Fanboi Channel

นิยายเด็กดีบทที่ 29 (DDN XXIX) ภาคโนเนมเซมบัตสึ พิษโคโรน่าพานักสับหนีตาย เด็กดวกเศร้าใจไม่มีใครสับให้กู ได้แต่นั่งเฝ้ามู้ร้องเพลง "คนที่ไม่เข้าตา" -- brace yourself ปิดเทอม is coming

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:xI0StjRtcG

วิพากษ์วิจารณ์งานเขียนบนเว็บเด็กดีดอทคอม ทั้งจบแล้วและยังไม่จบ ตีพิมพ์แล้วและยังไม่มีใครเหลียวแล รวมไปถึงพูดคุยเกี่ยวกับวงการนิยายเว็บเด็กดี เพื่อความหวังของวรรณกรรมไทยในอนาคต (ทั้งนี้ ไม่สนับสนุนให้นำเรื่องส่วนตัวของนักเขียนแต่ละคนออกมาตีแผ่ ควรเน้นเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานเขียนเท่านั้น)

note : ในวงเล็บจะคิดว่าไม่มีก็ได้ เพราะตอนนี้ใช้มู้สับปนกับมู้นินทาไปแล้ว

<<คลังกระทู้เก่า>>

นิยายเด็กดี บทที่ 1 -- https://fanboi.ch/webnovel/2403/
นิยายเด็กดี บทที่ 2 -- https://fanboi.ch/webnovel/2703/
นิยายเด็กดี บทที่ 3 -- https://fanboi.ch/webnovel/2907/
นิยายเด็กดี บทที่ 4 -- https://fanboi.ch/webnovel/3066/
นิยายเด็กดี บทที่ 5 -- https://fanboi.ch/webnovel/3187/
นิยายเด็กดี บทที่ 6 -- https://fanboi.ch/webnovel/3229/
นิยายเด็กดี บทที่ 7 -- https://fanboi.ch/webnovel/3388/
นิยายเด็กดี บทที่ 8 -- https://fanboi.ch/webnovel/3594/
นิยายเด็กดี บทที่ 9 -- https://fanboi.ch/webnovel/3852/
นิยายเด็กดี บทที่ 10 -- https://fanboi.ch/webnovel/4106/
นิยายเด็กดี บทที่ 11 -- https://fanboi.ch/webnovel/4265/
นิยายเด็กดี บทที่ 12 -- https://fanboi.ch/webnovel/4393/
นิยายเด็กดี บทที่ 13 -- https://fanboi.ch/webnovel/4626/
นิยายเด็กดี บทที่ 14 -- https://fanboi.ch/webnovel/4810/
นิยายเด็กดี บทที่ 15 -- https://fanboi.ch/webnovel/5006/
นิยายเด็กดี บทที่ 16 -- https://fanboi.ch/webnovel/5346/
นิยายเด็กดี บทที่ 17 -- https://fanboi.ch/webnovel/5535/
นิยายเด็กดี บทที่ 18 -- https://fanboi.ch/webnovel/5769/
นิยายเด็กดี บทที่ 19 -- https://fanboi.ch/webnovel/6022/
นิยายเด็กดี บทที่ 20 -- https://fanboi.ch/webnovel/6295/
นิยายเด็กดี บทที่ 21 -- https://fanboi.ch/webnovel/6506/
นิยายเด็กดี บทที่ 22 -- https://fanboi.ch/webnovel/6868/
นิยายเด็กดี บทที่ 23 -- https://fanboi.ch/webnovel/7834/
นิยายเด็กดี บทที่ 24 -- https://fanboi.ch/webnovel/8477/
นิยายเด็กดี บทที่ 25 -- https://fanboi.ch/webnovel/8614/
นิยายเด็กดี บทที่ 26 -- https://fanboi.ch/webnovel/8685/
นิยายเด็กดี บทที่ 27 -- https://fanboi.ch/webnovel/8795/
นิยายเด็กดี บทที่ 28 -- https://fanboi.ch/webnovel/8876/

รายชื่อโดนสับไปแล้ว https://docs.google.com/document/d/1ouFhwS9WeoBzEgYHVNYWkeUAbhQ2YkCg4ozpTpx1-94/edit

2 Nameless Fanboi Posted ID:xI0StjRtcG

:: Topic Highlight ประจำมู้ที่ 28 ::

rerun มู้ 27 >>>/webnovel/8876/61/
สับนิยาย: The: Rose Online [ลำนำกุกลาบ] >>>/webnovel/8876/245-247/
โม่งปรัชญา >>>/webnovel/8876/283-291/
สับนิยาย: With End ต่างโลกที่ผมเป็นพระเจ้า(ไม่มีอยู่จริง) 01 >>>/webnovel/8876/364-367/
ความหมายหลัก, แฝงของ "พังพาบ" กับวิธีนับยอดวิวล่าสุดในเว็บเด็กดวก >>>/webnovel/8876/371/
อภิธานศัพท์โม่ง (โม่งหน้าใหม่ควรอ่าน) >>>/webnovel/8876/374-386/
สับนิยาย: The Zombie survival ผู้รอดชีวิต >>>/webnovel/8876/410-413/
สับนิยาย: ผมเกิดใหม่มาพร้อมกับคำสาปสุดโกงหละ! >>>/webnovel/8876/444-447/
กลุ่มเป้าหมายของ Light Novel >>>/webnovel/8876/472/
สับนิยาย: Strike สไตรค์ ไล่ล่าข้ามจักรวาล >>>/webnovel/8876/555-558/
สับนิยาย: ไกรสรเพลิง เจ้าแห่งอัคคี >>>/webnovel/8876/625/
โม่งใหม่อิ่มตีน: ราชาแห่งเมอร์นิว่า >>>/webnovel/8876/731-750/
สับสั้น: เป็นนางร้ายไม่ง่ายนะ >>>/webnovel/8876/807-812/
โม่งต่อยกันเอง หัวข้อ "วิบัติเพื่อเสียง?" >>>/webnovel/8876/813-861/
สับสั้น: กลับสู่วันฝันคืน Back day dream the series >>>/webnovel/8876/877/
ควันหลงกระทู้ก่อน หัวข้อ "POV ต่างๆ" (มีต่อยกันเองด้วยนิดหน่อย) >>>/webnovel/8876/904-929/

มู้นี้ดูวิ่งช้าจังวะ สับก็มีบ้างประปราย ส่วนมากเป็นตบตีกันเองกับนินทาเรื่อยเปื่อย ไหนๆ ก็ต่อยกันเองอย่างกับ Battle Royal แล้ว กูจะช่วยดึงสติให้นิดนึงแล้วกัน เวลามีคนด่ามึงในโม่ง ถ้ามึงไม่ได้เป็นสายเน้นฮา เจอด่าแล้วไม่หัวร้อน มองเป็นเรื่องขำขัน ให้มึงเงียบไว้แล้วเฟดตัวออกไปเงียบๆ หาอะไรนอกเว็บนี้ทำให้ลืมๆ ไปซะ กลับมาอีกทีโม่งทุกตัวแม่งก็ลืมหัวข้อนั้นไปแล้ว (พร้อมเสือกเรื่องใหม่ๆ ในชีวิตเสมอ)

การอยู่ในโม่งใครหัวร้อนก่อนคือแพ้ เพราะคนด่ามันพ่นอะไรก็ได้ ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรด้วย ดังนั้นคนฟังควรอ่านเกมให้ออก ตามเกมให้ทัน และแก้เกมให้ถูก (ส่วนคนอื่นอ่านที่พวกแม่งเถียงกันแล้วเก็บเฉพาะข้อมูลไว้ใช้ก็ได้) นี่พูดถึงพวกที่เป็นคู่กรณีกันจริงๆ นะ ยังไม่รวมพวกชอบปั่นกลางเหตุชุลมุนหรือชอบเนียนโทรลหลอกด่าชาวบ้านอีก คือต่อให้มึงงัดกับมันจนเถียงชนะได้ ก็ได้มาเพียงความสะใจแค่นั้นเอง (ใช้เวลาในชีวิตให้คุ้มค่ากว่านี้เหอะ) มันจะ judge จะเหยียดก็อย่าไปใส่ใจมาก ถามหาความ PC ในโม่งแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับถามหากุลสตรีในซ่องกะหรี่พัทยาอะ ชาติหน้าก็หาไม่เจอหรอก

3 Nameless Fanboi Posted ID:9p87za7kSo

เข้ามาเจิมแบบเซ็งๆ นี่ขนาดมู้ที่แล้วไม่ค่อยวิ่ง กุลองโผล่มาดูขึ้นมู้ใหม่แล้ว แต่ไปอ่านดูแม่งไม่มีห่าเหวอะไรเลยเละเทะชิบหาย จะถกก็ถกแต่ประเด็นเดิมๆ น่าเบื่อไม่มีสาระ กูนี่เลื่อนผ่านรัวๆ

4 Nameless Fanboi Posted ID:NROvWI8KXQ

บางทีกุว่า ปล่อยให้มู้มันร้าง ๆ แล้วให้โม่งเพลงเล่นอยู่คนเดียวก็ไม่เลวนะ

5 Nameless Fanboi Posted ID:.2Vtl6LiZ2

มู้ไม่วิ่งสำหรับกูนี่เป็นประเด็นรองว่ะ เพราะก่อนปีใหม่แม่งก็วิ่งด้วยสปีดประมาณนี้ แต่ตอนนี้หลักๆ เลยคือมีแต่เห็บหมัดแม่งอะไรไม่รู้เต็มมู้ไปหมด คิดไปก็นึกถึงมู้เก่าก่อนเด็กเบียวแห่กันเข้ามา คือกูไม่ได้ต้องสาระอะไรขนาดนั้นนะ แต่แม่งเถียงแล้วชอบลากออกทะเลสไตล์บอร์ดเด็กดวก กูชอบตบเป็นตบแบบบรรยากาศโม่งเก่ามากกว่า

6 Nameless Fanboi Posted ID:9+v4Q61YtE

เอ้าอีสัด กุเพิ่งกลับมาดูอีกรอบ บท28แม่งยังไม่เต็มเลย เวร ไม่ใช่โม่งประจำตั้งรึไง???
>>5 กูก็เหมือนมึง คือประเด็นไม่ได้สนเรื่องมู้วิ่งไม่วิ่ง ไหลเร็วแต่ดันมีแต่นํ้าโจ๊กไร้สาระแบบนี้กูก็เลื่อนผ่านหมดไม่ได้อ่าน (คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ กลับมาเร็วๆเถิดนะ)

7 Nameless Fanboi Posted ID:yv1U/loxIy

ช่วงนี้เด็กดวกร้องขอคำวิจารณ์กันระงม และมาพร้อมคอมโบไม่ลงลิ้งก์ + ตอนสั้นเท่าหมอยแมว + เพิ่งลงแค่ 1-2 ตอน ไวรัสแดกสมองกันหมดแล้ว

8 Nameless Fanboi Posted ID:cRaGZ1tc6x

>>4 อีหยังล่ะนั่น

9 Nameless Fanboi Posted ID:08c3McSCT5

เห่นโหลววว ไม่ได้สับนานม่วกกกกก ที่หายไปคือไปสู่ทุคติมา แต่รอดมาได้จากความตายแล้วเลยโผล่หน้าเข้ามาสับหน่อย คือก่อนหน้านั้นก็ว่างแหละ แต่ติดมาสเตอร์เชฟ ฟฟฟฟฟ บวกกับรำคาญบรรยากาศโม่งเลยไม่สับแม่งเลย จีจีไม่รู้จะเลือกเรื่องไหนดี ในดด.แม่งมีแต่ตัวง้องแง้งมาร้องขอวิจารณ์กันแยะไปหมด เอาเป็นว่าวันนี้มาสับกันดีกว่า สาเหตุที่เลือกเรื่องนี้เพราะคนเขียนดูว้อนท์ เคยขอให้สับหลายรอบละ แต่กูขี้เกียจ ถถถถถ

หมายเห็ด เป็นการสับหลังจากไม่ได้เขียนภาษาไทยยาวๆ มา 2 สัปดาห์ ฉะนั้นอาจใช้ภาษาแปลกๆ หรือใช้คำอังกฤษบ้างก็ขออภัยด้วย คือคิดคำไม่ออกจริงๆ ง่วงด้วย

[สัญญารักจากฟากฟ้า] by พันชั่ง
https://writer.dek-d.com/punchangk/story/view.php?id=1506990

ออกตัวก่อนว่าไม่ค่อยถนัดแนวไซไฟเท่าไร แต่ก็อ่านได้ จะลองเปิดใจดูก็แล้วกันข่ะ แต่ขอยาดด่าก่อนเลย ไอ้สัส หน้าเรื่องมึงแนะนำตัวละครแม่งมากไปไหม กูเลื่อนจนเมาส์ลูกกลิ้งจะหลุดแล้วไอ้เหี้ย ยาวแข่งกับคอมเม้นท์ดอกขาวเหรอ เยอะแยะขนาดนี้จะไปมีประโยชน์เหี้ยอะไร เว้นพื้นที่ให้คนจินตนาการหน้าตาตัวละครบ้างก็ได้มะ เจ็บหัวเหม็ดนิ ยัดเยียดให้พี่ติ๊กเป็นนายก เบน ชลาทิศเป็นผู้นำฝ่ายค้านงี้ เห้อ

เรื่องย่อ: เนื่องจากมีการตัดฉากเยอะส้นตีน บางช่วงจะเล่าละเอียดหน่อยให้ดูการตัดเรื่อง แต่บางช่วงอาจเล่ารวบๆ

บทนำ - เจ้าหน้าที่นาซ่าสองคนเจอวัตถุที่เข้ามาใกล้โลกมากๆ ตอนแรกนึกว่าอุกาบาต แต่ไม่ใช่ เลยติดต่อกระทรวงกลาโหม

บท 1 - พิมพ์ชนกไปเยี่ยมภาคินแฟนทหารเกณฑ์เอาแหวนคู่มาให้ ตัดไปที่ม. เพื่อนคุยกันเรื่องข่าววัตถุประหลาดและมะนาวต่างดุ๊ดที่มีจริงแน่นอน ตัดภาพไปที่เพนตากอน นายพลคุยว่าปลุกมานี่สำคัญแน่นะ เรื่องดาวหางนี่ประธานาธิบดีรู้ยัง ตัดไปที่ทำเนียบขาว ปธน.คริสโตเฟอร์ที่เพิ่งตื่นก็ได้รับโทรศัพท์ พอมาถึงเพนตากอนก็คุยเรื่องวัตถุประหลาด จะส่งอะไรไประเบิดมันดีไหม แล้วก็เฉลยว่ามันคือจานบิน ตัดไปที่ม.หอการค้าเพื่อนอีพิมพ์ก็เอาหลักฐานมาให้ดูว่าเนี่ยๆ พวกมายาเคยเจอเอเลี่ยนนะ แล้วก็ไปเรียน พอพักเที่ยงก็มีมานะพูดเหน่อมาเจอพิมพ์ คุยกันเรื่องแฟน มานะบอกเมื่อไรจะมีแฟนนะ ที่ตัวเองไม่มีแฟนเพราะเสียงน่าเกลียด(????) มีแต่คนว่าเราบ้านนอก ตัดไปที่เพนตากอน ปธน.บอกว่ายังไม่อยากให้เกิดความแตกตื่น ถ้ามีไรจะออกคำสั่ง เดี๋ยวรับผิดชอบเอง ตัดมาปจบ. มานะทำงานอยู่ร้านสุกี้ พอกลับบ้านก็เพ้อเรื่องเมื่อไรจะมีแฟนๆๆๆ ย้ำอยู่ 3-4 รอบ หมกมุ่นกับหีสัสๆ ตัดไปที่วัตถุประหลาดกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา ตัดไปที่นักข่าวกำลังพูดเรื่อง UFO กำลังเข้าใกล้โลก ทิ้งท้ายว่า ผู้มาเยือน... กำลังจะมา... ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า...และพระเยซูจะกลับมาอีกครั้ง โว้ยยยย ไม่ใช่!

บท 2 - ทหารเกณฑ์แซวเรื่องแฟนภาคิน แล้วก็คุยกันเรื่องเอเลี่ยน พิมพ์คุยกับมานะเรื่องเอเลี่ยน ยกตัวอย่างเปรียบกับหนัง เป็นห่วงว่าภาคินจะโดนเกณฑ์ไปรบกับเอเลี่ยน ตัดภาพไปที่รร.มัธยมในเมกา เจนนิเฟอร์ ลูกสาวปธน.ก็เพ้อว่าเมื่อไรตัวเองจะมีแฟน แฟนเราเป็นใครนะ อ่ะ อีนี่ก็เงี่ยนควย กูทำนายเลยว่ามึงต้องคู่กับมานะพูดเหน่อ เห้อ พิมพ์ฝันว่าภาคินโดนเอเลี่ยนดูดไป พอดูทีวีเจอว่า อีกสามวัน UFO ถึงโลก จู่ๆ ก็โผล่ไปโรงอาหาร จากที่เป็นห่วงผัว ก็คุยกับอีมานะเรื่องแดกผัดผัก (?) ตัดไปที่ทำเนียบขาวก็นายพลคุยกับปธน.เรื่องว่าจะเอายังไงกับเอเลี่ยน ถ้ามันมายึดโลกเราก็บวกมันเลย ตัดไปไทยอีพิมพ์โทรหาผัวในกรม ตัดไป CTW คนคลั่ง UFO มารวมตัวกันทำกิจกรรม(?) มานะดูทีวีอยู่ก็ถอนหายใจ ตัดไปพิมพ์พรีเซ้นต์งานเรื่องพลังงานของโลก ควรประหยัดพลังงานเพื่ออนาคต.... อิหยังวะ โฆษณาของกฟผ.เหรอ?? ก็เจ๊าะแจ๊ะกับอีมานะ แล้วก็ตัดไปทางบ้านคริสโตเฟอร์ เจนนี่กำลังคอลกับเพื่อนอยู่ คุยเรื่องเอเลี่ยนว่าพ่อปิดบังอะไรปชช.อยู่หรือเปล่า ก็มีข่าววิเคราะห์ว่าปธน.ออกตัวช้าไปหน่อยนะ อาจสายเกินไป ตัดไปมีคนเมาเดินไปเจอผู้หญิงเลยเข้าไปหลี ผู้หญิงเลยบอกว่า ฉันไม่ใช่มนุษย์ มาจากอวกาศ คนเมาหาว่าโม้ เลยท้าให้แสดงพลัง นางเลยวาร์ปโชว์ คนเมาก็วิ่งไป ส่วนเอเลี่ยนสาวก็ติดต่อฐาน ว่าตอนนี้อยู่กรุงเทพนะ สภาพอากาศโลกเป็นพิษ เราต้องสิงร่างมนุษย์ แต่เราควบคุมทุกอย่างได้ และเราจะเลือกกทม.เป็นที่อยู่ของเรา......อีควัย ทั้งมลพิษ ทั้งรถติด ไหนจะ PM2.5 มึงเลือกกรุงเทพกูก็ขอให้มึงโชคดี 5555555

อ่านไปอีก 2 ตอน นอกจากฉากวนๆ วนไปวนมา ก็มีฉากเอเลี่ยนมาทดลองใช้ชีวิตสักหน่อย พอตอน 5 เอเลี่ยนก็มาถึงไทย ยื่นข้อเสนอว่าจะเอาพลังงานมาแลกกับร่างมนุษย์ได้ไหม ขอพอแค่นี้แล้วกัน ถึงยังจะไม่เห็นเนื้อเรื่องมากมาย แต่คิดว่ามีข้อมูลมากพอจะสับละ

ต่อเม้นท์ถัดไปจ้ะ

10 Nameless Fanboi Posted ID:08c3McSCT5

เนื้อเรื่อง:
ดำเนินเรื่องช้าเหี้ยๆ ขัดกับการตัดฉาก ใช้พื้นที่ 5 ตอนได้อย่างไร้ค่ามากๆ เข้าใจว่าอยากปูปมบางเรื่อง เช่นการทำให้คนอ่านสงสัยเรื่องตัวตนของภาคิน ทำให้คนอ่านสงสัยว่าเมกาวางแผนอะไรไว้ แต่เรื่องมันแทบไม่เดินเลย แทบไม่เห็นปมความขัดแย้งใหญ่ๆ กว่าจะมีคือตอน 6

สเกลของเรื่องใหญ่มาก เขียนอะไรที่ไกลตัวเกินไป ข้อมูลบางจุดยังอ่อน แล้วพอมันเป็นเซตติ้งที่มีพื้นฐานจากโลก จากหนังต่างๆ ที่คนมีประสบการณ์ร่วม เคยดูเคยเห็นมาก่อน แม่งเลยทำให้เห็น Plot Hole เยอะมาก เช่น ปธน.อายุ 35 ลูกสาวเจนนิเฟอร์เรียนมัธยม แถมจะมาคู่กับมานะที่เรียนมหาลัย แปลว่าเจนนี่ควรอายุอย่างน้อย 15+ ใช่ไหม แล้วไอ้ปธน.นี่มันต้องมีเมียมีลูกตั้งแต่อายุเท่าไร ต้องเล่นการเมืองตั้งแต่อายุเท่าไร หมออายุ 20 อีก หมอเรียนกี่ปี เรียน 6 ปีนะ คือแปลว่าอีหมอคนนี้จะต้องเข้ามหาลัยตั้งแต่ 14 เหรอ ไหนจะเรื่อง Time & Space อีก ระยะเวลาการไปนั่นมานี่แม่งไม่ใช่น้อยๆ

จุดที่พยายามใส่ความกุ๊กกิ๊กลงไปมันก็ตลกแปลกๆ ว่ะ คือต้องเลือกให้ดีละ ว่าจะเอายังไง ต้องการชูอะไรเป็นเรือธงของเรื่องกันแน่ จะกุ๊กกิ๊กในธีมเอเลี่ยนบุกโลกหรือยังไง แล้วก็การใส่ชื่อสถานที่จริงต่างๆ บางทีมันก็ไม่โอเคว่ะ เช่น ชื่อมหาลัย คือที่เขียนมานี่กูเดาไม่ออกเลยว่ามึงเขียนม.หอการค้า หรือจะการระบุชื่อม.ว่านักศึกษาคนนี้เป็นแกนนำต่อต้านเอเลี่ยนบ้างล่ะ กูอาจจะ PC แต่มันสื่อให้เห็นอคติของมึงต่อม.อื่นนะ

ตัวละคร: เยอะเหี้ยๆ และน่าเบื่อเหี้ยๆ ไม่มีอะไรน่าจดจำเลย บางตัวก็เขียนออกมาได้น่ารำคาญแบบควรไปตาย นอกจากนิสัยตัวละครที่เขียนแปะไว้หน้าเรื่อง กูแทบมองไม่เห็นในเรื่องมึงเลย ทั้งไม่ Show ทั้งไม่ Tell

การดำเนินเรื่อง:
ดูรู้เลยนะว่าเอาการเล่าเรื่องมาจากการดูหนัง นอกจากจะมาเป็นประโยคสนทนารัวๆ ตัวละครคุยห่านอะไรกันก็ไม่รู้ทั้งเรื่อง แม่งยังเสือกตัดฉากเก่งชิบหาย ตอนนึงแม่งสั้นกระจึ๋งเท่าหมอยปลวก แต่ตัดฉากบ่อยมาก คู่แท้ฟ้าประทานส่งมาให้น้องดีซ่านแท้ๆ ตัดจนกูท้อว่ามึงจะไปไหนอีก เดี๋ยวไทย เดี๋ยวทำเนียบขาว เดี๋ยวนาซ่า เดี๋ยวกลับมาไทยอีกแล้ว การเขียนแบบนี้แม่งเป็นศิลปะภาพแปะตัดอีกแล้ว เนื้อเรื่องมึงจะเป็นท่อนๆ ขาดความต่อเนื่อง แถมบางท่อนที่ตัดไปตัดมา แม่งไม่ได้มีความสำคัญหีแตดใดๆ เลย นอกจากแค่ไปเปิดตัวละครใหม่ มีบทพูดสามประโยค แล้วตัดไปฉากต่อไปอีกแล้ว อันนี้คือส้นตีนจริงๆ เพราะการทำแบบนี้ไม่ได้ทำให้ตัวละครมึงเป็นที่น่าจดจำ บางฉากที่ควรจะมีความสำคัญก็โดนลดความสำคัญไปอีก

Ex. บทที่ 1 ความยาววัดจากสายตากูแล้ว น่าจะไม่เกิน 2,000 คำ มึงเปิดตัวละครหลักที่เน้นชื่อตัวหนาทั้งหมด 5 ตัว ไม่นับตัวประกอบที่มีชื่ออีก มีฉากทั้งหมด 7 ฉาก ที่ใช้วิธีตัวหนาบอกว่าคือที่ไหน ยังไม่นับฉากที่ยังอยู่ไทย แต่ตัดไปอีกเหตุการณ์ ทั้งหมดคือตัดสลับไปมาระหว่างไทยกับเพนตากอน และยังมีการใช้ตัวเลขบอกเวลา ว่านี่ปัจจุบัน นั่นตอนตีสี่ ซึ่งไม่ดีเลยไอ้สัส ตรงนี้มีจุดให้ด่าอีกแล้ว เทคนิคการเล่าเรื่องสลับช่วงเวลาเนี่ย เป็นอะไรที่ดีนะ แต่ถ้าเอามาใช้ไม่ถูกจุด เช่นการตัดสลับเวลาไปมาติดๆ กัน 4-5 ครั้งในหนึ่งตอน แม่งจะกลายเป็นการสร้างความสับสนให้คนอ่านแทนว่ะ แล้วตลอดเรื่องก็เล่าแบบนี้ตลอด อห

ดูออกว่าเอาการเล่าเรื่องจากหนังมา เทคนิคการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์ให้ตายยังไงก็ไม่สามารถนำมาใช้กับนิยายได้ เพราะหนังมันมีทั้งภาพและเสียง มี visual มีมุมกล้องที่ช่วยเล่าเรื่อง มีการตัดต่อเข้ามาให้เนื้อเรื่องมันดำเนินไปแบบ flowๆ ทั้งหมดรวมกันคือคนดูไม่จำเป็นต้องใช้จินตนาการประกอบ ใช้แค่ความคิดตามเรื่องให้ทันก็พอ พอสมองไม่ต้องมาจินตนาการสร้างภาพในหัว ต่อให้ภาพตัดไวฉับๆ เป็น Bourne ของตาแมตต์ แม่งก็ยังเข้าใจได้ แต่นี่คือนิยายนะ ใช้ทั้งจินตนาการ ใช้ทั้งความคิดนะเว้ย

อีกจุดที่อยากด่าคือ เล่าเรื่องได้แบบอะไรของมึงวะ แบบที่เล่ามานี่คือกูจำเป็นต้องรู้กับมึงด้วยจริงดิ นี่แม่งสไตล์แวะเยี่ยวข้างทางแบบไม่ได้น้ำเยอะ เวิ่นเว้อนะ ไม่ได้ info dump แต่เป็นพวกแบบ useless information ที่ไม่รู้ก็ไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง ใส่เข้ามาแล้วทำให้ weird สัสๆ

เช่น เพื่อนอีพิมพ์ชนกที่ม.หอการค้าที่กำลังทำการบ้านถามว่า Superative Adjective คืออะไรอ้ะ แล้วนางเอกก็โชว์เทพว่า คำขยายนามขั้นสุดไง! อย่าง slow ก็ต้องเป็น slowest ว้าวซ่า เทพมาก เทพจนต้องขอกราบตีนเลยข่ะขุ่นชาคริต!! นี่จะต้องเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรารู้แน่ๆ ว่าอีพิมพ์ต้องเก่งภาษาศาสตร์มากๆ จนอ่านจะได้สื่อสารกับเอเลี่ยน หรือ ปธน.กำลังแปรงฟันแต่งตัว ถุ้ยยยยยย คือตรงนี้คือยังไง Show don’t tell เหรอ? Seriously???? แล้วไอ้จุดนี้เนี่ย มีมาตลอดที่กูอ่านเลย จนกูงงว่ามึงอยากตัดฉากให้เรื่องกระชับ แต่มึงเสือกเล่าเหี้ยไรก็ไม่รู้อ่ะนะ?

11 Nameless Fanboi Posted ID:08c3McSCT5

ยาวสัสๆ สองเม้นท์ไม่พอ

การใช้ภาษา:
อันที่จริงแล้วเป็นคนเล่าเรื่องได้อ่านรู้เรื่องนะ ไม่ได้เขียนอ่านแล้วปวดกะโหลก อ่านแล้วเข้าใจ พื้นฐานจัดว่าไม่แย่ ใช้คำศัพท์แกว่งบ้าง แต่ไม่มีเทคนิคในการนำเสนอใดๆ การเล่าเรื่องยังไม่เก่ง อาศัยบรรยายสั้นๆ แค่เล่าเรื่องให้อ่านรู้เรื่องเหมือนหนังสือเรียนเด็กป. 2 บวกกับการเล่าแบบภาพยนตร์ที่ตัดฉากฉึกฉักไปมา รวมกันทำให้เรื่องมันสนุกน้อยลง เสียดายองค์ประกอบบางส่วนที่หลายจุดคือน่าเอามาขยี้ดีๆ ให้ดูน่าตื่นเต้นได้ตามสไตล์ แต่เสือกไม่รู้จักขยี้ ทำให้มันเพลนๆ กลายเป็น less is less ไปเลย

อีกจุดคือกูรำคาญเรื่องการเรียกว่า “วัตถุประหลาด” ที่ใช้ก่อนเฉลย (?) ว่าไอ้วัตถุที่ว่าคือ UFO แล้วยิ่งพอเซตติ้งมีฝรั่งด้วย พอฝรั่งเป็นคนพูดมันยิ่งตลก เพราะ UFO มันย่อมาจาก Unidentified flying object อยู่แล้ว การสรรคำตรงนี้ต้องกลับไปทำการบ้าน ไปคิดมาดีๆ ว่าควรใช้คำว่าอะไรดี หรือจะใช้คำว่า UFO จริงๆ ก็ไม่น่าผิด แล้วค่อยเฉลยว่าเอเลี่ยนก็ค่อยว่ากัน

คะแนน: ฉับๆๆ ไม่ใช่เสียงฉับ แต่เป็นเสียงตัดฉาก อิหยังวะอะวอร์ด สาขาตัดต่อส้นตีนพ่อมึงสิดีเด่น

ข้อเสนอแนะ: อย่าเล่นใหญ่เกินตัว คนเรามีพล็อตสเกลใหญ่ได้ไม่ใช้เรื่องแปลก แต่การที่สเกลใหญ่แปลว่าต้องทำการบ้านหนักขึ้นด้วย ต้องหาข้อมูลมากขึ้นด้วย ถึงจะเป็นนิยายแฟนตาซีไซไฟ แต่ถ้าเซตติ้งเป็นโลก นอกจากความสมเหตุสมผลแล้ว มันจะยังต้องมีความสมจริงและตรรกะบางอย่างที่เป็น common sense เป็น universal truth เรื่องนี้ถ้าจะแก้ไขคือควรไปแก้ไขทุบ Timeline เรื่องใหม่ ควรเขียนเส้นเรื่องให้ดีก่อนว่าจะเล่าอะไร 1 2 3 4 แล้วควรจะตัดสลับฉากตอนไหน จะได้ไม่ต้องตัดฉากพร่ำเพ้อ

คำถาม: ควรเอาไปให้มันอ่านไหม? แต่ดูท่าแล้วคงต้องลดทอนภาษาลงก่อน ไม่งั้นแม่งธาตุไฟเข้าแทรก จิตมารยึดร่างแน่

12 Nameless Fanboi Posted ID:mrI7VVIS4q

>>9-11 เรื่องเชี่ยนี่จริงๆ กูเคยจะสับเหมือนกัน แต่มันแม่งตั้งกระทู้โฆษณาสไตล์ดักควาย ทำ clickbait บ่อยเกินจนกูโกรธ ก็เลยเลิกสนใจแม่งเลย เขียนมาหลายปีดีดัก โฆษณาเรื่องเดิมๆ จนเป็นเอกลักษณ์ แต่มีคนอ่านแค่นี้มันก็เพราะความตัดฉาก ความคู่สร้างคู่สมกับน้องดีซ่านนั่นแหล่ะ ใครแต่งนิยายตัดฉากเยอะให้นึกถึงที่เพื่อนโม่งคนนี้สับด้วย เพราะนิยายมันมีข้อจำกัด เล่นกับการตัดฉากเยอะแบบภาพยนตร์ไม่ได้ อย่าลืมเสียล่ะ

13 Nameless Fanboi Posted ID:w29tc8F3Ap

ขอถาม PC ย่อมาจากอะไรอ่ะ

14 Nameless Fanboi Posted ID:YgzTV6Lo0a

>>13 Personal Computer

15 Nameless Fanboi Posted ID:4QGUAl3jzl

>>14 คนละ PC แล้ว บักสัตว์นิ

16 Nameless Fanboi Posted ID:Aa+gG5zlBF

ท่ดๆ คิดว่าเจอละ Political Correctness

17 Nameless Fanboi Posted ID:43jZvruI+l

>>9 เป็นนิยายที่เหมือนกูกำลังอ่านไดอะล็อคเตรียมแสดง Tellแต่ท่าทาง showบทพูดรัว ๆ

ก็...น่าเอ็นดูดี เหอ ๆ

18 Nameless Fanboi Posted ID:Aa+gG5zlBF

https://www.dek-d.com/board/view/3963803/
นิยาย? กรูนึกว่าแฟลกเจลลา

19 Nameless Fanboi Posted ID:vsKrYpCvoZ

กุงับเบ็ดเข้าให้แล้วล่ะ ชื่อมัน ควัยอุ่นดี ดุ้นใหย่

20 Nameless Fanboi Posted ID:xot8lbJSGE

อะไรของเทพกันต์วะ
https://www.dek-d.com/board/view/3963809/

21 Nameless Fanboi Posted ID:RuoZCswVho

>>18 เด็กประถมหัดแต่งประโยคอ่ะมึง กูอ่านไม่รู้เรื่องเลย

>>20 เขาอยากจะอวดว่ามีคนตามนิยายเขานะไง

มีใครแนะนำนิยายสยองขวัญแบบหลอนจัดๆ ได้บ้างมั้ย แนวฆ่ากัน แนวผี แนวจิตเพศ ในเด็กดีก็ได้ แต่กูลองหาดูละ อ่านพวกฆาตกรโหดยังจะเพลินกว่าเลย

22 Nameless Fanboi Posted ID:zjY4T5ySZs

กูสงสารน้อนเล่าเบียว
- เปลี่ยนชื่อเป็นภาษาจีน 刘备孔明 ซึ่งทำให้ตัวตนน้อนจืดจางสัสๆยิ่งกว่าเดิม (หรือดีแล้ววะ?)
- ไล่ตบมุกตามกระทู้แล้วเงียบกริบ ไม่มีใครสนใจ ขนาดกระทู้แต่งเรื่องด้นสดเจ้าตัวยังโดนเมิน
- ล่าสุดไปเล่นมุกพี่โตในกระทู้ดีซ่าน ดีซ่านตอบกลับแบบใสๆว่า "ไม่เกตมุก"

ข้อความเป็นธรัมให้เล่าเบียวด้วย By เล่าโปกFC

23 Nameless Fanboi Posted ID:zjY4T5ySZs

น้อนแค่พยายามสร้างคาแรคเตอร์ให้ตัวเองดูเป็น "คนกวนตีน" ตามที่เคยโฆษณาตัวเองเอาไว้ แต่ทำไมทุกคนถึงใจร้ายกับน้อนแบบนี้!!

24 Nameless Fanboi Posted ID:3k80ToUg04

>>22 ไอ้ด้นสดนี่กูฮามาก ไม่มีใครต่อเม้นมันเลย 55555

25 Nameless Fanboi Posted ID:JMykodA7jN

>>9 ขอบใจว่ะ มึงคือคนที่กูรอคอย สับซะกูไม่ต้องเสียเวลาชีวิตไปอ่านเอง ช่วงนี้คนสับน้อยมาก อยากบอกว่ารออ่านอยู่

26 Nameless Fanboi Posted ID:U+eFbWsCtM

https://www.dek-d.com/board/view/3963816/
น้องทีจีกูออกตัวแรงจนกูอยากให้น้องมาสับในโม่ง
ขนาดถอดหมวกยังแรว้งงงงงขนาดนี้ ในโม่งจะขนาดไหน

27 Nameless Fanboi Posted ID:U+eFbWsCtM

>>22 กรูจะให้ความเป็นธรัมกับนร้องงงง (อิสัสเหนื่อยกับ ‘ร’ แล้วกูก็เสือกอ่านแบบมี ร เองอีก ห่าไรของกู)

ไม่ใช่แต่น้องที่ไม่มีคนเม้นนะโว้ย หลายๆ คนก็โด้ย อย่าว่าน้อน

ถ้าน้อนร้องหั้ย มาให้พี่ปลอบจุยนะแจ๊ะ

อิเหี้ย เกลียดภาษาไทยตัวกูเองจังว่ะ ฮ่า ๆ ๆ

28 Nameless Fanboi Posted ID:RuoZCswVho

>>26 ใครวะทีจี กูตามไม่ทัน นี่กูโง่หรือกูงง

29 Nameless Fanboi Posted ID:0qZdoLlr1P

>>22 ดูพยายามเสนอหน้า สร้างตัวตนจน Cringe กูเลยปล่อยผ่านแม่ม เอาที่น้อนเบียวสบายใจจ้ะ

30 Nameless Fanboi Posted ID:3k80ToUg04

>>28 TG = ตุ๋นกบ

31 Nameless Fanboi Posted ID:hJ9GCpthP6

Tunkob = ตุ๋นกบ
TG = ตุ๋นเองนะกั๊บ
โม่งผู้คำนึงถึง PC เรียบร้อยแร้ว

32 Nameless Fanboi Posted ID:RuoZCswVho

จากบอร์ดของ>>26 ที่เอามาแปะ เลยแวบเข้าไปอ่านนิยายดู ต้องว่างและเบื่อมากอ่ะกูถึงกดสามรอบเพื่อเข้าหน้านิยาย
บอกก่อนว่า น้องเปิดการ์ดมือใหม่ แต่กูให้ระดับต่ำกว่ามือใหม่คือเด็กอนุบาลเขียนเรียงความวันแม่ มาเริ่มๆ

https://my.dek-d.com/1927/writer/view.php?id=2058891
ชื่อเรื่อง มาต่างโลกทั้งทีทำไมไม่ขออะไรดีๆกับพระเจ้า เเต่ดันขอให้ตัวเองไปอยู่ในโลกสงครามซะได้ (ยาวไปไหน!)
จำนวนตอน 4 ตอนรวมแนะนำตัวละคร
โปรยไว้ว่าอิงประวัติเหตุการณ์เล็กน้อย

ตอนที่หนึ่ง เริ่มที่ตัวเอกตื่นขึ้นมาอยู่ที่ไหนไม่รู้ด้วยความเจ็บปวด อธิบายอะไรได้เหี้ยมากจนกูไม่เข้าใจ จากนั้นตัวเอกก็เล่าย้อนกลับไปตอนที่ตัวเองอยู่ในห้องเรียนกับเพื่อนคนหนึ่งก่อนจะชวนไปกินข้าวมันไก่แล้วมีเหตุการณ์ยิงกัน กูก็พยายามอ่านให้เข้าใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คำผิด พิมพ์ตก บรรยายห่วยแตก คำซ้ำซ้อน ทำกูงงชิบหาย เอาเป็นว่าตัวเอกตายห่าพบกับพระเจ้าแล้วขอให้ตัวเองไปในโลกยุคสงครามตามชื่อเรื่องแบบงงๆ

ตอนสอง เปิดมาในฉากสนามรบ เน้นที่ประโยคสนทนารัวๆ พยายามใช้ภาษาอังกฤษ พยายามใส่เสียง ตู้ม ปัง รัวๆ ก่อนจบตอนไปที่ข้อมูลที่ยัดเข้ามายาวเหยียด

ตอนที่สาม ตัวเอกมาเกิดใหม่เป็นทารกตามสไตล์เกิดใหม่ต่างโลก แต่ได้เป็นเพศหญิง เนื้อหาตรงนี้ไม่ค่อยมีไรมากเป็นการบรรยายพัฒนาการเติบโต พอถึงวันเกิดอายุเท่าไรไม่ได้บอกก็ตัดจบตอน เท่าที่อ่านตอนนี้บรรยายรู้เรื่องที่สุดแล้วแต่กูจับใจความไม่ได้เฉยเลย โง่จัง

คะแนนไม่มี
ส่วนการตัๅดสิน นิยายแต่งไม่จบแน่นอน อย่าเสียเวลาอ่าน แนะนำให้ไปอ่านหนังสือพิมพ์ยังจะเสียดายเวลาชีวิตน้อยกว่า
อ้อ ไม่ได้สับนะ แค่บ่นอย่างคนว่างงานและเบื่อที่หัวไม่แล่น ไปนอนละ บรั๊ย~

33 Nameless Fanboi Posted ID:U+eFbWsCtM

>>32 เรื่องนี้กูเกือบสับเพราะเห็นไปโปรโมทในบอร์ด พอเข้าไปแล้วลองอ่านแบบสกิม ก็ค้นพบทางสว่างเลยมึง

ทางสว่างที่ดีที่สุดอยู่มุมขวาบนนนนนนนนนนนน กดปึกปิดแม่ม

34 Nameless Fanboi Posted ID:0gnZJ3nat/

>>22 กูขำจนปวดเยี่ยวเลย

35 Nameless Fanboi Posted ID:FCjqdDHD.F

>>20 เออ กูงงว่ามันต้องการสื่ออะไร เกี่ยวไรกับบอร์ดนักเขียน หน้าเฟสมึงไม่มีเพื่อนกดไลก์เหรอ

36 Nameless Fanboi Posted ID:wp0s530Jj6

เห็นมาโฆษณาในบอร์ด และต้องขอบใจปล่อยอึ่งหน้าหีที่อุตส่าห์ไปค้นลิงก์มาให้ กูเลยยอมเสียเวลาคลิกเข้าไปอ่าน อ่านไปก็หัวเราะไป เลยคิดว่าเอามาสับซักหน่อยดีกว่า

ชื่อเรื่อง: ไปสู่แดนฝัน
ประเภท: เรื่องสั้น (นิทาน/วรรณกรรมเยาวชน)
ผู้แต่ง: Pongpunnana
คำโปรย: ความพยายามของเขานั้นพวกเขานำไปสู่ความสำเร็จที่ทุกคนอาจไม่คาดคิดแต่ความประมาทของอีกคนนั้นนำไปสู่ความพินาศย่อยยับที่เขาก็ไม่ได้คิดเช่นกัน (เหี้ยอะไรวะเนี่ย)
ลิงก์: https://my.dek-d.com/Pongpunnana/writer/view.php?id=2051454

เปิดมาถึงก็มีบทแนะนำตัวละคร ซึ่งแม่งไม่มีความจำเป็นต้องทำเลย เนื่องจากมันเป็นเรื่องสั้นตอนเดียวจบ และตัวละครของเรื่องสั้นปกติจะไม่เยอะอยู่แล้ว มึงสามารถแนะนำตัวละครผ่านเรื่องที่มึงเล่าได้สบายมาก แถมไอ้ช่วงแนะนำตัวละครนี่คำผิดบรรลัยเลย ผิดหนักยิ่งกว่าในเนื้อหาจริงๆซะอีก ถ้ากูเป็นคนอ่าน กูคงกดออกละ แต่เนื่องจากกูสวมบทคนสับอยู่ เลยต้องทนอ่านต่อไปเพื่อจะได้รู้ว่ามันจะไปลงเอยกันอีท่าไหน

เนื้อเรื่องคร่าวๆก็คือ มีอาณาจักรอยู่สองอาณาจักร คืออาณาจักรขันติ พระราชาชื่อเชวา ราชินีชื่อเอมิน่า ปกครองบ้านเมืองอย่างสงบสุขด้วยทศพิธราชธรรม กับอาณาจักรราคะ (หรือราคาก็ไม่รู้ แม่งเขียนสลับไปสลับมา แต่ส่วนใหญ่เขียนราคะมากกว่า ก็เอาชื่อราคะละกัน) ปกครองโดยกษัตริย์ผู้ชั่วร้ายนามว่า โจซิส และราชินีสันดานเสียนามว่า โซเฟีย ซึ่งไม่ต้องเดาก็คงพอจะรู้ ว่าเดี๋ยวแม่งก็ต้องมีเหตุบาดหมางกันแน่นอน

อ่านมาถึงตรงนี้ กูมีเควสชั่นมาร์กหลายๆตัวขึ้นบนหัว คือชื่ออาณาจักรมึงดูเป็นอินเดียมาก แต่ชื่อเหล่ากษัตริย์ทั้งหลายนี่โคตรฝรั่งเลย แม่งไม่เข้ากันตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มเรื่องละ อารมณ์เหมือนเอาแป้งนานของอินเดียมาจุ่มแชมเปญแดกอะไรประมาณนี้เลย ช่างเหี้ยจริงๆ

มาต่อกันที่เนื้อเรื่อง ก็คืออีกษัตริย์โจซิสผู้ชั่วร้ายได้ส่งสาส์นมายังอาณาจักรขันติ ใจความก็คือท้าแข่งสร้างปราสาทกัน โดยมีข้อแม้ว่าถ้าอาณาจักรขันติแพ้ ก็ต้องส่งราชินีเอมิน่าที่เป็นชายาของราชาเชวาไปเป็นของกำนัลแด่กษัตริย์โจซิส (ทั้งที่มันก็มีเมียอยู่แล้ว) แต่ถ้าแพ้ก็จะยอมยกอาณาจักรราคะให้ ราชาเชวาก็เรียกประชุมทหารและเหล่าเสนาอำมาตย์ ส่วนใหญ่ต่างก็เสนอให้พยายามเจรจาต่อรองแก่อาณาจักรราคะ เพราะอาณาจักรราคะยิ่งใหญ่กว่า แข่งไปก็คงสู้ไม่ได้ ทว่ามีทหารคนหนึ่ง นามว่า เพลสโซ่ ยืนยันว่าสมควรรับคำท้า เพื่อให้สมกับชื่อของอาณาจักรเราที่ชื่อขันติ ซึ่งแปลว่าความอดทน อดกลั้น (โดนเขาหมิ่นเกียรติแล้ววิ่งโร่ไปรับคำท้าเขานี่ มันอดทนอดกลั้นยังไงฟะ) ราชาเชวาก็เห็นด้วย เลยจัดทัพยกไปยังอาณาจักรราคะทันที (แล้วพี่ไม่ส่งสาส์นตอบก่อนตามธรรมเนียมหรอกเหรอ)

ราชาเชวาก็ยกทัพมาถึงอาณาจักรราคะ คุยกับทหารยามอีท่าไหนไม่รู้ ก็ยอมเปิดประตูให้เข้าเมืองไปเจรจากับกษัตริย์โจซิสที่รออยู่ข้างใน ระหว่างนั้นราชาเชวาก็เห็นประชาชนพลเมืองของโจซิสอดอยากกันมาก ก็อดสงสารไม่ได้ พอได้เจอกับโจซิสที่นั่งว่าราชการกับราชินีของมัน ก็เลยเจรจากันว่าจะแข่งกันสร้างปราสาท โดยมีข้อแม้ 3 ข้อ คือ 1. ห้ามโกง 2. ถ้าแพ้ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของอีกฝ่าย (มึงเสียเมียอย่างเดียวไม่พอใช่ไหม) 3. ห้ามใช้เวทมนตร์ในการสร้างปราสาท

กษัตริย์โจซิสตอบตกลง เพราะเห็นว่าอาณาจักรของตนยิ่งใหญ่กว่าอยู่แล้ว ยังไงก็ชนะ ซึ่งทางฝ่ายราชาเชวา พอกลับเมืองไปก็รีบสร้างปราสาทด้วยไม้ทันที (ปราสาททำด้วยไม้? มึงเอาอะไรคิด?) ชาวบ้านประชาชนมีใจรักในกษัตริย์ของตนก็รีบมาช่วยสร้างเป็นการใหญ่ ทว่าพอใกล้จะถึงกำหนดนัดหมาย ก็มีมือปริศนามาเผาปราสาททิ้ง ซึ่งจริงๆก็คือคนจากอาณาจักรราคะมาป่วนนั่นเอง เหล่าเสนาอำมาตย์ต่างก็บอกให้ราชาเชวาใช้เวทมนตร์เถิด เดี๋ยวจะสร้างไม่ทันเวลา แต่ราชาก็ยึดถือความสัตย์ บอกว่าเราต้องใช้ขันติ ใช้ความมานะอดทนสร้างมันให้ได้ คราวนี้เลยสร้างปราสาทขึ้นมาจากเพชรพลอยแทน และในที่สุดก็สร้างเสร็จทันเวลาพอดี

กล่าวฝ่ายอาณาจักรราคะ กษัตริย์โจซิสหลงเมีย เมียพูดเหี้ยอะไรก็เชื่อ พอดีช่วงนั้นเมียก็คลอดบุตรีออกมาพอดี เลยเกณฑ์คนไปสร้างปราสาทให้เจ้าหญิงน้อยที่เพิ่งประสูติ แทนที่จะมาสร้างปราสาทตามที่ได้พนันแข่งเอาไว้ (โง่ชิบหายเลยบอกตามตรง) สุดท้ายก็เลยแพ้ อาณาจักรราคะจึงต้องตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรขันติ และราชาเชวากับราชินีเอมิน่าก็ปกครองบ้านเมืองด้วยความสงบสุขร่มเย็นสืบไป ตราบนานเท่านาน จบบริบูรณ์ จบซะทีไอ้เหี้ย

ข้อคิดของนิทานเรื่องนี้ ตามที่คนเขียนได้ว่าไว้ คือ ความเพียรพยายาม ความขยันอดทนนำไปสู่ความสำเร็จ ชัยชนะ (เออ กูเชื่อก็ได้)

(เดี๋ยวมาสับต่อ รอแป้บ)

37 Nameless Fanboi Posted ID:wp0s530Jj6

อ่ะ หลังจากฟังเรื่องราวสุดกาวไปแล้ว ก็มาถึงบทวิจารณ์ละ

บอกตามตรง ถ้ากูเป็นเด็กประถม แล้วมีคนเอานิทานเหี้ยนี่มาเล่าให้ฟัง กูคงถามคนเล่าไปว่า "พี่ฮับ ทำไมนิทานพี่ถึงกากจังฮับ" ดูถูกสมองเด็กมากเลยอีเหี้ย

เข้าไปอ่านแล้วบอกตามตรงอยากจะปิดหนีเลย คือคนเขียนแม่งแทบไม่เว้นบรรทัด กลัวปุ่ม Enter ถลอกรึไงไม่รู้ ทั้งที่แม่งก็เว้นบรรทัดเป็นนะ ผลก็คือตัวหนังสือติดกันเป็นพืด จนกูต้องใช้ขันติแบบที่นิยายมันสอน ท่องบอกตัวเองไว้ว่าจงอดทน อดกลั้น มันมีแค่ตอนเดียวก็จบแล้ว ถึงได้อ่านจบแล้วเอามาสับให้พวกมึงอ่านกันได้นี่แหละ

เนื้อหาโคตรแห่งความบรรลัยไส้ คือถ้ามีใครบอกว่าเด็กประถมหรือเด็กอนุบาลแต่งนี่กูจะให้อภัยอยู่นะ แต่ถ้าคนเขียนอยู่ในวัยมัธยมขึ้นไป กูว่าสมควรไปเช็คสมองด่วนละ เป็นนิทานก็ไม่สนุก ข้อคิดก็ไม่เห็นจะตรงกับที่นิทานพยายามจะสื่อเลย และไอ้คนเขียนกูว่ามันยังไม่เข้าใจระหว่างคำว่า "ขันติ" กับ "วิริยะ" ด้วยซ้ำ ไอ้ที่มันพยายามจะสื่อออกมาจากในนิยายน่ะ มันคือวิริยะที่แปลว่าความเพียร ความพยายาม ไม่ได้เกี่ยวกับขันติที่แปลว่าอดทนอดกลั้นต่อสิ่งเร้าเลย ซึ่งถ้ามันจะยึดข้อนี้เป็นข้อคิดจากนิยายมัน ราชาเชวาต้องทำตามที่เสนาอำมาตย์บอก คือไม่โกรธ ไม่เต้นตามที่อีกฝ่ายท้าเหยงๆ หาทางลงแบบไม่ต้องเจ็บตัวทั้งสองฝ่ายอะไรประมาณนี้ต่างหาก

เรื่องชื่อตัวละครกับอาณาจักร กูก็วิจารณ์ไปแล้ว ขอแถมอีกนิดหนึ่งละกัน ว่ามันเกี่ยวเหี้ยอะไรกับชื่อนิทาน ไปสู่แดนฝัน ของมึงวะ ไม่มีเหี้ยอะไรเข้ากันซักอย่าง เหมือนแป้งนานจุ่มแชมเปญเสร็จแล้วไม่พอ เอาไปคลุกกับวาซาบิซ้ำอีก กะให้คนเสพอ้วกแตกให้ได้ จะเหี้ยทั้งทีก็ต้องไปให้สุดสินะ

ในการเขียน มีความพยายามจะใช้คำราชาศัพท์ แต่เนื่องจากคนเขียนไม่เชี่ยวชาญ เลยเสือกออกมาง่อยมาก กูจะยกตัวอย่างประโยคหนึ่งให้ฟังละกัน มันเป็นประโยคที่ทำให้กูหัวเราะลั่น หงายหลังตกเก้าอี้ กุมท้องหายใจไม่ออก ทรมานเหี้ยๆ

มันคือคำพูดของโซเฟีย อีราชินีดอกทองของอาณาจักรราคะนั่นเอง มีใจความดังนี้

"มิได้นะเพคะท่านพี่ ไตร่ตรองดูนะเพคะ อิฉันเตือนไม่ชอบพวกต้อยต่ำ..."

ขอโทษนะ ราชินีพูด "อิฉัน" ว่ะ กูอ่านถึงตรงนี้สำลักหัวเราะพรืดเลย 55555555555555555555555555555555

และสุดท้าย ท้ายสุด มึงอุตส่าห์เขียนในข้อตกลงว่ามีการห้ามใช้เวทมนตร์ กูขอบอกเลยว่า ถ้าไอ้คนเขียนมันนั่งอยู่แถวๆกู หลังจากกูอ่านจบ กูอยากจะกระชากคอมันมา ตะคอกถามว่า

"ไอ้สัส ทำไมกษัตริย์โจซิสไม่ใช้เวทมนตร์ สร้างปราสาทให้ลูกสาว เสร็จแล้วก็สร้างปราสาทตามที่พนันกันไว้วะ"

สรุป เป็นนิทาน ที่พวกมึงมีลูกมีหลาน อย่าเอาให้อ่านเลย อ่านไปกูว่าเด็กแม่งยังเบ้ปากใส่อ่ะ บอกตามตรง

38 Nameless Fanboi Posted ID:4xxbeIcXX3

ขอบคุณเพื่อนโม่ง สำหรับความเหนื่อยยาก

39 Nameless Fanboi Posted ID:5FEJHI5l5q

>>23 อย่าลืมว่าต้อง 'โรคจิต' แบบสมคิดด้วย น้อนบอกไว้ หุหุหุ

40 Nameless Fanboi Posted ID:TfBYUpADqo

>>36 กูอยากถามคนเขียนว่าทำไมไม่สร้างปราสาทด้วยเพชรพลอยแต่แรก? สร้างไม้ให้มันมาเผาทำพ่องในเมื่อแม่งใช้เวลาน้อยหรือเท่ากันด้วยซ้ำ คืออยากประหยัดว่างั้น ปวดหัว ตื่นมาก็บินเลยสมองกู ขอบคุณโม่งที่สละเวลาชีวิตมาสับให้อ่าน เอาจริงกูอ่านคำโปรยก็อยากปิดนอนตายอีกรอบอ่ะ

41 Nameless Fanboi Posted ID:Pv1/xYqJvl

>>37 ขอบคุณโม่งสับ

42 Nameless Fanboi Posted ID:uol/jjCJh8

>>20 เดี๋ยว กูเพิ่งสังเกตว่าเทพกันต์เอารูปน้อยเปลือยท่อนบนตอนเด็กมาลงในมู้ด้วย อห

43 Nameless Fanboi Posted ID:IC0uOWhIlw

>>42 นิสัยชอบเปิดเผย...เรื่องส่วนตัว

44 Nameless Fanboi Posted ID:K/EFBWs0hJ

>>23 น้อน cumback เหรอวะ ไหนว่าปิดกิจการสิบปี

45 Nameless Fanboi Posted ID:YJEcseJv0n

>>43 รูปตัวเองยังพอว่า นี่เอารูปคนในครอบครัวมาลง ถ้ากรูเป็นน้อง กรูโกรธนะ

46 Nameless Fanboi Posted ID:IC0uOWhIlw

>>44 มันก็กลับมาตั้งนานแล้วไม่ใช่เรอะ แต่หลังจากเพิ่งหน้าแหกเลยกลับมาในโหมดคนไร้ตัวตน ต้องเจียมตัว เพลาๆความเบียวลงหน่อย ตอนนี้กำลังพยายามสร้างสายสัมพันธ์ฉันพันธมิตรกับพวกหน้าใหม่ในบอร์ดอยู่ ด้วยการโผล่ไปหยอดมุกเป๊ก+เสนอหน้า+อาสาใจดี+โชวพาวเล็กๆน้อยๆ

มีที่วอนนาบีสุดคือการตั้งกระทู้อาสาตรวจคำผิดให้คนอื่นhttps://www.dek-d.com/board/view/3962895/
ลองเข้าไปดูที่มันช่วยแก้เรื่องแรกละกุมขมับ คือ...เป็นนักตรวจคำที่กูแม่งต้องมีวิจารณญานติดตัวอีกชั้นนึงอ่ะ ไม่งั้นพานิยายกูลงเหวพอดี อย่างจะให้แก้คำว่า เว่อร์ เป็น เวอร์ //โอเคจร๊ะๆ

47 Nameless Fanboi Posted ID:8YZCwumOZF

>>46 https://www.dek-d.com/board/view/3963882/ เล่าโปกไม่ได้ทักเรื่องน่ะคะน่ะค่ะแต่อย่างใด เลิกตรวจแล้วหรอถถถ

48 Nameless Fanboi Posted ID:YJEcseJv0n

น้อนมีโจ๊กเกอร์เป็นแรงบันดาลใจ "ถ้าท่านเมพในเรื่องใด อย่าทำให้ใครฟรีๆ" แต่งกลอนก็คิดตัง ตรวจคำผิดก็คิดตัง ทำซะโม่งดูอ่อนหัดไปเรย

49 Nameless Fanboi Posted ID:VBfqIWAdOT

นิยายเขียนไปสองตอนมีนักอ่านมาตามโฆษณาในบอร์ด ไม่รู้กูอคติไปเองหรือเปล่า แต่แม่งเหมือนเนียนแปะนิยายตัวเองแล้วแกล้งเป็นนักอ่านอยากติตาม ไว้จะลองอ่าน สองตอนเอง แปะก่อนหมั่นไส้
https://www.dek-d.com/board/view/3963889/

50 Nameless Fanboi Posted ID:/EJ1bdrPLW

ก็มองได้หลายแบบ สมมุติกุเป็นประชากรส่วนน้อยที่ชอบแนวนี้ แล้วคนเขียนแม่งดองและกุก็หาเรื่องอื่นในหมวดเดียวกันที่สนุกๆ ไม่ค่อยเจอ ก็อาจจะลองมาโพสเล่นๆ ในบอร์ดว่าเฮ้ย.. มีใครแต่งแนวนี้มั่งมั้ยมึง กุจะลงแดงตายแล้ว แต่ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนเข้ามาตอบนะ << อะไรประมาณนี้แหละมั้ง

51 Nameless Fanboi Posted ID:KRmoan.zih

ขอคำแนะนำหน่อยเหล่าสหายโม่ง
พวกเสียงกรี๊ด เสียงบาดเจ็บ เช่น โอ๊ย! อ๊าก! อึก! กรี๊ด!
ใส่บงไปในนิยายได้ไหม
คือเรื่องที่กูกำลังเขีบนมันเกิดเหตุการณ์อันธพาลสองกลุ่ม แล้วต่อยกัน

กูเคยเห็นที่มาเป็นซาวเยอะจนกูตัวสั่น

มันต้องใส่ไหมวะ จำเป็นขนาดไหน หรือไม่ต้องใส่ก็ได้ แล้วอธิบายเอา

52 Nameless Fanboi Posted ID:5.IUMdEnfa

โอ๊กกกก!
แล้วแต่อ่ะมึง คำมันบ่งบ่องอารมณ์ความรู้สึกได้ ที่บ่นกันในโม่งคือมันมาแต่เสียงไม่ค่อยบรรยาย หาจุดที่พอดีก็ใช้ได้แล้วแหละ

53 Nameless Fanboi Posted ID:okaJmSrDvz

>>51 ใส่เยอะมันน่าด่า แต่ซาวมันช่วยเรื่องจินตนาการได้ มึงใส่ก็อย่าลืมบรรยาย อย่าทำแบบอีนิยายแจ่มขุนที่มันใส่มาแค่ "ตุ้บ ผัวะ พลั่ก! อ๊ากกกก" ไม่รู้เรื่องเหี้ยไรเลย

54 Nameless Fanboi Posted ID:VBfqIWAdOT

ของกูก็ใส่นะ มันทำให้ได้อรรถรส แต่ก็ต้องมีบรรยายประกอบบ้าง อีกอย่างอย่าใส่เยอะเกินไปจนน่ารำคาญอ่ะ บางเรื่องแม่งกรี๊ดไปเกือบทั้งตอนไม่รู้กรี๊ดเหี้ยไรนักหนา ก็ประมาณนั้น

55 Nameless Fanboi Posted ID:n2+RtU2PLN

กูขอถามอะไรหน่อย Microsoft Word แค่โปรแกรมเดียวช่วยเขียนนิยายได้จริงๆเหรอ

56 Nameless Fanboi Posted ID:VMcRMrfrB9

https://www.dek-d.com/board/view/3963850/
สับไปเป็นคุ้งเป็นแควกุก็นึกว่าลงนิยายมาสักตอนสองตอนแล้ว
พอเห็นเม้นท์สุดท้ายเท่านั้นแหละ เชี่ย..เท่าเดิมนี่หว่า

57 Nameless Fanboi Posted ID:HHK/JFMdmy

>>52 >>53 >>54 ขอบใจเพื่อนโม่งมาก กูลองเอาไปปรับใช้ ตอนแรกเขียนแบบไม่มีเสียง โคดไม่ได้อารมณ์เลย

58 Nameless Fanboi Posted ID:HRqazJ0CRb

>>56 งั้นแม่งน่าคิดว่าอะไรดลใจให้สับได้เป็นคุ้งเป็นแควทั้งๆทั้งๆที่ยังไม่มีอะไรเลย555
>>55 แล้วมึงยังจะต้องการอะไรอีก หืม? พู่กันจีนมั้ย
นักเขียนเมื่อก่อนมีแค่กระดาษปากกา ยางลบแม่งยังไม่มี แค่นี้ก็เขียนได้แล้ว (ถ้าไม่นับขั้นตอนการเผยแพร่สู่นักอ่าน)

59 Nameless Fanboi Posted ID:lhoA4qlULW

>>55 เวิร์ดไม่ได้ช่วยมึงเขียน มึงแค่ใช้เวิร์ดเป็นเครื่องมือในการเขียน เวิร์ดมันเป็นโปรแกรมจัดการเอกสาร เหมาะกับการจัดการข้อความยาว ๆ อยู่แล้ว ถ้ามึงไม่ชอบใจจะใช้โน้ตแพดใช้เอ็กเซลเขียนก็ได้ แล้วแต่มึงจะสบายใจอ่ะ

60 Nameless Fanboi Posted ID:vQJ.HHqamm

Word มันเสียตังค์ ใช้ OpenOffice ดีกว่า

61 Nameless Fanboi Posted ID:ymnGdhVrM2

>>56 จากที่อ่านเม้นต์น้อน น่าสับสนงวยงงงงงวยยังไงวะ..
อิมินมันเล่าแบบย้อนอดีต ด้วยปัจจุบันที่อยู่ในหลุมดำ แล้วค่อยเดินเรื่องไปข้างหน้าเมื่อลืมตาตื่น
เออ.. ยอมรับว่าคนเขียนก็ป่วงหน่อยๆ แหละ

62 Nameless Fanboi Posted ID:1Sas4Vyn1S

>>57 ใส่ได้นะแต่อย่าบ่อย ไม่งั้นมึงจะโดนด่าว่าแยมขาวสไตล์ (หรือดอกปอบสไตล์) กลายเป็นเสนียดติดช่องคอมเมนต์นะมึง

63 Nameless Fanboi Posted ID:1Sas4Vyn1S

>>36 นักเขียนชื่อ "พ่องพรรณนา" แปลว่า เล่ารายละเอียดได้เหี้ยจนคนด่าพ่อง

64 Nameless Fanboi Posted ID:F6ZX8xTirc

https://www.dek-d.com/board/view/3963928/
เห็นมู้นี้แล้วปวดใจเบาๆ การบรรยายที่ถนัดไม่ได้แปลว่าบรรยายเก่งช่ะ อย่างที่อีน้องหมูหันบรรยายมานั่นไม่เรียกว่าบรรยายเก่งเขียนดีนะ ยิ่งถ้าไม่ใช่นิยายทำอาหาร มึงมาบรรยายฉาก scrambled egg ซะละเอียดขนาดนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการแวะเยี่ยวข้างทางป่ะวะ

65 Nameless Fanboi Posted ID:KQS7BIhlLZ

>>64 ฟองเบียร์สไตล์

66 Nameless Fanboi Posted ID:fSoRS81/c+

>>64 ถ้าเรื่องเน้นไปทางทำอาหารก็น่าจะต้องบรรยาย แต่กูชอบอ่านบรรยายเวลาเข้าแข่งทำอาหารไรงี้มากกว่านะ หรือว่าทำอาหารแบบต้องโชว์ให้คนพวกที่ดูถูกว่า ห่านี่ทำไม่ได้ แล้วตัวเอกก็โชว์ทำอาหารเทพให้ดู
แต่ถ้าอยู่บ้านชิล ๆ แล้วมาบรรยายทำอาหารซะละเอียด
กูอ่านข้ามไปเลยยยยยย บั๊ย

67 Nameless Fanboi Posted ID:F6ZX8xTirc

>>66 กูเข้าไปดูนิยายมันมาละ แม่งแค่อยู่บ้านเฉยๆ ว่ะ 555555555

68 Nameless Fanboi Posted ID:OK7/uoEv8l

>>67 สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ นั่งหานิยายมาสับดีกว่า

69 Nameless Fanboi Posted ID:F6ZX8xTirc

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว สับแม่งเลยดีกว่า เสียเวลาอ่านมาขนาดนี้

[Destiny Teller] Help Me Please เมื่อชะตาเล่นตลก by นักเขียนใต้ผ้าห่ม
https://writer.dek-d.com/nakkhentaipahom/story/view.php?id=2020679

คือ Destiny Teller นี่จากฟามเข้าใจคือน่าจะเป็นเดอะแก๊งเขียนนิยายเหมือนทาเล้นต์วันไรงี้ป่ะคะ? หรือจะมีแบบตัวละครมา cross-over กันเหมือนพวกสี่หัวใจแห่งขุนเขา สุภาพบุรุษจุฑาเทพ? แต่กูเห็นมีนิยายเทพโตะยุคยูตะของเล่าโปก กับเรื่องแห้งกูโลกด้วยนะไอ้ชิบหาย มีอนาคตสัสๆ เอาเป็นว่าขอด่าชื่อเรื่องก่อนว่ามีเหี้ยอะไรสอดคล้องกันบ้าง Help Me Please ชื่อขอให้ช่วย แต่ชื่อไทยเสือกเป็นเมื่อชะตาเล่นตลก เอ้า เอากับมึงแล้วกัน หรือมันจะพยายามแจ่มใสแบบแต่ก่อนวะ? เอาเถอะ จากหน้าเรื่องสกิมผ่านๆ น้องหมูหันบอกว่าพล็อตสุดฮา เราจะมาดูกันน๊ค๊ว่าฮาจริง หรือฮากริบ

เรื่องย่อ:
บทนำ - ไอ้สัส การจัดหน้าเพื่อสร้างความแตกต่างได้โผล่มาให้ได้เห็นกันอีกแล้วข่ะทั่นผู้ชม! บทนำอีห่านนี่จัดหน้ากึ่งกลางจ้าาา ส่วนเนื้อเรื่องมีอยู่สั้นกระจึ๋งนิดว่าด้วยสำนักดูดวงชื่อมนต์ทาร์โร่ที่มีเด็กสาวคนหนึ่งเป็นเจ้าของสำนัก แล้วก็มีเด็กสาวอีกคนมาดูดวง ในตอนไม่มีห่านอะไรนอกจากบรรยายแม่หมอและสำนักแบบงงๆ มีการทำนายว่าคนที่มาดูดวงจะได้คู่ และจบด้วยคำว่า "ถ้าคุณอยากรู้อนาคตก็มาที่นี่สิ สำนักมนต์ทาร์โร่ยินดีต้อนรับ" และ FYI ถ้าไพ่ Tarrot มึงควรจะถอดคำเป็น ทาโรต์ไหมอีควาย มึงเขียนทาร์โร่แบบนี้กูนึกว่าปลาทาโร่ ว้อยยย

ตอน 1 - นทีเทวดาฝึกหัดตัวป่วนประจำสวรรค์เริ่มป่วนโชคชะตาชาวบ้านเล่น จะมาป่วนพิณนาแต่ดันมีโค้ดซ่อนเลยทำให้ error สุดท้ายไฟเลยดับกันทั้งสวรรค์ นทีเลยจะขอไปโลกมนุษย์เพื่อไปขัดด้ายแห่งโชคชะตาให้กับพิณนา(?) คนในสวรรค์ก็เลยเฮกัน ส่วนพิณนาพอเลิกเรียนก็ไปทำงานหมอดู แวะเจอเด็กที่เอาขนมมาให้ แล้วก็ไปดูดวงให้แจ๋วกับไทม์ แจ๋วจะเจอเนื้อคู่ (อีกแล้วเรอะ?) ส่วนของไทม์จับไพ่ขึ้นมาแล้วก็บอกว่าทำนองว่าจะเจอคนรักใหม่ สำนักส้นตีนนี่แม่งดูเป็นแค่เรื่องความรักเหรออีชิบหาย เห้อ แต่ดันมีคนตามไทม์ไปก่อน ก็สรุปว่าไทม์จะได้เจอความเปลี่ยนแปลงในชีวิตแน่ๆ และ แท้แด้! ไปตามอ่านเรื่องของไทม์ได้ในลิงก์นี้นะคะ..........วดฟ!!! มึงควรจะใช้พื้นที่ตอนแรกๆ ของนิยายตัวเอง ในการเกริ่นเขียนปูเรื่องไหมอีควั๊ยยยยย ไม่ใช่มาเขียน tie-in ให้เรื่องอื่นว้อยยยย กูวิปแล้วนิ

ตอน 2
เปิดมาด้วยฉากตื่นนอน ต้มน้ำ ทำ scrambled egg แบบบรรยายละเอียดถี่ยิบแม้กระทั่งสีตู้เย็น! ลืมไส้ชีสก็ยังต้องบอก แถมด้วยการบรรยายรสชาติอาหารแบบมาสเตอร์เชฟจะต้องน้ำตาไหล! ก่อนจะไปรร.ก็แวะมาดูดวงให้ตัวเองก่อน แต่ต้องไปแล้วเลยถ่ายรูปไพ่เก็บไว้ เลยเดินไปถึงชั้นล่างที่เป็นห้องสมุด ก็บรรยายหีแตดอะไรก็ไม่รู้เกี่ยวกับนิทานของอัลเลน.....ทักทายป้าวธุรสแล้วก็ไปรร. ครูบอกว่าวันนี้มีนร.แลกเปลี่ยนมานะ ให้ไปรับที่สนามบินดอนเมืองกับวายุหน่อยเดี๋ยวครูให้ตังค์ค่าแท็กซี่(????) บรรยายว่าวายุชื่อประธานนร.นะ ไม่ได้เป็นแฟนกัน หลังเข้าแถวเลยไปรับนร.แลกเปลี่ยน แต่หน้ารร.ไม่มีแท็กซี่เลยต้องขึ้นรถเมล์ไปก่อน วายุก็เขินๆ เพราะแอบชอบพิณนาตั้งแต่ม.1 แต่ไม่กล้าบอกทั้งที่พิณนาเป็นรักแรกและรักเดียว เพราะกลัวจะทำลายความสัมพันธ์

หมดละไอ้สัส จบเถอะ พอเถอะ อีเหี้ยยยย พ๊ออออ!!!

70 Nameless Fanboi Posted ID:F6ZX8xTirc

ต่อจ้าต่อ

เนื้อเรื่อง:
โอเค ข้อดีเพียงหนึ่งเดียวของเรื่องนี้ที่กูเห็นหลักๆ คืออย่างน้อยใน 3 ตอนที่อ่านมา ก็ทำให้กูพอรู้ได้ว่าไอ้เทวดานทีแม่งต้องมาแก้ไขเรื่องป่วนๆ ที่ทำลงไปด้วยการมาอยู่ข้างตัวนางเอก ก็คงจะเป็นรักคอมเมดี้สไตล์แจ่มใสที่เคยนิยมกันสมัยวัยติ่งหู ที่เหลือ..กู-ไม่-เห็น-เหี้ย-อะไร-เลย แล้วพล็อตเทวดาตกสวรรค์เนี่ย ทำให้กูไปนึกถึงนิยายที่เอามาทำซีรีส์ ที่เจเจ กฤษภูมิเล่นเป็นพระเอกไปอีก เห้อ

ตัวละคร: พร่ำบอกแต่ว่านางเอกแม่งเพอร์เฟ็คซะเหลือเกิน ไม่รู้จะเพอร์เฟ็คเหี้ยอะไรขนาดนั้น บุคลิกนิ่งๆ เย็นๆ เรียบร้อย อ่อนโยนตั่งต่างประหนึ่งนางเอกนิยายมังงะประเภทคุณหนูผู้มีคะแนนนิยมสูงปรี๊ดในรร. แต่ที่กูสัมผัสได้คือควาจูนิเบียวสัสๆ อีนางเอกเรียกน้ำในกาต้มน้ำว่าคุณธารางี้ ไอ้เทวดาเหี้ยนั่นก็เด็กเปรตน่ารำคาญชิบหาย ตัวละครทั้งสองตัวไม่ได้มีความน่าเอาใจช่วยเลย ผีเน่ากับโลงผุชัดๆ ในฐานะกูอยากเห็นความชิบหายของมันทั้งคู่มากกว่าความรักอีก มึงเก่งจริงๆ ที่เขียนมาแค่นี้ก็ทำให้คนอ่านไม่ชอบตัวละครมึงได้

71 Nameless Fanboi Posted ID:F6ZX8xTirc

ไม่พอ ขออีกเม้นท์
การดำเนินเรื่อง:
หาความสมเหตุสมผลและความสมจริงไม่ได้เลยสักนิด เหมือนมึงสักแต่จะเขียนส่งๆ ไป กูอ่านกูก็ปวดหัวปวดใจ ตัวอย่างมีเยอะสัสๆ จนไม่รู้จะเอาเรื่องไหนมาพูดก่อนดี เอาแค่เรื่องครูให้นร.สองคนไปรับนร.แลกเปลี่ยนที่สนามบินก็ได้ ปัญญาอ่อนชิบหาย!! เรื่องนี้คือผิดเหี้ยๆ เพราะถ้าครูเป็นผู้ประสานงานโครงการ ครูโดนเละแน่ๆ มึงมีความจำเป็นไหมที่ต้องให้ไปรับที่สนามบิน แล้วบรรยายเยิ่นยาว ต้องไปขึ้นรถเมล์ ขึ้นรถแท็กซี่ มึงจะให้มันโผล่หัวมารร.เลยก็ได้เปล่าวะ? หรือที่นางเอกดูดวงให้ตัวเอง ปรกติแล้วหมอดูเขาดูดวงให้ตัวเองไม่ได้ไม่ใช่อ่อ?? คือเหมือนมึงเรียนรู้มาครึ่งๆ กลางๆ แล้วก็มาโชว์เหนืออะ ทรงเดียวกับเพื่อนที่เขียนในเซตเดียวกันเลยน้า

3 ตอนที่อ่านมาเนื้อเรื่องแถบไม่ได้เดินไปไหนไกลเลย มีแต่บรรยายห่าเหวอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง เหมือนนึกออกว่าอยากจะเล่าเรื่องนี้ก็จับยัดขึ้นมาเฉยๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากดูดวงตัวละครอื่นที่ไม่ได้สื่อถึงสิ่งสำคัญใดๆ ต่อเส้นเรื่อง เด็กที่เอาขนมมาให้นางเอก ห้องสมุด นิทานที่มีลินเนตน์เป็นตัวเอก กูอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจว่าจะสื่อถึงเหี้ยอะไร อยากให้เห็นอะไรในตัวนางเหรอ? กูเห็นแต่ความลอยๆ ลอยเหมือนอีห่านี่ปุ๊นเนื้อมาชัดๆ นิยายมึง slice of life แบบควรไปตายมาก มึงบรรยายห่าเหวอะไรนักหนากับไอ้การตื่นนอนมาทำกับข้าว แต่งตัวไปโรงเรียน ขึ้นรถเมล์ เดินไปโรงเรียนต่างๆ นิยายมึงคือทั้งฟองเบียร์ทั้งแวะเยี่ยวจริงๆ หัดเขียนอะไรที่มันสำคัญต่อเนื้อเรื่องบ้างสิวะ

แล้วจุดที่อิหยังวะมากๆ คือแทนที่จะใช้พื้นที่เขียนเกริ่นปูพื้นฐานปูปมนิยายของตัวเอง เสือกเอาพื้นที่ตั้งแต่ต้นเรื่องไปโฆษณานิยายคนอื่น ถ้ามันไม่ได้เป็นตัวละครหลักที่จะ cross-over กับนิยายตลอดเรื่องของมึง มึงก็ไม่ควรจะทำอะไรแบบนี้ให้เปลืองพื้นที่หน้ากระดาษว้อย เอาไปใส่ไว้ตอนกลางเรื่องก็คงไม่ตายหรอกอีชิบหาย

และที่สำคัญ! กูหาจุดขำไม่เจอสักเสี้ยวกะผีกเลยว้อยยยยยยย

การเขียนและการใช้ภาษา:
สรรคำใช้คำได้แปลกสัสๆ เขียนวนไปวนมา ใช้คำซ้ำคำซ้อน ใช้คำเชื่อมประโยคทั้งสันธานและบุพบทซ้ำๆ เหมือนไม่รู้จักคำอื่นและไม่ได้อ่านปรู๊ฟรี้ดดูอีกที หลายจุดคือหาความเชื่อมโยงกันไม่ได้อีกต่างหาก ไม่ใช่แค่ความเชื่อมโยงระหว่างย่อหน้า แต่เป็นความเชื่อมโยงภายในย่อหน้าด้วย เหมือนอยู่ดีๆ อยากจะเขียนเรื่องนี้ก็เขียนขึ้นมาเลยซะงั้น แล้วเขียนเหมือนไม่รู้จักการเคาะเว้นวรรคและการเคาะย่อหน้าใหม่

Ex. 'เมียน้อย? ความตาย? ความวุ่นวาย? คนในอดีต? การเปลี่ยนแปลง?' ก่อนจะได้ครุ่นคิดมากกว่านั้นเสียงนาฬิกาที่เด็กสาวตั้งเอาไว้ก็ดังขึ้นเด็กสาวจึงใช้สมาร์ทโฟนถ่ายรูปเก็บเอาไว้แล้วจึงเก็บไพ่เข้าสำรับให้เรียบร้อยก่อนจะคว้ารีโมตตมาปิดแอร์แล้วจึงหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมล๊อคห้องเจ้าสำนักเสียงของพื้นไม้และรองเท้าดังขึ้นอีกครั้งและดังไปเรื่อยๆจนถึงชั้นหนึ่งหรืออีกชื่อก็คือ 'ห้องสมุดมอยเร'เป็นที่รวบรวมเรื่องเกี่ยวกับการดูดวงและโชคชะตาเอาไว้และมันยังมีนิทานที่แต่งโดยอัลเลนและมียอดขายกว่าร้อยล้านเล่มทั่วโลก เป็นเรื่องราวของ 'ลินเนตน์' เด็กสาวผู้เกิดในโลกที่โชคชะตาคือทุกสิ่ง หมอดูคืออาชีพทรงเกียรติ เครื่องรางไม่ใช่สิ่งงมงายแต่จู่ๆก็มีกลุ่มต้อต้านทำให้เกิดสงคราม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่แม่ของเธอเล่าให้ฟังเป็นประจำและเธอก็ชอบเรื่องนี้มาก

แล้วก็งงใจในการใส่ภาษาอังกฤษมาเขียนในเรื่อง เช่น Taxi คือมึงเขียนว่า แท็กซี่ก็ได้ป่ะ error กูยังพอเข้าใจนะอีห่าน แล้วที่กูเกลียดคือมึงจะย้ำเหี้ยอะไรนักหนา ชื่อคนโผล่มาครั้งแรกถึงจะไม่ชอบ แต่ก็กูยังพยายามเข้าใจ แต่นี่แม้กระทั่งคำนาม คำกริยาทั่วไป หรือสิ่งของที่ไม่ได้มีความสำคัญหีแตดใดๆ กับเนื้อเรื่องเลย ไม่ได้มีบริบทอะไรสำคัญ มึงยังเน้นว่า ‘มอสซาเรลล่าชีส’ เน้นเพื่อ?? ถัมเพื่อครายยย??

คำผิด: เยอะชิบหาย ทั้งคำผิดแบบสะกดไม่เป็น และคำผิดแบบไม่ได้อ่านทวนก่อนใดๆ ทั้งสิ้น เช่น รถเมย์ หรอ

คะแนน: พักๆๆๆ เธอควรกลับไปพักก่อนนนน ยังละอ่อนยังสาวลูกหลาวควรกลับไปพักก่อนนน

จุดที่ชอบ: เครื่องหมายกากบาทที่มุมบนขววา

จุดที่เกลียด: อย่าให้พูดเลย ยาว

72 Nameless Fanboi Posted ID:F6ZX8xTirc

>>68 กูว่าที่ต้องสูดลมหายใจลึกๆ คือหลังสับมากกว่า

73 Nameless Fanboi Posted ID:KQS7BIhlLZ

>>71 อ่านแล้วปวดไมเกรนแทน สรุปเซต Destiny Teller นี่ตั้งมาเพื่อรวมเหล่าคนเพี้ยนนักเขียนบ้ารึเปล่าวะ งานแต่ละคนนี่ขั้นเต่าถุย สามเรื่องที่ผ่านมาหาดีไม่ได้เลยแม่ง

74 Nameless Fanboi Posted ID:c8lWxIae/r

>>71 มีโม่งคนไหนอยากสับโปรเจคในแก๊งต่อมะ

75 Nameless Fanboi Posted ID:cniY2EfIAu

>>69 - >>71 แค่อ่านสับสมองกูก็บินไปไหนต่อไหนละ และรู้ได้เลยว่าเด็กเห่อมอยอยากจะเขียนแต่ไม่เคยอ่านงานคนอื่นมาก่อน กูขำตรงไปเขียนโฆษณาให้งานคนอื่นนี่ล่ะ ขอบคุณเพื่อนโม่งที่มาสับให้กูได้อ่านตอนจะขี้

76 Nameless Fanboi Posted ID:KQS7BIhlLZ

>>73 อะไรคือเต่าถุย ?

77 Nameless Fanboi Posted ID:4RCsCsJQ6e

>>76 บัวเหล่าที่ 5

คือปกติบัว 4 เหล่า อันที่แย่สุดคือบัวในโคลนตม ย่อมกลายเป็นอาหารแก่ปลาและเต่า แต่นี่ถึงขั้นเต่าถุย ปลาไม่ยอมแดก ก็คือแย่กว่านั้นลงไปอีกขั้นน่ะ

78 Nameless Fanboi Posted ID:SWu0oh7A6S

>>74 โปรเจ็คของพวกมันมีไรบ้าง นี่กูขี้เกียจหาขนาดนั้นอะคิดดู

79 Nameless Fanboi Posted ID:c8lWxIae/r

>>78 อ้าว มันก็แปะของคนอื่นอยู่ในหน้าแรกนิยายมะใช่อ่อ อันที่พึ่งสับไปอะ

80 Nameless Fanboi Posted ID:3xEPt0lQN0

>>78 มึงขี้เกียจหา คนอื่นก็ขี้เกียจเอามาให้มึงอ่านอ่ะ อยากรู้ก็คลิกเข้าลิงก์สิไอ้สัส

81 Nameless Fanboi Posted ID:4upCP5an7S

ที่พีคคือ กดลิงค์ติดแค่บางลิงค์ด้วยนะ
ถ้าสนใจเรื่องอื่นๆ จะก๊อปปี้เพสก็ไม่ได้ ต้องเสิร์ชชื่อนิยายเอา เหอ เหอ

82 Nameless Fanboi Posted ID:/n8L4tBji.

Destiny Teller...ฝันรักบุษบา
โดย ใจตะวัน https://writer.dek-d.com/nammon-kumpapan/writer/view.php?id=2020655
: เมื่อชีวิตของ 'บุษบา' ถูกโชคชะตาเล่นตลก ไหนจะต้องวุ่นวายกับงานเช้าเย็น ไหนจะต้องมาวุ่นวายกับ(วิญญาณ)อดีตเพื่อนสนิทที่คิดแต่จะหาผลประโยชน์จากเธอ!

