Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 21st quotes​

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:NOF.g2rZpF

https://fanboi.ch/lounge/1161/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
https://fanboi.ch/lounge/2603/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 2nd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3016/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 3rd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3530/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 4th quotes
https://fanboi.ch/lounge/4357/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 5th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5233/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 6th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5838/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 7th quotes
https://fanboi.ch/lounge/6311/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 8th quotes
https://fanboi.ch/lounge/6680/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 9th quotes
https://fanboi.ch/lounge/7184/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 10th quotes ในรัชกาลที่ 10
https://fanboi.ch/lounge/8588/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 11th quotes
https://fanboi.ch/lounge/9552/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 12th quotes ครบโหล
https://fanboi.ch/lounge/10854/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 13th quotes
https://fanboi.ch/lounge/11317/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 14th quotes
https://fanboi.ch/lounge/11656/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 15th quotes​
https://fanboi.ch/lounge/11691/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 16th quotes
https://fanboi.ch/lounge/12230/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 17th quotes​
https://fanboi.ch/lounge/12760/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 18th quotes​
https://fanboi.ch/lounge/13454/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 19th quotes​
https://fanboi.ch/lounge/14037/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 20th quotes​

2 Nameless Fanboi Posted ID:TV382drn90

ทำไมติ่งBTSที่ชอบเรียกร้องให้เปิดการเข้าถึงนั่น เข้าถึงนี่ พอศิลปินที่ตัวเองชอบจะไปมีคอลแลปกับเกมที่ตัวเองไม่ชอบ(เพราะไม่ชอบกลุ่มคนที่เล่นเกมนี้) ติ่งBTSดันอยากจะกีดกันการเข้าถึงศิลปิน ไม่อยากให้ศิลปินทำคอลแลบ

3 Nameless Fanboi Posted ID:Ix0PaCZ4WW

>>2 เหมือนพวกโอตะ BNK ไม่อยากให้ไปยุ่งกะพวกจิกะไอดอล

4 Nameless Fanboi Posted ID:hdK89eYPM+

การใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐ เป็นสิ่งที่ประชาคมโลกไม่ควรสนับสนุน เป็นการละเมิดระบบนิติรัฐและกฎหมายระหว่างประเทศ ระบบนิติรัฐเป็นหลักประกันเดียวที่ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกประเทศและคุ้มครองสันติภาพของโลก หากปราศจากหลักการนี้แล้ว ประเทศที่อ่อนแอกว่าก็จะตกเป็นเหยื่อของการใช้ความรุนแรงจากประเทศที่มีความเข้มแข็งทางทหารที่มากกว่าในทุกครั้งที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น โลกจะหมุนกลับไปสู่ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
อะไรคือบทเรียนที่ประชาคมโลกเรียนรู้จากวิกฤตการณ์ยูเครนครั้งนี่้
การตัดสินใจใช้ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย ไม่ควรมีบทสรุปว่าผู้นำรัสเซียกระหายสงคราม แต่เป็นการตัดสินใจที่มีปัจจัยความมั่นคงแห่งชาติของรัสเซียผลักดันการตัดสินใจที่สุ่มเสี่ยงของประธานาธิบดีปูตินในครั้งนี้
วิกฤตยูเครนสะท้อนภาพใหญ่ของระบบความมั่นคงในยุโรปที่ชำรุด ความมั่นคงของยุโรปต้องเป็นความมั่นคงร่วมของทุกชาติในยุโรปโดยไม่ควรแบ่งแยก ยุโรปที่มั่นคงไม่ได้มาด้วยการคุกคามความมั่นคงของรัสเซีย การขยายสมาชิกภาพของ NATO ให้ประชิดพรมแดนรัสเซีย รัสเซียจึงคิดเป็นอื่นไม่ได้นอกจากเป็นความพยายามที่จะปิดล้อมรัสเซีย เหมือนเป็นความตั้งใจของสหรัฐฯและ NATO ที่จะดันรัสเซียให้เข้าสู่มุมอับและขาดอากาศหายใจ เป็นระบบความมั่นคงยุโรปที่มีฐานคิดแบบสงครามเย็น ควรที่จะต้องเปลี่ยนแปลงโดยไม่มองว่ารัสเซียเป็นศัตรู แต่ควรมองรัสเซียเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของระบบความมั่นคงที่แบ่งแยกมิได้
ยูเครนคือเหยื่อของระบบความมั่นคงของยุโรปที่ชำรุด ล้าสมัย และเปราะบางจนไม่สามารถประกันความมั่นคงของยุโรปได้แล้ว ยังกำลังถูกกัดเซาะจนหมดความสามารถที่จะปกป้องสันติภาพของโลกได้ นี่คือบทเรียนที่ประชาคมโลกควรยอมรับ อย่าให้มันกระเด็นมาที่เอเชีย
อดีตท่านทูตกรมยุโรป https://www.facebook.com/100002390711293/posts/4857903267632649/

5 Nameless Fanboi Posted ID:QTjBN1owkT

>>4 แล้วต้องทำไง

6 Nameless Fanboi Posted ID:NOF.g2rZpF

วอลอดือมีร์ แซแลนสกี้ (Volodymyr Zelenskyy) ประธานาธิบดีของยูเครน น่าจะเป็นคนที่ดังเป็นอันดับที่สองของโลกในตอนนี้ (รองจากปูติน)
(ที่จริงแกชื่อ "วลาดิเมียร์" เดียวกับปูติน แต่เป็นเวอร์ชั่นภาษายูเครน แปลว่า "ผู้ปกครองโลก" หรือ "ผู้ปกครองแห่งสันติ" มาจาก Vladimir the Great (958 – 1015) ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่มีฐานจากเมืองเคียฟ รัสเซียเคลมว่าเป็นคนรัสเซีย ส่วนยูเครนบอกว่าเป็นคนยูเครน)
ผมเขียนถึงเรื่องนี้ เนื่องจากผมเห็นคอมเมนท์ของฝ่ายโปรรัสเซีย ดูถูกแซแลนสกี้ ว่าเป็นแค่ตลกโง่ๆ เทียบไม่ได้กลับความสามารถของปูติน
เป็นตัวตลก ต่อหน้า ซาร์ผู้ยิ่งใหญ่
แต่ตลกโง่ๆ นี่แหละ ที่หยุดปูตินไว้ได้ แซแลนสกี้คือตัวแปรจริงๆของสงครามครั้งนี้
แซแลนสกี้เป็นนักแสดงตลกมาก่อน ทำรายการต่างๆ และแสดงละคร (อารมณ์ประมาณพี่โน้ต อุดมฯ, หม่ำ, หรือน้าค่อม)
จนกระทั้งเมื่อไม่กี่ปีก่อน เขาแสดงเป็นตัวเอกทีวีซีรีย์ ของยูเครน เรื่อง "ผู้รับใช้ประชาชน"
ซีรีย์เป็นเรื่องเกี่ยวกับครูมัธยม ซึ่งทนไม่ไหว และด่านักการเมืองคอรัปชั่นต่อหน้า บังเอิญว่ามีคนอัดวีดีโอการด่านั้นไว้ และโพสลงออนไลน์ กลายเป็นไวรัล จนครูคนนี้ดันได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี
(ฟิลลิ่งประมาณ ซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่อง Change นายกมือใหม่หัวใจประชาชน)
ซีรีย์ได้รับความนิยมสูงมาก จนมีมาหลายซีซั่น
ทีนี้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีคราวที่แล้วตอนปี 2019 แซแลนสกี้ก็ประการลงเลือกตั้ง ตอนแรกทุกคนคิดว่าตลก หรือลงเอาไวรัลโฆษณา
แต่แซแลนสกี้ ไม่ได้ล้อเล่น เขาลงเลือกตั้งจริงๆ ด้วยนโยบายการปราบคอรัปชั่น
ป๋าโปโลเชนโก้อดีตประธานาธิบดีโพลนำอยู่ที่ดีๆ ปรากฎก่อนเลือกตั้งไม่กี่เดือน แซแลนสกี้ โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วชนะแลนด์สไลด์เฉยเลย คะแนนท่วมท้น 70% ของผู้มาลงคะแนน
สร้างความตลก และงงงวยแก่นานาชาติ
.
.
.
แซแลนสกี้ ปราบคอรัปชั่นได้มั้ย มีผลงานหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะดันเจอ Covid เข้าก่อน
แซแลนสกี้อาจจะตัดสินใจผิดพลาดเรื่อง นำประเทศเข้า NATO จนรัสเซียเริ่มเปิดสงคราม
แต่การตัดสินใจครั้งสำคัญของแซแลนสกี้คือการเลือกว่าจะยอมแพ้หรือไม่ หลังรัสเซียบุกเข้ายูเครน
แซแลนสกี้ไม่มีประสบการณ์ทางการทหารเลย นอกจากแสดงเป็นนโปเลียน ในละคร
USA เสนอจะพาแซแลนสกี้หลบหนี แต่ แซแลนสกี้ตอบว่า "สนามรบของผมอยู่ที่นี่ ผมต้องการอาวุธ ไม่ใช่การหลบหนี"
เสนาธิการต่างบอกว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ไม่มีใครเอาประมุขของประเทศไว้แนวหน้าของสงคราม
ขนาดรัฐมนตรีกะลาโหมของเขาเองยังไม่คิดว่า "คนที่มีภูมิหลังเป็นตลก จะตัดสินใจแบบนี้" - แต่นี่ดันเป็นการตัดสินใจที่สามารถรวมใจชาวยูเครน
แซแลนสกี้ใช้โซเชียลมีเดียของเขาเผยแพร่ภาพวีดีโอของเขาในเมืองเคียฟ ภาพเขาใส่ชุดทหารในแนวรบ
ชาวยูเครนคงจะคิดว่า "ไอ้เชี่ยนี่เป็นตลก มันยังไม่หนี... แล้วมึงล่ะ? มึงจะยอมแพ้เหรอ?"
(แต่อันที่จริง สมมุติลองนึกภาพว่าน้าค่อมเป็นนายกฯ แล้วแกไลฟ์ บอกว่า "ไอ้ซัส กูไม่หนี กูจะวัดกับมันสักตั้ง" ผมอาจจะไปอาสาสู้ด้วยกับแกก็ได้ว่ะ)
การตัดสินใจยึดหยัดของ แซแลนสกี้ทำให้ชาวยูเครนต่างสมัครใจเข้าต่อต้านรัสเซีย
นักการเมือง ฝ่ายค้าน ผู้ว่าการเมือง เอกชน แม่บ้าน โรงเบียร์ ล้วนยืนหยัดสู้กับรัสเซีย
สายตาทั้งโลกมองมาที่ ยูเครน ผู้นำธรรมดาๆ ที่เคยเป็นตัวตลกใจสายตาคนทั้งโลก มีแต่ภาพกับคลิปยิ้มๆทำตัวฮาๆ กำลังยืนหยัดท้าทายอำนาจของปูตินผู้น่าเกรงขาม
ภาพชาวยูเครนที่ต่อต้านกับกองทัพที่มีกำลังมากกว่า ภาพประชาชนช่วยกันทำโมโลตอฟค็อกเทล ออกไปตะโกนด่ารถถัง ทำให้พันธมิตรทั่วโลกต่างนับถือให้ความกล้าหาญ เห็นใจ และสนับสนุนชาวยูเครน
ทำให้หลายคนรู้สึกว่า อยากทำอะไรสักอย่าง เพื่อช่วยชาวยูเครนสักตั้ง
.
.
.
(ต่อเม้นล่าง)

7 Nameless Fanboi Posted ID:NOF.g2rZpF

(ต่อจาก >>6 )

คุณอาจมองโลกในแง่ดีแบบนั้น...
หรืออาจมองด้วยสายตาระแวง
ว่าแซแลนสกี้ เป็นดาราเจ้าบทบาท เขารู้ว่าผู้ชมต้องการอะไร จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนอย่างไร ทำอย่างไรให้ประชาชนฮึกเหิม บางทีเขาอาจจะเล่นบทนโปเลียนอยู่
เขาเป็นเซเลปโซเซียลมีเดีย ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากตั้งแต่ก่อนเข้าการเมือง เขาเติบโตจากนักแสดงเดี่ยวขึ้นมาจนเป็นเจ้าของโปรดักชั่นทำรายการบันเทิง
เขารู้ว่าจะเป็นที่สนใจในโลกโซเชียลอย่างไร รู้ว่าคอนเทนท์ไหนที่ชาวโซเชียลต้องการ เขารู้ว่าอะไรจะไวรัลในโลกออนไลน์ รู้ว่าชาวโลกสนใจอะไร รู้ว่าคอนเทนท์ไหนที่ควรจะขยายผล เพื่อกะแสความเห็นใจของชาวโลก
แซแลนสกี้ อาจจะกำลังเปลี่ยนคนทั้งโลกให้เป็นผู้ชมของเขา
แต่ถ้าเป็นแบบนั้น ถ้าทุกอย่างเป็นแผน เขาก็เอาชนะ IO ยุคโบราณ จากโรงเรียน KGB ที่ยังใช้สูตรใส่ความกันหน้าด้านๆว่าเป็นนาซี ตั้งทีมมาปั้มโพส ปล่อยข่าวปลอมว่าเขาหนีไปแล้ว ฯลฯ อย่างไม่เห็นฝุ่น
และถ้าอย่างนั้น ปูติน อาจจะไม่ใช่เซียนด้านการโฆษณาชวนเชื่ออีกต่อไปแล้วในยุคนี้ แซแลนสกี้ก็ตรึงปูตินเอาไว้ได้
.
.
แต่เราไม่รู้ เราไม่รู้ว่าอะไรอยู่หลังม่านกันแน่
แต่สิ่งที่เรารู้คือ ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง ไม่ว่ายูเครนจะแพ้หรือชนะ แซแลนสกี้ ก็จะเป็นฮีโร่ ประวัติศาสตร์จะมีชื่อของเขาในฐานะตลกที่ต่อต้านผู้นำที่น่าเกรงขนามอย่างแน่นอน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

8 Nameless Fanboi Posted ID:n3OKXhtxo8

มัสโควีเป็นใหญ่ขึ้นมาได้จนเกิดเป็นรัสเซีย เพราะมีไอ้ขี้ขลาดจากนอฟโกรอดหักหลังเคียฟไปสวามิภักดิ์มองโกล แล้วก็กลับมาเป็นนายหน้ารีดภาษีคนชาติเดียวกันส่งให้GoldenHorde

9 Nameless Fanboi Posted ID:z0FmS1281H

>>5 สร้าง buffer state ขึ้นมา ปูตินก็เคยเสนอเรื่องนี้ก่อนแล้ว แต่ยูเครนและประเทศอื่นไม่ฟัง ผลเลยเป็นแบบนี้

10 Nameless Fanboi Posted ID:ioUfK6yfDl

>>9 เอาจริงๆ ถ้าปูตินยอมหยุดแค่ยึดเมืองที่อ้างว่ามีพวกโปรรัสเซียเยอะ ตั้งกองกำลังไว้แค่นั้น สถานการณ์อาจจะดีกว่านี้ก็ได้

11 Nameless Fanboi Posted ID:n3OKXhtxo8

>>9 โดยการหั่นพื้นที่ชาวบ้านอ่ะนะ
ถอนทหารจากคาลินินกราดกก่อนสิ

12 Nameless Fanboi Posted ID:PhQLykC3hg

>>10 เห็นด้วย ถ้ายูเครนพยายามตีเมืองคืนค่อยส่งทหารไปช่วยยังดีกว่า ไม่น่าจะโดน sanction หนักขนาดนี้

13 Nameless Fanboi Posted ID:z0FmS1281H

>>10 มันหลงผิดคิดว่าจะเหมือนไครเมียกับ 2 เขตนั่นละ แต่คิดผิดสัดกว่าตรงที่ปธน.ไม่ยอมแพ้ ถ้ามันรู้งี้แค่ทุ่มกำลังแบ่งฝั่งใต้กับตะวันออกมาก็น่าจะไหวกว่า

>>11 ที่กูพูดคือก่อนสงคราม ปูตินเสนอแล้วว่าให้ยูเครนเป็นกลางแล้วห้ามขยาย NATO ถ้าเอาแค่นี้ปูตินคงไม่ทำอะไรหรอก

14 Nameless Fanboi Posted ID:n3OKXhtxo8

>>13 นั่นแหละ ถ้าปูตินยอมถอยคนละก้าว ให้เบลารุสเป็นกลางแล้วถอนทหารจากคาลินินกราด ยูเครนกระสันอยากเข้าEUหรือNATOยังไงก็ไม่ได้เข้าหรอก

มึงจะเอาอย่างเดียวโดยไม่ยอมถอยสักอย่างไง ก็เหมือนตอนนี้แหละ คิดว่าสันดานมันเปลี่ยนเหรอ

15 Nameless Fanboi Posted ID:VFLZH3kGb1

https://www.anews.com.tr/world/2022/03/02/ukraine-invites-russian-mothers-to-fetch-captured-soldiers

ยูเครนบอกว่าแม่ของทหารที่โดนจับมาหาลูกได้ PR โคตรเซียนเลยวะ รัสเซียจะห้าม หรือปล่อยให้แม่มาหาลูกก็เป็นผลร้ายต่อรัสเซียอยู่ดี โหดสัสๆ

16 Nameless Fanboi Posted ID:VFLZH3kGb1

ไม่ใช่แค่มาว่ะ มารับกลับไปได้เลย

17 Nameless Fanboi Posted ID:z0FmS1281H

>>14 ยูเครนยังไม่เข้า มึงจะเอามาเทียบกับเบลารุสได้เหรอ

ที่คอร์บินพูดนะมีเหตุผล องค์กรต่อต้านโซเวียตที่ไม่มีโซเวียตแล้วมันมีเจตนา+การกระทำเชิงรุกเกินไป ไม่ใช่แค่ตั้งรับ รัสเซียมีเหตุผลที่จะระแวง ต่อให้ปูตินผิดเรื่องนี้ ก็ไม่ได้แปลว่า NATO ทำถูกนะ

18 Nameless Fanboi Posted ID:VFLZH3kGb1

>>17 ถ้ามันจะรับเข้าเพื่อหาเรื่องรัสเซีย ทำไมแม่งไม่ช่วยยูเครนตอนนี้ไปเลยล่ะ ? มันเป็น defensive pact ไม่ใช่ alliance ถ้ามึงไม่ไปบุกเขา เขาก็ไม่ทำอะไรมึง ปูตินรู้เรื่องนี้ดี มันถึงได้บุกยูเครนก่อนจะเข้าได้ไง ไม่ใช่กลัวจะโดนรุก แต่กลัวจะยึดยูเครนไม่ได้แล้ว

เอาจริง ๆ ถ้ามึงไม่ได้คิดจะหาเรื่องใครเขา defensive pact นี่ไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย

19 Nameless Fanboi Posted ID:z0FmS1281H

>>18 ก็ตอนหลังมันไม่ใช่ defensive pact แล้วนะสิ นักวิเคราะห์พูดตั้งเยอะว่ามันมีท่าทีเชิงรุกมากไป

เท่าที่กูตามมาอันนี้แสดงให้เห็นภาพชัดสุดแล้วทำใมนูเครนถึงสำคัญกับรัสเซียขนาดนั้น โดยเฉพาะแนวป้องกัน

https://youtu.be/If61baWF4GE

20 Nameless Fanboi Posted ID:n3OKXhtxo8

ทีแรกก็ปั้นน้ำเป็นตัวว่าNATOสัญญาว่าจะไม่ขยายชาติสมาชิก
ตอนนี้ก็อ้างความสำคัญทางยุทธศาสตร์ งั้นถ้าอินเดียจะผนวกบังกลาเทศเพราะคอคอดSiliguriเปราะบางต่อการตัดขาดก็ได้อ่อ หรือเมจะยึดBaja Califonia ชาติBalticขอไล่รัสเซียออกจากติ่งKaliningradก็ได้สิ เพราะเป็นภัยคุกคามความมั่นคง

21 Nameless Fanboi Posted ID:OcICtjBKrW

ถ้าNATOอยากให้ยูเครนเข้าร่วมจริงก็ส่งMembership Action Planให้นานละ

22 Nameless Fanboi Posted ID:0YEpwynSxs

>>20 อินเดียก็ผนวกอยู่นะ เพราะในประเทศมันรัฐปกครองตนเองเยอะมาก ตั้งแต่ประกาศเอกราชถึงต้องผนวกเรื่อยๆ แล้วบังกลาเทศก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยทำ แต่ทำไม่สำเร็จ แล้วบังกลาเทศไม่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เท่าปากี ส่วนรัฐรอบนอกก็มีประปรายที่ยึดพื้นที่พิพาท แต่มันไม่ดังเท่ารัสเซียทำแค่นั้นละ

23 Nameless Fanboi Posted ID:OcICtjBKrW

>>22 ผนวกอะไร แหลงมาดิ๊อย่าลอย
ถ้าผนวกดินแดนอาณานิคมเดิมของชาติตะวันตก มันมี UN General Assembly Resolution 1514 (XV) Declaration on the Granting of Independence to Colonial Countries and Peoplesอยู่นะ อย่าเอามาแถปนกับการรุกราน

24 Nameless Fanboi Posted ID:0YEpwynSxs

>>23 โกอา ไฮเดอราบัท ไม่เห็นด้วยกับมึง เร็วๆ นี้ก็มีแคชเมียร์กับจัมมู มันใช้คำว่า annexation เลยนะ แค่เพราะเป็นรัฐภายในไม่ได้หมายความว่ามันไม่ใช่การผนวกซักหน่อย

25 Nameless Fanboi Posted ID:OcICtjBKrW

สรุปว่าจะใช้ข้ออ้างสั่วๆของเมื่อ60ปีก่อนในการยึดที่ชาวบ้านอ่ะนะ
ก็สมควรแล้ว

26 Nameless Fanboi Posted ID:3b6n1bbDJn

>>25 อะไรของมึง มึงยกอินเดียมาเองแบบคิดว่าไม่มี พอกูยกมาว่ามีมึงก็บอกกูแถ ตกลงมึงจะเอายังไง แคชเมียร์กับจัมมูนี่ไม่ถึง 3 ปีเลย จะมา 60 ปีอะไรอีก

27 Nameless Fanboi Posted ID:OcICtjBKrW

>>26 จัมมูแคชเมียร์นี่เป็น”รัฐอธิปไตย”ตั้งแต่เมื่อไหร่วะอยากรู้

28 Nameless Fanboi Posted ID:O2WTTi7HCR

Almost all women should procreate, but only a minority of men should get that privilege. That's just mother nature bro.

29 Nameless Fanboi Posted ID:JoT8jxcABG

วันก่อน คำลวง The truth will set you free! คำลวง
วันนี้ ความจริง When money speaks, truth remains silent ความจริง

30 Nameless Fanboi Posted ID:Tfp+5lSPNo

ผมขอส่งกำลังใจให้ ฯพณฯ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน และกองทัพรัสเซียครับ ชื่นชมในภาวะผู้นำ ความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว เด็ดขาดของท่านมาตลอด ทั้งยังแสดงออกถึงความจริงใจ เป็นมิตรที่ดี ไม่เจ้าเล่ห์ต่อราชอาณาจักรไทยอย่างชัดเจนเชื่อถือได้ เช่นเดียวกับ ฯพณฯ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง
พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา
25 ก.พ.65 เวลา 8.49 น.
หมายเหตุ ผมไม่ใช่นักการเมืองนะครับ ไม่ใช่ผู้บริหารราชการแผ่นดินด้วย เป็นแค่ประชาชนคนหนึ่งที่เป็นทหารแก่เก่าบำนาญ ดังนั้นผมจะรักใครเชียร์ใครมันก็เรื่องของผม ไม่ใช่นโยบายการเมืองระหว่างประเทศของผู้บริหารราชการแผ่นดินนะครับ หัวหน้าพรรคการเมือง ผู้บริหารราชการแผ่นดินต่างหากครับที่ต้องระมัดระวังการแสดงความชัดเจน ไม่ใช่ผม กรุณาดัดจริตโลกสวยกับคนอื่น ไม่ใช่มาดัดจริตกับผม ผมมีลักษณะเป็นเผด็จการ ผมก็นิยมชมชอบของผม แล้วจะมาเสือกอะไรกับผมล่ะครับ

31 Nameless Fanboi Posted ID:EsDI6ylsDJ

เวลามีคนบ่นเรื่องเครียดๆ ก็มักจะมีคนมาเกทับว่าฉันเครียดกว่าเยอะ บลาๆๆ อะไรแบบนั้น
แล้วเวลามีคนบ่นเงี่ยล จะมีคนมาเกทับบ้างไหมครับ ว่าฉันเงี่ยลกว่าอะไรแบบนั้นอะ....

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

32 Nameless Fanboi Posted ID:zGWokaLjrX

สรุปง่ายๆเมื่อมองจากทฤษฎีเกมส์
สงครามงวดนี้ใครจ่าย
ประชาชนในประเทศที่ทำสงครามจ่ายด้วยชีวิต ความเป็นอยู่
ประชาชนนอกประเทศสงครามจ่ายด้วย Productivity
เพราะต้นทุนทุกอย่างๆรวมเบ็ดเสร็จมาแล้วโยนมาให้พวกเราหมด สะท้อนออกมาที่ราคาต้นทุนต่างๆที่สูงขึ้นมากตอนนี้ ที่เราหลีกเลี่ยงได้ยากนั่นเอง
เรียกได้ว่าเป็นค่าตั๋วที่เค้าเรียกเก็บเราล่ะ สำหรับหนังฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ ใครไม่อยากดูก็ต้องจ่ายกันทุกคนถ้วนหน้า 😭
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

33 Nameless Fanboi Posted ID:YyJjKnSNnS

ประเทศไทยเสี่ยงเจอภาวะ stagflation ที่หนักขึ้นเรื่อยๆ

เคยชวนคุยกันไปแล้วว่าในภาวะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ามาก แต่เริ่มมีสัญญาณเงินเฟ้อ มีความเสี่ยงที่เรากำลังจะเจอภาวะที่เรียกว่า stagflation ที่รายได้โตช้ากว่าค่าครองชีพ

ซึ่งจะสร้างปัญหาให้กับทั้งผู้บริโภคที่จะเห็นค่าครองชีพสูงขึ้น ผู้ประกอบการที่ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นแต่ส่งผ่านต้นทุนให้ผู้บริโภคไม่ได้เพราะเศรษฐกิจไม่ดี และแม้แต่ผู้กำหนดนโยบายที่อาจจะเจอข้อจำกัดด้านนโยบายมากขึ้นเรื่อยๆ

หลายคนบอกว่าไม่ต้องห่วงมาก เพราะระดับเงินเฟ้อเราไม่สูงนัก แต่ผมว่าที่น่าห่วงคือเงินเฟ้อคือระดับค่าครองชีพเฉลี่ย แต่คนรายได้น้อยที่มีสัดส่วนใช้พลังงานและอาหารมากกว่าคนรวยอาจจะได้รับผลกระทบมากกว่าที่อัตราเงินเฟ้อที่ทางการบอกมา

และล่าสุดเงินเฟ้อไทยเดือนกุมภาพันธ์ได้พุ่งทะลุ 5% ไปแล้ว ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งหลักๆ ก็มาจากราคาน้ำมันและอาหาร (โดยเฉพาะเนื้อหมู) แต่แม้ว่าจะหักอาหารสดและพลังงานออก เงินเฟ้อพื้นฐานที่อยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน ก็ขยับสูงขึ้นไปเกือบ 2% สูงที่สุดในรอบหลายปี

ส่วนหนึ่งก็เพราะ “ผลรอบสอง” ของต้นทุนราคาน้ำมันและอาหารเริ่มส่งผลให้ราคาสินค้าเริ่มต้องปรับตัวขึ้น เช่น อาหารสำเร็จรูป อาหารนอกบ้าน และราคาสินค้าอื่นๆ

มีแนวโน้มว่าเงินเฟ้อจะขึ้นต่อไปอีก เพราะตอนนี้ราคาน้ำมันแพงกว่าตอนเดือกุมภาพันธ์แล้ว

และเชื่อว่าหลายคนคงบ่นว่าค่าครองชีพตัวเองขึ้นมากกว่า 5% แน่ๆ

และแม้เงินเฟ้อจะขึ้น หลายคนยังบอกอีกว่าไม่น่าห่วงเพราะเงินเฟ้อมาจากฝั่งต้นทุนที่น่าจะเป็นปัญหา “ชั่วคราว”

แต่ความเสี่ยงสำคัญคือ ปัญหาวิกฤตรัสเซีย ยูเครน กำลังสร้างความเสี่ยงว่าเงินเฟ้อ อาจจะไม่ใช่ปัญหาชั่วคราวอย่างที่ว่า หากสถานการณ์ยืดเยื้อจนกระทบต่อการค้าของรัสเซียและยูเครนเป็นเวลายาวนาน

อย่าลืมว่า รัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบเป็นอันดับสองของโลก รองจากซาอุดิอาระเบีย ผลิตน้ำมันวันละกว่า 8 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากน้ำมันนี้หายไป โลกจากหาอุปทานจากไหนมาทดแทน

มีคนพูดถึงราคาน้ำมันที่ 150 หรือ 200 เหรียญต่อบาร์เรลกันแล้ว! ซึ่งเศรษฐกิจโลกอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเอาง่ายๆ

นอกจากนี้ รัสเซียส่งออกก๊าซธรรมชาติเป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา ยุโรปพึ่งพารัสเซียกว่าหนึ่งในสามผ่านท่อก๊าซ หากทะเลาะกันจนต้องปิดท่อก๊าซ ยุโรปคงต้องมาแย่งประเทศอื่นๆซื้อก๊าซธรรมชาติ ต้นทุนการผลิตคงสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะไทยที่ใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้า แม้เราจะมีการผลิตได้ในประเทศ แต่ราคาก็อิงราคาตลาดโลก และมีการนำเข้าบางส่วน

รัสเซียยังเป็นผู้ผลิตสำคัญของสินค้าโภคอื่นๆ เช่น ถ่านหิน พัลลาเดียม แพลตตินั่ม ทองแดง แร่เหล็ก และยังเป็นผู้ส่งออกสำคัญของข้าวสาลี และปุ๋ยเคมี

หากสินค้าพวกนี้ขาดแคลน ต้นทุนการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม อาหารสัตว์ และการเกษตรคงต้องขยับขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และอาจจะเกิดการขาดแคลนสินค้าด้วย

และถ้าเกิดปัญหาที่หนักขึ้นจริงๆ แม้เศรษฐกิจเราจะยังไม่ฟื้น แต่มีความเสี่ยงว่าปัญหาเงินเฟ้อจะไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ และไม่ใช่ปัญหาชั่วคราวแน่ๆ

แล้วเราควรมีนโยบายอย่างไร?

ในฝั่งนโยบายการเงิน จริงอยู่ว่าปัญหาเงินเฟ้อที่มาจากต้นทุน คงแก้ไม่ได้ด้วยการขึ้นดอกเบี้ย (ขึ้นดอกเบี้ยไป รัสเซียคงไม่เลิกรบ หรือน้ำมันคงไม่ถูกลง) และด้วยเศรษฐกิจที่ยังอยู่ไกลจากระดับศักยภาพ แบงก์ชาติคงพอจะเน้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และไม่ขึ้นดอกเบี้ยไปก่อน

แต่ปัญหาคือยิ่งเงินเฟ้อสูงเป็นปัญหาที่ยาวนานขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเงินเฟ้อเข้าไปอยู่ในการคาดการณ์ของทุกฝ่าย การปรับค่าจ้างแรงงาน ค่าเช่าบ้าน และราคาสินค้าคงบวกเอาการคาดการณ์เงินเฟ้อใส่ลงไปด้วย แบบที่นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่า wage price spiral ซึ่งจะทำให้เงินเฟ้อค้างในระดับสูง และลงยาก

นอกจากนี้ในภาวะปัจจุบัน ที่ธนาคารกลางใหญ่อย่างสหรัฐส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อคุมเงินเฟ้อ หากเราไม่ขึ้น ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยคงสูงขึ้นเรื่อยๆ และอาจส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งจะกลับมากระทบเงินเฟ้อจากสินค้านำเข้าอีกรอบ

โดยเฉพาะในภาวะที่เรายังมีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจทำให้เราขาดดุลมากขึ้นไปอีก เพราะไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่พึ่งพาน้ำมันน้ำเข้ามากที่สุดในภูมิภาค ในขณะที่การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวดูริบหรี่ลงจากความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรป

34 Nameless Fanboi Posted ID:r.ixW4FMei

>>33 เสี่ยงว่าก็กําลังจะเจอ… ที่เจอตอนนี้มันยังไม่ใช่ลาสบอสอีกหรา😭

35 Nameless Fanboi Posted ID:a3VmGTJk8W

ที่ญี่ปุ่น มีเด็กฆ่าตัวตายเพราะถูกกลั่นแกล้งเยอะนะ แต่ถ้าคนคลั่งสถิติมาก็จะบอกว่า ไม่เยอะขนาดนั้นสักหน่อย ปีนึงมีไม่กี่รายเอง แต่ความจริงก็คือ เด็กที่ตายเพราะโดนกลั่นแกล้ง ไม่ได้นับว่าตายเพราะโดนกลั่นแกล้งทุกเคส จะนับเฉพาะเคสที่ฟ้องชนะ เพราะเมืองจะต้องเสียเงินให้พ่อแม่ ทำให้ทนายทางฝั่งนั้นจะทำจนไม่ใช่คดีฆ่าตัวตายเพราะโดนกลั่นแกล้ง หลักฐานเต็มก็พลิกได้ว่าไม่ใช่ นอกจากมัดแน่นจริงๆ นั่นแหละ ฝ่ายพ่อแม่จึงจะชนะ และบางเคสต้องใช้เวลาต่อสู้ในศาลหลายปี เท่าที่อ่านมีเคสนึง พ่อสู้คดีมา 7 ปี ถึงชนะ
ดังนั้น ต่อให้โดนแกล้งจนฆ่าตัวตาย ถ้าสอบสวนฟ้องร้องมาแล้วแพ้ เขาก็ไม่นับเข้าสถิติฆ่าตัวตายเพราะโดนกลั่นแกล้ง อาจจะบอกว่าอุบัติเหตุ หรือฆ่าตัวตายเพราะสาเหตุอื่นๆ
#มันก็เป็นซะแบบนี้

36 Nameless Fanboi Posted ID:FDMIfQQ04W

>>35 แบบนี้ต้องให้ Jin Kuwana ไปเยี่ยม

37 Nameless Fanboi Posted ID:eGh3xe/zIA

พวกที่ฆ่าตัวตายเพราะโดนแกล้ง มันก็สมควรตายแล้วแหละ ถ้ามึงอ่อนแอขนาดนั้นก็อย่าอยู่บนโลกเลย

38 Nameless Fanboi Posted ID:rDkCYRojN1

>>37 มีน้องแถวบ้านเป็นแบบนี้ กูโยนเรื่องshamo นักสู้สังเวียนเลือดไห้มันอ่าน แล้วมันก็เปลี่ยนไป

39 Nameless Fanboi Posted ID:8YXJOlxtXM

>>37 เม้นนี้โทรลขยะ

40 Nameless Fanboi Posted ID:ok/OmwJtek

>>37 ความเห็นโทษเหยื่อแบบเอ๋อแดกไอสัส

41 Nameless Fanboi Posted ID:4zwRrtgp44

>>38 เปลี่ยนไปยังไงบ้าง

42 Nameless Fanboi Posted ID:R8MQFVP7SE

วิธีฆ่าตัวตายที่โอเคที่สุดคือเอาล้อรถบัส

43 Nameless Fanboi Posted ID:.7HETkNX6C

>>42 เย็ ดล้อรถบัสจนตาย?

44 Nameless Fanboi Posted ID:CanVNareRi

เปิดอก จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล

เป็นนักการเมือง (อาจจะสมัยเดียวด้วยซ้ำ?) ที่พูดอะไรซื่อๆ ตรงๆ ดี

“ต้องบอกว่าเป็น ส.ส.เขต ในพรรคที่เป็นพรรคที่อยู่ไม่เป็นอย่างก้าวไกลอย่างอนาคตใหม่ มันก็กดดันพอสมควร เพราะว่าตอนช่วงแรกๆ ต้องยอมรับว่ามันหาจุดสมดุลระหว่างการเมืองใหม่กับการเมืองเก่ายากมากๆ จริงๆ การที่จะพยายามทำตัวเป็นนักการเมืองใหม่ ภายใต้บริบทสังคมการเมืองแบบเก่า มันยากพอสมควร มันเป็นแรงกดดันมหาศาล ซึ่งมันเป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง เหตุผลที่ทำให้มี ‘งูเห่า’ เกิดขึ้นนี่แหละครับ ซึ่งผมเข้าใจนะครับว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร เพราะว่าแรงกดดันมันมหาศาลขนาดไหน

“เวลาไปลงพื้นที่จะเจอคำถามจากชาวบ้านเป็นคำที่ติดหูเลยก็คือว่า ไม่ใช่ติดหูสิ ติดปากชาวบ้าน ก็คือไม่เคยเห็นหน้าเลย ไม่เคยเห็นหน้าเลย คำนี้ได้ยินบ่อยมากๆ จนผมแบบบางทีก็รู้สึกเซ็งว่าก็คือขนาดมาเจอครั้งที่สอง เขาก็ยังพูดคำเดิม ไม่เคยเห็นหน้าเลยเหมือนกัน คือผมเพิ่งทำงานการเมืองไม่ถึง 3 ปีเลยครับ คนเก่าเขาทำมา 30 ปี ผมก็เข้าใจว่ามันอาจจะไม่คุ้นหน้าผมเท่าคนเก่าหรอก

“แล้วก็เวลาที่ชาวบ้านมีปัญหามาให้เรา แล้วเราแก้ไม่ได้ ผมก็ยิ่งเข้าใจว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น เพราะว่าเราไม่มีอำนาจรัฐคอยสนับสนุนเลย ข้าราชการก็ไม่ได้จะ support เราสักเท่าไหร่ ยิ่งช่วงแรกๆ ของการทำการเมืองของผมเนี่ย โดนสั่งห้ามเลยด้วยซ้ำ ข้าราชการละแวกนี้ถูกสั่งห้าม ห้ามสนับสนุนไอ้ ส.ส.อนาคตใหม่ กันหมดเลย ไม่มีใครอยากจะรับสาย ผมนัดใครไม่เคยจะได้เลย เอาอย่างนี้ดีกว่า ตั้งแต่ผู้ว่าฯ ยันผู้ใหญ่บ้านเลยด้วยซ้ำ ทุกอย่างแทบจะต้องทำด้วยตัวเองหมด เรื่องที่ร้องเรียนไปก็ไม่ค่อยได้รับการตอบรับเท่าไหร่ แต่หลังๆ ก็เริ่มดีขึ้นครับ เริ่มขยันขันแข็งกันมากขึ้น ขยับตามสิ่งที่เราได้พูดในสภา เพราะว่าตัวรัฐสภามันเป็นตัวที่กดดันให้เขาต้องทำด้วยแหละ

“แล้วพอสิ่งที่เราทำ มันไม่ได้ทำแบบเดิมที่เขาเคยได้รับมา นึกออกไหมครับ เวลาเขาบอกว่า เนี่ย ทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักอย่างหนึ่งเลย คนเก่าเขายังเอาถนนมาลง เอางบประมาณมาลงตรงนี้ ยังทำศาลาตรงนี้ คนเก่าเขายังช่วยฝากลูกเข้าโรงเรียนได้ คนเก่าเขายังเคลียร์ใบสั่งให้ได้ ซึ่งพอเราทำแบบนั้นไม่ได้ มันก็เหมือนเราไม่มีผลงาน

“ช่วงแรกๆ มันก็เป็นเหตุผลหนึ่งซึ่งทำให้มันเกิด ‘งูเห่า’ ขึ้น เพราะเขาก็เจอแรงกดดันแบบนี้ เพราะมันเจอแบบนี้ ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน เป็นปีๆ นึกออกไหมครับ แล้วมันไม่มีผลงานจริงๆ เวลาการเป็น ส.ส. ก็ยิ่งหมดไป แล้วพอครั้งต่อไปคุณไม่ได้เป็น คุณจะอยู่ในพื้นที่นี้ต่อยังไงครับ เดินไปไหนก็จะมีคนมาบอกว่าไอ้นี่มาเป็น ส.ส. ไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่างเดียว นึกออกไหมครับ มันก็เลยจำเป็นต้องแข็งพอสมควรเหมือนกัน คือคุณจะต้องมีความมุ่งมั่นในสิ่งที่คุณเชื่อมากพอสมควร ซึ่งผมก็พยายามพิสูจน์ให้พี่น้องประชาชนที่บางปะกง-บ้านโพธิ์-แปลงยาวเห็น ก็หวังว่าจะได้รับการเลือกเข้ามาในสมัยต่อไป แต่ถ้าไม่ได้ ก็ไม่ได้ซีเรียสเลยครับ ถ้าไม่ได้ ผมก็รอแค่สี่ปีเอง มันไม่ได้นาน มันแป๊บเดียว”

ที่มา เอ็กซ์-อ๊อก talk ทุกเรื่อง เปิดตัวตนติดดิน "จิรัฏฐ์ ก้าวไกล" ส.ส.บางปะกง กับลีลาอภิปรายเครียดแต่กวน https://youtu.be/KDj2VVm3xW0

45 Nameless Fanboi Posted ID:erpr4t0+MH

>>44 ชาวบ้านเขาต้องการแบบนั้นอะนะ ใจถึงพึ่งได้ ที่บอกว่าเป็นรัฐบาลก็ส่วนหนึ่ง แต่พรรคที่พอไปเป็นฝ่ายค้าน เขาก็ยังรักษาความสัมพันธ์ในพื้นที่แบบนั้นอยู่

46 Nameless Fanboi Posted ID:/q+mBltewk

>>45 ถ้าไม่เปลี่ยนวัฒนธรรม การเมืองไทยก็คงวนเวียนกับนักการเมืองแบบเดิมๆ
เรื่องรักษาพื้นที่ ใครที่ยังอยากเป็นแม่งก็ต้องรักษาอยู่แล้วละ

47 Nameless Fanboi Posted ID:/q+mBltewk

Nerdy Warning:

หนึ่งในโปรเจคที่อยู่ในหัวตอนนี้ที่อยากทำมาก ๆ คืออยากตั้งวงสนทนาในระดับป.ตรี (ซึ่งจะเป็นไปถึง ป.โท ป.เอก ก็ได้มั้ง) ในมุมเศรษฐศาสตร์กันอย่างจริงๆ จังๆ กัน เพื่อ discuss ประเด็นปัญหาทางเศรษฐกิจ/ public policy ในเชิงที่ไม่ได้อยู่บน theoretical framework แต่เล่นกันไปที่ Empirical evidence และออกแนวเป็น policy praxis อาจจะคุยกันใน club house ในห้องที่เปิด join ให้บุคคลทั่วไปเข้ามาคุยด้วยได้

สาเหตุที่สำคัญที่อยากจะตั้งวงแบบนี้คือ เพราะเบื่อ เข้าไปคลับเฮาส์ไปก็เจอแต่เรื่องเดิม ๆ ส่วนใหญ่คนที่มีก็เป็นแนวๆ political theorist กันส่วนใหญ่ พูดง่าย ๆ ก็คือถ้าไม่เจอแนวๆมาร์กซ์ด่านายทุน ก็จะเป็นเบียวประวัติศาสตร์ วนกลับไปอยู่ไม่กี่เรื่อง ซึ่งเอาจริง น่าเบื่อ และไม่ได้สร้างความน่าสนใจอะไรเลย

หลายคนแทบจะไม่ได้เข้าใจสภาพเศรษฐกิจที่แบบตลาด คุยกันได้อย่างเข้าอกเข้าใจกันได้ว่า โลกความเป็นจริงของระบบเศรษฐกิจใันเป็นยังไง เชื่อว่าคนพวกนี้ถามไป 100 คนว่า exchange rate adjustment mechanism เป็นยังไงก็ 80 คนก็น่าจะไปกันไม่ถูกแล้ว อีกอย่าง หลายคนไม่เข้าใจ dynamic ของกลไกสถาบันทางสังคมต่าง ๆ มันเคลื่อนไหวไปอย่างซับซ้อน เหมือนโลกนี้มีแค่ขาวกับดำ ทั้งที่ทีพื้นที่สีเทาอีกเยอะแยะ อีกอย่างที่สำคัญที่สุดก็คือ หลายคนก็อ่านเปเปอร์ทางเศรษฐศาสตร์ไม่เป็น เจอ stat, econometric model ซึ่งเป็นยาขมก็เจ๊งกันแล้ว และถึงมีคนอ่านเป็น เขาก็ไม่ได้สนใจเชิง Applied Economics ไปทำอย่างอื่นที่ได้ตังเยอะๆดีกว่า 555

ยกตัวอย่างเช่น สมมติอยากจะคุยเรื่องรัฐสวัสดิการ พวกนี้ก็จะมาพูดข้อดีของสิ่งเหล่านี้ แต่สิ่งที่ยังไม่เคยเห็นเลยคือ การคุยเรื่องตัวเลข คุยเรื่อง fiscal constraints การคุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น funding และอะไรต่าง ๆ นานา ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่สำคัญในเชิงปฏิบัติ

คือไม่ได้มีปัญหากับการเป็น political science based policy discussion แต่ there’s no point for solely disscussing on the political science basis, the discussion needs an empirical evidence and practicality!

ซึ่งจริงๆ นี่เป็นไอเดียที่อยาก transform เศรษฐศาสตร์สำนักสามย่าน ให้เป็นไป แต่ติดปัญหาคือ ไม่มีคนทำ แค่คนเขียนบทความก็ยังไม่มีเลย เดกเสดสาด ฬ คนไหนอยากเขียนบทความทางด้านเศรษฐศาสตร์อะไรทักมาได้ครับ 55555

ไอเดียนี้ open to all สอบมิดเทอมจะเสดละ ถ้ารวมๆกันได้ 4-5 คน อาจจะลองมานัดกันเปิดวงสนทนากันเล่น ๆ ดู รู้ว่าโจทย์แม่งโคตรน่าเบื่อสำหรับคนที่ไม่สนใจเลย เลยหาคนยาก แต่ว่า เด็กไทย เด็กนอก ป.ตรี ป.โท ป.เอก มาได้หมดครับ อยากรู้อยากลอง 5555 น่าจะฝึกๆให้พวกเราแหลมคมเรื่องน้กันมากขึ้น

48 Nameless Fanboi Posted ID:EuuPZIPrc0

>>47 ดีมาก แล้วอยากให้คัดคนพูดหว่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวตั้งกลุ่มมาก็เจอเบียวไร้ทฤษฎีมาอีก การมองตัวเลขนี่Realistสุดละ สนับสนุน ว่าแต่นี่คือมิตรสหายทั่นไหนวะ อยากไปตามเลย

49 Nameless Fanboi Posted ID:EuuPZIPrc0

กูว่านักธุรกิจ นักเสดสาสบางทีก็เก่งกว่าจารย์รัฐสาสเบียวๆหลายคน เพราะสุดท้ายข้อมูลเชิงปริมาณกับแนวคิดทฤษฎีเสดสาสมันมีนํ้าหนักมากสุดละ

50 Nameless Fanboi Posted ID:6QChPqQYpR

>>47 สนใจอยากเข้าไปฟังหาความรู้ว่ะ แต่ตัวเองไม่มีความรู้พอไปร่วมสนทนาด้วยเสียดาย

51 Nameless Fanboi Posted ID:vyJnRT04iR

ด้วยความที่คนจีนมีความเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับการรุกรานยูเครน (อีกทั้งรัฐบาลเองก็พยายามยืนตรงกลาง) สถานทูตชาติตะวันตกจึงใช้โอกาสนี้ลงมา "เล่นโซเชียลฯ" กันถี่ขึ้น บางสถานทูตลงทุนมาตอบคำถามให้คนจีนกันเลยทีเดียว นัยว่าเพื่อชี้ชวนให้ "เข้าข้าง" ตน

สถานทูตฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในนั้น แต่ฝรั่งเศสนั้นมี "คดี" ในทางประวัติศาสตร์กับจีน พอโพสต์อะไรเรื่องต้านสงครามก็มักจะเข้าตัว

โพสต์วันนี้สถานทูตฝรั่งเศสโคว้ตคำพูดของวิกตอร์ อูโกมาว่า "อาชญากรรมจากการใช้กำลังทางทหารย่อมเป็นอาชญากรรมและจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป และความสยดสยองของมหาชนคือการลงทัณฑ์"

ท็อปเมนต์ของคนจีนตอบโดยยกคำพูดของอูโกมาเหมือนกันว่า "มีสองโจรที่ปล้นพระราชวังหยวนหมิงหยวน หนึ่งคืออังกฤษ อีกโจรหนึ่งชื่อว่าฝรั่งเศส"

โคว้ตนี้ยกมา "ตบ" ฝรั่งเศสชัดๆ

คนจีนยังแค้นเรื่องอังกฤษกับฝรั่งเศสเผาพระราชวังฤดูร้อนหยวนหมิงหยวนไม่หาย แม้ในกรณียูเครนหากพวก "ฝรั่งตะวันตก" แสดงท่าคัดค้านเรื่องยกทัพจับศึก คนจีนก็จะยกเรื่องการรุกรานจีนครั้งนั้นมาเย้ยหยันในทำนองว่ามือถือสากปากถือศีล

คนจีนแม้จะแบ่งฝ่ายเป็นหนุนยูเครนกับเชียร์รัสเซียก็จริง แต่หากพวกตะวันตกเอ่ยปากเมื่อไร คนจีนจะสามัคคีกันสวนอย่างไร้ปราณี

กรณีหยวนหมิงหยวนนี้ผมว่าจะเขียนเทียบกับกรณีคว่ำบาตรรัสเซียอยู่พักหนึ่งแล้ว แต่ไม่มีจังหวะ เอาสั้นๆ ก็คือตอนนั้น พวกอังกฤษกับฝรั่งเศสไปได้ยินข่าวลือว่าผู้แทนของตนถูกจีนฆ่าไป จึงโกรธจัด หมายจะยกทัพไปเผาพระราชวังต้องห้าม

แต่คุยไปคุยมา ตกลงกันว่าไปเผาวังหลวงเท่ากับบีบให้จีนไม่มีทางผ่อนปรน จีนจะสู้ยิบตา ดังนั้นจึงเลี่ยงไปเผาพระราชวังแปรพระราชฐานแทน ทั้งเผา ทั้งปล้นชิงกันจนพินาศ นับเป็นหายนะทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติครั้งหนึ่ง

จีนไม่ลืมเรื่องนี้เลย ต่อให้คบกับชาติตะวันตกอย่างมีไมตรี หากอีกฝ่ายแสดงท่าทีตุกติกอะไรขึ้นมาจีนก็จะยกเรื่องนี้มาเตือนตัวเองและต่อว่าตะวันตกอยู่เนืองๆ

ตอนนี้ ชาติตะวันตกระดมคว่ำบาตรรัสเซียไม่หยุดเกือบทุกวัน จนผมกลัวว่าเขาจะบีบให้รัสเซียจนมุมมากเกินไปแล้วจะนำไปสู่หายนะขึ้นมา แต่จนแล้วจนรอดยุโรปก็ยังไม่ยอม "เผาวังกู้กง" ของรัสเซีย คืออุตสาหกรรมพลังงาน แต่เลี่ยงไปเผา "วังหยวนหมิงหยวน" คือเป้าหมายทางเศรษฐกิจรองๆ ลงมา เพื่อแสดงอานุภาพแทน

รัสเซียไม่ใช่คนป่วยเหมือนจีนในตอนนั้น แม้แต่การรบในยูเครนที่ชาติตะวันตกว่าพลาดแล้วนั้น ผมยังคิดว่าไม่ได้พลาดและเป็นไปตามที่วางแผนกันไว้ด้วยซ้ำ

ป.ล. - โคว้ตของอูโกเต็มๆ และถูกต้องมีดังนี้ "เราชาวยุโรปเป็นชาวอารยะ และสำหรับเรา ชาวจีนคือคนป่าเถื่อน นี่คือสิ่งที่อารยธรรมได้กระทำต่อความป่าเถื่อน ต่อหน้าประวัติศาสตร์ หนึ่งในสองโจรจะถูกเรียกว่าฝรั่งเศส อีกคนหนึ่งจะเรียกว่าอังกฤษ แต่ข้าพเจ้าประท้วงและขอขอบคุณที่ให้โอกาสข้าพเจ้า! ความผิดของผู้นำไม่ใช่ความผิดของผู้ถูกนำ รัฐบาลนั้นบางครั้งก็เป็นโจร ประชาชนไม่เคยเป็น"

อนึ่ง ผู้บัญชาการฝ่ายอังกฤษที่เสนอเผาวังหยวนหมิงหยวนคือ "ลอร์ดเอลจิน ที่ 8" พ่อของเขาคือ "ลอร์ดเอลจิน ที่ 7" ที่มี "ชื่อเสีย" ในวงการศิลปะฐาน "ปล้น" ประติมากรรมวิหารพาเธนอนที่กรุงเอเธนส์มาไว้ที่ลอนดอน

เรื่องนี้อูโกกล่าวถึงเช่นกันในวาระเดียวกันว่า "การทำลายล้างของพระราชวังฤดูร้อนประสบความสำเร็จโดยผู้ชนะทั้งสองที่ทำหน้าที่ร่วมกัน ทั้งหมดนี้รวมกับชื่อของเอลจิน ซึ่งทำให้นึกถึงพาเธนอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งใดที่ทำกับวิหารพาร์เธนอน ก็ได้กระทำต่อพระราชวังฤดูร้อนด้วย อย่างทั่วถึงและหนักยิ่งกว่าเพื่อไม่ให้เหลืออะไรอีก"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

52 Nameless Fanboi Posted ID:.ew3SU01Qi

>>51 แม่งเศรษฐีชาวจีนต้องเสียเงินไปประมูลของที่ถูกปล้นมาทุกวันนี้ยังได้ไม่ครบเลย แถมไอ้หินอ่อนพาเธนอนทุกวันนั้ยังอยู่ในพิพิธพันฑ์อังกฤษ

53 Nameless Fanboi Posted ID:acY44L.67x

>>52 โธ่ จีนไม่โกรธคนจีนด้วยกันบ้างละ จีนนี่แหละต้นตำรับสงครามภายใน สามก๊ก 7แคว้น เหนือ-ใต้ สารพัดยุคตีกันเอง เผากันเอง

54 Nameless Fanboi Posted ID:m2WGt.1q5+

ว่าแต่ไอ้ ID:KVX6Tu6GdF นี่ตอบได้ทั้งวันทั้งคืนยังกะมีหลายคนใช้คอมเดียวกันผลัดกันตอบผลัดกันป่วนเป็นกะเลยว่ะ

55 Nameless Fanboi Posted ID:m2WGt.1q5+

>>54 โทดๆตอบผิดทู้

56 Nameless Fanboi Posted ID:hxt63wUsVR

>>53 อันนั้นเรื่องภายในทุกประเทศมีกันหมด ปล้น ฆ่า เผา กันยังไง ของก็ยังอยู่ในประเทศ
แต่ถ้ามีประเทศอื่นเอาไปนี่คนละเรื่องนะ ของเราก็มีตามกลับมาอยู่เรื่อยๆ แต่บ้านเราส่วนใหญ่คนในแอบเอาไปมากกว่าโดนคนต่างชาติมาเอาไปตรงๆ

57 Nameless Fanboi Posted ID:.KODRPbSgj

>>56 มีทุกประเทศก็ใช่ แต่มันย้อนแย้ง คนชาติตัวเองก็เผาเก่งด้วยซ้ำ

งั้นกุก็พูดได้ว่า “ล่าอาณานิคมมีทุกประเทศ เป็นสัจธรรมของมหาอำนาจ จะโกรธแค้น ทำไม “ ได้เหมือนกัน

58 Nameless Fanboi Posted ID:X4rPoQ8ouh

ทูตฝรั่งเศสไม่ใจเลย แค่มึงพิมพ์ Tiananmen square วลีเดียวรู้เรื่อง

59 Nameless Fanboi Posted ID:rSAv1AQF+P

เวลาคนอื่นทำเรียกปล้น เวลาตัวเองทำเรียกเครื่องบรรณาการแสดงความอ่อนน้อม

เทวรูปพระคเณศศิลปะชวาที่เก่าแก่ที่สุดไปอยู่ที่จีน ทำไมไม่คืนล่ะท่านผู้มีอารยะ

60 Nameless Fanboi Posted ID:Q6q7P5Kr0R

เมิงไม่เกลียดโลกที่บิดเบี้ยวกันหรอวะ ประชาชนที่โง่เขลา ใช้ชีวิตสงบสุขไม่เคยผ่านสงครามใดๆ โลกนี้มันช่างน่าขยะแขยง เหลือเกิน

61 Nameless Fanboi Posted ID:uY8owiiu8p

>>60 มึงไม่เคยทำงานหรือไงถึงพูดอะไรโง่ๆแบบนี้ออกมา

62 Nameless Fanboi Posted ID:qj58imJtjF

ฮั่นขโมยของจีนเชื้อชาติอื่นไม่นับ เพราะ… เพราะ… เพราะอะไรก็ไม่รู้ แต่ถ้าไอ้ฝรั่งมันทำแบบเดียวกันต้องประนาม

63 Nameless Fanboi Posted ID:Q6q7P5Kr0R

https://pbs.twimg.com/media/FNlStWqaAAECxbl?format=jpg&name=small
หลังจากที่กุได้คุยกับคนคนนึงมาเกือบครึ่งปี มาเจอสองประโยคนี้กูคิดได้เลยว่าควรเลิกคุย

64 Nameless Fanboi Posted ID:ZkvW1Ul2GT

>>63 มูันี้เอาไว้ให้เอาควอทคนอื่นมาถก ไม่ได้เอาไว้ระบายเรื่องส่วนตัวโง่ๆ

65 Nameless Fanboi Posted ID:yBhOGf2K/v

>>60 โลกมันก็Functionalของมันอยู่งี้ ธรรมชาติคัดสรร มนุษย์พอมีมากเกินไปก็มีความขัดแย้งเกิดสงครามไม่ก็โลกระบาดต่างๆในบางพื้นที่ ส่วนมนุษย์ในหลายๆสังคมมีความเป็นอยู่ดีขึ้น มีการพัฒนาระบบการผลิตเป็นอุตสาหกรรม การเงินระบบเศรษฐกิจก็พัฒนาตามมา
บิดเบี้ยวไงหว่า

66 Nameless Fanboi Posted ID:izYGcgsYFw

แต่เดิมอากาศโยธินมีเฉพาะหน่วยระดับ “กรมทหาร” ซึ่งประกอบด้วยหน่วยย่อยในสังกัด 3 กองพัน แต่หลังจากนี้ อากาศโยธินจะถูกยกระดับขึ้นเป็น “กองพล” เพื่อควบคุม 3 กองพันอากาศโยธิน และ 2 กองพันต่อสู้อากาศยาน ซึ่งทั้งห้าหน่วยรบย่อยนี้ ล้วนเป็นหน่วยทหารรักษาพระองค์มาก่อนแล้ว ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีนัยยะที่สอดคล้องกับการขึ้นมาของผู้บังคับบัญชาที่เป็น “ทหารคอแดง” ซึ่งเป็นกฎกติกาใหม่ที่ ผบ.ระดับหน่วยบัญชาการจะต้องผ่านการฝึกหลักสูตรหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์904 (ฉก.ทม.รอ.904) ซึ่งแน่นอนว่าหน้าที่ของหน่วยทหารเหล่านี้ ส่วนหนึ่งต้องเกี่ยวข้องการรักษาความปลอดภัยแก่สถาบันโดยเฉพาะภาคพื้นอากาศ (ซึ่งหน่วยทหารคอแดงส่วนใหญ่อยู่ในทหารบก)

การขยายตัวของทหารคอแดง ทำให้เกิดแรงต่อต้านเงียบๆจากฝ่ายทหารคอเขียว ซึ่งเป็นทหารที่ฝึกในระบบทหารปกติ เพราะทหารคอแดงจะมีโอกาสเติบโตในหน้าอย่างได้เปรียบจนสามารถขึ้นเป็น ผบ.ระดับสูงได้ มันจึงเป็นรอยปริเล็กๆระหว่างทหารสายป่าและทหารสายวัง

67 Nameless Fanboi Posted ID:.ddzrOCt4E

เห็นคนไทยโกรธแค้นรัสเซียบุกยูเครน ถึงขนาดไปอาสาสมัครสู้ร่วมแล้วก็นะครับ

พม่าใกล้ๆเนี่ยยิงคนเป็นเล่น พวกมึงไม่ออกอาสาร่วมรบบ้างล่ะ

/มิตรสหายท่านหนึ่ง

68 Nameless Fanboi Posted ID:izYGcgsYFw

>>67 ไม่เท่

69 Nameless Fanboi Posted ID:T+bQg2PVwC

>>66 ถ้ามีข้อกำหนดว่าจะขึ้นคุมกำลังระดับสูงต้องผ่านหลักสูตรที่ว่า ต่อไปก็คงเป็นเนื้อเดียวกันละมั้ง ไม่น่าขัดแย้งกันหรอก

70 Nameless Fanboi Posted ID:.RaWcYKJnR

>>67 ก็แค่wokeหน้าโง่ปั่นกระแสโง่ๆให้แนวร่วม ไอ้พวกนี้มันก็เก่งแค่สงครามน้ำลายอะ พอเจอเขาเอาจริงเข้าไปแม่งเงียบหายบ้าไปทั้งฝูง ไม่ต้องดูไหนไกลดูแถวบ้านเราสามกีบโดนจับยัดซังเตกันถ้วนหน้าทำไรได้ป่ะนอกจากออกมาพิมพ์ด่าในโซเชียลโง่ๆ

71 Nameless Fanboi Posted ID:y5z3I3xexJ

“ ถ้า sirn ตามืดบอดแล้ว กุคงต้องไป ไม่ได้มาตบสามกีบอีกแล้ว
มีแต่ผู้ Double awakening ถึงเห็นความเป็นจริงของโลกนี้
แค่ WOKE มันยังไม่พอ กุทำใจเชียร์ ยูเครนสู้ๆ ไม่ได้จริงๆ
เพราะมันไม่ได้มาจากในใจของกู กุจะรอนะ วันที่ฟ้าทองผ่องอำไพ ชาวสหภาพเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
ตอนนี้กุคงกลับไปห้องGGตั้งหลักก่อน”
-โม่งบ่นในห้องไลฟ์ไตย์
ไอนี่มันโรลเพลย์โทรลไม่หยุดไม่หย่อนจริงๆ

72 Nameless Fanboi Posted ID:.RaWcYKJnR

>> ทางเว็บไม่ยินดีต้อนรับ propaganda ของฝั่งรัสเซียทุกรูปแบบครับ

= ถ้าเป็น propagandaของฝั่งตรงข้ามรัสเซียยินดีต้อนรับ ? ดีเหมือนกันนะเปิดหน้ามาตรงๆแบบนี้ไม่ต้องเล่นบทอีแอบใส่หน้ากากพระเอกอยู่

73 Nameless Fanboi Posted ID:I624hfaMaa

>>72 อยากโทรลเรื้อนๆเอง โดนแค่นี้อย่ามางอแงน่า

74 Nameless Fanboi Posted ID:l6d2wWOUWJ

>>72 ไปเล่นเว็บอื่นนะไอ้หนู

75 Nameless Fanboi Posted ID:2xLcYljOwR

>>73 >>74 ทำตัวย้อนแย้งแล้วกล่าวหาว่าทรอล double standardสัด

76 Nameless Fanboi Posted ID:celnCqLhXy

>>75 ตัวเองเหี้ยก็ยอมรับว่าเหี้ยหน่อย อย่าเอาเรื่องอื่นมาอ้างกลบเกลื่อนความเหี้ยตัวเอง

77 Nameless Fanboi Posted ID:FouBVaTkxW

เห็นม๊อบชาวนาแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าลำบากขนาดนั้นทำไม ไม่เลิกไปเลยวะ เห็นประท้วงทุกรัฐบาล สักแต่ทำนาแบบเดิมๆ ไม่ปรับปรุงวิธีผลิตมาตั้งแต่รุ่นโคตรบรรพบุรุษ แล้ว พอ เป็นหนี้ แล้วก็ร้องมาให้รัฐยกหนี้ให้แบบหน้าด้านๆ โดยที่ก็ต้องเอาภาษีพวกมึงในนี้แหละ ไปโปะ เป็นภาคที่สร้างมูลค่า GDP ให้ประเทศน้อยกว่า งบประมาณที่ต้องเอาไปอุดหนุนอีกมั้ง

ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ ปล่อยให้คนที่เขาทำได้ทำไป กูไม่สนหรอก ว่าจะได้แดกข้าวจากที่ไหน ถ้าราคาถูกกว่า คุณภาพดีกว่า กูเอาอันนั้น จะเลิกปลูกแมร่งทั้งประเทศ แล้วนำเข้า 100 % กูก็ยินดี

เป็นอีก 1 อาชีพ ที่อภิสิทธ์ " คนจน " เยอะพอๆ กับ ขายของริมฟุตบาท

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

78 Nameless Fanboi Posted ID:QYXe91yzue

ถ้าลำบากขนาดนั้นทำไม ไม่เลิกไปเลยวะ นั่นดิชอบมาบอกประชาชนว่าลำบากแล้วทวงบุญคุณ ใช้เงินภาษีโคตรเปลือง ไปไหนก็ต้องปิดถนน ลำบากขนาดนั้นทำไมไม่เลิกๆไป 555

79 Nameless Fanboi Posted ID:FouBVaTkxW

มึงจะว่ายังไง กูก็อยากให้ ไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าสินค้าเกษตรเป็นหลัก สิงค์โปร์นำเข้า 90 % รวยจะตายห่่า

80 Nameless Fanboi Posted ID:oUQDru6QGv

คนพวกนี้ทำให้ไทยไม่มีคนไร้อาชีพนะ ประเด็นคืองานไม่พอสำหรับคนทุกคน คนไร้ความสามารถถึงถูกผลักไปเกษตรเพราะง่ายต่อการเริ่มต้น

81 Nameless Fanboi Posted ID:oUQDru6QGv

ราคาปุ๋ย ราคาเครื่องมือการเกษตร ราคายา แพงขึ้นชิบหาย แต่เสียงไม่ดังเท่าราคาน้ำมัน

82 Nameless Fanboi Posted ID:FouBVaTkxW

น้ำมันคนใช้ทั้งประเทศ

83 Nameless Fanboi Posted ID:oUQDru6QGv

ข้าวคนก็กินทั้งประเทศ ลองแพงขึ้นมาสิ ร้องแน่ๆ

84 Nameless Fanboi Posted ID:FouBVaTkxW

แพงก็นำเข้า ถูกกว่าอีก รัฐบาลควรจะ protect อุตสาหกรรมข้าวในไทยได้แล้ว ลดภาษีนำเข้าเหลือ 0 % ควรปล่อยให้ข้าวนอกมาตีตลาดให้มันตายๆห่า ให้หมด

กูก็บอกไปแล้ว ว่ากูไม่สนว่าชาวนา จะเป็นยังไง เพราะชาติหน้าก็มาปิดถนนร้องให้รัฐยกหนี้เรื่อยไป ถ้าได้แดกข้าวถูก ดีกว่า กูเอาอันนั้น

85 Nameless Fanboi Posted ID:FouBVaTkxW

สมมุติกูเป็นรัฐบาล กูจะเปลี่ยนให้ ประเทศนี้ พึ่งพาการนำเข้าอาหารอย่างน้อย 80 % ของการบริโภคทั้งหมด แรงงานก้ย้ายไปภาคอื่นให้หมด รับรองเป็นประเทศรายได้สูงภายใน 10 ปี

86 Nameless Fanboi Posted ID:oUQDru6QGv

แรงงานภาคไหน ยกตัวอย่างหน่อย

87 Nameless Fanboi Posted ID:ZyfeztGt1C

>>85 จะทำแบบนั้นต้องเพิ่มเขตอุสาหกรรม แล้วทำ infrastructure พวกถนนหนทาง และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ก่อนป่าวว่าจะโยกย้ายเขายังไง จะให้ตัดการช่วยเหลือไปเลยแต่ไม่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงก็จบที่ประท้วงเหมือนเดิม

88 Nameless Fanboi Posted ID:htZ.r2L+0c

เวเนฯ ตอนน้ำมันอู้ฟู่ ออกนโยบายชวนประชาชนเลิกทำเกษตร นำเข้าอย่างเดียวแถมอุดหนุนราคาให้ถูกอีก พอราคาน้ำมันร่วงก็อดอยากกันทั้งประเทศจ้า เพราะคนทำนาทำไร่ไม่เป็นกันแล้ว

89 Nameless Fanboi Posted ID:FouBVaTkxW

>>88 ไม่เกี่ยวกันกับไม่ทำเกษตร มันบริหารผิดพลาด จนค่าเงินพัง จน อาหารนำเข้าราคาแพง

90 Nameless Fanboi Posted ID:izYGcgsYFw

จริงๆต่อจากนี้ ทุกโพสต์ของผมน่าจะต้องใช้คำว่า Unpopular Opinion ไปตลอดเลยกระมัง เพราะมักจะเป็นคนที่ชอบคิดอะไรที่คนมักจะมองว่า “อะไรของมึง” อยู่เสมอ

ถ้าคนที่เห็นสไตล์ในการแสดงความเห็นของ สศจ.มาตลอด จะรู้ว่าแกเป็นคนที่ Take it seriously กับทุกประเด็นเท่ากันหมด เวลาที่มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นพอเห็นว่าเรื่องนี้คนกลับ Take Side แต่พอเห็นอีกเรื่องนึงที่มีลักษณะโดยภาพกว้างไม่ต่างกันคนกลับเงียบกริบ แกก็เลยออกอาการมากสักหน่อย

คือมันไม่ใช่ว่าแกติดอยู่ในโลกมาร์กซิสต์อะไรแบบนั้นหรอก คนที่วิจารณ์แกในมุมมองนี้ผมว่าเลอะเทอะไปมากๆ แกแค่อยากให้คนซีเรียสกับปัญหาอย่างเท่ากัน แสดงออกอย่างเท่ากัน ลองย้อนกลับไปดูตอนที่แกด่าทั้งเสื้อแดง เพื่อไทย อนาคตใหม่ ก้าวไกลในประเด็นต่างๆดู มันคือลักษณะตัวตนที่แกเป็นแบบนี้เลย

ตอนที่ได้ Sit in กับแก แกเคยบอกว่าที่ผมไม่ออกข้อสอบอัตนัย เพราะเคยออกครั้งนึงแล้วใช้เวลาตรวจนานมาก เพราะแกต้องตรวจตอนที่อารมณ์ปกติ แถมยังต้องเอาคำตอบของนักศึกษาแต่ละคนมาเทียบกันอีกทีหลังตรวจเสร็จ เพราะกลัวว่านักศึกษาจะได้คะแนนไม่ตรงตามที่ควรจะเป็น คือแกซีเรียสกับการใช้ “มาตรฐานเดียว” มากๆนั่นเอง และไม่แปลกที่แกดูไม่พอใจกับประเด็นยูเครน-รัสเซียในแง่มุมที่ทุกคนเห็นกัน

ทีนี้ สำหรับคนที่รู้สึกว่าเจียมเป็นเหี้ยไร ผมอยากพูดสั้นๆ 2 ประเด็น

(1) ผมอยากให้เรายอมรับในข้อเท็จจริงอย่างนึงก่อน ว่าเรานั้นแท้จริงแล้ว ไว้ใจประเทศตะวันตก หรือประเทศที่เป็นประชาธิปไตยมากกว่า เวลาที่กลุ่มประเทศที่ว่า แสดงออกอะไรสักอย่าง เพราะนั่นคือสิ่งที่เราๆท่านๆเป็นจริงๆ ผมก็ยอมรับว่าเป็น ผมไว้ใจประเทศพวกนี้มากกว่ากลุ่มประเทศที่เป็นเผด็จการ มันเลยทำให้กรณียูเครน - รัสเซีย เราเลยมีอารมณ์ร่วมกับมันมากกว่า

(2) การจะโต้แนวคิดเจียมได้ คือเราต้องยอมรับใน (1) ก่อน แล้วพอหลังจากนั้น บอกไปเลยครับ ว่าเรารู้สึกว่าอย่างน้อยประเทศตะวันตกก็ยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ได้ดีกว่า คนวิจารณ์รัฐบาลได้โดยที่ไม่โดนจับ สื่อกล้าพูดอย่างตรงไปตรงมาโดยที่ไม่โดนสั่งปิด คือการวิจารณ์ สศจ. โดยที่ยอมรับในความเป็นตัวของตัวเราเองนั้นมันสมศักดิ์ศรีที่สุดละครับ

สรุปสั้นๆ สำหรับคนขี้เกียจอ่าน : ประเด็นที่สมศักดิ์เรสขึ้นมา มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนอยู่ในนั้น ที่แกพูดไม่ได้ถูกหรือผิดเสียทีเดียว ผมไม่ได้จะพูดเอาหล่อว่าตัวเองเป็นกลาง แต่พูดและวิเคราะห์จากสิ่งที่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ

ปล. Facebook นี่แม่งเสี่ยมเก่งฉิบหาย พอรู้ว่า สศจ.กำลังโดนเพ่งเล็งแม่งแจ้งเตือนรัวๆเลยว่าแกไปเม้นท์ที่ไหนยังไงบ้าง

91 Nameless Fanboi Posted ID:mbLkvk1D2s

>>85 ถ้ามึงนำเข้าสินค้าเกษตรเป็นหลัก พวกเกษตรกร ชาวประมง ปศุสัตว์ รวมถึงแรงงานรับจ้างในวงจรทั้งไทยทั้งเทศก็ตกงานไม่มีจะแดก มึงจะทำไงกะคนพวกนี้ อย่างที่ >>87 มันว่า ถ้ามึงไม่มีมาตรการรองรับก็พัง ปล่อยไปภาคอุตสาหกรรมเยอะ ๆ แรงงานก็ล้น ไม่พ้นโดนกดค่าแรง หนัก ๆ เข้ามันจะพาพวกแรงงานส่วนนี้พังตามไปด้วย สัดส่วนพวกที่จะผันตัวเองไปก่ออาชญากรรมมีมากกว่าอดตายแน่ ๆ

92 Nameless Fanboi Posted ID:Sb9.UQJ0Iw

>>91 ประมง ปศุสัตว์ อาชีพมันยังอยู่ได้ มึงจะนำเข้าด้วยทำแมวอะไร พืชผักผลไม้ก็เหอะ เลือกเป็นตัวๆไปว่าอันไหนกำไรอันไหนขาดทุน มึงจะสุดโต่งขนาดว่าลบอาชีพผลิตของกินทุกอย่างออกจากประเทศเลยทำไมวะ
ภาคอุตสาหกรรมทุกวันนี้ใช้แรงงานต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ที่คนไทยไม่ค่อยยอมทำเพราะหยิ่งเลือกงานเงินน้อยฯลฯ (แล้วเสือกไปเลือกทำเกษตรที่ก่อหนี้แทนซะงั้น มึงนอนอยู่บ้านเฉยๆไปวันๆบวกลบแล้วยังเป็นหนี้น้อยกว่า จะทู่ซี้ทำทำไมวะ)
ถ้าชัดเจนกับนโยบายว่าเลิกอุ้ม คนก็มี 2 ทางเลือกคือนอนโง่ๆไปวันๆกับยอมเข้าภาคอุตสาหกรรม ผลก็คือแทนที่แรงงานต่างด้าว ต่างด้าวไม่มีงานทำก็กลับบ้านมันไป หักลบแล้วภาพรวม GDP จะดีขึ้นหน่อยนึงเมื่อเทียบกับปัจจุบันที่ทำเกษตรแล้วเป็นหนี้

93 Nameless Fanboi Posted ID:59JwlEZe/P

>>92 เพราะอย่างน้อยมันได้อยู่บ้านตัวเอง พวกแก่ๆ หรือพวกที่ต้องดูแลคนแก่ๆพวกนั้นทั้งนั้นที่ยังทำนา ทุกวันนี้คนหนุ่มสาวก็เข้ามาทำงานใน กทม ตะวันออก เกือบหมดแล้วดูจากตอนปีใหม่ สงกรานก็ได้ ภาคอีสานมันมีอะไรให้ทำที่ไหน

94 Nameless Fanboi Posted ID:FouBVaTkxW

ไม่เชิงว่าจะลบอาชีพทิ้งหรอก แต่ตัดความช่วยเหลือทุกอย่าง เลิกปกป้องอุตสาหกรรม ปล่อยสินค้าเกษตรนอกไหลเข้าได้เสรี อยูได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ล้มหายตายจากไป ปี 2022 แล้ว ไม่มีประเทศไหน คนอดตาย ไม่มีอะไรจะแดก เพราะไม่มีเกษตรกรหรอก งั้นการค้าระหว่างประเทศจะมีไว้ทำไม

95 Nameless Fanboi Posted ID:FouBVaTkxW

แต่กูก็แปลกใจอย่าง ว่า ที่มาประท้วงมีแต่ ชาวนาภาคกลาง ส่วนชาวนาอีสาน แมร่งไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องที่ดินสักเท่าไร่ พืชเศรษฐกิจก็หลากหลายกว่า เพราะส่วนมากเป็นเจ้าของที่ดินตกทอดจากจากรุ่นพ่อแม่เองเลย ผิดกับภาคกลางที่ส่วนใหญ่เช่าทำ

96 Nameless Fanboi Posted ID:D4kO1L4bXj

>>94 มันคงไม่ถึงกับอดตาย แต่กูว่าการที่ผลิตอาหารเองไม่ได้ต้องนำเข้ามันก็อันตรายอยู่นะ
ยิ่งตอนนี้สงครามยูเครนเพิ่งเกิด น่าจะเกิดวิกฤติเรื่องราคาอาหารที่ไม่รู้จะอยู่นานมั้ยตามมาอีก

97 Nameless Fanboi Posted ID:izYGcgsYFw

>>95 อีสานก็มีปัญหาเรื่องที่ดินเยอะ อย่างพรรคส้มก็หาเสียงเรื่องที่ดินในอีสาน ส่งทีมงานไปช่วยแก้

98 Nameless Fanboi Posted ID:CsY1v1XqRX

>>76 ดูกระจกเงาหน่อยก็ดีนะ อย่าดีแต่เห่าหอน เป็นคนก็หัดคิดเองมั่งไอ้ที่ต้องตามตูดกันเป็นฝูงๆมันหมานะ

99 Nameless Fanboi Posted ID:4izN..Fz1q

ผู้นำตัดสินใจทำอะไรในสงคราม ไม่ใช่ดูว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ แต่ต้องดูว่าในประเทศนั้นๆ มีระบบควบคุม-ตรวจสอบ-เอาผิดผู้นำมากน้อยแค่ไหน กรณีรัสเซียภายใต้ปูติน ไม่มีระบบตรวจสอบที่ว่านี้

กรณีรัฐบาลยูเครนกล่าวหาว่ารัสเซียทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลแม่และเด็กในยูเครน แต่รัสเซียปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง คุณพิภพ Pipob Udomittipong ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะโจมตี รพ. ด้วยการให้ดูพฤติกรรมที่ผ่านมาของรัสเซีย ที่เคยทำแบบเดียวกันในซีเรียมาแล้ว (ดูโพสต์ก่อนหน้านี้ที่ดิฉันแชร์มา) ซึ่งอันที่จริงการโจมตี รพ. ในยูเครนเป็นแค่ 1 ในการโจมตีพลเรือนของรัสเซียในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเท่านั้น

พูดอีกอย่างคือ ความโหดเหี้ยมของกองทัพรัสเซียที่กระทำกับพลเรือน ได้กลายเป็นแบบแผน (pattern) หรือ signature ของปูตินก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีกรณีสงครามต่อเชชเนีย (ฝ่ายแบ่งแยกดินแดนเชชเนียโหดเหี้ยมเช่นกัน) การลอบสังหาร-จับกุม-ทรมานนักเคลื่อนไหว-นักวิจารณ์-นักธุรกิจ-สื่อที่กล้าวิจารณ์ปูติน พูดง่ายๆ คือประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนของคนในประเทศและนอกประเทศยาวเหยียด แต่ปูตินไม่หวั่นไหว เขาเชื่อมั่นในความนิยมและอำนาจรวมศูนย์ของตนเอง สื่อในปัจจุบันเป็นแค่สุนัขเชื่องๆ ที่รายงานข่าวตามนโยบายของปูติน ไม่กล้าหืออือใดๆ

แน่นอนว่าไม่มีอะไรรับประกันว่าถ้าเคยทำ 1, 2, 3, 4 แล้วต้องทำ 5 ด้วย แต่ช่วยไม่ได้ถ้าพฤติกรรมที่ผ่านมาจะทำให้คนอยากเชื่อเช่นนั้น ณ วันนี้ความเชื่อนี้อาจผิดก็ได้ ซึ่งดิฉันเชื่อว่าจะมีการสืบสวนหาความจริงต่อไป

นอกจากพฤติกรรมที่ผ่านมาของปูตินแล้ว ประเด็นที่ดิฉันอยากชี้ในที่นี้คือ ผู้นำจะกล้าละเมิดกฎระเบียบระหว่างประเทศหรือไม่ เกี่ยวข้องกับความเป็นประชาธิปไตยในสังคมนั้นๆ ด้วย เกี่ยวข้องกับความสามารถในการตรวจสอบและเอาผิดผู้นำของสังคมนั้นด้วย ซึ่งรัสเซียไม่มีสิ่งนี้

แม้ว่า Edward Herman และ Noam Chomsky เคยวิจารณ์ว่าสื่ออเมริกันในช่วงสงครามเย็นว่าทำตัวเป็นกลไกสร้างฉันทามติสนับสนุนนโยบาย-อุดมการณ์ต่อต้านคอมมิวนิสต์ของรัฐบาลอเมริกัน (manufacturing consent), แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเชื่อประโยคที่ว่า “ความจริงตายก่อนทุกครั้งในสงคราม” (Truth is the first casualty of war.) แต่เป็นความโง่เขลาเกินไปที่จะมองว่า ไม่มีความจริงใดๆ หลุดรอดออกมาได้เลย เป็นความโง่เขลาเกินไปที่จะบอกว่าทุกอย่างที่สื่อตะวันตกรายงานไม่มีความจริงเลย ทุกอย่างเป็นโฆษณาชวนเชื่อของตะวันตก

เพราะประวัติศาสตร์บอกเราว่าสื่ออเมริกันนี่แหละที่เป็นผู้เปิดโปงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลอเมริกัน ต่อประชาชนของประเทศอื่น ครั้งแล้วครั้งเล่า บางกรณีนำไปสู่การพยายามถอดถอนประธานาธิบดี หลายกรณีนำไปสู่การลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ดิฉันจะขอยกตัวอย่างเพื่อชี้ให้เห็นว่าอย่างน้อยในสังคมประชาธิปไตย สื่ออิสระเป็นกลไกควบคุม-ตรวจสอบรัฐบาลได้ไม่น้อยเลย

1. กรณีการซ้อมทรมานในคุกลับที่อ่าวกวนตานาโมโดยสหรัฐฯ – นักโทษทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและกลุ่มอัลกออิดะฮ์ – การเปิดโปงนี้เริ่มจากเจ้าหน้าที่ FBI และฝ่ายกฎหมายที่แอบบอกกับสื่อมวลชนว่า มีการซ้อมทรมานในคุกลับแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายของสหรัฐฯ และกฎเจนีวา กรณีนี้ก่อให้เกิดการถกเถียงเรื่องกฎหมายในวงวิชาการอเมริกันอย่างดุเดือด ที่น่าสนใจคือ ฝ่ายกฎหมายของกองทัพอเมริกันชี้ว่าการทรมานในคุกลับเป็นสิ่งผิด และชี้ว่าการทำแบบนี้กำลังก่ออันตรายให้กับทหารอเมริกันในอนาคต เพราะอาจเจอแบบเดียวกันหากถูกฝ่ายตรงข้ามจับได้ (ดิฉันเคยเขียนบทความเรื่องนี้ไว้ จะแปะบทความไว้ในคอมเมนท์ด้านล่าง)

กรณีนี้ทำให้สภาคองเกรสตัองตั้งคณะทำงานพิเศษขึ้นมาตรวจสอบหาความจริง ซึ่ง
รายงาน The Senate Report สรุปว่ามีการซ้อมทรมานและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศจริงๆ สื่อมวลชนหลายสำนักพยายามโยงไปถึงโรนัล รัมเฟล รมต.กลาโหม แต่เอาผิดได้เพียงเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการเท่านั้น

แน่นอนว่านักโทษในคุกแห่งนี้แทบไม่ได้รับความยุติธรรมใดๆ รัฐบาลของประเทศที่พวกเขาสังกัดก็ไม่สนใจสิทธิของพวกเขา แต่สิ่งที่อยากชี้ให้เห็นคือ ในสังคมประชาธิปไตย การเปิดโปง-ตรวจสอบ-ควบคุมการใช้อำนาจรัฐที่เกินเลย ย่อมเกิดขึ้นได้

100 Nameless Fanboi Posted ID:9oSB2zyfGG

อยากได้อาหารถูกแต่ก็อยากได้ค่าแรงเพิ่มด้วย ทางออกเดียวคือนำเข้าจากแหล่งที่ถูกกว่าอ่ะ

พวกที่เอาราคาอาหารประเทศแถบนอร์ดิกมาโชว์เทียบกับค่าแรง ไม่รู้ว่าเคยพลิกดูข้างล่างไหมว่ามาจากไหนมันถึงถูก อ่อ มาจากตุรกี มาจากโปแลนด์ มาจากสเปน

ไทยจะทำบ้าง ก็คงต้องนำเข้าจากจีนน่ะแหละ แต่คนไทยก็ไม่อยากกินของจีนอีก จะให้ทำไง เสกให้ผักงอกเองเหรอ

101 Nameless Fanboi Posted ID:UH0FS8RW7I

>>66 นึกถึงกองพลลุฟวาฟฟ์ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองเลย แม่งรบเหมือนทหารบกเปียบ เกอริงอยากได้หน่วยที่เทียบเท่าเอสเอส แต่มันก็ทำให้สายบัญชาการมั่วไปหมด

102 Nameless Fanboi Posted ID:PchgbaHpPp

>>98 ก็เว็บของเขา ไม่พอใจก็ไปเห่าในกลุ่มเบียวทหาน เม็ดแตดของมึงนู่น

103 Nameless Fanboi Posted ID:GvJotAxIMX

>>102 บ่นตรงนี้แล้วมึงจะทำไมหรา มึงทนอ่านไม่ได้ก็ข้ามไปไอ้นักเลียกะโปกเอ้ย

104 Nameless Fanboi Posted ID:PbGaSnzi.8

>>92 กูก็ยกที่>>85 มันบอกว่าจะนำเข้าอาหาร 80% มาถกต่อไง หรือจะบอกว่ามันเจาะจงเฉพาะข้าวไม่ได้หมายรวมถึงอาหารอย่างอื่น?

