>>449 จะไหวเหรอ เราด่าแรงนะนาย ถ้านายไหวก็ได้
>>425
Risk
การเขียน
การบรรยาย : ขึ้นต้นประโยคได้แปลก หลายช่วงขึ้นด้วยส่วนขยายก่อนส่วนใจความ ไม่รู้ว่าจะตั้งใจให้เป็นสไตล์การเขียนหรือเปล่า แต่การเขียนแบบนี้จะเข้าใจยาก อย่าลืมว่าสมองมนุษย์ประมวลตามลำดับของคำตามที่เคยเรียนเคยอ่านกันมา
ex. อย่างน่าประหลาดเสียงบางอย่างกลับดังขึ้นทั้งๆ ที่ไม่ควรจะมี => เสียงบางอย่างกลับดังขึ้นอย่างน่าประหลาดทั้งๆ ที่ไม่ควรจะมี *จริงๆ ตรงนี้ใช้คำซ้ำซ้อนด้วย
การเลือกใช้คำ : เลือกใช้คำบรรยายได้ไม่แย่ ระดับภาษาไม่แกว่งมากนัก แต่ด้วยการใช้รูปประโยคแปลกๆ ทำให้กลบข้อดีเรื่องการใช้คำไป ส่วนของการใช้คำเชื่อมต้องปรับปรุงเพราะเลือกใช้คำเชื่อมได้ซ้ำซ้อน
ex. และหลังจากที่ฝูงอีกาจำนวนมากบินออกจากห้องไป => และ หลังจาก ดูเป็นการใช้บรรยายลำดับเวลาทั้งคู่ ใช้แค่คำเดียวก็พอ
พ่อก็พลันสังเกตว่า => ก็ พลัน ใช้บอกความขัดแย้งทั้งคู่ เลือกใช้คำเดียวพอ
- ส่วนของประโยคสนทนาแข็งทื่อไปหน่อย ดูประดิษฐ์ ไม่สมูธ
- ควรใช้สรรพนามแทนการใช้ชื่อซ้ำๆ ex. เด็กหนุ่ม ลูกชาย เขา ฯลฯ
การขึ้นย่อหน้าใหม่ : การขึ้นย่อหน้าใหม่เป็นส่วนสำคัญมากๆ ของนิยายสยองขวัญ เพราะจะทำให้เนื้อเรื่องดูตื่นเต้น น่าระทึกยิ่งขึ้น แต่ถ้ามากไปจะกลายเป็นน่ารำคาญ อ่านแล้วอึดอัดเพราะแบ่งช่วงเป็นท่อนๆ มากเกินไป หรือพูดง่ายๆ คือจังหวะยังไม่ดี
การใช้คำฟุ่มเฟือย : หลายช่วงใช้ความฟุ่มเฟือย/ใช้คำซ้ำอย่างไม่จำเป็น ต้องเข้าใจก่อนว่าการจะใช้คำฟุ่มเฟือยให้ดูสวยต้องเซียนในระดับหนึ่งก่อน ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่าเขียนตั้งยาวแต่ใจความไม่มีอะไรเลย สำหรับมือใหม่แนะนำให้อ่านออกเสียงก่อน แล้วจะเข้าใจว่ามันยาวเกินไปไหม
การใช้เครื่องหมายวรรคตอน : ใช้เครื่องหมายอัศเจรีย์มากเกินไป จนไม่รู้ว่าจะตกใจอะไรขนาดนั้น ถ้าจะใช้เน้นอารมณ์ 3-4 ตัวก็ถือว่าเยอะแล้ว ควรศึกษาการใช้เครื่องหมายวรรคตอนให้มากกว่านี้
- เครื่องหมายอัญประกาศไม่ได้เคาะหน้าหลังแบบในเรื่อง แต่ใช้แบบนี้ “....” ex. เธอคำรามด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “พ่อมึงสิ” นัยน์ตาแดงก่ำเปี่ยมไปด้วยอารมณ์โกรธแค้น
- ส่วนกรณีเครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) เครื่องหมายปรัศนี (?) แนะนำให้ใช้แบบสากลนิยม คือไม่ต้องเคาะเว้นวรรค เพราะมันอ่านง่ายกว่า
การดำเนินเรื่อง
โครงเรื่อง : พล็อตตั้งต้นถือว่าน่าสนใจกับการเอาเรื่องสูบบุหรี่มาโยงกับการเป็นฆาตกรต่อเนื่อง แต่วิธีการนำเสนอมันโต้งๆ ไปเหมือนเรื่องสั้นประกวดโครงการสสส. ซึ่งน่าจะพัฒนาการเขียนได้มากกว่านี้
การดำเนินเรื่อง : ไม่ชวนให้ติดตามเท่าไรนัก เหมือนเล่าไปเรื่อยๆ ถึงจะเล่าให้สั้นกระชับ แต่ดันกลายเป็นจุดอ่อนที่ว่าคนอ่านไม่รู้สึกมีส่วนร่วมกับตัวละคร ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวละครถึงตัดสินใจอย่างนั้น เช่น การที่กฤษณะอยากเป็นคนดีดูแลปวีณามันดูไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ควรจะเพิ่มเติมหน่อยว่าทำไม เช่น ตอนแรกกฤษณะก็แค่อยากหลอกฟัน แต่ปวีณาเป็นคนดีที่น่าสงสาร เธอชีวิตอาภัพเลยต้องทำงานตั้งแต่จบม. 3 ทั้งที่มีความฝันอยากเป็นพยาบาล เธอคอยดูแลกฤษณะที่ไม่เอาไหนมาตลอด ช่วยสอนงานให้ กฤษณะเลยอยากให้ชีวิตปวีณาดีขึ้น ฯลฯ
ข้อเสนอแนะ
อย่างที่บอกการเล่าเรื่อยๆ แบบนี้มันทำให้คนอ่านไม่ได้อินไปกับตัวละครเท่าไร ความสำคัญของเรื่องสั้นคือตัวละครไม่ต้องเยอะ ดำเนินเนื้อเรื่องกระชับ เล่าให้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ต้องไม่ลืมว่าความกระชับนั้นต้องให้คนอ่านอินกับตัวละครด้วย เพื่อให้เรื่องสั้นหักมุมได้สะเทือนใจยิ่งขึ้น จุดอ่อนหลักคือการดำเนินเรื่อง การบรรยายและจังหวะที่ไม่น่าติดตาม แนะนำให้ลองอ่านเรื่องสั้นของสรจักร ศึกษาเรื่องการบรรยาย จังหวะต่างๆ อย่าอ่านแค่เอาสนุก แล้วจะเข้าใจเรื่องการทำให้คนอ่านมีอารมณ์ร่วมมากขึ้น
คะแนน
อ่านได้เรื่อยๆ ไม่ได้น่าติดตาม เหมือนเรื่องสั้นส่งประกวดโครงการรณรงค์การสูบบุหรี่ ถ้าไม่สับ ก็คงอ่านไม่จบ