Destiny Teller time เมื่อคนบนฟ้าให้เวลามาแค่ 30 วัน
โดย ตัวpน้อย
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=2021096
: ชีวิตที่แสนธรรมดาของไทม์ต้องแปรเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเธอที่อยู่ดี ๆ ก็ขับรถมาชนจนทั้งสองตาคาที่ แต่ยมทูตก้ดันคิดสนุกให้เวลาทั้งสองใช่อยุ่ด้วยกันบนโลกเป็นเวลา 30 วัน แล้วหลังจากนั้นต้องเลือกว่าจะให้ใครตาย

Destiny teller thane : จอมพลแกร่ง แห้งกู้โลก
โดย กรอบแดง
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=2021092
: อยู่ดีๆ ก็มีภารกิจกู้โลกตามคำพยากรณ์โยนมาให้ 'เธน' ซะดื้อๆ เรื่องราวการปราบมหาจอมมารจึงเริ่มขึ้น

{Destiny Teller}เจาะหัวใจนายซามูไร
โดย 力寶 AKA เล่าเบียว
https://writer.dek-d.com/kunjaow/story/view.php?id=2022102
: ชีวิตของเขาซึ่งเป็นยอดขุนพลในวัย17ปี "อากิฮิโกะ ฮายาโตะ" กับสงครามจากทั่วทุกสารทิศ ไม่ว่าจะเป็นสงครามกายจากเหล่าโจรสลัดและข้าศึก หรือสงครามหัวใจ จากเพื่อนสาวของเขา

[Destiny teller] เล่ห์รักชะตามิติ
https://writer.dek-d.com/Supakit2544/story/view.php?id=2021939
โดย เสรีมาลา
: เมื่อ 'ทรงสุข พันธเสาวนีย์' ได้พบกับชายคนหนึ่ง และแล้วทั้งสองก็ได้ถูกชะตาลิขิตร่วมไขปมปริศนาบางอย่างที่ลี้ลับบนโลกใบนี้ ด้วยสองด้าน ทั้งสองได้นำมันมาสรุปทันทีไขปมเพื่อทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าต่อไป

Destiny Teller Dragon ผิดไหมที่มังกรร้ายอย่างผม จะไม่ยอมยกเจ้าหญิงให้ผู้กล้า
https://writer.dek-d.com/sheeperywriter/story/view.php?id=2022794
โดย ตัวpน้อย
: เมื่อมังกรหนุ่มที่ไม่ยอมทำตามกฎของเผ่าที่ต้องจับตัวเจ้าหญิงมาขังเอาไว้ในปราสาทของตน แต่สุดท้าย ดันถูกเจ้าหญิงบังคับให้จับตัวเธอมาซะงั้น เพราะความสัมผัสที่ได้ใกล้ชินกัน ก่อให้เกิดเป็นความรักต้องห้าม

Destiny Teller เดิมพันชีวิต หักล้างลิขิตโชคชะตา
https://writer.dek-d.com/Allen-2/story/view.php?id=2023437
โดย Allen-2
: ที่นี่ความเชื่อในโชคชะตารุ่งเรืองถึงขีดสุด เครื่องรางไม่ใช่เรื่องงมงาย นักทำนายคืออาชีพที่มีเกียรติ ทุกคนมีโชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้ นั่นคือความจริงที่ไม่อาจมีสิ่งใดมาหักล้างได้

จะร่วมมือกันยังทำ Link ให้เรียบร้อยไม่ได้ แล้วเท่าที่กวาดตาดูชื่อ มันจะไปรอดเหรอแต่ละคน

83 Nameless Fanboi Posted ID:4RCsCsJQ6e

>>82 อ่านแต่ละชื่อแล้ว Cringe as fuck

84 Nameless Fanboi Posted ID:MsIu4otJvz

เห็นแล้วมีกำลังใจเขียนงานตัวเองขึ้นเยอะเลยว่ะ

85 Nameless Fanboi Posted ID:68ZniRdfzB

ไม่รู้ถามในนี้ได้หรือเปล่านะ โม่งใหม่
คือพึ่งมาตามอ่านนิยายในเด็กดีเรื่อง ยุคันตวาต และเห็นว่าภาคสามมันโดนคนเขียนล็อก
คือก็เห็นว่ามีคำชี้แจงอยู่อ่ะนะ แต่เคยเปิดแวบๆไปละสปอยในนั้นเลยไม่กล้าอ่านต่อ
มีใครอ่านเรื่องนี้บ้าง ทำไมโดนล็อกวะ?

ป.ล. เรื่องนี้ https://writer.dek-d.com/lanzadeluz/story/view.php?id=1472640

86 Nameless Fanboi Posted ID:+sdnEYJHCU

>>82 ทำไมมีแต่ชื่อ Destiny Teller วะ โดจินเรอะ

87 Nameless Fanboi Posted ID:4upCP5an7S

>>85 อ่านคำชี้แจง https://writer.dek-d.com/lanzadeluz/story/viewlongc.php?id=1472640&chapter=43

88 Nameless Fanboi Posted ID:4upCP5an7S

>>85 https://writer.dek-d.com/lanzadeluz/story/viewlongc.php?id=1472640&chapter=127

89 Nameless Fanboi Posted ID:wav47mWHCb

>>86 มึงก็ย้อนไปดูข้างบนหน่อยก็ได้ว่าเขาคุยอะไรค้างกันไว้ ใน >>69 ก็บอกไว้อยู่

90 Nameless Fanboi Posted ID:MsIu4otJvz

ขอยาดแซว
สุพรรณบุรี! มึงเป็นเนื้อคู่ตุนาหงันของปทุมทาเนี่ยนที่ยังหากันไม่เจออยู่รึเปล่าวะ

91 Nameless Fanboi Posted ID:F6ZX8xTirc

>>82 ถ้าว่างๆ กูอาจจะลองสับดูเก็บเป็นเซ็ตลิสต์ แต่เข้าไปสุ่มดูบางเรื่องมีศูนย์ตอน บางเรื่องมีตอนเดียว ว้าว มีอนาคตโรจน์รุ่งมากเลยค่ะ ช่างเป็นนักเขียนดาวรุ่งพุงลงเหวอะไรขนาดนี้

92 Nameless Fanboi Posted ID:RF8bDF80he

>>91 ถ้ากูจำไม่ผิดเห็นจับมือกันตั้งแต่ปลายปีที่แล้วหรือไงเนี่ยแหละ แล้วก็...อืมนะ ช่างเหอะ

93 Nameless Fanboi Posted ID:Uq204i9vMn

ปลายปีที่แล้ว? นี่มันสองเดือนแล้วนะเว้ย..
ไม่อยากพูดว่าว่างๆ จะเข้าไปส่องแล้วสับ เพราะกำลังไปหาหนังสือดีๆ ในห้องสมุดว่ะ

94 Nameless Fanboi Posted ID:4RCsCsJQ6e

>>93 มันหมายถึงปลายปี 61 ป่าว ข้ามปี 62 มาขึ้น 63 ก็ยังคงตอนเดียวเกือบทั้งก๊ก อนาคตสดใส (หัวไป) สุดๆ

95 Nameless Fanboi Posted ID:wav47mWHCb

>>92 >>94 เห็นเปิดช่วงพย. 62 นิยายกูก็เริ่มเขียนช่วงๆ เดียวกัน ขนาดเขียนด้วยสปีดหอยทากตอนนี้ยังล่อไป 75,000 คำ จนนี่จะจบเรื่องเปิดขายอยู่แล้ว

96 Nameless Fanboi Posted ID:ncMTCOIbyg

โม่งสับเข้าไม่ได้อ๋อค้าฟฟฟฟ

97 Nameless Fanboi Posted ID:HbfsgvgNHW

>>96 เออ เข้าไม่ได้

98 Nameless Fanboi Posted ID:lSAvVysl2K

>>96 กูก็เข้าไม่ได้

99 Nameless Fanboi Posted ID:T0wCGpO04Y

เป็นเหี้ยไรเนี่ย เข้ายากเข้าเย็น

100 Nameless Fanboi Posted ID:T0wCGpO04Y

หรือพวกมึงจะปรับเว็บกันใหม่ กันคนนอกเข้า ไว้ให้คนในที่รู้วิธีเข้าจริงๆเข้าได้วะ เพราะตอนนี้คนทั่วไปไม่รู้วิธีเข้า

101 Nameless Fanboi Posted ID:E76FF+GpqK

>>100 แม่งอาจจะเป็นไปได้ว่ะ

102 Nameless Fanboi Posted ID:cIeZ8aRgqV

>>100 เพ้อเจ้อ

103 Nameless Fanboi Posted ID:T0wCGpO04Y

>>102 มึงสิเพ้อ ไอ้สัด คนทั่วไปแม่งเข้าได้มั้ย ถ้ามันใช้Chrome อะ

104 Nameless Fanboi Posted ID:l2sRWTJHuD

>>103 มึงแหล่ะเพ้อ ใบรับรองหมดอายุเลยเข้าไม่ได้เพราะปัญหาความปลอดภัยเฉยๆ เข้าผ่าน ie แล้วเลือกข้อล่างก็เข้าได้แล้ว

อีกอย่าง ถ้าอ่านคำอธิบายรู้เรื่อง ลองเอาไปค้นกูเกิ้ลก็เจอวิธีเข้าแล้ว ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้

โชว์เหนือกันเข้าไปพวกแม่ง รู้จักวิธีย้อนเวลา device รึเปล่าเห๊อะ แค่กดปรับเวลาเป็นก่อนวันที่ 3 มีนา ก็เข้าได้ปกติแล้ว ทำได้ทุก device ด้วย

105 Nameless Fanboi Posted ID:T0wCGpO04Y

>>104 กูลองทุกเบราเซอร์ทั่วไปล่ะ ไม่ได้ และกูไม่ต้องย้อนเวลาด้วย มันลำบากเปล่าๆ กูใช้วิธีอื่น สงสัยกูคงคิดลึกไป

106 Nameless Fanboi Posted ID:l2sRWTJHuD

>>105 ที่ต้องกลัวกันจริงๆ คือแอดมินแม่งเลิกทำแล้วลบโค้ด ปิดเซิฟเก็บข้อมูล คราวนี้ทำห่ายังไงก็เข้าไม่ได้จริงๆ แล้ว กูเลยไล่ก็อปข้อมูลทุกมู้ที่สนใจลง word เอาไว้อ่านอยู่นี่ไง เผื่อโม่งบินของจริง

107 Nameless Fanboi Posted ID:T0wCGpO04Y

>>106 ในฐานะที่มึงเปิดความโง่กูให้กระจ่าง กูจะบอกอะไรดีๆให้ มึงโหลด Torch Browser ที่ใช้เข้าพวกเว็บดาร์คต่างๆมาแทน มึงจะได้ไม่ต้องทำอะไรยุ่งยาก มึงเข้าเว็บโม่งได้ทันทีเลย

108 Nameless Fanboi Posted ID:T0wCGpO04Y

>>106 และถ้าโม่งบินของจริง ไว้เจอกันที่เด็กดี กูอยู่ที่นั่นแหละ และกูก็เชื่อว่ามึงคงอยู่ที่นั่น ถึงเราจะไม่รู้จักกันในนั้นก็ตาม แต่คงมีคุยกันบ้างแน่ๆ

109 Nameless Fanboi Posted ID:WT847TVX8S

>>107 กูไม่อยากใช้ทั้งทอชทั้งหัวหอมเพราะ device ที่ใช้อยู่ไฟล์งานแม่งเยอะ มันเสี่ยง

110 Nameless Fanboi Posted ID:Kt8zr8FUhW

เชี่ย ฟื้นคืนชีวิตแล้ว

111 Nameless Fanboi Posted ID:aSACB9HiJs

เข้าได้ซะที นึกว่าแอดมินโม่งเผลอเปิดเว็บโป๊

112 Nameless Fanboi Posted ID:dPWT3QUvVW

>>106 เออ.. ตอนเข้าไม่ได้นี่ก็เสียดายเหมือนกันนะ

113 Nameless Fanboi Posted ID:Kt8zr8FUhW

>>112 สรุปว่าก๊อปฟรี ใช้เวลาไป 4 ชั่วโมง แต่ก็ช่างมันเถอะ เผื่อมันดับจริงๆ จะได้มี History บ้าง

114 Nameless Fanboi Posted ID:dPWT3QUvVW

+ ยังคิดอยู่ว่าจะแบคอัพยังไงดี ก๊อปทั้งหมดละไปคัดแยกทีหลัง กุไม่อ่านแน่ๆ เสียเวลาชีวิตสัส คงนั่งกรองแค่พวกรายการสับละมั้งนะ

115 Nameless Fanboi Posted ID:Kt8zr8FUhW

ไอ้มีนคงเว้นช่วงไปพักใหญ่กว่าจะลงมาได้ เกรียน+ติ่งหู แปะนิยายให้จวกเล่นเกือบ 40 เรื่อง เจ้าของเรื่อง Help me please ที่เถียงในกระทู้ถ้ามันได้มาอ่านของจริงที่นี่ สงสัยธาตุไฟเข้าแทรกอกแตกตายแหงๆ 55555

116 Nameless Fanboi Posted ID:FxYO8Ro5Qd

จะว่าไป ตั้งกระทู้แค่สามวันเด้งมา 1,8XX วิวนี่ อย่างเยอะเลยนี่หว่า ตั้งช่วงวันหยุดกับใกล้ปิดเทอมถูกจังหวะพอดี ทีนี้เลยได้หลายแชร์ด้วย ต้องเก็บไว้ศึกษาเรื่องจังหวะเวลาในการตั้งกระทู้หน่อยละ

117 Nameless Fanboi Posted ID:X/NXwgCp/u

โอ๊ย ปวดไตกับนิยายในมู้ดด. ขอพักก่อนนนนนน

118 Nameless Fanboi Posted ID:X/NXwgCp/u

>>116 สวยค่ะ คนเราต้องรู้จักทำมาร์เก็ตติ้ง

119 Nameless Fanboi Posted ID:X/NXwgCp/u

รู้ว่าเปลืองพื้นที่ ขออีกเม้นท์
รำค๊าญญญญ รำคาญอีพวกมาฉอดชิบหาย รู้ว่ากูเป็นใครเหี้ยไรล่ะ รู้จริงไม่กลัว กลัวรู้ไม่จริงจ้าาา สะเหล่อ

120 Nameless Fanboi Posted ID:Kt8zr8FUhW

>>119 ถ้าคนมันรู้จริงมันคงทักแล้วว่ามึงคือใคร แต่ต่อให้รู้มันก็ทักไม่ได้อะ โม่งจะแตกเสียเปล่าๆ เพราะในนี้มันมีไม่กี่คนหรอกที่หายหน้าไปแล้วอาจสร้างไอดีใหม่แล้วมาเนียนขอความเห็น

121 Nameless Fanboi Posted ID:xd.feEQkHE

บอกตรงๆ แวบแรกที่เห็นกระทู้กูก็รู้แล้วว่า Somean เพราะสวย ฟาดแรง และรักเด็กเฉกเช่นนางสาวไทย(ยอมพลีชีพเซลล์สมอง)มันมีไม่กี่คน

แต้งกิ้วซิสนะคะ

122 Nameless Fanboi Posted ID:BDfeQOW7Yo

ช่วงนี้ไม่เจอเจ๊ดอกขาวเลย ถ้าเป็นอย่างที่โม่งคนนึงบอกว่าป้าแกอยู่ต่างประเทศ สงสัยกำลังหนีโคโรน่าอยู่แหงๆ 55555

123 Nameless Fanboi Posted ID:xd.feEQkHE

พูดถึงที่เว็บโม่งกลับมาได้ แปลว่าแอดมิน (Cert?) ยังอยู่ใช่ไหม?

>>122 เออว่ะ ไม่เห็นโผล่มาเลย ถ้าเจ๊แกหนีหรือโดนกักโคโรน่าจริงๆ กูว่าเจ้าหน้าที่ได้จับสวมหน้ากากแบบฮันนิบาลแน่

เจ้าหน้าที่: "ได้พูดคุยหรือสัมผัสกับชาวต่างชาติที่อยู่ประเทศกลุ่มเสี่ยงบ้างหรือเปล่าครับ?"
ดอกขาว5ส: "ดิฉันว่าคุณกำลังทำร้ายน้ำใจเพื่อนมนุษย์อยู่นะคะ คุณและพวกเจ้าหน้าที่ก็มีญาติ มีครอบครับ มีกัลยาณมิตรที่ดีเป็นชาวต่างประเทศเหมือนกัน คุณควรเข้าใจเหมือนที่ฉันเข้าใจคำสอนของพุทธองค์ที่จะทำให้พวกเราสงบร่มเย็นกันนะคะ ดิฉันแนะนำให้หาเพลงหรือบทสวดพระมาเปิดฟังเพื่อบรรเทาความกังวลที่อยู่ในใจบ้าง เผื่อว่าคุณจะได้เข้าใจตามที่ฉันเข้าใจ ไม่เหมือนที่คุณกำลังเข้าใจเหมือนที่เพื่อนและคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เข้าวัดทำบุญชำระล้างจิตใจให้สุขสว่างเหมือนดิฉัน ส่วนตัวดิฉันขอแนะนำเพลง--"
เจ้าหน้าที่: // หิ้วดอกขาวเข้าเขตกักกันโรค

124 Nameless Fanboi Posted ID:8ahnTgxE6U

>>120 กูไปดูนิยายมันมา ทำตัวเหมือนหล่อ แต่กากมาก ในใจนี่คิดถึงเล่าเบียวมาเลย ถถถถ

ก่อนโม่งดับกูสับ destiny teller ค้างไว้อีกเรื่องนึง ตอนนี้หาไฟล์ไม่เจอ ไม่รู้ลบทิ้งไปแล้วรึไง เดี๋ยวไว้ว่างๆ จะมาต่อ

125 Nameless Fanboi Posted ID:8ahnTgxE6U

>>122->>123 โผล่อยู่ พวกมึงแค่ไม่เห็นมันเอง วันก่อนยังมาตอบมู้อยู่เลย

อ่ะ สดๆ ร้อนๆ หอมกรุ่นจากเตท
https://www.dek-d.com/board/view/3964226/1/?comment=7

126 Nameless Fanboi Posted ID:BDfeQOW7Yo

>>123 เปล่า... คืองี้ Cert ที่กูบอกคือคำย่อของใบ Certification ของหน้าเว็บ (ที่เราเข้าโม่งแล้วมันเตือนว่าไม่ปลอดภัย เพราะใบอนุญาตอันนี้มันหมดอายุ) ส่วนแอดมินน่ะเขาชื่อ Sirn (เสิร์น)

บรรยายได้สมจริงดีมาก แต่ของจริงต้องอ่านไม่รู้เรื่องกว่านี้ แล้วก็ต้องนอกเรื่องกว่านี้ด้วย หัวข้อมันยังเชื่อมโยงได้ ถ้าเป็นดอกขาวจริงๆ ต้องข้ามไปคุยเรื่องกฏหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่า (แล้วด่าคนที่ล่าสัตว์โดยไม่ได้พูดถึงค้างคาวสักนิด)

127 Nameless Fanboi Posted ID:BDfeQOW7Yo

>>125 อ้าว... ยังอยู่นี่หว่า และแล้วก็แปะเพลงปิดท้ายเช่นเคย แม่งไม่พลาดเลย คาร์ไม่แกว่ง สร้างความเสียเวลาชีวิตได้ดี เรื่องจับแพะชนวาฬก็เป็นหนึ่งเสมอ

128 Nameless Fanboi Posted ID:8ahnTgxE6U

รอดูว่าจะมามู้ทำลายกำลังใจไหม แต่คราวก่อนมาแล้วไม่เล่นด้วย คราวนี้อาจงอน

129 Nameless Fanboi Posted ID:ueVBTG78gu

เชี่ยยย เข้าได้สักที กูนึกว่าโม่งจะไปแล้วไปลับซะละ

130 Nameless Fanboi Posted ID:dPWT3QUvVW

>>125 อ่านไม่รู้เรื่อง เสมอต้นเสมอปลาย

131 Nameless Fanboi Posted ID:8ahnTgxE6U

อัพเดทมาจากเสิร์นนะ ห้องฟุไปถามไว้ โม่งจะอยู่ยัน 2021 ถ้าขัดข้องยังไงก็ส่งไปบอกเสิร์นได้

https://imgur.com/a/Gu8mYjW

132 Nameless Fanboi Posted ID:rlOnsQBSjf

>>122 เจ๊ดอกขาวนี่กูเคยเอาIPไปส่อง ไม่รู้แม่นยำแค่ไหนแต่เจ๊แกไปโผล่ที่ลอนด้อนเคอะ

133 Nameless Fanboi Posted ID:NdkjRtNi93

SIRN พระจรง

134 Nameless Fanboi Posted ID:IGc0gCXpKs

ขก. เกินกว่าจะเม้ามอยเจ๊ดอก / อิเวิ่นในมู้ทำลายกำลังใจ / กวนตีนมู้ใหม่ขอชื่อหนุ่มวาย
เฮ้อ~ บ่นเฉยๆ

135 Nameless Fanboi Posted ID:xd.feEQkHE

ด.ช. คิริโตะ ไปก่อ Flash mob หน้าโรงเรียนระวังโดนคุณครูประจำชั้นหักคะแนนนะจุ๊

136 Nameless Fanboi Posted ID:6QG210cKPv

https://www.dek-d.com/board/view/3964337/

พี่เวน้อมแม่งแซะโม่งว่ะ 55555 เขียนอธิบายให้คนที่ไม่รู้จักโม่งในกระทู้ พวกคนในบอร์ดเขายังอ่านไม่เข้าใจเลยว่ามันจะสื่ออะไร ไม่กล้าพอจะเอ่ยชื่อโม่งด้วยซ้ำ คาดว่าคงกลัวคนจะรู้ทางเข้าบอร์ดนี้แล้วมาอ่านเจอรีวิวนิยายตัวเอง ที่โดนด่าสาดเสียเทเสียจนเละเทะ

ถ้ามึงแวะมาอ่านจริงๆ นะไอ้เจ้าของเรื่อง กูจะบอกว่ามึงมันเด็กน้อย ขาดความเป็นผู้ใหญ่ และรักไม่ได้รักสงบแบบที่มึงพิมพ์อ้างไว้ในกระทู้ มึงเป็นได้แค่เหยื่อรายใหม่ให้โม่งปั่นหัวเล่น หลังอ่านรีวิวของโม่งแล้วหัวร้อนอย่างง่ายดาย ทำตัวแบบเดียวกับไอ้เล่าโปกอะ คือพยายามเอาโม่งออกไปหาพวกในบอร์ด พยายามชี้ชวนว่าโม่งแม่งเหี้ยด่านิยายมึง แต่สุดท้ายผลมันจะออกมาตรงกันข้าม เพราะธรรมชาติของพวกกูมันเหี้ยเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนมึงก็โดนจับได้ไงว่าลงมาย่ำขี้กับพวกกูที่นี่ คิดว่า ใครได้/ใครเสีย มากกว่ากันล่ะ หืม ?

นี่สอนในฐานะคนอยู่มาก่อนในบอร์ดเลยนะว่ามึงไม่ควรทำแบบนี้ มาโม่ง อ่านโม่ง อ่านจบทำใจให้กลาง วางอคติ ล้างโทสะ แล้วค้นหาซะว่านิยายมึงเป็นแบบที่โม่งด่าไว้หรือเปล่า ที่นี่อาจพูดเหี้ยๆ ทำตัวเรื้อนๆ แต่ข้อเท็จจริงและสาระสำคัญในการพูดคุยมันมีอยู่ ถ้าพบว่านิยายมึงมีข้อด้อยตามนั้นจริงๆ ก็ให้ไปแก้ไขซะ หรือถ้ามันแต่งไปเยอะมากจนแก้ไม่ไหวแล้ว ก็ให้บันทึกข้อด้อยเอาไว้ คราวหน้าก่อนจะแต่งเรื่องใหม่ก็เอามาเปิดอ่าน จะได้ไม่พลาดแบบเดิมๆ อีก

ส่วนเนื้อหาในกระทู้ของมึงกูตอบให้แบบง่ายๆ เลย คำตอบมันออกมาได้หลายแบบโดยมีตัวแปรเป็นวุฒิภาวะของนักเขียนเจ้าของเรื่อง ถ้าเป็นคนที่หนักแน่นเยือกเย็นพอ เขาก็จะมองไปที่เนื้อหาว่ามันจริง/ไม่จริง แล้วเอาไปใช้ประโยชน์ได้ เพราะเขารู้ว่าคำด่าที่จริงใจมันมีประโยชน์และหาฟังยากกว่าคำชมอันเสแสร้งซึ่งสามารถพบเจอได้ทั่วไป (คนถึงโหยหาอะไรที่แรงและตรงจุดไง สังเกตในกระทู้อีมีนดูก็ได้) ส่วนพวกที่หัวร้อนง่าย กากแต่ไม่ยอมรับความกากของตัวเอง ก็จะโมโหว่าด่านิยายกูไมวะ เอาไปตั้งกระทู้ในบอร์ดแม่งเลย พิมพ์บอกไว้ด้วยว่ากูรักสงบนะ ให้ตัวเองดูเป็นคนดี เป็นพระเอก เป็นผู้ถูกกระทำ แล้วให้อีกฝั่งเป็นผู้ร้าย เป็นคนเหี้ย ให้เขาตกเป็นเป้าของความเกลียดชัง แหม่... มือถือสากปากถือศีลของแท้

ถ้ามึงโตพอและรักสงบจริง มึงจะไม่พูดถึงโม่ง ไม่ตั้งกระทู้แบบนี้ มึงจะแค่เงียบปากไว้แล้วจากไป ส่วนนิยายมึง ก็เป็นเรื่องของมึง อ่านที่เขาบอกข้อเสียในนี้แล้วจะแก้หรือไม่แก้ก็แล้วแต่มึง พวกกูมีกฏเหล็กเป็นของตัวเองอยู่แล้วว่าจะไม่ไปก่อกวนหน้านิยาย แต่ถ้าเจ้าของเรื่องมันเข้ามาเจอที่นี่เองอันนี้ก็ช่วยไม่ได้ รับสภาพและจัดการอารมณ์ตัวเองตามระดับ EQ ที่แต่ละคนมีไปก็แล้วกัน

ปล. "ทัศนคติ" เขียนแบบนี้นะจ๊ะเวน่อมคุง

137 Nameless Fanboi Posted ID:3+Vj.CRHJ1

สงสารเด็กๆ ในบอร์ดขึ้นมาจับใจ เจอทั้งสับศอก ตีเข่า ก้านคอ ไปคนละดอกสองดอก ถ้าคิดว่าเป็นกระทู้แนะนำสไตล์ผู้ดีโลกสวยนี่แม่ง มึงพลาดแล้ว

138 Nameless Fanboi Posted ID:agTHNF/G6u

ไม่ขนาดนั้นมั้ง ก็บอกไปแล้วนี่กระทู้ทำลายกำลังใจ ไม่ได้เขียนว่ารับสับหรือรับวิจารณ์

139 Nameless Fanboi Posted ID:8ZVNNXtOoE

>>138 คิดว่าหลายคนไม่ได้เข้าใจแบบนั้นว่ะ มือใหม่มากันเต็ม บางเรื่องคือหาข้อดีไม่ได้เลย เหมือนแต่ละคนมาให้โดนถอนหมอยเล่นๆ

140 Nameless Fanboi Posted ID:agTHNF/G6u

อย่าห่วงเกินเหตุเลยน่า เท่าที่ตามอ่านก็ไม่เห็นมีโวย นอกจากน้องจัดกลางเพราะถนัดอ่ะ

141 Nameless Fanboi Posted ID:6QG210cKPv

>>140 เออ นั่นแหล่ะอีเจ้าของ Help Me Please อะ ที่กูบอกว่าเป็นคนเดียวเลยที่ดูต่อต้าน เถียงก็ไม่ยอมรับว่าเถียง ถ้าจะมาทรงนี้ ไม่ควรเอามาแปะแต่แรกแล้ว

142 Nameless Fanboi Posted ID:3+Vj.CRHJ1

กูได้ฉายาในบอร์ดอันใหม่แล้ว ฉายาที่ว่านั้นก็คือ "พี่อึ่งใจง่าย" เหตุผลคือแม่งชอบไปกด like ทุกความเห็นเลย ชอบเขาไปทั่วแบบนี้ ใจง่ายจริงนะเรา

หรือจะเอา "นักไลค์ทีมชาติ" ก็ได้นะ ดูเกรียนๆ ดี

143 Nameless Fanboi Posted ID:hJN7ENN6JR

ยาวไป ไลก์ดะ พอ

144 Nameless Fanboi Posted ID:E+.0po/zbb

เธออย่าสงสารคนโดนสับเลยแฮร์รี่ สงสัยคนสับดีกว่า
เซลล์สมองตายหมดละ เหลืออยู่ 84,000 เซลล์

145 Nameless Fanboi Posted ID:6QG210cKPv

>>144 +1 สงสารคนสับอิ๊บอ๋าย เจอแต่ละเรื่องนี้ ผิดพลาดแบบจังไรๆ ทั้งนั้น

146 Nameless Fanboi Posted ID:e.pEQVY2TN

>>138 ทู้ไหนวะ ขอลิงก์

147 Nameless Fanboi Posted ID:fLqOkTApJf

Hello? Aw shit, nigga!
What the fuck time is it, man?
Oh goddamn, nigga!
Do you know what time it is?
Aw shit, what the fuck's goin' on? You aight?
Nigga, what the fuck is wrong with you?

When I die, fuck it, I wanna go to hell
'Cause I'm a piece of shit, it ain't hard to fuckin' tell
It don't make sense, goin' to heaven with the goodie-goodies
Dressed in white, I like black Timbs and black hoodies
God'll prob'ly have me on some real strict shit
No sleepin' all day, no gettin' my dick licked
Hangin' with the goodie-goodies, loungin' in paradise
Fuck that shit, I wanna tote guns and shoot dice (You talkin' some crazy shit now, nigga)
All my life I been considered as the worst
Lyin' to my mother, even stealin' out her purse
Crime after crime, from drugs to extortion
I know my mother wish she got a fuckin' abortion
She don't even love me like she did when I was younger (Get a hold of yourself, nigga!)
Suckin' on her chest just to stop my fuckin' hunger
I wonder, if I died, would tears come to her eyes?
Forgive me for my disrespect, forgive me for my lies
My baby mother's eight months, her little sister's two
Who's to blame for both of them? (Nah, nigga, not you)
I swear to God I want to just slit my wrists and end this bullshit
Throw the Magnum to my head, threaten to pull shit (Nigga, what the fuck?)
And squeeze until the bed's completely red (It's too late for this shit, man)
I'm glad I'm dead, a worthless fuckin' buddha head
The stress is buildin' up, I can't— I can't believe (Yo, I'm on my way over there, man)
Suicide's on my fuckin' mind, I wanna leave
I swear to God I feel like death is fuckin' callin' me
But nah, you wouldn't understand (Nigga, talk to me please, man!)
You see it's kinda like the crack did to Pookie in New Jack
Except when I cross over, there ain't no comin' back (Yo, I'ma call you when I get in the car)
Should I die on the train track like Ramo in Beat Street
People at the funeral frontin' like they miss me (Ayo, where your girl at, man?)
My baby mama kiss me, but she glad I'm gone (Yo, put your girl on the phone, nigga!)
She know me and her sister had somethin' goin' on
I reach my peak, I can't speak (Ayo, you listenin' to me, motherfucker?)
Call my nigga Chic, tell him that my will is weak (Ayo, c'mon, nigga)
I'm sick of niggas lyin', I'm sick of bitches hawkin'
Matter of fact, I'm sick of talkin'
(Ayo Big! Ayo Big!)

Please hang up, and try your call again
Please hang up, this is a recording

148 Nameless Fanboi Posted ID:6QG210cKPv

>>146 https://www.dek-d.com/board/view/3964015/

149 Nameless Fanboi Posted ID:6QG210cKPv

กระทู้ทำลายกำลังใจ เข้าสู่วันที่ 4 ด้วยยอดวิว 2.5k ไอ้เชี่ย ประสบความสำเร็จจนน่าตกใจ (หรือเด็กๆ แม่งเป็นสาย M กันวะ) ว่าแต่ว่า _NJ_ ในเม้น 44 นี่คนละคนกับน้องเอ็นเคดุ้นสวรรค์ใช่ปะ พักหลังนี่เห็นใครใช่ชื่อย่อตัวอังกิด 2 ตัวแล้วมี N หรือ K ในชื่อนี่ กูแม่งหลอนทุกที

150 Nameless Fanboi Posted ID:4uAbyqCfSu

>>149 น้อนๆวัยนี้ เขาก็ตั้งกันแบบนี้แหละมึง กูเห็นบ่อย

151 Nameless Fanboi Posted ID:MDPo.IbQyl

ไอ้โตะ มึงนี่แม่งขยันปั่นจริงๆ ถามบ่อยแต่ไม่มีนิยายในไอดีระวังเจอจับได้นะมึง

152 Nameless Fanboi Posted ID:3T7Ra/n1/b

กูว่าคงมีพวกอยากลองของกับมาแปะลิ้งไว้เพื่อโปรโมทนิยายเฉยๆบ้างแหละ ไอ้เม้นที่มาแปะลิ้งแล้วพิมพ์ว่า "เทสๆ" กูนี่อยากโผล่หัวไปถุ้ยน้ำลายใส่ชิหัย แล้วรู้สึกว่าไอ้ทัศนคติหละหลวมแบบ "กูจะสร้างความแตกต่าง" นี่เยอะพิลึก ตั้งชื่อตอนด้วยภาษาละตินบ้าง ตั้งชื่อเรื่องด้วยภาษาหลั่งเศษบ้าง คือใจมันจะสร้างความแตกในจนช่างหัวเรื่องพื้นฐานอย่างคนอ่านมันจะอ่านไม่ออกเลยเรอะ!?

153 Nameless Fanboi Posted ID:3T7Ra/n1/b

นั่นไง พวกห่านี่ https://www.dek-d.com/board/view/3964015/1/?comment=41_3

154 Nameless Fanboi Posted ID:6QG210cKPv

>>153 นิสัยแม่งเหี้ย ปากบอกไม่ได้มีเจตนาร้าย แต่เอานิยายของคนยุคเก่ามาขึ้นเขียงถามความเห็นจากแนวนิยมสมัยใหม่ ทำแบบนี้มันน่าฟ้องให้จ่ายค่าเสียหายเล่นจริงๆ ควย

155 Nameless Fanboi Posted ID:CTWSv+VR8Q

>>153 กูมาไม่ทัน มันเอาเรื่องอะไรมาเหรอ ที่แกล้งมาให้สับน่ะ

156 Nameless Fanboi Posted ID:ykv9/436kl

สายโลหิตป่ะ เดาเอาจากที่โซมีนสับ

157 Nameless Fanboi Posted ID:ykv9/436kl

กูมั่วนะ รู้จักขุนไกรเดียว

158 Nameless Fanboi Posted ID:pIGfVxWUzB

เอาเรื่องเจ้าเมือง ของอาจินต์ ปัญจพรรค์มา เห้อ กูละหน่าย

159 Nameless Fanboi Posted ID:VCG5XwzjPS

เอามาดัดแปลง? แล้วมาให้สับ?

160 Nameless Fanboi Posted ID:FdidI30L6+

>>153 ต้นฉบับ 41 เขียนว่าไรกูไปตามอ่านไม่ทัน

161 Nameless Fanboi Posted ID:k9fRpQdQFO

>>151 ปั่นขึ้นเหรอวะ เห็นตอบอยู่ 3 คนถ้วน

162 Nameless Fanboi Posted ID:pIGfVxWUzB

>>160 มันเอานิยายมาแปะ 2 รอบ รอบแรกบอกเทสๆ รอบสองมาขอแรงๆ นะครับ อยากเทส ทำนองนั้น ส้นตีนสัสๆ

163 Nameless Fanboi Posted ID:ykv9/436kl

ชอบโซมีนสับเซตติ้ง

164 Nameless Fanboi Posted ID:6QG210cKPv

>>162 ทำตัวโคตรสวะ ใช้ผลงานคนอื่นเป็นเครื่องมือแบบนี้ หน้าไม่อายสัสๆ

165 Nameless Fanboi Posted ID:8ZVNNXtOoE

วันนี้ว่าง ว่าจะมานั่งเคลียร์ ตื่นมาเจอแบบนี้ไปหมดอารมณ์จะดูต่อละ งานสับแม่งงานการกุศลอยู่แล้ว ยังจะมาเจอคนเหี้ยๆ อีก นอยด์แดกเลยกู

166 Nameless Fanboi Posted ID:4uAbyqCfSu

>>162 ถ้ามันชอบจริงคือทำตัวทุเรศมาก ยังเหี้ยบอกว่า "ขอแรงๆ นะครับ" อีก

167 Nameless Fanboi Posted ID:aJuNEatO2F

>>165 แงงงง.. TT^TT
แต่ว่าถ้าหยุดสับก็แวะมาบอกกันด้วยนะ จะได้หยุดไถมู้ด้วย

168 Nameless Fanboi Posted ID:6QG210cKPv

>>165 อย่าไปแคร์เลยมีน สวะตัวเดียวเมินแม่งก็จบ คนอื่นรออยู่อีกเป็นสิบ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ไปพักก่อนสัก 2-3 วัน ค่อยมาเคลียร์

169 Nameless Fanboi Posted ID:MDPo.IbQyl

ช่วงก่อนอยู่ดีๆ ก็คิดถึงพังพรอนขึ้นมา ประกอบกับโม่งคนนึงเคยพูดว่าเพื่อนตัวเองชอบงานของพังพรอน กูเลยเอานามปากกามันไปค้นในกุเกิ้ลเล่นๆ ปรากฏว่าไอ้นี่ดังพอสมควรเลยนี่หว่า

เพจเฟซบุ๊กมีคนตามตั้ง 8,000 แล้วก็แต่งนิยายลงในเฟสตัวเอง + ให้คนอ่านเป็นนิยายเสียงใน YT ด้วย คำถามของกูคือ ถ้าผลงานมีคนคิดตามอยู่พอสมควรแล้ว จะลงมาหาเรื่องโดนด่าในโม่งทำไม ในเมื่อมันถนัดเรื่องเล่าสไตล์เรื่องสั้นแบบนี้ คือถ้าไม่นับว่ากระแสไม่ค่อยดีในเด็กดวก บนแพล็ตฟอร์มอื่นก็มีคนตามนิยายมันไม่น้อยเลยนะ ทำไมไม่ไปเอาดีด้านนั้นให้สุดทางแทนวะ คือมาคิดๆ ดู แกน่าจะอายุมากแล้วอะ สังเกตจากวิธีตอบในเฟส แนวของผลงาน กับภาพประกอบสไตล์โปสเตอร์หนังไทยเก่าๆ

บางทีพวกเราอาจรุมถอนหงอกคนแก่ไปเรียบร้อยแล้ว ก็... เป็น... ได้...

170 Nameless Fanboi Posted ID:Z34zjOLHpI

>>169 สงสัย ไมไม่ไปถามมันล่ะ

171 Nameless Fanboi Posted ID:3T7Ra/n1/b

>>165

172 Nameless Fanboi Posted ID:MDPo.IbQyl

>>170 ไม่สำคัญกับกูขนาดนั้นว่ะ

173 Nameless Fanboi Posted ID:HM9UHTwH74

>>165

174 Nameless Fanboi Posted ID:bUma+x0TFs

>>172 กูว่ามันมา(ลอง)ขายเหรียญดูมั้ง อาจจะไม่รู้วิธีตีพิมพ์เป็นเล่ม ๆ ไง เลยมาลองลงบนเว็บที่มันติดเหรียญขายได้ คนนอกที่แก่ ๆ คงไม่รู้จักรอร.หรือฟชล.มั้งเลยมาเด็กดวก

175 Nameless Fanboi Posted ID:n/.mdC89NT

>>169 กูไม่ได้อ่านงานปัจจุบันของพังพรอน ว่าพัฒนาไปถึงไหน แต่เคยอ่านรวมเรื่องสั้นหักมุมแล้วบอกได้คำเดียวว่าจืดเหี้ยๆ พล็อตง่ายๆ ยิ่งกูสาวกแนวสืบสวนหักมุมด้วย แนวพวกนี้ถ้าเขียนได้มือไม่ถึงจะออกมากร่อยๆแบบนี้ คือมันไม่ได้จริงๆ พยายามหักมุม แต่สุดท้ายทำได้แค่เลี้ยวโค้งอ่ะ

ตอนแรกกูก็เปิดใจเข้าไปอ่านแบบคาดหวังเลยด้วยเพราะไม่ค่อยเจอแนวนี้ในเด็กดวก อาจจะตั้งความหวังสูงไปหน่อย สุดท้ายสรุปได้ว่า...กูกลับไปอ่านรวมเล่มมนันยาที่มีอีกรอบ ยังจะสนุกกว่า

176 Nameless Fanboi Posted ID:ICbF.H7.aN

>>175 กูไปเที่ยวในเพจเฮียพังมาไง เห็นทำนิยายแชทเรื่องสั้น คือแชทจริงๆ นะ เอาแชทไลน์มาคุยโต้ตอบกับเพื่อนเพื่อให้คนอื่นอ่านในหน้าเพจ แคปจอมาลงแบบโคตรลงทุน เหมือนจะฮาแต่มุกก็ยังไปไม่สุดอะ กูให้เกรดประมาณเอาไว้อ่านว่างๆ ระหว่างขี้

177 Nameless Fanboi Posted ID:8ZVNNXtOoE

>>176 มันมีเรื่องหนึ่งที่พล็อตมาเป็นทรงเดียวกับนิยายในจอยลดาเลย พล็อตที่แบบเพื่อนตายไปแล้ว แล้วกลับมาลูปเดิมๆ

178 Nameless Fanboi Posted ID:Z34zjOLHpI

งอแงล้าว น้องทะลุจุดเดือดกลายเป็นไอที่ 100 องศา

179 Nameless Fanboi Posted ID:ICbF.H7.aN

ชอบดูมวยกันไหม ถ้าชอบเชิญได้ที่เมนต์ 15 มือสมัครเล่นกำลังจะโดนของแข็งแล้ว

180 Nameless Fanboi Posted ID:TFF2bQjNnf

>>179 พี่ฟิสิกส์กลายร่างเป็นพี่กรมอุตุเหรอ

ไซ fire 2.0

181 Nameless Fanboi Posted ID:MZ2BGYL8+Z

กูเพิ่งเห็นจากที่มะม่วงพิมพ์ มาอีกละ...คนอมควยตัวเอง 2020

182 Nameless Fanboi Posted ID:yVbOxO5Ndj

ทำไมไอ้พวกนิยายที่คิดว่าตัวเองเป็นนิยายวิทยาศาสตร์ถึงมาทรงนี้กันทั้งนั้นเลยวะ ทั้งฟิสิกส์ ทั้งกรมอุตุ เอะอะก็ไล่ให้ไปอ่านทั้งเรื่อง การที่รับว่าตัวเองผิดพลาดนี่มันโคตรจะวิทยาศาสตร์เลยนะเว้ยย

กูอยากบอกแม่งมาก อุณหภูมิ 100 องศามันมากไปว้อย เอาแค่ 60-70 ก็พอแล้วห่าน และถ้าบนโลกมันร้อน วิธีที่ง่ายกว่าคือการลงไปอยู่ใต้ดินน่าจะดีกว่าไหม นี่เสือกหาอะไรมาแถก็ไม่รู้ วุ้ย

183 Nameless Fanboi Posted ID:MZ2BGYL8+Z

>>182 มึงไม่ต้องห่วงเลย คนสายตรรกะ สายวิทยาศาสตร์ คณิต ฟิสิกส์ สถาปนิก วิศวะ หาเหวอะไรก็ตามที่แม่งขยันคำนวน ถูก/ผิด/ถูก/ผิด/ถูก/ผิด เยอะๆ ส่วนใหญ่แม่งจะอีโก้สูง ถึงขนาดเคยได้รับการการันตีว่าเป็นมนุษย์กลุ่มที่ไม่ควรนำมาเป็นผัวมากที่สุด เพราะแม่งห่างไกลจากคำว่า จิตวิทยา ศิลปะ กลยุทธ์ และความเข้าใจหัวอกคนอื่นมากที่สุด

184 Nameless Fanboi Posted ID:7yWC1cOg8M

สนุกจังโว้ย กูมีอะไรทำแก้เซ็งแล้ว

185 Nameless Fanboi Posted ID:0K1k..zSQW

พี่มุงอ่านไม่ถึงตอน ห่า เลยไม่ได้พับกบ พบกับเทคโนโลยีอันสุดยอด PIR พอลิไอโซไซยานูเรต (อ่านยาก กุไม่ใช่สายวิทย์) ก็แค่โฟมชนิดหนึ่งที่ทนความร้อนได้ดีกว่า PUR โพลียูริเทนโฟม by wall tect ใช้ทำห้องอบได้ 80-100 องศา เออ.. นั่นเข้าเว็บก็รู้
แต่มึงจะเท PIR เพื่อสร้างถนนทำเชี่ยอะไร ไม่เกิดประโยชน์เลยนะ เสียของ เว้นแต่จะประกอบเป็นกล่องท่อลากยาวข้ามเมืองไป ถ้างั้นก็ขุดทางใต้ดินเถอะจะเซฟกว่านะ ไม่ต้องใช้ PIR ด้วย

ประเด็นมันอยู่ที่อุณหภูมิปกติในการดำรงชีวิตอ่ะ อยู่ที่เท่าไหร่ เมื่อเซตว่า กลางแดดจ้าตอนกลางวันแม่ง 100 องศา แล้วในร่มมันเหลือเท่าไหร่ จะบอกว่า PIR ทั้งเมือง แล้วจะไม่มีประตูหน้าต่างรึ ไม่มีกระจกรึ การแผ่รังสีความร้อนของดวงอาทิตย์ละ หายใจทิ้งวันนึงร่างกายสูญเสียน้ำเท่าไหร่ น้ำสองขวดพอมั้ย/วัน (น้ำบาดาลที่ขุดลงไปลึกมากๆ นั่นน่ะ) เมื่อร่างกายประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ อุณหภูมิที่สูงโปรตีนจะแปรสภาพ ก่อนที่จะถึงจุดที่น้ำจะกลายเป็นไอ.. กลายเป็นคนอบแห้ง ได้มากกว่าย่างสดแผลพุพองนะ

แม่งควรมีเทคโนโลยีที่ดีกว่านี้ อุตส่าห์โผล่ไปอนาคตอีกตั้ง 20 ปีข้างหน้า ลองนึกดูว่าพวกแถบเส้นศูนย์สูตร เขตทะเลทรายเขาอยู่กันยังไง (สภาพแวดล้อมและบ้านเมือง) ลองกลับกันดูก็ได้ว่าเมืองหนาวมันยังติดฮีตเตอร์ เตาผิง ฝังท่อน้ำร้อน ฯลฯ นี่เมืองร้อนจัดจะไม่มีเทคโนอะไรเลยอ่อนอกจาก PIR มันไม่ได้ครอบจักรวาล รักษาทุกโรคไม่ได้

อีกอย่างที่เกลียดคือ ชนชั้น แท่งบลูนี่ถ้าถึงเมืองหลวงแล้วคนที่จะจ่ายได้คือชนชั้นสูง ชนชั้นล่างอย่าหวัง เพราะงั้นเราต้องขโมยมันตั้งแต่ตอนนี้ แล้วทำไรต่อ? ก็เปล่า
อห.ผนงรจตกม สึส!
ลืม.. คนที่กุอยากเป็นในเรื่องนี้คือเจ้าของโรงผลิตน้ำกะโรงงานขนมปังว่ะ รวยสัส!

186 Nameless Fanboi Posted ID:MZ2BGYL8+Z

>>185 น่ารักชิบหาย เอาฉนวนกันความร้อนมาปูถนน มึงกลัวกูเดินร้อนตีนสินะ

187 Nameless Fanboi Posted ID:U1A6CXE1GX

ชอบกระทู้นี้ อ่านที่สับเซตติ้งแล้วมันทำให้รู้ว่า กูก็ไม่ควรทำอะไรเกินตัว คงไม่มีใครตามไอพีอีกนะ

188 Nameless Fanboi Posted ID:yVbOxO5Ndj

อีน้องเพ้อก็ยังไม่เลิกเพ้ออีกนะ พักก่อนนนน แม่บอกให้เธอพักผ่อนนน น้องควรกลับไปนอนนน

189 Nameless Fanboi Posted ID:7yWC1cOg8M

>>188 เอามาต่อสู้กับดอกขาวได้เลย เวิ่นโคตรๆ

190 Nameless Fanboi Posted ID:U1A6CXE1GX

>>188 น้อลอาจารย์บก.อะนะ

191 Nameless Fanboi Posted ID:O0uQBWs3Nd

พล็อตแนววิทยาศาสตร์หรือไซไฟนี่เป็นอีกแนวที่แต่งยากชิบหาย แต่งไม่ขึ้นก็มีความเสี่ยงสองอย่าง คือคนอ่านไม่รู้เรื่องกับคนเขียนไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าแต่งขึ้นมึงจะแซงหน้าแฟนตาซีไปได้เลย อย่างพวกสตาร์วอร์กับซีรี่ส์โทอารุของคามาจิ คือมันเป็นเรื่องโม้แหลกแทบจะแฟนตาซีเพียวๆ แต่มันยังใช้หลักการทฤษฏีของวิทยาศาสตร์มาประกอบอยู่เป็นแกนหลักๆแล้วขยายเอาให้หลุดโลกไปด้วยความคิดที่ว่า สมมุติว่าทฤษฎีนี้สามารถใช้งานได้ 100% จะทำให้เกิดผลนั้นนี้ ซึ่งแน่ละว่าวิทยาการโลกนี้มันยังทำไม่ได้ถึงขั้นนั้น แต่มันมีพื้นฐานร่วมกันอยู่และคนเขียนมันอธิบายให้เข้าใจง่ายแบบไม่ยกวิกิมาทั้งเว็บและผสมความแฟนตาซีอีกนิดหน่อย เนื้อเรื่องมันก็จุดติดง่ายไปเลยดิ
แนะนำสำหรับคนอยากแต่งแนวไซไฟ ถ้าไซไฟหลุดโลกระดับมึงสร้างโลกใหม่ตั้งแต่ภูมิประเทศ ก็ไปนั่งดูหรือหาอ่านสตาร์วอร์มานะ ส่วนไซไฟโลกอนาคตที่ไม่ต้องสร้างใหม่แค่เอาโลกเราๆมารีบูท มึงก็ไปดููููซีรี่ส์โทอารุของตาคามาจิเอา แนะนำให้ตามอ่านนิยายหรือมังงะจะเข้าใจง่ายกว่าอนิเมที่ตัดแหลก
อนึ่ง พวกฮีโร่มาเวลหรือดีซีมึงก็เอามาใข้เป็นแหล่งอ้างอิงได้นะ ยิ่งกลุ่ม x-men นี่จะเห็นภาพชัดเลย

192 Nameless Fanboi Posted ID:YvCfKy3X1R

อยากรู้เรยว่าเคลียร์กับมะม่วงแล้วจะมีคำขอโทษมาให้เห็นไหม กิกิ

193 Nameless Fanboi Posted ID:YHIAPDtkm6

>>191 สตาร์​วอร์ไม่ใช่ scifi ตบปากซะ

194 Nameless Fanboi Posted ID:3sEzzTjtLP

>>193 กูมองว่ามันเป็นไซไฟ-แฟนตาซี แค่กลิ่นอายความเป็นไซไฟมันต่ำมาก ความแฟนตาซีมีสูงกว่า

195 Nameless Fanboi Posted ID:q2Vr3fDCFl

เขาก็มีแบ่งเป็น soft scifi สำหรับเรื่องอย่างลิเกอวกาศ star wars, Star Trek, กันดั้ม

196 Nameless Fanboi Posted ID:Ja1Re7+2zX

อ้าว ใครไปเปิดศึกกับพี่ตุ๋นล่ะนั่น
https://www.dek-d.com/board/view/3964474/

197 Nameless Fanboi Posted ID:H.kL.uRnf3

>>196 มาไม่ทัน TKแก้เม้นหนีไปแล้ว

198 Nameless Fanboi Posted ID:TFF2bQjNnf

>>197 ขอต้นฉบับของ TeamKill ด้วย

199 Nameless Fanboi Posted ID:75MofbZmaT

>>191 แล้วไม่แนะนำหมอหินบ้างเรอะ ไซไฟเยอะกว่าพี่ฟิสิกส์

200 Nameless Fanboi Posted ID:Ot5YSrZ5W4

>>196 กูว่ามันต้องมีคนหมั่นไส้แล้วเข้าปะทะแน่ๆ ใช้คำว่า ความรู้อันน้อยนิด แล้วข้อมูลของมันยังเอ่ยถึงราชวงศ์จีน ยังกับเอาความรู้จีนมาแทรกในข้อมูลดยุคงั้นแหละ

201 Nameless Fanboi Posted ID:sIHXI5VaGL

กูรู้สึกคิดถึงนักอ่านว่ะ​ คือไม่ใช่ว่านิยายที่กูแต่งไม่มีคนอ่านนะ​ แต่มันจะมีคนอ่านคนนึงอ่านนิยายที่กุแต่งมาตั้งแต่กุแต่งนิยายใหม่​ ๆ​ เมนต์นิยายให้กูทุกตอนซึ่งช่วงนั้นกูเงี่ยนเมนต์​ ได้เมนต์ยาวเกือบสิบบรรทัดนี่น้ำแทบแตก
จนกูแต่งเรื่องใหม่ก็ตามมาอ่านมาเมนต์ตลอด​ นับแล้วน่าจะเกือบ​ ๆ​ 300​ เมนต์ได้​ บางทีเราก็เมนต์ตอบโต้กันอย่างกับห้องแชท​ ออกทะเลคุยเรื่องอื่นบ้างครั้งคราว

แต่มาวันนึงคนอ่านคนนั้นหายไปจากชีวิตกู​ อยู่​ ๆ​ คือหายไปเลย​ ถึงนิยายกูยังมีคนอ่านยังมีเมนต์ของนักอ่านคนอื่นเมนต์เรื่อย​ ๆ​ ​ แต่กูก็อดคิดถึงคนอ่านคนนั้นที่ทำให้กูแต่งนิยายมาถึงตอนนี้ไม่ได้จริง​ ๆ​
คาดว่าคงเข้ามหาลัยงานเยอะไม่มีเวลาล่ะมั้ง

202 Nameless Fanboi Posted ID:TXZSWDCKz/

>>201 มึงใจเย็นๆก่อน นิยายมึงไม่มีใครเม้นอย่างนั้นนะ มึงน่ะหลอนแล้วคุยกับตัวเอง มึงต้องระงับความเงี้ยนเม้นบ้างนะ รู้ว่าเหงาแต่อย่าหลอกตัวเองดิเพื่อน นักอ่านในจินตนาการของมึงมันไม่มีจริง ตื่นได้แล้ว

203 Nameless Fanboi Posted ID:Ot5YSrZ5W4

>>201 คนอ่านคนนึงก็คือตัวมึงไง eieieiei

204 Nameless Fanboi Posted ID:sIHXI5VaGL

>>202 >>203 ตอนแรกมาแนวดราม่า​ หักมุมเป็นหนังโรคจิตเลยแสสสสสส​ 5555555

205 Nameless Fanboi Posted ID:Df0LmFPmT7

>>201 เคยมีอยู่คน ตามกูสมัยเมื่อ 10 ปีก่อน แต่ไม่ได้ถึงขั้นเม้นท์ตอบโต้ยาวเป็นหน้าอะไรหรอกนะ ปีที่แล้วกูลงนิยายใหม่แล้วเขาหายไป ใจหายๆ เลยไปทักเขา สรุปไปเปิดสนพ.ตัวเองไปแล้ว ไม่มีเวลาอ่านนิยายอื่นๆ วันๆ โดนต้นฉบับทับตายไปแล้ว

206 Nameless Fanboi Posted ID:sIHXI5VaGL

กูคงเก็บเรื่องราวที่ผ่านมาเป็นความทรงจำดี​ ๆ​ นั่นแหละ​ ก็แค่นึกถึงทำใจมาตั้งนานแล้วว่าซักวันต้องหายไป​ เจ็บแต่ต้อง​ Move On.. แม่มสภาพอย่างกะคนพึ่งเลิกกับแฟน

207 Nameless Fanboi Posted ID:MSsUyMp250

สำหรับกูแม่งปลงตกแล้วว่ะ ทุกอย่างก็เป็นงี้หมดอะ มีเข้ามาแล้วก็มีจากไป ที่หนักใจกว่าคือคอมเมนต์กวนส้นตีนกับพวกชอบปั่นเมนต์มากกว่า น่ารำคาญสัสๆ รกหน้านิยาย 55555

208 Nameless Fanboi Posted ID:oQ+vq8HO+O

ถามความเห็นโม่งหน่อย ใน fictionlog ระหว่างเขียนเป็นเรื่องเดียวยาวๆ(ประมานว่าเอาแฮรรี่พอทเตอร์ทุกภาคมาใส่รวมกันเป็นนิยายเรื่องเดียว)​ กับเขียนให้จบเป็นบทใหญ่ๆแล้วแยกเป็นหลายเรื่อง(แยกแต่ละภาคแต่ซีรีย์เดียวกัน)​ แบบไหนเหมาะกว่า?

209 Nameless Fanboi Posted ID:yVbOxO5Ndj

>>208 แบบที่เขียนจบ

210 Nameless Fanboi Posted ID:gK/wZ.gNVk

>>209 savage...

211 Nameless Fanboi Posted ID:oQ+vq8HO+O

Savage?
Nope
พอดีกูก็เห็นเรื่องที่มันก็ยังไม่จบทั้งสองแบบอะนะ เลยถาม

212 Nameless Fanboi Posted ID:oQ+vq8HO+O

อย่างเรื่องนี้ที่แม่งยัดไป 1000+ กว่าตอน https://fictionlog.co/b/5e47bd7c339906001a4d9222
กับเรื่องนี้ที่แบ่งจบเป็นภาคๆ แต่เรื่องเดียวกัน https://fictionlog.co/b/58948f57e5243f1ce80d4122

กูถามความเห็นในแง่การตลาด ไอ้เขียนให้จบ เขียนให้ดัง เออกูรู้...มึงไม่ต้องพูดกะได้

213 Nameless Fanboi Posted ID:gK/wZ.gNVk

>>212 ถ้าเป็นกู กูจะเอาลงที่เดิมนั่นแหล่ะ เลขเยอะๆ ดูสวยดี ลงภาคใหม่ต่อเรื่องเดิม เพิ่มเติมแค่ชื่อภาค

214 Nameless Fanboi Posted ID:oQ+vq8HO+O

ขอแบ่งอีกที (อันนี้คือกูพูดในกรณีแม่งเป็นนิยายซีรีย์เดียวกันนะ)
1. ลงเป็นนิยายเรื่องเดียวยาวๆ 1000+ ตอน
2. ลงเป็นนิยายหลายเรื่อง ต่อเป็นภาค 1,2,3,4...
3. ลงเป็นนิยายหลายเรื่อง อ่านเล่มไหนก่อนก็ได้

215 Nameless Fanboi Posted ID:oQ+vq8HO+O

อย่างแบบ 1 นี่กูเห็นมันมีนิยายบางเรื่องแบบ...ไม่ได้เขียนดีเด่อะไรมากแต่แม่งเขียนไม่เลิกจนติด Top ซะงั้น และยังไม่มีแววจะจบ ราคารวมกันแรงใช้ได้ แต่ถ้าไปแบ่งเป็นแบบที่ 2 คนจะรู้สึกว่าตัวเองจ่ายน้อยลงหรือเปล่า? ส่วนแบบที่ 3 ส่วนตัวกูมองว่าค่อนข้างเข้าท่า แต่กูไม่ค่อยเห็นรูปแบบในนิยายเว็บว่ะ เลยไม่รู้ว่ามันจะเวิร์คหรือเปล่า

216 Nameless Fanboi Posted ID:oQ+vq8HO+O

แล้วมันมีกรณีเว็บโฆษณาให้โดยนับจากยอดเฟบด้วย มีผลชัดสุดคือตอนค้นหานิยายตามหมวดต่างๆ แบบที่ 1 นี่คือได้จุดนี้ไปแน่ๆ ส่วนแบบที่ 2 กับ 3 เป็นพวกมึงซื้อเก็บไว้ก็อยากเฟบให้มันครบเซ็ทปะ? (หรือถ้าซื้อก็เท่ากับเฟบแล้ว? ไม่รู้ระบบเหมือนกัน) หรือมีอะไรที่กูไม่รู้ก็แชร์มาหน่อย กูโง่

217 Nameless Fanboi Posted ID:crIMaYQ7Zu

>>214 ลงต่อกันไปเลยเชื่อกู เพราะยังไงตอนขายแพ็คมันก็ต้องซื้อแยกกันอยู่ดี กูย้ำอีกครั้งว่า เรื่องเดียว ล้านกว่าวิว ดีกว่า สี่เรื่อง เรื่องละสามแสนวิว แน่นวล

218 Nameless Fanboi Posted ID:ORtXS2u0kH

นี่กูเข้าเว็บผิดเปล่าวะ ดงขยะอย่างโม่งทำท่ามีสาระเป็นด้วยไอ้ห่า มาซะอย่างกับเด็กดวก

219 Nameless Fanboi Posted ID:crIMaYQ7Zu

>>218 นานๆ ที ก็ต้องมีเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เรื้อนเรื่อยๆ เดี๋ยวสมองฝ่อ ปรับสมดุลมั่งดิเฮ้ย ไม่ใช่เอะอะก็ต่อยกันอย่างเดียว

220 Nameless Fanboi Posted ID:c3Rtgfc49I

กูว่าตรงกันข้ามเลยด้วยซ้ำำ กระทู้สาระในเดกดวก? มันมีด้วยเหรอ? กูเห็นมีแต่กระทู้ปิดเทอม

221 Nameless Fanboi Posted ID:Ofih9hNB3I

กูว่าโม่งนี่สาระมากกว่าเด็กดวกนะ ถึงบางทีจะสารเลวก็เถอะ

222 Nameless Fanboi Posted ID:ckE7IYd7BO

>>221 กูว่าไม่บางทีอะ เหี้ยเกือบตลอดเวลา

223 Nameless Fanboi Posted ID:xL1o/5VVKa

>>222 ก็จริง แต่กุคนนึงขอค้านที่ว่าเด็กดวกมีสาระ อย่างมากก็แค่พยายามทำตัวมีสาระ อุอิอุอิอุอิ

224 Nameless Fanboi Posted ID:M+GvlrZUrZ

>>223 อิอิออิ งุงิ คริครุ

225 Nameless Fanboi Posted ID:.7ea//Eafe

วันนี้ไม่มีดราม่ามันๆเบย

226 Nameless Fanboi Posted ID:J+kkVXerch

>>225 อยากมีดราม่ามั้ย เดี๋ยวกูแปลงร่างเป็นโม่งเพลงปั้มรัวๆให้ด่าเล่น

227 Nameless Fanboi Posted ID:1vTu1RfRto

>>226 ไม่ใช่ว่าเป็นโม่งเพลงแล้วจะโดนเมิน​ ไม่เห็นเงาหัวหรอวะ​ ดราม่าตรงไหน

228 Nameless Fanboi Posted ID:w5XAzuyeQd

หาสักประเด็นมาถกสิ

229 Nameless Fanboi Posted ID:.7ea//Eafe

>>228 ไม่รู้จะยกไรมาเลย เห็นบอร์ดก็มีแต่ปิดเทอมแล้วเห่อหมอยมากันเต็ม ยังไม่มีใครล่อตีนหนักๆ อีน้องหันหนีก็ยังไม่ประกาศศักดา นิยายก็ไม่มีอะไรโดดเด่นสักอย่าง นรากูรอลุ้นมะม่วงกับ 100 องศา อยากเห็นบทสรุป

230 Nameless Fanboi Posted ID:kJTkN1mB6Y

Father Forgive me
For you know that
I am always sinning
I take no interest
Partying with liquor
Fucking up my sistem
Excuse my lenguaje
That's a hang up on
How shitty i've been feeling
Im sorry i feel no attraction and
Now that it's been a minute
Cause i've been so alone for so long

231 Nameless Fanboi Posted ID:wCv08qTOXL

>>229 มึงพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็ดีแล้ว กูมีบทสรุปมาให้อ่านแหล่ะ แต่ขอเวลาพิมพ์หน่อยยาวสัสๆ คือกูหวังว่าจะได้เจอคนที่ลุยด้วยแล้วจะทำให้เครื่องติด แต่มันไม่ใช่ว่ะ คือกลับกันเลย ถ้าไอ้นี่เข้ามาในโม่ง ก็คงกลายเป็นน้ำแก้วที่ 4 อะ อย่างที่โม่งอีกคนว่าไว้เลย นักเขียนผู้ชายบางกลุ่มนี่ (โดยเฉพาะพวกไซไฟวอนนาบี) แม่งน่าเบื่อโคตรๆ สำหรับไอ้นี้กูเลยต้องเลิกคุยกลางคัน ตัดฉากลูบหลังแล้วว่าพอแล้วนะ โชคดีมีชัยแล้วกันพ่อคุณ มันทำให้กูหมดอารมณ์ได้ยังไง เดี๋ยวจะบอกในเมนต์ถัดๆ ไป

232 Nameless Fanboi Posted ID:BZSHKxWg5M

>>231 กูนี่รออ่านเลย เอาจริงก็คิดไว้ว่าแม่งต้องเจอกับพวกยืนกระต่ายขาเดียว ตรรกะแบบพล็อตกู ทฤษฎีกูถูกที่สุด แต่อยากรู้ว่ามันจะน้ำล้นแก้วถึงขั้นไหน

233 Nameless Fanboi Posted ID:.7ea//Eafe

>>231 ไม่อยากจะสเตอริโอไทป์นะ แต่มันตอกย้ำมากๆ จนชนิดที่ว่าพยายามมองต่างไม่ได้จริงๆ

ธรรมดานักเขียนชายในเด็กดีก็อีโก้สูง น้ำเต็มแก้ว เชื่อมั่นในตัวเองจนล้นไปทางมั่นหน้า แต่ไอ้พวกไซไฟ คิดว่าตัวเองสายวิทย์นี่คือขั้นกว่าในกว่า ขั้นสุดในสุด กูเห็นมานักต่อนักมาก ไม่มีใครสักคนที่จะยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง

234 Nameless Fanboi Posted ID:ThK6jDgEAa

ยกมือสงสัย...ทำไมพวกเขาต้องมั่นใจอะไรขนาดนั้นครับคุณครู เหมือนพวกเขาไม่เคยถูกสอนมาว่า โลกนอกกะลามีคนเก่งเป็นร้อยพันหมื่นแสนล้าน
พวกเขาอีโก้สูงจนผมงี้ตัวลีบเลยครับ

235 Nameless Fanboi Posted ID:wCv08qTOXL

เอาล่ะ คิดเสียว่าเป็นสับสั้นไปในตัว กูจะพยายามพูดถึงตัวบุคคลให้น้อยที่สุด แล้วจะชี้ช่องว่าเซตติ้งมันล้มเหลวยังไงในช่วงแรก ตามด้วยการวิเคราะห์บทคัดย่อที่มันส่งมาให้กูอ่าน เพื่อแก้ต่างให้นิยายตัวเองว่าเซตติ้งของมันไม่ได้เหลวไหลนะ

บอกตามตรงเลยนะเพื่อนโม่ง คุยกับไอ้นี้แล้วกูต้องอดกลั้นมากๆ คือมันเป็นประเภทดื้อตาใส อาจไม่ได้มาแบบหยาบคายแต่มันเชื่อมั่นว่าตัวเองคิดทุกอย่างมาถูกต้องแล้ว คำพูดคำจาสุภาพเรียบร้อยแต่ชุ่มโชกไปด้วยอีโก้ ตอนแรกกูก็คิดว่าอาจเจอแค่คนหัวดื้อธรรมดา แต่หลังคุยจริงๆ ไอ้เหี้ยนี่อาจอาการหนักพอๆ กัน หรือหนักกว่าพี่ฟิกส์คราวก่อน

คำอธิบายที่กูได้มาคือมันพยายามหลอกคนอ่าน และจำกัดข้อมูลที่นักอ่านจะได้ในช่วงแรกให้เท่าๆ กับตัวละครพระเอก ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของนิยายที่แต่งด้วย POV 1 คือเราอ่านแล้วเรารู้เท่าตัวละคร แล้วจะค่อยๆ แสดงข้อมูลไปตามเนื้อเรื่องส่วนต่างๆ ผ่านเหตุการณ์ที่พระเอกต้องเผชิญ โดยทั้งหมดทั้งมวลของนิยายเรื่องนี้คือได้แรงบัลดาลใจมากจาก Maze Runner คือกำหนดไว้ว่าจะให้มี 3 ภาค และจุดพีคในแต่ละภาคก็จะให้ออกมาคล้ายกัน คือจบแบบหักมุมในภาค 1 หนีออกจากถิ่นอาศัยในภาค 2 และบุกเข้าโจมตีเมืองหลวงในภาค 3

หลังจากอ่านสปอยนิยายที่มันส่งมาให้จบแล้ว กูพบทางสว่างว่าไม่ควรเสียเวลากับมันอีกต่อไป เลยบอกแค่ว่า ถ้ายังคิดจะแต่งตามแผนเดิม ยอดวิวมันก็จะแห้งๆ หน่อย นิยายแนวนี้คนอ่านน้อยในเด็กดี สำนวนแปลเขียนมาได้โอเคแต่ถือว่าเป็นทางการและเยิ่นเย้อเกินไปสำหรับน้องเกรียนทั้งหลาย มันขายไม่ได้ในเว็บที่เต็มไปด้วยงานเขียนเทพซ่า ภาษาอ่านง่าย และไม่ต้องคิดอะไรให้ลึกซึ้งเกินระดับผิวเผิน อันนี้เป็นคำแนะนำสุดท้ายแล้วจริงๆ ในฐานะนักเขียนด้วยกัน

สิ่งที่กูได้มาจากตัวเจ้าของเรื่องคือคำอธิบายว่า ไอ้ "อีวาน บราวน์" ตัวเอกกับคนอื่นๆ ในเรื่องคือโดนล้างสมองแล้วโยนเข้ามาไว้ในพื้นที่ซึ่งเป็นสิ่งแวดล้อมจำลองขนาดโคตรกว้าง ข้อมูลนี้จะถูกเฉลยออกมาในช่วงตอนที่ 9-11 ว่าทุกอย่างในเรื่องที่ผ่านมาคือการทดลองนำคนมาอยู่ในพื้นที่สิ่งแวดล้อมเลวร้าย ส่วนที่มาของหนูทดลองคือพวกเด็กกำพร้า คนยากจน หรือกลุ่มคนตกงานที่ขายตัวเองมาเข้าร่วมโครงการเพื่อปลดหนี้ให้ครอบครัว คนเหล่านี้จะโดนเปลี่ยนความทรงจำใหม่ โดยให้เข้าใจกันไปเองว่าโลกที่ตัวเองอาศัยอยู่แม่งร้อนถึง 100 องศาไปแล้ว ทั้งๆ ที่ความจริงๆ อยู่ที่ 47-48 องศาเท่านั้น (ตัวเลขฟังดูน้อยลง แต่ระดับนี้ก็ยังร้อนบรรลัยอยู่ดี)

ทำไมถึงต้องมีโครงการนี้ขึ้นมา ? ตัวโครงการเกิดขึ้นโดยความคิดของรัฐบาลโลก ว่าด้วยการหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาโลกที่ร้อนขึ้นทุกวัน โดยการทดลองจะมีความรุนแรงกว่าสิ่งแวดล้อมในโลกจริงข้างนอกอยู่ราว 10% คล้ายเป็นการหาทางเตรียมตัวและรับมือกับภัยพิบัติที่กำลังจะตามมา ตลอดการทดลองมีกลุ่มคนติดตรา "DR" เป็นเหมือนคนคอยกำกับไม่ให้เกิดความวุ่นวายในโดมทดลอง พวกนี้เป็นทหารฝีมือดีที่ทางรัฐบาลโลกนอกโดมคัดสรรมาแล้ว (ปรากฏตัวในตอน 11) สิ่งที่กูไม่เข้าใจคือ ทำไมนายทุนที่ออกค่าใช้จ่ายให้การทดลองนี้ถึงเข้ามาอยู่ในโดมเตาอบนี้ด้วย กฏมีเขียนไว้ชัดเจนว่าคนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้าหลังเริ่มต้นโครงการ แล้วพวกมึงจะเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงภัยทำเชี่ยอะไรวะ คือต่อให้ใช้ชีวิตสุขสบายในเมืองหลวง มีเทคโนโลยีไฮเทคคอยเอื้อในการดำรงชีพจนสามารถอยู่ได้อย่างสุขสบาย แต่พื้นที่จำกัดก็มีความหมายคงเดิม เพราะมันคือ "คุก" หรือ "คอก" คอยกักขังไว้ในเขตๆ หนึ่ง จ่ายเงินส่งตัวเองเข้าคุก ? ไม่โง่ก็บ้าอะ บ่องตง

ข้อดีของนิยายเรื่องนี้คือคนแต่งเขียนคำผิดน้อย ใช้ไม้ยมกถูกต้อง (ส่วนอย่างอื่นนั้น... พังมาก) อาจมีการใช้คำผิดความหมายบ้าง เช่น ใช้คำว่าเด็กชายกับพระเอกอายุ 21 หรือใช้ "สั่นเครือ" กับอาการสั่นของร่างกาย ซึ่งปกติคำว่าสั่นเครือควรถูกใช้กับเสียงเท่านั้น (เกิดมาเพิ่งเคยเจอ "อีวานยืนขาสั่นเครือ" เนี่ย) เรื่องสำนวนนิยายแปลนี่ก็เหมือนกัน ท่าทางจะอ่านนิยายแปลมาเยอะจนซึมซับวิธีเขียนแบบนี้มา คือดูแล้วมันรู้เลยว่าไม่ได้แต่งด้วยความคิดสร้างสรรค์หรือเขียนในสไตล์เฉพาะตัว pattern ที่เจอนั้นซ้ำซากและสูตรสำเร็จมาก ฝรั่งจ๋าจนนิยายตุ๋นกบพ่ายแพ้ในความเป็นฝรั่ง พวกนี้คืออะไรที่อ่านแล้วยังพอทำใจหรือมองข้ามไปได้ แต่ที่รับไม่ได้ รับไม่ไหวเนี่ย เดี๋ยวจะแจงให้ฟังเป็นข้อๆ ข้างล่าง

236 Nameless Fanboi Posted ID:J+kkVXerch

>>231 แก้วใบที่5ดิ แก้วใบที่4มันไอ้ D ไม่ใช่หรอ ที่มันเปิดโม่งเข้ามาอะ ไม่รู้หายไปไหนแล้ว เงียบไปเลย

237 Nameless Fanboi Posted ID:.7ea//Eafe

>>235 inspired by maze runner เหี้ยๆ

238 Nameless Fanboi Posted ID:0.KHRnU7N9

>>235 อื้อหือ กลิ่นแรงมวาก

239 Nameless Fanboi Posted ID:wCv08qTOXL

>>235 อย่างแรกเลย แม่ง ไม่ยอมตอบคำถามกู

คือกูส่งข้อความโต้ตอบกับมันเป็นระยะเวลาหนึ่ง ส่วนใหญ่คือมันเล่าพล็อต (ที่คิดว่ารัดกุม) ให้กูฟัง พยายามนำเสนอความเป็นไปได้ จนกูอยากตะโกนใส่หน้าว่า "มึงไปเอา Tag วิทยาศาสตร์ ออกเดี๋ยวนี้" เพราะนิยายของมันเอียงไปทางผจญภัย อยากเน้นแค่ความตื่นเต้นเร้าใจ จนวิทยาการต่างๆ เป็นเพียงไม้ดอกไม้ประดับในสวนของแม่ง มันตอบกลับกูมาด้วยข้อความที่แปลไทยเป็นไทยเข้าใจง่ายว่า "ก็มันมีคนคิดเครื่องนี้ขึ้นได้ แล้วมันใช้ได้ผลน่ะ ไปคุยเกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักกันดีกว่า" อ่านแล้วอุทานในใจว่าไอ่หลึกหลวง ถ้าคิดแค่ใช้เป็นองค์ประกอบ มึงก็อย่าชูแนวคิดวิทยาศาสตร์มาเรียกแขกแต่แรกสิวะ ยังไงดีอะ คือกู list ให้มันเป็นข้อๆ จะได้ตอบง่าย คุยกันแบบตอนกูไปจี้ NK ที่หน้านิยายคราวก่อน ไอ้เชี่ย เอาอะไรไม่รู้มาให้กูอ่าน ไม่สนใจที่กูถามเลย

คือต่อให้มันอธิบายว่านี่เป็นแค่สภาวะแวดล้อมจำลอง แต่ใจกูก็ข้องอยู่ดีไง เพราะรู้ว่าแม้จะเป็นการจำลอง แต่ผลกระทบต่อสัตว์ทดลองยังไงมันก็ต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงมันเฉลยแล้วว่าสวนขวด (ใครไม่รู้จักลองค้นกุเกิ้ลดู) ที่พระเอกอยู่ร้อนแค่ 47-48 องศา แล้วเรื่องลมแดด การขาดน้ำ ความร้อนที่ส่งผลต่อการล้มเหลวของอวัยวะ การแปรสภาพของโปรตีนในเซลล์ (แบบที่ไข่สุกจนกลายเป็นสีขาวหลังโดนความร้อน) หรือปัญหาอื่นๆ ที่แก้ไขด้วยการให้หลบอยู่ใต้หลังคาหุ้ม PIR ไม่ได้ เรื่องพวกนี้มันหายไปไหน มันข้ามไปตอบอย่างอื่นแทนเฉย

ตอนกูถามว่าในเมืองเลเบอร์ทาวน์ (ตั้งซะตรงตัวเลยนะ) ที่อาหารและน้ำหายากโครตๆ พระเอกมันนอนเมากอดขวดเหล้าได้ไง เหล้าไม่ใช่ของสงวนสำหรับพวกคนรวยเหรอ อันนี้แม่งก็ไม่ตอบ ช่วงที่อีวานแย่งปืนจากรีสเฮด (ผู้คุมที่ใหญ่สุดในเมือง) ทำไมแย่งปืนได้ง่ายจัง ไอ้ลูกน้องที่ตามมาสามตัวนั้นทำไมไม่ยิงปืนไฟฟ้าช็อตพระเอกให้ล้มก่อนจะเข้าถึงตัวหัวหน้า ก็ไม่ตอบ ที่สำคัญคือพอพระเอกได้ปืนพวกแม่งก็ยืนเลิกลั่กคุมะกันหมด อะไรคือความกระจอกของทีมคุ้มกันแบบนี้วะ เค้กก็ด้วย เค้กที่เบนจี้ให้เจ๊แมคกินตอนเจ๊ยังเด็ก จะหาแดกขนมปังสักก้อนยังยาก นี่ถึงขั้นมีเค้ก topping ด้วยครีมสดและสตรอเบอร์รี่ (ก็มันวาดรูปแปะไว้อะ) มาได้ไงวะ งงสัส การเพาะปลูกในโลกร้อนๆ นี่ก็อีก ตอนแรกบอกว่ามีเทคโนโลยีเรือนกระจกเป็นสัดส่วนสำหรับปลูกพืชอาหาร พอกูถามว่านำเข้ามาจากนอกโดมไม่ง่ายกว่าเหรอ ดันบอกว่ากู๊ดไอเดีย (กูนี่รู้สึกเหมือนโดนหลอกให้อุด plot hole เลยแม่ง)

แต่พวกนี้ฟังดูเป็นบั๊กเล็กๆ น้อยๆ ไปเลยเมื่อเทียบกับปมใหญ่ที่นักเขียนวางไว้ ถ้าจะให้สรุปเส้นเรื่องทั้งหมดนี่ กูจะเล่าให้พวกมึงอ่านแล้วลองคิดตามในฐานะนักอ่านที่ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนตัวยงของแนวไซไฟก็ได้ ว่าจับพิรุธและความอิหยังวะได้กี่ข้อ

240 Nameless Fanboi Posted ID:wCv08qTOXL

>>239

เริ่มต้นด้วยรัฐบาลโลกเจอปัญหาโลกร้อน เลยคิดโครงการทดลองนำคนเข้าไปอยู่ในโดมปรับภูมิอากาศ ไล่ต้อนเอาพวกด้อยโอกาสกับพวกอยากปลดหนี้มาเป็นหนูทดลอง ปรับความทรงจำแล้วให้ใช้ชีวิตอยู่ในเลเบอร์ทาวน์ ส่วนในเมืองหลวงก็จะมีพวกนายทุนที่สนับสนุนเงินทุนในการทดลองนี้ เข้าไปอาศัยอยู่ด้วยสภาพชีวิตที่ดีกว่ามากแต่ก็โดนปรับความทรงจำเหมือนกัน รัฐบาลโลกควบคุมความเป็นไปในโดมผ่านการสั่งการกลุ่ม DR ที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงภายในโดม (ไม่โดนปรับความจำ) งานแรกสุดของพวกนี้คือการปล่อยข่าวลือว่าตอนนี้โลกแม่งร้อนจนถึง 100 องศาแล้ว ตามด้วยการทดลองโรคจิตอย่างการค่อยๆ เพิ่มความร้อนขึ้นเรื่อยๆ เพื่อดูว่ามนุษย์ในเลเบอร์ทาวน์จะทนร้อนได้แค่ไหนก่อนที่จะขาดใจตาย หลังจากนั้นก็ปรับอุณหภูมิลงมาเหลือ 47-48 องศา (ตอนนี้โลกนอกโดมอยู่ที่ 40 องศา) เพื่อเก็บข้อมูลต่อ และใช้พวกที่ยังเหลือรอดคอยเล่าให้คนอื่นฟังว่าแดดแม่งอันตรายโคตรๆ แล้วเติมคนที่โดนล้างความจำเข้ามาทดลองเรื่อยๆ ตอนเริ่มเรื่องในนิยาย พระเอกเป็นคนกลุ่มที่มาทีหลังและมีความรู้แค่โลกแม่งร้อนถึง 100 องศาแล้ว (ซึ่งความจริงคือคิดไปเอง)

ต่อมาพวกคนรวยในเมืองหลวงรู้ความลับว่าตัวเองโดนจับมาอยู่ในพื้นที่ทดลองเหมือนกัน พอทนความลำบากไม่ไหวก็เลยแอบสนับสนุนการวิจัยในพื้นที่ทดลอง B-11 จนได้ออกมาเป็นบลูเซรั่ม เซรั่มต้านความร้อนที่พูดถึงกันในเรื่อง เซรั่มนี้จะถูกใช้เพื่อให้พวกคนรวยและคนของรัฐบาลโลกในโดมสามารถเดินทางไปยังขอบโดมแล้วหนีไปได้ พอถึงตรงนี้มี conflict ใหม่เกิดขึ้นว่า หนึ่งในกลุ่มนายทุนไม่เห็นด้วยกับความคิดดังกล่าว และต้องการให้ทุกคนในโดมได้หนีออกไปทั้งหมด (หมายถึงพวกในเลเบอร์ทาวน์ด้วย) พอเป็นเสียงข้างน้อยข้อเสนอของนายทุนคนนั้นเลยถูกโหวต No ลุงคนที่ว่าเลยแอบก่อตั้งกลุ่ม HELPER (ชื่อเช๊ยเชย) ขึ้น เพื่อชิงเอาบลูเซรั่มมาให้ได้ก่อนจะหมดโอกาสช่วยชนชั้นล่างของโดม พอรัฐบาลโลกนอกโดมรู้ข่าวเข้าก็เลยกดสั่งระบบในศูนย์ B-11 ปล่อยไวรัสออกมาเพื่อฆ่าคนแถบนั้นให้หมด เพราะไม่อยากให้การทดลองจบเร็วเกินไป (กู: ทำหน้าอิหยังวะขั้นสุด) แต่ก็ไม่ทันการเพราะมีคนของ HELPER ขโมยเซรั่มออกมาได้เรียบร้อยแล้ว (ซึ่งก็คือช่วงที่เล่าในตอน 4-7) สำหรับเนื้อเรื่องหลังจากนั้น ยังไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจน ความคืบหน้าล่าสุดคือตอนที่ 14 (กลางเล่ม 2) ซึ่งเป็นการเปิดเผยตัวสายลับของ HELPER ที่เป็น DR ของรัฐบาลโลกอยู่ด้วย

เอาล่ะเพื่อนโม่ง อ่านแล้วใช้สมองกันดูหน่อย ว่ามีความหวังบ้างไหมที่เรื่องนี้จะจบแบบสวยๆ ได้ เล่มที่ 3 จะแท้งตั้งแต่ยังไม่ได้เย็ดหรือเปล่า และความขัดแย้งในตัวเองของเนื้อหามีอะไรบ้าง ความเห็นของกูเดี๋ยวจะเขียนต่อในเมนต์ถัดไป แล้วค่อยมาอ่านแล้ววิเคราะห์ร่วมกันอีกรอบนะ

241 Nameless Fanboi Posted ID:0.KHRnU7N9

>>240 อะไรคือไม่อยากให้การทดลองจบเร็วแต่พอมีคนที่ฟื้นความจำได้เเล้วไม่เอาไปล้างสมองใหม่ วดฟ อิหยังวะ

242 Nameless Fanboi Posted ID:wCv08qTOXL

>>240

พูดถึงความขัดแย้งกันเชิงวิทยาศาสตร์ก่อน

กูจับได้หลายข้ออยู่ เอาเฉพาะที่สำคัญๆ อย่างแรกคือความร้อนจริงของโดมนี้ นักเขียนอ้างว่าเป็นการหลอกให้นักอ่านเข้าใจผิดตามพระเอกว่าโลกมันร้อนถึง 100 องศาจริง จึงทำการการประหารแรงงานที่ขโมยของโชว์ในบทนำ (จับมัดกับเสาให้แดดเผาจนตาย) ตรงนี้ถ้าใครอ่านก็ต้องรับข้อมูลและเกิดความเชื่อใน false information ข้อนี้ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะลุงที่โดนย่างแกก็ตายเร็วมาก ความคิดนี้เองจะทำให้เราปักใจเชื่อว่าแสงแดดแม้จะเป็นในตอนเช้า (ที่นักเขียนอ้างว่าตอน 06.00) ก็ยังย่างสดคนได้ มันคง 100 องศาจริงๆ นั่นแหล่ะ ส่งผลให้เกิดความสับสนและต่อต้านในเนื้อหาของตอนถัดๆ มา (เพราะในหัวเชื่อไปแล้วว่า 100 และไม่รู้ว่าจริงๆ มันคือ 47-48 ที่กว่าจะเฉลยก็อีกนาน) ในเหตุการณ์ที่พระเอกพยายามลากตัวเจฟฝ่าแสงแดดเพื่อหนีรีสเฮด คำถามในหัวกูตอนนั้นคือ ทำไมพระเอกกับเจฟถึงไม่ตายเหมือนลุงบทนำ ในเมื่อช่วงตอนรีสเฮดบุกมาเป็นเวลาที่แสงอาทิตย์สาดเต็มที่

นอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีความงงด้วยว่าพวก HELPER มันโผล่มาพาพระเอกที่สลบจากความร้อนหนีไปเซฟเฮ้าส์ตอนไหน ยังไง เพราะตอนที่เกิดเรื่องรีสเฮดอาจหยิบปืนที่พระเอกทำตกไว้ก่อนหนีไปกลับขึ้นมา แล้วพวกคนที่มาช่วยไม่โดนยิงตายกันรึไง อ่อแล้วเรื่องฝ่าแสงแดดนี่ ตอนหลังๆ มีการ Sprint ฝ่าแดดโดยมีตัวช่วยเป็นน้ำสองอึกด้วยนะ วิ่งข้ามถนน 1 ช่วงตึกยาว 20 เมตร ฝ่าความร้อน 100 องศาในรูปแบบ Direct Ray มันจะรอดได้ไงวะ ตอนนั้นกูงงมาก เพราะตอนฝ่ารอบแรกช่วงหนีรีสเฮด ตัวเอกยังทนไหวแต่ 3-4 วิก่อนจะหมดสติเพราะถูกแดดเลีย คือต่อให้เป็นการค่อยๆ เพิ่มขึ้นของระดับความร้อนก็ตาม ไอ้การไล่ระดับขึ้น 100 องศาเนี่ย กูให้สุดๆ เลยไม่เกิน 6 วินาทีที่อุณหภูมิห้อง คิดกันเล่นๆ ดิ ถ้าเอามือจุ่มน้ำเดือดๆ แค่ 1 วินาที ผลจะออกมาเป็นยังไง คราวนี้วิ่งลัดแดด 100 องศาในระยะทางไกลพอสมควรเนี่ย มันควรออกมาเป็นแบบไหนวะ

(ซึ่งตรงนี้นักเขียนแถกับกูแล้วว่า จริงๆ มันคือ 47-48 องศาน่ะ) อย่างไรก็ตามในตอนนั้นกูถูกทำให้เชื่อว่ามัน 100 องศาอยู่ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่กูกับมีนจะต้องรู้สึกต่อต้านว่าเซตติ้งนี้แม่งไม่สมจริง และเล่นใหญ่เกินตัวกับข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ ทว่าไอ้เจ้าของเรื่องมันมีทางออกของตัวเองที่คิดว่าสมเหตุสมผลแต่ยังไม่ถึงจุดที่จะบอก ก็เลยเป็นเดือดเป็นร้อนว่าคุณยังอ่านไม่ครบแล้วมาสาดเสียเทเสียได้ไง (ขนาดมึงเองยังลงนิยายไม่ถึงตอนที่ว่าเลย แล้วกูจะตรัสรู้ได้เองไหม) ตรรกะเดิมๆ อะ ดูหนังยังไม่จบอย่าวิจารณ์เสียๆ หายๆ กูจะว่าไงดีวะ ก็มึงให้ข้อมูลกูแบบนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงมันผิดหลักการ มึงไม่ Hint อะไรให้กูด้วยแล้วกูจะรู้กับสิ่งที่อยู่ในหัวมึงมั้ย เรื่องของมึงอยู่ในหมวดผจญภัย แต่งเสียกูคิดว่ามันเป็นโลกสไตล์โพสอโพคาลิพป์ กูก็เข้าใจผิดตามที่มึงเล่าสิวะว่ามันคือโลกหลังเกิดภัยพิบัติ นี่ถ้ามึงทำแบบ MR สักหน่อย กูจะได้เผื่อใจคิดให้กว้างกว่าเดิมได้ว่าแม่งอาจเป็นการทดลองอะไรสักอย่าง เทียบกับ MR ที่ทำให้ตัวละครความจำเสื่อมแล้วส่งขึ้นมาด้วยลิฟท์ไฮเทคเนี่ย อันนี้คือยังใบ้ให้เห็นแบบไม่ต้องเดาเลย แถมยังทำให้เรื่องน่าสนใจขึ้นด้วย

จากเรื่องความร้อนที่นักเขียนเฉลย มันเลยย้อนกลับไปขัดแย้งกับการประหารในบทแรก ว่า 47-48 องศาย่างสดคนได้เร็วขนาดนั้นจริงดิ ?

