Fanboi Channel

นิยายเด็กดี บทที่ 21 (DDNXXI) รวมทีมอเวนเจอร์ นักฆ่าเอจจี้ ระบบนอกบท พระเอกนักเยส นางร้ายสมองกลวงใส นางเอกโคตรเลว โอ้ว it over 9000!

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:0ldlVFizzz

วิพากษ์วิจารณ์งานเขียนบนเว็บเด็กดี.คอม ทั้งจบแล้วและยังไม่จบ ตีพิมพ์แล้วและยังไม่มีใครเหลียวแล รวมไปถึงพูดคุยเกี่ยวกับวงการนิยายเว็บ (เด็กดี) เพื่อความหวังของวรรณกรรมไทยในอนาคต ทั้งนี้ ไม่สนับสนุนให้นำเรื่องส่วนตัวของนักเขียนแต่ละคนออกมาตีแผ่ ควรเน้นเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานเขียนเท่านั้น

<<คลังกระทู้เก่า>>

นิยายเด็กดี บทที่ 1 -- https://fanboi.ch/webnovel/2403/
นิยายเด็กดี บทที่ 2 -- https://fanboi.ch/webnovel/2703/
นิยายเด็กดี บทที่ 3 -- https://fanboi.ch/webnovel/2907/
นิยายเด็กดี บทที่ 4 -- https://fanboi.ch/webnovel/3066/
นิยายเด็กดี บทที่ 5 -- https://fanboi.ch/webnovel/3187/
นิยายเด็กดี บทที่ 6 -- https://fanboi.ch/webnovel/3229/
นิยายเด็กดี บทที่ 7 -- https://fanboi.ch/webnovel/3388/
นิยายเด็กดี บทที่ 8 -- https://fanboi.ch/webnovel/3594/
นิยายเด็กดี บทที่ 9 -- https://fanboi.ch/webnovel/3852/
นิยายเด็กดี บทที่ 10 -- https://fanboi.ch/webnovel/4106/
นิยายเด็กดี บทที่ 11 -- https://fanboi.ch/webnovel/4265/
นิยายเด็กดี บทที่ 12 -- https://fanboi.ch/webnovel/4393/
นิยายเด็กดี บทที่ 13 -- https://fanboi.ch/webnovel/4626/
นิยายเด็กดี บทที่ 14 -- https://fanboi.ch/webnovel/4810/
นิยายเด็กดี บทที่ 15 -- https://fanboi.ch/webnovel/5006/
นิยายเด็กดี บทที่ 16 -- https://fanboi.ch/webnovel/5346/
นิยายเด็กดี บทที่ 17 -- https://fanboi.ch/webnovel/5535/
นิยายเด็กดี บทที่ 18 -- https://fanboi.ch/webnovel/5769/
นิยายเด็กดี บทที่ 19 -- https://fanboi.ch/webnovel/6022/
นิยายเด็กดี บทที่ 20 --
https://fanboi.ch/webnovel/6295/
รายชื่อโดนสับไปแล้ว https://docs.google.com/document/d/1ouFhwS9WeoBzEgYHVNYWkeUAbhQ2YkCg4ozpTpx1-94/edit

2 Nameless Fanboi Posted ID:oNAfZQZ7K+

รู้เฟลชิบหายที่คนเขียนเรื่องที่ตามบ่นว่ายุ่งไม่ค่อยมีเวลาเขียนแต่เสือกงอกเรื่องใหม่มาเรื่อยๆ

3 Nameless Fanboi Posted ID:93vXfpUekD

>>2 พอๆกับบอกเพื่อนว่ากูไม่มีเวลา กูมีการบ้านเยอะ แต่ที่จริงแล้วเล่นแต่เกมทั้งวัน จะว่างเมื่อเกมปิดเซิฟ

4 Nameless Fanboi Posted ID:0ldlVFizzz

อะไรของเด็กมันวะ พึ่งเริ่มแค่นี้ก็บ่นละ

https://www.dek-d.com/board/view/3902755/

5 Nameless Fanboi Posted ID:93vXfpUekD

>>4 หลายคนก็เป็นแบบนี้แหละ ปากบอกจะมีภาคต่อๆ แต่บ่นเรื่องยอดวิวน้อย คนเม้นน้อย แฟ่บน้อย แทบอยากจะบอกคนเขียนทุกคนว่า เอาเวลาหาทางเอาตัวรอดในภาคแรกดีกว่า ไม่สิ ตัดภาคสองภาคสามออก ทำภาคเดียวจบ เผื่อมีปัญหาอะไร ไอเดียจะไม่เสียของเกินไป

6 Nameless Fanboi Posted ID:wWxPXUKnOe

เอ้าเชี่ยเพิ่งเห็น หัวมู้ยัง it over 9000 อยู่เลยสัด มู้ที่แล้วมีคนด่าไปแล้วไม่ใช่หรอวะ 5555

7 Nameless Fanboi Posted ID:ytYZF76NPe

>>6 แล้วต้องเขียนยังไง It's over 9,000 งี้ปะ

8 Nameless Fanboi Posted ID:fsnboNpnTm

สับเรื่องนี้ให้กูหน่อย ขอแบบเน้นๆ
https://writer.dek-d.com/rachini-aomam/story/view.php?id=1385364

9 Nameless Fanboi Posted ID:iYOo6XGdYV

>>8 โทษที แนวนี้กูขอผ่าน

10 Nameless Fanboi Posted ID:F/zAsKBUci

>>6 เออว่ะ นี่กูต้องโดนประจานอัจฉริยะภาพทางภาษาไปจนกว่าจะหมดมู้เลยเหรอวะเนี่ย5555555

11 Nameless Fanboi Posted ID:iYOo6XGdYV

>>6 กูคนเปิดมู้เอง กูขอโทษ กูก็อปชื่อมาวางไม่ได้เช็คอะไรเลย ตอนนั้นมีประเด็นคันปากอยากเล่าเลยรีบไปหน่อย

ปล. กูไม่ใช่คนคิดชื่อนะ

12 Nameless Fanboi Posted ID:LXVI79p3vm

>>8 เปิดเรื่องมากูเดจาวูเฟรินเลย รู้สึกว่าคล้ายเกิ๊นเลยลาก่อย

13 Nameless Fanboi Posted ID:6Ng4umg2cR

>>8 เห็นบอกเหมือนบารามอสก็นึกว่าแนวแฟนซี พอกดเข้าไป แนววายมหาลัยก็งง ใช่เหรอวะ พอลองอ่านบทแรกไม่กี่บรรทัด เออ เหมือนจริงด้วย 555 ว่าแต่แนววนี้ไปห้องวายเลยน่าจะได้การวิจารณ์มากกว่านะ มู้นี้คนถนัดสายนี้น้อย

14 Nameless Fanboi Posted ID:lJpw+aTZGL

>>8 โทษที แนวนี้กูขอผ่าน ขอโทษที่กุก๊อปคนข้างบนมาวาง

15 Nameless Fanboi Posted ID:ytYZF76NPe

>>12 >>13 มันเหมือนยังไง เอาตัวละครมาเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนบทพูด แล้วเดินเรื่องเหมือนกัน เริ่มในฉากหลังคล้ายกันงี้เหรอ

16 Nameless Fanboi Posted ID:eCvukJuROp

>>15 ฉากเปิดมาด้วยหมากรุก กับวิธีการคุย คือ ไม่ใช่ว่าเปิดแบบนั้นไม่ได้นะ เพียงแต่มันเหมือนกันเกิน

แม่งกลายเป็นลอกเซ็ปชั่นมาก แรบบิทลอกตัวละครจากอันอื่น ตอนแรกกูโอเคนะ แต่งเล่น ๆ หรือทำมือขาย

แต่มันไม่โอเคตอนสนพ.ทำขาย&โปรโมท กูสงสัยกับ Sense เรื่องสกรีนงานก๊อปของบก.มาก

17 Nameless Fanboi Posted ID:6Ng4umg2cR

>>15 สำหรับกูนะ สำนวนแม่งแฟนซีเหมือนบารามอส แต่พลอตเป็นแนวมหาลัยยุคปัจจุบัน มันเลยแปร่งๆไงไม่รู้ ปกติแนวนี้เปิดมาก็มักจะสำนวนวัยรุ่นมากกว่านี้อ่ะ

18 Nameless Fanboi Posted ID:6Ng4umg2cR

เออ ลืม อีกนิดนึง เพิ่งเคยเห็นแนวมหาลัยเปิดเรื่องด้วยการเล่นหมากรุกในสำนวนแฟนซีแบบนี้จริงๆแฮะ ในบารามอสก็เปิดด้วยตลค.นั่งเล่นหมากรุกบ่อยๆเหมือนกัน หรืออาจทุกเล่มด้วยซ้ำ จำไม่ได้ละ

19 Nameless Fanboi Posted ID:ytYZF76NPe

>>17 นึกถึงนิยายแฟนตาซียุคกลางแต่สำนวนหนังจีนที่กำลังระบาดอยู่เลย

20 Nameless Fanboi Posted ID:gcuKdVXrqg

>>19
วิสเค้าท์ซาเอเทียโน่ วันนี้วันตายของเจ้า
โอหัง แน่จริงก็เข้ามา

21 Nameless Fanboi Posted ID:lJpw+aTZGL

Oหังกับ3หาว มันใช้ต่างกันไหมวะ

22 Nameless Fanboi Posted ID:2h7qM2gm.O

โอหัง = ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
สามหาว = ไม่รู้จักมารยาท

23 Nameless Fanboi Posted ID:7V+/Xdgs9p

>>20 555 กูอ่านแล้วแม่งจี้ดีว่ะ

24 Nameless Fanboi Posted ID:2hI8LHHTJt

>>22 อะไรของมึงวะเนี่ย โอหัง จองหอง หยิ่ง ยะโส เหมือนกัน
ส่วน สามหาว เป็นกริยาหยาบคาย ไม่เคารพ
พจนานุกรมก็มีเราอย่าตีความกันเอาเองเลย

25 Nameless Fanboi Posted ID:+zQDBRtnbH

>>24 แล้ว... มันต่างกันตรงไหนวะในเมื่อใช้เรียกคนประเภทเดียวกัน

26 Nameless Fanboi Posted ID:0oke/vb5Cd

it's over 9000 นะ ชื่อมู้แม่งโคตรพม่า

27 Nameless Fanboi Posted ID:q4PUOqY.TF

กว่าจะจบมู้ คงมีคนทักชื่อมู้ตลอด ถถถ

28 Nameless Fanboi Posted ID:lkoqDBfXm4

ย้ำเยอะเดี๋ยวหาว่าแกรมม่านาซีอีก ก็จำไว้ในใจแล้วกันว่ามันควรเขียนยังไง

ส่วนประเด็นวันนี้ที่จะมาชวนคุยคือเรื่อง กุแต่งนิยายแนวกึ่งมนุษย์ พระเอกเป็นกึ่งเต่า นางเอกเป็นกึ่งนก แล้วมีนักอ่านด่าว่านิยายกุไม่สนุกเลย นางเอกมีดีแค่บินได้กับเล็บคม พระเอกก็ไม่เทพ tank ได้อย่างเดียว (ไม่มีกระดองแต่ผิวหนังสีเขียวบนหลังจะทนทาน) ทำไมไม่มีหูแมว หูหมา หูกระต่าย ไม่มีความโมเอะ กุจะไปเถียงในคอมเม้นก็กลัวจะคิดว่าไล่แขก เลยขอมาระบายที่นี่แทนว่า

"นิยายบู้แนวต่อสู้เพื่ออิสรภาพ ปลดแอกจากการถูกข่มขี่ ไม่ใช่นิยายเลิฟคอเมดี้ ไม่ใช่สไลซ์ออฟไลฟ์เทพทรู กุไม่ได้จะขายฮาเร็มโมเอะ กุขายความปากกัดตีนถีบ มิตรภาพและคราบน้ำตาไอ่สัส แล้วก็เลิกถามได้แล้วนะว่าเต่ากับนกจะเย็ดกันได้ยังไง เพราะมันไม่ใช่นิยายประเภทนั้นโว้ย"

29 Nameless Fanboi Posted ID:PiP85Bis/1

>>28 ง่ายๆ ก็คือมึงเขียนโดยไม่สนใจตลาดไง
พวกนักอ่านก็มีแนวที่ตัวเองคาดหวังในใจ แต่เมื่อเจียดเวลามาอ่านแล้วเจอเรื่องที่ไม่ตรงแนวที่ตัวเองคาดหวังก็ย่อมหัวเสียด่างี้ล่ะ

30 Nameless Fanboi Posted ID:Vc1cCG/0kL

>>28 มึงบ่นยังงี้แม่งลูซเซอร์ว่ะ มึงอยากเขียนยังไงก็เขียนไป มึงต้องตามเถียงทุกคนที่ไม่ชอบเรื่องมึงรึไงวะ

31 Nameless Fanboi Posted ID:XUtzM9DOON

5555555555555+
เด็ก ม. ต้น เห่อหมอยตั้งมู้สินะ ควาบชิบหาย
It over 9000 เหี้ยอะไรของมึงเนี่ย

32 Nameless Fanboi Posted ID:7W9DTPLu5M

>>28 เต่ากัดเจ็บนะมึง555

33 Nameless Fanboi Posted ID:7W9DTPLu5M

>>31 คนเสนอชื่อเเม่งกากเเกรมม่าเเล้วคนตั้งมู้ไม่ได้เเก้ก่อนตั้งน่ะ

34 Nameless Fanboi Posted ID:TmQPbVfrsp

>>33 มึงเชื่อมันรึ กูว่าไอ้คนตั้งกระทู้กับคนตั้งชื่อมันก็คนเดียวกันนั้นแหละ แค่ทำมาเป็นแก้ตัวกลบเกลื่อนว่าคนละคน

35 Nameless Fanboi Posted ID:vV6ZadDs2B

มีเรื่องไหนเขียนฉากสู้มือเปล่าแบบไม่สาดสกิลบ้างไหมวะ

36 Nameless Fanboi Posted ID:uAtg/meznX

>>35 บรูซลี

37 Nameless Fanboi Posted ID:3ilme4Q6bB

>>34 ก็กูเนี่ยคนตั้งชื่อ ใครจะกล้าตั้งมู้ทั้งที่เเม่งยังเขียนผิดๆวะ อายเค้าตายห่า เเม่งประจานความพิการทางภาษาของกูชัดๆ orz

38 Nameless Fanboi Posted ID:FddgyXK8Gd

>>34 กูพูดตรง ๆ กูเป็นคนละคนกัน ไม่มีกลบเกลื่อน

จาก คนตั้งมู้

39 Nameless Fanboi Posted ID:/p0r+ulJol

คิดเล็กคิดน้อยกันจริง คราวหน้าก็ตั้งชื่อไทยล้วนตัดปัญหาเลย

40 Nameless Fanboi Posted ID:iYu+IhQCqm

อิท'ส์ โอเวอร์ ๙๐๐๐

41 Nameless Fanboi Posted ID:AYOL1GBDY8

>>32 https://www.youtube.com/watch?v=d6WkFTWQrzc

42 Nameless Fanboi Posted ID:zpxGonh.O7

กูเรี่มคิดถืงแนวเกมไลน์แล้วว่ะ แนวต่างโลกเยอะเกิ๊น แต่พอไปหาดูก็มีแต่อันที่แนวๆเดียวกันหมด

43 Nameless Fanboi Posted ID:AYOL1GBDY8

>>42 เกมไลน์? เกมบนแอพ LINE หรือเกมออนไลน์?

44 Nameless Fanboi Posted ID:/p0r+ulJol

>>42 นี่ก็ว่าจะกลับไปแต่งแนวติดในเกมเหมือนกัน แต่เรื่องเก่าแม่งยังไม่จบ

45 Nameless Fanboi Posted ID:XEG0G3lyFm

นิยายมีเทพเกมส์มือถือนะ ไทยนะจะลองมั่ง มหาเทพ ROV งี้ ท้าแข่งกันในรร. คนแพ้หัวร้อนต่อยคนชนะ เกมส์แพ้คนไม่แพ้

46 Nameless Fanboi Posted ID:c5DlUbPNt2

ทำไมถึงได้วนเวียนกับเกมนักหนาวะ กูไม่เข้าใจ แทนที่จะเบื่อต่างโลกแล้วไปคิดนิยายแนวใหม่ ๆ
ถอยหลังเข้าคลองชิบหาย

47 Nameless Fanboi Posted ID:w/Xh8pwyT1

ไทยมันคิดอะไรได้ที่ไหน ไอ้ต่างโลกนี่ก็เหมือนกัน เริ่มมาจากญี่ปุ่นทั้งน้าน

48 Nameless Fanboi Posted ID:XEG0G3lyFm

>>46 เขียนง่าย เข้าถึงง่าย ไม่ได้มีไรมากหรอก

ถ้าจะบอกเขียนแนวเดิมๆ พวกแฟนตาซีก็เขียนมาเป็นร้อยปีละ จะเขียนอีกทำใม ทำใมไม่เขียนแนวใหม่ๆ มั่งละ คนชอบไรก็เขียนไปเถอะ

49 Nameless Fanboi Posted ID:YYPPy3p6FE

>>46 >>47 พวกมึงโชว์ของหน่อยดิ ที่ว่าแนวใหม่ แนวใหม่อะ ขอไม่เอาแบบพระเอกเป็นเต่า นางเอกนกควยไรแบบนี้นะ
พวกมึงเป็นผู้บุกเบิกนิยายแนวใหม่ไปเลยดิ ทำไมต้องรอให้คนอื่นเขาจูงนำตลอดอะ กูไม่เข้าใจ พิมพ์บ่นอย่างเดียวแม่งง่ายใช่ปะ ลงมือเองกูว่าแม่งก็วนอยู่ในโอ่งเหมือน ๆ กันแหละ

50 Nameless Fanboi Posted ID:w/Xh8pwyT1

>>49 กู >>47 และกูไม่ได้บ่นสักหน่อย พูดความจริงเอง อีกอย่าง จะแนวไรกูก็ไม่สนแล้ว ถ้าพล็อตดี-เขียนดี แนวไรก็ไม่เกี่ยงได้หมดอะ

51 Nameless Fanboi Posted ID:qM5C1SAANN

ไฮแฟนตาซีคลาสสิค -> โรงเรียนเวทมนต์ = โรงเรียนเวทมนต์มีความเป็นไฮแฟนตาซีครบเกือบทุกอย่าง แต่ตัดความฮีโร่กับสงครามออก แล้วดำเนินเรื่องในโรงเรียน
โรงเรียนเวทมนต์-> เกมออนไลน์ = เกมออนไลน์แรกๆ มีกลิ่นโรงเรียนเวทหึ่งชิบหาย มีกิล มีเวทมนต์ บางเรื่องใส่กำลังภายในมาด้วยเพราะช่วงนั้นนิยายจีนกำลังทำตลาด
เกมออนไลน์ -> ต่างโลก = ต่างโลกมีระบบแบบเกมออนไลน์เดะๆ + มีโรงเรียนด้วยอีเชี้ย ยังไม่พอมีกำลังภายใน แถมดำเนินเรื่องในโลกกว้างๆ แบบไฮแฟนตาซีอีก

พวกมึงเห็นแพตเทิร์นในนั้นมั้ย? ฉะนั้นจากความสัมพันธุ์ของสมการที่กำหนดให้ เราจะสร้างสมการใหม่ขึ้นมาได้ดังนี้
ต่างโลก -> ? = ? +มีระบบเกมออนไลน์ + โรงเรียน + กำลังภายใน + High fantasy + กระโดดข้ามโลกเป็น Alice in wonderland

52 Nameless Fanboi Posted ID:L.iOgUAEC6

ทำไมกูต้องรอแนวใหม่ละทิ้งแนวเก่าวะ 5555 เกมออนไลน์มันก็สนุกของมัน ต่างโลกเหมือนกัน แล้วแต่ว่าจะมีอันดีๆไหม

53 Nameless Fanboi Posted ID:vV6ZadDs2B

>>46 ชีวิตเล่นแต่เกมก็เขียนได้แต่นิยายเกมแหละ คนเรามันจินตนาการในสิ่งที่ไม่รู้ได้ที่ไหนล่ะ
>>47 กัลลิเวอร์ อลิซวันเดอร์แลนด์ พ่อมดออซ พวกนี้แม่งต่างโลกทั้งนั้น มาก่อน Isekai ที่ดังๆ อย่าง Spirited Away ตั้งครึ่งศตวรรษ

54 Nameless Fanboi Posted ID:gjIoM.DIAK

จะแนวไหนก็ได้ แค่มึงต้องเรียนรู้อยู่กับตลาด หาให้เจอว่ากลุ่มเป้าหมายมึงเป็นใคร

กลุ่มตลาดวายแม่งเยอะสัส ยุคนี้ข ยะฟุครองเมือง เพราะงั้นถ้ามึงเขียน y ไม่ว่าเรื่องจะเป็นแฟนตาซีแนวไหน โอกาสที่ผลตอบรับดีก็จะมีสูง หรือถ้ามึงจะจับกลุ่มตลาดนักอ่านชาย ก็แน่นอนว่าพระเอกต้องเก่งเทพ กินเนื้อ มีฮาเร็ม สาวๆ ในเรื่องเป็นแบบกะหรี่ทัชสกรีน ส่วนถ้าจะจับตลาดหญิงที่ไม่อ่านวาย อันนี้กูตอบไม่ได้เพราะไม่แน่ใจ แต่ที่ค่อนข้างชัวร์คือ นักอ่านหญิงจะไม่ชอบนิยายแนวที่มีฮาเร็ม

ถ้ามึงจะพยายามจับปลาหลายมือ ก็ออกมาเป็นสมการได้ว่า พระเอกเทพ โฉดนิดๆ ไม่โง่ ไม่ยึดคุณธรรมจนเกินไป+มีสาวๆ เข้ามา แต่ไม่ได้ตีหัวเข้าบ้านง่ายๆ + มีตัวละครเกย์อยู่ในเรื่อง เอาประมาณหลงรักพระเอก หรือเป็นเพื่อนคู่คิดที่ทำให้จิ้นวายได้

พอได้โครงสร้างคร่าวๆ แล้วก็เอาไปใส่พล็อต นักอ่านเว็บโนเวลไทยไม่ชอบ low-fantasy เพราะงั้นต้องสร้างโลกใหม่ (ถ้าจะไม่เขียนแนวจีน) เนื้อเรื่องก็ควรลดแก่นสารลงบ้าง เน้นออกเดินทางผจญภัยแก้ไขปัญหาต่างๆ มึงอาจสร้างเป้าหมายลอยๆ แบบ ออกเดินทางไปตามหาชุดว่ายน้ำทูพีชที่ย่าทวดทำหายเมื่อร้อยปีก่อน แล้วมึงก็ให้ตัวเอกเดินทางไปเรื่อยๆ เติมนั่นเติมนี่หาอีเว้นท์มาใส่ระหว่างทางทำให้คนอ่านรู้สึกสนุกไปกับการเดินทางของตัวละคร สร้างตัวร้ายหลักๆ มาสักตัวหนึ่ง ให้โผล่มามีบทบาทบ้างประปรายเพื่อให้คนอ่านจำได้ พอมึงคิดจะตัดจบ ก็ให้พวกพระเอกไปตามหาทูพีชเจอ ต่อสู้ปราบตัวร้าย แล้วก็จบ (อาจมีบทส่งท้ายเป็น 1 ปีต่อมาหลังจากเหตุการณ์ เป็นการสรุปความให้คนอ่านรู้สึกอิ่มใจ)

55 Nameless Fanboi Posted ID:vV6ZadDs2B

>>54 ตะ แต่ฉันเขียนเพราะอยากเขียนเฉยๆ นะ! ฉันไม่สนใจตลาดสักหน่อย!
(แล้วก็มาโวยวายว่าไม่มีคนอ่าน อุตส่าห์ลงไปตั้ง 3 ตอน)

56 Nameless Fanboi Posted ID:HVpyEEpd1V

>>54 เห๊ยยย กูสนใจพล็อตตัวอย่างมึงมากเลอะ 55555

57 Nameless Fanboi Posted ID:8W42uEFRsE

กูถามหน่อย Urban Fantasy เด็กดวกชอบอ่านเยอะแค่ไหนกัน อยากรู้

58 Nameless Fanboi Posted ID:SDo/Yj3VCq

>>49 มึงจะพาดพิงนิยายกุทำไมนิ กุไม่ได้พูดสักนิดว่าอยากจะแต่งแนวใหม่ พูดคุยอะไรก็ให้มันสร้างสรรค์หน่อย

59 Nameless Fanboi Posted ID:qY6Wky8BwV

แนวเซอเรียลถือว่าใหม่ไหมวะ?

60 Nameless Fanboi Posted ID:8W42uEFRsE

>>59 คอนเฟรคเหรอ

61 Nameless Fanboi Posted ID:1soa8YHFUj

>>59 มันแปลว่าเหนือจริงไม่ใช่เหรอ ถ้างั้นมันต่างกับแฟนตาซีไงวะ

กูไม่รู้จริง ๆ อันนี้ สงสัยด้วย

62 Nameless Fanboi Posted ID:ZAjEB/FDxH

เหนือจริง ก็มี แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย แต่ลำพูนกับแพร่ ก็จัดว่าอยู่เหนือ แต่มันไม่เหนือจริงเท่ากัน

63 Nameless Fanboi Posted ID:dPsO7+Q0KJ

อ่านความเห็นมึงละปวดหัวจริงๆ ;;

64 Nameless Fanboi Posted ID:5oEBPkg/m.

>>61 จากที่กูไปลองดูภาพเเนวเซอร์เรียลมา เซอร์เรียลน่าจะใกล้เคียงกับกาวมากกว่าเเฟนตาซี

65 Nameless Fanboi Posted ID:Z8LbmV2toR

มีคำถาม~ ทำไมคนเรารับนางเอกไม่ซิงไม่ได้ เเต่รับพระเอกไม่ซิงได้วะ

66 Nameless Fanboi Posted ID:Kpe2xGZKnW

>>65 คติบูชาเยื่อบางๆตรงมดลูกไง ส่วนผู้ชายต้องเยเยอะๆจะได้ดูเก่ง

67 Nameless Fanboi Posted ID:ZAjEB/FDxH

>>65 อาจจะร้องเพลงเพราะไม่เท่ากัน I can see you voice

68 Nameless Fanboi Posted ID:Bh/br0QQQE

>>67 คนละซิงไอ้ฉิบหาย!!!

69 Nameless Fanboi Posted ID:4m9DJh/eSz

>>66 พูดได้ดีย์

70 Nameless Fanboi Posted ID:0sqetmTHtn

>>65 ประมาณว่า
ผู้ชายได้ yes หญิงมาเป็นสิบ สังคม หรือสถาบันครอบครัว พวกชาติตะวันออก คิดว่าไม่แปลกไง
แต่พอ ผู้หญิงได้ผู้ชายมาเป็นสิบมั่ง สังคมหรือสถาบันครอบครัว มองว่า ดอกทอง กะหรี่ ไง
ตรรกะของจารีตและประเพณีไง ง่ายมากๆ

71 Nameless Fanboi Posted ID:0sqetmTHtn

ถ้ามองเป็นสิ่งมีค่า
อย่างปัจจุบัน การประมูลเปิดบริสุทธิ์ มีแต่ผู้หญิง ราคามีหลายระดับ ทั้งฝรั่ง เอเชีย ก็มีแต่ผู้ชายเค้าประมูลกัน
ส่วนการประมูลเผิดบริสุทธิ์ผู้ชาย เคยเห็นมั้ย?
นั้นคือโลกใบนี้
สิ่งมีค่าของร่างกายผู้หญิงคือความบริสุทธิ์ไง...

72 Nameless Fanboi Posted ID:75RcicCl0U

มันก็มีมานานแล้ว สมัยก่อนถ้าบริสุทธิ์ เป็นสาวพรหมจรรย์ = มีคุณค่า
ส่วนผู้ชาย... กูว่าเพราะมันท้องไม่ได้ด้วยแหละ ไม่จำเป็นต้องหวงอะไรเท่าไหร่ด้วย

73 Nameless Fanboi Posted ID:QEe6BS9Znz

>>71 มีสิ วงการเกย์มีถมไป พวกคุณนายรวยๆ จ้องเย็ดเด็กชายแท้ๆ ก็มี มีมาตั้งแต่โบราณแล้ว ไม่ได้พึ่งมีสมัยนี้

74 Nameless Fanboi Posted ID:+fNN9vizkc

ระหว่างไอโฟนกับผู้หญิง(ทาส) อันไหนมีค่ามากกว่า

75 Nameless Fanboi Posted ID:S93pUDzDBU

มีแนวสืบสวนในโลกแฟนตาซีแนะนำบ้างไหม? ไม่ต้องโลกแฟนตาซีก็ได้แต่แบบมีเวทมนตร์หรือพลังพิเศษนะ

76 Nameless Fanboi Posted ID:mRojCa7vpZ

>>75 ผมรู้จักอยู่เรื่องหนึ่ง แต่มันไม่ใช่นิยายน่ะ

77 Nameless Fanboi Posted ID:Y8KPF6Q4TX

>>75 รู้จัก แต่ไม่ใช่นิยายเหมือนกัน

78 Nameless Fanboi Posted ID:j.6rg4DeBw

>>75 มีสืบสวน แต่ไม่ใช่โลกแฟนตาซีนะ

เป็นคดีฆาตรกรรมในบ้านที่มีซอมบี้บุกอะ สนุกดี เห็นว่านักเขียน(ยุ่น)ได้รางวัลอยู่ เลยลองซื้อมาอ่าน แล้วก็ไม่ผิดหวัง กูลุ้นมากว่าใครจะเป็นฆาตกร. จำชื่อเรื่องไม่ได้ถ้าสนใจเดี๋ยวกลับไปดูที่บ้านให้

79 Nameless Fanboi Posted ID:KuDofd8QN4

>>75 สืบสวนแฟนตาซีแม่งบานเบอะไปหมด อาจจะไม่ได้เป็นสืบสวนแท้ๆ แต่พื้นฐานมันก็สืบสวนนั่นแหละ
พวกแฟนตาซีชุดเก่าๆ แต่ไม่เก่ามากเดินเรื่องแบบสืบสวน ไขปริศนาหมด เอาที่กำลังจะเป็นหนังอย่าง Artemis fowl นี่ก็ใช่ ชุดแสงเหนือที่เอาไปหนังแล้วเจ๊งนั่นก็ใช่
แต่ถ้าจะเอาแบบสืบสวนแท้ๆ ที่ดังๆ เข้มๆนี่ก็มี 'Storm Front' อ่ะ ถ้าเบาๆ หน่อยก็ 'สายลับวรรณกรรม' ของฟอร์เดย์ แต่ถ้าจะเอาสืบสวนแบบโคตรเข้มแอบเป็นดาร์กแฟนตาซีหลอนๆ เบาๆ ก็ 'ต่อหน้า ต่อตาย' ถ้าชอบแบบจีนก็ 'ตี๋เหริยญเจี๋ย'
ส่วนนอกนั้นไม่มีสนพ.เอามาแปล เพราะคนไทยไม่อ่าน แต่ถ้ามึงอ่าน Eng ได้กูแนะนำซีรีย์ Peter Grant เล่มแรกชื่อ Liver of london ใน Kindle มี Ebook ครบทุกเล่ม สนุกสัดๆ อารมณ์แบบสืบสวนตำรวจอังกฤษจ๋าๆ เลย แต่เขียนไปเขียนมา London แม่งกลายเป็นเมืองแฟนตาซีเฉยเลยสัด พระเอก Peter แม่งควบเป็นทั้งตำรวจสืบสวน เป็นทั้งพ่อมด

80 Nameless Fanboi Posted ID:jFm99/X.8i

>>75 ที่เด็กดวกเขียนนี่ไม่รู้
แต่ถ้าเป็น LN มี Copcraft กูเชียร์สุดใจเลย

81 Nameless Fanboi Posted ID:40+ny9J9i9

ขอบคุณมากเดี๋ยวลองไปหาอ่านดู คือชอบแนวแฟนตาซีพลังพิเศษอะไรพวกนี้แต่เบื่อแนวต่อสู้แล้วเลยว่าจะหาอ่านแก้เลี้ยนหน่อย

82 Nameless Fanboi Posted ID:n6cUjcQgUB

>>79 storm front+1 ซีรีย์ชื่อ dresden files นะ 15 เล่มจบ + เรื่องสั้นอีกนิดหน่อย

83 Nameless Fanboi Posted ID:+fNN9vizkc

ถ้าจะเขียนแนวสืบสวน เกรงว่าคนเขียนติดภาพโคนันเป็นอันดับแรก

84 Nameless Fanboi Posted ID:akErwsqinv

ky อยากจะบ่นๆ แบบไม่ให้นักอ่านรู้ตัวและแบนกู
มีนักอ่านบางท่านบ่นในคอมเมนตร์ว่านิยายของกูแม่งมีกลิ่นรักแฟนตาซีหึ่ง คือการที่กูเขียนช่วงแรกของเรื่องให้เป็นแนวรักไม่ได้หมายความว่านิยายของกูจะกลายเป็นรักแฟนตาซีนะโว๊ย มันก็แค่แฟนตาซีธรรมดาที่มีบทรักตอนแรก สงครามตอนกลางและโศกนาฎกรรมในตอนจบ กูก็ tag ไว้สวยๆ อยู่นะว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับรักด้วยแต่ไม่จ๋าแบบรักแฟนตาซี
อยากมาบ่นให้ฟังแค่นี้แหละ บั้ย

85 Nameless Fanboi Posted ID:zvexljDQgK

>>84 กูเจอปัญหาคล้ายๆ กันเลย แต่ของกูมันเป็นรักแฟนตาซีที่เริ่มเรื่องเข้มจัดไปหน่อย ตั้งใจให้ตอนแรกๆ มันข้นจะได้ดึงคนอ่านเอาไว้ แต่กลายเป็นว่าพอจะผ่อนเนื้อหาลงมา ปรับไปรักมากขึ้นแม่งกลายเป็นคนอ่านหายเกลี้ยงเลยสัด กูต้องกลับไปเขียนเนื้อๆ เข้มๆ ปมชัดๆ ต่ออีก ที่บ่นนี่คือกูเหนื่อยโว้ย เนื้อหาแบบตอนแรกมันต้องคิดหลายตลบ ใหกูได้ Self-Insert ใส่ความรักลงไปหน่อยเถอะ

86 Nameless Fanboi Posted ID:b1ToBZviYz

>>84 กูก็ไม่ชอบเขียนบทโรแมนติคนะ แต่ต้องใส่เพื่อเดินเรื่องกะดึงดราม่า คนไม่ชอบก็ต้องทำใจ ที่กูเกลียดคือพวกสั่งให้ล็อคนางเอกมากกว่า

87 Nameless Fanboi Posted ID:b/b0fGcMXv

>>86 กูว่าคนเรียกร้องล็อคนางเอก เป็นชายโสดจริงไรจริง

88 Nameless Fanboi Posted ID:Ge/qchQgSm

>>87 เมิงเเม่งหมิ่นชายโสด!

89 Nameless Fanboi Posted ID:Xlnw5bTiNA

เกี่ยวกับโม่งยังไงวะมู้นี้

https://www.dek-d.com/board/view/3903666/

90 Nameless Fanboi Posted ID:iJ7F2CqjJ7

>>89 ผิดมู้ปะมึง

91 Nameless Fanboi Posted ID:b/b0fGcMXv

>>89 ดูยังไงว่าเป็นโม่ง

92 Nameless Fanboi Posted ID:zqst+r5u9C

กูขอถามมึงกลับด้วยประโยคเดียวกันนั่นล่ะ

93 Nameless Fanboi Posted ID:Yap.GYcAid

กูเพิ่งกลับมาเห็นนิยายเรื่องนึงเกิดใหม่เป็นฮอลไลว์ ไม่ใช่ว่ามันเอามาจากเรื่องบลีชเหรอวะ เอามาแบบนี้ได้เหรอ หรือมันมีในตำนานสักเรื่องเลยเอามาเขียนแบบนี้ได้เลย

94 Nameless Fanboi Posted ID:jFpviHqt2f

>>93 ถ้าแต่งเล่นๆ ไม่วางขายก็ปล่อยมันไปเถอะ ได้พิมพ์เมื่อไหร่ค่อยด่ามัน

พูดถึงเกิดใหม่แปลกๆแล้วเหมือนมีโม่งเคยพูดถึง เกิดใหม่เป็นคธูลู ด้วยนี่หว่า?

95 Nameless Fanboi Posted ID:5L5.Md3yB1

>>93 เข้าไปดูแม่งมีแบ่งพลังเป็นขั้นๆแบบนิยายเมนสตรีมเด็กดีด้วย บลีชเหี้ยไรของแม่งวะมีแบ่งระดับขั้นเป็นตัวเลขเลเวล...

96 Nameless Fanboi Posted ID:TBduaH3NQK

กูเคยเจอเกิดใหม่เป็นแกนโลก อยากเผือกว่าแม่งจะเอาอะไรมาเล่า เอาอะไรมาดำเนินเรื่อง แต่กูทำใจกดเข้าไปอ่านไม่ได้จริงๆ ..

97 Nameless Fanboi Posted ID:Qfa3uL3TTh

อีกหน่อยคงถึงขั้นเกิดใหม่เป็นยกทรง

98 Nameless Fanboi Posted ID:mVYiiUUhRc

เกิดใหม่เป็นหยำฉาที่ออกขายนั่นเขาก็อิงดราก้อนบอลทั้งดุ้น ที่ได้ตีพิมพ์ก็เพราะอนุญาตจากเจ้าของเรื่องมาแล้วกูเลยเข้าใจ
เกิดใหม่เป็นฮอลโลว์เนี่ย กูยังไม่ได้อ่านนะ รึมันมาแค่ชื่อวะบอกหน่อย >>95 กูขี้เกียจตามอ่าน แต่อ่านคำโปรยนี่ตัวฮอลโลว์เรื่องบลีชชัดๆ ออริจินอลตามหลังก็เถอะ แต่นี่มันสปีชีย์ในเรื่องบลีช อิงมาแบบนี้จะดีเรอะ

99 Nameless Fanboi Posted ID:xY5JRDVB/b

ถ้าเกิดใหม่เป็นฮอลโลว เกิดใหม่เป็นหยำฉา เกิดใหม่เป็นไซตามะบลาๆๆๆ มันควรจะไปอยู่หมวดแฟนฟิคแทนแฟนตาซีป่าววะ

100 Nameless Fanboi Posted ID:G8wXb/HeX2

เกิดใหม่เป็นฮอลโลว์กูอ่านเเล้ว...กากสัส
เหมือนกูอ่านรีมอนเตอร์ในโลกคู่ขนานที่1243ที่เสือกมีเเนวระดับพลังมาด้วย ทนอ่านไป5ตอน พอ เลิก เวลากูมีค่า

101 Nameless Fanboi Posted ID:fp0KF9j/o+

แต่บางคนเกืดใหม่กี่ชาติก็ไม่ได้เรียนที่แฮโร่

102 Nameless Fanboi Posted ID:Vu5YDlopkQ

จะว่าไปเพื่อนโม่งคิดไงมั่งถ้าเรื่องมีการแบ่งระดับพลัง แล้วคนเขียนนั่นอ้างอิงความเก่งตัวละครตามระดับพลังจริงๆ ไม่ใช่แค่โมเมโม้มา

103 Nameless Fanboi Posted ID:GMF2/P7k//

>>102 นิยายกำลังภายในสมัยก็ก่อนแบ่งระดับลมปราณว่าเท่านี้ทำได้เท่านี้ถือว่าเก่ง แต่ไม่ได้มีเลขวัดตายตัว คนก็ไม่เห็นมีปัญหา ดังนั้นลำดับขั้นไม่ใช่ปัญหาเท่ากับการนำเสนอวะ

104 Nameless Fanboi Posted ID:KfQwS5QJlg

>>102 มันง่ายที่จะบอกตัวละครไหนเก่งโดยเอาตัวเลขมาเทียบ แต่กูว่ามันไม่ใช่วิธีการที่ดีเลย
ถ้าตัวละครของโกวเล้งมีเลขพลังบอกก็ไม่อยากรู้แล้วว่าใครสู้กับใครผลจะออกมาเป็นอย่างไร คนอ่านเอาพลังมาเทียบกันจบ ไม่เห็นน่าสนุกตรงไหน

105 Nameless Fanboi Posted ID:hhnHM9GmyT

การต่อสู้เนี่ยถ้าแค่เอาระดับพลังมาวัดกันว่าใครสูงกว่าก็ชนะ มันจะไปสนุกอะไรวะ ของแบบนี้มันต้องมีสเต็ป มีกลยุทธ์ มีการพลิกแพลง มีการใช้จุดแข็งสยบจุดอ่อน ทำให้ฝ่ายที่ดูเหมือนว่าจะด้อยกว่าสามารถกลับกลายมาเป็นฝ่ายเอาชนะได้

106 Nameless Fanboi Posted ID:QSkHkIB+.E

>>102 เรื่องการแบ่งระดับของพลังเนี่ย ข้อดีคือเทียบได้ว่าใครเก่งกว่าใคร แต่ข้อเสียคือไม่ยืดหยุ่นในเรื่องการใช้สมองหรือกลยุทธ์ ถ้าคนเขียนคุมสเกลพลังแย่ จะเป็นแบบเดียวกับดราก้อนบอลแซด

107 Nameless Fanboi Posted ID:X94emT5/2W

สมัยนี้คนมันไม่รู้จักจุดอ่อนจุดแข็งกันแล้ว เอะอะก็จะตีออกมาเป็นค่าพลังเลย รู้จักอยู่เรื่องนึงที่ตัวเอกดีกรีมีพลังฝีมือระดับต้นๆของเรื่อง แต่แพ้ตัวละครที่ฝึกมาแบบเฉพาะทาง คนแม่งก็ด่ากันแล้วว่าสรุปตัวเอกมันเก่งรึกาก สเกลพลังขึ้นลง เมื่อไหร่จะเก่ง

108 Nameless Fanboi Posted ID:wPPUkoZtGA

เปรียบเทียบง่ายๆ ค่าพลังมันก็เหมือนกล้ามเนื้ออะ มีผลเเต่ไม่สำคัญเท่าศิลปะการต่อสู้

109 Nameless Fanboi Posted ID:0uBVlMrJil

>>107 อ่าน คห. มึงละกูหดหู่ชิบหาย

110 Nameless Fanboi Posted ID:afD4.LqYoW

นิยายสมัยนี้ สมองไร้ค่า พละกำลังคือชี้ขาด

111 Nameless Fanboi Posted ID:dU5rKgtKYp

>>110 ไม่เชิงว่ะ ไร้ค่านี่ไม่ใช่แค่สมองตัวละคร สมองคนอ่านก็ด้วย ถ้ามึงไม่ยอมยัดคำอธิบายลงในบทบรรยาย ให้ตายมันก็แม่งไม่มานั่งคิดเอง สมัยนี้มันต้องป้อนแบบยัดห่า ป้อนแบบหัดให้กินเองเป็นมันไม่ยอมทำตามละ

112 Nameless Fanboi Posted ID:6N6PcoXQbd

แล้วก็จะโดนด่าว่าทำไมไม่ show, don't tell อีก

113 Nameless Fanboi Posted ID:RPcgCfxcIb

มันก็ต้องแบบพอดีนั่นแหละ เป็น show &tell ไง

114 Nameless Fanboi Posted ID:plk6lxvMPH

สมัยนี้รู้จัก show, don't tell อีกเหรอ กุขำ เมิงเขียน ๆ ไปเถอะ ถ้ามันดีใครมันจะด่าเมิงเรื่อง show, don't tell

115 Nameless Fanboi Posted ID:aHW5Z2KMHT

>>94 มีๆ เรื่องเกิดใหม่เป็นคธูลู มี กุเคยเอาเรื่องนี้ไปหวีดที่ห้องเว็บโนเวล เป็นนิยายจีนนะ
เหมือนว่าตอนนี้ฝั่งแปลอิ๊งลบทิ้งไปแล้ว เพราะแปลแล้วแกรมม่าพังพินาศจนโดนคนอ่านด่ายับ
ส่วนของไทยกูไม่รู้ว่ามีมั้ย
จนทุกวันนี้ก็ยังอยากอ่านอยู่ มันพีคเหี้ย Q_Q

116 Nameless Fanboi Posted ID:txKPOnBnx9

ตอนนี้กูรู้สึกสิ้นหวังจนต้องอ่านฟิคโดเรม่อนแล้วเนี่ย...

117 Nameless Fanboi Posted ID:uf+HYJTiea

กูไม่มีเหี้ยไรจะอ่านเลย เคยไล่หานิยายอ่านตามท็อปหมวด แต่แม่งไม่เคว่ะ ไม่เบียวเอจจี้แมรี่ซู ก็ภาษาไทยต่างด้าวเขียน

118 Nameless Fanboi Posted ID:iMd767UHfD

กูไปเจออะไรที่สุดยอดมา อ่านแล้วน้ำตาจะไหลเลย สับได้ไหมโม่ง
https://writer.dek-d.com/PopTHK/story/view.php?id=1824384

119 Nameless Fanboi Posted ID:QT0eCgKGMu

>>118 ไม่ไหวว่ะ เเค่คำโปรยกูก็ยอมเเพ้ละ

120 Nameless Fanboi Posted ID:np5V/SMz4w

>>118 คนเขียนท่าจะถนัดเขียนแนวดาร์กวอนนาบี

121 Nameless Fanboi Posted ID:czs+.36ki1

>>118 มี สนพ. เอาไปตีพิมพ์ด้วยหรอวะ กูไม่ได้อ่านเนื้อหา แต่คำโปรยกูรับไม่ได้ ทำร้ายผู้หญิงสัส

122 Nameless Fanboi Posted ID:h+XyzfghQ/

เออ พูดแล้วนึกได้ กูค้นนิยายเรื่องนึงจากดราม่าอะไรจำไม่ได้ละ เรื่องลอกรูปมั้ง แต่ประเด็นคือมีรูปประกอบรูปนึงในเรื่องที่นักเขียนลงเพจเขาไว้ จำได้ว่าเป็นพลอตแบบเด็กผู้หญิงอายุ13-14กับพระเอกอายุมากกว่ามั้ง ภาพเป็นตัวละครตาหวานใส่ชุดคอซองหลุดรุ่ย นอนเปียกๆ โป๊ๆในอ่างน้ำมั้ง รูปที่ลงน่ะเซนเซอร์นะ แต่ในเล่มกูว่าไม่ แถมยังเจอนิยายสนพ.เดียวกัน ชื่อน้องพี่ขยี้รักด้วย กูนี่บั่บ... ไม่ใช่ว่าผิดจนห้ามทำหรืออะไรนะ แต่เจอแบบนี้ก็ไปไม่เป็นเหมือนกันว่ะ 555

123 Nameless Fanboi Posted ID:.Z/Ih9/5W8

นักอ่านชาย = ชอบแนวแกรี่สตู พระเอกเทพทรูเถื่อนๆ โหดๆ แต่ต้องมีความแอบฮานิดๆ ไม่ซีเรียสเกินไป มีสาวมาติดตรึม และพระเอกจะต้องไม่ลดตัวลงไปใส่ใจกับ ผญ พวกนั้นมาก ให้เป็น achievement หนึ่งก็พอ ได้เย็ด/แต่งงาน/เก็บเข้าฮาเร็มแล้ว ก็ตัดบททิ้งไปได้เลย

นักอ่านหญิง = ชอบพระเอกหล่อๆ เถื่อนๆ ดุๆ มีอำนาจ รวย เพลย์บอย แต่สุดท้ายแล้วจะมาหยุดที่นางเอก รักนางเอกคนเดียว ต่อให้เป็นแนว y ก็ยังเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนจากรักนางเอก เป็นรักนายเอกแทน

และที่ตลกคือ นักอ่านหญิงบางคนไม่ชอบนางเอกบอบบาง/ง้องแง้ง แต่ถ้าเป็นนายเอกบอบบาง/ง้องแง้ง จะรับได้ กูงง สัส

124 Nameless Fanboi Posted ID:2jfz19yWNI

>>118 สมัยนี้คนชอบอ่านอะไรแบบนี้แล้วเหรอวะ แค่คำโปรยกูยังรู้สึกว่าเหี้ยแล้วนะ นี่ยังอุตส่าห์มีสนพเอาไปพิมพ์อีก...สิ้นหวังสัสๆ

125 Nameless Fanboi Posted ID:dF0pwIS2sK

นิยายหมวดรักวัยรุ่น เดี๋ยวนี้เป็นงี้เกือบหมด>>124 มันก็เหมือนพวกซาตาน ชีค เถื่อน อะไรพวกนี้ แต่เป็นแบบลดอายุลงมาก แต่พวกป้าๆเขาจะชอบอะไรที่ดราม่า น้ำเน่า ส่วนวัยสรุ่นวัยเห่อหมอยจะชอบแบบวอนนาบีดาร์ก แค่แนะนำตัวละครกูก็เห็นความวอนนาบีละ พระเอก หล่อ โหด เถื่อน เจ้าคิดเจ้าแค้น สารเลว ไร้หัวใจ ไม่มีเหตุผล ซึ่งกูว่าจริงนะ เพราะมัน เหี้ย ไม่มีเหตุผลตั้งแต่คนเขียนละ
เห็นทีคงจะว่าพวกป้าๆชอบละครน้ำเน่าหลังข่าว ข่มขืนแล้วรักกัน อย่างเดียวไม่ได้ละ เพราะเด็กๆเดี๋ยวนี้ก็ไม่แพ้กันเลย

126 Nameless Fanboi Posted ID:qAq2Oo9qDF

>>125 อนาคตแบบนี้ต่อไป พวกอคติหาเหตุผลได้ละสิว่า นิยายทำให้โง่ลง

127 Nameless Fanboi Posted ID:RxC1V4myxD

>>126 กูจะสวนกลับไปว่า แล้วละครตบจูบ เย็ด=ชอบ ข่มขืน=รัก ของพวกมึงอะ เทียบกับนิยาย อันไหนเข้าถึงคนได้มากกว่ากัน

128 Nameless Fanboi Posted ID:2ahj5ZQI7L

ละครทีวีตบจูบหลายเรื่องมันก็เป็นนิยายมาก่อนนา

129 Nameless Fanboi Posted ID:FeUJzoxMTp

ดูมบริงเกอร์ตอนล่าสุดนี่มันเหี้ยอะไรเนี่ย......

130 Nameless Fanboi Posted ID:qAq2Oo9qDF

>>129 เล่าหน่อยสิ เกิดอะไรขึ้น

131 Nameless Fanboi Posted ID:fNJYlhgNT2

>>129 ไอ้เรื่องนี้ชอบมาปั่นในโม่งจัง กูไม่เชื่อหรอกว่าไม่ม้า

132 Nameless Fanboi Posted ID:s64100sCbw

>>129 มึงจะบอกอะไรก็บอกเลย ทำงี้เหมือนล่อให้คนกดเข้าไปเพิ่มวิว อยากจะคุยก็คุยเลยไม่ต้องเกริ่นลอยๆ ชอบโดนหาว่าม้าหรอวะ

133 Nameless Fanboi Posted ID:Ud0fEywY.3

ม้ากากหรือม้ากาว

134 Nameless Fanboi Posted ID:I1YGqG1F8o

สรุปสั้นๆ คนที่ควรจะมาหยุดพระเอก ดันมาชวนพระเอกไปครองโลก จบ

135 Nameless Fanboi Posted ID:SocD/JQDVG

ไม่ได้เข้าห้องนี้นาน ขอระบายหน่อย อห หมวดรักแฟนตาซีแม่งไม่มีอย่างอื่นนอกจากเกิดใหม่ในเกมจีบหนุ่ม/สาวเลยรึไงวะ?

136 Nameless Fanboi Posted ID:+ffESO6ORV

กุลองไปไล่ดูหน้านิยายอัพเดต ก็มีแนวอื่นอยู่ไม่ใช่เหรอวะ
แต่กุอ่านแค่โปรยเรื่องนะ ไม่ได้กดเข้าไปอ่าน

137 Nameless Fanboi Posted ID:J67TRzudUu

>>135 นิยายสมัยนี้เห่อหมอยสัส

138 Nameless Fanboi Posted ID:XgJT+d6AlC

สมัยก่อนก็เห่อหมอย อยู่ที่ว่ามันจะรู้จักหมอยแบบไหน

139 Nameless Fanboi Posted ID:yxskc1k2iG

สมัยก่อนก็พอๆ กันแหละ แค่สมัยนี้มันแย่กว่า แถมมีเกลื่อนเป็นดอกเห็ด

140 Nameless Fanboi Posted ID:8JdMlExARY

ดีว่าคนชอบรับต้นฉบับซ้ำๆเกร่อๆไปออกรัวๆจนถูกลอยแพไม่มีแล้วว่ะ หรือขายไม่ออกจนเขาไม่กล้าเสี่ยง

141 Nameless Fanboi Posted ID:SocD/JQDVG

>>135 ต่อจากตอนเช้า ไปลองงมๆอ่านผ่านๆมา ไอ้พวกที่ให้ตัวเอกไปเกิดใหม่เป็นนางร้ายนี่ทำไมถึงต้องให้คาร์นางเอกโลกเกม/นิยายกลายเป็นพวกตอแหลแอ๊บแบ๊วสวมหน้ากากหลอกผู้ชายไปซะหลายเรื่องเลย... พอผ่านตาเยอะๆแล้วก็แบบว่า "หญิงสาวใสซื่อในสายตาพวกมึงนี่คือตอแหลกันหมดสินะ?" คือจะต้องมีแผนอะไรซ่อนไว้เพื่อรอให้ตัวเอกแมรี่ชูมาโชว์ตบเกรียนในซักวันแล้วค่อยถีบหัวส่งไปรับผลกรรม?ซักอย่างเอาสะใจ รู้สึกเหมือนแค่คนแต่งมันเกลียดคาร์นางเอกสดใสเลยสลับบทซะจะได้มีเหตุผลในการย่ำยีหน่อย

142 Nameless Fanboi Posted ID:h4SBk9dDeX

เขียนให้คนลุคใสๆ ตอแหลในนิยายอะได้ ไม่ว่า อย่าเอาตรรกะป่วยๆ มาลามปามในชีวิตจริงแล้วกัน บางคนมันใสมันก็ใสจริงๆ แค่มารยาทดีไม่ได้แปลว่าต้องตอแหลปะ กูว่ามีหลายคนเลย ที่เหมารวมไปซะหมด คิดว่ากิริยาถ่อยๆ คือจริงใจ

143 Nameless Fanboi Posted ID:40qkdhHaFl

>>132 กรูขอโทษษษษษษ ปกติติดพิมพ์แบบนี้มากกว่า

144 Nameless Fanboi Posted ID:yqXadvnxSG

>>143 มึงไม่ต้องรู้สึกผิดขนาดนั้นหรอก โม่งแม่งชอบคิดมากกันอยู่แล้ว /กูก็ชอบพิมพ์แบบมึง ไม่อยากพล่ามเยอะ เลยพิมพ์ให้พอรู้ว่ารู้สึกวอทเดอะฟาค

145 Nameless Fanboi Posted ID:Nqb2Rxjz6b

>>143 ประเด็นคือ นี่ไม่ใช่กระทู้สำหรับนิยายเรื่องนั้น ไม่ได้กำลังพูดถึงนิยายเรื่องนั้นอยู่ แต่จู่ๆ ก็มีคนเอาชื่อนิยายมาแปะ พร้อมด้วยข้อความสั้นๆ จะไม่ให้บอกว่าม้าได้ไง

146 Nameless Fanboi Posted ID:Kua6.lLMus

>>142 กิริยาตลาดล่างไง พวกนี้สะกดคำว่ามารยาทกับกาลเทศะไม่ค่อยจะเป็น แต่ทั้งหมดทั้งมวลกูขอโยนความผิดให้อีไอริสที่ทำให้คาร์นางเอกโลกเกม/นิยายกลายเป็นพวกตอแหลแอ๊บแบ๊วสวมหน้ากากหลอกผู้ชายเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้!!

147 Nameless Fanboi Posted ID:vPLpTWFzys

>>146 ไอริสไหนวะ?

148 Nameless Fanboi Posted ID:Kua6.lLMus

>>147 https://www.novelupdates.com/series/common-sense-of-a-dukes-daughter/

149 Nameless Fanboi Posted ID:J67TRzudUu

>>144 คิดมากกับคิดลึกเหมือนกันเรอะ

150 Nameless Fanboi Posted ID:Gq.nX1RIGk

>>146 อย่าว่าไอริสสสสสสสส ถถถถถ

151 Nameless Fanboi Posted ID:hJEGgIAKbF

>>146 มึงรู้ได้ไงว่ามันเป็นต้นแบบให้เรื่องอื่นวะ??

152 Nameless Fanboi Posted ID:kBV2wBc7dA

นางเอกโลกเกมกูมีแค่ท่านเอลิซ่าเท่านั้น!

153 Nameless Fanboi Posted ID:aa.ycd6SHU

>>151 กูอาจจะอ่านน้อยไปเอง แต่องค์ประกอบหลายอย่างในเรื่องนี้กับเด็กดีมันตรงค่อนข้างเยอะจากที่กูอ่านมา

1.นางร้ายเกมเป็นลูกดยุกที่รวยและทรงอิทธิพลที่สุดในอาณาจักร
2.นางเอกเกมเป็นพวกตอแหลแอ๊บแบ๊วสวมหน้ากากหลอกผู้ชาย
3.พวกตัวละครจีบได้ในเกมปรกติจะติดหีนางเอกเกมจนโงหัวไม่ขึ้น และจะโง่ดักดาน เลวจัญไร ไม่มีเหี้ยไรดีเลยต่อไปรอวันโดนตบเกรียน
4.ตรงกันข้าม ตัวละครที่อยู่ฝั่งนางร้ายเกม (ที่ตอนนี้เป็นนางเอกของนิยายเกิดใหม่เป็นนางร้าย) จะหล่อสวยหน้าใส เก่งกาจฉลาดไร้ที่ติ เข้าหานางร้ายด้วยความจริงใจไม่เสแสร้ง ขยันทำงานซื่อสัตย์สุจริต บางทีก็พกความเบียวและซูมาด้วย
(เอฟเฟ็คในข้อ 3 กับ 4 นี่ส่งผลต่อตัวประกอบด้วยนะเออ อย่างในเรื่องไอริสเนี่ย ขุนนางพื้นหลังที่อยู่ฝั่งเจ้าชายติดหีจะเป็นพวกขุนนางหัวโบราณ ทุจริตขี้โกงและระยำกันสัสๆ ฝั่งของไอริสนี่ตรงกันข้าม มีแต่ขุนนางฉลาด ซื่อสัตย์รักดีสุจริตและแบ็คใหญ่มาสนับสนุน)
5.ถ้าพวกข้อ 3 โดนตบเกรียนแล้วตาสว่างย้ายมาฝั่งนางร้าย มันจะเก่ง+ฉลาดขึ้นทันตาเห็นเลย

154 Nameless Fanboi Posted ID:M7uypRbOEL

>>152 ต...แต่ท่านเอลิซ่าจริงๆเกิดในบทนางร้ายนะ เพียงแค่ตอนนี้กลายเป็นพระเอก?ไปแล้ว
>>153 ครบองค์ประกอบเหี้ยๆ

155 Nameless Fanboi Posted ID:fC3RZmp1a9

>>153 ครบเหี้ยๆ แล้วที่ครบยิ่งกว่า คือกูเคยอ่านเรื่องนึงที่ติดท็อปในเด็กดี ละแม่งตรงเป๊ะกับที่มึงพิมพ์มาเลย 555

156 Nameless Fanboi Posted ID:GLGX0nOIho

ถามหน่อย แฟนฟิคในเว็บเด็กดีคุยในนี้ได้ไหม ถ้าไม่ต้องไปห้องไหน?

