Fanboi Channel

นิทานเด็กดีบทที่ 39 (DDN XXXIX) ภาคปิดเทอมแล้วทำไมเงียบจังวะ สงครามหมีขาว-ทานตะวันจะยังไงก็ไม่สำคัญ เพราะโลกเด็กดีก็มีสงครามตัวเองกับนิยาย THIS NOVEL OF MINE (นักเขียนเขาจะย้ายเว็บกันจนร้างแล้วเพ่)

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:LWfo7D89Jk

วิพากษ์วิจารณ์งานเขียนบนเว็บเด็กดีดอทคอม ทั้งจบแล้วและยังไม่จบ ตีพิมพ์แล้วและยังไม่มีใครเหลียวแล รวมไปถึงพูดคุยเกี่ยวกับวงการนิยายเว็บเด็กดี เพื่อความหวังของเว็บโนเวลไทยในอนาคต ทั้งนี้ ไม่สนับสนุนให้นำเรื่องส่วนตัวของนักเขียนแต่ละคนออกมาตีแผ่ ควรเน้นเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานเขียนเท่านั้น

<<คลังกระทู้เก่า>>

นิยายเด็กดี บทที่ 1 -- https://fanboi.ch/webnovel/2403/
นิยายเด็กดี บทที่ 2 -- https://fanboi.ch/webnovel/2703/
นิยายเด็กดี บทที่ 3 -- https://fanboi.ch/webnovel/2907/
นิยายเด็กดี บทที่ 4 -- https://fanboi.ch/webnovel/3066/
นิยายเด็กดี บทที่ 5 -- https://fanboi.ch/webnovel/3187/
นิยายเด็กดี บทที่ 6 -- https://fanboi.ch/webnovel/3229/
นิยายเด็กดี บทที่ 7 -- https://fanboi.ch/webnovel/3388/
นิยายเด็กดี บทที่ 8 -- https://fanboi.ch/webnovel/3594/
นิยายเด็กดี บทที่ 9 -- https://fanboi.ch/webnovel/3852/
นิยายเด็กดี บทที่ 10 -- https://fanboi.ch/webnovel/4106/
นิยายเด็กดี บทที่ 11 -- https://fanboi.ch/webnovel/4265/
นิยายเด็กดี บทที่ 12 -- https://fanboi.ch/webnovel/4393/
นิยายเด็กดี บทที่ 13 -- https://fanboi.ch/webnovel/4626/
นิยายเด็กดี บทที่ 14 -- https://fanboi.ch/webnovel/4810/
นิยายเด็กดี บทที่ 15 -- https://fanboi.ch/webnovel/5006/
นิยายเด็กดี บทที่ 16 -- https://fanboi.ch/webnovel/5346/
นิยายเด็กดี บทที่ 17 -- https://fanboi.ch/webnovel/5535/
นิยายเด็กดี บทที่ 18 -- https://fanboi.ch/webnovel/5769/
นิยายเด็กดี บทที่ 19 -- https://fanboi.ch/webnovel/6022/
นิยายเด็กดี บทที่ 20 -- https://fanboi.ch/webnovel/6295/
นิยายเด็กดี บทที่ 21 -- https://fanboi.ch/webnovel/6506/
นิยายเด็กดี บทที่ 22 -- https://fanboi.ch/webnovel/6868/
นิยายเด็กดี บทที่ 23 -- https://fanboi.ch/webnovel/7834/
นิยายเด็กดี บทที่ 24 -- https://fanboi.ch/webnovel/8477/
นิยายเด็กดี บทที่ 25 -- https://fanboi.ch/webnovel/8614/
นิยายเด็กดี บทที่ 26 -- https://fanboi.ch/webnovel/8685/
นิยายเด็กดี บทที่ 27 -- https://fanboi.ch/webnovel/8795/
นิยายเด็กดี บทที่ 28 -- https://fanboi.ch/webnovel/8876/
นิยายเด็กดี บทที่ 29 -- https://fanboi.ch/webnovel/9247/
นิยายเด็กดี บทที่ 30 -- https://fanboi.ch/webnovel/9744/
นิยายเด็กดี บทที่ 31 -- https://fanboi.ch/webnovel/10135/
นิยายเด็กดี บทที่ 32 -- https://fanboi.ch/webnovel/10275/
นิยายเด็กดี บทที่ 33 -- https://fanboi.ch/webnovel/10680/
นิยายเด็กดี บทที่ 34 -- https://fanboi.ch/webnovel/10887/
นิยายเด็กดี บทที่ 35 -- https://fanboi.ch/webnovel/11174/
นิยายเด็กดี บทที่ 36 -- https://fanboi.ch/webnovel/11834/
นิยายเด็กดี บทที่ 37 -- https://fanboi.ch/webnovel/12989/
นิยายเด็กดี บทที่ 38 -- https://fanboi.ch/webnovel/13803/

รายชื่อนิยายโดนสับไปแล้ว https://docs.google.com/document/d/1ouFhwS9WeoBzEgYHVNYWkeUAbhQ2YkCg4ozpTpx1-94/edit

ระบบป้องกันการ spam และ app โม่ง : (จองไว้ลงมู้หน้าเพราะจะมีอัพเดตเพิ่มด้านล่าง)

2 Nameless Fanboi Posted ID:LWfo7D89Jk

โอเค... ระบบช่วยเหลือที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนโม่งทั้งหลายมีดังนี้ (เครดิตโม่งไอทีที่อยู่ในห้อง Tech)

1) กรณีเล่นโม่งบน PC

ถ้ามึงใช้ Chrome ก็ใช้ตัว Chrome Extension Script Runner Pro (ซึ่งจะทำงานเฉพาะบนโม่ง)

link โหลด : https://chrome.google.com/webstore/detail/block-mong-flood/denknahekobanhmcekkdglcogpecegbf
ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก แค่โหลด+ติดตั้งตามปกติ แล้วค่อยเอา Script ไปใส่อีกต่อ

ใส่ที่ไหนยังไง กดดูในรูปนี้ >> https://imgur.com/a/ub4Nx6y ถ้าดูแล้วงง อ่านเป็นข้อๆ ด้านล่างประกอบไปด้วย

1.กดไอค่อนของ Script Runner Pro ถ้ามองไม่เห็นแปลว่ามึงมีส่วนขยายเยอะ ให้กดเข้าส่วนขยาย (รูปจิ๊กซอว์) ไปปักหมุดตัวนี้ก่อน มันจะเด้งโชว์ขึ้นมาตรงขวาบน จากนั้นก็กดเข้าส่วนขยาย

2.ในหน้าต่างส่วนขยาย ให้กดที่ Open Dashboard ตามด้วยเครื่องหมาย + แล้วกด Install from URL

3.ในช่อง Input URL ให้ก็อปอันนี้ไปวาง >> https://pastebin.com/raw/s3FgDJ59

4.กด CONFIRM INSTALLATION

*** กรณีมึงใช้ Firefox *** เปลี่ยนไปลงปลั๊กอิน Tampermonkey แทน SRP วิธีลงสคริปต์ก็คล้ายๆ กันกับข้างบน

## วิธีใช้งานอย่างง่าย >> https://imgur.com/a/2ZdAfDq ##

หลังติดตั้ง extension แล้วจะมีคำว่า BLOCK ต่อท้ายหมายเลขความเห็น แค่กดจิ๊กเดียวความเห็นนั้นก็จะหายไปเลย กรณีกดซ่อนความเห็นผิดอันแล้วอยากให้ความเห็นนั้นกลับคืนมา ให้เลื่อนลงล่างสุดข้างๆ Reload posts มองหากรอบสีแดงของ extension แล้วกดจนกว่าจะเป็น Show ต่อด้วยกลับไปกด Unblock ความเห็นนั้นจะกลับมาเหมือนเดิม

ตัวเลือกมี 4 อย่างคือ ซ่อน / จาง / เห็นเลขไม่เห็นเมนต์ (จะแสดงข้อความถ้าเอาเม้าส์ไปวาง) / แสดง

2) กรณีเล่นโม่งบน Smart Phone

มีแอพโม่งรีดเดอร์พัฒนาขึ้นโดยโม่งไอทีผู้เจอการโดน spam มาจนชาชิน

2.1) แอนดรอยด์

โหลดแอพอ่านโม่งมาใช้ >> [Unofficial Fanboi Android App] Moong Reader 0.7.1 (รองรับ Android 7.0+)
link โหลด : https://www.mediafire.com/file/6mdoowxklwtn6p3/MoongReader0.7.1-release.apk/file

2.2) iOs

1.โหลดแอพนี้ลงเครื่อง https://apps.apple.com/us/app/userscripts/id1463298887

2. โหลดไฟล์สคริปต์ของโม่งลงมาในเครื่อง (garbage.js)
http://www.mediafire.com/file/qdiyf6ddl43q8bv/garbage.js/file

3. เข้าแอพ Userscript Safari แล้วกดที่ Set Userscript Directory จากนั้นให้เลือกไปที่โฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์สคริปต์เอาไว้ (ในข้อ 2)
4. เข้า Settings > Safari > General-Extensions > Userscripts แล้วเปลี่ยนเป็น On
5. เข้า Safari จะมีไอคอนรูป </> กับจิ๊กซอว์อยู่ตรงแถบ URL
6. กดที่ </> จากนั้นถ้าลงสคริปต์แล้ว ก็ควรจะขึ้นหน้าต่าง Vtuber Boi garbage Collector มา
7. กดเปิดใช้งาน ระหว่างนี้มันจะมีถามขึ้นมาว่าจะให้ใช้สคริปต์กับเว็บไหนบ้าง ก็ให้ allow ไปให้หมด

Note : ใครคิดว่าเสี่ยงจะไม่ใช้แอพนี้ก็ได้ เท่าที่ลองใช้เองไม่พบปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอร์รี่หรือความร้อนตัวเครื่อง แต่มีสมัคร SMS เช็คดวงรายวันโผล่มาครั้งนึง (ซึ่งอาจไม่เกี่ยวกับแอพนี้) ถ้าใครมี SMS แปลกๆ ว่าสมัครรับบริการครั้งละ 3 บาทไรงี้ ก็ทำตามกูด้วยการกด *137 ต่อด้วยกด 3 แล้วกด 2 ระบบจะลบทุกบริการ SMS ที่คิดเงินทิ้งให้ฟรีทันที

## แอพนี้ทำอะไรได้บ้าง ?? ##

2.0 กรองและดักจับความเห็นที่เป็น (หรือมีโอกาสจะเป็น) spam ได้อย่างง่ายดาย

2.1 หากกดถูกใจมู้ไหน (กดรูปหัวใจขวาบน) จะส่งการแจ้งเตือนและแสดงจำนวน post(s) ใหม่ที่ยังไม่ได้อ่านให้บน notification (ทำให้ไม่พลาดทุกโอกาสในการเสือก)

2.2 แสดง notification เป็น Chat Bubble (ใช้ได้บน Android 11 ขึ้นไปเท่านั้น) ถ้าใครไม่ชอบก็ไปปิดในหน้า setting ได้

2.3 Data Saver mode ปรับวิธีการอ่านข้อมูลให้กิน data น้อยลงเวลาเปิดหน้า Favorites กับหน้าหลักของแต่ละ Board โดยค่า default จะเปิดใช้งานเฉพาะเวลาใช้งาน mobile data เท่านั้น ถ้าใครใช้แล้วมีปัญหาสามารถปรับได้ใน setting ตามรูป >> https://i.imgur.com/ynIwJZH.jpg

2.4 ในหน้า All topics ของแต่ละ board สามารถเลือกกระทู้ครั้งละหลายๆ กระทู้จากการกด checkbox เพื่อเพิ่ม/ลบ favorite หรือ เพิ่มกระทู้เข้า blacklist ได้

3 Nameless Fanboi Posted ID:LWfo7D89Jk

## การใช้งานตัวกรองสแปมแบบต่างๆ ##

- การกรองด้วย keyword: >>https://i.imgur.com/RibZvRy.jpg
- การกรองด้วย ID ผู้โพส >> https://i.imgur.com/Y3uJyRe.jpg
- การเลือกกระทู้ที่เป็นสแปม >> https://i.imgur.com/kfks6zw.jpg

***** สำหรับข้อข้างล่างนี้ ก่อนใช้งานแอพขอแนะนำให้เข้าไปกดเพิ่มจำนวนบรรทัดจนเต็ม 200 เสียก่อน
(เพื่อไม่ให้ความเห็นที่สับนิยายถูกกรองออก) *****

- การกรองด้วยจำนวนบรรทัดของโพส >> https://i.imgur.com/mW9XZQQ.jpg

สำหรับคนที่ไม่สะดวกใจจะใช้งานก็ไม่เป็นไร เพราะนี่ไม่ใช่ App ทางการที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย แต่จากที่กูใช้มาหลายเดือนก็ไม่พบปัญหานะ ความสิ้นเปลืองแบตเตอร์รี่ปกติและเครื่องไม่ร้อนเหมือนตอนโหลดแอพ "หมอยชนะ" มาใช้ ระบบรักษาความปลอดภัยในตัวเครื่อง scan แล้วไม่เจอของแถม หน้าแรกของแอพจะมีมู้ที่เรากด fav โชว์ไว้ให้ทันที ปรับ Theme ให้อ่านง่ายได้ตามชอบ ข้อเสียเดียวที่กูเจอคือนิ้วโป้งกูใหญ่ พอแตะขอบจอทางขวาสุดแล้วแอพจะข้ามเนื้อหาให้ จนต้องเลื่อนกลับลงไปที่เดิมบ้าง นานๆ ที สิ่งสำคัญที่สุดคือมันกรอง spam และจัดการโทรลทั้งหลายได้อยู่หมัด แค่กดบนเลขความเห็น ข้อความไม่พึงประสงค์ก็จะหายวับไปทันที ถ้าใช้ไอดีเดิมฟลัดหลายๆ เมนต์ ความเห็นอื่นก็จะโดนรวบหายไปด้วย

นี่แหล่ะเพื่อนโม่ง ทางออกของปัญหาโม่งเพลง โม่งโทรล โม่งฟลัด ทุกอย่างจบได้ในคลิกเดียว

ถ้าใช้งานแล้วชอบก็ช่วยไปให้ข้อมูลโม่งไอทีเขาข้างล่างนี้กันด้วยนะ (สำหรับอ้างอิงและพัฒนาแอพรุ่นใหม่ๆ ในอนาคต)
## โพลสำรวจความคิดเห็น+ข้อมูลการใช้งาน ##

รู้จัก app นี้จากไหน https://strawpoll.com/j6b7avpe7
ใช้ Android version อะไรกันบ้าง (เฉพาะเครื่องที่ลง app) https://strawpoll.com/98wkyyppk
มีกระทู้ Favorite กี่กระทู้ https://strawpoll.com/17c1y7qhd
Light / Dark Theme https://strawpoll.com/xo27y1oau
ปรับ setting อะไรกันบ้าง https://strawpoll.com/kdhk5qhbg
ได้ปรับ setting เปลี่ยนจำนวนโพสที่ให้แสดงกันรึเปล่า https://strawpoll.com/pkbarorxq

ด้วยรักและคิดถึง
กูเอง

4 Nameless Fanboi Posted ID:4EyTyyuXzN

อันนี้ว่าจะถามตั้งแต่มู้ที่แล้วละแต่เห็นมันจะหมดมู้เลยรอมู้ใหม่ก่อน

สมัยนี้ยังมีที่ให้พวกนิยายแฟนตาซีธีมยุคกลางอะไรพวกนั้นอยู่มั้ยหรือตอนนี้ต้องธีมจีนกันหมดละ ไม่มีร่ายเวทฟันดาบปราบมังกรแล้ว

5 Nameless Fanboi Posted ID:LWfo7D89Jk

:: Topic Highlight ประจำมู้ที่ 38 ::

(นิยายแปล) Gods King Warrior Conqueror Heaven อภินิหารเคล็ดวิชาเทพเจ้าราชันย์นักรบเย้ยจอมสวรรค์: https://fanboi.ch/webnovel/2726/289-321/ (1 ใน 3 นิยายเสียดสีเว็บโนเวลในตำนานแห่งเว็บโม่ง)
สับนิยาย: 'Unique Online' เพราะฉันไม่เหมือนใคร >>>/webnovel/13803/464-484/
แซวนิยายระบบติดท๊อป: โม่งพยายามทำลายสมองเพื่อน >>>/webnovel/13803/506-515/
โม่งอภิปราย: นิยายขายได้กับนิยายขายดี >>>/webnovel/13803/528-580/
สับนิยาย: โ.ล.ก. (นิยายของไอ้ F ที่พวกมึงชอบด่ากันไง) >>>/webnovel/13803/655-656/
สับนิยาย: เด่นชัย กับระบบเกม ในชีวิตจริงของเขา >>>/webnovel/13803/659-661/
สับนิยาย: เปลี่ยนชีวิตไอ้หนุ่มเดียวดาย (Change Ren) >>>/webnovel/13803/663-665/
สับนิยาย: 7 คัมภีร์เทพสวรรค์สยบมารยุทธภพ >>>/webnovel/13803/666-669/
สับนิยาย: Merlin พลิกตำนานมหาจอมเวท >>>/webnovel/13803/672-674/
มีใครให้มากกว่านี้ไหม: >>>/webnovel/13803/690/
สับนิยาย: ฟีร์มัว! นางร้ายวีลแชร์!? >>>/webnovel/13803/706-708/
โม่งลองของ: Rerun สับนิยายเจ๊ดอกขาว >>>/webnovel/13803/716-717/
โม่งรำลึกความหลัง: นิยายในตำนาน -ดะ ไวท์โร้ด- >>>/webnovel/13803/772-798/

คนรู้จักติดโควิดกันเรียบวุธเหลือแค่กูที่ยังรอด ... ถ้ามีช่วงไหนกูหลุดพ้นจากวังวน เช้า-บ่าย-ดึก หรืออยู่ดีๆ มีคนบ้าอยากเสียบเวรแทนกู เดี๋ยวจะแวะมาสับนิยายเล่นก็แล้วกัน (เห็นเรียกร้องกันอยู่ท้ายมู้ที่แล้ว)

6 Nameless Fanboi Posted ID:LWfo7D89Jk

>>4 ยังพอมีอยู่แต่หนักไปทางเป็น isekai ถ้าอยากอ่านเพียวแฟนก็มีคนมาขายของในบอร์ดอยู่เป็นพักๆ อาจจะอ่านยากน่าเบื่อไปบ้างแต่ถ้าใจมึงเรียกร้องก็คงอ่านต่อได้ยาวๆ

7 Nameless Fanboi Posted ID:XozW0Yli0x

ตอนแรกกุอยากลองหาเพื่อนนักเขียนไว้คุยกันเรื่องงานบ้างนะ แต่พอไปมีจริงๆ กุเริ่มอยากกลับไปอยู่คนเดียวมากกว่าละ แม่งคุยกันแต่ละอย่างไม่เคยมีเหี้ยอะไรเกี่ยวกับงานเขียนเลย ว่างกันนักพวกมึงก็ไปเขียนนิยายกันสิคะอ้ายอีทั้งหลาย แล้วอีพวกเบียวๆ กระแดะบอกว่าเป็นนักวาดนี่แม่งก็น่าตบชิบหาย แค่วาดรูปเป็นไม่ได้แปลว่ามึงเป็นนักวาดนะคะอีนี่ แม่งเบื่อชิบหาย

8 Nameless Fanboi Posted ID:ZpS+/tCItG

>>4 ถ้าเป้าหมายของการเขียนคือการปลดปล่อย จินตนาการ เมิงจะเขียนอะไรก็เขียนเถอะ
ถ้าเมิงแคร์จะขายแคร์จะให้มีคนอ่านก็ต้องเขียนในตำบลที่แสงสปอร์ตไลท์สาดไปถึง

9 Nameless Fanboi Posted ID:9QETBHyV/F

>>7 มันมีคนอยู่ 2 ประเภท 1.พวกเอาจริงเอาจังกับงาน 2.พวกชิวๆจับงานแค่เล่นๆ
ถ้ามึงอยากเก่งอยากได้ประโยชน์ มึงต้องเข้ากลุ่มแรก ไม่ใช่กลุ่มสอง

10 Nameless Fanboi Posted ID:ZpS+/tCItG

>>7 จากปลาสบพบเหตุการณ์มา นักเขียนต้องการเพื่อนคุยเรื่องอื่นที่เทสตรงกัน
คือต้องการเพื่อนนักเขียนแต่ไม่อยากคุยเรื่องเขียนนิยาย

เมิงชวนคุยในบอร์ดเด็กดี หรือในโม่งยังดูจะได้อะไรพวกนั้นมากกว่าเข้ากลุ่มนักเขียนที่เจอแต่โฆษณา

11 Nameless Fanboi Posted ID:NNDMpt1SGx

>>10 +1 กลุ่มนักเขียนนี่แม่งหลักๆมีไว้ทำคอนเนคชั่นช่วยเชียร์ช่วยขายงาน ถ้าคิดจะทำเป็นกลุ่มติวหนังสือกันบอกเลยรอดยาก เพราะมันต้องหาเทสตรงกันอะ ถ้ามึงคอแฟนตาซีไปจับกับพวกรักก็ล่มปะ งานคนละแบบเลย หรือถึงไปเจองานเดียวกันแต่แนวย่อยไม่ตรงกันก็เซงอีก เช่นแนวแฟนตาซีแต่มึงสายอิเซไก ที่เหลือระบบเกม เกิดใหม่ ย้อนเวลา ก็ชวดไปอีก5555
ถ้าจะคุยงานให้รุ่งที่เห็นผลสุดคือใช้ระบบอาจารย์-นักเรียนอะ หาโค้ชให้ช่วยแนะแนวงี้ หรือบัดดี้ก็ได้เป็นคู่หูกัน เออแต่ก็คัดคนหน่อยนะเพราะบางทีเสร่อเป็นกูรูให้ทั้งที่นูกูแม่งแทบไม่ได้สอนสิ่งที่ควรให้กูเลย หรือบัดดี้ติดเกินกลายเป็นช่วยกันจมอะ งานไม่คืบขึ้นทั้งคู่หรืองานกลืนกันเองออกมาเหมือนๆกันงี้
แต่ถ้าอยากคุยกลุ่มจริงๆอย่าไปเข้ากลุ่มไรเลยงานไม่เดิน หาคอมมูอิสระเอาอย่างบอร์ดหรือโม่งนี่แหละ เพราะจับกลุ่มนี่มันสนิทกันเกินไปเลยติดเล่นหัวกันงานไม่คืบ แต่พอมาบอร์ดมาโม่งคือไม่ได้สนิทกันอะ เป็นการเป็นงานขึ้นมาหน่อยงี้ไม่ต้องมารักษาหน้าหรือถนอมใจใคร
ฟีลเดียวกับขายของอะ ขายให้ลูกค้าที่ไม่ใช่คนรู้จัก มึงก็จะมุ่งมั่นกับการขาย ถึงเกร็งบ้างแต่ก็เน้นทำงานบริการสุดตัวใช่ปะ แต่ถ้าเป็นคนรู้จักก็จะเขินหน่อยๆไม่พอ แม่งด้วยความสนิทอะมึงจะทำงานไม่เต็มที่ เพราะถ้าไม่ถูกขอลดแลกแจกแถม ก็เป็นมึงเองที่ติดหล่มเองว่าเออสนิทกันเนอะต้องทำพิเศษหน่อย กลายเป็นการทำให้งานแกว่งไปจากมาตรฐานเดิมอะ

12 Nameless Fanboi Posted ID:iyWpsMj9Ji

กลุ่มนักเขียนกูมีไว้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับสอบถามเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นล่ะ
นักเขียนแต่ละคนนี่วันๆ คิดแค่จะเขียนแบบไหน ทำยังไงถึงจะขายได้จนแทบไม่มีเวลาไปอ่านเรื่องของคนอื่นด้วยซ้ำ ฉะนั้นถ้ามึงอยากจะหาคนคุยเกี่ยวกับเรื่องนิยายนี่กลุ่มนักเขียนไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีหรอก มึงจะเจอแต่โฆษณาแปะๆ

13 Nameless Fanboi Posted ID:DPtcaRvyXu

>>6 กูพอเห็นอยู่ เอาจริงก็ไม่ได้หวังอะไรมากหรอกกะคุณภาพยุคนี้อะ แต่มึงพอจะมีอันที่พอรับได้บ้างมั้ย คือกุเห็นแม่งขายกันหลายสิบ ไม่มีเวลาไปไล่ส่องทีละเรื่องอะ

14 Nameless Fanboi Posted ID:wU3x+gTiEN

สวัสดีโม่งกูเป็นโม่งหน้าใหม่ พวกมึงจะหาว่ากูงอแงก็ได้ตอนนี้กูเขียนนิยายแนวกระแส ลงไป 5 ตอนยอดวิว 600 เฟบ 30 มันดูขึ้นเร็วกว่าหมวดอื่นแต่สำหรับแนวกระแสถือว่าน้อยไปเปล่าวะ

ป.ล. กูว่างอยากหารายได้พิเศษ ถ้ามันน้อยไปกูจะได้เลิกก่อน

15 Nameless Fanboi Posted ID:JhiwL2hgvm

>>14 บอกลำบากเพราะไม่ได้อ่านของจริง ลองแต่งไปนานๆ ก่อนเผื่อยอดจะเพิ่ม ถ้าโชคดีอาจไปได้ไกล

16 Nameless Fanboi Posted ID:wU3x+gTiEN

>>15 ขอบใจมากมึง พอกูดูยอดวิวของคนอื่นแล้วทำเอาประสาทแดกแทน

17 Nameless Fanboi Posted ID:JhiwL2hgvm

>>16 เอาจริงๆ มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ฝีมือของมึง (วิธีเล่าเรื่อง จังหวะเร่ง-หน่วง มุกตลก สำนวน) แนวที่มึงแต่ง (ว่ายังแมสอยู่ไหม) กับความเสมอต้นเสมอปลาย (ลงถี่รึเปล่า ลงได้ยาวต่อเนื่องหรือไม่) ข้อสุดท้ายนี่สำคัญสุด ขนาดนิยายกากๆ ยังติดท้อปได้ เพราะแม่งลงวันละ 3 รอบ ซึ่งเอาจริงๆ วันละรอบก็เหลือเฟือแล้ว

18 Nameless Fanboi Posted ID:wU3x+gTiEN

>>17 ขอบใจมึงอีกรอบ กูยังพอมีความหวังแล้วล่ะ ถึงเครื่องคุณภาพกูจะไม่แน่ใจ แต่ปริมาณกูไม่แพ้ใครแน่

19 Nameless Fanboi Posted ID:LzmAhDm.HM

เรื่องความนิยมมันเป็นเรื่องของดวงน่ะ ดวงว่าจะมีคนมาเจอนิยายของเรากี่คน ถ้าเราลงถี่ๆ คนก็เข้ามาเยอะขึ้น ยิ่งถ้างานไม่ได้ห่วย หรือคนที่มาเจอเป็นเซเล็บ เดี๋ยวยอดก็พุ่งเอง

ต่อให้เขียนแนวกระแสแค่ไหน ถ้าไม่มีช่องทางโปรโมตให้คนมาเห็นนิยายเราเยอะๆ ยอดก็ไม่ได้สวยนักหรอก กูเคยเขียนแนวไม่กระแสเท่าไหร่อยู่ครั้งนึง คนก็อ่านไม่มาก แต่พอเว็บเอาไปขึ้นแบนเนอร์เท่านั้นแหละ โอ้โหยอดพุ่ง โคตรปลื้มที่มีแต่คนเม้นว่าเขียนดีมากสนุกมาก ทำไมเพิ่งมาเจอ บลาๆ แต่พอเว็บเอาแบนเนอร์ลง ก็ไม่ค่อยมีคนหน้าใหม่ๆ เข้ามาอีกเลย 555

20 Nameless Fanboi Posted ID:LzmAhDm.HM

เพิ่มเติมว่าของแบบนี้มันต้องเริ่มตกคนอ่านกันตั้งแต่ชื่อเรื่อง คำโปรย หน้าปก ต้องลองศึกษาดูว่าตั้งชื่อแบบไหนคนถึงจะคลิกอ่าน บางทีถึงจะเขียนแนวกระแส แต่ถ้าเสือกตั้งชื่ออินดี้ ก็ไม่มีคนเข้ามาดูหรอกนะ

21 Nameless Fanboi Posted ID:BmUajhpQi2

ช่วงนี้โม่งใจดีจังเลยค่ะ ถ้าโพสแบบคุณ >>14 ปกติต้องโดนด่ายับแล้ว

22 Nameless Fanboi Posted ID:PYX//YBjPX

>>19 ใน เด็กดอกไม่ใช่แค่ดวงหรอกนะ มันอยู่ที่การศึกษา วางแผนด้วย ศึกษาคู่แข่ง วางแผนให้นิยายติด top ในแต่ละหมวดอย่างน้อยก็ต้องไปทำความเข้าใจว่าต้องมียอดอ่านเท่าไรถึงจะติด top 10 ขึ้นหน้าหนึ่งได้ จากนั้นก็ทำตามเป้าหมายให้ได้ ถ้ายอดติดตามน้อยคนอ่านน้อยก็ค่อยๆสะสม จนถึงระดับหนึ่งก็ลงแมร่งวันละ 5 ตอน 10 ตอน พอติด top แล้วคนมันก็จะเห็นนิยายเราตลอด อะไรมันก็จะง่ายขึ้น

ศึกษา วางแผน วางกลยุทธ ดำเนินตามกลยุทธที่วาง เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย จะโทษดวงอย่างเดียวทั้งๆที่พยายามและลงแรงน้อยกว่าคนอื่นไม่ได้หรอก ! แค่อยากจะฝากไว้ให้คิด

23 Nameless Fanboi Posted ID:cWz4r6kUL2

ไรวะ ยังเขียนกันในเว็บดักดานแบบเด็กดอกอีกเหรอ?

24 Nameless Fanboi Posted ID:5nosdSOx3v

>>23 มีเว็บร่วมสมัยนิยมแนะนำบ้างไหมคะ? _/\_

25 Nameless Fanboi Posted ID:jKUZ650Ujp

>>24 ขึ้นอยู่กับแนว แนวแฟนตาซีลงเด็กดีดีสุด ถ้าแนวรักๆ ลงรี้ดอะไร้ แนวเยๆ ลงธัญวลัย ที่เหลือทั้งฟิกชั่นล็อก กวีบุ๊ค ไม่น่าสนใจที่จะลง แต่ถ้าจะลงก็ต้องเป็นแนวจีนๆกำลังภายใน ไม่เน้นรัก

26 Nameless Fanboi Posted ID:FPCLJc/9z8

เขียนในเว็บเด็กดวก ยอดอ่านยอดเปย์ ยังพอรับได้ แต่ในรีด จัดหมวดหมู่เชี่ยมาก แถมยังแจกยอดวิวพร่ำเพรื่อ ขายฝันนักเขียนอ่อนหัดใจบางไปวันๆ เมิงไม่ให้เขียนในเด็กดวก จะให้ไปเขียนที่ไหนวะ รบกวนช่วยชี้แนะ

27 Nameless Fanboi Posted ID:+WYQMnqG8t

>>23 ถ้าเป็นแนวแฟนต้าล้วนมันหนีเด็กดอกไม่ได้หรอก รอรแม่งจัดหมวดหมู่ห่วยแตก

28 Nameless Fanboi Posted ID:+WYQMnqG8t

>>23 ส่วนฟชลนี่แม่งก็ขายแต่นิยายแปลของมัน

29 Nameless Fanboi Posted ID:3Kn2VcLcy9

>>25 แล้วแนวไซไฟลงที่ไหนดีคับ ไม่ได้จะกวนตีนนะคับแค่ถามเฉยๆ

30 Nameless Fanboi Posted ID:dRwB+kgT98

กูกำลังสงสัย กลุ่มคนที่อ่านแฟนตาซีอยู่นี่ปัจจุบันคือคนกลุ่มไหนหว่า
หลานๆ กูอายุรุ่น 10 ขวบนี่แม่งอ่านวายกันละ ส่วนพวก 13 กับ 15 นี่ไม่รู้ว่าอ่านรึเปล่าปกติเห็นติดกันแต่เกม

31 Nameless Fanboi Posted ID:+4LrBfQG6G

เพิ่งมีโอกาสได้กลับมาอ่านนิยายเว็บเมื่อไม่กี่วันก่อน กุไม่เข้าใจว่านิยายสมัยนี้มันเขียนไม่ดีหรือกุอ่านไม่เข้าใจกันแน่ รู้สึกมันไร้สาระแบบเน้นอ่านเอาสนุกละทิ้งหลักกการแล้วเหตุผลไปเลย ล้างแค้นกับพวกโง่ๆ ด้วยวิธีโง่ๆ (บางครั้งก็เขียนโหดเกินจนไม่เข้าใจคนเขียนว่าทำไมต้องรุนแรงขนาดนั้น) สมองเบลอๆ ก็ไปลองอ่านนิยายระบบ แม่คุณ ยิ่งอ่านยิ่งจะเป็นไมเกรนเข้าไปทุกตอนๆ จนเข้าใจว่านิยายพวกนี้ควรถอดสมองก่อนอ่าน

แฟนตาซีในไทยยุคเกมออนไลน์ว่าแย่แล้ว ยุคนี้รู้สึกสิ้นหวังกว่าอีก สำหรับกูแล้วนิยายเว็บแฟนตาซีสมัยนี้ต่ำกว่าฟาสต์ฟูดอีก เป็นขยะทางวรรณกรรมแบบไม่ต้องสงสัยเลย

32 Nameless Fanboi Posted ID:3ekntPPmzR

>>31 ยุคนี้ต้องจีนโบราณจั๊ฟ คุณภาพล้นแก้ว

33 Nameless Fanboi Posted ID:BrScKrZM+F

วันนี้กูจะมาแจกสูตรความสำเร็จตามกระแสของนิยายในยุคนี้ ถ้าเอาไปทำตามรับรองรวย

พวกมึงเคยเห็นนิยาย 3 in 1 ไหม ยำใหญ่สามพล็อตยอดฮิต

ย้อนเวลาไปยุค 70
นางร้าย
แม่ลูกติด

นำมารวมกันเป็น “นางร้ายย้อนเวลาเลี้ยงลูกติดในยุค 70” ทำตามสูตรนี้ปังปุริเย่ กูบอกเลย สิ้นคิดแหละ แต่ยุคนี้เป็นอย่างนี้จริงๆ แต่ถ้าจะให้ปังกว่านี้ มึงต้องใส่พล็อตฮิตอื่นๆ เข้าไปด้วย กลายเป็น

“นางร้ายต่างโลกย้อนเวลาไปเลี้ยงลูกแฝดในยุค70พร้อมระบบปลูกผัก Online”

ซึ่งเป็นกันรวมกันของ

นางร้าย
ต่างโลก
ลูกแฝด
ยุค70
ระบบ
ปลูกผัก
เกมOnline

ไม่ดังให้มันรู้ไป

34 Nameless Fanboi Posted ID:3ekntPPmzR

>>33 กูสงสัยว่าทำไมคนสมัยนี้ ถึงชอบอ่านตัวละครย้อนไปยุคเรดการ์ดวะ มันน่าอภิรมย์ตรงไหน เป็นหนึ่งในยุคตกต่ำสุดของจีนแดงด้วยซ้ำ

35 Nameless Fanboi Posted ID:8zCFJFs35t

>>34 ไม่เกทเหมือนกัน หรือมันเป็นแผนของจีนแดงที่จะทำให้ยุคนั้นมันดูดีวะ

36 Nameless Fanboi Posted ID:W8c++CgqLx

>>33 อยากถามคนเขียนรายนี้จังเลยว่า มึง(คนเขียน)ศึกษาโลกยุค 70's แล้วยังวะ ถ้าเป็นประเทศจีนคือนรกบนดินเลยเหี้ย มีแต่พวกโง่อยากดาร์กวอนนาบีสัสๆ

37 Nameless Fanboi Posted ID:oKPuRe7TS7

กูยิ่งไม่เข้าใจเลยแหละกับพวกอ่านนิยายจีนแล้วอวยวัฒนธรรมจีน อวยการปกครองจีนเนี่ยในหัวคิดอะไรกันอยู่
อยากหนีความจริงน่ะเข้าใจ แต่พวกนี้คือไม่เคยศึกษาเลยใช่มั้ยว่ายุคนั้นๆ จีนมันเหี้ยแค่ไหน

38 Nameless Fanboi Posted ID:8DHj7qGsCo

สูตรสำเร็จตลอดกาลคือการก็อปงานต่างชาติดังๆแบบแทบจะแปลแล้ววางต่างหากโม่งเอ๋ย มีคนรออ่านแน่นอนไอ้พวกชอบของเกรดมิลเลอร์ จรรยาบรรณคือไร?แดกได้ป่าว มันผิดแล้วไง?ให้เจ้าของเรื่องมาตามเองดิแต่อยู่คนละประเทศนะคิดว่าง่ายเหรอ ด่าไปเถอะไงก็มีคนพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว บิบิ

39 Nameless Fanboi Posted ID:1CUH/bIq9p

>>38 ชั่ย! จันยาบันแดกไม่ได้ ถึงจะก็อปมาก็ต้องมาคิดคำไทยใส่ คิดชื่อตัวละครเอง ไหนจะต้นทุนค่าเน็ต ค่าไฟ ต้องกินต้องใช้นะ

40 Nameless Fanboi Posted ID:mEbKfA2/Ov

นอกเรื่อง ใครอยากสับรีบมากันเร็ว
ป.ล. ไอตรงใต้คอมเม้นต์ 12 และ 17 ลงไปเค้าหากินกันแบบนี้เลยหรอวะ
https://www.dek-d.com/board/writer/4054746/

41 Nameless Fanboi Posted ID:ICSeQmxvNT

>>40 หมายถึงขอเอาเรื่องเค้าไปสับเฉยอะเหรอ

42 Nameless Fanboi Posted ID:mEbKfA2/Ov

>>41 เอาไปสับแล้วคิดเงินค่าคอมเม้นต์ตอนละบาท

43 Nameless Fanboi Posted ID:ICSeQmxvNT

>>42 ไม่ใช่เหี้ยธรรมดาแต่เป็นโคตรเหี้ย

44 Nameless Fanboi Posted ID:ZXLh00ZXVw

โม่งบดสับไปเตรียมเล่นสงกรานต์หรอวะ ว่างไม่ว่างก็มาสับหน่อยให้หายคิดถึงกันบ้าง

45 Nameless Fanboi Posted ID:GJTxzgtCkJ

กว่าจะได้สับคงรออีกพักใหญ่ เพราะคุณภาพนิยายถิ่นนั้นเหี้ยระดับเดียวกับ The Snake

46 Nameless Fanboi Posted ID:ZXLh00ZXVw

>>45 มึงแม่งดูถูกหนังร้อยล้านว่ะ

47 Nameless Fanboi Posted ID:K0YpbOBFpF

>>46 งั้นเอาเรื่องนี้แทนก็ได้ https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTZcz8oT4xNRL3EdCjqC63uNFt-8-OQv1Nx6e_ZgfBuIItGVzxpNftXD6-M&s=10

48 Nameless Fanboi Posted ID:+jdd4i7myb

ช่วงนี้บอร์ดเด็กดีมีแต่พวกกากๆ เข้าไปเห็นก็เซ็งแล้ว

49 Nameless Fanboi Posted ID:pPchQGSSA6

งั้นกูขอถกประเด็น ทำยังไงถึงจะให้พี่เว็บแนะนำนิยาย

50 Nameless Fanboi Posted ID:q.QkNVrZII

>>49 ทำปกสวยๆ ติดเหรียญ ลอง IB ไปขอแบบส่วนตัว ถ้าไม่มีเส้นก็ต้องลุ้น ถ้าเป็นนักเขียนมีชื่อ หรือเคยรู้จักส่วนตัวกับทีมงานก็คงสบาย

51 Nameless Fanboi Posted ID:pPchQGSSA6

>>50 ขอบใจ พอดีกูเห็นบางเรื่องคนอ่านพันกว่าๆ แต่พอเว็บโปรโมทก็พุ่งรัวๆ จริงอย่างที่มึงบอกเห็นเรื่องที่โปรโมทส่วนใหญ่ติดเหรียญกันเพนิ

52 Nameless Fanboi Posted ID:szH76zNp8f

>>51 ผลประโยชน์ต่างตอบแทนน่ะโม่ง

นักเขียนขายแล้วเว็บก็มีรายได้ตามไปด้วย พอเว็บโปรโมตให้นักเขียนก็ได้คนอ่านเพิ่ม ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย

53 Nameless Fanboi Posted ID:k+Xxk5phn2

>>52 แม่งเกลียดโลกทุนนิยมว่ะ อยากย้อนยุคไปปลูกผักปี 60 กับท่านแชร์แมนเหมาแล้ว

54 Nameless Fanboi Posted ID:szH76zNp8f

>>53 มึงคือคนเดียวกับ >>34 รึเปล่าวะ

55 Nameless Fanboi Posted ID:szH76zNp8f

มาแล้วลูกจ๋า สับพร้อมนินทาที่หนูอยากได้ ช่วงนี้เห็นบ่นกันว่าไม่มีใครสับ เออ ก็ตามนั้นแหล่ะ เพราะแต่ละคนมันก็ต้องทำอะไรในชีวิตประจำวันเหมือนกัน ไม่ได้ว่างมาสับนิยายให้อ่านกันฟรีๆ ถึงจะเก็บเงินก็เก็บได้แต่ตอนละบาท สับ 5 ตอนได้แค่ 5 บาทเอง (อิอิ) ไล่อ่านที่พวกมึงคุยกันดูกูจะออกความเห็นเพิ่มในเรื่องสำคัญๆ ตามนี้

>>11 อย่าเข้ากลุ่มนักเขียน เชื่อกู นอกจากจะไม่ได้อะไรแล้วมึงยังจะเสียเวลาชีวืตไปโดยเปล่าประโยชน์ด้วย อันที่เข้าแล้วพอได้อะไรบ้างหรือคอร์สสอนการเขียนทั้งหลาย ซึ่งอันนี้ก็ต้องวัดดวงด้วยเหมือนกันว่าจะเจอครูดีหรือครูที่ (ดูเหมือนจะ) ดี ถ้าเจอคนที่สอนเป็นมึงจะได้อะไรดีๆ มาใช้เยอะ แต่ถ้าเจอที่สอง มึงจะโดนหลอกขายหนังสือหลังอวยว่านิยายของครูมันเจ๋งยังไง

>>19 กับ >>22 อันนี้จริง เพราะโอกาสเป็นของคนที่พร้อมเสมอ เหมือนร้านขายน้ำผลไม้โนเนมแบบวันต่อวันที่อยู่ดีๆ ก็มีออเดอร์จากโรงแรมใหญ่สั่งซื้อเข้ามาเพราะทำของให้แขกไม่ทัน หลังจากดีลครั้งนี้จบลงโรงแรมก็จะได้ร้านน้ำร้านนี้เป็นตัวเลือกเวลาทำไม่ทันรอบหน้า ส่วนแขกในงานที่ติดใจรสชาติก็อาจถามว่าน้ำพวกนี้มาจากไหน แล้วตามไปหาซื้ออีก

พอกลับมาพูดถึงเรื่องโปรโมตที่ได้ขึ้นแบนเนอร์หรือโดนสัมภาษณ์ขึ้นหน้าเพจ นิยายกลุ่มนี้มักมีบางอย่างที่ตรงตามความต้องการของเว็บ เช่นมียอดวิวเยอะและกำลังติดเหรียญขาย หรือมีสำนวน-เนื้อเรื่องที่ดีแต่ดันอยู่ในซอกหลืบ คือก่อนที่ดวงจะพาโอกาสมาให้มึงคว้า ระหว่างนั้นมึงก็ต้องพยายามเองก่อนด้วย เพราะถ้านิยายมึงกากเนื้อเรื่องหมาไม่แดกต่อให้ทีมงานมาอ่านเจอ เขาก็ไม่คิดจะเอาไปโปรโมต หรือเขียนนิยายไปยาวๆ แล้วยังไม่ติดเหรียญก็ไม่รู้ว่าจะช่วยส่งเสริมการขายไปทำไม

โอกาสมันมาแบบไม่เลือกเวลา เหมือนเรื่องร้านขายน้ำผลไม้ข้างบน ถ้าโรงแรมมาติดต่อว่าอยากได้ 100 ขวด แล้วร้านมึงจัดให้ 100 ขวดได้ตามต้องการ ทุกอย่างมันก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ปัญหาคือร้านที่อยู่ในเว็บส่วนมากมันทำไว้แค่ 20 ขวด พอให้ขายได้พ้นไปเป็นวันๆ จนเมื่อโอกาสมาถึงจริงๆ ก็คว้าไว้ไม่ได้เพราะไม่มีอะไรสำรองไว้ในมือเลย

อย่างสุดท้ายที่กูจะพูดถึงใน >>19 คือช่วงที่นิยายได้ขึ้นหน้าแนะนำ อย่าเล่นตัว มีของอะไรให้รีบปล่อยออกมาให้หมด สต็อคมีแค่ไหน จัดไปเลยวันละหลายๆ ตอน ในช่วงที่แสงกำลังส่องมาจนสายตาของคนอื่นจับจ้องมึงอยู่ เป็นจังหวะสำคัญสัสๆ ที่ควรจะขายของ มึงมีดีอะไร จุดเด่นเป็นแบบไหน รีบโฆษณาเลย พอแสงส่องมามึงต้องรีบฉายแสงต่อเพราะมันมาแค่ไม่นาน อย่าให้โอกาสต้องสูญเปล่า

>>31 เศร้าแต่ก็ต้องปลง เพราะตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องของคุณภาพวรรณกรรม แต่กลายเป็นธุรกิจไปแล้ววะ โลกไม่ได้สนว่าดีหรือไม่ แต่สนว่าขายออกหรือเปล่า แต่งแล้วมีคนอ่านไหม

>>33 ฟังดูเข้าท่า แต่อาหารถ้าผสมหลายอย่างมากไปกินแล้วขี้แตกนะมึง (ทำพวกเมนูฟิวชั่นก็พอมั่ง)

>>38 การลอกเลียนแบบคือรูปแบบพื้นฐานในการเรียนรู้ ตอนเราเรียนหนังสือเราก็ต้องอ่านแบบเรียน ศิลปะทุกแขนงสร้างสรรค์มาเป็นพันปีจนแทบจะไม่เหลืออะไรที่เป็นเป็น OG เหลืออีกต่อไป กูไม่ค่อยคิดมากถ้าใครจะลอกงานใคร แต่แบบที่มึงบอกมันก็ทุเรศเกิน อย่างน้อยก็ควรดัดแปลงให้เป็นแนวทางของตัวเองหน่อย สร้าง setting ที่มันเป็นของตัวเองบ้าง ขนาดคนวาดโจโจ้ยังยอมรับเลยว่าได้ รบดจ. มาจากหมัดเทพเจ้าดาวเหนือ ส่วนเรื่องดาวเหนือนี่ก็รับแนวคิดมาจาก Mad max อีกต่อ ใช้วัตถุดิบเดิมมันไม่ผิด แต่ใครจะเอาไปต่อยอดได้ดีกว่ากันต่างหากคือสิ่งที่ต้องเก็บไปคิด

>>39 อ่านแล้วขำ ภาพความเห็นติ่งเลียไข่นักเขียนลอยเข้ามาในหัวเลย

>>47 รายได้รวมเยอะเหี้ยๆ สูงที่สุดในประวัติศาสตร์หนังไทย (ประชด)

>>49 รออ่านในสับเดี๋ยวกูจะบอกใบ้ให้เป็นข้อๆ

56 Nameless Fanboi Posted ID:k+Xxk5phn2

>>54 ใช่แล้วสหายโม่ง เผลอๆทั้งบอร์ดมีแค่มึงกะกูคุยกัน

57 Nameless Fanboi Posted ID:+SemEy8A/L

>>55 เรื่องลอกเลียนนี่กูเห็นด้วยกับมึงมาก ๆ พล็อตเหมือนแต่ถ้าไม่ได้ลอกมาคำต่อคำก็ไม่มีปัญหาหรอก

58 Nameless Fanboi Posted ID:szH76zNp8f

มีจังหวะให้พักได้ 30 ชั่วโมงก็เลยนอน 6 ชั่วโมงแล้วหาอะไรทำหลายๆ อย่าง หนึ่งในนั้นก็คือแวะมาสับนิยายให้พวกมึงอ่าน (ถ้ามึงคิดว่าการด่านิยายคนอื่นคือการพักผ่อนแบบหนึ่ง) นิยายเรื่องนี้กูเห็นได้รับการแนะนำตรงหน้าเพจเด็กดวก พอเข้ามาแอบอ่านก็เจอพวกมึงพูดถึงเหมือนกันท้ายๆ มู้ที่แล้ว เราจะไม่พูดถึงเกี่ยวกับนักเขียนแต่เน้นไปที่เนื้อเรื่อง (เพราะเดี๋ยวจะมีพวกเหี้ยมาหาว่ากูเป็นพวก racist อีก) จากที่มีคนถามไว้ใน >>49 หลังจากที่กูสับนิยายแนะนำมาหลายรอบ กูจะบอกให้อ่านตามนี้ถ้าเป้าหมายของมึงคือการอยากให้หน้าเว็บเอานิยายไปแนะนำนะ

1) นิยายมึงต้องมีจำนวนตอนอย่างน้อย 50 ตอน (ในความยาวที่ไม่สั้นจนเกินไป)
2) ยอดวิวขั้นต่ำสูงกว่า 50,000
3) ยอดความเห็นสูงกว่า 500
4) ยอดผู้ติดตามสูงกว่า 2,000
5) มีการอัปเดตต่อเนื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง (แต่ส่วนใหญ่เห็นอัปวันละตอนหรือวันเว้นวัน)
5) ***สำคัญเหี้ยๆ*** ต้องมีการติดเหรียญขายแล้วเกิดการขายแล้วในระดับหนึ่ง

ข้าจะเป็นหมอยา
https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=2277919

นิยายเหี้ยไรวะอยากจะเป็นหมอยเฉยเลย (พนักงานตบมุก : หมอยาครับไม่ใช่หมอย เห็นสระอามั้ยวะครับ) โอเคหมอยานี่เอง อะแล้วไงต่อ ถึงชื่อเรื่องจะธรรมดา แต่กูจะบอกว่ามันเป็นการตั้งชื่อแบบใช้กับดักทางความคิด ไม่ต่างกับนิยายเรื่องหมอยลดา หรือคุณหมอยศวิน โดยเฉพาะกับคนเหี้ยๆ (แบบมึงกับกู) ที่อ่านแล้วสามารถเก็ตมุกทะลึ่งตึงตังได้ทันใด แน่นอนว่านักอ่านบางส่วนอาจไม่คิดอะไรถ้าจิตใจไม่เหี้ยเท่าพวกเรา ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มีผลในทางร้าย ถ้ามีคนเก็ตมุกก็เหมือนเกิด effect (+1) ถ้าอ่านแล้วไม่เก็ตก็ไม่เป็นไร (0) ในต่างประเทศเองก็มีการแอบใช้ subliminal message กันอย่างแพร่หลาย พอโดนจับได้ก็เจอโจมตีกันไป เช่นการแอบใส่คำว่า sex ใน texture ภาพพื้นหลังการ์ตูนเจ้าหญิงของดิสนีย์ กับอันที่อื้อฉาวกว่าคือยอดปราสาธในปกการ์ตูนเจ้าหญิงที่มีหอคอยอันนึงมีปลายเห็นเป็นหัวดอแบบถอกเรียบร้อย (ซึ่งไม่รู้ว่าคนวาดมันซ้อนแผนทำลายค่ายเองหรือเปล่า)

เรื่องทำนองนี้เป็นอะไรที่พื้นๆ มาก เหมือนเวลาคนถามว่าทำไมเรื่องเกี่ยวกับการเด้ากันถึงได้รับคำนิยมมากกว่า Love scene ในละครทำไมต้องใส่มา หนังผีเกรดบีของฝรั่งทำไมต้องโดนฆ่าระหว่างกำลังเยดกัน ถ้าให้ตอบแบบโง่ๆ เลยก็คือคนเรามันมีความขี้เงี่ยนแอบซ่อนอยู่ภายในทั้งแบบที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว พวกโปสเตอร์เหล้าเบียร์ก็มักจะมีนางแบบนุ่งน้อยห่มน้อยปรากฏอยู่ แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิด กูไม่ได้บอกให้พวกมึงแต่งนิยายที่มีแต่ฉากเยด เพราะมันจะกลายเป็นการเขียนเรื่องเสียวไปแทน คือในเนื้อเรื่องทั้งหมดก็อาจใส่ไปบ้างได้เป็นระยะ แล้วใส่แบบมีจุดประสงค์ด้วย ไม่ใช้เอะอะเดินชนกันหน้าพระเอกล้มทับกีแล้วนางเอกร้องอ๊างไรงี้นะ บางเรื่องใส่ฉากทำนองนี้เป็นฉากการถูกข่มขืน เพื่อให้ส่งผลต่อตัวละครประกอบ หรือตัวละครรองใน arc นั้นๆ ว่าจากเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดอะไรขึ้นต่อบ้าง แล้วมันมาเกี่ยวกับพวกตัวละครหลักได้ยังไง ถ้าเป็นนิยายรักรอมคอมก็จะต้องใส่ฉากถูกเนื้อต้องตัวแบบจำใจมาบ้างพอกระชุ่มกระชวย ไม่งั้นแม่งน่าเบื่อแย่