243 Nameless Fanboi Posted ID:wCv08qTOXL

>>242

>>242

ข้อต่อมาก็ตามที่บ่นไปข้างบน นั่นคือสภาพร่างกายของคนในเลเบอร์ทาวน์ ต่อให้เป็น 47-48 องศาก็เถอะ บ้านหุ้ม PIR ไม่สามารถกันความร้อนที่ถูกพาเข้าสู่ระบบได้ผ่านช่องทางเปิดอิสระ (เว้นแต่มึงจะทำบ้านหุ้ม PIR แบบไม่มีประตู-หน้าต่าง) ความร้อนพวกนี้ส่งผลต่อร่างกายของคนทั้งทางตรงและทางอ้อม หลายด้านเลยด้วย แล้วดูอาหารสิ น้ำปริมาณแทบจะไม่พอกับขนมปังที่ให้แค่คาร์โบไฮเดรต ชาวเมืองมีแรงเดินไปทำงานได้นี่ก็ถือว่าปาฏิหาริย์แล้วด้วยอาหารที่ไร้โปรตีน พูดถึงความร้อนนี่ก็มีเวทเทอร์เกียร์อีกอย่าง ไอ้เครื่องทำความร้อนเนี่ย (อันนี้คือพูดแบบที่ยังไม่รู้ว่าเป็นการทดลองนะ) กลางวันมันเก็บเกี่ยวพลังงานยังไงถึงจะพอจ่ายความร้อนได้ในอาณาเขตกว้างสุดตีนขนาดนั้น มันเก็บเป็นไฟฟ้าหรืออะไร แล้ววัสดุล่ะตัวมันเองทำจากอะไรถึงทนแดดได้ตลอดวัน โลหะเจอร้อนจัด-เย็นจัด สลับกันแบบนี้ไม่มีผลอะไรเลยเหรอ อายุการใช้งาน ฯลฯ สารพัดจะถาม

คือถ้าอยากถามเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ในเรื่องคือมันแทบจะมีเพียงทางออกเดียวให้แถคือ "วิทยาการและเทคโนโลยีล้ำหน้ามากๆ สร้างเครื่องอำนวยความสะดวกพวกนี้ขึ้นมา ใช้ได้ผล ส่วนตัวเวทเทอร์เกียร์มีส่วนสำรองและเก็บเกี่ยวพลังงานจนใช้ได้เพียงพอเสมอ วัสดุสร้างเป็นโลหะชนิดใหม่ขุดพบจากเขตที่มีอุกกาบาตตก เป็นเมโทโอไรท์แข็งแกร่งฝุดๆ คุณภาพยอดเยี่ยมกว่าโลหะประกอบทุกชนิดที่โลกคิดค้นได้จนถึงบัดนี้ อย่าไปตั้งคำถามเกี่ยวกับมันเลย เรามาดูว่าอีวานจะทำสำเร็จหรือไม่ มีอุปสรรค์อะไรไหมกันดีกว่า" ซึ่งมันทำให้ Tag วิทยาศาสตร์ที่ใส่มามีค่าไม่ต่างกับการเป็น soft sci-fi (แค่มึงมีเซรั่มบังคับกลายพันธุ์จนทนร้อนได้อันเดียวก็แม่งเพียงพอแล้ว) ควรเอา Tag นั้นออกแล้วใส่ ดิสโท-โพสอะโพ เข้าไปแทน เพราะแกนเรื่องนิยายนี้คือการต่อสู้ระหว่างชนชั้นเพื่อแย่งชิงสารต้านความร้อนในโลกซึ่งกำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ โดยมีวิทยาศาสตร์มาเกี่ยวในบทบาทเดียวกับแตงกวาที่อยู่ในจานข้าวมันไก่นั่นแหล่ะ

คือถ้ากูเป็นเด็กหัวเกรียนที่ไม่เคร่งเรื่องความสมจริง ก็อาจจะอ่านได้สบายๆ ด้วยตรรกะ "ไม่เห็นเป็นไรเลย สนุกก็พอแล้ว" แต่พอเป็นกู มันเลยมองแบบนั้นไม่ได้ไง สมมุตินิยายเรื่องนี้ไปตกอยู่ในมือของนักอ่านที่เป็นแฟนตัวยงสายไซไฟ มันจะกลายเป็นนิยายตลกมีเรื่องให้หลุดขำเยอะมาก คือกูให้สอบตกเลยในฐานะนิยายที่ยืมเรื่องวิทยาศาสตร์มาเล่นในเนื้อหา เพราะกว่าจะถึงจุดที่พอแถได้ นักอ่านส่วนหนึ่งก็คงไม่รอแล้วเพราะมันต่ำกว่ามาตรฐานของเขา ลำดับการเล่าและรูปแบบการนำเสนอทำให้เรื่องนี้ไม่ได้ไปต่อ แต่นี้ก็ยังไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดอยู่ดี มันมีอะไรที่ทำให้ติดลบได้อีก เจอกันที่เมนต์ถัดไป

244 Nameless Fanboi Posted ID:IUkgd606Zo

ไม่ได้ไปอ่านเรื่องหลัก กุเห็นความเหนื่อยยากของเมิงแล้วก็รู้สึกขี้เกียจตามไปอ่าน
วิชาสร้างตัวละคร 101 ตัวเอกต้องมีความสำคัญกับเนื้อเรื่อง คือมันต้องพิเศษกว่าคนอื่น เกิดมาเพื่อเป็นพระเอกของเรื่องนั้น ๆ อย่างไอ้หม้อขนดกเกิดมาพร้อมคำสาปที่ฆ่าจอมมารได้นั้นล่ะ โอเคว่าตอนแรกมันก็ไม่บอกว่าอีหม้อขนดกฆ่าจอมมารได้ แต่เราก็เห็นว่ามันมีความพิเศษเช่นฟังภาษางูได้
ถ้าเมิงอ่านไปขนาดนั้นแล้วไม่เห็นความสำคัญของพระเอกต่อเรื่องก็หักไป 2 คะแนนได้เลย

วิชาเล่าเรื่อง 101 การเล่าเรื่องต้องเล่าอย่างตรงไปตรงมา ตรงนี้อธิบายยาก ต้องมีคำถามว่ากุจะเล่าเรื่องลึกลับ เมิงให้เล่าอย่างตรงไปตรงมาจะเหลือความลึกลับอะไร กุจะแนะนำให้เมิงไปอ่าน ring ฟุตะนาริซาดาโกะ เพื่อดูเป็นตัวอย่าง
แต่ถ้าเรื่องมันไม่เลือกจะเล่าอย่างตรงไปตรงมากุก็หักอีก 2 คะแนน

วิชาพลอตเรื่อง 101 กุคิดว่าพลอตเรื่องของมันมีความน่าสนใจอยู่บ้าง แต่ต้อทำให้ชัดเจนก่อนว่า จุดประสงค์ของแต่ละกลุ่มคืออะไร และมันเกิดความขัดแย้งกันจริง
-หนึ่ง รัฐบาลกับพวกคนจน คนจนอยากจะมีชีวิตรอดต่อไป โลกสร้างเงื่อนไขที่ทำให้พวกนี้มีชีวิตรอด ขณะเดียวกันโลกก็แหกกฏเพื่อฆ่าคนพวกนี้ได้ดังใจ ทำให้เกิดระบบสังคมที่พระเอกอยู่ พระเอกต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้น เกิดปมความขัดแย้งกับตัวเองว่าถูกอำนาจกดทับ
แต่เท่าที่เมิงเล่า กุไม่เห็นว่ามันถูกยกระดับให้กลายเป็นศัตรูกับสังคม
-สอง รัฐบาลกับคนรวย คนรวยมีชีวิตอยู่ได้ไม่ลำบากเท่าคนจน แต่พอมีคนบอกว่าข้างนอกสบายกว่า ก็ดิ้นรนจะหนีไป ปัญหาคือกุอ่านที่เมิงเล่าแล้วไม่รู้สึกว่าคนรวยต้องไปเสี่ยงตาย ทาเซรั่มแล้ววิ่งผ่านแดดไป การวางพลอตมันต้องทำให้ตวามขัดแย้งขยายตัว สังคมที่เป็นระเบียบเริ่มเกิดความวุ่นวาย
แค่รู้ความจริงมันเบาไป คนรวยมันต้องได้ความทรงจำคืนมา และมีเรื่องโกรธแค้นกับรัฐบาล
-สาม รัฐบาลกับปัญหาโลกร้อน กุไม่เข้าใจว่ามันต้องการอะไรจากโลกจำลองที่มันสร้างขึ้น ข้อมูลอะไรที่ทำให้มนุษย์ทนความร้อนได้ เป้าหมายของการทดลองต้องบอกออกมาให้ชัดเจน ถ้าเมิงไม่พร้อมจะบอกก็อย่าเพิ่งเล่าว่ารัฐบาลทำการทดลอง
-สี่รัฐบาลนายทุน นี่ก็อีกกลุ่มที่กุไม่เข้าใจ แต่กุว่าน่าสนใจดีที่มันเป็นศัตรูกับรัฐบาล แต่เพราะมันไม่ชัดเจนว่าทำไปเพื่อให้ได้อะไรขึ้นมา
โดยรวมแบบฟังเมิงเล่าไม่ได้อ่านเองกุว่า พลอตมันขาดความชัดเจน นอกจากคนจนที่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว กุมองไม่เห็นความชัดเจนของกลุ่มอื่นนอกจากใส่มาเพื่อช่วยพระเอก ใส่มาเพื่อขัดแย้งกับพระเอก

เพราะกุไม่ได้อ่านเรื่องจริงที่พูดมาอาจจะไม่ถูกเลยก็ได้ แต่ช่างแม่งเห็นคอมเม้นมันแล้วกุเหนื่อยกว่าจะไปอ่านนิยาย

245 Nameless Fanboi Posted ID:wCv08qTOXL

>>243

คราวนี้กูจะพูดถึงความขัดแย้งของเนื้อเรื่องบ้าง โดยจะเขียนไว้ในรูปแบบคำถาม เป็นแบบฝึกหัดเล่นๆ ก็ได้ ในหัวข้อ "แถยังไงดีวะ" ใครว่างจะลองเสียเวลาชีวิตเล่นดูก็ได้ แต่ขอบอกเลยว่าเปลืองสมองแน่ๆ

1) นายทุนที่ออกทุนให้โครงการมันเข้าไปในโดมเพื่ออะไร ?
2) ด้วยการจ้างอันไม่เป็นธรรม ทำไมพวกคนงานในเลเบอร์ทาวน์ถึงไม่เคยคิดก่อจลาจล ในเมื่อเจ้าหน้าที่มีน้อยกว่ามาก ?
3) พวกคนรวยในเมืองหลวงแอบทำการวิจัยบลูเซรั่มได้ยังไง ในเมื่อพวกเขาอยู่ภายใต้การจับตามองของรัฐบาลโลกนอกโดม ?
4) คำถามเกี่ยวกับเทคโนโลยีโคตรล้ำหน้า ว่าทำไมถึงไม่มีอุปกรณ์สอดแนมที่ดีพอ ปล่อยให้การวิจัยสำเร็จได้ยังไง ?
5) นอกจากเรื่องอุปกรณ์สำหรับบันทึกภาพ ดักฟัง หรือติดตามตัว ทำไมพวก DR ที่แฝงอยู่ในโดมถึงไม่รู้เรื่องการวิจัยเลย ?
6) การข่าวของรัฐบาลโลกและเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร ห่วย ล่าช้า ผิดกับสิ่งที่อธิบายไว้หรือเปล่า ?
7) ทำไมรัฐบาลโลกถึงไม่อยากให้การทดลองจบเร็ว ถ้าบลูเซรั่มคือทางออกของปัญหาโลกร้อน ทำไมถึงไม่ยึดมาพัฒนาและผลิตเพิ่ม ?
8) ต่อให้ต้นแบบถูกทำลาย ข้อมูลการทดลองและนักวิทยาศาสตร์ที่วิจัยบลูเซรั่มก็ยังอยู่ ทำไมถึงปล่อยไวรัสออกมาทำลายศูนย์วิจัย B-11 ?

มีใครไขข้อข้องใจพวกนี้แล้วฟังดูเข้าท่ามั่งไหมวะ จัดมาหน่อยดิ๊

ส่วนสุดท้าย ไม่พูดไม่ได้ คือข้อเสียของนิยายในด้านการประพันธ์ อันนี้กูคงไม่พูดอะไรเยอะ เพราะเป็นข้อผิดพลาดในหัวข้อที่อาจทำให้พวกมึงตีกันอีกแล้ว (กูไม่อยากอ่าน รกมู้) มันคือการแต่งนิยายด้วยการผสม POV นั่นเอง

นิยายห่านี้บางตอนมันมีทั้ง POV 1 และ POV 3 ในตอนเดียวกัน บางตอนก็ POV 1 ล้วน บางตอนก็ POV 3 ล้วน พวกมึงพอจะเดาออกไหมว่าไอ้นี้มันมีอะไรที่ล้ำไปกว่านั้นอีก ถ้ายังไม่ได้ลองอ่านพวกมึงคงเดาไม่ออก คำตอบคือ มันทำให้กูที่อ่านนิยายมาเยอะเกิดความสับสนได้ (พูดจริงๆ ไม่ได้โม้)

คือกูเนี่ยมั่นใจมากกว่าในฐานะนักอ่านกูอยู่ในระดับไม่ธรรมดา แต่เรื่องเหี้ยนี่ทำให้กูมึนๆ งงๆ ได้

ไอ้การตัดฉากภายในบทเดียวกันที่มีหลายครั้ง หวังให้นักอ่านได้ทราบความคืบหน้าของตัวละครทั้งสองกลุ่ม ซึ่งอยู่คนละสถานที่กันนี้นะ กูอะตามทัน สามารถตัดฉากและสร้างภาพในหัวได้อยู่ แต่การเปลี่ยน POV ฉับพลันที่มาพร้อมการ flash back ด้วยนี่คือไรวะ เป็นครั้งแรกที่กูต้องอ่านอะไรซ้ำ 3 รอบแล้วถึงจะเข้าใจเว้ย บางทีกดเปลี่ยนตอนปุ๊บ ย่อหน้าแรกของตอนใหม่เป็นจดหมายแถมจดหมายอ่านในอดีตด้วยนะ มุกเปลี่ยน POV เพราะเล่าฝันก่อนสะดุ้งตื่นขึ้นมาเป็น POV อีกแบบก็มีด้วย

คือมันเป็นการเขียนแบบพยายามจะโชว์เหนือของจริง อยากเล่าได้แบบนิยายต่างชาติที่นักเขียนเขาเก่งจนเขียนผสม POV ได้อย่างลงตัว ทว่าแม่งไม่ได้รู้ตัวเลยว่า ที่นิยายตัวเองมียอดวิวแค่นี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการตัดฉากมั่ว สลับ POV มั่ว และ flash back มั่ว ในหลายๆ ส่วนของเนื้อเรื่อง ถ้ากูอ่านแล้วยังงง แล้วพวกเด็กๆ ในเว็บจะเหลือเหรอวะ เรื่องนี้ทำอาการปวดสมองของกูกำเริ่บเลยห่า ไหนจะมีเรื่องภาพปลากรอบฝีมือระดับเด็กประถมวาดเล่นตรงหน้าหลังสมุดปกอ่อนอีก คือไม่ต้องแปะลงมาก็ได้ เพราะมันทำให้นิยายดูตลาดล่างโคตรๆ ใครอยากเข้าใจความรู้สึกกู ก็ลองหาทางเข้าไปอ่านเอาละกัน ยาดมอยู่ไหนวะ แม่ง... ขอสัก 4 หลอด

246 Nameless Fanboi Posted ID:wCv08qTOXL

>>244

เออ... อ่านที่มึงเขียนมานี่ กูเลยนึกออก ว่าไอ้อีวานเนี่ยไม่มีความเด่นในด้านความเป็นพระเอกนิยายผจญภัยเลย ทั้งที่นิยายพวกนี้ (หรือนิยายประเภทไหนก็ช่าง) ตัวเอกควรมีเรื่องที่ตัวเองเก่ง, ถนัด แล้วใช้ประโยชน์ตามสถานการณ์ในเรื่องอยู่บ้าง แต่ไอ้อีวานนี่ไม่มีเลย ชายหนุ่มกากๆ ดาษๆ ใช้แรงงานไปวันๆ ตามตูดไอ้เจฟไปทำงาน ตอนมาเจอพวก HELPER ก็ดูไม่ค่อยไว้ใจ เป็นพวกไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว ซึ่งไม่ใช่ลักษณะของคนที่อยากออกผจญภัยแม้แต่น้อย ไร้ความสามารถพิเศษ ไม่ได้เป็น Specialist ด้านไหนสักด้าน กากไม่พอ เป็นตัวถ่วงให้มอเฟียสอีก อ่านแล้วน่าเบื่อดี

เนื้อหานิยายถูกกั๊กไว้ด้วยความเป็น POV 1 ในช่วงแรก นักอ่านอย่างกูเลยถูกจำกัดข้อมูลตามไปด้วย เล่าเรื่องไม่เปิดกว้างและชัดเจน ทว่าในหลายส่วนต่อมากลับถูกแทรกด้วย POV 3 และบทบรรยายด้านความล้ำสมัยของวิทยาการเฉพาะทางบางอย่าง ให้ข้อมูลที่ทำให้กูเกิดความข้องใจ สงสัย และต่อต้านหากมองด้วยหลักวิทยศาสตร์เบื้องต้น 5 ตอนแรกวนเวียนกับปมของการทำงานเสี่ยงอันตราย กว่าจะเห็นเส้นเรื่องจริงๆ ก็ปาเข้าไปตอนที่ 8 โน่น มี useless information โผล่มาบ่อย ความต่อเนื่องถูกทำลายโดยการตัดฉากแบบย้อนอดีตซึ่งแทบจะไม่มีผลอะไรกับเหตุการณ์ปัจจุบัน

พล็อตโคตรหลวม (คนละอันกับนักหลวมนะ) ขาดความชัดเจน สมเหตุสมผล วางพล็อตมาขัดแย้งกันเอง ทำให้ผู้อ่านอ่านแล้วไม่สนิทใจ มีความสงสัยและกังขาต่อเนื้อเรื่อง (ยกเว้นกลุ่มที่อ่านเอาแค่ความสนุกผิวเผิน) สเกลเรื่องขยายใหญ่แต่ทำให้ความย้อนแย้งขยายตาม นิยายจบเล่มแรกในตอนที่ 9 (เห็นบอกว่าลงไปแล้วเมื่อวาน) คิดๆ ดูแล้วตัดสินใจไม่ไปอ่าน เพราะเดาได้ว่าคงไม่มีข้อมูลน่าสนใจอะไรเพิ่มจนทำให้อยากอ่านต่อเล่ม 2 ได้ แนวคิดเรื่องการปล่อย Fake new จนทำให้เกิดความตระหนกในกลุ่มประชาชนพอใช้สะท้อนสังคมได้ แต่เรื่องความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติกับการทดลองแบบนี้ ดูไม่ค่อยเข้าท่านัก ถือเป็นพล็อตที่ขายยากในเว็บๆ นี้

247 Nameless Fanboi Posted ID:BZSHKxWg5M

พวกมึงไม่เหนื่อยกันเหรอ5555 เปิดมู้ใหม่อีกแล้ว
https://www.dek-d.com/board/view/3964648/

248 Nameless Fanboi Posted ID:wCv08qTOXL

>>247 เห็นที่ไอ้มีนโดนแล้วไม่จำกันรึไง 55555 เอาเหอะ ถ้าอยากใช้ฝึกประสบการณ์ก็ดีเหมือนกัน ส่วนกูขอตัวไปนอนก่อน หมดแรงกับเมซรันเนอร์วอนนาบีไปเยอะเลย

249 Nameless Fanboi Posted ID:BZSHKxWg5M

>>244 เรื่องพล็อตกูว่าน่าสนใจในระดับนึงเลย แต่ปัญหาคือความไร้ประสบการณ์ของนักเขียนที่ไม่สามารถถ่ายทอดความอลังการในหัวให้ออกมาอยู่ในงานเขียนได้ คือเป็นคนคิดใหญ่แต่ไม่ละเอียดลออ มันเลยเกิดหลุมดำอิหยังวะขึ้นมาเยอะมาก แถมปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นคืออีโก้น้ำเต็มแก้ว คิดว่าสิ่งที่คิดออกมามันเลิศเลอเพอร์เฟ็ค เป็นมายด์เซ็ตที่กูเอือมระอามาตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันไม่เคยเปลี่ยน มักจะเกิดกับนิยายแนวที่ต้องสร้างเซตติ้งขึ้นมาเองและเขียนเป็นเรื่องแรก ๆ ซึ่งกูไม่เคยเข้าใจตรงจุดนี้เลย

ใครมีความรู้ด้านจิตฯ ช่วยอภิปรายหน่อย กูเริ่มสนใจหน่อย ๆ ละ

250 Nameless Fanboi Posted ID:M+GvlrZUrZ

>>247 ตั้งชื่อซะจนไม่รู้เลยว่าเล่นโม่ง ถถถ

251 Nameless Fanboi Posted ID:0.KHRnU7N9

>>249 ทฤษฎีของกูล้วน ๆ นะ

อาจเขียนครั้งแรกแล้วมีคนนอกที่ไม่รู้จักมาชมเลยเหลิงคิดว่าเมพ

ถ้าเพื่อนชมมันไม่เหลิงหรอกเพราะมันอาจคิดว่าเพื่อนแค่อวยเฉย ๆ แต่ถ้าเป็นใครที่ไม่รู้จักละก็ มันคงไม่แปลกที่จะคิดว่าตัวเองเก่งแล้วเพราะมันไม่มีเหตุผลอะไรที่คนแปลกหน้าจะชมนอกเสียจากงานชิ้นนั้นมันดีในสายตาของคนแปลกหน้าคนนั้นแล้ว

252 Nameless Fanboi Posted ID:Tlc6Ewjoot

>>249 จูนิเบียวเข้มข้น
>>245 ชอบที่วิเคราะห์และตั้งคำถามจนน่าไปเขียนแนวนี้เลย แต่ขี้เกียจวิเคราะห์อ่ะ อ่านสกิมไปรอบเดียวแล้วเก็บมาบ่น PIR PUR วันก่อนนู้นแล้ว

253 Nameless Fanboi Posted ID:wCv08qTOXL

>>249 พล็อตมันโอเคนะ แต่การนำมาต่อยอดทำได้ไม่ดีเลย โดยเฉพาะคำถามว่าทำไมถึงไม่อยากให้การทดลองจบลงเร็วเกินไป ไหนๆ ก็มีบลูเซรั่มเป็นทางออกของปัญหาแล้ว ยังมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องกักตัวคนในโดมเอาไว้อีก หรือมันมีประเด็นเรื่องไข้แบบ MR ?

254 Nameless Fanboi Posted ID:d01ohaePCF

มิติใหม่ของการโฆษณาและหาคนอ่านเรียกยอดวิว
https://www.dek-d.com/board/view/3964649/

255 Nameless Fanboi Posted ID:.7ea//Eafe

>>247 เดี๋ยว อีคาร์เนชั่นนี่มู้ทำลายกำลังใจก็โผล่มา ได้คำติไปแล้ว มู้นี้ก็โผล่เอาอีกเรื่องมาปล่อยอีก อะไรจะกระสันอยากได้คำติชมขนาดน้านน

256 Nameless Fanboi Posted ID:/kzlPlCBkj

>>249 อธิบายด้วย cognitive dissonance/cognitive bias ก็ได้ แม่งใช้ได้กับการยืนกรานกระต่ายขาเดียวได้ดี อธิบายพฤติกรรมพวกการเมืองฮาร์ดคอร์ยังได้

คืองี้ มนุษย์จะมีความเชื่อ ความคิดของตัวเอง และพยายามปกป้องมันเอาไว้ให้ถึงที่สุดเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกเจ็บปวด ตามกระบวนการปกป้องตัวเองที่เรียกว่า Defend Mechanism ทีนี้พอมีอะไรมาสั่นคลอน มาตอกหน้าความเชื่อที่ตัวเองมีอยู่ ต่อให้มันเป็นความจริงที่แทงใจดำแค่ไหน คนเราก็จะพยายามหาอะไรมาปฏิเสธมัน หาอะไรมาสนับสนุนความคิดของตัวเองเท่านั้น (Confirmation Bias) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่าจิ๋มหมด ถ้ามันทำให้คนความเชื่อมั่นตัวเองยังอยู่ได้ ก็ยืนกรานมันอย่างนั้น

เทียบแล้วก็คือนักเขียนคนหนึ่งสร้างโลกขึ้นมา และเชื่อมั่น ยึดถือว่าตัวเองทำออกมาได้ดีแล้ว สมบูรณ์แบบแล้ว พอได้รับการติให้เห็นถึงข้อผิดพลาดในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมากๆ เลยเกิดกลไกการปกป้องตัวเองขึ้น จะเห็นได้ว่าการยืนกรานจะมีรูปแบบพฤติกรรมซ้ำๆ คล้ายๆ กัน เช่น เบี่ยงประเด็น ละเลยจุดผิดให้ไปโฟกัสเรื่องอื่นแทน เบี่ยงประเด็นด้วยการโจมตีตัวบุคคล การโบ้ยว่าข้อมูลของอีกฝ่ายไม่ถูกต้อง

ก็น่าจะประมาณนี้

257 Nameless Fanboi Posted ID:O.I7pURYw+

กฎข้อแรกของการถูกวิจารณ์คืออย่าปกป้องนิยายตัวเอง
เหมือนคนไข้ไม่ยอมให้หมอผ่าตัด แล้วตะแบงว่าตัวเองสบายดี

258 Nameless Fanboi Posted ID:e8guFKfMql

>>256 >>257 เหี้ยจริงๆ

259 Nameless Fanboi Posted ID:0.KHRnU7N9

>>257 นี่สับนิยายหรือไฟต์คลับ

260 Nameless Fanboi Posted ID:FKbtoitRXh

>>249 อธิบายง่ายๆตามที่กูเข้าใจก็ประมาณนี้

id = สัญชาตญาณดิบ = "น้องคนนี้แม่งน่ารักว่ะ...อยากเย็ดจัง"
ego = ตัวกูของกู = "กูเป็นคนมีการศึกษา กูต้องเข้าไปจีบก่อน"
superego = กฎหมาย ข้อตกลง = ความผิดฐานข่มขืน,คนรุมกระทืบ,โดนไล่ออก

พวกอีโก้สูงน้ำเต็มแก้วนี่มันมาได้จากหลายทางว่ะ อย่างพวกสายวิทย์เครียดๆ ตรรกะคำนวนอย่างหมอ แพทย์ วิศวะ หรืออะไรก็ตามที่จำเป็นต้องมีความถูกต้อง 100% ไม่งั้นจะมีคนตาย บ้านถล่ม หมดอนาคตในหน้าที่การงาน อะไรที่มันโดนบังคับให้ "ห้ามทำผลาดโดยเด็ดขาด" และกว่าจะมาถึงจุดนั้นได้มึงคิดว่าจะต้องเจออะไรบ้าง? ครูอีโก้จัดที่ด่าแหลกเวลามึงทำงานผิด(ตามที่ตัวมันเองก็เคยโดน) ค่าเรียนที่โคตรสูง ความคาดหวังจากทางบ้าน การแข่งขันที่เครียดสัด แถมพ่อแม่ส่วนใหญ่ก็ไม่คิดศึกษาจิตวิทยาการเลี้ยงลูกแต่ทีทำธุรกิจเสือกจ่ายเงินลงทุนบินข้ามประเทศไปเข้าสัมมนา ทุกอย่างทำให้สภาพแวดล้อมแม่งเหี้ย จนมันกลายเป็นคนที่ "กูผิดไม่ได้" จนเคยชิน

ยกตัวอย่างเรื่องการชมคน อันนี้เพื่อนๆโม่งจำไปใช้กับลูกกับหลาน(รวมถึงผัวเมียพวกมึง)ได้เลยนะ สมมุติว่ามีเด็กคนนึงสอบได้คะแนนเต็ม แล้วมึงเป็นใครสักคนที่เด็กมันให้ความเคารพนับถือสุดๆไปชมมันว่า "เก่งมาก" ความชิบหายที่อาจจะเกิดขึ้นมีดังนี้

- เด็กมันจะเข้าใจว่าตัวเองเก่งโดยใช้คะแนนเป็น 'เกณฑ์วัด' เพราะงั้นใครที่คะแนนต่ำกว่าหรือไม่มีหลักฐานความเมพ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องก้มหัวให้หรือรับฟังใดๆเนื่องจากกูเก่งสุด เฉกเช่นตอนน้อน D เรียกร้องขอชมความเมพของคนสับก่อน น้อนถึงจะรับฟัง
- ถ้ามันขาดความภูมิใจในตัวเอง แม่งอาจเยียวยาตัวเองด้วยการไปด่าคนที่คะแนนต่ำกว่าว่าโง่ เป็นต้นตอของการบุลลี่
- มันจะพยายามรักษาความเก่ง ที่มันเชื่อว่าเป็นคุณค่าของตัวมัน จนถึงขนาดยอมทำทุกวิถีทางแม้กระทั่งโกง

วิธีแก้คือ เวลามึงจะชมใครให้พยายามย้ายชมไปที่ 'กระบวนการ' ไม่ใช่ 'ผลลัพธ์' อย่างการสอบได้คะแนนเต็มมันคือผลลัพธ์ ส่วนการขยันเรียนตั้งใจอ่านหนังสือคือกระบวนการ เพราะงั้นคำชมว่า "เก่งมาก" จึงควรเปลี่ยนเป็น "พยายามได้ดีมาก" หรืออะไรนอกจากนี้ตามความเทพในการใช้วาทะศิลป์ของมึง โดยมีตัวแปรหลักคือความภูมิใจในตัวเองของเด็ก และความน่าเคารพนับถือของตัวมึงที่มีต่อเด็ก

กลับมาที่คนอีโก้สูงซึ่งถ้ามันยึดความเก่งไว้เป็นสิ่งที่มันภูมิใจ การที่มึงไปพูดอะไรสักอย่างให้มันรู้สึกว่ามันกำลังคิดผิด ทำผิด หรือทำให้ความเก่งตามที่มันเชื่อหายไป แม่งจะดื้อสู้เถียงยับเพื่อรักษา 'ตัวกู' ในรูปแบบที่มันภูมิใจเอาไว้ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับดวงแล้วว่ะ ว่าพ่อแม่ครูบาอาจารย์สอนมันมาดีแค่ไหน เป็นเด็กขาดความอบอุ่นหรือเปล่า

วิธีรับมือหลักๆที่กูนึกออกตอนนี้มีแค่ 2 แบบ

แบบที่ 1 ตั้งคำถามให้มันตอบเอง เหมือนที่มะม่วงพิมพ์มาใน >>245 เพื่อแก้ทางความภูมิใจในความเก่งของมัน เพราะถ้ามันตอบได้หรือสำนึกได้มันก็จะคิดว่าเป็นความเก่งของมันเอง หายโง่และไม่ต้องเสียความภูมิใจที่มีต่อตัวเองในเวลาเดียวกัน (แต่เท่าที่อ่านจากมะม่วงพิมพ์มา...ไอ้นี่ไม่น่ารอดว่ะ ถามเห้ไรไปก็จะเบี่ยงไปอธิบายความเมพของพล็อตตัวเองต่อ)

แบบที่ 2 ใช้ความเข้าใจ ตรงนี้แม่งเป็นอะไรที่มึงต้องใจกว้างมากกกกกกก เอาใจเขามาใส่ใจเราสัดๆ ซึ่งถ้ามันไม่ใช่เนเจอร์ของตัวมึงเลยมันก็เหมือนกับว่ามึงต้องโอ๋แล้วพยายามตีซีมันสุดๆ "เห้ย...กูเห็นความตั้งใจในวางพล็อตของมึงนะ แต่ในมุมมองของคนอ่านนิยายไซไฟมันไม่เมคเซ้น แล้วใครมันจะทนอ่านจนไปถึงตอนเฉลยความจริง กูแนะนำตรงนี้เพราะเห็นว่ามันทำให้มึงเสียโอกาส" เข้...กูพิมพ์เองกูยังคันนิ้วเลย

ความเข้าใจนี่แม่งเป็นอะไรที่อธิบายยาก มันคล้ายๆจะอยู่ตรงกันข้ามกับคำว่า 'เหตุผล' อยากให้จินตนาการถึงพวกงานศิลปะวาดเขียน มันวัดคะแนนกันโต้งๆไม่ได้ แม่งเป็นเรื่องของอารมณ์และเห็นอกเห็นใจ ไม่เหมือนบวกลบคูณหารที่ถ้าผิดก็ขีดฆ่าแล้วโบกได้ตรงนั้นเลย ตัวอย่างที่ชัดๆก็คลิปนี้ https://www.youtube.com/watch?v=zaRWz2pRW_Y เมื่อสองตรรกะมาเจอกัน เหตุผลของกูกับเหตุผลของมึงใครจะอยู่ใครจะไป (เหลือเชื่อที่แม่งไม่ต่อยกัน) ส่วนอีกกรณีนึงก็อย่างที่มีคนวาดรูปพระอุลต้าแมน การที่มึงจะรับอะไรแบบนี้ได้ใจมึงต้องกว้างสัดๆ ไม่ยึดตรรกะตัวเองเป็นที่ตั้งเหมือนผู้ใหญ่ที่ลากเด็กให้ไปขอขมาพระ

เผื่อบางคนสงสัย อ.เฉลิมชัย ดูอีโก้จะตายทำไมแกถึงใจกว้างกับเรื่องแบบนี้ อีโก้ของแกเป็นแค่กลยุทธ์ที่จะปั่นราคาให้ขายรูปได้แพงเฉยๆ แกเคยพูดประกาศเรื่องนี้ตอนขายรูป (ใจกว้างสัดๆ บอกคนซื้อว่ากูปั่นราคาหลอกแดกเงินพวกมึง แต่ทุกคนก็ยินดีจะซื้อต่อ)

261 Nameless Fanboi Posted ID:FKbtoitRXh

ของอย่างนี้แม่งต้องหาจุดสมดุลว่ะ อย่างไอ้คนมาขอคำวิจารณ์จะเชื่อตามอีโก้ตัวเองหรือจะเชื่อตามอีโก้ของโม่งที่มาชี้จุดบอด ถ้าเป็นกู...กูก็ต้องย้อนกลับไปคิดก่อนว่าเป้าหมายที่กูมาขอคำวิจารณ์นี้คืออะไร? กูอยากเขียน...แต่กูมองไม่เห็นจุดบอดของตัวเองเพราะเป็นคนเขียนใช่ไหม? งั้นกูก็จะพิจารณาตามที่โม่งบอกในมุมของคนอ่านไปก่อน พอเห็นว่ามันเป็นจริงตามที่พูด กูก็ค่อยแก้

แต่ตามที่มะม่วงพิมพ์มา...เหมือนมันจะอยากได้ใครสักคนเข้าใจในตัวมันเฉยๆว่ะ

262 Nameless Fanboi Posted ID:kJTkN1mB6Y

Corner store, 2 AM
Got some mango Hi-Chews, a bag of chips
Rollin' through the city and we hide behind the tints
In the Benz-o, got the Swisher out the window, then we dip
Posted at the corner store, posted at the corner store
Posted at the corner store, posted at the corner store

Okay, 2 AM, I'm posted (I'm posted)
All in my Jansport
Moving to Utah, run with
Might treat your block like a dance floor
Finesse the rent out the landlord
Mama said, "Pull your pants up"
Bending corners, and scraper are loyal to tell my bands up
I'm pushing, moving work, proving
There's commas on the way
Put the pussy on pedestal, blow the medical to the face
It's sad that they know my face
Rollin heaven in my new Wraith
Declining the call from labels
Still grubbin' on struggle tastes
They all wanna know what's next, I don't even know myself
Nah, I don't wanna hear your bullshit, I don't really need your help
I'm posted and smoking just like my uncles before me
I politic with the stagnant, forget my day by the morning, it go

Corner store, 2 AM
Got some mango Hi-Chews, a bag of chips
Rollin' through the city and we hide behind the tints
In the Benz-o, got the Swisher out the window, then we dip
Posted at the corner store, posted at the corner store
Posted at the corner store, posted at the corner store

I grew up on Old English, that's that malt liquor (aha)
Never smoked a Backwood, it was all Swishers (uh-uh)
Before I pulled a fake ID out on a bartender
I was on bag of Cuban Z's, walking off kilter
We ain't have no common sense
Through that dirt and hop that fence (aha)
Roasting, talking shit, we mobbing, I just got my mama's whip (Hell yeah)
We blow dank out that window
Right with your tape up, it's garbage
I used to roll up a spliff, and I mixed the weed with the Parliament, ayy (oh shit)
Couldn't tell you 'bout our future (Yeah)
We was on the corner, posted (yeah)
Wasn't thinking 'bout tomorrow (uh-uh)
On the rooftop smoking (smokin')
Swisher guts in the Funyun bag (yes)
I was just doing my thing (my thing)
Hit the hot food aisle (uhuh)
Got the gizzards instead of the wings (Gizzards)
But it's all love, run my route, play the course
Sweatpants, shorts, wife beater, posted on the porch
Reminiscing, 2:11, and we smokin' on some Ports
And getting hella faded
Gotta re-up so you know we 'bout to hit the

Corner store, 2 AM
Got some mango Hi-Chews, a bag of chips
Rollin' through the city and we hide behind the tints
In the Benz-o, got the Swisher out the window, then we dip
Posted at the corner store, posted at the corner store
Posted at the corner store, posted at the corner store

Taking my time, working it out
Counting the coin, breaking my back (yeah)
All in my loins, all on my nerves
Can't get a break, but that's my snack
Call me Almond Joy, mama's boy
Can't afford none of what you ordered
Shit, I'm hardly on, not quite broke
Off the wall but on the boarder
Pushing pen to the paper for peso
They wanna leggo
Close construction, no room for the huevos (yeah yeah)
You gotta love it
That's Benny, he like Montego, he save you like the gecko
He not gon' pay the debt 'til you ice, get OG Maco
Boy so wonderful
Them cheap thrills, they come and they go, yeah
Talking 'bout we saved you a seat, boy, boy
They don't want no one to know long as you comfortable, yeah

Corner store, 2 AM
Got some mango Hi-Chews, a bag of chips
Rollin' through the city and we hide behind the tints
In the Benz-o, got the Swisher out the window, then we dip
Posted at the corner store, posted at the corner store
Posted at the corner store, posted at the corner store

Corner store, 2 AM
Got some mango Hi-Chews, a bag of chips
Rollin' 'round the city and we hide behind the tints
Out the Benz-o, got the Swisher out the window, then we dip

Corner store, that's all (Gemini)
God, grant me the serenity to accept the things I cannot change
The courage to change the things I can
And the wisdom to know the difference

263 Nameless Fanboi Posted ID:kJTkN1mB6Y

>>260 Bu meniň düşünşim ýaly ýönekeý.

id = çig instinktler = "Bu ýaş adam gaty owadan ... Men seni aldamak isleýärin"
ego = bedenim = "Men bilimli adam Ilki gitmeli we flirt etmeli ".
superego = kanun, şertnama = zorlamak, köp adam, işden kowmak

Ego, uzyn, doly aýna.Bu köp tarapdan bolup biler. Stresli ylym ýaly Lukmanlar, lukmanlar, in engineenerler ýa-da 100% takyk bolmaly ýa-da adamlar öler ýaly logiki hasaplamalar. Öýler geljekde karýeralarynda ýykylar. Näme mejbur edilýär "Elbetde etmäň." Şol maksada ýetmezden ozal näme bilen ýüzbe-ýüz bolarsyňyz? Ego mugallymy nädogry iş edeniňde (öňküsi ýaly) gaty erbet. Öýden garaşylýan zatlar Bäsdeşlik Mundan başga-da, ene-atalaryň köpüsi çagalary terbiýelemek üçin psihologiýany göz öňünde tutmaýarlar, ýöne bu iş gaty gödek, maýa goýumlaryny töleýär we seminarlara gatnaşmak üçin ýurt boýunça uçýar. Hemme zat daşky gurşawy däli edýär. Bir adam bolýança "Wrongalňyş gidip bilemok" öwrenişýänçäm.

264 Nameless Fanboi Posted ID:kJTkN1mB6Y

>>261 இந்த விஷயம் இருப்பு புள்ளியைக் கண்டுபிடிக்க வேண்டும். விமர்சனங்களைக் கேட்கும் நபர்களைப் போலவே, தங்கள் சொந்த ஈகோவை நம்புவார்கள் அல்லது குருட்டுத்தனத்தை சுட்டிக்காட்டும் கொள்ளையனின் ஈகோவை நம்புவார்கள் அது நானாக இருந்தால் ... நான் திரும்பிச் சென்று இந்தக் கருத்தின் குறிக்கோள் என்ன என்று சிந்திக்க வேண்டுமா? நான் எழுத விரும்புகிறேன் ... ஆனால் நான் எழுதியதால் என் சொந்த குருட்டு இடத்தை என்னால் பார்க்க முடியவில்லை, இல்லையா? பின்னர் வாசகரின் மூலையில் இருக்கும் கொள்ளையனை முதலில் கருதுவேன் நான் சொன்னது போல் அது உண்மை என்று பார்த்ததும் படிப்படியாக மாறினேன்

ஆனால் மாம்பழ அச்சின் படி ... யாராவது அதைப் புரிந்து கொள்ள விரும்புவதாகத் தெரிகிறது.

265 Nameless Fanboi Posted ID:oPGGn21lxY

เทพกันต์เขาเขียน Dramatic Dialogue นิ พี่คนหล่อมือไม่ถึงนะไปวิจารณ์เทพกันต์อย่างนั้น คิริคิริ

266 Nameless Fanboi Posted ID:.K4DqhLVkt

รอบนี้ดูเก๋าไม่จริงเลยวะ เหมือนใช้ความรู้สึกวิจารณ์ล้วน ๆ

267 Nameless Fanboi Posted ID:dULrSvU8nV

>>266 บ่นเหรอ สับเองเลยดิ

กูไม่เถียงนะว่ามีอารมณ์ปนลงไปด้วย เพราะกูต้องทนกับนิสัยของเจ้าของเรื่อง อีกอย่าง นี่ไม่ใช่สับอย่างเป็นทางการ กูเขียนไว้ตอนแรกแล้วว่ามันเป็นสับสั้น (ถึงมันจะไม่ค่อยสั้นก็เหอะ) กูอ่านนิยายที่ทำให้กูปวดหัวไม่พอ ยังต้องเจอกับอีโก้นักเขียนเจ้าของเรื่องอีก กูถึงยอมรับแบบไม่ต้องแถว่ากูไม่เป็นกลาง สาระสำคัญอื่นๆ กูก็แจงให้อ่านหมดแล้วแยกไปเป็นส่วนๆ ว่าอันไหนแรนท์ อันไหนคริติไครซ์ อันไหนแอนาไลซ์

ถ้ามึงคิดว่าที่กูทำอยู่เป็นงานสบาย ทำได้ง่ายๆ ใช้เวลาไม่นาน มึงก็ลองทำดูเองเลยแล้วกัน วิจารณ์ให้ทุกคนดูทีว่ามึงเป็นกลางได้แค่ไหน นี่ถ้าไม่เป็นเพราะกูเป็นคนเปิดประเด็นในกระทู้เอง กูคงไม่ยอมเสียเวลากับนิยายแบบนี้ ให้คนเขียนแบบนี้เด็ดขาด (กูผิดเองที่คาดหวังสูงเกินไปว่าไอ้นี่จะให้ความบันเทิงกับกูได้)

จะว่าอะไรอย่างอื่นกับกู กูบ่ออนซอนนะ แต่ถ้ามาหาว่ากูด่าเอามันส์ ใช้อารมณ์ล้วนๆ ในบทวิจารณ์ครั้งนี้นี่ กูไม่ยอมรับว่ะ

268 Nameless Fanboi Posted ID:m+QV4B7ouT

>>267 กูไม่ได้บอกว่าสับนิยายมันง่าย มันต้องใช้ความคิดใช้พลังงานอยู่แล้ว กูมีเหตุผลจะบ่นได้เหมือนกัน มึงอย่าลืมนะว่าต่อจะให้เป็นโม่งก็มีสิทธิ์ถูกวิจารณ์การสับได้เหมือนกัน อย่ามาใช้ตรรกะเหมือนพวกน้ำเต็มแก้วที่ด่าพวกมึงด่ากันอยู่ทุกวัน พอโดนวิจารณ์โดนท้วงหน่อยมาถ้าว่ามึงทำแบบกูได้หรือเปล่า ดิ้นพล่านว่าลำบาก มึงไม่ต่างอะไรจากพวกมันเลยนะ นี่คนที่มาบ่นมึงเป็นใครมึงก็ยังไม่รู้เลย

มึงแน่ใจว่าที่มึงทำอยู่มันคือการสับสั้น เท่าที่อ่านดูบางอันมึงบอกไม่โดนใจ ไม่อยากอ่านต่อ บางอันมึงบอกไม่รู้นะ แต่โดนใจ มึงไม่ลงรายละเอียดวิเคราะห์อย่างจริงจังด้วยซ้ำว่าทำไม มันมีอะไรที่ทำให้มึงในฐานะคนอ่านรู้สึกแบบนั้น ถ้าวิจารณ์แบบนี้มันจะต่างอะไรกับการบอกแค่ว่าชอบ/ไม่ชอบ มึงชี้ให้เห็นอะไรมากกว่าการบอกว่าเขียนอ่านพอรู้เรื่องไหม ถ้ามันดี มันดียังไง ถ้ามันไม่ดี มันไม่ดีเพราะอะไร คนโดนสับได้ประโยชน์อะไรจากตัวมึงบ้าง

269 Nameless Fanboi Posted ID:dULrSvU8nV

>>268 เอาจริงๆ กูไม่อยากพูดต่อนะ เดี๋ยวหาว่ากูแก้ตัว ดังนั้นที่กูกำลังจะพูดคืออะไรที่ไม่มีใครต้องใส่ใจก็ได้ หรือแปลว่าแก้ตัวก็ได้เหมือนกัน กูไม่ได้ท้าทายหรือหยามโม่งคนนั้นว่าทำอย่างกูได้รึเปล่า แต่ที่บอกให้ลองทำดู จะได้รู้ว่ามันไม่ง่าย มีต้นทุน เสียทรัพยากร โดยไม่มีค่าตอบแทนอะไรคืนให้ แล้วกูสนับสนุนมาตลอดด้วยซ้ำว่าทุกคนควรสับเพื่อพัฒนาตนเอง ที่ให้สับเพราะมาบอกว่ากูใช้อารมณ์ เลยบอกไปตรงๆ ว่า "งั้นมึงก็สับในแบบที่คิดว่ามันเหมาะสมออกมาสิ" ยังไงคนที่ตามอ่านแม่งก็ได้ประโยชน์กันอยู่แล้ว ผลสุดท้ายมันจะสับหรือเปล่า กูไม่สนหรอกนะ เพราะไม่เกี่ยวกับกู และกูไม่เคยบังคับใครด้วย ไอ้ที่กูเคยสับๆ มา อ่านแล้วจะด่าว่าไม่เห็นเข้าท่า ใช้ประโยชน์ไม่ได้ กูยังไม่แคร์เลย เจ้าของนิยายที่โดนสับจะไม่สนใจ ไม่ทำตามคำแนะนำ กูก็ไม่สนอีกเช่นกัน ให้อิสระทุกฝ่ายเท่าเทียมกันเหมือนที่กูให้อิสระตัวเองในการแสดงความเรื้อนอะ

เรื่องรายละเอียดที่กูไม่ลงเพราะไม่เห็นว่ามีประโยชน์อะไรต่อคนอ่าน แม้จะเป็นการเรื้อนในที่ลับแบบนี้ กูก็ไม่อยากเขียนอะไรที่น้ำเยอะโดยเปล่าประโยชน์ ส่วนประโยชน์ที่คนอ่านจะได้รับ ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่ะ กูไม่ได้คาดหวังว่าบทความของกูจะชี้นำใครจนรู้แจ้งได้ปานนั้น โดยเฉพาะไอ้คนที่โดนสับหรือก็คือเจ้าของเรื่องนี้ เพราะมันไม่มีทีท่าว่าจะยอมรับอะไรเข้าหัวเลย

สุดท้ายที่จะบอกคือ มึงถามกูว่าแน่ใจเหรอว่ากูสับสั้น คำตอบตรงๆ แบบไม่ดัดจริตคือ "อันนี้มันสั้นมากแล้ว" ถ้ามึงเห็นข้อความลับที่กูพิมพ์ส่งให้นายคนนี้ มึงจะไม่ถามแบบนี้ออกมา แล้วไม่ได้ส่งอันที่ยาวๆ ให้ครั้งเดียวนะ กูส่งให้เกินครึ่งโหล แต่มึงจะคิดว่ากูโม้ก็ได้ กูไม่ซีเรียส เอาเป็นว่าถ้ามึงมาเจอแบบเดียวกับที่กูเจอ มึงจะเข้าใจได้ทันทีว่าทำไม เพราะอะไร มันถึงออกมาเป็นแบบนี้ ส่วนไอ้การสับรอบอื่นๆ เนี่ย เกินครึ่งกูสับเอาฮา แฝงสาระไว้บ้างสำหรับคนที่หัวไวพอจะหยิบเอาไปใช้ กูไม่ได้สับเพื่อหวังให้นักเขียนแถวนี้อ่านแล้วบรรลุจนกลายเป็นนักเขียนชั้นยอด ข้อความพื้นฐานที่ติดไปทุกครั้งแบบกระซิบบอกมีเพียงแค่ "มึงเห็นป่ะ ว่าเขียนแบบนี้เหมือนคว้าขี้ขึ้นมาลูบหน้า ดังนั้นถ้ามีความเข้าใจ ไม่อยากให้หน้าเปื้อนขี้ มึงคงรู้ว่าต้องทำยังไง"

270 Nameless Fanboi Posted ID:wkG1zxynL.

เดี๋ยวนะ...ที่มึงคุยๆกันอยู่นี่หมายถึงที่มะม่วงสับเหรอ? กูนึกว่าที่ >>266 พูดนี่หมายถึงกระทู้ใหม่ https://www.dek-d.com/board/view/3964648/

271 Nameless Fanboi Posted ID:fzJaXhDV2C

>>270 อ่านดีๆ กูว่ามู้ใหม่นะ

272 Nameless Fanboi Posted ID:8BoTD5QF2e

มู้คณะกรรมการที่กำลังถกกันอยู่

273 Nameless Fanboi Posted ID:dULrSvU8nV

>>270 อ้าว ไอ่เหี้ย กูนึกว่าพาดพิงที่กูสับไอ้แดดเลียว่าใช้แต่ความรู้สึกไม่มีการวิเคราะห์ ปล่อยไก่สัสๆ เลยแม่ง (กูไม่ได้เข้าบอร์ดเลยไม่รู้ว่ามีกระทู้นี้) อายว่ะ หนีไปนอนดีกว่า

274 Nameless Fanboi Posted ID:W4y2a4YVue

มึงว่ากันผิดทู้ปะเนี่ย

275 Nameless Fanboi Posted ID:m+QV4B7ouT

>>273 เอิ่ม กูหมายถึงมู้ใหม่นะ ไม่ได้ว่าเรื่องแดดเลีย ก็พาดพิงอยู่ตรงที่บอกว่าโดนใจ/ไม่โดนใจมันไม่บ่งบอกห่าอะไรเลย ไอ้แดดเลียมึงก็ไม่ได้วิเคราะห์ไว้อย่างนั้นนี่ สรุปกูงง มึงงง หรือใครงงกันแน่วะ

276 Nameless Fanboi Posted ID:8BoTD5QF2e

อ้าวเดี๋ยว ๆ กูงง สรุปว่ามู้คณะกรรมการใช่ไหม หรือกูงง เพราะกูนึกว่าพูดถึงมู้คณะกรรมการ

เห็นมีบอกแค่เอาอารมณ์ใส่ ก็จบกม.บอก ไม่อยากอ่าน ไม่อ่านต่อ ไม่สนุก อะไรพวกนี้อะ

277 Nameless Fanboi Posted ID:W4y2a4YVue

>>265 อันนี้มู้ไหนวะ จะไปขุดเผือก

278 Nameless Fanboi Posted ID:m+QV4B7ouT

อ่ะ สรุป
>>266 หมายถึงมู้คณะกรรมการ แต่เนื่องจากมีโม่งเพลงมาหยอดเพลงไว้เยอะ ทำให้เม้นท์เรื่องมีมู้คณะกรรมการมันโดนดันขึ้นไป ซึ่ง >>267 ไม่รู้ว่ามีมู้คณะกรรมการอยู่เลยคิดว่าโดนด่าว่าใช้อารมณ์สับ

>>268 คิดว่าคณะกรรมการมาตอบเลยใส่กลับ โดนตอบโต้ด้วย >>269 ไปๆ มาๆ เหมือนจะคนละเรื่องเดียวกัน >>270 เลยทักว่าน่าจะหมายถึงมู้ใหม่นะ

สรุปเข้าใจกันผิด แยกย้าย

279 Nameless Fanboi Posted ID:m+QV4B7ouT

>>277 มู้คณะกรรมการใน >>270 เช่นกัน

280 Nameless Fanboi Posted ID:xHLdE5VU.V

>>270 มู้ใหม่ไม่ว้าวเลยอ่ะ อุตส่าห์คาดหวังว่าชาวโม่งขยันดีเนอะ
อ่านแล้วก็มีแค่ชอบ ถูกใจ ไม่ถูกใจ ยาวไป(ไม่อ่าน) แล้วยังไงต่อ? ควรปรับปรุงรึ? แก้แบบนั้นมุงไม่ต้องแก้ เสียเวลา

281 Nameless Fanboi Posted ID:ThbQiDPOrV

กูคณะกรรมการเอง กูตั้งใจจะตอบสั้น ๆ กับตอนเปิด แค่นั้นแหละ

ไอ้เรื่องปรับปรุง ไม่ปรับปรุง กูตอบไปก็คงเหมือนโซมีน มะม่วงมันบอกอยู่ดี พวกที่ลงส่วนใหญ่เคยโดนตบมาแล้วทั้งนั้น

ถ้าไม่ถูกใจจริง ๆ กูก็ไม่เม้นต์ยาว ๆ หรอก

ยาว ๆ คือกูอยากตอบมันเหมือนเวลาคอมเม้นต์นิยายให้

สั้น ๆ ขี้เกียจ

282 Nameless Fanboi Posted ID:K+SnHhfns/

>>281 แล้วใครได้รางวัลอีหยังวะอวอร์ด อยากรู้

283 Nameless Fanboi Posted ID:8BoTD5QF2e

ปิดเทอมแล้ว บอร์ด ดด เด็ก ๆ ก็มารับวิจารณ์นิยายกันเยอะ ... สนุกจังเลย

284 Nameless Fanboi Posted ID:MhrSFM6Cm3

ปิดเทอมเเล้ว มานั่งฉอดเด็กนู้บกันเถอะพวกเรา เย่~

285 Nameless Fanboi Posted ID:IRUfhrOA4Z

>>283 กุนี่เกาะติดขอบจอนั่งรอลุ้นเลย

286 Nameless Fanboi Posted ID:ThbQiDPOrV

>>282 ขอกูอ่านครบก่อน แล้วจะประกาศในนี้ //กำหมัด เงยหน้ามองฟ้า หลับตาปี๋

287 Nameless Fanboi Posted ID:Pi0n2E9Dj3

https://www.dek-d.com/board/view/3964792/ ไม่อยากน้อยหน้าโม่ง น้อนเล่าเบียวหัวโปกจึงกลับมาทวงบัลลังก์

288 Nameless Fanboi Posted ID:+2zV7jdm1f

>>287 วัลลาบี งุงิมุมิจุงเบย

289 Nameless Fanboi Posted ID:8OqwpqEkn3

>>287 กุนี่เกาะเบาะรอแซะละ ที่ลงไว้ในมู้เก่ายังไม่เสร็จต้องให้คนมาตามแปะอีก ดูซิคราวนี้จะจับผิดได้ดีขึ้นไหม หืม...

อีกเรื่องคือเข้าไปดูนิยายของเม้นต์1 ที่ชื่อ ไอ้หยาซีระ ละกูแทบฟาดจอเพราะภาพประกอบของมัน
หล่อนกล้าลอกเอาปกการ์ตูนอาจารย์กูมาเรอะ! เรื่องนี้กุก็ตามอยู่
อะไรคือการเอาปกคนอื่นมาแล้วให้เครดิตรเป็นพินเตอเรส วะ!?! อห.(อีเหี้ย)

290 Nameless Fanboi Posted ID:Gu39KZQdOC

อ่านที่รับวิจารณ์บางมู้แล้ว ocd กำเริบ อัญประกาศเดี่ยว อัญประกาศคู่ บ้านพ่อมึงสิเคาะเว้นหน้าเว้นหลัง

291 Nameless Fanboi Posted ID:8BoTD5QF2e

>>289 ใจเย็น ๆ เด็กยังไม่รู้ไง
เหมือนภาพอื่นอะ อาจารย์วาดดัง ๆ แต่ให้เครดิตpinterestตลอด

292 Nameless Fanboi Posted ID:8BoTD5QF2e

>>290 กูเกลียดคำว่า เตง!!! มันดูมึงไม่โปร มึงยังเด็ก เหมือนคนขายของในไอจี เรียกกู ‘เตง ๆ’ เพื่อนเล่นมึงเหรอ
เรียกกูว่า ‘ตัวเอง’ กูยังเคือง ไม่ซื้อของคนที่เรียกกูว่า เตง
กูนี่...อคติล้วน ๆ จ้า

293 Nameless Fanboi Posted ID:cuSTpDGwuf

ทีแรกว่าจะไปตั้งกระทู้รับสับนิยายบ้าง แต่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นช่วงนี้แล้ว คิดว่ายกเลิกโครงการดีกว่าว่ะ

294 Nameless Fanboi Posted ID:Gu39KZQdOC

>>292 เจอ show don’t tell ไปกูก็กัดฟันละ ไปนอนดีกว่า

295 Nameless Fanboi Posted ID:WvbGn3swYZ

กูอยากเปิดเผยเว็บโม่งในเด็กดวกว่ะ ให้พวกเด็กดวกมาร่วมสนุกด้วย เพื่อนโม่งคิดว่ายังไง หรือไม่จำเป็น เพราะพวกมึงก็เด็กดวกกันอยู่แล้ว

296 Nameless Fanboi Posted ID:qh3678XASL

>>295 รอบก่อนไอ้เบียวทำงามหน้าเอาไปแปะ หลังจากนั้นแม่งก็เละ บรรยากาศโม่งยังกับเด็กดวกเสนอหน้า อีกอย่าง มึงจะเอาไปแปะทำซากอะไร ภาพลักษณ์โม่งในเด็กดวกแม่งก็เป็นขยะดีๆนิเอง

297 Nameless Fanboi Posted ID:WvbGn3swYZ

>>296 เออ กูผิด กูขอโทษ กูแค่อยากให้พวกเด็กใหม่ที่ชอบตั้งกระทู้มาอ่านศึกษาหาความรู้บ้าง มันจะได้เลิกตั้งกระทู้ซะที

298 Nameless Fanboi Posted ID:DzwNXzNih.

>>295 เพื่อความสะใจส่วนตัวของมึงที่ลากพวกเดกดวกมาอ่านโม่งสับเละ แต่เพิ่มความน่ารำคาญให้พวกกูนี่นะ มึงนี่เหี้ยดีเนอะ

299 Nameless Fanboi Posted ID:WvbGn3swYZ

>>298 อย่าด่ากูมาก กูสำนึกไม่ทัน สัตว์

300 Nameless Fanboi Posted ID:WXbjE8Gu9y

อยู่แบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ร้าง ๆ ก็ได้ดีกว่าให้มู้มันวิ่งเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง

301 Nameless Fanboi Posted ID:JXV/JPq6K8

อยากหาเรื่องสนุกก็ไปกวนตีนมันดิ เอานิยายออกไปให้สับเล่นก็ได้

302 Nameless Fanboi Posted ID:BH4fopO94B

ถ้ามันอยากศึกษาหาความรู้จริงๆ เดี๋ยวแม่งก็หาโม่งเจอเอง กระทู้เก่าๆของโม่งสับในเดกดวกทิ้ง clue ไว้เยอะมาก ถ้าแม่งผ่านคำติแบบสุภาพสัสๆไม่ได้ หลุดเข้ามาในนี้แม่งก็จะเล่นบท กุจะปราบคนชั่ว! (พูดหยาบคาย)​

303 Nameless Fanboi Posted ID:cuSTpDGwuf

>>295 อย่าเลยเพื่อนโม่ง ให้มันเป็นดินแดนลับแลแบบนี้อะดีแล้ว ดูมีเสน่ห์ดี แล้วก็อย่างที่ >>302 บอกอะ ถ้าใจมันกระหายอยากค้นพบโลกใหม่ เดี๋ยวมันก็หาทางเข้ามาที่นี่จนได้ (เหมือนพวกมึงหลายๆ คนที่เข้ามาพักหลังเนี่ย) ความเละเทะในบอร์ดนักเขียนเด็กดวกมันเป็นธรรมชาติของที่นั่นอะมึง เด็กมันยังไม่รู้เดียงสาก็หาทำอะไรไปตามที่มันคิดว่าไม่ผิดอะไร แต่ถ้าพวกนั้นมาเจอที่นี่เมื่อไหร่ กูว่าความสงบแม่งจะพังทันที เพราะสาระในนี้จะโดนถมด้วยความหัวร้อนของเด็กๆ หลายคนที่ยังไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ ถึงตอนนั้นล่ะมึงเอ๊ย สับนิยายก็จะไม่ได้อ่่าน กระทู้จะวิ่งด้วยข้อความไร้สาระ แถมพวกโทรลสายป่วนเห่อหมอยก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นด้วย มันอาจไหลเร็วจนขี้เกียจตั้งเลยก็ได้ ไอ้โทรลเนื้อเพลงจะกลายเป็นเรื่องเล็กเลย ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ เพราะตั้งไปก็มีแต่ความเรื้อนกลายเป็นห้องแชทหยาบคายธรรมดา

ในสายตาของคนโตแล้วหรือเด็กที่เป็นผู้ใหญ่ทางความคิด จะมองว่าบอร์ดนักเขียนน่ารำคาญมันก็ไม่แปลก แต่กูย้ำว่ามึงต้องเข้าใจธรรมชาติของสิ่งแวดล้อมนั้นๆ ด้วย เว็บที่มีแต่เด็กเล่นก็ต้องเจออะไรแบบเด็กๆ แบบนี้แหล่ะ นอกจากความไม่ประสาที่มึงต้องเจอ ยังมีความโลกสวย ความเสแสร้งอีก ปล่อยให้เด็กดวกเป็นสนามเด็กเล่นในโลกศิวิไลซ์ต่อไปอะดีละ อย่าพยายามล่อลวงเด็กในนั้นเข้ามาในโลก Mad Max - Fury road โดยไม่จำเป็นจะดีกว่า ถ้าใครแกร่งพอเดี๋ยวมันก็ข้ามเขตมาลุยเอง ถ้าใจมันเปิดกว้างพร้อมเข้าสู่โลกแห่งความจริงอันโหดร้ายน่ะนะ

304 Nameless Fanboi Posted ID:LQaSPx3B24

Kada ku, aboki na ɗan fashi Sanya shi ƙasa mai kyau kamar wannan .. Yana da kyau. Idan zuciyarsa tayi sha'awar gano sabuwar duniya Zai sami hanyar shigowa nan har sai (Kamar yawancinku Wadanda suka zo hutu bayan hakan) batattu ne a kan kwamitin marubuta na yara. Yara har yanzu basu san rashin laifi ba, to, kuyi abin da suke ganin ba laifi bane. Amma idan wadancan mutanen sun hadu anan Ina tsammani salama zata karye nan take. Domin abin da ke cikin wannan batun zai kasance mai cike da zafin yaran Mutane da yawa waɗanda har yanzu basu iya sarrafa motsin zuciyar su ba A lokacin, masoyi Hack novels, shi ba zai karanta. Zaren zai gudana da sakonnin banza. Bugu da kari, hargitsin rikice-rikice zai karu da yawa kuma. Yana iya gudana da sauri har sai yayi laushi. Waƙar troll za ta zama mara nauyi. Idan hakan ya faru da gaske Domin abin da kawai ya samu shine kuturta a cikin dakin tattaunawa na al'ada

A gaban tsofaffi ko childrena whoan manya manya masu hankali Ganin hukumar marubutan abin haushi ne, ba bakon abu bane. Amma na jaddada cewa dole ne ku fahimci yanayin yanayin .. Tare da yanar gizo wanda yara kawai suke wasa, dole ne su haɗu da wani abu kamar haka. Akwai sauran duniya kyakkyawa. Munafunci sake Yara su zama filin wasa na gaba a duniyar wayewa. Zai fi kyau kada kuyi ƙoƙarin kuɗa yara cikin Mad Max - Fury road duniya. Idan kowa ya kasance mai ƙarfi, to, zai haye filin ya ci gaba. Idan hankali ya kasance a bayyane kuma yana shirye don shiga mummunan duniyar gaske

305 Nameless Fanboi Posted ID:VoEGuMw4ic

>>295 มึงโม่งใหม่จากเด็กดวกรึไงวะ พอเลยสต็อปปุ แค่อีเล่าโปกก็ดึงเด็กดวกลงมาเยอะแย่ละ ขืนป่าวประกาศให้หน้าใหม่รู้อีก มู้สับจะเละไม่เหลือห่าไรแล้ว มีแต่นํ้ากับผักบุ้งโหรงเหรง สึส...

306 Nameless Fanboi Posted ID:K+SnHhfns/

>>305 น่ารักอะ มีสต๊อปปุด้วย 555

307 Nameless Fanboi Posted ID:LQaSPx3B24

>>295 เอาดิ สับให้พวกมันอ่านว่าเราเทพเเค่ไหน

308 Nameless Fanboi Posted ID:oKdGCrsGTP

>>307 ว้อยย ไม่ต้องยุอีเหี้ย อย่าทำตัวเหมือนเด็กเห่อหมอยเลยกุขอ หนหวย

309 Nameless Fanboi Posted ID:/qI1.CEwey

>>307 เข้าใจอะไรผิดป่าวโม่ง การวิจารณ์ไม่เกี่ยวกับการอวดรู้หรือโชว์ภูมิว่ากูเก่งกูเมพนะ ออกไปรับสับอะได้ แต่เรื่องดึงคนลงโม่งนี่ ไม่โอเคว่ะ

310 Nameless Fanboi Posted ID:a3S+VXGSfa

ขอแนวแฟนตาซี/เกมออนไลน์/ผจญภัยสักเรื่อง ที่มีตอนสักประมาณ 10-15 ตอน จะลองกลับมาสับดู

311 Nameless Fanboi Posted ID:7RRUh1gs1G

>>310 จัดไป

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1562247

312 Nameless Fanboi Posted ID:7RRUh1gs1G

>>310 อันข้างบนมีตอนเดียว แก้เป็นอันนี้แทนละกัน https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1541910

313 Nameless Fanboi Posted ID:gtRIoBgshm

>>311 กาวสัสส ห่านเอ๊ย

314 Nameless Fanboi Posted ID:N0vpGjozgh

>>311-312 อิเลว 555555555555555555

315 Nameless Fanboi Posted ID:4QSCUo5ArR

https://www.dek-d.com/board/view/3964884/ ล่าวาฬ + ต่างโลก

กูไม่เข้าใจว่ะ คือ...ถ้ามีอะไรมาดลใจให้นึกอยากจะเขียนเกี่ยวกับมัน...ถึงแม้มึงจะรู้ห่าเหวอะไรเลยมึงก็ต้องเขียน อย่างนั้นอะเหรอ? หรือจิตนาการกูตีบตันเกินกว่าจะเข้าใจคนสมัยนี้ไปซะแล้ว? เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้? แล้วนี่กูเป็นใคร? สับสนเหี้ยๆ

316 Nameless Fanboi Posted ID:iAeNRkIFhl

>>312 เดี๋ยว​พรุ่งนี้​มาสับละกัน จองไว้ก่อนๆ

317 Nameless Fanboi Posted ID:aVo1S7jgdB

กูเชื่อละว่าโม่งใหม่ของจริง มึงก็ไปแกล้งน้อง 55555555555555555555555555555555555555555555555555

318 Nameless Fanboi Posted ID:ZVEWPMOMp7

>>317 อย่ารีบเฉลยดิวะ นิยายในตำนานเลยนะ

319 Nameless Fanboi Posted ID:aVo1S7jgdB

>>318 โหย ก็แม่งแกล้งเด็กจริงนี่หว่า ถึงขั้นเอาตำนานมาให้สับ มึงก็รู้ว่าเรื่องนี้สับยากเย็นขนาดไหน โซมีนกับมะม่วงยังไม่แตะเลย กูนี่รออ่านเลยครับ

320 Nameless Fanboi Posted ID:ZVEWPMOMp7

>>319 แต่มีนมันเคยสับเรื่องที่ 3 ในเซตนี้นะ เรื่องแดกเมนส์อะ

321 Nameless Fanboi Posted ID:4n81HGUDab

>>315 ถ้ามึงตัดสินว่าโลกแฟนตาซีคือต่างโลก งั้น The Lord of the Rings, Game of Thrones, The Witcher คือต่างโลก

322 Nameless Fanboi Posted ID:6HG1TJETli

โม่งจับผิดโม่งด้วยกัน บันเทิงสัดๆ

323 Nameless Fanboi Posted ID:53CtPZAmTu

>>322 กูกำลังรออ่านสับที่มันแปะลิ้งไว้เนี่ย โคตรบันเทิงแน่ๆ

324 Nameless Fanboi Posted ID:aVo1S7jgdB

>>320 มึงบอกว่ากูรีบเฉลย กูเลยปั่นต่อไง มึงก็ไม่รับมุกเลยไอ้ห่า

325 Nameless Fanboi Posted ID:4n81HGUDab

ปิดเทอมทั้งที ไม่ยักกะมีมู้น่าสนใจเบย ยกเว้นคณะกรรมกร

326 Nameless Fanboi Posted ID:OlJ03L/TIY

>>321 เเม่งไม่ได้มีการข้ามโลกห่าไรเลยเเท้ๆ

327 Nameless Fanboi Posted ID:iYnGREvKxT

>>325 มีมือมีตีนเหมือนกัน เมิงก็ตั้งเองเลย

328 Nameless Fanboi Posted ID:OznM78oby8

จากที่ขอให้สับ ตาม >>312

เรื่อง : สงครามหุ่นเทพพิทักษ์เลเทน่า
link : https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1541910
จำนวน : (เฉพาะภาคแรก) 16 ตอน รวมบทนำ
สถานะ : ยังไม่จบ

เหมือนเจ้าของเรื่องนี้โดนแกล้งให้เอามาสับ พออ่านๆ ไปก็เข้าใจอยู่ว่ามีปัญหาที่ตรงไหน แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเลวร้ายขนาดนั้น ถ้านับเอานิยายทุกเรื่องที่เคยสับในโม่งมาตลอด 6 ปี ก็เห็นว่าเรื่องนี้ยังดีกว่าหลายๆ เรื่องมาก การบรรยายและการใช้ภาษาก็ใช้ได้ ปัญหามันอยู่ที่การสร้างตัวละครและเนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยชวนติดตามเอาเสียเลย

ออกตัวก่อนว่าอ่านได้ไม่จบ เพราะเนื้อหาค่อนข้างไม่น่าติดตาม ทั้งหมดที่อ่านไปได้ก็ประมาณ 8 ตอน พอจะสรุปเนื้อเรื่องคร่าวๆ ได้ ดังนี้

พระเอกชื่อเคออส แปลว่าความฉิบหาย ไอ้ฉิบหายนี่อยู่กันสองคนกับแม่ เพราะพ่อหายตัวไป ตอนเริ่มต้นเรื่องก็คือไอ้ฉิบหายกำลังจะไปประกวดร้องเพลง เพราะถ้าชนะแล้วมีชื่อเสียง ก็อาจทำให้ตามหาพ่อที่หายไปเจอ

โลกในเรื่องนี้พอจะอนุมานได้ว่าคือโลกจริงๆ ของเราในอนาคต ที่โดนหุ่นยนต์จากต่างดาวบุกมาทำลาย จนทำให้คนต้องมารวมกันอยู่ในเมืองที่มีชื่อว่าเลเทน่า เมืองเลเทน่ามีความพิเศษที่ว่ามีบาเรียสีชมพูครอบเมืองอยู่ เชื่อกันว่าหุ่นยนต์ไม่สามารถทำลายบาเรียนี้ได้ แต่สุดท้ายเดี๋ยวมันก็ถูกทำลายอยู่ดี

กลับมาโฟกัสที่ไอ้ฉิบหายต่อ ไอ้ฉิบหายออกจากบ้านไปประกวดร้องเพลง ด้วยความหล่อเหลาและร้องเพลงเพราะโคตรๆ ก็ทำให้ผู้ชมคนหนึ่งกรี๊ดจนหัวใจวายตาย ไอ้ฉิบหายรู้สึกผิดมากที่เป็นสาเหตุให้คนตาย แต่กรรมการและผู้ชมส่วนมากไม่แคร์ เพราะไอ้ฉิบหายหล่อเหลือเกินจึงให้มันชนะการประกวด ทันใดนั้นเอง มีหุ่นยนต์ยักษ์ตัวเท่าตึกตัวหนึ่งบินลงมาจากฟ้า แล้วก็ยิงบาเรียที่หุ้มเมืองเลเทน่าไว้จนแตก

ไอ้ฉิบหายคิดถึงแม่ที่ทำงานอยู่ในห้างสรรพสินค้า เลยรีบไปหาแม่ แต่หาไม่เจอ พอดีเจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง (ชื่อแปลกๆ ประมาณปุ๋ยยูเรีย) ที่ไม่ชอบไอ้ฉิบหายในตอนแรก ไอ้ฉิบหายเลยขอร้องให้ผู้หญิงคนนั้นช่วยตามหาแม่ ในขณะนั้นเอง ก็มีนักเรียนทหารเกเรกลุ่มหนึ่งบุกเข้ามาในห้างเพื่อจะมาฉกเอาทรัพย์สิน (คนในห้างหนีไปซ่อนตัว ทิ้งข้าวของเอาไว้) นักเรียนทหารหญิงคนหนึ่งชื่อเคธี่เห็นไอ้ฉิบหายกับปุ๋ยยูเรียหน้าตาดีก็รู้สึกขัดหูขัดตา เลยจะยิงทิ้ง โดยลั่นไกใส่ปุ๋ยยูเรียก่อน แต่ไอ้ฉิบหายก็กระโดดมาขวางกระสุนปืนไว้ ทำให้เกิดแฟลชแบ็คว่าไอ้ฉิบหายกับปุ๋ยยูเรียเคยเจอกันมาก่อน และในครั้งแรกที่เจอกัน ไอ้ฉิบหายก็ช่วยปุ๋ยยูเรียเอาไว้ในลักษณะแบบนี้

กระสุนปืนไปโดนล็อกเกต (รูปพ่อแม่มัน) ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อคลุมของไอ้ฉิบหายพอดี ไอ้ฉิบหายเลยไม่ตาย พวกนักเรียนทหารก็ไม่อยากมีเรื่อง เลยกล่อมเคธี่ให้เลิกบ้า แล้วไปขโมยของในห้างต่อ ไอ้ฉิบหายกับปุ๋ยยูเรียก็พลอดรักกันต่อนิดหน่อย จากนั้นก็มีกลุ่มชายชุดดำเข้ามาจับตัวไอ้ฉิบหาย บอกว่าตัวเองไม่ใช่คนเลวนะ มาดี เป็นกลุ่มของทหารรักษาเมือง จะมาเอาตัวไอ้ฉิบหายไปร้องเพลงกล่อมประชาชน เพื่อให้ประชาชนหายเสียขวัญ

ไอ้ฉิบหายโดนจับไปขึ้นเรือเหาะ เจอผู้บัญชาการใหญ่ (น่าจะเป็นพ่อของอีเคธี่ด้วย) ผู้บัญชาการใหญ่ก็บอกว่าให้ไอ้ฉิบหายเอาความหล่อและเสียงอันไพเราะไปกล่อมเกลาชาวเมืองซะ แล้วจะให้ไอ้ฉิบหายขับหุ่นยนต์รบ (ประมาณกันดั้ม) ตัวหนึ่ง ซึ่งพิเศษมาก เพราะถ้าคนขับไม่หล่อ หุ่นยนต์รบตัวนี้จะไม่ยอมให้ขับ ไอ้ฉิบหายก็ยอมโดยดี แต่พอดีคนของผู้บัญชาการใหญ่ที่เคยเป็นนายแบบมาก่อนเห็นไอ้ฉิบหายหล่อเลยหมั่นไส้ จะแกล้งทำให้ไอ้ฉิบหายตกจากเรือเหาะ แต่ผู้บัญชาการใหญ่ก็มาช่วยไว้ได้ทัน

หลังจากนี้ก็ไม่ได้อ่านละเอียดแล้ว คร่าว ๆ ว่ามันมีโลกเสมือนใบหนึ่งที่ต่อไปพวกไอ้ฉิบหายต้องมาสู้กับหุ่นยนต์ต่างดาว และหัวหน้าของไอ้หุ่นยนต์ต่างดาวคือพ่อของปุ๋ยยูเรีย (อันนี้ไม่แน่ใจ) คนขับหุ่นรบต่างดาวทำไปเพราะหัวหน้าล่อว่า ถ้าทำได้สำเร็จ ก็จะชุบชีวิตครอบครัวที่ตายไปแล้วของคนขับหุ่นรบกลับคืนมาให้ (น่าจะทำในโลกเสมือน)

จบเนื้อเรื่อง ต่อไปจะเป็นการให้คะแนน

329 Nameless Fanboi Posted ID:OznM78oby8

>>328 นี่คือการให้คะแนนเรื่องสงครามหุ่นเทพพิทักษ์เลเทน่า

พูดกันตามตรงนะ เนื้อเรื่องมันห่วย ไม่ค่อยน่าติดตาม ตัวละครก็โคตรเอ็ดจี้ เบียวสัสๆ หล่อลากดิน หล่อจนสาวๆ พยายามลากไปทำผัว หล่อจนผู้ชายอิจฉาเลยจะฆ่า หล่อจนทำคนกรี๊ดจนหัวใจวายตาย อ่านแล้วได้แต่ส่ายหัว แต่ถ้าเราพิจารณาที่การเขียน ก็ต้องบอกว่ามีลูกเล่นพอสมควร เช่น มีการพูดถึงเมืองเลเทน่าในย่อหน้าแรกของทุกบท คล้ายๆ เป็น recap บอกว่าตอนนี้สถานการณ์ของเมืองเป็นอย่างไรบ้าง การบรรยายก็อ่านเข้าใจง่าย ไม่วกวน ผู้เขียนมีคลังศัพท์พอสมควร ส่วนของบทสนทนาแย่เพราะตัวละครมันขาดความเป็นมนุษย์ไป ทำให้ไม่อิน แต่ก็ถือว่าผู้เขียนสามารถสร้างตัวละครแต่ละตัวมี voice ของมันอย่างชัดเจน ประมาณว่าถ้ามีคนมาอ่านบทสนทนาให้ฟังโดยไม่บอกว่าใครพูด ฟังจากคำพูดและเนื้อหาแล้วก็พอจะจับน้ำเสียงได้ว่าตัวละครนั้นคือใคร

คำผิด: แทบไม่มี คำตกหล่นก็มีน้อย จำได้ว่าที่ขัดตามีคำว่า “วิ” ในบทบรรยายแค่คำเดียว (ในบทบรรยาย ควรเขียนเต็มเป็นวินาที) ให้คะแนน 9 เต็ม 10

การบรรยาย: บรรยายแบบมุมมองบุคคลที่ 3 ได้ค่อนข้างโอเค ไม่กระโดดเปลี่ยนมุมมองไปมา คลังคำศัพท์มีพอสมควร อ่านแล้วลื่นไหล เข้าใจสิ่งที่ต้องการจะสื่อง่าย แต่เพราะขัดใจเซ็ตติ้งหลาย ๆ อย่าง การ tell ที่ผิดจังหวะไปในบางจุด รวมทั้งบทบรรยายและบทสนทนาที่ค่อนข้างเอ็ดจี้จนรู้สึกเหมือนจะทนอ่านไม่ไหว ก็ขอหักคะแนนหน่อย ให้ 7.5 เต็ม 10 แล้วกัน

ตัวละคร: ห่วย เอ็ดจี้เกินไป รับไม่ได้เลยแม้แต่ตัวเดียว มิติของตัวละครแบนราบ อ่านดูยังไงก็ไม่น่าใช่คน แต่ด้วยการที่อย่างน้อยๆ ก็ยังสร้างคาแร็คเตอร์ตัวละครให้ดูชัดได้ (แม้จะผิดมนุษย์ก็ตาม) จึงให้ 4 เต็ม 10

เนื้อเรื่อง: น่าเบื่อ ดูคลิเช่ในหลายๆ จุด หลายๆ อย่างพอจะเดาได้ เช่น ขอเดาเลยว่าพ่อของไอ้ฉิบหายเนี่ยก็คงต้องเกี่ยวพันกับการบุกโลกของหุ่นยนต์ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งแน่ๆ แต่ก็นะ เห็นความพยายาม และการผูกเรื่องก็ไม่มีตรงไหนที่ผิดตรรกะจนทำให้ขาดความสมเหตุสมผลเกินไป (เว้นแต่กรี๊ดจนหัวใจวายตายเพราะความหล่อ) ให้ 6 เต็ม 10 ก็แล้วกัน

สรุป 26.5 เต็ม 40 สอบผ่านจ้า เอาตรงๆ เพราะไม่รู้จักนักเขียนเป็นการส่วนตัว แต่ถ้านักเขียนคนนี้ยังเรียนชั้นมัธยมอยู่ก็ต้องบอกว่ามีโพเทนเชียลในการที่จะเขียนนิยายดีๆ ออกมานะ 1. การบรรยายดี อ่านรู้เรื่องไม่สับสน 2. น่าจะอ่านหนังสือมามากพอควร เลยจับจุดได้ว่าควรจะเคาะย่อหน้าตรงไหน เขียนแยกบทสนทนา/บทบรรยายอย่างไร (เคยเห็นหลายๆ เรื่อง แม่งยังกะอ่านนิยายเกมออนไลน์ห่วยๆ มาสัก 2-3 เรื่อง แล้วคิดอยากเขียนเองบ้าง) 3. มีคลังคำศัพท์ในหัวพอสมควร

ถ้าต่อไปสามารถวางพล็อตเรื่องที่น่าสนใจได้ และสามารถทำความเข้าใจว่ามนุษย์จริงๆ เป็นอย่างไร ก็จะสามารถสร้างตัวละครที่มีมิติขึ้นมา ทำให้นิยายสนุกและน่าสนใจขึ้นอีกมาก

เป็นกำลังใจให้จ้า

330 Nameless Fanboi Posted ID:aVo1S7jgdB

กูยอมใจ 555555555555555

331 Nameless Fanboi Posted ID:RusCH9jp7l

>>328-329 อะ ถ้ามึงไม่รู้จริงๆ ว่านิยายนี่เป็นของใคร คำตอบคือ ไอ้แวม โทรลคุกคามทางเพศในตำนานของบอร์ดนักเขียน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าไอ้นี่คือคนเดียวกับไอ้ F ที่พวกเราคุ้นเคยกันดี เพราะมีคนให้ข้อสังเกตหลายอย่างว่า 2 ตัวนี้แม่ง คล้ายกันจริงๆ

อย่างแรกเลยคือแม่งพูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง บางทีก็พออ่านเข้าใจบ้าง บางทีก็พิมพ์เหี้ยไรไม่รู้ บทจะกวนจะโทรลก็ล่อตีนใช้ได้ เรื่องหลุดพวกคำหยาบคายนานๆ ทีในความเห็นก็เหมือนกันอีก

อย่างที่สองคือทั้งแวมทั้ง F จะสนิทกับเจ๊ดอกขาว เรื่องนี้แม่งโคตรมหัศจรรย์ เพราะแม้ F , ไอ้แวม จะมีการโต้แย้ง ถกเถียงกับดอกขาวอยู่หลายครั้ง แต่ทุกครั้งเรื่องมักจะจบลงด้วยดี ไม่มีดราม่า แถมต่างฝ่ายต่างช่วยสนับสนุนความเห็นให้กันด้วย สิ่งหนึ่งที่ทำให้กูรู้สึกอยู่ร่วมโลกกับดอกขาวไม่ได้ เป็นเพราะเจ๊เคยกล่าวไว้ว่าไอ้แวมนั้น "เป็นคนดีนะคะ" กูเลยมองเจ๊เชิงบวกไม่ได้อีกเลย

อย่างที่สาม ในฐานะที่กูเคยอ่านนิยายไอ้ F ก่อนมันจะถูกยิงไอดีทิ้งครั้งล่าสุด พบว่ามี "กลิ่น" แบบเดียวกับนิยายของแวมมี่ คือจะมีความพระเอกหล่อพ่อตาย นางเอกแอบเสื่อม ตัวละครหญิงหลงพระเอกกันเกือบหมด และตัวร้ายจะหาทางเล่นงานพระเอกด้วยเหตุผลที่เหมือนกันคือ "ไอ้สัสนี่หล่อเกิน กูหมั่นไส้" ตัวนิยายจะเขียนให้เพศหญิงถูกมองคล้ายวัตถุทางเพศ และจะมีความหื่นแฝงในความคิดตัวละครหลัก รวมไปถึงเฟติชโรคจิตบางอย่างที่มันไม่ได้อธิบายออกมาตรงๆ แต่อ่านแล้วเกิดความขนลุกได้ง่ายๆ เช่นการจ้องไปยังรองเท้านักเรียนของเด็กสาวที่ถูกถอดทิ้งไว้ แล้วคิดเล่นๆ ว่าอยากกระฉูดแยวขาวของตัวเองลงไปในนั้น มีการหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วเขียนว่า "ก็แค่คิดเล่นๆ น่ะนะ" ตามด้วย

อ่อ แล้วที่มึงให้กำลังใจมันเนี่ย กูอยากบอกว่า ณ เวลาที่มันลงนิยายเรื่องนี้ (หลังไอดีหลัก 2 อันแรกถูกยิงไปหมาดๆ) ตัวมันอายุ 28 แล้วนะ สำหรับคนอายุ 28 ที่อ่านนิยายมาพอสมควร ทำได้ระดับนี้ก็คือปกติไม่ถือว่าแย่ แต่ถามว่าดีไหม มึงคงมีคำตอบในใจอยู่แล้ว

332 Nameless Fanboi Posted ID:/G8mMVjQTP

>>331 ค่อนข้างมั่นใจว่าไอ้ F ไม่ถึง 28 ว่ะ น่าจะ 20 ต้นๆ ถึงกลางๆ

333 Nameless Fanboi Posted ID:O6mmVN3KWb

>>332 ดูเป็นวัยล่อตีนหมาดๆ ไม่มีออร่าผู้ใหญ่ 28up

334 Nameless Fanboi Posted ID:53CtPZAmTu

>>332 >>333 ถ้าพวกมึงหมายถึงอายุสมอง หรืออายุความคิดอะกูเห็นด้วย แต่อายุจริงอาจแก่แล้วก็ได้ (ซึ่งกูก็ไม่ชัวร์นะ) เพราะตอนนั้นที่มีดราม่าการแสดงออกของไอ้แวมมันก็ไม่เหมือนคนอายุ 28 อะ เกรียนๆ โทรลๆ อย่างกับเด็ก ม.ต้น เพิ่งพ้นจากการควบคุมของพ่อแม่มาอยู่โรงเรียนประจำ ข้อมูลเรื่องอายุนี่กูได้มาจากเจ้าของไอดีปลาท่องโก๋ที่เขาจะไปแจ้งความจับไอ้แวม (รูปโปรไฟล์ที่โชว์ตรงคอมเมนต์นิยายนั่นก็หนังหน้าจริงๆ ของมัน)

คือที่กูสงสัยและให้ข้อสังเกตเป็นเพราะมันมีอยู่รายเดียวจริงๆ ที่โดนแบนไอดีจากทางผู้ดูแลบอร์ด 2-3 ไอดีรวด ด้วยสาเหตุคล้ายๆ กัน แล้วก็ยังจะสมัครใหม่กลับมาลอยหน้าลอยตาอะ ท่าทางก็ดูไม่สำนึกส้นตีนอะไรเลย จนสงสัยว่าแม่งมีปัญหาทางจิตถึงขั้นขาดความยับยั้งชั่งใจรึเปล่าวะ

แต่ถ้าพูดถึงไอ้แวมแล้ว มันมีความเจ๋งอยู่ในตัวเหมือนกันนะ เพราะแม่งสามารถทำให้งานเขียนทุกแนวกลายเป็นแนวคอเมดี้ได้ ขนาดเรื่องเสียวที่มันเอาไปลงไว้ในธัญวลัยกูลองอ่านแล้วยังขำก๊ากเลย ไอ้เรื่องลูกสาวร้านขายของกำลังเบ็ดแล้วมีคนมาเจอ กับเรื่องเด็กนักเรียนชายสองตัวที่ถ่ายคลิปแบล็คเมล์เย็ดเหยื่อแล้วเอาคลิปไปขายด้วยนั่นแหล่ะ อ่านแล้วขำว่ะ ไม่รู้ทำไม ไม่เกิดความหื่นขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว

เขียนเรื่องเสียวให้กลายเป็นนิยายตลกได้นี่ ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็ทำได้นะเว้ย โคตรยาก

335 Nameless Fanboi Posted ID:iboIp3O2ct

กูว้าวมากที่มีคนไฮป์นิยายเรื่องนี้ของแวมถึงขั้นให้ผ่าน มึงอ่านแล้วไม่รู้สึกว่ามัน self-insert จัด ๆ บ้างเหรอวะ

336 Nameless Fanboi Posted ID:OznM78oby8

>>331 ตัวจะเป็นใครมีวีรกรรมอย่างไรต้องสนใจด้วยเหรอ ที่นี่ห้องนิยาย มาสับนิยายอย่างเดียว

337 Nameless Fanboi Posted ID:OznM78oby8

>>335 ก็ถือว่าได้มาตรฐานนิยายเด็กดีนะ ดีกว่าหลายๆ เรื่องในเว็บเยอะ ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าเนื้อเรื่องไม่น่าติดตาม ตัวละครเหี้ย แต่การบรรยายหรือการใช้ศัพท์ก็ดีอยู่ จะได้ 20 กว่าคะแนนเต็ม 40 มันก็ไม่ได้แปลกเวอร์วังอะไร

คือมึงต้องเข้าใจว่าที่นี่ห้องนิยาย เวลากูสับนิยายกูก็ไม่ได้สนใจว่าคนเขียนมันจะเป็นใครมีประวัติอย่างไร แค่อ่านที่มันเขียนแล้วก็เอามาวิจารณ์ตามเนื้อผ้า หรือมึงคิดว่าการสับคือจะต้องด่าๆ เอามันส์อย่างเดียว ประสาทแดก อนากได้แบบนั้นมึงไปหาเอาจากคนอื่นเถอะ

338 Nameless Fanboi Posted ID:fjhhKGuobi

สับเด็กดวกมา6ปีแต่ไม่รู้จักอีแวม ผ่ามพ่าม!