157 Nameless Fanboi Posted ID:kBV2wBc7dA

>>156 ที่จริงห้องนี้มันก็จับฉ่ายนะ

158 Nameless Fanboi Posted ID:rhdhIa1IeA

>>156 ไอ้ห้องนี้มันคุยหมดอะ ขอแค่อยู่ในเด็กดวก

159 Nameless Fanboi Posted ID:CGHERfuWlA

>>156 คุยได้ แต่ถ้าเป็นนิยายเกย์หวีดคู่จิ้น ไปห้องฟุนะ

160 Nameless Fanboi Posted ID:GLGX0nOIho

อะ งั้นถามเลย แฟนฟิกที่เพื่อนโม่งเคยเจอมา อันไหน cringey สุด

ของกูต้องไอ้แฟนฟิกลาฟอร่าที่เคยมีโม่งสับไว้ตอนเก่า ๆ นู้น คือแม่งอ่านบทสับกูนึกว่าเล่น ๆ พอได้อ่านของจริงเท่านั้นเเหละ ไอ้สัส เหี้ยชิบหาย

161 Nameless Fanboi Posted ID:wM0V+gRXp1

>>160 แฟนฟิคโดเรม่อน ฮาเร็มของโนบิตะ คือถ้ามันไม่ใช่แฟนฟิคโดเรม่อน แต่เป็นนิยายของตัวเองเลยมันก็จะไม่ cringey ละ แต่บังเอิญมันแบกชื่อตัวเองที่เป็นเซียนสายลับว่าโนบิตะ อ่านไปอ่านมาแม่งขนลุกชิบหายโดยเฉพาะที่กูอ่านค้างในบท cross over เอาเอลซ่าจาก Frozen มาเข้าฮาเร็มโนบิตะนี่กูทำใจอ่านต่อไม่ได้เลย

162 Nameless Fanboi Posted ID:buLfigdCBi

กูชอบนิยายปวดตับดาร์คๆ แต่ทำไมหาอันดีๆ อยากจัง มีแต่วอนนาบี อ่านแล้วเอียนไปหลายวัน

163 Nameless Fanboi Posted ID:h6kFa9LizR

>>162 มันมีแค่มึงไงที่ชอบ คนอ่านทั่วไปเขาไม่ได้ชอบขนาดนั้น
ปากว่าชอบ แต่เอาเข้าจริงก็หนีกันหมด ขอบ่นหน่อยเหอะสัด กูเขียนแฟนตาซีแบบซีเรียสจริงจัง ไม่ถึงกับดาร์กหรอก กูไม่กล้าพูดว่าดาร์กพูดแล้วกระดากปาก เพราะกูไม่เคยฆ่าตัวละครเล่น แต่จากประสบการณ์กู คนอ่านแม่งหายทุกครั้งที่มีฉากกดดันหนักๆ อ่ะ แตะต้องตัวเอกไม่ได้เลยสัด ตัวเอกห้ามลำบาก ทำฉากหลังให้รันทดได้ แต่ถ้าตัวเอกต้องมารันทดในปัจจุบันเลิกอ่านทันที (แบบรันทดกดดันจริงๆ นะ)
จากคนอ่านต่อตอนหลักพัน ตอนนี้ลดลงมาเหลือหลักสิบ พอกลับไปใช้อารมณ์แฟนตาซีผจญภัยทั่วไปคนอ่านก็ค่อยๆ กลับมา พอกดดันก็หายอีก
ในคอมเมนต์ก็บอกนะว่าชอบแบบตับแตกๆ แต่ไอ้ชิบหาย! กูเป็นคนเขียน กูเห็นยอดวิวรายตอนไงว่าตอนที่มันตับแตกพวกมึงไม่อ่านกัน มึงไม่ต้องมาขี้โม้

164 Nameless Fanboi Posted ID:MTpSZnLr4r

>>163 กูเห็นด้วย ฉากที่ตัวเอกต้องผจญความยากลำบาก คนอ่านบ่นเยอะมาก ๆ แต่กูก็ยังเขียนนะ ตอนที่เซอร์วิสก็เซอร์วิส ตอนที่ลำบากก็ลำบาก กูเขียนแบบที่ตัวเองอยากเขียนแล้วทำเบลอ ๆ กับยอดคนอ่านเอา

165 Nameless Fanboi Posted ID:buLfigdCBi

มึงบ่นหรือด่ากู มันกระทบ 55 เอาเป็นว่ากูคงไม่เหมือนชาวบ้าน กูชอบแบบดาร์ค แต่ชาวบ้านเขาคงไม่ชอบกันแหละ ส่วนตัวกูก็ชอบนะตัวเอกลำบาก ทำให้น่าสงสารดี รันทดอย่างซุบารุ Re:zero นี่ของชอบกูเลย 55

166 Nameless Fanboi Posted ID:kBV2wBc7dA

แฟนฟิค การผจญภัยของ “น้องขิง” นี่แม่งงงงง

167 Nameless Fanboi Posted ID:J/i6nBgr6X

>>163 >>164 เชื่อเถอะ คนอ่านพรรคนี้แม่งอ่านไม่เคยครบถ้วนหรอก บางคนเม้นออกไปว่าสนุกๆ ทั้งที่ไม่ได้อ่านอะไรเลย

168 Nameless Fanboi Posted ID:0MbiEC4Cf2

>>160 ใช่เรื่องที่นางเอกชอบร้อง อ๊ะ เอ๊ อ๊ะ บ่อย ๆ ป่ะ

169 Nameless Fanboi Posted ID:2BiXLooy4R

>>168 ใช่ ไอ้เรื่องเหี้ยนั่นแหละ อ๊ะ เอ๊ะ กันไปครึ่งเรื่อง

170 Nameless Fanboi Posted ID:cAO1Y1rYv7

ทำเอากูอยากอ่านไอ้ฟิคลาฟลอร่าที่ว่าเลย 555

171 Nameless Fanboi Posted ID:+8tAKYJ.4t

Ky มึงงง กูอยากได้นิยายแฟนตาซี สำนวนดีๆ มาเป็นแนวทางอะ ;; เวลาเขียนกูบรรยายเยอะมาก ยืดจนคนอ่านด่า เลยอยากหาอ่านของคนอื่น

172 Nameless Fanboi Posted ID:eiXUFkXzr0

>>171 ถ้าจะหา Ref มาเป็นแนวทาง กูแนะนำหาอันที่ผิดๆ มาอ่านแล้วดูว่าไม่ควรเขียนยังไงดีกว่ามั้ง

ถ้ามีปัญหาบรรยายยืดมีแต่น้ำ ...มึงไปดูนิยายของฟองเบียร์โลด

173 Nameless Fanboi Posted ID:Eoos7Prt23

>>171 ลองใช้มุกแบบทำหนังสิ มึงบรรยายเยอะๆให้เต็มที่ไปเลย จบตอนนึงก็อ่านทวนแล้วค่อยๆตัดเอา ถึงจะเป็นเรื่องที่พิมพ์เองแต่ถ้ามันล้นจริงๆมึงอ่านเองก็ต้องมีตาลายบ้างแหละ ถ้าจะหาแนวทางมันก็แค่ลองดูไอ้ที่ได้ตีพิมพ์แล้วไปเรื่อยๆเท่าที่หาได้ แนะนำไปแค่เรื่องสองเรื่องมันไม่พออยู่แล้ว ไม่งั้นมันจะกลายเป็นลอกสำนวนคนอื่นเอา

174 Nameless Fanboi Posted ID:/xGG0SpQKQ

>>173 สำนวนลอกกันไม่ได้ ตอนกูหัดเขียนใหม่ๆ กูวางหนังสือที่กูชอบมากๆ ข้างตัวแล้วเปิด Ref ทุกครั้งที่เขียนไม่ออกเลยว่าฉากแบบนี้มันเขียนยังไง สำนวนออกก็มาก็ไม่เหมือนนะ ดูไม่ออกว่ากูแทบจะถอดความมาเรียงใหม่ด้วยซ้ำ
แล้วเอาเข้าจริงสำนวนวิธีเขียนแม่งดิ้นได้สุดทางมากๆ กูเคยรับงานแปลรวมเรื่องสั้นมา ต้นฉบับแม่งไปคนละทางกันเลย พอแปลออกมาก็คนละทางเหมือนกัน แล้วตอนนี้กูกำลังลองหัดเขียนนิยายแบบ 'ไทยๆ' อยู่ๆ ปรับสำนวนไปๆ มาๆ กูยังงงตัวเองเลยว่ากูเขียนพีเรียดไทยแท้ขนาดนี้ก็ได้
ทุกครั้งที่เขียนเรื่องใหม่ ก็เหมือนเริ่มต้นกันใหม่หมด มันไม่มีจริงๆ หรอกไอ้คำที่ว่า สำนวนของตัวเอง น่ะ
กูเคยอ่านบทสัมภาษณ์ของนักเขียนรางวัลท่านนึง ไอ้คนสัมภาษณ์ก็อวยจริงจังว่าเขาใช้สำนวนเป็นเอกลักษณ์มากๆ กูก็สนใจคิดตามว่าเอกลักษณ์ตรงไหนบ้างจะได้ศึกษา พอแม่งบอกว่าทุกเรื่องจะใช้สรรพนาม 1 เรียกตัวเองว่าผม นี่กูร้องหะ! เลย ไอ้ฉิบหายคนสัมภาษณ์มึงโตมายังไงวะ นักเขียนยุคถัดจาก มรว.คึกฤทธิ์ แม่งก็ใช้ POV 1 เล่าง่ายๆ แบบนี้กันหมดแหละเหี้ย

175 Nameless Fanboi Posted ID:Jr5g95twNl

>>171 เขียนเสร็จให้ปิด พักไว้วันสองวันค่อยเปิดมาอ่านใหม่
เช็คดูว่าอะไรที่ไม่จำเป็นกับเนื้อเรื่อง แบบถึงข้ามไปก็ไม่ส่งผลอะไร อันไหนที่ซ้ำซ้อนก็ลบทิ้ง
ลองดู

ไม่ต้องไปเสียดาย ถ้าต้องลบทั้งย่อหน้าก็ลบไปเลย

กูเคยลบออกทีเดียวสามหน้าเพราะมันไม่จำเป็นกับเรื่อง

176 Nameless Fanboi Posted ID:LlsGVkrwiK

>>174 อันนั้นมันเป็นกรณีของมึง ซึ่งกูไม่รู้ว่ามึงอ่านเขียนศึกษาหนังสือมาเยอะขนาดไหนแล้ว
แต่ในกรณีของ>>171 ซึ่งกูก็อนุมานเอาเองอยู่ดีนั่นแหละว่าศึกษามาน้อยเหี้ยๆ เลยบอกว่าถ้าจะหาแนวทางให้หามากเท่าที่จะหาได้ ไม่ใช่ติดกับแค่เล่มสองเล่ม ไม่งั้นจากการบรรยายล้นๆของมันจะกลายเป็นติดกรอบกับแค่ไม่กี่เล่มที่ถูกแนะนำไป
ขนาดหัวข้อที่มันขอมายังเป็น "แฟนตาซี" กว้างๆไม่ได้เจาะจงรูปแบบอะไรเลย เพราะงั้นจะให้มันเปิดหา ref ฉากต่อฉากแล้วเอามาเรียบเรียงได้เองก็ดูจะรีบไป

177 Nameless Fanboi Posted ID:fTQvp1AxZu

กุ >>171 แค่ขอเรื่องดีๆ อะ อะไรก็ได้ พวกมึงไม่ต้องทำให้มันมากความหรอก ;; ปล.กูมีสำนวนที่ตัวเองถนัด (กับไอ้บรรยายล้นๆ ของกุนั่นแหละ) ไม่ติดใครมาง่ายๆ หรอก มีเรื่องที่อยากแปะก็แปะมาได้ ส่วนที่กูบอกแค่แนวแฟนตาซีไว้กว้างๆ มันคืออะไรก็ได้นั่นแหละ กุไม่เกี่ยง ;;

178 Nameless Fanboi Posted ID:2BiXLooy4R

>>177 ถ้าเป็นคนชอบอธิบายเยอะไปหา Lord of The Ring เลย ความเห็นโดยรวมคือกูว่าไปหาหนังสือตีพิมพ์ดีกว่า ในเน็ตส่วนมากคือ.... ก็ละนะ

179 Nameless Fanboi Posted ID:64AdtwPLlS

>>177 https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1860805 แฟนตาซี เห็นจั้วหัวว่าวาย แต่เท่าที่กูอ่านคือเน้นแฟนตาซี+ยังไม่วาย ถ้าไม่มายก็อ่านสำนวนไปก่อน

180 Nameless Fanboi Posted ID:0nZj7Mji/w

>>179 ภาษามันประดิษฐ์ไป ยิ่งเป็นมุมองที่หนึ่งแล้วแม่งยิ่งเยอะเกิน แต่ก็อ่านได้เพลิน ๆ อยู่

181 Nameless Fanboi Posted ID:LUSXBwo8hz

>>179 ตอน5ไม่ทันไรผู้ชายก็โหยหากันเพียงนี้แล้วนะเพื่อน

182 Nameless Fanboi Posted ID:6AxBgOluh9

>>181 อ่านจบละหรอ สับมั้ย55555555

183 Nameless Fanboi Posted ID:jvP72afPt6

มึง กูข้องใจนิยายที่มันติดท๊อปเรื่องนึงในหมวดแฟนตาซีว่ะ
คอมเม้นต์เทียบยอดวิวห่างกันมาก แต่ติดท๊อป10ทุกวันทั้งที่ปิดตอนขายแล้ว ยอดขายก็ไม่เท่าไหร่ เ
หมือนเปิดขายปุ๊บก็ยอดวิวพุ่งขนาดติดท๊อปรายวันได้ เมพสัส

184 Nameless Fanboi Posted ID:vlnv4o0qBC

คนที่เขาลงนิยาย 60+ ตอน แต่ยอดวิวยังไม่เกิน 4 หลัก นี่เขาเอากำลังใจมาจากไหนกันวะ กูรู้ว่ายอดวิวมันไม่สำคัญ แต่กูนับถือเขาว่ะ ลงมาได้ขนาดนี้

185 Nameless Fanboi Posted ID:SeZ3jGymQB

>>184 คนจริงอ่ะ

186 Nameless Fanboi Posted ID:AFenCfoHD3

ky มีนิยายเลสที่ธีมเรื่องเป็นยุคกลางไม่ก็จีนโบราณแนะนำมั้ยวะ?

187 Nameless Fanboi Posted ID:MNHqEPEs7i

>>186
มีของต่ายหอมมั้งที่เห็นบ่อย ๆ แต่กุก็ไม่ค่อยชอบ นิยายยูริไทยแม่งต้องจ้องจะเอากัน
https://yuritaayhom.readawrite.com/?action=user_page&page_address=yuritaayhom

188 Nameless Fanboi Posted ID:+MGFQXt4CY

>>184 อ่านเเค่เม้นก็ชื่นใจเเล้วมึง

189 Nameless Fanboi Posted ID:cKTOQ6AMCV

>>188 ถ้าเมนต์ก็น้อยด้วยล่ะ

190 Nameless Fanboi Posted ID:Qg+09bXVIK

>>189 ถ้าเม้นท์น้อย โดนนักอ่านด่า พร้อมโดนโม่งสับล่ะ?

191 Nameless Fanboi Posted ID:DVk6+nnBTy

>>190 เศร้า

192 Nameless Fanboi Posted ID:rHaWNCYRfC

>>190 เเทงใจกูสัส เม้นน้อย ติดตามเป็นพัน เเต่วิวไม่เคยเกินสองหลัก โดนด่าอีก

193 Nameless Fanboi Posted ID:rHaWNCYRfC

>>192 เหลือโดนโม่งสับก็ครบล่ะไอ้ชิบหาย

194 Nameless Fanboi Posted ID:9cs5RobffS

>>193 เออ กูว่ายอดเฟบแม่งวัดอะไรไม่ได้จริงๆ ว่ะ เฟบไว้ แต่ไม่มาอ่านก็เท่านั้น กูล่ะเซ็ง

195 Nameless Fanboi Posted ID:fh28P5fhSe

>>192 วิวไม่เกิน 2 หลัก = ไม่ถึง 100 ???? แล้วจะมียอดเฟบเป็นพันได้ไง งง

196 Nameless Fanboi Posted ID:j3JUs/GPby

>>195 เฟบไว้ค่อยอ่าน ไม่เคยได้ยินเหรอ

197 Nameless Fanboi Posted ID:tNLOZ0ad.l

>>196 เฟบไว้900กว่าคน? มากกว่าวิวเกือบสิบเท่า

198 Nameless Fanboi Posted ID:AZcBjsMN4l

>>197 กูไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าเพื่อนกูชอบทำแบบนี้น่ะ กดไว้ไม่อ่าน

199 Nameless Fanboi Posted ID:pzkZ7DwZ7r

>>195 >>197 หมายถึงในตอนไงพวกมึง

200 Nameless Fanboi Posted ID:89Mlfw/Kig

แฟบไว้ก็ใช่ว่าจะมาอ่าน เผลอๆนิยายถูกลบทิ้งไม่รู้เรื่อง

201 Nameless Fanboi Posted ID:9L3LfRa3jX

>>196 มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย คือแวะมาแล้วกดเฟบอย่างเดียว ไม่กดอ่านดูสักตอนเลยเหรอ?

202 Nameless Fanboi Posted ID:rCjIbfD3z8

นักอ่านเข้าใจยาก คนอ่านไม่เข้าใจ ถถถถ

203 Nameless Fanboi Posted ID:rCjIbfD3z8

คนเขียน* ไม่เข้าใจสิ พิมพ์ผิด

204 Nameless Fanboi Posted ID:kfd7EAM5V9

>>195 อาจจะหมายถึงยอดวิวต่อตอนปะ

205 Nameless Fanboi Posted ID:2/cDXlqMGo

กุเอง อ่านโปรยน่าสนใจก็เฟบไว้ก่อน แล้วกุก็ไม่ว่าง แล้วกุก็ลืม 5555

206 Nameless Fanboi Posted ID:2/cDXlqMGo

อ้อ 95% กุก็เฟบไว้โดยไม่อ่านสักตอน อ่านแค่โปรย
กุกลัวไม่มีอะไรอ่าน แต่กุก็ไม่ว่างอ่าน
จะอ่านนิยายทั้งทีกุต้องการเวลาว่างที่มากพอว่ะ
แต่เวลาว่างมากๆของคนวัยทำงานก็ต้องการนอน คิดแล้วเศร้า เอาวัยเด็กกุคืนมาาาา

207 Nameless Fanboi Posted ID:jY5y7EphBq

กูว่าเวอร์ไป ไม่น่าเป็นไปได้ถ้าวิวไม่ถึงร้อยขณะที่ fav หลักพัน มึงลงไปตอนนึงมันต้องโผล่ให้ขาจรกดเข้ามาอยู่แล้ว กู fav ไม่กี่ร้อยลงตอนนึงวิวยังขึ้นไปพันสองพันเลย ตอนลงใหม่ๆ fav ไม่มียังหลายสิบละขาจรทั้งนั้น กูว่าขี้โม้แล้วแบบนี้

208 Nameless Fanboi Posted ID:Xug4xbX9DH

>>207 หมายถึงตอนล่าสุดเปล่า หลายคนมันก็น่าจะเป็นนะ ที่ยอดวิวเยอะแค่ตอนแรกๆ ตอนหลังมา ดิ่งจนน่าหดหู่

209 Nameless Fanboi Posted ID:zvpsVLnXjU

>>207 มันคงหมายถึงมี Fav ไว้หลักพัน แต่พออัพแล้วคนอ่านหลักสิบ
ของกูเองก็เป็น มี Fav ราว 3000 แต่พออัพแล้วยอดคนอ่านมีประมาณ 200

210 Nameless Fanboi Posted ID:jY5y7EphBq

>>208 >>209 กูก็หมายถึงพออัปแล้วคนอ่านกูยังเพิ่มพันสองพันวิวเลยเฟบไม่ถึงห้าร้อยด้วย เอาตอนล่าสุดตอนเดียวก็หลักหลายร้อยละแต่ไม่ใช่อัปแล้วส่องเลยนะ ทิ้งไว้สักวันสองวันค่อยมาดู ยอดวิวมันดีเลย์

แต่ถ้าขนาดนี้แล้วคนอ่านยังหลักสิบอยู่กูก็เริ่มสงสารพวกมึงละ

211 Nameless Fanboi Posted ID:.jGp4pSPr/

เพื่อนโม่ง กูสงสัยว่านางเอกสู้คนกะฉลาดตีความว่ายังไง ทำไมกูหาในดดแล้วมันกลายเป็นว่าหยาบคายหรือต่อล้อต่อเถียงเก่งวะ

212 Nameless Fanboi Posted ID:zvpsVLnXjU

เท่าที่สังเกตดู รู้สึกว่าคนเราจะไม่นิยมอ่านเรื่องที่ตัวเอกมีความเป็นมนุษย์สูงหรือว่ายังไงวะ?

คือเรื่องไหนตัวเอกมีด้านอ่อนแอ มีอารมณ์ด้านลบ เรื่องนั้นแม่งมีแต่คนคอมเม้นท์ประมาณว่ารำคาญ กลับกันเรื่องไหนที่ตัวเอกเบียวเหี้ยๆ ไม่เคยทุกข์ มักมีแต่คนเชียร์อยู่ตลอดซะงั้น ...มันมีหลักจิตวิทยาอะไรอ้างอิงรึเปล่าวะว่าทำไมคนถึงชอบแบบนี้กัน?

213 Nameless Fanboi Posted ID:b8oJQFRWsp

>>212 self-insert ไม่ก็อยากหนีจากความเป็นจริง แบบไม่อยากอ่านอะไรเครียดๆอีก มั้งนะ

214 Nameless Fanboi Posted ID:yXjSGYHvqu

>>212 มันแล้วแต่กลุ่มคนอ่านรึเปล่าวะ อย่างพวกเด็กวัยรุ่นมันก็อยากจะอ่านอะไรที่มันขายฝันเบาสมองหรือช่วยให้หลุดพ้นจากชีวิตเดิมๆได้ ถ้ามึงปั้นตัวเอกมาสมจริงเกินไปก็เหมือนกับดึงคนอ่านกลับเข้าความเป็นเป็นจริง มันก็ไม่มีเด็กที่ไหนอยากอ่าน

215 Nameless Fanboi Posted ID:sC1b6PRCCt

>>212 ขอบอกเลยว่าเข้าไม่ถึงเหมือนกันว่ะ ไอ้พวกหัวโล่งๆเนี่ย

216 Nameless Fanboi Posted ID:3brKmQIwuT

อย่าเอาตรรกะมนุษย์ทั่วไปมาใช้ประเมินประชากรส่วนใหญ่ของเด็กดวกสิ

217 Nameless Fanboi Posted ID:ovv4.k.ZOB

สมแล้ว นี่มันเด็กดวกจริงๆ

218 Nameless Fanboi Posted ID:Y9JqNOn9P9

>>212 กูว่ากูเป็นคนที่ไม่ชอบอ่านตัวละครที่เสมือนจริงเกินไป ปัญหาบางอย่างกูขอจบไว้ที่โลกจริง เหลือพื้นที่ให้กูหนีเถอะ กูเคยอ่านนิยายเรื่องนึงเกี่ยวกับการทำงานในออฟฟิสแล้วกูหงุดหงิด
ส่วนตัวถ้ากูเจอนิยายที่ติดป้ายว่าสมจริง มักจะเป็นดราม่า การชิงดีชิงเด่นซึ่งกูพอแล้วกับโลกความจริงว่ะ อ่านแล้วมันเหนื่อยยูว

แต่ให้กูอ่านแบบตัวร้ายเอาขี้หมาป้ายเสื้อตัวเองแล้วโทษนางเอกจนพระ-นางผิดใจกันกูก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ

219 Nameless Fanboi Posted ID:YPwO.Fcn7O

>>218 ไม่ใช่แบบนั้นสิ ที่บอกว่าไม่ชอบตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์​เนี่ยคือ พระเอกจะต้องเก่งเทพฉลาดตบเกรียนคนอื่นอย่างเดียวเท่านั้น ต้องไม่เคยล้ม ไม่เคยพลาด ไม่เคยตัดสินใจผิด ไม่เคยเสียใจ ไม่เคยใจอ่อนเลย ถ้าพระเอกพลาดแม้แต่เพียงครั้งเดียว นักอ่านแม่งก็พร้อมจะถ่มถุยใส่ ด่าว่าโง่ว่าควายทันที บางพวกยังกระแดะใช้ศัพท์​สูง บอกว่าคาแรกเตอร์แกว่งด้วยน่ะ พ่อมึงสิไอ้สัส จะเก่งมาจากไหนคนเรามันก็ต้องมีพลาดกันบ้าง ไม่เคยได้ยินสุภาษิต​สี่ตีนยังรู้พลาดฯ เหรอ

ถ้าการอ่านนิยายคือการหนีจากความจริง ชีวิตจริงของไอ้พวกนักอ่านที่ชอบแนวเทพทรูแพ้ไม่เป็นมันก็คงน่าสมเพชมากอะ

220 Nameless Fanboi Posted ID:R+50cOS6In

>>219 มันก็แค่อยากอ่านอะไรโล่งๆ ไม่ต้องคิดมากนั่นแหละน่า

221 Nameless Fanboi Posted ID:4t7RzqvjnU

หนีความจริงยังไงก็หนีไม่ได้หรอก ตายแล้วพวกคนอ่านจะได้ไปต่างโลกเหมือนตัวเอกรึเปล่าเถอะ

222 Nameless Fanboi Posted ID:7UDQhs8a44

อยากจะอ่านนิยายหนีความจริง แต่เสือกไปอ่านนิยายคนทำงานในออฟฟิศเนี่ยนะ

223 Nameless Fanboi Posted ID:w5f2Foyb5w

ถ้าเราจะเขียนนิยายว่าพระเอกถูกสลากกินแบ่ง 30 ล้านตั้งแต่ต้นเรื่อง แล้วเอาเงินไปลงทุนหุ้นจนรวยเป็นเศรษฐีพันล้าน แบบนี้มีใครเชื่อไหมอ่ะ

224 Nameless Fanboi Posted ID:L0Hdb/w5qo

>>223 ไอ้ 30 อะพอล้านเชื่อได้ แต่แน่ใจเหรอวะ ว่ามึงจะเขียนให้มันพันล้านจริงๆ บอกเลยมันไม่ง่ายอย่างที่มึงคิด เงินมันมีทางออกทางไป ไหนจะเป็นข่าวดังอีก มันมีผลกระทบเยอะมาก อย่างข้องเกี่ยวกับตาแก่รวยๆ ถูกชวนทำธุระกิจมืดไรงี้ เงินมันล่อคนเลวๆ ได้เสมอ โดยเฉพาะเงินเยอะๆ ที่มากับคนที่ใช้มันไม่เป็น
กูไม่ค่อยรู้หรอกว่าเป็นไง แต่กูว่าการรวยกระทันหันแบบนั้น มันจะมีแต่เรื่องใหญ่โตตามมาในภายหลัง ซึ่งถ้ามึงเมินความจริงพวกนี้ เนื้อเรื่องคงตะหงิดๆ หน่อยละ

225 Nameless Fanboi Posted ID:Og8onCQXpr

>>223 นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ นักธุรกิจ บอกตรงกันหมดแหละว่าต้นทุนที่มีค่าที่สุดคือเวลา
30ล้าน ทำให้เป็นพันล้านได้อยู่แล้วถ้ามึงฉลาด เป็นนักลงทุนตัวจริง แต่มึงต้องใช้เวลากี่ปีถึงจะทำเงินพันล้าน ถามอย่างงี้ดีกว่า เพราะแม้แต่นักลงทุนระดับโลกที่เทพๆ ทั่วโลกยอมรับอย่างบัฟเฟตยังทำต้องใช้เวลาทำกำไรทีนึงเป็นสิบๆ ปี แล้วระดมทุนทีนึงหลักพันล้าน
อันนี้พูดในฐานะถ้าตัวละครมึงที่จะเป็นนักลงทุนนะ

ปกติมันไม่ค่อยมีใครกล้าแตะตลาดหุ้น เอาเรื่องหุ้นมาเล่นในหนัง ในนิยายหรอกเพราะคนที่ไม่ลงทุนจะไม่เข้าใจ ส่วนคนที่เล่นหุ้นก็จะรู้ว่าแม่งเฟคเป็นไปไม่ได้ ขนาดหนังที่เน้นบทฉลาดๆ มียาเทวดาอย่าง Limitless ยังแตะเรื่องลงทุนหุ้นแค่ครึ่งกลางๆ ช่วงแรกนิดๆ หน่อยเอง นอกนั้นพูดเรื่องร่วมทุน (ตัวเอกมึงถูกหวยสามสิบล้าน แต่มีพาวเวอร์ระดับระดมทุนหลักพันล้านเพื่อทำตัวเองให้เป็นเจ้าตลาดได้แบบในหนังรึเปล่าล่ะ) ส่วน Wolf of wallstreet ก็พูดถึงการโกงของโบรกเกอร์ไม่ได้พูดเรื่องตลาดหุ้นนะ

226 Nameless Fanboi Posted ID:Rl3Bvh+9hQ

>>225 ทำได้ถ้ามึงเล่น TFEX DW พวกตราสารอนุพันธ์ เข้าถูกจังหวะ วันเดียวจาก30ล้านก็ไป1000ล้านได้ แต่ความเสี่ยงสูงกว่าเล่นหุ้นปกติ

227 Nameless Fanboi Posted ID:Rl3Bvh+9hQ

>>226 เพิ่มเติมนะ คือทำได้ถ้ามึงรู้ข้อมูลวงในอ่ะ แบบหุ้นbeauty งี้ที่มีช่วงหนึ่งดิ่งFloor 3วันติดถ้ามึง Put หรือ short ไว้คือกำไรเป็น1000% แต่ต้องดูvolum ด้วย

228 Nameless Fanboi Posted ID:jBtreBgsdL

>>224 ถ้าอิงจากไทย สมมติถอนเงินจากพอร์ตหุ้นเยอะขนาดนั้นสรรพากรมาแน่ 555555

229 Nameless Fanboi Posted ID:L0Hdb/w5qo

>>228 นี่มันไทยแลนด์ ถถถ

230 Nameless Fanboi Posted ID:wUwRplOj8q

>>228 ถอนเงินจากพอร์ตหุ้นเท่าไหร่ สรรพากรก็ไม่มาหรอก เพราะเงินจากการซื้อขายหุ้นไม่ต้องยื่นเสียภาษีเงินได้ แต่ กลต. กับ ปปง. อาจสนใจ ถ้าจำนวนเงินกับตลาดมันผิดปกติ

แต่ก็นั่นแหละ ถ้ามือมึงสะอาดจริง ทำตามขั้นตอนจริงไม่มีบิดพลิ้ว มันก็ไม่มีใครมาทำอะไรมึงได้หรอก

231 Nameless Fanboi Posted ID:Qg/4UHLHG4

>>222 ก็อ่านแนวๆรักๆใคร่ๆเนี่ยละ ตอนแรกๆนึกว่าจะมาแค่รักๆใคร่ๆ ในออฟฟิส น้ำๆหน่อย จริงๆก็น้ำเหละ แต่เนื้อเรื่องมันมีส่วนที่โยงกับการพฤติตัวในที่ทำงาน หรือ how to ใต่เต้าและประสบความสำเร็จ ซึ่งกูดันมีปัญหาด้านนั้นอยุ่ช่วงนั้น เลยได้แต่กรีดร้องว่าเมย์เดย์

232 Nameless Fanboi Posted ID:GciPIvn37K

ปกติมีวิธีบรรยายฉากต่อสู้กันยังไงบ้าง?

233 Nameless Fanboi Posted ID:rHfGG+P+S.

>>223 อยู่ที่จะเขียนยังไงให้คนอ่านเชื่อ
แนวความสามารถ + โชคดี + ระยะที่จะรวยเป็นพันล้าน เพราะระดับเซียนยังต้องรอจังหวะและเวลาที่ยาวนาน
หรือไปแนวโกงเลย ก็เข้าแก็งปั่นหุ้นขาใหญ่ ได้เจอเจ้ามือหุ้น ได้เจอเซียนหุ้น ช่วยเหลือ กระซิบบอก ให้มาร่วมก๊วน
หรือไปแบบ แนวไสยศาสตร์ เล่นของ ก็ได้ ง่ายที่สุด

234 Nameless Fanboi Posted ID:Si8gsYFZT0

พูดถึงเรื่องหุ้นกันกูก็สงสัยนะว่าในการ์ตูนบางเรื่องมันจะมีฉากให้ตัวละครโชว์เทพ+โชว์รวย ด้วยการซื้อหุ้นของฝั่งตรงข้ามมาทั้งหมดจนกลายเป็นประธาน เป็น ceo ของบริษัทนั้นซะเอง แล้วถีบหัวส่งประธานคนเก่าที่ตกอกตกใจว่าไอ้นี่มันซื้อหุ้นไปตั้งแต่ตอนไหนวะให้ออกจากตำแหน่ง ควบกับการล้มละลายของประธานคนเก่าด้วย อยากถามว่าความเป็นจริงมันทำกันได้ง่ายๆขนาดนั้นเลยเหรอ สงสัยมานานแล้ว

235 Nameless Fanboi Posted ID:VQkmvgmYMq

แอปเด็กดีช่วงนี้เอ๋อๆวะ ใครเป็นเหมือนกูมั่ง

236 Nameless Fanboi Posted ID:CH3wpOXBWu

>>234 ถ้าหมายถึง CEO เป็นไปได้ มันก็แค่ตำแหน่งผู้บริหารมันปลดได้ เปลี่ยนได้ ถ้ามึงมีอำนาจตัดสินใจมากพอ แต่ถ้าพูดถึงเจ้าของบริษัทนี่ยากวะ
คือกูก็ยังคิดไม่ออกอะ เพราะปกติคนที่จะได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของบริษัทหรือคนที่มีอำนาจควบคุมกิจการมึงต้องถือหุ้นมากกว่า 50% นะ แล้วการจะซื้อหุ้นให้มากกว่าเจ้าของบริษัทโดยที่แม่งไม่รู้ตัวนี่คือทำยังไงวะ เพราะแค่อยู่ดีๆ มึงถือหุ้นเข้ามา 5% นี่ก็ถือว่าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้วนะ และที่สำคัญถ้าจะถือหุ้นให้ถึง 25% มึงต้องทำ tender offer แล้ว
คือแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทุกคนในบริษัทนั้นรู้ว่ามึงจะซื้อหุ้นบริษัทนี้ จำนวนเท่านี้ๆ นะ เพราะงั้นมันเป็นไปได้หรอกที่เจ้าของบริษัทจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย ยกเว้นแม่งจะเป็นเจ้าของบริษัทที่โง่บัดซบ ไม่สนห่าอะไรเกี่ยวกับบริษัทตัวเองเลย
ส่วนเรื่องจะไปเทคโอเวอร์นี่เป็นไปไม่ได้ถ้าเจ้าของมันไม่ยินดีขายหุ่นตัวเอง หรืออาจจะไม่ยิดดีก็ได้ถ้ามีสถานการณ์อะไรซักอย่างมาบังคับให้ต้องยอมขาย
แต่ถ้าเป็น CEO กินเงินเดือนกับหุ้นบริษัทนิดๆ หน่อยๆ อันนี้เป็นได้ คือเข้าไปถือหุ้นใหญ่ให้ตัวเองมีอำนาจ แล้วประชุมโหวตปลด CEO แล้วโหวตตัวเองไปเป็น CEO แทนแบบคูลๆ

237 Nameless Fanboi Posted ID:8myRc6ANBM

>>235 เอ๋อเป็นชาติกว่าแล้ว โหลดหน้านิยายช้าชิบหายเลย

238 Nameless Fanboi Posted ID:0PvaGCIrv7

กูเคยดูเรื่องบัลลังก์หงส์ นางเอกจะเทคโอเวอร์บริษัทย่าเพื่อแก้แค้น ก็ตามกว้านซื้อหุ้นจากแต่ละคนเลย ย่าที่เป็นเจ้าของก็ไม่รู้เรื่องเลยสักนิด บริษัทก็ไม่ได้เล็กนะ ใหญ่โต

239 Nameless Fanboi Posted ID:VPMcIefb6f

เจ้าของมันก็ต้องถือหุ้นไว้อย่างน้อย51%ปะ หรือไม่จำเป็น

240 Nameless Fanboi Posted ID:RtmIVBLh7+

>>239 การมีหุ้น 51 % ก็คือความมั่นใจได้ว่า บ. นี้ เจ้าของมีสิทธิมีเสียงเต็มที่ในการออกนโยบายต่างๆ ได้โดยไม่มีใครขัดขวาง
แต่บาง บ. ผู้ถือหุ้นกระจายมากเกินไป
ทำให้ต้องต่อสู้แย่งชิงการเป็น ประธาน บ. ประธาน กรรมการ กันรุนแรงน่าดู
อย่าง หุ้น TTA ตอนที่ลูกชายเจ้าของกาแฟดัง แย่งชิงตำแหน่งบริหารใน บ. นี้ ก็กวาดซื้อมีหุ้นได้ราวๆ 10 กว่า% เท่านั้น
แต่ก็สามารถชิงตำแหน่งได้ เพราะ บ. มีผู้ถือหุ้นกระจายมากมายเกินไป

241 Nameless Fanboi Posted ID:iYqfL7IymC

นี่กูอ่านอะไรเนี่ย นิยายหรือเล่นหุ้น

242 Nameless Fanboi Posted ID:7kIsygJ9kg

>>236 แจ็คหม่ามีหุ้น BABA แค่ 7% เองนะ เดี๋ยวนี้มีใครถือหุ้นมากกว่า 50%+ มั่งวะ แค่ 20%+ ก็หายากแล้ว

243 Nameless Fanboi Posted ID:4cP1yLnJci

ดีใจชิบหายเลย หลังจากพยายามมา 2 ปี เขียนไป 60 กว่าตอน ก็มีนักเมนต์ขาประจำกับเขาเสียที

244 Nameless Fanboi Posted ID:zRQVF/XqXa

>>243 ดีใจด้วยมึง กูยังตันอยู่เลย

245 Nameless Fanboi Posted ID:ZfvMpRFLVT

ถือหุ้น 51% ขึ้นไปส่วนใหญ่เจอในกิจการเล็กๆ เช่นพวกห้างหุ้นส่วน
ส่วนระดับบริษัทใหญ่ๆ ไม่ค่อยมีอะไอ้พวกถือหุ้น 51% เพราะมันใช้ระบบบอร์ดบริหาร มี CEO มานั่งเข้าประชุมแล้วเลือกว่าจะให้ใครเป็นประธานบริษัท จะมีก็แต่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมได้เยอะ + เล่นพรรคเล่นพวกไปล็อบบี้ชวนผู้ถือหุ้นรายอื่นให้เห็นคล้อยด้วย

246 Nameless Fanboi Posted ID:tconGPFI1d

>>243 นิยายกูพอนักอ่านขาประจำหายไป ทำเอากูหมดกำลังใจจะลงต่อ O<-<
เอาเหอะ หลังๆ คนอ่านนิยายกูแม่งก็แทบไม่มีอยู่แล้ว

247 Nameless Fanboi Posted ID:5KJyww.zQR

>>245 แล้วถ้าออกแนวกิจการครอบครัวอย่างเช่น นาย a เปิดบริษัทขายหมอนเล็กๆ ไปๆมาๆทำแล้วรวยเป็นร้อยล้านพันล้าน นาย a เลยเอาบริษัทเข้าตลาดหุ้นระดมทุนผลิตสินค้าใหม่ จ้างนักบริหารมืออาชีพเข้ามาจัดการกิจการ แล้วให้ญาติๆแบบลูกเมียพี่น้องถือหุ้น

ส่วนนาย b อยากได้กิจการขายหมอนของนาย a เลยไปไล่ซื้อหุ้นจากทุกคนที่ถือหุ้นของบริษัทจนมีเปอร์เซนต์หุ้นมากกว่าที่อยู่ในมือนาย a ถ้าเป็นแบบนี้นาย b จะสามารถปลดนาย a ออกจากตำแหน่งประธานบริษัทที่ตัวเองก่อตั้งมาได้มั้ยวะ อันนี้ก็อยากรู้

248 Nameless Fanboi Posted ID:7kIsygJ9kg

>>247 นับโหวตเอา ถ้ารวมแล้วคนที่โหวตให้มึงมีอำนาจมากกว่า 50% ก็ไล่ได้ แต่ว่าแต่ละคนมีอำนาจโหวตไม่เท่ากันนะ อย่าง Facebook มาร์คคนเดียวมี 70% มั้ง ใครก็ขัดไม่ได้ แต่ Google หรือ Microsoft ไม่ได้มีอำนาจขนาดนั้น อำนาจโหวตหลายครั้งก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้น แต่อยู่ที่โครงสร้างบริหารมากกว่า

249 Nameless Fanboi Posted ID:zwH5qNJiBM

กลับไปดูนิยาย - มังงะเก่าๆ ยุค 80s-90s แล้วรู้สึกสงสัย
ยุคนั้นพวกตัวเอกแม่งเก่งเทพ + ตั้งฮาเร็มกันตั้งแต่แรกทุกตัว แต่ทำไมไม่รู้สึกเอ็ดกี้ น่ารำคาญเหมือนยุคปัจจุบันเลยวะ
ยกตัวอย่าง Bastard , City Hunter , Cobra , Jesus , Dr.killer อะไรทำนองนี้

250 Nameless Fanboi Posted ID:eVThMCJSAr

>>249 ก็สมัยนี้ชอบยัดเยียดให้ตัวเอกตั้งอยู่ศูนย์กลางจักรวาล ขนาดแนวต่างโลกแฟนตาซี ของสมัยก่อนภาพมันจะกากในสายตาคนปัจจุบันก็เถอะ แต่เรื่องความสนุกทำได้ดีกว่า ไม่เอะอะเห่อหมอยโชว์พาวโชว์ให้ทุกคนรับรู้ว่าตัวเอกถูกต้องเสมอ

251 Nameless Fanboi Posted ID:P.if8xkG0o

นิยายก็เขียนตามทัศนะคติในยุคนั้นๆ นั่นแหละ สมัยก่อนที่อ่านสนุกเพราะยังไม่เยอะ
แต่สมัยนี้แนวฮาเร็มนี้มันเกลื่อน มันเลยรู้สึกไม่สนุกดังเดิม
เด็กสมัยนี้รู้เรียนรู้เพศเร็วกว่าเดิม และ ไม่แคร์เรื่องการแลกคู่กันแล้ว
นิยายที่ขายดีก็เน้น รัก เน้นวายจิ้มตูด เน้นเพศสัมพันธ์กันไป
กูไม่แปลกใจเท่าไร เอาแค่เด็กๆ มีมือถือกัน สิ่งที่ดูกันประจำก็หนังโป๊นั่นแหละ ทั้งหญิงทั้งชาย
ตามผลสำเร็จที่เขาตรวจสอบกันออกมาแล้ว...

252 Nameless Fanboi Posted ID:P.if8xkG0o

แก้นิด...ผลสำรวจ

253 Nameless Fanboi Posted ID:YmbeLLx8Z6

>>249 สมัยนั้นมันเทพก็จริง แต่มันไม่ได้ตรรกะเห่อหมอย ปัญญาอ่อนแบบนี้หรอก อย่าง Cobra มันเทพแถมมีแต่สาว แต่มันใช้ชีวิตอยู่ในส่วนของมัน ไม่จำเป็นต้องไปโชว์ใครเลย ที่ดังในอวากาศก็เพราะไปตีกับโจรสลัดกิลด์ ส่วนสมัยนี้อะเหรอ... 55555 กูอยากจะขำ ต้องโชว์เทพซ่าต่อหน้าคนอื่น เดี๋ยวคนเขาไม่รู้ว่าเทพ หัวเราะเป็นภาษาบอนไซ

254 Nameless Fanboi Posted ID:YV8PYoTuNv

>>249 เพราะมันไม่ใช่สายพระเอกหน้าอ่อนป่าววะ เดี๋ยวนี้ขี้โม้บอกอายุเยอะแค่ไหน แต่จะทำหรือคิดก็เหมือนเด็กเห่อหมอยงี้

255 Nameless Fanboi Posted ID:P.if8xkG0o

คอบร้า เป็นโจร หน้าฉากต้องหลบๆ ซ่อนๆ เข้าไปปล้นเค้าอยู่แล้ว...
City Hunte ซาเอบะ เรียว ก็โชว์ดุ้นตุงอยู่ทุกตอน...
Bastard เปิดเรื่องมาเทพ เกรียน เงี่ยนอึ๊บสาว...
สมัยก่อนที่อ่านสนุก เพราะเด็กๆ มีสิ่งที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ทางเพศที่จำกัด จะดูอะไรโป๊ ก็ต้องหลบๆซ่อนๆ
พูดง่ายๆ เรื่องวับๆแวมๆ มันหาอ่านยาก พอมีหนังสือการ์ตูน มันก็เลยอินได้ง่ายกว่าสมัยนี้มากๆๆๆๆๆๆ
สมัยนี้เปิดมือถือ เห็นจะจะ ทำให้รู้สึกการอ่านนิยายหรือการ์ตูนเหม่อมอย มันไม่รู้สึกเมื่อก่อนๆ

256 Nameless Fanboi Posted ID:P.if8xkG0o

สมัยก่อน ก็ประมาณ ด่าเรื่องอักษรศีลธรรม ของค่ายการ์ตูนกันหนักมากๆ
คว้าง...พรึ่บ....
กูเห็นยุคนั้น เถียงกันจะเป็นจะตาย ในตอนนั้น แสดงว่าเห่อหมอย เรื่องพรรณนี้เห่อหมอยกันมานานแล้ว

257 Nameless Fanboi Posted ID:uVTV4qqSdK

มังงะพวกนั้นมันเดินเรื่องด้วยตัวเอกผู้ใหญ่ที่มี backstory บรรยายความเก่งระดับนึง และตอนดำเนินเรื่องมันก็แสดงให้เห็นว่าไอ้พวกนี้เก่งจริง

แต่ไอ้นิยายอิเซไคปัจจุบันมันใช้ตัวเอกวัยรุ่นตามวัยคนอ่าน ที่ส่วนมากอยู่ๆ ก็ได้พลังห่าเหวอะไรจนเก่งโม้ๆ (ไม่ก็แถว่าชาติก่อนกูเก่ง แต่พอเกิดใหม่ก็เสือกทำตัวปัญญาอ่อนไม่สมวัยวุฒิในชาติก่อน) คนอ่านที่มีอายุเลยวัยพวกนั้นส่วนมากเลยไม่อินกัน

258 Nameless Fanboi Posted ID:P.KBxHB/o+

แต่งนิยายลงในเด็กดี ใช่ชื่อพระเอกว่า พายุ สองเดือนสามสิบตอน ยอดคนอ่านรวม 3 พันกว่าคน นิยายเรื่องเดียวกัน (ขอเก็บไม่เปิดเผย 5555) แค่เปลี่ยนชื่อตัวละครเป็นภาษาจีน ลงไปสองเดือน ยอดคนอ่านทะลุ 2 แสน
นี้คืออิทธิพลของนิยายจีน ที่มีต่อคนไทย และเราเอามาเล่าสู่กันฟัง 555555

259 Nameless Fanboi Posted ID:.QosrXbU9d

อีกหน่อยประเทศนี้คงไม่เหลืออะไรที่เป็นของตัวเองแล้ว ไปเอามาจากเขาหมดแล้ว

260 Nameless Fanboi Posted ID:qWLess12z+

เพิ่งโดนด่าว่าความคิดตัวละครไม่สมกับอายุมาเลยว่ะ กูก็ยังเพิ่งจบมปลายซะด้วย เเต่อยากเขียนตัวเองเป็นคนมีอายุไงมึง ชิบหายเลยทีนี้
จะเเก้ก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามายเซ็ตของคนอายุ30มันต้องเป็นยังไง555 พี่เเกด่าเเบบรวมๆกูเลยไม่เก็ตเท่าไหร่

261 Nameless Fanboi Posted ID:lOzCG3R+ua

แก้ยากวะ ความคิดบางอย่างถ้าไม่เคยทำงานจะไม่เข้าใจจริงๆ ทำคนละสายงานความคิดต่างกันจนแทบไม่เข้าใจกันก็เป็นเรื่องปรกติ

วิธีง่ายสุดก็อ่านนิยายที่ตัวเอกเป็นผู้ใหญ่หน่อยอล้วลอกวิธีดารคิดมา แต่ถ้าไม่มีประสบการณ์ตรงมันยาก คนเขียนนิยายดีๆ แทบทุกคนอายุเยอะแล้ว เพรสะผ่านโลกมามากเลยถ่ายทอดความคิดลงไปในตัวหนังสือได้เยอะ ถ้าจะลอกแค่ผิวเผินนะพอได้ แต่ถ้าต้องการถ่ายทอดความคิดตัวเองลงไปนะยากกว่าเยอะ

262 Nameless Fanboi Posted ID:2QyKTOlLMW

>>260 แค่อย่าไปยึดบุคลิกตัวเอกเกิดใหม่ต่างโลกหรือแนว Second Chance โดยเฉพาะชาติก่อนเคยเป็นผู้ใหญ่มีอายุ แต่มาชาติหน้าดันโตแต่ตัว สมองเป็นเด็ก หรือง่ายๆเลย เลี่ยงพวกคนเขียนที่เป็นวัยรุ่นดีที่สุด เพราะเด็กไม่มีทางรู้หรอกว่าคนที่จบปริญญาตรีมีหัวคิดกับอารมณ์ต่างจากเด็กมัธยมยังไง IQ ไม่สำคัญหรอก EQ ต่างหากที่สำคัญ

263 Nameless Fanboi Posted ID:bReattizqY

มันเกี่ยวกับอิทธิพลที่ได้รับการอ่านจากเรื่องอื่นๆ มาด้วย
เช่น นิยายแปลจีน การโชว์พาว์ ไม่เคารพใคร นึกจะฆ่าก็ฆ่า เพื่อสร้างคาแรคเตอร์ตัวละครว่า สุดเจ๋ง สุดเก่ง ไม่สนใจอะไรในสังคม
ส่วนใหญ่จะเป็นแนวนี้กันหมด...(เด็กรุ่นนี้ก็แนวนี้กันหมด ถามว่าผิดไหม ซึ่งกูคิดว่าไม่ได้ผิดอะไร ก็คงตามบริบทการเลี้ยงดูและสภาพสังคมในตอนนั้นๆ)
ส่วนแนววังหลัง นางสนมชิงรักจากฮ่องเต้ ขนาดรัฐบาลจีนเอง ยังทนไม่ได้ เริ่มแบนแนวนี้ออกจากหน้าจอทีวีแล้ว

264 Nameless Fanboi Posted ID:bReattizqY

>>261 วิถีการทำงานของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปเยอะนะเพื่อน
ไม่ได้ทุ่มเทอะไรมากนักกับงาน วันๆ ไปทำงานก้แอบเล่นเพซเล่นเนทกันไป
ไม่แคร์เรื่องย้ายงานเท่าไร เห็นโอกาสที่อื่นดีกว่า ก็ย้ายออกแล้ว ไม่ได้สนใจหาศึกษาความรู้อะไรต่อหลังเลิกงาน
ไม่รวมเรื่องประท้วงขอขึ้นโบนัสอย่างไร้เหตุผล... บ. ข้ามชาติเอือมอะอาย้ายไปเวียดนามกันเยอะ
ซึ่งคนงานที่นั้นแทบจะไม่มีเรื่องแบบนี้

265 Nameless Fanboi Posted ID:WimUgn+Dmk

>>263 ตรรกระเด็กวัยรุ่นอะไม่เท่าไร เพราะรู้ว่ายังเห่อหมอยคิดไม่ค่อยเป็น
แต่ไอ้พวกเด็กหนวดที่ยังมาเย้วๆ ชอบพวกแนวเท่ซ่าจูนิเบียวเนี่ยกูไม่เข้าใจเลย คือพวกมึงมีงานมีการทำแล้วปะ? ได้เวลาเปลี่ยนความคิดแล้วไหงยังไปหลงอะไรแบบนั้นอีฟระ!?

266 Nameless Fanboi Posted ID:qm+HjaKwYb

>>264 เราว่าคนสมัยนี้อาจจะดูไม่ทุ่มเทให้งานจริง แต่สำหรับเรา เราเกลียดงานเข้า 9 ออก 17 เหมือนคนรุ่นก่อนมาก มันเหมือนนั่งแช่อ่ะ

เราชอบทำงานแบบที่มีจังหวะชีวิตของตัวเอง ระหว่างงานจะทำอะไร สบายแค่ไหน ทำที่ไหนก็ได้ ขอให้งานออกมาเสร็จ โอเค คนทำงานมีแอททิจูดดี ไม่ราวีเพื่อนร่วมงานก็พอ

กูเข้างานตามใจชอบ ออกไปช้อปปิ้งในเวลางาน แต่ถ้าเจ้านายสั่งว่างานต้องเสร็จเวลาไหน ก็คือต้องส่งให้ทัน บางทีเจ้านายไลน์มาสั่งงานห้าทุ่ม จะเอาก่อนแปดโมงเช้า ก็ต้องปั่นให้ทัน วันอาทิตย์ด้วยจ้า

แต่กูชอบงานแบบนี้มากกว่าบังคับให้กูไปเข้า 9 ออก 17 จ-ศ แบบไม่มีงานก็ต้องทำท่างานยุ่ง อันนั้นคือนรกอ่ะ

267 Nameless Fanboi Posted ID:qm+HjaKwYb

>>266 ขออภัยที่ตอนแรกสุภาพ ตอนหลังเถื่อนถ่อย มันชินมือ (กราบ)

268 Nameless Fanboi Posted ID:bReattizqY

ปกติกูไล่อ่านแนวแฟนตาซีที่ดังๆ ของ นข. จีน จากเว็บที่แปลอังกฤษเสร็จ
แล้วกูก็ดำน้ำจับใจความของตอนใหม่ๆ โดยอ่านต่อ www.uukanshu.com โดยใช้ google
กูห็นแนวทางชัดเจน ทุกเรื่องตัวเอกจะเท่ ซ่า จูนิเบียว เอาไว้ก่อน ยิ่งแนวต่อสู้ คือ มีตัวประกอบออกมาให้ฆ่าทิ้งโชว์พาว์ตลอด
กูเลยไม่สงสัย ที่เด็กดี แนวแฟนตาซี จะออกมาแนวนี้กันหมด
เพราะกระแสมันแบบนี้ มันครอบคลุมไปหมดแล้ว(แฟนตาซี) ดูจากคอมเมนต์ พวกเด็กฝรั่ง เด็กเอเชีย ที่เข้ามาอ่านก็ชอบกันแต่แบบนี้
กูคิดว่าจนกว่าจะมีแนวใหม่ที่บูมฉีกแนวทางแล้วนั่นแหละ...
จึงจะเปลี่ยนแนวทางนิยายแฟนตาซีไปได้ ตอนนี้ก็อ่านแนวนี้ให้เอียน ให้แหวะกันไปก่อน พร้อมกับทำใจ

269 Nameless Fanboi Posted ID:2QyKTOlLMW

>>268 ขอถามหน่อย ไอ้พวกนิยายจีนที่แปลมาแล้ว เห็นหลุดอะไรบ้างรึเปล่า พวกอาหารที่ไม่น่าโผล่ในโลกแห่งจีน เช่น ขนมจีนในจีนโบราณ เป็นต้น

270 Nameless Fanboi Posted ID:bReattizqY

>>269 ไม่เห็นที่หลุดแปลกๆ
เพราะเขาเน้นของจีนโบราณแท้ๆ
อย่าง Gourmet Food Supplier อยากกินไหมล่ะ
ก็มีอาหาร ข้าวผัดทองคำ บะหมี่น้ำใสเลิศรส บะหมี่เส้นโบราณ ห่านย่าง หม้อไฟประหลาด แกะย่างทั้งตัว สุราไผ่เขียว เบียร์ ไวน์ ไปตามเส้นเรื่อง
ส่วนความเวอร์วัง ก็ประมาณไม่สนมิชลิน ทีวีมารุมถ่ายทอด มีชื่อเสียงระดับประเทศ
ลูกค้ากินแล้วอร่อยหลุดโลกไปตามๆ กัน ไม่มีพ่อครัวคนไหนสู้ได้ อะไรประมาณนี่
ปล.จุดบอดของเรื่องนี้ที่ไม่สมจริง ก็คงยังไม่มีใครสงสัยถึงที่มีวัตถุดิบอาหาร
ซึ่งระบบของพระเอกได้จัดหามาให้ก็สุดยอด เอาทั้งของหายากหรือของสูญพันธุ์จากโลกไปแล้วมาให้

271 Nameless Fanboi Posted ID:a+70wjrEQ4

กูเข้าใจนะเว้ยว่าทำไมพระเอกนิยายจีนส่วนใหญ่ต้องปากหมา เพราะถ้าพระเอกมีมารยาทขึ้นมาล่ะกัน เหตุการณ์ให้เรื่องจะหายไปกว่า80%เลยทีเดียวเชียว เพราะส่วนใหญ่เเม่งก็ปากหาเรื่องเองทั้งนั้น

272 Nameless Fanboi Posted ID:DJeYQ3m/HF

พระเอกปากหมามันก็ดีนะเว้ยยย ลุ้นชิบหาย ว่าเมื่อไหร่แม่งจะโดนตรีนรุมกระทืบ

273 Nameless Fanboi Posted ID:bReattizqY

ส่วนพระเอกที่เงียบๆ ก็ส่วนใหญ่มีจะแฟนสวยหรือเพื่อนสวย
แล้วพอไปไหนด้วยกัน ก็จะมีแต่ตัวประกอบมาเห่าหาเรื่อง แล้วพระเอกก็โชว์เทพ กระทืบหรือฆ่าตายได้ทุกที
มุกแบบนี้กูก็เจอโครตบ่อย คือเอือมมากๆ กับการหาตัวประกอบมาให้พระเอกกระทืบ
แต่ก็ทนอ่านไปได้เรื่อยเหมือนกัน

274 Nameless Fanboi Posted ID:yUet0fMYGJ

ชวนมโน
พวกมึงคิดว่าถัดจากนี้อีกซักปีนิยายอะไรจะฮิตตูมตามเหมือนนิยายจีนตอนนี้วะ

275 Nameless Fanboi Posted ID:JVQVC84I55

>>274 กูเเทงเเนวสงคราม

276 Nameless Fanboi Posted ID:JJ+3mwdLhr

>>274 เกมออนไลน์

277 Nameless Fanboi Posted ID:l1WM0/6QAK

>>274 แฟนตาซีเวทมนตร์บนต่างดาว เอเลี่ยนเป็นจอมเวท

278 Nameless Fanboi Posted ID:/KcigEHXsN

>>274 เทหน้าตักให้ไซไฟ

279 Nameless Fanboi Posted ID:/odqMb1+J0

Ky ขอถามหน่อย ทำไมนักเขียนเป็น(โรคซึมเศร้าเยอะจังวะ พอๆกับนักวาดเลย กูเพิ่งเห็นประกาศของกิ้งน้าาาว่านางเป็น และเมื่อประมาณปีก่อนมั้ง นกฮูกก็บอกด้วยว่าตัวเองเป็น นักวาดนักเขียนที่กูตามอยู่หลายสิบคนคือเป็นโรคซึมเศร้าเกินครึ่งแล้วอะ กูงงว่ะ มันเกี่ยวกับงานที่เขาทำปะวะ

280 Nameless Fanboi Posted ID:+TfbdwEoEY

>>277 แม่งก็ star ocean นี่หว่า
>>279 งานที่ขาดปฎิสัมพันธ์กับคนก็งี้ล่ะ

281 Nameless Fanboi Posted ID:QO+TeGyFWT

>>279 คิดภาพมึงอยู่คนเดียว นั่งทำงานงกๆ หน้าจอคอม

282 Nameless Fanboi Posted ID:ovhkO9s/oC

มึงคิดนะ
งานหนัก คิดเยอะ แต่ต้องมากรองมากลุ้มว่าจะขายได้ไม่ได้ พอเขียนก็ต้องมานั่งกุมขมับผูกเงื่อนโยงเรื่อง ระหว่างนั้นโดนคนที่บ้านมองว่าเอาแต่เล่นเกมย้าง ไม่ทำงานบ้างเพราะอยู่แต่หน้าคอมตลอด พอเขียนเสร็จก็ต้องมากังวลคอมเม้นท์จากนักอ่านปากหมา และโม่งคอยแซะ แถมไม่มีอะไรการันตีด้วยว่าจะได้ทุนคืน

เจอแบบนี้ซึมเศร้ายัง

283 Nameless Fanboi Posted ID:XwZbuQ66.y

ยิ่งถ้าเขียนเเนวดราม่านะมึง ถ้าคนเขียนเเม่งยังไม่อิน เเล้วคนอ่านมันจะไปอินได้ยังไง

284 Nameless Fanboi Posted ID:l1WM0/6QAK

ใครก็ได้ไปบอกพวกเด็กดวกสิว่า มีใครสนใจเขียนนิยายดราม่าเกี่ยวกับพระเอกเป็นโรคซึมเศร้าเพราะเขียนนิยายเหมือนตัวคนเขียนเองบ้างมั้ย

285 Nameless Fanboi Posted ID:xSLbk8qfBn

Ky อะไรคือ Lore วะ เห็นฝรั่งใช้กันบ่อย เปิดกูเกิ้ลอ่านแล้วกูไม่เข้าใจ

286 Nameless Fanboi Posted ID:mTzfn3MxVe

>>275 กูก็อยาก + ให้มึงนะแต่จากสภาพแล้วมันดูอีกยาวไกลเหลือเกินว่ะ

287 Nameless Fanboi Posted ID:n7EDMr9psw

แล้วจะมีวิธีแยกพวกเป็นซึมเศร้าจริงๆกับวอนนาบีซึเศร้าปะ

288 Nameless Fanboi Posted ID:l1WM0/6QAK

>>285 Lore คือตำนาน เรื่องราวที่มาที่ไปจนเกิดเนื้อเรื่องหลัก อย่างบริษัทร่มแดงไปได้ไวรัสมาจากไหน ทำไมอยู่ดีๆเมืองแรคคูนถึงชิบหาย สถานีตำรวจเคยเป็นตึกอะไรมาก่อน เป็นต้น
>>287 แรงจูงใจไง ต้องคอยสังเกตพฤติกรรมเอา พวกตอแหลมักจะไม่มีแรงจูงใจอยู่จริง

289 Nameless Fanboi Posted ID:rLM8SGlczu

>>287 การพีอาร์ (?) ว่าตัวเองเป็นโรคนี้ในไบโอ หรือทอล์ค เพื่ออะไรวะ คือมันได้อะไรขึ้นมา เอาจริง ๆ กูไม่ค่อยเข้าใจอะ ส่วนตัวกูมีนข.ที่รู้จักเป็นโรคนี้ แต่เขาก็ไม่พูดถึงความป่วยของตัวเองเลยว่ะ สังเกตตั้งนานกว่าจะรู้ว่าหาหมอกินยาอยู่

290 Nameless Fanboi Posted ID:Fa/FxHaOSL

>>285 ถามแบบนี้มันตอบยาก เพราะแปลได้โคตรกว้างเลยมึง มันแปลได้ทั้งปูมหลัง ที่มาที่ไป ประวัติศาสตร์ เรื่องเล่าปรัมปรา นิทาน ตำนานเล่าขาน ฯลฯ ในจักรวาลของเรื่องราวนั้นๆ ส่วนมากถ้าพูดถึง Lore กุจะนึกถึงเกมต่างๆ ก่อนเลย เพราะหลายคนเล่นเกมคือสนแต่ตัว Gameplay หลักๆ หรือ System แล้วไม่ค่อยสนใจ Lore ของเกมสักเท่าไหร่

ยกตัวอย่างก็เช่น Rockman series เล่นกันมานานนม ถามเพลย์เยอร์ 100 คน จะรู้กันสักกี่คนว่าจริงๆ แล้วร็อคมันเป็นแค่หุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านของ ดร.ไลท์ ก่อนจะโดนดัดแปลงให้กลายเป็นหุ่นรบ แล้วตอนสมัยเรียนตัวร้ายอย่าง ดร.ไวลี่ กับ ดร.ไลท์ ผู้สร้างร็อคแมนดันเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน หุ่นยนต์ที่มีเจตจำนงค์เสรี (Free will) เองก็ไม่ได้มีแค่ร็อค แต่ยังมีบลูส์ (ซึ่งเปรียบได้กับพี่ชายของร็อค) กับโรลจังอีกด้วย หรือเรื่องกุ๊กกิ๊กของโรลที่แอบชอบร็อคและคอยซัพพอร์ตมาตลอดทั้งที่รู้ว่าจะไม่มีวันสมหวัง เพราะแต่แรก ดร.ไลท์ สร้างร็อคกับโรลให้เป็นพี่ชายกับน้องสาว แต่ด้วยเจตจำนงค์เสรีที่มีอิสระทางความคิดเทียบเท่ามนุษย์ โรลเลยแอบชอบร็อคในเชิงชู้สาวกลายเป็นความรักต้องห้ามที่ต้องซ่อนไว้ เจ้าร็อคนี่เวลาโรลมีอันตรายโดนตัวร้ายลักพาตัวก็ตามไปช่วยได้ตลอด คุณน้องสาวต่างสายเลือด (แหงล่ะสิเป็นหุ่นยนต์นี่) เลยเจอปักธงรัวๆ เสียจนโงหัวไม่ขึ้น

Rockman มันไม่ได้มีแค่หุ่นยนต์เด็กชายใส่ชุดรบสีฟ้า สไลด์ได้ ยิงกระสุนพลังงานความร้อนได้ หรือเอาชิปอาวุธหุ่นตัวอื่นมาเสียบที่ขั้วใน Rock Buster แล้วใช้อาวุธของตัวนั้นได้ มันยังมีเรื่องราวหรือเรื่องเล่าที่เป็น Lore ให้ศึกษาอีกมาก เช่น ทำไม ดร.ไวลี่ ถึงต้องสร้างหุ่นลูกน้องให้อาวุธแพ้ทางกันเอง ทำไมบลูส์ถึงหนีจากห้องทดลองของ ดร.ไลท์ ไปโดยไม่บอกกล่าว

ส่วนที่โดนล้อยันเหลนบวชก็ยังเหมือนเดิม ร็อคแมนหุ่นรบสุดแกร่ง จิตใจเปี่ยมด้วยคุณธรรม โดนทั้งระเบิดทั้งเลเซอร์ก็ยังรอด แต่ดันเหยียบหนามไม่ได้ เหยียบทีไรสลายร่างทุกที ก็เข้าใจนะว่ามันเป็น Game Mechanic แต่พอเอามาใส่ใน Lore ด้วยก็อดห่วงไม่ได้ว่าถ้าวันหนึ่ง ดร.ไวลี่ มันหลอกพระเอกของเราไปขังไว้ในห้องที่มีแต่หนามเต็มไปหมดได้สำเร็จ ตำนานร็อคแมนก็เป็นอันจบสิ้นเลยสิ

(ข้างล่างนี้แอบไปค้นคว้ามาเพิ่มก่อนโพส)

สรุปที่ ดร.ไวลี่ ไม่ทำห้องหนามล้วนเพราะศักดิ์ศรีมันค้ำคอ ลุงแกแค่อยากพิสูจน์ว่าหุ่นของตัวเองแกร่งกว่าหุ่นทำความสะอาดบ้านดัดแปลงของ ดร.ไลท์ เลยถือโอกาสระหว่างแผนการยึดครองโลกดวลกันไปในตัว

ในการ์ตูนมังงะ Rockman บางชุดก็เคยแถให้ประมาณว่าถ้าตกหนามแล้วจะสาหัสแต่ไม่ถึงตาย แต่ไอ้การควักเอา Energy Tank มาดื่มแล้วรูจากหนามบนตัวหายเป็นปกตินี่ก็ไม่ไหววะ ไม่สมเหตุสมผลสุดกู่เพราะสวนทางกับ Genera ของตัวเองแบบพลิกกลับด้านเลย (หรือมันเป็นเทคโนโลยีนาโนแมชชีนขั้นสูง?)

