉบับอ่าน

304 Nameless Fanboi Posted ID:eSHDFScza

>>303 Tower of God นะชัดเลย

305 Nameless Fanboi Posted ID:YGjndIwWG

>>304 ขอบคุณครัช

306 Nameless Fanboi Posted ID:6A54LlRx9

แต่ยังไงนิยายที่มีอิทธิพลกับคนส่วนใหญ่มากสุด ก็คงเป็นนิยายของกูอะ

ลงชื่อ เซฮุน เด็กไร้หมอย(ยังไม่ขึ้น)

307 Nameless Fanboi Posted ID:uUQKRi+zM

>>306 มึงเป็นเด็กอนุบาลหรอไอ้สัด ถึงให้เหตุผลไม่ได้น่ะ? เป็นนักเขียนก็หัดโต้ตอบด้วยเหตุผลสิวะ

ไม่ใช่มาต่อปากต่อคำให้ประเด็นมันไม่ไปไหน

หรือ 'ต่อปากต่อคำ' มันเป็นชื่อ สนพ มึงหรอ?

ลงชื่อ เซฮุน ใช่นิยายกูดีมาก เปิดพรีก็ไม่เบี้ยว ปฏิบัติตามนโยบายโตไปไม่โกง เพราะกูโกงพอแล้วตอนเด็กๆ ไข่กูก็โกนทุกวัน

308 Nameless Fanboi Posted ID:R.PH3pzwF

>>307 งวดนี้โกงพรีไปได้กี่บาทแล้ว มาแบ่งกุมั่ง

309 Nameless Fanboi Posted ID:PXxRw2tEk

>>302 ที่มึงพูดไม่ได้เกี่ยวห่าไรกับนิยายเด็กดีเลย แน่จริงมึงไปพูดที่บอร์ดเด็กดีเถอะ ถ้ามึงคิดว่าไม่เคยผิด

310 Nameless Fanboi Posted ID:LvOp08iGD

>>309 เคนะ... มึงกำลังบอกว่า

(ข้อ 1) ที่กูพูด "ไม่ได้เกี่ยวห่าไรกับนิยายเด็กดีเลย"

แล้ว (ข้อ 2)ท้ากูว่า "แน่จริง(กู/เซฮุน)ไปพูดที่บอร์ดเด็กดีเถอะ ถ้า(กู/เซฮุน)คิดว่า(ตัวเอง)ไม่เคยผิด"

กูแนะให้มึงปรึกษาเพื่อนมึงก่อน

แล้วสำรวจประโยคพวกนั้นดูอีกทีว่ากูจะแย้งคืนยังไงนะ

อ่อ... ถามตัวเองก่อนอีกทีให้แน่ใจว่าพร้อมไหม

กูใคร่ขอแนะให้มึงปล่อยไปเหมือนคนอื่นว่ะ ถ้ามึงยังอยากเหลือจิตวิญญาณและอารมณ์ในการสร้างสรรค์งานนะ

เถียงกับกูอาจจะเข้าใจอะไรมากขึ้น แต่กูเชื่อว่ามึงทนพิษบาดแผลไม่ได้หรอก

ลงชื่อ เซฮุน บนโต๊ะกูมีเบียร์ครึ่งโหล เปิดแดกไปแล้วสอง

311 Nameless Fanboi Posted ID:LvOp08iGD

>>309 คือเรื่อง 'อิทธิพลของงานที่อ่านกับนิยาย'

กูขอแค่เหตุผลนะ ถ้ามึงไม่มี... ก็เงียบปากไป

หรือคิดจะแถเป็นเด็ก ชักโน่นชักนี่มา งอแงท้าอะไรส่งเดช มึงช่วยไปหาเกมเล่น ไปหาซีรีย์ดูดีกว่านะ อย่ามาเสียเวลากับกู

จะถกก็ยกเหตุผลมา ว่างๆก็ไปศึกษาวิธีดีเบตด้วย ตรรกะอะไรจะถูกเวลาคุยกับคน นอกเรื่อง โจมตีตัวบุคคล หุ่นฟาง สร้างบ้าน มันเด็ก

โอเคนะไอ้สัด?

ลงชื่อ เซฮุน สงสัจะเมา กูจะเอาเหี้ยอะไรกับเด็กวะ

312 Nameless Fanboi Posted ID:/1R3oyIRI

ยังไม่จบอีกเรอะ กุนึกว่านางจะกลับใจแล้วนะ
https://www.dek-d.com/board/view/3760074

313 Nameless Fanboi Posted ID:9VPNC+p1s

>>310 >>312
กูว่ามึงร้อนตัวเอง จงใจปั่นหัวคนอื่นเพราะคิดว่าตัวเองดีสุด สุดท้ายเก่งแต่อยู่หน้าจอแหละ อยู่แต่ในโม่งไม่ได้ทำให้มึงฉลาดขึ้นหรอก มึงก็แค่แข่งกันว่าใครโง่กว่าถือว่าชนะ ถ้าอยากจะดูถูกใครก็ไปเล่น netwatch ไกลๆเถอะ มู้นี้สนใจที่เนื้องาน ไม่ใช่นินทาผู้คน

314 Nameless Fanboi Posted ID:r9j/9nw3M

หยุดมาบอร์ดไปตั้งแต่ก่อนปิดเทอมตอนนี้เปิดละ พวกมึงยังไม่เลิกดราม่ากันอีกหรอวะ แล้วไหนนิยายสับบดละเอียดล่ะ

315 Nameless Fanboi Posted ID:ThSB9cUHV

>>313 คร่อก นอนต่อดีกว่า กูสงสารว่ะ ไปละ

316 Nameless Fanboi Posted ID:+O6T+b4T1

เปิดเทอมแล้ว แต่เกรียนยังอยู่ สาดดด

317 Nameless Fanboi Posted ID:B4kIpVYnK

มึงช่วงนี้กูติดนิยายจีนเลยหาอ่านในเด็กดี ทำไมพล็อตนางร้ายมันเกลื่อนจังวะ เห็นละความอยากอ่านลดเลย

318 Nameless Fanboi Posted ID:KQP8c+OEE

>>317 เรื่องธรรมดา ช่วงไหนแนวอะไรกระแสดีก็ล้นตลาดแบบนี้แหล่ะมึง

319 Nameless Fanboi Posted ID:3izTNlPpm

กูเจอนิยายติดท๊อปในอดีตปัจจุบันอนาคต มีแค่ 9 ตอนเม้นเกือบ 5000 แต่แม่งเป็นเม้นขอ nc เกือบหมดเลยว่ะ กูเลยอยากรู้ว่าเว็บเด็กดีก็ทำแบบนี้ก็ได้หรอวะ

320 Nameless Fanboi Posted ID:A.rZlQS/S

กระแสดังยังไง คนอ่านมีเงินพอจะซื้อรึเปล่า ถ้าได้ตีพิมพ์เนี่ย

321 Nameless Fanboi Posted ID:uOrKS+gUM

>>319 มันห้ามลง nc ในเด็กดีไม่ใช่เหรอ พวกเรทๆก็ไปธัญวลัยกัน กฎมันเปลี่ยนยังอ่ะ กูไม่รู้

322 Nameless Fanboi Posted ID:5aAgqgzKe

>>321 กูไปเปิดดูมาแล้ว มันส่ง nc เข้าเมลคนขอไม่ผิดกฎ เว็บตามไม่ได้ก็จบ ตามกฎต้องดูด้วยว่าคนที่จะส่งให้อายุเหมาะสมไหม แต่คนเขียนแม่งส่งให้หมดไง เด็ก ๆ ทั้งนั้นกูไปดูมาละ

323 Nameless Fanboi Posted ID:AuQXdLHr4

>>322 เออ จริง กูลืมเรื่องนี้ไปเลย ก็ว่าอยู่ว่าส่งเมลหลังไมค์มันก็ไม่ต้องตรวจนี่นา

324 Nameless Fanboi Posted ID:oohWKNDeW

เด็กสมัยนี้ขี้เงี่ยนชิบหาย

325 Nameless Fanboi Posted ID:5aAgqgzKe

เว็บไม่น่าปล่อยให้ติดท็อปว่ะ โคตรล่อเด็ก

326 Nameless Fanboi Posted ID:wdrEG6xey

ปัญหาท้องในวัยเรียนกับเงี่ยนข่มขืนรุ่นน้อง ส่วนหนึ่งมาจากนิยายไร้จิตสำนึกพวกนี่แหล่ะ กูลองไปเนียนของมาอ่าน อ่านจบนี่ถึงกับงง ตกลงมึงเขียนนิยายหรือเรื่องเสียวกันแน่วะ

327 Nameless Fanboi Posted ID:oohWKNDeW

>>326 บางทีรู้สึกว่าละครไทยที่เหี้ยอยู่แล้วดูศีลธรรมมากกว่านิยายแถวนั้นเลย หรือมันได้แรงบันดาลใจจากละครไทยมาปรับดีกรีใหม่ป่าวว่ะ

328 Nameless Fanboi Posted ID:R.IwG+9lO

>>326 ต้องบอกว่าสภาพคนอ่านในปัจจุบันเป็นยังไง
กูว่าคนอ่านเป็นผู้เลือกนิยายและอันดับนิยาย ผลกระทบเลยส่งไปถึงคนเขียนว่าทำยังไงให้คนอ่านเข้ามาอ่านเยอะ ก็ไม่พ้นเพิ่มฉากยังว่า
จะบอกว่านิยายทำให้เกิดเรื่อง กูว่ามัวมากไป
ในเมื่อปัจจุบันสังคมครอบครัว โรงเรียน ต่างห่วงแต่เรื่องปากท้องอยู่รอด ไม่ดูแลให้ดี
เด็กมันพังมาจากเรื่องอื่นมากกว่า ไม่ว่าความกดดัน ยาเสพติด เพื่อนในกลุ่ม

ส่วนเด็กที่เข้ามาเสพพวกนิยายอะไรก็ตาม กูยังมองว่ายังมีหัวคิดมากกว่าจะไปก่อเรื่อง ตามนิยายที่อ่านได้
ปล.เด็กสมัยนี้ดูหนังโป๊ รูปโป๊ในมือถือเป็นตั้งแต่หมอยยังไม่ขึ้นแล้ว นั้นนะหนักที่สุด ทำให้มาหาเสพนิยายแนวนี้มากไง

329 Nameless Fanboi Posted ID:.3NHPiuUH

ผ่านไปไม่นาน กูว่าเดี๋ยวก็มีคนทำตามมัน เอา nc มาล่อได้ยอดวิวยอดเม้นง่ายดี ของแบบนี้แม่งห้ามยากถึงเวลาเดี๋ยวมันก็มาล้างนิยายกันยกใหญ่ใหม่

330 Nameless Fanboi Posted ID:nlIees/pD

แล้วถ้าพวก nc ให้ผ่านตีพิมพ์เข้าร้านซีเอ็ดกับนายอินทร์ล่ะ

331 Nameless Fanboi Posted ID:lZsbjPk3o

>>330 กูว่าเป็นเรื่องธรรดา ถ้าไม่ได้มองโลกสวยเกินไป
ในต่างประเทศนิยายแนวนี้วางได้ตามสบายตามหน้าร้าน
หนังสือรูปโป้อะไรวางกันเกลื่อน ในร้านสะดวกซื้อ ตู้หยอดเหรียญ
ที่บอกนี่ไม่ได้สนับสนุนนะ
แต่กระแสโลกาวิวัฒน์ที่เปิดกว้างมากขึ้นในเรื่องนี้ กูว่ายากจะต้านทานได้
คือต้องย้อนกลับมาที่ครอบครัวนั่นแหละว่าสั่งสอนให้เด็กเป็นคนดีได้แค่ไหน
กูเห็นแต่ละเคสแล้วเศร้าใจ
เด็กรุมลุงวิศวะพอชักปืนยิงก็บอกว่าทำเกินกว่าเหตุ ลูกฉันคนดีที่หนึ่ง ลุงนั่นต้องถูกยำตีนสิถึงจะถูก ตรรกะสอนเด็กมันป่วยมาก
เด็กแวนขับรถไปชนรถคันอื่นที่วิ่งมาดีๆ ก็โทษคนขับอีก บอกลูกฉันดีสุดๆ ทั้งที่แวนทำความเดือดร้อนขนาดนั้น
นี่ตัวอย่างเล็กๆ
เรื่องมั่วสุม เล่นยา ถ้าไปส่งเฟสเด็กรุ่นๆ มึงจะอนาจใจมากกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า

332 Nameless Fanboi Posted ID:lZsbjPk3o

ปล. กูไปส่องเพื่อปลงบ่อยๆ เด็กรุ่นๆเต้นโชว์เปิดนม เปิดจุกแลกlike อะไรนี่ กูไม่คิดว่ายุคนี้หาดูง่ายๆ ยิ่งว่าเดินไปร้านสะดวกซื้ออีก

333 Nameless Fanboi Posted ID:nlIees/pD

กินฟองเบียร์เกินขนาด เลยปวดเฮด
https://www.dek-d.com/board/view/3762393/

334 Nameless Fanboi Posted ID:U6e+ugWBc

>>333 รู้สึกเหมือนอยากประชดว่าเขียนเล่นๆแต่นิยายกูติดท็อปนะโว้ย

335 Nameless Fanboi Posted ID:90zhHgTPM

>>331 มันเกินกว่าเหตุเพราะใช้ปืนไงมึง เรื่องครอบครัวนี่กูว่าเป็นปัญหาสังคมเลย คนไม่พร้อมมีลูกดันมี เรื่องคอรัปชั่นอีก โอ้ละหนอ ประเทศไทย

336 Nameless Fanboi Posted ID:D/EPjgF.N

>>326 กูไปเนียนขอลองอ่าน nc มันมาบ้างละ ดีกรีเดียวกับที่คนชอบแต่งลงธัญเลยมึง ขำกว่าตรงที่คนแม่งเม้นบอกว่าที่มันใส่ในตอน nc มีประโยชน์เนี่ยแหละ สูตรน้ำมันนวดกระตุ้นเซ็กส์เนี่ยนะ มีประโยชย์กับเด็กที่ขออ่านตรงไหนวะ กูโคตรขำ

337 Nameless Fanboi Posted ID:nlIees/pD

เป็นไปได้มั้ย เขียน nc ได้ นักเขียนต้องลามกระหว่างเขียนด้วย

338 Nameless Fanboi Posted ID:D/EPjgF.N

>>337 กูว่าไม่น่า ไม่งั้นมันจะเขียนจนจบได้หรอวะ

339 Nameless Fanboi Posted ID:BuxWaI2Co

>>335 คนทั่วไปมองว่า ถ้าไม่ใช้ปืนยิงออกไป ลุงและครอบครัวแก ได้เจ็บหนักแน่ๆ
กลุ่มเด็กของขึ้นขนาดนั้น ถ้าเกิดลุงไม่ทำ เด็กมันก็ประเคนมือเท้าลากออกมาเหยียบให้ไง หรือลากท่อนอะไรแข็งๆฟาดเข้าให้ ไม่ได้โลกสวย กูเห็นมาเยอะเรื่องเ-ี้ยๆ แบบนี้
เด็กทำ แล้วก็บอกรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ติดคุกถึงไม่เกิน 3-5 ปี ก็ได้ออกมาซ่าใหม่แล้ว
ปัญหามันเป็นยังงี้แหละ ไม่ทำก็ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกหรือเปล่า

340 Nameless Fanboi Posted ID:D/EPjgF.N

ไอ้นิยายเรื่องที่เอา nc มาล่อคนอ่านนี่มีดีตรงไหนวะ กูเห็นก็พลอตเดิม ๆ แต่คนอวยมันจัง ใครก็ได้สับนิยายเรื่องนี้ให้กูอ่านที

341 Nameless Fanboi Posted ID:Ke43jzhGD

>>340 กูเห็นด้วย ลากมันออกมาโบยกลาง 4 แยกซะ

342 Nameless Fanboi Posted ID:LD0dNM5kR

>>340 นั่นแหละคือปัญหา
คนอื่นเขียนให้สนุกพอดีในขอบเขตที่ควรเขียน แต่ไม่มีคอมเมนต์อะไรให้สักแอะ

พอมีกรณีเพิ่มฉากให้ คอมเมนต์ไหลมาเทมาเป็นพันๆ ก็คิดแล้วกันคนอ่านมีพื้นฐานยังไง คนเขียนไม่อยากเขียนแต่ก็ต้องเขียน ไม่งั้นร้าง
หดหู่ดีว่ะ

343 Nameless Fanboi Posted ID:uxs+EJjZ.

บ้านเรา คนอ่านเป็นคนเลือกแนวทางนิยาย ไม่เขียนตามใจก็เกิดยาก
อันนี้พูดแบบนักเขียนทั่วไป ส่วนที่มีสไตล์และแนวทางของตัวเองชัดเจนมีแฟนคลับติดตามมากมาย จะไม่ค่อยมาคิดคำนึงถึงเรื่องอะไรแบบนี้

344 Nameless Fanboi Posted ID:uxs+EJjZ.

เสื่อมวัยใส! เลียนท่า “ฟีเจอริ่ง” ผู้ใหญ่อึ้ง!!
http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9600000052873

345 Nameless Fanboi Posted ID:uxs+EJjZ.

กูชอบที่เขาดึงคอมเมนต์ออกมา

“ช่องฟรีทีวี เดี๋ยวนี้มีละคร ชายรักชาย ดูดปากแลกลิ้นกันดูดดื่ม แล้วเรตติ้งดีด้วย ไม่แปลกทำไมเดี๋ยวนี้เรื่องแบบนี้ถึงน่ากลัวกับคนใกล้ตัวขึ้นเรื่อยๆ เพราะสื่อเลือกที่จะนำเสนอแลกกับเรตติ้งและเงิน”

“เด็กเหมือนผ้าขาวค่ะ เด็กจะเป็นยังไงขึ้นอยู่ที่ครอบครัวเป็นหลักค่ะ แต้มสีอะไรให้เขา เขาก็จะรับสีนั้นๆ อย่าโทษสังคมเลยค่ะ ต้องถามครอบครัวว่าเลี้ยงเด็ก-ปลูกฝังเด็กแบบไหน อบรมสั่งสอนน้องๆ อย่างไร”

“เทคโนโลยีพัฒนาขึ้น สวนทางกับจิตใจ เด็กก็โตไวเกิน อยากรู้อยากเห็นเร็วขึ้นทุกวันๆ ใครจะไปคิดว่ามันเร็วขนาดนี้”

“ผมคิดคนละด้าน ดีซะอีกว่ามันมีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ ผมจะเอาไปอบรมลูกหลาน เอาไปชี้ผิด-ชี้ถูก สั่งสอนเด็กมันว่าไม่ดี นี่คือเรื่องที่ผู้ปกครองคาดไม่ถึง”

ที่สุดก็ครอบครัวนั่นแหละ จะมีเวลาสั่งสอนเรื่องดีๆให้เข้าใจได้มั้ย

346 Nameless Fanboi Posted ID:NAAx09IGc

สนใจคำว่า 'ครอบครัว' ว่ะ ทำไมต้องมีคำว่า 'ครอบ' หน้าคำว่า 'ครัว' วะ

347 Nameless Fanboi Posted ID:qbobTC62V

>>346 ที่บ้านมึงไม่มีห้องครัวเรอะ

348 Nameless Fanboi Posted ID:+se0mzMs0

8 ตอนแล้ว สับได้แล้วมึง
https://writer.dek-d.com/Artcyber/story/view.php?id=1620743

349 Nameless Fanboi Posted ID:mFL/AJ1/e

>>347 เฮ้ย...มีสิๆ แต่ว่า แล้วบนหัวมึงมีอะไร 'ครอบ' ไว้หรือเปล่า?

350 Nameless Fanboi Posted ID:uqooN721v

>>346 เพราะครัวเป็นแหล่งอาหารซึ่งคนไทยให้ความสำคัญ เลยครอบครัวเอาไว้หมายถึงเอาคนมาครอบครัวมุงกันกินอาหารหรือเปล่าวะ? พอเอาคนมามุงกินอาหารรวมกันก็เข้าใจว่าพวกเขาเป็นครอบครัวกัน อะไรแบบนั้น กูเดามั่ว

351 Nameless Fanboi Posted ID:N8cfSi8Ly

ครอบครัว หมาถึง กลุ่มบุคคลอันเป็นองค์ประกอบให้เกิดเป็นครัวเรือนหนึ่งๆ (หน่วยเล็กที่สุดคือพ่อ, แม่, และลูก หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ครอบครัวเดี่ยว")

คือถ้าให้กูเดาดู มันอาจหมายถึงกลุ่มผู้(ครอบ)ครอง(ครัว)เรือนนั้น ซึ่งก็หมายถึงคนในบ้านั่นแหล่ะ และถ้าอยู่ในบ้านกันหลายรุ่น หลายชั่วอายุคน ก็อาจเรียกได้ว่าเป็น "ครอบครัวใหญ่" หรือ "ครอบครัวขยาย"

352 Nameless Fanboi Posted ID:Gu6rD6.k6

แม่งเอ้ยเงี่ยน

ลงชื่อ เซฮุน ผู้เก่งชักว่าว

353 Nameless Fanboi Posted ID:Xv8xk4zP6

เงียบสาดดด

354 Nameless Fanboi Posted ID:yY5LJvP5k

>>352 ไม่เก่งว่ะ จับสองมือลำบาก

ลงชื่อ เซฮุน ลื่นปรืดลื่นปรืด

355 Nameless Fanboi Posted ID:Xv8xk4zP6

>>352 >>354 ทำไมชอบคอสเป็นกูกันจังวะ

356 Nameless Fanboi Posted ID:yY5LJvP5k

>>355 ฮ่าๆ เออๆ มีอัพเลเวล

357 Nameless Fanboi Posted ID:+IKPzFN1C

1 เดือนผ่านไป ไม่มีคนสับนิยาย

358 Nameless Fanboi Posted ID:4VgfRaC.D

>>357 สับแล้วไม่ได้เงิน

359 Nameless Fanboi Posted ID:f9OX/BSK1

>>2 อยากสับตั้งนานละวิจัยกุกองท่วมหัว55555 เพิ่งปั่นเสร็จเลยมาหาอ่านดู เรื่องถัดๆ ไปฝากใครก็ได้สับทีกุโปรเจ็กงอกฟร่ะ สองเรื่องแรกปลิวละคนับ เริ่มจากเรื่องนี้นะ
ชื่อเรื่อง: destinycyber สายลับ รัตติกาลสีเลือด
ลิงค์: https://writer.dek-d.com/Malisza/story/view.php?id=1498891
เนื้อเรื่อง: เปิดปุ๊บเจอร่ายตัวละครยาวๆ กุเลื่อนผ่าน ขี้เกียจอ่านไม่ค่อยชอบให้มีแนะนำตัวละครเท่าไหร่ ฝากเตือนไปถึงพวกหัดเขียนด้วยนะ ไม่จำเป็นต้องมีบอกข้อมูลตัวละครในหน้าแรก จริงๆ คือมันรกมาก คนอ่านอย่างพวกกู (หรืออาจเป็นกูคนเดียวก็ได้) ชอบอ่านและศึกษานิสัยตัวละครในเนื้อเรื่องมากว่า ถ้าเป็นกลุ่มเด็กๆ อันนี้มันก็โอเค

เปิดมาด้วยการบอกว่าตัวเอกเป็นหญิงเบียวๆ เพอร์เฟ็กต์ทุกตารางนิ้ว ซึ่งทำงานในองค์กรลับ ประกอบอิโมติค่อนและสำนวนทาง จส. ออกแนวมุ้งมิ้งตะมุตะมิ๊มากจนดูเป็นนิยายรักมากกว่าแฟนตาซี ที่น่าขัดใจอีกอย่างคือ ร่างสูง ร่างบาง ร่างหนา ไรเทือกนี้ สรรพนามพวกนี้เป็นไปได้ควรเลี่ยงมากที่สุด ถามว่าใส่ได้ไหม ในความคิดกูนะ ได้ แต่...! ต้องน้อยมากๆ มันจะได้ไม่ขัดอารมณ์ เห็นสรรพนามแบบนี้ทีไรนึกปวดหมองทุกที แบบอื่นมีเยอะแยะให้เรียกก็ไม่เรียก

ส่วนเรื่องการบรรยายไม่ค่อยเน้นเรื่องฉากเคลื่อนไหว กูหมายถึงการพรรณาให้นักอ่านมีจินตนาการร่วม อันนี้ใส่แต่เสียงเอ็ฟเฟ็กต์กับบรรยายพอให้รู้ว่าตัวละครทำไรนิดหน่อย ทำให้มองการกระทำตัวละครไม่ชัดเจน คนอ่านเขาไม่รู้หรอกว่าตัวละครในฉากนั้นทำไร คำแนะนำคือคนเขียนอ่ะ ต้องมองภาพในฉากที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน และเลือกโฟกัสจุดที่ตัวละครทำให้ออก ก่อนค่อยๆ บรรยายให้ตัวละครมีความเคลื่อนไหว

มาประเด็นความไม่สมจริงของเรื่อง กูไม่ซีนะเรื่องอายุหรืออะไร แต่...! อย่างน้อยที่สุดคือมึงต้องอิงความเป็นจริงผนวกเข้ากับแฟนตาซีเว้ย คือเรื่องนี้ตัวเอกและพวกพ้องจะไปชิงตัวประกันคืน ตัวเอกสวมแว่นมองเลเซอร์ตรวจจับและมุดเข้าไปที่คอมควบคุม แต่คอมควบคุมมันไม่มีรหัสห่านเหว หรือยามมานั่งเฝ้า ชิบหายนะถ้าเป็นเรื่องจริง อย่างน้อยสิ่งสำคัญมากๆ อย่างคอมคอยควบคุมวงจรห้องขัง มันต้องมีคนนั่งเฝ้าไม่ต่ำกว่าสอง คนรักษาความปลอดภัยในระดับนึงว่ะ ตรงนี้ถือเป็นจุดบอดของเรื่องได้

และอีกเรื่องคือ การเอาสถานที่จริงมาใช้ประกอบนิยาย รู้ไหมว่าแม่งเสี่ยงต่อการโดนฟ้องนะ นักเขียนส่วนใหญ่กุไม่ปฏิเสธว่าเอาพื้นที่จริงมาเขียน แต่สมมติให้เป็นอีกชื่อ ปรับเปลี่ยนพื้นที่เล็กน้อย หรือเอาพื้นที่นั้นมาเป็นต้นแบบ เพื่อกันตัวเองจากความเสี่ยงนี้ เพราะงั้นพวกหน้าใหม่ที่จะเขียนนิยาย ควรรู้ไว้นะว่าไม่ควร
สรุปเลย ----- นิยายเรื่องนี้เพิ่งหัดเขียน สำนวนคล้ายนิยายรักวัยรุ่นมากกว่าแฟนตาซี แท็กที่ว่าโหดเลือดสาดหรือไรนั่นอ่านก็เฉยๆ งั้นๆ ถ้าจัดเรทคงสัก 12+ เนื้อเรื่องไม่ได้น่าดึงดูดใจเท่าไหร่ ต้องฝึกเขียนอีกเยอะ เวลการบินยังน้อยคนับ

คะแนน 4/10

360 Nameless Fanboi Posted ID:f9OX/BSK1

>>359 ใครมีไรอยากเสริมเพิ่มเติมได้นะ หรือจุดที่ไม่เห็นด้วย หรืออยากแนะนำไรเพิ่มเติมเขียนได้เลย เรื่องต่อไปใครก็ได้วิจารณ์ที กุติดโปรเจ็กต์อ่ะ กลัวไม่มีเวลา

361 Nameless Fanboi Posted ID:fKiV9Vc9B

โห่ ใช้สถานที่ของญี่ปุ่นซะด้วย ท่าจะมั่นมาก นี่กูก็ตั้งใจจะเขียนเรื่องยาวอยู่แต่ตัดสินใจเรื่องเซ็ตติ้งบำบากจนจะสร้างประเทศสมมติแล้วเนี่ย 555

362 Nameless Fanboi Posted ID:+IKPzFN1C

>>359 กูไม่เข้าใจอย่างเดียว ทำไมต้องแปะรูปด้วย ตัวเอกเป็นสาวดุ้นจริงๆรึเปล่า

363 Nameless Fanboi Posted ID:fKiV9Vc9B

>>362 จะได้ไม่ต้องบรรยายไง แบบเอ้า หน้าตางี้ๆนะ จบ

364 Nameless Fanboi Posted ID:f9OX/BSK1

>>361 กูล่ะโคตรเสียวเลยชิบหาย โดนฟ้องมานะไม่อยากคิด
>>362 สำหรับกูเรียกมักง่าย ไม่เขียนอธิบายด้วยตัวเอง พึ่งแต่รูปจากเน็ตที่ถูกใจมันก็ไม่ใช่ ซึ่งนักเขียนใหม่ๆ ส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้แม่งเป็นงี้กัน

365 Nameless Fanboi Posted ID:+IKPzFN1C

>>363 >>364 กูเข้าใจว่าชอบขี้เกียจ แต่คนเขียนรู้ตัวรึเปล่าว่ารูปมันสาวดุ้น

366 Nameless Fanboi Posted ID:f9OX/BSK1

>>2 ตอนแรกกูว่าจะต่ออีกเรื่อง พอเปิดเจอเรื่องต่อไป กูบายเลยคนับ ถึงจะต่างโลก แต่เปิดเรื่องด้วยสงคราม พอดีความรู้เรื่องพวกนี้ไม่ค่อยแจ่ม กลัวสับไปละฝีมือสับไม่ถึงพอเลยขอผ่านเรื่องนี้นะ

367 Nameless Fanboi Posted ID:f9OX/BSK1

>>365 ท่าจะไม่รู้ กูเดานะ55555

368 Nameless Fanboi Posted ID:+IKPzFN1C

เอาเหอะ ถึงเป็นสาวดุ้นก็ดีกว่านายเอกฟิควายเด็กดีที่ผ่านมา รำคาญนายเอกที่ทำตัวปัญญาอ่อนเกินวัย

369 Nameless Fanboi Posted ID:vpYHrcqTC

>>366 ถ้าไม่ไหว งั้นกรูขอจองสับเรื่องนี้ https://writer.dek-d.com/kittikan111/story/view.php?id=1430201 ไว้ก็แล้วกัน กำลังอ่านอยู่

370 Nameless Fanboi Posted ID:X8e/uL/D2

สอบเสร็จแล้วแม่งว่างชิบหาย จะไปอ่านเต็มๆแม่งก็ปวดหัว รอพวกมึงสับนี่ละสนุกดี
หรือกูจะไปเขียนเองดีวะ

371 Nameless Fanboi Posted ID:f9OX/BSK1

>>369 รับแซ่บคนับเพื่อน

372 Nameless Fanboi Posted ID:ecY4FOtbN

>>366 ไม่ถนัดก็ข้ามได้เลย ถนัดแนวไหนก็จัดไป
>>369 โอเค จองแล้วกลับมาส่งสับด้วย เพื่อนๆ รออยู่

ตอนส่งสับ อย่าลืมชื่อเรื่องกับลิ้งค์เรื่อง เวลาตั้งกระทู้ใหม่กูจะได้ไม่ต้องลำบากมาคอยรูดดูทีละโพส

ขอบคุณล่วงหน้า

373 Nameless Fanboi Posted ID:+IKPzFN1C

ky มู้ถามแบบนี้ไม่ต้องตอบแล้ว สับแม่งเลยดีมั้ย
https://www.dek-d.com/board/view/3763482/

374 Nameless Fanboi Posted ID:f9OX/BSK1

>>373 ไล่ให้ไปเรียนภาษาไทยใหม่ก่อน คำง่ายๆ ก็เขียนผิด กูนี่เคลียดเลย
>>370 ลองเขียนละเอามาแปะดูก็ได้นะ

375 Nameless Fanboi Posted ID:vpYHrcqTC

ลองสับเป็นครั้งแรกในโม่งสักหน่อย

ชื่อเรื่อง: กองทัพแห่งความมืดของไรซ์ที่ 4

ลิงค์: https://my.dek-d.com/kittikan111/writer/view.php?id=1430201

เรื่องย่อโดย: หน่วยทหารเยอรมันยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ข้ามมิติไปโลกแฟนตาซีที่มนุษย์ถูกเผ่าพันธ์แฟนตาซีอื่น ๆ ล้างบางไปหมดแล้ว เลยตัดสินใจที่จะฟื้นฟูเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้กลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง คาดว่าน่าจะมีฮาเร็ม

จำนวนตอนที่อ่าน: 5 ตอน จาก 16 ตอน

สับแบบบทสรุปผู้บริหาร: นิยายแนวไลท์โนเวลข้ามมิติสูตรสำเร็จ คนเขียนยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการเขียนนัก บทพูดกับบทบรรยายแข็งโป๊ก ซาวด์เอ็ฟเฟครัว ๆ เป็นนิยายแนวสนองนีทพวกคลั่งอาวุธสมัยสงครามโลก

สับในภาพรวม: หลายคนอาจจะยี๊กับพล็อตสำเร็จรูป แต่อย่าลืมว่าการที่มันกลายเป็นพล็อตสำเร็จรูปได้ แสดงว่ามันต้องเป็นพล็อตยอดนิยมที่แต่งแล้วคนอ่านชอบ ถึงได้มีการผลิตซ้ำไปซ้ำมาจำกลายเป็นพล็อตสำเร็จรูป พูดง่าย ๆ คือมันเวิร์คนั่นล่ะ สำหรับเรื่องนี้ก็พล็อตตามสมัยนิยม แนวกองกำลังสมัยใหม่ (หรือเทคโนโลยีดีกว่า) ของโลกเราไปโชว์เมพในโลกแฟนตาซี ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ปัญหาคือ... เรื่องนี้ดันเขียนออกมาแล้วไม่ได้รู้สึกว่าน่าติดตามน่ะสิ อ่านแล้วรู้เลยว่าคนเขียนยังมีประสบการณ์การอ่านนิยายไม่ค่อยเยอะ ส่วนใหญ่น่าจะดูแต่เมะกับอ่านไลท์โนเวลเสียเป็นส่วนใหญ่ อ้อ เป็นพวกสายโอตะมิลิทารี่ด้วย เลยติดกับดักของพวกมือใหม่ที่อยากเขียนแนวสงครามแบบเห็นได้ชัด (ซึ่งกรูก็เป็น) เดี๋ยวจะไปอธิบายเพิ่มในส่วนสับรายละเอียดทีหลัง

บทสนทนา: จุดอ่อนหลักของเรื่องนี้คือบทสนทนาแม่งแข็งโคตรพ่อโคตรแม่ อย่างกับคนเขียนจับบทเรียงความยัดปากตัวละคร คือมันไม่เป็นธรรมชาติอ่ะ ไม่ได้รู้สึกว่าตัวละครมีตัวตนจากบทพูดเลย แถมการใช้คำศัพท์เยอรมันแซม ๆ ตลอดเรื่อง อย่าง “Jawolh Oberst” (แปลว่ารับแซ่บ ผู้พัน) หรือคำเยอรมันอื่นที่กรูขี้เกียจลอกมา แม่งไม่เวิร์คว่ะ ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเป็นพวกทหารเยอรมันมากขึ้นเลยสักนิด (แม่งดู Girls und Panzer ซับอิงของคอมมี่มากไปเป่าวะ) คือไม่ใช่ว่าการแทรกคำศัพท์ของแต่ละชาติไปจะไม่เวิร์คทุกกรณีนะ แต่สำหรับเรื่องนี้ มันไม่ต้องสร้างอัตลักษณ์ว่า เออ พวกนี้มันเยอรมันจริง ๆ นะผ่านภาษาเยอรมันหรอก กรูอ่านเรื่อง All Quiet in Western Front แบบแปลไทย ไม่ต้องมีศัพท์เยอรมันแทรกก็ก็ยังรู้สึกว่าแม่งเป็นทหารเยอรมันจริง ๆ แล้วเรื่องนี้ดันโผล่มาบ่อยด้วยว่ะ อ่านแล้วรำคาญฉิบ

มีต่อ

376 Nameless Fanboi Posted ID:vpYHrcqTC

ต่อ...

การบรรยาย: กับดักแรกสุดของพวกบ้าทหารมือใหม่แล้วหัดเขียนนิยาย คือ การยัดรุ่นของปืน รถถัง เครื่องบิน ในนิยายแทบทุกฉากนี่ล่ะ เยอะไปเฟ้ย ทั้ง B-17 Super fortress รถถังแพนเทอร์ ไทเกอร์ แพนเซอร์ 4 แมร่งใส่มาแต่ชื่อโดด ๆ ถ้าเมิงไมใช่พวกชอบอุปกรณ์ทหารเมิงจะรู้ไหมว่าเจ้า B-17 มันเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดใบพัดสี่เครื่องยนตร์ของสหรัฐฯ จะรู้ไหมว่ารถถังแพนเธอร์กับแพนเซอร์ 4 มันคนละรุ่นกัน ขนาดกรูนึกออกว่าอาวุธพวกนี้หน้าตาเป็นยังไง กรูยังรู้สึกว่ามันมากไปเลย อย่างกับจะสนองนีทความอยากพูดถึงอาวุธเยอะ ๆ (ซึ่งกรูคิดว่าคงสนองนีทคนเขียนจริง) ซึ่งมันไม่ผิดหรอก แต่มันมีวิธีนำเสนอที่ดีกว่านี้ ลองไปอ่านไลท์โนเวลที่เป็นสปินออฟของ Sword Art Online ที่คนเขียนเรื่องคิโนะเขียนก็ได้ (เรื่อง Gun Gale Online มั้ง) เรื่องนั้นกรูว่าเป็นนิยายที่เขียนสนองนีทพวกบ้าปืนบ้าอาวุธได้เพลินดี

ต่อมา รายละเอียดหลาย ๆ อย่างแม่งก็แทบไม่อธิบายเลย อย่างตอนเจอคุณยาย “เผ่าบีสต์” ตอนที่สำรวจโลกแฟนตาซีครั้งแรก แมร่งก็บรรยายแค่มีหูโผล่มา... คือหูไรฟระ หูหมา ? หูลา ? หูกระต่าย ? แถมบทบรรยายก็แข็งโป๊ก... จริง ๆ แล้วบทบรรยายกับบทพูดแทบจะสำนวนเดียวกันเลย แค่บทสนทนามีเครื่องหมาย “...” เท่านั้นล่ะ

สุดท้ายก็เรื่องซาวด์เอฟเฟค กรูเป็นกลุ่มที่ไม่ได้ต่อต้านการใช้ซาวด์เอฟเฟคนะ ถ้าใช้ถูกจังวะมันก็ช่วยเสริมมู้ดเสริมอารมณ์ได้ แต่เรื่องนี้ยังติดพวก ครื้นนนนน ฟิ้ววววววว ปัง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบติดกัน จนหมดอารมณ์ฉากที่สงครามมันควรจะแกรนด์ไปเลย

รายละเอียดอื่น ๆ : หลายจุดกรูว่าคนเขียนรีบไปว่ะ ก็เข้าใจล่ะว่าอยากเข้าเรื่องไว ๆ แต่ช่วยกรุณาบิวท์อารณ์ให้มันอินกว่านี้หน่อยได้ไหม หลายจุดก็ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผล (ตามที่กรูอ่านแบบเร็ว ๆ นะ ผิดตรงไหนก็ขออภัยด้วย) อย่างเช่น

1. ตอนแรกกรูนึกว่ากองกำลังพวกตัวเอกไม่ใหญ่มาก เครื่องบินฝ่ายพันธมิตรเลยถล่มพวก SS ที่ไล่ตามด็อกเตอร์มาแทน แต่พอตอนหลังแม่ง 200 คน มีรถถังเกือบสิบคัน คือ... ถ้าด็อกเตอร์หนึ่งคนหนีจากเบอร์ลินตอนที่กำลังโดนทั้งพวกแยงกี้กับโซเวียตรุมจากสองข้าง เมิงคงไม่ส่งคนออกมาตามหาทั้งกองทัพหรอก ดังนั้น กรูว่าพวกที่น่าจะโดนเครื่องบินฝ่ายสหรัฐฯ เจอน่าจะเป็นพวกพระเอกมากกว่านะ

2. พวกพระเอกดูจะเชื่อคุณยายเผ่าบีสต์ที่เพิ่งเจอง่ายไปหน่อยว่ะ แม่งฟังคนต่างโลกแปลกหน้าเล่าทีเดียวก็เชื่อทุกอย่างเลย (แต่เรื่องอาจจะเฉลยทีหลังก็ได้มั้งว่าพระเอกโดนสะกดจิตให้เชื่อ)

3. ตอนที่รู้ว่าอยู่ในโลกแปลกถิ่น สิ่งแรก ๆ ที่ทหารเขาจะทำไม่ใช่มาฝึกซ้อมเดินแถวกันหรอกนะ ไม่คิดจะสร้างแนวป้องกัน ขุดหลุม ขุดสนามเพลาะ วางกับระเบิดรอบหมู่บ้านหน่อยเรอะ หมู่บ้านใหญ่ขนาดนั้นอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาพอสมควรในการวางแนวป้องกันหน่อยล่ะ (แต่ดันมีเวลาติดเครื่องขยายเสียงรอบหมู่บ้าน เอาเข้าสิ)

4. ทหารปลุกใจง่ายจังวุ้ย แป๊บ ๆ ก็จะลุยกู้โลกแฟนตาซีกันแล้ว ไม่คิดถึงบ้านเกิดตัวเองหน่อยเรอะ

คำผิด/จัดหน้า: มีบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้กวนใจเวลาอ่านอะไรนัก การจัดหน้าก็โอเค อ่านง่ายดี

ก็ประมาณนี้ล่ะ ถ้าคนเขียนมาอ่านเจอก็อย่าเพิ่งเสียกำลังใจนะ เขียนสนองนีทตัวเองน่ะไม่ผิดหรอก แต่มันมีวิธีเขียนสนองนีทตัวเองที่คนอื่นอ่านไปด้วยก็สนุกได้เหมือนกัน ฝึกฝนให้มาก ๆ ลองอ่านอย่างอื่นดู ลองไปคุยกับคนอื่นเยอะ ๆ เปิดโลกทัศน์ให้มาก ๆ เดี๋ยวฝีมือก็พัฒนาเองล่ะ กรูเชื่อว่าเรื่องนี้มันคงมีดีล่ะ ไม่งั้นคอมเม้นต์คงไม่เยอะขนาดนี้หรอก (เยอะกว่าเรื่องที่กรูแต่งอีก) เพียงแต่ว่าช่วงแรกมันยังไม่ดึงดูดให้กรูอ่านถึงจุดที่เรื่องนี้อยากขายสักเท่าไหร่ เอาเป็นว่าสู้ ๆ นะ

ปล. เมื่อไหร่จะมีคนสับเรื่องกรูบ้างวะ

377 Nameless Fanboi Posted ID:68in18f.d

>>375 กูถูกใจคห 1628 จริงๆ แสดงให้เห็นคุณภาพของคนเขียนรายนี้จริงๆ

ไรร์ ถ้าเห็นเม้นผมโปรดอ่านแล้วเอากลับไปคิดด้วยนะครับ

ผมอยากถามว่าทำไม่ผู้หญิงที่เป็นฮาเร็มของวิลเลียมมันติดวิลเลียมง่ายจัง เช่น 2สาวจิ้งจอกมันไม่มีเหตุการอะไรที่ต้องมาติดวิลเลียมเลยซักนิด อย่างเนื้อเรื่องก่อนที่ไรร์ลบไปนะ อินาริโดนวิลเลียมจูบเลยจนใจในตัววิลเลียม นากเอกเผ่าสิงโตทำไมถึงติดวิลเลียมง่าย เนื้อเรื่องก่อน สิงโตน้อยเรามีให้วิลเลียมหน่อยๆ และเริ่มรู้จักกันขึ้นเรือยๆ ไม่ใช้มาติดแจตั้งแต่เจอหน้าแบบนี้ ถ้ามันติดกันง่ายแบบนี้ผมคงไม่เป็นโสดมาถึงทุกวันนี้หรอก

378 Nameless Fanboi Posted ID:cTQV4RTKw

>>377 กรุยังอ่านไม่ถึงตอนที่มันจะฮาเร็มเลย - -"

379 Nameless Fanboi Posted ID:68in18f.d

>>378 อ้าว โทษที

380 Nameless Fanboi Posted ID:2302LQQY+

>>379 เปล่าๆ ไม่ได้หมายความว่าโดนสปอยล์ กรุหมายถึงว่ากรุหยุดอ่านก่อนถึงตอนฮาเร็ม เลยไม่ได้สับจุดนั้น เดี๋ยวลองอ่านเพิ่มดีกว่าว่าเป็นอย่างที่เขาว่ามาไหม (กรุว่างจุงวุ้ย)

381 Nameless Fanboi Posted ID:aS1HbYkj8

>>380 ขอบใจมึงมาก สับละเอียดดี มีบทวิเคราะห์มากกว่าแค่ด่าส่งๆ หรือจับผิดเรื่องหยุมหยิม สับแบบนี้แหล่ะจะช่วยให้คนอ่านเรียนรู้ได้มากขึ้น สู้ต่อไปโม่ง

382 Nameless Fanboi Posted ID:H62eEPz1O

เพื่อนโม่งคิดว่า ถ้าคนเขียนเพชรพระอุมาเริ่มเขียนช่วงสำนักพิมพ์แห่พิมพ์ขยะวรรณกรรม เขาจะขายออก จนโด่งดั่งแบบนี้ไหม

383 Nameless Fanboi Posted ID:X2i8.wAtN

>>382 ใครตอบของมัน ก็ตอบสามอันนี้ด้วยนะ

ถ้านาซีชนะสงคราม ถ้าญี่ปุ่นชนะอเมริกา ถ้าพม่าแพ้ไทย

384 Nameless Fanboi Posted ID:qxq1pRuCt

>>382 การดำเนินเรื่องมันตกสมัยไปแล้ว ไม่น่าจะขายดี
>>383 นาซีชนะสงครามเป็นไปได้ แต่คงไม่ถึงขั้นครองโลก อาจมีสัญญาสงบศึกให้นาซีครองภาคพื้นยุโรปเป็นส่วนใหญ่ ลัทธิคอมมิวนิสต์ล่มสลาย จีนจะไม่ใช่จีนแบบในทุกวันนี้

ส่วนญี่ปุ่นไม่มีทางชนะอเมริกา ยังไงๆ แม่งก็ไม่ชนะ ที่แม่งดูเหมือนเทพมายึดครองอะไรแถบนี้ได้ เพราะถ้าไปศึกษาประวัติศาสตร์ดีๆ จะพบว่าสัมพันธมิตรแม่งไปเอาจริงกับภาคพื้นยุโรปมากกว่า ฝั่งเอเชียเหมือนปล่อยๆ ไว้ให้ญี่ปุ่นบุก ยันได้ก็ยัน ยันไม่ได้ก็ถอยๆกลับมาอุดๆไว้แถบอินเดีย พอนาซีพัง ญี่ปุ่นก็โดนรุมยำตามฟอร์ม ถ้าจะถามแบบนี้ก็ควรถามว่า ถ้าญี่ปุ่นไม่ทำสงครามกับอเมริกา แต่ไปหาน้ำมันในแมนจูเรีย จะเกิดอะไรขึ้น ดีกว่าไหม

ส่วนพม่าแพ้ไทยนี่พม่าไหนล่ะ พม่าคองบอง? แล้วแพ้แบบไหน แพ้แบบโดนกลืนชาติ หรือแพ้แบบเป็นเมืองขึ้น?