339 Nameless Fanboi Posted ID:1+XT5fjpqJ

อะไรของพวกมึงเนี่ย เผลอไม่ทันไรจะต่อยกันเองอีกแล้ว คุยแบบเป็นกลางกันดีกว่าหน่า ผลงานเป็นไงก็ว่าไปตามนั้น ส่วนนิสัยคนแต่งอันนี้ก็แยกไปคุยกันอีกส่วน อาจารย์กูสอนว่าคุณค่าของงานศิลป์กับตัวตนของผู้สร้าง มันต้องมองแยกกัน ไม่งั้นจะอคติเสียเปล่าๆ

ต้องฝึกใจให้นิ่งๆ อะมึง เดี๋ยวนี้มันมีเยอะด้วย อย่างในวงการนักวาด หลายคนเลยที่ดังๆ วาดสวยนิสัยเสียมีถมไป เรื่องเอานิสัยคนมาตัดสินงานนี่ไม่สมควร (แต่ถ้าเอามาพิจารณาว่าจะซื้องาน/จ้างงานคนนิสัยแบบนี้ดีไหม อันนี้แล้วแต่มึง)

นิยายที่สับนี่ข้อดี, ข้อเสีย มันก็มีตามที่เขาสับอะ ถ้ามองแบบโม่งๆ ได้ เราก็จะสนใจแต่สาระที่ได้ ส่วนคนแต่งจะเป็นใครก็ช่างมันไง ดีกว่ากระทู้ร้างไม่มีใครสับนะเว้ย

340 Nameless Fanboi Posted ID:PH5HBN1MUv

>>328 เออ เดี๋ยวนะสับในโม่งมาหกปี เด็กดีบทที่1 มัน 2016 ใช่ปะ คือมันมีสับมาก่อนหน้านั้นสองปีเลยเหรอ อันนี้กูถามจริงจังนะเพราะกูไม่รู้ กูมาตอนบทที่ 5-6 อะ แต่ไม่รู้จักอิแวมเพื่อนรักดอกขาวนี่กูค่อนข้างอิหยังวะเหมือนกันนะเพราะถ้าใครเล่นบอร์ดเด็กดวกไม่ก็โม่งในยุคสมัยมันท็อปฟอร์ม กูว่าแม่งต้องรู้จักอะ

341 Nameless Fanboi Posted ID:K8ll87eAfH

เห็นด้วยกะ >>337 นะ ไม่จำเป็นต้องเห็นเหมือนกันก็ได้ ส่วนที่ดี ดีอย่างไร ส่วนที่ไม่ดี ไม่ดีอย่างไร ชี้แจงมาเป็นข้อๆ กุสนตรงนี้มากกว่า

342 Nameless Fanboi Posted ID:rNlBvOYyVX

>>340 อ้อ เขียนผิดไป จริงๆ แล้วจะบอกว่าสับมาตั้งแต่กระทู้แรก แต่ขี้เกียจดูปี จำได้ว่าเล่นโม่งตอนปี 2014 เลยบอกไปว่า 6 ปี

จริงๆ แล้วจะเล่นมากี่ปีก็ไม่อยากเอามาอวดอ้างเลย จะโม่งใหม่โม่งเก่าก็คือโม่งทั้งนั้น เราคุยกันในนี้สนใจแต่เนื้อหาไม่สนใจตัวตน ถ้าอยากจะวอนนาบีซัมวันเป็นเมมเบอร์​ติดดาว เว็บนี้คงไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่

343 Nameless Fanboi Posted ID:1+XT5fjpqJ

>>340 กระทู้สับมันมาทีหลัง แต่กระทู้นินทานี่ เขาคุยถึงมันมาก่อนหน้านั้นนานแล้วน่ะ

344 Nameless Fanboi Posted ID:iboIp3O2ct

>>337 ก็ไม่ได้บอกว่าจะต้องสับเอามันนะ กูไม่ได้บอกว่ามึงไฮป์แวม แต่กูมองว่ามึงใจดีสัสๆ ที่ให้นิยายเรื่องนี้ถึงขั้นอยู่ในเกณฑ์เขียนลื่นไหลบรรยายได้ดี บอกว่ามันเลือกคำได้ดี ทั้งที่ศัพท์แสงมันก็ซ้ำๆ วนๆ คำผิดก็มีเยอะอยู่ จ้ะ จ๊ะ ผลลับงี้ ที่สรรคำแปลกๆ ก็ไม่น้อย

345 Nameless Fanboi Posted ID:O6mmVN3KWb

>>328 อ่ะ กูส่องหน่อยแล้ว ไม่ถึงขั้นคำว่าลื่น แต่บรรยายให้นักอ่านจับใจความที่จะสื่อได้ ไม่เหมือนหลายเรื่องที่จะเล่าเหี้ยอะไรยังสื่อออกมาให้รู้ความมะด้าย บรรยายขาดชั้นเชิงการเล่า เหมือนอ่านไดอารี่ประจำวันของเด็กประถมต้นน่ะ บวกกับความน่าขยะแขยงเหี้ยๆของแต่ละอย่างในเรื่อง บอกเลอ เป็นดรั้ยแค่ระดับเด็กหัดแต่งประโยค ฉันตื่นนอนไปล้างจาน ทำอาหาร

346 Nameless Fanboi Posted ID:12vcaMtlqr

เหมือนพวกมึงอกหักที่นิยายเรื่องนี้ไม่ได้โดนด่ายับอย่างที่อยากจะให้เป็นอะ รู้ตัวไหมว่างอแงแบบนี้มันดูน่าสมเพช​มากๆ อายุกี่ขวบกันแล้ววะ

347 Nameless Fanboi Posted ID:pLuwjvSXC+

>>346 เอ้า อะไรมึง? ไม่มีใครงอแงนอกจากมึงอะ ปกติโม่งมันก็เข้าไปดูปกติปะว่าโม้ไม่โม้ เอางี้นะ ในมุมมองกู มึงทำตัวเหมือนคนงอแงที่ไม่พอใจว่าไอ้เรื่องนี้มันไม่รอดโดนจวก งงว่าอ่านแล้วมันไม่ลื่นจริง แล้วจะแย้งมะได้อ่อ

348 Nameless Fanboi Posted ID:4DsgrQhZGt

กูคนแปะลิ้งเองนะ ไอ้ห่ากะจะเอามาแปะแชร์ความฮา ไปๆ มาๆ ทำไมจบด้วยการตบเกรียนกันเองวะ จะให้มู้คึกคักขำขันเสือกทะเลาะกันเฉยเลย

เอาเป็นว่ากูขอโทษละกัน เป็นความผิดของกูเอง เชิญหยิกหีได้คนละทีตามสบาย

349 Nameless Fanboi Posted ID:Tzh12O/AYs

แม่งรู้สึกคล้ายๆกับที่โซมีนโดนปลอมนิยายมาให้สับยังไงก็ไม่รู้ แค่เปลี่ยนจากนิยายของศิลปินแห่งชาติมาเป็นโทรลแดกเมนส์ ในฐานะโม่งที่รอกอบโกยความรู้ในนี้กูขอพูดอะไรกับคนสับหน่อยแล้วกัน กูไม่รู้ว่าตอนนี้มึงอยู่ในอารมณ์ไหนนะ แต่ถ้ามึงรู้สึกแย่เพราะเหมือนตัวเองโดนหลอก กูก็ขอบอกเลยว่าเซลสมองที่มึงเสียสละมันได้สร้างประโยชน์แล้ว คนที่มองหาสาระก็ได้รับส่วนบุญส่วนกุศลในการสับของมึงแล้ว "ขอบคุณมึงมาก" แค่นี้ล่ะ

350 Nameless Fanboi Posted ID:Brrkil4rlG

ตีกันทำไม เอาง่ายๆ ไอ้ที่พวกมึงเถียงกันน่ะ มันทำให้รู้ว่าสุดท้ายแล้วการสับหรือการวิจารณ์ ก็อยู่ที่มุมมองของคนๆนั้น ไม่สามารถเอามาเป็นเกณฑ์มาตรฐานสากลได้ มุมมองแต่ละคนก็ต่างกัน

351 Nameless Fanboi Posted ID:fCIHi0dDL9

>>350 งืม วิธีวิจารณ์และวัดผลต่างกัน ฝั่งคนอ่านก็ได้รับประโยชน์ต่างกันด้วย แล้วแต่มุมมองและความสามารถ ส่วนเดียวที่กูไม่คิดมากคือความเห็นส่วนตัวช่วงท้ายสุดอะ อันนั้น freedom ได้เลย

352 Nameless Fanboi Posted ID:..QdrbNWIY

สรุปโม่งสับแต่ละคนมีมาตรฐานที่ต่างกัน มีความถนัดที่ต่างกัน ไม่มีมาตรวัดที่แน่นอนตายตัว เป็นหน้าที่ของคนที่อ่านสับที่จะต้องใช้วิจารณญาณและพิจารณากันเอาเอง

353 Nameless Fanboi Posted ID:Brrkil4rlG

พอไม่มีกระทู้ดราม่า หรือคนที่โม่งเกลียดเคลื่อนไหว แม่งแทบร้ายเลยสัด

354 Nameless Fanboi Posted ID:Z5wKT9eIaT

ในเด็กดวกมีกระทู้ใหม่เยอะชิบหาย แต่ไม่มีกระทู้ไก่กาอย่างพวกขอชื่อ ขอพล็อต ขอคาร์

กูนี่แทบจะร้องไห้

355 Nameless Fanboi Posted ID:bdjDOPbnam

>>354 เป็นไปไม่ได้ นี่มันปิดเทอมนะ

356 Nameless Fanboi Posted ID:X0Lsg0UpKh

กูเห็นมู้ตุ๋นกบแล้วรู้สึกสงสารยังไงก็ไม่รู้ https://www.dek-d.com/board/view/3964973/

357 Nameless Fanboi Posted ID:T/nUuOvlH3

>>356 ขำเล่าโปก ไปติดอกขาวว่าเขียนผิด ผิดแบบเดียวกับมอเต่อไซค์อีกละ

358 Nameless Fanboi Posted ID:bEh9mwDCey

>>357 คุณได้ซีนนะ แต่ซีนคุณติ๊งต๊องมาก

359 Nameless Fanboi Posted ID:Brrkil4rlG

>>356 มันก็เป็นผลดีกับพวกที่ขายนิยายนะ ในโม่งหลายตัวก็มีรายได้จากเด็กดวก กูก็ด้วย

360 Nameless Fanboi Posted ID:Z5wKT9eIaT

>>359 เจ้า feedback ที่บอกกับทีมงานนี่กูมองว่าเป็นเรื่องดีนะ แต่ที่กูรู้สึกสงสารตุ๋นกบคือคุณภาพของ 'คน' ที่โผล่มาตอบมู้

361 Nameless Fanboi Posted ID:Brrkil4rlG

>>360 อ่อ กูเข้าใจล่ะ เออ น่าสงสารจริงๆ

362 Nameless Fanboi Posted ID:MYCFp0/GBK

>>358 มันก็เอาทุกอย่างแหละ โดนฉีกตัวตนซะจนมาดฮีโร่ที่มันคิดว่ามีหายหมด จะอะไรเล็กน้อยมันก็ต้องเสนอหน้าล่ะ

คิดว่าทุกวันนี้คนในบอร์ดมองมันยังไงล่ะ สังเกตดูในโม่ง พอมีใครพูดถึงเล่าโปกทีโม่งแม่งรีบรุมกระซวกกันใหญ่ กุไม่แปลกใจเพราะโม่งที่อยากด่ามันก็คนในเด็กดวกนั่นแหละ รำคาญอยากเม้าท์กันเต็มแก่แต่ต้องคีพคาร์ไว้ ถถถถ

เพราะงั้นตอนนี้มันจะรีบหาพวกก็ต้องคนไม่รู้ประสีประสาอย่างเจ๊ดอกนี่แหละเข้าทางที่สวดดด

363 Nameless Fanboi Posted ID:Brrkil4rlG

>>362 กูสมมตินะ ถ้าเล่าโปกอัญเชิญดอกขาวมาโม่งจะเกิดอะไรขึ้นวะ

364 Nameless Fanboi Posted ID:T/nUuOvlH3

>>363 โพสไม่ได้ เจ๊พิมพ์เกิน 4,000 ตัวอักษรตลอด

365 Nameless Fanboi Posted ID:AS954QW+g6

>>362 กูเคยพูดไปตั้งนานแล้วว่าถ้าเป็นกูนะ ทำไอดีใหม่มาเนียนเล่นแบบไม่รู้จักใครดีกว่า

366 Nameless Fanboi Posted ID:Brrkil4rlG

>>364 ไอ้สัด เจ๊แม่งน่าแต่งนิยายว่ะ ไอ้ห่า พิมพ์แต่ละทีออกตอนนิยายได้เลย

367 Nameless Fanboi Posted ID:vuY/BQu4r7

>>366 แต่งแบบอยากจะฟัคของดอกขาวอะเหรอ

368 Nameless Fanboi Posted ID:MYCFp0/GBK

>>365 มันยังเสียดายตัวตนเดิม เหมือนยังไม่รู้ว่าไอดีตัวเองเน่าพอ กูฮาตั้งต่ะก่อนที่มันชอบคุยในบอร์ดว่าเป็นเซียนปราบโทรล เคยโค่นเกรียนคีย์บอร์ดตัวพ่อในยูทูปได้ อย่างขรรม กุคิดในใจว่าใครมันให้ค่ากับเกรียนยูทูปกันด้วยวะ แค่เถียงชนะเกรียนแม่งภูมิใจอะไรนักหนาวะ กระโดดโลดเต้นเป็นลิงเป็นค่างไปได้ หนหวย
>>366 เขียนได้ยาวแต่ภาษาพิกลพิการ เนื้อเรื่องวิบัติแบบ 5ส. น้องเกศริณก็ไม่ไหวนะคร๊ะ

369 Nameless Fanboi Posted ID:YCEoZd.FBp

วันนี้กลับไปดูนิยายในมู้ทำลายกำลังใจ แม่งมีคนไล่ลบคอมเม้นท์หนีละว่ะ 5555555

370 Nameless Fanboi Posted ID:AS954QW+g6

>>369 ใจบางเกิน ไม่น่ามาแปะให้เสียเวลา

371 Nameless Fanboi Posted ID:KOT0mV49dP

ใครที่รออ่านมู้ทำลายกำลังใจ ตอนนี้กูไปเขียนเพิ่มแล้วนะ

372 Nameless Fanboi Posted ID:kVnxE5MW0e

>>371 มีนมีนนนนนนนน!!! ขอถามหน่อยนะ
ที่มึงบอกว่า ‘!’ เยอะไป ถ้ามันอยู่ในช่วงที่แม่งทะเลาะกันเหมือนตำรวจจะจับผู้ร้าย สองฝั่งตะโกนกัน
กูเคยอ่านบางเรื่อง มันใช้ ‘!’ ทุกประโยค แล้วกูก็อ่านเข้าใจว่ามันเป็นความรู้สึกกำลังตะโกนกัน ด้วยระยะห่างของความเป็นจริง
อย่างนี้ใส่’!’ได้ทุกบทสนทนาปะ
กูอ่านบางเรื่องก็ไม่คิดว่าเยอะ แต่กูความรู้เรื่องนี้น้อย ใช้ความรู้สึกล้วน ๆ

373 Nameless Fanboi Posted ID:KOT0mV49dP

>>372
ของแบบนี้มันอยู่ที่สถานการณ์ในการใช้งานด้วย คือเวลาที่บอกว่าใช้เยอะไปเนี่ยไม่ใช่แค่ทุกประโยค แต่เป็นจำนวนต่อการใช้หนึ่งครั้ง

ตัวอย่างที่จะยกนี้คือตัวอย่างที่โดนด่า

“ดอกขาว!! ในที่สุดฉันก็ตามหาเจอจนเจอ!!!!!” ชายหนุ่มป้องปากร้องตะโกนเรียกหาหญิงสาววัยกลางคนกำลังนั่งสวดมนต์อยู่ท่ามกลางผู้คน

“แวม!!??!? เธอหาฉันเจอจริงๆ!!!!!” ดวงตาฝ้าฟางของเธอคลอหน่วยด้วยหยดน้ำตา

“มาเถอะที่รัก!!!! ฉันอยากยกเธอซดจะแย่อยู่แล้ว!!!!!”

374 Nameless Fanboi Posted ID:fD7IfXb4di

>>373 อ่านแล้ว Cringe เพราะคำว่ายกซด ส่วนพวก !!! ???!! !!!!! อันนี้ทำให้รำคาญ

375 Nameless Fanboi Posted ID:SNbzM6qXcL

ในมู้แม่ง... พี่อึ่งไลก์ดะจริงๆ ด้วย

376 Nameless Fanboi Posted ID:LH5V9DwYN6

>>373 เข้าใจแล้ว ที่กูอ่านคือเขาใช้ ‘!’ แค่ตัวเดียวต่อบทสนทนา กูเลยว่ามันไม่เยอะไป
ขอบคุณมากมายคุณมีนมีนนนนนนน!!!

377 Nameless Fanboi Posted ID:mMYGdMqwpG

>>373 อ่านตัวอย่างแล้วขำปวดท้องสัสๆ
>>372 กูโอเคนะถ้าสถานการณ์​มันดุดัน

378 Nameless Fanboi Posted ID:gBl15UMc41

>>373 ไม่เอา ๆ ดอกขาวกูต้องคู่กับนายF //ดิ้นๆๆ
พอ...ล้อเล่น

ประโยคที่มึงแต่ง สำหรับกูรู้สึกรำคาญเหมือนที่374บอกนะ พอมีเครื่องหมายตกใจเยอะเกินกว่าสามตัว แถมต่อเนื่องบ่อยๆ มันเริ่มแปลกตา

หรือเพราะส่วนตัวกูชินกับนิยายแปลด้วย เวลามีประโยคตะโกนติดๆ กัน เขาก็ใช้วิธีบรรยายกำกับไปเลย เช่น “ดอกขาว ในที่สุดฉันก็ตามหาเจอจนเจอ” ชายหนุ่มป้องปากร้องตะโกน

แบบเนี้ย คือในความรู้สึกกู เครื่องหมายตกใจอาจไม่ได้หมายถึงเสียงดังอย่างเดียว กูเลยไม่ค่อยชินตาเวลาเห็นใส่ในคำพูดบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะใส่เมื่อมีเหตุการณ์ที่พลิกผัน หรือคำพูดที่ดูน่าตกใจจนคาดไม่ถึงซะมากกว่า

379 Nameless Fanboi Posted ID:rbMUv751eV

ตกลงไอ้ F เป็นคู่เงี่ยนกับอีดอกขาวใช่รึเปล่า กูจะได้จำไว้

380 Nameless Fanboi Posted ID:WBIQ1PREKC

>>379 ศีลเสมอกัน คู่สร้างคู่สม

381 Nameless Fanboi Posted ID:JFz52UfMmR

>>379 ล่าสุดมันกัดกันแล้ว ไอ้F ไม่ชอบดอกขาว ดอกขาวก็ไม่ชอบไอ้F ล่ะ สรุปแม่งคนละพวก

382 Nameless Fanboi Posted ID:1O67Aflm61

>>379 เป็นแค่คู่จิ้นของโม่งบางคน ส่วนกูจิ้นไม่ลง แต่ช่างกูเถอะ ส่วนในชีวิตจริงไม่ใช่ใครเป็นพวกใคร แค่เข้ากันได้ในบางสถานการณ์ที่ฝ่ายนึงหาพวกแล้วอีกฝ่ายมาตีเนียนเฉย ๆ

383 Nameless Fanboi Posted ID:mMYGdMqwpG

>>381 มึงยังไม่เข้าใจ...ตอนนี้ไอ้Fมันกำลังหึงดอกขาว เลยประชดไล่ให้ไปอยู่กับกบตุ๋น เหมือนในละครที่พระเอกเห็นนางเอกอยู่กับผู้ชายคนอื่นแล้วไม่ยอมรับว่าตัวเองหึง เป็นช่วงเวลาที่Fกำลังเรียนรู้หัวใจตัวเอง

By โม่งจิ้น

384 Nameless Fanboi Posted ID:Wsskih7+EY

>>383 กูฟันธงว่าไม่นานมันต้องทะเลาะแล้วกลับมาคืนดีกัน ไอ้คู่จิ้นสายเกรียนแตกเนี่ย

385 Nameless Fanboi Posted ID:JFz52UfMmR

กูฮาฉิบหาย ได้เวลาสร้างซีรีย์ดอกขาวและFละมั้ง =w=

386 Nameless Fanboi Posted ID:LtOyAE0l+P

いやいや、白い花です。私はミスターF //フレックスと一緒にいなければなりません。
十分...冗談です

作成した文 374が言ったことのようにイライラする 3つ以上の感嘆符がある場合 また継続的に 奇妙に見え始めます

またはと翻訳のため 連続して叫ぶ文があったとき、彼は「白い花、ついに見つけた」などの物語指向のアプローチを使用しました。

これは私が感じる方法です。 感嘆符は大きな音を意味するだけではありません ですから、言葉で頻繁に見ることに慣れません。 反転イベントが発生すると、ほとんどが着用します。 または、予期しないよりも衝撃的な言葉

387 Nameless Fanboi Posted ID:QHCTiwVUn6

>>383 ชิงรักหักสวาทละครไทยเชี่ยๆ สายซึนนี่หว่า

388 Nameless Fanboi Posted ID:A3Dvjx62Py

https://www.dek-d.com/board/view/3965227/
กูเชื่อไม่ลงว่า จขกท. อายุ 15

389 Nameless Fanboi Posted ID:MU8bxwKF8j

>>388 ไมวะ

390 Nameless Fanboi Posted ID:A3Dvjx62Py

>>389 ไม่รู้ดิ จริตนางมันดูโคตรจะคล้ายป้าๆในเดกดวก ตอนแรกกูคิดว่าโรสรินปลอมไอดีใหม่มาด้วยซ้ำ

391 Nameless Fanboi Posted ID:W6HCCyUxj.

>>390 เฮ้ยไมคิดเหมือนกู ตอนแรกกูนึกว่าใช่มาก ๆ แต่แป่ววววว

392 Nameless Fanboi Posted ID:P3vfacIuCr

>>391 ไม่ใช่เรอะ

393 Nameless Fanboi Posted ID:iFIKYj9qA5

นิยายนี้มีกากใยอาหารมั้ย https://www.dek-d.com/board/view/3965279/

394 Nameless Fanboi Posted ID:P3vfacIuCr

>>393 การตลาดแบบล่อตีน

395 Nameless Fanboi Posted ID:H.hlU0BUiz

เห็นมู้รายวันจาก Lebranc Convas แล้วกูรอดูนิยายเลยขรับ แต่เข้าไปดูในไอดีมาเห็นเปิดไว้รัวๆ 2-3 เรื่อง อดีตกาล 10 ปีก่อนก็ทำเหมือนกันเป๊ะ อห

396 Nameless Fanboi Posted ID:TrUX8b+yxq

>>395 10 ปีผ่านไป เรื่องที่แต่งได้ยาวสุด = 3 ตอน... เบิดคำสิเว่า

397 Nameless Fanboi Posted ID:4HMiAanwaI

พูดถึงกระทู้นี้ >>> https://www.dek-d.com/board/view/3965248/ อย่างคนที่เล่นพระล้วนๆ มาตั้งแต่ยุคยังไม่มีเกมออนไลน์ กูตอบได้หลากหลายมาก ปัญหาคือกูไม่อยากเขียนในกระทู้เพราะรู้ดีว่าแม่งคงจะโดนลอกไปเป็นข้อมูลแต่งนิยายให้หลายๆ คนที่กูไม่ชอบขี้หน้า ก็เลยตัดสินใจว่าจะเอามาแบ่งปันกันในนี้ดีกว่า (ส่วนใครที่เล่นทั้ง 2 บอร์ดก็ช่างมันละกัน)

ถ้าไม่นับสกิล [อะไรก็ได้ HEAL] ของเรื่องผู้กล้าฮิลยอดนักเย็ด กับการได้สกิลใหม่เมื่อยัดไอเท็มให้โล่แดกแบบเรื่องผู้กล้าโล่ (เจี๊ยว) ผงาด ที่เว่อร์จนเรื่องแทบหมดความสนุก กูว่าสายอาชีพพระกับสายอาชีพตัวชนนี่หลายๆ เกมแม่งโคตรโกงเลยนะ (แต่ในกระทู้บอกแค่ว่าตัวละครนั้นฮิลได้กับสร้างเกราะป้องกันได้) ดังนั้นก็คงต้องจำกัดวงลงมาเยอะหน่อย เพราะ จขกท. ไม่ได้ระบุด้วยว่ามันเป็นพระหรือเป็นแทงค์

ลองตัดการฮิลแบบ Direct Damage แบบวางฮิลบนพื้นทีละ 6/12/18 Cells แล้วสร้างความเสียหายเมื่อมีคนนอกตี้มาเหยียบจากเกม TOS ออกไป การดัดแปลงให้ฮิลมันกลายเป็น Offensive Skill นี่ ออกแบบได้อยู่ 2 ทางใหญ่ๆ

1) อธิบายว่าการฮิลของตัวละครนั้นเป็น Spirit Pulse ที่สร้างพลังงานรอบตัวเป้าหมาย จะอ้างว่าเกิดแสงเข้มเกินจนมีความร้อน หรือเกิดพลังงานเป็นกลุ่มล้อมเป้าหมายหลังฮิลทันทีก็ได้ รูปแบบคือถ้าทำการฮิลให้เพื่อนในตี้หรือฮิลตัวเองตอนศัตรูอยู่ในระยะประชิด ศัตรูที่อยู่ในระยะไม่เกิน 1 เมตรจะโดน Damage จากพลังงานธาตุแสงเข้มข้น แต่ความเสียหายนั้นจะแรงแค่ครึ่งเดียวของผลที่ฮิลได้จริง (เพราะมันไม่ใช่สกิลใช้โจมตีโดยตรง)

2) ต้องออกแบบให้ในเนื้อเรื่องมีการคราฟม้วนคัมภีร์เวทได้ และต้องมีสายอาชีพ "ซาวมาเทิร์ก" (ผู้ใช้ไสยเวท) อยู่ด้วย วิธีนี้คือวิธีการดั้งเดิมนั่นคือการฮิลยัดนั่นแหล่ะ ถามว่าทำไมต้องมีซาวมาเทิร์ก ก็เพราะสกิลหนึ่งในสายอาชีพนี้คือการเปลี่ยนธาตุเป้าหมายให้เป็นธาตุมืด กับเปลี่ยนประเภทเป้าหมายให้กลายเป็นผีดิบ (เพื่อให้มอนสเตอร์เข้าเงื่อนไขในการจับมาเป็นลูกน้อง) พอมี 2 อย่างนี้แล้ว ก็ให้ตัวเอกไปขอซื้อม้วนสกิลจากอาชีพนี้มา อาจจะกำหนดให้กระดาษสำหรับเขียนอักขระนี่หายาก, แพงชิบหายวายวอดก็ได้ ถ้าไม่อยากให้มันใช้ได้บ่อยเกินไป (กรณีจะเก็บไว้เป็นไม้ตายลับ)

รูปแบบการใช้งานก็ง่ายๆ ใช้สกอร์เปลี่ยนเป้าหมายเป็นประเภทผีดิบเพื่อให้สามารถฮิลยัดได้ แล้วเปลี่ยนธาตุดั้งเดิมให้เป็นธาตุมืด หลังจากนั้นก็คงเดากันออกว่าอะไรจะเกิดขึ้น เมื่อซอมบี้แพ้ Holy และธาตุมืดก็แพ้ Holy อีก ... (damage*4) สู่ขิตแน่นอน

ต่อด้วยความมึนๆ งงๆ ของ จขกท. ว่าจะเอาพลังป้องกันมาโจมตีได้ยังไง อันนี้กูไม่รู้จะแนะยังไงเพราะแม่งขัดกันเองมาก เอา Def มาสร้าง Atk เนี่ยนะ คิดออกอย่างเดียวคือสกิลประเภทแปลง Stat นั้นมาเป็น Damage จากการแทนค่าในสูตรอะ เช่น ใช้โล่กระแทกโดยนับความเสียหายจาก (Def*2+150) อะไรทำนองเนี๊ยะ

คือถ้ามันบอกมาตรงๆ ว่าเป็นพระ กูจะให้ไปดูเรื่องขี้เถ้าในกริมการ์แดนมายา หรือให้ลองคิดด้วยตรรกะเกมออนไลน์ทั่วไปว่าสายอาชีพพระมันเล่นสายบู้ได้ กระบองมีให้ใช้ก็พกไว้หวดหน่อย จขกท. มันให้โจทย์มากว้างเกิน ถ้าตอบละเอียดเดี๋ยวก็เหมือนเวลามีเด็กมาขอให้ช่วยทำการบ้านอะ แค่เปลี่ยนมาเป็นช่วยออกแบบตัวละครให้หน่อย (ซึ่งกูเกลียดกระทู้พวกคิดนั้นคิดนี้ให้หน่อยเอามากๆ)

สรุปว่าเงื่อนไขของ จขกท. คือเป็นสายซัฟ ดูทรงแล้วน่าจะเล่น Int/Con ฮิลได้ถึกด้วย แล้วมาถามว่าจะให้ช่วยโจมตีได้ไงบ้าง ถ้าไม่ใช่อันที่บอกไปข้างบน ก็เหลือแค่แปลงร่างเป็นโล่เนื้อแล้ววิ่งเข้าไปตะลุมบอน ซึ่งคงไม่เวิร์คเพราะตีไม่ค่อยโดน (Dex น้อย) แถมต่อให้โดนก็เหมือนไปนวดให้ (Str น้อย) ออกแบบให้ตัวละครมาแนวสมดุลดีกว่ามั้ง อย่างน้องพระในกริมการ์นี่ ฮิลก็ได้ ฟาดก็ดี ไม่เป็นภาระเท่าไหร่

:: มันสามารถนำมาเป็นสายโจมตีได้ยังไงคะ เพราะมันต้องต่อสู้บ้างอะไรบ้าง พวกนี้มันเป็นสายป้องกัน ไม่สามารถช่วยต่อสู้ได้ :: <<< เนี่ย อ่านดูดิ ย้อนแย้งในตัวเองชิบหาย คือจะสื่อว่าปกติไม่ใช่แนวหน้า แต่ทำยังไงถึงจะต่อสู้ได้บ้าง ก็ให้มันฝึกใช้กระบองไว้บ้างสิน้อง ไม่ก็พกหนังสือคำสอนเล่มใหญ่ๆ หนาๆ เอาไว้ตอกกลางหัวพวกที่มาทำร้าย แบบบาทหลวงในเบอร์เซิกอะ (ใครมี meme อันนี้ช่วยแปะหน่อยก็ดี) เรื่องแค่นี้คิดเองไม่ได้ เด็กปิดเทอมนี่มันปิดเทอมจริงๆ

398 Nameless Fanboi Posted ID:xMtRy64zAf

>>397 มึงก็รู้ว่าเด็กปิดเทอม แต่คิดซะเอาจริงเอาจังชิบหาย 55555

399 Nameless Fanboi Posted ID:ngSkb.6Zof

คำถามไม่เครียร์จริงๆว่ะ ไม่รู้ว่ามันหมายถึงตัวละครมีเลือดเนื้อแบบกริมการ์หรือสู้ด้วยเงื่อนไขแบบเกมออนไลน์กันแน่ แต่เท่าที่อ่านดูแล้วคงหมายถึงพวกตัวละครสายฮีลจะต่อสู้ป้องกันตัวยังไง? หรือย้ายไปเป็นตัวบู้ได้ยังไง? แต่ที่แน่ๆ จขกท. มันมองแค่คอนเซ็บ มองเป็นนามธรรม ตัวละครต้องใช้พลังอย่างเดียว ไม่ได้มองความเป็นจริงว่าตัวละครมันมีมือมีตีนอยู่ ขนาดน้องนักบวชใน Goblin slayer ดูหงิมๆยังเอาคทามาแทงมาทุบก็อบลินได้เลย

400 Nameless Fanboi Posted ID:ngSkb.6Zof

ky ตอนนี้กูงงใจกับไอ้ Lebranc Convas มากกว่า มันเหงาอะไรนักหนา หรือว่าเพิ่งกลับมาเล่นเด็กดวกเลยคิดว่าต้องรีบปั้มดาวเพิ่มบารมีเหมือนเมื่อก่อน?

401 Nameless Fanboi Posted ID:xMtRy64zAf

>>400 มึงไม่ ky หรอก ข้างบนกูก็เพิ่งเปิดประเด็นมันไป เหมือนแม่งจะกลับมาเขียนนิยายมั้ง แต่กูงงใจเรื่องมันถามยุคสมัยเด็กดี คือตอนนี้บอร์ดก็ไม่ได้พีคเหมือนเมื่อ 10 ปีก่อนเปล่าวะ จำเป็นต้องมาใส่ใจด้วย อายุก็ไม่ใช่น้อยๆ ละ

402 Nameless Fanboi Posted ID:axTvi2N+xR

>>400 บรานซ์คนขี้เหงา ปิดเทอมไม่มีเพื่อน มาหาเพื่อนคุยในเด็กดวกดีกว่าา

403 Nameless Fanboi Posted ID:yUM9PpPA9C

>>401 ล่าสุดไปแปะเรื่องสั้นในกระทู้ทำลายกำลังใจ ดูวิธีการพูดนี่แบบว่าโคตรมั่นใจ

404 Nameless Fanboi Posted ID:xMtRy64zAf

>>402 กูคิดว่าชื่อมันน่าจะพยายามเท่ จริงๆ แล้วน่าจะเป็น blanc ที่แปลว่าสีขาว กับ canvas รวมๆ เป็นผ้าใบขาว แต่น่าจะอยากเท่ด้วยการใช้ r แทน

>>403 กูว่าจะเทมู้ไปแล้วนะเนี่ย ไม่เห็นพวกเจ้าของเรื่องโผล่ ไหนขอไปดูหน่อย

405 Nameless Fanboi Posted ID:xMtRy64zAf

>>403 อห เห็นเปิดมาในมู้เสียหล่อ ไอ้สัส กูไปส่องมาแล้ว อ่านได้แค่ไม่กี่ย่อหน้าก็หงุดหงิดกับการเขียนชิบหาย เกลียดความพยายามใช้ภาษาสวยแต่สรุปแล้วเสือกไม่สื่อความหมายแบบนี้เหี้ยๆ แม่งทั้งฟุ่มเฟือย ทั้งใช้คำผิดความหมาย อยากจะเอาปากกาแดงขีดทีละบรรทัดเหลือเกิน ถ้ามึงอยากจะพร่ำพรรณนาแบบแดนอรัญ แสงทอง หรือเขียนเปรยเปรียบใช้โวหารใช้ศัพท์เกินจริงแบบวีรพร นิติประภา มึงก็ช่วยสำเหนียกถึงสกิลภาษาตัวเองด้วยไอ้ห่า เริ่มจากเขียนให้อ่านรู้เรื่องก่อนเลยจ้าาา เพราะถ้าฝีมือมึงไม่ถึง มันจะพังพินาศแบบเรื่องนี้เลย ปลอมเปลือกชิบหาย พังทั้งบทบรรยาย พังทั้งบทสนทนา พล็อตและเนื้อเรื่องที่เล่าความหลังชายแก่ก็ไม่ได้มีห่าเหวอะไรเลย แค่ตัวละครเจอกัน คุยกัน เดินทางต่อ มีประเด็นเรื่องความหลังหน่อยนึง ซึ่งก็ไม่ได้ตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของคนอ่านใดๆ ทั้งสิ้น

สรุปว่าห่วย หายไปสิบปี กลับมาแล้วเขียนได้แค่นี้ก็ควรพิจารณาตัวเองนะ

อันนี้ขอบ่นขิงข่าเกี่ยวกับเรื่องสั้นหน่อย แต่ก่อนนี้ใครเรียนการเขียนจะเคยได้ยินว่าหลักการเขียนเรื่องสั้นควรเขียนแบบตัวละครน้อย มีปมไม่มาก ใช้ภาษาที่ไม่ซับซ้อน เพราะมีพื้นที่ให้เล่าไม่มากเหมือนนิยาย มึงจะเห็นตัวอย่างชัดเจนเลยจากงานของสรจักร เรื่องสั้นในขายหัวเราะ ซีไรต์ยุคก่อนก็เป็น เช่น ความน่าจะเป็น ของปราบดา หยุ่น หรือ เจ้าหงิญ ของบินหลา สันกะลาคีรี แต่ยุคหลังนี่จะมีการฉีกด้วยภาษาที่ยกระดับมากขึ้น ฟุ่มเฟือยขึ้น ซึ่งถ้าใครอ่านแล้วเอามาเป็นแม่แบบในการเขียน กูบอกได้เลยว่าบ้ง เพราะกว่ามันใช้ฝีมือและประสบการณ์หนักมาก ถ้าไม่เก๋าพอก็สื่อความได้ไม่ดีอีก เห้อ

406 Nameless Fanboi Posted ID:mhBe6eI4qX

>>403 มั่นมาก จนคิดว่าน่าจะมีดีพอตัว น่าจะเขียนแนวใกล้ๆ กัน กะจะสูบซักหน่อย
เอ้อ เก้อเลยกู

407 Nameless Fanboi Posted ID:ngSkb.6Zof

ลองแวะไปส่องเล่นๆ
- เกิดมากูเพิ่งพบเจอคนใช้คำว่า 'ชูชัน' กับความสูงของภูเขา
- "ปรากฎร่างของเด็กหนุ่มดูท่าทางอายุไม่เยอะ ประมาณ 17-18" แหม่...ลีลาโวหาร
- ย่อหน้าแรกพยายามใช้ศัพท์สวยๆจีนๆ ย่อหน้าเจอหญิงสาวใน 'ชุดเดรส' แบบราชินีเข้าไปกูนี่สะอึกเลย

408 Nameless Fanboi Posted ID:Fm53rfE/PG

مەن ئۇنىڭ دا ئېچىلغانلىقىنى كۆردۈم. كېلىشكەن ، بۇك پەقەت بىر نەچچە ئابزاسنى ئوقۇشلا يېزىش جەريانىدىن ئۈمىدسىزلەندى. چىرايلىق تىل ئىشلىتىشكە ئۇرۇنۇشنى يامان كۆرىسىز ، ئەمما خۇلاسە شۇكى ، قاتتىق دېگەنلىك بۇ دېگەنلىك ئەمەس. ھەر ئىككىسى خاتا سۆز مەنىسىنى ئىشلىتىدۇ ھەددىدىن زىيادە قىزىل قەلەم سىزماقچى ئەگەر سىز دان ئاران ساڭتۇڭغا ئوخشاش تەسۋىرلىمەكچى ياكى غا ئوخشاش مۇبالىغىلەشكەن سۆزلەرنى ئىشلىتىپ نۇتۇق يازماقچى بولسىڭىز ، تىل ماھارىتىڭىزنى تونۇپ يېتەلەيسىز. ئالدى بىلەن ھېكايىنى بىلىش ئۈچۈن يېزىشتىن ئوقۇش چۈنكى سىزنىڭ ماھارىتىڭىز بولمىسا ئۇ بۇزۇلىدۇ. ساختا ئۆزەك پوستى پۈتۈن باياننى بۇزۇپ تاشلاڭ پۈتۈن سۆھبەتنى بۇزدى بۇ بوۋاينىڭ ھېكايىسىنى سۆزلەيدىغان ھېكايە ۋە ھېكايىنىڭ چاتاق يوق. پەقەت پېرسوناژلارلا ئۇچرىشىدۇ ، پاراڭلىشىدۇ ، ساياھەت قىلىشنى داۋاملاشتۇرىدۇ ، ئىلگىرىكى مەسىلىلەر بار. بۇ ھېچقانداق ئوقۇرمەنلەرنىڭ قىزىقىشىغا قىلچە جاۋاب قايتۇرمايدۇ

ئۇ غايىب بولدى دەپ يەكۈن چىقاردى ، ئون يىل ئىلگىرى ، پەقەت يازالايدۇ ، ئاندىن ئۆزىڭىزنى ئويلىشىشىڭىز كېرەك.

بۇ ، مەن زەنجىۋىل خاغا قىسقا ھېكايە توغرىسىدا ئەرز قىلماقچى. ئەمما بۇنىڭدىن ئىلگىرى ، يېزىشنى ئۆگەنگەنلەر ھېكايە يېزىش پرىنسىپىنى مۇرەككەپ تىل ئىشلىتىپ نۇرغۇن يىپ ئۇچىغا ئەمەس ، بەلكى خاراكتېرگە ئوخشاش يېزىش كېرەكلىكىنى ئاڭلىغان بولاتتى. چۈنكى رومانغا ئوخشاش سۆزلەيدىغان بوشلۇق كۆپ ئەمەس سىز سوراجنىڭ ئەسىرىدىن مىساللارنى ئېنىق كۆرىسىز. كۈلكە سېتىشتىكى ھېكايىلەر ئىلگىرىكى دېڭىز-ئوكيان يېزىقچىلىقى دا-يېئون ياكى بىنلاي سان كالا كىرىنىڭ شاھزادىسىنى بويسۇندۇرۇش ئېھتىماللىقى دېگەندەك ، ئەمما كېيىنكىسى تېخىمۇ يۇقىرى تىل بىلەن يىرتىلىدۇ. تېخىمۇ كۆپ ئىسراپخورلۇق قايسىسى ئوقۇپ ئاندىن قېلىپ قىلىپ ئالسا قايسى مەن سىزگە دەپ بېرەلەيمەن چۈنكى ئۇنىڭدىن كۆپ ماھارەت ۋە تەجرىبە تەلەپ قىلىدۇ يېشىڭىز يېتەرلىك بولمىسا ، ياخشى ئالاقە قىلالمايسىز.

409 Nameless Fanboi Posted ID:Zznukxtgjx

>>406 ขำ ตลกสัส5555

410 Nameless Fanboi Posted ID:Zznukxtgjx

>>409 แท็กผิด กูจะแท็ก >>407

411 Nameless Fanboi Posted ID:CDS2TIzWFm

>>405 แม่ง... บุคคลหลงยุค คือภาษาแบบนี้ดีไหม ก็ดีนะ แต่มันดีเมื่อสิบปีที่แล้วโว้ย คือสมัยนี้ไม่มีใครเขาชื่นชมความ epic ความเพริศแพร้วเลอค่าแล้วอะ แล้วต่อให้มีความงามทางภาษาก็ไม่รอดเพราะมาตายตรงการสื่อ เขียนไม่รู้เรื่อง อ่านแล้วไม่เข้าใจว่าอยากบอกอะไรผู้อ่าน ในเรื่องสั้นอาจไม่จำเป็นต้องมีเส้นเรื่องก็จริง แต่มึงต้องทำให้คนอ่านเห็นว่าอ่านเรื่องสั้นนี้จบแล้วเขาค้นพบอะไร ได้อะไรบ้าง อันนี้ไม่มีห่าไรเลย ใช้คำฟุ่มเฟือย ซ้ำซ้อนอีกด้วย ถือว่าพยายามจะเจ๋ง แต่จบลงด้วยเจ๊ง

มึงพยายามขายน้ำผักให้เด็กในเว็บที่ขายแต่น้ำอัดลมกับชามุก แล้วน้ำผักของมึงยังรสชาติห่วยแตกอีก ขายไปนานๆ โดนเอาขี้ขว้างหน้าร้านชัวร์

>>406 ผิดหวังอย่างแรงสินะเพื่อนโม่ง 55555

>>407 พอๆ กันกับไอ้ "ขาสั่นเครือ" จากเรื่องแดดเลียอะ ดูตัวอย่างโวหารแล้วซ้ำซ้อนเยิ่นเย้อควรโดนปากกาแดงลาก อันสุดท้ายคือยำเซตติ้งมั่ว พยายามน้ำผัก-ผลไม้รวม แต่รสชาติออกมาหมาไม่แดกเพราะเสือกใส่ชูรสเข้าไปด้วย

412 Nameless Fanboi Posted ID:XWrNfA3aNI

>>403 กูอ่านได้ช้ามาก ไม่เคยอ่านอะไรช้าขนาดนี้ ติดแม่งทุกประโยค สะดุดบ่อยเชี้ย
แล้วบทสนทนาหรือนั่น แข็งเหมือนใครเอาหินปากู กูเลือดอาบหลายรอบมาก
หลานกูยังแต่งบทสนาธรรมชาติมากกว่านี้อีก หรือมันอ่านหนังสือนิยายพระมา กูจะบาปไหมวะ

413 Nameless Fanboi Posted ID:CDS2TIzWFm

>>412 มึงหมายถึงพวกพุทธประวัติหรือหนังสือกลุ่มปริศนาธรรมอะเหรอ กูว่าคงทำนองนั้นแหล่ะ

414 Nameless Fanboi Posted ID:Zznukxtgjx

>>412 ไอ้เหี้ย ไปตามอ่านแล้ว อ่านแล้วอึดอัดชิบหาย กว่ากูจะกวาดตาอ่านแต่ละคำมันยากเหี้ยๆ แถมเลื่อนไปเห็นนิยายมัน เปิดไว้เยอะชิบหาย จบสักเรื่องไหมเนี่ย

415 Nameless Fanboi Posted ID:xMtRy64zAf

กูว่าบทสนทนาที่เหี้ยสุดคือท่อนนี้ สมควรโดนปากกาแดงขีดหี ถ้ามึงคิดว่าเขียนแบบนี้คือภาษาสวย แม่งคือเซ้นส์มึงพังละ

“ท่านไม่ตอบคำถามของข้า แต่ท่านโยนอีกคำถามมาหาข้า ได้ข้าจะตอบท่าน ถูกแล้ว ข้าเป็นไพโรแมนเชอร์ ชาวบ้านเขาว่าข้าเป็นคนที่เล่นกับไฟเหมือนที่ท่านเห็น ข้ามาสำรวจภูมิศาสตร์ที่นี่นิดหน่อย กำลังจะเดินทางกลับเข้าเมือง บังเอิญมาเจอกับโบราณวัตถุเก่าๆที่กำลังถูกมองอย่างพึงประสงค์จะเล้าโลมของชายชราผู้หนึ่ง”

“มารยาทของเจ้าเหมือนจะดี แต่จริงๆแล้วแย่มาก ข้าไม่ถือสามากมาย แค่ตกใจนิดหน่อย” ชายชรากล่าวตำหนิวาจาของเด็กหนุ่มเล็กน้อย เด็กหนุ่มเองก็ไม่ได้ใส่ใจกับคำตำหนินั้นมากมาย

“ขออภัย แต่เกรงว่าจะห้ามกันไม่ได้ เพราะมันคงเป็นสันดานวาจาของข้าเสียแล้ว”

416 Nameless Fanboi Posted ID:j74ep39AMO

>>415 ทำไมกูขำกับประโยค "บังเอิญมาเจอกับโบราณวัตถุเก่าๆที่กำลังถูกมองอย่างพึงประสงค์จะเล้าโลมของชายชราผู้หนึ่ง" เหี้ย ขำจริงขำจังมากอะไรคือถูกมองอย่างพึงประสงค์จะเล้าโลม กูเข้าไปถึงจริงๆ ขอโทษ

417 Nameless Fanboi Posted ID:j74ep39AMO

>>416 *เข้าไม่ถึง พิมพ์ผิด ลืมเช็ค

418 Nameless Fanboi Posted ID:xMtRy64zAf

>>416 แม่งพยายามใช้ประโยคแบบ reverse ใช้ passive เพื่อเหี้ยอะไรก็ยังไม่รู้ ทั้งที่ใจความหลักมันอยู่ที่สายตาและการกระทำของลุง แม่งควรจะเป็น “ผ่านมาเจอชายชราที่กำลังมองรูปปั้นสาวสวยด้วยสายตาโลมเลีย” การบิดภาษาของมันแม่งตลกชิบหาย

419 Nameless Fanboi Posted ID:XWrNfA3aNI

>>413 ใช่ เพราะกูอ่านไง555555 มันจะขัด ๆ แต่กูก็อ่าน อยากเป็นคนดีสายสงบกะเขาบ้าง

>>415 ใช่ที่กูอ่านแล้วเหมือนหินปากูคือท่อนนั้นเลย แบบอะไรวะ แข็งมาก
ถามจริงเคยอ่านนิยายไหม บอกว่าสิบปี กลับมาเขียนใหม่
กูไม่เข้าใจเด็ก!

420 Nameless Fanboi Posted ID:DCk1o5NHs0

กูยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ถ้า 10 ปีผ่านไป ยังได้แค่นี้ ควรเลิกไปขายน้ำเต้าหู้หรือลูกชิ้นทอดจะรุ่งกว่า

421 Nameless Fanboi Posted ID:xMtRy64zAf

>>420 กูไปอ่านนิยายมันเมื่อ 10 ปีก่อน คือก็เขียนดีขึ้น....มั้ง ตะ แต่พัฒนาการช้ามากจริงๆ

422 Nameless Fanboi Posted ID:2JXAZcbmPE

แม่งตั้งกระทู้เพิ่มอีกแล้วจ้า https://www.dek-d.com/board/view/3965438/ คันปาก คันตีนไปหมดแย้ว

423 Nameless Fanboi Posted ID:DCk1o5NHs0

>>422 อย่าไปยุ่งกับแม่ง เดี๋ยวติดเชื้อเปิดเรื่องแต่ไม่ยอมแต่งนิยาย

424 Nameless Fanboi Posted ID:E+FP6cYi3k

ตั้งกระทู้เก่งงงงงงง
https://www.dek-d.com/board/view/3965409/

กูสงสัยละว่ามันอายุเท่าไร ทำไมทำตัวเห่อหมอย ถ้า 10 ปีก่อนอายุ 12-13 ตอนนี้ 22+ ก็น่าจะเลิกเห่อหมอยได้แล้วนะ

425 Nameless Fanboi Posted ID:Kqde08j6rl

ไม่ได้เข้าทั้งโม่งทั้งเดกดว ไม่รู้จักตั้งมู้รัวที่พวกมึงว่า ไปส่องดูเหยด11ทู้ในหนึ่งสัปดาห์ พวกเฝ้าบอร์ดไม่มีใครเบรคนางบ้างหรอวะ

426 Nameless Fanboi Posted ID:CgFjZ1VkTC

ถ้าข้องใจก็ไปคุยกะมันดิ มัวแต่แอบนินทาในนี้มันคงรู้ตัวหรอกนะ อ้อ ลืมไป ก็โม่งนี่เนอะ ออกไปโม่งหลุดหมด

427 Nameless Fanboi Posted ID:DCk1o5NHs0

>>426 มีจิตสำนึกให้เกียร์ติสถานที่ ไม่เรื้อนในบอร์ดสาธารณะ ทิ้งขยะถูกที่ นั่งขี้ให้ถูกทาง

428 Nameless Fanboi Posted ID:E+FP6cYi3k

>>426 ขอบคุณนะคะที่กล้ามาสอนหนู

429 Nameless Fanboi Posted ID:DCk1o5NHs0

>>428 อันนี้มันมีที่มาจากไหนวะ เห็นหลายทีละ

430 Nameless Fanboi Posted ID:CgFjZ1VkTC

>>427
>>428

แหม ทีงี้พวกเอ็งมามาดเหนือเลยนะ โม่ง

>>429 กูเห็นโม่งบางตัวก็ใช้นะ

431 Nameless Fanboi Posted ID:CgFjZ1VkTC

>>429 หอกหัก กูนึกออกละ ดราม่าพีดเลือดบวกไง ที่มีเรื่องกะนางพยาบาลอะ

432 Nameless Fanboi Posted ID:DCk1o5NHs0

>>431 เป็นวลีเด็ดมาจากดราม่าเหรอ ทำไมกูไม่รู้เรื่องวะ มีลิงก์รายละเอียดไหม

433 Nameless Fanboi Posted ID:E+FP6cYi3k

>>429 >>431 มาจากเดอะ เฟซไทยแลนด์ รายการต้นแบบของมีมกะเทยไทย ที่มาคือคาริสสา ซีซั่น 1 บอกพี่ลูกเกดที่สั่งสอนคาริสสาเรื่องมารยา ว่า ขอบคุณนะคะที่พี่กล้ามาสอนหนู

434 Nameless Fanboi Posted ID:DCk1o5NHs0

>>433 ขอบใจมากเพื่อนโม่งเดี๋ยวกุไปหาอ่านต่อเอง

435 Nameless Fanboi Posted ID:Zznukxtgjx

>>426 กูเป็นอีกคนนะที่ไม่อยากเสียเวลาไปยุ่งกับมันเฉยๆ คิดว่ามีกี่ตัวแล้วที่เห่อหมอยตั้งกระทู้รัวๆต่อวัน แต่ถ้าแบบไอ้เล่าเบียวอันนี้กูพร้อมยำตรีนเสมอ

436 Nameless Fanboi Posted ID:xMtRy64zAf

กูกำลังคิดว่าจะเอาข้อเสียไปโยนใส่มันดีไหม แต่ก็ขี้เกียจ รำคาญคนเถียง ช่วงนี้กูพลังงานต่ำ

437 Nameless Fanboi Posted ID:FNtk/NsroJ

>>436 อย่าเลยมึง กูดูเหมือนเด็กจะอีโก้สูงเหมือนกัน เสียเวลามึงด้วย แค่กูอ่านก็เหนื่อยจะตายห่า แถมอ่านไม่จบอีก กูgame overไปก่อน เลือดกูหมด

438 Nameless Fanboi Posted ID:CgFjZ1VkTC

เพื่อนโม่งอย่ายอมดิ พวกเราเป็นนักสับไม่ใช่หรือ ท้อได้ไง

ปล.ไม่ต้องไล่ให้กูไปสับนะ กูเหนื่อยเหมือนกัน eieiei

439 Nameless Fanboi Posted ID:bWiZRM5kug

>>425 13มู้แล้วมึง ป้ามิรินด้าไม่ว๊ากอะไรด้วยว่ะ คุยกันหนุงหนิง

440 Nameless Fanboi Posted ID:xMtRy64zAf

>>438 กูสับไว้แล้วในมู้นี้ แค่ต้องปรับภาษาไปลงมู้เฉยๆ และกูขี้เกียจ

441 Nameless Fanboi Posted ID:Zznukxtgjx

เหี้ยอะไรวะ ไอ้บรานซ์แม่งล่อกระทู้ใหม่เข้าไปอีกแล้ว คือเป็นเหี้ยอัลไล เหงาเพราะไม่มีเพื่อนเล่นตอนปิดเทอมจริงๆอ่อ eieieiei

442 Nameless Fanboi Posted ID:AbanJBqPgM

>>438 กุมือใหม่หัดฉับ ก็อยากลองนะ
ถ้าวันนี้ไม่เหนื่อยเหี้ย แถมกลับบ้านยังต้องปั่นงานต่ออีก //โบกธงขาว

443 Nameless Fanboi Posted ID:B.GVWjuoCS

>>439 เข็ดดราม่าป่าว หลังๆเห็นทำตัวโปกฮาเข้าว่า กลัวคนหาว่าไม่เฟรนลี่
(มีอยู่ครั้งนึงที่กุว่าเยอะ คือที่เจ๊ว่าคนมาตั้งกระทู้ว่าไม่ควรพิมพ์ 5555 ใส่คนไม่รู้จักกันมาก่อน กุนี่ว้อทททท อึ้งแดรก...พิมพ์555ในกระทู้ก็ไม่ได้เว้ย อีเหี้ยยยย#เจ้าที่แรง)

444 Nameless Fanboi Posted ID:AbanJBqPgM

>>443 ป่าว นางเล่นโม่ง ฮ่าา

445 Nameless Fanboi Posted ID:3CI8TAVm2q

คือคนที่ไม่สนใจอะไรอย่างกูอ่านแล้วสงสัย พวกมึงตามทั้งเจ๊ ทั้งตุ๋นกบ เล่าเปียว ใกล้ชิดอย่างกับแฟนคลับ ตกลงมึงเกลียดเขาหรือเอ็นดูเขาวะ?

446 Nameless Fanboi Posted ID:AbanJBqPgM

ไม่รู้นะ แต่ตุ๋นถูกเมินมาพักนึงละมั้ง
แรงค์ฟามนิยมตก น่าฉงฉาน

447 Nameless Fanboi Posted ID:Kqde08j6rl

ขำแรงโซมีนไปแซะแล้วดูมันตอบ "ผมเองก็ไม่ใช่สายที่จะมาขอคำแนะนำอะไร" ว๊อทททแล้วมึงตั้ง15มู้เพื่ออัลไลไอสันขวาน

448 Nameless Fanboi Posted ID:drMvjZlKsE

>>447 ต้องพิมพ์ว่าแต่งนิยายจบสักเรื่องแล้วหรือยัง รับรองเกรียนแตกทันที 55555

449 Nameless Fanboi Posted ID:T794GPlqQG

>>447 เด็กมันคงเบื่อมั้งอยู่แต่บ้าน ถือว่าให้เด็กได้ระบายอารมณ์บ้าง

450 Nameless Fanboi Posted ID:drMvjZlKsE

มันเป็นโทรลที่กำลังป่วนโม่งในห้องอื่นๆ ป่าววะ สายฟลัดกระทู้เหมือนกันเลย ถ้าอายุมากแล้ว สงสัยทำอาชีพครู ปิดเทอมยาวตรวจการบ้านเสร็จไม่มีอะไรทำ เลยมาตั้งกระทู้แก้ว่าง

451 Nameless Fanboi Posted ID:Fm53rfE/PG

I don't really care 'cause I'm done
On the real, our love is not fun
There's no emotion on my face 'cause I'm numb
You see me everywhere you look, no, you can't hide or run (Yeah, Lil Uzi, yeah)
Woah, everything I said
Messin' with your head, messin' with your head
I said, everything I said, messin' with your head
Messin' with your head, woah, messin' with your head, woah

I've been textin' her all night (Night), she know I was doin' wrong (Yeah)
She left me right on read now, I'm walkin' with my head down (I love you)
I gotta keep my head high
I got a whole 'nother check, not talkin' verified (Okay)
Rest in peace my dead guys
I am no hater, yeah, we in the same whip
The only difference is that you do not own it (Skrrt, skrrt)
I can just tell by the way that you drivin' it
I pull up in that car just like it's stolen
Yeah, I came a long way, came from the hallway
I can't stop, keep goin'
Yes, my life just feel like one long day, I just live in the moment
Woah, ooh, comin' out just when the sun down
My boys, they ruthless like coupes and they really run down
I got paper cuts from hundred dollar bills covered in bustdowns
Countin' with my thumb now, money make me numb now

452 Nameless Fanboi Posted ID:u4TusKO/Iv

>>450 ง่ายๆนะ ปั๊มดาว ดูก็รู้แล้ว พวกมึงไม่ต้องวิเคราะห์อะไรมากหรอก

453 Nameless Fanboi Posted ID:xMtRy64zAf

กูว่าปั๊มดาววิธีนี้แม่งช้าชิบหาย ไม่งั้นปล่อยอึ่งขึ้น 5 ดาวไปแล้ว ไอ้นี่แม่งหลงยุคของจริง สมัยนี้มีใครสนใจดาวกันบ้าง นอนเมมอย่างผมเอง โซมีน ไอติม มะม่วงก่อนมีไอดี ต่างๆ ยังมีที่ยืนได้เลย

เออ กูเห็นตุ๋นกบไปตบเสียหล่อ ตบหน้าด้วย 10 ปี ย่ำอยู่กับที่ สรุปมึงก็อยู่ในนี้สินะ

454 Nameless Fanboi Posted ID:drMvjZlKsE

>>453 Lets them fight

เดี๋ยวชาวบอร์ดได้เห็นด้านเรื้อนๆ ของตุ๋นกบ คราวนี้คะแนนนิยมจะได้วูบลงไปอีก วุฒิภาวะแม่งสุดยิดจริงๆ

455 Nameless Fanboi Posted ID:u4TusKO/Iv

>>453 มึงเดาว่าใครวะ กูอยากรู้ว่ะ

456 Nameless Fanboi Posted ID:u4TusKO/Iv

>>454 ตุ๋นกบมันเคยบอกหลายรอบแล้ว ว่ามันไม่สนใจใคร ยังไงนิยายมันก็ขายได้ มีคนอ่าน ดังนั้นมันไม่ให้ราคากับคนที่ไม่สนับสนุนมันเท่าไหร่หรอก

457 Nameless Fanboi Posted ID:xMtRy64zAf

>>455 ไม่ได้สนใจว่ะว่าเป็นใคร เพราะในโม่งนี่แม่งก็มีขาบอร์ดหลายคนอยู่หรอก อาจจะเป็นไอ้คนที่มาปั่นว่าตุ๋นกบเครดิตเสีย หรืออาจจะเป็นมึงก็ได้ เพราะกูเห็นหลายทีละว่ามันตอบเหมือนผ่านการอ่านประเด็นที่โม่งถกกันมาแล้ว

เอาจริง กูรู้สึกว่าการป้ายว่ามันเหี้ยตลอดเวลาก็ไม่ใช่เรื่อง เหมือนมึงไม่แยกแยะ บางทีมันก็ไม่ได้ตอบแบบโชว์ทัศนคติเหี้ย ที่จับสาระได้ก็ยังพอมีเปล่าวะ ถึงแม่งจะโชว์หล่อก็เถอะ

458 Nameless Fanboi Posted ID:u4TusKO/Iv

>>457 กูกล้าพูดได้เลย โม่งหลายตัว รวมทั้งกูด้วย ก็สิงในเด็กดวก ประเด็นทั้งพวกมึงและกูเถียงกันก็มาจากในนั้นเป็นหลัก แม่งก็คนในกันทั้งนั้นแหละไอ้ห่า แค่คลุมโม่งมาคุยกันแบบเถื่อนๆ =w=

459 Nameless Fanboi Posted ID:SdneMqMeIX

>>458 พูดอีกก็ถูกอีก 55555 อะไรที่ทำที่โน่นไม่ได้ก็มาเรื้อนในนี้กันอะ ส่วนไอ้ตุ๋นมันไม่สนก็เรื่องของมันไง แต่ชาวบ้านชาวช่องเขาสน สุดท้ายภาพจำของแม่งก็จะเปลี่ยนไปทีละน้อย จนเป็นเหมือนอย่างที่พวกเราด่ามันอยู่เนี่ย แค่บอร์ดนักเขียนมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงทันทีแบบที่นี่เฉยๆ แถมพวกเด็กใหม่ดันมองไอ้ตุ๋นแง่บวกเพราะแค่มันมีผลงานขายเกรียนได้เท่านั้นเอง

460 Nameless Fanboi Posted ID:+DH+VA/wdo

https://www.readawrite.com/a/106084548d98a20b0cc19d67784bdb6a
พล็อตอย่างเท่เลย ชอบ

461 Nameless Fanboi Posted ID:JsYxeOCLo/

>>460 จะไม่ด่ามึงว่าม้า แต่มู้รอร.ในนี้มี เชิญค่ะะะ!!!

462 Nameless Fanboi Posted ID:BQb895nN00

กุเกลียดและอึดอัดกับการอ่าน POV2

463 Nameless Fanboi Posted ID:Y4hLCGYs88

>>445 ไม่แปลก แต่เดิมกูก็ย้ายมาจากnetwatchไง ปกติเข้าเด็กดวกไปส่องเหตุการณ์เรื่อยๆอยู่แล้ว เลยเห็นความเคลื่อนไหวทุกอย่าง อุอิอุอิ

464 Nameless Fanboi Posted ID:MOQV3QbX9p

พวกซึนเดเระเอ๊ย

465 Nameless Fanboi Posted ID:CB3M/3DdDw

>>459 กูไม่รู้ว่ามึงขายนิยายหรือเปล่านะ แต่ถ้ามึงขาย มึงจะพบกับสมาชิกเด็กดวกที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาซื้อนิยายเราเลย กูเลยเดาว่านักอ่าน กับพวกเล่นบอร์ดนิยาย เป็นคนละกลุ่มกัน ตุ๋นกบมันถึงไม่แคร์ไง เพราะฐานคนอ่านมันมีที่อื่นด้วย นอกจากเด็กดวก

466 Nameless Fanboi Posted ID:CB3M/3DdDw

>>464 นิสัยแปลกทุกอย่างหาได้ในโม่ง ยกเว้นความปกติ

467 Nameless Fanboi Posted ID:0iKfEOKWFT

>>465 ใช่เลยมึง พวกที่ซื้อคือไม่ได้เล่นบอร์ด พวกที่สิงบอร์ดก็ไม่มีใครคิดจะซื้อ แล้วลูกค้าส่วนมากก็ชอบความเทพๆ ซูๆ แกรี่เอจจี้ไรเงี้ยะ มันไม่ได้สนคุณภาพอยู่แล้ว ขอแค่สนุก(ในสายตามัน)เป็นพอ

468 Nameless Fanboi Posted ID:CB3M/3DdDw

>>467 กูอยากบอกนานละ ว่าทำไมนักอ่านสมัยนี้มันถึงชอบความซูหรือพวกเทพซ่า ตรงนี้แม้แต่ไอ้ม่วงกูยังเห็นมันบ่นเลยว่าแปลก ทำไมขายได้เยอะ

ถ้าพวกมึงเรียนการตลาดมา พวกมึงน่าจะรู้ว่าการขายนิยายมันก็เหมือนกับการทำให้นิยายเราเป็นสินค้าชนิดหนึ่ง โดยดูว่ากลุ่มลูกค้าเราเป็นคนจำพวกไหน แนวต่างโลกเกิดใหม่น่ะ มันขายพวกมนุษย์เงินเดือนที่ทำงาน EOD ไปวันๆ คนเราทุกวันนี้อยากชนะ อยากเหนือ อยากมีกว่าปกติทั่วไป และไอ้แนวที่ตุ๋นกบ ท่านโซขายน่ะ มันตอบโจทย์ไง มันถึงขายได้

คนอ่านน่ะ เขาอยากอ่านในสิ่งที่เขาต้องการ และนักเขียนสายหาเงินก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ ดังนั้นถ้าพวกมึงจะดูถูกนิยายของพวกมัน กูบอกเลย ว่าพวกมึงสอบตกในฐานะการเขียนนิยายเพื่อครองใจคนอ่านแล้วล่ะ พวกมันทำคะแนนตรงนี้ได้ดีกว่าพวกมึงเยอะ ส่วนคุณภาพนิยายกูไม่ขอพูดถึง เพราะในโลกของทุนนิยม มันวัดค่ากันที่สิ่งไหนขายได้ ขายไม่ได้เท่านั้น

469 Nameless Fanboi Posted ID:CB3M/3DdDw

>>468 ขอพิมพ์ต่อนะ

ดังนั้นที่ไอ้ม่วงมันบอกไว้ว่าสนับสนุนให้คนแต่งนิยายอย่างมีคุณภาพน่ะ กูเห็นด้วย แต่กูอยากรู้ว่ามันจะมีนโยบายอะไร ในเมื่อเว็บโม่งยังเละเป็นบ่อขี้แบบนี้ ปณิธานที่มันเขียนทิ้งเอาไว้กูอยากรู้ว่าจะมีกี่คนงมหาเจอ ถ้ามันแอบอยู่ในบ่อขี้ ดังนั้นกูคิดว่าถ้าชาวโม่งอยากให้วงการนินายมันดีกว่าการที่เขียนแนวตลาดตามกระแสไปวันๆ กูว่าพวกโม่งต้องหาวิธีอื่น นอกจากเก็บแนวคิดนี้เอาไว้ในบ่อขี้ว่ะ

470 Nameless Fanboi Posted ID:M5/BYf9jJi

อะ กูดูถูก แต่ไม่ได้หมายความว่ากูไม่รู้วิธี ว่าต้องทำยังไงถึงจะขายนิยายพวกนี้ให้กับพวกกลุ่มตลาดได้ ประเด็นมันอยู่ตรงที่สามัญสำนึกล้วนๆ ถึงกูจะดูถูก จะด่าไอ้พล็อตขายเห่อหมอย แกรี่ ซูเอจจี้ เทพซ่านี่ยังไง กูก็รู้ว่าขายได้ แต่กูไม่มีทางยอมเขียนเหี้ยอะไรแบบนี้ส่งๆเพื่อเอาเงินแน่ ดังนั้น กูจะดูถูกมันต่อไป eieieiei

471 Nameless Fanboi Posted ID:CB3M/3DdDw

>>470 กูถามหน่อย ไอ้พวกแต่งแนวตลาดผิดอะไร มึงถึงใช้คำว่าอยู่ที่สามัญสำนึก ลองบอกมาหน่อยดิ รวมถึงไอ้พวกที่มันมีรายได้จากการขายนิยายแนวตลาดด้วย

472 Nameless Fanboi Posted ID:.AGhjEyAxl

>>471 มึงโง่ตั้งแต่บอกเรียนการตลาดแล้วว่ะ ถ้ามึงอยากให้ได้ผลลัพธ์สูงสุดมึงต้องไปแต่งนิยายรัก เย็ดหรือวายโน่นโว๊ย จะทำตลาดมันก็ได้ทุกวงการ มึงขายอาหารขยะแต่โฆษณาเก่งมึงก็ขายได้ แต่เขียนนิยายไม่ให้วัดที่ผลงานแต่ให้วัดตรงยอดขาย? มึงมาผิดทางละสัส แล้วอย่าอ้างเรื่องการตลาดเพราะกูแล้วรู้ว่ามึงมโน จากกูคนที่เรียนมาจริงๆ

473 Nameless Fanboi Posted ID:ZTZZ.O4KAA

>>472 +1 ในโม่งใครจะเป็นไรก็ได้ เรียนเล่มนึงแล้วบอกเป็นกูรูเทียบจบด็อกเตอร์ ขำแรงถถถถ

474 Nameless Fanboi Posted ID:M5/BYf9jJi

>>471 กูไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับมันนะ ถ้าถามว่าผิดมั้ย ก็ไม่ สิทธิ์ของมันที่จะเขียนนิยายแบบนี้ หรือจะเขียนแนวไหนก็ช่างมันเถอะ เป็นมุมมองของกู ในฐานะคนเขียนนิยายกูก็อยากขายนิยายคุณภาพให้คนอ่านเว้ย อย่างน้อยก็ไม่ใช่พล็อตดาดๆหลอกขายกลุ่มตลาดแบบพวกนี้หรอก เข้าใจที่กูจะสื่ออะเปล่า สิ่งที่กูผ่านตามาจนมองดูถูกมันได้เพราะพล็อตขยะไร้คุณภาพที่เจอ มันต่ำกว่าระดับมาตรฐานอีกนะ ถ้าไอ้คนเขียนคนขายมันบอกว่าเอาตรีนเขียน เอาตีนกดแป้นพิมพ์ตอนแต่งกูก็เชื่อแล้วจ้า อ้อ พึ่งสังเกต มึงใช้คำว่า "แนวตลาด" แต่แนวตลาดมันก็มีหลายแนวนะมึง อย่างเช่น ท้องมีลูกแล้วไอ้คนที่ซั่มพึ่งมารับผิดชอบทีหลัง แนวแย่งผัวแย่งเมีย แบบนี้ ซึ่งที่กูเอ่ยถึงกูกำลังพูดถึงไอ้พวกตลาด เทพซ่า เห่อหมอย ซูเอจจี้แกรี่ กูมองว่ามันไม่ใช่วรรณกรรมที่มีคุณค่า เพราะขนาดไอ้คนเขียนบางคนมันยังเขียนหวังเอาเงินจากคนอ่านอย่างเดียวเลย eieieieiei ขำแรง ไหนอะคุณพังพาบ เอ๊ย คุณค่า eieieiei

475 Nameless Fanboi Posted ID:CB3M/3DdDw

>>472 มึงนั่นแหละโง่ ไอ้ที่มึงพูดมามันก็เป็นกลุ่มนิยายที่เขานิยมเหมือนกันนั่นแหละ แต่มันเฉพาะกลุ่ม ก็เหมือนกับแนวกำลังภายใน แนวสืบสวน ที่มีกลุ่มเป้าหมายและคนชอบจริง ความคิดควายๆแบบมึงที่มาตะแบงเถียงแบบนี้อย่าเสร่อบอกว่าจบการตลาดมาเลย อายเขา

476 Nameless Fanboi Posted ID:M5/BYf9jJi

กูไม่หนับหนุนให้ใช้คำว่า โง่ ถกกันไปมานะ เพราะมันทำให้บทสนทนาในวงโคตรกร่อย ส่วนมากแม่งก็แค่ต่างมุมมองกัน

477 Nameless Fanboi Posted ID:CB3M/3DdDw

>>474 โอเค กูจะถือว่าเป็นมุมมองของมึง พอดีมันจะมีนักเขียนกากๆบางตัวที่อิจฉาริษยาคนที่เขียนดีกว่า แต่เขาเขียนแนวตลาด เลยไปบอกว่านิยายเขาไร้คุณค่า เขียนแบบเห่อหมอยตามคนอื่นเขา ซึ่งคนภายนอกเขาแค่ดูก็รู้แล้ว ว่าอีนี่องุ่นเปรี้ยว ประมาณนี้น่ะ กูเจอมาเยอะ สุดท้ายคนจำพวกนี้ก็จะหายไปจากวงการนักเขียน งานเขียนฝุ่นเกาะแทบจะไร้คนอ่านล่ะนะ

478 Nameless Fanboi Posted ID:/J8IOU72Yz

นิยายมันก็อยู่ที่แต่ละบุคคลชอบนว่ะในความคิดกูนะ
จะเอารสนิยมของใครไปยัดเยียดใส่กันมันก็ไม่โอเค
อย่างเพื่อนกูอ่านแฟนตาซี กูไปยัดเยียดให้อ่านชีวิตรันทด มันก็ไม่เอา
แต่ก็มีคนชอบอ่านไง มันถึงขายได้

สมัยนี้ทำอะไรก็ได้ที่มันทำเงินให้
กูมีนามปากกามากกว่าหนึ่ง เอาไว้สำหรับบอกว่าแนวไหน ๆ ไม่เอามาปนและเพื่อรักษาหน้าตานามปากกา
บอกตามตรงนามปากกาอันหนึ่งเอาไว้ลงธัญวลัยโดยเฉพาะ กูเขียนเรื่อง เย้ เนื้อหาดีๆไม่มี มีแต่เรื่องเห้แต่กูขายได้ และขายได้ดี ในเรื่องมีสอดแทรกความคิดคนแต่น้อยก็อยู่ที่จะรับกันหรือเปล่า

ในขณะที่อีกนามปากกา กูเอาไว้บอกว่านี่คือกูแท้ ๆ คนเฟบน้อย งานไม่ดัง แต่สอดแทรกเรื่องดีเรื่องสังคม
กูก็อยู่ได้ไม่เดือดร้อนใคร
และในความจริงชีวิตกู กูอาจเป็นคนเข้าวัด ใส่บาตร ฟังธรรมก็ได้ หรือกูอาจเป็นแค่คนธรรมดา ใช้ชีวิตผ่านไปวัน ๆก็ได้
ต้องยอมรับว่า เงินสมัยนี้เป็นปัจจัยให้คนต้องทำอะไรที่มันอยู่ท้องเพื่อให้รอด แต่รู้อยู่แก่ใจว่ามึงทำอะไรไม่เดือดร้อนคนรอบข้าง ไม่ขโมยของ ไม่ผิดลูกผิดเมีย งานของกูถึงจะเขียนเย้แต่ก็ไม่ได้เขียนเรื่องไปแย่งผัวแย่งเมียใคร

อยากระบาย ตอนนี้กูเครียด กูยังต้องมาทำงานในสภาวะโควิด กูไม่ไหวแล้ว!!!!