ถ้าเป็นเกมอื่นๆ กับ Lore ลึกๆ ของมันก็จะมีพวก

พระเอกจากเกม Prince of Persia ได้พลังทรายมายังไง
บริษัท Umbrella ใน RE พบ Progenitor Virus ในดอกไม้จากหมู่บ้านของชนเผ่าไหน
ความสัมพันธ์แบบคู่อาฆาตของตัวเอกกับบอสใน Castlevania แต่ละภาค ลึกๆ แล้วมีอะไรซ่อนอยู่
Final Fantasy แต่ละภาคนี่ก็ Unique อยู่แล้ว Lore อย่างกว้างมีเยอะด้วย (แต่ไม่ค่อยมีคนไปไล่ Active จนครบหรอก)

Lore มันก็คือความเป็นมาหรือเรื่องในครั้งอดีตของเนื้อเรื่องหลักที่เรากำลังอ่านอยู่ ถ้าคนเล่าไม่เก่งหรือเทมาหมดแบบ Info-dump นิยายเรื่องนั้นก็ชวนหลับอ่ะ

291 Nameless Fanboi Posted ID:4yKXOsDAiM

>>287 .สิ่งที่กูรู้สึก พวกเป็นจริงๆ มันไม่กรีดแขนโชว์ใครหรอก. กูเห็นในเฟสถ่ายรูปกรีดข้อมือแล้วบอกซึมเศร้า ท่าทางภูมิอกภูมิใจ เห็นแล้วหงุดหงิด เพราะกูรู้จักคนเป็นซึมเศร้า มันไม่พูดพล่อยๆ หรอก ใครจะอยากโดนสมเพช ยิ่งมีอาการเอง กูยิ่งคิดว่าคนเป็นจริงๆ มันไม่อยากบอกเรื่องพรรคนี้หรอก ใครมันจะอยากเป็นแบบนี้ คุยกับคนทั่วไปยิ่งรู้สึกแปลกแยก เหมือนโดนย้ำความไม่ปกติตลอดเวลา.

292 Nameless Fanboi Posted ID:r7UC8wpJOg

Lore มันคือเรื่องราวเบื้องหลังที่ไม่ได้กล่าวถึงในเนื้อหาหลัก แต่จะออกมาเปรยๆ ว่าเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นโดยผ่านจากคำพูดของตัวละคร

ยกตัวอย่างแฮรี่ที่รักของสต๊าฟเด็กดวก ก็มี Lore ว่า "กรินเดอวัล เคยเป็นพ่อมดที่ทรงอำนาจก่อนวอเดอมอร์ แต่พ่ายแพ้ให้กับสุดยอดพ่อมดแห่งยุคดัมเบิ้ลดอร์และถูกขังอยู่ในคุกตลอดชีวิต" ซึ่งไอ้ Lore ที่ว่ามานี่ในเนื้อเรื่องหลักไม่ได้มีการกล่าวถึงตรงๆ แต่ถูกเล่าผ่านตัวละครอื่นๆ ซึ่งเรื่องราวที่แท้จริงที่เกิดขึ้นก็อาจจะไม่ตรงกับ lore ที่ตัวละครเล่า แต่เป็นอีกแบบอย่างที่ในเรื่อง Fantastic beast มันเล่าก็ได้

หรืออย่างจะ Warhammer ซีรีย์โปรดกูก็ได้ Lore มีกล่าวว่าในอดีตกาลมนุษย์เคยเกือบสูญพันธุ์จากการถูกพวกออคไล่ฆ่า จนกระทั่งคนแคระได้มอบวิทยาการหลอมโลหะให้พร้อมกับมอบค้อน Ghal maraz ให้กับ Sigmar เข้าสู่กับพวก Green skins จนได้รับชัยชนะแล้วสร้างกลายเป็นจักรวรรดิของมนุษย์อันแสนรุ่งเรืองที่ปรากฎในซีรีย์

เนี่ยจะเห็นว่าพวกนี้มันคือ Lore หรือเนื้อเรื่องเชิงลึกที่เนื้อหาไม่ได้กล่าวถึง ซึ่งตามความเห็นกูนี่ Lore คือสิ่งสำคัญที่สุดของการแต่งนิยายแล้ว เพราะถ้า Lore ลึกและคนเขียนสามารถเปรยออกมาได้ถูกจังหวะ มันจะทำให้คนอ่านรู้สึกอยากจะคิดตามและได้สนุกกับการหาจุดที่คนเขียนได้แอบทิ้งเอาไว้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างนอกจากสิ่งที่เนื้อหาหลักได้กล่าวถึง

293 Nameless Fanboi Posted ID:N7lKmorP3y

ตอบอะไรให้เข้าใจยากกันไปทำไม ก็แปลแม่งตรงๆ นี่แหละ
Lore = ตำนาน เรื่องที่สืบทอดกันมา แถมยัง synonym (พ้องความหมาย) กับ Infomation,cognition ที่แปลว่าความรู้ข้อมูลได้ด้วย ถ้าเข้าใจแบบนี้ก็จบแล้ว
Lore ของนิยายเรื่อง A ก็คือข้อมูลทุกอย่างที่อยู่นอกเหนือจากที่นิยาย A เล่าเอาไว้อยู่แล้ว ซึ่งมันจะเป็นข้อมูลแบบไหน เชื่อถือได้มั้ยนั่นคืออีกเรื่องแล้ว เพราะ Lore ไม่จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไป เพราะข้อมูลหลายอย่างบางทีก็ไม่นับเป็น Canon (แคนอนคือ Lore ที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นข้อมูลหลักของเรื่องใช้อ้างอิงได้ ไม่ใช้แค่ลือกันหรือมโนเป็นทฤษฎีสั่วๆ หรือมาจาก Fan-fic)

294 Nameless Fanboi Posted ID:dHKMiESLtH

>>287 พวกเป็นจริงไม่บอกไม่โชว์ไม่แสดง โลกส่วนตัวสูง จมอยู่กับเรื่องในหัวโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ใจลอย บางคนดูไม่ออกจนกว่าจะเห็นสิ่งที่มันชอบหรือบางอย่างที่มันระบายออก ที่หลายๆคน รู้สึกว่าคนพวกนี้มันคูล เพราะมึงไม่มีทางรู้เลยว่ามันคิดอะไรอยู่ แล้วเรื่องที่มันทำสามารถสร้างเซอร์ไพร์ได้เสมอ แต่แม่งขี้อาย ชอบเก็บตัว ซึมเศร้าแบบไบโพล่า พวกนี้เป็นอีกแบบ อารมณ์แม่งเปลี่ยนไว บทอารณ์ดีก็ดีชิบหาย แต่แค่มีใครซักคนพูดอะไรขัดใจมัน อารมณ์แม่งเปลี่ยนทันทีแล้วเปลี่ยนแรงด้วย ที่เคยเจอ แค่มีคนถามมันว่า ทำมึงกินข้าวแล้วไม่ล้างจาน มันโกรธเหมือนกับว่ามึงไปฆ่าพ่อมันตาย พวกป่วยจริงมึงต้องดูตอนมันอยู่คนเดียว หรือดูกิจกรรมที่มันชอบทำเพื่อระบายความอัดอั้นที่แม่งมี แต่ร้อยทั้งร้อยคือไม่รู้ตัว.... แต่พวกวอนนาบี กูว่าพวกนั้นเรียกร้องความสนใจ ชอบอวดชอบประกาศว่าตัวเองป่วย แต่อยู่คนเดียวแม่งก็ปกติดี จริงๆมันก็โรคจิตนะแต่เป็นอีกประเภท

295 Nameless Fanboi Posted ID:b/AN3ottkN

>>294 ละพวกวอนนาบีนี่แหละที่ทำให้คนป่วยจริงๆดูแย่ลงไปอีก จนเขายิ่งไม่กล้าเปิดเผยตัวเองอะ

296 Nameless Fanboi Posted ID:InowtaEu+f

ใช่ๆ พวกป่วยจริงไม่ต้องให้ทุกคนรู้ว่าตัวเองป่วย ต่อหน้าจิตแพทย์ก็ไม่กล้าแสดงหรอก ต้องให้คนรอบข้างสังเกตเอาเอง ไอ้พวกวอนนาบีนี่แหละไปซ้ำเติมผู้ป่วยเพื่อเอาความสนุกอยู่บนความทุกข์ของผู้อื่น

297 Nameless Fanboi Posted ID:Jjjn/0ZJ9k

>>294 ฟังมึงอธิบายอาการแบบแรกแล้วทำไมกุกลัววะ ตรงแบบ 95% เลย คือไม่รู้ว่าตัวเองซึมเศร้าหรือแค่โลกส่วนตัวสูงเฉยๆ ขนาดในที่ทำงานกุยังไม่ค่อยรู้จักใครเลย จำได้แค่คนที่ต้องติดต่อประสานงานด้วย นอกนั้นถ้าไม่ทักมากุก็ไม่คิดจะชวนใครคุย แต่ดันไปจัดหนักในห้องประชุมแทนถ้ามีอะไรที่กุข้องใจ หรือมีประเด็นที่กุเห็นแล้วมันไม่โอเค เพื่อนแม่งก็น้อย ที่สนิทกันจริงๆ ก็ไปกรุงเทพ ไปต่างประเทศกันหมด เบอร์มือถือในเครื่องมีแค่ 12 เบอร์ ติดอ่านหนังสือจนเลยป้าย เรื่องแต่งนิยายคนในบ้านก็ไม่รู้สักคน หรือกุผิดปกติจริงๆ วะเนี่ย

298 Nameless Fanboi Posted ID:SlprGhn2SC

>>297 ลองไปหาจิตแพทย์ก่อนอย่าเพิ่งตื่นตูม ถ้าเพิ่งเริ่มเป็นจะได้รักษาทัน มันก็เหมือนมะเร็งอะ ถ้าแค่เริ่มต้นไม่รุนแรงมาก็รักษาทัน ถ้าปล่อยให้ลุกลามอาการหนักก็รักษายากหน่อย

จะว่าไปคนที่เป็นโรคซึมเศร้าจริงๆที่กล้าแสดงออก ที่กุเคยเห็นก็คือพวกที่เพิ่งเป็นได้ไม่มากรักษาหายทันหรือยังเป็นอยู่แต่พอควบคุมได้ เขาจะออกมาแสดงให้รู้ไม่ใช่วอนนาบีไรหรอก เขาต้องการเตือนจริงๆว่าโรคนี้มันอันตราย อาการมันเป็นไง อยากให้รู้ทันกันไว้ก่อน แต่พวกวอนนาบีนี่คือแบบ เหมือนงัดการ์ดมาบังหน้าเวลาเจอมรสุมดราม่า เรียกร้องความสงสารความเห็นใจว่า 'กูเป็นโรคซึมเศร้านะ อย่ามากดดันกูไม่งั้นกูฆ่าตัวตาย' เอาจริงไอ้พวกนี้เป็นได้มากสุดก็แค่โรคเครียดอะ

299 Nameless Fanboi Posted ID:dHKMiESLtH

>>297 อย่าเพิ่งตกใจ ถ้ามึงไม่จมอยู่กับความทุกข์ตลอดเวลา มึงก็อาจเป็นแค่พวกชอบเก็บตัวเฉยๆ ถ้าไม่ชัวร์ลองคุยกับหมอดูก่อนหมอจริงๆบอกได้ดีกว่า แต่กูว่ามึงไม่เป็นอะไรหรอก ถ้ามึงมีเรื่องให้เครียด แบบว่าทั้งวันแม่งจมอยู่กับปัญหาจนไม่รู้ว่าต้องทำอะไรก่อน ถ้าถึงขั้นเก็บไปฝัน สะดุ้งตื่นดึกๆ อันแหละค่อยระวัง เพราะอาการเจ็บป่วย บางทีมันเป็นเพราะฮอร์โมนบางอย่างทำงานไม่ปกติ เพราะวิธีใช้ชีวิตผิดๆก็เลยป่วย แต่เคสที่กูเคยเป็นมันต่างออกไป ที่บ้านกูมีปัญหา พ่อกูเส้นเลือดในสมองแตก ที่บ้านล้มละลายช่วงนั้นพอดี กูต้องทิ้งงานกลับไปดูพ่อที่บ้าน เพราะแกเป็นอัมพฤต แถมอยู่ดูพ่อนานจนแฟนทิ้ง ไอ้สัสขอบอกว่าโปรโมชั่นความซวยแม่งเข้ามารัวๆ ยิ่งก็พยายามหาทางไปยิ่งเหี้ย โดนคนรู้จักโกงไปอีกหลายแสน โมเมนท์นั้นบัดซบเหี้ยๆ จนกูอยากจะผูกคอตายวันหลายรอบ ดีที่ว่า น้องกูมันกำลังจะเข้ามหาลัยกูเลยทิ้งหน้าที่ไม่ได้ ต้องช่วยมันก่อน เออถ้ามึงมีอะไรแบบนี้แนะนำว่ามึงอย่าพยายามอยู่คนเดียว เพราะมึงจะคิดแต่เรื่องร้ายๆ ดีว่าเพื่อนกูมันงมงายมันบอกว่ากูโดนของ เลยแนะนำให้กูไปวัด ให้ไปถวายสังฆทานล้างซวย แต่กลายเป็นว่ากูไปเจอพระจริงๆเข้า ท่านว่า พุทธไม่ได้สอนว่าเวลามึงโชคร้ายต้องไปทำบุญล้างซวยนะเว้ย แต่พุทธสอนให้มึงจัดการกับเรื่องเหี้ยๆที่อยู่ในหัวมึงให้หมดไปเท่านั้นเอง ท่านพูดประมาณว่า เวลาที่มึงเห็นอะไร ได้ยินอะไร สัมผัสอะไร สมองมึงอ่ะมันจะคิดต่อ แล้วส่วนมากจะจบลงกับเรื่องที่มึงไม่พอใจ อันนี้คือปกติเลยเว้ยทุกคนเป็นเหมือนกันหมด วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ให้รู้ตัวว่าตอนนี้มึงกำลังคิดอยู่ให้เลิกซะ เพราะบางอย่างผ่านไปแล้วบางอย่างแม่งก็ยังมาไม่ถึง ถ้ามึงยังไม่หยุดคิดให้โฟกัสไปที่กลางหน้าอก เพราะสมองมึงทำงานสองอย่างพร้อมกันไม่ได้มันได้แค่ทีละเรื่อง มึงจะลืมที่มึงคิดไป หลังจากนั้นเวลาที่มึงทำอะไรมึงแค่โฟกัสอยู่แต่กับเรื่องที่มึงทำ ซักผ้ามึงก็โฟกัสแค่เรื่องซักผ้า ทำงานมึงก็โฟกัสแค่ในเรื่องงานตรงหน้าอย่าไปคิดเรื่องอื่น ถ้าทำจนเป็นนิสัย มึงก็ดีขึ้นอ่ะ ส่วนไอ้เรื่องทำบุญนั่นก็ไม่ได้ทำให้มึงหายซวย แต่ในเวลาที่มึงทำบุญบ่อยๆ ใจมันไม่ค่อยคิดเรื่องอะไรเหี้ยๆแล้วเรื่องที่มึงร้อนในใจมันจะเย็นลง ซึ่งมันช่วยมึงได้เรื่องความเครียด....ปล. เอาใจช่วยมึงนะ ปล.อีกที กูยังไม่คิดบวช เพราะกูยังตัดความเงี่ยนออกไปไม่ได้ กูยังรู้สึกฟินเวลาเอากับคนอื่น และยังไม่คิดว่ากูควรเลิก

300 Nameless Fanboi Posted ID:RnpbWkjKKg

>>299 ความเท่ของมึงฉิบหายหมดในประโยคเดียวตอนจบนี่เเหล่ะ

301 Nameless Fanboi Posted ID:dFmropBGrs

>>299 เกือบ เกือบดีแล้วพี่โม่ง กูกำลังจะสาธุเลย

302 Nameless Fanboi Posted ID:Jjjn/0ZJ9k

>>299 ขอบใจที่มาช่วยเสริมนะ กุสบายใจขึ้นบ้างละ สงสัยแค่ชอบเก็บตัวเฉยๆ เองมั้ง เพราะทุกวันนี้กุไม่มีปัญหาอะไรนักกับความเหงา ไม่ได้เครียดหรือคิดมาก มีงานก็ทำ ได้เงินก็หาไรแพงๆ แดก นานๆ ที หนี้ กยศ. ก็ผ่อนหมดไปแล้ว หนี้ที่พ่อ-แม่กุใช้ส่งน้องๆ เรียนกุก็เคลียร์จบละเหมือนกัน รถก็ใช้คันเก่าที่พ่อยกให้ บ้านก็อยู่บ้านเดิมตั้งแต่เกิด แฟนเฟินอะไรก็ลองคบแล้ว, เลิกกันแล้ว จนเข้าใจว่ากุควรอยู่คนเดียวดีกว่า

มันเหมือนชีวิตกุนี่มันกลางๆ ไปเสียทุกอย่างเลย ตอนนี้คือแบบไม่มีความทะเยอทะยานอะไร ของที่อยากได้ก็ซื้อมาไว้ในห้องครบแล้วด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้า คอม แอร์ มือถือ หนี้ติดตัวก็ไม่เป็น คุยกับน้องในที่ทำงานมันบอกว่ากุต้องลองผ่อนอะไรแพงๆ สักอย่าง (พวกบ้านหรือรถ) พอเป็นหนี้แล้วกุถึงจะมีแรงผลักดันให้ต้องดิ้นรน ไม่ก็ต้องมีลูกสักคนไว้เลี้ยง-ไว้ส่งเสียมันเรียน ซึ่งกุฟังแล้วมันไม่เข้าท่าเลย ที่ไม่แต่งงานไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตาไม่ดีหรือเป็นเพศทางเลือก แต่กุรู้สึกว่าถ้าใครคบกุแล้วคนๆ นั้นจะน่าสงสาร กุแม่งพูดน้อย อยู่ด้วยกันก็ยิ้มแล้วเป็นผู้ฟังเสียส่วนใหญ่ ไม่ใช่คนหวานเอาใจไม่เก่ง (แต่กุจำวันสำคัญได้ แล้วหาของขวัญให้ตลอด) ที่กุโดนนอกใจจนต้องเลิกกับแฟนก็คงเพราะกุเป็นคนแบบนี้ เพื่อนชอบบอกว่าแม่งน่าเบื่อ มันไม่ได้เร้าใจเหมือนแบดบอยหรือละมุนอย่างหนุ่มแสนดี ไม่มีแรงดึงดูดอะไรเลย พอมันเป็นงี้แล้วเลยจะหาคนที่มาคบกันยากไง ไม่ต้องมองไปถึงแต่งงานมีลูกหรอก ไม่มีทาง

ชีวิตประจำวันก็จำเจมาก กลางวันทำงาน เย็นแต่งนิยาย ดึกๆ ก็นอน วนไป หนังใหม่เข้าก็ไปดูซะหน่อย วันหยุดยาวก็ไปเที่ยว คือกุมองหาความแปลกใหม่อะไรในชีวิตไม่ค่อยเจอเลยอะ ป่วยก็ไม่ค่อยป่วย ถามว่ามีความสุขไหม มันก็โอเค ความทุกข์มันก็มีบ้างแต่อยู่ไม่นานมันก็ไป หนังสือที่สะสมก็เรียงเต็มตู้ในห้องนอนสามด้านสี่ชั้น

กุมองไม่เห็นว่ากุอยากได้อะไรเพิ่ม เงินเก็บที่มีก็ไม่ได้เยอะจนอวดได้ แล้วกุก็ไม่ได้สนใจลงทุนทำธุรกิจหรือหวังจะร่ำรวยสักนิด แบบว่าทุกๆ อย่างมันงั้นๆ มากเลยวะ พูดถึงเรื่องบวช กุเคยอยากไปบวชเหมือนกันนะ บางทีแบบไม่รู้จะทำงานไปทำไม ไปอยู่วัดแทนดีไหมไรงี้ แต่ก็รู้ตัวว่าในหัวมีแต่นิยาย แล้วการแต่งนิยายมันก็ไม่ใช่กิจของสงฆ์ จะให้กุลองใช้ชีวิตในวัดแต่งพวก "อาตมาหน้าใสกับเณรใหม่สุดคูล"ก็ไม่เหมาะสม (บาปเหี้ยๆ) กุก็ละทางโลกไม่ได้แบบมึงนั่นแหล่ะ แต่ของกุมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความบันเทิง ศิลปะ และการละเล่น ยังไงเสียพวกนี้ไปแน่ๆ ในศีล 227 ข้อ เคยมีคนบอกด้วยว่าถ้าจิตใจไม่ได้สงบจริงๆ อย่าไปบวชเพราะมันจะได้บาปแทนที่จะได้บุญ เรื่องบวชแก้เบื่อเลยต้องตัดออกไป

(มีต่อ.. มันบอกเกิน 4,000 ตัว)

303 Nameless Fanboi Posted ID:ElGLaDFZzP

>>299

อันที่กุกังวลจริงๆ ตอนอ่านที่มึงบอกคือกุชอบมีความคิดประหลาดในหัวว่า "แล้ว... กุเกิดมาทำไมวะ" เป้าหมายอะไรก็ไม่มีให้มุ่งไป ความแค้นฝังลึกก็ไม่มีเหมือนกัน โลกไม่สวยแต่ก็ไม่ถึงกับโลกเสื่อม เหมือนอยู่ไปวันๆ รอให้แก่ตัวลงแล้วตายไปเอง จนบางทีถึงขั้นคิดบ้าๆ ว่า "ลองฆ่าตัวตายตอนนี้ไปเลยดีไหม จะได้ไม่ต้องรอ" ขนาดนั้นเลยนะ คือหมด Passion มาก นั่งดูอนิเมะแล้วเห็นฉากฆ่าตัวตายก็คิดเลยเถิดไปถึงขั้นว่า ถ้าตายแล้วเราจะเป็นไง โลกหลังความตายมีจริงหรือเปล่า หรือจะเป็นพื้นที่มืดๆ นั่งรอให้มีเจ้าหน้าที่มาพาไปเกิดใหม่ หรือตายแล้วไปโผล่โลก Isekai ไปเป็นท่านผู้กล้า ฯลฯ ฟุ้งซ่านเชี่ยๆ

อันนี้แหล่ะที่กุกังวล เพราะไอ้ความเบื่อโลกของกุนี่มันแก้ไม่หายจริงๆ ชีวิตคนธรรมดาขั้นสุด แต่ดันบอกไม่ได้ว่ากุจะอยู่ต่อไปเพื่ออะไรดี ความรักไม่โรแมนติค ความหวังก็ไม่รู้จะหวังไรอีก เพราะมันได้มีได้ลองหมดแล้วทุกอย่างที่เคยอยาก ความฝันก็เล็กแถมธรรมดา จนตอนนี้ทำสำเร็จตั้งแต่ก่อน 30 เคยฝันว่าจะไม่ต้องเป็นลูกหนี้ใคร ไม่ต้องทนร้อนกับอากาศเมืองไทย มีเงินใช้เองไม่เดือดร้อนพ่อ-แม่ มีโอกาสได้เห็นน้องๆ เรียนจบ มีคอมดีๆ ไว้นั่งพิมพ์นิยายตลอดเวลาที่กุอยากพิมพ์ จนมันเหมือนเกมที่เล่นจน Achievement unlocked ครบแล้ว ขนาดเงินที่เก็บมายังไม่รู้เลยว่าจะเอาไปใช้ทำไรดี (กุเล่นเกมกาชาแบบสายฟรี) มือถือพอมีรุ่นใหม่ก็ไม่ได้อยากเปลี่ยน เสื้อผ้าก็ใส่ทั่วไปไม่ต้องแบรนด์เนม ชีวิตสุดขั้ว บ้าๆ แผลงๆ ตอนวัยรุ่นก็จัดหนักมาหมดแล้ว ช่วงเวลายากลำบากคล้ายๆ ของมึง จนต้องเคยอดมื้อกินมื้อหรือปากกัดตีนถีบ (พ่อกุก็เจ๊งเหมือนกัน เสียตึกแถวไปทั้งตึกเลย) ก็ผ่านพ้นมาแล้วเหมือนกัน

หาไม่เจอจริงๆ ว่ะ ว่ากุอยากทำอะไรอีก คนที่จะมาชวนไปลองอะไรใหม่ๆ ก็ไม่มีเหมือนกัน พ่อ-แม่ นี่ก็ไม่เคยบังคับอะไร อยากใช้ชีวิตแบบไหนก็ได้แค่อย่าไปจบลงในคุก น้องๆ อีกสองคนก็รักกันดีไม่มีทะเลาะหรืออิจฉา (แถมแต่งงานมีหลานแล้วด้วย เช็ดเข้) กุเบื่อชีวิตอะ นั่งไถเฟสก็ไม่ค่อยจะมีอะไรอ่านเพราะเพื่อนน้อย อันที่ Feed เด้งบ่อยหน่อยก็มีแค่เพจบริษัท บอร์ดเด็กดีก็ไม่สนุกเหมือนเมื่อก่อนมีแต่อะไรไม่รู้ พันธิปเดี๋ยวนี้ก็ชักจะไร้สาระขึ้นเรื่อยๆ นิยายกุก็ธรรมดา คนอ่านมีพอสมควรแต่ก็ไม่ได้โด่งดัง

เหลือแต่โลกแฟนตาซีที่กุหนีไปพักผ่อนหลังเลิกงานเนี่ยแหล่ะพอจะช่วยได้บ้าง นอกนั้นแม่ง... น่าเบื่อเป็นบ้า

304 Nameless Fanboi Posted ID:P5ekKpK99O

เป็นไปได้มั้ย คนที่เป็นโรคซึมเศร้ามีโอกาสอยากเขียนแฟนตาซีเกิดใหม่ต่างโลกสูงกว่าคนทั่วไป

305 Nameless Fanboi Posted ID:fafUz0dnnM

>>304 มีคนสี่จำพวกอะที่อยากเขียนแนวนี้
1-จูนิเบียวหลุดโลก จินตนาการไร้ขีดจำกัด นิยายที่พวกนี้แต่คจะโทนสดใสและมีความเป็นเด็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด ตรรกะวิบัติเหตุผลผิดหลักมีเพียบ
ตย.ตัวเอกเทพทรูตบตัวโกงร่วงเป็นยุง เก็บสาวเข้าฮาเร็มเป็นคอลเลคชั่น ได้แบ็คจากคนใหญ่คนโตง่ายๆอย่างกับไปเล่นของใส่ สุดท้ายเป็น
สเกลพลังเหนือกว่าพระเจ้า
2-เบื่อโลกนี้อะ เครียดเกลียดสังคม เลยสร้างโลกใหม่อินเซลตัวเองนิดๆลงไปให้ชีวิตดูน่าตื่นเต้นกว่านี้หน่อย นิยายที่พวกนี้แต่งจะโทนมืดๆหน่อยและค่อนข้างเรียล ไม่ก็สดใสอยู่แต่ดูมีเหตุผลขึ้นมาหน่อยและไม่โลกสวยเกินไป
ตย.ตัวเอกในโลกดิสโทเปียที่ชะตาชีวิตไม่บัดซบเหี้ยๆก็เฮงซวยสุดๆ อีเว้นท์เพื่อนทรยศ ครอบครัวโดนฆ่าล้างบาง คนรักโดน ntr ตัวโกงเมพสัสๆ ต้องโผล่มาเพียบ หรือตัวเอกในโลกแฟนตาซีทั่วไปใช้ชีวิตธรรมดาแต่เพราะความรู้จากโลกก่อนเลยทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปจนเริ่มมีชื่อเสียงทำให้ชีวิตไม่ปกติอีกต่อไป
3-พวกเห่อหมอยเห็นสองพวกแรกแต่งแล้วปังเลยแห่กันแต่งตามบ้าง คุณภาพนิยายขึ้นอยู่กับคนแต่งว่าเห่อแป๊บเดียวก็ดองหรือจริงจังปั้นเป็นโปรเจ็คยาว
ตย.แต่งไม่ถึงสิบตอนก็ดองแล้วนะจ๊ะ /แต่งจนจบแล้วแต่มีภาคแยกของพี่น้องลูกเพื่อน ฯลฯ งอกมาเพิ่มอีกน่ะจ้ะ
4-พวกพาโรดี้ไอ้สามพวกแรก
ตย.บทสรุปของนิยายไอ้สามพวกแรกเวอร์ชั่นโลกคู่ขนาน อยากล้อแบบเบียวหรือเรียลก็แต่งไปเหอะ เป็นการยำใหญ่ที่ยิ่งกว่าการครอสโอเวอร์ เช่น ลูกคนเล็กคือสวะของตระกูลใหญ่ที่พลังเพิ่งตื่นแต่เทพไม่สุดเพราะขาดไอเท็มสุดเทพในตำนาน กว่าจะได้แบ็คมาเลือดตาแทบกระเด็นเพราะnpcพวกนี้แม่งตั้งเควสต์ยุ่งยากชิบหาย พอเริ่มจะเมพก็มีอุปสรรคโง่ๆมาขัดที่แม่งโง่จริงๆไม่ใช่ดวงซวยจัด

306 Nameless Fanboi Posted ID:kJCOi8ODix

>>303 กูว่ามึงมีแววไปสายวิปัจสนาว่ะ พวกแบบมึงไปได้ไกลเพราะมีจนเบื่อ ไม่มีอะไรให้กังวลแล้ว ถ้ามึงว่างลองไปสวนสันติธรรมแถวชลบุรี / วัดนาป่าพง คลอง 10 / เสถียรธรรมสถาน ที่วัชรพล / วัดหนองป่าพง ที่ อุบล เลือกเอาที่มือชอบ หรือถ้าขี้เกียจ หาดูในยูทูปก็ได้ คลิปชื่อ จิตนี้คือพุทธะ ของหลวงปู่ดุลย์ อตุโล หรือหลวงพ่อชา ท่านสอนเข้าใจไม่ยาก บางทีมันอาจทำให้มึงหาคำตอบให้ตัวเองได้ >> 300-301 กูขอโทษว่ะ แต่กูยังชอบที่จะเข้าใจว่าซานตาคลอสแม่งมีจริงอยู่ ความจริงแท้อย่างนิพพาน กูยังไม่คิดอยากไป.... เมื่อก่อนกูไม่นับถือเหี้ยอะไรเลยนะ กูคิดว่าคนแม่งเกิดมาถ้าพ่อแม่ไม่ยัดเยียดให้ โรงเรียนไม่ยัดเยียดให้ ว่ามึงศาสนาไหน ศาสนาแม่งก็ไม่จำเป็น มีแม่งก็ตีกันเพราะศาสนากูดีกว่าของมึงทั้งนั้น แต่ที่นี้กูเครียดไงแล้วชีวิตกูตั้งแต่เด็กยันโตไม่เคยเจอช่วงไหนในชีวิตระยำขนาดนั้นมาก่อน กูก็อยากไปหาหมอนั่นแหละ แต่กูไม่กล้าไป กลัวแม่กับน้องกูเครียดหนักไปด้วย ลูกคนโตเวลาหัวหน้าครอบครัวเป็นอะไรขึ้นมานี่กูบอกเลยนรก สัสๆ กูก็อยากจะร้องให้เหมือนน้องๆ เหมือนแม่นั่นแหละ แต่ถ้าที่บ้านรู้สึกว่ากูพึ่งไม่ได้อีกคนที่นี้บอกเลยว่าเหี้ยบังเกิด ก็เลยต้องเก็บเอาไว้ในใจ ตอนแรกที่เพื่อนกูไล่ไปวัดกูก็ไม่อยากไปหรอก แต่เพื่อนแม่งหวังดีไง กูเลยไม่อยากขัดใจมัน โชคดีว่าเจอท่านดีด้วย สมมุติกูเข้าวัดไปเจอแบบ ธัมมี่ นี่ไม่รู้ชีวิตกูจะระยำดำดิ่งไปอีกขนาดไหน 304 ...กูไม่แน่ใจว่ะ

307 Nameless Fanboi Posted ID:ElGLaDFZzP

>>306 กุ 302+303 เอง ขอบใจมากที่มาแนะนำ บางทีกุอาจต้องทำใจให้ว่าง นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมซะบ้างจะได้เลิกคิดฟุ้งซ่าน

ในฐานะลูกคนโตเหมือนกัน ต้องฝ่าฟันเพื่อครอบครัวเหมือนกัน กุขอเป็นกำลังใจให้ ถ้าเป็นผู้ชายกุอยากกอดแน่นๆ สักที แต่ถ้ามิงเป็นผู้หญิงกุคงแค่ขอจับมือ ยังไงก็สู้ๆ ขอให้ดีขึ้นทั้งสุขภาพและคุณภาพชีวิตนะ

308 Nameless Fanboi Posted ID:ge1SYRorz5

>>302 เป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะเออ ถ้าเลือกเป็นหนี้กับสินทรัพย์ที่จะมีราคาเพิ่มขึ้นในอนาคต

309 Nameless Fanboi Posted ID:N5b9GDU/iE

ตกลงนี่ห้อง WN หรือ Lifestyle วะเนี่ย

310 Nameless Fanboi Posted ID:P5ekKpK99O

>>309 มีคห.นึงที่กูสนใจคือ >>303 ทำให้กูสังเกตว่าทำไมพวกญี่ปุ่นชอบแนวต่างโลก isekai จนพวกไทยเกาหลีจีนเห่อหมอยเขียนตามๆกัน เพราะญี่ปุ่นมีการแข่งขันสูงยิ่งยวด เกิดปรากฎการณ์ฮิคิโคโมริ neet เยอะแยะจนเป็นเรื่องปกติ เลยเขียน isekai ขายฝันให้พวกนี้ฟินกันไป เจาะกลุ่มเน้นพวกนี้มากกว่า อาจจะรู้สึกยี้นิยายต่างโลกถ้ามึงเป็นคนไม่ได้เป็นพวก neet เหมือนบางคน

https://www.youtube.com/watch?v=a2mKxt-L7oc

ปล.กูช่วยแถให้แล้ว

311 Nameless Fanboi Posted ID:y01+O.s3NG

ไม่ต้องเป็นห่วง พวกมึงไม่แปลกกันหรอก นักเขียนไทยที่กูรู้จักเกินครึ่งเป็นโรคทางจิตกันทั้งนั้น บางคนป่วยหนักแบบคลุ้มคลั่งเป็นช่วงๆ หรือบางคนก็เก็บตัวมาก ไม่ค่อยออกมาเจอหน้าคน เน้นคุยทางออนไลน์​อย่างเดียว

312 Nameless Fanboi Posted ID:ZAlD9iObMU

>>310 กูว่าไม่ใช่หรอก แนวมันแมสฉิบหายขนาดนี้ ทั้งแฟนตาซี ทั้งจีน เกาหลีแม่งก็ไปกันหมดขายกันเต็มชั้นหนังสือมึงยังจะคิดว่ามันเจาะกลุ่มอยู่เหรอ ถ้าใช่คือนักอ่านทั่วไปแม่งป่วยหมดละงั้น

313 Nameless Fanboi Posted ID:CzDxGFIkgH

คืองี้เว้ย คนเราทุกคนมีความเบียวอยู่ในกมลสันดานเว้ย
เมื่อมึงโตขึ้นมึงไม่ได้หายเบียว เเค่มึงรู้ว่าเรื่องที่มึงเบียวมันไม่มีวันเป็นจริง มึงเลยยอมรับเเล้วใช้ชีวิตโดนฝังความเบียวไว้ใต้จิตใต้สำนึก
เเล้วนิยายเเฟนตาซีต่างโลก เเล้วขุดความเบียวของพวกมึงขึ้นมาได้ไง มันเลยเป็นที่นิยม

314 Nameless Fanboi Posted ID:bwfzMjIY50

ขอเปลี่ยนเรื่องได้มั้ย

ถ้าตัวเอกวัย 30 ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยเย็ดใครมาก่อน จะมีพลังเวทสูงกว่าคนทั่วไป ใช้ได้จริงรึเปล่า

315 Nameless Fanboi Posted ID:wac4BAwA2g

>>314 มึงก็ต้องอธิบายเหตุผลมาด้วย การเย็ดกันมันเป็นการเเลกเปลี่ยนมานากันจนมานาไม่บริสุทธิ์อะไรก็ว่าไป

316 Nameless Fanboi Posted ID:bwfzMjIY50

>>315 https://goshujin.tk/index.php?topic=8305.0

317 Nameless Fanboi Posted ID:7Piw6NZAIR

>>314 ฟังดูลูสเซอร์​จริงๆ

318 Nameless Fanboi Posted ID:skxRhN3Ys1

>>317 ก็ว่างั้น

319 Nameless Fanboi Posted ID:wdJo+4x6uN

Ky แชร์วิธีสร้างกำลังใจหน่อยโม่ง พวกมึงมีกำลังใจมาจากอะไรกันบ้าง กูกำลังจะเขียนแบบมาราธอนแล้วอัพรัวๆ

320 Nameless Fanboi Posted ID:Km.EGvwGq9

>>319 เงินที่จะได้จากการขายอีบุ๊ก

321 Nameless Fanboi Posted ID:+7hDYXEPNP

>>319 มึงมันกระจอก - YouTube

322 Nameless Fanboi Posted ID:2wsBR+a4DP

>>321 +1 ลองดู

323 Nameless Fanboi Posted ID:Wlu1gJaJmC

>>319 กูเห็นนักเขียนคนหนึ่งบอกจะลงทุกๆ6ชม.ใช่มึงป่ะ5552

324 Nameless Fanboi Posted ID:SkWI1+YA7B

เดี๋ยวๆ ไอ้อายุ30แล้วยังไม่เคยมีแฟนแล้วจะมีพลังเวทย์เยอะมันแค่มุขไม่ใช่เหรอ ที่แปลงมาจากจะกลายเป็นสาวน้อยเวทมนต์อ่ะ

325 Nameless Fanboi Posted ID:THidUt084V

>>314 มันเป็นมุกไม่ใช่เหรอวะที่ว่า อายุเกิน 30 แต่ยังซิง คนผู้นั้นจะกลายเป็นจอมเวทย์

326 Nameless Fanboi Posted ID:MYWLinoer6

มันก็แค่มุกตลกๆ ที่เขาเอาไว้ล้อกันเล่นนั่นแหล่ะ ที่ว่า 30 แล้วยังไม่เสียตัว ไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิง แปลว่ามิงต้องสนใจอะไรสักอย่างมากจนลืมเรื่องการมีชีวิตคู่ไปเลย ก็เลยเทียบคล้ายที่ >>316 ลิงค์มาให้อะ ถ้าเป็นนักเวทก็ฝึกเวทจนไม่ได้สนใจผู้หญิง สำเร็จวิชาขึ้นเป็นจอมเวทแต่อายุแม่งเลยวัยจะหาจีบสาวไปนานแล้ว

หรือถ้าจะเอาไปใช้เป็นไอเดีย ก็เอาแบบ >>315 ว่าไว้ก็ได้ กำหนดเอาเลยว่าเซตติ้งโลกนั้นใครอึ๊บหญิงแล้วพลังจะอ่อนแอลง เลยต้องหวงพรหมจรรย์ดูแลตัวเองไม่ให้โดนสาวจับแดก ถึงจะบรรลุพลังขั้นสูงได้

ในชีวิตจริงมันก็มีคนแบบนั้นอยู่นะ อย่างคนที่มุ่งมั่นกับชีวิตมากๆ อยากเป็นเจ้าของกิจการธุรกิจอะไรสักอย่าง ขยันทำงาน ประหยัดเงิน หาช่องทางลงทุนเพิ่มเงินที่ตัวเองมี วิ่งตามความฝันจนไม่ได้สนใจจะมองหาคู่ (หรืออาจมองว่าชีวิตคู่เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่ง) จนสุดท้ายพออายุ 30 35 40 ก็เปิดร้านของตัวเองได้จริงๆ มีความสุขแบบที่ยังโสดนั่นแหล่ะ มองงี้แล้วก็อาจพูดได้เหมือนกันว่าบรรลุจุดประสงค์ที่ตัวเองตั้งใจไว้ และส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงซึ่งอาจนำปัญหาบางอย่างมาให้

327 Nameless Fanboi Posted ID:hYSiYWNFtJ

>>326 ไอเดียดี เอาแบบโลกนั้นผญต้องเยสผชเพื่อเพิ่มพลังเวท แต่ถ้าผชโดนเยสพลังจะค่อยๆหายไป นี่ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนประชากร เพราะคนไม่อยากปั้มลูก พระเจ้าเห็นดังนั้นจึงได้ส่งเพลย์​บอยข้ามมิติมา โดยเพลย์บอยคนนี้โดนเยสไม่เสียพลัง แถมกลับกันว่าถ้าผญคนไหนมาเยสเพลย์บอยคนนี้ พลังจะค่อยๆ ลดลง ถ้าไม่ได้น้ำจากเพลย์บอยมาหล่อเลี้ยงภายใน 7 วัน พลังเวทก็จะหมดตัว ไม่สามารถใช้เวทได้อีกตลอดกาล

328 Nameless Fanboi Posted ID:gmrMPpqAi6

>>327 เบียวสัส

329 Nameless Fanboi Posted ID:pcd9oRaaZ3

มันต้องพระเอกอยากเป็นจอมเวทที่ยิ่งใหญ่เลยไม่ยอมเอาสาว แต่เพราะเป็นลูกขุนนางใหญ่ไม่ก็เจ้าชาย ทำให้มีสาวจ้องจับเป็นขบวนแบบนี้ดิ

330 Nameless Fanboi Posted ID:7ZiogPubSq

>>323 เสียใจ ไม่ใช่กู 5555

331 Nameless Fanboi Posted ID:7ZiogPubSq

>>327 เบียวจริง 555

332 Nameless Fanboi Posted ID:wn.ixBudO.

>>329 นึกถึงมังงะวันช็อตเรื่องนึงเลยว่ะ ตัวเอกแม่งมีสกิลพระเอกฮาเร็มสาวๆรุมชอบ แต่มันดันเป็นเกย์เลยพยายามหักธงชิบหาย

333 Nameless Fanboi Posted ID:tVON+q1CXY

>>327 พล็อตอย่างกับโดจินโป๊ตามเว็บเลยสาส มันจะเขียนได้ไม่ยาวเพราะไม่มีแก่นสารอะไรนอกจากเย็ดกัน แถมเบียวอย่างที่ไอ้บนๆ พูดไว้ด้วย

334 Nameless Fanboi Posted ID:raqmWXPeXn

ในต่างโลกที่มีแต่ fap material มีพระเอกซึ่งเป็นชายโสดซิงขี้แพ้อายุเกิน 30 ถูกอัญเชิญไปโลกแห่งนั้นพร้อมพลังโกงระดับพระเจ้า แต่มีเงื่อนไขว่าถ้าพระเอกของเราสำเร็จความใคร่ไม่ว่าจะด้วยตัวเองหรือคนอื่นช่วยแค่ครั้งเดียว พระเอกจะเสียพลังทุกอย่างไปถาวรและกลายเป็น Loser เหมือนโลกเก่า

พล็อตแบบนี้เป็นไง

335 Nameless Fanboi Posted ID:HyEtAuw6pB

>>334 เพิ่มเงื่อนไข ถูกข่มขืนก็เสียพลังไปด้วย ไม่ว่าแทงประตูหน้าหรือประตูหลัง

336 Nameless Fanboi Posted ID:4NeFT0vXax

เอางี้ดิ ในโลกนี้คู่ชีวิตถูกกำหนดมาตั้งเเต่เกิด ถ้าไปทรานซั่มกับคนอื่าที่ไม่ใช่เมียที่พระเจ้ากำหนดมาให้จะสูญเสียพลังเวทไป
เเต่พระเอกเกิดมามีพลังเวทเยอะ เเต่เช็คไปเช็คมา พระเจ้าเเม่งเสือกไม่กำหนดคู่ชีวิตมาให้
พระเอกก็ช่างเเม่งทุกอย่างกลายเป็นEDซะอีก 30ปีผ่านไปอยู่ๆพลังเวทเสือกเพิ่มขึ้นเยอะโคตรๆซะฉิบ
เลยลองวิจัยดู พบว่าพลังเวทจะไหลเวียนมากในน้ำอสุจิ พอไม่ได้ซั่มสาวหรือเเม้เเต่จะชักก็ไม่ได้ทำ น้ำขาวขุ่นเลยตกผลึกกลายเป็นเเกนเวทอยู่ในร่างกายของพระเอก ทำให้พระเอกมีพลังเวทเยี่ยงมอนเตอร์ เเละวิวัฒนาการได้เยี่ยงมอนเตอร์

337 Nameless Fanboi Posted ID:2upSuUQ+rg

นี่ห้อง wn หรือกามา

338 Nameless Fanboi Posted ID:y8NrczWsWQ

รู้สึกมันจะเริ่มออกทะเลมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมุก 30+ ยังซิงกลายเป็นจอมเวทเนี่ย

339 Nameless Fanboi Posted ID:qonzyPXkfF

โม่งลองแต่งดูเด่ะ อาจจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่ก็ได้นะเว้ย

340 Nameless Fanboi Posted ID:R0mrKByv0v

>>335 victim blaming + shaming

341 Nameless Fanboi Posted ID:z59SyT9SpP

>>338 เรื่องเปลี่ยนเรื่องคุยนี่ ทักไม่ได้นะ เดี๋ยวมันจะมีโม่งมาเฟียออกมาด่าว่า "เขาคุยกันอยู่ อย่าเสล่อ" กูโดนมาแล้ว

342 Nameless Fanboi Posted ID:yT+1e20URG

>>341 สะเหล่อ สะกดงี้ ไอ้สะเหล่อ

343 Nameless Fanboi Posted ID:HyEtAuw6pB

>>341 ทำไมกูอ่านเป็นเสลอปี้ แวะเซเว่นแปป

344 Nameless Fanboi Posted ID:ZXHze364IM

ขายได้นะ

345 Nameless Fanboi Posted ID:raqmWXPeXn

งั้นกูพาเปลี่่ยนเรื่องคุยก็ได้ วันนี้ได้เรียนเรื่องรัฐมาและทำให้กูรู้สึกว่าสิ่งที่ต่างโลกยุคกลางต้องการไม่ใช่ประชาธิปไตยหรือกษัตริย์คนดีเป็นห่วงเป็นใยประชาชนแต่ควรเป็นการสร้างลัทธิชาตินิยมให้สามัญชนกับการปกครองแบบที่ส่วนกลางมีอำนาจสูงสุดและเด็ดขาดเพียงหนึ่งเดียวมากกว่าว่ะ

346 Nameless Fanboi Posted ID:pr3DrUBwX2

>>334 ทำไมกูนึกถึงมังงะเก่าเรื่อง My ball วะ...
เรื่องมีอยู่ว่าปี 2000 จอมปิศาจจะมาทำลายโลก แต่ยังไม่ทันได้ทำก็โดนผนึก แล้วบังเอิญพระเอกไปอยู่แถวนั้นพอดีจอมปิศาจเลยโดนผนึกอยู่ในไข่ของพระเอก ช่วง 1 เดือนในเรื่องพระเอกจึงถูกห้ามสำเร็จความใคร่ โดยที่ระหว่างทางจะมีปิศาจคอยมายั่วตลอดเนี่ย

347 Nameless Fanboi Posted ID:0UkeI6TmF5

>>346 เหี้ยไรเนี่ย

348 Nameless Fanboi Posted ID:sNydQioMPs

>>345 ส่วนกลางนี่คือสามัญชนปะ

349 Nameless Fanboi Posted ID:HyEtAuw6pB

>>347 เป็นโดจินที่ใครๆไม่อยากจะเป็นพระเอกเหมือนมันที่สุด

350 Nameless Fanboi Posted ID:4tmzv0Zb+P

>>346 กุเคยอ่านโดจินคล้ายๆ อันนี้เหมือนกัน มีจอมมารโดนผนึกไว้ในไข่เลยพลังทางเพศเยอะ เยทหารมารสาวๆ ไปหมดบ้านไม่พอ หลังๆ ล่อเมียลูกน้อง milf ต่อหน้าต่อตาผัว หนักสุดล่อแม่ตัวเองอีก เหี้ยจริมๆ

351 Nameless Fanboi Posted ID:kcuDn1hDJp

>>348 ส่วนกลางที่กูสื่อคือผู้ปกครองประเทศ หรือ รัฐบาล ณ เวลานั้น หรือก็คือกษัตริย์ ถ้าว่ากันตามเซ็ตติ้งอาณาจักรแฟนตาซียุคกลาง

352 Nameless Fanboi Posted ID:3hxwVecp5w

>>348 ส่วนกลางก็พวกค่าน้ำค่าไฟล็อบบี้ ค่าบำรุงลิฟต์ สวน สระว่ายน้ำ ฟิตเนส พวกนี้

353 Nameless Fanboi Posted ID:gfQFKAa5Mp

>>351 โอเคเข้าใจละ

>>352 อย่าลืมค่ายาม

354 Nameless Fanboi Posted ID:LgfC7+b9+r

>>353 และค่าเก็บขยะถุงดำ ถุ้ย!