105 Nameless Fanboi Posted ID:CI+ABt5DWv

>>103 ก็ที่นี่ปกครองด้วยระบบ sirnธิปไตย ไม่รัก sirn ก็ออกไป

106 Nameless Fanboi Posted ID:TGP/A.pDNG

>>105 บ่นควยอะไรกัน กฎบอร์ดตั้งไว้ทนโท่ยังจะแถ เลียไข่กันเองเพลินไปหรือไง
>>ผู้ใช้ต้องไม่โพสข้อความที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการเมือง
>>ความชอบเป็นเรื่องส่วนบุคคล
ถ้าแค่กฎที่ตั้งเองยังรักษาไม่ได้ก็ไม่ต้องอ้างอธิปตงไตยเหี้ยไรหรอก

107 Nameless Fanboi Posted ID:OFbIQ4Y+J0

>>106 หวังว่าคอมเมนต์ด่าเจ้าในกระทู้การเมืองจะถูกลบในเร็ววัน

108 Nameless Fanboi Posted ID:CI+ABt5DWv

>>106 กูแค่เล่นมุก มึงก็จริงจังไปได้

109 Nameless Fanboi Posted ID:tb2luQFnZb

>>106 โม่งใหม่สินะ ในห้องเมต้าบอกเองว่าปล่อยให้คุยเรื่องการเมืองได้ แต่หน้ากฏไม่ได้อัพเดตตามแค่นั้น
โทรลแล้วโดนแค่นี้ยังกลับมางอแงได้เค้าก็ปราณีมึงมากแล้ว ถ้าอยากกอ้างกฏมากก็ย้อนไปอ่านประโยคแรกที่ว่า "การใช้งานเว็บไซต์ Fanboi Channel ถือเป็นเอกสิทธิ์ (Privilege) ที่ทางเว็บมอบให้แก่ผู้ใช้ มิใช่สิทธิ์อันที่ผู้ใช้พึงมี (Right)" นะ

110 Nameless Fanboi Posted ID:FuIMxtHnxr

Gonzalo Lira คนนี้เป็นยูทูปเป้อร์ที่สุดยอดมาก เขาเป็นชาวชิลี อยู่ยูเครนกับครอบครัว ตามยูทูปของเขาจะได้เข้าใจเรื่องราวทางเศรษฐกิจและการเงิน โดยเฉพาะเรื่องอเมริกา
ในคลิปล่าสุด "อเมริกา คุณกำลังจะยากจน เพราะฉะนั้นกรุณาอย่าโทษคนอื่น " เขาบอกว่าอเมริกากำลังล่มสลาย คนอเมริกันจะยากจนมากขึ้นๆเงินเฟ้อ น้ำมันแพง และเศรษฐกิจที่ตกต่ำ จาก
1. นโยบายที่ผิดพลาดของคลินตันที่ย้ายฐานผลิตอุตสาหกรรมของสหรัฐออกนอกประเทศ
2.นโยบาย911ของบุชที่ก่อสงครามโดยรูดบัตรเครดิตแบบไม่อั้น และ
3. นโยบายการพิมพ์เงินที่ไม่มีเพดานของธนาคารกลางสหรัฐ (อันนี้ เขาคงจะลืมพูด)เพื่ออุ้มแบงค์วอลล์สตรีท การใช้จ่ายที่เกินตัวของวอชิงตัน และสร้างฟองสบู่การเงินเพื่อเอาใจผู้ถือหุ้นและนักลงทุน
ผลก็คือสหรัฐมีหนี้มากจนมิอาจชำระหนี้ได้ ความมั่นใจในดอลล่าร์กำลังเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว อำนาจซื้อของดอลล่าร์ลดลง เห็นได้ชัดจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีราคาพุ่งเมื่อเทียบดอลล่าร์
คนอเมริกันจะไม่มีเงินเติมน้ำมัน และซื้ออาหารที่แพงขึ้นจากเงินเฟ้อ และนโยบายทางเศรษฐกิจและการเงินที่ผิดพลาด ยิ่งแซงชั่นรัสเซีย ยิ่งเจอบูมเมอแรงย้อนกลับ เพราะรัสเซียเป็นผู้ซับไพลสินค้าโภคภัณฑ์อันดับหนึ่งของโลก
แต่แทนที่จะโทษผู้นำอเมริกันที่ได้พาประเทศสู่ความวิบัติจากนโยบายที่ผิดพลาดต่อเนื่องมาเป็นเวลา20ปี จะหันมาโทษปูติน หรือโทษจีน
อีก6เดือนถึง12เดือน สถานการณ์สำหรับคนอเมริกัน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยจะมีความยากจนยิ่งขึ้น โดยต้องเลือกเติมน้ำมัน หรือซื้ออาหาร คนจนอดมริกันจะมีจำนวนเพิ่ม
คนอเมริกันต้องขับรถไปห้างซุปเปอร์ด้วยระยะทางไกลเพื่อซื้ออาหาร แต่ราคาน้ำมัรแพง ทำให้ขัดสน รถบรรทุกส่งของจะเจอค่าน้ำมันที่สูงขึ้น จนแบกภาระไม่ไหว ธุรกิจจะแบกต้นทุนของเงินเฟ้อไม่ไหวเหมือนกัน ทำให้ต้องลอยแพเลิกจ้างพนักงาน
อเมริกากำลังเข้าสู่วงจรขาลงที่อันตราย ประเทศต่างๆก็เลิกกลัวสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซาอุดิ และอินเดียที่กำลังหันหลังให้สหรัฐ อิ ห ร่ า น เริ่มแข็งกร้าวขึ้น เพราะเห็นว่าแสนยานุภาพของสหรัฐสู้รัสเซียจีนไม่ได้ ท้ายที่สุดสหรัฐจะถูกลอยแพจากคนทั้งโลก
14/3/2022

https://www.youtube.com/watch?v=AOuuppWA5II&ab_channel=GonzaloLira

111 Nameless Fanboi Posted ID:PchgbaHpPp

>>109 จริง ๆ มันคือคุยได้แต่ถ้าเมิงโดนหมายศาลกูไม่ช่วยนะ อะไรประมาณนั้น

112 Nameless Fanboi Posted ID:4mU4U+H6+x

>>110 เรื่องย้ายฐานการผลิตมีนเป็นวงจรที่เลี้ยงไม่ได้วะ ไม่ใช่ความผิดใครโดยตรงหรอก

113 Nameless Fanboi Posted ID:XyUIgtL9L2

>>111 ของเรามันไม่เสรีแบบเมกาว่ะ เมกามันมี ม.230 ของ กม.ความเหมาะสมในการสื่อสาร (กูจำภาษา Eng ไม่ได้ ประมาณนี้แหละ) เขียนไว้ตั้งแต่ยุคอินเตอร์เน็ตเพิ่งเริ่มให้บรีการคนทั่วไป ว่าเจ้าของแพลตฟอร์มไม่ต้องรับผิดชอบเนื้อหาที่ผิดกฎหมายหากไม่ได้โพสต์เอง (คือใครโพสต์ก็ไปเอาผิดแค่คนนั้น) ส่วนบ้านเรา พรบ.คอม แม่งกำหนดให้เจ้าของแพลตฟอร์มต้องคอยสอดส่องด้วย (น่าจะเป็น ม.15 มั้ง) บอกถ้าปล่อยปละละเลยอาจมีโทษ พันทิปมันถึงคอยไล่ลบกระทู้หรือ คห. ที่เห็นว่าหมิ่นเหม่ไง ยิ่งยุค ตสช. มานี้ยิ่งลบหนักจนแทบไม่เหลือใครที่ตั้งคำถามกับตู่และองคาพนพเลย แต่ก็นั่นละ เฟซ ทวิต มันอยู่นอกไทย ถ้าต้นทางไม่ลบ (เพราะเขาเห็นว่ามันเป็นเสรีภาพ แม้บ้านเราจะเห็นว่าละเมิด เช่น พิซซ่า) เราก็ทำอะไรไม่ได้ เว้นแต่จะกล้าพอที่จะบล็อก แต่ก็ไม่กล้าอีกเพราะทำแล้วสะเทือน ศก. มหาศาลแน่ๆ แถมเราไม่มีเทคฯ แข็งพอแบบจีนที่จะทำ single gateway และ IT ecosystem ของตัวเองได้น่ะ (คือพวกตู่และองคาพยพ ลึกๆ คงอยากทำแหละ แต่ศักยภาพไม่ถึง)

>>112 ใช่! มันคือคำสาปของทุนนิยม พอประเทศเจริญขึ้น คนรู้สิทธิมากขึ้น เรียกร้องค่าแรงและสวัสดิการมากขึ้น ก็ต้องไปลงทุนใน ปท. โลกที่ 3 ที่ต้นทุนตรงนี้ถูกกว่าเป็นธรรมดา

114 Nameless Fanboi Posted ID:+8AA6WzNNc

ไม่สบายใจเลยเวลาเรียกคนเลี้ยงแมวว่าเป็นทาส เราจะลดทอนความจริงจังของประวัติศาสตร์บาดแผลของการค้ามนุษย์ที่มีมานานกว่าสามพันกว่าปีจริงๆ เหรอคะ มีคนกี่คนต้องถูกทรมาณ ข่มขืน ใช้แรงงานจนตาย คนพวกนี้ต่างหากค่ะที่เป็นทาสจริงๆ

หยุดลดทอน seriousness นะคะ
เลิกเรียกตัวเองว่าทาสแมวเถอะค่ะ 😔

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

115 Nameless Fanboi Posted ID:U7XPf.xTxX

>>103 >>105 >>109 เอกสิทธิ์บ้านพ่องอยู่เหนือกฎหมาย เก่งแต่ในกะลาแต่แต่โดนหมายเรียกออกมาร้องยังกะหมาโดนน้ำร้อน

116 Nameless Fanboi Posted ID:gsdKTlKVKz

บทวิเคราะห์ความขำ "คลิปหมอสุนิลฟันมีด ตลกวินาทีไหน?" พร้อมมาร์คจุดขำให้เข้าใจ ตลกยังไง?
(คลิปในคอมเมนต์)
คลิปนี้ต้องการจะเล่นมุก "กินเสร็จไม่มีตังค์จ่าย" กับต้องการจะสื่อถึงความมองโลกในแง่บวก สามารถนำร้านอาหารธรรมดาให้ "มีความตื่นเต้นได้"
จุดประสงค์หลักคือเพื่อขับภาพลักษณ์หมอสุนิล คนที่ใช้ชีวิตได้สุดเหวี่ยง ที่ขนาดแค่เข้าร้านอาหารญี่ปุ่น ยังสามารถหาแง่มุมที่ตื่นเต้นนำมาเสนอให้กับผู้ชมได้
จุดขำ *** (มาร์คจุดให้)
1. นาทีที่ 0.11 : คุณหมอสุนิลเล่นมุก เป็น "เจ้าพ่อ เป็นมาเฟีย เป็นยากูซ่ง ยากูซ่า ยามาซากี ฮามาซากี โออิชิ" ก่อนจะตบท้าย "ผมไม่รู้มันเป็นเหี้ยอะไร" คือเจตนาต้องการจะเล่นมุกเล่นคำ
โดยร่ายคำคล้องจองกับคำว่า "ยากูซ่า" แล้วตบด้วยคำหยาบ พร้อมกับคาแรคเตอร์ประจำตัวที่ประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างการพูดแบบรัวๆ ล้นๆ ทำให้ผลที่ออกมามันคือว้าวมากๆ
โดยมุกนี้ถูกจัดให้อยู่ในประเภทมุกคลาสสิค ประเภทเดียวกับ ไวพจน์เพ็ดตะพึด เฮ้ย!
ซึ่งนานแล้วที่เราไม่ได้เห็นมุกนี้ การที่ได้มาเห็นอีกครั้งถือว่ากระตุ้นเตือนความขำตอนสมัยวัยรุ่นออกมาได้เป็นอย่างดี เหมือนเราเอาบ้านผีปอบภาค 2 กลับมาดูอีกรอบ
คะแนนความตลกของมุกนี้ : 8/10
2. นาทีที่ 0.24 : หลังจากสับมีดลงบนเขียน เพื่อสื่อว่า หากไม่มีตังค์จ่ายก็จะต้องเสียนิ้ว หมอนำมือขึ้นมาโดยกดนิ้วโป้งลงไปให้ดูเหมือนว่า "นิ้วกุดเพราะโดนตัดไปแล้ว" โดยหวังให้เป็น "ตลกท่าทาง" แบบเดียวกับจิม แครีย์ ที่แบบ เอ้ย นิ้วกุดแล้วนะ ฮว๊ากกก นิ้วกุดแล้ว
เด็กอายุขวบกว่าๆ ที่บ้านเห็น ขำจนขี้แตกเละแพมเพิสจนต้องเปลี่ยนใหม่ มันก็ทำให้ผมได้ฉุกคิดจริงๆ เลยว่า มุกของคุณหมอมันเป็นการขำที่บริสุทธิ์ พวกใจหยาบอาจจะเข้าไม่ถึง
มันจะคล้ายๆ การเอามือปิดหน้าแล้วเปิดฝ่ามือมือพร้อมกับตะโกนว่า "ต๊ะเอ๋" แล้วเด็กก็จะหัวเราะเอิ้กๆ อาห์ ความตลกที่บริสุทธิ์
คะแนนความตลกของมุกนี้ : 10/10
แต่จุดพีคและประเด็นของคลิปนี้อยู่ที่นาที่ที่ 0.26
โดยหมอสุนิลพูดว่า "นี่คือความสนุก ตื่นเต้นในร้านอาหารญี่ปุ่นคร๊าบบบ"
มันสร้างอะไรที่เป็นมากกว่าการตลก มันทำให้มีคำถามขึ้นมาว่า ชีวิตคนเราทุกวันนี้ เครียดกันไปรึป่าว เราหาความสนุก ความตื่นเต้นด้วยการทำอะไรที่เปลืองแรง ไม่ว่าจะเป็นการไปดูหนัง การไปโดดบันจี้จัมป์ ทำโน่นทำนี่เสี่ยงตาย
แต่กลับกันคุณหมอสุนิลกลับค้นพบความสนุกและความตื่นเต้นในร้านอาหารญี่ปุ่นได้ กับแค่การนำมีดมาแล้วก็ทำท่าสับใส่นิ้วแต่ไม่โดน มันอาจจะเป็นการสื่อปรัชญาว่าความสุขมันอยู่รอบตัวเรา เพียงแค่เรารู้จักพลิกหามัน
เข้ นี่มันแนวคิดเด็กแนวยุค 2000 ที่อ่านหนังสือ aday กับคู่มือเด็กดื้อ ของคุณวงศ์ทนงชัดๆ คือกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่มันไม่มีอะไรเลย แต่ถ้าหากเรามีกล้องและเราอยากจะทำอะไรสักอย่างให้คนเห็นว่า เรามีความสนุก เรามีความตื่นเค้น เราก็สามารถทำได้
แม้ว่าสุดท้ายแล้วคนอื่นจะมองว่ามันฝืน มันขำแบบขำในความพยายามทำให้มันขำ ขำแบบวัลลาบี ขำแบบขำในความปลอมสัสๆ แต่ยังมีความพยายามในการทำออกมา ขำในความที่มันดูสะเหล่อแล้วทำให้คิดว่าคนประเภทไหนมันดูแล้วขำกันวะ ขำในความที่ไม่มีใครบอกเลยเหรอวะว่าถ้าไม่ตลกก็ไม่ต้องพยายามมันดูฝืน
ก็ไม่ต้องสนใจ เพราะสุดท้ายแล้ว ทาร์เก็ตของคุณหมอ กลุ่มวัยรุ้นภูธร แว้น กระบะซิ้ง ซงซ้อ แบบเดียวกับที่เสพคอนเทนต์ เก่งลายพราง แจ็คแป๊บโฮ เค้าไม่สนใจอะไรลึกซึ้ง เค้าชอบคอนเทนต์คุณหมอกันจะตาย
เป็นกำลังใจให้หมอสุนิลครับผม

117 Nameless Fanboi Posted ID:PchgbaHpPp

>>115 เกี่ยวเห้ไรกฏหมาย ไม่พอใจมึงก็ไปฟ้องนะว่ากระทู้โดนล็อค

118 Nameless Fanboi Posted ID:GvJotAxIMX

>>117 เขาก็เขียนอยู่ชัดนะ มึงน่ะอ่านไทยไม่ออก

119 Nameless Fanboi Posted ID:Ug7Gq8gcxD

จุดยืนของสมศักดิ์ต่อกรณียูเครน : คิดตื้นแบบสลิ่ ม หรือคิดล้ำเกินไป

ตอนแรกก็ไม่ได้กะจะเขียนเรื่องนี้ แต่เห็นหลายคนด่าสศจ.ในทำนองว่าโง่หรือไม่มีความรู้เรื่องนี้มากพอ บางคนมองว่าสมศักดิ์เลอะเลือน หรือมีตรรกะที่เชียร์เผด็จการรัสเซียแบบสลิ่ ม หรือเป็นพวกเหลาะแหละไม่มีจุดยืน แต่อย่างไรก็ดีถ้าเราติดตามสศจ.อย่างใกล้ชิด เราจะเห็นถึงจุดยืนทางความคิดของสศจ.บางอย่างที่คนในสังคมส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ

สศจ.เป็นคอมมิวนิสต์หรือไม่? ในโพสต์เรื่อง "ขบวนนักศึกษา 6 ตุลา กับ ประชาธิปไตย: ปัญหาการจัดงานรำลึกอดีตจากจุดยืนปัจจุบัน" (https://www.facebook.com/somsakjeam/posts/1103507133035898) [สศจ.ได้ยืนยันว่าขบวนการนักศึกษายุค 6 ตุลา เป็นคอมมิวนิสต์จริง สศจ.บอกว่าปัจจุบันไม่เห็นด้วยกับแนวทางการเคลื่อนไหวยุคนั้นแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกอินกับมันอยู่] ในส่วนนี้คิดว่าหลังจากเหตุการณ์ 6 ตุลา สศจ.ได้กลับมาทบทวนเรื่องคอมมิวนิสต์อีกหลายครั้ง(เห็นได้จากงานเสวนาเรื่องทรอตสกี้ปี 2527 และวิทยานิพนธ์ปี 2535) จุดยืนของสศจ.ในช่วงหลังมีความชัดเจนว่าปฏิเสธพคท.และคล้อยตามระบบประชาธิปไตยแบบปัจจุบัน เห็นได้จากสศจ.โจมตีนักวิชาการบางส่วนที่มีจุดยืนทั้งล้มรัฐบาลทักษิณและไม่เอารัฐประหาร

จึงอาจสรุปได้ว่าสศจ.น่าจะมีแนวคิดแบบมาร์กซิสต์ที่ปฏิเสธขบวนการเคลื่อนไหวแบบเก่าของพคท. แต่ยังคงมีแนวคิดต่อต้านจักรวรรดินิยมตะวันตกอยู่ สศจ.ค่อนข้างมีแนวคิดออกไปทางมาร์กซิสต์รุ่นหลังๆ ที่ไม่ได้เน้นการมองเรื่องทุนเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่ไปมองโครงสร้างวัฒนธรรมชนชั้นในสังคม จุดยืนของสศจ.ในเรื่องนี้คล้ายกับมาร์กซิสต์บางคน เช่น เดวิด ฮาร์วีย์ (ตามที่อ.ปิ่นแก้วโพสต์ไว้เมื่อวันก่อน) จุดยืนและแนวคิดของสศจ.จึงไม่ได้มาจากความขลาดเขลา โชว์โง่ แต่จริงๆเป็นสิ่งที่เติบโตฝังแน่นในความคิดซึ่งสศจ.ต้องการสื่อสารเรื่องนี้มาโดยตลอด

ปล. วันก่อนเห็นสศจ.ออกมาบ่นพวกนิยมตรอตสกี้(เข้าใจว่าหมายรวมถึงปิยบุตร) ทำให้ตั้งข้อสังเกตว่าสศจ.น่าจะต้องการเบลมพวกมาร์กซิสต์ฝั่งที่ไม่เอารัสเซียว่าการด่ารัสเซียไม่มีประโยชน์อะไร จุดยืนของสศจ.ตรงนี้จึงค่อนข้างชัดเจนว่า สศจ.ยังคงยึดติดกับภาพจำว่ารัสเซียเท่ากับคอมมิวนิสต์โซเวียตอยู่มาก

120 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>118 บ่นควายไรของมึง ไม่พอใจก็เอาหมายศาลไปให้ Sirn ดูให้จบ ๆ

121 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>120 มึงอ่านไม่รู้เรื่องก็ไม่แปลก หมามันจะอ่านตัวหนังสือของคนได้ไง

122 Nameless Fanboi Posted ID:3+iJR174A9

ในความคิดของกูนะ อฟช จะมาแถลงพร้อมไข่ต้ม และ ชมรมผู้ประกอบการค้าไอดอลหญิง
สั่งให้ปิดห้องGGทิ้งซ่ะ ถ้าsirnไม่ทำตาม ก็จะแจ้งข้อหาแก่sirnแทน เพราะข้อมูลการล่วงละเมิดทางไซเบอร์อยู่ในนี้หมด
หลายครั้งแล้วที่อฟช ยิงddos ให้เว็บล่ม แต่sirnมันฉลาดกว่าที่คิดแก้กลับมาได้ตลอด
สรุป อฟช เมมไอดอลทุกคน มองเราเป็นเดรัจฉาน ขยะสัตว์นรก ที่ต้องโดนกำจัดทิ้ง
นี่แหละความจริง

123 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>121 ไม่พอใจก็ไปขอหมายศาล เว็บนี้ sirn เป็นใหญ่ คนที่เป็นหมาก็มีแค่มึงที่เห่าไปวันไ

124 Nameless Fanboi Posted ID:l7OwxcIpnW

>>119 มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้นะ แกโตมาและใช้ชีวิตผ่านจุดเปลี่ยนสำคัญเกี่ยวข้องกับคอมมี่+เมกามาอย่างแยกไม่ออก และแกเป็นพวกทิ้งอดีตไม่ได้ ถึงจุดยืนแกจะไม่ได้ไรเหตุผลไปเสียทีเดียว แต่ก็เอียงมากจนเห็นได้ชัดเลย

125 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

ทำเป็นพูดเก่งว่าคนอื่นเขาเก่งแต่ในกะลา แต่ตัวเองก็ทำเป็นแค่ขู่ กฏเว็บเขา เขาจะ enforce ยังไงก็เรื่องของเขา เห็นข้อความไหนผิดกฏหมายมึงไม่พอใจก็ไปแจ้งความเอานะ อย่าทำเป็นแต่เห่า หรือมี fetish อยากเลียหน้าไอ้ตู่ถึงชอบทำตัวเป็นหมา

126 Nameless Fanboi Posted ID:9eKhy9asNI

>>119 ฝั่งยูเครน/ตะวันตก ใช้การเสนอข่่วโปรปากานด้าเหมือนที่ไทยใช้
เจียมมันเลยรับไม่ได้ไง ยิ่งใครไปเห็นด้วยกับฝรั่งแบบนั้นยิ่งไม่ต่างอะไรกับไทยตอนโปรปาฯ

127 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>123 หมายศาลบ้าไรขยะคุ โง่เปล่าแค่เรื่องหมายยังไม่รู้ว่ามีเกณฑ์ยังไง
>>125 ขึ้นต้นบอกกฎเวปลงท้ายบอกกฎหมาย อย่าเมาและอย่าเพ้อเจ้อ

128 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>127 มึงก็ไปถามไอ้โง่ตัวนี้สิ >>115 ว่าเอกสิทธิ์หรือกฏเว็บเกี่ยวเหี้ยไรกับกฏหมาย กูอ่านภาษาหมาไม่รู้เรื่อง หรือมึงเองวะ เอาหมายศาลมาขู่ควยไรปัญญาอ่อน

129 Nameless Fanboi Posted ID:EHtZ9tHjsU

>>119 >>124 >>126 บาโฟแกต้องการให้มีมาตรฐานเดียวในทุกเรื่อง ขนาดเรื่องใน ปท. แกจะวิจารณ์เจ้า กองทัพและองคาพยพอนุรักษ์นิยมเก่ายังไง เวลามีพวกแดง-ส้ม โพสต์อะไรที่เป็น Fake News แม้จะเป็นการอวยฝ่ายตัวเอง- โจมตีฝ่ายตรงข้าม แกก็ไปแย้งตลอดนะ เหมือนแกเคยตอบที่ไหนสักแห่งแหละว่าแกไม่ชอบวิธีแบบนี้ มันเป็นชัยชนะที่ไม่ยั่งยืน ก็ไม่แปลกหรอกที่แกจะหงุดหงิดเรื่องตะวันตกแบนการรับรู้ของชาวโลกจากมุมของสื่อรัสเซีย รวมถึงมองว่าถ้ารัสเซียถูกคว่ำบาตรได้เพราะไปรุกรานประเทศอื่น ตะวันตกที่ทำแบบเดียวกันก็ต้องโดนเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ วิธีคิดแบบบาโฟมันไม่สอดคล้องกับจริตคนส่วนใหญ่ของโลกนี้ เพราะการเลือกข้างแบ่งพวก มันเป็น Mindset ที่ง่ายกว่าน่ะ

130 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

เอากฏเว็บมารวมกฏหมายแล้วเสือกงงเอง ยกหมายศาลขึ้นมาเอง แล้วเสือกเอ๋อเองเป็นเหี้ยไรของมึง

131 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

กฏเว็บบอกห้ามพูดเรื่องการเมือง แต่มันเป็นเว็บของเขาจะ enforce ยังไงก็เรื่องของเขา แต่ก่อนก็ห้ามคุยจริงแต่มีไอ้โม่งหริ่่มตัวนึงสแปมในห้อง lounge ทุกวันจนเขาเปิดเป็นศูนย์กักกันให้

แต่ถ้ามึงหมายถึงเรื่อง monarchy แค่พูดถึงไม่ผิดกฏหมายถ้าไม่หมิ่นพระบรมฯ ถ้ามึงจะบอกว่าเห็นคนหมิ่นทำไม Sirn ไม่มาลบ ก็มึงไม่ไปแจ้งเขาเอง แต่ก่อนถ้าไปแจ้งใน meta เขาก็ลบให้นะ แต่ไอ้หริ่มตัวเดิมไปป่วนจนเขาต้องล็อคห้อง ถ้าอยากดำเนินคดี ก็ไปเอาหมายศาลไปชูให้ Sirn ดู

ไม่มีใครบอกว่า privilege อยู่เหนือกฏหมาย มึงแค่โง่เอง ถ้าพิมภาษาคนให้ขนาดนี้ยังไม่เข้าใจกูก็ไม่รู้ทำไงละบาย

132 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

อ้าว คุโกรธนายถูกหยาม คุเอ้ยเย็นๆ
>>130 มึงพ่นฆวยอะไร เขาพูดกันเรื่องกฎที่ไม่เป็นกฎ กฎเว็บบอร์ดยังไม่รักษาแล้วมึงไปโยงกม.ทำไม มั่วสัด
>>131 ทำเป็นไทยคำอังกฤษคำอีกนึกว่าเท่ บอกเลยที่พ่นๆน้ำลายแตกกุไม่เกี่ยวและไม่สนด้วย มึงน่ะเป็นโรคหวาดระแวงสัดๆ อย่าถือมีดนะเดี๋ยวจะเป็นข่าวแบบแขกปล่อยงูกลางถนน

133 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>132 ก็ >>115 มันโยงกฏหมายเอง มึงอ่านไทยไม่ออกใช่มั้ย ?

กฏไม่เป็นกฏห่าไร แต่ก่อนสริ่่มมันสแปมในมู้ข่าวจนเขาตั้งมู้การเมืองเป็นศูนย์กักกันแล้วให้ไปแจ้งถ้ามีคนคุยการเมืองที่อื่น แม่งก็ไม่เลิกไปถล่มเมต้าต่อจนเขาต้องปิดห้อง บอร์ดนี้ไม่เคยสนับสนุนให้คุยการเมือง แต่สริ่่มมันมาป่วนจนต้องยอม ไม่เชื่อมึงไปคุ้ยมู้การเมืองมู้แรกดูเอง

134 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

อยู่เฉย ๆ โดนหมากัดเฉยเลยว่ะ ตอนเขาล็อคมู้การเมืองก็สแปมจนเขาต้องเปิด ตอนนี้มาขอให้เขาล็อคเหมือนเดิม เอาใจยากจังวะ

135 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>133 กูเห็นแค่มึงคนเดียวที่ตอนนี้ฟลัดกระทู้นี้ยาวๆแถมปั้มอีกแล้วพ่นห่าไรไม่ทราบอยู่คนเดียว
>>134 แบบนี้ พูด1ไปออก2ได้ไงวะ ใครขอให้ล็อก เพ้อเจ้อเพี้ยนชิบหาย ไปหาหมอมั้ย

136 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>135 มึงอ่านไม่รู้เรื่องก็ไม่แปลก หมามันจะอ่านตัวหนังสือของคนได้ไง

137 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>136 หาหมอซะนะ คุเอ๊ย

138 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>136 หาหมอซะนะ คุเอ๊ย

139 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

โกรธจนถึงกับต้องส่งเบิ้ล โอ๋เอ๋นะเตงเขาหยอกเล่น

140 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>139 บ่นไรควายชาบูเพี้ยน เลียพอเหมาะนะมากไปอาจต้องหาหมอ

141 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

จะว่าไปนี่มันมู้โคว้ตมาเถียงไรในนี้ว่ะ ไอ้ตัวต้นเรืองก็ไม่ได้ยก quote ไรมาด้วย ส่วนมึงเป็นบ้าแล้วรึ >>140 กินยาบ้างเดี๋ยวน้ำลายฟูมปาก

142 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>141 รำคาญพวกเลียแบบมึงเหมือนนักรบองค์ดำและเห็นมึงปั้มกระทู้ไม่หยุดมาสองสามกระทู้สลับไปมาละ ฟลัดบ้าบออยู่ได้

143 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>142 ปั้มกระทู้ควยไรเวลา เวลาพิมเบิ้ลกูติ้ก bumb ออกตลอดดูได้ที่ชื่อสีขาวนะไอ้โง่ รำคาญโม่งใหม่ไม่รู้เหี้ยไรมาโวยวายโง่ ๆ ตั้งแต่เรื่องกฏ ไม่รู้ว่าเขาตกลงอะไรกันไว้เป็นปีแล้วยังมาโวยวายโชว์โง่

144 Nameless Fanboi Posted ID:JgvETjD+6J

นักรบควยดำ ยำชุดมั่วๆจาก Lazada 555

145 Nameless Fanboi Posted ID:INIEZWh8pv

เพิ่งอ่านเจอนักประวัติศาสตร์อเมริกันคนหนึ่งวิเคราะห์ฮิตเลอร์เอาไว้ในแบบที่ไม่เคยคิดมาก่อน เป็นวิธีมองฮิตเลอร์ที่น่าขนลุกมากๆ เขาบอกว่า
.
1. ฮิตเลอร์เชื่อในนักคิดนาซีคนหนึ่ง คือคาร์ล ชมิตต์ (Carl Schmitt) ที่แกนหลักของเขาคือความเชื่อว่า อัตลักษณ์ของกลุ่มก้อนหนึ่งๆ ไม่ได้นิยามด้วยลักษณะจากตัวเอง แต่นิยามด้วยศัตรูร่วม คือความเป็นตัวเราได้แก่สิ่งที่ไม่เหมือนศัตรูของเรา
.
2. ดังนั้น ฮิตเลอร์จึงเชื่อว่า สิ่งที่เรียกว่า 'การเมือง' (ในความหมายของการต่อสู้ต่อรองของคนกลุ่มต่างๆ หรือเผ่าพันธุ์ต่างๆ) นั้นไม่ได้มีอยู่จริง แต่ธรรมชาติได้สร้างมนุษย์มาเพื่อให้เป็นอิสระในการที่จะแสวงหาอำนาจ 'งาน' ของเรา ก็คือการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อการฆ่าและความตาย การเมืองในธรรมชาติก็คือการฆ่าเผ่าพันธุ์อื่นที่เป็นศัตรูของเรา
.
3. ที่น่าสนใจอีกเรื่องก็คือ ฮิตเลอร์เอาความเชื่อนี้ไปตีความงานของ ชาลส์ ดาร์วิน แบบผิดๆ เขาตีความ 'การคัดเลือกโดยธรรมชาติ' หรือ Natural Selection ว่าผู้แข็งแรงคือผู้ชนะ ดังนั้น ฮิตเลอร์จึงเชื่อว่าโลกนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับคนขี้ขลาดและอ่อนแอ
.
4. สำหรับฮิตเลอร์ ความอ่อนแอของเรามีความสำคัญอย่างหนึ่ง นั่นคือเราอ่อนแอก็เพราะเรารู้จัก 'คิด' การคิดจะทำให้เราแยก 'การเมือง' ออกจาก 'ธรรมชาติ' (ในความหมายของฮิตเลอร์ คือธรรมชาติมนุษย์นั้นเกิดมาเพื่อทำลายหรือฆ่าศัตรูเพื่อสร้างอัตลักษณ์ของกลุ่มก้อนตัวเอง)
.
5. กลุ่มคนที่ 'คิด' และ 'เขี่ย' เอา 'การเมือง' ออกมาจาก 'ธรรมชาติ' (ในความหมายข้างต้น) มากที่สุด ก็คือชาวยิว ฮิตเลอร์เห็นว่า ชาวยิวที่ใช้เหตุผลเหนือความหุนหันพลันแล่นตามธรรมชาตินั้น จะทำให้มนุษยชาติทั้งสปีชีส์ต้องถึงจุดจบ เพราะเราจะละเลยการเอาตัวรอดด้วยการฆ่าศัตรู ความรังเกียจยิวจึงเป็นเรื่องของ worldview ที่แตกต่างกันอย่างถึงราก
.
6. ฮิตเลอร์เห็นว่า สปีชีส์โฮโมเซเปียนส์นั้น แบ่งออกได้หลายเชื้อชาติ (Races) แต่ชาวยิวไม่ได้เป็น race หนึ่งเลย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติที่สูงหรือต่ำ ทว่าเป็นพวก unrace หรือ counterrace เพราะชาวยิวนั้นใช้ alien logic ที่ 'ไม่เป็นธรรมชาติ' จึงไม่ถือเป็นแม้กระทั่งเผ่าพันธุ์หนึ่ง
.
7. ฮิตเลอร์ไม่ได้เชื่อว่า มนุษยชาติเกิดมาดีงามแล้วถูกทำให้แปดเปื้อนเสียหายเพราะพ่อค้ายิวที่เอารัดเอาเปรียบคนอื่นแล้วทำให้คนอื่นๆ ย่ำแย่ไปด้วยอย่างที่หลายคนคิดกัน แต่ฮิตเลอร์เชื่อว่ามนุษย์คือสัตว์ - ที่ต้องเอาตัวรอดด้วยการฆ่า แต่การที่ชาวยิวมีการครุ่นคิดเรื่องจริยธรรมนั่นแหละ ที่ขัดแย้งกับธรรมชาติ และถือว่าเป็นเรื่อง corrupted แบบหนึ่ง เพราะถ้ามีจริยธรรมขึ้นมา มนุษย์ก็อาจไม่ commit ตัวเองกับการสังหารหมู่เผ่าพันธุ์อื่นๆ
.
8. ฮิตเลอร์ไม่ได้เกลียดแค่ยิว (ในฐานะศาสนา) แต่ในระยะหลัง เขาเกลียดศาสนาคริสต์ด้วย และในตอนหลัง เขาก็วิพากษ์วิจารณ์พวกอเทวนิยมด้วย เพราะต่อให้อเทวนิยมไม่ได้เชื่อในพระเจ้า แต่ก็มีหลักจริยธรรมบางอย่างอยู่
.
9. การวิเคราะห์เหล่านี้ทำให้ตัวเองพอจะเห็นภาพขึ้นมามากขึ้น ว่าทำไมถึงเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวขึ้นมาได้อย่างโหดร้ายขนาดนั้น เพราะมันซับซ้อนและฝังลึก (ในความบ้า) มากกว่าแค่ความเกลียดเท่านั้น

146 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>143 ปั้มจำเป็นต้องbumpหรือ เป็นควายก็อยู่ส่วนควายอย่าโชว์โง่ออกมา การที่มึงฟลัดความบ้าและการเลียโง่ของมึงมันทำให้กระทู้ถึงลิมิตเร็วขึ้นแค่นี้ก็เรียกปั้มแล้ว หรือมึงจะร้องไห้ไปหาไอดอลมึงให้ตั้งกฎให้ไม่ใช่ก็ได้นะ

147 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>143 ปั้มจำเป็นต้องbumpหรือ เป็นควายก็อยู่ส่วนควายอย่าโชว์โง่ออกมา การที่มึงฟลัดความบ้าและการเลียโง่ของมึงมันทำให้กระทู้ถึงลิมิตเร็วขึ้นแค่นี้ก็เรียกปั้มแล้ว หรือมึงจะร้องไห้ไปหาไอดอลมึงให้ตั้งกฎให้ไม่ใช่ก็ได้นะ

148 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

ถึงลิมิตก็ตั้งใหม่สิวะ มาเถียงกับกูยิ่งปั้มให้ถึงลิมิตเร็วขึ้นกว่าเดิม มึงเป็นควยอะไรของมึง พึ่งเล่นบอร์ดวันแรกเหรอ แล้วเป็นเหี้ยไรโพสติด ๆ กันสองโพสจะปั้มหนักกว่ากูแล้วนะรู้ตัวมั้ย

149 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

จะปั้มหนักกว่ากูแล้วนะรู้ตัวมั้ย >> แสดงว่ายอมรับว่าตัวเองตั้งใจปั้ม ไอ้หน้าหีเอ้ย ทำเป็นเถียงไปชาบูไปวนไปมา มึงละเป็นไรมากไหม

150 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>149 ไอ้มุขไม่พอใจก็ออกไป กูเอามาจาก quote ของ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ไอ้สัด จะให้กูเลียอะไรมันนักหนา กูรำคาญโม่งใหม่ควาย ๆ แบบมึงอ่ะ ไม่รู้อะไรก็มาโชว์โง่ พอเขาอธิบายก็ทำเปนคนคูลๆกุไม่รู้ไม่สน ตอนนี้ไม่มีอะไรกลัวเสียหน้าแถเปลี่ยนเรื่องไปเรื่อย

151 Nameless Fanboi Posted ID:v2gqiPXNB8

และเอาจริงๆ คนไทยควรทำความเข้าใจคำว่านายทุนที่ใช้ด่าระบอบทุนนิยมกันจริงๆก่อน นี่เล่นผลักผู้ประกอบการไปเป็นนายทุนหมดเลย เห็นละปวดกบาล

152 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>150 พ่นมาแต่ละคำเข้าตัวทั้งนั้น แถน่ะมันมึง ขยับเปลี่ยนเรื่องเถียงไปเรื่อย มั่วเก่งดีว่ะ

153 Nameless Fanboi Posted ID:uZ/PUfZDLQ

BBC สนชื่อจริงๆ สำนักข่าวบิ๊กแบล๊คค

154 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>152 ก็เรื่องมันจบตั้งนานแล้ว กูก็บอกไปแล้วว่ากฏคืออะไร เขาคุยกันไปแล้วยังไง มีแต่มึงอ่ะหน้าแตก เดี๋ยวก็กูไม่สน ไม่เกี่ยวกับกู เดี๋ยวก็บ่นฟลัดกระทู้ เปลี่ยนเรื่องสารพัด จะเถียงอะไรต่ออ่ะ ? ก็ไม่มีอะไรมึงแค่อยากตอบเป็นคนสุดท้ายให้มันดูเฟียส ๆ เลยลากยาวไปเรื่อย สุดท้ายมาว่ากูฟลัดกระทู้มึงก็ช่วยกูฟลัดกระทู้ให้ยาวกว่าเดิมอีก

155 Nameless Fanboi Posted ID:UZgCJvKVtC

>>151 มันมาจาก Marxism ซึ่งแบบดั้งเดิมไอ้พวกที่มึงว่าจัดเป็นนายทุนหมดละ กูเข้าใจว่าอะไรก็ตามที่ใช้ทุนทำงานกรือมีลูกจ้าง นับเป็นนายทุนหมด

156 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>154 ก็เข้าตัวมึงอีกอยู่ดี แล้วมึงพล่ามไม่หยุดจะให้คนอื่นหยุดหรือ คือที่นี่มีมึงมีสิทธิ์อยู่คนเดียวสินะว่างั้น คิดเหมือนไอ้ปูเลยวะ แต่เอ้ะเห็นอีกกระทู้ฟลัดด่าปูนี่ เลียจนลืมหรือว่าไม่รู้ตัวเอง เหี้ยดี

157 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>156 กูบอกให้มึงหยุดตอนไหน ? ไหนไปอ่านใหม่สิ ? ก็ว่าแล้วหมามันอ่านภาษาคนไม่ออกจริง ๆ มึงอยากทำก็ทำไปสิ มึงว่ากูฟลัดก็เขาตัวเองอีกเหมือนกัน ตลก

158 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>> มึงแค่อยากตอบเป็นคนสุดท้ายให้มันดูเฟียส ๆ เลยลากยาวไปเรื่อย
สื่อว่าอะไร โง่ได้อีกนะ เริ่มเถียงวนกลับไปที่เดิมอีกแล้วนะ เกรียนน้อยนักฟลัด

159 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>158 แล้วจริงมั้ยล่ะ มึงไม่หยุดกูไม่หยุด มึงด่าคนอื่นเหี้ยมึงก็เหี้ยพอกัน

160 Nameless Fanboi Posted ID:eoHh7ewZxU

ตั้งกระทู้เรื้อนๆเลยโดนล๊อกนี่มันต้องเจ็บแค้นขนาดนั้นเลยหรอ
touch some grass dude...

161 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>160 ไอ้เจ้าตัวแม่งไปปั่นมู้รัสเซียล่ะ อันนี้เริ่มจาก >>115 อะไรของมันไม่รู้เอากฏหมายไปมั่วกับกฏเว็บ กูไปด่าว่าไม่เกี่ยว อยู่ ๆ ไอ้เหี้ย ID:D+JMp0xaOu มาจากไหนไม่รู้เป็นเดือดเป็นร้อนแทนคนโดนด่าและคนโดนล็อค

162 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>159 ผิดเพราะคนเริ่มลากยาวก่อนคือมึง เถียงโง่ๆไม่ขึ้นได้แต่ย้อนคำวกไปมากูถึงบอกให้หาหมอไง

163 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>162 เถียงไม่ขึ้นเหี้ยไร มึงอ่ะไม่เถียงเหี้ยไรเลยเป็นเดือดเป็นร้อนแทนคนโดนล็อค เอ๋อแดกเหรอ มาหาว่ากูเอากฏหมายไปมั่ว ทั้ง ๆ ที่กูตอบ ไอ้ >>115 มั่วเอง งงเอง ประกาศชัยชนะแบบงง ๆ

164 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>161 กูเห็นผิดก็บอกว่าผิดไง ไม่เข้าข้างเป็นติ่งไอดอลโง่ๆแบบมึง ควายชาบูแบบมึงที่เลียตีนเป็นชีวิตจิตใจเข้าใจยากก็ไม่แปลก

165 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>163 แล้วก็วกกลับไปโยงเรื่องที่ไม่เกี่ยวอีกแล้ว 555

166 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>164 แล้วผิดอะไรของมึง เขาคุยกันตั้งแต่เลือกตั้งไอ้เหี้ยตู่แล้วว่ายอมให้คุยได้ ทั้งๆที่ไม่เคยให้คุยตั้งแต่ตั้งเว็บ จะบอกว่าแบนแต่รัสเซียก็อีกเรื่องนึง กฏเว็บเขารู้กันทั้งเว็บ มาใหม่อย่าเปรี้ยว

167 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>165 >>127 นี่ของมึงเองไม่ใช่หรอ ทำเป็นลืม เถียงโง่ๆเองแต่เขินกลบเกลื่อนจนเรื่องยาว

168 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>166 เถียงโง่ๆ บอร์ดเปิดสาธารณะกฎลับที่ตั้งกันเฉพาะกลุ่มพวกมึงหรือกระทู้ที่ตกไปแล้วใครเขาจะไปรู้ด้วย มีหัวก็ใช้คิดมั่งอย่าสักแต่ใช้เลีย

169 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>167 อาการระแวงเริ่มย้อนกลับ 555 คุนี่คุมันจริงๆเลย

170 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>168 กฏลับอะไรของมึง เขาไปคุยกับเจ้าของบอร์ด รู้กันไปทั้งเว็บ โม่งใหม่คนอื่นเวลามีคนเขาบอกเขาก็แค่ฟัง ไอ้ >>109 มันก็บอกตั้งแต่เมื่อวาน มึงก็ไม่ฟัง มัวแต่ทวงคืนความยุติธรรมให้หริ่่มป่วนเว็บ

>>169 ระแวงอะไรของมึง projecting ป่ะครับ เถียงโง่ ๆ เอง มากัดคนอื่นเขาเองแล้วมาบอกว่าคนอื่นยืดเรื่อง เห้อ

171 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>170 ถ้าเป็นกฎสาธารณะทำไมไม่ใส่ไว้ให้เห็นกันละ มึงมาอ้างโง่ๆว่าเขารู้ทั้งเวป อ้างว่าเป็นกฎเพราะกูบอกว่างั้น ส้นตีนนะครับ โกหกหน้าตายอีก เห้อ

172 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>171 ก็เรื่องของมึงเลยครับ 555555555 เขาบอกดี ๆ อธิบายดี ๆ ก็ไม่ฟัง กูไม่ได้อ้างเพราะเขารู้ทั้งเว็บจริง ๆ จะโวยวายต่อก็เรื่องของมึง แต่มึงจะดูโง่ขึ้นหน่อย ๆ

173 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

แต่ถ้าอยากเฟียสต่อแนะนำให้ไปโพสใน https://twitter.com/gridth?t=KLtV7tUjlskHzgBz25LdhA&s=09

หรือส่งเมลล์ไป contact.fanboi.ch นะ เขาไม่ได้อ่านเว็บโม่งอ่ะ

174 Nameless Fanboi Posted ID:2FfcsoB4ka

สรุปคือเอ๋อมาเถียงแทนทั้งที่ไม่รู้เรื่องต้นทางว่าเค้าคุยเรื่องอะไรกันสินะ 555

175 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>172 เข้าตัวเองอีกแล้ว ตรรกะโง่ๆแบบแทกซี่ภูเก็ตที่บอกราคานี้ทุกคนในจังหวัดรู้ 555 อ้างไปเรื่อยสั้นๆก็คือจะเอาใจไอดอลมึงละว้าทำเป็นยกอังกฤษมั่ง เถียงวนไปมามั่ง ระแวงมั่ง ควายคุเอ้ย

176 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>173 โบ้ยปัดสวะไปอีก จะวิ่งไปฟ้องปะป้าไอดอลแล้วหรือ หุหุ

177 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>175-176 โม่งใหม่อย่างเปรี้ยว กูล่ะชอบ โชว์โง่นาน ๆ ล่ะ โม่งคนอื่นเขาขำกันอยู่ 55555

สรุปรู้ยังต้นเรื่องเขาคุยอะไรกัน เอ๋อมาเถียงแทนแบบงง ๆ ตอนนี้เซไปเซมา

178 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>177 เฮ้อ คิดเองเออเองไปเรื่อย อาการหนักน่ะมึงนะ บอกคนอื่นใหม่มั่ง เห็นคนอื่นขำมั่ง projectingหรือ กูว่าอย่างมึงขั้นหนักถึงประสาทหลอนหรือhallucinationว่ะ เถียงไม่ขึ้นแกล้งบ้าเลยหรือ

179 Nameless Fanboi Posted ID:tyISe6gLuF

เอ๋อก็เอ๋อ ใหม่ก็โง่ สมกันดี พวก สวะ

180 Nameless Fanboi Posted ID:tyISe6gLuF

ทู้ห้องยูเครนต้องเปลี่ยนชื่อใหม่
Kuzu no Honkai ความปราถนาของเหล่าสวะ
โม่งเบียวทหาร อวยรัสเซีย เศษสวะแห่งเฟสไม่มีที่ลง ต้องมาสำเร็จความไคร่ ทางความคิดโง่ๆในโม่ง

181 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>178 ไหนด่าคนอื่นพิมไทยคำอังกฤษให้ดูเท่ ด่าตัวเองเหรอครับตกลง เล่นโม่งมานานจะไม่รู้ได้ไงว่าแต่ก่อนเขาห้ามพูดเรื่องการเมือง อยากจะเฟียสให้มันเท่ ๆ แต่เสือกออกมาโง่แทน

>>180 มึงก็ไปบ่นในห้องยูเครนสิวะ

182 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>181 มึงจะสงวนสิทธิ์ไว้คนเดียวอีกสินะ 555 แค้นเถียงไม่ออกจนต้องแยกร่างเลยรึ ว้าย

183 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>182 อ่าวก็มึงพูดเองนิ กูไปง้างปากมึงพูดตอนไหน ? จะทำต่อไปก็เรื่องของมึง แค่เห็นมึงด่าคนอื่นแล้วทำเองมันตลกดี 55555

แยกร่างอะไรวะ ??? delusional ของจริงแล้ว 55555555555555555555555

184 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>183 เฮ้อแล้วก็วนออกไปอีก วกไปมา แต่เลข5ออกเยอะมากกูจี้ใจดำหรือหืมไอ้คุน้อย

185 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>184 วนอะไรวะ ก็พูดเองนิ หรือมึงสงวนสิทธิ์ด่าได้คนเดียว กูขำหนักมากเพราะมึงน่าจะ projecting ของจริง 55555555555555555 ด่าคนอื่นเขาระแวง มีมาแยกรงแยกร่าง ไอสัดกูขำ มัวแต่เตือนคนอื่นอย่าลืมไปเช็คสุขภาพบ้างล่ะ

186 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>185 คิดไรไม่ออกก็ลอกคำมาเป้ะๆ สมเป็นควาย

187 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>186 อุ้ยตาย สงวนคำไว้จริงด้วย 5555555 ด่าอะไรก็เข้าตัวเองว่ะ มึงนี่เก่งจัว

188 Nameless Fanboi Posted ID:INIEZWh8pv

เมื่อวานสนทนากับมิตรสหาย คนรุ่นใหม่ ที่ใช้โมเดลความเป็นเจ้าของร่วมกัน และค่าจ้างเท่ากันทุกตำแหน่งในองค์กรธุรกิจที่แสวงหากำไรปกติ องค์กรนี้ดำเนินมาหลายปีแล้ว มีเรื่องน่าประทับใจ และน่าสนใจ ซึ่งผมขอสรุปดังนี้

1.เรามักคิดว่า ตัวแบบนี้ล้าสมัยขาดแรงจูงใจใช้ได้กับอุตสาหกรรมแบบเก่า แต่ว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจสื่อสารสังคมแบบใหม่ ผมขอสรุปสั้นๆว่า พนักงาน"ทุกคน" ได้รับค่าตอบแทน 7 เท่าของค่าจ้างขั้นต่ำปัจจุบัน เท่ากัน

2.องค์กรเคยมีลูกค้าถามว่า ทำไมงานตัดต่อที่นี่ถึงดีมาก จ้างใครที่ไหนเหรอ บริษัทบอกว่าวิธีการง่ายๆ ก็ให้คนตัดต่อเป็น "เจ้าของบริษัท"

3.ถ้าค่าจ้างเท่ากันทุกคนขาดแรงจูงใจในชีวิต บริษัทเสียประโยชน์ ? คำตอบคือไม่ ทุกคนมีส่วนร่วมมากขึ้น กล้าเสนอ กล้าตัดสินใจมากขึ้น กล้าลองผิดลองถูก ที่สำคัญ ชอบการประชุมหารือมากขึ้น เพราะทุกคนเป็นเจ้าของงาน แม้แต่คนมาใหม่ก็ได้ค่าตอบแทนเท่าคนเก่า อำนาจการตัดสินเท่ากัน

4.คนทำงานบอก เขามีวันพักร้อน 20 วันต่อปี มีเงินเหลือ มีเวลาว่าง ปีใหม่ เขาได้ไปเที่ยวของตัวเอง เยี่ยมบ้านแฟน เยี่ยมบ้านแม่ ซึ่งเมื่อก่อนที่ทำงานในองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ไม่มีโอกาสว่างเลย ได้ซื้อของให้ครอบครัวเป็นของขวัญเป็นหมื่น แม้บริษัทได้กำไรเท่าเดิม

5.บริษัทมีโอกาสที่จะรวยมากขึ้นกำไรมากขึ้น แต่เลือกจำกัดปริมาณงานและลูกค้าต่อเดือนเพื่อให้ เกิดความสมดุลของงาน คุณภาพ และชีวิตพนักงาน

สรุปแล้วคนทำงานมีความสุข ผลกำไรดี ค่าจ้างเป็นธรรม เลือกรับงานที่ลูกค้ามีธรรมาภิบาลต่อสังคม

อย่างไรก็ตามบริษัทก็ผ่านการถูกวิจารณ์ถึงโมเดลนี้เยอะ และก็กังวลเหมือนกันว่าถ้าจุดหนึ่งบริษัทเกิดปิดตัวไป คนก็จะเอาเรื่องนี้มาโจมตีว่า โมเดลนี้ล้มเหลว

สิ่งที่ผมแลกเปลี่ยนไปคือ สำหรับผมผ่านการทำองค์กร ผ่านการทำการเคลื่อนไหวมา ล้มเหลวมากกว่าสำเร็จ แต่ปัจจัยแห่งความล้มเหลวมีหลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ 'ไอเดียเรื่องความเท่าเทียม' ไม่ใช่สิ่งที่ล้มเหลว มันได้สำเร็จและพิสูจน์ตัวเอง ส่งต่อความฝัน และทำหน้าที่ของมันเรียบร้อยแล้ว

แม้อนาคตบริษัทจะขาดทุนหรือปิดตัว ก็ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่อย่างใด

เป็นกำลังใจและบันทึก สปิริตความเป็นประชาธิปไตยทุกระดับ ที่เกิดขึ้นจริงได้ !

189 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>188 ไม่ค่อยอินเรื่องประชาธิปไตยแต่โมเดลนี้รุ่งจริง ค่าย fortiche ที่ทำ arcane ก็มาโมเดลนี้ งานออกมาโคตรเทพ

190 Nameless Fanboi Posted ID:JygT7FVlUi

>>180 สามกีบเลิกเอ๋อนะ เห็นกุยกอนิเมะ มาบ้างกุจะมาลอกคำด่าของกู
>>>/lounge/15219/725
สมแล้วล่ะ ที่คิดอะไรไม่เป็นต้องให้คนจูงจมูกเปิดวอยทีวี ทุกวันทั้งวัน 555555555555555+

191 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>187 คุใจเย็นๆ คุอย่าเพิ่งบ้านะ เดี๋ยวไอดอลจะขาดควายเลียตีนไปตัว

192 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>190 รู้สึกไงบ้างมีคนมาเถียงแทน ตัวลอยเลยสิมึง

193 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>191 ส่วนไอดอลมึงไอ้หริ่่มเบียวฉกนี่ใช่มั้ย มันมาแล้วนะอย่าลืมไปขอมันอมควยล่ะ 55555

194 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>192 กูไม่ใช่มึงอ่ะ ไม่ต้องแยกร่าง ใครจะพูดไรพูดไปเลยเรื่องของเขา ไม่ต้องทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง
>>193 แบบนี้ นักเฉไฉ

195 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>194 แยกร่างอีกแล้ว มโนเก่งเว่อๆ กูนี่ยอมใจ เปลี่ยนเรื่องไร กูถามมันไม่ได้ถามมึง เสร่ออีกแล้ว

เฉไฉอะไรของมึง พูดยังกะ >>191 เป็น reply ทรงคุณค่า เถียงให้มันตั้งแต่เช้าแล้ว ได้เลียไข่มันสักข้างรึยัง

196 Nameless Fanboi Posted ID:mnqIiYd./5

>>195 ปูเสื่อดูดราม่าโม่งแฟนบอยwmปะทะแอนตี้แฟนบอย บรึ่ยๆ
แฟนบอยมึงอย่าแพ้นะเดี๋ยวเสียชื่อเว็บแล้วหัดคิดคำด่าใหม่ๆมั่งอย่าเอาแต่ก้อปคำพูด มึงเป็นคาคาชิหรอสาด

197 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>196 มาคุยกับกรูเดี๋ยวมันก็มาหาว่ากูแยกร่างคุยกับตัวเอง เห็นมันชอบทำตัวเหวอ ๆ

198 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>197 ยังไม่เลิกหลอนอีกหรือกระบือน้อย

199 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>198 ดูถ้าจะเหงามาก กูคุยกับคนอื่นเสร่อมาตอบรอบที่ 2 แล้ว

200 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>199 ไม่เข้าใจสินะที่ว่าหลอนคือสื่อถึงอะไร โดดเรียนคาบภาษาไทยมาเลียอยู่หรือไอ้กระบือ

201 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>200 สื่อถึงคนที่ประสาทหลอนว่าเขาแยกร่างมาด่าอ่ะ อ๋อ นั่นมันมึงเองนี่หว่า ด่าตัวเองรอบที่เท่าไหร่แล้วบักหำ

202 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>201 ไม่เข้าใจก็ไม่แปลกเพราะเกรียนคีย์บอร์ดอย่างมึงคงใช้เวลาไปกับการศึกษาน้อยถึงโตมาเป็นควายให้เขาจูงจมูกแทนที่จะเป็นคน ดักดานเถียงไม่ขึ้นก็ทำเป็นย้อนคำต่อคำแล้วแยกร่างมาอวยตัวเอง ไอ้ข้างบนที่เรียกมึงว่าคาคาชิมันสองความหมายนะ555

203 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>202 อ้อเสริมให้เผื่อไม่เกตแล้วตีความโง่ๆตามสมองน้อยของมึงไปอีก มันแปลว่ามึงเถียงเป็นแค่ก็อปคำพูดคนอื่นกับนินจาแยกร่างมาอวยตัวเองไง กระบือเอ๋ย

204 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>202-203 ไหนวะโม่งที่อวยกู กูเห็นก็ด่าทั้งคู่ตลอด อ่านตีความไม่แตกเองก็หาว่าคนอื่นเขาแยกร่าง

ไม่มีสมองคิดเลยหรอว่าที่มันย้อนถึงมึงได้ก็เพราะอะไรที่มึงด่ามึงทำเองหมดไง ไม่รู้ระหว่างที่ไปอมควยไอ้โม่งสริ่่มได้แอบนอนคาบภาษาไทยมั้ย สำนวนไทยเขาเรียกว่าขว้างงูไม่พ้นคอนะจ๊ะพ่อโม่งหน้าใหม่

205 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

ดูง่าย ๆ บ่นว่ากูปั้มมู้อะไรนักหนา >>202-203 มึงก็ทำเอง บอกว่ากูพิมไทยคำอังกฤษคำมึงก็ทำเอง บอกว่ากูระแวง มึงก็มโนมาจากไหนไม่รู้ว่ากูแยกร่าง ตักกระโหลกชโงกดูเงาบ้าง อย่ามาทำเอ๋อ

206 Nameless Fanboi Posted ID:xnB.QPZka0

ไมโม่งต้องตีกันด้วย ไมโม่งไม่รักกัน ไม่สงสารSirnบ้างเหรอ 🥺

207 Nameless Fanboi Posted ID:INIEZWh8pv

ไม่เลิกทะเลาะกัน กุจะรัฐประหาร แล้วให้sirn เซ็นรับรองแล้วนะ

208 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>207 เมิงไปเรียกมันมาเซ็น พรบ policy ใหม่ก่อนเลย ไอ้นี่จะได้เลิกเอ๋อ เขาสภาไปตั้ง 3 ปีแล้วดันไม่ประกาศใช้

209 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>208 โอ้มีการสั่งซะด้วยเว้ย เป็นแค่ควายเลียตีนทำตัวยังกับเป็นเจ้าของเว็บซะเอง เออ
>>206 >>207 ไอ้นี่ >>208 มันจงใจป่วนตั้งแต่แรกละ ไม่ได้คุยเหี้ยไรกับมันอยู่ดีๆเข้ามาเป็นออกงิ้ววางตัวเป็นเจ้าที่ไล่คนอื่นเฉย ทำตัวแบบเป็นนักบุญศักดิ์สิทธิ์ห้ามวิจารณ์แบบคนบางกลุ่มในการเมืองไทยแบบนั้นอะ
แล้วดูการตอบแต่ละอย่างแม่งปวดตับชิบหาย คุยเรื่อง1ไปออก2แล้วโยงคนโน้นคนนี้มามั่วไปหมดพอโดนทักเข้าก็หาเรื่องฟลัดทำเป็นพูดไม่รู้เรื่องแล้วสแปมเลข5กลบเกลื่อนความสมองน้อยของมัน ตอบวนกลับไปมาแบบนี้อยู่นั่นอะแล้วจะให้จบได้ไง

210 Nameless Fanboi Posted ID:INIEZWh8pv

ชาวเหนดไทยน่ากลัวมาก พอกดใครได้ ด่าใครได้แล้วไหลไร้สันหลังเป็นเขื่อนแตก

เรื่องขโมยเขาผิดจริงๆ อันนี้ด่าได้
แต่โพสที่พูดเรื่องแรงงานเขาพูดผิดยังไงในแง่ของความสัมพันธ์ในการทำงาน มาทำงานเอาเงิน เรื่องความภักดีหรือรู้ 'บุญคุณ' ตรรกะนี้ไม่ไหวมาก ถามตัวเองเถอะว่าความรู้จักบุญคุณนี่เองไม่ใช่หรอ
ที่ทำให้คนไทยไม่กล้าเรียกร้องอะไรย่ำอยู่กับที่

สายใยที่ดีที่สุดของนายจ้างและลูกจ้างคือค่าจ้าง เวลาพัก และผลงานที่สมเหตุสมผล THAT'S IT.
We should feel like we're working for ourselves, not because we feel like we're smaller than the one who pays (เพราะเราก็แลกกับเขาด้วยตัวงานไง)

หนักกว่า คือเอาเงิน 30,000 มาสาปว่า เนี่ย กูได้แค่ครึ่งนึง ทำงานหนักกว่ามึง ยังไม่ปากมากเลย
ไม่ใช่ มึงเองยิ่งต้องไม่โอเคกับสิ่งที่ตัวเองได้อยู่ ไม่ใช่เอาความลำบากมาโปรโมตว่า แบบนี้สิดี กูยังทำได้เลย ทำไมมึงเรื่องมาก
บอกว่า มารับความเสี่ยงเท่านายจ้างไหม มันไม่ใช่นายจ้างเสียๆๆๆๆอยู่คนเดียวไงมึง ก็เขาเลือกทำงานที่ไม่ใช่เจ้าของบริษัท เพราะเขาเลือกที่จะไม่รับความเสี่ยงตรงนั้น คิวแทไม่ตัดต่อวีดีโอเอง ก็เพราะเลือกเวลามากกว่าการมานั่งทำงานตรงนี้ มันเสี่ยงคนละแบบ จะมาเทียบกันได้ไง

เงินเดือน 30000 ในกรุงเทพ อยู่แบบไม่ต้องเช่าห้องยังยาก หรือเราโอเคกันกับการได้เงินแค่เพียงพอจะหาข้าวแดก แต่หาความสุขอย่างอื่นไม่ได้เลย

แรงงานไม่ใช่ขี้ข้านายจ้าง เราสามารถต่อรองขอขึ้นค่าแรงได้ถ้างานเราดีพอและนายจ้างยินดีจ่าย ถ้าคุยกันแล้วตกลงกันไม่ได้ มึงต้องลาออกหางานใหม่ไม่ใช่ไปขโมยของเขาหรือเอาความลับบริษัทมา blackmail อันนี้ผิดกฎหมาย

แต่อย่างไรก็ตาม อย่างอื่นที่พูดมา การมาสาป เอาวาปเขามาปล่อย มาอวดเงินเดือนตัวเอง สั่งสอนคนอื่นให้อยู่ด้วยความเกรงใจ รู้บุญคุณ(wtf) หนุด
parasite ชนะออสการ์ไปยังไม่ถึง 3 ปี อยู่ดีๆทำเหมือนไม่เคยดูกันมาก่อน

211 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>209 กูแค่เล่นมุข Quote ของไอ้อ๊อฟพงษ์พัฒน์

"ถ้าเกลียดพ่อไม่รักพ่อแล้ว จงออกไปจากที่นี่ซะ เพราะที่นี่คือบ้านของพ่อ เพราะที่นี่คือแผ่นดินของพ่อ ผมรักในหลวงครับ และเชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้รักในหลวงเช่นเดียวกัน พวกเราสีเดียวกันครับ ศรีษะนี้มอบให้พระเจ้าแผ่นดิน"

มึงอ่ะเป็นเหี้ยไรนักหนา คนโดนด่าก็ไม่ใช่ คนโดนล็อคก็ไม่ใช่ จะเป็นเดือดเป็นร้อนเหี้ยไรขนาดนั้น

212 Nameless Fanboi Posted ID:8VGwsgB7Jg

>>210 ลูกจ้าง != หุ้นส่วน ไม่พอใจเงินเดือนก็ออก แค่นั้น

213 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

กระทู้ Quote กูเล่นมุข Quote ก็ไม่ได้โว้ย เอากับมันสิ

214 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>211 ทำไมไม่โควตเต็มมาแต่แรกละถ้าเป็นอย่างว่าจริง ฟังแล้วขุ่นๆว่ะ

จะเป็นเดือดเป็นร้อนเหี้ยไรขนาดนั้น >> ก็เหมือนมึงไปเป็นเดือดเป็นร้อนที่กระทู้สงครามยูเหี้ยไรข้างบนอะ มึงเอียงออกหน้าแล้วพอโดนทักแม่งออกลายไล่คนอื่นไง

215 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

อ้อ บอกไว้ก่อนเดี๋ยวแม่งโยงโง่ๆอีก กูไม่เข้าข้างใครทั้งนั้นเรื่องสงคราม ประเทศกูก็ไม่ใช่แต่ถ้าเห็นอะไรว่าเอียงกูก็บอกเอียงว่ะ จะมาบังคับให้บอกว่าเอียงเป็นตรงแม่งก็ไม่ต่างจากปูที่มึงเกลียดตรงไหน

216 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>214 แค่พูดว่าไม่พอใจก็ออกไป ก็ควรรู้ได้แล้วนะ มันคือคำพูด ของสลิ่่มเวลาจะไล่คนอื่น กูพิมขำ ๆนี่ถ้าไม่ได้เถียงกับมึงกูก็ไม่เสียเวลาไปหา quote มาหรอก

จำไม่ได้ว่าคอมเม้นไหนอยู่มาด่าโพร่งว่าคนอื่นเจอหมายก็หงอย ไม่รู้ว่าใครกูก็ด่ากลับสิ เริ่มมาจากเม้นนั้นเลย มึงเองรึเปล่า ถ้าไม่ใช่มึงจะเดือดร้อนแทนเพื่อ เถียงแทนอีก เป็นอะไรของมึง ?

แล้วกูไปเป็นร้อนอะไรตอนไหน ไอ้โม่งสริ่่มมันโพสงี้ทุกวันอยู่แล้ว กู feed มันขำๆ เช้าทีเย็นทีอยู่แล้ว

217 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

แล้วบอร์ดให้แสดงความเห็นถ้าบอกว่าต้องเอียงเท่านั้นก็เขียนเป็นกฎตัวโตๆแปะไว้ว่าที่นี่สำหรับความเห็นเอียงเท่านั้นห้ามตรง ตรงคือแบน ชัดเจนเลยทีนี้ไม่ต้องมาเถียงมาแถอีก

218 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>105 ไอ้นี่ไม่ใช่กู เล่นมุขขำๆ ก็โดนด่า ไปกินปูนร้อนท้องอะไรมาจากไหน

219 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>216 มึงเข้าใจเอาเองว่าคนอื่นต้องรู้ คืออะไรของมึงวะ โควตก็ยกมาแปลงสารเองไม่ใช่ของเดิมแล้วอ้างว่าเล่นมุข ขุ่นว่ะ

แล้วแม่งเริ่มเข้ารอยเดิมอีกละไปเอาใครเหี้ยที่ไหนมาโยงกูอีกแล้ว มันอาการระแวงชัดๆ

220 Nameless Fanboi Posted ID:D+JMp0xaOu

>>218 นี่คือมึงกำลังเล่นมุขอีกแล้วใช่เปล่า ง่ายดีวะไหลไปได้เรื่อยๆ

221 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

>>217 กระทู้มันโดนล็อค เพราะมันไปปั่นกระทู้คนเดียว ไม่ใช่บอร์ดสนทนา ทุกวันนี้มันก็ยังแปะข่าว propaganda รัสเซีย Sirn มันได้ว่าอะไรมั้ย ? มึงงงอะไรเองรึเปล่า

>>219 ขุ่นอะไรของมึง สมองน้อยไม่เข้าใจเองแล้วมาโวยวาย มันเริ่มตรงที่ >>115 >>118 >>120 ส่วนมึงอ่ะ >>121 รู้มั้ยเขาคุยอะไรกันอยู่ เข้ามาเถียงเสร่อ ๆ บอกว่ากูเอากฏหมายมาผสม >>127 ทั้ง ๆ ที่ไอ้ >>115 เป็นคนที่พูดเรื่องกฏหมาย

ไหนตอบกูสิ สรุปมึงเห็นด้วยกับกูใช่มั้ยว่ากฏเว็บมันไม่เกี่ยวไรกับกฏหมาย เถียงเหี้ยไรก็ไม่รู้แถไปเรื่อย สุดท้ายไม่ได้มีแก่นสารอะไรเลย

222 Nameless Fanboi Posted ID:lGMXBesGJK

ไอ้มุข sirnธิปไตย ไม่พอใจ sirnก็ออกไป เขาก็เล่นกันตลอด สรุปคือไม่มีอะไร โง่เองแล้วตามกัดเขาเองแบบงง ๆ โถ่เสียเวลาตั้งนาน คุยกับควายนี่เอง สรุปโวยวายเรื่องเขาโดนล็อคก็เสือกยังไม่รู้อีกว่าโดนล็อคเรื่องที่มันฟลัดกระทู้ เห้ออออออออออออออ

223 Nameless Fanboi Posted ID:nqfE5enEM8

ไอ้คำพูดนี้ของพงษ์พัฒน์เค้าเอามาเล่นกันมาทั่วอินเตอร์เน็ตมาตั้งไม่รู้กี่ปีแล้ว ไม่รู้เองแล้วยังมาตีโพยตีพายโชว์โง่อีก

224 Nameless Fanboi Posted ID:xnB.QPZka0

555555555555 กูนั่งขําเป็นบ้ารอรถเมล์ ตามพวกมึงตีกัน จริงจังสัส น่านัดโม่งเลาจ์มาต่อยกันหว่ะ

225 Nameless Fanboi Posted ID:NUiWVLu7dA

>>221 พูดอะไรย้อนแย้งจัง

226 Nameless Fanboi Posted ID:+L0NX72882

>>225 เสือกควยไรครับ โทษทีก็ที่พวกกูโก๋
มือถือฟอยล์ดูดม้าดูดไอซ์
เดี๋ยวกูหยิบไฟแช็คถือบ้องดูดโจ๋
อย่าทำให้กูโมโห พวกมึงอะเด็กโกโรโกโส
คิดการใหญ่เหมือนพวกกูเป็นโจโฉ
ควันโขมง
เสือกควยไรครับ โทษทีก็ที่พวกกูโก๋
มือถือฟอยล์ดูดม้าดูดไอซ์
เดี๋ยวกูหยิบไฟแช็คถือบ้องดูดโจ๋
อย่าทำให้กูโมโห พวกมึงอะเด็กโกโรโกโส
คิดการใหญ่เหมือนพวกกูเป็นโจโฉ
ควันโขมง

227 Nameless Fanboi Posted ID:pxdFDx2dlx

>>226 BLOW IT OUT YOUR ASS

228 Nameless Fanboi Posted ID:pxdFDx2dlx

>>222 ควายร้อง

229 Nameless Fanboi Posted ID:2gfiITtWkn

>>217 เอ๋อจัง

230 Nameless Fanboi Posted ID:exTFwzF2.+

"แสนดีแค่ไหน ไม่ใช่คนในใจ เขาก็ไม่เอา"
วอลอดือมือร์ ออแลกซันดรอวึช แซแลนสกึย
ประธานาธิบดียูเครนคนที่ 6
กล่าวไว้ในการประชุมสภาหัวข้อ "คำคมโดนใจ ต้อนรับวันวาเลนไทน์ ต่อต้านหัวใจนายทหารรัสเซีย"
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2021

231 Nameless Fanboi Posted ID:.DxkHphpRT

คำแนะนำสำหรับคนที่กำลังหางานครับ

** เป็นคำแนะนำเฉพาะตัวของผม อาจจะไม่ได้สอดคล้องกับแนวทางของบริษัทอื่นๆ **

ปกติผมไม่ค่อยชอบแนะนำเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ แต่วันนี้นั่งดู resume คนที่มาสมัครงานที่ Ava แล้วรู้สึกว่า อยากจะบอกเล่าเรื่องต่างๆ เหล่านี้ ให้น้องๆ ที่กำลังหางานกันอยู่ อย่างน้อยเป็นมุมมองของคนๆ นึงที่อ่าน resume มาหลายพันคนหรืออาจจะถึงหลักหมื่นคนแล้วมั้ง

📍 ถ้าคุณไม่สามารถ differentiate ตัวเองจากคนอื่นๆ ที่สมัครงานตำแหน่งเดียวกันได้ CV ของคุณก็จะถูกมองผ่านไปอย่างรวดเร็ว

📍 สำหรับผมแล้ว ถ้าเปิด CV ดูรอบนึงแล้วไม่มีอะไรสะดุด ผมจะไม่พยายามหาจุดเด่นของคนนั้นๆ เลย เพราะผมเชื่อว่า คนที่เก่ง ควรจะขายตัวเองให้ได้เก่งก่อน เค้าควรสื่อสารออกมาให้ผมรู้สึก "เอ๊ะ น่าสนแฮะ" หรือ "เฮ้ย เจ๋งว่ะ" มากกว่าที่จะให้ผมต้องมาพยายามค้นหาว่า ความเจ๋งของเค้าอยู่ที่ตรงไหน

ถ้า CV ของคุณไม่สามารถ ทำให้คนอ่านรู้สึก "เอ๊ะ!!" ได้ใน 30 วินาที ผมคิดว่าโอกาสที่คุณจะไม่ถูกเลือกมีสูงถึง 90%

ดังนั้นพวก template CV มาตรฐานจึงแทบจะไม่สร้างแรงจูงใจใดๆ ให้คนอ่านรู้สึก "เอ๊ะ!!" ไปกับการถ่ายทอดของคุณได้เลย

📍 การมีประสบการณ์การทำงาน มันดึงดูดได้เยอะนะครับ แต่ถึงไม่มีประสบการณ์ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่คุณจะ "ขายตัวเอง" ด้วยอะไรอย่างอื่นได้บ้าง ถ้าคุณไม่มีประสบการณ์ตรงกับงานนั้นๆ เช่น ชีวิตคุณผ่านอะไรมาบ้าง, archivement ที่คุณเคยได้, passion ที่คุณมีต่องานที่สนใจ

อะไรก็ได้ ที่จะทำให้คนอ่านรู้สึกว่า คนๆ นี้แตกต่างจากคนอื่นๆ

📍 เนื่องจากผมไม่สนใจเกรด ไม่สนมหาลัย ผมจึงไม่เคยให้ความสำคัญกับ transcript (เอาจริงๆ ก็ดูบ้าง เพื่อเข้าใจลักษณะนิสัยของคนๆ นึง เช่น A วิชา Operating System แต่ได้ D วิชา World Civilization มันก็บอกอะไรในตัวคนๆ นั้นได้ระดับนึง)

มีน้องคนนึงเขียนในเอกสารสมัครงานว่า "เค้าลาออกจากมหาลัยตอนปี 2 เพื่อมาศึกษาเรื่อง AI โดยเฉพาะ" เออ แบบนี้ ทำให้ผม "เอ๊ะ!!" ได้แบบสุดๆ ว่าคนๆ นี้มีอะไรบางอย่างที่โคตร determined (ผมไม่ได้สนับสนุนให้พวกคุณลาออกหรือไม่เรียน แต่สำหรับคนที่เลือกทางนั้นแล้ว กล้าที่จะบอกเล่าออกมา เป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับผมดี)

📍 ผมไม่มีปัญหาเลยกับการรับคนทำงานข้าม field เช่น คุณอาจจะทำงานบริษัทน้ำมันมาก่อน แล้วสนใจอยากมาทำ crypto แต่ใน CV คุณดันพูดแต่เรื่องประสบการณ์ในบริษัทน้ำมันทั้งนั้นเลย ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะหาแรงจูงใจตรงไหนที่จะเรียนคุณมาสัมภาษณ์ได้

ทั้งๆ ที่คุณอาจจะมีของ แต่คุณไม่เล่ามันออกมา

การทำงานข้าม field นั้น แอบเสียเปรียบคนทำงานตรง field อยู่แล้ว ดังนั้นคุณยิ่งควรจะ "บอกเล่า" หรือ "ถ่ายทอด" ถึงเหตุผลที่คุณสนใจงานฟิลด์นี้ และ "อะไร" ที่จะบอกได้ว่า คุณน่าจะสามารถทำงานฟิลด์นี้ได้ดีจริงๆ

ฝากไว้ประมาณนี้ครับ เจอหลายๆ คนที่ผมไม่ได้เรียกสัมภาษณ์ เพราะผมไม่รู้จริงๆ ว่าจุดเด่นที่น่าสนใจของคนๆ นั้นคืออะไร ซึ่งเกือบทั้งหมด ส่ง CV แบบ template มาตรฐานมาสั้นๆ 1 หน้าจบ โดยที่ไม่พยายาม "ขายตัวเอง" ให้มากพอ

ผมก็จะคิดว่า "ก็แค่ยิง CV มาเล่นๆ เผื่อฟลุ๊ค" หรือ "เค้าคงไม่ได้สนใจบริษัทเราจริงจังล่ะมั้ง ถึงส่งมาแค่นี้"

232 Nameless Fanboi Posted ID:PkQB6ypswP

>>231 ระ.. เร็ว

233 Nameless Fanboi Posted ID:+lhTYwhhCB

Vladimir Putin: The "Empire of Lies" of the West is powerless against truth and justice, Russia will continue to bring its position to the whole world , and more and more people hear, understand and share it.
ปูตินแถลงแล้ว !!!
"อาณาจักแห่งการหลอกลวง" ของ the west ไร้ซึ่งพลัง เมื่อต่อต้านกับความจริงและความยุติธรรม รัสเซียจะทำให้แน่ใจว่า ทั่วทั้งโลกจะเห็นการกระทำ อันน่าเฟะของ the west และทุกคนบอกโลกนี้จะตื่นรู้ และกระจายให้คนอื่นๆรับรู้ต่อไป - ท่านปูตินของผม
--------------------------------------------------------------------
ไม่ต้องห่วงครับท่านปูตืน! ไม่มีวินาทีเดียวที่ผมสงสัยในตัวท่าน
Someone must do it . Not a Human . And Not a God
Aren't you Lonely , Putin
Rejecting Everything The west , like that
Do you Understand , Kids ?
Someone must do it .

234 Nameless Fanboi Posted ID:OlQELIY6x3

นี่เคยถาม @COTBpod ว่าตัวละครใน star trek เขาได้เงินเดือนเท่ากันมั้ยแต่ละเผ่าพันธุ์ นางบอกว่าในเรื่องไม่ต้องใช้เงินนะ อาหารก็มีให้ทุกคน ที่เขามาทำงานเพราะแพชชั่นกันทั้งนั้น

นี่แบบ ว้าววว ซีรีส์คอมมิวนิสต์ว่ะ

ป.ล. ไม่เกี่ยวกับทวิตที่โควทมา แต่เห็นข้อถกเถียงแล้วนึกถึงบทสนทนานี้

235 Nameless Fanboi Posted ID:zuA/YMGnRk

Gender is cock or pussy, sex is what I had with your mom

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

236 Nameless Fanboi Posted ID:H+IEtcUseZ

>>234 มันไม่ใช่คอมมี่ แต่เป็นpost scarcity

237 Nameless Fanboi Posted ID:2TFtwH7sIx

เออ ถ้ามันไปยันกองกำลังอวกาศได้คงไม่ต้องคิดถึงเรื่องเงินเดือนแล้วล่ะ ฟังดูเหมือนเหมือนเรื่องแฟนตาซี แต่มันก็แฟนตาซีตั้งแต่ดาวทั้วดาวอยู่ในการปกครองของรัฐเดียว หรือเจอเอเลี่ยนในอวกาศละ

238 Nameless Fanboi Posted ID:OlQELIY6x3

>>236 คอมมี่=โลก post scarcity

239 Nameless Fanboi Posted ID:CG38z4kqi7

>>234 ในหนังนำเสนอแต่ชนชั้นนำนะ

240 Nameless Fanboi Posted ID:SAG14M22G7

>>234 ถ้าไม่ต้องใช้เงิน แล้วทำไมมันยังมีบอกว่ากัปตันพิคาร์ดเป็นเจ้าของฟาร์มกับสวนไวน์บนโลกวะ

พิคาร์ดมันเป็นเจ้าของที่ดินได้ยังไง ถ้าไม่ต้องใช้เงินซื้อเอา

241 Nameless Fanboi Posted ID:TJXaP9VIzK

>>240 คอมมี่จัดสรรให้ทุกคนอย่างเท่าเทียม

242 Nameless Fanboi Posted ID:ASIOlzI54x

>>241 จัดสรรยังไงให้ทุกคนมีปราสาทกับสวนไวน์วะ

243 Nameless Fanboi Posted ID:bSJ0rXyRPz

สปอกมีแพชชั่นจะเป็นกัปตันทำไมไม่ได้เป็น เรซิสชาวต่างดาวรึป่าวครับ

244 Nameless Fanboi Posted ID:zclm/QNQPK

>>242 พิมพ์เงินแจก ใครอยากได้เท่าไรก็บอก

245 Nameless Fanboi Posted ID:wLwPlGFJO6

>>240 ที่มรดก? มันไม่ได้ยึดทรัพย์สินส่วนบุคคลก่อนก่อตั้งระบบใหม่นี่
ครอบครัวพิคาร์ดมีไร่ไวน์มาตั้งแต่ The next Generation แล้วนะ เป็นไปได้ว่าอาจจะมีมาก่อนหน้านั้นนานแล้ว ถึงสังคมมันจะบอกว่าไม่ใช้เงิน เสกของได้ทุกอย่าง แต่ไม่ใช่ทุกคนจะชอบแบบนั้น บางคนยังปรุงอาหารแบบปรกติกินเอง อาจจะเป็นแบบ แลกเปลี่ยนสินค้ากันมั้ง Star Trek มันไม่ได้ลงลึกในเรื่องแบบนี้ด้วย

246 Nameless Fanboi Posted ID:SAG14M22G7

>>245 ถ้าคนที่มีมรดกที่ดินยังสามาถถือครองต่อได้ ก็แสดงว่าความมั่งคั่งทางที่ดินจะอยู่กับครอบครัวไม่กี่ครอบครัว ครอบครัวที่ไม่มีมรดกก็จะไม่มีที่ดินเป็นของตัวเองไปตลอดกาล เพราะไม่มีทางจะไปซื้อที่ดินได้เพราะไม่มีของมีค่าอะไรที่สามารถเอาไปแลกกับที่ดินได้เพราะทุกอย่างใช้เครื่องreplicatorsปั๊มเอาได้

แล้วถ้าที่ดินบนโลกมาจากมรดก แล้วFederationมันแบ่งที่ดินบนดาวใหม่ที่ไปตั้งรกรากยังไง เพราะมันจะมีพื้นที่ที่คนอยากได้มากอย่างพื้นที่ริมทะเล พื้นที่ใจกลางเมือง

247 Nameless Fanboi Posted ID:nvEz3.lWZZ

สรุปคือสตาร์เทรคไม่ได้เป็นหนังอวยคอมมี่แบบที่wokerมโนอยากให้เป็นนะฮาฟฟฟ

248 Nameless Fanboi Posted ID:33JTuU.kO+

Who would win?

Russia, the "Bolshevist" right wing oligarchy
vs
Ukraine, the "neo-Nazi" state led by a Jew

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

249 Nameless Fanboi Posted ID:dTbYeOrXbt

ทุนนิยมในศตวรรษที่ 19 ถึงต้นๆ 20 มันโหดร้ายจริงๆนั่นแหละ คนทำงานตายคาโรงงานคือภาพชาชินของตะวันตกยุคนั้น ไม่มีกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ไม่มีคำว่าค่าแรงขั้นต่ำ ไม่มีคำว่าสวัสดิการ ไม่มีคำว่าสิทธิเด็กในอุตสาหกรรม ฯลฯ

ภาพนี้คือแรงงานเด็กในเหมืองถ่านหิน เพนซิลเวเนีย 1911 ปัจจุบันคุณไม่มีทางเห็นภาพนี้แน่นอนเพราะการใช้แรงงานเด็กเป็นเรื่องผิดกฎหมายของตะวันตกไปแล้ว

ตอน marx เขียนทฤษฎีทุนนิยมและเสนอเรื่องการต่อสู้ทางชนชั้น marx เขียนจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในศตวรรษที่ 19 ช่วงที่เขามีชีวิตอยู่ ทุนนิยมยุคนั้นมีความเลวร้ายในแง่การกดขี่ทารุณมนุษย์จริงๆ ทารุณเหมือนสัตว์เลย

250 Nameless Fanboi Posted ID:upyBg2afUL

>>249

ต่างจากแรงงานในโซเวียตยังไงครับ

อ๋อ ต่างกันตรงที่แรงงานทุนนิยมอยากลาออกก็ลาออกได้ แต่แรงงานโซเวียตลาออกจะโดนส่งไปกูแลค

251 Nameless Fanboi Posted ID:0OzgO2MEuP

>>250 ลาออกมึงก็ไม่ต้องแดกข้าว

252 Nameless Fanboi Posted ID:+z/SHk/MJW

>>251 ก็ยังดิ้นรนหาแดกด้วยวิธีอื่นได้ แต่โดนยัดกระสุนโซเวียตเข้าหัวนี่ไม่รอด

253 Nameless Fanboi Posted ID:0OzgO2MEuP

>>252 หาแดกวิธีอื่นก็จับส่งกูแลก

254 Nameless Fanboi Posted ID:TVv4ZCtG7a

>>253 อะไรของมึง จะอวยโซเวียตจนเมารึไง

255 Nameless Fanboi Posted ID:XKu4Cbqhkl

>>253 นี่มึงเมาเหล้าหรือฉ่ำยา 55555

256 Nameless Fanboi Posted ID:thjPiMpZMW

>>253 ดูสมองมึงจะมีปัญหากับไอ้คุกขี้หีนี่ดีนะ

257 Nameless Fanboi Posted ID:PXLVRy8vdY

ระยะเวลาที่ใกล้เข้ามาของการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ที่กำลังจะแล้วเสร็จอีกไม่กี่วันทำให้สหรัฐไม่มีทางเลือกนอกจากจะเตรียมถล่มทางอากาศและบุกยึดคิวบา โดยสหรัฐเตรียมทหารจ่อที่ฟลอริดาไว้กว่าแสนคน ซึ่งจำเป็นจะต้องบุกก่อนนิวเคลียร์ติดตั้งเสร็จ แต่ถ้าบุกแล้วโอกาสที่โซเวียตจะเอาคืนที่ยุโรปด้วยการบุกเบอร์ลินก็เป็นไปได้สูงและจะนำมาซึ่งสงครามโลกครั้งที่สามอย่างแน่นอน กองทัพสหรัฐจัดระดับการเตรียมสงครามไว้ที่ defcon2 เป็นระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีมา เพราะ defcon1 ก็คือการทำสงครามเต็มรูปแบบรวมถึงนิวเคลียร์ด้วย
เหตุการณ์เลวร้ายขึ้นอีกในวันเสาร์ที่เครื่องบินสอดแนมของสหรัฐถูกคิวบายิงตกยิ่งทำให้กองทัพอยากเร่งการโจมตีให้เร็วขึ้น และมีเหตุการณ์ที่ทำให้โลกแทบสลายเป็นจุลแต่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด กองทัพสหรัฐเจอเรือดำน้ำหัวรบนิวเคลียร์ของโซเวียตใกล้ชายฝั่งคิวบา เรือรบสหรัฐพยายามยิงตอร์ปิโดเฉียดๆเพื่อให้เรือดำน้ำโซเวียตขึ้นมาบนผิวน้ำ เรือดำน้ำโซเวียตที่ดำมานานหลายสิบวันอยู่ในสภาพย่ำแย่ อากาศร้อนภายในเรือ ก๊าซคาร์บอกไดออกไซด์เต็มเรือไปหมดทำให้ลูกเรืออ่อนแรงและเหนื่อยล้า อารมณ์แปรปรวน แถมการดำลึกก็ทำให้ขาดการติดต่อจากมอสโคว์มากว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง ประกอบกับระเบิดตอร์ปิโดรอบๆเรือทำให้คนในเรือคิดว่าสงครามโลกครั้งที่สามเกิดขึ้นแล้ว คนส่วนใหญ่ในเรือคิดว่าต้องยิงหัวรบนิวเคลียร์ออกไป
เดชะบุญที่การยิงนิวเคลียร์ต้องใช้นายทหารเห็นด้วยสามคน สองคนตัดสินใจยิงแล้วแต่มีนายทหารรัสเซียหนึ่งคนไม่เห็นด้วย ทำให้โลกรอดพ้นสงครามนิวเคลียร์อย่างหวุดหวิดเป็นที่สุด
ระหว่างระยะเวลาอีกสองวัน ทาง JFK ก็ได้จดหมายจากครุชชอฟส่งเงื่อนไขถอนขีปนาวุธแต่สหรัฐต้องสัญญาว่าจะไม่บุกคิวบาอีก (สมัยนั้นยังไม่มีโทรศัพท์ hotline ระหว่างผู้นำ) ซึ่งทางข่าวกรองก็ไม่ยืนยันว่าจริงหรือไม่ หรืออาจะเป็นแผนถ่วงเวลาให้มิสซายด์เสร็จ ทางการทหารก็อยากจะบุกเต็มแก่และเห็นว่าการเจรจาต่อรองเป็นการแสดงความอ่อนแอ แล้วจะยิ่งทำให้โซเวียตได้ใจ ใน excom ส่วนใหญ่ก็เห็นควรให้รีบเปิดฉากบุก แต่ JFK ตัดสินใจครั้งสุดท้ายด้วยการใช้คนที่เขาไว้ใจที่สุดคือน้องชายโรเบิร์ต เคนเนดี้แอบไปเจรจาลับกับทูตรัสเซีย โดยหาทางที่จะไม่ให้ดูอ่อนไปแต่ก็ไม่แข็งกร้าวและไม่ให้ครุชชอฟเสียหน้า รวมถึงไม่ให้ nato รู้สึกว่าสหรัฐยอมแพ้ ซึ่งเป็นโจทย์ที่ยากมากๆ
โรเบิร์ตยื่นเงื่อนไขให้โซเวียตถอนหัวรบนิวเคลียร์พร้อมให้ UN เข้ามาตรวจสอบ โดยสหรัฐให้คำมั่นว่าจะไม่บุกคิวบา และอีกหกเดือนสหรัฐก็จะถอนจรวดออกจากอิตาลีและตุรกีอย่างเงียบๆ โดยห้ามโซเวียตอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดีลเพื่อไม่ให้ NATO ขาดความเชื่อมั่น ซึ่งถ้าดีลนี้โซเวียตไม่รับและรู้ว่าสหรัฐกำลังจะบุกคิวบา โซเวียตก็อาจจะกดปุ่มก่อน (strike first) และนำทั้งโลกสู่หายนะอยู่ดี
ในที่สุด…ครุชชอฟก็รับดีลในวันสุดท้ายก่อน deadline รวมทั้งสิ้นสิบสามวันที่ตึงเครียดและมีเหตุการณ์มากมายที่ถ้าก้าวผิดไปแม้แต่นิดก็จะนำมาซึ่งสงครามโลกครั้งที่สามอย่างแน่นอน เป็นสิบสามวันอันตรายที่สุดตั้งแต่โลกใบนี้เคยมีมา

258 Nameless Fanboi Posted ID:8Xji6V/yOo

I don't understand how people can make worshipping a politician their entire life's purpose.

F * * K B I D E N. All Life Matter.

259 Nameless Fanboi Posted ID:s+FUYlMz2j

>>258 come live among asian, you will understand eventually

260 Nameless Fanboi Posted ID:NrM3eLHw9i

ถ้าปูตินทำตามเศรษฐกิจพอเพียงแต่แรก โดน sanction แล้วเศรษฐกิจไม่พังขนาดนี้หรอกคัฟ — probably said by Salim somewhere

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

261 Nameless Fanboi Posted ID:9ZEru0sUwk

>>253 >>254 >>255 >>256 บ่นควยอะไรกันพวกโง่

262 Nameless Fanboi Posted ID:6ZUFe35Du+

หนังสือเล่มนี้เสนอทฤษฎีที่อหังการมากๆ ว่า ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติมาถึงจุดสูงสุดแล้ว (end of history) โดยวิวัฒนาการขั้นสุดของสังคมมนุษย์ คือ รูปแบบการเมืองการปกครองแบบเสรีนิยมประชาธิปไตย (liberal democracy) ของโลกตะวันตกนี่ล่ะ เพราะการสิ้นสุดสงครามเย็น ถือเป็นการพิสูจน์แล้วว่าโลกเสรีเป็นฝ่ายชนะ

แนวคิดเรื่อง end of history ไม่ใช่ของใหม่ นักปรัชญาในอดีตอย่าง Thomas Moore, Hegel หรือ Marx เคยฝันถึงจุดสูงสุดของสังคมมนุษย์กันมาก่อน (เช่น Utopia) แต่ Fukuyama อาจหาญมากถึงขั้นบอกว่า ปี 1992 นี่ล่ะ เราเห็นจุดสูงสุดที่ว่านั่นแล้ว

ความอาจหาญของ Fukuyama ทำให้หนังสือเล่มนี้ดังมาก และมีนักวิชาการจำนวนมากออกมาวิจารณ์หรือตอบโต้

หนึ่งในคำวิจารณ์ที่มีน้ำหนักที่สุดคือ Samuel Huntington อาจารย์ของ Fukuyama ที่ออกหนังสือ The Clash of Civilizations (บทความออกปี 1993, หนังสือออกปี 1996) มาตอบโต้ เนื้อหาหลักคือบอกว่า การต่อสู้ทางอุดมการณ์ (ideology) อาจสิ้นสุดลงหลังสงครามเย็น แต่โลกจะยังขัดแย้งกันจากการปะทะกันของกลุ่มวัฒนธรรม-ศาสนาที่ต่างกันแทน (เช่น ตะวันตก ยุโรปตะวันออก จีน อิสลาม ละตินอเมริกัน พุธ)

263 Nameless Fanboi Posted ID:6ZUFe35Du+

ทศวรรษ 1990s เป็นทศวรรษที่สหรัฐอเมริกายิ่งใหญ่ โชติช่วงชัชวาล เป็นผู้นำโลกทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง การทหารแต่เพียงผู้เดียว เราเห็นแสนยานุภาพของสหรัฐในสงครามอ่าวเปอร์เซียยุครัฐบาลบุชคนพ่อ เศรษฐกิจอเมริกันพุ่งทะยานในยุคคลินตัน

ความรุ่งเรืองของอเมริกา ในฐานะหัวหอกของโลกเสรี อาจเป็นหลักฐานสนับสนุนแนวคิดของ Fukuyama ว่าโลกเสรีชนะแล้วจริงๆ

แต่เหตุการณ์ 9/11 ทำให้โลกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โจรปล้นเครื่องบินจากที่ไหนไม่รู้โผล่มาถล่มศูนย์กลางทุนนิยมอเมริกัน ทำให้แนวคิด The End of History ล้าสมัยในทันที และแนวคิด Clash of Civilizations กลายเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับสถานการณ์โลกมากกว่า

โลกหลังยุค 2000s เป็นต้นมา เปลี่ยนจากอเมริกันเป็นผู้นำเดี่ยว กลายเป็นโลกหลายขั้วมากขึ้น เราเห็นความขัดแย้งระหว่างโลกตะวันตก กับโลกอิสลาม หรือการผงาดขึ้นมาของวัฒนธรรมเอเชียที่นำโดยจีน ในขณะที่อเมริกาเองก็เจอกับวิกฤตใหญ่สองครั้งคือ 9/11 และ วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2007-2008 ไม่มีเวลาออกไปยุ่งเรื่องชาวบ้านมากนัก

ตัวของ Fukuyama ไปออกหนังสือด้านทฤษฎีการเมืองอีกหลายเล่ม แต่ก็ไม่มีเล่มไหนดังเท่ากับ The End of History ที่สร้างชื่อให้เขามากที่สุด

ข้ามเวลามายังปี 2022 ซึ่งครบรอบ 30 ปีหนังสือ The End of History พอดี สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทำให้ความขัดแย้งระหว่างยุโรปตะวันตก vs สหภาพโซเวียตกลับมาอีกครั้ง แถมรอบนี้ไม่ได้เป็นสงครามเย็น (cold war) ฮึ่มๆ ฮั่มๆ ใส่กันอย่างเดียว แต่เป็นสงครามร้อน (hot war) ที่มีการยิงกันจริงๆ จังๆ มีคนตายและความสูญเสียเกิดขึ้นจริงแล้ว

โลกจึงหันกลับมามอง Fukuyama อีกครั้งว่าเขามีความคิดอย่างไร

264 Nameless Fanboi Posted ID:6ZUFe35Du+

Fukuyama วิจารณ์ปูตินว่าไม่มีทางประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจ เพราะคนยูเครนร่วมใจกันต่อต้าน ส่วนโลกเสรีก็ระดมความช่วยเหลือ ทั้งเรื่องอาวุธ และการปิดกั้นทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ต่อรัสเซีย

เสร็จแล้ว Fukuyama ก็โยงเข้าหนังสือเล่มใหม่ทันที โดยบอกว่าสงครามครั้งนี้เป็นสิ่งบ่งชี้ว่า สังคมโลกเสรีเจอการต่อต้านจากทุกทิศทาง ไม่ใช่แค่สงครามรอบนี้เท่านั้น แต่รวมถึงการต่อต้านจากส่วนอื่นๆ ของสังคมโลกเสรีเองด้วย

เขาย้อนกลับไปอธิบายแนวคิดของ liberalism ที่เริ่มก่อตัวในช่วงศตวรรษที่ 17 ว่า พื้นฐานของมันคือการเคารพความแตกต่างทางความคิดของปัจเจก ถึงแม้มีแนวคิดหรือความเชื่อไม่เหมือนกัน ก็ยังอยู่ร่วมสังคมกันได้

It recognises that people will not agree on the most important things — such as which religion to follow — but that they need to tolerate fellow citizens with views different from their own.

265 Nameless Fanboi Posted ID:6ZUFe35Du+

แนวคิดพื้นฐานของ liberalism มีทั้งเรื่องสิทธิในการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ และซื้อขายเปลี่ยนมือได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ liberalism ยังเข้ากันได้ดีกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ที่เกิดขึ้นในยุคเดียวกัน

It does this by respecting the equal rights and dignity of individuals, through a rule of law and constitutional government that checks and balances the powers of modern states. Among those rights are the rights to own property and to transact freely, which is why classical liberalism was strongly associated with high levels of economic growth and prosperity in the modern world. In addition, classical liberalism was typically associated with modern natural science, and the view that science could help us to understand and manipulate the external world to our own benefit.

ในบทความอีกชิ้นของ Financial Times ที่รีวิวหนังสือของ Fukuyama ขยายความเพิ่มว่า liberal (เสรีนิยม) กับ democracy (ประชาธิปไตย) เป็นคนละเรื่องกัน แม้มักไปด้วยกัน

เราอาจมี ประชาธิปไตยที่ไม่ค่อยเสรี (เช่น อินเดียยุคปัจจุบันของ Modi) หรือ เสรีที่ไม่ค่อยประชาธิปไตย (เช่น สิงคโปร์) ได้เช่นกัน

Fukuyama rightly reminds us that liberalism and democracy are distinct. There is illiberal democracy (Hungary under Viktor Orban, for example, or India as Narendra Modi would like it) as well as undemocratic liberalism (Bismarckian Germany, Singapore and Hong Kong now). Democracy is taken procedurally as a say for all in how those exercising state power are chosen and removed.

266 Nameless Fanboi Posted ID:6ZUFe35Du+

Fukuyama บอกว่า liberalism (ที่อยู่ตรงกลาง) ถูกโจมตีจากทั้งฝ่ายขวาและฝ่ายซ้าย

ฝ่ายขวา (อนุรักษ์นิยม) มักไม่ชอบความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่สังคมเสรีโอบรับ เพราะอนุรักษ์นิยมมักต้องการสังคมที่คนนับถือศาสนาเดียวกัน เชื้อชาติเดียวกัน ตัวอย่างที่ชัดเจนคืออินเดียยุค Modi ที่เชิดชูคุณค่าของฮินดูเหนือศาสนาอื่น

ฝ่ายซ้ายเองก็ท้าทายแนวคิดของ liberalism เช่นกัน โดยฝ่ายหัวก้าวหน้า (progressive) มักมองว่าแนวทางของ liberalism นั้นช้าเกินไป และไม่ตอบโจทย์ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ (ทั้งทางชาติพันธุ์และเศรษฐกิจ)

มุมมองของฝ่ายซ้ายคือควรเชิดชู “ความยุติธรรมของสังคม” (social justice) เป็นหลัก เหนือวิธีคิดเรื่องเสรีภาพ

ทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา มีจุดร่วมกันคือต่อต้านวิทยาศาสตร์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (expertise ในที่นี้ก็หมายถึงการปกครองโดย technocrat)

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการต่อต้าน Anthony Fauci ตัวแทนของวิทยาศาสตร์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการกำหนดนโยบายยุค COVID โดยเฉพาะเรื่องการฉีดวัคซีน-หน้ากาก

267 Nameless Fanboi Posted ID:g1az0pI8vZ

พวกขยะเขียนหนังสือขายหลอกขายฝันให้พวกสามกีบมาซื้อ

268 Nameless Fanboi Posted ID:m.9Tzrhc38

สามกีบมันชอบโควตฟินๆอยู่แล้วแปลกอะไร

269 Nameless Fanboi Posted ID:FeXGY7ETBz

>>268 นั่นดิชอบโควทประมาณว่า ยิ่งใหญ่โดยไม่รบกับใครงี้ เห็นแชร์กันบานเลย ทั้งๆที่เจ้าตัวไม่ได้พูด อสกข 55555555555555555555

270 Nameless Fanboi Posted ID:1CL0+LlIsB

>>266 ก็ไม่แปลก Liberal มันเป็นแนวทางที่ไปกันได้กับ Capitalism มากที่สุด ในขณะที่อนุรักษ์นิยมและสังคมนิยมล้วนฉุดรั้งพลังของทุน ผ่านการผูกขาดทั้งโดยชนชั้นนำหรือตัวรัฐโดยตรง

271 Nameless Fanboi Posted ID:xD5HSiWzxL

>>261 เขินหราครับ ไปนอน gulag แก้เขินซักคืนมั้ย 5555

272 Nameless Fanboi Posted ID:3Hmu/i9m2N

>>270 อนุรักษ์นิยมก็ไปได้ แดกสบายด้วย เจ้าสัวผูกขาดเสือนอนกินแบบบ้านเราไง

273 Nameless Fanboi Posted ID:x5PfO870PW

>>272 ผูกขาดยังไงวะ ไม่มีใครห้ามเปิดร้านสะดวกซื้อ ไม่มีใครห้ามเลี้ยงไก่

274 Nameless Fanboi Posted ID:86tJLV0cKo

>>273 ถ้านี้ไม่เรียกว่าผูกขาด😌

275 Nameless Fanboi Posted ID:kTE9qG04AO

>>272 ผูกขาดระยะยาวมันก็ไม่ทำให้เกิดการพัฒนาเพราะขาดแรงจูงใจในการแข่งขัน ให้นึกถึงสินค้าหรั่ง-ยุ่น แต่ก่อนไม่ง้อตลาดล่าง เน้นสร้างแบรนด์ luxury high-en premium เป็นหลัก หลังๆ ต้องลงมาแข่งตรงนี้ด้วยเพราะเกากับเจ๊กใช้ตรงนี้สะสมทุน

276 Nameless Fanboi Posted ID:0nysx7K6LQ

>>275 มันถูกผลักให้ไปตลาดบนเพราะแข่งด้านต้นทุนไม่ได้มากกว่า อย่างอิตาลี่เมื่อก่อนได้ชื่อว่าเป็นฌรงงานของยุโรป ผลิตของราคาถูกไม่ต่างจากจีนทุกวันนี้เลย แต่พอมีคนผลิตได้ถูกกว่า มันถึงต้องขยับไปขายตลาดบนขึ้น ทุกวันนี้ไม่มีใครเชื่อมโยงคำว่า made in italy กับของราคาถูกอีกแล้ว

277 Nameless Fanboi Posted ID:ryBMJu.63H

>>270 ถ้าเป็นอนุรักษนิยมแบบอเมริกานี่ไม่ได้ไปไม่ได้กับทุนนิยมนะ

ตรงกันข้าม liberal มันรับนโยบายฝ่ายซ้ายมาบางส่วน ทำให้ทุนนิยมมันไม่โหดร้ายเหมือนในยุคก่อนแค่นั้น

อนุรักษนิยมอเมริกาคือ โปรตลาดเสรีเต็มขั้น โปรรัฐบาลขนาดเล็ก เก็บภาษีน้อย
ในแง่นี้ conservative america ไปได้กับ free market capitalism มากว่าด้วยซ้ำ

278 Nameless Fanboi Posted ID:yPlQh17TPe

>>277 ระยะยาวมันก็จะกลายเป็นการผูกขาดของ "คนมาก่อน" น่ะมึง ในเรื่อง ศก. เมกามีคำว่า American Dream คืออารมณ์ให้เชื่อในความขยัน ประหยัด อดทน ไม่งอมืองอเท้าเอาแต่เรียกร้องกับรัฐ ซึ่งยุคก่อนๆ มันก็ได้ผลแหละ แต่หลังปี 1990 เป็นต้นมา มันเหมือนกลายเป็นว่าโอกาสที่คนเริ่มจาก 0 (หรือติดลบ) จะสร้างเนื้อสร้างตัวได้มันลดลงเรื่อยๆ เพราะทุกอย่างมันมีคนรุ่นก่อนๆ จับจองไปแล้ว ที่พวกซ้ายเมกามันมาแรงขึ้นก็คงเพราะแบบนี้แหละ

279 Nameless Fanboi Posted ID:yaWOzYXPCr

>>278 ข้ออ้างเด็กยุคใหม่ไม่ขยันทำงาน

280 Nameless Fanboi Posted ID:yPlQh17TPe

>>279 กูเห็น gen z เป็นงี้ทั่วโลก เมกาก็เป็น ไทยก็เป็น เกานี่มีคำว่านรกโชซอน เจ๊กนี่เริ่มอยู่ไปวันๆ เพราะมองว่าขยันไปชีวิตก็ไม่ดีขึ้น ทุกจุดมีคนรุ่นก่อนจองหมดแล้ว

281 Nameless Fanboi Posted ID:ClcDCydx3V

>>280 วลีอมตะ "เด็กสมัยนี้...."