479 Nameless Fanboi Posted ID:JsYxeOCLo/

มึงชงประเด็นอะไรของมึงวะเนี่ย เปิดมาเหมือนจะดี แต่พอเสือกพูดเรื่องอิจฉาริษยาห่าอะไรนี่เหมือนตกม้าตาย กลายเป็นเบลมคนอื่นว่าองุ่นเปรี้ยวซะงั้น

480 Nameless Fanboi Posted ID:ZTZZ.O4KAA

>>479 เออว่ะ อ่านไปนึกว่าพี่Tkมาเอง มีเหยียดนิยายคนอื่นทึ่ขายไม่ได้ว่าฝุ่นเกาะไร้คนอ่านด้วย แหม่ๆ

481 Nameless Fanboi Posted ID:CB3M/3DdDw

>>479 คือกูไม่ได้เจาะจงด่าใคร กูแค่บอกว่ากูเคยเจอ

สมัยเด็กดีแต่งแฟนตาซีโรงเรียนเวทมนตร์ ไอ้คนที่กูว่าก็บอกว่าไอ้พวกคนแต่งนิยายแล้วคนตามหลักพันแม่งแต่งนิยายตามกระแสล่ะ พอยุคเกมออนไลน์ ไอ้ที่ดังๆอย่างมอนสเตอร์โซล มันก็หาว่าเอาวรยุทธมาผสมนั่นนี่ พอแนวต่างโลกมาด่าเรื่องระบบหน้าต่าง

คือไอ้พวกนี้ชีวิตมันมีแต่ติไง ติเป็นอย่างเดียว แต่งานเขียนมันลบแล้วลบอีก สุดท้ายหายจ้อย กูอาจเอามาลงผิดประเด็นก็ได้ เลยกบายเป็นแบบนี้

482 Nameless Fanboi Posted ID:CB3M/3DdDw

>>480 ง่ายๆ ก็เหมือนที่โม่งบางตัวดูถูกพวกขายนิยายไง พอเจอตอกกลับบ้างดิ้นหรือไงวะ ประมาณนี้อะ

483 Nameless Fanboi Posted ID:M5/BYf9jJi

>>481 มึงเป็นคนในตัวเลือกที่กูจะไม่ถกประเด็นด้วย ทำไมรู้อะเปล่า? เพราะคนอย่างมึงไม่ได้มองให้กว้าง ไม่ได้มองอะไรนอกจากมุมมองแคบๆของมึงเลย ต่อให้มึงโดนนักอ่านของมึงด่า กูว่ามึงน่าจะแค่คิดหาสารพัดเหตุผลนานา แล้วค่อยบอกว่ามันตาถั่วเองที่มองไม่เห็นคุณค่าของนิยายมึง eiei มึงไม่ได้มองตรงจุดนั้นว่าทำไมมันถึงมาด่า ทั้งๆตัวมึงคิดว่านิยายมึงมันดีนักหนา eieieieiei

อะ ข้างบนคือสิ่งที่กูคิดได้จากการที่มึงออกมาบอกว่ามีคนอิจฉา เริ่มถามหาประเด็นเพราะคิดว่ามีคนบอกว่าพวกขายตลาดซูแกรี่ผิด สุดท้ายภาพลักษณ์ของมึงมันแตกต่างอะไรจากตุ๋นกบกันวะ มองว่างานคนอื่นฝุ่นเกาะขายไม่ได้แบบกูนี่นา แล้วจะเอาแต่ถามว่าผิดเหรอ เขียนแนวนี้แล้วผิดอะไร กูขายได้ก็พอแล้ว อุดมการณ์เดียวกันชัดๆ มึงเป็นร่างแยกบักตุ๋นกบอ่อ?? eieiei

484 Nameless Fanboi Posted ID:CB3M/3DdDw

>>483 ไม่อยากเถียง และเสียเวลาพิมพ์ตอบกูทำไมเสียยืดยาววะ อันนี้เรียกว่าอะไร หรือว่าไอ้ที่กูพิมพ์แทงใจดำมึงกันแน่

485 Nameless Fanboi Posted ID:T1ZuSSBEOF

ต่อยปากกันเองสนุกไหมเพื่อนโม่ง

ทีแรกกะว่าจะดูเงียบๆ แต่พอมีคนพูดถึงกู ก็เลยออกมาพูดก็ได้

คือกูเนี่ยไม่เคยคาดหวังว่ากูจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรให้วงการนิยายบ้านเราได้ เรื่องคุณภาพนี่ก็ไม่ได้เน้นเป็นครูระเบียบ ว่าเวลาเขียนพวกมึงห้ามผิดหลักการแม้แต่ข้อเดียว (เรื่องทำตามหลักการคือกูทำของกูเองอะ เพราะเคยโดน บก. จี้มา ส่วนคนอื่นก็แล้วแต่มึง) พวกมึงอยากแต่งอะไรก็แต่งไปเหอะ ขอแค่อย่าเขียนคำผิดทุเรศๆ สาดเครื่องหมายวรรคตอน หรือมั่ว pov ตามใจก็พอ ขนาดกูยังหันมาแต่งแกรี่ขายแพ็คเองเลยเนี่ย

ของดีๆ ในโม่งต่อให้มีมากแค่ไหน มันก็ไม่สามารถสร้างจุดเปลี่ยนอะไรได้เลย เพราะปัจจัยที่ส่งผลหนักสุดในวงจรนี้คือ "นักอ่าน" ว่ะ คือต่อให้กูเอาทุกบทความหรือเทคนิคทั้งหมดออกจากโม่งไปเผยแพร่ภายนอก วงการนี้ก็จะไม่มีการเคลื่อนไหวแม้แต่นิดเดียว คนที่แต่งเพราะอยากดัง อยากติดท้อป อยากยอดวิวสูง อยากขายได้ มันก็จะยังคงแต่งแบบเดิมต่อไป เพราะแม่งมีคนอ่านนิยายประเภทนี้กันเยอะ

จะไปว่าพวกนั้นว่าแต่งนิยายโดยไม่มีสำนึกในฐานะนักเขียนก็พูดลำบาก เพราะจุดมุ่งหมายในการสร้างงานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่างในอดีตนิยายในอุดมคติคือ ต้องสนุกตื่นเต้น มีคุณค่า ให้ข้อคิด จรรโลงโลก ส่งเสริมศีลธรรมอันดี แต่เดี๋ยวนี้นิยายในสายตาของนักเขียนรุ่นใหม่นิยายมันเปลี่ยนจาก ศิลป์ เป็น สิน(ค้า) ไปแล้ว

มันไม่ใช่อะไรที่มีคุณค่าเชิงวรรณกรรมเหมือนก่อน แต่กลายมาเป็นสินค้าอีกชนิดในตลาดสื่อสิ่งพิมพ์และงานเขียนอิเล็คทรอนิกส์ คนที่เขียนเพื่อให้ขายได้ มันก็แต่งในแบบที่นักอ่านชอบ เพื่อให้มีคนควักเงินซื้องาน เป้าหมายของมันคือสร้างรายได้ ไม่ใช่สร้างคุณค่า คือสร้างสินค้าขายดี ไม่ใช่ผลงานศิลปะ Magnum Opus ต้องแยกให้ออก ก่อนจะเผลอเอามาใช้โจมตีคนอื่นด้วยอคติมืดบอด

ของที่อยู่ในนี้กูคิดแบบโรแมนติคๆ ว่ามันเป็นโชคชะตา ถ้าดวงคนเรามันจะได้มาเจอดินแดนมิคสัญญี โลกแห่งความเหี้ย ที่แฝงไว้ด้วยของดี มันก็คงลงมาเจอเอง

ไม่มีความจำเป็นที่กูจะต้องไปตะโกนกลางร้าน KFC หรือ Burger King ว่าอาหารฟาสฟู้ดพวกนี้ (นิยายแกรี่) มันทำให้อ้วน, เป็นความดันนะ เลิกกินแล้วมากินคลีน กินผักผลไม้ (นิยายคุณภาพ) แทนกันดีกว่า เพราะคนที่เข้าร้าน (เว็บนิยายต่างๆ) มามันก็ชอบและเข้ามาเพื่อซื้อ (อ่าน) อาหารขยะพวกนี้อยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะตะแบง หรือพยายามเปลี่ยนความคิดคนอื่นอย่างโคตรจะฝืน

ที่ทำได้คือหาโต๊ะมาสักตัว วางจานสลัดไว้พร้อมน้ำราด จัดจานให้น่าสนใจ แล้วหวังให้ลูกค้าบางคนในร้านแวะเข้ามาลองซื้อไปกิน ซึ่งการทำแบบนี้เทียบได้กับการแต่งนิยายตามใจตัวเอง แต่งด้วย passion จากเบื้องลึกในหัวใจ แต่งนิยายที่มันมี "อะไร" อยู่ในเนื้อเรื่อง นิยายที่ไม่เน้นขายง่าย แต่ดึงดูดนักอ่านที่ชอบเสพความลึกของงาน (ซึ่งแม่งก็มีอยู่โคตรน้อยในปัจจุบัน)

คือใครจะแต่งนิยายแบบไหน โดนมีจุดมุ่งหมายใด กูไม่ค่อยอยากยุ่ง ขอแค่พวกมันไม่เดินส่ายหีเข้ามาสาระแนในนิยายกู หรือเสือกอยากให้กูเขียนอย่างที่มันอยากอ่านก็พอ เพราะจุดมุ่งหมายของกูในสถานการณ์ปัจจุบันนี้มีแค่ แต่งนิยายที่สามารถเกาะไปในกระแสได้โดยไม่ตกเทรน โดยมีข้อแม้ว่านิยายของกูต้องไม่กลวง ไม่เน้นขายเรื่อง ห.ๆ ค.ๆ หรือขายแค่ความซูไปวันๆ

เออ ยอมรับก็ได้ว่ากูเองก็แต่งนิยายตามกระแส แต่การแอบใส่สาระ ใส่แนวคิด ใส่คติสอนใจ ให้เนียนและดูไม่ยัดเยียดต่างหาก คือเป้าหมายแฝงของกู เคยบอกไปหลายรอบแล้วว่า กูกำลังแต่งนิยายเพื่อหาจุดสมดุลระหว่าง "คุณค่าเชิงวรรณกรรมกับความแกรี่อันเป็นที่ชื่นชอบ" อยู่ เท่าที่ดูมาก็คิดว่ายังทำได้ไม่ดีพอ ต้องใช้เวลาอีกนานอะ

486 Nameless Fanboi Posted ID:JsYxeOCLo/

กูว่าตรงนี้มันมีประเด็นหลายอย่างที่ไม่สมควรเอามารวมกัน หลักๆ ที่กูมองว่าถ้าเอามารวมแล้วบ้งคือ

1. เรื่องตลาดนิยาย
2. เรื่องพฤติกรรมนักเขียน

มาที่ตัวบุคคลก่อน ที่ตุ๋นกบโดนด่านี่ไม่ใช่เพราะเขียนนิยายตลาด คนอิจฉาเพราะนิยายขายดีจนองุ่นเปรี้ยว แต่มันมาจากสาเหตุของพฤติกรรมมันด้วย ไม่ว่าจะเป็นอัตตาสูงส่ง การโชว์รายได้ที่มาจากนิยายสไตล์ตบหน้าหลอกเอาเงินคนอ่านที่ระหว่างกูจะตายด้วยโควิดกับนิยายมันเขียนจบ ยังไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นก่อนกัน ยังไม่รวมถึงทัศนคติดูถูกคนอ่านของตัวเองอีกอ่ะ รวมๆ กันเลยแล้วเลยเกิดอคติต่อตัวมัน กลายเป็นวาทกรรมที่ว่า ตุ๋นกบเขียนนิยายกากๆ หลอกแดกเงินลูสเซอร์ไปวันๆ

ส่วนเรื่องตลาด กูก็ยังสงสัยว่ามึงอยากชูประเด็นอะไรกันแน่ อะไรคือคำถาม จุดประสงค์ และเป้าหมายของมึง มึงอยากให้โม่งทำเหี้ยอะไร กูอ่านแล้วยังเห็นภาพไม่ชัด แต่ที่แน่ๆ ตลาดนิยายที่เป็นกระแสมันไม่ได้มีแค่เอจจี้ แกรี่ซู ต่างๆ นะมึง กระแสเมนสตรีมแม่งยังมีอย่างอื่นอยู่ด้วยนะ จำแนกตามกลุ่มเป้าหมายอ่ะ ถ้ามึงมองนิยายเป็นสินค้า มึงก็ต้องเข้าใจด้วยว่าผู้ผลิตทุกคนไม่จำเป็นต้องผลิตสินค้าชนิดเดียวกันเสมอไป

487 Nameless Fanboi Posted ID:c0rOrBzmSx

485 กับ 486 นี่ ม่วงกับมีนแน่ๆ สำนวนมันฟ้อง เย็ดครก..พบกับช่วงสาระในโม่งวันนี้ ไม่น่าเชื่อว่าช่วงปิดเทอมจะมีสาระขึ้นได้ ตกใจเลยสัส

488 Nameless Fanboi Posted ID:CB3M/3DdDw

>>485 >>486

โม่งตัวเบ้งปรากฏ เหลือเชื่อ นี่กูสุ่มได้ SSR คู่หรือวะ ห่าราก

ส่วนคำตอบ กูคิดว่าพวกมึงสองตัวตอบหมดล่ะ ดังนั้นกูไม่มีอะไรจะพิมพ์ล่ะ

489 Nameless Fanboi Posted ID:KTSi6JB4p5

>>487 ปกตินะ เละๆ เทะๆ มีสาระบ้าง ตีกันเองยามว่างก็บ่อย แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีสับนิยายป่าวนะ ไม่ค่อยได้เข้ามา

490 Nameless Fanboi Posted ID:TMtcJVDLJV

ตอนสมัยเด็กๆกูชอบดราก้อนบอล แต่ดูไปสักพักกูก็จับได้ว่าแม่งหาเรื่องเบ่งพลังต่อยกันเฉยๆ...กูก็เริ่มเบื่อ ต่อมาย้ายไปดูเมะแนวเซอร์วิท พี่จ้า สาวน้อย ฮาเร็ม หูสัตว์ โอนี่จัง ดูไปสักพักกูก็เริ่มเดาฉากล้มหน้าทิ่มหีทัน...กูก็เริ่มเบื่อ ตอนนี้ลองหันมาเสพอะไรเข้มๆเกมวิชเชอร์ เนื้อเรื่องมืดมน ตัวเลือกมีแค่เหี้ยกับเหี้ยกว่า...ซึ่งสักวันกูก็คงเบื่อเหมือนกัน ตอนติดอะไรใหม่ๆกูก็ชอบ กูก็ชม พอกูเบื่อแล้วมีคนเอาแนวเดิมมาให้กูดูกูก็ด่าเพราะกูเอียนมันเรียบร้อยแล้ว กูไม่เห็นมีเหี้ยอะไรให้ต้องคิดเลย เดี๋ยวสักวันมึงก็ต้องย้ายไปติดอะไรสักอย่างที่ตัวเองไม่เคยเจอ แล้วคนอื่นก็ย้ายมาชอบอะไรสักอย่างที่มึงเคยชอบ มนุษย์แม่งก็วนเวียนกันอยู่แค่เนี้ย เถียงกันทำไม

491 Nameless Fanboi Posted ID:JsYxeOCLo/

ทำไมต้องติดอยู่กับชื่อโม่ง ใครตอบแล้วมันยังไง ในเมื่อก็โม่งเหมือนกันทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าใครมีเครดิตมากกว่าน้อยกว่า

>>489 ช่วงนี้ประหยัดพลังงาน เจอกระทู้ทำลายเข้าไปแล้วแบตหมดชั่วคราว

492 Nameless Fanboi Posted ID:CB3M/3DdDw

>>491 งั้นโม่งต่อยปากกันเองนี่คือยังไงวะ อีโม่งตัวเบ้ง มือซ้ายมือขวาผลัดกันบีบหำตัวเองหรอ

493 Nameless Fanboi Posted ID:JsYxeOCLo/

>>492 สุดท้ายก็มาทรงนี้ ไม่คุยด้วยนะ ไม่เกิดประโยชน์ เสียเวลา

494 Nameless Fanboi Posted ID:CB3M/3DdDw

>>493 กูแหย่เล่น อย่าคิดมาก กูแค่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศแค่นั้นแหละ

495 Nameless Fanboi Posted ID:BQb895nN00

ใครมั่นไส้ตุ๋นกบก็เขียนนิยานขายแข่งกับมันสิวะ
ส่วนตัวกูก็เกลียดมัน เกลียดความกุไม่เคยผิดของมัน ขนาดใส่โม่งแม่งก็ยังไม่เคยผิด
กุหวังไอ้เอฟมันจะสู้ แต่ไอ้เฮียนั่นแม่งก็กากยิ่งกว่าซากอ้อยที่เคี้ยวจนน้ำแห้ง
เอาว่ากุเกลียดไอ้ตุ๋นกบ เกลียดนิยายห่วย ๆ ของมัน

496 Nameless Fanboi Posted ID:TMtcJVDLJV

โม่ง is that you? https://www.dek-d.com/board/view/3965602/

497 Nameless Fanboi Posted ID:25Sw1RQSx0

>>495 กุก็คิดนะว่าบางทีมึงอาจเป็นตุ๋นกบมาเองก็ได้

498 Nameless Fanboi Posted ID:5DYJpISVPM

ฮาฉิบหาย ถกกันแปบเดียวมีโม่งไปตั้งกระทู้ล่ะ โม่งซุ่มแม่งเยอะว่ะ eieieiei

499 Nameless Fanboi Posted ID:befj4RTnVP

ถกในโม่งไม่ชนะพี่เลยเอาไปหาพวกในเดกดวก จะได้เปิดโอกาสให้ตัวเองเนียนเม้นหล่อๆ ถถถ

500 Nameless Fanboi Posted ID:CB3M/3DdDw

>>499 ถ้าคิดว่าหาพวกในเด็กดวกแล้วชนะ ไอ้เล่าเบียวแม่งชนะแล้วมั้ง ป่านนี้ โม่งหลายตัวในนี้อาศัยในเด็กดวก มึงลืมเปล่า

501 Nameless Fanboi Posted ID:MW5LuZeGyH

>>496 ทำไมเหมือนคำถามหลอกเด็กวะ

502 Nameless Fanboi Posted ID:c0rOrBzmSx

>>501 ล่อให้พวกมาตอบเพื่อเปิดโม่งทางอ้อม แผนแม่งร้าย

503 Nameless Fanboi Posted ID:JsYxeOCLo/

https://www.dek-d.com/board/view/3965618/
กูในปี 2563: อะหยังของคิงวะ??????

504 Nameless Fanboi Posted ID:M5/BYf9jJi

>>484 ถ้อยคำแพล่มของมึงไม่เคยแทงใจดำกูเลยสักนิดนะ จากล่าสุดกูหยุดตอบแล้ว ไม่ได้ถกด้วยอีก พึ่งเข้ามาตอบอีกทีตรงนี้ อยากบอกสุดท้ายว่า เพ้อเจ้อให้มันน้อยๆหน่อยอีง่าว มโนเข้าข้างตัวเองจังเลย จบข่าว eiei ไอติมทอด

505 Nameless Fanboi Posted ID:c0rOrBzmSx

>>503 นักเขียนนิยายวายสายเวิร์สที่นายเอกท้องได้ผ่านการโดน ยตตน. เขียนมานาน แวะมาบอร์ดบ่อย (แต่ไม่ดังซักที)

506 Nameless Fanboi Posted ID:TMtcJVDLJV

>>501 >>502 พอเห็นกระทู้ง้องแง้งแบบนี้ ทำไมกูนึกถึงไอ้โม่งเพลงวะ

>>505 กูจำภาพตัวตนมันได้แค่ว่าเป็นคนที่พยายามจะเรียกร้องสิทธิอะไรบางอย่าง เคยอ่านเนื้อหาแล้วอุทานแต่ "อิหยังวะ!?" พอเห็นมันบ่อยๆกูเลยจำติดหัวไว้ว่าอย่าไปยุ่งกะกระทู้มัน ปวดหัวเปล่าๆ

507 Nameless Fanboi Posted ID:JsYxeOCLo/

>>506 งงการเรียกร้องสิทธิสุด อ่านแล้วกูก็เจ็บหัว แม่งจะชูประเด็นเรื่องความรุนแรงในครอบครัว แต่เสือกใส่ห่าเหวอะไรมาซะกูปวดใจ

508 Nameless Fanboi Posted ID:glV/BJa+mJ

>>504 เรื่องของมึงสิ มารายงานกูทำไม กูไม่สนนะว่ามึงจะคิดหรือจะมองสิ่งที่กูนำเสนอไปยังไง ตอนนี้กูหมดความสนใจในตัวมึงล่ะ ถ้าตามตื้อกูอีกจะถือว่ามึงเป็นผีบ้านะ eieieiei

509 Nameless Fanboi Posted ID:FT8ieXUwEW

>>503 อ่านดูแล้ว ไอเดียดีนะ โครตปม..มหาประลัย << ขอมอบชื่อนี้ให้
ใส่ปมมาเยอะสัส จนต้องนั่งนับว่ามีกี่คน ไอชนกลุ่มน้อยที่ว่าเนี่ย โด้-เติร์ก-ทราย-ตง-จีน่า ตั้ง 5 ตัว ทองเนื้อเก้ากับปมครอบครัวเข้าใจได้นะ แต่ยัดความเป็นโอเมก้าเวิร์สเข้าไปด้วยนี่ ขอเวลาปวดตับแพร๊บ..

510 Nameless Fanboi Posted ID:JsYxeOCLo/

>>509 โอเมก้าเวิร์สไม่พอ ยังมีความสาวดุ้น พ่อเป็นอัลฟ่าร่างเคะอีก คือมึงจะเอายังไงก็เอา มึงจะเรียกร้องสิทธิในแง่ไหนยังไง คือในเวิร์สโอเมก้าแม่งก็มีความแบ่งชนชั้น มีความ privilege ของแต่ละสถานะอยู่แล้ว

511 Nameless Fanboi Posted ID:6Md8p03H6P

http://writer.dek-d.com/SYSTEMMONNY/writer/view.php?id=2048487 ติดแท็ก แฟนตาซี ไซไฟ

512 Nameless Fanboi Posted ID:c0rOrBzmSx

>>511 เลิกคุยทันที

513 Nameless Fanboi Posted ID:YLgWGGXCh.

>>511 กูลืมดูตอน เปิดเข้าไปมีคำนิยมแล้วอีก คงไม่จำเป็นต้องเอามาสับ

514 Nameless Fanboi Posted ID:rA34lqbZQ6

น่าลองเขียน แมรี่ ซู (บ่นเฉยๆ)

515 Nameless Fanboi Posted ID:rA34lqbZQ6

https://www.dek-d.com/board/view/3965680/
กุเขียมแต่ละความเห็น ตัวประกอบ ตัวเอกและตัวร้าย ยังกะสัมภาษณ์ตลค.

516 Nameless Fanboi Posted ID:r1fpRvvYos

>>509 ในสายตากู กูรู้สึกว่ามันแค่อยากให้คนอื่นเชื่อแบบที่มันเชื่อเฉยๆ ก่อนหน้านี้แม่งเคยเรียกร้องสิทธิชายหญิงเท่าเทียม (เล่าๆว่าทำไมผู้หญิงเกณฑ์ทหารไม่ได้หรือไงนี่แหละ)​ แล้วก็ผู้ชายทำผู้หญิงท้องแล้วทิ้ง ควรจ่ายเงินเลี้ยงดูตามตรรกะของมัน xxx + xxx / xxx = xxx ห่าเหวอะไรนี่แหละ แต่ไม่มีใครสนับสนุนมันเลย ต่อมากระทู้ก็โล่งไม่มีใครสนใจ พักหลังมานี้มันก็เปลี่ยนแผน แทนที่จะบอกตรงๆ ก็หยิบนิยายแนวกระแส ภาพตัวละครอนิเมะที่กำลังดังมาเรียกความสนใจแทน เรียกแขกได้นิดหน่อย แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม... ชาวบ้านเอือมระอา

กูมองว่าแม่งไร้ศิลปะสัดๆ คนห่าอะไรยิ่งรณรงค์คนยิ่งเบื่อหน่าย (ทำให้คนเกลียดยังดีกว่าด้วยซ้ำำำ)​ ตัวละครที่หยิบมาบังหน้านี่กูสัมผัสไม่ได้ถึงความเนียนเลย ขนาดกูเป็นคนมีปมเรื่องแม่ สิ่งที่มันสื่อสารก็ไม่ได้กระทบใจกูสักนิด

517 Nameless Fanboi Posted ID:8MLZBBoyoK

เปรียบเทียบมันกับPOV ก็เหมือนPOV อะ อึดอัดเหี้ยๆ

518 Nameless Fanboi Posted ID:8MLZBBoyoK

>>517 POV2

519 Nameless Fanboi Posted ID:Nv762v2.qB

>>515 ไอ้คนถามมันเล่นเกม Last of Us มาแน่ๆ เนื้อเรื่องคล้ายกันเหี้ยๆ eieieiei

520 Nameless Fanboi Posted ID:xEgWPUkwIL

Когда я был молодым, мне нравился Dragon Ball. Но посмотрев некоторое время, я обнаружил, что борюсь с энергией удара ... Мне стало скучно Затем переехал, чтобы посмотреть сервис в стиле аниме. Пи Джа, маленькая девочка, гарем с ушами животного. О, так что я долго смотрел, я начал догадываться, что сцена упала перед моей киской ... Мне стало скучно. Теперь попробуй съесть что-нибудь более темное. Игра Ведьмак Мрачная история Варианты просто задиры и задиры ... которые однажды мне тоже могут наскучить. Когда я увлекаюсь чем-то новым, мне это нравится. Я восхищаюсь этим. Когда мне скучно, кто-то привносит в меня тот же стиль. Я не вижу ничего плохого, о чем можно думать. Однажды вам придется перейти к тому, чего вы никогда не видели. А другим нравилось то, что вам нравилось Люди просто кружат. Зачем спорить?

521 Nameless Fanboi Posted ID:VqPtqGbXK7

อยากถามเพื่อนโม่ง เคยเจอนิยายเรื่องไหนที่ใช้ break the fourth wall ได้เจ๋งๆมั่ง? หรือว่ามีแต่เจ๊งๆ? ส่วนใหญกุเคยเห็นแค่คนเอามาใช้ตอนเปิดเรื่องแบบ "คุณเคยคิดอยากไปต่างโลกไหม?" ทำเหมือนตัวละครกำลังบ่นแล้วลากเข้าเนื้อเรื่อง แล้วไม่มีการพูดกะคนอ่านอีกเลย

522 Nameless Fanboi Posted ID:CD1kywdP3+

>>521 ถ้าเป็นไลท์โนเวลญี่ปุ่นก็เจอบ่อยเลยนะ มันจะชอบมีคำถามของตัวละคร .หรือไม่ก็ประเด็นคุยเล่นที่เกี่ยวกับตัวละครเอกนั้นอะ แล้วก็ลากเข้าเนื้อเรื่องเลย อารมณ์ประมาณเอาเรื่องคุยเล่นก่อนหน้านี้มาโยงใส่

523 Nameless Fanboi Posted ID:M2jOzCbvQq

เดกดวกปิดโควิด

524 Nameless Fanboi Posted ID:ITiE/72iTK

>>523 มึงที่เพิ่งเข้าไปก็ระวังติดเชื้อนะ อย่าลืมกักตัว 14 วันด้วยล่ะ

525 Nameless Fanboi Posted ID:Nv762v2.qB

กูติด กูมาเยือนโม่ง โม่งแม่งติดโคขวิดกันหมดแน่ๆ

526 Nameless Fanboi Posted ID:KzyjULEeM0

>>523 แอดมินอาจจะเผลอโหลดหนังโป๊ติดไวรัสละมั้ง

527 Nameless Fanboi Posted ID:KzyjULEeM0

เว็บเปิดแล้ว

528 Nameless Fanboi Posted ID:ITiE/72iTK

https://www.dek-d.com/board/view/3965746/ คีพคาแรกเตอร์ได้ดีสัส ตอนเห็นชื้อตุ๋นเม้นต์ล่าสุด กุก็คิดและไม่ว่าจะตอบยังไง แม่งก็ต้องมีเรื่องเงิน เชี่ย.. ซื้อหวยไม่ถูกยังงี้มั่งวะ

529 Nameless Fanboi Posted ID:UKwkbvbAH9

>>528 เกือบหน้าแล้วไอ้แสรด ลากเข้าเรื่องเงินเฉย กูไม่เคยผิดหวังในตัวตัวตุ๋นกบจริงๆ

530 Nameless Fanboi Posted ID:UKwkbvbAH9

>>529 เกือบหล่อ

531 Nameless Fanboi Posted ID:swFP+5skTx

>>528 หมดคำพูดเลยแม่ง

532 Nameless Fanboi Posted ID:H8m9B73L8W

พวกมึงนี่ก็คลั่งไคล้ตุ๋นกบจังนะไอ้ห่า กูเข้ามากี่ทีเจอชื่อแม่งตลอด จะให้กูเก็บเอาไปนอนฝันถึงมันเลยมั้ย พวกดวก

533 Nameless Fanboi Posted ID:NeT8Yxd0Yz

โอ้แม่ง พี่แดดเลียโปรโมตนิยายว่ะ 55555 https://www.dek-d.com/board/view/3965789/

534 Nameless Fanboi Posted ID:lJ7e8kjuUx

ทำไมเรียกสำนวนนิยายแปล ทำไมไม่เรียนนิยาย YA คนเขียนนิยายจีนไม่เรียกสำนวนนิยายแปลเหรอวะ

535 Nameless Fanboi Posted ID:NeT8Yxd0Yz

>>534 ไม่อ่ะ อันนั้นเขาเรียกสำนวนเสินเจิ้น จีนปลอม

536 Nameless Fanboi Posted ID:QM1bcli0dJ

ไม่มีดราม่ามันๆเลยอ่า

537 Nameless Fanboi Posted ID:UZBbI43k3x

>>536 ไปก่อดราม่าเองเลย เกรียนเต็มบอร์ดแบบนี้ปั่นขึ้นช้วร์

538 Nameless Fanboi Posted ID:QM1bcli0dJ

>>537 รอก่อนนะ กูขอคิดไอเดียก่อน

539 Nameless Fanboi Posted ID:Hvp3KhTJRd

>>538 หลอกถามโง่ๆเลย ถ้านิยายได้กำไรจากเว็บอื่นเป็นปีสองปี มีเหตุผลต้องเปิดขายในเด็กดีด้วยมั้ย

540 Nameless Fanboi Posted ID:QM1bcli0dJ

>>539 มึงตั้งเลยเพื่อนโม่ง ขืนกูตั้งตามที่มึงแนะนำกูก็โดนแหกโม่งดิ ยิ่งมีคู่อริอยู่

541 Nameless Fanboi Posted ID:JvCeY24toB

เจอโควิดแล้วหงอยแดกมาก จะสับนิยายยังขี้เกียจ มู้รายวันก็น่าเบื่อ ทุกวันนี้ได้แต่หนังดูซีรีส์กับเล่นเกมงูวนไป

542 Nameless Fanboi Posted ID:E6Rn3UJ2Ef

>>541 อย่าว่าแต่มึง กูอยากสับอยู่สองเรื่อง แต่เขียนไปได้นิดหน่อย เปิดดูข่าวโควิด เชี้ย หลอนสัด
แล้วพี่กูก็ไปภูเก็ตแรดอยู่ตอนนี้ กูจะบ้า ปสด.ตายก่อนเป็นโควิด

543 Nameless Fanboi Posted ID:s9jGnoSvkL

>>541 กูเล่นย่างเนื้อ ป่าเกย์ กับตกปลาตึงโมะ

544 Nameless Fanboi Posted ID:girm6IEl3i

>>543 แก่นะมึง

545 Nameless Fanboi Posted ID:girm6IEl3i

ปล. +ปิกาจูวอลเลย์บอลด้วย

546 Nameless Fanboi Posted ID:6.K4dEEe0w

เก่าสุดนี่คืออะไรวะ งูกับตะลุยอวกาศป่ะ เกมในมือถือ

547 Nameless Fanboi Posted ID:Hvp3KhTJRd

ในสายตาคนโบราณ ระหว่างซอมบี้กับโควิด19 อันไหนน่ากลัวกว่า

548 Nameless Fanboi Posted ID:h1q2QBSyet

Tetris โลด

549 Nameless Fanboi Posted ID:1+yNsrlbMP

https://www.dek-d.com/board/view/3965914/
ถ้ากูเข้าใจไม่ผิด เทคนิคการเขียนมันสอนกันได้ด้วยเหรอวะ ตามความเข้าใจกูคือมีแต่ฟังคำแนะนำแล้วเอามาปรับใช้ ไม่รู้สิ เห็นทู้นี้แล้วกูคันปากแต่ไม่อยากจะท้วงคนขายนิยายได้เป็นแสน

550 Nameless Fanboi Posted ID:kejsXDKuw2

>>549 มาเป็นไลฟ์โค้ชเลยไอ่สัส ฮาสทูสอนรวย

551 Nameless Fanboi Posted ID:8H91J0972w

>>549 เห้ย ของพี่เเกน่าเรียนจริง พวกมึงต้องลองอะ การันตี9/10คนบอกว่าอ่านสนุกลัวร์

552 Nameless Fanboi Posted ID:z+McKCG+QP

ไอ้คนที่เปิดสอนนี่เก่งใช้ได้นะ มันดังจาก Fictionlog กูจะรอดูว่าจะมีโม่งตัวไหนไปหาเรื่องมันมั้ย

553 Nameless Fanboi Posted ID:hmPpvUg2RD

การเขียนมันสอนกันได้ กุยังเสียดายที่ไม่มีใครสอนต้องงมเอาเอง
แล้วคนนี้เขียนเรื่องอะไร ใครชี้เป้าหน่อยกุจะได้ไปอ่านดู

554 Nameless Fanboi Posted ID:zA33SHiROy

>>553 กดเขาไอดีมัน >> กดนิยายมัน >> ดูชื่อผู้แต่ง >> เข้า figtinlog >> เสิร์ชชื่อผู้แต่ง

555 Nameless Fanboi Posted ID:zA33SHiROy

จริงๆ แล้วถ้าเห็นว่าอันไหนน่าเอาเป็นแบบอย่าง วิธีที่ง่ายสุดก็คงจะเป็น
เสพ-อ่านงานของมัน ทั้งในมุมมองนักอ่านและมุมมองนักเขียน
สับ-หัดสับเท่าที่จะสับได้ แล้วเซฟเก็บไว้ใช้ ถ้าไม่อยากเผยแพร่
สูบ-ไม่ได้บอกให้ลอก แต่เก็บเศษจากที่สับมาทดลองใช้ ผสมๆ กันไป เขียนๆๆ ออกมา

556 Nameless Fanboi Posted ID:6.K4dEEe0w

กูก็นึกว่าใคร ที่แท้เจ้าของเรื่องพ่อค้าโลกเสมือนที่เคยโดนกูดูถูกไว้นี่เอง ถ้าพวกมึงย้อนไปอ่านกระทู้ก่อนๆ สัก 1-2 มู้ มึงจะเจอโม่งรายนึงสับเรื่องใหม่ของไอ้นี่เอาไว้ เรื่อง "FREE WORLD" อะ ดูยอดวิวเรื่องใหม่เทียบกับเรื่องเก่าให้ดีๆ ก่อนตัดสินใจเชื่อคำแนะนำ แต่ถ้าคิดว่าจะฟังไว้เป็นแนวทางก็ไม่เสียหาย ส่วนเรื่องคุณภาพ พวกมึงลองอ่านเอาจากคอมเมนต์ใน fictionlog เองก็แล้วกัน เลื่อนลงไปไม่ไกลเดี๋ยวก็รู้เอง

อะนี่กูโฆษณาให้เนียนๆ เผื่อเจ้าตัวมาม้าโปรโมตในโม่งแบบซึนๆ

https://fictionlog.co/b/5bd6fd896ded78002781aeec

557 Nameless Fanboi Posted ID:hb.wu48pUZ

>>554 กราบขออภัย กุเข้าใจว่ามันเป็นนอนเม็มจากฟิกชั่นฯ เลยถามไม่ได้ดูสี่ดูแปด

558 Nameless Fanboi Posted ID:h1k7xeA56M

>>556 กูก็เห็นคนชอบนิยายมันเยอะแยะนะ ได้คำชมมากกว่าคำด่า

559 Nameless Fanboi Posted ID:cWaZWmfCnZ

>>558 งั้นก็มองข้ามข้อเสียยิบย่อยแล้วรออ่านคำแนะนำ

560 Nameless Fanboi Posted ID:h1k7xeA56M

>>559 คือกูจะบอกว่านิยายน่ะ มันมีคนด่า และคนชม ไม่ว่าจะเรื่องไหน ขนาดแฮร์รี่ พอตเตอร์ เพอร์ซี่ แจ็คสัน หรือพวกซีรีย์มังกรหยก แม่งยังมีคนด่าเลย ดังนั้นมึงอ่านเพราะชอบ เพราะถูกจริตมึงก็พอ แค่นั้นแหละ

561 Nameless Fanboi Posted ID:SC1vNNWWir

>>556 ไปอ่านละ รู้สึกรำคาญ ไม่ถูกจริตกูเท่าไร กูคงไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของมัน

562 Nameless Fanboi Posted ID:oLYyLXNiIa

เพิ่งมาว่ะ ถกกันจบไปแล้วแต่กูอยากพูดถึงประเด็นนี้หน่อย อะไรดลใจให้มึงคิดว่าโม่งมีปณิธานยิ่งใหญ่อย่างการออกไปกู้โลก (นิยาย) แบบขบวนการเจ็ดสี กูเห็นหลายคนที่เข้ามาหวังว่าโม่งจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มโนว่าเป็นสถานที่อันวิเศษวิโสที่หลบอยู่ในมุมมืดของตลาดค้าทาส คือความคิดมึงอินกับนิยายจีนแฟนตาซีเกินไปเหรอ อย่างไอ้คนที่เข้ามาก่อนหน้านี้ก็เหมือนกัน มาแหกปากปาว ๆ กลางวงที่เขาดีเบตกันอยู่ว่า มึงจะเถียงกันทำเหี้ยอะไร โม่งต้องมีสาระสิ ส่วนอีกตัวก็มาแหกปากว่าสับน้อยจริงโว้ย โม่งสับสับนิยายเยอะ ๆ หน่อยแต่ตัวเองยังนอนเกาไข่อยู่เลย พวกมึงเข้ามาหวังอะไรกันเยอะแยะ ถ้ากูอยากจะเปลี่ยนโลกนิยาย กูจะมาสับกันมาโม่งเหรอ ขุ่นพรี่ลองใช้สมองในการไตร่ตรองดูสักนิดนะคะ ที่นี่ก็แค่ community นึงเหมือนบอร์ดเด็กดวกที่มึงสิงกันอยู่นั่นแหละ แค่รูปแบบการสนทนาต่างกัน กลุ่มคนที่ใช้งานต่างกัน (นิดหน่อย) อย่างที่มึงออกปากเรียกนั่นแหละ หลุมขยะก็คือหลุมขยะ บ่อขี้ก็คือบ่อขี้ โม่งก็เป็นแค่เงาไม่มีตัวตนแค่นั้น

563 Nameless Fanboi Posted ID:h1k7xeA56M

>>562 กูคิดว่าเพราะเม้นปักหมุดของม่วงช่วงแรกๆมั้ง มันเลยพิมพ์แบบนั้น

564 Nameless Fanboi Posted ID:bCEL9XY6b+

5555 คิดเหรอวะว่าอย่างโม่งจะตั้งเป้ากอบกู้วงการนิยาย เชรดเข้ ยิ่งใหญ่สัส แต่ดันลืมว่านี่กองขยะ

565 Nameless Fanboi Posted ID:cWaZWmfCnZ

คาดหวังกับโม่งมากไปมั้ง คนที่มาหลุมขยะก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ามาหาเก็บของเก่า ของพอใช้ได้ ของรีไซเคิล จะให้ใช้ทรัพยากรเศษเดนที่หาได้ไปรณรงค์หวังลดปริมาณขยะในระบบงั้นเหรอ จะฝันหวานเกินไปแล้ว

566 Nameless Fanboi Posted ID:sT/ny.Nu9z

>>565 +1 กูเองก็ไม่คิดว่าในโม่งจะแก้ปัญหาอะไรให้ข้างนอกได้อะ มาอยู่นี่ก็แค่หาเก็บของถูกทิ้งบางอย่างไปใช้ในงานตัวเอง ไม่ได้คิดถึงขั้นว่าโม่งจะช่วยลดโลกร้อนได้ (แค่ให้กูไม่สร้างนิยายขยะเพิ่มเองก็ดีมากแล้ว)

567 Nameless Fanboi Posted ID:wyStE4jmuy

วันเสาร์ทีไรหายหัวกันหมด ดูช่อง 9 การ์ตูนแน่ๆ

568 Nameless Fanboi Posted ID:Z/1ytvk/GI

>>567 สมัยนี้มี Youtube มี Netflix กันแล้วมึง

569 Nameless Fanboi Posted ID:bCEL9XY6b+

>>567 วันเสาร์เงียบ นั่งดูสปอยล์หนังแม่งเลย

570 Nameless Fanboi Posted ID:9z6pUscFXM

ถามความเห็นโม่งหน่อย คิดว่า "Edgy" มีความหมายเดียวกันกับคำว่า "เสี่ยว" ไหม?

571 Nameless Fanboi Posted ID:bCEL9XY6b+

>>570 มึงไปอ่าน >>2 ตรงลิงก์ อภิธานศัพท์โม่ง

572 Nameless Fanboi Posted ID:wyStE4jmuy

>>570 สรุปแบบรวบรัด

เอจจี้ (หรือที่ในโม่งมักเรียกกันว่าเอกกี้) = ลักษณะของเด็กที่พยายามทำตัวแก่แดด โตเกินวัย ถ่อย กร่าง พยายามเลียนแบบผู้ใหญ่เพราะคิดว่าเจ๋งหรือเท่ แต่สุดท้ายออกมาโคตรเสร่อ ส่วน เอจจี้ในปัจจุบันที่ใช้กันผิดๆ หมายถึงลักษณะตัวละครที่เก่งแต่ไม่ยอมเข้าสังคม ขี้รำคาญ พูดน้อยต่อยหนัก และมักจะไม่สนใจเพศตรงข้าม (เช่น ลีไว จาก AoT, คูโจ โจทาโร่ จาก Jojo 3, ฮิเอ จาก ยูยูฮาคุโชว)

ส่วนเสี่ยวนี่มันคำเหยียดพวกชอบเล่นมุกกากๆ น้ำเน่าๆ จีบสาวไม่ใช่เรอะ หรือถ้าบางภูมิภาคก็แปลว่า "เพื่อน" อะ

573 Nameless Fanboi Posted ID:h1k7xeA56M

เพื่อนโม่ง มึงมีนิยายแนะนำอ่านเล่นๆเพื่อหาพลอตมั้ยวะ เอาแบบที่พวกมึงชอบอะ

574 Nameless Fanboi Posted ID:wyStE4jmuy

>>573 แนะนำไม่ได้หรอก เดี๋ยวหาว่าเป็นม้ามาอวย วัดดวงค้นหาในเด็กดวกหรือในสับแถวนี้เอาละกัน

575 Nameless Fanboi Posted ID:h1k7xeA56M

>>574 สัด เจ็บชิบหาย บ่อขี้นี้แม่งวัฒนธรรมไม่เหมือนใครในสามโลกจริงๆ

576 Nameless Fanboi Posted ID:H4ig2hV3r3

>>573 เรื่องนี้เลยมึง ไลท์โนเวลในตำนานโดยนักเขียนไทยดาวรุ่ง ภาพประกอบขั้นเทพ พล็อตเรื่องสุดยอดพลิกไปพลิกมาจนเดาทางไม่ออก ตรรกะก็เหนือความคาดหมาย ทุกอย่างล้วนอยู่ในระดับยอดเยี่ยว ลองอ่านดูได้

https://writer.dek-d.com/0372007145/writer/view.php?id=2026459

577 Nameless Fanboi Posted ID:SiCf6UVa5A

>>576 ยอดเยี่ยวกันไปเลยครัช

578 Nameless Fanboi Posted ID:CnmQMyatv1

>>575 ดูใน 576 ดิ อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมจังไรของโม่ง โดยเฉพาะไอ้พวกสายปั่นเนี่ย

579 Nameless Fanboi Posted ID:GasuMi54Ot

>>576 ดูภาพประกอบแล้วกูเสียว

ราชินีแม่งเอาปากกระบอกปืนจ่อโหนกแก้มตัวเอง แถมนิ้วเข้าโกร่งไกด้วย

580 Nameless Fanboi Posted ID:SC1vNNWWir

>>579 ก็มันปั่นไง เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่โดนเละเทะ

581 Nameless Fanboi Posted ID:h1k7xeA56M

>>578 ขอบใจมากว่ะเพื่อนโม่ง กูอ่านคำโปรยแล้วอึ้งเลย เดะจะลองอ่านดู

582 Nameless Fanboi Posted ID:bCEL9XY6b+

>>573 อวยไม่ได้เดี๋ยวม้า ถ้ามึงหา มึงจะได้แต่เรื่องจังไร

583 Nameless Fanboi Posted ID:.8YFdVwgLC

https://writer.dek-d.com/Absolute_0/writer/view.php?id=1988422 สับเรื่องนี้หน่อย พระเอกเทพแต่ดันโง แล้วยิ่งอ่านยิ่งงงสรุปเนื้อเรื่องมันยังไงกันแน่

584 Nameless Fanboi Posted ID:9z6pUscFXM

>>571 >>572 ที่กูถามเพราะกูเคยเห็นคนใช้คำว่าเสี่ยวกันในสถานการณ์อื่น แบบมึงกับเพื่อนกำลังจะไปสมัครงานครั้งแรกพร้อมกัน มีสามคนแต่งตัวพื้นๆเสื้อยืดกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบ แต่มีเพื่อนคนนึงแม่งเล่นใส่สูทผูกไทด์แบบจัดเต็ม มันก็เลยโดนแซวว่า "อะไรของมึงเนี่ย...แต่งตัวเสี่ยวแดกชิบหาย" กับอีกกรณีคือมีคนต้องเขียนบทละครสั้น(สมัยมัธยม)แล้วมันปูพื้นเรื่องไปว่าพระเอกเป็นทายาทมหาเศรษฐีชอบขี่ม้า ส่วนนางเอกเป็นรัชทายาทชอบการเล่นเปียโน เพื่อนกูมันก็ส่ายหน้าแล้วพึมพัมว่า "เสี่ยว"

กูเลยสงสัยว่า...คำว่า 'เสี่ยว' สำหรับคนไทยมันมีความหมายเดียวกันกับ Edgy ของฝรั่งหรือเปล่า อย่างที่เพื่อนโม่งบอกมากูเคยย้อนไปอ่านแล้วรู้ว่าไปเอาความหมายมาจาก urbandictionary ที่ให้ความหมายว่า Trying too hard to be cool

หลักๆคือกูไม่แน่ใจว่าคนอ่านทั่วไปเขาจะรู้จักคำว่า 'เอจจี้' หรือเปล่า (กูกลัวมันคิดว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่าลามกด้วยแหละ) เลยพยายามหาคำไทยมาใช้แทน

585 Nameless Fanboi Posted ID:SC1vNNWWir

>>584 ถ้า Trying too hard to be cool กูให้สะเหร่อมากกว่าเสี่ยวว่ะ เสี่ยวที่คนไทยใช้กันแบบเหยียดๆ เนี่ย มันมีลักษณะของการ romanticize คือ น้ำเน่า เชย และเหยียด แต่เสือก romanticize เหมือนที่ >>572 ยกตัวอย่าง ส่วนตัวอย่างของมึงก็ยังเข้าข่ายนี่อยู่

586 Nameless Fanboi Posted ID:bCEL9XY6b+

>>584 เอาแบบใกล้เคียงของกู ก็คำว่า เห่อหมอยอะ555

587 Nameless Fanboi Posted ID:RdiWxlKMz4

เสี่ยวมีความหมายแบบนี้เหรอ กูนึกว่าหมายถึงการร่วมเพศ

588 Nameless Fanboi Posted ID:CnmQMyatv1

>>584 อันนั้นมัน เอช-จิ (ecchi) ที่แปลว่าทะลึ่งออกเสียงค่อนข้างสั้นทั้ง 2 พยางค์

แต่ Edgy มันออกเสียงแบบ เอด-จี้ ซึ่งแม้จะไม่ได้ลากเสียง แต่มันก็ยังฟังแล้วยาวกว่าเอชจิ ซึ่ง ecchi เนี่ยมันเป็นหนึ่งในสามศัพท์เกี่ยวกับความลามกอะ (อีกสองก็ เอโระ กับ เฮนไต)

589 Nameless Fanboi Posted ID:UuOe3+PYF+

https://my.dek-d.com/Daifuken666/writer/view.php?id=2066953

มันเป็นแฟชั่นไปแล้วรึไงวะ ไอ้นิยายจัดกลางเนี่ย

590 Nameless Fanboi Posted ID:UuOe3+PYF+

https://my.dek-d.com/Daifuken666/writer/view.php?id=2054626

5 ตอนพอดีเพื่อนโม่ง จัดกันหน่อยไหม สกิมคร่าวๆ แล้วมันค่อนข้างแจ่มใส (ทั้งๆ ที่แม่งเป็นแฟนตาซี) กูเลยขอบาย ลองอ่านกันดูแล้วจะขำก๊าก แต่ขำเพราะอะไรนี่ ต้องลองดูเอง

งงอยู่อย่างนึงว่า ทำไมชื่อนามปากกาคนละอันแต่นิยายดันอยู่ในไอดี Daifuken666 ทั้งคู่วะ กดดูรายละเอียดก็ไม่ได้อีก

591 Nameless Fanboi Posted ID:0zzjYS19dN

>>589 >>590 ทำไมงานนิยายกับงานอาร์ตสองเรื่องนี้ทำยังกะคนละคน

592 Nameless Fanboi Posted ID:K3pV+A+1TN

>>589 นี่เข้าไปเม้นต์ติแล้วโดนลบคอมเม้นต์ว่ะ

593 Nameless Fanboi Posted ID:VDm4JbPpL1

>>589-590 เรื่องนึงลบเม้นท์ อีกเรื่องปิดตอน อนาคตสดใสเหมือนตอนหลับตาเลยไอ้ชิบหาย

594 Nameless Fanboi Posted ID:nUHupAVKJ1

>>593 อ่าวสัส เมื่อคืนกูยังอ่านอยู่เลย กูแม่งโคตรต้องสาป อ่านเรื่องไหนปิดตอนทุกที

595 Nameless Fanboi Posted ID:7MYxZKGQlS

>>592 ชิบหาย เม้นต์ติแค่นี้ถึงกับลบ สับนิยายมันเละแล้วเอาไปปากลางหน้าจะดิ้นขนาดไหน

596 Nameless Fanboi Posted ID:nUHupAVKJ1

>>595 ในโม่งเราไม่ทำกันแบบนั้นว่ะ สับก็ส่วนสับเก็บไว้ในนี้ ไม่มีการแปะประจานหน้านิยายต้นเรื่อง (แบบนั้นแม่งก็เหี้ยเกิน) แต่ถ้าจะไปเม้นว่า "วาดรูปกากจังครับ อิอิออิ" อันนี้แล้วแต่มึง

597 Nameless Fanboi Posted ID:VDm4JbPpL1

>>596 กูเคยเจอครั้งนึง เอาที่กูสับไปแปะหน้านิยายคนเขียน แม่งโคตรเหี้ย ตัวเองก็ไม่ได้สับด้วย

598 Nameless Fanboi Posted ID:nUHupAVKJ1

>>597 ใครวะแม่ง อย่างเหี้ย

599 Nameless Fanboi Posted ID:PPdCu8mdyx

>>596 เออ กูไม่ทำหรอก เบื่อบรรยากาศโม่งตอนเด็กดวกเข้ามาสิง อย่างมากก็ไปติมันอะ
>>597 เหี้ย เลวจริง

600 Nameless Fanboi Posted ID:nUHupAVKJ1

ว่าแต่คนที่มาขอนิยายอ่าน มึงได้อ่านรึยังวะลูกโม่อินดี้อะ อ่านแล้วมารีวิวด้วยนะ (พวกกูรอมึงมาดิ้นอยู่ 555)

ปล.คำว่ายอดเยี่ยวนั่นไม่ได้เขียนผิดนะ คือไม่ได้จะพิมพ์ยอดเยี่ยมเลยอะ

601 Nameless Fanboi Posted ID:Ns2OL0JE2Z

https://www.dek-d.com/board/view/3966031/ กูเห็นกระทู้นี้แล้วน้ำตาจะไหล มันคือแนวคิดตัวกูสมัยเด็กๆ

602 Nameless Fanboi Posted ID:Ns2OL0JE2Z

"ส่งต่อความรู้ หนูจะเปลี่ยนแปลงโลก พัฒนาไปด้วยกัน!"
เบียวคุณธรรมแบบไม่เจียมบอดี้ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!!! รู้สึกอับอาย

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=2064725
ดูหมวดนิยายด้วยนะเพื่อนๆแห่งมิตรภาพทั้งหลาย [มีสาระ > ความรู้เพื่อดำเนินชีวิต]

https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=2064725&chapter=2
จบท้ายด้วยการอ้างอิงโครงการเบื้องสูง (เลื่อนมาดูล่างสุด)

603 Nameless Fanboi Posted ID:SCOPjAicKC

>>602 อสกข.

604 Nameless Fanboi Posted ID:e7uYUOuCTZ

>>583 ไม่สับเรื่องนี้เหรอเพื่อนโม่ง กูไปอ่านมาแม่งอะไรของมันวะ

605 Nameless Fanboi Posted ID:EnPtU0wLCg

>>602 ควย บทสนทนา ใช้ ผม: / ฉัน:

606 Nameless Fanboi Posted ID:q2Kj3+BPD9

>>604 ไอ้นี่ก็พยายามขายจัง ไม่เนียนเหี้ยๆ ถ้าอยากวอนตีนโดนสับก็ขอดีๆ อาจได้รับความเมตตา หรือถ้าอยากยืมมือโม่งฆ่าคนก็อย่าทำสันดานแบบนี้ ลงลิงก์มาไม่ใช่ว่าจะมีคนสับให้ทุกเรื่อง แหกตาดูบ้างว่าโม่งสับไม่มีใครแอคทีฟสักคน

607 Nameless Fanboi Posted ID:Ns2OL0JE2Z

"นิยายที่ผมเขียนก็ไม่ค่อยมีคุณภาพแต่อ่านแล้วสนุก" By ตุ๋นกบ
https://www.dek-d.com/board/view/3966031/

608 Nameless Fanboi Posted ID:6I3EFf3WhV

>>607 ดีว่ะ ออกปากพูดเองเลย สาระสำคัญก็เดิมๆ "กากแล้วไงมีคนอ่านก็แล้วกัน" (แม่ง อย่างกับชื่อไลท์โนเวล)

609 Nameless Fanboi Posted ID:e7uYUOuCTZ

>>606 อะไรของมึง

610 Nameless Fanboi Posted ID:FpR/BPR5FL

>>609 หน้าม้าควายๆ กราบล่ะ อยากให้สับก็บอกตรงๆนะ

611 Nameless Fanboi Posted ID:EnPtU0wLCg

อืมมม ตามที่ไอ้นี่พูด >>606 ละกูก็กลับไปอ่าน >>583 อีกรอบ แล้วทำไมดูม้าขึ้นมาเลยวะ โว๊ะะ 55 >>[สับเรื่องนี้หน่อย พระเอกเทพแต่ดันโง แล้วยิ่งอ่านยิ่งงง"สรุปเนื้อเรื่องมันยังไงกันแน่"] เหมือนประโยคโปรยล่อคนอ่านในนิยายอะ555 ถ้าใช่ก็เอาที่มึงสบายใจเลยเพื่อน

612 Nameless Fanboi Posted ID:Pr+zvCmtXI

>>611 ก็ถูกของมึง

613 Nameless Fanboi Posted ID:VDm4JbPpL1

ถือมึงอยากเอามาให้โม่งสับดู มึงก็บอกมาตรงๆ เลยว่าฝากหน่อยครับพี่ ช่วยผมดูหน่อย โม่งสับที่ใจเอื้ออารีเขาก็ดูให้ตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม มึงมาทรงนี้แม่งเหมือนมาทำซึน ไม่ดูหน่อยเหรอๆๆๆ ก็กูไม่อยากดูไงคะไอ้หัวควย เลิกแอ๊บเมื่อไรค่อยว่ากันแล้วกัน

614 Nameless Fanboi Posted ID:7fQbZe4Vco

ถึงคนที่อยากให้สับให้ กูบอกเลย ว่า dheifkvjwhsucockfkfjfidifjfhgori49dufkkwjwjshfhvjgjrudididirufififufififirjeiw94ufufjcbdh2ueusuu3+++%8%8%7%728&+&8&9&=&8&9&9*+;++%8838%8&8&84848&838&848&9%9>3888488

615 Nameless Fanboi Posted ID:EUE1X.rJsW

>>614 มึงเป็นน้อนเบียวเหรอ

616 Nameless Fanboi Posted ID:FpR/BPR5FL

>>614 คนอย่างมึงอะ
@¥$(#((@(×(×(@($¥$¥%($((××¥¥#(#$&"£$¥#¥÷(÷(÷*$*$*#£¥#¥×(×(×¥2¥=£$&$&#*÷¥×¥×¥¥×*$%:"_€$

617 Nameless Fanboi Posted ID:RhzBlLUfv2

>>615 >>616

กูโดนแม่โบกกบาลเพราะเล่นโม่งตอนแดกข้าว เลยeufifockckckckfk%=%=&=&=&=&=&(&=
dikdjjcjuuguoo93938w8eueudiekwkekek
+37737%7%7%77777&777383838383838
28884+++883838383838383832883888

618 Nameless Fanboi Posted ID:6HTW6zBXoS

ทำไมกูรู้สึกว่าเด็กน้อยลงโม่งวะ​ หายเบียวแล้วค่อยกลับมาใหม่นะพวกเด็กดวก

619 Nameless Fanboi Posted ID:X9Nq5o.bX/

>>583 เห็นเด็กมันว้อนท์ กูจัดให้แล้วกัน
มึงไม่ได้เรียนภาษาไทยป.4 เหรอ โคตรพ่อโคตรแม่มึงสิสอนให้เขียนเคาะอัญประกาศอย่างนั้น อัญประกาศเคาะ "แบบนี้" ไอ้ควาย

ภาษาวันนาบีสะเหร่อสุด เลือกใช้คำห่าเหวอะไรก็ดูสกิลกับคลังคำตัวเองด้วย เขียนแม่งยังอ่านไม่รู้เรื่องแล้วเสือกกระแดะใช้คำเหี้ยอะไรของมึง ว่างก็เลิกว่าวแล้วไปอ่านนิยายคนอื่น หรือไม่ก็หัดต้มหนังสือคลังคำแดกซะบ้าง เพื่อจะได้เปิดโลกคำศัพท์เปิดโลกนิยายให้กว้างไกลกว่านี้

เล่าเรื่องได้ส้นตีนมาก อยากเล่าอะไรก็ช่วยเรียบเรียงความคิดในสมองด้วย จะมาพยายามโชว์เท่ทำเป็นต้านโลก ต้านสังคม ชี้ประเด็นเหี้ยอะไรของมึง แม่งจูนิเบียวชิบหาย เล่าเรื่องแบบนี้เหมือนเอาสันขวานทุบดิน ซึ่งไม่เกิดประโยชน์เหี้ยอะไร นอกจากทำให้รำคาญ และสะอิดสะเอียนในความพยายามยัดเยียดสั่งสอน กระแดะทำตัวเป็นครูสอนจริยธรรมที่ไม่รู้หีรู้แตดใดๆ ทั้งสิ้น ขอบคุณนะคะที่กล้ามาสอนหนู กลับบ้านไปถอยหมอนไป๊

620 Nameless Fanboi Posted ID:IVrnOQWsy9

>>618 ไม่ใช่เด็กดวกลงโม่งหรอก มันก็ไอ้ notice me senpai ร้องเพลง "คนที่ไม่เข้าตา" ตัวเดิมนั่นแหละ

621 Nameless Fanboi Posted ID:IVrnOQWsy9

คงเจอวิธีเปลี่ยน ip แล้วสินะ กูเชียร์ให้ทำไปเถอะ...ดูโง่ดี

622 Nameless Fanboi Posted ID:bDC9.ahamu

https://www.dek-d.com/board/view/3966205/ เอ้ามีใครให้มากกว่าอิเจ๊มั้ย 2000+นี่นักวาดระดับกลางถึงมืออาชีพบางคนเลยนะนี่ หะหรูหะหรา

623 Nameless Fanboi Posted ID:h41jDR0rjL

>>622 ของอีเจ๊ 2000+ กูไปจ้างนักวาดในกลุ่มเฟสวาด 1500+ ยังสวยกว่าอีก =3= ไม่ก็บวกอีกสองพันได้สวยๆ หรูๆ เลย ปวดตับแบบไม่อคติเลยนะบอกตรงๆ

624 Nameless Fanboi Posted ID:VgschPmucf

>>622 สำหรับกูกูไม่เห็นว่าจะเป็นอะไรเลย เขาจะตั้ง 2,000 หรือ 20,000 ถ้าคนพอใจจ่ายก็จ่าย ไม่พอใจจ่ายก็ไม่จ้าง

ในฐานะคนที่จ้างชาวบ้านวาดรูป และเข้าใจว่าศิลปินต้องหากิน กูดีใจนะที่นักวาดไม่กดคอมมิชชั่นตัวเอง กูไม่เคยต่อรองราคานักวาด ชอบก็จ้าง ไม่ชอบก็ไม่จ้าง ไม่พอใจราคาไปหาคนอื่นหรือวาดเอง

ถึงกูจะไม่จ้างเขา แต่ก็ไม่คิดว่าเขาทำเรื่องผิดหรือไม่ดีตรงไหนนะ

625 Nameless Fanboi Posted ID:h41jDR0rjL

>>624 ก็ไม่ได้ว่าหรอก ตามความพอใจคนซื้องานจริงแหละ แต่มันก็ต้องดูเรทราคาตามฝีมือด้วยป่ะวะ อันนี้พูดตามเนื้องานอ่ะนะ เหมือนนิยายที่ต้องมีติตามคุณภาพ มีชมบ้างขมขื่นกันไป

626 Nameless Fanboi Posted ID:VgschPmucf

>>625 การที่เขาไม่มีคนจ้างทั้ง ๆ ที่โฆษณาบ่อย ก็เป็นฟีดแบ็กที่ดีอย่างหนึ่ง คราวนี้ก็อยู่ที่เขาแล้วล่ะว่าเขาจะพยายามพัฒนาฝีมือ ลดราคา หรือจะขายไม่ออกต่อไปว่ะ

เรื่องของภาพวาดนี่สับยากกว่านิยายเยอะตรงคนวาดปรับยากกว่ามาก และความงามเป็นปัจเจก เส้นที่เคยว่ากันว่าสวยในสมัย 80,90 นี่ดูเสล่อ ๆ โบราณในยุคนี้ ผิดกับนิยายที่ถ้าเนื้อแท้ดี ไม่ใช่เพราะอวย ยังไงก็คลาสสิคกว่า ถึงคนจะบริโภคน้อยลงก็เหอะ

627 Nameless Fanboi Posted ID:Z+K0a/.he3

>>624 เอาวะ พอใจก็จ้าง ไม่พอใจก็ไม่จ้าง แต่คนไม่พอใจห้าม express ความไม่พอใจออกมานะจ๊ะ

628 Nameless Fanboi Posted ID:zprG+lLw+m

พูดแบบไม่อคตินะ รูปปกที่มิรันโพสต์โชว์ 2,000 แพงไปว่ะ บอกตามตรง

สงสัยแค่ 2,000 ที่ว่านี่ คือมิรันจ้างเขา 2,000 หรือมิรันทำเองแล้วตีค่างานตัวเอง 2,000 กันแน่

629 Nameless Fanboi Posted ID:Xsbn38q9lN

>>628 เขาบอกว่าแพงค่าออกแบบ font (แต่กูก็ยังว่าแพงไปอยู่ดี)

630 Nameless Fanboi Posted ID:2CyMd9P9Xo

ลายเส้นสวยๆ ในเฟสก็ยังเห็นเขารับคอมมิสถูกกว่านี้เลย สำหรับวงการวาดไทย 2000 ไม่ใช่น้อยๆ ไม่รู้เจ๊ตีค่างานวาดตัวเองเท่านี้หรืออยากรับราคานี้กันแนวร่

631 Nameless Fanboi Posted ID:X9Nq5o.bX/

2,000 นี่ก็ูได้ปกอย่างงามเลยนะ คือกล้าตั้งราคาสูงบางทีก็ต้องทำใจยอมรับคำวิจารณ์ด้วยว่าราคาสูงไป คิดในแง่ความเป็นจริงว่าคุณภาพสินค้าระดับกลางๆ แต่ตั้งราคาเป็นไฮเอนด์ ถ้ามึงไม่ใช่เซเลบ ใครจะมาซื้อวะ ควรพิจารณาในการปรับลดเพื่อให้ขายได้ หรือถ้าอยากอยู่บนหิ้งสวยๆ เหมือนมีคุณค่า แต่ราคาจับต้องไม่ได้จนไม่มีใครซื้อก็เรื่องของมึงนะจ๊ะ อยู่บนชั้นวางต่อไปนั่นแหละ

ไม่รู้คิดไปเองเปล่านะว่าช่วงนี้มิรินดูฮาร์ดเซลล์ แต่ฮาร์ดเซลล์ไปก็เท่านั้น มึงยังดูตลาดไม่เป็นไร จะขายอะไรได้

632 Nameless Fanboi Posted ID:mz7q7tavDR

บอกว่า2000+ก็เชื่อดิวะ ตีราคาเองเพราะใครจะรู้มูลค่างานดีไปกว่าตัวเองหะ คนอื่นบ่นไรโนสนโนแคร์เว้ย กระจอกเองไม่มีปัญญาจ้างกู กูบอกแบบนี้ทุกกระทู้รูปวาด กูจะได้ดูแพงให้สาวกชาบู เคลมราคา2000+ถึงจะไม่เคยมีใครจ่ายก็ตามถถถ

633 Nameless Fanboi Posted ID:zprG+lLw+m

เห็นนางอ้างกระดาษ อ้างสี อ้างแบบร่างทดลองอะไรของนาง แสดงว่าไม่โปรจริงนี่หว่า ทำๆแก้ๆกว่าจะออกมาสวย

ถ้ากูเป็นมิรัน กูจะเจียมตัวให้มากกว่านี้ แล้ววาดฟรีหรือวาดให้พรรคพวกไปก่อน เก็บเป็น Portfolio ไปก่อน ถึงเวลาจะขายก็เอาผลงานมาโชว์ให้มีความน่าซื้อหน่อย

แต่อย่างว่าอ่ะ...เราก็รู้นิสัยมิรันอ่ะนะ จมไม่ลง

634 Nameless Fanboi Posted ID:9PMMGLKGuW

นินทานักวาดก็ไปห้องเน็ตวอชไป๊ พวกกะเทยควายเเอ๊บสาว

635 Nameless Fanboi Posted ID:v1aEb/5e.0

>>634 สัมผัสถึงความเก้วกาด แต่ไม่น่าใช่อิเจ๊เพราะดูโง่เกินไป เดาว่าเป็นหาบโง่ๆที่คอยหางานให้นาง

636 Nameless Fanboi Posted ID:HcQMNKmCUb

https://www.dek-d.com/board/view/3966206/1/?comment=10
เจ๊ดอกกับคำนิยามสีเทา ก็ว่าจะไม่อ่านละขี้เกียจ แต่ก็อดใจไม่ได้ทุกที คราวนี้ติสสุด ฉวีดเฉวียนวนเวียนไปมา ชักแม่น้ำทั้งห้ารวมเป็นเจ้าพระยาแล้วไหลลงสู่อ่าวไทย ยาวได้ใจมั่ก

637 Nameless Fanboi Posted ID:6gPd.5U0HA

>>636 เปลืองสามจี อีดอก

638 Nameless Fanboi Posted ID:Tn6oyFPmNC

>>634 ด่าได้...สก๊อยมากค่ะลูกกกกกก

639 Nameless Fanboi Posted ID:Bw8aOd316c

กรี๊ดดดดดดดดด!!!! https://www.dek-d.com/board/view/3966206/1/?comment=11 โมเม้นจ้องตากูรู้จรัยยยย!!!!!! กูตาย

640 Nameless Fanboi Posted ID:Bw8aOd316c

>>383 กูบอกพวกมึงแล้วว่ามันแค่เกลียดประชดกันเฉยๆ โอ๊ยยยย...ฟิน make my day เชี่ยๆ my โม่งจิ้นที่กำลังเงี่ยน

641 Nameless Fanboi Posted ID:0u7ZNeRxUH

>>640 อี๋
อี๋มึงนี่แหละ

642 Nameless Fanboi Posted ID:N+b/v+VoiL

>>639 ทำไมดอกขาวมันดูสนิทสนมกับF จังวะ เนี่ยแหละ ทำให้กูคิดว่านอกจากสองคนนี้แล้ว ใครมันจะไปพิมพ์คุยกันรู้เรื่องกับคู่นี้ได้วะ

643 Nameless Fanboi Posted ID:U+JnYLQAAf

>>642 กูก็คุยไม่รู้เรื่องเลยไม่คุย กูเข้าบอร์ดบ่อย ตอบก็บ่อย พอเห็นสองคนนี้ ต่อให้ตอบกันยืดยาว กูรู้สึกว่า ถ้ากูอ่านนายกูต้องด่าว่า 'ทำงานว้อยลูกน้อง มึงดูยูทูปในเวลางานกูจะไม่โกรธมึงขนาดนี้' (ที่ทำงานกูไม่ค่อยเคร่งว่า เวลาว่างจะทำอะไร ถ้างานเสร็จก็พักผ่อนได้) ดอกขาวในความรู้สึกกูนะ คือ จำเป็นต้องตอบกับอะไรพวกนี้หรือวะ กูไม่สามารถอ่านข้อความที่นางพิมพ์ได้จริง ๆ เคยลองเปิดใจ อ่านอันแรก กูปิดใจต่อไปถูกแล้ว

ส่วน F กูอยู่ในช่วงมันโดนแบน แต่ก็พอรู้ว่า พวกคู่กรณีก็ต่อความยาวสาวความยืดกันเองด้วย เลยช่างมันเถอะ ให้แอดมินจัดการกันไป พอใจไม่พอใจ คือ กูไม่ได้เดือดร้อนกะพฤติกรรมพวกคุณ ๆ ทั้งหลาย เลยคิดว่าช่างแม่งได้

644 Nameless Fanboi Posted ID:Bw8aOd316c

>>643 พูดถึงตอนนี้แอดมินก็ไม่ทำไร (ใช้วิธีเหมือนลุงข้างบ้านใช้รับมือกับผู้ติดเชื้อเบย เอาชีวิตรอดกันเอง อุอิ) ตอนมิรันก่อม๊อบก็เห็นแล้วแอดบอกว่าให้ปล่อยไป อย่าไปยุ่ง เดี๋ยวมันเลิกสนใจไปเอง ใช้วิธีจัดการด้วยการเมินแต่กูก็อยากถาม แอดแม่งลืมหรือเปล่าว่าคนส่วนใหญ่ในเว็บนี้มันเด็ก ไอ้ F ปั่นนิดปั่นหน่อยก็เผลอไปงับเหยื่อมันแล้ว

จะว่าไปก็เหลือเชื่อ ช่วงนี้เด็กใหม่โผล่มาเพียบ สมาชิกเก่าก็ผุดรายวัน แต่ไม่ยักมีใครทะเลาะกับไอ้ F เลย

645 Nameless Fanboi Posted ID:+NR3zvYxag

พึ่งมาเห็นคำวิจารณ์นิยาย จิตใจเด็กดวกแข็งแกร่งราวกับโล่ของชิริวเลยนะ eieiei มึงสับแบบนั้นทำไรไม่ได้หรอก

646 Nameless Fanboi Posted ID:I.Hg3JxOSu

>>645 อันไหนหว่า

647 Nameless Fanboi Posted ID:+NR3zvYxag

>>646 เม้นที่ >>619

648 Nameless Fanboi Posted ID:TpN5mSS6Bu

เรื่องย่อตอนใหม่: คุณครูที่โจ๊กรู้จักดี กลายเป็นคุณครูซะงั้น เเละเขาก็ทดสอบพลังของโจ๊ก ผลที่ได้ออกมาก็คือ?
https://www.dek-d.com/board/view/3966223/

ศัศ! กูต้องอ่านประโยคนี้ถึง 5 รอบถึงจะเข้าใจ

649 Nameless Fanboi Posted ID:PqETRb7KmG

>>648 เปลืองสมองสัสๆ

650 Nameless Fanboi Posted ID:6T.Zcibzko

>>648 งงเต๊ก

651 Nameless Fanboi Posted ID:hFM7qXB9EI

เหี้ย กูสงสารน้อง มือใครว่างช่วยไปแจ้งแบน แจ้งลบ แจ้งเหี้ยอะไรก็ได้ ไอ้ F แม่งไปป่วนหมวดปัญหาวัยรุ่น (ตัวอันตรายสัสๆ)​
https://www.dek-d.com/board/view/3966341/

ลิ้งก์แจ้งแบน https://my.dek-d.com/freudms4869/member/report.php

652 Nameless Fanboi Posted ID:g1nmjK0R2V

>>651 สงสัยแม่งจะเก็บกด บอกให้เขายกตัวอย่างหรือใบประกอบมาอีก เป็นไปได้เนอะ สมองมันนี่เหมือนเด็กโปกเก็บกดไม่ก็วัยผู้ใหญ่สมองเด็กวัยต่อต้านสังคมอ่ะ ไม่ควรค่าแก่การต่อปากต่อคำเพราะเหมือนว่าเราจะไปให้ความสนใจ ปล่อยแม่งลอยคอไปเถอะ ช่วงนี้นอกจากจะแต่งนิยายหาเงินไม่ออกแล้ว ยังประสาทแดกกับข่าวสารอีกกู

653 Nameless Fanboi Posted ID:QcH5jpqkNL

แจ้งแบนทำไม ถกเถียงกันก็ดีแล้ว มันก็มีคนอยู่ฝั่งแค่อ่านไม่ผิด กับอ่านแล้วผิด ถ้าไม่ได้มีเหตุผลที่ดีพอ เถียงข้างๆ คูๆ ก็อยู่นอกสายตา เจรไปก็ไม่เกิดประโยชน์

654 Nameless Fanboi Posted ID:9lC1BVG49Y

>>652 แค่ขอใบประกอบอาชีพก็รู้ว่าเป็นคำถามโง่มาก ยังกะขอดูชื่อจะได้ไปแบล็กเมล

655 Nameless Fanboi Posted ID:86I3MRB.+L

โม่งสับสวยๆมีไหมเเถวนี้

656 Nameless Fanboi Posted ID:vg2OeOubQZ

>>654 น่าย้อนถามมันด้วย ไหนใบประกอบของมัน //กูหวังว่าจะปล่อยเบลอมันกัน แนวคิดมันต่อต้านสังคมชิบ

657 Nameless Fanboi Posted ID:HWstEA/fGc

>>651 จริงๆไอ้ F ไม่ได้วิ่งโร่ไปบอร์ดนั้นหรอก

แต่เผอิญกระทู้นั้นมันติดแท็กนิยายด้วย เลยมาโผล่บอร์ดนักเขียน

658 Nameless Fanboi Posted ID:QgABmot7pn

>>655 ไม่มี และจะไม่มีวันนั้น ถ้ามีเมื่อไหร่นั่นคือโม่งที่ไม่ใช่โม่ง

659 Nameless Fanboi Posted ID:TyHxHfSCT6

>>655 กู
เพราะจิตใจกูสวยมาก 555555555555555

660 Nameless Fanboi Posted ID:9lC1BVG49Y

>>657 เออเว้ย บอร์ดนักเขียนประชากรเยอะสุดในเด็กดวกรึเปล่า

661 Nameless Fanboi Posted ID:S+n9AgYsJE

>>660 หน้ากูเหมือนคนสำรวจสำมะโนครัวประชากรเหรอสัส ถึงได้มาถาม

662 Nameless Fanboi Posted ID:f3ysyoJjTS

ขอนอกเรื่อง วันนี้นอนดูเน็ตฟลิก แล้วมันแนะนำไอ้เรื่องไปต่างโลกกับสมาร์ทโฟน​มา คือเหี้ยมากกกก ทุกอย่างง่ายไปหมด ผญ แม่งก็โคตรกะหรี่ทัชสกรีน รับไม่ได้

663 Nameless Fanboi Posted ID:rIuuFOr0L6

>>662 กูจะบอกให้ อนิเมะมันทำซะฟรุ้งฟริ้งเลย แต่ในนิยายยังโอเคอยู่ ที่ญี่ปุ่น16เล่มละ แสดงว่ามันได้รับความนิยม

664 Nameless Fanboi Posted ID:9lC1BVG49Y

>>662 มึงดูนายคนนี้ สับมือถือweeb https://www.youtube.com/watch?v=awttR2jxMEw

665 Nameless Fanboi Posted ID:YQSKi6rhNQ

>>662 จำสับนิยายเรื่องไปเป็นพ่อค้าที่ต่างโลกได้ปะ เรื่องนั้นแหล่ะที่เอาพระเอกเรื่องนี้ไปเป็นต้นแบบตัวละคร ดีไซน์คุณภาพไหมล่ะมึง

666 Nameless Fanboi Posted ID:l8ru7kQoKX

>>663 เรื่องนี้เขาอ่านกันเพราะอยากรู้ว่าโทวยะมันจะแกรี่โม้เหม็นไปถึงไหนได้อีก (มุกเดียวกับพี่ซงจินวูของ solo leveling อะ) กูไปอ่านท้ายๆ มา แม่งออกทะเลโคตรๆ มีขับหุ่นแบบกันดั้มด้วย งงสัส

667 Nameless Fanboi Posted ID:SVi0xKNmEO

กู >>662 นะ อห กูหยุดดูเมะเรื่องนี้ไม่ได้ คือนั่งด่านอนด่าความแกรี่+เอ็ดจี้ของพระเอกแม่งแทบทุกนาที แต่ก็หยุดดูไม่ได้จริงๆ อยากจะรู้ว่าแม่งจะแกรี่ไปได้ถึงไหน

668 Nameless Fanboi Posted ID:QjUMU3E0Xn

>>664 กูเห็นเม้นต์มึงครั้งแรกนึกว่ากูเผลอกดผิดไปเข้า netwatch

669 Nameless Fanboi Posted ID:kA0VbJ6Rmf

อยากเห็นหน้าคนแต่งสมาร์ทโฟนต่างโลก จะรู้สึกยังไงที่ได้ออกเมะแบบนี้

670 Nameless Fanboi Posted ID:jBL8an3Png

>>669 กูว่ามันแอบผิดหวังนะ เพราะบอกตามตรง เมะทำบรรยากาศแบบนิยายไม่ได้เท่าไหร่อะ

ส่สนเรื่องสมาร์ทโฟน มันเหมือนพวกสไลม์ เดทมา์ธ การเดินทางของแม่มด ที่เน้นผจญภัยต่างโลกแบบสบายๆ ฉายให้เห็นถึงโลกในจินตนาการ และให้คนอ่านร่วมเดินทางไปกับคนเขียน ถ้านักอ่านจำพวกอยากพักสมองแบบผ่อนคลาย จะชอบอะ กูว่า

671 Nameless Fanboi Posted ID:jBL8an3Png

เพื่อนโม่ง มีเรื่องจะถาม กูสงสัยว่าทำไมนิยายแฟนตาซีบางตำรา มันเอาเวทธาตุลมรวมกับสายฟ้าวะ มันเกี่ยวข้องกันยังไงวะ

672 Nameless Fanboi Posted ID:QjUMU3E0Xn

>>671 ลมคือสภาพอากาศมั้ง สายฟ้าก็พายุฝนก็คือสภสพอากาศ

673 Nameless Fanboi Posted ID:kSqxVokZ+v

>>671 เออจริงแหะ คิดดูดีๆแม่งแทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย แต่ถ้าแปลความหมายของคำว่า 'ผสม' เป็น 'ใช้พร้อมกัน' น่าจะฟังดูเป็นเหตุเป็นผลมากกว่า

674 Nameless Fanboi Posted ID:l8ijNjDYYz

>>673 คิดตามเล่นๆ ถ้าผสมได้สายฟ้าน่าจะเป็นธาตุลมผสมน้ำ คือทำให้น้ำระเหยเป็นไอกลายเป็นเมฆ ใช้ลมพัดเมฆเข้าหากันอาจกลั่นตัวกลายเป็นฝน ถ้าถ่ายประจุกันไปมาจะเกิดฟ้าแล่บฟ้าร้องฟ้าผ่าตามมา เอ่อ กูคงว่างจัด ก็คิดไปได้

675 Nameless Fanboi Posted ID:v4xRi1nbQL

>>671 ลมสีเขียว+สายฟ้าสีเหลือง เข้ากันดี ในความคิดกูนะ ถถถ ก็เหมือนธาตุดินสีน้ำตาล+ธาตุไฟสีแดง-แสด อะ ...คือเหี้ยอัลไรเนี่ย... เอาเถอะ ไปกันได้ก็พอ 5555

676 Nameless Fanboi Posted ID:czqJ1G1OjS

>>671 จากที่อ่านวิกิมาตะกี้ ลมเกี่ยวข้องกับการที่เมฆเกิดสายฟ้า จริงๆ แล้วน่าจะ ลม+น้ำในเมฆ=สายฟ้า มากกว่ามั้ง ถ้าตามข้อความนี้
เมื่อก้อนเมฆนั้นเคลื่อนที่ก็จะมีลมเข้าไปยังภายในก้อนเมฆและจะเกิดการไหลเวียนของกระแสอากาศภายในอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้หยดน้ำและก้อนน้ำแข็งในเมฆเสียดสีกันจนเกิดประจุไฟฟ้าและพบว่าประจุบวกมักจะรวมตัวกันอยู่บริเวณยอดเมฆ ส่วนประจุลบจะอยู่บริเวณฐานเมฆ ทั้งนี้ ประจุลบที่ฐานเมฆอาจจะเหนี่ยวนำทำให้พื้นผิวของโลกที่อยู่ “ใต้เงา” ของมันมีประจุเป็นบวก เป็นผลทำใหัเกิด สนามไฟฟ้าระหว่างกลุ่มประจุเหล่านั้น เมื่อประจุ มีการสะสมจำนวนมาก ทำให้ความเครียดของสนามไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นจนเกินค่าความคงทน ของอากาศต่อแรงดันไฟฟ้า จนทำให้เกิดการคายประจุขึ้น อัน เป็นจุดกำเนิดของการเกิด ฟ้าผ่าขึ้น การคายประจุ อาจเกิดขึ้น ระหว่างก้อนเมฆ หรือ ระหว่าง ก้อนเมฆ กับ พื้นโลก ซึ่งเรียก ปรากฏการณ์ นี้ว่า "ฟ้าผ่า"

677 Nameless Fanboi Posted ID:czqJ1G1OjS

>>675 ขบวนการเรนเจอร์

678 Nameless Fanboi Posted ID:v4xRi1nbQL

>>677 หมดกันความคิดกู กลายเป็นเรนเจอร์ไปละ55

679 Nameless Fanboi Posted ID:Ihe6S3.YDM

>>676 โคตรวิชาการ ถ้ากูจะแต่งจอมเวทผสานหบายธาตุ เอาหลักการนี้ไปใช้ได้เลยนะเนี่ย

680 Nameless Fanboi Posted ID:Z1m4ehsN/P

กูชอบหลักเรื่องธาตุของ Avatar the last airbender นะ ที่ให้ไฟกับสายฟ้าเป็นอันเดียวกันเพราะเป็นการควบคุมพลังงานในตัว ไฟคือใช้ความร้อนในตัวเองทั้งลมหายใจหรือกล้ามเนื้อ แต่สายฟ้าต้องแบ่งพลังงานนั้นเป็น บวกกับลบก่อน ถึงยิงเป็นสายฟ้าออกมาได้

681 Nameless Fanboi Posted ID:Mec14KNPUh

От уикито, прочетено преди малко Вятърът е свързан с мълния облак Всъщност вятърът + водата в облака = мълния.
Когато облакът се движи, вятърът навлиза в облака и тече бързо и интензивно. Причиняването на водни капчици и кубчета лед в облаците да се търкат един върху друг, за да създадат електрически заряди и установи, че положителните заряди са склонни да се събират в горната част на облаците Отрицателният заряд е в основата на облака.Отрицателният заряд в основата на облака може да накара повърхността на Земята под нейната „сянка“ да има положителен заряд. Резултат в Електрическото поле между тези заряди, когато те се натрупват много. Причинявайки напрежението на електрическото поле да се увеличи извън стойността на толеранса От въздух до напрежение Докато не предизвиква зауствания, които са източник на удари на мълния. Изхвърлянето може да възникне между облаци или между облаци и земята, което е известно като "мълния".

682 Nameless Fanboi Posted ID:nhIsp22Jpz

แบบนี้ถือว่า Magic Realism มั้ย อะไรที่แฟนตาซีเกินไปก็จะตีความให้เวทมนตร์มีความสมเหตุสมผลมากขึ้น แบบ >>676 ยกมา

683 Nameless Fanboi Posted ID:AzI5FY9he1

>>682 อาจใช่ เพราะใน Release that witch ก็มีการอธิบายเวทไฟระดับอะตอมอยู่เหมือนกัน

684 Nameless Fanboi Posted ID:QE.sTWEbva

พวกนั้นมันอิงหลักการวิทย์ก็ยังเข้าใจง่ายอยู่ เหมือนเวทลวงตาที่บางทีก็เป็นธาตุแสง/ไฟได้เพราะการหักเหของแสง
ถ้ายกตัวอย่างที่เจอบ่อยแล้วเป็นเชิงคอนเซปท์ขึ้นอีกนิด ก็พวกเวทน้ำกับการรักษาล่ะมั้ง (แสงไม่นับ นั่นสเตริโอไทป์)

685 Nameless Fanboi Posted ID:JrMQTx8tsF

นอกเรื่องอีกนิด ถ้าอิงหลักวิท เวทธาตุดินก็บินได้ดิ เพราะปรับแรงโน้มถ่วง กับสนามแม่เหล็กของโลกได้

686 Nameless Fanboi Posted ID:IyQdjHQ2ox

อย่าพยายามโยงให้เหนื่อยถ้าเมิงไม่แน่นวิทย์พอ
แค่คำว่าธาตุดินปรับแรงโน้มถ่วงกุก็ไม่เข้าใจหลักคิดของเมิงแล้ว

687 Nameless Fanboi Posted ID:8FPk17YWAj

>>685 เออ กูก็งง นี่มึงคิดว่าแรงโน้มถ่วงมาจากดินอ่อ??