355 Nameless Fanboi Posted ID:F.jV9tbvf0

กูเเต่งนิยายลงเว็ปนี้ได้มั้ย

356 Nameless Fanboi Posted ID:0Z/pO18Rcu

>>345 ยากว่ะ ถ้าเป็นระบบฟิวดัลมันรวมอำนาจยาก ต้องโล๊ะทิ้งทั้งระบบเลย

357 Nameless Fanboi Posted ID:4R4+JnrS1T

>>345 ซึ่งทำไม่ได้ เพราะปจบมีโลกาภิวัตน์ มึงจะสร้างรัฐสปาต้าในยุคนี้หรือ

358 Nameless Fanboi Posted ID:4R4+JnrS1T

>>345 เผลอกดส่งก่อน แต่จริงๆกุไม่เคยเห็นแต่งต่างโลกเซตติ้งแนวนี้เลย น่าสนใจ ข้ามไปมีแต่ระบบคิงๆ ควีนๆ เจ้าหญิงเจ้าชายแบบไม่ค่อยการเมือง

359 Nameless Fanboi Posted ID:rDqlRL15qZ

>>355 มีห้องแต่งนิยายอยู่ข้างล่าง แต่คนอ่านน้อยและระบบเว็บไม่เอื้อต่อการแต่งนิยาย มันจัดหน้าลำบาก

360 Nameless Fanboi Posted ID:ZX9rDKVhgY

>>345 สร้างประเทศใหม่เถอะ

361 Nameless Fanboi Posted ID:3mkUal5JSD

กูขรรม

https://www.matichon.co.th/politics/news_1361044

362 Nameless Fanboi Posted ID:NN44O2Kxxl

เรื้อนไปการเมืองเชิญห้องอื่นนะคร้า

363 Nameless Fanboi Posted ID:zW5VjE7ftg

>>358 แบบอำนาจรวมศูนย์กลางนั่น นึกออก2เรื่องของยุ่นทั้งคู่
- ราชาทาส ตอนช่วงแรกที่จัดละครเล่นใหญ่ ฆ่าขุนนางทิ้งไปหลายคน แถมยุบกองกำลังของดยุค ให้ขึ้นตรงกับราชาคนเดียว
-ลูกกริฟฟิน อันนี้ไปให้คำแนะนำราชาเมืองที่ช่วยตัวเอง เรื่องวิธีลดอำนาจขุนนางเพิ่มอำนาจส่วนกลาง

364 Nameless Fanboi Posted ID:AKo9DDzV4T

ลูกกริฟฟินนี่เรื่องไหนวะ

365 Nameless Fanboi Posted ID:zW5VjE7ftg

>>364 อันนี้อะ
Different World Foundation
Isekai Kenkokuki
異世界建国記

366 Nameless Fanboi Posted ID:ZX9rDKVhgY

>>365 หนุ่มเลี้ยงต่อยกำพร้านี่หว่า

367 Nameless Fanboi Posted ID:ftURxf.lmP

พล็อตเลี้ยงต้อยนี่ดีต่อใจกูจริงๆ

368 Nameless Fanboi Posted ID:NcxCAiP+H9

>>365 อ่ะ จำได้ละ ในนายท่านยังแปลอยู่มะ

369 Nameless Fanboi Posted ID:GtbkYVVybF

>>368 อ่านengเลย ไม่ต่างกันมากหรอก

370 Nameless Fanboi Posted ID:+p7iE8WRCc

แฟนตาซีแนวเลี้ยงดู/เก็บมาเลี้ยง กำลังมา

371 Nameless Fanboi Posted ID:9Bf+1syHqa

>>370 ขยายความหน่อย

372 Nameless Fanboi Posted ID:u6jDAzRgzh

>>371 หมวดรักแฟนตาซี มันเริ่มมีแนวที่ตัวเอกจะเก็บอะไรสักอย่างมาเลี้ยง บางเรื่องเลี้ยงเด็ก บางเรื่องเลี้ยงมังกร อะไรแบบนี้แหละ คสพ.เน้นไปทางครอบครัว มากกว่ารักแบบ ช-ญ ด้วยมั้ง

373 Nameless Fanboi Posted ID:QW2gsskTX8

>>372 เเฟนตาซีชาวเกาะหมู่นี้ก็เริ่มเยอะ เเต่ไม่รู้เป็นหอกอัลไลเวลาเก็บเด็กผู้หญิงมาเเม่งถึงชอบได้กับคนเลี้ยง โคตรเกลียดเลยสัสเอ๊ย

374 Nameless Fanboi Posted ID:M0mTDYXn5W

จะว่าไปในเด็กดีก็เห็นแนวเก็บจอมมารมาเลี้ยงไรเทือกนี้อยู่พักนีงนะ

375 Nameless Fanboi Posted ID:wNJxcuXDba

เด็กหน่อเด็ก https://www.dek-d.com/board/view/3908134/

376 Nameless Fanboi Posted ID:958wmVOq.3

เรื่องเอจจี้ไม่เถียง เเต่ข้อเเรกกูเถียงสุดใจ
ยึดครองโลกพ่องด้วยสันติ!!!
คัลเจอร์กับการทูตมึงต้องเหนือโลกขนาดไหนวะน่ะ

377 Nameless Fanboi Posted ID:KJI+GlVbn0

>>376 น่าจะตรรกะเดียวกันกะพวก "เดี๋ยวนี้เขารบกันด้วยเศรษฐกิจ" นั่นแหละ

378 Nameless Fanboi Posted ID:1zPMS1VaqA

>>375 ข้ออ้างทั้งนั้น เขียนสนุกสู้คนอื่นไม่ได้แล้วไปโทษคนอ่าน ถ้าเขียนเรื่องสนุกพอคนก็มาอ่านเองแหละ

379 Nameless Fanboi Posted ID:RmGBZ4MeLB

การยึดครองโลก กับ สันติวิธี นี่มันจะไปกันได้ยังไง ยกเว้นนิยายแนวเอาฮะนะ
คือมันจะมีใช้บ้างก็ได้อะแบบสันติ แต่กุไม่เห็นทางที่ตั้งแต่ต้นยันจบจะใช้ สันติวิธีได้เลย

380 Nameless Fanboi Posted ID:.sAazhpmIv

ถ้าสันติวิธีมันได้ สมัยก่อนแม่งคงไม่มีสงครามแล้วล่ะวะ จะเสียแรง เสียกำลังพลทำซากไร

381 Nameless Fanboi Posted ID:lt91ab7w39

ที่เค้าสันติกันเพราะมันตีกันมาเเล้วทั้งนั้น

382 Nameless Fanboi Posted ID:FfJFLbxzGg

>>378 ถ้าคนอ่านมันชิทเทสก็เป็นไปได้นะ เห็นเยอะเลยพวกที่อ่านแต่แนวพระเอกโฉดเก่งเทพ แนวอื่นไม่อ่าน

>>379 แต่งงานผนวกดินแดนกันไปเรื่อยๆไง แต่ก็จะกลายเป็นปัญหาชิงบัลลังก์​ภายในแทน

383 Nameless Fanboi Posted ID:lt91ab7w39

>>382 อยู่ๆใครมันจะไปอยากผนวกกับประเทศอื่นล่ะคุณ เเต่งงานทางการเมืองมันก็เเค่เหมือนส่งนักการทูตไปอยู่ถาวรเเค่นั้นเเหล่ะ
ต่อให้จะสันติเเม่งก็ต้องปั้มกองทัพมาข่มขู่จนยอมศิโรราบอยู่ดี ซึ่งถ้าไม่เเสดงเเสงยานุภาพอยู่ดีๆใครมันจะมาสวามิภักค์ สรุปว่าไม่มีหรอก ยึดครองโลกด้วยสันติห่าอะไรนั้น
เต็มที่คือมีเอเลี่ยนบุกโลกเลยรวมกับกันเป็นสหพันธ์โลกเเบบในกันดั้มเท่านั้นเเหล่ะ ซึ่งมันก็คือๆกันUNเเบบอำนาจเยอะกว่านั้นเเหล่ะ

384 Nameless Fanboi Posted ID:wNJxcuXDba

สันติอาจจะเป็นชื่อคนก็ได้ การกระทำเจ้าตัวจะทำสมชื่อตัวเองก็อีกเรื่องหนึ่ง

385 Nameless Fanboi Posted ID:lt91ab7w39

>>384 ปืนใหญ่เเสงดวงเสาร์ชื่อสันติไรงี้55555555555

386 Nameless Fanboi Posted ID:WYuPJRGRUW

มนุษย์มียีนแข่งขันและแย่งชิงกันมาตั้งแต่เป็นลูกอ็อดอสุจิแล้ว
นักประวัติศาสตร์ บอกว่า สงครามทำให้มนุษย์พัฒนามาถึงปัจจุบันได้
ในประวัติศาสตร์สงครามมีมาตลอด พวกที่บอกว่าสงครามเดี๋ยวนี้ไม่รบกันด้วยอาวุธแล้ว
กูอ่านแล้วขำโครต เอาแค่ไทย ถ้าไม่มีอาวุธดีๆ ปานนี้คงได้ตีกับเขมรไม่จบ นี่ดีที่มีอาวุธเหนือกว่าเขมรจึงยิงถล่มได้ในปี 54
ไอ้พวกที่ด่าว่าทหารซื้ออาวุธมาทำไม ใช่งบเยอะทำไม ใครเค้าจะรบกันแล้วตอนนี้...
กูโครตขำกับตรรกะนี้จริงๆ อาวุธดีๆ ใครเค้าขายกันได้ง่ายๆ อย่างน้อยสั่งกันข้ามปี แถมถูกควบคุมจากชาติมหาอำนาจ ไม่ให้มีเทคโนโลยีเกินหน้าเกินตาอีก...

387 Nameless Fanboi Posted ID:FfJFLbxzGg

>>386 กระทู้การเมืองอยู่ใน lounge ครับ เชิญไปเลียกนะโปกทหารตามสะดวก

388 Nameless Fanboi Posted ID:omLjppFz26

>>387 ไม่ใช่พ่อมึงเลียอยู่หรอ

389 Nameless Fanboi Posted ID:FfJFLbxzGg

>>388 คำว่าพ่อนี่ละเอียดอ่อนนะครับ ถ้าจะด่าพ่อแท้ๆ ของผมนี่ก็ควรเน้นหน่อยว่าพ่อแท้ๆ ไม่งั้นคนนอกมาอ่านอาจได้สารไม่ครบถ้วน เกิดตีความเป็นอย่างอื่นขึ้นมาจะซวยกันหมดนะครับ

390 Nameless Fanboi Posted ID:WYuPJRGRUW

เด็กเน้อเด้กน้อย...
กูพูดเกี่ยวกับ สงคราม อาวุธ ทหาร ยังไม่เกี่ยวกับการเมืองสุดอุบาวชาติชั่ว ที่ไม่ได้ช่วยเสริมรอยหยักในสมองสักกะนิด
การเมืองที่แย่งชิงกันยังกับหมา กูเอียนนะ อย่าหลงประเด็นสิ
ที่พูดคือ มนุษย์นะอยู่กับสงครามมานาน จนบัดนาวยังมีการรบกันอยู่ทุกวัน...

391 Nameless Fanboi Posted ID:nnJwQKwk+h

อย่างน้อยกูก็ได้เห็นโม่งสงครามกับตาตัวเอง

392 Nameless Fanboi Posted ID:958wmVOq.3

ขอค้าน คุยเรื่องทหารพร้อมยกตัวอย่างประกอบเเถมไม่ออกจากเรื่องที่กำลังคุย กูก็ไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกะการเมืองตรงไหน

393 Nameless Fanboi Posted ID:2QsFRU6DIk

เดี๋ยวนะ ไอ้ที่ จขกท. >>375 มันแขวะแนวพระเอกเก่งเทพสาวหลงว่าเรื่องมันแบนไม่มีเหี้ยอะไร แต่ไหงคนอ่านเยอะไม่ใช่เรอะ
ส่วนไอ้ตรงครองโลกโดยสันตินี่คาดว่าน่าจะเป็นเพราะพิมพ์เพลินจนสมองคิดไม่ทันมากกว่า เพราะไม่เห็นมันจะมีพูดอะไรต่อเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย

แล้วไหงโม่งๆ ถึงหยิบเอาประเด็นนั้นมาทะเลาะกันซะงั้นวะ?

394 Nameless Fanboi Posted ID:FfJFLbxzGg

>>392 ไปดู >>386 นะ "... พวกที่บอกว่าสงครามเดี๋ยวนี้ไม่รบกันด้วยอาวุธแล้ว
กูอ่านแล้วขำโครต เอาแค่ไทย ถ้าไม่มีอาวุธดีๆ ปานนี้คงได้ตีกับเขมรไม่จบ นี่ดีที่มีอาวุธเหนือกว่าเขมรจึงยิงถล่มได้ในปี 54
ไอ้พวกที่ด่าว่าทหารซื้ออาวุธมาทำไม ใช่งบเยอะทำไม ใครเค้าจะรบกันแล้วตอนนี้...
กูโครตขำกับตรรกะนี้จริงๆ อาวุธดีๆ ใครเค้าขายกันได้ง่ายๆ อย่างน้อยสั่งกันข้ามปี แถมถูกควบคุมจากชาติมหาอำนาจ ไม่ให้มีเทคโนโลยีเกินหน้าเกินตาอีก"

อันนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองเหรอ เอามาจากนิยายเรื่องไหนล่ะ?

395 Nameless Fanboi Posted ID:958wmVOq.3

จาก 383 ไงไอ้คนตกgatเชื่อมโยง

"ต่อให้จะสันติเเม่งก็ต้องปั้มกองทัพมาข่มขู่จนยอมศิโรราบอยู่ดี ซึ่งถ้าไม่เเสดงเเสงยานุภาพอยู่ดีๆใครมันจะมาสวามิภักค์ สรุปว่าไม่มีหรอก ยึดครองโลกด้วยสันติห่าอะไรนั้น"

เนี้ย มันเป็นการให้เหตุผลเพิ่มเติมกับข้อความนี้ชัดๆ

396 Nameless Fanboi Posted ID:fiVMy+RlB.

>>395 เลิกแถเหอะ มีเรื่องไทย เรื่องเขมร เรื่องซื้ออาวุธ​ เรื่องด่าทหารขนาดนี้ ยังจะบอกว่าไม่เกี่ยวการเมืองอีก

397 Nameless Fanboi Posted ID:VaDCAfpSmZ

ดึงกลับแป๊ป

เพื่อนโม่งคิดว่านิยายเด็กดีที่ edgy,dark wannabe ทั้งหลายมันเกิดจากการเขียนนิยายที่ต้องการให้ตัวเอกทำอะไร badass แต่มือไม่ถึงเปล่าวะ

สำหรับกูตอบใช่ เพราะบางเรื่องกูยอมรับว่าถ้าเหตุผลการกระทำตัวเอกดีกว่านี้ มันจะเป็นอะไรที่โคตรเท่เลย (แต่มันไม่ไง ประเด็น)

398 Nameless Fanboi Posted ID:VaDCAfpSmZ

ปล. ไปเจอมู้นึงมา น่าสนดีเผื่ออยากพูด/ถกกัน

https://www.dek-d.com/board/view/3908288/

ชื่อมู้ ลงถี่ก็ตันไว(บ่นตัวเอง)

ไปอ่านมา ก็ปกตินี่ มาบ่นอะไรแถมในกระทู้ยังทิ้งท้ายว่าต้องจบงง ๆ แล้วเริ่มภาคต่อแบบงง ๆ คือปกติไม่ใช่ว่าเวลาตันแล้วเลือกจะตัดจบก็ไม่ควรเอามันมาต่อหรอกเหรอ

399 Nameless Fanboi Posted ID:kX+5RoArgx

>>397 ตามนั้น ที่เกิดเป็นนิยายดาร์กวอนนาบีหรือเอจจี้เนี่ย เพราะศึกษาแค่ผิวเผินไม่ได้รู้ลึก ตัดสินจากภายนอกอย่างเดียว ไม่ได้มีความรู้ว่าสร้าง badass character ที่ดีต้องทำยังไง เหมือนกูหยิบ Sex Education แล้วถูกเพื่อนมองว่ากูขี้เงี่ยน เพราะด่วนสรุปว่าเป็นหนังสอนเย็ดเด็กวัยเรียน ห่า

400 Nameless Fanboi Posted ID:sfBd8xFyGb

>>397 ใช่ ส่วนใหญ่ก็ประมาณนั้นแหละ และอีกส่วนก็คือการเขียนสนองความเบียวของตัวเอง

401 Nameless Fanboi Posted ID:JUd4NlIST8

เว็ปนี้มันเคยคิดจะยกเครื่องระบบนิยายใหม่ไหมวะ กูไปส่องอีกเว็ปแม่งโคตรเจ๋ง
ระบบค้นหาโคตรแหล่ม ระบบโพสนิยายก็ดี มีตั้งเวลาลงได้ด้วย
ตัดภาพกลับมาเว็ปเด็กดอกแม่งห่าไรก็ไม่รู้ เวลาจะโพสนิยายต้องเออเร่อสองสามรอบถึงจะลงได้
เวลาจะตอบคอมเม้นนี่กูโคตรจะปวดหัว
ปล.พูดถึงระบบในเว็ป ในแอพไม่ค่อยได้ใช้

402 Nameless Fanboi Posted ID:LsOnXWVK+F

>>401 ในเเอปเเม่งก็ริยำบัดซบเหมือนกัน
โหลดโคตรนาน เม้นไปบางทีเเม่งเด้งคู่

403 Nameless Fanboi Posted ID:uwJntB6QmN

>>402 หรอวะ... ถ้างั้นระบบแม่งก็เหี้ยจริง ถ้าไม่ติดคนอ่านเยอะ กูไม่ลงหรอก
ไม่เข้าใจว่าไอ้พวกผู้พัฒนา มันไปเคยไม่ส่องระบบของเว็ปอื่นบ้างหรอ
เอาเวลาไปทำห่าอะไรของพวกมันวะ

404 Nameless Fanboi Posted ID:P9lCZ6DXao

เรื่องโหลดนานกูไม่รู้ แต่เรื่องเด้งอันนี้จริง กูตอบเม้นท์อยู่ ชิบผาย เด้งเฉยเลย พิมพ์มาตั้งยาว หายหมด

405 Nameless Fanboi Posted ID:uwJntB6QmN

>>404 กูตอบเม้นในเว็ป รอแม่งโหลด 4-5 รอบ เพลียจิต

406 Nameless Fanboi Posted ID:h1xxTBZ.pn

เข้าใจว่าโละทิ้งทำใหม่หมดมันคงยาก+แพงนั่นแหละ แม่งเลยไม่ทำ
คงต้องรอเว็บมันห่วยมากๆ จนคนหนีไปสิงที่อื่นเยอะๆ นั่นแหละ ถึงจะเริ่มกระดิกตัว

407 Nameless Fanboi Posted ID:sfBd8xFyGb

>>401 จริงๆ ก็คงอยากทำแหละ แต่ทำไม่ได้ในทางเทคนิค เพราะมันจะเป็นงานใหญ่โคตรๆ ระดับที่อาจต้องใช้ทุนเยอะมาก ลำพังฝ่าย IT ที่มีอยู่เดิมทำไม่ไหวหรอก เพราะระบบเด็กดีเดิมมันเก่าจนเกินเยียวยาแล้ว ปรับได้แค่นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นแหละ แต่ถ้าจะทำใหม่แบบระบบเว็บอื่นก็ต้องรื้อทิ้งหมดทั้งดุ้น แล้วอย่าลืมว่าฐานนิยาย ดด มันมหาศาลมากถ้ารื้อทำใหม่ก็ต้องเข้าถึง แล้วย้ายฐานข้อมูลพวกนั้นเข้าระบบใหม่ซึ่่งมันเป็นงานที่ยากโคตร เพราะระบบเดิมมันไม่ได้สร้างมาให้ทำแบบนั้น มันไม่ได้ง่ายเหมือน Copy Past น่ะ ถ้าทำจริงๆ Backup นิยายพวกนั้นให้เอามาใช้กับระบบใหม่โดยที่ไม่เละได้อยู่ แต่เรื่องยอดวิว ยอดเฟ็บ คอมเมนต์นี่คิดไม่ออกว่ะว่าจะออกมาเละเทะขนาดไหนเพราะก็รวนเป็นปกติอยู่แล้ว
แต่เดี๋ยวถ้าฐานคนอ่าน คนเขียนมันเริ่มลดลงเรื่อยๆ ถึงจุดนึงก็คงต้องกระเสือกกระสนทำอะไรซักอย่างเองนั่นแหละ

ปล. แล้วกูจะบอกว่านิยาย ดด แม่งระบบความภัยเป็น 0 นะมึง กูกดเมาส์สามทีก๊อปนิยายแม่งได้ทั้งดุ้น ห่วยกว่าเจ้าอื่นที่สุดก็เรื่องนี้แหละ

408 Nameless Fanboi Posted ID:fiVMy+RlB.

>>401 เอาตามตรง เด็กดีมันไม่ใช่เว็บนิยายจริงจังอยู่แล้ว แค่เหมือนเป็นแหล่งแรก (ที่ดัง) ของนิยายออนไลน์เท่านั้นเอง มันก็เลยมีฐานนักอ่านนักเขียนเยอะ ถ้าจะเอาเรื่องระบบหน้านิยายไปเทียบกับเว็บนิยายจริงๆอย่าง ฟชล หรือ ธวล มันก็สู้ไม่ได้หรอก

409 Nameless Fanboi Posted ID:/MqprOp0NL

แต่ที่มันเด่นจริง ๆ ก็นิยาย ไม่ใช่หรอวะ รายได้หลัก ๆ ก็น่าจะมากจากตรงนี้
ถ้าไม่รีบพัฒนา อีกไม่นานคงโดนชาวบ้านแซงละ

410 Nameless Fanboi Posted ID:YQ9wZ5URqK

>>409 ไม่ใช่ รายได้หลักและโฆษณาส่วนใหญ่ของ ดด มาจากส่วนการศึกษาว่ะ
ฝั่งนิยายของ ดด มียอด Traffic สูงก็จริง แต่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่จับต้องได้เท่าไหร่ ยกเว้นเรื่องเอายอด Traffic ของฝั่งนิยายไปรวมเสนอสปอนเซอร์โฆษณา ซึ่งก็น่าจะทำอยู่ จนมีระบบขายนิยายนี่แหละที่ทำให้มันจับต้องเป็นมูลค่าเต็มๆ ได้มากขึ้น

411 Nameless Fanboi Posted ID:f9Np8F+a7D

แล้วเดิมทีเว็บเด็กดีไม่ได้ถูกแบบมาเป็นเว็บโนเวลตั้งแต่แรกเหรอ

412 Nameless Fanboi Posted ID:CcK2k5WDL4

>>411 ยุคดั้งเดิมมมมมเลยคือเด็กรวมตัวกันติว

413 Nameless Fanboi Posted ID:f9Np8F+a7D

>>412 ปัจจุบัน ยังมีการติวแบบนี้เหมือนเดิิมรึเปล่า

414 Nameless Fanboi Posted ID:lEUNt550pi

>>413 มีอยู่ๆ ยังจัดสอบใหญ่เหมือนเดิมด้วย

415 Nameless Fanboi Posted ID:9aNUGv7Sqh

เออ กูก็พอจำได้ว่าเด็กดีมันไม่ได้เป็นเว็บลงนิยายโดยเฉพาะมาตั้งแต่แกนะ แค่เป็นหมวดๆนึงเฉยๆ จะว่าไปกลายเป็นเว็บลงนิยายเป็นหลักไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย

416 Nameless Fanboi Posted ID:Hy7VHSq0nx

ถ้าไว้ลงนิยายแต่แรก มันคงไม่พ่วงหมวดอื่นมาเยอะแยะ ให้หนักเว็บขนาดนี้หรอก

417 Nameless Fanboi Posted ID:f9Np8F+a7D

>>415 กูพออ่านประวัติมา เดิมทีมีหมวดไดอารี่ให้คนใช้เขียนกึ่งบล็อกเกอร์ แต่คนดันไปเขียนนิยายตั้งหลายคน พวกทีมงานตัดสินใจเปลี่ยนเป็นหมวดนิยายซะเลย อาจจะเป็นเพราะกระแสหัวขโมยบารามอส

418 Nameless Fanboi Posted ID:8cjSyg8psW

ย้อนกลับไปเรื่องเขียนไม่เบียว = ไม่มีคนอ่านนะ กูยังคงยืนยันคำเดิมว่ามึงต้องค้นหาความต้องการจริงๆ ของมึงก่อนว่าเขียนนิยายเพื่ออะไร

ถ้าเขียนนิยายเพื่อหาเงินเป็นรายได้หลัก มันก็แน่นอนอยู่แล้วว่ามึงต้องเขียนตามใจคนอ่าน จะไร้เหตุผลยังไงถ้าคนอ่านชอบมึงก็ควรเขียนตามนั้นเพื่อหาเงิน (ไม่แนะนำให้เขียนแนวแฟนตาซีด้วยซ้ำ ถ้าอยากอยู่รอดต้องเขียนแนวรัก) ถ้าเขียนนิยายเพื่อหาเงินเป็นรายได้เสริม อันนี้ก็คล้ายๆ ข้อแรก คือควรที่จะต้องเขียนเอาใจตลาด ช่วงนี้กระแสอะไรมาก็ต้องตามให้ทัน สรุปก็คือถ้าคิดจะหาเงิน มึงก็ต้องตามใจตลาด ถ้ามึงเขียนไม่ตรงใจตลาด คนก็ไม่อ่าน สมการก็มีอยู่แค่นี้

แต่ถ้ามึงรักจะเขียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ ก็ต้องทำใจไว้ว่ามันอาจมีคนอ่านน้อยหรือไม่มีคนอ่าน ต่อให้มึงมั่นใจในฝีมือการเขียนของตัวเองมากแค่ไหนก็ตาม คือถ้ามึงคิดจะเขียนแนวที่คนไม่อ่าน มึงก็ต้องเตรียมใจว่าหน้านิยายของมึงจะร้าง จะมางอแงไม่ได้ว่านิยายกูดีขนาดนี้ ทำไมถึงไม่มีคนอ่าน นักอ่านแม่งขยะชิทเทส บลาๆ

นักอ่านเว็บโนเวลส่วนใหญ่มันชิทเทสอะกูไม่เถียงหรอก แต่มึงก็ต้องดูตัวเองด้วย เหมือนมึงไปตกปลาในบ่อที่ไม่มีปลา ใช้เหยื่อดีแค่ไหนมันก็ไม่มีอะไรติดเบ็ดขึ้นมาหรอก

419 Nameless Fanboi Posted ID:IZgjy0qy7S

อัพนิยายเดือนละ 1 ครั้ง อินดี้ไหมมึง

420 Nameless Fanboi Posted ID:Gc60gxNheb

>>419 กูอัพทุกเดือน---มกรา นอกนั้นไม่อัพ

421 Nameless Fanboi Posted ID:+GvmOUGjYw

>>418 ไม่ว่าจะเขียนแนวไหน จะเหี้ยสักเท่าไหร่ แต่ถ้าลงอย่างต่อเนื่อง กูเชื่อว่ายังไงก็อยู่ได้เดี๋ยวปลาแม่งมาเอง (ถ้ามึงไม่ตัดใจเสียก่อนนะ)

422 Nameless Fanboi Posted ID:0tue4sq2co

>>418 เห็นด้วย

423 Nameless Fanboi Posted ID:V8.fLyJ6yB

>>418 แต่จากปากคนที่พิมพ์ขายบอกว่า ยอดขายแนวปวดตับเนื้อเรื่องแน่นเยอะกว่าตอนเขียนเบียวๆ นะ

424 Nameless Fanboi Posted ID:f9Np8F+a7D

>>423 ปวดตับที่เขาว่าคือ dark wannabe เรอะ

425 Nameless Fanboi Posted ID:TOqj5tRZtX

>>424 ถ้าในดด. กูว่าใช่

426 Nameless Fanboi Posted ID:gaASc+/rRR

กูลองไปอ่านนิยายเรื่องเเรกของกูตอนหัวเกรียนอยู่ดู....เอจจี้สัส อยากไปบันจี้จัมป์เเบบไม่มีเชือกชิบหาย
พวกมึงเวลาอ่านเรื่องเเรกของตัวเองรู้สึกไงบ้าง

427 Nameless Fanboi Posted ID:dfo+b6bae4

>>426 ของกูนี่อย่างเบียว ใส่เสียงเอฟเฟคตูมตาม อ่านแล้วตลกดี

428 Nameless Fanboi Posted ID:j7hUA6BqJ7

>>426 กูลบทิ้งเลย

429 Nameless Fanboi Posted ID:j7hUA6BqJ7

>>428 อ้าวลั่น พิมพ์ต่อ ๆ

คือแม่งเบียวซูทรูเอ็ดจี้มีแม่งทุกอย่าง ตู้มต้ามยิ่งกว่านิยายมาสเตอร์ปอป บทบรรยายหาย กูเปิดแล้วกุมขมับก่อนลบทิ้งออกจากสารบบดด. เลยอะ

430 Nameless Fanboi Posted ID:JfpXaSyKY8

>>426 อยากเอาไปเผาทิ้ง ตอนนั้นกูคิดว่าแม่งแจ่ม แม่งแหวกแนว เจ๋งสุดๆ ไปได้ไงวะ
อิเหี้ย ที่มันแหวกเพราะคนปกติเขาไม่เขียนกันไง

431 Nameless Fanboi Posted ID:dw6XSq/s3u

>>426 กูรู้สึกตัวเองมีพรสวรรค์ว่ะ 5555 อ่านเรื่องแรกของตัวเองแล้วรู้สึกสมัยนั้นกูไอเดียเทพชิบหาย ภาษาก็พอไหว ออกจะสนุกด้วยซ้ำไป เทียบกับตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองกากลงด้วยซ้ำ

432 Nameless Fanboi Posted ID:bcUidRl5c5

>>426 ของกูตรรกะหมาไม่แดก ไม่มีความสมเหตุผลสักกะนิด ก็นะ นิยายเขียนโดยเด็กเกรียน

433 Nameless Fanboi Posted ID:fOEOerwfyT

นับถือความมั่นของตัวเองตอนนั้นว่ะ ส่วนคุณตะภาพนั้น ลบให้เหี้ยน ล้างประวัติใหม่เลยกู เหลือบางไอดีที่เข้าไปแก้ไม่ได้ ก็ได้แต่ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ใช่กู orz

434 Nameless Fanboi Posted ID:IkQTxDu5WQ

กูไม่ต่างจากไอ้นากคนนี้วะ
https://www.youtube.com/watch?v=4Y0IHjMx4B8

435 Nameless Fanboi Posted ID:Ct9UP5fXqb

>>434 ดาบเซเว่นพาราไดซ์แม่งยังติดหูกูอยู่เลย

436 Nameless Fanboi Posted ID:k2TuyFj3in

>>434 เขียนดีกว่าของกูอีก ก็สนุกดี หรือกูยังไม่พ้นวัยจูนิเบียววะ แต่ชอบนะเรื่องนี้ บรรยายลื่นดี 5555

437 Nameless Fanboi Posted ID:TlrmZN63y1

>>426 ของกูยังกะทำวิทยานิพนธ์อินเซ็ปชั่น จำได้ว่าตอนนั้นนี่แทบสิงห้องสมุดเป็นเดือนๆ จนมานึกได้ว่านี่กูจะเขียนนิยายโลกแฟนตาซีนี่หว่า ทำไมแม่งเบนไปไซไฟแถมแม่งเริ่มดูไม่เหมือนนิยายขึ้นเรื่อยๆอีก

438 Nameless Fanboi Posted ID:.yIocfvHHH

กูนี่กลุ้มเลยอ่านสมัยเด็ก พระเอกแม่งเบียวชิบหาย
เรื่องทำนองว่าในวันที่สงบวันหนึ่ง จู่ๆ ก็เกิดเหตุฆ่ากันในลานกว้าง และในขณะที่ทุกคนกำลังหนีตายพระเอกกูก็วิ่งสวนไปเข้าสู้กับตัวการ ถึงจะปราบไม่ได้ แต่แรงฮึดและการแหกปาก "ว๊ากกก!" ก็ทำอีกฝ่ายเจ็บหนักจนถอย ก่อนที่พวกเขาจะออกตามล่าคนร้ายต่อไปโดยไม่รู้เลยว่า... มันไม่ใช่เรื่องที่พวกมึงต้องไปเสือกเขาเลยเฮ้ย!

439 Nameless Fanboi Posted ID:IkQTxDu5WQ

>>438 นั่นคือที่มาของ "อย่าทำตัวเป็นพระเอก"

440 Nameless Fanboi Posted ID:WKYl5fFFeB

Ky วันนี้เผลอไปอ่านนิยายเปิดรับตัวละครเรื่องนึงมา เนื้อเรื่องโคตรไม่สมเหตุสมผลสัสๆ ฉาก Erotic ที่ยัดมาเพื่อให้คนส่งตัวละครฟินเล่น แต่ช่างมัน กูอ่านฆ่าเวลาเพราะมันใช้วิธีเขียนแบบ Old School ( ชื่อตัวละคร : บทพูด //บรรยายการกระทำหรือฉาก) + กูไม่รู้จะอ่านไรดี กูก็อ่านไปเรื่อยจนเนื้อเรื่องมันดำเนินมาใกล้ถึงตอนจบละ แล้วมันมีนักอ่านคนนึงเว้ยที่บอกนักเขียนว่าใกล้จบแล้ว ให้ปิดรับตัวละครเลย คนเขียนก็รับคำ แต่จากนั้นไอ้คนเมนตร์มันส่งตัวละครเพิ่มไปอีกตัวพร้อม side story เสร็จสรรพเลยเว๊ย อีคนเขียนแม่งก็บ้าจี้รับเข้ามาด้วย Man of Culture สัสๆ

441 Nameless Fanboi Posted ID:R5PnA.UF+u

>>440 เซอวิสดีเหี้ยๆ การให้คนอื่นคิดตัวละครให้ส่วนเนื้อเรื่องก็ใช้เอโร่ยกลบๆเอานี่ดูลงทุนน้อยแต่ได้รีแอคชั่นเยอะดีนะ

442 Nameless Fanboi Posted ID:p+9EtVTkK6

>>440 พูดถึงเรื่อง้ปิดรับตัวละคร กูเขียนเเนวเเฟนตาซีเเล้วมันต้องใช้ตัวละครผู้กล้าพลังเเยวสร้างสรรค์ๆเยอะ กูเลยเปิดให้ส่งมาให้กันได้
...ทำไมเเม่งถึงอยากให้มีตัวเทพๆเมพกว่าพระเจ้ากันจังวะ สนุกเรอะน่ะ

443 Nameless Fanboi Posted ID:a4zzeWyWma

แนวเปิดรับสมัครตัวละคร...
เหี้ยเอ้ยยยย มันทำเอากูคิดถึงสมัยอยู่ Pramool

444 Nameless Fanboi Posted ID:.Obo6VAJYb

>>440 ขอนิดนึงตรงเมนตร์ของมึงนี่ กูขัดใจมาก

ส่วนเรื่องการเปิดรับตัวละคร ข้อดีของมันคือมีผลตอบรับจากคนอ่านมากกว่า ไม่เหงาแน่ แต่เท่าที่เคยอ่าน แม่งไม่มีเรื่องไหนจบสักที แต่กูชอบนักเขียนที่มี service mind แบบนี้จัง

445 Nameless Fanboi Posted ID:KqzyjzX3Hv

>>444 โทษที มันชินมือเวลามี ต แล้วอด ร์ ไม่ได้

446 Nameless Fanboi Posted ID:fh2ger0XNK

พวกนิยายที่ชอบเปิดรับสมัครตัวละเนี่ย ไม่เหมาะกับนิยายขายเนื้อเรื่องหรอก มันเหมาะจะมาทำเป็นโดจินมากกว่า ถ้าอยากปั่นตัวละครเองแล้วเนื้อเรื่องสนุก สู้เล่นเกมออนไลน์ไม่ดีกว่าเหรอ

447 Nameless Fanboi Posted ID:.j2xOPGyoW

>>446 ไม่ได้ใช่เป็นเมนอะไรหรอก เเค่เป็นตัวประกอบที่ขี้เกียจคิดน่ะ

448 Nameless Fanboi Posted ID:8dYKlmhwvP

พวกตัวประกอบส่วนใหญ่กูก็เอามาจากพวกเมะ มังงะ ไม่ก็เกมนั้นแหละ ดัดแปลงนิดหน่อยไม่ให้เหมือนจนน่าเกลียดก็พอ

449 Nameless Fanboi Posted ID:yG83LPbeRF

กูสงสัยมานานล่ะ ทำไมแนวต่างโลกชอบส่งพระเอกไปอยู่โลกที่ล้าหลังกว่าตัวเองวะ ไม่เห็นจะส่งไปต่างโลกที่มีความเจริญใกล้เคียงกับปัจจุบัน หรือต่างโลกที่มีอารยธรรมก้าวหน้สกว่าโลกของพระเอกละวะ

450 Nameless Fanboi Posted ID:yokol3YLCf

>>449 งั้นก็ไม่ได้โชว์ความรู้เทพทรูจากชาติก่อนดิ

451 Nameless Fanboi Posted ID:QDO8ByfGfr

>>449 มึงไม่ได้เข้าเรียนวิชาเทพทรู 101 เหรอวะ มันเขียนไว้ตั้งแต่บทแรกเลยว่า
"จงทำรอบข้างให้โง่ลงเพื่อให้ตัวเอกดูฉลาดขึ้น"

452 Nameless Fanboi Posted ID:nSerIxsTam

ไซไฟคนเสพน้อย+ ยาก มั้ง

453 Nameless Fanboi Posted ID:pa1ryTGjeH

>>452 ตามนั้น

454 Nameless Fanboi Posted ID:ZC7UwB3vVj

ถนนขาวของดอกปอปไง 55555

455 Nameless Fanboi Posted ID:XJtum18DqQ

ไซไฟ+นักเขียนไทย เปิดมาแค่นี้ก็เบะปากกันแล้วมึง ยังไม่ต้องเอ่ยถึงคุณภาพงานนะ

456 Nameless Fanboi Posted ID:E082T8z6dU

เมิ่งพูดอย่างกับว่า แฟนตาซี+นักเขียนไทย ไม่เบะปาก

457 Nameless Fanboi Posted ID:N.TnY9Qhmy

แค่มึงเป็นคนไทยก็ผิดแล้ว

458 Nameless Fanboi Posted ID:PLaXdjy8c3

น่า น่า---

459 Nameless Fanboi Posted ID:vqDthJNoBi

>>451 ตามนั้น ขนาดบางเรื่องที่เป็นพวกที่ถูกผนึกหลับ หรือเกิดใหม่แบบข้ามเวลาในยุคอนาคตโลกเดิมแม่งยังทำให้อารยะธรรมยุคมันล่มสลายจนกลายเป็นล้าหลังให้มันได้โชว์เทพเลย

460 Nameless Fanboi Posted ID:WDpCE8FwAs

>>459 อยากเขียนเเนวผู้กล้าผนึกจอมมารไปพร้อมๆกับตัวเอง พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็กลายเป็นยุควิทยาศาสตร์ไปซะฉิบ

461 Nameless Fanboi Posted ID:KW8OWJfPk7

>>460 มันมีจอมมาร เวทมนตร์ วิทยาศาสตร์มันจะรุ่งเหรอวะ

462 Nameless Fanboi Posted ID:bCJs8pDE.8

>>461 เหมือนกุเคยเห็นการ์ตูนเกาหลีเรื่องนึงทำเอาไว้ โดนเอเลี่ยนบุกแล้ววิทยาศาสตร์สู้เขาไม่ได้ เลยต้องเอาจอมเวทมาสู้แทน ถ้าเขียนเก่งหน่อยก็พอไปไหว

463 Nameless Fanboi Posted ID:HI6sKI4GEh

>>461 พอได้นะ ถ้าให้เวทมนตร์กับวิทยาศาสตร์มันไปด้วยกันได้แบบสมดุลหน่อย ไม่มีอะไรเด่นเกินหน้ากัน

464 Nameless Fanboi Posted ID:oozDfrrz31

ได้เเหล่ะ เวทมนตร์ถ้าเอาวิทยาศาสตร์มาประกอบรับรองโคตรop
วิทยาศาสตร์ก็สามารถพัฒนาได้เพราะเวทมนตร์เหมือนกัน

465 Nameless Fanboi Posted ID:XJhZGUJz2G

>>464 แล้วแต่เรื่องวะ ถ้าเป็นเวทมีหลักการก็ไปด้วยกันกะวิทย์ได้เหมือนเทพทัต (กูไม่เคยดูนะ แต่เขาว่างี้)
แต่ถ้าแบบเทพทรูตูมตามไร้หลักการนี่ ไปด้วยกันกะวิทย์ไม่ได้แน่ๆ
แต่ที่กูสงสัยคือ ในนิยายที่มีเวทมนตร์ตูมตามรุนแรง ทำไมถึงไม่ใช้กองพันจอมเวทล้วนเลยวะ ทำไมยังพึ่งพาทหารธรรมดาเป็นหลักกันอยู่

466 Nameless Fanboi Posted ID:L.Z7Jdhr8d

วิทยาศาสตร์มันก็เวทมนต์นั่นล่ะ แค่มีหลักการมาอ้างอิงเฉยๆ ว่าทำแบบนี้แล้วมันจะเกิดแบบนี้
ส่วนไอ้แนวปล่อยพลังออกจากมือนี่มันคือความเบียว ซึ่งความเบียวมีก็ไม่ผิดนะ แต่ต้องมีในระดับที่เข้ากับเนื้อเรื่อง ทว่าถ้าหากตัวละครแหกปากแล้วโลกแตกนี่ก็ถือว่าเบียวเกินไปละ

467 Nameless Fanboi Posted ID:uzut4pOCHo

>>463 ขอแค่ไอ้คนเขียนไม่ลำเอียงก็พอ ลำเอียงทางไหน เทพทางนั้น

468 Nameless Fanboi Posted ID:2S.23MVRH.

>>461 ได้แหละ แต่เวทกับวิทย์ถ้ามันโตทางนึงก่อนแล้ว จุดที่ให้อีกทางพัฒนาตามมันก็ต้องหาเหตุผลรองรับให้ดีนะ อย่างเช่นผู้กล้ากับจอมมารนี่จริงๆเป็นวัฏจักรให้มีตัวตนเกิดตายแล้วฆ่ากันวนเวียนเพื่อให้กระแสเวทย์มนตร์ในโลกไหลเวียนเหมือนขั้วแบตเตอรี่ แต่ในยุคของตัวเอกพวกมนุษย์ดันหาวิธีผนึกแทนเลยกลายเป็นการตัดวงจรเวทย์ของโลก พลังเวทย์บนโลกเลยเบาบางลงจนสิ่งมีชีวิตดึงมาใช้ได้ยากขึ้น ก็เลยเบนเข็มมาพัฒนาวิทยาศาสตร์แทน

469 Nameless Fanboi Posted ID:vHKAdkfpl9

>>468 เชร้ ลงล็อคสัส คารวะหนึ่งจอก

470 Nameless Fanboi Posted ID:bCJs8pDE.8

ถามว่ามีเวทแล้ววิทย์สู้ได้มั้ย มึงดูindexเอาละกัน 5555

471 Nameless Fanboi Posted ID:57f5F7OIfR

>>470 หมัดแห่งความยุติธรรม

472 Nameless Fanboi Posted ID:uzut4pOCHo

>>471 มาพร้อมกับฮาเร็มโดยไม่ได้ตั้งใจ

473 Nameless Fanboi Posted ID:4yxdyp37Jj

อินเดกซ์มันลำเอียงว่ะ เพราะเนื้อเรื่องมันโฟกัสในส่วนเวทมากกว่าวิทย์
กูแทบไม่เห็นวิทย์เพียวๆถล่มเวทเลย มีแต่สายผสมกับสายเวท ยิ่งตอนเนิฟแอคเซ่ที่น่าจะเป็นวิทย์ที่เก่งสุดนะ กูมองบนอะ แต่กูให้อภัย แอคเซ่ตอนซึนๆแล้วเดเระแตกมันน่ารักดี

474 Nameless Fanboi Posted ID:DETzFOxwUE

อินเด็กซ์มันแยกรูทชัดนะ ตอนวิทย์คือวิทย์ ตอนเวทย์คือเวทย์ พล็อตเรื่องก็แยกให้ใช้ด้วยกันไม่ได้อยู่ละ(แบบแอคเซ่)

475 Nameless Fanboi Posted ID:4lJ3IE.bh6

>>473 วิทย์เทพๆเเม่งอยู่เรลกันหมดไง

476 Nameless Fanboi Posted ID:.SI73DVjxW

อินเด็กซ์เอาตามจริงฝั่งวิทย์นี่ไม่มีใครสู้ฝั่งเวทย์ได้เลยนะ ถ้าไม่ใช่ 3 พระเอก ซึ่งทั้งหมดแม่งก็บทส่งทั้งงั้น

477 Nameless Fanboi Posted ID:PKYYXHEyFI

วิทย์แม่งเสียเปรียบเวทเต็มประตู เวทแม่งจะโม้เหม็นยังไงก็ได้แต่วิทย์มันต้องมีเหตุผลมารองรับ
เหมือนเอาเทิร์นเอไปสู้สายซุปเปอร์อ่ะ ยังไงก็ยังแพ้

478 Nameless Fanboi Posted ID:whrO2xBNJh

ไอ้พวกนิยายเเนวไปโลกอนิเมะต่างๆเนี่ย เมนหลักมันอยู่ที่ไหนวะ คือเป้าหมายหลักของการเดินทางคืออะไรอะ กูขี้เกียจอ่าน

479 Nameless Fanboi Posted ID:UMnpCr51Ew

>>478 โชว์เทพให้พวกหลวมได้ self-insert

480 Nameless Fanboi Posted ID:9d9zDC80t2

>>478 เอจจี้ เทพซ่าไปวันๆ

481 Nameless Fanboi Posted ID:whrO2xBNJh

>>479 >>480 โอ้ว ไอซี

482 Nameless Fanboi Posted ID:whrO2xBNJh

อยากเห็นคนเขียนนิยายไปโลกอนิเมะเเบบ เพราะว่าโลกอนิเมะต่างๆเนื้อเรื่องมันผิดเพี้ยนไปหมด ไอ้พระเอก(หรือนางเอก)ก็เลยต้องเดินทางไปโลกต่างๆเพื่อให้เรื่องราวมันกลับมาเป็นเหมือนเดิม

483 Nameless Fanboi Posted ID:GYmh57jQkC

>>482 เขียนเล่นคงได้ แต่ตีพิมพ์นี่ต้องอด 555

484 Nameless Fanboi Posted ID:9VwmPcRXn3

>>478 เป็นดีเคดไง

485 Nameless Fanboi Posted ID:whrO2xBNJh

>>484 เออว่ะ ก็ว่าอยู่ว่ามันคุ้นๆ555

486 Nameless Fanboi Posted ID:SAMjSi5ue/

>>478 เอาระบบโลกนั้นมาเนิฟเป็นโหมด newcomer แล้วก็บัพคูณ exp&skill point ให้ตัวเอกที่จะใช้เซลฟ์อิน เพื่ออุปโลกน์ว่าตัวมันเข้าใจโลกนั้นดีกว่าเจ้าของเรื่องต้นฉบับ...อันนี้คงแรงไป เอาเป็นเพื่อตีความใหม่ตามความเข้าใจในแบบเฉพาะตัวแทนละกัน

487 Nameless Fanboi Posted ID:whrO2xBNJh

>>486 ถถถถ

488 Nameless Fanboi Posted ID:LEcZRh/kEL

>>476 ธีมอินเด็กซ์มันคือการนำเสนอเวทมนตร์ที่สอดแทรกในโลกวิทยาศาสตร์เป็นหลักน่ะ คนเขียนเลยยกฝั่งเวทให้เหนือกว่า
ถ้าเรื่องในทางกลับกันนี่ต้องเรื่องเกทมั้ง เอาทหารสมัยใหม่มาโชว์เทพในโลกแฟนตาซี

>>449 >>454 พูดไปก็คิดได้ ในเฟทไดอารี่(บางทีอาจจะมีเรื่องอื่นในมหากาพย์ด้วย) มีโลกที่วิทยาการที่ล้ำกว่า แต่ก็เอาตัวละครเพกาซัสสุดแกรี่ไปข่มด้วยว่าเพราะเทคโนโลยีล้ำ ระบบความรักษาความปลอดภัยเลยสูง และคนในโลกนั้นก็เลยอ่อนแอง่อยเปลี้ย สู้คนในโลกตัวเองที่ดิ้นรนไม่ได้

489 Nameless Fanboi Posted ID:K1R9HLLNVb

>>488 มึงอ่านงานของไอ้เหี้ยนั่นลงได้ไงวะ

490 Nameless Fanboi Posted ID:A/kCRz2pwm

>>489 เรื่องไหนนะ บอกด้วย

491 Nameless Fanboi Posted ID:yydV8rUKNY

>>490 น่าจะหมายถึงมาสเต้อปอบ

แต่ไอ้แนวต่างโลกเนี่ยเห็นบ่อยที่พระเอกแม่งจะมีพลังแบบที่คนในโลกนั้นไม่มี หรือไม่มีขีดจำกัดบางอย่างที่คนโลกนั้นมี ทำให้แม่งเก่งโกงได้ตั้งแต่ตอนแรกๆ เลย พวกนักอ่านสายเซลฟ์อินเซิร์ทจ๋าๆ แม่งก็เฮกันไป

492 Nameless Fanboi Posted ID:u3mAXqzK/q

KY ถามหน่อย กูไม่ค่อยชัวร์
เรือรบอังกฤษช่วงก่อน WW1 ไม่กี่ปี ก็ยังโดนโจรสลัดยึดได้เหมือนศตวรรษที่ 18 เหรอวะ..กูอ่านเรื่องหนึ่งที่อังกฤษกะพันธมิตรยกพลขึ้นบกประเทศตัวเอก และทันใดนั้นกองเรือโจรสลัดฝ่ายตัวเอกก็โผล่มาแล้วเข้าประชิดก่อนจะบุกขึ้นเรืออังกฤษและยึดเรือได้
คนเขียนให้เหตุผลว่า 1.เรือโจรสลัดมันเร็ว อังกฤษยิงไม่ทัน 2.ทหารอังกฤษบนเรือกำลังยกพลขึ้นบกกันอยู่ คนบนเรือเลยน้อย
เรื่องไม่ได้ระบุชนิดเรือ แต่กูว่าน่าจะลำใหญ่อยู่นะเพราะยิงถล่มชายฝั่งได้...

493 Nameless Fanboi Posted ID:7+r/n1tZY6

>>492 เชี้ยม บ้าบอบัดซบ โลกนี่เเม่งมีสิ่งที่เรียกว่าปืนรองนะเว้ย

494 Nameless Fanboi Posted ID:A/kCRz2pwm

>>492 จะมีคนเขียนบางประเภทเนี่ย รู้ประวัติศาสตร์ครึ่งๆกลางๆ แต่เสือกคิดว่าตัวเองตรัสรู้หมดจด

495 Nameless Fanboi Posted ID:LkhDNGI1yE

>>492 เอิ่มมม ทำไมพวกโจรสลัดไม่โดน Maxims ยิงถล่มวะ?

496 Nameless Fanboi Posted ID:LkhDNGI1yE

>>495 https://en.wikipedia.org/wiki/Maxim_gun#/media/File:USSVixenMaximMachineGun.1898.ws.jpg
เพิ่มเติม เรือติดปืน Maxim ในยุคก่อน WW1 (1898)

497 Nameless Fanboi Posted ID:qE2nBViaO7

>>496 สารภาพว่าตอนเห็นคำ vixen แวบแรกไม่ได้คิดถึงเรือ ถถถ

498 Nameless Fanboi Posted ID:P7QLG4ql9J

>>493 อะไรคือปืนรองเหรอโม่ง คือไม่มีความรู้อาวุธขอเป็นวิทยาทาน

499 Nameless Fanboi Posted ID:WugyZyeDBZ

>>491 ต่อให้แนวแฟนตาซีทั่วไป ขึ้นชื่อว่าตัวเองก็ต้องมีอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่นอยู่แล้ว กูว่าก็ไม่แปลกนะ ปัญหาคือต่างโลกหลายเรื่องแม่งทำให้ตัวเองเก่งหลุดสเกลจนไม่ต้องลุ้นนี่แหละ

500 Nameless Fanboi Posted ID:7+r/n1tZY6

>>498 เรือมันจะมีปืนอยู่หลักๆสามเเบบ ดูอันนี้ประกอบละกัน
https://en.wikipedia.org/wiki/Battleship_secondary_armament#/media/File:HMS_Iron_Duke_(1912).jpg
ปืนหลัก ก็ป้อมใหญ่ๆนั้นเเหล่ะ เเรงโคตร โหลดนาน
ปืนรอง ป้อมที่อยู่รอบๆเรือ โหลดไม่นานเท่าไหร่ เเต่ระยะไม่ไกล
เเล้วก็ปืนต่อต้านอากาศยาน อันนี้ก็ตามชื่อ
มึงจะเห็นว่าปืนรองมันจะเยอะกว่าปืนหลักอีก ถึงมันจะไม่ค่อยเเม่น เเต่ถ้าเเม่งเข้ามาทาบเรือยังไงก็โดนยิงหน้าเเหกเเน่ๆอะ

501 Nameless Fanboi Posted ID:7+r/n1tZY6

>>500 อนึ่ง เรือยุคเเรกๆบางลำเเม่งไม่มีปืนหลักด้วยซ้ำ มีเเต่ปืนรอง

502 Nameless Fanboi Posted ID:9GbH0P4igm

ไอ้กุดุสกุดุสยังมีคนชอบ กูไม่แปลกใจแล้วล่ะว่าใครจะอ่านเรื่องไหนอีก

503 Nameless Fanboi Posted ID:A/kCRz2pwm

>>502 นิยายกุดุสกุดุสถูกลบทิ้งแล้ววะ เซ็งเบย

504 Nameless Fanboi Posted ID:OalMrtMWtB

>>503 จริงเหรอวะ แม่งเอ๊ย กุว่าจะเอาไว้ให้เด็กมันดูซะหน่อยว่าเคยมีนิยายพรรค์นี้อยู่ด้วย แต่กุพอมีตัวอย่างอีกเรื่องแทนนะ มันเป็นไลท์โนเวลที่กุจำชื่อไม่ได้ จำได้แค่พระเอกมันโดนดูดไปโลกอิเซไคตามสูตรแล้วไปได้หมาป่าเป็นพวก (เหมือนจะมีแนวนี้อยู่ 1-2 เรื่อง)

มันคล้ายกันตรงที่เรื่องนี้เจอไอ้ฟองเบียร์ไปบ่นในกลุ่มคุยเฟื่องไลท์โนว่าแปลได้น่าผิดหวังมาก คือฉากต่อสู้ของพระออกเนี่ยมันมีค่ำว่า ย๊าก ฟุ่บๆ ฉัวะๆๆๆ อยู่ 2-3 หน้า ในเล่มที่ 2 ของเรื่องนี้ จนฟองเบียร์บอกว่าจะไม่ซื้อเล่มต่อไปถ้ายังแปลฉัวะๆ กุดุสๆ แบบนี้อีก

505 Nameless Fanboi Posted ID:fIe00YvYR2

>>500 >>501 ขอบคุณมากโม่ง //กราบ

506 Nameless Fanboi Posted ID:fIe00YvYR2

>>503 กลายเป็นมีมซะขนาดนั้นจะโดนลบเหมือนอีเจ็ฟฟอร์ดก็ไม่แปลก

507 Nameless Fanboi Posted ID:GH/ftssr5h

>>504 เอานี่ไปแทน กูเซฟจากเว็บบอร์ด https://imgur.com/a/xIvJWs1

508 Nameless Fanboi Posted ID:xKqXd8ZqE0

>>492 ก่อน WW1 ยกพลขึ้นบกอะไรของแม่งวะ มันเพิ่งจะมีการยกพลขึ้นบกจริงๆ เป็นยุทธวิธีแบบแพร่หลายก็ตอนเริ่ม WW1 นี่แหละ แล้วเรือขนคนที่ใช้สำหรับการยกพลแบบเรือ Amphib มันก็เพิ่งจะมาเริ่มใช้กันจริงจังตอน ww1 ก่อนหน้านั้นมันมีแค่ในสงครามแปซิฟิคที่เอาทหารขึ้นเรือพายแล้วเข้าตีที่ชายฝั่งปิซากัวในเปรู (Battle of Pisagua) ครั้งเดียว แล้วแทบจะไม่มีอีกเลย
มีแต่เรือปืนยิงถล่มเข้าฝั่ง ส่วนกำลังพลเดินเท้าเอาเพราะสงครามมันไม่ได้ขยายวงไกลข้ามทะเลเหมือนใน WW เลยไม่มีความจำเป็นต้องมีเรือขนคนขนาดนั้น
แล้วจริงๆ เรือที่ใช้ขนคนเพื่อยึดหัวหาดมันก็ไม่มีปืนหนักที่เอาไว้ยิงเข้าฝั่งได้ด้วยนะ ปกติก็ต้องบรรทุกหนักชิบหายอยู่แล้วทั้งทหาร ทั้งรถถัง ยังจะติดปืนใหญ่เข้าไปอีกจมกันพอดีห่า
ขนาดเทคโนโลยีปัจจุบัน พวกเรือ LCI (Landing Craft Infantry) บางทีก็เรียก LCU (Landing Craft Utility) เขาก็ไม่ติดอาวุธหนักๆ กันอยู่แล้ว มันไม่ใช่เรือรบมันจะติดอาวุธให้เปลืองงบ เปลืองน้ำมันทำห่าอะไร แค่มีเอาไว้ป้องกันตัวเองก็พอแล้ว แถมปกติมันก็มีพวกเรือพิฆาตคุ้มกันอยู่แล้วด้วย

พล๊อตโฮลไม่ใช่เรื่องที่มันโดนโจรสลัดปล้นเรือหรอก แต่มันพลาดมาตั้งแต่เรื่องข้อมูลอ้างอิงแล้ว

509 Nameless Fanboi Posted ID:RGx3V71639

กูทั้งรักทั้งเกลียดไอ้ปากกาแดงดำจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องยุทธภพออนไลน์ของมัน ที่ทั้งใช้คำผิด เซ็ตติ้งเพี้ยนๆ และรสนิยมห่วยๆ บ้านนอกๆ ของมัน (อันนี้รำคาญสัส พระเอกและพวกสาวๆ มาจากตระกูลโคตรรวย แต่ขับฮอนด้าแจ๊ส สวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ไปเรียน เวลาไปเที่ยวก็สวมเสื้อเชิ้ตขาวกางเกงสแล็ค แถมมีเดินโลตัสบิ๊กซีด้วย คุณหนูสัสๆ) แต่กูก็ต้องชมว่ามันเป็นนักเขียนที่สร้างปมได้สนุกน่าติดตาม โดยเฉพาะตอนท้ายที่รวบเอาเรื่องในเกมกับนอกเกมเข้ามาด้วยกันได้อย่างน่าสนใจ จนทำให้เรื่องนอกเกมแม่งสนุกกว่าเรื่องในเกมอีก

510 Nameless Fanboi Posted ID:jy+t2shsCU

>>507 เชี่ย กูพยายามกลั้นขำ... แม่งเอ๊ย

511 Nameless Fanboi Posted ID:BwNqmI5wAI

>>508 กูลองไปอ่านใหม่ละ กูตัดบทบรรยายที่ว่ามาให้อ่านพิจารณาเลยละกัน
ตอนสั่งบุก
"อาร์ดวินสั่งให้ทหารลงเรือเล็กแล้วแจวเรือขึ้นฝั่ง"
ก่อนโจรสลัดมา
"ในขณะเดียวกันนั้นเอง ที่กองเรือของพวกต่างชาติ ในขณะที่พวกเขาระดมยิงปืนใหญ่ใส่ที่มั่นข้าศึก"
โจรสลัดมาแล้วประชิดเรือ
"จู่ๆก็มีกองเรือนับสิบแล่นเข้ามาใกล้พวกเขา ด้านบนมีธงดำมาแต่ไกล "แย่แล้ว พวกโจรสลัด รีบหันเรือยิงใส่มันเร็ว" พวกเขาพยายามจะกลับลำเรือเพื่อยิงสกัด แต่เรือของโจรสลัดก็แล่นมาเร็วเกินไป พวกมันเข้าประชิดเรือของต่างชาติอย่างรวดเร็ว"
ช่วงโจรสลัดบุกขึ้นเรือแล้ว
"เนื่องจากทหารส่วนใหญ่ยกพลขึ้นบกกันหมดแล้ว ทำให้เรือของพวกนั้นโดนเล่นงานอย่างง่ายดาย"

512 Nameless Fanboi Posted ID:nycW.xYjwl

>>511 หมุนป้อมสิไอ้ควายยยยยยยย หมุนเรือพ่อง!!!! เรือเชี้ยอัลไลติดปืนข้างเดียววะเนี่ย
ว่าเเต่ อีกพวกคนเถื่อนขับเรือใบเเม่งมีปัญหาใช้เรือดีเซลด้วยเหรอวะ

513 Nameless Fanboi Posted ID:nycW.xYjwl

>>512 *ปัญญา

514 Nameless Fanboi Posted ID:GH/ftssr5h

>>511 ทำไมกูเห็นภาพโจรสลัดกำลังใช้เรือเจ็ทสกีพัทยา

515 Nameless Fanboi Posted ID:Lp43mm87gu

>>511 ฉากนี้ฉากเดียวกูเห็นความไม่สมเหตุสมผลเต็มเลยว่ะ อย่างแรกสุดก็ที่>>512 มันบอกอ่ะ ไอ้ชิบหาย มึงใช้เรือสำเภากันอยู่รึไงถึงต้องหันเรือยิง
ถ้าเป็นช่วงก่อน WW1 ไม่กี่สิบปีก็หมายความว่ามันอาจจะเป็นช่วงสงครามแปซิฟิคพอดี อย่างที่กูเคยบอกแหละว่ามันมีการยกพลขึนตีหาดปิซากัว ช่วงนั้นด้วย แต่ตอนนั้นเรือรบแม่งทอดสมออยู่ในอ่าวเป็นสิบเลยนะมึง แล้วในเรื่องนี่คือแม่งเอาเรือไปบุกที่มั่นข้าศึกลำเดียวรึไง แล้วลำอื่นหายไปไหนหมด หรือลอยเป็นขอนไม้เฉยๆ พอเรือฝั่งเดียวกันโดนยึดไปก็ไม่ทำอะไร งี้ก็ได้หรอวะ 555
แล้วกัปตันเป็นส้นตีนอะไรถึงสั่งให้กลาสีทิ้งเรือแล้วบุกขึ้นฝั่งจนโดนโจรสลัดยึดได้ง่ายๆ ขนาดนั้น ต้องเหลือคนในเรือน้อยขนาดไหนวะน่ะ เรือรบช่วงนั้นมันต้องใช้คนพอสมควรเลยนะ ยังไม่รวมทหารที่ประจำปืนใหญ่ที่ยิงเข้าฝั่งอีก แค่คอยลำเลียงกระสุนเข้ารังเพลิงแม่งก็ใช้คนเป็นสิบแล้ว พวกนี้หายไปไหนหมด
แล้วโจรสลัดชักธงดำมาแต่ไกลคือเชี่้ยอะไร๊!! คนแต่งมึงดูวันพีชกับแจ๊คนกกระจอกมากไปแล้วสัด โจรสลัดมึงต้องห้าวขนาดไหนถึงชักธงรบแล้วดุ่มๆ เข้าใส่กองเรือรบเนี่ย แถมมาเป็นกันเป็นกองเรือแต่ทหารเรือเสือกไม่ทันเห็นอีกต่างหาก (โจรสลัดมีกองเรือ เย็ดเข้ กูนึกว่าสิงค์โปรยุคล่าอาณานิคมเถอะ นี่แม่งยุคอุตสาหกรรมแล้วนะ มีเครื่องบินใช้กันแล้วนะเห้ย)

516 Nameless Fanboi Posted ID:l8TnwiBjlb

คงแบบยกพลมาแค่ลำเดียวแล้วฝ่ายตัวเอกก็อุ๊ย กำลังยกพลขึ้นบกเลยเผลอ พวกเราประกาศตัวโจมตีแม่งเลยไรงี้มั้ง 555 กูไม่รู้เรื่องอะไรพวกนี้เลยนะ แต่ก็คิดอ่ะว่าทหารบ้านไหนจะปล่อยให้ตีง่ายขนาดนั้นเลยเรอะ

517 Nameless Fanboi Posted ID:LLbgtTY8WT

>>515 อาจจะโดนสั่งมาลำเดียวแล้วให้ใช้กามิกาเซ่เลยงี้ นั่นแสดงว่าทหารแก๊งนั้นโดนสั่งตายโง่ๆแถมเนียนยกเรือให้โจรอีก มีหนอนแน่ๆ

518 Nameless Fanboi Posted ID:0uSYSTzvIt

>>514 ภาพหัวโมฮอคยี้ฮ่าในเรื่องหมัดดาวเหนือลอยมาเลยสัด

519 Nameless Fanboi Posted ID:CAnT./nUiF

>>518 เชี้ยโคตรเห็นภาพ5555

520 Nameless Fanboi Posted ID:WcowLiRlju

เดี๋ยวนี้พวกนิยาย อาชญากรรม ระทึกขวัญ สืบสวนสอบสวน มันต้องเอาไปเผยแพร่ที่ไหนวะ รู้สึกว่าอยู่ยากชิบหาย

521 Nameless Fanboi Posted ID:Y8P2eBU4MR

>>520 มันใช้สมองมากไปเด็กดวกไม่อ่าน ไม่โม่ย ไม่เทพทรู ยิ่งยาก

522 Nameless Fanboi Posted ID:Lp43mm87gu

>>520 สนพ. แนวนี้ยังรับอยู่ แต่ต้องดีจริงนะ ถ้าเขียนมากากๆ ก็ลงเว็บแล้วเก็บวิวหลักสิบหลักร้อยไป

523 Nameless Fanboi Posted ID:HfT1bGuG4w

>>522 รับจริงหรอ เวลากูเดินแผงหนังสือ ไม่เคยเห็นงานของไทยเลยนะ
ที่กูพูดถึงคือแนวอาชญากรรมแท้ ๆ แบบฝรั่ง ไม่ใช่สืบไปพลอตรักไป แบบนั้นกูไม่นับว่าเป็นสืบสวนว่ะ

524 Nameless Fanboi Posted ID:VKegVQDRSZ

>>520 อ่านงานแปลดีกว่า คนไทยแม่งไม่มีปัญญาเขียนหรอก ให้มันเขียนรักน้ำเน่ากันต่อไป

525 Nameless Fanboi Posted ID:Lp43mm87gu

>>523 แนวที่เป็นสืบสวนแท้ๆ มันออกน้อยอยู่แล้วไม่แปลกที่จะหายากหน่อย แต่มันออกมาเรื่อยๆ นะ ถ้ามึงชอบอ่านแนวนี้แต่เสือกเดินหาไม่เจอเลยจริงๆ นี่กูก็ไม่รู้จะแนะนำยังไงแล้วล่ะ
มึงไปเดินซอกโซนไหนมา หรือเห็นปกมันไม่สวย ไม่มีรูปคนตาย ไม่มีรูปอาวุธเลยเหมาว่าไม่ใช่สืบสวนหรอวะ หรือพอเห็นปกน่ากลัวๆ ก็เหมาว่าเป็นสยองขวัญหมด สืบสวนมันตีคู่มากับสยองขวัญครึ่งต่อครึ่งอยู่แล้วนะมึง หรือเห็นว่ามีชื่อเรื่องเหมือนนิยายรักเชยๆ มึงเลยเหมาเอาว่าเป็นนิยายรักหมด
แล้วแนวสืบสวนฝรั่งที่มึงว่าเนี่ย นอกจากที่มันสากลๆ แบบของโคนันดอย แดนบราวน์ อกาธ่า แล้วกูขอชื่อเรื่องอื่นมึงเคยอ่านหน่อย กูอยากรู้ว่าจะถึงยี่สิบเล่มมั้ย เพราะสืบสวนฝรั่งแม่งก็ออกน้อยพอๆ กันแหละ ได้เห็นซักเล่มสองเล่มต่อปีนี่ก็เยอะละ ถ้าไม่นับสืบสวนญี่ปุ่นเพราะประเทศนี้นิยายสืบสวนขายดีอันดับสอง

526 Nameless Fanboi Posted ID:VKegVQDRSZ

>>525 ก็ปกดัง ๆ

527 Nameless Fanboi Posted ID:yB3mYS3mmA

>>525 ก็พวกนักเขียนดัง ๆ ทั้งหลายไง Lee Child ฮาลาน ฉินหมิง พวกห่านี่ออกแทบทุกปี
แต่ที่กูบ่นคือ ทำไมกูแทบไม่เห็นนิยายพวกนี้ในชั้นหนังสือไทยเลย ถ้ามึงรู้ก็แนะนำมาหน่อย เอาซักในรอบ 3 ปีนี้ ปีละเล่มก็ยังดี

528 Nameless Fanboi Posted ID:yB3mYS3mmA

>>525 อ๋อ มึงไม่ต้องยกพุ่มรักพานสิงของอาวินทร์มานะ เล่มล่าสุดนี่แม่งนิยายการเมืองชัด ๆ

529 Nameless Fanboi Posted ID:GH/ftssr5h

การินนับมั้ยหว่า

530 Nameless Fanboi Posted ID:O39uDssUuQ

>>529 ไม่ใช่ว่าการินมันเป็นการ์ตูนเหรอวะ

531 Nameless Fanboi Posted ID:nycW.xYjwl

>>530 นิยายก็มี

532 Nameless Fanboi Posted ID:VKegVQDRSZ

>>531 กูนึกว่าเป็นแฟนตาซีซะอีก 555555

533 Nameless Fanboi Posted ID:sFsVUcqpsJ

>>532 ตามสูตรเลยด้วย ฮาเร็ม พระเอกเทพทรู ดาร์กแบบนิยายเด็กดี

534 Nameless Fanboi Posted ID:y8Ef3/rof0

>>533 เด๋วๆๆๆ การินมีฮาเร็มด้วยเหรอวะ

535 Nameless Fanboi Posted ID:RYUhrdV.YO

กุว่าหลังๆขายวายนะ การินเนี่ย

536 Nameless Fanboi Posted ID:t1bxJZ7ZMV

>>533 ดาร์กแบบนิยายเด็กดีคือดาร์กวอนนาบีรึเปล่า ถ้ากูจำไม่ผิด

537 Nameless Fanboi Posted ID:JYUoifl0hv

การินภาคแรกน่ะแค่ซึน แต่ภาคต่อ+การ์ตูนที่เข้าช่วงสลักฯน่ะดาร์ควอนนาบีของแท้ว่ะ
เสียดายตังค์ชิบหาย

538 Nameless Fanboi Posted ID:pUL8z4j2ID

แบบyondomeนี่คือดาร์ควอนนาบี หรือจริงๆเราคิดกันไปเองว่ามันจะดาร์คเพราะปูมาดาร์ควะ?