อะไรวะ หลุดประเด็นจากชื่อเรื่องมาไกลเลย ถ้าไม่นับเรื่องการใช้คำว่า หมอย-า แล้วล่ะก็ กูว่าชื่อเรื่องธรรมดาไป อาจเป็นเพราะเห็นว่าชื่อเรื่องยาวๆ สไตล์ Light Novel มันเต็มเว็บไปหมดเลยอยากจะแตกต่าง ตั้งชื่อธรรมดาแบบสูงสุดคืนสู่สามัญแบบนี้แหล่ะดีแล้วก็เป็นได้

หน้าปกนักเขียนลงทุนจ้างนักวาดมาวาดให้ ลายเส้นโอเค การใช้สีก็ทำได้ดีเลย มีเทคนิคหน้าชัดหลังเบลอกับกุมารทองด้านหลังแถมมาให้อีกตัว font ที่ใช้กับชื่อเรื่องไปด้วยกันได้ ปกเรื่องนี้กูให้ผ่าน คำโปรยอ่านแล้วพอเข้าใจเนื้อเรื่องคร่าวๆ แต่อ่านแล้วติดๆ ขัดๆ เหมือนยังต้องเกลาอีกเยอะกว่าจะลื่น ถ้าอยากลองก็ไปอ่านกันดูเองใต้ชื่อเรื่อง ถามว่าดึงดูดใจไหม กูว่าไม่เลย เหมือนมึงขายเค้กแล้วมึงบอกแค่ว่าเค้กครับ อร่อยนะครับ แล้วไม่ได้บอกว่าใส่ครีมสด เนยแท้ มีสตรอเบอร์รี่เกรดเอลูกใหญ่กว่าหัวพ่อมึงแต่งหน้าเค้กด้วย ใช้ส่วนคำโปรยยังไม่คุ้มเท่าไหร่ Tag อันสุดท้ายนี่เป็นดาบสองคม เพราะคำว่าไม่ฮาเร็มมันทำได้ทั้งจัดการศัตรูและบาดคอมึงตายเองได้ในเวลาเดียวกัน ลองคิดกันเล่นๆ ว่าจำนวนคนอ่านเด็กชายวัยเบียวที่ชอบแนวเมียเยอะๆ ในเว็บมีอยู่เท่าไหร่ ถ้าเทียบกับพวกผัวเดียว-เมียเดียว

ปกรองเขียนเกี่ยวกับ setting ไว้นิดหน่อยว่า ปัจจุบันแพทย์แผนโบราณมันถูกด้อยค่าลงไป พระเอกของเราเลยจะทำให้มันโด่งดังขึ้นมาใหม่ ด้านล่างสุดมีแปะบทสัมภาษณ์จากหน้าเพจไว้ด้วย เผื่อมีคนอยากลองไปอ่านดู ก็เหมือนกันกับส่วนคำโปรย... ใช้งานได้ไม่คุ้มค่า

59 Nameless Fanboi Posted ID:szH76zNp8f

ตอนที่ 1 : ตอนที่1

โอเคนักเขียนเขียนแบบไม่มีชื่อตอน กับขนาดตัวอักษร 20pt แล้วเขียนแค่ 6,000 characters ถ้าหดลงมาให้เท่ากับขนาดมาตรฐานไฟล์ epub กูว่าจะให้ครบ 2 หน้ายังเกือบจะไม่รอด เอาไปเลยระดับความยาว : หมอยแมงเม่า คนที่จะซื้อนิยายเรื่องนี้ได้ต้องคิดให้ดีกับนิยายที่ตกหน้าละ 50 สตางค์แบบนี้ นิยายเรื่องนี้เล่าด้วย POV3 ส่วนเนื้อเรื่องก็... เปิดเรื่องมาด้วยการอธิบายว่ามีหมู่บ้านแห่งหนึ่งไกลเหี้ยๆ เวลาป่วยก็ต้องหาสมุนไพรแดกรักษากันเอง เพราะกว่าจะไปถึงเมืองก็มักจะตายห่ากันกลางทาง ปูนิลพาเด็กชายชื่อไอ้ไพรเข้าป้าหาสมุนไพร ไอ้ไพรบ่นว่าปูแม่งพากูเข้าป่าตลอด จนกูไม่สนิทกับเด็กในหมู่บ้านสักคน ไม่เห็นอยากจะเป็นเลยหมอยาเหี้ยไรเนี่ย เลยโดนปู่โบกหัวไป 1 ทีจนต้องหุบปาก หลังจากนั้นปู่ก็พูดถึงหน้าที่ของหมอว่าต้องรักษาคนป่วย ตกเย็นพอใกล้ค่ำเลยพากันขึ้นไปนอนบนนั่งร้านส่องสัตว์ของพวกพราน มีเสือสมิงในร่างหญิงสาวโผล่มาคุยกับปู่หลังไอ้ไพรหลับไปแล้ว สมิงเรียกปู่ว่าจอมไพรแล้วแจ้งข่าวว่ามีทหารบุกเข้ามาในป่า ปู่ก็รับทราบแล้วบอกอีสมิงให้กลับก่อน เดี๋ยวกูจะไปคุยกับพวกนั้นเอง

ตอนที่ 2 : ตอนที่ 2

เช้ามือวันถัดมา (เช้ามืดรึเปล่าวะ) ปู่นิลก็พาไอ้ไพรเดินทางต่อ เดินทางไปจนเจอกำลังทหาร 20 นายกับตัวหัวหน้า ปรากฏว่าหัวหน้าเป็นสหายเก่าของปู่ชื่อวี ก่อนจะคุยธุระปู่นิลใช้ให้ไอ้ไพรไปหาอะไรทำรอ เพื่อนปู่เลยบอกว่าไปนั่งคุยกับน้องมะขามหลานสาวกูก็ได้ พอเด็กๆ ออกไปแล้วสองเฒ่าก็พูดถึงเรื่องในอดีตที่ปู่นิลเคยถล่มกองพันของศัตรูตายห่าด้วยตัวเองในเวลาชั่วข้ามคืน (ปู่แม่ง OP นี่หว่า) สักพักปู่ก็ตัดเข้าเรื่องว่ามึงมาตามหากูทำไม ปู่วีทำหน้าเครียดๆ แล้วเล่าว่าไปมีปัญหากับกลุ่มอิทธิพลในเมืองหลวง ลูกๆ โดนจับตัวไปส่วนที่เหลือในบ้านถูกฆ่าตายเรียบ พวกนั้นบังคับให้ปู่วีขายกิจการให้ภายในเวลา 3 เดือน ตอนนี้ก็ผ่านมา 2 เดือนแล้วปู่วีเลยจะต้องทำอะไรสักอย่าง ก่อนจะไปลุยเลยเอาน้องมะขามมาฝากให้เพื่อนอย่างปู่นิลช่วยดูแล ปู่นิลได้ยินเลยทำนายชะตาให้เดี๋ยวนั้นเลยว่า ลูกๆ ของปู่วียังไม่ถึงฆาต แต่ครั้งนี้จะต้องระวังลูกน้องคนใกล้ตัวให้ดีๆ เดี๋ยวจะให้ item โกงๆ ไปติดตัวไว้ เวลาจะออกจากป่าก็ไปทางทิศนี้นะ ปู่วีบอกลาหลานสาว แล้วเก็บข้าวของเดินทางไปในทิศที่ปู่นิลบอก ขาเข้ามาเดินป่าตั้ง 3 อาทิตย์ แต่ตอนออกใช้เวลาแค่วันเดียวก็ออกมาได้ ปู่แกก็คิดในใจว่าเราเอาหลานมาฝากไว้ถูกคนแล้ว

ตอนที่ 3 : ตอนที่ 3

หลังจากนั้นปู่นิลก็ให้เด็กทั้งสองจับมือแล้วหลับตา ภายในเวลา 1 นาทีพอลืมตาขึ้นทุกคนก็มาถึงชายป่าใกล้หมู่บ้าน ไอ้เด็กไพรรู้ทันทีว่าปู่พาตัวเองกับมะขามวาร์ปมาแหงๆ เพราะตอนเดินป่าออกมาใช้เวลาตั้งหลายวัน ปู่รีบดักคอว่ายังไม่ต้องถามอะไร เดี๋ยวคืนนี้ค่อยคุยกัน น้องมะขามด้วยความที่เป็นเด็กเมืองกรุงก็เดินต่อไม่ไหว ไอ้ไพรเลยพาน้องขี่หลัง นักเขียนอธิบายว่าไอ้ไพรแบกน้องขามได้สบายแม้จะเป็นเด็กวัยเดียวกัน เพราะโดนปู่บังคับอาบน้ำสมุนไพรกับฝึกกล้ามเนื้อด้วยการเดินป่ามาตั้งแต่เด็ก (ตอนนี้มึงก็ยังเด็กอยู่นะ สรุปฝึกตั้งแต่ตอนไหนแล้ววะ) ตกกลางคืนปู่ก็เล่าเรื่องสำคัญให้เด็กชายไพรฟัง บอกว่าตระกูลเราเนี่ยเป็นแพทย์หลวงจากรุ่นสู่รุ่นมา 1,000 ปี แล้ว แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ต้องเลิกทำแล้วมาอยู่ในป่าที่นี่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเอ็งจะต้องเข้าพิธีฝึกการเป็นแพทย์หลวงเต็มตัว แช่น้ำว่าน ฝึกการต่อสู่ เรียนวิชาแพทย์ เรียนศาสตร์แห่งพราน บลาๆๆ ถ้าเทียบเป็นอนิเมะก็จะเป็น training arc ก่อนที่ไอ้ไพรจะเริ่ม OP เด็กไพรฟังแล้วก็เริ่มด้วยการลงชานเรือนไปออกกำลังกายศาสตร์ลับ 108 ท่า เพื่อเตรียมร่างกายตามที่ปู่บอก

60 Nameless Fanboi Posted ID:szH76zNp8f

ตอนที่ 4 : ตอนที่ 4

เช้ามาปู่นิลให้ไอ้ไพรไปตักนำด้วยคานหาบกับถังเหล็กขนาด 5 ลิตร 2 ถึง แต่ด้วยความที่เป็นเด็กทำไปไม่นานรอบที่ 3 ก็เดินไม่ไหวเลยโดนปู่ดีดหินใส่น่องจนต้องฝืนเดินต่อไป น้องขามเห็นก็สงสารไอ้ไพร แต่ปู่นิลห้ามไม่ให้เข้าไปช่วยเพราะนี่เป็นส่วนหนึ่งของการฝึก ถ้าอยากช่วยก็ให้ไปทำอาหารมาไว้ให้ไอ้ไพรกินแทน พอตักน้ำเสร็จปู่ก็พาไอ้ไพรไปแช่น้ำว่านสมุนไพรต่างๆ 108 ชนิด ซึ่งชื่อของว่านสมุนไพรพวกนี้กูเคยได้ยินมาบ้าง เช่นพวก หนุมานประสานกาย (ยางจากก้านใบใช้หยอดใส่แผลเปิดเพื่อเร่งการสมานได้) ขมิ้นขาวปัดตลอดแบบ 100 ปี (ซึ่งมีหลายรุ่นเช่น 10 หรือ 50 ปี ใช้ถอนพิษและอาการแสบคันเบื้องต้น) ในทางไสยศาสตร์ว่านพวกนี้ยังฤทธิ์ด้านอื่นๆ อีก ถ้าตามที่ปู่นิลเล่าไปในตอนที่แล้ว แปลว่าตระกูลแพทย์ลับของไอ้ไพร ไม่ได้ทำแค่การรักษาคน แต่ยังเรียนรู้เรื่องคุณไสยด้วย สรุปว่าปู่แกเตรียมความพร้อมให้ไอ้ไพรมาเป็นอย่างดี ว่านที่แช่อยู่ทุกวันก็มีผลทั้งเรื่องคงกระพัน มหาเสน่ห์ และเสริมพละกำลัง

ตกค่ำปู่พาไอ้นิลไปไหว้บรรพบุรุษเพื่อขออนุญาตเรียนวิชา ความรู้ที่ต้องเรียนก็มีมากมาย ทั้งเรียนจากคัมภีร์ใบลาน 100 เล่ม การค้นหาสมุนไพรป่า 10,000 ชนิด การออกกำลังกายลับ 108 ท่า และอื่นๆ พอไหว้รูปปั้นเสร็จจิตไอ้ไพรโดนดึงเข้ามิติลึกลับ พวกปู่ๆ ที่เป็นต้นแบบรูปปั้นพากันล้อมเข้ามาคุย บอกว่าเอ็งเป็นรุ่นที่ 99 ของตระกูล พอถึงรุ่นเอ็งชื่อเสียงของครอบครัวเราจะกลับมายิ่งใหญ่ พวกวิชาต่างๆ ก็เรียนไปได้เลย เดี๋ยวพวกเราจะแถมพลังจิตขั้นสูงให้ด้วย หลังจากกลับมาปู่นิลก็ตกใจเพราะพลังจิตของเด็กไพรมันเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน เลยพาตัวไอ้ไพรกลับบ้านก่อน

ตอนที่ 5 : ตอนที่ 5

พอไอ้ไพรฟื้นตอนเช้า ปู่นิลก็ถามว่าเป็นยังไงบ้างการไปพบบรรพบุรุษ ไอ้ไพรตกใจว่าปู่รู้ได้ไงแล้วก็เดาได้ว่าปูคงเคยเข้าไปในมิตินั้นเหมือนกัน ไอ้ไพรเล่าว่าบรรพบุรุษให้พลังจิตกับความรู้ด้านการแพทย์มา ศาสตร์อื่นๆ ก็ได้มาด้วยแต่ยังใช้ไม่ได้เพราะตบะยังไม่ถึงขั้น ปู่ได้ยินก็โล่งใจว่าแบบนี้ไอ้ไพรก็เทพซ่าเรียบร้อยเหลือแค่ต้องฝึกตบะกับหาประสบการณ์เพิ่มเท่านั้นเอง เวลาผ่านไป 1 เดือน ไอ้ไพรเก่งขึ้นทุกด้านจนปู่รู้สึกพอใจ ด้านปู่วีก็กลับมาหาหลานสาวแล้วคุยกับปู่นิลต่อ สรุปว่าปู่จะต้องออกไปทำธุระในเมืองหลวง ทิ้งให้ไอ้ไพรที่แช่น้ำว่านกับหนูมะขามที่เล่นตุ๊กตายืนงงอยู่ในหมู่บ้าน ขณะที่ปู่ทั้งสองคนเดินทางออกไปในชุดเครื่องแบบทหารเต็มยศ

การบรรยาย : สำนวนธรรมดาอ่านง่าย ไม่หนักไปในทางใดทางหนึ่งทั้ง show ทั้ง tell แต่รูปแบบการเล่ามันเน้นเอาเนื้อหาใส่ปากตัวละครพูดออกมาเยอะไปหน่อย เช่น "วิธีเข้าฝันคนอื่น ขั้นตอนแรกต้อง...(ยาวไปจนจบทุกขั้นตอน)" เขาอธิบายพร้อมทำท่าทางจริงจังไปด้วย ซึ่งมันเป็นการยัดเยียดข้อมูลผ่านตัวละคร กูไม่รู้ว่าควรติหรือเปล่า เพราะเรื่องความเชื่อไสยศาสตร์พวกนี้ถ้าไม่อธิบายให้ครบละมันจะฟังดูไม่ขลัง เอาเป็นว่าจะข้ามไปก็แล้วกัน เพราะถ้าเป็นคนสายมูฯ มาอ่านนิยายแนวนี้แล้วก็คงอ่านได้ไม่คิดมาก การดำเนินเรื่องกูว่ากราฟแม่งขึ้นๆ ลงๆ pacing แปลกดี เหตุการณ์สำคัญจะเล่าแค่คร่าวๆ แต่วิธีการฝึกหรือรายละเอียดสมุนไพร คาถาอาคม ไรพวกนี้จัดเต็มมากๆ ซึ่งอาจเป็นจุดเด่นของนิยายแฟนตาซีไทยแนวมูเตลูแบบนี้ ภายใน 5 ตอนแรก สาระสำคัญเหมือนให้กูดู training montage ของเด็กชายไพรว่าฝึกยังไงก่อนจะเริ่มเทพซ่า มันดีสำหรับคนชอบแนวคุณไสยลึกลับ แต่ถ้ามองให้กว้างขึ้นสำหรับนิยายทุกแนว ถือว่าเดินเรื่องช้าไปหน่อย

จบ 5 ตอน กูว่าปู่นิลกับปู่วีควรไปบวกกับพวกมาเฟียจบนานแล้ว สาเหตุสำคัญคือความยาวต่อตอนที่เหี้ยจัด ไม่ถึง 2 หน้าซักตอน แต่นักเขียนมันเก่งนะพยายามสรุปด้วยบทบรรยายให้คนอ่านตามทัน ทั้งๆ ที่ยัดเรื่องราวหลายส่วนใส่มาในความยาวแค่นี้ได้ บางจุดกูเลยรู้สึกเหมือนอ่านทรีตเมนต์ย่อของเนื้อหานิยายในตอนนั้นแทน ถ้าเป็นมะนาวนี่คือมะนาวหน้าแล้งที่โดนบีบแล้วบีบอีกจนมีน้ำออกมาได้ทั้งๆ ที่เปลือกแทบจะป่นเป็นผงแล้วอะ ละดูตรงท้ายตอนมันเขียนจำนวนตัวอักษรไว้ทุกตอน แรกๆ ยังดี มี 5-6,000 เจอตอน 5 เข้าไป เหลือ 3,098 เหมือนนิยายทำมือราคาหน้าละ 1 บาท (แต่ 1 บาทนี้ได้แค่ 1 ตอน)

61 Nameless Fanboi Posted ID:szH76zNp8f

ตัวละคร : ทุกตัวละครไม่มีเอกลักษณ์ชัดเจน ไอ้ลักษณะนิสัยตามอายุกูพอรู้สึกได้อยู่ แต่ voice ที่ทำให้รู้ว่าเป็นตัวละครนั้นๆ กลับไม่มีเลยสักนิด วิธีการพูดในบทสนทนาแทบจะไม่ต่างกัน บทบรรยายก็ไม่การพูดถึงภาษากายหรือการกระทำที่ไม่เหมือนใคร ถ้าในอนาคตมีตัวละครมาเพิ่มในกลุ่มแล้วยังเขียนบทสนทนาแบบนี้อยู่อีก นักอ่านจะมีปัญหาเรื่องการแยกตัวละครว่าใครเป็นคนพูด ต่อให้เขียนแบบ "ทำยังไงดี" เอถาม "ไม่รู้เหมือนกัน" บีตอบ ในฉากอื่นๆ ที่มีความชุลมุนแล้วต้องเล่าต่อเนื่องรับรองว่าต้องอ่านแล้วงงแน่นอน การแก้ไข่นั้นทำได้ไม่ยาก แค่ใส่วิธีการพูดหรือคำติดปากเข้าไป ไม่ก็ใช้ความล้นหรือความห้วนก็ได้ บางตัวละครอาจเป็นคนพูดน้อยถามคำตอบคำ บางตัวอาจถามนิดเดียวมึงพูดเหี้ยอะไรตอบมาเยอะแยะ หรือใช้ภาษากายประกอบในบทบรรยายเช่นชอบพูดแบบไม่มองหน้า พูดจบละเสยผม ใช้คำหยาบในประโยค ถ้าเป็นในมังงะหรือเมะก็จะเจอพวกที่พูดแล้วลงท้ายด้วย เดส นาโนะ โกซารุ(ขอรับ) เป็นแบบอย่างหนึ่งที่พบได้อยู่บ่อยครั้ง การสร้างตัวละคร plain แบบนี้ไม่ผิดอะไรตราบใดที่มึงเล่าเรื่องได้เข้าใจ แต่ตัวละครมันจะไม่เป็นที่น่าจดจำ หรือถูกจินตนาการเป็น stickman พูดได้แบบที่แยกเพศด้วยการเติมหำ-เติมนม

เนื้อเรื่อง : สายไสยศาสตร์ไทยเต็มตัว พออ่านไปนานๆ พบว่าหมอยาในชื่อเรื่องควรถูกเปลี่ยนเป็นหมอผีมากกว่า หมอยาจริงๆ เขาก็ศึกษาทางยาไปเลย แต่ที่ไอ้ไพรทำอยู่คือการเรียนไสยเวทโดยมีเรื่องสมุนไพรและว่านทรงฤทธิ์มาเป็นส่วนประกอบ เรียนทั้งการแพทย์ การเป็นพราน และการใช้คุณไสยแบบนี้ มันไม่เรียกว่าเป็นหมอธรรมดาแล้ว ไอเดียไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่เน้นไปที่การนำเอาคติความเชื่อไทยๆ มาสร้างเป็น power fantasy เดินเรื่องด้วยตัวเองที่เก่งเทพ OP จากเวทมนตร์คาถาและการรักษาแบบสารพัดประโยชน์ของสมุนไพรที่แทบจะหาไม่ได้ในชีวิตจริง เจ้าของเรื่องทำการบ้านมาดีสำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับของอาถรรพ์และสมุนไพรต่างๆ

จุดเด่น : เล่าเรื่องได้ลื่นไหล เน้นขายของสายมูเตลูอย่าชัดเจน หาข้อมูลมาดีอ่านแล้วรู้สึกว่าแม่งรู้จริงด้านไสยศาสตร์ การล่าสัตว์ และสมุนไพรโบราณ เท่าที่อ่านมา 5 ตอน ไม่เจอพล็อตโฮล (หรืออาจเพราะสั้นเกินไปเลยยังไม่เจอ) ใช้ความยาวตอนที่สั้นใส่ข้อมูลมาได้เยอะ อาจถูกใจพวกชอบดูสปอยหนังเป็นพิเศษ เพราะแม่งสรุปมาให้กูเหมือนโดนครูบังคับเขียนย่อความจากหนังสือเล่มอื่นอีกที หน้าปกนอกอยู่ในระดับสูงกว่ามาตรฐานเทียบกับนิยายในเว็บเดียวกัน

จุดด้อย : บทบรรยายอ่านแล้วสะดุดเหมือนกับคำโปรย แต่กูแก้เองในหัวได้เลยไม่มีปัญหาเท่าไหร่ ส่วนคนอื่นก็แล้วแต่เวรแต่กรรม ใช้คำโปรยและปกรองได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เนื้อหาต่อตอนสั้นเกินไปจนดูเหมือนเอาเปรียบผู้บริโภค ขนาดกูอ่านฟรียังรู้สึกไม่พอเลย

คะแนน : แช่น้ำว่านสมุนไพร/10

ความเห็นส่วนตัว : บักสัสเอ๊ย ทำเอาคำแนะนำของกูข้อแรกเป็นหมันเลย ที่บอกว่าถ้าอยากขึ้นแบนเนอร์ความยาวต่อตอนต้องไม่สั้นเกินไป แล้วดูเรื่องเหี้ยนี่สั้นเหี้ยๆ ยาวกว่าระดับหมอยมดไปขั้นเดียว จนกูต้องเปลี่ยนสมมุติฐานใหม่ว่า เนื้อหาอาจไม่ต้องยาวก็ได้แค่มึงขายออกก็พอ บางทีพี่เว็บน่าจะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเด่นในฌองของมัน เป็นตัวเลือกให้พวกนักอ่านที่ชอบเรื่องราวไสยศาสตร์ตามมาซื้อได้ เลยเลือกเรื่องนี้ขึ้นมาโปรโมตเหมือนนิยายย้อนเวลาไปยุคอยุธยาคราวที่แล้ว (ช่วงนี้เน้นแฟนตาซีไทยกันแบบแปลกๆ นะ) ตอนสั้นแต่ยัดข้อมูลมาเยอะแล้วเล่าความคืบหน้าแค่พอเข้าใจ เช่น ปู่พาไพรเข้าป่า-คุยเรื่องสมุนไพร-ปีนนั่งร้านหาที่นอน-สมิงมาบอกเรื่องทหาร <<< แบบนี้อะ 1 ตอนของมัน ด้วยความที่สั้นเกินเลยบอกเราแค่ what's going on ในแต่ละตอนแต่เสือกอธิบายสมุนไพรยาวเหยียด หวังว่าจะไม่มีใครทะลึ่งไปหาว่านมาแช่น้ำอาบจริงๆ (แต่ก็เห็นเขียนเตือนไว้ตรงหน้าปกแล้วนี่ว่า เป็นเรื่องแต่งไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์จริง)

62 Nameless Fanboi Posted ID:szH76zNp8f

เออ... ก่อนจากของฝากอะไรไว้หน่อย
พอดีกูแวะไปดูนิยายอีกเรื่องของเจ้าของเดียวกัน ตอนแรกว่าจะลองอ่านเล่นๆ เจอชื่อเรื่องกับระดับพลังแบบจีนบน setting ยุคกลางเข้าไปเลยถอยดีกว่า
https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1741500
(แล้วรูปปกนี่คืออิหยังวะคะ)

63 Nameless Fanboi Posted ID:nNoqhwRuul

>>62 ขอบคุณที่แวะมาสับ เข้าไปดูแล้วเรื่องนี้คนอ่านเยอะกว่าอีก หรือเพราะเป็นนิยายมีระดับพลังเทพซ่าส์ 007 ว่ะ

64 Nameless Fanboi Posted ID:o0giLKJ+Zv

>>60 กูว่าเนื้อหา 3000-5000 ตัวอักษร ไม่ได้น้อยหรอกถ้าคนเขียนจัดหน้าหลอกดีๆก็จะดูเหมือนเยอะ ตอนอ่านตอนแรกกูไม่ได้คิดอะไร พอบอกคนอ่านตอนท้ายด้วยว่ากี่ตัวอักษรก็เลยดูน้อยจริงๆ

65 Nameless Fanboi Posted ID:yM1bpp/kbq

ช่วงนี้กูลองพิมพ์ตามนิยายฝั่งจีน เกาหลี ญี่ปุ่น พวกงานลงเว็ปนี่ตอนนึงความยาวเฉลี่ยอยู่ราวๆ 900 คำ หรือ 4000 ตัวอักษรเอง
กูว่ามันน่าจะเป็นมาตรฐานใหม่ที่เหมาะกับการเลื่อนไถอ่านผ่านมือถือแล้วแหละ กูเองก็เริ่มปรับตัวเขียนแบบนั้นแล้วเหมือนกัน

66 Nameless Fanboi Posted ID:jdAir0A4ts

>>64 กูเขียน 9000 ไม่โดนด่า พอลดมาเหลือ 8000 ตัวอักษรโดนด่าว่าสั้น มันรู้ได้ไงวะ งงเหมือนกัน

67 Nameless Fanboi Posted ID:yhe9NGMBfb

คืนนี้อยากวิจารณ์นิยายแฟนตาซีเพื่อลับฝีมือ ใครมีเรื่องไหนมาเสนอแปะไว้ได้เลย จะเลือกมา 1 เรื่อง ขอไม่เกิน 20 ตอน เด็กดีเท่านั้น

68 Nameless Fanboi Posted ID:POZSIAgg8Y

>>67 ทำไมต้องไม่เกินยี่สิบตอนวะ

69 Nameless Fanboi Posted ID:yhe9NGMBfb

>>68 ขี้เกียจอ่านเยอะ

70 Nameless Fanboi Posted ID:9BFEkBzYao

>>68 เคยมีเรื่องหนึ่ง คนเขียนบอกเองว่า กว่าจะเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักเริ่มตอนที่ 28 ไอ้สัส ถ้ากูเป็นคนนนั้น กูจะ reboot แม่งเลย

71 Nameless Fanboi Posted ID:nYxjgP23R3

>>70 มันแต่งตอนละ 5 บรรทัดรึไง

72 Nameless Fanboi Posted ID:POZSIAgg8Y

>>67 ก็ถ้าไม่เกินยี่สิบตอนใครมันจะรู้จักจนเอามาลงให้สับวะ มันก็มีแต่พวกเอาของตัวเองมาให้สับ กะของคนที่อิหยังวะมาก ๆ ในบอร์ดจนแม่งมีคนจ้องจองกฐินตั้งแต่ตอนยังน้อยป้ะ

73 Nameless Fanboi Posted ID:KSfHB0stKv

>>72 สุ่มๆมาให้หน่อยจิ

74 Nameless Fanboi Posted ID:5VUIRBBhOC

>>67 มึงจะสับ 20 ตอนเลยเหรอวะ ปกติสับกันแค่ 5 ตอนแรกดูแววว่าจะรอดหรือร่วง แต่ก็ช่างมันเถอะ ถ้ามึงขยันน่ะนะ (ไม่มีค่าจ้างตอนละบาทแบบในบอร์ดให้นะเว้ย)

75 Nameless Fanboi Posted ID:3EyL1Y7tud

>>73 ระวังเจอคนเอานิยายดอกขาวหรือมากิเนเตอร์ซาก้ามาให้สับนะมึง สมองพังเลยนะ

76 Nameless Fanboi Posted ID:2.1OrktIi+

>>73 แนะนำให้เอานิยายที่ฝากในบอร์ด พวกนี้ต้องมีความมั่นใจระดับนึงถึงกล้าออกแสง

77 Nameless Fanboi Posted ID:3EyL1Y7tud

>>76 +1 ไปตามกระทู้ขอนิยายอ่านอะ เพียบเลย ล่าสุดก็มู้ที่มีดราม่าขอสับเก็บเงินตอนละบาทไง

78 Nameless Fanboi Posted ID:ep6KxUVrJz

>>73 เอ้านี่ ลองสุ่ม ๆ ดู
https://www.dek-d.com/board/writer/4053990/46/0
แต่ถ้าถามกู ที่ดูน่าสับมีความเห็น 6 ที่แม่งดูพูดอะไรยืดยาว แหวกจากเม้นอื่นที่แม่งจะขายของท่าเดียว (ไม่ต้องหาว่ากูเป็นม้านะสัส)

79 Nameless Fanboi Posted ID:2YizY6/T6D

>>78 ม้าไม่ม้าก็ช่างเถอะ เดี๋ยวสับไอ้ดากแฟนตาซีธีมยุโรปให้ละกัน

80 Nameless Fanboi Posted ID:n.KWMhL6vU

>>78 ขำว่ะ 555 เรื่องพวกนี้อย่างกับเป็นคำสาปของห้องเว็บโนเวลเลย

ถ้าเอานิยายมาให้คนอื่นสับ = โดนหาว่าเป็นหน้าม้าเชียร์เพื่อน
ถ้าเอานิยายมาสับเองแล้วชม = โดนหาว่าเอานิยายตัวเองมาอวย
ถ้าเอานิยายมาสับแล้วด่า = โดนหาว่าไม่เป็นกลาง เลือกปฏิบัติ อคติกับนักเขียน
ถ้าเอานิยายมาสับแล้วอ่านยาก = โดนหาว่ากากสับไม่เป็น มีความพยายามแต่ก็ยังอ่อนหัด
ถ้าเอานิยายห่วยๆ มาเผยแพร่ = โดนหาว่าพยายาม Sabotage สมองพวกเดียวกัน
ถ้าเอานิยายดีๆ มาแจก = โดนหาว่าโชว์เหนือ อวดเก่ง ดูถูกรสนิยมคนอื่น

สรุปคืออยากทำเหี้ยอะไรก็ทำไปเหอะ คนชอบ, คนที่เข้าใจ มันก็มี พวกขี้หมั่นไส้ เน้นด่าไว้ก่อน มันก็มาก ในโม่งมันก็เป็นงี้แหล่ะ เก็บมาคิดมากเดี๋ยวปวดหัวเองนะมึง ยิ่งร้อนตัวแบบนี้ก็ยิ่งมีคนอยากแซวหรืออยากใส่ไฟ เพราะในโม่งแม่งจริงๆ แล้วไม่มีอะไรแค่โรคจิตชอบดูคน suffer เฉยๆ

81 Nameless Fanboi Posted ID:NPYnnA/CPr

ขอแทรกแปป ช่วงนี้ ดด. มีปัญหาหรือเปล่าอะ อัพแล้วบางทีไม่ขึ้นตอนใหม่ แถมคนอ่านก็ลดลง

82 Nameless Fanboi Posted ID:g1uI3e83z3

>>81 ต้องกลับไปกดบันทึกแล้วกดอัพอีกรอบ จะหาย ช่วงนี้ต้องทำแบบนี้ไปก่อน

83 Nameless Fanboi Posted ID:2.1OrktIi+

>>82 แง่ะ กูว่าอยู่ตั้งเวลาไว้แล้วไม่ขึ้น ยอดล้านวิวกูเลยไม่แตก

84 Nameless Fanboi Posted ID:X67k.O8uh/

>>83 หยุดฝันก่อนโม่ง ไม่มีโม่งคนไหนทำยอดวิวล้านแตกได้หรอก

85 Nameless Fanboi Posted ID:D9zhoabLcV

>>84 มันอาจเป็นโม่งเทพซ่าปลอมตัวมาก็ได้นะ

86 Nameless Fanboi Posted ID:DNmh2mhuC2

>>84 กูถือว่าเป็นโม่งไหม? ยอดวิวกูถึงล้านนะ หลายเรื่องอยู่ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่

87 Nameless Fanboi Posted ID:D9zhoabLcV

>>86 สมมุติว่ามึงเป็นนักเขียนยอดวิวหลักล้านจริงๆ กูขอถามหน่อยว่ามึงมาทำอะไรในเว็บเหี้ยๆ แบบโม่งวะ

88 Nameless Fanboi Posted ID:DNmh2mhuC2

>>87 นักเขียนบางทีมันก็เหงา นั่งเขียนงาน เขียนไม่ออก หาข้อมูล มันก็อยากจะฟังว่ากลุ่มนักเขียนคนอื่นมีความเห็นยังไง คิดเห็นยังไง บอร์ดเด็กดีแมร่งมีแต่พวกเด็กกากๆ บางพวกก็จิตตก เอาง่ายๆอ่านแล้วไม่ได้อะไร บางทีพิมพ์แนะนำตรงๆทัวลงอีก เข้าโม่งมาส่องเล่น ดูด้วยว่าผลงานตัวเองมีถูกสับไหม สับเละยังไง ฆ่าเวลาไปเรื่อย

89 Nameless Fanboi Posted ID:DNmh2mhuC2

ออ อีกเรื่อง นักเขียนนิยายมันก็มีความโรคจิตของมัน มีคู่แข่ง บางทีมันก็อยากจะบ่น อยากจะด่าผลงานคนอื่น อยากเห็นผลงานคนอื่นโดนติ มันมีอารมณ์แบบนี้ โม่งคือคำตอบ แต่ก็ไม่เคยด่าผลงานคนอื่นหรือสับผลงานคนอื่นเสียๆหายๆนะ กูแค่เข้ามาอ่านขำๆ นักเขียน ยิ่งมึงดัง ยิ่งผลงานมึงคนอ่านเยอะ มึงก็จะยิ่งเครียด ยิ่งกดดัน เพราะนักอ่านจะคาดหวังงานจากมึง

90 Nameless Fanboi Posted ID:Bh.iKYxh9E

>>89 เข้ามาคลายเครียดเหมือนกูนี่เอง

91 Nameless Fanboi Posted ID:3GMksJp9VJ

>>89 พูดแทนใจกูมาก 555 กูก็แอบมาปลดปล่อยด้านมืดในนี้ ระบายของเสียออกจากร่างเพื่อที่ในโลกข้างนอกกูจะได้คีปลุคคลีนๆ ต่อไป

92 Nameless Fanboi Posted ID:hWMmVp5pk1

กูไม่เชื่อออออ พวกมึงฝันว่ะ รีบตื่นด่วน ถ้ามึงเก่งจริง เป็นนักเขียนหลักล้านจริง คงมีเคล็ดลับดีๆ มาแชร์ในโม่ง ทุกวันนี้กูอ่านโม่ง เจอแต่ความโง่งม ไม่เห็นความเก่งกาจหรือบารมีนักเขียนหลักล้านที่แผ่ออกมาจากตัวพวกมึงเลย หรือต่อให้พวกมึงเป็นนักเขียนหลักล้านจริง กูว่าฟลุ๊คว่ะ ฟลุ๊คล้วนๆ ดังเพราะโชคช่วย กูไม่อยากเชื่ออ่ะ มันไม่ใช่ พวกมึงมันไม่มีออร่าว่ะ

93 Nameless Fanboi Posted ID:hWMmVp5pk1

ถ้าโม่งมีเทพเยอะขนาดนี้จริง ต่อให้พวกมึงไม่ตั้งใจแชร์ความรู้ แต่สำนวนการคุย มันต้องมีบารมีแผ่ออกมาบ้างว่ะ แบบเฮ้ย คนนี้ของจริง แต่นี่อะไร ดูยังไงก็นักเขียนเพ้อฝัน แบบนิยายไม่มีใครอ่าน เข้ามาเพ้อในโม่ง หลอกตัวเองว่าประสบความสำเร็จ ทั้งที่นิยายคนอ่านหลักสิบ แบบนี้ไม่ไหวๆ

94 Nameless Fanboi Posted ID:Bh.iKYxh9E

>>92 >>93 ระวังเจอพวกโดนแทงใจดำออกมาดิ้นขออ่านนิยายมึงบ้างนะ (ถ้ามึงไม่ใช่นักเขียนก็แล้วไป) เอาตรงๆ คือตอนนี้คนเล่นโม่งห้องเด็กดวกมันน้อยลงมากถึงจะก่อเกรียนไปก็ตีกันไม่นานหรืออาจไม่มีคนออกมาเล่นด้วย ส่วนเรื่องเทพไม่เทพนี่ไม่รู้เหมือนกัน อาจเป็นแบบที่มึงบอก เพราะส่วนใหญ่พวกที่ดังมากมันไม่ค่อยมีเวลา ต้องคอยเขียนให้ทันขายตลอด ยกเว้นจะเป็นพวกติดงาน,ดองนิยาย ถึงจะแอบมาเล่นในนี้ได้

95 Nameless Fanboi Posted ID:DNmh2mhuC2

>>92 กูเขียนจุดประสงค์ที่กูเข้ามาชัดเจนไปแล้ว นักเขียนคนอื่นๆที่เก่งๆมันก็เข้ามาในจุดประสงค์เดียวกัน ส่วนเรื่องแนะนำให้ความรู้พวกมึง มันก็เหมือนกับการโปรดสัตว์อะ อารมณ์ดีกูก็โปรด อารมณ์ไม่ดีกูก็อ่าน หัวเราะ แล้วสมเพช บางเรื่องพวกมึงก็เหมือนบัวใต้น้ำ เวิ่นเว้อ ไม่ได้มองความจริง เอาง่ายๆให้พูดตรงๆก็พวกขี้แพ้เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แล้วเอาจริงๆ มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยนะที่กูจะต้องมาแนะนำให้คนอื่นขึ้นมาเป็นคู่แข่งกูน่ะ นอกจากช่วงอารมณ์ดีอย่างโปรดสัตว์ แค่นั้นจริงๆ อาจจะแรงไป ก็ดูอย่างตอนนี้สิ ขนาดกูแสดงตัวออกมาบอกมึงชัดๆ คนที่มีดุดมการณ์แบบกูแสดงตัวออกมา มึงก็ยังไม่เชื่อ ดังนั้นต่อให้แนะนำวิธีการมึงไป มึงก็ไม่รู้จะเชื่อหรือเปล่า จะทำไปทำไม

นิยายกูเขียนมาหลายเรื่อง ทุกเรื่องก็วิวหลักหลายแสนหมดนะ หลักล้านก็มีไม่ใช่แค่เรื่องเดียว [นับแค่เว็บเดียว] ถ้านับเว็บอื่นรวมด้วยเนี่ย หลักล้านมันก็ไม่ได้ยากเลย มันมีวิธีการ มีสูตรสำเร็จ ก็แค่ถ้าสกิลการเขียนมึงไม่กาก ไม่ขี้เกียจ หรือแต่งเรื่องเพ้อเจ้อจนเกินไป มันก็สำเร็จได้ไม่อยากหรอก

96 Nameless Fanboi Posted ID:DNmh2mhuC2

>>93 อีกอย่าง การเข้ามาส่องโม่ง หรือตอบโม่ง มันไม่ได้เปลืองเวลาชีวิตอะไรขนาดนั้น มึงว่าไอ้พวกนักเขียนที่มันดังๆต้องปั่นงานกันเนี่ย มันปั่นงานทั้งวันทั้งคืน? เพ้อเจ้อ มันก็มีดูหนังฟังเพลง อ่านนิยายคนอื่น ใช้ชีวิตปกตินั่นแหละ แล้วทำไมแค่เข้ามาส่องโม่งเนี่ย มันจะทำไม่ได้? บางคนที่เข้ามา ผลงานมันก็มีเคยโดนพวกมึงสับไปแล้วด้วยซ้ำ แค่มันไม่ได้แสดงตัว หรือมึงไม่รู้ว่ามันเข้ามาอ่าน โม่งใครจะเข้ามาส่องก็ได้นี่ แล้วทำไมมึงถึงคิดว่าคนเก่งๆมันจะไม่เข้ามากันวะ? บางอารมณ์นักเขียนมันก็อยากจะถูกด่างาน อยากจะอ่านคำติของคนอื่นเหมือนกัน กูก็บอกได้แค่นี้

97 Nameless Fanboi Posted ID:DNmh2mhuC2

กูขอหายเข้ากลีบหีหมากลับดาวหมาน้อยเหมือนเดิมนะ บาย

98 Nameless Fanboi Posted ID:4LauG2DozU

โม่ง... โม่ง never changes จริงๆ

ว่างทีไรใส่กันเองตลอด

99 Nameless Fanboi Posted ID:plXue+/DUP

มืออาชีพบางคนไม่ว่างจะอวดชาวบ้านกันหรอก รายได้ก็ไม่อวด ยกเว้นมีคนจะขอสัมภาษณ์

100 Nameless Fanboi Posted ID:o6EjFmwUoY

อย่าให้อาหารโทรลสิสู ป่านนี้มันไปนั่งขำคิกคักละทำให้ออกมาดิ้นได้งี้ กูเจหลายห้องละจะมีโทรลมาปั่นประมาณนี้พล่ามไรโง่ๆให้คนมาตอบมาดิ้นตาม

101 Nameless Fanboi Posted ID:EVB+eWX77O

>>100 กูอ่านแล้วก็รู้สึกเหมือนกันว่ามันไม่ใช่คนที่เล่นมู้นี้บ่อยๆ วิธีการพิมพ์มันไม่คุ้น ตั้งแต่ตอนที่โทรลเรื่อง "พวกมึงยังลงนิยายในเว็บดักดานนี่อยู่อีกเหรอ" แล้ว เหมือนแวะมากวนตีนให้คนหัวร้อนเล่นเฉยๆ

102 Nameless Fanboi Posted ID:h2BXMAFGSa

รอเรื่องใหม่คงหลังสงกรานต์

103 Nameless Fanboi Posted ID:7MuJtRvdiF

>>102 ทีแรกคิดว่าไม่มีใครอยู่เลยไม่สับ แต่มึงโผล่มา งั้นเดี๋ยวกูมาสับ

104 Nameless Fanboi Posted ID:7MuJtRvdiF

เด็กวัด สร้างตำนานลุยโลกแฟนตาซี
https://writer.dek-d.com/snoopy147/writer/view.php?id=1772080

ชื่อเรื่องแม่งคุ้นๆ ใช่ไหม ไม่ได้คิดไปเองแน่นอนเพราะเรื่องนี้คือเจ้าของเดียวกับเรื่อง "สุดยอดพ่อบ้าน HERO กู้โลก " นามปากกา "สองดาวจุด" นั่นเอง เงงๆๆ พอเห็นนามปากกาก็นึกขึ้นได้ว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์นักเขียนได้รับการโปรโมตหน้าเพจ แม่ง... ขอเวลาทำใจหน่อย เห็นจำนวนตอนเยอะๆ กับความเห็นนักอ่านที่บอกว่าเมื่อไหร่จะจบหรือเมื่อไหร่จะกลับมาแต่งต่อแล้วกูใจคอไม่ดี ขอร้องล่ะ อย่าเป็นแนวเทพซ่าวนลูปเลยนะ สกิมดูคร่าวๆ เพราะเห็นว่าตอนมันสั้นปรากฏว่าเกลียดอะไรก็ได้อย่างนั้นอีกแล้ว ต่างโลกเทพซ่าลมปราณและการไปเกิดในตระกูลขุนนางฝรั่งตามเคย ไอ้แย่เม็ด

ปกนอกเหมือนทำขึ้นง่ายๆ ด้วยภาพจากเว็บแจกภาพฟรีเอามาใส่ชื่อเรื่องด้านบนกับผู้แต่งด้านล่าง มีความใช้ภาพคนในผ้าคลุมหันหลังมองไปยังปราสาทที่อยู่ไกลลิบ เจ้าของเรื่องอาจอยากได้ปกสไตล์ลึกลับหน่อย เพราะหน้าปกเวอร์ชั่นที่เอาไปลงไว้ในฟิคล็อคกับธัญฯ ก็เป็นรูปตัวละครเอกหันหลังให้คนดูเหมือนกัน (เปลี่ยนแค่ BG ที่กลายเป็นภาพน้ำตกกลางป่า) คงไม่ขอพูดอะไรมากนอกจากปกกับชื่อเรื่องดูไม่มีความเกี่ยวข้องกัน และไม่สร้างแรงดึงดูดให้อยากอ่านเท่าไหร่ แต่กูพอเดาได้ว่าคนที่เข้ามาอ่านส่วนใหญ่เห็นคำว่าเด็กวัดแล้วมันสะดุดตา ก็เก็บไว้ใช้เป็นตัวอย่างวิธีตั้งชื่อก็แล้วกัน เพราะคำที่มันโผล่มาไม่บ่อยมักโดดเด่นและจำได้ง่ายกว่าคำโหลๆ แต่อย่าให้ถึงขั้น "ระบบเด่นชัย" แบบคราวก่อนก็แล้วกัน

คำโปรยสไตล์เล่าเรื่องย่อ ตัวเอกตายห่า พระเจ้าให้โอกาสไปเกิดใหม่แล้วพัฒนาบ้านเมือง อืม... ข้ามแม่ง ไม่ต่างอะไรกับเรื่องข้างบนเลย ใน Tag 4 อันกูมาสะดุดกับคำว่าเวทย์มนต์ เคยสอนกันมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนน่าจะสัก 100 รอบ งั้นเอาอีกสักรอบคงไม่เป็นไร ว่าคำๆ นี้ที่ถูกต้องคือ "เวทมนตร์" ความหมายของ มนต์ กับ มนตร์ คืออันเดียวกันแค่มันเป็นบาลีกับสันสกฤต และมนต์มักใช้ในบทสวดของพุทธ สำหรับศาสนาอื่นหรือคาถาอาคมจะใช้มนตร์เป็นหลักโดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวกับศาสตร์มืดเช่น มนตร์ดำ ถ้าหลวงพี่แถวบ้านไม่เคยตะโกนกลางงานบุญว่า "กิก้าแฟลร์!" "ไลท์นิ่งโบลต์!" หรือ "ไฟเออร์บอล!" ก็แปลว่าถูกแล้ว เพราะชื่อพวกนี้เป็นเวทมนตร์ ส่วนบทสวดที่พระสวดมันเป็นพระพุทธมนต์

ถ้าแยกเวทกับเวทย์ไม่ออกก็ให้นึกถึงคำว่าวิทย์กับเวท เพราะวิทยาศาสตร์กับเรื่องเหนือธรรมชาติอย่างเวทมนตร์ มันอยู่ตรงกันข้าม ดังนั้นเวทจะมี ย์ เหมือนกับวิทย์ไม่ได้ ส่วนมนต์กับมนตร์ก็แยกเป็นพระกับหมอผี อันนึงต้องสวดมนต์อันนึงใช้มนตร์ดำ อะ จบการสอนครั้งที่ 101 ไว้เพียงเท่านี้

ปกรองมีแจ้งข่าวเรื่องการเอาไปลงที่เว็บอื่น คำขู่เกี่ยวกับกฏหมายทรัพย์สินทางปัญญา นิสัยใจคอกับความเก่งของพระเอกที่เทพทรูนิดๆ (จริงหราาา) และแผนที่วาดเองด้วยโปรแกรม Paint เห็นแล้วรู้สึกว่าไม่ต้องมียังจะดีเสียกว่า เพราะเดี๋ยวนี้เค้าใช้ Inkarnate ทำกันหมดแล้วนะรู้ยัง?