385 Nameless Fanboi Posted ID:CKZ6vN.Qd

งั้นก็แปลว่า สุดท้ายก็ต้องแต่งตามกระแสสินะ ต่อให้เขียนดีขนาดไหนก็ไม่มีประโยชน์ น่าสงสารนักเขียนดีๆว่ะ

386 Nameless Fanboi Posted ID:V4QRx7ZGh

เด็กดีจะยอมรับได้รึเปล่าว่านิยายที่แต่งตามกระแสเป็นขยะวรรณกรรม บางคนมองว่าเป็นนิยายสวยงาม แต่ดูแล้วไม่ได้งดงามไปกว่านิยายระดับเดียวกับเพชนพระอุมาหรือทมยันตี

387 Nameless Fanboi Posted ID:+nkK8tBKu

>>382 เรื่องนี้เปลี่ยนปก ตีพิมพ์มาเท่าไรแล้ว
ตอนนี้ก็ยังขายได้อยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นก็ยังโด่งดังมีคนอ่านอยู่ แม้แต่ตอนนี้เด็กรุ่นใหม่ที่ได้อ่านก็ยังติดตาม

>>382 เด็กดี คนแต่งทั่วไปรู้ดีว่าเป็นคนเขียนมือสมัครที่ลองแต่งขึ้นมาอยู่แล้วนี่หว่า จะไปเทียบกับคนมีผลงานตีพิมพ์ มันคนล่ะเรื่องเลย
แล้วไป้คำพูดว่าขยะนี่ ถ้าคนที่มีจิตใจคิดแบบนี้ กูว่าในใจก็มืดบอดไม่ต่างกัน
กระทั่งไม่รู้ว่า คนเขียนเขาอยากสื่อถึงอะไร เช่น ความบันเทิง ความสนุก ความฮาไร้สาระ นี่คือส่วนหนึ่งของชีวิตวะเพื่อนโม่ง คนที่ไม่มีคนคิดทางนี้ ก็มะเร็งแดกอารมณ์ หรือกลายเป็นพวกวัยทองที่ไม่มีความสุขกับชีวิต
เขาเขียนไม่ได้หวังจะไปประกวดเอารางวัลอะไรที่ไหนนี่หว่า
จุดหมายคือแต่งให้คนเข้ามาอ่าน หรือได้ตีพิมพ์ มีเงินใช้จ่ายในชีวิตบ้าง
ปล.คำว่าขยะนี่ คนพูดก้ไม่พ้นคำนี่เช่นกัน ที่ไม่เปิดใจ เข้าความบันเทิงเข้าตัว คงต้องไปเสพของที่มีแต่รางวัลการันตีนั่นแหละ ไม่น่าเข้าไปคลุกคลีอะไรในเด็ดกีที่เน้นความบันเทิงของจิตใจ

388 Nameless Fanboi Posted ID:Y3gtiZzyG

>>384 ทำไมจะขายไม่ได้ คิดกลับกันสิ ในเมื่อตลาดมีแต่ขยะ ของดีก็ต้องโ่งดังเป็นธรรมดา อย่างแฮรี่ที่ถือว่าธรรมดา แต่มาในตอนที่ไม่มีอะใหม่ๆ มาในตลาด เลยดังเป็นพลุแตก

แต่มาสมัยนี้ผู้กองอาจจะไปต่างโลกแทนพม่าก็ได้

>>387 ต่อให้คิดแค่เรื่องความบันเทิง มึงก็ควรยอมรับข้อหนึ่งนะว่านิยายหลายเรื่องในเด็กดีเข้าขั้นขยะ ลองดูที่เอามาสับก็ได้ แค่ภาษาไทยยังตกเลย

389 Nameless Fanboi Posted ID:9wUErx22G

>>387 ที่มันเปลี่ยนปก ขายได้เรื่อยๆ เนี่ยเป็นเพราะบุญเก่าว่ะ คือมันเคยดังมากๆในอดีต จัดเป็นไทยคลาสสิก เลยทำให้พอที่จะมีคนอ่านใหม่ๆบ้าง

เหมือนกับคู่กรรม สี่แผ่นดิน บารามอสนั่นล่ะ ขายได้เรื่อยๆจากบุญเก่า และชื่อเสียงที่สั่งสมมา

390 Nameless Fanboi Posted ID:B8/VRpUDS

นิยามคำว่านิยายขยะใหกุเข้าใจหน่อยซิวะ

391 Nameless Fanboi Posted ID:9wUErx22G

>>390 ภาษาแย่ + ไม่รู้ว่าจะสื่ออะไร เหมือนเขียนสนองตัณหาเอามันเฉยๆ ไม่มีหลักหรือแก่นสารอะไร

392 Nameless Fanboi Posted ID:H2fHPx0Rl

>>390 ถ้าพูดถึงนิยายคือของดอกป๊อป ปากกาดำแดง สแตมเบอรี่

ถ้าพูดถึงนิยามคือ ภาษาห่วย เนื้อเรื่องห่วย ตรรกะในเรื่องห่วย ห่วยจนมึงทนอ่านไม่ได้นั่นละ

393 Nameless Fanboi Posted ID:r/ZDklHCG

>>390 นิยายที่มึงอ่านไปได้ไม่ถึงหน้าก็อยากปิดทิ้ง เจอข้อผิดพลาดโง่ๆ ติดกันเต็มไปหมดตลอดหนึ่งหน้านั้น เนื้อเรื่องกาก เดินเรื่องห่วย บทสนทนาไม่เป็นธรรมชาติ ตรรกะวิบัติ กาลเทศะตัวละครเพี้ยน คำผิด คำซ้ำ ภาษาสก๊อย อิโมติค่อน เพลงอัตโนมัติ(แบบหาที่ปิดไม่ได้ด้วย) ฉากเด้ายัดเยียดและมีเยอะเกินไป คิดว่าการฆ่าคนได้มันดูเท่แถมช่วยให้นิยายดูดาร์ค อัพหลอกทุกวันแต่เนื้อเรื่องเท่าเดิม ฯลฯ

ถ้านิยายเรื่องไหนมีอันที่กูบอกเกิน 1 ใน 3 มันคือขยะในสายตากู

394 Nameless Fanboi Posted ID:V4QRx7ZGh

นี่ถือว่าขยะได้ป่าว
http://m.exteen.com/blog/alin-zaffiroblu/20111103/entry

395 Nameless Fanboi Posted ID:X2i8.wAtN

นิยายขยะคืออะไรก็ตาม ก็ดีกว่านิยายที่ดองไว้ไม่มีวันเขียนจบ

396 Nameless Fanboi Posted ID:H2fHPx0Rl

>>395 เขียนแล้วไม่ได้เงินใครจะเขียน

397 Nameless Fanboi Posted ID:fNB1rzYc2

>>395 ขยะล้นเมืองล้นโลกดีกว่าไม่มีอะไรให้เสพว่างั้นเหอะ นานๆเข้าเด๋วก้อชิน เป็นกูยอมอดตายรออ่านนิยายดีๆที่ชาตินึงอัพทีว่ะ

398 Nameless Fanboi Posted ID:T/i0KY/cy

คนมืดบอด ไม่เปิดใจ ก็เยอะพอกันวะ
ปากดูถูกคนอื่น แต่ไม่เคยเขียนอะไรออกมา ก็นะ จิตใจต่ำค่า ก็ทำตัวต่ำต่อไป

399 Nameless Fanboi Posted ID:X2i8.wAtN

>>396 ก็มีเยอะแยะ
>>397 ก็คนที่ไม่คิดอะไรเลยมีเยอะไง

400 Nameless Fanboi Posted ID:H2fHPx0Rl

>>398 ตรรกะวิบัติอีกแล้ว

>>399 ก็เรื่องของความสมัครใจอยู่ดี อยากเขียนก็เขียน ไม่อยากเขียนก็ไม่เขียน ไปบังคับเขาแล้วให้เงินเขาปะละ

401 Nameless Fanboi Posted ID:X2i8.wAtN

ดอกปอบ แตมหรี่ กากดำแดง มันเหมือนดนตรีกระแสอ่ะพวกมึง พวกฟังง่าย ไม่มีสาระ ฟังๆไป ขายๆไป

ไอ้เพชรพระอุมาก็ใช่ว่าเป็น master piece ดนตรีคลาสสิกซะเมื่อไหร่

ขยะมัน subjective ว่ะ เราคนครีเอตงาน แม่งให้เกียรติผู้บริโภคหน่อยก็ดีนะ มางอแงทำไมวะ กูวงมากๆ

คือพวกมึงเอาจิตใจที่เกลียดขยะไปรีไซเคิลมันดีกว่าไหมวะ การติดป้ายด่า ห้ามทิ้ง ทิ้งแล้วปรับแม่งไม่ช่วยอะไรเลย เพราะประชาชนผู้บริโภคเขาคุณภาพนี้กัน

ถ้าผู้บริโภคทุกคนเรียนวรรณกรรมกันหมด เขาก็แยกออกเองนะว่าอะไรเน่าอะไรดี แต่ที่นี่บราซิลไง วางๆกันซะมั่งเหอะวะ

402 Nameless Fanboi Posted ID:9wUErx22G

ไลท์โนเวลญี่ปุ่นแปลไทยส่วนมากก็ห่วยนะ มีใครไปตามด่าพวกที่เสพงานแบบนี้บ้างยัง

403 Nameless Fanboi Posted ID:cznhY.5xe

lol ส่วนนึงนิยายดีๆขายยาก เพราะช่วงนึงสำนักพิมพ์มันแสปมขยะออกมา จนคนอ่านนิยายดีๆเขาหนีไปอ่านนิยายต่างประเทศหมดละไง ไอ้คนที่เขียนนิยายดีๆยุคหลังก็เกิดยาก เพราะคนเขาติดใจไปแล้วว่านิยายไทยใหม่ๆ คุณภาพตกต่ำลง

404 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

เป็นคนทั่วไปแล้วอ่านอะไรที่มันไร้สาระ เพื่อความบันเทิงเลยไม่ได้หรือวะ
ตรรกะคนด่าคนอื่นว่าขยะ แม่งป่วย โรคจิต ตั้งแต่คิดแล้ว ถึงได้บอกว่าแม่งโครตมืดบอด จิตใจไม่เคยมองความจริงของโลกนี้เลย หลุดโลกไปกับชิตังเมโป้งแล้ว
คนดีนี่ต้องอ่านแต่วรรณกรรมเลิศหรู ได้รางวัล ประเทศถึงอยู่ได้หรือวะ
ประเทศที่เจริญแล้ว เขาก็ปล่อยให้เสพอะไรกันได้ตามสบาย นิยายที่ขายดีคนอ่านทั่วโลก มันก็แนวรัก แมรี่แกรี่ เทพทรู ทั้งนั้น

405 Nameless Fanboi Posted ID:cznhY.5xe

>>404 เกมส์ออฟโทรน เดอะลอร์ดออฟเดอะลิง แฮรี่ พอตเตอร์ และอีกมากมายที่ไม่ใช่ ทไวไลท์กับฟิลตี้เฉด นี่เทพทรูหรอวะ 55 กุอยากรู้เฉยๆ

406 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

>>405 มันก็แนวรัก แมรี่แกรี่ เทพทรู ทั้งนั้น
ต้องถามว่า เรื่องที่เพื่อนโม่งถาม มีตรงข้อไหนมั้ย ที่ตรงกับยกมาหรือเปล่า ไม่ได้บอกว่าต้องเทพทรู แต่มีความแมรี่แกรี่ แนวรัก อะไรหรือไม่ในนั้น

407 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

>>403 คนอ่านคือคนเลือกซื้อ สนพ.เลือกเรื่องมาขายให้อยู่รอดในธรุกิจ
สรุปต้นทางคือคนอ่านนั่นแหละ ที่เป็นผู้กำหนดตลาด แล้วคนอ่านส่วนใหญ่ก็ต้องการเสพความบันเทิง มากกว่านิยายที่บอกว่าดีเลิศหาที่ใดเปรียบไม่ได้

ผลสรุป คนอ่านทั่วไป คนเดินดินทั่วไป เป็นผู้กำหนดวะ มันก็เลยย้อนกลับมาปาหน้าไอ้คนที่ด่าคนอื่นว่าขยะ มันมีหัวคิดแบบนี้ได้มั้ย เพราะเหมือนมันด่าเหมารวมคนที่เลือกเสพอะไรเพื่อความบันเทิงนั่นแหละ
ตรรกะมันเลยป่วยมากๆ ไง

408 Nameless Fanboi Posted ID:cznhY.5xe

>>406 เกมส์ออฟโทรน รัก ? แกรี่ แมรี่ !? สงสัยนิยามแมรี่แกรี่เราคงไม่เหมือนกันล่ะนาย ขอให้สนุกกับนิยายไทยตอนนี้ล่ะกัน พอมีนิยายต่างประเทศดีๆ ทำเป็นหนังก็ คงมีคนบ่นว่าทำไมคนไทยไม่มีความสร้างสรรค์ เขียนแต่แนวเดิมๆ

409 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

>>408 ตัวละครถ้าไม่อยู่ๆ ถูกฆ่าตาย มันก็เกือบแมรี่แกรี่สุดละ ที่ยังไม่มองยังงั้นมาก เพราะคนเขียนจิตดีที่ฆ่าตัวละครได้ง่ายๆ
สังคมในประเทศตัวเองเป็นไง ถ้าไม่โลกสวยก็น่าจะมองออกนี่หว่า ไม่งั้นละครหลังข่าวจะครองค่าโฆษณาที่แพงที่สุดในประเทศได้ไง
ส่วนหนังที่ทำแต่แนวเดิมๆ ก็บ.เล็กๆมีโอกาสเกิดมั้ย เจอทั้งคนไม่ดู เจอทั้งแผ่นผีที่ออกมาสกัด
คนทำธุรกิจมองเรื่องการขายได้ มีกำไรเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าไม่มีกำไรมันก็เจ้ง
แล้วก็ย้อนกลับมาอีกว่า คนดูบ้านเราต้องการอะไร....ก็คือความบันเทิงไง

410 Nameless Fanboi Posted ID:CCHE/pwYN

>>409 ชี้ให้ดูหน่อยว่ามันแมรี่แกรี่ตรงไหนวะ กูอ่านยังไงก็ไม่แกรี่เหี้ยไรเลย ขนาดแม่มังกรลูกรักคนเขียนยังไม่เข้าข่ายแกรี่ซักนิด

>>404 ไม่มีใครเขาด่าคนอื่านนะ เขาด่านิยายที่เหี้ยๆ หรือชาตินี้มึงไม่เคยเจอนิยายหี้ยๆ ละ

411 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

>>410 ความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกัน ของกูอะไรที่มันเหนือมนุษย์ ก็รู้สึกหลุดโลกแล้ว ไม่เป็นจริงเพ้อฝัน แล้วพวกมีวิชาเหนือคน ได้ของวิเศษเฉพาะตัวนี่ไม่แกรี่แมรี่หรือไง

ส่วนที่ด่านิยายของคนอื่นได้อย่างสนุกปาก กูคิดว่าเป็นคนที่ไม่ให้เกรียรติคนอื่นหรือดูถูกผู้อื่นที่ความพยายามเขียนผลงานขึ้นมา (ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ทั้งความชอบ เงินในการดำรงชีวิต) เพราะเป็นงานที่สุจริตวะ
กูด่าไอ้พวกนี้ง่ายๆเลยว่ามีนิสัยสถุนนั่นแหละ

412 Nameless Fanboi Posted ID:cznhY.5xe

มึงแยกแฟนตาซีกับแมรี่ ไม่ออกจริงๆหรอวะ แค่มีพลังพิเศษก็กลายเป็นแมรี่แล้ว

413 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

>>412 ความคิดของคนไม่เหมือนกันไง กูมองโลกความจริงเป็นใหญ่ มีเวทมนตร์เก่งกว่าคนอื่นนี่ในชีวิตจริงมีมั้ย
ถึงได้บอกว่าอยู่ที่ความนึกคิดของแต่ละคน มึงจะบังคับให้คนอื่นคิดอย่างมึงไม่ได้หรอก

414 Nameless Fanboi Posted ID:cznhY.5xe

>>413 มึงเอานิยามแมรี่แบบนั้นไปเถียงกับนักเขียนทั่วโลก แล้วกันนะ 5555

415 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

แต่อย่างหนึ่ง กูไม่ดูถูกผลงานของใครที่เขียนแบบสุจริต ใช้หัวคิดเขียนขึ้นมา
กูเข้าใจ เรื่องเงินทอง ปากทอง ที่ต้องหามาโดยชอบ งานไม่มีสูงมีต่ำสำหรับกู

416 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

>>414 กูไม่จำเป็นต้องไปเถียงใครวะ ที่เขียนนี่เพราะมีคนตรรกะป่วย ด่าคนอื่น กูเลยเขียนตอบให้หูตามันเปิดหน่อย

417 Nameless Fanboi Posted ID:/MnJ9Z2bB

>>411 เอานิยามของตนเองมาชี้หน้าด่าคนอื่น นิสัยไม่สถุลเลยเนอะ

หลักการเขียนนิยายมีนิยามแกรี่อยู่ ไปหาอ่านซะ เขาวิเคราะห์กันมาเป็นหลักการแล้ว ไม่ใช่หลักกูอย่างมึง

418 Nameless Fanboi Posted ID:fNB1rzYc2

>>416 มึงนี่เพ้อเจ้อได้โล่ห์จริงๆ ทำเป็นหล่อแต่ไร้เหตุผลสิ้นดี ตรรกะมึงนี่เหมือนคนนึงในบอร์ดเชี่ยๆ มึงคือไอ้เงินบวกใช่มั้ย

มึงไม่เจองานกากขยะเปียกเลยรึไง กดเข้าไปดินิยายเด็กแต่งเพียบเต็มเว็บ เขียนผิดตรึม บรรยายเป็นบทละคร เบียวสนองนี๊ดไม่มีเนื้อเรื่อง กากมั้ยล่ะสัส
แล้วสุจริตพ่องมึงดิ คุยในประเด็นยังไม่เป็นเลยนะมึง ยังไม่มีใครด่าคนเขียนเลยสัส เขาวิจารณ์กันแต่นิยาย โยงมั่วซั่วเลยนะมึง
จบดร.แต่ไม่เคยเขียนนิยาย เขียนแล้วขยะกูด่าผลงานไม่ได้รึไง ดูปากกูนะด่าผลงาน ไม่ใช่ตัวคนเขียน
วันดีคืนดีไอ้ดร.ตัวเดิมไปเรียนวิธีเขียนนิยาย แล้วเขียนดีระดับซีไรต์จะมีใครด่ามันมั้ย

แต่ละอย่างที่มึงยกมาเถียง หลักเหี้ยไรก็ไม่รู้ คิดเองเออเองนั่งเทียนในโลกมโนของมึงรึไงวะ อ่านบทความดีๆบำรุงสมองบ้างเหอะ กูอายแทนมึง

419 Nameless Fanboi Posted ID:V4QRx7ZGh

อ่านนิยายเด็กดีจนสมองฝ่อเลยสินะถึงยกเรื่องแมรี่แกรี่มาเถียงหัวชนข้างฝา

420 Nameless Fanboi Posted ID:inTEin.9B

ออกมาหานิยายนอกเว็บเด็กดอกบ้างนะ มันจะช่วยเปิดโลกทัศน์ของมึงกว่าเดิม
กูก็เคยเบียวแหละ แต่พอก็เจอนิยายที่มีตรรกะ เหตุและผลรองรอง ภาษาสวยลื่นไหล มีเอกลักษณ์ เป็นระดับดีจริงๆหลังจากนั้น แม่งก็ทำใจอ่านเด็กดีไม่ค่อยได้เลยวะ

421 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

>>418 กูก็บอกแล้วไง
คนต่ำมันก็ต่ำชอบดูถูกคนอื่นอยู่วันยังค่ำ สมองที่ป่วย มือบอดของมึง มันไม่เคยเข้าใจทางโลกจริงๆเลยนี่หว่า
แยกการเขียนเพื่อนความบันเทิง มือสมัครเล่น เขียนเพราะชอบ หรือความอยากเขียนของคน ไม่ได้
ตรรกะมึงมันป่วยตั้งแต่แรกแล้ว ที่ดูถูกคนอื่นวะ

เหมือนเถียงกับตัวมีเขายังไงยังงั้นเลย มึงเรียกร้องเอาไปเทียบเปรียบอย่างเดียว ไม่สนอะไรเลย ก็สมควรแล้วที่ใจมืดบอดต่อไป ไม่เปิดใจให้คนอื่น

422 Nameless Fanboi Posted ID:EfRW+1JiT

>>421 สงสัยไม่เคยได้ยิน still better love story than twilight คนทั้งโลกคงไม่เข้าใจทางโลกล่ะมั้ง

423 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

>>420 กูก็เน้นสุดๆนะ ว่านี่เป็นความคิดของกูเท่านั้น โลกกูกว้างกว่ามึงวะ
ที่ยังงมหาแต่เรื่องมาดูถูกคนอื่นเค้า

ความชอบของคนไม่มีเหมือนกันเลยในโลกนี้ จะมาเถียงว่าต้อง ภาษาสวยลื่นไหล มีเอกลักษณ์
นิยายทั่วไป ที่วางขาย มึงก็กูว่าคนเค้าเลือกซื้ออะไรมาอ่านกัน
ยังงมหาแต่แบบมึงว่า ทำไมสนพ. เขาถึงเลือกเรื่องที่มึงด่าๆกันไปตีพิมพื
ตรรกะมันย้อยแย้งมาก

424 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

>>422 มึงไปแสดงความเห็นสวยหรูที่นี่ได้เลย
https://pantip.com/topic/33761418

425 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

พูดแต่ว่าต้องเสพงานดี แต่จิตใจต่ำดูถูกคนอื่น ก็แสดงตัวตนสถุนได้เด่นชัด สมควรอยู่ในกะลาต่อไป

426 Nameless Fanboi Posted ID:EfRW+1JiT

>>424 อ้าวแล้วไงวะ เขาก็วิจารณ์กันนิยายขยะแล้วทำไมวะ ? อย่างน้อยสำนักพิมพ์ที่อื่นเขาก็เปิดโอกาสให้แนวอื่นแต่เขียนดีเติบโตได้ล่ะวะ แต่สำนักพิมพ์ไทยเห็นแก่เงินระยะสั้น ตอนนี้เป็นไงล่ะ ค่อยๆกำไรหดหาย คนอ่านรู้ทันว่าผลิตแต่นิยายแย่ๆออกมา กดเงินแบ่งปันให้นักเขียน ก็หวังว่านักเขียนดีๆหลายคนจะไม่ยอมแพ้ สร้างผลงานชั้นยอดมาตบหน้าไอ้พวกคิดแบบมึงได้

427 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

>>420 นี่เป็นตัวอย่างชัดว่ามึงไม่ได้เปิดใจให้โลกนี่ไง ก็คล้ำหาต่อไปแล้วกัน กูอวยพร

428 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

>>426 ไม่เห็นแก่เงินก็เจ๋ง ไม่มีเงินชีวิตนี้อยู่ได้มั้ย คิดสิคิด

429 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

กูลืม
สนพ.ไทยเลือกการอยู่รอด เรื่องไหนขายดีกูกลับอวยพรให้เขา ไม่มัวมาปากดีดูถูกคนอื่นในนี้หรอก

430 Nameless Fanboi Posted ID:EfRW+1JiT

>>424 แล้วมึงไม่ต้องมาอ้างว่าเพราะตลาดไทยไม่เอื้อ นิยายที่ขายดีติดอันดับในร้านหนังสือนี่ไม่ใช่นิยายดีๆต่างประเทศหรอวะ สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยมีกำลังซื้อนิยายเนื้อเรื่องดีๆอยู่ เพียงแต่นิยายไทยดีๆไม่มีโอกาสได้โปรโมตมากนัก ก็อย่างที่เม้นที่มึงไปด่าเขาแหละ ว่าคนไทยที่มีกำลังซื้อเหล่านั้น เขาไม่เชื่อมั่นในวงการนิยายไทยแล้วหลังจากกระแส mass product นิยายแย่ๆ คนเขียนนิยายไทยดีๆยุคหลังก็เลยพลอยซวยไปด้วย ต้องทำการตลาดด้วยตัวเอง

431 Nameless Fanboi Posted ID:EfRW+1JiT

>>429 ขายดีกุขำ 555 ออกไม่ทันไรก็ลด 70 80 เปอ บางครั้งต้องถึงขนาดแพ๊คคู่ขายอีก

432 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

>>430 กูไม่เคยอ้างเรื่องขายดีไม่ดีชัดเจนหน่อย ที่กูไม่ชอบคือการดูถูกวะ เข้าใจมั้ย
นิยายไทย จะอยู่รอดก็ต้องแข่งขันกับตัวเองให้ได้ก่อน จะแนวไหนทำได้ กูอวยพรให้
คนเขียนไหนทำได้ กูชื่นชน
กูบอกแล้วกูไม่ดูถูกผลงานใคร และคนอ่านเป็นคนตัดสินใจในตลาดนั้นๆ น่าจะเข้าใจนะ

433 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

>>431 การตลาด ถ้าเข้าใจระบบสต๊อก ระบบเงินสด การไม่ให้วางในร้านหนังสือเกินกำหนด หรือไม่ให้เข้าร้านเลย ถ้าไม่วางเงินและรับเงินที่ล่าช้าหลายเดือน
มันเป็นธุรกิจวะเพื่อนโม่ง

434 Nameless Fanboi Posted ID:V4QRx7ZGh

กูว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่การตลาด แต่กำลังเถียงเรื่องทัศนคติมากกว่า การดูถูกคนไม่ใช่การตลาดแล้วนะมึง

435 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

ค่าเช่าโกดัง เงินที่ต้องหมุนไปจ่ายนักเขียน จ่ายโรงพิมพ์ มันต้องใช้เงินสดเท่านั้น สินค้าต้องรีบเปลี่ยนเป็นเงินสดให้เร็วสุด จึงต้องลดกระหน่ำ

436 Nameless Fanboi Posted ID:IAdrfeh2C

>>434 ถ้าเป็นสนพ. แล้วเพื่อนโม่งจะทำไง ถ้าบอกไม่ใช่การตลาด บก.คนเลือกเรื่อง ทำไม่ได้เป้าเจ้าของก็พิจารณาเองอย่างนี้ใช่มั้ย

437 Nameless Fanboi Posted ID:gDLjj.ffg

ก็ปั้มนิยายแย่ๆเยอะยุคนึงมันปังไง แต่ก็ทำลายตัวเองไปในตัว พอคนรู้ทันก็แห่กันเลิกซื้อ ก็คงมีแต่ตกต่ำลงเรื่อยๆ เกาะกระแสนิยายแปลหาแดก ทิ้งวงการนิยายไทยเละๆไว้ข้างหลังเพราะความโลภ

438 Nameless Fanboi Posted ID:YsoTzYw62

>>437 เอออ่านมู้มึงแล้วนึกถึงเพื่อนกุคนนึงเลยว่ะ มันฝันจะเป็นนักเขียนตั้งใจแต่งเรื่อง แล้วเอาไปเสนอสำนักพิมพ์ยุคหันมาตีพิมพ์นิยายไม่ดี เน้นเยอะๆ มันโดนปฏิเสธหมดเว้ย ยิ่งพอมันเอาหนังสือที่ได้ตีพิมพ์มาอ่านนะ แม่งโครตช็อคอ่ะ เนื้อเรื่อง ภาษา อีโมติคค่อนห่าเหวมากมาย แต่มันก็ไม่ยอมแพ้ตั้งใจเรียนอังกฤษ จนมันเขียนนิยายตัวเองเป็นภาษาอังกฤษขายต่างประเทศได้ อาจจะไม่ดัง รวยระดับเจเค แต่ก็ได้เงินระดับหนึ่ง กุอาจจะไม่ใช่นักเขียนนะเป็นแค่นักอ่าน แต่กุอ่านไอ้คนๆนึงคอยแก้ต่างให้สำนักพิมพ์ กุไม่รู้สึกเข้าใจสำนักพิมพ์เลยว่ะ กุสมน้ำหน้าด้วยซ้ำความโลภบังตาเห็นแก่ผลประโยชน์ระยะสั้น ไม่มีใครทำการตลาดฉลาดๆคนไหนหรอกจะทำไรตลาดระยะยาวของตัวเอง ทำลายชื่อตัวเอง เพื่อเงินเยอะๆระยะสั้น

439 Nameless Fanboi Posted ID:3nzF4OlPk

>>438 อ่านอันนี้แล้วทำไมกูนึกถึง บก. ป. ที่เคยอยู่สำนักพิมพ์ สถุนพ่อง วะ กูยังจำได้ดีอยู่เลยตอนมันจับงานมาตีพิมพ์ อย่างกับเป็นงานมหกรรมรวมนิยายกระแสห่วยแตก สุดท้ายได้เงินจริงแต่ไม่นานนักทุกอย่างก็ค่อยๆ พังครืน อยากได้เงินจากนักอ่านกากๆ เน้นความเบียว ความบันเทิง จุดจบเลยออกมาไม่สวยเลย(สมน้ำหน้าแม่ง)

440 Nameless Fanboi Posted ID:V4QRx7ZGh

>>436 มึงล้างตาบ้างหน่อย ถามผิดคนรึเปล่า กูพูดแค่ทัศนคติอย่างเดียว

441 Nameless Fanboi Posted ID:YsoTzYw62

https://www.youtube.com/watch?v=LuTQ0EpmnJo&t=133s เออมีใครเคยดูช่องนี้บ้างไหม แนะนำการเขียนใช้ได้ แถมตลกดี

442 Nameless Fanboi Posted ID:2fktJdAOn

มากลางดึกเกิดดราม่าซะละ แต่กุอ่านเม้นไอ้คนแอ๊บหล่อทำเป็นปกป้องผลงานไม่ดี แล้วกุขำว่ะ อย่าง star war สองภาคล่าสุดทำมาไม่ค่อยดี ก็โดนคนด่ากระจาย ใช้ตรรกะไอ้นี่ ก็คงห้ามด่า ห้ามวิจารณ์หนังสตาวอร์ เพราะคนเขียนบทเป็นอาชีพสุจริต แถมอุตส่าห์เค้นความคิดเขียนบท ถึงมันจะออกมาแย่ก็ตาม

443 Nameless Fanboi Posted ID:1c2ioYLVO

>>441 เป็นเรื่องที่เด็กดีควรดูด้วย แต่ติดปัญหาไม่มีภาษาไทย ต้องแปลเอาเอง

444 Nameless Fanboi Posted ID:dfLQSeklQ

>>441 กูดู สนุกดี อันนี้ก็กับดักซู ๆ

445 Nameless Fanboi Posted ID:vzOJKsERT

>>441 สนุกดี เสียดสีฮา แต่กูฟังไม่ค่อยทันวะ

446 Nameless Fanboi Posted ID:UAQ6mstjL

>>442 ถ้าด่า วิจารณ์อย่างมีเหตุผล มันก็ยังมีหัวคิดยังไง จะสับนิยายยังไงก็ตามเรื่องกันไป
แต่มาถึงแบบด่ากราด ดูถูก เริ่มจากคำว่าขยะเลยนี่
กูว่ามันก็วัดจิตใจได้แล้วละ ว่ามันมีวิธีคิดยังไง
แค่หลักเกณฑ์พื้นฐานของคำว่า คนเขียนที่อยากเขียนเริ่มต้นนิยายเริ่มต้นลงเว็บ คนเขียนที่เน้นขายคนทั่วไป คนเขียนที่ไปทางรางวัลคุณค่า
มันยังแยกคุณลักษณะนี้ไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่ามีปัญญาไปวิจารณ์ผลงานคนอื่นได้ไง
แบบสมมุติ เพื่อนโม่งแค่อยากปั้นดินน้ำมันเล่นสนุกๆออกมา แล้วมีใครไม่รู้จักเดินมาด่าว่าขยะ เพื่อนโม่งจะงงมั้ย

447 Nameless Fanboi Posted ID:f32aZ0SwA

>>446 มึงปั้นรูปไข่กับควยหรือเปล่าล่ะ?

448 Nameless Fanboi Posted ID:d+QVL02sQ

>>446 เขาพูดถึงผลงานที่ได้ตีพิมพ์ ออกขายอย่างเป็นมืออาชีพไม่ใช่หรอวะ มึงวาดรูปขาย ปั้นขายแต่ทำแย่คนก็ด่าได้ ถึงมึงทำเป็นงานอดิเรกแล้วต้องการให้คนเชยชมก็ต้องรับคำวิจารณ์ได้ แต่พอเขาชี้ข้อแย่มา มึงก็ยังตะแบงๆ อ้างนู่นอ้างนี่ ยืนกรานไม่ปรับปรุงต่อไป สุดท้ายผลงานมึงก็เข้าข่ายขยะล่ะวะ ปล.พอหาเหตุผลเลียไข่สำนักพิมพ์ไม่ได้ก็เปลี่ยนประเด็นเลยนะมึง

449 Nameless Fanboi Posted ID:d+QVL02sQ

>>448 มึงจะเอาอะไรกับคนที่นิยามแมรี่มั่วๆ แล้วเถียงหัวชนฝาวะ 555 บอกจะเปิดหูเปิดตาคนอื่นแต่ดันกลายเป็นโชว์โง่ให้เห็นแทน

450 Nameless Fanboi Posted ID:Fw7ElvfgA

กูว่าไอ้โม่งที่หัวร้อนนี่ นิยายมันต้องถูกสับเละแน่ๆ เลยดิ้นขนาดนี้ จากนั้นมันก็เลยพยายามชี้ว่า นิยายกูก็แค่นิยายเด็กหัดแต่ง แต่งเพราะอยากแต่ง อยากลองดูเฉยๆ ทำไมพวกมึงต้องประณามว่านิยายกูเป็นนิยายขยะด้วย กูรับมั้ยดั้ย แล้วยังมีการชี้ว่านิยายที่ได้พิมพ์ส่วนใหญ่ก็แกรี่ แมรี่ แนวรัก อันนี้ใบ้ให้รู้ว่านิยายมันเองก็อาจจะซูๆ เบียวๆ พอกัน จะบอกอะไรให้นะเด็กน้อย ถ้าเจอแค่นี้แล้วรับไม่ได้ อีกหน่อยถึงเวลามึงตั้งใจเขียนสุดๆ แล้วผลงานของมึงยังถูกด่าว่าห่วยแตกอยู่ดี ตอนนั้นมึงไม่อกแตกตายไปเลยเหรอวะ

มึงทำอาหารออกมาแล้วรสชาติหมาไม่แดก คนกินบอกว่าไม่อร่อยเลยสัส มึงก็จะอ้างเสมอไปเลยมั้ยล่ะ ว่ากูเพิ่งหัดผัดกะเพรามันเลยไม่อร่อย คนฉลาดๆ น่ะ เขาจะแก้ไขข้อผิดพลาดที่คนอื่นชี้ให้เห็น ตัวเองจะได้เก่งขึ้น พัฒนาขึ้น จนพ้นจากความขยะได้สำเร็จ ไม่มัวมาร้องงอแงเป็นเด็กขี้น้อยใจแบบนี้หรอกว่ะ เว้นแต่ว่ามึงจะอ้างอีกอย่างเช่น งานกูเขียนมาเล่นๆ ลองเขียนดูไม่ได้จริงจังจนกะจะให้ได้รับรางวัล ถ้าจะอ้างแบบนั้นมึงก็สมควรรับคำติชมตามระดับความตั้งใจและคุณภาพจริงของผลงานมึง ว่ามันดีหรือแย่ยังไง

อีกอย่างมึงจะเทียบการแต่งนิยายลงเว็บกับการปั้นดินน้ำมันไม่ได้ เพราะเมื่อมึงแต่งนิยายลงในสื่อใดก็ตามบนโลกออนไลน์ มึงก็ควรยอมรับด้วยว่านั่นคือการเผยแพร่สู่สาธารณชน คนอ่านก็มีสิทธิ์วิจารณ์ได้เต็มที่ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ถ้ามึงกลัวว่าจะมีคนมาด่าดินน้ำมันของมึง มึงก็ควรไปปั้นในที่ๆ ไม่มีคนเดินผ่าน ปั้นในห้องตัวเอง เทียบกับนิยายก็คือพิมพ์ใน Word แล้วก็เซฟไว้อ่านเอง ไม่ต้องเอาออกมาโพสในเว็บไซต์สาธารณะ

นิยายมันจะขยะหรือไม่ขยะ อยู่ที่คนแต่ง ถ้าเจอหาว่าเป็นขยะแล้วไม่ปรับปรุง มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกว่ะ เลิกร้องเป็นน้องอนุบาลแล้วหาทางพัฒนางานให้ดีขึ้นดีกว่า ไม่งั้นก็เชิญจมกองขยะต่อไป

451 Nameless Fanboi Posted ID:Q.ff.EwiE

นอกเรื่องที่พวกเมิงเถียงกันหน่อย ผ่านมาเกือบครึ่งมู้แล้ว สับนิยายไปสองเรื่องเองเหรอวะ

452 Nameless Fanboi Posted ID:3YYbCYiuq

>>450 +1 มึงเทศนาแบบนั้นมันก็ร้องไห้ขี้มูกโป่งกันพอดี มันเปิดการ์ดใจหล่ออยู่นะเว้ย พี่เค้ารับไม่ได้ถ้าโม่งบอกว่านิยายคนอื่นเป็นขยะถถถ

453 Nameless Fanboi Posted ID:1c2ioYLVO

>>451 คนสับต้องการ stamina เพียงพอ นิยายที่ยกรอสับแม่งทำลายโสตประสาทยิ่งกว่าอ่านหนังสือสอบ กูอ่านตอนนึงใช้เวลา 4 ชั่วโมง แต่อ่านจบแม่งสับไม่ไหว หมดแรง มีแรงอีกที ลืมไปแล้ว กูจะบ้าตาย

454 Nameless Fanboi Posted ID:UAQ6mstjL

คนด่าผลงานผู้อื่นว่าขยะออกมาได้ กูไม่อยากเถียงหรอก จิตใจมันต่ำ สถุนเกินที่จะถกเหตุผล
หัวคิดยังแยกไม่ออก เรื่องธรรดาของโลกไม่ได้ ก็เป็นโม่งปากดีอยู่ในนี่ต่อไปเถอะ
555+ เถียงกับคนมืดบอด ก็ไม่ได้ช่วยให้คนพวกนี้ พ้นน้ำขึ้นมาได้หรอก จะเถียงไปทำไม
แค่จิตใจดูถูกคนอื่นได้ ก็ต่ำว่าสถุนแล้วล่ะ

455 Nameless Fanboi Posted ID:UAQ6mstjL

>>452 ใช่ไง กูรับให้พวกต่ำๆ ดูถูกผลงานคนอื่นไม่ได้วะ เรื่องจริง

456 Nameless Fanboi Posted ID:d+QVL02sQ

>>455 อืมงั้นคนเกือบทั้งโลกคงมืดบอดล่ะมั้ง เพราะว่า ทไวไลท์ จัสติน บีเบอร์ และผลงานที่ไม่ดีมากมายด้วยคำเชิงตำหนิ ดูถูกแนวๆนั้น

457 Nameless Fanboi Posted ID:UAQ6mstjL

>>456 เค้าเถียงกันเรื่อง คำพูดถูกด่าว่าขยะวรรณกรรมใช่มั้ย
ก็ยังมีคนพยายามลากเรื่องเกี่ยวกับคำวิจารณ์หรือคำเชิงตำหนิออกมา
หัวมันไม่เคยแยกคิดหรือไง นิยายที่ขายหรือแต่งให้คนทั่วไป กับงานเชิงวรรณกรรมจริงๆ มันแตกต่างยังไง
ก็มีคนมืดบอด โยงเอามารวมกันอีก เข้าใจคำว่าเขียนเพื่อขายให้คนทั่วไปมั้ย แล้วเสือกไปโยงด่าว่าเป็นขยะวรรณกรรม ทั้งๆที่คนเขียนไม่ได้สนใจจะเป็นเลย เพราะรู้ว่าเขียนเพื่ออะไร
แต่ไอ้คนด่า ก็ไม่รู้เรื่อง หรือแยกไม่ออกกัน แล้วไปดูถูกผลงานคนอื่น มันเหมือนเป็นคนที่ไม่เคยเห็นโลกความจริงมาก่อน แยกแยะอะไรไม่ออกเลยหรือ?
จะสับนิยาย จะวิจารณ์ยังไงก็ทำไปสิ แต่การดูถูกโดยไม่เห็นจุดประสงค์ที่คนเขียนทำเพื่ออะไร แบบนี้มันโง่หรือเปล่า?
ประมาณนิยายรักสนองอารมณ์ บันเทิง ไร้สาระทั่วไป
แต่เสือกจะเอาไปคิดแบบวรรณกรรมชั้นสูงอะไรของมัน ก็เลยแปลกในความคิด ที่ดูถูกผลงาน แบบไม่คิดว่าผลงานนั้น สร้างมาเพื่ออะไร
555+ เก็จมั้ย?