282 Nameless Fanboi Posted ID:ZTv7X.yI/L

ไม่ว่ายุคไหน ใส่สมอเท่ห์เสมอ

283 Nameless Fanboi Posted ID:yaWOzYXPCr

>>280 elon musk ท็อปbitkub ทิมพิธา ต็อบเถ้าแก่น้อย สร้างเองกับมือในยุคที่พวกมึงบ่นกันว่าทำไม่ได้นี่แหละ

284 Nameless Fanboi Posted ID:7KH8f+M+14

>>283 "Survivorship bias"

285 Nameless Fanboi Posted ID:yaWOzYXPCr

>>284 loser mentality

286 Nameless Fanboi Posted ID:YebJzI9WJr

>>283 แล้วไมมึงทำไม่ได้

287 Nameless Fanboi Posted ID:yaWOzYXPCr

>>286 ไม่มีคำว่าทำไม่ได้สำหรับผู้ชนะ มีแค่"ยังไม่ได้" กูกำลังหาพ่อใหม่เป็นเจ้าของเหมืองพลอยในแอฟริกาแบบelonอยู่ ถ้ากูหาได้ แล้วเค้ายอมเป็นพ่อกู กูก็จะเป็นeliteได้

288 Nameless Fanboi Posted ID:ClcDCydx3V

>>287 หาใหม่ทำไมวะ พ่อคนปัจจุบันมึงก็รวยล้นฟ้าเมียน้อยเป็นภูเขาอยู่แล้ว

289 Nameless Fanboi Posted ID:7OINLjFbZd

รัฐสวัสดิการคืออะไร มีแนวคิดอย่างไร มีรูปแบบเพียงแค่รัฐสวัสดิการแบบสแกนดิเนเวียหรือไม่

ก่อนอื่น เราต้องแยกให้ออกก่อนว่า ‘รัฐสวัสดิการ’ กับ ‘สวัสดิการ’ ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน เพราะฉะนั้น เวลาเราศึกษาเรื่องรัฐสวัสดิการ ต้องศึกษา ‘รัฐ’ มากกว่า ‘สวัสดิการ’

นักวิชาการในแวดวงรัฐสวัสดิการศึกษาหลายคนพยายามจะหานิยามของรัฐสวัสดิการ แม้ว่าจะไม่มีฉันทามติร่วมว่ารัฐสวัสดิการคืออะไร แต่นิยามที่หลากหลายดังกล่าวก็มีลักษณะร่วมกันอยู่ คือ ‘รูปแบบรัฐชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่กระจายสวัสดิการให้กับประชาชน’ หรือ ‘กระบวนการตัดสินใจเชิงนโยบายของรัฐรูปแบบหนึ่ง ซึ่งสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับทุนนิยมและระบอบประชาธิปไตยตัวแทน โดยรัฐจะสร้างสถาบันที่เป็นข้อผูกมัดต่อความมั่นคงของสังคม และสนับสนุนการมีอยู่ของพลเมือง’

รัฐสวัสดิการมีอยู่หลากหลายรูปแบบมาก งานชิ้นสำคัญที่พยายามจำแนกรัฐสวัสดิการตะวันตก เรื่อง The Three Worlds of Welfare Capitalism โดยนักวิชาการชาวเดนมาร์กชื่อ กอสตา เอสปิง-แอนเดอร์เซ่น (Gøsta Esping-Andersen) เขียนขึ้นในปี 1990 แบ่งประเภทรัฐสวัสดิการตะวันตกออกเป็นสามกลุ่ม คือ กลุ่มเสรีนิยมอย่างสหรัฐฯ หรือสหราชอาณาจักร กลุ่มอนุรักษ์นิยมอย่างเยอรมนีหรือฝรั่งเศส และกลุ่มสังคมนิยมประชาธิปไตยอย่างในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย โดยใช้ตัวชี้วัด 3 ตัวในการจำแนก อย่างแรกคือ ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ ตลาด และครอบครัว สอง อัตราการแทรกแซงกลไกตลาดของรัฐ และสาม การแบ่งและการเลื่อนชนชั้นทางสังคม

อย่างไรก็ตาม การนิยามและจัดกลุ่มข้างต้นยังค่อนข้างแคบ และจำกัดกรอบการศึกษาแค่รัฐสวัสดิการในยุโรปตะวันตกเท่านั้น เพราะกรอบความคิดเรื่องประชาธิปไตย ทุนนิยม และนิติรัฐ ไม่สามารถนำมาใช้อธิบายรัฐที่เกิดใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือรัฐที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองแบบอาณานิคมอย่างลาตินอเมริกา เอเชียตะวันออก หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ ดังนั้น ภายหลังก็เลยมีนักวิชาการหลายคนเริ่มไปศึกษารัฐสวัสดิการเฉพาะในภูมิภาคเหล่านี้ แล้วก็ค้นพบว่า มีรูปแบบรัฐสวัสดิการที่ต่างไปจากรัฐสวัสดิการแบบยุโรปตะวันตก หรือแม้กระทั่งรัฐสวัสดิการในยุโรปตะวันออกก็ไม่เหมือนกับรัฐสวัสดิการในยุโรปตะวันตก

ทำไมคนทั่วไปมักไม่จัดว่าสหรัฐอเมริกาเป็นรัฐสวัสดิการ

โดยนิยามสหรัฐฯ เป็นรัฐสวัสดิการแบบเสรีนิยม หากเราดูตัวชี้วัดที่บอกไว้ข้างต้นประกอบ รัฐสวัสดิการเสรีนิยมจะใช้กลไกตลาดจัดสรรสวัสดิการ รัฐเข้าไปแทรกแซงน้อยมาก แทรกแซงเท่าที่จำเป็น ดังนั้นเราจึงเห็นความเหลื่อมล้ำระหว่างชนชั้นค่อนข้างสูง

ในขณะที่รัฐสวัสดิการอนุรักษ์นิยมจะแทรกแซงกลไกตลาดในระดับปานกลาง และให้สถาบันครอบครัวมีส่วนรวมในการจัดสรรสวัสดิการแก่ประชาชน

ส่วนรัฐสวัสดิการสังคมนิยมประชาธิปไตย รัฐจะเข้ามาแทรกแซงกลไกตลาดค่อนข้างมาก อำนาจการจัดสรรสวัสดิการจะอยู่ที่รัฐมากกว่าสถาบันครอบครัว ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างชนชั้นได้มากกว่า

290 Nameless Fanboi Posted ID:HEnWS4ZFSh

>>283 แต่ละตัว ประเภทเดียวกันทั้งนั้น 5555

291 Nameless Fanboi Posted ID:Q2.RJcMBXc

Austin Russell เกิด1994 รวยพันล้านด้วยตัวเอง พ่อแม่ไม่ได้รวย

292 Nameless Fanboi Posted ID:gm2W8MJbux

Austin Russell เป็นคนไทย

293 Nameless Fanboi Posted ID:MGvtGYJVoI

จบไปแล้วครับ เมื่อวาน จะขอสรุปประเด็นที่ได้คุยกันเมื่อวานนี้ เพื่อขายของสำหรับรอบต่อไป 5555 นอกจากนี้ มีหนึ่งในผู้เข้าร่วมวงเสนอว่าอยากคุยเรื่อง algorithmic fairness, governance, data privacy ถ้าหากมีท่านใดเคยมีประสบการณ์/ มีความสนใจ แจ้งได้เลยนะครับ เผื่อจะมีครั้งหน้านะครับ

ไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้ และจะขอ anonymize ผู้เข้าร่วมทุกท่าน ถ้าหากท่านใดไม่สะดวกในการถูกกล่าวถึง บอกได้เลยนะครับ

กิจกรรมเมื่อวานยอมรับเลยว่า ส่วนตัวเริ่มต้นด้วยความติดๆนิดนึง ด้วยความด้อยประสบการณ์และต้องทำตัวเองให้เป็น lead discussant แต่พอไฟจุดติดปุ๊ป ผมว่าเราคุยกันสนุกเลย

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมของเราเรียกว่าหลากหลายเลยก็ได้ครับ เราเป็นวงเล็ก ๆ รวมกันเข้ามาก็ประมาณ 10-15 ท่าน range อายุห่างกันมากสุดก็ประมาณ 10-15 รุ่น และมีระดับการศึกษาตั้งแต่ ป.ตรี ป.โท เรื่อยไปจนถึงนักศึกษา ป.เอก ทั้งในไทยและต่างประเทศ และ background ก็หลากหลาย มีมาจากทั้งที่เคยทำงานในภาครัฐ เอกชน นักศึกษา รวมไปถึงบางท่านก็อยู่ในภาคการเมือง และมีทั้งนักเรียนเศรษฐศาสตร์ นักเรียนกฎหมาย หรือแม้กระทั่งนักเรียนวิศวะ

ซึ่งเราก็คุยกันไปเรื่อย ตั้งแต่ 20:00 จนถึงประมาณ 22:30 และก็มีคุยกันต่อเล็กน้อย และปิดห้องกันจริงๆ ก็ปาไป 23:30 กว่า ๆ

เราเปิดประเด็นด้วยการคุยกันถึงประเด็นที่เราได้กำหนดกัน ก็คือ ม๊อบชาวนา ซึ่งมีข้อเสนอหลักๆ คือการเรียกร้องให้รัฐบาลทำ Haircut โอนหนี้จากธนาคารภาครัฐเข้ากองทุนฟื้นฟูเกษตรกร เราเปิดประเด็นด้วยการที่ว่า ปัญหาม๊อบชาวนา ก็คือปัญหาเชิงโครงสร้างที่ดิ่งลึก และเราต้องมองในมิติที่ลึกลงไปมากกว่าการมองตื้นๆ และข้อเสนอเบื้องต้นของชาวนา

เพื่อนของผมคนหนึ่งก็เลยเปิดประเด็นด้วยการพูดถึง cost structure ของการทำนา ที่พบว่าสัดส่วนหนึ่งที่สำคัญคือปุ๋ย ซึ่งเราต้องนำเข้า "แม่ปุ๋ย" มาจากต่างประเทศเพื่อให้เป็นปุ๋ยมาใช้ในประเทศ และถึงแม้ในประเทศของเราจะมีแร่นี้อยู่ในประเทศ เช่น โปแตส แต่การสร้างเหมืองขึ้นมาขุดเองก็มีปัจจัยทางการเมือง/ NGOs ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้การแก้ไขปัญหาลดต้นทุนการเกษตรในฝั่งของ cost structure ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ

นอกจากนี้ เราคุยกันไปถึงเรื่องเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีเข้ามา เพราะผมก็ raise ประเด็นขึ้นมาว่า เคยสัมภาษณ์คนทำเกษตร ตอนแข่งเคสเกษตร เขาก็บอกว่า การใช้ยาฆ่าแมลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นการ "ตายผ่อนส่ง" ซึ่งก็มีเพื่อนซึ่งเป็นนักเรียนวิศวะชูประเด็นขึ้นมาว่าเราก็น่าจะใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหาได้ เช่นพวก โดรนทางการเกษตร ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพ แต่ไม่ทำกัน แต่กลุ่มพี่ ๆ อดีตข้าราชการต่างก็มีความเห็นที่ตรงกันว่า ในเชิง implementation เรื่องนี้กลับกลายเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะสมมติจู่ๆ จะ introduce เรื่องนี้ไปให้ชาวนา เรื่องแรกที่เขาจะสวนกลับมาก็คือ อ่าว แค่ชลประทานยังไม่มีให้เลย จะให้ใช้โดรนแล้วเหรอ รวมไปถึงการจะสอนเกษตรกรใช้โดรน ก็ต้องยอมรับว่ายาก

พอเราคุยกันเรื่องฝั่ง cost structure จบ เราก็ได้เปิดประเด็นใหม่ ซึ่งส่วนตัวผมก็มองว่าเป็นหัวใจสำคัญของปัญหา ก็คือ ลักษณะของตลาดข้าวในประเทศ ข้อมูลหนึ่งที่ได้รับก็คือ "โรงสีข้าว/พ่อค้าคนกลาง" ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชาวนาได้รับรายได้น้อย และนำไปสู่ปัญหากู้หนี้ยืมสิน และการก่อหนี้

ที่เรามองว่ามันเป็นปัญหาจริง ๆ ของเรื่องนี้ ก็เพราะเราจะเห็นได้ว่า นโยบายการแทรกแซงกลไกราคาข้าวที่มีอยู่ ก็สร้างปัญหาให้เกิดกลไกแทรกแซงตลาดอย่างเป็นระบบ จากการทีรัฐก็ใส่เงินเข้าไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันจบ และชาวนาก็ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงราคาเพราะราคาข้าวที่เป็นอยู่นั้นไม่พอยาไส้เมื่อราคาข้าวตก ซึ่งมันจะไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าหากเราสามารถทำอะไรบางอย่างให้ชาวนาสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง ตามกลไกตลาด

ถึงจุดนี้เราก็ต้อง provide basic background ก่อนว่า จากในงานศึกษาโดย อ.โสมรัศมิ์ และ อ.วิษณุ ในปี 2019 เราก็พบว่า ค่า median ของหนี้เกษตรกรที่เกิดขึ้นกับธนาคารเพื่อการเกษตรอยู่ที่ประมาณ 200,000-400,000 บาท และค่อนข้างกระจุกตัวมากสุดในภาคกลาง และเมื่อได้คุยกับรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้อง ก็พบว่า nature ของตลาดข้าวที่น่าสนใจหลากหลายประการ เช่น ลักษณะการก่อหนี้ ที่ไม่ได้มีเพียงแต่หนี้ในระบบที่ก่อกับธนาคาร แต่มีประเด็นเรื่องหนี้นอกระบบระหว่างชาวนากับนายทุนในพื้นที่ หรือโรงสี ซึ่งทำให้เราได้ข้อสังเกตว่า ถึงแม้ในงานศึกษาเราจะเห็นได้ว่าหนี้ในระบบจะกระจุกตัวสูงในภาคกลาง แต่ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกันว่ามันอาจจะมีหนี้นอกระบบจำนวนมากซ่อนเร้นอยู่ในภาคอีสาน และเราไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลมันได้ดีมากเท่าใดนัก นอกจากนี้ ลักษณะตลาดซื้อขายข้าวในภาคกลาง และภาคอีสานนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง

294 Nameless Fanboi Posted ID:KXM8+tXRbu

การเมืองเริ่มคึกคัก อย่างน้อยก็การเลือกตั้งผู้ว่า กทม.และพัทยา ต่อไปก็ระดับชาติ

สิ่งที่ขาดหายไปสำหรับการเมืองไทยคือการมีพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนความคิดของประชาธิปไตยในกลุ่มคนที่แตกต่างกันเพียงพอ

เราจะเห็นชื่อพรรคการเมืองเน้นความคลุมเครือหรือสัญลักษณ์ในการเชียร์ตัวบุคคลเป็นสำคัญ

ทำให้นึกถึงระบอบมูลนายที่ชาวบ้านต้องเข้าสังกัดเพื่อความอยู่รอดในสังคมเกษตรกรรมโบราณและแน่นอนจะตามมาด้วยการเก็บส่วย การซื้อเสียงเป็นของคู่กัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

นักการเมืองก็จะเป็นเพียงการหมุนเวียนกันไปตามสังกัดที่เห็นว่าจะได้อำนาจในแต่ละเวลา เราอาจเห็นแบ่งข้างเป็นฝ่ายเผด็จการ ฝ่ายประชาธิปไตยบ้าง ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลบ้างปน ๆ กันไป

ในเวลานี้การรวมตัวกันทางอุดมการณ์มีความสำคัญเพราะการตัดสินใจบริหารงานขึ้นอยู่กับอุดมการณ์

ในเรื่องเดียวกันเช่นแก้รถติด อุดมการณ์ที่ต่างกันวิธีการย่อมต่างกัน ซึ่งเราดูจากนโยบายย่อยที่ออกมากันได้

ในตะวันตกเราจะมีพรรคการเมืองแบบกลางซ้าย กลางขวาผลัดกันเป็นรัฐบาล สอดแทรกด้วย ฝ่ายซ้าย ฝ่ายขวามาผสมโดยจะมีจุดยืนนโยบายของตนเองที่ชัดเจน แทบจะไม่ต้องมาถามกันช่วงเลือกตั้ง มีเพียงยกบางเรื่องมาให้หวือหวาเท่านั้น แต่ประชาชนรู้ว่าประเทศรอบนี้จะไปทางไหน

ไทยเรามีกลางซ้ายอย่างอดีตอนาคตใหม่ ซ้ายอย่างพรรคสามัญชน กลางค่อนข้างซ้ายแบบเพื่อไทย กลางค่อนข้างขวาแบบภูมิใจไทย แล้วกระโดดไปขวาแบบเสรีนิยมมากเลยแบบประชาธิปัตย์หรือพรรคกล้าที่จะออกแนวจารีตด้วย พอ ๆ กับพรรคพลังประชารัฐปัจจุบัน ส่วนพรรคขวาจัดเลยแทบไม่มีที่ยืน พอ ๆ กับ ฝ่ายซ้ายแบบสังคมนิยม

ที่เห็นขาดอยู่แน่ ๆ คือแนวอนุรักษ์นิยมใหม่ ซึ่งไม่ใช่แนวทางของพรรคประชาธิปัตย์หรือพลังประชารัฐ

จุดนี้ทำให้ผู้มีอุดมการณ์แบบเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยมไปพร้อม ๆ กันไม่มีตัวแแทน

เขาคือพวกไหน คือนักธุรกิจที่ชอบการแข่งขัน ไม่ชอบการผูกขาดที่พรรคแบบกึ่งจารีตเดิมสนับสนุนอยู่ในตอนนี้ เขาคือชาวบ้านที่สนใจการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่าถูกแช่แข็ง เขาคือคนที่เห็นว่าประเทศไทยมีดีหลายอย่างที่ต่างชาตินิยมแต่ถูกการโฆษณาชวนเชื่อของฝ่ายเผด็จการทำเสียของ

เขาเกลียดเผด็จการพอ ๆ กับ ฝ่ายซ้าย แต่ใช้วิธีการสร้างแสนยานุภาพทางทหารให้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของรัฐบาล ไม่ใช่ให้มาบริหารเสียเองแบบไร้คุณภาพ

เขาเป็นคนเน้นคุณภาพ เน้นการผลิต เน้นสายวิทย์มากกว่าสายสังคม เขาคือแนวทางพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ มาร์กาเร็ต แธทเชอร์และบอริส จอห์นสันของอังกฤษ

สายอนุรักษ์นิยมใหม่นี้ยังไม่มีในไทย กำเนิดของสายนี้เกิดในสมัยยุคสงครามเวียดนามในสหรัฐฯที่นอกจากสนับสนุนเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมแล้ว ยังเปลี่ยนหลักคิดของเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยมเดิมที่ปล่อยให้เอกชนผูกขาดตามใจชอบ มาเป็นการเข้มงวดเรื่องกฎหมายป้องกันการผูกขาด และสนับสนุนเทคโนโลยีทางทหารจนกลับมาผงาดในสงครามอ่าวที่ทำสงครามควบคู่กับการขยายฐานเศรษฐกิจ กลายมาเป็นทิศทางหนึ่งของนโยบายสหรัฐฯมาจนถึงปัจจุบันสำหรับพรรครีพับลิกัน

จะเลือกตั้งกัน เราชาวบ้านจำเป็นต้องเลือกพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของเรา อ้าปากมาก็ต้องรู้ว่าการแก้ปัญหาให้เรานั้นเป็นอย่างไร แนวไหน ศึกษานโยบายให้มาก

พวก”ได้หมด ถ้าสดชื่น” หักหลังประชาชนมากี่รอบแล้ว ควรจะจำ แต่ถ้าเราคิดเพียงแค่เลือกตามต้นสังกัด ตามผู้นำ ตามหัวคะแนนวังวนนี้จะติดกันอีกนานครับ

ป.ล. เอาที่มาของอนุรักษ์นิยมใหม่มาให้รู้จักกันด้วย

295 Nameless Fanboi Posted ID:f03PrAIWZ0

>>294 เขียนได้ดี ในปวศ.ไทยเคียงสุดคือแม้วนั่นละ ถ้ามาสายนี้เต็มตัวก็ต้องล้มประชานิยมออกไปถึงจะถือว่าเป็น

296 Nameless Fanboi Posted ID:XxhjWdqPH5

>>295 แต่แม้วคงไม่ล้มประชานิยมอะ เพราะมันคือจุดขาย กูว่า ปท. กำลังพัฒนา พวก neoliberal เกิดยากนะ แนวคิดเรื่องต้องช่วยคนจน ต้องให้แต้มต่อคนข้างล่างจะเสียงดังกว่า ขนาดตู่ที่เกลียดวิธีพวกนี้ สุดท้ายก็ต้องยอมให้มีบัตรคนจนและอื่นๆ ตามมาแล้วแต่ที่นักการเมืองแนะนำ ไม่งั้นไม่มีวันได้คะแนนเสียงน่ะ

297 Nameless Fanboi Posted ID:u.U.96sG7I

>>294 เพื่อไทยนี่แม่งค่อนไปทางซ้ายยังไงวะ เคยดูสภาจริงรึเปล่า แม่งโคตรขวาเลย วันๆ พูดแต่เรื่องพระ ทำนุบำรุงศาสนา

เอาจริงๆ เพื่อไทย ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ ชาติไทยพัฒนา มันเป็นพรรคที่ไม่มีอุดมการณ์ทางการเมืองอะ คือเอาไปจัดไม่ได้หรอกว่าสเปกตรัมของมันอยู่ตรงไหน แค่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้บรรลุจุดประสงค์บางอย่าง (เอาแม้วกลับบ้าน ช่วยตู่เป็นนายก สนับสนุนธุรกิจตัวเอง/ผันงบเข้าจังหวัดฐานที่มั่น)

298 Nameless Fanboi Posted ID:sqtNYxr9It

>>297 30 บาท กองทุนหมู่บ้าน นโยบายประชานิยมทั้งหลาย ทำให้คนมองว่าซ้าย แต่กุว่าเพื่อไทยมันไม่ใช่พรรคเชิงอุดมการณ์อะ หลายคนนี้ก็คงคิดเหมือนกัน

299 Nameless Fanboi Posted ID:f03PrAIWZ0

>>296 ชิลีเคยพยามทำแบบนี้เหมือนกันนะ เสรีเต็มรูปแบบ แต่ล้มไปก่อนเพราะตลาดในประเทศยังไม่โตพอจะรับ และสู้ตลาดต่างประเทศไม่ไหว

ของไทยถ้าจะทำขั้นแรกคือต้องล้มรายใหญ่ลงมาก่อน แล้วให้ SME โต ไม่งั้นมันจะกลายเป็นทุนผูกขาดไปแทน

>>297 มันดูจากแนวนโยบายได้ ซ้ายของแม้วคือมันซ้ายเมื่อมองจากยุคนั้น โดยเฉพาะเรื่อง 30 บาทที่ไทยซ้ายกว่าฝรั่งอีก เพราะไม่มีจ่ายร่วมหรือขึ้นภาษีเพื่อมาเติมส่วนนี้โดยเฉพาะ

300 Nameless Fanboi Posted ID:sqtNYxr9It

>>299 นโยบายซ้ายคือบางเรื่องไม่เท่ากับสรุปได้ว่าพรรคนั้นซ้าย คงจะสื่อแบบนี้เพราะบางเรื่องเพื่อไทยก็ขวามาก เช่น ศาสนา lgbtq (ยกเว้นคนรุ่นใหม่ในพรรค) สถาบัน ฯลฯเพื่อไทยจริงๆคือ big tent มากกว่า และเป็นพรรคที่เน้นชนะเลือกตั้งคือถ้ากระแสสังคมไปขวา เพื่อไทยก็จะขวาตาม แต่ตอนปี44 48 คนจนยังเยอะ นโยบายจึงต้องออกมาตอบโจทย์คนจนเพื่อชนะเลือกตั้ง คือจุดกำเนิดพรรคมันเกิดจากการรวมกลุ่มคนที่หลากหลาย ทั้งนักวิชาการ บ้านใหญ่ นักการเมืองเจ้าพ่อ คนรุ่นใหม่(ตอนนั้น) มากกว่าจะรวมจากอุดมการณ์ แต่เพื่อไทยก็สามารถพัฒนาไปเป็นพรรคอุดมการณ์ได้ น่าเสียดาย อุดมการณ์neoliberal ตามข้างบนยังไม่มีพรรคไหนมาเจาะแบบจริงจัง เพื่อไทยน่าจะไปทางนั้น มันจะได้เป็นซ้ายกลาง(ก้าวไกล) กับขวากลาง(เพื่อไทย)

301 Nameless Fanboi Posted ID:Ty4d4eb8Zg

มีกูคิดไปเองไหมว่า นโยบายประชานิยม ยิ่งทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำรวย-จน มากกว่าจะช่วยกลุ่มคนจน

302 Nameless Fanboi Posted ID:f03PrAIWZ0

>>300 ก็อย่างที่มันเขียนว่าเอียงซ้ายนั่นละ มันวัดจากนโยบายอันนี้อันเดียว ที่เหลือขวาหมด แต่ก็เป็นขวาคนละเฉดกัน

>>301 ในระยะยาว ใช่ เพราะมันไม่ได้แก้ปัญหารากฐานอะไรของคนจน แค่ทำให้คนจนอยู่ได้มากกว่า บางคนก็หายจนได้นะ แต่ปัญหาคือการหายจนผ่านวิธีนี้มันทำให้คนเสพย์ติดความจนว่ารัฐต้องช่วย

303 Nameless Fanboi Posted ID:h4icGjG0W8

นารวมคือคำตอบ ลดความเลื่อมล้ำ เพราะไม่มีใครถือครองที่ดิน และทุกคนต้องทำนาเหมือนกัน
ใครไม่ทำนาก็ไม่ต้องแดกข้าว

304 Nameless Fanboi Posted ID:sqtNYxr9It

>>303 ชีวิตทุนนิยมทุกวันนี้ ที่ไม่ทำงาน=อดตาย มันก็ดีกว่านารวมนิดเดียว

305 Nameless Fanboi Posted ID:h4icGjG0W8

>>304 ทำงานในระบบทุนนิยมมันก็มีความเลื่อมล้ำอยู่ดี
มนุษย์เงินเดือนเมืองใหญ่นั่งทำงานในอาคารมีแอร์มีเน็ตใช้
คนพวกนี้จะไม่เข้าใจความยากลำบากในการทำการเกษตร
การทำนารวมในความคิดของเหมาหรือเขมรแดง ไม่ใช่แค่ลดความเลื่อมล้ำ
หรือรวมศูนย์การผลิตอาหารอย่างเดียว แต่เหมา,เขมรแดง
ต้องการให้ชนชั้นกลางได้สัมผัสกับความยากลำบากในการทำการเกษตรด้วย
เพราะการเกษตรที่การผลิตอาหาร คนที่มีสิทธิกินอาหารก็ควรมีส่วนร่วมในการผลิต

306 Nameless Fanboi Posted ID:XxhjWdqPH5

>>299 >>301 ไม่เชิงทำให้ความเหลื่อมล้ำเพิ่ม แต่มันไม่สามารถแก้ไขความเหลื่อมล้ำใหัลดลง คือถ้าไม่แตะโครงสร้าง ไม่กล้าชนกับรากของปัญหา ประชานิยมมันก็แค่เหมือนกินยาให้อาการป่วยทุเลาลง แต่ไม่ใช่การผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออก

งงปะ กูยกตัวอย่างเรื่อง classic มากๆ ละกัน อย่างแผงลอยกับทางเท้าเนี่ย มันเป็นดราม่า ทะเลาะกันระหว่างชนชั้นกลางล่าง+รากหญ้า ที่ต้องการนโยบายเอาทางเท้ามาแบ่งเป็นจุดผ่อนผันให้ขายของสร้างอาชีพใช่ปะ แต่คนชั้นกลางบนต้องการให้ทางเท้าเป็นทางเดิน หรือไม่ก็เป็นกึ่งๆ สวนหย่อม เป็นพื้นที่สีเขียวเล็กๆ ดูศิวิไลซ์ ทีนี้ถ้าไปดู ปท. ที่ทำให้แผงลอยหายไปแบบสิงคโปร์ คือที่ดินเป็นของรัฐไง รัฐก็แค่สร้างอาคารขึ้นมาตรงทำเลดีๆ นั่นแหละ แล้วย้ายแม่ค้าเข้าไป ค่าเช่าที่ไม่แพง โปรโมทให้ด้วย มันก็วิน-วินกันหมด คนเดินได้ทางเท้าดีๆ แม่ค้าได้ที่ทำกินทำเลดีๆ ส่วนของเรา ที่่ดินดีๆ อยู่ในมือแลนด์ลอร์ด คืออีลีท ชนชั้นสูง คนรวยทุกกลุ่มเป็นแลนด์ลอร์ดหมด เราเลยไม่สามารถทำแบบสิงคโปร์ได้ วิธีแก้ไขแบบทีผ่านๆ มา คือ ใช้ พรบ.รักษาความสะอาด ที่เปิดช่องให้ตั้งจุดผ่อนผันได้ เอาทางเท้าให้ขายของซะ จะกำหนดวันเวลาขายอะไรก็ว่าไป แต่พอวันหนึ่งคนเริ่มบ่นมากๆ เรื่องเกะกะทางเดินมั่ง ทิ้งขยะมั่วมั่ง รถติดเพราะจอดซื้อของมั่ง ก็ยกเลิกจุดผ่อนผันกันที แต่เลิกแล้วไปไหน ก็ไล่ไปขายในซอกในหลืบ ทำเลไม่ดี แต่สักพักพอเรื่องเงียบ ก็กลับมาขายทางเท้าเหมือนเดิม แล้วก็ยื่นขอให้ตั้งจุดผ่อนผันเหมือนเดิม วนลูปแบบนี้ เพราะ กทม. หรือแม้แต่รัฐบาลกลาง ไม่สามารถไปหักคอแลนด์ลอร์ดได้ เห้ยมึงห้ามคิดค่าเช่าแพงนะ อะไรแบบนี้ไม่มีอำนาจเลย ถ้าจะให้มีคือต้องแก้กฎหมาย กำหนดว่ารัฐมีหน้าที่ควบคุมค่าเช่าที่ดิน (หรือแม้แต่ราคาขายอสังหาฯ เพราะเรื่องที่อยู่อ่าศัยแพง หลังๆ ก็เริ่มมีคนบ่นกันแล้ว เรียนจบมาผ่อนกัน 20-30 ปีกว่าจะหมด เงินออมไว้ตอนเกษียณแทบไม่มี เงินลงทุนให้งอกเงยยิ่งไม่ต้องพูดกัน) แบบนั้นอะแก้ปัญหาได้ยั่งนืน แต่ก็นะ กล้าชนกับแลนด์ลอร์ดหรอ และกูว่าพวกที่เล่นการเมืองได้ แม่งก็รวยพอจะเป็นแลนด์ลอร์ดกันทั้งนั้น แล้วจะทุบหม้อข้าวตัวเองทำไม

307 Nameless Fanboi Posted ID:XxhjWdqPH5

>>300 Neoliberal มันเกิดไม่ได้ใน ปท. ที่คนส่วนใหญ่ยังเป็นกลางล่าง + รากหญ้าน่ะ ที่เพื่อไทยยังคงอยู่มาได้จนวันนี้ก็เพราะสภาพสังคมบ้านเรายังเป็นแบบนี้ ถูกยุบไปกี่ทีก็เกิดใหม่ได้ตลอดไง

308 Nameless Fanboi Posted ID:sFl7ztkv+v

You either die cringe, or live long enough to see yourself become based

309 Nameless Fanboi Posted ID:3XhSUZaq/Q

1. Oscars become irrelevant
2. Will Smith slaps Chris Rock
3. Everyone is talking about Oscars
4. Profit.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

310 Nameless Fanboi Posted ID:LNh66hvH53

>>309 สวัสดี สหาย dispro

311 Nameless Fanboi Posted ID:EgLT81f81I

https://www.facebook.com/112605123796060/posts/485990096457559/
อย่าทะเลาะกันครับ

312 Nameless Fanboi Posted ID:cm8cwAYx2F

หรือ BOJ กำลังจะทำให้ญี่ปุ่นล้มละลาย..?

อ่านข่าวล่าสุด ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจกว้านซื้อพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ไม่จำกัดจำนวน เพื่อกด yield ไม่ให้พุ่งขึ้น

ก่อนอื่น เรามาตีความความหมายของข่าวนี้กันก่อน

📍 yield พันธบัตรของญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้น สาเหตุเกิดจาก นักลงทุนที่ถือพันธบัตรญี่ปุ่น เริ่มเทขายพันธบัตรญี่ปุ่นทิ้ง ไปถือพันธบัตรที่ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น พันธบัตรสหรัฐที่เพิ่งขึ้นดอกเบี้ยไป (ผลพวงคือเงินเยนอ่อนค่าอย่างมีนัยยะ ตั้งแต่สหรัฐเริ่มประกาศขึ้นดอกเบี้ย)

📍 เพื่อพันธบัตรถูกเทขาย yield ของพันธบัตรเลยพุ่งขึ้น เมื่อพุ่งขึ้นสูง เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า คนกลัวไม่อยากถือพันธบัตรรัฐบาล ก็จะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ คนแห่เทขายพันธบัตรเรื่อยๆ yield ก็จะยิ่งพุ่งขึ้นจนหยุดไม่อยู่ ถ้า yield พุ่งมากๆ ก็มีแนวโน้มว่า คนจะแห่ทิ้งพันธบัตรรัฐบาลไปจนรัฐเข้าสู่ภาวะใกล้ที่จะล้มละลาย

📍 สิ่งที่รัฐบาลทุกประเทศกลัวคือ คนจะแห่เทขายพันธบัตรหนักมาก จนเกิดวิกฤติตราสารหนี้ (แบบที่เกิดกับไทยช่วงโควิดเริ่มใหม่ๆ ที่เงินหนีจากตลาดตราสารหนีอย่างรวดเร็วจนเกิดวิกฤติสภาพคล่องที่แบงค์ชาติต้องเข้ามาอุ้มตลาดตราสารหนี้)

📍 BOJ จึงตัดสินใจประกาศเข้าอุ้มพันธบัตรรัฐบาล พูดง่ายๆ คือเป็นคนเปิดโต๊ะรับซื้อพันธบัตรญี่ปุ่นอายุ 10 ปี แบบไม่อั้น โดยให้ดอกเบี้ยที่ 0.25% เป็นการกด yield พันธบัตรไม่ให้พุ่งขึ้น

📍 คำถามคือ BOJ เอาเงินที่ไหนมาอุ้มพันธบัตร? คำตอบที่ชัดที่สุดคือ พิมพ์เงินก้อนใหม่ QE อัดเข้ามาไม่อั้น เพื่อไล่ซื้อพันธบัตรจากทุกคนที่อยากจะขาย

📍 วิธีการนี้เป็นเหมือนการโกงเกม ทำให้ yield พันธบัตรนิ่งที่ 0.25% แลกมากับการพิมพ์เงินแบบไม่จำกัดจำนวน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น ทุกคนจะสามารถขายพันธบัตรรัฐบาลทิ้งได้แบบไม่ต้องกลัว และอาจจะทำให้เงินไหลออกจากเยนมากขึ้นเรื่อยๆ

📍 BOJ เคยใช้นโยบายนี้มาแล้ว ในช่วงปี 2016 ตอนนั้น pension fund ของญี่ปุ่นประสบภาวะเสี่ยงล้มละลาย จึงตัดสินใจเทขายพันธบัตรรัฐบาลและย้ายเงินไปลงทุนในหุ้นแทน เป็นสัดส่วนถึง 25% ของเงินกองทุน 2 ล้านล้านเหรียญ ตอนนั้น yield พันธบัตรพุ่งขึ้นจนเกือบหยุดไม่อยู่ จนสุดท้าย BOJ ต้องเข้ามาอุ้มพันธบัตรรัฐบาลด้วยการพิมพ์เงิน QE กว้านซื้อพันธบัตรทุกราคา

📍 การอุ้มพันธบัตรรัฐบาล จึงอาจจะเป็นการทำลายค่าเงินเยนในทางกลับกัน ก็เป็นได้ ในระยะสั้นคงไม่ใช่เรื่องน่ากังวลนัก เนื่องจากเมื่อเงินอ่อนลง ก็จะเป็นประโยชน์โดยตรงกับญี่ปุ่น ที่เจอปัญหาเยนแข็งผิดธรรมชาติมาเนิ่นนาน

📍 แต่หากเงินอ่อนหนักไปเรื่อยๆ จนคนเสียศรัทธาในเยน อาจจะเกิดภาวะ ทิ้งเงินเยนอย่างรุนแรง จนเสี่ยงที่จะเกิด hyperinflation ได้ (แต่คิดว่าคงไม่เกิดในระยะเวลาอันใกล้หรอกครับ ยังไม่ต้องกลัวขนาดนั้น)

📍 ในภาวะที่หลายๆ ประเทศขึ้นดอกเบี้ยตามสหรัฐอเมริกาไม่ได้ ภาวะเงินไหลออกแบบที่เกิดกับญี่ปุ่น น่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เสถียรภาพค่าเงินของโลกมีความผันผวนหนักขึ้นไปอีก

📍 ผมเคยโพสเรื่องนี้เมื่อปีที่แล้ว ใครสนใจลองอ่านทำความเข้าใจดู ช่วงนี้เศรษฐกิจญี่ปุ่นน่าเป็นห่วงเป็นอย่างยิ่งครับ

313 Nameless Fanboi Posted ID:EgLT81f81I

ลมร้อนนั้นได้พัดผ่าน
สร้างความขรุขระภายในพื้นทราย
อาคารที่พังทลาย
ภายใต้สำนึกของเรามันคือจุดยืน
ดั่งฝูงวัวควายมืดบอดต้องติดตามฝูง
เราพยายามจะตัดสิน
ทุกสิ่งที่เคยเกิดขึ้นไปแล้ว
ฉันไม่รู้ไม่เคยถูกบอก
แต่ความปรารถนาของผู้คนมันควบคุมไม่ได้
ฉันไม่รู้ไม่เคยถูกบอก
แต่ความปรารถนาของผู้คนมันควบคุมไม่ได้
ความร้อนของผืนทราย
เศษฝุ่นเปรอะเปื้อนใบหน้าของฉัน
ไร้ซึ่งทิศทาง
เหล่าทหารมิรู้จักความอับอาย
ออกมาจากกองขี้เถ้า
พญาอินทรีทยานขึ้นฟ้า
อิสระภาพได้เรียกหา
แด่เหล่าผู้ที่โค้งหัวคำนับ
ฉันอยู่ตรงนี้
สกปรกและไร้ตัวตน
รอรับคำสั่งของนายเหนือหัว
ด้วยตัวของตัวเอง
นักรบผู้ไร้ตัวตน
ฉันคือสายลมแห่งการทำลายล้าง
เราสู้เพื่อความยุติธรรม
ในที่ที่ถูกลืมเลือน
เติมเต็มในหน้าที่
จากนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ไม่ต้องการเหรียญตรา
สำหรับเหล่าผู้คนที่เราได้ฆ่า
อิสรภาพได้เรียกหา
แด่เหล่าผู้ที่โค้งหัวคำนับ
สายลมแห่งการทำลายล้าง

314 Nameless Fanboi Posted ID:cm8cwAYx2F

จุดด้อยของบุดดร้าตอนตายไม่ได้มอบอำนาจให้ใครเป็น speaker ความเละเริ่มตรงนี้ สาวกระดับ elite นับร้อยคนยำคำสอนตามใจที่อยากให้เป็น ระดับความจำ ถ้าถามว่าเมื่อวานตอนเช้าทานข้าวกับอะไร ก็ลืมกันหมดแล้ว

315 Nameless Fanboi Posted ID:GbWktBacUJ

คริสโดนต่อย : เจ็บตัวคนเดียว พักสิบนาที หายเจ็บ

เจด้าโดนเมคฟัน : อับอายต่อคนทั้งโลก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะโดนมุกล้อเลียนแบบนี้อีกกี่รอบ โดนไปอีกนานแค่ไหน จากใครบ้าง

ประชากรโลก : เลือกจะปกป้องคริส

เริ่ด

อย่างน้อยที่สุดคริสก็สมควรโดนต่อย แล้วเจด้าล่ะ เจด้าทำอะไรให้สมควรโดนล้อ เทียบกันระหว่างวิลที่ไปต่อยคนอื่นเพราะเมียโดนล้อ กับอีคริสที่ไปล้อคนอื่นขึ้นมาเฉยๆ ไม่มีสาเหตุ

ใครมันผิดกว่ากัน ใครมันทำเวที ‘เสื่อมเกียรติ’กว่ากัน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

316 Nameless Fanboi Posted ID:IQCDgrPgWh

>>314 เรื่องยำคำสอน บุดด้าบอกเองนะ ถ้าวันหน้าวินัยข้อไหนไม่สอดคล้องกับยุคสมัยก็ให้ปรับเปลี่ยนบ้างก็ได้ มหายานถึงไปไกลกว่าเถรวาทเพราะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่ายกว่า แต่ก็นั่นละ มีปัญหาคนละแบบ เถรวาทคือเลือกไมป่รับแก้อะไรเลยก็มีปัญหาลักลั่น เช่น พระตามวัดทั่วๆ ไปไม่หรูหรามาก ต้องทำงานช่างในการซ่อมบำรุงวัดเองนะถ้าทำได้เพื่อประหยัดงบจ้างช่าง แล้วพระก็ต้องปีนป่ายยกแข้งยกขา แต่ไม่ให้พระใส่กางเกงใน บางทีมันก็เป็นทัศนียภาพที่ไม่ดีเหมือนกัน หรือเรื่องพระจับเงิน สมัยพุทธกาลสินค้าที่ใช้เงินซื้อมักจะเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยน่ะ พระเลยไม่จำเป็นต้องใช้ แต่สมัยนี้บริการพื้นฐาน น้ำ ไฟ โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต การเดินทางต่างๆ ยังไงก็ต้องใช้เงิน ยิ่งวัดสมัยใหม่ยังเป็นสถานที่ขยายโอกาสในการเรียนอีก ครอบครัวจนๆ พ่อแม่ให้ลูกชายบวชตั้งแต่เป็นเณร จะได้มีช่องทางเรียนหนังสือไปยันมหาลัย พวกนี้ใช้เงืนทั้งนั้นนะ ขณะที่มหายานก็ตามนั้น เปลี่ยนแปลงคำสอนได้ตามความจำเป็น แต่มนุษย์ก็นะ อะไรที่อยากบิดก็หาข้ออ้างได้ทั้งนั้นแหละ

317 Nameless Fanboi Posted ID:/kye9XkKoS

>>315 ผิดมารยาท vs ผิดกฎหมาย

#มิตรสหายหลายท่าน

318 Nameless Fanboi Posted ID:B.XBVGUunu

ติ่งแดง ติ่งเหลือง ติ่งส้ม ก็ยังมีจุดยืน "แต่ติ่งปูตินนี่ใช้ความเลวล้วนๆ" มาเป็นจุดยืน และในสามติ่งมีคละไปคลั่งติ่งปูตินทุกกลุ่ม โดยติ่งเหลืองเยอะสุด ส่วนส้มแดงมีไปปนด้วย พอๆกัน

เมนไอเดียคือเกลียดไอ้กัน ชังนาโต้ เพราะคิดว่าทฤษฎีสมคบคิดที่ตนได้ยินมา เป็นเรื่องเจ๋ง ลับสุดยอด ใครรู้แล้วเท่

แต่นาโต้ไม่เคยรุกรานไปแจกประชาธิปไตย มีแต่ประเทศเผด็จการที่พยายามปรับตัวเข้าหานาโต้ เมื่อเป็นประชาธิปไตย

ในขณะที่ประเทศเผด็จการ พยายามส่งนอมินี่เข้าครอบงำกดขี่ไม่ให้เจริญ และอดอยากยากแค้น เพื่อตอบสนองรัฐเมืองหลวงของเผด็จการ

319 Nameless Fanboi Posted ID:cm8cwAYx2F

>>316 คำสอนนี่มึงฟังเอง หรืออ่านมาอีกที ย้ำอีกรอบ พระไตรปิฏก พระพุทธเจ้าไม่ได้เขียนเอง สาวกรวบรวมจากความทรงจำ

320 Nameless Fanboi Posted ID:wMzaA33od6

>>319 แล้วมึงหาได้ยังที่บอกว่าพุทธแท้ไม่มีนรกสวรรค์นะ ทุกคนรอมึงอยู่นะ

321 Nameless Fanboi Posted ID:cm8cwAYx2F

>>320 คนละคน

322 Nameless Fanboi Posted ID:NVsHy92EcL

>>320 คิดถึงหล่ะสิ สงสัยเหงาตูด

323 Nameless Fanboi Posted ID:NEKkmwW4/x

>>321 แล้วมึงจะถามหาทำใม ในเมื่อมันไม่มีบันทึกจริง แล้วมึงแย้งได้มั้ยละว่าไม่ได้พูดเรื่องนี้

324 Nameless Fanboi Posted ID:yODKdXAx1K

กูรำคาญไอ้โม่งตรรกะวิบัติที่แม่งชอบพิมพ์ยาวๆว่ะ ตั้งแต่บอกช่องห้าคืนชีพละ

325 Nameless Fanboi Posted ID:cm8cwAYx2F

>>323 แล้วมึงมีอะไรมายืนยันละว่าพูดจริง คนที่บอกว่าพูดจริงต้องหาหลักฐานไม่ใช่หรอวะ เหมือนคนบอกว่าพระเจ้ามีจริงก็ต้องอะไรมายืนยันว่ามี คือกุไม่ได้บอกนะว่าพูดหรือไม่พูด ประเด็นกุคือ พระไตรปิฏกพระพุทธเจ้าไม่ได้เขียนเองจริงๆ ก็ทุกคนก็บอกกันไม่ใช่หรอวะว่าหลังพระพุทธเจ้าตาย สาวกถึงรวบรวมคำสอนลงไป

326 Nameless Fanboi Posted ID:NEKkmwW4/x

>>325 ก็คำสอนที่รวบรวมมาเนี่ยถือว่าน่าเชื่อถือที่สุดแล้ว มึงบอกว่าไม่จริงได้ แต่มึงต้องมีหน้าที่พิสูจน์ว่าไม่จริง ไม่งั้นหลักฐานที่ชัดเจนสุดจะถือว่ามีน้ำหนักกว่าคำพูดมึง

327 Nameless Fanboi Posted ID:LWcYCUv1.a

>>316 ช่วยตอบให้ละกัน คืออันนี้มีอธิบายอยู่แล้วตอนสังคายนาว่าวินัยเล็กน้อยที่ให้เพิกถอนได้คือส่วนที่เป็นโลกวัชชะ คือเรื่องที่ไม่ได้ผิดโดยธรรมชาติ แต่ทำแล้วโดนชาวบ้านด่า
ถ้ายังอยู่ในสังคมที่เห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พระสงฆ์ไม่ควรทำ ทำแล้วจะโดนด่า ก็ยังไม่ควรไปเพิกถอนบัญญัติเหล่านี้

มหายานสายจีนมันเผยแพร่เข้าไปในสังคมใหม่ที่เห็นว่าบางอย่างที่อินเดียด่าไม่ใช่เรื่องเสียหาย บัญญัติพวกนี้เลยถอนออกไปได้
ตอนพระถังซำจั๋งไปเรียนนาลันทาก็มีเปิดโลกทัศน์เหมือนกันว่าบางอย่างที่มหายานในจีนทำ มหายานอินเดียเขาไม่ทำกัน

328 Nameless Fanboi Posted ID:cm8cwAYx2F

บุดด้าบอกเอง=เขาเล่ามา เพื่อนเล่าให้

ไม่ได้บอกว่าที่ฟังมา เล่ามาไม่ถูก คือกุแค่โคว้ทเรื่องพระไตรปิฏก พระพุทธเจ้าไม่ได้เขียนเอง แล้วกุไม่ได้บอกนะว่า ไม่ได้เขียนเองแสดงว่าไม่น่าเชื่อถือ ในพระไตรปิฏกไม่จริง กุแค่บอกว่าพระไตรปิฏกไม่ได้เขียนเองแค่นี้ ไม่ต้องตีความเกินที่จะสื่อ

ไม่ต่างอะไร กับที่กุจะบอกว่าคัมภีร์ไบเบิลมนุษย์เขียนขึ้นมาจากการฟังพระเจ้าอะไรก็ว่าไป

มึงจะแย้งก็ต้องแย้งว่า พระไตรปิฏกคนเขียนคนแรกคือพระพุทธเจ้า เขียนไว้ตั้งแต่ก่อนตายอะไรแบบนี้

329 Nameless Fanboi Posted ID:B.XBVGUunu

ชนชั้นกลาง มักเข้าข้างคนรวย
ไม่สนใจความเหลื่อมล้ำ
เพราะ "กลัวคนจนได้ดีกว่า"
.
ปัญหาความเหลื่อมล้ำคือสิ่งที่หลายๆ ประเทศกำลังเผชิญ รวมถึงบ้านเราด้วย เพื่อนๆ ทราบหรือไม่ครับว่าคนรวย 20% แรกของประเทศไทย ได้รับประโยชน์สูงสุดจากค่าลดหย่อนภาษีถึง 2 ล้านบาท ทางกรมสรรพากรจึงพยายามปรับปรุงเงื่อนไข ให้จัดเก็บภาษีจากคนรวยได้มากขึ้น เพื่อนำมาเป็นรายได้พัฒนาประเทศ
.
มันคงจะดีใช่มั้ยล่ะครับ? ถ้าเรามีการกระจายรายได้ ขจัดปัญหาความเหลื่อมล้ำให้หมดไป คนจนก็สามารถลืมตาอ้าปากได้
.
แต่แน่นอนว่า “คนรวย” ย่อมไม่อยากเสียสิทธิ์ ส่วน “คนจน” คือกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการกระจายรายได้ แล้ว “ชนชั้นกลาง” ล่ะครับ มองเรื่องนี้กันอย่างไร?
.
ชนชั้นกลางบางส่วนรู้สึกเห็นอกเห็นใจ อยากช่วยต่อสู้ และเป็นกระบอกเสียงให้กับคนจนที่อยู่ฐานล่างสุดของพีระมิด แต่ทว่ายังมีชนชั้นกลางอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่สนใจปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม และมีแนวคิดสนับสนุนให้กลุ่มคนที่รวยอยู่แล้วนั้น ร่ำรวยยิ่งขึ้นไปอีก
.
เพราะอะไร? ทำไมชนชั้นกลางจึงมีแนวโน้ม “เข้าข้างคนรวย”? คำตอบอาจอยู่ในงานวิจัยที่ aomMONEY จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ครับ

330 Nameless Fanboi Posted ID:B.XBVGUunu

เรื่องนี้ ศ.ดร.ณัฐวุฒิ เผ่าทวี นักเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม เปิดเผยผ่านบทความเรื่อง “ทำไมชนชั้นกลางถึงรู้สึกโอเคกับความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้ที่สูงมากในสังคมของเรา” โดยหยิบยกงานวิจัยของนักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่า
.
กลุ่มคนที่มีระดับรายได้ปานกลาง (middle-income) มักจะ #เกลียดการเป็นคนที่รั้งท้ายสุด (last-place aversion) เพราะคนเราต่างสนใจและให้ความสำคัญกับ “การจัดอันดับ” (ranking) เป็นอย่างมาก
.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งชนชั้นกลาง ที่ไม่ได้ยากจนถึงขั้นไม่มีข้าวกิน แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวยมั่งคั่ง มักจะกังวลว่าหากมีการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ มีนโยบายกระจายรายได้จากคนรวยสู่คนจนมากขึ้น ชีวิตความเป็นอยู่ของคนจนก็จะพัฒนาขึ้น จนอาจจะ “#เทียบเท่า” หรือ “#แซงหน้า” ตัวเองก็เป็นได้
.
แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว นโยบายนั้นๆ จะไม่มีผลกระทบกับรายได้ของชนชั้นกลางเลยก็ตาม แต่การที่คนจนถูกเลื่อนลำดับรายได้ ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ ทำให้ชนชั้นกลางรู้สึกทุกข์ใจ และ #กังวลว่าสถานะของตัวเองจะถูกสั่นคลอน จึงมีแนวโน้มไม่สนับสนุนนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ
.
แต่ชนชั้นกลางจะรู้สึกสนับสนุนนโยบายที่เป็นเชิงอนุรักษ์นิยม เช่น การเก็บภาษีคนรวยน้อยๆ หรือมองว่าการกระจายรายได้ในประเทศคือเรื่องไม่จำเป็น หรืออะไรก็ตามที่ทำให้คนรวยร่ำรวยขึ้น และคนจนยากจนลง เพื่อให้ตัวเองยังคงอันดับรายได้ รักษาสถานะชนชั้นกลางเอาไว้ได้นั่นเอง

331 Nameless Fanboi Posted ID:B.XBVGUunu

ซึ่งจริงๆ แล้วชนชั้นกลางเหล่านี้ต่างก็อยากร่ำรวยขึ้นกว่าเดิม แต่ว่า “ความอยากรวย” นี้ยังมีไม่มากเท่ากับ “ความกลัว” ที่ไม่อยากให้คนจนร่ำรวยขึ้นมาเทียบเท่า หรือแซงหน้าตัวเอง
.
[จนเพราะขี้เกียจ? หรือ จนเพราะเข้าไม่ถึงโอกาส?]
.
งานวิจัยของ Paul K. Piff รองศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์จิตวิทยา มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐฯ ชี้ว่ามนุษย์มักจะมองปัญหาของความจนออกเป็น 2 สาเหตุ
1.#จนเพราะขี้เกียจ เช่น ไม่ขยันทำงานหาเงิน ซึ่งเป็นความจนที่สามารถควบคุมได้
2.#จนเพราะโชคชะตา/ไม่ได้รับโอกาส เช่น เกิดมาในครอบครัวยากจน เข้าไม่ถึงการศึกษา จึงไม่มีโอกาสทางสังคมเหมือนคนทั่วไป อันนี้เป็นความจนที่ไม่สามารถควบคุมได้
.
คนส่วนใหญ่มักจะมองว่า ปัญหาความจนมักเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง (ไม่ข้อ 1. ก็ข้อ 2.) สิ่งที่เป็นอันตรายคือ หากเราเชื่อว่าคนจนเพราะขี้เกียจ ก็จะไม่สนใจและไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม (ประมาณว่าก็จนเพราะไม่ขยันเองนี่นา ช่วยไม่ได้!) เพราะนั่นทำให้ปัญหาฝังรากลึกต่อไป
.
ต่อมาทาง Paul K. Piff และทีมวิจัยก็สร้างการทดลองกระตุ้นจิตใต้สำนึก ให้ผู้คนลองพยายามอธิบายว่า “ทำไมบางคนถึงยากจน? และทำไมเขาถึงไม่ควรที่จะยากจน?” ก็พบว่าสามารถทำให้กลุ่มตัวอย่างมีความคิดว่า คนจนเพราะโชคชะตา/ไม่ได้รับโอกาส มากกว่าจนเพราะขี้เกียจ
.
หลังจากจบการทดลอง กลุ่มตัวอย่างจะได้รับเงินคนละ 25 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 840 บาท) โดยเลือกได้ว่าจะเก็บเงินนี้ไว้เอง หรือบริจาคให้กองทุนที่ทำงานเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
.
ผลปรากฏว่ากลุ่มคนที่ได้รับการกระตุ้นจิตใต้สำนึก และมีแนวคิดว่าคนจนเพราะโชคชะตา/ไม่ได้รับโอกาส จะบริจาคเงินให้กองทุนลดความเหลื่อมล้ำ มากกว่ากลุ่มคนที่มีแนวคิดว่าคนจนเพราะขี้เกียจ
.
อย่างไรก็ตาม การที่ผลวิจัยระบุว่าชนชั้นกลาง มักมีแนวคิดอนุรักษ์นิยม ไม่สนใจเรื่องความเหลื่อมล้ำและการกระจายรายได้นั้น เป็นเพียงการสำรวจชนชั้นกลางบางกลุ่มเท่านั้น
.
แต่จากงานชิ้นนี้ ทำให้เราเห็นสิ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม คือนอกจากนโยบายต่างๆ ของภาครัฐแล้ว การสร้างความเข้าใจเรื่อง “สาเหตุที่แท้จริงของความยากจน” ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันครับ

332 Nameless Fanboi Posted ID:B.XBVGUunu

>>329 >>330 >>331

สรุปนะครับ ชนชั้นกลางเหี้ย ไม่เห็นหัวคนจน

333 Nameless Fanboi Posted ID:wMzaA33od6

>>328 ก็พระพุทธเจ้าไม่ได้เขียน จะแย้งแบบนั้นได้ยังไง

ณ ตอนนี้พระไตรฯ ถือเป็นหลักฐานชั้นต้นที่เชื่อถือได้มากสุด บางอันก็เก่าสุด มึงแย้งเรื่องความคลาดเคลื่อนได้ แต่มึงจะแย้งว่าเพราะฟังมาอีกที=ไม่จริงไม่ได้ จนกว่ามึงจะมีหลักฐานที่เก่ากว่าและเชื่อถือได้กว่า ที่มีตอนนี้ต้องถือว่าเชื่อถือได้สุด

อ่านที่มึงเขียนยังไงก็เป็นโม่งพุทธแท้ แต่ในเมื่อมึงยืนยันว่าตัวเองไม่ใช่ก็ตามใจ

334 Nameless Fanboi Posted ID:vUQ7a7lhiu

เรื่องคําคมบุดด้าเนี่ยมันสรุปไม่ได้จริงไม่จริง พุทธแท้ไม่มีจริง ต้องเรียกว่าแล้วแต่ความเชื่อแต่ละนิกายหรือข้อสะนนิฐานของแต่ละทฤษฎี ไม่ต้องเถียงมาจูบกันดีกว่า

335 Nameless Fanboi Posted ID:kWWiFQSVHv

>>332 บ่นไรอยู่ได้ ถ้าไม่พอใจก็ลุยสิใครห้าม

336 Nameless Fanboi Posted ID:yFYtcDoECN

>>334 จูบควยกูนี่

337 Nameless Fanboi Posted ID:/zjjQSjnCQ

>>334 ไม่จริง กูเชื่อ=ของแท้

338 Nameless Fanboi Posted ID:6miSTFvH2J

>>333 กุต้องบอกกี่รอบ ว่าคนละคน กุไม่เคยพิมพ์ว่ากุเป็นพุทธแท้ มึงเช็คเลขไอดีก็ได้ กุเพิ่งมา

339 Nameless Fanboi Posted ID:6miSTFvH2J

>>333 ” ฟังมาอีกที=ไม่จริงไม่ได้ “ กุพิมพ์ตอนไหน ว่า ฟังมาเท่ากับไม่จริง

กุบอกว่า ฟังมา=50/50 เพราะมันคือการฟังมาอีกที

แล้วไอ้ที่บอกว่า จุดอ่อนบุดด้าไรเนี่ย กุโคว้ทมาอีกที เข้าใจมั้ยยยยย กุต้องใส่เครื่องหมายคำพูดทุกรอบรึไงงง

340 Nameless Fanboi Posted ID:hjyevrrbGD

คุยอะไรเรื่องศาสนากันวะเนี่ย ศาสนาแค่พร๊อพากันด้าเท่านั้น ให้คนอยู่ในรูปในรอย เมื่ออยู่ในรูปในรอยแล้ว ก็ทำสงครามสร้างลัทธิทางศาสนาต่อไป

อย่างศาสนาคริสต์ก็มีการทำสงครามครูเสต อิสลามก็มีจีฮัด พุทธก็มีอโศกมหาราชที่น่าจะฆ่าคนตายเพื่อศาสนาพุทธมากกว่าเจงกีสข่านซะอีก

พวกคลั่งศาสนาก็งี้ ทำการล่าแม่มดหาทางฆ่าคนอย่างถูกต้องเรื่อยๆไป

341 Nameless Fanboi Posted ID:vKJ78HZcLQ

>>340 วิทยศาสตร์ก็เช่นกัน ตอนนี้พวกเราอยู่ในโลกเสมือน

342 Nameless Fanboi Posted ID:BpHHo4QVH/

ตอนนี้พุทธศาสนา​มีอาจารย์​แดงแล้ว ผู้ที่จะมาเผยแผ่พุทธ​ที่แท้จริง

343 Nameless Fanboi Posted ID:URdV9T7PNv

ผู้หญิงเก่งนิดเก่งหน่อยก็มักมีปัญหา เหมือนรถแรงแต่แซงไม่พ้น พอแซงพ้นก็ขาดความเมตตาแห่งภาวะผู้นำอีก สนใจแต่คันที่อยู่ข้างหน้า

อยากจะตามตูดคันที่ตัวเองไม่สามารถแซงได้ตลอดชีวิต ทำให้ไม่สามารถเป็นคนเต็มคนได้ด้วยตัวเอง ต้องร้องหาคนนำได้อยู่ร่ำไปจนกว่าจะได้

ถ้าไม่ได้ชีวิตคงหาความสงบและความสุขด้วยตัวของตัวเองไม่เจอ

344 Nameless Fanboi Posted ID:o/K6egsTfc

บุดด้า vs จิซัส ตาม loreใครชนะครับ

345 Nameless Fanboi Posted ID:/zjjQSjnCQ

>>340 อโศกฆ่าคนเพื่อพุทธตอนไหน แล้วมากกว่าเจงกิสข่านนี่เป็นไปไม่ได้หรอก

346 Nameless Fanboi Posted ID:2pa8yENCWK

>>344 จีซัสชนะ

347 Nameless Fanboi Posted ID:f+mmjtu3XU

>>340 อโศกเขาฆ่าคนไปเยอะ แต่เลิกเพราะศาสนาพุทธโว้ย

348 Nameless Fanboi Posted ID:GNCspBtnfO

อำมาตย์เหล่านั้นพูดว่า พวกข้าพเจ้ากำหนดหมายได้ด้วยอุบายอย่างนี้ว่า พวกราชบุรุษ เมื่อจะปราบปัจจันตชนบทให้ราบคาบ ก็ต้องฆ่าพวกโจร ชื่อฉันใด ภิกษุเหล่าใดไม่ทำอุโบสถ พระราชาจักมีพระราชประสงค์ให้ฆ่าภิกษุเหล่านั้นเสีย ฉันนั้นเหมือนกัน.
ลำดับนั้น อำมาตย์นายนั้นไปยังพระวิหาร นัดให้ภิกษุสงฆ์ประชุมกันแล้วเรียนชี้แจงว่า พระราชาทรงสั่งข้าพเจ้ามาว่า เธอจงนิมนต์ภิกษุสงฆ์ให้ทำอุโบสถเถิด ข้าแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ! บัดนี้ ขอพวกท่านจงทำอุโบสถกรรมเถิด.
พวกภิกษุพูดว่า อาตมภาพทั้งหลายจะไม่ทำอุโบสถร่วมกับเหล่าเดียรถีย์. อำมาตย์เริ่มเอาดาบตัดศีรษะ (ของเหล่าภิกษุ) ให้ตกไป ตั้งต้นแต่อาสนะของพระเถระลงไป. ท่านพระติสสเถระได้เห็นอำมาตย์นั้นผู้ปฏิบัติผิดอย่างนั้นแล.

โท่ดๆ ลูกน้องทำ เจ้านายไม่ผิด ชะละล่า

349 Nameless Fanboi Posted ID:N.NkiTVSJW

เมื่อเช้า อ.ชัชชาติ ปั่นจักรยานมาจับเบอร์

พี่วิโรจน์ มารถเมล์ พร้อมก้าวไกล

.....

คนเชียร์ อ.ชัชชาติ คือ คนชั้นกลาง กทม ปัญญาชน ที่มีการศึกษาระดับป.ตรี ขึ้นไป ผู้ที่เคยออกไปดูโลกกว้าง เห็นเมืองที่ดีกว่า กทม หลายร้อนพันเท่า เมื่อเข้าใจ จึงมองมาที่งบประมาณของ กทม ว่ามีศักยภาพที่จะออกแบบเมืองให้ดีได้ อ.ชัชชาติ ฝากฝีมือไว้ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ อ.ชัชชาติ ใช้จักรยานในการเดินทางไปฟังผู้คนใน กทม สะท้อนปัญหาของพวกเขา ออกมาเป็นนโยบายต่างๆ
.
จักรยานของ อ.ชัชชาติ คือตัวแทน ความเป็นคนเมือง ในนิยามของโลกที่ดีกว่า กทม ที่ดีกว่า ในสายตาของชนชั้นกลาง ตามนิยามข้างบน เชื่อแน่ว่า อ.ชัชชาติทำได้ และกว่า 80% ของชนชั่นกลางในนิยามด้านบนมีจักรยานอยู่ที่บ้าน หรือต่อให้ไม่มี ก็มีจักรยาน แบบเมืองที่เจริญแล้วในยุโรปและญี่ปุ่นอยู่ในใจ

พี่วิโรจน์ มาด้วยรถเมล์พร้อมก้าวไกล
.
นี่คือความคณะก้าวหน้า ก้าวไกล และความอนาคตใหม่ คณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกลเชื่ออะไรที่เป็นหมู่คณะ แบบรถเมล์ เรามุ่งไปที่คนตัวเล็กๆ ในกทม ที่มาจากต่างจังหวัดบ้าง ประชากรแฝงบ้าง หรือคนหาเช้ากินค่ำที่นั่งรถเมล์ร้อนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เดินลุยไปขอสนามหลวงคืนจากเจ้าบ้าง เพื่อให้คนไร้บ้านได้นอนบ้าง คนธรรมดาได้มานั่งกะพื้น ขายของแบกะดินบ้าง
.
เราเชื่อใน “คอมมูน” เชื่อในคนธรรมดา และออกจะเอียงข้างคนตัวเล็กๆ ที่ไม่มีปากมีเสียงในทางการเมือง และคิดอยากให้ชีวิตของพวกเขาสบายขึ้นในเมืองที่เต็มไปด้วยอีหลีตหลายระดับอย่าง กทม

คนตัวเล็กใน กทม จะมีเสียงขึ้นมาได้ ตามความคิดของคณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล ไม่ใช่แค่การรับฟังปัญหา แล้วเอามาออกแบบนโยบาย ที่อาจไม่เลือกข้างทางการเมือง แต่ประนีประนอม แบบอ.ชัชชาติ

จุดแตกต่างอยู่ตรงนี้ พรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้าเลือกที่จะชนกับโครงสร้างที่กดทับผู้คนตรงๆ ในขณะที่อ.ชัชชาติ เลือกใช้วิธีออกแบบเมืองที่ถูกใจชนชั้นกลาง ไม่ชนกับโครงสร้างโดยตรง
.
จะบอกว่าจริงๆ ผมชื่นชมอ.ชัชชาติ มาตลอด เชื่อในความสามารถของแกที่พิสูจน์แล้ว แต่ถ้าผมเลือกผู้ว่า กทม ได้ ผม (ซึ่งเป็นชนชั้นกลางตามนิยามข้างบน) จะเลือกพี่วิโรจน์ เพราะ กทม เป็น เมืองที่คนชั้นกลางที่รู้ว่าจะร้องเรียนความไม่สะดวกสะบาย ความไม่พอใจ กับใครต่อใครได้อยู่แล้ว (เช่นเพจฟุตบาท ที่พอร้องเรียนเรื่องอะไร กทม รีบไปจัดการให้ทันที)

แต่เสียงคนตัวเล็กๆ ที่เขาไม่รู้ว่าจะทำให้เสียงของเขาดังขึ้นมา มีคนรับฟัง และแก้ปัญหาให้ต้องทำอย่างไร

มิใช่เรื่องที่เราควรให้ความสำคัญลำดับ 1 หรอกหรือ?

ฉะนั้น ไปเลือกพี่วิโรจน์ เบอร์ 1 ก้าวไกล ก้าวหน้า เป็นผู้ว่า กทม คนต่อไป

ครั่บ #เบอร์1 #ก้าวไกล #วิโรจน์ #ผู้ว่ากทม

Ps. นั่งรถเมล์มาสมัครเหมือนตอน ธนาธร อนาคตใหม่

350 Nameless Fanboi Posted ID:P+.cghTw4h

>เราเชื่อใน “คอมมูน”
>เขมรแดงถูกใจสิ่งนี้

351 Nameless Fanboi Posted ID:N.NkiTVSJW

>>350 คอมมูน=Community ก็ได้เหมือน กลัวอะไร หลอนคอมมิวนิสต์หรอ

352 Nameless Fanboi Posted ID:5AwK2C5r2e

>>351 คำว่าcommuneกับcommunityมันคนละคำกันเลยนะบักหำ มันไม่= แต่มัน!=

เลือกใช้คำว่าคอมมูน คนก็เอะใจว่าเลือกใช้คำนี้ทำไม ในเมื่อมีคำว่าชุมชนหรือคอมมูนิตี้อยู่แล้ว

ถ้าคนที่เอะใจเรื่องนี้หลอนคอม มึงก็หลอนแม็คคาร์ทีล่ะวะ

353 Nameless Fanboi Posted ID:N.NkiTVSJW

>>352 รากคำมันคือคำเดียวกันโว้ยย

354 Nameless Fanboi Posted ID:5AwK2C5r2e

>>353 แล้วไงวะว่ารากคำคือคำเดียวกัน นี่กำลังพูดถึงตัวสองคำนี้อยู่ ไปรากคำอะไร

งั้นเอาตามมาตรฐานมึง คำว่าAudience(ผู้ชม)กับAudio(เสียง) ก็มีความหมายเดียวกันงั้นเหรอ เพราะมันมีรากAud(ฟัง)เหมือนกัน

355 Nameless Fanboi Posted ID:pDy4aUrSu5

>>353 มึงมัน SJW นี่หว่า

356 Nameless Fanboi Posted ID:N.NkiTVSJW

>>354 เกี่ยวเสียงเหมือนกัน

คอมมูน หรือ คอมมิวนิตี้ มีความหมายสื่อถึง การอยู่ร่วมกันเป็นสังคมเหมือนกัน

คำว่าคอมมูนไม่ได้จำกัดแค่ในหมู่ฝ่ายซ้าย เขาใช้กันทั่วแล้ว มึงลองไปดูในกลุ่มนักวาด นักเขียนในทวิต เสิร์ชเอาเลยกผ้ได้ด้วยคำว่าคอมมูน แม่งใช้กันเป็นปกติละ

357 Nameless Fanboi Posted ID:N.NkiTVSJW

https://twitter.com/tsukiyp/status/1508359568694210563?s=21

ตัวอย่าง

358 Nameless Fanboi Posted ID:q5rE5DfVte

>>356 เค้าใช้คำว่า "คอมมู" ไม่ใช่ "คอมมูน"

359 Nameless Fanboi Posted ID:cdoqCD8H3h

>>356 commune is a small community, often rural, whose members share in the ownership of property, and in the division of labour; the members of such a community
while community is a group sharing a common understanding and often the same language, manners, tradition and law see civilization.
ดังนั้นกลุ่มแฟนด้อมต่างๆเรียกตัวเองว่าคอมมูครับ ไม่ใช่คอมมูน

360 Nameless Fanboi Posted ID:Idjc9axZV3

>>356 แปะโม่งคอมมูให้ดู ไปบอกพวกนี้หน่อยว่าแม่งเรียกผิดมา 124 มู้ละ

>>>/subculture/15270/

361 Nameless Fanboi Posted ID:nNQ7BhNTAo

มีแต่ไทยวัยเห่อหมอยที่ใช้ละ

362 Nameless Fanboi Posted ID:D363FS570I

>>361 อะไรคือเห่อหมอยแล้วทำไมต้องเห่อ

363 Nameless Fanboi Posted ID:5AwK2C5r2e

>>356 หน้าแตกแล้วยังไม่ยอมรับอีก แถแถ่ดๆเลยนะ

364 Nameless Fanboi Posted ID:zy8aHExa7O

>>349 ชัชชาติก็เอาคนตัวเล้กเหมือนกันนะ สองปีมานี้ทำคะแนนแจกข้าวคนจนกันใหญ่

365 Nameless Fanboi Posted ID:WZr.Zk9QEN

>>351 >>353 >>356
-รู้แบบผิดๆ รู้ไม่ครบ
-มั่นหน้าในความรู้ผิดๆ
-เอาความรู้ผิดๆไปฉอดคนอื่น
-พอโดนคนที่รู้จริงแก้ไขก็แถ ไม่ยอมรับ

คุณมาจากทวิตเตอร์ใช่หรือไม่

366 Nameless Fanboi Posted ID:N/f7ROcOGE

ชาวเด็กเฟสบุ๊คเนี่ยแหละครับ เล่นอะไรปญอเบียวๆคอมมูบ้าบอ ท่าจะหลอนกันเพราะไม่มีสังคมชีวิตจริง จินตนาการตลคมาเยเย้กัน น่าสมเพชดี

367 Nameless Fanboi Posted ID:UuNtqJxsU1

ในโอกาสที่เขียนบล็อกนี้ในวันจักรี พ.ศ. 2565 (240 ปีหลังครองราชย์) เลยมาสรุป timeline เส้นทางชีวิตของ “นายทองด้วง” ก่อนได้ขึ้นเป็นกษัตริย์เอาไว้หน่อย

พ.ศ. 2279 [อายุ 0 ปี] – “ทองด้วง” เกิดในสมัยอยุธยา ในตระกูลขุนนาง พ่อคือ หลวงพินิจอักษร
พ.ศ. 2286 [อายุ 7 ปี] – “บุญมา” น้องชายเกิด
ช่วงวัยเด็ก – ไม่ปรากฏข้อมูลมากนัก
ช่วงวัยผู้ใหญ่
ไม่ได้รับราชการหลวง แต่ไปสังกัดเจ้านาย “พระองค์เจ้าอาทิตย์” พระราชนัดดาพระเจ้าเอกทัศน์
น้องชาย บุญมา เข้ารับราชการ เป็นทหารคนสนิทของพระยาตาก
แต่งงานกับคุณนาค ซึ่งเป็นลูกของคหบดีเมืองราชบุรี (ภายหลังเป็น สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี)
พ.ศ. 2308 [อายุ 29 ปี] – กองทัพพม่าบุกอยุธยา ไปหลบกับพ่อตาอยู่ที่สมุทรสงคราม (บางกุ้ง)
พ.ศ. 2310 [อายุ 31 ปี] – กรุงศรีอยุธยาแตก บุญมาหลบหนีตามพระเจ้าตาก ฝ่าวงล้อมทหารพม่าไปตีเมืองจันทน์
พ.ศ. 2311 [อายุ 32 ปี]
บุญมา มาตามพี่ชายที่บางกุ้ง ไปรับราชการกับพระเจ้าตาก โดยตำแหน่งแรกเป็น พระราชวรินทร์ เจ้ากรมพระตำรวจนอกขวา
งานแรกคือ ปราบก๊กเจ้าพิมาย ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น พระยาอภัยรณฤทธิ์
ฉิม ลูกชายคนแรกเกิด (ต่อมาคือ รัชกาลที่ 2)
พ.ศ. 2312 [อายุ 33 ปี]
ไปปราบก๊กพระยานครศรีธรรมราช แต่ไม่สำเร็จ
พ.ศ. 2313 [อายุ 34 ปี]
ไปปราบก๊กเจ้าพระฝาง บุญมาได้เลื่อนเป็น เจ้าพระยาสุรศรี, ทองด้วงได้เป็น พระยายมราช
พ.ศ. 2314 [อายุ 35 ปี]
ไปตีกัมพูชาทางบก สยามชนะได้ดินแดนบางส่วนของกัมพูชา
พ.ศ. 2316 [อายุ 37 ปี]
สกัดทัพพม่า-ลาว ที่ปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา
พ.ศ. 2317 [อายุ 38 ปี]
ไปตีเมืองเชียงใหม่ + ไปรับมือทัพพม่าที่ศึกบางแก้ว (ราชบุรี)
พ.ศ. 2318-2319 [อายุ 39-40 ปี]
ศึกอะแซหวุ่นกี้ ที่พิษณุโลก เหตุการณ์อะแซหวุ่นกี้ขอดูตัว (ซึ่งนักประวัติศาสตร์บางคนบอกว่าไม่มีจริง)
พ.ศ. 2322 [อายุ 43 ปี]
ศึกเวียงจันทน์ ตีเวียงจันทน์ ได้พระแก้วมรกต
พ.ศ. 2324 [อายุ 45 ปี]
ศึกกัมกูชา (อีกรอบ)
พ.ศ. 2325 [อายุ 46 ปี]
เดินทางกลับจากทัพกัมพูชา มายึดอำนาจพระเจ้าตาก ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์

368 Nameless Fanboi Posted ID:ij.V+R58JC

>>367 พระองค์เจ้าอาทิตย์ กรมหมื่นพิทักษ์ภูเบศร์ เป็นพระโอรสเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ(กุ้ง) อดีตวังหน้า
ในสงครามเสียกรุงรับหน้าที่บัญชาการรบที่ป้อมมหาชัยและทำนบรอ ต่อสู้กับพม่าจนสิ้นพระชนม์คาป้อม

369 Nameless Fanboi Posted ID:zBwD1eXzUh

เอาจริงๆทำเป็หนังแบบพวกโนบุนากะ สามก๊ก สงครามสมัยจิ๋นซี? ก็ทำได้นะ แถมจบสวยกว่าอีก

370 Nameless Fanboi Posted ID:PWAuPk.fMe

>>369 ทำไม่ได้ มันเล่นได้แต่ด้านอวยๆ จะมีด้านที่เป็นลบ เช่นด้านอ่อนแอ ด้านอิจฉา ด้านกระหายอำนาจ ฯลฯ ไม่ได้

371 Nameless Fanboi Posted ID:m8IjIEn7Z+

🇺🇲อเมริกา
-ค่าแรงวันละ 5500 บ./วัน
-คนจบตรี 12000 บ./วัน
-ราคาอาหารจานละ 170-240 บ.
-ราคาหมูโลละ 160 บ.
-ราคาไก่ 110 บ.
-ราคาผักกําละ 12 บ.
-ราคาน้ำมันลิตรละ 34.168 บ.
**🇬🇧อังกฤษ
-ค่าแรงวันละ 3300 บ./วัน
-คนจบตรี 8000 บ./วัน
-ราคาอาหารจานละ 210-230 บ.
-ราคาหมู 200 บ.
-ราคาไก่ 150 บ.
-ราคาผักกําละ 15 บ.
-ราคาน้ำมันลิตรละ 66.385 บ.
**🇩🇪เยอรมัน
-ค่าแรงวันละ 5,000 บ./วัน
-คนจบตรี 10,000 บ./วัน
-ราคาอาหารจานละ 250-300 บาท
-ราคาหมูโลละ 160 บาท
-ราคาไก่โลละ 110 บาท
-ราคาผักกําละ 12 บาท
-ราคาน้ำมันลิตรละ 66.708 บ.
**🇯🇵ญี่ปุ่น
-ค่าแรงวันละ 2400 บ./วัน
-คนจบตรี 5000 บ./วัน
-อาหารจานละ 100-150 บ.
-ราคาหมูโลละ 140 บ.
-ราคาไก่ 70 บาท
-ราคาผักกําละ 10 บาท
-ราคาน้ำมันลิตรละ 48.126 บ.
**🇸🇬สิงคโปร์
-ค่าแรง 2100 บ./วัน
-คนจบตรี 6500 บ./วัน
-ราคาอาหาร 70-80 บ.
-ราคาหมูโลละ 130 บ.
-ราคาไก่โลละ 70 บ.
-ราคาผักกําละ 10 บ.
-ราคาน้ำมันลิตรละ 66.309 บ.
**🇹🇼ใต้หวัน
-ค่าแรง 1700 บ./วัน
-คนจบตรี 4500 บ./วัน
-ราคาหมูโลละ 130 บ.
-ราคาไก่โลละ 60 บ.
-ราคาอาหารจานละ 50- 60 บ.
-ราคาผักกําละ 10 บ.
-ราคาน้ำมันลิตรละ 37.614 บ.
**🇹🇭ไทย
-ค่าแรง 300-400 บ./วัน
-คนจบตรี 600 บ./วัน
-ราคาอาหารจานละ 30-70 บ.
-ราคาหมูโลละ 220 บ.
-ราคาไก่โลละ 100-150 บ.
-ราคาผักกําละ 10-20 บ.
-ราคาน้ำมันลิตรละ 44.510 บ.
(ราคาน้ำมันเบนซิน 95 ราคา ณ วันที่ 28 ก.พ. 2565)
“ใช้ชีวิตเติบโตในประเทศนี้ได้ก็เก่งแล้ว”

372 Nameless Fanboi Posted ID:kgnVFegT97

>>371 ค่าแรงขั้นต่ำไต้หวันคือ 25,250 NT หรือ 29,344 บาท ถ้าค่าแรง 1,700 บาทต่อวันจริง 30 วันคือ 51,000 22 วันคือ 37,400 คิดตามรายชั่วโมงที่ 168 NT หรือ 195 บาท ทำวันละ 8 ชม.ก็ได้ 1,352 เอง

https://www.mondaq.com/employee-benefits-compensation/1149948/minimum-wage-changes-for-2022

ตัวเลขหลายอันก็ไม่ตรงนะ แต่ตัวเลขแบบนี้มันหลอกคนง่ายดี

373 Nameless Fanboi Posted ID:01cQuuYs/N

>>371 ไม่เอาค่าเช่าบ้านมาด้วยล่ะ แต่ละทีก็มีของถูกแพงต่างกันไป

374 Nameless Fanboi Posted ID:m8IjIEn7Z+

>>372 แต่ก็ดีกว่ากะลาแลนด์ไหมล่ะ อย่างนี้ก็มีชีวิตอย่างไม่จน ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีข้าวกิน

375 Nameless Fanboi Posted ID:IPrw9Uu6iS

>>373 ค่าเช่าบ้านกะลาแลนด์มึงคิดว่าถูกเหรอ

376 Nameless Fanboi Posted ID:01cQuuYs/N

>>375 https://www.numbeo.com/cost-of-living/country_result.jsp?country=Thailand

377 Nameless Fanboi Posted ID:5.4HkGMZCJ

>>376 ใช่เหรอวะเนี่ย....
เลือก Bangkok
Apartment (1 bedroom) Outside of Centre 10,477.27฿
กรุงเทพชั้นในยังไม่แพงขนาดนี้เลย แพงขนาดนี้ได้คอนโด 38 ตรม. full furnished เลยนะ

378 Nameless Fanboi Posted ID:kgnVFegT97

>>374 ใช่ คุณภาพชีวิตดีกว่า แต่ตัวเลขนี้ปลอมนะ

>>377 ตัวเลขมันเป็น quality of life ของฝรั่งมากกว่า มึงลองดูตัวเลขอื่นจะเว่อมาก ค่าเสื้อผ้าเป็นพันเลย

Family of four estimated monthly costs are 77,411฿ without rent.

A single person estimated monthly costs are 21,299฿ without rent.

ตัวเลขนี้ไม่ใช่ตัวเลขของคนไทยแน่นอน

379 Nameless Fanboi Posted ID:zZIlLIpSzP

>>378 มึงแค่จนมากกว่ามั้ง เดือนละ 2 หมื่นไม่รวมค่าเช่าทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ขนาดกูเป็นพนักงานบริษัทธรรมดาๆ ใช้ชีวิตปกติ ขึ้นรถไฟฟ้ามั่งนั่งแท็กซี่มั่งกินข้าวข้างทางมั่งกินร้านอาหารมั่ง เดือนๆ นึงยังใช้เงินไปหมื่นห้าหมื่นหกไม่รวมค่าเช่าคอนโด

มึงอย่าเอาชีวิตของพวกเงินเดือนหมื่นห้าที่ต้องอยู่แบบกระเบียดกระเสียรมาคิดสิ

380 Nameless Fanboi Posted ID:tuW.jOBbAJ

>>379 งั้นที่บอกคนไทยจนไม่มีจะแดกเงินรายวัน 300 ก็ไม่จริงสิ ในเมื่อคนธรรมดาอย่างมึงยังยังมีรายได้ขนาดนี้

381 Nameless Fanboi Posted ID:bX/A1JxvZX

>>380 แถโง่ๆอีกแล้ว

382 Nameless Fanboi Posted ID:QnEh4GRs7R

>>381 มึงเข้าใจมั้ยว่า>>376-378 คือค่าใช้จ่ายประมาณการณ์+เฉลี่ย ถ้าค่ากิน 20,000 ค่าเช่า 10,000 จริง แปลว่ารายได้คนกทม.โดยเฉลี่ยคือ 30,000+ เลยนะ

ถ้าคนมีรายได้นี้เป็นรายได้ปกติจริง มันจะมีดราม่าค่ารถเมล์ 15 บาททำใม คนรายได้นี้มีจริง กูก็คนนึง ก่อนโควิดรายได้กู 60,000+ ตลอด แต่กูก็รู้ว่านี่ไม่ใช่รายได้ทั่วไปของคนกทม. หรือมึงคิดว่าใช่

383 Nameless Fanboi Posted ID:uSuZ10SSkK

>>382 คนกทมก็มีคนรายได้เดือนละล้านนะ

384 Nameless Fanboi Posted ID:RhWj7oK1Zj

แน่นอนว่าคนเป็นผู้ว่าฯ กทม. ต้องทำได้ทั้งการบริหารสิ่งที่มีอยู่ในมือให้ดี และต้องสามารถประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ได้อย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การจะทำให้ผู้ว่าฯ กทม. สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ เราจำเป็นต้องมองไกลไปถึง การยกเครื่องขนานใหญ่ในเชิงกฎหมายและโครงสร้าง ที่จะทำให้การบริหารงานทั้งหมดจบในตัวได้

เป็นเรื่องน่าตลกที่การประปานครหลวง การไฟฟ้านครหลวง ขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ล้วนต่างเกิดมาเพื่อดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ผู้ว่าฯ กทม. กลับไม่ได้มีสิทธิมีเสียงอะไรในเรื่องเหล่านี้ หลายเรื่อง ผู้ว่าฯ ก็ต้องรอฟังคณะรัฐมนตรี โดยบางเรื่องถูกอ้างว่าทับซ้อนกับส่วนกลาง หรือบ้างก็อ้างว่าจะไปเป็นการแข่งขันกับเอกชน (ราวกับว่าส่วนกลางไม่มีกิจการใดที่แข่งขันกับเอกชนเลย)

ถ้าปล่อยไปแบบนี้ แม้เราจะมีผู้ว่าฯ ที่เก่งกาจขนาดไหน ก็คงยากที่จะบริหารเมืองอย่างเห็นภาพรวมและขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ

การเลือกตั้งจึงถือเป็นเพียงขั้นแรกเท่านั้นที่ประชาชนจะออกไปใช้สิทธิใช้เสียงเพื่อเลือกคนที่ใช่มาเป็นตัวแทนของตัวเอง แต่หลังจากนั้นแล้ว สิ่งที่ต้องทำอย่างยิ่งก็คือการทวงอำนาจให้ผู้แทนที่ประชาชนได้เลือกมาสามารถบริหารจัดการและพัฒนาเมืองได้ด้วยตัวเองมากขึ้นอย่างแท้จริง

385 Nameless Fanboi Posted ID:RhWj7oK1Zj

หลังจาก ภัควดี วีระภาสพงษ์ โดนกล่าวหาว่าเป็น 'วีนัส' ในทวิตเตอร์ ล่าสุดผมก็โดนคนรู้จักที่เป็นพวกทฤษฎีสมคบคิดกล่าวหาว่าเป็นคนพิมพ์ข้อความเฟซบุ๊กให้สมศักดิ์ และปวินก็ยังเอาทฤษฎีสมคบคิดแบบนี้ไปกระจายต่ออีกโดยอ้างว่าได้คุยกับคนในปารีส คนในปารีสที่ว่านั่นใครหรือครับ แล้วคนนั้นเจอสมศักดิ์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? เท่าที่ผมทราบคนที่ได้เจอสมศักดิ์หลังป่วยนั้นมีนับคนได้ (ไม่เกินสิบคน) และคนพวกนั้นก็รู้ดีว่าสมศักดิ์พิมพ์สเตตัสเอง ที่สำคัญที่สุด คนเหล่านี้ไม่ใช่พวกขี้นินทาที่วันๆ ไม่มีอะไรทำ ก็คงเหลือแต่พวกมนุษย์แป๋ไอ๊บ่ก๊าสี่เท่านั้นที่จะเอาไปเล่าให้ปวินฟังได้

คนอย่างปวินผมเคยนิยามว่าเป็น 鄙夷势利小人 ซึ่งภาษาไทยไม่รู้จะแปลว่าอะไร แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เลยขอเล่าถึงเรื่องหนึ่ง ตอนสมศักดิ์ล้มป่วย คนที่รู้จักสมศักดิ์ในปารีสต่างก็ตกลงกันว่าจะให้ครอบครัวของเขาเป็นคนตัดสินใจ แต่จะด้วยเหตุใดก็ตามก็มีคนเอาไปเล่าให้ปวินฟัง แล้วปวินก็รีบเอาไปโพสต์แจ้งข่าวแสดงตนว่าเป็น "วงใน" โดยที่ข้อมูลก็ไม่ได้ถูกต้อง และไม่ได้ถามครอบครัวหรือตัวสมศักดิ์ก่อน จนถึงวันนี้ก็ไม่รู้ว่าได้รู้สึกผิดไหมกับสิ่งที่ทำลงไป และกับการกระทำล่าสุดก็ยิ่งพิสูจน์ว่าคงไม่ได้รู้สึกผิด ความพยายามที่จะติดต่อมาเจอสมศักดิ์นั้น ก็คงแค่อยากจะมาเก็บข้อมูล "วงใน" มากกว่าสนใจในสวัสดิภาพของสมศักดิ์ และเผลอๆ ที่กราดเกรี้ยวอยู่ในตอนนี้ก็คงเพราะโกรธที่สมศักดิ์ไม่ให้พบ (ขอดักไว้ก่อนว่าอย่าแก้ตัวว่าไม่ให้ราคาสมศักดิ์ ถ้าไม่ให้ราคาแล้วจะมาขอเจอทำไมสามสี่ครั้ง?)