บทที่ 1 บทนำ

เล่าเรื่องด้วย POV 1 ว่า ผม "เมฆา รักษ์กำเนิด" หรือ "น้องเมฆ" เกิดมากำพร้าอาศัยอยู่ในวัดจนเปลี่ยนอาชีพเป็นเด็กวัดไปโดยปริยาย นอกจากจะเรียนหนังสือกับพระแล้ว พระยังสอนวิธีรำดาบอาธมาฏให้ด้วย เรียนดาบเสร็จก็ไปเรียนมวยต่อ ด้วยความชำนาญของนักเขียนและการจัด pacing ขั้นเทพ อยู่ดีๆ หลังไอ้เมฆสวดมนต์ก่อนนอนจบ คำว่า "ปัจจุบัน"(ตัวหนา) ก็ปรากฏขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยพร้อมการ time skip 10 ปีรวด จากไอ้เมฆเด็กโปกกลายเป็นนายเมฆอายุ 18 ปีที่กำลังจะขึ้นรถเมล์ไปเที่ยวห้าง ระหว่างที่รอรถอยู่เกิดการวิ่งราวทรัพย์ ไอ้เมฆเห็นโจรวิ่งผ่านมาเลยใช้วิชามวยเตะก้านคอเข้าให้ พี่โจรเซเพราะเมาตีนจนไถลออกไปยืนบนถนน ด้วยความประเสริฐของพระเอกเห็นอย่างนั้นก็กลัวว่าพี่โจรจะโดนรถชนตาย เลยรีบวิ่งไปคว้าเสื้อกระชากพี่แกกลับเข้ามา แต่เรื่องกลายเป็นว่าไอ้เมฆของเราดันลื่นแอ่งน้ำบนฟุตพาธล้มลงไปบนถนนแทน ประกอบกับรถเมล์สาย 8 ขับมาถึงป้ายด้วยความเร็วสูงพอดี เลยมีการ Isekai เกิดขึ้นหลังโดนรถทับจนหัวเละ

คือ... กูพยายามขยายความให้มันดูยาวแล้ว เพราะเนื้อหาจริงๆ ในตอนมันสั้นกว่าเรื่องก่อนหน้านี้อีก จัดได้ว่าอยู่ในเขตหมอยมดอีกนิดเดียวจะไปถึงหมอยเต่าทอง ได้แต่หวังว่าเพราะมันเป็นบทนำหรือเปล่าวะ มันถึงได้สั้นขนาดนี้

105 Nameless Fanboi Posted ID:7MuJtRvdiF

บทที่ 2 ภารกิจจากลุง

วิญญาณไอ้เมฆไปโผล่ในพื้นที่ประหลาดที่นักเขียนไม่ได้บอกว่าประหลาดยังไง รู้แค่มีประตูสลักลวดลายงดงามไว้ เปิดประตูไม่ออกเลยยืนรออยู่ชั่วโมงหนึ่ง ก่อนที่ตาลุงผมทองจะเปิดประตูออกมาคุยด้วย ลุงบอกว่าที่นี่เป็นช่องว่าระหว่างมิติ เอาไว้ตัดสินว่าใครจะต้องไปนรกหรือสวรรค์ แต่มึงไม่ต้องไปทั้งคู่เพราะกำลังจะโดนกูส่งไปเกิดต่างโลกที่มีทั้งเวทย์มนต์ ลมปราณ และพลังจิต คนในโลกนั้นรู้จักแค่เวทย์มนต์ (ขัดใจเหี้ยๆ แต่ก็ต้องเขียนตามมัน) มึงมีหน้าที่ไปเผยแพร่ข้อมูลว่ายังมีปราณกับพลังจิตอยู่อีกด้วย แล้วไอ้ 2 อย่างนี้มึงก็มีอยู่ในตัวอยู่แล้วจากการเรียนวิชาดาบกับเรียนต่อยมวย (ห๊ะ มึงว่าอะไรนะ) ยังไม่ทันได้ถามอะไรต่อ ลุงก็ต่อยหน้าไอ้เมฆจนวูบ ได้สติอีกทีก็คือตอนกำลังไหลออกมาจากกีคุณแม่ คือจำอะไรได้หมดแต่พูดไม่ได้เพราะอยู่ในร่างเด็กทารก พ่อใหม่ตั้งชื่อไอ้เมฆว่า "คลาวด์" เออ... แปลว่าก้อนเมฆพอดี ละชื่อนี้ก็โหลสัสๆ เลยนะ สำหรับ Genre นี้ ไอ้ประเภทอิเซไคมาเกิดใหม่ในตระกูลขุนนางแต่มีลมปราณระดับพลังแบบจีนเนี่ย พวกมึงอ่านเดวาวิซาร์ดกับนิยายของไอ้ตุ๋นกบแล้วเอามาเขียนบ้างกันทุกคนเลยหรือไง ทำไมพระเอกแม่งชอบชื่อคลาวด์วะ

บทที่ 3 ฝึกอ่านหนังสือกับท่านแม่

ไอ้คลาวด์อวดว่าชาตินี้พี่โคตรเทพ ฉลาดเกินวัยทั้งเรื่องการอ่านเขียนและการเดินที่เร็วกว่าเด็กคนอื่นตั้ง 2 ปี แต่ยังไม่รู้ภาษาของโลกนี้เท่าไหร่นัก เลยไปขออ่านหนังสือกับแม่ แม่ก็จัดให้ลูกชายด้วยการอ่านนิยาย BL ต่างโลกให้ฟัง พี่คล้าวบอกกูแม่งพลาดแล้ว สุดท้ายเลยต้องนั่งฟังบทรักดูดปากเด้าตูดของเหล่ายอดชายไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม พอได้จังหวะเลยหนีด้วยการอ้างว่าจะไปเจอพ่อ พ่อก็งานยุ่งต้องทำบัญชีส่งเมืองหลวง ดูจากตัวเลขคร่าวๆ ก็เห็นว่าเมืองที่พ่อดูแลอยู่ประชาชนรายได้ไม่ค่อยดีนัก แล้วจบตอนไปดื้อๆ

บทที่ 4 วันวานของนาเดียร์&เอริก

เปลี่ยนมาเล่าเกี่ยวกับพ่อและแม่ของพี่คล้าวด้วย POV 1 ของแต่ละคนในรูปแบบ

ข้าชื่อ...(ชื่อแม่)
(ความหลังก่อนมีพี่คล้าว)

ข้าชื่อ...(ชื่อพ่อ)
(ความหลังก่อนมีพี่คล้าว)

จบตอนที่น่าจะยาวแค่ 1,500 ตัวอักษร

บทที่ 5 เริ่มวางแผนพัฒนา

เนื้อหา 2 ใน 3 ส่วนแรกของตอนเป็นพี่คล้าวขอไปเที่ยวชายทะเลกับพ่อ พบว่าการประมงแม่งล้าหลังมากๆ อาหารก็มีแต่ขนมปังและกับข้าวรสชาติจืดชืด พี่คล้าวเกิดความคิดดีๆ ว่าอยากทำเครื่องปรุงรสขึ้นมา เลยขอให้เด็กรับใช้ปืนขึ้นไปตัดช่อดอกมะพร้าวละเอากระบอกเหล็กไปรองไว้ พอได้น้ำหวานมาเต็มกระบอก ก็ขอให้พี่ชายคนเดิมไปกรอกน้ำทะเลใส่กระบอกมาให้ด้วยอีกสัก 2-3 กระบอก พร้อมกับอธิบายในความคิดว่าจำวิธีทำน้ำตาลมะพร้าวมาจากการไปเที่ยวสมุทรสงครามกับหลวงพี่ในวัด ส่วนเกลือก็ใช้น้ำทะเลทำเอาแต่อาจต้องรอถึง 2 สัปดาห์กว่าจะกลายเป็นเกลือ (โลกนี้มันมีวิธีการต้มอยู่นะพี่คล้าว) อีกอย่างที่ต้องพูดคือปริมาณน้ำหวานที่ใช้ก่อนจะเคี่ยวจนกลายเป็นน้ำตาลปี๊บ ขนาดน้ำหวานเต็มกระทะโรงทานยังเคี่ยวแล้วได้น้ำตาลแค่ 5 ถ้วยตวง น้ำหวานกระบอกเดียวของพี่คล้าวจะได้น้ำตาลสักเท่าไหร่กันเชียว แต่ก็ช่างแม่ง บางทีน้ำหวานต่างโลกอาจเข้มข้นกว่า หรือมีความหนาแน่นมากกว่าจนได้น้ำตาลออกมาเยอะก็ได้

เนื้อหาอีก 1 ส่วนที่เหลือเป็นการเล่าของพ่อพี่คล้าวผ่านการตัดฉากด้วยคำว่า "มุมมองเอริก"(ตัวหนา) เกี่ยวกับการเดินทางมาเมืองชายทะเลครั้งนี้ แล้วก็ไม่มี cliff hanger เหมือนเคยแถมตอนยังสั้นอีกด้วย

106 Nameless Fanboi Posted ID:7MuJtRvdiF

การบรรยาย : เล่ารู้เรื่องแต่ติดกวนและหนักไปทาง tell พยายามจะให้ดูฮาแต่มุกแม่งแป๊กเหี้ยๆ อ่านแล้วนึกถึงการแทรกความเห็นของนักเขียนเข้าไปในบทบรรยาย คล้ายๆ ที่พวกนักเขียนสาวของค่ายแจ่มเสียวชอบทำกัน จนไม่สามารถสัมผัสถึงความเป็นยุคกลางผ่านตัวละครเอกได้ แต่ความรู้สึกพวกนี้ดันชัดเจนขึ้นเมื่อถึงบทเล่าเรื่องของพ่อกับแม่ที่เขียนด้วยตัวเอียง อาจเป็นเพราะสองคนนี้เป็นคนต่างโลกจริงๆ ส่วนพี่คล้าวใส้ในยังคงเป็นเด็กวัด บทสนทนาทำได้ปานกลาง อ่านแล้วแยกได้ว่าใครเป็นใคร มีเรื่องเดียวที่รู้สึกแปลกๆ คือพี่คล้าวแกเทพเร็วเกิน 3 ขวบก็เริ่มติดตามพ่อไปคิดแผนพัฒนาแล้ว น่าจะให้อายุเยอะกว่านี้อีกสักหน่อย ขืนไปทั้งๆ ที่อายุแค่นี้เดี๋ยวแม่งป่วยตายกันพอดี แต่ก็ช่างแม่งแล้วกัน นิยายแฟนตาซีอะไรก็เป็นไปได้หมดแหล่ะ

เป็นอีกเรื่องที่ตอนสั้นเหี้ยๆ แต่ยัดข้อมูลไม่เยอะเท่าเรื่องก่อน สาระสำคัญเลยสามารถสรุปออกมาได้ในประโยคเดียว เช่น "ไปเที่ยวทะเลกับพ่อ" ในตอนที่ 5 หรือ "โดนรถทับตายห่า" ในตอนที่ 1 ด้าน pacing แย่เข้าขั้นจัญไร อยากจะตัดฉากก็ตัดแบบไม่สน 4 สน 8 ใดๆ โดยเฉพาะตอนที่ 1 เนี่ย กูรับไม่ได้ ไหนจะเรื่องการแทรกความหลังของพ่องกับแม่งในตอนที่ 4 อีก ก็ทำได้แหล่ะแต่มันดูไม่มีชั้งเชิง ไม่มีกึ๋น มึงเล่าผ่านการเปิดประเด็นด้วยคำถามของบุคคลที่ 3 หรือเหตุการณ์ปัจจุบันที่ทำให้เกิด nostalgia ก่อนละค่อยเล่าไม่ได้เหรอวะ ถ้ากูเป็นครูนะ คะแนนเต็มเท่าไหร่กูจะให้แค่ครึ่งเดียว แถมเป็นครึ่งที่ฝืนใจให้ด้วย ทำตัวมือสมัครเล่นเกินไปอะแบบนี้

ตัวละคร : 5 ตอนสั้นที่เกินไป ทำให้กูแทบจะจำอะไรเกี่ยวกับตัวละครไม่ได้ รู้แค่ความเป็นมาของพี่คล้าวชาติก่อน กับพ่อ-แม่และเด็กรับใช้ที่กูจำได้แค่ชื่อเท่านั้น พยายามสร้างมิติให้ตัวละครเอกผ่านการอวยของตัวละครอื่นๆ ว่าอัจฉริยะอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งก็อ่อนหัดพอๆ กับการตัดฉากที่กูบ่นไปในย่อหน้าก่อนๆ ความเข้าใจผิดใหญ่หลวงข้อหนึ่งของการแต่งนิยายต่างโลก คือคิดไปเองว่าการทำให้ตัวละครรองมัน Hype ตัวเอกมากๆ หรือพยายามทำให้ตัวเอกดูพิเศษกว่าชาวบ้านแล้วคิดว่านั่นจะทำให้ตัวละครน่าสนใจ สองอย่างนี้เป็นอะไรที่บ้าบอสุดๆ ใช่ มันง่ายที่จะนำเสนอแบบนี้แต่มันมีวิธีที่ดีและได้ผลกว่าอยู่ อย่างการสร้างสถานการณ์อะไรสักอย่างขึ้นมา แล้ว show ทางอ้อมเลยว่าตัวละครมันเจ๋งยังไง เอาง่ายๆ อย่างเรื่องภาษา ถ้าเปลี่ยนจากมุกแม่อ่านนิยายยาโอยให้ฟัง ไปเป็นพี่คล้าวเรียนการเรียน ก ข ค ต่างโลกขั้นพื้นฐาน แล้วแอบฝึกอ่านหนังสือคนเดียวตอนกลางคืนจนพูดได้คล่องเอง แบบนี้มันยังจะดูมี "อะไร" มากกว่าฟังแม่พรรณาเกี่ยวกับพระเอก-นายเอกสอยดากกันเสียอีก

พวกมึงแยกออกใช่มั้ยระหว่าง "ทุกคนตกใจที่เขาหลบหลีกเก่ง" กับ "เหล่าศัตรูโจมตีเข้ามาจากทุกทิศทาง แต่ไม่สามารถสร้างบาดแผลให้เขาได้" หรือไม่ก็ "เขาแข็งแกร่งสุดๆ" กับ "ขนาดคุณโรเบอร์โต้ที่เป็นหัวหน้ายังถึงกับตัวสั่นหลังจากได้ประลองกับเขา" พลังของการนำเสนอและการใช้คำมันต่างกันขึ้นอยู่กับวิธีสื่อ นิยายเรื่องนี้ทำให้กูพูดได้ว่า "ผ่าน" แต่ทำให้กูพูดว่า "สุดยอด" ยังไม่ได้ ขนาดคำว่าผ่านกูยังต้องฝืนใจพูดเลยอะคิดดูเองก็แล้วกัน

107 Nameless Fanboi Posted ID:7MuJtRvdiF

เนื้อเรื่อง : ต่างโลก พระเอกเทพ แต่เทพยังไงยังไม่รู้ รู้แต่ว่ามีเควสจากลุงพระเจ้าให้มาพัฒนาบ้านเมืองและสอนชาวโลกใช้พลังจิตและปราณเป็น ถ้าวิธีการเดินเรื่องยังเป็นแบบนี้ไม่เปลี่ยนแปลง กูว่า 400 กว่าตอนที่เห็นอยู่นี่อาจยังไปไม่ถึงครึ่งเรื่องด้วยซ้ำ ถึงตอนนี้จะยังไม่มีระดับพลัง แต่การใช้คำว่าปราณในเนื้อหาทำให้กูเดาได้ว่าคงมาแนว Wuxia แบบข้าม setting อีกแล้ว หลายอย่างรวบรัดเกินไป อยากโชว์พระเอกเก่งแต่ใส่ความ Hype ของคนรอบข้างให้ตั้งแต่มันแค่ 3 ขวบ พวกไลท์โนเวลยังมีการพูดถึงช่วงแรกเกิดแค่ไม่นาน แล้ว skip ไปเป็นตอนโตขึ้นมาประมาณนึงเพื่อให้โตพอจะแสดงความสามารถได้ ตอนเป็นเด็กวัด skip 10 ปีได้ แต่ทำไมพออิเซไคมาแล้วข้ามสัก 3-5 ปี ไม่ได้วะ กูไม่เข้าใจจริงๆ เรื่องความยาวตอนนี่ก็เหมือนกัน มีโม่งบางคนพูดถึงว่าสั้นๆ นี่แหล่ะดี เพราะน่าจะเหมาะกับการอ่านบนมือถือ แต่เรื่องนี้สั้นเกินไป ไถทีเดียวก็เจอปุ่มตอนต่อไป ความต่อเนื่องในการเล่าเรื่องเลยไม่มี

จุดเด่น : ไม่ค่อยเสียเวลาชีวิตเพราะตอนแม่งสั้น มีมุกฝืดๆ ให้อ่านตลอดทางไม่จำเจ คำผิดมีไม่มาก (ยกเว้นคำว่าเวทย์มนต์นี่มาตลอดเลยค่ะอีสัส)

จุดด้อย : ตอนสั้น เป็นผลงานของมือใหม่ที่ค่อนข้างมักง่าย จัดจังหวะและ pacing แบบตามใจกู พล็อตซ้ำซากเหมือนนิยายต่างโลกเรื่องอื่นๆ ในเว็บเดียวกัน แต่การเดินเรื่องช้าสัสหมากว่าเยอะจากความสั้นของแต่ละตอน

คะแนน : อยากทำน้ำตาลปี๊บกับนาเกลือ/10

ความเห็นส่วนตัว : เรื่องนี้ได้ รบดจ. มาจากนิยายแนวเดียวกับเรื่องแรกของพี่ตุ๋นกบ ส่วนเรื่องสุดยอดพ่อบ้าน HERO กู้โลก ก็มาจาก solo leveling แบบที่พระเอกเคยทำอาชีพพ่อบ้านทำความสะอาดมาก่อน จังหวะการเล่าและการใช้คำน่าจะหลอกขายได้เฉพาะกับเด็กเล็กเท่านั้น ขนาดความเห็นในแต่ละตอนยังมีนักอ่านมาแนะนำเลยว่าบางอย่างมันไม่ถูกต้อง เป็นอีกครั้งที่กูต้องผิดหวังกับนิยายแนะนำจากหน้าเพจเด็กดวก คือกูมีความหวังนะว่าในสักวันจะต้องมีอยู่สักเรื่องแหล่ะที่สามารถทำให้กูรู้สึกพึงพอใจได้ กูเองก็ยังรอคอยนิยายเรื่องนั้นอยู่ แล้วใน list ที่สะสมนิยายรอสับไว้คงมีอีกหลายเรื่องที่มาจากการแนะนำของเว็บ ช่วยลุ้นให้กูทนสับไหวจนกว่าจะครบทุกเรื่องด้วยเถ้อะ

108 Nameless Fanboi Posted ID:7MuJtRvdiF

ปล.นิยายเรื่องนี้กับสุดยอดพ่อบ้านโดนดองมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน คงเดากันได้ไม่ยากใช่ไหมว่าเป็นเพราะอะไร เออ ก็อย่างที่พวกมึงคิดกันอยู่นั่นแหล่ะ

109 Nameless Fanboi Posted ID:DLCAafOXF/

ถ้าจะสับนักเขียนคนนี้นะ มึงจัดเรื่องล่าสุดเลย ที่มันเขียนแนวจีนโบราณอ่ะ อันดับสูงด้วยนะมึง top20 หมวดรวม ไม่ธรรมดา ตามเทรนด์จีนแบบนี้ร่ำรวยแน่ๆ

110 Nameless Fanboi Posted ID:G3PwWmt0TY

เออว่ะ อยากดูการสับแนว j3k โบราณบ้าง เผื่อจะได้เทคนิคว่าทำไมพวกนี้ถึงติดท็อป หรือเรื่องไหนทำไมถึงไม่ปัง ทั้งที่เขียนเนื้อเรื่องเป็นแนวกระแสเหมือนกัน

111 Nameless Fanboi Posted ID:7MuJtRvdiF

>>109 >>110 งั้นก็ลุ้นให้กูว่างภายใน 5-6 ชั่วโมงข้างหน้า ถ้ากูปลีกตัวจากการเฝ้า ER มาได้ กูอาจลองแวะไปดู

112 Nameless Fanboi Posted ID:G3PwWmt0TY

>>111 เอาใจเราไปเลย

113 Nameless Fanboi Posted ID:G3PwWmt0TY

ดูแลคนไข้ไปก่อนเถอะ ว่างจริงๆค่อยมา ว่าแต่ช่วงสงกรานต์ปีนี้อุบัติเหตุยังเยอะอีกเปล่า อุตส่าห์ห้ามไม่ให้สาดน้ำกันแล้ว

114 Nameless Fanboi Posted ID:7MuJtRvdiF

>>113 กี่ปีๆ ก็เหมือนกันหมดนะ เพราะแม่งแดกเหล้าแล้วขับ-ขี่รถกัน อุบัติเหตุเยอะเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือเป็นโควิดด้วย พอเมาแล้วมันก็ไม่รักษาระยะห่าง กอดคอกันร้องเกะ กระดกเหล้าแก้วเดียวกันไปอีก ปีนี้เลยคิดว่ากราฟแดงไตรมาส 2 น่าจะขึ้นกว่าปีก่อนๆ เพราะมียอดตายโควิดบวกเข้ามาด้วย

115 Nameless Fanboi Posted ID:NqVq6qMzQW

จัดให้เป็นพิเศษตามคำขอของ >>109 กับ >>110

ฮัวเหมยสุดยอดตำนานเจ้าเมืองหญิง
https://writer.dek-d.com/snoopy147/writer/view.php?id=2283614

สำหรับคนที่จงใจขายแนวนี้ ชื่อเรื่องถือว่าตั้งมาได้ดี ปกนอกดูมีการพัฒนาเพราะช่วยสื่อถึงเนื้อเรื่องว่าอาจเป็นการบริหารเมืองด้วยการเพาะปลูก (ช่วงนี้แนวทำฟาร์มยิ่งฮิตๆ ด้วย) คำโปรยมันล้นไปบ้างแต่กูว่าใช้หลอกล่อให้คนเข้ามาอ่านไหวอยู่ ภาพรวมคือดีขึ้นในหลายๆ ด้าน บางทีกูอาจด่วนสรุปเองในเรื่องที่แล้วเพราะตอนนั้นนักเขียนมันกำลังหัดแต่ง บางทีเวลาที่ผ่านมาอาจทำให้เจ้าตัวพัฒนาขึ้นได้ เดี๋ยวเราค่อยมาดูกันว่าอะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้มันขึ้นมาติด Top 20 ได้สำเร็จกันแน่

ใช้ Tag ได้ชัดเจนตรงกลุ่มลูกค้าดีมาก ปกรองส่วนแรกเป็นคำเตือนเกี่ยวกับกฏหมายทรัพย์สินทางปัญญาเหมือนเคย ส่วนกลางเป็นเรื่องย่อว่าตัวเอกมันโดนทะลุมิติมาได้ยังไง แล้วส่วนท้ายเป็นหน้าปกแบบขยายจากไอคอนซ้ายบนลงมาให้เห็นชัดๆ อีกรอบ รอบนี้นักเขียนมันเกริ่นนำเกี่ยวกับเซตติ้งและความเป็นมาก่อนจะเริ่มเรื่องตั้งแต่บนปกรอง วิธีนี้ทำให้ประหยัดเวลาไปได้ค่อนข้างมาก เพราะถ้าเล่าได้ชัดเจนและกระชับก็ไม่จำเป็นต้องมีบทนำ ทำให้สามารถเข้าสู่เนื้อหาได้ทันที

ตอนที่ 1 พูดคุยกับนักเขียน

ก็แนะนำตัวเองเล็กน้อย บอกว่าเรื่องนี้เรื่องใหม่ครับ ส่วนอีก 2 เรื่องที่เขียนก่อนหน้านี้ (ศึกชิงจ้าวยุทธ กับ ผี+หมอ) ขอดองไปก่อนเพราะพล็อตเรื่องนี้มันโผล่มาแล้วทำให้เรื่องพวกนั้นตัน (Bruh...) ถัดลงมาเป็นหน่วยชั่งตวงวัด ค่าเงิน กับชื่อเรียกยามต่างๆ ตอนแรกกูหลอนๆ นึกว่าจะมีระดับพลังด้วย แต่โชคดีที่ไม่มี ก็คงจะเป็นแนวทะลุมิติเพื่อสร้างความเจริญในยุคล้าหลัง (แบบไม่มีดราม่าผัวนิสัยเหี้ยมาเป็น Plot device เหมือนเรื่องอื่นๆ) ด้วยความรู้ยุคใหม่นั่นแหล่ะ

ตอนที่ 2 เมืองที่ยากจนที่สุดในแคว้น

เล่าเรื่องด้วย POV 3 เท้าความถึงฉากบนรถเก๋งที่นางเอกใช้เดินทาง อธิบายว่านางเอกชื่อ "เหมย" เป็นสาวน้อยอัจฉริยะเจ้าของธุรกิจที่ทำกำไรได้มหาศาล ระหว่างที่งีบหลับตรงเบาะหลังเลขาควบตำแหน่งคนขับรถก็กรีดร้องขึ้น เพราะเกิดอุบัติเหตุโดนรถบรรทุกพุ่งเข้าชนเต็มๆ รู้สึกตัวอีกทีก็มาสิงร่างเด็กสาวคนหนึ่งที่หน้าตาคล้ายกับตัวเองมาก ผีเจ้าของร่างบอกแค่ว่าฝากดูแลพ่อกูด้วยแล้ววิญญาณก็สลายไป ตอนแรกก็งงๆ อยู่ ก่อนจะเข้าสูตรนิยายทะลุมิติทั้งหลาย นั่นคือปวดหัวแล้วโดนความทรงจำของร่างต้นทับซ้อนจนเข้าใจความเป็นมาทุกอย่าง มีการบรรยายว่าเมืองพ่อกับนางเอกอาศัยอยู่เป็นเมืองทำถ่าน แต่พอสงครามจบลงการใช้ถ่านในโรงหลอมก็ลดตามไปด้วย เนื่องจากไม่มีการหลอมอาวุธและชุดเกราะอีกต่อไป ทำให้สภาพคล่องของเมืองแย่ ข้าวยากหมากแพง ชาวเมืองขาดรายได้ พวกหนุ่มสาวก็ไปหาทำงานต่างเมืองกันหมด น้องเหมยเลยเข้าใจว่าที่ผีคนขับบอกให้ช่วยดูแลพ่อคงหมายถึงเรื่องนี้นั่นแหล่ะ สักพักพ่อน้องเหมยกลับมาพร้อมหมอ แต่น้องเหมยบอกสบายดีแล้วค่ะ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คนขับคนเดิมเพิ่งจะเป็นลมแดดตาย จบตอนที่ 1 ไปแบบเรียบๆ

โอเคทีนี้กูจะบอกว่า ความสั้นของตอนนี่เหมือนกับเรื่องก่อนเลย แต่คราวนี้คนเขียนมันแบ่งส่วนการเล่าเป็น 2 ส่วนสำคัญในแต่ละตอน สไตล์ของ story telling เปลี่ยนจากภาษาวัยรุ่นในเรื่องเด็กวัดมาเป็นนิยายจีนหนัก tell เต็มตัว ก็คงจะอ่านนิยายแปลจีนมาพอสมควรถึงสามารถเลียนแบบให้ออกมาโอเคแบบนี้ได้ เดินเรื่องกระชับไม่มีแวะเยี่ยว บอกเป้าหมายที่เป็นเส้นเรื่องระยะกลางออกมาให้คนอ่านเข้าใจได้ทันที อีกอย่างที่สังเกตเห็นคือไม่มีคำผิดแม้แต่คำเดียว (อาจเป็นเพราะเรื่องนี้มันไม่ต้องเขียนคำว่าเวทมนตร์ด้วยหรือเปล่าวะ)

116 Nameless Fanboi Posted ID:NqVq6qMzQW

ตอนที่ 3 บันทึกรายรับรายจ่าย

บทนี้น้องเหมยหรือ "เสี่ยวเหมย" ในปัจจุบันออกหาข้อมูลเพื่อประเมินสถานการณ์ พบว่าเกิดภาวะเงินเฟ้อในเมืองอย่างหนัก ค่าเงินตกต่ำจนเงินจำนวนเท่าเดิมสามารถแลกสินค้าได้น้อยลงมาก บัญชีรายรับ-รายจ่ายของบ้านก็ติดตัวแดงยาวเป็นหางว่าว ทรัพยากรน้ำมีเหลือไม่มาก อากาศนี่ร้อนเหี้ยๆ จนพวกเกษตรกรเจอภาวะภัยแล้ง เนื้อหาในตอนมีอยู่แค่นี้ คือน้องเหมยตามหาบัญชีกับออกไปเจอปัญหาว่าทำไมเมืองแม่งใกล้จะร้างเต็มที นักเขียนมันโชว์ความเชี่ยวเกี่ยวกับหน่วยชั่งตวงวัด ค่าเงิน เวลา และชั่วยามต่างๆ แบบจีน แล้วมีการวงเล็บต่อท้ายด้วยการแปลงค่าเป็นมาตราชั่งตวงวัดสากล เช่น เค่อ(15 นาที) ยามเว่ย(13.00 - 14.59) หรือ 1 จิน(500 กรัม) ดูแล้วก็เห็นว่ามีการหาข้อมูลมาพอสมควร ต่างกับเรื่องเจ้าแม่ทองหยิบของไอ้เงินบวกที่มั่วนิ่มทุกอย่างชนิดฟ้ากับเหวเลยทีเดียว

ตอนที่ 4 สำรวจเมืองหลิง

เนื้อหาโดยสรุปของตอนนี้คือเสี่ยวเหมยตามพ่อไปซื้อข้าวที่ตลาด พอไปถึงเจ้าของร้านบอกข้าวยังไม่มา เสี่ยวเหมยเลยขอพ่อไปเดินเล่นแถวนั้น มีการบรรยาในสิ่งที่เสี่ยวเหมยพบเจอ เกี่ยวกับความแห้งแล้งของตัวเมืองจนแทบจะปลูกอะไรไม่ขึ้น มีฉากที่นางเอกคุยกับคนตัดฟืนจนได้ข้อมูลมาว่า เมืองนี้ตัดไม้ทำถ่านมากเกินจนป่าเสื่อมโทรม พอไม่มีป่าก็เลยเกิดปัญหาน้ำแล้งตามมา ถึงสงครามจะยุติมานานมากแล้วแต่ป่ามันฟื้นตัวไม่ทันกับจำนวนไม้ที่โดนตัดไป เสี่ยวเหมยได้แต่กุมขมับว่ากูจะทำยังไงดี แล้วจบตอนด้วยการมาถึงของขบวนพ่อค้า เจ้าตัวเลยรีบกลับไปหาพ่อที่ร้านค้าข้าว

ตอนที่ 5 อาหารม้า

เริ่มต้นด้วยการบ่นของพ่อนางเอกว่าข้าวแม่งขึ้นราคาอีกแล้ว พอซื้อขายกันเสร็จน้องเหมยสังเกตเห็นว่าพวกคนในคาราวานเลี้ยงม้าด้วยพืชอย่างอื่นที่ไม่ใช่หญ้า เลยเข้าไปขอดูปรากฏว่าเขาใช้ข้าวโพดเลี้ยงม้าแทน ด้วยความที่แถวนี้มันแล้งเกินหญ้าเลยแห้งตายหมด ก็เหลือแค่ข้าวโพดป่าเนี่ยที่ยังพอหาเด็ดให้ม้าแดกได้ (ถ้าหญ้าตายแล้วข้าวโพดรอดได้ไงวะ) เสี่ยวเหมยเห็นอย่างนั้นเลยขอซื้อข้าวโพดต่อจากพี่บ่าว แต่พี่แกยกให้ฟรีเลย 4 ฝัก เพราะถึงยังไงข้าวโพดพวกนี้ก็ให้ม้าแดกเยอะไม่ได้เดี๋ยวม้าจะท้องผูก ของป่าได้มาฟรีเก็บไว้ได้ไม่นานก็ต้องทิ้งด้วย เลยไม่รู้จะเก็บเงินน้องเหมยไปทำไม จากนั้นสองพ่อลูกก็กลับบ้านมาปรุงอาหารกินกัน น้องเหมยถามพ่อว่าแล้วเจ้าเมืองไปไหน ทำไมไม่มาแก้ปัญหา พ่อเลยตอบหน้าตายมาว่า เจ้าเมืองแม่งตายไปแล้ว น้องเหมยอึ้งแดกแต่เห็นสีหน้าพ่อตอนพูดก็คงไม่ได้ประชดหรือเล่นมุกแหงๆ ราชสำนักพยายามส่งคนมาทำหน้าที่แทน แต่ก็ไม่มีใครทนได้นาน แดกข้าวเสร็จน้องเหมยก็เอาเมล็ดข้าวโพดไปตากแดด เอาไว้เตรียมทดลองปลูกทีหลัง

117 Nameless Fanboi Posted ID:NqVq6qMzQW

การบรรยาย : สำนวนและการเล่าดีขึ้นมากเหมือนเป็นคนละคนกับเรื่องก่อน อ่านบทสนทนา สภาพสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตในเรื่องแล้วรู้สึกได้ว่าแม่งจีนจริงๆ ด้วยวิธีการเล่าแบบแบ่งเนื้อหา 2 ส่วนใน 1 ตอนทำให้คนอ่านตามทันได้สบาย ถึงจะไม่มี cliff hanger เต็มรูปแบบ แต่เนื้อหาท้ายตอนมักจะเชื่อมกับส่วนแรกของตอนต่อมาอยู่แล้ว มันเป็นการกระทำที่เรียกกันว่าเทคนิคแบบ soft tame สำหรับการเล่าเรื่องของนิยายที่ไม่ได้เน้นความตื่นเต้นเร้าใจ และเมื่ออ่านไปนานๆ คนอ่านจะเข้าใจได้เองว่าควรตั้งใจอ่านช่วงท้ายบทเพราะตอนต้นของบทต่อไปมันจะเชื่อมโยงกันเสมอ จังหวะการเดินเรื่องสมดุลไม่เร็วและไม่ช้า นักอ่านสามารถเข้าใจปัญหาและสิ่งที่เกิดขึ้นไปพร้อมๆ กับตัวละครหลักได้ ใช้ความสงสัยว่านางเอกจะแก้ปัญหาต่างๆ ยังไงเป็นเหยื่อล่อให้คนอ่านยอมไปต่อ ถึงจะหนัก tell ไปบ้างแต่สิ่งนี้คือความปกติของนิยายจีนแปลยุคใหม่ไปแล้ว ซึ่งนักเขียนอย่างเราๆ ก็อาจต้องปรับตัวตามสมัยนิยม ดีกว่ายึดติดกับหลักการบางอย่างมากเกินไป จนสร้างนิยายที่ไม่มีใครอยากอ่านขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ตัวละคร : ไม่เด่นเท่าไหร่เพราะเรื่องสไตล์นี้มันเป็นแนว Plot base (เน้นเนื้อหามากกว่าตัวละคร) จากที่อ่านมามันไม่ค่อยพูดถึงรูปลักษณ์ตัวละคร หรืออธิบายตั้งแต่หัวยันหิแบบนิยายแจ่มใสสมัยก่อน เน้นให้จุดสนใจไปตกอยู่กับปัญหาที่ตัวเอกกำลังประสบอยู่แล้วลุ้นว่าจะแก้ไขมันได้ยังไง มากกว่าสนใจว่าปากกระจับ คิ้วเรียวเหมือนคันศรไหม มันมีการอธิบายคร่าวๆ แหล่ะ เช่นตอนที่บอกว่าเสี่ยวเหมยหน้าตาเหมือนน้องเหมยมาก แต่หลังจากนั้นคือไม่มีการพูดถึงหน้าตาอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นพ่อ หมอ หรือลุงขายข้าว

เนื้อเรื่อง : สรุปได้สั้นๆ ว่า ทะลุมิติจากไทยปัจจุบันมาอยู่ในจีนโบฯ บ้านเกิดแห้งแล้ง เจ้าเมืองไม่มี น้องเหมยเลยต้องหาทางทำไงก็ได้ให้ทุกอย่างดีขึ้น แรงจูงใจให้แก้ปัญหายังไม่ชัดเจน เราอาจอนุมานเอาเองได้ว่าเป็นเพราะความทรงจำเดิมของเสี่ยวเหมย คำขอก่อนสลายไปของวิญญาณน้อง หรือเป็นเพราะตัวเอกทนใช้ชีวิตในเมืองที่ร้อนเหี้ยๆ แบบนี้ไม่ได้ อีกหน่อยก็น่าจะใช้ความรู้ยุคใหม่ประดิษฐ์อุปกรณ์มาใช้ พอตั้งตัวได้เมืองก็คงเจริญขึ้นเรื่อยๆ พออุดมสมบูรณ์ข่าวก็ไปถึงหูคนในวังหลวง ที่เหลือกูคงไม่ต้องอธิบายต่อ เพราะเรื่องแนวนี้มันมีความสูตรสำเร็จอยู่ค่อนข้างสูง วัตถุดิบมันเดิมๆ แต่ใครจะปรุงออกมายังไงให้อร่อยต่างหากที่เป็นความแตกต่าง พวกชอบเผ็ดร้อนหน่อยก็อาจไปสายสงครามกับแคว้นอื่นหรือถ้าก้าวหน้ากว่าเมืองหลวงก็ยึดอำนาจแม่งเลย สายละมุนก็อาจไปเขียนเกี่ยวกับความรักต่อ เมืองเจริญจนกลายเป็นเจ้าแม่แล้วยังไง มีผู้มาจีบหรือตัวเองไปอยากได้เขา อะไรพวกนี้อะ

118 Nameless Fanboi Posted ID:NqVq6qMzQW

จุดเด่น : ทำได้ดีขึ้นจากเรื่องที่แล้วทุกด้าน คำผิดไม่มี pacing ค่อนข้างดี เนื้อหาอาจไม่มีความหวือหวาแต่ใช้วิธีอื่นดึงความสนใจจากผู้อ่าน เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของคำว่า simply is the best

จุดด้อย : มาเปิดเรื่องใหม่ทั้งๆ ที่เรื่องเก่าก็คาราคาซัง ทำแบบนี้มากๆ เดี๋ยวผู้อ่านจับทางได้ว่าแม่งคงทิ้งไว้กลางทางอีกแล้วจะเสีย brand loyalty เอา

คะแนน : 7/10 ... อ่านง่ายไม่หนักหัว เล่าเรื่องเข้าใจ รอชมการใช้นวัตกรรมจากโลกสมัยใหม่ได้ในตอนถัดๆ ไป

ความเห็นส่วนตัว : ถึงจะหย่อนยานเรื่องวินัย แต่ฝีมือมันพัฒนาขึ้นจริง ความเปลี่ยนแปลงอาจไม่สุดยอดเข้าขั้นเป็นปรากฏการณ์อะไรขนาดนั้น แต่ดูออกแหล่ะว่าคงศึกษามาเยอะว่าจะเขียนแนวนี้ยังไงให้ปัง สังเกตจากความถี่ในการอัปเดตแล้วมันอัปเร็วนะวันละตอนหรือ 2 ตอนด้วยในวันเสาร์ บางตอนที่เวลาแปลกกว่าเพื่อนคือมันกลับมารีไรท์แล้ววันที่เลยเลื่อนไปไกลจากตอนข้างๆ กัน ความยาวต่อตอนไม่มากแต่เน้นมาทุกวัน ที่สำคัญคือเรื่อง soft tame เนี่ย มันเป็น cliff hanger แบบอ่อนๆ ต้องตอบโจทย์ให้ได้ด้วยว่าทำยังไงถึงจะจูงจมูกคนอ่านสำเร็จ ในกรณีนี้คือลงสั้นๆ ทุกวันเพื่อเก็บทั้งพวกดองไว้อ่านสุดสัปดาห์และพวกที่ว่างมารออ่านต่อเรื่อยๆ ถ้าตอนใหม่มาแล้วจำไม่ได้ก็ย้อนไปอ่านท้ายตอนที่แล้วนิดเดียวก็รู้เรื่อง อย่างที่มีโม่งแถวนี้เคยบอกไว้ว่า ความสำเร็จมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะแค่โชคช่วย ทุกอย่างต้องผ่านการวางแผน การคิดและใช้ข้อมูลหรือสถิติเดิมมาเป็นแนวทาง ทุกอย่างที่ทำต้องสามารถสร้าง effect ไปพร้อมกันได้ ถ้าอย่างใดอย่างหนึ่งไม่โอเคที่เหลือก็พังอยู่ดี

ลงได้ทุกวันแต่เล่าเรื่องห่วยใครจะอยากตามอ่าน เล่าเรื่องดีอ่านเข้าใจแต่คำผิดบานก็ไม่ค่อยเวิร์ค(แต่บางเรื่องก็มีคนทนอ่านนะ) คำผิดไม่มีเนื้อเรื่องสุดยอดแต่สามเดือนมาตอนหนึ่งก็ไม่มีใครอยากรอ ในยุคที่ทุกคนเข้าถึง social media ได้ มือถือคุณภาพปานกลางทุกคนสามารถซื้อได้สบายๆ การแข่งขันมันไม่เหมือนสมัยก่อนแล้ว หลายๆ เพจผันตัวมาทำ daily content เพื่อดึงให้มีคนติดตามต่อเนื่อง กับการเขียนนิยายก็ไม่ต่างกัน ลูกค้าที่เป็นนักอ่านไม่ใช่คนใจเย็นเน้นคุณภาพ แต่เปลี่ยนเป็นเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ที่ไม่ค่อยชอบการรอคอย หน้าที่ของผู้ผลิตอย่างเราๆ เลยต้องหาคำตอบว่าจุดไหนคือจุดที่มันสมดุลและสร้างโอกาสให้เราได้มากที่สุด ถ้ายังไม่รู้เดี๋ยวกูใบ้ให้ก็ได้ แต่พวกมึงก็คงเคยเห็นผ่านๆ ตามาบ้างแล้ว เพราะกูตอบไปค่อนข้างบ่อยเวลามีโม่งใหม่มุดลงมาถามน่ะนะ

119 Nameless Fanboi Posted ID:NqVq6qMzQW

ปริมาณต่อตอนไม่ต้องยาวจนได้มาตรฐานยุคบุกเบิก คนอ่านสมัยนี้เกินครึ่งมีสภาวะสมาธิสั้น เพราะใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ก่อนวัยอันควรจนเป็นเรื่องปกติ อุปกรณ์ที่ใช้อ่านก็ไม่ใช่ PC แต่เป็นมือถือ เขียนยาวเกินเดี๋ยวแม่งรำคาญ ไถหลายรอบก็ยังไม่จบตอนสักที บทบรรยายก็ไม่ต้องลากเยอะ หน้าจอมันก็มีนิดเดียวเดี๋ยวจะกลายเป็นกำแพงอักษร ไอ้เหี้ยบรรทัดใหม่อยู่ตรงไหนนะ ตัวหนังสือแม่งก็เล็กเท่าหีมด เลิกอ่านแม่ง

ถ้าใครติดเขียนตอนยาวก็ซอยตอนไปเลยก็ได้ จากปกติตอนนึงเขียน 3,000 คำ ถ้าขี้เกียจคิดชื่อตอนก็ใส่เป็น (ชื่อตอนอันเดิม) part 1,2,3,4 ซอยมาเหลือตอนละ 800 พอ หรือไม่ก็เอาแค่พอให้ระบบมัน detect ว่าจำนวนคำถึงขีดต่ำสุดแล้วเดี๋ยวมันไม่แจ้งเตือน เว้นบรรทัดตรงไหนได้ก็เว้นๆ ไปซะ จะได้ดูเหมือนว่าตอนยาวทั้งๆ ที่มีอยู่ไม่กี่พัน characters น้องเกรียนบางคนกลับชอบเสียด้วย สบายตาดีเล็งไม่ยากว่าขึ้นบรรทัดใหม่ตรงไหน

ถ้าพี่จะเขียนช่องคำพูดแล้วเว้นบรรทัดเลยก็ได้นะครัฟ ผมแม่งโง่บางทีแยกไม่ออกว่าอันนี้คือคำพูด อันนี้คือกำลังอธิบาย ถ้าอธิบายก็อย่าเกิน 3 บรรทัดนะครัฟ เพราะบนจอมือถือผมมันพื้นที่น้อย จาก 3 ของพี่มันกลายมาเป็น 7 ของผมอะครัฟ ถ้าจะบรรยายเกินก็เหมือนเดิม ช่วยเว้นวรรคทุกๆ 3 บรรทัดทีครัฟ เพราะผมแม่งจ้องจอเยอะจนสายตาไม่ดีต้องขยายตัวอักษรอ่านมันเลยยิ่งยาวครัฟ

ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียศักดิ์ศรี เพราะศักดิ์ศรีมันแดกไม่ได้ ไม่ทำให้ยอดวิวเพิ่มขึ้นด้วย ความภูมิใจในมาตรฐานที่ยืดถือมาตลอดมันกำลังจะทำลายตัวเราเอง เพราะคนอ่านมันเปลี่ยน เราก็ต้องปรับตัวตาม ส่วนเรื่องความยาวหมอยต่างๆ ที่กูเคยเล่นก็ให้คิดเสียว่าเอาฮา จัดระเบียบซะอย่าให้มันสั้นหรือยาวเกินไปในแต่ละตอน ดีเสียอีกซอยได้มากๆ จะได้อัปล่วงหน้าสำรองไปได้ไกลๆ มีเวลาปั่นตอนใหม่เติมเข้าไปได้อีกเรื่อยๆ ซอยจนจำนวนตอนเยอะยอดวิวก็ทวีคูณขึ้นไปตามนั้นอีก มีแต่ได้กับได้จริงไหม คนอ่านมันไม่เหนื่อยหรอกที่ต้องกดคำว่า "ตอนต่อไป" แต่มันเหนื่อยที่จะต้องเลื่อนหน้าจอลงไปลึก ดังนั้นถ้ายังไม่ได้เริ่มทำ ก็ให้หัดซอยตอนได้แล้ว

โอเคจบจากเรื่องความยาวตอนกับการอัปบ่อยก็คือการอยู่ในกระแส ถึงมึงจะไม่ค่อยชอบ แต่ถ้าตอนนั้นแนวไหนกำลังบูม อย่าอายที่จะทดลองเขียน ถึงไม่เคยจับมาก่อน ทุกอย่างมันเรียนรู้กันได้ ปั่นจักรยานไม่เป็นแล้วมึงจะยอมเดินไปตลอดหรือเปล่า ว่ายน้ำไม่เป็นก็ไม่อยากหัดพอถึงเวลาก็ขึ้นอืดไปโผล่ปากอ่าว การลอกเลียนมันไม่ผิด ถ้าอยากรู้ว่าเขาเขียนกันยังไง ก็ไปหาแนวนั้นมาอ่าน อ่านเยอะๆ จนรู้ว่าคนอ่านมันชอบให้เราเซอร์วิสแบบไหน เขียนยังไงแล้วมันอ่านแล้วจะฟินน้ำแตก คนทำถนนสร้างหนทางไว้ให้มันมีเพียบ มึงแค่เดินตามเค้าไปก็พอ ไม่ต้องไปพยายามถมดินเทปูนสร้างใหม่

เหมือนที่กูบอกไปข้างบนว่าวัตถุดิบหรือสูตรมันมีคนคิดไว้แล้ว มึงแค่เอามาดัดแปลงเป็นสูตรของตัวเองก็พอ เขาใส่แตงโมมือลองแตงไท เขาใส่เกลือมึงลองน้ำปลา ยืมมาดัดแปลงอย่าให้มันเหมือนเป๊ะจนน่าเกลียด หรืออย่าแหวกขนบเกินจนมันไม่เข้าท่า เขาใช้มะนาวอย่าเสือกลองมะขาม เอาจริงๆ ถ้ามาเป็นนักเขียนได้ก็คงมีสติปัญญาพอจะรู้ได้ว่าเส้นแบ่งมันอยู่ตรงไหน นักเขียนอย่างเราจะรู้เองโดยอัตโนมัติเลยว่าถ้าเขียนแบบนี้แล้วมันจะล้ำเส้น เหมือนพวกที่เขียนนิยายออนไลน์แล้วให้พระเอกใส่ชุดดำถือดาบคู่ได้คนเดียวในเซิฟ แบบนั้นใครๆ เขาก็ดูออกว่าลอก SAO หรือเขียนนิยายที่เวลาจะสู้กันต้องขยายร่างด้วยการแดกมือ แม่งก็ประเจิดประเจ้อเหมือนคิดว่าในเว็บไม่มีใครเคยอ่าน AoT มาก่อน

120 Nameless Fanboi Posted ID:NqVq6qMzQW

ถ้าชอบ SAO นักมึงก็ยืมมาเลยว่าติดอยู่ในเกมเหมือนกัน แต่ติดแบบไหน ออกมาได้ไง อันนี้ไปคิดมาเอง หรือถ้าชอบ AoT มากนักก็ยืมเรื่องที่ต้องหลบในกำแพงมา แล้วไปคิดศัตรูใหม่ว่าอะไรรอมึงอยู่ข้างนอก ถ้าจะใช้มุกแปลงร่างแล้วชัดเกินไปก็เปลี่ยนเป็นพลังพิเศษอย่างอื่นเอา อุปกรณ์ห้อยโหนมันแถว่าคิดขึ้นมาใหม่เองยาก งั้นจัดเลยว่าเรื่องนี้มีรองเท้าไอพ่นอะไรก็ว่าไป

อีกเรื่องที่สำคัญคือจะเขียนตามกระแสแล้วต้องทำการบ้าน หาข้อมูลแนวนั้นๆ ให้จริงจัง เพราะแนวที่อยู่ในความสนใจมันมีพวกแฟนพันธุ์แท้รอเล่นงานมึงอยู่ ถ้าจะเขียนจีนแล้วบอกว่าซาลาเปาคือหมั่นโถวแบบไอ้เงินบวกล่ะก็ อย่าหาทำ นอกจากจะไม่มีคนอ่านแล้ว ยังจะโดนด่าฟรีแถมด้วย เวลาจะทำอะไรก็ไปให้มันสุดทาง ถ้ามันฝืนใจมาก ทำยังไงก็คงแต่งแนวนี้ไม่ได้ ก็ค่อยถอนตัวออกมา โอกาสหน้ายังมีเผื่อแนวกระแสแบบใหม่มันมาแล้วมึงพอแต่งตามไหว ถึงตอนนั้นค่อยลองดูอีกทีก็ยังไม่สาย

เรื่องใต้สะดือ พื้นที่สีเทา ของผิดศีลธรรม เดี๋ยวนี้เขาไม่คิดมากกันแล้ว จะใส่ลงในงานก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ใส่อย่างมีศิลปะ ใส่เท่าที่จำเป็น ยกเว้นลงในธัญวลัยใส่ไปได้เลยรัวๆ ในเว็บเด็กดวกมีบอกอยู่ว่าใส่ได้แค่ไหน คนรู้จักกูบางคนใส่เหมือนไม่กลัวโดนรีพอร์ตแล้วบอกกูว่า "เดี่ยวรอมีคนแจ้งแบนก่อนกูค่อยแก้" ถ้าไม่มีใครแจ้งแม่งก็ทิ้งเอาไว้อย่างนั้นแหล่ะ ขนาดพวกนิยายเสน่ห์มาเฟียทาสซาตานไรพวกนี้ยังรอดได้ ก็ไปหาอ่านดูแล้วกันว่าเขียนแค่ไหนถึงจะไม่โดนสอย นิยายจีนปลอมบางเรื่องยังใช้คำแทนโคตรตลกเลย อ่านแล้วกูงงมันมีอารมณ์กันได้ยังไง แม่งเลวร้ายกว่าบทอัศจรรย์ของวรรณกรรมไทยอีก คนเรามันขี้เงี่ยน มึงเงี่ยน กูก็เงี่ยน แต่งานเขียนที่ทำให้เราอ่านแล้วเงี่ยนได้ ไม่ใช่ว่าจะหาเจอได้บ่อยๆ ถ้าคิดว่าไม่เจ๋งพอก็อย่าใส่เดี๋ยวมันจะตลกไปแทน

เขียนไปเขียนมาชักจะเยอะ เอาเวอร์ชั่นยาวไปไม่อ่านห้อยท้ายไว้ด้วยละกัน

1) ถ้ายังไม่เก่ง ฝึกให้เก่งก่อน ถ้าสำนวนกาก ข้ออื่นไม่รอด
2) ฝึกมาตั้งนาน ไม่เก่งสักที หาเรื่องดังๆ มาอ่านแล้วลอก
3) จะแต่งตามเขา ต้องหาข้อมูล อย่าให้เขาด่า ว่ารู้ไม่จริง
4) เล่าเรื่องให้เป็น เอาภาษาคน เข้าใจคนเดียว ไปเขียนไดอารี่
5) จังหวะต้องดี หามาให้เจอ ตรงไหนต้องเน้น ตรงไหนต้องข้าม
6) เขียนๆ หยุดๆ เดี๋ยวแม่งดองยาว เขียนให้จบก่อน แล้วมึงค่อยลง
7) คิดถึงลูกค้า จัดหน้าอ่านง่าย ลองเปิดนิยาย เช็คในมือถือ
8) แต่งไม่ต้องยาว เน้นลงถี่ๆ ถ้าแก้ไม่ได้ ไปซอยตอนซะ
9) กีกี กวยกวย เรื่องธรรมชาติ ใส่บ้างนิดหน่อย ไม่มีใครว่า
10) ถ้ามีคนชอบ ติดเหรียญขายดิ วันดีคืนดี เดี๋ยวมีสัมภาษณ์

ดีนะที่คืนนี้มันไม่ค่อยมีใครโผล่มา คิดว่าคงเตรียมตัวกลับบ้านกันหมดแล้ว กูเลยพอมีช่องให้แอบสับอยู่ อย่างไรก็ดีพวกมึงไม่ต้องเชื่อกูมากก็ได้ อะไรที่กูบอกอาจใช้ไม่ได้ผลกับบางคน ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไปคิดหาวิธีที่เหมาะกับตัวเองดู เทคนิคต่างๆ มันมีโม่งอื่นคอยมาแนะนำเป็นพักๆ อยู่แล้ว (ล่าสุดก็เห็นมีไอ้เห็บหมาแวะมา)

คนเราจะเขียนอะไรแล้วแจ้งเกิดได้ อยากแรกคือใจมึงต้องมีก่อน พวกไม้หลักปักเลนส่วนใหญ่อยู่ได้ไม่นาน ประเภทที่มางอแงในบอร์ดว่าทำไมไม่มีคนอ่านเลย เลิกแต่งนิยายดีกว่า แบบนี้ไม่มีทางปีนขึ้นมาไหวแน่ๆ ใจรักแล้วก็ต้องเสมอต้นเสมอปลาย ฝึกเรื่อยๆ เขียนเรื่อยๆ มันก็ค่อยๆ เก่งขึ้นมาเอง ว่างก็หานิยายคนอื่นอ่าน ถึงนิยายจะกากแต่อ่านเอาแนวทางแทนได้เหมือนกันว่ามันเขียนยังไงคนถึงชอบ ในฐานะคนที่ขึ้นมาได้ก่อน กูอยากบอกพวกมึงว่าตอนปีนมันไม่เท่าไหร่ แต่การที่จะเกาะไว้ไม่ให้ร่วงลงไปนี่คือนรกเหี้ยๆ นึกตามว่ามันโหดกว่าเก้าอี้ดนตรีไปอีกขั้น เหมือนมึงเล่น fallguy ที่มีแท่นให้ยืนได้แค่ 20 คน แต่ต้องแย่งชิงที่ว่างกับคนเป็นพันเป็นหมื่น แล้วต่อให้ได้ที่ยืนเรียบร้อยก็มีคนพร้อมจะยกตีนถีบมึงลงไปเพื่อเข้ามาแทน

ถ้าไม่อยากกดดันอะไรมาก ให้เบนเข็มไปแต่งแนวกระแสเน้นขายเอาเงินแทนจะดีกว่าเขียนเพื่อติดท็อป หรือแต่งแค่ให้ achievement unlocked ก็ได้ ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตกูเคยติด Top กับเขาเหมือนกัน (อย่าลืมแคปจอเอาไปแปะไว้ตรงปกรองแบบที่แม่งชอบทำกันด้วยล่ะ) ถึงจุดๆ นึงพวกมึงจะเข้าใจเองว่ามันกดดันที่ต้องคอยรักษาอันดับไว้ เลยอยากให้แต่งนิยายอย่างที่ทำแล้วมีความสุขมากกว่า บางทีแค่เขียนให้จบเป็นเรื่องๆ ไป แปลงไฟล์ขายเป็น E-book แลกค่าไฟได้เรื่อยๆ แค่นั้นก็อาจเพียงพอแล้ว

121 Nameless Fanboi Posted ID:TLoe3sohjh

ขอบพระทัยสำหรับความยากลำบากในการสับ แต่เท่าที่ดูพล็อตที่เมิงย่อยให้ฟัง มันไม่มีตรงไหนน่าสนใจเลยนะ มันไม่ใช่การผลิตซ้ำรอบที่ร้อยรอบที่พันเหรอ ยิ่งอยู่ในร่างเด็กด้วยน่าจะเพิ่มความน่ารำคาญเข้าไปอีก
ให้บอกเกิดใหม่เป็นนางร้ายโดนเนรเทศมายังชายแดนที่ทุรกันดาร กุว่ายังดูมีอะไรน่าสนใจกว่าถึงแม่งจะผลิตซ้ำเหมือนกันก็เถอะ
สิ่งที่กุไม่เข้าใจก็คนอ่านนี่ละ พวกเมิงว่างกันขนาดนั้นเลยเหรอวะ

122 Nameless Fanboi Posted ID:7ZjptLuNx+

อยากถามเรื่องการใส่ Trigger warning พี่โม่งคิดเห็นยังไงกันบ้าง?