458 Nameless Fanboi Posted ID:d+QVL02sQ

>>457 ควายฝรั่งมันก็ด่าทไวไลน์ขยะวรรณกรรมล่ะวะ จัสตินก็โดนด่า รีเบคก้า แบล็คก็โดนด่าว่าขยะทางดนตรีเทือกๆนี้ มึงไปเปิดกะลาตัวเองเหอะว่ะ เพื่อนโม่งในนี้เขาด่านิยายเขียนแย่ๆ แต่ได้ตีพิมพ์จนผู้อ่านนิยายดีๆ เขาหมดศรัทธากับมาตรฐานแย่ๆของสำนักพิมพ์ หนีไปซื้อนิยายต่างประเทศหมด มึงเคยเห็นนิยายทมยันตี เพชรพระอุมาโดนลดเยอะๆ ไหมล่ะ ผิดกับนิยายขยะที่สำนักพิมพ์ปั๊มออกมา ไม่มีใครเห็นคุณค่า พอหมดช่วงขายก็ต้องรีบโละทิ้ง ให้พอคืนทุนจัดพิมพ์ ไม่มีคุณค่าแก่การเก็บ

459 Nameless Fanboi Posted ID:gBipTw/EF

กุขอถามแปป ไม่ได้จะกวนตีนหรือมาหักกระแสไรนะ

แต่ไอ้นิยายที่แต่งลงเดกดวกตามเวลาว่างเอาขำๆเนี่ย มันจะปรับปรุงไปเพื่ออะไรวะ เพื่อเงิน? เพื่อจะเป็นอาชีพนักเขียนโดยตรง?
บางทีคนเขียนมันก็ไม่ได้ต้องการอะไรขนาดนั้นว่ะ คือไม่ใช่กุจะสื่อว่าไม่ควรจะพัฒนางานเขียนนะ แต่กุมองไม่ออกว่าพวกที่กุว่ามาเนี่ย จะพัฒนาไปเพื่ออะไร ส่วนหนึ่งที่กุนึกไม่ออกเพราะกุไม่เคยแต่งนิยายมั้ง

ไม่เกี่ยวกับพวกตีพิมพ์นะมึง

460 Nameless Fanboi Posted ID:gBipTw/EF

ว่าแต่ตกลงโม่งแม่งจะไม่ให้เน็ตนอกเม้นจิงๆเหรอวะ เปลืองโรมมิ่งกุชิบหาย ไอสัส

461 Nameless Fanboi Posted ID:UAQ6mstjL

>>458 มันก็วนอ่างมาอีกนะแหละ สนพ.เขาเลือกงานที่คนทั่วไปอ่าน แล้วมึงก็เอาแต่ระดับบิ๊กๆ มาเทียบกับคนเขียนทั่วไป
ซึ่งคนเขียนเค้าเขียนอีกแนวทางหนึ่งของเขา และเขาก็ไม่ใช่คนเขียนระดับรางวัลยอดขายระดับโลกหรือระดับประเทศ
คนทั่วไปซื้อนิยายแบบนี้มาอ่านเพื่อความบันเทิง เสร็จแล้วเค้าไม่สนใจหรอก เพราะเน้นสนองอารมณ์เค้าไปแล้ว อันนี้เข้าใจมั้ย
ส่วนจะลดราคาหรือทำอะไร สนพ.เขาก็ทำเพื่อความอยู่รอด
ถ้ามึงมีคนการค้าและเข้าใจทางโลกหน่อยหน่อย ลองๆไปส่องดูที่เว็บเมพ เอาก็ได้ ไปเปิดหูเปิดตาว่าคนซื้อเค้าซื้อนิยายแบบไหนอ่านกัน

462 Nameless Fanboi Posted ID:d+QVL02sQ

>>461 แล้วทำไม bestseller ในร้านหนังสือเป็นหนังสือดีๆ ถ้าคนมีกำลังซื้อส่วนใหญ่มันชอบงานอย่างว่าที่สุด

463 Nameless Fanboi Posted ID:UAQ6mstjL

>>459 บางทีเขียนไปตันเอง เนื้อเรื่องออกทะเล เริ่มอยากดองเค็มไม่มีเวลาแต่งต่อ
คนอ่านทวงมากหรือไม่มีคนอ่านก็จัดการมาปรุบปรุงดูใหม่
แล้วก็มีบางคนจัดการดร็อปไปปรับปรุงเพื่อตั้งใจส่งสนพ. ก็มี
หลักๆประมาณนี้

464 Nameless Fanboi Posted ID:d+QVL02sQ

>>461 คนเขาก็บอกแล้วคนอ่านมีกำลังซื้อ เขาไม่หวังอะไรกับนิยายในเน็ตมากแล้ว เพราะชื่อมันเหม็นตั้งนานแล้ว ช่วงนึงกระแสคนอ่านดีๆเรียกร้องให้สำนักพิมพ์เห็นแก่พวกเขาบ้างแล้วเป็นไงล่ะ พอหมดยุคเน้นจำนวนมากกว่าปริมาณไม่ปัง ก็เกิดเรื่องฉาวขึ้น กดราคาส่วนแบ่งให้นักเขียน บางอันก็เจ๊งไปเลย ค่อยๆตกต่ำลงเรื่อยๆ

465 Nameless Fanboi Posted ID:gBipTw/EF

>>463 เออ ถ้าแม่งตั้งใจอยากเอานิยายมาขายเป็นเงินจริงๆ อันนี้กุว่ามีแรงจูงใจในการพัฒนา และ ควรต้องพัฒนาด้วย

466 Nameless Fanboi Posted ID:rKf1soW1R

>>458 คุณหญิงวิมล (ที่รู้จักกันในชื่อ ทมยันตี ลักษณวดี) เอาตามตรงกูว่าก็ยังไม่โอเคในความคิดกูนะ หรือกูอาจเลือกอ่านผิดเล่ม เล่มที่กูเลือกอ่านคือ "ดั่งดวงหฤทัย" น่ะ

แต่ถ้าเปรียบเทียบกับนิยายเด็กดีแล้วก็โอเค มันก็เลอค่าล่ะ ใช้ภาษาดี เนื้อเรื่องน้ำเน่าๆหน่อย แต่ก็พอเข้าใจ แถมเก่าแล้วด้วย ถือว่าคลาสสิก เป็นต้นแบบแก่นิยายน้ำเน่ารุ่นหลังได้ แต่ปัญหาคือตัวละครไม่ค่อยโอเค จะเรียกว่าแกรี่แมรี่ก็พูดได้ไม่เต็มปาก เอาเป็นว่ามันดูประดิษฐ์ไปหน่อย ไม่ค่อยรู้สึกว่าเป็นมนุษย์เท่าไหร่

แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือบทสนทนา อันนี้เลวร้ายจริงๆ คือตัวละครแม่งไม่มี voice เป็นของตัวเองเลย ทั้งเรื่องนี่ผู้หญิงผู้ชายแม่งพูดโทนเดียวกันหมด ไม่สิ พวกตัวขี้ข้านี่พอจะแยกออกบ้าง แต่ที่เลวร้ายแบบสุดๆคือคู่พระนางเนี่ยล่ะ แม่งพูดด้วยสำนวนแบบเดียวกันเป๊ะ เวลาแม่งเถียงกันทำกูงงไปเลยว่าประโยคนี้ใครเป็นคนพูดวะ ต้องพยายามอ่านทวนหลายๆรอบถึงจะเข้าใจ

467 Nameless Fanboi Posted ID:UAQ6mstjL

>>462 มีกี่คนที่ทำได้ ตลาดหนังสือบ้านเราระดับบิ๊กกินตลาดไป 80% เหลือ 20% ที่แบ่งนักเขียนทั่วไปหรือหน้าใหม่ต้องแย่งชิงกัน
กูอยากบอกว่าประมาณอย่าเอามาเทียบกัน จะงานอะไรคนอ่านตัดสินเอง จะแนวไหนมันก็มีตลาดของตัวเอง กลุ่มคนอ่านของตัวเอง

468 Nameless Fanboi Posted ID:d+QVL02sQ

>>467 แล้วส่งเสริมด้วยการพิมพ์นิยายแย่ๆออกมา ไม่พัฒนาให้คนเขียนดีๆ ได้มีโอกาสโปรโมตง่ายๆ ก็อยู่ 80 / 20 แบบนั้นไปตลอดกาลเหอะว่ะ แต่ช่วงนี้ก็มีสำนักพิมพ์ไฟแรงๆ จัดงานประกวดหานิยายแปลกๆใหม่ๆ พล็อตดีๆเยอะ ก็หวังว่าจะเป็นความหวังจากวังวนเน่าๆ จากความไร้จรรยาบรรณของสำนักพิมพ์ในรอบหลายปี

469 Nameless Fanboi Posted ID:Fw7ElvfgA

>>457 มึงจะบอกว่ามึงนี่โคตรเจนโลก มองในมุมธุรกิจแบบมึงคือเขียนแล้วขายเกิดรายได้ก็พอแล้ว ไม่ว่าจะห่วยหรือไม่งั้นสิ... ถุด กูไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมพักหลังนิยายที่มึงปกป้องมันหลุดมาเต็มไปหมด เรื่องวรรณกรรมชั้นสูงกับนิยายดาดๆ ขายให้คนทั่วไปแบบเน้นเสพความบันเทิงล้วนๆ สองอย่างนี้พวกกูแยกแยะได้อยู่แล้วเว้ย

กูรู้... มึงแค่อยากพูดว่า *นิยายดีคือนิยายที่ขายได้* จะห่วยยังไง จุดประสงค์คือเขียนเพื่อให้ขายออก จะซอยตอน เซอร์วิส ฮาเร็ม สำนวนไลท์โนเวล เน้นโลลิ ยังไงก็ตาม ถ้าจับมัดแพ็คแล้วขายออก แปลว่านิยายเรื่องนั้นไม่ใช่นิยายขยะ อย่างนี้สินะ? บอกตรงๆ กูโคตรคุ้นแนวคิดนี้ของมึงเลย เพราะมึงมันลอยไปลอยมาในบอร์ดนักเขียนตลอดอยู่แล้ว น่าสมเพชเหี้ยๆ

จากชุดข้อความนี้ของมึงนะ "นิยายรักสนองอารมณ์ บันเทิง ไร้สาระทั่วไปแต่เสือกจะเอาไปคิดแบบวรรณกรรมชั้นสูงอะไรของมัน ก็เลยแปลกในความคิด ที่ดูถูกผลงาน แบบไม่คิดว่าผลงานนั้น สร้างมาเพื่ออะไร" กูจะบอกว่าที่สับๆ กันเนี่ย ไม่ได้ใช้มาตรฐานวรรณกรรมชั้นสูงเหี้ยไรเลย มันคือพื้นฐานเลยนะมึง พื้นฐานที่คนเขียนนิยายควรรักษาคุณภาพไว้ให้ได้ แล้วก็อย่างที่เห็นแม่งสอบตกกันค่อนเว็บกับแค่เรื่องพื้นๆ อย่าง คำผิด กับ คะ/ค่ะ เนี่ย

ส่วนที่มึงจะสื่อว่านิยายของมึงสร้างมาเพื่ออะไรนี่ จะแค่เขียนเล่นๆ ไม่จริงจัง หรือจงใจเขียนเพื่อขายให้ออก(เขียนแนวตลาดแบบที่คนอ่านชอบไม่ต้องสนกฏเกณฑ์) ช่วยบอกกูหน่อยว่าข้อความ "เขียนเล่นๆ จริงจังไรมาก แค่งานเด็กหัดแต่ง" กับ "กูจงใจกาก ตามกระแสเพื่อให้ขายได้ คุณภาพยังไงไม่สน" สมควรให้พวกกูด่าได้มั้ย หรือไม่ว่าจะยังไง มึงก็ยังยืนกรานว่านิยายพวกนี้ไม่ผิด เพราะไม่ได้จะแต่งให้ดีเลิศประเสริฐศรีเหมือนวรรณกรรมชั้นสูง ส่วนพวกกูต่ำตม ตามืดบอด แยกแยะจุดประสงค์ไม่ได้เองว่าเขียนเพื่ออะไร โม่งนิยมการด่ากราดดูถูกนิยายคนอื่นไปทั่ว เหมือนเดิมใช่มั้ย

ถ้าใช่... มึงควรไปพบแพทย์ได้แล้วว่ะ

470 Nameless Fanboi Posted ID:tiweHp3Kt

>>466 ก็มันสำนวนสมัยก่อน ผู้หญิงผู้ชายชั้นสูงเขาพูดโทนเดียวกันหมด ถือว่าเป็นภาษาสุภาพ แทนตัวว่าฉันเธอกันหมด

ภาษาที่ป้าใช้จะเป็นภาษาสมัยก่อน 2475 ลองไปอ่านบันทึกคำพูดของคนสมัยนั้นดู แม้แต่ปรีดีหรือป.ก็พูดสุภาพมาก

หลังสมัยป.มันมีการแยกภาษาระหว่างชายหญิง ถ้ามองในมุมคนสมัยนี้จะรู้สึกแปลก แต่สมัยนั้นภาษาจะไม่แยกอะไรเลย

ภาษามีโทนเดียวหมด ไม่ว่าชายหญิง ลองไปอ่าน 4 แผ่นดินดูก็ได้

471 Nameless Fanboi Posted ID:rKf1soW1R

>>470 ไม่ใช่โทนแบบนั้น แต่หมายถึง voice ของตัวละครต่างหาก จะให้ใช้ศัพท์แสงแบบเดียวกันน่ะเข้าใจได้เพราะเป็นเจ้าทั้งคู่ แต่ voice มันต้องไม่เหมือนกันสิ นี่มันคนละคนกันนะ

เหมือนให้มึงหลับตาฟังเพื่อนสองคนคุยกัน มึงก็แยกออกใช่ไหมว่าใครเป็นคนพูดประโยคไหนบ้าง แต่ในเรื่องนี้เจ้าหลวงรังสิมันต์กับเจ้าหญิงทรรศิกาพูดด้วย voice เดียวกันยังกะแม่งพูดคนเดียวเลย

472 Nameless Fanboi Posted ID:TkraGx3hH

หวัดดี เซฮุนเองนะ ใครช่วยสรุปหน่อยดิวะ ขี้เกียจตามอ่าน

ลงชื่อ เซฮุน ไข่ไร้ขนคนเดิมๆ

473 Nameless Fanboi Posted ID:d+QVL02sQ

>>469 กุไม่ใช่คนที่มึงด่านะ แต่กุรู้สึกว่าสำนักพิมพ์มันเน้นตลาดล่างอย่างเดียวว่ะ อาจจะเพราะสามารถกดเงินที่ต้องแบ่งนักเขียนได้ แถมผลิตได้เร็ว ไม่ต้องใช้หัวคิด ทุ่มเท ค้นคว้าให้นิยายดูน่าเชื่อถือ ในรอบ 10 ปีมานี้ พวกตลาดกลางที่มีกำลังซื้อหนังสือนิยายดีๆที่ติดอันดับ best seller หรือซื้อตาม asia book kinokuniya ทั้งๆที่ราคาแพงกว่าพวกนิยายเน่าๆ เยอะ ถ้าเป็นแบบไอ้ปกป้องพูดจริงล่ะก็ว่าคนไทยส่วนใหญ่อ่านแต่แนวนั้น ไม่มีใครสนนิยายดีๆหรอก ทำไมร้านขายนิยายต่างชาติมันไม่เจ๊งวะ เห็นเอานิยายดีๆเข้ามาเอา เข้ามาเอา

474 Nameless Fanboi Posted ID:TkraGx3hH

สัดไม่มีใครสรุป

งั้นช่วยเรื่องวิจารณ์ละกันนะ ไม่ว่านักเขียนหรือนักวิจารณ์ก็มีทั้งสมัครเล่นและมืออาชีพ มีทั้งเพิ่งเริ่มและอยู่นาน

ยกตัวอย่างนักวิจารณ์หนังฮอลลีวูด เขาก็แบ่งเกรดกัน มี top critics(ติดดาว) กับ general critics (พวกไม่มีดาว) ซึ่งในกองกระแสตอบรับ feedback พวก studio หนังก็ให้ความสำคัญกับเสียงวิจารณ์

ผู้บริโภคทำได้อย่างมากแค่ยอดตั๋วยอดซื้อ

แน่นอนๆ หนังห่วยๆ กากๆ ขยะๆ มีรายได้ดีถมเท แต่มึงก็จะไม่ได้คำวิจารณ์ที่ดีจากนักวิจารณ์โดยส่วนตัว

สรุป ไม่มีใครอธิบายสรุปว่าพูดอะไรกัน กูก็มั่วซะเลย

ลงชื่อ เซฮุน ไข่ไร้ขนคนกันเอง

475 Nameless Fanboi Posted ID:75sZWAu66

ว่างๆไปเถียงในพันทิพเถอะ คนชอบอ่านนิยายนอกเว็บโม่งจะได้ตื่นตัวว่าวงการนิยายเป็นเหี้ยไรกัน

ky การเก็บสถิติแบบนี้ช่วยได้จริงเรอะกับวงการนิยาย
https://www.dek-d.com/board/view/3764241/

476 Nameless Fanboi Posted ID:u60fyzDH0

>>475 คิดว่า Template นิยายมันเกิดขึ้นได้ไงละ ถ้าไม่ใช่เอาโน่นนิดนี่หน่อยจากเรื่องดังๆ มาผสมรวมกัน

ไปดูนิยายต่างโลกสิ ปัจจัยสำคัญๆ ที่คิดว่าจะทำให้คนอ่านมีหมด แต่จะสนุกหรือไม่ขึ้นอยู่กันคนเขียนแล้ว

477 Nameless Fanboi Posted ID:TaAaUD+h2

>>473 ข้างบนก็มีคนพูดไว้แล้วว่ามันเกิดจากความมักง่ายและอยากได้กำไรเกินไป ทั้ง สนพ. และนักเขียน เลยผลิตงานเน้นขายได้ในระยะสั้นออกมา แล้วเป็นไง สุดท้ายเน่าทั้งวงการ สูญเสียกันมาเยอะแล้วกับคำว่า "สักแต่ว่าเขียนเพื่อให้ขายได้" เนี่ย

478 Nameless Fanboi Posted ID:JAhnfygdQ

>>475 คนเข้าร่วมแบบสำรวจน้อยไปว่ะ เอามาอ้างอิงจริงๆ ไม่ได้ ประชากรจริง(อย่างน้อยก็ในเว็บเด็กดี)ระดับหมื่นระดับแสนคน คำนวนกลุ่มประชากรอย่างน้อยก็น่าจะร้อยขึ้นหรือไม่ก็พัน กูไม่ได้คำนวนชัดๆ นะ แต่คนเข้ามาโหวตไม่ถึงร้อย แล้วนี่พูดเหมือนใช้อ้างอิงได้ทั้งวงการนิยาย กูขำมันใช้คำว่า'คนส่วนใหญ่'

479 Nameless Fanboi Posted ID:tm25G5Jnt

ท๊อปต่างโลกเดี่ยวนี้ก็เอานิยายแปลมาทำพล๊อตหลักแล้วเปลี่ยนนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง สู้ไปอ่านต้นฉบับดีกว่า

480 Nameless Fanboi Posted ID:75sZWAu66

>>479 +1 นั้นคือเหตุผลกูเลิกตามนิยายเด็กดี ซึ่งคุณภาพโดยรวมไม่ได้ดีไปกว่าต้นฉบับ

481 Nameless Fanboi Posted ID:3mELUR4.N

จริงๆพวกมึงไม่ควรเอานิยายตีพิมพ์มาเถียงกันเลยนะ

นี่มันหัวข้อนิยายเด็กดี บนบอร์ดเว็บโนเวล ต่อไปคงลากยาวไปถึงดาวพลูโต

482 Nameless Fanboi Posted ID:vyTJf4IAy

ใครเบื่อแฟนตาซีที่มีระบบเป็นเกมบ้าง

483 Nameless Fanboi Posted ID:75sZWAu66

>>482 กูคนนึง เล่นเกมสนุกกว่านั่งอ่านคนในเรื่องเล่นเกมกัน

484 Nameless Fanboi Posted ID:xy8Cv744q

>>482 แฟนตาซีไหนที่วาร์ปไปต่างโลกแล้วมีหน้าจอสเตตัสกับสกิลล์กูปิดหมด

485 Nameless Fanboi Posted ID:X4Q33+Q4u

>>482 กูชอบนิยายเกมส์ออนไลน์นะ แต่ไม่ชอบให้ไปต่างโลกวะ

486 Nameless Fanboi Posted ID:1rAP20EDc

ต่างโลกที่มีหน้าต่างสเตตัส มักเขียนโดยคนที่อยากเขียนนิยายออนไลน์ แต่ผูกเรื่องเข้ากับโลกความจริงไม่เป็น

ทำให้ตายแม่งเลย ง่ายดี จะได้ไม่ต้องออกจากเกม

487 Nameless Fanboi Posted ID:75sZWAu66

>>486 พูดให้ถูกคือพล๊อตย้อมแมว หลอกว่าไปต่างโลกจริงๆ แถมคนเขียนสวมรอยเป็นพระเจ้าหรือคนอัญเชิญในเรื่อง คนอ่านที่ไม่ใช่คอเกมเมอร์ดันหลงเชื่อซะงั้น

488 Nameless Fanboi Posted ID:NRbBbh8Lr

ปัญหาคือนิยายแนวนั้นสุดท้ายก็จะมาแนวตัวเอกแมรี่แกรี่ได้พลังพิเศษง่ายๆ โดนฮาเร็มห้อมล้อม บางเรื่องนี่อ่านแล้วรู้เลยอ่ะว่าเอานิยาย หรือการ์ตูนเรื่องอื่นมาดัดแปลง

489 Nameless Fanboi Posted ID:H+Ev20Mua

ดูอย่างเรื่องโลกเวทมนตร์ของคาออสดิ ยังอุส่าห์มี สนพ สนใจเอาไปตีพิมพ์ ไอ้พวกที่ซื้อนี่ในอนาคตต้องด่าตัวเองแน่ว่ามันทำอะไรลงไป ซื้อนิยายบ้าบอแบบนี้มาเพื่อ?

เหมือนสมัยก่อนที่กูเคยหลงซื้อไวทโร้ทมา แม่ง...ตราบาปเหี้ยๆ 😂😂😂

490 Nameless Fanboi Posted ID:8cLJP1los

>>489 😎😎😎😎😎😎

491 Nameless Fanboi Posted ID:75sZWAu66

>>488 โชคดีหน่อยที่นิยายฝรั่งไม่ได้บ้าตาม นอกจากตลาดใหญ่กว่าแล้ว คลิเช่ของทางนั้นไม่เหมือนคลิเช่บ้านเรา
>>489 ปล่อยแม่งไปเหอะ กูไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับมัน เพราะกูไม่ซื้อนิยายเกรด C

492 Nameless Fanboi Posted ID:XvLe+SHFA

>>490 มึงจะแข่งอีโมติค่อนกับกูเหรอ

"ว้ายสายแล้วววววว ไปโรงเรียนไม่ทันแน่" 😭 ฉันร้อง

อาบน้ำแต่งตัวประมานสิบนาทีคะ 😘

วิ่งเพลินไปหน่อยชนใครไม่รู้ตรงมุมตึก ขนมปังที่คาบอยู่ตกพื้นเลอ เสียจัยยยยยยยยย 😫

อุ่ย 😲 ลืมไปว่าชนคน "ขอโทษคร่าาาาา" 🙏🙏🙏

"บ่เป็นหยังดอก" เทพบุตรอิสานมองมาทางนี้ด้วยล่ะ หล่อสัสหมา มดลูกขนลุกเลยจ๊า 😍😍😍😍😍😍😍

"ขอไอดีไลน์หน่อยได้มิ" ดอกทองจังเลยเรา 😳😳 อ่อยแบบนี้แม่รู้คงเจอด่ายับ 😝

พอก่อน...เค้นพลังแจ่มใสออกมาได้แค่นี้แหล่ะ บัยส์ 😂😂😂

493 Nameless Fanboi Posted ID:75sZWAu66

>>492 พอก่อน กูขี้เกียจอ่านจส.

494 Nameless Fanboi Posted ID:9GDl0yTj6

>> 2 เรื่องต่อไปใครสับ กูอยากอ่านคำวิจารณ์ละ อยากรู้เหมือนกันในลิสต์พวกนั้น จะมีเรื่องที่โดนใจพวกมึงบ้างมั้ยวะ

495 Nameless Fanboi Posted ID:9GDl0yTj6

>>2 แก้ลิงค์ๆ

496 Nameless Fanboi Posted ID:/CYVAmPGr

รบกวนช่วยเลือกเรื่องที่จำนวนตอนไม่ยาวมาก (ไม่เกิน 15 ตอน) และดำเนินเรื่องไปได้แล้วในระดับหนึ่งให้หน่อยสิ ขอแนวแฟนตาซี ผจญภัยนะ ไม่เอาผี สืบสวน รักหวานแหวว อยากจะลองกลับมารีวิวดูน่ะ

497 Nameless Fanboi Posted ID:75sZWAu66

>>496 เอาเรื่องนี้ก่อนเลย มันอยากดังมาก
https://writer.dek-d.com/Artcyber/writer/view.php?id=1620743

498 Nameless Fanboi Posted ID:NRbBbh8Lr

>>496 เคยมีเรื่องนึงที่คนๆนึง ดันทุรังมาแปะในโม่งนิ ไม่มีใครสับหน่อยหรอวะ

499 Nameless Fanboi Posted ID:1eHBpEM1x

>>497 มีเรื่องอื่นอีกไหม

500 Nameless Fanboi Posted ID:FWmHeywc+

>>498 https://writer.dek-d.com/magicofpunch/writer/view.php?id=1558495 เออ กุเจอล่ะ ลองเอาชื่อเรื่องมันไปเสิทอากู๋ดู >>499 จะลองดูมั้ยล่ะ

501 Nameless Fanboi Posted ID://FX9FvaG

>>497 ถ้ากรุไม่ติดดู wonder woman วันนี้จะสับให้

502 Nameless Fanboi Posted ID:l8RvA7+5l

>>501 กูเพิ่งดูมา พระเอกทรงคุณค่า หล่อโฮก

503 Nameless Fanboi Posted ID:DBk0zsHZj

ถามหน่อย ขายพล็อตได้จริงๆเรอะ
https://www.dek-d.com/board/view/3764743/

504 Nameless Fanboi Posted ID:e8y4Q9SRR

>>503 ขายได้ แต่ไม่มีคนซื้อ ถ้ามันไม่อลังการงานสร้างจริงๆ เช่น โลกแฟนตาซีที่มีเซ็ตติ้งทุกอย่างพร้อม ทั้งประวัติความเป็นมาของโลก เผ่าพันธุ์ เวทมนตร์ etc. แต่ดูจากการตั้งกระทู้แล้วไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นอะนะ

505 Nameless Fanboi Posted ID:IQwjbI8/D

>>503 กูเคยเจอแต่สนพ.ให้ประกวดพลอต ส่วนถ้าจะขายเองนี่ต้องเจ๋งจริงๆเหอะ

506 Nameless Fanboi Posted ID:wx16/D+wA

ไอเท็มจูนิเบียว
https://www.dek-d.com/board/view/3764786/

507 Nameless Fanboi Posted ID:VQ31UAr4J

>>506 ของคนตั้งกระทู้กูว่าธรรมดานะ เหมือนของที่ต้องคิดมาเพื่อใช้ในเนื้อเรื่องตามเงื่อนไขอะไรงี้ แต่ของพวกที่มาเม้นต์นี่ดิ ห่า ไอเท็มเทพทรู

508 Nameless Fanboi Posted ID:l2PmG4.tA

>>506 กุเงิบของดอกขาวสุดละ ล้ำเหี้ยๆ...

509 Nameless Fanboi Posted ID:G99HOdpPw

อ่านคำโปรยพอ
https://my.dek-d.com/MTHPH/writer/view.php?id=1649074

510 Nameless Fanboi Posted ID:8/uJaTKLD

>>509 กูเหนื่อยกับระเบิด ตูม!!! ตูม!!! อยู่นั่น เครื่องหมายตกใจก็เยอะชิบหาย 555

511 Nameless Fanboi Posted ID:dQE.e6FL2

>>509 บู้ม!!! ตู้ม!!! บ่ะคู้มมมม

512 Nameless Fanboi Posted ID:n1SDtvEhW

>>509 หูกูเกือบแตก เสียงระเบิดมึงกลบจินตนาการของกูสิ้น เอาออกบ้างเหอะมึง

513 Nameless Fanboi Posted ID:1R5DwdfQ0

>>511 บ่ะคู้ม นี่กูจะได้ยินเวลาเมียกูไปซื้อของแล้วเสียดายตังค์ว่ะ

ลงชื่อ เซฮุน ตอนแรกจะเล่นเป็นชื่อทีมสโมสรฟุตบอลในเยอรมันด้วย

514 Nameless Fanboi Posted ID:OrRtjT61q

>>513 กูเอามาจากเพจพลทหารสมองน้อย มันชอบใส่เสียงระเบิดแบบนี้

515 Nameless Fanboi Posted ID:Vwp6g+nc9

"เปลี่ยนไปเยอะเลยแหะ" มึงอ่าน แฮะ เป็น แหะ กันตอนไหนวะ?

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=772675659576421&substory_index=0&id=329841217193203

516 Nameless Fanboi Posted ID:UOFau.eGd

>>515 เออ อันนี้กูก็สงสัยเหมือนกัน เจอในนิยายที่กูอ่านหลายเรื่องเลย บางทีก็เจอ "หะ" แทน "ฮะ" ด้วย ตกลงมันใช้ผิด หรือใช้ถูกแล้วแต่กูเข้าใจผิดว่ามันผิดวะ

517 Nameless Fanboi Posted ID:EaRONeAtr

>>516 มันก็ผิดอะแหล่ะ

518 Nameless Fanboi Posted ID:nn405SJ7l

>>516 กูผู้ชายกูยังรู้ว่า 'ทอม' ใช้ 'ฮะ' ไม่ใช่ 'หะ' คือถ้าทอม ใช้ 'หะ' กูคงจะ 'ห๊ะ' พอสมควร

ลงชื่อ เซฮุน ไม่ได้เหยียดเพศ เจ้าหะ เจ้าฮะ โธ่พี่ปอ!

519 Nameless Fanboi Posted ID:x5Nn3ghP8

เป็นแบบนี้มากว่าสิบปีล่ะ จำไม่ได้ว่าเกิดจากไหน

520 Nameless Fanboi Posted ID:zmV7DtOuE

กูว่ามันแย่ยิ่งว่า ครับ ครั่บ ครั้บ ครั๊บ นะครับ น่ะครั่บ นะครั๊บ อีกนะมึง

521 Nameless Fanboi Posted ID:+wXTiYC9T

นี่แปลถูกป่ะ http://i.imgur.com/tt07ShQ.jpg

522 Nameless Fanboi Posted ID:0xUoELDUT

>>521 มันน่าใช้แบบ บุคคลสุดชั่วร้ายแห่งยุค แทนนะ แปลแบบนี้แล้วมันดูไม่เข้ากับธีมเรื่องเลย

523 Nameless Fanboi Posted ID:wYqZjkK7Q

>>521 ถถถ ต่อให้ถูกก็ไม่ควรใช้คำนี้ หยาบสุดให้ได้แค่คำว่าระยำ

คือมันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่มีคำไหนมาแทนคำว่าเหี้ยได้ จริงๆแล้วคำว่าเหี้ยนี่ ถ้าถามว่าแปลว่าอะไรแม่งก็นิยามออกมาชัดๆไม่ได้ด้วยซ้ำ รู้เเต่ว่ากระเดียดไปทางเลว ชั่วมาก ทำนองนี้

524 Nameless Fanboi Posted ID:n2rkUwGWn

>>522 นี่เป็นนิยายเกมส์ออนไลน์สมัยใหม่นะ ชื่อในนี้เป็นชื่อในเกมส์ ลองอ่าน Boss จินตนาการพิศดารดู ภาพใน >>521 กูก็ตัดมาลงเอง

>>523 แปลตามบริบทและอารมณ์ไง นิยายแปลฝรั่งก็เคยใช้นะ แล้วแต่คนจริงๆ

525 Nameless Fanboi Posted ID:0xUoELDUT

>>524 เวรจริง กูนึกว่านิยายจีนโบราณ สงสัยแล้วแต่คนจริงๆ เรื่องการแปลนี่

526 Nameless Fanboi Posted ID:rtVskObVx

มึงว่าการเปิดเรื่องที่ดีต้องเป็นแบบไหน
https://www.youtube.com/watch?v=yJNMkroM8zQ

527 Nameless Fanboi Posted ID:ihDGZGF2F

>>526 ดูแล้วขำดีวะ ตกลงมันประชดใช่มั้ย เกิดมีคนเชื่อจริงๆ แม่งนิยายเน่าพอดี 5555555

528 Nameless Fanboi Posted ID:albG1aKxD

>>527 ช่องนั้นแนะนำไร ทำตรงข้ามให้หมด 55

529 Nameless Fanboi Posted ID:rtVskObVx

อีผีดูดปจด.มาแล้ววะ https://my.dek-d.com/mainayapai/writer/view.php?id=1650267

530 Nameless Fanboi Posted ID:MEywFU473

ใครไปก็เจอกูนะ

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=627573284108936&substory_index=0&id=256455001220768

531 Nameless Fanboi Posted ID:fnj9iPRtc

กูมีข้อสงสัยว่ะ คืออยู่ดีๆ กูก็สงสัยว่าความจริงแล้วนิยามของนิยายดีเนี่ยมันคืออะไรวะ เผื่อจะเอามาใช้ประกอบการเขียนนิยายได้บ้าง คือกูเข้าใจของกูเองว่านิยายดีคือเรื่องที่มันสนุกแล้วก็สมเหตุสมผล แต่อย่างอื่นล่ะวะ? กูเคยอ่านวรรณกรรมเก่าๆ อย่างโอดีสซีย์ของโฮเมอร์มาครั้งหนึ่งนะ ใครๆ เขาก็บอกว่ามันเป็นวรรณกรรมเรื่องเยี่ยม แต่กูมองว่าแม่งเขียนเชิดชูวีรบุรุษได้สุดโต่งมาก กลางเรื่องยังไม่เท่าไรนะ แต่ตอนจบนี่กูว่าอย่างตัดจบเพื่อให้ตัวเอกชนะ กูเลยสงสัยว่าแต่ละคนมีความคิดเห็นเรื่องวรรณกรรมดีๆ ว่ายังไงบ้างวะ? คือไม่ต้องพูดเรื่องวรรณกรรมคลาสสิคก็ได้ กูก็อ่านมาไม่กี่เรื่อง แต่บางทีกูรู้สึกเหมือนบางคนเขาก็เน้นความสวยงามของเนื้อเรื่อง ของภาษา แต่บางคนก็เน้นพล็อตเรื่องเข้มข้นหรือเปล่า?

532 Nameless Fanboi Posted ID:UVcEjSdCL

>>531 เขียนอ่อนออก + การตลาดที่แข็งแกร่ง = นิยายชั้นนำ

533 Nameless Fanboi Posted ID:ks2zFeCEw

>>531 อยู่ที่มึงอยากให้มันดีในด้านไหน จะเอาดีแบบไม่ค่อยดังแต่มีคนชื่นชมเฉพาะกลุ่ม หรือจะเอาดีแบบที่ขายได้ มึงต้องตอบคำถามข้อนี้ให้ได้ก่อน เรื่องตัวอย่างที่มึงยกมากูว่ามันก็ออกจะซูหน่อยๆ แหล่ะ ทุกอย่างเว่อร์ได้แต่ก็อย่าให้บ่อย เฟ้อ เว่อร์สุดตีน เอาให้มันทางสายกลางก็พอ

534 Nameless Fanboi Posted ID:fnj9iPRtc

>>533 เรื่องที่กูยกมากูว่ากลางเรื่องมันซูกว่านี้อีก ตัวล่อนจ้อนใส่ใบไม้ปิดโมะอันเดียวเดินออกไปคุยกับสาวแล้วสาวชมว่าหล่อ ไปซ่าไว้มากทำคนอื่นตาบอดแต่มีเทพคอยช่วยเหลือไม่ให้โดนตามล้างแค้น ทำทั้งเมืองล่มเพราะการตามล้างแค้นส่วนตัวเองรอด พอโดนตามล้างแค้นจนเรือแตกก็ดันมีสาวที่ไหนไม่รู้มาหลงรักช่วยอุปถัมภ์ info dumping เรื่องเล่าของตัวประกอบโผล่ไม่กี่หน้าก็มี แต่ก็มีคนบอกว่ามันดี แล้วก็อีกหลายเรื่องที่ขายได้แต่คล้ายๆ กัน กูเลยสงสัยว่าแบบนี้ถ้ากูต้องทำมาหาแดก กูจะเขียนนิยายทั้งทีกูคงไม่ต้องเขียนแบบที่มันดีมากใช่ไหมวะ? เอาให้มันสนุกหรือตามความชอบก็พอ ซูๆ เบียวๆ ก็โอเค คนน่าจะชอบอยู่

535 Nameless Fanboi Posted ID:DRofa+8oZ

แบบราชานกฮูกไงมึง จากแฟนตาซีเป็นวาย ยอมรับกันตรงๆว่าทำเพื่อเงิน 555

536 Nameless Fanboi Posted ID:rtVskObVx

>>535 เรื่องนี้ไปอีกราย https://www.dek-d.com/board/view/3766063/

537 Nameless Fanboi Posted ID:ks2zFeCEw

กูไม่มีความเห็นเกี่ยวกับคนที่ผันตัวไปแต่งวายนะ เรื่องนี้มันสิทธิส่วนบุคคล จะแต่งเพราะอยากแต่ง หรือแต่งเพื่อหวังขายได้ ก็แล้วแต่พวกแม่ง ส่วนกูก็เขียนแนวเดิมต่อไป เพราะกูชอบแนวนี้

538 Nameless Fanboi Posted ID:TgjUMFwSN

>>537 คือคนวิจารณ์เขาก็มีสิทธิ์ คือการเขียนวายมันหนักหัวเขาไง หนักหัวแม่เขา หนักหัวพ่อเขา หนักหัวโคตรเหง้ากำมะหยี่ ต้องเข้าใจเขาด้วย

ลงชื่อ เซฮุน กูเขียนยูริดีกว่า

539 Nameless Fanboi Posted ID:lK+7p2jtD

เซอวิสไม่ผิดหรอก แต่เรื่องที่ดีต่อให้ตัด เซอวิสเหล่านั้นไปก็ยังสนุกอยู่ ไม่ใช่เอะอะก็เซอวิส

540 Nameless Fanboi Posted ID:P35GjdRPx

>>538 ไม่หนักหัวถ้าเขียนเพราะชอบ หรือจำเป็นต้องเขียน อันนี้เข้าใจ แต่ถ้าเขียนแนวอื่นก็ขายได้ วายก็ไม่ได้ชอบ แต่เขียนวายแล้วมันได้เงินเยอะกว่าอะ เขียนวายแล้วกัน แบบนี้มันน่าสมเพช

ลงชื่อ เซฮุน หนักหัวหน่าว

541 Nameless Fanboi Posted ID:t8rmdzHYi

>>540 ทำเพื่อเงินมันผิดขนาดนั้นเลยเหรอวะ

กุไปลาออกแบบ รู้สึกผิดจนทนอยู่มิได้แล้ว

542 Nameless Fanboi Posted ID:+U3ST9NJG

คนอ่าน (ที่ควักตังซื้อ) เป็นผู้เลือกหรือผู้กำหนดแนวทางของนิยายส่วนใหญ่ของตลาดนั้นๆ
คนอ่านที่ติดตามอ่านในเว็บก็เช่นกัน เป็นผู้กำหนดแนวทางเรื่องที่ขึ้นไปติดอันดับ พล็อตที่สนใจเป็นยังไง
ยิ่งสังคมยุคใหม่ ที่เน้นอะไรรวดเร็ว หวือวา
ข่าวยังเสนอฆาตกรโหดโด่งดังกว่าดาราได้
กูพอเดาได้ว่า นิยายที่เขียนส่วนใหญ่ก็คงไม่พ้นสะท้อนความต้องการ หรือความอยาก หรือเงินในการดำรงชีวิต
ซึ่งมันก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่อาจไม่ถูกใจผู้คนอีกกลุ่ม

543 Nameless Fanboi Posted ID:1Dq+uiYvR

กูไม่รู้ กูอินดี้ (ทำเสียงแบบคายาบะ อะกิฮิโกะ ในคลิปฮาเกต)

544 Nameless Fanboi Posted ID:g3PZT7zEG

ใครว่างช่วยสับหน่อย กูติดเรียน https://writer.dek-d.com/lookc/writer/view.php?id=1645949

545 Nameless Fanboi Posted ID:n.I/af9hy

มันก็เหมือนคอมฟอตโซนแหละทำไรอยู่ภายใต้เงา เมะญี่ปุ่นร่ำไป ยังไงก็มีแฟนๆกลุ่มนึงเลือกตาม ใครกล้าหาญเด็ดเดี่ยวพอก็เขียนเรื่องดีๆต่อไป ถ้ามีคนไม่ยอมแพ้ กุเชื่อว่ะว่าวงการนิยายไทยจะกลับมาดีขึ้นได้

546 Nameless Fanboi Posted ID:2gJuXkKH4

>>545 กลับมา? มึงเชื่อว่าเคยดีมาก่อน?

547 Nameless Fanboi Posted ID:4VGgk2HHb

>>546 ใชว่าวรรณกรรมไทยจะไม่ได้รางวัลจากต่างชาติมาก่อน ก่อนเริ่มปั้มจำนวนตามกระแส คือใครยังแน่วแน่ก็ต้องทำต่อไป ถ้าอยากเขียนในคอมฟอตโซนก็เขียนไป

548 Nameless Fanboi Posted ID:Ji3rYDg8b

นิยายได้รางวัลก็ใช่ว่าจะขายดีด้วยตัวมันเองนะ (ยกเว้นที่ระบบห้องสมุดจำเป็นต้องเลือกงานแบบนี้เข้าระบบก่อน)
นิยายได้รางวัลของต่างประเทศเอง ก็เข้ามาแปลในบ้านเรามากมาย ยังเป็นกระแสได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว หรือยอดขายไม่ได้ดีอะไรนัก
ตลาดบ้านเรา เป็นยังไงก็น่ารู้แก่ใจดี เด็กรุ่นใหม่ๆเป็นยังไงก็น่าจะรู้ เติบโตด้วยการอ่านนิยายตามกระแสทั้งนั้น
จะบอกว่ามันผิดมั้ย กูขอเดาว่ามันก็เป็นกันไปทั้งโลกแหละ เพราะบ้านเรามันก็ตามกระแสโลกเค้ามาทั้งนั้น
กูยังชอบคำพูดคลาสสิคระดับโลก
#ท้องไม่อิ่มย่อมไม่มีวันสร้างผลงานที่ดีออกมาได้#

549 Nameless Fanboi Posted ID:++b.FVGMh

>>548 กระแสโลก หรือ กระแสญี่ปุ่น ??

550 Nameless Fanboi Posted ID:t8rmdzHYi

>>549 ถ้าฝั่งเมกา ไนจีเรียดัง มันก็ต้องตามพวกนี้สิวะ

551 Nameless Fanboi Posted ID:++b.FVGMh

>>550 กุไม่เคยเห็นนิยายแถบยุโรปมันจะได้อิทธิพล คลิเช่แบบญี่ปุ่นๆเลยนะ พวกเบียวๆ วายๆ ลองเอาพวกนิยายชูๆญี่ปุ่นไปขายแถบยุโรปดิ แฟนตลาดเล็กจะตายเทียบกับนิยายดีๆ แบบฉบับเขาเอง ก็อย่างว่าแหละ นิยายญี่ปุ่น โมเอะ ออกแบบมาขายพวกหนีสังคมอยู่แล้ว

552 Nameless Fanboi Posted ID:2gJuXkKH4

ไปเขีบนบทละคร บทหนัง แต่งเพลงดีกว่ามาเขียนนิยายนะเด็กๆ

553 Nameless Fanboi Posted ID:g3PZT7zEG

>>551 ตลาดฝั่งโลกตะวันตกไม่นิยมเกิดใหม่ต่างโลกหรอก เกมออนไลน์ก็ไม่ได้รับความนิยม เพราะฝรั่งอยากเล่นเกมมากกว่า

554 Nameless Fanboi Posted ID:IPGCfI6ix

>>549 กูหมายถึงตลาดบ้านเรา ได้รับกระแสจากต่างประเทศเป็นหลัก
หลังจากแนวแฮร์รี่แล้ว
กระแสอะไรที่มาในตอนนี้ ก็คงญี่ปุ่น หรือจีน เกิดใหม่ทั้งนั้นใช่มั้ย
ตอนนี้นอกจากแนวรักที่ขายได้ดีในตลาด หรือแนววายที่แฟนคลับเปย์ง่ายกว่าสายอื่นๆแล้ว
ก็จะมีแนวจีนเซินเจิ้น ทะยอยมาขายได้เรื่อยๆ

555 Nameless Fanboi Posted ID:IPGCfI6ix

ต่ออีกนิด แนวเกิดใหม่แบบแนวญี่ปุ่น แม้จะมีคนเขียนเยอะมากและติดท็อปในหมวดแฟนของวดด
แต่กูเดาว่าคงอิ่มตัวไปแล้ว สังเกตคือไม่มีเรื่องใหม่ๆที่ได้ตีพิมพ์กันสักเท่าไรอีกแล้ว

556 Nameless Fanboi Posted ID:B+WK.2F2q

>>551 อยากจะกดไลค์พันครั้ง +++++++

จะหาว่ากูเหยียดก็ตามใจ แต่ทุกคนที่กูรู้จัก ที่บ้าอนิเมะ บ้าความเป็นญี่ปุ่น บ้าไอดอล แม่งเป็นพวกลูสเซอร์ทุกคน

557 Nameless Fanboi Posted ID:g3PZT7zEG

>>556 ลูสเซอร์ของจริงต้องเสพย์แล้วชักว่าวทุกครั้งสิ อันนั้นไม่ไหวจะเคลียร์

558 Nameless Fanboi Posted ID:4LuA.U2iN

>>557 ขาดเปิดกระโปรงแล้วเลียจิ๋มฟิกเกอร์ด้วยนะโม่ง

559 Nameless Fanboi Posted ID:IPGCfI6ix

>>556 แต่ว่าในตลาดหนังสือบ้านเรา
พวกนี้แหละที่ช่วยซื้อนิยายกันอย่างจริงจัง (อย่าเอาตลาดที่อื่นเทียบ เพราะแต่ละที่นิสัยคนไม่เหมือนกันอีก)
มากกว่ากลุ่มอื่นๆ ในงานหนังสือ ยังต่อท้ายแถวแย่งกันซื้อจนหมดเป็นล็อตๆ
คือกูก็เข้าใจที่มึงพูด
แต่ความจริงคือ สนพแนวนี้อยู่ได้ สนพอื่นดิ้นรนกันแทบตาย ถ้ามองข้ามช็อตไปอีก ในอนาคตกลุ่มนี้คือคนอ่านที่ยอมจ่ายเงินซื้อหนังสือ
แล้วไง มันก็วนลูปมาที่ คนอ่านเป็นคนเลือกเสพ เลือกกำหนดแนวพล็อตอีก

560 Nameless Fanboi Posted ID:lSNr0LSzU

หรือถ้าจะพูดให้ถูก วงการนิยายไทยตามกระแสเก่ง แต่ขาดนวัตกรรม

561 Nameless Fanboi Posted ID:FlznND3VA

>>560 ไม่มีความเป็นตัวเองมาตั้งแต่แรกแล้ว พอมีคนพยายามจะใส่ความเป็นไทย หรือดัดแปลงประยุกต์ก็ติดขัดจาก 2 สาเหตุใหญ่ๆ คือเด็กรุ่นใหม่ไม่ให้ความสำคัญ หรือไม่สนใจผลงานแนวนี้ กับอีกอย่างคือพวกคนแก่ไดโนเสาร์เต่าล้านปีที่เอาแต่คัดค้าน คิดว่าเป็นการลบหลู่ของเก่าแก่ อย่างตอนทศกัณฑ์แคะหนมครกนี่โคตรจะดิ้นเลยทั้งๆ ที่รามเกียรติ์ไม่ใช่ของไทยแท้ด้วยซ้ำ

562 Nameless Fanboi Posted ID:7RrhK0pZ9

>>561 รามเกียรติ์ของไทย
รามายนะของอินเดีย

นับแค่ด้านวรรณกรรม ของเรามีการดัดแปลงไปจนบอกได้ว่าไม่ใช่ของเดิมแล้ว แบบเดียวกับที่สปาเก็ตตี้ไม่ใช่หมีของจีนนั่นละ

563 Nameless Fanboi Posted ID:0PSfH/za5

>>562 หมี่ใช่มั้ย สตั๊นไปแวบนึง

564 Nameless Fanboi Posted ID:+L9FgAFmt

>>562 รามเกียรติ์เป็นของไทยโว้ย! มึงเคยไปถนนพระรามเก้าไหมไอ้สัด! Rama IX Represent!