ก่อนหน้านี้ผมไม่คิดว่าจะต้องเขียนสเตตัสอะไรแบบนี้ เพราะคิดว่าคงมีแต่คนไร้สติปัญญาเท่านั้นที่จะสามารถเชื่อทฤษฎีสมคบคิดอะไรอย่างนี้ได้ สมองมีคุณภาพระดับเดียวกันกับพวกสถาบันทิศทางไทย การกล่าวหาสมศักดิ์แบบนี้นอกจากไร้รสนิยมแล้วถ้าพูดกันอย่างมีมนุษยธรรมหน่อยก็คือคนพวกนี้ไม่แคร์ความรู้สึกของผู้ป่วยสโตรกที่ต้องถูกปฏิบัติราวกับว่าเขาเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา นั่นคือกล่าวหาว่าเขาเสื่อมลงไม่ใช่แค่ทางกายภาพแต่ยังรวมถึงทางสมองด้วย

แน่นอนปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ป่วยสโตรกอย่างสมศักดิ์ย่อมไม่ "เหมือนเดิม" ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะนั่นเป็นข้อเท็จจริงทางการแพทย์ แต่คนที่รู้จักสมศักดิ์มายาวนาน (นั่นรวมทั้งคนที่ทะเลาะกันมายาวนานด้วย) ต่างก็รู้ดีกว่าสมศักดิ์ไม่ได้เปลี่ยนไป เขาแค่พิมพ์สั้นลง (เพราะว่าพิมพ์ด้วยมือข้างเดียว) และถ้าได้ฟังจากที่สมศักดิ์ไลฟ์สดก็จะเห็นว่าเขามีอาการ anomia (ไม่สามารถหาคำที่ถูกต้องมาพูด express สิ่งที่คิดอยู่ในหัวได้) อยู่เล็กน้อยซึ่งเป็นผลกระทบของสโตรก นอกจากนั้นแล้วสมศักดิ์ก็เหมือนปกติทุกอย่าง

นอกจากการกล่าวหาเรื่องนี้จะเป็นการดูถูกสมศักดิ์แล้ว ยังจะคิดว่าผมเป็นคนไม่มีงานทำหรือครับ ถึงได้มีเวลาว่างไปนั่งคอมเมนท์แทนสมศักดิ์ตามสเตตัสต่างๆ คอยตอบโต้เรื่องรัสเซียซึ่งผมไม่ได้มีความรู้ แล้วคิดว่าถ้ามันเป็นจริงนี่คืออย่างไร สมศักดิ์คอยกระซิบข้างหูผมหรือว่าทุกเช้าตื่นมาเขียนโพยส่งให้ผมนั่งพิมพ์ตามประเด็น ปัญญาอ่อนจนน่าเหลือเชื่อ

ข้ออ้างที่ว่าเพราะภาษาที่ใช้คล้ายๆ กันนี่ตลกมาก คือไม่รู้หรือว่า ยุคหนึ่ง "เหาฉลาม" ก็เขียนภาษาแบบสมศักดิ์กันหมด แม้แต่อดีตเหาฉลามอย่าง Kritdikorn Wongswangpanich ก็เคยเขียนแบบนั้น

386 Nameless Fanboi Posted ID:At+WPaYsrC

>>382 cost of living ไม่ใช่ค่าเฉลี่ย แต่เป็นค่าครองชีพแบบอยู่สบายๆ ไม่ต้องประหยัด แต่ก็ไม่ได้ฟุ้งเฟ้อ

ลองคิดดู คนเรากินข้าวมื้อละ 100 (ข้าว 60 น้ำ 20 ขนม 20) วันนึงสามมื้อก็ 300 กินทุกวันเดือนนึงก็ตก 9000

ค่าเดินทางไปกลับที่ทำงาน เอาแบบทั่วๆไป ก็วันละ 100 - 200 ขึ้นวิน/รถไฟฟ้า/แท็กซี่ สมมุติว่า 150 ละกัน เดือนนึงไปออฟฟิศสัก 20 วัน ก็ 3000 ละ

เนี่ย คิดแค่ง่ายๆ แค่นี้ ก็เดือนละ 12,000 แล้วนะ ยังไม่ได้รวมค่าน้ำค่าไฟค่าโทรศัพท์ค่าเน็ต ก็เสื้อผ้าค่าอุปกรณ์ยั่วกิเลสตีกะหรี่ดูหนังฟังเพลง แปลกตรงไหนที่จะรวมๆ แล้วตกเดือนละ 20,000 ไม่รวมค่าเช่าคอนโด

387 Nameless Fanboi Posted ID:ev9IbFA5y.

ปกติที่ทำงานมันไม่ควรห่างไกลจากที่พักมากไปเพราะจะโดนค่าเดินทางเยอะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

388 Nameless Fanboi Posted ID:QnEh4GRs7R

>>386 มึงไปดูวิธีเก็บข้อมูลของเว็ปมันก่อน

Prices in Bangkok
This city had 2289 entries in the past 12 months by 293 different contributors.
Last update: April 2022

มันหาค่าเฉลี่ยจากแบบสอบถาม ที่เอาข้อมูลอื่นคงมีละ แต่ไล่มาถึงหลักสตางค์ได้เนี่ยเพราะมันเอามาหารกัน เพราะไม่มีที่ไหนตั้งราคาแบบนี้หรอก

ดูวิธีคิดค่าใช้จ่ายของมึงก็รู้เลยว่าเป็นชนชั้นกลางตอนบน แต่คนส่วนใหญ่ในกทม.ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายแบบมึงแน่ เอาแค่ค่าข้าวมื้อละร้อยก็ไม่ใช่ละ ราคาของมึงนี่น่าจะในห้างอย่างเดียวเลย ร้านทั่วไปข้าว 50 น้ำเปล่าฟรีด้วยซ้ำ แล้วก็ไม่ได้แย่นะ บางร้านอร่อยและให้เยอะกว่าในห้างอีก ขึ้นอยู่กับว่าบ้านมึงอยู่แถวไหน

กูไม่ได้ว่ามึงเป็นหลิ่มนะ แต่กูเข้าใจแล้วว่าหลิ่มในเมืองมันมองโลกยังไง ถึงไม่เข้าใจว่าคนตจว.หรือคนรากหญ้าอยู่กันยังไง วิธีคิดค่าใช้จ่ายนี่บ่งบอกมากจริงๆ ไม่น่าเชื่อเลย

>>387 อันนี้เรื่องจริงเลย หอพักกับคอนโดถูกๆ มันถึงกระจายอยู่ทั่วกทม.ได้ แล้วคนก็เต็มเกือบตลอด

389 Nameless Fanboi Posted ID:ELuRMXCIAy

>>386 กูขอย้อนหน่อยละกัน มันเริ่มจากที่มีคนเอาเว็บเหี้ยนี่มาตอบไอ้ >>375 ที่มโนว่าค่าเช่าที่อยู่อาศัยในไทยแพง ซึ่งถ้าเป็นค่าครองชีพแบบอยู่สบายตามที่มึงบอก ก็คือว่าที่มันเอาเวบนี้มาตอบคือผิดตั้งแต่แรกแล้ว มันต้องเอาข้อมูลค่าเฉลี่ยหรือขั้นต่ำที่อยู่ได้ตามปกติ(ไม่ใช่แบบสบายของมึง)มาคุยแทน
พอละนะ ไม่ต้องถกต่อละว่าเลขนี้มันจริงมั้ย นอกประเด็นไปไกล

390 Nameless Fanboi Posted ID:pbYbYjLjyl

>>371 เยอรมันผักกำละ12บาท มีขายที่ไหน บอกกูที เดี๋ยวจะไปซื้อ

ส่วนน้ำมันตอนนี้พุ่งไปลิตรละ80เกือบ90บาทแล้ว

มั่วชิบหายไอ้ลิสต์นี้
ตัวเลขไทยอัพเดตเป็นปัจจุบัน แต่ตัวเลขต่างประเทศไปขุดมาจากปีไหนไม่รู้
ทำเพื่ออะไรไอ้ลิสต์นี้

391 Nameless Fanboi Posted ID:ZT2Wqxt35d

>>389 มึงก็หาเว็บที่มีข้อมูลตรงมากกว่านี้มาให้ดูหน่อย

392 Nameless Fanboi Posted ID:Hhv+ET4yUn

>>382 ไม่แปลกหรอก เพราะรายได้โดยเฉลี่ยต่อครัวเรือน กทม. มันประมาณ 45,000 นะ และแถมอีกเรื่องคือ กทม. คนโสดก็อย่างเยอะ
https://www.amarintv.com/news/detail/122343

393 Nameless Fanboi Posted ID:MoIgrqHw5D

>>388 ก็คนที่จะมาเป็น contributor ของเว็บนั้น มันมีพวกค่าแรงขั้นต่ำเงินเดือนหมื่นห้าที่ไหนล่ะ

กินข้าวมื้อละร้อยนี่มันแปลกตรงไหน ก็บอกแล้วว่าให้นับการใช้ชีวิตแบบสบายๆธรรมดาๆ ไม่ได้กินหรู แต่ก็ไม่ได้ประหยัดอดออม แดกข้าวตามสั่งสกปรกๆ น้ำแข็งฟรี ริมถนนกากๆ ที่ไม่รู้มีไข่พยาธิกี่ฟอง รวมค่าเดินทางนู่นนี่แล้วก็ตกเดือนละหมื่นกว่าบาทละ ยังไม่รวมค่ากินดื่มค่าสังคมสังสรรค์ ค่าฟิตเนสค่าเรียนรู้พัฒนาตนเองซื้อหนังสือซื้อเสื้อผ้าดูหนังฟังเพลงค่าน้ำไฟโทรศัพท์ และของยั่วกิเลสต่างๆ เดือนละสองหมื่นมันแปลกยังไงวะ

นี่มันคือ cost of living นะเว้ย ไม่ใช่รายการแข่งกันจน แข่งกันใช้ชีวิตน่าสงสาร ขึ้นรถเมล์ ห่อข้าวกรอกน้ำก๊อกไปทำงาน วันหยุดก็นอนโง่ๆ อยู่ห้องเพื่อประหยัดเงิน

394 Nameless Fanboi Posted ID:R72cqtX78c

ที่เถียงๆ กันนี่เหมือนชาวพันทิปที่อยู่คนละมิติกับชาว กทม. ทั่วไปจริงๆ แฮะ คือสถานที่เดียวกันแต่มองไม่เห็นกันอะ

395 Nameless Fanboi Posted ID:S7EDWNP90l

แสนดีแค่ไหนถ้าไม่ใช่คนในใจเขาก็ไม่เอาจากอีกาบ้านหนองกึ่มอีกาบ้านหนองกึ่มมันมีด้วยหรอวะไอเหี้ยมึงแฮชแท็กดูดิไอเหี้ยมันไม่มีหรอกหนองกึ่มพ่อมึงอ่ะ

396 Nameless Fanboi Posted ID:WlH4V01F5B

>>393 เพราะงั้นละ cost of living ในนั้นมันถึงไม่ใช่ cost ปกติของคนไทยทั่วไป

>>394 ก็งั้นละ ดูค่าใช้จ่ายที่ไล่มาแล้วไม่ใช่คนรุ่นเก่าด้วย รุ่นใหม่เลยนี่ละ เผลอๆ จะยังเด็กเจน Z ด้วย

สังคมเหลื่อมช้ำไม่ใช่เรื่องแปลกนะ แต่ไม่รับรู้เรื่องความเหลื่อมล้ำนี่กูว่าแปลก

397 Nameless Fanboi Posted ID:9mQY/Qq2Qt

https://twitter.com/fleccas/status/1512492731171590147

398 Nameless Fanboi Posted ID:yZbHucPwqo

>>396 ความเหลื่อมล้ำ ถ้าเป็นสังคมทั่วไป เค้าไม่ได้ไม่รู้ แต่รู้จนชาชินแล้วมากกว่า

ปัจจัยบ้านเราคือ ใช้ระดับการศึกษาในการแบ่งชนชั้น ไม่ได้เป็นชนชั้นที่ติดตัวตลอดชีวิตแบบอินเดีย ถ้าอยากหางานดีๆ ก็ไปเรียนให้จบสิ

ปล. ข้าวข้างทาง แก้ไม่ได้ยากอะไรก็สั่งน้ำขวดเอา หรือไม่ก็ใส่ถุงเอาไปกินที่บ้าน หรือบน office จบ

399 Nameless Fanboi Posted ID:c/.NBTzo9E

โทษประหาร หรือจำคุก แต่ได้ลดโทษ เพราะรับสารภาพ
หรืออะไรก็ตาม 5-6 ปี อันนี้กะคร่าวๆ
อย่างเช่น คดี ทหาร ที่ฆ่าเผาน้องพลอย วี่แววว่าจะได้ออกมา ทั้งๆที่ติดคุก แค่ 4 ปี แม่ของน้องต้องเข้ายื่นเรื่องระงับ
คดี ศักดิ์ ปากรอ ประหารชีวิต ติดแต่ 13 ปี เองมั๊ง ก็ออกมา สุดท้ายมาโดนยิงตาย
เนี่ยคดี แบบนี้ มันควรติดอย่าง น้อยๆ 30 ปีขั้นต่ำ
แล้ว มีอีกคดีที่ฆ่าคนตาย ญาติคนตายแจ้งจับ ไม่กี่ปี มันออกมาฆ่าญาติคนนี้ตายอีก
คนเลวๆพวกนี้ ไม่ควรแพร่พันธุ์ชั่ว

400 Nameless Fanboi Posted ID:ljVIId4R7c

>>398 การศึกษาก็มีปัญหาอีก

- ร.ร. ทั่วถึงจริง.แต่คุณภาพต่างกันฟ้ากับเหว พวก B , C Class ถ้าไม่ใช่เด็กมีพรสวรรค์ ไม่มีทางหลุดพ้นจากชาติกำเนิดต่ำต้อย เพราะทรัพยากรจำกัดจำเขี่ย หลายๆ ที่ ครูไม่ครบชั้น-ไม่ครบวิชาด้วยซ้ำ ส่วน S , A Class ถ้าไม่ใช่เด็กมีพรสวรรค์ สอบได้ก็หมดสิทธิ์เรียน เพราะไม่ถึงขั้นได้ทุน ในขณะที่บ้านที่ต้นทุนดีกว่า สอบเข้าไประดับกลางๆ แต่พอจ่ายได้ ก็มีโอกาสพัฒนาตัวเองมากกว่า

- มหาลัยชั้นนำ เป็น ม.ปิด ต่อให้มึงสอบเข้าได้ ถ้ามึงต้องทำงานไปเรียนไปก็หมดสิทธิ์ ส่วน ม.เปิด ไม่ใช่ว่าดีทุกคณะ (กูนี่ละศิษย์เก่า ม.เปิด 1 ใน 2 แห่ง บอกเลยถ้าไม่ใช่คณะเด่นๆ ใน ม. อย่างอื่นเรียนไปก็สู้พวก ม.ปิด ลำบาก)

- คนงานวุฒิต่ำกว่า ป.ตรี อยู่ได้ด้วย OT กลับบ้านสามสี่ทุ่มเป็นปกติ แทบหมดแรงน่ะ ต่อให้ ม.เปิด อ่านหนังสือเองก็ยากละ เพลียสัสๆ

- สังคมไทยทิ้งครอบครัวไม่ได้ กูเจอมาหลายคน ไม่สามารถเรียนต้อแบบกูได้ เพราะต้องส่งเงินกลับบ้านเลี้ยงพ่อแม่

คิดแล้วเครียดน่ะ

401 Nameless Fanboi Posted ID:.6ZwYjRg2x

โจรโพกผ้าเหลือง (ชื่ออื่น พันธมิตรกระบือเทย,นิกายตาลิ้มอ้างเสื้อเหลือง,พันธมิตรประชาทัณฑ์เพื่อรุมยำรัฐบวม,โจรสายเหลือง,เกย์สายเหลือง) แรกเริ่มเดิมทีมีต้นกำเนิดมาจากการรวมตัวของกลุ่มชาวรากหญ้า ในสมัยปลายราชวงศ์ฮั่น เพื่อปฎิสนธิรูปการปกครองในระบอบราชาธิปไตยอันมีพระเจ้าเลนส์เต้เป็นประมุข (เป็นต้นเหตุแห่งสามกร๊วก) แต่ภายหลังได้ถูกทางการฆ่าตัดตอนกวาดล้างจนสิ้นโคตร

อย่างไรก็ดี โจรผ้าเหลืองได้กลับมาใหม่ ในสมัยของรัฐบาลทุจศิล กินชะมัด เกิดจากการที่ตัวเองโมโหที่ถอดรายการตัวเองออกจากผังรวมตัวกันของหลายองค์กร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นองค์กรอิสระภาคชาวเกรียน จุดประสงค์หลักของการรวมตัวเพื่อกดดันขับไล่ นายีรัฐมนตร๊กทุจศิล กินชะมัด ให้ลาออกจากตำแหน่งทั้งที่ตัวเองเคยบอกว่าเป็นนายกที่ดีที่สุดของเทย เนื่องจากเห็นว่ามีการใช้ระบอบเกรียน ทำให้มีคนโสดและคนสนิทขึ้นทับคร่อมธุรกิจส่วนตัว โดยมีแกนนำ 5 มนุษย์เกรียนที่เอาผ้าเหลืองโพกเพื่อปกปิดความเกรียนและเขาบนหัวของตัวเอง แต่ตัวเองกลับจะเป็นเกรียนเสียเอง

402 Nameless Fanboi Posted ID:NbRVlju9pQ

ทั้งหมดนี้ ปูตินวางแผนไว้หมดแล้ว ปูตินเตรียมพร้อมมานานมาก ปูติดคิดเผื่อไว้หมดแล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของปูติน ซึ่งปูตินเป็นคนที่ฉลาดมากฉลาดกว่าโจไบเดน พวกเมกา EU ไม่มีใครฉลาดสู้ปูตินได้เลย ปูตินตั้งใจไว้แล้วพูดคำไหนคำนั้น
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพราะปูตินน้อมนำและเจริญรอยตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ของมหาราชผู้ไม่เคยออกรบแต่ปูตินชื่นชมสุดหัวใจ
คอยดูแล้วกันว่าพวก เมกาและ EU จะต้องล่มจมเศรษฐกิจล่มสลาย เพราะไปคว่ำบาตรรัสเซียทำให้ต้องซื้อพลังงานแพงขึ้น แต่รัสเซียจะเจริญก้าวหน้าเพราะไปขายน้ำมันกับก๊าซให้จีนและอินเดียวในราคาถูก ๆ กว่าที่ขายให้ EU มาก ซึ่งเป็นการดำเนินตามแนวพระชาชดำริว่าขาดทุนคือกำไร
ปล. ข่าวปลอมหรือเปล่า ยูเครนจัดฉากหรือเปล่า
ปล. 2 ข่าวไม่น่าเชื่อถือเพราะเป็นข่าวจากตะวันตก ต้องเป็นข่าวจาก RT Xinhua GlobalTimes ททบ.5 TopNews และสนธิทอร์ค เท่านั้นจึงจะน่าเชื่อถือ
ปล. 3 ฟังหูไว้หู เสพข่าวจากหลาย ๆ ด้านอย่าเพิ่งปักใจเชื่อ แต่ถ้าเป็นข่าวจาก ปล.2 ให้เชื่อไว้ก่อนได้
ปล. 4 จ่าต้องย้อนไปดูในอดีตด้วย มันก็ผิดทั้งยูเครนทั้งรัสเซีย เมกา EU ด้วยกันทั้งหมดแหละ เพราะงั้นก็ธรรมดาที่รัสเซียจะทำแบบนี้
ปล. 5 ทั้งหมดนี้เหล่าคนทัยหัวจัยปูตินได้กล่าวไว้ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา หาใช่ความคิดเห็นของผมแต่อย่างใด🤣😂😅

403 Nameless Fanboi Posted ID:w4etO65MJK

จริงๆมันควรจะยกเลิกไอ้ระบบอุ้มราคาอะไรต่างๆไปได้แล้วนะ เพราะกลไกตลาดการแทรกแซงระยะสั้นๆ มันก็พอทำได้
แต่พอระยะยาวไป อุ้มไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องปรับราคาสะท้อนตลาด และเวลาปรับสะท้อนต้นทุน สะท้อนตลาดทีไร ก็เห็นเละกันฉิบทุกอย่าง
มันไม่ใช่แค่น้ำมันหรอก สินค้าเกษตรต่างๆก็พอกัน โดยเฉพาะเรื่องข้าว ถูกเอามา Politicize ตลอด
ก็เพราะชาวนาในประเทศนี้มีหลายสิบล้านคน คะแนนเสียงกลุ่มนี้จึงสำคัญเสมอในแง่การเลือกตั้งแบบ 1 สิทธิ์ 1 คน
คือกลไกการตลาด ถ้าสินค้ามันแพงมากๆ จนเอื้อมจับกันไม่ไหว สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแรกคือ Demand ก็จะลดลงตามกลไกของที่มันแพง ก็ลดการใช้งานมันซะ
สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกันต่อมาคือเพราะสินค้าแพง คนจะหามาขายมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของ Supply
เมื่อเกิดกลไกของ Supply เพิ่มขึ้นและ Demand ลดลง เดี๋ยวราคามันก็ปรับตัวลดลงเอง
แน่นอนอาจจะมีหลายฝ่ายบอกว่า โอ้ยแบบนี้ของราคาก็ขึ้นสิ ปัจจัยต้นทุนมันก็สูงขึ้น
ถามจริง ทุกวันนี้มองไปรอบๆ มีอะไรบ้างที่มันยังไม่ขึ้นราคา น้ำมันตรึงเอาไว้ได้ มันไม่ได้แปลว่าสินค้าอื่นมันไม่ได้มีแค่ต้นทุนน้ำมันอย่างเดียว
ราคาหมู ที่มันแพงเพราะอะไร? เพราะน้ำมันขึ้นเหรอ? เปล่า เพราะส่วนหนึ่งหมูติดโรค เป็นปัจจัยของ Supply, สอง ต้นทุนอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น
พอหมูแพงคนก็ไปกินอย่างอื่น มันก็คือการลด Demand ลง และเดี๋ยวหมูมันแพง ก็มีคนพยายามเลี้ยงหมูเพิ่ม ทำลูกหมูเพิ่ม มันก็จะค่อยๆลดลงเพราะ Supply ที่เพิ่มขึ้น
การอุดหนุนอะไรต่างๆเนี่ย ควรเลิก เพราะถึงจะบอกว่าประชาชนเดือดร้อน
แต่ถ้ารัฐพยายามจะอุ้มมัน ถามหน่อยถ้าอุ้มไม่ไหว รัฐขาดทุนหนัก คนที่ต้องรับผิดชอบผลทางการคลังที่ล้มเหลว และขาดทุนคือใคร ก็ประชาชนอยู่ดี
คือไม่ว่ายังไง ประชาชนคือส่วนหนึ่งของกลไกที่จะเจ็บอยู่ดี ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง
การแทรกแซงตลาดมันคือการซื้อเวลา แต่มันก็ซื้อได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆและอธิษฐานเอาขอให้ทุกอย่างดีขึ้นในสามเดือนห้าเดือน อะไรงั้น
แต่ในระยะยาว ไม่มีใครทำได้หรอก รัฐบาลอย่างสหรัฐที่มีเงินถุงเงินถัง แม่งยังทำไม่ได้เลย
ลอยตัวให้มันเป็นไปตามกลไกตลาดนั่นแหละดี แล้วกลไกของ Demand Supply จะทำหน้าที่ปรับสมดุลทางราคาของมันเอง

404 Nameless Fanboi Posted ID:5f0Ru2C/SG

ประเทศไทยเต็มไปด้วยคนเลวที่ต้องการกดขี่เหยียบย่ำความเป็นมนุษย์ แต่คนชนชั้นกลางกลับมองว่าเป็นเรื่องปกติ และที่ทุเรศที่สุดคือ ไอ้พวกทหารนักการเมือง และพวกปรสิต ดันเอาชื่อหรือนามสกุลมาตั้งเป็นเกียรติ ทั้งถนน ทั้งสะพาน โรงพยาบาล โรงเรียน ค่ายทหาร เชิดชูประดุจดั่งทำดี ถรุย สังคมไทยโคตรบิดเบี้ยวๆ ไปหมด

#6ตุลา

405 Nameless Fanboi Posted ID:nOX/OGP7Sb

เมื่อไหร่เจ็กในไทยจะกลับบ้านไปหาท่านสีครับ

406 Nameless Fanboi Posted ID:REV1s2wYyr

Q: ใครยังคิดว่ามนุษย์เกิดจากลิงครับ
A: ทฤษฎีนี้น่าจะล้าหลังแล้ว เพราะมีหลักฐานใหม่ที่เชื่อได้ว่า ยังมีมนุษย์บางจำพวกที่วิวัฒนาการมาจากตัวเหี้ย มนุษย์สายพันธ์นี้จะคิดเองพูดเองไม่ได้ ต้องให้คนโปรแกรมให้พูด ให้คิด ข้อสังเกตุง่าย ๆ คือ มนุษย์เผ่าพันธุ์ที่ว่านี้ จะมีมือและลิ้นที่ยาวผิดปรกติ เพื่อเอาไว้โหนและเลียอาจมสิ่งโสโครกต่าง ๆ วันดีคืนดีก็จะพากันมารวมตัวเพื่อผสมพันธุ์กันทางความคิดและการกระทำ โดยจะใส่เสื้อสีเหลืองเป็นชุดประจำเผ่าพันธุ์ ทั้งนี้พวกมันจะมีหัวหน้าเผ่าที่แขนยาวมากจนโก่ง เวลาพูดจะแล่บลิ้นแผล่บ ๆ ตลอดเวลา นอกจากนี้พวกมันบางตัวยังแทรกเข้าไปในวงการสงฆ์ จนกลายเป็นตัวเหี้ยห่มจีวร คอยเป่านกหวีดเรียกสมุนให้เลื้อยคลานสี่ขาตามกันออกมาเพ่นพ่านไปทั่ว
ชื่อวิทยาศาสตร์เป็นทางการของพวกมันคือ Salim Fool Son of Bitch De Saurus มีถิ่นเลื้อยคลานหากินที่เดียวในโลกแถวบางประเทศในเอเซีย ดั่งนี้แล

407 Nameless Fanboi Posted ID:0de/5/RjOa

มีรายงานว่า ในกลุ่มไลน์ของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีสมาชิกรวม 36 คน ได้มีนางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นำข้อความที่ นายธนัท ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท ที่ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเรียกร้องให้มีการตรวจสอบจริยธรรมคณะ กก.บห.พรรคประชาธิปัตย์ทั้งชุด ที่ยอมรับและสนับสนุนให้นายปริญญ์ เข้ามาเป็นรองหัวหน้าพรรค

โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้โพสต์ข้อความในเชิงตั้งคำถามว่า “แปลว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยครับ” ขณะที่นางศรีสมร ตอบว่า “ไม่มีความเห็นค่ะ ท่าน”

หลังจากนั้นนางมัลลิกา บุญมีตระกูล ซึ่งเปรียบเสมือนร่างทรงของนายจุรินทร์ ได้โพสต์ข้อความสวนขึ้นมาในลักษณะเปิดประเด็นเหน็บแนมคนในพรรคอย่างดุเดือดว่า

“พฤติกรรมของคนหนึ่งคน ควรถูกสอบจริยธรรมทั้งกรรมการบริหารพรรค รึ ? แปลว่า อยากอะไร? อยากเปลี่ยนหัวหน้าพรรค? อยากเปลี่ยนกรรมการบริการพรรค หรือ อยากอะไร ? เรื่องนี้เป็นกระบวนการหรือเปล่า ในฐานะหนึ่งในกรรมการบริหารพรรค 39 คน เรื่องของปริญญ์ยังไม่รู้เลยว่า "ผิด ถูก" เป็นอย่างไร

แต่ถ้าเทียบกัน !! เรื่องที่คนรู้กันทั้งพรรคว่า คน ๆ หนึ่ง เป็น "ชู้" ของเมียคนอื่นมานานนม !! แบบนี้ ต้องสอบจริยธรรม ไหม หรือ พวกที่ทำให้คนอื่นเข้าใจว่าเป็น "กิ๊ก" ของผัวคนอื่น หรือพวกที่เอาเสื้อไปแขวนไว้บนรถของผัวคนอื่นเพื่อไปงานด้วยกัน ... หรือให้ผัวคนอื่นขับรถไปรับถึงบ้านตนเอง แบบนี้ เรียกว่าต้องสอบจริยธรรมไหม? .... หรือ คนบางคน เป็น "ชู้" ของผัวคนอื่นมานาน จนถึงขั้นสุด "รู้กันทั้งบาง"

408 Nameless Fanboi Posted ID:1yXoZgTvPv

ชัชชาติพูดบนความเชื่อที่ว่าเราจะต้องมี growth driver ที่จะทำให้เราสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มก้อนเค้ก

และถ้ามองอีกด้าน วิโรจน์ก็เสนอความเป็นรัฐสวัสดิการในเชิงของการปรับเปลี่ยนสังคมที่เป็นอยู่ และปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจใหม่

ประเด็นก็คือ ทั้งสองต่างก็เสนอมีเป้าหมายเดียวกัน คือรัฐสวัสดิการ

แต่แนวทางของชัชชาติ กลายเป็นการประนีประนอมกับโครงสร้างทางเศรษฐกิจเก่า ประนีประนอมกับผู้มีอำนาจ มหาเศรษฐี ที่ร่ำรวยมาก่อนหน้า และจะร่ำรวยต่อไป มากกว่าแนวทางของวิโรจน์ในการพุ่งชนโครงสร้างเศรษฐกิจเก่า ปรับเปลี่ยนผู้เล่น และอาจจะสร้าง rules of game ใหม่

ถ้าหากว่ามาตรฐานศีลธรรมของเราอยู่บนพื้นฐานของตลาดแข่งขันเสรี

การนำเสนอของชัชชาติก็อาจทำให้เราหลงระเริง กับตัวเลขการเติบโต และลืมคิดว่า

ที่มาของเงินและอำนาจเหล่านั้นมันมาจากไหน?

อำนาจและเงินตราที่คนเหล่านี้มี มาจากความมุมานะบากบั่นจริง ๆ หรือเพราะเป็นผลจากโครงสร้างอุปถัมภ์ ประชาธิปไตยอันบิดเบี้ยวที่เรากำลังอาศัยอยู่มาเกือบ 90 ปี?

ซึ่งทั้งหมดนี้ เราแทบไม่ตั้งคำถามกับมันเลย และผู้มีอำนาจโดยส่วนใหญ่เองก็เลือกที่จะไม่ตั้งคำถาม และไม่อยากชวนให้เราตั้งคำถาม

แต่เช่นเดียวกัน ถ้าให้ไปพุ่งชนแบบวิโรจน์ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทิศทางในการพัฒนาเศรษฐกิจมันจะกลายเป็นแบบไหน แต่ที่แน่ ๆ อาจจะมีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้นทุกวัน เพราะประเทศนี้ แค่กรุงเทพฯก็มีเรื่องเน่าเฟะให้สาวไส้กันเต็มไปหมดอยู่แล้ว 😂

โอเค เอาละ ตัดจบแบบนี้แหละ เบื่อ 555

409 Nameless Fanboi Posted ID:66hk4yx.Kp

>>408 ผู้ว่ากทม.มีอำนาจขนาดนั้นเลย พูดซะกูนึกว่าเลือกตั้งปธน.อยู่

410 Nameless Fanboi Posted ID:d67glsXe29

>>409 นั่นสิ ยิ่งอ่านยิ่งกาว

411 Nameless Fanboi Posted ID:YZZc+cnQo8

Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore (2022)

5/10
เป็นสลิ่มดัมเบิลดอร์ที่ตาสว่างแล้ว / 7เล่ม 8ภาคที่เทิดทูน ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการต่อสู้ของ 3 สหาย กับลุงโล้นซ่า ไม่เคยเอ่ะใจเลยว่า ทำไมมึงไม่สู้เองให้จบๆ ไป ยืมมือเด็กเพียงเพราะเขาสูญเสียพ่อแม่เลยคิดว่าเขาไม่มีอะไรจะเสีย มันเก่งกาจ มันชนะได้ทุกพ่อมด ถ้ามันแพ้ตายไปในป่าก็คงไม่ได้มีใครสนใจ แต่ถ้ามันวินกลับมาก็จะเป็นฮีโร่ และยังได้มิตรภาพที่ดีกับผู้อ่านและแฟนๆ ทั้งโลก อย่างนั้นหรอ
.
ไม่ได้แปลกใจกับความลับอะไรเลย เหมือนหาทางลงให้ทุกตัวละครไม่ได้ก็แปะๆ อะไรมาก่อน / แถมเรื่องความรักที่เปิดเผยก็ไม่ได้ช็อคโลกใครด้วยนะป้าเจเค คนทั้งโลกเขาพอจะดูออกตั้งแต่อ่านหนังสือเด็กแล้ว แล้วทำอย่างกับเรื่องนี้ใหญ่นัก คนรักกันเพศไหนมันก็คนปะวะ ฟูมฟายเหมือนแผ่นดินทั้งแผ่นดินถล่ม โลกมักเกิ้ลจะทลาย
.
Fantastic Beasts ควรจบไปตั้งแต่ภาคแรกแล้ว ที่เหลือเลอะเทอะมาก การผจญภัยที่ไม่มีทีน่า ไม่มีนากินี ไม่มีการเปิดเผยแฮกริด ปล่อยยัยนิวท์ไปเต้นยึกยือ ละลายเงินกับ cg แต่เรื่องไม่เดินเลย คิดว่าเป็นคนสร้างแฮร์รี่พอตเตอร์มาแล้ว จะใช้โอกาสนี้ฟันเงินพวกเราแบบ ให้มาดูฉากสวยๆใส่เพลงตึ้งตึ้งเวทมนต์โรงเรียนหน่อยมันก็เคลิ้มแล้ว เรื่องจะไปยังไงมันไม่แคร์หรอก / ไอเรื่องเคลิ้มก็จริง น้ำตาเล็ดตั้งแต่โลโก้ WB ขึ้นพร้อมคีย์แรกของดนตรีแล้ว แต่ไม่ใช่เด็กอายุ 11 คนนั้นที่มาดู ฮพ1 แล้วน่ะ
.
พูดแล้วเศร้า กำลังติดอยู่ความคิดที่ว่าคนเราจะไปอยู่จุดสูงสุด เก่งสุด ดังสุด ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นแล้วเราก็ไม่ได้เจ๋งอีกต่อไป เหมือนเสพย์ติดไปแล้วว่าอยากได้อยากเก่งแบบเดิมได้ตลอด แต่มันมีทางเป็นแบบนั้น / ย้อนแย้งในตัวเองตลอดเวลา / วันก่อนกินข้าวกับเพื่อนเก่าชื่อย่อสตางค์ สตางค์บอกว่าเวลาเรามองที่ยอดเราไม่รู้หรอกว่าทางที่กำลังเดินไปถึงยอดไหม ก่อนอื่นต้องแน่ใจเสียก่อนว่าเรากำลังเดินบนผู้เขาที่ถูกลูก / เมื่อก่อนสตางค์ชอบเอ็ดว่า พย! อยากแต่งงานแต่ทำแต่งานไม่หาแฟนมันจะไปมีแฟนแล้วได้แต่งงานได้ยังไง อยากเฉยๆ กับปรารถนามันต่างกัน เดี๋ยวนะ มาเรื่องนี้ได้ยังไง
.
อ่อ สิ่งชอบที่สุดในเรื่องคือ …. คิดไม่ออก
แต่ก็ทำให้เห็นว่า ดัมเบิลดอร์แม่งเก่งใช้คนที่ถูกต้อง ใช้คนทำงานแทน น่ามีคนถอดรหัสการบริหารคนและบริหารโรงเรียนของยัยอัลบัส อยากอ่าน

412 Nameless Fanboi Posted ID:ubBSBfi4E/

QE as a Tax for the Rich..?
การพิมพ์เงินคือการเก็บภาษีกลุ่มคนรวย..?

เห็นโพสเรื่อง รัฐสวัสดิการ จากเพื่อนใน fb เลยอยากเขียนเรื่องนี้

คำถามที่ว่า ประเทศที่รายได้ประชากรต่ำ สามารถทำรัฐสวัสดิการได้หรือไม่..?

ตามหลักที่ว่า รัฐสวัสดิการคือรายจ่ายของรัฐ หากต้องการให้ระบบยั่งยืน นั่นหมายถึงรัฐต้องมีรายได้ที่มากพอ

รัฐจะมีรายได้ ก็มาจากภาษี นั่นแปลว่า GDP ต้องเติบโต รายได้ต้องเติบโตมากเพียงพอที่จะจ่ายภาษีในระดับที่สูงขึ้นได้ แล้วภาษีเหล่านั้นก็จะถูกจัดสรรปันส่วนไปเป็นรัฐสวัสดิการ

ถ้าเป็นแบบนั้นจริง แปลว่า คุณภาพชีวิตของชนชั้นล่างจะไม่มีวันดีขึ้นได้ ตราบเท่าที่พวกเขาไม่สามารถเพิ่มรายได้ได้งั้นหรือ

ถ้าเป็นแบบนั้นก็เหมือนปัญหาไก่กับไข่ รายได้ไม่มา ภาษีไม่มี รัฐสวัสดิการไม่เกิด

แต่มองกลับกัน รัฐสวัสดิการไม่เกิด คุณภาพชีวิตของชนชั้นล่างก็ไม่ดีขึ้น เค้าจะเอาแรงที่ไหน เอาทรัพยากรที่ไหน มายกระดับรายได้ของตัวเองได้

หรือพูดง่ายๆ ว่า คนจนจะมีรัฐสวัสดิการได้ คือ คุณต้องรวยขึ้นก่อน..

ฟังดูย้อนแย้งไหมครับ..?

แน่นอน เราควรจะยุทธศาสตร์ประเทศ หรือเพิ่มการลงทุนในภาครัฐ เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ เพื่อเพิ่มรายได้ให้ชนชั้นล่างให้ได้ในที่สุด อันนี้ผมไม่เถียง

แต่ระหว่างนั้นล่ะ เราสามารถทำอะไรเพิ่มได้ไหม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของรากหญ้า

ในมุมของผมที่คิดว่าเราควรทำให้ได้ คือการเก็บภาษีจากคนรวยมาให้คนจนให้ได้มากขึ้น แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากเสมอ เพราะกลุ่มคนรวยย่อมมีกลไกในการหลบเลี่ยง หรือหาวิธีการที่จะเสียภาษีให้ต่ำที่สุดอยู่แล้ว

สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่า รัฐสามารถทำได้เลย และเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกมากกว่า 1 ตัว

นั่นคือการ "พิมพ์เงิน" ครับ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ QE นั่นแหละ

พิมพ์เงินช่วยรัฐสวัสดิการได้ยังไง..?

📍 หากธนาคารกลางพิมพ์เงิน ทำให้ปริมาณ money supply ของประเทศเพิ่มขึ้น แล้วเอาเงินนี้มาซื้อพันธบัตรรัฐสวัสดิการ

📍 รัฐจะได้เงินเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปเป็นรัฐสวัสดิการให้กับกลุ่มคนรากหญ้า

📍 เงินบาทจะอ่อนลงจากการพิมพ์เงิน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นธุรกิจส่งออกรวมถึงธุรกิจท่องเที่ยวของไทยในทางอ้อม

📍 แน่นอนว่ากลไกนี้จะแลกมาด้วยหนี้ภาครัฐที่เพิ่มขึ้น แต่หนี้นั้นมีเจ้าหนี้เป็นธนาคารกลาง โมเดลเดียวกับที่สหรัฐอเมริกาหรือยูโรทำ

📍 แต่สิ่งที่ต่างคือ เราต้องควบคุมเม็ดเงินเหล่านี้ ผ่านนโยบายการคลังให้ไหลไปถึงกลุ่มรากหญ้าให้ได้ ซึ่งถ้าทำได้จริงจะเพิ่มกำลังซื้อของกลุ่มรากหญ้าได้

📍 แน่นอนว่ากลไกนี้ยังมีจุดอ่อนอยู่มาก แต่จุดแข็งที่สำคัญที่สุดคือ การ QE เป็น "การบังคับเก็บภาษีคนที่มีเงินมาก" โดยพวกเขาไม่มีโอกาสหลีกเลี่ยง เพราะเมื่อเงินเฟ้อขึ้น กลุ่มคนรวยจะจนลงเร็วขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องไปหาวิธีเก็บภาษีพวกเขาเลยด้วยซ้ำ (QE as a Tax for the Rich)

📍 ปัญหาที่จะต้องแก้คือ การแจกจ่ายเงินจะทำอย่างไรให้สมดุล, ทำอย่างไรที่จะไม่กระทบชนชั้นกลางที่หลุดพ้นรายได้ขั้นต่ำมาแล้ว แต่ยังไม่อยู่ในระดับที่เรียกว่า "รวย" ฯลฯ

ใครสนใจเรื่อง QE as a Tax for the Rich ลองอ่านโพสนี้ครับ ผมเคยเขียนเมื่อนานมาแล้ว
https://www.facebook.com/niranpr/posts/10220115605293113

PS. หนังสือในภาพประกอบ ไม่เกี่ยวกับเนื้องเรื่องในโพส แต่ผมชอบเนื้อหา เลยขอเอาปกมาเป็นภาพประกอบครับ
PS. หลายคนคิดว่า ถ้าเงินบาทด้อยค่า หรือ พิมพ์เงินออกมามากๆ สุดท้ายเงินเฟ้อ อสังหา, หุ้น และสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ จะต้องแพงขึ้น สุดท้ายคนรวยก็รวยขึ้นอยู่ดี แต่กรณีพวกนี้เกิดกับการพิมพ์เงินที่ เม็ดเงินไปไม่ถึงรากหญ้าอย่างแท้จริง (เหมือน QE ทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา พอเงินเข้าถึงมือนายทุน สินทรัพย์เสี่ยงก็พุ่งขึ้น แต่ถ้า (ในทางทฤษฏี) เราสามารถให้เงินหมุนในกลุ่มรากหญ้าได้ ไม่ไหลขึ้นด้านบนให้กับนายทุน ก็จะสามารถทำให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยง โตช้ากว่าเงินเฟ้อได้ (ถามว่าทำยังไง เอาจริงๆ ก็ยากแหละที่จะไม่ให้นายทุนมามีเอี่ยวในเงินตรงนี้ แต่ก็พอจะทำได้บ้าง ก็เช่น แทนที่จะจ่ายเงินโดยตรงให้คน เราเอาหนี้ที่กู้มาแจกเป็นปัจจัยสี่ให้ประชาชนเลย เช่น แทนที่จะแจกเงินให้คนไปซื้อข้าวที่เซเว่น ก็เปลี่ยนเป็น รัฐผลิตอาหารและแจกอาหารให้ประชาชนแทน แต่มันจะมีความเป็นสังคมนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ (เพราะรัฐสวัสดิการมันก็คือแนวคิดสังคมนิยมอยู่แล้ว))

413 Nameless Fanboi Posted ID:66hk4yx.Kp

>>412 การที่โลกใช้เงินเป็นสื่อกลางเพราะมันแลกเปลี่ยนง่าย ถ้ามึงให้อาหารปชช.ไป อาหารมีวันหมดอายุนะ แล้วก็ไม่ใช่ทุกคนจะชอบอาหารที่แจกให้ สุดท้ายอาหารที่แจกให้ก็จะกลายเป็นของเสื่อมค่าแทน ที่ยกเรื่องสังคมนิยมมาก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะแม้แต่สังคมนิยมหรือคอมมี่ก็ไม่ได้แจกของให้โดยตรงขนาดนั้น มันให้คูปองไปเลือกของเอามากกว่า เพราะยังไงคนก็มีความชอบส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องอาหาร แล้วอาหารที่รัฐผลิตและแจกสมัยโซเวียตก็ห่วยเหี้ยๆ เพราะขาดประสิทธิภาพและแรงจูงใจ ใครที่อยากทำสมัยนี้ถือเป็นความคิดที่ถดถอยเอามากๆ

414 Nameless Fanboi Posted ID:Xq/mxqzNaP

>>411 ทำไมไม่เอาไปลงในห้อง motion picture?

415 Nameless Fanboi Posted ID:ubBSBfi4E/

อันนี้เป็นข้อสังเกตเฉยๆนะฮะ และแน่นอนว่านอกเรื่อง 555

แต่แค่รู้สึกว่า incentive mechanism ของประเทศนี้มันแปลกๆ โอเคละ ถ้าเราอยากเป็นอเมริกา มีเศรษฐกิจแบบอเมริกาเป็น role model ซึ่งเราสมาธานว่านั่นคือ "เศรษฐกิจพัฒนาแล้ว"

ประเด็นก็คือ การพัฒนาเศรษฐกิจและการเมืองมันก็ต้องไปร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น ตระกูล Vanderbilt อดีตตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกา อยู่ได้มาประมาณ 4 รุ่น ถึงวันนี้ ก็ไม่ได้เป็นที่รู้จักอะไรกับใครเขาแล้ว

จุดเปลี่ยนที่สำคัญของตระกูลนี้คือระบบภาษีต่าง ๆ นานา ที่ทำให้ครอบครัวนี้อ่วมหนักช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และไม่ fittest to survive ในการครองอันดับหนึ่งของคนรวยที่สุดอีกต่อไป ภายใต้มาตรฐานศีลธรรมการแข่งขันในตลาดเสรี

และถ้าหากว่าดูอันดับคนรวยที่สุดของอเมริกา เราแม่งจะโคตรเห็น pattern ที่ชัดเจนเลยว่า ระบบ incentive mechanism ของอเมริกามันตอบรับไปกับการสนับสนุน driver Industry จัดๆเลย และนั่นคือบทบาทของระบบการเมืองและกฎหมาย

ในขณะที่ไทย incentive mechanism มันพังไปหมด ไม่เห็นเหมือนอเมริกา ส่วนหนึ่ง เพราะเรามองภาพไม่ออกจริง ๆ ว่า driver Industry ของไทยคืออะไร ก็ด้วยรัฐเลี้ยงอุตสาหกรรมเก่าๆ ด้วยสัมปทาน ด้วยมูลนิธิอะไรบางอย่าง ด้วยระบบภาษีที่ dysfunction สุดท้าย incentive mechanism ก็พัง สุดท้ายภาพมันก็สะท้อนออกมาให้เห็นด้วยอะไรแบบนี้

มันไม่ใช่เรื่องใหม่ ผู้อภิวัฒน์สยามหลายคนในสมัยคณะราษฎร ก็มีอุตสาหกรรมใน "โควตาสัมปทาน" ของตนให้กับนักธุรกิจบางตระกูลที่เรายังได้ยินชื่อในฐานะเศรษฐีจนถึงทุกวันนี้

สิ่งที่จะเสนอก็คือ ไม่ได้รู้สึกแปลกกันเลยหรือ

เบื่อนักการเมืองที่บอกว่าทำงานอย่างเดียว ไม่สนการเมืองจนถึงขั้นเอียนแล้วจริงๆ คือคุณอ้างว่าไม่สนการเมือง ก็เพราะคุณอาจจะสบายอยู่แล้วกับระบบแบบเก่า ทั้งจริง ๆ แล้ว นโยบายเศรษฐกิจและนโยบายการเมือง มันทำพร้อมกันได้ทั้งสองอย่าง และทั้งสองอย่างก็เป็นเรื่องที่ใกล้เคียงกันอยู่ดี อีกทั้งชื่ออาชีพคุณแม่งเรียกนักการเมืองแต่เสือกไม่สนใจการเมือง

และคุณพูดแบบนี้เหมือนคุณแม่งไม่ address ปัญหา wealth inequality ของประเทศนี้ หรือเลือกที่จะมองข้ามปัญหานี้ไปเลย ทั้งที่มันติดอันดับโลกไปแล้ว

416 Nameless Fanboi Posted ID:66hk4yx.Kp

>>415 อันนี้เขียนดี ยกเว้นท่อนสุดท้าย ไทยเหลื่อมล้ำสูงจริง แต่ก็เพราะตัวเลขในระบบกับนอกระบบมันต่างกันเกินไป และก็ขึ้นกับนิยามการนับแต่ละรอบด้วย อย่างมีอันนึงที่เนเธอแลนด์ได้อันดับ 1 คนเนเธอแลนด์ก็ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจกับการจัดอันดับแบบนี้อะไร ไม่เป็นข่าวเลยด้วย

417 Nameless Fanboi Posted ID:3wDZr3SQRl

พูดเรื่องเหลื่อมล้ำกูก็งงๆ นะ ถามว่าบ้านเราสูงไหมก็สูงละคงไม่มีใครเถียง แต่ทำไมถ้าเทียบกับประเทศเกรดเดียวกับเรา เราถือว่าคุณภาพชีวิตค่อนช้างดีกว่าวะ (ลองนึกถึง SEA พวกมาเลย์ อินโด หรือไปทางลาตินอเมริกาก็ได้ คนที่เคยไปอยู่บอกไทยดีกว่าทั้งนั้นอะ)

418 Nameless Fanboi Posted ID:64Y9hfF4NZ

>>417 ไทยเราเฉลี่ยด้านคุณภาพชีวิตดีกว่าหน่ะแหละ แต่ถ้าเทียบแบบพวก infra, tech, ในระดับสูงบางอันก็จะอาจจะเทียบไม่ได้หน่ะแหละ

419 Nameless Fanboi Posted ID:B2CL7n4YCY

ไทยเศรษฐกิจนอกระบบมันเยอะด้วยแหละ พอมาใช้การวัดค่าต่างๆที่เป็นตัวเลขมันเลยออกมาด้อยกว่าความเป็นจริง

420 Nameless Fanboi Posted ID:RcoTw0ou1M

ญ: อย่ามาเม้กฟันนะ
ช: แต่ผมเป็นทันตแพทย์

ญ: อย่ามา mansplaining
ช: แต่ผมเป็นอาจารย์คลาสนี้นะนักศึกษา

ญ: อย่ามาชายเป็นใหญ่
ช: แต่ว่าผมอ้วน

ญ: อย่ามากดขี่กันแบบนี้
ช: แต่เรากำลังเย็ดกันอยู่นะครับ

ญ: อย่ามาแก๊สไล้ติ้งนะ
ช: แต่บ้านข่อยบ่มีไฟฟ้า

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

421 Nameless Fanboi Posted ID:VQAU3.c46d

“การสร้างห้างฯ เป็นสัญลักษณ์ของคนมีอำนาจที่แสดงออกมาว่าตัวเองรวยขนาดไหน เดี๋ยวนี้การสร้างห้างฯ จะต้องใหญ่ที่สุดในเอเชีย หรือในโลก เพื่อดึงดูดนักลงทุน ทำให้มิติวัฒนธรรมของคนตัวเล็กกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญ ถูกทำลายรากเหง้า ไม่มีอำนาจกำหนดเมือง”
.
หลังจากที่เราโบกมือลา ‘สกาลา’ โรงภาพยนตร์สแตนด์อะโลนแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ที่มีอายุมากถึง 52 ปี ที่ Philip Jablon ผู้ออกเดินทางบันทึกความทรงจำเกี่ยวกับโรงหนังสแตนด์อะโลนทั่วภูมิภาค ยกย่องให้เป็นโรงหนังที่งดงามที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว วันนี้เราเห็นภาพความโล่งเตียนจากพื้นที่ที่เคยเป็นตึกแถวในพื้นที่สยามเพื่อเตรียมก่อสร้างห้างสรรพสินค้าอีกแห่งหนึ่ง
.
‘เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล’ (อดีต) นายกสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในขณะนั้น เป็นคนหนึ่งที่ออกมารณรงค์เคลื่อนไหวเพื่อผลักดันให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่เป็นเจ้าของพื้นที่เก็บรักษาโรงภาพยนตร์ไว้ และใช้ประโยชน์ต่อยอดเพื่ออนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมของสถานที่แห่งนี้ไว้
.
ข้อเสนอของเนติวิทย์ และนันท์นภัส เอี้ยวสกุล หนึ่งในทีมงานองค์การบริหาร ชมรมสมัชชาสิงห์ดำ และชมรม CU Movie Club ในมหาวิทยาลัย ยื่นข้อเสนอ #SaveScala ให้ผู้มีส่วนตัดสินใจ 3 ข้อ
.
1. อนุญาตให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็นพื้นที่สาธารณะ และมีประโยชน์ต่อนิสิตและประชาชนทั่วไป
2. ให้เป็นพื้นที่ซึ่งสืบทอดมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของโรงหนังสกาลา
3. ให้นิสิตและสังคมมีส่วนร่วมในการตัดสินใจถึงทิศทางการพัฒนาบริเวณดังกล่าว
.
ถึงวันนี้ การที่มหาวิทยาลัยและผู้เช่าที่ดินทุบทำลายตึกเพื่อรอสร้างห้างฯ แห่งใหม่ถือเป็นการปฏิเสธข้อเสนอการพัฒนาพื้นที่แบบมีส่วนร่วมของพวกเขาไปเสียแล้ว และ ‘สกาลา’ คงไม่ใช่สถานที่สุดท้ายที่ต้องเจอชะตากรรมเช่นนี้
.
เราอยากสำรวจความคิดเบื้องหลังการ #SaveScala อีกครั้ง พวกเขาเสนออะไร มีแนวคิดเบื้องหลังแบบไหน ชวนอ่านเต็มๆ เพื่อชวนคิด ชวนสนทนาหาทางออกได้ที่ : urbancreature.co/save-scala/
.
#UrbanCreature #Highlight #ReinventTheWayWeLive #SaveScala

422 Nameless Fanboi Posted ID:f5ebmBiqI2

นับป้ายสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย
และการ่ย้อนศรพรรคเพื่อไทย

......................

นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือ ‘หมอเลี้ยบ’ หนึ่งในแกนนำพรรคไทยรักไทยยุคก่อตั้ง เคยย้อนความสำเร็จในการขายนโยบายพรรคไทยรักไทยในยุคต้นว่่า

....................
หลังจากมี Party convention [ประกาศ 11 วาระแห่งชาติ] แล้ว เราก็ติดป้ายตามหมู่บ้าน ประมาณเจ็ดหมื่นกว่าหมู่บ้าน ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อน สิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดผลสะเทือน คือคนอาจรู้สึกว่า ทำไมป้ายมันเยอะแยะขนาดนี้ ได้เห็นเนื้อหาในป้ายที่พูดถึงนโยบาย กระทั่งมีบางคนบอกว่า ติดป้ายไปก็เท่านั้น ถึงเวลาเลือกตั้งป้ายก็พังไปหมดแล้ว ตอนนั้นเราคิดกันช่วงต้นปี 2543 พอถึงตอนเลือกตั้งมกราคม 2544 มันก็พังจริงๆ แต่ที่เห็นผลคือมันสร้างความรู้สึกตื่นตัวให้คนจำนวนมากทั่วประเทศ

“วันนี้หมดเวลาของพวกเราแล้ว” – คุยกับ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เรื่องอดีตของไทยรักไทย ปัจจุบันของหมอเลี้ยบ และอนาคตของการเมืองไทย
https://www.the101.world/surapong_suebwonglee/

และจากที่เคยตั้งคำถามเรื่อง ปริศนาพรรคไทยสร้างไทย
https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/5296210670445729

มีคำถามหนึ่งคือพรรคไทยสร้างไทยเอาเงินมาจากไหน?

ต้องยอมรับว่าป้ายหาเสียงของพรรคไทยสร้างไทย มีมากจริง ๆ น่าจะมากที่สุดในประเทศด้วยซ้ำซึ่งก็น่าจะใช้เงินไม่น้อย

ขณะที่นักการเมืองที่ลงพื้นที่ต่าง ๆ ก็มีปัจจัยสนับสุนนจากพรรคไม่น้อย
จะบอกว่าสุดารัตน์ ควักกระเป๋าจ่ายคนเดียวก็ไม่น่าเป็นไปได้

.................

สำหรับเรื่องป้ายโฆษณานโยบายที่พรรคไทยสร้างไทยระดมติดนั้น

ไม่มากก็น้อยคือไอเดียจากมากความสำเร็จของพรรคไทยรักไทยในอดีตเช่นกัน

แน่นอนว่าจำสำเร็จหรือไม่ ผลการเลือกตั้งจะบอก

แต่จากการลงพื้นที่สำรวจ ในซอย นนทบุรี 42 ที่ทะลุมาถึงหลังเซนทรัลรัตนาธิเบศร์ ระยะทางไม่เกิน 3 กbโลเมตร บวกกับแยกสนามบินน้ำที่มีป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่อยู่ด้วย

ผมลองนับป้ายดูพบว่ามีบิลบอร์ดขนาดใหญ่ 1 ชิ้น
และมีป้ายไวนิล ขนาดประมาณอีก 10 ชิ้น

โดยเนื้อหาหลักคือ นโยบายบำนาญประชาชน (ผู้สูงอายุ) เดือนละ 3,000 บาท

แน่นอนที่สุดจะคิดเป็นอื่นไม่ได้ ก็คือจะล้อกับนโยบาย ประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรค เมื่อ 20 กว่าปีก่อนของพรรคไทยรักไทยนั่นเอง

และนี่เป็นการย้อนศรพรรคเพื่อไทยที่สุดารัตน์ ลาออกมาตั้งพรรคไทยสร้างไทยนั่นเอง

423 Nameless Fanboi Posted ID:dt1/YIVQaN

[ไม่ได้ซุกแต่ก็ไม่เปิดเผย ไม่นับเป็นหนี้สาธารณะ แต่ต้องเปิดต่อสาธารณะ]

จากกระทรวงการคลังออกมาชี้แจง เรื่องหนี้ที่ติดค้างหน่วยงานรัฐต่างๆ อยู่ 1 ล้านล้านบาทว่าไม่ได้ซุกหนี้ดังกล่าว มีการเปิดเผย และภาระหนี้ดังกล่าวไม่ได้ถูกบันทึกเป็นหนี้สาธารณะตามนิยามของหนี้สาธารณะตามกฎหมาย

ดิฉันได้ติดตามหนี้ก้อนหนี้มาโดยตลอด และทราบดีว่าข้อมูลนี้ไม่ได้มีการเปิดเผยต่อสาธารณะ ว่ารัฐบาลติดหนี้หน่วยงานรัฐไหนบ้าง ภาระหนี้ของแต่ละแห่งเป็นจำนวนเท่าไหร่ และมีแผนการใช้คืนหนี้อย่างไร กระทรวงการคลังอ้างว่าได้เปิดเผยไว้ในรายงานความเสี่ยงทางการคลัง แต่รายงานนี้ที่ปกติจะนำขึ้นเว็บไซต์ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังทุกปี ปัจจุบันไม่ได้มีการเอาขึ้นเว็บมา 2 ปีแล้ว

คณะกมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจเคยเรียกสำนักงานเศรษฐกิจการคลังมาชี้แจง แต่กลับให้ข้อมูลที่ไม่เป็นปัจจุบัน บอกแค่สัดส่วนคร่าวๆ เมื่อสอบถามข้อมูลล่าสุด กลับอ้างว่าเป็นข้อมูลลับ ที่จะเปิดเผยต่อคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังแห่งรัฐเท่านั้น

เมื่อเร็วๆ นี้ เพิ่งมีการขยายกรอบเพดานให้กู้ได้เพิ่มเป็น 35% ของงบประมาณรายจ่าย จากเดิม 30% เพื่อให้มีงบไปใช้ในโครงการประกันรายได้เพียงพอ โดยสถานะปัจจุบัน มีการกู้ไปจนถึง 34.2% ของงบประมาณแล้ว เรียกได้ว่าขยายเพดานปุ๊บ ก็กู้จนปริ่มเพดานอีกแล้ว

หนี้ที่ติดค้างหน่วยงานรัฐ 1.06 ล้านล้านบาทนี้ คืองบที่เอามาใช้ประกันรายได้ จำนำข้าวอุดหนุนดบ.ธนาคารรัฐ ราวแสนกว่าล้านบาทในแต่ละปี เมื่อใช้เงินนอกงบประมาณ โครงการพวกนี้ก็จะไม่อยู่ในเอกสารงบประมาณประจำปี ไม่ถูกตรวจสอบจากสภา จะมาเห็นอีกทีเมื่อตั้งงบประมาณประจำปีเพื่อใช้หนี้ในอดีต โดยเจ้าหนี้รายใหญ่คือธกส. ยอดหนี้รวมเกือบ 9 แสนล้าน ในปีงบ 65 มีการตั้งงบใช้หนี้ธกส. 69,000 ล้านบาท ส่วนในปีงบ 66 ตั้งงบส่วนนี้ไว้สูงถึง 84,000 ล้านบาท ซึ่งถ้าใช้หนี้น้อยเกินไป ก็จะขอกู้ธกส.เพิ่มไม่ได้แล้วเพราะติดกรอบเพดานที่ 35%

จึงต้องมาลุ้นกันดูค่ะว่า รัฐบาลจะใช้วิธีขยายกรอบเพดานไปเรื่อยๆ หรือจะผลักความเสี่ยงไปให้เกษตรกรที่รอเงินจากโครงการประกันรายได้แทน และถึงแม้จะไม่อยากให้สภาตรวจสอบ อย่างน้อยก็ควรเคารพเจ้าของภาษีอย่างประชาชนคนไทย โดยการเปิดเผยข้อมูลหนี้ส่วนนี้ให้เป็นสาธารณะก็ยังดี

Credit ภาพ: ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/finance/news-912158

424 Nameless Fanboi Posted ID:3L4WPJN6R.

>>421 ตกลงเนเน่เรียนจบยัง

425 Nameless Fanboi Posted ID:IAKYqZo1.T

“ตอนยังเด็กๆที่เราเล่นเกมแล้วรู้สึกสนุกเป็นเพราะประสบการณ์ชีวิตมันยังมีไม่มาก ทำให้สิ่งกระตุ้นเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกพอใจแล้ว และการพูดคุยกับเพื่อนๆเรื่องเกมมันก็สนุกด้วย แล้วทีนี้ยิ่งผู้ปกครองห้ามว่า ‘อย่าเล่น’ ก็ยิ่งกลับกลายเป็นว่า ‘มันต้องเล่นซะตอนนี้แหละ’
แล้วทีนี้พอโตเป็นผู้ใหญ่ก็ได้รู้ว่า นอกจากโลกเสมือนจริงแล้ว โลกชีวิตจริงมันมีสิ่งกระตุ้นที่มีความสนุกเหมือนกัน และพอใช้ชีวิตทำงานจนยุ่ง ก็ทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจไม่เหลือแรงให้ทำอะไรอีก แต่ทีนี้ผู้ใหญ่จะมีเงินอยู่ในมือ ทำให้คุณภาพที่ได้รับจากชีวิตมันต่างกันเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้จากเกม
และตอนเด็กๆ สิ่งที่ถูกนำมาเปรียบเปรยว่าเป็นสิ่งตรงข้ามกับการเล่นเกมก็คือการเรียน แต่พอโตมาสิ่งเปรียบเปรยนั้นก็เปลี่ยนเป็นแฟน ไม่ก็อาหารอร่อยๆ เมื่อเป็นดังนั้น ถึงไม่มีเกมก็เริ่มไม่รู้สึกอะไร และยิ่งเวลาเล่นเกมน้อยลง ความรู้สึกอยากเล่นก็ลดลงไปด้วย”

426 Nameless Fanboi Posted ID:MNq7sGmPVg

>>425 คหสตชิบเป๋ง ไม่เข้าใจตรรกะการเชื่อมโยงของควอทนี้เลย
หรือคนส่วนใหญ่คิดแบบนี้วะ? กูเองที่แปลก?

427 Nameless Fanboi Posted ID:OZ1YmNSMu6

>>426 มันจับแพะชนแกะโยงมั่วไปเรื่อยแถมชี้นำอีกต่างหาก เกมมันก็คือสื่อบันเทิงอย่างหนึ่งเหมือนการ์ตูน หนัง เพลง คนชอบจริง ๆ จะโตเป็นควายจนแก่หัวหงอกเขาก็ยังชอบและแบ่งเวลาให้มันได้อยู่ดี

428 Nameless Fanboi Posted ID:aSrfo09coL

>>427 แต่กูเห็นด้วยนะว่ายิ่งอายุเยอะยิ่งมีสิ่งกระตุ้นน้อยตาม กูลดเกมส์กับการ์ตูนลงเยอะเพราะเบื่อความจำเจ ที่ตลกคือกลายเป็นว่าตอนนี้กูชอบอะไรที่มันตามขนบเก่าๆ มากกว่า กลับมาหาสเกลพลังแบบไม่เว่อวังระเบิดโลก อย่างพาลาดินต่างโลกที่ไม่มีระบบเกมส์ไม่มีอะไร

429 Nameless Fanboi Posted ID:OZ1YmNSMu6

>>428 จากที่มึงพูดอันนี้กุมองว่าปัญหาเรื่องแนวเกมกับการ์ตูนที่ปัจจุบันสนองนี้ดมึงไม่ได้มากกว่า ไม่ต้องคิดมากสื่อบันเทิงในโลกนี้มีอีกเยอะแยะ มันต้องมีสักอันที่สนองนี้ดมึงได้แหละน่า อย่างกุมีความสุขกับการเล่นดนตรี ถึงทุกวันนี้ต้องทำงาน มีภาระรับผิดชอบเยอะแยะในชีวิต เจอปสกชีวิตก็ไม่น้อย แต่ก็ยังเจียดเวลาให้ดนตรีได้แล้วก็ไม่ได้รู้สึกสนุกน้อยลงด้วย

430 Nameless Fanboi Posted ID:eXw8eNswug

เวลาเปลี่ยน ความชอบเปลี่ยน

431 Nameless Fanboi Posted ID:rl1gjFp0Tv

นักแสดงชายที่แสดงฉากเลิฟซีน​ที่มากที่สุด​

เคยมีสหายเพจตั้งคำถามกับข้าพเจ้าว่า​ใช่​เยิ่นต๊ะหัว​ หรือ​ เอลวิส​ ฉี​ ที่แสดงฉากเลิฟซีนกับดาราสาวฮ่องกงดังๆในยุค​ 80s.90s. หรือไม่​

คำตอบคือไม่ขอรับ​ นักแสดงชาย​ ที่แสดงฉากเลิฟซีนกับดาราสาวๆดังในยุคนั้นมากที่สุด​คือ​เลสลี่​ จาง​

ทั้งการแสดง​เลิฟซีนกับ​ หวังจู่เสียน​ ในโปเยโปโลเย​ เลิฟซีนดุเดือด​กับ​หลินชิงเสีย​ ใน​นางพญาผม​ขาว​ นั่น​ ยังไม่รวมถึง​ การแสดงฉากเลิฟซีนกับทั้งจงฉู่หง​ จางม่านอวี้​ เหมยเยี่ยนฟาง​ หลี่ลี่เจิน​ ฯลฯ​

แม้จะดูเหมือนว่า​เลสลี่​ จาง​ นั้นดูเป็นที่น่าอิจฉาสำหรับหนุ่มๆ​ แต่สำหรับเขาเองกลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย

ใน Happy Together (1997) ตอนแรกหว่องกาไวบอกกับเหลียงเฉาเหว่ยว่า เขาจะมารับบทเป็นผู้ชายที่มารับเถ้ากระดูกพ่อของเขาที่อาร์เจนติน่า เมื่อเหลียงเฉาเหว่ยถามหว่องกาไวว่าต้องมีฉากเลิฟซีน หรือโป๊เปลือยหรือไม่ หว่องกาไวบอกว่า หนังเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมีฉากเหล่านั้น

แต่พอถ่ายทำฉากแรก หว่องกาไวก็เริ่มต้นฉากเลิฟซีนของ “ไหลเยี่ยฟา” (เหลียงเฉาเหว่ย) และ “โหเป่าหวัง” (เลสลี จาง) (ชิ่อนี้ มีที่มาจากชื่อของผู้ช่วยตากล้อง 2 คนในกองถ่าย) ทันที แต่ด้วยสปิริตนักแสดงเหลียงเฉาเหว่ยแสดงฉากเลิฟซีนกับเลสลี่ จาง จนหว่องกาไวบอกให้เขาถอดบ็อกเซอร์ออก แต่ตัวเหลียงเฉาเหว่ยบอกกับหว่องกาไวว่า นี่เกินลิมิตทางการแสดงของเขาไปแล้ว

ระหว่างถ่ายทำเลสลี่ จาง เห็นเหลียงเฉาเหว่ยนั่งทำหน้ากังวลใจ เขาจึงบอกเหลียงเฉาเหว่ยว่า

“นายคงเข้าใจแล้วสิว่า ทุกครั้งที่ฉันจับหน้าอก​ จูบนักแสดงหญิง​ แล้วฉันรู้สึกยังไง”

สำหรับเลสลี่​ จาง​ มันเป็นเรื่องที่ยากจะรู้สึกดี​จากตัวตนที่เขาเป็น แต่สิ่งที่เขาทำ เพราะทั้งหมดนั้นมันคืดส่วนหนึ่งของการทุ่มเทเพื่องานแสดง​

ภายหลัง เหลียงเฉาเหว่ย​ ได้รับชม​ Happy Together (1997) เขาจึงคิดได้ว่า​ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้​ การแสดงในฉากนั้นเขาคงจะถอดบ็อกเซอร์ออก​

แต่กระนั้นเขาก็ได้แก้ตัวอีกครั้งกับการแสดงที่ทุ่มเท​ ในภาพยนตร์​ เล่ห์​ ราคะ​ (Lust, Caution/2008) ที่ทำเอาสาวๆถึงกลับครางฮือ​ และพนมมือกราบขอบพระคุณ​ เลสลี่​ จาง​ ที่ช่วยชี้ทางสว่างในการแสดงให้กับเหลียงเฉาเหว่ย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

432 Nameless Fanboi Posted ID:xTLDoznJYl

A high school teacher said to his class, by the time Alexander the great was a few years older than you he had conquered the known world, a student then said, but he had Aristotle as a teacher, we only have you.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

433 Nameless Fanboi Posted ID:jBO/d6/ivA

ชีวิตกูตอนนี้แม่งเหมือนม้าลายที่อยากขับรถจี๊ปอ่ะ อยากหนีออกไปจากทุ่งหญ้าแอฟริกานี้ให้ไกลๆ เพราะมีแต่สิงโต ชีต้าที่แสนดุร้ายคอยจ้องเล่นงานกูอยู่ แต่ก็หนีไปไหนไม่พ้น เพราะกูขับรถจี๊ปไม่เป็น กูเป็นแค่ม้าลาย🚙
#พ่อมึง

434 Nameless Fanboi Posted ID:z/saftcHwx

จนเข้าสู่ พ.ศ.2544 ในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ได้มีนโยบายที่ขัดหลักการกระจายอำนาจ เช่น นโยบายการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ผู้ว่าฯ CEO) เป็นนโยบายที่เน้นการปรับปรุงโครงสร้างให้การบริหารราชการของส่วนภูมิภาค ให้มีความเป็นเอกภาพมากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้การบริหารราชการส่วนกลางรวมถึงฝ่ายการเมือง มีกลไกที่บริหารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ในทางหลักการ แนวคิดนี้ย่อมสวนทางกับแนวคิดเรื่องกระจายอำนาจ ภายหลังต่อมาเกิดความขัดแย้งทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การรัฐประหารปี พ.ศ.2549 และ รัฐประหาร พ.ศ. 2557

การรัฐประหารทั้ง 2 ครั้ง ส่งผลให้ปัจจุบันกระบวนการพัฒนาการกระจายอำนาจ มีลักษณะเดินถอยหลังและถูกให้ความสำคัญน้อยลง โดยเฉพาะในยุค คสช. มีการแช่แข็งการเมืองท้องถิ่นไม่เปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้ง แต่กลับใช้กลไกราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนนโยบาย ใช้กลไกข้าราชการแทรกแซงการเมืองท้องถิ่น (คสช. มีอำนาจแต่งตั้งฝ่ายบริการและสภาท้องถิ่น) แม้ปัจจุบันจะมีการเปิดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นในทุกระดับแล้ว แต่ในสภาพปัจจุบันการปกครองท้องถิ่น และนักการเมืองท้องถิ่น ได้กลายสภาพไปเป็นเหมือนข้าราชการประจำ ที่ต้องคอยทำตามนโยบาย คำสั่ง จากรัฐบาลส่วนกลางเท่านั้น ท้องถิ่นไม่ได้มีอำนาจและทรัพยากร ที่สามารถจัดการตัวเองในได้อย่างแท้จริง/

435 Nameless Fanboi Posted ID:fkwTisHM1/

เฟซบุ๊กชื่อ “#หมวยสังหาร” ของอัยการหญิงที่จ.แม่ฮ่องสอน ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวที่อาจเป็นอุทาหรณ์แก่ประชาชนทั่วไป โดยเธอได้โพสต์ข้อความมีเนื้อหาดังนี้

อุทธาหรณ์สอนใจคนโลภ และโลภกับผิดคน มาโลภกับหมวยสังหาร ภาค1
เมื่อสองวันก่อน มีประกันบริษัทหนึ่งโทรมาเสนอขายประกันกับเรา เราบอกว่า ไม่เอาประกันอุบัติเหตุ มีแล้ว พนักงานบังคับ

เน้นว่าทุกคนที่มีบัตรเครดิตของกรุงศรี กสิกร กรุงไทยต้องมี

#เราบอกว่าไม่เอา ค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ มันบอก 2,950 เราบอกไม่สนใจ มันพูดรายละเอียดหน้าบัตรเครดิตเราถูกต้องหมด แล้วมันให้เราพูดตกลงว่าจะรับเอกสารไปดู #และย้ำว่า ถ้าพี่ไม่ชอบไม่ต้องจ่ายเงิน

เราเลยถามกลับว่าจ่ายเงินไงเหรอ มันบอกจ่ายหน้าเคาว์เตอร์ เราถามว่า ไม่ใช่มาตัดบัตรพี่นะ มันบอก ไม่ตัด สบายใจได้ และจะมีเจ้าหน้าที่โทรติดตามผลตลอด ไม่ต้องห่วง

สักพัก มันโทรมาบอกว่าตัดบัตรเราไปแล้ว 2,950 บาท เราก็เม้งว่า เห้ย คุณไม่มีสิทธิ….มันวางหูใส่ แล้วไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

ข้าพเจ้าจึงโทรหาบัตรเครดิต ซึ่งมีการตัดบัตรไปจริง เราจึงบอกเล่าเรื่องทั้งหมด ทางบัตรเครดิตจึงติดต่อทางบริษัทประกันให้

เราคุยกับบริษัทประกัน มันปัดความรับผิดชอบ บอกว่าเป็นของโบรกเกอร์ที่นึง
เราโทรไปหาโบรกเกอร์ พอบอกว่าขอร้องเรียน มันวางหูใส่เลย
เราเลยโทรไปอีกรอบ มันบอกคืนเงินแล้ว

แต่ทางบัตรเครดิตบอกว่าไม่มีการวางเงินคืนแต่อย่างใด
.
.
เล่นผิดคนละนะน้อง และนี่คือวิธีฆ่ามันแบบเลือดเย็น ใครเจอแบบนี้ แนะนำให้ทำ ฆ่ามันให้หมดจากสังคม
.
.
#สเตปแรก เราเข้าไปหาข้อมูลบริษัทโบรกเกอร์แล้ว เก็บไว้หมด ตั้งแต่กรรมการผู้จัดการ ที่ตั้ง จำนวนเงินที่จดทะเบียน วัตถุประสงค์การจดทะเบียน
.
.
#สเตปสอง เราโทรไปธนาคารแห่งประเทศไทย ถามวิธีการจัดการธนาคารที่เอาข้อมูลบัตรเราไปเปิดเผย และตัดเงินเราโดยไม่ได้รับอนุญาติ
.
.
#สเตปสาม โบรกเกอร์โทรมาขอโทษ เราก็พูดไปว่า ไม่ต้องขอโทษ เสียหายไปแล้ว พี่จดเบอร์และเวลาโทรไว้หมด เอาชื่อพนักงานที่ใช้เบอร์ต่อไปนี้ โทรมาตามเวลาต่อไปนี้มาให้หมด และกรรมการบริษัทคุณชื่ออะไร บริษัทอยู่ไหน มันไม่กล้าตอบ บอกว่าขอโทษ แค่อยากได้เงิน เลยทำ เราเลยบอกว่า เอาชื่อ นามสกุล และเลขใบอนุญาติให้เป็นนายหน้าประกันภัยของทุกคนที่โทรหาพี่มา ไม่งั้นพี่จะบอกกรรมการบริษัทน้อง กรรมการบริษัทน้องมี 6 คน ชื่อ สกุลนี้ และที่ตั้งบริษัทอยู่นี่ใช่ไหม มันชอค แล้วบอกว่า ใช่ จนเราได้ชื่อคนที่มันหลอกตัดเงินเรามาครบทุกคน พร้อมเลขใบประกอบการทั้งหมด
.
.
จากนั้น เราก็บอกว่า น้องรู้ไหมว่าการกระทำของพวกน้องเป็นการกระทำความผิดอาญาแผ่นดิน และร้ายแรงมาก จะชดใช้ค่าสินไหมพี่เท่าไหร่ มันบอกมันไม่มีเงินหรอก เราบอก นั่นมันเรื่องของคุณ คุณพูดเองว่าอยากได้เงินเลยทำแบบนี้ ถ้าพี่บอกว่าพี่ก็ไม่มีเงินเหมือนกันล่ะ คุณเลวมาก เห็นแก่ตัว ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะเอาเรื่องทุกทาง
.
.
#ทางแรกพี่เอาคดีอาญาแน่ มานอนเล่นคุกไหมที่แม่ฮ่องสอน บรรยากาศดีนะ

#ทางที่สอง ที่จะส่งจดหมายรายงานพฤติกรรมพวกน้องไปที่บริษัทน้อง มันบอกว่าสงสารเถอะค่ะ พวกหนูจะโดนพักงานอยู่แล้ว เราบอกว่า เรื่องของคุณ ยังไม่สาสม

#ทางที่สาม โบรกเกอร์คุณโคกับบริษัทประกันใช่ไหม พี่จะร้องกรมการประกันภัยให้ถอนใบอนุญาตประกอบกิจการของบริษัทคุณ

#ทางที่สี่ พี่จะร้องให้ถอดใบอนุญาตประกอบอาชีพประกันภัยน้อง
ทางที่ห้า พี่จะฟ้องแพ่งเอาค่าเสียหายให้ถึงที่สุด
.
.
แล้วเราก็ไปแจ้งความ บอกตำรวจว่า ถ้ามันไม่ที่สุดห้ามหยุดเด็ดขาด
.
.
และเราก็ส่งทั้งเมลล์และจดหมายลงทะเบียนไปลุยทั้งโบรกเกอร์และบัตรเครดิต
.
.
วันนี้โบรกเกอร์โทรมา ทำเป็นเรียกกูว่าท่าน(ถ้าไม่รู้ฐานะ จะยอมคืนไหม?!?!) มันบอกได้หมายตำรวจ จะขอใช้สินไหมทดแทน และขอโทษ เราบอกว่า ไม่ต้องขอโทษ มันผิดไปแล้ว มันพยายามจะให้ค่าสินไหม เราบอกว่าค่ะ ที่เรียกไปนั่นน้อยไปนะพี่ว่า แต่เอาเหอะ อย่างไรก็ตาม พี่จะเอาคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด
.
.
มันบอก ให้โอกาสน้องเค้าไม่ได้เหรอครับ หมดหนทางเลยนะ
.
.
“เรื่องของคุณ” คนทำผิดต้องได้รับการลงโทษตามกฎหมายอย่างสาสม
.
.
มันบอก สงสารเด็กนะครับ
.
.
เราบอก ไม่เด็กนะคะ บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่ปราณีค่ะ ถ้าพี่ไม่ใช่อัยการ พี่เป็นตาสีตาสา ละโดนทำแบบนี้ พี่จะเป็นอย่างไง คิดบ้างสิว่าคนอื่นเค้าเดือดร้อน แบบนี้ต้องเชือดเป็นตัวอย่าง ใครหน้าไหนจะได้ไม่ทำอีก สงสารชาวบ้านนะคุณ สวัสดีค่ะ

หมวยสังหาร

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

436 Nameless Fanboi Posted ID:p.IbLCO9a0

>>435 เรื่องนี้ประมาณ 3-4ปีแล้วมั้ง จบยังไงหว่า

437 Nameless Fanboi Posted ID:37O2fQ2eoM

เมืองขึ้นทางเทคโนโลยี?
.
การใช้ซิงเกิลเกตเวย์ สร้างนวัตกรรมโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มเป็นของตัวเอง เหมือนรัฐบาลจีน รัสเซีย เป็นการสร้างอธิปไตยทางเทคโนโลยีอย่างหนึ่งไหม?
.
การเป็นหรือไม่เป็นเมืองขึ้น ๆไม่ใช่ประเด็นสำคัญเลย ทุกประเทศต่างเป็นเจ้าของและ "ทาส" ของเทคโนโลยีหลากหลายประเภทไปพร้อม ๆ กันอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ ในยุคที่ทุกอย่างเชื่อมถึงกัน โครงข่ายการผลิตเชื่อมโยงเป็น fracture of production
.
แต่ประเด็นที่สำคัญควรจะพูดถึงก็คือ ใน value chain ประเทศไทยอยู่ตรงกลางของห่วงโซ่อุตสาหกรรมทั้งหมด นั่นคือการผลิตแบบอุตสาหกรรม ไม่ได้สร้างอะไรเพิ่ม เราเป็นมือ เป็นตีนให้เจ้าของเทคโนโลยีผลิตแล้วก็ส่งขายออกนอกอย่างเดียว ไม่ได้คิด และไม่เคยคิดอะไรเพิ่ม
.
เมื่อก่อนมันยังดีอยู่ เศรษฐกิจขยับขยาย เพราะญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิตมาที่ไทยหลังจาก plaza accord แล้วทำให้เกิดการก้าวขึ้นมาของนามสกุลคนรวยหลาย ๆ นามสกุลที่เรารู้จักกันจนถึงวันนี้ ก็รวยพร้อมกับอุตสาหกรรมรถญี่ปุ่นที่เติบโตและก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดโลก
.
พรประภา หรือจึงรุ่งเรืองกิจ ก็รวยขึ้นมาจากการขายอะไหล่รถให้ต่างประเทศ เงินไหลเข้าประเทศมา มันก็เข้าใจกันได้ ไม่ได้ขัดกับหลักคิด หลักเหตุผลอะไรมากนัก
.
แต่วันนี้ คนรวยในประเทศนี้มาจากอะไร และเศรษฐกิจเราขยับขยายมากน้อยแค่ไหน
.
คนรวยอันดับหนึ่ง ธุรกิจค้าขาย ก็ขายให้คนในประเทศกิน เงินในกระเป๋าตังคนทั้งประเทศไหลเข้าคนคนเดียว
.
คนรวยอันดับสอง ขายเหล้า เงินคนขี้เมาทั่วประเทศไหลเข้ากระเป๋าคนคนเดียว
.
หรือ คนรวยอันดับสาม รวยเพราะขายพลังงานให้ กฝผ เงินภาษีประชาชนไหลเข้ากระเป๋าตังคนคนเดียว
.
หลักคิด การยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งปกติ ที่ใช้กับพรประภา จึงรุ่งเรืองกิจ ในยุค 80 มันยังใช้ได้หรือเปล่า? ถ้าเป้าหมายของเราคือการก้าวพ้นกับดักปานกลางและเพิ่มรายได้ต่อหัวของประชากร
.
เราเป็นเมืองขึ้นทางเทคโนโลยีของต่างชาติอยู่จริง ๆ หรือ ?

438 Nameless Fanboi Posted ID:OaZ5CXg6fd

ถึงวันนี้ ขับรถอีวีไปแล้ว 470 กม. เติมไฟรวม 74 kWh จึงมารายงานให้เพื่อนธรณ์ทราบ

ผมจะเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย โดยอิงกับตัวผมเป็นหลัก

ก่อนหน้านี้ผมก็ใช้มินิน้ำมัน ขับคนเดียว เส้นทางเหมือนกัน น่าจะพอบอกอะไรได้

เราจะปรับตัวเลขให้เป็นบาทต่อ 1000 กิโลเมตร

สมัยน้ำมัน ผมใช้เฉลี่ย 8 กม./ลิตร หรือ 125 ลิตรต่อ 1,000 กม. (บ้านกลางเมือง รถติดสนั่นครับ)

ราคาตอนนี้ก็ลิตรละ 38 บาท เท่ากับ 4,750 บาทต่อพันกิโล

มาใช้อีวี คำนวณจากตัวเลข 74 kWh ต่อ 470 กม.

หากไป 1000 กิโล ใช้ไฟ 157 kWh

คิกค่าไฟหน่วยละ 4 บาท ได้ออกมา 630 บาท

ผมเติมไฟบ้านตลอด ถูกกว่าตู้ชาร์จข้างนอก แม้จะมีค่าบวกนี่นั่นตามขั้นบันได รวมแล้วก็ไม่น่าเกิน 700 บาท

ประหยัดไปได้ 4 พันบาท 🥳

แน่นอนว่าตัวเลขนี้ไว้ใช้พอเป็นไอเดีย ไม่ได้มีไว้อ้างอิงใดๆ

มินิยังเป็นรถเล็ก แบตเล็ก น้ำหนักเบา (1.44 ตัน) ผิดจากรถอีวีคันใหญ่แบตยักษ์ อาจหนักสองตันเศษ

น้ำหนักมากย่อมกินไฟกว่า ยังเกี่ยวกับการขับ เพราะแถวบ้านผมขับๆ หยุดๆ regenerative braking ทำงานตลอด ปั่นไฟกลับคืนมา

หากวิ่งยาวๆ กดแช่หน่อยไม่ค่อยเบรค ย่อมกินไฟมากขึ้นเป็นธรรมดา

สำหรับเพื่อนธรณ์ที่สนใจรถอีวี อยากแนะนำว่า ลองเปรียบเทียบให้ละเอียด

ของผมดูแล้วอาจเยอะหน่อย เพราะเดิมทีเป็นรถน้ำมัน เครื่องแรง ใช้กลางเมือง วิ่งๆ หยุดๆ มันก็กินน้ำมันเป็นธรรมดา

เมื่อเปลี่ยนเป็นไฟฟ้า จึงดูตัวเลขแล้วประหยัดได้เยอะ

แต่ถ้าเพื่อนธรณ์ใช้รถที่ประหยัดน้ำมันอยู่แล้ว วิ่งไกลๆ ทางตรง เปลี่ยนเป็นรถอีวีใหญ่และหนัก ความแตกต่างอาจไม่เยอะขนาดนั้น

รถแต่ละคัน ย่อมเหมาะสมสำหรับความต้องการของแต่ละคนครับ

😊

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

439 Nameless Fanboi Posted ID:OaZ5CXg6fd

อิทธิพลทางการศึกษาของจีนกำลังเติบโตในลาตินอเมริกา
.
.
.
.
.
สถาบันขงจื๊อเป็นสถานที่ที่นักศึกษาสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและภาษาจีน อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์เตือนว่าโครงการเหล่านี้เป็นการแสดงอำนาจ Soft Power ของปักกิ่งเพื่อให้ได้รับอิทธิพลในมหาวิทยา ลัยที่พวกเขาดำเนินการ.

ในละตินอเมริกา สถาบันขงจื๊อได้ขยายตัวตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 โดยมีสำนักงานอยู่ใน23ประเทศในเขตลาตินอเมริกาและแถบแคริบเบียน บางประเทศมีมากกว่าหนึ่งแห่งโดยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในวิทยาเขตของมหาวิทยาลัย สถาบันสอนภาษาจีนกลางจัดหาเงินให้ค่ายฤดูร้อนในประเทศจีน สนับสนุนกิจกรรมทางวัฒนธรรม และมอบทุนการศึกษาเพื่อศึกษาในประเทศจีน.

มีความเป็นไปได้ที่ฉันจะได้เดินทางไปที่ประเทศจีนเพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาโท แอนโธนี ทรูจิลโล นักศึกษาสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เรียนภาษาจีนกลางเป็นเวลาสองปีที่สถาบันขงจื๊อของมหาวิทยาลัย ซานฟรานซิสโก เดกีโต ประเทศ เอกวาดอร์ กล่าว.

อเล็กซานดร้า วาลาซโก้ ผู้อำนวยการของฝ่ายสากลของมหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก เด กีโต อธิบายไว้ว่าความรู้สึกสนใจการเรียนภาษาจีนของนักศึกษานั้นเกิดจากความเป็นไปได้ในการเข้าร่วมทุนการศึกษาที่จีนมอบให้และทางเลือกในการทำธุรกิจกับประเทศนั้น.

นับตั้งแต่การเปิดศูนย์ขงจื๊อในปี 2010 การลงทะเบียนเรียนในชั้นเรียนภาษาจีนกลางได้เพิ่มขึ้นจากนักเรียน 40 คนเป็น 300 คน พวกเราชาวฮิสแปนิกนั้นมองหางานในต่างประเทศและถึงแม้ว่าจะมีความยากในการศึกษาภาษาจีนแต่มันคุ้มค่าที่จะทำ ดาเนียลา จิเมเนซ นักศึกษาสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ กล่าว.

เจค กิลสแตรป นักเขียนบทความเชิงวิชาการกล่าวว่า รัฐบาลจีนจัดหาเอกสารการเรียนให้กับอาจารย์และจะเสนอทางเลือกในการให้ทุนการศึกษาในประเทศจีนแก่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในภาษา เจค กิลสแตรป ผู้เขียนรายงานวิชาการกล่าว สถาบันขงจื๊อของจีนในลาตินอเมริกาว่า คือ soft power ของจีน เขากล่าว.

กิลสแตรป บอกว่าจีนกำลังพยายามจะสร้างผู้นำในอนาคตของลาตินอเมริกา ผ่านความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและความเข้าใจทางวัฒนธรรมของจีนเพื่อสร้างโลกในแบบที่คล้ายกับโลกทัศน์ของจีนมากขึ้น และอาจสนับสนุนเป้าหมายรวมทั้งนโยบายต่างประเทศของจีนในหลายประการ.

พาซิฟัล ดิ โซล่า ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย China Latin American ของมูลนิธิ Andrés Bello กล่าวว่ามีความกังวลว่าการเพิ่มขึ้นของสถาบันที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลจีนภายในมหาวิทยาลัยต่างๆ ในลาตินอเมริกา อาจส่งผลให้มีการผลิตเนื้อหาในหัวข้อที่ถือว่าอ่อนไหวต่อจีนลดลง เช่น เสรีภาพทางการเมือง การเซ็นเซอร์ หรือการปราบปรามกรอุยกูร์.

ในขณะที่เหล่าอาจารย์ในลาตินอเมริกานั้นได้มีส่วนร่วมที่มากขึ้นในการวิจัยที่ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐบาลจีน เราจะเห็นการวิพากษ์วิจารณ์ภายในมหาวิทยาลัยน้อยลง ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศจีนในภาพลักษณ์ระดับสากล ดิ โซล่า กล่าว.

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้บอกว่าสถาบันขงจื้อ นั้นมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับ United Front Work Department ของคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งรวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับผู้คนและองค์กรทั้งภายในและภายนอกประเทศจีน.

ปักกิ่งนั้นได้ก่อตั้งสถาบันขงจื๊อขึ้นในปี ค.ศ. 2004 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความคิดริเริ่มนี้ได้รับทุนในการสนับสนุนจากรัฐบาลและได้ขยายไปถึง 162 ประเทศทั่วโลก โดยได้มีสถาบันมากกว่า 500 แห่งทั่วโลก และห้องเรียนมากกว่า 1000 แห่ง ภายใต้สถาบันขงจื๊อที่เปิดอยู่ในแต่ละประเทศ.

การขยายตัวของสถาบันขงจื๊อเป็นไปอย่างรวดเร็วในต่างประเทศที่จีนได้จัดตั้งการแลกเปลี่ยนทางการค้า ชิลีมีสถาบันขงจื๊อสองแห่งและหอวัฒนธรรมขงจื๊อ 5 แห่ง เปรู มี 4 สถาบัน ในบราซิลมีสถาบันขงจื๊อ 10 แห่งและหอวัฒนธรรมขงจื๊อ 3 แห่ง.

ในแผนปฏิบัติการร่วมของจีนและในประเทศในประชาคมลาตินอเมริกาและกลุ่มชาติแคริบเบียนได้ตกลงกันในเดือนธันวาคม โดยจีนให้คำมั่นที่จะเปิดสถาบันขงจื๊อเพิ่มขึ้น และมอบ ทุนรัฐบาล 5000 ทุน และสถานที่ฝึกอบรม 3000 แห่งในอีกสามปีข้างหน้า.

การโต้เถียงรอบๆสถาบันขงจื๊อยังคงดำเนินต่อไปกับสถาบันการศึกษาและนักศึกษาบางแห่งยังได้รับประโยชน์ ในขณะที่ประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกาเตือนว่าผลประโยชน์อาจต้องแลกมาด้วยเสรีภาพทางวิชาการ.