ส่วนตัวรู้สึกว่าไร้สาระ ทำไมต้องมานั่งใส่แท็กสปอยนิยายตัวเองด้วย บอกว่า 18+ หรือเนื้อหามีความรุนแรงทางด้านอารมณ์ ด้านร่างกายสูง ใครอ่อน(แอ)ไหวไม่ควรอ่าน ก็น่าจะเยอะพอแล้วไม่ใช่เหรอ? นี่ต้องมานั่งใส่ ระวังเลือดนะ ระวังมีการใช้ความรุนแรงในครอบครัวนะ ระวังมีการฆ่าตัวตายนะ ระวังมีการเหยียดเพศ สีผิว ชาติพันธุ์ บลา ๆ ๆ ๆ นะ เพื่อ? เรทที่ใส่ไว้ตอนแรกไม่ได้มีความสำคัญเลยหรือไง? เรท 18+ ไม่ใช่อายุถึงแล้วอ่านได้ แต่มันหมายถึงเนื้อหามันไม่ได้มีไว้ให้เด็กดอกอายุน้อยอ่าน โตเป็นควายอายุจะ 20 ควรจะมีสมองไว้ ควย ได้แล้ว ไปอ่านนิยายที่มีเรทเยอะๆ แล้วหวังเห็นแต่คนเด้ากันอย่างเดียวหรือไง? งั้นก็อ่านเสร็จไปผูกคอตายแม่งให้จบ ๆ ไปเลย คนอ่อนแอขี้เงี่ยนไม่มีสมองไว้คิดมันจะได้ลดลงไปบ้าง เหนื่อยคนเขียนชิบหายไม่ใช่พ่อ แม่ หมอปรึกษาอาการทางจิต มึงนะที่ต้องมาเทคแคร์อารมณ์ให้ รมณ์เสีย

123 Nameless Fanboi Posted ID:YFKM7CpRh8

ล่าสุด นิยายเรื่องนี้ขึ้นTOP1 หมวดจีนย้อนยุค TOP7หมวดรวม ทั้งที่เนื้อเรื่องดาษดื่น ทุกอย่างธรรมดาเบสิคเหี้ยๆ แต่ทำไมคนอ่านเยอะ กูว่าส่วนหนึ่ง เพราะคู่แข่งของมันในTOPก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย

ต้องยอมรับจริงๆว่านักเขียนไทยส่วนใหญ่ ฝีมือไม่เอาไหน ในTOPเต็มไปด้วยมือใหม่หัดเขียนที่เพิ่งดังจากนิยายเรื่องแรก ดังเพราะเกาะกระแสนิยายจีน มีดวงเข้ามาเอี่ยวก็เยอะ

ฉะนั้น ไอ้ดาวจุดๆ คนนี้ เขียนห่วยก็จริง แต่มีประสบการณ์เขียนนิยายมาแล้วหลายเรื่อง ย่อมเก่งกว่าพวกมือใหม่ก็เลยพอจับทางได้ รู้ว่านักอ่านต้องการอะไร เลยขึ้นTOPมาได้

แต่เท่าที่กูอ่าน ถือว่าสกิลยังไม่ผ่าน นิยายไม่มีอะไรน่าสนใจสักอย่าง พล็อตจืดๆ ตัวละครจืดๆ กูว่านักอ่านแม่งคงไม่มีอะไรจะอ่านกันแล้วจริงๆ นิยายคู่แข่งในTOPหมวดเดียวกันคงห่วยน่าดู นิยายเรื่องนี้ถึงได้ขึ้นTOP1

สมัยนี้ ถ้าอยากให้นิยายปังก็แค่เอาพล็อตที่มีอยู่แล้วมาดัดแปลงเล็กน้อยเป็นแนวตัวเอง เกาะกระแสสูบเงินนักอ่าน แต่พวกแม่งก็ยังอุตส่าห์เขียนออกมาห่วย ทั้งที่มีคนปูทางให้พวกมันแล้ว มีคนคิดแนวอาหารให้เสร็จสรรพ ที่เหลือแค่มึงต้องปรุงรสให้อร่อยเท่านั้น แต่กลับปรุงออกมาได้เหี้ยมาก

สะท้อนให้เห็นว่านักเขียนไทยเป็นพวกขาดจินตนาการหนักมาก ทั้งที่อาชีพนักเขียนเป็นงานที่ต้องการจินตนาการ แต่นักเขียนเด็กดีส่วนใหญ่กลับเขียนอะไรซ้ำกัน ลอกกันไปมา ไม่มีไอเดียใหม่ๆ น่าเบื่อชิบหาย

TOP1หมวดจีนย้อนยุคจืดชืดขั้นนี้ กูโคตรหมดหวังกับเด็กดี

124 Nameless Fanboi Posted ID:TLoe3sohjh

>>122 ความเห็นกุคือควรใส่ เพราะเรื่องไหนกุโร แล้วเมิงไม่แทกกุโรคือกุโกรธ แล้วมันจะสปอยเxี้ยอะไรนักกับการใส่คำเตือน กุอ่อนไหวกับการเx็ดศพมากกว่าการที่เมิงสปอยว่ากุจะเx็ดศพ

125 Nameless Fanboi Posted ID:TLoe3sohjh

https://twitter.com/_moonnle/status/1514139673303478276?t=54ZVGpsaDOxp6XATjeb_Og&s=19
สองวันนี้มีประเด็นนี้ที่วนเวียนอยู่ในใจ คือกุมีนักเขียนที่ใช้ภาษาสละสลวยเป็นต้นแบบ แม่แบบนิยายกูก็ต้องเป็นแบบนั้น พอมาวันหนึ่งคนอ่านมีขอบเขตทางภาษาที่ลดลง กุต้องปรับตัวตามจริง ๆ เหรอวะ กูอยากเขียนตามแม่แบบที่กูชอบกลายเป็น "เขียนแบบนี้ไม่มีใครเขาอ่านกัน" เชี่ยมันเลวร้ายมากว่ะสำหรับกุ

126 Nameless Fanboi Posted ID:7ZjptLuNx+

>>124 แอบรู้สึกส่วนตัวว่าถ้ามันแนวเฉพาะแบบนั้นก็ควรใส่ tag ใหญ่รวมๆ แบบ guro อยู่หรอก แต่ถ้าต้องมาพินิจพิเคราะห์บรรจงใส่ มีเนโครฟีเลียนะ มีเลือดนะ มีเยดนะ ถึงจะดูเล็กน้อยยังไงมันก็สปอยเนื้อหาป่าว? แล้วถ้าจุดหักมุมมันดันไปอยู่ที่ประเด็นเยดศพ แล้วเสือกสปอยตรงนั้นตั้งแต่แรก มันจะถือว่าสปอยเล็กน้อยอีกไหมล่ะ? แยกเรทไว้ก็แล้ว จัดหมวดหมู่ไว้ ก็แล้ว ถ้าต้องมาระวังมันทุกก้าวที่มีความรุนแรง มันจะกลายเป็นกรอบให้นักเขียนมันทำงานยากขึ้นแทนไหม? กลัวว่าถ้ามันต้องทำเรื่องน่ารำคาญแบบนี้ต่อไป นักเขียนมันจะเลิกหยิบประเด็นรุนแรงพวกนี้มาเขียน กลายเป็นว่าต้องมาเซ็นเซอร์ตัวเองไปอีก หนักใจจริง

127 Nameless Fanboi Posted ID:5FWsoXqi/B

>>125 อันนี้คือเรื่องจริงที่ตลกร้ายโครตๆเลย บอกเลยขนาดกูเนี่ยเขียนงานบางครั้งยังพลาดระหว่างภาษาเขียนกับภาษาพูดเลย เอาง่ายๆ มึงลองเข้า DeK D แล้วไปอ่านนิยายกำลังภายในที่ติดอันดับ 1 2 3 4 5 ที่คนไทยแต่งตอนนี้สิ มึงจะพบว่าอ่านแล้วตัวมึงต้องจัดรูปประโยคใหม่ในหัว แถมบางทีต้องแปลไทยเป็นไทย อ่านแล้วสะดุดสัส กูรับรองเลยว่า พอมึงกลับไปไล่อ่านเม้นในนิยายของพวกมัน มึงจะต้องยกมือขึ้นมากุมขยับแล้วบอกว่าอิหยังวะทันที ที่ก็พิมพ์มาทั้งหมด ก็แค่จะยืนยันสิ่งที่มึงบอกว่าจริง นักอ่านสมัยนี้ เยอะด้วย แมร่งไม่สนใจแล้ว ว่าจะภาษาอ่าน ภาษาเขียน เอาง่ายๆ ใช้ google แปลนิยายจีนมาลงบางทีมันยังบอกว่าสนุก หรือภาษาสวยเลยอ่านลื่นไหล !

128 Nameless Fanboi Posted ID:wAI7eEa4fd

>>121 ที่มึงพูดมาก็ไม่ผิดเลย ในส่วนพล็อตคือกากๆ ดาษๆ มาก แต่ปัจจัยที่ทำให้มันติดได้กูว่ามาจากความถี่ในการลงกับความต่อเนื่องในการรักษาฐานผู้อ่าน สองดาวจุดมันแต่งนิยายมาเรื่อยๆ พอแต่งเรื่องใหม่ มันจะมีติ่งกลุ่ม fanboy fangirl ที่ชอบมันแบบงมหี(หรืองมหัว)ไม่ขึ้นตามมาช่วยอ่าน นักเขียนกลุ่มนี้แหละสำคัญ เพราะมันช่วยทำให้การออกตัวช่วงแรกทำได้ดี พอมีตัวเลขว่ามีคนอ่านพอสมควร คนนอกก็อยากลองเข้ามาอ่านบ้าง มันเลยฟังดูน่าเจ็บใจ ทั้งๆ ที่ฝีมือมันไม่ค่อยมีอะไร แต่มันขายของได้ถูกที่ ถูกคน และเน้นขายได้เยอะๆ บ่อยๆ ลงได้ทุกวัน ขนาดเรื่องที่สำนวนเหี้ย เนื้อเรื่องกากกว่านี้ยังเกาะกลุ่มขึ้นมาได้ ดังนั้นแล้วสำหรับคนที่ฝีมือพอใช้ และสะสมแฟนคลับมานาน ทำไมมันถึงจะขึ้นท็อปไม่ได้ โมเดลนี้มันไม่ต่างอะไรกับวิธีการของไอ้ราชานกฮูก แต่รายนั้นอาจลงไม่บ่อยเท่า ความยาวต่อตอนมากกว่า แล้วไปเน้นจัดหน้านิยายให้อ่านง่าย บทบรรยายไม่ยาว เว้นบรรทัดบ่อย จงใจเปลี่ยนตัวเองเป็น Lightnovelist โดยใช้ Yaoi bait มาเป็นจุดขายล่อสาวฟุให้มาอ่าน แกนกลางที่เหมือนกันคือความต่อเนื่องนั่นแหล่ะ พวกนักอ่านมันชอบแบบนี้ ลงทุกวันกูก็อ่านทุกวัน หรือสายดองก็พอใจเพราะรู้ว่านักเขียนมันเอาของมาลงไว้เรื่อยๆ เดี๋ยวไว้วันเสาร์ค่อยเจอกัน

ยิงปืนไม่แม่น แต่เน้นสาดกระสุน ยังไงมันก็ต้องโดดสักนัก คุณภาพยังไงไม่รู้แต่กูเน้นปริมาณกับความต่อเนื่อง ขนาดเขียนไม่จบสักเรื่องเพราะหมดมุกกลางทาง ก็ยังมีคนตามอ่านแบบนี้เลยอะ

>>122 อันนี้มันแล้วแต่คน ส่วนตัวกูใส่ไว้สั้นๆ นะ ขี้เกียจมามีปัญหากับนักอ่านหีบาง โดนอะไรนิดอะไรหน่อยก็บ่นว่าแสบหีแล้ว ถ้ามันอ่านแล้วไม่ชอบก็จะได้ต่างคนต่างไปตั้งแต่อ่านปกเลย ดีกว่าให้มันมาบ่นว่าทำไมกูไม่เตือนแต่แรก ทำมันเสียเวลาอ่านมาตั้งนาน

>>123 โคตรจะจริง +ล้านคะแนน กูเลยบอกในสับไงว่าถึงมันจะเก่งขึ้นจากตอนแรก แต่ไม่ได้ปังปุริเย่อะไรขนาดนั้น ถ้าเพื่อนบ้านไม่กาก ก็คงได้อานิสงส์จากกระแสของพล็อต กับความถี่ในการอัปเดตเข้ามาช่วย ต้องยอมรับอย่างนึงว่ามันวางแผนมาดี ดูทิศทางลมเป็น เรียนรู้จากนิยายตัวอย่างที่เคยอ่านมาได้ครบ มัน steal ข้อดีจากเรื่องต้นแบบมาปรับใช้ในนิยายตัวเองสำเร็จ

สุดท้ายเลยทำให้เกิดภาวะเหมือนย่านขายอาหารที่หลายๆ ร้านขายแต่เมนูจืดๆ กากๆ พอมันทำให้อาหารตัวเองอุ่นขึ้น มีรสชาติขึ้นมาได้เล็กน้อย และมีขายเรื่อยๆ ลูกค้าเลยแม่งไปต่อแถวแต่ร้านมัน ทั้งๆ ที่คุณภาพดีกว่าร้านอื่นในตรอกเดียวกันแค่นิดเดียว

>>125 >>127 เป็นเรื่องเศร้าแต่มึงต้องทำใจ เพราะนักเขียนเก่งๆ ที่เน้นคุณภาพ สำนวน และแบบแผนเดิม เขาย้ายไปขายนิยายทำมือ ขายนิยายในเว็บอื่น หรือเน้นปล่อย E-book ขายแทนกันหมดแล้ว

ถ้าใจมึงยังอยากอยู่ในเว็บนี้ต่อก็ต้องเข้าใจสภาพของนักอ่าน กูเองก็ทรมานไม่ต่างกันในช่วงแรกของการปรับตัว กูแบบว่ารับไม่ได้เลยในช่วงแรก คนที่เน้นขายของคุณภาพสูงแล้วจู่ๆ โดนตลาดบีบให้ต้องเปลี่ยนมาขายสินค้า mass product มันทำใจไม่ค่อยได้เลย แต่ก็ต้องยอมรับว่าพอเริ่มจับทางได้ ด้วยฝีมือที่สะสมมา มันทำให้นิยายเราเด่นแซงหน้าเจ้าเดิมๆ ที่มีอยู่ในหมวดเดียวกัน ถ้ามึงเคยอยู่ในโซนที่ตัวเองถูกห้อมล้อมไปด้วยยอดฝีมือ เป็นหางมังกร ตอนย้ายมาอยู่โซนหัวหมาแรกๆ มึงก็จะทำใจลำบากนั่นแหล่ะ แล้วพอนานๆ ไปมึงจะค้นพบเองว่าแม่ง... กูเก่งกว่าพวกนี้อยู่หลายช่วงตัวเลยนี่หว่า จริงอยู่ว่าอาจดูตกต่ำลงเพราะต้องมาแต่งนิยายที่คุณภาพสั่วๆ พล็อตกลวงๆ แต่มึงจะรู้ว่าต้องทำยังไงนิยายมึงถึงจะขายดีกว่าของพวกแม่ง

มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าใครเก่ง ใครกาก ใครสูงส่ง ใครต่ำต้อย ศักดิ์ศรีอีโก้หรือมักง่ายเน้นสบาย แต่กลายเป็นการแข่งขันว่าใครจะจับนักอ่านได้มากกว่า เมื่อมึงเข้าใจแล้วว่านักอ่านส่วนใหญ่มันขอแค่ให้นิยายอ่านสนุก และมีให้อ่านทุกวัน ไม่ได้เน้นความถูกต้องความน่าสนใจ

มึงต้องเค้นความสามารถขอตัวเองออกมาเป็นจุดเด่น เพราะตอนนี้ทุกคนมันเน้นขาย fast food เลิกคิดถึงอาหารสุขภาพไปได้เลย แต่เปลี่ยนมาคิดว่าในเมื่อจะขายอาหารขยะเหมือนกัน อาหารขยะแบบไหนที่จะขายดีกว่าเจ้าอื่น เพราะ "คนเก่งบ้านนอก ยังไม่เท่าคนกระจอกในเมือง" เอาประสบการณ์ตอนเป็นหางมังกรมาทำให้มึงโดดเด่นในเขตหัวหมานี่ซะ โลกมันเปลี่ยนมึงก็ต้องปรับ ยกเว้นมึงจะยืนยันว่าชอบในสิ่งที่เป็นอยู่โดยไม่สนว่ายอดวิวจะเป็นยังไง ถ้าแบบนั้นก็ขอให้มึงโชคดี

129 Nameless Fanboi Posted ID:LUgDi9P0nZ

พวกมึงว่าระหว่างนักอ่านหญิงกับนักอ่านชาย ชอบตัวละครนิสัยแบบไหนมากกว่ากัน ตอนนี้กูจะเขียนเรื่องใหม่เป็นแนวจีน แล้วจะให้นางเอกเป็นตัวละครหลัก ที่นิสัยแก่นซ่ากวนหน่อยๆ

หลังจากเรื่องก่อนที่เขียนให้นางเอกนิสัยแข็งราวกับหิน ผลตอบรับดูเฉยๆจนกูอยากแหวกไปอีกขั้ว แต่ก็ไม่รู้คนอ่านเค้าจะรับได้ไหม

130 Nameless Fanboi Posted ID:LUgDi9P0nZ

แต่ที่แน่ๆตัวเอกต้องเทพซ่า อัจฉริยภาพผู้ไม่เคยผิดพลาด คาดการณ์แผนทุกอย่างล้ำหน้าไปกว่าคนอื่น 3 ก้าว เหมือน พณฯ ท่านปูติน

ส่วนเรื่องนิสัยกูไม่รู้จริงๆ ว่าคนอ่านส่วนใหญ่ต้องการแบบไหน

131 Nameless Fanboi Posted ID:To5W5FJhUg

>>129 >>130 มึงอยากขายอะไรล่ะ ถ้าอยากขายความเท่ก็ไปทางขรึมๆ ถ้าจะเน้นฮาก็เขียนรั่วๆ บ้าๆ เด็กผู้ชายชอบอย่างนึง เด็กผู้หญิงชอบอีกอย่างนึง แต่เรื่องเทพซ่านี่ถูกละ ยังไงมันก็มาอ่านเอาความแกรี่สตูว แมรี่ซู ของตัวละครเอก ถ้าไม่แน่ใจก็แต่งให้เกรียนๆ ไว้ก่อน เพราะทุกคนมันชอบอะไร comedy อยู่แล้ว

132 Nameless Fanboi Posted ID:zLscOuFd4.

เริ่มจะเบื่อ ๆ แนวจีนโบราณละ มีนิยายยุโรปยุคกลางเรียล ๆ มาแบ่งปันกันบ้างไหม? หาเจอแต่แบบโรแมนติกที่ไม่ได้ใช้เซตติ้งให้เกิดประโยชน์ กับ ต่างโลกเบียว ๆ

133 Nameless Fanboi Posted ID:2WxzEMKF.f

>>132 ถ้าเอาที่แนะนำกันประจำก็มีไมรอน ส่วนถ้าอยากลองเสี่ยงดวงหาเพชรในตมก็จะมีตามกระทู้ต่าง ๆ ไปเลือกเอา เห็นข้างบนก็มีแฟนตาซียุคกลางเรื่องนึงที่อยู่ในคิวสับ ไม่รู้ยังจะโดนอยู่รึเปล่า

134 Nameless Fanboi Posted ID:Kk4ZJI7mWp

>>130 กูว่าเขียนกาวดีกว่า ขืนสร้างตัวละครฉลาดเกินสติปัญญาของตัวนักเขียนเอง ใส่โทนซีเรียส แต่เสือกแพ้เด็กมัธยมชีวิตจริง นอกจากไม่ขำแล้ว ตัวละครของมึงจะถูกมองเสียหายในสายตาคนอ่านแน่ๆ

135 Nameless Fanboi Posted ID:f2cLqRaCYc

>>134 อย่าดูถูกสติปัญญาระดับ 84,000 ล้านเซลล์ของกูดิวะ

136 Nameless Fanboi Posted ID:Fw35t9aXW5

https://www.dek-d.com/board/view/4055688/

โม่งใครว่างช่วยไปตอบน้องเขาหน่อยดิ!

137 Nameless Fanboi Posted ID:f2cLqRaCYc

>>136 พี่รู้พี่มันเลว

138 Nameless Fanboi Posted ID:iF7399B0ft

>>137 เธอมันแน่มาตลอด

139 Nameless Fanboi Posted ID:jEDSyOLXjI

เห็นพวกต่างประเทศเขียนนิยายกันหลักร้อยหลักพันตอนนี่กูสงสัยแฮะว่าไอเดียไม่หมดรึยังไง ถึงบางเรื่องมันจะเขียนวนลูปแต่ก็น่าจะหมดแพชชั่นหรือว่าขี้เกียจเขียนบ้างรึเปล่าวะ
กูนี่วางแผนเขียนไว้แบบย่อยได้ราวๆ 200 ตอนก็รู้สึกเปื่อยละ หลังจากนั้นก็ไม่รู้จะเอาพล็อตอะไรมาเล่นต่อดี

140 Nameless Fanboi Posted ID:Ti+JMxy5Dx

>>139 กูว่าเงินล้วนๆ แพชชั่นชั้นดี

141 Nameless Fanboi Posted ID:HoAJdxyxzn

>>139 ก็ถ้ามันเขียนแล้วได้เงินตอนละแสน จะยืดไปสามพันตอนก็มาเถอะว่ะ

142 Nameless Fanboi Posted ID:v4Kz3QA9WG

ทำไมไม่มีดราม่ามันส์ๆเบย

143 Nameless Fanboi Posted ID:HoaPr.j4tU

พวกสูคิดอย่างไรกับการโฆษณานิยาย ในบอร์ดนักเขียนที่กำลังเป็นดราม่าในขณะนี้

144 Nameless Fanboi Posted ID:Id3IYBSkgy

>>143 กระทู้ไหนหว่า ขอดูหน่อย ?

145 Nameless Fanboi Posted ID:mgxU.FQe5j

https://www.dek-d.com/board/writer/4055710/
นี่จ๊ะ

146 Nameless Fanboi Posted ID:k73ckgANu5

>>143 ไม่รู้ดิ ไม่ได้สนใจเลย แอบสงสัยว่าแค่นี้ก็เป็นดราม่าแล้วเหรอ 555 แต่เรื่องโฆษณานิยายขออย่างนึงเลย คือช่วยเขียนให้มันดูตั้งใจหรือน่าสนใจชวนไปอ่านต่อหน่อยก็ดี ถ้ามาลงแล้วเขียนแค่ "ลงตอนใหม่แล้วนะ" กุรู้สึกเปลืองเน็ตและเสียดายเวลาชีวิต 2-3 วิที่กดเข้าไปดู

147 Nameless Fanboi Posted ID:HoaPr.j4tU

>>146 มุแง๊ กุดุสๆ ช่วยไม่ได้มันหมดยุคมาเฟียบอร์ด แถมพวกเลือดใหม่ก็ไม่ stonk เหมือนเมื่อก่อน เรื่องแค่นี้มันก็ถือว่าดราม่ากันแล้ว

148 Nameless Fanboi Posted ID:ulHCTVxdQo

มันก็ต้องร้างอะถูกแล้ว ขนาดอกปอบมาโฆษณาเรื่องเฟทไดอาเรียยังไม่มีใครตอบกระทู้แกเลย

149 Nameless Fanboi Posted ID:YGdWyLrC7A

>>148 *มาสเตอร์

150 Nameless Fanboi Posted ID:I6pPkZU0K+

สวัสดี กูอัปเดตลิสต์สับให้ละนะ ออกตัวก่อนกูไม่ใช่โม่งที่สร้างลิสต์ แต่มาอัปเดตให้เนื่องจากหนึ่งในลิสต์นั้นมีตำนานที่ตอนนี้นักเขียนกำลังไล่ฟ้องคนวิจารณ์อย่างเมามัน ถึงจะไม่ใช่เรื่องที่โม่งสับก็เหอะแต่เซฟไว้ก่อนกูเลยลบออกจากลิสต์เอา แล้วอัปเดตเรื่องที่เคยสับกันซึ่งอาจไม่ครบเท่าไหร่ ว่างๆจะขุดหาให้อีกทีหรือโม่งไหนช่วยกูขุดก็ได้
ส่วนต้นเหตุที่ทำให้ต้องลบนั้นอยากเสือกเข้าทวิตแล้วพิมพ์แท็กนามปากกานักเขียนเอานะ แล้วเสือกเงียบๆละกันอย่ามาพล่ามในโม่งหรือที่สาธารณะเลย ตอนนี้การฟ้องมันง่ายขึ้นเยอะ ขอไอดีเซินก็ส่งให้เร็วขึ้นแป๊บๆเดี๋ยวพวกมึงได้เจอครุฑร่อนใส่แน่
ว่าแล้วก็ชักหนาว กูเป็นโม่งที่มีส่วนร่วมในการสับนิยายเรื่องนั้นซะด้วย เห็นที่ไล่ฟ้องในทวิตนี่ก็มั่วหน่อยๆไม่ใช่แค่เล่นคนที่ลามปามจนหมิ่น แต่แค่คนที่วิจารณ์หรือถามเฉยๆก็โดน แล้วเรื่องแบบนี้ต่อให้กูไม่ผิดแต่การขึ้นโรงขึ้นศาลมันก็เหนื่อยว่ะ แล้วประเด็นที่จะโดนเล่นนี่ไงคนฟ้องก็มีสิทธิชนะกว่า ต้องเอาเจ้าของลิขสิทธฺโน่นมางัดซึ่งจะลากมาไงล่ะ คนที่เอามาพูดก่อนโดนเล่นแทนนะสิเหอๆ

151 Nameless Fanboi Posted ID:A6AQmsHd/H

>>150 เรื่องอะไรวะใบ้หน่อย มันฟ้องไม่ได้ไม่ใช่เหรอวะ การวิพากษ์วิจารณ์อย่างสุจริต เว้นแต่ด่าตัวบุคคล

152 Nameless Fanboi Posted ID:03SqW54QE/

>>150 ไม่ได้โดนสับแต่เคยถูกพูดถึงในนี้สินะ น่าสนใจ มีวาร์ปไหม อยากเสือก

153 Nameless Fanboi Posted ID:03SqW54QE/

ค้นจากแท็กอันไหนวะ ละกูจะรู้ได้ไงว่านามปากกาอะไร

154 Nameless Fanboi Posted ID:.VMuHieBz0

>>150 เลอะเทอะ ในทวิตเงียบจะตายห่า ไม่มีใครฟ้องอะไรทั้งนั้นอะ เมิงอย่ามาปั่น

155 Nameless Fanboi Posted ID:AMDCNcxGd/

มิกซ์แฟนฟิคในตำนานที่ยำทั้งเมะสลับเพศทั้งเกมจีบหนุ่มแวมไพร์ ตอนนี้คนเขียนผันตัวไปจีนโบราณอะ ลูกรักสถาพัง

156 Nameless Fanboi Posted ID:03SqW54QE/

>>155 หัวขมิบแห้งปลาร้ามอดน่ะนะ

157 Nameless Fanboi Posted ID:03SqW54QE/

เอ๊ะไม่ใช่ดิ ใช่บ็อกเซตรองจอคอมในตำนาน โร×ซ×นีย ป่าววะ ถ้าแวมไพร์สลับเพศจีบหนุ่ม

158 Nameless Fanboi Posted ID:EJmJnMbCYl

>>157 เยส ตอนแรกกูได้ข่าวจากห้องวายละว่านางเริ่มตามฟ้อง แบบคนที่แค่ถามว่าสรุปนิยายเขาก็อปจากเรื่องนี้จริงปะ ก็โดนโนติสไปละจ้า

159 Nameless Fanboi Posted ID:03SqW54QE/

>>158 เดี๋ยวเจอมุก มันคือแรงบันดาลใจไม่ใช่ลอก แล้วจะพากันกลอกตามองบนทั้งบางสินะงี้

160 Nameless Fanboi Posted ID:iKMH1pXP2a

>>158 มันฟ้องได้จริงนะ ปัญหาหลักคือคนถูกฟ้องแมร่งพิสูจน์ไม่ได้ว่าไปก็อบจริงไหมไง

161 Nameless Fanboi Posted ID:46g2Dy23UK

>>160 ใช่ คนที่ค้านได้คือเจ้าของลิขสิทธิ์ที่เอามาก็อป ปต่ที่ฟ้องๆนี่คือคนที่เอามาพูดอีกต่อ ซึ่งโดนกินนิ่มไปสิจ้ะ มึงพิสูจน์ได้แต่แล้วไง กฏหมายบ้านเรามันเอื้อให้เจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้นทาเอาผิดได้ คนนอกอย่างมึงถึงช่วยพูดแทนแต่ก็ไม่รอดอะจ้า
ครวยเหรอ ถึงว่าทำไมก็อปของนอกกันครึกโครม นอกจาเจ้าของตามเอาเรื่องไม่ได้ ก็มีคนพูดแทนที่สามารถเล่นงานมันกลับได้ต่อที่ให้พูดมาแม่งจะจริงก็เถอะ

162 Nameless Fanboi Posted ID:C6/VPy5jYN

รีวิว mso2 ของดดแม่ง... ไม่พ้นย่อหน้าแรกเจอสวมvrโยงmetaกูก็มองบนแล้วไม่นับที่เหลืออีก...นี่เขียนให้ชวนอ่านมากกว่านี้ไม่ได้เลยจริงดิ

163 Nameless Fanboi Posted ID:vMWZmhMSgg

>>162 มึงไปอ่านไอ้นิยายระบบที่ติด top 1 ตอนนี้ดิ เขียนชื่อตัวละครสลับกับอีกเรื่อง ตอดล่าสุดแมร่งเร่งงานเอามาลงจนไม่ตรวจคำผิด อ่านไปะดุดไปหัวจะทิ่ม นักอ่านยังชมแม่ง ยังซูฮก บางอย่างนิยายไทยมันแย่ลงมันไม่ใช่เพราะนักเขียนแย่ แต่มันเพราะนักอ่านมาตราฐานต่ำลง คำผิดเยอะจนหัวทิ่มแต่ไม่มีใครตำหนิ แถมต้องจ่ายเงินอ่านด้วยช่วงหลัง

164 Nameless Fanboi Posted ID:TT5gsg.92d

>>163 มึงจะสื่อว่ามาตรฐานนักอ่านต่ำลงเลยรีวิวแย่ใช่ปะ?
รีวิวที่พูดถึงนี่คือของทีมงานดด.ที่เอาไปโมฆณาชวนอ่านเลยต่างหาก

165 Nameless Fanboi Posted ID:+wL0zZMYCT

>>164 มันน่าจะหมายถึงพอมีแต่นักอ่านกลุ่มคนง่ายๆสายป้อนเคี้ยว เลยไม่ต้องใช้ระดับภาษาไรให้ยุ่งยากเน้นขายง่ายมากเข้าว่าป่าว ก็นักอ่านตอนนี้มันมีแต่พวกเน้นอ่านงานกินง่ายไม่เคี้ยวยากไม่ย่อยลำบาก ถ้าจะเขียนริวิวให้สละสลวยแบบเมื่อก่อนใครแม่งจะอ่าน
แต่อีกมุมนึง กูว่าทีมงานอาจจะกากเอง5555 เพราะกูนี่สิงมาเกือบสิบปีคือเรียนจบไปพร้อมกันอะ ทีมงานมันก็มีพัฒนาการ(ในทางเหี้ยลง)เหมือนกันนะวุ้ย ถึงจะเป็นเพราะเปลี่ยนทีมคนละชุดก็เถอะ แต่สมัยก่อนทีมงานหยิบนิยายมารัวิวทีจะใช้ภาษาที่ค่อนข้างกระชับและสละสวยกว่า ถึงยาวหน่อยแต่ก็ตามอ่านจนจบรีวิวได้ ส่วนตอนนี้คือเน้นขายแบบฟีลทวิตฟีลเฟซอะ เน้นความฉับไวย่อส่วนเอา เร่งเร้าให้รีบจบๆไป

166 Nameless Fanboi Posted ID:TmcNzvLcF5

>>163 วาร์ปหน่อย อยากลองสัมผัส(ความเหี้ย)ดู

167 Nameless Fanboi Posted ID:vMWZmhMSgg

>>164 กูหมายถึงมาตราฐานนักอ่านมันแย่ลง คนเขียนนิยายมันเลยมักง่ายขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขียนเหี้ย คนอ่านแม่งยังเสือกชม อย่างไอ้เรื่องที่กูยกอ้างมา ชื่อตัวละครสลับกัน ไปเอาชื่อพระเอกจากอีกเรื่องมาใส่อีกเรื่อง เอาชื่อนางเอกสลับเรื่องเพราะมันเขียนสองเรื่องพร้อมกัน

คำผิดเยอะแยะไม่ค่อยแก้ นักอ่านแมร่งก็อวย เนื้อเรื่องกูอ่านดูก็ไม่เห็นมีอะไร วนหลูบตบเกรียน ก็อบนิยายจีนมา ให้ระบบมากับตัวเอง จากตัวเอกโง่ๆควายๆ ได้ระบบช่วย อะไรก็ระบบ ถอดระบบออกพระเอกมันก็คือควายอะ พลอตก็ดาดๆ กูเลยงงว่าทำไมนักอ่านมันถึงอวย

168 Nameless Fanboi Posted ID:vMWZmhMSgg

>>166 https://writer.dek-d.com/TightTaradon/writer/view.php/?id=2302659

นักเขียนคนนี้มันก็มีข้อดีอยู่ มันเขียนลงวันละหลายตอน บวกกับมันไม่ค่อยลอยแพนักอ่าน มันเขียนจนจบเกือบทุกเรื่อง มั้ง

169 Nameless Fanboi Posted ID:9bfWX/EXZS

พวกมึงบอกว่ามาตรฐานนักอ่านต่ำลง นิยายกากๆแบบนี้ยังขึ้นTop1หมวดแฟนตาซีที่พวกมึงใฝ่ฝันได้

งี้ก็เป็นโอกาสดีเลยดิเพื่อนโม่ง ในเมื่อมาตรฐานนักอ่านต่ำลง พวกมึงสกิลเขียนเทพอยู่แล้ว น่าจะแย่งตำแหน่งtop1มาได้ไม่ยาก ขนาดนิยายไม่แก้คำผิด เขียนชื่อตัวละครสลับยังขึ้นท็อปได้เลยนะมึง

แล้วพวกมึงที่เก่งกว่า100เท่า ทำไมจะขึ้นไม่ได้วะ เร็วๆเลย รีบเขียนนิยายแล้วแย่งชิงTop20หมวดแฟนตาซีให้กลายมาเป็นนิยายของโม่งให้หมด

170 Nameless Fanboi Posted ID:+wL0zZMYCT

>>169 ต่ำลงในที่นี้คือต่อให้โทลคีนหรือป้าเจเคมาเขียน พวกแม่งก็ไม่อ่านเพราะมันชั้นสูงไป เหมือนขายสลัดผักในดงคนกินเนื้อ มันคงจะขายดีอยู่หรอก
คือตลาดนิยายตอนนี้คนอ่าน=เน้นงานเสพง่าย เคี้ยวแล้วป้อนให้กูด้วย ขอย่อยง่ายด้วย
คนผลิต=เน้นปรุงด่วนเร่งขาย คุณภาพไรไม่สำคัญ สับงานหยาบๆเข้าไปให้คนอ่านก็เสพเพราะมันย่อยง่ายดี
พอตลาดมันเป็นงงี้ นักเขียนนักอ่านคุณตะพาบคับแก้วจะอยู่รอดได้ไงวะ ต่อให้นักเขียนเทพขยันเข็นงานสู้ แต่ย่อยยากไปคนอ่านไม่แดกสุดท้ายก็ถูกถีบไปอยู่ใต้ตีนพวกขี้กาก กลับกันถ้าคนอ่านงานละเอียดมาเจอแต่งานหยาบงี้ ก็หนีไปเสพงานนอกดีกว่า มันเลยกลายเป็นวงจรอุบาทเพราะงานดีขายไม่ได้ นายทุนไรจะกล้าส่งเสริมล่ะ เลยเหลือแต่งานกากๆล้นตลาดที่พวกนักอ่านย่อยยากมาเจอกันก็คิดว่าเริ่ดแล้วอุปทานหมู่ต่อๆกันไปว่านี่คือดีที่สุด ต่อให้รู้ว่ามีงานที่ดีกว่านี้แต่จ้องพยายามอ่านหน่อยพวกแม่งก็ไม่เอาหรอก ต้องการให้เคี้ยวป้อนอะ

171 Nameless Fanboi Posted ID:z9OMSR622S

>>170 +1

172 Nameless Fanboi Posted ID:9bfWX/EXZS

ถ้าอย่างนั้น ทางออกของนักเขียนชาวโม่งคืออะไรวะ ในเมื่อไม่สามารถเขียนนิยายให้ตรงกับความต้องการของนักอ่านเด็กดีได้ แล้วนักเขียนชาวโม่งควรเขียนนิยายให้ใครอ่านวะ

ทุกวันนี้ พวกเราชาวโม่งเข้ามาอ่านการสับนิยายกันเพื่ออะไร พัฒนาตัวเองไปเพื่ออะไร ในเมื่อนักอ่านชอบงานห่วยๆ จุดหมายของนักเขียนชาวโม่งคืออะไรกันแน่

รบกวนชี้แนะด้วย กูสับสนมาก

173 Nameless Fanboi Posted ID:TK5lP2tPb/

ส่วนตัว มองว่ากลุ่มคนที่อ่านนิยายเว็บไม่ได้ต้องการความเป็นวรรณกรรมมากขนาดนั้น ภาษาสละสลวยเติมคำเปลี่ยนคำ อุปมาอุปไมย noๆ เอาแค่คำง่ายๆ ให้อ่านรู้เรื่องก็พอ เนื้อหาเนื้อเรื่องก็ใช้สูตรสำเร็จวนไป ค่อยๆ แต่งให้มีเอกลักษณ์ของตัวเองไปเรื่อยๆ ถ้าจะคาดหวังของดี กุมองว่ามาผิดตลาดแล้ว เหมือนอยากกินเสต็กหรูแต่เสือกเข้า KFC หรือ Seven อ่ะแหละ

174 Nameless Fanboi Posted ID:n8Knk7mXc0

>>172 เอาจริงๆมันก็ไม่ได้ชอบงานห่วย งานดีพวกมันก็ชอบ แต่พวกมันก็ยังอ่านงานห่วยๆเหมือนกัน

พฤติกรรมของนักอ่านมันทำให้นักเขียนไม่เกิดความคิดอยากจะพัฒนาตัวเอง แถมมันพาลให้เกิดนักเขียนสวะที่มีความคิดแค่ว่า ไป COPY พลอตชาวบ้านมา เปลี่ยนชื่อตัวละคร ใส่เหตุการณ์หลักๆจากแรงบันดาลใจที่ได้มาโดยการ COPY เปลี่ยนรายละเอียดนิดหน่อย เอามาเขียนเปิดขายได้เงินหลักหมื่น สบาย แถมไม่มีคนด่าด้วย มันหนักตรงไม่มีคนด่านี่แหละ เสรือกมีคนชม สุดท้ายพอทำได้ มันก็ขบวนพาเหรดกันทำ จนมึงจะเห็นพลอตตบเกรียนวนหลูบเต็มนิยายติด top แก้ไม่ได้ว่ะ งานดีๆ งานละเอียดมันต้องใช้เวลาสร้าง คิด บรรจงเขียน แก้คำผิด มันเลยนานๆลงได้ที แต่งานกากๆมันไม่ตรวจคำผิด ภาษาวิบัด อ่านไปสะดุดหัวทิ่มต้องอ่านๆหยุดๆแล้วช่วยพวกมันแก้รูปประโยคในใจ งานแบบนี้มันพิมพ์ได้วันละ 3 ตอน 4ตอน แบบที่ไอ้นิยายระบบนั่นทำ จะแก้ต้องแก้ที่คนอ่าน อ่านแล้วต้องบ่น ต้องด่า ต้องตำหนิ สุดท้ายพอไม่มีใครตำหนิแต่ดันชอบ มันก็เป็นการผลักดันให้งานเขียนในยุคนี้ออกมามักง่าย ข้อมูลไม่หา เขียนเอามัน คำผิดบาน ก็อบคนอื่นมา พอตันก็ลอยแพ

175 Nameless Fanboi Posted ID:qiCZv0bfJ0

>>168 เจ้าของเรื่องเมฆาจอมขมังเวทนี่เอง สายเอาปริมาณเข้าสู้ คุณภาพไม่เน้น

176 Nameless Fanboi Posted ID:/msTk7P8Ti

>>172 จุดประสงค์การเขียนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ในเมื่อเมิงจะพูดว่าเขียนงานไม่มีคนอ่านจะเขียนทำไม พล็อตไม่มีเหี้ยอะไรก็ขายได้ บรรยายไม่เป็น ยัดแต่บทพูด คลังคำเท่าจิ๋มมดก็มีคนอ่าน พวกเมิงจะพัฒนาจะวิจารณ์กันทำเฮียอะไร

กูก็จะบอกว่า กุเขียนยังไงก็ไม่มีคนอ่านอยู่แล้ว ก็เลยจะพัฒนางานให้ตัวเองภูมิใจ มันทางของกุ
กุผ่านความฝันจะเป็นนักเขียนแล้ว กุรู้ว่างานกุห่วยขายไม่ได้ แต่กุทิ้งความรู้สึกเวลาเขียนนิยาย ชอบเวลาที่จมกับการเขียนนิยาย กุก็ต้องเขียนเพื่อตัวเอง
พอผ่านความล้มเหลวมาเยอะแยะ มาวันนี้ ต่อให้มียอดวิวเยอะ แต่กูไม่โอเคกับงานตัวเองกุก็เท

จุดประสงค์มันต่างกัน การเขียนนิยายทุกคนไม่จำเป็นต้องมีเป้าหมายคือ ต้องมีคนอ่าน ต้องขายได้ มึงเป็นศิลปินด้วย เมิงเป็นพ่อค้าด้วย กุไม่ว่า

แต่ไอ้คนที่เป็นศิลปิน ติ๊ดแตกแดกไม่ได้มันก็มี อย่างกูไง

177 Nameless Fanboi Posted ID:cep2GSJiX1

>>169 อะไรทำให้มึงคิดว่ากูไม่ใช่หนึ่งในคนเขียนที่ติด TOP ?

178 Nameless Fanboi Posted ID:8nbrbgdusv

>>176 +1 กูก็อินดี้เขียนเพราะอยากเขียนเอามันไม่ได้เขียนเพื่อเอาใจใคร เขียนเป็นงานรองด้วยซ้ำเพราะกูมีงานประจำอยู่ละ อัปเดือนละ2-3ตอนอีก พล็อตไม่คลิเช่อีก เปิดขายได้เดือนละร้อยสองร้อยบาทเอง555 มีคนเม้นตอนละ2-3คนหรือบางตอนไม่มีเลยด้วยซ้ำ ก็แห้งแล้งพอตัวอะแต่กูแฮปปี้ละวะที่อย่างน้อยมีคนตามอ่านหลักพันนิดๆดลยนะวุ้ย แม้จะเขียนมานานเป็นปีแล้วก็เถอะ แถมยังผิดหลักสูตรขายง่ายอย่างที่โม่งวิเคราะห์ว่่าซอยตอนให้สั้นเน้นภาษาง่ายๆกูนี่อัดไปตอนละหมื่นคำกว่าๆ สิบหน้ากระดาษอัปทุกตอน บรรยายใช้พวกโวหารก็เยอะ
เอาเป็นว่าถ้ามึงเน้นเขียนเพื่อขาย เขียนเพื่อใช้หาแดก ก็เขียนตามตลาดตอนนั้นไป อย่างตอนนี้เน้นนิยายย่อยง่ายพล็อตกากๆเนื้อหาก็อปปี้วางแบบบิดนิดหน่อยเอางี้ ถอดสมองทำๆไป ถ้าเขียนเพราะอยากเขียนเองไม่ง้อคนอ่านไม่ใช่รายได้หลัก ก็เขียนแบบใช้สมองหน่อยละกัน นิยายทุกแบบมีคนอ่านอยุ่แล้ว แค่มากน้อยตามกระแสเท่านั้นอะ

179 Nameless Fanboi Posted ID:Bxi6iwoT34

ขอถามหน่อยในรี้ดมีหมวดไหน เทียบแล้วเหมือนอดีต ปจบ. อนาคต ในเด็กดีบ้างไหม เผื่อจะเอาไปลงจะได้เป็นการกระจายฐานคนอ่าน

180 Nameless Fanboi Posted ID:19ZpAgwXuv

กลิ่นตุๆ https://www.dek-d.com/board/writer/4056134/10/0

181 Nameless Fanboi Posted ID:fs34J44mr5

>>180 กลิ่นไรไหนฝอยมาสิ
ว่าแต่แม่งเป็นนอร์มใหม่ไปแล้วจริงๆเหรอวะเดี๋ยวนี้ เห็นบ่อยมากพวกเขียนสดลงเว็บลงแอปพอหายมางอแง แม่งไม่เขียนลงเอกสารลงโน้ตมาก่อนกันเหรอวะ ก็อปวางจบไม่ต้องใช้เน็ตด้วย กูงง กูสับสน สมมุติมึงเขียนจบทำอีบุ๊คคือไง มานั่งแคปหน้าจอทีละตอนไปทำไฟล์PDFกันเหรอวะ
ไม่ใช่แค่เด็กดีอะ รี้ดก็เป็นเว็บอื่นก็เป็น มานั่งเขียนสดไงงี้เหมือนลุ้นแจ็กพ็อตแตก เน็ตสะดุดทีหายหมด ซึ่งไม่ใช่ความผิดเว็บด้วยซ้ำเหอะเรื่องเน็ตเนี่ย

182 Nameless Fanboi Posted ID:e3WIrBA469

>>181 บางคนมันไม่มีคอมไง ใช้มือถือพิมพ์เอา ลำบากยังไม่พอ ถ้าเน็ตมือถือสะดุดนิดนึงมันก็ไม่เซฟความคืบหน้าให้ กดอัปโหลดไปก็หายหมด หรือบางทีแอพรวนลงละหาย จะกดย้อนไปลงใหม่ก็ไม่ได้ ถือว่าเป็นความซวยส่วนบุคคล ทั้งๆ ที่ word ในมือถือมันก็มี หรือใช้พวก sheet ออนไลน์ทั้งหลายเอาได้แต่เสือกไม่ทำ (หรือไม่มีความรู้ก็ไม่ทราบ) มันเลยต้องจบแบบนี้ไงล่ะโม่ง

183 Nameless Fanboi Posted ID:U4D85sDAtS

>>182 จะสมน้ำหน้าก็แรงไป เอาเป็นขอให้หายโง่ไวๆละกัน
แต่พวกแอปพวกเว็บนี่กูว่าเหมือนเขาทำมาเพื่อให้ช่วยปรับหน้าง่ายขึ้นปะ แบบบางคนเขียนในโน้ตที่มันไม่มีจัดย่อหน้าแรกให้หรือบรรทัดมันชิดไปช่องไฟมันห่างแปลกๆ พอลงแอปลงเว็บมันจะปรับออโต้ให้อะ ที่กูลิงนะ พิมพ์ในมือถือนี่แหละ ลงรี้ดมันจะปรับให้หมดเลยทั้งขนาดตัวอักษรงี้ แต่เสียอย่างแม่งข้อความที่กูทำกึ่งกลางไว้ มันดึงงชิดซ้ายหมดเลยสัส ส่วนเด็กดวกชอบเปลี่ยนสีตัวหนังสือกูจากสีดำปกติมาเป็นสีน้ำตาลไรงี้ บางทีก็ลบย่อหน้ากูหายกลายเป็นชิดหมดไม่มีย่อบรรทัดแรกงี้
แต่ดด.มันดีหน่อยตรงที่มีเซฟออฟไลน์ให้นะบนเว็บ กูเคยนั่งแก้รีไรท์อะตัดคำผิดเขียนเพิ่มไปนิดแล้วไฟดับเนตตัด มันยังเก็บไว้ให้วุ้ย บนแอปมือถือก็มีให้เลือกเซฟบนเครื่องไว้ก่อนด้วยงี้
แต่ใดๆคือไม่ควรพิมพ์สดนั่นแหละ เพราะมันเกี่ยวกับเน็ตด้วยอะ ต่อให้วันนี้มันเสถียรคนใช้น้อยงี้เลยไม่มีค้าฃ แต่ถ้าไฟดับเน็ตสะดุดทีไงก็ปลิวจ้า

184 Nameless Fanboi Posted ID:T0Rglsrtsb

เขียนนิยายในมือถือลำบากมากน่ะ ก็ไปซื้อ Bluetooth Keyboard มาเชื่อมต่อสิเอ่อ

185 Nameless Fanboi Posted ID:2P7GLxvLIS

เดี๋ยวนี้ทำไมบอร์ดนักเขียน โปรโมทกันถี่จังวะ

186 Nameless Fanboi Posted ID:/ji4auEhwN

>>185 เห็นมีคนทำ ก็ทำต่อๆกัน บางคนลงทุกวัน

187 Nameless Fanboi Posted ID:KTOeqQFeRf

ไม่เข้าใจว่าชื่อก็บอกเป็นบอร์ดนักเขียน แล้วยังโฆษณาทุกวัน เพื่อให้นักเขียนที่เป็นคู่แข่งเหม็นขี้หน้ากันหรอ

188 Nameless Fanboi Posted ID:X2J9Fip4y4

>>187 มันมีหมวกโฆษณาอยู่ยี่หว่า ก็ไม่น่าผิดปะ ว่าแต่มีอิจฉาแต่เรื่องโฆษณากันด้วยเหรอวะ

189 Nameless Fanboi Posted ID:6J7euK7Xiu

>>187 มันมีคนใช้ผิดวัตถุประสงค์มาตั้งแต่แรกๆ เลยใช้ผิดกันมาตลอดทั้งๆ ที่แยกหมวดให้แล้ว ซึ่งเท่าที่กูเคยคุยกับพี่เว็บมาเข้าบอกว่า

สัพเพเหระ = คุยอะไรก็ได้ แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับนิยายก็จะดี
กลเม็ดเคล็ดลับ = แชร์เทคนิคหรือแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับงานเขียน
แนะนำเรื่องเด็ดโฆษณา = แชร์นิยายที่ตัวเองชอบให้คนอื่นอ่าน ประกาศว่ามึงแต่งเรื่องนี้จบแล้ว หรือแจ้งการเปิดขาย-เปิดจอง(พวกนิยายทำมือยุคที่ยังไม่มีระบบติดเหรียญ)