539 Nameless Fanboi Posted ID:MmYZCOF2wf

>>538 เห็นมึงพูดเลยไปลองอ่านมังงะมา
กูไม่รู้นิยายเป็นยังไง
เเต่มังงะเเม่งพังพินาศมาก
พังเพราะลายเส้นคนวาดนี่เเหล่ะสัส

540 Nameless Fanboi Posted ID:W5CIFAbrzJ

ปรึกษาหน่อยพวกมึง คือกูกำลังเขียนนิยายเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องแฟนตาซีเล็ก ๆ ประมาณว่าตัวเอกมีพลังวิเศษนิดหน่อย

แต่พอกูดูจากโครงเรื่องแล้ว มันน่าจะจัดอยู่ในหมวดสืบสวน เพราะเน้นไขปริศนา

กูอยากรู้ว่าควรลงหมวดไหนดีวะ ระหว่างแฟนตาซีกับสืบ คือใจอยากลงสืบสวนนะ แต่หมวดสืบตอนนี้เงียบเป็นป่าช้า กลัวไม่มีคนอ่านว่ะ

541 Nameless Fanboi Posted ID:2V5IMmh9MY

>>540 แนะนำว่าลงแฟนตาซีแล้วติด tag สืบสวนเอา

542 Nameless Fanboi Posted ID:bAB5cBr3uT

>>540 ถ้ามึงยังเรียกมันว่าแฟนตาซีได้ ก็ตามนั้น

543 Nameless Fanboi Posted ID:vMY/YFmk4R

มีคนเปิดเรื่องการินมาขอบ่นหน่อย

เเบบหนังสือการ์ตูนกูยอมรับเลยว่า 3 บทแรกมันโอเคอยู่ หักมุมใช้ได้(โดยเฉพาะไอ้ตอนสวนสนุกกูให้เป็น the best ในเรื่องเหี้ยนี่ละ) จนกระทั่งไอ้เชียรมากูก็ เออ คงได้อยู่ มีตัวร้ายหลักมั่ง ไม่งั้นแม่งตามโคนันไปแน่ แต่กูดรอปเรื่องนี่ตอนที่มันมีลูกน้องรวมพลคน edgy อะ แบบเหมือนเเม่งคนเขียนนึกอะไรไม่ออกก็เลยใส่มางั้น ๆ มาแบบสีข้างถลอกด้วยเรื่องเหมือนเป็นลูกน้องตั้งนานละแต่ทำไมก่อนหน้านี้ตอนที่เชียรอัดกับการินชิบหายวายป่วงแม่งหายหัวไปไหนวะ

544 Nameless Fanboi Posted ID:aXZtaYWhaH

>>543 เดี๋ยวนี้เชียรมีลูกน้องด้วยเรอะ เลิกตามไปนานละ ไม่รู้เดี๋ยวนี้เป็นไงมั่งละ แต่ลายเส้นฉบับการ์ตูนกับปกนิยายด้วยมั้ง แม่งดูแปลกขึ้นทุกวันๆ

545 Nameless Fanboi Posted ID:k7PGqNLQIG

กูต่อเอง
การินตอนแรกกูเฉยๆนะ คิดว่าก็แค่แฟนตาซีทั่วไปเหมือนเรื่องอื่น ขนาดไอ้ข่าวที่ปั่นกันว่าดังถึงตปท.กูยังไม่แล กูมาเริ่มอ่านจริงๆก็ตอนได้แตะการ์ตูนบทกวีวิฬาร์อาฆาต เป็นบทที่กูรู้สึกว่าแม่งว้าวสัสๆ คนแต่งแม่งทุ่มเทหาข้อมูลอ้างอิงและได้เอามาใช้ประโยชน์จริงๆ อันอื่นอย่างโคโดคุหรือลอยกระทงมันเบๆไป แต่ไอ้กลอนแมวอัปมงคลนี่ทำกูอยากหาอะไรไทยๆมาอ่านอยู่ช่วงนึงเลย
ส่วนที่ทำให้กูตามการินจริงๆคือตอนกูได้อ่านนิยายเล่มความทรงจำในซากดอกไม้กับสุขสันต์วันถึงฆาต เพราะแม่งทำให้กูได้รู้ว่าคนแต่งมันพยายามสร้างพื้นเพดีๆให้ตัวละครเหมือนกัน ไม่ใช่ยัดกูดาร์ค กูโดนความเจ็บปวดมาก่อน กูมีดราม่าแม่จะฆ่ากูมาดื้อๆเหมือนนิยายเว็บที่ยัดมา2-3ตอนแรกไว้เรียกแขก

แต่ตอนนี้ทุกอย่างแม่งพังหมดแล้วว่ะ กูรู้ว่ามันเริ่มเน่าตั้งแต่นิยายเล่มบันทึกเขียนกรรมละ แต่ตอนนี้แม่งแทบไม่เหลือส่วนที่มันทำให้กูตามเรื่องนี้มาแล้วว่ะ กูกำลังจะเริ่มวางแผนทยอยขายภาคต่อทั้งหลายให้เหลือแค่ภาคแรกละ
แค่นี้ล่ะ บัยส์

546 Nameless Fanboi Posted ID:CrL9.v297A

กูยังชอบเนื้อเรื่องแยกของเชียรอยู่นิดๆนะ แต่ตอนนี้ก็เลิกตามแล้วเหมือนกัน

547 Nameless Fanboi Posted ID:tHgS93TOU6

ได้ข้อความนี้มา

สวัสดีครับ ผมเป็นนักเขียนที่ใช้นามปากกาว่า (cencered)​

ผมเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องการเขียนนิยาย ตอนนี้ออกหนังสือไป 5 เล่มแล้วครับ

ผมกำลังจะเขียนหนังสือเล่มใหม่เกี่ยวกับการขายนิยายออนไลน์ จึงอยากจะสัมภาษณ์ผู้ที่มีประสบการณ์ทางด้านนนี้ไปลงในหนังสือ เพื่อเป็นวิทยาทานแก่คนที่สนใจ และเป็นการโปรโมตนิยายของคุณเอง

วิธีการก็ไม่ยากครับ เข้าไปตอบแบบสอบถามที่ผมทำไว้

***ข้อมูลที่ให้เลือกจะไม่ได้แสดงเป็นรายบุคคล

***ส่วนข้อมูลที่ให้พิมพ์จะเป็นข้อมูลที่แสดงในรูปแบบการสัมภาษณ์ครับ

***ร่วมการสัมภาษณ์ได้ตั้งแต่วันนี้ - 5 มี.ค. 2562 นะครับ

548 Nameless Fanboi Posted ID:TyJoJxCTk0

การินนี่กูจำได้ สมัยเพิ่งเข้ามหาลัยนี่ชอบมาก แต่พออีเชียร์เริ่มออกมานี่ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนละ
คือแม่งขยายสเกลเร็วเกินไปหน่อยอะ แถม Character เชียร์แม่งออกแนวโชเน็น edgy อีกต่างหาก ยังไม่นับรวมถึงพลังพิเศษของมันนะ คือการินแรกๆ มันก็แนวคนธรรมดา vs สิ่งลี้ลับใช่มะ แต่พออีกเชียร์มาแม่งกลายเป็นคนธรรมดา vs Superhuman ไปเลยอะ แล้วแม่งพาลทำเอาความรู้สึกชวนอินค่อยๆ หายไปจนไม่เหลือแรงให้ตาม

549 Nameless Fanboi Posted ID:W+.+zlr7Sg

>>548 ถ้าโคนันมาตรรกะเดียวกับการิน สงสัยโคนันจะงัดหมัดดาวเหนือต่อยลุงโมริ จอมโจรคิดใช้เนตรวงแหวน ชายชุดดำใช้ผลไม้ปีศาจ

550 Nameless Fanboi Posted ID:sCeYxJ17HZ

>>544 ใช่ เช่นไอ้นักมายากลที่ edgy สัส ๆ

>>545 เออ ลืมไปเลยบทกวีวิฬาร์ สำกรับถ้านับตั้งแต่เชียรมาตอนนี้ดีสุดละ(แต่กูให้เป็นรองสวนสนุกอยู่)

551 Nameless Fanboi Posted ID:TFP1/U/ZuN

>>539 กรูขอโทษษษษ ปกติกรูแตะแต่นิยายเลยลืมดูว่ามีมังงะด้วย

552 Nameless Fanboi Posted ID:W+.+zlr7Sg

>>551 เรื่องนี้เฟลตั้งแต่ยัดเยียดมั่วถั่วหวังเรียกเรตติ้งแล้วล่ะ

553 Nameless Fanboi Posted ID:W+.+zlr7Sg

ศัพท์ใหม่ของเด็กดี หลัวอัลไลวะ https://www.dek-d.com/board/view/3910219/

554 Nameless Fanboi Posted ID:6kEI3tqUEZ

>>553 เพี้ยนมาจากคำว่า ผัว มันไม่ค่อยสุภาพถ้าเรียกโต้งๆ เลยเปลี่ยนเป็นหลัวแทน ส่วนกูเรียกอีกแบบนะ สัมมีย์ wkwkwk

555 Nameless Fanboi Posted ID:v41Vp5rkZf

>>553 มีมานานใช้ได้เเล้วนา

556 Nameless Fanboi Posted ID:TFP1/U/ZuN

>>552 พอจะอธิบายละเอียดกว่านี้ได้มะ

557 Nameless Fanboi Posted ID:W+.+zlr7Sg

ขอลองทดสอบ cache ดูก่อน ไอ้เรื่องฉัวๆ กุดุสๆ
https://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:ChZulvDCsKsJ:https://writer.dek-d.com/96360305/story/viewlongc.php?id=1625334&chapter=10+&cd=1&hl=en&ct=clnk&gl=th&client=opera

558 Nameless Fanboi Posted ID:b.U9Gi+QvQ

>>557 เอาจริงๆถ้าไม่ติดว่ามันใส่เสียงเอฟเฟ็คแบบนี้กรูว่าพอได้อยู่นะ แต่ดันอยากใส่เลยมีมไป

559 Nameless Fanboi Posted ID:b.U9Gi+QvQ

>>558 ต้อง"ถ้ามันไม่ใส่"สิวะ ถถถถ

560 Nameless Fanboi Posted ID:Ibbw6ZJJyb

>>558 ต้องใส่เพื่อความสนุกดิวะ ขาดซาวด์เอ็ฟเฟ็คนี่ไม่มีอะไรเหลือให้จดจำเลยนะเว้ย

561 Nameless Fanboi Posted ID:nS3Mzt.8aG

>>558 ขาดไม่ได้ว่ะเพื่อนโม่ง กิมมิคสำคัญของเรื่องเลยนะ 5555

562 Nameless Fanboi Posted ID:nArTYKYHpd

>>504 ไปขุดมา อันนี้สินะที่มึงพูดถึง

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1345089538959351&set=ms.c.eJwFwYENADAIArCPFhFF~_P~_xteBsOUtnw8XL4WZIdejbF43FK8UI~;SKoQTLXnn5Rwdu5mdzlhSpETSRyfb~;yE8s~-.bps.&type=3&theater&ifg=1

563 Nameless Fanboi Posted ID:R40imqbD9s

>>562 ขอบอกเลยครับ บรรยายกากไม่พอ เนื้อเรื่องเเม่งก็กากบัดซบด้วย เสียดายตังสัสๆ

564 Nameless Fanboi Posted ID:nS3Mzt.8aG

>>562 เออเรื่องนี้แหล่ะ ที่กุพูดถึง ยอมใจมึงจริงๆ ที่อุตส่าห์ไปหามาจนได้
おつかれさま です!

565 Nameless Fanboi Posted ID:vLqiA1LTtI

>>562 นิยายแปลหรือคนไทยเขียนวะ

566 Nameless Fanboi Posted ID:R40imqbD9s

>>565 นิยายเเปลว่ะ

567 Nameless Fanboi Posted ID:ox81H0F3xr

>>565 เป็นนิยายแปลของญี่ปุ่น
เห็นแล้วสงสารคนแปลเลย คนแปลเขาแปลดีนะ แต่ต้นฉบับแม่งกาก

568 Nameless Fanboi Posted ID:5vw4pDG/uH

สรุปว่าไม่ได้แปลกาก แต่กากมาตั้งแต่แรกเลย

เห็นสองเรื่องนี้แล้วนึกถึงเรื่องถนนขาวของดอกปอบ ผู้บุกเบิกเสียงประกอบยุคบุกเบิก
อ่านแล้วแบบเห็นภาพดอกปอบเอามือวางบนไหล่น้องกุดุสๆ แล้วพูดว่า "ผมภูมิใจในตัวคุณ" เลยทีเดียว

569 Nameless Fanboi Posted ID:CbDK+k3AQ7

เอาจริงๆ กูก็อยากเห็นเหมือนกันวะ ได้ยินแต่คำร่ำลือ ใครมีถนนขาวก็ถ่ายรูปฉากพวกนั้นมาลงมาให้ดูน้อยดิ

570 Nameless Fanboi Posted ID:+Sle5YHinn

>>557 เหยด ตำนานว่ะ กุดุสกุดุส

571 Nameless Fanboi Posted ID:nArTYKYHpd

นอกเรื่องหน่อย เคยเห็นโม่งคุยกันเรื่อง High Fantasy / Low Fantasy แล้วบังเอิญไปเจอนี่มา น่าจะอ่านแล้วเข้าใจง่ายดี

https://www.facebook.com/GamingDose/photos/a.327474470682735/2040119256084906/?type=3&theater

572 Nameless Fanboi Posted ID:vLqiA1LTtI

>>571 ใครจะไปนึกว่า Gaming Dose สนใจเรื่องพรรคนี้ด้วย

573 Nameless Fanboi Posted ID:vLqiA1LTtI

ขอถามจาก >>571 หน่อย ถ้าเป็นนิยายเกมออนไลน์ มันควรจัดเป็น Fantasy หรือ Sci-fi วะ

574 Nameless Fanboi Posted ID:Fm74V6/sDl

>>573 แล้วแต่เนื้อหาเกมส์

575 Nameless Fanboi Posted ID:lH.zEdP6VT

>>573 เอาตามตรง ควรจัดเป็นผจญภัยมากกว่า

576 Nameless Fanboi Posted ID:Luc9JeFPrO

>>573 ตามหลักการคือไซไฟ เเต่ตามความรู้สึกคือเเฟนตาซี

577 Nameless Fanboi Posted ID:+uY2Fp2ayw

>>571 ให้คำจำกัดความของ low fantasy มั่ว มันไม่ใช่ว่าแค่เอาเรื่องของโลกจริงไปใส่แล้วจะเป็น low สักหน่อย low มันคือใช้เซ็ตติ้งเป็นโลกจริง แล้วเพิ่มเรื่องเหนือธรรมชาติเข้าไป อย่างแฮร์​รี​่พ่องตาย เพ้อสิแจ๊คสัน

578 Nameless Fanboi Posted ID:GVLQRg2AbM

ที่แน่ๆ นิยายต่างโลกของเด็กดวกไม่นิยมเขียน low fantasy เพราะมีความเห่อหมอยสูงเป็นพิเศษ

579 Nameless Fanboi Posted ID:s2zMD1NTPy

มู้นี้อยู่นานนะ จะสองเดือนละ

580 Nameless Fanboi Posted ID:j6BB9pLlJ3

>>579 ช่วงนี้สอบไงมึง
เดี๋ยวนิยายดีย์ๆ(เรอะ)มันจะมาช่วงปิดเทอม

581 Nameless Fanboi Posted ID:GVLQRg2AbM

ขอ ky หน่อย ถ้าเอาวีรกรรมของแก๊งงานบวชที่บุกโรงเรียนที่กำลังมีสอบ gat pat เนี่ย เหมาะกับตัวละครดาร์กวอนนาบีรึเปล่า

582 Nameless Fanboi Posted ID:vTRDcYEKTR

>>581 เป็นตัวกระจอกที่มากร่างใส่พระเอกตอนแรก จากนั้นก็ถูกพระเอกโชว์เทพตบเละเทะมากกว่า

583 Nameless Fanboi Posted ID:AcqLpgm0bY

แค่ 1-2 วิวเองเนี่ยนะ แอบสงสารเด็กดวก ที่บางทีคนก็เอาแต่ร้องเรียนปัญหาแบบนี้
https://www.dek-d.com/board/view/3910669/

584 Nameless Fanboi Posted ID:yIxQJfzUeS

>>581 เป็นพระเอกหนังจีนเว้ย
ตรรกะกูถูกเสมอ พวกมึงนั่นเเหล่ะผิดที่ไม่เข้าใจคุณธรรมของกู กูยอมเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกเพื่อพวกพ้องนะเว้ยยยยยย

585 Nameless Fanboi Posted ID:IABu6Jgow+

พระเอกจีนแม่ง the best ว่ะ 555

586 Nameless Fanboi Posted ID:jkkRj3yRHe

กูงงตรรกะคนอ่านว่ะ ตรงที่คิดว่าแพง พอคนเขียนบอกแพงก็ไม่ต้องซื้อ แล้วมาดราม่า

ถ้ามันแพง แสดงว่าเรื่องนั้นเขียนไม่สนุกเกินกว่าที่มึงจะเต็มใจควักเงิน ก็ไม่ต้องซื้อสิวะ กูงง ประดุจผลิตกระเป๋ามีแบรนด์ แต่คนซื้อด่าบอก แพงไป ข้างบ้านขาย 199 ไรงี้

587 Nameless Fanboi Posted ID:GVLQRg2AbM

>>586 นิยายขายดีอันดับหนึ่งของโลก เล่มละ 1 บาท?

588 Nameless Fanboi Posted ID:izM+AY/WJu

>>569 ขายร้านมือสองไปนานละ เลยอดถ่ายเลย 555

589 Nameless Fanboi Posted ID:i6/Pu4AUKx

ไปเปิดอ่านนิยายเด็กดีเรื่องนึงมา แม่งสะกด ตระกูล ว่า "ตกุล" ไอ้เหี้ย โคตรเทพ มิติใหม่แห่งความวิบัติ

590 Nameless Fanboi Posted ID:2TyP9778Aa

>>589 เคยจะลองอ่านนิยายรักเรื่องนึง เจอคำว่า "ศพตา" ในคำโปรย กุนี่ปิดเลย จากเลิฟๆ กลายเป็นนิยายสยองขวัญไปซะชิบ

นักอ่านเตือนก็ไม่แก้ หวังว่าจะไม่มีศพยายในเนื้อเริ่องเพิ่มนะ

591 Nameless Fanboi Posted ID:GVLQRg2AbM

>>590 พวกอ่านหนังสือน้อยก็เป็นคนแบบนี้แหละ มันพ้นยุคเครื่องพิมพ์ดีดโบราณเป็นชาติแล้ว

592 Nameless Fanboi Posted ID:2TyP9778Aa

>>588 กระทู้ก่อนๆ กุเคยยอมรับว่าเอาไวท์โร้ดไปทิ้งไว้ที่ห้องสมุดประชาชนของหมู่บ้านข้างๆ ถึงกับโดนเพื่อนโม่งรุมด่า เพราะกุอาจทำให้เด็กที่เอาเรื่องนี้มาอ่านติดเชื้อแกรี่ พระเอกโชว์เทพแล้วบอกว่าแค่บังเอิญ ยิงลำแสงชื่อเดียวกับท่าไม้ตายของเบจิต้า ส่งเด็กเข้าสู่โลกตู้ม ฟ้าวว ย๊ากๆ ว๊ากๆ กับเนื้อเรื่องยำใหญ่แฟนฟิคการ์ตูนเกม ไฟนอลสตรีทไฟทพอตเตอร์แฟนตาซีออฟพาราไซต์อีฟ ตัวร้ายบุกโรงเรียนจนโลกจะพังพินาศเสือกมีแต่นักเรียนออกมาสู้ส่วนครูหายหัวไปไหนวะ สรุปครูกากกว่าแก๊งค์แมรี่ซูนำทีมโดยพระเอกที่พลังในตัวเพิ่งจะตื่น คิดแล้วปวดหัว เสียดายเยื้อไม้ที่ถูกใช้มาทำกระดาษพิมพ์เรื่องนี้โคตรๆ

593 Nameless Fanboi Posted ID:h/Pn/krVmk

กูมีเรื่องเหี้ยๆ ยังไม่กล้าเอาไปทิ้ง สงสารคนสานต่อว่ะ อยู่ในคลังปิดผนึกของกูก็พอแล้ว ถ้าไม่โดนหนูแทะซะก่อน

594 Nameless Fanboi Posted ID:tJR8WUooOW

กูอยากรู้ถ้าอีปอบไม่เคยเขียนนิยายสักเรื่อง นิยายเด็กดวกที่ผ่านมาจะออกมาแบบไหนกัน

595 Nameless Fanboi Posted ID:A1B4Te19el

http://imgur.com/BQzTmHY

สงสัย

596 Nameless Fanboi Posted ID:gksbAwD7yo

>>595 ขอชื่อคนวาดด้านขวาหน่อย กูมองไม่ชัด อยากจะตามไปชมผลงานอื่น

597 Nameless Fanboi Posted ID:A1B4Te19el

인플릭 INPLICK
https://twitter.com/inplick/

598 Nameless Fanboi Posted ID:tJR8WUooOW

>>595 ชีวิตสโลว์ไลฟ์ของเทพนักลอก

599 Nameless Fanboi Posted ID:SSQdj2Y0ER

>>595 เด๋วนะมึง รูปมาจากไหนอ่ะ กูดูนิยายในแอพไม่เห็นมี

600 Nameless Fanboi Posted ID:YM.6Q98/Kj

>>599 มาจากที่เพจเด็กดีโปรโมทอะ

601 Nameless Fanboi Posted ID:s7+qU7qCoF

ฝีมือคนแต่งรึเว็บวะ>>595

602 Nameless Fanboi Posted ID:Ibc565vZuK

>>601 ไม่รู้ แต่ล่าสุดลบไปแล้ว คุยง่ายดี

603 Nameless Fanboi Posted ID:oVWWoq.a8b

>>595 กำลังจะบอกว่าท่านี้เบสิคนะ แต่เห็นทรงผมกูว่าไม่เบสิคละ เป๊ะยันองศาหน้า

604 Nameless Fanboi Posted ID:iiF6lMviLT

สอบเสร็จรึยัง

605 Nameless Fanboi Posted ID:oQ3QnrQ9BG

หมวดนิยายที่ Hot ที่สุดใน readAwrite ตั้งแต่ 1 มีค 61 - 28 กพ. 62 คือ
นิยาย Yaoi 39%
นิยาย Yuri 16%
นิยายรักโรมานซ์ 14%
นิยายรัก 8 %
และหมวดอื่นๆ 23%
ทำให้กูเข้าใจแล้วว่าทำไม นข. ไทย ถึงไปเขียนแนววายกันเยอะมากๆ...

606 Nameless Fanboi Posted ID:iiF6lMviLT

>>605 ควรเรียกว่า readAYrite วายเต็มไปหมด

607 Nameless Fanboi Posted ID:oQ3QnrQ9BG

>>606 พอดีเว็บนี้เอี่ยวกับ meb ยิ่งไปดูนามปากกาที่คนอ่านมากที่สุด 10 อันดับแรก
ก็เป็นแนววายเกือบทั้งหมดอีก...
ตอนนี้กูมองได้แง่มุมหนึ่งว่า
ที่ นข. ไทยจะเขียนแล้วมีคนติดตามอ่านมากนี่เป็นแนววายไปแล้วใช่ไหม (ต้องบอกว่า กูอึ้งมาก...)
ส่วน นิยายแปลจีน ก็ครองตลาดในกลุ่มแฟนตาซี กลุ่มนิยายจีนรัก ไปหมดแล้ว
แล้วกูมาคิดว่า... จะเลือกแนวไหนที่ นข. ไทย ยังสามารถเขียนดึงดูดคนอ่านได้อีก นอกจาก วาย กับ รัก แล้ว...

608 Nameless Fanboi Posted ID:pgQeY7mA5f

กูเขียนแนวสืบสวน ทุกวันนี้เหมือนอยู่คนเดียวในโลก

609 Nameless Fanboi Posted ID:7amJY3sFnB

>>606 ไม่ใช่แค่ Readawrite หรอกที่วายเต็มเว็บ เว็บอื่นก็เหมือนกันแหละ
มันบ่งชี้ว่าตลาดนิยายไทยมันไปทางไหน เพราะฐานคนอ่านนิยายไทยแต่ไหนแต่ไร สัดส่วนมันก็เป็นเพศหญิงจำนวนมากกว่าอยู่แล้ว
แต่ก่อนหน้านี้นักอ่านฝั่งผู้ชายทั้งเด็กและโตก็ยังมี เพราะการอ่านมันแพร่หลายทำให้พวกนิยายแฟนตาซีผจญภัย สืบสวนที่เน้นขายผู้ชายยังขายได้
แต่พอมายุคนี้คนอ่านนิยายมันน้อยลง เพราะคอนเทนต์ความบรรเทิงอื่นๆ มันหาง่ายกว่ายุคก่อนหลายเท่า แถมยังกินง่ายกว่าด้วย อย่างพวกบทความสั้นๆ สื่อ Social หรือคลิป YT
ก็เลยทำให้คนอ่านมันหายไปด้วยเยอะมาก จากกลุ่มคนอ่านผู้ชายที่ปกติก็ค่อนข้างน้อยอยู่แล้วทำให้น้อยลงอีก บวกกับกระแสของการเปลี่ยนแปลงที่ที่ฐานคนอ่านนิยายหลักแต่ไหนแต่ไรมา คือกลุ่มผู้หญิงเริ่มมีความสนใจนิยายวายมากขึ้น ก็ทำให้ตลาดมันโตตามความต้องการของกลุ่มคนอ่าน
เช่นกันกับพัฒนาการของแนวนิยายแนวอื่นๆ อย่างแฟนตาซีใหม่ๆ ที่เน้นเขียนง่าย อ่านง่าย ไม่ต้องซับซ้อนเข้าว่า เพราะคนอ่านมันชอบแบบนี้

ต่อจากย่อหน้านี้คือกูบ่น ไม่เกี่ยวกับคำถาม
แต่ถามว่านิยายคุณภาพแบบย้อนกลับไป สมัยอินเตอร์เน็ตยังไม่มี มันขายได้มั้ย มันก็ยังขายได้ แต่ประเด็นคือแม่งคุณภาพกันแต่ปากไง กูเห็นทุกบอร์ด ทุกกลุ่ม ทุกชุมชน่คนเขียนนิยายแหละที่ชอบนิยายแฟนตาซีดีๆ แต่เสือกไม่มีใครเขียนออกมาให้อ่านซักคน เพราะนักเขียนรุ่นใหม่มันก็อ่านแนวๆ เดียวกันมาตามยุคตามสมัย เสพสื่อเดียวกันจากยุคเดียวกัน มันออกมาเหมือนๆ กัน
มึงจะคาดหวังให้นักเขียนรุ่นใหม่เขียนแบบพนมเทียนมันเป็นไปไม่ได้หรอก ตราบใดที่ เดี๋ยวนี้แค่กระดิกนิ้วก็มีมังงะอ่าน มีหนังดู มี Nexflick สร้างแรงบรรดาลใจเต็มไปหมด มันไม่ใครที่จะสามารถทนอ่านแต่นิยาย เสพแต่งานเขียนอย่างเดียวได้เหมือนสมัยนั้นที่สื่อบันเทิงที่หาง่ายสุดคือหนังสือหรอก ส่วนคนที่โตมากับอะไรแบบนั้นตอนนี้ก็คงไม่มานั่งแต่งนิยายแฟนตาซีสนองจินตนาการแล้ว เพราะยิ่งอ่านเยอะมุมมองงานเขียนมันก็จะเปลี่ยน ไปเขียนอะไรที่ท้าทายขึ้น ยากขึ้น ซึ่งแนวนี้ว่ากันตามตรงต่อให้เป็นแฟนตาซี กลุ่มคนอ่านนิยายรุ่นใหม่มันก็ไม่อ่านหรอก (กลุ่มใหม่ในที่นี้คือ กลุ่มคนอ่านอายุต่ำกว่าสิบแปด) ไม่เชื่อลองไปถามได้ ต่อให้เป็นงานที่เขาว่ากันว่าโคตรเทพขนาดไหนเอาไปให้เด็กพวกนี้มันก็ไม่รับ เพราะมันดูเมะ มันดูซีรีย์มาเยอะ มันเกิดมาก็มีมือถือแล้ว ให้ไปอ่านงานลุงจอร์ด RR ก็ไม่อ่าน แต่เสือกดูซีรีย์แล้วเอามาเนื้อเรื่องมาโม้ นาตบให้ปากแตก ไอ้ฉากที่มึงโม้ๆ มานั่นแม่งไม่ได้ครึ่งของในหนังสือเลย

ณ ตอนนี้แนวนิยายที่กูว่านิ่งที่สุด และยังรักษารากฐานของมันเอาไว้ได้อย่างเหนี่ยวแน่นไม่ค่อยตกมาก แต่ก็ไม่โตมากเท่าไหร่ด้วยเหมือนกัน คือแนวสยองขวัญนะ ไปร้านหนังสือกี่ครั้งๆ ก็เจอออกเรื่องใหม่มาเรื่อยๆ ยังไม่มีทีท่าว่าจะล่มจ่มเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แน่เพราะเดี๋ยวนี้เรื่องสยองมันก็หาง่ายพอๆ กัน

610 Nameless Fanboi Posted ID:7amJY3sFnB

>>609 สัด! ติด 'บรรเทิง' อีกแล้ว เดี๋ยวก็โม่งแตก มึงเขียนนิยายมากี่ปีแล้ว (ตีมือตัวเองสิบหวาย)

611 Nameless Fanboi Posted ID:oQ3QnrQ9BG

>>609 ค่อนข้างเห็นด้วยนะ
ส่วนแนวแฟนตาซี... กูมองว่ายังมีคนอ่านเยอะอยู่
แต่ตอนนี้ถูกนิยายจีนแปลเข้ามาครองตลาดไปหมดแล้ว ซึ่งก็มาพล็อตยังวนเวียนคล้ายๆกัน ตามชื่อกระทู้นั่นแหละ
กูเคยลองเขียนลง Readawrite เล่นๆ 2 เรื่อง 2 แนว แต่ยังไม่จบ เขียนได้ 12 ตอนเท่ากัน เพราะเกิดหมดไฟไปดื้อๆ
มี แนวแฟนตาซี กับ แนวรักโรมานซ์
ต้องบอกว่าทำให้กูกระจ่างมาก...
เพราะยอดวิวต่างกัน 12 เท่า โดยแนวรักโรมานซ์ ได้ยอด 40,000 วิว ส่วนแนวแฟนตาซี ได้ยอด 3,000 กว่าวิว
โดยทั้งสองเรื่องมีตอนเท่ากัน และ ความใส่ใจเนื้อหาแต่ละตอนที่กูเขียน
ต้องบอกว่าเน้นๆไปที่แนวแฟนตาซีมากกว่าด้วยซ้ำ โดยแฟนตาซีใช้เวลาเขียนตอนละ 3-4 วัน แต่รักโรมานซ์แค่วันเดียวต่อตอน
แต่ผลออกมาตรงข้ามทั้งหมด...

612 Nameless Fanboi Posted ID:awCAuTHbq0

>>609 ตกลงมึงด่าใครเนี่ย อ่านสามรอบกูงงว่ามึงด่านักเขียน นักอ่าน หรือมึงด่าตัวเอง?

613 Nameless Fanboi Posted ID:F3N.zVhaTW

>>612 ตอบ ง. ถูกทุกข้อ

614 Nameless Fanboi Posted ID:j1+ACAHGDF

>>609 ขอตีมือด้วย Netflix เว้ย ไม่ใช่ Nexflick

615 Nameless Fanboi Posted ID:S5pLph1Af2

มึงคิดว่าคนเสพนิยายรัก ไม่ว่าจะ ชช ญญ ชญ เน้นส่วนเย็ดหรือส่วนเนื้อเรื่อง

กูเคยสัมภาษณ์แฟนกูว่าเสพนิยายเย็ด ๆ เพราะอะไร มันบอกว่าฟิน พระเอกเย็ดดุ แล้วชอบนักเขียนบรรยายดีเห็นภาพตาม อ่านแล้วแฉะ
กูลองอ่านดูก็พบว่าแม่งชวนเงี่ยนดี จนกูลืมสนใจเนื้อเรื่อง เหมือนย้อนเวลาไปสมัยเด็กที่ต้องแอบไปซื้อหนังสือโป๊ตามตลาด แล้วเอาซ่อนใต้เสื้อไม่ให้พ่อแม่เห็นตอนกลับมา เปิดอ่านเรื่องเสียวในห้องน้ำ ชักว่าว จบ

แต่พอกูไปหานิยายรักที่ไม่มีฉากเย็ดมาอ่าน คิดว่าคนเขียนก็เขียนดีนะ แต่ทำไมกูไม่อิน อ่านตอนเดียวปิด หรือสมองกูแม่งเสพติดนิยายเย็ดไปแล้ว

ตอนนี้กูเลยหาพวกนิยายสอบสวนมาอ่านแทน อย่างน้อยแม่งก็ไม่ใช้มุกเดิม ๆ รู้สึกว่าแนวนี้แม่งมีเสน่ห์ เหมือนเดทกับผู้หญิงหุ่นดี นมแน่น ๆ มีคลาส แต่งตัวมิดชิด ดูดีแบบไม่ต้องโชว์เนื้อหนัง แต่พอพูดออกมาคำนึงก็ชวนให้ลุ่มหลงจนโงหัวไม่ขึ้น ถึงจะงง ๆ ตอนแรก แต่แม่งหยุดฟังไม่ได้ เหมือนโดนสะกด ระหว่างคุยกันก็ค่อย ๆ เปลื้องผ้าออกทีละชิ้น ตอนสุดท้ายไคลแม็กซ์ของเรื่อง จบลงที่เตียง เปิดเผยทุกอย่างจนหมดเปลือก เห็นของดีที่ซ่อนใต้เสื้อผ้า ไอ้เหี้ย แม่งโคตรฟิน

รู้ตัวอีกทีกูก็ตกหลุมรักแนวสอบสวนไปแล้ว

616 Nameless Fanboi Posted ID:IZIurLBAWQ

>>615 ถ้าในดด.กับธัญฯตอบไม่ยาก เน้นฉากเย็ด

617 Nameless Fanboi Posted ID:/PU.71YuAO

รีวิวนิยายแบบ เล่มนี้เย็ดกันบ่อย เล่มนี้ไม่ค่อยเย็ดกัน เล่มนี้เย็ดกันน้ำ เย็ดบนหลังม้า เย็ดบนหัวทีเร็ก เล่มนี่ไม่เย็ดกันสักที

618 Nameless Fanboi Posted ID:GUE.M3tpkO

กูเห็นแม่งระบาดตั้งแต่ Literature 2 มู้ล่ะนะ ลามมาในนี้อีก หัวเรื่องก็เหมือนๆ เดิม

619 Nameless Fanboi Posted ID:awCAuTHbq0

เด็กดีห้ามมีฉาก nc แต่ดันมีฉากเย็ด แถมไม่โดนแบน บริการเหี้ยพอกับ ROM

620 Nameless Fanboi Posted ID:IZIurLBAWQ

>>618 อะไรระบาดเหรอ ไม่ได้เล่นห้อง Lit

621 Nameless Fanboi Posted ID:uMOSsY4sm2

กูไม่ได้รังเกียจวายนะ เเต่ทำมั้ยนิยายวายเเม่งต้องมีเเต่ฉากเย็ดวะ กูไปนั่งจิ้นวายเองยังสุขใจซะกว่า

622 Nameless Fanboi Posted ID:uMOSsY4sm2

>>621 *ไม

623 Nameless Fanboi Posted ID:q+DLUR0OZA

>>621 เพราะคนแต่งมันกำลังอยู่ในวัยว้าวุ่นไง

624 Nameless Fanboi Posted ID:awCAuTHbq0

มันมี 2 ประเภท คนหื่นแบบเปิดเผยกับคนหื่นแบบปิดบัง อย่างไหนโรคจิตกว่า

625 Nameless Fanboi Posted ID:cEBI5lnsjE

>>624 ภายนอกไม่หื่น เเต่กลับบ้านว่าววันละ2น้ำนี่โรตจิตมั้ย ก็ไม่ ใช่มะ
หื่นเปิดเผยนั่นเเหล่ะคุกคามทางเพศ555

626 Nameless Fanboi Posted ID:o1t5v1Zbq0

กูไม่ชอบวายเรท กามๆ ไงมะรุ้ รุ้สึกงั้น

627 Nameless Fanboi Posted ID:IWqlERg1s9

กูชอบแนวสืบสวนแบบที่จริงจังเครียดๆ มี gore/blood ฆาตกร แล้วแม่งมีฉาก nc มากมึง แต่ไม่ใช้แบบโรคจิตเย้กับศพหรือฆาตกรข่มขืน แบบพระเอกนางเอกหนีด้วยกันเย้กันอย่างมีความสุขอ่ะมึงหรือเย้กันเพราะเครียดอะ แต่หายากมากแนวนี้TT

628 Nameless Fanboi Posted ID:EC6ZM8f6ln

>>627 ตัดเรื่องเย้ อาจจะหาง่ายขึ้น

629 Nameless Fanboi Posted ID:XX+qw65yZc

>>628 ก็กูชอบ มันไม่ตัดไม่ได้นะเพื่อนโม่ง

630 Nameless Fanboi Posted ID:.F2FAFtgaQ

เอิ่มมมม โม่งมีเรื่องไหนมั่งวะที่พอจะเอามาเป็น Ref สำหรับตัวเอกนิสัยแสบๆ เกรียนๆ ชอบกวนตีนชาวบ้านเขา
คือกูกำลังศึกษาแนวนี้อยู่ เพราะเท่าที่สังเกตยุคนี้ตัวเอกต้องเด่นด้านการหาเรื่องคนอื่นเอาไว้ก่อน ส่วนเรื่องความเก่งความเทพ + เนื้อเรื่อง อันนี้เดี๋ยวไปปรับเอาทีหลังได้

631 Nameless Fanboi Posted ID:PxmEKoFMd2

>>630 ถ้ากูบอกว่า ยุทธ์ภพออนไลน์มึงจะโกรธกูมะ

632 Nameless Fanboi Posted ID:7tC6+jqWP9

>>630 ไอ้แว่นจาก Sweet home ในเว็บตูนอะ กูอยากต่อยหน้ามันชิหา**ย กวนตีนสัส

633 Nameless Fanboi Posted ID:W7okXJ0aoH

>>632 เห็นด้วยสัสๆ

634 Nameless Fanboi Posted ID:q37vtFgU4T

>>632 เห็นด้วยอีกเสียง

635 Nameless Fanboi Posted ID:xu/hwi+V3j

>>632 Thank มาก เดี๋ยวลองไปอ่านดู

636 Nameless Fanboi Posted ID:ZWpNHSD1yS

>>615 อ่านแล้วสรุปได้ว่า มึง sex ห่วย แฟนเลยหนีไปพึ่งแฟนตาซี sex play แทน

หัดพัฒนาฝีมือทำการบ้านหน่อยนะ

637 Nameless Fanboi Posted ID:EC6ZM8f6ln

>>636 เดาว่า >>615 นกขันยาก

638 Nameless Fanboi Posted ID:G+/8VbZjNm

กูจะเขียนนิยายแนวขบขับ ล้อเลียน วางแผนจะเล่าการใช้ชีวิตในแต่ละวันของตัวเอก จะลงเป็นตอน ๆ จบ อารมณ์ประมาณโดเรม่อน (ตอนนึงอาจมีสัก 3-4 บท)

ลงหมวดไหนดีวะ อันนี้คิดไม่ออกจริง

639 Nameless Fanboi Posted ID:f.JnZFT4Ll

>>638 เออ กูแต่งแบบนั้นก็คิดไม่ตกเหมือนกัน มันน่าจะแบ่งหมวดแบบ webtoon ซะบ้างนะ แนวชีวิตประจำวันไรงี้

640 Nameless Fanboi Posted ID:mr21ySgNnm

>>639 ตอนแรกกูเล็งจะไปตลกขบขับ แต่พอลองเข้าไปสำรวจจำนวนประชากร ถึงกับถอนหายใจ

641 Nameless Fanboi Posted ID:hL+9er1jXt

>>640 คนอ่านไม่ชอบนิยายล้อเลียนกันเหรอ

642 Nameless Fanboi Posted ID:f.JnZFT4Ll

>>641 กูว่าเพราะหมวดมันจืดๆ มากกว่า น่าจะเปลี่ยนชื่อหมวด จัดหมวดใหม่ได้ละนะ

643 Nameless Fanboi Posted ID:NeWLbj.hUg

>>636 555 ไอ้สัสพาดพิง แฟนกูมันเป็นงี้มาตั้งนานแล้ว ก่อนคบกูอีก

>>642 เป็นชื่อหมวด Parody ได้มะ

644 Nameless Fanboi Posted ID:hxaHYZcyZF

>>643 น่าจะให้เป็น silence of life ดีกว่าว่ะ เพราะพาโรดี้มันจะดูซ้ำซ้อนกับกับหมวดแฟนฟิคที่แตกย่อยมาอีกเยอะชห

645 Nameless Fanboi Posted ID:hdOP47b.HR

>>644 Slice of Life ต่างหาก

646 Nameless Fanboi Posted ID:B3W7p+scu9

จังหวะตบมุกซิทคอมเชี่ยๆ รึว่าไอ้>>644 มันตั้งใจวะ

647 Nameless Fanboi Posted ID:hAQ4/rZMqT

>>645 ถ้าไม่มี >>646 ก็ Silence จริงๆ แล้วล่ะ มุกเงียบมาก เงียบแบบแทบจะไม่มีสังเกตุว่าแม่งเขียนผิด

648 Nameless Fanboi Posted ID:.00ZOX70f/

>>647 นั่นมุกเหรอวะ

649 Nameless Fanboi Posted ID:hdOP47b.HR

พวกมึงคิดยังไงกับตัวเอกฉลาดกว่าตัวนักเขียนเอง
https://www.dek-d.com/board/view/3911864/

650 Nameless Fanboi Posted ID:XNZmUAQA8A

>>645 ขอบใจมึงมาก เล่นซะกูหลับไปตื่นนึงกว่าจะมีคนตบให้
>>649 มันก็ต้องหาข้อมูลให้ฉลาดทันตัวละครตัวเองสิวะ ไม่งั้นก็กลายเป็นสายเทพวอนนาบี ไหวพริบกับความเจ้าเล่ห์ทั้งหลายแหล่ในชีวิตจริงไม่จำเป็นว่าต้องมีก็ได้ แค่มีข้อมูลกับความคิดสร้างสรรค์มากพอให้คนอ่านเชื่อว่าที่มันคุยกันนั่นดูฉลาดจริง ไม่ใช่แค่มาสลับกันพูดข้อความเท่ๆฉลาดๆใส่กันไปมา เหมือนแลกท่าไม้ตาย ใครปล่อยหมดก่อนแพ้

651 Nameless Fanboi Posted ID:WTDoKVXh5T

>>649 ตัวเอกมันจะฉลาดกว่าคนสร้างได้ไงวะ ถ้ามันคิดเรื่องฉลาดๆได้ เเบบว่าเมิงก็ต้องคิดได้ดิ

652 Nameless Fanboi Posted ID:Iu19ApJVfH

>>649 มันไม่มีหรอกที่ตัวละครจะฉลาดกว่าคนเขียน ไม่งั้นมึงจะเขียนมันขึ้นมาได้ยังไงอะ มีแต่คนเขียนมโนไปว่าตัวละครฉลาดเกินไป คือเบียว คิดไปเองว่าแบบนี้ล่ะฉลาดมากละ ถถถถ

653 Nameless Fanboi Posted ID:AO2sZLHovm

>>649 กูเคยอ่านเรื่องนึง แม่งย้ำนักย้ำหนา ว่าอีนางเอก IQ 200 กูกลอกตามองบนแรง

654 Nameless Fanboi Posted ID:zx6EeWJSKJ

กูว่าเป็นไปได้นะที่ตัวละครจะฉลาดกว่าคนเขียน

ถ้านับในแง่ที่หัวไว วิเคราะห์เก่ง อ่านสถานการณ์ขาด

ทำนองว่า คนเขียนมันรู้ทุกอย่างในโลกที่ตัวเองเขียนอยู่แล้ว เพราะอยู่นอกโลก แต่ตัวละครไม่ใช่ การที่ตัวละครสามารถคิดวิเคราะห์ได้เจ๋ง ๆ ถึงจะมีข้อจำกัด เลยฉลาด

แต่ไอแบบในกระทู้ของ >>649 นี่กูว่าตลกอะ...