อ้างอิง

- https://www.voanews.com/a/china-s-educational-influence-expected-to-grow-in-latin-america-/6524956.html

- https://nationworldnews.com/chinas-educational-influence-expected-to-grow-in-latin-america/

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

440 Nameless Fanboi Posted ID:P1kL5vfv.z

โฮโลไลฟ์กะหรี่ยูทูป

441 Nameless Fanboi Posted ID:DCX8j7+4W9

ตายายเก็บเห็ดติด 11 ปี
พ่อค้าไก่เป็นแพะขโมยเพชร ติด 3 ปี
ขับรถชนคนตายติด ปีเดียว
ประเทศเหี้ย กฎหมายก็เหี้ย

#หมอกระต่าย

442 Nameless Fanboi Posted ID:dkS.goypYl

>>441 ตายายเก็บเห็ดอีกละ ขลำ

443 Nameless Fanboi Posted ID:991v./i1+2

>>442 ไม่รู้เจะเข้าใจผิดกันไปถึงไหนว่าแม่งไม่ได้เก็บเห็ดจริงๆ

444 Nameless Fanboi Posted ID:bJjJrQVtLR

>>439 จีนเล่นบทจ๊กก๊ก สมัยสามก๊ก พวกขุนศึกส่วนใหญ่สนใจแต่ดินแดนภาคกลาง ภาคเหนือ ตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้ เพราะอุดมสมบูรณ์และเป็นที่ราบสร้างเมืองกับระบบคมนาคมง่าย ไม่ค่อยสนใจเสฉวนหรือทางตะวันตก-ตะวันตกเฉียงใต้น่ะ มองว่ามีแต่ป่า แถวนั้นถูกเหยียดว่าเมืองกันดารยิ่งกว่าทางเหนือที่พวกชนเผ่ารบบนหลังม้าอยู่กันอีก ก็เหมือนยุคนี้ที่จีนไล่ขยายอิทธิพลในประเทศโลกที่ 3 หรือแม้แต่ประเทศโนเนมที่ตะวันตกเมินอะนะ

(จริงๆ กูเห็นจีนทำตอนนี้ นึกถึงเกือบๆ 20 ปีก่อนแฮะ กูเป็นแฟนคอลัมน์เปิดฟ้าส่องโลกของนิติภูมิในไทยรัฐ แกก็ยุตลอด ไทยควรไปบุกเบิกแอฟริกา ลาตินอเมริกา และยุโรปตะวันออก ตอนนั้นจีนยังไม่แผ่ขยายอิทธิพลเท่าไรเลยมั้ง แต่ก็เห็นๆ ละว่าเราไม่ได้ทำแบบที่แกว่า)

445 Nameless Fanboi Posted ID:eMV4264fsL

>>444 20 ปีก่อนไทยพึ่งเจอต้มยำกุ้ง ไม่มีแรงขยายขนาดนั้นหรอก ตอนนี้ก็ไม่มี แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ขยายนะ ในอาเซียนไทยเป็นนักลงทุนรายใหญ่มาตลอด จำไม่ผิด 10 ปีที่ผ่านมา 50% ของการลงทุนในอาเซียนมาจากไทย เพราะพื้นที่แถบนี้ยังอยู่ใกล้ไทยพอจะบริหารได้โดยตรงอยู่

446 Nameless Fanboi Posted ID:HxGNQMdr4q

สนธิโดนแฮกเพราะไอ้กัน
สนธิโดนแฮกเพราะไอ้กัน
สนธิโดนแฮกเพราะไอ้กัน
#ควยมะกัน

447 Nameless Fanboi Posted ID:FXiWJZ5Tve

เขียนแบบความรู้ไม่มีเลย คืองงกับอาการตื่นเต้นและเชื่อมั่นในการสร้าง soft power ของประเทศนี้ของทุกๆฝ่าย ในความเห็นส่วนตัวคิดว่าประเทศนี้จะฉิบหายนะครับถ้าคิดแต่จะสร้าง soft power แบบที่คิดๆกัน ผมไม่เห็นการพูดถึงการวางโครงสร้างอะไรสักอย่าง แม่งยังกับเล่นคำเรื่องอะไรที่นิยม อีกเรื่องที่งงๆคือ ถ้าจะขายแบบนี้แล้ว hard power มันคืออะไร สร้างไม่ได้ใช่ไหม แล้วถ้าจะเน้นเรื่องแบบนี้มันจะเชื่อมกับความมั่นคงยังไง งบประมาณทหารจะลดหรือจะเพิ่ม อาวุธจะซื้อไหม จะจัดลำดับความสำคัญอะไรยังไง ยุทธศาสตร์ชาติคือพูดไหม หรือต้องรื้อทุกอย่างหมด งงจริงๆ ยิ่งพูดเหมือนมีปมด้อย อยากจะไขว่คว้าอะไรก็ได้ที่มายึดเหนี่ยวท่ามกลางอาการตกต่ำและวิกฤติ

448 Nameless Fanboi Posted ID:FXiWJZ5Tve

เห็นข่าวนี้แล้ว ทำให้เราเห็นได้ชัดเลยครับว่าถ้าจะเพิ่มเงินสวัสดิการเราทำได้ แค่ที่ผ่านมาเราไม่ทำ
.
รัฐบาลเพิ่มเงินสวัสดิการผู้สูงอายุ เดือนละ 100-250 บาท "ทั้งประเทศ" ใช้งบประมาณ 8,000 ล้านบาท ในขณะที่งบโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 เฟสเดียว ใช้งบประมาณมากกว่า 43,500 ล้านบาท
.
ดังนั้นที่บอกว่าเราสร้างรัฐสวัสดิการไม่ได้ จะเอาภาษีมาจากไหน ภาษีแพงจ่ายไหวไหม ผมอยากจะบอกว่าประเทศนี้ถ้าเราจัดการงบประมาณดีๆ เราทำได้ แต่ที่ผ่านมาเราไม่ทำ
.
นี่คือสาเหตุที่เราเสนอนโยบาย "สวัสดิการคนเมือง" เพิ่มเงินสวัสดิการเด็ก ผู้สูงวัย คนพิการเพิ่ม เพื่อยืนยันในหลักการว่ารัฐสวัสดิการสร้างได้ถ้าเราจัดสรรทรัพยากรให้ดี!
.
อ่านเพิ่ม นโยบายสวัสดิการคนเมือง
https://www.facebook.com/photo/?fbid=458865302696696&set=pcb.458867996029760
.
ขอบคุณภาพจาก https://mgronline.com/uptodate/detail/9650000039627

449 Nameless Fanboi Posted ID:q9HTiNf2FE

>>444 แล้วก็จะจบแบบจ๊กก๊ก

450 Nameless Fanboi Posted ID:kYFa3MmFTw

THE STANDARD ดูเผินๆเหมือนเป็นสำนักข่าวของคนรุ่นใหม่ มีเนื้อหาที่มีประโยชน์ มีสาระ แต่เบื้องหลังผู้ถือหุ้นใหญ่ 45% คือนายวินิจ เลิศรัตนชัย (โหน่ง aday แค่ 20%) ผู้ที่รวยมาจากการจัดงานเฉลิมพระเกียรติต่างๆ จึงไม่แปลกที่ THE STANDARD กับกลุ่ม CP จะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ยกตัวอย่างคือการเอาข่าว เอาอะไรไปเปิดใน 7-11 จึงพอเดาได้ว่าต่อให้ THE STANDARD จะรายงานข่าวได้เป็นกลาง น่าเชื่อถือ แค่ไหน แต่ถ้าเป็นเรื่องเจ้า ไม่น่าจะฝากความหวังอะไรไว้ด้วยได้

451 Nameless Fanboi Posted ID:g./mtIQ3sn

>>445 อาเซียนนี่ใช่เลย เอาจริงๆ ไทยมีศักยภาพเป็นพี่ใหญ่แถวนี้ด้วยนะ ยิ่ง Soft Power เราแทบจะครองเลยมั้ง แต่ผู้นำมือไม่ถึงละมั้ง ปล่อยสิงโปกับอินโดแสดงความเป็นผู้นำยาวๆ

>>449 ไม่มั้ง อย่างน้อยก็ยังไม่มีกระแสต้านจีนจากชนเผ่าท้องถิ่นละน่า

>>450 มีแต่ Matter กับประชาไท แค่นั้นแหละ นอกนั้นอย่างดีก็ขวากลาง

452 Nameless Fanboi Posted ID:OQN14N5la9

อยากให้ไทยมีสำนักข่าวแบบรอยเตอร์ว่ะ รอยเตอร์แม่งดีตรงที่เป็นนโยบายสำนักว่าจะรายงานข่าวแบบจืดๆ เจอข้อมูลอะไรก็เอามารายงานแบบนั้น ไม่มีการใส่สีสันเพราะจะเอาคลิก ไม่มีนักข่าวแอบยัดไบแอสตัวเองลงในข้อมูลข่าว

ข่าวไทยถ้าไม่เอียงซ้ายก็เอียงขวา บิดเบือนข้อมูลทั้งสองฝั่ง

453 Nameless Fanboi Posted ID:g./mtIQ3sn

>>452 TPBS ไหวปะละ กูเห็นทั้งเหลือง แดง หริ่ม ส้ม ด่าหมดนะ

454 Nameless Fanboi Posted ID:P4ND1R.SOS

>>453 TPBS มันอารมณ์ข่าวเจาะลึก มีข้อมูลความคิดเห็น (มันถึงโดนด่าหมด)

455 Nameless Fanboi Posted ID:KvfW5d2dyU

พวกที่ยังเปิดเดอะวอยซ์อยู่คือพวกดักดาน

456 Nameless Fanboi Posted ID:P4ND1R.SOS

ความเหมือนต่างของ El Salvador และ Central Africa สองประเทศที่ใช้ Bitcoin เป็นสกุลเงิน
.
จากเมื่อสองวันก่อนได้เห็นประเทศแอฟริกากลางประกาศให้ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่สามารถชำระหนี้ได้ (Legal Tender) ก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มาก ๆ เพราะนึกว่าประเทศต่อไปจะเป็นเพื่อนบ้านแถบอเมริกากลางของเอล ซัลวาดอร์ เสียอีก ซึ่งด้วยความสงสัยของว่าทำไมถึงต้องเป็นแอฟริกากลางก็นำมาสู่การไปขุดข้อมูล ตามมาด้วยการบ่นยาว ๆ ครั้งนี้แหละ 555
.
ความเหมือนของทั้งสองประเทศอย่างแรกคือไม่มีอิสระในการกำหนดนโยบายการเงินเหมือนกัน เพราะเอล ซัลวาดอร์ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯเป็นสกุลหลัก ส่วนแอฟริกากลางใช้ Central African CFA Franc (XAF) เป็นสกุลหลัก ร่วมกับ แคเมอรูน, ชาด, อิควาทอเรียลกินี, กาบอง และคองโก โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ 1 ยูโร = 655.957 XAF ซึ่งการใช้สกุลเงินของประเทศอื่นหรือสกุลเงินที่ผูกติดกับประเทศอื่นนี่เอง ทำให้ประเทศเหล่านี้ไม่มีอิสระในการจะใช้นโยบายการเงินในการรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ เช่น สมมติว่าเอล ซัลวาดอร์อยากขึ้นดอกเบี้ยเพื่อชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ แต่สหรัฐอเมริกาเศรษฐกิจตกต่ำทำให้ต้องลดดอกเบี้ย เอล ซัลวาดอร์ก็จะไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้เพราะไม่ได้เป็นผู้ควบคุมปริมาณเงิน เหมือนกันกับแอฟริกากลางที่ต้องรับผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจของ EU เพราะนอกจากธนาคารกลางยุโรปจะเป็นคนควบคุมปริมาณเงินยูโรแล้ว เงินสำรอง 50% ของกลุ่มประเทศ CFA Franc ยังอยู่ในธนาคารกลางฝรั่งเศสอีกด้วย ทำให้ยิ่งขาดความเป็นอิสระเข้าไปใหญ่
.
ความเหมือนอย่างที่สองคือความต้องการใช้งาน Bitcoin ในประเทศจะไม่ได้สูงนัก โดยปี 2021 เอล ซัลวาดอร์ มีอัตราส่วนผู้ถือครอง Cryptocurrency ต่อประชากรแค่ 1.94% เท่านั้น ส่วนแอฟริกากลางไม่มีการเก็บข้อมูล แต่ถ้าให้เดาก็ไม่น่าจะมากไปกว่าเอล ซัลวาดอร์ ถ้ามองในมุมนึงก็คือตัวเลขนี้ยังสามารถโตได้อีกเยอะ แต่ในอีกมุมนึงก็อาจหมายความว่าการใช้งานส่วนใหญ่อาจจะมาจากนอกประเทศ เหมือนกับที่ในรายงาน NBER หรือบทความของ Bloomberg ว่าชาวเอล ซัลวาดอร์ รีบขาย Bitcoin กลับเป็นดอลลาร์หลังจากได้รับอย่างรวดเร็ว ต่างกับ vlog จาก Youtuber สายคริปโตที่ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศพัฒนาแล้ว ก็ใช้ Bitcoin ซื้อของกันเต็มไปหมด
.
ส่วนความต่างที่สำคัญคือสัดส่วนประชากรที่ใช้อินเตอร์เน็ต โดยปี 2021 เอล ซัลวาดอร์อยู่ที่ 50.5% ในขณะที่ แอฟริกากลางมีเพียง 11.4% เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยกว่ากันมาก ๆ จะกลายเป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน Bitcoin ในวงกว้างของแอฟริกากลางแน่ (มันส่งผ่านสัญญาณวิทยุได้จริง แต่การจะใช้ในวงกว้างเราก็ควรจะเป็นทางที่เร็วและสะดวกที่สุดคืออินเตอร์เน็ตจริงมั้ย?) นอกจากนี้อย่างที่พูดไปแล้วว่าการใช้งาน Bitcoin ส่วนใหญ่ตอนนี้อาจจะมาจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ทำให้เกิดความต่างอย่างที่สองคือเอล ซัลวาดอร์ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า แม้จะมีอัตราการฆาตกรรมเป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่ในช่วงพีค ๆ เอล ซัลวาดอร์ก็มีนักท่องเที่ยวมากถึง 2.6 ล้านคน ในปี 2019 ในขณะที่แอฟริกากลางไม่มีนักท่องเที่ยวแทบไม่เคยเกินแสนคนเลย ทำให้ในอนาคตถ้านักท่องเที่ยวกลับมาเราอาจเห็นการใช้งาน Bitcoin ในเอล ซัลวาดอร์ เติบโตขึ้นมากกว่านี้ได้ จากการที่ร้านค้าปรับตัวรับ Bitcoin ตามความต้องการของนักท่องเที่ยว ในขณะที่แอฟริกากลางอาจต้องเจอปัญหาว่าไม่มีคนใช้งาน Bitcoin เพียงพอ เพราะไม่ได้มีแรงจูงใจในการจะเปลี่ยนมากนัก ยกเว้นจะเกิด Hyperinflation ซึ่งก็เกิดได้ยากเพราะไม่มีอำนาจพิมพ์เงินเอง
.
เพราะฉะนั้นส่วนตัวมองว่าการใช้ Bitcoin เป็นเงินของแอฟริกากลาง อาจจะไม่ได้ว้าวเท่ากับของเอล ซัลวาดอร์นัก เพราะยังมีอุปสรรคด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต รวมถึงไม่มีปัจจัยที่จะมาจูงใจคนให้เปลี่ยนไปใช้ Bitcoin มากนักด้วย แต่จากเหตุการณ์นี้ก็เริ่มได้สมมติฐานเพิ่มว่าปัจจัยที่ทำให้ประเทศที่อยากใช้ Bitcoin เป็น Legal Tender นั้น นอกจากประเทศที่พึ่งพา Remittance สูง ทำให้ต้องการใช้ Cryptocurrency เพื่อลดต้นทุน และต้องการหนี Hyperinflation แล้ว อาจจะเป็นประเทศที่ไม่มีอิสระในนโยบายการเงิน เลยต้องลอง Bet กับเงินสกุลใหม่นี้ดู เพราะเห็นข้อเสียว่าแม้ตัวเองจะตรึงอัตราแลกเปลี่ยนกับมหาอำนาจไปก็ไม่ได้ส่งผลดีมากนัก และประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยว เพราะสามารถขายการท่องเที่ยวด้วย Bitcoin อันจะเป็นแรงจูงใจให้การใช้งาน Bitcoin ในประเทศขยายตัวขึ้นได้
.
ปล 1. จะว่าไปแล้ว บ่นไปบ่นมาอยากย้อนเวลากลับไปปรับหัวข้อสัมมนาจังเลยครับ 55555
ปล 2. คหสต ล้วน ๆ แลกเปลี่ยนกันได้อย่างสุภาพนะครับ

457 Nameless Fanboi Posted ID:3QwO4XnPN.

>>455 เดอะวอยซ์ยังมีอยู่อีกเหรอวะ เมื่อก่อนชอบดูร้องเพลงหนุกดี

458 Nameless Fanboi Posted ID:4rflmj/5AJ

นานมาแล้วที่ผมสนใจภูเขาอาธอส ที่กรีซ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของนิกายออร์โธดอกซ์ (ซึ่งมีแต่พระและห้ามผู้หญิงเข้าไป) แต่ก่อนการรุกรานยูเครน จู่ๆ ผมก็สนใจเรื่องปูตินกับภูเขาอาธอสขึ้นมา เพราะจำได้ว่าปูตินเคยไปที่นั่นเมื่อหลายปีก่อน

ภูเขาอาธอสนั้นได้รับการอุปถัมภ์จากพระเจ้าซาร์รัสเซียมากว่า 900 ปี แล้วก็ขาดช่วงไปหลังการปฏิวัติ กระทั่งปูตินเป็นผู้นำรัสเซียคนแรกที่ไปเยือนภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

และมันสำคัญตรงที่ชาวออร์โธดอกซ์บางคนเห็นว่ารัสเซียนั้นเป็นความหวัง และมองปูติน (ซึ่งไปวัดไปวาบ่อยๆ) เป็นประหนึ่งผู้พิทักษ์ศาสนาจักร ด้วยชาวออร์โธดอกซ์เชื่อว่ามอสโกนั้นคือผู้สืบทอดกรุงโรมที่สอง (คอนสแตนติโนเปิล) ที่แตกไปเพราะมุสลิมออตโตมัน พวกเมืองออร์โธดอกซ์เมืองแล้วเมืองเล่าก็แตกพ่ายไปติดๆ เมืองใหญ่ๆ ก็เหลือแต่รัสเซียที่พวกเติร์กโค่นไม่ล้ม จึงพากันยกให้เป็นทายาทของจักรวรรดิบีแซนทีนแต่ผู้เดียว

นับแต่ศตวรรษที่ 15 (หลังจากที่พวกรุสประกาศอิสรภาพจากพวกมองโกลได้แล้ว) พวกออร์โธดอกซ์ก็ยกมอสโกเป็นกรุงโรมที่สาม

เจ้าเหนือหัวของพวกรุสแต่เดิมเป็นเพียงเจ้าชายก็หันมาใช้คำว่า "ซาร์" ยกเป็นกษัตริย์ขึ้นมา ครั้นต่อมามีอำนาจแผ่ไพศาลขึ้น ความหมายของคำว่าซาร์ก็ยกขึ้นมาเทียบจักรพรรดิ

คำว่า "ซาร์" นี้เชื่อกันว่ามาจากคำว่า "ไกซาร์" (หรือที่เรียกออกเสียงกันว่าซีซาร์) อันเป็นพระอิสริยยศของพระเจ้ากรุงโรมที่หนึ่ง (ที่อิตาลี) และโรมที่สอง (ที่ตุรกี) แต่ต่อมามักจะหมายถึงจักรพรรดิร่วม (โรมยุคกลางมักจะมีเหนือหัวปกครองแผ่นดินสององค์ร่วมกัน) หรือพระราชทานให้รัชทายาท

พระอิสริยยศไกซาร์นี้รับมาจากชื่อยูลิอุส ไกซาร์ (จูเลียส ซีซาร์) ที่ถือกันว่าเป็น "ปฐมวงศ์" ของระบอบจักรพรรดิทั้งโรมหนึ่งและโรมสอง แม้นว่าไกซาร์เองจะอยู่ในยุคสาธารณรัฐโรมและไม่ได้ยกตนเป็นเจ้า แต่ก็ถือเป็นระดับราชะในทางพฤตินัยและมีเกียรติยศระบือไกล ไกซาร์จึงเป็นพระยศที่พ่วงฐานันดรจักรพรรดิโรมสืบมา

แม้ว่าพวกโรมตะวันตกและตะวันออกจะเน้นเฉพาะพระยศ "อิมแปราตอร์" (พระจักรพรรดิ) แต่ก็ต้องพ่วงคำว่าไกซาร์ไว้เสมอ และพวกหัวเมืองประเทศราชชาวสลาฟของโรมตะวันออกก็ยังเรียกคอนสแตนติโนเปิลว่า "ซาร์กราด" หรือ เมืองของไคซาร์"

ทุกวันนี้สลาฟบางประเทศก็ยังเรียกซาร์กราดกันอยู่

เมื่อสิ้นโรมที่สอง ตำแหน่งไกซาร์ก็ส่งต่อมายังรัสเซียโดยลดทอนเหลือแค่ซาร์ พร้อมกันนั้นก็มอสโกก็พยายามทำตนให้สมกับเป็นทายาทของโรมตะวันออกด้วยการทำนุบำรุงภูเขาอาธอสอันเป็นแดนแสวงบุญของออร์โธดอกซ์สืบต่อมา

แต่การเป็นโรมที่สามของรัสเซียทำให้มักถูกพวกขี้ระแวงมองว่ารัสเซียมีความทะเยอทะยานสร้างจักรวรรดิให้เทียมโรมในอดีต เพราะคำว่า "ไกซาร์แห่งโรม" ไม่ได้หมายความแค่จักรพรรดิแห่งโรมเท่านั้น เพราะแต่หมายถึงความเป็นเจ้าโลกด้วย

และมันมีเหตุให้ระแวงจริงๆ เมื่อรัสเซียเริ่มเป็นมหาอำนาจทันสมัยในศตวรรษที่ 18 รัสเซียก็เริ่มยกเรื่องโรมที่สามมาเป็นพันธกิจพิทักษ์ศาสนาและพยายามผนวกชาวสลาฟออร์โธดอกซ์ (ผู้ถือศาสนา "แท้จริง" ของโรมตะวันออก) ทั้งมวลมาเป็นหนึ่งเดียวกัน

หลังจากนั้นแนวคิดเรื่องโรมที่สามก็มักถูกมองว่าสะท้อนความกระหายที่จะครองโลกของรัสเซีย มันอาจจะเงียบไปพักหนึ่งช่วงสหภาพโซเวียต แต่พอวลาดิมีร์ ปูตินผงาดขึ้นมา ความระแวงเรื่องโรมที่สามก็กลับมาอีก

459 Nameless Fanboi Posted ID:4rflmj/5AJ

>>458

ปูตินนั้นส่งเสริมศาสนาอย่างออกนอกหน้าและรือฟื้นพระเกียรติยศกษัตริย์วงศ์โรมานอฟ (ซึ่งชื่อนี้ไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นโรม เพียงแต่บรรพชนมีชื่อว่า "โรมัน" เท่านั้น) ที่ถูกสำเร็จโทษโดยพวกบอลเชวิก ในช่วงหลายปีมานี้ พวกเคร่งศาสนาออร์โธดอกซ์มองว่าปูตินกำลังทำหน้าที่ประหนึ่งซาร์ในอดีต กลายเป็นความหวังของบางคนเหล่านี้

แต่บางคนก็มองว่าปูตินใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างชาตินิยมรัสเซียและลัทธิเอกภาพชาวสลาฟ เพื่อปูรากฐานการเขมือบดินแดน สร้างจักรวรรดิรัสเซียใหม่ (หรือสืบทายาทโรมที่สามอีกครั้งนั่นเอง)

เมื่อครั้งปูตินไปเยือนภูเขาอาธอสนั้น ปูตินได้ขึ้นไปบนธรรมาสน์ของอารามประธาน สำนักข่าว Interfax ของรัสเซียพรรณนาเสียใหญ่โตว่า "ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ระหว่างการเยือนโบสถ์ดอร์มิชั่นแห่งเธโอโตกอส บนภูเขาอาธอส ได้นั่งบนบัลลังก์ ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียงจักรพรรดิบีแซนทีนเท่านั้นที่จะทรงประทับได้"

ความจริงมันเป็นเพียงธรรมาสน์ร้องเพลงสวด ไม่ใช่พระที่นั่งของอิมแปราตอร์หรือไกซาร์ แต่ Interfax บอกไปคนละทางก็เพื่อย้ำวาทกรรมการเป็นซาร์ของปูตินและภารกิจ "กอบกู้โลก" ของโรมที่สาม

ความเชื่อมั่นต่อรัสเซียในหมู่ชาวออร์โธดอกซ์ที่อาธอสนั้นนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ไม่นานมานี้ผมได้อ่านคำทำนายของพระผู้มีญาณวิเศษที่อาธอสบางท่าน ทำนายไว้ว่ายุโรปจะเกิดสงครามใหญ่ระหว่างรัสเซียกับพวก "โรมตะวันตก" ที่บริเวณของสงครามคือแถบทะเลดำ มันจะลุกลามถึงขั้นสงครามโลก และ "ซาร์กราด" จะได้รับการปลดปล่อย

ท่านทำนายผลของสงครามเอาไว้ด้วย แต่ผมขอละไว้ ณ ที่นี้เพราะเป็นประเด็นละเอียดอ่อน ไม่ควรจะเอามาเผยแพร่

เมื่อทางศาสนจักรเชื่อถือขนาดนี้ พวกนอกศาสนจักรก็ยิ่งเชื่อว่าปูตินซ่อนความทะเยอทะยานเรื่องโรมที่สามเอาไว้และนักวิเคราะห์การเมืองบางคนก็พยายามอธิบายสงครามยูเครนด้วยกรอบวิธีคิดนี้ ซึ่งนักวิชาการบางท่านไม่เชื่อและโต้ว่าเป็นการจับแพะชนแกะเกินไป

ปูตินอาจไม่ได้คิดลึกขนาดนั้น และแนวคิดเรื่องโรมที่สามมันโบร่ำโบราณเต็มที่ หากจะบอกว่าปูตินมีแนวเรื่องจักรวรรดิรัสเซียใหม่และเขาปรารถนาจะเป็นจักรพรรดิยังจะใกล้เคียงกว่า

และปูตินคงไม่ได้จะเป็นซาร์ขี่ม้าขาวมากู้บ้านกู้เมืองอย่างที่บางคนคาดหวังไว้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

460 Nameless Fanboi Posted ID:4BtjrZE/ve

>>459 หมายถึงคำทำนายพวกนี้อ่ะนะ
https://rt82.ru/en/documentation/zavtra-nachnetsya-tretya-mirovaya-voina---afonskie-starcy-sdelali/

461 Nameless Fanboi Posted ID:CbKamMIo4t

>>458-459 คำทำนายนั้นโอกาสเกิดจริงโคตรยาก ยิ่งโลกยุคปัจจุบันด้วยแล้ว แถมจากสภาพของรัสเซียตอนนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่

462 Nameless Fanboi Posted ID:QUHkqLzB9J

ปัญของของนักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศไทย คือมักจะเรียนรู้มาจากนักวิเคราะห์ตามสื่อ

พวกสื่อที่เคยดังๆพวกนี้ มักจะใช้เครื่องมือที่เรียนกันมาในยุค 70 อันมีบรรยากาศของสงครามเย็น

พวกนี้จะใช้ทฤษฎี realism แบบโบราณ และมักจะมีอคติแบบหลังอาณานิคม

ชั้นเลว คือมักจะมองว่า รัฐเป็นก้อนๆ เป็นเหมือนคนคนหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะนิสัยบางอย่าง อันมักจะมีอคติของผู้สังเกตเกี่ยวกับเชื้อชาติต่างๆเข้าไปเจือปน โดยเฉพาะอคติจากยุคหลังอาณานิคม ที่มองว่าหัวดำดี หัวทองเลว

ชั้นดีขึ้นมาบ้าง คือมองว่า รัฐเป็นก้อนๆ เหมือนเครื่องจักรบางอย่างที่จะพยายามทำอะไรก็ได้ ที่ตัวเองได้กำไร หรือประโยชน์สูงสุด

การวิเคราะห์อย่าง realism แบบหยาบๆนี้ ขาดความเข้าใจถึงประเด็นว่าการตัดสินใจของผู้มีอำนาจนั้น มีการนิยาม "ประโยชน์" ของรัฐที่แตกต่างหลากหลาย

โดยเฉพาะรัฐประชาธิปไตยในยุโรปตะวันตก และสหรัฐอเมริกา

ผู้มีอำนาจของรัฐประชาธิปไตย จะปรับนโยบายตามอารมณ์ของประชาชน เพราะ "เสียงของประชาชน" เป็นผลประโยชน์สูงสุดที่นักการเมืองต้องการ

สถานการณ์สงครามยูเครน ได้แสดงให้เห็นว่า ตัวอย่างนี้ ในตอนแรก สหรัฐอเมริกา และยุโรป มีท่าทีระมัดระวังต่อผลประโยชน์ และนโยบายเดิม

แต่เมื่อกระแสของประชาชน แสดงท่าทีชัดเจนมาก จากอุดมการณ์หรือศีลธรรมบางประการ ยุโรป และสหรัฐอเมริกา จึงได้ปรับท่าทีอย่างชัดเจน และยอมดำเนินนโยบายซึ่งอาจทำให้ขาดทุนทางเศรษฐกิจ หรืออาจทำให้เกิดความเสี่ยงในความมั่นคงของชาติ

แต่ไม่ใช่ว่าทฤษฎี realism จะใช้การไม่ได้เสียทีเดียว เพียงแค่มิติที่สำนักของไทยสอนกันในยุค 70 นั้นขาดความจัดเจนในการวิเคราะห์มิติว่าผู้มีอำนาจตัดสินใจของรัฐแต่ละรัฐนั้นตัดสินใจอย่างไร ซึ่งต่างออกไปในแต่ละรูปแบบการปกครองของรัฐ

ใครเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจ ใครเป็นผู้ที่ส่งผลต่ออำนาจตัดสินใจนั้น พวกเขาเหล่านั้นมีวิธีคิด และอุดมการณ์เบื้องหลังอย่างไร หากเราวิเคราะห์ในประเด็นเหล่านี้ เราก็จะเข้าใจ และคาดการภาพการเมืองระหว่างประเทศในอนาคตได้แม่นยำขึ้น

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

463 Nameless Fanboi Posted ID:OyeMkaBp5E

>>462 ปญอ ยิวจะครองโลกนั่นคือสัจธรรม

464 Nameless Fanboi Posted ID:PCM/+mwL+B

>>462 ไม่ให้วิเคราะห์แบบrealism แล้วให้วิเคราะห์ยังไงวะ ดูดcopiumแล้วมโนว่าทุกอยากจะดีตามฝันวาดไว้หรอวะ

465 Nameless Fanboi Posted ID:apbjKaA75m

>>464 มันเม้นก็มีเหตุผลนะ รัฐประชาธิปไตยต่างจากรัฐเผด็จการ (ทั้งแบบตรงๆ และซ่อนรูป) คือต้องโอนอ่อนตามกระแสสังคม เอาจริงๆ มันก็ตั้งกะสงครามเย็นด้วยซ้ำ ไอ้ที่เมกาโบกมือลาไทย เอาฐานทัพออกไป มันก็มาจากการที่รัฐบาลเมกาเลิกยุ่งกับเวียดนาม ตามแรงกดดันของคนอเมริกันที่บอกเมื่อไรจะเลิกส่งลูกส่งผัวกูไปตายในสงครามนอกประเทศซะทีน่ะ ในขณะที่รัสเซียคนประท้วงแบบนี้โดนอุ้มเข้าค่ายปรับทัศนคติ ไม่ก็จับติดคุกไปละ

466 Nameless Fanboi Posted ID:p6b3U6I3mh

เห็นด้วยเสมอกับประโยคที่ว่า ปากท้องนั้นสำคัญ กินไม่อิ่ม เงินไม่พอ ต้องขวนขวายดำรงชีพ มันเป็นปัจจัยอันดับต้น แต่ถ้าถึงวันที่ท้องอิ่มแล้วเสียงจะดังขึ้นหรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจ เพราะมีทฤษฎีท้องอิ่มแล้วเงียบไม่สนใจเพราะไม่เดือดร้อนแล้ว ที่เสียงดังกันเพราะเดือดร้อน

467 Nameless Fanboi Posted ID:CWaU4/yGvD

>>464 ใน quote ต้นทางมันก็อธิบายอยู่แล้วนะ เหมือนมึงอ่านไม่จบแล้วอยากรีบด่าอ่ะ

468 Nameless Fanboi Posted ID:BaVarQS+FB

>>466 ก็มีส่วนจริง แต่คนที่กินอิ่มแล้วมักมีปากเสียงกว่าคนที่กินไม่อิ่มนะ

469 Nameless Fanboi Posted ID:kOUUQJVP8R

"ผมเป็นพวก Liberalism สายเพื่อไทย คงไม่เกี่ยวแล้วครับ"
พวก liberalist จริง ไม่สนับสนุนให้สถาบันกษัตริย์ไทยมีอำนาจอยู่แบบทุกวันนี้หรอก
อย่างนี้เรียก liberalist ปลอม

470 Nameless Fanboi Posted ID:t8ze2FxAQo

>>469 คอมรักพระราชายังมีเลย

471 Nameless Fanboi Posted ID:cI9vpFEW./

>>469 classical liberals เกิดมาจากอังกฤษ ไม่แปลกที่จะมีลิเบอรัลนิยมสถาบัน

472 Nameless Fanboi Posted ID:m+3rhVjenu

>>470 ในลาว คอมมี่กับศาสนาพุทธไปด้วยกันได้ ทั้งที่คอมมี่ดั้งเดิมไม่เอาศาสนานะมึง

473 Nameless Fanboi Posted ID:208oQCKQLu

ที่ warren buffett กล่าวก็ถูกครับ
ที่ Bitcoin maximizer ทั้งหลายเชื่อก็ถูกครับ

คือถูกทั้งคู่นะ
เพราะ เค้าพูดกันคนละมุมมอง

warren buffett บอกว่า Bitcoin มันไม่ได้สร้าง productivity อะไรขึ้นมา มันไม่มีกิจการเป็น back ที่ทำให้เกิด return บนการใส่เงินเข้าไปใน Bitcoin มันก็จริง

เราลองคิดดู ว่าบริษัทไหน หรือกิจการใดที่นำเอา bitcoin ไปเป็นทุนเพื่อสร้าง productivity ขึ้นมาบ้าง คือตัวมันเอง ทำอะไรไม่ได้เลย มันไม่เหมือนนกับเอาเงินไปซื้อที่ดิน เพื่อสร้างธุรกิจขึ้นมาบนนั้นอันจะทำให้มูลค่าของที่ดินแพงขึ้น หรือว่า ตัวธุรกิจสามารถสร้างผลกำไรได้ ถ้าจะบอกว่า DeFi ไง ก็ต้องไปดูดีๆ ว่า มันเอา Bitcoin ไปใช้ทำอะไรแน่ เพราะถ้าบอกว่า เอาไปใช้ค้ำประกันเป็นมูลค่า อันนั้น มันไม่ได้ถือว่าทำให้เกิด productivity มันไม่ใช่เรื่องนั้น มันก็แค่ถูกเอาไว้วางค้ำเป็นมูลค่าเท่านั้น ไม่ใช่ productivity อะไรจริงๆ

ทางกลับกัน Bitcoin จริงๆแล้วตอนแรก มันถูกสร้างมาเป็น Medium of exchange หรือ สื่อกลาง เพื่อใช้แลกเปลี่ยนมูลค่า หรือที่เรารู้จักกันว่า "เงิน" นั่นแหล่ะ ดังนั้น มันจะตลกมาก ถ้าเราเอาเงินไปลงทุนใน"เงิน" เพื่อหวังว่าเงินที่ลงทุนไปจะสร้างผลกำไรจากความเป็นเจ้าของ"เงิน" เพราะ เงินมันเป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยน หน้าที่มันคือแค่นั่น มันไม่ได้มีธุรกิจด้วยตัวมันเอง

ส่วนอีกเรื่อง ก็คือ การเก็งกำไร (เขียนอย่างนี้นะ) อันนี้แหล่ะ ที่ตรงกันข้ามกับสาย Warren เค้าเลย เค้าไม่ได้เป็นสายเก็งกำไรอะไรแบบนี้ ไม่งั้นเค้าเข้าตลาด Forex ไปเล่น money game นานแล้ว แต่ส่วนส่วนใหญ่ในตอนนี้คนทั่วไปยังมอง Bitcoin และ Cryptocurrency ในมุมการเก็งกำไรมากกว่าการเอามาใช้งานจริงอยู่ ก็ไม่แปลกว่าจะมีมุมมองที่สวนทางกัน

แต่ถ้าเรามองตาม Bitcoin maximizer มอง ก็จะเห็นว่า สื่อกลางการแลกเปลี่ยนนี้ มันคือสิ่งที่อนาคตทั่วโลกต้องยอมรับ และใช้งานมัน ดังนั้น ราคามันควรจะสูงกว่าวันนี้อย่างแน่นอน ดังนั้น ถ้าเราเอาเงิน ไปซื้อ Bitcoin มาเก็บเอาไว้ อนาคตเราเชื่อว่ามีคนพร้อมจ่ายที่แพงกว่านี้เพื่อซื้อมันไปใช้ หรือ ในอีกทางหนึ่ง มองว่ามันเป็น store of value ซึ่งหมายความว่า เราเอา เงินไปแปลงเป็น Bitcoin แล้วถือมันเอาไว้ เมื่อวันนึงที่ต้องการใช้เงิน ก็แปลง Bitcoin กลับมาเป็นเงินอีกที มันจะสมเหตุสมผล เช่น วันนี้ 40 satoshi (SAT) มีค่าเท่ากับ 53 บาท และซื้อ ก๋วยเตี๋ยวกินได้ 1 ชาม ถ้าเราถือ 40 SAT ไปอีก 3 ปี เราก็ยังใช้มันแลกก๋วยเตี๋ยวได้ 1 ชามเท่าเดิม แต่วันนั้นราคาก๋วยเตี๋ยวมันอาจจะเป็น 65 บาทแล้วก็ได้ เพราะอัตราเงินเฟ้อในตอนนี้ระดับนี้ เราจึงเห็นได้ว่า งั้นเก็บมูลค่า หรือ อำนาจการใช้จ่ายในอนาคตไว้ใน Bitcoin ดีกว่าเก็บไว้ในเงินตามปกติ เพราะเงินเฟ้อ ทำให้เงินด้อยค่าลง

ไม่ งง เนอะ คือถูกทั้งคู่แหล่ะ เราแค่ต้องเข้าใจมุมมองให้ถูกต้องเท่านั้นเอง

แต่....
Bitcoin นั้นก็เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง อันมาจากความผันผวนของราคาที่สูงมาก รวมทั้ง มันเป็นสินทรัพย์เกิดใหม่ และการกระจายตัวยังไม่ดีมากพอ (ข่าวที่เจ้าใหญ่ๆตามซื้อปริมาณเยอะๆ เอาตรงๆ ว่านั่นไม่ใช่เรื่องดีนะ) รวมทั้งปริมาณเงินหมุนเวียนยังมีน้อยมาก จึงอาจจะโดนถล่ม หรือ โดนลากไปเชือด หรืออื่นๆได้ง่าย ดังนั้น ก็ต้องระวังในมุมนี้ด้วย เค้าถึงให้เราต้องระวังในมุมนี้ เพราะ 40 SAT อีก 3 ปี อาจจะเหลือ หมูปิ้งไม้เดียวก็ได้ หากเป็นช่วงที่ราคาตกมากๆ อะไรแบบนี้

ถ้าเราเข้าใจเรื่องทั้งหมด เราก็จะรู้ ว่าเรากำลังมีปฏิสัมพันธ์กับอะไรอยู่ เราอยู่ตรงไหน ยังไงของระบบ เท่านั้นเอง

474 Nameless Fanboi Posted ID:..DIKIm20.

ใดๆ ที่เข้าทวิตมาคืออยากบ่นว่า คนไทยเป็นคนเหยียดเชื้อชาติมาก (Racism) คนไทยชอบมองว่ามีแต่คนยุโรปเหยียด ไทยคือไม่ต่างกัน ที่ร้ายคือไม่ตระหนักว่าตัวเองเหยียดอยู่ เหยียดคนพม่า คนลาว คนอีสาน เหยียดเยอะไปหมดแล้วหลอกตัวเองว่าไม่ได้เหยียด คือคุณเหยียดเขา ยอมรับซะจะได้แก้ไข

เราตั้งใจเน้นเรื่องเหยียดเชื้อชาติ เหมารามทางเชื้อชาตินะ เช่นฉันเป็นลูกครึ่ง พอเป็นสาวก็โดนเหมารวมว่าง่าย ขอมีเซ็กส์ได้ง่ายๆ เพื่อนพม่าถูกตัดสินไว้ก่อนว่าอันตรายแค่เพราะเป็นพม่า ไม่ยอมรับเพื่อนชนกลุ่มน้อยว่าเป็นคนไทยทั้งที่เค้าอยู่มาก่อนปู่ทวดคุณโล้สำเภามาอีก ไรงี้

เหยียดสำเนียงคนใต้ทำไม สำเนียงอิสาน เหนือ เหยียดทำไม ภาษาชนกลุ่มน้อยไปกดไม่ให้ใช้เลยทำไม เพื่อนเราบางคนบอกว่าโดนตีนะ ถ้าพูดภาษาชนเผ่าในโรงเรียนอะ ไม่รู้ตอนนี้ยังเกิดอยู่มั้ย

ส่วนเรื่องเหยียดอื่นๆ เหยียดชนชั้น เหยียดสีผิว เหยียดรูปลักษณ์ การแต่งกาย เหยียดเพศ มันเยอะเกร่อเป็นคำทักทาย Daily life แต่หลายคนก็เริ่มเห็นบ้างแล้วละ เหยียดเชื้อชาติคนไทยยังไม่ค่อยกล่าวถึงเท่าไหร่

เราเป็นลูกครึ่งคนขาว มันโดนเหมารวม โดนมองในแบบนึง เหมาว่ารวย เป็นลูกโสเภณี เก่งอิ้งบ้าง ต้องสวยเป็นดารานะ พอไม่ใช่อย่างที่หวังก็ทำหน้าผิดหวังใส่เด็กลูกครึ้งตั้งแต่ในโรงเรียน เด็กมันจำนะ เพื่อนลูกครึ่งคนผิวสีเจอหนักกว่า เหมาคนผิวสีว่าเป็นอาชญากร โดนล้อว่าดำ หัวหยิก ยุบยับไปหมด

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

475 Nameless Fanboi Posted ID:pbLNUJBp2D

>>474 อีสาน ใต้ เหนือ ไม่ใช่raceครับ ดังนั้นใช้คำว่าracismไม่ได้ ไปคิดมาใหม่นะ

476 Nameless Fanboi Posted ID:cWNV1JlBK2

>>474 นโยบายนี้เริ่มในสมัย ป. อะ แล้วก็ลากยาวมาตลอด เป็นการทำให้เป็นไทยเดียว กลืนเป็นวัฒนธรรมเดียว ก็แล้วแต่จะมองเลย เพราะก็มีนโยบายนี้แหละ ไทยถึงสลายความขัดแย้งทางเชื้อชาติได้ เจ๊กที่กลายเป็นอีลีทในไทย ก่อนหน้านั้นก็มีเรื่องระหองระแหงกับคนไทยละน่า ตอนหลังก็ยอมเปลี่ยนแซ่เป็นนามสกุลยาวๆ ซึ่งบ้านเราก็ไม่ได้ปิดกั้นอะไร ในเมื่อรับความเป็นไทยแล้วก็มีโอกาสเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานเหมือนกันหมด คนเหนือ อีสาน ใต้ รับราชการเป็นใหญ่เป็นโตก็ไม่น้อย เป็นวัฒนธรรมเดียวกันปกครองง่าย ขับเคลื่อนสังคมไปด้วยกันง่าย และเอาจริงๆ เขาไม่ได้ทำลายภาษาถิ่นนะ แค่เน้นว่าถ้าอะไรที่เป็นทางการต้องพูดภาษาไทยกลาง ส่วนงานที่ไม่เป็นทางการ จะอู้กำเมือง เว่าลาว แหลงใต้ก็ตามสบาย

ลองนึกถึงในรัฐสภา สส. สว. (ถ้าวันนึง สว. กลับไปเลือกตั้งอีกรอบ) ไม่มีภาษากลาง มันจะวุ่นขนาดไหน จำกันได้ก็สีนวลอดีต อนค. ที่หนีไป ภจท. น่ะ อภิปรายอะไรก็พูดภาษาถิ่นตลอด มันลำบากคนฟังประชุมและคนจดบันทึกที่ไม่ใช่คนเหนืออะนะ

477 Nameless Fanboi Posted ID:05XpNLt0H2

>>473 สรุป ปู่เป็นนักลงทุน ไม่ใช่นักเก็งกำไร เลยไม่ชอบบิตคอย แต่ถ้าอนาคตคริปโตสร้างกระแสเงินสดได้แกก็พร้อมลงทุนเหมือนหุ้นแอปเปิล จบ

478 Nameless Fanboi Posted ID:l1dZ+kXMZA

สิ่งที่ทำให้ Roe v. Wade แตกต่างจาก precedents อื่น ๆ ทั้งหมด นั่นคือ มี case law ที่ทำสิ่งที่เรียกว่า stare decisis analysis มาแล้ว หรือก็คือมี case ก่อนหน้า ที่พูดถึงว่า Roe v. Wade เป็น precedent ที่น่านับถือ น่าใช้งานต่อไปหรือไม่ มาแล้ว

และ case นั้นก็สรุปว่า Roe v. Wade นั้น (หรืออย่างน้อย central holding ใน Roe) เป็นสิ่งที่ใช้งานได้ และยังคงเป็น good law

ใน Casey ศาลได้พูดถึงความสำคัญของ Roe ไว้ว่าเทียบเท่ากับ Brown (outlawing separate but equal) และจบด้วยประโยคสำคัญ คือ "So to overrule under fire in the absence of the most compelling reason to reexamine a watershed decision would subvert the Court's legitimacy beyond any serious question." (พูดถึงความสำคัญของความชอบธรรมของศาลที่จะถูกทำลายลงหากกลับหลักในคดีสำคัญโดยไม่มีเหตุอันควร)

น้อยครั้งมากที่เมื่อมีการทำ stare decisis analysis แล้ว ศาลจะเปลี่ยนใจกลับหลักภายหลัง ในคดีดังอย่าง Miranda v. Arizona (สถาปนาหลัก miranda warning) CJ Rehnquist ที่เป็นอนุรักษ์นิยมและไม่ค่อยจะเห็นด้วย ก็ยังพูดถึง stare decisis แล้วก็สรุปว่า ไม่ว่าเขาจะคิดว่าอย่างไรก็ตาม บัดนี้ หลัก Miranda warning ได้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมกฎหมายสหรัฐฯ เสียแล้ว และไม่สมควรที่จะถูกกลับหลัก ดู Dickerson v. U.S.

"Whether or not we would agree with Miranda’s reasoning and its resulting rule, were we addressing the issue in the first instance, the principles of stare decisis weigh heavily against overruling it now. [..] We do not think there is such justification for overruling Miranda. Miranda has become embedded in routine police practice to the point where the warnings have become part of our national culture."

การที่ศาลผูกพันตัวเองอยู่กับบรรทัดฐานก่อนหน้านี้ นับว่าเป็นความภูมิใจเล็ก ๆ ของผู้พิพากษาแนวอนุรักษ์นิยมอยู่มาก เพราะฝั่งอนุรักษ์นิยมจะชอบบอกว่าศาลไม่ใช่ผู้วางนโยบาย และจะต้องจำกัดกรอบการใช้ดุลพินิจอยู่ในกรอบของกฎหมายเท่านั้น ดู CJ Roberts ใน June Medical Services

"I joined the dissent in Whole Woman’s Health and continue to believe that the case was wrongly decided. [..] The legal doctrine of stare decisis requires us, absent special circumstances, to treat like cases alike. The Louisiana law imposes a burden on access to abortion just as severe as that imposed by the Texas law, for the same reasons. Therefore Louisiana’s law cannot stand under our precedents."

แต่พอมาในคำพิพากษาฉบับร่างที่ถูกปล่อยออกมา J Alito เขียนด่าการยึด stare decisis แบบเดิม ๆ ที่กล่าวมาในข้างบนว่าถึงอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะปล่อยให้มีการขยายอำนาจเกินกว่าที่รัฐธรรมนูญกำหนดได้

"The Casey plurality is certainly right it is important for the public to perceive that our decisions are based on principle, [...] But we cannot exceed the scope of our authority under the Constitution, and we cannot allow our decisions to be affected by any extraneous influences such as concern about the public reaction to our work"

และยังเขียนอีกว่า การทำ stare decisis analysis ที่ถูกต้องนั้นจะต้องมีการคำนึงถึงฐานทางกฎหมายของ precedent นั้น ๆ ด้วย "proper application of stare decisis required an assessment of strength of the grounds on which Roe was based"

ทั้ง ๆ ที่ปกติศาลจะดูปัจจัยเช่นพวก workability (ว่าแนวศาลมันใช้งานได้มากน้อยแค่ไหนในเวลาต่อมา) เท่านั้น ดังที่ J Scalia เขียนไว้ Montejo v Louisiana ว่า

"We do not think that stare decisis requires us to expand significantly the holding of a prior decision—fundamentally revising its theoretical basis in the process—in order to cure its practical deficiencies. To the contrary, the fact that a decision has proved “unworkable” is a traditional ground for overruling it. "

479 Nameless Fanboi Posted ID:RVe/qS9CD1

>>478 ว้าวreadแล้วitดูinterestingมากๆ และIคิดthatคนwriteข้อความthisต้องsmartมากsurely เพราะparagraphมันuseไทยwordอังกฤษword แสดงthatคนwriteจะmustเป็นintelligenceคนabsolutely

480 Nameless Fanboi Posted ID:rPjeuxlP8E

>>479 ไอนี่อีกแล้ว ดิ้นเข้าไป get rekt u sussy baka อิ้อิ้ย์

481 Nameless Fanboi Posted ID:m2.s.g9+Ky

>>480 เคยเขียนงานวิจัยวิทยานิพนธ์ไหมครับ ถ้าใช้ไทยปนอังกฤษไม่พ้นโดนอาจารย์เตะกลับมาให้แก้ใหม่นะ
เลิกเหอะ ไอ้ค่านิยมเขียนไทยสลับอังกฤษพร่ำเพรื่อแล้วรู้สึกคูลเนี่ย

482 Nameless Fanboi Posted ID:GiK+Sc/L+u

notes: แด่โลกเบี้ยวๆใบนี้
บางทีก็ไม่แน่ใจว่าเพราะเราอายุเยอะแล้ว อยู่ดูโลกมานานแล้ว เราเลยไม่ค่อยรู้สึกกับแรงเหวี่ยงของโลกใบนี้เท่ากับน้องๆหลายๆคนที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตทำงาน
โลกของการเป็นผู้ใหญ่นั้นมันแตกต่างจากโลกของเด็กมากๆ เพราะโลกของเด็กคือโลกใบเล็กๆใบนึงของเค้าซึ่งแทบจะไม่ทับซ้อนกับใคร เพราะมีคนคอยปกป้องโลกใบเล็กของเค้าอยู่
แต่โลกของผู้ใหญ่นั้น มันไม่ได้เป็นโลกใบเล็กของคุณอีกแล้ว แต่มันเป็นโลกที่ชนกันไปชนกันมาของใครหลายๆคน
ถ้าเราอ่อนแอไปเราจะโดนโลกของคนอื่นมาชน ชนไปชนมา จนกว่าโลกของเราจะเข้มแข็งพอ หรือไม่ก็หายไป
ในขณะเดียวกันถ้าเราแข็งเกินไป เราก็จะผลักโลกของคนรอบข้างเราออกไปหมด หรือไม่ก็โดนคนรอบข้างแบน
ดังนั้นแล้วสำหรับผมเอง คงได้แค่บอกว่า จะทำอะไรคิดให้ดี ว่าสิ่งที่ได้มาคุ้มกับสิ่งที่เสียไปหรือไม่ และจงระวังของฟรีหรืออะไรที่ไม่สมเหตุสมผลเสมอ เพราะสิ่งที่ต้องจ่ายออกไปมักจะมากมายมหาศาลแน่นอน
# มิตร

483 Nameless Fanboi Posted ID:c.Tg.dWzW7

จากใจคนรักสถาบันนะครับ
สถาบันไม่เคยถูกบุลลี่เท่ายุคนี้เลย
หลายปีที่ผ่านมา ผู้นำประเทศ (ทหาร) บางคนพยายามผูกตัวเองกับสถาบัน
เข้าใจนะ ว่าเป็นสิทธิ์ของทหารสูงอายุ (บางคน) เหล่านี้
แต่…
ท่านบริหารบ้านเมืองได้ห่วยมากครับ
ปฏิรูปราชการล้มเหลว
การคอรัปชั่นเพิ่มขึ้นมากมาย
การศึกษาที่เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ก็ไม่ได้ถูกผลักดันให้เกิดการปฏิรูป
เศรษฐกิจตกต่ำ
เกษตรไร้ทิศทาง
สังคมไร้ระเบียบ เพราะระบบราชการไม่รักษากฏหมายแล้ว
ศาสนาบรรลัย มีข่าวฉาวทุกวัน
ข้าราชการ-นักการเมือง พูดจาไร้สาระ หาทิศทางการพัฒนาไม่เจอ มีแต่ขี้เบ่ง โง่ บ้องตื้น บ้าอำนาจ
ผู้นำประเทศ แทนที่จะจริงจังออกมาแก้ปัญหาประเทศ กลับเอาเวลาไปเล่นการเมือง แย่งชิงอำนาจกันจนเป็นที่ระอาของประชาชน ทุกคนแม่งเป็นบิ๊กกันหมด

เฮ้ย หยุดผูกตัวเองกับสถาบันเถอะครับ
กูขอ

484 Nameless Fanboi Posted ID:Z8nyWUx9ts

ผูกไปเหอะ พอเวลามันล้ม แม่มก็ล้มครินทั้งหมดไปเลยไงละ

485 Nameless Fanboi Posted ID:YKqwSH6CYi

ตระกูลผมเป็นครอบครัวนักธุรกิจ ทุกบ้านอาแปะ อาโกว มีกิจการ เฮียๆ ก่อนหน้าผมทุกคนเรียนสายบริหาร ไม่ก็วิศวะ ผมที่เป็นเด็กเรียนโอเคคนหนึ่ง ก็ถูกคาดหวังว่า จะสานต่อเส้นทางนั้น คือจบคณะดูมีสาระ (ในสายตาผู้ใหญ่) จากมหาลัยดีๆ และกลับไปดูแลธุรกิจต่อจากที่บ้าน เหมือนพี่ๆ น้องๆ แต่ตอน ม.หก ผมเริ่มค้นพบว่า ตัวเองชอบงานเขียน ชอบงานสร้างสรรค์
.
ตอนเอนทรานส์ (แอดมิดชั่น ยุคนั้น) ผมได้คะแนนโอเคพอสมควร ญาติๆก็บอกให้เลือกเศรษฐศาสตร์เป็นอันดับหนึ่ง คะแนนเกินขั้นต่ำของปีที่แล้วมาสามสิบกว่ายังไงก็ได้ ผมไม่หือไม่อือ ตอนนั้นก็แค่อยากให้ที่บ้านภูมิใจที่สอบติดมหาลัยแบรนด์ดิ้งดี
.
แต่พอเลือกเสร็จแล้ว คืนนั้นผมนอนไม่หลับ มันเหมือนพึ่งเลือกชีวิตอีกสี่ปี ไม่สิ เส้นทางตลอดชีวิตที่เราไม่ได้เห็นด้วยขนาดนั้น เช้าวันต่อมา ผมเริ่มหาข้อมูลจนพบว่า มันทำเรื่องเปลี่ยนแปลงสี่อันดับที่เลือกได้ ผมนั่งสายเจ็ดไปหัวลำโพง และต่อ ม มอเตอร์ไซด์ไปจุฬา เพื่อทำไปเรื่องที่ศาลาพระเกี้ยว เดินเรื่องไม่นานก็เปลี่ยนให้คณะสายนิเทศศาสตร์ขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ แทนได้ จำได้ว่า เอกสารมันบางๆเหมือนใบเสร็จสีฟ้า มีรูปเราติดหัวมุมขวา ขนาดจตุรัสประมาณฝ่ามือ แค่นี้เลย กระดาษเปลี่ยนชีวิต
.
สุดท้าย ผมได้เรียนสายนิเทศศาสตร์สมใจ ตลอดสี่ปีในมหาวิทยาลัย ผมใช้เวลาทั้งหมดเพื่อผลักตัวเอง ฝึกงานนิตยสาร เข้าเวิร์คช็อปโฆษณา และประกวดหนังสั้น อยากทำให้คนรอบข้างมั่นใจได้ว่า ผมอยู่รอดได้ในเส้นทางที่เลือก ไม่อยากได้ยินว่า “ก็บอกแล้วไง” ขณะทำอย่างไม่ลืมหูลืมตานั้นก็คิดฝันในใจอยู่สองอย่างว่า อยากเขียนหนังสือไม่ก็กำกับหนังโฆษณา ไม่รู้หรอกว่า จะสำเร็จไหม แค่เชื่อว่า ถ้าเลือกทำตามเสียงหัวใจแล้ว สุดท้ายมันจะโอเคแหละ ทำสิ่งที่เรารัก มักจะดีเสมอ
.
ตัดภาพมา สิบกว่าปีให้หลัง พี่น้องผมเทคธุรกิจต่อจากที่บ้าน อยู่บ้าน โคตรชิล สะสมอาร์ตทอยเป็นงานอดิเรก ส่วนผมเป็นทั้งนักเขียนและผู้กำกับโฆษณา นอนตีหนึ่งนั่งแก้ต้นฉบับยิกๆ ไหล่ก็ปวด หลังก็เมื่อย ตื่นมาวันรุ่งขึ้นไปแก้สีหนังโฆษณา ต้องไล่ดูดสีเขียวจากต้นไม้กระถาง เพราะเดี๋ยวคนดูจะนึกถึงสีแบรนด์คู่แข่ง หลังยังปวดตุ้บๆหัวเริ่มปวดแล้วด้วย น่าจะเชื่อฟังที่บ้านเขา ไอ้สัตว์ ไอ้ควย หน้าหี แม่เย็ด

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

486 Nameless Fanboi Posted ID:h7R/Isa7Pu

มาคุยกันเรื่อง Soft Power กันดีกว่า ว่ามันคืออะไร และทำไมคำนี้ถึงไม่ค่อยดี
ที่จริงคำว่า Soft Power เนี่ยพึ่งมาฮิตกันหลังจบสงครามเย็น
คนใช้คำนี้คนแรกๆ เป็นเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ชื่อ โจเซฟ นาย (ผมจำได้ เพราะแกชื่อนายนาย) ดำรงตำแหน่งในช่วงหลังสงครามเย็นต้นๆ

เนื่องจากนิยามของ "อำนาจ" ในการเมืองระหว่างประเทศแบบเรียลลิสม์แปลว่า "ความสามารถที่รัฐหนึ่ง จะทำให้อีกรัฐหนึ่ง ทำตามที่ตัวเองต้องการได้"
นาย อธิบายว่า สมัยก่อนเนี่ยเวลาเราพูดถึงอำนาจ เราจะคิดถึงแค่ ปีนเยอะ เศรษฐกิจใหญ่ ประชากรเยอะ ไปบังคับให้รัฐเล็กกว่าทำตาม แต่จริงๆ รัฐสามารถใช้อำนาจได้โดยไม่ต้องใช้ปืน แต่ใช้สิ่งที่เรียกว่า อำนาจอย่างอ่อน หรือ Soft Power เจาะเข้าไปล้างสมองรัฐอื่นให้ทำตามที่เราต้องการได้
เราจะเห็นว่าสิ่งที่นายพูดเนี่ย หยาบมาก คือพวกโลลอง บาร์ท ฟูโก ดาลิดา ฯลฯ พูดถึงอำนาจในเชิงวัฒนธรรมที่ซับซ้อนกว่ามาก่อนหน้านั้นมานานแล้ว
แต่คำอธิบายของนาย มันเข้าหัวสมองของพวกนายพลเมกัน ในสภาเซเนทง่ายกว่า

ประมาณว่า
นายพล A : "อะไรนะ ให้เราอนุมัติงบช่วยเหลือประเทศอดีตโซเวียตเหรอ? เพื่อให้มันซื้อโคคาโคล่า แม็กโดนัล กับหนังฮอลิวูด? ทำไมไม่ส่งทหารไปเลย ตอนนี้มันอ่อนแอแล้วนี่"
ชาว Soft Power : "ใช่ครับท่าน มันคือการใช้อำนาจแบบอ่อน กับคอมมี้ไง ให้คอมมี้มันเข้าใจความดีงามของเสรีภาพและทุนนิยม เป็นการยึดครองแบบนุ่มๆ ด้วย Soft Power มันจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกเรายึดครองแล้ว"
นายพล A : "อ่อๆ เข้าใจละ"
.
.
.
ทีนี้ เมื่อพิจารณาดู เราจะเห็นว่าทฤษฎีนี้มันหยาบมาก มันเป็นการอธิบายการทำงานของอำนาจที่ง่ายเกินไป และมีปัญหาหลายประการ
ประเด็นแรก วัฒนธรรม ภาษา ศาสนา ศิลปะ วาทกรรม มันมีชีวิตของตัวเองแค่ไหน? มันเป็นเครื่องมือของรัฐอย่างเดียวหรือไม่?
ทฤษฎี Soft Power ค่อนข้างจะมองว่ารัฐเป็นผู้แสดง วัฒนธรรมและศิลปะเป็นแค่เครื่องมือของรัฐ เพื่อแผ่อำนาจออกไป
แต่ยกตัวอย่างเช่นตอนที่ sex pistols แต่เพลง God save the queen มาเสียดสีควีน สถาปนาวัฒนธรรมพังก์ไปทั่วโลก มันจะถือว่าอังกฤษใช้วัฒนธรรมอ่อนควบคุมประชากรสหรัฐได้มั้ย?

ประเด็นที่สอง Soft Power มันเป็นคำที่สนใจในมิติของอำนาจ รัฐระหว่างรัฐ เราเอามาใช้ในรูปแบบการมุ่งเป้าไปที่เศรษฐกิจจะดีหรือเปล่า?
ตัวอย่างเช่น วัฒนธรรมการดื่มกาแฟ สมมุติผมอยากทำให้มันเกิดสิ่งนี้ขึ้นในประเทศ A เพื่อคนจะได้ดื่มกาแฟสักวันละแก้ว จะได้ขายกาแฟได้เยอะๆ
มันจำเป็นมั้ยที่พอคนติดวัฒนธรรมดื่มกาแฟ แล้วต้องถูกควบคุมโดยรัฐอิตาลี่? แบบมุสโสลินี่ โดนวาร์ปมาไทย เข้าห้าง เห็นคนพูด "ลาเต้ - คาปูชิโน่ - เอ็กเปรสโซ่" แล้วโอโห ฟิน ชาวอิตาลี่เรายึดครองประเทศนี้ได้แล้ว แบบนี้เหรอ?
หรือพอรับวัฒนธรรมดื่มเบียร์แล้วเราต้องรักเยอรมัน
ร็อคแอนโรลกับซาตาน่าและฮาเล่ จะเปลี่ยนน้าแอ็ดให้นิยมเมกันได้หรือเปล่า
หรือเรากินแม็คแล้วเรารักเมกามากขึ้นบ้างมั้ยเนี่ย
บางทีเราก็แค่อยากขายกาแฟ ขายเบียร์ ขายรถ ขายแฮมเบอร์เก้อ เราเป็นแค่สัตว์โลกทุนนิยม ก็แค่อยากได้เงินอ่ะ
แน่นอนว่า สื่อบางประการมันซับซ้อนกว่านั้น เพราะมันมีวัฒนธรรมซ่อนอยู่ในสื่อด้วย วัฒนธรรมหล่อหลอมวิธีคิดของเรา เช่นภาพยนต์ อนิเมะ มังงะ - แต่มันถูกควบคุมโดยรัฐแค่ไหน? หรือญี่ปุ่นสามารถควบคุมโอตาคุอเมริกัน โอตาคุจีน ที่สร้างผลงานของตัวเองในแนวอนิเมะได้แค่ไหน?
ใครเป็นผู้ควบคุมความคิดในงานเหล่านี้ที่ผลิตซ้ำออกไป รัฐ หรือผู้สร้างผลงาน?
.
.
.
ผมไม่ชอบคำว่า Soft Power เพราะมันแฝงวิธีคิดอยู่ในทีว่ารัฐควบคุมสารในผลงานศิลปะต่างๆอยู่ในที (ซึ่งคนที่พูดคำนี้ออกมาโดยรัฐไทยก็คงคิดว่าเขาควรทำแบบนั้น) แล้วก็เหมือนงานศิลปะเป็นแค่เครื่องมือในการไปหลอกให้คนอื่นอยู่ใต้อำนาจของรัฐ
ทีนี้เวลารัฐบาลไทยไปประกาศโต้งๆ ว่า นี่ Soft Power ผมนะ ฟังแล้วมันจะแปลกๆหน่อย แนวๆว่า คนฟังคงจะรู้สึกว่า "ฮะ อะไรนะ นี่นายจะเอาอันนี้ล้างสมองประชาชนประเทศผมให้อยู่ใต้อำนาจของนายเหรอ" - ฟังแล้วมันจะแบบ เฮ้ย จะดีเหรอ แล้วเขาจะปล่อยให้อันนี้เขาไปในประเทศเขามั้ยล่ะ
ผมชอบคำว่า เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (creative economy) มากกว่า เพราะรู้สึกว่า เราก็แค่อยากสร้างผลงานที่มันสร้างสรรค์แล้วขายได้อ่ะ ไม่ได้อยากทำให้คนมันชื่นชอบรัฐอะไร

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

487 Nameless Fanboi Posted ID:LY/O8tEXmb

>>486 แต่เมื่อคนในประเทศ A มองคนในปรเทศ B ในแง่ดีมากๆ โอกาสที่จะภาครัฐของประเทศ A จะมีอิทธิพลเหนือประเทศ B ก็ง่ายขึ้น นึกง่ายๆ ก็ยุ่นกับเจ๊ก ยุ่นอยากลงทุนอะไรคนไทยไม่เคยต่อต้าน อวยด้วยซ้ำราวกับเป็นดินแดนในอุดมคติ แต่เจ๊กนี่โดนยี้แล้วยี้อีก

488 Nameless Fanboi Posted ID:5HQv48Oay+

“เราอยากให้ประเทศเจริญเหมือนยุโรป!”

“อ่อ โอเค งั้นเริ่มด้วยนี่ เด็กเล็กในรถต้องนั่งเบาะนิรภัยเด็กเพื่อความปลอดภัย เห็นไหมเหมือนยุโรป”

“ไอ้สัส! แพงจะตาย! กูจะจ่ายได้ไง หัวควย คิดแต่ละอย่าง จะรีดเงินล่ะสิ”

“ … “

489 Nameless Fanboi Posted ID:LY/O8tEXmb

>>488 ไทยไม่สามารถเป็นโลกที่ 1 ได้หรอก เพราะคนยังไม่มีรายได้มากพอ ท้องยังไม่อิ่มพอจะคิดถึงอะไรที่ศิวิไลซ์กว่านั้น

- ห้ามนั่งท้ายกระบะ , ในแค็บ = รังแกคนจน จะเดินทางยังไงวะ
- ห้ามมีแผงลอยทางเท้า = รังแกคนจน จะค้าขายไงวะ เช่าที่ตลาดก็แพง , แผงลอยซื้อกินสะดวก ตลาดมันไกล เข้าห้างก็แพง
- ห้ามเด็กชกมวย = รังแกคนจน รัฐมีปัญญาเลี้ยงมันให้ดีไหม ส่งมันเรียนแบบเต็มที่ไหม มีงานดีๆ หาเงินได้มากๆ เลี้ยงครอบครัวไหม

ฯลฯ

490 Nameless Fanboi Posted ID:KgJjQIIou/

>>488 โยงได้มั่วซั่วดีจัง ถ้าอยากให้ประเทศเจริญเหมือนยุโรปก็ต้องให้ประชาชนเข้าถึงสวัสดิการที่ดี จะได้มีเวลาพัฒนาตัวเอง ภาษีก็จ่ายได้มากขึ้น รัฐไม่คอรัปชั่นหาประโยชน์ให้พวกพ้องหรือเจ้านาย ลดอะไรที่ไม่จำเป็นอย่างงบโปรโมตตัวบุคคล ปีละหลายหมื่นล้าน ค่าสวัสดิการบลาๆ ตำแหน่งนายพลโง่ๆที่มีจนเกร่อ ก็จะได้งบสำหรับพัฒนาชีวิตประชาชนได้บานเบอะ

491 Nameless Fanboi Posted ID:s8.NpqyUnZ

>>486 เดี๋ยวนี้ในด้อมเมะหมายถึงสื่อทุกอย่างเลย อย่างเขียนนิยายมี incest ก็เป็น soft power ให้คนอยากเย็ดแม่ตัวเอง เลยเถิดกันไปหมด

492 Nameless Fanboi Posted ID:452VxDE2NO

>>490 โยงมั่วยังไง ในเมื่อmindsetของประชากรเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประเทศ"เจริญ"หรือ"ไม่เจริญ"
ถ้ากะอีแค่กฏหมายเสริมความปลอดภัยของลูกมึงเอง มึงยังบ่น แล้วถ้าเขาเรียกเก็บภาษีคาร์บอนโลกร้อน ภาษีพลาสติก มึงจะบ่นขนาดไหน

493 Nameless Fanboi Posted ID:/p7AvbRatI

>>490
อยากได้แต่benefitของความเจริญแต่ไม่อยากจ่ายcostล่ะสิมึง
ถ้าแบบนั้น ฝันต่อไปนะ

494 Nameless Fanboi Posted ID:wgC6ApgMjF

>>493 ถถถ ทำเป็นพูดเหมือนไอ้พวกที่บอกอยากเจริญให้จ่ายภาษีเยอะขึ้น โดยไม่ดูห่าไรเลยว่า ทุกวันนี้เอาภาษีไปละลายได้คุ้มมากเล้ยย

495 Nameless Fanboi Posted ID:wgC6ApgMjF

>>492 คาร์ซีทมันงอกออกมาฟรีๆไหมในขณะที่เศรษฏกิจตอนนี้มันดีมาก ข้าวของไม่แพง เงินเดือนขั้นต่ำสามสี่หมื่นเหมือนประเทศเจริญๆแล้วใช่ไหม? สักแต่พูดไม่ดูความเป็นจริง ไปลำดับความสำคัญให้เป็นก่อนเถอะมึง

496 Nameless Fanboi Posted ID:s8.NpqyUnZ

>>495 รถกับคาร์ซีทอันไหนแพงกว่ากัน ถ้าซื้อรถได้แล้วทำใมซื้อคาร์ซีทไม่ได้ ใช้กับเด็กอายุ 0-6 ปี หารแล้วถูกกว่าค่ารถเยอะ

497 Nameless Fanboi Posted ID:u/jCiDQaLL

มันสิ้นเปลือง เด็กอยู่ในอ้อมกอดพ่อแม่น่ะ ปลอกภัย อุ่นใจสุดแล้ว

498 Nameless Fanboi Posted ID:wgC6ApgMjF

>>496 ซื้อได้แต่มันเพิ่มภาระปะ กุเอาตรรกะเดียวกัน รัญมีปัญญา ซื้อเครื่องบินรบ ซื้อเรือดำน้ำ จ่ายค่าเลี้ยงดูกลุ่มคนไร้ประโยชน์หลายหมื่นล้านได้ กะอีแค่คาร์ซีททำไมช่วยไม่ได้

499 Nameless Fanboi Posted ID:LY/O8tEXmb

>>496 ปัญหาคือเด็กโตเร็ว ต้องเปลี่ยนทุกปีอะ พวกนี้ตัวนึงเกือบๆ หมื่น

500 Nameless Fanboi Posted ID:s8.NpqyUnZ

>>498 ถ้าคิดว่าเป็นภาระก็ไม่ควรมีลูกแต่แรกนะ

>>499 แบบนี้ตลาดมือ 2 ก็โตได้นะ แต่ต่อให้โตเร็วมันก็ไม่น่าจะถึงขั้นเปลี่ยนทุกปีนิ 7 ปี 2-3 อันพอมั้ย

501 Nameless Fanboi Posted ID:wgC6ApgMjF

>>500 ถถถ กุพูดขนาดนี้ มึงยังไม่รู้อีกเนอะว่าภาระของประเทศคืออะไร เหมือนทาสโง่ๆ เวลาคนอื่นเรียกร้องอะไรก็ทำมึนอืนให้คนอื่นปิดปาก พอใจกับกระดูกที่เขาโยนมาให้

502 Nameless Fanboi Posted ID:s8.NpqyUnZ

>>501 ระหว่างภาระทางการเงินกับลูกตาย ก็เลือกเอาเองละกัน

503 Nameless Fanboi Posted ID:wgC6ApgMjF

>>502 ก็ยังทำมึนไม่พูดถึงภาพกว้างสาเหตุที่เขาบ่นกันเนอะ ตลกดี

504 Nameless Fanboi Posted ID:s8.NpqyUnZ

>>503 เวลาจ่ายค่าปรับหรือลูกตายก็มองกว้างๆ ใว้นะ

505 Nameless Fanboi Posted ID:wgC6ApgMjF

>>504 คร้าบๆ มีตั้งนานแล้วคร้าบ มึงจะพูดตรรกะแบบนี้มากี่รอบก็ไม่สะเทือนหรอกคร้าบบ เป็นทาสที่ดีต่อไปนะ

506 Nameless Fanboi Posted ID:jWv1IvbsgS

ประเทศไทยทำไม shill มันเยอะจังวะ

507 Nameless Fanboi Posted ID:m.G0xM5.tV

>>495
เศรษฐกิจไม่ดี = เด็กสมควรเสี่ยงตาย อืมๆ

กูขำ ถ้าหมวกกันน็อกเพิ่งถูกคิดค้นวันนี้ แล้วพรุ่งนี้รัฐออกกฏหมายหมวกกันน็อก มึงก็คงบ่นเหมือนกันซินะว่า
“หมวกกันน็อก มันงอกออกมาฟรีๆไหมในขณะที่เศรษฏกิจตอนนี้มันดีมาก ข้าวของไม่แพง เงินเดือนขั้นต่ำสามสี่หมื่นเหมือนประเทศเจริญๆแล้วใช่ไหม? สักแต่พูดไม่ดูความเป็นจริง ไปลำดับความสำคัญให้เป็นก่อนเถอะมึง”
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

508 Nameless Fanboi Posted ID:6F6xwU6.UW

>>490 แล้วสวัสดิการจะเอามาจากไหนถ้ามึงไม่จ่ายภาษี มันไม่ได้งอกจากดินนะ
ต่อให้เลิกซื้ออาวุธทุกอย่าง ดาวน์ไซส์กองทัพ ไอ้งบส่วนนั้นก็ไม่พอโปะค่าสวัสดิการทั้งประเทศอยู่ดี(เพราะพวกนอร์ดิกที่ไม่ซื้อปืนแถมกองทัพเล็กยังต้องเก็บ50%จากประชาชน)

ถ้าคนอย่างมึงจะเอาแต่บ่นว่า”กูรอให้คุ้มก่อนค่อยจ่าย” เมื่อไหร่มึงจะมีสวัสดิการดี?

ใครกันแน่ที่ไม่คิดถึงความเป็นจริง?

509 Nameless Fanboi Posted ID:6F6xwU6.UW

>>507 เออ คิดๆดูแล้ว คาร์ซีทมันก็เหมือนหมวกกันน็อคแต่สำหรับเด็กและอยู่ในรถนี่หว่า

คนด่ากม.บังคับคาร์ซีทก็คงเป็นพวกเดียวกับที่บ่นกม.หมวกกันน็อคสินะ พวกแง้นๆวัยลุ่นซ้างตัว

510 Nameless Fanboi Posted ID:UD84/ojyiQ

>>507 ใช่ ปท. กำลังพัฒนา-ด้อยพัฒนา ไม่มีอะไรสำคัญกว่าปากท้องหรอก กูยกตัวอย่างนะ ย้อนไป 50-60 ปีก่อน รู้ไหมคนไทยนั่งบนหลังคารถไฟ-รถทัวร์กันเป็นปกตินะ ไอ้เรื่องนั่งท้ายกระบะ-ในแค็บ ที่เริ่มในยุค 80s-90s มันอนุโลมมาแก้ตรงนี้แหละ คือยังไม่ถือว่าปลอดภัย แต่อันตรายก็ยังน้อยกว่านั่งบนหลังคาที่ว่า แล้ววันนี้ไปดูนะ แอฟริกา-อินเดีย ยังนั่งหลังคารถไฟ-รถทัวร์กันอยู่เลย มึงว่าไงล่ะ?

511 Nameless Fanboi Posted ID:UD84/ojyiQ

>>507 เพิ่มอีกนิดจาก >>510 และใช่ ตอน กม. หมวกกันน็อกออกมาในยุค 90s คนก็บ่นเหมือนกัน ตอนนั้นนอกจากจับปรับแล้ว รัฐก็พยายามทำให้ราคาหมวกถูกลงด้วยว่ะ แถมส่งเสริมให้เอกชน-ngo จัดกิจกรรมแจกหมวกฟรีเป็น event เป็นระยะๆ ไปด้วย

>>500 เด็กโตเร็วจริง เปลี่ยนทุกปีมันเป็นไปได้แหละ ก็ต้องส่งเสริมตลาดมือ 2 มีฐานข้อมูลสินค้าเพื่อคุมคุณภาพ อะไรก็ว่าไป

512 Nameless Fanboi Posted ID:FVhHrZ6USU

>>508 ไอ้ประโยคของมึงก็แค่การตีความให้เว่อไว้ก่อน
ใครบอกจะไม่จ่ายภาษี??? และเงินแสนล้านทำไมจะทำสวัสดิการประชาชนใม่ได้ ทั้งที่ทุกวันนี้สวัสดิการครอบครัวเดียวใช้เงินไปเท่าไหร่ ไม่คิดบ้างหราา

513 Nameless Fanboi Posted ID:bPB8V0FBvq

>>510 สังคมไทยพัฒนามาเลยจุดนั้นแล้วน่า

>>512 ทำได้แต่ไม่ใช่พรีเมี่ยมแบบสแกนดิเนเวียร์หรอก

514 Nameless Fanboi Posted ID:FVhHrZ6USU

>>507 คาร์ซีทมาตรฐาน ราคาเท่าหมวกกันน็อกใช่ไหม? แพล่มอะไรออกมาไม่คิดเลย ที่เขาบ่นกันไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากได้คาร์ซีทไอ้ควาย

515 Nameless Fanboi Posted ID:0uc9iGYI5J

>>514 เดี๋ยวมันก็ปรับภาษีลง เทียบ%ราคาเบาะเด็กกับต่อราคารถยนต์ vs หมวกต่อรถยนต์ เบาะ%น้อยกว่าด้วยซ้ำ

516 Nameless Fanboi Posted ID:0uc9iGYI5J

>>515 *หมวกต่อจักยานยนต์

517 Nameless Fanboi Posted ID:FVhHrZ6USU

>>513 ก็ใช่ไง ไม่ต้องมาถึงเป็นพรีเมียมเลย แค่ให้คุ้มกับภาษีเท่านั้น เวลาพูดถึงการทำสวัสดิการแล้วมีคนมาบอกว่างบไม่พอ ทั้งๆที่มีงบไปละลายกับเรื่องไร้ประโยชน์หลายๆอย่างได้ กุถึงหงุดหงิดไง

518 Nameless Fanboi Posted ID:K1Bq8DxCxl

>>514 ราคาต่าง ฟังชันการทำงานก็ต่าง เบาะกันเด็กได้ทั้งตัว แต่หมวกกันได้แค่หัว

519 Nameless Fanboi Posted ID:FVhHrZ6USU

>>515 ก็ทำแคมเปญเชิญชวน ปรับราคาลง ลดหย่อนภาษีอะไรก็ว่าไป ทำช่วงเศรษฏกิจดีคนมีเงินใช้ แรงต้านไม่ค่อยมีหรอก

520 Nameless Fanboi Posted ID:FVhHrZ6USU

>>518 iphone ดี สเปคสูง ฟังชั่นเยอะ ทำไมถึงยังมีคนใช้ มือถือปุ่มกดอยู่ละ กุเทียบให้เข้าใจนะ

521 Nameless Fanboi Posted ID:K1Bq8DxCxl

>>520 มึงเถียงแบบนี้คือจะบอกว่ามึงจะให้ลูกใส่หมวกในรถว่างั้น

522 Nameless Fanboi Posted ID:FVhHrZ6USU

>>521 5555 กุจะพูดว่า ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ฟังชั่น ใครๆก็อยากได้ของดี ราคาต่างหาก

523 Nameless Fanboi Posted ID:K1Bq8DxCxl

>>522 มีตังซื้อรถ ไม่มีตังซื้อคาร์ซีท แล้วจะมีปัญญาเลี้ยงลูกไหวเหรอ

524 Nameless Fanboi Posted ID:6+N9DF5DpP

แล้วรถโรงเรียน รถตู้ส่งเด็กต้องมีคาร์ซีทไหมวะ หรือเฉพาะเก๋ง แล้วกระบะรุ่นแคปหล่ะ

525 Nameless Fanboi Posted ID:gfSMb8Fs9F

>>524 เออ อันนี้กุงงอยู่ว่าพวกนี้ทำยังไง ยิ่งพวกรถ รร อนุบาล เงี้ย

ส่วน คาร์ซีท กุว่าเดี๋ยวก็มีผู้ประกอบการในไทยมาผลิตขายที่ราคาถูกลงเองนั่นละ แต่รัฐก็ควรออกมาตราการลดภาษีหรืออะไรพวกนี้ช่วยด้วย เพราะ ในเมื่อบังคับให้ใช้แล้ว มึงก็ต้องช่วยเขาด้วยสิ

และก็ถูก ตลาดมือ 2 คาร์ซีทนี่คงบูมยาวแน่นอน

526 Nameless Fanboi Posted ID:6+N9DF5DpP

>>525 คือบ้านกูมีกระบะแคป เมียนั่งซ้าย ลูก2 คนอยู่ในแคปตลอด กูจะโดนจับไหมวะ

527 Nameless Fanboi Posted ID:0uc9iGYI5J

>>526 มันคือกระบะ 2 ที่นั่ง นั่งเกินก็ผิด แค่ตำรวจไม่ค่อยจับ

528 Nameless Fanboi Posted ID:eRpWwhHsie

>>517 คำว่าคุ้มของมึงคือแค่ไหนละ ฟรีทุกอย่างมันเป็นไปไม่ได้นะ แล้วยังไงมันก็ต้องขึ้นภาษีทุกส่วนอยู่ดี

>>524 ตปท.รถพวกแรกเหมือนว่าถ้ามีเข็มขัดก็พอนะ เพราะคนขับถูกบังคับให้ขับดี แต่ของไทยส่วนใหญ่ขับเหี้ย ส่วนแคปปกติห้ามนั่งอยู่แล้ว มีไทยนี่ละที่ชอบนั่งกัน แล้วถึงจะผิดกฎหมายตำรวจก็ไม่จับ ผิดกันมาหลายทอดเลย

529 Nameless Fanboi Posted ID:pKSKDEB4ym

>>526 เอาตรงๆมันคือรถส่งของ ไม่ใช่รถโดยสาร แต่บ้านเราอะลุ่มอลวยกันมานาน จนชินกันหมด ซึ่งถ้าวันไหนมันจับขึ้นมาจริงมันก็ทำได้อะ เพราะกฏหมายตรงนี้มีมานานแล้วแค่ไม่ค่อยบังคับใช้

530 Nameless Fanboi Posted ID:FVhHrZ6USU

>>523 ใครๆมันก็มีตังซื้อทั้งนั้นแหละ ที่เขาก็บ่นคือมาเป็นภาระตอนทำมาหากินลำบาก มึงยกอะไรมาช่วยนึกความเป็นจริงบ้างเถอะ แนวๆเดียวกับ ไม่มีข้าวแดกก็ไปแดกคาร์เวียร์แทน สักแต่พูดมันง่าย

531 Nameless Fanboi Posted ID:K1Bq8DxCxl

>>530 ลูกเป็นภาระมากกว่าคาร์ซีทอีก แล้วมีกันทำไม

532 Nameless Fanboi Posted ID:FVhHrZ6USU

>>528 กุก็ไม่ได้บอกให้ฟรีทุกอย่าง มึงเลิกยก stereotypeปลอมๆ จากสื่อที่มึงเสพก่อนเถอะ มึงลองไปดูพวกนอร์ดิคสิว่า ถึงเก็บภาษี 50% ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงอยู่ได้ ไม่บ่น ไม่ต่อต้าน ในขณะที่ไทย บ่นว่าไม่มีเงินทำสวัสดิการ แต่ก็ยังเอาเงินไปให้บุคคลที่ว่ากันว่ารวยที่สุดในโลกปีละหลายหมื่นล้าน ไม่รวมจิปาถะ เงินพวกนั้นก็เอาไปเป็นทุนพัฒนาชีวิตได้อีกหลายชีวิต

533 Nameless Fanboi Posted ID:FVhHrZ6USU

>>531 คาร์ซีทมาตอนไหน ลูกมาตอนไหน???

534 Nameless Fanboi Posted ID:eRpWwhHsie

>>530 อันนี้ต้องกลับกันนะ มีเงินแดกคาร์เวีย=รถ แต่ไม่มีเงินซื้อข้าว=คาร์ซีท

>>532 ทำใมจะไม่บ่นไม่ต่อต้าน เอาจริงไทยต่อต้านน้อยกว่าอีก ฝรั่งเศสที่สวัสดิการดีเลิสแต่ชอบประท้วงนี่ก็ตัวอย่างนึงละ เยอรมันช่วงหลังไม่ค่อยมี แต่ก็เดินขบวนประท้วงบ่อยกว่าไทยแน่ แต่นอร์ดิคมันไม่ค่อยประท้วงจริงละ ไม่รู้เพราะอากาศหนาวแล้วปชก.รวมตัวกันน้อยมั้ย แต่เทียบกับฝรั่งเศสเยอรมันหรืออังกฤษแล้วแทบไม่ประท้วงเลยจริงๆ

535 Nameless Fanboi Posted ID:wHP/Wz5Xjz

>>513 เลยจุดด้อยพัฒนา แต่ไม่สามารถขึ้นไปเป็นพัฒนาแล้วได้อะ ค้างแบบนี้มานานละ รายได้คนไทยไปได้ไม่ไกลกว่านี้เพราะถ้าขึ้นค่าจ้าง นายทุนคงย้ายไป ปท. เกรดรองๆ ไม่ก็เอาเครื่องจักรมาใช้แทนคน แต่ค่าครองชีพและมาตรฐานชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะเอาไงดีล่ะ

>>529 ตามที่กูตอบใน >>510 ก่อนหน้ายุครถกระบะ คนไทยนั่งหลังคารถไฟ-รถทัวร์กันปกติ พอรถกระบะมาถึงปล่อยหยวนๆ นั่งแค็บนั่งหลังกระบะได้ ไม่ปลอดภัยเท่าไรแต่ก็ยังอันตรายน้อยกว่านั่งหลังคา ปัญหาคือระดับรายได้ของคนไทยไปไกลกว่านี้ไมไ่ด้ ค้างอยู่ที่ระดับของ ปท. กำลังพัฒนามานานละ เลยไม่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตให้เหมือน ปท. พัฒนาแล้วได้ด้วย

536 Nameless Fanboi Posted ID:K1Bq8DxCxl

>>533 ด้วยจิตสำนึกความเป็นพ่อแม่ เงินซื้อคาร์ซีทควรมีตั้งแต่ก่อนลูกเกิดแล้ว ชีวิตลูกมีค่ามากกว่าคาร์ซีทว่ะ ไม่จำเป็นต้องให้ควายที่ไหนมาบอกให้ป้องกันลูกตัวเองหรอก

537 Nameless Fanboi Posted ID:wHP/Wz5Xjz

>>532 >>534 ปท. โซนตะวันตก สิทธิเสรีภาพมันอยู่ในสายเลือดน่ะ ดูอย่างช่วงโควิด กว่าจะยอมใส่แมส กว่าจะยอมให้ล็อกดาวน์ ประท้วงกันเท่าไร และเพราะคนซีเรียสเรื่องสิทธิเสรีภาพกันมากๆ นี่แหละ แนวทางตะวันตกเลยทุ่มไปที่วัคซีนแบบเท่าไรเท่ากันตั้งแต่แรก เพราะจะต้องเลิกล็อกดาวน์ให้ไวที่สุด ส่วนไทยตอนแรกๆ ยังอวย Zero COVID แบบจีนอยู่เลย วัคซีนขนาดของ sv หรือ az ก็ยังไม่รีบสั่งเยอะๆ แต่แรกอะ แล้วก็มาลนทีหลังตอนเวฟ 2 เวฟ 3 ไม่ต้องพูดถึงวัคซีนใน ปท. มีหลายหน่วยงานทำอยู่ ก็ไม่ได้มีงบไปทุ่มให้วิจัยแบบจริงจัง คือกูจะบอกว่า ปท. ที่คนใส่ใจสิทธิเสรีภาพกันมากๆ มันจะกระตุ้นให้รัฐต้องใช้เงินภาษีทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า พวกนอร์ดิกกว่าจะมีรัฐสวัสดิการก็สู้มาไม่น้อย ที่เห็นทุกวันนี้คือนิ่งแล้ว ฝ่ายค่อนซ้ายชนะขาดกลายเป็น mindset หลักของสังคม ต่างจากยุโรปอื่นๆ ที่ซ้ายบ้างขวาบ้างยังผลัดกันชิงการนำ การประท้วงเลยมีเรื่อยๆ

538 Nameless Fanboi Posted ID:wHP/Wz5Xjz

>>536 ด้วยจิตสำนึกของพ่อแม่

- มึงต้องมีอาหารดีๆ ทั้งหลักทั้งเสริทให้ลูกนะ
- มึงต้องมีเวลาเลี้ยงและทำกิจกรรมกับลูกนะ อย่าให้ลูกอยู่กับจอ อย่าให้ลุกอยู่กับพี่เลี้ยง อย่าส่งไปให้ปู่ย่าตายาย
- มึงต้องมีเงินส่งเรียนทั้งวิชาหลัก กวดวิชา กิจกรรมสร้างเสริมทักษะต่างๆ นะ
- มึงต้องมีพาหนะที่ปลอดภัยไปส่งลูกนะ อย่าให้นั่งพาหนะที่ไม่ปลอดภัย อย่าให้ขี่มอไซค์เองก่อนวัยอันควร

ฯลฯ

สรุปไม่มีลูกดีกว่า

ชนชั้นกลางคิดกันแบบนี้ เด้กเลยเกิดน้อยลง ความจริงพวก ปท. พัฒนาแล้ว และกำลังพัฒนารายได้สูง ที่บ่นๆ เด็กเกิดน้อย ต้องขอบคุณประชากรรากหญ้านะ ที่ไม่ได้คิดมากขนาดนั้น และยอมมีลูกกันเป็นปกติ ไม่งั้นสิ้นชาติไปละ มีแต่คนแก่่เต็มบ้านเต็มเมือง

539 Nameless Fanboi Posted ID:eRpWwhHsie

>>535 มันพัฒนาได้ถ้าคนพัฒนา ค่า HDI คนไทยก็ขึ้นอยู่ตลอดนะ มันต้องใช้เวลา ประเทศเอเชียที่กลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วได้คือมันพัฒนามาก่อนไทยนานแล้ว ไทยเริ่มต้นช้ากว่ามาก แต่ก็ใช่ว่าจะพัฒนาแล้วไม่ได้ คำถามอยู่ที่จะใช้เวลานานแค่ไหนเท่านั้น

อย่างมาเลย์หรือไต้หวันที่พัฒนามาก่อนไทยแต่ก็ยังก้าวข้ามไปคำว่าพัฒนาแล้วไม่ได้เลย ไต้หวันนี่ติดค่าแรงที่แทบไม่เพิ่มแม่เศรษฐกิจจะโตมาก ส่วนมาเลย์นี่เศรษฐกิจไม่ค่อยโต ค่าแรงก็ไม่ค่อยโต ถ้าไม่มีน้ำมันเละกว่าไทยอีก แต่มันก็พัฒนาไปตามทางของมันได้ แล้วก็น่าจะถึงคำว่าพัฒนาแล้วก่อนไทยอยู่ดี

540 Nameless Fanboi Posted ID:clI6qpOZuB

>>512 แสนล้านไม่พอทำสวัสดิการ
ขนาดตอนนี้สามสิบบาทที่รุ่งริ่งรอคิวยาวเหยียด ยังล่อไป2แสนล้านต่อปี

นี่แสดงว่ามึงร้องอยากหาสวัสดิการๆๆๆ แต่ไม่เคยมองข้อมูลจริงประกอบเลยสินะ ว่าถ้าจะเอาสวัสดิการยังไงก็ต้องจ่ายเพิ่ม
แล้วพูดเองด้วยว่าจะอยากจ่ายก็ต่อเมื่อคุ้ม ใครเป็นคนกำหนดว่าถึงเท่าไหร่จะคุ้ม?

541 Nameless Fanboi Posted ID:7H1TKiD4/O

>>514 คาร์ซีทเกรดถูกๆราคาเท่าค่าปรับ สองพัน

หมวกกันน็อกก็เหมือนกัน เกรดถูกๆราคาเท่าค่าปรับ 500บาท

ไม่รู้ก็อย่าพูดมากสิ เขาจะจับได้ว่าไม่เคยศึกษาข้อมูลก่อนจะมาดิ้น

542 Nameless Fanboi Posted ID:wHP/Wz5Xjz

>>539 ไต้หวันมันน่าจะเป็น ปท. พัฒนาแล้ว แล้วละมั้ง เพราะมีเทคฯ ของตัวเอง ส่วนไทยไม่มี แต่มาเลย์นี่คือพูดยากว่ะ ถ้าบ้านเราบอกว่าโตกระจุกที่ กทม. มาเลย์อาจจะยิ่งหนักกว่า KL ดูดีกว่า กทม. ก็จริง แต่เมืองอื่นๆ นี่เทียบจังหวัดเกรดเดียวกันของไทยไม่ได้ เราดีกว่าซะงั้น

>>541 คาร์ซีทเกรดถูกๆ ล่อไป 5k ละจ้า หมวกกันน้อกที่ใช้ได้จริงก็ล่อไป 700-800 จ้า แต่ปัญหาคือคาร์ซีทต้องเปลี่ยนทุกปี อันนี้ปัญหาเดียวกับหมวกกันน็อกเด็กเลย หัวเด็กโตไว นโยบายหมวกกันน็อกเด็กเลยไม่มีใครกล้าบังคับใช้ ต่างจากหมวกผู้ใหญ่ ใบนึงใส่ได้ 2-3 ปีถ้ามึงไม่ไปล้มระหว่างนั้นนะ เพราะผู้ใหญ่หัวไม่โตขึ้นแล้ว

543 Nameless Fanboi Posted ID:NNj57uh8p.

ถ้ากระบะแคปนั่งได้ 2 คนแล้วจะทำเบาะข้างหลังมาทำห่าอะไรวะ กูงง ใครๆก็ซื้อมาให้คนนั่งทั้งนั้นหล่ะ

544 Nameless Fanboi Posted ID:xEk4nuPYy.

>>540 สองแสนล้านได้ประโยชน์ทั้งประเทศ กับแสนล้านได้กับคนกลุ่มเดียว ความคิดมึงบกพร่องแล้วนะ

545 Nameless Fanboi Posted ID:xEk4nuPYy.

>>540 มึงก็เอาแต่อ้างว่าคนไม่จ่ายเลยทำสวัสดิการไม่ได้ ทั้งที่ทุกวันนี้คนจ่ายอยู่แต่เอาสวัสดิการไปให้ปลิงใช้เรื่อยเปื่อยๆ โถส้วมส่วนตัวห้าสิบล้าน ได้ทุน ป. เอก ตั้งกี่คน

546 Nameless Fanboi Posted ID:NNj57uh8p.

บ้านเราไม่ต้องรัฐสัวสดิการหรอก แค่ลุ้นให้กองทุนประกันสังคมไม่พังในอีก 15 ปี กูก็ว่ายากแล้ว แม่งเอาไปลงทุนห่าอะไรกันได้ระยำตำบอนเหี้ยๆ แถมพอรัฐไม่มีตังแม่งก็ดึงจากกองทุนนี่ตลอด ควย

547 Nameless Fanboi Posted ID:csouL68Vi1

>>543 ทำมาเพราะคนอยากได้ไง ยังไงการผลิตสินค้าก็ต้องตามใจลูกค้าถึงจะผิดก็เหอะ

548 Nameless Fanboi Posted ID:K1Bq8DxCxl

>>543 ใปดูในสมุดจดทะเบียนสิว่ากี่ที่นั่ง ข้างหลังเอาไว้เอนสำหรับเบาะหน้า กะเก็บของไม่ให้ตากฝน คนชอบเอามานั่ง บ ก็เลยใส่ให้นั่งกะใส่เข็มขัดให้

549 Nameless Fanboi Posted ID:6+N9DF5DpP

>>548 เก็บของไม่ให้ตากฝนใส่แครี่บอยดิ

550 Nameless Fanboi Posted ID:wHP/Wz5Xjz

>>543 แต่เดิมแค็บไม่ได้เอาไว้ให้คนนั่ง รุ่นแรกๆ ไม่มีเบาะด้วยซ้ำ ต้องไปหามาติดกันเอง แต่พอรัฐอนุโลมบวกได้รับความนิยมมากๆ รุ่นต่อๆ มาเลยติดเบาะมาให้จากโรงงานอะ แถมโฆษณากันอีกว่าแค็บกว้างนั่งสบาย

551 Nameless Fanboi Posted ID:wHP/Wz5Xjz

>>549 แค็บไว้ใส่ของเล็กๆ น้อยๆ น่ะ แบบพวกกระเป๋าเอกสาร กระเป๋าเสื้อผ้า กล่องเครื่องมือ แครี่บอยมันคือหลังคากระบะหลัง อันนั้นเขาทำไว้กรณีจะทำให้กระบะหลังนั่งหรือนอนได้ อย่างพวกที่เอารถกระบะมาดัดแปลงเป็นรถนักเรียน ก็ไปติดแครี่บอยกับม้านั่ง

552 Nameless Fanboi Posted ID:0uc9iGYI5J

ใช้รถผิดประเภทเพื่อเลี่ยงภาษีกันแล้วยังเรื่องมากกันอีก

553 Nameless Fanboi Posted ID:eRpWwhHsie

>>542 ยัง ไต้หวันถ้ารายได้เพิ่มมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมาอาจจะเป็นได้แล้ว แต่ค่าแรงมันค้างมาจะ 20 ปีแล้วมั้ง ใกล้เคียงกับญี่ปุ่น เพียงแต่ญี่ปุ่นหยุดนิ่งตอนประเทศพัฒนาแล้ว

ไต้หวันติดกับคุณภาพปชก.ตัวเอง เพราะมีตัวเลือกมากมายในประเทศที่คุณภาพปชก.สูง บ.ถึงไม่จำเป็นต้องแข่งขันเพื่อดึงดูดแรงงาน ค่อนข้างตลกร้ายอยู่นะ

554 Nameless Fanboi Posted ID:vTCyqspwAV

>>544 >>545 ความสามารถในการอ่านขาดๆเกินๆนะมึงเนี่ย แถไปแถมาว่ากี่คนๆ แต่ความเป็นจริงคือถ้าจะเอาสวัสดิการมึงก็ต้องจ่ายเพิ่ม ตัวเลขบอกชัดเจนไม่มีการเอาความรู้สึกมาเกี่ยว

แล้วถ้ากับแค่เรื่องใกล้ตัวอย่างความปลอดภัยลูกหลานมึง มึงยังไม่อยากจ่าย บ่นงอแงขนาดนี้ ถ้ามึงต้องจ่ายเพื่อสิ่งที่มึงไม่ได้ใช้ มึงจะบ่นขนาดไหน

ถ้าไทยมีสวัสดิการเงินสนับสนุนให้คนไม่ทำงาน มึงทำงานงกๆแล้วไปเห็นพวกแง้นๆรับเงินฟรีทุกเดือน มึงจะบ่นไหม ถ้าไม่บ่นแล้วมึงจะบ่นคาร์ซีททำไม

555 Nameless Fanboi Posted ID:7H1TKiD4/O

คนไทยบ่นเรื่องคนอื่นใช้ภาษีตัวเองนี่ตอนนี้กูเห็นเต็ม ไปดูโพสต์ตามเน็ตเกี่ยวกับ30บาทสิ คนด่าพวกที่เป็นโรคเรื้อรังจากการกิน-การบริโภคอย่างเบาหวาน โรคไต มะเร็งปอดกันว่าทำตัวเองทั้งนั้น ทำไมต้องเปลืองภาษีกูไปรักษาด้วย ให้ธรรมชาติคัดสรร ทั้งๆที่เป็นสิทธิของเขาในฐานะคนไทยที่จะได้รับการรักษา

พอเป็นเรื่องเงินๆทองๆของตัวเอง อยู่ดีๆซ้ายสังคมนิยมก็กลายเป็นขวาโซเชี่ยลดาร์วินนิซึ่มซะงั้น

556 Nameless Fanboi Posted ID:lyN7YGA8zC

>>554 แล้วไอ้งบที่ละลายแม่น้ำอยู่เนี่ยไม่พูดเหรออ แถอยู่นั่นแหละ สามหมื่นล้านช่วยได้กี่คนแล้วว ทำเป็นพูดสเกลใหญ่เว่อให้ดูเป็นไปไม่ได้ ถถถ

557 Nameless Fanboi Posted ID:PQTuVh35Ja

>>556 สวัสดิการมันต้องครอบคลุมทั่วประเทศทุกคน ก็ต้องพูดสเกลใหญ่สิ

สวัสดิการบ้านป้ามึงช่วยแค่10-20คน เลือกยังไงว่าใครจะได้? จับสลากเอา?