565 Nameless Fanboi Posted ID:LiuhfP+2T

>>564 มึงมึนอะไร

566 Nameless Fanboi Posted ID:lSNr0LSzU

>>564 ต้นเค้าของเรื่องรามเกียรติ์มาจากเรื่องรามายณะ ของอินเดีย ซึ่งเป็นนิทานที่แพร่หลายอยู่ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียใต้ ต่อมาอารยธรรมอินเดียได้แพร่หลายเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พ่อค้าชาวอินเดียได้นำอารยธรรมและศาสนาเข้ามาเผยแพร่ด้วย ทำให้เรื่องรามายณะแพร่หลายไปทั่วภูมิภาค กลายเป็นนิทานที่รู้จักกันเป็นอย่างดี และได้ปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมของประเทศนั้นจนกลายเป็นวรรณคดีประจำชาติไป ดังปรากฏในหลายๆชาติ เช่น ลาว พม่า เขมร มาเลเซีย อินโดนีเซีย ล้วนมีวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์เป็นวรรณคดีประจำชาติ

567 Nameless Fanboi Posted ID:WwEI5YCRN

เดาผล ARC award ใครจะร่วง ใครจะรุ่ง?

วันนี้เป็นวันประกาศผลรอบคัดสรร (รอบแรก) ของผลงานทั้ง 721 ชิ้น ที่ส่งเข้าประกวดในรายการ ARC award ของสนพ. อัมรินทร์ ซึ่งจัดแทนที่รางวัลนายอินทร์อวอร์ด เป็นปีแรก ดังนั้นจึงไม่สามารถการันตีได้ว่าเกณฑ์การตัดสินจะเป็นไปในแนวทางเดิมหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ทางทีมงานได้แจ้งรายละเอียดมาแต่ต้นว่า ผลงานที่ต้องการ คือผลงานที่ "เป็นที่สุดในทางของตัวเอง" โดยไม่ได้จำกัดแนวของผลงาน ถึงขนาดที่ย้ำออกมาว่า จะส่งเป็น photobook เน้นใช้ภาพเล่าเรื่อง โดยไม่ต้องมีตัวหนังสือแม้แต่ตัวเดียวก็ได้! ถ้ารูปภาพมันสื่อความหมายในตัวเองอยู่แล้ว ก็สามารถจับเงินแสนได้เหมือนกัน

แต่จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ?

เวลาประมาณ 13.00 น. ของวันนี้ กองประกวดผลงานได้ประกาศจำนวนของผู้ผ่านเข้ารอบต่อไป โดยมีจำนวนผลงานที่ผ่านการพิจารณาทั้งสิ้น 38 ชิ้น จากทั้งหมด 721 ชิ้น คิดเป็น 5% จากผลงานที่ส่งประกวดทั้งหมด หรือพูดภาษาบ้านๆ ก็คือ ใน 100 ชิ้นที่ส่งไป มีผลงานเพียง 5 ชิ้นเท่านั้น ที่ได้ไปต่อ!

โม่งนิวส์ จึงขอตามติดผลการตัดสินของงานประกวดในครั้งนี้ โดยในเบื้องต้น จะขอคาดการณ์ถึงประเภทของผลงานที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

ผลงาน 3 ประเภทที่น่าจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปแน่ๆ คือผลงานประเภทนวนิยาย รวมเรื่องสั้น และกวีนิพนธ์ ซึ่งเป็นผลงานประเภทยืนพื้นของทุกกองประกวด โดยแนวของงานเขียนทั้ง 3 ประเภท น่าจะอยู่ในกลุ่มของงานเกี่ยวกับชีวิต สะท้อนสังคม วิทยาศาสตร์ และอิงประวัติศาสตร์ จากการคาดการณ์ของกองบรรณาธิการโม่งนิวส์ มีความเป็นไปได้น้อยมากที่ผลงานประเภทนวนิยายรักโรแมนติกจะผ่านเข้ารอบ เว้นแต่ว่าเนื้อหาจะมีความแปลกใหม่และดึงดูดเป็นอย่างมาก เพราะอมรินทร์เองก็มีสำนักพิมพ์ในเครืออย่าง สนพ.อรุณ ที่ตีพิมพ์นิยายรักอยู่ และหนึ่งในกองบรรณาธิการของ สนพ. อรุณ ก็คงได้รับมอบหมายให้มาเป็นกรรมการคัดเลือกผลงานในรอบนี้ด้วย เพราะฉะนั้นถ้าไม่ดีจริงปังจริง คงหวังเข้ารอบได้ยากสักหน่อย

ผลงานประเภทที่น่าจะเข้ามาเป็นตัวสอดแทรกนอกเหนือจากเมนหลักทั้ง 3 ประเภท ก็คงหนีไม่พ้นนิทานภาพสำหรับเด็ก ผลงานประเภท how to และหนังสือนำเที่ยว ผลงานอื่นนอกเหนือจากประเภททั้ง 6 ที่กล่าวมานี้ กองบรรณาธิการโม่งนิวส์มองว่าเป็นไปได้ยากมากที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป

สรุป: กองบรรณาธิการโม่งนิวส์เชื่อว่า การที่กองประกวด ARC award ไม่ได้กำหนดประเภทของผลงานที่สามารถส่งได้ เพียงเพื่อต้องการให้มีผู้ส่งผลงานเข้ามาร่วมชิงชัยให้เป็นจำนวนมากที่สุดเท่านั้น สุดท้ายทางกองประกวดก็น่าจะมีการกำหนดแนวทางและกรอบของผลงานอยู่ดี

ติดตามผลการประกวดได้ใน facebook fanpage ของกองประกวด ARC Award - อ๊าคอะวอร์ด https://www.facebook.com/AmarinReadersChoiceAward/

ประกาศผลรอบคัดสรร วันที่ 8 มิถุนายน 2017 เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
#ARCAward
#มากกว่ารางวัลคือคนอ่าน

568 Nameless Fanboi Posted ID:lSNr0LSzU

>>567
3 1 1 0 3 4 3 2 3
6 3 3 4 0 2
เลขหวยแน่ๆ

569 Nameless Fanboi Posted ID:pz5RxzQXq

รู้สึกอมรินทร์จะไม่พิมพ์นวนิยายแฟนตาซีนิ

570 Nameless Fanboi Posted ID:VL/CnD7mr

>>569 พูดอย่างนั้นก็ไม่ถูก เพราะเขาก็แปลเกมออฟโทรนด้วยนี่นา หรือนิยายคนไทยเขียนอย่างมาโอ มังกร ก็จัดเป็นแฟนตาซีได้อยู่นะ

571 Nameless Fanboi Posted ID:AVO.usrNg

กุได้ยินมานะว่า ARC AWARD มันล็อกคนชนะไว้แล้วล่ะ ผลงานที่เข้ารอบก็เหมือนปั้นเด็กในเครือ คนรู้จักของตัวเอง 700 กว่าชิ้นเขียนดีพอเข้าเกณฑ์แค่ประเภทละ 1-3 เล่ม ?

572 Nameless Fanboi Posted ID:b+QlqCGDE

>>571 มีหลักฐานม่ะ เพราะถ้าเป็นเรื่องจริง กูจะได้เลิกตามค่ายนี้ เบื่อเด็กฝากเด็กเส้น จะแข่งเพื่อ

573 Nameless Fanboi Posted ID:c4R9/P382

มีคนไปสงสัยการตัดสินกรรมการว่ะ ว่าไม่เป็นระบบ ไม่ตรงรสนิยมหรือโควต้าก็โยนทิ้ง ไม่ให้เกียรติ์งานเท่ากัน แถมไม่จัดสรรค์คำวิจารณ์ให้เป็นระบบ เพื่อง่ายต่อการตัดสินอย่างรอบคอบ ประมาณหลอกให้ส่งแนวไหนก็ได้ แต่สุดท้ายก็อีหรอบสำนักพิมพ์เดิมๆ หลอกคนให้เสียเวลารอฟรี แลกกับความอลังของงานประกวด เพื่อนโม่งคิดไงวะ

574 Nameless Fanboi Posted ID:BGCYasKfY

>>573 เหตุผลมีเพียงหนึ่งเดียว "เงินมาก่อน เรื่องอื่นคุยทีหลัง"

575 Nameless Fanboi Posted ID:2iuSs2eAg

>>574 สุดท้ายก็ไม่พ้นเรื่องผลประโยชน์อยูดี

576 Nameless Fanboi Posted ID:re6sV8QfA

>>575 แน่นอนอยู่แล้วสิวะ ธุรกิจนะ ไม่ใช่เล่นขายของ

ถึงกุจะไม่ชอบแบบแม่งก็เหอะ

577 Nameless Fanboi Posted ID:xbHFUe8Xy

>>576 ไม่ชอบที่แม่งหลอกให้คนส่งเข้าไปเยอะๆ แล้วไม่ให้เกิยรติ์ผลงานนี่แหละ น่าจะบอกไปเลย กรรมการชอบแนวไหนช่วยส่งมาเยอะๆน้า

578 Nameless Fanboi Posted ID:BGCYasKfY

สไตล์คณะกรรมการที่พวกมึงพูดถึง น่าจะแนวนี้แหละ ดูแค่ 45 วิแรกพอ
https://www.youtube.com/watch?v=aJxbqvLNBcw

579 Nameless Fanboi Posted ID:2iuSs2eAg

>>578 จะว่าไปคิดถึงรายการนี้ว่ะ เค้าหายไปนานเลย กลับมาทำต่อมั่งยัง

580 Nameless Fanboi Posted ID:BGCYasKfY

>>579 กว่าจะฉายซีซั่นใหม่ สองเกลอต้องตะล่อนหลายที่เชียวนะ ออกแนวคนธรรมดาศึกษาก่อนเดินทาง ไม่ใช่เอะอะกูรวยกูจะไปที่ๆไฮโซไปกัน

581 Nameless Fanboi Posted ID:2iuSs2eAg

>>580 ที่กูชอบเพราะถึงจะดูออกว่ามีคนคอยยื่นมือเข้าช่วยอยู่เหมือนกัน แต่รายการนี้ก็นำเสนอการเดินทางแบบยากจน, จำกัดจำเขี่ยได้ดีพอตัวเลย ไม่ค่อยเฟคเหมือนรายการนำเที่ยวอื่น หรือไม่ทำตัวพันทิปขอทานชาวบ้านเพื่อเที่ยวให้ถูกที่สุด (ทั้งๆ ที่แม่งก็มีเงินเยอะแต่เสือกไม่ใช้) มีคติสอนใจจากเรื่องราวเรียลๆ ในตอนเยอะดี ช่วงทริปไปญี่ปุ่นนี่กูชอบมากไปสปาอบทรายถ่ายเจี๊ยวลูกค้าคนอื่นติดมาด้วยซะงั้น

582 Nameless Fanboi Posted ID:9PofkOGJD

>>581 ประทับใจส่วนนั้นเรอะ...

583 Nameless Fanboi Posted ID:.q7ZTj9NJ

https://www.uppic.org/share-2AA0_593C3F60.html คิดไงกันกับเม้นนี้ 555

584 Nameless Fanboi Posted ID:NQxxctdWX

>>583 กูนี่ปลงกับวงการนิยายในมุมมองของผู้มีอำนาจเลยพับผ่า

585 Nameless Fanboi Posted ID:OorTbxaLB

กูเฉยๆกับงานประกวดนี้อะนะ เพราะก็เดาได้ว่า ไอ้ที่บอกว่ารับทุกแนวแม่งไม่จริงหรอก อย่างที่เม้นบนๆ เขียนมาซะยาวนั่นล่ะ คือประกาศรับเยอะๆ ให้มียอดส่งเข้ามาเยอะๆนั่นล่ะ ไม่ตรงสเปคก็โยนทิ้งไป ไอ้ที่น่าจะได้ไปต่อจนสุดก็น่าจะมีแค่ นิยาย เรื่องสั้น กวี และแนวที่น่าจะชนะได้ก็คงเป็นแนวชีวิต

จาก 721 ผ่านรอบแรก 38 เรื่อง เอิ่ม แปลว่าอีกเกือบ 700 เรื่องที่เหลือนี่ขี้หีหมดเหรอ ไม่น่าใช่มั้ง

586 Nameless Fanboi Posted ID:uaVtv8roz

>>585 เปรียบเทียบซะกูเจ็บใจแทนเจ้าของเรื่องเลย 55555

587 Nameless Fanboi Posted ID:OorTbxaLB

>>586 ถ้าถามว่าล็อกผู้ชนะไหม กูว่าไม่ล็อกนะ เอาตรงๆ แต่ประเด็นคือน่าจะล็อกสเปคไว้แล้วล่ะว่าอยากให้แนวไหนๆ ได้รางวัลบ้าง เพราะงั้นก็เลยคัดมาแนวละ 3-4 เรื่อง ดูว่าเรื่องไหนในแนวนี้ที่เข้าตากรรมการมากที่สุด พวกที่ตกรอบอาจไม่ได้แย่ทุกเรื่อง แค่อาจไม่ตรงสเปคตามที่กองประกวดวางไว้ หรือมีเรื่องอื่นในแนวเดียวกันที่ดีกว่าเท่านั้นเอง

เปรียบเทียบอย่างกวีนิพนธ์ กูไม่รู้นะว่ามีเข้ารอบกี่เรื่อง แต่สมมติว่ากองประกวดวางไว้ที่ 3 เรื่อง เพราะงั้นถึงกวีของมึงจะเขียนดีกว่างานแนวอื่น (นิยาย ประสบการณ์ชีวิตฯ) บางเรื่องที่เข้ารอบ แต่ถ้ามึงเขียนดีไม่ติด top3 ของกวีนิพนธ์ทั้งหมดที่ส่งไป มึงก็ตกรอบอยู่ดี น่าจะอารมณ์นี้มากกว่า

แต่กูไม่แน่ใจนะว่าคณะกรรมการมีวิธีคัดเลือกยังไง อมรินทร์มีประสบการณ์งานประกวดมานาน คงไม่ใช่แค่อ่านแล้วบอกว่าชอบไม่ชอบหรอกมั้ง ไม่งั้นถ้างานไปอยู่ในมือของคนที่มีอคติก็แย่ตายห่าสิ กองประกวดที่ดีควรมีการเก็บรายละเอียดของงานนะ เพื่อที่จะได้ผลการตัดสินที่ดีที่สุด เช่น งานเรื่องนึงมีคนอ่าน 5 คน ให้แต่ละคนอ่านแล้วสรุปมา ว่าเนื้อเรื่องเป็นยังไง การดำเนินเรื่องเป็นแบบไหน ตัวละครเป็นยังไง การใช้ภาษาของผู้เขียนอยู่ในระดับใด ฯลฯ เพื่อที่ท้ายที่สุดจะได้เอาความคิดเห็นของกรรมการทั้ง 5 คน มาเทียบกันว่าคิดเห็นตรงกันหรือต่างกันยังไงบ้าง เช่นคนนึงบอกว่าตัวละครเรื่องนี้แบน ไม่มีการพัฒนา กรรมการอีกคนเสือกชมว่าคาแร็คเตอร์ของตัวละครมีความชัดเจน จะได้เคลียร์กันให้จบๆ ว่าตกลงแล้วมันเป็นยังไงกันแน่ เพื่อให้คะแนนที่ตัดออกมาเป็นไปอย่างยุติธรรมที่สุด

588 Nameless Fanboi Posted ID:V5K0nADVV

>>587 แอดในเพจมันเคยบอกว่ารอบนี้ กรรม
การอ่านผ่านๆ ไม่ได้ช่วยกันตัดสิน แถมมีข้อครหาเพราะมีกรรมการรับเชิญ และไม่ปกปิดชื่อเจ้าของผลงาน

589 Nameless Fanboi Posted ID:OorTbxaLB

>>588 อ้าว แล้วทำไม >>583 บอกว่าหลายคนช่วยกันอ่านล่ะ แล้วกรรมการรับเชิญคืออะไรวะ

ส่วนไม่ปกปิดชื่อเจ้าของผลงานนี่ไม่แปลกหรอก ตอนประกาศจะได้แน่ใจไงว่าของตัวเองผ่านจริง ไม่ใช่ชื่อเรื่องไปซ้ำกับคนอื่นนะ มันมีปัญหาอะไรเหรอ

590 Nameless Fanboi Posted ID:yYqRTYEmK

>>589 ใน583 มันสมมุติเชิงประชดว่ะ ว่าถ้าช่วยกันอ่าน ตั้งใจจริงๆ หลายร้อยเรื่อง
แล้วมันจำได้หมด ไม่สับสนกับเรื่องอื่นแบบไม่ต้องจดบันทึกไรเลย กรรมการรับเชิญประมาณคัดเลือกผู้อ่านทั่วไปมาเป็จกรรมการด้วยราว ๆ 5 6 คน (Arcster)

591 Nameless Fanboi Posted ID:og8W9eXEJ

แล้วเรื่องที่ส่งเข้าประกวดดันมีพล็อตซ้ำเกิน 10 เรื่อง กรรมการจะทำไงเนี่ย

592 Nameless Fanboi Posted ID:Aa.9fqX+4

เขียนนิยายมึงต้องวาดรูปด้วยหรอวะถุย? มึงเขียนให้คนอ่านรู้เรื่องก่อนดีไหม?

593 Nameless Fanboi Posted ID:WA0ano.A9

>>592 กุงง ถามใครวะ 55 มีโม่งข้างบนพูดเรื่องวาดรูปด้วยหรอ

594 Nameless Fanboi Posted ID:FxZurwcVY

>>593 กูว่าแม่งหมายถึงกระทู้นี้ https://www.dek-d.com/board/view/3767666/

595 Nameless Fanboi Posted ID:og8W9eXEJ

>>594 ใครก็ได้ ไปบอกถุยหน่อยดิว่าไม่ต้องเขียนนิยายแล้ว ไปหัดวาดรูปแบบ eromanga sensei ดีกว่า วอนนาบีอยู่ได้
ปล.ไป netwatch สิโว้ย

596 Nameless Fanboi Posted ID:Aa.9fqX+4

>>595 netwatch มันพิซซ่า มึงเห็นใจกูมั่ง

597 Nameless Fanboi Posted ID:WA0ano.A9

>>595 เจ้าของมู้นั้นชื่อถุยหรอ

598 Nameless Fanboi Posted ID:/z7RcU8Bb

แวะมาปลอบคนที่ตกรอบว่าอย่าคิดมาก ของแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมดา เอาล่ะ ท่องตามนะ

ชีวิตนักเขียน
ส่งสำนักพิมพ์ เขาดูว่า ขายได้รึเปล่า
ส่งประกวด เขาดูว่า ถูกจริตกรรมการรึเปล่า
ไม่มีที่ไหน เขาดูว่า งานคุณดีหรือเปล่า
จงเขียนงานที่ขายได้ ถ้าอยากตีพิมพ์
จับจุดกรรมการให้ถูก ถ้าอยากชนะรางวัล
แต่ถ้าการเขียนคือความฝัน ก็ทำในสิ่งที่ชอบเถอะ
นี่ล่ะ ชีวิตนักเขียน

599 Nameless Fanboi Posted ID:e1PzkIDYT

เคยเถียงกับโม่งในที่นี่ บอกว่าคนอ่านธรรมดาทั่วไปนั่นแหละ เป็นคนกำหนดตลาด แนวทางสนพ.
งานที่บอกว่าเป็นวรรณกรรมดีเด่น แต่ไม่อาจสร้างกำไรให้สนพ.ได้ เขาก็จะไม่เลือกไปพิมพ์ขายแน่
แล้วงานที่ขายได้ในตลาดบ้านเรา ก็รู้กันดีอยู่ แนวรักละครหลังข่าว แนวบันเทิงเริงใจ แนวแปลจีนที่วนเวียนกับเรื่องรักแย่งชิงท่านอ๋องไปมา
ในเมื่อคนซื้อชอบแนวแบบนี้ สนพ.ก็ต้องเลือกแบบนี้
ถามว่าผิดมั้ย มันก็ไม่ผิด ใครจะยอมขาดทุนให้ตัวเองลำบากล่ะ
การลงทุนทำหนังสือเล่มหนึ่งใช้ทุนหลักแสนขึ้นไปทั้งนั้น แค่การเอาไปวางในร้านหนังสือก็ต้องเสียเงินค่าวางในร้านทันทีแล้ว
พอถึงระยะเวลาหนึ่งก็ต้องเก็บคืนสนพ. ก็ต้องเสียค่าโกดังเก็บสต็อกกองหนังสืออีก
มีแต่รายจ่ายและรายจ่าย ไม่ว่าจะขายได้หรือไม่
คือเรื่องจริงมันเป็นธุรกิจที่มีค่าใช้จ่ายทุกอย่าง
โม่งประเภทโลกสวยเถียงว่าทำไมไม่เลือกงานดีๆมาพิมพ์ล่ะ ก็นี่ล่ะคือปัญหา ถ้าคนทั่วไปเค้าไม่ซื้ออ่าน สนพ.ก็เจ้งนะสิ
ระหว่างแนวตลาดที่มุ่งขายคนทั่วไป (รัก ชิงแฟนแย่งผัว เกรียน หล่อทำอะไรก็ถูก วาย) กับแนวงานดีๆ ถูกใจแค่ใครบางคน
ถ้าเป็นสนพ.จะเลือกอะไร

600 Nameless Fanboi Posted ID:UX.iUaKRm

>>599 รู้ป่าวว่านิยายที่รับประกันยอดขายที่สุดในไทยคือนิยายรางวัลอย่างซีไรต์นะ เพราะมันมีกฎว่าห้องสมุดต้องซื้อเข้าไปเก็บ แปลว่าถ้าได้รางวัลนี้ก็จะขายได้ขั้นต่ำ 5,000 เล่ม พูดง่ายๆ ว่านิยายดีก็ขายได้ถ้าขายให้ถูกทางนั่นละ

601 Nameless Fanboi Posted ID:O0MZKsI0X

>>600 รู้สิ เขาไม่ได้ขายหวังหลักพันแต่เป็นหลักหมื่อถึงแสน
แต่นั่นคือหวังขายให้ระบบห้องสมุดใช่มั้ย แล้วปีหนึ่งมีกี่คนที่ได้
ที่พูดอธิบายนี่คือระบบทั่วๆ ไปไง
ต้องเข้าใจว่าจะให้นักเขียนมุ่งแต่เขียนเพื่อหวังคว้ารางวัลที่มีหนึ่งรางวัล จากนักเขียนทั้งประเทศในแต่ละปีๆ คงเป็นเรื่องที่เหมือนถูกรางวัลใหญ่นั่นแหละ
กรรมกรแต่ละปี ก็แต่ละแบบ แต่ละรสนิยมอีก
แล้วไม่ใช่ว่าคนอ่านทุกคนจะเข้าใจได้ง่ายๆ อีก มีแต่คนบอกว่าอ่านแล้วยากจะเข้าใจเป็นส่วนใหญ่ (คนทั่วไปเข้าไม่ถึงอีก)
สรุปเขียนเพื่อให้ได้รางวัลให้หห้องสมุดซื้อไปเก็บไว้
กับเขียนให้คนทั่วไปซื้ออ่านเข้าใจง่ายๆ และอ่านจริง
เพื่อนโม่งว่าอย่างไหนน่าสนใจกว่ากัน คงต้องแยกแล้วละ ว่าเพื่อเงิน เพื่อรางวัล เพื่อชื่อเสียง
แล้วพอตอบรับเชิงวิจารณ์ ว่าอ่านแล้วเข้าใจยาก กรรมการตัดสินเขาจะยอมรับบ้างมั้ย?

602 Nameless Fanboi Posted ID:eo6BcDbg7

>>600 ไม่เหมือนต่างประเทศขนาดนั้น ห้องสมุดต้องซื้อก็จริงแต่ในจำกัด จำกัดประเภทแล้วห้องสมุดสาธารณะไทยมีน้อยมากๆ

603 Nameless Fanboi Posted ID:UX.iUaKRm

>>602 แต่มันก็เป็นอะไรที่รับประกันยอดขายมากที่สุดแล้ว ใส้เดือนตาบอดยังขายดีกว่านิยายรักขายดีหลายเรื่องอีก

>>601 อันนั้นเป็นประเด็นของคนอ่านเอง ใน Netwatch พึ่งเถียงกันไปแล้วโทรลมาลากไปหิ้ง แต่ใจความหลักของ death of author ก็เหมือนเดิม อ่านแล้วตีความยังไง ได้หรือไม่ได้ก็เป็นเรื่องของคนอ่าน

กูไม่รู้นะว่าค่านิยม "หนังสือต้องให้อ่านง่าย" นี่มาจากไหน แต่ว่ากันตามตรงไม่จำเป็นเสมอไปหรอก หนังสือคือสิ่งที่นักเขียนเป็นผู้สร้าง มันคือสิ่งที่ถูกสร้างมาเพื่อแสดงความคิดของนักเขียน นักอ่านเข้าใจยากหรือง่ายไม่สำคัญเท่านักเขียนพอใจหรือไม่พอใจมากกว่า

ตัวอย่างของต่างประเทศไม่เหมาะกับไทยก็จริง แต่แม้แต่หนังสือ Pop Science แบบเมกาที่นิยมเขียนให้อ่านง่ายเพื่อเข้าถึงคนทั่วไปก็ไม่ได้อ่านง่ายจริงๆ หรอก มันเขียนให้คนที่มีความรู้ระดับหนึ่งอ่าน และคนที่มีความรู้พื้นฐานอย่างดีก็จะเข้าใจมากกว่า หรืออย่างของฝรั่งเศสที่มีค่านิยมว่าหนังสือที่อ่านง่ายเท่ากับหนังสือชั้นต่ำ ยิ่งเข้าใจยากเท่าไหร่ยิ่งแปลว่าหนังสือนั้นดี ไม่งั้นงานของ Foucault ขายไม่ได้ขนาดนั้นหรอก

สุดท้ายนะ ข้ออ้างเรื่องกรรการ VS คนส่วนใหญ่ อันนี้แล้วแต่มึงเลย กูเชื่อว่าพวกมึงส่วนใหญ่อ่านงานระดับโนเบลไม่รู้เรื่องหรือไม่สนุก แต่ถ้ามึงบอกว่า 50 เทาดีกว่าเพราะคนอ่านเข้าใจกว่าเยอะกว่าก็เรื่องของมึงเถอะ

604 Nameless Fanboi Posted ID:8vijn0H.a

กุหนีไปเขียนต่างประเทศล่ะห่า หวังแต่สนพไทยกุส่งทั่วปท ก็คงไม่ได้พิมพ์หรอก คงไม่มีสำนวนแบบเจเคในไทยหรอก ถ้ายอมแพ้เพราะสนพ 12 ที่ปฏิเสธ แฮรี่คงไม่ได้เกิด

605 Nameless Fanboi Posted ID:2ihNwOq5F

หนังสือต้องให้อ่านง่าย มันไม่มีค่านิยมมาจากที่ไหนหรอก
มันแค่เป็นเรื่องที่ง่ายๆ ในการเข้าใจชีวิตมากกว่า ดูละครสนุก อ่านหนังสือสนุกไปตามเรื่องตามราว ของคนปกติทั่วไป
ที่พอใจรับรู้อะไรง่ายๆ
อย่างคำตอบของเพื่อนโม่ง คือดูจะมีอัตตาในเรื่องที่แซะการตัดสินกรรมการ หรือความต้องการของคนทั่วไปส่วนใหญ่
คือพอแซะนิดหน่อย ก็เอาอะไรต่ออะไรมาเปรียบเทียบ
น่าจะมองในมุมคนทั่วไปมองบ้าง มองในมุมธุรกิจบ้าง ถ้ามองว่ากูสนใจแต่ชื่อเสียง งานดี มันก็ต้องไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งพอดูหัวข้อแล้ว
ที่นี่คือ นิยายเด็กดี ที่คนเขียนมีความต้องการหลากหลาย ไม่ได้มุ่งเอารางวัลอะไร
แค่ยกนิยายโนเบลมาเปรียบกับการเขียนระดับฝึกหัดลงเว็บ มันก็ทำให้พูดไม่ออกในมุมมองที่คิดอะนะ มวยมันคนละรุ่นหรือเปล่า วิถีทางมันคนละสายหรือเปล่า
หรือต้องเอารางวัลมาเป็นเกณฑ์ชีวิตของเพื่อนโม่ง กูว่าแม่งน่าเศร้าเลยวะ

606 Nameless Fanboi Posted ID:UUPD9jG4p

แนะนำสำหรับคนที่อยากตีพิมพ์

เขียนแนวรัก ไม่ก็แนวผี ขอแค่งานมึงมีทรงหน่อย ภาษามึงอ่านรู้เรื่อง ก็น่าจะหาสำนักพิมพ์ตีพิมพ์ได้แล้ว แถมแนวพวกนี้หากินได้ตลอดเวลาด้วย เชื่อว่าผ่านไปอีกกี่สิบปีแนวนี้ก็ยังขายได้อยู่ อย่ามัวแต่ไปเขียนแฟนตาซี ผจญภัยห่าเหวอะไรเลย ไม่ได้แดกหรอก

607 Nameless Fanboi Posted ID:4MvgkHfVr

>>606 แนววิทย์เป็นลูกเมียน้อยซะงั้น ยังกะคนไทยโง่วิทย์กันส่วยใหญ่

608 Nameless Fanboi Posted ID:lxEuJNOpX

>>606 คงมีแต่ไอ้ปอบได้พิมพ์มั้งแนวนั้น ก่อนที่ทุกอย่างจะลงคลองเรื่อยๆ จนเป็นแบบทุกวันนี้

609 Nameless Fanboi Posted ID:+wwCdI.XC

>>605 มึงโง่เองมากกว่า สักแต่จะกินอะไรง่ายๆ จนชิน กินของที่ต้องเคี้ยวไม่เป็น ลองไปอ่านงานวรรณกรรมของยุโรปบ้าง ภาษาวกวนมาก ถ้าให้โม่งในกระทู้นี้สับคงด่าว่าไม่มีทางขายออก

คนทั่วไปเขามีหลากหลาย อย่างที่กูยกตัวอย่าง คนฝรั่งเศสเขาถือว่าอะไรที่อ่านง่ายๆ เป็นของชั้นต่ำ จืดชืดไร้ราคา แต่ยิ่งอ่านเข้าใจยากเท่าไหร่ก็จะเป็นของชั้นสูง มีคุณภาพ ค่านิยมนี้เป็นเรื่องทั่วไปในยุโรป แม้แต่อิตาลี่ที่สโลวไลฟ์ยิ่งกว่าไทยยังชอบอ่านนิยายที่ต้องวิเคราะห์ตีความซับซ้อนเลย

แล้วมึงจะอ้างว่าที่นี่เด็กดีไม่ได้หรอก เพราะเราคุยเรื่องงานประกวดนิยายอยู่ มันอยู่นอกเหนือสโคปของนิยายเด็กดี ซึ่งถ้าให้พูดตามตรงแล้วควรไปคุยที่ห้อง Lit มากกว่า แต่คุยที่นี่ก็คุยไป และนิยายที่ส่งไป ARC มันไม่ได้ลงในเด็กดี การที่มึงพูดถึงนิยายเด็กดีจึงผิดเข้าไปอีก ไม่รู้ประเด็นพูดคุยแล้วยังเสร่อโง่ๆอีก

กูจะชี้แจงให้คนอื่นฟังนะ เพราะกูว่ามึงคงอ่านอะไรไม่เข้าใจ

1.>>599 มึงบอกว่านักอ่านทั่วไปกำหนดกระแสตลาด สนพ.ต้องเอารายได้ตรงนี้เป็นหลัก

2.>>600 กูบอกว่านิยายรางวัลมักถูกห้องสมุดซื้อ ซึ่งเป็นจุดที่รับประกันยอดขายที่สุดแล้ว

3. มึงยอมรับเรื่องยอดขาย แต่บอกว่าคนละระบบกัน

ข้อ 1 - 3 นั้นย้ำว่าเราคุยกันเรื่องยอดขายและงานประกวด ซึ่ีงไม่เกี่ยวกับเด็กดี และข้อ 4 เป็นจุดที่มึงออกนอกเรื่อง

4. มึงเขียนตามนี้ >>601

สรุปเขียนเพื่อให้ได้รางวัลให้หห้องสมุดซื้อไปเก็บไว้
กับเขียนให้คนทั่วไปซื้ออ่านเข้าใจง่ายๆ และอ่านจริง
เพื่อนโม่งว่าอย่างไหนน่าสนใจกว่ากัน คงต้องแยกแล้วละ ว่าเพื่อเงิน เพื่อรางวัล เพื่อชื่อเสียง
แล้วพอตอบรับเชิงวิจารณ์ ว่าอ่านแล้วเข้าใจยาก กรรมการตัดสินเขาจะยอมรับบ้างมั้ย?

- มึงเมาเอง เพราก่อนหน้านี้มึงก็ยอมรับเรื่องยอดขาย

"รู้สิ เขาไม่ได้ขายหวังหลักพันแต่เป็นหลักหมื่อถึงแสน"

แปลว่า "เพื่อเงิน เพื่อรางวัล เพื่อชื่อเสียง" ไม่จำเป็นต้องแยกจากกันก็ได้ ถ้างานเราดีพอ นักเขียนรุ่นก่อนก็งานดีเนื้อเรื่องดีโดยไม่ต้องแยกอะไรแบบนี้ซะทีเดียว ที่มึงพูดก็แค่ข้ออ้างเท่านั้นละ

5. กูตอบโต้มึงตั้งแต่ วรรคที่ 2 ของ >>602

6. มึงตอบกลับมาว่า

หนังสือต้องให้อ่านง่าย มันไม่มีค่านิยมมาจากที่ไหนหรอก
มันแค่เป็นเรื่องที่ง่ายๆ ในการเข้าใจชีวิตมากกว่า ดูละครสนุก อ่านหนังสือสนุกไปตามเรื่องตามราว ของคนปกติทั่วไป
ที่พอใจรับรู้อะไรง่ายๆ

ซึ่งตอบโต้

กูไม่รู้นะว่าค่านิยม "หนังสือต้องให้อ่านง่าย" นี่มาจากไหน แต่ว่ากันตามตรงไม่จำเป็นเสมอไปหรอก หนังสือคือสิ่งที่นักเขียนเป็นผู้สร้าง มันคือสิ่งที่ถูกสร้างมาเพื่อแสดงความคิดของนักเขียน นักอ่านเข้าใจยากหรือง่ายไม่สำคัญเท่านักเขียนพอใจหรือไม่พอใจมากกว่า

- อันนี้เป็นการเข้าใจผิดแบบตลกๆ เพราะอย่างที่กูชี้ให้ดู คนฝรั่งเศสและยุโรปชอบอ่านหนังสือยากๆ เพื่อบอกรสนิยม และขบคิดตีความตามแนวทางของ death of the author ดังนั้นข้ออ้างว่า "ที่พอใจรับรู้อะไรง่ายๆ" นั้นจึงใช้ไม่ได้ และอย่าลืมว่าในตอนต้น 1 - 3 ไม่มีการพูดแนวหนังสือ เพราะ ARC ไม่กำหนดแนวหนังสือ ดังนั้นการถกเถียงจึงไม่จำกัดแค่ "นิยายประโลมโลก"

7. ประโยคนี้ของมึง

อย่างคำตอบของเพื่อนโม่ง คือดูจะมีอัตตาในเรื่องที่แซะการตัดสินกรรมการ หรือความต้องการของคนทั่วไปส่วนใหญ่
คือพอแซะนิดหน่อย ก็เอาอะไรต่ออะไรมาเปรียบเทียบ
น่าจะมองในมุมคนทั่วไปมองบ้าง มองในมุมธุรกิจบ้าง ถ้ามองว่ากูสนใจแต่ชื่อเสียง งานดี มันก็ต้องไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งพอดูหัวข้อแล้ว
ที่นี่คือ นิยายเด็กดี ที่คนเขียนมีความต้องการหลากหลาย ไม่ได้มุ่งเอารางวัลอะไร
แค่ยกนิยายโนเบลมาเปรียบกับการเขียนระดับฝึกหัดลงเว็บ มันก็ทำให้พูดไม่ออกในมุมมองที่คิดอะนะ มวยมันคนละรุ่นหรือเปล่า วิถีทางมันคนละสายหรือเปล่า
หรือต้องเอารางวัลมาเป็นเกณฑ์ชีวิตของเพื่อนโม่ง กูว่าแม่งน่าเศร้าเลยวะ

ตอบโต้ประโยคนี้ของกู

สุดท้ายนะ ข้ออ้างเรื่องกรรการ VS คนส่วนใหญ่ อันนี้แล้วแต่มึงเลย กูเชื่อว่าพวกมึงส่วนใหญ่อ่านงานระดับโนเบลไม่รู้เรื่องหรือไม่สนุก แต่ถ้ามึงบอกว่า 50 เทาดีกว่าเพราะคนอ่านเข้าใจกว่าเยอะกว่าก็เรื่องของมึงเถอะ

- กูขอแยกเป้น 2 ข้อ คือข้อ 8 - 10 เพราะมันยาว

610 Nameless Fanboi Posted ID:bg/oDOimf

ยาวไป

8. ประโยคนี้

อย่างคำตอบของเพื่อนโม่ง คือดูจะมีอัตตาในเรื่องที่แซะการตัดสินกรรมการ หรือความต้องการของคนทั่วไปส่วนใหญ่
คือพอแซะนิดหน่อย ก็เอาอะไรต่ออะไรมาเปรียบเทียบ

- คำพูดมึงไม่สมเหตุสมผล "อัตตาในเรื่องที่แซะการตัดสินกรรมการ" ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าคือประโยคไหนของกู เพราะกูพูดถึงกรรมการแค่ในย่อหน้าสุดท้ายของ >>602 กรุณาชี้ให้ชัดเจน

และ "คือพอแซะนิดหน่อย ก็เอาอะไรต่ออะไรมาเปรียบเทียบ"

- การเปรียบเทียบคือการทำให้เข้าใจง่าย เช่นเดียวกับการพรรณาเปรียบเทียบ ถ้มึงนิยมอะไรที่ย่อยง่ายเข้าใจง่าย มึงก็ไม่น่าจะรังเกียจการยกตัวอย่างเปรียบเทียบ และคิดว่ามันเป็น "อัตตา" ข้อโต้แย้งของมึงจึงไม่สมเหตุสมผล

9. ประโยคนี้

ที่นี่คือ นิยายเด็กดี ที่คนเขียนมีความต้องการหลากหลาย ไม่ได้มุ่งเอารางวัลอะไร
แค่ยกนิยายโนเบลมาเปรียบกับการเขียนระดับฝึกหัดลงเว็บ มันก็ทำให้พูดไม่ออกในมุมมองที่คิดอะนะ มวยมันคนละรุ่นหรือเปล่า วิถีทางมันคนละสายหรือเปล่า
หรือต้องเอารางวัลมาเป็นเกณฑ์ชีวิตของเพื่อนโม่ง กูว่าแม่งน่าเศร้าเลยวะ

- "ที่นี่คือเด็กดี" โดนกูโต้แย้งไปแล้วในข้อ 1 - 3 และก่อนหน้านี้

แค่ยกนิยายโนเบลมาเปรียบกับการเขียนระดับฝึกหัดลงเว็บ มันก็ทำให้พูดไม่ออกในมุมมองที่คิดอะนะ มวยมันคนละรุ่นหรือเปล่า วิถีทางมันคนละสายหรือเปล่า

- มึงยกตัวอย่างเองว่า

สรุปเขียนเพื่อให้ได้รางวัลให้หห้องสมุดซื้อไปเก็บไว้
กับเขียนให้คนทั่วไปซื้ออ่านเข้าใจง่ายๆ และอ่านจริง
เพื่อนโม่งว่าอย่างไหนน่าสนใจกว่ากัน คงต้องแยกแล้วละ ว่าเพื่อเงิน เพื่อรางวัล เพื่อชื่อเสียง
แล้วพอตอบรับเชิงวิจารณ์ ว่าอ่านแล้วเข้าใจยาก กรรมการตัดสินเขาจะยอมรับบ้างมั้ย?

- เมื่อมึงยกตัวอย่างนี้มาให้เปรียบเทียบ "ให้ห้องสมุดซื้อ VS ให้คนทั่วไปอ่าน" ดังนั้นการยกตัวอย่างรางวัลโนเบลกูจึงไม่ผิด เพราะก่อนหน้านี้กูยกตัวอย่างนิยายรางวัล แล้วมึงก้ยกตัวอย่างนิยายที่คนทั่วไปอ่าน ซึ่งไม่กำหนดของเขต การยกตัวอย่างนิยายเว็ปจึงไม่ผิด แต่คำโต้แย้งของมึงมีจุดผิดอยู่อีกว่า 50 เทาได้รับการตีพิมพ์เป้นรูปเล่มและจัดจำหน่ายโดยทั่วไปแล้ว การกล่าวว่า "เอามาเปรียบกับการเขียนระดับฝึกหัดลงเว็บ" จึงใช้ไม่ได้อีก

จริงๆ ตรรกะข้อนี้ก็ผิด "กับเขียนให้คนทั่วไปซื้ออ่านเข้าใจง่ายๆ และอ่านจริง" เป็นการสรุปแล้วว่านิยายยากคนจะไม่อ่าน เป็นการสรุปเกินเลยที่ผิดและไร้บรรทัดฐาน อีกทั้งในเมื่อตอนแรกคุยกันเรื่อง "ขายได้" ไม่ว่าจะขายไปทำอะไรก็อยู่นอกเหนือการพูดคุยนี้ คำโต้แย้งของมึงจึงผิด

10. ประโยคนี้

หรือต้องเอารางวัลมาเป็นเกณฑ์ชีวิตของเพื่อนโม่ง กูว่าแม่งน่าเศร้าเลยวะ

- ในเมื่อมึงเอายอดขายและ "เข้าใจง่าย" เป็นหลักได้ ทำใมกูจะเอายอดขาย "เข้าใจยาก" และรางวัลมาแย้งมั่งไม่ได้ และอีกอย่าง ในเมื่องตอนแรกเราพูดถึงงานประกวด ARC เราก็ควรโฟกัสที่รางวัลสิ หรือมึงจะทำตัวเป็นองุ่นเปรี้ยว บอกว่าไม่อยากได้รางวัลไป

สรุปสุดท้าย ข้อโต้แย้งมึงขัดแย้งกันเอง ไม่มีหลักการและหลักฐานรองรับ เข้าใจผิดฝาผิดตัว ไม่สามารถทำความเข้าใจและกำหนดกรอบของการพูดคุยได้ และยังกล่าวหาคนอื่นอย่างไม่มีมูล ทั้งยังทำในสิ่งเดียวกับที่มึงด่า

ต้องการอะไรเพิ่มไหม?