688 Nameless Fanboi Posted ID:JrMQTx8tsF

>>686 กูแค่เดา คือดินมันรวมทุกอย่างที่อยู่ใต้ดินไง พวกเหล็ก พวกแร่ ประมาณนี้อะ มันก็น่าจะทำอะไรกับแกนโลกได้ไง หรือเวทพวกแรงโน้มถ่วง ควรสังกัดธาตุไหนดี

689 Nameless Fanboi Posted ID:IyQdjHQ2ox

แรงโน้มถ่วงเกิดจากมวล
เมิงจะใช้อะไรเพิ่มมวลให้โลกได้วะ มวลบนโลกคิดว่ามันเพิ่มมันลดได้ง่าย ๆ เหรอ กุคิดไม่ออกหรอก

690 Nameless Fanboi Posted ID:Yex8m51Xi2

ถ้าเอาเรื่องธาตุแบบหลักวิทย์มาพูด ทุกอย่างแม่งก็หาเรื่องบินได้หมดและ แร่ธาตุในน้ำ แร่ธาตุในดิน ก๊าซในอากาศ ถ้าคนมันจะเขียน ต่อให้ธาตุหรือพลังอะไรมันก็เอามาโยงได้หมดแหละ เนียนไม่เนียน แถไม่แถก็ขึ้นอยู่กับฝีมือล้วนๆ กูสวมคอบเตอร์ไม้ไผ่กลับบ้านละไม่อยากขึ้นรถเมย์กลัวโคโรนา สึด

691 Nameless Fanboi Posted ID:j+wvRHoGcV

ตั้งเเต่ดินนับเป็นธาตุ ตรรกะอะไรก็ไม่จำเป็นอีกเลย

692 Nameless Fanboi Posted ID:IyQdjHQ2ox

กูก็แคอยากเตือนว่าอย่าไปอิงกับวิทย์ เขียนแฟนตาซีก็ดีอยู่แล้ว
เมิงจะอิงก็อิงในใจไม่ต้องอวดว่าใช้หลักวิทย์มาประยุค
กุเห็นให้ขำมาหลายเรื่องแล้ว

693 Nameless Fanboi Posted ID:Yex8m51Xi2

ไม่รู้นะว่าพวกมึงคิดยังไงเวลาเจอคนอธิบายพลังเวทอะไรพวกนี้ แต่สำหรับกูที่ไม่รู้หลักวิทย์ตามที่คนเขียนบรรยายมาก็ทำได้แค่ "อ้อ..." ตรบมือแปะๆ แล้วจำใส่หัวไว้ว่า "มึงบินได้" แค่นี้จริงๆ เพราะส่วนใหญ่รายละเอียดชวนประสาทแดกที่อธิบายมามันอะไรสำคัญที่มีผลต่อเนื้อเรื่องอยู่แล้ว กูอาจเป็นพวกไม่ละเอียดอ่อนก็ได้มั้ง แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นแบบนี้ในนิยายจริงๆว่ะ

694 Nameless Fanboi Posted ID:IyQdjHQ2ox

>>693 กุอยากให้เมิงลองมองอีกอย่าง ถ้าพลังเหล่านั้นมันมีวิธีคิดแบบ "เหตุและผล" และมันเป็น "ปมของเรื่อง"
แบบ FMA การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม ต้องการชุบชีวิตแม่ จนต้องสูญเสียแขนและร่างกาย มันก็จะมีเสน่ห์และสร้างความประทับใจได้

695 Nameless Fanboi Posted ID:nhIsp22Jpz

กูมองว่าแรงโน้มถ่วงไม่นับธาตุ ใช้ลมควบคุมง่ายกว่า

696 Nameless Fanboi Posted ID:Yex8m51Xi2

>>694 ก็กูบอกแล้วไง ว่าส่วนใหญ่ที่อธิบายกันมามันแทบไม่มีประเด็นสำคัญอะไรเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง ถ้ายกตัวอย่างของ FMA อันนี้กูพูดจากความทรงจำกูเลยนะ มันชุบชีวิตแม่ มันเลยต้องจ่ายด้วยร่างเนื้อ อันนี้มันเข้าใจได้ง่ายๆ ไม่ต้องอธิบายหลักวิทย์อะไรมากมาย

แต่ไอ้ที่กูเจอในเด็กดวกน่ะ มันอธิบายแบบไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องหรือประเด็นสำคัญอะไรเลย มันแค่จะใช้เวทใหม่ แล้วจู่ๆมันก็อธิบายวิธีการ เหตุผล หลักวิทยาศาสตร์ขึ้นมา ผลกระทบก็คือกูที่เป็นคนอ่านตามไม่ทัน เพราะแม่งไปเอาศัพท์เฉพาะอะไรไม่รู้มาใช้เยอะมาก จนกูรู้สึกว่ามึงไม่อธิบายเลยยังดูดีซะกว่า

697 Nameless Fanboi Posted ID:2FjdobRlBm

พวกมึงโง่กันเองป่าววะแล้วไปโทษนิยาย

698 Nameless Fanboi Posted ID:j3Dexc5xpr

>>688 ถ้าใช้อินดิเคเตอร์ในหนังสือที่กูอ่านมา แรงโน้มถ่วงถือเป็นเวทไร้ธาตุว่ะ มันไม่ถูกสังกัดในธาตุธรรมชาติใดๆ เลย เพราะเป็นหนึ่งในกลุ่ม "แรง" ซึ่งถูกนำมาใช้ตามหลักการเลียนแบบแรงในรูปแบบต่างๆ ส่วนนักเวทที่ใช้เวทพวกนี้ก็คือ Force user หนึ่งใน 2 นักเวทกลุ่มที่คนไม่อยากยุ่งด้วยเพราะแม่งน่ารำคาญ (อีกตัวคือ Chronomancer)

หลายๆ อย่างในโลกแฟนตาซี ถ้าอธิบายแล้วฟังดูไม่เข้าท่า บางทีกูเลือกแถด้วยประโยคง่ายๆ แล้วให้คนอ่านสนใจเนื้อหาในตอนยังโอเคกว่า ไม่งั้นจะโดนพวกคนที่รู้ลึกรู้จริงโผล่มาชี้ช่องโหว่แล้วขี้เกียจรีไรท์หรือตอบคำถามน่ะ

699 Nameless Fanboi Posted ID:JrMQTx8tsF

>>698 กูนึกถึงดราก้อนเนสเลยว่ะ จอมเวทสายที่มึงว่ามา และแม่งก็โคตรโกงจริงๆแหละ

700 Nameless Fanboi Posted ID:Yex8m51Xi2

เออกูขอถามเป็นกรณีศึกษาหน่อยสิ อย่างไอเรื่องเลียแดดที่มันบอกว่าร้อน 100 องศา แล้วค่อยไปเฉลยตอนหลังว่ามันร้อนแบบหลอกๆ สมมุติว่ามันไม่ได้บอกว่าร้อน 100 องศา แต่ให้ข้อมูลกับคนอ่านแค่ว่า "อากาศร้อนมากจนอาศัยอยู่ไม่ได้" เป็นข้อมูลครุมเครืออธิบายไม่ชัดเจนแบบนี้ มันยังจะโดนว่าเรื่องพล็อตเปลี้ยอยู่ไหมวะ?

701 Nameless Fanboi Posted ID:Yex8m51Xi2

ที่กูสงสัยคือถ้าคนเขียนมันบอกข้อมูลไม่ละเอียด มันจะกลายเป็นช่องว่างให้สร้างผลงานได้ต่อไป หรือว่ามันก็ยังเป็นพล็อตโฮลไล่แขกอยู่ดี?

702 Nameless Fanboi Posted ID:j3Dexc5xpr

>>700 ถ้าตอนแรกมันไม่ประหารคนโชว์ กับบอกแค่ว่าร้อนจนออกไปอยู่กลางแดดนานไม่ได้ ทุกอย่างจะดูโอเคขึ้นมาเลย ขอแค่ไม่ระบุตัวเลข 100 ออกมาก็ช่วยได้เยอะมาก อย่างที่มึงว่าก็ใช้ได้ มันจะทำให้ตอนเฉลยความร้อนจริงออกมาดูไม่ขัดแย้งกับ environment fact

703 Nameless Fanboi Posted ID:j+wvRHoGcV

เถียงกันเป็นเด็กไปได้

เออ ลืมไปว่าปิดเทอมเเล้ใ

704 Nameless Fanboi Posted ID:JrMQTx8tsF

>>703 ไอ้ที่เล่นโม่งแม่งส่วนใหญ่ก็วัยรุ่นเห่อหมอยทั้งนั้นแหละวะ

705 Nameless Fanboi Posted ID:nhIsp22Jpz

>>704 และมีบางตัวเป็นผู้ใหญ่ แต่แกล้งทำตัวเป็นเด็กเพื่อคนที่ชอบด่าหลงเชื่อ

706 Nameless Fanboi Posted ID:tRe4KHnrwx

คือกูงงว่าการหลอกคนอ่านด้วยการให้ข้อมูลผิดๆเหมือน propaganda หลอกเด็ก แล้วมาเฉลยความจริงทีหลังว่ามันไม่ตรงเลย มันทำไม่ได้หรอวะ ถึงได้มีปัญหากับเรื่องอุณหภูมินี่จัง ทีเรื่องพ่อแม่สร้างกำแพง isolate ตัวเองกับลูกๆแล้วหลอกเด็กว่าข้างนอกมันอันตรายมีแต่สัตว์ประหลาดยังทำได้เลย

707 Nameless Fanboi Posted ID:AEpBZeMoZP

>>706 ในเรื่องมันให้เห็นสด ๆ อ่ะดิ ไม่ใช่การถ่ายทำ โฆษณาชวนเชื่อในทีวีอ่ะ

708 Nameless Fanboi Posted ID:j3Dexc5xpr

>>706 มึงลืมไปรึเปล่าว่าที่เรื่องนั้นโดนเล่นงานเป็นเพราะเอาวิทยาศาสตร์มาเล่นสุ่มสี่สุ่มห้า ยึดติดกับตัวเลข 100 องศาจนไม่ดูองค์ประกอบอื่นด้วย อันที่มึงยกตัวอย่างมามันไม่เกี่ยวกับวิทย์ ไม่ต้องคิดตามหรืออ้างอิงข้อมูล จะโฆษณาชวนเชื่อ การหลอกเด็ก หรือเฟคนิวส์ พวกนี้มันแต่งได้ เขียนได้ โดยไม่ต้องสน 4 สน 8 อยู่แล้ว แต่กับข้อมูลอ้างอิงเพื่อเขียน Sci-fi มันทำแบบนั้นไม่ได้ (แต่ถ้ามึงคิดว่าเรื่องนั้นโอเค เป็น Soft Sci-fi ก็เป็นเรื่องของมึงแล้วอะ)

709 Nameless Fanboi Posted ID:JrMQTx8tsF

>>705 เออ จริงว่ะ ไม่เถียง

710 Nameless Fanboi Posted ID:LyJtG.jxAP

>>706 หลักกูนะไม่ใช่หลักการ
กูชอบอ่านเรื่องที่เล่าอย่างตรงไปตรงมา
เวลาเขียนก็จะเล่าอย่างตรงไปตรงมาเหมือนกัน
ลองไปดู knives out เล่าอย่างตรงไปตรงมาเวลาเฉลยแล้วคิดตามมันจะไม่รู้สึกหงุดหงิดใจ

711 Nameless Fanboi Posted ID:+cQAmmh2Hk

>>710 555 ตรงไปตรงมามากก เว้นนู่นเว้นนี่นิดๆหน่อยๆ ตัดบางช่วงออกไปแล้วแบบเฉลยรู้ภาพรวมอยู่แล้ว แค่ค่อยๆปล่อยจิ๊กซอว์ทีละชิ้นของรายละเอียดภายในออกมา อืมตรงจริงๆ

712 Nameless Fanboi Posted ID:+cQAmmh2Hk

>>711 อ้อ ขอต่ออีกนิดนะ
กูขอโทษที่ถามไม่ตรงคำตอบมึง ทั้งๆที่คุยเรื่องการเล่าแบบหลอกคนอ่านอยู่แต่ตอบมาแบบนี้กูคงต้องถามว่า
"คุณชอบการเล่าเรื่องแบบไหนหรอครับ"
ถึงจะถูกสินะ

713 Nameless Fanboi Posted ID:.KK.OKC.dP

ว่างๆ ไม่มีไรทำก็ตบกันเองอีกแล้ว โม่งนี่มันโม่งจริงๆ

714 Nameless Fanboi Posted ID:E1EkLkN4cR

https://www.dek-d.com/board/view/3966874/
ช่วยออกความเห็นที่เป็นกลางหน่อยสิเพื่อนโม่ง กูก็แต่งนิยายชายหญิงและวายนะ แต่เจอทู้นี้กูรู้สึกคนโพสมันเอาแต่ใจแบบไม่ลงทุนแปลกๆ ขอบคุณ

715 Nameless Fanboi Posted ID:M.lTSnoSyC

>>714 เรื่องมากเอง เซิร์จเจอก็อย่าอ่านดิ ไม่มีใครเอาปืนจ่อหัวบังคับให้อ่าน

716 Nameless Fanboi Posted ID:.86yHTt1Ev

>>714 มี 2 ประเด็น
1. ระบบ Search ของเด็กดวกห่วยแตกตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว แถมนักเขียนเองก็ Tag มั่วหวังเรียกคนอีก
2. กระทู้ล่อตีน จงใจปั่นให้คนออกมาด่า เนื้อหาแบบนี้มันเหมือนเหยียดเพศ แต่มาใช้ "ยังจิโผล่มาอีก"

หรือไม่ก็พีคสุด เป็นเด็กโปกที่ไม่รู้จักกาลเทศะจริงๆ

717 Nameless Fanboi Posted ID:7srZj20ych

>>716 ใช่ๆ ใช้ tag เอาเท่จนทำให้คนอ่านหา tag ไม่เจอ

718 Nameless Fanboi Posted ID:+e56jyNb+.

>>712 ฉลาด ไม่ดูถูกคนอ่านและตรงไปตรงมา

719 Nameless Fanboi Posted ID:.86yHTt1Ev

ตอนแรกก็คิดจะเข้าไปเตือนนะ แต่เห็นตัวอย่างไอ้ "วาทะทมิฬ" คนไกล่เกลี่ยตอนที่กระทู้​มีนโดนแซะว่าไม่ชอบให้วิจารณ์แค่ 5 ตอนแล้วรู้สึกว่ากูไม่ยุ่งดีกว่า ปล่อยให้แม่งผลาดไปโดนตีนในชีวิตจริงบ้างก็ดี

720 Nameless Fanboi Posted ID:titKgCkvOW

>>719 คนไหนวะกุไม่ได้ตามข่าว มี link อ้างอิงปะ

721 Nameless Fanboi Posted ID:Wp+lAmg+Uk

>>720 https://www.dek-d.com/board/view/3960895/1/?comment=3_6
ไอ้ Charlotte russe มันเหมือนมาช่วยไกล่เกลี่ย ทั้งที่จริงปล่อยให้คุยกันเองแป๊ปเดียวมันก็จบ แม่งยิ่งช่วยยิ่งชิบหาย

722 Nameless Fanboi Posted ID:titKgCkvOW

>>721 ก็คิดว่าใคร น้องชาคู่ขานี่เอง

723 Nameless Fanboi Posted ID:VGDr0YN4Dc

>>721 มันไม่ยอม อยากช่วยเพื่อนให้ได้ แต่เจือกพิมพ์เยอะแยะมะได้ใจความสำคัญอัลไรเลย สุดท้ายยาว

724 Nameless Fanboi Posted ID:Wp+lAmg+Uk

แม่ย้อย...พูดถึงโจโฉ โจโฉก็ตั้งกระทู้ (ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่โม่งกำลังพูดถึง)
https://www.dek-d.com/board/view/3966930/
ใครก็ได้อธิบายกูที ไอ้คำว่า "รีอัปนิยาย" นี่คือยังไง?

725 Nameless Fanboi Posted ID:VGDr0YN4Dc

>>724 อัพจบแล้ว แต่เอามาอัพใหม่หมดอีกรอบ

726 Nameless Fanboi Posted ID:Wp+lAmg+Uk

>>725 คือลงนิยายจนถึงตอนจบแล้ว แต่ลบเนื้อหาแล้วเริ่มลงใหม่ งี้อะเหรอ?

727 Nameless Fanboi Posted ID:7srZj20ych

>>725 แบบ 50 สีเทาเหรอ

728 Nameless Fanboi Posted ID:+65CqP5eQF

>>725 >>726 กูว่าแบบนี้เข้าข่ายอัพหลอกย่อมๆ อะ อาจจะไม่ผิดกฏแต่ดูน่าเกลียดดี

729 Nameless Fanboi Posted ID:Wp+lAmg+Uk

นอกเรื่องนิด กูขำ https://imgur.com/a/ek8k0Xt ได้เวลาทดสอบทักษะภาษาไทยแล้วอีชิบหาย ใคร ค่ะ-คะ ว่ะ-วะ มั่วมึงโดนต้มแน่นวล

730 Nameless Fanboi Posted ID:+65CqP5eQF

>>729 แม่ง ทำไปได้ตั้ง 44 เว็บ กูมั่นใจว่าตัวเองไม่โดน แต่ป้าๆ ลุงๆ ในออฟฟิศนี่แม่ง ใช้ผิดๆ ถูกๆ ตลอด มี 2 อันที่กูรับไม่ได้เด็ดขาดคือ

- ใช่มั้ยค่ะ
- ทำตามกฏระเบียบอย่างเคร่งครัช

เห็นทีไรมันอยากขมับคนแก่สักที สัสเอ๊ย

731 Nameless Fanboi Posted ID:7srZj20ych

>>729 หมดเงินไปกี่บาทกับการสร้างโดเมนทั้งหมด

732 Nameless Fanboi Posted ID:N2+fPn9gm+

โม่งแม่งคุยกันได้ทุกเรื่องจริงๆ ยกเว้นสาระ

733 Nameless Fanboi Posted ID:GFkuSuLaOu

>>732 มึงพูดถึงเด็กดวกทำไม

734 Nameless Fanboi Posted ID:N2+fPn9gm+

>>733 อ้าว ไอ้นี่ รู้ทัน สมเป็นโม่งว่ะ

735 Nameless Fanboi Posted ID:hEUzZQO4Y2

Won't you let me walk you home from school?
Won't you let me meet you at the pool?
Maybe Friday I can
Get tickets for the dance
And I'll take you, ooh ooh ooh

Won't you tell your dad, "get off my back"
Tell him what we said 'bout "Paint It Black"
Rock 'n Roll is here to stay
Come inside where it's okay
And I'll shake you, ooh ooh ooh

Won't you tell me what you're thinking of?
Would you be an outlaw for my love?
If it's so, well, let me know
If it's no, well, I can go
I won't make you, ooh ooh ooh

736 Nameless Fanboi Posted ID:xTiCkXJvin

>>732 "ต้องขออภัยที่สาระของข้าน้อยมันต่ำต้อยด้อยค่าเสียจนทำให้สายตาอันวิเศษวิโสของท่านมองมันเป็นเรื่องไร้แก่นสาร ได้โปรดเห็นใจและอภัยให้กับความโปกของข้าน้อยด้วยเถิด"

737 Nameless Fanboi Posted ID:5dhTLDPusi

>>736 ท่านโม่งโปกผู้สูงศักดิ์ ข้ามิบังอาจ ท่านกล่าวเกินไปแล้ว อาแมว

738 Nameless Fanboi Posted ID:ogJK3rFTyg

"เรามาสร้างสังคมที่ดีจะดีกว่าครับ" by คนงอแง2020
https://www.dek-d.com/board/view/3967020/

739 Nameless Fanboi Posted ID:rKRPIySHxl

>>738 มีการลบความคิดเห็น คือ ยังไงวะ กูไม่ทัน อ่านแล้วแบบ กระทู้มึงเรียกคนได้ดีกว่านิยายอีก!

740 Nameless Fanboi Posted ID:Z2zcvGjhSJ

>>739 กูสปอยให้ ที่มันลบๆไปจะมีเนื้อหาประมานคอมเม้น 6-1 (กูว่าแม่งลืมลบอันนี้)​ แต่เพิ่มประเด็นว่า ถ้าผมไม่ตั้งกระทู้ถามแล้วจะรู้ปะว่านิยายเป็นยังไง เป็นนักเขียนก็ต้องช่วยๆกันสิถึงจะดี

คือไม่ได้มีใครว่าที่มันมาตั้งกระทู้เลย แต่แม่งร้อนตัวถามประชดเขาไปทั่ว

741 Nameless Fanboi Posted ID:hOmoJcpo3n

>>738 เถียงยิ่งกว่าน้ำเต็มแก้วอีกสัส คือเขาก็บอกดีๆ นี่เล่นเถียงแล้วไม่ทำความเข้าใจห่าอะไรเลย เป็นหน้าใหม่นิยายมีไม่กี่ตอนจะถามหานั่นนี่มึงฝันค่ะ คนอื่นเขียนเป็นร้อยตอน หน้าเก่าๆ คนอ่านน้อยเขายังไม่งอแงเท่านี้เลย แล้วก็ไล่ลบคอมเม้นต์ไปสนุกสนานพ่องตายจริงๆ อากาศร้อนทำกูบ้า โทษๆ

742 Nameless Fanboi Posted ID:erPfT.2iNX

>>738 งอแงน่าเกลียดมาก เป็นน้องเป็นนุ่งกูจะเขกกบาลเสียให้หลาบจำ

743 Nameless Fanboi Posted ID:5dhTLDPusi

เชื่อมั้ย เดี๋ยวแม่งก็หายไปจากวงการนักเขียน ความอดทนไม่มีเลย

744 Nameless Fanboi Posted ID:hOmoJcpo3n

>>743 เชื่อ แต่มันก็ทำได้สำเร็จนะ มีคนเข้าไปในนิยายมันเพิ่ม กูเป็นหนึ่งในนั้นที่กดเข้าไปว่าเรื่องแนวไหน มีคนไปคอมเม้นต์ และซึ่งแน่นอนเขียนไม่จบ เดี๋ยวหายไปอย่างที่มึงว่าแหละ ช่วงปิดเทอม ช่วงกักตัวโควิด ถ้าแม่งเขียนได้จบจริงแม้จะเผาก็เถอะ แล้วมาตั้งกระทู้อีกรอบกูจะไปอ่านพร้อมโฆษณาให้ถือว่ามันทำอย่างที่พูดได้ เพราะตัวกูยังทำไม่ได้เลยตอนนี้

745 Nameless Fanboi Posted ID:ogJK3rFTyg

กูสงสัยอย่างนึง คำว่า "บอบเบา" ที่ Whatcha say มันทักท้วงว่า "เอ๋...คำศัพท์นี้ใช้กับสิ่งของนะ ไม่ใช่พวกอารมณ์ความรู้สึก ตย. เธอจะเอาสมบัติส่วนตัวของเธอที่เป็นของบอบเบาไปให้คนอื่นดูได้ยังไง" คำนี้มีอยู่จริงเหรอวะ!? กูงง หรือกูอยู่หลังเขาไม่ทันศัพท์วัยรุ่น หรือแม่งมั่วขึ้นมาเอง สับสนชิบหาย ใครก็ได้ตอบกูที

746 Nameless Fanboi Posted ID:5dhTLDPusi

>>744 กูก็เข้าไปนะ แต่ขี้เกียจอ่านว่ะ ตอนน้อยฉิบหาย และการที่มันเถียงคนอื่นไปทั่วแบบนั้นไม่สร้างความประทับใจให้กูเลย แย่ยิ่งกว่านิยายตลาดที่กูดูถูกเอาไว้อีก กูเอาเวลาไปอ่านโดจินดีกว่า eieieiei

747 Nameless Fanboi Posted ID:JMurUb+jBl

>>745 > บอบเบาไม่มีอยู่จริง คิดว่าแม่งจะใช้บอบบางมากกว่าแต่พิมพ์ผิด แต่สำหรับกูคือถ้าเป็นนิยายแบบผู้ใหญ่ ใช้คำสวยๆ สรรคำเก่ง จะอนุโลมถือว่าเป็นการสร้างคำใหม่ที่ยอมรับได้ ความหมายเหมือนแบบบาง อ้อนแอ้น แต่ whatcha say คือรู้ไม่จริงแล้วสะเออะไปสอนคนอื่น

748 Nameless Fanboi Posted ID:j5rI7H+Xfe

>>747 ความน่าเชื่อถือของอีนี่หมดไปกับกระทู้คราวก่อนแล้ว กากแต่อยากดังของจริงเลย

749 Nameless Fanboi Posted ID:JMurUb+jBl

>>748 เห็นด้วยกับมึงสุด กูรำคาญพวกรู้ไม่จริงแล้วเสือกมาชี้หน้าสั่งสอนคนอื่น ก่อนสอนชาวบ้านต้องเช็คความรู้ตัวเองด้วยว่ารู้ดีแค่ไหน ไม่งั้นก็จะเป็นแบบอีนี่นี่แหละ

750 Nameless Fanboi Posted ID:VYvs9mw2Xn

Ky มีใครอยากสับนิยายมั้ย http://writer.dek-d.com/MohPhat/writer/view.php?id=1895841

751 Nameless Fanboi Posted ID:.LS5z9Vv0E

>>750 ขอดีๆ

752 Nameless Fanboi Posted ID:VYvs9mw2Xn

>>751 ไม่ใช่ของกู ถ้าไม่มีคนสับไว้กูสับเอง

753 Nameless Fanboi Posted ID:TQFXR.Cq8l

>>752 เชิญพี่ม้าสับเลยจ้า มาทรงนี้นิยายต้องเริ่ดแน่นวล

754 Nameless Fanboi Posted ID:5dhTLDPusi

กูให้100คะแนนเต็ม อะ พอใจยัง

755 Nameless Fanboi Posted ID:ogJK3rFTyg

>>750
>>752
ไม่ว่าม้าไม่ม้า มึงก็น่าจะรู้นะว่ามาถามโม่งแบบนี้ยังไงก็เละ

756 Nameless Fanboi Posted ID:VYvs9mw2Xn

อะไรกันวะ? งงเลย กูเอามาแปะถามเฉยๆ แล้วเป็นอะไรของพวกมึง ไม่มีดราม่าแล้วจะมาไล่ตบกันเองทำซากไร น่าตลกตรงที่ของกูก็ไม่ใช่ด้วย เฮอะๆ //เออ กองไว้นั่นแหละ

757 Nameless Fanboi Posted ID:VYvs9mw2Xn

>>755 เออๆ เอาตามนั้นแหละ

758 Nameless Fanboi Posted ID:5dhTLDPusi

สรุปง่ายๆเลย โม่งเป็นแหล่งนินทาว่าร้าย และเผยด้านชั่วร้ายของแต่ละคน โดยมีหมวดนิยายในเด็กดวกเป็นข้ออ้างเพื่อกระทำการอันเสื่อมทราม ดังนั้นมึงพลาดแล้วล่ะ ที่เอานิยายมาแปะ เพราะโม่งอย่างพวกเราเน้นติฉินนินทา ONLY!!

759 Nameless Fanboi Posted ID:WK1hJ/LLhu

>>756 ตลก มึงเอามาแปะเองชงเอง กำลังจะแดรกเองแต่โดนคนแหกก่อนทำเป็นงง ขำสัสๆ

760 Nameless Fanboi Posted ID:VYvs9mw2Xn

อ่ะ ลองอ่านดูคร่าวๆ แล้ว คนเขียนมันบอกความรู้แพทย์เอาไปใช้จริงไม่ได้(เอ้า) ความรู้สึกอ่านตอนแรก เหมือนโดนตะโกนใส่หน้าอะ มีเอฟฟง เอฟเฟคเหี้ยไรเยอะแยะไปหมด เลื่อนแล้วกูก็กดปิดเลย สัสเอ๊ย ไม่น่า
คำผิดยังไม่เห็นเยอะแต่มีตกหล่น อะๆ ก็ยังดีกว่าไอ้หลายๆเรื่องที่สับกันไปในนี้ล่ะวะ เห็นของคนอื่นสับแล้วกูยังปวดหัวแทนเลอ
(เชี่ย ตอนแรกกูเห็นมู้ไม่มีอัพเดทสับไรเพิ่มเลย เลยไปคุ้ยๆมาจากกอง สรุปกูกลายเป็นม้าเพราะขี้เกียจไปส่องก่อนซะงั้น OMG ไอซ์SOSAD ตอนแรกเซง เบื่อ ลองเอามาโยนๆถามดูเพราะขี้เกียจ ยังไม่มีกะใจจะสับ กะเผื่อมีใครยังอยู่สับหนีรอดโควิดบ้างไง ,ตอนนี้เอาไว้ก่อนละกัน บรัย,,)
กูก็งงๆกับพวกมึงนะ เจอแบบนี้คงหายยาว บอกตรงๆแบบ น่าเบื่ออะ เบื่อกับมุกใครม้า ฮุวว มึงจะยัดเยียดให้มันเป็นของกู ให้กูเป็นม้าต่อจากนี้ก็เอาตามพรี่ๆโม่งจะให้เป็นเลยคร่ะ แต่กูยังมะสับตอนนี้ พูดวกวนขอภัย ซึมๆมึนๆ

761 Nameless Fanboi Posted ID:ogJK3rFTyg

ตัวละครแพทย์ที่ไม่ใช้ความรู้แพทย์ ขอแค่ได้ใบปริญญาความรู้ความสามารถช่างหัวแม่ง...โลกนี้มันเป็นอะไรกันไปหมดแล้ว

762 Nameless Fanboi Posted ID:2NE9mhG6UP

>>760 ทำใจ ไอ้พวกแปะป้ายม้าแม่งมีเยอะ ไอ้พวกเอานิยายตัวเองมาขอสับแบบซึนๆ ก็มีเยอะเช่นกัน

BTW เห็นชื่อคนเขียนแล้วนึกว่าเป็นหมอจริงๆ เพราะใช้ชื่อว่าหมอพัท แต่ความรู้การแพทย์ในเรื่องไม่สามารถใช้ได้จริง อิหยังวะ เพลงใหม่ Getsunova อีกแล้วเหรอ หมอที่รักษาจริงไม่ได้ กูละปวดใจ ทำไมเด็กดีแม่งชอบความย้อนแย้งแบบนี้เหลือเกิน

763 Nameless Fanboi Posted ID:ogJK3rFTyg

ยังไงกูก็ขอเตือนไว้หน่อย มันมีเด็กดวกอยากเล่นบทมือปั่นปราบมาร(ทำลายแหล่งซ่องสุมคนหยาบคาย = กูคือฮีโร่แห่งคุณธรรม) กับไอ้โม่งเพลงที่เนียนลงมาด่าคนอื่นไปเรื่อยอยู่ด้วย พวกมึงก็แยกแยะกันเอาเองแล้วกัน

764 Nameless Fanboi Posted ID:7Cwa+lTmgU

>>763 มีอะไรต้องระวังวะ กูอยากรู้ โม่งปกติแม่งก็รวมตัวพวกแปลกประหลาดอยู่แล้ว กับต่อยปากกันเองเป็นประจำ

765 Nameless Fanboi Posted ID:r8MH9WTWv6

大義名分に痺れ切らした
苦渋の闇と業の渦の中
始まりに孤独は付き物さ
四面楚歌でも壁をぶち破れ
期待外れ 風向きかき回せ
加速してゆくマグマの鼓動
確かめて 進め
ニヤついた 死神の呼ぶ声がする
Do you believe yourself?
僕は始まった 栄光のゴールを見たいのさ
Shiny sword my diamond
悲しみと願いの結晶体に
僕ら使命を誓う それぞれの光を目指していく
何度だって立ち上がって 僕は今日まで来たんだ
It's time 一個の祈りが 革命の確証
さぁ 輝け
汗と涙 mistake 蜜の味
ハイエナの唾液まみれヘドロの道
硝子細工巧みに施した
100カラット煌めきに (faker!!)
ときめくほど眩しい奇跡を
世界が待ってる
Shiny sword my diamond
純粋と希望の結晶体に
Oh shine all my tears 強さの光を秘めてる
紛いもんと争う時間はボクにはないさ
渾身の鉱石磨いた
屈強の勲章燃え尽きるまで
No way to burn it just fight on through (to prove my way)
Don't break it now (no) don't break it (don't make me break)
Waiting for the other side i'm up against (miss you)
守りたいもの守り抜くだけ
No way to burn just fight on through (to prove my way)
Somehow I keep on coming keep on coming back (victory)
僕たちの core 掲げて shiny sword my diamond
Shiny sword my diamond
悲しみと願いの結晶体に
僕ら使命を誓う それぞれの光を目指してく
何度だって立ち上がって 僕ら明日を行くんだ
It's time 一個の祈りが 革命の確証
さぁ 輝け
今を輝け
It's time
It's time, Adamas

766 Nameless Fanboi Posted ID:.LS5z9Vv0E

You alright
I'm alright
I'm quite alright
And my money's right, yeah

Countin' them bands all way to the top 'til they be fallin' over
Countin' them bands on my way to the top 'til we fallin' over

I don't really care if you cry
On the real you should've never lied
Should've saw the way she looked me in my eyes
She said baby I am not afraid to, die
Push me to the edge
All my friends are dead
Push me to the edge
All my friends are dead
Push me to the edge
All my friends are dead
Push me to the edge

Phantom that's all red
Inside all white
Like something you ride a sled down
I just want that head
My Brittany got mad
I'm really her man now
Everybody got the same swag now
One way that I trap now
Stackin' my bands all the way to the top
All the way 'til my bands fallin' over
Every time that you leave your spot
Your girlfriend call me like "Come on over"
I like the way that she treat me
Gon' leave you won't leave me, I call it that Casanova
She said I'm insane yeah
I might blow my brain out
Xanny numb the pain yeah
Please, Xanny make it go away
I'm committed, not addicted but it keep controlling me
All that pain now I can't feel it, I swear that it's slowing me (yeah)

I don't really care if you cry
On the real, you should've never lied
Saw the way she looked me in my eyes
She said I am not afraid to, die
All my friends are dead
Push me to the edge
All my friends are dead
Push me to the edge
All my friends are dead (yeah)
All my friends are dead (yeah)

That is not your swag I swear you faking
All these niggas wanna take my cake now
Radar, at the store, radar
Made somethin', look nigga take some
Fast car, Nascar, race on
In the club they got no ones, that we were baked now
Clothes from overseas, got the racks and they all C-Notes, you is not a G though
Look at you stackin' all your money, it ain't green though
I was counting that and it's not 20, that's a zero

She say
You're the worst, you're the worst
I cannot die because this my universe

I don't really care if you cry
On the real, you should've never lied
Should've saw the way she looked me in my eyes
She said baby I am not afraid to, die
Push me to the edge
All my friends are dead
Push me to the edge
All my friends are dead
Push me to the edge
All my friends are dead
Push me to the edge

767 Nameless Fanboi Posted ID:ZvliWNcE9M

พูดถึงโม่งเพลง มึงแปะลิงค์เพลงให้ด้วยเลยสิเว้ยยย กูอ่านเนื้อแต่ไม่รู้ทำนองอิสัส!! นี่คือความในใจของกูเอง จะป่วนทั้งทีหัดป่วนให้มีประโยชน์นิดนึง บางทีกูก็ไม่รู้ชื่อเพลงหรือโง่หาชื่อเพลงไม่เจอแล้วอยากฟังน่ะ ขอบใจถ้าพิจารณา

768 Nameless Fanboi Posted ID:9DGbLDoO3Q

ที่หลังเมิงอยากอ่านสับงานไหน เมิงอ้างตัวเลยว่าเป็นเจ้าของเรื่อง
เมิงโกหกคนเดียวแต่โลกสงบสุข
วันรุ่งขึ้นก็ไม่มีโม่งคนไหนจำแล้ว

769 Nameless Fanboi Posted ID:r8MH9WTWv6

>>767

https://www.youtube.com/watch?v=OTXQYwlVZOY

770 Nameless Fanboi Posted ID:ZvliWNcE9M

>>768 เป็นความคิดที่ดี เหมือนไม่สบอารมณ์กับนิยายเรื่องไหนก็มาแปะไว้ แล้วบอกของกูช่วยสับหน่อย ประเด็นหากเจ้าของเรื่องตัวจริงดันอยู่ในโม่งด้วยนี่สนุกเลย
>>769 ขอบใจ

771 Nameless Fanboi Posted ID:.LS5z9Vv0E

>>767 https://youtu.be/Wwub3-g-qGE

772 Nameless Fanboi Posted ID:8UFTDzi6GA

ตกลงโม่งเพลงแม่งงอกเป็นสองคน
สัด

773 Nameless Fanboi Posted ID:aaMs1+SfJ.

https://www.dek-d.com/board/view/3967004/1/?comment=13
สงสาร พยายามเท่าไหร่ก็ไม่มีใครเล่นด้วย วอแว

774 Nameless Fanboi Posted ID:GBqx9dL3j1

https://www.dek-d.com/board/view/3967099/

โม่งนอนกันยังวะ กูรูศิลปะมาอีกแล้ว

775 Nameless Fanboi Posted ID:089PJ6ZXpH

>>774 ปล่อยเขาไปเหอะมึง อย่างน้อยเขาก็คิดว่าเขามีความรู้และเก่งมากกกกกกก

776 Nameless Fanboi Posted ID:MDzLNWz.+3

>>773 กูเห็นมานานละ กิลด์มันไปทำอะไรไอ้ F วะมันถึงได้ตามจองล้างจองผลานขนาดนี้

777 Nameless Fanboi Posted ID:8UFTDzi6GA

>>773 ด่าเข้าตัวเองหมด แม่งคงไม่รู้ตัว
ต่อไปคงต้องเขี่ยจู๋ตัวเองเพราะไม่มีคนเล่นด้วย

778 Nameless Fanboi Posted ID:MDzLNWz.+3

>>774 กูว่าที่มิรันแนะนำมันก็โอเคอยู่นะ หน้าปกที่มันเอามาถามนี่แม่งจัดได้ไม่ต่างอะไรกับหน้าปกรายงานสมัยประธม กูไม่รู้ทฤษฎีสีที่มิรันพูดมาเลยสักอย่าง แต่ก็เห็นด้วยกับคำแนะนำเพราะหน้าปกแม่งชืดสนิท กูดูแล้วกูไม่รู้จะมองตรงไหนแม่งมาโทนเดียวกันหมด กราฟฟิกเหมือนจะวัยรุ่น แต่ก็ไม่ใช่วัยรุ่น ดูจืดชื่ดสัสๆ

779 Nameless Fanboi Posted ID:MDzLNWz.+3

กระทู้ไอ้โอ๊ตม้างอแงขึ้นอันดับ 1 ละ ยอดวิว 780+ และยังไม่มีแววจะหยุดทำตัวโปก https://www.dek-d.com/board/view/3967020/1/?comment=9-12 มันจะกลายเป็นเล่าโปกหมายเลข 2 เปล่าวะ โด่งดังในทางชิบหาย เสียดาย ถ้าไอ้ F แวะมากระทู้นี้คงจะสนุกแน่นอน คนหนึ่งโทรลเลี่ยงคำกันโดนแบน อีกคนหนึ่งใครไม่สร้างประโยชน์ให้กูเท่ากับไม่ช่วยพัฒนาสังคม อุอิอุอิ

780 Nameless Fanboi Posted ID:z0rCg+/iMg

>>779 บอกอะไรให้ ไอ้ F มันไม่มีทางกัดกับไอ้โอ๊ตหรอก เพราะการกระทำของไอ้โอ๊ตสะท้อนตัวตยแบะเบื้องลึกของมันเหมือนกัน

781 Nameless Fanboi Posted ID:z0rCg+/iMg

>>780 เชี่ย หัวหน้าเดินผ่านโต๊ะกู ลืมตรวจทานก่อนกดส่งเลยห่าราก พิมพ์ผิดเยอะเลย

782 Nameless Fanboi Posted ID:M7Hm+Kpkxx

>>781 เป็นคุณนี่เองที่เล่นโม่งในเวลางาน ผมว่าแล้วว่าทำไมหน้าเว็บมันคุ้นๆ เย็นนี้ก่อนเลิกงาน มาพบผมที่ห้องทำงานด้วยนะครับ

783 Nameless Fanboi Posted ID:z0rCg+/iMg

>>782 อย่าไล่ผมออกนะหัวหน้า ค่ามือถือ ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถมือสองยังไม่หมดเลย ฮือๆๆๆๆ

784 Nameless Fanboi Posted ID:M7Hm+Kpkxx

>>783 ไม่ต้องกังวลไป ผมไม่ไล่คุณออก แต่มีข้อแม้ว่าคุณจะต้องทำตามที่ผมบอก อย่าลืมว่าต้องมาพบผมหลังเลิกงาน โทรบอกที่บ้านด้วยว่าวันนี้ต้องกลับดึก เพราะผมอาจต้องพาคุณไป "คุย" ต่อที่อื่น

785 Nameless Fanboi Posted ID:ZyCctsmx98

>>783 >>784 ไปๆ มาๆ ทำไมกลิ่นโดจินยาโอยมันแรงขึ้นเรื่อยๆ วะ

หัวหน้าจะพามันไปแบบในเพลงนี้ใช่มั้ย
https://youtube.com/watch?v=-XNFokmDKrE

786 Nameless Fanboi Posted ID:.H7l1gq6qT

ถ้าจะกาวต่อ เชิญห้องนิยายเพื่อโม่งได้ที่ลิ้งก์นี้นะสึด https://fanboi.ch/webnovel/2726/recent/

787 Nameless Fanboi Posted ID:yBK7FDVLGr

มึงเหงาจนเล่นโรลเพลย์ในนี้กันแล้วเหรอโม่ง
แม่งช่วงนี้เงียบจริง ไม่ได้ลงโม่งตั้ง 4 วันเพิ่งมาเห็นความคึกคักดราม่าครั้งใหม่จากเด็กดวก ขอตามไปจอยแปบ

>>779 อย่ามาแย่งอุอิอุอิของกู!😬

788 Nameless Fanboi Posted ID:5AHLrflBfG

The other day, my nigga went to work
He said he picked up a box that was heavy and it really hurt (ow, this hurts)
So he went to the bathroom to look for an answer
And took a look at his hip and thought he saw a lump of cancer (this looks like cancer)
So he did what a nigga does
Called his nigga up
He was like, "nigga"
I was like, "nigga"
We was like, "niggaaa"
Swag
He said, "i think I caught cancer from lifting this box"
I was like, "that's heavy
Well, anyway, can I holla at your girlfriend
The one with the big booty that shakes like it's got shocks?"
He was like, "what?"
I said, "I'm just playin', not really
But I think you got a hernia"
He said, "oh, no, I got me a hernia"
I said, "i know this doctor that look like sigourney weaver"
He said, "i ain't got no money for a doctor"
So we went to a party
Then my nigga died

I, really miss my nigga
I, really miss my nigga
White people you can sing it too, just change that "n" to a "w"
Miss my wigga
Just say I really miss my wigga
Back to the song

Was at the hospital bed
Said, "nigga, are you dead?"
My nigga said, "yeah"
And I said, no, no, no, no, no, no!
Why'd you have to go go go go go go?"
Reached out to his ghost in slo-mo mo
Pulled a trigga for my nigga then it burst in the air
Nurse said, "you can't do that here"
I said, "bitch, I don't care"
She said, "you don't care?
Well, this part's important
Help me lift this nigga up and put him in the dead nigga storage"
I said, "dead nigga storage?
You jokin'"
She said, "I'm jokin'
It was just a joke"
I said, "I'ma shoot you in the face, call it a joke"
She said, "the best way to cheer up is to laugh"
I said, "bitch, I'll cheer up after this bloodbath
I want the whole world to know what it's like to lose a nigga"

I lost my nigga to a hernia
I lost my nigga to a hernia

I really miss my nigga
I really miss my nigga
White people white people!
I really miss my wigga
This song is about equality
I really miss my nigga
Let's sing it together
I really miss my nigga
But white people if a black person's next to you and they look real pissed you better stop it
I really miss my nigga
I ain't responsible for your well being
I really miss my nigga
I really miss my wigga
I miss my nigga
I miss my nigga
I miss my nigga
I miss my nigga
I miss my nigga
I miss my nigga
I miss my nigga
(No homo)
I miss my nigga
I miss my nigga

789 Nameless Fanboi Posted ID:Y3uPfK+40l

>>779 หมั่นหน้าโอ๊ตเย็ดม้าชิบหาย กูเบื่อคนแบบนี้เหลือเกิน นี่คือมาขอความร่วมมือหรือมาประชดแดกดันให้คนทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการอ่ะ

790 Nameless Fanboi Posted ID:z0rCg+/iMg

>>789 กูว่ามันพาลอะ และนิสัยคงเอาตัวเองเป็นที่ตั้งด้วย พอแต่งนิยายแล้วไม่มีคนอ่านเยอะอย่างที่หวังเอาไว้ แม่งก็ฟาดงวงฟาดงา

791 Nameless Fanboi Posted ID:y4i0HMIykf

พวกอีโก้สูงเป็นงี้แหละ มักจะไม่เห็นค่าของคนอื่น ไม่ต่างจากพระเอกเทพซ่านิยายจีนหรือเกาหลี

792 Nameless Fanboi Posted ID:4EsIWyWeU1

>>791 มันแค่เป็นเด็กเฉยๆ

793 Nameless Fanboi Posted ID:ZyCctsmx98

>>791 เกรียนหัวโปกปิดเทอมสไตล์กูคือศูนย์กลางแห่งจักรวาล

794 Nameless Fanboi Posted ID:.H7l1gq6qT

ตอนแรกกูก็เริ่มสงสัยนะว่าแม่งจงใจหัวร้อนเรียกยอดวิวหรือเปล่า แต่พอเข้าไปดูนิยายแล้วกูสงสารแทน ไอ้แม่เย็บ คนเข้ากระทู้มาดูความโปกของมึงร่วมพัน ยอดวิวนิยายเพิ่มมาแค่ 130 กับผู้ติดตามเพิ่มอีก "1" คน

>>787 เอาเลขที่บัญชีมาอีห่า กูอุตส่าห์เลี่ยงไปใช้ภาษาไทยแล้วยังโดนลิขสิทธิอีก อุิอุิ

795 Nameless Fanboi Posted ID:.H7l1gq6qT

ให้กูเดานะ เดี๋ยวพอมันเอานิยายไปแก้เสร็จ แม่งจะกลับมาตั้งกระทู้ถามอีกรอบแน่นอน

796 Nameless Fanboi Posted ID:4EsIWyWeU1

เพิ่มเติมอีกนิดนะ ลองเข้าไปอ่านนิยายของน้องโอ๊ตคนนั้นแล้วเห็นมี คห. นึง (คห.3) มาแนะนำนั่นนี่ กูก็เลยลองกดไปอ่านนิยายแม่ง ดูตลกๆ ดีว่ะ 555

ลองอ่านนี่ดู https://my.dek-d.com/patpoom/writer/viewlongc.php?id=2064783&chapter=1 จะมีใครสับไหม

797 Nameless Fanboi Posted ID:RMfqnA3chy

>>796 อห! แค่อ่านข้อมูลเบื้องต้นกูก็สัมผัสได้ถึงอุดมการณ์ปลากระป๋องแล้ว มีเตือนคนซึมเศร้าห้ามอ่าน เรียกแทนตัวเองว่าพี่ มีการสอนให้ทุกคนเป็นนักเขียนที่ดีทุกท้ายตอน

798 Nameless Fanboi Posted ID:4EsIWyWeU1

>>797 กูชอบมาก 555 ชอบที่ไอ้คุยกับนักเขียนท้ายตอนแม่งยาวกว่าเนื้อหาในแต่ละตอนอีก

799 Nameless Fanboi Posted ID:Y6I3CSZCum

มู้ปลิวไปแล้วเว้ย
ปลิดปลิว เคว้งคว้าง ชีวิตโอ๊ตดั่งใบไม้ที่หลุดลอยยยยยย

800 Nameless Fanboi Posted ID:RMfqnA3chy

>>799 กูว่าแม่งหายจิตงุดเงี้ยวแล้วเลยเพิ่งได้สติ https://www.dek-d.com/board/view/3967020/ ถ้าแม่งลบเองจริงๆกูถือว่าแม่งฉลาด แถยับมาขนาดนี้แล้วขอโทษยังไงก็ฟังไม่ขึ้น

801 Nameless Fanboi Posted ID:8UFTDzi6GA

>>796 นิยายมันไม่ไหว มั่นหน้าแต่เล่าเรื่อง5อะไรก็ไม่รู้
แถมร้อนแบบนี้ก็จะอ่านนิยายเพื่อความบันเทิงยังไม่ไหวเลย

802 Nameless Fanboi Posted ID:Y3uPfK+40l

ยอมรับว่า ด้วยความหมั่นไส้ ตอนแรกกูว่าจะสับ

แต่พออ่านตอนแรกไปได้ครึ่งหนึ่ง กูวางเลย ทำใจอ่านต่อไม่ลง

จะเล่าคร่าวๆละกันว่าเป็นยังไง เปิดเรื่องมาคือฉากแม่มาปลุกพระเอก แค่ตัวละครสองตัวมันยังแพนกล้องโดดไปโดดมาให้คนอ่านมึนได้ ดูจากย่อหน้าแรกเลยละกัน

.............
ปังๆ “ตื่นได้แล้วลูกเดี๋ยวไปทำงานสายนะ” เสียงเคาะประตูของหญิงวัยกลางคน เขาสะดุ้งพรวดตื่นจากเตียง ด้วยความรู้สึกเวียนศีรษะเล็กน้อย....

(จากนั้น ตัวเอกลุกมาอาบน้ำ แต่งตัว)

...และรีบหยิบฉวยทั้งโทรศัพท์มือถือบุหรี่ใส่ไว้ในเป้ หลังจากเธอปลุกลูกชายแล้วมานั่งอยู่ที่เก้าอิ้(มันเขียนงี้จริงๆนะ)หน้าบ้าน เธอสวมเสื้อกล้ามหลวมๆ นุ่งผ้าถุง...

..........

อืม บรรยายได้โดดขนาดไหน ชาวโม่งจงตัดสินกันเองเถิด

นี่ยังไม่นับ ช่วงข้อมูลเบื้องต้นของนิยายมีการแนะนำตัวละคร ดังนี้

ตะวัน = อ่อนไหว บอบบาง มั่นคงในรัก
เมฆ = อ่อนไหว บอบบาง มั่นคงในรัก
ลดา = อ่อนแอ บอบบาง
หยก = ดูเหมือนจะอ่อนแอ แต่มั่นคงในรัก

จ่ะ ไอ้สัตว์ ถ้าจะแนะนำอย่างนี้ไม่ต้องแนะนำก็ได้นะ ทุกตัวละครแม่งยังกับปั้มมาจากโรงงานเดียวกัน QC เดียวกัน

แถมกูอดคิดไม่ได้ว่า ไอ้อ่อนแอ บอบบางนี่ สงสัยนักเขียนแม่งเอาคาแรกเตอร์ตัวเองใส่เข้าไปรึเปล่าวะ ก็ดูการตั้งกระทู้ดิ ใจบางยังกับทิชชู่เปียกน้ำเลยไอ้ห่า กูนี่คันไม้คันมืออยากโพสต์ด่าในนั้นชิบหาย แต่กลัวแม่งนั่งตีอกชกหัวร้องไห้ และกูเป็นคนใจดีขี้สงสาร ก็เลยไม่ทำดีกว่า แต่ถ้าจะให้อ่านต่อก็ไม่ไหวว่ะ ขอบาย

803 Nameless Fanboi Posted ID:G217qreCkZ

>>796 เขาคุยกับคนอ่าน แต่เขารู้มั้ยน่ะว่าเขาคุยไม่รู้เรื่อง หรือกูโง่เองที่คิดว่ามันพิมพ์วกไปวนมาเหมือนชมตัวเอง

804 Nameless Fanboi Posted ID:4EsIWyWeU1

>>803 อ่านแล้วตลกดี 555 มีการคิดเกม คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคุยกับนักอ่าน ทั้งๆ ที่แม่งไม่มีคนอ่าน โคตรน่าสงสาร

ที่ชอบอีกอย่างคือมีหลักเกณฑ์ในการเว้นบรรทัด ที่มันเว้นบรรทัดแปลกๆ นี่ไม่ได้บ้าหรือปุ่ม enter ค้างนะ แต่มันบอกว่าเว้นบรรทัดมากในฉากคิดกว้าง เว้นบรรทัดน้อยในฉากคิดเล็กคิดน้อยว่ะ 55

805 Nameless Fanboi Posted ID:ZyCctsmx98

>>804 เชี่ย... สไตล์ใหม่ล่าสุดปรากฏขึ้นแล้วเพื่อนโม่ง

806 Nameless Fanboi Posted ID:x2HMvZjSCz

กุอ่านไปแค่คุยกับนักอ่าน ระดับภาษาขึ้นๆ ลงๆ ยังกะรถไฟเหาะตีลังกา

807 Nameless Fanboi Posted ID:PL7uIz+b3e

โน่ววว กูมาไม่ทัน ไอ้โอ๊ตม้าพยศนํ้าขุ่นข้นเต็มแก้วบินไปแล้ววว มีความเคลื่อนไหวล่าสุดอะไรมั้ย?

808 Nameless Fanboi Posted ID:uNpyDybQG6

นี่คือกุอ่านนิยายหรือไรวะ? คำคมยังยาวกว่าที่ไอโอ๊ตแต่งอีก

809 Nameless Fanboi Posted ID:.H7l1gq6qT

>>807 ล่าสุดเท่าที่กูเห็นคือ
- หลังจากที่รุ่นพี่ 6 ดาว(ที่ยอดไลค์เยอะสุดในมู้)ทักท้วงเวิ้นเว้อว่าใจร้อนไปหน่อย เวิ้นเว้อก็ยอมรับและกล่าวขอโทษ
- โอ๊ตม้าเย็ดกลับมาด่าตอบโต้ หลังจากโดนรุ่นพี่ 6 ดาวด่าว่า "ใจกาก"

810 Nameless Fanboi Posted ID:xdtREpqGCM

>>796 เชิงกลคือเหี้ยอะไรวะ

811 Nameless Fanboi Posted ID:x2HMvZjSCz

เชิงกายภาพเหอะ

812 Nameless Fanboi Posted ID:.H7l1gq6qT

>>804 กูรู้แค่วิธีเล่นจังหวะแบบ lightnovel

ถ้าเล่าเรื่องปกติก็พิมพ์ติดๆกันเป็นย่อหน้าเดียวอย่าง
--------------------------------------------------------------
ผมรู้ว่ามันเป็นการตัดสินใจที่โง่มาก แต่ถ้าไม่ใช่ผมแล้วใครจะทำ
--------------------------------------------------------------

แต่ถ้าอยากขยี้ซีนอารมณ์ก็ให้ตัดคำเป็นท่อนๆ (จังหวะการอ่านจะช้าลง)
--------------------------------------------------------------
ผมรู้...
ว่านี่มันเป็นการตัดสินใจที่โง่มาก
แต่ถ้าไม่ใช่ผม
แล้วใครจะทำ?
--------------------------------------------------------------

แต่ไอ้เว้นบรรทัดเยอะๆในฉากคิดกว้าง เว้นน้อยๆในฉากคิดน้อยนี่...เทคนิคเชี่ยไรเนี้ย!?

813 Nameless Fanboi Posted ID:.H7l1gq6qT

กูพยายามอ่านหลายรอบละ ไม่เข้าใจคำว่า "คิดกว้าง" "คิดน้อย" ของมันว่ะ เพราะแม่งใช้เว้นบรรทัดปนกันไปหมด ตัดฉากแม้งก็เว้นเยอะ ตอนแสดงรายละเอียดในเอกสารก็เว้นเยอะ บางฉากที่เหมือนต้องการชลอจังหวะแม่งก็เว้นเยอะ คือไอ้เทคนิคเว้นบรรทัดที่กูเคยเจอ ถ้าจะทำ นิยายมันต้องไม่มีการเว้นบรรทัดแบบศูนย์เปล่า เพื่อให้เวลาเกิดการเว้นบรรทัดมันจะเด่นกว่าปกติมากๆ

-----
ผมรู้...
ว่านี่มันเป็นการตัดสินใจที่โง่มาก
แต่ถ้าไม่ใช่ผม
แล้วใครจะทำ?
.
ปัง!!
-----

แต่ default ของนิยายแม่งคือ
-----
ผมรู้...
.
ว่านี่มันเป็นการตัดสินใจที่โง่มาก
.
แต่ถ้าไม่ใช่ผม
.
แล้วใครจะทำ?
.
.
ปัง!!
-----

โถ กูนั่งแกะตั้งนานเผื่อว่าจะได้เทคนิคอะไรไปใช้ อห รมเสีย

814 Nameless Fanboi Posted ID:x2HMvZjSCz

ปัง
.
ปัง
.
.
ปัง
.
.
.
ปังปินาศ
อุอุ อิอิ อุอิอุอิ อุอิอิ

815 Nameless Fanboi Posted ID:8UFTDzi6GA

มีแต่จูนิเบียวเป็นเทพกวีมาจุติ
แต่ไม่เคยอ่านนิยายคนอื่น

816 Nameless Fanboi Posted ID:rfCFKi0bwi

>>814 กูชอบบบบบบบบ +++ล้านนิ้วโป้ง

817 Nameless Fanboi Posted ID:si5nCaWXwk

กูชอบคิดว่านิยายตัวเองไม่ค่อยมีคนอ่าน มีเรื่อยๆ ตอนละ 6-700 วิว เขียนได้ 4-5 ตอนก็เริ่มมีคนอ่าน เริ่มมีคนมาเป็นขาประจำคอยมาเม้นท์อยู่ 3-4 คนละ พอมาเจอมู้หมดกำลังใจรายวันนี่ทำเอาความคิดกูเปลี่ยนเลยไอ้ห่า ว่านิยายกูก็มีคนอ่านนี่หว่า ถึงจะเป็นนิยายเขียนเอามันก็เภอะ อีกใจกูก็สงสัยนะ ว่ามึงต้องกากขนาดไหนวะ เป็นสิบตอนไม่มีใครมาอ่านเลยเนี่ย

818 Nameless Fanboi Posted ID:Lf5i6yujiV

>>817 ประมาณ 2 ปีที่แล้วตอนกูเริ่มเขียนใหม่ๆ กูไปไล่ส่องนิยายคนอื่นก่อนเลยว่าปกติคนมันอ่านตอนแรกกี่คน เฟบกี่คน ตอนล่าสุดกี่คน เท่าที่กูเห็น...นิยายส่วนใหญ่ค่าเฉลี่ยแม่งอยู่ที่ประมาณ 10:100 คืออ่านตอนแรก 100 แล้วจะมียอดเฟบหรือคนที่อ่านไปยันตอนล่าสุดประมาณ 10 คน กูเลยมองว่าถ้าได้จำนวนคนอ่านประมาณนี้แม่งคือเรื่องปกติ เป็นเกณฑ์ที่กูยอมรับได้

แต่ตอนนี้เห็นนิยายแต่ละเรื่องแล้วแม่ง 2:100 คือ...ใจนึงกูก็คิดนะว่าสมัยนี้คนมันมีตัวเลือกเยอะแต่เวลาน้อย เพราะงั้นเขาน่าจะไปหาอะไรที่ตัวชอบเฉพาะเจาะจงจริงๆ แต่พอเข้าไปดูในนิยายแล้วแม่งไม่ใช่ว่ะ มีแต่เทพกวี เว้นวรรคแปลกประหลาด ชวนคุยไล่แขก(?) เปิดเรื่องพังพาบ อยากสร้างความแตกต่างแต่เรื่องพื้นฐานยังไปไม่รอด คือ...เวลามีคนมาตั้งกระทู้เด็กดวกแล้วกูอยากเข้าไปตะโกนอัดรูหูว่า "มึงทำตัวเอง! คนอ่านไม่ได้หาย...แต่มึงทำตัวเองล้วนๆ"

819 Nameless Fanboi Posted ID:Lf5i6yujiV

อะไรเป็นสิ่งที่คนอ่านอยากได้ https://www.dek-d.com/board/view/3967256/
เหอะๆ เวลากูเห็นกระทู้ไหนหยิบคอมเม้นต์ดอกขาวมาเป็นตัวเลือกปุ๊บ ใจกูนี่พูดออกมาเลยว่า "มึงจบแล้ว" กูก็รู้ตัวนะว่าอคติ แต่อีนี่ไม่เคยมีอะไรให้กูรู้สึกว่าคำพูดมันน่าเชื่อถือเลย

820 Nameless Fanboi Posted ID:si5nCaWXwk

>>818 เวลากูเห็นคนที่โวยวายไม่เข้าใจว่าทำไมตอนแรกวิวเยอะ ตอนต่อๆ มาวิวน้อย กูนี่ได้แต่มองบนใส่ อยากจะตะโกนอัดหน้าว่าแม่งปรกติโลกชิบหาย ถ้าตอนแรกๆ ไม่สนุก ใครจะไปอ่านต่อวะ

เส้นทางการเขียนนิยายออนไลน์นี่ยาวไกลนะ ไม่ใช่สั้นๆ มึงไม่สามารถหอบคนอ่านทุกคนไปจนถึงตอนจบเรื่องได้อยู่แล้ว มันต้องมีคนล้มหายตายจากไปบ้างแหละ เหมือนกับที่มันมีคนเข้ามาใหม่บ้างเหมือนกัน นี่แม่งฝีมือไม่ถึงไม่ดึงดูดคน เขียนๆ ไป คนอ่านหายก็ท้อ พอท้อเสร็จบึ้มตัวเอง เทแม่ง อย่างนี้คือไม่มีน้ำยา

821 Nameless Fanboi Posted ID:6pal23wGAq

เดี๋ยวนะ ไอ้เว้นบรรทัดนี่วางตัวเหมือนเทพเป็นพี่ของน้องๆ ไม่ใช่เรอะ ทำไมถึงมาขอลอกการบ้านขอดูฉากทะเลาะซะได้ ไม่โชว์เทพหน่อยเหรอเพ่
https://www.dek-d.com/board/view/3967224/

822 Nameless Fanboi Posted ID:Lf5i6yujiV

>>821 "ควย"
*ขออภัยในความไม่สุภาพ*

823 Nameless Fanboi Posted ID:lRTLzylSyq

>>821 กูไม่อ่านนิยายมันเลย อ่านแต่คุยกับนักเขียนท้ายบททุกตอน 5555 มันมีอยู่ตอนนึงที่บอกว่าเพิ่งไปเรียนรู้การเขียน nonsense humor มาจากนักเขียนคนหนึ่ง จะลองเอามาปรับใช้แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ เพราะตัวเองยังไม่ค่อยเข้าใจสามัญสำนึก sense ของคนทั่วไปในโลกนี้เท่าไหร

กูแบบ เยดดแม่ม มึงเป็นนักเขียนจากต่างโลกรึ

824 Nameless Fanboi Posted ID:6pal23wGAq

>>823 อห กูต้องไปทำการบ้านรีเสิร์ชกันทีเดียวว่าอะไรคือ Nonsense Humor ล้ำเหลือเกินพ่อเอ๊ย ไอ้นี่แม่งคิดว่าตัวเองมีของแบบขลังๆ คิดว่าตัวเองเทพจัดประหนึ่งจอร์จ โอเวล เป็นนิทเช่กลับชาติมาเกิดไรทำนองนั้น ตะ..แต่ฝีมือมึงกากมากเลยนะ

ว้าย ว้าย ว้าย ว้าย นี่จูนิเบียวนี่หว่า (ทำนองเพลงประเทือง by ไท ธนาวุฒิ)

825 Nameless Fanboi Posted ID:ifot12VPeS

>>818 อันนี้กูสงสัยนะ แล้วยกตัวอย่างถ้ามีคนเฟบสักหมื่นแต่คนอ่านหนึ่งพันนี่คือเขารออ่านทีเดียวหรือยังไง ส่วนตัวสมัยก่อนที่กูเฟบนิยายก็จะรออ่านทีเดียวตอนมันเยอะๆ หน่อย จะได้จุใจ แต่มันมีเหตุผลอื่นที่เฟบทิ้งไว้ป่ะวะ

826 Nameless Fanboi Posted ID:Lf5i6yujiV

>>825 อันนี้ตอบยากว่ะ บางคนเขาอ่านแต่ไม่กดเฟบแค่ Bookmark ไว้เฉยๆเพราะรำคาญกระดิ่งก็มี ปัจจัยไหนที่มันพิสูจณ์ไม่ได้กูก็จำเป็นต้องตัดทิ้ง นับเฉพาะไอ้ที่มันเห็นชัดๆอยู่กับตาก็พอ เพราะสุดท้ายกูก็ต้องจัดลำดับความสำคัญกับตัวเอง ว่าสถิติพวกนี้แม่งเป็นแค่ตัวชี้วัดเบื้องต้นแค่ให้รู้ว่าไม่ได้มาผิดทางก็พอ แล้วไปให้ความสำคัญกับการพัฒนาการเขียนแทน คือกูเชื่อว่าถ้า process ถูกต้อง result ก็ต้องถูกต้องเหมือนกัน แต่นิยายของคนอื่นกูก็ดูได้แค่ result แต่ไม่รู้ process ของมันอยู่ดี

827 Nameless Fanboi Posted ID:zsfVNVKdSU

>>825 เฟบไว้ไม่อ่าน เหมือนกูนี่

828 Nameless Fanboi Posted ID:eE4o9KTX77

>>826 process ที่มึงว่า หมายถึงอะไร

829 Nameless Fanboi Posted ID:Lf5i6yujiV

>>828 สมมุติว่ามึงจะทอดไข่ดาว
Process คือ มึงเลือกไข่ เลือกน้ำมัน เลือกกระทะ ตั้งระดับไฟปรับอุณหภูมิ เทคนิควิธีการทอด
Result คือ ไข่มึงสุก ไข่มึงกรอบ ไข่มึงเละ จะเป็นสภาพยังไงแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับ process

กูกระแดะไปใช้คำนี้เพราะขี้เกียจเขียนรายละเอียดจำพวก "จะเขียนนิยายกูต้องเตรียมอะไรบ้าง"

830 Nameless Fanboi Posted ID:eE4o9KTX77

>>829 process กับเทคนิคไม่น่าจะเหมือนกันนะ แบบต่อให้ process ของมึงถูก แต่เทคนิคมึงไม่ดี อาหารที่มึงทำก็อาจไม่อร่อย

เหมือนนิยาย มึงวางพล็อต ทำรายละเอียดนั่นนี่เป๊ะทุกอย่าง แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะสนุก และถ้ามันไม่สนุก มันก็ไม่มีคนอ่านอะ

831 Nameless Fanboi Posted ID:hvep2VqUr3

>>825 สะดุดตาชื่อเรื่อง ซื้อคำโปรย พล็อตน่าสนใจ แต่ตอนยังน้อย ไม่อยากผิดหวังโดนเทโดนดอง ไว้กลับมาถ้าเขียนไปได้เยอะ, มีความเคลื่อนไหว เขียนจบเลยก็ยิ่งดี (แต่ส่วนมากที่เขียนจบกลับมาอีกทีแม่งปิดตอนขายเล่มไปแล้ว)

832 Nameless Fanboi Posted ID:qAA4G56eS4

>>830 พูดไปก็เหมือนแก้ตัวอะ process ของกูบางทีก็หมายถึงวิธีคิด ลองผิดลองถูก ทำไปเหอะยังไงก็ผิด(เพราะกูยังไม่มีประสบการณ์) ถ้าพบว่างานออกมาไม่ได้เรื่องก็ต้องมาดูว่ากูพลาดตรงไหน เก็บซากที่ยังมีส่วนดีเอาไว้แล้วไปดูนิยายคนอื่นที่ทำได้ดีในจุดที่กูพลาด

สนุกไม่สนุกสุดท้ายมันก็ต้องลองเขียนแล้วให้คนอ่านวัดผลอยู่ดี กูเองก็บอกไม่ได้หรอกว่าเทคนิคไหนที่กูยังไม่รู้ กูทำได้แค่เท่าที่กูรู้

833 Nameless Fanboi Posted ID:o53JDNpKbu

I got, I got, I got, I got
Loyalty, got royalty
Inside my DNA
Cocaine quarter piece, got war and peace
Inside my DNA
I got power, poison, pain and joy
Inside my DNA
I got hustle, though, ambition, flow
Inside my DNA

I was born like this, since one like this, immaculate conception
I transform like this, perform like this, was Yeshua's new weapon
I don't contemplate, I meditate, then off your fucking head
This that put-the-kids-to-bed, this that

I got, I got, I got, I got
Realness, I just kill shit
'Cause it's in my DNA
I got millions, I got riches
Buildin' in my DNA
I got dark, I got evil, that rot
Inside my DNA
I got off, I got troublesome heart
Inside my DNA

I just win again, then win again like Wimbledon, I serve
Yeah, that's him again, the sound that engine in is like a bird
You see fireworks and Corvette tire skrrt the boulevard
I know how you work, I know just who you are
See, you's a, you's a, you's a bitch

Your hormones prolly switch
Inside your DNA
Problem is, all that sucker shit
Inside your DNA
Daddy prolly snitched, heritage
Inside your DNA
Backbone don't exist
Born onside a jellyfish, I gauge

See, my pedigree most definitely don't tolerate the front
Shit I've been through prolly offend you
This is Paula's oldest son
I know murder, conviction
Burners, boosters, burglars, ballers, dead, redemption
Scholars, fathers dead with kids
And I wish I was fed forgiveness
Yeah, yeah, yeah, yeah, soldier's DNA
Born inside the beast
My expertise checked out in second grade
When I was nine, on cell, motel, we didn't have nowhere to stay
At twenty-nine, I've done so well, hit cartwheel in my estate
And I'm gon' shine like I'm supposed to antisocial, extrovert
And excellent mean the extra work
And absent-ness what the fuck you heard
And pessimists never struck my nerve
And that's a riff, gonna plead this case
The reason my power's here on earth
Salute the truth, when the prophet say

I got loyalty, got royalty inside my DNA
(This is why I say that Hip-Hop has done more damage)
(To young African-Americans than racism in recent years)
I live a better, fuck your life
(Five, four, three, two, one) this is my heritage, all I'm inheritin'
Money and power, the makin' of marriages

Tell me somethin'
You mothafuckas can't tell me nothin'
I'd rather die than to listen to you
My DNA not for imitation
Your DNA an abomination
This how it is when you're in the Matrix
Dodgin' bullets, reapin' what you sow
And stackin' up the footage, livin' on the go
And sleepin' in a Villa
Sippin' from a Grammy and walkin' in the buildin'
Diamond in the ceilin', marble on the floors
Beach inside the window, peekin' out the window
Baby in the pool, Godfather goals, only Lord knows

I've been goin' hammer, dodgin' paparazzi, freakin' through the cameras
Eat at Four Daughters, Brock wearin' sandals
Yoga on a Monday, stretchin' to Nirvana
Watchin' all the snakes, curvin' all the fakes
Phone never on, I don't conversate
I don't compromise, I just penetrate
Sex, money, murder, these are the breaks
These are the times, level number nine
Look up in the sky, ten is on the way
Sentence on the way, killings on the way
Motherfucker, I got winners on the way

You ain't shit without a body on your belt
You ain't shit without a ticket on your plate
You ain't sick enough to pull it on yourself
You ain't rich enough to hit the lot and skate
Tell me when destruction gonna be my fate
Gonna be your fate, gonna be our faith
Peace to the world, let it rotate
Sex, money, murder, our DNA

834 Nameless Fanboi Posted ID:1t5fIgmp9G

そしてこの空赤く染めて
また来る時この一身(み)で進むだけ
すれ違っていく'人'も
紛れ失くした'モノ'も
いつかは消えゆく記憶(とき)
熱く揺るがす'強さ'
儚く揺れる'弱さ'
所詮同じ結末(みらい)
そんな日常 紅霞(こうか)を溶かし
現れる陽 紅る世界
風になびかせ線を引いて
流れるよな髪先敵を刺す
振り斬った想い 漲(みなぎ)る夢
すべては今この手で
使命果たしてゆくだけ
また灯が一つ落とされ
そっとどこかで消えた
現実 変わらぬ日々
だけど確かに感じる
君の温もり鼓動
これも真実だと
そして紅 紅塵(こうじん)を撒き
夕日を背に今始まる さあ
なぜ 高鳴る心に
迷い戸惑い感じるの…

https://www.youtube.com/watch?v=uFTqc4gxRx4

835 Nameless Fanboi Posted ID:oSGFxjZqtZ

กูชอบนะ เปรียบเทียบกับการเขียนนิยายกับการทำอาหาร
นิยายที่คนเข้าอ่านเยอะในช่วงแรก เพราะแนวเรื่อง ชื่อเรื่องหรือคำโปรย และหน้าปกก็ดี ก็เหมือนกับข้าวพัดที่ถูกแต่งรูปจนสวย แต่พอแดกไปแล้วกลับพบว่าทั้งรส ทั้งกลิ่นมันผิดกับรูปลักษณ์ ซึ่งบางคนก็อาจจะกินต่อไปซักพัก เผื่อว่าเชฟจะเปลี่ยนรสชาตการปรุงให้ดีขึ้น ...แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็แค่ถุยทิ้งแล้วลุกออกจากโต๊ะไปแบบไม่จ่ายตัง (ถถถถถ)

ส่วนบางเรื่องที่คนอ่านน้อยแต่อ่านแล้วหยุดไม่ได้ ก็อาจจะเพราะหน้าตาโปรโมตไม่ดี? ปกไม่สวย? แนวเรื่องไม่ถูกใจ? อะไรก็แล้วแต่ เหมือนกับสเต็กริปอายที่ดูยังไงก็เนื้อติดกระดูกแหยะๆ แต่พอลองชิมแล้วกลับรู้สึกชุ่มช่ำละมุนลิ้นจนหยุดกินไม่ได้ แต่เนื่องจากหน้าตาไม่ค่อยดึงดูดจึงต้องอาศัยการบอกเล่าแบบปากต่อปาก

ส่วนพวก NC ...ก๊วยเตี๋ยวใส่กัญชามั้ง? พอละ พิมพ์ไปกูท้องร้องไปละ

836 Nameless Fanboi Posted ID:fvDeTrihyM

>>835 นิยายส่วนมากที่โดนสับไปคุณภาพระดับมาม่า แถมเป็นมาม่าแบบแช่น้ำเปล่าด้วยนะ

837 Nameless Fanboi Posted ID:ql.AGoNoYF

วันนี้ขอสับแบบสั้น ๆ ไม่มีแรงใจในการทำอะไร เห็นน้องมาบ่นในเว็บบอร์ด ก็เลยแวบเข้าไปดูว่าทำไมนักอ่านถึงเกรี้ยวกราดใส่

ชื่อเรื่อง ตำนานรัก เทพอารักษ์

https://my.dek-d.com/Oneam/writer/view.php?id=2036471

เปิดข้อมูลเบื้องต้น บอกลักษณะของตัวเอกละเอียด ตั้งแต่ราศีที่เกิด ปีที่เกิด เรียนจบที่ไหน ความชอบละเอียดยิบ คือกูต้องรู้ใช่ไหม...แต่บอกมาตั้งแต่แรกแสดงว่ามันต้องสำคัญในเนื้อเรื่องแน่เลยถึงเอามาใส่ไว้ จดไว้ในใจ...(ทำไม???)

ต่อมากด้วยแคว้นที่คงจะสำคัญมากในเรื่อง แคว้นไป๋ซาน ติดกับทิศอะไร คือ...พอดีกูรู้ภาษาจีนนิดโหน่ย ถ้าจะตั้งชื่อแคว้นได้ตรงตัวแบบนี้ ชื่อแคว้น เป่ยเปียน ซีเปียน หนานเปียน ตงเปี่ยน ทำไมไม่แปลชื่อแคว้นไปเลย แคว้นทางเหนือ แคว้นทางตะวันตก แคว้นทางใต้

อ่อ นิยายจีนค่ะมึง ก็ต้องใช้ชื่อจีนสิวะอิห่า เดี๋ยวไม่ตรงคอนเซ็ปท์

ตอนแรก เปิดมาก็บอกว่า
“หนิงเฟิ่ง นางเอกของเราเป็นสาวที่เรียนปริญญาโทปีสุดท้าย

838 Nameless Fanboi Posted ID:ql.AGoNoYF

เชี้ย กูพลาดกดผิด สัส

839 Nameless Fanboi Posted ID:fvDeTrihyM

>>838 ไม่เป็นไร กูรอได้

840 Nameless Fanboi Posted ID:NyCvz3ZHzC

วันนี้ขอสับแบบสั้น ๆ ไม่มีแรงใจในการทำอะไร เห็นน้องมาบ่นในเว็บบอร์ด ก็เลยแวบเข้าไปดูว่าทำไมนักอ่านถึงเกรี้ยวกราดใส่

ชื่อเรื่อง ตำนานรัก เทพอารักษ์

https://my.dek-d.com/Oneam/writer/view.php?id=2036471

เปิดข้อมูลเบื้องต้น บอกลักษณะของตัวเอกละเอียด ตั้งแต่ราศีที่เกิด ปีที่เกิด เรียนจบที่ไหน ความชอบละเอียดยิบ คือกูต้องรู้ใช่ไหม...แต่บอกมาตั้งแต่แรกแสดงว่ามันต้องสำคัญในเนื้อเรื่องแน่เลยถึงเอามาใส่ไว้ จดไว้ในใจ...(ทำไม???)

ต่อมากด้วยแคว้นที่คงจะสำคัญมากในเรื่อง แคว้นไป๋ซานติดกับทิศอะไร คือ...พอดีกูรู้ภาษาจีนนิดโหน่ย ถ้าจะตั้งชื่อแคว้นได้ตรงตัวแบบนี้ ชื่อแคว้น เป่ยเปียน ซีเปียน หนานเปียน ตงเปี่ยน ทำไมไม่แปลชื่อแคว้นไปเลย แคว้นทางเหนือ แคว้นทางตะวันตก แคว้นทางใต้

อ่อ นิยายจีนค่ะมึง ก็ต้องใช้ชื่อจีนสิวะอิห่า เดี๋ยวไม่ตรงคอนเซ็ปท์

ตอนแรก เปิดมาก็บอกว่า
“หนิงเฟิ่ง นางเอกของเรา เป็นสาวที่เรียนปริญญาโทปีสุดท้าย”
อันนี้ไม่รู้นักเขียนจะบอกทำไมว่าหนิงเฟิ่งเป็นนางเอก ไม่ใช่ว่ากูอยู่อยู่แล้วเหรอ ... จะว่าอะไรกูไหมถ้าจะบอกว่า ไม่ต้องบอกก็ได้คือเปลืองเนื้อที่ กูรู้ว่าอินี่เป็นนางเอกตั้งแต่ข้อมูลเบื้องต้นแล้ว

เนื้อเรื่องตอนนี้ว่าด้วยนางเป็นคนติดโลกsocialมาก ติดมากจนไม่ไหวแล้วก็เลยต้องหาทางแก้ นางก็ไปเจอโปรแกรมเที่ยวที่มาพร้อมกับชื่อแปลกประหลาด แพคเกจเที่ยวต่างแดน แพคเกจเที่ยวอวกาศ ไม่เสียค่าเที่ยวคือไปฟรีแค่เตรียมใจ นางก็ไป

ตรงนี้ปุ๊ปกูกลับไปอ่านข้อมูลเบื้องต้นนิสัย กำลังเรียนปริญญาโท? สาขาจิตวิทยา? แต่ดรอปก่อน ตรงนี้ช่างมัน แต่แพคเกจเที่ยวฟรี นางก็เออออไปลอง? กูเข้าไม่ถึง แต่เมื่อมันต้องทำให้เนื้อเรื่องไปต่อ กูก็สู้โว้ย!
อ่านต่อไปอีกนิด คนแนะนำให้นางไปแพคเกจโลกโบราณเพราะไม่ต้องมีอินเตอร์เน็ต ไม่ต้องใช้โทรศัพท์ จะได้ออกห่างโลกโซเชียล

แต่เดี๋ยวนะ มึงไม่กลัวโดนหลอกเหรอ ที่ที่มันจะพามึงไปใช้มือถือไม่ได้ ถ้าเกิดไรขึ้นมา ละ...แล้วพ่อแม่มึงล่ะ นี่กูคิดเผื่อครอบครัวตัวละครเหมือนเป็นชีวิตจริงกูทำไม ช่างแม่ง อ่านต่อ

ขอพูดถึงบทสนทนาที่กูว่าใครอ่านก็ต้อง อิหยังวะ

กูนึกว่ากูอ่านนิยายแชท

เช่น
หนิงเฟิ่ง “จะพาไปที่ไหนคะ แล้วนอกจากดิฉันแล้วมีคนอื่นเดินทางไหมคะ”

หญิงวัยกลางคน “เรื่องสถานที่เป็นความลับของทางบริษัทค่ะ ส่วนเรื่องมีคนอื่นเดินทางไหม หากเป็นแพคเกจนี้มีคุณเดอนทางเพียงคนเดียวค่ะ”

หนิงเฟิ่งเริ่มกลัว แต่คิดว่าคงไม่น่ามีอะไร จะเอาตรูไปขายรึเปล่าฟะ เอาวะลองสักตั้ง เห็นท่าไม่ดีค่อยหนี

หนิงเฟิ่ง ”จะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ ฮ่าๆๆๆ” (กูอ่านแล้วแบบ...อิเหี้ย! มึงหัวเราะทำไม ไบโพล่าเหรอ นี่กูอ่านคนเดียวกูกลัวนะ อยู่ ๆ มาหัวเราะโดยไม่บอกไรกู)

หญิงวัยกลางคน “บลาบลาต่อยาว”

บทสนทนาของนักเขียนก็จะประมาณนี้

จบบทแรกไปด้วย หนิงเฟิ่ง นางเอกของเรา กำลังทะลุมิติไปแล้วเจ้าค่าาาาาา

841 Nameless Fanboi Posted ID:NyCvz3ZHzC

บทสอง
พูดถึงแคว้นไป๋ซานกำลังขาดแคลนน้ำ ฮ่องเต้ก็เลยให้เตรียมพิธีบูชายันต์ตามคำแนะนำของนักพรตนอกรีต ซึ่งจริง ๆ แล้วพระองค์ไม่อยากทำ เพราะหมายถึงต้องเผาหญิงสาวคนหนึ่งตัวเป็น ๆ แต่เพื่อบ้านเมืองก็ต้องเลือก
(บทสนทนาฮ่องเต้กับบรรดาขุนนางก็แชทกันสนุกสนาน)
พอมาถึงวันบูชายันต์ ระหว่างที่กำลังเผาหญิงสาว หนิงเฟิ่ง นางเอกของเราก็ร่วงลงมาจากฟากฟ้ามาหารัก ลงในโถบรรจุน้ำมนต์ขนาดใหญ่ ทำให้น้ำกระเด็นออกมาแรงจนไปถึงแท่นพิธีไฟเกือบมอดดับ และฝนก็ตกลงมาโปรยปรายดับไฟจนหมด

จบตรงที่ฮ่องเต้สั่งให้คนไปช่วยนางเอกจากโถน้ำมนต์

บทสาม
เปิดมาย่อหน้าแรก กูเจอคำว่าไปเยอะมาก
บทนี้ยังไม่อะไรมาก แค่เล่า ๆ ว่านางสลบไปสามวัน ฟื้นขึ้นมาก็มีนางกำนัลคอยดูแล และถามเรื่องราวจากอินางกำนัลคนนี้ ก็เลยรู้ว่าบริษัทพานางมาต่างโลก ไม่มีอินเตอร์เน็ตทำให้ชีวิตนางน่าเบื่อ

บทสี่
หนิงเฟิ่งเข้าเฝ้าฮ่องเต้
ฮ่องเต้อยากรู้ว่านางเป็นใครมาจากไหนเพราะเห็นว่าตกมาจากฟ้า
นางยอมบอกฮ่องเต้ไปว่าตัวเองเป็นคนอีกโลก ไม่ได้จงใจมาทำลายพิธี หากมีอะไรให้นางช่วยได้ก็จะช่วย
ฮ่องเต้ก็เอาเลยเว้ยระบายถึงปัญหาที่ต้องมีพิธีเกิดขึ้น
แล้วนางเอกอยู่ ๆ ก็ใช้สรรพนามว่า ‘แคว้นเรา’ เฉยเลย(?) กูแบบหา? อิหวังวะ...

ต่อ ๆ ด้วยความที่หนิงเฟิ่งเป็นคนฉลาดมาก มองออกเลยว่ามีพิธีบูชายันต์เพราะอะไร จิตใจงดงามที่อยากจะช่วยเหลือชาวมนุษย์ก็พุ่งปรี๊ด ฮ่องเต้ก็เห็นดีด้วยเลยพานางไปดูสภาพภูมิประเทศ

กูขอสรุปเลยแล้วกันเพราะจะสับสั้น ๆ จะไปทำอย่างอื่นแล้วก้าาาา
คำผิดน้อย แต่คำซ้ำคำซ้อนเยอะอยู่ บทสนทนาแบบแชทอ่านแล้วกูไม่อินตามความรู้สึกตัวละครเลย
แต่มีการวางเรื่องไว้ รายละเอียดอะไรก็โอเคระดับหนึ่ง ถึงจะอิหยังวะ แต่ก็คงไชนีสสไตล์หรือเปล่าอันนี้กูก็ไม่แน่ใจ

ส่วนที่นักอ่านมาเกรี้ยวกราด กูไปดูมาแล้วนักอ่านก็แค่บอกว่าไม่ไปต่อเพราะเขียนคำหนึ่งเว้นวรรค สองคำเว้นวรรค

ซึ่งก็จริง เว้นวรรคโดยที่อะไรก็ไม่รู้เหมือนอยากเว้นก็เว้น ประโยคเลยขาด ๆ เกิน ๆ หาย ๆ อ่านแล้วก็ต้องคิดตาม กูเหนื่อย...

และกว่าจะเลิกบทสนาแบบแชทก็ปาไปบทที่55 กูแค่สกิมนะไม่ได้อ่านตัวบทสนาจริงจัง ดูว่าไม่เป็นแชทแล้วก็ผ่านไปว่ะ

842 Nameless Fanboi Posted ID:fvDeTrihyM

เป็นการฟิวชั่นเพื่อสร้างสรรค์แนวใหม่ เสินเจิ้นทะลุมิติและจอยลดาด้วย ถุ้ย...