ยิ่งพูดยิ่งรู้เลยว่าสักแต่จะเอาสวัสดิการ แต่ไม่เข้าใจว่าอะไรคือสวัสดิการ ทำงานยังไง

558 Nameless Fanboi Posted ID:lyN7YGA8zC

>>554 แล้วก็เลิกยกตัวอย่าง ปญอ. อย่างเอาตังไปเลี้ยงแง้นได้ละ ไร้สาระ ใครจะทำ... แต่ทุกวันนี้เลี้ยงคนบ้ากามอยู่ก็ไม่เห็นบ่นแหะ ประหลาด

559 Nameless Fanboi Posted ID:lyN7YGA8zC

>>557 สวัสดิการหมื่นล้านเลี้ยงยี่สิบคน... มึงอะสมองกลับปะ นี่ไงการพูดให้เว่อไว้ก่อน เอาอีกแล้ว

560 Nameless Fanboi Posted ID:7H1TKiD4/O

>>558 เอ่อโม่ง ยุโรปที่ซ้ายไทยอยากเอาตาม มันแจกเงินช่วยพวกงอมืองอตีนไม่หางานทำนะโม่ง มีจริงๆพวกยุโรปขี้เกียจไม่ทำงานแต่รับเงินรัฐบาลมาใช้ชีวิตไปวันๆ ทำไมคิดว่าพวกผู้อพยพมันอยากไปประเทศพวกนี้กัน

นึกภาพถ้าไทยมีรัฐสวัสดิการจริง มันต้องมีล่ะวะพวกตลาดล่างที่แดกเงินคนไร้อาชีพตลอดชีวิต ไม่มีทางที่อยู่ดีๆจะมีจิตสำนึกพยายามหางาน

561 Nameless Fanboi Posted ID:V.fN/c47Qb

ยิ่งอ่านยิ่งรู้เลยว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสวัสดิการที่ร้องหาอยากได้ จะเอาจะเอาจะเอาอย่างเดียว โถ น่ามสาน

เอาใจช่วยให้เข้าใจเรื่องพวกนี้มากขึ้นในอนาคตนะ จะได้ไม่ต้องไปอายขายขี้หน้าคน ตอนนี้อายในโม่งก็พอ รีไอดีก็ไม่มีใครจำได้แล้ว สู้ๆ

562 Nameless Fanboi Posted ID:TKnaSaxvOW

ประเทศไทยมีจำนวนประชากรประมาณ 66ล้านคน สมมติว่าต้องการทำรัฐสวัสดิการเฉลี่ย 50,000บาทต่อคนต่อปี
ต้องใช้งบประมาณทั้งหมด 3.3ล้านล้านบาทต่อปี พอๆกับงบประมาณประจำปีของรัฐบาลเลยวะ
ถ้าเงินดงเงินเดือนพนักงานข้าราชการไม่ต้องจ่าย จัดซื้อจัดจ่ายอะไรก็ไม่ต้องจ่าย ถนนหนทางสาธาณนูปโภคอะไรก็ไม่ต้องทำ
เอาเงินมาทำรัฐสวัสดิการอย่างเดียวโลด ก็พอไหวอยู่เอามะเอามะ

ถ้าอยากได้รัฐสวัสดิการดีๆแบบยุโรป มึงไปเพิ่มจีดีพีต่อหัวให้สูงขึ้นกว่านี้สัก 4-5เท่าเถอะ
แล้วค่อยแบ่งเงินงบประมาณประจำปี 10-20% มาเป็นงบสวัสดิการต่างๆให้ปชช

563 Nameless Fanboi Posted ID:yOvQ5n0U4F

>>562 มันค่อยๆ เพิ่มขึ้นได้ อยู่ที่ว่าเราจะจัดสรรให้เรื่องอะไรก่อน อย่างตอนนี้รัฐสวัสดิการชัดเจนสุดคือ 30 บาทกับค่าเทอม ถ้ามึงคิดว่าอะไรสำคัญก็ช่วยเติมๆ เข้าไปตามการเติบโตก็พอ ไม่ต้องตั้งเป้าไว้ว่าต้องดีสุดหรอก เอาเท่าที่มีแล้วค่อยๆ เติมก็พอ แต่ก่อนจะเติมก็ต้องเก็บภาษีเพิ่มก่อนนะ

564 Nameless Fanboi Posted ID:TKnaSaxvOW

>>563 ก็เห็นคนเรียกร้องกันจะเอาให้ได้อย่างยุโรป ก็เลยยกตัวอย่างให้เห็นภาพว่ามันต้องใช้เงินเยอะระดับล้านล้านบาทต่อปี
ถ้าเอาตามความเป็นจริงก็แบบที่มึงว่า

อีกอย่างหนึ่ง
จีดีพีญี่ปุ่น ประมาณ 150ล้านล้านบาท งบประจำปี 50ล้านล้าน 50/150= 33.33%
ไทย 15 ล้านล้านบาท งบประจำปี 3ล้านล้าน 3/15= 20%
แปลว่าสัดส่วนการจัดเก็บรายได้เพื่อเอามาเป็นเงินงบประมาณประจำปีของรัฐบาลต่อจีดีพี ไทยยังน้อยกว่าญี่ปุ่นเยอะ
บ่งชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลญี่ปุ่นรีดภาษีโหดกว่าไทย
แล้วใช่ว่าคนญี่ปุ่นจะเต็มใจจ่ายกันทุกคนนะ คนญี่ปุ่นก็บ่นเรื่องภาษีเหมือนกัน อย่างไม่กี่วันที่ผ่านมาก็บ่นเรื่องภาษีรถยนต์จนติดเทรนทวิต

565 Nameless Fanboi Posted ID:lyN7YGA8zC

>>561 แพล่มไรมึง มีแต่ขี้ไม่มีประโยชน์หรือสาระถะข้อมูลไรเลย สงสัยจะไม่มีสมอง

566 Nameless Fanboi Posted ID:yOvQ5n0U4F

>>564 ของไทยโครงสร้างภาษีมันผิดเพี้ยนเพราะไม่จดทะเบียนร้านค้านี่ละ ของญี่ปุ่นขนาดเปิดแผงลอยยังต้องขอทางการเลย มีการลงทะเบียนแล้วเก็บภาษีชัดเจน มันถึงรีดงบได้

ภาษีรถยนต์แพงแต่คนก็ซื้อกันตลอดนิ มันต้องใช้อะนะ อีกอันก็ภาษีภัยพิบัติ ถึงไม่อยากจ่ายก็คงต้องจ่าย น่าสงสารเหมือนกัน

567 Nameless Fanboi Posted ID:TKnaSaxvOW

หมายถึงภาษีประจำปีอ่ะ เห็นจ่ายกันหมื่นกว่าสองหมื่นกว่าเยนกัน

568 Nameless Fanboi Posted ID:yOvQ5n0U4F

>>567 มันคิดตามค่ารถหรือฟิกเรทอะ

569 Nameless Fanboi Posted ID:j+Ip/wC8n7

10 ปีก่อนตอนไอทักกี้เป็นรัฐบาลบอกประเทศไม่เจริญเพราะนักการเมืองโกงกิน

พอได้เป็นรัฐบาลเอง บอกคนไม่จ่ายภาษี อสกข

570 Nameless Fanboi Posted ID:7H1TKiD4/O

>>562 นั่นแหละ บางคนในมู้นี้คิดว่าตัดกองทัพทิ้งแล้วจะมีปัญญาทำสวัสดิการระดับยุโรปได้โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

ซึ่งโคตรโง่ถ้าเชื่อแบบนั้นจริงๆ

ทำให้รู้ว่าร้องนู๋จะเอาๆๆๆๆแบบไม่เคยศึกษาเลยว่าสิ่งที่อยากได้มันราคาเท่าไหร่ มีที่มายังไง

571 Nameless Fanboi Posted ID:oEG0dnWoU5

>>570 ถ้าเราเข้านาโต้แล้วเราก็ไม่มีกองทัพก็ได้นะ แต่ประเทศเรามันโง่ไง

572 Nameless Fanboi Posted ID:j+Ip/wC8n7

>>570 แล้วทำไมเราจ่ายภาษีน้อยกว่าเมกาแต่ได้ healthcare ที่ดีกว่า ?

573 Nameless Fanboi Posted ID:oEG0dnWoU5

>>566 ไม่เห็นใจคนไทยเลยเว้น คนขายของส่วนใหญ่ก็คนที่หางานแบบง่ายๆ ไม่ได้มีตังค์รวยๆอย่างเจ้าสัว เอะอะก็เก็บภาษีแถมแม่งประเทศนี้สวัสดิการก็เหี้ย อย่างญี่ปุ่นยังมีเงินบำนาญให้ ของไทยไม่มีเหี้ยอะไรเลย ยังจะเก็บภาษีไปเลี้ยงคนรวยอีก พวกเหี้ยนี่่

574 Nameless Fanboi Posted ID:oEG0dnWoU5

>>572 ดีตรงไหนวะ หาหมอต้องรอเป็นวันๆเนี่ยนะ ที่เมกานัดหมอได้ไม่ต้องเสียเวลานั่งรอ

575 Nameless Fanboi Posted ID:j+Ip/wC8n7

>>574 EU ต้องไป appoint รอเป็นเดือน

ญี่ปุ่น รอ 6-9 เดือน

เมกา รถ ambulance ต้องจ่ายเอง (แพงกว่าแทกซี่)

ไทยไปเช้าเย็นกลับ

เป็นเบาหวานแค่ค่า insurin โง่ ๆ เมกา $98.70 ไทย สิทธิ์สามสิมบาท

อ๋อ ไปหาหมอได้เลย ไทยก็ทำได้นะ เขาเรียกว่าโรงพยาบาลเอกชน 3000-100000 แล้วแต่โรคกับอาการ แต่เมกาไม่ได้เลือกนะ ถ้าเขาโรงบาล อย่างต่ำ $1000

576 Nameless Fanboi Posted ID:yOvQ5n0U4F

>>573 เงินบำนาญญี่ปุ่นมาจากการจ่ายเข้ากองทุนนะ ของไทยมีกองทุนประกันตนเองอยู่ ไม่ทำกันเองแล้วจะเอาบำนาญจากไหนละ

577 Nameless Fanboi Posted ID:sf7Au7t7+M

>>570 เอาไรกับสามกีบว่ะ มันคิดว่าทำลายการปกครองได้ก็จบ
>>571 นาโต้ เมิงเข้าไปใส่ปลอกคอหรอ เขาเลิกทาสกันแล้ว เอ๋อชิบหาย

578 Nameless Fanboi Posted ID:B3OVl.m5tO

>>571 สมาชิกประเทศนาโต้ก็ยังต้องมีกองทัพ ไม่งั้นจะเอาทหารในนาโต้มาจากไหน

นาโต้ใช้หลัก CONOPS เรียกเกณฑ์ทหารอาชีพจากประเทศสมาชิกมาเข้ากองทัพนาโต้

579 Nameless Fanboi Posted ID:JkVFwtHSH6

อ่าวๆ ก่อนจะด่ากันเรื่องนาโต้ กลับมาตอบอันนี้ก่อน ไหนว่าสวัสดีการต้องจ่ายภาษีหนัก >>572 >>575

อ๋ออีกอย่าง สวีเดนที่บอกว่าเก็บภาษีหนัก เขามีกำหนดไว้นะ ว่าต้องมีภาษีเท่าไหร่ถึงจะโดน 30% เด็กจบใหม่ คนรายได้ต่ำไม่โดนแน่นอน แต่ถ้าทำไทยทำเก็บภาษีคนรวย พวกมึงทีเป็น shill ให้ทหาร นักการเมือง นักธุรกิจ ก็มาโวยวายอีกว่าจะเก็บทำไมเขาอุตสาห์สร้างงาน สร้างรายได้ อสกข

580 Nameless Fanboi Posted ID:4OmIOQo1Sw

>>577 ปลอกคออะไรวะ ดูอย่างยูเครนดิ ถ้ายูเครนเข้านาโต้ทันนะ รัสเซียแม่งล่มจมไปแล้ว แถมตอนนี้รัสเซียกำลังล่มแล้ว เพราะประเทศฝั่งนาโต้ไม่เอาด้วย ส่งอาวุธให้ยูเครนเยอะมาก ถ้ายูเครนอยู่นาโต้ก่อนรัสเซียบุกนะ รัสเซียไม่รอดหรอก ล่มจมไปพร้อมเครมลินแน่นอน

สักพัก ยังไงก็สงครามต้องจบด้วยชัยชนะของนาโต้ รัสเซียเหรอ ล่มจมแน่นอน

581 Nameless Fanboi Posted ID:JkVFwtHSH6

Finland มีจ่ายค่าปรับตาม % รายได้ด้วยนะ ceo nokia ขับผ่าไฟแดงโดนปรับเป็นล้าน

แต่บ้านเรา simp เศรษฐีเยอะ เมาแล้วขับเอาแค่ 5000 ก็พอ

582 Nameless Fanboi Posted ID:4OmIOQo1Sw

>>579 ถึงเก็บหนัก แต่รายได้เขาก็เยอะนะ ไม่มีหรอกปัญหาคนจนเหมือนประเทศกะลาแลนด์แถวนี้หรอก ไม่เห็นรายได้ขั้นต่ำของไทยนี่ซื้อเหี้ยอะไรไม่ได้เลย ไม่พอกินกะเขาหรอก แต่รายได้ฝั่งยุโรปอันนี้รอดแล้ว ได้ทำงานยังไงก็มีกินได้มีชีวิตสบายๆ

แถมเร็วนี้มีคนไทยในออส รีวิวด้วยไปทำงานขั้นต่ำยังได้กินบุฟเฟต์ดีๆ เดือนละมื้อเลย เมืองไทย รายได้ขั้นต่ำยังไงก็ไม่พอกินหรอก ค่าห้องเช่าก็ไม่รอดแล้ว

583 Nameless Fanboi Posted ID:DiMuWGrVtT

>>579 ไอ้สองคอมเมนต์นั้นCherry Pickingเอาแค่HealthcareมาสนับสนุนArgumentของตัวเอง

อเมริกามีFood stampให้อาหารฟรี มีเงินให้คนที่ไม่มีงานทำ มีบำนาญให้ทุกคน โรงเรียนฟรี คนพิการได้ค่าเลี้ยงดู

ซึ่งมองภาพรวมทั้งระบบแล้ว อย่างอื่นอเมริกาดีกว่าหมด มีแค่เรื่องHealthcare

ถือว่าเป็นการเถียงแบบไม่จริงใจ ใช้แทคติคFallacy

584 Nameless Fanboi Posted ID:sf7Au7t7+M

https://youtu.be/lfzg7xnJYyI
ครับเมกาดี ทำไม เขาไม่ให้ กรีนการ์ด พวกเราทุกคนจะจับสลากทำไม

585 Nameless Fanboi Posted ID:R/DMR1xgI3

>>579 ด้านการแพทย์ของไทยที่ดีกว่ามาจากหลายปัจจัย แต่สาเหตุหลักคือค่าใช้จ่ายต่อหัวน้อยมาก งบแต่ละปีที่จ่ายถึงน้อยตาม แต่ก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน

คนไทยต่อต้านภาษีทุกอย่างละ อย่างภาษีที่ดินเก็บบ้านหลังที่ 2 ก็ต่อต้านแทบตายว่ารังแกคนจน แต่คนมีบ้านมีที่ดินแบบนั้นมันนับว่าจนได้เหรอ เรื่องนี้กูไม่แน่ใจว่าคนไทยโง่เองหรือถูกหลอกให้ออกมาแก้ตัวแทนนายทุน แต่ไม่ว่าไงแม่งโง่ได้ใจจริงๆ

>>583 เมกามีด้วยเหรอ ขอดูหน่อยได้มั้ย ไม่เคยได้ยินจริงๆ ยกเว้น food stamp โดยเฉพาะรร.นี่คยด่าเรื่องค่าเทอมเยอะจะตาย บำนาญนี่ก็ได้เฉพาะคนจ่ายเงินเข้ากองทุนนะ ส่วนใหญ่เองเอกชนแบบ 401K รัฐไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่

586 Nameless Fanboi Posted ID:JkVFwtHSH6

>>583 มึงพูดว่า "แค่ Healthcare" แต่ คนอเมริกาเสีย 12000 USD ต่อปี เทียบเป็นเงินไทย 400,000 แสนบาทนะ

คนเมกาหลายคนมาไทยแล้ว ชมจะตายแต่คนไทยด่าเละ

เรียนฟรี ? ประถมกับมัธยม ยังไงบ้านเราค่าเทอมก็ไม่เกิน 5000 นะ เทียบระดับมหาลัยมั้ย ? 15000 บาทต่อเทอม vs ปีละ 8000 usd ?

อธิบายทีสิว่า Cherry Picking ตรงไหนในเมื่อ Food stamp + บำนาญ + ค่าเลี้ยงดูคนพิการ รวมกันแล้วยังน้อยกว่าเงินที่คนเมกาเข้าโรงบาลเห็นๆ

587 Nameless Fanboi Posted ID:JkVFwtHSH6

>>585 มึงก็ต้องดูด้วยว่ามันเอาภาษีไปทำอะไร

กูให้ภาษีจัดมาให้ครบทุกแบบเลย จะมาก็มาเหอะ แต่ภายในปีหน้ามันจะทำสวัสดีการให้กูได้มั้ย ? ก็ไม่

มึงประกาศแผนมาเลย เอาเงินภาษีไปทำห่าอะไรบ้าง อย่างญี่ปุ่นแม่งมีให้เลือกเลยนะ ว่าภาษีอยากให้ไปช่วยในส่วนไหนได้บ้าง

เอาภาษีไปทำรูปปั้น ไปทำงานศพ แล้วมาบ่นคนไม่อยากจ่าย ควาย

588 Nameless Fanboi Posted ID:DiMuWGrVtT

>>585
Supplemental Nutrition Assistance Program (SNAP)
Temporary Assistance for Needy Families (TANF)
Unemployment Benefits (https://www.careeronestop.org/LocalHelp/UnemploymentBenefits/unemployment-benefits.aspx)

>>586 "ในเมื่อ Food stamp + บำนาญ + ค่าเลี้ยงดูคนพิการ รวมกันแล้วยังน้อยกว่าเงินที่คนเมกาเข้าโรงบาลเห็นๆ"
citation needed

589 Nameless Fanboi Posted ID:B3OVl.m5tO

>>587 อันนี้มึงมั่วแล้ว
“ ญี่ปุ่นแม่งมีให้เลือกเลยนะ ว่าภาษีอยากให้ไปช่วยในส่วนไหนได้บ้าง”
อันนั้นเลือกได้แค่Hometown Tax(ふるさと納税 )สำหรับคนในเมืองที่อยากลดภาษีของตัวเองด้วยการจ่ายภาษีให้พื้นที่ชนบท

เหมือนอ่านแค่พาดหัวแล้วจำๆมาอ่ะ

590 Nameless Fanboi Posted ID:JkVFwtHSH6

>>588 https://google.gprivate.com/search.php?search?q=us+healthcare+per+capita

https://www.cbpp.org/research/food-assistance/a-quick-guide-to-snap-eligibility-and-benefits

https://edd.ca.gov/en/Unemployment/UI-Calculator

https://www.dshs.wa.gov/esa/community-services-offices/tanf-and-support-services

TNAF = เดือนละ $654

SNAP = ไม่มีรายได้เดือนละ $600 ครอบครัว 3 คน 1800-2400 USD ตกคนละ 600-800

Unemployedment benefit = แล้วแต่คน อยู่ที่ 50-450 ต่อเดือน

หามาให้แล้ว นับเอาเองแล้วกันนะ อ๋อ ที่มึงยกมาได้แค่คนจนด้วยนะ 30 บาทได้แค่คนจนมั้ยเอ่ย ?

>>589 กูก็หมายถึงอันนั้นแหละ ส่วนไหน = ส่วนภูมิภาคไหนกูพิมตกเอง เห็นว่าได้ของฝากแถมมาด้วยนะไม่ใช่จ่ายเปล่า ๆ

591 Nameless Fanboi Posted ID:R/DMR1xgI3

>>587 ภาษีที่ดินที่เก็บคนรวยเป็นหลักแต่คนจนโวยวายทั้งที่ไม่ได้จ่าย มึงว่าสมเหตุสมผลเหรอ

ของญี่ปุ่นตาม>>589

>>588 Sorry, the page you requested was not found.
Maybe the page has moved or the URL is incorrect.

มึงจะให้กูเข้าไปดูอะไร

Food stamp กูบอกไปแล้วนะว่ารู้อยู่แล้ว ที่กูถามคือค่าเทอมกับบำนาญฟรีที่มึงว่า

ระบบเมกามันแยกตามรัฐ แต่ละรัฐอาจฟรีไม่ฟรีแล้วแต่เลย อาจถึงขั้นระดับเมืองเลยด้วย

>>590 อันที่มึงว่ากูก็อยากให้ไทยมีนะ อยากรู้เหมือนกันว่าแต่ละจังหวัดจะได้อะไรมั่ง

592 Nameless Fanboi Posted ID:JkVFwtHSH6

>>591 คนมันด่าผสมโรงซะส่วนใหญ่ แต่อันนั้นกูก็อยากให้มีนะ

แต่ถ้าอยากให้มันโปร่งใส มันก็ควรบอกด้วยว่าเก็บแล้วใช้จ่ายยังไงบ้าง ไปดูบิลบางหน่วยงานแม่งขึ้นค่าอุปกรณ์เป็นสิบเท่า ที่ออกมาให้ประชาชนดูแม่งก็ให้ดูให้งบ เสือกไม่ให้ดูว่างบเอาไปทำอะไรบ้าง ใครมันอยากจะเชื่อใจรัฐล่ะ นี่ไม่ได้ด่าแค่ประยุทธ์นะ เป็นตั้งแต่ ชวน ทักษิณ ยิ่งลักษณ์

593 Nameless Fanboi Posted ID:DiMuWGrVtT

>>590 >>591 แล้วไทยมีSNAP,TNAF, Unemployment Benefit, SSA ไหมล่ะ
ประเด็นตอนแรกสุดเลยคือมีคนมั่วว่าไทย"สวัสดิการดีกว่า"อเมริกา แล้วยก30บาทมาเป็นตัวอย่าง โดยไม่ดูว่าไทยมีแค่สามสิบบาท แต่เมกามันมีกี่โครงการ
Bad faith argumentไม่พอ มั่วอีก
>>591 บำนาญSSA
ค่าเทอมฟรีจนม.ปลาย

594 Nameless Fanboi Posted ID:C+zQmhO/wJ

ถ้ามีใครบอกว่าต้องจ่าย Unemployment ประเทศไทยลุกเป็นไฟแน่ แม้แต่สามกีบ

595 Nameless Fanboi Posted ID:UZQrLI4eD.

ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายพื้นฐานอย่าง ของกิน ค่าเดินทางแม่งจะท่วมรายรับอยู่แล้ว รัฐแม่งไม่เคยมาดูแล พอคนเรียกร้องก็บอกว่าจะเก็บภาษีเพิ่ม เงินไม่พอ ทั้งๆที่เอาเงินไปละลายแม่น้ำหลายเรื่องมากอย่างค่าออกงานแฟชั่น ค่าตำแหน่งนายทหารสิเน่หา งบโปรโมตรายปี หมื่นล้าน ค่าใช้จ่ายจิปาถะ ไม่ต้องมีล้านๆหรอก แค่หมื่นล้านก็ช่วยเด็กยากจนช่วยคนด้อยโอกาสได้หลายละ

596 Nameless Fanboi Posted ID:UZQrLI4eD.

>>594 มีคนนึงนับไหมอะ

597 Nameless Fanboi Posted ID:WfwTrp48RH

ใครคิดว่าทหารกับตำรวจจะคิดถึงประชาชนก่อนอะ copium ชิบหาย คืองี้
ทหาร > ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ = ทหารของพระองค์ = ไม่ได้คิดถึงประชาชนตั้งแต่แรกแล้ว
ตำรวจ = หน้าที่สำคัญหลักอันดับหนึ่ง คือ ถวายความภัยแก่พระองค์ = ปกป้องประชาชนไม่ใช่หน้าที่หลัก
ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจทำไมประชาชนโดนพวกเหี้ยนี่กระทำย่ำยีได้ขนาดนี้

598 Nameless Fanboi Posted ID:4OmIOQo1Sw

ข้าราชการ แบ่งได้เป็นดังนี้
1. ขี้ข้า พวกใต้ตีน
2. ราช มาจากราชา พวกปลิง
3. การ มาจาก การงาน

รวมได้เป็น พวกทำงานใต้ตีนพวกปลิง

599 Nameless Fanboi Posted ID:mjrc4Df5.5

>>592 รายละเอียดทั้งหมดมันคงลงทีเดียวไม่ได้หรอก มันไม่ practical ของฝรั่งเองก็ไม่ได้ทำกัน เพราะงบมันต้องยืดหยุ่น

ขั้นแรกของการจัดงบคือเอาไปกองรวมกันแล้วตัดแบ่งตอนทำงบประจำปี หน่วยไหนได้เท่าไหร่ก็ดูกันตรงนี้ละ ส่วนจะเอาไปทำอะไรนั้นมีเรื่องยิบย่อยมากมาย แยกตั้งแต่ระดับกระทรวงลงไปยันสนง.ประจำอำเภอเลย ซึ่งก็จะแบ่งงบกันภายในอีกที ถ้าจะไล่ตรวจหมดก็ทำได้ ถ้ามึงว่างขนาดนั้นอะนะ

>>593 บำนาญแบบนั้นคือจ่ายเข้าเองแล้วรับตอนเกษียร แทบทุกประเทศมีหมด ไทยก็มี มันมีที่ไม่ต้องจ่ายอะไรแล้วได้บำนาญมั้ยละ

ค่าเทอมขอลิงค์หน่อย สมัยทรัมป์กูจำได้ว่าเป็นแบบคูปองเลือกเรียนที่ไหนก็ได้ แต่ถ้าบางที่ค่าเทอมเกินกว่าคูปองก็ต้องเสียเงินเอง ประมาณนี้มั้ง

600 Nameless Fanboi Posted ID:.bE6dKope9

อยู่ดี ๆ ฝรั่งมันคิดได้ยังไงว่าเด็กเล็กต้องนั่งใน car seat ถึงจะปลอดภัยกว่านั่งข้างนอก หรือปล่อยให้คลานเล่นไปมาในรถ

คำตอบคือ มันก็ไม่รู้หรอก …. ตอนแรก ในปี 1941 car seat ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้เด็กเล็ก ๆ สามารถมองเห็นวิวนอกหน้าต่างได้ ลดความน่าเบื่อและอาการงอแงระหว่างการเดินทาง แต่พอเก็บสถิตินาน ๆ เข้า กลายเป็นว่า ไอ้บ้านที่ซื้อเครื่องมือช่วยดูวิวนี้ไปใช้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ พ่อแม่พุ่งออกไปตายอยู่นอกรถเรียบร้อยเเล้ว เด็กที่นั่งอยู่ข้างในกลับไม่ค่อยเป็นอะไรมาก จึงเริ่มมีการผลิต car seat โดยมุ่งเน้นด้านความปลอดภัยเป็นเรื่องเป็นราวในปี 1964 และผ่านเป็นกฏหมายบังคับใช้ในปี 1985

ถึงแม้ว่าราคาเฉลี่ยของมันจะอยู่ที่ประมาณ $300 เทียบกับรัฐที่ค่าแรงขั้นต่ำ ต่ำที่สุด (7.25)ก็ต้องทำงานประมาณ 5 วันถึงจะซื้อ car seat ได้

ทุกวันนี้แทบไม่มีครอบครัวไหนในสหรัฐอเมริกาที่ต้องซื้อ car seat ใช้เอง เพราะรัฐสวัสดิการ …. ฝันตุ้ย!!!

เพราะสหรัฐอเมริกามันมีประเพณีที่เรียกว่า baby shower งานเลี้ยงรับขวัญเด็กที่กำลังจะเกิดใหม่อะไรประมาณนั้น

พ่อแม่ของเด็กก็จะจัดงานปาร์ตี้เล็ก ๆ เชิญเพื่อน ๆ ญาติ ๆ มา โดยผู้ร่วมงานก็จะช่วยกันรวมเงินซื้อของใช้ที่จำเป็นต่อการเลี้ยงดูเด็กในช่วงปีแรกมาให้ เสื้อผ้าพอใช้ได้ 1 ปี ผ้าอ้อมพอใช้ได้ 1 ปี ขวดนม ที่นึ่งขวดนม จุกนมยาง โมบาย ตุ๊กตา และสินค้ายอดฮิตสำหรับงาน baby shower ก็คือ รถเข็น และ car seat ( พร้อมใบเสร็จ ถ้าไม่ชอบสีก็เอาไปเปลี่ยนเอง ) สรุปคือ จะรวยจะจน ถ้าจัดงาน baby shower ก็จะได้ car seat มาใช้โดยอัตโนมัติ

ถ้ารัฐไม่ช่วยห่าอะไรเลย แถมยังเพิ่มภาระด้วยการเก็บภาษีนำเข้าเต็มสูบ แต่ออกกฏหมายบังคับใช้ car seat มา …. ผมคิดว่าพวกคุณน่าจะลองเริ่มใช้ประเพณีนี้ดู ผมว่ามีประโยชน์กว่าประเพณีรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่เยอะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

601 Nameless Fanboi Posted ID:4OmIOQo1Sw

>>600 คือกูสงสัยนะ ในไทยก็มีที่ผลิต car seat เหมือนกันไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องไปเน้นของนอกด้วยล่ะ แถมถ้าหาใน lazada พวกราคาไม่เกิน 1K บาทก็มี ทำไมถึงต้องเดือดร้อนกับการนำเข้าขนาดนั้นด้วยล่ะ

602 Nameless Fanboi Posted ID:VMcVrYFH0g

>>601 มีด้วยหรอ กูเห็นหลายๆ คนที่เสนอเรื่องนี้ ก็ยังยอมรับว่าเป็นของนำเข้า แถมเรียกร้องให้รัฐใช้มาตรการภาษีเพื่อลดราคาด้วย

603 Nameless Fanboi Posted ID:m6.3Dw9Q0n

>>593 ที่มึงเลือกมามันก็ได้แค่คนจนไง งบรวมกันน้อยกว่าที่เมกาจะตั้ง Healthcare เองได้อีก 30 บาทบ้านเรารวยจนแม่งก็ได้ มึงไม่มีงานทำมึงก็ได้ เทพกว่าตั้งเยอะ จ่ายภาษีถึงขี้ตีนเมกามั้ย ? ก็ไม่ กูถึงบอกพวกที่ยกภาษีมาอ้างนี้มีแต่ควาย มึงลืมไปแล้วรึเปล่าว่าเงินจัดงานศพกี่ร้อยล้าน ? มาอ้างไม่มีเงิน ตลก

604 Nameless Fanboi Posted ID:Atwxxxgn0B

นั่งตามเรื่องเลือกตั้งผู้ว่า กทม. มาตั้งแต่แรกจนตอนนี้ เห็นอะไรหลายๆอย่างเหมือนกันนะ อยากเขียนสรุปเป็นข้อๆแต่ก็ไม่แน่ใจนักว่าจะมีคนอยากอ่านมากแค่ไหน (ผมไม่ดัดจริตนะ คือหลายๆคนจะชอบถ่อมตัวแบบ Humblebrag คือถ่อมตัวแบบแสร้งอวด ซึ่งถ้าแบบนั้นสู้อวดหรือบอกความต้องการของเราไปตรงๆเลยจะดีกว่า เวลาจะเขียนออกมาก็ต้องอยากให้คนอ่าน ไม่งั้นจะเขียนทำไมเสียเวลา)

1. จะไม่มีปรากฎการณ์ Lesser Evil อีกแล้ว
เวลาถามว่าใครจะชนะ เหมือนว่าคนจำนวนมากยัง "ระแวง" คน กทม. ว่ามึงจะเข็ดกับ ปชป. ได้รึยัง คือตอนปี 56 มันเป็นการแข่งกันของ 2 ผู้สมัครอย่างชัดเจน ทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแทบไม่มีสิทธิ์เลือกคนที่ชอบเลย มีแต่การเลือกคนที่เกลียดน้อยกว่า โดยที่ผลการเลือกตั้งในตอนนั้น ทั้ง 2 ผู้สมัครมีคะแนนรวมกันถึง 87 % ซึ่งครั้งนี้ เผลอๆต้องเอา 4 อันดับแรกมารวมกันถึงจะได้เท่า

แต่รอบนี้คือไม่ใช่เลย ตัวเลือกที่คนพูดถึงในระดับที่มีนัยยะสำคัญมีถึงราวๆ 4-7 คน เรื่องการตื่นตัวของคนไม่ต้องพูดถึง พอมีตัวเลือกเยอะขึ้น ความหลากหลาย มุมมองต่างๆมันเปิดกว้างกว่าเดิมมาก ทั้งในเรื่องการชมและการด่า ซึ่งเดี๋ยวจะแยกออกไปพูดในข้ออื่นอีกที แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันทำให้การจะเทไปเลือกใครคนใดคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป

ทีนี้ มันก็มีคนที่บอกว่า โหย ตอนนั้นพงศพัศนำลิ่วเลยนะ แล้วก็มาโดนวาทกรรมที่บอกว่าเลือกพงศพัศได้จตุพรเป็นรองผู้ว่า เกมส์เลยพลิกเลย เราก็พยายามไปหาว่าตอนนั้นนำจริงๆเท่าไหร่ ซึ่งเท่าที่หาได้ เอาแบบเฉลี่ยๆ พงศพัศนำประมาณ 2-4 % และผลที่ได้จริงแพ้ 7 % (40-47) ถ้าเราตีค่า Error ที่ 10 % โพลล์ที่ออกมาสำหรับตอนนี้ชัชชาตินำโดยเฉลี่ยคือ 20-25 % เพราะฉะนั้นโอกาสจะเกิดซ้ำรอยจึงแทบจะเป็น 0 เลย ถ้าไม่ใช่ขั้นอภินิหารอำนาจมืด

*** เรื่องความน่าเชื่อถือของโพลล์ เราคิดว่าโพลล์สำนักนึงที่พอจะเอามาอ้างอิงได้คือนิด้า จากที่สังเกตตั้งแต่ตอนเลือกตั้งปี 62 ผลก็ออกมาไม่หนีจากที่นิด้าทำสำรวจเท่าไหร่ อีกทั้งการเก็บข้อมูลเฉพาะแค่ใน กทม. มันทำง่ายกว่า

2. ทำไมเราถึงจะเลือกชัชชาติ ? (ถ้าเลือกได้)
พอเรามองไปยังการเก็บข้อมูล ศึกษาปัญหา และแสดงนโยบายออกมาว่าจะทำยังไงบ้าง ชัชชาติและทีมงานคือคนที่ทำมานานที่สุด ตั้งแต่ปี 62 และถ้าลองไปเปิดเว็บแกที่มี 213 นโยบาย (ณ วันที่ 11 พ.ค 2565) ข้อมูลในนั้นมีการอัพเดทตลอด วันแรกที่แกเปิดตัวเว็บไซต์นี้ ยังมีไม่ถึงนะ มี 179 แต่หลังจากนั้นมีการเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ และจากที่ลองอ่านไปบางส่วน มันเป็นนโยบายที่มาจากทุกภาคส่วนจริง ไม่ใช่คนไม่กี่คนนั่งสุมหัวคิด แล้วก็มาคิดแทนคน 5 ล้านกว่าคน (ยังไม่นับประชากรแฝง) เวลาเราถามคนหนองจอก ความต้องการย่อมแตกต่างจากคนปทุมวันเป็นแน่แท้ และนี่ยังไม่นับพวก Platform ร้องเรียนปัญหา , สภากาแฟ ที่ทำมาก่อนหน้านี้อีก

แต่ๆๆ ข้อครหาต่างๆที่ชัชชาติต้องเจอ ไล่ตั้งแต่อิสระจริงมั้ยยาวไปจนถึงความไม่กล้าชนกับปัญหามากเท่าวิโรจน์ นั่นก็เป็นสิ่งที่ตัวแกต้องพิสูจน์ให้ได้เช่นกัน เราไม่ใช่ติ่งที่จะอวยแกไปหมดทุกอย่าง (รำคาญติ่งมากพูดตรงๆ แต่เดี๋ยวเรื่องนี้รายละเอียดค่อยพูดทีหลังเพราะเยอะมาก) เรื่องพื้นที่ชุมนุมที่เคยเป็นประเด็น (ซึ่งแกออกมาขอโทษแล้วที่สื่อสารไม่ดี คือจริงๆที่แกจะบอกคือ จัดพื้นที่ไว้ แต่ไม่ได้บังคับว่าถ้าจะชุมนุมต้องมาจัดที่ที่กำหนดเท่านั้น) ก็ต้องยอมรับว่ามันไปกระตุ้นความรู้สึกคนค่อนข้างมาก เพราะทุกวันนี้รัฐไทยก็แทบจะกดหัวจนแม้จะหายใจยังยาก และการที่วิโรจน์เลือกลงมาสมัคร เราว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะหลายๆปัญหาที่เกิดขึ้นมันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกิดจากความเหลื่อมล้ำอย่างสุดขั้วและการเกี้ยเซี้ยะของกลุ่มนายทุน คือมันควรมีคนแบบวิโรจน์คอยกระตุกว่า เห้ย มึงจะลืมเรื่องนี้ไม่ได้นะเว้ย ต้องเอามาเป็นตัวแปรในการวาง Policy ด้วย ไม่ใช่จะมุดๆก้มหน้าอ้างทำงาน ทำงาน ทำงานแต่เพียงอย่างเดียว และการที่ตัวชัชชาติพยายามจะปฏิเสธการเมืองมาโดยตลอด ในแง่นึงมันดีตรงที่สามารถดึงฐานเสียงจากหลากหลายแหล่งมารวมกันได้ แต่ถ้าได้เข้าไปทำงานจริงๆแล้วเมื่อต้องปะทะจริงๆแล้วแกยังอ้างแบบนี้อีกนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

ทว่า เราก็คิดแบบที่หลายๆคนคิด ว่าอยากเห็นวิโรจน์เป็น สส. มากกว่า คือตัวตนที่แกเป็นมันเหมาะกับจุดจุดนั้นมากกว่า ซึ่งถ้าเกิดใครที่ไม่สบายใจว่าเลือกชัชชาติจะเหมือนเลือกเพื่อไทยมั้ย (สำหรับคนที่ไม่ชอบเพื่อไทยอ่ะนะ) ก็เลือก สก.พรรคก้าวไกลแทนก็ได้ จะได้มีคนคอยไปค้ำ คือเราบอกเลยว่าถ้ามีสิทธิ์เลือกก็จะเลือกแบบนี้แหละ (ผู้ว่า : ชัชชาติ , ส.ก : ก้าวไกล)

605 Nameless Fanboi Posted ID:Atwxxxgn0B

3. บทบาทสื่อ
ลำพังถ้ามันมีแต่ การเชิญมาพูด แล้วก็ถามๆๆๆ แล้วก็ให้ผู้สมัครตอบๆๆๆ เบื่อตายเลย เอาจริงๆเวลาเราตามอะไรพวกนี้ เราจะชอบเวลาที่สื่อมันถามอะไรที่มันสะท้อนตัวตนเค้าจริงๆ ที่ไม่ใช่การถามนโยบาย เพราะอันนั้นเดี๋ยวไปหาเอง Ex. หนังสือที่ชอบ , ซูเปอร์ฮีโร่ที่ชอบ , ชีวิตในวัยเด็ก , Challenge ต่างๆ แบบมีของให้แล้วก็โยนคำถามใส่เลยแบบไม่ตั้งตัว มันทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้นเยอะ ไม่ใช่มีแต่รถหาเสียง ลงพื้นที่ แจกใบปลิว (คือมันยังจำเป็นอันนี้ทราบดี แต่ก็อยากเห็นอะไรแบบอื่นบ้าง)

4. ทำไมถึงคิดว่าชัชชาติจะชนะ ?
จุดแกร่งที่สำคัญมากๆๆๆๆ มันมาจากทั้งการที่แกเคยอยู่เพื่อไทย (ฐานเสียงเพื่อไทยแทบจะ 100 % ยังไงก็เลือก) + ตอนสมัยที่เป็น รมว.คมนาคม ก็มีลุคที่แตกต่างจากนักการเมืองไทยที่เห็นจนชินตา (ฐานเสียงกลุ่มชนชั้นกลางตามแนวรถไฟฟ้ามักจะชอบคนจริตแบบนี้) + แม้กระทั่งคนที่เป็น First Voter ไม่น้อยก็ชอบ (ฐานเสียง First Voter)

คือถ้าแม้กระทั่งคนอย่างธงทอง จันทรางศุ ที่เป็นนักวิชาการ ทำงานใกล้ชิดคนในราชวงศ์ยังออกมาประกาศตัวว่าเป็น Endorsement ให้ชัชชาติ ผมนี่นึกทางแพ้ไม่ออกจริงๆ อาจจะเรียกได้ว่านี่แหละนักประสานตัวจริง 555+ คือทำให้คนที่อยู่ตรงกลางไม่ใช่จัดไปทางฝั่งใดฝั่งหนึ่งรวมคะแนนเสียงเข้ามาหาแกได้หมด คือเรื่องความเป็นอิสระหรือไม่นั้นทุกคนรู้กันหมดว่าอะไรเป็นอะไร แต่การที่แกพิสูจน์ตัวเองได้มากพอว่าแกไม่ถูกเพื่อไทยครอบงำ (คือมันจะพอสำหรับทุกคนรึเปล่าไม่รู้ แต่มันพอที่ทำให้คนที่เบื่อหน่ายการเมืองหันมาเลือกแกได้มันก็น่าจะพอแหละ) มันช่วยตรงนี้มากจริงๆ

5. ติ่งทะเลาะกัน
เท่าที่สังเกตมาตลอด ความรังเกียจคู่แข่งมากขึ้นทุกทีๆ จากเดิมที่เป็นเสื้อเหลือง-เสื้อแดง มันก็มาสู่ภายในซีกเดียวกัน ผมเจอคนนึงบอกว่า การที่วิโรจน์บอกว่าทำได้ทันทีแสดงถึงความไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง แต่พอชัชชาติพูดว่าทำได้ทันทีบ้างนั้น กลับไม่ยอมวิจารณ์ในเรื่องเดียวกัน หรือแม้กระทั่งกรณีที่มี ส.ก ก้าวไกล พยายามจะฟ้องร้องคนที่มากล่าวหาเรื่องปิดป้ายทับผู้สมัครคนก่อนหน้า คนที่โปรส้มก็เงียบกริ้บเช่นกัน คือมันเละเทะไปหมดแล้ว คนจำนวนมากเลือกที่จะพูดเฉพาะเมื่อฝั่งที่ตัวเองเกลียดทำอะไรผิด

และมันก็มีคนอีกประเภทนึง ที่บอกตลอดว่าเบื่อ 2 พรรคนี้ทะเลาะกัน คือเป็นพรรคที่ตัวเองเกลียด รุมด่ากระหน่ำซัด แต่พอเป็นพรรคที่ตัวเองเชียร์ทำผิด บอกเฮ้อเบื่อว่าทะเลาะกันอยู่นั่นแหละ อีเหี้ยทุเรศสัสอ่ะ 5555

คือการทะเลาะกันมันเป็นเรื่องปกติ แต่การทะเลาะกันที่ไม่เอาข้อเท็จจริงมาคุยกันหรือเลือกเฉพาะข้อเท็จจริงที่ทำให้ตัวเองดูดีมันไม่ควรจะเป็นเรื่องปกติอ่ะนะ ตรงนี้อาจจะคิดต่างจากคนอื่นว่ามันก็ปกติเหมือนกัน แต่เรารู้สึกว่า ถ้าอยากให้การเมืองมัน move on ไปข้างหน้า นอกจากประเด็นที่ฝ่ากันมามากมาย เรื่องนี้ก็มิอาจมองข้ามได้เช่นกัน

606 Nameless Fanboi Posted ID:MGHz77IHvi

ถ้าไม่มีเงินซื้อ Car Seat ก็ไม่ต้องมีลูก ถ้าเงินนิดหน่อยยังเจียดมาซื้อไม่ได้แสดงว่าการเงินแย่แล้วอย่ามาสร้างภาระสังคมเลย

607 Nameless Fanboi Posted ID:34s11ZE53V

>>604 สรุปคือมึงไม่มีสิทธิเลือก อีดอก เสียเวลาอ่าน

608 Nameless Fanboi Posted ID:zmmqVtsWY5

ประเทศที่พัฒนาขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะไปถึงขั้นพัฒนาแล้ว หรือยังติดอยู่ที่ประเทศกำลังพัฒนาแต่รายได้สูง ต้องขอบคุณชนชั้นล่างนะที่ยังมีลูก พวกคนชั้นกลาง-ชั้นสูงไม่ค่อยมีกัน ถ้าคนช้นล่างไม่มีลูกอีกก็เตรียมสิ้นชาติได้เลย มีแต่คนแก่ครองเมือง

609 Nameless Fanboi Posted ID:Atwxxxgn0B

>>608 พวกนี้ออกโปรดึงคนเก่งๆจากประเทศกำลังพัฒนาไป เหลือแต่พวกโง่ๆติดอยู่ในประเทศไป

610 Nameless Fanboi Posted ID:lKvI5qH49J

>>604-605 กูยังคิดอยู่ดีว่าถ้ามันทำ SV ได้ก็ชนะชัชชาติได้ แต่รอบนี้เสียงแตกเยอะ ถ้าไม่มีสัญญาณจากคนที่มีน้ำหนักพอ มันคงทำไม่ได้หรอกมั้ง

611 Nameless Fanboi Posted ID:xBJ0XPF4Hw

อร่อยเหาะะะะ
https://youtu.be/h3XS9dTj8JA

612 Nameless Fanboi Posted ID:uirqYJYjdx

https://pbs.twimg.com/media/FShEqtPXEAAFjZ3?format=jpg&name=large
"All losses in this world are due to a lack of ability. If you want to curse someone, curse your own weakness." $LUNA $UST #Bitcoin #

613 Nameless Fanboi Posted ID:W/8Iajtt5D

11ล้านล้านเยน เลยเหรอวะ
#消えた11兆円の説明求めます

614 Nameless Fanboi Posted ID:VC6EZSoNaT

>>613 คนญี่ปุ่นมีแต่คนดี ไม่มีคนโกงหรอก มึงโดน IO เจ๊กหลอกแล้ว

615 Nameless Fanboi Posted ID:AyRIEz1oms

*** Terra and DeFi 2.0 (Abracadabra) ***

ราคาของ LUNA ขึ้นมาอย่างรวดเร็วในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาหลังจากร่วมมือกับ Abracadabra ทำให้สามารถนำ UST ไปค้ำประกันเพื่อกู้ UST มาฝากรับดอกเบี้ยใน Anchor ได้ครับ โดยเป็นการกู้ออกมาด้วย MIM (Magic Internet Money) เพื่อนำไปซื้อ UST วนลูปไป ซึ่ง MIM นี้ก็เป็น stablecoin ของ Abracadabra อีกที ซึ่งมักเรียก strategy นี้ว่า Degenbox ตามชื่อ code ที่ใช้ในการทำครับ เชื่อกันว่าการที่คนซื้อ LUNA ไปสร้าง UST น่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ราคา LUNA ปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วครับ

ช่วงต้นเดือน 2 ปี 2022 มียอดกู้มากกว่า 1 พันล้าน MIM ก่อนที่จะร่วงลงมาหลัง Wonderland (protocol ที่ Abracadabra รับเป็นหลักประกัน) ได้ระเบิดไปจากการที่ developer โดนเปิดเผยตัวตนว่าเคยมีคดีติดมาจาก QuadrigaCX (ใครสนใจให้ไปดู Trust No One: The Hunt for the Crypto King ใน Netflix ได้ครับ) ทำให้ยอดกู้ตกลงมาอยู่ที่ประมาณ 700 ล้าน

ตัดภาพมาเดือน 5 ยอดกู้อยู่ที่ประมาณ 440 ล้าน และเป็นอย่างนี้มาเรื่อย จนกระทั่งสิ้นวันเสาร์ที่ 7 เวลาประมาณ 5 ทุ่ม (UTC) ยอดกู้ผ่าน Degenbox ลดลงเรื่อยๆ แม้ว่าราคา UST จะยังไม่ขยับไปไหนมากก็ตาม หมายความว่าคนไม่อยากกู้เวียนเทียนแล้วและนำ UST ไปวางค้ำไว้ อยากถอนออกมาก่อนนั่นเอง

ในตอนนี้ฝุ่นของ LUNA-UST ยังตลบอยู่ หลายคนยังพยายามหาคำตอบว่าเกิดขึ้นจากอะไร เป็นอุบัติเหตุหรือการโจมตีแบบตั้งใจ ใครอยู่เบื้องหลัง

แม้เราไม่อาจจะทราบได้ว่าการที่มีคนเริ่ม unwind trade ก่อนล่วงหน้าจะเป็นสัญญาณอะไรหรือไม่ แต่ในโลกการเงิน มักมีคนที่จมูกไว ได้กลิ่นก่อนเสมอครับ

ที่น่าสงสัยคือ public dashboard ของ Abracadabra ใช้งานไม่ได้มาตั้งแต่ 14 มีนา ทำให้ไม่สามารถเห็นได้ง่ายเหมือนแต่ก่อน อาจจะทำให้เรื่องนี้ไม่ค่อยมีคนพูดถึงกันครับ ช่างบังเอิญจริงๆ 😅

ก็คงต้องติดตามกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ เรื่อง stablecoin คงเป็นเรื่องที่ได้รับการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางไปอีกนาน ผมเองก็ได้ติดตามศึกษาเรื่อง stablecoin มาสักพัก หากสนใจ content เก่าๆ สามารถตามไปอ่านได้ตามนี้ครับ

-> นานาวิธีสร้าง stablecoin ซึ่งจริงๆ แล้ว อาจจะเป็นแค่ by product ก็ได้
https://web.facebook.com/ksaengchote/posts/10165045583930156

-> Stablecoin issuer = shadow bank?
https://web.facebook.com/ksaengchote/posts/10165049785775156

-> Stablecoin ที่คนไม่ไป “ขึ้นเงิน”
https://web.facebook.com/ksaengchote/posts/10165240197435156

616 Nameless Fanboi Posted ID:q0Rl8WjT5x

I understand LUNA coin drip is horrifying.
But - don't we understand that unlike company shares with board of directors, a CEO and shareholders, crypto's dip is "bottomless"?
Not to say crypto doesn't have a CEO, but just think of Tesla share and Doge coin. If Tesla share has to go down, I doubt it can go "bottomless" and secondly, the company will do something (like buy back the shares, find funds, sell off assets, mergers, etc). With Doge coin, if it continues to go down... well... it can be "bottomless".
If you learn from crypto courses or Gurus, don't tell me they didn't tell you NEVER to invest your savings with high risk investment, except with your extra income.
And if they didn't, well, obviously you've learned from the wrong course or Gurus who don't really care about your affair except for selling you stuff.
Like Gary V will always say, only buy NFTs with the money you can lose.

617 Nameless Fanboi Posted ID:/JJWjtQuBY

สรุป LUNA ไม่รู้ใจ
-หลุดทุกแนวรับ และ นั่งนับหยดน้ำตาที่รินไหล
-คริปโตเงินแห่งอนาคต อนาคตไม่มีจะแดรก
-เราจะไม่มีวันขาดทุน ถ้าเราจำทุนไม่ได้
-เกิดสัญญาณกลับตัว กลับตัวไปทำงาน
-โหยหา ความรัก ความเมตตา
-จินตนา กาววววววว สำคัญกว่าความรู้

618 Nameless Fanboi Posted ID:W/8Iajtt5D

>>614 นั่นนะสิวะ รัฐบาลจากการเลือกตั้งเขาจะโกงได้ยังไง
ตอนนี้แค่ยังชี้แจงตัวเลขไม่ได้เท่านั้นเอง

619 Nameless Fanboi Posted ID:U38tr0GI2t

มีคำถามหนึ่งที่ผมถูกถามในบทสัมภาษณ์นี้ แล้วผมคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อทั้งการเมืองภาพใหญ่และการเมืองในระดับท้องถิ่น เพราะหากกระจายอำนาจได้สำเร็จ จะเกิดผลดีต่อการเมืองในสภา การเมืองภาพใหญ่ การพัฒนาประเทศ และประชาธิปไตยในประเทศไทยด้วย
.
คำถามเกี่ยวกับเรื่องหน้าที่ของ ส.ส. และอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด รวมไปถึงหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
.
“ส.ส. ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นเจ้านายข้าราชการ ส.ส. คือฝ่ายนิติบัญญัติ ส.ส. คือสภา หน้าที่ของสภาคือตรวจสอบฝ่ายบริหาร ถ่วงดุลฝ่ายบริหาร สะท้อนความเดือดร้อนของประชาชนไปให้ฝ่ายบริหารรับรู้ หน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติของ ส.ส. คืออะไร คือไปออกกฎหมาย ตกลงแล้วเอาการพนันถูกกฎหมายรึเปล่า เอากัญชาถูกกฎหมายรึเปล่า?”
.
หน้าที่ของ ส.ส. คือการรับฟังปัญหาของประชาชน แล้วนำไปสะท้อนในสภาผู้แทนฯ ว่าจะกระจายอำนาจไหม จะเทรดคริปโตไหม จะออกกฎหมายอะไร ดังนั้น กรุณาอย่าเข้าใจผิด อย่าสับสน หน้าที่ของ ส.ส. ไม่ใช่การบริการสาธารณะในพื้นที่ ส.ส. ไม่มีหน้าที่จัดการขยะ การจัดการขยะเป็นของนายกเทศมนตรี ของนายกท้องถิ่น แต่เพราะการเมืองท้องถิ่นมันไม่ฟังก์ชัน เพราะประเทศไทยกระจายอำนาจยังไม่เต็มที่ มีข้อจำกัดจากเรื่อง งาน เงิน คน อำนาจ กลายเป็นว่า นักการเมืองที่อยากเข้าไปพัฒนาพื้นที่จึงต้องไปลง ส.ส.
.
ส.ส. ที่เก่งสมัยก่อนคือ ส.ส. ที่ดึงงบเข้าพื้นที่ได้ แต่ถ้ากระจายอำนาจจริงๆ หน้าที่ของ ส.ส. แบบนี้จะไม่มีเลย หน้าที่ของ ส.ส. คือการไปดูว่าโลกพัฒนาถึงไหนแล้ว จะทำให้ประเทศไทยพัฒนาเท่าเทียมกับโลกต้องผ่านกฎหมายอะไรบ้าง ต้องออกกฎหมายอะไรบ้าง ต้องตรวจสอบเสนอแนะการจัดสรรงบประมาณยังไง
.
ผมจะเน้นย้ำเสมอว่า การกระจายอำนาจเป็นหนทางที่สันติที่สุดเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคน
.
อ่านต่อกันได้ในบทสัมภาษณ์ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ: ปีศาจในรัฐรวมศูนย์” ที่ทาง way magazine โดย คุณสันติสุข กาญจนประกรและคุณอนุชิต นิ่มตลุง มาสัมภาษณ์ผมกันครับ
.
อ่านบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่: https://waymagazine.org/interview-thanathorn.../

620 Nameless Fanboi Posted ID:pFsoo5q7Bw

>>619 "ผมจะเน้นย้ำเสมอว่า การกระจายอำนาจเป็นหนทางที่สันติที่สุดเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคน"

เห็นด้วยมาก แต่ก่อนจะทำแบบนั้นได้ต้องหาทางทำให้ท้องถิ่นอยู่ได้ด้วยเงินประจำปีก่อน แล้วหาระบบที่ดูแลการทุจริตของผู้ว่าด้วย อย่างเสาไฟราชาเทวะนั่นก็มาจากการเลือกตั้ง ในอำนาจระดับประดทศมันยังมีสส.และสายตาทั้งประดทศจับตาดู แต่ในระดับตังหวัดนี่คุมยากมาก ทำให้สะอาดหมดเลยคงไม่อยู่บนความเป็นจริง แต่อย่างน้อยต้องวางระบบก่อนกระจายอำนาจนั้นละ

621 Nameless Fanboi Posted ID:OVGS9hpuNi

>>620 ประเด็นที่ซับซ้อนกว่านั้นคือคนพื้นที่เอาไงด้วย อย่างเสาไฟนี่แชร์กันหลายพื้นที่นะ แต่บางพื้นที่ชาวบ้านก็เอาด้วย นี่ยังไม่นับแนวๆ ขาใหญ่ที่สามารถซิกแซกงบมาเลี้ยงคนในพื้นที่ได้ ผ่านโครงการประชานิยมต่างๆ แล้วก็แบ่งส่วนหนึ่งกินเอง เหมือนข้อถกเถียงเรื่องแม้วนี่แหละ ขนมหวานบอกแม้วประชานิยมเอาใจรากหญ้าพร้อมกับแฮปงบแผ่นดินเข้าตัวเองกับพรรคพวก แต่เสื้อแดงบอกแล้วไงอะ แม้วกินแต่ชาวบ้านได้ประโยชน์ คนอื่นก็กินเหมือนกัน ไม่เห็นได้ประโยชน์เลย งั้นรับแม้วพอไหวพอทนว่ะ

622 Nameless Fanboi Posted ID:pFsoo5q7Bw

>>621 ให้ยกตัวอย่างอีกอันก็ซุ้มเฉลิม คนรู้ละว่าเปลืองงบ แต่ผรม.ที่ทำคือคนในไง มันสร้างงานสร้างรายได้ พวกนี้ชอบจะตายห่า ไม่ก็สนง.เขตที่หรูหราแต่โล่งมากกกก อันนั้นก็เงินไหลเข้าคนในพื้นที่ ชอบกันจะตาย

ข้ามไปญี่ปุ่นที่คนบอกไม่โกง ประเทศมันก็ทำแบบนี้นะ สร้างถนนขุดคลองปักเสาอะไรทั้งปีทั้งที่ไม่เสีย เพราะมันสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น ในบางแง่กูก็ไม่ได้ค้านการทำไรแบบนี้หรอก แต่ถ้าจะบอกว่าชอบก็คงไม่

623 Nameless Fanboi Posted ID:dyFlE8JWgN

ทำไมราคา LUNA ถึงขึ้น?

.

หลาย ๆ คนอาจจะสังเกตเห็นข่าวว่า จู่ๆ ก็มีข่าวมีคนรวยจากการเข้าไปซื้อขาย LUNA กันอีกครั้งแล้ว

.

แปลกใจไหมครับว่า มันเกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง

.

ก่อนหน้านี้ LUNA-Terra มี swap ที่ทำให้นักลงทุนสามารถแลกเหรียญ LUNA ไปเป็นเหรียญ UST และ UST ไปเป็น LUNA ได้ ซึ่งเป็น peg mechanism ที่ทำให้เหรียญ​ UST มีมูลค่าคงที่

.

แต่ทาง Terraforms Lab มีการหยุด chain ไปสองครั้ง โดยครั้งแรก หยุด chain ไปเพื่อแก้เรื่อง governance attack (ซึ่งจริง ๆ แล้วคือการตัดสิทธิ์ไม่ให้ผู้ถือ LUNA เลือก validator คนใหม่ได้ เพราะตอนนี้ LUNA มันมีเหรียญเพิ่มขึ้นมาก จนทำให้คนที่ stake เหรียญ LUNA ไว้ คิดเป็นเพียง 0.1% ของเหรียญทั้งหมดเท่านั้น

.

ส่วนการหยุดครั้งที่สอง เขาบอกว่าทำการปิด on-chain swap และ IBC Channel ซึ่งเขียนได้แบบลึกลับมาก ๆ คนจนไม่รู้ว่ามันคืออะไร

.

ถ้าให้เปรียบเทียบ LUNA กับ UST ให้เห็นภาพ ถ้าใครเข้าใจงบการเงิน เนี่ย เราเทียบได้ว่า UST เป็นหนี้สิน ส่วน LUNA เป็นส่วนของผู้ถือหุ้น

.

วันก่อนเกิดปัญหา ด้านซ้ายของงบการเงินซึ่งเป็นทรัพย์สิน ระบบ LUNA/UST ก็เหมือนมีมันฝรั่งถุงใหญ่มากกกกกกกกก ที่คนนึกว่ามีมันฝรั่งอยู่ในนั้น เลยให้ LUNA+UST มีค่ามากขนาดนั้น

.

ในภาวะปกติที่ ราคาของ LUNA / UST มันขยับไปมา on-chain swap จะเป็นเครื่องมือให้คนสลับ LUNA/UST ไปมาได้อย่างอิสระ เพื่อให้ราคา UST คงที่

.

พอวันก่อน มีคนเริ่มพูดกันว่า ถุงมันฝรั่งเนี่ยมันถุงเปล่า พอคนส่อง ๆ ดู ก็เริ่มเห็นแล้วว่า เออว่ะ สงสัยถุงเปล่าชัวร์ คนที่ถือ UST ก็เหมือนคนถือหุ้นกู้ เริ่มกลัว รีบหนีตาย ขายได้ก็ขาย ขายไม่ได้ ก็แลกเป็นหุ้น LUNA แล้วเอาหุ้น LUNA ไปขายในตลาดหุ้น นั่นเอง

.

แต่พอเวลาผ่าน ๆ ไป ทุกคนเชื่อกันหมดแล้วว่าถุงมันฝรั่งเป็นถุงเปล่า มูลค่าของสินทรัพย์ด้านซ้าย จริงๆ แล้วมันเป็น 0 แต่ตอนนี้ยังมียอดหนี้ที่ยังไม่ได้แปลงเป็น LUNA อีก คือ 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ นั่นแปลว่าจริงๆ แล้วส่วนของผู้ถือหุ้นมันคือ -11 พันล้านเหรียญสหรัฐนั่นเอง

.

นั่นจึง ทำให้เกิดแรงที่จะหนีตายกันมากขึ้นไปอีก ราคา UST ตกลงอย่างรวดเร็ว แต่ราคาของ LUNA ตกลงเร็วกว่า เพราะไม่มีใครซื้อ LUNA อีกต่อไป จึงทำให้อัตราแลกเปลี่ยน UST ไปเป็น LUNA สูงขึ้นเรื่อย ๆ จน 1 UST แลกได้ > 100,000 LUNA ทำให้จำนวนเหรียญ LUNA เพิ่มขึ้นเป็น 6.5 ล้านล้านเหรียญ

.

พอ Terra ตัดสินใจ disable on-chain swap สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เขาตัดวงจรไม่ให้คนแลกเหรียญ UST ไปเป็น LUNA อีกต่อไป ทำให้จำนวนเหรียญ LUNA ไม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกต่อไป จึงไม่เกิดแรงเทขายใหม่ขึ้นนั่นเอง ทำให้ราคา LUNA หยุดร่วง ส่วนผู้ถือ UST ก็ซวยไป

.

พอจำนวนเหรียญหยุดเพิ่มแบบที่หยุดไม่ได้ คราวนี้คนปั่นก็ปั่นง่ายขึ้น ยิ่งบาง exchange มีการจำกัดการโอนเข้า ให้ซื้อขายได้ และถอนออกได้เท่านั้น เท่ากับยิ่งจำกัด supply ของเหรียญเข้าไปอีก คราวนี้คนปั่นเลยสามารถปั่นเหรียญ LUNA ไปที่ไหนก็ได้

.

สำหรับคนที่เข้าไปเล่นเหรียญ LUNA จึงต้องระวังมาก ๆ หากมีการเปิด on-chain swap อีกครั้ง และให้นำเหรียญ LUNA ใหม่ฝากเข้าไปใน exchange อีกครั้ง ราคา UST ก็จะขึ้น ในขณะที่ LUNA จะลดลงกลับเข้าใกล้ 0 อีกครั้งหนึ่ง และจำนวนเหรียญ LUNA ก็จะเพิ่มมหาศาลอีกรอบ

.

ถ้าจะถามว่าเขาจะเปิดอีกทีเมื่อไหร่ คำตอบคือไม่รู้ครับ รู้แต่ว่า ถ้าจะเปิดกลับมา เขาจะต้องหยุด chain อีกรอบ หยุดเมื่อไหร่ก็เหมือนเกมเก้าอี้ดนตรีที่ใครนั่งไม่ทัน ก็ต้องออกจากเกมไปครับ
.

โปรดใช้ความระมัดระวังในการลงทุนครับ

624 Nameless Fanboi Posted ID:dHSnegDC8x

ไม่ได้พิมไรยาวๆมานานขอหน่อยนึง เหตุการณ์ luna ust นี่น่าจะกระจบจิตใจคนจำนวนมาก แน่นอนว่า เกมนี้มีคนได้ก้อมีคนเสีย เปนเรื่องปกติ

ส่วนตัวปู่ ก็มีส่วนที่มันขัดใจ เพราะถึงแม้ว่าจะเข้าใจสถานการณ์แต่ก็ยังทำได้ไม่ได้ แทนที่ควรจะทำเงินจากรอบนี้ กลายเปนเสียเงินแม้ว่าจะไม่ได้กินสัดส่วนพอตมาก

หลังเกมจบหรือยังมีต่อ ลองมาสรุปสิ่งที่ผิดพลาด หรือวางแผนที่จะทำให้ดีขึ้นในครั้งโอกาสครั้งต่อไป

สิ่งที่ผิดพลาด ตอน ust ถึงแม้จะคัทที่ 0.995 หมดเพราะกลิ่นแปลกๆ จากอาจานท่านนึงที่ส่งมาให้ดูคือสัดส่วนของ 3crv ใน curve มันลดอย่างมีนัยยะ ณ เวลานั้นคือ 200m จากปรกติที่น่าจะประมาน 400m อันนี้ตัวเลขไม่ชัวร์เท่าไหร่ แต่ปู่ก็คิดว่า better safe than sorry

แต่..... ในฐานะนัก arbitage พอมันมีช่อง ก็เลยวิ่งเข้าไปเกบ แต่ลดไซส์จากปกติเหลือครึ่งนึง พอเข้าแล้ว ดันโอนไม่ออกหรือโอนไม่เข้าไม่แน่ใจ แล้วราคาก็ฮวบ เข้าไปตอน 0.93 นั่งดูมันไหลไปเรื่อยๆแบบสตั้น จน binance buy order ที่ 0.7 หมด เหมือนอารมณ์หุ้นไทยที่ติด floor แล้วไม่มี bid รับ สยองมาก วินาทีนั้นคือสติไปหมดแล้ว พอซักพัก binance กลับมาเปิดให้ไหลต่อได้ เลยรีบร้อน คัทไปที่ 0.65 ก่อนที่มันจะลงไป 0.6 ล่ะเด้งขึ้นมา (เหตุการณ์นี้คือเกิดขึ้นวันแรกที่หลุด peg แบบหนักๆ ก่อนจะเด้งกลับมาที่ 0.9x ก่อนไหลไหม)

ณ วินาทีนั้น ปู่ก็เปนคนนึงที่ผ่าน titan แล้วเคยเสียเงินให้มันมาก่อน ก็รู้ว่ามันจะกลับมาไม่ได้ล่ะ เราต้องหาจุดคัท แต่พอทบทวนหลังเกม มันก็คือเราก็เปนพวกคนส่วนน้อยที่รู้นี่หว่า คนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจมันก็ยังมีโอกาสกลับมาได้อยู่

หลังจากนั้นก็ค่อนข้างรู้สึกเฟล โทษตัวเอง ทำไมเสียทั้งๆที่ไม่ควรเสีย หรือรู้อยู่แล้ว ทำใจอยู่ประมานครึ่งวันก็มูฟออนได้ เข้าไปคุยกับห้อง terra สิ่งที่มันเปน fact และปลอบใจคนที่สูญเสีย ทุกคนหดหู่ กลัวคนคิดสั้นกัน

ส่วนที่ทำให้ดีขึ้นหรือแก้ตัวในอนาคต ก็คงต้องมองหาโอกาสในวิกฤต แล้วแอคชั่นให้ได้ตามที่คิดไว้ สิ่งนี้มันต้องคิดไว้ล่วงหน้า อย่างตอน ust ถ้ามีแผนหรือ limit คิดไว้ล่วงหน้าก็คงไม่ได้ปล่อยให้มันไหลไปแรงขนาดนั้นแล้วค่อยคัท

ในเวลาที่มันแย่มากๆ ก็มีคนพูดถึงคนโพสโชว์กำไร luna short ซึ่งหลายคนก็เหนโอกาสแล้วไปทำกำไรกันอย่างสนุกสนาน ปู่ก็ไปแต่ไปแบบนิดเดียวแล้วก็ปิด ซึ่งมาคิดย้อนดูตรงนี้ มันเป็นโอกาสที่สูญเสียไปมากกว่าการที่เสียเงินใน ust เสียอีก เลยลองคิดดูว่าถ้ามันเกิดอีก ปู่คงแบ่งเงิน น่าจะ 1-5% พอต อย่างมากสุดคง 10% ถ้าหวัง big shot มาแบ่งไม้เล่น leverage short luna ถ้าทำแบบนี้ แล้วเกิดแตก ก็เสียเงินตามงบที่เรากันไว้ ถ้าได้คงได้เต็มคำ ซึ่งมองย้อนไปล่ะคงคุ้มมาก ถ้าไม่ซวยจริงๆ

การลงของ luna รอบนี้แทบเรียกได้ว่า oneway คือจำนวนครั้งที่เจ้า ลากกิน short มันน้อยมากแบบไม่เคยเห็นมาก่อน พอได้คุยกับเพื่อนๆหลายคน ก็มีทั้งคนที่เสียเงินแล้ว action ได้คืนมาบางส่วนหรือกลายเปนกำไรไปก็มี, มีคนที่เสียเพราะไปซื้อ luna แต่มาได้คืนเพราะจังหวะ arbitage เปน m$ ก็มี, คนที่หมดตัว หดหู่หรือสูยเสียเงินเกินครึ่งพอตก็มี

ท้ายที่สุดนี้ ครั้งนี้ก็เปนเหตุการณ์ใหญ่อีกครั้งในคริปโต ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาในวงการ เคยทำเพจแบ่งปันประสบการณ์สิ่งที่เรียนรู้ เพราะรู้ว่าตัวเองก็ไม่ได้เก่ง แค่อยากเรียนรู้และแชร์สิ่งที่รู้ให้คนอื่น จนผ่านไป 4-5ปี ก็ยังมีข้อผิดพลาด และมีสิ่งที่รู้ว่าตัวเองต้องปรับปรุงพัฒนาอยู่ อยากให้ทุกๆคนฟื้นได้จากความเจ็บปวด ไม่อยากให้คนคิดสั้น หดหู่นาน หรือมูฟออนไม่ได้ โอกาสในโลกคริปโตมันเยอะมาก ถ้าอยู่นาน ศึกษาเพียงพอ และมี money management ที่ดีพอ ยังไงก็เชื่อว่าประสบความสำเร็จได้แน่ๆ เพราะสิ่งที่เราทำ โอกาสชนะมันจะมากกว่าแพ้ ถึงแพ้ก็ไม่ตาย เกบประสบการณ์ เกบความรู้ เปนแต้มต่อเหนือคนส่วนมากในตลาด

อ่อลืมไปอีกนิด luna ถ้าหยุด mint supply แล้วในแง่ เหรียญ meme ดูน่าสนใจจัด อารมเหมือนเหรียญเกิดใหม่ ที่มี ecosystem แล้วทุกคนเหมือนได้ซื้อตอนต้นๆ ในกรณีที่เขาทำต่อหรือเปน decen นะ อาจจะเข้าใจไม่มาก แต่น่าจะมีคนเก่งๆมาเขียนเรื่องการทำงาน แบบอารม doge coin เขร้กลายเปน meme หมาแมว เลยแหะ โลกคริปโตมันขึ้นได้สุดลงได้สุดออกได้ทุกหน้า luna ที่เข้ากันจากหวยแม่ปลาที่ 0.8 จนไป 1xx ขายหมูกันแบบต้องร้องระงม ยังกลับไปสามัญ ust ที่เคยฟาร์ม หุ้น mir เกินครึ่งพอต ทุกเรื่องราวดีๆกับความทรงจำของ terra มันก็ยังอยู่กับเราตลอดไป

625 Nameless Fanboi Posted ID:1mPQmBeLdd

Is it a final countdown??!!..

เรา... กำลังจะเจอวิกฤต พร้อมกันทั้ง 2 ด้าน... คือ..

ด้านสงคราม... ที่กำลังจะขยายตัว ไปสู่ The great war... แบบจงใจ ของฝ่าย อเมริกา และ NATO: North Atlantic Treaty Organization... ที่กำลังเร่งจุดชนวน ทั้ง แถบ Baltics และ ทะเลจีนใต้... ยังไม่นับ เชื้อที่กำลังปะทุ ในตะวันออกกลาง ระหว่าง อิราเอล กับ อิหร่าน..

นับเป็น... โอกาสอันดี... ที่ได้ขายอาวุธ และ ทดลองอาวุธรุ่นใหม่ๆ ของ Lockheed บนสนามรบ: Battlefields ของจริง... ฉากการทำลายล้างกันจริงๆ... เจ็บจริง ตายจริง ของบรรดาทหาร และ ประชาชนทั่วไป... ส่วน Elites ได้เตรียม ที่หลบภัยใต้ภูเขา อย่างหรู เอาไว้แล้ว..

และ... ด้านเศรษฐกิจ... จากการระเบิดพังทลายของตลาด Bond (และ ตลาดหุ้น... ที่หนุนเอาไว้ด้วย Bond) รุนแรง ระดับ Big bang... จากลูกระเบิดยักษ์ ที่ชื่อว่า Bond-yield superpower..

RIP, Elites..

626 Nameless Fanboi Posted ID:/8HtCAaXQa

ใครจะเป็น #ผู้ว่ากทม

นโยบายและผลงานของ ผู้ว่า กทม. จะเกิดไม่ได้ถ้าเสียงส่วนใหญ่ของ สก. ไม่เอาด้วย ดังนั้นคุณสมบัติที่สำคัญของผู้ว่าอันหนึ่งคือ ต้องเป็นผู้รับฟังที่ดี ประสานงานได้ลดความขัดแย้งได้ และทำงานเป็นทีมได้ งาน กทม จึงจะเดินหน้าได้
.
ต่อไปเป็นวิเคราะห์ในมุมมองส่วนตัวล้วนๆ

เบอร์ 1 #วิโรจน์ : ทำงานไม่เป็น กรุงเทพจะมีแต่ปัญหาและความขัดแย้งและจะยกระดับไปเป็นการเมืองระดับชาติ คนทำงานไม่อยากร่วมงานด้วยเพราะจะเอาดีเข้าพรรคพวกตัวเองอย่างเดียว วิโรจน์และก้าวไกลเหมาะกับฝ่ายค้านมากกว่า
.

เบอร์ 3 #สกลธี : ประสานงานได้ ทำงานเป็น มีความมุ่งมั่นสูง ปัญหาคือจะเอาพวกเสือ สิงห์ กระทิง แรด อยู่ไหม ต้องหาแบคและทีมงานมาเสริม แต่ที่สำคัญ 7 วันสุดท้ายจะทำยังไงให้คนที่ลังเลว่าเลือกไปเสียงไม่ตกน้ำให้เทมาที่คุณได้
.

เบอร์ 4 #ดรเอ้ : กรุงเทพจะหวือหวา มีอภิมหาโปรเจคที่ดูล้ำและทันสมัย จะเป็นผู้ว่าที่มีสีสัน ปัญหาคือจะทำอย่างไรให้คนเชื่อมั่นได้ว่าผลงานดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริงและคุ้มค่ากับเงินที่ลงไป
.

เบอร์ 6 #อัศวิน : แบคดี กรุงเทพจะไปต่อตามที่เคยเป็น ไม่หวือหวา เรื่อยๆ ปัญหาคือ คน กทม เบื่อกันหรือยัง และจะดึงคะแนนเสียงกลุ่มอายุต่ำกว่า 35 มาเลือกได้หรือไม่
.

เบอร์ 8 #ชัชชาติ : นอนมาทุกสำนักโพล กรุงเทพจะมีแต่ข่าวผู้ว่าที่แข็งแกร่ง แต่แข็งเฉพาะตัวผู้ว่า ส่วนเนื้องานยังเป็นที่กังขาว่าจะบริหารงานได้หรือไม่เพราะตอนเป็น รมต คมนาคม ไม่มีผลงานให้เห็น ที่สำคัญเป็นอิสระจากทักษิณและเพื่อไทยจริงหรือ
.

เบอร์ 11 #ศิธา : ประสานงานได้ เข้าได้กับทุกฝ่าย แต่จะมีทีมงานพร้อมช่วยแค่ไหน ที่สำคัญจะไปดึงฐานคะแนนเสียงจากชัชชาติและวิโรจน์มาได้ยังไง หรือเป้าหมายเพียงต้องการวัดคะแนนนิยมพรรคไทยสร้างไทยและหญิงหน่อยมากกว่า ว่ามีประมาณไหน
.

นอกจากนี้ไม่มีใครแล้ว ส่วนตัวคิดว่า 3 วันสุดท้ายถ้ามีกระแสแรงๆ ไม่ว่าจากฝ่ายไหนมาเบอร์ที่นอนมาอาจนอนไม่ได้ แต่ถ้าไม่มีกระแสอะไรผู้ว่าคนต่อไปน่าจะชื่อ ชัชชาติ สิทธิพันธ์

627 Nameless Fanboi Posted ID:.Ibnl9d.FG

สมศักดิ์ "เปลี่ยนไป"

ผมเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับพวกฝ่ายซ้ายฝรั่งเศสในสมัยปี ๖๘ หนังสือเล่มนี้พูดถึงว่าพวกปัญญาชนฝ่ายซ้ายสมัยนั้นมีจินตนาการถึงจีนในยุคของเหมาโดยไม่เคยมีใครไปเยือนจีน พวกเขาเขียนบทความถึงเรดการ์ด การปฏิวัติวัฒนธรรม และเหมาเจ๋อตงโดยไม่รู้ภาษาจีน ความคิดเกี่ยวกับจีนของพวกเขาทำให้หลายคนกลายเป็นเหมาอิสต์ หรือหยิบยืมภาษาแบบเหมาอิสต์ไปใช้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นจีนที่ถูกสร้างขึ้นมาในหัว หรือ 'La Chine Dans la Tête'

ตอนนี้ผมว่าก็มีปรากฎการณ์คล้าย ๆ กัน แต่อาจจะสาธารณ์กว่าหลายเท่า ผมขอเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า 'สมศักดิ์ในหัว' หรือ Somsak Dans la Tête คือเป็นสิ่งที่คนคิดไปเองว่าสมศักดิ์จะต้องเป็นอย่างนั้น จะต้องเป็นอย่างนี้ (เช่น สมศักดิ์จะต้องเชียร์นาโต้ เพราะว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยเสรีนิยม หรือสมศักดิ์จะต้องเชียร์รัสเซีย เพราะว่าเคยเป็นคอมมิวนิสต์ หรือที่ตรงที่สุดคือ สมศักดิ์จะต้องคิดเหมือนฉัน)

ทีนี้พอสมศักดิ์ในความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างในหัว หรือเขียนไม่ถูกใจ เขียนไม่ตรงกับรสนิยมก็จะเกิดอาการใบ้กิน เพราะคนพวกนี้เคยชอบยกย่องว่าสมศักดิ์มีตรรกะอันเป็นเลิศ ดังนั้นถ้าสมศักดิ์ไม่ได้คิดอย่างพวกฉันแสดงว่าพวกฉันต้องตรรกะบิดเบี้ยวแน่ ๆ แต่เนื่องจากเหตุที่ว่าสมศักดิ์เพิ่งป่วยเป็นสโตรกก็เลยสบโอกาสหาทางออกที่รู้สึกว่าวิน-วิน คือโทษไปเลยว่า ที่สมศักดิ์คิดไม่เหมือนพวกฉันนั้นเป็นเพราะแกป่วย เท่านี้ก็ไม่มีใครตรรกะบิดเบี้ยวแล้ว เย่!

ในความเป็นจริงคนที่รู้จักสมศักดิ์มายาวนาน (อย่างน้อยที่สุดก็สมัยมหาลัยเที่ยงคืนหรือเว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน สมัยที่สมศักดิ์ยังชอบไปถล่มงานเสวนาต่างๆ อยู่) น่าจะคิดเหมือนกันว่าแกเป็นแบบนี้แหละ ส่วนใครจะชอบหรือไม่ชอบ จะเห็นด้วยไม่เห็นด้วย จะถูกใจไม่ถูกใจก็ตามแต่จะคิดประเมินเอาเอง แต่ผมว่าคนพวกนี้ควรเข้าใจความจริงพื้นฐานที่สุดก็คือการคิดต่างกันมันเป็นเรื่องปกติ ทำไมถึงจะต้องคิดเหมือนกันตลอดเวลา ดังนั้นแทนที่จะพยายามรักษาภาพ Somsak Dans la Tête เอาไว้ ก็ควรจะดีลกับความเป็นจริงดีกว่านะครับ

สมศักดิ์ไม่ได้เปลี่ยน แต่พวกคุณไม่ได้รู้จักสมศักดิ์ (หรือจะพูดให้ถูกคือ คุณรู้จักแต่สมศักดิ์ที่พวกคุณสร้างขึ้นมาเอง)

628 Nameless Fanboi Posted ID:P0uh.Fhupr

พูดถึง ซอร์ฟพาวเวอร์ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ การหากินจากวัฒนธรรม และชาตินิยมบ้าง

จริงๆสิ่งที่ไทยเป็นมหาอำนาจโดยธรรมชาติคืออาหาร

ทฤษฎีที่ผมไม่เห็นด้วยสุดๆ เกี่ยวกับอาหารไทยคือ "อาหารไทยใส่เครื่องเทศเยอะ เพราะวัตถุดิบไม่ดี"

ผมเคยเจอความคิดนี้จากคนที่โดนชาวต่างชาติที่เผยแพร่ความคิดนี้มา พยายามบอกให้เรากินจืดๆ เพื่อลิ้มรสวัตถุดิบ

อย่างแรก มันไม่จำเป็นว่าของปรุงรสเยอะเราทำไปเพราะมันไม่สด

ผมจะบอกว่ากองเรือหาปลาไทยนี้เป็นมหาอำนาจ ที่รุกรานน่านน้ำเขาไปทั่ว ถ้าคุณไปร้านอาหาร แถวๆแพปลาติดทะเลของไทย จะเห็นชัดๆ ปลา กุ้ง หมึก ฯลฯ มันยังไม่ตาย ก่อนที่จะทำอาหาร ดังนั้นการนึ่งมะนาว ทอดกระเทียม ทอดกรอบ ราดพริก มันใช่เพราะมันไม่สด แต่เพราะทำแล้วมันอร่อยเฟ้ย

ประการที่สอง วัตถุดิบที่ดีกว่า มันมีอยู่จริง เช่นเนื้อที่ผ่านการพัฒนาพันธุ์และวิธีเลี้ยง แต่ไม่ได้หมายความว่าเอามาทำอาหารที่มีรสแล้วมันจะเสียรสชาติ กลับกันคือมันอร่อยขึ้นต่างหาก

ตัวอย่างของเรื่องนี้ จะขอพูดถึงเรื่องของพี่โต ซิลลี่ฟูล แกเล่าว่าวันนึงแกไปออส แล้วอยากกินสเต็กเนื้อออสมาก แต่เพื่อนไม่ไปกิน แกเลยเซ็ง เขาเลยพาไปกินร้านอาหารไทยปลอบใจ แกสั่งกระเพราเนื้อ แล้วปรากฎว่ามันอร่อยโคตรๆ ทั้งๆที่กินอยู่เมืองนอกไม่ใช่เมืองไทย

กลับมาแกพยายามค้นหาว่ามันผัดยังไงวะ ปรากฎว่าเหตุของมันอยู่ที่คุณภาพเนื้อ จากนั้นแกเลยเปิดร้านขายเนื้อ และทำกระเพราเนื้อออสเตรเลียที่โตตรเทพขึ้นมา

วัตถุดิบเทพ ไม่ได้เสียรสชาติไปจากเครืองเทศ แต่ยิ่งดีขึ้นต่างหาก ผมเกิดบ้า เทสมาแล้วทั้ง เสื้อร้องไห้โกเบจิ้มแจ่ว ก้อยดิบเนื้อออสเตรเลีย มากุโร่ซาซิมิ+น้ำจิ้มซีฟูด บอกเลยว่าโคตรเทพ

(ใครหมิ่นน้ำจิ้มซีฟูดให้คิดถึงความมันของปลาที่รสเข้มจริง อาจจะอร่อยสัสๆ ในชิ้นแรกๆ แต่กินหลายๆชิ้นแล้วเลี่ยน แต่ถ้ามีน้ำจิ้มซีฟูด เราจะกินมันได้เรื่อยๆ)

อาหารไทยมัน อิทธิพลสูงในการเผยแพร่จริง ที่อังกฤษผมอยู่เมืองบ้านนอกทางใต้ ยังมีร้านอาหารไทยทุกตำบล ที่ผมอยู่มี 3 ร้าน โฮสบ้านที่ผมอยู่ใส่ซอสศรีราชากับทุกอย่าง กลายเป็นคลาสเดียวกับที่คนไทยใส่ซอสมะเขือเทศไปแล้ว - เพื่อนเชิญผมไปดินเนอร์บ้านทุกอาทิตย์ เพราะมันจะให้ผมทำต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน กระเพรา ไม่ก็ไข่เจียวโง่ๆก็ยังดี

ปัญหาของไทยอยู่ที่เราเน้นพัฒนาสูตรอาหาร แต่ไม่ค่อยได้พัฒนาวัตถุดิบ ซึ่งบางทีมันต้องอาศัยการพัฒนาสายพันธุ์ และวิธีปลูกวิธีเลี้ยง ซึ่งใช้ต้นทุน

ทฤษฎีของผม วัฒนธรรมการกินรสจัดมันเป็น เพราะเครื่องเทศน์และสมุนไพรมันขึ้นในเขตร้อน

พวกโซนยุโรปเลยต้องเดือดร้อนลากเส้นทางการค้าโคตรไกล และล่าอาณานิคมเอาเครื่องเทศน์

คิดว่าพวกกระเพราเนี่ย เราเด็ดหน้าบ้านได้ พริกไทยมีตากขายตลาดไม่แพง ร้อยปีก่อนยุโรปไม่มีทางได้กินกระเพรา ส่วนพริกไทยอย่างแพง ไว้เหยาะๆ

ดังนั้นสมัยก่อนเลยมีแต่คนรวย ชนชั้นสูงได้กิน เครื่องเทศน์ แรงงานก็กินจืดๆไป มันเลยเป็นความเฉื่อยทางวัฒนธรรม

ส่วนญี่ปุ่นเนี่ย มันติดเกาะ ไม่เปิดให้เอาเครื่องเทศน์ไปขายได้ ไม่มีน้ำตาลด้วยซ้ำ จนเจอเรือดำบังคับเปิดท่า เครื่องปรุงหลักเลยเป็นซอสหมัก อาหารญี่ปุ่นเลยหนักเค็ม

ไทยเรามันเป็นเมืองท่า ที่เครื่องเทศน์อินเดียเจอกับพริกอเมริกาที่โปสตุเกสเอามา ผสมกับเครื่องปรุงและการทำอาหารแบบจีน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

629 Nameless Fanboi Posted ID:9Znq9vijI8

"ถ้ากรุงเทพเป็นบ้านหนึ่งหลัง"
สรุปสั้นๆ หลังจากได้ดูดีเบตผู้ว่าเมืองหลวง จาก The Standard
- ถ้าเลือกวิโรจน์ : มึงจะได้การรื้อโครงสร้างบ้านทั้งหลัง ที่ระยำตั้งแต่อดีตนานมา ไล่มาตั้งแต่โครงหลังคา ยันก้อนหินที่สวนหน้าบ้าน อันไหนพัง อันไหนเน่า รื้อใหม่หมด ใครมาอวดเก่งเบ่งแถวบ้าน แม่งจะฟาดหมด เพื่อผลประโยชน์ของคนในบ้าน ช่างแม่งว่ามึงจะใหญ่มาจากไหน

- ถ้าเลือกชัชชาติ : มึงจะได้การปรับปรุงบ้านชุดใหญ่ จากการศึกษาน๊อตทุกตัว หัวตะปูทุกจุดมาอย่างดี แม้ไม่ได้รื้อ แต่ทำของที่มีให้ดีขึ้น พร้อมประนีประนอมกับทุกฝั่งฝ่าย เพื่อให้งานโฟลว์ที่สุด และมีแผนที่จะพัฒนาบ้านหลังนี้เป็นร้อยๆข้อเย็ดแม่

- ถ้าเลือกพี่เอ้ : มึงจะได้ทายาทไอสไตน์ ที่พูดเก่ง มีประสบการณ์จากการบริหารมหาวิทยาลัย เป็นวิศวกร ทำให้มองโครงสร้างบ้านหลังนี้แล้วเห็นว่าต้องแก้ไขยังไง แผนงานเป็นอย่างไร ยังไม่ชัด เพราะวันนี้ไม่มา แต่เคยฟังแล้วเคลิ้มดี พูดทีน้ำลายฟูฟ่อง สมแล้วพี่..ที่เป็นประชาธิปัตย์

- ถ้าเลือกสกลธีและอัศวิน : ไปแดกขี้

จบ

630 Nameless Fanboi Posted ID:Dj2qgDU4Dw

>>629 ไม่ค่อยจะ ติ่งชัชชาติ เลยครับ

631 Nameless Fanboi Posted ID:xwm/HbEHuy

ดูดีเบท The Standard แล้ว แนวทางวิโรจน์คือกดคนอื่นตลอด ตัวเองเก่ง คนอื่นไม่เก่ง คุณผิดผมถูก เป็นแบบนี้ตลอด

ขอหักคะแนน ไม่ใช่ผู้นำ

632 Nameless Fanboi Posted ID:vUErJkJZIe

>>631 คิดง่ายๆ มึงมาสมัครงาน ถ้ามึงยังไม่คิดว่าตัวมึงถูกกว่าดีกว่าคนอื่น แล้วกูจะเลือกมึงไปทำไมวะ

633 Nameless Fanboi Posted ID:Q+mWWyU3KX

>>631 สตกูว่าแนวทางมันชัดเจนดีนะว่ากูจะเอางี้ คือมันต้องแสดงจุดยืนสิเพราะยังไงทุกคนก็คิดไม่เหมือนกันอยู่แล้วจะให้ไปยอความคิดที่เราไม่เห็นด้วยทําไม กูอยู่เมกามีไรก็พูดเลยไม่ต้องมาอวยก่อนว่า “เอ่อคุณดีนะครับ แต่ตรงนี้กาก แต่คุณก็ยังดีนะครับ…” คืองงคนไทยชอบมีเสต็ปการพูดงี้ คือพูดเพื่อรักษานํ้าใจเหรอ
ส่วนข่มคนอื่นมั้ยกูไม่เห็นจะมองว่ามันข่มใครนะ
กูกับมึงอาจจะมีวัฒนธรรมไม่เหมือนกันม้าง เพราะกูดูไปไม่รู้สึกแบบมึงนะ

634 Nameless Fanboi Posted ID:FuR3mfTRTr

บางคนเขาชอบใช้วิธีที่เรียกว่า shit sandwich หน่ะ ชม-แย้ง-เห็นด้วยแบบที่ >>631 บอก
พอเจอคนที่แย้งจากจุดยืนที่มีความเห็นยึดแน่นและมั่นใจ ก็จะโดนหาว่าสุดโต่งโผ่งผ่างหน่ะ เจอคนแนวนี้ก็ต้องเถียงกันที่ฐานความเห็นกันตรงๆไปเลยหน่ะ

635 Nameless Fanboi Posted ID:StCMs4lhMi

(572) May 14, 2022
#ขับรถช้าๆไม่ได้ช่วยประหยัดน้ำมัน
-ในยุคน้ำมันแพง เห็นหลายคนบนถนนขับรถช้าๆ คิดว่า ขับรถช้าๆ แล้วกัน จะได้ประหยัดน้ำมัน ซึ่งไม่เป็นความจริงครับ ...
-จากข้อมูลการใช้นำมันของเครื่องยนต์ ในการขับรถช้าจะใช้เกียร์ต่ำ ซึ่ง สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่า เกียร์สูง เพราะ เกียร์สูง การใช้พลังงานในการหมุนแกนของเครื่องยนต์ที่เท่ากัน จะหมุนวงรอบของเพลาล้อได้จำนวนรอบมากกกว่า จึงได้ระยะทางมากกว่า ด้วยพลังงานหรือน้ำมันที่ใช้เท่ากัน ... จากรูป จะเห็นว่า ในขณะที่ความเร็วต่ำๆ (ใช้เกียร์ต่ำ) เปลืองน้ำมันมากกว่า และ อีกอย่าง เมื่อความเร็วต่ำ ก็ใช้เวลาในการเดินทางมากกว่า กว่าจะไปถึงที่หมาย นั่นหมายถึง ระหว่างนั้น รถก็ใช้น้ำมันไปตลอดเวลาที่ติดเครื่องอยู่ ... จะเห็นว่า รถติด เปลืองน้ำมันมากกว่า
-การขับรถเร็ว ก็เปลืองน้ำมัน เพราะ หากต้องพยายามทำรอบให้ได้ความเร็วสูงๆ ก็จะต้องเร่งน้ำมัน และใช้น้ำมันมากขึ้น สิ่งที่ทำให้เกิดการสิ้นเปลืองน้ำมันมากคือ การเปลี่ยนความเร็วอย่างรวดเร็ว ... เร่งความเร็วขึ้นอย่างรวดเร็ว จะใช้น้ำมันมากขึ้นในการสู้กับความเฉี่อย และ หากต้องเบรค หรือ ลดความเร็ว อย่างรวดเร็ว ก็เสียพลังงานที่เราใช้ในการทำความเร็วก่อนหน้านั้น ไปโดยไม่เกิดประโยชน์ ... ดังนั้น การขับรถที่เปลืองน้ำมันที่สุด คือ การเร่ง และ เบรค ... ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยง การเร่ง และเบรคบ่อยๆ ถ้าขับรถทางตรง ก็ควรค่อยๆเพิ่มความเร็วรถขึ้นเรื่อยๆ จนใช้เกียร์สูง และ ความเร็วค่อนข้างคงที่ เมื่อถึงเวลาต้องชลอรถ จะได้ไม่ต้องสูญเสียพลังงานไปโดยไม่เกิดประโยชน์
-รถแต่ละคัน ความเร็วที่เหมาะสม ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับกำลังของรถ ถ้ารถกำลังน้อย ความเร็วที่พอเหมาะจะอยู่ที่ 50-90 กม ต่อชั่วโมง แต่ถ้ารถ กำลังสูง ใช้เกียรสูง ที่รอบต่ำๆ ได้ ความเร็วที่พอเหมาะ ก็อาจจะอยู่ที่ 90-120 กม ต่อชั่วโมง ... รถที่มีมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ให้ดู ก็ช่วยได้ครับ เพราะ รอบเครื่องยนต์ช่วงที่ประหยัดน้ำมัน จะอยู่ที่ 2,000 – 3,000 รอบต่อนาที (ยกเว้น hybrid นะครับ ดูแบบนั้นไม่ได้ เพราะเป็นการผสานระหว่างเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันและ มอเตอร์ไฟฟ้าครับ)
-ขับรถช้า ไม่ช่วยประหยัดน้ำมัน ... ขับรถเร็วเกิน เร่งและหยุด ก็เปลืองน้ำมันมาก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

636 Nameless Fanboi Posted ID:WEwBvuHGs4

>>627 ใช่เลยวะ สมศักดิ์เคยพูดถึงเค้าโครงเสรษฐกิจของปรีดีมาหลายครั้งแล้ว ว่ามันมีลักษณะคล้ายกับคอมมิวนิสต์จริงๆ พวกอนุรักานิยมไม่ได้ประสาทแดกแต่อย่างใด แต่รายละเอียดจริงๆของแผนปรีดี ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องเรียกว่าเป็นพวก Syndicalism มากกว่าคอมมิวนิสต์แบบโซเวียต

637 Nameless Fanboi Posted ID:wPpvES3jkO

>>627 อ่านเผินๆแล้วแอบหลอน เหมือนทฤษฎีสมคบคิดนิยายไซไฟ
เกิดMandela Effect ประชาชนหลอนสร้างสมศักดิ์ในจินตนาการขึ้นมาว่าต้องเป็นซ้ายร่าลสามกลีบประชาธิปไตยเสรี แต่จริงๆคนเหล่านี้ไม่ได้หลอนไปเอง แต่ประชาชนเหล่านี้นั้นได้เกิดการ Shift ข้ามจักวาลมาอยู่ในจักรสลาที่สมศักด์โปรรัสเซีย คอมมี่
ส่วนในโลกจักรวาลที่ 11269 นั้นเราจะได้พบกับสมศักดิ์โปรทักษิโมนิกส์ ผ่อนปรนกับเจ้า มาพิมพ์ทรงพระเจริญในเฟสทุกวันพ่อ

638 Nameless Fanboi Posted ID:1YjamibPfS

>>636 ถ้าคิดอีกแง่นี่ปรีดีพยายามจะทำให้เป็นแนวแสกนดิเนเวียไหมวะ? หรือสมัยนั้นwelfare stateเป็นแนวคิดที่ย้งไม่ได้คลอดออกมาจริงๆจังๆ? คือเคยเห็นเอกสารบางแผ่นที่ปรีดีร่วมเสนอสมัยทำคณะราษฎร์นะคอมมี่แน่ๆ ขนาดแผนเศรษฐกิจอ่านๆไปยังรู้เลยว่าคร่าวๆละคอมมี่ ไม่รู้ว่าแผ่นอื่นๆแม่งอธิบายมาตรงๆดูแล้วรู้เลยไหมว่าคอมมิวนิสต์ชัดๆ

639 Nameless Fanboi Posted ID:G5ylhdNPMX

>>638 คอมมี่อะไรวะ สังคมนิยมมากกว่า ในยุโรปหลายประเทศพรรคสังคมนิยมอายุเป็นร้อยปี มีแต่ในไทยในเนี่ยแหละแม่งตัดตอน กลัวเกินเหตุ อะไรที่มันไปต่อไม่ได้มันจะเกิดการปรับตัว เรียนรู้เอง เหมือนพรรคการเมืองในยุโรป คนก็ยังเลือกปกติ

640 Nameless Fanboi Posted ID:G5ylhdNPMX

นับจากการเปิดตัวผู้สมัครครบสองเดือน ผมได้สื่อสารมาโดยตลอดว่าผู้สมัครผู้ว่าฯจำเป็นต้องยืนยันหลักการรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า เพราะผู้ว่ากทม.ไม่ใช่แค่งานบริหารเมือง แต่คืองานต่อสู้เชิงอุดมการณ์ งานของการขยายขอบฟ้าของการต่อสู้ เหมือน นายก อบจ. นายกเทศมนตรี เหมือน ส.ส. ที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่งานตามตำแหน่งที่มอบหมายตามอำนาจระเบียบ
.
เมื่อสองเดือนก่อน ผมเริ่มต้นว่าคุณชัชชาติเป็นผู้สมัครที่ดีที่เริ่มต้นจากการพูดถึงปัญหาของ กทม. ซึ่งเป็นผู้สมัครที่ได้มีโอกาสในการสื่อสารมาก่อน แต่เวลาผ่านไปเมื่อผู้สมัครท่านอื่นได้มีโอกาสแสดงจุดยืนมากขึ้น ผมคิดว่าสิ่งที่เราต้องมองหาคือผู้สมัครที่เห็นปัญหาในกรุงเทพเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างมากกว่าแค่การจัดการปัญหาที่ปลายเหตุ
.
วันนี้หลังจากที่ผมและผู้ผลักดันนโยบายรัฐสวัสดิการหลายท่านพยายามกดดันผู้สมัครหลายทาง ผมคงต้องบอกว่า “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” จากพรรคก้าวไกลมีการตอบสนองต่อเรื่องนี้มากที่สุด ไม่ใช่ว่า วิโรจน์ เก่งหรือ ฉลาดอะไรมากกว่าท่านอื่น แต่เหตุผลสำคัญที่เราก็ยังต้องให้ความสำคัญคือการยืนยันเรื่อง “รัฐสวัสดิการถ้วนหน้า”ผ่าน “ระบบพรรคการเมือง”
.
- วิโรจน์ไม่ใช่แค่พูดเรื่องความเหลื่อมล้ำ แต่วิโรจน์เชื่อในระบบ “รัฐสวัสดิการถ้วนหน้า” ซึ่งปีกแรงงานพรรคอนาคตใหม่- ก้าวไกล พยายามยืนยันมาโดยตลอดผ่านระบบพรรคการเมือง และภาคประชาชนก็ล้วนพยายามผลักดันเรื่องนี้ แม้เทคโนแครตและนักเศรษฐศาสตร์ทั้งหลายพยายามยบอกว่าเรื่องเหล่านี้เป็นไปไม่ได้

641 Nameless Fanboi Posted ID:G5ylhdNPMX

-วิโรจน์ยืนยันว่าปัญหาการใช้ชีวิตในพื้นที่ของเมืองคือการที่นายทุนผูกขาดและถือครองทรัพยากร ซึ่งนั่นส่งผลถึงทั้งการสร้างพื้นที่สาธารณะ ไม่ใช่แค่ทำสวนเพิ่มแต่ต้องลดอำนาจทุนเพิ่มเวลาว่างให้คนทำงาน ที่จะเข้าถึงพื้นที่สาธารณะได้
.
-วิโรจน์ยืนยันว่าเมืองกับรัฐสวัสดิการเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่ว่าอำนาจขอบเขตจะทำได้หรือไม่ แต่การขยายขอบฟ้าของความเป็นไปได้คือสิ่งที่ทำได้ อย่างน้อยก็กล้าพูดว่าจะทำ ไม่ทำให้เรื่องรัฐสวัสดิการเป็นเรื่องเทคนิคซับซ้อนที่ปัดตกด้วยการบอกว่า ”อยู่นอกเหนืออำนาจ” ศูนย์เลี้ยงเด็กคุณภาพเท่าโรงเรียนอินเตอร์ เงินเลี้ยงดูเด็กถ้วนหน้า ระบบบำนาญถ้วนหน้า เก็บภาษีก้าวหน้าชนชั้นปรสิตที่เกาะกินเมือง คือสิ่งที่เขายืนยันในนโยบาย เขาอยากให้คนแก่ได้พัก ได้ใช้ชีวิต ได้เที่ยว ไม่ใช่ให้คนแก่กลับไปสู่ตลาดแรงงาน อยากให้เด็กได้ทำตามฝันและเมื่อผิดพลาดก็ล้มบนฟูก และเขาก็ขัดขืนต่ออำนาจเผด็จการอย่างเด่นชัดในฐานะประชาชนคนหนึ่ง
.
- วิโรจน์เชื่อในระบบพรรคการเมือง ถ้าประชาชนยังกลัวว่านักการเมืองโดนพรรคการเมืองหลอกใช้ และมองหาเพียงแค่การแก้ปัญหาที่ดู”เป็นไปได้” ขอบฟ้าของความเป็นไปได้ของเราก็จะแคบลงเรื่อยๆ เหลือแค่เรื่องเล็กจิ๋วเช่น มีถังขยะ3สี มีไฟมีห้องน้ำในสวนสาธารณะแต่ไม่มีคนใช้ มีรถไฟฟ้าเต็มเมืองแต่คนไม่มีเงินขึ้น

ผู้ว่ากทม.ที่ทำงานผ่านระบบพรรคการเมือง นโยบายหาเสียงระดับท้องถิ่น จะผูกพันกับนโยบายเลือกตั้งใหญ่ผ่านพรรคการเมือง การเปลี่ยนแปลงเรื่องรัฐสวัสดิการคือการเปลี่ยนในระบบโครงสร้าง ทั้งในระดับท้องถิ่นอย่างตำบล ถึงการบริการประเทศ ต้องอาศัยพรรคในฐานะอุดมการณ์ การยืนยันนโยบายและความเป็นไปได้ตั้งแต่ พรรคอนาคตใหม่ 3 ฐานราก กระจายอำนาจ ปฏิรูปการศึกษา รัฐสวัสดิการ แม้ ส.ส. พรรคนี้จะได้เรื่องบ้าง ไม่ได้เรื่องบ้าง แต่จุดยืนของพรรคนี้ มีผู้คนมากมายที่เอาชีวิตและความฝันสู้เพื่อมัน
.
เราไม่แบกเสลี่ยงให้ใครนั่ง หากจบการเลือกตั้งพรรคก้าวไกลหันหลังให้กับรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า ผมและประชาชนก็พร้อมประจานรายคนไม่สนหน้า แต่เราจะทำแบบนั้นไม่ได้กับพรรคการเมืองหรือผู้สมัครที่ไม่เคยสัญญาเรื่องปากท้องของคนกรุงเทพผ่านความเท่าเทียมจากฐานราก
.
นอกจากนี้คนที่ทำงานเบื้องหลังวิโรจน์ที่ผมต้องให้เครดิต ฝ่ายสื่อสาร ที่ดูสคริปต์ ลงพื้นที่ เคาะประตูกับวิโรจน์ หาทางสื่อสารนโยบาย และผลักดันให้เรื่องรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าถูกหยิบยกและตอกย้ำในแคมเปญนี้ คือ นักศึกษาที่เก่งที่สุดคนหนึ่งที่ผมเคยสอน ลูกแรงงานอพยพในเมืองหลวง ผู้หญิงที่มีความฝัน เพื่อความเท่าเทียม-รุ่งรวิน แสงสิงห์ Rungrawin Sangsingh บางคนอาจบอกว่า แก่จนอายุจะสี่สิบ ทำไมมาฟังเด็กยี่สิบต้นๆ ก็ด้วยเหตุผลเดียวคือ ถ้าหูเราไม่ฟังคนรุ่นใหม่ ไม่ฟังความเป็นไปได้ใหม่ๆ เราจะต่างอะไรกับคนรุ่นเก่าๆที่เราเกลียด
.
ในส่วนตัวผม. วิโรจน์ เปลี่ยนไปเยอะนับจากที่ผมรู้จักเขาครั้งแรกเมื่อ 12 ปีก่อน ฐานะตอนนั้น เขาเป็น HR ผมเป็นแรงงาน กระทั่งไม่กี่สัปดาห์ก่อนผมพบเขาโดยบังเอิญ ประโยคแรกที่เขาพูดกับผมคือ “อาจารย์... ไม่ว่าอย่างไร ผมเชื่อว่ารัฐสวัสดิการถ้วนหน้าไม่ว่าในระดับไหน ทำได้ทันที และผมจะทำทุกทางที่ผมมี”
.