611 Nameless Fanboi Posted ID:n+MHmwoa1

>>607 โทษคนอ่านก็ไม่ได้นะ ลองยกวิทย์ที่แค่โอเคในไทยสักเริ่องดิ กูยังมืดแปดด้าน

612 Nameless Fanboi Posted ID:lxEuJNOpX

>>610 เขียนได้ดี (กุคนละคนกับที่มึงเถียงนะ) แต่กุหมดหวังกับสนพไทยล่ะ สุดท้ายกรรมการพวกนั้นชอบให้รางวัลนิยายแนวชีวิตผ่านว่ะ แฟนตาซีดีๆจ๋าๆไม่ตามกระแสนี่แทบไม่เห็นได้ตีพิมพ์ล่ะ กุหาทางปั้นเรื่องด้วยตัวเองดีกว่าแบบไม่ต้องพึ่งสนพ หัดเขียนเป็นภาษาอังกฤษเผื่อมีโอกาสตีตลาดฝรั่งได้ด้วย แต่ถ้าสุดท้ายมันไม่ได้จริงกุก็ตายตาหลับล่ะว่ากุทำดีที่สุดแล้ว กุเคยฝันว่าถ้ากุตีตลาดฝรั่งจนมีชื่อระดับหนึ่งได้ กุจะกลับมาเป็นตัวแทนหานิยายไทยส่งออกตลาดฝรั่ง กุสงสารคนรุ่นใหม่มีความฝันเป็นนักเขียนดีๆว่ะ พยายามจนเขียนดี เก่งขนาดไหนแต่โดนสภาพแวดล้อม สนพ แม่งกีดกัน กำหนดกรอบเอาไว้ว่าต้องมาแนวนี้ๆเท่านั้น

613 Nameless Fanboi Posted ID:7jpVk23j2

มีบทความ10อันดับขายดีของเว็บเด็กดีแล้วนาจา ทีมงานทำปกสุดอลังให้ด้วยนะเออแต่โคตรไม่เข้ากับเรื่อง นิยายเบียวแต่รูปปกธีมนิยายแปลฝรั่งถถถ
เท่านั้นยังไม่พอ คอมเม้นต์อวยให้ทุกเรื่อง กานต์ เจเนลซิลของโม่งก็มา ขำเกือบตกเก้าอี้ เดี๋ยวนี้เด็กดีแนะนำนิยายพรรค์นี้แล้วหรอวะ

https://www.dek-d.com/writer/45857/

614 Nameless Fanboi Posted ID:pMwZ45mIC

>>613 เจออันดับ 1 กูปิดเลย

615 Nameless Fanboi Posted ID:UUPD9jG4p

ไหนๆ ก็พูดเรื่องสำนักพิมพ์ตีพิมพ์อะไรนี่แล้ว ช่วยลิสต์กันหน่อยสิว่าตอนนี้ยังมีสำนักพิมพ์ไหนที่รับต้นฉบับนิยายแฟนตาซีไทยอยู่บ้าง อย่างสถาพรเนี่ยยังรับอยู่รึเปล่าวะ

616 Nameless Fanboi Posted ID:4MvgkHfVr

>>613 >>614 อันดับ 1 มึงเล่นง่ายเลยเรอะ ห่า

617 Nameless Fanboi Posted ID:eo6BcDbg7

บ้านเรามีรสนิยมการเสพย์ที่ต่างจากที่อื่นมากๆนะมึง มึงจะออกเรือไม่ดูลมไม่ดูฤดู มึงก็ไปลำบากนะ

618 Nameless Fanboi Posted ID:eo6BcDbg7

>>614 ถถถถถถถ ทำไมมันด้านแบบนี้วะ ฮ่าๆๆๆๆๆ

619 Nameless Fanboi Posted ID:DUkjjV0tA

>>616 >>618 กูเขียนผิด อันที่จริงต้องบอกว่า เจออันแรกกูก็ปิดเลย (เรื่องกิ่งน้า)

620 Nameless Fanboi Posted ID:4MvgkHfVr

>>619 ไม่ได้ด่ามึง แต่กูเห็นชื่อเรื่องอันดับ 1 แม่งคิดได้ไงวะ โลกเวทมนตร์ต่างโลกไม่ได้ต่ำกว่าร้อยเรื่องนะเอ่อ

621 Nameless Fanboi Posted ID:38XBvoa03

>>617 กูเคยสังเกตบางอย่างเกี่ยวกับการซื้อ
ผู้หญิงมักจะซื้อง่ายกว่าผู้ชาย ด้วยนิสัยเฉพาะตัว
งานนิยายแนวรักคือผู้หญิงเป็นกลุ่มลูกค้าหลักและเป็นตลาดใหญ่ที่สุด

622 Nameless Fanboi Posted ID:dvXXPv8K7

ใครอยากสับนิยายอีแวมบ้าง หมั่นไส้ชิบหาย ทำเป็นอวดดี
https://www.dek-d.com/board/view/3768218/

623 Nameless Fanboi Posted ID:ZoPjxmXFr

Sata = ฮาร์ดดิสก์
Porn = หนังโป๊

Sataporn = ในเครื่องมีหนังโป๊

ลงชื่อ เซฮุน

624 Nameless Fanboi Posted ID:dvXXPv8K7

>>623 มึงนิยามผิดแล้ว sata คือสายไฟเชื่อมต่อฮาร์ดดิสก์เข้ากับเมนบอร์ด ไม่ใช่ตัวฮาร์ดดิสก์

ดังนั้น sataporn คือเส้นสายหนังโป๊ไงล่ะ

625 Nameless Fanboi Posted ID:+6wveXPSK

ไม่มีอะไรทำจนต้องเอาชื่อสนพ.แบบอิ้งมาล้อกันรึ

626 Nameless Fanboi Posted ID:cJge0chor

>>625 รึมึงจะให้กูสับตัวนิยายสถาพรที่แม่งโคตรจะอัปรีย์ระยำจนหาที่ชมไม่ได้ล่ะหา? กูเคยพลาดซื้อสถาพรไลท์มาตะกร้านึง แม่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

627 Nameless Fanboi Posted ID:dvXXPv8K7

>>626 มึงสับไปเลยก็ได้ ตามใจมึง อยากรู้สนพฺนี้แม่งดังคับฟ้ายังไงถึงได้สร้างภาพเยี่ยงนี้

628 Nameless Fanboi Posted ID:+6wveXPSK

>>626 เออ กูยังไม่เคยอ่านไลน์สถาพรไลท์ สับมาเลยก็ดี จะว่าไปเขาพูดกันว่ามีดีแค่เรื่องจอมมารป่ะวะ

629 Nameless Fanboi Posted ID:rXkVI0t+.

>>628 ให้พูดก็ ln ของคนไม่รู้จัก ln เลยเอานิยายแฟนตาซีไทยปกติมาขายแบบรูปเล็ก(ที่ไม่ใช้รูปเล่มแบบ ln และรูปเล่มเหี้ยมากถืออ่านยากสัส)พร้อมรูปประกอบเล็กๆน้อยๆ และใช้มีดีแค่จอมมาร

630 Nameless Fanboi Posted ID:8SFaCMs2T

>>624 ลั่นเลยสาสสส

631 Nameless Fanboi Posted ID:gtJxBYkEn

สถาพรเป็นคนปักใต้ไม่ใช่เหรอ

632 Nameless Fanboi Posted ID:S+P5ctaqB

>>631 มุกไรวะ รอฟัง

633 Nameless Fanboi Posted ID:d.6jnPpbI

>>632 มึงคงแก่ไม่พอ หรือกูแก่ไปวะ เพลงของพงษ์เทพ

634 Nameless Fanboi Posted ID:S+P5ctaqB

>>633 เชี่ย... มุกแบบนี้

635 Nameless Fanboi Posted ID:v6/9FPz9E

กูไม่แก่ กูไม่รู้จัก

636 Nameless Fanboi Posted ID:v6/9FPz9E

มึงว่าเป็นนักเขียนหาเลี้ยงชีพดีแค่ไหนล่ะ https://www.dek-d.com/board/view/3768661/

637 Nameless Fanboi Posted ID:J/0wW87E9

>>636 ทำน่ะได้แต่สำเร็จมั้ยนี่อีกเรื่อง 555

638 Nameless Fanboi Posted ID:l+1c5o3b1

>>637 ช่าย ในนั้นเขาบอกว่าหางานใหม่ดีกว่า

639 Nameless Fanboi Posted ID:hgRDd+SX2

>>638 ไม่ก็หนีไปเขียนขายตปท

640 Nameless Fanboi Posted ID:exTRTKEKa

กิ๊ง! ฟิ้ว! หมับ!

https://my.dek-d.com/matsuo_masahiro/writer/viewlongc.php?id=1633671&chapter=1

641 Nameless Fanboi Posted ID:XkCgKwf9M

>>640 เหยด... เจ๊กัลเปลี่ยนแนวมาแต่งแบบไวท์โร้ดสไตล์แล้วเหรอวะ โคตรฮา

642 Nameless Fanboi Posted ID:aju9/moID

>>641 ถ้ากูจะสับนิยายกัลฐิดา กูจะสับต่อหน้าเลย fb live กางหนังสือสับ ด้วยความเคารพอย่างสูง

ลงชื่อ เซฮุน ผู้นอบน้อม

643 Nameless Fanboi Posted ID:gH78CsnZi

>>641 หะ เมื้อกี้กูอ่านผ่านๆ ไม่ได้ดูชื่อ นี่เจ๊กัลเขียนเรอะ!!

644 Nameless Fanboi Posted ID:EQ8MOkLxj

>>642 มึงเอาเลยดิ พวกไม่ยอมรับความจริงก็ให้มันรู้ไป

645 Nameless Fanboi Posted ID:6HTOKCrCW

>>640 ทำไมไม่เป็น เสียงดังกิ๊งเมื่อน้ำแข็งด้านบนเลื่อนตัวลงไปแทนที่ว่างในแก้ว วะ ทำไมต้องใช้ตัวหนังสือเสียงให้งานมันดูโลว์

646 Nameless Fanboi Posted ID:hKkp+hb/0

กิ๊ง!

อืม เป็นการเปิดตัวที่น่าตกใจดี...

647 Nameless Fanboi Posted ID:0SMI6I0AR

>>646 อาจจะเป็นดอกปอบปลอมตัวมา

648 Nameless Fanboi Posted ID:aos.RsTVu

แล้วก็นะ กุว่าเรื่องลอสต์นี่ตรรกะนางเอกเล่มแรกวิบัติจนกุเลิกอ่านแล้วนะ แต่บรรยายไม่แย่เท่าเรื่องนี้เลยว่ะ

649 Nameless Fanboi Posted ID:gEJYQBW3f

กูเคยอ่านงานเขาแค่เซวีน่าผ่านๆเมื่อนานมาแล้ว ก็ยังว่าสำนวนมันยืดเยื้อนะแต่พอมาเจอเรื่องนี้ เอิ่ม...ทำไมรู้สึกว่าแย่ลงวะ 555

650 Nameless Fanboi Posted ID:BorSsMdZu

กูไม่ชอบแฟนตาซีที่ยัดเยียดบทบนเตียง งานของกัลกูตามนะ อ่านตั้งแต่เซวีน่า แต่ไม่ชอบมากที่สุดคือหายกับปฏิทิน มันหวิวกับฉากอย่างว่าเยอะอ่ะ หรือกูเป็นคนเดียววะ กูอยากได้นิยายที่เน้นเนื้อเรื่อง เน้นความสัมพันธ์ตัวละคร ให้คนอ่านอินดับมันเยอะๆ ยิ่งดาร์คแบบลากไส้ยิ่งชอบ แต่แม่งหายจ้อยยย
>>642 กูรอนะเพื่อนโม่ง ระวังติ่งนางเยอะอยู่

651 Nameless Fanboi Posted ID:g+Q+c3MAQ

>>650 คาเลนกูชอบตอนแรกๆ นะ แต่หลังจากจบเรื่อง วท. กับน้องน้ำแข็ง กูก็เลิกอ่านละ ส่วนลอสอันนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ตัวเอกหลุดคาร์ทำอะไรผิดนิสัยด้วย ลาก่อย

ปล.กูชอบเน้นเนื้อเรื่องเหมือนกัน แต่ดาร์คนี่เฉยๆ

652 Nameless Fanboi Posted ID:BUrgy0fRO

กูพอเข้าใจว่าทำไมนิยายเกมออนไลน์สัญชาติไทยถึงไม่กว้างขวางเท่าตลาดญี่ปุ่นและจีน
https://www.dek-d.com/board/view/3770431/

653 Nameless Fanboi Posted ID:16PlOtuM0

>>652 ก็มันเป็นนิยายนี่หว่า ไม่ใช่เกมออนไลน์

คือนิยาย ผู้เขียนก็ต้องโฟกัสไปที่ตัวละครตัวหนึ่งซึ่งพิเศษกว่าชาวบ้าน สมมติว่าเกมมีคนเล่น 100 ล้านคน ทำไมผู้เขียนต้องไปโฟกัสที่ผู้เล่นธรรมดาดาดๆ ทั่วไป ที่วันๆ ไม่มีเหี้ยอะไรนอกจากตีมอนเก็บเวล ผู้เขียนก็คงอยากไปพูดถึงคนพิเศษคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนดวงดี หรือมีความพิเศษอะไรบางอย่าง ถึงได้ไปเจอกับอีเวนท์พิเศษอะไรสักอย่าง ที่ผู้เล่นทั่วไปไม่เจอ และกลายเป็นปมหลักของเรื่อง (พระเอกเป็นผู้ถูกเลือกให้เคลียร์เกมนี้ เป็นต้น)

แต่ปัญหามันคือ ผู้เขียนหลายๆคนไม่มีความสามารถพอที่จะผูกเรื่องให้มันสมจริง กลายเป็นทำยังไงก็ได้ให้เรื่องมันเดินไปตามสูตรสำเร็จ แล้วค่อยว่ากันต่อ ย้อนไปเมื่อสัก 6-7 ปีก่อน นิยายเกมออนไลน์ 90% เปิดเรื่องมาพระเอกต้องเป็นคนดวงดีได้เครื่องเล่นเกมเทพ จากการจับสลากในงานเกม ไม่ก็หยิบผิดมา ต่อมา 90% จากบรรดาพระเอกที่ได้เครื่องเล่นเกมเทพ จะต้องเข้าไปสร้างตัวละครแล้วพบว่าชื่อซ้ำ และไปทะเลาะกับ AI สาว (หรือตาแก่) ที่เป็น AI ประจำห้องสร้างตัวละคร ซึ่งจะมาเฉลยว่าจริงๆแล้วไม่ใช่ AI แต่เป็นคนจริงๆ และจะเข้าฮาเร็มของพระเอกในอนาคต (ถ้าคนเขียนไม่หมดไฟเลิกเขียนไปกลางคันเสียก่อน) และด้วยอิทธิพลจากราชาแห่งราชันย์ (10 กว่าปีแล้วนี่หว่า กูนี่แก่สัส) พระเอกจะถูกส่งเข้าเกมไปแบบมั่วๆ คล้ายจะกลั่นแกล้ง ไปเจอกับบอส และเสือกชนะได้ด้วยความฟลุ๊ค

พล็อตแบบนี้เรียกว่าคลาสสิคได้ไหม

654 Nameless Fanboi Posted ID:Ld1dowK21

>>652 เพราะฉัน เบียว, เว่อร์, ซู ยังไงล่ะ

655 Nameless Fanboi Posted ID:e7eNFMu2i

กูลองอ่านเรื่องวิกฤตออนไลน์ (ชื่อนี้ปะวะ) ที่โม่งวิจารณ์แล้วชอบดู...ไม่รู้ว่ะ กูว่าเรื่องมันใส่ความเป็นคนลงไปในเรื่องซะเยอะจนล้นเลย ใส่ซะจนเหมือนตัดมิติอื่น ๆ ทิ้งไปเลย แถมกระห่ำใช้คำเสียดสีเชิงลบด้วย (ตรงจุดนี้ไม่ได้แย่ซะทีเดียวหรอก)

ถ้าถามว่าสนุกมั้ยก็สนุกใช้ได้ แต่ถ้าถามว่าดีมั้ยละก็...กูว่ามันก็ไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีมาก โอเค มันดีแหละ อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้กูคิดเรื่องบางประเด็นในนิยายได้ แต่อ่านแล้วไม่รู้สิ รู้สึกว่ามันมีจุดที่ขัด ๆ ใจอยู่ ไม่รู้สิ กูรู้สึกเหมือนว่าคนเขียนจงใจเซตติ้งโลกแบบนี้เพื่อสร้างประเด็นโดยเฉพาะยังไงก็ไม่รู้ อย่างที่กูเกริ่นไปข้างต้น มันใส่ความเป็นคนลงไปในเรื่องจนเหมือนละทิ้งมิติอื่น ๆ ไปเลย

656 Nameless Fanboi Posted ID:oiWyeMSHw

>>653AI เป็นคนจริงแล้วเข้าฮาเร็มพระเอกในอนาคต นี่มัน konosuba นี่หว่า

657 Nameless Fanboi Posted ID:pRG2L8EgO

>>655 มึงดูสับสน

658 Nameless Fanboi Posted ID:wc00Trz2R

>>657 เพราะใช้คำว่าไม่รู้บ่อยไปใช่มะ5555

กูว่าเรื่องนี้เหมือนพยายามชูธีมความเป็นมนุษย์จนไม่สนจุดที่อาจจะเป็นพลอตโฮลว่ะ ที่ใช้คำว่าไม่รู้บ่อยก็เพราะไม่แน่ใจว่ามันใช่รึเปล่า
รู้สึกเหมือนถ้าเอานิยายเรื่องนี้ไปให้คนที่มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์หรือการพัฒนาเกมอ่านแล้วจะเห็นพลอตโฮลยังไงไม่รู้

659 Nameless Fanboi Posted ID:oiWyeMSHw

>>658 นักเขียนไม่เข้าใจนิยายที่ตัวเองเขียน เป็นได้แค่นักเขียนไม่รู้วิชา

660 Nameless Fanboi Posted ID:pRG2L8EgO

>>659 รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี

661 Nameless Fanboi Posted ID:QslPqpzxK

>>655 คือกูไม่ได้อ่านเรื่องนั้นนะ แต่ติดใจว่ามันเป็นยังไงเลยลองไปหาอ่านดู กูเองก็เคยเรียนเขียนโปรแกรมมานิดหน่อย เรื่องเกมเองก็พอรู้บ้าง เลยสงสัยว่ามันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ

พูดถึงในเรื่องปรัชญา ความเป็นมนุษย์ กูยอมรับว่าเรื่องนี้เจ๋งจริง คือกูเห็นมันพูดเรื่องเล่นเกมออนไลน์ทั้งวันทั้งคืนแทนการนอนมันไม่ใช่การนอนพักจริงๆ อันนั้นกูเห็นด้วย เพราะกูก็เคยคิด แต่แบบ...กูไม่รู้มันแค่ต้องการแขวะนิยายแนวนี้หรืออะไรนะ ถ้าแขวะแค่นิยายกูว่าโอเค แต่กูรู้สึกเหมือนมันแขวะเกมเวอร์ชวลเรียลลิต้าของจริงด้วยว่ามันโง่บ้าเซ่อ อันนี้กูไม่ปลื้ม มันขึ้นอยู่กับระบบคนทำเกมหรือเปล่าว่าจะให้เล่นได้ตอนไหน กูว่าเกมเวอร์ชวลมันคล้ายเกมออนไลน์ทั่วไปที่ปัจจุบันคนก็ถ่างตาเล่นกันทั้งวันทั้งคืนอยู่แล้ว แล้วเฮ้ย คิดว่าระบบร่างกายมันโง่ขนาดเหนื่อยแล้วยังไม่รู้ตัว กระทั่งตายแล้วยังไม่รู้ตัวว่าเหนื่อยเหรอวะ? เหนื่อยจนตายกูนึกถึงโรคคาโรชิของญี่ปุ่นว่ะ ซึ่งมันต้องใช้ความบากบั่นร่างกายมาก ต้องแอดดิกจริงๆ ถึงจะฝืนสังขารได้ขนาดนั้นหรือเปล่า? แล้วเกมของจริงก็ต้องบอกโฆษณาตามจริงว่าเล่นตอนนอนเหนื่อยได้หรือเปล่า เฮ้ย โลกจริงเกมโฆษณาเกินจริงนี่โดนฟ้องได้ง่ายๆ นะ ยิ่งยุคนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่โฆษณาเกินจิงแล้วไม่โดนฟ้อง (กูนึกถึง no man sky ยิ่งเรื่องสุขภาพคนในสังคมมันก็ไม่ได้หลับหูหลับตาเชื่อคำโกหกคำโต) แต่ถ้าทั้งหมดนั่นจิกกัดแค่พล็อตนิยายเกมออนไลน์ อันนี้กูโอเค

ส่วนเรื่องในเกมที่เปิดมามันก็เข้าไปแก้บัคนเกม...โอเค กูจะมองว่ามันเปิดโค้ดแก้กันในเกมเพื่อดูผลลัพธ์ไปด้วยไม่ให้เกิดบัค เรื่องไมโนทอร์หลงถิ่นนั่นกูสงสัยว่ามันแน่ใจได้ไงแค่ฆ่าก็กลับไปอยู่ที่เดิม ไม่ใช่โค้ดโปรแกรมผิดพลาดเหรอ? ถ้าโค้ดพลาดทำให้จุดเกิดใหม่เปลี่ยนกลายเป็นทุ่งหญ้าล่ะ? แล้วเท่าที่กูเล่นเกมออนไลน์มานะ บัคที่ว่านี่ส่วนใหญ่มันจะเกิดขึ้นหลังอัพเดทแพทช์ใหม่ว่ะ ไม่ใช่สุ่มเกิดเป็นมอนสเตอร์ในเกมเลย แล้วจีเอ็มจะไม่แก้บัคทันที่แต่จะรวบรวมบัคก่อนแล้วค่อยปิดเซิร์ฟแก้กัน โดยรวมถ้าเอาเป็นนิยายทั่วไป พูดถึงความเป็นมนุษย์มันก็โอเค อาจจะออกตัวแรงไปหน่อยก็โอเค บางครั้งกูก็เป็น แต่ถ้าพูดถึงเรื่องทางเทคนิคนี่กูว่าบัคเพียบ

อันข้างบนคือกูลองสับแบบจับผิดเรื่องทางเทคนิกดู แต่ถ้าไม่คิดมากกูว่ามันโอเค เป็นนิยายที่ดี บรรยายก็ดี กูชอบ

อีกเรื่อง เอไออ่านนิยายในพริบตาเดียวว่ะ...ที่กูตกใจคือเอไอแม่งเข้าใจภาษามนุษย์ที่สลักซับซ้อนอย่างนิยาย เอไอของกูที่พื้นฐานอ่านได้แค่เลขฐานสอง ต้องแปลงค่ามากมายถึงจะทำอย่างอื่นได้เยอะแยะ แล้วคนโปรแกรมเมอร์ซึ่งต้องเก่งกว่าเอไอเป็นเรื่องพื้นฐานเลยกลับกลัวว่าเอไอจะคิดมากเกินไปจนครองโลก คืออยู่ในขั้นสร้างได้แล้ว รู้จริงแล้ว ไม่ได้จินตนาการโดยไม่มีหลักการนะเว้ย มึงยังกลัวอีกเหรอ?

อันที่จริงกูไม่ค่อยอยากสับเรื่องทางเทคนิกกับนิยายเท่าไร เพราะกูถือว่านิยายบางครั้งมันเป็นจินตนาการ หุ่นยนตร์มีความคิดเป็นของตัวเองในนิยายบ้างไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วนิยายหรือการ์ตูนแนวนี้ก็มีอยู่เยอะนะ คือบางทีเขาไม่ได้ต้องการเน้นเรื่องเทคนิก อยากเน้นเรื่องทางมนุษย์ธรรมอะไรแบบนี้ก็ก็อยากเข้าใจตามนั้น กูก็ไม่อยากแขวะ แต่กูเองก็สนใจอยากศึกษาว่ามันผิดธรรมชาติตรงไหนกูเลยขอพูดหน่อย จะมองความเห็นกูไม่สำคัญก็ได้

662 Nameless Fanboi Posted ID:3BB5/fgGn

>>660 รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหำ

663 Nameless Fanboi Posted ID:QslPqpzxK

>>661 ตอนแรกกูไม่อยากแขวะเรื่องเทคนิคเพราะนึกถึงเรื่องเน้นจินตนาการ ความเป็นเพื่อน หรือความรักอย่างโดเรมอนหรือโชบิท แต่นึกอีกทีนิยายเรื่องนี้มันเขียนขึ้นมาเพื่อแขวะนี่หว่า ไม่ได้เขียนเพราะความรัก ความเป็นเพื่อน งั้นกูเปลี่ยนเป็นมองว่าคนแต่งเรื่องนี่เขียนดี แต่ทำการบ้านมาไม่ดีได้หรือเปล่าวะ?

664 Nameless Fanboi Posted ID:wc00Trz2R

>>661 >>663 ใช่เลย นี่แหละจุดที่กูอยากจะสื่อ ตัวมันไม่ใช่นิยายเกมออนไลน์แต่เป็นนิยายเสียดสีสังคม แต่ยังไงมันก็ใช้เซตติ้งเป็นโลกเกมออนไลน์ บางจุดกูเลยมองว่ามันแปลกถ้ามองว่าโลกในเกมมันคือเกมออนไลน์จริง ๆ ถึงจะไม่แน่ใจนักก็เถอะ

665 Nameless Fanboi Posted ID:QslPqpzxK

>>664 กูว่ามันไม่ได้แปลกแค่บางจุดนะ มันเยอะมาก...อันที่จริงก่อนหน้านี้กูพยายามพูดแบบเห็นใจคนเขียนอยู่ ถ้าให้กูพูดแรงแบบไม่เห็นใจคนเขียนเลยนะ กูว่าจุดผิดมันเยอะมากและไม่น่าให้อภัยสุดๆ พอมันเขียนเป็นแนวแขวะ แนวจิกกัดสังคม ซึ่งแม่งคือมันกำลังด่าคนอื่นแบบตัวเองก็ไม่รู้เหนือรู้ใต้เหมือนกัน ยิ่งบริบทการพูดเหมือนด่าเหมารวมเกมเวอร์ชวลเรียลลิตี้ว่ามันโง่บ้าเซ่อด้วย กูโกรธอยู่ เพราะกูเองก็เล่นเกมเหมือนกัน แต่พอสับเสร็จโอเค กูพอใจแล้ว

อันที่จริงที่ร่ายความผิดพลาดไปก่อนหน้านี้ยังมีที่ติดใจอยู่อีกหลายอย่างด้วย คือกูอ่านถึงตอนตัวเอกจะกลับออกจากเกมไปประชุมเพราะโดนเรียก มองผ่านหลังจากนั้นมันเขียนบอกว่าโรงไฟฟ้าระเบิด แมร่ง...โรงไฟฟ้าระเบิดแต่เซิร์ฟเกมไม่ดับว่ะ...หรือมันมีแหล่งไฟฟ้าเทียมที่ใหญ่พอค้ำจุนเซิร์ฟวะ แต่กูไม่ได้อ่านหลังจากนั้นว่ะ แล้วอีกอย่างคือตัวเอกเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่แม่งทำเหมือนงานเป็นเกม ถ้าจะแก้บัคระหว่างเกมจริงๆ แทนที่จะทำเรื่องยุ่งยากอย่างผลิตเอไอมาต่อสู้เป็นนักสู้คอยป้องกันตัวเอง มึงเขียนโค้ดจากนอกเกมปรับให้มอนส์เตอร์แถบนั้นเปลี่ยนเป็นไม่โจมตีอัตโนมัติไม่ได้เหรอวะ? มึงคิดว่ามอนส์เตอร์นี่มีชีวิตเป็นของตัวเองนักเหรอ? ของจริงมันก็แค่โค้ดนั่นแหละ แค่ปรับโค้ดมันนิดหน่อยจะให้มันหยุดนิ่ง ไม่โจมตีใส่ หรือทำอะไรก็ได้สารพัด (แต่ถ้าให้กูพูดมากกว่านี้กูว่ามันยาว กูพอดีกว่า)

เออ...พูดถึงเรื่องมอนส์เตอร์ทำให้กูคิดว่าคนเขียนเรื่องนี้อาจจะมองเกมออนไลน์ไม่ใช่โปรแกรม แต่มองเป็นโลกอีกโลกหนึ่งก็ได้ที่คนเขียนโปรแกรมกำหนดอะไรไม่ได้ มันโจมตีเอง กูเลยสงสัยว่ามันเคยเล่นเกมออนไลน์มาบ้างหรือเปล่า? ตอนนี้ก็รู้สึกว่าเริ่มพูดยาว กูขอแขวะแค่นี้แหละ

666 Nameless Fanboi Posted ID:J3mQQlXls

>>665 ไม่ใช่แขวะหรอก นี่คือการตั้งข้อสังเกตของเนื้อเรื่อง ถ้ามึงตั้งคำถามแล้วเก็บรายละเอียด
ก็อาจจะได้คำตอบที่ดีบ้าง แถบ้าง หรือไม่ได้คำตอบเลยก็ได้ แต่ก็ยังดีหว่าอ่านแล้วจบลงแค่นั้นนะ

667 Nameless Fanboi Posted ID:J3mQQlXls

อ่านเก็บรายละเอียด*

668 Nameless Fanboi Posted ID:QslPqpzxK

>>666 บางครั้งกูเก็บรายละเอียดแบบนี้แล้วคนอื่นหาว่ากูแขวะเยอะอยู่ไง กูเลยมองแบบนี้ไปก่อน ใครว่ากูด่ากูก็บอกว่ากูแค่แขวะ แต่มีคนมองแบบมึงนี่กูซึ้งว่ะ คือบางครั้งกูแค่วิจารณ์แต่มันบอกกูด่ากูก็เลยไม่อยากพูดอะไรมาก อยากให้วิจารณ์ก็ชมไปงั้นๆ//กูแค่บ่น ไม่ต้องดราม่าตามกูนะ

669 Nameless Fanboi Posted ID:QpITJb6hT

>>665 ขอดีเฟนต์แทนเรื่องนั้นหน่อย พอดีอ่านเหมือนกัน

ไอ้เรื่องโรงไฟฟ้าระเบิดเนี่ยคนเขียนแม่งวางปมมาดีแล้วนะกูว่า คือมันพยายามจะสื่อว่า ไอ้ที่ บ. เกม มันบอกว่าโรงไฟฟ้าระเบิด ไฟไหม้เซิฟเวอร์อะไรเนี่ย มันเป็นเรื่องจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ ที่จริงอาจมีผู้ก่อการร้ายเข้ามายึดเซิฟ หรือดาวหางกำลังจะชนโลกระเบิดอยู่แล้วก็ได้ บ. เลยต้องโกหกคนที่อยู่ในเกม ว่ามันมีปัญหาบางประการที่น่าจะแก้ไขได้ (อย่างไฟไหม้ ไฟดับ) และกำลังแก้ไขอยู่ เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนกหรือสิ้นหวัง เพราะถ้าบอกว่า ตอนนี้ชีวิตมึงแขวนอยู่บนเส้นด้าย ผู้ก่อการร้ายจะปิดเซิฟทิ้งเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หรือโลกกำลังจะแตกแล้ว ยังไงพวกมึงก็ตายอยู่ดี แบบนี้คงวินาศสันตะโรกว่านี้ไม่ใช่น้อย

ส่วนเรื่องทำไมไม่แก้โค้ดจากข้างนอก อันนี้จำได้เลาๆว่า มันบอกว่าถ้าจะแก้คำสั่ง ก็ต้องปิดแมพส่วนนั้นทิ้ง ซึ่งมันเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนเกินไป ส่ง GM ไปเคลียร์เองง่ายกว่า อันนี้ตามที่คนเขียนบรรยายนะ ทางเทคนิคเป็นยังไงกูไม่รู้

670 Nameless Fanboi Posted ID:QslPqpzxK

>>669 ทางเทคนิคกูว่ายังแปร่งๆ อยู่นะ คือกูก็รู้แค่เรื่องโค้ด เรื่องคอมพิวเตอร์พื้นฐานนะ สร้างเกมก็เคยแค่ลองใช้โปรแกรมสำเร็จรูปดูกับพวกภาษาโปรแกรมนิดหน่อย อย่างระดับบริหารจัดการเซิร์ฟนั่นกูไม่เคยเลยพูดอะไรไม่ได้ แต่กูสังเกตดูจากเซิร์ฟเกมที่กูเล่นซึ่งบัคโคตรเยอะ เขาจะให้ผู้เล่นบอกกันเข้ามาว่าบัคมีอะไรบ้างแล้วค่อยปิดเซิร์ฟไปแก้ไข ถ้าบัคน้อยเกินไปก็อาจไม่แก้ไข ไม่คุ้มกับการปิดเซิร์ฟและต้องให้ของรางวัลผู้เล่นเพื่อขอโทษที่ผิดพลาด คือไอ้การแก้ไขโค้ดเนี่ยมันไม่ได้ง่ายๆ นะ บางทีเขียนโค้ดผิดจุดเดียวเล็กๆ เกมล่มทั้งเกม โปรแกรมหรือเกมใช้ไม่ได้ เปิดไม่ได้ทันทีก็มีเหมือนกัน ถึงเป็นจุดเล็กๆ ก็มีโอกาสไปเขียนผิดและทำให้เกมผิดพลาดทั้งเกมเหมือนกัน แบบนั้นจะยิ่งทำให้ผู้เล่นด่าเละเข้าไปใหญ่ (กูเคยเขียนโปรแกรมในชั่วโมงเรียน แค่ไม่มีสัญลักษณ์ ; หรืออะไรก็ไม่รู้แหละแค่ตัวเดียวโปรแกรมรันไม่ได้ทั้งหมดทันที ควานหาอยู่นานกว่าจะเจอว่าเพราะแค่ตัวนั้นตัวเดียวนี่แหละโปรแกรมเลยใช้ไม่ได้ทั้งโปรแกรม)

ส่วนเรื่องอุกาบาตรหรืออะไรนี่กูไม่รู้แฮะ กูขออ่านก่อน

671 Nameless Fanboi Posted ID:J3mQQlXls

>>669 ที่มึงว่าเรื่องข้างนอกคืออะไรก็ไม่รู้นี่คือส่วนสำคัญของเรื่องจริง ๆ น่ะแหละ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกเกมของเรื่องนั้นเต็มไปด้วยความไม่รู้ แล้วตัวเอกและทุก ๆ คนก็พยายามจะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะถูกความไม่รู้กลืนลงไป ซึ่งตรงนี้คนเขียนก็ทำได้ดี ดีจริง ๆ นะ

ยิ่งเนื้อเรื่องผ่านไป ความไม่รู้ก็ยิ่งลุกลามมาหาตัวละครมากขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายความไม่รู้ก็กลืนกินทุกสิ่งไปจนหมดสิ้น ไม่เว้นแม้แต่คนอ่านก็ถูกความไม่รู้กลืนกินไปด้วย

แต่ก็นั่นแหละ ไม่ใช่ว่าเพราะตัวละครไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเซิร์ฟดับกลางคัน ถึงดิ้นรนทุรนทุรายจนเกิดวินาศสันตะโรแบบท้ายเรื่องหรอกเหรอ

ถ้าจะบอกว่าด้านนอกปิดข่าวเพื่อไม่ให้ตื่นตระหนกหรือสิ้นหวัง ผลลัพธ์น่าจะตรงกันข้ามมากกว่าอะกูว่า

672 Nameless Fanboi Posted ID:oiWyeMSHw

ถามหน่อย เรื่องนี้ตีพิมพ์ยัง

673 Nameless Fanboi Posted ID:RXkDyGERV

>>672 ยาวเกินกว่าจะเป็นเรื่องสั้น สั้นเกินกว่าจะเป็นเรื่องยาว

674 Nameless Fanboi Posted ID:usWNH8fp7

กุไม่ได้อ่านเรื่องนี้ (แต่กำลังเริ่มบทแรก) ขอวิจารณ์อะไรหน่อย
คือว่านะ เมื่อไรคนเขียนนิยายเกมออนไลน์ VR จะเลิกมโนภาพตั้ง sv ไว้ที่เดียวจบวะ ถ้าอยู่ในยุคสมัยถึงขั้นหลับแล้วเข้าโลกเสมือนได้ คอนเซ็ปต์ฟาร์ม sv น่าจะล้าสมัยแล้วด้วยซ้ำ คลาวด์ก็น่าจะรู้จักกันทำไมไม่มโน sv แบบคลาวด์ขึ้นมาวะ? ต่อให้ไม่ใช่โรงไฟฟ้าระเบิด แต่เป็นอุกกาบาตลง แผ่นดินไหว น้ำท่วม มันต้องมี sv สำรองไว้อยู่แล้ว คอนเซ็ปต์ centralize น่าจะเปลี่ยนเป็น Distribute ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีคอมหลักระบบก็ยังสามารถทำงานต่อไปได้ตราบใดที่มีร่างแยก (Farm) อยู่ แล้วก็...ระบบบ้าอะไรไม่มี Backup ตายๆ เป็นของจริงกุไม่เล่นแน่ๆ เกมแบบนี้ แถม GM ภาคสนาม...กุไม่ได้มีปัญหากับ GM แต่มีปัญหากับระบบซัพพอร์ต GM ...ปวดตับ

อีกอย่าง สำคัญมาก ยังคิดว่ายุคนั้นไฟฟ้ายังส่งผ่านสายไฟอยู่รึ? เทสลาคงร้องไห้อยู่ในสวรรค์นั่นแหละผ่านไปร้อยปีสองร้อยปีห้าร้อยปี เทคโนโลยีพลังงานยังโดนระบบทุนนิยมกดขี่ไม่เปลี่ยนแปลงสักที หรืออย่างน้อยน่าจะเปลี่ยนเป็นทุ่งโซล่าร์เซล อลังการกว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เยอะ

อีกจุดเล็กๆ ป.เอกวศ.คอม เออเรื่องแบบนี้ดร.ดุษฎี/ปรัชญาดุษฎีเขาไม่มาสนหรอกนะ แค่ป.ตรีก็พอแล้ว สร้างความเข้าใจผิดเปล่าๆ ให้คนที่เรียนฝากนี้อย่างกุต้องมาตามเช็ดขี้ให้ สลัด

มีอีกหลายจุดแต่ขี้เกียจแล้ว นอนละบรัยย...

675 Nameless Fanboi Posted ID:ZSzEjIoZ7

>>674 ที่บ่นๆเนี่ย กูพอเข้าใจสาเหตุหลายข้อ
1.นักเขียนส่วนใหญ่ไม่ได้เรียนวิศวะคอม
2.บางคนไม่รู้ว่าคลาวด์คอมพิวติ้งคืออะไร แต่พอพูดถึง google drive หรือ dropbox มันถึงเข้าใจ
3.คนไทยบางส่วนมีความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับแฟนตาซี คิดว่าต้องทิ้งเหตุผลและหลักการวิทยาศาสตร์ทั้งหมดถึงจะเรียกเต็มปากว่าแฟนตาซี
4.ถ้ามองที่เทคโนโลยีอย่างเดียวจะสังเกตได้ว่าสามารถเขียนแนวไซไฟก็ได้ แต่หัวคิดเด็กดีดันมองไม่ออก หลงคิดว่า VR คือแฟนตาซีเท่านั้น
5.ทัศนะของคนไทยที่มีต่อหน้าที่การงานของ GM ยึดกับเกมเก่าๆที่ GM เข้าเกมตามจิกหัวคนทำผิดยังกะโปลิสจับขโมย เช่น RO เป็นต้น
6.ถ้าตัวเกมสร้างความเสียหายมีผลถึงทรัพย์สินของผู้เล่นทั้งเกม (ไอ้โรงไฟฟ้าบึม แมพเสียหาย คนตายห่า) ควร Rollback ทำการย้อนเวลากลับไปยังจุดก่อนเกิดเหตุ เป็นศาสตร์การกู้ข้อมูล แต่เซิฟไทยน้อยครั้งมากๆที่มีการ Rollback ในทางปฏิบัติ คนเขียนน่าจะไม่เคยมีประสบการณ์ถูก Rollback (มันก็คือ System Restore แหละ)
7.คนเขียนน่าจะไม่เคยมีคอมเสียมาก่อน เลยคิดว่าเกมเดียว sv เดียวครอบจักรวาล กูเริ่มรู้จักการสำรองข้อมูลมาจากคอมเสียกับตัวจริงๆแหละ เซิฟเวอร์ไม่ใช่ราคาใช้ตามบ้านนะเว้ย

676 Nameless Fanboi Posted ID:8PVRUI.s7

ตอนแรกกูงงภาษาคอมพิวเตอร์ >>674 แต่พอ >>675 อธิบายนี่แหละกูเก็ตเลย

677 Nameless Fanboi Posted ID:bZIVMIUWq

กูมองนิยายเกมออนไลน์เป็นไซไฟนะ แบบ the Matrix หรือกูใจกว้างไป

678 Nameless Fanboi Posted ID:k07pUeFzL

>>677 โดยพื้นฐานมันก็เป็นละนะ subtext ของมันคือการทำให้ fantasy กลายมาเป็น Sci-fi ด้วยนวัตกรรมบางอย่าง อย่าง SAO ที่คนมักถ่มถุยเรื่องความซูและฮาเร็มก็มีแง่มุม Sci-fi เยอะ อย่างเรื่องปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนกับ AI ในโลกจริง ในภาคหนังโรงก็มีความเป็น Sci-fi ที่ดีอยู่

ปัยหาของกูในนิยายพวกนี้ไม่ใช่เรื่องเทคโนวะ คือเทคโนมันสามารถพัฒนาไปทางไหนก็ได้ ไม่จำเป็นว่าในอนาคตจะต้องเป็นแบบนี้ นัก Futurism เมื่อก่อนก็วาดฝันโลกในอนาคตไว้หลายแบบ แต่โลกจริงก็ไม่เหมือนกับที่ไว้ เอาง่ายๆ แค่การออกแบบ นิยาย Sci-fi เป็นตัวชี้ชัดที่สุดว่ารสนิยมด้านการออกแบบมันพัฒนาไปตลอด ทั้งเสื้อผ้า ยานอวกาศ สถาปัตยกรรม ฯลฯ เราคาดเดาอนาคตได้ แต่มันมักจะไม่เหมือนกับที่เราเดาไว้หรอก

ที่กูมีปัญหาจริงๆ คือเรื่องของ game element = Balance ซึ่งเป้นหลักใหญ่ใจความของ Comercialization มากกว่า คือเกมส์นะมันต้องมี "ความสมดุลย์" อยู่ในระดับหนึ่ง ความสมดุลย์นี้แปลว่าทุกคนสามารถ "แข่งขันกันได้" อย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง คือทุกคนรู้อยู่ว่าเล่นมาก่อนก็เก่งกว่า แต่มันต้องมีความสมดุลย์ที่ทำให้คนมาใหม่สามารถแข่งขันกับคนเก่าได้

ตัวอย่างก็ WoW คนที่เล่นมาก่อนนั้นจะมีดีกว่าแค่ของและประสบการณ์ คนเล่นใหม่พอถึงจุดหนึ่งก็เก่งกว่าคนเก่าได้ อันนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่เกมแนว MOBA ฮิต เพราะคนใหม่เก่าก้แข่งกันที่ฝีมือโดยตรงไม่ต้องพึ่งของ คนเล่นมานานกว่าก็แพ้ได้ พูดง่ายๆ ว่าความสามารถในการแข่งขันกันได้นี่ละที่ทำให้เกมส์ออนไลน์อยู่ได้ เพราะมันสร้างมาเพื่อให้คนแข่งขันกัน ถ้าไม่สามารถแข่งขันกันได้อย่างยุติธรรมระดับหนึ่งคนก็จะเลิกเล่น เกมส์ออนไลน์ในไทยที่ล่มไปเพราะเทพทรูก็เยอะ คนในวงการเขารู้ดี

แต่คนแต่งส่วนมากไม่รุ้หรอก เพราะคิดแต่ว่าตัวเองอยากเก่งอยากเทพทรู [คนเดียว] แต่ไม่นึกว่าถ้าตัวเองแข่งไม่ได้แล้วจะทำยังไง หรือไม่ก็ลืมไปว่าตัวเองเคยเลิกเล่นเพราะเทพทรู จุดที่เห็นได้ชัดอีกอย่างคือเรื่อง "การเร่งเวลา" ข้อนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าคิดว่าเป็น Sci-fi การเร่งความเร็วในสมองเป็นหัวข้อมานานแล้ว ในโลกจริงก็มีตัวอย่าง เช่นการมีสมาธิจนเห้นเหตุการณ์ทุกย่างช้าลงก็เป็นหลักการพื้นฐานของการเร่งความเร็วสมอง

ในแง่ของเกทส์ออนไลน์ก็อย่างที่กูเล่า หัวใจของ Comercialization มันคือความสามรถในการแข่งขัน ถ้าเราเร่งเวลามากเกินไป คนที่มีเวลาน้อยกว่าก็จะเสียเปรียบอย่างมาก และทำให้สมดุลย์พังทลายลงไป และส่งผลต่อสมอง ตัวอย่างของการนำเสนอเรื่องนี้ได้ดีคือ Magic World Online ที่กำหนดเวลาเล่นเพื่อปรับสมอง และสร้างความสมดุลย์ให้ผู้เล่นระดับหนึ่ง

จริงๆ อยากเขียนเพิ่มบางเรื่อง แต่เอาแค่นี้ก่อนดีกว่า

679 Nameless Fanboi Posted ID:ZSzEjIoZ7

>>677 คิดแบบนี้ไม่แปลกหรอก ตั้งแต่เด็กดีพยายามยัดเยียดเครื่องเล่นเกม VR อวดกัน หรือถ้าตัดเกมออนไลน์ออกไปเลย มึงสามารถเขียนนิยายไซไฟประเภท cyberpunk ดูหนังตัวอย่างจากเกมนี้พอ http://store.steampowered.com/app/269650/Dex/

>>678 Comercialization แปลว่าอะไร กูหากูเกิ้ลไม่เจอว่ะ

680 Nameless Fanboi Posted ID:sK6J/O9PS

>>679 ทำให้เป็นการค้าขาย, ทำให้เป็นเงิน

http://dictionary.sanook.com/search/dict-en-th-sedthabut/commercialization

681 Nameless Fanboi Posted ID:YLZkvX5Nw

>>678 สรุปได้ว่า อย่าซู (sue) จนเป็นสวนสัตว์ (zoo)

682 Nameless Fanboi Posted ID:LApKGtzd3

>>681 ก็ส่วนหนึ่ง แต่ประเด็นหลักของกูคือออกแบบเกมส์ให้มันเป็นเกมส์ที่ "ขาย(ผู้เล่น)ได้=(ผู้เล่น)แข่งขันได้" หน่อย เพราะเกมส์ที่สมดุลย์มันไม่ดีจะทำให้เกมส์ล่ม ซึ่งเด็กดีขาดตรงนี้มาก เหมือนออกแบบเกมส์มาให้พระเอกเล่นคนเดียวยังไงยังงั้น

683 Nameless Fanboi Posted ID:LzyPJL5CG

>>680 ถ้าเรียกให้บ้าน ๆ กว่าก็คือทำให้มันขายได้ละมั้ง

684 Nameless Fanboi Posted ID:ZSzEjIoZ7

>>680 เออ เก็ตๆ
>>682 เท่าที่สังเกต เด็กดีชอบเขียนให้เกมตัวเองยิ่งใหญ่เท่า epic fantasy แต่ตีโจทย์อุตสาหกรรมเกมออนไลน์ไม่ออก เข้าใจงูๆปลาๆ เล่าแค่ด้านเดียว ใครไม่ใช่พระเอก ช่างมัน