ปัจจุบันนอกจากใช้ผิดแล้วยังทำพร่ำเพรื่อจนมันรกหน้าหลักไปหมด เด็กรุ่นหลังมาเห็นเลยเข้าใจผิดว่าสามารถใช้แปะได้ทุกครั้งที่ลงตอนใหม่ก็ยิ่งรกเข้าไปอีก ถ้าอยากสื่อสารกับนักอ่านจริงๆ แม่งควรทำเพจเฟซบุ๊ก ทวิต หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่บอร์ดนักเขียน ถ้าเป็นในเฟซจะฟลัดกี่โพสก็เรื่องของมึงเพราะเป็นเพจมึงเอง แต่มาฟลัดในบอร์ดนี่ไร้สาระ นักอ่านก็รู้แค่แจ้งเตือนจากกระดิ่งแค่นั้นแหล่ะ

190 Nameless Fanboi Posted ID:KTOeqQFeRf

>>188 กูเห็นในบอร์ดมีคนตั้งทู้ว่ารู้สึกยังไงกะโฆษณานิยาย พวกขาประจำกิงก่องแก้วต่างบอกกันว่าน่ารำคาญ กูว่ามันไม่เชิงอิจฉาอะไรหรอก แค่ออกแนวเห็นใครดีใครเด่นไม่ได้มากกว่า

191 Nameless Fanboi Posted ID:6F4sAkl5Vr

>>190 ปสด.ว่ะ แค่โฆษณาบ่อยๆก็ทนเห็นได้ดี(ตรงไหนวะ)กว่ากันไม่ได้วุ่ย เอาจริงไอ้พวกที่น่ารำคาญกว่าคือพวกถามแบบไม่หาก่อน แถมถามซ้ำๆกันแบบอาทิตย์เดียวก็เจอมู้ถามหัวข้อเดียวกันไปสิบกว่ามู้จนหลอนละสัสเป็นเทรนด์ไรป่าววะ หรือขอให้ช่วยคิดทุกอย่างทั้งชื่อทั้งพล็อตแบบขอขนาดนี้มึงไม่ต้องเขียนเองเลยจ้างนักเขียนผีไปเถอะ

192 Nameless Fanboi Posted ID:6F4sAkl5Vr

>>189 พร่ำเพรื่อจริง อย่างโฆษณานี่ถ้ามาแบบจบภาคแล้วจบเรื่องแล้วมาตำกันนะไรงี้ โอเคนะ แต่ถ้าจะเอาแบบพี่ลูเธอร์ที่อัปตอนใหม่ทุกวัน=ตั้งกระทู้ทุกวัน เรื้อนสัส

193 Nameless Fanboi Posted ID:Ur2Lz.jZ0i

"ที่เป็นแบบนี้นั้นเป็นเพราะว่าขณะที่ชายที่ถือไม้กำลังฟาดมาที่หัวของxxxนั้น xxxก็ใช้ร่มแทงสวนไปที่แขนข้างหนึ่งของเขาทันที" พวกมึงอ่านประโยคบรรยายฉากการการต่อสู้แค่ส่วนนี้แล้วรู้สึกว่ายังไงบ้างวะ คือกูสงสัยว่าทำไมนักอ่าน อ่านอะไรทำนองนี้แล้วแบบยังอวยกันได้

194 Nameless Fanboi Posted ID:1jna.Q8lew

>>193 1)ลำดับการเล่ามันย้อนไปย้อนมา มึน 2)ใช้คำที่กำกวมทั้งที่ไม่ควรกำกวม ไอ้แขนข้างหนึ่งเนี่ย มันน่าจะบอกไปเลยว่าซ้าย ขวา ในฉากต่อสู้ จุดที่ชัดเจนได้ก็ควรชัดเจนเลย 3) อันนี้ส่วนตัวกูนะ กูว่ามันรู้สึกขาดอะไรไปซักอย่างตรงท้าย รวมกันแล้วถ้ากูแก้ มันน่าจะเป็น "ในพริบตาที่ไม้ฟาดลงหัวของxxx เขา/เธอ ก็ใช้ร่มแทงสวนเข้าแขนซ้ายของศัตรูไปในทันที (สาธยายต่อเล็กน้อย)" อะไรทำนองนั้น

195 Nameless Fanboi Posted ID:16Pw2I6Qr8

>>193 ยืดเยื้อเกินไป ที่ถูกต้องควรเป็น "ก่อนไม้ในมือของชายแปลกหน้าจะทุบโดนxxx แขนข้างที่ถือไม้ก็ถูกxxxแทงสวนด้วยร่มเสียก่อน เกิดเสียงดัง ฉัวๆๆๆ ขึ้นหลายครั้ง แล้ว xxx ก็กลิ้งกุดุสๆๆๆๆๆๆ หนีไป ย๊ากกกกก วิงวอคคคๆๆคคคคค xxx ตะโกนระหว่างใช้สกิลพรางกายเพราะคิดว่ามันเท่ดี"

196 Nameless Fanboi Posted ID:vJAY6NtFaa

เกิดเสียงดัง ฉัวๆๆๆ กุดุสๆๆๆ

197 Nameless Fanboi Posted ID:azx7M58Wfz

>>195 กูเกลียดตรง ‘เพราะคิดว่ามันเท่ดี’ 5555555

198 Nameless Fanboi Posted ID:VAtiFUf45g

>>194 มันทั้งใช้คำกำกวม อธิบายไม่เห็นภาพ ใช้คำซ้ำ อ่านทีทั้งติดทั้งสะดุด ประโยคเดียวใช้คำว่า "ที่" 4 จุด มันไม่ได้เป็นแบบนี้ทั้งประโยคนะ เป็นทั้งเรื่อง แต่นักอ่านยังชอบยังอวยจนติดอันดับ เนื้อหาที่เอามาให้อ่านเป็นตอนเก็บเงินด้วย

199 Nameless Fanboi Posted ID:GRl80qmG5c

>>198 เพราะลงบ่อยกับแนวตลาดอีกแล้วรึเปล่า ถ้าใช่ก็ทำใจ

200 Nameless Fanboi Posted ID:YGAtFzS2RS

ในขณะที่ชาวโม่งจมปลักไม่พัฒนา พี่ตุ๋นกบที่เคยถูกชาวโม่งวิจารณ์ ตอนนี้เขียนนิยายเรื่องใหม่ คว้าอันดับTop2หมวดแฟนตาซีที่ชาวโม่งใฝ่ฝัน เท่านั้นไม่พอ ยังติดTop10หมวดรวม

ทำให้กูเห็นว่า เล่นโม่งไปก็เท่านั้น นักเขียนที่เคยโดนโม่งด่า กลับได้ดิบได้ดี ได้อันดับ ได้เงิน ขณะที่ชาวโม่งจมปลัก ไม่เคยพัฒนา น่าขำชิบหาย วันๆถกเรื่องไร้สาระ ไม่เห็นว่าจะทำให้ชีวิตนักเขียนของกูปังขึ้นสักนิด สู้กูไปเลียไข่ตุ๋นกบ เผลอๆยังได้เทคนิคมาพัฒนาตัวเองมากกว่า

201 Nameless Fanboi Posted ID:AS6G7xDO15

>>200 based

202 Nameless Fanboi Posted ID:/BnSl9pecs

>>200 พวกคุณแค่ด่าผมเกินจริงๆไปบ้างครับ นิยายผมมันมีจุดห่วย แต่มันก็มีข้อดีของมันครับผม คนเรามันก็มีพัฒนา ผิดพลาด เรียนรู้ครับ พี่

203 Nameless Fanboi Posted ID:fVVx78vp/G

>>200 ต้องอวดสู้ไหมว่ากูเอาทริคในโม่งมาปรับจนติดท็อปไปสามเรื่องแล้วอะจ้า

204 Nameless Fanboi Posted ID:vgEvbc7Tj.

>>200 ไม่ติดได้ไง นิยายมันลงวันละสามตอน นิยายขยะเหมือนเดิม

205 Nameless Fanboi Posted ID:vgEvbc7Tj.

>>202 ถุย

206 Nameless Fanboi Posted ID:2BeNLzEMx0

>>200 THIS

207 Nameless Fanboi Posted ID:fSH8mFjVI2

>>200 มึงนี่ก็ขยันโทรลดีจังวะ

เอางี้ สมมุติว่ามึงไม่ได้โทรลแต่คิดอย่างที่มึงพิมพ์มาจริงๆ เดี๋ยวกูจะบอกอะไรดีๆ ให้

เรื่องอยากไปเลียไข่ตุ๋นกบก็เลียได้ตามสบาย ถ้าคิดว่าวิธีนี้คือทางออก เป็นทางลัดที่ง่ายและดีสำหรับมึงก็ไม่ผิดอะไร แต่กูจะแนะนำว่าให้ไปดูนิยายของไอดีชื่อท่านโซ เจ้าของเรื่อง Deva wizard คนที่ไอ้ตุ๋นกบลอกแนวทางมาอีกทีแทนจะดีกว่า เพราะเทียบกันแล้วครูไอ้ตุ๋นเหมือนจะทำได้ดีกว่าอยู่นิดหน่อย โดยเฉพาะความเก่งด้านการยืดเรื่องหลอกแดกคนอ่าน

ปัจจัยที่ทำให้มันติดท็อปไม่ใช่ความเก่งกาจ คุณภาพ ฝีมือ แต่เป็นความถี่ วิธีใช้กระแส การศึกษาตลาด และวิธีโฆษณาของมันต่างหาก มีอยู่ช่วงนึงที่มันมาดราม่าในบอร์ดนักเขียน มันยอมรับเองว่าวางแผนก่อนเขียนตลอด ศึกษาตลาดว่าทำยังไงคนอ่านในเด็กดีจะติด และมันเป็นสายเขียนเพื่อขายอย่างแท้จริง ดังนั้นแล้วถ้ามึงจะเอามันมาเป็นแบบอย่าง กูบอกอีกรอบก็ได้ว่าไม่ผิด หากเป้าหมายของมึงมีแค่อยากติดท็อป อยากขายนิยายที่แต่งแล้วไม่จบสักเรื่อง หลอกแดกเงินคนอ่านวนไป แค่นั้นจริงๆ

สังเกตจากสำนวนของมึงคงแล้ว คงจะเป็นคนเดียวกับโม่งที่มาแซะว่าถ้าคนในโม่งเก่งจริงทำไมไม่ขึ้นไปยึดท็อปหมวดให้หมด กูเลยสงสัยว่าอะไรทำให้มึงมั่นใจขนาดนั้นว่าในท็อปหมวดไม่มีพวกกูอยู่ ต่อให้ไม่ใช่แฟนตาซีก็เถอะ กูว่ามันมีอยู่แล้วแต่อาจไปยึดกันหมวดอื่น อ่านวิธีการพิมพ์เทียบกับพวกแจ้งข่าวหรือทอล์คท้ายตอนบางคนก็ยังดูออกเลยแค่ไม่อยากไปแหกโม่งกันเล่น (ผีมันย่อมเห็นผีอยู่แล้ว) เพจนิยายบางคนที่กูมั่นใจนี่เด้งขึ้นมาตรงหน้าฟีดเฟซกูรัวๆ เลย ไม่รู้ว่าอัลกอริทึ่มของเฟซบุ๊กแม่งทำได้ไง โดยเฉพาะอีคนที่แต่งนิยายวายอะ อย่าให้รู้นะว่าแอบส่องเพจกูเหมือนกัน (ฮึๆ)

2 บรรทัดสุดท้ายของมึงนี่โจมตีว่าโม่งกาก แล้วมึงมาเล่นโม่งทำไมวะนั่น ถ้าคิดได้แล้วว่าในโม่งมันไม่มีสิ่งที่มึงตามหาจะเลิกลงมาเล่นก็ไม่มีใครว่า ก็ไปหาอ่านนิยายไอ้ตุ๋นได้ตามใจมึง สิ่งที่มึงจะได้ไม่ใช่วิธีเขียนนิยายให้ดีขึ้น แต่เป็นทำยังไงให้นิยายขายได้แม้จะคุณภาพแบบนั้น

เอาจริงๆ สาเหตุที่ทำให้ตุ๋นกบโดนด่าในโม่งหลักๆ ไม่ได้มาจากเรื่องฝีมือการเขียน แต่เป็นความจองหองอวดดี ความไม่รู้จักวางตัวในฐานะ Author เพราะตั้งแต่สิงในเว็บนี้มากูไม่เคยเจอนักเขียนคนไหนที่ลงไปปะทะกับคอมเมนต์ด่าของนักอ่านบ่อยเท่ามันมาก่อน บางอันก็ด่าซะหยาบจนสงสัยว่านี่คือคนเรียนจบสูงมาจริงดิ นักอ่านข้องใจพล็อตโฮลก็ด่า นักอ่านงงเนื้อเรื่องเพราะมันเล่าวกวนก็ด่า โดนแซวนิดเดียวก็ยังจะด่าว่าเขากวนตีนเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่เหมือนมันเคยบอกไว้ว่าถ้าใครดีมามันก็ดีกลับ ด่ามามันก็ด่าคืน กูมองว่าวิธีคิดแบบนี้มันเด็กน้อยเกิน ไส้ในจะเป็นคนเหี้ยยังไงอย่างน้อยเราก็ต้องสงวนท่าทีไว้บ้าง ไม่งั้นอีกหน่อยพลาดล้มขึ้นมา มันมีคนพร้อมจะขุดเรื่องเหี้ยๆ ในอดีตของเรากลับมาซ้ำได้เสมอแหล่ะ

แล้วเรื่องรายได้นี่นะ กูแม่งฮา ที่มันเอารูปมาโชว์ว่าได้เดือนละ 8,000-10,000 เพราะมีคนสบประมาท เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำมากๆ จะได้เยอะหรือได้น้อยแม่งก็อย่าหาทำ ถ้ามันเยอะเดี๋ยวมีปัญหาเรื่องภาษี ถ้ามันน้อยคนเขาจะถ่มถุยเอาว่าได้แค่นี้แล้วเสือกอยากอวด จากดราม่ารอบนั้นทำเอากูอายแทนเลย เพราะมันมีนักเขียนอีกเยอะที่ขายได้ประมาณนี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นซึ่งอาจขายได้มากกว่าอีก

ก็คงต้องยอมรับแหล่ะว่ามันทำให้นิยายคุณภาพเท่านั้นขายออกนี่ถือว่าเก่งใช้ได้ ในสายตากูมองว่ามันไม่ใช่นักเขียนแต่เป็นนักขายมากกว่า อะไรหลายๆ อย่างมันผิดจากที่กูเคยถูกสอนมา โดยเฉพาะการมองนักอ่านว่าเป็นแหล่งรายได้ ถ้าเน้นขายความสนุกความบันเทิงอย่างเดียวมึงจะกลายเป็นนักขาย แต่นักเขียนจะแต่งนิยายที่คนอื่นอ่านแล้วเขาได้อะไรมากกว่าแค่ความสนุก นั่นแหล่ะคือความแตกต่าง แม้จะเป็นนิยายที่ขายเหมือนกันแต่คุณประโยชน์มันต่างกัน

208 Nameless Fanboi Posted ID:fSH8mFjVI2

เรื่องที่ว่าไม่พัฒนาอันนี้กูคงต้องเถียง เพราะมันมีอยู่แล้วคนที่ได้ประโยชน์จากการตามอ่านโม่ง แล้วที่กูมาเขียนในโม่งเนี่ยไม่ได้กะจะสร้าง Super Writer รุ่นใหม่ออกมาประดับวงการ กูไม่ได้ถามหาความสมบูรณ์แบบ แต่กูอยากช่วยเด็กหัดใหม่ให้พอรู้พื้นฐาน หรือรู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำถ้าคิดจะแต่งนิยายสักเรื่อง สำหรับพวกที่มีของติดตัวอยู่หรือเป็นพวกที่มีฝีมือพอสมควร ก็จะได้เปิดหูเปิดตาแลกเปลี่ยนทรรศนะ อะไรที่ดีอยู่แล้วก็จะดีขึ้นอีกได้ มันเหมาะกับคนที่เปิดใจยอมรับแล้วมองข้ามความเหี้ยหรือความสถุนของการใช้ภาษา เท่าที่อ่านๆ มา ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนในนี้จะเขียนเพื่อความดัง ความรวย หรือความมีที่ยืน

คนที่อยากเติบโตอย่างช้าๆ มันมี และคนที่อยากหาทางลัดแบบมึงมันก็มี ดังนั้นมึงไม่จำเป็นต้องมาว่าร้ายโม่งก็ได้ เพราะถึงจะว่าไปบนดินมันก็ไม่รู้เรื่องอะไร ถ้าอยู่โม่งแล้วไม่ชอบก็แค่กลับขึ้นไป จะศึกษาจากตัวอย่างที่มึงคิดว่าตอบโจทย์ทำได้จริงอย่างทั่นกบก็แล้วแต่มึง แต่อยากให้มึงคิดสักหน่อยว่ากับคนที่แม้แต่ชื่อไอดีและวิธีแต่งนิยายยังเลียนแบบเขามา (ท่านโซ-ท่านกบ) มึงคิดว่าจะได้อะไรเจ๋งๆ จากคนแบบนี้เหรอวะ คนที่ทะเลาะตบตีกับเกรียนบนหน้านิยายตัวเอง คนที่อวดรายได้ต่อเดือนเพราะโดนแขวะนิดเดียว หรือคนที่ด่านักอ่านว่าคอมเมนต์เยอะเกินจนรำคาญเสียงแจ้งเตือนจากแอพ(ทั้งๆ ที่จะปิดเสียงก็ได้) มึงอยากเลียไข่คนแบบนี้จริงๆ ดิโม่ง

ปล.ดราม่าเสียงแจ้งเตือนคอมเมนต์คราวก่อน กูว่าจริงๆ แล้วไม่มีอะไรหรอก แต่อยากขิงว่ามีคนอ่านนิยายมันเยอะเฉยๆ

209 Nameless Fanboi Posted ID:yWL6uA6HW2

>>207 ใจเย็น

210 Nameless Fanboi Posted ID:yWL6uA6HW2

>>207 >>207 เฮ้ยๆใจเย็น อย่ามโนด่าผมเป็นตุเป็นตะสิท่าน เอานี่ผมออกตัวจริงๆเลยนะ ผมนี่ตัวจริงคนที่ท่านด่านั่นแหละ ไอ้ข้อเสียที่ท่านด่าผมน่ะ ผมก็ไม่ได้เถียงหรอกที่ผมชอบหัวร้อนใส่นักอ่าน มันเป็นลักษณะนิสัยเกรียนที่แก้ไม่หายครับท่าน เด็กน้อยจริง ผมก็ด่าตัวเอง...[มันติดเป็นโรคจิตไปแล้ว ก็ถ้าผมคุมได้แก้ได้เส้นทางนักเขียนผมมันน่าจะรุ่งและดีกว่านี้หลายขุม]

ไอ้ที่ด่าผมมา เรื่องจริงผมก็ยอมรับนะครับ แต่มันก็มีเรื่องที่ไม่จริง ไม่มีมูลเลย อย่างเรื่องที่ผมเป็นคนนิสัยเหี้ยนี่ จริงๆไม่ใช่ครับ ในชีวิตจริงผมแทบจะไม่เคยเอาเปรียบใครเลย ผมเป็นแบบนี้จริงๆ ในบอร์ดนักเขียนที่ผมโดนด่า ก็เพราะผมใช้แอทเค้าท์จริงลงมาพิมพ์ ผมไม่เคยเอาแอทหลุมมาพิมพ์ มันดูไม่ฉลาดก็จริง แต่ผมไม่อยากเฟค ผมก็เป็นคนแบบนี้แหละท่าน อย่างที่ผมปรากฎตัวออกมาแก้ต่างในโม่งนี่ก็ไม่ฉลาด แต่ลักษณะนิสัยผมเป็นแบบนี้

อีกเรื่องที่ขอแก้ต่างคือ เรื่องที่ผมไปลอกแบบนิยาย ลอกแบบการเขียนจากท่านโชมา อันนี้คือไม่จริงเลย ในชีวิตผม ผมอ่านนิยายท่านโชไปไม่เกิน 15 ตอนครับ อ่านเพื่อดูคุณภาพงานว่าไอ้คนนี้น่ะ ที่มันติดอันดับอยู่เหนือยนิยายเราได้ มันคู่ควรไหม เก่งกว่าเราจริงไหม พอผมเข้าไปอ่านในหลายจุด มันก็ทำให้ผมยอมรับว่าเขาเก่งกว่าผมจริงๆ เนื้องานเขาดีกว่า ภาษา ความละเอียดอ่อนในหลายมุม การวางพล็อต ดังนั้นมันเลยเกิดการยอมรับว่าเขาเก่งกว่าผม >> ส่งผลให้เกิดกระทู้อวยใน Dek d ที่ท่านพิมพ์ถึงกันจนเป็นดราม่าตลกโปกฮานั่นแหละ ส่วนเรื่องการไปลอกแบบการเขียน ลอกพลอตเรื่องอื่นมา อันนี้มันพูดยาก แต่จากใจผมคิดพลอต คิดทุกอย่างเองนะครับ ไม่ได้ไปเอาเรื่องอื่นมาเลย อืม..อย่างโลกาวินาศนี่มันก็ก้ำกึ่งกับการ Copy Gantz อยู่หน่อยๆ แต่ถ้าอ่านเนื้อใจแบบไม่มีอคติจะรู้ว่าต่างแบบคนละโยชน์อยู่นะครับ ทั้งเนื้อหาที่เน้นรักกุกกิก ใส่ระบบมา เอาเถอะพูดไปก็เกิดเป็นการแก้ตัว

เฮ้ยแต่ผมไม่ได้เหี้ยขนาดนั้น นี่เอาจริงๆนะ แค่พิมพ์ด่านิยายคนอื่นเสียๆหายๆผมยังไม่เคยทำเลยท่าน ผมก็แค่คนที่คิดไงพิมพ์แบบนั้น การสื่อสารผ่านตัวอักษรมันอาจจะไม่ตรง มันอาจจะทำให้ผู้รับแปลความหมายผิดไปบ้าง

ส่วนนิยายของผมที่ถูกด่าว่าห่วย มันมีส่วนที่ห่วยจริง อย่างเรื่อง Tales of Yuyan ที่เขียนไม่จบนั่นน่ะ ผมไปอ่านนิยายตัวเองย้อนหลัง บอกตามตรงว่าผมยังอายเลย แก้แล้วแก้อีกก็ไม่ค่อยจะดีขึ้น สำนวนสับสน สำนวนไม่นิ่ง มันมีคนอ่านดังมาได้ยังไงผมยังถามตัวเองถึงทุกวันนี้ครับ อันนี้เข้าใจในความห่วย แต่มันก็มีจุดที่สนุกของมันอยู่ ด้วยเพราะเป็นนิยายเรื่องแรกที่เขียนโดยแทบจะไม่ได้วางพลอต เขียนเพราะอยากเขียน มันเลยห่วยครับ ห่วยก็ไม่แปลก ซึ่งเส้นทางนักเขียนมันก็ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ ผมเข้ามาอ่านโม่ง ผมก็มีส่วนที่ได้ความรู้ แต่บางส่วนพวกท่านก็ด่าผมเกินจริงไปบ้าง นิยายผมมันมีส่วนที่ห่วยจริง อันนี้ยอมรับ ซึ่งที่ผมโดนด่ามา ผมก็ได้ความรู้และเอาไปพยายามปรับปรุงนะ มันมีส่วนที่ห่วย มันก็มีส่วนที่ดีและสนุกครับ เพราะถ้าไม่สนุกคงไม่มีคนอ่านหรอก ก็นั่นแหละ ด่าผมได้ แต่อย่าเว่อร์เกิน สงสารกูบ้างเถอะ นักเขียนเหมือนกัน !

เรื่องเขียนนิยายเอาเงินน่ะยอมรับ ผมไม่ได้ยืนอยู่บนจุดของความฝัน เขียนนิยายมันเสียเวลา ทุกคนต่างรู้ คนเราพอโตแล้วมันจะทำสิ่งที่รักอย่างเดียวไม่ได้หรอก เพราะคนมันมีภาระ ทำแล้วต้องได้เงินด้วยนะ มันถึงทำได้ดีไปรอด ซึ่งผมก็ไม่ได้ทำเพราะเงินอย่างเดียว ผมทำเพราะสนุกอยากจะเขียนด้วย และผมเป็นสายเขียนบนเว็บ ไม่ได้รวมเล่มทำหนังสือขาย ขนาด EBOOK ผมยังไม่ทำเลยเพราะคิดว่านิยายตัวเองยังดีไม่พอ ขอขัดเกลาฝีมืออีก 2-3 ปี ในเมื่อเป็นสายเขียนบนเว็บ ยอดวิว การติดอันดับ หรือหลายๆอย่างมันช่วยหมดนั่นแหละครับ เพราะแบบนั้นมันเลยต้องโฟกัสยอดอันดับด้วย

เฮ้ย...ไอ้ห่า กูแอบอยู่ของกูเงียบๆมาตั้งนาน ไอ้ที่ด่ากูซะยับมันก็ผ่านไปเป็นปีๆแล้ว ไม่ต้องขุดกูขึ้นมาเป็นประเด็น !

เออถ้าว่างก็เอาผลงานเรื่องล่าสุดกูมาสับก็ได้นะ ไม่ว่าหรอก โดนสับอาจจะรู้สึกแย่ก็จริง แต่มันก็ได้ประโยชน์ กูรับได้

ขอแก้ตัวอีกเรื่อง เรื่องที่เขียนนิยายไม่จบสักเรื่อง โลกาวินาศจบแล้ว ยอดยุทธสองโลกก็กำลังจะดันให้จบ ที่ไม่จบมีสองเรื่องคือ ยูยาน มันเละเกิน บวกเนื้อหาเยอะ แก้ไม่ไหว รอเขียนเรื่องใหม่ปังๆสักเรื่องจนมีเวลาไม่ได้พะวงเรื่องเงินจะกลับไปแก้ เรื่องย้อนเวลาอันนี้คงดองยาว เฮ้ยแต่กูเขียนจบไป 1 เรื่องแล้ว และกำลังจะจบอีกเรื่อง อย่าด่ากูเกินจริง กูมีความรับผิดชอบและกังวล + รู้สึกผิดต่อนักอ่านระดับหนึ่ง

211 Nameless Fanboi Posted ID:Wt9BSXyiQ1

>>208 เออ กูขอกลับมาแก้ตัวอีกเรื่อง กูคือนักเขียนคนหนึ่งที่พยายามจะยกระดับคุณภาพนิยายให้มันดีขึ้น ไม่เชื่อมึงลองไปอ่านงานดูดีๆ นอกจากไอ้เรื่อง [Yuyan] เรื่องนั้นมันมั่ว + เละจริง แต่เรื่องอื่นๆ กูพยายามจะหาข้อมูลมาอ้างอิง ใส่ความเรียล ใส่รายละเอียด หาข้อมูลเท่าที่กูจะหาได้มาอ้างอิงนะ กูไม่ได้ชุ่ยขนาดตั้งธงเขียนๆไป กูก็พยายามยกระดับงานในแบบของกูเท่าที่ความสามารถจะอำนวย

เอาง่ายๆ กูอวยตัวเอง กูก็ไม่ได้เป็นนักเขียนที่เหี้ยขนาดนั้น การเอาอย่างก็มันไม่ได้ผิด เขียนนิยายทำในสิ่งที่รักไปด้วย ได้เงินไปด้วย ค่อยๆพัฒนาแก้จุดบกพร่องของตัวเองไป มันมีกว่าการอยู่กับอุดมคติ เขียนแล้วไม่มีคนอ่าน สุดท้ายก็ต้องจางหายหมดกำลังใจ การจะขายของมึงก็ต้องศึกษาตลาด ศึกษาพฤติกรรมนักอ่าน ศึกษาความต้องการ การจะเขียนนิยายให้ติด top มันก็มีวิธี มีศิลปะในการเขียนของมันอยู่ ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่พวกคุณโม่งทั้งหลายควรศึกษาจากนิยายที่ติด top ไม่ใช่เข้าไปอ่านแล้วจ้องด่าอย่างมีอคติอย่างเดียว การทำแบบนั้นมันไม่ได้อะไร! บายขอหายตัวซุ่มเป็นโม่งต่อแล้ว

212 Nameless Fanboi Posted ID:fSH8mFjVI2

>>210 >>211 อ่านแล้วหลอนเลย ไม่รู้ตัวจริงรึเปล่าแต่ขออนุญาตคิดว่าเป็นตัวปั่นไว้ก่อน เพราะถ้าอิงจาก reaction ในหน้านิยาย ขนาดบนดินยังเถื่อนสัส ถ้าเป็นตัวจริงลงมาในโม่งสงสัยด่าสวนกูเละเทะไปแล้ว

แต่ถ้าเป็นตัวจริง จะบอกว่าเขียนจบแล้วก็ดีอย่างน้อยได้มีไว้แก้ต่างบ้างเวลามีคนจะโจมตี คือกูก็ไม่ได้ตามอ่านนิยายเรื่องอื่นๆ ด้วยเลยไม่รู้ว่ามีเขียนจบเหมือนกัน ถ้าเรื่องใหม่มีพัฒนาการขึ้นมาจริงๆ ก็ดี เขียนไปนานๆ มันก็ดีขึ้นกันทุกคน สมัยก่อนที่มีเรื่องดราม่ากันในบอร์ดคือมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะว่านิยายดีหรือแย่ แต่เป็นวิธีการตอบกระทู้ที่ดูใจร้อนต่างหาก คนเขาอ่านแล้วเลยรู้สึกว่ามึงไม่เป็นมิตร บางคนที่หัวร้อนง่ายเหมือนกันอ่านแล้วเลยหมั่นไส้ไปอีก ถ้าหัดควบคุมอารมณ์ตัวเองตอนตอบความเห็นได้ก็จะดี มันจะมีประโยชน์มากๆ ในอนาคต แล้วที่บอกว่าไม่ได้เลียนแบบแนวทางการแต่งจากท่านโซ แล้วทำไมแนวมันคล้ายกันจังวะ หรือช่วงนั้น (2-3 ปีก่อน) แนวนี้กำลังมาแรง ตายแล้วไปเกิดใหม่ต่างโลกยุคกลางขุนนางฝรั่งแต่มีระดับพลังแบบจีนเนี่ย

เออ แต่ก็ช่างมันเถอะ พักหลังๆ นี้ไม่ค่อยได้คุยเกี่ยวกับมึงเท่าไหร่ เดี๋ยวนี้ก็เริ่มสอนเด็กใหม่ให้มันมองความจริงบ้างแล้วเหมือนกันว่าถ้าแต่งนิยายแบบเดิมมันติดท๊อปยาก ขายก็ขายไม่ค่อยออก พวกสายอนุรักษ์จัดๆ ก็เริ่มบอกให้ลองผสมผสานแนวทางใหม่ๆ อย่าให้มันยึดติดกับขนบธรรมเนียมเกินไป ถ้ามีใครมาถามแนวทาง เทคนิคการแต่ง ว่างๆ มึงก็มาช่วยเด็กใหม่ด้วยก็ดี

213 Nameless Fanboi Posted ID:Wt9BSXyiQ1

>>207 กูลืม ขอกลับมาแถอีกประเด็น คนเข้าใจผิดกูเยอะ ในกระทู้ที่กูแสดงรายได้น่ะ ช่วงนั้นมันหลายปีแล้ว 3-4 ปี + แล้วมั้ง ตอนนั้นการเขียนนิยายออนไลน์ขายมันยังไม่ได้แพร่หลายเหมือนตอนนี้เลย คนยังไม่กล้าติดเหรียญกันด้วยซ้ำ

กูทำเพราะไม่ใช่อยากจะอวดรายได้ แต่กูแสดงให้นักเขียนหน้าไม่เขาได้เห็นว่าการเขียนนิยาย มันสร้างรายได้ ได้จริง กูทำไปทำไม? มึงมองกูแย่ มึงเลยตีเจตนากูเหี้ย ว่ากูมาอวด เปล่าไม่ใช่ ฟังเหตุผลของกู

กูน่ะชีวิตก็ไม่ได้ราบรื่นหรือดีพร้อม กูก็มีช่วงวิกฤตชีวิต งานการย่ำแย่ ครั้งพอจะผันตัวมาเขียนนิยาย กูก็สับสน ว่าไอ้การเป็นนักเขียนมันจะสร้างรายได้ให้กูได้ไหม กูจะเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว ส่งตัวเองเรียนไหวไหม กูอยากรู้รายได้นักเขียนออนไลน์ ว่าอาชีพนี้มันไปได้จริงไหม? สรุปกูหาข้อมูล ถามใครก็ไม่มีใครตอบ กูไม่ได้อะไรเลย หาข้อมูลไม่ได้ ไม่มีความรู้เลย นั่นคือสิ่งที่กูเจอในยุคบุกเบิก พอกูเริ่มตั้งลำ มีประสบการณ์ ฟันฟ่าจากการลงไปลุยสนามนักเขียนหารายได้จริง กูได้ความรู้มา กูก็เอามาเผยแพร่ เพื่อให้นักเขียนรุ่นใหม่ๆเขามีข้อมูลในการตัดสินใจ ประเมินผล นั่นคือจุดประสงค์ของกู

เห็นรายได้กูหมื่นบ้างสองหมื่นบ้าง บางเดือนช่วยพีคๆโลกาวินาศนี่ก็มีเดือนสี่หมื่น ห้าหมื่น กูก็เข้าใจว่ามีคนเก่งกว่ากู คนทำได้เยอะกว่ากู แต่พวกนั้นมันเคยมาให้ความรู้เป็นวิทยาทานไหม? คำตอบคือไม่ไง? เอาเป็นว่าตอนนั้นกูยังเป็นคนดีอยู่ กูเลยอยากช่วยเหลือให้ข้อมูลนักเขียนใหม่ๆ สุดท้ายถูกนักเขียนด้วยกันหมั่นไส้ ช่วงหลังมานี้กูก็ไม่ออกตัวแรงอะไรทำนองนั้นแล้ว เพราะกูเข้าใจทำดีมีเจตดี เสมอตัว พลาดมาโดนซ้ำหนัก บางทีการจะพยายามเป็นคนดีในสังคมแม่งก็ยาก สังคมนักเขียนนี่น่ากลัวสัส กูได้มารู้ก็ช่วงที่กูโดนถล่มนั่นแหละ

สุดท้ายจุดประสงค์ที่กูหวังดี ถูกมองเป็นการอวด ตลกขบขัน อืมก็นะ ก็อย่างที่บอก มันคือการสื่อสารผ่านตัวอักษร ผู้รับอาจจะแปรเจตนาเราผิด + กับบุคคลิคของกูในการกระแทกตอบนักข่าวยเลยทำให้คนหมั่นไส้ จริงๆกูไม่ได้เหี้ยแบบที่มึงคิดนะ

214 Nameless Fanboi Posted ID:fSH8mFjVI2

>>213 กูว่าแม่งตัวจริงแล้วแหง คงไม่มีใครบ้ามานั่งตอบยาวเหยียดแบบนี้แล้วถ้ามาปั่นเฉยๆ ช่วงนั้นมันมีคนจ้องเล่นงานมึงเยอะด้วย เวลามึงทำอะไรเลยกลายเป็นโดนมองแง่ร้ายไปซะหมด บางทีเวลาสับนิยายเรื่องอื่นกูก็เอามึงมาแซวเล่นบ้างเหมือนกัน (อ่านแล้วจั๊กจี้ดีไหม) ถ้าเดี๋ยวนี้มีโอเคขึ้นแล้วก็ดี มีอะไรก็มาปรึกษากันได้

ส่วนสังคมนักเขียนมันก็อย่างที่มึงบอกนั่นแหล่ะ ลึกๆ แล้วแม่งโคตรเดือด พร้อมจะแทงข้างหลังกันได้ตลอดเวลาไม่ต่างจากในโม่ง เพียงแค่ข้างนอกมันต้องระวังตัวไม่แสดงท่าที่อะไรประเจิดประเจ้อเฉยๆ เห็นพูดกันเพราะๆ ใจจริงอาจรอกระทืบซ้ำตอนพลาดอยู่ก็ได้ สังคมแบบในโม่งมันเลยอยู่ง่ายกว่าข้างบน ไอดีหลักในบอร์ดกูยังไม่ค่อยอยากคุยกับใครเลย เขียนนิยายเงียบๆ ไปนั่นแหล่ะ เพราะถ้าตอบกระทู้แล้วบางทีมันมีดราม่าขึ้นมา ขี้เกียจเห็นพวกตามมาด่าถึงหน้านิยาย

215 Nameless Fanboi Posted ID:MfJuToH4MD

ถ้ามึงเป็นพี่ตุ่นจริงกูสบายใจล่ะว่ามึงเหี้ยจริง กูไม่เคยรู้สึกอะไรกับมึงนะแค่ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างในโม่งบ้างเท่านััน แต่มึงช่วยยืนยันแล้วว่ะ

216 Nameless Fanboi Posted ID:Wt9BSXyiQ1

>>215 กูรู้ว่ามึงมาปั่นนะ แต่กูก็แค่มาใช้สิทธิ์พื้นฐาน คนถูกกล่าวหา มันก็ต้องมีสิทธิ์ที่จะชี้แจง อันนี้กูก็มาชี้แจงในมุมของกูให้ได้ฟัง ส่วนจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ ซึ่งกูก็ไม่ได้สนใจหรือเก็บเอาที่คนอื่นมาตัดสินกูเท่าไหร่ ก็แค่ขอใช้สิทธิ์ชี้แจงให้ผู้มีปัญญาเขามาอ่าน แล้วใช้ปัญญาตัดสินเจตนาของกูก็เท่านั้น

217 Nameless Fanboi Posted ID:Wt9BSXyiQ1

บายจริงๆแล้วนะ อันนี้ของจริง ! ขอหายตัว วิ้งๆๆๆๆ

218 Nameless Fanboi Posted ID:Wt9BSXyiQ1

>>212 กูไม่ได้เลียนแบบมัน นิยายยูยานกูลงก่อนท่านโชอีก แต่กูเขียนๆหายๆ หยุดๆ มันเลยเหมือนว่ากูมาทีหลัง จริงๆกูมาก่อน แล้วกูจะไปเลียนแบบมันได้ไง? ไอ้ที่บอกว่าอ่านนิยายท่านโชไปไม่เกิน 15 ตอนนั่นเรื่องจริง เรื่องยูยานนี่กูเริ่มเปิดเรื่องมา 5-6 ปีได้แล้วมั้งบางทีนานกว่านั้นอีก กูก็จำไม่ได้ ตอนนั้น ร.9 ยังอยู่อะมึง ก็อย่างที่บอกกูเขียนๆหยุดๆ [กูกลับไปดูประวัติมาแล้ว กูเปิดขายได้เงินก้อนแรกจากยูยานช่วงกลางปี 60 แสดงว่ากูต้องเขียนเรื่องนี้ก่อนกลางปี 60 ปี 60 นี่เด็กดีพึ่งจะเอาระบบขายนิยายเข้าเลย มึงไปย้อนดูว่าเรื่องของท่านโชนั่นเขาลงทีหลัง นี่ยืนยันได้เลยว่ากูไม่ได้ไป Copy]

ส่วนแนวคิดว่ายศขุนนางยุคกลาง พลังแบบกำลังภายในเอามาจากไหน น่าจะได้แรงบันดาลใจจากเรื่อง panlong นิยายจีนนั่นแหละ กูอ่านเรื่องนี้จบเป็นเรื่องแรก แต่มันไม่ดังในไทย มันใช้ชื่อยศขุนนางแบบฝรั่ง เออเรื่องนี้แหละ ช่วงแรกกูก็เขียนบอกไว้อยู่ว่าแรงบัลดาลใจมาจากเรื่องนี้ YuYan มันคือชื่อโลกของพระเอกในเรื่องนี้แหละ

ห่า...ว่าจะหายตัววิ้งวับ แต่ลืมตอบประเด็นนี้เลยกลับมาตอบให้หายสงสัย

219 Nameless Fanboi Posted ID:Vca6KCi99m

โม่งๆ กูแวะไปหานิยายอ่าน ทำไมแฟนฟิคจอมยุทธภูติถังซานถึงเยอะเหี้ยๆ เลยวะ แล้วแม่งอยู่ผิดหมวดมั่วไปหมดเลยด้วยนะ

220 Nameless Fanboi Posted ID:7mlNjAlYd2

ตกลงตัวจริงป่าววะ ถเาเป็นตัวจริงนี่แบบ มากกว่าที่กุคิดไว้เยอะเลย อห

221 Nameless Fanboi Posted ID:pBunf04jhs

>>220 มึงไม่มีสติปัญญาพอจะแยกแยะหรอวะ ?

222 Nameless Fanboi Posted ID:lmTGE1Q6bg

>>220 ตัวจริงแหล่ะมั้ง มาแนวแก้ตัวให้ดูดีแบบนี้ มันเหมือนตอนที่มีดราม่าโดนรุมด่าในบอร์ดคราวก่อนๆ เลยน่ะ

223 Nameless Fanboi Posted ID:fiAtgtiWQK

>>218 เอาจริง ๆ ตุ๋นกบมึงจะมาแชร์ความรู้ + เทคนิคการขายในโม่งบ้างได้นะ หรือจะสวมโม่งมาโพสก็ได้ถ้าว่าง กูว่ามึงเองก็มีของเหมือนกันถึงจะไม่ใช่เรื่องการเขียนก็เถอะ

224 Nameless Fanboi Posted ID:FjcHWpum/0

>>223 +1 ควรแบ่งปัน (เพราะกูก็รอลอกการบ้านอยู่)

225 Nameless Fanboi Posted ID:vxlKeVA9n0

>>223 เทคนิคเทพๆ เทคนิคดีๆ โม่งเห็บหมามันลงไว้หมดแล้ว

226 Nameless Fanboi Posted ID:i1B7zuHa47

>>225 มีคนรวบรวมไว้รึเปล่า หรือมีตามไฮไลท์กระทู้มั้ย กูจำไม่ได้

227 Nameless Fanboi Posted ID:vxlKeVA9n0

>>226 อันนี้กูไม่รู้ว่ะ น่าจะกระทู้ก่อนหน้านี้เลย ช่วงกูไปไล่อ่านดู ก็อ่านเจอ มันแนะนำได้ดี จริงๆ

228 Nameless Fanboi Posted ID:i1B7zuHa47

เมื่อกี้เล่นบอร์ดเจอปล่อยอึ่งรีวิวนิยายเจ๊เป่ยหนิง กดเข้าไปดูนิยายที่พี่แกเขียนเพิ่มจากเรื่องขาสปริงกับวายร้ายพันธุ์E ทำไมมันหันมาแต่งสายหื่นรัวๆ เลยวะ ตรงมุมปกคาด 18+ ไว้เรียบร้อย อะไรดลใจให้พี่แกมาทางนี้เนี่ย

229 Nameless Fanboi Posted ID:QEgvnS8wGb

>>228 เงิน เงินเต็มไปหมดเลย หรือจะให้คิดว่ามันมองตัวเองทะลุแล้วว่าทำเรื่องอื่น ๆ ก็ห่วยแตกเลยขอมาทางนี้แบบ wanna be แล้วไปให้สุด

230 Nameless Fanboi Posted ID:.bMHyAh0X0

>>228 เงิน เรื่องเสียวขายง่ายกว่า ปล่อยอึ่งการเขียน สำนวนภาษาดีระดับหนึ่ง แต่พลอตนิยายห่วย มันเลยไม่มีคนอ่าน หันไปหาเรื่องเสียว คงดีขึ้น

231 Nameless Fanboi Posted ID:xRgbW6SATn

>>229 >>230 เวรแท้ แต่ก็พอเข้าใจอยู่แหล่ะว่าทุกอย่างมีต้นทุน ค่าข้าว ค่าไฟ ค่าเน็ต ส่องไปส่องมายอดวิวดูไม่เยอะนะ หรือมันเอาเวอร์ชั่นจัดเต็มไปขายเว็บอื่น

232 Nameless Fanboi Posted ID:i5r3n9oUse

>>231 ก็นั่นแหละ ถ้ารักการเขียน มันก็ต้องหาวิธีทำให้เขียนแล้วอยู่รอด เขียนไปวันๆไม่ได้เงิน ไม่ได้รายได้มันรอดยากนะ เพราะงานเขียนมันเหนื่อยและใช้เวลา

พอมาเขียนเรื่องเสียว มันไม่ต้องคิดพลอตอะไรเลย แก่นหลักเรื่องมีอย่างเดียวคือ จ้องจะเย็ดกัน ดังนั้นก็ว่ามันเข้ากับปล่อยอึ่งนะ ทางของมันล่ะมั้ง

233 Nameless Fanboi Posted ID:zwLZ5pvInk

>>228 เด๋วนะ ชื่อนางเอกเรื่องนี้อ่านว่า กะมะละชะนะกะ จริงเหรอวะ

234 Nameless Fanboi Posted ID:xRgbW6SATn

>>233 อาจจะอยากแหวกแนว ขนาด "คุณหมอยลดา" ยังมีมาแล้วเลย (แพทย์หญิงมีก็ไม่ยอมใช้นะ)

235 Nameless Fanboi Posted ID:pE9KXlT5ef

สับนิยายแก้ว่างหน่อย จริงจังมาหลายเรื่องละ รอบนี้เอาฮาบ้าง

พอดีช่วงก่อนเห็นคุยกันเรื่องทำไมโฆษณาในบอร์ดกันบ่อย ละเหลือบไปเห็นภาพปกวาดเองของน้องแกแล้วอดใจไม่ไหว ไม่รู้ว่าเป็นความโรคจิตของกูเองหรือเปล่า พอเห็นปกวาดเองทีไรอยากลองอ่านเนื้อในทุกที คราวนี้พูดตรงๆ ว่าคนละอารมณ์กับของนารุตะกี้ ถึงจะวาดไม่ค่อยสวยเหมือนกันแต่ความกล้าที่จะออกแบบคอมโพสิชั่นเองทำให้กูมองไอ้เด็กนี่ในแง่บวกมากกว่า นรตก. โอเค มาดูกันเลยว่าจะรอดหรือร่วง

The LinkSlayer : Cycle of Other-World
https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=2304634

ความประทับจวยแรกหลังจากกดลิงก์เข้ามาคือไอ้เหี้ยแต่งหน้านิยายได้ปวดตามาก แสบตาสัสหมาพ่องมึงตาย กูเลยพอเข้าใจแล้วว่าทำไมผ่านไป 12 ตอนถึงได้ยอดวิวมาแค่ 130 จากที่แวะเข้าไปอ่านดู ทั้งๆ ที่เนื้อหาตอนหนึ่งๆ ก็ยาวใช้ได้อยู่ กูว่าแม่งคงเป็นเพราะพื้นหลังเหี้ยๆ แบบนี้แหล่ะ เลยไล่แขกออกจากร้านแบบยังไม่ได้ขายของ หน้าแรกคือไม่ผ่านอย่างแรงโว้ย

จะบอกยังไงดีวะ อาจเป็นเพราะนักเขียนมันยังเด็กอยู่เลยมีความอยากแต่งโน่นประดับนี่ สมัยก่อนกูก็เป็นนะ หยุดเสาร์อาทิตย์ทีไรก็นั่งหาโค้ดตกแต่งมาใส่พื้นรูปหลัง ลบแบนเนอร์ ตัดเส้นขอบ แต่พอแก่ตัวเข้าแล้วมันขี้เกียจว่ะ ขนาดหน้าปกยังหาตัดแค่รูปอะไรง่ายๆ มาติดไว้แบบไม่มีชื่อเรื่องด้วยซ้ำ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกูพบสัจธรรมว่าพอมีแฟนคลับอยู่ในมือจำนวนหนึ่ง หน้าปกมันไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไหร่ ชื่อเสียงของนามปากกาคึอขายได้ในตัวของมันเอง กูเลยใช้ Theme ที่เว็บให้มาไม่เปลี่ยนอะไรมาก ใส่ปกครอบตัดง่ายๆ สักรูปให้ดูน่าสนใจขึ้นบ้าง (ดีกว่าไม่มีรูปปก) แล้วมาใส่ใจกับพวกชื่อเรื่อง คำโปรย กับการโฆษณาเรื่องใหม่บนหน้านิยายเรื่องเก่าที่กำลังจะจบแทน แค่นี้ก็กินนิ่มแล้วง่ายๆ ไม่ต้องเสริมเติมแต่งอะไรให้ยุ่งยาก

ปกนอกเป็นผลงานสไตล์เฉพาะตัวแบบคนวาดเอง effect สเปรย์ออร่ารอบตัวละครทำให้รู้ว่าคงใช้ Paint วาดอีกตามเคย อันนี้แล้วแต่คนจะมองแล้วกัน ชื่อเรื่องโกอินเตอร์แต่หน้าปก อบต. เปรียบเสมือนเป็นการ contrast ให้เข้าถึงศาสตร์หยิน-หยาง ...... กูว่ากูพอก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะไม่เหลือเซลล์สมองไว้สับนิยาย

ส่วนคำโปรยแม่งกลวงมาก เขียนอะไรไม่รู้ไร้แก่นสาร คือมันบอก setting คร่าวๆ แต่ไม่มีความน่าสนใจผสมอยู่เลย แล้วพระเอกมึงนี่ชื่อเจหรือเจยกันแน่ใส่การันต์ผิดชีวิตบัดซบเลยนะ ชื่ออังกฤษเป็น Jayz แต่ชื่อไทยอ่านว่า เจยส์ แล้วกูต้องเข้าใจว่าอ่านเป็นคำว่า เต หรือ เตย กูนี่รู้สึกเหมือนไมเกรนใกล้จะแดกอีกแล้วสิ สำหรับ Tag นี่ก็เละพอกัน เข้าใจว่าอยากหว่านแหกว้างๆ แต่หว่านแบบนี้มึงโดนแหรัดคอตัวเองตกเรือจมน้ำตายแน่

ปกรองมีรูป พระเอก-นางเอก แบบวาดเองพร้อมประวัติย่อแปะอยู่ ดูๆ ไปแล้วนึกถึงเรื่องเบนเท็นขึ้นมาตะหงิดๆ อ่านแล้วกลัวใจว่าอีกหน่อยถ้ามีตัวละครมาเพิ่ม สงสัยได้แปะต่อลงล่างยาวเป็นพืด ซึ่งแม่งไม่ต่างอะไรกับระดับพลังของแนวจีน รกส่วนเนื้อหาปกรองแล้วไม่ได้ทำให้นิยายน่าติดตามเพิ่ม คือใครอยากให้ข้อมูลแนวนี้ มึงเขียนไปเลยก็ได้ว่านิยายเรื่องนี้มีระดับพลังนะครับ/คะ แต่ไม่ต้องเขียนหมดทุกอย่างบนปกรอง ไปหาจังหวะเนียนอธิบายในเนื้อเรื่องเอา ประวัติตัวละครมึงใส่เป็นตอนแยกพิเศษหลังเดินเรื่องไปแล้วสักพักก็ได้ คนที่มีใจอยากอ่านเขาก็จะเปิดดู ส่วนสายเสพเนื้อเรื่องเขาก็ข้าม มันมีอยู่แค่นั้นแหล่ะ

236 Nameless Fanboi Posted ID:pE9KXlT5ef

นักเขียนอาจมือใหม่มากจริงๆ ทั้งเรื่องนิยายและเรื่องวาดรูป ไม่รู้ดิ สำหรับกูปกรองคือจุดที่ควรใช้กระชากคอเสื้อนักอ่านเข้าร้าน ไม่ใช่จุดแปะใบปลิวหรือติดเมนู ถ้าหน้าปกนอกล่อคนเข้ามาอ่านปกในได้ ปกในต้องทำให้คนอยากไปอ่านเนื้อหาต่อ เข้าเรื่องเลยให้ตรงประเด็นอย่าเทข้อมูลใส่คนอ่านตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มตอนแรก เดี๋ยวแม่งก็จบลงแบบเรื่องนี้ไง 130 วิว (ส่วนหนึ่งก็เพราะพื้นหลังแสบตาของมึงด้วยอะสัส)

จากสิ่งที่กูเขียนไปข้างต้น ประกอบกับการใส่การันต์ผิดที่ของเจ้าของเรื่อง จากที่คิดว่าจะสับ 2 เรื่อง (เรื่องนี้เอาฮา เรื่องหน้าเอาจริง) คงต้องลดเหลือเรื่องเดียวไปก่อน อธิบายยังไงดีให้พวกมึงเข้าใจ อะ เอางี้ ให้ลองนึกถึงคนเรียก เจย์โชว ว่า เจยโชว หรือเรียกนกม็อคกิ้งเจย์ เป็นม็อคกิ้งเจย แล้วพวกมึงอาจเข้าใจหัวอกกูขึ้นมาบ้าง