655 Nameless Fanboi Posted ID:tPElZlcvE4

>>654 มึงหมายถึงถ้ามาเทียบตัวละครกับคนเขียนในฐานะที่เป็นคนเหมือนกัน คนเขียนที่รู้ทุกอย่างจะถือว่าฉลาดน้อยกว่าตัวละครที่ไม่รู้อะไรแต่ถูกเขียนให้สามารถคาดเดาเรื่องที่นักเขียนรู้ได้ใช่มะ?
แต่กูว่าที่หลายคนว่าตัวละครไม่มีทางฉลาดกว่าคนเขียนคือแม่งหมายความตามอักษรจริงๆ คือยังไงความฉลาดของตัวละครยังไงก็มาจากคนเขียน จะฉลาดกว่ามันเป็นไปไม่ได้
ส่วนไอ้>>649 กูว่าคนเขียนมันพยายามเขียนตัวละครให้ฉลาด แต่เสือกไม่มีปัญญาไปเขียนให้แม่งดูฉลาดจริงๆ และมันก็รู้ตัวดีเลยมาบ่นว่าตลค.มันฉลาดกว่าคนเขียน ซึ่งอย่างน้อยกูก็ว่าดีกว่าไอ้เรื่องไอคิวหลักพันที่กูว่าให้ตายไอ้คนเขียนมันก็คงคิดได้แค่ตลค.ของมันกับมันเองแม่งฉลาด(น้อย)โคตรๆ

656 Nameless Fanboi Posted ID:Hhq4J+8e/v

>>653 200 เองเหรอ เจอไอ้เด็กเมื่อวานซืนที่คุยกันไปรอบก่อน IQ 3000 เลยนะเว้ย ถึงขั้นมีเพื่อนโม่งมาบ่นว่านักเขียนแม่งไม่ได้รู้วิธีการคิดคำนวนค่าไอคิวเลย สักแต่จะใส่มา เพราะนิยายมันเป็นนิยายอิงตัวเลขสเตตัส

ใครจำได้มั้ยว่าอยู่ตรงไหนกุทำงานอยู่ไม่ว่างไล่ดู มือถือมันค้นลำบาก กด mention ให้ 653 มันดูหน่อย IQ 200 นี่ดูธรรมดาไปเลย

657 Nameless Fanboi Posted ID:+T140fzi4d

>>656 เอิ่มมม 3000 มาจากไหนอีกวะ พอดีว่าเรื่องที่กูอ่านนางเอกมันโง่ด้วยไง โง่แบบบรมโง่อะ ยังมีการแถอีกนะว่าเพราะ EQ มันต่ำ แต่กูว่าไม่ใช่ละ เอาอะไรคิด ถึงตามคนที่รู้ทั้งรู้ว่าเกลียดตัวเอง สุดท้ายเกือบโดนยากไปเยละ ลำไย ละ 3000 มันเป็นแบบนี้ไหม ขอเผือกหน่อย

658 Nameless Fanboi Posted ID:Hhq4J+8e/v

>>657 อะ เอาไปลอง https://writer.dek-d.com/zolzon/writer/view.php?id=1904419

ดูเหมือนจะแก้เป็น เกินกว่าคนปกติไป 3850 แต่ไม่ได้ช่วยให้โอเคขึ้นเลย เพราะมันจะเอาไปเทียบกับใครวะ ในเมื่อแต่ละคนไอคิวไม่เท่ากัน วันคนละช่วงอายุก็เปลี่ยนได้ด้วย อย่าลืมอ่านบทที่ 1 ด้วยนะ คือกุเห็นตัวเลขแล้วทึ่งมาก ไม่เคยเจอเรื่องไหนสเตตัสเฟ้อขนาดนี้มาก่อนเลย เหี้ยจริมๆ

659 Nameless Fanboi Posted ID:cWctuxT8fJ

>>658 เหี้ย ฮาชิบ5555 ปี3850 ช่อง 3 แม่งยังอยู่อีกเหรอวะ กูล่ะทึ่งมันเลย

660 Nameless Fanboi Posted ID:cWctuxT8fJ

>>659 จำผิดต้อง3562

661 Nameless Fanboi Posted ID:gxZ8KiCf.o

>>656 กูนี่แหละคนบ่น อยู่มู้ก่อน mention ไม่ได้ แต่ iq 3000 นี่คือกูปัดเศษลงแล้วนะ 555

662 Nameless Fanboi Posted ID:gTpily0y87

>>661 3850 มันต้องปัดขึ้นเป็น 4000 สิวะ ว่าแต่มันจะใส่หลักย่อยมาเยอะแยะทำไม จะโชว์ว่าเลขไอคิวนี้ไม่ได้คิดลวกๆงี้? แต่สุ่มเลขมา

663 Nameless Fanboi Posted ID:ZjeZk7VEZv

อยากให้ตัวเอกฉลาด ถ้ามึงไม่เล่นสายความรู้เฉพาะด้าน ที่มีมันคนเดียวรู้ในเรื่อง
มึงก็ต้องทำให้ตัวละครอื่นโง่ลง เช่น พวกตำรวจในนิยายสืบสวน ที่เป็นได้แค่ตัวประกอบ ของนักสืบหนุ่มหน้าใส

664 Nameless Fanboi Posted ID:NAuJ9WcGjX

>>663 พูดเเล้วนึกถึงละครเรื่อง ล่า เลยว่ะ
ตำรวจเเม่งโง่ โง่ชิบหาย โง่วัวตายควายล้ม โง่จนต้องร้องขอชีวิต
พวกเมิงจับฉลากมาเป็นรึไงวะ

665 Nameless Fanboi Posted ID:vW5L4UT26P

>>663 ต้องให้พระเอกจบการศึกษาปริญยาเอก แล้วให้คนอื่นอีก 7.7 ล้านคนจบป.4 เรอะ

666 Nameless Fanboi Posted ID:9BgGSlcW+j

>>665 ไม่เชิงว่ะเพื่อนโม่ง มันอาจหมายถึง ตัวเอกรู้ว่าเอาสารเอผสมสารบีแล้วจะออกมาเป็นยารักษาโรคร้ายแรงได้ แต่ชาวบ้านในเนื้อเรื่องรู้จักแค่สมุนไพรป่าใช้แก้ได้แค่เป็นไข้ ตัวเอกเลยผสมยาขายซะเลย (สารเอกับสารบีในเรื่องดันราคาถูก แต่ไม่มีใครรู้ว่าผสมกันได้)

กับอีกแบบ ตัวเอกรู้ไปหม๊ด ดักทางอีกฝ่ายได้ตลอด รู้ทันกลโกง รู้ตัวคนร้ายจากหลักฐานสั่วๆ ถ้าเจออีกฝ่ายซ้อนแผน ก็ดันคิดแพลนบีมาแก้ได้ทันท่วงที ซ้อนแผนอีกฝ่ายคืนจนต้องร้อง มาซาก่า!, โซนา บากาน่า! อะไรพวกนี้

ตัวละครรอบๆ ตัวเอกต้องหัวช้ากว่า ยิ่งพวกตัวใช้แล้วทิ้งระหว่างทางต้องโง่ระดับไม่มีวัวผสม ตัวเอกไม่เคยขอความช่วยเหลือเพื่อน แต่พอเพื่อนมีปัญหา ตัวเอกแม่งแก้ให้ได้ทุกที ถ้าแนวแฟนตาซีตัวเอกต้องเข้าไปแก้ปัญหาระดับประเทศแบบที่พระราชายังต้องนั่งส่ายหน้า แต่ไอ้บ้านี่เสนอความคิดเข้าไปข้อเดียวแล้วเสือกแก้ได้ทั้งระบบ ฯลฯ

ประมาณว่าตัวเอกอาจฉลาดหรือไม่ก็ได้ แต่คนอื่นในเรื่องต้องโดนเนิฟสมอง มีความรู้จำกัด มีข้อมูลบางส่วนที่มีแต่ตัวเอกเข้าใจและเอามาใช้ได้ ทำอะไรก็ราบรื่นสำเร็จไปหมด ให้ตัวเอกได้โชว์ออฟ จนคนรอบตัวได้แต่ปรบมือด้วยความชื่นชม

667 Nameless Fanboi Posted ID:onLxWIw1ur

อยากอ่านแฟนตาซีเกี่ยวกับพลังวิเศษสักอย่าง ที่มันมีผลกระทบ butterfly effect จากสิ่งที่ตัวเอกกระทำ พอจะมีเรื่องไหนอยากแนะนำป่าวเพื่อนโม่ง

668 Nameless Fanboi Posted ID:bXYfcVnB1n

>>653 iq 200 เรื่องอะไรวะ คุ้น ๆ เหมือนกูเคยอ่านอยู่เรื่องนึง

669 Nameless Fanboi Posted ID:NAuJ9WcGjX

>>668 ไอ้มดเเดงอาละวาด
//หลบตีน

670 Nameless Fanboi Posted ID:F0LtLI93v1

>>668 กุรู้จักแต่iq 3000ว่ะ 5555

671 Nameless Fanboi Posted ID:6kmeic9xaV

>>668 มันเป็นการ์ตูนนะโม่ง Chunqing Yatou Huolala

672 Nameless Fanboi Posted ID:vW5L4UT26P

กูเคยเห็นโม่งสับนิยายเรื่องเทพจอมยุทธอะไรไม่รู้ ตอนแรกสู้กันตายข้างจนได้เกิดใหม่อยู่โลกปัจจุบัน แล้วเสือกไปยึดระบบ IT จนรัฐบาลวุ่นวาย แม่งเลยให้คะแนนต่ำเรี่ยดินชิบหาย

673 Nameless Fanboi Posted ID:AA1A7+ZOZt

>>672 เหมือนกูจะเคยสับนะ

674 Nameless Fanboi Posted ID:ofV1VHhOQy

เบื่อโฆษณาเหี้ยจริงๆ เว็บเด็กดีแก้กระตุกบนมือถือไม่ได้เรอะ กูลองเว็บอื่นโพสในเฟสบุคแม่งไม่เห็นกระตุก เป็นแค่เว็บเดียว

กูลองซัมซุงกับไอโฟนแล้ว เครื่องร้อนชิบหาย

675 Nameless Fanboi Posted ID:DTz1gYIceV

>>674 มันเก่าแล้วมึง ช่วยไม่ได้หรอก

676 Nameless Fanboi Posted ID:roOMiDKO7Q

ปิดเทอมทั้งที ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยเหรอ

677 Nameless Fanboi Posted ID:DovGjB2zmc

สับนิยายไง แต่ไม่มีคนแปะ

678 Nameless Fanboi Posted ID:o7EIy7aG0M

เด็กดวกปิดเทอมแล้วแต่โม่งไม่ได้ปิดเทอมนะเทอว์

679 Nameless Fanboi Posted ID:2Z2X5h0v4.

มหาลัยยังคาสอบกลางภาค คนทำงานไม่ต้องพูดถึง

680 Nameless Fanboi Posted ID:g8OqcBo5hd

>>679 ม.6 ยังช่วงสอบเข้าอยู่ด้วย555

681 Nameless Fanboi Posted ID:CxgDlN0dKP

รอกลางเดือนดีกว่า

682 Nameless Fanboi Posted ID:1/LCdHcxWP

เอานิยายมาโปรโมทในนี้จะเจออะไรบ้างวะ

683 Nameless Fanboi Posted ID:VZ654iYQz3

>>682 เป็นม้า ต่อให้มึงไม่ได้ตั้งใจโปรโมท แม่งก็จะตราหน้ามึงว่าม้าอยู่ดี

684 Nameless Fanboi Posted ID:Y7F9AdSbVn

>>682 ไหนก็เป็นม้ามันก็ยอมๆไป อย่างน้อยก็มีโม่งเข้าไปด่า

685 Nameless Fanboi Posted ID:Hv6cxLk.+B

>>682

686 Nameless Fanboi Posted ID:PYWNIKDP4M

โม่งคิดว่านิยายในเด็กดีเรื่องใดก็ตามที่มีคำเหล่านี้อยู่ในชื่อเรื่องมักจะเป็นนิยายเห่อxมอยแน่นอน

ในความคิดกูที่นึกได้คือคำว่า นักฆ่ากับเกิดใหม่ในโลก(ชื่อการ์ตูนใดๆ) นี่แหละ เห่อxมอยประจำ

687 Nameless Fanboi Posted ID:CxgDlN0dKP

แค่เห่อหมอยย่างเดียวไม่พอ จูนิเบียวด้วยสัส

688 Nameless Fanboi Posted ID:jy.CX25jcR

จักรพรรดิ
เทพ/มาร
สุดยอด
อะไรพวกนี้

689 Nameless Fanboi Posted ID:DwUzLae3yI

>>686 อ๋อง

690 Nameless Fanboi Posted ID:CxgDlN0dKP

ที่แปลกกว่านั้น ไม่ว่าคนเขียนนิยายจีนจะเป็นคนจีนหรือคนไทย ตั้งชื่อเรื่องแม่งจูนิเบียว

691 Nameless Fanboi Posted ID:km.7bhpTm9

>>686 สาวใช้ ระบบ

692 Nameless Fanboi Posted ID:sdiAmmRi2t

ไม่มีใครถกประเด็น กูเปิดประเด็นใหม่ก็ได้ คิดว่านิยายวิทยาศาสตร์มีอะไรน่าสนใจบ้างล่ะ

693 Nameless Fanboi Posted ID:Nc0OOcsdr0

>>692 เทคโนโลยีที่คิดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตเนี่ยแหละ กูว่าน่าสนใจสุด

694 Nameless Fanboi Posted ID:/04+tl38Xu

>>692 การที่คนแต่งมันพยายามตะล่อมหาเหตุผลให้ความคิดเพ้อฝันของมันดูมีความเป็นไปได้อย่างน่าเชื่อถือที่สุดนั่นแหละที่น่าสนใจ เพราะเหตุผลที่เอามาใช้ประกอบการตะล่อมเกือบทั้งหมดมันเป็นวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการพิสูจน์ที่ถูกเอามาโยงหากัน
แต่ในเมื่อมันเป็นนิยาย บางเรื่องก็อาจจะเพิ่มตัวแปรที่ยังหาในโลกจริงไม่ได้ เช่น พลังงานบริสุทธิ์รูปแบบใหม่ สารเคมีแปลกๆ คลื่นที่มีผลกระทบบางอย่างต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งที่ตอนนี้มีอยู่แค่ในทฤษฎียังไม่สามารถทดลองให้เป็นจริงได้ ฯลฯ
แล้วก็เรื่องแนวที่กูชอบที่สุดคือประเภทที่มันเอาตำนานความเชื่อมาตีความแล้วอธิบายให้เป็นไซไฟ หรือพวกบันทึกที่ทำนายอนาคตต่างๆ ลองสมมติว่าถ้ามันเกิดขึ้นจริงไปจะไปถึงจุดนั้นได้ยังไง อันนี้มันจะดูก้ำกึ่งกับแฟนตาซีผสมปรัชญาหน่อยๆ แต่พออ่านแล้วลองไปหาตำนานต้นทางมาเทียบดูแล้วยิ่งสนุก เหมือนต้องดูหนังซ้ำหลายๆรอบ รอบแรกเอาสนุกเพลินๆ รอบต่อๆมาก็เก็บรายละเอียดหาอีสเตอร์เอ้ก พอเก็บครบหมดมาดูซ้ำอักทีก็ได้ฟีลต่างจากเดิมอีก

695 Nameless Fanboi Posted ID:QsV6zROOlJ

ลองเปิดใจอ่านไซไฟไทยแล้ว หลาย ๆ เรื่องเขียนสนุกนะ อย่างน้อย ๆ เขาก็คิดมาแล้วว่าเฮ้ย มันไม่ดังหรอก คนมันไม่อ่านกันหรอกถ้าเทียบกับแนวอื่น แต่พวกเขาก็เขียนเพราะชอบ มันก็มีแย่ มีดี แต่ข้อดีหนึ่งของหมวดนี้คือมันหลากหลาย

696 Nameless Fanboi Posted ID:GNM3JdITZy

อยากอ่านนิยายที่มีดีไซน์ปีศาจแบบเลิฟคราฟว่ะ

697 Nameless Fanboi Posted ID:2R4+lPl2.Y

>>696 Lovecraft ไม่มีปีศาจนะ

698 Nameless Fanboi Posted ID:GW3DzdEGkl

>>695 ใช่ เห็นด้วย กูก็นั่งอ่าน ๆ ดูอยู่

699 Nameless Fanboi Posted ID:88cYZQm4t9

อวาลอนนี่ยังสนุกไหมวะ เมื่อก่อนกูติดมากชื้อถืงเล่ม5 แต่กูหยุดอ่านไปหลายปีละ ไม่รู้จะฟิลเดียวกันรืเปล่า

700 Nameless Fanboi Posted ID:lpwYlI/lis

แล้วแต่คนเขียนจะอวยไม่ใช่หรอวะ
https://www.dek-d.com/board/view/3912766/

701 Nameless Fanboi Posted ID:MtL5BjQHY9

>>700 ว่าจะตอบแต่พออ่านคอมเม้นเห็นมีคนไประบายเต็มที่แล้วก็เลยช่างแม่งละกัน ว่าแต่เห็นเอากระทู้มาแปะหลายรอบแล้วไม่มีนิยายมาแปะให้สับมั่งวะ?

702 Nameless Fanboi Posted ID:LIq37faIVl

ตกลงพวกโม่งเป็นพวกวัยทำงานกันหมดเรอะ ปิดเทอมแล้วนะเฮ้ย

703 Nameless Fanboi Posted ID:N/fe8L95aY

>>702 อยู่เว็บเด็กดีมาตั้งแต่หัวเกรียน ตอนนี้จะแต่งงานแล้วครัช

704 Nameless Fanboi Posted ID:TRmos2Rewl

>>702 มหาลัยยังกลางภาคอยู่นะเอ้อ

705 Nameless Fanboi Posted ID:+d8hhcSGPs

>>702 กูจะสอบ9วิชาสามัญ....
//ตายห่าคากองหนังสือ

706 Nameless Fanboi Posted ID:xMuFi4JzHn

>>702 กูปิดเทอมก็จริงแต่ซ่อม ร. แก้ 0

707 Nameless Fanboi Posted ID:BK0HzrZwYN

กูไม่มี Mid-term ก็จริงแต่สอบทุกอาทิตย์ไม่ได้หยุดมาตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้วละ

708 Nameless Fanboi Posted ID:5aaku.NL5Z

>>707 ทำไมเหมือนกรูเดาคณะออกเลยวะ......

709 Nameless Fanboi Posted ID:LzpHpDf6TD

>>708 คณะละครสัตว์?

710 Nameless Fanboi Posted ID:ofPHK7zqlL

มู้ 21 นี่มีใครสับนิยายไปบ้างยังวะ

711 Nameless Fanboi Posted ID:HR/qCUwKaP

กูแปะนิยายวอนนาบีแล้วไม่มีใครสับเลยมึง 555

712 Nameless Fanboi Posted ID:fmvEuNZT+v

Ky มีนิยายแนวสร้างบ้านบริหารเมืองในเด็กดวกที่น่าสนใจไหมวะ สอบเรื่องรัฐศาสตร์แล้วอารมณ์ค้างว่ะ

713 Nameless Fanboi Posted ID:y0xDLKgvaf

>>712 ยากวะ แค่พูดเรื่องการเมืองเด็กมัธยมส่วนใหญ่ไม่อินวะ ต้องพวกปริญญาตรีถึงจะอ่านไหว

714 Nameless Fanboi Posted ID:7wdRAlLE4K

>>711 แปะใหม่อีกที

715 Nameless Fanboi Posted ID:vQGqE1uJvy

>>714 สับไหวกันปะล่ะ >>118

716 Nameless Fanboi Posted ID:y0xDLKgvaf

>>715 กูเกลียดพล็อตแบดบอย ทำเหี้ยแล้วเท่เรอะ

717 Nameless Fanboi Posted ID:9Kq9tnTt24

งึมมม ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วแวะมาถามความเห็นโม่งๆ หน่อยละกัน
คือช่วงนี้เพิ่งสังเกตเห็นว่านิยายแนวสายตัวเอกมีพลังเยอะกว่าชาวบ้านแต่ขณะเดียวก็ดำเนินเรื่องแบบเสพย์กาวเยอะขึ้นกว่าเดิมมาก จนแทบจะมาแทนที่สายตัวเอกเกรียนเทพโชว์ตบคนแล้ว คิดว่าแนวนี้มันจะไปได้อีกยาวรึเปล่าวะ

718 Nameless Fanboi Posted ID:J1JMfS10v8

>>717 ไปได้อีก 15 ปี

719 Nameless Fanboi Posted ID:y0xDLKgvaf

>>717 ถ้าธัญวลัยครองนิยายเงี่ยนอันดับ 1 เด็กดีก็ครองนิยายเมากาวอันดับ 1 ละกัน

720 Nameless Fanboi Posted ID:e6BJz2HQZz

>>715 ไม่ไหวว่ะ เกลียดนิยายแนวทารุณกรรม
เสียดายเวลาสับ

721 Nameless Fanboi Posted ID:uJDA5F.mho

>>720 มีนิยายเเฟนตาซีเอจจี้วอนนาบีอยู่ สนปะล่ะ

722 Nameless Fanboi Posted ID:ul2lLKZ+XK

>>721 มึงอยากให้กูช่วยด่ามันหรือยังไง กูสับนิยายพวกนี้มาหลายเรื่องละ

723 Nameless Fanboi Posted ID:qv6jdndNQU

>>715 เอาคร่าว ๆ ละกัน พอดีทำใจอ่านได้แค่ตอนเดียว ไม่ใช่แนวอย่างแรง (รีวิวค่อนข้างจะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวมาก ๆ)

สำนวนกูขอไม่พูดเพราะสำนวนดีกว่านิยายกูอีก(ความเห็นส่วนตัว)

อย่างแรกกูเกลียดการเล่าเรื่องแบบนี้ เข้าใจเว้ยว่าอยากฝอยทุกอย่างให้คนอ่านรู้ตั้งแต่ทีแรกเพื่อที่จะเอาเข้าเรื่องโดยเร็ว ถ้าจะให้กูเดาเนื้อเรื่องต่อกูว่าอีคนที่น้องโดนเล่นมันจะทำกลับเว้ย(ดูจากชื่อเรื่องคำโปรยกูก็รู้ละ) แล้วทีนี้ในเรื่องมันใช้การเล่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ฝอยให้เรารู้หมดเลยว่าใครทำอะไรใครซึ่งกูมองว่ามันยังขยี้ได้อีก(ยังไงเดี๋ยวบอกช่วงท้าย)

อย่างสองกูเกลียดความเพ้อของอีนางเอก บอกก่อนว่าไม่เคยอ่านนิยายรักแต่เรื่องนี้กูว่าต่อให้ไม่ช่ำชองก็บอกได้ว่านางเอกเเม่งสายเพ้อ รำคาญชิบ(ความเห็นส่วนตัวมาก ๆ แล้วแต่คน)

อย่างสุดท้ายกูเกลียดการใช้มุมมองของเรื่อง โอเคเข้าใจได้ อยากให้คนอ่านเข้าใจความคิดตัวละครทันทีเลยใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่ง แต่ไอ้มุมมองบุคคลที่หนึ่งที่เรื่องนี้ใช้มันกลับใช้สลับไปมาระหว่างตัวละครหลายตัว(อย่างในตอนหนึ่งก็อีไวน์กับนางเอก)และการวางเหตุการณ์/สถานการณ์มันก็ไม่เหมาะกับมุมมองบุคคลที่หนึ่งด้วย

ถ้าคนเขียนอยากใช้มุมมองบุคคลที่หนึ่งจริง ๆ กูว่าควรใช้มุมมองแค่คนเดียวถ้ากูจะแก้เรื่องนี้ใหม่นะ กูจะเปลี่ยนให้อยู่มุมมองอีนางเอกทั้งเรื่อง เปิดเรื่องมานางเดินเข้ามาเห็นอีไวน์กับอีซันมองหน้ากันไม่ติดซึ่งอีพี่มันก็ไม่ต้องบอกอะไรนางให้นางสงสัยไปก่อนว่าทำอะไรผิดเลยนอนคุก แล้วทีนี้ก็โดนอีไวน์ลักพาตัวหรืออะไรก็ว่าไปเพื่อไปแก้แค้นตามแผนแล้วระหว่างแก้แค้นก็ค่อย ๆ ให้อีไวน์เปิดเผยเหตุผลมาทีละเล็กทีละน้อยว่าน้องมันโดนอีซันเล่นก่อนหรือเหี้ยไรก็ว่าไป(ไม่ใช่มาโครมเดียวนะค่อย ๆ หยอดมา) ส่วนตอนจบจะลงเอยหรือแจ้งตำหนวดก็แล้วแต่คนเขียนจะคิด เนี่ย... กูว่ามันน่าสนกว่าให้พระเอกมาบอก "ฮ่า ๆ มึงทำน้องกู กูก็จะทำน้องมึงตั้งแต่ตอนแรกว่ะ" แถมได้ใช้ประโยชน์ของมุมมองบุคคลที่หนึ่งเต็มที่ด้วยเพราะคนอ่านก็ไม่รู้เรื่องอะไรเหมือนอีนางเอก(ถ้ามันเล่าตามแบบที่มันเขียนอยู่ คนอ่านจะรู้เหตุผลของอีไวน์ตั้งแต่ตอนแรกทั้งหมด ขอย้ำ... ทั้งหมด) แล้วทีนี้พอมันมีอะไรหยอดมา คนอ่านก็จะได้คิดปะติดปะต่อด้วย เรื่องมันโดยรวมจะได้ไม่เป็นแค่นิยายรัก badboy ดาด ๆ ทั่วไป มันจะมีอารมณ์แบบ mystery ผสมมาด้วย เจ๋งกว่าเดิมอีก(ถ้าคนเขียนมือถึงนะ)

724 Nameless Fanboi Posted ID:JBB7WQxCOM

>>723 ล้ำลึก หรือกูคิดไม่ถึงเอง

725 Nameless Fanboi Posted ID:eOHIKGSipF

พอจะแนะนำนิยายแนวตัวเอกความจำเสื่อมหน่อยได้มะ

726 Nameless Fanboi Posted ID:vinUfcoGJp

>>725 รุ้จักเรื่องนึง อินางเอกความจำเสื่อม ตื่นมาเจอผู้ชาย2คน ปรากฎว่านางคบซ้อนอะ แต่กุลืมชื่อละ ขอภัยกุช่วยมะได้

727 Nameless Fanboi Posted ID:za1ac+jqYd

ตกลงนักเขียนทุกคนเป็นพวกความจำเสื่อมเรอะ https://www.dek-d.com/board/view/3913675/

728 Nameless Fanboi Posted ID:I7jiAkSu6G

KY จนตอนนี้ Visual Novel ของเด็กดียังมีคนนิยมอยู่รึเปล่า กูส่องหมวด VN มีแต่มู้อะไรไม่รู้ไม่ได้เกี่ยวห่าไรเลย จะแปะนิยายดันไปลงหมวดนั้นอย่างหน้าตาเฉย

729 Nameless Fanboi Posted ID:YWvotgL0EO

>>728 ded section

730 Nameless Fanboi Posted ID:qcN7pa4ZW5

Promised Neverland เขียนดีปะวะ

731 Nameless Fanboi Posted ID:b6ZqI+YMQv

>>730 ไปถามทางนู้นง่ายกว่าเยอะ https://fanboi.ch/animanga/

732 Nameless Fanboi Posted ID:qMsEEsWFbV

Ky จู่ๆ กูก็ฝันถึงโจโจ้ แต่จาก โอร่า โอร่า โอร่า มันกลายเป็น กุดุส กุดุส กุดุส แทน สยองชิบหายเลย

733 Nameless Fanboi Posted ID:SwZEQe6Fnh

>>732 นอนหลับฝันดีเลยสิมึง

734 Nameless Fanboi Posted ID:fUJqv7Jh/t

>>732 แล้ว muda คงจะเป็นฉัวฉัวสินะ

735 Nameless Fanboi Posted ID:0FACelRTA7

ทำไมมู้นี้อยู่นานจุง

736 Nameless Fanboi Posted ID:fUJqv7Jh/t

>>735 ไม่ค่อยมีประเด็นคุยน่ะมึง เลยนานงี้เเหละ

737 Nameless Fanboi Posted ID:9bdN1ASB9q

งั้นกูถกเรื่องจีนละกัน ไปส่องมู้คนถกเรื่องลัทธิเต๋า แต่กูอ่านอีดอกขาวแล้วส่ายหน้าเลย น้ำเยอะชิบหาย
https://www.dek-d.com/board/view/3914172/

738 Nameless Fanboi Posted ID:jd66gGKldy

ม้าวิ่งกรับกรับกรับ เดี๋ยวเดียวลับตาเราไป
ม้าวิ่งเร็วไว เร็วทันใจร้องฮี้ กรับ กรับ
ม้าวิ่งเร็วรี่ ดูซิหายไป
ม้าวิ่งเร็วไว เร็วทันใจร้องฮี้ กรับ กรับ

คิมซอกจิน

739 Nameless Fanboi Posted ID:lYG/GaGxI0

https://www.dek-d.com/board/view/3913114/

ไอ้เหี้ยนี่อีกละ แม่งมาถามอะไรแบบนี้ มึงควรเอาเวลาไปเขียนนิยายไม่ใช่มาแต่ส่อง/เล่นบอร์ด ไอ้เวร

กูถามหน่อยมึงอยากเก่งแต่ไม่อยากฝึกแล้วมันจะเก่งมั้ย

740 Nameless Fanboi Posted ID:HOkSZCBUCb

>>739 Calm down first

741 Nameless Fanboi Posted ID:lYG/GaGxI0

>>740 โทษที เห็นตอนกำลังของขึ้นไปหน่อย แต่แม่งอะไรวะ คำถามแม่งน่าจะรู้คำตอบอยู่เเล้วยังเสือกไปถามอีก(แถมมีคนตามน้ำไปด้วยนะ)

742 Nameless Fanboi Posted ID:4bD80er9K9

>>739 กูอยากถามจขกท.จริงๆว่า แม่งอายุเท่าไรกันแน่

743 Nameless Fanboi Posted ID:hQdRzA8lGz

Ky เวลาพวกมึงไม่โอเคกับสำนวนตัวเอง แบบเขียนยังไงมันก็ไม่พอใจ ทำไงกันวะ

744 Nameless Fanboi Posted ID:h11t+hsTHW

>>739 มู้นินทามีนะครับ ถ้าจะนินทาบุคคลขอเชิญที่มู้นินทาครับ

745 Nameless Fanboi Posted ID:sRPU0zcB0t

>>743 เลิก ไปเรื่องเกมเเล้วค่อยกลับมาลองใหม่
ถ้ายังอีกก็ไปอ่านนิยายที่เเล้ว จนติดสำนวนที่อยากได้มาเเล้วค่อยกลับมาเขียน

746 Nameless Fanboi Posted ID:sRPU0zcB0t

>>745 *ที่ชอบ

747 Nameless Fanboi Posted ID:yzbCqvwaHm

>>743 ของกูหยุดเขียนไปเลย พอกลับมาเขียนใหม่แม่งสำนวนเปลี่ยน
จะว่าไปนิยามคำว่าดาร์กของเด็กสมัยนี้นี่ แค่ตัวเอกเคยอยู่จุดต่ำสุดมาก่อนก็นับว่าเป็นดาร์กแล้วเหรอวะ

748 Nameless Fanboi Posted ID:sRPU0zcB0t

>>747 เเค่ตัวเองฆ่าคนโดยไม่ต้องคิดอะไรได้ก็คือสายดาร์คเเล้วเว้ยมึง555

749 Nameless Fanboi Posted ID:THUh.lJxPK

>>743 ลบแม่งทั้งเรื่องแล้วหยุดเขียนไปสองสามวันมั้ง ตอนนั้นก็หาหนังสืออ่าน เล่นเกม ฟังเพลง หาอย่างอื่นที่ไม่ต้องคิดถึงนิยายทำ พอโล่งๆแล้วก็ค่อยหยิบสตอรี่บอร์ดมาทวนใหม่แล้วค่อยเริ่มแต่ง

750 Nameless Fanboi Posted ID:E3K1.VQay4

>>747 แค่พูดคำหยาบก็จัดว่าดาร์คแล้วมั้ง

751 Nameless Fanboi Posted ID:cg9hN+sAQe

>>745 เออ มึงเป็นคนตรงๆ นะ มันก็จริง งั้นเดี๋ยวกูกลับไปอ่านทวนนิยายแปลในคลัง มันสุดทนละตอนนี้
>>747 กูก็สำนวนเปลี่ยน มันไม่เท่าฉบับแรก เพราะที่เขียนแรกๆ อารมณ์มันร่วมมากกว่า/แค่พระเอกเถื่อนก็ดาร์คได้ละมึง อยู่ที่มุมมองคนด้วย
>>749 กูลองทำแบบนั้น ทวนพล็อตซ้ำๆ แต่ถ้าเขียนใหม่แล้วมันไม่เหมือนเดิมอะ มึงจะกลับไปง้อฉบับเดิมเปล่า

752 Nameless Fanboi Posted ID:X.euBnR.w0

>>747 ถ้าในดด. ดาร์กต้องมีลักษณะคร่าว ๆ ดังนี้
1. ตัวละครเบียวซูทรูเอ็ดจี้ ถ้าไม่ฆ่าคนไม่เลือกหน้าก็ต้องแก้แค้นแม่งทุกอย่าง
2. พยายามบอกอยู่ได้ว่าโลกนี้มันโหดร้าย แถวนี้แม่งเถื่อนไม่เจ๋งจริงอยู่ไม่ได้แต่พออ่านไปจริง ๆ เหมือนลูกแหง่พึ่งออกมาใช้ชีวิตคนเดียวแล้วปรับตัวไม่ได้มากกว่า
3. ตัวเอกทำชั่วไม่ผิด คนอื่นทำผิด
4. เนื้อเรื่องมีความพยายามจะรุนแรงตลอดเวลา (เน้นคำว่าพยายาม แม่งเอ๊ย darkwannabe)
พอนึกได้แค่นี้แหละ

753 Nameless Fanboi Posted ID:THUh.lJxPK

>>751 ที่ว่าไม่เหมือนเดิมนี่ส่วนไหนวะ? สำนวนหรือพล็อตเรื่อง ถ้าสำนวนสองสามวันนี่กูว่ามันไม่ได้เปลี่ยนจนเป็นคนละคนหรอก ส่วนถ้าพล็อตเรื่องเปลี่ยนจริงๆ แบบอ่านพล็อตเก่าแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ น่าจะไปอีกทางงี้ กูใช้วิธีทางสายกลาง หยอดปัจจัยเพิ่มเติมให้ตัวละครเกิดทางเลือก ถือดอกาสยืดเรื่องได้อีก พอแต่งไปจนถึงจุดที่ต้องเลือกค่อยคิดอีกที กลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนล่าสุดที่เขียนเดี๋ยวคำตอบมันก็ออกมาเอง
>>747 ตัวเอกอยู่จุดต่ำสุดเคยโดนทำเหี้ยๆใส่มาก่อนนี่ไม่ใช่จุดโฟกัสว่ะ เป็นแค่เหตุผลรองรับเวลาที่คนแต่งอยากให้ตัวเอกไปทำเหี้ยใส่คนอื่นสนองนี้ดตัวเอง ประมาณว่ากูถูกกระทำมาก่อนกูก็มีสิทธิ์จะเป็นคนกระทำบ้าง แม้ว่าตอนที่มันโดนกระทำจะเป็นการ(โง่)ถูกผญหลอกจนหมดตัว แล้วแก้แค้นโดยการจับผญคนนั้นไปโยนให้ผีห่ารุมโทรมก็ตาม //ช่วงท้ายเป็นเพียงเหตุการณ์สมมติ ไม่เกี่ยวข้องกับนิยายเรื่องใดทั้งสิ้น

754 Nameless Fanboi Posted ID:DmQwjwp04l

กูลองถกในเด็กดีดูว่าจะมีคนตอบมั้ย
https://www.dek-d.com/board/view/3914471/

กูแอบเล่นที่ร้านกาแฟ

755 Nameless Fanboi Posted ID:X.euBnR.w0

>>753 นั่นใช่ผู้กล้าโล่อนาจหรือเปล่า

756 Nameless Fanboi Posted ID:lwz9M0bwbj

>>755 ไม่ใช่หรอก ผู้กล้าโล่ผงาดจบตั้งเเต่เปลี่ยนชื่อยัยบิชเเล้ว กูไม่เห็นมีตอนหยังว่า

757 Nameless Fanboi Posted ID:eqOSQtAyHa

>>752 ตัวเอกต้องเป็นไบโพล่าด้วย

758 Nameless Fanboi Posted ID:zLUC2OlCwT

มีคนแนะนำมาให้ลองอ่าน เพื่อนโม่งคิดว่าไง มีใครอยากจะสับมั้ย?
https://writer.dek-d.com/Rose-Stephanie/writer/view.php?id=1901772&fbclid=IwAR2cWR7rvPl3v-_OF0hAo2LJxTQOoFmVUgyM2yFxW9WTJK7CamA6ggfNZrc
คนเขียนน่าจะยังมือใหม่ แต่มีแววพัฒนาได้อยู่

759 Nameless Fanboi Posted ID:44X1Gxm5hf

>>758 เอาแค่การเขียนชื่อเรื่องก่อน มันเว้นวรรคแปลกตอนอ่านครั้งแรกแม่งงงชื่อใช้ได้เลย

760 Nameless Fanboi Posted ID:tgNI8k+cCv

ฮรี้ ฮรี้

761 Nameless Fanboi Posted ID:nyVj6aZFWG

กูไม่เข้าใจคนตั้งชื่อยาวๆ ใครจะไปจำชื่อเรื่องได้วะ

762 Nameless Fanboi Posted ID:44X1Gxm5hf

>>761 มันมีบางจำพวกเน่อที่แบบเอานิยายชื่อยาว ๆ ไว้ดึงเด็กอ่านน่ะ ตั้งชื่อเลียนแบบไลท์โนเวลทั้งหลายในตลาด

763 Nameless Fanboi Posted ID:e1HxV6Kenp

>>761 เรื่องที่จำง่ายสุดแบบไม่ต้องท่องจำรอบสองก็ แจ๊ฟฟอร์ด ทหารกล้านาซี

764 Nameless Fanboi Posted ID:44X1Gxm5hf

>>763 อันนี้จำได้ทั้งเรื่องเลย

765 Nameless Fanboi Posted ID:44X1Gxm5hf

>>763 ปล. จะไม่พูดถึงไอ้เรื่องที่มีกุดุส กุดุสสักหน่อยเหรอโม่ง

766 Nameless Fanboi Posted ID:VhBiawQwi/

>>758 เห็นแท็ก dark 18+ แล้วกูนี่แทบจะเบือนหน้าหนี แต่ก็จะลองอ่านซักหน่อยละกัน

767 Nameless Fanboi Posted ID:QFlK+/vUg+

>>761 การตั้งชื่อแบบไลท์โนเวลสมัยนี้ มันก็แทบจะเป็นการเล่าเรื่องย่อเลยแหละ

768 Nameless Fanboi Posted ID:dbRyIz0ftu

>>765 เขาพูดถึงชื่อเรื่อง ไม่ใช่เนื้อหา
แถมกูเองก็จำชื่อเรื่องของไอ้กุดุสๆ ไม่ได้เหมือนกัน

769 Nameless Fanboi Posted ID:cimkmitgGO

https://www.dek-d.com/board/view/3914847/
มาต่อเพลงกันโม่ง

770 Nameless Fanboi Posted ID:fQaqF0iJQc

มีใครแนะนำนิยายแบบมาเป็นแก๊ง กระจายบทตัวละครดีๆบ้างมั้ย ชีวิตกุเจอซูมาจนเบื่อแล้ว

771 Nameless Fanboi Posted ID:oQurPEF.JZ

>>770 สามก๊กดีสุด ส่องเด็กดีแล้วเจ๊ง

772 Nameless Fanboi Posted ID:XBk+El58T3

>>770 แก๊งนี่สามคนก็นับปะ

773 Nameless Fanboi Posted ID:KjG5FRP81n

>>771 ขงเบ้งเเม่งเบียวนะเว้ย ถึงตอนจบจะเเพ้ก็เหอะ55555555555

774 Nameless Fanboi Posted ID:uU2eGtuVN.

GoT กระจายบทดีกว่าสามก็กอีก

775 Nameless Fanboi Posted ID:+wy+UAzb.g

>>774 Gendry สงสัยกับคำพูดของมึง

776 Nameless Fanboi Posted ID:1kRoUwlyXs

จะว่าไป ถ้าไม่เคยศึกษาสงครามตามประวัติศาสตร์มาก่อน จะเขียนนิยายสงครามไหวรึเปล่าวะ

777 Nameless Fanboi Posted ID:36AYtZQ+Rw

>>771 กุอ่านจนไม่มีใครคบกับกุได้ล่ะ เห็นเขาว่าอ่านสามจบคบไม่ได้ กุล่อไป20จบล่ะ จนจากกุมองว่าเล่าปี่คนดีเป็นคนโหนเจ้าเวล99 ล่ะ

778 Nameless Fanboi Posted ID:qE4Yluwjmy

>>776 มึงก็ลองไปอ่านนิยายแนวสงครามในเด็กดีเลยว่าสนุกมั้ย
จะมีซักกี่คนเชียวที่ศึกษาประวัติศาสตร์มาก่อนเขียน

779 Nameless Fanboi Posted ID:+wy+UAzb.g

>>776 >>778 https://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1849611&chapter=35
ข้ามไปอ่านช่วงโจรสลัดโผล่มา

780 Nameless Fanboi Posted ID:uU2eGtuVN.

>>775 เค กูยอม

781 Nameless Fanboi Posted ID:5mmtx6c+Lw

>>776 ถ้ามึงมีความรู้ ไม่มีปัญหา เเต่ประเด็นคือ...ความรู้ส่วนใหญ่อยู่ในประวัติศาสตร์

782 Nameless Fanboi Posted ID:tkVbbFvZs/

>>777 อย่าใส่คำว่าคนดีเข้าไปเลย หมองเปล่าๆ

783 Nameless Fanboi Posted ID:FZf4lcy+jg

เท่าที่สังเกตนิยายญี่ปุ่น จีน และไทยที่กำลังนิยม
นิยายญี่ปุ่นเน้นขายตัวเอกลูเซอร์อยากเทพ
นิยายจีนเน้นขายความเบียวของพวกนักสู้
นิยายไทยเน้นความเห่อหมอยหรือเลียไข่นิยายดัง

784 Nameless Fanboi Posted ID:LgIwzujefc

>>783 เห่อหมอย?

785 Nameless Fanboi Posted ID:kgQhsbNCAy

ที่น่าสนใจของนิยายจีนเสิ่นเจิ้น (คนไทยเขียน) คือแม่งชอบใช้เซ็ตติ้งจีนในโลกแฟนตาซี คือถ้ามึงจะสร้างโลกแฟนตาซี ทำไมมึงไม่ให้มันเป็นแฟนตาซีไปเลย แล้วค่อยแทรกความจีนลงไปก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นคือแม่งเมคแคว้น เมคตำแหน่ง แล้วเอามาตั้งชื่อจีนๆ เพื่อเรียกลูกค้า ยิ่งถ้าเป็นนิยายแนวฮ่องเต้ตบจูบเนี่ยมักได้อารมณ์ประมาณละครน้ำเน่าหลังข่าวในธีมหนังจีนกำลังภายใน

786 Nameless Fanboi Posted ID:6zj4h9yGcC

>>785 ไม่มีปัญญาสร้างโลกใหม่ที่คิดส่วนผสมเองเอาแต่ดัดแปลงล่ะมั้ง

787 Nameless Fanboi Posted ID:Zycui2S1E2

>>783 ไทยก็เด่นเรื่องเทพซ่านะ เทพซ่าเหี้ยๆ เข้าต่างโลกปุ๊บ โชว์พลังความเห่อหมอย OP ทันที

788 Nameless Fanboi Posted ID:e3kmjfikFd

>>787 เห่อหมอย?

789 Nameless Fanboi Posted ID:EVySVUFXpt

เห่อหมอย เป็นอาการของเด็กที่เพิ่งมีขนแซมอวัยวะเพศแล้วอยากถกกางเกงให้คนดูว่าหนูโตแล้วนะ อารมณ์​แบบ "นี่ ๆ กูมีหมอยแล้ว" พวกมึงดู

790 Nameless Fanboi Posted ID:Jzrv2PliAC

ผู้ใหญ่บางคนชอบใช้คำประเภทนี้ดูแคลนเด็กซึ่งอ่อนประสบการณ์กว่า และเป็นปัญหากับสังคมในมวลรวม เช่นคำว่า อาบน้ำร้อนมาก่อน เห่อหมอย เด็กเมื่อวานซืน ไร้เดียงสา ไปจนถึง เกรียน และแว้น

เด็กเองก็มีคำในทำนองเดียวกันให้กับผู้ใหญ่ตกยุคหรือผู้ใหญ่ที่เป็นปัญหากับสังคม เช่น ไดโนเสาร์ แก่เพราะอยู่นาน มนุษย์ป้า มนุษย์ลุง เป็นต้น

791 Nameless Fanboi Posted ID:SQCQNyHxrK

>>790 กูชอบคำว่ามนุษย์ป้า จากประสบการณ์แม่งเรียลได้ใจจริงๆ

792 Nameless Fanboi Posted ID:iQYWI/FFr+

>>790 กูว่าเห่อหมอยมันใกล้เคียงกับจูนิเบียว เป็นวัยอารมณ์พลุกพล่านขาดการยั้งคิด ไม่ต้องผู้ใหญ่หรอก

793 Nameless Fanboi Posted ID:NjvYGAm9.t

>>791 กูเจอมนุษย์ป้าแซงคิวบ่อยมาก แซงแบบไม่สน 4 สน 8 ไรเลย เหมือนโลกนี้ไม่มีเคยคำว่าคิวกับมารยาทอยู่

794 Nameless Fanboi Posted ID:FlQ0tIxLyl

>>793 มนุษย์ป้ามีคุณสมบัติศูนย์กลางจักรวาล

795 Nameless Fanboi Posted ID:dAHMSs3Ax0

อะไรคือ Anti-Satan วะ?

796 Nameless Fanboi Posted ID:ONEqD0CjJf

เฮ้ย ไปลองอ่านนี่สิ แต่ละคนตอบกันยังไง
https://docs.google.com/spreadsheets/d/1wpA_clknvLACrxPZJY707GrZB1JhoakoI2kjoCiWam8/edit#gid=2011181289
https://www.dek-d.com/board/view/3915122/

797 Nameless Fanboi Posted ID:z9oB+ql.sB

เอาล่ะ ผมเลิกกวนตีนและเขียนอะไรจริงจังสักครั้ง

หลังสงกรานต์ปี 59 หลังจากที่ผมโดนทหารถือ M16 มาหน้าบ้าน แล้วจับผมใส่รถ คลุมถุงดำเข้าค่ายทหาร

ผมโดนเอาไปนั่งอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่ง มีเจ้าหน้าที่สามชุด เวียนกันสอบสวน

เอารูปคนนั้นคนนี้มาให้ดู ถามว่ารู้จักมั้ย แล้วก็ถามอะไรที่แบบ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเทคนิคถามแรงๆเยอะๆ ก่อนให้กลัวหรือเปล่า

แต่จริงๆ เนื้อหาการถามผมคือ "อาวุธสงครามอยู่ที่ไหน กองกำลังที่มึงฝึกอยู่ที่ลาวมีเท่าไหร่"

"มึงส่งเงินให้นักศึกษายังไง ใครเป็นคนสั่งการ"

เอาภาพเพื่อนที่หน้าโหดๆในเฟสมาถามว่า "คนนี้ใคร มือปืนมึงหรือเปล่า" เอาแชทที่พวกผมนัดกันย่างหมูกระทะที่บ้านมาเปิดถามว่าเตรียมของนี้หมายถึงอะไร

เอาเฟรนด์ในเฟส ซึ่งจริงๆมันเป็นเพื่อนมัธยมของผม ที่แม่งไม่ได้คุยกันมาหลายปี ตอนนี้ไปเป็นโปรแกรมเมอร์ มาถามว่า "นี่แฮ็คเกอร์สังกัดพวกมึงใช่มั้ย"

แล้วก็มีรูปคนนู้นคนนี้เต็มไปหมด จากเฟรนด์ลิสม์ผม ภาพทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ที่เป็นเพื่อนในเฟรนด์ลิสม์ผม มาหมดทุกคน

บางคนผมพึ่งรู้ด้วยซ้ำว่ามันทำมาหากินอะไร เกี่ยวกับหน่วยราชการยังไง

แล้วแบบ ผมจบรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เพื่อนของเพื่อนผมในเฟรนด์ มันก็ต้องโยงไปถึงโรม จ่านิว พวกดาวดิน มีหน้าห้องกระทรวงนั้นนี้ จนถึงพวกลูกหลานนักการเมืองได้ปะวะ

ผมโมโหชิบหาย คือแต่ละคนเนี่ย เข้าใจมั้ยว่าแชทคืออะไร เฟรนด์ลิสต์คืออะไร ผมมีเฟรนด์ในเฟสนี้ ผมอาจจะไม่รู้จักมันก็ได้เว้ย แค่มันแอดมาผมกดรับ

แล้วที่ผมโกรธอีกอย่างคือแกหาว่าผมเป็นคอมมิวนิสต์ คือผมนี่โคตรจะทุนนิยม การหาว่าผมเป็นคอมมิวนิสต์นี่คือไม่เข้าใจอะไรเลย

(ต่อ)

798 Nameless Fanboi Posted ID:m+F2qerb4+

>>797

บอกตามตรงว่า วันนั้นพี่แกพูดอะไรมา ผมคิดว่าล้อเล่น นึกว่าด่าไปเรื่อยเปื่อย คือนึกว่าเป็นเทคนิคแบบเอาหนักๆ ขู่ๆ ไว้ก่อน เผื่อผมมีข้อมูลแล้วหลุดที่เบากว่า

แต่สัส แม่งเชื่อจริง ฟ้องจริง

สิ่งที่อยากจะเล่าคือ มีเจ้าหน้าทีแก่ๆคนหนึ่ง ที่น่าจะรับบทโหดมา แกไม่ยอมบอกว่าอยู่หน่วยไหน แต่แกด่าผมชิบหาย จนผมโมโห

มันมีประโยคหนึ่งที่ผมจำได้ดีคือ "มึงคิดว่ากูโง่เหรอ คิดว่ากูเนี่ยแก่จะลงโลงแล้วใช่มั้ยล่ะ? อีกไม่นานกูก็จะตายแล้ว?"

ผมได้ยินแล้วหายโกรธเลย

เพราะตอนนั้นผมเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเขาถึงทำแบบนั้น

เพราะพวกเขากลัว

ย้ำอีกทีว่า เพราะพวกเขากลัว

เพราะพวกเขามีชุดความดีแบบหนึ่ง ซึ่งพวกเขาใช้เวลาทั้งชีวิต 40-50 ปี ต่อสู้เพื่อสร้างมัน ต่อสู้เพื่อปกป้องมันมาตลอด

ผมนึกได้ว่า เออ คนที่นั่งอยู่ตรงหน้านี่ เพื่อนเขาคงเคยไปแฝงตัวในหมู่คอมมิวนิสต์ แล้วโดนจับไปฆ่าจริงๆ

เคยเจอพวกคอมมิวนิสต์ขนอาวุธจากโซเวียต ส่งผ่านลาว มาแถวๆ ขอนแก่น กาฬสินธ์จริงๆ แล้วเขายังใช้ชีวิตอยู่ในชุดความคิดนั้น

แล้วจู่ๆโลกมันก็เปลี่ยนแบบกลับหัวกลับหาง

ชุดความดีทั้งหมดที่เขามีถูกบอกว่ามันผิด

เขาไม่มีทางออก ไม่รู้จะไปไหน

วิธีแก้ปัญหาของเขาคือ การทำแบบเดิมที่มันเคยเวิร์ค คือไปหาคอมมิวนิสต์มาสอบสวน

เขาพยายามเค้นเอาให้ได้ว่า ผมเนี่ยสั่งทำภาพการ์ตูนล้อรัฐบาล ผมเนี่ยมีเครือข่ายมากมาย "ถ้ามึงไม่สั่ง ถ้าไม่มีคนจ่ายเงิน แล้วภาพด่ารัฐบาลมันมาจากไหน"

คือแบบ... ผมอยากรู้มากว่า รัฐบาลทหารเนี่ย มันโดนเอเจนซี่หลอกเอาค่าทำภาพเชียร์รัฐบาลไปภาพละเท่าไหร่ งบเพจละล้านหรือเปล่า

จากนั้นผมพยายามนะ พยายามอธิบายว่า เนี่ยนะ พวกการ์ตูนต่างๆนี่ ใครมันก็ทำได้ แค่เขามีความคิด มีไอเดีย เขาก็ทำออกมาตามความคิดเขา คนชอบมันก็แชร์ไปเอง

เจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจจริงๆ คือไม่เข้าใจเลย

(ต่อ)

799 Nameless Fanboi Posted ID:z9oB+ql.sB

>>798

เขาเชื่อมากว่ามันต้องมีเสธสักคน ใครสอนมึง ทหารนอกราชการเหรอ หรือว่าพัลลพ หรือคนนั้น คนนี้ ซึ่งผมไม่รู้จักชื่อสักคน

เขาคิดว่ายังไงก็ต้องมีคนวางแผน มีคนเขียนบท มีคนวาด มีเครือข่ายกระจายคอนเทนท์ และทั้งหมดต้องใช้เงิน

การชุมนุมคัดค้านรัฐประหารหรือประชามติก็เช่นกัน เขาคิดว่าต้องมีโครงสร้างเช่นนั้น

ดังนั้นหน่วยความมั่นคงจึงเป็นเหมือนการมองหา ศูนย์กลางของมหาสมุทร ซึ่งมันไม่มีไง น้ำมันแค่ไหลมารวมกัน

แล้วแม่งพูดกันไม่รู้เรื่อง ผมพยายามอธิบายแบบนี้แหละ แม่งก็ตวาด บอกว่าผมพูดนอกเรื่อง มึงสารภาพมาว่ามึงจ่ายเงินยังไง

เอ้าสัส!

ผมสารภาพว่า หนึ่งวันในค่ายทหาร ผมเศร้ามากกว่ากลัว

คือเหมือนไปพยายามสอนคนแก่เล่นไอแพท

ทุกอย่างมันเกือบจะดี จนเจ้าหน้าที่บอกว่า "นี่ มึงสารภาพมาเถอะ นายกูโกรธแล้ว ถ้ามึงยังปากแข็งแบบนี้นะ นายกูบอกให้หาอะไรที่ยัดมึงได้ ให้ฟ้องเลย"

ผมนึกว่าขู่ไปงั้นล่ะ แม่งไม่มีหรอก

สรุป แม่งฟ้องจริงๆ

เรื่องแบบ ฟ้องๆไปงั้น ให้ไปปฏิเสธเอาในชั้นศาลก็ฟ้องมา

แล้วมันเหี้ย ไอ้คำว่า ฟ้องๆไปก่อน ค่อยไปปฏิเสธในศาลเอา คือการสูญเสียทุกสิ่งที่เคยมี

เงินประกัน 7 แสน ธุรกิจเจ๊ง ความสัมพันธ์เพื่อนทั้งหมดพังทลาย ญาติตัดขาด

.
.
.
รู้มั้ยผลเป็นยังไง

ผมโกรธ

ผมปฏิญาณกับตัวเองว่า "ได้ ลุงกลัวใช่มั้ย ผมจะทำให้มันเป็นจริง"

"จากนี้ผมจะมีชีวิตอยู่เพื่อให้ ลูกหลานของลุงมีชีวิตที่ดีกว่าสมัยของลุง แล้วต่อว่าบอกว่า แม่งเอ้ย ทำไมคนรุ่นพ่อ รุ่นตาของกู ถึงทำอะไรเหี้ยๆแบบนั้น ทิ้วไว้ให้กูต้องมาเช็ดล้าง แม่งห่วยชิบหาย"

"ลุงจะไม่ได้ถูกสรรเสริญในประวัติศาสตร์ แต่ถูกก่นด่า ลูกหลานของลุงจะต้องอับอายที่มีบรรพบุรุษเช่นนี้"

"ผมจะแสดงให้เห็นว่า แนวทางที่ไม่ใช่ของลุงมันดีกว่า มันสว่างไสวกว่า มันมีอนาคตกว่า"

มีคนถามผมตอนออกมาว่า "ทำไมมึงไม่ฟ้องมันกลับ มึงไม่โกรธมันเหรอ"

คำตอบของผมคือ "กูโกรธ แต่กูไม่ได้โกรธใครคนใดคนหนึ่ง กูไม่ได้คิดจะแก้แค้นใครคนใดคนหนึ่ง"

วิธีการแก้แค้นที่ต้องทำคือ "ทำลายโลกเก่าๆให้มันพินาจไป และสร้างโลกใหม่ที่ดีกว่าขึ้นมา"

ตอนปีแรกๆ แทบทุกคืนผมนอนไม่หลับ คือโกรธ ตอนกลางคืนมันจะโกรธขึ้นมา แม่งไม่ยุติธรรม ทำได้คือมานั่งอธิษฐาน

บางโมเมนท์มันแบบ สัส อยากได้ระเบิดสักลูก ไประเบิดตายๆไปกับแม่ง

มันเป็นโมเมนท์ที่ God only knows จริงๆ only God can save your soul จริงๆ

สิ่งที่เราทำได้คือ เอาความโกรธนี้เปลี่ยนให้ไปในทิศทางที่ดี และสร้างสิ่งดีๆขึ้นเพื่อทำลายสิ่งเก่า

แล้วผมรู้ว่าเวลาอยู่ข้างเรา

ไม่มีใครต้านทานเวลาได้

คนรุ่นใหม่ๆต่างเก่งกว่าคนรุ่นผมทั้งนั้น

โลกมันจะไปทางนั้น มันเป็นศึกที่ยังไงก็ชนะ อยู่แค่ว่าช้าหรือเร็ว

ถ้าพรึ่งนี้ไม่ชนะก็ยังมีต่อ มะรืน ปีหน้า 10 ปีข้างหน้า 20 ปีข้างหน้า เรายังสู้ได้อีกหลายสิบปี

เอาดิ ก็มาดิ

แต่ลุงอ่ะ จะเหลือเวลาเท่าไหร่?
.
.
.
เชื่อมั้ย ว่าทุกวันนี้ก็ยังคิดอยู่ว่า ด้อมฟ้า futurista หรือกระแสพื้นที่ของเพื่อไทย อะไรนี่ มีคนวางแผนอยู่ มีคนจัดตั้ง จ่ายเงิน

เออ ก็แพ้ไปพร้อมกับยังคิดแบบนั้นอยู่ละกัน
.
.
.
ท้ายสุดนี้ผมขอตอบคำถามว่า "มึงคิดว่ากูโง่เหรอ คิดว่ากูเนี่ยแก่จะลงโลงแล้วใช่มั้ยล่ะ? อีกไม่นานกูก็จะตายแล้ว?"

ในวันที่ 24 มีนาคม นี้ ในคูหาเลือกตั้ง

ผมหวังว่าลุงจะยังไม่ตาย รอดูทุกสิ่งของลุงมันพังทลายลงมากับตาเสียก่อน

800 Nameless Fanboi Posted ID:a2H/fJDpsI

>>796 บัญชีหนังหมาเหรอวะ

801 Nameless Fanboi Posted ID:V0OBgFN+ue

>>800 กุว่าเป็นบทความบ่นๆ ของหะริ* มากกว่า ก่อนหน้านี้มันเคยเจอลากเข้าวัลฮาลาเพราะต้องสงสัยเกี่ยวกับคดีการเมือง ปัจจุบันพ้นข้อกล่าวหาแต่ก็เสียไปหลายอย่างแบบที่มันบอกอะ โดยเฉพาะเวลา

802 Nameless Fanboi Posted ID:Co/i3lC6CL

ไปโพสมู้การเมืองสิวะ หิดมันเกี่ยวไรกะเด็กดวก

803 Nameless Fanboi Posted ID:g5r5i2Evz8

โพสของเมิงเกี่ยวอะไรกับนิยาย/เด็กดวก จงอธิบายอย่างละเอียด 100คะเเนน

804 Nameless Fanboi Posted ID:ONEqD0CjJf

นิยายการเมือง เด็กดีไม่สนใจหรอก

805 Nameless Fanboi Posted ID:u35dI4D9Nj

>>796 เห็นบอกว่าขำกัน แต่กูอ่านแล้วไม่เห็นมีอะไรน่าขำ หรือกูเส้นลึกไปเอง?

806 Nameless Fanboi Posted ID:nIzSSmGCPF

พวกที่ขำเส้นตื้นมากกว่า ไม่เห็นมีอะไร

807 Nameless Fanboi Posted ID:HWgfuUh+Wj

>>803 มึงนี่คงเป็นเด็กมัธยมสินะ ถึงได้ไม่รู้ว่าหะริดเกี่ยวอะไรกับนิยาย/เด็กดี

808 Nameless Fanboi Posted ID:t5NcPeyaJI

>>803 นี่มึงไม่รู้จริงดิ?

809 Nameless Fanboi Posted ID:Wa+g1iW+TS

ขรำ มีเหยียดด้วย เป็นเด็กกับไม่รู้นี่มันทำไมหรอ มึงเป็นอะไรมากมั้ย กูจำเป็นต้องรู้? มึงเก็บไว้กับตัวนะไม่ต้องเล่ากูไม่ได้อยากรู้ สัสทำมาปั่นในโม่ง

810 Nameless Fanboi Posted ID:t5NcPeyaJI

>>809 ไม่ได้เหยียดนะ แต่เหตุการณ์มันดังเอาเรื่องโดยเฉพาะกับวงการนักเขียน เพราะไม่รู้ว่าเขียนแนวไหนแล้วจะโดนซิว
จำได้เลยว่าตอนนั้นกูต้องหยุดเขียนแนวบริหารบ้านเมืองไปชั่วคราวกันเลย

811 Nameless Fanboi Posted ID:oVW30M/LLn

สารภาพว่ากูไม่เคนได้ยินหะริดเหมือนกัน หะริดคือใคร

812 Nameless Fanboi Posted ID:q4JgxOZQ8I

>>811 เหมือนจะเป็นคนที่เขียนแทรปสร้างชาติมั้ง เป็น LN ที่การเมืองสมจริงสมจังที่สุด (กูไม่เคยอ่าน แต่เพื่อนกูโม้ว่างี้) ถามว่ามันเกี่ยวกับเด็กดียังไง กูก็ไม่รู้วะ หะริดมันเขียนเป็น LN ไม่ใช่เด็กดี และที่โม่งยกมามันเป็นเรื่องเมื่อปี 59 และไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนิยายเลยด้วยนะ

813 Nameless Fanboi Posted ID:W//2HSgICi

>>812 เกิดใหม่ครั้งนี้จะสร้างประเทศที่ดีได้ไหมนะ อันนี้ปะ

814 Nameless Fanboi Posted ID:q4JgxOZQ8I

>>813 ใช่ๆ เรื่องนี้แหละ

815 Nameless Fanboi Posted ID:.BQGPuQ3cQ

>>811 ถ้านิยายในเด็กดีที่ดังๆ หะริดแต่งรีอาลิสออนไลน์, ฑูตแห่งเซนทาเรีย กับเรื่องอื่นๆ ภายใต้นามปากกา Starless Night ก่อนจะมาโดนซิวเข้าค่ายเพราะเรื่องเพจการ์ตูนล้อเลียน ก่อนหน้าจะโดนพาไปขัง กุเจออะไรแปลกๆ ก็ตั้งแต่ตอนมันแต่งฑูตแห่งเซนทาเรียภาค 2 เพราะเนื้อเรื่องมันแอบคล้ายเหตุการณ์ในบ้านเรา ถ้าเป็นคนช่างสังเกตและรู้เกี่ยวกับการเมืองพอสมควรจะเข้าใจทันที แถมมีเอี่ยวพิซซ่าด้วยกลายๆ จนต้องหยุดแต่งไปกลางคัน

รู้ตัวอีกทีพี่แกโดนจับไปเที่ยวฮ่องก(ร)งเฉย ถ้ายังไม่รู้จักก็ควรศึกษาไว้บ้าง เผื่อเป็นกรณีศึกษาเวลาอยากเลี่ยงหรือกลัวว่าจะแต่งอะไรที่มันเสี่ยงคุก

816 Nameless Fanboi Posted ID:.BQGPuQ3cQ

>>812

แทรปสร้างชาติ.. LN การเมือง ✖
แทรปสร้างชาติ.. LN แทรป และ ไวฟุ ✔

817 Nameless Fanboi Posted ID:JhDTUEOpn3

>>815 มีเรื่องแบบนั้นจริง? ขอบใจที่แชร์

818 Nameless Fanboi Posted ID:qgnoT+nG83

หะริดคือนักเขียนที่ดี มีผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ ทั้งยังเป็นตัวอย่างที่ดี ตลอดจนมีอุดมการณ์ชัดเจน งานทุกงานชัดว่าอยากให้สังคมดีขึ้น อีกอย่างหะริดเกี่ยวข้องกับ Webnovel และเด็กดี มาโดยตลอด ซ้ำขณะนี้เป็นจุดเปลี่ยนของสังคม สิ่งที่หะริดทำนั้นก็มีผลกระทบไม่มากก็น้อย

ลงชื่อ ซึงรี

819 Nameless Fanboi Posted ID:7q8ddRWreN

หลังจากนี้มึงต้องดูหะริดเป็นตัวอย่างแล้วล่ะ เพราะเราน่าจะต้องทนอยู่กับคุณลุงคนเดิมต่อไปอย่างต่ำ 4 ปี
ดูว่าเขียนแบบไหนจะไม่โดนซิวตัว ต้องแสดงความเห็นยังไงถึงจะปลอดภัย

820 Nameless Fanboi Posted ID:w332PC1EGm

แต่เล่มหนังสือของหะริดคือรีไรท์แล้ว ส่วนนิยายเว็บคือไม่ได้รีไรท์

821 Nameless Fanboi Posted ID:d2d7NfQBVx

ลงตอนใหม่ คนกด Fav ควรจะเพิ่มสิ แต่ทำไมมันลดลงเรื่อยๆ วะ?