685 Nameless Fanboi Posted ID:3Yo.KqB8O

>>675 ขอบคุณที่ช่วยแปลภาษาต่างดาวเป็นภาษาไทย
>>676 กุขอโทษจริงๆ เมื่อคืนกุง่วงมาก รีบพิมพ์รีบนอน ลืมแปลภาษาให้ พิมพ์หลายคำผิดด้วยอ่ะมึง
>>679 ไม่ใช่ Comercialization แต่เป็น Commercialization >>678 พิมพ์ตกตัว m ไป มันคือ commercial นั่นแหละ หมายถึง เชิงพาณิชย์, ทำให้เป็นการค้า หรือก็คือทำให้ขายได้นั่นแหละ
>>682 กุขอถามนอกเรื่องเป็นความรู้ประดับสมองกุ้งฝอยกุหน่อย พวกเกมกาชาเกลือๆ ไรงี้ที่เล่นคนเดียวอ่ะ มันเข้าคอนเซปต์ "ผู้เล่นแข่งขันได้" ยังไงอ่ะ กุเห็นบางคนเปย์จนเอาตังที่เปย์ไปซื้อบ้านคงซื้อได้เป็นสิบหลัง แต่สุดท้ายมันก็เล่นอยู่คนเดียวอยู่ดี เลยไม่ค่อยเข้าใจเรื่องแข่งขันได้ไม่ได้อ่ะ ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง //กราบงามๆ

686 Nameless Fanboi Posted ID:LzyPJL5CG

>>685 เคสที่ >>678 ยกมาหมายถึงเกมออนไลน์ที่เล่นกันหลายคน พวกเกมที่เล่นคนเดียวมันไม่ต้องคิดเรื่องแข่งขันระหว่างคนเล่น แต่ก็มีหลายเกมที่ถึงเล่นกาชาหรือเดี่ยว ๆ ก็มีระบบแข่งขันระหว่างคนเล่นนะ อย่างแกรนบลูแฟนตาซีก็มีแข่งกัน Raid Boss หรือคังโคเระก็แข่งกันเก็บแต้มแรงกิ้งเอาไอเท็ม

687 Nameless Fanboi Posted ID:KsaMu1bQ1

>>685 ส่วนหนึ่งคือไวฟุ ยิ่งเก่งด้วย น่ารักด้วย ยิ่งอวดได้ ปัจจัยอื่นๆ ที่จะเข้าสู่การแข่งขัน(นอกจากอวดไวฟุในห้องแชทใหญ่) คือการเปย์เพื่อความแข็งแกร่งในกิลด์วอร์ และเพื่อล่าเรดบอสต่างๆ เอาของกลับมาใช้ในการวอร์อีกที นี่ไงการแข่งขัน แถมเป็นการแข่งขันแบบกิลด์ด้วย ใช้ศักดิ์ศรีและความปากดีของแต่ละฝ่ายสร้างแรงจูงใจให้คนต้องเปย์จนตัวเองแกร่งกว่านั่นแหล่ะ

688 Nameless Fanboi Posted ID:3Yo.KqB8O

>>686 >>687 โอ้ พอเข้าใจละ อย่างตอนนี้กุติดเฟทเกลืออยู่ มันไม่มี ranking ไม่มีวอร์ อย่างมากก็เรดบอสที่ให้ช่วยรุมกันตีเฉยๆ แล้วได้รางวัลเหมือนกันทั้งเซิร์ฟ ถ้าให้มองคือ เขาเอาลายเส้น เอานักพากย์ เอาเนื้อเรื่อง เอาไวฟุฮัสบันโดะ เอาของรางวัลมาล่อให้คนเล่นสร้างการแข่งขันกันเองในโลกภายนอก หรือก็คือเอามาอวดกันเองข้างนอก ถูกต้องมั้ย

689 Nameless Fanboi Posted ID:7Vz0h5soP

>>688 ถ้าใน เฟท-เกลือออเดอร์ ก็ประมาณนั้น แต่ในเกมอื่นๆ มันมี PVP เพื่อแย่งอันดับเอาเหรียญแครช (เท่ากับว่าใครเปย์หนักก็จะได้จองอันดับ 123 ซึ่ง เหมือนกับถอนทุนคืนได้ครึ่งต่อครึ่ง) ระบบกิลด์วอร์ที่มีชิ้นส่วนเฉพาะเป็นรางวัลชนะสงคราม เก็บครบทุกส่วนได้ของเทพมาใช้ (โดยเฉพาะอันที่เพิ่มพลังโจมตีในโหมดกิลด์วอร์/พีวีพีเท่านั้นเท่านี้เปอร์เซนต์) กับระบบไอเท็มบอสซึ่งเกี่ยวข้องกับ Auction Hall โดยตรง คือล่าของบอสมา แล้วเอามาตั้งประมูลไว้เป็นหน่วยเงินแครช วงจรก็จะหมุนเข้าจุดเดิมคือเติมหนักเพื่อแลกเอาของเทพพวกนั้น เงินจริงเข้ากระเป๋าผู้ให้บริการ ส่วนผู้เล่นได้ความเทพ ได้ยืดอกป่าวประกาศ กูนี่แหล่ะแกร่งที่สุดในเซิฟ และอื่นๆ อีกมากมาย

690 Nameless Fanboi Posted ID:ZSzEjIoZ7

>>689 แต่ถ้าเซิฟปิดถาวร ของไปหมด ผู้ให้บริการได้ตังค์

691 Nameless Fanboi Posted ID:6+2IXYu4T

>>690 นั่นเป็นปัญหาของผู้เล่น

692 Nameless Fanboi Posted ID:YuzVmUE2r

>>691 แต่พระเอกเกมออนไลน์ส่วนมากเป็นผู้เล่น

693 Nameless Fanboi Posted ID:GiN.q2r+b

>>692 กูอ่านนิยายออนไลน์มาเยอะ ไม่เห็นเกมไหนมันดูมีทีท่าว่าจะปิดบริการเลยสักเกม สเกลเกม เควส เนื้อเรื่อง ก็ใหญ่เว่อร์ ระบบที่มีถูกพระเอกทำลายหมดเหมือนมันจะทำอะไรก็ได้ (โดยเฉพาะเวลน้อยฟลุ้คชนะมอนเกือบๆ ท้ายเกม) มันเป็นผู้เล่นแล้วยังไงต่อ ขนาดไม่เติมทรูสักบาทยังเว่อร์สัสๆ ถ้ามันเติมโหด มันไม่กลายเป็นน้องจีเอ็มไปเลยรึไง

694 Nameless Fanboi Posted ID:YuzVmUE2r

>>693 เพราะคนเขียนไม่อยากให้ปิด แต่ดองเป็นการปิดเซิฟทางอ้อมไง

695 Nameless Fanboi Posted ID:qFj/iVFT8

อ่านแล้วนึกถึงวันที่ปิดเซิร์ฟ L2 วะ มีเพื่อนกูร้องไห้ด้วย เพราะสนิทกับคนในนั้นมาก เล่นกันมาหลายปี

696 Nameless Fanboi Posted ID:BL8elWo1w

>>693 ไม่ปิดยังไม่แปลก แต่ที่แปลกคือหลายๆเกมแม่งเปิดมาได้แค่ไม่กี่วัน จู่ๆเสือกอัพแพตช์ใหญ่เปลี่ยนระบบเกมซะงั้น เหี้ยอะไรวะเนี่ย

697 Nameless Fanboi Posted ID:uiGAJLrDd

แก่นเรื่อง SAO มันคืออะไรวะ? (น้องกูดู แต่กูไม่เคยว่ะ น้องมันอวยพอสมควร) มันเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพวกเขียนแนวนี้ได้ไหม?

698 Nameless Fanboi Posted ID:YuzVmUE2r

>>697 เรื่องราวของ Self-insert ยอดนักฮาเร็ม

699 Nameless Fanboi Posted ID:4oii/MkMg

>>697 วีรบุรุษช่วยสาวงามตามขนบทั่วไปนั่นละ เรื่องมันเล่าง่าย ไม่แปลกใหม่ แต่คนทุกยุคชอบกัน

จริงๆ ถ้าหัดเขียนนะเขียนแบบนี้จะดีกว่า เส้นเรื่องตรงๆ เล่าง่ายๆ ไม่ต้องซับซ้อนอะไร แต่ต้องดึงดูดให้เอาใจช่วย

700 Nameless Fanboi Posted ID:U9kQYafjI

>>697 เติมทรูแล้วจะเทพแบบผมครับ

701 Nameless Fanboi Posted ID:O25LFCn10

ถ้าสนใจนิยายเกี่ยวกับเกมออนไลน์ กูแนะนำ Accel World คนเขียนเดียวกันกับ SAO แต่เนื้อเรื่องดีกว่า ถ้ารับนิสัยพระเอกขี้อีโมแบบหมูได้นะ

702 Nameless Fanboi Posted ID:1dW6Gz746

>>700 มึงแย่งคำตอบกุ!

703 Nameless Fanboi Posted ID:YuzVmUE2r

>>701 +1 SAO ควรจบตั้งแต่เล่ม 4 แล้ว

704 Nameless Fanboi Posted ID:U9kQYafjI

>>703 กูเห็นด้วยกับมึง เห็นหลายทีละพวกแบบเห็นว่าขายได้เลยหาทางยืดเรื่องไม่ก็ทำภาคต่อ สุดท้ายพังหมด

705 Nameless Fanboi Posted ID:6mkMRM+Eu

เรื่องนิยายเกมเนี่ยกูว่ามันแล้วแต่คนเขียนนะว่าจะโฟกัสไปที่จุดไหน เอาตรงๆคือนิยายเกมในไทย โดยทั่วไปไม่ได้เป็นแนว sci fi แต่มักเป็นแนวผจญภัยมากกว่า คือใช้เกมเป็นตัวเชื่อมเรื่องระหว่างโลกจริงกับโลกอีกใบหนึ่ง ไม่ได้ต่างกับแนวตายแล้วไปต่างโลกหรอก อันที่จริงแม่งเหมือนกันด้วยซ้ำ ต่างแค่นิยายตายไปต่างโลก = พระเอกเล่นคนเดียว (single player) ส่วนนิยายเกมออนไลน์ = มีผู้เล่นหลายคน (multiplayer)

706 Nameless Fanboi Posted ID:YuzVmUE2r

>>705 เฉพาะนิยายไทยกูไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร หลายเรื่องแล้ว พระเอกเริ่มเทพเมื่อไร เกมจะกลายเป็นเกมเทพทรูพ่อคุมทุกสถาบัน

707 Nameless Fanboi Posted ID:/8JTatl4R

วอนสับที https://writer.dek-d.com/-NemuriHime-/story/view.php?id=1593950

708 Nameless Fanboi Posted ID:wpb1nkX/E

>>707 ขอรายละเอียดและบรีฟคร่าวๆ ด้วย

709 Nameless Fanboi Posted ID:AOg2aMLFP

>>707 สำนวนใช้ได้นะ แต่ไม่ถูกจริตกับนิยายที่พระเอกหล่อนางเอกสวย แบบสวยจนตะลึงอะไรทำนองนี้เท่าไหร่ เขียนต่อไปก็แล้วกัน เป็นกำลังใจให้จ้า

710 Nameless Fanboi Posted ID:6ekNckE.q

รู้สึกจขกท.กับคห.4 ความเห็นตรงข้ามกันสิ้นเชิง
https://www.dek-d.com/board/view/3771742/

711 Nameless Fanboi Posted ID:i/RUJdisv

กูเพิ่งสังเกตเห็น คนเขียนที่ออกนิยายกับสนพ.สายแฟนตาซี
ตอนนี้หนีไปเขียนสายวาย หรือสายนิยายจีน กันเยอะมาก
เพิ่งเห็นคนเขียน คู่มือการเป็นเกมไอดอล เขียนวายแล้ว กระแสท่วมท้นมากกว่าเดิมเป็น 10 เท่า ทั้งคนดูคนเมนต์
ซึ่งก็พอๆกับที่เห็นนกฮูก ขายวายแบบหนังสือทำมือเป็น1000กว่าเล่มเหมือนกัน
สายนั้นคนอ่านเปย์จริงเมนต์จริง

712 Nameless Fanboi Posted ID:kgLRW3Nk9

>>711 ยืนยันคำเดิม ถ้ารักชอบจริงก็ยินดีด้วย

แต่ถ้าขายวิญญาณเพียงเพื่อเงินหรือชื่อเสียง ก็ไม่มีอะไรจะสาปส่งไปมากกว่าคำว่าสมเพช

713 Nameless Fanboi Posted ID:GkoGnkswE

>>712 กุอยากรุว่าถ้ากุแต่งนิยายเป็น กุจะเอาอะไรดีระหว่างมีคนชื่นชมแล้วไม่มีแดก กับมีคนสาปส่งแล้วมีเงินใช้ เลือกยากเหี้ยๆ

714 Nameless Fanboi Posted ID:Tq+UNUkBt

>>713 ถ้ามึงมีงานหลักก็ไม่ต้องตามกระแสหรอก แต่ถ้ามึงเขียนเป็นหลักก็นั่นแหละ... กูก็ว่าไม่ลง

715 Nameless Fanboi Posted ID:.KXZUcspT

คนมี income อยู่แล้วอย่างกูแต่งตามใจตัวเองวะ (ถึงมันจะไม่ค่อยมีคนอ่านก็เถอะ)

716 Nameless Fanboi Posted ID:4WoYB.SA4

>>713 ก็เพราะมึงเขียนไม่เป็นนั่นแหละนะ อธิบายให้ฟังลำบากว่ะ

ดูตัวอย่างตอนดราม่าการ์ตูนไทย ที่เหมือนสยามจะให้นักเขียนการ์ตูนในสังกัดลองเขียนตอนพิเศษที่เป็นแนววายออกมา ปรากฏว่าหลังพิมพ์ออกมา นักเขียนเหล่านั้นเอาไปคุยกันสนุกปากทำนองว่าขยะแขยง อี๋ ขนลุก กลายเป็นกระแสด้านลบไป

มึงก็คิดดูแล้วกัน สมมติว่ามึงเป็นสาววาย กรี๊ดๆกับนิยายวายของนักเขียนคนหนึ่ง แล้วมารู้ความจริงว่านักเขียนคนนั้นไม่ได้อยากเขียนวายเลย ลับหลังก็เอาไปล้อสายเหลืองๆ ขยะฟุ กับเพื่อนฝูงอย่างสนุกปาก ในฐานะนักอ่านมึงรู้สึกยังไงล่ะ

717 Nameless Fanboi Posted ID:6ekNckE.q

>>716 แต่แย่วะ เด็กดีชักจะเดินตามรอยเท้าธัญวลัยแล้ววะ

718 Nameless Fanboi Posted ID:HcRaOzCkJ

แต่กูเข้าใจนะ เอาแค่ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่อยากได้คนเข้ามามีอารมณ์ร่วม อันหมายถึงการติชมผลงาน
แค่คอมเมนต์ สายวายดีกว่ามาก
สายแฟนตาซีเขียนแบบเต็มที่ลงไปตอนหนึ่งได้คอมเมนต์ไม่เกินสิบหรือยี่สิบ สายวายลงไปตอนหนึ่งมาเป็นร้อยคอมเมนต์
อันนี้กูพูดถึงด้านกำลังใจ

719 Nameless Fanboi Posted ID:HcRaOzCkJ

ถ้าพูดเรื่องการตั้งวางในร้านหนังสือนั่นอีก ไม่เกี่ยวกับอะไรนะกับสายรักหรือจีนแปลที่ครองพื้นที่หลักของนิยาย
กูแปลกใจโครตๆ สายแฟนแทบไม่เหลือที่วางเท่าไร สายวายมาเป็นล็อกเลย ทั้งที่คนอ่านสายแฟนน่าจะมากกว่าสายวายเยอะ

720 Nameless Fanboi Posted ID:GKetcMNII

>>719 ก็สนพปั้มขย.. *แค่กๆ นิยายตามกระแสเข้าตลาด จนคนอ่านแฟนดีๆเขาหนีไปอ่านตปทไง

721 Nameless Fanboi Posted ID:4WoYB.SA4

>>718 บอบบางขนาดนั้น น่าจะเป็นนักเขียนมือใหม่นะ

อย่างกูและอีกหลายๆคน ต่อให้ไม่มีคอมเมนต์เลยก็เขียนได้ กูถือคติเสมอว่า นักเขียนก็เป็นนักอ่านของผลงานตนเอง ถ้าเรายังมีความสุขกับการเขียนก็เขียนต่อไป เรื่องเด่นดังมีแฟนคลับคอยตามมันเป็นเรื่องรองว่ะ

722 Nameless Fanboi Posted ID:GKetcMNII

มึงมีสองทางเลือกเว้ย ท่ามั่นใจว่างานมึงดีจริง คือ 1.เรียนรู้จะไปเขียนเป็นภาษาต่างประเทศ(อังกฤษ) เพราะตลาดกว้างกว่าเปิดรับกว่า สมัยนี่มี e book แล้วด้วย 2.มึงต้องค่อยๆสร้างแฟนมึงอย่างอดทน ถ้านิยายดีจริงๆ มันอาจจะน้อยช่วงแรก แต่ก็ค่อยๆสร้างไป โตขึ้นเรื่อยๆ ใครจะรู้ล่ะวันหนึ่งนิยายมึงอาจจะเป็นนิยายชั้นนำ จนพวกขี้เลียนแบบ เกาะกระแสต้องมาลอกมึง แต่ทำไมไ่ด้เพราะฝีมือไม่ถึง

723 Nameless Fanboi Posted ID:6ekNckE.q

>>722 ไม่ว่าข้อไหน พวกลอกการบ้านก็ลอกทั้งคู่อยู่ดี แฮรี่พ่องตายเกิดปั๊บ ดอกปอบฟินจนเอาไปลอ... แค่กๆ ไปเขียน ดังแล้วมีคนอื่นลอกตาม ไม่มีดอกปอบก็จะมีคนลอ... แค่ก เขียนแทนอยู่ดี

724 Nameless Fanboi Posted ID:HcRaOzCkJ

>>721 กูมองในแบบสายตาคนอ่าน
ทั้งๆ ที่คนเขียนคนเดียวกัน สำนวนแบบเดียวกัน กูหมายถึงคนแต่งเรื่องนิยายอ่ะนะ
แล้วกูเทียบอย่าง นกฮูกหรือโลกลันลา
ลงในสายแฟน แฟนคลับมีพอควร แต่ทั้งสองคอมเมนต์มาจึ๋งนึง
กับลงในแนวสายวาย ต่างกันหลายเท่าถึงสิบเท่า
อันนี้เทียบด้วยสายตา กูจะสื่อว่าคนเขียนอยากจะเขียนสายไหนล่ะ สายหนึ่งผลตอบรับแบบหลับตาลุ้นว่าจะมีคนเมนต์อะไรมั้ย กับอีกสายหนึ่งคนอ่านตอบรับกันเกรียวกราว
คือที่กูอยากสื่อจริงๆ ทำไมมันต่างกันอย่างนี้ ต่อให้นักเขียนแข็งแรงขนาดไหน ถ้าได้ผลตอบรับที่ต่างกันขนาดนี้ มันก็คงไม่ผิดมั้งที่จะเลือกเขียนสายไหน

725 Nameless Fanboi Posted ID:HcRaOzCkJ

>>720 แต่กูสื่อให้เห็นแบบ คนอ่านคนเดียวกัน
ผลตอบรับกับต่างกัน แบบหน้ามือหลังมือจริงๆ คือกูไม่ได้อคิตรสนิยมอะไร แต่แปลกใจเท่านั้น
คนเขียนคนเดียวกัน ลงสายแฟน ตอนนี้หนีมาสายวาย และผลตอบรับดีกว่ากันหลายเท่ามากเกิน
เลยแปลกใจว่าคนอ่านนี่มีส่วนไล่คนเขียนให้ไปในแนวนี้หรือเปล่า

726 Nameless Fanboi Posted ID:GKetcMNII

>>723 ลอกได้แต่จะดีได้ตามเปล่านั่นอีกเรื่อง ฝีมือไม่ถึงขึ้นยังไงก็เขียนพล็อตลุ่มลึกไม่ได้ตามต้นแบบ นอกจากจะลอกมาทั้งดุ้นแล้วค่อยเปลี่ยนรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอ่ะนะ แต่คิดว่าคนอ่านหลายคนคงจับได้ แต่นักเขียนเหล่านั้นก็จะหน้าด้านไม่ยอมรับ >>724 อันนี้แล้วแต่มึงอ่ะอยากอยู่ในคอมฟอรตโซน หรือ ดึงดันเพื่อสิ่งที่มึงเชื่อว่าถูก

727 Nameless Fanboi Posted ID:GKetcMNII

>>725 5-10 ปีมาล่ะ สมัยดอกปอบกำลังขึ้นมาเพราะอำนาจลึกลับบางอย่าง(บ้างก็บอกว่าเพราะแม่รวย) แม้นผลงานจะห่วยแตกฉิบหาย คนอ่านแฟนไทยยังมีอยู่บ้างกระทั่งหลังจากนั้นแหละ สนพปั๊มนิยายกระแส(ขนาดเขียนห่วยแต่ตามกระแสยังมีโอกาสพิมพ์) จนเกิดกระแส ประท้วงเรียกร้องตามพันธิปมากมาย แต่พอสนพไม่เปลี่ยนวิธีการคัดเลือกงาน เขาก็เฮโลหนีกันไป จนวงการนิยายไทยตกต่ำจนถึงวันนี้ล่ะว่ะ น่าเศร้า

728 Nameless Fanboi Posted ID:HcRaOzCkJ

คือกูไม่ได้เชื่ออะไร แค่แปลกใจเท่านั้น เพราะเห็นตัวอย่างเปรียบเทียบชัดเจนเกินไปไง
คนเขียนคนเดียวกัน ลงเว็บที่เดียวกัน กลุ่มคนอ่านเดียวกัน แต่ผลมันต่างกันมากเกิน
กูไม่ได้อยากโต้เถียงอะไรนะ
คืออดแปลกใจไม่ได้ เพราะกดไปเทียบทางด้านตัวเลข หรืออะไรแล้ว มันสงสัยนะ
แถมกูส่องเฟซนักเขียนหลายคนก็มีแนวโน้มมาลงสายวายกันมากขึ้น

729 Nameless Fanboi Posted ID:HcRaOzCkJ

>>727 คือแค่คน คนเดียว กูว่าไม่น่าจะถึงขนาดนั้นมั้ง
ยุคนั้นกูจำได้ เพื่อนในห้องกูก็ไม่เห็นมีใครอ่านถนนขาวสักคน มีแต่อ่านการ์ตูนมังงะเท่านั้น
เรื่องนิยายไม่มีใครสนสักคน นอกจากกูและก็อ่านไปได้ไม่กี่หน้าก็ไม่เอาแล้ว
คือกูคิดว่าเค้าปั่นกระแสในกลุ่มตัวเองมั้ง

730 Nameless Fanboi Posted ID:T//JxixlL

ไม่รู้ดิเถียงกันป่วยการเปล่า ถ้าบางคนใจเอียงเอไปตามกระแสเพราะทางมันขวากหนามน้อยกว่าสายตั้งใจเขียนไม่อิงกระแส ก็เดินไปตามทางที่ตัวเองเชื่อแล้วกัน ขอให้โชคดีมีความสุขกับการเขียนล่ะกัน ส่วนใครตั้งใจเขียนนิยายดีๆ ไม่อิงกระแสก็ขอให้อย่ายอมแพ้

731 Nameless Fanboi Posted ID:2ck1iv9Hj

>>730 ขอบใจว่ะโม่ง กูจะเดินต่อไปท่ามกลางเส้นทางที่เต็มไปด้วยนิยายวายกองเป็นภูเขาเลากาสองข้างทางให้ได้

732 Nameless Fanboi Posted ID:Fm9Fx4AM6

>>716 จำได้ว่ามีเคสแบบนั้นเกิดขึ้นเป็นเลทส์นะ อารมณ์ว่าทำหนังสือรวมเล่มที่เอายาโอยเป็นธีม แล้วทำออกมาแบบเหมือนไม่ให้เกียรติสาววายมากกว่าที่จะทำเพื่อสาววาย เลยโดนกระแสด่ายับเลย

733 Nameless Fanboi Posted ID:EKcnoFZa1

>>732 ปกกับข้างในไม่เหมือนกันเรอะ

734 Nameless Fanboi Posted ID:IWKNfJh1J

>>733 ตัวการ์ตูนไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ ที่เป็นปัญหาคือบรรนาธิการมากกว่า เพราะเขียนมาว่าระหว่างทำขนลุกชู่ แถมยังบอกว่าจะยินดีถ้าหนังสือฉบับนี้ทำให้สาววายสนใจการ์ตูนไทย

735 Nameless Fanboi Posted ID:IWKNfJh1J

>>734 บทบรรณาธิการ

736 Nameless Fanboi Posted ID:EwZR.2UL4

>>734 ก็ตามนั้น บอกเลยว่านักเขียนที่ผันตัวไปเขียนแนววายเพื่อเงิน เพื่อแฟนคลับทุกคน (เท่าที่รู้จัก) ก็คิดทำนองนี้ เพียงแต่ฉลาดพอที่จะไม่ออกมายิงมุกโง่ๆ ทำลายตัวเองก็แค่นั้น

737 Nameless Fanboi Posted ID:EKcnoFZa1

เด็กดีมีอนาคตหลงเหลือให้กับนิยายอยู่รึเปล่า

738 Nameless Fanboi Posted ID:EKcnoFZa1

ขอถามใหม่ ในภาพรวม เด็กดียังพอมีความหวังให้วงการนิยายกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งรึเปล่า

739 Nameless Fanboi Posted ID:nNgPOzM6K

ปัญหาไม่ใช่เด็กดวกแต่อยู่ที่ทำยังไงแฟนนิยายต่างประเทศที่ทำยอดขายให้ขึ้น best seller จะกลับมาเชื่อมั่นในนิยายไทย หลังจากโดนกระแสทำลายจนเหลือลูกค้ากลุ่มๆเล็กๆ

740 Nameless Fanboi Posted ID:sdZ6MWLIe

>>739 ยังไม่มีเรื่องไหนสร้างกระแสไปทั้งโลกได้เหมือนยุคแฮรรี่นะสิ

741 Nameless Fanboi Posted ID:sdZ6MWLIe

และยุคนี้กลายเป็น จีนเกิดใหม่ ไปเกิดเป็นเมียอ๋อง ที่สร้างกระแสให้คนไทยเขียนตามกันได้

742 Nameless Fanboi Posted ID:EKcnoFZa1

>>741 และเขียนจนไม่เป็นตัวของตัวเอง

743 Nameless Fanboi Posted ID:EwZR.2UL4

ของไทยถ้าเขียนย้อนเวลาไปเป็นเมียน้อยสฤษดิ์อาจโดนอุ้ม

744 Nameless Fanboi Posted ID:EKcnoFZa1

>>743 หรือให้พระเอกไทยจากพ.ศ.2460 ย้อนเวลามาอยู่พ.ศ.2560 ล่ะ

745 Nameless Fanboi Posted ID:uXxwgaeDq

>>744 แบบนั้นเขาไม่เรียกย้อน มึงมาอนาคตเขาเรียกข้ามเวลานะมึง

746 Nameless Fanboi Posted ID:VKERkJec5

แนวย้อนเวลาของจีนถ้าจะดังต้องเขียนแนว Historical Critic มองประวัติศาสตร์ในมุมใหม่ ไม่ได้เชื่อตาม "บรรยาย" ในหนังสือประวัติศาสตร์

อย่างหนังสือที่มักบอกกันว่าร.6 สิ้นเปลืองกับงานรื่นเริงและกองทหารม้าเกียรติยศจนเศรษฐกิจล้ม แต่ความจริงคือร.6 ทุ่มให้กับการรถไฟต่างหาก

ของจีนก็จอมทัพพลิกแผ่นดินที่เอาหลักฐานทางประวัติศาสตร์มาวิพากษ์หยวนฉงหวนที่เคยเชื่อกันว่าเป็นวีรบุรุษของชาติ แต่แท้จริงคือคนขายชาติ

หรือเรือสมบัติของหย่งเล่อที่บอกกันว่าสิ้นเปลืองสมบัติชาติ แต่แท้จริงกลับทำให้ท้องพระคลังร่ำรวย สร้างโครงการมากมายอย่างไม่เคยมีมาก่อน

สุยหยางตี้ที่เคยเชื่อกันว่าเลวทรามที่สุดในประวัติศาสตร์จีน แต่เมื่อดูตามหลักฐานจริงๆ แล้วก็ไม่เป็นแบบนั้น กลับกัน มีผลงานเทียบเท่าถังไท่จงด้วยซ้ำ

คนจีนชอบอ่านประวัติศาสตร์แนววิพากษ์ ตีความประวัติศาสตร์ตามหลักฐาน และตามแนวทาง Marxist คนไทยยังขาดตรงนี้อีกมาก อย่างน้อยก็เรื่องการหาข้อมูล

>>743 ลองอ่าน "ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน" ดู ไม่ย้อนประวัติศาสตร์ แต่สะท้อนประวัติศาสตร์ได้อย่างดียิ่ง

747 Nameless Fanboi Posted ID:EwZR.2UL4

>>746 ปชต. บนเส้นขนานกูไม่ชอบอะ คือเหมือนจะสะท้อนถึงความดีเลวของทั้งสองฝั่งที่จริงๆแล้วก็คิดว่าทำเพื่อชาติเหมือนกัน แต่วินทร์ก็คือวินทร์ เวลาเขียนห่าอะไรจะชอบปักธง อ่านดูก็รู้เลยว่าจริงๆแล้วอวยฝั่งไหน

มันเลยดูย้อนแย้งแบบตลกๆ ว่า ใจความหลักคือ สองฝั่งต้องการความสงบสุขของประเทศเหมือนกัน แต่มีฝั่งหนึ่ง(ที่วินทร์คิดว่า) ดีกว่า

748 Nameless Fanboi Posted ID:fLlsuK+L0

>>747 ฝั่งไหนวะ

749 Nameless Fanboi Posted ID:EwZR.2UL4

>>748 ไม่อยากชี้นำ ต้องอ่านเอง

750 Nameless Fanboi Posted ID:IPA3Z3UEz

>>749 เอ๊า...

751 Nameless Fanboi Posted ID:xql2QItMZ

>>747 ไม่มีใครเขียนเรื่องการเมืองแบบไร้อคติได้หรอก แบบเดียวกับฝรั่งที่ยังไงก็ต้องอวยปชต.และเสรีภาพไว้ก่อนอยู่ดี

อย่าง 300 พวกสปาร์ต้านี่ใกล้เคียงกับคอมฯ จนไม่รู้จะใกล้เคียงยังไง แถมเผด็จการสัดๆ ยังตะโกนเรียกร้องเสรีภาพเลย

752 Nameless Fanboi Posted ID:EKcnoFZa1

ก่อนปี 2523 นิยายทั้งวงการเคยมีปัญหาทางการเมืองนับไม่ถ้วนด้วยล่ะ บางเรื่องถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนคอมมิวนิสต์จนถูกสั่งระงับบ้าง

753 Nameless Fanboi Posted ID:/6Wtc8SIh

นิยายแนวสืบสวนนิดๆ แอคชั่นหน่อยๆ มีรักๆ ความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงของตัวละครปนเข้ามาพอสมควร ไปอยู่หมวดไหนดีครับ

754 Nameless Fanboi Posted ID:IBF/ydtcb

>>753 อยากให้คนกลุ่มไหนอ่านก็ไปหมวดนั้น

755 Nameless Fanboi Posted ID:u0SNgNVUT

>>754 มันเลือกยากอะ กูไม่ชอบการแบ่งหมวดของเด็กดีเลย ไม่ยืดหยุ่น

จะลองเล่าเรื่องแบบกว้างๆนะ ใครว่างก็ช่วยตัดสินหน่อย

เรื่องเปิดมาด้วยความสัมพันธ์ของตัวละคร คนนี้แฟนคนนั้น แต่เป็นแฟนเก่าของอีกคน ซึ่งเพื่อนสนิทของเขาก็แอบชอบแฟนเพื่อนอยู่ แต่พอดีว่าผญตัวปัญหาเนี่ยยังไม่ลืมรักแรกสมัยเรียน แล้วพอเรื่องดำเนินไปสักพัก รักแรกของเธอก็โผล่เข้ามาด้วย

แต่เรื่องไม่ได้โฟกัสไปที่การจู๋จี๋กัน พอไปถึงกลางเรื่องก็เริ่มมีแอ็คชั่น มีผู้ก่อการร้าย มีการตามล่า แหกคุก ต้องผจญภัย มีทรยศหักหลังกันเอง

เล่าให้ดูงงๆหน่อยนะ เผื่อว่าเอาไปลงแล้วจะได้จำไม่ได้ อิอิ

คิดว่าอยู่หมวดไหนดีอะ

756 Nameless Fanboi Posted ID:lpt0UD.ra

>>755 ถ้าเป็นกู จะแยกเป็นสองเรื่องเลยดีกว่า ไม่เน้นความสัมพันธ์หนุ่มสาวแต่จัดมาขนาดนี้ กูว่าแม่งแป๊กทางใดทางหนึ่งแน่ๆ จับฉ่ายมากไม่ดีแน่ ลงหมวดไหนก็คิดไม่ออก

757 Nameless Fanboi Posted ID:bv+sgfUFE

>>756 ทุกอย่างมันมีเหตุผลในตัวของมันเองน่ะ เอาเป็นว่าแม่งเป็นเรื่องเดียวกันแน่ ที่มันดูงงๆ จับฉ่ายๆ เพราะพยายามเล่าแบบกว้างๆ

งั้นมึงช่วยลิสต์ให้หน่อยว่าถ้าเป็นประมาณนี้ สามารถไปอยู่ในหมวดไหนได้บ้าง โดยที่ไม่โดนด่าว่าผิดหมวดแน่ๆ

758 Nameless Fanboi Posted ID:+tfZ8epcW

>>755 ถ้าลงสืบสวนคงต้องให้ฉากกุ๊กกิ๊กน้อยลง แต่เขียนให้คนดูรู้ว่าความสัมพันธ์เป็นแบบไหน แล้วเน้นสืบสวนกับแอ็คชั่น
หรือถ้าลงหมวดรักก็เน้นความรู้สึก ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ถ้ามีฉากแอคชั่นก็ใส่มาพอให้สนุกก็พอ

759 Nameless Fanboi Posted ID:lpt0UD.ra

>>757 กูไปทำบุญที่วัด ตอบช้าไปหน่อย
3 ตอนแรกจะเป็นตัวพิสูจน์ว่านิยายของมึงคืออะไร ถ้าเลือกสายสืบสวน เอาเรื่องสืบสวนนำก่อนเลย ความสัมพันธ์ชู้รักมึงเล่าค่อยเป็นค่อยไป แต่ถ้าเลือกสายชู้รัก ประเด็นสืบสวนลดความสำคัญลงมาหน่อย

760 Nameless Fanboi Posted ID:lpt0UD.ra

หลังจาก 3 ตอนแรก ถ้าธีมเป็นแนวสืบสวน มึงอย่าลดความสำคัญกับสืบสวน ไม่งั้น ออกทะเลแน่ กูบอกเลย

761 Nameless Fanboi Posted ID:bv+sgfUFE

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะจ๊ะ

762 Nameless Fanboi Posted ID:O1d62mlSy

https://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1581816
แปะ รอคนสับ คนเขียนเคลมว่าอิงยุคคังซี ตัวเอกย้อนเวลาไปเป็นเมียยงเจิ้น

763 Nameless Fanboi Posted ID:q32SvdsVc

>>762 กลัวจะไปซ้ำกับหนังจีนแท้

764 Nameless Fanboi Posted ID:YfijBc.UC

>>762 เขียนคำโปรย+แนะนำดูถูกจริตผู้หญิงดีนะ กูเป็นผู้ชายยังยิ้มได้เลย ประมาณเรื่องไอ้ฉลามดุอะ (แต่ไม่ได้อ่านนะ)

765 Nameless Fanboi Posted ID:qoyumwJ.E

>>152

766 Nameless Fanboi Posted ID:qoyumwJ.E

กดผิด

767 Nameless Fanboi Posted ID:VA1a9NKuS

>>764 ตอนแรกอ่านเป็น"ดูถูก"จริตผู้หญิง 555 จริงๆคือดู"ถูกจริต"ใช่ไหม

768 Nameless Fanboi Posted ID:dM2nvmoe.

>>767 ตามนั้นจ้ะ 555

769 Nameless Fanboi Posted ID:IJu1K.qd4

โม่งคะ กูเห็นโค่ลงนิยายแล้วอ่ะ กูจะมาเม้าท์ได้ที่ไหนดี ฮือๆๆๆๆๆๆ

770 Nameless Fanboi Posted ID:iK/JTWyL4

>>769 โค่คืออะไรวะ

771 Nameless Fanboi Posted ID:/E4j4l58P

Comico?

772 Nameless Fanboi Posted ID:Ry3X6uzGb

โคราช?

773 Nameless Fanboi Posted ID:IJu1K.qd4

>>771 มึงคือผู้ที่ถูกเลือก คำตอบนี้แหละ !

774 Nameless Fanboi Posted ID:IJu1K.qd4

แล้วทำไมกูไม่แปะวะ http://www.comico.in.th/novel

775 Nameless Fanboi Posted ID:w4.hDjeOA

>>774 ดูแต่งง่ายๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากดีแฮะ น่าลองปลดปล่อยความเบียวดู 555

776 Nameless Fanboi Posted ID:Ht9ZJpD05

>>774 นิยายแปลหรือไทยแต่ง? ใครลงก็ได้หรือคัดมาแล้ว? ในเว็บไม่มีรายละเอียดบอกเลย

777 Nameless Fanboi Posted ID:IJu1K.qd4

>>776 นิยายไทยแต่งซะเยอะนะมึง ที่จริงกูก็อยากส่งแหละพอเห็นเขาลงแล้วเลยตกกะใจ แต่ไปถามแล้วเห็นเขาว่าก็ยังรับพิจารณาต้นฉบับอยู่นะ

778 Nameless Fanboi Posted ID:QzANh9Ypu

>>767 กูก็เข้าใจแบบนั้นเหมือนกัน...

779 Nameless Fanboi Posted ID:NCu8eQH0L

มีใครเคยอ่านไปใช้ชีวิตซะของดอกปอบป่ะวะ เห็นขึ้น best seller ไม่รู้ว่าดีจริงหรือจะมาแนวเดียวกับถนนขาว

780 Nameless Fanboi Posted ID:iYJfML6Vv

>>779 เข็มถอกชีวิต

781 Nameless Fanboi Posted ID:WNFH16qSg

>>779 กูไปตามหามาตั้งแต่เพิ่งโฆษณาใหม่ๆ เจอแล้วก็ยืนอ่านผ่านๆ ปกติธรรมดาอะมึง เอาเรื่องของคนใกล้ตัวมาเขียนอย่างที่มันชอบทำ (น้องเต้ ตัง ต้อย ติ๊บ ฯลฯ ของเฮีย) และเนื้อหาก็ประมาณไลฟ์โคชชิ่ง ถามคำถามให้มึงตอบ มีแบบฝึกหัดท้ายบท

782 Nameless Fanboi Posted ID:NCu8eQH0L

>>780 >>781 กุคงต้องเชื่อละว่าดอกปอบเป็นผู้วิเศษจริงๆ เขียนธรรมดาๆแต่ก็ขึ้นเบสเซลเลอร์ได้

783 Nameless Fanboi Posted ID:.PAyII5fK

>>782 แถมขึ้นตั้งแต่ยังไม่ได้วางจำหน่ายด้วยนะมึง เมพ เมพ เมพ!