ตอนที่ 1 : Introduction : Other-World Setting

(เป็น POV 1 ความยาวต่อตอนเยอะแต่แม่งไม่ค่อยรู้เรื่อง)

เปิดมาบทแรกก็ Infodump ใส่กูทันที อธิบายเซตติ้งโลกเบื้องหลังที่ชื่อ other-world คือเป็นเหมือนมิติคู่ขนาดกับโลกจริงแบบเรียลไทม์ แต่โลกนี้ใช่ว่าทุกคนจะเข้าไปได้ (แล้วมึงเติม ... ต่อท้ายทุกประโยคทำไมวะ) ในพื้นที่ที่โดนเรียกว่าต่างโลกมีคน 3 กลุ่มที่คานอำนาจกันอยู่คือ สเลเยอร์ เอเลเมนเทอร์ กับศาลแห่งโชคชะตะ (ห๊ะ?) แล้วไอ้ศาลแห่งโชคชะตะเนี่ยถูกอธิบายว่าเป็นศาลเตี้ยของทางการและให้ความเป็นธรรมมากที่สุด เป็นศาลที่ขึ้นตรงกับพวกสเลเยอร์

เดี๋ยวนะ... กูขอทำความเข้าใจแป๊บ ไอ้ศาลชะตะเนี่ยถ้าขึ้นตรงกับสเลเยอร์ มันก็ไม่คานอำนาจกันแล้วดิวะ เพราะเรื่องจะเปลี่ยนเป็น สเล,ชะตะ เป็นพวกเดียวกับส่วนเอเลนี่เป็นชนกลุ่มน้อย 1 ต่อ 2 เสียง

อีกอย่างคือศาลเตี้ยที่ให้ความเป็นธรรม... [ค] ุณ [ว] ่า [ย] ังไงนะ ? ศาลเตี้ยที่เป็นธรรม ระบบแบบเดียวกับกฏหมายตราสามดวงหรือไง

ต่อจากเรื่องสามกลุ่มนี้ก็เป็นประวัติพี่เจยอีกละ เจยเป็นโรคซึมเด้าเพราะอะไรบางอย่างก่อนเรียนจบมัธยม อยู่ดีๆ ก็มีเสียงปริศนามากระซิบบอกว่ามึงกำลังจะเทพซ่าแล้วนะ ว่าจบก็ infodump หนักๆ อีกรอบ อธิบายเกี่ยวกับ Link Guage พลังที่พระเอกได้มา ย่อจากข้อมูลที่กูโดนเทใส่ได้คร่าวๆ ว่า เกจพลังนี่เมื่อถูกใช้แล้วจะเติมจาก 1 กลับมาเป็น 100% ได้ ภายใน 10 วินาที สกิลพิเศษต่างๆ ใช้แล้วเกจจะลดมากบ้างน้อยบ้าง แต่ห้ามให้ลดจนถึง 0 ไม่งั้นพี่เจยจะสู่ขิต บอกได้เลยว่าเป็นสเกลพลังที่ไร้สมดุลสุดๆ เพราะตัวละครเอกมีเกจสกิลที่ถ้าไม่ควายจริงๆ ก็คงไม่มีทางลดลงไปถึง 0 แปลว่าอะไร ก็แปลว่าใช้สกิลได้เรื่อยๆ ตราบใดที่บริหารลิงก์เกจให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมไง กลายเป็นนิยาย Power Fantasy ดาดๆ อีกเรื่องไปเช่นเคย

อีกอย่างที่สำคัญคือ อย่าเอาประเด็นเรื่องโรคซึมเศร้ามาใช้ในนิยายถ้ามึงไม่ได้มีความรู้จริงๆ จะออกแบบให้ตัวละครเอดจี้มาดเข้มอะไรก็ช่าง ถ้าไม่ได้เข้าใจเรื่องความผิดปกติของสารเคมีในสมอง ขอแนะนำว่าควรจะเลี่ยง ระวังจะไปทำร้ายผู้ป่วยโดยไม่รู้ตัว แถมอาจเจอคนรู้จริงมาด่าคาบ้านตรงหน้านิยายอีกด้วย ท้ายตอนมีพูดว่าเจยจะไปหาเพื่อนที่บวชเป็นพระ เพราะได้ข่าวว่ามีคนร้ายจ้องจะแดกพระอยู่ โดยไม่มีการอธิบายที่มาที่ไป พี่เจยก็ออกตามล่าคนร้ายเพื่อทดสอบพลังที่ตัวเองได้มาหน้าตาเฉย

237 Nameless Fanboi Posted ID:pE9KXlT5ef

ตอนที่ 2 : Chapter 1 : Latest and Strongest Slayer

ก่อนจะเข้าเรื่อง กูขอบ่นเรื่อง . ในนิยายหน่อย แม่งจะเยอะไปไหนวะ SFX ก็ด้วย บู้มๆ ผั๊วะๆๆ อย่างกับนิยายมาสปอบ ส่วน ! กับ ? ก็เยอะไม่แพ้กัน ถ้าจะให้ตรงคอนเซปที่เคยคุยว่าจะมองข้ามข้อเสียกระจอกๆ พวกนี้ กูคงต้องหุบปากก่อนเลย เพราะดูทรงแล้วนักเขียนคงเด็กมาก เป็นมือใหม่ไร้ประสบการณ์ถึงขั้นที่หมอยอาจยังไม่ทันขึ้น ก็เปลี่ยนมาดูด้านการเดินเรื่องแทนดีกว่า

มีแวะเยี่ยวถึงบรรยากาศตอนพระริวเดินกลับวัด ว่าโดนชายหัวโล้นเดินตาม สักพักไอ้โล้นก็โผล่มาดักหน้าจะจับพระริวแดก พี่เจยคนเทพโดดมาขวางแล้วถีบไอ้โล้นไร้หน้าจนกระเด็น คนร้ายใส่ชุดขาวแต่พระเอกใส่ชุดดำสงสัยกลัวว่าพี่เจยจะไม่หล่อเท่เอดจี้ พอหยุดการโจมตีแรกได้แล้วพี่เจยโชว์การใช้พลังครั้งแรก คือนักเขียนมันอธิบายด้วยการใส่ข้อมูลท่าคล้ายพวกนิยายระบบในรูปแบบ

ปากพระเอกตะโกน "ชื่อท่าที่ถูกเปลี่ยนสีตัวอักษรตามหลักอะไรไม่รู้" [จำนวน % ที่ต้องจ่ายแต้มเกจ] > คำอธิบายสกิลและสิ่งที่เกิดขึ้น

พลังฝ่ามือที่สิ้นเปลืองเกจ 2 % ถูกยิงใส่พี่โล้นชุดขาวกระเด็นตกเขี่อนที่พระริวชวนสีกามาดู พอพี่เจยจะไปดูว่าตายหรือยัง ไอ้โล้นตัวร้ายแปลงร่างกลายเป็นงูขาวหลายหัว ก็มีฉากต่อสู้กันอีกนิดหน่อย เปลืองเกจไปอีก 1+7 % พี่โล้นชุดขาวที่เรียกตัวเองว่า Monk Eater (แหม ชื่อนี่นะ) เปลี่ยนใจอยากแดกพี่เจยแทนพระริว สุดท้ายพี่เจยโชว์เทพด้วยชื่อท่าอะไรไม่รู้อ่านไม่ออก เพราะเสือกเปลี่ยนสีตัวหนังสือเป็นสีเหลืองบนพื้นหลังสีครีม เห็นแค่ใช้เกจ 5+1 % จนพี่โล้นงูขาวสู้ต่อไม่ไหว สักพักมีตำรวจจากศาลแห่งชะตะดรรม (เขียนงี้จริงๆ) โผล่มาจับตัวพี่โล้น ตำรวจบอกขอบคุณพี่เจยก่อนที่ตัวเอกของเราจะโดดหายไปในความมืด ทิ้งพระริวให้งงแดกว่ากูมาทำอะไรที่นี่

ตอนที่ 3 : Chapter 2 : New Trouble

พี่เจยไปลงทะเบียนหอนอนในมหาวิทยาลัยในชุดฮูดดำ กางเกงขาสั้นสีดำ(ที่มีกระเป๋าติดอยู่หลายๆ ช่อง) แว่นกรอบสีส้ม ร้องเท้าอะไรไม่รู้ไม่ได้บอก ลงทะเบียนเสร็จก็เจอเพื่อนชื่อครูเกอร์เดินมาทัก ระหว่างที่กำลังคุยกับเพื่อนพี่เจยสังเกตเห็นนิสิตใหม่ในชุด... ประมาณว่าคล้ายสก๊อยละกัน (มหาลัยมึงนี่ฟรีสไตล์เรื่องชุดดีจังนะ) ท่าทางมีพิรุธก็เลยใช้สกิลจากลิงก์เกจตรวจสอบเธอดู พบว่าดูข้อมูลได้แค่ชื่อว่าเธอคือดีโอน่า ทั้งๆ ที่ปกติดูคนอื่นได้ทุกอย่าง ถึงจุดนี้กูงงนิดหน่อย มหาวิทยาลัยในไทยที่มีคนชื่อฝรั่ง แต่ตอนที่แล้วเพื่อนพระชื่อริว ถ้าตอนหน้ามีคนชื่อญี่ปุ่นโผล่มากูคงไม่แปลกใจละ ตรงนี้มีย้อนอดีตนิดหน่อยตอนครูเกอร์โทรหาพี่เจยเดือนก่อน ไอ้เจยของเราน่าจะอกหักแหล่ะ ซึ่งตรงนี้กูจะให้การบ้านพวกมึงไปศึกษาดูว่า การอกหักทำให้เกิดโรคซึมเศร้าได้หรือไม่ (อ่านตรงนี้แล้วหงุดหงิดเหี้ยๆ)

ทีนี้ก็ตัดกลับมาปัจจุบันพี่เจยหายจากโรคซึมเด้าเพราะมีพลังลิงก์เกจมาลบดีบัพออกให้จนสารเคมีในสมองกลับมาเป็นปกติ (ช่างแม่งแล้วกันวะ) ก็คือพยายามใช้เพื่อนที่ชื่อครูเกอร์ในการ tell ว่าพี่เจยยังคงดูจืดชืดเศร้าหมอง ทั้งๆ ที่บทสนทนาในตอนมันสดใสวัยรุ่นอย่างกับแนวสโลว์ไลฟ์วัยเรียน ไม่เห็นมึงจะเงียบๆ เครียดๆ อะไรเลย ตอนช่วงบ่ายมีกิจกรรมวิ่งแข่ง ตัวร้ายกากๆ 3 ตัวพยายามแกล้งพี่เจยแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะพี่เจยเทพซ่า สุดท้ายพวกที่คิดแกล้งพี่เจยโดนลงโทษเพราะวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นที่โหล่ ก็มีฉากอาฆาตตามสูตรแบบกากๆ ก่อนจบตอนมี cliff hanger เป็นลูกธนูพันจดหมายยิงใส่หน้าพี่เจย บอกให้พี่เจยมาเจอกันที่โรงอาหารของมิติต่างโลก

238 Nameless Fanboi Posted ID:pE9KXlT5ef

ตอนที่ 4 : Chapter 3 : Queen the Revenger

พี่เจยไปถึงก็เจอหญิงสาวปริศนาผู้มาในชุด... อืม ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแต่มีกระดาษทิชชู่ห่อทั่วตัวโผล่มาแค่ตาดวงเดียว ยังไม่ทันได้ทำอะไรพี่เจยก็เก๊กแล้วพูดว่าปกติคนที่จะเข้ามาในมิติต่างโลกได้ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ แต่ผมน่ะไม่ต้องใช้ก็เข้าได้ (มึงจะอวดทำไม) สาวทิชชู่ขู่พี่เจยว่าอย่ามายุ่งกับแผนการกำจัดพวกบูลลี่ ทำเอาพี่เจยงงว่าอ้าวมึงไม่ใช่คนที่เรียกกูมาสู้เหรอ น้องกระดาษชำระบอกว่าพูดเรื่องอะไรของมึง แล้วก็เข้าเล่นงานพระเอกเพราะคิดว่าพระเอกจะมาแย่งเหยื่อที่ตัวเองเล็งไว้ มันมีฉากต่อสู้สั้นๆ 5 บรรทัด แต่ตอนแรกกูจับใจความไม่ได้ หลังจากต้องอ่านทวนหลายรอบสรุปออกมาได้ว่า น้องทิชชู่จับตัวดีโอน่า (สาวนิสิตลึกลับ) เอาไว้ก่อนแล้ว พี่เจยหลบการโจมตีด้วยกระดาษชำระพิเศษตัดยังไงก็ไม่ขาดของสาวทิชชู่ไปได้พร้อมกับช่วยดีโอน่าที่กำลังสลบอยู่ออกมา

พอเอาดีโอน่าไปวางไว้แล้วพี่เจยก็กลับมาสู้กับน้องทิชชู่ด้วยสกิลชื่อสีฟ้า สีเขียว สีชมพู สีม่วง สีน้ำตาล สู้ไปสู้มาน้องชำระสู้ไม่ไหวแต่ตั้งใจว่าต้องฆ่าพี่เจยให้ได้ ซึ่งกูไม่รู้ว่าทำไมทั้งการต่อสู้รอบนี้และการต่อสู้กับ Monk Eater ตัวละครที่เป็นศัตรูถึงพ่นคำว่า "ตาย" กับ "ฆ่า" ออกมาเยอะแบบเกินความจำเป็น คือมันเรี่ยราดมากเลยนะ บางช่วงไม่จำเป็นต้องพูดมึงก็ยัดปากให้มันพูด แรงจูงใจก็กากๆ ลอยๆ ตัวแรกเพราะพี่เจยไปขัดขวางตอนจะแดกพระริว ส่วนตอนหลังคือมาขัดขวางน้องทิชชู่ไม่ให้ฆ่าดีโอน่า สรุปพี่เจยแม่งขี้เสือกเอง โผล่ไปอยู่ผิดที่ผิดทางโดยบังเอิญได้อย่างเหมาะเจาะตอนกำลังจะเกิดเรื่องพอดี Plot device ก็เสกเอาจากความว่างเปล่า เช่นตอนแรกที่ไปช่วยพระริวเพราะได้ข่าวคนร้ายแล้วอยากทดสอบพลัง ส่วนคราวนี้มีลูกธนูท้ารบยิงใส่ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ผู้เขียนจู่ๆ ก็อยากให้เกิดขึ้นในเรื่องจนอาจทำให้ผู้อ่านงงสัสถ้าไม่ถอดสมองก่อนอ่าน

พอน้องทิชชู่สู้ไม่ได้เลยระเบิดพลังซุปเปอร์ไซย่าหมอยทองจนร่างกายเป็นแมกม่า แต่ก็แพ้ให้กับพี่เจย์ไปอย่างง่ายๆ สู้ไม่ไหวแล้วยังจะปากดีด่าพี่เจยว่าเพราะมึงช่วยคนพวกนี้ ทำให้มีคนโดนรังแกในมหาลัยไม่จบไม่สิ้น พี่เจยเถียงกลับว่าที่ทำอยู่ตอนนี้มันเป็นงานของพวกศาลเตี้ยไม่ใช่เรา ถ้าทำแบบนี้มันจะผิดกฏหมายเอา น้องทิชชู่ไม่ยอมสนหีแตดใดๆ ก่อนพยายามจะระเบิดตัวเอง พี่เจยคนเทพโชว์ความหล่อเท่ใช้สกิลจากลิงก์เกจคลุมร่างดีโอน่าเอาไว้แล้วคิดหาทางให้ทุกคนรอด

ตัดฉากไปที่ครูเกอร์ในโลกจริง อธิบายว่าอยู่ดีๆ ก็รู้สึกร้อนขึ้นมา ในหอนอนโคตรร้อนยิ่งใกล้โรงอาหารยิ่งร้อน แล้วบรรยายต่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในมิติต่างโลกจะส่งผลมายังโลกจริงไม่มากก็น้อย แล้วจบตอนไปแบบงงๆ

(แถมพิเศษ 1 ตอน)

กูสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อเลยแวะไปอ่านตอนถัดมา เนื้อหาช่วงแรกย้อนอดีตไปช่วงที่น้องทิชชู่ยังเป็นนักเรียนธรรมดา เธอโดนเพื่อนๆ รุมแกล้งจนเกือบฆ่าตัวตาย อยู่ดีๆ ก็มีชายใส่สูทโผล่มาช่วยน้องล้างแค้นแล้วพาเข้าองค์กรแห่งการแก้แค้น จากนั้นน้องก็กลายเป็นผู้มีพลังบังคับกระดาษชำระใยเหล็กกล้า โดยมีไอ้หนุ่มชุทสูทลึกลับเป็นคนให้งาน ตัดมาถึงช่วงปัจจุบันน้องชำระสลบเหมือดเพราะโดนตีนพี่เจย อยู่ดีๆ ไอ้ชุดสูทเนี่ยก็ออกมาคุยกับพระเอกบอกว่าพระเอกขัดขวางน้องกระดาษ เท่ากับเป็นศัตรูกับองค์กรของผม ดังนั้นคุณก็ตายเสียเถิดครับ (ชื่อองค์กรว่าเบียวแล้ว ไอ้เหี้ยนี่วิธีพูดจาเบียวพ่อบ้านหนักยิ่งกว่า) จบตอนไปแบบ Cringe ๆ

239 Nameless Fanboi Posted ID:pE9KXlT5ef

การบรรยาย : เอาตรงๆ เลยคือค่อนข้างอ่านไม่รู้เรื่อง สัดส่วนของอันที่พอจับใจความได้กับที่ต้องอ่านซ้ำเป็น 50 ต่อ 50 ทักษะการเล่าเรื่องให้เห็นภาพยังไม่ดีพอ แล้วยังจะขยัน flashback ด้วย ระดับภาษาและสำนวนในเรื่องขึ้นๆ ลงๆ ช่วง infodump อ่านแล้วรู้สึกแฟนตาซี แต่ชีวิตมหาลัยรู้สึกเหมือนอ่านนิยายรักวัยรุ่น บทสนทนาซ้ำซาก โดยเฉพาะฉากต่อสู้ที่มีแต่คำว่า "ตาย" กับ "ฆ่า" เต็มไปหมด ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านเด็กเบียวเอดจี้เขียนฉากต่อสู้ให้เพื่อนในชั้นอีกคนอ่านแล้วหวังให้เพื่อนรู้สึกว้าววว เมพขิงๆ เป็นผลงานของนักเขียนมือใหม่ไร้หมอยเหมือนที่กูบอกไปข้างบน ถ้าเจ้าของเรื่องอายุพ้นวัยหมอยเริ่มงอกแปลว่าอ่านนิยายมาโคตรน้อย หรือมีแบบอย่างที่ผิดเพี้ยนจนทำตามแล้วออกมาเป็นงี้ คือถ้าในอีก 10 ปี ข้างหน้ายังเป็นนักเขียนอยู่แล้วกลับมาอ่านเรื่องนี้ของตัวเอง กูว่าต้องมีคนชักดิ้นชักงอเพราะถูกความ Cringe ถาโถมเข้าใส่อย่างแน่นอน

การเดินเรื่องพยายามจะเร็วแต่ทำออกมาได้ไม่ดีนัก รีบจนไม่ค่อยได้รับรู้ความเป็นไประหว่างทาง หรือเขียนบรรยายแบบที่เข้าใจเฉพาะตัวเอง ฉากต่อสู้ไม่มี flow of action นึกภาพตามไม่ออกรู้แค่ว่ามีใช้สกิล มีเตะต่อย ตลอด 5+1 ตอนที่กูอ่านมาสรุปได้ใจความว่า 1.พระเอกได้พลังลิงก์แล้วกลายเป็นสเลเยอร์ 2.พระเอกไปช่วยพระริวเพราะได้ข่าวว่ามีตัวแดกพระอาละวาด 3.สู้กับมินิบอส (โล้นงูขาว) 4.ไปมหาลัยเจอนางเอก, เพื่อนชาย 5.สู้กับมินิบอส (น้องทิชชู่) 6.อดีตน้องทิชชู่+รองบอส (พี่สูทดำ) มันทำให้กูรู้สึกว่านิยายเรื่องนี้ทำออกมาเพื่อเน้นขายฉากแอคชั่นและความเทพของพี่เจย แต่ดันไปได้ไม่สุด ทำให้จุดขายมันขายไม่ออก เนื้อหาส่วนอื่นคือเล่าแบบลวกๆ สรุปว่ากลายเป็นพังในทุกๆ ด้าน

ตัวละคร : ตัวร้ายทั้งหลายเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง ไม่มีเสน่ห์หรือที่มาที่ไปเพราะมีหน้าที่แค่โผล่มาให้พระเอกตบเล่น เป็นความพยายามร้ายแบบกูจะฆ่ามึงเพราะมึงขวางทางกู ความผูกพันธ์หรือภูมิหลังตัวละครเอกเน้นเล่าแบบผิวเผินซึ่งสามารถเข้าใจได้ในความเป็นมือสมัครเล่น ที่จำได้หลักๆ เลยเหลือแค่ "พี่เจยเทพซ่ากับชื่อสกิลหลากสีของเขา" ออกแบบตัวละครมาได้แบนราบ พยามยาม force drama แบบไม่มีความรู้ สร้างเพื่อนพระเอกให้เป็นตัวละครคอยตบมุกหรือเล่าสถานการณ์ทางอ้อมสั้นๆ ใช้ tell มากไปจนตัวละครไม่มีชีวิตชีวาและเกิดการหลุดคาร์บ่อยครั้งจากบทสนทนาที่มันดูสงบสุขเกินจริง เมื่อเทียบกับ tell ที่บอกเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเอกต้องเผชิญ

เนื้อเรื่อง : 5 ตอนผ่านไปมีสู้กัน 2 ครั้ง กับโดนกลุ่มนักเลงมาขัดแข้งขัดขานิดหน่อย ถ้ามันไม่มีการเล่า infodump ช่วงแรก กูจะงงกว่านี้มากว่ามันเกิดอะไรยังไงบ้างในเรื่อง เพราะมันรีบจัด พยายามจะเดินเรื่องให้เร็วแต่ทำไม่ถูกวิธี จนทำให้เนื้อเรื่องขยับไปได้แค่นิดเดียว ในสายตานักเขียนอาจคิดว่านี่ไงผ่านไปตั้งเยอะแล้ว เขียนก็ยาวด้วย จากซึมเด้าในบ้านออกมาช่วยพระแล้วไปมหาลัยเพื่อบวกกับน้องกระดาษต่อ คำถามคือพอพระเอกมีพลังลิงก์เกจแล้วก็คือจบงี้เหรอ เดินหน้าสร้างความเทพซ่าแล้วก็ถอนตัว ไม่มีข่าวไปถึงพวกเบื้องบนเลยรึไง (หรือกูคาดหวังเยอะเกินไปเองว่านักเขียนมันจะคิดได้)
ภายในความยาวของแต่ละตอน (นับเฉพาะ 2-4) มันใช้พื้นที่อย่างสิ้นเปลืองไปกับชื่อสกิล, การลดของเกจ และคำอธิบายสกิลอย่างมหาศาล

story telling ทำได้แย่เพราะเน้นแอคชั่นมากกว่าเล่าเรื่อง ตามหลักการพื้นฐานสุดๆ อย่างแผนผังแบบสามเหลี่ยมมันยังต้องมีการวางแผนว่าตรงไหนควรขึ้นตรงไหนควรลง จุดนี้คือสัพเพเหระ จุดนี้คือ trigger จุดนี้คือ peak แต่เรื่องนี้มันไม่มีเลย ไม่มีทั้ง warm-up ทั้ง cool-down จนออกมาเป็นสงบสุข 1 ตอน สู้ 1 ตอน ได้เบาะแส 1 ตอน นี่กูยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการแทรกฉากย้อนอดีตนะ แต่คงไม่ต้องพูดแล้วก็ได้ คือมันก็ห่วยๆ จืดๆ ทำให้เกิดอารมณ์ร่วมไม่ได้ ความซาบซึ้งใจคือไม่มี เหมือนหีแห้งแล้งกระตุ้นไม่ขึ้น

240 Nameless Fanboi Posted ID:pE9KXlT5ef

จุดเด่น : สีชื่อสกิล

จุดด้อย : อ่านด้านบนมาครบก็คือตามนั้น

คะแนน : ชื่อพระเอกวางการันต์ผิดที่ / 10

ความเห็นส่วนตัว : กูนี่หายคาใจเลยว่าทำไมยอดวิวมันน้อยเหลือเกิน เรื่องศัพท์ภาษาอังกฤษมันใช้ได้ถูกต้องนะ แต่การใช้ภาษาไทยคงต้องคุยกันใหม่ สับช่วงฉากต่อสู้แล้วเดจาวูเหมือนโดนบังคับอ่านถนนแยมขาวนิยายมาสปอบ ท่าทางจะหัดแต่งนิยายเรื่องแรกจริงๆ ฝีมือมันก็คงประมาณนี้ โม่งจะเก็บไว้เป็นตัวอย่างสำหรับการทำ reverse รูปแบบก็ได้นะ เพราะแม่งเหี้ยครบสูตร แค่ทำตรงกันข้ามกับเรื่องนี้อย่างน้อยๆ ก็อาจได้นิยายคุณภาพปานกลางขึ้นมาเรื่องหนึ่งเลยทันที กูว่ากูพอก่อนดีกว่า แม่ง ไมเกรนกำลังแดกหนักขึ้นเรื่อยๆ

ก่อนไปเดี๋ยวกูฝากสูตรออกแบบตัวร้ายใน Tier ต่างๆ ไว้ให้อ่านด้วย ถ้าเป็นไปได้พยายามอย่างสร้างพวก Tier ต่ำบ่อยๆ แล้วอันดับ ต้น-กลาง ก็คือเหมาะสำหรับการสร้างพวกบอสใหญ่

SS (sensible sacrifice) : ตัวร้ายซึ่งพร้อมจะสังเวยทุกสิ่งอย่างเพื่อไปถึงผลลัพท์ขั้นสุดยอด วิธีการอาจเหี้ยมโหดแต่กลับดูสมเหตุสมผล
S (superior vision) : ตัวร้ายผู้เล็งเห็นผลเสียอันจะเกิดขึ้นต่อคนจำนวนมหาศาล ทว่าแรงจูงใจของพวกเขาโต้แย้งได้ยาก
A (against own will) : ตัวร้ายที่จำใจต้องทำเรื่องป่าเถื่อนต่อคนหมู่มากอย่างไม่เต็มใจ หรือถูกสถานการณ์บังคับเพื่อช่วยฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
B (brutalized react) : ตัวร้ายจากการลุกขึ้นตอบโต้หลังถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมโดยผู้มีอำนาจฝ่ายเรา โดยที่เราไม่ทราบเรื่องมาก่อน
C (craze instinct) : ตัวร้ายกลุ่มสูญเสียความนึกคิดขั้นพื้นฐาน ทำตามสัญชาตญาณเพื่อความอยู่รอด ทั้งความปลอดภัยและอาหาร
---------------------------------
D (disaster maniac) : ตัวร้ายแบบไม่มีแรงจูงใจแน่ชัด สร้างความเสียหายวงกว้างโดยไม่มีเหตุผลหลังเกิดการคุ้มคลั่ง
E (evil out of nowhere) : ตัวร้ายไร้มิติ ถูกวางบทบาทให้ต้องทำตัวชั่ว เป็นคนขี้เงี่ยน หรือกระหายซึ่งพลังอำนาจและเงินทอง

*** เส้นแบ่งระหว่าง Protagonist กับ Antagonist ***

1) จุดยืนของตัวเอกกับตัวร้ายนั้นต่างกันแค่ตรงที่เขาสู้เพื่อสิ่งไหนและใช้วิธีการใด
2) เป้าหมายในตอนท้ายอาจไม่ต่างกันกับตัวเอก แต่ตัวร้ายมักใช้วิธีการที่รุนแรงหรือไร้มนุษยธรรมกว่า
3) แรงจูงใจไม่ได้ทำให้พวกเขาเป็นตัวร้าย แต่สิ่งที่พวกเขาคิดจะสังเวยเพื่อให้เป้าหมายสำเร็จต่างหากทำให้ทุกคนมองเช่นนั้น
4) งานเขียนที่ดีทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจ เมื่อเราได้ฟังเรื่องราวจากทั้งสองฝั่ง
5) ตัวเอกอาจกลายเป็นตัวร้ายได้ง่ายๆ หากได้รับผลกระทบที่ทรงพลังพอ

241 Nameless Fanboi Posted ID:LlK/hPfAMh

>>235-240 ขอบใจมากที่แวะมา อ่านใน >>240 ละสงสัยเรื่องตัวอย่างจาก tier ตัวร้าย ถ้า SS คือประมาณทานอส กับ S คือเอเรน เยเกอร์ พวกเกรดอื่นๆ ลงมาจะเป็นใครได้บ้าง แล้วตรงบรรทัดสุดท้ายนี่ใช่แบบอนาคินที่กลายเป็นเวเดอร์ป่าว หรือไม่ใช่

242 Nameless Fanboi Posted ID:.TZqy+Ku9r

>>235 เม้นเดียวในนิยายคือ "ลายเส้นเหมือนรามเกียรติ์" เจ็บปวดดด

243 Nameless Fanboi Posted ID:LlK/hPfAMh

>>242 ทำเอานึกถึงรามเกียรติ์ของช่อง PASULOL ขึ้นมาเลยทีเดียว

244 Nameless Fanboi Posted ID:TmreciC.fq

ช่วงนี้ในบอร์ดมี Poiอึ่ง 2.0 ว่ะ เป็นทายาทอสูรที่เหมือนกันเป๊ะๆ ทั้งโฆษณานิยายพล็อตแปลก ๆ แต่ไม่สนุก แถมชอบโผล่ไปทุกกระทู้

245 Nameless Fanboi Posted ID:W6/sGcOl/v

>>244 ในบอร์ดเด็กดีมันสอนให้กูรู้ว่ามันมีทั้งปกติ กับไม่ปกติ ส่วนใหญ่ไม่ปกติ มึงเผลอเมื่อไหร่หลังมึงอาจจะเหวอะ

246 Nameless Fanboi Posted ID:HIJn5Pu+qd

>>241 ตัวอย่างบรรทัดสุดท้ายที่มึงยกมาก็คือเข้าเค้าแหล่ะ แต่อนาคินมันไม่ได้ถูกกระทำ อนาคินถูกล่อลวงจนหลงผิด สุดท้ายเลยกลายเป็นดาร์ธเวเดอร์เพราะแผนของพัลพาทีน

เทียร์ SS อันนี้ชัดเจน ธานอสคิดควบคุมจำนวนประชากรด้วยการดีดนิ้ว แก้ปัญหาได้อย่างเด็ดขาดแต่วิธีการนี่คงมีแต่คนไม่เห็นด้วย
เทียร์ S เรื่องเอเรน วิธีการย่ำพสุธาก็โหดร้ายเกิน แต่ถ้าไม่ทำกลุ่มสันนิบาตโลกก็รวมพลกันมายำชาวเกาะอยู่ดี ทางออกแบบสันติมันเลยสายเกินไป
เทียร์ A น่าจะเป็น Dhaos จาก Tale of phantasia เพราะดาออสทำไปเพื่อแค่ปกป้องชาวจันทรา จนเราต้องตั้งคำถามว่าฝั่งไหนกันแน่ที่เป็นผู้ร้าย
เทียร์ B อันนี้ตอบได้กว้างมาก เพราะเทียร์นี้คือตัวละครเอกของนิยายดิสโทเปียทั้งหลายที่ลุกขึ้นต่อต้านระบบ ซึ่งบ่อยครั้งเราก็ย้ายฝ่ายกลางเรื่องด้วย
เทียร์ C เป็นพวกชนเผ่า สัตว์ประหลาด หรือสิ่งมีชีวิตอะไรก็ตามที่สื่อสารกับเราไม่เข้าใจ แต่ตัวเอกมีความจำเป็นต้องบุกรุกเข้าไปในพื้นที่

สำหรับอันที่กูขีดแยกไว้คือเทียร์ตัวร้ายที่ใช้ง่าย สะดวก แต่ไม่มีมิติเท่าไหร่ เป็นของใช้แล้วทิ้งที่ถ้าใช้มากเกินไปนิยายจะดูตลาดล่างขึ้นมา อย่างไรก็ตาม ถ้านิยายเรื่องนั้นเน้นจะขายฉากฆ่า ฉากข่มขืน หรือเน้นให้ตัวร้ายมันสมควรโดนเชือด เน้นการแก้แค้น หรือเน้นให้คนอ่าน satisfy เวลาพระเอกกระทำความเอดจี้ ตัวร้ายพวกนี้จะโผล่มาเยอะมากกก จำนวนตัวละครเหี้ยๆ เยอะกว่าตัวละครหลักไปหลายสิบเท่า ถ้านิยายที่มึงกำลังจะแต่งเป็นสายนี้ ก็คงต้องอนุโลมให้ใช้ได้ตามสบาย แม้แต่บอสใหญ่ก็อาจใช้เทียร์ D,E ได้เหมือนกัน

เรื่องตัวเอกที่กลายเป็นตัวร้าย ตัวอย่างที่นึกออกมี่แต่เรื่องเก่าๆ ทั้งนั้น เช่นเพื่อนพระเอกในเรื่องเซททัส ตอนแรกเป็นคนดีในกลุ่มตัวเอกแต่พอคนรักโดนพวกทาสฆ่าตาย เลยเกลียดพระเอก (ที่เป็นทาส) แล้วทำตัวทรราชไปเลย หรือ โจเซอร์จากเรื่องนักบวชเทพอิมโฮเทป ตัวละครพวกนี้พอกลายเป็นตัวร้ายแล้วจะยิ่งร้ายหนัก เพราะจะเคียดแค้นโลกและไม่ไว้ใจใครอีก

อีกกลุ่มที่มักจะเปลี่ยน role กลางอากาศ แม้จะไม่ใช่ตัวเอกแต่กลายเป็นตัวร้ายของเรื่องขึ้นมาแทน คือคนที่มารู้ทีหลังว่าตัวเองเกิดขึ้นจากการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เช่น เซฟิรอธ จากไฟนอล 7 หรือ อเล็กเซีย จาก Resident Evil Code : Veronica หรือแม้แต่ตัวอัลเบิร์ต เวสเกอร์เองก็ด้วย ตัวละครพวกนี้ตอนแรกไม่ได้เป็นพวกชั่วร้าย แต่พอเจอความจริงบางอย่างเข้าเลยรับไม่ได้ ตัวร้ายที่มีอดีต มีที่มาที่ไป จะเป็นที่จดจำกว่าพวกที่โผล่มาเหี้ยแล้วโดนเก็บ แต่จากนิยายเรื่องล่าสุดที่กูสับอันนั้นก็มีเล่าอดีตของตัวร้ายแต่เล่าได้กากมาก ถ้าเทียบกับการเล่าของ Kimetsu no yaiba แล้ว แม่งคนละโลกกันเลย (แต่ก็เข้าใจน้องแกอยู่ เพราะแต่งเรื่องแรก) เล่าเรื่องจะใช้เทียร์ต่ำระหว่างทางก็ได้ แต่พวกหัวหน้าหรือบอสใหญ่ควรให้มีการพูดคุยหลังจบการต่อสู้บ้าง ถึงจะเป็นสูตรสำเร็จไปหน่อย แต่ถ้าคนอ่านเข้าใจว่าทำไมคนร้ายถึงต้องทำแบบนี้ บางทีมันยังดูน่าประทับใจกว่าฆ่าแบบศพไม่เหลือซากแล้วตัวเอกยืนหัวเราะเยาะด้วยความเอดจี้

247 Nameless Fanboi Posted ID:kZcfXwzoOW

พล็อต : เกิดใหม่เป็นเจ็ทสตรีมแซมในโลกเกนชิน

248 Nameless Fanboi Posted ID:EXigscz7t3

ช่วงนี้กูอยากสับนิยาย อปอ.(จีน) พวกมึงมีแนะนำบ้างป่าว แบบที่ไม่ได้ติดท็อป 20 กูจะมาวิแคะว่าทำไมมันถึงยังไม่ดัง

249 Nameless Fanboi Posted ID:ApvhFchzsK

>>248 กูไม่ได้อยากเห็นการสับนิยายที่ไม่ติด top 20 ว่ะ กูอยากเห็นการสับนิยายที่ติด top ว่าทำไมมันถึงดังได้มากกว่า บางเรื่องกูก็งงไม่เข้าใจว่ามันคนอ่านเยอะได้ยังไง

250 Nameless Fanboi Posted ID:lWQc7Ql+r8

แอป novel dek d จะสร้างมาทำควยไรวะ แต่งนิยายก็ไม่ได้

251 Nameless Fanboi Posted ID:Zjp9DC1aH.

>>249 +1 ไม่ติดTopไม่ดังเป็นหมื่นเรื่อง สับTopมีประโยชน์กว่ามั้ย

252 Nameless Fanboi Posted ID:EuHNkJ6Flk

อันนี้กูว่าแล้วแต่คน สูตรขึ้นท้อปมันมีคนมาบอกเรื่อยๆ แต่สูตรหนีความกากแบบพวกไม่ติดท้อปมันไม่ค่อยมีใครมาบอก

โม่งบางตัวอาจอยากรู้ก็ได้ว่าขนาดตามกระแสแล้วยังกาก ทำไมถึงเป็นแบบนั้น แล้วอย่าทำแบบไหนเดี๋ยวจะกากแบบคนต้นเรื่อง

253 Nameless Fanboi Posted ID:kZcfXwzoOW

รำคาญพวกแปะป้าย "อย่าทำเป็นนักอ่านเงา" รู้สึกว่าดูเสร่อมาก ถ้านิยายมึงดีเดี๋ยวก็มีคนมาเม้นเองแหละ

254 Nameless Fanboi Posted ID:EuHNkJ6Flk

>>253 จริง ไม่เก่งแล้วยังจะทำจี้ดจ้าด ถ้านิยายสนุกคนก็เมนต์กันเอง

255 Nameless Fanboi Posted ID:NKNzWzu6X2

>>250 กูใช้แต่แอปนักเขียนเด็กดี เอาไว้ดูแจ้งเตือนเวลาคนคอมเมนต์ในนิยาย ส่วนแอปนิยายมันสำหรับคนซื้อนิยายอ่านไม่ใช่เหรอวะ

256 Nameless Fanboi Posted ID:ApvhFchzsK

คิดว่าถ้าอดนอนสัก 1 วันโม่งทั้งหลายยังจะสามารถนั่งปั่นเขียนนิยายต่อได้ไหม?

257 Nameless Fanboi Posted ID:kZcfXwzoOW

>>256 ถ้ามีเอ็มร้อย หรือ คาราบาว ขวดหนึ่งก็พอได้ แต่ถ้าแต่งเพียวๆ กูว่ามีหลับก่อน ไม่ก็เนื้อเรื่องตอนนั้นจะโคตรกาวแดก

258 Nameless Fanboi Posted ID:ApvhFchzsK

>>257 กูช่วงนี้โดนกดดันหนัก เวลาไม่พอปั่น พอจะอดหลับอดนอนปั่นสมองมันก็ไม่แล่น...เลยอยากรู้ว่ามันพอจะมีมหาเทพทำได้ไหม

259 Nameless Fanboi Posted ID:GiPWfEA9.t

>>258 ไม่ไหวอย่าฝืน เดี๋ยวเป็นหนักมาจะไม่คุ้ม

260 Nameless Fanboi Posted ID:UlkAv1SelG

บอร์ดเด็กดีกลายเป็นบอร์ดขยะไปเพราะกระทู้พวกนี้ แม่งโครตน่าเหนื่อยหน่าย จะโปรโม่อะไรกันนักหนา ลงแม่งทุกวัน

https://www.dek-d.com/board/view/4056901/

261 Nameless Fanboi Posted ID:nKENmTqhJk

>>260 เอาหน่า มันก็ลงถูกหมวดแหล่ะ โฆษณามากๆ คนรำคาญก็ไม่เข้าไปอ่านเอง

262 Nameless Fanboi Posted ID:3HzXVxUHd/

>>260 คนนี้แม่งโปรโมททุกครั้งที่อัพทุกตอน ถ้านาน ๆ มาทีไม่เป็นไรหรอก

263 Nameless Fanboi Posted ID:7USiQg48tF

แฟนตาซีช่วงนี้เมต้าอะไรอยู่วะ ไม่ได้เข้าอีกเลยหลังจากแนวระบบเก็ยเวลระบาด เรื่องติดท็อปอันไหนน่าสนใจบ้าง

264 Nameless Fanboi Posted ID:d5LUuR5Ufd

>>263 อันดับ 1-3 แนวระบบหมด อันอับอื่นๆก็แนวระบบแซมเกือบหมด เอ่าง่ายๆระบบมันยังมาแรง แนวย้อนยุคกลับไปยุค 70 มันก็แนวระบบเกือบหมด มึงยังหนีแนวระบบลูกรักพระเจ้าไม่พ้นหรอก เพราะมันเขียนง่าย นักเขียน ADD ความเทพให้ตัวเอกผ่านระบบได้แบบไร้เหตุผล อะไรมันก็ง่าย ง่ายทั้งการเขียน คนอ่านเยอะ รุ่งเจริญ รายได้ดี มันก็หนีแนวนี้ไม่พ้น

ไปคิดเซ็ตติ้งแนวแฟนตาซีทั่วไป เซ็ตโลกแทบตาย สู้แนวระบบไม่ได้ ! มึงจะยังไม่เห็นแนวอื่นไปอีกนานเลยล่ะพวก

265 Nameless Fanboi Posted ID:2u0/cjf0vq

>>264 อ่านแล้วเป็นท้อ 5555

266 Nameless Fanboi Posted ID:7USiQg48tF

>>264 ย่อหน้าสุดทำลายความหวังสัสๆ

267 Nameless Fanboi Posted ID:d5LUuR5Ufd

>>266 มันคือความจริง พยายามหนักกว่า ลำบากกว่า แต่สุดท้ายมันไม่ตรงกระแสมันก็ลำบาก

268 Nameless Fanboi Posted ID:hkB/gX2syd

>>264 คือเซ็งเพราะแต่งเองละขายไม่ออกก็เรื่องนึง แต่เซ็งเพราะไม่มีให้อ่านนี่โคตรเหี้ยเลยเถอะมึงเอ๊ย มันจะมีแต่ระบบลูกเทพมาให้กูอ่านจริงเหรอวะ

269 Nameless Fanboi Posted ID:3T9DO6zUrk

>>264 เรื่องมากว่ะ พระเอกเบียวไม่พอจะเอาระบบอีก คนเขียนแนวบ้านๆอย่างกูจะอยู่ยังไง

270 Nameless Fanboi Posted ID:eL/hb2Fcln

>>268 มึงว่างๆลองค้นดู ระบบค้นหานิยายก็ดีอยู่นะ กูใช้ทั้งต้นด้วยคีย์เวิร์คกับแท็ก ยังอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่คนเขียนเหี่ยวตายไปหมดละเพราะแต่งนอกกระแสคนอ่านน้อยเหี้ยๆ ใครจะมีกำลังดันต่อละวะเหอๆ แต่ถ้าให้อ่านพวกที่อัปเรื่อยๆมันก็เลี่ยนอะสัสมีแต่แนวเดิมๆ ในไทยถึงไม่จบแต่กูก็ขุดมาอ่านแก้ขัดก่อยละวะ ไม่ก็หมุดไปนอนเอา
ส่วนนิยายที่ถูกจริตกู ส่วนใหญ่คือแต่งเมื่อปี 50+ อะสัส สมัยจีนโบไม่เกิด เอาตรงมันก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร แต่ไม่เบียวจัดเหมือนนิยายยุคนี้ว่ะ

271 Nameless Fanboi Posted ID:yE48eyycbL

ยุคสมัยเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน แนวนิยายที่มึงด่าวันนี้ว่าเกลื่อน ๆ พรุ่งนี้อาจกลายเป็นนิยายให้คนรุ่นหลังถามหากัน ดังนั้นแล้วทำใจเสียเถอะ ถ้าต่อต้านไม่ได้ก็เข้าร่วมก่อนที่กระแสนี้จะดับสูญ แล้วจะเสียใจหากมีแนวใหม่ที่พวกมึงอาจรังเกียจมากกว่านี้

272 Nameless Fanboi Posted ID:zHrEPxXoJ/

>>264 >>271 สุนทรภู่กับวิลเลียม เชกสเปียร์ผูกคอตายแน่ ระบบคืออีหยังวะ กูรู้จักแต่ร้อยแก้วกับร้องกรอง

273 Nameless Fanboi Posted ID:IysCbRONyv

กูเองก็เซ็งเนี่ย คือตอนนี้สองจิตสองใจ มีเรื่องที่อยากเขียนแต่ค่อนข้างแน่ใจว่าเขียนแล้วขายไม่ได้แน่ๆ กับอีกเรื่องค่อนข้างแน่ใจว่าขายได้เขียนง่าย แต่ความรู้สึกคือกูอยากเขียนเรื่องแรกมากกว่าแลกกับการขายไม่ออกแน่นอนซะงั้น

274 Nameless Fanboi Posted ID:YXi2EKZ7+L

>>273 ถ้าเกิดช่วงเริ่มเรื่องเป็นแนวขายได้ไปก่อน พอหลัง ๆ ก็ค่อย ๆ เขียนตามใจมึงแบบเปลี่ยนตอนละนิดละหน่อย แล้วถ้าเกิดคนอ่านเริ่มทัวงก็กลับไปในกระแสเหมือนเดิม พอจะเป็นไปได้ไหมอะ

275 Nameless Fanboi Posted ID:AwQEzf8DLd

>>273 ทางเลือกที่สาม เรียนอังกฤษแล้วเขียนลงเว็บฝรั่งแทนขายได้ชัวเพราะฐานคนอ่านมันกว้างกว่าเด็กดวก

276 Nameless Fanboi Posted ID:Z.+CvsPoj1

อ่านแล้วฮากับครับเพ้อเจ้อ 55555555 ถ้ามีปัญญาเขียนเรื่องที่เขียนแล้วมันขายได้มีคนอ่าน เขียนแล้วได้เงิน มึงก็เขียนไปสิวะ เงินแสนไม่อยากได้รึไง?

เรื่องไหนเขียนแล้วคิดว่าได้เงินก็เขียนไป ส่วนเรื่องไหนอยากจะเขียนแต่ขายไม่ได้ ก็แบ่งเวลามาเขียนสนองนีทสิครับ กูถามมึงจริงๆ มึงจะเขียนนิยายต่อไปได้ยังไงวะ ถ้าเขียนแล้วมันไม่ได้ผลตอบแทนอะไรมา เขียนนิยายมันเป็นงานอดิเรกที่กินเวลาชีวิต กูก็บอกหลายครั้งแล้ว อยากจะอยู่รอดมันต้องปรับตัว ปรับจูนให้มันสมดุล ไม่ใช่อยู่แต่กับความฝัน ตามกฎธรรมชาติ คนที่จะอยู่รอดคือคนที่ยอมปรับตัว ใครไม่ปรับตัวก็จางหายไปตามกาลเวลา

ถ้าเขียนแล้วมั่นใจว่าขายได้ จัดเลย แต่กูแนะนำว่าอย่ามั่นจนเกินไป เดี๋ยวผิดหวังแล้วมันจะเจ็บ

277 Nameless Fanboi Posted ID:V+U+LO83d+

>>276 ครับพรี่ตุ๋นกบ

278 Nameless Fanboi Posted ID:YXi2EKZ7+L

>>276 พี่ตุ๋นกบคะ มีวิธีเขียนนิยายยังไงให้ได้วันละหลายๆ ตอนแบบพี่ไหมคะ หนูนี้เอฟซีพี่เลยค่ะ แผล็บๆ

279 Nameless Fanboi Posted ID:ZGNApYAYgf

>>278 ไม่มีครับพี่ กินยาม้า สูดใบกระท่อมเข้าเยอะๆ แล้วก็นั่งเขียนครับ

280 Nameless Fanboi Posted ID:ZGNApYAYgf

>>274 ย้อนกลับไปอ่านที่โม่งเห็บหมาเคยให้เคล็ดวิชาเอาไว้ดีๆ ในฐานะนักเขียนที่พอมีวิชานิดๆเหมือนกัน กูอ่านแล้วมันใช่ เขียนนิยายบนเว็บ มันจะมีโมเมนตั้มที่นักอ่านอินและสนุกจนมึงต้องร้องขอชีวิต ถ้าอยู่ในอารมณ์นี้ คือช่วงที่มึงโกยๆได้ คือลงมาเท่าไหร่ ติดเหรียญราคาไหน นักอ่านมันก็ยอมจ่ายเพราะมันติด มันสนุก มันอยากอ่าน นิยายมึงจะดังขึ้นมาถือว่าประสบความสำเร็จ ซึ่งตรงจุดนี้แหละ มันยาก ยากที่จะรักษาความสำเร็จเอาไว้ เพราะถ้ามึงพลาด ดำเนินเรื่องผิดจังหวะ หรือยืดเรื่อง เปลี่ยนแนวเรื่อง เปลี่ยนโทนเรื่อง ไอ้พวกนักอ่านที่คอยเชิดชู คอยร้องขอตอนใหม่ เขาก็พร้อมจะเทนิยายมึงไปเรื่องใหม่กว่าครึ่ง ขืนไปเปลี่ยนกระแสกลางคันแบบแอบบเปลี่ยนแนว มันเหมือนทุบบ้านตัวเอง ต้องถามก่อนทำไปทำไม?