822 Nameless Fanboi Posted ID:gbiYJLcO+C

>>821 หมายความว่าตอนใหม่มึง ห่วยจนคนเก่าๆเท ไม่ก็ระบบเน่า

823 Nameless Fanboi Posted ID:0ejUNLZ2LV

>>821 เขาอ่านแล้วไม่ถูกจริต ไม่ชอบ ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า

824 Nameless Fanboi Posted ID:v82VK+5X9q

>>821 มึงกากไง มึงมันกาก *ตะโกนในเสียงอาจารย์ฉอ*
เอามาแปะในโม่งสิ โม่งจะช่วยสับ

825 Nameless Fanboi Posted ID:LiS29Xl0pm

>>824 ทำงั้นก็หาว่าม้าอีก คนเลยหายกระทู้ร้างไง ไม่สับไม่พอจ้องแต่จะจับผิด ถ้าเป็นกุนะกุโคตรชอบเลย แปะมาทีกุจะสับให้จนซึ้งใจว่ามันบกพร่องอะไรบ้างในฐานะนักเขียน

826 Nameless Fanboi Posted ID:trrVxn8/CO

โดนด่าม้าเพราะว่าเอางานคนอ่านแทบไม่มี ตอนก็ไม่กี่ตอนแล้วอวยว่าสนุกงั้นงี้ แบบนี้โดนด่า เอามาแปะขอคำวิจารณ์ก็ไม่มีใครด่าม้าละ พวกโดนด่าม้าลีลามากไง งานแม่งคนอ่านนิดเดียวจู่ๆ โผล่มาแล้วอวยว่าสนุกงั้นงี้ทั้งที่ก็ไม่ได้สนุกอะไรแต่อยากได้คำชม อยากให้คนพูดถึง อยากให้คนเข้าไปดูเพิ่ม คนเขาดูออกอะ ถ้าอยากได้คำวิจารณ์มึงก็แปะแล้วก็บอกขอคำวิจารณ์เลย แต่ถ้างานคนอ่านมากๆ มาแปะ โอกาสโดนด่าม้าจะน้อยลง เปลี่ยนเป็นโดนด่าว่าติ่งหรือเด็กน้อยแทน

827 Nameless Fanboi Posted ID:8wRTVI76aX

กระทู้เงียบจริงๆด้วยว่ะ...ได้! เพื่อความสุขของพวกเมิงกูจะยอมเสียสละ นิยายกากๆนี่เป็นของกูเอง สับเเม่งให้เต็มที่
https://writer.dek-d.com/KamenZ/writer/view.php?id=1454580

828 Nameless Fanboi Posted ID:wbXPvevaAJ

พวกมึงเบื่อแฟนตาซีเห้อหม่อยกันหรือยัง
เข้าไปอ่านนิยายสืบสวนกูหน่อย เม้นเงียบเป็นป่าช้า จะสับก็ได้ ยินดีน้อมรับผู้อ่านทุกท่าน
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1796551&chapter=29

829 Nameless Fanboi Posted ID:ObopgEU2tp

เด็กดวกมีแต่เด็กกระโปกขี้หีหวังอ่านฟรี กูเลิกลงงานแล้วย้ายไป ฟชล. ดีกว่า

830 Nameless Fanboi Posted ID:FL6Or68SvB

>>829 มันก็เป็นกันทุกเว็บไหมมึง ใน ฟชล.ก็มีพวกชอบฟรีนิ

831 Nameless Fanboi Posted ID:QKnPL9n8ts

>>830 ความต่างมันอยู่ที่ฟรีแบบคนเขียนได้กำไร (เศษเงินจากเหรียญ) กับอ่านฟรีไม่พอมาด่าคนเขียนด้วย เจอแบบนี้ทำเอากูไม่อยากลงต่อว่ะ

832 Nameless Fanboi Posted ID:M.DXrXiWjY

ใครจะนินทาเด็กดวก จงไปที่มู้นินทา

https://fanboi.ch/netwatch/5647/recent/#bottom

833 Nameless Fanboi Posted ID:alzN2uzRQ4

ต้องส่งแบบสอบถามว่า พวกเด็กดีแต่ละคนมีเงินเดือนกี่บาท ไม่ต้องถามพวกคนวัยทำงานหรอก

834 Nameless Fanboi Posted ID:ej3WrreVEF

>>831 กูถามหน่อย มีใครในโลกไม่โดนด่ามั่ง บางทีก็สะดีดสะดึ้งกันจัง
มึงอยากเขียนก็เขียน ค่อยสนแต่คำวิจารณ์ นอกจากมึงจะเป็นพระเจ้ามีพลังควบคุมความนึกคิดคนอื่นได้
ไอ้หอยหลอดป้าแม้น

835 Nameless Fanboi Posted ID:2Ri/nocU4I

จะว่าไป สัปดาห์หนังสือเรื่องไหนเป็นของเด็กดวกบ้างวะ กูไม่ว่าไปงานเลย

836 Nameless Fanboi Posted ID:w+CA++ulTh

>>835 ฮรี่ ฮรี่ กุบกับ กุบกับ

837 Nameless Fanboi Posted ID:FQOBaNE2Fh

SAO เป็นแนวต่างโลกจริงเหรอ
https://www.dek-d.com/board/view/3916412/

838 Nameless Fanboi Posted ID:UezxctgSep

>>837 มันเเนวเกมออนไลน์นะมึง

839 Nameless Fanboi Posted ID:2Ri/nocU4I

>>837 กูอ่านคห.ของกวีแล้วส่ายหน้าสุดๆ แค่ขังปิดตายในเกมถือว่าต่างโลกแล้วเหรอ โดยเฉพาะภาค Aincrad ไม่เห็นจะเหมือน Log Horizon ซะนิด

840 Nameless Fanboi Posted ID:Et+Di4tfgl

มู้นินทานิยายเด็กดวก แต่ห้ามพูดถึงนิยายเรื่องใดเรื่องนึงตรงๆ ไม่งั้นเป็นฮี้ๆ ทันที ไรวะเนี่ย กูขำ 555%

841 Nameless Fanboi Posted ID:ntev.c.sca

มันเป็นมู้นินทาตั้งแต่เมื่อไหร่? /อีกอย่าง อย่าไปสนใจไอ้ฮรี้ๆ เหี้ยนั่นเลย เล่นอย่างกับเด็ก

842 Nameless Fanboi Posted ID:NCrAJbD6kl

ตามหลักจริงๆ จะถือเป็นอิเซไคได้มันต้องเดินเรื่องในโลกอื่น จะเป็นไปแล้วกลับไม่ได้หรือไปๆ มาๆ ก็เป็นอิเซไคเหมือนกัน แต่พวกติดในเกมนี่ กุถือเป็นออนไลน์ผสมไซ-ไฟ เพราะยังไงมันก็อยู่โลกเดิม

843 Nameless Fanboi Posted ID:u9EoR0E/yq

>>841 ตั้งแต่ไม่มีใครเข้าไปใช้มู้นินทาจนตกจากหน้าแรก ขุดยังไงแม่งไม่มีคนช่วย กูปลง

844 Nameless Fanboi Posted ID:A2fM.WxcWM

ช่วยจัด 5 อันดับ เว็ปนิยายออน์ไลน์ให้หน่อยดิ เรียงตามความนิยม

845 Nameless Fanboi Posted ID:6S71x8QjKF

>>844 ฮรี่ๆ กับกับ

846 Nameless Fanboi Posted ID:FA984nmguh

>>844 เดานะ
1 เด็ก(รอบข้างกูเคยอ่านจากเว็บนี้ทุกคน)
2 ธัญ(เห็นบางคนเบื่อเด็กก็จะมาอ่าน แต่ส่วนใหญ่เน้นสายหื่น)
3 จอย(เห็นเพื่อนอ่านเยอะ)
4 รีดอร.(กูเห็นเริ่มมีคนลงเว็บนี้เยอะเรื่อยๆ)
5 ฟชล.(เห็นแต่เพื่อนที่อ่านจีนอ่าน)
จากความรู้สึกส่วนตัว กูว่าถ้านักเขียนเคยอ่านเว็บไหนแล้วชอบก็น่าจะไปลงเว็บนั้นๆ

847 Nameless Fanboi Posted ID:A2fM.WxcWM

>>845 ตัวเหี้ยมันร้องไงวะ

848 Nameless Fanboi Posted ID:yFTdSVvgkA

>>847 เหี้ย เหี้ยยยย

849 Nameless Fanboi Posted ID:ND/iAbAoxG

ทำไมมู้เงียบจังวะ

850 Nameless Fanboi Posted ID:ZQiJ7O2EjN

>>849 ก็เพราะคนแบบ >>845 ไง

851 Nameless Fanboi Posted ID:eUe7MsNSfT

มู้อยู่นานไปปะวะ กูรำคานไอร้ฮรี้กุบกับๆ แบบนี้ใครกล้าแปะนิยาย

852 Nameless Fanboi Posted ID:ND/iAbAoxG

เอาเป็นว่า ใครเล่นมุกม้าเหี้ยๆ แจ้งแบนไปเลย รำคาญเหมือนกัน

853 Nameless Fanboi Posted ID:H8N1LCP5E5

>เป็นเลา
>เขียนนิยายธีมยุโรปยุคกลาง
>อยากจะเขียนบทวางแผนการรบ
>เลาพะยามศึกษาว่าสมัยยุคกลางเขารบกันยังไง
>เลาศึกษาจนพอเข้าใจการรบส่วนใหญ่สมัยนั้นไม่ได้ซับซ้อนหรือมีการพลิกแพลงอะไร แค่ฝ่ายนึงบุกฝ่ายนึงรับ ถ้าฝ่ายบุกตีฝ่ายรับแตกแค่ส่วนเดียวฝ่ายรับก็พากันแตกทัพกันเป็นทอดๆ หรือแม่ทัพตายก็แพ้ บุกกันตรงๆ ไม่มีอ้อมตลบหลัง โดยเฉพาะฝั่งยุโรปตะวันตก ต้นๆ ถึงกลางยุคกลาง
>เลาเขียนด้วย Mindset และความรู้ที่เราตีความว่า กลยุทธิ์สมัยนั้นไม่ได้มีการพลิกแพลงหลักแหลมอะไร มีแค่กลยุทธิ์พื้นฐานทั่วๆ ไปอย่างการชาจไปข้างหน้าพร้อมๆ กันเท่านั้น
>เลาเขียนและลงเว็บ
>คนอ่านมาเมนต์ไม่ชอบเพราะกลยุทธิ์มันพื้นฐานธรรมดาไป
>เลาเสียใจเลยเอามาลงโม่ง

854 Nameless Fanboi Posted ID:.DAyZ/2/UF

>>853 มัน real เกินไปเด็กดวกไม่อ่าน

855 Nameless Fanboi Posted ID:iHvfshFGRZ

จะมีเด็กดวกสักกี่คนอ่านสามก๊กแล้วเข้าใจฟ่ะ

856 Nameless Fanboi Posted ID:tBJqipA/OK

นิยายไม่เพ้อ ไม่ฝัน ไม่เอจจี้ ไม่มีเด็กดวกอ่านไม่ต้องตกใจ ปกติดีไอ้ฉัส

857 Nameless Fanboi Posted ID:9iKs9MIiwu

>>853 ก็สมควรอยู่ อยากเขียนแนววางแผนรบแต่ในเรื่องดันไม่มีแผน เหมือนบอกยากเขียนแนวหุ่นรบแต่ศึกษาเทคโนโลยีแล้วสร้างได้แต่หุ่นกระจอกโดนปืนธรรมดายิงพังเงี้ย

858 Nameless Fanboi Posted ID:Ix.Nb73GUX

>>853 แนวทางดีแล้วแต่คิดว่าให้ลองใส่ความเอนเตอร์เทนไปด้วยอย่างพวกขุนศึกไม่ก็กุนซือเทพๆ ตลาดจะชอบอะไรทำนองนี้มากกว่า

859 Nameless Fanboi Posted ID:DYF/W9oB/h

>>858 ทำแบบนั้นเพิ่มความสนุกได้ก็จริงแต่ก็ยังไม่ใช่แนววางแผนอยู่ดีปะ?

สุดท้ายก็อยู่ที่อยากเขียนอะไรนั้นแหละไม่ต้องไปยึดติดความสมจริงมากแค่ใช่เป็นแนวทางก็พอ

860 Nameless Fanboi Posted ID:cDQBLGeULl

คำนิยามของต่างโลก? https://www.dek-d.com/board/view/3917662/

861 Nameless Fanboi Posted ID:xAtSp+xRhO

อย่าด่ากู กูแค่มาสำรวจประชากร
อยากรู้ว่าพวกมึงในนี้ ชอบอ่านนิยายแนวไหนมากที่สุด
- แฟนตาซี
- โรแมนติก
- สยองขวัญ
- สืบสวน
- ไซไฟ
- อื่น ๆ (ระบุ)

862 Nameless Fanboi Posted ID:xAtSp+xRhO

กูคงไม่ต้องตอบนะ เดี๋ยวจะหาว่ามาอวยแนวที่ตัวเองชอบ

863 Nameless Fanboi Posted ID:jV5909wF7i

>>861 แฟนตาซี โรแมนซ์

864 Nameless Fanboi Posted ID:fU7Ij1u9vD

แล้วไม่ต้องเล่นมุก ฮรี่ ๆ กุบกับ กุบกับนะ

865 Nameless Fanboi Posted ID:7WFHwnRe0y

>>864 พวกโลกแคบมันชอบเล่นกัน

866 Nameless Fanboi Posted ID:Vo2Lb.4ZUD

>>861 แฟนตาซี ไซไฟ

867 Nameless Fanboi Posted ID:9ahU9ayZa0

>>861 แฟนตาซีกับสืบสวน

868 Nameless Fanboi Posted ID:BXJGFhgkjS

>>861 แฟนตาซี สืบสวน

869 Nameless Fanboi Posted ID:9ahU9ayZa0

จะว่าไปสงสัยอย่างนึงในเด็กดีว่ะ

ทั้งที่แนวสืบสวนก็เป็นที่ชอบกันแต่ทำไมนิยายหมวดสืบสวนในเด็กดีไม่ร้างจังวะ ถ้ามีก็ไม่ได้ดีมาก กูโคตรสงสัยเลย

870 Nameless Fanboi Posted ID:unNqQSjPAh

>>869 แต่งยาก มั้ง กูเดา

871 Nameless Fanboi Posted ID:cDQBLGeULl

>>869 ส่วนใหญ่คิดแผนของคนร้ายยากกว่าทำยังไงให้พระเอกเป็นคนอัจฉริยะ

872 Nameless Fanboi Posted ID:B.kOU0DofU

>>869 ต้องเข้าใจว่าแนวนี้แม่งเขียนเรื่อย ๆ ไม่ได้ ไม่เหมือนแนวอื่นที่พอจะนึกพล๊อตได้แม่งก็เริ่มเขียน ตันแค่ไหนก็แถต่อได้อยู่

ผิดกับแนวนี้ที่มึงต้องวางเรื่องตั้งแต่ต้นยันจบ จากประสบการณ์ที่กูเคยเขียน ต้องนั่งวางเรื่องเกือบอาทิตย์ ถ้ามันไปต่อไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องไปเริ่มที่พล๊อตใหม่

873 Nameless Fanboi Posted ID:ZZG1pgdQ8W

>>869 นิยายแนวนี้แม่งมีมาเป็นร้อยปี แต่คนเขียนต้องมาคิดหาทริคหรือลูกเล่นอะไรใหม่ ๆ ให้นิยายมันแตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ ไม่เหมือนแนวอื่น ที่แม่งก็อปโครงเรื่องมาเปลี่ยนฉากกับชื่อตัวละคร

874 Nameless Fanboi Posted ID:5eorqMBgtK

เมื่อโลกมันบัดซบ มองไม่เห็นความหวังบนโลกนี้ สู้ยังไงก็ไม่ชนะ ทำยังไงก็ตาย แล้วทำไมไม่ยอมแพ้ไปซะ? เอาชีวิตรอดให้ตัวเองสบายไปไม่ดีกว่าเหรอ?

ผมคิดว่าทหารโรมันน่าจะถามแบบนี้กับคริสเตียนในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1 เหมือนกัน

แน่นอนเหล่าคริสเตียนเหล่านี้ก็คงสงสัยว่าหากพระเจ้าดำรงอยู่เหตุใดพระองค์จึงปล่อยให้เรื่องเลวร้ายเช่นนี้เกิดขึ้นบนโลก

ทำไมความอยุติธรรม ความเลวร้าย ความหิวโหย ความตาย การถูกกวาดล้างและข่มเหงจึงเกิดขึ้น?

ศัตรูไม่ใช่แค่จักรพรรดิแห่งโรมัน แต่คือโลกอันเลวร้ายโสมมนี้ทั้งใบ

ในช่วงเวลานั้น จดหมายหลายฉบับถูกส่งไปยังคริสตจักรที่กำลังทุกข์ทน

จดหมายเล่าถึงภาพของสถานที่แห่งหนึ่งที่เรียกว่า "สวรรค์" และโลกเมือมองจากมุมมองของผู้ที่อยู่บนสวรรค์

ผู้ที่อ่านและได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมองเห็นภาพภาพหนึ่ง เป็น vision ถึงสถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่เหมือนบนโลก

ผู้ที่อยู่ในสังคมที่อยุติธรรมย่อมมองว่าความอยุติธรรมเป็นเรื่องธรรมดาเป็นกฎธรรมชาติ เป็นเรื่องปรกติธรรมดาของโลก แต่จดหมายฉบับนั้นบอกว่า ไม่นะ บนสวรรค์ไม่มีความอยุติธรรม ความอยุติธรรมจึงเป็นเรื่องที่ไม่ปรกติ

ความเลวร้าย ความหิวโหย ความตาย ความไม่เท่าเทียม เป็นเรื่องไม่ปรกติ เมื่อมองจากมุมมองของสวรรค์

ผู้คนงุนงงกับ ภาพที่อยู่ในหัวนี้ พวกเขาประหลาดใจว่ามันเป็นไปได้เหรอ ในโลกที่ย่ำแย่ขนาดนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร?

เรื่องที่น่างุนงงที่สุดในจดหมายเหล่านั้นคือ ผู้เขียนไม่ได้บอกว่า "เราจะไปถึงสวรรค์ได้อย่างไร" แต่บอกว่า "สวรรค์จะลงมาในโลก"

vision ของผู้ที่เขียนจดหมายนี้คือ ในวันหนึ่ง ความชั่วร้ายจะถูกทำลาย และโลกจะเป็นเหมือนสวรรค์

vision นี้จุดประกายบางอย่างขึ้นในตัวของผู้คน

ใน Lord's prayer หรือคำอธิษฐานของพระเยซู ซึ่งเป็นบทอธิษฐานที่สำคัญที่สุดของคริสเตียน ท่อนหนึ่งคือ "Thy kingdom come, Thy will be done in earth as it is in heaven"

"ขออาณาจักรสวรรค์จงมาถึง ขอให้พระประสงค์จงสำเร็จบนโลกเหมือนบนสวรรค์"

เราไม่ได้อธิษฐานว่า "เมื่อตาย ขอให้เราได้ไปอยู่กับพระเจ้าบนสวรรค์" แต่เราอธิษฐานว่า "ขอให้โลกนี้เป็นสวรรค์ ขอให้สิ่งดีๆเกิดขึ้นบนโลกเหมือนที่เกิดขึ้นในสวรรค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก"

ขอให้ vision ภาพสวรรค์ที่เราเห็นนั้น เป็นเกิดขึ้นบนโลกนี้ ขอให้สิ่งดีที่เราเห็นใน vision เกิดขึ้นบนโลกเพราะนั้นคือ พระประสงค์

นี่คือความหวังของคริสเตียน เป็นความหวังว่าวันหนึ่งสวรรค์จะซ้อนทับกับโลกจนเป็นเนื้อเดียวกัน

คนบอกว่า สวรรค์คือเทพนิยายที่สร้างขึ้นของคนขี้ขลาด

แต่เป็นเช่นนั้นไม่ vision นั้นคือสิ่งที่ทำให้คนที่ไม่หวั่นเกรงกับสิ่งใด แม้แต่ความตาย

vision นี้คือสิ่งที่ทำให้เราก้าวไปข้างหน้า และทำใช้ชีวิตของเราไม่สำคัญเท่ากับพระประสงค์ของพระเจ้า ไม่สำคัญเท่าที่คนรุ่นต่อจากนี้จะได้เห็นสวรรค์บนโลกใบนี้

นี่คือสิ่งที่พระเยซูเห็นก่อนที่จะเดินเข้าไปในเมืองเพื่อเตรียมถูกทรยศ และถูกตรึงกางเขน

คือสิ่งที่เหล่าคริสเตียนยุคต้นเห็น เมื่อเลือกที่จะเดินเข้าไปในคอลอสเซียมเพื่อเป็นเหยื่อสิงห์โตมากกว่าจะเลิกเชื่อในภาพที่เห็นนี้

คือสิ่งที่มาร์ตินลูเธอร์ คิงก์ จูเนียร์ กล่าว เมื่อเขาบอกว่า I have a dream และคนนับล้านก็เห็นภาพฝันเดียวกับเขา

ภาพฝันที่ส่งมาร์ตินลูเธอร์ คิงก์ จูเนียร์สู่ความตาย จากการลอบสังหาร

แต่ภาพเหล่านี้ไม่ได้ตายไปพร้อมกับเขา

ภาพนี้แหละคือสิ่งที่ทรงพลังที่สุด

มันคืนชีพขึ้นมา มันจุดประกายบางอย่าง และเป็นกำลังให้กับผู้คน มันกลายเป็นความจริง และยังมีชีวิตอยู่

พี่น้องทั้งหลาย อย่าเป็นของโลกอันชั่วร้ายนี้ แต่ให้เป็นของสวรรค์ อย่ามองอย่างโลกอันอยุติธรรมนี้ แต่มองแบบชาวสวรรค์

รักษา vision นี้ไว้ให้มั่น และส่งมันต่อไป

นี่จะเป็นพลังที่ทำให้เราก้าวต่อไป จะเป็นพลังที่ทำให้ผู้คนก้าวไปพร้อมๆกับเรา

จนถึงวันที่ความชั่วร้ายทั้งหลายพินาจไป จนถึงวันที่สวรรค์นั้นมาถึงบนโลก

875 Nameless Fanboi Posted ID:Syr+fHCkpf

>>874 spam เปล่าเนี่ย

876 Nameless Fanboi Posted ID:cuyju8tBn1

>>874 ว่างๆไปแต่งนิยายที่เด็กดีเถอะ

877 Nameless Fanboi Posted ID:1tT7s+nXgE

>>874 infodump ชิบหาย มึงแต่งไม่น่ารอดแล้วมั้ง

878 Nameless Fanboi Posted ID:W3vCiWXrlx

>>877 infodump แปลว่าอิหยั่งครับ

879 Nameless Fanboi Posted ID:CIn.QCmmij

เปลี่ยนโรมันเป็นชาวยิวดีปะ เพราะนั้นตัวตั้งตัวตีเลย
ปล.ถ้าจะชวนกูไปโบสถ์กูไม่ว่างนะ อ่านอัลกุรอานแป๊ป

880 Nameless Fanboi Posted ID:DAOzoZYltU

>>879 รู้สึกศาสนายิวเลิกมีโบสถ์ตั้งแต่ค.ศ.70 ที่ถูกพวกโรมกวาดล้างยิวให้มานับถือเทพโรมัน จนตอนนี้ไม่มีวัดเป็นหลักเป็นแหล่ง

881 Nameless Fanboi Posted ID:yWsG2/tyJG

พูดถึง Infodump นี่ช่วงหลังๆ มานี่กูได้เรียนรู้เยอะเลย
เดิมทีแล้งของกูที่เคยเขียนจะเป็นประมาณว่าตัวเอกพูดอธิบายกับคนอ่าน บอกว่าคนนี้เป็นใคร ที่นี่คือที่ไหน มีประวัติยังไง
แต่ที่คิดจะเขียนใหม่ตั้งใจจะแทรกเอาไว้ในบทสนทนาแทน โดยที่ตัวเอกไม่จำเป็นต้องมานั่งอธิบาย

แต่ที่อยากรู้ก็คือ ปริมาณ Infodump นี่มากน้อยแค่ไหนถึงจะเรียกว่าพอดีนี่ล่ะ

882 Nameless Fanboi Posted ID:f9GnkAtH.W

>>878 ไอ้สัส ตอบกูสักคนเถอะ

883 Nameless Fanboi Posted ID:JyF7tSJdrS

>>882 ยัดข้อมูล

884 Nameless Fanboi Posted ID:AW0PC2wWVG

>>883 ขอบพระคุณมากครับ

885 Nameless Fanboi Posted ID:AW0PC2wWVG

สำหรับกูการยัดข้อมูล ก็เพื่อให้เรื่องมันน่าเชื่อถือว่ะ ถ้าเรื่องมันน่าเชื่ออยู่แล้วก็ไม่จำเป็น

886 Nameless Fanboi Posted ID:Ny/L0sZsHF

KY กูได้อ่านหนังสือชีวประวัติของ นโปเลียน ทำให้กูได้เห็นมุมมองที่กูไม่อยากเห็นว่ะ...ไอ้เรื่องที่ติดอวัยวะเพศสตรีของโยเซฟินเนี่ย ไม่ต่างจากพวกพระเอกเกม/นิยายในนิยายอวยนางร้ายติดหีนางเอกเกม/นิยายเลยวะ

887 Nameless Fanboi Posted ID:LEL1eyanBI

>>886 มันแสดงให้เห็นว่านิยายมาจากชีวิตจริง

888 Nameless Fanboi Posted ID:1lY.d6ctcK

>>885 ต้องเขียนกี่บรรทัดกี่หน้าคนถึงจะเชื่อถือวะ

889 Nameless Fanboi Posted ID:AE5/Pvy4PG

>>888 กูให้มากสุด 2 ย่อหน้า ย่อหน้าละ 3-4 บรรทัด เกินกว่านั้นอ่านแล้วง่วง

890 Nameless Fanboi Posted ID:7DaWitYdhR

>>887 แต่ถ้าดมกาวหรือติดยาอาจจะเขียนต่างโลกได้กว้างไกลก็เป็นได้

891 Nameless Fanboi Posted ID:CB775l+tuI

>>889 ไหนมึงลองเขียนให้กูเชื่อถือมึงหน่อย 2 ย่อหน้า ย่อหน้าละ 3-4 บรรทัดมึงเนี่ย ขอชม

892 Nameless Fanboi Posted ID:IUTSfVWLuP

>>891 กูพูดในฐานะคนอ่านว่ะมึง

893 Nameless Fanboi Posted ID:NpNdqNE7jT

>>891 >>891 กูขอตอบแทนนะ

การยัดข้อมูลลงไปในเรื่อง ถ้าไม่ใช่เพราะยากเพิ่มความยาว ก็เพราะมันจะทำให้คนเชื่อถือนิยายมึงมากขึ้น

กูจะยกตัวอย่างง่าย ๆ นะ สมมุติกูเขียนนิยายเกี่ยวกับแฮกเกอร์ ตอนที่พระเอกกำลังแฮกระบบคอมพิวเตอร์ ถ้ากูอยากให้มันดูแฮกเกอร์จริง ๆ กูก็จะไปหาข้อมูลมาเพิ่มลงไป ตัวอย่างเช่น ป๋อยศักดิ์นำ*** เสียบเข้ากับช่อง*** แล้วเปิดเครื่องเพื่อเริ่มเจาะเข้าระบบ*** เขาทำการ*** เพื่อเจาะเข้า*** จากนั้นทำการใส่*** แต่เขาก็พบว่าระบบมีการป้องกันระดับสูง ป๋อยศักดิ์จึงเพิ่ม*** บลา ๆ

การยัดข้อมูลที่กูพูดก็ประมาณนี่แหละ ซึ่งเอาจริง ๆ มันจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ เพราะสุดท้าย คนอ่านมันก็ไม่ได้มาดูว่ามึงแฮกยังไง แต่เขามาดูว่ามึงแฮกเพื่ออะไร

894 Nameless Fanboi Posted ID:Pl1RMt7TfO

>>893 ปล. กูเขียนเห็นบางคนแม่งยัดข้อมูลเยอะชิบหาย โดยเฉพาะพวกนิยายสืบสวน

เข้าใจนะว่ามึงหามายากลำบาก แต่มึงจะยัดทีสี่ห้าหน้าไม่ได้ คนอ่านส่วนใหญ่จะหลับก่อนอ่านนิยายมึงจบ

895 Nameless Fanboi Posted ID:pm7Ftiz33x

>>893 อ๋อ ลืมบอก อันนี้กูก๊อปมาจากส่วนหนึ่งของบทความกูนะ ถ้าวันหนึ่งพวกมึงเหลือบไปเห็นเข้า ก็กดติดตามกูด้วย อิอิ

896 Nameless Fanboi Posted ID:jQFH7QRya0

infodump เปรียบเหมือนมึงอยากจะเดินทางจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ ด้วยอายุไม่ถึงเกณฑ์จะขับรถเอง ต้องจ้างแท็กซี่แทน
แต่แทนที่จะส่งมึงไปเชียงใหม่ ไอ้คนขับแม่งบอกวิธีไปทีละจุดว่าให้ไปเชียงใหม่ยังไงไม่หลง ทั้งที่มึงไม่มีเหตุผลจะมาเชียงใหม่อีกรอบ เพราะเดี่ยวปีหน้า เพราะเมียมึงจะย้ายมากรุงเทพถาวรด้วยเครื่องบินต่างหาก

897 Nameless Fanboi Posted ID:jQFH7QRya0

>>896 ขอเสริมอีกแบบ มึงทำยังไงปั้มลูกตัวเองให้หน้าเหมือนแม่ ก็แค่เย้กับเมียก็พอ แต่เสือกใช้ infodump ด้วยวิธีท่วงท่าต่างๆระหว่างเย้กันร่วมเกือบ 60 นาทีแบบฉากต่อฉาก

898 Nameless Fanboi Posted ID:jQFH7QRya0

ไปส่องมู้นินทาแล้วไม่มีใครเล่นด้วยเลย มาแปะที่นี่แทน ส่องมู้บอกเลย อัลไลวะเนี่ย
https://www.dek-d.com/board/view/3918820/

899 Nameless Fanboi Posted ID:u2uOlImRWx

พวกมึงคิดยังไงกับนิยายที่เป็นแนวแฟนตาซี ซึ่งคนเขียนชงว่ามันจิ้นไม่มีนางเอกมาตลอด กูก็อ่านได้เพราะมันแค่จิ้นไงมึง ต่อมาคนเขียนบอกทนต่อมวายแตกไม่ได้เลยขอย้ายไปหมวดวายแล้วทิ้งคนอ่านนอมอลแบบกูไว้กลางทางวะ กูนี่เคว้งเลย

900 Nameless Fanboi Posted ID:jQFH7QRya0

>>899 มันแปลกตั้งแต่ไม่จิ้นให้มีนางเอกแล้ว ไม่เข้มแข็งพอจะอยู่นอกสายวาย

901 Nameless Fanboi Posted ID:KiqwH+4Ajp

เห็นมู้หาเว็บภาพไม่มีลิขสิทธิ์ด้วย ดีใจว่ะ อย่างน้อยก็พอมีคนดีๆในบอร์ด

902 Nameless Fanboi Posted ID:B4ErFd27nz

>>900 สายวายนี่มันเป็นโรคระบาดหรอวะ กูกำลังเขียนนิยายแอคชั่นคู่หู จะติดโรคไหมวะเนี่ย เกลียดชิบหายไอ้นิยายวายเนี่ย

903 Nameless Fanboi Posted ID:u2uOlImRWx

>>902 ถ้าจิตใจมึงสะอาดจะกลัวอะไรของมึง ถ้ารังเกียจคนอ่านจิ้นมากก็พิมบอกเขาตรงๆ โรคเหยียดวายของมึงก็น่าแขยงนะเนี่ย แต่ที่กูมาบ่นคือกูอยากอ่านแนวปกติไม่มีนางเอกรึสาวๆเยอะ แต่สุดท้ายคนเขียนไปสายวายซะงั้น กูเสียใจ

904 Nameless Fanboi Posted ID:min9H4x9P3

>>902 สาววายน่ะจำนวนปกติเว้ย
แต่ที่มันมีมากกว่าพวกตัวผู้คือสาวๆ เขาจ่ายเงินหนักไม่มัวคิดเล็กคิดน้อย ขอแค่ถูกใจก็เปย์ไว้ก่อน ทำให้ตลาดวายมันกินพื้นที่ในตลาดนิยายยุคนี้ไปเยอะไง

กูนี่เขียนนอมอลนะ แต่เพื่อดึงคนอ่านกูถึงกับต้องเขียนโมเม้นท์ Bromance ระหว่างพระเอกกับคู่แข่งเพื่อให้พวกขาวายมันกรี๊ดกันอะ

905 Nameless Fanboi Posted ID:N/2gtj+DwK

ไม่ต้องแหยง วายนี่ตัวทำเงิน ผลักดันตลาดสัสๆ ยิ่งกว่าพวกคุอีก แต่กูก็ไม่ค่อยชอบนะ ชอบแบบจับจิ้นกันมากกว่า ไม่ต้องถึงกับต้องเป็นคนรักหรือมีฉากอย่างว่า

906 Nameless Fanboi Posted ID:vkg6ABWsWX

เดี่ยวนี้กูขี้เกียจไปงานหนังสือ เพราะเจอนิยายวายเยอะขึ้นเรื่อยๆ เลยเอาเงินค่าขนมไปซื้อคอมเทพดีกว่า

907 Nameless Fanboi Posted ID:/yF/HCz1qM

>>898 เจริญพร กูว่าถ้าไอ้คนตั้งใช้ภาษาดี ๆ เรื่องคงจบสวย ๆ ไปแล้ว

908 Nameless Fanboi Posted ID:S24YmTF/LG

>>903 ที่กูเหยียดไม่ใช่ไรหรอก กูอิฉา แม่งขายได้อยู่แนวเดียว ถ้าวันหนึ่งกูต้องเขียนนิยายเพื่อเงิน สงสัยต้องยอมเขียนแน่เบย

909 Nameless Fanboi Posted ID:/OurmVfs6H

>>908 ฟุกับคุไม่เหมือนกันตรงที่ถ้ามีงานผลิตออกมาก็ช่วยๆกันซื้อ ช่วยอุดหนุนผู้ผลิตให้ตลาดมันอยู่ได้เพื่อจะได้มีงานมาให้เสพอีก แบบพวก yuri on ice หรือนิยายทั้งหลายที่ขึ้นมาบนดินกัน แต่ฟุก็ใช่ว่าจะเปย์กันตะพึดตะพือไม่คิดอะไรเลยนะ ต้องเป็นของที่ชอบจริงๆถึงจะยอมควักเงิน พวกนี้ถ้าได้ชอบนี่ถึงไหนถึงกัน พวกกู๊ดส์ บ็อกเซ็ต อะไรทั้งหลายก็เอามาเลย เก็บสะสมหมดทุกอย่าง จ่ายหนักเพื่อของที่ชอบ กูยังเคยยอมเปย์ห้าร้อยบาทเพื่อแลกกับที่รองแก้วกระดาษโง่ๆจากคาเฟ่ญี่ปุ่นเลย แต่มันมีคุณค่าทางใจก็ถือว่าคุ้มที่ได้มา

แต่คุมักจะอ้างโน่นอ้างนี่ว่าไม่ดีและสุดท้ายก็ไม่ซื้อ ยกตัวอย่างพวกแผ่นอนิเมะทั้งหลายที่คุชอบด่าว่าไม่ชอบพากย์ไทย จะเอาแบบญี่ปุ่นทุกอย่าง บ็อกเซ็ตนั่นนี่โน่น อยากได้แบบพรีเมี่ยม ค่ายผลิตก็เอาใจทำตามรีเควส และก็ไม่มีใครซื้อ ขายไม่ออกบานเบอะ ทุนจม ผู้ผลิตเจ๊ง เข็ด ไม่ยอมทำอีก แล้วคุก็จะบ่นด่าแบบเดิมๆแต่ไม่ควักเงินวนไปแบบนี้

910 Nameless Fanboi Posted ID:S24YmTF/LG

>>909
555 ศัพท์แปลก ๆ เยอะชิบหาย มีใครว่างแปลศัพท์พวกนี้ไหมวะ
เห็นพวกมึงคุยกันกูอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง

911 Nameless Fanboi Posted ID:MoK0D8dIs5

แล้ววายยูรินี่ขายได้เหมือนวายยาโอยไหม

912 Nameless Fanboi Posted ID:vkg6ABWsWX

ฟุคือฟุโจชิ เป็นโอตาคุเพศหญิง
ส่วนคุคือโอตาคุ ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย

913 Nameless Fanboi Posted ID:/OurmVfs6H

>>910 ฟุมาจากฟุโจชิ ก็สาววายนั่นล่ะ คุก็มาจากโอตาคุ
yuri on ice ก็อนิเมะกีฬาสเก็ตน้ำแข็งเรื่องหนึ่ง
กู๊ดส์ (Goods) คือสินค้าที่ออฟฟิศเชียลผลิตออกมาขายแฟนคลับเช่นพวกฟิกเกอร์ เนนดรอยด์ หวังว่าคงไปค้นกูเกิ้ลดูต่อเองได้นะ
เปย์ (Pay) การจ่าย
บ็อกเซ็ต(Boxset) คือกล่องเก็บรวบรวมทุกอย่างของเรื่องนั้นๆ เช่นนิยายเรื่องหนึ่งมี 3 เล่มจบ พอออกจบก็ทำกล่องมาเก็บนิยายเอาไว้เป็นแพค 3 เล่มนี้ไว้ไม่ให้กระจัดกระจายกัน จะมีของแถมหรือลูกเล่นอะไรก็แล้วแต่ผู้ผลิต มีคุณค่าในแง่การสะสมและความสุขทางใจ
รีเควส (request) คำร้องขอ
พรีเมี่ยม (premium) คุณภาพสูง
เจ๊ง คือขาดทุน หมดตัว

มึงจะเอาศัพท์ไหนอีก

914 Nameless Fanboi Posted ID:idQqYAd9Ru

>>913 คำว่า "เนนดรอยด์" กูตกสะโอไปตัวนึง ต้องเป็น "เนนโดรอยด์" โทษที

915 Nameless Fanboi Posted ID:N70dI4fcR9

>>913 ที่กูไม่รู้เรื่องก็พวกศัพท์ญี่ปุ่นที่มึงใช้กันอะ ไม่ค่อยอินกับฝั่งญี่ปุ่สักเท่าไหร่

916 Nameless Fanboi Posted ID:vkg6ABWsWX

แล้วชอบพูด kire คนญี่ปุ่นชอบคนหน้าขี้เหร่เรอะ

917 Nameless Fanboi Posted ID:g0EONo+KYI

>>916 Kirei [きれい] แปลว่าสวยในภาษาญี่ปุ่น
กูไม่รู้นะว่าด้วยเหตุอะไรทำให้ ฟุกับคุ แม่งมีลักษณะการเปย์แตกต่างกันขนาดนี้ แต่บอกได้อย่างนึงว่าลักษณะเช่นนี้ไม่ใช่แค่ประเทศไทยว่ะ
ยอดขายที่ญี่ปุ่นเองพวกแนววายก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเหมือนกัน ในขณะเดียวกันพวกสายนอมอลเองยอดขายกลับเฉลี่ยไปกันอย่างละนิดอย่างละหน่อย ผิดกับแนววายที่มาเรื่องเดียวยอดพุ่งสูงอยู่เรื่องเดียว

918 Nameless Fanboi Posted ID:waAIAsMker

>>917 กูเดานะเพราะนิยมแบบนั้นมีแค่นิยายวายที่เสพได้ อย่างนอมอลแม่งมีทั้งละคร ซีรี่ย์ การ์ตูน ชีวิตจริง แต่แนววายกับมีแค่นิยายกับการ์ตูนเฉพาะกลุ่ม ตอนนี้เริ่มมีซีรี่ย์มาแล้ว มึงจะมาหาชีวิตจริงที่ผู้ชายหน้าตาดีสองคนจะมาทำอะไรให้มึงจิ้นแม่งคงยาก

919 Nameless Fanboi Posted ID:NRkhYv4g.w

ตามหาคนวิจารณ์นิยายค้าบ มีผู้ใดอาสาบ้างไหม

920 Nameless Fanboi Posted ID:iGlEa2yGUT

>>919 แปะลิงก่์มาก่อน บางทีมีคนวิจารณ์ยุ

921 Nameless Fanboi Posted ID:/8aVmdY62w

ห้ามเล่นมุก ฮรี่ๆๆๆๆๆๆ กุบกับๆๆๆๆๆๆ นะโว้ย ฮรี่ๆๆๆ กุบกับๆๆๆๆๆๆๆๆ

922 Nameless Fanboi Posted ID:ycEDA9gCis

>>921 มึงนั่นแหล่ะหยุดก่อนเลย เจ้าของมาเปิดตัวเองแบบนี้ มันไม่แปลว่าม้าแล้วโม่ง

923 Nameless Fanboi Posted ID:2Wckr36O5O

>>919 นี่เลยฮะ โทนหลักของเรื่องเป็นสืบสวนนะ แต่กูดันเอาไปลงแฟนตาซี ยังไงก็ช่วยติชมกันเข้ามาหน่อย

https://writer.dek-d.com/Pungpron/writer/view.php?id=1939282

924 Nameless Fanboi Posted ID:vx6/rWHNky

>>923 ตอนน้อยนะแต่อ่านละพอบอกได้ งานธรรมดา ธรรมดามาก ภาษาก็พอไปได้ เขียนสักสิบห้าปีก่อนอาจจะมีคนปรบมือแปะๆ ให้กับภาษามึงหน่อย แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรงานมึงมากนักหรอก การเล่าเรื่องแสนจะธรรมดา มันดูธรรมดามาก เหมือนมีกรอบกากรดำเนินเรื่อง บทสนทนาก็ธรรมดาเกินไป ทุกอย่างดูธรรมดาหมดจนกูคิดว่างานแบบนี้ขายไม่ได้ คนเข้ามาอ่านก็ไม่ได้รู้สึกอยากอ่านซ้ำ ปัญหาเป็นเรื่องการเล่าเรื่องมึง มึงต้องแสดงความไม่ธรรมดาออกมาตรงนั้น ให้ยกตัวอย่างมึงก็ไปกดนิยายวายลองดูแนวทางการเล่าเรื่องพวกนั้นดู หลายคนภาษาแนวมึงนี่แหละ แย่กว่าก็เยอะ แต่มึงต้องยอมรับว่านิยายวายที่มันขึ้นอันดับสูงๆ ได้ส่วนใหญ่การเล่าเรื่องมันมีเหี้ยอะไรสักอย่างจับคนได้ อันไหนคิดว่าเป็น NC มึงก็ข้ามไป ไปเปิดดูเรื่องอื่น พลอตกูเฉยๆ คดีกูก็เฉยๆ เรื่องสั้นที่กูอ่นในขายหัวเราะมหาสนุกสิบกว่าปีก่อนยังตื่นเต้นกว่าที่มึงเขียนเยอะเลย ปัญหามึงอะคือเล่ายังไงให้คนตื่นเต้น หาทางจับใจคนดูไปด้วย เท่าที่เขียนมึงเป็นได้แค่งานธรรมดาภาษาพอใช้ ไม่มีทางสู้งานที่เขียนแย่ๆ ภาษากากๆ แต่มีอะไรบางอย่างจับใจคนได้นิดหน่อยได้หรอก

925 Nameless Fanboi Posted ID:eFq9kKykHs

>>924 ธรรมดาเต็มไปหมด กูเอาสั้นๆนะ นิยายมึงมันไม่น่าสนใจ

926 Nameless Fanboi Posted ID:/45FFNk07f

>>924 อยากทราบความเห็นเกี่ยวกับตัวละครหน่อยครับ

927 Nameless Fanboi Posted ID:/45FFNk07f

>>924 อ๋อ แล้วเรื่องการดำเนินเรื่องคิดยังไงบ้าง การสืบสวนอะ ขอขอบคุณสำหรับคำวิจารณ์

928 Nameless Fanboi Posted ID:/45FFNk07f

>>924 แล้วส่วนที่บอกว่าธรรมดา ช่วยตกตัวอย่างหน่อยครับว่าจะเพิ่มความจะเพิ่มความน่าสนใจยังไง สักท่อนนึงก็ได้ครับ ถือว่าช่วยกัน จะได้นำไปพัฒนา ขอบคุณครับ

929 Nameless Fanboi Posted ID:ycEDA9gCis

รายนี้มันเอาจริงเว้ย ไหนใครเคลียร์งานก่อนสงกรานต์จบแล้วมาช่วยเด็กใหม่กันหน่อย

930 Nameless Fanboi Posted ID:nh+xxiMkvp

โห้ เห็นแบบนี้แล้วก็อยากลองแปะดูบ้างแฮะ เผื่อมันจะดีขึ้น

931 Nameless Fanboi Posted ID:/45FFNk07f

>>929 ขอแบบเจาะฉากต่อฉากเลยก็ได้ครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง

932 Nameless Fanboi Posted ID:vx6/rWHNky

>>926 ตัวละครไม่มีความเห็นมากนะ ตอนมึงน้อยและเรื่องมึงธรรมดา กูขี้เกียจอ่าน เอาเท่าที่จำได้แล้วกัน ตัวแม่นี่คือพยายามแบดให้ดูเหมือนตัวลูกชีวิตจะรันทดไหม เหมือนมีแม่ไม่ได้เรื่อง ก็แล้วยังไงต่อ ตอนมึงน้อยนี่ ยังไม่เห็นอะไร ไม่ได้รู้สึกสงสารใครขึ้นมา ตัวเด็กน้อยน้องชายเล่นของเล่นจะสื่ออะไร สื่อว่าถึงกลายพันธุ์แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนเลวไรงี้ป่ะตามบทสนทนาว่าไม่มีคนเลว ก็ดีแต่ก็ไม่ได้มีอะไร บริบทมันยังไม่คูลพอต้องบ่มสักพัก แต่เขียนมาแค่นี้ก็งั้นๆ อะ ยังไปไม่ถึง ตัวลูกสาวนี่ก็ธรรมดา พยายามทำตัวเป็นคนดี ลูกดี พี่สาวดี จบ ยังไม่ได้อะไรมาก มึงเอาอะไรกับนิยายไม่กี่ตอนมากไม่ได้หรอก มันต้องปั้นนานกว่านี้ ส่วนสารวัตรเชี้ยไรเนี้ย บทสนทนากับการลากเสียงค้าบค้าบ เด็กน้อยฉิบหาย มึงไม่มีวุฒิภาวะเลย เป็นสารวัตรมึงควรจะเป็นการเป็นงานกว่านี้ บทสนทนาของพวกตำรวจเนี่ยกูบอกเลยว่าเหมือนเด็กน้อยผู้ชายคุยกัน อาจจะเด็กน้อยมัธยม เด็กน้อยมหาวิทยาลัยอะไรก็ว่าไป คือบางอันดูแล้วไม่ใช่บทสนทนาของคนทำงานอะ

>>927 การดำเนินเรื่องสำคัญคือไม่ให้งง ให้คนตามทัน แต่เรื่องมึงมีปัญหาอยู่จังหวะมันไม่ตื่นเต้น การเล่าเรื่องมันแบนเรียบอืดเอื่อย คือมึงจะคุยจะค้นหาร่องรอยนี่พยายามให้กระชับกว่านี้ พาเข้าจุดสำคัญให้เร็วกว่านี้ มึงตัดไม่ได้มึงก็ต้องเขียนให้มันรู้สึกระทึกกว่านี้ นิยายมันต่างจากงานจริง งานจริงแม่งมีระบบ มีขั้นตอนการทำงานของมัน นิยายมึงต้องทำให้รู้สึกว่าเรื่องธรรมดาพวกนั้นมันตื่นเต้น ระทึกใจฉิบหาย บทสนทนาที่มันไร้สาระตัดได้ก็ตัด ถ้ามีต้องฮาจริงจังไม่เอาขำๆ มุกแป้ก ไม่ได้สนุกหรอก สำหรับกูไอ้พวกนี้เรียกน้ำ อย่างน้อยมึงจะเขียนน้ำต้องให้มันเป็นน้ำซุปหน่อย มีรสชาติหน่อย น้ำเปล่ามีได้แต่อย่าเยอะ

>>928 กูถึงให้มึงไปกดอ่านนิยายวายไง ไม่เกี่ยวกับรสนิยมมึงชอบไม่ชอบ แต่งานพวกนั้นมันมีสิ่งที่มึงขาดหลายเรื่องไปดูผ่านๆ เอา ไอ้ท่อนเดียวมันไม่ช่วยเหี้ยอะไรมึงหรอก บางอย่างมันต้องเป็นบริบท ถูกปั้นมา หรืออะไรที่นึกไม่ถึง มึงเคยดู got ไหม เคยเห็นตอนบักจอห์นผู้ไม่รู้เหี้ยอะไรเลยเจอเสียบไหม มึงจะเจออะไรที่แบบ เชี้ยไรเนี้ย ขึ้นมาระหว่างดู งานเขียนก็เหมือนกัน มันต้องมาทั้งหมดอะ ถ้ามึงจะเอาสักท่อนนะ มึงไปดูชื่อนิยายที่มึงเห็นแล้วรู้สึกว่า เชี่ยไรเนี้ยหรือแบบเฮ้ยเจ๋งว่ะ แล้วกลับไปดูชื่อนิยายมึง มึงต้องเขียนอะไรพวกนั้นลงไปอะ มันมีสิ่งที่อ่านแล้วรู้สึกว่าคูลจริงๆ หรือพยายามคูล มึงอย่าพยายามคูลแต่ต้องเขียนให้รู้สึกว่าคูลจริงๆ การที่มึงหาตัวอย่างนั่นนี่ดูแนวทางอะนะ มันเป็นการพยายามคูล แต่ถ้าบริบทมันได้ มึงรู้สึกว่าเขียนแบบนี้ลงไปในสถานการณ์นี่แหละแม่ง แจ่มเบย แสดงว่ามึงเริ่มเข้าถึงความคูลที่แท้จริงแล้ว มึงไปเสพงานโฆษณา ซีรี่ย์ หนัง นิยาย ให้เข้าใจความคูลของงานดีๆ งานขายดีๆ ก่อน แล้วมึงมาย้อนอ่านงานตัวเองอีกรอบมึงอาจจะเข้าใจว่าทำไมกูถึงบอกว่างานมึงแม่งธรรมดามาก

933 Nameless Fanboi Posted ID:/45FFNk07f

>>932 ตัวเอกล่ะ มีความเห็นไงบ้างครับ

934 Nameless Fanboi Posted ID:/45FFNk07f

>>932 เอ่อ ของเล่นเป็นอีสเตอร์เอ้กครับ อิงถึงหนังเรื่องนึง แต่ถ้าไม่รู้มันก็ถือว่าเป็นสนทนาธรรมดา ๆ

935 Nameless Fanboi Posted ID:Ec/Agb6hbU

>>932 รบช่วยยกตัวอย่างหน่อยได้ไหมครับ เอาท่อนน่าเบื่อของผมมาเปลียนให้ดูน่าสนใจ ช่วยหน่อยนะครับ

936 Nameless Fanboi Posted ID:nyyhNorwlg

>>932 ผมไปอ่านนิยายวายตามที่คุณแนะนำมาแล้วนะครับ บอกเลยว่าไม่เคยอ่านแนวนี้มาก่อน
ผมไปอ่านเรื่องท็อปของทั้งสองเว็ป (ดด/ฟชล) อย่างละ 1 บท (อ่านอย่างตั้งใจ ทุกตัวอักษร)

ของเว็ป ดด ผมเห็นตัวละครพูดหยอกล้อกันไปมาทั้งบท โดยแฝงการปูตัวละครสามสี่ตัว ตอนตอนท้าย ๆ มีจูบหอมกันนิดหน่อย
ของเว็ป ฟชล ผมเห็นตัวละครท่าทางใสซื่อ ถูกย้ายเข้ามาอยู่บ้านเดียวกับตัวละครที่ดูท่าทางดุ ๆ ท่าทางไม่สนโลก น่าจะเป็นพระกับนาง (หรือพระกับพระ)

ส่วนตัวหลังจากได้อ่านทั้งสองเรื่อง ผมไม่รู้จริง ๆ ว่ามันจะเอามาใช้กันนิยายของผมยังไง เพราะมันคนละแนวกันโดยสิ้นเชิง อีกทั้งผมก็ไม่รู้สึกว่าได้อะไรขึ้นมาใหม่ เพราะฉากที่ได้กล่าวไปข้างต้น สามารถพบได้ตามละครหลังข่าว (เช่นเดียวกับนิยายของผม ที่เห็นได้ตามซีรี่สืบสวนฝรั่ง)

ขอความคำชี้แจงเพิ่มเติมด้วยนะครับ ผมอาจจะเข้าไม่ถึง

937 Nameless Fanboi Posted ID:QkhdQzvOwB

ไม่รู้นะว่าคนเขียนเด็กใหม่ในโม่งเปล่า แต่ช่วยรวมเรื่องที่จะพูดไว้ใน ref เดียวหน่อย มันเปลืองยิ่งใกล้หมดมู้ด้วย

938 Nameless Fanboi Posted ID:GGwfQftlAJ

>>937 สิงมานานพอสมควรล่ะครับ แต่นี่พิมตอนทำงาน พิมได้หัวข้อหนึ่ง หัวหน้าเดินผ่านมา เลบต้องรีบกดโพส แล้วก็เปิดมาโพสใหม่อีกที ขอโทษทุกคนด้วยนะ เดี๋ยวจะพยายามตอบในข้อเดียว

939 Nameless Fanboi Posted ID:/KnfmTQ.pT

มึงงงงง เนื้อเรื่องนิยายกูมันเป็นโทนหม่นปนสดใส กูควรเขียนโปรยแบบสดใสน่าติดตาม หรือเขียนแบบโปรยๆปมดราม่าชวนสงสัยไว้ก่อนดีวะ คือกูอยากเขียนแบบสดใสนะ แต่อีกใจมันยังมองไปหาโปรยหม่นๆ ชวนระทึก

940 Nameless Fanboi Posted ID:GGwfQftlAJ

>>939 มาซะขนาดนี้ มึงคงมีคำตอบในใจแล้วล่ะ เขียนตามใจมึงนั้นแหละ

941 Nameless Fanboi Posted ID:vx6/rWHNky

>>933 ใครตัวเอกมึงวะ เทวินอ่อ ตอนน้อยบทน้อยอยู่กูก็ไม่แน่ใจ ถ้าเทวินกูบอกได้แต่ว่า กูไม่รู้ คือตอนมึงน้อยอะ มึงสอบตกเรื่องการสร้างความเข้าใจให้คนอ่านปกตินะ มึงไม่เข้าใจคนอ่านเลย คนอ่านส่วนใหญ่ไม่ได้คิดอะไรมาก เป็นหน้าที่มึงที่จะทำให้เขารู้ว่ามึงคิดอะไร ไม่มีใครเขารู้สิ่งที่อยู่ในใจมึงหรอก มึงต้องสื่อมันออกมา สร้างออกมาให้ปรากฏ อารมณ์เหมือนกูเดินไปกับมึงสองคน คุยเรื่อยเปื่อย แล้วอยู่ๆ มึงถามว่ากางเกงร้านเมื่อกี้กูคิดว่าไง กูก็จะตอบไปว่า กางเกงเหี้ยอะไรวะ มึงเข้าใจไหม ตอนมึงแค่นี้มึงยังปั้นอะไรไม่ได้ มันยังไม่ได้เห็นเด่นชัดอะไรขนาดนั้น ปัญหามึงแสดงออกมาตั้งแต่มึงถามคำถามนี้แล้ว มึงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าระดับความเข้าใจคนอ่านกับตัวละครของมึงควรจะอยู่ประมาณไหน ถ้ามึงเข้าใจว่าคนอ่านปกติยังไม่รู้จักนิยาย ยังไม่รู้จักตัวละครมึง กับเนื้อหาการเดินเรื่องแค่เนี้ย มึงก็ควรจะนึกออกว่า คนอ่านยังไม่รู้ยังไม่อินยังไม่เข้าใจอะไรขนาดตอบออกมาได้

>>934 คนอ่านประมาณ 99.99% จะไม่รู้เรื่องที่มึงสื่อจนกว่ามึงจะเฉลย มึงอยากซ่อนอะไรไว้ก็ได้ แต่มันก็จะไม่ถูกเจอจนกว่ามึงจะพาคนอ่านไปเจอ ดังนั้นไอ้ของเล่นนั่นมีค่าเท่ากับบทสนทนาบทหนึ่งเท่านั้นแหละกับคนอ่าน

>>935 ถ้าต้องยกตัวอย่างมาคือต้องเขียนเรื่องมึงใหม่ทั้งหมดซึ่งกูขี้เกียจ ถ้ามึงคิดว่าการแก้ท่อนใดท่อนหนึ่งแล้วจะสำเร็จ เปลี่ยนแปลงอะไรได้ คือมึงไม่เข้าใจที่กูสื่อ เรื่องของมึงเนี้ยมันมองไม่ได้ว่าตรงไหนควรแก้อะ มันเยอะ มันควรแก้ทั้งหมด ให้หาว่าตรงไหนเหมือนจะโอเคยังดูง่ายกว่าเพราะมันน้อย กูโอเคแค่ไอ้ตอนเด็กน้อยพูด มันดูแฝงอะไรดีนิดนึง นอกนั้นแก้หมด ให้แก้ให้ดูมันเสียเวลากู การคิดอะไรออกมาบางอย่างมันใช้พลังสร้างสรรค์ซึ่งกูเอาไว้ใช้เอง การวิจารณ์มึงงานกูเยอะแล้ว มึงเห็นพวกทำงานโฆษณาไหม ทำไมมันคิดแพง เพราะมันไม่ได้คิดออกมาได้บ่อยๆ คิดออกมาได้แล้วทำไมต้องทำให้ฟรีๆ ถ้ามึงไม่เข้าใจว่าอะไรที่มันเจ๋ง มันคูล จับใจคนได้ เห็นแล้วปรบมือให้ กูก็ไม่รู้จะอธิบายออกมาได้ยังไง ถ้ามึงคิดว่างานมึงดีแล้วนี่หว่า ก็สนุกดีนี่หว่า แบบนั้นกูช่วยอะไรไม่ได้หรอก แต่ถ้ามึงคิดว่า จริงๆ มันก็น่าจะมีอะไรสักอย่างที่ทำให้คนตื่นเต้นหรือจับใจได้มากกว่านี้ แสดงว่ามึงก็เข้าใจ เพียงแต่มึงยังนึกไม่ออกว่าจะทำมันออกมายังไง ไอ้นั่นแหละคือสิ่งที่มึงต้องไปทำออกมา

>>936 มึงทำการบ้านน้อยมาก อ่านแบบนี้ไร้ประโยชน์ มึงเปิดอย่างละตอนแล้วเหมารวมเลยไหมว่านิยายวายคือคนละแนวทางกับมึงสิ้นเชิง นิยายมึงที่กูอ่านเนี้ยตอนยังมากกว่าที่มึงไปอ่านเลย อันไหนไม่ใช่ทางไม่ใช่แนว ไม่เข้าใจ มึงเปิดตอนต่อไปไม่ก็ปิดแล้วเปิดเรื่องใหม่ มันอาจจะมีสักเรื่องสักตอนที่จะทำให้มึงเข้าใจว่า อ่อ จริงๆ เขาเขียนกันแบบนี้ก็ได้นี่หว่า ภาษาการเล่ามึงอะแนวเดียวกับนิยายวายหรือแนวนิยายรักไทยอะกูบอกเลย ไอ้การหยอกล้อหรืออะไรที่มึงอาจจะคิดว่าเหี้ยอะไรนี่ คือมึงมองข้ามสิ่งที่คนอ่านปกติให้ความสนใจ แล้วไปให้ความสำคัญในสิ่งที่คนอ่านปกติยังไม่ได้ให้ความสำคัญ มึงยังเข้าไม่ถึงแก่นแท้ของการเล่าเรื่องอะ เพราะมึงให้ความสนใจกับความสำคัญกับตัวเอง ไม่ได้ให้ความสนใจกับตัวคนอ่านเท่าไหร่ นิยายมึงจะได้รับนิยมยาก คนสนใจอ่านยาก เพราะมึงก็ไม่ได้ใส่ใจเขา ที่บอกนี่ก็ไม่ใช่การตามใจคนอ่านนะ กูเห็นบางคนคิดน้อย นึกว่าบอกอย่างงี้คือให้ทำตามใจพวกคนอ่านที่มาเมนต์ให้ ต้องรักษาความเป็นตัวของตัวเอง มันคนละเรื่องกัน ไอ้พวกเมนต์คือความเห็นส่วนน้อยอย่าไปตามใจมัน แค่คิดทบทวนก็พอ ถ้าดีแล้วก็ทำตามแนวทางตัวเองไป ส่วนนิยายมึงอะนะถ้าเทียบกับนิยายที่มึงคิดว่าก็ไม่มีอะไร มึงคือธรรมดามากกว่าเขาอะ เรียบง่ายและไม่ได้ดูมีอะไร ซีรี่ย์ฝรั่งมันก็มีอันที่ดูฉลาด ดูหลักแหลม กับดูแล้วงั้นๆ หรือดูแล้วล้าสมัย ซึ่งในความเห็นกูคือนิยายมึงไม่ได้ถึงขั้นนั้นอะ ไม่ได้มีความรู้สึกว่านิยายมึงเฉียบมาก เฉียบน้อยก็ไม่ นิยายบางทีก็ไม่ต้องใส่อะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา แต่อันที่เคยมีเคยเห็นมึงต้องแสดงมันออกมาให้จับใจคนอ่านได้ ปัญหาหลักๆ คือการเล่าเรื่องอะ การเล่าของมึงไม่ได้สร้างความระทึกใจเลย ต่อให้ประเด็นกากแค่ไหนถ้าเป็นนิยายสืบสวนมึงต้องให้มันระทึกใจหน่อย แนวนี้มึงลองไปอ่านพวกบันทึกจอมโจรแห่งสุสานดูแล้วกัน นิยายแปลจีนสักสองเล่ม อย่าไปหยิบคนขุดสุสานมา มันคนละเรื่อง มึงไปคว่ำกรวยก่อนแล้วเข้าใจความตื่นเต้นจากการอ่านเมื่อไหร่ค่อยมาใหม่