ผมพูดถึงจุดนี้ มันไม่จบที่การเลือกตั้งครั้งนี้ และถ้าผมมี 1 เสียง ผมจะเอาเสียงของผมให้แก่คนที่เชื่อในสิ่งเดียวกับผม มันอาจไม่สำเร็จ ในครั้งนี้ แต่มันจะตอกย้ำ ซ้ำไปอีก ว่า รัฐสวัสดิการถ้วนหน้าคือภาษาของการต่อสู้ จะปักธงชัยของเราให้ได้
.
การเลือกตั้งเป็นสิทธิของทุกคนที่เท่ากัน
วิโรจน์ อาจจะแพ้หรือชนะผมไม่ทราบ แต่การโหวตผู้สมัครที่ ต่อต้านเผด็จการเด่นชัด ขณะที่เด็กๆของเรายังถูกคุมขัง และอดข้าวประท้วง ผู้สมัครที่เชื่อมั่นในรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าว่าทำทันทีได้ จะเป็นก้าวสำคัญอีกก้าวที่ทำให้
.
“รัฐสวัสดิการถ้วนหน้าชนะ”

642 Nameless Fanboi Posted ID:tiz0kIWnFm

>>639 งั้นปรีดีหนีไปอยู่กับประธานเหมาได้ไงวะ ถ้าไม่ใช่คอมเหมือนกัน?

643 Nameless Fanboi Posted ID:NbLJmQsmdR

เลือกวิโรจน์​ได้คอมมี่สินะ

644 Nameless Fanboi Posted ID:O2LM/G08pc

IO ส้มช่วงนี้ทำงานหนักจังวะ

645 Nameless Fanboi Posted ID:40Kv99HGEY

>>642 เหมา ไม่ใช่คอมมี่สายหลัก เหมาคือเหมา

646 Nameless Fanboi Posted ID:7Cr5IxYn00

>>645 ตะ ตะ แต่ Maoismนี้เหี้ยกว่าสายหลักอีกนะ พอๆกับStalinism

647 Nameless Fanboi Posted ID:rF/hIftZdC

เผอิญพรรคส้มใช้วิธีการเดียวกับเหมาด้วยนะ ถถถถ

648 Nameless Fanboi Posted ID:7Cr5IxYn00

>>639 สังคมนิยมที่ดี คือระบอบชาติสังคมนิยม ขอบคุณครับ

649 Nameless Fanboi Posted ID:2D7bXRo4mx

ระบบยุโรปเหนือที่เห็นทุกวันนี้ มันเพิ่งเกิดหลัง ww2 เองนะ ถ้ากุจำไม่ผิด เหมือนมีคนอวย PD ด้วยว่าคิดอะไรล้ำหน้าเกินไปจนคนร่วมสมัยเดียวกันตามไม่ทัน เค้าโครง ศก. เลยถูกตีความว่าเป็นคอมมี่ไป

650 Nameless Fanboi Posted ID:Ik0uOXMzhS

>>649 ครับพี่ยึดธุรกิจคนรวยให้รัฐมาทำเองล้ำหน้าสัดๆ

651 Nameless Fanboi Posted ID:EqdWHuDtFe

สวีเดนแม่งขายกิจการไปรษณีย์ให้เอกชนไปทำอ่ะ
Socialismบ้านป้ามึงขายกิจการรัฐให้นายทุน เลือกเอาพวกยุโรปมาอ้างได้แล้วเวลาอยากจะเลียไข่ไอ้มากซ์

652 Nameless Fanboi Posted ID:YQSl5OD3NT

>>650 ธุรกิจคนรวยของไทยแม่งผูกขาดไง อย่าง ร้านของชำ หรือ รถไฟฟ้า หรือ เครือข่ายมือถือ พวกนี้ควรคืนกลับไปเป็นของรัฐ จะได้มีราคาถูกให้ประชาชนใช้ ประชาชนจะได้มีเงินเก็บ แล้วก็น้ำมันก็ด้วย ผูกขาดโดยสถาบัน ดูผู้ถือหุ้นสิ

653 Nameless Fanboi Posted ID:L.z1cnOs0O

>>652 ไปดูโครงสร้างราคาน้ำมันก่อนนะ ความรู้น้อยแต่อยากแซะเจ้า

654 Nameless Fanboi Posted ID:wCGo8xSJCz

ประเทศนอร์ดิก: ไม่เคยเคลมว่าประเทศตัวเองเป็นสังคมนิยม มีระบบทุนนิยมแข็งแกร่ง
พวกเบียวอยากเป็นนักปฏิวัติ: ว้าวดูสิ นั่นคือตัวอย่างของสังคมนิยม เห็นไหมว่าแนวคิดของพวกเรามันดีที่สุดในโลก

เวเนซุเอล่า เกาหีเหนือ: เคลมว่าตัวเองเป็นสังคมนิยม ภาครัฐควบคุมทรัพยากรมากกว่าเอกชน
พวกกระสันบูชามาร์กซ์: ม่ายรุ ม่ายจิ๊ ม่ายเหน ม่ายช่ายสุงคังนิยมที่แท้จริงงงงงงงง

655 Nameless Fanboi Posted ID:YQSl5OD3NT

>>653 ราคาน้ำมัน ต้นทุนเริ่มต้น 30% ปตท.เอาไป 40% เจ้าเอาไป 10% ที่เหลือค่อยเป็นภาษีให้รัฐ

656 Nameless Fanboi Posted ID:7k2Q3Dv+/a

>>654 งั้นถ้ากูอยากได้แบบนอร์ดิก ก็อย่ามาด่าว่ากูเป็นเบียวซ้ายล่ะ อ่อ นอร์ดิคก็ยังมีเจ้านะ ทำไมสลิ่่มเบียวทหารมันแอนตี้กันจังล่ะ

657 Nameless Fanboi Posted ID:Ur6fBFTsAj

>>656 นอร์ดิกไม่เห็นสลิ่มแอนตี้นี่ แค่ชอบถามว่าพร้อมจ่ายภาษีหนักแบบนั้นรึเปล่า

658 Nameless Fanboi Posted ID:7k2Q3Dv+/a

>>657 ก็แอนตี้ด่าคนที่อยากให้เป็นแบบนั้นอยู่นี่ มีตัวอย่างดี ๆ ไม่เอา เสือกอยากเป็นแบบจีน ที่เรียกตัวเองว่าคอมมิวนิสอ่ะ ก็ย้อนแยงเหมือนกันนะเราอ่ะ 555

จ่ายภาษีหนักเนี่ยคือคนรวยนะที่จ่ายหนัก รายได้ต้องเกินระดับนึงถึงต้องจ่ายเพิ่ม มี safety net ไม่ใช่หักจนคนไม่มีจะกิน

659 Nameless Fanboi Posted ID:rF/hIftZdC

กูเคยถามว่าพร้อมจ่ายภาษี 20-30% กันไหม แม่งบ่ายเบี่ยงตลอด แค่ 7% แม่งยังบ่นกันยับเล้ย จะเอาอะไรไปรอด

660 Nameless Fanboi Posted ID:OBukCa6od.

>>659 โอ้ พ่อคนรวยหัวควย

661 Nameless Fanboi Posted ID:7k2Q3Dv+/a

>>659 บ่ายเบี่ยงตรงไหนวะ ก็เอามาสิ แค่ภาษี ทุกวันนี้ก็เข็นภาษี มีสวัสดิการอะไรเพิ่มรึยังวะ นอกจากคนละครึ่งที่ควรจะเอาไปลงตรงส่วนอื่นมากกว่า แต่กูก็งงนะ สลิ่่มเกลียดสวัสดิการสมัยทักษิณ เสือกอวยคนละครึ่ง 5555

662 Nameless Fanboi Posted ID:Ik0uOXMzhS

>>655 https://www.energynewscenter.com/เปิดโครงสร้างราคาน้ำมั/

เอาไปศึกษาก่อนนะ

663 Nameless Fanboi Posted ID:rF/hIftZdC

>>661 งั้นเริ่มจากเลิกตรึงภาษี 7% ให้กลับไปเป็น 10% เลยละกัน เอาป่ะ

664 Nameless Fanboi Posted ID:nFztAkcrtg

>>658 ถ้ามึงนับ VAT คือภาษี ในนอร์ดิคจ่าย 25% หมดนะ ยกเว้นหินปลนด์ที่ 24% แปลว่ารวยจนก็จ่าเท่ากันตรงนี้

>>661 สมัยแม้วไม่เรียกสวัสดิการนะ เขาเรียกว่าประชานิยม แม้แต่คนพท.เองยังไม่ใช่คำว่ารัฐสวัสดิการเลย ยกเว้นเรื่อง 40 บาทเรื่องเดียวที่เป็นรัฐสวัสดิการเต็มขั้น

แล้วมันก็จะวนกลับมาที่คำถามเดิม เราควรเก็บภาษีสูงก่อนจะมีรัฐสวัสดิการหรือมีรัฐสวัสดิการก่อนค่อยเก็บภาษีสูง กูอยากให้เก็บภาษีล่วงหน้าก่อน อย่างน้อยมันจะได้มีเงินไว้ทำงบในปีถัดไป หรือคำนวนได้ถูกว่าได้งบเท่าไหร่

665 Nameless Fanboi Posted ID:hPSr7p5Ird

ไม่ควรทำเป็นรัฐสวัสดิการไม่ได้ถ้าไม่มีตังค์ จบง่ายๆ แค่นั้นแหละ
ส่วนภาษีถ้าเก็บจากคนตรงๆ มันทำรัฐสวัสดิการไม่ได้หรอก คนเกิดน้อยลง จะเอาอะไรมาหนุน มันต้องมีธุรกิจอื่นที่ทำเงินเป็นตัวหลักก่อน

แต่ถ้าบ่นพวกเรื่องถนนพัง อันนั้นถ้าอยากให้ดีขึ้น มันต้องเก็บเพิ่มอ่ะแน่นอน แต่เป็นลักษณะภาษีบังคับจ่ายให้ไปอยู่ในส่วนท้องถิ่นตรงๆ นะ จะได้เบิกจ่ายไว แต่เรื่องนี้อันดับแรกมันต้องไปแก้เรื่องกฏบังคับเรื่องทะเบียนบ้าน ที่เวลาพวกมาเช่าหอ เช่าคอนโด ไม่โดนบังคับย้ายทะเบียนให้ได้ก่อน ไม่งั้นเก็บไม่ถูกตัวอีก

666 Nameless Fanboi Posted ID:ZxB+3M04zx

>>663 ก็มาดิ เอาสวัสดิการมาให้กูด้วยนะ

>>664 งั้นกูตีให้ว่าภาษีมันสูงกว่าไทย 4 เท่า สวัสดิการไทยมันได้ 1/4 ของเขามั้ยว่ะ

ที่เห็นว่าดีกว่ากูให้ 30 บาท ที่ทำมาเป็น 10 ปี แล้ว ซึ่งก็ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า มันทำไม่ได้ตรงไหนวะ

667 Nameless Fanboi Posted ID:YQSl5OD3NT

>>663 ได้นะ ถ้าไม่เอา vat ไปลง งบสถาบัน

668 Nameless Fanboi Posted ID:ZxB+3M04zx

>>665 ควรไปแก้เรื่อง จ้าง 10 เบิก 100 น่าจะตรงจุดกว่ารึเปล่า

669 Nameless Fanboi Posted ID:2D7bXRo4mx

>>664 บ้านเราใช้รัฐสวัสดิการเต็มขั้นไม่ได้หรอก เงินไม่พอ ต้องทำแบบค่อยๆ ทำนั่นละ ค่อยๆ ต่อยอดกันมา

ยุคบรรหารมี กยศ. (ถึงจะไม่เรียนฟรี แต่เงินกู้ดอกก็ถูกมากๆ จนหลังจากนั้นสัดส่วนคนเรียนมหาลัยเพิ่มแบบพรวดๆ เลย จนกลายเป็นปัญหา ป.ตรี ล้นตลาดนี่แหละ) แม้วมี 30 บาทกับกองทุนหมู่บ้าน (แก้ปัญหาพวกป่วยแล้วไม่มา รพ. จนอาการหนักยิ่งเป็นภาระลูกหลาน หรือต้องล้มละลาย รวมถึงลดการกู้นอกระบบ) มาร์คมีเรียนฟรี 15 ปี (ถึงจะไม่ฟรีทุกอย่าง แต่ก็ลดค่าใช้จ่ายได้ส่วนหนึ่ง) มายุคตู่มีบัตรคนจน (อันนี้มีข้อถกเถียงแหละ เรื่องคนจนไม่ได้ คนได้ไม่จน ถัาทำ Big Data ได้ก็น่าจะลดปัญหานี้ได้มั้ง)

หลังจากนี้ควรมีอะไรต่อดีล่ะ?

670 Nameless Fanboi Posted ID:hPSr7p5Ird

>>668 สมมุติมึงเป็นเจ้าของร้าน แต่มีคนมาขอซื้อของโดยการผ่อนจ่ายเป็นงวด เริ่มจ่ายเงินอีกทีปีหน้า แล้วมึงต้องทำเอกสารอีกหลายแผ่น แถมรายการทุกรายการที่มึงขายต้องโดนภาษีเต็มจำนวน มึงขายของ 10 บาท มึงจะคิด 10 บาทเหรอ

ปัญหาคือ การเบิกจ่ายจากศูนย์กลางช้า เบิกแล้วไม่ได้เต็มจำนวนไงล่ะ ที่แบบ ตปท. เอง เค้าเลยแยกให้ถ้องถิ่นเก็บภาษีส่วนนี้แยกต่างหาก จะได้ตัดปัญหาไป

671 Nameless Fanboi Posted ID:YQSl5OD3NT

>>666 ปย โกงกินมาหลายปีแล้ว แถมมีงบให้เจ้าด้วย เหลือให้ประชาชนนิดเดียว

672 Nameless Fanboi Posted ID:ZxB+3M04zx

>>670 แล้วมึงจะคิด 100 เลยเหรอ ?

ประเทศเหี้ยนี่ปัญหาแม่งอยู่ที่ ประสิทธิภาพของข้าราชการไปสัก 60%+ แล้วไม่ใช่ว่าแก้ไม่ได้ด้วยนะ กูว่าคนไทยส่วนใหญ่ ต่อให้ไม่ได้ทำงานราชการ แต่ถ้าเคยติดต่อก็ควรจะรู้นะว่าทำงานกันเหี้ยแค่ไหน จัดการตรงนี้ได้ ภาครัฐจะได้เงินขึ้นมาอีกเยอะ

แต่ ขรก ชั้นผู้ใหญ่จะเดือดร้อนเยอะ เลยปล่อยไป อ้างไม่มีงบแทน ง่ายกว่า

673 Nameless Fanboi Posted ID:999gg7RFZT

>>665 เรื่องถนนพังกูไม่คิดว่าต้องจ่ายเพิ่มอะไร แค่ทำให้มันได้มาตรฐานก็พอ ที่มันพังไวหลักๆ คือสร้างเหี้ยมากกว่า

>>666 มึงนับเรื่องสวัสดิการยังไงว่าต่างกันกี่เท่า นิยามตรงนี้มาก่อน กูจะได้หาข้อมูลถูก

>>669 ควรลงงบการศึกษาเพิ่ม เพราะมันเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากเกินความจำเป็น แต่ต้องแลกด้วยการยุบรวมรร.เล็กๆ เข้ามาเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ในจุดนี้รวมถึงการยกระดับคุณภาพครูด้วย อีกอันคือสวัสดิการแม่และเด็กก่อนวัยเรียน ยังไงก็ควรสนับสนุนตรงนี้

ในด้านการศึกษากูมองว่าควรให้ทุกสัญชาติ โดยเฉพาะในแถบชายแดน เพราะกูชอบสาย cultural victory ส่วนแม่และเด็กเอาเฉพะคนไทยก็ได้ แต่ถ้าเงินเหลือก็ขยายไปทุกสัญชาติเถอะ จะได้กลืนรอบด้านมาเป็นคนไทยแทนที่ลดลงไปด้วย

>>672 อันนี้ก็จริง แต่ประสิทธิภาพขรก.กับภาษีที่เก็บได้มันคนละส่วนกันนะ เพราะเงินมันไม่พอแต่แรก ยกเว้นมึงจะด่าสรรพากรว่าไม่ทำงาน ถึงมีเศรษฐกิจนอกระบบสูงมากแบบตอนนี้

674 Nameless Fanboi Posted ID:hPSr7p5Ird

>>672 100 บาท คือมึงพูดเองนะ

แต่ขายของกับราชการคิดเฉพาะทุน กุบอกเลยว่าเจ๊งนะ โดยเฉพาะถ้าบริษัทมีเงินทุนหมุนไม่มาก กว่าจะจ่ายทีนานโคตร ต้นทุนก็โคตรแพง ค่าพี่แมส ค่านักบัญชีวางบิล นักกฏหมาย ค่าน้ำมัน แล้วคุยกันกี่รอบทำเอกสารกี่ครั้ง มันถือเป็นต้นทุนหมด ไม่ใช่ขายหน้าร้านจบอะไรแบบนี้

675 Nameless Fanboi Posted ID:ZxB+3M04zx

>>674 ก็ทุกวันนี้แม่งเบิกงบเกินไปตั้งกี่เท่า มึงพูดอย่างกะมันเอาแค่ 5 บาท 10 บาท เหอะๆ

676 Nameless Fanboi Posted ID:2D7bXRo4mx

>>673 ยุบรวมนี่ ต้องทำเป็น ร.ร. ประจำ ด้วยนะ ไม่งั้นมีปัญหาเรื่องเดินทางอีก ส่วนเรื่องดึงต่างชาติเข้าไทย ต้องแก้อคติสังคมกันอีกยาว ภาคเอกชนอยากให้การจ้างแรงงานต่างด้าวทำได้ง่ายๆ แต่ก็โดนความกลัวความระแวงน่ะ พวกเมืองชายแดนไม่เท่าไรหรอกชินแล้ว แต่เมืองขั้นในๆ นี่ละ ขนาดสมุทรสาคร คนที่อยู่ จว. ข้างๆ ยังมองในแง่ลบเลย

677 Nameless Fanboi Posted ID:ZxB+3M04zx

ตบง่ายๆ วัสดุก่อสร้างชนิดหนึ่ง ต้นทุน 5 บาท

ขายหน้าร้าน 10 ราชการเบิก ชิ้นละ 40

ย้ำ 2 คำ คือคำว่าเบิก และคำว่าชิ้นละ

ร้านได้ตกชิ้นละ 20-25 ที่เหลือหายไปไหน มีสมองคงพอคิดได้

678 Nameless Fanboi Posted ID:ZxB+3M04zx

โดยเฉพาะงานก่อสร้าง แม่งฮั้วประมูลกันเล๊ะ ได้ทั้งผู้รับเหมา ได้ทั้งหน่วยงาน ปัญหาแม่งไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงิน หรืองบหรอก เหอะๆๆ

679 Nameless Fanboi Posted ID:hPSr7p5Ird

>>677 แหมทำยังกะราชการบัญชีรายจ่ายไม่ต้องแสดงเลยนะมึง

680 Nameless Fanboi Posted ID:ZxB+3M04zx

>>679 แสดงให้ใครดูเหอะ 5555 ไม่งั้นมันจะมีหลุดมาเป็นข่าวเหรอ แล้วนั้นน่ะส่วนน้อย

681 Nameless Fanboi Posted ID:ZxB+3M04zx

เอาแค่ก่อสร้างถนนหน้าบ้านมึงก็ได้ ถ้ามึงหาได้น่ะนะ ไปดูเอาแล้วกันว่าซื้ออะไรไปเท่าไหร่บ้าง ส่วนใหญ่แม่งก็ให้คนมาดูแค่เลขกลม ๆ กูอยากรู้จัง มึงไปดูบัญชีรายจ่ายข้าราชการที่ไหน

682 Nameless Fanboi Posted ID:nFztAkcrtg

>>676 กูคิดว่ารร.ประจำเป็นสิ่งจำเป็นเลยละ เพราะตจว.ไทยยังไม่ใช่สังคมเมืองเต็มขั้น แต่เด็กไม่ขอบหรอก ถึงพ่อแม่อาจจะดีใจที่มีคนช่วยเลี้ยงลูกให้ฟรีก็เถอะ ถ้าจะทำก็ต้องอัดงบตรงนี้เพิ่มให้ด้วย ซึ่งกูไม่ขัด

การกลืนขาติเป็นสิ่งจำเป็น มันค่อยๆ เปลี่ยนได้ อย่างน้อยตอนนี้กูก็เห็นคนต่างด้าวมาทำงานไทยแล้วมีลูกหลานเรียนรร.ไทยอยู่หลายคน ที่คนกลัวคือรุ่นแรกมากกว่า พอรุ่น 2 ไปคนจะเริ่มไม่ค่อยกลัวแล้ว

>>680 เลื่อนขึ้นไปตอบ>>673 หน่อยได้มั้ยว่างบสวัสดิการที่มึงว่าต่างกันเกิน 4 เท่านี่นับยังไง กูอยากรู้

>>681 ในเมื่อดูไม่ได้แล้วทำใมมึงรู้ดีจัง

683 Nameless Fanboi Posted ID:ZxB+3M04zx

>>682 แค่ตีเลขให้กลม ๆ กูแถมให้ 10 เท่ายังได้ สวัสดิการเราได้ 1/10 เขาป่าว

มึงเดาเอาเองแล้วกันว่าอยากให้กูทำอะไร ร้านวัสดุ ผู้รับเหมา ข้าราชการ เอาจริง ๆ มึงมีญาติหรือเพื่อนที่ทำพวกนี้ลองไปถามดูก็ได้นะว่าจริงมั้ย

684 Nameless Fanboi Posted ID:hPSr7p5Ird

>>681 **ระยะเวลาดำเนินการ จะหมายรวมถึง ระยะเวลาบริหารสัญญาและการรับประกันความชำรุดบกพร่อง อันนี้แหละที่ทำให้แพง มีกี่ก่อสร้างที่ทำได้หว่า

แต่การจัดซื้อจัดจ้างไม่ได้ปิดนะ ปรกติตามเว็ปหน่วยงานต่างๆ มีแปะไว้ บางที่ก็ส่งไป gprocurement ลองเข้าไปดูอะไรที่มีราคากลางแบบระบบคอม ราคาก็ไม่เห็น 10 เท่าตรงไหน บางอันทำเว็ป 8 แสน อันนี้ถูกสัดด้วยซ้ำ

>>683 ถ้ามึงจ่าย 0 อยู่แล้ว จ่าย 10 เท่ามันก็เก็บได้ 0 บาทอ่ะ สวัสดิการจะมีได้ตรงไหนวะ ถ้ามึงจ่ายปีละล้านเท่าเค้าอ่ะทำได้ แต่ด้วยอัตราที่จำนวนคนต่อสวัสดิการเท่ากันเป๊ะๆ ด้วยนะ

685 Nameless Fanboi Posted ID:nFztAkcrtg

>>683 มึงสามารถให้อะไรที่นับเป็น objective ได้มั้ย จะได้คุยกันรู้เรื่อง

กูรู้ละว่าจริง แต่กูไม่รู้ตัวเลข แต่ถึงยังไงมันก็ไม่ถึงขั้น 10 เบิก 100 แบบมึงว่าหรอก

มึงสามารถคุยอะไรที่เป็นตัวเลขจริงได้มั้ย เพราะที่คุยกันมามีแต่มึงบอกให้เชื่อตัวเลขมึงคนเดียวเลย แต่มึงก็ไม่เคยให้ตัวเลขจริง แล้วมันจะคุยรู้เรื่องกันได้ไง ในเมื่อมีแค่มึงคนเกียวที่พูดถูก

686 Nameless Fanboi Posted ID:nYO85ZSuVd

>>684 ไอ้จัดซื้อจัดจ้างมันไม่ได้ปิดอยู่แล้ว แต่ถ้าให้กูอธิบายแบบคร่าว ๆ

มึงไปดูเทียบกับในเว็บเลยก็ได้ ส่วนใหญ่จะเป็น <ชื่อวัสดุ> หรือชื่อโครงการ ตามด้วย <งบประมาณ> แต่ถามว่า ซื้อไปกี่ชิ้น ชิ้นล่ะเท่าไหร่ มันไม่ได้ลงละเอียดลึกขนาดนั้น อยู่ที่ตัว ข้าราชการ สำหนัก หน่วยงาน กรม ไหนจะทำยังไง ทำดีรึเปล่าก็ไม่รู้ ไม่ได้บอกว่าจะเป็นทุกที่ แต่แค่นี้มึงก็น่าจะเห็นช่องโหว่แล้วรึเปล่า

>>685 กูเอาของจริงมาลงโม่งก็แตกสิวะ ไม่อยากเชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ แต่เรื่องข้าราชการทำงานส้นตีนนี่กูไม่เคยคิดเลยว่าต้องอธิบายด้วยว่าเหี้ยยังไง

687 Nameless Fanboi Posted ID:nFztAkcrtg

>>686 เอาแค่เรื่องนอร์ดิคก็ได้ ในเมื่อมึงมั่นใจตัวเลขนักว่าดีกว่าไทย 10 เท่า มึงก็ต้องบอกได้สิ

688 Nameless Fanboi Posted ID:rs9iWL+6hR

>>687 ก็ตามที่ไอ้ >>684 บอกไง ถ้าสวัสดิการเรามี 0 คูณ ไป 10 มันก็ไม่เท่าเขาอ่ะนะ

กูล้อเล่น มึงไปเซิจกูเกิลเทียบเล่น ๆ เองเหอะ กูขก หามาป้อน จริง ๆ มันก็ถึงอยู่หรอกถ้าเรานับพวก 30 บาท กับประชานิยม แต่คนไทยเราบอกมันไม่ใช่สวัสดิการไง มันจะไปเทียบอะไรเขาได้ล่ะ

689 Nameless Fanboi Posted ID:V2cloL+fMD

https://imgur.com/SfafT5C

690 Nameless Fanboi Posted ID:nFztAkcrtg

>>688 30 บาทเป็นรัฐสวัสดิการอยู่แล้ว ไม่เคยมีคนพูดว่าไม่ใช่นะ แต่อย่างพวกจำนำข้าวนี้เป็นประชานิยมแน่นอน

ก็ว่าอยู่แล้วว่ามึงให้ตัวเลขไม่ได้ กูไม่ว่าไรคนอยากได้รัฐสวัสดิการนะ กูก็อยากได้และสนับสนุน แต่ไม่ใช่บอกว่ามีงบพอแน่นอนแต่ให้ตัวเลขอะไรไม่ได้เลย

691 Nameless Fanboi Posted ID:Eyqgb3uoH2

>>690 เป็นสมัยทักษิณมึงก็คงคิดว่าไม่มีเงินทำ 30 ดิงั้น 55

692 Nameless Fanboi Posted ID:nFztAkcrtg

>>691 มันทำได้ แต่ไม่ได้ยั่งยืนแบบที่มึงคิด หมอหงวนที่เป็นคนคิด 30 บาทก็เคยพูดเรื่องนี้และหาทางแก้ด้วยการร่วมจ่าย แต่แกตายก่อน 30 บาทเลยมีการเปลี่ยนแปลงแค่ครั้งเดียวคือสมัยมาร์คที่ไม่เก็บ 30 บาทแล้ว เปลี่ยนแปลงมากจริงๆ

เอาจริงถ้าไทยอยากจ่ายทุกอย่างแบบนอร์ดิควันนี้เลยก็ทำได้นะ เงินมีพอจ่ายได้ แต่จะจ่ายได้นานแค่ไหนนี่อีกเรื่อง มันถึงต้องเก็บภาษีเพิ่มเพื่อให้จ่ายได้ตลอด

กูไม่แน่ใจว่านอร์ดิคนี่เก็บภาษีก่อนแล้วค่อยมีสวัสดิการหรือกลับกัน มึงที่เหมือนจะรู้ไปทุกเรื่องพอรู้มั้ย

693 Nameless Fanboi Posted ID:V1zLeNIIZw

>>692 ไม่ได้ยั่งยืน แต่มันก็เปลี่ยนจนอยู่ได้ทุกวันนี้อ่ะนะ

กูแค่บอกว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่งบ แต่อยู่ที่การใช้งบของราชการ ผูกใจจับจนตามแซะนี่พ่อมึงเป็นข้าราชการรึไงวะ กูเกิ้ลอยากรู้ก็ไปหาเอง

694 Nameless Fanboi Posted ID:Pod7zeAhJa

>>693 30 บาทมีคนพูดเรื่องงบไม่พอมานานแล้ว แล้วที่มันอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะงบต่อหัวต่ำมาก เวลาไทยได้คะแนนพวกนี่เยอะก็มาจากตรงนี้ละ แต่ถึงเวลามันก็ต้องเพิ่มงบตามไปด้วย

กูแย้งตรงนี้ละว่างบมันไม่พอแต่แรก มันมีที่ใช้สิ้นเปลืองไม่ก่อเกิดประโยชน์เท่าที่ควรจริง แต่โดยพื้นฐานแล้วงบมันไม่พอ มันต้องเพิ่มภาษีเพื่อทำให้สวัสดิการมันอยู่ได้ตลอด

ถ้ามึงบอกอยู่ที่การใช้งบขรก. แล้วทำใมนอร์ดิคถึงต้องเก็บภาษีสูงมากละ ทำใมมึงไมาไปสอนประเทศพวกนั้นว่าไม่ต้องเก็บภาษีเยอะก็ได้ แค่ให้ขรก.ใช้อย่างฉลาดและไม่โกงก็พอ

ในเมื่อมึงยกเรื่องนี้มาเถียงเองว่ามันดีแบบนี้แบบนั้นนะ แล้วทำใมกูต้องกูเกิ้ลหาเองละ มึงนั่นละควรเป็นคนเอามาแปะ

695 Nameless Fanboi Posted ID:7k2Q3Dv+/a

>>694 งบไม่พอ แต่มีงบทำงานศพ งบทำรายภักดิ์อย่างละ 1000 ล้าน ? อยู่ ๆ ก็มีงบทำคนละครึ่งในช่วงโควิดเนี่ยนะ บอกไม่มีงบ ถุ้ย แล้วมึงก็จะบอกมันเป็นงบคนละส่วน ซึ่งก็ใช่ไง กูถึงบอกว่ามันอยู่ที่การใช้งบ แล้วไทยมันไม่ใช่งบน้อยขนาดนั้น กูไม่ได้บอกนะว่าใช้น้อย ที่กูจะสื่อคืองบจะทำ ไทยมันมีอยู่แล้ว

พวกมึงชอบดูข้อมูล misleading โง่ ๆ หลอก ที่บอกว่าเสียภาษีเยอะ ๆ อ่ะ เพราะมันหักภาษีไปจากเงินเดือน แต่บ้านเรามันหักภาษีจากบริษัทไปทีเดียว เหมือนเวลาที่เขาขึ้นภาษีนำเข้าแล้ว บริษัทนอกก็ขึ้นราคา แล้วพวกมึงก็เป็นคนจ่ายแพงอยู่ดีอ่ะ เงินภาษีที่หักจากบริษัทไป ก็คือเงินที่ควรจะเป็นเงินเดือนของพวกมึง ถูกหักไปจ่ายเป็นภาษีเงินได้นิติบุคคลไปแล้ว แล้วมึงช่วยไปดูกันด้วย ว่าภาษีนิติบุคคลไทยได้ปีละเท่าไหร่

ย้ำอีกครั้ง กูไม่ได้บอกว่าใช้งบน้อย กูบอกว่าไทยมีงบพ่อ แค่เอาไปบริหารให้มันดีกว่านี้ ซึ่งแม่งก็เป็นไปไม่ได้หรอก

ขนาดตอนทักษิณปรับให้ระบบข้าราชการได้งบตามผลงาน จับต้องเป็น objective ได้อย่างที่พวกมึงต้องการเลย หน่วยไหน ทำงานได้น้อย เอางบน้อย เดือดร้อนกันทั้งแผ่นดินจนไปร่วมกันไล่ออก กลับมาทำเช้าชามเย็นชามเหมือนเดิม ตัวถ่วงประเทศไทยจริง ๆ ไม่ใช่ หลิ่ม ไม่ใช่สามกลีบหรอก ข้าราชการเนี่ยแหละ

696 Nameless Fanboi Posted ID:Pod7zeAhJa

>>695 ที่กูแย้งคือมีใช้ได้ตลอดไปโดยไม่ขึ้นภาษีมั้ย ถ้ามึงตอบว่าได้กูคงต้องของเลิกคุย

กูพูดตอนไหน ข้างบนนี่มีคนพูดด้วยเหรอ กูแค่เสนอว่าต้องเก็บภาษีเพิ่มเพื่อมาโปะ แต่ไม่ได้บอกนะว่าภาษีตัวไหน มีแค่มึงที่ยกเรื่องนอร์ดิคมาว่ามีแต่คนรวยจ่าย กูถึกยก VAT มาว่าแม้แต่คนจนสุดก็เสียเท่าคนรวยสุดอยู่ดี แถมมากกว่าไทยเยอะด้วย ไม่ได้พูดเรื่องภาษีอื่นเลยนะ

มันจะพอได้กี่ปีถ้าไม่เก็บภาษีเพิ่มละ ถ้าสกุลเงินบาทเป็นเหมือนเยน จะให้กู้ทุกปีกูก็พอรับได้นะ แต่บาทไม่ใช่เยนหรือดอลล่า ยังไงก็ต้องใช้ภาษีมาจ่าย

กูถึงชอบที่แม้วทำมากไง เป็นสิ่งที่นายกทุกคนควรสานต่ออย่างยิ่ง น่าเสียดายที่หลังจากนั้นมีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก

มึงด่าตัวเองอยู่นะ แต่กูก็เห็นด้วยกับมึง การปฏิรูปขรก.จะเปลี่ยนประเทศไทยหน้ามือเป็นหลังมือเลย

697 Nameless Fanboi Posted ID:7k2Q3Dv+/a

>>696 ไอ้ VAT มันโดนสูงๆ แค่ของฟุ่มเฟือยไง กูถึงคิดว่าไม่มีผลมากถ้าจะเก็บจริง ๆ สำหรับคนจนอ่ะนะ

เอาตรง ๆ กูก็ไม่ได้หวังให้มันได้เหมือนนอร์ดิกไปเลยหรอก งบในปัจจุบัน ถ้าปฏิรูป ขรก แล้วจัดสรรงบดี ๆ กูให้ว่าได้ "ในระดับหนึ่ง" จะเก็บภาษีเพิ่ม หรือจะปรับอะไรทีหลังก็ว่ากันไปอีกที ต้นเรื่องกูถึงบอก ถ้าจะทำอ่ะทำได้ แต่ต้องเริ่มที่ ขรก + การจัดสรรงบก่อน

เพราะต่อให้เก็บภาษีเพิ่ม แต่ถ้าระบบขรก ยังเป็นแบบเดิม พัง 100% ไม่ต้องคิดอะไรเลย

698 Nameless Fanboi Posted ID:G5ylhdNPMX

[ ตกลงผู้ว่า กทม. “ไม่มีอำนาจ” หรือ “ไม่กล้าทำ” กันแน่? ]
.
ผู้ว่าฯ ที่มาจากการแต่งตั้งอาจจะทำงานตามนายสั่ง รอวันเกษียณหรือย้ายไปที่อื่น แต่ผู้ว่า กทม. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทำแบบนั้นไม่ได้
.
ทุกวันนี้ มีความคิดเห็นจำนวนมากที่บอกว่า “ผู้ว่า กทม. ไม่มีอำนาจทำอะไร อย่าหาเสียงเพ้อฝันเกินจริง” ซึ่งผมคิดว่านี่เป็นความเข้าใจผิดและเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการพัฒนากรุงเทพ แม้ผมจะเห็นว่าท้องถิ่นทั่วประเทศรวมถึงกรุงเทพ ยังขาดอำนาจ ทรัพยากร และความเป็นอิสระในการบริหารจัดการ แต่มีหลายสิ่งอย่างที่ผู้ว่าและ ส.ก. สามารถทำได้ทันที
.
ผมขอยกตัวอย่างความเข้าใจผิด 3 เรื่อง เกี่ยวกับนโยบายที่ผมเสนอ เพื่อทำให้เห็นว่าทุกเรื่องอยู่ในอำนาจหน้าที่ผู้ว่า กทม. ทำได้ทั้งสิ้น
.
.
———
📌 ความเข้าใจผิดที่ 1 “การเพิ่มสวัสดิการเป็นอำนาจของรัฐบาลกลางอย่างเดียว ท้องถิ่นทำไม่ได้”
.
👉 กทม. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ สามารถจัดทำสวัสดิการในรูปเงินอุดหนุนได้ ตามอำนาจของ พ.ร.บ. แผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ พ.ศ. 2542 มาตรา 18
.
ส่วนปัญหาที่ว่าจะหาเงินมาจากไหน ในการเสนอนโยบายของเราก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าการจัดทำสวัสดิการที่เราเสนอใช้งบประมาณปีละ 8,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งเราจะนำงบประมาณมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดิน 100% ซึ่ง กทม. จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 18,000 ล้านบาท/ปี ใช้งบประมาณเพียงครึ่งหนึ่งของรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นส่วนนี้เท่านั้น
.
.
📌 ความเข้าใจผิดที่ 2 “กทม. ไม่มีอำนาจขึ้นค่าขยะห้างใหญ่”
.
👉 เรื่องค่าขยะ สภา กทม. สามารถออกข้อบัญญัติเพื่อเพิ่มหรือลดค่าเก็บและกำจัดขยะได้ ตาม พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 เรื่องนี้คุณอัศวินก็ยอมรับในดีเบตช่อง 3 แล้วว่าทำได้ และ สภา กทม. ในยุคของคุณอัศวินก็ทำแล้วด้วย โดยขึ้นค่าขยะของบ้านเรือนประชาชนจากเดือนละ 20 บาทเป็นเดือนละ 80 บาท ซึ่งผมคิดว่าไม่ตรงจุด กทม. ควรที่จะมุ่งเก็บค่าขยะจากนายทุนห้างร้านผู้ผลิตขยะปริมาณมหาศาล แทนที่จะมารีดเลือดเอากับประชาชน
.
.
📌 ความเข้าใจผิดที่ 3 “ผู้ว่า กทม. จะเอาที่ดินเอกชนมาใช้ประโยชน์ได้ยังไง!?!”
.
👉 กลไกภาษีที่ดินเป็นเครื่องมือสำคัญของท้องถิ่นในการกำหนดทิศทางการพัฒนาของเมือง
.
สำหรับกรุงเทพถึงแม้อัตราภาษีจะถูกกำหนดมาจาก พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 แต่ มีประกาศกระทรวงการคลังให้ท้องถิ่น สามารถยกเว้นการเก็บภาษีที่ดินสำหรับที่เอามาใช้ประโยชน์สาธารณะได้ เช่น กทม. สามารถยกเว้นการเก็บภาษีที่ดิน ให้กับเอกชนที่สร้างสวนสาธารณะให้ประชาชนใช้งาน
.
ส่วนการปรับอัตราภาษีที่ดินให้สูงขึ้นนั้น พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ได้ให้อำนาจท้องถิ่นออกข้อบัญญัติเพื่อเก็บภาษีมากกว่าอัตราที่รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกากำหนดไว้
.
การ ‘เพิ่ม’ หรือ ‘ลด’ ภาษี คือกลไกให้คุณให้โทษที่ กทม. สามารถทำได้เลย ตามข้อเสนอของผมให้ใช้ที่ดินเอกชนไปทำประโยชน์เพื่อประชาชน ในขณะเดียวกันเจ้าของที่ดินก็ได้รับการยกเว้นภาษี แทนที่จะต้องมาหาช่องเลี่ยงภาษีด้วยการซอยที่หรือปลูกกล้วยปลูกมะนาวกลางเมืองแบบนี้
.
นี่เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นที่แสดงให้เห็นว่าผู้ว่ากรุงเทพสามารถทำอะไรได้อีกมาก
.
.
———
ผมมาในฐานะนักการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้ง แบกอุดมการณ์ของตัวเองและความหวังประชาชนเอาไว้
.
ดังนั้น ไม่แปลกที่เราจะต้อง "ทำสิ่งที่เขาอนุญาตให้ทำ" ควบคู่ไปกับการ "ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่เป็นธรรมด้วย"
.
ทุกวันนี้ไม่มีใครปฏิเสธว่าผู้ว่ากรุงเทพ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ มีอำนาจ งบประมาณ และความเป็นอิสระในการบริหารจัดการงานในท้องถิ่นน้อยเกินไป จนทำให้ไม่สามารถตอบสนองปัญหาพี่น้องประชาชนได้ดีพอ
.
นี่คือเหตุผลที่ผมและพรรคก้าวไกลผลักดันการปฏิรูปกฎหมายกระจายอำนาจ
.
และแน่นอน ถ้าผมเป็นผู้ว่า ผมคนเดียวก็ทำไม่สำเร็จ จึงต้องอาศัยพันธมิตรเราทั้งในสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) ทั้งในสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) ทั้งประชาชนนอกสภา เพื่อผลักดันสิ่งที่ควรจะเป็น สิ่งที่ดีกว่า ให้สำเร็จได้ นี่คือการทำงานเป็นทีมในทุกระดับ เห็นภาพชัดเจน มีเป้าหมายตรงกัน
.
ที่ผมตั้งใจลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าในนามพรรคก้าวไกล ไม่ใช่เพียงเพราต้องการแค่ "เปลี่ยนตัวผู้ว่า" แต่ตั้งใจ "เปลี่ยนเกม" ด้วย
.
#ก้าวไกล #วิโรจน์ #เลือกตั้งผู้ว่ากทม
.
———-
.
ผู้ผลิต วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
ที่อยู่ผู้ผลิต พรรคก้าวไกล เลขที่ 167 ชั้น 6 ซอยรามคำแหง 42 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240 จำนวนที่ผลิต 1 โพส
วันที่ผลิตตามวันเดือนปีที่ปรากฏ

699 Nameless Fanboi Posted ID:Iox5jJTLgu

>>697 กุก็คิดเหมือนมึง ทุกวันนี้ใช้ภาษีเหมือนเอาไปละลายแม่น้ำมาก เก็บเพิ่มแล้วจะมีประโยชน์อะไร เหมือนข้อแก้ตัวของคนมักง่ายอะ อีกอย่างเงินได้รายหัวนอร์ดิคเยอะกว่าเห็นๆ ทั้งๆที่ราคาของอุปโภคบางอย่างแม่งพอๆกับไทย จะเก็บภาษีห้าสิบเปอร์ยังมีเงินเหลือใช้
ขณะที่ไทย วันละสามร้อย ค่าข้าว ค่าเดินทางก็เกือบหมดละ

700 Nameless Fanboi Posted ID:Pod7zeAhJa

>>697 VAT สูงที่โดนคือของฟุ่มเฟือย โอเค ลิสต์มาซิว่าอะไรโดนเท่าไหร่มั่ง

ที่กูรู้มาตลอดคือ VAT เก็บอัตราเดียวกันหมดทุกอย่างทั้งประเทศ พึ่งรู้ว่านอร์ดิคเก็บ VAT สินค้าแต่ละอย่างไม่เท่ากัน ไม่รู้มาก่อนเลย

แล้วบอก VAT ไม่กระทบคนจนมาก แต่พอไทยนี่ด่ากันจะเป็นจะตายว่า VAT คือภาษีเหี้ย เพราะคนจนโดนเท่าคนรวย=คนจนเจ็บกว่า กูเห็นด้วยในเรื่องนี้นะ แต่ไม่นึกว่าฝ่ายซ้ายอยากได้สวัสดิการจะพูดว่าคนจนไม่กระทบมาก ตลกดีจริงๆ

ไม่หวังแต่ก็เอามาเทียบตลอด พอขอให้เอาตัวเลขมาลงดันทำไม่ได้

กูเห็นด้วย ยังไงก็ต้องปฏิรูปขรก. ส่วนตัวกูอยากให้เพิ่มเงินเดือนแล้วเพิ่มความรับผิดชอบทางกฎหมายเข้าไปด้วย ผิดอะไรจะได้เอาออกง่ายๆ

นั่นละที่กูบอก มันต้องปรับทีละนิด การเพิ่มสวัสดิการและภาษีต้องมาคู่กัน ไม่งั้นมันอยู่ไม่ได้ กูไม่เข้าใจว่ามึงจะค้านการเก็บภาษีเพิ่มทำใม

>>699 อะไรบ้างพอๆ กับไทย

มึงปฏิรูปขรก.และการใช้งบได้ แต่ถ้ามึงจะมีสวัสดิการดีจริงๆ มึงต้องเพิ่มการเก็บภาษีอยู่ดี

กูไม่ได้ต่อต้านการขึ้นเงินเดือนหรือค่าแรงขั้นต่ำนะ แต่กูอยากให้มันขึ้นตามธรรมชาติเป็นขั้นบันใด ไม่งั้นบ.นี่ละจะตายก่อนลูกจ้าง

701 Nameless Fanboi Posted ID:GPrJfW4GjA

>>700 ไม่ได้หมายถึงเก็บเป็นเรทที่ต่างกัน แต่หมายถึงจำนวนที่ต้องจ่าย งงป่ะวะ

เช่น คิดแบบไม่ต้องอะไรมาก ข้าว 50 ถ้านับแค่ vat ย้ำว่าแค่ vat 20% = 60 บาท ขึ้นมา 10 สมมติซื้อคอม 50000 vat 20% = เพิ่มมา 10000 ประมาณนี้ หมายความว่าต่อให้คนจนจะโดนเข้าตัวจริง ๆ ในเรื่องอุปโภค แต่ก็คุ้มกว่าในระยะยาวเมื่อเทียบกับสวัสดิการ คนที่โดนหนักจริง ๆ จะเป็นชนชั้นกลาง กับคนรวยมากกว่า แต่พวกนั้นมันก็มีภาษีของฟุ่มเฟือยอีกนะ แต่ไม่เกี่ยวกับ vat

คนไทยแอนตี้ภาษีอยู่แล้ว กูคงไม่ต้องอธิบายว่าทำไม แต่ส่วนตัวกูคิดว่าถ้าเก็บแล้วเอาไปทำประโยชน์จริง จะเก็บก็เก็บไปเถอะ

คนที่เริ่มไม่ใช่กูนะ แถมเอาจริง ๆ ส่วนใหญ่เวลาพูดเรื่องพวกนี้มันก็มาจากพวกเบียว ๆ ที่บอกว่าเก็บภาษีให้ได้เท่านอร์ดิกก่อน

ซึ่งกูก็มั่นใจ ต่อให้เก็บได้เท่าจริง ระบบส้นตีน ๆ แม่งก็ทำเหมือนเขาไม่ได้อยู่ กูถึงพาดหัวตั้งแต่เริ่มเลยไง ว่าไม่ได้อยู่ที่จำนวนงบ มันอยู่ที่การจัดสรรกับ ขรก.

702 Nameless Fanboi Posted ID:GPrJfW4GjA

แล้วกูก็ไม่ได้ค้านการเก็บภาษีเพิ่ม แต่ถามตัวมึงเองว่ามึงเชื่อมั่นกับข้าราชการ กับทางภาครัฐ แค่ไหนว่าจะเอาเงินไปใช้เต็มประสิทธิภาพจริง ๆ ตอบตรงนี้มาก่อน กูถึงบอกว่าเอางบเพิ่มอ่ะ ข้ออ้าง ถ้ามึงตอบว่าเชื่อมั่น แถมพร้อมจ่ายภาษีเพิ่มเลย กูบอกตรง ๆ ว่าไปต่อไม่ถูกวะ ไม่คุยกันไม่รู้เรื่อง ก็คุยกันคนละเรื่องละ

703 Nameless Fanboi Posted ID:GPrJfW4GjA

เอาตรง ๆ คือกูมองว่าเป็น end goal ที่ควรจะไปถึง ไม่ใช่อยากได้แล้วจะได้เลย แต่ถ้าจะมาขัดว่าจ่ายเงินให้เท่าเขาก่อนๆๆๆ ก็แล้วมันจะเริ่มจากตรงไหนล่ะวะ เอาแค่อย่าง 30 บาท ทำไมไทยถึงทำได้ แต่ตะวันตกทำไมได้ มึงก็บอกเองว่าต่อหัวต่ำกว่า กูแถมให้อีกว่าเงินเดือนหมอก็ต่ำกว่า ค่าของชีพก็ต่ำกว่า ค่าวัสดุอุปกรณ์ ก็ต่ำกว่า มึงจะเก็บเท่าเขาไปทำเหี้ยอะไรล่ะ

704 Nameless Fanboi Posted ID:Pod7zeAhJa

>>701 ไม่เก็ต เพราะ VAT มันเก็บสินค้าและบริการทุกอย่างในเรตเท่ากันหมด แต่ราคาที่ต่างกันนี่มันแน่นอนอยู่แล้ว แล้วถ้ามึงว่างี้ก็แปลว่าไทยเก็บ 20% คนจนก็ไม่เดือดร้อนเหมือนกันสิ

VAT ไทยเก็บได้ปีละ 6-7 แสนล้าน เอา 20% ก็ได้ตั้ง 2 ล้านล้าน งบระดับนี้ด้วยค่าใช้จ่ายระดับไทย ทำสวัสดิการระดับนอร์ดิคยังได้เลยมั้ง

ลองนึกดูคร่าวๆ

งบสปสช.ทุกวันนี้อยู่ 200,000 ล้านมั้ง

ขสมก.ใช้งบปีละ 12,000 ล้าน ถ้าเอาเงินไปจ่ายหนี้ให้หมดจะน้อยกว่านี้เยอะ

รฟท.ค่าใช้จ่ายปีละ 20,000 ล้าน ถ้าบดหนี้ได้ก็ลดค่าใช้จ่ายได้เยอะ

ศธ. 330,000 แสนล้าน

อุดมศึกษา 120,000 แสนล้าน

พม. 24,000

คร่าวๆ คือ ครอบคลุมค่าหมอ ค่ารถเมล์ในกทม. ค่ารถไฟทั้งประเทศ ค่าเทอม ค่าวิจัย ค่าคนพิการและอื่นๆ ค่ารฟฟ.ก็อาจจะครอบคลุมด้วย หรือก็คือค่าเหล่านี้แทบจะฟรีได้เลยถ้าเก็บ VAT 20% แล้วได้งบ 2 ล้านล้านบาท

ส่วนเรื่องกระทบคนจนมั้ย ก็แล้วแต่จะคิด ส่วนตัวกูจ่ายไหว แต่ถ้ามึงบอกไม่กระทบคนจนก็ตามใจ

>>702 มึงก็ยอมรับนิว่าต้องขึ้นภาษี พูดแค่นี้ก็จบแต่แรกแล้ว

กูไม่ไว้ใจ ทุกคนก็ไม่ไว้ใจ ซ้ายกับขวาไทยมองตรงกันเรื่องนี้ แต่มองคนละเรื่อง อย่างกูอยากให้ปฏิรูปและวางระบบก่อนกระจายอำนาจ แต่ก็จะมีคนอยากให้กระจายทันที ส่วนกูอยากให้ขึ้นภาษี แต่ก็มีคนอยากให้ทำรัฐสวัสดิการก่อน

>>703 มึงก็ขัดขวางในตัวเองนะ ถ้าเอาอย่างมึงว่า ถ้าไม่ปฏิรูปขรก. ก็ไม่ต้องมีรัฐสวัสดิการกันเลยสิ เพราะทำแล้วเอางบไปละลาย

กูก็ไม่เคยบอกให้เก็บเท่านะ กูบอกให้เก็บเพิ่ม ไม่ได้บอกด้วยว่าเก็บจากไหน เพราะมันมีรายละเอียดหลายอย่าง แต่ถ้า VAT 20% แล้วได้แบบที่บอกข้างบนนี่กูโอเคนะ มึงละว่าไง

705 Nameless Fanboi Posted ID:HVFmStBN2q

ยังมีคนฝันอยู่อีกเรอะว่าถ้าตัดโน่นตัดนี่แล้วประเทศเราจะทำสวัสดิการเต็มขั้นได้โดยไม่ต้องเก็บเพิ่ม

สงสัยเอาแต่ฉอดบนเน็ตแต่ไม่เคยอ่านเอกสารงบแผ่นดิน

ไม่ก็สมองกลวง อยากได้อยากเอาอย่างเดียวไม่อยากจ่าย งอแงเป็นเด็กทารก

706 Nameless Fanboi Posted ID:rHiKRk80/T

>>704 ต่อให้เก็บภาษีเพิ่มเป็น VAT 20% แต่กำลังจ่ายคนมันไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม คนจน แบบจนจริงๆ ยังไงก็หาเช้ากินค่ำ ไม่ได้มีเงินเก็บอยู่แล้ว อย่างมากก็อดแดกเหล้าสูบบุหรี่

คนจนปลอมแบบคนชั้นกลางจะเจ็บ ตรงที่ต้องเจียดเงินไปให้กับค่าครองชีพมากขึ้น และใช้ค่าใช้จ่ายอย่าง ผ่อนบ้านผ่อนรถจะหนักขึ้น รัฐจะมีหน้าที่ช่วยตรงนี้ แต่มึงคิดว่ารัฐเราจะทำมั้ย ? ตอบสิ ถ้าตอบได้จะ 20 ก็ 20

แล้วกูไปบอกตอนไหนว่าไม่ต้องขึ้น ตอบตั้งแต่ >>666 กูก็ไม่เห็นว่ามันจะจบตรงไหน

ปัญหาทุกวันนี้คือรัฐมันไม่ทำให้คนเชื่อใจได้ไง ว่าเก็บไปแล้วมันจะช่วยอะไรได้จริง ๆ กูถอยให้ก้าวนึง ไม่ต้องถึงกับปฏิรูป เอาแค่เก็บภาษีเพิ่มแล้วทำให้คนรู้สึกว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้น ยังไม่รู้เลยว่าจะทำได้มั้ย ถ้าทำได้จริงจะเก็บเพิ่ม ก็เก็บเพิ่ม

707 Nameless Fanboi Posted ID:rHiKRk80/T

>>705 แล้วกูไปพูดตอนไหนว่าจะเอาเต็มขั้น

เนี่ย ก็ชอบเอาคำพูด strawman แล้วต่อยกันสนุกเลย กูบอกตอนไหนว่าจะเอาแบบ Nordic ในทันที บอกตอนไหนว่าไม่ต้องขึ้นภาษี

กูแค่บอกว่าจัดสรรงบให้ดีกับปฏิรูปราชการ จะเแก้ปัญหาให้ตรงจุดกับมีประสิทธิภาพมากกว่าขึ้นภาษี

อีกอย่าง ผ่านมา 100 เม้นก็ยังไม่มีคนตอบกูได้นะ ว่าไม่มีงบ แล้วเอาเงินที่ไหนไปจัดงานศพ ราชภักดิ์ อย่างละ 1000 ล้าน

708 Nameless Fanboi Posted ID:rHiKRk80/T

ตั้งแต่ >>661 ด้วยซ้ำ กูไปบอกตอนไหนวะ ว่าไม่ต้องขึ้นภาษี

709 Nameless Fanboi Posted ID:uLei6Ejbfe

เมื่อไหร่จะคุ้มให้มึงอยากจ่ายอ่ะ

พี่ไทย: ไม่มีสวัสดิการ ไม่อยากจ่ายเลยว่ะ ไม่คุ้ม
พี่ยุ่น: สวัสดิการแม่งไม่รวมฟัน ไม่อยากจ่ายเลยว่ะ ไม่คุ้ม
พี่เมกา: สวัสดิการแม่งไม่รวมโรงบาล ไม่อยากจ่ายเลยว่ะ ไม่คุ้ม
พี่ด้อยช์: สวัสดิการแม่งไม่มีUBI ไม่อยากจ่ายเลยว่ะ ไม่คุ้ม
พี่สวีด: สวัสดิการแม่งไม่รวมค่าแว่นสายตา ไม่อยากจ่ายเลยว่ะ ไม่คุ้ม

ข้างบนนี่คือประสบการณ์จริงที่ได้คุยกับคนหลายๆชาติตอนไปนอนHostelในยุโรป
ถ้าต้องรอให้มึงรู้สึกคุ้มก่อนค่อยจ่าย ระบบมันคงไม่ได้ตั้งไข่

710 Nameless Fanboi Posted ID:rHiKRk80/T

>>709 ของไทยกูขอเปลี่ยนเป็น ไม่อยากจ่ายภาษีเลยว่ะ แม่งแดกกันเละ แทนได้มั้ย ? ต่างชาติเขาบ่นแบบนี้ป่ะ อยากรู้ เพราะกูไม่ได้พูดถึงไม่อยากจ่ายเพราะไม่ได้อะไร แต่กูไม่อยากจ่ายเพราะแม่งเอาไปแดกอ่ะ

711 Nameless Fanboi Posted ID:BG2JmjJ/Bt

>>708 มันแค่อยากเอาชนะ เทคนิคงัดประเด็นให้เว่อไว้ก่อนจะได้อ้างเหตุมาปฏิเสธ อย่างต้องใช้เงินเป็นล้านๆๆๆนะ กุเลยไม่ต้องทำ ไม่งั้นก็เก็บภาษีมาก่อนเยอะๆนะ ทั้งที่สวัสดิการหีแตดไรยังไม่มีเลย

712 Nameless Fanboi Posted ID:BG2JmjJ/Bt

>>709 จะนำร่องก็ตัดงบซุ้มมาทำก่อนไหม งบโปรโมต งบดูงานเมืองนอกอะ เห็นเหลือเยอะเอาไปละลายแม่น้ำทุกปี

713 Nameless Fanboi Posted ID:BSCDH45bG/

>>710 มึงคิดว่านักการเมืองแดกมีแค่ไทยเหรอวะ
เมกามีการฮั้วกับผู้รับเหมาให้ทำถนนทำทางเยอะ บ้างครั้งมีพวกมาเฟียมาเกี่ยวด้วย

เยอรมันตอนโคโรน่ามีข่าวว่าสามีของรัฐมนตรีอนามัยทำงานให้บริษัทหน้ากาก แล้วรัฐเจาะจงซื้อหน้ากากจากบริษัทนั้น

ยุ่นมีข่าวเยอะแยะที่นักการเมืองโดนจับได้ว่าโกงจนต้องออกมาร้องไห้หน้ากล้อง

etc.

714 Nameless Fanboi Posted ID:rHiKRk80/T

>>713 ชอบมามุขตลกๆ แบบนี้อีกแล้ว วันหลังอะไรอีก คิดว่าประเทศไทยมีคนจนประเทศเดียวเหรอ อเมริกาก็มี ยุ่นก็มี สวีเดนก็มี งี้หรอ

เออ ไอ้มีอ่ะมี แต่มันเหี้ย หน้าหนา แพร่หลายเหมือนบ้านเรามั้ย ไม่ต้องไปถึง นักการเมือง เอาแค่ไปหาตำรวจ หน่วยงานรัฐ แล้วต้องพกเงินไปยัดใต้โต๊ะละ

ที่กูถามอ่ะมันเป็น concern ของคนในประเทศเขา เท่าบ้านเราป่ะ ก็อย่างที่มันพูด คนบ้านเขาคิดว่าจ่ายภาษีไม่คุ้มเพราะอะไรก็แล้วแต่ บ้านเราไม่ใช่คิดว่าจ่ายภาษีไม่คุ้ม กูแค่ไม่อยากให้มันเอาไปแดก สัส

715 Nameless Fanboi Posted ID:EL27WZ0Ygv

>>714
>ต่างชาติเขาบ่นแบบนี้ป่ะ อยากรู้
>ยกตัวอย่างมาว่าต่างชาติก็บ่นนักการเมืองโกง
>ชอบมามุขตลกๆ แบบนี้อีกแล้ว
ขอเอง อยากรู้เอง พอโดนเสิร์ฟก็ร้อง แถไปแถมา โถ

716 Nameless Fanboi Posted ID:XZArcf9ewI

นอกเหนือจากการทำให้การรัฐประหารต้อง “มีต้นทุน” ผู้ก่อการรัฐประหารต้องถูกลงโทษ หรือการออกมาเรียกร้องให้องค์กรผู้ใช้อำนาจรัฐอย่าง “ศาล” ต้องไม่ออกมาสร้างบรรทัดฐานที่ผิด ๆ โดยการให้คำรับรองว่าคำสั่งของคณะปฏิวัติ เป็นคำสั่งที่ถูกกฎหมาย ตามที่ อ.ปริญญา ได้เคยแสดงความเห็นไว้ในหลายเวทีแล้ว (https://www.matichon.co.th/politics/news_3081821) ผมคิดว่า อีกวิธีการหนึ่ง ที่จะช่วยหยุดยั้งวงจรการรัฐประหารได้ ก็คือ “การปลดล็อกท้องถิ่น” ครับ
.
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ผู้ที่ถือว่าเป็นคู่ขัดแย้งฝั่งตรงข้ามโดยตรงกับคณะปฏิวัติ (โดยตรงในที่นี้หมายถึง คนที่พร้อมจะลุกขึ้นมาขัดขืน ไม่ฟังคำสั่งของคณะปฏิวัติ ในช่วงจังหวะที่มีการปฏิวัติเกิดขึ้น แต่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะแน่ชัด ว่าทำการยึดอำนาจสำเร็จหรือไม่) นั้นคือเหล่า “ข้าราชการการเมือง” อาทิ ส.ส. คณะรัฐมนตรี ฯลฯ ส่วนองคาพยพผู้ใช้อำนาจรัฐอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ศาล องค์กรอิสระ และส่วนราชการอื่น ฯลฯ นั้น ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพเป็น “ข้าราชการประจำ” แทบทั้งสิ้น
.
หากมองในมุมของข้าราชการประจำ ผลแพ้ชนะของการปฏิวัติรัฐประหาร ไม่ได้ส่งผลได้เสียต่อตำแหน่งแห่งที่ หรือความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของเขาโดยตรง กลับกัน หากเขาลุกขึ้นมาต่อสู้ แสดงความกล้าหาญที่จะออกมายืนหยัดในความถูกต้อง ออกมาบอกว่า “ระบอบเดิมนั้นยังคงอยู่” แต่ “พวกคุณต่างหาก คือกบฏ!” ไม่ใช่ ‘รัฏฐาธิปัตย์’ พวกเขาก็อาจโดนไล่เช็คบิลตามหลัง ถ้าหากฝ่ายประชาธิปไตยพ่ายแพ้ หรือถ้าหากคณะปฏิวัติสามารถยึดอำนาจได้สำเร็จ
.
นี่คือความง่อนแง่นของระบอบประชาธิปไตยของไทย ที่เกิดขึ้นจากโครงสร้าง ‘รัฐรวมศูนย์’ (โครงสร้างในที่นี้หมายถึง สายการบังคับบัญชา การเติบโตในหน้าที่การงานของบรรดาข้าราชการ ในฐานะ ‘ผู้ใช้อำนาจรัฐ’) ที่ถูกยึดโยงกลับมาที่กรุงเทพ ศูนย์กลางอำนาจเพียงแห่งเดียวของประเทศนี้
.
คิดในทางกลับกัน หากมีการ ‘ปลดล็อกท้องถิ่น’ ที่สมบูรณ์ รัฐธรรมนูญมีการบัญญัติรับรองอำนาจหน้าที่ รวมถึงงบประมาณ (ส่วนใหญ่) ในการให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนเอาไว้ให้อยู่กับท้องถิ่น เท่ากับองคาพยพส่วนใหญ่ของรัฐ โดยเฉพาะในส่วนของบุคลากรภาครัฐ อาทิ **ตำรวจ** ครู เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ฯลฯ ก็จะกลายสภาพไปเป็น ‘ข้าราชการท้องถิ่น’ ที่สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อยู่ภายใต้การกำกับดูแลและการบังคับบัญชาของ ‘ผู้บริหารท้องถิ่น’ ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
.
หากภาพแบบนี้เกิดขึ้นได้ เท่ากับเราจะมีโครงสร้างอำนาจรัฐ โดยเฉพาะในส่วนของผู้ที่เป็น ‘ข้าราชการการเมือง’ (สมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่น) ซึ่งกระจายตัวกันอยู่ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7,800 กว่าแห่งทั่วทั้งประเทศ ที่จะเข้ามาเป็นกลไกและเสาค้ำยันที่สำคัญ ในการช่วยกัน ‘ปกป้อง’ ไม่ให้รัฐธรรมนูญถูกฉีกได้อีก
.
ผมเชื่อว่า ข้าราชการการเมืองท้องถิ่นแทบทุกแห่ง “ในฐานะองค์กรของรัฐตามรัฐธรรมนูญ” จะลุกฮือขึ้นมาส่งเสียงพร้อมกันทั่วทั้งประเทศ เมื่อใดก็ตามที่มีการปฏิวัติรัฐประหาร ถึงแม้คณะปฏิวัติจะสามารถยกทหารเข้ามาไม่กี่กองพัน ทำการปิดปาก ปิดสื่อ ปิดหูปิดตาประชาชน ควบคุมกลไกของรัฐส่วนกลาง ผ่านการปิดรัฐสภา ปิดทำเนียบรัฐบาล เอาทหารเข้ามาควบคุมตัวส.ส.และคณะรัฐมนตรี ซึ่งส่วนใหญ่นั่งทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานครได้ แต่พวกเขา จะไม่มีวันควบคุมกลไกลของรัฐ ***ที่แข็งแรง*** ที่กระจายตัวกันอยู่ 7,800 กว่าแห่งทั่วทั้งประเทศได้
.
และตราบใดที่พวกเรายังมี ‘ข้าราชการการเมืองท้องถิ่น’ ผู้ใช้อำนาจรัฐตามรัฐธรรมนูญ ออกมาส่งเสียงว่าดัง ๆ พวกเขายังอยู่ตรงนี้ และสภาพของคณะปฏิวัติ ก็คืออ ‘กบฏ’ ไม่ใช่องค์รัฏฐาธิปัตย์ตามที่กล่าวอ้าง การปฏิวัติรัฐประหารในอนาคต ก็คงทำได้ยากขึ้น จนแทบเป็นไปไม่ได้ ไม่ซ้ำรอยเหมือนในหน้าประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของการเมืองไทย
.
ข้อแม้เพียงอย่างเดียวของเรื่องนี้ คือ การทำให้ ‘ท้องถิ่นแข็งแรง’ ครับ
.
ดังนั้น (แอบขายของ)

717 Nameless Fanboi Posted ID:uLei6Ejbfe

>>715 มันใช้แทคติคmoving the goalpost พอโดนยิงประตูก็ยกประตูหนีไปอีกจุดนึง คอยดูเดี๋ยวภ้ามีคนตอบว่าต่างชาติก็concernว่าจ่ายให้นักการเมืองแดกมันก็ยกประตูหนีไปจุดอื่น ไม่จบไม่สิ้นเพราะไม่อยากยอมรับว่าตัวเองมั่ว

718 Nameless Fanboi Posted ID:rHiKRk80/T

>>715 >>717 ก็กูถามว่าต่างชาติเขาบ่นอย่างงี้มั้ย aka เขา concern เรื่องนี้มั้ย มึงตอบว่าต่างชาติก็มีนักการเมืองโกง move the goalpost พ่อมึงสิ อ่านภาษาไทยให้ออกแล้วตอบให้ตรงคำถามก่อนมั้ย ?

719 Nameless Fanboi Posted ID:rHiKRk80/T

ถามวัวตอบควาย กูบอกให้ตอบเรื่องวัว หาว่ากู move goal post เอากับมันสิวะ 5555555

720 Nameless Fanboi Posted ID:EL27WZ0Ygv

>>718 concernไม่concern ถึงขั้นแต่งเพลงด่าอ่ะนาย ประเด็นไปถึงระดับpop cultureนี่คือconcernมั้ย?

"Money and corruption are ruining the land, crooked politicians betray the working man, pocketing the profits and treating us like sheep, and we're tired of hearing promises that we know they'll never keep."

https://www.youtube.com/watch?v=5A3BXRG6RXA

721 Nameless Fanboi Posted ID:rHiKRk80/T

>>720 อ๋อ เพลงเมื่อ 50 ปีก่อนเหรอครับ เคครับ ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับที่ผมถามว่าฝรั่งมันไม่อยากจ่ายภาษีเพราะรัฐบาลโกงกินที่ผมถามใน >>710 ยังไงเหรอครับ อธิบายให้ผมฟังหน่อยได้มั้ยครับ เดี๋ยวจะหาว่า move the goalpost

แล้วกูงง ตอนกลางวันแตะต้องขรก ไม่ได้ ตอนนี้ แตะต้อง นักการเมืองไม่ได้อีกเหรอวะ 555 ตอนจะล้มทักษิณยังบอกว่านักการเมืองโกงกินจะล้มระบอบทักษิณอยู่เลย

722 Nameless Fanboi Posted ID:Pod7zeAhJa

>>706 อดแดกเหล้าสูบบุหรี่ก็เป็นเรื่องดีนะ แต่มันจะไม่เจ็บแค่นั้นหรอก

ทำใมต้องช่วยชนขั้นกลางผ่อนบ้านผ่อนรถด้วย ถ้าบดดอดเบี้ยนโยบายก็พอเข้าใจ แต่นอกนั้นรัฐไม่ได้บังคับให้ซื้อนะ

กูพลาดเองที่ไม่เห็นตรงนั้น โทษที

แต่หลังจากนั้นมึงก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าต้องปฏิรูปขรก. แล้วก็มาแย้งกับกูที่อยากขึ้นภาษีก่อน คือมึงกับกูมองคนละขั้นตอนนั่นละ ถ้าอยากเอาสวัสดิการอย่างไว ยังไงก็ต้องได้ภาษีก่อน มีงบเพิ่มก็ละลายเพิ่มได้ ส่วนมึงว่ามีงบอยู่แล้วแค่จัดให้พอก็ได้ มองคนละแบบ

ถ้าสังคมยังไม่เลือกพรรคไหนเป็นเสียงข้างมากพรรคเดียวแบบแม้ว 2 ยังไงมึงก็พูดไม่ได้หรอกว่าปชช.ไว้ใจรัฐ แต่ถ้าไม่ไว้ใจรัฐก็จะไม่ต้องทำอะไรเลยมั้ยละ เพราะเรื่องปฏิรูปเนี่ยมันต้องใช้ฉันทามติสูงมาก บางประเทศเสียงข้างมากยังทำไม่ได้เลย

>>708 >>695 "ย้ำอีกครั้ง กูไม่ได้บอกว่าใช้งบน้อย กูบอกว่าไทยมีงบพ่อ แค่เอาไปบริหารให้มันดีกว่านี้ ซึ่งแม่งก็เป็นไปไม่ได้หรอก"

อ่านอีกที มึงหมายถึงงบพอใช่มั้ย

>>710 มีสิ เคยอ่านข่าวดาราฝรั่งเศสย้ายสัญชาติเพราะไม่อยากจ่ายภาษีมั้ย ถอยมาหน่อย ประเทศพวกนั้นถึงชอบหนีภาษีที่ปานามาหรือเคย์แมนไง

>>714 มีสิ แต่มันหนีภาษีไม่ได้ มึงลองดูคนตปท.ที่มาอยู่ไทย พวกนี้ก็ไม่ได้ขยันจ่ายภาษีเหมือนตอนอยู่ประเทศตัวเองซักคน

723 Nameless Fanboi Posted ID:Pod7zeAhJa

>>716 นึกถึงอันนี้เลย เพราะไทยรวมศูนย์มากเกินไป พอล้มกทม.ได้ทุกอย่างก็จบ ทั้งประเทศต่อต้านไม่ได้ ในแง่นี้กูเห็นด้วยกับเรื่องนี้ การกระจายอำนาจสามารถต้านรปห.ได้ แต่ถึงเวลาจะต้านมั้ยก็ต้องดูอีกที

https://youtu.be/S9SMRuvnl2g

724 Nameless Fanboi Posted ID:rHiKRk80/T

>>722 เพราะมันหนึ่งในปัจจัย 4 ไง ที่พักอาศัยอ่ะ

ต่างประเทศมันก็มีช่วยซื้อบ้านหลังแรก อย่างบ้านเรามันมีภาษีหลังที่สองก็เป็นจุดเริ่มที่ดี ถ้ามันเอาเงินมาช่วยคนอ่ะนะ

เรื่องรถ เพราะประเทศเราคมนาคมมันส้นตีนไง โดยเฉพาะต่างจังหวัดจำเป็นต้องใช้รถ ยิ่งลักษณ์มันเลยออกนโยบายรถครั้งแรกไง ไม่งั้นก็ต้องพัฒนาคมนาคม ส่วนตัวกูยังไงก็ได้ ขอแค่ทำสักเรื่อง

กูว่าเราแค่มองคนละแบบจริง ๆ และ แต่จริงๆ กูมองว่าทำได้ ในระดับนึง ถ้าบริหารให้ดีพอ แค่นั้นแหละ

โดยธรรมชาติของระบอบประชาธิปไตย ยังไงความไว้วางใจต่อรัฐก็ต้องมาก่อน ยกเว้นว่ามึงจะเป็นเผด็จการแล้วจะทำ ซึ่งตอนเป็นเผด็จการแม่งก็ไม่ทำอยู่ดี

หมายถึงงบพอ พอในที่นี้หมายถึงจำนวนเงินที่รัฐมี ไม่ใช่จำนวนเงินที่รัฐแบ่งมาให้ทำสวัสดิการ

กูหมายถึง "ไม่จ่ายภาษีเพราะนักการเมืองโกงกิน" อ่ะ ไม่ได้ถามว่ามีันักการเมืองโกงกินจริงมั้ย และไม่ได้ถามว่ามีคนหนีภาษีจริงมั้ย เลิกตอบแบบนี้สักที ถ้าที่กูเห็นชัด ๆ ในเมกา คือไม่อยากจ่่ายเงินเพราะเอาไปใช้ในการทหาร กับอังกฤษไม่อยากจ่ายเงินให้ราชวงศ์เอาเงินไปใช้ฟุ่มเฟือยอ่ะ

725 Nameless Fanboi Posted ID:rHiKRk80/T

ประเทศที่สวัสดิการไม่ดี คนบ่นไม่อยากจ่ายภาษี ก็ถูกแล้วนี่

ถ้าประเทศที่สวัสดิการดี แล้วคนบ่นไม่อยากจ่ายภาษีดิถึงจะแปลก

https://www.spcc.pl/en/node/18278

https://www.usnews.com/news/best-countries/articles/2016-01-20/why-danes-happily-pay-high-rates-of-taxes

https://finland.fi/life-society/facts-and-feelings-do-taxes-make-finnish-people-happy/

726 Nameless Fanboi Posted ID:XZArcf9ewI

อีกอาทิตย์นึงเลือกตั้ง
.
.
.
แค่อยากมาแชร์เฉยๆว่าเป็นเรื่องแปลกในชีวิตที่เคยเจอชัชชาติสามครั้ง ในจุดต่าง ๆ ของชีวิต 555
.
2014 เป็นครั้งแรกที่ยุ่งๆเกี่ยวกับกิจกรรมนักศึกษาครั้งแรก ตอนนั้นอยู่ ม.1-ม.2 จัดเสวนานั่งรถไฟจากหัวลำโพง ไปร้านกาแฟบ้านไร่ สระบุรี นั่งคุยเรื่องรถไฟสองล้านล้าน ตอนนั้นไปกิจกรรมของสภาหน้าโดม มีรุ่นพี่ท่านหนึ่งบอกให้ไป เขาบอกว่าเป็นโควตาขององค์กรที่เราทำอยู่ตอนนั้น เลยไป ก็เปิดโลกดี เราไม่ประสีประสาเท่าไหร่นัก ตอนนั้นชัชชาติเป็น รมต ช่วย
.
2019 เหมือนชัชชาติมาพูดอะไรซักอย่างที่คณะวิศวะ เราเดินไปกินข้าวที่สามย่านมิตรทางตอนเปิดใหม่ๆ รุ่นพี่คนที่ถ่ายรูปข้างๆชวนไปถ่ายรูป เราก็เลยโอเค ถ่ายด้วยก็ได้ ตอนนั้นชัชชาติเป็นผู้บริหาร sc asset
.
2021 ถ่ายที่สลัมคลองเตย ชัชชาติประกาศลงผู้ว่า กทม. สังกัดอิสระ เราเจอในกิจกรรมของพรรคการเมืองหนึ่ง ขอถ่ายรูปกับชัชชาติเพราะว่าอยากทำมีมล้อรูปตอน 2014
.
วิธีคิด วิธีตอบคำถามของชัชชาติต่อประเด็นอะไรหลาย ๆ อย่างมันก็ทำให้เรามองเห็นภาพผู้ใหญ่ที่เราอยากจะเป็นเหมือนกันนะ การวิเคราะห์ปัญหา แบ่งส่วนย่อยคำตอบ สร้างความเชื่อมโยงระหว่างประเด็นต่าง ๆ เราประทับใจในคำตอบหลาย ๆ อย่างของอาจารย์ชัชชาติ และที่สำคัญคือการรับฟัง ที่ยิ่งเราโตขึ้นก็จะเริ่มเห็นว่าผู้ใหญ่แก่ๆหลายคนมีปัญหานี้กันจริง ๆ
.
แต่อย่างไรก็ดี โพสต์นี้ไม่ได้กำลังจะบอกว่าจะเลือกชัชชาติเบอร์ 8 เสมอไป เพราะตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าอาจจะไม่เลือก
.
200+ นโยบายที่เขียนมา ดีจริง สดใหม่ และเกิดมาจากประชาชน เราไม่ปฏิเสธ แต่เราไม่รู้ว่าแนวทางจัดการของชัชชาติต่อโครงสร้างเชิงอำนาจเก่าที่พัลวัน ซึ่งปฏิเสธได้ยากว่าผู้เล่นในโครงสร้างนั้นมี ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นหนึ่งในนั้น
.
เราอยากแก้ปัญหาแบบไต้หวัน แต่การเมืองตอนนี้เราเป็นฟิลิปปินส์ คำถามคือ มันจะแก้ได้จริงๆ ใช่ไหม? เราวงคำถามนี้ซ้ำๆ และอยากลองถามคนรอบๆนี้ดูว่า คุณกำลังมองมันเป็นปัญหาเหมือนผมอยู่หรือเปล่า และถ้าคุณมองว่ามันเป็นปัญหา ทำไมถึงเลือกที่จะมองข้ามมันไป
.
อย่าบอกว่ามันคือ strategic voting เพราะ strategic voting คือการมองคนที่ไม่เป็นคน เพราะมันมองคนเหมือนว่าไม่มีทางเลือก ต้องเลือกเพราะมันคือคำตอบที่ดีที่สุดของสังคม ไม่ใช่เจตจำนงเสรีของตน ซึ่งมันดูถูกสติปัญญาและเสรีภาพเราเอาเสียมาก ๆ

727 Nameless Fanboi Posted ID:Pod7zeAhJa

>>724 ประเทศไหนมีช่วยบ้านหลังแรก

รถยิ่งไม่เกี่ยว ญี่ปุ่นขนส่งดีกว่าไทยมาตลอด แต่ก็ซื้อรถเยอะกว่าไทย แล้วจังหวัดที่ซื้อรถเยอะสุดคือกทม.ที่การขนส่งดีสุด และถูกกว่าซื้อรถแน่นอน รู้มั้ยว่ายอดซื้อรถในกทม.เนี่ยประมาณ 50% ของยอดขายทั้งประเทศเลยนะ แต่มีคนในกทม.แค่ 16% เองมั้ง

มึงกับกูเชื่อเรื่องขั้นตอนต่างกัน เหมือนที่กูถามข้างบนนั่นละว่าจะเก็บภาษีก่อนหรือมีรัฐสวัสดิการก่อน ถ้ามำพร้อมกันได้ก็ดี แต่ส่วนใหญ่มันต้องเลือกทางใดทางหนึ่งนำนั่นละ

คำถามก็กลับมาที่ว่าไว้ใจแค่ไหนละ อย่างที่กูยกตัวอย่าง โดยมากการปฏิรูปมักเกิดในประเทศที่ครองเสียงข้างมากได้ ถ้าไทยมีคนทำแบบนั้นได้กูจะเชียร์จริงๆ นะ

ปูกับมึงมองต่างกันละว่าตอนนี้ไม่พอ ถ้าทำ ZBB แบบชัชชาติก็อาจจะมีพอ แต่จะทำแบบนั้นก็ไม่ต่างกับการปฏิรูปขรก.ทั้งระบบเลย

ก็มึงไม่ได้จำกัดความที่นกม.นิ แล้วก็มีนะ มึงหาคำว่า Tax resistance ได้เลย มีเยอะแยะทั่วโลก ฝ่ายซ้ายจะมองว่าไม่อยากจ่ายให้ทหาร ส่วนขวาจะมองว่าไม่อยากจ่ายให้นกม.โกงกิน แล้วก็ไม่อยากจ่ายภาษีให้รัฐบาลที่ตัวเองไม่ได้เลือกด้วย อย่างตอนทรัมป์ชนะ blue state ก็เคยประท้วงด้วยเรื่องนี้ด้วย

>>725 ถ้าแปลกแล้วคนจะหนีภาษีไปตามหมู่เกาะเหรอ คนยุโรประดับเศรษฐีนี่หนีภาษีแทบทุกคน แต่จะจับได้มั้ยก็อีกเรื่อง

728 Nameless Fanboi Posted ID:rf.F1JtJ5D

[1] ผมเคยโพสต์ เราสามารถสนับสนุน #ความเสมอภาคทางเพศ ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็น #เฟมินิสต์ แล้วมีเฟมจำนวนนึงมาบอกว่า การสนับสนุนความเสมอภาคทางเพศนั่นเท่ากับเป็นเฟมแล้ว
ตรรกะนี้มันเหมือนกับบอกว่า #อิสลาม รักสันติ ดังนั้นถ้าคุณรักสันติเท่ากับคุณเป็น #มุสลิม แล้ว นั่นแหละครับ

[2] หรือมีใครเคยได้ยินเพลงคาราบาว "คนไหนคนไทย ถ้ามีน้ำใจล่ะคนไทยแน่นอน" มั้ยครับ
เพลงนี้ก็ตรรกะเดียวกัน
ทั้งหมดนี้มันเริ่มต้นด้วยการเคลมบางอย่าง
เฟมเคลมว่าหนุนความเสมอภาคทางเพศ มุสเคลมว่าพวกตนรักสันติ แอ๊ดเคลมว่าคนไทยมีน้ำใจ
ซึ่งการเคลมแบบนี้มันมีปัญหาโดยตัวมันเองอยู่แล้ว

[3] เฟมบอกต้องการความเสมอภาคทางเพศ แต่ก็ขับเคลื่อนวาทกรรม men r tr_sh นี่โคตรย้อนแย้งในตัวอยู่แล้ว
(เฟมบางคนบอกว่าไม่ได้เห็นด้วยกับการใช้ประโยคนี้ แต่ก็แก้ตัวดีเฟนด์ให้คนที่ใช้ คือจะเห็นว่าคนพวกนี้ไม่เคยซื่อสัตย์ต่อจุดยืนตัวเองเลย)

[4] หรือที่มุสอ้างว่ารักสันติ แอ๊ดอ้างว่าคนไทยมีน้ำใจ คุณก็ดูความเป็นจริงเอาแล้วกัน
แต่ปัญหาเท่านั้นยังไม่พอ #เฟมินิสต์ นี่ยังมาเคลมเพิ่มอีก ว่าถ้าคุณมีจุดยืนอย่างที่ฉันเคลมแปลว่าคุณเป็นพวกฉัน

[5] คือทึกทักเอาเองดื้อๆว่าพวกฉันเป็นเจ้าของจุดยืน/เป้าหมายนั้นแต่เพียงผู้เดียว แล้วก็เคลมเอาดื้อๆว่าถ้าใครเห็นด้วยกับจุดยืนนั้นก็เท่ากับเป็นพวกฉัน
นี่ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเอาเข้าจริงเฟมมีจุดยืนอย่างที่อ้างจริงๆหรือเปล่า เพราะดูพฤติกรรมแล้วน่าจะตรงข้ามซะมากกว่า

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

729 Nameless Fanboi Posted ID:rHiKRk80/T

>>727 https://en.wikipedia.org/wiki/First-time_buyer
https://en.wikipedia.org/wiki/Help_to_Buy
https://www.legalline.ca/legal-answers/first-time-home-buyer-programs/

อังกฤษ ไอร์แลนด์ แคนาดา มึงน่าจะรู้อยู่แล้วมั้ง แต่ช่วยในที่นี้คือให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ

มันแค่ยอดจดทะเบียนมึง ไม่ยอดซื้อ ส่วนเหตุผลก็มีหลายอย่าง เอาไปไฟแนนซ์ง่ายกว่า เลขสวย ฯลฯ ถ้ามึงวิ่งต่างจังหวัดน่าจะเห็นนะว่ารถทะเบียนกทม อย่างเยอะ

https://pantip.com/topic/39346130
https://chobrod.com/tips-car-care/จดทะเบียนรถข้ามจังหวัด-12052

ไปดูจำนวนออกใบชับขี่แทนมั้ย กรุงเทพ 4 ล้าน ภูมิภาค 27 ล้าน
มันจะเป็นไปได้ยังไงว่ารถ 50% ของประเทศจะอยู่ที่กรุงเทพ

https://web.dlt.go.th/statistics/

ญี่ปุ่นรถเยอะสุดก็ไม่ได้อยู่ในโตเกียว เขตที่คมนาคมดีที่สุดอ่ะ

https://stats-japan.com/t/kiji/10786

"ไม่อยากจ่ายภาษีเลยว่ะ แม่งแดกกันเละ แทนได้มั้ย ? ต่างชาติเขาบ่นแบบนี้ป่ะ อยากรู้ >>710 ไม่เจาะจง นกม แล้วจะให้กูด่าหมาตัวไหนวะนั่น

Tax resistence มันเป็นการประท้วงรูปแบบหนึ่ง เช่นไม่จ่ายภาษีเกลือของคานธี หรือคนเมกาไม่จ่ายภาษีสมัยเวียดนาม ไม่เห็นมีเกี่ยวอะไรกับนักการเมืองโกงกิน ? หรือกูหาไม่เจอเอง ? เซิจไปเซิจไม่เจอประท้วงนักการเมืองหนีภาษีแทน กูงงต้องหายังไงถึงจะเจอ

https://en.wikipedia.org/wiki/Tax_resistance
https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_historical_acts_of_tax_resistance

730 Nameless Fanboi Posted ID:Pod7zeAhJa

>>729 น่าสนใจ แต่ดูจากเงินช่วยเหลือแล้ว ก็แค่ค่าแรงเดือนนึงของอังกฤษเอง ถือว่าน้อยกว่าที่คิด

กูไม่รู้ว่ามีอันนี้นะ กูรู้แค่ว่าบางประเทศเคยสร้างบ้านราคาถูกมาขายให้ปชช. เรื่องนี้ได้ประโยชน์หลายอย่าง โดยเฉพาะการวางผังเมือง ไทยเองก็เคยทำและยังทำอยู่ กูสนับสนุนโครงการนี้มาก

พึ่งรู้เลยว่าคนตจว.ชอบจดทะเบียนกทม. แต่ยอดขายในกทม.เนี่ยมันมีปัจจัยด้านโชวรูมด้วยนะ แบรนด์หรูหน่อยไม่ค่อยไปเปิดตจว.