843 Nameless Fanboi Posted ID:qAA4G56eS4

ตอนแรกก็กะว่าจะเข้าไปในกำลังใจน้องในกระทู้นะ แต่หลังจากอ่านสับแล้วรู้สึกว่าอยู่เงียบๆดีกว่า จิตใจแก้วกาดของกูกำลังเขย่าลูกกรง

ก่อนหน้านี้มีตัวละครแพทย์ที่บอกว่าความรู้แพทย์ใช้ไม่ได้จริง
ตอนนี้เจอนักศึกษาสาขาจิตวิทยาเอาแพ็คเกจเที่ยวฟรีที่เดินทางคนเดียว
โลกนี้ยังมีอะไรที่กูไม่เคยพบเจออีกเยอะเลยสินะ...//เอามือทาบอก

จะว่าไปที่เขาตั้งโปรไฟล์ตัวละครแบบนี้นี่คือไร อยากจะบอกคนอ่านว่าตัวละครฉลาดงั้นอ้อ?

844 Nameless Fanboi Posted ID:zJKMB0.tGl

>>843 พวกเด็กๆ ก็งี้ ติดนิสัยกลัวคนอ่านไม่อินตัวละครเลย Tell แม่ง แต่กูชอบให้นักอ่านออกมาคุยเกี่ยวกับนิสัยตัวละครเองในคอมเม้นมากกว่าว่ะ

845 Nameless Fanboi Posted ID:E7GsQ7XgCP

>>841 สัสตอนนี้กูนึกถึงหนังเกาหลีที่นางเอกจมน้ำแล้วโผล่มาในอ่างพิธีขอฝนเลย พล็อตเปะเวอร์ ผิดแค่ในหนังนางเอกเป็นสาวมอปลาย คนเขียนมึงเพิ่งดูซีรีย์นี้มาใช่มะ ใช่มั้ยตอบ!! ไม่มีไรกูแค่สงสัย

846 Nameless Fanboi Posted ID:u2JYKEc9N0

>>845 อย่าว่าแต่มึงคิด ตอนกูอ่านก่อนสับ ภาพซีรีย์สั้นนั่นลอยมาเลย แต่ด้านในไม่เหมือนกัน ก็เอาวะ คิดว่าแบบพล็อตเปิดตัวคล้ายกันก็ได้งี้

847 Nameless Fanboi Posted ID:E7GsQ7XgCP

>>846 อ้อ อีกอย่างฮ่องเต้เชื่อคนง๊ายง่ายเนอะ คือแบบ อ่านที่เพื่อนโม่งสับแล้วกูเจอประเด็นสงสัยเยอะเลย แบบเอาจริงดิ? ประโยคนี้แวบมาทุกวินาทีที่อ่าน ถ้าหลงไปอ่านจริงๆ มันจะเป็นไงวะ ยอมรับเลยกูไม่ได้เก่งนะ พอแต่งนิยายได้เรื่อยๆ แต่แบบนี้มัน อืมมมมม ช่างแม่มละ หนีไปดู good doctor ต่อดีกว่ากู~

848 Nameless Fanboi Posted ID:b5YCQp8epY

>>845 ขอนอกเรื่อง ซีรี่ย์เรื่องอะไร ขอชื่อหน่อย พอดีช่วงนี้ดูทุกอย่างจนหมดสต๊อกแล้ว

849 Nameless Fanboi Posted ID:o53JDNpKbu

I know I stand in line until you think you have the time
To spend an evening with me
And if we go someplace to dance, I know that there's a chance
You won't be leaving with me
And afterwards we drop into a quiet little place and have a drink or two
And then I go and spoil it all by saying something stupid like "I love you"

I can see it in your eyes
That you despise the same old lies you heard the night before
And though it's just a line to you, for me it's true
And never seemed so right before

I practice every day to find some clever lines to say
To make the meaning come through
But then I think I'll wait until the evening gets late and I'm alone with you
The time is right, your perfume fills my head, the stars get red and, oh, the night's so blue
And then I go and spoil it all by saying something stupid like "I love you"

The time is right, your perfume fills my head, the stars get red and, oh, the night's so blue
And then I go and spoil it all by sayin' something stupid like "I love you"

I love you
I love you
I love you

I love you

https://youtu.be/f43nR8Wu_1Y

850 Nameless Fanboi Posted ID:o53JDNpKbu

https://youtu.be/F8dKVbP1Nzo

851 Nameless Fanboi Posted ID:o53JDNpKbu

https://youtu.be/6-zSsw0LQMw

852 Nameless Fanboi Posted ID:E7GsQ7XgCP

>>848 splash splash love อะ ไปหามาให้ เพราะจริงๆ กูลืมชื่อ มีสี่ตอน จบเปล่าไม่รู้ยังไม่ได้ดู 55555

853 Nameless Fanboi Posted ID:qAA4G56eS4

พี่เทพเขากลับมาส่งการบ้านด้วยนะ
https://www.dek-d.com/board/view/3967224/1/?comment=7

พอไม่มีการสั่งสอนท้ายตอนแล้วดูเป็นนิยายขึ้นจม
แต่วิธีการเล่ายังต้องวิจัยความเป็นมานุดมานาอย่างที่เจ้าตัวบอกจริมๆ
ตย. ตัวละครหญิง ด่าผู้ชายว่า "ทำตัวอ่อนแอเหมือนผู้หญิงไม่มีผิด"

854 Nameless Fanboi Posted ID:QVHZYzn+Xj

>>853 ลองเข้าไปในบทความ ตั้งตอนในนิยายเป็นเตตัสเฟซบุ๊คเหรอวะ

855 Nameless Fanboi Posted ID:b5YCQp8epY

>>852 ขอบใจมากโม่ง

856 Nameless Fanboi Posted ID:VcRn5LuQVJ

>>853 บอกกูทีว่าทำไมกูอ่านแล้วงง คือมันแต่งได้ลองอ่านเองมั่งป่ะวะ กูละงึดเด้

>>855 ไม่เป็นไรจ้ะ

857 Nameless Fanboi Posted ID:MpRGqyQ+la

พูดถึงกันขนาดนี้ แม่งต้องสับนิยายมันละ เพราะที่ผ่านมากูแค่กวาดตาส่งๆ อ่าน Talk โชว์เทพเฉยๆ กูจะพยายามอ่านแบบหัวแบลงค์ๆ แบบไม่อคติ แล้วค่อยปักธงเพิ่มแล้วกัน มาดูกันว่าจะได้กี่บ้ง

The Chronicles of the kingdom of X ภาค 1 โดย SilverScissors a.k.a พี่เทพกวี
https://my.dek-d.com/patpoom/writer/view.php?id=2064783
เรื่องราวของผู้กล้าต่างยุคสมัยที่เชื่อมโยงกันด้วยอาณาจักรแห่งหนึ่ง แต่ละภาคเนื้อเรื่องไม่เหมือนกัน ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน
#ผู้กล้า #แฟนตาซี #ฝึกฝน #สร้างจักรวาล #พระเอกเก่ง #นางเอกเก่ง #ตัวร้ายเก่ง #มิติตัวละคร

โอเค ทั้งชื่อ คำโปรยเรื่อง แท็กที่ใช้และข้อมูลเบื้องต้น แม่งปังทั้งหมด ปังปินาศ ไม่มีอะไรที่สามารถดึงดูดชาวบ้าน ก. ให้มาอ่านนิยายเรื่องนี้ได้เลย ที่สำคัญคือการโชว์ทัศนคติที่วางตัวเองอยู่เหนือคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นพี่สอนน้อง ต้องมีวิจารณญาณ ตั่งต่าง อันนี้ชิบหายมาก คือมึงไม่จำเป็นต้องนอบน้อมกราบตีนคนอ่านก็ได้ มึงจะกวนตีน กวนประสาท ทำตัวจัญไรเหมือนโม่งที่เขียนรัชทายาทเสิ่นเจิ้นก็ได้ ถ้าคาแรกเตอร์มึงถึงและมึงมีของ แต่เพราะนี่นิยายออนไลน์ ไม่ใช่นิยายเล่ม เราสามารถเห็น Feedback และสามารถตอบโต้กับคนอ่านได้ตลอดเวลา ระยะห่างของความสัมพันธ์มันใกล้ขึ้น นักเขียนนิยายเว็บส่วนใหญ่เลยแม่งพยายามเป็นมิตรกับคนอ่านทั้งนั้น เพราะเขาคือลูกค้าที่เราต้องง้อ ถ้ารู้ตัวเองทัศนคติไม่ดีและโง่ก็ควรอยู่เงียบๆ ไม่ควรโง่แล้วอวดฉลาด

เปิดมาก็โดนไปสองบ้งละไอ้ชิบหาย โดยรวมคือหน้าแรกนี่ทำคนอคติกดออกได้เลยเพราะลำไยคนเขียน

คำนำคนเขียน ก็ยังคงโชว์เทพอย่างต่อเนื่อง ยังคงเป็นคำเตือนว่านิยายดาร์กนาจา แต่ที่แน่ๆ กูเจอเชิงกลไปนี่ชะงักเลยไอ้สัส อัลไลแม่งคือเชิงกลวะ นักเขียนคนอื่นอาจไม่เข้าใจอีก แม่งเบลมคนอื่นว่าโง่นี่หว่า ไอ้เชิงกลของมึงคืออะไร มึงจะบอกว่านิยาย มึงให้เหตุผล ใช้ตรรกะ และใช้โครงสร้างแบบ Mechanism หรือยังไง กูแม่งอยากจะเข้าไปเขย่าคอเสื้อ ไอ้สัสนี่กระตุ้นต่อมฉอดกูชิบหาย สรุปคือเข้ามาก็ยังคงเป็นการพล่ามเหี้ยอะไรไม่รู้ จนกูสงสัยว่ามึงจะเขียนนิยายหรือขายตัวเองวะ

ขอเคลียร์สมองก่อน ตอนนี้แม่งต่อมฉอดเดือดมาก เพราะกูกำลังอิน Cultural Study in Media อยู่พอดี เอาเป็นว่าหลังจากนี้ ขอแยกเอาตัวคนเขียนออกมาจากงานแล้วกัน กูจะดูแค่เนื้อเรื่องเท่านั้น ไม่ดู Talk เพราะจะเกิดการด่าแม่งรัวๆ จนไม่ได้ดูการเขียนและเนื้อเรื่องต่างๆ เลย ส่วนเรื่อง Talk ต่างๆ อาจจะมาดูแยกพาร์ทแบบลงลึกกันอีกที ถ้าพวกมึงอยากอ่านกันอ่ะนะ

858 Nameless Fanboi Posted ID:MpRGqyQ+la

เรื่องย่อ
บทนำ - เปิดมาด้วยนิทานที่ยายเล่าให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งฟัง เรื่องเทพสิบสององค์ และมีเทพองค์หนึ่งสาปจักรวาลเอาไว้ว่าจะมีคนชั่วแม่งจะทำลายทุกอย่าง พอเล่าถึงจุดไคลแม็กซ์ ฟ้าก็ผ่าเปรี้ยง เด็กก็กลัว ยายก็คุยกับเสียงในหัวว่าไม่น่าเล่าเลย เปิดชงๆ ว่าไม่น่าทำให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นเลย ตัดฉับไปที่จักรวาลพริม่า อาณาจักรบลาๆ วันที่บลาๆ ปีบลาๆ คงเป็นวันธรรมดา แต่เป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล.... โอเค เชยสัสๆ

ตอน 1 - ยังคงเปิดตอนด้วยวันเดือนปี เปิดตัวลิววี่อายุสิบห้าขวบที่บ่นซึนๆ กับเพื่อนชื่ออัลและเร็น เรื่องก็แบบบ.ไม่มีงานเท่าไร ก็มีลูกค้าเข้ามาใช้ไปซื้อปลา เร็นเดินไปซื้อปลา แต่อัลจะตามไปเลยใช้เวทเทเลพอร์ตเพื่อไปตลาด หื้มม?? ไปถึงตลาดก็เจอเร็นไปมีเรื่องกับตัวร้ายกี๊กี๊ เพราะเร็นไปช่วยเด็กที่โดนไถเงิน อัลเลยไปเข้าไปสู้แบบโชว์เทพ มีการประกาศใช้สกิลสู้กันและมีคำอธิบายสกิลประหนึ่งเกมออนไลน์ มีบรรยายสถานะมึนงงด้วย กี๊กี๊แพ้เลยร้องว่า อิมเพเนเตรเบิ้ล (Impenetrable) 55555555555 ไอ้สัส ขออนุญาตแตกศัพท์นะคะ ครูสมศรีจะต้องภาคภูมิใจในตัวมึง แม่งก็โยนทับศัพท์แบบมีวงเล็บใส่กันเล็กน้อย พอช่วยเด็กเสร็จ เร็นจะควักเงินให้เด็กที่โดนไถ แต่แม่งเสือกลืมปลาไว้ ตัดไปที่แม่งไปตกปลากับเด็ก หื้มม?? แล้วก็สั่งสอนเร็นให้มองโลกหลายด้าน การให้เงินไม่ยั่งยืน แม่งนี่มันโคว้ทสอนให้ตกปลานี่หว่า แล้วเสือกพามาตกปลาจริงๆ ด้วยนะ 55555 แล้วก็พล่ามเรื่องปัญหาต้องแก้เอง แล้วลิววี่ก็มาตาม ถามว่าปลาไปไหน แล้วก็โดนอัด ลิววี่เอาหูฟังกับเครื่องเล่นเพลงของพ่อแม่ยกให้เร็น แล้วก็กินข้าวกันแบบอยากให้ทุกอย่างสงบสุขต่อไปคงดี

ขอเล่าย่อๆ รวบๆ ละกัน แม่งยังคงคอนเซ็ปต์เปิดตอนด้วยวันเดือนปีทุกตอน ประหนึ่งปฏิทินเช็ควันที่

ตอน 2 - เร็นกับอัลแปลงร่างเป็นผู้หญิงไปกินเค้กตามคำสั่งของลิววี่ เร็นไปซัดคนมาจีบ แล้วรู้สึกผิด วันต่อมาเลยเข้าไปขอโทษแล้วก็โดนตบกลับมา เร็นเลยร้องไห้ พยายามทบทวนที่อัลสอนว่าให้มองมากกว่าหนึ่งด้าน

ตอน 3 – ย้อนไป 7 ปีก่อน พ่อของเร็นเอาเร็นมาฝากกับพ่อลิววี่เพื่ออนาคตของลูก พร้อมสั่งสอนว่า ลูกผู้ชายเสียเลือดไม่เสียน้ำตา ลิววี่เล่นกับเร็นด้วยการถักเปีย ให้เร็นถอดกางเกงจะใส่ชุดกระโปรงให้ เร็นปฏิเสธไปด้วยความสุภาพ แต่อีลิววี่ดันของขึ้นเลยตบหน้าเร็น จิกวิกออกจากหัว แล้วก็ด่าว่าอย่างนายเป็นสัตว์เลี้ยงยังไม่ได้ เอาแต่สุภาพ แล้วก็อ่อนแอ เกลียดนาย พ่อของลิววี่เลยมาปลอบเร็น ตัดไปอีกสองวันต่อมาอัลมาเจอเร็นแล้วบอกว่าถ้าสุภาพขนาดนี้ ลิววี่ต้องเกลียดแน่ๆ (??) เร็นก็พูดเรื่องเอกลักษณ์ขึ้นมา ตัดไปลิววี่ทะเลาะกับพ่อเนื้อความตามในมู้เลย ที่ว่าเร็นสุภาพและเหมือนผู้หญิง แล้วพ่อลิววี่ก็สั่งสอนเรื่องแข็งแกร่งอ่อนโยน บลาๆ

ตอน 4 - พ่อไม่อยู่ ลิววี่พาเร็นไปตกปลา ทะเลาะกันเรื่องเร็นมองว่าสัตว์ทุกอย่างมีชีวิต แต่ลิววี่ไม่เห็นด้วย เลยท้าให้เร็นตกปลา แต่ลิววี่ตกไม่ได้เลยพาลแล้วก็ตกน้ำไป เร็นช่วยลิววี่แล้วเอกลักษณ์ก็ตื่นขึ้นมามีความคิดแว๊บเข้ามาในหัวว่า "เอกลักษณ์ของผมคือ คอมโพสิท (Composite)" ก็เกิดเรี่ยวแรงมหาศาล เร็นโยนลิววี่ขึ้นน้ำไป แล้วก็หมดแรงจมน้ำ ลิววี่เลยวิ่งมาบอกพ่อให้ไปช่วยเร็น เร็นรอดมาได้แบบน่าแปลกใจ เพราะจมน้ำแต่น้ำไม่เข้าถึงปอด ก็ปรับความเข้าใจกับลิววี่ ลิววี่เอาเครื่องเล่นเพลงแบบพกพากับจดหมายมาให้ เร็นก็ฟังเพลงของบราห์มส์ ส่วนจดหมายเป็นเนื้อความว่าพ่อลิววี่กำลังจะตาย ฝากดูแลลูกข้าด้วย เอื้อออ

ครบ 5 ตอนละ กูอ่านเพิ่มไปอีก 2 ตอน เพื่อดูทิศทางของเรื่อง ก็คือทำนองว่าเร็นอยากสร้างจักรวาล มีตัวละครอื่นเพิ่มมา แล้วก็ตัดไปเล่าย้อนอดีตคนมาใหม่ กูขอพอแล้วกันนะ รู้สึกเสียเวลา

เชิญเข้าสู่ช่วงสับในเม้นท์ต่อไป

859 Nameless Fanboi Posted ID:MpRGqyQ+la

เนื้อเรื่อง
อ่านไป 7-8 ตอน แทบไม่เห็นอะไรที่เป็นปมหลักของเรื่องเลย เส้นเรื่องแทบไม่เดิน มีแต่การเปิดตัวละคร แนะนำตัวละคร โชว์เทพ ตัดไปอดีต ย้อนกลับมาปัจจุบัน เหมือนจะพยายามปูตัวละครไปเรื่อยๆ คือมึงใช้เวลานานมาก นานจนคนอ่านเริ่มหมดความอดทนกับมึง ไอ้วิธีการเล่าเรื่องแบบนี้กูจะขยายความอีกทีในพาร์ทการนำเสนอ

จักรวาลที่สร้างไว้ก็อารมณ์ว่าคนมีเอกลักษณ์เหมือนอารมณ์เน็นใน HxH แต่กูยังไม่รู้ว่ามันแบ่งสายยังไง เพราะแม่งใช้วิธีทับศัพท์ภาษาอังกฤษเอา คำที่ใช้แม่งไม่ค่อยสื่อความเท่าไร Composite Direct Impenetrable เป็นตระกูลคำที่ต้องตีความ แถมมึงยังไม่ตัดสินใจอีกว่าจะใช้คำนามหรือคำคุณศัพท์เป็นเอกลักษณ์กันแน่ ขอยาดมองบน

ตัวละคร: แก๊งสามคนของตัวเอกค่อนข้างมิกซ์สไตล์ออกมาได้ดี เร็นไก่อ่อนติ๊งต๊อง ลิววี่ซึนขี้โวยวาย อัลที่ขรึมๆ แต่เก่ง ซึ่งก็เป็นสไตล์ตัวละครในการ์ตูนแบบเห็นได้อย่างชัดเจนเลย ก็ถือว่าประยุกต์ใช้ได้แบบไม่น่าเกลียด แต่การกระทำของตัวละครหลายครั้งก็ดูอิหยังวะ ไม่ว่าจะเป็นการที่อัลอายุ 15 ปี พยายามสั่งสอนสอนสั่งเร็นอายุ 15 เช่นกันประหนึ่งว่าเป็นพ่อ ซึ่งจากนิสัยจริงๆ กูมองว่าคนที่มีปัญหาน่าจะเป็นลิววี่มากกว่า เพราะลิววี่พ่อตาย ก่อนพ่อตายตอนเด็กๆ ก็มีพฤติกรรมการแสดงออกใส่คนอื่นที่รุนแรงและก้าวร้าวมาก ส่วนเร็นมันสไตล์ไก่อ่อนพ่อคนดีที่คิดว่าตัวเองต้องปกป้องลิววี่ กูว่าตรงนี้คือวางปมแปร่งชิบหาย ไม่สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง ตัวละครดู OOC

การดำเนินเรื่องและการนำเสนอ
ทุกองค์ประกอบของเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินเรื่อง จังหวะการยิงมุก หรือตัวละคร กลิ่นอายการ์ตูนมาเต็มมาก บ่งบอกให้รู้เลยว่าไอ้ห่านี่เป็นสายอ่านการ์ตูนหรือดูอนิเมะแล้วมาเขียนนิยาย บางองค์ประกอบคือกูดูออกเลยว่ามาจากเรื่องไหน เหอๆ เช่นการใช้ตัวเลขแทนสระนี่มาจาก HxH แน่นอน

มาพูดถึงสไตล์การเล่าเรื่องดีกว่า ไอ้วิธีการเล่าแบบแรกๆ โฟกัสที่ตัวละคร เขียนขำขันมีปมรองเบาๆ มันคือสไตล์การ์ตูนโชวเน็นในยุคนึงเลย ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากเรื่องรีบอร์น แรกๆ มาเป็นการ์ตูนแก๊ก แล้วค่อยมาหนักขึ้นตอนภาคมุคุโร่ วิธีการเขียนแบบนี้คือมึงต้องปูปมย่อยไปเรื่อยๆ เพื่อเอามาขมวดเป็นปมใหญ่ และต้องพยายามทำยังไงก็ได้ ให้คนไม่เซ็งก่อนจะถึงเวลาเข้าเนื้อเรื่อง ซึ่งตรงนี้พี่เทพสอบตก พี่แกเขียนไม่ได้น่าติดตามเลย จะก็ขำไม่สุด ดราม่าก็ไม่ลึกไม่บีบ ล่มปากอ่าวชิบหาย

เห็นความพยายามในการสร้างสถานการณ์เพื่อสั่งสอนตัวละครที่เหมือนเป็นการสั่งสอนคนอ่านไปพร้อมกัน แต่สถานการณ์ที่ว่าบางอันก็ยัดเข้าปากตัวละครเหี้ยๆ บางอันคือ weirdo จัดๆ เหมือนคิดก่อนว่าจะสอนอะไรแล้วเขียนฉากขึ้นมาก ซึ่งบางอันเชื่อมโยงได้ตรรกวิบัติชิบหาย

การบรรยายฉากต่างๆ บรรยายแบบมุมกล้องภาพยนตร์ที่ Zoom-in Zoom-out ฉากและตัวละครไปเรื่อยๆ เทคนิกนี้พวกนักเขียนในบอร์ดเด็กดีชอบเอามาใช้ชิบหาย เพราะแม่งจะยกขึ้นมาทุกครั้งที่มีคนถามเรื่องการบรรยาย ซึ่งกูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันดีตรงไหนยังไง แต่ที่แน่ๆ ถ้ามึงเขียนออกมาไม่ต่อเนื่องมันจะกระท่อนกระแท่น ซึ่งพี่เทพกวียังอยู่ในเกณฑ์ไม่ดีถึงพอทนได้ แม่งเล่นซูมเข้า-ซูมอออกแบบ Literally เพราะมึงใช้คำว่าถอยออกมา ห่างออกมา ไหนจะการเคาะเว้นบรรทัดอีก บางช่วงแม่งมาเป็นย่อหน้า แม่งเป็นท่อนๆ เป็นวลี หรือนี่จะเป็นเทคนิกเคาะเว้นวรรคตามอารมณ์กว้าง-แคบในตำนานที่ร่ำลือกัน ไอ้สัส แม่งทำให้เรื่องขาดความต่อเนื่องเหี้ยๆ น่ารำคาญชิบหาย ไม่เวิร์คว้อย ไม่ต้องสะเออะพยายามสร้างสไตล์อะไรแปลกๆ ขอเถอะ สะเหร่อจ้า

เขียนและการใช้ภาษา
เขียนพออ่านรู้เรื่อง มีความพยายามบรรยายเหมือนจะใช้ภาษาให้สวย ยกระดับนิยายตัวเอง แต่ยังจะมีความเป็นท่อนๆ ไม่ต่อเนื่อง เพราะเทคนิกในการเขียนยังอ่อน ใช้คำเชื่อม สันธาน บุพบทแทบจะไม่เป็น ได้แค่เขียนสั้นๆ บวกกับการเคาะเว้นวรรคที่ขยันเคาะชิบหาย แม่งเลยยิ่งขาดความต่อเนื่องมากกว่าเดิม ทั้งหมดคือเหมือนอ่านวลีที่เคาะไปเรื่อยๆ และเรื่อยๆ

ปัญหาคือการเขียนทับศัพท์และวงเล็บภาษาอังกฤษในเรื่องสร้างความสับสนให้กับคนอ่าน เข้าใจว่าต้องการจะใช้รูปแบบการเขียนแบบนี้กับการเขียนเอกลักษณ์ของตัวละคร แต่ไอ้ตรงจุด “อิมเพเนเตรเบิ้ล (Impenetrable)” ที่กี๊กี๊ร้องขึ้นมา มันไม่เหมือนการพูดถึงเอกลักษณ์ เพราะมึงเสือกเขียนว่า "ทำไมกันนนนน เอกลักษณ์ของข้าแทงทะลุไม่ได้ อิมเพเนเตรเบิ้ล (Impenetrable) นี่” ตรงนี้คือมันเหมือนพูดว่าเป็นไปไม่ได้นี่ ซึ่งถ้ามึงจะสื่อว่าเอกลักษณ์มันชื่อ อิมเพเนเตรเบิ้ล (Impenetrable) มึงใช้รูปประโยคผิดแล้วจ้า

หลายจุดคือใช้วงเล็บมาอธิบายได้งงใจเหี้ยๆ แบบ เห้อ (เสียงเบา) หรือพูดไปสะอื้นไปก็ใช้ (อึ๊ก) ในบทสนทนาเลย แม่งคือเหี้ยอะไร มึงเขียนบรรยายไม่เป็นเหรอ? นี่แม่งไม่ได้เล่นคอมมูหรือโรลเพลย์อยู่นะไอ้สัส

860 Nameless Fanboi Posted ID:MpRGqyQ+la

สรุป ไม่มีจุดที่ชอบและจุดที่เกลียดอย่างชัดเจน เพราะเนื้อเรื่องทั้งหมดแม่งก็เฉยๆ เพลนๆ แบบพบเจอได้สำหรับคนหัดเขียนใหม่ๆ ทั่วไป ไม่ได้เลวร้ายขนาดเอ็นควย เล่าเบียว ไม่ได้ดีเลิศเลอโดดเด่นอะไร ถามว่าพัฒนาได้ไหม คงพัฒนาได้ ถ้าคนเขียนรู้จักสำเหนียกถึงความสามารถของตัวเองและปรับลดอีโก้ลง อ่านให้มากขึ้น ฟังให้มากขึ้น

ทีนี้พอมาลองมองปัญหาอีกที สิ่งที่เป็นประเด็นคือตัวบุคคลมากกว่า จากพฤติกรรมจะบอกว่าจูนิเบียวมันก็ไม่ได้เบียวขนาดเล่าเบียว แต่มีความมั่นหน้าในความรู้เหมือนพี่ฟิสิกส์หรือไอ้แดดเลีย ต่างตรงที่องค์ความรู้ของมันไม่ใช่ด้านวิทย์ แต่เสือกเป็นการเขียน ด้านวัฒนธรรมสังคม และจิตวิทยาที่น่าจะมีความรู้เท่าหมอยมด ตามที่มันได้กล่าวอ้างมาทั้งหลาย ไอ้ตรงนี้แหละที่น่าถก กูว่าจะลองพยายามสับ Talk มันอีกที เหมือนที่เคยสับบทความของน้องหี ไม่รู้ว่าพวกมึงอยากอ่านกันหรือเปล่า ขอถามเซอร์เวย์ก่อน ไม่งั้นคือเสียเวลาวิเคราะห์เปล่าๆ ปลี้ๆ กูจะได้เอาเวลาไปนอนแทน

861 Nameless Fanboi Posted ID:gs2fbPxSD9

>>859 ย่อหน้า5 มีประโยชน์มากจิเก็บไปใช้ ส่วนที่สั่งสอนตลค.นั่นดูชอบจะหาคำมายัดปากตัวละครนะ ไม่ใช่แค่นั้นยังสั่งสอนคนอ่านประหนึ่งเป็นงานเขียนตัวอย่างที่ใช้สอนน้องๆ นักหัดเขียน
>>860 ฉับๆ ชับๆๆ รอนะงับ เข้าใจว่าหลายๆ อันคือเทคนิคที่ขโมยมาจากหนังสือที่อ่าน แต่สกิลไม่ถึงพอใช้ก็เลยแหม่งๆ แต่ว่าเอาไว้ว่างๆ พักผ่อนเยอะๆ หน้าจะใสไร้สิวฝ้า

862 Nameless Fanboi Posted ID:CmCYTh9.cQ

>>860 อยากอ่านดิ กูเชื่อว่ามันมีของ(มั้ง)แค่ยังใช้ไม่เป็น เผื่อจะได้เห็นอะไรเพิ่มเติมบ้างเพราะบอกตามตรงกูอคติกับมันไปเรียบร้อย

863 Nameless Fanboi Posted ID:Q4Z4BJbb/W

โม่งกลับมามีสาระล่ะ หลังจากเป็นห่าอะไรก็ไม่รู้อยู่นาน

864 Nameless Fanboi Posted ID:JFN28dBLni

Ky ถ้าใครเป็นแฟนคลับเรื่องที่ดีซ่านพูดกูขอโทดนะ กูไม่รู้บริบทและเนื้อเรื่อง แต่ถามจริงๆเหอะ ยิ้มแบบนี้นี่คือ "ยิ้มทีโลกอบอุ่นใจละลาย" เหรอวะ? https://www.dek-d.com/board/view/3967505/

865 Nameless Fanboi Posted ID:d+gu/4PcBF

>>864 อ่านทั้ง 2 ประโยคแล้วรู้สึกว่า... ไม่รู้ดิ อาจเป็นเพราะกูไม่ค่อยอ่านแนวจีน เลยคิดว่าแม่งโคตรฟุ่มเฟือยเลย เยิ่นเย้ออ่านแล้วรำ

ละไอ้ "อุ่นซ่าน" นี่คืออะไรวะ คำขยายแบบใหม่คล้ายร้อนจี๋งี้เหรอ

866 Nameless Fanboi Posted ID:7pid96SLXW

>>860 ลงชื่อรออ่าน +1 คน

867 Nameless Fanboi Posted ID:JFN28dBLni

>>865 กูผิดเองที่พิมพ์ตก กูหมายถึงรูปที่นางยกตัวอย่างมาน่ะ คือไม่รู้หรอกนะว่านางแคปมาผิดจังหวะ หรือใจกูมองโลกในแง่ร้าย แต่กูรู้สึกไม่ไว้ใจแววตาของคนที่ยิ้มในรูปว่ะ เลยรู้สึกอบอุ่นไม่ลง

868 Nameless Fanboi Posted ID:jB/gzBL+ei

>>867 ยิ้มแบบทะเล้นแห้งๆ

869 Nameless Fanboi Posted ID:lRD6ikJoHh

การตลาดแนวใหม่เหรอ แม่งดูน่าสมเพชมากกว่าน่าเข้าไปอ่านนะ
https://www.dek-d.com/board/view/3967540/

870 Nameless Fanboi Posted ID:70CRp.t4Ie

สรุปปิดเทอมนี้มีนักการตลาดหน้าใหม่มากี่คนแล้ววะเนี่ย ว่างกันหรอเด็กพวกนี้

871 Nameless Fanboi Posted ID:JFN28dBLni

>>869 การติด tag ในกระทู้นี่ทำกูเชื่อจริมๆว่ากำลังท้อ

872 Nameless Fanboi Posted ID:603p06oa3E

พวกนิยายทั่ว ๆ ไปนี่เขาไม่ใช้มู้มาโฆษณานิยายกันสินะ ทำไมเจอแต่แนว ๆ นี้

873 Nameless Fanboi Posted ID:t3a1MIQFGY

>>869 กูว่าจะเอาเรื่องนี้มาสับเพราะเห็นบอกว่าห่วยเลยเข้าไปดูหน่อย แต่พวกมึงงงงงง!!! การเว้นวรรคของคำหนักกว่าเรื่องตำนานรักที่เมื่อวานกูสับไปอีก เว้นทุก ๆ สี่ห้าคำ เว้นทำไม ทำไมต้องเว้น
เช่น
“และทันทีที่ ด๊อกเตอร์เจมส์ พูดมาถึงตรงนี้ เจ้าของใบหน้าสวยหวาน ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา อย่างเพลียๆ ก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของอีกฝ่าย เพราะเมื่อสามเดือนก่อน ที่เธอพาคนงานจำนวน 20 คน เข้าไปทำการสำรวจที่นั่น แล้วหลังจากนั้น ต่อมาอีกไม่กี่วัน คนงานทั้งหมดก็ค่อยๆ พากันล้มป่วย และตายลงไปทีละคน ทีละคน อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ทุกๆ คน พากันกลัว...”

เวลากูอ่าน กูต้องหยุด ให้หายใจ ตามเรื่องไปด้วย ทำไมก็ไม่รู้ นักเขียนเคยอ่านนิยาย ต้นแบบมาจากไหน อยากรู้จีจี
(กูก็เชี้ยมากไปล้อเลียนเขาอีก)

874 Nameless Fanboi Posted ID:t3a1MIQFGY

>>873 ยังไม่นับบทพูดที่แปลก เอาคำอะไรก็ไม่รู้มาใช้
ถ้ามีเวลากูจะลองเข้าไปอ่านแบบจริงจัง ว่าพล็อตเรื่องเป็นยังไง

875 Nameless Fanboi Posted ID:Vm0qywCVGD

>>869 กูปิดตั้งแต่คำโปรยเลย บทพูดกูว่าตัวเองก็เขียนเหี้ยในระดับที่บก. บอกให้กูลองไปอ่านออกเสียงสิ ว่ามันแปลก ๆ ไหม? ทำไมเขาฮิตเคาะ enter เยอะ ๆ เหรอวะ กูเลื่อนเมาส์จนนิ้วด้านกว่าหน้าแล้วเนี่ย บอกว่าปรับปรุง งานห่วย กูมองว่า คำโปรยก็เหลือเกิน ไม่ได้ฟินอะไรเลย ดูแท็กแล้ว เอ่อ... มันใช่เหรอวะ เด็ก 17 ยังโดนเรื่องพรากผู้เยาว์ใช่ไหม? ตอนแรกตัดฉาก ........ ส่งรหัสมอส ถ้าคนเขียนมันปรับปรุงตามปากมันว่านะ

876 Nameless Fanboi Posted ID:7pid96SLXW

>>873 อ่านแล้วเหนื่อยสัส ถ้าอ่านออกเสียงกูต้องหายใจแล้วหยุดสลับกันแบบผิดธรรมชาติ กูแม่งเริ่มสงสัยแล้วว่าในโรงเรียนประเทศนี้สอนอะไรให้เด็กกันแน่วะ นี่มันภาษาแม่นะ ภาษาประจำชาติ เย็ดเค้ก!

877 Nameless Fanboi Posted ID:mlMdjrVQi0

>>873 จังหวะเสียงพากย์ของอนิเมะ

878 Nameless Fanboi Posted ID:l1E5misruV

กูเคยถามคนที่ขยันเคาะบรรทัด เขาบอกว่าเห็นในเว็บติดกันเป็นพรืด กลัวตัวเองเขียนแล้วอักษรจะติดกันเกินไป อ่านยากแล้วไม่ยอมอ่านกัน (มันก็ไม่อยากอ่านถ้าติดกัน)
สรุปกูสวดมันเรื่องนี้ไปแล้ว แต่คิดว่านักเขียนหน้าใหม่หลายคนมันต้องแอบคิดยังงี้กันเยอะเลยว่ะ

879 Nameless Fanboi Posted ID:TMcEE5wwWB

กุก็ไม่อยากตัดสินว่าดีหรือแย่นะ แต่เด็กรุ่นใหม่ ๆ นี่ ไม่อ่านตัวหนังสือที่มาเป็นกำแพงแล้ว
แต่สมัยกุ ๆ ก็อ่านมาแบบนี้ นิยายแปลฝรั่งแม่บรรยาเป็นครึ่งหน่า
คือคนเขียนต้องมาทำให้มันย่อยง่ายถึงจะยอมกิน
แดรกกันเป็นถาดหลุมโรงเรียนประะถมเลย

กุงงว่านี่คือมันดีขึ้นหรือแย่ลงวะ

880 Nameless Fanboi Posted ID:WuvUZhw1Dh

>>869 ใช้คำได้ดูถูกนิยายตัวเองสัสๆ ขนาดตัวเองยังไม่เคารพในสิ่งที่ตัวเองเขียน งานเขียนแม่งจะไปได้ดียังไง กูก็เคยว่านิยายตัวเองกากนะ แต่ไม่เคยเอามาลงบอร์ดเรียกคนแบบนี้อ่ะ สงสารนิยายตัวเองแปลกๆ แล้วนอกจากทู้นี้เห็นมีอีกทู้ นี่มันการโฆษณาแบบเอาดราม่าเข้าช่วยสินะ อ้อ กูเข้าไปอ่านหน้าปกมันมานิดหน่อย ไม่ได้ติดใจเรืาองเว้นวรรคนะ แต่ติดใจเรื่องการใช้คำมากกว่า รอเพื่อนโม่งอื่นสับอยู่นะ

881 Nameless Fanboi Posted ID:7pid96SLXW

>>879 เปลี่ยนไปตามสมัยนิยมและผู้บริโภค

ในมู้ก่อนๆ กูเคยสับไปเรื่องนึง ไอ้นักเขียนนี่ทำการบ้านมาดี พยายามเลี้ยงความยาวย่อหน้าให้ไม่สั้นหรือยาวกว่า 4 บรรทัดในแอพ ซึ่งกูว่ามันเวิร์คสำหรับคนที่อ่านผ่านแอพ ส่วนใครอ่านบน PC จะรำคาญมาก มึงแม่งขึ้นย่อหน้าบ่อยเกินจนรู้สึกเหมือนกำลังอ่านมู้ในโม่ง

882 Nameless Fanboi Posted ID:LHMF9FNH.q

แต่ก็ต้องสารภาพว่านิยายที่กุเขียนใหม่ตอนนี้ก็จะลองใช้วิธีเคาะขึ้นบรรทัดใหม่บ่อย ๆ รอครบสิบตอนก่อน จะมาปลอมเป็นม้าให้โม่งสับ

883 Nameless Fanboi Posted ID:.C5qfpedlV

>>879 พูดแล้วน้ำตาจะไหล เมื่อก่อนนี่การเขียนย่อหน้ายาวๆ เป็นกำแพงแล้วอ่านได้ลื่นไหลนี่โคตรเท่ เป็นการโชว์ทักษะ​การเขียน+คลังคำ ของนักเขียน

เดี๋ยว​นี้ต้องคอยเคาะๆ ไม่งั้นคนไม่อ่าน รู้สึกสมเพชตัวเอง

884 Nameless Fanboi Posted ID:MpRGqyQ+la

แต่กูก็ยังเขียนแบบเดิมว่ะ คือ 1 ย่อหน้า ไม่น้อยกว่า 2 บรรทัด และไม่มากกว่า 6 บรรทัด กูว่าถ้ามึงรู้จักใช้กลวิธีในการเล่าเรื่อง รู้จักการใช้จังหวะหนักเบา มึงไม่จำเป็นต้องเคาะย่อหน้าใหม่ถี่ๆ เลย ไอ้นิยายที่มีแต่บทสนทนาก็เหมือนกัน นิยายกูบางตอนล่อบรรยายไป 5 หน้าติด ไม่มีใครคุยกันสักคน แต่ไม่เคยโดนคนอ่านบ่นเพราะว่ากูเลือกมาแล้วว่ากูจะเล่าอะไรเพื่อให้คนอ่านอยู่กับสิ่งที่กูจะเล่า ซึ่งมันทำได้เว้ย ไม่จำเป็นต้องเคาะย่อหน้าแทบทุกประโยค เคาะเว้นวรรคทุกวลี

885 Nameless Fanboi Posted ID:WuvUZhw1Dh

>>884 ข้อนี้กูเห็นด้วย มันอยู่ที่จังหวะและการดำเนินเรื่อง ไม่ใช่ฝืนตัดตามใจตัวเอง บางย่อหน้ากูเกินหกบรรทัดก็มี แต่พยายามไม่ให้เกินมากกว่านี้เพราะอ่านในมือถือแล้วมันติดกันเกินไป แต่บางย่อหน้าก็บรรทัดเดียว จริงๆ เรื่องน่อหน้าไม่ค่อยมีปัญหานะ กูมีปัญหากับพวกเว้นวรรคแบบพังๆ มากกว่า

886 Nameless Fanboi Posted ID:KhYeh87B4z

She picked me up in the Lambo, her foot on the pedal
I'm nervous but don't got the nerves to go tell her
She bumpin' hip-hop and lo-fi instrumentals
I'm prayin' I make it to play at Coachella
My future depends on the shit that I say
I'm making a mil' and you makin' mistakes
Say you in your bag, well I'm in a suitcase
But "size doesn't matter", that's what your girl say
I'm back and I'm mothafuckin' vengeful
Say that you ballin' I'm breakin' ya ankles
Stop pocket watching your name isn't Seiko
Checks raining on me like a plan getting cancelled
Damn, where did they go?
Uh, uh, where did they go? Uh, uh
I'm talking bout the rappers that don't wanna get dismantled
Drip but you short like a muhfuckin' candle
I ran through like seven condoms in the middle of the day
If my mama heard this song I wonder what the fuck she'd say
"No, not my angel!" Uh, uh, "Not my angel," uh, uh
Mom I got the jimmy on I'm setting good examples
Least I'm safe with it please be thankful, uh
I-I-I-I do not spread it unless it's a fact
I go out to these parties to bring someone back
I don't go out to look at you clowns interact
Y'all are Tetris a crew full of squares and a stack
I fucked a white girl and her ass kinda fat
Her friends are asking, "What happened to Zack?"
I looked at her, said, “You're better than that”
Sporting goods store, man, this dick's where it's at
If you fake, don't come to my shows
I will not put no shit up my nose
I got one trick for callin' up ho's
If uno don't work, what about dos?
Some tequila, uh, uh, gasolina, uh
We just havin' conversations don't get geeked up
Got two girls in my crib playing FIFA
I am still ballin' out in a fragile economy
I am the balance of bullshit and honesty
I got an earring and posted a picture now
Sex is an art and my bedroom's a gallery
Spendin' some bread on some property
If it ain't real estate then don't talk to me
Got kicked out for painting my Airbnb
I don't want it if it don't belong to me, ayy, uh
Nobody fucking with me like a virgin
These people telling more lies than commercials
They making propagandas in that they head that they could hurt me
What you make in a year is what I make in a verse
Man, you motion-sensitive 'cause my moves will make you nervous
She say I'm the one for her because she like assertive
Man, she won't even hug you but she suck me like she Kirby
She gave me her name and her number like a Jersey

887 Nameless Fanboi Posted ID:7pid96SLXW

>>886 เอาคลิปมาด้วยดิ

888 Nameless Fanboi Posted ID:KhYeh87B4z

https://youtu.be/Wsm3VuLuUVA

889 Nameless Fanboi Posted ID:WxUrsi2Jrq

>>884 โดยเฉพาะอีตุ๋นกบกับบางตัว ชอบย่อหน้าเว้นช่องไฟกว้างเกินไปจนขี้เกียจอ่าน ยังกะตัวมันไม่เคยเห็นกระดาษ A4 ตามร้านถ่ายเอกสารทั่วไป

890 Nameless Fanboi Posted ID:LrEpvGasqp

>>889 คำถาม.....เราเป็นโม่งใหม่และงงว่าตุ๋นกบนี่คือใคร จะพยายามตามเรื่องให้ทันแต่งงรายชื่อบุคคลไปหมด เล่าเบียว/ดอกขาวกับ M นี่พอรู้

891 Nameless Fanboi Posted ID:i59gabSeyJ

สุดยอดนักเขียนที่ได้ เงินแสนกับงานเขียนออนไลน์ ไง

892 Nameless Fanboi Posted ID:YBmz7YN.fT

โอย... ช่วงนี้โดนพิษโควิดเข้าไปถึงขั้นไม่ได้หลับไม่ได้นอน ออกตัวก่อนว่าช่วงนี้กูนอนน้อยมาก ถ้าอ่านสับแล้วดูมึนๆ เบลอๆ กูก็ขอโทษด้วย (เหมือนเมาเหล้าตลอดเวลาทั้งๆ ที่ไม่ได้ดื่มอะ) ที่สับนี่คือกูพยายามหนีความจริงจากงานสุดหฤโหดอยู่ ต้องทำขนาดนี้เลยจริงๆ ไม่งั้นกูคงจะบ้าตายเร็วๆ นี้ มองอะไรก็ไม่ค่อยชัดแล้วเนี่ย พูดถึงนิยายที่กำลังจะสับสมองกูคงเริ่มรวนแล้ว เพราะแม่งนึกไม่ออกจริงๆ ว่าไปเจอมาจากไหน ส่วนใหญ่มันจะมีแหล่งล่อซื้ออยู่ไม่กี่ที่ ถ้าไม่ใช่มีคนเอามาโฆษณาในบอร์ด หรือลองสุ่มหยิบจากรายการของขาประจำบางราย ก็อาจเป็นนิยายที่เพจเด็กดีแนะนำมา คือมีความหวังไงว่ามันจะต้องมีสักเรื่องที่ได้มาตรฐาน (แต่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แวว) ก่อนจะเริ่มลุยถ้าพวกมึงอยากช่วยกูลดงาน ท่องไว้เสมอ จำให้ขึ้นใจ "กินร้อน ช้อนกู อยู่ห่าง ล้างมือ ถือเจล" ส่วนหน้ากากทั่วไปกูบอกตรงๆ นะ ช่วยได้ไม่มาก เปอร์เซนต์คาดหวังด้านการป้องกันไม่เกิน 30% กรณีพวกมึงติดเชื้อไปแล้วต่อให้ใส่ ถ้าไม่ใช่ N95 หรือ Tactical gas mask โอกาสแพร่เชื้อก็ยังสูงอยู่ดี มีอาการอะไรนิดหน่อยควรกักตัวทันที ถ้ากูหายไปพวกมึงทำใจไว้เลยว่าแม่งสู่วัลฮาลาเรียบร้อย แต่ถ้าโชคยังพอมีเดี๋ยวไว้จะมาสับอีก

เรื่อง : วีรบุรุษแห่งดาวเซนเทอร่า
นามปากกา : Tails Universe
ลิงก์ : https://my.dek-d.com/BossRaiderz/writer/view.php?id=1956682
คำโปรย : Dranell มังกรไร้ปีกผู้ที่โดนดูถูก เยียดหยาม และเป็นเด็กกำพร้าแต่ทว่าเขาคือผู้ถูกเลือกเพื่ออนาคตชะตากรรมของดวงดาว
หมวด : ฟรีสไตล์ > แฟนตาซี
จำนวนตอน : 33 ตอน
สถานะตัวเรื่อง : ยังไม่จบ [ อัพเดตล่าสุด 31/3/63 ] อัพไปเมื่อวาน น่าจะยังไปต่อ

เออ... กูคงต้องรวบรัดหน่อย เพราะต้องสับไอ้นักเขียนคนนี้รวบ 2 เรื่องรวด (อีกเรื่องน่าจะสับวันอื่น) มันวางสเกลจักรวาลให้นิยายตัวเองอย่างยิ่งใหญ่ใส่ไข่ดาวเพิ่ม 2 ฟอง ข้ามไปอ่านคำโปรยของอีกเรื่องแล้วเริ่มจำได้ลางๆ ว่าน่าจะเป็นกระทู้อวดของ เนื้อหาประมาณว่าแต่งขึ้นโดยพล็อตที่คิดได้ตั้งแต่ตอนประถม คือถ้ามึง Mention เกม 12 หางออนไลน์เป็นแรงบันดาลใจเรื่องนี้แล้วมึงบอกว่าตอนนั้นอยู่ประถม แปลว่าไอ้นี่ยังไม่พ้น ม.ปลาย แน่ๆ ทำใจเรื่องคุณภาพได้แล้วก็มาดูเนื้องานตามลำดับกันดีกว่า

ชื่อเรื่องธรรมดาสัสไร้ความน่าสนใจ ถ้ามีคนตั้งว่า "Isekai ลุงตู่กู้โลกเรือดำน้ำวิเศษ" กูยังจะให้ความสนใจมากกว่า คำโปรยอ่านแล้วนึกถึงนิยายจีนแต่ถ้าเปิดเรื่องแบบไม่ได้เป็นขยะของฝูงมังกร กูจะไม่หักคะแนนก็แล้วกัน ด้านความคลิเช่ก็เอาเหอะ ตัวเอกทั้งทีให้เป็นผู้ถูกเลือกก็ไม่เสียหาย Tag ต่างๆ ไร้ความเชื่อมโยง จนสมควรถูกด่าเหมือนที่โม่งบ่นไปก่อนหน้านี้ว่ามึงติดหาพ่องมึงแบบนี้ทำไม ส่วนปกรองเป็นชื่อตัวละครต่างๆ และประวัติโดยสรุป กับคำอธิบายของยุคสมัยในเรื่อง ใช้ปกรองได้อย่างไร้ค่าโคตรๆ ไม่ทำให้กูอยากอ่านเพิ่มได้เลยแม้แต่น้อย

ตอนที่ 1 : แนะนำเทพเจ้าและยุคสมัย

ไม่มีอะไรมาก แนะนำชื่อเทพเจ้าสั้นๆ จบ อ่อ... มียกหนุมาน ครุฑ กับ นาค เป็นเทพเจ้าด้วยนะ กูนี่มองบนเลย (อ่านจบคิ้วกระตุกเล็กน้อย)

ตอนที่ 2 : บทนำ

เล่าประวัติแบบไม่สน 4 สน 8 ใดๆ อ่านแล้วไม่รู้ที่มาที่ไป ชื่อเฉพาะถูกเขียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด อ่านจบไม่รู้ว่าเป็นเพราะสมองเบลอหรือมันเล่าไม่ดีกูเลยแม่งไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างช่วงแรก นอกจากมีสงคราม กับตอนท้ายที่เล่าว่าพวกจอมเวทเผ่าไหนซักเผ่าโดนอีกฝ่ายจัดการ ทำให้ทวยเทพเงิบแดกเพราะนักเวทเหล่านั้นถูกฆ่าก่อนทันจะได้เป็นผู้มาจบสงคราม แผนสำรองก็ไม่เลยไม่รู้จะเอาไง (อยู่มิติไหนวะเนี่ย เป็นเทพที่กากจริงๆ) ก่อนจบบทนำความยาว 2 ย่อหน้าถ้วนด้วยคำทำนายแบบเน้นหนาสไตล์ ก็คงพูดถึงพระเอกอะแหล่ะ

893 Nameless Fanboi Posted ID:YBmz7YN.fT

>>892

ตอนที่ 3 : ตอนที่ 1 มังกรไร้ปีก

แม้จะหลอกตาว่าดูยาวเพราะเว้นบรรทัดบ่อยและใช้ขนาดตัวอักษรใหญ่ ถ้าลองปรับลงมาเป็น 16 หรือ 14pt กูว่าคงได้ไม่เกิน 4 หน้า (ม๋อยแมลงเต่าทอง) เปิดตอนมาด้วยพระเอกของเราขโมยของชาวบ้าน พ่อค้าโนเนมเจ้าของสร้อยที่พระเอกลักเดินเข้าไปฟ้องผู้บัญชาการได้ถึงในห้อง (เข้าไปได้ไงวะ) เล่าฉากการไล่ล่าพระเอกของพวกทหารได้ห้วนจนไม่รู้เรื่อง พระเอกหนีลงท่อและดำน้ำเน่าหนีไปได้ ถึงตรงนี้เนื้องจากนักเขียนไม่บรรยายสิ่งแวดล้อมในเรื่องแม้แต่น้อย ภาพในหัวกูเลยออกมาเป็นฉากท่อระบายน้ำในเมืองนิวยอร์กแบบเรื่องนินจาเต่า แต่จากที่มันเขียนคำโปรยไว้จริงๆ มันน่าจะออกแนวแฟนตาซีอะ ยังไงดีวะ เซตฉากหลังให้มีท่อระบายน้ำในโลกแฟนตาซีเหรอ พอกลับถึงบ้านได้นายพระเอกดราเนลก็โดน ผบ. เดอวิค รวบโดยละม่อมเป็นรอบที่ 14 (โดนจับมา 13 ที มึงยังไม่ย้ายที่พักอีก ไอ้เควี่ย) พอไปถึงคุกก็มีการพูดคุยกัน สรุปว่า ผบ. แม่งเป็นพ่อบุญธรรมไอ้ดราเนล ลุงเดอวิคปวดหัวที่ลูกชายดันเอาดีทางขโมยขโจร แต่ก็ไม่รู้จะดัดนิสัยมันยังไงเลยโยนแม่งเข้าคุกเหมือนเดิม จากนั้นลุงขี้คุกนามฟิโนก็ทักทายพร้อมชวนให้พระเอกดูดใบไม้อะไรสักอย่างที่น่าจะคล้ายกัญชา (ลุงแม่งเรียกดราเนลว่า "แดง" ฟังแล้วไท๊ไทย) ตอนแรกไอ้แดงไม่อยากดูดเพราะลุงใช้ซอกข้างส้วมเป็นที่ซ่อนใบไม้ มีตลกซกมกว่าลุงซ่อนไฟแช็คไว้ใน Asshole ด้วย แต่สุดท้ายแม่งก็ยังดูด ทหารยามมาเห็นเข้าแทนที่จะริบของดันขอดูดอีกคน จนแม่งลาลาลอยกันยันเช้าทั้ง 3 ราย ปิดตอนด้วยการแหกคุกของไอ้แดง เพราะล้วงกุญแจจากทหารยามไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน

ตอนที่ 4 : ตอนที่ 2 จิ้งจอกสาว

ตัดฉากไปยังทิศตะวันออกของทวีป ชาวมนุษย์กำลังวิ่งหนีหนอนยักษ์แล้วหกล้มขาหัก (ล้มบนพื้นทรายแล้วขาหัก ? วฎฟรรค ?) ก่อนจะโดนหนอนแดก มีสิงโตกับจิ้งจอกโผล่มาช่วยไว้ได้ คุยกันได้ความว่า 2 ตัวหลังกำลังหลงทาง เพื่อตอบแทนที่ช่วยชีวิตมนุษย์ชายเลยอาสานำทางเข้าเมือง ก่อนจะได้เดินทางจิ้งจอกสาวใช้เวทสมานกระดูก ไอ้คนนำทางเข่าหายก็จริงแต่ดันสลบไประหว่างการรักษา (สรุปมึงขาหักหรือเข่าแตก ?) กลายเป็นว่านักเดินทางเลยต้องตามรอยเท้าไอ้ตัวภาระย้อนเข้าเมืองกันเอง เมืองที่ว่าคือเมืองที่ไอ้แดงเพิ่งจะก่อเรื่องไป มีการพูดถึงชีวิตชีวาของเมืองเล็กน้อยก่อนจิ้งจอกสาวจะบ่นว่า ความสุขพวกนี้มันจะคงอยู่ไม่นานหลังใครบางคนขึ้นครองบัลลังก์ ครึ่งหลังของตอนเป็นการสนทนาของสิงโตสูงวัยกับจิ้งจอกสาว เกี่ยวกับภารกิจล่ามอนสเตอร์เพื่อหาเงิน กับการเปลือยกายของฝ่ายหญิง ลุงสิงบอกมึงไม่ใส่เสื้อผ้าหน่อยเหรอก่อนจะคุย แต่น้องจิ้งบอกว่า มึงก็เห็นมาหมดแล้วจะบ่นทำไม ดูทรงแล้วคงเป็นพ่อเลี้ยงกับลูกติดที่ไม่ได้มีอะไรเกินเลย ปิดตอน 4 ด้วยการเจอกันของน้องจิ้งกับไอ้แดง

ตอนที่ 5 : ตอนที่ 3 การร่วมมือกันของคนแปลกหน้าทั้ง2

ไอ้แดงขอให้น้องจิ้งช่วยกันปราบบอสปรสิต 3 ตัว ตอนแรกกูคิดว่าเพราะไอ้แดงจะต้องผ่านท่อระบายน้ำไปเพื่อหนีออกจากเมืองเลยขอให้น้องจิ้งช่วย แต่ไม่ใช่ เพราะหลังจบบทบรรยายการต่อสู้ที่กระท่อนกระแท่น วกวนสับสน อ่านแล้วงง เห็นภาพไม่ชัด สรุปว่าไอ้แดงมาเพื่อโชว์เทพเฉยๆ นักโทษแหกคุกทำเควสไม่ได้ และใบรับเควสน้องจิ้งก็ดึงออกมาจากบอร์ดภารกิจเรียบร้อย คนอ่านอย่างกูจึงเกิดความงงว่า สองคนนี้มันมาเจอกันได้ไงวะ เพราะไอ้แดงไม่น่าจะรู้ว่าแถวนี้มีปรสิตให้ทำเควส จะว่าบังเอิญก็ยังไงอยู่ ฆ่าปรสิตทั้งหมดได้ไอ้แดงก็กระโดดโลดเต้นดีใจเข้าสวมกอดน้องจิ้งแล้วบอกว่า ดูดิการร่วมมือของเราสองคนโคตรเจ๋ง พวกเราจะกลายเป็นตำนานแหงๆ แต่สาวเจ้าไม่ปลื้มจับพระเอกทุ่มไป 1 ที สรุปซี่โครงหัก (มังกรอะไรวะกากสัส) หลังจากนั้นไอ้แดงไปรักษากระดูกที่บาร์เดียวกับที่น้องจิ้งกับพี่สิงพักอยู่ น้องจิ้งดราม่าเก็บข้าวของทั้งน้ำตา บอกว่าหนูแม่งก่อเรื่องอีกแร้วขร่ะ พวกเราคงต้องหนีอีกรอบแร้วขุ่นพร่อง ลุงสิงเลยปลอบใจว่าไม่เป็นไรหรอก มันไม่รุนแรงเท่าคราวก่อน เข้มแข็งไว้นะลูกแล้วตบน้องจิ้ง 1 ครั้งโทษฐานสก๊อย (ล้อเล่น) ก็คงเป็นปมประเภทอดีตเคยก่อเรื่องจนเป็นตราบาปติดตัว ตัวละครหญิงสไตล์เย็นชา 70% มักมีจุดอ่อนแบบนี้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน คือแบบว่าเก่ง เก่งมากๆ แต่มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เป็น Mental-case อ่อนๆ คอยรังควาน ระหว่างการปลอบใจไอ้แดงเปิดห้องเข้ามาทวงค่ารักษาพยาบาลเพราะไม่มีเงินจ่ายเจ้าของบาร์ ก่อนลุง ผบ. จะตามเข้าห้องมาพยายามรวบตัวเป็นครั้งที่ 15 ไอ้แดงเลยต้องเผ่น ท้ายตอนลุงเดอวิคคิดว่าคงต้องส่งไอ้ลูกเหี้ยนี่ไปคุกหลวงได้แล้ว ระหว่างเตรียมปืนยาสลบพี่สิงแพดเดิ้ลป็อบดันพูดเปิดปมว่ารู้จักลุงด้วย แล้วก็ตัดจบตอนแบบไร้คลิฟแฮงเกอร์เช่นเคย

894 Nameless Fanboi Posted ID:YBmz7YN.fT

>>893

การบรรยาย : บทสนทนาทำได้โอเค ไม่ผิดธรรมชาติ อ่านแล้วนึกอิมเมจและนิสัยตัวละครออกได้ไม่ยาก ส่วนการเล่ายังขาดทั้งความต่อเนื่องและชัดเจน พยายามจะขายฉากต่อสู้แต่พังไม่เป็นท่า Pacing อยู่ในระดับเดียวกับหนังของ "พอร์ช อานอน" (ขอบิดหน่อยเพราะแกขี้ฟ้อง) ขายได้แค่ตัวละคร เนื้อเรื่องอิหยังวะตลอดการฉาย พล็อตโฮลจับได้ง่ายเหมือนเขียนวงเล็บบอกไว้ว่า (ตรงนี้คือพล็อตโฮลจ้า) เส้นเรื่องไม่ชัดเจน อ่านจบ 5 ตอนแรกที่ถูกใช้ไปอย่างโง่ๆ ถึง 2 ตอน ยังบอกไม่ถูกว่าพระเอกเกี่ยวข้องยังไงกับเนื้อเรื่องหลัก เอาจริงๆ แม้แต่เนื้อเรื่องหลักกูยังมองไม่ออกเลยว่าจะเป็นยังไงต่อ (ขนาดใช้บทนำแล้วนะเนี่ย) บอกตามตรงอ่านการบรรยายของแม่งแล้วไม่ค่อยรู้เรื่อง การบรรยายฉากไม่ค่อยมี หรือบรรยายทีก็น้อยมากๆ ตามหลักแล้วเราควรบอกนักอ่านเบาๆ ว่าเหตุการณ์ในฉากกำลังจะเกิดขึ้นที่ไหน บรรยายกาศเป็นไง แม้จะเขียนแค่สั้นๆ ก็จะช่วยได้อย่างมาก แต่แบบของไอ้นี่ไม่เอานะ สอบตกได้เกรด G- เลย เพราะเซตติ้งของสถานที่มันไม่เข้ากับตีมเรื่อง โลกแฟนตาซีมีท่อระบายน้ำเรื่องเดียวที่ออกแบบมาแล้วน่าเชื่อว่าเป็นไปได้คือในการ์ตูนเรื่อง Goblin Slayer ช่วงเควสซอร์ดเมเด้น เพราะวางพื้นฐานตัวเมืองเป็นนครแหล่งน้ำ สร้างครอบตาน้ำและระบบลำเลียงไว้ แต่เรื่องนี้มันยังไงวะ ไม่ชี้แจงอะไรเลย อยู่ดีๆ ก็บอกว่าหนีลงท่อ ขนาดในก็อบหลวมสเลเยอร์ยังไม่มี Manhole เลยนะ เดินลงบันไดแล้วเข้าไปผ่านปากอุโมงค์ติดถนนของเมืองเลย การบรรยายโดยรวมรอดแค่ด้านเดียวคือ Conversation นอกนั้นห่วยแตก

ตัวละคร : อุปนิสัยสื่อได้ดี อ่านแล้วเข้าใจลักษณะนิสัย แต่ไม่ค่อยอธิบายรูปลักษณ์ อาจเป็นสไตล์ส่วนตัว เพราะมีหลายคนก็ไม่ได้เขียนบอกผมทรงนั้นนี้ ตาตี่ตาโต คิ้วรูปอัลด์มอน ปากกระจับ ฯลฯ เห็นบอกกันมากสุดแค่โครงร่างว่าเป็นคนผอมหรืออ้วน ก้างหรือล่ำ แล้วที่เจอบ่อยสุดคงหนีไม่พ้นร่างบางร่างหนา (ถามจริงนี่คนหรือกระดาษคะอีดอก) กับสีผม, ตา, ผิว ถ้าไม่อยากเจอด่ามาก ก็บอกคร่าวๆ นั่นแหล่ะ ไม่ต้องละเอียดยิบยันรูขุมขนว่ากำลังจะอุดตันจนเกิดสิวหรือเปล่า กูบอกรุ่นน้องไปเกือบหมื่นรอบว่า คนอ่านมันไม่ค่อยจำรายละเอียดพวกนี้ มันจะไปจิ้นในหัวกันเองแค่มึงบอกไปก็พอว่า ผม ผิว กับ ตา มันสีอะไร ภาพมันจะขึ้นมาเองหลังอ่านไปสักพักแล้วรู้นิสัยตัวเองละคร อย่าดูถูกการจิ้นของนักอ่านเด็ดขาด ถ้าไม่จำเป็นควรเลี่ยงการแปะภาพ มันทำให้เสียลูกค้าบางส่วนไปในทันที คือทั่วทั้งตัวเนี่ยที่สำคัญจริงๆ คือ "ตำหนิบนร่างกาย" โว้ย มึงอยากให้ตัวชายออกมาเท่ ก็แปะแผลเป็นเด่นๆ ไว้สักที่ หรือตัวละครรองตัวฮา จะให้มันคิ้วโกร๋นเหมือนจารย์เจษก็ได้ ตัวหญิงนี่มีให้เล่นเยอะ ลักยิ้ม ไฝ ปาน วางตำแหน่งดีๆ ได้อิมเมจอย่างชัด ถ้ามันหน้าใสไร้จุดด้อย ให้ไปเล่นกับ Expression แทน เช่น ชอบยักคิ้ว เม้มปาก หรือ ย่นจมูก เวลามีอารมณ์แบบไหน อย่ามาคิ้วโค้งดังคันศร ปากเล็กนุ่มชุ่มชื่น ตาโตราวจันทร์เพ็ญกับกู กูตบหน้าหันเลยนะ

เนื้อเรื่อง : แต่งละตอนมีพื้นที่ให้สื่อเยอะ แต่แม่งวนเวียนอยู่เมืองแรกกับคุกที่พระเอกไปเที่ยวเหมือนบ้านพักต่างอากาศ เดินเรื่องช้าแบบไม่ได้แวะเยี่ยว แค่ปูเนื้อหามาอย่างไร้ทิศทาง บางอย่างไม่จำเป็นเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะช่วงคนหกล้มเข่าแหกบนพื้นทรายเนี่ยตัดมาเจอกันที่บาร์ได้เลยปะ (แล้วมีความจำเป็นอะไรถึงต้องใช้คำว่าโรงเตี๊ยมในเรื่อง ?) เขียนแค่ว่าไอ้แดงกำลังจะเปิดตูดหนีหลังรักษากระดูก แต่พ่อดันถูกดึงตัวไว้โดยลุงสิงเสียก่อน แค่นี้ก็ลบออกไปได้ 1 ตอนครึ่งเลยนะ แล้วกัญชาไฟแช็ค*รูตูด*ลุงฟิโนเนี่ยเล่าหาพ่อง โคตร Eww อ่านแล้วหมดความอยากเอาใจช่วย พระเอกขี้คุกไม่พอดันขี้ยาอีกด้วย เนื้อเรื่องเหี้ยไรของมึงเนี่ย ไม่มีอารมณ์แบบจอมโจรเท่ๆ ไร้งี้เหรอ สมอง ไอ้สัส สมอง

895 Nameless Fanboi Posted ID:YBmz7YN.fT

>>894

จุดเด่น : ตัวตนตัวละครชัดเจน ลุงเดวิคก็เหนื่อยใจลูกไม่ได้เรื่องมากๆ พี่สิงดูสมเป็นพ่อคน น้องจิ้งก็คูลๆ เครียดๆ พระเอกทะเล้นแต่แอบโง่ ส่วนลุงฟิโนจำได้แค่ซ่อนไฟแช็คไว้ในรูตูดและเรื่องนี้เป็นเซตติ้งแฟนตาซี ที่ไม่ควรมีไฟแช็คเข้าไปอยู่ในรูตูดลุงได้ พล็อตโฮลเด่นชัดอ่านแล้วขัดใจ กาปากกาแดงทับได้ง่ายดี

จุดด้อย : ความต่อเนื่อง...พัง เซตติ้งโลก...พัง ฉากหลัง...พัง บทบรรยายทั้งทั่วไปและฉากบู้...มหาพัง ที่สำคัญที่สุดคือ " ใช้อัญประกาศแบบนี้ " รวมไปถึงคำผิดที่ผิดในคำง่ายๆ อย่างไม่น่าให้อภัยเช่น "บรรได", "สำหลับ", "ทีบ" (ผิดมาจากคำว่าถีบ ในฉากถีบหน้าพ่อตัวเองเพื่อหนี)

คะแนน : 85 คาเงโร่ (อ่านเอาฮาได้ ถ้าสามารถมองข้ามพล็อตโฮลและทนการเดินเรื่องสไตล์หอยทากเป็นตะคริวไหว)

ความเห็นส่วนตัว : เหนื่อยใจโควิดแล้วยังต้องมาเหนื่อยกับนิยายไอ้นี่อีก ดันลั่นวาจาไว้แล้วว่าจะสับเรื่องเซตเดียวกันอีกเรื่องด้วย เอาเหอะ อย่างน้อยกูก็หนีความจริงอันโหดร้ายมาเจ็บปวดในโลกนิยายแทนได้พักใหญ่ (ฟังดูไม่ดีขึ้นเลยแม่ง) เช่นเคยอะเพื่อนโม่งดูที่ feedback จะเข้าใจง่ายกว่า สำหรับนิยายที่ลงไปแล้วรวม 33 ตอน แต่ได้มาแค่ 458 วิว, 2 เมนต์ กับอีก 21 เฟ้บ อาการหนักกว่าไอ้พระเจ้าย้อนแย้งแย่เม็ดอีกนะเนี่ย

896 Nameless Fanboi Posted ID:i59gabSeyJ

ขอบคุณในความเหนื่อยยาก
กุกิน ๆ นอน ๆ ยังอึดอัด ถ้าไปลุงฝูงซอมบี้คงเครียดจนยิงตัวตาย

897 Nameless Fanboi Posted ID:SR56CrQtL4

>>892 ขอบคุณสำหรับสับที่ให้อ่านแก้เบื่อ จริงๆ ไม่มีโควิดกูก็นอนอืดอยู่บ้านมาเข้าเดือนที่เจ็ดละ เสียอย่างคือไม่ติดไวรัสแต่อาการซึมเศร้ากูจะกำเริบ ไงก็สู้ๆ นะเพื่อนโม่ง กูรอสับเรื่องต่อไปอยู่

898 Nameless Fanboi Posted ID:PCD6ImSQGc

>>892 มึงนอนหลับเถอะ บทหน้าค่อยว่ากัน เดี่ยวได้ตัดแว่น

899 Nameless Fanboi Posted ID:PCD6ImSQGc

พอมีคนตอบ นึกว่ามู้ร้างซะแล้ว
https://www.dek-d.com/board/view/3967155/

900 Nameless Fanboi Posted ID:YqAPq/p+C4

สืบเนื่องจาก >>857-860 กูมาวิเคราะห์สิ่งที่พี่เทพกวีได้พูดเอาไว้ใน Talk แต่ละตอนต่อละ ใช้เวลาเขียนพอๆ กับกูเขียนนิยายตอนหนึ่งเลยสัส

ซึ่งถ้าจะดูเนื้อความกันจริงๆ สิ่งแรกต้องทำคือคือการตัดส่วนที่เป็นสำเนียงภาษาของพี่เทพกวีออกให้หมด และดูแค่ใจความสำคัญเท่านั้น เพราะถ้าไม่แยกออกมา แม่งจะเป็นปัญหาเดียวกับตัวนิยาย คืออคติต่อตัวบุคคลจะไม่สามารถทำให้คนเปิดใจรับสารได้เลย ส่วนไหนที่กูอ่านแล้วอิหยังวะ กูจะเขียนโต้แย้งเอาไว้ บางส่วนวิชาการ บางส่วนเต็มไปด้วยอารมณ์ โปรดปั่นจักรยานในการรับชม

เขียนไปเขียนมาแม่งยาวชิบหาย อย่างน้อยๆ แนะนำว่าถ้าอยากได้ความรู้เพิ่มเติม ให้ลองอ่านทั้งหมด แต่ถ้าขี้เกียจ ยาวไปไม่อ่าน ให้ลงไปอ่านสรุปได้เลย

ส่วนต่อไปนี้คือการถอดความสิ่งที่พี่เทพกวีต้องการสื่อใน Talk แต่ละตอน ใช้ Skill ตีความ lv.70 Passive Skill มโนแจ่ม lv.99 แล้วไอ้สัส

โปรยหน้าเรื่อง – บอกแนวทางการเขียนที่ในเรื่องอาจมีหลายสไตล์

คำนำผู้แต่ง – จั่วหัวและจัดเรทนิยายว่าไม่เหมาะสมกับใครบ้าง พูดถึงเรื่องคุณค่าและเชิงกล

ข้อโต้แย้ง - เชิงกลคืออะไร???? หากไม่สามารถสื่อความหมายที่ชัดเจนได้ ไม่ควรยกคำศัพท์นี้ขึ้นมา เนื่องจากคำว่าเชิงกล อาจหมายถึง Mechanism ซึ่งสามารถใช้ได้หลากหลายความหมายและหลายทิศทาง

บทนำ- การเขียนนิยายแฟนตาซีไม่จำเป็นต้องถูกต้องสมจริงเสมอไป จะมีจุดข้อผิดพลาดบ้างก็ได้ แต่ข้อผิดพลาดควรลดลงเมื่อเขียนต่อไปเรื่อยๆ และผู้เขียนควรเปิดรับฟังความคิดเห็นเพราะถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์

บทที่ 1 – จะเขียนนิยายต้องรู้จักการสร้างประสบการณ์ร่วม ต้องมีการลงทุนเพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมจนกว่าจะได้ผลกำไรซึ่งเป็นคนอ่านกลับมา

ข้อโต้แย้ง – ใช้คำว่า “ประสบการณ์ร่วม” ผิดความหมาย คำนี้เป็นคำที่พบเห็นได้บ่อยในวงการโฆษณาและการตลาด การสร้างประสบการณ์ร่วมหรือการมีประสบการณ์ร่วม กล่าวถึงประสบการณ์ที่คนทั่วไปอาจประสบพบเจอเหมือนกัน อาจเป็นช่วงอารมณ์หรือเหตุการณ์ชีวิต ณ ขณะหนึ่ง เช่น การตั้งคำถามต่อชุดนักเรียนในซีรีส์ฮอร์โมนส์ SS1, การบล็อกแฟนเก่าในเพลง “แอบดี” ของแสตมป์ ฯลฯ ทำให้เมื่อดึงประสบการณ์ร่วมมาใช้ในการสื่อสารจะทำให้เกิดความเข้าใจระหว่างแบรนด์และลูกค้ามากขึ้น หรือพูดง่ายๆ ว่าทำให้คนอินได้มากขึ้น

ซึ่งจากเนื้อความที่พี่เทพกวียกมา คำที่หมายถึงควรจะเป็น “การสั่งสมประสบการณ์” มากกว่า “การสร้างประสบการณ์ร่วม”

ปล.จากการที่พี่เทพกวีบอกว่าเร็นชื่อ Renhart ไม่ใช่ ไรน์ฮาร์ต ไม่ได้อยากตั้งชื่อเจอร์มั่น โหลๆ แบบนั้น ชื่อไรน์ฮาร์ต ไม่ใช่ชื่อเยอรมันที่โหล แต่เป็นนามสกุลจ้ะไอ้ควาย รู้จักแค่ Reinhardt ในเกม OW แล้วเสือกอวดฉลาด

บทที่ 2 – ถ้ามีความพยายามและความอดทน ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้

บทที่ 3 - หนังสือทุกเล่ม ทุกประเภท มีคุณค่าในตัวของมัน

บทที่ 4 - ให้กำลังใจเด็กม.6 ที่กำลังสอบเข้ามหาลัย

บทที่ 5 - แนวคิดการให้น้ำหนักคะแนนข้อติชมจากคนอ่านด้วยระบบกึ่งโหวต ซึ่งพี่เทพจะใส่ใจความเห็นที่มีหลายคนเห็นด้วยและสนับสนุน และจะนำมาพิจารณาเพื่อแก้ไขนิยายตามกรอบแนวคิดของเรื่อง

ข้อโต้แย้ง - เหี้ยอะไรเนี่ยยยยยยยยย มาเจอตอนนี้กูชะงักกึกเลย แม่งโต้แย้งแบบดีๆ แบบข้างบนไม่ได้เลย สรุปใจความแล้วมึงแค่จะดูว่าคอมเม้นท์ไหนมีคนอวยเยอะ แล้วมึงจะเอามาดูอีกทีว่าจะเอามาแก้หรือเปล่า อิหยังวะ นี่แม่งคือการก่อกำแพงใส่คนอ่านนะไอ้สัส มึงจะเอาคอมเม้นท์แบบพัฒนางาน แต่ยังเสือกตั้งเงื่อนไขนั่นนี่อีก หยิ่งเหลือเกินพ่อ

บทที่ 6 – 1. เทคนิคขยายบรรทัดเพื่อแสดงความแตกต่างของฉากและความคิดตัวละคร (????)
2. เทคนิคการเขียน 03 มีการเขียนแบบละเอียด เขียนแบบกว้างๆ + เข้าคาแรกเตอร์ และการเขียนแบบผสม
3. แนวคิดเรื่องการลงทุนในเยาวชนเพื่อเพิ่มคุณค่า

ข้อโต้แย้ง
1. ไอ้สัส เทคนิคบรรทัดห่างห่าเหวไรมึงเนี่ย กูไม่รู้จะพูดไงดีเลยว่าแม่งทฤษฎีอะไรของมึงวะ หรือแม่งจะมาอารมณ์นิ้วกลม คัตโตะ ที่หน้าว่างๆ มีประโยคสั้นๆ อารมณ์แบบทิ้งช่วงอารมณ์ มีความเป็นเซน มีความเป็นมินิมอลแบบนี้เหรอ? ไม่ใช่ว่ะกิ๊ฟ ไม่ช่ายยย นี่แม่งนิยาย! การเว้นวรรคเพื่อทิ้งอารมณ์แม่งทำได้ แต่ไม่ใช่มึงจะเอาการเว้นบรรทัดมาสื่ออารมณ์ตัวละครตลอดเรื่อง เพราะสิ่งที่ควรจะสื่ออารมณ์สื่อฉากแม่งคือการบรรยายว้อย

2. มาต่อเรื่องเทคนิคการเขียนที่ครูสอนวิชาภาษาเพื่อการสื่อสารจะต้องหลั่งน้ำตา เพราะแม่งสับสนสัสๆ การเขียนมุมกว้างกับการลงลึกถึงตัวละครไม่สามารถเอามาจัดอยู่ในประเภทเดียวกันได้ เพราะการมองผ่านตัวละครมันคือการมองมุมแคบ ที่อาจทั้งละเอียดและอาจทั้งไม่ละเอียดไปพร้อมๆ กัน เพราะมันถูกจำกัดด้วยสายตาของตัวละคร ทำให้ด้านอารมณ์ความรู้สึกตัวละครตัวนั้นลึกขึ้น แต่ตัวละครอื่นอาจตื้นลง ฉะนั้น นี่ไม่ใช่การเขียนแบบมุมมองกว้าง มึงเข้าใจผิดแล้ว

มีต่อ เพราะอักษรเกิน

901 Nameless Fanboi Posted ID:YqAPq/p+C4

บทที่ 7 – 1. Nonsense Humor ที่เข้าไม่ถึงจิตสำนึกคนทั่วไป (???)

2. ทฤษฎีผีมีจริง/ไม่มีจริงที่เขียนขึ้นเอง อ้างอิงว่าอาการวิตกจริตเป็นธรรมชาติของมนุษย์ตามทฤษฎีมาสโลว์

ข้อโต้แย้ง – 1. ไม่มีคำอธิบายอย่างชัดเจนว่า Nonsense Humor คืออะไร ซึ่งตามที่ไปรีเสิร์ชมา คิดว่าหมายถึง Surreal Humor มุกที่เป็น trope ของ Pop Culture มันจะให้ความรู้สึกแปลกๆ weirdๆ และไม่คาดหวังว่ามันจะตลกได้ แต่แม่งเสือกตลก เป็นสไตล์มุกตลกร้าย แบบ Joan Cornellà หรือในไทยก็อาจจะเป็นระทม

2. ทฤษฎีของมาสโลว์ไม่ได้โฟกัสเรื่องวิตกกังวล (Anxiety) แต่ทฤษฎีหลักของมาสโลว์คือ Maslow’s Hierachy of Needs ที่พูดถึงลำดับขั้นของแรงจูงใจในชีวิตมนุษย์ ซึ่ง Anxiety เป็นส่วนอธิบายที่ว่าเวลามนุษย์ไม่สามารถเติมเต็มขั้นความต้องการในระดับ deficiency needs หรือความต้องการที่เกิดจากความขาดแคลน ซึ่งประกอบไปด้วย ความต้องการพื้นฐานของร่างกาย ความต้องการความปลอดภัย ความต้องการด้านสังคม ความต้องการเกียรติยศชื่อเสียง อาจก่อให้เกิด anxiety ได้ (ใครสนใจอยากรู้รายละเอียดก็ลองไปหาอ่านดู ทฤษฎีนี้เป็นจิตวิทยาขึ้นพื้นฐานที่ประยุกต์ใช้ได้เยอะมาก เอาไปเขียนแรงจูงใจตัวละครได้เลย)

ซึ่งวิเคราะห์แล้วพี่เทพกวีกำลังให้น้ำหนักความสำคัญทฤษฎีของมาสโลว์แบบแปลกๆ อยู่ ถ้าอ้างอิงตามคำพูดของพี่เทพแล้ว ก็อยากจะบอกว่า "อย่าเอาไปพูดส่งเดช ไม่เช่นนั้น เขาจะหาว่าท่านโง่"

บทที่ 8 - เทคนิคการเขียน 03 (ตอนต่อ) เขียนพล็อตละเอียด => วาดผังเข้าคาร์แรกเตอร์ => เขียนด้วยภาษาสวยและแก้ไขตามระบบโหวต ที่เหลือคือการพล่ามไร้สาระเรื่องให้คนรู้จักให้โอกาสพี่เทพกวีให้การเขียนหน่อย

ข้อโต้แย้ง – เทคนิคที่ว่านี่ก็คือการเขียนพล็อต เขียนทรีทเม้นต์แล้วเอามาขยายความถูกไหม ทำไมต้องทำให้ยากขึ้นด้วย

บทที่ 9 - 1. ทฤษฎีแรงบันดาลใจในการเขียน แบ่งเป็นแรงบันดาลใจลงล่าง (เขียนให้ใคร) และแรงบันดาลใจขึ้นบน (ใครทำให้เขียน)

2. การรู้จักกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่แค่รู้ว่าตัวเองคือใคร อ่านยังไง แต่ต้องเข้าใจว่า POV3 เข้าถึงง่ายกว่าเลยเป็นที่นิยม เพราะ POV1 เข้าถึงตัวละครอื่นๆ ได้ยากกว่า (?????????)

ข้อโต้แย้ง - 1. เบิ้ดคำสิเว่าเด้อกับมึงมากเรื่องแรงบันดาลใจขึ้นบันไดบ้านเนี่ย เอาที่มึงสบายใจ

2. อหหห อันนี้แม่งเหมือนโดนลูบคมสัสๆ เพราะการรู้จักกลุ่มเป้าหมายคืออะไรที่กูเน้นย้ำมาตลอดว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้นิยายมึงประสบความสำเร็จ หัวใจของมันคือ "เขียนอะไร ให้ใครอ่าน" ซึ่งถ้ามึงเข้าใจตรงนี้ มึงจะสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทั้งการวางพล็อต การดำเนินเรื่อง ภาษาที่ใช้เขียนและแนวทางในการพัฒนางานในอนาคต แล้วไอ้ห่านี่เอาเรื่องนี้มาพูดเหมือนหล่อแบบไม่รู้หีรู้แตดอะไรเลย แม่งรู้จักคำว่ากลุ่มเป้าหมายหรือ Target Group จริงๆ หรือเปล่า จะด่าว่าควายกูยังสงสารควาย

บทที่ 10 – 1.เทคนิคการบีบบรรทัด => เรื่องแต่งบรรทัดแคบๆ เพราะคนเขียนอยากให้คนอ่านมองในมุมกว้างเพื่อให้คนอ่านได้ซึมซับ

2.หลักความจริงในนิยาย => ความจริง 4 ประเภท ความจริงตัวละคร ความจริงฉาก ความจริงคนเขียน ความจริงคนอ่าน ถ้าทำให้ทุกอย่างสอดคล้องกันได้ คนอ่านจะเข้าใจที่คนแต่งต้องการสื่อ

3.การแตกผังในฉากใหญ่ VS การแตกผังในฉากย่อย => ไม่มีคำอธิบายในส่วนนี้

ข้อโต้แย้ง – 1. การเคาะเว้นบรรทัดไม่ได้ช่วยเรื่องมุมมอง มุมมองทั้งหมดทั้งมวลในนิยายมันเกิดจากวิธีการบรรยาย กลวีธีในการนำเสนอ ไม่ใช่การเว้นบรรทัด

2. คิดว่ามีการใช้คำศัพท์ผิดอีกแล้ว ที่สื่อมาตรงนี้ไม่น่าจะเป็น “ความจริง” แต่เป็น “มุมมอง” มุมมองของตัวละคร มุมมองภายในฉาก มุมมองของผู้แต่ง มุมมองของผู้อ่าน

3. อิหยังวะ จากสกิลมโนแจ่ม คิดว่าหมายถึงการลงรายละเอียดในฉากต่างๆ ซึ่งก็ยังไม่เข้าใจว่ามึงเป็นเหี้ยอะไร ทำไมต้องทำให้มันยากด้วย

ถึงตอนปัจจุบันละ กูแทบหมดรมณ์ มีต่ออีกเม้นท์จ้ะ

902 Nameless Fanboi Posted ID:YqAPq/p+C4

พูดถึงเนื้อความไปแล้ว กลับมาที่ตัวบุคคลบ้าง ปัญหาของพี่เทพกวีมีหลายอย่างมาก ขอยกตามประเด็น

พี่เทพกวีสื่อสารไม่ได้เลย ช่วงพูดคุยของพี่เทพคือเล่าอะไรห่าเหวแบบไม่มีที่ไป จับต้นชนปลายไม่ได้ ไม่มีคำอธิบายเพื่อสร้างความเข้าใจ เรียกได้ว่าล้มเหลวในการสื่อสารสุดๆ แล้วแม่งยังเรื่องวิธีการสื่อสารผิดที การพยายามเป็นพี่สอนน้อง การใช้คำต่างๆ ของพี่เทพกวีกลายเป็นการยกตนข่มท่าน การอวดอ้างว่าตัวเองดีกว่า ฉลาดกว่า รู้มากกว่า สิ่งที่พี่เทพทำคือการสร้างอคติที่ส่งไปยังผู้รับสารโดยตรง แรกเริ่มยังเป็นแค่อคติที่รู้สึกว่า น่าหมั่นไส้ในความมั่นหน้า แล้วพี่เทพกวีก็ยังไม่หยุด แต่ดันปักเพิ่มธงอคติตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุก Talk แบบนี้คือการฆ่าตัวตายแบบดับอนาถ ต่อให้เป็นนาซ่าก็พาเธอกลับมาไม่ได้ เหตุผลจะกล่าวในข้อต่อไป

พี่เทพกวีความเป็นบุคคลใส่เข้าไปในเนื้องานมากเกินไป สอดแทรกความเป็นตัวเองเข้าไปในทุกอณูงาน ไม่ว่าจะเป็นการจั่วหัว การบ่นไร้สาระ หรือการสั่งสอนต่างๆ ปัญหาที่ทำให้พี่เทพกวีชิบหายคือตัวตนที่พี่สร้างเอาไว้มันเสือกมีป้ายติดกลางหัวว่า “ใครไม่เก๋า กูเก๋า” และเป็นไทป์ที่คนไม่ชอบเสียด้วย ยิ่งแทรกตัวเองเข้าไปมากเท่าไร อคติส่วนบุคคลมันจะส่งผลไปยังอคติต่อเนื้องานด้วย จนสุดท้ายแม่งพาลไม่อ่านเพราะไม่ชอบตัวคนเขียน แล้วยิ่งฝีมือการเขียนไม่ได้เทพขนาดนั้น แม่งตอกฝาโลงย้ำคนอ่านไปอีกว่า กูดีแต่ปาก กูดีแต่สอนคนอื่น แต่งานกูก็ได้แค่นี้แหละ

พี่เทพรู้ไม่จริง รู้ไม่จริงแล้วเสือกขยันสร้างหลักการ สร้างทฤษฎีหีแตดอะไรขึ้นมาไม่รู้ ตรงนี้มีจุดให้ฉอดเยอะมากตามที่โต้แย้งไป ซึ่งถ้าให้กูด่าอีก กูก็ด่าได้สามวันไม่จบไม่สิ้นอ่ะ แล้วแม่งชอบสอนอีกว่า “อะไรไม่มั่นใจอย่าเพิ่งพูดไปจะดีกว่า” ถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า สุดท้ายรดหน้าตัวเองไหมล่ะ ไม่ได้คิดเลยว่าวันหนึ่งมันอาจคนที่เทพกว่ามึงก็ได้ เหนือฟ้าแม่งยังมีฟ้าเสมอ

คำอ้างที่สันดานมากคือ “นิยายเรื่องนี้เหมาะสำหรับปัญญาชนที่สนใจงานเขียนเล็กน้อย ไม่เก่งวิชาสังคมฯ เหมือนกับผู้แต่ง” แต่สิ่งที่มึงพล่ามมาทุก Talk แม่งคือหลักสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ทั้งนั้น ใช้หัวแม่ตีนไตร่ตรองหน่อยเถอะว่าสิ่งที่มึงสื่อสารออกมาและสิ่งที่มึงพยายามสอนคนอื่นแม่งไม่เป็นตามหลักวิทยาศาสตร์ตามที่มึงอวดอ้างว่าถนัดด้วยซ้ำ มึงพล่ามแต่หลักการทางสังคมที่ตัวมึงเองก็ไม่เข้าใจและศึกษามาไม่มากพอ ก็อยากเล่นขอบคุณนะคะที่กล้ามาสอนหนู แต่กูโกรธมากกว่า มึงกล้าดียังไงถึงมาสั่งสอนคนอื่น ทั้งที่ตัวมึงเองก็ไม่ได้รู้เหี้ยอะไรเลย

สรุป
Q: พี่เทพมีของจริงๆ ไหม?