784 Nameless Fanboi Posted ID:Ry3X6uzGb

ดอกปอบเส้นมั้ง

785 Nameless Fanboi Posted ID:Ry3X6uzGb

ky ใช้ได้ป่ะ สอนแบบนี้ https://www.dek-d.com/board/view/3773073/

786 Nameless Fanboi Posted ID:w4.hDjeOA

>>785 คหสต. อันนี้กูว่าโอเคนะ พอไหว แต่ทำไมไม่ทำเป็นบทความไปเลยวะ มาตั้งกระทู้ที ค้นอ่านซ้ำลำบากชิบหาย จะได้ไม่รกด้วย ปต่ก็นะ ถ้าอยากดังก็อีกเรื่อง 555

787 Nameless Fanboi Posted ID:k+kQZQzCZ

ดีกว่าไอ้ที่ตั้งมาแซะนิยายคนอื่นแต่ทำแอ๊บกับพวก(ไม่)เนียนโฆษณาอะนะ 5555

788 Nameless Fanboi Posted ID:ha+XVdTff

>>785 ชอบมุก22x2

789 Nameless Fanboi Posted ID:mEIqXkAId

22x2 ไม่ขลังเท่าไร rule 34 ขลังกว่า อยากรู้ไปหากูเกิ้ลนะ

790 Nameless Fanboi Posted ID:xqhVXBzoQ

ช่วยสับให้น้องทีสิ กูไม่ถนัดแนวรักวะ กูไม่หน้าม้า
https://www.dek-d.com/board/view/3773543/

791 Nameless Fanboi Posted ID:Hjxs4/EYW

เชี่ย ขอถามไรหน่อยดิ คือ กูเขียนนิยายเรื่องแรกเป็นแฟนตาซี (แฟนตาซีจ๋าเลย เซ็ตติ้งโลกใหม่ยุคกลาง อะไรทำนองนั้น) แล้วเรื่องต่อไปกูอยากเขียนนิยายรักที่อยู่ในจักรวาลเดียวกันกับนิยายเรื่องเดิม กูควรวางไว้หมวดไหนวะ รัก รักแฟนตาซี หรือแฟนตาซี กูรู้สึกว่านิยายรักกูมันไม่มีเชี่ยไรแฟนตาซีเลยนอกจากเซ็ตติ้งโลกเดิม ทวีปเดิม ที่เป็นยุคกลาง มีเรื่องของสงคราม แต่ไม่มีองค์ประกอบแฟนตาซีเหมือนอย่างเรื่องที่แล้ว กูเลยไม่ค่อยแน่ใจว่ามันควรไปอยู่รักแฟนตาซีมั้ย แล้วถ้าไปหมวดรัก คนอ่านจะงงมั้ย อยู่ ๆ มาเจอโลกใหม่ทวีปใหม่ กับชื่อสถานที่ประหลาด ๆ สำคัญคือแม่งไม่น่าจะเคยผ่านตานิยายเรื่องแรกกูแน่ ๆ หรือควรลงหมวดแฟนตาซีให้อยู่คู่กันกับเรื่องแรกไปเลยดีวะ

792 Nameless Fanboi Posted ID:3NZn3sTXc

>>791 เป็นกูกูใส่รักแฟนตาซีว่ะ

793 Nameless Fanboi Posted ID:wPe/W4fN1

>>791 รักแฟนตาซี

794 Nameless Fanboi Posted ID:xqhVXBzoQ

>>791 ถ้าไม่มีเรื่องปาฆิหาริย์หรือจินตนาการเหนือจริง ก็คงไม่ลงรักเฉยๆมากกว่ารักแฟนตาซี

795 Nameless Fanboi Posted ID:XYXQHeh.6

>>791 รักธรรมดาไป แต่เขียนเพิ่มเติมด้วยว่าเป็น Spin-off ของอีกเรื่อง

796 Nameless Fanboi Posted ID:5.bX4HzHY

อะไรคือปัจจัยที่ทำให้คนเข้ามาอ่านงานของเรา ไม่ได้ถามว่าอะไรทำให้คนอ่านชอบหรือติดตามนะ แต่หมายถึง อะไรที่ทำให้คนอ่านนิยายคิดที่จะคลิกเข้ามาดูหน้านิยายเราเป็นครั้งแรก

797 Nameless Fanboi Posted ID:wKqUPZaus

>>796 ของกูคร่าวๆ ก็ 1.รูปนิยายเล็กๆ ในหน้ารวม มันทำให้กูรู้สึกว่าคนเขียนขยันพอจะเพิ่มรูป

2.เรื่องย่อ ถ้าน่าสนก็กดเข้าไป

หลักๆ ก็แค่นี้ละ ไม่มีอะไรมาก

798 Nameless Fanboi Posted ID:g0aU6VR3u

>>796 กูดูคำโปรย เพราะแค่ประโยคสั้น ๆ ยังเขียนเวิ่น ใช้คำอุบาทว์ วิบัติ ไม่สื่อห่าอะไรเลย มีอีโมติคอน มีแน้วโน้มว่านิยายเรื่องนั้นจะกาก

799 Nameless Fanboi Posted ID:eYWtYI5Pa

>>796 ตั้งชื่อไม่กาก คำโปรยที่ดีไม่เวิ้นเว้อ ใส่รูปเล็ก จำนวนตอนไม่น้อยไปไม่มากไป

800 Nameless Fanboi Posted ID:eYWtYI5Pa

มู้สาระ แต่เม้นแม่ง... https://www.dek-d.com/board/view/3774033/

801 Nameless Fanboi Posted ID:r75UjrA6i

เขียนให้อ่านเพลิน ได้เงินล้าน
วิภาพ คัญทัพ
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=59243
อ่านตัวอย่างที่ให้โหลดแล้ว
โอ้ นี่ใช่เลย
คือหน้า 5 บอกว่า มีเขียนอยู่ 2 แบบ
1.แนวต้นแบบ แนวทางดั้งเดิมที่ใช้หลักสนุทรียศาสตร์ของถ้อยคำและเนื้อความมาเป็นเกฑณ์
2.แนวทางที่สอดคล้องกับความสนใจของตลาดใหญ่
และบอกว่าคนรุ่นใหม่ ชอบอะไรที่เข้าใจง่าย และใช้ประโยชน์ได้เร็วๆ

802 Nameless Fanboi Posted ID:UTWDhM3jk

>>801 กว่าได้เงินถึงล้านต้องรอกี่ปี

803 Nameless Fanboi Posted ID:9ArF07mEp

>>799 กลุ้มอยู่เนี้ยว่าจะเขียนคำโปรยไงดี กลัวสปอยเนื้อเรื่อง

804 Nameless Fanboi Posted ID:peovc3+Iy

>>801 ผลงานคนเขียนก็มีแต่แนวนั้น... อืม

805 Nameless Fanboi Posted ID:OOzJre+uu

>>802 ที่รู้มาหนังสือตีพิมพ์ 3,000เล่ม สมมุติปก250บ ก็ได้ค่าเขียน 75,000บ
ก็ต้องเขียนประมาณ 13-14เล่ม แต่มีข้อแม้ว่าต้องได้ตีพิมพ์ทุกเล่ม
แต่บางคนเขียนปังจริงๆอาจได้พิมพ์ซ้ำอีกหลายครั้งก็จะลดทอนลงมา
บางคนกระแสดีมาก เรื่องหนึ่ง2-3แสน

806 Nameless Fanboi Posted ID:UTWDhM3jk

>>803 คำโปรยบางเรื่องชอบเขียนเวิ้นเว่อจนสปอยเนื้อเรื่องแทบไม่ต้องอ่านเลย

807 Nameless Fanboi Posted ID:nEhWoL6Z+

นักเขียนที่จะมีเงินใช้สบายๆ คือนักเขียนดัง พิมพ์แล้วพิมพ์ซ้ำ เหมือนได้กินเปล่าเรื่อยๆ แต่นักเขียนทั่วไป เขียนทีนึงได้พิมพ์แค่พันเล่ม สองพันเล่ม รายได้ต่อเล่มประมาณสี่หมื่นถึงหกหมื่น เว้นแต่เรื่องยาว พิมพ์เป็นชุด ได้เป็นแสน แต่ก็หายากมากที่จะมีใครพิมพ์ให้ นักเขียนทั่วไปจึงมีรายได้น้อยมากเมื่อเทียบกับงานที่ต้องทำ ยิ่งทำงานดีมากแค่ไหน ค้นคว้ามากแค่ไหน ก็ยิ่งเสียเวลาเป็นเท่าตัว การเป็นนักเขียนธรรมดาที่มีคุณภาพแล้วคิดจะทำเงินล้านจึงเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะต้องตะบี้ตะบันเขียนหลายปี สมองล้าหมด ทางที่ดีในการจะเป็นนักเขียนที่มีเงินล้านคือต้องเป็นนักเขียนดังให้ได้ เท่านั้นแลจ้า

808 Nameless Fanboi Posted ID:2MiU1Qulb

>>807 หรือหันไปเป็นนักเขียนตามบริษัทที่มีเงินเดือนจริงๆ

809 Nameless Fanboi Posted ID:ceOKvTRCl

>>807 ส่วนหนึ่งเลยเลือกที่จะเขียนนิยายแนวกระแส หรือแนวตลาดไว้ก่อน เพราะมันค่อนข้างชัวร์ว่าจะขายได้ไม่เหนื่อยเปล่า เขียนอย่างที่ผู้อ่านเป็นคนกำหนดตลาด จนผลงานออกมาอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ไม่แค่ในเด็กดวกหรอกนะข้างนอกมันก็มีด้วยทั้งนั้นแหล่ะ

810 Nameless Fanboi Posted ID:1rnqLlmjd

>>809 เขียนตามกระแสแบบไทยๆ ไม่ทำให้มึงรวยแบบนั้นหรอก สนพพร้อมจะกด หรือ โกง พิมพ์หลายรอบแต่บอกมึงไม่กี่รอบ และผลงานมึงจะไม่มีวันปังแบบคนเขียนนอกกระแสอย่างลำบาก แล้วโชคดีจนผลงานดังพลุแตก (ก่อนจะโดนลอก) แต่ถ้าเขียนเป็นรายได้เสริมก็อีกเรื่อง

811 Nameless Fanboi Posted ID:sNsfFR5ZP

วิธีรับมือคำวิจารณ์
https://www.youtube.com/watch?v=-v4R2ZcxPlA

812 Nameless Fanboi Posted ID:jSnr2rlYG

>>811 ไม่ฮาเท่าไหร่อันนี้

813 Nameless Fanboi Posted ID:sNsfFR5ZP

เห็นโพลแล้วตอบยากกว่าที่คิด
https://www.dek-d.com/board/view/3774458/

814 Nameless Fanboi Posted ID:HM9p3.B3h

ช่วงนี้สอบป่ะ บอร์ดเด็กดวกเงียบเหงาพิกล

815 Nameless Fanboi Posted ID:OJ.tn+o.w

>>814 ยังหรอกม้างง มันคงอิ่ม ๆ เดือนที่แล้วก็มีช่วงนึงเป็นงี้

816 Nameless Fanboi Posted ID:HCSeb.3Qi

อัลไลของมัน https://www.dek-d.com/board/view/3775655/

817 Nameless Fanboi Posted ID:mvTxvfSQf

>>816 สายบ่นไง หรือมึงไม่เคยเจอนักอ่านจงใจป่วนนิยายมึงแบบไม่มีเหตุผล

818 Nameless Fanboi Posted ID:Wt+XC89Os

>>816 กุเห็นด้วยว่ะ กุเคยเจอนักอ่านบางคนต้องให้เรื่องบอกทุกอย่างพองงอะไรนิดหน่อยก็ด่าว่าเขียนไม่ดี ทั้งที่ตัวเองอ่านแล้วไม่ยอมทำความเข้าใจเนื้อหา
เคยเจอเหี้ยสุดคือไปด่านิยายน้ำดีสัสๆ แต่ไปบอกว่าสนุกจังในนิยายแมสกากๆที่ยำมาจากเรื่องดังๆ

819 Nameless Fanboi Posted ID:rAY//zdjf

>>818 บวกล้านนนนนนนนนนนน

820 Nameless Fanboi Posted ID:JvF.9ETRs

ต่างโลกบริหารธุรกิจรึไงเนี่ย
https://www.dek-d.com/board/view/3775933/

821 Nameless Fanboi Posted ID:IMs1sSugA

>>818 ขาดการคิดวิเคราะห์แบบสุดๆ ถ้าอยากจะแสดงให้คนพวกนี้รู้ว่านางเอกมีปมกับผู้ชายเพราะพ่อมีชู้ ต้องเขียนให้ชัดๆไปเลยนะว่ามีปมเพราะพ่อมีชู้

ถ้าเอามาแฝงๆ แบบ ไม่อยากสานสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชาย ไม่ชอบผู้ชายที่มีนิสัยบางอย่างคล้ายๆพ่อ แม่งไม่เข้าใจหรอก

เพราะมีนักอ่านไร้คุณภาพเยอะ งานเขียนในตลาดก็เลยไร้คุณภาพตามยังไงล่ะ

822 Nameless Fanboi Posted ID:2rkjzOK+3

>>821 สรุปว่าคนอ่านสมัยนี้ส่วนใหญ่ย่อยไม่เป็น เลยต้องย่อยให้มันไปเลย ไม่ต้องอ้อมค้อมหรือให้มันตีความ เพราะแม่งมองไม่ลึกหรอก เลยต้องเขียนอะไรที่ชัดเจนเข้าใจง่ายไปเลยใช่มะเพื่อนโม่ง

823 Nameless Fanboi Posted ID:BD7mldrCN

>>822 ไม่ว่ะแค่คนอ่านนิยายในเว็บ (และวงการเขียนไทย)ส่วนใหญ่คุณภาพแบบนั้น พวกหัวดีๆส่วนใหญ่ หนีไปอ่านตปทหมด

824 Nameless Fanboi Posted ID:fThQR8zqO

>>822 กุก็ว่าแบบงั้น เขียนนิยายลงใน dek-d อย่าไปละเมียดละไมใส่ปมเยอะ ลูกค้าส่วนใหญ่มีแต่ขาประจำจานด่วน

825 Nameless Fanboi Posted ID:JvF.9ETRs

>>822 นั้นคือสิ่งที่วิชาวรรณกรรมของมหาลัยทั่วโลกใช้ไม่ได้กับเด็กดีด้วย

826 Nameless Fanboi Posted ID:v0a5vYoEs

>>823 >>824 >>825 กูล่ะเศร้าใจแทนนักเขียนที่ตั้งใจแต่งนิยายดีๆ เนื้อหาแน่ๆ แม่งไม่เกิดสักทีเพราะงี้นี่เอง

827 Nameless Fanboi Posted ID:KLYM2LXbF

>>826 ฝึกอิ้งแล้วไปหาเอเจนซี่สนพ ตปท ถ้ามึงตั้งใจจริงๆนะ

828 Nameless Fanboi Posted ID:VHdxTwOZE

ถ้ากุอยากแต่งอิ้ง มีเว็บไหนแนะนำบ้างนอกจาก wattpad

829 Nameless Fanboi Posted ID:vCdhMu21g

>>828 royalroadl

830 Nameless Fanboi Posted ID:dVHD5j2o8

แปลจีนหรือญี่ปุ่นไม่ดีกว่าหรอวะ?

831 Nameless Fanboi Posted ID:/pkD4Z9LY

>>830 แล้วแต่แนวมึงชอบว่ะ แต่ถ้าจะเขียนหนักๆ เนื้อหาแน่น ดีๆ กุว่าไปทางฝรั่งดีกว่า ทางมันหลากหลายกว่าเป็นภาษาสากลกว่า ถ้ามึงถนัดแนวจีนญี่ปุ่นก็ลองดูว่ะ แต่กุเห็นว่ามันยากกว่าว่ะ นอกจากเรื่องมึงจะคงความแนวจีนญี่ปุ่นแต่มีอะไรเหนือชั้นกว่านักเขียนบ้านเขา

832 Nameless Fanboi Posted ID:IJfJyrJbw

จำได้ว่ามันเคยมีมุกฝรั่งอยู่อันหนึ่ง ที่เป็นบทกลอน "ผ้าม่านสีน้ำเงิน" A certain is blue น่ะ แล้วครูแม่งก็ตีความออกมาว่า ทำไมผู้เขียนถึงให้ผ้าม่านเป็นสีน้ำเงิน สื่อถึงความรู้สึกโศกเศร้า บลาๆ แล้วมันก็หักมุมว่า จริงๆ ผู้เขียนแม่งก็แค่บอกว่าผ้าม่านสีน้ำเงิน (A certain is fucking blue) นั่นแหละ ไม่ได้มีหีแตดอะไร

เมื่อตอนเด็กๆ เห็นมุกนี้ก็ขำนะ แต่พอโตขึ้นก็เข้าใจว่าเออ ไอ้พวกที่มาวิจารณ์งานศิลปะเป็นวรรคเป็นเวร ว่าแบบดอกไม้สีเหลืองแสดงถึง บลาๆ ที่ดอกไม้ดอกนี้ยังตูมอยู่เป็นเพราะ บลาๆ แม่งมีความจริงจังซ่อนอยู่ในนั้นจริงๆ ไม่ได้คิดจะเพ้ออะไรก็เพ้อ แต่คนที่เข้าไม่ถึงก็คือเข้าไม่ถึงจริงๆนั่นแหละ

แต่สำหรับนักอ่านไทยแม่ง fucking idiot มากกว่านั้น คือจะใส่ hint ห่าเหวอะไรให้คิดเอาเองต่อไม่ได้เลย กูต้องย่อยให้ตลอด อย่างสมมติว่ากูบอกว่าผ้าม่านในห้องนางเอกเป็นสีน้ำเงิน กูก็ต้องบอกให้ชัดๆไปเลยว่า นี่เป็นสีที่นางเอกชอบ เพราะแฟนคนแรกของเธอ ซึ่งเป็นคนที่เธอรักที่สุดชอบสีน้ำเงิน จะให้กูใบ้แบบ มีฉากให้แฟนมันบอกว่าชอบสีน้ำเงิน หรือรูปคู่เป็นธีมสีน้ำเงินก็ไม่ได้นะ คนอ่านไม่เข้าใจ

833 Nameless Fanboi Posted ID:v0a5vYoEs

>>832 อ่านแล้วกูรู้สึกอนาถใจเหี้ยๆ

834 Nameless Fanboi Posted ID:JvF.9ETRs

>>832 ไม่ได้มีแค่นั้น คนไทยไม่ชอบอ่านนิยายจำพวก show, don't tell เพราะถูกปลูกฝังไม่เน้นคิด วิเคราะห์ แยกแยะ มันเลยชอบอ่านนิยายที่มีแต่ show and tell ไง

835 Nameless Fanboi Posted ID:zonr9aEwO

กูถอดใจว่าจะแต่งเป็นภาษาอังกฤษแทนแล้ว สมมติกุแต่งจนจบ เส้นทางการตีพิมพ์ของแม่งนี่ยากมั้ย กุต้องติดต่ออเจนซี่เองหรือยังไงวะ แล้วนิยายออนไลน์นี่คนอ่านกว้างแบบฟีลเด็กดีป่ะ หรือกว้างกว่าเยอะ

836 Nameless Fanboi Posted ID:MhsjEhozC

>>835 ฝรั่งไม่ชอบแนวออนไลน์ว่ะ .... เขาอยากเล่นเกมส์มากกว่ามาอ่านนิยายออนไลน์

837 Nameless Fanboi Posted ID:zonr9aEwO

>>836 กุหมายถึงแต่งนิยายลงเน็ตออนไลน์ ขยายเพิ่มนิดนึงว่าแนวแฟนตาซีเครียดๆ ไม่ใช่แนวออนไลน์ 555555

838 Nameless Fanboi Posted ID:pK01NQCTW

เออ คนแม่งสับสนว่านิยยายออนไลน์กับนิยายเกมออนไลน์คือความหมายเดียวกัน พูดถึงเด็กดีก็ไม่เรียกนิยายเน็ต งงป่ะล่ะ

839 Nameless Fanboi Posted ID:dJwK.OTaB

อาจจะไม่ง่ายนะ แต่ก็มีความหวังกว่าสนพไทยแน่นอนว่ะ แต่ถ้าได้ก็ผลตอบแทนดีกว่าไทยแน่นอน ยิ่งติดเบสเซล มึงรวยแน่ แล้วถ้าพวกเราสร้างแบรนนิยายไทยให้ติดตลาดตปทได้ เราอาจจะสร้างขั้วอำนาจใหม่ในวงการนักเขียน เด็กรุ่นใหม่เขียนดีๆได้มีความหวังบ้าง ส่วนวงการนิยายไทยกุว่า ยังไงก็ไปไม่รอด....

840 Nameless Fanboi Posted ID:yOGhrU709

ตอนนี้คือถ้าไม่เขียนต่างโลกกับแนวโรงเรียน เม้นไม่ต้องพูด ขนาดแค่วิวก็ไม่กระเตื้อง

841 Nameless Fanboi Posted ID:RLqm16xgs

>>840 ขนาดนั้นเชียวเหรอวะ

842 Nameless Fanboi Posted ID:E+j8sb9P1

>>841 ขนาดนั้นเลย กูยืนยันอีกเสียง ถ้ามึงฐานแฟนเดิมไม่แน่น รับรองไม่เกิด

843 Nameless Fanboi Posted ID:c6oS.pI3Z

อยากเยอะต้องเอาแนวกำลังภายในมายำอีกต่อ+ชื่อจีน+แปะป้ายระดับห่าเหวอะไรก็ได้ให้เว่อวังหน่อยใส่เข้าไป

แต่จริงๆไม่ต้องไรมากหรอก เอานิยายแปลจีนที่ฮิตๆมาลอกแล้วเปลี่ยนนิดหน่อยก็ได้แล้ว กุเห็นหลายเรื่องที่ขึ้นท๊อปแม่งทำแบบนี้ทั้งนั้น สี่ห้าเดือนก่อนมั้ง กุไปอ่านท๊อปหมวดแฟนตาซีแล้วเจอพล๊อตจากนิยายแปลเรื่องเดียวกันตั้งสองเรื่อง เชี้ย

844 Nameless Fanboi Posted ID:EthinO.SF

กูเข้าใจความรู้สึกของพวกมึงดี ถึงฟังดูมองโลกแง่ร้าย แต่พวกวงการนิยายไทยบางทีมองโลกแง่ดีจนเกินไป ลืมความจริงที่เกิดขึ้น

845 Nameless Fanboi Posted ID:E+j8sb9P1

https://www.dek-d.com/board/view/3776110/

55555 "เด็กกำพร้าผู้โชคดีฉิบหายวายป่วงอยู่เสมอ"

846 Nameless Fanboi Posted ID:b+Ooqons/

>>845 ไม่เห็นด้วยกับเครื่องบินที่บอกว่าแฮร์รี่เป็นแกรี่สตูนะ

คือมันได้พรจากพระเจ้า+เหตุการณ์โชคช่วยเยอะแหละ แต่ไม่ถึงขั้นแกรี่แน่ๆ ไม่งั้นพระเอกนิยายแทบทุกเรื่องก็แกรี่หมดอะ

847 Nameless Fanboi Posted ID:vZhyqnGBT

พักนี้พี่เครื่องเม้นต์ง่าวๆจนโดนตบเกรียนกลับหลายทีหละ

848 Nameless Fanboi Posted ID:H7+1L9OKC

>>846 ตัวเอกมันต้องมีความโดดเด่นและพิเศษถึงเรื่องจะน่าสนใจ แต่บางคนกลับมองว่าแกรี่

849 Nameless Fanboi Posted ID:D49QxCsIu

แฮรี่ไม่แกรี่ แต่ plot armor หนาจริงๆ55

850 Nameless Fanboi Posted ID:fZ8gwq6fw

แต่ละอย่างที่มันเจอ ถ้าเป็นตัวประกอบคงตายไปหลายรอบละ

851 Nameless Fanboi Posted ID:M6SVZDU4z

>>850 สรุปคือพลังพระเอกว่างั้น

852 Nameless Fanboi Posted ID:hdqwdzNaD

>>841 กุพูดจริงๆ แม่งเหี้ยมาก กุถึงได้เซ็งมากๆ
คิดว่าอีกกี่นานกระแสถึงจะซาวะ กุสู้กระแสต่างโลกไม่ไหวเท่าไหร่

853 Nameless Fanboi Posted ID:pK01NQCTW

>>852 จนกว่าพวกสำนักพิมพ์กับคนไทยจะเลิกโง่

854 Nameless Fanboi Posted ID:M6SVZDU4z

>>853 มึงอย่าพูดเหมาดิวะกูโดนด้วยเลยเห็นมั้ย

855 Nameless Fanboi Posted ID:H7+1L9OKC

>>853 กุว่าสำนักพิมฉลาดนะ เค้าเลือกเรื่องที่ขายได้ไม่ใช่เรื่องที่ดี
แต่คนไทนชอบอ่านอะไรที่อ่านง่ายและไม่คิดตามดมเลยชอบอ่านต่างโลกเพราะย่อย
ปัญหาการชอบอ่านอะไรที่ง่ายๆมันส่งผลต่อสังคมมาก เลยเกิดปัญหามนุษย์8บรรทัดขึ้น
ส่วนตัวไม่มีปัญหาอะไรกับต่างโลกแต่มีกุเกลียดที่มันไม่มีความสมเหตุสมผลสนองนีดคนเขียนและก็อปจากเรื่องดัง

856 Nameless Fanboi Posted ID:3Z57MrSRI

>>853 กูอ่านแนวต่างโลกอะไรแบบนี้ได้นะ ไม่ได้เกลียดแนวเรื่อง แต่กูเกลียดที่ส่วนใหญ่มันก็อปๆ กันมาวะ อ่านเรื่องไหนก็เหมือนแค่เปลี่ยนชื่อพระเอกเฉยๆ ไม่มีความแปลกใหม่ไม่พอ ไม่สนุกด้วย นานๆ จะเจอที่โดดเด่นจริงๆ

ในหมวดต่างโลกกูชอบ (โดยรวมนะ) อยู่ 4 เรื่อง 1.รูดี้ 2.โลลินาซี 3.Dungeon Defend 3.12 อาณาจักรเทพยุทธ์

4 เรื่องนี้ดำเนินเรื่องคนละแนว แต่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และมีแก่นเรื่องแปลกแยกโดดเด่นจากต่างโลกเรื่องอื่น ถึงรูดี้จะโม่ยมากไปหน่อยตามประสาคุ แต่ตัวเรื่องโดยรวมมันสนุก โดยเฉพาะ Turning Point แต่ละอันที่ทำได้ดี แม้กูคิดว่ารู้ดี้จะไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี แต่โดยรวมแล้วมันมีค่าพอให้ศึกษา เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นนิยายเว็ปที่มีคนอ่านมากที่สุดในประวัติศาสตร์นาโร่ (เด็กดีญี่ปุ่น)

857 Nameless Fanboi Posted ID:HliKsmzwq

>>856 มีแอบโฆษณานิยายตัวเองด้วย

858 Nameless Fanboi Posted ID:sZtokx..g

ต่างโลกกระแสดี แต่ยอดขายไม่ดีด้วยนี่หว่า
พวกมึงไม่สังเกตเลยหรือว่า นักเขียนแนวแฟนตาซี หนีไปเขียนสายอื่นกันมากกว่าแล้ว
ไม่ว่าจะแนววาย แนวจีน แนวรัก
ส่วนที่เห็นแฟนตาซีต่างโลก แนวเกมออนไลน์ ยังขึ้นท็อปอยู่เพราะคนอ่านยังชอบอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะอุดหนุน
ส่วนใหญ่คนอ่านก็มีกลุ่มเฉพาะในเรื่องของตัว
ส่วนแฟนตาซีแนวอื่นๆ กูว่ายังไปได้ยาก เพราะขนาดกระแสหลักต่างโลก ยังขายไม่ค่อยดี สนพยังแทบไม่ออกงานใหม่แนวแฟนเลย ยุคนี้

859 Nameless Fanboi Posted ID:LOE6M3/Mp

>>855 สนพ เขาพยายามเลือกเรื่องที่ดูจะขายได้ก่อนอยู่แล้ว ปกติหนังสือเล่มหนึ่งลงทุนเป็นแสนๆ
ถ้าสังเกต แนวเกิดใหม่ ก็ไม่ได้ออกมามากมายในตลาดหนังสือ ผ่านมาสองสามปี ยังนับเรื่องหรือนับสนพที่ออกได้
ความจริงก็ไม่ได้เยอะอะไร น้อยกว่าแนวจีนเกิดใหม่อยู่หลายเท่า
กูมองว่าแนวแฟนคนอ่านเยอะ แต่คงยากหน่อยที่สนพจะแข่งกันออกหหนังสือ เพราะโครงเรื่องมันซ้ำวนเวียนกันมากแล้ว
คงต้องรอกระแสอะไรใหม่ๆ เข้ามาอีกครั้ง
ส่วนแนวแฟนตาซีนอกกระแส กูมองว่ายิ่งเหนื่อยเข้าไปอีกในการที่สนพ จะยอมลงทุน นอกจากทำมือเองในยุคนี้

860 Nameless Fanboi Posted ID:ld+Wka0No

>>857 ว้าว กูพึ่งรู้ว่ากูเป็นคนญี่ปุ่นกะเกาหลี แหม่ สงสัยพ่อกูชื่อซาสึเกะแม่ชื่อซองเฮเคียวแน่ๆ

ถุย จะด่าอะไรให้มันฉลาดๆ หน่อย 4 เรื่องที่กูยกมาคนแต่งเป็นญี่ปุ่น 3 เกาหลี 1 แล้วก็ไม่ได้ลงในเด็กดีหรือเว็ปไทยซักเรื่อง แล้วกูจะไปแต่งได้ยังไง ควายจริงๆ สมควรไปสวิงกิ้งกับดอกขาว พี่เครื่อง แล้วก็ซ่องน้ำนะมึงนะ

861 Nameless Fanboi Posted ID:jh.oCZNxW

บก สนพ ไทยต่อให้แม่งตามกระแส หาแดกกับเศษเนื้อของนิยายกระแส มันยังไม่มีความสามารถจะคัดเลือกเรื่องที่เขียนดีๆเลย คัดนิยายลอกมาแต่ละเรื่องสนุกที่ไหนละ โดนคนด่า

862 Nameless Fanboi Posted ID:LOE6M3/Mp

>>861 ธรรมดา เพราะถ้าขาดทุนหนัก จะให้ใครรับผิดชอบล่ะ
สนพแม่งยังด่าทั้งบีบทั้งกดดัน ใครจะเสี่ยง
ขนาดเรื่องที่มีแฟนคลับมากมาย ยังแทบเอาตัวไม่รอด
แล้วเรื่องที่เพื่อนโม่งว่าดีๆ กันเนี่ย
กูว่าลองยุให้ลงขายทำมือเอง ขายอีบุ๊คเองดูดิ กูว่าคงไม่พ้นแบบในแนวแผ่นดีวีดีที่ใครว่าดีนักดีหนา แต่พอเปิดจองได้แค่หลักสิบ ตัวอย่างมีชัด
จะโทษแต่ บก. ว่าเลือกเรื่องไม่เป็น หรือสนพ. เลือกเรื่องอะไรมานี่ กูว่าโลกความจริงแม่งโหดร้ายวะ เพราะนี่เป็นโลกธุรกิจ ขาดทุนหนักๆ เข้าก็หมายถึงเจ๋งกันเลย

863 Nameless Fanboi Posted ID:ld+Wka0No

>>862 พูดแล้วนึกได้ ลาสของท้องฟ้าขายได้เท่าไหร่วะ กูช่วยซื้อปกแข็งมาเล่มนึง คุณภาพไม่เลวเลย แต่ราคาแพงไปหน่อย ซึ่งก็เข้าใจได้ตามหลัก Economic of Scale กูเลยไม่ค่อยอยากบ่นอะไร

864 Nameless Fanboi Posted ID:16e2Ggbmp

ขอky หน่อย กุสงสัยว่าทำไมคนอ่านถึงได้ดองนิยายอะ fav ขึ้นพันแต่อ่านกันไม่ถึงครึ่งทั้งที่แต่งลงเรื่อยๆนะ แถมหลังๆคนเม้นหน้าประจำหายอีก

865 Nameless Fanboi Posted ID:2.+cQvhFO

>>864 จากตัวอย่างของกูใน NU นะ

1. คิดว่าถึงตอนตื่นเต้น ควรอ่านรวดเดียว
2. คิดว่าช่วงนี้น่าเบื่อ ปล่อยผ่านก่อน
3. รู้สึกเนือย แต่ไม่อยากทิ้ง
4. เจอเรื่องใหม่ คิดว่าน่าสนุก ติ๊กไว้ก่อนเผื่ออ่าน

ใน NU มันแยกประเภทได้ กูก็แยกไว้ตามนี้

1. อ่านทันที
2. รอให้เยอะๆ แล้วค่อยอ่าน
3. สนุกที่สุด อ่านซ้ำไปซ้ำมา
4. กลางๆ เคยสนุก ไม่อยากทิ้ง
5. 18+

งาน 18+ กูอ่านตอนไม่มีไรทำจริงๆ อ่านเอาพล็อตเฉยๆ ถ้าอ่านแก้เงี่ยนกูมีที่ดีกว่าเยอะ

866 Nameless Fanboi Posted ID:JIsaxpfZL

>>860 มันคงเข้าใจผิดว่ามึงพูดถึงเรื่องโลลิเจ้นของไอ้ silver puss ก็เลยแซะมึง 55555

867 Nameless Fanboi Posted ID:r88hmc3ja

>>862 รู้ว่ามันขายไม่ได้ แต่มันเป็นวัฏจักรส้นตีนว่ะ

คนชอบอ่านนิยายกาก > สนพ.พิมพ์แต่นิยายกากๆ > ตลาดมีแต่นิยายกากๆ > นักอ่านไม่มีการพัฒนา > นักอ่านกาก > สนพ.ขายนิยายกากๆ >...

868 Nameless Fanboi Posted ID:iu4k6WB2s

>>862 เลือกเรื่องไม่สนุกก็ทำลายฐานลูกค้าตัวเองโง่เอง เหลือแต่พวกเด็กปลืงๆในเวบ มึงเคยเห็นร้านนำหนังสือตปทขาดทุย ลดราคาหนักๆไหมละ สาเหตุที่ตกต่ำแบบนี้สนพทำตัวเองด้วยว่ะ

869 Nameless Fanboi Posted ID:TC8Gtc3Ly

ปัญหาคือ เรื่องไหนละ ขนาดในโม่งยังไม่มีใครกล้ายืนยันเลยว่า เรื่องนี้น่ะแม่งต้องขายดีแน่ๆ เรื่องนั้นนะจะต้องขายได้ชัวร์ๆ
ระบบหนังสือบ้านเราเป็นแบบนี้แหละ
โทษแต่สนพ.ว่าเลือกเรื่องไม่ถูกใจ แต่ปัญหาคือเรื่องที่ว่าดีๆ น่ะมันขายได้ไหม
สมัยนี้บอกตามตรงนะ ถ้ามั่นใจจริงๆว่านิยายดีจริงๆ แค่ลงขายอีบุ๊คขายให้ได้ 200-300โหลด ก็ได้เงินใกล้เคียงสนพจ่ายให้แล้ว

870 Nameless Fanboi Posted ID:ld+Wka0No

>>868 มึงไม่รู้จัก Sun Beam ซะแล้ว ทำ Children of Rune ของกูลอยไปด้วยเลย ยังดีที่ซื้อ Midnight Children มาทัน

871 Nameless Fanboi Posted ID:.Om3Lsvjm

>>869 ยืนยันเดียวก็หาว่าโปรโมตนิยายตัวเอง เพื่อนต้วเอง โม่งแตก

872 Nameless Fanboi Posted ID:zPaW2dobl

>>871 ถูกต้อง เดี๋ยวโม่งแตก ซวยอีกสัส

873 Nameless Fanboi Posted ID:QUYw1PBHo

>>871 ถ้าคนอื่นตามไปอ่านแล้วเห็นว่าดีจริงก็ไม่มีใครว่ามาโปรโมทหรอกมึง แต่ถ้าตามไปอ่านแล้วแม่งไม่เห็นต่างจากเรื่องอื่นตรงไหน อันนี้กูก็เริ่มสงสัยว่ามึงอาจมาโปรโมทหรือรสนิยมมึงเป็นแบบนั้นอ่ะนะ

874 Nameless Fanboi Posted ID:rNx2ZkmTR

>>860 แล้วมึงจะโฆษณานิยายคนอื่นทำไม?

ลงชื่อ ถุย

875 Nameless Fanboi Posted ID:i.XNkvwLq

>>874 เรื่องนี้อีเซฮุนสับไปแล้วนี่ นิยายคุขี้โม่ยอยากเยเด็กสร้างฮาเร็มเด็กสนองนี้ดแถมมัดแพ็คขายไม่อายฝีมือตัวเองเลย เห็นแล้วเพลีย อห

876 Nameless Fanboi Posted ID:Xek22zPOs

>>875 เรื่องมันมีโม่ยแฟคเตอร์เยอะมากก็จริง แต่โดยรวมแล้วก็สนุกกว่าเรื่องอื่นๆ ในแนวนี้เยอะ แถมเรื่องอื่นก็ไม่ค่อยลอกแนวเรื่องของรูดี้ด้วย ไม่รู้ทำใม ถ้าเป็นเรื่องอื่นเกิดใหม่มาก็จะมีสกิล สเตตัสพลังหาเหวแบบ game element เต็มไปหมด แต่เรื่องนี้นับเป็น High Fantasy แบบหนึ่ง ดังนั้นถ้าพยามไม่มองโม่ยแฟคเตอร์ เนื้อเรื่องอื่นๆ มันก็พอรับได้นะ

ที่กูแนะนำรูดี้เพราะมันฮิตที่สุดของสายนี้แล้ว แถมเขียนง่าย ภาษาง่าย เส้นเรื่องง่ายๆ แต่สร้างประเด็นในแต่ละ Turning Point ได้ดี อีก 3 เรื่องที่กูยกมามันโดดเด่นในแนวของตัวเองมากไป จนไม่สมควรเลียนแบบ โลลินาซีก็คุทหารเต็มเหนี่ยว DD พระเอก (และเหล่านางสนม) เป็น psychopath ที่ดีงาม เรื่องสุดท้ายคงไม่ต้องบอก เป็นแนวหลุดไปต่างโลกที่ดีที่สุดแล้ว High Fantasy เต็มขั้น แฝงเรื่องการปกครองเยอะ ถึงมันจะเนือยมากๆ แล้วคนแต่งจะเทไปแล้วก็เถอะ

877 Nameless Fanboi Posted ID:FD6ikwJXU

กูถามหน่อย ทำไมยิ่งเขียนนิยายไปนานๆยิ่งเขียนได้น้อยลงวะ คือกูเลือกใช้คำได้กระชับตรงจุดขึ้นหรือจินตนาการกูน้อยลงตามวัย
สมัยหัดเขียนกูเวิ่นเว้อได้เป็นสิบๆบรรทัดต่อย่อหน้า ตอนนึงแปดเก้าสิบหน้า
เดี๋ยวนี้แค่ 3-4 บรรทัดต่อย่อหน้าก็โคตรจะเต็มกลืน ตอนนึงไม่เคยถึงเจ็ดแปดหน้า

878 Nameless Fanboi Posted ID:a1AifXUFx

เพราะโตขึ้นก็ยิ่งคิดถึงความสมจริงขึ้น มีกรอบมากขึ้น มีเครื่องยึดติดมากขึ้น ผิดกับวัยเบียวที่จินตนาการทุกอย่างพรั่งพรูออกมาพร้อมกับฮาโดเค็นและพลังคลื่นเต่า แต่ก็ไม่เสมอไปหรอก ในแง่นี้กูนับถือนักเขียนจีนนะ ถึงแม่งจะเขียนอะไรไร้สาระมาซะเยอะ แต่มันก็เขียนลงทุกวัน จนเรื่องแม่งยาวเป็นพันตอนแล้วมีเนื้อแค่ร้อยกว่าตอนได้

879 Nameless Fanboi Posted ID:16e2Ggbmp

>>876 875 มันหมายถึงเรื่องนี้ป่าว https://writer.dek-d.com/jeepsuper/story/view.php?id=1552281

880 Nameless Fanboi Posted ID:a1AifXUFx

>>879 โลลินาซีมันหมายถึง Youjo Senki นะ เขาเรียกชื่อนี้กันก่อนฉายอีก กูพึ่งได้ยินชื่อเรื่องนี้ครั้งแรกจากมึงเนี่ยละ ไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีเรื่องนี้อยู่บนโลก เมือนกูบอกกูชอบ The Rock แต่มีใครที่ไหนก็ไม่รู้เข้าใจว่ากูชอบบองสะละเมียง ณ ปอยเปต กูก็งงสิว่ามันหมายถึงอะไร

881 Nameless Fanboi Posted ID:Xek22zPOs

>>880 อีกนิด ไม่เชื่อก็ลองหาคำว่า โลลินาซี ในกูเกิ้ลสิ มีเรื่องเหี้ยนี่>>879 ไหม

882 Nameless Fanboi Posted ID:16e2Ggbmp

>>880 ก็เห็นคุยกันไปคนละเรื่องเลยแก้ให้ ไม่ต้องบอกกุละเอียดขนาดนั้นก็ได้

883 Nameless Fanboi Posted ID:16e2Ggbmp

>>880 ก็เห็นมึงเข้าใจว่าบองสะละเมียง คือ เดอะร็อค อะนะแถมเม้นซะยาวเชียว5555

884 Nameless Fanboi Posted ID:ZJUYyReRp

>>883 มึงอ่านยังไงของมึงวะ กูพูดถึง Youjo Senki แต่แรก แล้วไม่รู้ว่าโม่งโลกแคบที่ไหนมาหาว่ากูโฆษนานิยายตัวเอง กูเลยด่าไป ไอ้เซฮุนที่เย็ดกับเครื่องบินจนสมองฝ่อแม่งก็มาหาเรื่องอีก ใครกันแน่ที่เข้าใจผิด

885 Nameless Fanboi Posted ID:pOxSh89pe

เปลี่ยนประเด็นเหอะพวกมึง เดี๋ยวกลายเป็นโฆษณานิยายให้มันอีก

>>877 เออกูเป็นเหมือนที่มึงบอกเลย พลังความเบียวกูหายไปไหนหมดก็ไม่รุ เหี้ยจะเขียนอะไรเหมือนติดๆ ขัดๆ ไปหมดจะเวิ่นเว้อทียาก ชห

>>878 สงสัยเป็นงี้จริงๆ

886 Nameless Fanboi Posted ID:16e2Ggbmp

>>884 เมิงอะเข้าใจผิดเต็มๆ เพราะไอ้ที่ >>875 มันด่าว่าโม่ย ฮาเร็มเด็กสนองนิ้ด มัดแพ็คขาย อะคือไอ้นิยายในเด็กดีไม่ใช่รู้ดี้ ทาเนีย ห่าเหวที่เมิงโควตต่อซะยาวในเม้น >>876
กุเลยแก้ความเข้าใจผิดให้ดันมาหัวอุ่นใส่กุซะงั้น

887 Nameless Fanboi Posted ID:HliKsmzwq

>>886 ใครก็ได้สรุปที กูงงละ ฮ่าๆ

888 Nameless Fanboi Posted ID:6k3UoVwOk

>>887 ไม่มีอะไรมาก ตอนแรกคุยประเด็นนิยายต่างโลกกับนิยายที่ขายได้อยู่แล้วมีอีโม่งบีแซะโม่งเอว่าแอบโฆษณานิยายตัวเอง แต่จริงๆ คืออีโม่งบีเข้าใจผิดเองว่าโม่งเอพูดชื่อนิยายในเด็กดีทั้งๆ ที่โม่งเอมันพูดถึงนิยายญี่ปุ่นกับเกา ตอนนี้โม่งบีเลยมุดดินหนี ส่วนโม่งเอหัวร้อน โม่งอื่นๆ เลยโดนหางเลขกันไปเบาๆ

889 Nameless Fanboi Posted ID:ytXV+v/Um

>>888 อย่าลืมเซฮุนที่มากวนให้โม่งเอหัวร้อนดิ หึๆ

890 Nameless Fanboi Posted ID:YFgtGHmuk

เซฮุนแม่งไม่รู้จัก youjo senki แน่ๆเลย คนไทยออกจะรู้จักกันเยอะแยะ

891 Nameless Fanboi Posted ID:hxcJxOfAE

>>890 กูไม่รู้จัก ฮือๆๆๆๆๆ

892 Nameless Fanboi Posted ID:rzypX.Zn2

ไอ้แยกร่างนี่น่าเบื่อ เอาเรื่องธัญวลัยมาถามในบอร์ด สงสัยเห็นมีเด็กมาโพสเลยโพสบ้าง กาลเทศะนี่แม่งไม่มีเลย คปต

https://www.dek-d.com/board/view/3776862/

893 Nameless Fanboi Posted ID:aGhwMdmGi

>>890 รู้จักสิ ยี่ห้อแอร์เขาออกดัง

ลงชื่อ เซฮุน เปิดแอร์ไซโจเดนกิ ลดหัวร้อน

894 Nameless Fanboi Posted ID:YFgtGHmuk

>>892 พอไม่มีมู้นินทาก็ได้แค่สิงในนี้แหละ เศร้าแปป

895 Nameless Fanboi Posted ID:kNEIFmpXG

>>885 เพื่อนกูแนะนำให้ลองรัน D&D ว่ะ แต่กูอยู่โคตรไกลกรุงเทพไง ต่างจังหวัดจะหาเล่นได้ที่ไหนล่ะฟะ

896 Nameless Fanboi Posted ID:Pk+uottHp

>>894 ทำไมไม่ไปขอตั้งใหม่ใน Meta ละ

897 Nameless Fanboi Posted ID:HNQ4vmhfZ

>>895 งูเหลยก๋ง

898 Nameless Fanboi Posted ID:ZuRlHNgVl

https://writer.dek-d.com/nurokawa/story/view.php?id=1629288 เมื่อสายอ่านฟรีหัวร้อน จะเปิดขายกุว่าไปเขียนกำลังภายในหรือหมวดอดีต ปัจจุบัน ดีกว่า แฟนตาซีสายเปย์น้อย

899 Nameless Fanboi Posted ID:jRD/p+xWh

>>898 เม้นต์แรงกันฉิบ มันเป็นสิทธิ์คนเขียนป่าววะที่จะขาย คนเขียนอาจผิดตรงไม่ได้ปล่อยให้อ่านฟรีระยะนึงแต่ด่าขนาดนี้เกินไปป่ะซึ้งน้ำใจคนอ่านในเดกดวก

900 Nameless Fanboi Posted ID:YkyBnn/ov

ยังงี้แหละ... นี่ยังแค่บ่นไม่ถึงขนาดดราม่าหนักๆ อย่างบางเรื่อง
ที่เมนต์ด่ากันยาวได้เป็นเดือน เรื่องนั้นเข้าไปอ่านเมนต์ด่าช่วงพีคนี้มันส์โครต

901 Nameless Fanboi Posted ID:63UuXjehj

>>898 ไอ้เรื่อนี้กุเคยหลงเข้าไปอ่านตอนสองตอนเลยรู้ว่ามันก็อปมาจากนิยายจีนเรื่อง dragon marked war god ไม่ใช่พล็อตนะยังรวมถึงชื่อท่าด้วยแค่เปลียนกำลัวภายในเป็นเวทย์มนต์

902 Nameless Fanboi Posted ID:YFgtGHmuk

>>901 มันคือฟิคหลอกขายเป็นนิยายใช่ป่ะ

903 Nameless Fanboi Posted ID:Ofux/.i/e

>>902 ไม่ใช่ฟิคแล้วล่ะขนาดนั้น ลอกมาทั้งดุ้นแล้วดัดแปลงเลย

904 Nameless Fanboi Posted ID:My5fWeFcx

>>903 หากินกับความคิดสร้างสรรค์ของคนอื่นอย่างเดียว มันน่าภูมิใจมั้ยฟ่ะ

905 Nameless Fanboi Posted ID:Ofux/.i/e

เท่าที่อ่านเม้นคนก็บอกว่างั้นๆ ไม่รู้ต้นฉบับงั้นๆ หรือ คนลอกลอกไม่เก่งเอง

906 Nameless Fanboi Posted ID:My5fWeFcx

>>905 สรุปลอกแล้วสู้ต้นฉบับไม่ได้ เสือกตั้งขายของ
>>892 ตอนนี้จขกท.แม่งด่าตัวเองนี่หว่า

907 Nameless Fanboi Posted ID:fBSnKHM/x

มันไม่กลัวโดนฟ้องไงวะพวกนี้ ต่อให้ไม่เจอแบบนั้น ก็อาจเจอคนขุดหรือแฉอยู่ดี กูล่ะเบื่อนิยายที่ดัดแปลงแบบนี้มาตั้งแต่โลกเวทมนตร์ของคาออสละ กลิ่นนิยายจีนฟุ้งพอกันเลย เผลอๆ จะมากกว่าอีก

908 Nameless Fanboi Posted ID:H.zX+WAyL

ทำไมคนถึงชอบนิยายขยะพวกนี้กันวะ

909 Nameless Fanboi Posted ID:OZSNyiy1J

>>907 ไม่กลัวหรอก เพราะจีนก็ลอกกันมาเป็นทอดๆ เหมือนกัน หนักกว่าไทยด้วย

910 Nameless Fanboi Posted ID:My5fWeFcx

>>909 แต่ปัญหาคือ คนไทยลอกมาสนุกน้อยกว่า แถมลอกพล็อตได้เบื่อเร็วกว่าจีนลอกอีก

911 Nameless Fanboi Posted ID:7C4hv9Hs1

>>908 อ่านง่าย อ่านเพลิน ใครๆก็ชอบ แม้แต่มึงเองถ้าตัดอคติ เอาเรื่องเบียวเรื่องซูเรื่องลอกออกไป มึงก็จะสามารถพูดว่ามันสนุกได้เหมือนกัน

912 Nameless Fanboi Posted ID:eChXY10/w

>>911 พออ่านได้แต่กุบอกเลยไม่สนุก

913 Nameless Fanboi Posted ID:t1cXXeo3g

>>911 อ่านฆ่าเวลาได้เหมือนกับดูทรานฟอมเมอร์ ไม่สนุกแต่พออ่านเอามันได้
แล้วกุก็ไม่ได้อคติด้วยแต่กุไม่ชอบเรื่องขี้ก็อป ส่วนเรื่องที่เป็นต้นแบบมัน(นิยายจีน)กุชอบมาก

914 Nameless Fanboi Posted ID:eChXY10/w

ข้อเสียคือผู้ใหญ่มีตังค์มันไม่อ่านไง อยากอ่านแบบนี้ไปอ่านต้นฉบับหรือการ์ตูนดีกว่า ยิ่งพวกเบื่อชูก็ไปอ่านนิยายแปลกัน เพราะวงการนิยายไทยขี้ก๊อบตอนนี้ตอบโจทย์เขาไม่ได้ แต่บก. สนพก็ไม่มีความสามารถพอจะพิมพ์เรื่องสนุกๆด้วยตัวเอง ก็เลยโหมไปทำนิยายก๊อบ คนอ่านเด็กๆเยอะก็จริงแต่มันไม่อยากควักเงินกันหรอก ท้ายสุดวงการนิยายไทยไปไม่รอดหรอก ถ้ายังไม่เปลี่ยนวิธีการคัดเรื่องตีพิมพ์กัน ยุคหนึ่งคนยังซื้อแต่นิยายโปรโมตนิยายแย่ๆ ก๊อบๆเยอะ ได้เงินเยอะจริงๆแต่คนหมดความเชื่อถือ ทำลายแบรนตัวเอง โง่เอง อยากฟื้นฟูวงการนิยายก็ต้องทำให้คนกลับมาเชื่อถือล่ะวะ ส่วนนักเขียนหน้าใหม่ไม่อยากก๊อบ กุเห็นด้วยกับเม้นโม่งบนๆ ฝึกอังกฤษแล้วไปขายตปทเถอะ