281 Nameless Fanboi Posted ID:YXi2EKZ7+L

>>280 จริงด้วยแฮะ กูก็ลืมนึกถึงความเป็นจริง นักอ่านเขาไม่ได้พร้อมให้อภัยพวกนักเขียนได้ทุกเมื่อ เพราะตัวเลือกที่ตรงกับเขาชอบมันมีเยอะ ขอบใจที่ช่วยแก้ไขให้จ่ะ

282 Nameless Fanboi Posted ID:xM+0+VT1m2

จนตอนนี้ แนวระบบยังมีคุณค่าทางวรรณกรรมไทยอีกเหรอ https://www.dek-d.com/board/writer/4057103/

283 Nameless Fanboi Posted ID:ZGNApYAYgf

>>282 ตอบจริงๆตรงๆเลยคือไม่มีนะ

284 Nameless Fanboi Posted ID:YUodoBybe3

นิยายแนวระบบ=อาหารแดกด่วนที่กินให้อิ่มท้องและอร่อยไปวันๆ แต่คุณค่าทางสารอาหารไม่มี มันก็ไม่ได้ผิดที่จะมีคนเลือกผลิตออกมาเพราะขายได้ มีคนรอแดกไง แต่ในแง่สังคมวงการหรือเหี้ยห่าไรก็ตามที่เป็นภาพรวมคุณค่า การที่คนเอาแต่ผลิตอาหารขยะเยอะๆแล้วคนแห่ไปแดกเยอะๆมันก็ไม่ได้ส่งผลดีทั่งนั้น กับตัวเองก็จะเป็นคนอ้วนรวยโรคเบาหวานความดันไขมันลำบากไปยันคนรอบข้างเวลาเจ็บป่วย หมอพยาบาลแทนที่จะได้ทุ่มเวลาไปรักษาโรคร้ายแรงที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆอย่างมะเร็งผ่าตัดอุบัติเหตุไรงี้ ต้องมาเจียดเวลากับคนป่วยพวกนี้ที่เป็นเพราะพฤติกรรมเลือกเสพตามใจฉันแต่ไม่สนสุขภาพอะ
ในแง่นิยายก็คือ พอมีแต่คนเขียนงานกากๆงี้มานักอ่านมันก็จะซึมซับแต่งานง่อยๆจนทักษะถาษาติดลบ เทียบกันดิระหว่างพล็อตคลิเช่เมื่อก่อนอย่างต่างโลกงี้ ชาวเกาะเขาเขียนจนสนพ.เอียนว่าประกวดปีนี้กูไม่เอาละนะ ถึงจะเป็นพวกหน้าใหม่หัดเขียนเหมือนกันแต่ที่เขียนๆกันนี่ยังพอหาเรืองที่มีชั้นเชิงสอดแทรกสาระความรู้ หรือปรุงแต่งให้พอมีอะไรจับต้องได้บ้าง แม้พล็อตมันจะเบียวเอจจี้ชิบหายแต่ระหว่างนั้นมันก็มีไรให้คนอ่านซึมซับอะ อย่างการเมืองการสงครามงี้ ถึงมันจะจบแบบเทพซ่าว่าพระเอกกูกินเรียบ แต่ก็มีช่วงให้คนอ่านร่วมวิเคราะห์ด้วยอะว่าสร้างเมืองงี้จะพัฒนาไรเพิ่มได้บ้าฃ สร้างสงครามงี้มีใครได้ผลประโยชน์ไรบ้าง ฝั่งนั้นมีตัวเทพที่พองัดเด็กปั้นพระเอกได้และสู้กับพระเอกสูสีหน่อยงี้ ส่วนบ้านเรานี่กูควานหาไงก็เจอแต่พวกเรียบง่ายสัส สร้างเมืองก็เสกๆ มาจบไม่มีการประยุกต์ดัดแปลงไร สงครามก็เอาตัวโม้สเกลเทพๆมากกองฝั่งพระเอกหมดหรือบัฟพระเอกให้สเตตัสล้นหลอดไปเลยง่ายดี ตัวร้ายง่อยๆที่แปะป้ายไว้นิดนึงนี่มันคือตัวเก่งสุดในโลกนั้นจนกระทั่งพระเอกมาตบเกรียนให้ ไม่มีสอดแทรกห่าไรให้คนอ่านร่วมวิเคราะห์หรือซึบซับสาระดีๆเข้าไปมั่ง จูงจมูกอย่างเดียวเลยว่ามันเป็นงี้อย่างงี้นะตามนี้ คนอ่านก็ไหลง่ายมากเออดีๆง่ายๆงี้ละชอบ เทพไวดี ตัวร้ายก็กากสมใจ ยอดๆ
เห็นได้จากทุกวันนี้ที่พวกนักอ่านคลังศัพท์น้อยโผล่มาเรื่อยๆอะแหละ เจอคำแปลกในนิยายแปลหาว่าเขาแปลกาก เจอคำไม่คุ้นในนิยายออริก็ว่าคนเขียนใช้คำแปลกงี้ ว่างๆลองไปเทียบดูกับนิยายเบียวๆยุคก่อนกับตอนนี้ในเว็บดด.นี่แหละ เขียนโดยนักเขียนเลเวลหนึ่งเหมือนกันหาความเมคเซ้นไม่ได้ แต่คนอ่านสมัยก่อนยังดูมีสติมากกว่าสมัยนี้ และคนเขียนสมัยก่อนยังใช้ภาษาและเนื้อเรื่องที่ดูมีสาระมากว่าสมัยนี้อะ ถึงพล็อตมันจะต่างกันแต่ในด้านความเบียวหัดแต่งนี่เทียบได้เลย
วกมาที่นิยายระบบ กูมุดไปอ่านเกาะก็ยังรู้สึกว่าครีเอตกว่านะมีลุกเล่นระบบแต่ละเรื่องเด่นในแบบตัวเองแม้พล็อตหลักๆจะอันเดียวกันก็เถอะตือพระเอกซูเทพสัส ส่วนไทยคือเขียนตามกันไงก็งั้นเลยไม่ดัดแปลงไรมาก อ่านไปกี่สิบเรื่องแม่งก็แทบแฝดกัรหมด

285 Nameless Fanboi Posted ID:YUodoBybe3

เพิ่งเห็นว่าพิมพ์ยาวไป555 โทษทีกูอัดอั้นมานานละเห็นพวกมึงเถียวกันแต่เรื่องนี้มาทุกเดือน เสริมอีกนิดละกัน อย่างที่โม่งหลายตัวเคยบอกอะ มันก็ไม่ผิดที่จะมีคนเลือกเขียนแต่งานกากๆเพราะมันขายได้ โลกทุนนิยมก็งี้แหละของดีที่ขายไม่ออกใครจะไปทำ แต่การละทิ้งแสงสว่างเข้าสู่ด้านมืดนี่ก็สุดโต่งเกิน มึงสามารถเลือกผลิตงานดีๆไปพร้อมกับงานกากๆได้ มาทางสายกลางเถอะถ้ามึงสายหาแดกเป็นหลัก จะเขียนงานกากๆไว้ขายแล้วเขียนงานดีๆไว้ให้ตัวเองภูมิใจงี้ หรือถ้ามึงจะมั่นมากว่ากูเขียนแต่งานดีๆก็ขายได้กูจะไม่ยอมจับงานกากๆออกมาให้แปดเปื้อน ก็ทำได้ถ้ามึงยอมรับผลว่ามันจะขายยากกว่ามาก ในเวลาพอๆกันไงงานกากก็มาแรงกว่าดูไปก็บั่นทอนใจตัวเองเรื่อยๆอะว่ากูลงทุนผลิตงานดีขนาดนี้ทำไมได้ยอดแค่นี้วะ ถ้ามึงก้ามข้ามจุดนี้ไม่ได้ท้ายที่สุดมึงก็จะจมไปพร้อมงานดีของมึงนั่นแหละ แต่ถ้าผ่านมาได้มึงก็จะด้นแคร์อะว่าช่างดิต่อให้กัดเกลือแดกในตอนนี้แต่กูไม่คิดจะกินแต่น้ำต้มผักไปตลอดชีวิตนะวุ้ย แค่วันที่กูจะได้กินปลาย่างยังไม่มาไม่ถึงเท่านั้นเอง ไม่เชิงว่าปลอบใจความขี้แพ้ แต่คือการรู้ตัวในระดับนึงอะว่ากูมาได้แค่นี้แหละในตอนนี้ แต่กูทนไดแต่ก็ๆใ่ได้อยากอยู่แค่นี้ปะ ก็ต้องดิ้นจนกว่าจะไปถึงฝั่งอะ ระกว่างนั้นมันก็ต้องมีไรสักอย่างแหละวะที่ทำให้กูเฮงขึ้นมาบ้าง

286 Nameless Fanboi Posted ID:nrsTsCjdBE

>>285 กูจะบอกว่ากูเองก็ขายวิญญาณไปนานแล้วเหมือนกัน ทั้งขายเทพซ่า ขายเรื่องเยดๆ (ก็แม่งเงินมันดีอะ) แล้วเรื่องที่ตั้งใจเขียนก็มีวกกลับมาแต่งบ้าง ดองไว้เรื่อยๆ

ตอนนี้กูกลับมาอย่างใหญ่ epic cumback เอาเงินเรื่องเยมาเปย์เรื่องหลัก แนวอาจตกกระแสไปแล้วแต่ปกกูจ้างมาอย่างแพง รูปตัวละครมีครบ(อย่างที่พวกคนอ่านแม่งชอบไง)วาดใหม่ออริไม่ต้องขโมยรูปเมะจากเน็ตมา ถ้ากลัวไม่เห็นภาพกูจ้างวาดรายตอนเอาไว้ให้ดูใต้ชื่อตอนแบบเรื่องแฮร์รี่พ่อตาย พอทำขนาดนี้แล้วมีคนอ่านเพิ่มขึ้นเยอะ ถือเป็นความสุขเล็กๆ จากการใช้เงินแก้ปัญหา

โอเค พอก่อนเดี๋ยวแม่งโม่งแตก

287 Nameless Fanboi Posted ID:uzFS.HTeYz

กูคิดถึงตัวเองตอนมีไฟ แต่งนิยายไปด้วยวาดภาพประกอบเองไปด้วย
แต่ตอนนี้แต่นั่งจับปากกายังไม่อยากทำ orz

288 Nameless Fanboi Posted ID:3+.3DuSDal

>>287 สู้ๆ ดิวะ ขนาดเรื่องที่สับล่าสุดยังวาดภาพเองเหมือนกัน ถ้าลายเส้นแนวพลังการตีพ่อแม่หรือภาพแบบของ Narutakie ยังขายตอนได้ งานมึงก็ต้องขายได้

289 Nameless Fanboi Posted ID:OccIFwnOBB

>>287 ไฟดับก็จุดใหม่สิครับ หาแรงพลัก ความโลภเอย เงินทองเอย ความฝันเอย ตั้งเป้าหมายจากเล็กๆไปใหญ่ เล่าสู่กันฟังช่วงเริ่มแรกจะเขียนนิยาย ผมก็ไปส่องนิยายชาวบ้าน เฮ้ยไอ้นี่มันขายได้เป็นแสนเลยหรอวะ แบบนี้เราก็น่าจะทำได้บ้าง โอยอยากได้โน่น จัง อยากได้คอมใหม่ อยากได้ไอโฟน ... แปลงความอยากมาเป็นแรงผลักให้ขยัน สร้างสรรค์งาน

290 Nameless Fanboi Posted ID:0EsBvEBiQD

เบื่อพวกโฆษณาในบอร์ดว่ะ แทนที่จะเจอสาระกลับไปเจอสวะ ครั้งสองครั้งพอว่าบางคนอัพตอนนึงโปรโมททีนึง แถมเนื้อเรื่องดันไม่สนุกเหมือนที่โม้เหม็นอีก

291 Nameless Fanboi Posted ID:GduRjauir/

>>286 เฮ้ยคล้ายกูเลย ปต่กูทำงานประจำอะเขียนเป็นงานรอง ก็เอาเงินจากงานประจำแหละมาเปย์5555 เขียนยังไม่จบภาคแรกกูเสกปกยันภาคจบไปเรียบร้อย มีคาร์แยกกับ จิบิอีกต่างหาก หมดไปหลักหมื่นเลย ติดเหรียญขายได้เดือนหลักร้อยนานๆแตะพันที ในแง่การลงทุนคือสูญเปล่านะเหมือนเอาเงินมาละลายเล่น แต่พอได้แฟนคลับหลักพันในหนึ่งปีก็คอมพลีตละวะ ท็อปไม่ติดช่างดิ

292 Nameless Fanboi Posted ID:OccIFwnOBB

>>291 จะติด Top มึงต้องขยันแบบสุดๆ ถ้าทำงานประจำไปด้วยมันสู้พวกลงมาเขียนแบบฟูลไทม์แบบพวกติด Top ลำบากมาก น้องจากจังหวะจะช่วย เรื่องติดตลาดแบบงงๆ

293 Nameless Fanboi Posted ID:LAr+Jlx.J/

รู้สึกท้อว่ะ เขียนนิยายแนวกระแสย้อนเวลามาได้ 30 กว่าตอน คนอ่านแค่หลักหมื่นต้น ๆ ปกติแนว ๆ นี้มันต้องเป็นแสนแล้วไหมวะ

294 Nameless Fanboi Posted ID:DFGuXqayBC

>>293 มองด้วยแววตาของคนมียอดวิวตอนละไม่ถึง 300

295 Nameless Fanboi Posted ID:w/Tp8hMy+D

>>293 ต่อให้แนวกระแส ถ้าไม่มีฐานแฟนจากเรื่องเลยมันก็ยากนะ คนอ่านถึงหมื่นแล้วมึงก็เดินออกไปหน้าปากซอยบ้าน มองซ้ายมองขวาหาซื้อยาม้ามาแดก แล้วก็กลับไปนั่งเขียนวันละ 5-6 ตอน เอาให้ยอดวิวรวมต่อวัน 1,400+ ให้ได้สักวัน พอติด top แล้วยอดวิวกับยอดติดตามมันจะถล่มมาเอง แล้วค่อนผ่อน ถ้าเรื่องมึงสนุกมันก็จะมีคนอ่านยาวๆ แต่ถ้าเรื่องกาก ก็ตามสภาพ สะสมฐานแฟนคลับรอเรื่องใหม่

296 Nameless Fanboi Posted ID:LAr+Jlx.J/

>>294 ขอโทษที นี่เป็นความทุกข์ของชนชั้นกลาง ที่เพิ่งหลุดจากคนรากหญ้า
>>295 ขอบใจมึงสำหรับกูก็คิดว่าเรื่องตัวเองพอสนุก แต่เอาจริง ๆ อาจต้องลองลงทีละ 5-6 ตอนก่อน เพราะสนุกกูแต่คนอ่านอาจไม่เอ็นจอยด้วย ถ้าเกิดแป๊ก กูจะได้เตรียมใจไปเขียนเรื่องใหม่

297 Nameless Fanboi Posted ID:SRpp2.LFXO

โม่งอย่าเงียบได้ไหม เปิดประเด็น คุยอะไรกันบ้างสิ กูเขียนนิยายไม่ออก จะมาหาอย่างอื่นเสพขั้นเวลา ยกประเด็นอะไรก็ได้มาถกๆกันให้คิดหน่อยสิ

298 Nameless Fanboi Posted ID:/FGHoWro3u

>>297 นึกว่ามีแต่กูที่คิดแบบนี้ นั้นขอถามเรื่องติดเหรียญหน่อยกับปลดล็อกตอน ถ้าเทียบแล้วเหมือนอ่านล่วงหน้าจะรักษาคนอ่านได้ดีแต่เงินเข้าน้อย แต่แบบปลกล็อกตอนจะตรงกันข้าม โม่งว่าอันไหนดีกว่ากันแล้วจะเอาเกณฑ์ไหนมาวัดดี

299 Nameless Fanboi Posted ID:SRpp2.LFXO

>>298 ถ้ามึงมั่นใจว่าฐานนักอ่านแน่นก็หักดิบติดเหรียญไปเลย ได้เงินเยอะกว่า ยุ่งยากน้อยกว่า แต่ถ้าอยากจะรักษาฐานนักอ่าน รักษาน้ำใจนักอ่าน ยังอยากแข่งขันให้ติด top เพื่อดึงนักอ่านใหม่ๆในอนาคต ก็ติดแบบอ่านล่วงหน้า

ขอเตือนไว้ก่อน แบบติดล่วงหน้าในเด็กดีปัญหามันเยอะ แบบมึงติดล่วงหน้าไปแล้วยกเลิกไม่ได้ นักอ่านจ่ายเงินให้ไปแล้ว พอตอนมันปลดฟรีแล้วมึงมาตั้งเก็บเงินหรือรวมแพคทีหลัง นักอ่านที่เขาจ่ายไปแล้วก็ต้องมาจ่ายซ้ำ เขาจะบ่นไม่พอใจเอาได้ ไอ้ตั้งอ่านล่วงหน้ามีข้อดีอย่างเดียว เพิ่มฐานนักอ่าน + ยังพอจะทำให้นิยายยืน top เหมือนเดิมได้อยู่ มึงจะได้ฐานนักอ่านใหม่ๆมาเรื่อยๆ ถ้าวางแผนไม่ดีแล้วติดเก็บเหรียญเลยนักอ่านมันจะลดหวด ฐานไม่แน่นมันอาจจะทำให้มึงหลุด top แบบกู่ไม่กลับ

300 Nameless Fanboi Posted ID:SRpp2.LFXO

>>298 แล้วถ้าจะติดล่วงหน้าและหวังเงิน มึงต้องขยันนะ เกิดลงตอนใหม่ช้ากว่าดีเลของการปลดดีเลย์ตอน เงินมันก็จะน้อยไปอีกเด้อ

301 Nameless Fanboi Posted ID:/FGHoWro3u

วันนี้ระบบยอดวิวดูแปลก ๆ แถมยอดซับก็หายไปเยอะผิดปกติ(อาจจะเฉพาะของกู) มีใครเป็นบ้างเปล่า

302 Nameless Fanboi Posted ID:SRpp2.LFXO

>>301 Dek D มันปรับระบบใหม่ ยอดจะไม่แสดงเรียลไทม์ มันมีแจ้งมาแล้ว ลองเข้าไปดูใหม่ มันเด้งแจ้งแล้วมึงไม่อ่านแล้วกดปิดแน่ๆ

303 Nameless Fanboi Posted ID:/FGHoWro3u

>>302 เค้าก็นึกว่าเป็นโฆษณา T_T

304 Nameless Fanboi Posted ID:Yf4su0zGYU

>>299 เจอแบบนี้หลังหักพอดีสิ เจ็บกว่าซื้อเกมสตีมแล้วมาลดราคา 70%-90% ทีหลัง

305 Nameless Fanboi Posted ID:DohLw0LFv2

>>304 ศาสดาเก๊ปแม่งเหี้*

306 Nameless Fanboi Posted ID:a0t99vEfwR

>>304 ก็ Dek d มันไม่ยอมแก้ทำไงได้ เหมือนมีมาทำโพลถามอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ไม่แก้

307 Nameless Fanboi Posted ID:ra5pqMwg9d

งงกับการจัดหมวด raw อะ มันมีหมวด อดีต ปัจจุบัน อนาคต แบบเดียวกับเด็กดีไหม ?

308 Nameless Fanboi Posted ID:r8e323brwE

>>307 ไม่มีแฮะ ไม่ใช่ว่ามันเป็นแนวจีนไปเลยเหรอ

309 Nameless Fanboi Posted ID:BlKf+G55A9

โม่ง ดราม่าเรื่องอันดับ1 ทำไมโดนแบนวะ เรื่องเมียคนธรรมดา กูสงสัยแต่แรกว่ามันแปลกๆ เพราะนักเขียนมันปิดแสดงความเห็นในนิยาย ผิดวิสัย ใครรู้ว่าโดนแบนเพราะอะไรไหม?

310 Nameless Fanboi Posted ID:BlKf+G55A9

>>309 มันโดนแบนเพราะเก็บเงิน เป็นไปได้ไหมวะว่าแอบลักไก่เอานิยายนอกมาแปล แล้วเก็บเงินแบบไปขโมยมา เพราะพอไปอ่านสำนวนแล้วมันไม่เหมือนนิยายแน่งเองเท่าไหร่ กูเดาะ เพราะมันแปลกที่นักเขียนมันปิดไม่ให้แสดงความเห็น

311 Nameless Fanboi Posted ID:O0iwFaCJQG

>>310 น่าจะตามนี้ ลอกมาแปลเก็บเงินแล้วโดนรายงาน

312 Nameless Fanboi Posted ID:uX67n5rizZ

>>311 อันนี้ไม่แน่ใจว่าใช่ไหมนะ อย่าพึ่งฟันธงกัน มันจะเป็นไปใส่ร้ายเขา แต่มันแปลกตรงที่การปิดไม่ให้แสดงความเห็นในนิยาย เพราะปกติ นักเขียน ถ้าเขียนงาน สิ่งที่อยากได้ที่สุดคือความคิดเห็นจากนักอ่าน

313 Nameless Fanboi Posted ID:1PSzKGp0..

>>312 อาจจะกลัวโดนแฉแล้วรุมรีพอร์ตรึเปล่าเลยคิดว่าปิดความเห็นไว้ดีกว่า

314 Nameless Fanboi Posted ID:uX67n5rizZ

>>313 อันนี้กูก็ไม่แน่ใจไง แต่เรื่องมันดังเวอร์จนคนอ่านหลักหมื่น+ ติดเก็บเงินตอนละบาทก็ได้ตอนละครึ่งหมื่นบาทนะ มันแปลกจริงกับไอ้การปิดความเห็นไม่ให้แสดงความเห็น มันไม่ปกติ แต่ถ้าไปก็อบมา มันก็ต้องมีคนรีวิวด่า หรืออย่างอื่น สุดท้ายมันไม่มีไงกูเลยงง พอไปอ่านเรื่องอื่น มันก็เขียนมาหลายเรื่องแล้ว แต่ไม่ดัง ชื่อเรื่อก็แบบ เมียคนธรรมดา ทหารคนธรรมดา แพทย์คนธรรมดา ทุกอย่างมันจะตั้งชื่อด้วยธรรมดาหมด แต่เอาจริงๆ กูไปอ่านสำนวนมาแล้ว มันไม่เหมือนคนไทยที่แต่งนิยายจีนเว้ย มันเหมือนไปสำนวนจีน บริบทการแปลจากจีน ด้วยสกิลการแปลระดับไม่เทพ คือไปเอารูปประโยคมาเกลา แต่งๆ แล้วเอามาลง มันไม่ใช่บริบทของคนไทยแต่ง [แค่จุดสังเกตการมดนของกู]

ก็ถ้ามัน COPY มาจริง มันก็ต้องก็อบแบบ..มีเชิงอยู่มั้ง หรือเปล่า? รู้แต่ว่าโดนแบนหมดใน Dek d และ raw รวมถึงเว็บใหญ่อื่นๆ จนมันต้องเอาไปลงในเว็บย่อยๆกากๆที่เขาไม่ตรวจ กูเลยสงสัยไงว่าน่าจะใช่สาเหตุนี้ เพราะโดนตอนเก็บเงินแถมโดนเว็บใหญ่อื่นหมด มันน่าจะมีเรื่องเดียวคือเรื่องลิขสิทธิ์ นักเขียนมันชี้แจงแบบแปลกๆด้วย บอกว่าช่วงนี้กำลังโดนไล่ตรวจสอบบางอย่าง พิมพ์เหมือนกำลังรู้ตัวว่าทำผิดน่ะ

ปัญหาคือ..เชี่ย..ถ้ามันไป COPY ผลงานคนอื่นมาลงจริงๆ มันโครตน่าสะเทือนใจ

315 Nameless Fanboi Posted ID:1PSzKGp0..

>>314 เดี๋ยวนะ เรื่องมันชักจะคุ้นๆ ละ ไอ้นักเขียนคนนี้ที่ตั้งราคาอีบุ๊คตัวเองโคตรถูกแล้วโดนเมปถอดเรื่องทิ้งทั้งเก่า-ใหม่ 150 เรื่องรวดรึเปล่า

316 Nameless Fanboi Posted ID:uX67n5rizZ

>>315 ไม่ใช่ คนละคน

317 Nameless Fanboi Posted ID:uX67n5rizZ

>>315 คนนั้นนิยายมันไม่มีคนอ่าน แต่ไอ้ที่พูดถึงนี่คือนิยายมันติดอันดับ 1 DEK หมวดรวมมาสักพักแล้ว อยู่ๆถูกถอดหายไป กูสงสัยแต่แรก เพราะมันลงนิยายคนอ่านเป็นหมื่นแต่ปิดการแสดงความเห็น

วิสัยนักเขียน ถ้าเขียนงานเอง สิ่งที่อยากจะไม่แพ้เงินคือเสียงตอบรับ อยากรู้ความเห็นจากนักอ่าน แต่ไอ้นี่มันปิดแสดงความเห็น แม่งโครตแปลก

318 Nameless Fanboi Posted ID:WKEZwwC37/

>>317 ชักจะแปลกๆ ละไอ้เรื่องที่มึงว่า พิรุธแม่งเยอะ

ส่วนเรื่องของมึง >>315 อันนี้กูคุยกับเพื่อนแล้วเขาบอกว่าโมเดลการขายของไอ้เหี้ยนี่ขัดผลประโยชน์และกฏของเว็บต่างๆ อย่างแรกเลยคือเปลืองพื้นที่ มีงานเยอะแต่เสือกเป็นเรื่องสั้นๆ แล้วขายตั้งราคาถูกจนการหักค่าหัวคิวทำได้ลำบากและผลตอบแทนน้อย เหมือนตัดราคาชาวบ้านด้วยนิยายแบบหลอกขาย เน้นถูกเข้าว่าจนถ้ามีคนทำตามแบบนี้มากๆ เข้าเพราะอยากขายออก มันจะเป็นผลเสียต่อราคากลางของ e-book หรือนิยายติดเหรียญในท้องตลาด ถ้าอยากขายจริงๆ เจ้าของพื้นที่อยากให้มันมัดรวมหลายๆ เรื่อง ที่สั้นจนเกือบจะเป็นนิยายขนาดสั้นหรือจบในตอน เอาไว้เป็นชุดๆ แล้วขายด้วยราคาที่ไม่ต่ำจนน่าเกลียดแบบนี้ ตั้งชื่อว่ารวมผลงานภายใต้นามปากกา xxx vol.1,2,3 ก็ได้ แต่มันไม่ยอมทำไง ไม่ก็คงทำผิดกฏอะไรสักอย่างในเว็บด้วยจนโดนลงดาบแบบไม่มีการเตือน

แต่ใจกูลึกๆ เดาว่าโดน อัลกอริทึ่มของเอไอป้องกันการ spam สอยตูด อะไรที่มันสั้นๆ แต่เยอะๆ และมากผิดปกติเนี่ยมักจะโดนก่อนเพื่อนอยู่แล้ว

319 Nameless Fanboi Posted ID:uX67n5rizZ

>>318 เปล่ากูมาเช็คถามความเห็นว่ามีใครรู้สาเหตุไหม ก็ถ้าสาเหตุการโดนแบนมันเป็นแบบที่กูคิด กูจะไปด่ามันใน DEK D มันมีผลเว้ย ถ้าทำแบบที่บอก แอทมินต้องแบร รหัสแอทเค้าท์มันเลย ไม่งั้นมันแย่มากนะ เอาผลงานคนอื่นมาลงโดยไม่ขอเพื่อเพิ่มยอดฐานแฟน ยอดติดตาม พอเรื่องนี้มันบูมมีคนติดตามเยอะทั้งๆที่หน้าด้าน ไปเอาของคนอื่นมา พอมันลงเรื่องใหม่ มันก็จะดัง เพราะฐานแฟนมันเยอะ ได้ฐานแฟนที่กดติดตามมาจากวิธีผิดๆ โกงคนอื่น มันต้องแบน ACC ไปเลย ไม่งั้นมันจะทำให้เกิดวิธีแย่ๆได้ มันมีผลนะกูบอกก่อน

มึงลองคิดดูก็แล้วกัน พวกมึงเขียนนิยายแทบตาย กว่าจะได้คนอ่าน กว่าจะสะสมฐานแฟนที่กดติดตามมึงได้หลักร้อยหลักพัน ไอ้เหี้ยนี่มาแต่ไหนไม่รู้ เอาด้านเข้าว่า ไป copy ผลงานคนอื่นมาเทๆๆๆ ลงๆๆๆ ฟลุคดังสักเรื่อง แม่งได้ฐานแฟน 5000 คน พอมันมีฐาน 5000 ครั้งต่อไปมันลงเรื่องอะไร คนก็ไปแห่ดูจนติด top ง่ายๆแล้ว มันเอาเปรียบนักเขียนคนอื่นหนักไป มันต้องแบน ACC มันทิ้ง [ในกรณีที่มันทำผิดจริง เพราะมันไร้จิตสำนึก]

320 Nameless Fanboi Posted ID:1PSzKGp0..

>>319 เห็นมึงพิมพ์แล้วกูเข้าใจขึ้นเยอะเลย วิธีนี้มันเหี้ยจริง เอาเรื่องอื่นมาเก็บยอดคนดูแล้วค่อยลงนิยายเรื่องใหม่ที่อาจเป็นของตัวเองหรือของลักมาอีกเรื่องก็ได้ ทุเรศเกิ๊น

321 Nameless Fanboi Posted ID:i2fV/ANp51

>>319 เออ ต้องแบนไอดีจริงๆ เพราะมันเอาไอดีที่มียอดคนตามเยอะๆ ไปขายต่อได้ด้วย เหี้ยมากๆ

322 Nameless Fanboi Posted ID:uX67n5rizZ

>>320 ปัญหาคือกูยังไม่รู้ว่ามันโดนเพราะอะไร เกิดกูไปออกตัว เดี๋ยวกูโดนหนัก สรุปในโม่งมีใครพอจะรู้ข่าวบ้างวะ

323 Nameless Fanboi Posted ID:1PSzKGp0..

>>322 สงวนท่าทีไปก่อน ออกตัวล้อฟรีเกิดคดีพลิกขึ้นมาเดี๋ยวพลิกคว่ำตกเขาแบบหมอปลา

324 Nameless Fanboi Posted ID:LjNslrFLB/

เห็นตอนนี้เข้าได้ปกติแล้วนะ

325 Nameless Fanboi Posted ID:uX67n5rizZ

>>324 มันเข้าได้ปกติแต่แรก เพราะทางเว็บไม่ได้แบนทั้งเรื่อง อาจจะมีการเตือนไม่ให้เก็บเงินแค่นั้นแล้วถอดออกจากการติด top

326 Nameless Fanboi Posted ID:uX67n5rizZ

>>324 raw น่าจะแบนเพราะเข้าหน้านิยายไม่ได้เลย

327 Nameless Fanboi Posted ID:uX67n5rizZ

>>326 แล้วมันยังมีความพยายามเอาไปลงเว็บนอกแบบเว็บย่อยแล้วเก็บเงิน ก็นะแย่

328 Nameless Fanboi Posted ID:MY0JtDE2Hv

https://twitter.com/yamyummy/status/1525540861110792192?t=-emPtGU2hLgAET-WNAlwZg&s=19

มีช่วงนึงนิยายคนอ่านเยอะแม่งชอบเปิดตัวด้วยฉากเงี่ยนๆ คราวนี้ได้ดังสมใจพวกแม่งละ

329 Nameless Fanboi Posted ID:Jv42Vl8htk

>>328 ขำความเลียหีใต้น้ำที่โดนเอามาเทียย โลกแม่งหมุนไวจนกูตามไม่ทันแล้ว

330 Nameless Fanboi Posted ID:T+aiWe70pO

>>328 มิติใหม่เกินไปปะ งงมากว่ากล้าใส่ฉากแบบนี้มาในซีรี่ย์ได้ไงวะ

331 Nameless Fanboi Posted ID:M4qSfRQ+r4

ขอคั่นด้วยดราม่ามันส์ ๆ กับนักเขียนนอกกระแสต่อต้านโลกทุนนิยม
https://www.dek-d.com/board/writer/4057635/

332 Nameless Fanboi Posted ID:Jn3KsKiObY

>>331 แต่ละความเห็นนึกว่าดอกขาวมาเอง ท่าทางจะเก็บกดกันมานาน

333 Nameless Fanboi Posted ID:9CNeNm5RM9

>>331 กระทู้เลียหมอยปลอบใจกันเอง รอบนี้กูคิดเหมือนพี่ดุ้นกบนะ มึงไม่เปลี่ยนไม่ปรับตัวแต่เรียกร้องอยากให้คนอ่านสนใจ พอไม่มีใครสนก็หาแพะโทษกระแสซะงั้น อยากบอกพวกมึงแบบอาจารย์เฉลิมชัย มึงมันกระจอกเอง เอาแต่โทษโน่นโทษนี่

334 Nameless Fanboi Posted ID:8VokJ4IvJN

>>333 วันนี้พี่ตุ๋น MVP ว่ะ จขกท. เหมือนอยากให้เว็บสนับสนุนนิยายกระแสรอง ซึ่งจริง ๆ เว็บมันก็โปรโมทให้อยู่นะตามเพจเฟส บางเรื่องคนอ่านไม่ถึงพันแต่เขียนเข้าท่าเค้าก็ช่วยอยู่

335 Nameless Fanboi Posted ID:JGxV9iCFbU

>>331 อ่านคอมเม้นจขกท. เ อ็ จ จี้ แ ร ง ม า ก ม า ก จ้าาาาาาาาาาาาาา

336 Nameless Fanboi Posted ID:T+aiWe70pO

>>335 ปัญหาคือแนวคิด ดันไปคิดว่านิยายตัวเองดีแล้ว เขียนดีทุกอย่าง ที่ไม่มีคนอ่านเพราะไม่ใช่แนวกระแส ซึ่งจริงๆนิยายแนวโรงเรียนมันก็เคยเป็นกระแสมาก่อน และความจริงคือนิยายเจ้าตัวกากเอง!

337 Nameless Fanboi Posted ID:l.+LhXjQnj

>>336 จบตั้งแต่ไม่รับคำวิจารณ์เพราะมันปลอมถถถ เจอเม้นไม่ชอบก็เมินดิวะแกว่งปากสร้างศัตรูเพื่อไร

338 Nameless Fanboi Posted ID:uY91GPyFOf

กุว่ามันแปลก ๆ ว่ะ มั่นหน้าบอกว่าเขียนมาสามสี่ปี แต่แค่ภาษาคนปกติแม่งยังเขียนไม่รู้เรื่องนี่ไม่ใช่แล้วนะ แถมย่อหน้ายังเบี้ยวเหมือนเด็กเห่อหมอยหัดเขียนเรียงความอีก
คิดว่าแม่งตอแหลเรียกยอดวิวปะวะชาวโลก?

339 Nameless Fanboi Posted ID:2EQLcRBOyA

เหมือนเอาปมด้อยที่มีจุดร่วมหากิน แต่กูเดาจุดประสงค์ได้ว่า แม่งอยากได้ยอดวิวเยอะๆ แปะลิ้งค์ท้ายเม้น ปากบอกต้องการยอดวิวไม่เกิน 200

340 Nameless Fanboi Posted ID:5z2hhEeg+P

ถ้าเขียนกระแสรองแล้วไม่รอดมันมีแค่สองอย่างที่ไม่พอ คือ การโปรโมต กับ ความสามารถ

นักอ่านไทยไม่ได้เพิ่งมาตั้งไข่กับงานเขียนเย็ดๆ หรืองานสมองกลวงกระแสนิยม ถึงภาพลักษณ์ส่วนใหญ่จะเป็นพวกชิว เน้นอ่านเงี่ยนๆ ง่ายๆ ก็เหอะ แต่มันก็มีกลุ่มที่พร้อมจ่ายงานนอกกระแสดีๆ เยอะอยู่พอสมควร แค่มันไม่ได้สนใจนิยายไทย... เอาเป็นว่าถ้าเขียนดีจริง แต่ไม่ดังคือขาดการโปรโมต หัดลงงทุนบ้างถ้ามั่นใจ แต่ถ้าโปรโมตไปแล้วยังไม่ดัง ปัญหาคงอยู่ที่ความสามารถมึงแล้วล่ะ โชคดี

- นักไม่เขียน

341 Nameless Fanboi Posted ID:bmia9aiBkH

>>338 ตอนแรกกูยังเห็นใจมันนะ เห็นมาตัดพ้อที่โดนโถมหนัก ตอนนี้พอมาอ่านคอมเมนต์ที่มันมาตอบเมื่อเช้า อยากจะยกตีนขึ้นถีบซ้ำ ไม่แปลกหรอกที่จะเป็นขี้แพ้ มาเวิ่นเว้อหาพวกพ้อง อวดอ้างว่ามีประสบการณ์มาก เขียนนิยายมา 4 ปี พอเข้าไปอ่านงาน งานอย่างกับพึ่งเขียนนิยายมาเรื่องแรก โทษว่าเรื่องกระแส เพราะไม่ใช่นิยายกระแสเลยไม่มีคนอ่าน พอมีคนหวังดีเขามาชี้จุดอธิบายก็ทำเป็นหูทวนลม พอคนเก่งๆเขาบอกอ้อมๆว่าอาจจะไม่ได้เป็นเพราะกระแส มันก็ไม่เข้าใจ พอมีคนมาพูดชี้ให้เห็นแบบตรงๆ แม่งงอน โมโห เหวี่ยงกวนเท้าใส่ สุดท้ายกลับไปพักใจ 1 วัน กลับมาพร้อมกับอาการมั่นหน้า ขอไม่รับการวิจารณ์ ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ไม่แปลกเลยที่เขียนมา 4 ปีจะถอยหลังลงคลอง

สุดท้ายแทนที่จะมองว่านิยายที่ตัวเองเขียนห่วย เวิ่นเว้อ ไร้แก่นสาร เล่าเรื่องไปเรื่อยเลยไม่มีคนอ่าน มันไปมองว่าเพราะไม่ใช่แนวกระแส คนเลยไม่อ่าน สรุปก็คือโทษคนอื่น ยกเว้นตัวเอง !

342 Nameless Fanboi Posted ID:NjSDBouf5.

>>341 ไปตำมาแล้วหนุกดีว่ะ555 สรรพคุณที่บอกแม่งโคตรสวนทางกับผลลัพธ์ เซียนหมากรุก>>เลยไม่รับคำวิจารณ์ ประสบการณ์สี่ปี>>แต่เขียนแบบมือใหม่ แล้วพวกมึงที่สบประมาทตั้งหน้าตั้งตารอไว้เลยนะ อีกหนึ่งปีพี่เขาจะกลับมาล้างแค้น555

343 Nameless Fanboi Posted ID:2NOQrC1GFf

>>342 ไอเหี้ย ตอนแรกกูไปนั่งสับของมันไว้นะ กะจะเอาไปแปะบอกจุดพลาดให้ตอนเช้าเอาบุญ แต่พอเจอแม่งตอบเข้าไปนี่กูเลิกเลยไอสัส มึงคิดงี้ก็เชิญมั่นใจในแนวทางตัวเองต่อไปเถอะ

344 Nameless Fanboi Posted ID:bmia9aiBkH

>>343 งงว่าไปเอาความมั่นหน้าขนาดนี้มาจากไหน ตั้งกระทู้ด้วยความเห็นที่บิดเบี้ยว เชิญคนมาเลียแผล ไม่รับคำวิจารณ์ หาว่าปลอม !

345 Nameless Fanboi Posted ID:9OmRgJnviO

>>344 ล่าสุดประกาศกร้าว! ตุ่นกบคุณกับผมมันเหรียญคนละด้าน ผมไม่มีวันเป็นอย่างคุณ คุณมันพวกทุนนิยม โหนกระแส(อุ้ย เสียงหนุ่มกรรชัย) ไอสัสโคตรมั่น555

346 Nameless Fanboi Posted ID:EIAuwTCA0V

>>345 ไม่เคยเชียร์ไอตุ๋นกบเท่ากระทู้นี้มาก่อน

347 Nameless Fanboi Posted ID:5v0DgX5HOM

>>346 งานนี้ตุ๋นมันพูดดีจริง ก็ต้องชื่นชมกันนิดนึง

348 Nameless Fanboi Posted ID:bmia9aiBkH

จำเรื่อง เมียคนธรรมดาได้ไหม ที่มันขึ้นที่ 1 หมวดรวมแบบมาจากไหนไม่รู้ มาแรงแซงทุกโค้ง ของไอ้นักเขียนนามปากกา พันปักษา สรุป 100 เปอร์เซ็นต์แล้วนะ นิยายเกือบทุกเรื่องของมัน ไป COPY นิยายแปลมา แล้วมีดัดแปลงเคลมว่าเป็นของตัวเอง มันทำมาตั้งนานแล้ว แค่เรื่องอื่นๆมันไม่ดัง ดันมาดังเรื่องเมียคนธรรมดาที่ไปถูกจริตกลุ่มนักอ่านหญิง พอดังแม่งก็เคลมว่าแต่งเอง คงคิดว่าคนไทยคงไม่มีใครไปอ่านนิยายจีนมาหลอก + ปิดการแสดงความเห็น นักอ่านที่รู้ระแคะระคายจะได้พิมพ์ด่าไม่ได้ มันลงมาจนถึง 85 ตอนให้อ่านฟรี ปัญหามาเกิดคือมันกดเก็บเงิน! โป๊ะเลยแตกหนัก โดนแบนใน RAW จากนั้นก็โดนใน Dek มันไป ไอ้เรื่องที่ลงท้ายด้วยชื่อว่า ธรรมดาของมัน ไป COPY นิยายแปลจีนมาหมดเลย

เหี้ยสุดคือ DEK D ไม่แบน ACC แต่แค่ถอดเรื่องมันออกจาก TOP โครตแย่เลย ลงโทษเบาแบบนี้มันจะทำให้เกิดความมักง่าย สงเสริมให้เกิดนักเขียนมักง่าย

349 Nameless Fanboi Posted ID:bmia9aiBkH

>>348 ได้ไปหลักหลายหมื่นอะกูบอกเลย 30000 อัพ งงว่าเว็บทำไมไม่แบนคนแบบนี้ทิ้งไป

350 Nameless Fanboi Posted ID:xPIoMrGNJL

>>343 สับเลยก็ได้ ทุกคนจะได้รู้กันว่าสันดานมีต่อผลงานยังไง

351 Nameless Fanboi Posted ID:gsldFnLOmo

ไม่ค่อยชอบทัศนคติบางอย่างของมันนะแต่งานนี้ตุ๋นแม่ง based สัส ๆ เอาใจกูไปเลย

352 Nameless Fanboi Posted ID:ITp.Z.LW5s

>>351 ตุ่นมันทำไมหรอ

353 Nameless Fanboi Posted ID:gsldFnLOmo

ปล. กูอ่านนิยายของจขกท. ไปหน่อย ๆ แล้วและอยากบ่นอะไรสักอย่างเกี่ยวกับมัน ขอคั่นสับ>>343 ได้ไหม
ปล2. กูไม่ใช่>>343

354 Nameless Fanboi Posted ID:gsldFnLOmo

>>352 กูรู้สึกว่าพี่แกเป็นคนมั่นใจในตัวเองเกินไปหน่อย(ไม่ชอบคนประเภทนี้เท่าไหร่ด้วยเหตุผลส่วนตัว)แต่ก็แค่นั้นแหละนอกนั้นกูก็ไม่เกลียดอะไรพี่แกนะ

355 Nameless Fanboi Posted ID:VFftjROejw

>>353 มึงจัดเลย กูลบของกูทิ้งไปละ

356 Nameless Fanboi Posted ID:bmia9aiBkH

>>355 จะไปสับทำไม ก็มันบอกว่าไม่รับคำวิจารณ์ เสียเวลา ถ้าผลงานมันดี มันคงไม่มีตั้งกระทู้เลียแผลหรอก

357 Nameless Fanboi Posted ID:7vhS5fBCXp

>>356 เขาหมายถึงสับแล้วลงให้อ่านกันในนี้รึเปล่าโม่ง กูว่าดีเหมือนกันนะ ไม่มีสับให้อ่านมาพักใหญ่แล้ว จะได้ดูด้วยว่าไอ้นี่มันแย่ด้านไหน ทำไมถึงคิดว่าตัวเองควรได้ไปต่อทั้งๆ ที่ยังไม่ดีพอ

358 Nameless Fanboi Posted ID:bmia9aiBkH

>>357 อืมเข้าใจอยู่ กูแค่ไม่อยากจะให้ไปให้ค่ามัน จะสับนิยายมันก็ต้องเข้าไปอ่าน เข้าไปอ่านมันก็ได้ยอดวิว ไปอ่านกระทู้ดิ ยังมีมั่นหน้าว่ามีคนตอบอ่านนิยาย ก็นั่นแหละ แต่จะสับก็ได้ถ้าว่าง

ว่าแต่ท่านลูเซียทำไมแกฟาดหนักจังวะ กระทู้นี้ ฟาดเจ้าของกระทู้แรงกว่าตุ่นกบอีก

359 Nameless Fanboi Posted ID:LwCNKlKE3n

>>358 ทำบุญทำทานไงโม่ง ก็เขาบ่นว่ายอดวิวน้อย ทำบุญให้เขาสักหน่อย 7-8 วิว จะเป็นไรไป (555)

360 Nameless Fanboi Posted ID:nuk7TKGljV

>>359 จากดราม่าเมื่อวานเขาได้ยอดวิวไป 200 + ยอดติดตามหลักสิบนะเออ

361 Nameless Fanboi Posted ID:3izBApuR7+

ไม่ต้องเขียนนิยายแล้วมั้ง ไปเป็นนักเขียนเว็บบอร์ดรุ่งกว่า

362 Nameless Fanboi Posted ID:3izBApuR7+

เนี่ย ตั้งกระทู้ดึงคนสนใจง่ายกว่าเขียนนิยาย https://www.dek-d.com/board/writer/4057795/

363 Nameless Fanboi Posted ID:nuk7TKGljV

>>362 เรื่องแบบนี้มันต้องมีคนออกมาคอเอ้าท์น่ะถูกแล้ว ถ้าไม่มีใครทำ มันก็จะเกิดพวกคนไร้จิตสำนึกมักง่ายขึ้นมาเรื่อยๆ

364 Nameless Fanboi Posted ID:GwwYQkEAmv

นึกถึงสมัยที่นิยายวายทำเถื่อนเลย ทำเล่มเถื่อนกันด้วย

365 Nameless Fanboi Posted ID:GwwYQkEAmv

>>362 อ่าานิยายนักเขียนจีนดัง 鱼小桐 เลยเหรอ

366 Nameless Fanboi Posted ID:Vu1CODIquF

ขำตรงชื่อเรื่องเนี่ย ลอกมาแล้วคิดอะไรไม่ออกเลยเติม ธรรมดา ต่อท้ายงี้เลยเหรอ

367 Nameless Fanboi Posted ID:nuk7TKGljV

>>366 เออไง 555

368 Nameless Fanboi Posted ID:nuk7TKGljV

>>366 มีเนียนเอานิยายของตัวเอง เติม ธรรมดา ใส่ลงไปในซีรี่ย์ด้วย แต่ปัญหาหลักคืออะไรรู้ไหมมึงเอ้ย ไอ้นิยายเรื่องนี้มันแปล Google แบบอ่านแทบไม่รู้เรื่อง แล้วเกลาๆนิดเดียว ... แต่มีคนอ่านถล่มจนขึ้นอันดับหนึ่งได้ พวกมึงเห็นอะไรจากสิ่งนี้ล่ะ 555

369 Nameless Fanboi Posted ID:3AsBD5GaGw

>>368 ฝึกเขียนนิยายเป็นภาษาต่างประเทศ แล้วแปลเป็นไทยอีกที คนพร้อมอ่านถล่มทลายแน่นอน (จีเนียส 300%)

370 Nameless Fanboi Posted ID:Vu1CODIquF

>>369 อ่านความพยายามแล้วเหนื่อยแทน 555

371 Nameless Fanboi Posted ID:3y9LC.XTef

>>358 สันดานเดิมกลับมาไง สมัยก่อนฟาดกันหนักกว่านี้อีก

372 Nameless Fanboi Posted ID:o7BHDZK2FV

>>369 แต่จะทำมาให้พวกต่างชาติคนไหนอ่านล่ะ ตลาดที่นั้นไม่เหมือนไทยซะทีเดียว

373 Nameless Fanboi Posted ID:iCgWmqWCsB

เจ้าของนิยายเรื่องพี่เจยคนซึมเด้านี่ขยันตอบหลายมู้ดี ขยันโปรโมตนิยายตัวเองด้วย กูรอดูว่ายอดวิวจะถึง 1,000 ตอนไหน ล่าสุดลองแวะไปดู 15 ตอนได้ 379 วิว (เฉลี่ยตอนละ 25 วิว) อาจเป็นเพราะเปลี่ยนหน้าปกใหม่แล้วก็เป็นด้ายๆๆ https://writer.dek-d.com/Greatzer01/writer/view.php?id=2304634

374 Nameless Fanboi Posted ID:7a3Tm8CGoV

พี่ตุ๋นเคี้ยวท่อมมาเหรอวะ ช่วงนี้เปิดศึกไปทุกทิศยังกะอวตารเป็นบุเรงนองมาเอง แต่ต้องชื่นชมเพราะมันทำดีจริง ๆ

375 Nameless Fanboi Posted ID:gygiURUD0k

นี่อาจจะเป็นมาเฟียบอร์ดยุคใหม่ก็เป็นได้

376 Nameless Fanboi Posted ID:RgYG2gU1wJ

>>375 จะว่ามาเฟียไหมก็ต้องดูด้วยว่าคนที่ถูกกล่าวหาทำผิดจริงหรือเปล่า ถ้าทำผิดจริงจะไปว่ามันได้ไง? เพราะถ้าไม่มีกระทู้นั้น ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีใครทำอะไร พอมีกระทู้นั้น 2 วันนิยายของนักเขียนที่เป็นประเด็นโดนแบน ก็ยังดี

377 Nameless Fanboi Posted ID:RgYG2gU1wJ

>>373 ยอดแบบนี้มันไม่ได้วัดอะไร เพราะยอดที่เห็นส่วนใหญ่เป็นยอดคนที่กดเข้าหน้าแรกไปดู ว่านยายเกี่ยวกับอะไร คนส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักเขียนที่กดเข้าไปส่องเล่น ไม่ได้ติดตามอ่าน ยอดจริงๆดูจากคนกดติดตามกับความเห็น คนอ่านจริงๆน่าจะ 5-10 คนเท่านั้น

378 Nameless Fanboi Posted ID:RgYG2gU1wJ

>>369 เปล่า เรื่องนี้ถ้าโม่งมองแบบลึกๆและวิเคราะห์ดีๆมันเอาไปปรับใช้กับนิยายได้โม่ง สำนวนการเขียน กับภาษา ไม่สำคัญเท่าพลอตเรื่อง นี่คือคำตอบ !