A: มี แค่ผิวเผิน ศึกษามาแต่ไม่มากพอ และไม่รู้จักวิธีการสื่อสาร ถึงจะมีความพยายามสร้างภาพลักษณ์ แต่เป็นการวางภาพลักษณ์ของตัวเองได้พังพินาศ

A แบบจริงใจ: ไม่ สิ่งที่พี่เทพพยายามสั่งสอนคนอื่นเทียบกับองค์ความรู้ที่กูมีในสโคปองค์ความรู้เดียวกัน พี่เทพกวีขี้ตีนมาก คนที่มีความรู้แค่นี้แล้วริอ่านมาสั่งสอนคนอื่นคือพวกโง่อวดฉลาด เป็นพวกน้ำเต็มแก้วประเภทหนึ่งที่คิดว่าตัวเองเทพ ไอ้พวกโม่งทั้งหลายก็จำไว้ ถ้ามึงรู้ไม่จริง ถ้ามึงโง่ มึงก็อยู่เงียบๆ อย่าแกว่งปากหาตีนให้อื่นมาแหกหีเลย

เท่าที่อ่านมาทั้งหมด ข้อดีของ Talk ของพี่เทพกวีมีอยู่อย่างเดียว
คือการทำให้กูได้ลับสมอง ฝึกสกิลเล่นๆ นอกจากการสับทั่วไป บายบี

903 Nameless Fanboi Posted ID:o.fd7M7C/q

เชดครก สับมาให้อ่านต่อเนื่องติดๆกันแบบนี้ กูนี่ไข่แฉะตาเยิ้มเลยทีเดียวเชียว ขอบคุณพี่โม่งสับทุกท่านที่สละเวลามาเพิ่มรอยหยักให้สมองกู

(ชิบหาย ทำไมกูเริ่มมองคำว่า "พี่" กลายเป็นคำดูถูกไปซะงั้นวะ)​

904 Nameless Fanboi Posted ID:dXn96U245X

>>900 กูเป็นคนที่มาถามเชิงกลคืออะไร จนตอนนี้ก็ก็ยังไม่เข้าใจ เชิงกลสำหรับกูเด็กวิทย์ที่เก่งฟิสิกส์พอสมควรมันแปลว่าการเคลื่อนที่อะ แบบอะไรที่มันเคลื่อนที่ ๆ มันคือเชิงกล แล้ว "เหตุผลที่ไม่เป็นเชิงกล" มันคือเหี้ยอะไรวะ เหตุผลแม่งมีตีนวิ่งได้งั้นเหรอ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับหนักนักอ่าน? กูอ่านยังไงก็ยังไม่เข้าใจ
แล้วเนื้อเรื่องมีความเป็นเชิงกลคืออะไร แม่งเนื้อเรื่องมันก็ต้องเดินอยู่แล้วเปล่าวะ ไม่ใช่ก้อนหินที่ตั้งอยู่เฉย ๆ นี่นา นิยายทุกเรื่องเนื่อเรื่องแม่งเดินอยู่แล้ว ถึงจะเดินแบบวน ๆ หรือเดินออกอ่าวก็ยังเดิน
คุณค่าและกลไม่จำเป็นต้องมีเล่มเดียว ไม่จำเป็นต้องมีนักเขียนคนเดียว ??? นี่ภาษาไทยหรือภาษาเทพ มึงอยากบอกอะไรกับกูกันแน่

ฉันในฉากทางการ ชั้นในฉากไม่ทางการ มีเหตุผล พ่องงงง
เดี๋ยวน้อง ๆ จะเข้าใจเอง บ้านมึงสิ

905 Nameless Fanboi Posted ID:8ZZoZ.kw5H

>>890 มึงพลาดแล้วล่ะที่หลงมาในดงโม่ง
โม่งเป็นแหล่งรวมตัวพวกขี้อิจฉาและนินทานักเขียนโดยเฉพาะ พวกโม่งอย่างกูมักจะอิจฉานักเขียนที่ประสบความสำเร็จ และตามจิกกัดพวกมันทุกครั้งที่สบโอกาส นักเขียนตัวไหนยอดอ่านดี มีรายได้ พวกกูตามจิกตามนินทาหมดจ้า แต่อย่าถามถึงผลงานพวกกูนะ พวกกูเป็นอีแอบหลบซุ่มในเงามืดไม่กล้าเปิดเผยนาม เพราะถ้าพวกกูกล้า พวกกูคงไม่ใช่โม่งหรอก

906 Nameless Fanboi Posted ID:LjArZRAPWM

ตามไปอ่านจนเจอ >>853 กูว่ามันไม่ได้ต้องศึกษาเรื่องมนุษย์หรอก
มันเหยียดชัดๆ เหยียดเพศ เหยียดคนอ่าน

907 Nameless Fanboi Posted ID:Iw/dI1pAc8

กูแค่อยากรู้ว่าพี่เทพกวีแม่งอายุเท่าไหร่ น่าจะมีใครลองไปถามดู

แต่กูขออย่างนึง อย่ามีใครบ้าจี้เอาที่โม่งข้างบนชำแหละ ไปแปะในหน้านิยายของพี่เทพเลยนะ กูไม่อยากเห็นคน mind-brake ยอมรับตรงๆ ว่าสงสาร

908 Nameless Fanboi Posted ID:YqAPq/p+C4

>>904 กูพยายามหาจุดเชื่อมโยงในคำ ซึ่งใกล้เคียงสุดคิอแนวคิดจักรกลนิยม แต่ก็ยังอิหยังวะอยู่ดี

>>907 20++ แล้ว มันบอกว่าแรงบันดาลใจขึ้นบันไดมันคือบารามอส ถ้าช่วงบารามอสดัง มันเป็นวัยรุ่นต้นๆ มันน่าจะอายุ 26-27 ได้

909 Nameless Fanboi Posted ID:xVI9r6CIab

>>905 อันนี้มุมมองกูนะ
กูว่าความเป็นโม่งไม่เกี่ยวอะไรกับขี้อิจฉาเลย ที่นี่มันก็แค่เปิดกว้างในการแสดงความเห็น ในเว็บเด็กดวกมันมีหน้ามีตา มีสังคม มีลิ้งส่งไปที่ผลงาน ซีซั้วด่าคนอื่นก็โดนรุมกระซวกเหมือนที่ตุ๋นกบมันทำ (กูชื่นชมที่มันทำเงินแสนในงานเขียนได้ แต่กูเหม็นหน้าเพราะทัศนคติเหยีดคนอ่านของมัน) แล้วคนที่ชมเชยให้กำลังใจกันบนเว็บนั้นมึงจะไปรู้ได้ยังไงว่าใจมันก็คิดแบบนั้นจริงๆ? ไม่ใช่ว่ามันก็อิจฉาแค่ไม่แสดงออกมาหรอกเหรอ แล้วการมีอารมณ์อิจฉาไม่ได้แปลว่ากูเป็นคนเหี้ย กูเป็น "คน" มีอารมณ์เงี่ยนเกลียดโกรธตามเหตุและเวลา ไม่ได้มี Standard ว่ากูต้องเป็นคนดี

กูชอบที่โม่งเคยนิยามว่าที่นี่เป็นเหมือน "หลุมขยะ" มากกว่า แต่ละคนเข้ามาสุมหัวหาของเหลือใช้ อะไรที่รีไซเคิลไปเป็นอุปกรณ์สร้างผลงานให้ตัวเองได้ก็กอบโกยกันเอง หลักๆที่กูได้จากที่ไปเลยก็คือ "การวางตัว" เวลาโม่งนินทาใครด้วยเหตุผลแบบไหนกูก็วิเคราะห์ตลอด กูเอาไปปรับใช้ในการวางตัวในฐานะนักเขียนที่แสดงต่อผู้อ่านก็ได้ กูเอาไปปรับใช้ในการสร้างตัวละครก็ได้ เพราะอารมณ์ฉุนเฉียวพวกนี้แม่งไม่มี Super-ego เข้ามาขวาง เป็นความรู้สึกของผู้อ่านที่มันระบายออกมาจากใจโดยตรง

ส่วนอันนี้นอกเรื่อง กูแค่อยากพูด
นิยามของคำว่า "เกรงใจ" ของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน วัฒนธรรมของบ้านเราแม่งคือ "อย่าพูดสิ่งที่อยู่ในใจเพราะเดี๋ยวคนอื่นเขาจะเสียหน้า ปล่อยให้อีกฝ่ายแม่งเดากันเอง" ชิบหายกันมาเยอะขนาดไหนแล้วกับวิธีคิดแบบนี้ แต่บางประเทศเขาคือ "อย่าทำใครเดือดร้อน" ส่งผลคนละแบบกันเลย

910 Nameless Fanboi Posted ID:TaQY+hkjuz

>>904 ช่วงท้ายๆ ที่มึงเล่านี่คือมันพยายามจะบอกว่า ใช้ฉันในบทบรรยาย กับใช้ชั้นในช่องคำพูดเพราะเป็นภาษาพูดวิบัติเพื่อเสียงได้ อย่างนั้นสินะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนใครส่งต้นฉบับมาพร้อมตรรกะแบบนี้คือลงถังขยะล้านเปอร์เซนต์ เพราะผลร้ายมันเยอะ เหมือนคราวดราม่า "ชุดฉันใน" อะ

911 Nameless Fanboi Posted ID:xVI9r6CIab

>>909 ก็เหมือนพี่เทพกวีอะ แม่งฟินกับขีดความสามารถในกะลาของตัวเองเพราะไม่มีใครเตือน แต่ถ้ามันเล่นโม่ง แม่งจะรู้ว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นี่เสร่อสัดๆ แล้วถ้ามีคนไป(ด่า)เตือนผิดวิธี Ego แม่งก็พุ่งจนปฏิเสธที่จะรับรู้ความจริงอีก ของอย่างนี้แม่งเลยจำเป็นต้องรับรู้ด้วยตัวเอง(กูรู้ด้วยตัวกูเองไม่ต้องให้ใครเตือน = กูฉลาด = Ego พุ่งเหมือนกันแต่เป็นประโยชน์) หรือไม่ก็มีรุ่นพี่หรืออาจารย์ที่อยู่ระดับสูงกว่าคอยโบกกบาลเตือนสติ

912 Nameless Fanboi Posted ID:TaQY+hkjuz

>>907 ไม่มีใครคิดทำแบบนั้นหรอก เสียเวลาชีวิต ไม่มีค่าให้ต้องลงแรงขนาดนั้นว่ะ

913 Nameless Fanboi Posted ID:xVI9r6CIab

ส่วนเรื่องที่พี่เทพบอกว่า "เข้าไม่ถึงจิตสำนึกของคนทั่วไป" อันนี้กูพอจะมีประสบการณ์อยู่บ้างพวกมึงก็ลองวิเคราะห์กันเองแล้วกัน

กูเคยคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้านิ่งมากๆ นางทำรายการเกี่ยวกับสารคดี แต่นางมีปัญหาเรื่องตัวเองเข้าไม่ถึงความเศร้าของคนอื่น ประมาณว่าไม่เข้าใจว่าคนอื่นเสียใจไปทำไม ร้องไห้ไปทำไม พอกูลองถามไปถามมานางก็เล่าว่า ตอนเด็กๆพ่อแม่ของนางเกิดอุบัติเหตุทำให้นอนเป็นผักอยู่ที่โรงพยาบาล นางไปนอนเฝ้าทุกวัน ได้ยินเสียงติ๊ดๆๆๆ (เครื่องวัดชีพจรมั้ง..กูไม่รู้) แทบ 24 ชม เห็นคนเตียงข้างๆตาย ญาติตัดสินใจถอดเครื่องหายใจ เปลี่ยนคนเวียนไปมาอยู่ตลอดจนกระทั่งพ่อแม่ของนางก็ตาย ระหว่างที่นางเล่าสีหน้าแววตาของนางแม่งเศร้าแต่ก็ยังนิ่ง ที่สำคัญคือน้ำตานางไม่ไหล กูเลยบอกว่าปล่อยมันออกมาก็ได้นะ นางบอกว่าที่จริงก็อยากร้อง แต่น้ำตามันไหลไม่ออกจริงๆ เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว

แล้วอย่างตัวกูเอง ตอนเด็กๆกูไม่เข้าใจความหมายของการ "เต้น" พวกมึงทำไปเพื่อเชี้ยอะไร กูไม่เข้าใจเลยสักนิด งานเทศกาลอะไรกูก็ไม่เคยเห็นความสำคัญไม่เห็นมีประโยชน์อะไร น่าทำตรงไหน รู้แค่ว่าช่วงเทศกาลทำให้ร้านค้าที่บ้านกูขายดี พอโตมาก็ชิบหายในด้านการเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น กูถึงเพิ่งจะเริ่มหันมาศึกษาจิตวิทยา แต่ทำไปก็ไม่เกิดประโยชน์จนกระทั่งมีคนช่วยสอนให้กูรู้จักระบายอารมณ์ หัดโกรธบ้าง หัดด่าคนบ้าง เพราะตอนเด็กๆกูต้องทำงานช่วยทางบ้านตลอด เวลาเล่นไม่มี TVไม่รู้จัก ทำอะไรผิดก็โดนผู้ใหญ่ด่า กูเลยปิดกั้นอารมณ์ทุกอย่างจนกลายเป็นนิสัย

914 Nameless Fanboi Posted ID:YqAPq/p+C4

กูว่าไอ้ “เข้าไม่ถึงจิตสำนึกของคนทั่วไป” แม่งพี่เทพใช้คำผิดความหมายอีกแล้วว่ะ น่าจะเป็นสามัญสำนึกมากกว่ามั้ง แบบ common sense ไอ้ห่านี่มีปัญหาเรื่องการใช้คำนะ

915 Nameless Fanboi Posted ID:cHkIUUzDmg

>>913 กูเจอเพื่อนแล้ว คนที่ไม่อินกับการเต้น กูแม่งไม่เคยเข้าใจจนตอนนี้อะมึง ตอนที่มีคอนเสิร์ตในม. อะไรงี้กูนอนเล่นเกมอ่านการ์ตูนอย่างเดียวเลย ไม่เห็นความสนุกของการไปเบียดกันจนร้อนกระโดดดึ่ง ๆ ท่ามกลางเสียงหนวกหู

ตอนที่คณะกูมีงานที่กูต้องช่วยงานด้วย ระหว่างที่เพื่อนสต๊าฟเต้นปลดปล่อยกันกูหนีไปอยู่กับพี่ส่องไฟ (มันอยู่หลังลำโพง เสียงไม่มาทางกูมาก) คอยช่วยชี้เป้าให้คนส่องไฟอะ แล้วก็นั่งนับจำนวนเพลงว่าวงที่จ้างมาร้องครบจำนวนไหม

916 Nameless Fanboi Posted ID:6vuR0MzbbG

>>915 นี่มันชีวิตกูเลย แม้แต่ผับกูก็ไม่ชอบเข้า อยากแดกเหล้าไปหาร้านนั่งชิลล์ดีกว่า

917 Nameless Fanboi Posted ID:Iw/dI1pAc8

ถ้าเขียนนิยายให้นางเอกอายุ 15 มีฉากกุ๊กกิ๊ก​กับพระเอก 20 กว่า แต่ไม่มีจูบปาก ไม่มีเย แบบนี้จะโดนด่าว่าเป็น pedo ไหม

918 Nameless Fanboi Posted ID:LjArZRAPWM

>>917 แค่สื่อว่ามันออกไปทางชู้สาวที่ยังไงตอนจบก็เลี้ยงไว้กินในอนาคตก็เข้าข่ายแล้วเพื่อน ถึงมึงอยากจะให้มันใสสะอาดแค่ไหน

919 Nameless Fanboi Posted ID:Q1dmiHnJMz

>>917 เรียนรู้คำจำกัดความของ pedo ให้ถูกต้องเสียก่อน pedo มันคือพวกใคร่เด็ก ช่วง 5-10 ปี สำหรับพวกชอบเด็กต่ำกว่า 4 ขวบลงไปจะมีชื่อเรียกอีกแบบที่กูจำไม่ได้ละ โตกว่านั้นเลยอายุกลุ่ม perfect nymphed ขึ้นมาประมาณ ม.ต้น (ของมึงก็เข่าข่ายนี้) เรียกเด็กสาวแรกรุ่น วัยขบเผาะ ดอกไม้แรกแย้ม ถ้าคนอายุ 20 กว่ามาคบกูว่าไม่ถึงขั้นเป็นเพโด แต่เรียกได้ว่าเป็นลักษณะการเลี้ยงต้อย วัวแก่กินหญ้าอ่อน ปลูกกล้าไว้สอยตอนโต เสือเลียลูกกรง (คือรู้ว่ายังทำไรไม่ได้เลยมัดใจไว้รอให้พ้นพรากผู้เยาว์ก่อน) อาจโดนมองเสียหายบ้าง แต่ถ้าไม่ถึงขั้นเยก็ไม่น่ามีปัญหา

920 Nameless Fanboi Posted ID:Iw/dI1pAc8

แล้วถ้าพระเอกวัย 20 เย็ดกับนางเอกอายุ 700 ปี ที่หน้าตาเหมือนเด็ก 7 ขวบล่ะ pedo ไหม

921 Nameless Fanboi Posted ID:Kt6V+luN3Z

>>920 ใช่

922 Nameless Fanboi Posted ID:xVI9r6CIab

>>920 ถามใจมึงดู ของบางอย่างมันก็รู้ๆกันอยู่ เลี่ยงบาลีเพื่อให้ได้ทำ

923 Nameless Fanboi Posted ID:Q1dmiHnJMz

>>920 lolibaba แบบนี้กูก็ไม่รู้วะ เหมือนเวลาคุยเรื่อง elf ที่ life span โคตรยาว มาเยกับมนุษย์หนุ่มอะ ถ้ามึงเซตความเป็นมา ปูทางอะไรพร้อมเพื่อให้มันเย็ดกันได้ ทุกอย่างก็มีข้อยกเว้นได้หมดในเรื่องของมึง (เพื่อให้พระเอกเยโลลิได้อย่างชอบธรรม)

924 Nameless Fanboi Posted ID:i59gabSeyJ

แบบที่กุใช้อยู่คืออายุ24ตัวเล็กสูงแค่ร้อยเซ็นติเมตรแต่มันเป็นสาวมีนมมีสะโพกแล้ว แล้วก็เป็นประเภท badass อย่างตัวละครพวกเกิดใหม่ต่างโลกเป็น
ยังไม่มั่นใจว่าหนีคำว่าโลลิได้ไหมแต่ก็พยายามเขียนให้มันเป็นตัวละครที่โตแล้ว

925 Nameless Fanboi Posted ID:LjArZRAPWM

>>924 มึงกลับไปทำความเข้าใจกับคำว่าโลลิก่อน

926 Nameless Fanboi Posted ID:xVI9r6CIab

>>924 ไม่ต้องหนี แค่เตี้ยไม่ได้ทำให้ตัวละครมึงเป็นโลลิ ไม่งั้นกูน้ำลายหกกับคนแคระไปแล้ว

927 Nameless Fanboi Posted ID:499IOs3BtB

>>926 ก็คนแคระมันไม่ได้น่าเด้าทุกคนนี่นา เรากำลังพูดถึงผู้หญิงที่ตัวเล็กที่ Busty and Booty ต่างหาก

ถ้าเป็นคนแคระแบบนี้ก็ว่าไปอย่าง https://imgur.com/a/MicmYGF

928 Nameless Fanboi Posted ID:mmYQrubGW.

https://m.imgur.com/gallery/lhOLV

929 Nameless Fanboi Posted ID:.ECC98XHnT

กูก็ว่าทำไมเข้าโม่งมาช่วงนี้ไม่เห็นใครสับ ที่แท้ extension กันสแปมโม่งแม่งเห็นว่าคนสับเป็นสแปม ถถถถถ

930 Nameless Fanboi Posted ID:CSKWeHgN2f

>>929 พิมพ์ยาวบวกกับ 3-4 เม้นท์ติด ไม่แปลกใจ

931 Nameless Fanboi Posted ID:TZ7ZUnStpK

I see trees of green, red roses too
I see them bloom for me and you
And I think to myself what a wonderful world

I see skies of blue and clouds of white
The bright blessed day, the dark sacred night
And I think to myself what a wonderful world

The colors of the rainbow so pretty in the sky
Are also on the faces of people going by
I see friends shaking hands saying how do you do
They're really saying I love you

I hear babies crying, I watch them grow
They'll learn much more than I'll never know
And I think to myself what a wonderful world
Yes I think to myself what a wonderful world

932 Nameless Fanboi Posted ID:5lsER88eGL

วันนี้เงียบๆ นะ .... ในบอร์ดเด็กดีก็มีแต่อะไรไม่รู้

933 Nameless Fanboi Posted ID:4Of3evmkbb

อาจจะกำลังอัดคลิป เจนค่ะ อยู่ก็ได้
หน้าเฟสกูเยอะจนหลอนสัด เข้ามาในโม่งเผื่อจะมีไรบ้าง โม่งเงียบ
อยากจะเอานิยายในบอร์ดดดมาสับไม่มีอยู่ตอนสองตอนก็วาย เฮ้อ

934 Nameless Fanboi Posted ID:7H1Yb2H.vl

>>915 >>916
กูไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะนักเขียนส่วนใหญ่เป็นพวก introvert หรือเปล่าเลยไม่อินกับการเต้น (ตรงนี้ถ้ามีใครเป็นขาแดนซ์มาช่วยอธิบายหน่อยก็ดี กูไม่อยากคิดเองเออเองอยู่คนเดียว) ตามความเข้าใจของกู ณ ตอนนี้ การเต้นมันคือการระบายอารมณ์และการสื่อสารรูปแบบหนึ่ง คล้ายๆเวลาที่มึงฟังเพลงอยู่คนเดียวแล้วกระดิกเท้า ขยับนิ้ว หรือสายหัวโยกเบาๆ แต่เนื่องจากกูเป็น introvert กูรู้สึกไม่ปลอดภัยถ้าคนอื่นมารับรู้ความเป็นตัวตนหรือรสนิยมของกู กูเลยไม่อยากเต้นแบบพวก extrovert ที่ต้องการสื่อสารหรือไม่ก็แชร์ประสบการณ์ร่วมกับคนอื่น

คนที่ช่วยสอนให้กูเรียนรู้เรื่องอารมณ์ เขาบอกว่าของอย่างงี้มันเรียนผ่านการอ่านหนังสือไม่ได้ เขาเลยพากูไปร่วมกิจกรรมนึง(ฟรี)มันจะมีศิลปินชื่อดัง(แต่กูไม่รู้จัก)มาเล่นเปียโนแล้วร้องเพลงคล้ายๆโอเปร่า กิจกรรมเขาเน้นไปที่เรื่องการเรียนรู้ถึงภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้นในใจให้ผู้เข้าร่วมลองสัมผัสกันเอง กูก็ลองเข้าไปนั่งฟัง พอศิลปินเขาเล่นไป 4-5 เพลง กูก็ยังไม่รู้สึกอะไรนอกจากคิดในใจว่า "ก็เพราะดี" แต่กูหันไปดูพวกที่นั่งอยู่ด้านหลัง บางคนแม่งร้องไห้ บางคนเคลิ้ม สารพัดอารมณ์ทั้งที่กูไม่รู้สึกอะไรเลยจนจบงาน พี่คนที่ช่วยกูนี่กุมขมับเลย(เขาคอยสังเกตอาการกูอยู่ตลอดเวลา) กูก็เลยถามว่าทำไมกูถึงไม่รู้สึกอะไรเหมือนคนอื่น พี่เขาก็บอกมาว่า "มึงบล็อกความรู้สึกเอาไว้เอง" แล้วแนะนำว่า "มึงกลับไปแล้วก็ลองหาอะไรมันๆ อะไรสนุกๆ ทำดู" จากวันนั้นจนถึงตอนนี้ กูก็ค่อยๆดีขึ้นมาตลอดจนเริ่มเข้าใจความรู้สึกกับภาวะอารมณ์บ้างแล้ว

935 Nameless Fanboi Posted ID:F7d0KwX+Yz

>>934 ก็มีส่วนถูก กูเป็น introvert จริงๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ติดตัวตั้งแต่เด็กคือกูห่วยอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับดนตรีทุกชนิด ให้ร้อง เล่น เต้น ไม่ได้ทั้งนั้น ได้แต่ฟังกับวิจารณ์อย่างเดียว

งานด้านศิลปะที่กูมองว่ากูทำแล้วเข้าท่าเข้าทางที่สุดก็คืองานเขียนนี่แหละ วาดรูปรองลงมา

936 Nameless Fanboi Posted ID:+a/17ir9Ul

>>934 กุขอตอบตามจริตกุนะ กุไม่ได้เป็นพวก extrovert ที่เป็นขาเที่ยวเข้าผับประจำหรืออะไร ไปสัมผัสนานๆทีกับเพื่อนสนิท(ซึ่งคนที่ไว้ใจเป็นเขตปลอดภัยของกุ) แต่อย่างที่มึงบอกนั่นแหละว่าการเต้นมันเป็นการระบายอารมณ์ เวลาที่เจอเพลงหรือจังหวะดนตรีมันส์ๆกับวงดนตรีที่ชอบ จิตใจที่อินในระดับนึงมันปล่อยไหลไปเองตามธรรมชาติ มันก็สนุกดีนะ มันช่วยบรรเทาความเครียดเหมือนเอาอะไรไปปล่อยตอนเต้นอ่ะ

การเต้นมีจุดประสงค์หลากหลายเต้นเพราะชอบ เต้นเพราะอยากปล่อยความแรด กุก็อธิบายไม่ถูกรู้แต่ว่ามันออกมาจากอารมณ์กับบรรยากาศตอนนั้นเอง แต่ถ้าพูดถึงในแง่อื่นๆ มันมีพวกประเภทเต้นแบบอ่อยผู้ก็มี แต่สำหรับกุการเต้นคือการออกกำลังกายและมันเป็นศิลปะทางเรือนร่างอย่างหนึ่งที่ช่วยบ่มสมาธิกับช่วยให้หัวโล่งเวลาซ้อมเต้นประมาณนี้แหละ กุก็อธิบายไม่เก่ง

937 Nameless Fanboi Posted ID:Tyc5UmJ+uh

Introvert extrovert ห่าเหวอะไรไร้สาระ มึงก็แค่เต้นไม่เป็นเลยเขินจนหลอกตัวเองว่าไม่ชอบเต้นแค่นั้นแหละ ลองได้เปิดโลกสักทีเดี๋ยวมึงก็เต้นได้เอง

938 Nameless Fanboi Posted ID:TZ7ZUnStpK

SpeakerBangerz
Look, uh, look

Heart been broke so many times I
Don't know what to believe
Mama say it's my fault, it's my fault I wear my heart on my sleeve
Think it's best I put my heart on ice, heart on ice
'Cause I can't breathe
I'ma put my heart on ice, heart on ice
It's gettin' the best of me

While in the cell with Lil' Hakeem, after I slapped him I had told him
"I don't know how you get down with them clowns but I'm a soldier"
No one could understand, I had way too much aggression
That built over the years from my abandoned adolescence
See I done been lied to, backstabbed, and heartbroken
I wanted to cry but I was too afraid to open
Prayin' one day I'd find a piece of mind by the ocean
I spent all my time committing crimes to get closer
While at my nana house I play the couch, starin' at the ceiling
Tryin' not to get in my feelings
Thinkin' of a way I could make these millions
Maybe that'll take this pain away and clear up all these rainy days

Heart been broke so many times I
Don't know what to believe
Mama say it's my fault, it's my fault I wear my heart on my sleeve
Think it's best I put my heart on ice, heart on ice
'Cause I can't breathe
I'ma put my heart on ice, heart on ice
It's gettin' the best of me

Yeah, yeah
Yeah, yeah
Yeah, yeah, yeah
Yeah, yeah
Brrt

939 Nameless Fanboi Posted ID:7H1Yb2H.vl

>>937 มันก็แค่การแยกประเภทของทัศนคติวิธีคิดของคน กูไม่เถียงหรอกว่าทุกอย่างมันฝึกได้เพราะกูก็ฝึกมาแล้ว คนที่ช่วยกูเขามีกลุ่มรุ่นน้องกูก็ไปเต้นกับเขา ตอนนี้ถ้ากูโดนสั่งให้เต้นกูก็เต้นได้ (จากปกติที่ปฏิเสธและคิดว่าตัวเองเต้นไม่เป็น) แต่ถ้าให้อยู่ดีๆแล้วอยากออกไปเต้น ไปแดนซ์เองอันนี้กูไม่ทำ

940 Nameless Fanboi Posted ID:7H1Yb2H.vl

ถ้าให้ยกตัวอย่าง มึงจะโอเคไหม... ถ้าให้คนอื่นเห็นตู้ที่เก็บหนังสือทั้งหมดที่มึงเคยอ่าน? ไม่ว่าจะนิยาย หนังสือพัฒนา​ตัวเอง ดาราไอดอลที่มึงชอบ มึงยินดีจะให้ชาวบ้านรู้หรือเปล่า?

ถ้าโอเค มึงมีแนวโน้มเป็น extrovert มึงพร้อมที่จะเปิดรับเพื่อนหรือสร้างคอนเนคชั่นใหม่ๆให้เข้ามาในชีวิตตัวเองเสมอ

แต่ถ้าไม่ มึงมีแนวโน้มเป็น introvert มึงอยู่กับเพื่อนหน้าเดิมๆไปตลอดชีวิตก็ได้ ระมัดระวังในการสร้างความสัมพันธ์​

941 Nameless Fanboi Posted ID:vvLYba1v0z

>>940 ไม่ว่ะ อยู่ๆมาเปิดหนังสือที่กูอื่นกูก็เขินนะ

942 Nameless Fanboi Posted ID:/RO/TWRIVG

ดีนะกุควบสอง เป็น ambivert 2 บุคคลิกในคนๆเดียว

943 Nameless Fanboi Posted ID:vvLYba1v0z

>>942 อย่าเบียว

944 Nameless Fanboi Posted ID:Dtj5bfjRaA

ถึงกูจะยกเรื่อง introvert extrovert มาก็เถอะ สำหรับพี่ที่สอนกูเขาก็มองว่ามันเป็นแค่ "เครื่องจับเท็จ" ที่เอาไปพิสูจน์ว่าใครโกหก(มึงเป็นคนประเภทไหน)จริงๆไม่ได้ แต่ก็เอามาตรวจว่ามึงกำลังตื่นเต้น เครียด กดดันบลาๆๆๆ เพื่อจำแนกคนให้ตรงกับวิธีฝึกเฉยๆ เช่นถ้าสรุปเบื้องต้นว่ากูเป็น introvert กูก็ต้องไปฝึกเป็น extrovert ชั่วคราว เพื่อจะได้หาจุดสมดุลให้ตัวกูว่ากูเลือกที่จะเป็นแบบนี้...ไม่ใช่เพราะกูเป็นเพราะชินกับแบบนี้ คนส่วนใหญ่ที่มาฝึกกับพี่เขาเป็นพวกลั่นล้าบ้าเที่ยวอยู่ไม่สุข พี่เขาเลยจับให้มาหัดอยู่นิ่งๆ แต่กรณีของกูคือกูนิ่งเกินไป เลยให้กูไปลองเล่นสนุกทำอะไรบ้าๆดูบ้าง

พี่เขามองการแยกประเภทคนเป็น introvert ambivert extrovert พวกนี้เป็นเหมือนเรื่องไร้สาระ (ฝรั่งมันขยันแยกประเภทคนเพื่อเขียนหนังสือหาแดก) แต่เอามาใช้ประโยชน์ในการฝึกคนเพื่อพัฒนาทักษะ อย่างที่กูเคยพูดก่อนหน้านี้ว่าชอบแนว "เพิ่มตัวเลือก" มากกว่าการสรุปผลแบบ 100% กูก็ได้มาจากพี่เขานี่แหละ เช่นว่ามึงเป็น introvert แต่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกฝ่ายระหว่าง A กับ B แล้วมึงรู้อยู่แล้วว่า B นิสัยหัวควยมาก แต่ A เป็นคน extrovert มึงก็จะรู้วิธีปรับตัวยังไงให้ A มันชอบ ไม่ได้ยึดติดว่ากูคือ introvert ต้องอยู่แบบ introvert เท่านั้น

945 Nameless Fanboi Posted ID:O9RicHMna9

>>940 เลอะเทอะ ไอ้ introvert ห่าไรนี่แม่งก็เป็นแค่มุกหลอกแดกตังของพวกนักจิตวิทยา​ เหมือนทายนิสัยตามกรุ๊ปเลือดอะ อย่าบอกนะว่ามึงเชื่อว่าโรคซึมเศร้ามีจริง​ด้วยอะ 555

946 Nameless Fanboi Posted ID:Ewcvc/MR+v

ปล่อยแม่งไป อย่าไปเสียเวลาเถียง แม่งโทรล

947 Nameless Fanboi Posted ID:O9RicHMna9

>>946 B I G B R A I N

948 Nameless Fanboi Posted ID:4d4iF+icEV

ไม่มีโม่งต่อยกันมันส์ๆ เบย

949 Nameless Fanboi Posted ID:x8jipXDpnU

โม่งพ่อตายแม่เย็บ

950 Nameless Fanboi Posted ID:iQ7ojQpQtV

ทีนี้ย้อนกลับมาที่พี่เทพกวี มันบอกว่า "เข้าไม่ถึงจิตสำนึกของคนทั่วไป" ซึ่งเท่าที่ดูจากวิธีพูดของมันกูเดาว่าคงโดนผู้ใหญ่หรือคนที่มันนับถือพูดกรอกหูมาแนวๆ "คนฉลาดเท่านั้นที่จะอ่านหนังสือ" แม่งก็เลยเชื่อว่าการที่มันอ่านอ่านอ่านจะทำให้มันฉลาดจนกล้ามั่นหน้าสอนคนอื่นได้ กูไม่รู้ว่าพวกมึงเคยเป็นหรือเคยเห็นกันไหม พวกคนพยายามทำตัวเป็นนักวิชาการณ์ใหม่ๆมันจะหยิบศัพท์เฉพาะมาใช้เวลาอธิบายเยอะมากจนคนอื่นอ่านไม่รู้เรื่อง (พี่เทพบ้งตรงนี้เยอะมาก) และเรื่องการเข้าถึงจิตสำนึกคนอื่นเดี๋ยวมันก็ไปหาหนังสือมาอ่านเพิ่มแน่นอน พวกมึงรอดูเทพกวีภาค 2 ได้เลย

951 Nameless Fanboi Posted ID:iQ7ojQpQtV

ที่กูอยากเสนอคือของบางอย่างแม่งก็ต้องมีคนช่วยคุมช่วยสอน อ่านหนังเรียนเองอย่างเดียวไม่ได้ ที่จริงกูสงสัยด้วยว่าโม่งสับไปเรียนเรื่องพวกนี้มาจากไหน ไอ้ที่ว่าต้องแยกระหว่างตัวบุคคลกับผลงานเพื่อวิจารณ์ เพราะทักษะแบบนี้ในสายตากูมันเป็นทักษะที่เรียนด้วยตัวเองไม่ได้

952 Nameless Fanboi Posted ID:yNbXCeVngF

>>951 ก็ปกตินิ แยกตัวบุคคลกับผลงานในการวิจารณ์

953 Nameless Fanboi Posted ID:Njz6royd8h

>>951 ถ้าวิจารณ์โดยมีอคติมาปน มันจะกลายเป็นด่าแบบเรื้อนๆ หาเรื่องด่าเอาสนุก สักแต่ว่าอยากจะด่า เป็นการวิจารณ์ที่ไม่เป็นกลาง

954 Nameless Fanboi Posted ID:I27JG2sezA

>>953 เหมือนตอนที่มีคนมาสับนิยายไอ้แวมแบบจริงจังแล้วโดนด่า เพราะไม่ยอมด่าหยาบๆ ใช่ป่าว

955 Nameless Fanboi Posted ID:.+LNrGA5hV

เออ ไอ้ตรงแยกอคตินี่แหละที่กูอยากรู้ว่าพวกมึงฝึกกันยังไง เพราะส่วนตัวกูยังทำไม่ได้ เลยขอให้โม่งช่วยสับ >>862

956 Nameless Fanboi Posted ID:Njz6royd8h

>>954 ก็ประมาณนั้นแหล่ะ คือบทวิจารณ์ชุดนั้นมันทำให้โม่งบางส่วน Butt hurt เพราะพวกแม่งคาดหวังให้นิยายเรื่องนี้โดนวิจารณ์หนักๆ โดนด่าแบบผสมความคิดเชิงลบต่อตัวบุคคล, ต่อเจ้าของเรื่อง (ไอ้แวม) ลงไปเยอะๆ อยากอ่านว่านิยายเรื่องนี้จะโดนสาดโคลนยังไงบ้าง แต่พอมันออกมาเป็นกลางกว่าที่คิดเลยมีงอแงกันบ้างตามประสาคนขี้เสือก อ่านดูแล้วน่ารักดี

>>955 มันสอนกันไม่ได้ กูถึงบอกไงว่าต้องสับกันดูเอง นานๆ ไปถึงจะเข้าใจโดยอัตโนมัติ มึงจะเห็นเส้นขีดไว้ว่าถึงตรงไหนที่มึงไม่ควรล้ำเส้น เพราะถ้าเลยเขตนั้นแปลว่ามึงลำเอียง อคติ หรือเริ่มหลุดออกจากบทบาทของนักวิจารณ์มาเป็นนักเลงคีย์บอร์ดกากๆ ที่พบเจอได้ทั่วไป

กูเนี่ยแหล่ะ คนที่เอานิยายไอ้แวมมาแปะ ตอนแรกกะว่าจะสร้างความฮาหน่อย เห็นกระทู้แม่งเงียบๆ ที่ไหนได้มุกไม่ฮาพาเพิ่อนเครียด ยกพวกตีกันแทนซะงั้น

เรื่องความเป็นกลางมันเป็นเรื่องที่ทั้งยากและง่ายในเวลาเดียวกัน เพราะถ้าใจมึงหลุดจากสิ่งเร้าที่มันเป็นหัวข้อนอกเรื่องแล้ว มึงจะไม่มองอะไรมาประกอบในการวิจารณ์นั้นเลย เหมือนที่กูบอกว่า เรามองเห็น fact ได้โดยไม่มี feel มาเกี่ยว และเราแจกแจง data ได้โดยไม่ก่อ drama ถ้าถึงจุดนั้นแล้วมันจะง่ายมาก

ง่ายจนถึงขั้นที่บางทีมึงจงใจสร้างความลำเอียง บังคับตัวเองให้มีอคติ หรือแม้กระทั่งเอาความเรื้อนส่วนตัว มาปนในการวิจารณ์นั้นเสียเอง เพราะแม่งถ้าไม่เรื้อนภาคบังคับ บทวิจารณ์ของมึงจะน่าเบื่อสัสๆ ตรงประเด็น และจริงจังจนอ่านแล้วไม่สนุก บอกตามตรงเลยว่าเกิน 50% ของนิยายที่กูสับมา กูจงใจเรื้อนเอาฮาว่ะ บางเรื่องเขียนกำกับเลยว่านี่กูกำลังเกรียนวิพากษ์อยู่นะ เรื่องไอ้แวมนี่ก็จงใจชี้เป้า เพราะเห็นว่าตรรกะในเรื่องแม่งเพี้ยนดี พระเอกหล่อจนส่งสายตาแล้วมีคนกรี้ดหัวใจวายตาคาหน้าเวที อิหยังวะโคตรๆ

แต่ก็นั่นแหล่ะ เหมือนอย่างโม่งคนนั้นสับไว้ นิยายเรื่องนี้ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ดีกว่าเกรียนรุ่นใหม่ในบอร์ดหลายช่วงตัว ถ้าไม่รู้ว่าเจ้าของคือโทรลตัวพ่อ นิยายเรื่องนี้ก็อ่านได้ไม่ระคายตา ถึงตรรกะจะ วะฎะฟรรค บ่อยๆ และอวยพระเอกหล่อเกินมนุษย์ไปมาก แต่ความฮาแฝง ตลกหน้าตาย มุกแป๊กจนเผลอขำ มันก็มีให้อ่านประปราย

เรื่องคนสอนให้เป็นกลาง กูไม่ได้มีอาจารย์เป็นตัวตน แต่เคยอ่านหนังสือเล่มนึงมาเมื่อนานมากแล้ว ไม่รู้ว่าจะช่วยให้มึงค้นพบอะไรบ้างไหม

ในหนังสือที่ว่ามีอยู่บทนึง ตัวเอกโดนบังคับให้นั่งจ้องขี้ ใช่เพื่อน... จ้องขี้

แล้วคนคุมสอบก็กลับมาถามตัวเอกว่า "ตอนนี้ขี้มันเป็นยังไงบ้าง" พระเอกก็บอกอะไรไปตามเรื่อง คนคุมสอบก็ยิ้มแล้วออกจากห้องไปพร้อมกับเสียง "ตี๊ด... แคร่กๆ แกร่ก" (เสียงล็อคประตูอัตโนมัติอิเล็คทรอนิกส์)

ผ่านไป 5 ชั่วโมง คนคุมก็มาถามใหม่ คราวนี้พระเอกบอกแค่ลักษณะก้อน สี เศษผักย่อยไม่หมด กับการหดตัวเพราะเริ่มแห้งของขี้ คนคุมก็ตะโกนว่า "บราโว่! คุณสอบผ่าน เชิญออกไปได้" พระเอกถึงได้กลับออกมาข้างนอกเพื่อสูดอากาศที่ทำให้รู้สึกสดชื่นที่สุดในชีวิต

Point ของเรื่องคือ "เขาถามว่าขี้เป็นยังไง ไม่ใช่ขี้เหม็นรึเปล่า กลิ่นเป็นแบบไหน" ทีนี้มองอะไรออกบ้างยังวะ เพื่อนโม่ง

957 Nameless Fanboi Posted ID:Ewcvc/MR+v

>>955 เอ้อ กูเป็นคนสับพี่เทพกวีนะ ถามว่าไปเรียนมาจากไหน กูก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน แต่ส่วนตัวคิดว่ามันคือสกิลที่แตกมาจากพื้นฐานการอ่านจับใจความ เหมือนตอนมัธยมที่เราเรียนและตอบคำถามในข้อสอบกันว่า “ผู้เขียนรู้สึกอย่างไร” ซึ่งตรงนี้มันจะเป็นตัวบุคคลของคนเขียน ถ้ามึงอ่านแล้ววิเคราะห์บ่อยๆ มันจะเห็นจุดตรงนี้มากขึ้น จนสามารถแยกส่วนที่เป็นเนื้อความและส่วนที่เป็นอารมณ์ของคนเขียนออกจากกันได้

958 Nameless Fanboi Posted ID:Bw2olGqWUz

ทำไมทุกคนดูมีปัญหากับไอ้พี่เทพกวีเหี้ยอะไรนี่จังวะ เข้าไปอ่านนิยายแม่งแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรให้น่าเอามาถกเถียงเลย พวกตุ๋นกบ, หิมะ, มาเฟียบอร์ดอะไรพวกนี้ยังดูมีประเด็นจับต้องได้มากกว่าอีก

959 Nameless Fanboi Posted ID:UXJXss5Lhe

>>958 แล้วทำไมถึงสนใจไม่ได้ กูก็เบื่อที่พุ่งเป้าไปแต่ตุ๋นกบกับมิรินด้าเหมือนกัน มีหน้าใหม่มาบ้างเถอะ ประเด็นมันมีอยู่แล้ว อยู่ที่มึงจะมองเห็นหรือเปล่า

960 Nameless Fanboi Posted ID:Njz6royd8h

>>956 กูเสริมตรงเรื่องเล่านิด ตอนตอบรอบแรก พระเอกพูดว่าขี้มันเหม็นขึ้นมาก่อนเพื่อน เพราะโดนกระตุ้นด้วยกลิ่นจนไม่ได้คิดก่อนพูดนั่นแหล่ะ เลยตอบอะไรที่เขาไม่ได้ถามออกมา

ส่วนเรื่องพี่เทพกวี กูไม่ได้ให้ค่าอะไรมาก อ่านเรื่องพี่แกแล้วกูง่วงอะ แม้จะรู้สึกได้ถึงความยกตนข่มท่าน กูก็ยังทนอ่านต่อไป

อ่านจบสรุปว่า ต่อให้มันเป็นอัจฉริยะจริงๆ เขียนนิยายเทพเกินจนพวกเราไม่อาจเข้าใจได้ แล้วมาพูดว่าเรากากเองที่ไม่เก็ต อันนี้กูคงไม่พูดอะไรต่อแล้วแม่ง นิยายคือการสื่อสารอย่างหนึ่ง ถ้ามึงสื่อแล้วคนไม่เข้าใจ แปลว่ามึงนั่นแหล่ะที่กากเอง ขนาดไอน์สไตน์ยังเคยพูดถึงเรื่องนี้เลย ที่สำคัญกว่าเข้าใจหรือไม่ คือขายได้หรือเปล่า กูฟ้นธงเลยว่าขายยากสัสๆ ยิ่งเป็นเว็บนี้ด้วยยิ่งไปกันใหญ่ มองอย่างคนที่อยู่ในโลกการซื้อ-ขายนิยายเป็นสื่อบันเทิง นิยายพี่เทพแม่งไม่ค่อยมีหวังเลยวะ

961 Nameless Fanboi Posted ID:+3lPybYlNh

>>958 พูดถึงหิมะ วันก่อนกูเข้าไปดูงานน้องเขา นึกว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง น้องยังเหมือนเดิม บอกนักอ่านตลอดว่าวันนี้นางเอกแต่งตัวยังไง ใช้เครื่องประดับอะไร
น้องไปเขียนแนวดีไซเนอร์ได้นะ

962 Nameless Fanboi Posted ID:iQ7ojQpQtV

ถ้าให้สรุปสิ่งที่กูได้เพิ่มเติมคือ

>>956
- กูคงต้องลองสับเองจริงๆถึงจะได้สกิลนี้ ปกติกูทำได้แค่รู้ตัวว่าอคติแล้วไม่ยุ่งกะมัน
- คำคม "ถ้าเรามองเห็น fact ได้โดยไม่มี feel มาเกี่ยว และเราแจกแจง data ได้โดยไม่ก่อ drama"
- กูหายคาใจสักที ว่าที่สับๆมานี่มีจงใจเรื้อนด้วย (กูกลัวที่สุดคือการคิดเองเออเอง)
- เรื่องขี้นี่ทำให้กูเคารพพี่ที่สอนกูขึ้นเยอะเลย เขาชอบทำอะไรแบบว่าลากกูไปนั่งท่ามกลางพวกนักธุรกิจตัวเป้งแล้วปล่อยให้กูนั่งสั่นเอ๋อแดกอยู่อย่างนั้น (กูเป็นแค่เด็กโปกที่ไม่ควรมาอยู่ในห้องนี้ อห.) ตอนนี้กูเริ่มเข้าใจละ กูแม่งคิดมากไปเอง

>>957
- โอเค...กูทำตัวเองชิบหาย ตอนสมัยเด็กกูมองวิชาพวกนี้ไร้สาระเลยไม่ทำส่งครู แม่ย้อย
- แปลว่าทักษะพวกนี้ก็สามารถเรียนเองกันได้ แค่ว่ากรณีกู(ไม่)เรียนเองไม่รู้เรื่อง
- อันนี้กูเห็นเพิ่มนิดหน่อย พี่คนที่สอนกูเขาพูดถึงการออกแบบวิธีสอนด้วย (กูโง่จัด เขาเลยต้องเฉลยโจทย์ ถถถ) ไอ้การถามว่า "ผู้เขียนรู้สึกอย่างไร" นี่แม่งคือการฝึก "เอาใจเขามาใส่ใจเรา" นี่หว่า กลยุทธ์ง่ายๆที่กูมองข้ามไปตอนเรียนสมัยเด็ก

ขอบคุณเพื่อนๆโม่งมาก กะลากุแตกจนเริ่มซึมเข้ากะโหลกกูแล้ว

963 Nameless Fanboi Posted ID:Ewcvc/MR+v

>>961 น้องบอกตลอดว่านิยายตัวเองมีคนตามเยอะ ขายได้เยอะนะ กูก็มิรู้จะกล่าววาจาเยี่ยงไรดี

964 Nameless Fanboi Posted ID:iQ7ojQpQtV

ที่ช่วงนี้กูสนใจเกี่ยวกับเรื่องจำพวกเหลิง คิดว่าตัวเองเก่ง มองไม่เห็นตัวเอง อะไรพวกนี้เพราะดันไปเห็นข่าวว่าผลงานใหม่จากคนเขียน Naruto ที่ชื่อ Samurai8 มันเจ๋ง แล้วมีคนใน pantip พูดว่าเพราะไม่มี Editor

965 Nameless Fanboi Posted ID:iQ7ojQpQtV

ห่าพิมพ์ผิด แถมผิดตรงสำคัญด้วย กูหมายถึง samurai8 มัน "เจ๊งกะบ้ง"

966 Nameless Fanboi Posted ID:/zuyTF7K/j

>>956 โอ๊ะ มีคนเห็นด้วยกับที่กูสับนิยายเรื่องนั้น ตอนนั้นตลกไอ้พวกตูดเจ็บมากๆเลย ถถถ

967 Nameless Fanboi Posted ID:qM/29UniuN

ไหนๆ ก็มีคนพูดเรื่องสับแล้วก็เลยอยากจะมาแชร์มุมมองหน่อย กูคิดว่าถ้าเราควร "ติเพื่อก่อ" ไม่ใช่ "จ้องจะทำลาย" ว่ะ เพราะนิยายแต่ละเรื่อง ไม่ว่ามันจะห่วยกากเดนเห่อหมอยแค่ไหน มันก็เป็นสิ่งที่นักเขียนคนนั้นๆ ตั้งใจเขียนขึ้นมา

แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องโอ๋นักเขียนทุกคนนะ ด่าเลยถ้าอยากด่า โชว์สกิลปากตะไกรจิกกัดแม่งยังไงก็ได้ ไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะอ่านนิยายเพื่อจับผิด หา plot hole หาตรรกะเพี้ยนๆ หาความเหี้ยของมันเพื่อเอามาด่า แต่ต้องไม่ใช่การที่เราหยิบนิยายเรื่องนึงขึ้นมาแล้วพูดว่า "มาดูกันซิว่ากูจะหาเรื่องด่ามึงได้ยังไงบ้าง"

968 Nameless Fanboi Posted ID:odJiVgmwzD

>>967 ปกติเวลากูสับ กูไม่ได้อยากหาเรื่องด่านักเขียนเล่นๆ นะ ด้วยพื้นฐานความเป็นนักเขียนกูเข้าใจถึง effort ที่มันต้องใช้เพื่อสร้างผลงาน แต่ที่การสับออกมาเหมือนด่าทุกครั้ง เพราะแม่งเรื่องที่สับมันเหี้ยจริงๆ ตั้งแต่เริ่มสับมามีพอไปวัดไปวาแค่ 5 % ถูกใจจนออกปากชมเพียง 1 % นอกนั้นกากเดนหาความสนุกในฐานะนิยายไม่เจอ

เหมือนที่มีโม่งข้องใจคราวก่อนว่าที่สับนิยายจีนแล้วด่าจนเละเทะเนี่ย เรื่องมันห่วยจริงหรือพวกโม่งแค่คะนองปากเลยด่ากราดเอาสะใจเฉยๆ ผลก็คือไปเจอเข้ากับเรื่อง

................. เว้นที่ไว้ปลูกหญ้า .................
................. เว้นที่ไว้ปลูกหญ้า .................
................. เว้นที่ไว้ปลูกหญ้า .................
................. เว้นที่ไว้ปลูกหญ้า .................
................. เว้นที่ไว้ปลูกหญ้า .................

เนี่ย ก็มันเป็นเสียอย่างเนี๊ยะ ไม่ใช่ว่าไม่อยากติเพื่อก่อ แต่ไม่รู้จะก่อยังไง ก่อตรงไหนให้ เพราะติแล้วมันพบแต่ความจังไร ความห่วย ความเฮงซวย ติแล้วต่อยอดทางไหนไม่ได้เลย มันพังในหลายๆ มิติเว้ย ส่วนจ้องจะทำลายนี่ก็มีบ้าง แต่ไม่เคยคิดจะเอาไปประจานถึงหน้าบ้านตรงคอมเม้นหรอกนะ เพราะมันเป็นข้อตกลงและวัฒนธรรมห้องสับมาตั้งแต่เริ่มแล้ว สับแบบมีอคติต่อตัวบุคคลที่นิสัยเหี้ยจริง บางครั้งก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเดาทางออกว่าอคติจัด ก็ข้ามเอาแล้วกัน เพราะมันไม่ค่อยได้อะไรนักหรอก มีแต่ rant หรือด่าจุดอ่อนของเรื่องแบบไม่มีการ correct หรือ give advice ว่าทำยังไงถึงจะดีขึ้น ถ้าไม่ได้ชอบการปาขี้ใส่เป้านิ่งก็ไม่ต้องเสียเวลาอ่าน

969 Nameless Fanboi Posted ID:odJiVgmwzD

>>964 คนเรามันเก่งไปคนละอย่าง มันมีน้อยมึงที่คนเดียวจะเก่งไปเสียทุกเรื่องจนไม่ต้องพิ่งพาใคร กรณีนี้คือนักวาดก็วาดดี เส้นสวย มีเอกลักษณ์ แต่การออกแบบตัวละคร หรือการดำเนินเรื่องอาจทำได้ไม่ค่อยดีเท่าการวาด

เหมือนที่เคยมีสกู๊ปว่าตัวละครใน Naruto ก็เคยถูก Re-design ไปหลายตัวตามคำแนะนำของ Editor ประจำตัว ถ้าไม่มีเรื่องที่ว่าเกิดขึ้น บางทีนารุโตะอาจไม่ได้กลายมาเป็น 1 ใน 3 เสาหลัก Jump แบบในตอนนี้ก็เป็นได้ อีกเรื่องที่เละเทะเพราะแยกทางกับ บก. ก็คือ โซมะยอดนักปรุง เพราะนอกจากตัว บก. จะเป็นคนช่วยปรับเนื้อเรื่องให้ ยังเป็นคนที่มีความรู้เรื่องอาหารด้วย

พอไม่มี บก. ช่วยตบๆ ให้เข้าที่เข้าทาง ไม่มีคนวางแผนเรื่องชนิดอาหารที่จะใช้ในการแข่งขัน วางแผนการเอาชนะในการดวลรอบต่างๆ ช่วยดูทิศทางลมว่าวาดแบบนี้แฟนๆ จะคิดยังไง ชอบหรือไม่ ทุกอย่างเลย Drop ลงเรื่อยๆ อย่างที่เห็น (โดยเฉพาะไอ้บอสฮาซาฮีเนี่ย ถ้าให้จบไปตั้งแต่ภาค 10 ยอดเยี่ยม เรื่องนี้ยังจะเป็นตำนานที่น่าจดจำมากกว่าอีก)

970 Nameless Fanboi Posted ID:rk51e5taOK

>>968 อ้อ... คนที่สงสัยตอนนั้นก็กูเองนี่ล่ะ ส่วนนิยายที่ขยันเว้นที่ไว้ปลูกหญ้าก็มาจากเรื่องนี้ https://fictionlog.co/c/595110ab084a1d10a50b0272 พอดีเขาเป็นทั้งนักเขียนนิยายขายดีเป็นทั้งวิทยากรของ ฟชล. กูเลยคิดว่าโม่งอคติกันไปเองหรือเปล่า แต่ที่ไหนได้ กูนี่แหละมายาคติ

971 Nameless Fanboi Posted ID:zhLHL4wfR9

ที่กูเข้ามาสับในโม่งบางทีมันก็คือการคลายเครียด ด่านิยายได้แบบที่ใจคิดแบบไม่ต้องกั๊กว่ะ ไม่งั้นถ้าติเพื่อก่อ สาระชิบหาย กูไปเปิดสับในเด็กดีอย่างเดียวก็พอแล้วไหม ซึ่งบอกเลยว่าเปิดมู้ทีกูพักยาวเพราะเหนื่อย หมดแรงหมดรมณ์หมดลมด้วย กูน่ะสับดีๆ ได้ แต่มึงเคยรู้สึกแบบอ่านนิยายแล้วหัวร้อนมะ อยากจะด่าว่ามึงเขียนเหี้ยอะไร กลับไปเรียนภาษาไทยป.2 ใหม่ไป๊ ถ้าไม่ใช่ในโม่ง แม่งก็ทำไม่ได้ ต้องรักษาน้ำใจกันอีก บางทีเข้ามาสับในนี้ก็คือสับเอามัน สับเอาฮา แล้วแต่ว่าองค์ไหนจะลง ถ้าองค์พระอุมาลงก็ใจดีมีเมตตาปรานี แต่ถ้าองค์กาลีองค์ทุรคาลงก็อีกเรื่อง

972 Nameless Fanboi Posted ID:EawWyzm/K9

ในเริ่มแรกนั้นพระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดินโลก
2 แผ่นดินโลกนั้นก็ปราศจากรูปร่างและว่างเปล่าอยู่ ความมืดอยู่เหนือผิวน้ำ และพระวิญญาณของพระเจ้าปกอยู่เหนือผิวน้ำนั้น
3 พระเจ้าตรัสว่า "จงให้มีความสว่าง" แล้วความสว่างก็เกิดขึ้น
4 พระเจ้าทรงเห็นว่าความสว่างนั้นดี และพระเจ้าทรงแยกความสว่างนั้นออกจากความมืด
5 พระเจ้าทรงเรียกความสว่างนั้นว่าวัน และพระองค์ทรงเรียกความมืดนั้นว่าคืน มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่หนึ่ง
6 พระเจ้าตรัสว่า "จงให้มีพื้นอากาศในระหว่างน้ำ และจงให้พื้นอากาศนั้นแยกน้ำออกจากน้ำ"
7 พระเจ้าทรงสร้างพื้นอากาศ และทรงแยกน้ำซึ่งอยู่ใต้พื้นอากาศจากน้ำซึ่งอยู่เหนือพื้นอากาศ ก็เป็นดังนั้น
8 พระเจ้าทรงเรียกพื้นอากาศว่าฟ้า มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่สอง
9 พระเจ้าตรัสว่า "จงให้น้ำที่อยู่ใต้ฟ้ารวบรวมเข้าอยู่แห่งเดียวกัน และจงให้ที่แห้งปรากฏขึ้น" ก็เป็นดังนั้น
10 พระเจ้าทรงเรียกที่แห้งว่าแผ่นดิน และที่น้ำรวบรวมเข้าอยู่แห่งเดียวกันว่าทะเล พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
11 พระเจ้าตรัสว่า "จงให้แผ่นดินเกิดต้นหญ้า ต้นผักที่มีเมล็ด และต้นไม้ที่ออกผลที่มีเมล็ดในผลตามชนิดของมันบนแผ่นดิน" ก็เป็นดังนั้น
12 แผ่นดินก็เกิดต้นหญ้า ต้นผักที่มีเมล็ดตามชนิดของมัน และต้นไม้ที่ออกผลที่มีเมล็ดในผลตามชนิดของมัน พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
13 มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่สาม
14 พระเจ้าตรัสว่า "จงให้มีดวงสว่างบนพื้นฟ้าอากาศเพื่อแยกวันออกจากคืน และเพื่อใช้เป็นหมายสำคัญ และที่กำหนดฤดู วันและปีต่างๆ
15 และจงให้เป็นดวงสว่างบนพื้นฟ้าอากาศเพื่อส่องสว่างบนแผ่นดินโลก" ก็เป็นดังนั้น
16 พระเจ้าได้ทรงสร้างดวงสว่างใหญ่สองดวง ให้ดวงสว่างที่ใหญ่กว่านั้นครองกลางวัน และให้ดวงที่เล็กกว่าครองกลางคืน พระองค์ทรงสร้างดวงดาวต่างๆด้วยเช่นกัน
17 พระเจ้าทรงตั้งดวงสว่างเหล่านี้ไว้บนพื้นฟ้าอากาศเพื่อส่องสว่างบนแผ่นดินโลก
18 เพื่อครองกลางวันและครองกลางคืน และเพื่อแยกความสว่างออกจากความมืด พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
19 มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่สี่
20 พระเจ้าตรัสว่า "จงให้น้ำอุดมบริบูรณ์ไปด้วยสัตว์ที่มีชีวิตแหวกว่ายไปมา และให้มีนกบินไปมาบนพื้นฟ้าอากาศเหนือแผ่นดินโลก"
21 พระเจ้าได้ทรงสร้างปลาวาฬใหญ่ บรรดาสัตว์ที่มีชีวิตแหวกว่ายไปมาตามชนิดของมันเกิดขึ้นบริบูรณ์ในน้ำนั้น และบรรดาสัตว์ที่มีปีกตามชนิดของมัน พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
22 พระเจ้าได้ทรงอวยพรสัตว์เหล่านั้นว่า "จงมีลูกดกและทวีมากขึ้น ให้น้ำในทะเลบริบูรณ์ไปด้วยสัตว์ และจงให้นกทวีมากขึ้นบนแผ่นดิน"
23 มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่ห้า
24 พระเจ้าตรัสว่า "จงให้แผ่นดินโลกเกิดสัตว์ที่มีชีวิตตามชนิดของมัน สัตว์ใช้งาน สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ป่าบนแผ่นดินโลกตามชนิดของมัน" ก็เป็นดังนั้น
25 พระเจ้าได้ทรงสร้างสัตว์ป่าบนแผ่นดินโลกตามชนิดของมัน สัตว์ใช้งานตามชนิดของมัน และบรรดาสัตว์ที่เลื้อยคลานบนแผ่นดินโลกตามชนิดของมัน แล้วพระเจ้าทรงเห็นว่าดี
26 และพระเจ้าตรัสว่า "จงให้พวกเราสร้างมนุษย์ตามแบบฉายาของพวกเรา ตามอย่างพวกเรา และให้พวกเขาครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศ และสัตว์ใช้งาน ให้ครอบครองทั่วทั้งแผ่นดินโลก และบรรดาสัตว์เลื้อยคลานที่คลานไปมาบนแผ่นดินโลก"
27 ดังนั้นพระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ตามแบบพระฉายาของพระองค์ พระองค์ได้ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามแบบพระฉายาของพระเจ้า พระองค์ได้ทรงสร้างพวกเขาให้เป็นชายและหญิง
28 พระเจ้าได้ทรงอวยพรพวกเขา และพระเจ้าตรัสแก่พวกเขาว่า "จงมีลูกดกและทวีมากขึ้น จนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดินนั้น และครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศ และบรรดาสัตว์ที่มีชีวิตที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดินโลก"
29 พระเจ้าตรัสว่า "ดูเถิด เราให้บรรดาต้นผักที่มีเมล็ดซึ่งอยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโลก และบรรดาต้นไม้ซึ่งมีเมล็ดในผลแก่เจ้า ให้เป็นอาหารแก่เจ้า
30 สำหรับบรรดาสัตว์ป่าบนแผ่นดินโลก บรรดานกในอากาศ และบรรดาสัตว์ที่เลื้อยคลานที่มีชีวิตบนแผ่นดินโลก เราให้บรรดาพืชผักเขียวสดเป็นอาหาร" ก็เป็นดังนั้น
31 พระเจ้าทอดพระเนตรบรรดาสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้าง และดูเถิด เป็นสิ่งที่ดียิ่งนัก มีเวลาเย็นและเวลาเช้าเป็นวันที่หก

973 Nameless Fanboi Posted ID:p3DVwXKpUd

>>967 ตรงข้อนี้กูกลับมองว่าที่โม่งสับมันสมดุลดีอยู่แล้วว่ะ อย่างที่โม่งบอกก่อนหน้านี้ว่าจงใจเรื้อนเอาฮาด้วย ไอ้การกำหนดว่า "ติเพื่อก่อ" เนี่ยแม่งระบุขอบเขตยากมาก (เหมือนบอกว่ามึงต้องเป็นคนดีอะ)​ กูว่าจัดการตัวเองแบบเวลานิยายมีคอมเม้นด่าดีกว่า คือมึงไปแยกแยะเอาเองว่าอะไรควรเก็บอะไรควรเมิน เพราะถ้าโม่งสับทำตัวน่ารักจ๋าขนาดนั้นแม่งรู้สึกเหมือนโดนแม่นกป้อนหนอนเข้าปากยังไงก็ไม่รู้ ถ้าฝ่ายคนอ่านต้องวิเคราะห์ไปด้วยบ้างกูว่ามันก็แฟร์ดี แถมคนสับก็สนุกด้วย

จะว่าไปใกล้ขึ้นมู้ใหม่แล้วยังไม่มีใครส่งชื่อเข้าประกวดเลย!

974 Nameless Fanboi Posted ID:Bn2.3KCVDg

กูเข้ามาฮาโม่งยกหางตัวเองว่ะ พวกมึงละเมอคิดว่าตัวเองเป็น บ.ก หรือไงวะ ทำเป็นเปรียบเทียบนั่นเปรียบเทียบนี่ซะสูงส่ง ทำเป็นขึ้นวอกับพวกนักเขียนที่เขาไม่เอาพวกมึง แล้วยกตัวอย่างที่ผิดพลาดของนักเขียนมืออาชีพ กูจะบอกให้ นักเขียนหลายๆคนไม่ว่าเขาจะล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จ ผลมันก็อยู่ที่นักอ่านที่เขาสนับสนุนนักเขียน เรื้อนที่ทำได้แต่เป็นอีแอบติอยู่ในหลุมดำอย่างมึงจะส่งผลอะไรต่อความสำเร็จของนักเขียนวะ กูฮาวะ

975 Nameless Fanboi Posted ID:d4+kK13cq6

เดี๋ยวนี้มีโม่งฝ่ายค้านแล้ว

976 Nameless Fanboi Posted ID:pNu5pWp8YT

นิยายเด็กดีบทที่ 30 (DDN XXX) ภาคหนีโควิดมาสภา ฝ่ายค้านโต้ มึงไม่ใช่บก. ที่นี่กองขยะไม่ใช่วอ อีห่า..วิเคราะห์สิ ติเพื่อก่อหรือเอาฮา เป็นองค์อุมากาลีทุรคา นั่นเรื่องของกู

977 Nameless Fanboi Posted ID:CPtdckqlbm

>>976 กูโหวตอันนี้ว่ะ โคตรฮา

978 Nameless Fanboi Posted ID:HJFYvWvbOr

บรรยากาศโม่งเปลี่ยนไปเว้ย โม่งจรรยาบรรณ โม่งเกรียนแซะ โม่งเพลง โม่งทรานเสลท เหี้ยไรกันเนี่ย
ปล.แต่กุขอบคุณเหล่าโม่งสับที่กลับมาสับให้อ่านนะ จากใจจริง ขอให้พักผ่อนเยอะๆ กุรักพวกมึง

979 Nameless Fanboi Posted ID:d4+kK13cq6

>>978 กูว่าตั้งแต่เว็บโม่งถูกเปิดในที่สาธารณะ โม่งหลากหลายสายพันธุ์แม่งเยอะขึ้นฉิบหายเลยว่ะ

980 Nameless Fanboi Posted ID:OD9O38o/VV

โม่งเห่อหมอย

981 Nameless Fanboi Posted ID:/j6jz7LwyL

โม่งมีหลายเผ่า โม่งที่มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศคือโม่งสับ ที่เหลือเมิงกลับไปเรื้อนกันที่บอร์ดเถอะ
แล้วบ.ก.ก็ขี้ข้าสำนักพิมพ์เมิงอย่าให้ราคามาก กุเจอเหี้ย ๆ มาหลายคน
ที่นี่มองคุณค่าเนื้อหาสาระที่พิมพ์ถ้าไม่เข้าใจก็กลับไปใส่หัวหมานั่งเรื้อนในบอดเด็กดวกดีแล้ว

982 Nameless Fanboi Posted ID:.3jIZBhGQB

>>974 เหม็นกลิ่นโม่งใหม่ฉุนจมูก มึงไม่ได้ย้อนอ่านภาคก่อนๆ เลยสิท่า ถึงได้ไม่รู้ว่าจุดยืนของคนในนี้เป็นยังไง จริงๆ แล้วโทรลราคาถูกอย่างมึงนี่ไม่มีค่าให้กูคุยด้วย แต่กูว่างพอดีเลยจะทำบุญทำทานก็แล้วกัน

กูไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็น บก. เลยห่า เพราะกูเข้าไม่ถึงความคิดของคนพวกนี้ ถึงจะไม่ได้แต่งนิยายเก่งแต่ไม่รู้ทำไม บก. ที่เทพๆ กลับมองเห็นทะลุปรุโปร่งว่านิยายเรื่องนี้จะขายได้ เรื่องนี้ขายไม่ออก แก้เป็นแบบนี้แล้วจะดี ลบอันนี้ออกแล้วจะรอด ดังนั้นข้อกล่าวหาแรกของมึงจึงเป็นอันตกไป

ส่วนไอ้เรื่องนักเขียนมืออาชีพนี่ ถ้ามึงหมายถึงอย่างพวกตุ๋นกบ เงินบวก ทั่นโซ นักปฏิวัติ ที่ขายเกรียนได้แล้ว = เป็นมืออาชีพ แปลว่ามึงเข้าใจผิดอะไรไปเยอะเลย แต่กูคงไม่แก้ไขให้หรอกนะ ให้มึงอยู่ในกะลาต่อไปน่ะดีแล้ว สนุกดี

มึงพูดถูกว่านักอ่านคือตัวชี้วัดที่ชัดเจน แต่การส่งผลต่อนักเขียนเนี่ย กูถามจริงๆ ว่ามันส่งผลยังไงวะ นอกจากทำให้ยอดวิวหน้านิยายกับยอดเงินในกระเป๋านักเขียนเพิ่มขึ้น หรือการพูดชมนักเขียนแล้วนักเขียนก็มีกำลังใจงี้อ่อ กูแม่งไม่ค่อยเจอเลยนะ ไอ้พวกนักเขียนสายขายที่จะเอาข้อด้อยไปปรับปรุงเวลามีนักอ่านมาติเนี่ย เคยเจอแต่พวกเถียงสู้ เบี่ยงประเด็น กับยัดข้อหาว่า "มึงโง่ที่ไม่เข้าใจนิยายของกู ด่านิยายกูเพราะมึงอยากหยาม ไม่ให้เกียรติกู"

ซึ่งถ้ามึงจะสื่อว่าพวกกูสับในนี้ไปนักเขียนก็ไม่เห็นไม่มีผลให้เกิดการพัฒนา กูบอกตามตรงเลยว่า เออ ก็ตามนั้นแหล่ะ เพราะกูไม่ได้สนใจควยไรกับนักเขียนอยู่แล้ว สับกันในนี้ คุยกันในนี้ แล้วก็ใช้ประโยชน์กันเองในนี้เช่นกัน ส่วนที่บอกว่านักอ่านตรงหน้านิยายยังมีผลต่อนักเขียนมากกว่า ก็ใช่ไง เพราะมันเจอกันข้างนอกนั่น เจอกันในที่สว่าง แนะนำอะไรไปนักเขียนมองเห็นแน่ (ถ้ามันอ่านคอมเมนต์) ปัญหาคือ อ่านแล้วมันไม่ยอมปรับปรุง แถไปแถมา หรือเถียงข้างๆ คูๆ จนสุดท้ายแม่งก็มีค่าเท่ากันกับโม่งคือไม่ได้ก่อเกิดประโยชน์หรือการพัฒนาต่อตัวนักเขียนเท่าไหร่ เพราะแม่งทำตัวน้ำเต็มอ่าวกันเองอะ

บอกอีกทีว่านักเขียนมันจะรุ่งหรือร่วง สำเร็จหรือล้มเหลว ได้ดีหรือดับดิ้น อันนี้ก็เรื่องของแม่ง ไม่เกี่ยวกับพวกกู ที่นี่แค่เอามาสับแล้วใช้ประโยชน์จากตัวงานโดยนำมาเป็นตัวอย่างความผิดพลาด แถมปกติก็เลี่ยงที่จะพูดถึงนักเขียนด้วยซ้ำ ก็เลยไม่มีอะไรให้ต้องพูดต่อ เพราะโม่งมันก็อยู่กันอย่างโม่งๆ แบบนี้มานานแล้ว ไม่เหมือนมึงที่มาถึงก็ทำตัวหมอยหงิก อยากเกรียนจนตัวสั่น

แล้วถ้าจงใจหลอกล่อให้พวกกูออกไปเรื้อนที่หน้านิยาย ก็เสียใจด้วยนะคะ ที่นี่ไม่มีใครทำแบบนั้นหรอก มันไม่ฉลาด กลับไปอวยนักเขียนในดวงใจของมึงต่อเถอะ เอาให้ลิ้นติดเชื้อจนลามขึ้นสมองไปเลยก็ยิ่งดี จะได้ไม่ต้องมาทำตัวซึนด่าโม่งทั้งๆ ที่ตัวเองก็เล่นโม่ง มันน่าทุเรศ

983 Nameless Fanboi Posted ID:4/Y7A7XuVx

>>976 +1 กูรอสับในมู้ใหม่เลย
เอ้าคุยเล่นกันเลยจ้า

984 Nameless Fanboi Posted ID:d4+kK13cq6

>>982 กูไม่เห็นด้วยนะ ที่มึงดูถูกนักอ่านนิยายพวกขายนิยายว่าเกรียนอะ มันเหมือนพาลดูถูกรสนิยมคนอ่าน ส่วนพวกท่านโซ ตุ๋นกบมันไม่ใช่มืออาชีพก็ช่างแม่ง แม่งแต่งได้เงินเป็นแสนกูว่านักเขียนหลายคนอยากทำได้อย่างมันว่ะ

985 Nameless Fanboi Posted ID:EawWyzm/K9

1ฟ้าสวรรค์และแผ่นดิน และสรรพสิ่งทั้งสิ้นที่มีอยู่ในนั้นก็ถูกสร้างเสร็จ
2วันที่เจ็ด พระเจ้าก็เสร็จงานของพระองค์ที่ทรงทำมานั้น ในวันที่เจ็ดนั้นก็ทรงหยุดพักจากการงานทั้งสิ้นของพระองค์ที่ได้ทรงกระทำ
3พระเจ้าจึงทรงอวยพรวันที่เจ็ด ทรงตั้งไว้เป็นวันบริสุทธิ์ เพราะในวันนั้นพระองค์ทรงหยุดพักจากการงานทั้งปวงที่พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างและทรงกระทำ

สวนเอเดน

4ลำดับเรื่องการเนรมิตสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินมีดังนี้

ในวันที่พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างแผ่นดินและฟ้าสวรรค์
5เมื่อยังไม่มีต้นไม้ตามทุ่งบนแผ่นดิน และพืชตามทุ่งก็ยังไม่งอกขึ้นเลย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้ายังไม่ได้ทรงให้ฝนตกบนแผ่นดิน ทั้งยังไม่มีมนุษย์เพาะปลูกบนดิน
6แต่มีละอองน้ำขึ้นมาจากแผ่นดิน รดพื้นดินทั่วทั้งหมด
7พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีจากพื้นดิน ระบายลมปราณเข้าทางจมูกของเขา มนุษย์จึงกลายเป็นผู้มีชีวิตอยู่

8พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงปลูกสวนแห่งหนึ่งไว้ในเอเดนทางทิศตะวันออก และทรงกำหนดให้มนุษย์ที่พระองค์ทรงปั้นอยู่ที่นั่น
9แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าทรงให้ต้นไม้ทุกชนิดที่งามน่าดูและน่ากินงอกขึ้นจากพื้นดิน มีต้นไม้แห่งชีวิตต้นหนึ่งอยู่กลางสวนนั้น กับต้นไม้แห่งการรู้ถึงความดีและความชั่วต้นหนึ่งด้วย

10มีแม่น้ำสายหนึ่งไหลจากเอเดนรดสวนนั้น จากที่นั่นก็แยกเป็นสี่สาย
11ชื่อแม่น้ำสายที่หนึ่งคือปิโชน เป็นแม่น้ำที่ไหลรอบแผ่นดินฮาวิลาห์ทั้งหมด ที่มีแร่ทองคำ
12ทองคำที่บริเวณนั้นเป็นทองคำเนื้อดี และมียางไม้ตะคร้ำและโมรา
13ชื่อแม่น้ำสายที่สองคือกิโฮน ไหลรอบแผ่นดินคูชทั้งหมด
14ชื่อแม่น้ำสายที่สามคือไทกริส ไหลไปทางทิศตะวันออกของอัสซีเรีย และแม่น้ำสายที่สี่ชื่อยูเฟรติส

15พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงทรงให้มนุษย์นั้นอาศัยอยู่ในสวนเอเดน ให้ทำและดูแลสวน
16พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงตรัสสั่งมนุษย์นั้นว่า “ผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้ เจ้ากินได้ตามใจชอบ
17แต่ผลของต้นไม้แห่งการรู้ถึงความดีและความชั่วนั้น ห้ามเจ้ากิน เพราะในวันใดที่เจ้ากิน เจ้าจะต้องตายแน่”

18พระยาห์เวห์พระเจ้าตรัสว่า “การที่ชายผู้นี้จะอยู่แต่ลำพังนั้นไม่ดี เราจะสร้างคู่อุปถัมภ์ที่เหมาะสมกับเขาขึ้น”
19พระยาห์เวห์พระเจ้าจึงทรงปั้นสัตว์ทุกชนิดในท้องทุ่ง และนกทุกชนิดในท้องฟ้าจากดิน แล้วทรงนำมายังชายนั้น เพื่อดูว่า เขาจะเรียกชื่อมันว่าอะไร ชายนั้นตั้งชื่อสัตว์ทุกชนิดที่มีชีวิตว่าอย่างไร สัตว์นั้นก็มีชื่ออย่างนั้น
20ชายนั้นจึงตั้งชื่อสัตว์ใช้งานทุกชนิด และนกในอากาศและสัตว์ป่าทุกชนิด แต่ชายนั้นยังไม่พบคู่อุปถัมภ์ที่เหมาะสมกับเขา
21แล้วพระยาห์เวห์พระเจ้าจึงทรงทำให้ชายนั้นหลับสนิท ขณะที่เขาหลับอยู่ พระองค์ทรงชักกระดูกซี่โครงซี่หนึ่งของเขาออกมา แล้วทำให้เนื้อติดกันเข้าแทนกระดูก
22ส่วนกระดูกซี่โครงที่พระยาห์เวห์พระเจ้าได้ทรงชักออกจากชายนั้น พระองค์ทรงสร้างให้เป็นหญิง แล้วทรงนำมาให้ชายนั้น
23ชายนั้นจึงว่า

“นี่แหละ กระดูกจากกระดูกของเรา

เนื้อจากเนื้อของเรา

จะเรียกคนนี้ว่าหญิง

เพราะคนนี้ออกมาจากชาย”

24เพราะเหตุนั้นผู้ชายจะละจากบิดามารดาของเขาไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน
25ผู้ชายและภรรยาของเขาเปลือยกายอยู่ทั้งสองคนและไม่อายกัน

986 Nameless Fanboi Posted ID:uIkmT8xMTU

เหมือนต้องเลือกระหว่างอุดมการณ์กับเม็ดเงิน เพราะบางครั้งนิยายดีก็ใช่จะขายได้เสมอไป และนักเขียนที่อยากจะได้เงินและมีฝีมือบางครั้งก็แยกนามปากกาไหนเขียนหาตัง นามปากกาไหนเขียวหาอุดมการณ์ ไม่งั้นแม่งไปไม่รอด กูคนหนึ่งล่ะที่ถ้าทำงานประจำจะเขียนนิยายไม่ได้ ออกจากงานประจำมาก็เขียนไม่ได้เหมือนเดิม โอ้โห นอกเรื่องเลยอิเหี้ย! อ้อ รออ่านสับอยู่นะ

987 Nameless Fanboi Posted ID:TouKzS1QWz

เพลงผมฮิต ๆ ๆ ๆ ๆ co ผม vid vid vid vid vid

988 Nameless Fanboi Posted ID:EawWyzm/K9

Sometimes I'm super fucking superficial
Caught up in nothing at all
I'm getting tired of all the artificial
I don't wanna do this anymore

Everybody always obsessing
'Bout what everybody think about them
But I don't wanna be like them no

I just wanna dance, dance
Don't wanna think about nothing
Just keep the stereo pumping and dance
I just wanna dance, dance
Don't wanna think about nothing
Just put on something that's bumping and dance

Sometimes I'm such a social media whore
I get caught up in the noise
I don't know who or what I'm doing it for
Sometimes I forget it's a choice

Everybody always obsessing
'Bout what everybody think about them
But I don't wanna be like them no

989 Nameless Fanboi Posted ID:9VCxpHK/g6

เขียนงานดี ๆ วางพลอตซับซ้อน เขียนภาษาดี ไมมีคำผิดมันเสียเวลามันเหนื่อย
เขียนแบบกุนี่ขายได้ ไม่เหนื่อยด้วย
คนคิดแบบนี้เมิงว่าดูถูกคนอ่า่นไหมล่ะ

ใคร ๆ ก็อยากเขียนนิยายแล้วขายได้ มันเป็นความคิดของพวกกระจอกที่ไม่มีเงิน
ลองมีเงินสิ เมิงจะอยากเขียนนิยายเพื่อขายอีกเหรอสัด
ความจนแม่งทำให้คนกระจอกนี่เรื่องจริง

990 Nameless Fanboi Posted ID:d4+kK13cq6

>>989

ความคิดมึงนั่นแหละ ดูถูกการเขียนนิยายจริงๆ

991 Nameless Fanboi Posted ID:cdEyDKnYUf

เคยมีใครได้เย็ดนักเขียนไหมครับ

992 Nameless Fanboi Posted ID:CoK5MzOETm

>>989 ความจนเป็นข้ออ้างได้ทุกอย่าง ทั้งเห็นแก่ตัวทั้งไม่รับผิดชอบต่อส่วนรวมเพราะกรูมันจนนนนน

993 Nameless Fanboi Posted ID:XpkL40.fn4

เตรียมตัววิ่งควายได้ละ

994 Nameless Fanboi Posted ID:zhLHL4wfR9

นักเขียนถอนนิยายที่ได้ตีพิมพ์ยังมีเลย ไปขายนิยายยั่วเยเพราะได้เงินเร็วกว่า นิยายพิมพ์มันช้า ได้เงินไม่ทันใจ

995 Nameless Fanboi Posted ID:zhLHL4wfR9

ว่าจะสับนิยาย เจอฟ้อนต์ไซส์นี้เข้าไป ขอบายล่ะกู จิ๋มมดยังใหญ่กว่า
https://imgur.com/3lUMa0N

996 Nameless Fanboi Posted ID:stpij.MmM2

>>995 อห. กูแหกนิ้วขยายรูปจนสุดแล้วยังอ่านไม่ออก

997 Nameless Fanboi Posted ID:AuU4+G5CJi

>>995 อห อห อห

998 Nameless Fanboi Posted ID:stpij.MmM2

ใครโพสคนสุดท้ายติดโคโรน่า อุอิอุอิ

999 Nameless Fanboi Posted ID:zhLHL4wfR9

Cordia New 18 เถอะค่ะ จะได้ไม่เป็นภาระต่อคนอ่าน

1000 Nameless Fanboi Posted ID:d4+kK13cq6

อุอิอุอิ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.