915 Nameless Fanboi Posted ID:1s8.mnMWG

>>914 ปัญหาของการเขียนนิยายภาษาอังกฤษคือ การใช้ภาษาอังกฤษ

คือมึงต้องเทพในระดับหนึ่งด้วย ถึงจะใช้ภาษาเพื่อเขียนนิยายออกมาให้ปังได้ ไม่อย่างนั้นก็ได้แต่เป็นนิยายกากๆ เรื่องหนึ่งในเว็บเด็กดีฝรั่ง ไม่มีทางขายออกอยู่ดี

916 Nameless Fanboi Posted ID:eChXY10/w

>>915 ฝึกอังกฤษยังง่ายกว่ามาหวังให้วงการนิยายเน่าๆไทย มาสนใจงานสนุกมีคุณภาพ 555

917 Nameless Fanboi Posted ID:yFmVZFffB

>>916 เศร้าใจเลยกู

918 Nameless Fanboi Posted ID:My5fWeFcx

อีกวิธี ปล่อยวงการนิยายไทยเน่าต่อไป ไปสร้างชื่อหาเงินตปทแทน พอเน่าเต็มที่ค่อยคุยกันว่าจะพร้อมเปลี่ยนวงการนิยายไทยได้รึยัง

919 Nameless Fanboi Posted ID:.SWsQ4s76

ที่จริง ถ้าคิดว่านิยายเรื่องไหนทั้งดีทั้งสนุก แล้วสนพ.เมินไม่แล
ปัจจุบัน สามารถลงขายอีบุ๊คได้สบายมากวะ แค่ได้ยอดโหลด 200-300 ก็พอๆกับที่สนพ.จ่ายให้แล้ว
ยุคนี้นักเขียนเก่งๆกลายเป็น สนพต้องเริ่มเข้าไปหาเอง เพราะนักเขียนมีช่องทางมากกว่าแต่ก่อนเยอะมาก
ไม่เห็นต้องหนีไปเขียนภาษาต่างประเทศอะไร

920 Nameless Fanboi Posted ID:.SWsQ4s76

อ้อ ปัญหาหลักบ้านเราคือกลุ่มคนที่ยอมซื้อนั่นแหละ กลุ่มใหญ่คือแนวรัก กับ พวกฮาวทูตามกระแส
ถ้าคิดจะอยู่รอด นอกจากเขียนสนุก คงต้องตามใจคนจ่ายเป็นส่วนใหญ่ด้วย
ปล มันก็เลยย้อนกลับมาอีก ว่าทำไมสนพถึงเลือกเรื่องตามกระแสและคนทั่วไปซื้อ ก็เพราะตลาดคนอ่านบ้านเราเป็นยังนี้เอง

921 Nameless Fanboi Posted ID:eChXY10/w

>>919 คนไทยอ่านดีๆ เขาติดมโนภาพไปแล้วว่านิยายส่วนใหญ่ ไม่แนวทะเลทราย ก็แนวเน่าๆ สนพปั้ม นอกจากเขียนดีสนุกแล้วต้องทำการตลาดให้คนเชื่อด้วย แต่ถ้าติดตปทเมื่อไรจะได้เครดิตมาก มีโอกาสคนไทยอ่านดีๆกลับมาเยอะ อีกอย่างนะเขียนตปทได้ เงินดีด้วย ต่อให้ไม่ติดเบสเซลมึงก็ได้เยอะกว่าเบสเซลไทยตอนนี้หลายโข

922 Nameless Fanboi Posted ID:My5fWeFcx

>>919 แล้วเรื่องกำลังซื้อของคนอ่านล่ะ

923 Nameless Fanboi Posted ID:eChXY10/w

ขนาดตามกระแสยังทำของดีจนเศษเสี้ยวของกลุ่มผู้อ่านนิยายต้นตำรับ ไม่มาอ่านของลอกของตัวเองจนได้กำไรเลย 55555 ไม่เคยแลดูว่าร้านนำเข้านิยายตปทฝรั่งๆ ได้กำไรขนาดไหน 55555555 เออแต่ไอ้ฮาวทูรวยนี่ขายดีจริงยอมรับ

924 Nameless Fanboi Posted ID:.SWsQ4s76

>>923 กลุ่มคนอ่านภาษาต่างประเทศ มีคนซื้อทั่วโลก ตลาดมีทั่วโลกจริง
แต่ภาษาไทย มีคนอ่านที่ยอมซื้อเท่าไรกัน
คือเห็นเขียนว่าต้องไปต่างประเทศเป็นหลัก
ปัญหาคือมีใครทำได้บ้างวะ ยอดฝีมือบิ๊กๆในบ้านเรายังไปไม่ได้ จะมานับอะไรกับคนเขียนเน้นให้คนไทยอ่านกัน
กูมองว่าบางคนหวังสูงสุดโต่งไปมาก ขนาดในประเทศตัวเองยังเกิดไม่ได้ ต่างประเทศยิ่งเป็นอะไรที่ยากกว่ามากอยู่แล้ว

925 Nameless Fanboi Posted ID:.SWsQ4s76

>>922 ตามสภาพวะ
แต่บางคนเขียนอีบุ๊คเรื่องหนึ่ง ได้เงินไป 2-3แสน กูยังเห็นอยู่ และเห็นหลายคนด้วย แต่เขาจะมีกลุ่มแฟนคลับหลักมากอยู่แล้ว

926 Nameless Fanboi Posted ID:eChXY10/w

>>924 ปัญหาใหญ่ไม่ใช่ภาษาแต่บิ๊กๆบ้านเราชอบเขียนเนื้อเรื่องแนวไหนกันล่ะส่วนใหญ่ คู่กรรมไปส่งตปท คนก็ไม่เข้าใจว่าไปรักผู้บุกรุกได้ไง กะทิคนก็ไม่เข้าใจมุข ไม่นับพวกชอบได้แรงบรรดาลใจจากนิยายตปทอีกนะ (ไม่ก็เขียนคล้าย) กุเชื่อว่าหลายคนสามารถผสมสานความสากลให้กับผลงานได้ (ถ้าสอดแทรกความเป็นไทยแล้วผสานความสากลได้นี่คือสุดยอด)

ทุกอย่างที่พลิกประวัติศาสตร์มันเริ่มจากความตั้งใจของคนกลุ่มเล็กๆอยู่แล้ว ตปทมันอาจจะยากแต่ก็ยังมีความหวังถ้ามึงตั้งใจจริง กุเชื่อว่าไม่มีอะไรที่คนทำไม่ได้ว่ะ หลายคนอยากยอมแพ้จมลงกับความเน่าเฟะของวงการไทยก็ไม่ผิดนะ แต่กุขอไม่เป็นคนหนึ่งที่ยอมแพ้ล่ะกัน ถ้าวันหนึ่งกุประสบความสำเร็จ กุจะมาทำเอเจนซี่รับนิยายไทยไปตปทล่ะกัน

927 Nameless Fanboi Posted ID:eChXY10/w

>>924 เพราะมึงมองไงว่านักเขียนไทยคิดเนื้อเรื่องสนุกๆไม่ได้ แต่เมื่อวงการไทยตอบโจทย์พวกเขียนดีๆแนวสากลแบบตปทไม่ได้ (กุรู้จักหลายคนด้วย อาจจะไม่ดังแบบเบสเซล แต่ก็ทำเป็นงานหลักได้เลย เขียนขายตปท) เขาก็โหยหาทางของเขาเอง ดีกว่ามายอมแพ้ไม่ทำไรล่ะวะ แล้วพยายามกล่อมคนอื่นให้อยู่ในคอกเน่าๆ

928 Nameless Fanboi Posted ID:ruWkbErwy

>>926 คู่กรรมไปส่งตปท คนก็ไม่เข้าใจว่าไปรักผู้บุกรุกได้ไง

มึงไม่เคยดู Avatar เหรอวะ แนวเรื่องที่รักกับศัตรูนี่โคตรจะสามัญเลย ตั้งแต่ Romeo & Juliet ละ มันมีในทุกวัฒนธรรมละ อย่าง Last Samurai นั่นก็ใช่ พระเอกฆ่าผัวนางเอกด้วยซ้ำ

จริงๆ นิยายที่ดังระดับ International ถ้าไม่นับสายอเมริกัน นิยายยุโรปกับเอเชียอย่างญี่ปุ่นไม่ได้เขียนเพื่อหวังให้เป็นระดับโลกเลยนะ เขาเขียนด้วยจริตจารีตแบบประเทศตัวเองเน้นๆ เลย แต่มันดังในประเทศแล้วค่อยไปดังในระดับโลกเอง แนวคิดกลับด้านว่าให้ไปดังในระดับโลกแล้วกลับมาดังในไทยนะเป็นโมเดลของคนไทย ที่ก็ค่อนข้างได้ผลนะ เมื่อดูจากอย่างอื่น แต่กูไม่ค่อยชอบโมเดลนี้เท่าไหร่วะ

929 Nameless Fanboi Posted ID:eChXY10/w

>>928 ไอ้ควาย avatar คนละแบบกับคู่กรรมเลยเทียบกันได้ไงวะ สงครามโลก 2 (ฝรั่งมันแอนตี้แจปตอน ww 2 ด้วย แถมยังติดเรื่องค่านิยมว่าผู้หญิงถูกข่มเหงด้วย ซึ่งฝรั่งเขาไม่ชอบ )ขัดกับประวัติศาสตร์ที่ฝรั่งตีหน้าว่าญี่ปุ่นโหดร้ายโครตๆ กับไอ้ปลอมตัวมาเป็นเผ่าเดียวกันแล้วทำความรู้จักกัน โรมิโอแค่พ่อแม่มันไม่ถูกกันเฉยๆ อันนี้เรื่องปกติ

930 Nameless Fanboi Posted ID:eChXY10/w

>>928 มึงอยากเชื่อยังไง เขียนนิยายเศษเนื้อกระแส(ตอนนี้จากจีน อนาคตอาจจะเกาหลี พม่า บลาๆ) ต่อไป แล้วก็บ่นสนพเจ๊งๆ ให้ผลตอบแทนน้อย ก็ทำต่อไปกุไม่ว่า กุแค่จะแสดงให้เห็นว่ามันยังมีความหวังอื่นอยู่บ้าง ดีกว่าท้อถอยในการทำงานของว สนพไทย บกไทย จารีตคนไทยตอนนี้อะไรที่ตปทฮิต คนไทยฮิตตามแน่นอน

931 Nameless Fanboi Posted ID:3cAdyCE/o

>>929 แนวเรื่องที่รักกับศัตรู นี่ปกติมากนะ มึงคิดว่านิยายทะเลทรายชีคลากไปเย็ดบนหลังอูฏนี่คนไทยคิดเหรอ 50 เทานี่ก็ข่มเหงผู้หญิง แต่แม่งฟินจนทำเป็นหนังได้ มึงจะบอกว่าไม่ใช่ศัตรูก็ได้ แต่ Last Samurai ที่พระเอกฆ่าผัวนางเอกละ แล้วที่มึงว่าต่อต้านญี่ปุ่นนี่สมัยไหนกัน สมัยนี้มีแต่ไกจิน weeboo ทั้งนั้น อะไรที่เป็นยุ่นแม่งอวยหมดไม่ต่างจากคนไทยเลย

ถ้ามึงคิดว่าทำหนังให้ญี่ปุ่นสมัยดูเป็นคนดีแล้วฝรั่งจะไม่ชอบ มึงลองไปดูหนังเรื่อง The Bridge on the River Kwai ก่อนเถอะ หาความรู้เรื่องฝรั่งใส่หัวให้มากๆ ไหนก็เขียนไปขายฝรั่งแล้วนิ

>>930 อันนั้นมันของไทย กูก็บอกแล้วว่ากูไม่ค่อยชอบโมเดลนี้ แต่ก็ยอมรับว่ามันได้ผล ประเด็นคือกูยกตัวอย่างประเทศอื่นมาว่ามันไม่ได้มุ่งเขียนให้เป็น International แต่เขียนด้วยจริตจารีตของชาติตัวเอง มันคือเอกลักษณ์ของนิยายแต่ละชาติ มันทำแบบนี้แล้วดังไปถึงต่างประเทศ ก็แค่นั้นละ

932 Nameless Fanboi Posted ID:.SWsQ4s76

เดี๋ยวเถียงไปกันใหญ่
คือยุคนี้ กูคิดว่านักเขียนมีอิสระและทางเลือกมากกว่าเดิม คนที่มีทักษะทางภาษาก็สามารถต่อยอดไปต่างประเทศได้ตามสบาย
ส่วนคนที่คิดว่ายังอยากเขียนต่อไป แต่เขียนได้แต่ภาษาไทย กูก็อยากให้เขียนๆต่อไปนั่นแหละ
โอกาสช่องทางจำหน่ายยุคนี้มีมากขึ้น
นักเขียนบางคนไม่สนเรื่องสนพก็มี กูแค่บอกว่าลงขายอีบุ๊คในไทยได้เงินหลักแสนมีนักเขียนทำได้ อยู่ที่สามารถทำให้คนอ่านสนใจมาซื้อได้หรือไม่

กูแค่อยากจะชี้ว่า อย่ามัวสนแต่จะต้องลงสนพเลย คิดว่ามีคนอ่านชอบก็ลุยทำอีบุ๊คเองได้เลยนะสมัยนี้

933 Nameless Fanboi Posted ID:eChXY10/w

>>931 the last ไอ้รักเมียศัตรูรักพระเอกนี่กี่เปอของเรื่องวะ หลักจริงๆ.. ตัดฉากรักไปหนักก็สนุกอยู่ดี ที่มันขายหลักๆก็คืออุดมคติแห่งซามูไร อีกอย่างยุคป้าทมกัยยุคหนังพวกนี้มันต่างกันตั้งกี่ปี สมัยป้าทมเขียนฝรั่งมันยังแอนตี้อยู่ มาสมัยนี้มันก็ลดน้อยลงจากผลที่ญี่ปุ่นขายความเป็นซามูไรแอบแฝงในสื่อที่ถ่ายทอดออกไป เกมส์ มังงะ ๆลๆ the bridge นี่ญี่ปุ่นดีตัวเดียว ที่เหลือเกือบทั้งหมดนี่เหี้ยหมด ยังไงแจปก็ตัวร้ายอยู่ดีล่ะวะ แล้วใจความหลักของมันคือสงครามทั้งสองฝ่ายมีคนเหี้ยหมด ซึ่งมันเป็นแนวความคิดที่คนรุ่นหลังพยายามสนับสนุนแล้ว

934 Nameless Fanboi Posted ID:eChXY10/w

>>933 มึงลองให้คนสมัยป้าทมทำหนังญี่ปุ่นเป็นตัวดี แล้วฝรั่งเป็นตัวร้ายดิ กุก็อยากรู้เหมือนกันว่าผลตอบรับจะเป็นยังไง สมัยนั้นเหยียดผิวแรงกว่าสมัยนี้เยอะ

935 Nameless Fanboi Posted ID:6hHCrv3dM

>>933 ตอนนั้นก็ตอนนั้น ตอนนี้ก็ตอนนี้สิ มึงพูดถึงการส่งนิยายไปขายต่างประเทศตอนนี้ แล้วจะยกตอนนั้นมาทำใม ต่อให้ฝรั่งอ่าน เขาก็ไม่โง่จนไม่ดูบริบทของหนังสือหรอก เพราะค่านิยมมันเปลี่ยนไป ไม่งั้นมึงอ่านงานเก่าๆ คงไม่เข้าใจว่าทำใมคนสมัยนั้นคิดแบบนั้น

แล้วกูพูดถึงพล็อต "แนวเรื่องที่รักกับศัตรู" มึงหาได้ในหนังสือทั่วโลกละ ใน Last Samurai ต่อให้มีน้อยก็ถือว่ามี ไม่ใช่ว่ามีหรือไม่มีจะสนุกหรือไม่สนุก มึงสับสนประเด็นนะ เพราะตอนแรก>>926 "คนก็ไม่เข้าใจว่าไปรักผู้บุกรุกได้ไง" กูก้อธิบายว่ามันเข้าใจไม่ยาก เพราะพล็อต "แนวเรื่องที่รักกับศัตรู" มันเป็นอะไรที่สากลสุดๆ ดูอย่างโพคาฮอนทัสสิ หนังดิสนี่ย์เด็กๆ เขายังเข้าใจเลย ใกล้เคียงกับโกโบริสุดๆ แล้ว

936 Nameless Fanboi Posted ID:9UY24cg/B

ว่าด้วยนิยายรัก กูแนะนำให้พวกมึงดูซีรีส์เกาหลีที่ไม่แมสว่ะ ถ้าใครจะหาไอเดียนะ

937 Nameless Fanboi Posted ID:eChXY10/w

>>936 แนะนำทีพวก ชื่อเรื่องไรบ้าง

938 Nameless Fanboi Posted ID:1s8.mnMWG

ลองสร้างกระแสเองดูไหม เอาอย่างกระทู้นี้ก็ได้ ที่เคยสับแล้วคิดว่าดี คัดไปสัก 5-10 เรื่อง เอาไปหว่าน ไม่ก็แชร์ลงเฟซให้เป็นกระแส ทำได้ป่าว

939 Nameless Fanboi Posted ID:eChXY10/w

>>938 ความคิดดี แต่ไม่ควรทำในนามโม่งนะ เดี๋ยวคนหาว่าเราโปรโมตนิยายตัวเอง โม่งแตก ๆลๆ ตั้งกลุ่มเฟสขึ้นมาใหม่เลย

940 Nameless Fanboi Posted ID:My5fWeFcx

ต้องเข้าใจว่า ไทยยังเป็นประเทศที่ 3 ตลาดยังด้อยกว่าประเทศที่ 1 กับ 2

941 Nameless Fanboi Posted ID:1s8.mnMWG

>>939 มีใครเคยจัดลำดับ ให้ดาวอะไรไหมล่ะ สามารถเรียงได้ไหมว่าเรื่องไหนคือเบอร์ 1 2 3

942 Nameless Fanboi Posted ID:OYPVl5nSF

กูดีใจว่ะ พวกมึงจริงจังเกี่ยวกับอนาคตวงการนิยายดีมาก อีกใจนึงก็ก็เศร้า แม่งเดี๋ยวต้องมานั่งไล่เก็บสับนิยายไปมู้ใหม่อีกละ (แต่เพื่อพวกมึงกูทำได้)

943 Nameless Fanboi Posted ID:eChXY10/w

ลองโพสในเด็กดีไหมละ ว่าใครมีนิยายนอกกระแสแทบไม่มีคนสนใจโพสลงมาได้เลย แต่ไม่รับพวกแนวกระแสจ๋า หรือ ได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายอื่นท่วมท้น(ลอก)

944 Nameless Fanboi Posted ID:1s8.mnMWG

>>943 กระทู้ฝากนิยายมีเยอะแล้วมั้ง แถมนักเขียนเกือบทุกคนก็ไม่ยอมรับหรอกว่าตัวเองแต่งนิยายกาก ต่อให้เขียนเบียวตามกระแส ยังไงก็จะบอกว่า "ไม่เหมือนเรื่องอื่น" อยู่ดี

945 Nameless Fanboi Posted ID:f8HKR.eU0

พวกเมิงคิดว่าถ้าเปิดตอนให้อ่านก่อนแพ็คขายจะมีคนซื้อไหมวะ? พอไปอ่านดราม่านิยายนั้นแล้วเจอแต่พวกแห่กันบอกให้เปิดก่อนขาย คือของจะขายแต่กะอ่านฟรี?

946 Nameless Fanboi Posted ID:My5fWeFcx

>>944 เรื่องจริงเกินครึ่งในเด็กดี บางคนเอาแรงบันดาลใจมาเยอะแล้วโม้ว่าของตัวเองต่างจากเรื่องอื่น

947 Nameless Fanboi Posted ID:bAXQSCzEH

>>945 มีคนซื้อ แต่น้อยมาก ไม่ว่าคนเขียนจะเพิ่มตอนพิเศษเฉพาะคนที่ซื้อเท่านั้นได้อ่านนิดหน่อยอะไรก็ตามที
บอกตรง นิยายเขียนลงเว็บจะถูกดูดไปเก็บเป็นไฟล์เอาไว้อ่านทันที ไม่ว่าเว็บนั้นจะป้องกันดีแค่ไหนก็โดน ถ้าคนเขียนยังเขียนลงในเว็บไปจนจบ
คนเขียนที่เก๋าเกม จะรู้ว่าเขียนลงได้แต่จะลงไม่จบ ประมาณช่วงท้ายสัก 10-20% ของเรื่องให้คนอ่านไปอ่านในแบบหนังสือดีกว่า
ถึงจะกระตุ้นคนอ่านมากขึ้นมาหน่อย ให้ยอมเสียเงินซื้อผลงานจริงๆ
จะบอกว่าจำนวนแฟนคลับที่มากมายไม่ได้การันตีว่าจะขายได้เยอะอะไรนะ ยอดแฟนคลับ1000คน ขายได้ 50เล่ม ก็ถือว่าดีแล้ว

948 Nameless Fanboi Posted ID:OYPVl5nSF

https://www.dek-d.com/board/view/3776862/ เย็ดเข้ ใครหักไม้บอสวะ

949 Nameless Fanboi Posted ID:xML5vr/RZ

>>948 พี่โน้ตมาเองเลยทีเดียว...

950 Nameless Fanboi Posted ID:EJdS/qA8e

จะหมดมู้แล้ว สับนิยายกันไปกี่เรื่องแล้ววะ

951 Nameless Fanboi Posted ID:SdyNKgsj+

>>949 พี่เว็บหายหัวไปไหนมา มายังกะมีโหมด Mr.Energy

952 Nameless Fanboi Posted ID:SdyNKgsj+

โม่งกับเด็กมีหัวคิดต่างขนาดไหน ถามคล้ายกันเลย
https://www.dek-d.com/board/view/3777287/

953 Nameless Fanboi Posted ID:i2oVGjSK6

>>952 คำถามพื้นๆ ถามกันเป็นปกติอยู่แล้ว

954 Nameless Fanboi Posted ID:SdyNKgsj+

>>953 ถ้าดูคำตอบ กูรู้สึกว่าโม่งตอบจริงจังกว่า

955 Nameless Fanboi Posted ID:qOO/A9FTQ

>>954 จริงๆพวกนั้นก็เข้ามาอยู่ในโม่งกันนั่นแหละ อย่างซิลเวอร์นี่อยู่แถวนี้แน่ๆ ส่วนเครื่องบินก็น่าจะมาเหมือนกัน ใน 900 กว่าเม้นของมู้นี้รวมไปถึงอีก 9000 เม้นในมู้ก่อนๆ น่าจะมีขาประจำในบอร์ดนักเขียนมาตอบกันเกือบครบ

ในนี้ผ่อนคลายดีนะ อยากจะแสดงความคิดเห็นอะไรก็แสดง ไม่ต้องกลัวว่าจะไปทับเส้นใคร ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกขุดคุ้ยเอาคำพูดในอดีตมาแปะ หลายคนที่เห็นชอบโพสต์แรงๆ หัวร้อนๆ ในบอร์ด พอมาในโม่งแล้วก็สงบสติจนพอคุยกันได้

956 Nameless Fanboi Posted ID:qOO/A9FTQ

แปะหน่อย ไปเจอมา

โอกาสมาถึงแล้ว!!
Fictionlog ตามหาผู้ช่วยบรรณาธิการคัดสรรนิยาย (ฟรีแลนซ์)
(Freelance Assistant Editor)

คุณสมบัติ
- รักการอ่านนิยายออนไลน์เป็นชีวิตจิตใจ
- เข้าใจโลกของนิยายออนไลน์เป็นอย่างดี เล่มไหนขายดี
นักเขียนคนไหนกำลังมาแรง เรื่องไหนที่พลาดไม่ได้ รู้หมด!
- มีความรับผิดชอบ ส่งงานได้ตรงเวลา

เงื่อนไขและหน้าที่การทำงาน
- คัดสรรนิยายออนไลน์
- ประสานงานกับบรรณาธิการ
- เข้าออฟฟิศเพื่อมาประชุมและอัพเดตงานอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

ถ้าอ่านแล้วคิดว่าเราคือคนที่ใช่!
ส่ง Resume พร้อมจดหมายแนะนำตัว
ความยาวไม่เกิน 1 หน้า A4 มาที่
jobs@fictionlog.co
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเราชาว Fictionlog
ตลาดนักเขียน-นักอ่านออนไลน์แห่งใหม่ในไทย

957 Nameless Fanboi Posted ID:2XJla5eQ8

ปกติเวลาห้องน้ำหนักกูจะเปิดโม่งอ่าน ตอนนี้ก็เช่นกัน

ลงชื่อ เซฮุน ผู้เลื่อมใสในพุทธวจน

958 Nameless Fanboi Posted ID:ovSRopqKd

>>956 น่าสนนะ ยกเว้นเรื่องเข้าประชุม

959 Nameless Fanboi Posted ID:SdyNKgsj+

แอบดูนักเขียนสปอยกัน
https://www.dek-d.com/board/view/3777509/

960 Nameless Fanboi Posted ID:rkpYP7JpY

>>958 แต่ท้ายสุดยังไงก็คงเลือกนิยายกระแสแหละ

961 Nameless Fanboi Posted ID:Z1g5fChte

>>960 คือมันต้องธุรกิจก่อนเรื่องอื่น
เพราะถ้าไม่มีกำไร จะมีทุนขยายงานต่อไปได้อีกหรือ

962 Nameless Fanboi Posted ID:rkpYP7JpY

>>961 กุว่าหลายคนในโม่ง ไม่สนับสนุนทางนี้เท่าไร เพราะมันเป็นวงจรอุบาทแหละ ทำให้นิยายซ้ำๆจำเจ ชูๆ ไม่มีใครกล้าเขียนแบบสร้างสรรค์ สนพเคยทำแบบนี้ยังไม่รอดเลย web acedemy ก็กำลังเจริญรอยตาม ก็รอดูแล้วกันจะเป็นไง

963 Nameless Fanboi Posted ID:447/v2WO+

>>960 ถ้าเอาเรื่องที่ไม่มีคนรู้จักมาแล้วใครจะกล้าซื้อวะ

964 Nameless Fanboi Posted ID:BYn7c7mLA

>>962 หลังจากจบการประกวดของอ๊าก กูก็ไม่ค่อยสนใจโมเดลพวกนี้แล้วว่ะ เหมือนพายเรือวนอ่างอะ แก้ปัญหาจริงๆ ไม่ได้หรอก

965 Nameless Fanboi Posted ID:7YCVtcpm5

พูดจริงสมัยไอ้ดอกปอบอ่ะนะ เรื่องโนเนมยังเกิดขึ้นได้ เพราะการโปรโมต การตลาดของสนพ แต่สนพดันไปพลาดโฆษณาเกินจริงไง เลยฉิบหายมาจนถึงทุกวันนี้ สมัยนี้สนพโปรโมตไงคนก็เชื่อยากแล้ว

966 Nameless Fanboi Posted ID:7YCVtcpm5

สิ่งหนึ่งที่ทำให้วงการไทยแย่กว่าตปทคือ ตปท คือถ้าตรง genre ของสำนักพิมพ์เขาก็อ่านเรื่องโดยรวมแล้วว่าดีเปล่า ถ้ามันดีจริงก็โปรโมตให้คนซื้อได้ แต่ของไทยตอนนี้น่ะหรอ มึงไม่ดำเนินเรื่องแนวนี้นี่โยนทิ้งเลย โปรโมตไงคนก็ไม่เชื่อถือเพราะโกหกเขามาเยอะแล้วเลยต้องเกาะกระแสเขาไปวันๆ ถ้าสร้างแบรนตัวเองไม่ได้ก็รอวันตายเท่านั้นแหละ วงการนิยายไทย..

967 Nameless Fanboi Posted ID:3f5HTweOu

>>966 สิ้นหวังเหี้ยๆ

968 Nameless Fanboi Posted ID:vpfXjvf75

ไม่แปลกใจเลย สนพไทยมองว่าเงินสำคัญกว่าสมอง

969 Nameless Fanboi Posted ID:Wvc1fYWNp

สมัยนี้ช่องทางขายเองมีมากมาย ถ้าคิดว่าดีจริง
คือกูอ่านโม่งในนี้เห็นแต่ด่าสนพ ด่าว่าไม่รู้จักเลือกเรื่องดีๆมา
แล้วทำไมต้องฝากความหวังตัวเองกับสนพอย่างเดียว กูก็ไม่ค่อยเข้าใจ
ทางเลือกจะทำมือเอง จะขายอีบุ๊คเอง กูเห็นนักเขียนหลายคนอยู่ได้สบายๆไม่ง้อสนพ
หรือพอเป็นนิยายทำมือเอง แล้วพวกโม่งก็จะไม่ยอมแลอีกเลยหรือเปล่า มันต้องมีสนพการันตีเท่านั้นหรือ?
กูแปลกใจมากๆ

970 Nameless Fanboi Posted ID:Wvc1fYWNp

ต่อนะ คือถ้านักเขียนมุ่งแต่จะไปที่สนพ นักเขียนก็ต้องตอบสนองสนพในการทำกำไรได้
แล้วพอเป็นยังนั้น มันก็ไม่พ้นต้องเขียนแนวที่ตลาดต้องการ แนวกระแสอีก มันก็วนเวียนอยู่แต่อย่างนี้นั่นแหละ
คือถ้าทางเลือกใหม่ๆไม่มี มันก็ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงได้

971 Nameless Fanboi Posted ID:bSjNoZE3C

>>970 อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องเริ่มเปลี่ยนที่ตัวเราก่อนงั้นสินะ ก็ดีเหมือนกัน กูคงต้องหาทางสร้างกลุ่มผู้อ่าน แล้วขายงานด้วยตัวกูเอง เอาวะ! ยังไงกูก็ไม่อยากเขียนงาน mass อยู่ละ เอาใจช่วยกูด้วยนะเพื่อนโม่ง

972 Nameless Fanboi Posted ID:u8BXR.gvK

>>969 >>970 อยากให้ทบทวนหน่อย

สนพ. เลือกนิยายที่ขายได้ เพราะอะไร? ไม่ใช่เพราะ สนพ. ชอบงานห่วยๆนะ แต่เป็นเพราะกำลังซื้อ (คนอ่าน) ชอบนิยายห่วยๆ ต่างหาก (ขออภัยที่ใช้คำว่านิยายห่วยๆ จริงๆหลายเรื่องก็ไม่ถึงขั้นห่วย แต่ขอเหมารวมเพื่ออรรถรส)

ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ ว่าที่นิยายห่วยๆมันเต็มบ้านเต็มเมือง เพราะคนอ่านส่วนใหญ่มันห่วยด้วย ดังนั้น ถ้านิยายมึงไม่ตรงกับกระแสที่คนอ่านต้องการ สนพ. ก็ไม่พิมพ์นิยายมึง และต่อให้มึงจะไปพิมพ์ขายเอง ก็แทบไม่มีใครสนใจที่จะซื้อนิยายของมึงอยู่ดี

สรุปโดยย่อ ถ้านิยายมึงสามารถเอาไปทำมือขายได้จริง แล้วทำไม สนพ. ถึงไม่ซื้อไปวะ ไอ้พวกที่ทำมือแล้วได้ดิบได้ดีเนี่ย คือมี สนพ. สนใจกันแทบทั้งนั้น แต่คนเขียนแม่งมีกลุ่มแฟนอยู่แล้ว พิมพ์ขายเองได้เยอะกว่าไง

973 Nameless Fanboi Posted ID:5V95tT7yL

>>972 กำลังซื้อคนไทยส่วนใหญ่อยู่นิยายแปลโว้ย นิยายสากล สนพมันแค่เล็งตลาดล่างเพราะมันปั้มผลงานง่าย ไม่ต้องใช้หัวคิดเยอะ

974 Nameless Fanboi Posted ID:lzRqm0Ty6

>>973 กูว่าตลาดบ้านเรากำลังซื้อหลัก คือแนวรัก แบบที่เอามาทำละครหลังข่าวนั่นแหละ
นิยายแปลจริงๆปีหนึ่งก็เยอะ แต่ยังไม่เยอะเท่านิยายรักตบจูบคอมเมดี้
ที่คนซื้อหลักคือรุ่นวัยทำงานกันแล้ว
ส่วนนิยายแปลก็ต้องไปทางจีนรักอีก ไม่ใช่นิยายแปลได้ที่ได้รางวัลการันตีอะไร
สรุปว่า เพื่อนโม่งจะบ่นว่าสนพไทยยังไง แต่เรื่องมันก็วนเวียนกลับมาที่กลุ่มคนซื้ออีก
ถ้ายังเปลี่ยนนิสัยคนอ่านไม่ได้ มันก็ต้องเป็นไปตามที่คนอ่านกำหนดนั่นเเหละ
เห็นมั้ย ตลาดบ้านเรามันก็วนเวียนกลับมาที่จุด เขียนขายให้คนอ่านซื้อได้ยังไง
ส่วนคนเขียนที่อินดี้หน่อย ก็ต้องรับสภาพตลาดแบบนี้เอง นอกจากเปลี่ยนนิสัยคนอ่านได้ ซึ่งพอมองไปรอบตัว กูเห็นแต่เด็กๆสมัยนี้ สนใจแต่ว่าเรื่องนี้มี NC มั้ย พระเอกเทพมั้ย อยู่ตลอดเวลา

975 Nameless Fanboi Posted ID:u8BXR.gvK

>>974 ไม่อยากเบลมแต่ตลาดไทยอย่างเดียว อันที่จริงตลาดโลกมันก็มีอะไรแปลกๆ อยู่ตลอด ไม่งั้นฟิฟตี้เชด ทไวไลท์ มันไม่มาถึงจุดนี้หรอก

อาจมองได้ว่า เราใช้ภาษาไทยไง ตลาดเรามันเลยเล็กมาก จะเขียนเหี้ยยังไง เราก็ทำได้แค่บ่นกันอยู่แค่นี้ ฝรั่งแม่งไม่มารับรู้ด้วยหรอกว่าเหี้ยหรือไม่เหี้ย หรือต่อให้เขียนดี ฝรั่งมันก็ไม่มารับรู้เหมือนกัน ถึงจะแปลเป็นภาษาอังกฤษ แต่ด้วยวัฒนธรรมที่ต่างกัน ฝรั่งแม่งก็ไม่เข้าใจลึกซึ้งห่าอะไรอยู่ดี แถมคนไทยส่วนใหญ่อ่านนิยายภาษาต่างประเทศไม่ได้ กว่าจะได้อ่านนิยายต่างประเทศก็คือต้องรอแม่งดัง แล้วมีคนแปลไทย ก็เลยไม่เกิดการเพิ่มพูนความรู้ว่าโลกมันไปถึงไหนแล้ว ทำให้วงการนิยายทั้งเขียนทั้งอ่านไม่มีการพัฒนาอะไร เน้นเย็ด ตบจูบ แย่งผัวแย่งเมีย ผีสางนางไม้ตามความเชื่อเหมือนเมื่อ 40-50 ปีก่อน ถ้าเป็นสายแฟนตาซีก็รับอิทธิพลอนิเมะมังงะจากยุ่นกันไป

แต่ฝรั่ง โดยเฉพาะนิยายที่ใช้ภาษาอังกฤษ มันมีกลุ่มคนอ่านทั่วโลกไง ถึงจะมีนิยายฟักอัพแบบฟิฟตี้เชด ทไวไลท์ แต่คนก็เอาไปด่ากันขรม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันแบบเวิร์ลวาย นักอ่านก็ได้อ่านนิยายที่มีความหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลกเป็นล้านเล่ม มันก็ทำให้นักอ่านและนักเขียนบ้านเขามีการพัฒนาอยู่ตลอด จะมีช่องทางให้ผลงานดีๆเกิดขึ้นได้ก็ไม่แปลกหรอก

976 Nameless Fanboi Posted ID:v/dZ0S2rL

>>975 ตลาดไทยไม่ได้เล็กนะ แต่คนมันอ่านน้อย และจ่ายเงินซื้อน้อยกว่า เรื่องนี้ขึ้นกับหลายเหตุผล ซึ่งต้องว่ากันอีกที

ในกรณีของนักเขียน กูสนับสนุนโมเดลแบบฉีเตี่ยนที่จ่ายเงินอ่านออนไลน์ ของจีนรู้สึกจะตอนละ 1.5 บาท

สมมุติคนอ่าน 1,000 คนต่อตอน ก็ได้ตอนละ 1,500 บาท X จำนวนตอนต่อเดือน ถ้าขยันหน่อยก็ได้มากกว่างานประจำแล้ว

ต่อให้เดือนละ 30 ตอนก็แค่ 45 บาทต่อเดือน ไม่ได้มากอะไร โมเดลนี้ใช้ได้ที่จีนและเกาหลี ถ้าฮิตมากๆ ก็เอาไปตีพิมพ์ได้อีกต่อ

ของไทยก็มีตัวอย่างให้เห็น แต่มันเกิดยากเพราะไม่ค่อนมีนักเขียนคนไหนดีพอให้ซื้ออ่าน แล้วไทยยังไม่ใช่ Cashless society แบบจีนเกาหลี

เด็กทั่วไปไม่ค่อยมีช่องทางจ่ายออนไลน์ ผู้ใหญ่ยังไม่ค่อยมีใช้กันเลย ถ้าจะให้ขายออนไลน์เติบโตต้องพัฒนาตรงนี้ควบคู่กันไปด้วยละ

977 Nameless Fanboi Posted ID:5V95tT7yL

กุว่าขั้วอำนาจในตลาดนิยายไทยมีสองพวก พวกสายซีไรต์(อาร์คอะวาด)ก็ทรงคุณค่าอินดี้จ๋าอำนาจการตัดสินก็อยู่ที่กรรมการกลุ่มเดิมๆ รสนิยมของพวกเขาเอง ตลาดสูงเกิน เด็กไม่อยากอ่าน สากลเข้าถึงยาก กับสายลอกกระแส(ยังไงฝรั่งก็ไมไ่ด้นิยมชมชอบแนวชูๆมาก)และแนวตบจูบสำหรับตลาดล่าง(ไงก็ไปไม่ถึงสากล เพราะเขาก็มีดาษดื่นแล้ว นอกจากจะแต่งอะไรให้แปลกใหม่จริงๆ) ไม่มีที่สำหรับพวกตลาดกลางที่พร้อมจะใส่ความสากล กุชอบความคิดความตั้งใจโม่งข้างบนที่บอกให้ฝึกอังกฤษแล้วส่งไปให้ปังต่างชาติ ใครทำได้นี่แหละจะเป็นคนปฏิวัติวงการนิยายไทย

978 Nameless Fanboi Posted ID:uC4XG.Vot

ปัญหาคือพวกที่เก่งภาษาจริงๆ ส่วนใหญ่ไปทำงานล่ามให้เอกชนมากกว่า
ซึ่งมันทำรายได้เลี้ยงชีพให้มากกว่างานเขียนหลายเท่าตัว (บางคนแค่เงินเดือนหนึ่ง ก็ได้เท่ากับค่าเขียนหนังสือหนึ่งเรื่องแล้ว)
ด้วยสภาพค่าตอบแทนที่ต่างกันมากแบบนี้ หลายคนที่เก่งๆ
กูคิดว่าเขาเลือกไปทางอาชีพมั่นคงมากกว่าจะทุ่มเทเขียนนิยายเรื่องหนึ่งใช้เวลาหลายเดือนมากๆกว่า
ถึงจะจบและยังเสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธตีพิมพืหรือแฟนคลับไม่สนใจซื้อ จนไม่ได้รับโอกาสทางรายได้อีก
ปัญหาเรื่องรายได้ กูว่าเป็นปัญหาหลัก นอกจากคนๆนั้นจะมีงานประจำและมีเวลาว่างแต่งเสริมไปเรื่อยๆ
แต่ประเภททุ่มเทใช้ทักษะด้านภาษาเพื่อแต่งเองนี่ ในความคิดกูคือ ไปรับงานแปลให้สนพยังมีโอกาสมั่นคงกว่าจริงๆ อันนี้พูดแบบทั่วๆไป

979 Nameless Fanboi Posted ID:5V95tT7yL

>>978 ถ้ามึงปังในตปทนี่รายได้เยอะกว่ารับงานแปลสนพเยอะ ยิ่งติดเบสเซลนะมึง .. มันเหมือน high risk high reward กุว่าคนที่ตั้งใจพวกนั้นเขามีงานประจำกันอยู่ละ พอดังก็มีโอกาสขายงานง่ายขึ้น เอาชื่อไปหากินในวงการอื่นได้

980 Nameless Fanboi Posted ID:J6+ouxekk

>>979 มันมีคนที่ไม่ใช่ Native Speaker แล้วเขียนภาษาอังกฤษได้ Best Seller มั่งป่าววะ กูไม่รู้จริงๆ ส่วนใหญ่เจอแต่ดังในบ้านแล้วคนซื้อไปแปลวะ

981 Nameless Fanboi Posted ID:vpfXjvf75

มึงว่ากว่าจะขายนิยายไทยหมดสต็อก ถึง 10 ปีทันรึเปล่า

982 Nameless Fanboi Posted ID:QzVzQS4A1

>>981 ทันถ้าพิมพ์แค่ 100 เล่ม

983 Nameless Fanboi Posted ID:vpfXjvf75

เตรียมกู้ให้ดี จะครบ 1000 แล้ว

984 Nameless Fanboi Posted ID:QzVzQS4A1

>>983 อาบน้ำแป้บ เดี๋ยวมาเปิดให้ นั่งลากเม้าส์ยาวอีกละกู

985 Nameless Fanboi Posted ID:u8BXR.gvK

เอ้า เดี๋ยวช่วยวิ่ง กุบกับกุบกับ

986 Nameless Fanboi Posted ID:6xyQiA3xL

ไหน ๆ จะหมดมู้แล้ว ขอบ่นหน่อย... ช่วงนี้กรูรู้สึกว่ามีแต่คนกดเฟบนิยายแต่ไม่ค่อยมีคนมาคอมเม้นท์นิยายเลยว่ะ คือถ้าไม่มีคนอ่านกรูก็เข้าใจหรอกว่าไม่มีเม้นท์ แต่ที่เห็นยอดวิวตอนล่าสุดก็เพิ่มบ้าง มีคนมากดเฟบเพิ่มบ้าง แต่คอมเม้นท์ไม่ขึ้นมาหลายตอนแล้ว

987 Nameless Fanboi Posted ID:QzVzQS4A1

https://fanboi.ch/webnovel/4106/

เข้าที่... ระวัง... ไป!

988 Nameless Fanboi Posted ID:u8BXR.gvK

>>986 คอมเมนต์ไม่ขึ้นยังไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อกี้กูลองไปกดดูยอดวิวนิยายแต่ละเรื่องมา รู้สึกประหลาดใจมากๆ เหมือนคนอ่านนิยายในเว็บมันลดลงว่ะ ไม่ได้หมายถึงเรื่องของตัวเองนะ หมายถึงเรื่องของคนอื่นๆ ก็น้อยแปลกๆ จำได้ว่าเมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้ เช่น บางเรื่องคนอ่านรวมเป็นหมื่น อัพ 1-2 วันต่อตอนเป็นปกติ แต่เดือนนี้ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว มียอดวิวแค่สี่ร้อย หรือบางเรื่องมีสิบกว่าตอน อัพบ่อยพอสมควร แต่มีคนอ่านเดือนนี้แค่ 14 คน

มันน้อยผิดปกติไปไหมวะ หรือเด็กดีปรับระบบวิวอะไรใหม่อีก เห็นหลายๆเรื่องคนอ่านหลักสิบหลักหน่วยเต็มเลย งง

989 Nameless Fanboi Posted ID:QzVzQS4A1

>>988 วิวนิยายกูหายเหมือนกัน วันแรก 200 กว่า วันต่อมาเหลือ 38

990 Nameless Fanboi Posted ID:X9ZiwgsxD

#กระทู้พี่ไม่มีติดท็อป

991 Nameless Fanboi Posted ID:Ku+WJ/QXU

เราว่าเราก็วิ่งควายในระดับหนึ่ง

992 Nameless Fanboi Posted ID:cGqE.mv7j

ดันๆๆๆๆๆๆๆ

993 Nameless Fanboi Posted ID:X9ZiwgsxD

>>991 ด่าตัวเองทำไม?

994 Nameless Fanboi Posted ID:Lnl7ybpKz

>>988 เรื่องกรูก็วิวลดๆ เพิ่มๆ ว่ะ แต่กรุว่าไม่น่าเกี่ยวกับแอพดูดนิยายนะ น่าจะเป็นระบบของเว็ปมันแปลกๆ มากกว่าว่ะ

995 Nameless Fanboi Posted ID:227ePMH9K

แวะมาช่วยถมจร้า

996 Nameless Fanboi Posted ID:Lnl7ybpKz

https://www.dek-d.com/board/view/3777879/

เริ่มมีคนบ่นเรื่องยอดเฟบขึ้นแต่ไร้คอมเมนต์ด้วยแล้ววุ้ย แสดงว่ากรูไม่ได้คิดมากไปคนเดียวสินะ

997 Nameless Fanboi Posted ID:UKTCLkGdt

หรือคนมันเลิกอ่านเด็กดีกันแล้วจริงๆวะ

998 Nameless Fanboi Posted ID:kvyikh3U8

>>997 อาจย้ายไปอ่านที่ readawrite ไม่ก็ โค่โนเวล

999 Nameless Fanboi Posted ID:XFpunxl8V

ขอเลขความเห็นสวยก่อนปิดมู้

1000 Nameless Fanboi Posted ID:XFpunxl8V

ปิดเองเลยก็ได้...

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.