พลอตห่วย จะบรรยายเทพ ภาษาดียังไงคนก็ไม่อ่าน พลอตดี ภาษาอุบาทว์ แปลด้วย Google ต้องแปลไทยเป็นไทยอีกที คนยังอ่าน มันเอาไปปรับใช้เป็นแนวทางได้ ถ้ามองให้ลึกๆมันจะเห็นแนวทางตลาดได้

379 Nameless Fanboi Posted ID:iCgWmqWCsB

>>378 ก็คือสนุกไว้ก่อน บรรยายเหี้ย คำผิดบาน ก็ยังมีคนอ่านว่าซั่น (แต่จากที่โม่งคุยๆ กันมา มันเป็นงั้นจริงนะ)

380 Nameless Fanboi Posted ID:0HKPXT1I.f

>>377 กูว่ายอดวิวมาจากสงสัยเรื่องหน้าปก ขอกดเข้าไปดูชัดๆ หน่อยว่าวาดอะไร พอหายคาใจแล้วก็กดออกมา

381 Nameless Fanboi Posted ID:smOcBjLmq0

>>373 เหยด มีพี่โชกุนคนต้านทุนนิยมไปเม้นให้น้อนเจยด้วย

382 Nameless Fanboi Posted ID:KBWzuuvEzl

>>381 พันธมิตรสหการนิยมนักเขียน ต่อต้านกระแสโลกาภิวัตน์

383 Nameless Fanboi Posted ID:5uUJzHnPC1

ky กูเพิ่งลองเขียน pov1 ได้ตกตอนละ 1,500-2,000 นี่น้อยไปป่าววะ ที่ผ่านมาเขียนแต่pov3มันก็มีบรรยายฉากมีบรรยาความคิดเยอะอะเนอะล่อไปเท่าตัวตกตอนละ 6-8,000 เลยงี้ พอลองpov1มันตัดนั่นนี่ไปเยอะพอจบเนื้อเรื่องในตอนนั้นรู้สึกว่าน้อยสัส จะยัดเพิ่มก็รู้สึกล้น มันปกติดีหรือกูแค่ไม่ชิน

384 Nameless Fanboi Posted ID:cL4Eal7rYv

>>383 ต้องลองเขียนไปนานๆ ก่อน จะรู้จังหวะยัดเพิ่มได้เอง เพราะจริงๆ แล้วแม้แต่ไลท์โนเวลก็ยังมีบางช่วงที่ต้องบรรยายตามความเข้าใจหรือสิ่งที่ตัวเอกเคยเรียนรู้มา

385 Nameless Fanboi Posted ID:xnJG8a7GcO

>>384 อะเค กูจะลองเขียนต่อไป ครั้งแรกอะเลยยังไม่ถนัดเท่าไหร่

386 Nameless Fanboi Posted ID:npac36FYC+

หวนระลึกวันวานในช่วงยุคมาเฟียบอร์ด คิดถึงโซมีน มะม่วง 5 ส. เซฮุน เห็บหมา คันทอง อารี โดยเฉพาะโม่งเพลงมากค่ะซิส

387 Nameless Fanboi Posted ID:4jivLapIpc

โม่งจะเงียบเกินไปไหม หาหัวข้ออะไรมาคุยกันหน่อยดิ กูเหงา

388 Nameless Fanboi Posted ID:UIqnVcJN.e

>>387 ว่าจะสับนิยายเล่น ไว้ค่อยกลับมาอ่านละกัน

389 Nameless Fanboi Posted ID:AALBm+WY+R

ด้วยความที่พักหลังๆ นี่พวกมึงโหยหาแนวทางไม่ก็สูตรสำเร็จเพื่อขึ้นสู่ท้อปหมวด หรือพยายามทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองอินเทรนด์ ดังนั้นจุดประสงค์ของการสับแบบดั้งเดิมเลยไม่มีความหมายอีกต่อไป เท่ากับว่าการสับต่อไปนี้ของกูคือล้างรายชื่อนิยายรอสับเฉยๆ ถ้าเป็นโม่งเก่าก็คงพออ่านได้ แต่ถ้าเป็นโม่งใหม่ที่สนใจแค่ทางลัดไม่เน้นพื้นฐานหรือข้อควรระวัง พวกมึงก็ข้ามไปได้นะ

เกิดใหม่เป็นเเม่มดผู้มีพลังทำลายล้างเทียบเคียงพระเจ้า ภาค ปฐมบทเเม่มดทมิฬ
https://writer.dek-d.com/hhhbabe1/writer/view.php?id=1791297

จำไม่ได้ว่ามาอยู่ในรายชื่อได้ไง นิยายเรื่องนี้ปิดตอนหลังตอนที่ 9 เป็นต้นไปและดองไปแล้วตั้งแต่มกราคมปี 62 ด้วยเหตุผลว่านักเขียนกำลังหาทางรีเซตจักรวาลในชุดนิยายที่กำลังแต่งอยู่ (สงสัยข้ามมัลติเวิร์สนานไปหน่อย 3 ปีแล้วก็ยังไม่กลับมา) จากรายชื่อนิยายเรื่องอื่นๆ ของนักเขียนคนนี้น่าจะเป็นพวกนิยมเรื่องแนวสาวน้อยอนิเมะโมเอะ หน้าปกนี่ก็ตามนั้นเลยคือรูปอนิเมะเกิร์ลที่ดูดมาจากในเน็ต ชื่อเรื่องเน้นขายคุจูนิเบียวตามสมัยนิยมที่แนวต่างโลกกำลังเฟื่องฟูเหี้ยๆ (ปัจจุบันก็ยังขายได้ถึงจะน้อยลงบ้างแล้ว) คำโปรยบอกใบ้ว่าเป็นแนวสลับเพศ สรุปได้สั้นๆ ว่า นักเขียนชื่อวิษณุตายห่าแล้วโดนพระเจ้าส่งไปต่างโลกแต่ไปกลายเป็นผู้หญิงแถมเป็นแม่มดด้วย ก็ขายของได้ตรงประเด็นดีอยู่

ปกรองอธิบายว่าเรื่องนี้หยุดอัพชั่วคราว กับบอกนิยายเรื่องนี้ลงเนื้อหาหลักไว้ที่เว็บนายท่าน แล้วเอาคำโปรยข้างบนมาเขียนตรงนี้อีกที ความรู้สึกของกูเวลาเจอนักเขียนทำเรื่องแบบนี้ก็จะประมาณว่า >>> https://i.imgur.com/2qgFyfK.jpg ไร้ประโยชน์... มึงต้องรีบขายของเพิ่มดิวะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะจบแบบเรื่องพี่เจย คนเข้ามาเจอภาพวาดขั้นเทพกับข้อมูลตัวละครแบบที่กูไม่ต้องรู้ตอนนี้ก็ได้ แล้วเขาก็จะพากันออกจากหน้าแรกจนได้ยอดวิวเท่าหีมด เรื่องเกี่ยวกับอะไรก็เขียนเพิ่มมาตรงปกรอง มีหน้าปกชัดๆ หรือจุดเด่นแบบไหนใส่ลงมาตรงนี้เลย ถ้าคอมมิชชั่นรูปสวยๆ ไว้ก็ปล่อยของซะ ข้อมูลติดต่อหรือหน้าเพจถ้ามีก็ใส่ไว้ข้างล่าง แค่นั้นแหล่ะ

ตอนที่ 1 : ตอนที่ 0 เรื่องเล่าของเเม่มด

บรรยายด้วย POV3 สำนวนแฟนตาซีหนักแน่นฟุ้งๆ ล้นๆ แต่บทสนทนาดันเป็นแบบไลท์โนเวล มีช่องคำพูดไม่มีการบรรยายตามเสียส่วนใหญ่ เนื้อหาในตอนไม่มีอะไรมาก เด็กสาวรับใช้ของแม่มดขาวมาแจ้งข่าวให้กับนายหญิงว่าลูกศิษย์ชายจะมาหา พอไปเจอกันไอ้หนุ่มสุดหล่อวัวตาควายตะลึงก็ทักทายด้วยการคุกเข้าลงจุมพิตตรงหลังมือ ตัวแม่มดก็บ่นหน่อยๆ ว่ามึงก็รู้ว่าใส้ในกูเป็นผู้ชายแล้วยังจะทำแบบนี้อีกเนอะ เจ้าตัวไม่ว่าอะไรแต่น้องเมดแม่งชักดาบออกมาพร้อมจะปาดคอลูกศิษย์หนุ่มจนเกือบจะมีเรื่อง พอเข้าเรื่องว่ามาหาทำไมตัวเอกก็ปฏิเสธว่าไม่ละกัน ไอ้การพิมพ์หนังสือชีวประวัติของกูน่ะมันเป็นไปไม่ได้ เพราะเรื่องแม่งยาวเกิน แต่ไอ้หนุ่มก็ตื้อจนตัวเอกใจอ่อนแล้วจบตอนด้วยการบอกว่าจะเริ่มเล่า

ตอนที่ 2 : ตอนที่ 1 ไม่น่าเลยวิษณุ

จากแนวแฟนตาซีวกกลับมาเป็นแนวเคร่งเครียดสะท้อนสังคม วิศณุไปเสนองานเขียนของตัวเองกับสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งซึ่งผลก็คือแห้วแดก มีความฝันอยากจะเป็นนักเขียนประจำสังกัดสักแห่งก็ทำไม่ได้สักที ถ้าไม่มีเงินมรดกจากพ่อที่ตกเครื่องบินตายสงสัยต้องเลิกเขียนไปนานแล้ว มีการจิกกัดปัญหาวงการงานเขียนบ้านเรา แซะนิยายฮาเร็มว่าทำไมคนชอบอ่านเรื่องแนวนี้ การมาถึงของงานเขียนแบบอิเล็คทรอนิกส์ การหาอ่านเถื่อนในอินเตอร์เน็ต ลามไปจนถึงการไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ปัญหาม็อบการเมืองคนเสื้อดำ-เสื้อขาว แล้วจบตอนด้วยไอ้นุโดนพวกเสื้อขาวยิงตายเพราะใส่เสื้อดำออกมานอกบ้าน

390 Nameless Fanboi Posted ID:AALBm+WY+R

ตอนที่ 3 : ตอนที่ 2 เผชิญหน้าพระเจ้า

อยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนมาเป็น POV1 เล่าโดยไอ้นุ แกนหลักของตอนก็ตามชื่อตอน ไปเจอพระเจ้า โดนถามว่ารู้มั้ยนี่ใครเอ่ย บทสนทนาเริ่มจูนิเบียวและอนิเมะหนักขึ้นเรื่อยๆ เหมือนอ่านไลท์โนเวลกากๆ สักเล่ม เนื่องจากทายไม่ถูกว่าตัวเองอยู่ที่ไหนและคุยอยู่กับใคร ไอ้นุเลยต้องโดนสว่านกุเรนลากัน (ไม่ได้เล่นมุกมันเขียนมางี้จริงๆ) แทงปากทะลุท้ายทอยไป 1 ที ตอนแรกก็เจ็บเจียนตายแต่อยู่ดีๆ ก็ทายถูกว่ากำลังคุยอยู่กับพระเจ้า พระเจ้านี่ก็ดูไม่สมกับเป็นเทพฝ่ายดีสักเท่าไหร่ บอกไอ้นุว่าเดี๋ยวจะให้มึงไปเกิดเป็นผู้กล้า ตอนนี้ให้รีบเลือกพรโกงๆ ที่ต้องการมาได้เลย ไอ้นุเลยขอพลังทั้งหมดที่พระเจ้ามีมาเป็นของตัวเอง ตามกฏของมิติห้ามไม่ให้พระเจ้าพูดโกหก พลังของเทพเหี้ยนี่เลยโดนย้ายไปอยู่ในตัวไอ้นุ ก่อนจะโดนส่งไปเกิดต่างโลกแต่ดันเกิดเป็นเด็กทารกเพศหญิง

ตอนที่ 4 : ตอนที่ 3 เด็กสาวผู้มีนามว่า เอลโดน่า

กลับมาเล่าแบบ POV 3 ถึงชีวิตของไอ้นุในร่างของเอลโดน่า ผ่านมา 9 ปี ไม่รุ้ว่าไอ้นุไปเรียนวิชาหว่านเสน่ห์มาจากไหน พวกคนรับใช้ในบ้านถึงขั้นหลงไหลในความน่ารักแบบหัวปักหัวปำ มีการแซวว่าอีกหน่อยถ้าโตขึ้นคงสวยกว่าแม่ไปอีก กลางตอนมีพูดถึงน้องสาวที่ยังพูดไม่ชัดกับการเท infodump ที่ค่อนข้างยาว จำพวกเซตติ้ง การเมือง-การปกครอง กับความเทพที่ยังไม่ปรากฏขึ้นมาในร่างใหม่ของไอ้นุทั้งๆ ที่ได้พลังเทพมาครอง ตรงท้ายตอนเป็นการบรรยายถึงสีหน้าซีดเซียวของพ่อและแม่ ที่มาพร้อมข่าวว่าเจ้าชายอยากจะหมั้นกับร่างใหม่ของไอ้นุ

ตอนที่ 5 : ตอนที่ 4 รวบรวมข้อมูล

ไอ้นุสงสัยว่าทำไมเจ้าชายถึงอยากได้กู เลยส่งบริวารเป็นนกพูดได้ไปสืบข่าวในวัง ไม่ได้ข้อมูลอะไรสำคัญมากมายนัก รู้แค่ว่าเจ้าชายเป็นองค์ชายลำดับท้ายๆ เป็นลูกเมียน้อยแถมเป็นสาวใช้อีก โอกาสได้ขึ้นครองราชย์นี่ต่ำเตี้ยมากๆ เอาจริงๆ มันมีคนมาสนใจไอ้นุเยอะอยู่แต่ไอ้นุปฏิเสธตลอด ปัญหาคือคราวนี้คนที่มาคุยมันเป็นเชื่อพระวงศ์เลยปฏิเสธลำบาก คิดยังไงก็คิดไม่ออก ตกกลางคืนน้องสาวคนเล็กกับน้องชายคนกลางแวะมาหา พากันขอร้องไม่ให้ไอ้นุแต่งงานออกเรือนไปที่อื่น ไอ้นุก็บอกว่าไม่ต้องห่วง เพราะพี่น่ะรักครอบครัวกับทุกคนในคฤหาสน์นี้จะตายไป แล้วนึกในใจต่อว่า "และที่สำคัญคือกูเป็นผู้ชายโว้ย"

การบรรยาย : สำนวนค่อนข้างดีเลย เล่าออกมาได้อารมณ์แฟนตาซี ศัพท์แสงอะไรก็ฟุ้งเฟ้อดีแต่ไม่หนักเท่าของมังกรแดงเคย์เซย์ มันปนๆ กันอย่างลงตัวระหว่างการเขียนแนวแฟนตาซีเก่าๆ กับเล่าตามอนิเมะสมัยใหม่ ออกมาเป็นไลท์โนเวลที่เขียนในรูปแบบบทสนทนาครั้งละ 1 ประโยค สลับกับการใช้การบรรยายยาว 3 ประโยค ซึ่งไอ่รูปแบบที่ว่านี้จะถูกคั่นด้วยการเว้นบรรทัด ข้อดีคือทำให้อ่านง่ายในเครื่องมือพกพาอย่างมือถือ แต่ถ้าอ่านใน desktop ของคอมพิวเตอร์ก็จะรู้สึกรำคาญบ้างแล้วแต่คน ในจุดที่เป็นข้อมูลเวลามันจะเล่าคือเล่าเต็มย่อหน้ายาวสัก 5-6 บรรทัด

จังหวะการเทข้อมูลมันทำได้ไม่เลว เทแล้วไม่หลุดออกประเด็น บอกข้อมูลจำเป็นที่ควรรู้ในเนื้อหาช่วงนั้น dump ไม่ยาวราว 1 หน้ากระดาษ มีปมย่อยให้สงสัยคาใจติดมาด้วยเล็กน้อย วิธีการสลับ POV ก็ยังถือว่าสอบผ่าน เพราะไม่เปลี่ยน POV กลางตอนและเปลี่ยนมุมมองการเล่าแบบมีจุดประสงค์ เช่น บทไหนจะให้ข้อมูลมันก็จัด POV3 ยาวจนจบ บทไหนคือเรื่องที่เกิดปัจจุบันแล้วต้องมีการพูดคุยหรือบ่นในหัวของไอ้นุ นักเขียนจะตัดบทนั้นให้เป็น POV1 เพื่อให้ง่ายต่อการสื่ออารมณ์และความคิดในหัวตัวละคร ถือเป็นเทคนิคการเล่าแบบไลท์โนเวลที่มีคุณภาพค่อนข้างสูง

391 Nameless Fanboi Posted ID:AALBm+WY+R

ตัวละคร : ออกแบบตัวละครไอ้นุได้โอเค ความเป็นนักเขียนในตัวแม่งอ่านแล้วเหมือนกำลังโดนล้ออยู่ คือเข้าใจหัวอกคนเป็นนักเขียนอย่างไอ้นุเลยเพราะอันที่พูดมาแม่งโคตรจริง ไอ้ บ.ก. นี่ก็ด่าได้ถูกใจดี ว่านิยายไอ้นุมันไม่ผ่านตรงไหน แล้วทำไมมันถึงไม่ได้ทำงานที่นั่น แต่พอมาดูด้านตัวละครในชาติใหม่หรือน้องเอลโดน่าเนี่ย ไม่รู้ไอ้นุมันไปเรียนจริตมารยามาจากไหน ทำไมถึงไปอ่อยจนคนหลงรักได้ทั้งบ้าน ปากบอกว่าไม่อยากเด่นแต่เผลอไปแสดงความสามารถทุกด้านเสียสูงทุกครั้งที่มีการวัดผลวัยเด็ก ฟังดูแล้วขัดแย้งกันอยู่พอดู เพราะถ้าเป็นกูคงทำตัวเงียบๆ ไปเลย การดัดจริตให้ชายอายุ 30 กลายเป็นสาวน้อยตามวัยไม่ถึง 10 ขวบได้เนี่ย กูว่าเป็นไปได้ยาก

ไอ้ความพริ้วพรายจนเป็นที่ชื่นชอบหลงไหลนี่ก็ด้วย ถ้ามึงยังมีความเป็นผู้ชายอยู่ภายในจริงๆ อะไรดลใจให้มึงแสดงออกแบบนั้นในร่างเอลโดน่า ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ ถ้าตอนท้ายมันแถว่าเป็นเพราะพลังเทพในตัว แบบนั้นก็คงต้องช่างแม่ง แล้วถ้าพูดถึงตัวประกอบทั้งพ่อแม่ พวกเมด น้องสาวน้องชาย พวกตัวละครนี้ก็ทำได้ดีเลย แต่ละคนไม่เหมือนกัน มีเอกลักษณ์วิธีการพูดจา ยกเว้นพวกสาวใช้ทั้งหนุ่ม-แก่นี่ ใครๆ ก็หลงไอ้นุจนอยากคลอเคลียกับคุณหนูทั้งวัน ก็ไม่ได้แย่อะไรถือว่าพอรับได้ในฐานะตัวประกอบเพื่อใช้อวยรูปลักษณ์

เนื้อเรื่อง : เกิดใหม่ต่างโลกไปสลับเพศ หาทางจัดการเรื่องวุ่นๆ ไม่ให้ตัวเองโดนเด้า น่าจะเป็นแนวแม่รี่ซูพลังเทพีเต็มพิกัดจัดหนักเติมทรูมาแบบไม่อั้น คล้ายๆ เรื่องสาวน้อยเกิดใหม่ขอสเตตัสเท่าค่าเฉลี่ย ไม่ก็เรื่องดูเหมือนว่าร่างกายของฉันมันจะไร้เทียมทานไปซะแล้วค่ะ หรือได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องศิษย์จอมปราชญ์เกิดใหม่ในโลกเกม ที่ตอนแรกตัวจริงเป็นผู้ชายเล่นเกมออนไลน์อาชีพจอมเวทชายแต่สร้างตัวละครสาวน้อยโลลินักเวทไว้ในไอดีเดียวกัน พอไปเกิดใหม่ในโลกเกมดันโผล่มาเป็นตัวละครรองโลลิที่มีสเตตัสโคตรเยอะแถมมาให้ ชาวบ้านเลยเข้าใจว่าคงเป็นลูกศิษย์ของตัวละครหลัก (ผู้เฒ่านักปราชญ์) ที่เป็นตัวละครหลักในเกมอีกที

จุดเด่น : คำผิดน้อย สำนวนดี เล่าได้ลื่นไม่ชวนง่วงแม้จะใช้การพรรณาแบบแฟนตาซี

จุดด้อย : เว้นบรรทัดรัวๆ แต่ถ้าไม่คิดมาก็ไม่เป็นไร, เขียนผิดคำว่าเวทย์มนตร์อีกแล้ว

คะแนน : 7/10 ของดีที่มาช้าไป ถ้าแต่งแบบนี้สมัยกูเข้าวงการใหม่ๆ เรื่องนี้น่าจะดังพอสมควร

ความเห็นส่วนตัว : แฟนตาซีสลับเพศแมรี่ซูเน้นความสโลวไลฟ์ของตัวเอก ขายความน่ารักภายนอกของตัวละครที่มีความขัดแย้งกับนักเขียนหนวดข้างใน มีความจูนิเบียวบ้างตามประสาคนแต่งนิยายแฟนตาซี นักเขียนมันเล่าได้ดีนะ สำนวนโอเค ใช้คำศัพท์เก่าๆ ที่กูไม่ได้เห็นมานานหลายสิบคำเลย ปัญหาคือถึงแม้กูจะบอกว่าถ้าแต่งเร็วกว่านี้ 10 ปี อาจจะดัง แต่การแต่งด้วยสำนวนไลท์โนเวลและเน้นการเว้นบรรทัดแบบนี้ คงไม่ค่อยถูกจริตของนักอ่านอย่างแน่นอน เพราะส่วนใหญ่ตอนนั้นเน้นความอลัง ความ epic ความล้นแบบน้ำหลาก บรรยายทีหลายย่อหน้าเลยในสายแฟนตาซี ซึ่งถ้าไปเว้นบรรทัดรัวๆ แบบนี้ อาจโดนรำคาญเอาได้ โดยรวมถือว่าดี รีไรท์แล้วออกมาโอเคไม่ชุ่ยเหมือนเรื่องอื่นๆ ทั่วไป

392 Nameless Fanboi Posted ID:gfqg3H7AEi

https://www.dek-d.com/writer/60349/?utm_source=FB-interview-220521&utm_medium=interview&utm_campaign=FBContentMay

ตอนแรกสงสัยว่านิยายกีฬาทำไมขายออกเยอะขนาดนี้วะ พออ่านคำโปรยเท่านั้นแหล่ะ แม่งหนีไม่พ้นแนวนี้จริงๆ

393 Nameless Fanboi Posted ID:6OL0/U1GWw

>>392 หยอดไว้ให้กูอยากเสือก เลยไปหาเสือกดู อ่านคำโปรยแรกๆ ก็คิดว่านิยายฟุตบอลธรรมดา เจอประโยคสุดท้าย ....... เขาเห็นข้อความบางอย่างลอยอยู่ตรงหน้า 'ทดสอบระบบ'

ไอ่เหี้ยยยยยย เดาไว้ไม่มีผิดถ้าเป็นหวยคือถูกไปแล้วอ่ะ

394 Nameless Fanboi Posted ID:At8KgBPKn1

>>393 มึงเชื่อกูปะ กูก็คนที่เขียนนิยายระบบอยู่ ติด TOP อันดับด้วย แต่กูก็กลุ้มใจเรื่องเดียวกับที่มึงคิด คือแค่ใช้คำว่าระบบต่อให้ข้างในกลวงไม่มีอะไร มันก็ขายได้

บางทีกูก็งง ไม่เข้าใจ เอาเป็นว่ากูท้อเหมือนกัน ถึงกูจะเขียนนิยายระบบ แต่ก็ไม่ใช่แบบว่า "ระบบมอบ.. ระบบมอบ.." อะไรแบบนั้นนะ กูก็พยายามจะเปลี่ยนแปลงในแบบของกู แต่การสู้กับตลาด มันเหนื่อยจริงๆกูบอกมึงเลย

เหนื่อยยังไง เอาง่ายๆมึงพยายามมากกว่าคนอื่น สุดท้ายผลลัพธ์เท่าเดิม ถ้าบ่นมันก็จะยาวและกลายเป็นการกระทำชั่วอีก เอาเป็นว่ากูเขียนนิยายแนวระบบเอง กูยังท้อ

395 Nameless Fanboi Posted ID:At8KgBPKn1

>>394 เมื่อพยายามมากกว่าคนอื่นแล้วผลลัพธ์มันเท่ากัน สุดท้ายมันก็เลยกลายเป็นการผลักดันตลาดไปในแนวทางที่มึงเห็น "ระบบ"

เพราะอะไร เพราะอ้างคำว่า "ระบบ" นักอ่านทุกคนก็พร้อมที่จะมองข้ามความไม่สมเหตุสมผลทุกอย่างในเรื่อง อะไรที่ยุ่งยากก็ใช้ "ระบบ" แก้ มันง่ายต่อการแต่ง ได้รับความนิยมง่าย ไม่ต้องปั้นโลกอะไร ไม่ต้องสนโลจิก แค่ใช้ระบบ นักเขียนหน้าใหม่ ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็ผุดขึ้นมาติดอันดับสบาย มันเป็นแบบนั้นแหละ

396 Nameless Fanboi Posted ID:zzj5/Ke6sF

>>390 มึงพูดถึงเคย์เซย์ กูเพิ่งรู้ว่านางกลับมาเล่นบอร์ด กี่ปีแล้ววะที่หายไป เคย์เซย์เคยตั้งกระทู้ลาบอร์ดป่ะวะ555

397 Nameless Fanboi Posted ID:i.QS2a3kku

>>396 จำไม่ได้ว่าลาไหมแต่ที่แน่ๆ เคยทำตัวมาเฟียสมัยก่อนจนกลายเป็นดราม่าใหญ่โต แล้วไอ้กระทู้ที่ถามว่าแบบไหนเวินเว้อในบอร์ดไม่กี่วันก่อนอะ ถ้าอยากได้ตัวอย่างให้ลองอ่านนิยายของเคซวยดู ที่สุดของความละเมอเพ้อพกแล้ววะ เวิ่นเว้อจนขนาดเจ๊กัลยังพ่ายแพ้ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นิยายไม่ดังสักเรื่องแม้จะเป็นขาใหญ่คุมบอร์ดตอนนั้น น้ำเยอะชนะเลิศเลยจ้า

398 Nameless Fanboi Posted ID:yVottD5z.L

แต่พักนี้เคย์เซย์ทำตัวกร่างน้อยลงจากเมื่อก่อน สงสัยรอพวกคู่กัดลาออกจากเด็กดีให้เกลี้ยงก่อนถึงค่อยกลับมา เพราะอยู่กับพวกนี้ทีไรดราม่าเป็นประจำ

399 Nameless Fanboi Posted ID:At8KgBPKn1

>>398 ใครคือเคย์เซย์วะ

400 Nameless Fanboi Posted ID:+phNbA.uVj

พี่ตุ๋นเปิดเครื่องด่าอีกแล้ว

401 Nameless Fanboi Posted ID:00Lv0ujviw

>>400 แค่สงสัยครับว่ามันอาจจะมีบัค หรือช่องโหว่ของระบบ ถ้ามาเป็นผมจะเข้าใจ ผมทำงานเขียนนิยายแทบตาย แต่มาโดนแย่งอันดับ 1 แบบงงๆ ไม่ให้คาใจได้ไง

402 Nameless Fanboi Posted ID:00Lv0ujviw

>>401 ใจเย็นครับ ผมไม่ได้ด่าคนไปทั่วครับพี่

403 Nameless Fanboi Posted ID:+phNbA.uVj

>>402 จั๊ฟ ๆ แค่แจวเล่น ๆ จั๊ฟ ป๋มเข้าจัยเจตนาดีข๊องพรี่จั๊ฟ

404 Nameless Fanboi Posted ID:3lifyn2tyb

>>399 มาเฟียเก่าสมัยเปิดบอร์ดนักเขียนแรกๆ เป็นคู่จิ้นกับซ่อนนาม เคยมีดราม่าเพราะออกมาเปิดกระทู้ตั้งกฏให้สมาชิกหน้าใหม่ (ดาวน้อย) ต้องเข้าไปแสดงความเคารพรุ่นพี่ (ดาวเยอะ) ในกระทู้ ผลก็คือโดนรุมด่าเละจนจำทางกลับบ้านไม่ถูก ก่อนนั้นก็มีทำตัวเป็นผู้คุมกฏ ศาลเตี้ย ฯลฯ คุยกันสนิทแต่กับพวกรุ่นบุกเบิก แล้วทำตัวดุดันกับเด็กใหม่ อะไรไม่เข้าตานิดหน่อยก็ไปโถมเด็กในกระทู้เค้า ใครมีแนวโน้มจะผิดกฏก็เอาเขามาแขวนประจานทั้งๆ ที่ยังไม่เกิดเรื่อง เป็นหนึ่งในคนที่ริเริ่มวัฒนธรรมการใช้คำว่า "ท่าน" นำหน้าชื่อเล่น โดยอ้างว่าเป็นการเรียกแบบให้เกียร์ติด้วยการเติม -sama ต่อท้ายชื่อ (ก็คือเบียวญี่ปุ่นวัยกลางคนนั่นเอง) ถ้านึกบรรยายกาศไม่ออก ก็ลองเติมคำว่าท่านหน้าชื่อดู เช่น ท่านตุ๋น ท่านเจย ท่านมิลัน ท่านเคย์ หรือท่านอื่นๆ เวลาคุยกันในกระทู้ (ฟังดูเป็นไงล่ะมึง)

ทำตัวคล้ายๆ พวกรกบอร์ดจิบน้ำชาเจนที่แล้ว เช่น ไปแชทกันในกระทู้คนอื่นกับคนรู้จักยาวเหยียด โดยที่เนื้อหาไม่เกี่ยวกับหัวมู้ กดไฟแดงกระทู้ที่ตัวเองไม่ชอบ (คนดาวเยอะครบ 3 คนกดไฟแดงแล้วกระทู้นั้นจะโดนลบ) จนหลังๆ มาเขาต้องเอาระบบไฟแดงออกเพราะใช้ผิดวัตถุประสงค์กัน

ในกลุ่มขาประจำบอร์ดที่ได้ดีมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันมีแค่ แบงค์คนเขียนคิวบิก จิ้ง กับหมอลู เท่านั้นแหล่ะ คนอื่นๆ แม่งยอดนักแชท สาดในกระทู้เก่งแต่ผลงานไม่เท่าไหร่ ไอ้คนที่เก่งจริงๆ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเล่นบอร์ด หรือนานๆ มาที

ส่วนกูรอดไปได้ชิลๆ ในสงครามเพราะเป็นสมาชิก 6 ดาวมาตั้งแต่แรกเลยไม่โดนบูลลี่ นานๆ ครั้งกูจะไปเล่นบอร์ดทีนึง เน้นโผล่ไปแสดงความเห็นต่อยเจ็บๆ เป็นบางดราม่า กับส่องเงียบๆ เสือกแบบลอบเร้นเอาเป็นส่วนใหญ่

ยุคนั้นแม่งบันเทิงโคตรๆ ถ้าได้ลองสักทีจะพบว่า "บ้าจริง ทำไมเราหยุดเสือกไม่ได้!!"

405 Nameless Fanboi Posted ID:+phNbA.uVj

>>404 เรามาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการสร้างมาเฟียบอร์ดยุคใหม่ด้วยกันเถอะ

406 Nameless Fanboi Posted ID:JDL2RJfIrS

>>404 พวกมาเฟียส่วนใหญ่เป็นพวกไม่เอาไหนในฐานะนักเขียน อ่อนหัด มีความขยัน แต่ก็อ่อนหัด

407 Nameless Fanboi Posted ID:V4NqWA1JgL

ขอถามหน่อย สมมติเราให้อ่านตอนล่วงหน้า พอเราอัพแล้วมันจะขึ้นหน้าอัพเดทไหม หรือว่าต้องให้มันปลดล็อกก่อนถึงจะขึ้น

408 Nameless Fanboi Posted ID:0MGpYrLpbZ

>>407 ขึ้นถ้ามีกระดิ่ง ตอนปลดล็อคมันจะขึ้นอัตโนมัติให้อีกที

409 Nameless Fanboi Posted ID:V4NqWA1JgL

>>408 แบบนี้ก็เท่ากับแจ้งเตือน 2 ครั้งใช่เปล่า

410 Nameless Fanboi Posted ID:rJM5M2KNGM

>>409 ใช่แล้ว ได้ยอดอ่านเพิ่มขึ้นนะถ้าเอาจริงๆ แต่มันก็มีข้อเสีย สมมุติเราเก็บล่วงหน้าไป แล้ววกกลับมาติดเหรียญรวมแพค นักอ่านเขาต้องซื้อใหม่ นักอ่านส่วนใหญ่เขาก็จะเฉยๆ แต่จะมีบางส่วนไม่พอใจ มันส่งผลต่อการเปิดเรื่องใหม่อยู่นะ

411 Nameless Fanboi Posted ID:rJM5M2KNGM

สวัสดีครับ จากการตรวจสอบของทีมงาน พบยอดวิวที่มีที่มาผิดปกติจริง ทางเว็บจึงขอไม่ให้นิยายเรื่องนี้ติดท็อปเป็นเวลา 1 เดือน และในกรณีที่พบกรณีนี้ซ้ำอีกจะเพิ่มระยะเวลาเป็น 2,3,4 เดือน ตามลำดับ

ขอบคุณสมาชิกที่สอบถามครับ

https://www.dek-d.com/board/writer/4058323/12/1

สรุปที่กูแจ้งไป โกงจริง ผมไม่ใช่มาเฟียบอร์ดนะครับท่าน

412 Nameless Fanboi Posted ID:KSpKDpMFbU

>>411 เอาจริง ๆ คือเคสนี้มันก็น่าคิดนะ ว่าเขาจะทำไปเพื่อ? ออกเล่มใหม่รึก็ไม่ใช่ ลงขายตอนรึก็ไม่ได้ทำ ชื่อเสียงก็มีมากอยู่แล้ว จะปั้มยอดวิวให้เสี่ยงโดนแบนทำมะเขืออะไร? หรือจะเป็นแฟนเดนตายอยากเห็นนิยายเรื่องโปรดขึ้นท็อป?

413 Nameless Fanboi Posted ID:dqcUAVSqGW

>>412 นักเขียนทำเอง เพราะนักเขียนเข้ามาตอบความเห็นนักอ่านซึ่งถามเข้าไปอยู่ตลอด สาเหตุที่ทำ จะบอกให้ ทำเพราะกำลังจะออกเล่มใหม่ มีแผนจะออกเล่มไหม เลยดันเรื่องขึ้นมาให้คนอ่าน เขาจำได้ ดันให้แฟนเก่าๆรู้ข่าว ประมาณนี้ เขาได้ประโยชน์เต็ม

ถ้านักเขียนไม่ได้ทำเองและทิ้งเรื่องไป 2-3 ปีแล้ว เขาคงไม่กลับมาตอบความเห็นในเม้นท์หรอก เขาคงหายเข้ากลีบเมฒไปเอง แต่พอเขาอยู่และมาตอบว่าจะออกเล่มใหม่แน่นอน มันก็เข้าแก็บ

414 Nameless Fanboi Posted ID:KBppLfaORy

>>413 ทำไงวะ? มาแฮกให้สมชื่อนิยายเหรอ5555 แต่กูเห็นมีเม้นนอ.มาเรื่อยๆแค่ไม่กี่เม้นเองแต่ติดๆกันแทบจะวันเว้นวันงี้ คือคงมีนักอ่านเข้ามาอ่านกันเรื่อยๆด้วยส่วนหนึ่งแหละนิยายเลยมีวิววิ่งตลอดงี้ ก็ตำนานเก่าอะเนอะระดับเดียวกับบรม.เลยแค่คนละสาย แต่ให้ขึ้นติดท็อปค้างงั้นเป็นเดือนได้นี่ก็น่าสงสัยจริง ทั้งนข.มึงทำไงให้มันค้างได้นานขนาดนั้น กับเว็บดด.เองที่ปล่อยผ่านมาได้ไงวะทั้งที่น่าจะรู้ว่ามันแปลกที่นิยายเหมือนตายคาหิ้งไปแล้วจะยังมีคนแก่มาอ่านให้ติดดอยเป็นเดือสโดยที่นข.ไม่ได้มาอัปเดตไรเลยแม้กระทั่งปก

415 Nameless Fanboi Posted ID:KBppLfaORy

>>414 คนแห่สิ ไม่ใช่แก่5555
แต่ตำนานค้างฟ้างี้นึกถึงHxHที่พึ่งกลับมาเลย แค่คนเขียนเปิดทวิต+ลงภาพต้นไม้โง่ๆ คนก็แห่ไปฟอลกันหลักแสนหลักล้านรุมรีกันอย่างบ้าคลั่งอะ เคสนี้ก็คงประมาณนี้แหละ คือแฟนๆเหนียวแน่นจนยังมาตามต่อเรื่อยๆ มีวิววิ่งเข้าตลอดเม้นสม่ำเสมออะ ถึงจะวันละสามสี่คนก็ตามแต่แม่งพลังนักอ่านเงามันแรงนา
แต่ถึงขั้นขึ้นท็อปค้างเป็นเดือนนี่บ่ใช่ละสู เรื่องนี้นี้มันต้องมีเงี่ยนงำ

416 Nameless Fanboi Posted ID:4gNPPzxGN/

ช่องโหว่มันมีหมดแหล่ะ ขอแค่รู้เงื่อนไขพื้นฐาน อย่างเด็กดวกเนี่ย UIP นึงได้วันละวิวใช่มะ ก็ไปเขียนสคริปต์ให้มันรีไอพีเป็น UIP ใหม่ หรือเปลี่ยนด้วยการใช้ VPN ก็ได้ ทำเสร็จแล้วลองเข้ามาดู ถ้าระบบมันจำไม่ได้ว่ามาจากคอมเครื่องเดิมแค่นี้ก็ปั้มยอดวิวได้แล้ว ปัญหาคือคงไม่มีใครบ้ามานั่งปั้มเอง ต้องมีตัวช่วยเป็นพวกโปรแกรมหรือ Tool อะไรสักอย่างมาอำนวยความสะดวก

ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับทีมงานว่าจะจัดการอะไรไหม เพราะทุกอย่างมันเช็คได้หมด เช่น ทำไมเรื่องนี้ยอดวิวมันมักจะพุ่งกระฉูดตอนสองทุ่ม หรือทำไมในแต่ละวันเรื่องนี้ถึงมียอดวิวเพิ่มขึ้น 500 วิวเป๊ะๆ ทุกๆ 3 ชั่วโมง ไอ้การเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติของยอดวิวแบบนี้แหล่ะมันฟ้องว่ามีการเล่นตุกติกเกิดขึ้น log หลังบ้านมีบันทึกอยู่ตลอด แต่ถ้าไม่มีใครรายงานเข้าไปก็ไม่มีการตรวจสอบ

ดังนั้นรอบนี้กูว่าพี่ตุ๋นแกทำดีวะ ถ้าแกไม่ไปจี้ เรื่องนี้ก็ปั้มเนียนต่อไปได้เรื่อยๆ เดี๋ยวจะตั้งฉายาให้เป็นศรีสุวรรณแห่งเด็กดวกก็แล้วกัน

417 Nameless Fanboi Posted ID:Stlvp22lDR

>>416 อย่า ไม่เอา ศีร ...

418 Nameless Fanboi Posted ID:Stlvp22lDR

>>416 ว่าแต่บทลงโทษแม่งกากเกินไปไหม แค่เตือนกับเอาออกจาก top 1 เดือน ทีมงานก็เหมือนจะพูดเองว่าสงสัยมานานเหมือนกัน แต่พี่ปล่อยผ่านเป็นเดือน !

419 Nameless Fanboi Posted ID:SahOeHacli

>>418 ถ้าทำอีกก็เพิ่มเดือนไง เป็น 2 - 3 - 4 ต่อรอบ แบนทิ้งเลยคงทำไม่ได้ เพราะเป็นหิ้งเก่าเคยใช้ดูดเด็กเข้าเว็บ

420 Nameless Fanboi Posted ID:DSvnJQNZSv

>>418 มึงคาดหวังไรล่ะ ขนาดนิยายแปลสวมรอยนั่นตอนแรกๆยังทำแค่ปลดจากท็อปอะสัสทั้งที่ผิดร้ายแรงเอางานเขามาเคลมว่าแต่งเองหาแดกเนียนๆ เคสนี้ถ้าพี่ศรีกบไม่ร้องคงปล่อยไว้งั้นแหละ555

421 Nameless Fanboi Posted ID:nU8RziWuqv

daasdas23154123

422 Nameless Fanboi Posted ID:nU8RziWuqv

daasdas23154123

423 Nameless Fanboi Posted ID:nU8RziWuqv

daasdas23154123

424 Nameless Fanboi Posted ID:nU8RziWuqv

daasdas23154123

425 Nameless Fanboi Posted ID:nU8RziWuqv

fanboifccc

426 Nameless Fanboi Posted ID:nU8RziWuqv

fanboifccc

427 Nameless Fanboi Posted ID:nU8RziWuqv

fanboifccc

428 Nameless Fanboi Posted ID:Brzk1syT6R

fanboifccc

429 Nameless Fanboi Posted ID:Brzk1syT6R

fanboifccc

430 Nameless Fanboi Posted ID:Brzk1syT6R

fanboifccc

431 Nameless Fanboi Posted ID:Brzk1syT6R

fanboifccc

432 Nameless Fanboi Posted ID:Brzk1syT6R

fanboifccc

433 Nameless Fanboi Posted ID:Brzk1syT6R

fanboifccc

434 Nameless Fanboi Posted ID:Brzk1syT6R

fanboifccc

435 Nameless Fanboi Posted ID:Brzk1syT6R

fanboifccc

436 Nameless Fanboi Posted ID:Brzk1syT6R

fanboifccc

437 Nameless Fanboi Posted ID:.YG.1vQpJS

อิหยังวะเนี่ย รกชิบหาย

438 Nameless Fanboi Posted ID:A47uMm9r3J

>>437 มึงหมายถึงอะไรวะ

439 Nameless Fanboi Posted ID:A47uMm9r3J

อ๋อ กูเข้าใจละ มี spam นี่เอง พอดีกูเล่นในแอพมันเลยบล็อกอัตโนมัติ ก็ว่าทำไมเลขความเห็นแม่งข้ามหลายอันเลย

440 Nameless Fanboi Posted ID:A+gK3/ybru

มาแจกเทคนิคดีย์ ๆ ในการโฆษณาในบอร์ด
1. โปรโมททุกครั้งที่อัพตอนใหม่
2. ใช้คำโปรยแปลก ๆ ล่อให้คนเข้ามา
3. เอาส่วนเนื้อเรื่องที่คิดเองว่าเด็ด มาไว้ในรายละเอียด ไว้ดูรก ๆ
4. *** (อันนี้สำคัญสุดให้ดอกจัน 3 ดวง) แปะลิ้งก์ลงใต้คอมเม้นต์ ทางที่ดี (ไม่ใช่ทางลาดยาง) เอาลิงก์เรื่องอื่นมาด้วย ได้ดูเยอะ ๆ ทีนี้ตรง Top board อาจจะมีกระทู้ของเรา เย้ ๆ
5. รอรับยอดคนอ่านอันมหาศาลเท่าเม็ดทรายในโหลแก้ว จากเพื่อน ๆ นักเขียนที่หมันไส้ภาวนาให้พวกนี้สูญพันธ์ุไปซะที

441 Nameless Fanboi Posted ID:5giKmKkckh

>>440 มึงหมิ่นพี่เจยเหรอ ไอ้คนชั่ว 5555

442 Nameless Fanboi Posted ID:A+gK3/ybru

>>441 ไม่ใช่แค่พี่เจยในบอร์ดยังมีคนอาการหนักกว่านี้อีก พี่เจยเป็นเพียงหนังหน้าไฟอำเภอกระสุนตก ดังนั้นอย่ามูลี่พี่เค้าเลย

443 Nameless Fanboi Posted ID:5giKmKkckh

พูดถึงพี่เจย นิยายมันยอดวิว 470 แล้วนะ

ส่วนเรื่องใหม่ของนารุตะ-กี้ แม่งก็จบละ 151 ตอน ยอดวิวหมื่นกว่า ขายแพ็คออกด้วย หน้าปกสไตล์ดราฟมาเหมือนเคย ละดาบนางเอกก็เอาภาพดาบลุง Sam ใน Metal gear:R มาใส่ในนิยายตัวเองเฉย แก้ไม่หายจริงๆ นิสัยชอบขโมยภาพเค้ามาหากินเนี่ย

444 Nameless Fanboi Posted ID:UeD+wrPReX

>>443 มีคนเม้นบอกชอบการออกแบบดาบ555 ไม่เขินบ้างหรอวะกีกี้ ถ้าจำไม่ผิดกีกี้อยากป็นนักเขียนการ์ตูนใช่ป่ะ ละเมิดภาพคนอื่นไม่อายหรอว่ะ เอามาใช้แค่เป็นอินสไปร์ดิวะปรับหน่อยเหอะ ลอกทั้งดุ้นก็เฮี้ยเกิน

445 Nameless Fanboi Posted ID:6NMNMb4If0

>>444 สังเกตรูปปกตรงส่วน วาด&สี มีชื่อมันกับชื่อฟ้าใส กูขอถือวิสาสะเดาเลยว่าฟ้าใสเป็นคนวาดแน่นอน (เพราะถ้าเป็นมันวาด อนาโตมี่คงไม่ดีถึงขั้นนี้)

446 Nameless Fanboi Posted ID:HR4p.Nv2la

>>444 ใครคือกีกี้วะ ขอลิ้งนิยายกีกี้หน่อย

447 Nameless Fanboi Posted ID:6NMNMb4If0

>>446 ในโม่งนีมันมี 2 กี้ อันนี้ นารุตะ-กี้ กับลาวากีกี้ ตัวที่กำลังพูดถึงน่าจะหมายถึงนารุตะกี้

นิยายไอ้กี้ที่เคยโดนสับ : https://fanboi.ch/webnovel/8685/155-158/
นิยายเรื่องล่าสุดที่ขโมยดาบเฮียแซมเกมเมทัลเกียร์:R : https://writer.dek-d.com/dekd/writer/view.php?id=2239641

นี่ไม่ได้ค่าโฆษณาเลยนะเนี่ย

448 Nameless Fanboi Posted ID:HR4p.Nv2la

>>447 เอาเถอะ คนเรามันพัฒนากันได้ ..สักวันมันอาจจะเดินตามฝันสำเร็จ อย่างน้อยมันก็เขียนจนจบได้วะ

449 Nameless Fanboi Posted ID:6NMNMb4If0

>>448 เรื่องเขียนจบอันนี้ต้องยอมรับ แต่เนื้อหาข้างในมึงลองอ่านดูรึยัง ทำเอานิยายพี่ศรีกบแม่งดูดีไฮโซขึ้นมาเลย

450 Nameless Fanboi Posted ID:oJ.LYI.Mn9

>>447 กูไม่น่าไปลองของเล้ย https://i.imgur.com/baM7ua6.jpeg

ปล.มันหมายถึงแม็กกาซีนที่บรรจุกระสุนปืนปะวะ

451 Nameless Fanboi Posted ID:ibz9..EXNQ

>>450 เหยด มีความแปลไทยล้ำสัสๆ 555

452 Nameless Fanboi Posted ID:H9E8O2yw8k

>>450 แ ป ล ไ ท ย แ บ บ 1 0 0 %

453 Nameless Fanboi Posted ID:dByzC7UERr

>>450 ละ ล้ำสัส แม่งไม่เฉลียวใจหน่อยเหรอว่าหนังสือเกี่ยวห่าไรกับกระสุนปืน แปลได้ตำนานพอๆกับกุดุสเลยวุ้ย

454 Nameless Fanboi Posted ID:zs2q.EZfg6

kyเกิดใหม่ในโลกเดิมถือว่าแฟนตาซีปะ กูสับสนกับพล็อตตัวเองอยู่หาหมวดลงไม่ได้สักที มันไม่มีเรื่องเหนือธรรมชาติไรมาเกี่ยวข้องนะ พล็อตคร่าวๆคือระลึกชาติได้ มีปมจากชายิก่อนให้มาแก้ในชาตินี้ มันก็วนๆคือหาทางแก้ปมในอดีตที่ค้างคานั่นละ แนวทำภารกิจอะ ไม่แก้ก็จะเป็นเรื่องติดค้างในใจไปตลอดชีวิตเลยแก้แม่งให้จบๆไปงี้

455 Nameless Fanboi Posted ID:5u0zM2ua5p

>>454 แฟนตาซีแหล่ะ แต่เป็นโลวแฟนฯ มีความเหนือจริงบ้างแต่เซตติ้งไม่ได้หลุดโลกอะไร

456 Nameless Fanboi Posted ID:zs2q.EZfg6

>>455 อะเค ขอบใจที่แวะมาตอบ นึกไม่ถึงว่าจะมีคนอยู่โต้รุ่งกับกูด้วย5555

457 Nameless Fanboi Posted ID:Z+9hrYmObh

>>450 เพราะแบบนี้แหล่ะกูถึงชอบเล่นโม่ง มันมีเรื่องฮาๆ ที่มาแบบไม่คาดคิดให้อ่านบ่อย

ดูทรงแล้วกูว่ามันคงไปก็อปบทความของซามูเอล (พี่แซม) มาแปลทั้งดุ้น เปลี่ยนชื่อพี่แซมเป็นชื่อนางเอกมัน แล้วตอนสุดท้ายดันลืมเปลี่ยนคำทับศัพท์กลับมา คือ AI ของเครื่องมือแปลมันก็ทำได้ดีในระดับหนึ่งแหล่ะ แต่คำตั้งต้นมันแปลได้ทั้ง "นิตยสาร" และ "ราง,รังกระสุน" ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น

มีอยู่อย่างหนึ่งเกี่ยวกับไอ้กี้ที่กูต้องขอชม นั่นคือความสามารถในการหาสิ่งต่างๆ มายัดใส่นิยายตัวเองได้อย่างโคตรหน้าด้าน Ref. ที่เพื่อนโม่งไปขุดเจอด้วยกันนี่อย่างเยอะ คอมโพสท่วงท่าในรูปก็แม่งทั้งดราฟทั้งเทรซ ชื่อเฉพาะต่างๆ ก็เหมือนกันอย่าง "วาโนะ" ในรูปตัวอย่างเนี่ย จะใช้ทั้งทีเอาอันที่มันไม่ค่อยสะดุดตาหน่อยจะได้ไหม เนียนเอาชื่อเฉพาะจากผลงานคนอื่นมาใช้แบบไม่กลัวคนทักแบบนี้ ต้องยอมรับในความไม่สนหีสนแตดของมันจริงๆ

458 Nameless Fanboi Posted ID:VGQvyUXqBb

วันนี้ว่างๆเขียนนิยายตันๆบวกกับจะหาคนวาปปกสวยๆให้กูเลยจับพลัดจับผูไปกดเข้ากลุ่มเขียนนิยาย โอ้วว มี 80000 คนเป็นสมาชิก 'เฮ้ยทำไมคอมมูนักเขียนมันโตเร็วจังวะ' กูคิดอย่างรู้สึกตื่นเต้น ไอ้สัส พอเข้าไปในกลุ่มอย่างกับกลุ่มรวมขยะนักเขียน ไม่มีเหี้ยอะไรเลย ไม่มีเคล็ดลับ ไม่มีวิธีการ นักเขียนส่วนใหญ่ในกลุ่มคือแนว 20+ เอาตัวอย่างรูป เอาตัวอย่างในนิยายตัวเองมาลงให้อ่าน พออ่านแล้วกูที่เป็นชายแท้บางทีก็อยากจะอ้วกเพราะบรรยายฉากเกย์อัดตูดกัน มิติใหม่ของวงการเย็ดเป็ด ตลาดแนว 20 + แม่งโตเกินแบบจนงง ถ้าแม่งเงี่ยนกันขนาดนั้นกูงงว่าทำไมไม่ไปดูหนังผู้ใหญ่แล้วปลดปล่อยวะ

459 Nameless Fanboi Posted ID:VHJgCaCddZ

>>458 กลุ่ม "นักเขียนนิยาย" ที่ไม่ค่อยได้เขียนนิยาย 555 กุเพิ่งได้เข้ากลุ่มไปเมื่อต้นเดือนนี่เอง แทนที่จะได้เห็นนักเขียนคุยอะไรที่มันเกี่ยวกับเรื่องการเขียน มีแต่มีม เขียนบ่น แล้วก็ไอ้พวกขายของ (เหมือนไม่อยากขายอ่ะ มาลงลิงก์แล้วก็หนีไปก็มี อยากจะแจ้งแสปมใส่แม่ง) กุคิดว่าถ้าจะหากลุ่มไว้คุยไปหากลุ่มอื่นเหอะ ถ้าจะมาสิงในกลุ่มนี้สู้ไปอยู่คนเดียวดีกว่าเยอะ

460 Nameless Fanboi Posted ID:kym6MjtX6P

ถ้าไม่ติดว่าขี้เสือก กูคงไม่เข้ากลุ่มเข้าดิสคอร์ดให้เสียเวลาหรอก จากประสบการณ์หลายปีที่ลองมาหลายสิบกลุ่ม แม่งไม่เคยเจอกลุ่มไหนที่ประทับใจเลยแม้แต่กลุ่มเดียว

คุยเหี้ยอะไรกันไม่รู้เยอะแยะจนต้องปิดแจ้งเตือน นิยายไม่ไปเขียน เขียนแต่โฆษณากับคู่จิ้นเยดตูด กลุ่มไหนอายุน้อยหน่อยก็เต็มไปด้วยมีมและข้อความเบียวๆ หรือโพสให้กำลังใจที่ดูปลอม อยากดูหล่อ/สวยด้วยคำคมแนะนำนั่นนู่นนี่แต่พอถามว่านิยายจบรึยังแม่งใบ้แดก

แล้วในกลุ่มเหล่านี้มักจะมีอยู่ 1-2 คนที่เป็นพวกเมนฮาระ ชอบดราม่าฟูมฟายแพร่กระจายพลังลบ อ่านแล้วหดหู่ชีวิตแม่งไม่เคยมีแต่เรื่องดีๆ เรียนก็ห่วย เพื่อนไม่คบ นิยายร้าง อ้างว่าตัวเองเป็นซึมเศร้า (โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นจริงๆ หรือเปล่า) ขอความเห็นใจว่าไปอ่านนิยายหนูหน่อย อยู่กับมันมากๆ แล้วเราก็พลอยจิตตก+รำคาญไปด้วย บางทีเลยออกกลุ่มแม่งเลยไม่ชอบอ่านละครโศก

461 Nameless Fanboi Posted ID:VGQvyUXqBb

>>460 5555555 ไอ้สัส แม่งจริง กูในฐานะชายแท้เจอนิยายเยดตูดเข้าไป หำหดเลยแม่ย้อย บางทีกูก็มีอารมณ์แบบอยากจะพยายามเข้าใจว่าเฮ้ย...ไอ้นิยายวายเยดตูดกันมันมีอะไรวะ ทำไมคนถึงได้นิยม คู่จิ้นเกิดขึ้นมาเต็มบ้านเต็มเมืองทำเงิน แต่พอเข้าไปอ่านแล้วแบบ บางเรื่องเจอปกเข้าไปกูก็สยิวแล้ว ผู้ชายตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ ส่วนอีกคนเป็นชายเขียนให้ดูบอบบางตัวเล็กแต่ตูดแม่งใหญ่แบบ ไอ้สัส เห็นแล้วเหมือนเอาภาพพระบิดาแดกขี้มาให้ดูอะ อารมณ์กูแบบนั้นเลย แม่งเอาปกแบบนี้เป็นปกนิยาย ยังเสือกมีคนอ่าน .... ไปไม่เป็นเลยกู

462 Nameless Fanboi Posted ID:ucFDQ0/i5u

อยากสร้างกลุ่มนักเขียนที่พูดคุยแต่เรื่องการเขียนนิยาย จำกัดสมาชิกทั้งหมดแค่ 4 คนพอ

ใช้เฟส ไลน์ ดิส อวาตารก็ได้ เป็นโม่งต่อไป ไม่มีระบบถามอายุ ไม่มีอาวุฒิโส มีใครสนไหม คัดคนที่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อการเขียนของตัวเอง แปลไทยเป็นไทยว่าคัดคนที่คิดว่าน่าจะมีสไตล์ใกล้ๆกันช่วยส่งเสริมกันได้มารวมกันให้ครบ 4 คน

463 Nameless Fanboi Posted ID:ucFDQ0/i5u

ผม>>462 ขอเรียกตัวเองว่า 'โม่งเขียน'

464 Nameless Fanboi Posted ID:x0opfn2IoY

>>457 กูลองละผลลัพท์คือเป๊ะมากเกือบจะ 100% นอกจากจะลอกผลงานสร้างสรรค์ชาวบ้านแล้วยังก๊อปวิกิชาวบ้านมาหน้าด้าน ๆ อีกด้วย

https://imgur.com/a/Mjo1SXG

อันนี้เป็นเนื้อหาวิกิส่วนที่กูหยิบมาเทส https://metalgear.fandom.com/wiki/Samuel_Rodrigues#Weapon

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.