942 Nameless Fanboi Posted ID:HWUtikPrUL

>>940 กูสองจิตสองใจอะ แต่ขอบคุณนะโม่งงงง

943 Nameless Fanboi Posted ID:fSS+wcRW7L

>>941 ขอโทษด้วย สงสัย ผมไม่เข้าแก่นแท้ของการเล่าจริง ๆ

ที่ให้ยักตัวอย่างก็คือ ลองทำให้ท่อน ๆ หนึ่ง ที่มันธรรมดาสำหรับคุณ มันดูพิเศษขึ้นมา เช่น การเปิดเรื่องของผมมันอาจจะชวนหลับ ก็ยกตัวอย่างมาหน่อย ว่าเปิดยังไงไม่ให้หลับและน่าติดตาม (โดยที่คงสิ่งที่จะสื่อและเบาะแสในเรื่องไว้) เพื่อที่ผมจะได้เอาไปเป็นแนวทาง อาจจะชี้จุดบกพร่อกมาสักสองถึงสามจุดให้ได้เห็นภาพ บอกรวม ๆ แบบนี้ผมหาโฟกัสไม่เจอ

อีกอย่างให้อ่านนิยายวายผมไม่รู้จริง ๆ แค่ยกตัวอย่างง่าย ๆ มาสักสามสี่บรรทัดจะเป็นไรไป (นี่ก็พิมมาสิบกว่าบรรทัด)

ส่วนเรื่องของเล่น ก็ตามนั้นครับ มันเป็นบทสนทนาธรรมดา สำหรับผู้ที่ไม่รู้ (คุณเก่งนะ มีตีความเรื่องคนดีคนเลว ผมเขียนเองยังคิดไม่ถึง 5555)

ปล.เคยอ่านคนขุดสุสานแล้ว ก็สนุกดีนะ ผจญภัยแฟนตาซีหน่อย ๆ ชอบโมเม้นพี่หนูนักสูบฝิ่นพอสมควร
ปล2.การพิมโต้ตอบกับผมในนี้ถ้าคุณคิดว่ามันเสียเวลาชีวิต แต่ถ้ามันจะทำให้นิยายผมดีขึ้นจริง ๆ คุณติดเข้ามาในแอคเคาเด็กดีผมได้นะ ผมเห็นคุณพิมมาได้ขนาดนี้แสดงว่ามีความรู้พอสมควร (เผลอ ๆ อาจจะเป็นนักเขียนระดับบรมครูแฝงตัวมา) ผมยินดีจ่ายค่าปรึกษา

944 Nameless Fanboi Posted ID:G8A4HF8np3

>>943 ไปมู้นักเขียนเฉพาะเลยมั้ยมึง เผื่อจะช่วยมึงได้มากกว่านี้ กูแปะให้
https://fanboi.ch/literature/5724/recent/

945 Nameless Fanboi Posted ID:vx6/rWHNky

>>943 พิมพ์สนทนากับการสร้างสรรค์มันคนละอย่าง ใช้พลังงานไม่เหมือนกัน เนื่องจากมันง่ายกว่าถ้าให้ไปอ่านสิ่งที่เขียนกันไว้อยู่แล้วไม่ต้องเสียเวลาคิดหรือสร้างขึ้นใหม่ ไม่เสียพลังงาน ที่ไม่เขียนเพราะมันต้องคิด ยิ่งไอ้วลีสั้นๆ ให้ปังเลยคือมันต้องพลังล้นไอเดียกระฉูดตลอดเวลาจริงๆ ถึงจะทำได้ วรรคทองพวกนี้ถ้าให้คิดมันเหนื่อยกว่าเพราะมันต้องปังขึ้นมาเลย ดูตอนนี้ก็ได้ ฮั่นแน่ ฮั่นแน่ เต็มบ้านเต็มเมือง ทำไมมันปัง เพราะบริบทที่มันใช้ ฮั่นแน่ มันยั่วยวนอารมณ์คนให้ต่อยหน้ามาก บอกอีกครั้งนะ ไอ้สักท่อนให้มันพิเศษอะ มันยาก มันใช้พลังงานเยอะ บางทีมันต้องมีแรงบันดาลใจ กูเลยไม่เขียน ไปหาอันที่มีอยู่แล้วมันง่ายกว่าไม่เหนื่อยด้วย ฮั่นแน่ มึงคิดดูแล้วกันทำไมช่วงนี้ติดปากติดมือคนทั่วบ้านทั่วเมือง เปิดเฟสก็ฮั่นแน่แม่งทุกวัน มึงลองทำความใจดูนะ หรือถ้าอ่านนิยายจีนด้วยไปยกตัวอย่างพวกวรรคทองโกวเล้ง กิมย้งมาก็ได้ ถามไถ่ทั่วหล้า รักเป็นฉันใด จึงมอบให้แก่กันด้วยชีวิต อันนี้กิมย้งก็เอามาจากนักกวีในประวัติศาสตร์อีกที หรือ ข้าพเจ้ามิได้ชื่นชอบสุรา แต่ข้าพเจ้าชมชอบบรรยากาศที่ได้ร่ำสุรา ของโกวเล้ง อยากได้ประโยคที่มันบาดใจเลือดหัวใจไหลออกก็ดูของแก แต่สองเรื่องนี้มันไม่ใช่ภาษาในแบบนิยายมึงอะกูเลยไม่ได้ยกมาเทียบ ถ้ายกมาท่อนหนึ่งมันก็แบบนี้

ส่วนการเปิดเรื่อง ลองอ่านแฮรี่พ็อตเตอร์ดูแล้วกัน จริงๆ การโฟกัสมันเป็นการจำกัดกรอบความคิดอะ ไอ้การเขียนมันไม่ควรมีจำกัดอะไรแบบนั้น แต่มันต้องรวมๆ กันออกมาแล้วเออ ดี สนุกดี ตื่นเต้นดี แต่ถ้ามึงสวมวิญญาณจอห์น สโนว์กูก็จะลองไกด์ให้นิดหน่อย ยกแฮรี่เป็นกรณีศึกษาเปิดเรื่อง

1. การเปิดเรื่องไม่ควรยัดข้อมูลแบบหนังสือเรียนเขียนประวัติศาสตร์มา คือเห็นว่าควรใช้วิธีป้อน ป้อนข้าวเด็กน้อยอะ ตักมาทีละคำกินทีละคำจะได้่ย่อยทัน มึงดูการเปิดเรื่องแฮรี่ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาเลย เขาค่อยๆ เล่าผ่านตัวละครที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น สร้างความอยากรู้อยากเห็นว่าตัวละครนั้นมันมีที่มาที่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องราวยังไง

2. ชั้นเชิงการเล่า มันต้องใส่ความน่าติดตาม ไอ้ความน่าติดตามนี่แล้วแต่คนตีความ กูยกแฮรี่มาก็จะชี้ให้ดู บทเปิดแฮรี่ เพื่อจะไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์กูจะไม่พิมพ์ทั้งหมดแล้วกัน มึงไปเปิดอ่านตามเอง มึงดูย่อหน้าแรกนะ อ่านให้จบสักห้าย่อหน้าก่อนค่อยอ่านสิ่งที่กูชี้ต่อ

หลังบ้านเลขที่ หลังบอกว่าปกติธรรมดาที่สุด เชื่อเขาเลย! มึงจับกราฟอารมณ์ของมึง ถ้ามึงตั้งใจมึงอาจจะจับได้ไม่ตรงความเป็นจริงเพราะมึงอ่านด้วยอารมณ์อย่างหนึ่ง แต่พอมันมี เชื่อเขาเลย! คือมันมีการเสียดสี การเสียดสีก็เป็นการสร้างความน่าติดตามแบบหนึ่ง ให้ความรู้สึกว่า พวกนี้มันอะไรวะเนี้ยอยู่ แล้วมันจะทำให้คนอ่านคล้อยตาม เห็นว่าไอ้พวกนี้มันหลงตัวเอง ยิ่งมึงไปต่อย่อหน้าที่สอง การแนะนำตัวละคร ทั้งการเอาส่วนของร่างกายมาเหน็บแนมนิสัยเสียของตัวละคร ไปจนถึงวิชชั่นตัวละคร แม่งจบในย่อหน้าเดียวทั้งที่เป็นการเขียนแบบค่อนข้างล้าสมัยสำหรับตอนนี้แล้ว แต่ชั้นเชิงดีกว่านิยายที่เด็กไทยเลียนแบบเยอะ เพราะเราเอามาแต่เปลือกอะ ลอกมาแต่เวลาบรรยายให้บรรยายสีผม สีตา เหี้ยไรเนี้ย ดูชั้นเชิงเขา วัตถุประสงค์ที่เขาบรรยายตัวละครสักตัว ส่วนนี้มึงลองไปปรับใช้กับตอนแนะนำตัวแม่ลูกนั่นดู ชั้นเชิงต้องมากกว่าที่เขียนอะ ต้องมีอะไรบาอย่างดึงดูดให้คนตามต่อ

ย่อหน้าสามค่อยเริ่มปูเรื่องจริงจัง ดูการเริ่มเล่าของเขา ย่อหน้านี้ก็ไม่ใช่ว่าดีที่สุด น่าติดตามมากหรืออะไรแบบนั้น แต่มันมีดีกว่านิยายปกติอะนะ การเล่าสิ่งที่อยากเล่า ค่อยๆ เล่า ค่อยๆ ป้อน ความสัมพันธ์ซับซ้อนนิดหน่อย ถูกเขียนให้ดูกระชับมึงเห็นญาติฝั่งแม่แฮรี่ไปจนถึงลูกชายญาติในย่อหน้านี้ แถมด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่อยากมีความสัมพันธ์ด้วย เหมือนจะยาวแต่ก็เขียนออกมาค่อนข้างกระชับได้ใจความดี

ย่อหน้าสี่ก็เริ่มเรื่องแบบธรรมดามาก แต่ชั้นเชิงเขาดีไง ไอ้เรื่องธรรมดาเขาก็เล่าให้ดูมีอะไรในการเริ่มต้นวันๆ หนึ่งได้ ทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดาๆ ต่อด้วยย่อหน้าที่ห้า มีนกบิน คนอ่านแม่งก็เริ่มรู้ละว่าเรื่องไม่ธรรมดากำลังจะเกิด คือมึงอ่านก็รู้อะ ที่คนเขียนเขียนว่าไม่มีใครสังเกตเหี้ยนี่คนอ่านสังเกตแน่ๆ ว่ากำลังจะมีอะไรกับนกฮูกนี่ และนกฮูกตัวนี้มันก็จะผูกกับเรื่องราวต่อๆ ไปในอนาคต พอถึงบทนกฮูก คนอ่านแม่งก็จะ อ๋อ ขึ้นมา

946 Nameless Fanboi Posted ID:vx6/rWHNky

ส่วนนิยายวายกูเลือกให้ก็ได้ เอาเรื่องเก่านิดหน่อยแล้วกัน ไปดูเรื่องครุฑฉุดนาคดู การเล่ากูคิดว่ามันมีอะไรๆ มีความร่วมสมัย คนอ่านสมัยใหม่เข้าถึงง่าย อ่านตอนเดียวก็ได้กูเห็นว่าเรื่องนี้โอเค กูไม่อยากชี้มาก กูเห็นว่าในนี้ส่วนใหญ่ชอบแซะมากกว่าแกะสิ่งดีๆ ที่คนเขาเขียนไว้มากกว่ากูเลยไม่อยากยกนิยายขึ้นมาให้ ส่วนนิยายดีๆ มึงไม่จำเป็นต้องให้กูเขียนให้ดูก็ได้ มีวางขายทั่วไป บางคนก็เขียนให้อ่านฟรีๆ ปัญหาคือบางทีแม่งก็แยกไม่ออกว่าอะไรดีไม่ดี บางทีก็มีอคติ นิยายดีบางทีก็ไม่ได้ดีทั้งเล่ม มีบางส่วนบางตอนที่เขาเขียนก็ไม่ดี ถ้าอ่านเป็นปกติก็เห็นเอง ถ้าอ่านแบบอคติมากไปก็ยากจะเห็น ยิ่งอ่านแบบอยากวิเคราะห์วิจารณ์ยิ่งเห็นยากเพราะอคติแม่งจะมาเต็ม

ปล. กูบอกแล้วว่าให้อ่านบันทึกจอมโจรแห่งสุสาน ไม่ใช่คนขุดสุสาน คนละเรื่อง
ปล.2 กูไม่ได้คิดว่ามันเสียเวลาชีวิต หรือกูคิดวะ เขียนยาวจำไม่ได้ กูบอกว่าการเขียนอะไรสักอย่างสำหรับกูมันใช้พลังสร้างสรรค์ ยิ่งสั้นยิ่งให้ปังมันยิ่งยาก เพราะถ้ามันไม่รู้สึกว่าปังจริงๆ มันก็ไม่ใช่ไง เขียนส่งๆ ให้มึงอ่านในขณะที่กูคิดว่าที่เขียนไปแม่งก็ไม่เท่าไหร่นี่หว่าแบบนั้นกูเขียนไม่ได้หรอก ส่วนกูนั้นมีความรู้อยู่แต่ไม่ใช่บรมครูหรอก นิยายกูก็เขียนแม้ไม่ใช่มืออาชีพแต่กูขายดีทุกเล่มที่ออก ขณะเดียวกันกูชอบอ่านมากกว่า วิจารณ์มันเป็นฟีลลิ่ง วันนี้กูมีฟีล มึงแปะมาขอคำวิจารณ์กูก็วิจารณ์ หลายวันก่อนมีคนแปะแต่กูขี้เกียจกูก็ไม่วิจารณ์

947 Nameless Fanboi Posted ID:Lgz4B+5UOg

>>946 ครุฑฉุดนาค คนรอบตัวกูมีแต่คนบอกว่ากามมากหื่นมาก มีมั้ยนิยายดีๆที่มันไม่เรทเลยอะ

948 Nameless Fanboi Posted ID:vx6/rWHNky

>>947 มึงต้องแยกแยะไง NC ให้ข้ามไป ตอนแรกมันก็ไม่ได้ตุบตับเลย กูแนะนำนี่ให้สังเกตวิธีการเล่าของเขาตอนแรก คนอ่านมันก็มีคนโฟกัสบางเรื่องบางอย่าง แต่มันก็ไม่ได้ + กันทั้งเรื่อง

949 Nameless Fanboi Posted ID:F5m/Fc6fe+

>>946 อ๋อ คุณพยายามจะบอกให้ผมเขียนงานแบบนักเขียนระดับเทพอย่าง เจเค กิ้มย้ง ให้มีประโยคเด็ด ๆ ในนิยาย ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง

ฮั่นแน่ คุณพี่ครับ ผมเพิ่งหัดเขียนได้ปีกว่าเอง แล้วพื้นฐานการอ่านนี่ห่วยชิบหาย ที่มาขอคำวิจารณ์นี่ แค่ขอเบื้องต้นสำหรับนักเขียนหน้าใหม่ บอกมาสิ จุดนี้เป็นไง จุดนี้ควรปรับ จุดนี้ดีแล้วแต่จะดีขึ้นถ้า...

ผมคิดว่าการจะไปถึงระดับนั่นได้มันต้องค่อย ๆ พัฒนาไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่จู่ ๆ ก็เปรี้ยง เขียนนิยายขั้นเทพเจ้า แบบนั้นมันเรียกพรสวรรค์ค้าบ แต่ผมไม่มี ผมมีแค่พรแสวง แล้วที่ยอมหน้าด้าน มาหาคนวิจารณ์ถึงในนี้ ก็น่าจะรู้ว่าแสวงระดับไหน

แต่ยังไงก็ขอบคุณนะครับ ที่อุสาห์เสียเวลามาตอบ แค่มีคนมาคุยเกี่ยวกับนิยายของผมก็ดีใจละ ขอตัวไปเขียนต่อ ขอบคุณอีกครั้ง

ปล.นิยายของคุณพี่นี่ชื่ออะไร แวะมาบอกผมได้น้า เดี๋ยวไปช่วยอุดหนุน

950 Nameless Fanboi Posted ID:AB590fUXET

ไม่เข้าใจอะไรก็อ่านเอาสิวะ ซึมซับจากหนังสือ จากนิยายมันยากไรนัก จะไม่เข้าใจไปทุกเรื่องเลยไหม ไม่เข้าใจก็อ่าน อ่าน อ่าน อ่าน หัดสังเกตจุดเด่นน่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างของคนอื่นซะบ้าง คนวิจารณ์เขาจำเป็นต้องวิจารณ์ตั้งแต่เรื่องพื้นๆ จาก 0 เลยไหมวะ ก็ไม่ ข้างบนๆ หรือกระทู้เก่ามันก็วิจารณ์พวกพล็อตเรื่อง การดำเนินเรื่องกับภาษาเป็นส่วนใหญ่ ไม่คิดจะทำความเข้าใจนักอ่านก็เขียนแบบนี้ไปนั่นแหละ กูไม่อยากพูดไรละ

951 Nameless Fanboi Posted ID:aWyuiWIZtz

>>949 เอิ่ม เอาเถอะ ให้ศึกษางานที่มันน่าจะดีแล้วถ้าคิดว่าวิธีนี้ไม่โอเคก็ไม่เป็นไร ส่วนคำวิจารณ์ก็กลับไปอันแรกใหม่อะนะ เบื้องต้นเลยคืองานมันธรรมดามากไม่ได้สนุกอะไร แค่นั้นแหละ บอกเป็นจุดไม่ได้เพราะมันธรรมดามากทั้งเรื่อง ขาดจุดเด่นให้คนติดตาม ถ้าไม่เข้าใจว่าจุดเด่นให้คนติดตามคืออะไรให้กลับไปหานิยายที่เคยอ่านแล้วชอบแล้วไปศึกษาอีกทีแล้วกัน

นิยายเราถ้าจะอ่าน ebook ลองกวาดดูพวกติดป้ายสีแดงดูน่าจะโดนหลายเล่มอยู่ ส่วนเป็นรูปเล่มก็เดินเข้าร้านหนังสือเจ้าใหญ่ ลองถามพนักงานดูว่าเล่นไหนคนชอบซื้อไปมั่งบางทีอาจจะโดนสักเล่มสองเล่มอยู่มั้ง

952 Nameless Fanboi Posted ID:GaN..l5JbV

>>950 การจะรู้ว่านิยายตัวเองมีจุดบกพร่องตรงไหน มันต้องใช้เวลาพอสมควรนะ อาจจะต้องเขียนจบแล้วทิ้งไปไว้สักเดือน ถึงจะเห็น ถ้าผมรู้ว่ามันแย่ตรงไหน ผมจะมาถามเพื่อ

ที่เอามาให้วิจารณ์ในนี้ ก็อยากให้คนมีที่ชั่วบินสูงกว่าชี้ให้หน่อย แต่สิ่งที่ได้รับกลับมีแค่ "ธรรมดาจัง"

คุณเจอแบบนี้แล้วคุณจะทำยังไงล่ะ กลับไปอ่านหรอ อ่านอะไร นิยายผมก็อ่านทุกวันนะ บางเล่มชอบถึงขนาดเปิดดูตอนเขียน มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ผมจะเขียนได้ขนาดนี้โดยไม่อ่านมาก่อน

ผมเป็นคนที่ค่อนข้างเปิดรับนะ ถึงจะรู้ว่าบางคนมาวิจาร์ณเอาสะใจ โดยที่อ่านแค่ผ่าน ๆ (ก็นิยายมันธรรมด๊าธรรมดาอะนะ) ผมก็ยินดีที่จะเปิดรับความคิดเห็น

ที่เขาพิม ๆ มา ผมก็อ่านหมด แต่ถ้าผมสามารถ เข้าถึงได้ขนาดนั้น ผมกลายเป็นกิ้มย้งไปแล้ว

เอาเถอะ ก็อย่างที่ว่า เคล็ดของการเขียนคือต้องอ่าน ๆ ๆ ไม่มีทางลัดมากกว่านี้ ผมขอตัวกลับไปอ่าน ๆ ๆ ก่อนละกัน

953 Nameless Fanboi Posted ID:R6tuaLhn9Y

>>951 ไม่บอกชื่อเรื่องมาเลยล่ะครับ มาบอกในเด็กดีก็ได้ ชีวิตนี้ผมอ่านแต่สืบสวน งานชนิดอื่นถ้าไม่ดังจนเป็นกระแส ผมก็ไม่กล้าหยิบ ยิ่งนิยายวายนี่ไม่เคยมอง (คุณพี่น่าจะเขียนวายใช่ปะ)

954 Nameless Fanboi Posted ID:X5fE6c51wS

>>952 นี้สรุปมึงมาขอคำวิจารณ์จริงๆหรือป่วนมู้เลยว่ะ มึงก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเขียนให้เยอะกว่านี้ พล๊อตหลักของเรื่องมึงคืออะไร จุดพีคอยู่ตรงไหน ถ้ามึงคิดว่านิยายมึงมีดีกว่าแค่คำว่าธรรมดามึงก็เขียนให้ถึงโชว์มาก่อน มึงจะขอคำวิจารณ์ตั้งแต่หน้าแรก แต่มึงยังไม่โชว์จุดขายเลย เขาก็ต้องวิจารณ์เท่าที่เห็น ถ้ามึงอยากให้มันดีตั้งแต่เปิด เรื่องมึงว้าว เปิดเรื่องมาให้คนงงไปเลย มึงเปิดเรื่องด้วยการยัดข้อมูลแล้วตามด้วยเหตุการณ์มันคือมุกเก่ามาก
ตอนแรกมึงบอกว่ามึงมีพื้นฐานการอ่านแย่ มาตอนนี้มึงบอกว่าอ่านนิยายทุกวัน งั้นนิยายที่มึงอ่านอ่าเรื่องอะไร
มึงมาขอคำวิจารณ์ที่ไหนก็ต้องรับแรงกระแทกอยู่แล้ว มึงจะโว้ยวายขอนู้นขอนี้ให้ขอแก้งานให้มึงหน่อย นี้ไม่ใช่โรงเรียนนะมึงที่พวกกูจะมาเป็นอาจารย์แก้งานให้มึง ตอนมึงทำงานหัวหน้ามึงบอกเหรอว่างานมึงผิดตรงไหนต้องแก้อย่างไร มึงเคยทำงานจริงไหมทำไมถึงได้โว้ยวายเป็นเด็กน้อยอยู่ได้ ถ้ามึงรู้สึกว่ามาคำวิจารณ์ที่นี่แม่งห่วยมึงก็ไม่ต้องฟัง เขียนนิยายของมึงต่อไป

955 Nameless Fanboi Posted ID:NqLUjWxeP1

>>954 ป่วนตรงไหน เพื่ออะไร ไม่เข้าใจ ผมเขียนลงไปตั้ง 6 บท (จากทั้งหมด 17 บท) บทละ 2000 คำขึ้น ผมว่านี่ก็น่าพอจะบอกได้แล้วนะ ว่ามันควรปรับตรงไหนอะไรยังไง แต่ก็ไม่ว่า ถ้ามันไม่ดึงดูด เพราะผมก็มาขอฟรี ไม่ได้จ้าง บอกตรง ๆ มาเลยว่าไม่อยากอ่านก็จบ

ส่วนเรื่องแรกกระแทรกนี่ผมเฉย ๆ นะ ถ้ามันแย่จริงก็ด่ามาได้ แต่นี่มาแบบคลุ่มเคลือ แทนที่จะรู้สึกแย่ กลายเป็นรู้สึกงง

ปล.พื้นฐานอ่านของผมมันห่วยไงเลยต้องอ่านให้มาก ผมเพิ่งอ่านนิยายเล่มแรกเมื่อสองปีที่แล้ว ผิดกับนักเขียนส่วนใหญ่ที่อ่านมาตั้งแต่ประถม
ปล2. เวลาผมทำงานผิดพลาด หัวหน้าก็ต้องชี้แจงอยู่แล้ว ไม่งั้นแม่งก็จะยิ่งผิดเข้าไปอีกน่ะสิ
ปล3. ตอนที่พิมนี่ ผมทำงานอยู่ อิอิ

956 Nameless Fanboi Posted ID:NqLUjWxeP1

>>955 โทด ๆ
ปล.3 เรื่องนี้ไม่ใช่นิยายยาว 789 ตอนนะ มันเป็นเรื่องสั้น ๆ ไม่ถึง 20 บท ก็จบ

957 Nameless Fanboi Posted ID:DVzTarvAvk

นิยายมันธรรมดาจะให้บอกว่าไรวะ? นิยายของคุณธรรมดาสูงมาก รักษาเอกลักษณ์และคุณภาพความธรรมดาไว้นะ ธรรมดามากเลยจ้า ธรรมด๊าธรรมดา คือจะเอาไง โม่งแนะให้แล้วมึงก็เอาไปคิดดู จะปรับจะเปลี่ยนยังไงก็เลือกเอา ใครๆ ก็ลองผิดลองถูก แล้วไม่ต้องเท้าความสตอรี่ชีวิตมึง ไม่มีใครอยากรู้จักมึง มึงไม่ใช่เด็กแล้วนะจะงอแงทำไมวะ บอกไปขนาดนี้ยังคิดเองไม่ได้เหรอ จะให้โม่งป้อนถึงเมื่อไร โตแล้วก็ขวนขวายเองบ้างนะ

958 Nameless Fanboi Posted ID:0RgkyjxnXd

ให้วิจารณ์แล้วก็เจอพวกอีโก้น้ำเต็มแก้วแบบนี้น่ะเหรอ เหอะ

959 Nameless Fanboi Posted ID:NqLUjWxeP1

>>957 เดี๋ยว ๆ ใจเย็น ๆ ก่อน ผมบอกว่าลองให้ยกตัวอย่างที่จะเปลี่ยนนิยายธรรมดาให้มันดูน่าสนใจหน่อย
เอาง่าย ๆ บทนำของผม พวกคุณอ่านแล้วมันเชยระเบิดใช่ไหมล่ะ แนะนำสิว่าจะให้ปรับตรงไหน หรือยกตัวอย่างงานที่ใกล้เคียงมาก็ได้ คุณบอกว่าให้ผมเลือกปรับเอง แต่ผมจะเลือกได้ยังไง เพราะผมไม่มีตัวเลือกมาให้เลือก ตรง ๆ นะ ผมอ่านนิยายตัวเอง ผมไม่เห็นจุกบกพร่องของมันหรอก เพราะถ้าเห็นผมก็แก้ไปแล้วล่ะ อีกอย่างแนวนี้มันก็ไม่ใช่แนวตลาด หาเรื่องเปรียบเทียบยาก หรือใครพอจะชี้นิยายแนวนี้ให้ผมได้ ก็ขอความกรุณาช่วยบอกมา ผมจะได้รีบไปหามาอ่าน

>>958 ถ้าผมน้ำเต็มแก้ว ผมเผ่นไปตั้งแต่พี่เขาตอบแล้วล่ะค้าบ

960 Nameless Fanboi Posted ID:zs3XMlCdhR

>>952 อะไรของมึง? มึงต้องการอะไรจากการวิจารณ์วะ บ้านไหนของมึงเขาเอาสับโขกจนละเอียดทุกบรรทัดที่แม่งธรรมดาวะ มึงคิดเองไม่ได้เหรอไง นิยายมึงธรรมดายังไม่รู้จักคิดอีกว่าควรปรับการนำเสนอเรื่อง ปรับจุดต่างๆ ให้มันมีความน่าสนใจ ไม่ใช่สารธยายจืดชืดแล้วมาขอคำวิจารณ์ทั้งที่หัวมึงยังไม่คิดที่จะเปิดรับเหี้ยอะไรเลย

ไม่ต้องมาบอกว่าวิจารณ์เอาสะใจ เพราะที่พวกโม่งพูดไปมันก็จริงแล้วปะวะ วิจารณ์แล้ว มึงไม่คิดที่จะหาจุดเสียของตัวเองเอง อย่าย้อนแย้งให้มากนักดิ ชีวิตมึงคิดอะไรเองได้บ้าง คุณครูตรวจการบ้านแล้วบอกว่ามึงทำผิดทุกข้อ เขาจำเป็นต้องสอนให้มึงทุกข้อทั้งที่มันก็เหมือนๆ กันเลยมั้ย ไม่! มึงควรไปศึกษาจุดที่ควรแก้ไขแล้วค่อยเริ่มแก้ใหม่จนมันถูกต้อง เลิกทำเหมือนเด็กได้แล้ว เวลามึงทำงานหัวหน้าเขาไม่มาสอนทุกจุดแบบนี้หรอก ปรับการนำเสนอซะ

961 Nameless Fanboi Posted ID:FMVN563fw.

>>960 "มึงควรไปศึกษาจุดที่ควรแก้ไข" แล้วผมจะไปควรไปศึกษาจุดไหนดีล่ะ บอกมาสักจุดก็ได้ อย่ากั๊กเลย

ถึงผมจะไม่ใช่เด็ก แต่สำหรับอายุการเขียน ผมแค่ขวบกว่า วิจารณ์สะใจผมไม่ว่าหรอก แต่ขอ How To ด้วย เหมือนใช่ให้เด็กไปซื้อแอปเปิ้ล โดยที่เด็กไม่รู้ว่าแอปเปิ้ลคืออะไรอะ

เด็กคนนี้ก็คงจะงงต่อไป เพราะไม่มีใครคิดจะสอนมัน

962 Nameless Fanboi Posted ID:X5fE6c51wS

>>959 แนวมึงอ่ะตลาด สืบสวนแฟนตาชีมีมากเป็นร้อยเรื่องแล้ว มึงลองไปดูงานของญี่ปุ่นแนวสืบสวนแฟนตาชีกว่าทำไมมันถึงขายดี ทั้งที่มีคู่แข่งเยอะ หรือไม่มึงก็ไปดูซีรี่ย์ฝรั่ง The X-Files,Csi, Sherlock Holmes ว่าทำคดีให้มันน่าตื้นเต้นแปลกใหม่ทั้งที่มีแนวนี้มาร้อยๆได้อย่างไร
แล้วเลิกพูดจาล่อเป้าได้แล้ว มันไม่ได้รู้สึกว่ามึงสุภาพแต่มันจงใจกวนตีน

963 Nameless Fanboi Posted ID:22.DHu.VDu

กูเพิ่งมา คนเขียนมึงน้ำเต็มแก้วไปนะ คือความธรรมดาเนี่ยบางทีคนอ่านมันไม่รู้หรอกว่าธรรมดายังไง เพราะอะไร เหมือนกับกินข้าวไม่อร่อย บางทีไม่รู้หรอกว่าทำไมไม่อร่อย รู้แต่มันไม่อร่อยอะ
ส่วนที่กูอ่าน นิยายมึงมันจืดว่ะ โดยเฉพาะบทแรก เหมือนเขียนรายงานส่งอาจารย์เลย หรือไม่งั้นก็คือบทความข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะสามย่อหน้าสุดท้าย แก้ด่วน
อีกอย่างคือนิยายมึงเหมือนบททีวีอะ มันเดินหน้าไปเรื่อย ๆ เหมือนกำลังดูทีวี ไม่มีการดึงอารมณ์คนอ่านให้ขึ้นลงแบบที่นิยายเท่านั้นที่ทำได้
กูบอกได้เท่านี้แหละ

ปล. เหรอ เขียนอย่างนี้นะ

964 Nameless Fanboi Posted ID:FMVN563fw.

>>962 ช่วยแนะนำที่เป็นนิยายได้ไหมครับ ซีรี่ผมดูมาเยอะพอสมควรละ (ที่บอกมาก็ดูเกือบหมด) อันนี้ขอจริงจังเลยนะครับ ขอบคุณมาก

ปล.ใครที่รำคาญพิมบอกได้เลยนะครับ เพราะถ้ามีคนพูดถึงเรื่องของผมอยู่ ผมก็จะพิมตอบเรื่อย ๆ ถ้าใครรำคาญบอกเลย เดี๋ยวผมจะหายไปเอง

965 Nameless Fanboi Posted ID:FMVN563fw.

>>963 ขอบคุณครับ ค่องข้างสับสนระหว่างคำว่า เหรอ กับ หรอ พอสมควร มีคนทักมาเรื่องนี้เหมือนกัน เดี๋ยวบทหลัง ๆ ผมจะแก้นะครับ

966 Nameless Fanboi Posted ID:V2wnexpze8

>>961 กูเกลียดการยัดข้อมูล อ่านแล้วไม่ชอบ กูไม่ใช่มึง กูไม่ใช่คนเขียน และกูแนะนำให้ฐานะคนอ่าน มึงไม่จำเป็นต้องปรับแก้ตาม "ทุกเรื่อง" แต่มึงควร "คิด” และ “ไตร่ตรอง" ว่าจุดไหนสามารถนำมาแก้ให้มันดีขึ้นได้บ้าง เอาแค่บทนำก่อนเลย กูเกลียดการยัดข้อมูลของมึง เพราะมันยากที่จะจำให้เข้าใจหมดภายในตอนเดียว เหมือนมึงไม่คิดที่จะกั๊กหรือทำให้มันน่าสงสัยบ้าง

มึงควรหาตัวเอกสักคนมาใช้ดำเนินเรื่อง เปิดเรื่องมาเล่าคร่าวๆ ว่าเกิดอุกาบาตลงพื้นโลก อธิบายเนื้อเรื่องพอสังเขป มึงไม่จำเป็นต้องเล่าทุกอย่างว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มึงควรทิ้งช่วงหรือบางสถานการณ์ที่ทำให้คนอ่านสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับสถานณ์โลกตอนนี้? แล้วลุ้นไปพร้อมๆ กับมึง จากที่มึงเขียนแบบยัดข้อมูลเกี่ยวกับอุกกาบาต มึงสามารถนำมาสร้างเป็นปมใหม่ โดยย่อนคำถาม ว่า "เกิดอะไรขึ้น?" มึงบอกว่าแนวมึงไม่ใช่แนวตลาดเลยหาอะไรเทียบยากสินะ แต่กูรู้จักเรื่องนึงที่เกิดไวรัสประหลาดเหมือนกัน เรื่อง "Sweet Home" ซึ่งการนำเสนอของเขาไม่ได้เล่าทุกอย่างหรือรายละเอียดขนาดนั้น เป็นสาเหตุให้คนสงสัยว่า "อะไรเนี่ย" "มันเกี่ยวกับอะไร" "เกิดอะไรขึ้นวะ" แล้วติดตามต่อไปเพราะอยากรู้ อยากเข้าใจ

ตัวเอกเรื่องนั้นไม่รู้อะไร แล้วค่อยๆ ค้นพบประเด็นปัญหาและเรื่องที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จากนั้นมึงค่อยโยงตอนต่อไปเข้ากับพวกองค์ก่อนที่เกี่ยวข้อง ที่มึงพยายามจะยัดมันไว้ในตอนแรกก็ได้ อุปมาอย่าให้มันเยอะนัก อยากใส่ก็หย่อนไว้ตามหา 3-4 บรรทัดพอ ภายใน 1 ตอน

ไม่ต้องบอกว่า "คุณจะให้ผมเขียนอย่างนี้เหรอ?" หรืออะไร กูบอกแล้วให้มึงคิด มึงบอกให้เขาแก้ตัวอย่างสักอันให้มันดีขึ้น แต่คนอย่างมึงเหรอจะยอมรับได้ คนที่น้ำเต็มแก้วไปเปิดรับอย่างมึง ถ้ามันไม่ถูกโฉลกกับมึง มึงจะไม่ยอมรับ ทำไมถึงเขียนแก้เป็นตัวอย่างให้ไม่ได้สินะ? เพราะแต่ละคนมีสไตล์และมุมมองการเขียนของตัวเองไง แล้วคนอย่างมึงที่คิดเองยังไม่ได้ จะยอมรับการแก้ไขของเขาเหรอ?

967 Nameless Fanboi Posted ID:FMVN563fw.

>>966 อ๋อ คือจะให้เปิดแบบเล่าผ่านมุมมองคน ๆ หนึ่งใช่ไหมครับ (อาจใช้เป็นตัวละครที่สำคัญตอนหลังได้)
คือในตอนแรกผมก็มีความคิดแบบนี้นะครับ แต่ประเด็นคือผมอยากเขียน นิยายเรื่องนี้ให้เป็นตอน ๆ จบไป
คดีนึงล่ามนุษย์กลายพันธุ์ตัวนึง ล่าจบก็ปิดคดี พอตอนใหม่ก็เปิดอีกคดี ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีก่อนหน้า คล้าย ๆ โคนัน
ผมก็เลยต้องเซ็ทโลกขึ้นมาก่อนเป็นลำดับแรก

แต่พอความเห็นของคุณ ผมคิดอะไรได้อย่างนึง ผมอาจจะเปิดเรื่องโดยการให้ตัวละครหนึ่ง เข้าไปอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายจากมนุษย์พันธ์ แล้วตัวเองก็โผล่มาโชว์หล่อ จากนั่นก็ค่อยเซ็ทโลกก็ได้...แบบนี้น่าจะเวิคนะครับ คล้าย ๆ กับเรื่อง my hero academia (เพิ่งนึงออกเมื่อกี้เลย)

ขอบคุณมากครับ เดี๋ยวจะนำไปปรับแก้นะ

968 Nameless Fanboi Posted ID:FMVN563fw.

>>966 โทด ๆ

นี่เป็นคอมเม้นที่ผมต้องการครับ คือสามารถจุดประกายอะไรใหม่ ๆ ให้ผมได้
ผมไม่ได้น้ำเต็มแก้วนะ แค่อยากได้ความเห็นแบบนี้ ไม่ใช่คลุมเคลือแบบท่านอื่น ๆ

969 Nameless Fanboi Posted ID:9+u9SMAr5R

>>965 แก้ตอนแรกเหอะ กูขอบอกเลยนะ คำผิดแบบนี้เนี่ย ถ้าไม่ใช่ว่ากูเห็นเป็นเพื่อนโม่งกูปิดตั้งแต่ที่เจอครั้งแรกแล้ว
เหมือนนิยายเกมที่เขียนว่า เกมส์ หรือคำบางคำแบบ เขาเป็นเค้า ฉันเป็นชั้น กูไม่สนด้วยซ้ำว่าเรื่องเป็นไง แค่กูเจอกูก็ปิดแล้ว

อีกอย่างที่กูอยากแนะคือ กูดูนิยายมึงเหมือนอยากจะทำเป็นแนวสืบสวนแบบ sherlock home อะไรแบบนี้ใช่ไหม นิยายแบบนี้ pov ควรจะเป็นตัวผู้สืบคนเดียวนะ มึงย้ายไปเรื่อยแบบนี้กูงงว่าพวกพระเอกแม่งสืบไปถึงไหนแล้ว เพราะกูรู้เยอะกว่าพวกมันมาก คนอ่านควรจะรู้เท่า ๆ กับผู้สืบหรือรู้น้อยกว่ามันถึงจะว้าวเวลาเฉลย

แล้วฉากบอดี้การ์ดอะไรนั่นนะ ลบเหอะ โคตรแป๊ก มึงจะใส่มาทำไมวะเนี่ย นิยายมึงก็ไม่ใช่ตลกคาเฟ่ซักหน่อย เรื่องมุกกูดูว่ามึงน่าจะไม่ถนัดมาก ดังนั้นอย่าพยายามตลก ถ้าอยากฝึกตลกก็ไปเขียนนิยายตลกซะเลย จะได้ฝึกได้เต็ม ๆ
ปล. แต่ถ้ามึงอยากดูนิยายที่จริงจังแต่ฉากตลกเยอะแล้วขำกูแนะนำ monster soul online กูว่าเรื่องนี้คนเขียนแทรกมุกได้เนียนมาก แต่เรื่องพวกนี้คาร์เร็คเตอร์ของตัวละครต้องได้ด้วยอะนะ
พูดถึงเรื่องตัวละคร ตัวเอกมึงกูว่ามันโคตรแบนอะ อ่านมาตั้งหลายตอนกูยังไม่รู้เหี้ยอะไรเลยว่ามันเป็นคนยังไง พื้นเพยังไง อดีตยังไง จุดมุ่งหมายในอนาคตเป็นยังไง มันแบนมาก เหมือนคนแปลกหน้าที่นั่งข้างกันบนรถเมล์ ไม่สิ คนที่กูนั่งข้าง ๆ บนรถเมล์บางทีกูยังรู้จักดีกว่า อย่างน้อยกูก็รู้ว่าคนคนนั้นชอบเล่นเกม ชอบนิยาย ชอบดนตรี ละคร หรือว่าอะไรถ้าเหลือบดูมือถือเขา แต่เทวันนี่กูยังไม่รู้จักดีขึ้นเลยจากบทแรกจนมาถึงบทนี้

970 Nameless Fanboi Posted ID:V2wnexpze8

>>968 กูเข้าใจนะว่ามันยาก เพราะกูก็พยายามปรับให้มันน่าสนใจเหมือนกัน แต่สิ่งที่มึงพิมพ์มันเหมือนคนไม่เข้าใจเรื่องของตัวเอง เหมือนพยายามจะกวนตีนเขา เลยได้ความเห็นเดือดๆ ไป มึงบอกให้เขาแก้ไข? เขาจะรู้ไหมว่ามึงต้องการให้เขาจุดประกาย กูเป็นทั้งความเห็นคลุมเครือและความเห็นยกตัวอย่างข้างบน แต่พยายามเข้าละกัน มึงควรทำความเข้าใจอะไรให้มากกว่านี้ด้วยนะ กูบอกเลย มึงอ่านมาน้อยมาก ถ้าอ่าน มึงก็อ่านแบบไม่สนใจมันจริงๆ หัดสังเกตวิธีนำเสนอของคนอื่นซะบ้าง ไม่ใช่เอะอะไม่ใช่แนวงานของมึง งานเขียนมันปรับเปลี่ยนกันได้ว่ะ

971 Nameless Fanboi Posted ID:FMVN563fw.

>>969 การเล่าเรื่อง ผมอิงจากพวกซีรี่สืบสวนฝรั่งครับน่ะครับ บางครั้งก็เปิดด้วยการเฉลยตัวร้ายเลย ดูตามความเหมาะสมเรื่องแต่ละคดี

ส่วนไอ้มุกบอดดี้การ์ดนี่ ผมลังเลพอสมควร แต่ด้วยที่เห็นว่าบทนั่นมันสั้น ไว้รีไรต์อีกที จะเอาออกนะครับ ผมค่อนข้างเห็นด้วย

ส่วนเรื่องตัวละครแบน ผมตั้งให้มันเหมือนกับหนังแอคชั่นคู่หูยุค 70 น่ะครับ คือเปิดมาแม่งก็ยิงโป้ง ๆ จนจบเรื่อง ให้คนอ่านค่อย ๆ ทำความรู้จักกับตัวละครไปเรื่อย ๆ เพราะเรื่องนี้ผมก็มีแผนจะเขียนยาว เดี๋ยวอนาคตอาจจะมีเล่นเรื่องอดีตของตัวละคน ก็เลยขอกั๊กไว้ก่อน

ขอบคุณมากนะครับ

972 Nameless Fanboi Posted ID:DYs52I6/a3

>>971 ไหนมึงบอกตอนแรกว่า 20 ตอนจบ?

973 Nameless Fanboi Posted ID:FMVN563fw.

>>970 ที่ผมเห็นชอบความของคุณนี่ เพราะมีการยกตัวอย่างที่ชัดเจน ตรงนี้ข้อมูลเยอะไป อะไรทำนองนั้น โดยเฉพาะย่อหน้า 2-3 นี่ เป็นความเห็นชั้นเยี่ยมสำหรับผม

ส่วนเรื่องกวนตีน อันนี้ผมหมายความแบบนั้นจริง ๆ นะ ให้ยกตัวอย่างมาให้ดูแบบที่คุณตอบผม แต่ของคนอื่นผมไม่เห็นจริง ๆ

974 Nameless Fanboi Posted ID:FMVN563fw.

>>972 วางโครงไว้ประมาณ 17 ตอนครับ ตอนนี้เขียนได้ 12 ตอนแล้ว ซึ่งผมทยอยลงวันละตอน
เดี๋ยวช่วงหยุดสงกาณ์จะหลับมาปั่นต่อให้ครับ ซึ่งอาจจะได้ 17 ตอน บวกลบไม่น่าเกิน 3

975 Nameless Fanboi Posted ID:FMVN563fw.

>>972 อ๋อ 17 บท นี่คือ 1 คดีนะครับ ลืมบอกโทด ๆ เขียนเรื่อย ๆ ครับเรื่องนี้

976 Nameless Fanboi Posted ID:PqOTZ2O192

>>974 ถ้า 17 ตอนแล้วไอ้ "เรื่องนี้ผมก็มีแผนจะเขียนยาว เดี๋ยวอนาคตอาจจะมีเล่นเรื่องอดีตของตัวละคน ก็เลยขอกั๊กไว้ก่อน" นี่คืออะไรวะ สรุปมึงจะสั้นหรือจะยาว

977 Nameless Fanboi Posted ID:FMVN563fw.

>>976 เขียนยาวคือคดีอื่น ๆ ไงครับ แต่ที่เริ่มลงตอนนี้มันเป็นคดีแรก ซึ่งยาวประมาณ 17 ตอน เรื่องนี้ผมตั้งใจให้แต่ละคดี มันสามารถอ่านแยกกันได้ โดยไม่ต้องเรียง คดีที่ 123 คล้าย ๆ โคนันน่ะครับ

978 Nameless Fanboi Posted ID:4U5PnWceT/

>>975 แล้ว >>956 คืออะไรวะเนี่ย คนเขาบอกว่า 6 ตอนน้อยมากยังบอกอะไรไม่ได้ มึงก็บอกว่านิยายมึงสั้น เท่านี้ก็เยอะแล้ว
มาตอนนี้มึงกลับบอกว่าเรื่องมึงยาวนะ ขอกั๊กเรื่องไว้ก่อนซะงั้น
แต่ก็ขอกลับไปที่จุดเดิม ตัวเอกมึงมันแบน ถึงจะบอกว่าอยากเก็บอดีตไว้ แต่มันควรจะแพลมมาตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่าเขาเป็นยังไง มีอดีตที่เป็นความลับซึ่งเป็นโครงเรื่องใหญ่ไหม (แบบโคนันมีเรื่องชายชุดดำ) หรือว่าจะเป็นแบบสืบสวนกันไปวัน ๆ ซึ่งถ้าเป็นสืบกันไปวัน ๆ มันไม่มีความจำเป็นต้องเก็บอดีตตัวเอกไปค่อย ๆ เฉลยเลย แน่นอนว่าไม่ใช่ให้มารายงานหน้าชั้นประวัติชีวิตของข้าพเจ้า แต่มันควรจะมีประโยคบอกความเป็นตัวตน เช่น ดูดอกไม้นึกถึงน้องสาว กินข้าวถูก ๆ ตังค์ไม่มี (หรือมีแต่งก) ชอบทำอะไร เกลียดอะไร ความเคยชิน อะไรพวกนี้มันต้องมี ใส่ตัวตนของตัวละครลงไปด้วย

979 Nameless Fanboi Posted ID:6rgYc30Udt

กูได้รู้ว่ามึงต้องการแค่ "ตัวอย่าง" ไม่ได้ต้องการอ่านเหี้ยอะไรเลย ยกตัวอย่างเรื่องไปมันก็ไม่ช่วยให้เข้าหัวมึงอยู่ดี

980 Nameless Fanboi Posted ID:FMVN563fw.

>>978 อดีตตัวละครเก็บไว้เล่นอีกคดีไงครับ เช่นอาจจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนเก่าของพระเอก สืบไปย้อนไป อะไรทำนองนี้ บางคดีมันก็โฟกัสที่ตัวคดี บางคดีก็โฟกัสที่ตัวละคร ปน ๆ กันไปไงครับ ผมอาจจะบอกไม่เคลียเอง ขอโทษด้วยนะครับ

>>979 ช่วยนะครับ ช่วยมากเลยด้วย ดูอย่าง >>966 กับ >>969 สิครับ นี่อะวิจารณ์ตรงจุด คือบอกเลยว่าจุดนี้ไม่ชอบ จุดนี้ควรลบ ผมจะเป็นคนพิจรณาเอง อย่าเพิ่งเกรี้ยวกราดซี

981 Nameless Fanboi Posted ID:BmwUkx/Ql9

ปัญหาของนิยายเด็กดีดีคือ มีนักเขียนเก่งๆกลับสอนคนไม่เป็น จึงไม่มีคนช่วยสอนจริงจัง

982 Nameless Fanboi Posted ID:FMVN563fw.

>>978 เออ ผมเพิ่งนึกออก นิยายเรื่องนี้อยากให้อารมณ์เดียวกับนิยายเรื่อง แจ็ครีชเชอร์ คือถ้าใครไม่เคยอ่านเล่มแรก ๆ แล้วมาซื้ออ่านเล่มหลัง ๆ จะเปิดมาเจอตัวละครรีชเชอร์ ไปทำภารกิจโน้นนี่ โดยไม่ปูตัวละครไรเลย แต่คนอ่านก็สามารถอ่านรู้เรื่องได้

ตัวละครในเรื่องก็เหมือน ฉลามในเรื่อง Jaw คือมันจะไม่มีการพัฒนา คดีแรกเป็นคนยังไง คดีล่าสุดก็เป็นคนอย่างนั้น

983 Nameless Fanboi Posted ID:93cAW99Lfy

ขำว่ะ 5555 พอเหอะ เอามาแปะอีกรอบก็ขอบาย

984 Nameless Fanboi Posted ID:FMVN563fw.

>>983 ครับ ๆ แค่นี้พอ ขืนต่อไปเดี๋ยวนิยายผมจะได้กลายเป็นชื่อบท ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ
ใครมีเพิ่มเติม ก็ไปบอกในหน้านิยายได้ ขอบคุณอีกครั้งครับ

985 Nameless Fanboi Posted ID:aWyuiWIZtz

พวกมึงนี่ดุเดือดกันจริงๆ

>>953 คนมาเล่นโม่งอะนะปกติเขาก็ไม่ได้อยากเสนอหน้าตัวเองอยู่แล้ว มานี่ถอดหัวโขนออกจะได้คุยแบบอคติกันน้อยหน่อยเพราะต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้รู้จักกัน ไม่ได้เกลียดหรือชอบอะไรกันเป็นพิเศษมันถึงได้แสดงเหตุผลแต่ละฝ่ายออกมาได้เต็มที่ เห็นด้วยไม่เห็นด้วยอะไรก็ว่าไป กูก็ไม่ได้อยากรู้จักมึงหรืออยากให้มึงรู้จักกู แล้วกูก็ไม่ได้คิดมาเสนอหน้าว่ากูเล่นโม่งนะเพราะกูเป็นคนมีอะไรจะเสียอยู่อะ

>>955 กูก็พยายามอธิบายให้กระจ่างในแบบของกูละ มึงไม่เข้าใจกูก็ไม่ดันทุรังบอกสิ่งที่กูเข้าใจ ขอรอบสุดท้ายอะ งานมึงธรรมดานี่ไม่ใช่การด่าเอามัน กูหมายความตามนั้นจริงๆ ว่านั่นคือปัญหาของงานมึงตอนนี้ การที่มึงไม่เข้าใจปัญหาของคำว่างานธรรมดากับงานสนุกมันต่างกันยังไงกูจนปัญญาจะอธิบาย แต่กูคิดว่าวิธีคิดวิธีการให้ค่างานเขียนมึงกับกูมันค่อนข้างต่างกันอะนะ กูขอเอาไปเปรียบเทียบกับการวาดรูปแล้วกัน สมมุตินิยายคือการวาดรูปให้สวยมากรูปหนึ่ง ตอนนี้มึงเพิ่งร่างภาพตัวละครไปครึ่งตัวแล้วถามว่างานมึงเป็นยังไงบ้าง กูดูเสร็จแล้วลายเส้นธรรมดา รูปก็ไม่ได้ดูมีสตอรี่ ่ท่าโพสต์ก็แบนๆ กูก็บอกไปว่าธรรมดาไปอะ มึงก็มาขอให้กูวาดให้ดูนิดหน่อย ขอหัวไหล่ตัวละครปังๆ ให้ดูที หรือจะขนตาตัวละครสวยๆ ก็ได้ อยากเห็นรูปสวยๆ กูก็บ่น มึงเอาเสี้ยวเดียวของภาพอยากเห็นภาพสวยๆ เลยเหรอวะ กูก็ทบทวนดู แม่งก็ไม่ใช่ว่าไม่มีคนทำได้นี่หว่า กูเลยบอกให้มึงไปดูงานนักวาดชื่อดังแล้วศึกษาของเขาดูดิ งานดีมีให้ดูอยู่แล้ว มึงจะมารบเร้ากูวาดให้ดูใหม่ทำไม ถึงกูจะวาดได้กูก็ไม่วาด สำหรับกูอะนะการเขียนนิยายให้ปังสักหน้าสองหน้ากูคิดว่าตัวเองทำได้ แต่ทำไมกูต้องทำ การเขียนมันไม่ใช่สักแต่พิมพ์ไปเรื่อยแล้วออกมาปังเลย มันก็เหมือนการวาดภาพแหละ เหมือนมีคนมาบ่นว่าก็แค่วาดภาพเอาอะไรนักหนาวะ คือถ้างานปังแบบแค่อ่านแล้วปังนี่สำหรับกูไม่ใช่ของราคาถูกอะมึงเชื่อกูไหม มึงเขียนนิยายปังมากๆ ได้สักสามบทคนแห่มาอ่านตรึมมึงจะหาเงินแสนได้เลย หรือมึงปังไม่บันยะบันยัง พีคแล้วพีคอีกเงินล้านมึงก็มีโอกาสได้จับ แล้วมึงมาขอให้กูแก้ให้ดูเนี่ยกูถึงได้ขี้เกียจทำ ตังค์กูไม่ได้ ให้ไปดูงานที่มันดีอยู่แล้วก็ไม่ดู กูแม่งก็จนปัญญา

ส่วนวิธีการแก้ไขกูกับมึงมองในมุมต่างกันเกินไป ไม่น่าไปด้วยกันได้ กูคิดว่างานมึงต้องการความสนุก มันเป็นเรื่องที่ไม่มีสูตรตายตัว การแก้ไขมันบอกไม่ได้หรอกว่าควรเพิ่มตรงไหนควรลดตรงไหนแล้วจะสนุก มันต้องสร้างขึ้นมาใหม่เพราะตอนนี้มันยังไม่มี ง่ายสุดคือลบทั้งเรื่องแล้วเขียนใหม่ การแก้ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่ามึงลบๆ เขียนๆ อยู่กี่ครั้งอะ คือมึงเขียนหนึ่งครั้งออกมาดีมันก็คือดี มึงเขียนมาร้อยครั้งหาวิธีแก้ไขออกมาไม่หยุดหย่อนถ้ายังไม่ดีก็คือไม่ดี คนอ่านเขาไม่รู้หรอกว่ามึงพยายามขนาดไหน เขารู้แต่งานที่ออกมาสำเร็จแล้วมันเป็นยังไง ควรแก่การติดตามอ่านต่อไหม

986 Nameless Fanboi Posted ID:93cAW99Lfy

ปกตินักเขียนเด็กดีมันโดนวิจารณ์เป็นจุดย่อมๆ ก็เข้าใจกันแล้วว่ะ แล้วค่อยไปหานิยายหรืองานเขียนมาอ่านให้เข้าหัวกัน ไม่ได้อิดออดขออะไรอีก อีกอย่างมันเน้นเขียนเรื่องของตัวเอง พัฒนาการเอง 55% เป็นส่วนใหญ่ เจอแบบนี้ก็ช่วยเต็มที่แล้ว เพราะปกติมันเข้าใจเองได้ โอเคปะ

987 Nameless Fanboi Posted ID:FMVN563fw.

อันนี้เม้นสุดท้ายจริง ๆ นะ 5555

>>985 โอเคครับ มุมมองของเราคงไม่ตรงจริง ๆ แต่ก็ขอบคุณนะครับ
>>986 อันนี้ผมไม่ทราบจริง ๆ ว่า ที่โดนวิจารณ์รอบเดียวรู้เรื่อง หรือว่าโดนทีเดียวเข็ด จนไม่กล้ามาดื้อต่อ 55555

988 Nameless Fanboi Posted ID:BmwUkx/Ql9

เตรียมชื่อบทหน้ารึยัง
นิยายเด็กดี บทที่ 22 (DDNXXII) ภาค______________________________________________________

989 Nameless Fanboi Posted ID:axHeycTg8K

ไม่เอาไปขอคำวิจาณ์ในบอร์ดเด็กดีดูล่ะ ถ้าให้กูแนะนำเมิงลองอ่านเรื่องนี้ดูแล้วกัน https://www.readawrite.com/c/e4da3b7fbbce2345d7772b0674a318d5
น่าเสียดายที่คนเขียนตายไปแล้ว

990 Nameless Fanboi Posted ID:w+jsDIm43Q

>>988 ขอเสนอชื่อ

นิยายเด็กดี บทที่ 22 (DDNXXII) ภาค เพื่อนโม่งช่วยหยุดเล่นมุกม้าแล้วมาสับนิยายเบียวซูกันเถอะ

991 Nameless Fanboi Posted ID:Zb/4sZ7nEq

นิยายเด็กดี บทที่ 22 (DDNXXII) ภาค มหาสงครามเวทย์มนต์ผ่ามิติล้างระบบ พระเอกไอคิว 3000 แต่ตัวประกอบดันไอคิวติดลบ

992 Nameless Fanboi Posted ID:g1rJxZkyba

นิยายเด็กดี บทที่ 22 (DDNXXII) ภาค ทัพเรือที่ดีต้องโดนโจรสลัดนั่งเรือหางยาวขึ้นยึด

993 Nameless Fanboi Posted ID:ikdF10K6GF

นิยายเด็กดี บทที่ 22 (DDNXXII) ปิดเทอมจูนิเบียว นักเขียนอีโก้สูงกับสุดยอดนิยายในกะลาแลนด์

994 Nameless Fanboi Posted ID:T.JInaKY6v

นิยายเด็กดี บทที่ 22 (DDNXXII) สงครามม้าโม่ง ผ่ามิติคดีฆาตกรรมเรือหางยาวอีโก้สูง

995 Nameless Fanboi Posted ID:tn6z0Lp3te

นิยายเด็กดี บทที่ 22 (DDNXXII) ภาค การกลับมาของเห่อหมอยต่างโลก เบียวซู เอจจี้ แมรี่ซู กูคือพล็อตนิยายที่ไม่มีวันตาย เทพเจ้าแห่งขี้แพ้ว่ะ พร้อมเสียงกุบกับๆ ฮรี้ๆๆ ไอ้สัส เมื่อไหร่มึงจะเลิกเล่นมุกม้าวะ

996 Nameless Fanboi Posted ID:SUZ4fJ7IfD

>>995 กูโหวตอันนี้

997 Nameless Fanboi Posted ID:S6pbed/Rw4

https://www.facebook.com/1030548200366605/posts/2176412269113520/

998 Nameless Fanboi Posted ID:lv66lhBFxb

>>995 ยาวชิบหาย! เเต่ดีกูชอบ!

999 Nameless Fanboi Posted ID:j48eO9zahn

เลขสวย

1000 Nameless Fanboi Posted ID:TYwP89gjlR

ปิดนาจา

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.