เรื่องญี่ปุ่นกูแย้งที่ว่าซื้อรถเพราะขนส่งห่วย มันมีหลายปัจจัยมากกว่านั้น

ด่าขรก.แบบที่มึงด่ามาตั้งแต่เช้าก็ได้นิ มึงยังบอกเองว่าปัญหาหลักของไทยคือขรก. กูก็เห็นด้วย แล้วมึงยกการใช้งบมา เรื่องพวกนี้คนใช้หลักคือขรก. จะบอกว่าขรก.แดกหนักจนไม่อยากจ่ายภาษีก็ได้ มึงก็ยกเรื่องนี้มาเองนิว่าถ้าไม่ปฏิรูปก็ไม่อยากจ่ายภาษี

บางทีมันไม่ได้ใช้คำนี้โดยตรง แต่ถ้าบอกว่ามันไม่ได้พูดถึงนกม.โกงกินก็ไม่ใช่ เพราะจุดเริ่มต้นของมันมาจากฝ่ายปกครองในสมัยนั้นกดขี่ คนถึงต่อต้านการจ่ายภาษี ถ้ามึงเจาะจงวลีขนาดนั้น กูนึกไม่ออกว่าอันไหนใช้คำนี้โดยตรงมั่งเหมือนกัน กูจำได้ว่าตอนทรัมป์หรือ occupied wall street มีพูดถึงเรื่องการไม่จ่ายภาษีแน่นอน แต่มันทำยาก เพราะรัฐพวกนี้มีกลไกด้านภาษีเข้มงวดจนหลบยาก

731 Nameless Fanboi Posted ID:rHiKRk80/T

>>730 point ของมันไม่ใช่อยู่ที่เงินช่วยเหลือนะ แต่อยู่ที่การให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ นโยบายนี้ช่วยชนชั้นกลางเต็ม ๆ (คนรวยมันมีบ้านหลายหลังอยู่แล้ว คนจนไม่มีปัญญาผ่อนอยู่ดี) คนจนอังกฤษด่ากันเละ เพราะเครดิตไม่ผ่านอยู่ดี (ซึ่งก็สมควรแล้วที่มึงจะกู้ไม่ได้อ่ะ)

ก็ถูกแล้ว ไอ้พวกโชว์รูม มอเตอร์โชว์ คนตจว ไปกันเยอะมากนะ มึงอาจจะไม่ได้สังเกตเพราะโควิดมา 2 ปีละ

"The further away from metropolitan areas such as Tokyo and Osaka, the number of automobiles tend to be greater, and the number of automobiles owned in Nagano ranked first, is twice that of Tokyo ranked last. This is believed to be inversely proportional to the development of public transportation systems such as railways."

เอามาจากใน source ที่ส่งให้เลยนะ มันมีหลายปัจจัยจริง แต่ยังไงขนส่งก็มีผลเยอะสุดอยู่ด

ก็จริงว่าอาจจะสื่อแบบนั้นได้ กูไม่ได้คิดรอบคอบเอง

แต่ต่อให้ตัดคำว่า นกม ไปมันก็เหลือคำว่าโกงกิน AKA corruption อยู่ดี ถ้ามึงจะบอกว่าการปกครองกดขี่เป็นการ corruption ก็ได้มั้ง ? ไม่รู้ว่ะ แต่คำถามที่กูสงสัยจริง ๆ ตั้งแต่ตอน คือมันมีด้วยเหรอวะที่ฝรั่งมันไม่อยากจ่ายภาษีเพราะ corruption ? คือถ้ามึงจะบอกว่า ไม่พอใจนโยบายภาครัฐ ไม่พอใจที่ฝั่งตรงข้ามชนะการเลือกตั้ง ไม่พอใจการใช้จ่ายเงินทางการทหาร (US) หรือราชวงศ์ UK มันนับเป็นการไม่พอใจเรื่อ corruption จริง ๆ เหรอ ?

ในไทยมันก็มีนะที่พูดถึง จำไม่ผิดตอนทักษิณก็มีคนเย้ว ๆ จะไม่จ่ายภาษี (แล้วก็มีคนสวนว่ามึงก็จ่าย VAT อยู่ดี ดราม่าสมัยพันทิปยังรุ่ง ๆ ถ้ามึงจำได้อ่ะนะ) แต่มึงดูการ concern ของคนไทย จะหริ่ม จะ ควายแดง แม่งก็ต้องพูดถึงเรื่องคอรัปชั่นก่อน สวัสดิการนี่กูสังเกตพึ่งพูดถึงกันหนัก ๆ 3-4 ปีที่ผ่านมานี้เอง ตั้งแต่ตอนพรรคส้มอ่ะ

ที่กูจะบอกคือคนไทยยังไงก็สนใจว่าเงินจะถูกเอาไปโกงกินมั้ยมากกว่าเรื่องสวัสดิการด้วยซ้ำ พวกสลิ่่มที่ไม่ได้อวยสวัสดิการมันยังสนเรื่องนี้เลย กูเลยถามว่าต่างประเทศที่ไอ้ >>709 ยกมามันแค่ เรื่องนี้ขนาดคนไทยรึเปล่า เพราะยังไงคนไทยก็แคร์เรื่องโกงกินมากกว่าไม่ได้รับสวัสดิการ

732 Nameless Fanboi Posted ID:aX3Q7VyWC3

>>731 help to buy ไม่มีให้กู้ดอกต่ำนิ มีแต่งดดอก 5 ปีแรก ข้อนี้ไทยก็มี แต่ระยะเวลาจะต่างกันไปบ้าง

ถ้าจะบอกว่าเป็นแบบไทยคงหายากหน่อย แต่คำว่า corruption มันก็อยู่ที่มุมมอง การเอาเงินให้ทหาร นกม.ฝ่ายตรงข้าม หรือราชวงศ์ ก็นับเป็น corruption ได้ เพราะเอาเงินไปใช้ผิดประโยชน์จากที่ต้องการ ไทยเองตอนนี้ก็มีคนอ้างเรื่องที่ว่านี้เหมือนกัน

มี แต่ไม่ถึงขนาดคนไทย มึงต้องไปคุยกับพวกคนตปท.เองจะเห็นภาพชัด คนนอร์ดิคชอบสวัสดิการไม่ขอบภาษีก็มีเยอะแยะ แต่เสียงข้างมากมันชอบ

แล้วประเด็นที่กูพูดแต่แรกคือพวกนี้ไม่ชอบแต่หาทางไม่จ่ายไม่ได้ ระบบการปกครองฝรั่งถูกสร้างขึ้นมาแวดล้อมระบบเก็บภาษี มันเข้มงวดมาก จนนักบัญชีภาษีเป็นอาชีพรายได้สูงมาก

เอาจริงกูอยากพูดเหมือนกันว่าไม่ต้องเก็บภาษีเพิ่มหรอก เอาแค่เก็บภาษีที่ควรเก็บให้ได้หมด นอกระบบน้อยลง แค่ VAT 7% แม้ซื้อของข้างทางก็พอแล้ว

733 Nameless Fanboi Posted ID:V8ddoYfmP/

ตอนเราถามพรรคเพื่อไทยว่าถ้าแลนสไลด์แล้วมีรัฐประหาร ในฐานะผู้แทนราษฏรจะออกมาต้านรัฐประหารมั้ย หรือให้ประชาชนสู้เองอีก ก็โควทด่าเราใหญ่เลยว่าหน้าที่ต้านรัฐประหารเป็นของประชาชน พอวิโรจน์บอกว่าจะต้านรัฐประหาร ถ้าโดนปลดจากผู้ว่าก็จะต้านในฐานะประชาชนเสือกไปแขวะเขา มึงเป็นอะไร

734 Nameless Fanboi Posted ID:jVW0tD9TKJ

>>725 ชาวต่างชาติพวกที่บ่นคือคนที่เค้าจ่ายภาษีเยอะกว่าที่เค้าได้ พวกสวัสดิการพวกนี้มันไปให้คนจนทั้งนั้น พวกคนชั้นกลางขึ้นไปถ้าเค้าไม่ต้องเสียภาษี เค้าเงินเก็บเยอะกว่าอยู่แล้ว พวกสวัสดิการพวกนั้นเค้าใช้กันไม่คุ้มเท่าไหร่ เรื่องนักการเมืองโกงที่สวีเดนเองก็มีบ่นที่เอาเงินไปซื้อสวัสดิการจากบริษัทเดิมๆทั้งๆที่คัณภาพแย่มาก

735 Nameless Fanboi Posted ID:t5AQ1yzw6d

>>721
>ต่างชาติเขาบ่นไหม
บ่นสิ นี่ ข่าวต่างๆ
>มะ-ไม่เอาแบบนี้ เอาแบบคนธรรมดาบ่น
เขาว่ากันว่าอาร์ตคือปากเสียงคนธรรมดา งั้นเอาเพลงนี้ไปเป็นตัวอย่าง
>พะ-เพลงนี้มันนานแล้ว เอาตอนนี้
โอเค เอาตอนนี้นะว่ามีฝรั่งบ่นเรื่องจ่ายภาษี
โพสต์คนสวิส2021-2022บ่นเรื่องภาาษีว่าแพงเกินและจ่ายไปไม่คุ้ม

https://thepoorswiss.com/5-things-i-hate-about-switzerland/

จะย้ายประตูหนีอีกไหมครับ

736 Nameless Fanboi Posted ID:96U4d793S0

>>735 ย้อนกลับไปดูต้นเรื่อง

>>709 คิดว่าไม่คุ้มเมื่อไหร่จะได้สวัสดิการ
>>710 "ของไทยกูขอเปลี่ยนเป็น ไม่อยากจ่ายภาษีเลยว่ะ แม่งแดกกันเละ แทนได้มั้ย ? ต่างชาติเขาบ่นแบบนี้ป่ะ อยากรู้ เพราะกูไม่ได้พูดถึงไม่อยากจ่ายเพราะไม่ได้อะไร แต่กูไม่อยากจ่ายเพราะแม่งเอาไปแดกอ่ะ"

"ของไทยกูขอเปลี่ยนเป็น ไม่อยากจ่ายภาษีเลยว่ะ แม่งแดกกันเละ แทนได้มั้ย ? ต่างชาติเขาบ่นแบบนี้ป่ะ "
"ของไทยกูขอเปลี่ยนเป็น ไม่อยากจ่ายภาษีเลยว่ะ แม่งแดกกันเละ แทนได้มั้ย ? ต่างชาติเขาบ่นแบบนี้ป่ะ "
"ของไทยกูขอเปลี่ยนเป็น ไม่อยากจ่ายภาษีเลยว่ะ แม่งแดกกันเละ แทนได้มั้ย ? ต่างชาติเขาบ่นแบบนี้ป่ะ "
"ของไทยกูขอเปลี่ยนเป็น ไม่อยากจ่ายภาษีเลยว่ะ แม่งแดกกันเละ แทนได้มั้ย ? ต่างชาติเขาบ่นแบบนี้ป่ะ "

>บ่นสิ นี่ ข่าวต่างๆ
แต่กูถามว่ามีคนบ่นไม่อยากจ่ายภาษีเพราะโกงกินมั้ย
>ม่ะ มูฟเดอะโกลโพสนี่น่า ก็บอกไปแล้วแท้ ๆ ว่ามีคนบ่นเรื่องนักการเมืองโกงกิน
? แต่กูถามว่ามีคนบ่นไม่อยากจ่ายภาษีเพราะโกงกินมั้ย ?
>เอาเพลงนี้สุดป็อบทีี่ด่านักการเมืองนี้ไปซะจะได้รู้ว่าเขาบ่นเรื่องนักการเมืองโกงไหม
????? แต่กูถามว่ามีคนบ่นไม่อยากจ่ายภาษีเพราะโกงกินมั้ย ?????
>โอเค เอาเลยมีฝรั่งบ่นเรื่องจ่ายภาษีเพราะแพงและไม่คุ้ม
????????????????????? แต่กูถามว่ามีคนบ่นไม่อยากจ่ายภาษีเพราะโกงกินมั้ย ???????????????????????????

มุขเหี้ยไรเนี่ย นี่คือมึงตั้งใจกวนตีนใช่ป่ะ 55555 หรืออ่านไทยไม่ออกจริง ๆ ตอบไม่ตรงคำถามแล้วหาว่าคนอื่น move the goalpost นี่มุขใหม่เหรอวะเนี่ย

737 Nameless Fanboi Posted ID:96U4d793S0

>>732 corruption มันไม่ได้อยู่ที่มุมมองหรอก เพราะมันมีคำนิยามทางกฏหมาย
"corruption, Improper and usually unlawful conduct intended to secure a benefit for oneself or another. Its forms include bribery, extortion, and the misuse of inside information. It exists where there is community indifference or a lack of enforcement policies. In societies with a culture of ritualized gift giving, the line between acceptable and unacceptable gifts is often hard to draw. See also organized crime."

https://www.britannica.com/topic/corruption-law

แปลไทยโง่ ๆ ง่าย ๆ คือการได้รับผลประโยชน์โดยใช้กฏหมายในทางไม่ถูกหรือช่องทางที่ผิดกฏหมาย บ้านเราอ่ะตรงเต็ม ๆ ทั้งใต้โต๊ะเอย กินเศษเอย เบิกเกินเอย

การเอาเงินให้ทหาร นกม หรือราชวงศ์ ถ้าให้ตามงบที่จัดไว้มันก็ไม่นับเป็น corruption หรอก แต่ถ้าให้เพราะหวังผลตอบแทน เขาเรียกว่า bribery หรือติดสินบน อันนั้นก็ตรง corruption เต็ม ๆ

คือกูก็เห็นแหละ มันมีคนบ่นเรื่องภาษีแพง และมีคนบ่นเรื่องคอรัปชั่น กูรู้อยู่แล้ว ไม่ต้องมาบอกก็ได้ ที่กูถามมาตลอดตั้งแต่แรกคือ "ของไทยกูขอเปลี่ยนเป็น ไม่อยากจ่ายภาษีเลยว่ะ แม่งแดกกันเละ แทนได้มั้ย ? ต่างชาติเขาบ่นแบบนี้ป่ะ "

มันมีต่างชาติบ่นไม่อยากจ่ายภาษีเพราะ corruption เหมือนไทยเหรอ ? กูหาไม่เจอจริง ๆ และพวกมึงก็หาไม่เจอเหมือนกัน เพราะกูก็ไม่เห็นพวกมึงจะยกมาถูกสักที เดี๋ยวก็ภาษีแพง เดียวก็ Tax resistence ถ้าไม่รู้ ก็แค่บอกว่าไม่รู้ก็จบ ยกอะไรมานักหนาก็ไม่รู้

เรื่องอื่นขี้เกียจเถียง

738 Nameless Fanboi Posted ID:jVW0tD9TKJ

>>737 มีสิวะ คนต่างชาติที่คิดว่ารัฐบาลตัวเอง corruption แล้วไม่อยากจ่ายภาษี บริษัทคู่ค้ากรูที่อยู่สวีเดนก็เจอเพื่อนร่วมงานบ่นบ่อยๆว่าไม่อยากจ่ายภาษีเพราะแมร่งเอาเงินไปใช้หาเสียงเพื่อกลับมากันเอง

739 Nameless Fanboi Posted ID:uB/B2osffj

>>737 กูก็บอกมาตลอดนะว่ามี มึงลองหาข่าวของไทยก็ได้ว่าไม่อยากจ่ายภาษีเพราะนกม.โกง กูไม่แน่ใจว่าจะหาเจอมั้ย ถึงหาเจอก็คงน้อย แต่ในชีวิตจริงมึงจะเห็นคนบ่นเรื่องแบบนี้เยอะใช่มั้ยละ หมายความว่าไม่เป็นข่าวแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนไม่คิดแบบนี้ มึงต้องอยู่ในสังคมมันถึงจะรู้เรื่อง

740 Nameless Fanboi Posted ID:H5ezihViiE

ทำทั้งคู่นั่นแหละ แต่ภาษีมันทำง่ายกว่าเห็นน้ำเห็นเนื้อชัดเจน
เก็บปีนี้ปีหน้ามีงบประมาณเพิ่มทันที

741 Nameless Fanboi Posted ID:av6teHUxtG

>>739 กูเซิจว่าทำไมคนไทยไม่อยากจ่ายภาษี อันแรกที่เจอก็กระทู้พันทิปคนมีตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าโกงกิน ไม่เชื่อมึงลองเซิจเอง กูก็เคยคุยกับฝรั่งนะ อย่างที่มาเที่ยวไทยมันก็บ่นภาษีแพง ไม่พอใจทรัมป์ชนะ (เมื่อตอนนู้น) ก็ไม่เห็นมันจะบ่นเรื่องคอรัปชั่นเท่าไหร่ แล้วกูก็ไม่ได้บอกว่าต้องเป็นข่าวซะหน่อย จะ study โพล หรือโฟรั่มก็ยังได้ นี่ก็หาตาม Reddit กับ Quora แล้ว ก็ยังไม่เห็นนะ เห็นแต่ด่าว่าจะเอาเงินไปลงการทหารทำไมนักหนา

เห็นเมื่อวานแซะกูจังเอาตัวเลขมาจากไหน ไหนวันนี้มึงไปหามาสิว่าไปเอาคำพูดมาจากไหน

>>738 อ่ะกูเชื่อก็ได้

742 Nameless Fanboi Posted ID:HjIbfuPs/J

ของไทย น่าจะทุกสีเลยมั้งที่บ่นไม่อยากจ่ายภาษีให้รัฐ

- เหลือง , ขนมหวาน : ไม่อยากจ่ายให้นักการเมืองโกง
- แดง : ไม่อยากจ่ายให้ ขรก. ทั้งทหาร ตำรวจและพลเรือนโกง
- ส้ม : นอกจากไม่อยากจ่ายให้ ขรก. โกงแล้ว ยังเพิ่มเรื่องไม่อยากจ่ายให้ระบบเจ้าที่ไม่ Function กับโลกใหม่อีก

743 Nameless Fanboi Posted ID:jVW0tD9TKJ

>>741
https://www.reddit.com/r/changemyview/comments/3i398u/cmv_i_know_i_am_wrong_but_i_feel_robbed_when_i/

744 Nameless Fanboi Posted ID:hlrbnULN3q

สื่อบันเทิงที่ดัดแปลงจากเกม การ์ตูนสมัยนี้ดูเหมือนจะเคารพไปซะทุกอย่าง "เคารพความหลากหลายทางเชื้อชาติ, หลากหลายทางเพศ บลาๆๆ"
แต่อันเดียวที่ควนเคารพเสือกไม่ทำคือ "เคารพต้นฉบับ"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

745 Nameless Fanboi Posted ID:av6teHUxtG

>>743 I've been living in Romania and there have been almost 70 years since our Governments have been stealing our money and spent it on things which didn't concern our welfare but only the interests of an elite.

เอาภาษีไปใช้ในจุดที่ไม่อยากให้ใช้นี้มัน corruption ตรงไหน กูก็บอกแล้วนะว่ารู้อยู่แล้วว่าคนไม่อยากจ่ายภาษีเพราะภาษีแพง กับไม่ถูกใจ policy

แล้วกูก็อุตสาห์ยก Definition มาให้แล้วนะ>>737 มึงลองอ่านดูเองแล้วกันว่าตรงกันมั้ย

เออ เว้ย พึ่งรู้ว่าโม่งแม่งอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ผ่านมาวันนึงไม่เห็นจะยกแบบที่ตรงประเด็นมาสักคน เดี๋ยวก็บ่นภาษีสูง เดี๋ยวก็เอาคนด่านักการเมือง เดี๋ยวก็ Tax resistance ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับที่กูถามสักนิด กูยอมก็ได้ มีก็มี เดี๋ยวแม่งมีไอ้เอ๋อมาหาว่ากู move the goal post อีก อ่านแล้วตอบให้ตรงคำถามยังทำกันไม่ได้เลย จบ ม.ปลายกันมาได้ยังไง (หรือยังไม่จบ ?)

746 Nameless Fanboi Posted ID:9YKHrY4wXk

“ผมเป็นคนหนึ่งที่เห็นปัญหาในกรุงเทพฯ มานาน สมัยอยู่พรรคอนาคตใหม่มีวงพูดคุยถึงแนวทางแก้ปัญหากรุงเทพฯ ผมก็อยู่ในวงนั้น เวลาผู้ว่า กทม. คิดนโยบายเป็นร้อยเป็นพันออกมา ทุกอย่างต้องใช้เงิน หลายครั้งจบลงที่คำว่า ‘ไม่มีงบประมาณ’ คำถามคือ ‘ทำไมเราถึงไม่หารายได้’ ทุกวันนี้มีคนตัวใหญ่ที่จ่ายค่าธรรมเนียมหรือภาษีอย่างไม่สมเหตุสมผล ถ้าจะแก้ที่ใจกลางของปัญหา ก็ต้องเริ่มจากการแก้กติกาให้เป็นธรรมก่อน เราไม่ได้จะรีดจากประชาชนสองล้านกว่าครัวเรือน แต่จะเก็บจากคนตัวใหญ่ที่หลีกเลี่ยงจ่ายมาตลอด เก็บคนเหล่านั้นให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ผมเงี่ยหูฟังแคนดิเดตคนอื่นมาสักพัก แต่ไม่เห็นใครคิดเรื่องนี้เลย สุดท้ายเลยตัดสินใจลงสมัครเอง ซึ่งพอไปดีเบตในเวทีต่างๆ ก็เหมือนผมพูดเรื่องนี้อยู่คนเดียว

“เรื่องขยะคือปัญหาของเมืองใหญ่ เป็นความเหลื่อมล้ำที่เห็นจากหน้าบ้านเลย บ้านเรือนในหลายพื้นที่ไม่มีรถขยะมาเก็บตามกำหนด แต่ร้านสะดวกซื้อมาเก็บได้ทุกวัน ห้างใหญ่ๆ มาเก็บวันละหลายคันรถ ถ้าเทียบกับปริมาณขยะแล้ว พวกเขาจ่ายค่าขยะในอัตราที่ถูกมาก ดังนั้นเราต้องเก็บให้เหมาะสมกับต้นทุนการจัดการ ขณะที่ปัญหาน้ำท่วม คุณคิดว่าคนทำงานไม่รู้เหรอ ว่าต้องกระจายงบประมาณมาบำรุงรักษาท่อระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ หรือลอกท่อ ฯลฯ แต่งบสองพันล้านไปอยู่กับอุโมงค์ยักษ์ มีแต่เจ้าเดิมๆ มาทำ อุโมงค์ยักษ์จะทำงานได้ดีถ้ามีการลอกท่อ แต่ที่ผ่านมาไม่ค่อยทำ ที่ทำก็อาจแค่เปิดฝาพัก ตักขี้เลน ถ่ายรูป แล้วเบิกเงินเต็ม ถ้าให้ผมเดา มันอาจเป็นความเกรงใจ หลายคนไม่อยากตัดงบประมาณที่พัวพันกับผู้รับเหมารายใหญ่

“สิ่งที่มากกว่าความกล้าหรือกลัว คือเรื่องบุญคุณ เราต่างมีผลประโยชน์ต่างตอบแทนกัน คุณก็เกรงใจผม ผมก็เกรงใจคุณ สุดท้ายเลยไม่กล้าปฏิเสธ ถ้าไม่นับพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ พี่น้อง หรือเพื่อน ไม่มีใครมีบุญคุณทางเศรษฐกิจกับผม ผมสามารถตัดสินใจให้เป็นธรรมกับทุกคนได้โดยไม่ต้องเกรงใจใคร ตั้งแต่ตอนทำงานเป็น ส.ส. ในสภาแล้ว ผมทำงานด้วยความตรงไปตรงมา มีคนไปตามครอบครัวของผม แต่ก็หยุดอะไรผมไม่ได้ จริงๆ ทุกคนมีความกลัวหมดแหละ แต่ผมเชื่อว่าถ้าคุณทำในสิ่งที่ถูกต้อง ประชาชนจะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้คุณ ประชาชนที่เคยไม่เข้าใจในวันแรก พอผลประโยชน์ที่ตกถึงเขาในฐานะผู้เสียภาษีคนหนึ่ง สุดท้ายเขาจะเข้าใจเรามากขึ้น

“แม่ของผมทำอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว ส่วนพ่อขายผ้า เมื่อก่อนผมคิดแบบชนชั้นกลางทั่วไปว่า ‘ถ้าอยากมีชีวิตที่ดี คุณก็ต้องพยายาม’ แต่เวลาผ่านไป ผมได้เจอคนที่ขยันจนไม่รู้ว่าเวลาพักคืออะไร เห็นเด็กบางคนแล้วรู้เลยว่า ถ้าเขาอยู่ในระบบนิเวศแบบนั้น ไม่มีทางที่จะหลุดพ้นจากความยากจนเลย ความเก่งเป็นส่วนหนึ่ง แต่เมืองที่เป็นธรรมจะสร้างคนประสบความสำเร็จมากขึ้น ผมไม่ได้มาจากครอบครัวร่ำรวย ปิดเทอมต้องช่วยพ่อทำงาน เลยคิดว่าตัวเองมีอารมณ์ร่วมกับคนที่ต้องดิ้นรนในเมืองนี้ แต่เวลาพูดเรื่องนี้ต้องระมัดระวัง เดี๋ยวคนจะหาว่าขายความยากจน ผมอยู่ในครอบครัวที่ต้องดิ้นรนก็จริง แต่ในความยากจน มีคนที่ยากจนกว่าอีกจำนวนมาก ผมยังโชคดีมีที่ให้ดิ้น เพราะครอบครัวไม่มีหนี้ครัวเรือน แต่หลายคนดิ้นจนไม่มีแรงจะดิ้นแล้ว

“ช่วงที่ผมลงพื้นที่ในกรุงเทพฯ สิ่งเฮิร์ตที่สุดคือเรื่องคนจนเมือง ผมเคยเจอคุณยายท่านหนึ่งที่เขตบางซื่อ เขาเล่าให้ฟังว่า ทุกวันนี้กินข้าวกับไข่ต้ม รางวัลที่ทำให้ดีใจคือวันนั้นได้กินข้าวกับแกงถุง ไม่ได้เป็นแค่บ้านเดียว คนแบบนั้นมีเต็มไปหมด หรือเวลาเจอคนป่วยในชุมชน เราอาจตั้งคำถามว่า ‘ทำไมถึงไม่ไปหาหมอ’ มีคนบอกผมว่า ‘ไม่มีเวลาไปหาหมอ ไปโรงพยาบาลก็เสียเวลาครึ่งค่อนวัน ต้องถูกตัดค่าแรงรายวันอีก’ สุดท้ายเขาเลยซื้อยากินเองเท่าที่ซื้อไหว ทำไมคุณภาพชีวิตของคนถึงเป็นแบบนี้ เมืองนี้ผลักภาระให้เราดิ้นรนเอง คนที่ดิ้นรนแล้วชนะได้คือหนึ่งในล้าน ก็ถูกโฆษณาว่า 'นี่คือผลของความพยายาม' แต่มีคนอีกไม่รู้เท่าไรที่พยายามจนไม่รู้จะพยายามยังไงแล้ว ทำงานถึงดึก บ้านมีไว้เก็บของ แต่ไม่มีโอกาสหารายได้มากกว่านี้

747 Nameless Fanboi Posted ID:9YKHrY4wXk

“ผมสะอิดสะเอียนทุกครั้งเวลาได้ยินคนพูดว่า ‘ต้องให้เศรษฐกิจดีก่อน ถึงทำสวัสดิการให้ประชาชนได้’ มันเป็นความคิดของ (เงียบ) พูดตรงๆ ได้ป่ะ สมุนนายทุนชัดๆ คุณควรทำสวัสดิการให้ดี โดยเฉพาะกับกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็กแรกเกิด - 6 ขวบ คนพิการ และผู้สูงอายุ พวกเขาก็เอาเงินนั้นมากินมาใช้ในชุมชน พอรู้สึกว่าชีวิตมั่นคงก็มีกำลังซื้อมากขึ้น พอคนบริโภคมากขึ้น คนก็อยากลงทุนมากขึ้น มันก็นำไปสู่การจ้างงาน แต่ขณะเดียวกัน คุณต้องแก้กติกาที่ไม่เป็นธรรมด้วย ต่อให้เศรษฐกิจดีแค่ไหน ถามว่านายทุนใหญ่ๆ อยากจ่ายค่าธรรมเนียมขยะเพิ่มขึ้นไหม ถามว่าโรงงานใหญ่ๆ อยากจ่ายค่าบำบัดน้ำเสียไหม ถามว่าเจ้าของที่ดินจะเลิกเอาที่ใจกลางเมืองมาล้อมรั้วแล้วปลูกกล้วยเพื่อแสร้งว่าเป็นที่เกษตรกรรมเพื่อเลี่ยงภาษีไหม ไม่หรอก

“หลายคนมีความคิดว่า ‘คนรวยก็รวยอยู่วันยังค่ำ คนจนก็จนอยู่อย่างนั้น’ ถ้าคุณจัดเก็บรายได้จากคนตัวใหญ่ให้เป็นธรรม เราจะมีเงินมาดูแลประชาชน ปรับปรุงสวัสดิการ โรงพยาบาล โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก คูคลอง การบำบัดน้ำเสีย การจัดเก็บขยะ ฯลฯ ให้ดีกว่าเดิมได้ เราคงไม่ได้มีความสุขตลอดเวลาหรอก ความทุกข์ก็มี ความสุขก็มี มันเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ แต่ความรู้สึกที่แย่ที่สุดคือ ‘อยู่ไปวันๆ’ ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของเมือง เป็นแค่ผู้อยู่อาศัย คนจนก็ต้องยอมรับชะตากรรม ผมต้องการคลายความรู้สึกแบบนี้ อยากให้ทุกคนรู้สึกว่า เราเป็นเจ้าของเมืองร่วมกัน

“เราทุกคนต้องแก่ตัวลง ถ้าเมืองนี้เต็มไปด้วยคนที่แก่ตัวลง แต่ไม่มีสวัสดิการที่ดี ไม่มีเงินออมที่มากพอ มันคือเมืองต้องสาปเลยนะ ทุกวันนี้มีแต่วลีจากหนังลัดดาแลนด์ว่า 'กูออกไม่ได้ ออกแล้วจะเอาอะไรแดก' ถ้าเราทำให้คนมีสวัสดิการ มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น มีความมั่นคง มีความกล้าที่จะจ่าย การบริโภคมากขึ้น เกิดการลงทุน เกิดการจ้างงาน ชีวิตก็มีความหวัง เมืองโอบรับความหวังแล้วทำให้คนกล้าทำตามความฝันของตัวเอง”
.
'วิโรจน์ ลักขณาอดิศร' ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 1

748 Nameless Fanboi Posted ID:jVW0tD9TKJ

>>745 เลื่อนไปอ่านข้างล่างก็มีคนพูดอยู่
Taxation sucks. It just does. You can consider it, however, a necessary evil. Without some form of taxation (or substitute for taxation) governments have no budgets.

We can all disagree about just how big government budgets need to be, but even the most ardent Libertarians or Austrian economists believe in at least cover certain basics, like security and a justice system. Many people also think that it needs to cover things like public transport, access to water, education, health care, etc. These all have economic justifications, such as being public goods or having significant positive externalities.

That means, even in a corrupt government, there is at least some level of taxation that is useful. Unfortunately, we also know that much public spending is wasteful and inefficient even when governments aren't corrupt. Bureaucracy begets bureaucracy.

Still, that means that the problem isn't taxation, it's corruption and wasteful spending. A few fiscally conservative leaders tried the strategy of "starving the beast" in the past. That is to say, they tried to kill excess bureaucracy by lowering taxes and killing the budget. All that did, however, was lead to excess debt and a larger budget.

Rather than fighting against taxation, therefore, fight against corruption and wasteful spending.

So is tax evasion a reasonable way to fight corruption and waste? Well, if you evade taxes, all you do is shift the tax burden onto your neighbours. You are basically stealing from them. If you all evade taxes, all you do is create a "starve the beast" situation where the government debt gets out of control. If your politicians are corrupt, they will continue to be corrupt, but your schools, hospitals, roads, and courts will be either be underfunded or paid for by debt.

This situation should remind you of Greece, where tax evasion became the national sport. Did that make the politicians more responsible or did it contribute to massive public debt and an economic crisis?
นี่ได้อ่านจริงรึเปล่าหรือแค่ประโยคแรกก็เลิกแล้ว

749 Nameless Fanboi Posted ID:jVW0tD9TKJ

>>748 เพิ่มเติม มันมีงานวิจัยด้วยซ้ำว่าประเทศ ทีมีการ corruption เยอะขึ้นจะมีคนหนีภาษีเยอะขึ้น
http://repec.tulane.edu/RePEc/pdf/tul1802.pdf
https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0176268017303816#fig1

750 Nameless Fanboi Posted ID:GHQBs0hLWQ

>>748 อุตสาห์ยกมานี่ได้อ่านรึเปล่าว่าเขาพูดเรื่องอะไร

That means, even in a corrupt government, there is at least some level of taxation that is useful. Unfortunately, we also know that much public spending is wasteful and inefficient even when governments aren't corrupt. Bureaucracy begets bureaucracy.

"Rather than fighting against taxation, therefore, fight against corruption and wasteful spending"

อ่าว อันนี้ีที่กูพูดถึงเมื่อวานเลยนี่หว่า ดีใจจังมีฝรั่งเห็นด้วยด้วย

This situation should remind you of Greece, where tax evasion became the national sport. Did that make the politicians more responsible or did it contribute to massive public debt and an economic crisis?

เออวะ กูลืมว่ากรีกแม่งก็ฝรั่ง เค ๆ เอาจริง กูแค่ตอบว่าไอ้ >>709 ที่ยกประเทศเจริญ ๆ มาบอกไม่จ่ายภาษีเพราะสวัสดิการไม่ดี กูเลยจะบอกว่าแล้วประเทศห่านั้นคนมันบ่นเรื่องคอรัปชั่นเหมือนไทยมั้ย แค่นั้นแหละ กูพลาดเองที่ลืมไปว่ายุโรปตะวันออกกับยุโรปใต้แม่งก็ฝรั่ง

>>749 How does petty corruption affect tax morale in "Sub-Saharan Africa?"

แต่กูพึ่งรู้ว่าคนแอฟริกาก็เป็นฝรั่ง

แต่ก็ถูกแล้วนี่ คอรัปชั่นสูงคนก็ไม่อยากจ่ายภาษี กูไม่ได้เถียงอะไรนะ นี่สนับสนุน point กูใน >>710 ด้วยซ้ำ ในทางกลับกันประเทศที่คอรัปชั่นต่ำอย่างที่ไอ้ >>709 พูดมา ถ้าดูจากการศึกษาของ Corruption, Taxation, and Tax Evasion มันก็บอกนี่ว่าเป็นประเทศที่ corruption "ต่ำ" คนหนีภาษี "น้อย" งี้ ประเทศพวกนี้มันก็มักจะไม่บ่นเรื่องนักการเมือง corruption แต่ไปบ่นเรื่องเก็บภาษีแพงไง

ขอบคุณที่ยกทั้งสองงานมาสนับสนุน point ของกู

751 Nameless Fanboi Posted ID:GHQBs0hLWQ

แล้วเดี๋ยวก็จะบอกว่า ประเทศที่เก็บภาษีแพง คนหนีภาษีเยอะ อ่าวงี้ถ้า Corruption = Direct cause of tax evasion งี้ก็แปลว่าประเทศพวกนี้มีความ Corruption สูงเหรอ ? ก็ไม่นะ 555

ขอบคุณที่ยกงานพวกนี้มา เป็นคนที่ยกงานทั้งสองอันมาเอง คงไม่มาขัดกับผลของการวิจัยทีหลังนะ ? สรุปฝรั่งในประเทศ >>709 ไม่ได้บ่นเรื่อง corruption แถมไม่ได้หนีภาษีเยอะด้วย ตามที่งานวิจัยบอก ขอบคุณค้าบ

752 Nameless Fanboi Posted ID:XPzBqH0BN5

https://www.researchgate.net/publication/328673955_Tax_Morale_in_Times_of_Economic_Depression_The_Case_of_Greece

ชะอ้าว อ่านเล่น ๆ ไปเจองานวิจัยอันนี้ งานวิจัยในกรีซพอดีเลย

The conclusions with regard to the tested hypotheses are that worsening economic conditions in Greece decrease the level of citizens’ tax morale because of a rising tax burden that is not fairly allocated and results in favor of participating to activities in the shadow economy (H1 and H2). Apparently, tax morale remains low for the whole sample (i.e., not by considering only those suffering
the most by depression), since only 3040 percent does not justify participation in the shadow economy or tax evasion, and merely 10 percent does not consider loss in utility gained from the provision of public goods and services, while their
costs rise (see Table 3). An inference regarding individuals with moral values being unaffected by the behavior of peers arises from observing the behavior of the whole sample: the percentage of individuals considering that moral values
enforce tax compliance (42 percent) is close to the percentage of complianceminded individuals acting irrespectively of peers’ compliance (see Table 3). Also evident, in Table 3, from the high levels (60 percent of the whole sample) of
unreported income and the perception that high fines deter tax evasion (74 percent of the whole sample) is the unlikely event of the probability that a fine may occur, since fines are not low under current legislation. For example, under current legislations, fines (on all physical and legal entities) concerning income and property tax range from 10 to 50 percent of the amount of tax saved and 50 percent of the tax not paid regarding VAT. There is also a provision for prison sentence from 2 (up to h100 thousands of taxes saved per annum or up to 50 thousand of undeclared VAT per annum) to over 5 years (over 150 thousands of taxes saved per annum or over 100 thousand of undeclared VAT per annum).

สรุปคนกรีกก็ไม่ได้บ่นเรื่องคอรัปชั่นว่ะ 555 แต่การคอรัปชั่นมันทำให้การจัดการกับคนที่หนีภาษียากขึ้น ดีจังที่เปเปอร์นี่มีเซอเวย์มาให้ด้วย

อ่าว สรุป

753 Nameless Fanboi Posted ID:XPzBqH0BN5

เคาะ enter เพลิน สรุปยังไงวะ คนฝรั่งชาติไหนมันบ่น corruption วะเนี่ย กรีกที่ว่าเหี้ยมันยังไม่บ่น

754 Nameless Fanboi Posted ID:Cc2itYHRSR

>>753 มึงหายังไงว่าไม่บ่น ไม่มีประเทศไหนหรอกนะที่คนไม่บ่นเรื่อง corruption จะมีก็แต่วาติกันละมั้ง เคยคุยกับคนตปท.จริงๆ มั่งรึเปล่าเถอะ

กูยังไม่ได้อ่านตัวเต็มนะ แต่จาก Abstract ก็พอเข้าใจได้คร่าวๆ เกี่ยวกับ tax morale กับ corruption

"...By exploring tax morale differences between 1999 and 2008 we show that tax morale has decreased in 7 out of 10 Eastern European countries."

ประเด็นคือข้างล่างนี้

"...Factors such as perceived government quality, trust in the justice system and the government are positively correlated with tax morale in 2008"

https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0967067X12000062

อันนี้อีกอัน

"...The overall findings show the importance of accountability, democratic governance, efficient, and transparent legal structures and therefore trust within the society to enforce tax compliance and tax morale."

https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=1977173

tax morale กูพึ่งรู้จักคำนี้เลย เป็นคำที่น่าสนใจดี งานพวกนี้อธิบายได้หลายอย่างเลย

755 Nameless Fanboi Posted ID:YT8H.D/iS4

>>754 กูก็ไปเจอ tax morale จากงานที่มึงส่งมานั่นแหละ มึงไม่ได้อ่านที่ส่งมานี่หว่า

แล้วกูไม่ได้บอกว่าคนไม่บ่นเรื่องคอรัปชั่น... ก็บอกว่าคนไม่ได้ไม่อยากจ่ายภาษีเพราะคอรัปชั่น อย่างหนีภาษีที่พวกมึงยกกันมาอ่ะ ในยุโรปเจริญๆ พวกที่หนีได้มันคือ top 1% ultra rich นะ จะบอกว่าคนรวยหนีภาษีเพราะคอรัปชั่นโกงกินมันก็ตลกไปหน่อย

พวกมึงนี่มากันกี่คนพูดเหมือนเดิมเด๊ะ ย้อนกลับไปอ่านก่อนไหมมันเริ่มมาจากอะไร ออกทะเลโคตรไกล

756 Nameless Fanboi Posted ID:bgEtjM0foO

>>755 >>710 มึงบอกว่าให้หามาว่าที่ไม่อยากจ่ายภาษีเพราะ corruption นะ อันนี้ไม่ตรงยังไง แล้วกูไม่ใช่คนที่ส่งลิงค์ให้มึงแต่แรกนะ

757 Nameless Fanboi Posted ID:YT8H.D/iS4

>>756 ก็ในเมื่อประเทศที่ corruption สูง tax morale มันก็ด้อยตาม แล้วถ้าประเทศที่ corruption ต่ำมันก็แปลว่า ???????????

เว้นแต่มึงจะบอกว่าประเทศใน >>709 มัน corruption สูงอ่ะนะ

758 Nameless Fanboi Posted ID:YT8H.D/iS4

ถ้ามึงไม่ได้อ่านแต่แรก

ตอนแรกกูคุยกับอีกคนว่าถ้าจะเอาสวัสดิการต้องจัดการ corruption ก่อน หรือจะเก็บภาษีเพิ่มก่อน

ไอ้ >>709 มันเลยบอกว่าประเทศอื่นมันก็ไม่อยากจ่ายแล้วเมื่อไหร่จะได้สวัสดิการ กูเลยตอบใน >>710 ว่าแล้วประเทศห่านี่มันมีปัญหา corruption เหมือนบ้านเรามั้ย

แทนที่จะตอบประเด่นนั้นดันเล่นจับผิดคำกันลากยาวมา 50 กว่าเม้น

แต่งานวิจัยที่พวกมึงส่งมา ส่วนใหญ่มันก็บอกนะว่าการแก้คอรัปชั่นจะช่วยเรื่อง tax morale ได้มีประสิทธิภาพ

759 Nameless Fanboi Posted ID:bgEtjM0foO

ตอนแรกมึงขอต่างประเทศ ต่อมาขอฝรั่ง แล้วตอนนี้จะเจาะจงแค่>>709 เหรอ ตอน>>750 มึงยังยอมรับว่ากรีกเป็นฝรั่ง ตรงกับที่มึงถามหาเลย

แล้วถ้าถามหาคนไม่อยากจ่ายจริงๆ มึงถามผิดมากนะ เพราะอะไรที่ไม่ 100% แปลว่ามีคนคิดตรงข้าม หรือก็คือถ้า tax morale ไม่ 100% ก็แปลว่ามีคนในประเทศนั้นไม่อยากจ่ายภาษี เก็ตมั้ย

งานข้างล่างนี่น่าสนใจดี เพราะประเทศที่ tax morale สูงสุดคือเมกา สวีเดน เดนมาร์กสูงมากก็จริง แต่ไม่ถึง 60% แปลว่ามีคน 40%+ ไม่อยากจ่ายภาษีนั้นละ แล้วเมื่อ tax morale correlated กับ corruption มึงก็ยอมรับข้อนี้ แปลว่าที่ไม่อยากจ่ายก็มีส่วนเกี่ยวกับ corruption นั่นละ จะมากน้อยแค่ไหนก็ว่ากัน

https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S0167487005001054

760 Nameless Fanboi Posted ID:YT8H.D/iS4

>>759 กูแค่จะบอกว่าประเทศไทยคนไม่อยากจ่ายภาษีเพราะคอรัปชั่น ไม่ใช่เพราะไม่มีสวัสดิการเหมือนที่ไอ้ >>709 เอามาอ้าง ซึ่ง paper ทุกตัวที่เอามาก็บอกว่า corruption เป็นหนึ่งในตัวแปลสำคัญในประเทศที่มีความ corruption สูง มึงเห็นด้วยมั้ย ? ไม่เห็นด้วยเพราะอะไร ?

ไอ้มีมันก็ต้องมีแหละ เออกูยอมรับ จบนะ แต่สวีเดน เดนมาร์ก ก็มีคนจน แต่มันเทียบกับไทยได้มั้ย ? ไอ้สถิติพวกนี้เขาเอาไว้ดูแนวโน้ม กูละไว้ในฐานที่เข้าใจ มึงจะด่ากุเรื่องนี้ก็ได้ แต่มันไม่ใช่สาระสำคัญที่กูพูด จบมั้ย ?

761 Nameless Fanboi Posted ID:YT8H.D/iS4

ถ้ามึงจะบอกว่าไม่อยากจ่ายภาษี = มีส่วนเกี่ยวกับ corruption งี้ก็แปลว่า ประเทศอย่างสวีเดน เดนมาร์คก็เป็นประเทศที่มี corruption สูงเหรอ ? มันเป็นปัจจัยหลักในประเทศที่ corruption สูงแต่กลับประเทศที่ corruption ต่ำมันก็มี factor อื่น

ไหนๆ ก็ยก paper นั้นมาแล้ว ก็อย่าอ่านแค่ abstract สิ เข้าไปดูด้วยว่า อะไรที่ทำให้ willing to pay มันน้อย

762 Nameless Fanboi Posted ID:Cc2itYHRSR

>>760 ถ้ามึงจะเอา wording ตรงเป๊ะข้อเดียวแบบนั้นคงต้องไปหาเอาเองแล้วละ แล้วงานวิจัยแบบนี้กูคิดว่าไม่เคยมีในไทยนะ แต่มึงก็พูดได้เต็มปากว่าคนไทยไม่อยากจ่ายภาษี ทั้งที่ไม่มีงานวิจัยรองรับ ทำใมละ

มีมึงคนเดียวนั้นละไม่ยอมจบ มาประกาศชัยชนะคนเดียวตั้งหลายที ทำใมทีนี้มาถามว่าคนอื่นไม่จบ

>>761 มีมึงเป็นคนเริ่มนั่นละที่บอก corruption เยอะเลยไม่อยากจ่ายภาษี กูบอกแต่แรกแล้วว่ามีหลายปัจจัย แต่มันเลี่ยงภาษีไม่ได้เลยต้องยอมจ่าย มึงก็เอาแต่ย้ำเรื่องนี้ ทีนี้พอตัวเลขพลิกกลับจะมาบอกว่ากูบอกเหรอ มีมโนธรรมหน่อยได้มั้ย

ย้ำอีกที ถ้ามึงจะเอา wording ให้ตรงคำตอบที่มึงต้องการ มึงต้องไปถามเอง เพราะไม่มีใครถามให้ตรงคำตอบมึงได้หรอกนอกจากตัวมึงเอง

จบมั้ย ?

763 Nameless Fanboi Posted ID:mh+oeIvzLv

>>762 wording อะไรของมึง งี้กูพูดว่าคนไทยอยากจ่ายภาษี มึงก็เชื่อป่ะ ? ไม่มีงานวิจัยนี่ กูก็บอกไปแล้ว เซิจกูเกิล ถามพ่อแม่มึง หรือถาม สลิ่่ม สามกลีบ ควายแดงดูก็ได้ แล้วมึงไปนับดูว่ามีคนตอบว่าไม่อยากเสียภาษีเพราะสวัสดิการกี่คน แล้วไม่อยากเสียภาษีเพราะโกงกินกี่คน มึงอยู่ในประเทศนี้ก็ควรรู้ว่าเรื่องนี้มันอยู่ในการรับรู้ของคนดีอยู่แล้ว

ที่เถียงมาแบบนี้แปลว่ามึงจะบอกว่าคนไทยไม่อยากจ่ายภาษีเพราะสวัสดิการใช่มั้ย เพราะกูคิดว่าไม่ใช่ และเป็น point ที่กูพูดมาตลอด การ disprove point มันง่ายกว่าการแสดงความคิดเห็นของตัวเองอยู่แล้ว ไหนบอกสิประเด็นที่มึงไม่เห็นด้วยคืออะไร ไม่งั้นก็สักแต่จะเถียงนี่หว่า

ตัวเลขพลิกอะไรของมึง ก็ไอ้คนที่โยนมามันบอกว่าที่ ๆ corruption มีผลกับการเลี่ยงภาษี กูเลยสวนกลับไปว่างี้ประเทศ Nordic ที่หนีภาษีเยอะก็ corruption สูงเหรอ ไม่ได้ยอมรับอะไรเลย มีแต่มึงบิดคำพูดไปมาเอง

กูเถียงวันนึง แม่งมากัน 3 คน กูจะรู้มั้ยว่ามึงมันตัวไหน แล้วถ้ามึงเป็นไอ้คนแรก (กูคิดว่ามึงไม่ใช่) กูไปดู paper ในนี้เองละกัน แม่งบอกชัดว่าควรแก้ปัญหาเรื่อง corruption มากกว่าขึ้นภาษี เพราะจะยิ่งทำให้คนออกนอกระบบ

สักแต่จะเถียง ไม่ดูอะไรเลย พอกูบอกว่าไม่ตรงประเด็นออกนอกเรื่อง มึงก็บอกว่าเน้น wording wording พ่อมึงดิ ในเมื่อมึงไม่ได้มีประเด็นอะไรของตัวเองเลย ที่ขัดกับกูแปลว่ามึงจะบอกว่าคนไทยไม่อยากจ่ายภาษีเพราะสวัสดิการตามที่ไอ้ >>709 บอกใช่มั้ย ถ้าไม่ใช่มึงจะเถียงเพื่ออะไร ต้องการอะไรของมึง หรือแค่อยากจะบอกว่ากูเหนือกว่า เฉย ๆ ไหนตอบกูดิ

764 Nameless Fanboi Posted ID:XPzBqH0BN5

แล้วก็ช่วยอ่านภาษาไทยให้ชัด

ไม่อยากจ่ายภาษี กับหนีภาษี
ไม่อยากจ่ายภาษี กับหนีภาษี
ไม่อยากจ่ายภาษี กับหนีภาษี
ไม่อยากจ่ายภาษี กับหนีภาษี

ไหนกูไปบอกตอนไหน แล้วเลขพลิกตรงไหน ก็เป็นพวกมึงเองที่อ้างว่า nordic มันหนีภาษีเยอะ >>722 >>727 แล้วก็มาบอกกูว่าการ corruption เยอะจะหนีภาษีเยอะ >>749 กูเลยถามกลับไปงี้ nordic ที่พวกมึงว่าหนีภาษีเยอะก็คอรัปชั่นสูงเหรอ ? >>751 กูไปยอมรับตอนไหน พอกูถามจี้ก็เสือกไม่ตอบ แล้วกูไปเถียงมึงตอนไหนว่าพวกนั้นเลี่ยงไม่ได้เลยไม่ยอมจ่าย

ที่บอกว่าไม่อยากจ่ายภาษีเพราะ corruption กูหมายถึงประเทศไทย ป ร ะ เท ศ ไ ท ย Thailand ปู๊นๆ อ๊ะ ประเทศที่มึงเหยียบอยู่อ่ะ ไม่ได้พูดถึงประเทศอื่นเลย แล้วกูก็ไม่ใช่คนที่ยก paper มาแต่แรกด้วย

765 Nameless Fanboi Posted ID:Cc2itYHRSR

แล้วมึงจะถามว่าจบมั้ยทำใมในเมื่อมึงไม่ยอมจบเอง เอาเถอะ กูยอมจบให้มึงก็ได้ ประกาศชัยชนะอีกรอบได้เลยตามสบาย ไม่มีใครคุยกับมึงแล้วละ

แต่ขอแย้งครั้งสุดท้ายนิดนึงนะ

>>764 >>710 ที่มึงถามหานี่คือไทยเหรอ พอคนเอาตัวเลขมาให้ก็คุยได้ตั้งนาน ไม่บอกแต่แรกละว่าหมายถึงไทยอย่างเดียว พอโม่งอีกคนเอาแอฟริกามาก็บอกไม่ใช่ฝรั่ง เอากรีซมาก็บอกลืมไปว่าพวกนี้ก็ฝรั่ง เอานอร์ดิคมาก็ว่าพูดถึงแต่ ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย กูถึงบอกไงว่าไม่มีใครถามตรงคำตอบมึงหรอก คุยกับตัวเองไปคนเดียวเถอะ

766 Nameless Fanboi Posted ID:XPzBqH0BN5

>>765 พอถามว่า point คืออะไร ปิดธงยอมแพ้เลยเหรอวะ เถียงอะไรไม่มีหลักแหล่งสักแต่จะเถียง แค่ยอมรับยังไม่กล้ายอมรับ น่าจะถามอย่างงี้ตั้งแต่แรก ไม่น่าตอบมาตั้งนานเลย กระจอกชิบหาย

ว่าแล้วก็ยังไม่วาย แย้งอย่างเดียว สรุปมึงเห็นด้วยกับไอ้ >>709 รึเปล่าวะ เถียงแทนมันมาตั้งนาน

>>761 "มีมึงเป็นคนเริ่มนั่นละที่บอก corruption เยอะเลยไม่อยากจ่ายภาษี กูบอกแต่แรกแล้วว่ามีหลายปัจจัย แต่มันเลี่ยงภาษีไม่ได้เลยต้องยอมจ่าย มึงก็เอาแต่ย้ำเรื่องนี้ ทีนี้พอตัวเลขพลิกกลับจะมาบอกว่ากูบอกเหรอ มีมโนธรรมหน่อยได้มั้ย"

กูพูดว่า ไทย"corruption เยอะเลยไม่อยากจ่ายภาษี" กูไปพูดถึง แอฟริกัน กรีซ นอร์ดิคตอนไหน ที่บอกว่าคอรัปชั่นเยอะ อ่ะ ป ร ะ เท ศ ไ ท ย พวกมึงยกกันมาเอง พอพวกมึงเอาตัวเลขมา กูก็ยึดตัวเลขพวกมึง พอตัวเลขที่พวกมึงเอามาพลิกตีกันเอง แล้วเถียงข้อมูลกันเองเสือกมาโทษกู อะไรของพวกมึงวะเนี่ย

แต่กูเข้าใจว่ามึงอ่านภาษาไทยไม่ถนัด ไม่น่าไปยกภาษาอังกฤษมาเลย ภาษาไทยยังไปไม่รอดแบบนี้

767 Nameless Fanboi Posted ID:Cc2itYHRSR

>>766 ไม่พูดถึง>>710 ที่มึงถามเลยเหรอ พอคนเอามาแย้งเยอะแยะทำใมไม่พูดตั้งแต่ต้นละว่าพูดถึงแค่ไทย ไม่ได้พูดถึงประเทศอื่น จะแย้งทำเหี้ยอะไรเยอะแยะว่าไม่ตรงโน่นนี่นั่น พูดคำเดียวแต่แรกว่าหมายถึงไทยก็พอ แต่มึงทำไม่ได้หรอก เพราะ>>710 มึงถามว่า

"ของไทยกูขอเปลี่ยนเป็น ไม่อยากจ่ายภาษีเลยว่ะ แม่งแดกกันเละ แทนได้มั้ย ? ต่างชาติเขาบ่นแบบนี้ป่ะ อยากรู้"

มึงถามว่า "ต่างชาติเขาบ่นกันแบบนี้มั้ย" ตอนนี้เสือกบอกว่าไม่ได้พูดถึงต่างชาติ พูดถึงแค่ไทย ไม่กลับไปอ่านที่มึงเขียนมั่งเหรอ

ย้อนกลับไปแค่>>758 ก็ได้มึงถามว่า "แล้วประเทศห่านี่มันมีปัญหา corruption เหมือนบ้านเรามั้ย" ประเทศที่มึงว่าคือประเทศใน >>709 ซึ่งก็คือตปท. มึงจะบอกว่าไม่ได้พูดถึงการ corruption ของตปท.ได้ยังไง

กูรู้สึกโง่จริงๆ ที่กลับมาตอบมึง เอาเถอะ ถือว่าโง่ครั้งสุดท้ายก็ได้ หลังจากนี้คือจบจริงแล้ว ประกาศชัยชนะได้ตามสบายเลยนะ กูไม่เถียงแล้วจริงๆ เชื่อกูเถอะนะ

768 Nameless Fanboi Posted ID:XPzBqH0BN5

กูเถียงประโยค >>761 ไอ้ควาย กูไปบอกตอนไหนว่า corruption เยอะเลยไม่จ่ายภาษีมันเป็นที่ nordic เป็นที่แอฟริกัน เป็นที่กรีซ พวกมึงยกกันมาเอง กูไปย้ำตอนไหน ตอบซิไอ้เหี้ย

769 Nameless Fanboi Posted ID:XPzBqH0BN5

>>767 >>768 ไอ้ควาย

770 Nameless Fanboi Posted ID:XPzBqH0BN5

เออ มึงก็โง่จริงๆ ว่ะไอ้เหี้ย อ่านเหี้ยไรได้บ้างวะเนี่ย

771 Nameless Fanboi Posted ID:XPzBqH0BN5

Point อะไรไม่มี เอาแต่จับคำพูดคนอื่นไปตีความมั่ว ๆ เอง กลวงชิบหาย เสียเวลา

772 Nameless Fanboi Posted ID:XPzBqH0BN5

ประโยค >>762 ">>761 "มีมึงเป็นคนเริ่มนั่นละที่บอก corruption เยอะเลยไม่อยากจ่ายภาษี กูบอกแต่แรกแล้วว่ามีหลายปัจจัย แต่มันเลี่ยงภาษีไม่ได้เลยต้องยอมจ่าย มึงก็เอาแต่ย้ำเรื่องนี้ ทีนี้พอตัวเลขพลิกกลับจะมาบอกว่ากูบอกเหรอ มีมโนธรรมหน่อยได้มั้ย"

ไหนวะกูไปย้ำตอนไหน ไหน ๆ ก็ย้อนไปอ่านแล้ว

773 Nameless Fanboi Posted ID:XPzBqH0BN5

กูแค่ตอบ >>762 ว่ากูไม่เคยพูดเรื่อง corruption เยอะเลยนอกจากประเทศไทย พวกมึงไม่เคยยกเลขไทยมา และกูไม่ได้ไม่ได้ย้ำเหี้ยอะไรเลย

มึงตีความ = อ่าว มึงบอกตอนไหนว่าพูดแค่ประเทศไทย

=*= ปวดหัวว่ะ รู้สึกเหมือนเซลล์สมองตาย 84000 ตัว

774 Nameless Fanboi Posted ID:tQojfMl/Lq

โม่งมายเบรควะ555555

775 Nameless Fanboi Posted ID:VIKt98WRmh

สติแตกไปแล้ว1

776 Nameless Fanboi Posted ID:aX9HyUWeKg

#มิตรสหายท่านนั้นกล่าว
:
### สมศักดิ์ VS ตุ๊ดเชียร์เพื่อไทย และปรากฎการณ์ Ideological Quilting ###

ผมคิดว่าหลายๆ คนน่าจะยังไม่เก็ต "ประเด็น" ของสมศักดิ์ และมองว่าสมองแกไปแล้ว (หรือกระทั่งบอกว่าแกตัวปลอม)

จริงๆ แกกำลังคิดเรื่องที่ยาก แต่อธิบายออกมาได้ไม่่ดี ผมก็ว่าเป็นหน้าที่คนอย่างผมจะช่วยอธิบาย แม้ว่าผมจะไม่ได้สนิทอะไรกับแก (ในทางวิชาการถือเป็น "คู่ปรับ" ด้วยซ้ำ แต่เพื่อนผมเป็นเพื่อนแกหลายคน)

คือผมว่ามันต้องเริ่มจาก "ปรากฎการณ์ที่เป็นปัญหา" ก่อน (พูดในภาษาวิจัยคือ "ที่มาและความสำคัญของปัญหา")

สมศักดิ์สังเกตว่ามันมีคนกลุ่มหนึ่ง มีท่าทีที่ "อยากล้มเจ้า" และ "เชียร์เพื่อไทย" ไปพร้อมกัน และทำแบบนี้แม้ว่าทักษิณจะแสดงท่าที่ชัดๆ ว่า "กูเอาเจ้า" นะ

ซึ่งไอ้คนที่เด่นสุด แม่งคือ นายศรัณย์ ฉุยฉาย aka อั้ม เนโกะ ที่เป็น "ตัวแม่" ของบรรดา "ตุ๊ดฝ่ายซ้าย"

โดยโพสต์ที่พีคสุดๆ คือที่อั้มเนโกะให้เหตุผลในการเชียร์ทักษิณว่า เพราะการสู้กับทุนนิยม มันสำคัญกว่าล้มเจ้า เพราะเจ้าอยู่ใต้ทุนนิยม และการเลือกทักษิณ คือการสู้กับทุนนิยม (แน่นอน ใครอ่านแล้วไม่ WTF แม้แต่นิดเดียว เราคงเป็นเพื่อนกันได้ยาก)

และแกก็สังเกตต่ออีกว่า ไอ้ท่าที่แบบนี้ มันจะชัดมากๆ ในพวก "ตุ๊ดเสื้อแดง" ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้

ซึ่งแกไม่เข้าใจว่า คุณแม่งจะเชียร์ทักษิณและล้มเจ้า และเสือกพูดออกมาว่ามันเป็นเรื่องเดียวกันได้อย่างไร

และคำอธิบายของแกคือคนพวกนี้มีจุดยืนทางการเมืองคือ "เชียร์ทักษิณ" ส่วนการ "ล้มเจ้า" มันเป็นรสนิยมส่วนตัว ซึ่งความหมายคือ มันจะแยกคิดจากจุดยืนทางการเมือง และมันจะเป็นอะไรที่ไม่ต่างจาก ชอบหนังสือของนักเขียนคนไหน ชอบดูหนังของใคร เชียร์บอลทีมไหน ฟังเพลงแนวไหน ชอบกินอาหารจานไหน ฯลฯ

พูดง่ายๆ คือคนพวกนี้ การ "ชอบล้มเจ้า" มันไม่ได้ต่างจากการ ชอบฟัง K-Pop ชอบกินอาหารอินเดีย ชอบอ่านมูราคามิ ชอบดูหนังหว่อง มันเป็น "ความชอบส่วนตัว" เป็น "งานอดิเรก" ซึ่งเป็นเรื่องรองของ "จุดยืนทางการเมือง" ที่เชียร์ทักษิณ

ผมว่านี่คือประเด็นแก ที่แกพยายามจะอธิบายสิ่งที่ไม่เข้าใจเหี้ยๆ แบบคนล้มเจ้าแบบออกตัวแรงสัสๆ ก็ยังเชียร์ทักษิณที่เอาเจ้าชัดๆ

ที่นี้ มาในทางคอนเซ็ปต์ ถ้าจะอธิบายจากมุมของผม (ซึ่งผมว่าแม่งดีกว่าคำอธิบายของสมศักดิ์)

ไอ้ปรากฎการณ์ที่สมศักดิ์งง มันมีชื่อในทางคอนเซ็ปต์แบบหนึ่งว่า Ideological Quilting หรือการ "เย็บเชื่อมกันทางอุดมการณ์"

ปรากฎการณ์นี้มันจะเกิดเวลาคุณมีอุดมการณ์ที่ "ปกติขัดแย้งกัน" อยู่ในตัวเอง ซึ่งคุณจะเลือกเอาอุดมการณ์ที่คุณให้น้ำหนักมากกว่า ไปเชื่อมอุดมการณ์อีกตัว

เช่น ถ้าคุณเป็น Environmentalist และเป็น Capitalist พร้อมกัน ดูเผินๆ คนก็จะงงว่าเป็นพร้อมกันได้ยังไง เพราะทุนนิยมแม่งทำลายสิ่งแวดล้อม แต่จริงๆ ถ้ามันมีอันใดอันหนึ่งเด่นกว่า แม่งไม่ยากเลย เช่น สมมติทุนนิยมเด่นกว่า คุณก็จะอธิบายว่า ระบบตลาด ระบบทุนนิยม แม่งคือทางแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่แท้จริง

เช่นกัน ถ้าคุณเป็นพวก LGBT Right Activist และเป็น Marxist คุณก็จะต้องเลือกว่าจะเอาอันไหนเด่นและมาก่อน ถ้าคุณเอาอันแรกมาก่อน คุณก็จะบอกว่ามันจะปลดปล่อยแรงงานที่แท้จริงไม่ได้ ถ้าไม่ยอมรับว่าแรงงานมีความหลากหลายของอัตลักษณ์ทางเพศที่ส่งผลกับทั้งชีวิต แต่ถ้าคุณเอาอันหลังมาก่อน คุณก็จะบอกว่าถ้าปลดปล่อยแรงงานได้ เสรีภาพทางเพศแม่งจะตามมาเอง

อันนี้ก็เป็นแค่บางตัวอย่าง หวังว่าจะเข้าใจไม่ยาก

ซึ่งผมว่าคำอธิบายแบบนี้มันน่าจะดีกว่าคำอธิบายของสมศักดิ์ เพราะสุดท้าย มันไม่ใช่เรื่องของ Political Stance VS Taste แต่มันคือ Ideology VS Ideology และมันเป็นวิธีในทางปฏิบัติว่าคนๆ หนึ่งที่มีอุดมการณ์ขัดแย้งกัน แม่งจะมีชีวิตอยู่ยังไง จะอธิบายตัวเองยังไง ให้ "คงเส้นคงวา"

และทั้งหมด ผมก็ยืนยันตลอด แม่งคือปัญหาปัญญาชน คนทั่วๆ ไปแม่งจะทำห่าอะไรก็ได้ ขัดกันก็ได้ แม่งทำทุกอย่างได้ ตามที่ยังไม่ขัดกฎฟิลิกส์ เคมี ชีวะ เพราะนี่คือพื้นฐานทางกายภาพที่เป็นลิมิต ส่วนไอ้กฎเกณฑ์ทางสังคมศาสตร์ แม่ง "ไม่มีอำนาจบังคับใช้" ห่าอะไรทั้งนั้น แม่งคิดกันไปเอง เพราะเรื่องพวกนี้คือกติกาที่ยอมรับร่วมกันมันถึงทำงานได้ ซึ่งพอมีคนไม่ยอมรับกติกาแม่งก็จบเลย

777 Nameless Fanboi Posted ID:N./KfS04XU

>>776 ถ้าใช้แนวคิดนี้ ก็อธิบายวิธีคิดแบบเหลือง (ที่ยังไม่สุดโต่งแบบขนมหวาน) ได้สินะ ด้านหนึ่งพวกนี้เชียร์กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เชียร์ลดอิทธิพลของทุนใหญ่-เสริมแรง SMEs พวกนี้มันฝ่ายซ้ายชัดๆ แต่อีกด้านก็ยังเอาเจ้าอยู่ด้วย

778 Nameless Fanboi Posted ID:Cc2itYHRSR

>>776 คำอธิบายดี เข้าใจแบบเห็นภาพขึ้นมาชัดเลยว่าเจียมงงอะไร แล้วคนอื่นพลาดประเด็นที่แกสื่อไปยังไง

779 Nameless Fanboi Posted ID:dqlSzjAtKC

mind break จนแสปมหลายเม้นติดกัน โถ

นี่คือผลของการอยากเอาชนะดีเบทบนอินเตอร์เน็ต จนต้องใช้logical fallacyแบบmoving the goalpostหรือcherry pickingนะครับ ดูไว้เป็นตัวอย่างและอย่าทำตาม

780 Nameless Fanboi Posted ID:mTB7cNCE62

>ฝรั่งมันบ่นที่ต้องจ่ายภาษีเปล่าวะ
>บ่นสิ นี่ไง ตัวอย่างนี้ๆๆๆๆ
>ไม่ไม่ไม่จริงฝรั่งมันจะบ่นภาษีได้ไงมันต้องดีใจยิ้มหน้าบานกระตือรือร้นอยากจ่ายภาษีสิเป็นไปได้ไงมึงโกหกอ๊าาาาาาาากกกกกก@฿&@82@381&&/881

ขำชิบหาย

781 Nameless Fanboi Posted ID:tev/JAVWyM

“มีมชัชชาติถือถุงแกงไม่ใช่ความบังเอิญ
แต่เป็นสิ่งที่ในปัจจุบันเราเรียกกันว่า Propaganda“

782 Nameless Fanboi Posted ID:dqaQe86R+M

แอคหลุมหรือจะสู้พวกโม่ง กลุ่มแรกมาพร้อมทวิตเตอร์ได้ไม่นาน แต่พวกโม่งนี่คืออยู่กันมาตั้งแต่อินเตอร์เนตยุคแรกเริ่มนะ ประสบการณ์การรบเหมือนเอากองทัพที่รบเกือบทุกวันมา 20 กว่าปี มาสู้กับแก๊งเด็กที่ย่ามใจเพราะตัวเองมีปืนในมือเลย ก็ถือว่าเป็นบทเรียนไปละกัน เพราะโม่งใน BBS เนี่ยมีตั้งคนธรรมดายันคนระดับประธานบริษัท ดังนั้นถ้ามีฉันทามติพร้อมรบเมื่อไหร่ ใครตกเป็นเป้าก็คือเตรียมเจอศึกหนักได้เลย
-มิตรสหายทั่นนึง

783 Nameless Fanboi Posted ID:dqaQe86R+M

>>782 …แต่เอ่อพรี่ ผมว่าโม่งเดี๋ยวนี้มันก็มีเด็กเจนใหม่ๆมาสิงนะ โม่งเดี๋ยวนี้คือเต็มไปด้วยประชากรนักหลวมและสก็อยไปหมดแล้ว โม่งเก่าๆเหลือแต่คิโม่ยสลิ่มไอดอลเท่านั้นแหละม้าง

784 Nameless Fanboi Posted ID:9PJAAIvXPM

>>783 โม่งเก่าแก่จริงๆ อยู่ไม่กี่ที่หรอก มู้กันดั้ม เอโร่ย เมด ห้อง ln ห้องเทค ห้องหนังสือนิดหน่อย ห้องนี้ก็มีนิดๆ นอกนั้นนึกไม่ออกแฮะ

785 Nameless Fanboi Posted ID:/ODGwNaS70

>มีมึงคนเดียวนั่นแหละที่บอกว่านอร์ดิกคอรัปชั่นสูง
ตะ แต่กูพูดเรื่องคอรัปชั่นสูงแค่ไทย
>อ่าว ทำไมไม่บอกแต่แรกว่าคุยแค่ไทย ใครจะไปรู้กับมึง
???? กูไปบอกตอนไหน กูแค่บอกว่าไม่เคยพูดเรื่องนอร์ดิคมีคอรัปชั่น
>move the goal post !!! cherry picking !!! กูไม่คุยด้วยแล้ว

????????????????

786 Nameless Fanboi Posted ID:CR72u1OEQv

“เราได้ไปเจอทักษิณที่กัมพูชาเพราะมีคนเสื้อแดงชวนไป เขาจัดเวทีกันใหญ่โต พอทักษิณปรากฏตัว เราก็ไปบอกกับคนเฝ้าเวทีว่าแม่ของน้องเกดขอขึ้นไปหน่อยสิ เขาก็ให้ขึ้นไปเลย พอทักษิณหันมาหา เราก็ยกมือสวัสดี เราบอกท่านคะ ดิฉันขออะไรหน่อยได้ไหม ที่เวทีเสียงค่อนข้างดัง ก็เลยคุยกันแบบกระซิบข้างหู เราบอกว่า ท่านคะ ดิฉันไม่เอานิรโทษกรรมเหมาเข่งนะคะ ทักษิณก็ผงะมองหน้าเรา เรายิ้มยกมือไหว้แล้วก็เดินลงไป”

เมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พยายามผลักดันนิรโทษกรรมอย่างสุดกำลัง ทำให้พะเยาว์คิดว่าบรรดานักการเมือง ทหาร ชนชั้นนำของประเทศนี้ ไม่ว่าจะฝ่ายไหน #เมื่อถึงจุดแตกหักและอยากกลับมาประนีประนอมกัน #พวกเขาจะใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือต่อรอง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

787 Nameless Fanboi Posted ID:WgTQn.Pxb/

>>786 และตอนนี้อีลีททุกฝ่ายทุกพรรค เห็นก้าวไกล-ก้าวหน้า-3 นิ้ว เป็นกลุ่มที่ต้องจัดการ มันก็ชัดอะนะ

788 Nameless Fanboi Posted ID:21hMRj9liE

ตรรกะคนในกะลาแลนด์
สมรสเท่าเทียม = คนจะไปเป็น lgbt หมด
กม. Sex worker = คนจะไปเปนกระหรี่หมด
สหภาพแรงงาน = สงสารนายทุน
ทำแท้งถูกกม. = คนจะทำแท้งทุกเดือน
ลาคลอด6เดือน = เอาเปรียบคนทำงาน กินนอนอยู่บ้าน
ยกเลิกชุดนร. ละเมิดทรงผม = เด็กจะซื้อชุดใหม่ไปรร. ทุกวัน เปลี่ยนสีผมทุกเดือน

789 Nameless Fanboi Posted ID:LUKKt0suAe

ตัว วิโรจน์ อาจไม่ได้โดดเด่นเท่ากับชัชชาติ แต่กระแสพรรคต้นสังกัดของวิโรจน์ อย่างพรรคก้าวไกลนั้น ขายได้กับพวกนิวโหวตเตอร์ที่มีอยู่ 7แสนคน
และในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งที่ผ่านมา ดูเหมือนพรรคก้าวไกลจะโหมกระแสในเรื่องที่ถูกใจนิวโหวตเตอร์ ทั้งการท้าชนในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าทำ หรือไม่กล้าพูด โดยเฉพาะชัชชาติ

พรรคก้าวไกลพยายามไต่ระดับการหาเสียงในสิ่งที่ ชัชชาติ ไม่ชัดเจน หรือระมัดระวัง เพื่อแสดงให้เห็นว่า พวกเขาคือ ตัวจริงในฝ่ายต่อต้านเผด็จการ

คะแนนของ วิโรจน์ อาจไม่ชนะ ชัชชาติ แต่การที่กระแสของพรรคก้าวไกลดีเท่าไหร่ นั่นหมายความว่า จะตัดคะแนนของชัชชาติ ไปมากเท่านั้น

ในระยะหลัง วิโรจน์ และพรรคก้าวไกลเองก็ดูเหมือนจะหาเสียงแบบกระแทกใส่ ชัชชาติ หลายเรื่อง เพื่อชิงคะแนนมาอยู่กับตัวเอง

ชัชชาติเองก็อาการออก รีบออกมาบอกถึงเรื่องโพลที่ตัวเองนำว่า อย่าไปตายใจ เพราะหลายครั้งพวกเต็งหนึ่งตกมากตายเพราะกระแสในโค้งสุดท้ายมาบ่อย ดังนั้นอย่าปล่อยให้มีแค่กระแส แต่ต้องไปเลือกด้วย

มันแสดงให้เห็นเหมือนกันว่า ชัชชาติ ก็ไม่ได้มั่นใจ ทั้งที่โพลทุกสำนักยกให้มาตลอด

พรรคเพื่อไทยก็รู้ว่า ด้วยข้อจำกัดของตัวเองไม่สามารถช่วย ชัชชาติได้เยอะ เพราะกลัวจะถูกแฉว่า เป็นอีแอบที่อยู่ข้างหลัง ขณะเดียวกัน รู้ดีว่าเสียเปรียบพรรคก้าวไกลในการหาเสียงกับนิวโหวตเตอร์

พรรคเพื่อไทยไม่สามารถสุดโต่ง จนถูกใจคนรุ่นใหม่ได้อย่างที่พรรคก้าวไกลทำ บุญเก่าที่เหลือคือ คนเสื้อแดง ที่วันนี้กระจัดกระจายกันไปมาก จึงต้องปลุกกระแสคนเสื้อแดงที่เหนียวแน่นกับพรรคเพื่อไทยให้ไม่ไขว้เขว

X

การเลือกปลุกเสื้อแดงที่รู้ทั้งรู้ว่าอาจไม่ส่งผลดีต่อ ชัชชาติ แต่ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะศัตรูในร่างพันธมิตรอย่างพรรคก้าวไกล ชิงนิวโหวตเตอร์ไปเพียบ

จุดที่ตอกย้ำว่า พรรคเพื่อไทยไม่มั่นใจว่า ชัชชาติ จะลอยลำ คือการประกาศให้เลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะขาด เพราะรู้ว่าหลายคนยังลังเลว่าจะเลือก ชัชชาติ หรือ วิโรจน์

หลายคนคิดว่า ชัชชาติ ชนะอยู่แล้ว อาจจะไปเลือก วิโรจน์ ได้

มันเหมือนกับสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เคยใช้ กลยุทธ์ไม่เลือกเราเขามาแน่ เพื่อเทคะแนนให้ไปให้คนใดคนหนึ่งชนะขาด ป้องกันศัตรูอีกฝั่งชนะ

เพื่อไทยกำลังจะสื่อว่าให้เลือก ชัชชาติ ให้ชนะขาด เพื่อป้องกันคะแนนที่จะกระจายไปหา วิโรจน์

ทั้งที่โดยข้อเท็จริงมวลชนสองกลุ่มเป็นคนละส่วนกันแล้ว เสื้อแดงคือแฟนคลับพรรคเพื่อไทย ส่วนนิวโหวตเตอร์ คือแฟนคลับพรรคก้าวไกล

และผลการเลือกตั้งครั้งนี้ คะแนนของพรรคก้าวไกลในกทม. จะเป็นสัญญาณให้พรรคเพื่อไทยเห็นว่าในสนามเลือกตั้งใหญ่พวกเขาจะเจองานหนักกว่านี้

มีตัวหารที่อันตราย และสุดท้ายอาจเป็นตัวละครสำคัญที่ทำให้ฝันแลนด์สไลด์ค้าง

790 Nameless Fanboi Posted ID:WgTQn.Pxb/

>>789 เพื่อไทยถึงพยายามจะดึงฝ่ายขวาแต่ยังไม่สุดโต่งมากมาให้ได้ด้วยไง เพราะยังไงคนรุ่นใหม่เขาก็ไม่อินกับโลกทัศน์แบบไทยๆ ที่ฝ่ายขวาสร้างไว้อยู่แล้ว ถ้าเพื่อไทยยังอยู่กับโลกทัศน์นั้น คนรุ่นใหม่เขาก็ไปก้าวไกลดีกว่า

791 Nameless Fanboi Posted ID:21hMRj9liE

น่าสนใจความเห็นของคุณพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ทีมงานของคุณชัชชาติ สิทธิพันธ์

ถ้าพัฒนาเป็นพรรคการเมืองระดับชาติก็น่าสนใจ

จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งถ้าคิดว่าพรรคการเมืองในระบอบเดิมมีข้อจำกัด

.............................

จุดยืนและการวางตัวของ "ชัชชาติ"ในการเลือกผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้คือจุดยืนที่ สังคมต้องการสำหรับการเมืองระดับชาติ

พรพรหม วิกิตเศรษฐ์
.
https://www.facebook.com/vikitsreth/posts/pfbid02pptK7BmGDNoTE7Sm6ba5UHh4iZfmSbY93zs2XrfgR8EE6BZC8vZyRPAnjf1MNCn4l
ก่อนเข้ามาร่วมทีมกับอาจารย์ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผมเคยถามว่าอาจารย์ว่าโอเคไหมกับการที่ผมมาจากขั่วการเมืองที่ต่างกับอาจารย์ในอดีต ซึ่งอาจารย์ชัชชาติบอกโดยไม่ต้องคิดเลยว่าตั้งใจจะลงอิสระ ต้องการที่จะเปิดกว้างสำหรับทุกคน เรื่องขั่วการเมืองไม่สำคัญ ขอให้มีความตั้งใจอยากเข้ามาช่วยพัฒนากรุงเทพฯให้ดีขึ้นก็พอแล้ว
.
หลักคิดนี้คือการพยายามก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมือง การแบ่งขั้ว การรับฟังคนเห็นต่าง ไม่ใช่ว่าฝั่งตัวเองถูกและฝั่งตรงข้ามผิดเสมอ
.
จุดนี้คือสิ่งสำคัญที่การเมืองระดับชาติขาด ยังไม่มีพรรคหรือคนที่จะมานำการก้าวข้ามตรงนี้ได้ ทำให้ติดอยู่กับกับดักเดิมๆ
.
อีกเรื่องหนึ่งคือที่ผมได้ฟังอาจารย์ชัชชาติ สัมภาษณ์รายการแล้วพิธีกรให้พูดเกี่ยวกับจุดอ่อนของตัวเอง ซึ่งอาจารย์ชัชชาติ บอกว่า “empathy” หรือการมีความเข้าใจต่อผู้อื่นที่สูง โดยพูดถึงการที่ทำให้คิดมาก
.
แต่สำหรับผมแล้ว “empathy” คือจุดแข็งที่สำคัญมากๆของผู้นำ โดยเฉพาะผู้นำเมืองที่จะต้องเข้ามาแก้ปัญหาร้อยพันเรื่อง จากเรื่องเล็กๆใกล้ตัว อย่างฟุตบาทไม่ดี ขยะตกค้าง ถึงเรื่องใหญ่ระดับเมือง เช่นการส่งเสริมระบบขนส่งมวลชน ผู้นำที่มีข้อนี้จะเป็นคนที่พยายามเอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ของที่ประสบปัญหา เพื่อที่จะเข้าใจ และจะทำทุกวิถีทางในการช่วยแก้ปัญหา
.
เช่นกันว่าเรื่องนี้คือสิ่งที่การเมืองระดับชาติยังขาด แต่ไม่เป็นไร เรื่องการเมืองระดับชาติไว้ค่อยว่ากันในภายหลัง
.
แต่สำหรับพรุ่งนี้(22พค.)ผมขอเชิญชวนเพื่อนๆทุกคน โดยเฉพาะFirst Time Voter คนรุ่นใหม่ และชาวกรุงเทพ ทุกคน มาร่วมกันออกไปใช้สิทธิเลือกคนตั้งใจ คนดี และคนที่จะมาเป็นบันไดขั้นแรกสู่การเมืองที่ก้าวข้ามปัญหาเดิมๆ ความขัดแย้งเดิมๆ และสำคัญที่สุดคือที่จะเข้ามาเป็นผู้ว่าฯของคนกรุงเทพฯทุกคนครับ

https://www.facebook.com/1944407482299913/posts/7582036221870316/?d=n

792 Nameless Fanboi Posted ID:WgTQn.Pxb/

>>791 ในมุมมองสายเหยี่ยว เขามองว่าวิธีการแบบสายพิราบมันเห็นผลช้าเพราะต้องประนีประนอม

793 Nameless Fanboi Posted ID:21hMRj9liE

เมื่อคืนวิโรจน์ปราศรัยเริ่มต้นด้วยโทนผิดแปลกกว่าทุกครั้ง ตอนนึงเขากล่าวว่า เคยไหมที่เราต้องรวมเงินกันช่วยเหลือแม่บ้านในออฟฟิศ เวลาที่เห็นเค้าประสบเคราะห์กรรมที่เข้ามาโดยไม่คาดฝัน ต้องฟอกไต (ในเคสของวิโรจน์) แล้วเราก็ต้องรวมเงินให้ๆๆๆ จนกระทั่งเราเริ่มลำบาก เพราะเราก็เป็นชนชั้นกลาง มีภาระต้องผ่อนบ้านผ่อนรถเหมือนกัน

จะช่วยเหลือใครไปนานๆ สังคมสงเคราะห์ใครไปนานๆ ก็ชักจะไม่ไหว

ดังนั้น การช่วยเหลือคนจนเมือง เห็นคนเท่ากัน มันถึงสำคัญ ส่งผลทางบวกกับชนชั้นกลางแบบเราๆ เหมือนกัน เพราะเราคงไม่สามารถช่วยเหลือคนอื่นไปได้ตลอด เพราะเราก็มีกำลังจำกัดลดหลั่นกันไป

การช่วยให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในเม็ดเงินเท่าๆกันกับการปรับปรุงให้คนชนชั้นเรา มันมีผลต่อภาพรวมอย่างไร

ถ้าไม่เลือกเราเขามาแน่คือการใช้ความกลัว (fear)

การนำเสนอของชัชชาต การลงพื้นที่อย่างทุ่มเท อย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนให้เป็นเมืองน่าอยู่ของทุกคนคือจุดประกายสร้างความหวัง (Hope)

สิ่งที่อยู่ในการนำเสนอของวิโรจน์ ผมพึงใจจะเรียกมันว่า ความใฝ่ฝัน (Aspiration) เป็นความใฝ่ฝันที่จะเห็นเมืองไม่ใช่เพียงน่าอยู่ แต่น่าอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี มีความเป็นคนเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีผู้สมัครผู้ว่าคนไหน คำนึงถึงอย่างชัดเจน ย้ำๆ ซ้ำๆ ตลอดเวลาขนาดนี้มาก่อน

จะอย่างไรก็ตาม เชื่อว่าพรุ่งนี้ ทุกคนจะใช้พลังทางบวก อย่าเลือกเพราะเกลียด เลือกเพราะไม่เข้าใจ อย่างน้อย คือให้รู้สึกเสมอว่า คิดดีแล้วนะ ถึงเลือกคนนั้น

ประมาณนี้ครับ

794 Nameless Fanboi Posted ID:O6niswOYIJ

พอเป็น ส.ก. แล้วมีแสงสว่างในตัว แม้แต่พรรคเพื่อไทยก็ตามจะฟังชัชชาติไหม มันมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะ ความขัดแย้งมันมีอยู่แล้ว ขนาดว่าพรรคเดียวกันก็ยังมี

ท่านชัชชาติน่าจะรู้ดีสุด แม้แต่เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ยังไม่รอดองคาอยพ องค์กรต่างๆ ที่จ้องฟัน ตั้งแต่ศาลฟันโครงการรถไฟ 2.2 ล้านล้านแล้ว คราวนี้จะประสานขอความร่วมมือต่างคนต่างพรรค หากเป็นไปได้ก็ดีครับ

ถึงจะอ้างยุคสมัยผู้ว่าฯ สมัคร ผู้ว่าฯ พิจิตร ยังอิสระได้ แต่บรรยากาศการเมืองมันไม่เหมือนยุคนนั้นแล้ว

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

795 Nameless Fanboi Posted ID:tdvmgVU2Bk

เลือกตั้ง สก.2565 จะเป็นการวัดความนิยมระหว่างพรรคการเมือง ที่จะลงเลือกตั้ง ในสนามกรุงเทพ ในปี 2566 และจะบอกว่าชัชชาติ สิทธิพันธุ์จะสามารถดึงคะแนนข้ามขั้ว ย้ายค่ายได้มากน้อยเพียงใด

......

1 พรรคเพื่อไทย จะเป็นการวัดความนิยมจริงๆ หลังจากการเลือกตั้ง 2562 เว้นที่ว่างให้พรรคไทยรักษาชาติถึง 9 เขต จุดที่จะก่อให้เกิดความ Error มากที่สุดก็คือการที่พรรคเพื่อไทยไม่ส่งผู้ว่ากทมนั่นแหละทำให้ไม่สามารถขายความเป็นพรรคการเมืองได้เท่ากับการเลือกตั้งใหญ่แต่ก็เป็นเส้นทางที่พรรคเพื่อไทยเขาเลือกแล้ว

2 พรรคก้าวไกล จะเป็นการวัดความนิยม ต่อจากพรรคอนาคตใหม่ ว่ายังจะรักษาคะแนนความนิยมสูงสุดในสนามกทม 8 แสนคะแนนได้หรือไม่ และจะเป็นการลบคำสบประมาทว่า ที่ชนะ เพราะพรรคเพื่อไทยส่งไม่ครบทุกเขต

3 พรรคประชาธิปัตย์ แน่นอนว่าเลือกตั้งครั้งที่แล้ว การประกาศว่าไม่เอาประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นทำให้คะแนนจำนวนมาก ไหลไปที่พรรคพลังประชารัฐ แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลเดียว เพราะต่อให้อภิสิทธิ์ประกาศว่า ยืนเคียงข้างประยุทธ์ จันทร์โอชา คะแนนเลือกตั้งก็จะไหลไปที่พรรคพลังประชารัฐอยู่ดี ยังแถมมาด้วยคดี รองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร ต้องคดีฉาว

4 พรรคพลังประชารัฐ ถ้าการเลือกตั้งครั้งที่แล้วพรรคพลังประชารัฐคือคะแนน ความนิยมของประยุทธ์จันทร์โอชา 7 แสนคะแนน เลือกตั้งครั้งนี้จะบอกว่า คะแนนความนิยมต่อตัวประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังจะมีหรือไม่

แค่การไม่กล้าส่งผู้ว่า กทมในนามพรรคพลังประชารัฐ ก็สะท้อนแล้วว่า คะแนนของพรรคพลังประชารัฐ น่าจะมีไม่ถึง 200,000 คะแนน

5 พรรคไทยสร้างไทย คะแนนสก. ในครั้งนี้ จะบอกว่าพรรคไทยสร้างไทย จะมีอนาคตในสนามการเลือกตั้งใหญ่มากน้อยเพียงใด ถ้าคะแนนรวมต่ำกว่า 2 แสนคะแนน ผมคิดว่า นักการเมืองจำนวนไม่น้อยที่คิดจะย้ายไปพรรคไทยสร้างไทยต้องคิดใหม่ ทำใหม่

สุดท้ายคะแนนของชัชชาติ สิทธิพันธ์ เมื่อลบกับ คะแนนสก. พรรคเพื่อไทย ก็จะบอกได้ว่า ชัชชาติ สิทธิพันธุ์สามารถดึงคะแนนจาก ขั้วและค่ายต่างๆมาได้มากน้อยเพียงใด

796 Nameless Fanboi Posted ID:vB6gu0vK3e

มนุษย์จอมตอ**** ถ้ามันเจอสัตว์ที่ตัวเองไม่ชอบ มันจะด่าว่าน่าเงียดน่ากลัว แต่เจือกไปโพสเรียกร้องให้หยุดบุลลี่บนทวิต 55555 แต่อย่าไปพูดให้มันเห็นนะ เดี๋ยวมันรับความจริงไม่ได้
By พรี่เก็บ Log

797 Nameless Fanboi Posted ID:bc29UrDO9f

>>796 ก็มันเป็นแค่สัตว์ มันไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง หรือพูดไง พวกมันเสือกกระจอกเอง วิวัฒนาการตามไม่ทันมนุษย์

798 Nameless Fanboi Posted ID:wgdo6UgVO7

ช่วงต้นปี 2018 กระแสผู้ใหญ่ในสังคมโจมตีเด็กรุ่นใหม่ที่ออกมาต่อว่าบ้านเมืองว่า "เฮงซวย" จึงเกิดบทความนี้ขึ้นใน #มองตะเกียบเห็นป่าไผ่
.
และขอรีโพสต์อีกครั้งก่อนวันเลือกตั้งผู้ว่ากทม. ตำแหน่งที่จะพาบ้านเมืองให้เฮงหรือซวยได้....
.
และแท้จริงแล้ว คำว่า “เฮงซวย" มิได้เฮงซวยอย่างที่เราคิด
------------------------------------------------------------------
แผ่นดินใหญ่ยากจน ไต้หวันสกปรก ฮ่องกงคอรัปชั่น ตัวอย่างเมือง “เฮงซวย”

------------------------------------------------------------------
ถ้าบอกว่าจีนเคยเป็นประเทศที่ยากจนข้นแค้นแสนสาหัสมาก่อนเมื่อไม่นานมานี้ ผู้ใหญ่วัยกลางคนคงรู้กันดี แต่กับใครที่อายุไม่เกิน 20 คงมีภาพอยู่ในหัวแบบเบลอๆ หรืออาจคิดภาพกันไม่ออกนัก
.
สัก 30-40 ปีที่แล้วพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนคงเคยได้ยินเรื่องทัวร์เยี่ยมญาติที่ไปแต่ละครั้งแทบหมดเนื้อหมดตัว ไม่ใช่เพราะถูกหลอกหรือถูกโกง แต่เป็นเพราะความยากจนข้นแค้นของอาอี้อาซิ่มอาเจ็กอาแปะอาตี๋ เนื่องด้วยไม่ยอมจากบ้านเกิดหลงปักหลักติดอยู่ที่จีนแผ่นดินใหญ่ พวกเขาจึงต้องขอทุกอย่างที่เราพกติดตัวไปเพื่อใช้ประทังชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง เครื่องประดับ หรือแม้แต่เสื้อผ้าที่เรากะเอาไปใส่ จนส่วนใหญ่ต้องกลับมาแต่ตัว
.
ผู้ให้ก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไร เพราะสภาพความเป็นอยู่จีนตอนนั้น เป็นใคร ใครก็ต้องเห็นใจญาติบนแผ่นดินใหญ่ทั้งสิ้น
30 ปีต่อมาใครจะไปคิดว่าจีนจะกลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ประชาชนอยู่ดีกินดี ออกท่องเที่ยวพยุงเศรษฐกิจทั่วโลก เทคโนโลยีทางเศรษฐกิจก้าวไกลจนถึงขั้นประกาศตัวจะเป็นสังคมไร้เงินสดในอีก 5 ปีข้างหน้า (และเหมือนว่าจะเร็วกว่า 5 ปีเสียด้วย)
.
ถ้าจะถามว่าเพราะอะไร ก็คงตอบสั้นๆได้ว่า เพราะวิสัยทัศน์ผู้นำที่กล้าพลิกอุดมการณ์ล้าสมัย ประกาศเปิดประเทศและระบบเศรษฐกิจอย่างมีแผนการ และที่ขาดไม่ได้คือเพราะวิธีคิดที่ฝังรากในชาวจีนที่ต้องการต่อสู้ดินรนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า แต่ละนโยบายออกมาทีไรแต่ละเซลล์ในร่างกายชาวจีนก็พร้อมตอบสนองผลักดันทั้งสังคมจีนไปตามนั้น
.
เมื่อนโยบายถูกทาง ชีวิตความเป็นอยู่จึงพุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว...
.
ถ้าบอกว่าไต้หวันเคยเป็นเมืองที่สกปรกมากมาก่อนเมื่อไม่กี่สิบปีก่อนหน้านี้ หลายคนคงนึกไม่ออก
.
ช่วงปี 1970-1980 ไต้หวันมีพัฒนาการด้านเศรษฐกิจก้าวกระโดด แต่ก็พ่วงมาด้วยปัญหาขยะล้นเมือง ผลที่ติดตามมาก็คือหนู แมลงวัน แมลงสาบ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ถึงขนาดคนไต้หวันเรียกบ้านเมืองตัวเองว่า “เกาะขยะ”
.
แล้วไต้หวันก็ประกาศจะเปลี่ยนแปลง สร้างระบบการจัดเก็บขยะแบบใหม่ ยกเลิกการตั้งถังขยะสาธารณะในบริเวณที่อยู่อาศัย แต่ให้รถขยะที่มาพร้อมเสียงเพลงไพเราะมาจัดเก็บตามเวลา ประชาชนต้องเดินออกมาทิ้งขยะที่รถกันเอาเอง
โดยมีเงื่อนไขพ่วงว่า ถุงขยะที่ใช้ต้องซื้อจากรัฐเท่านั้น หากไม่ใช่ รัฐจะไม่รับเก็บ ซึ่งเท่ากับว่าใครทิ้งมากจ่ายมากจ่ายค่าถุงมากโดยปริยาย แต่ถ้าแยกขยะที่รีไซเคิลออกมาได้ รัฐจะมีรถอีกประเภทมาจัดเก็บให้ฟรี พร้อมมาตรการดักจับคนที่แอบลักลอบทิ้งขยะโดยให้รางวัลแก่ผู้พบเห็น
.
ผู้บริหารเมืองไต้หวันโดนกระแสต่อต้านหนักมากในช่วงแรก แต่พอไต้หวันกลายเป็นบ้านเมืองสะอาดในระยะเวลาอันสั้นเสียงก่นด่าก็หมดไป ผลข้างเคียงที่น่าสนใจคือผู้คนนิยมพกถุงผ้า ไม่นิยมผลิตภัณฑ์ที่มีหีบห่อซับซ้อนสิ้นเปลือง เพราะเพิ่มภาระขยะให้กับตัวเองเปล่าๆ ทำให้ปริมาณขยะโดยรวมลดลงอย่างต่อเนื่อง ในระยะเวลา 15 ปี ปริมาณขยะต่อหัวลดลงเกือบ 3 เท่า ปริมาณขยะรีไซเคิลได้เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า
.
สถิติความสำเร็จในการลดปริมาณขยะก็ประกาศให้ทุกคนรู้อย่างชัดเจน สาธารณะชนสามารถสืบค้นสถิติของขยะแต่ละเดือนผ่านอินเตอร์เน็ต ยิ่งลดยิ่งกลายเป็นความภาคภูมิใจของสังคม และยังก้าวไกลไปอีกขั้น เพราะมีแอปพลิเคชั่นให้ตรวจเช็คได้ว่ารถขยะอยู่บริเวณไหนแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชน
.
แม้แต่มูลนิธิ หรือองค์กรเอกชนเช่นวัด ก็ร่วมมือร่วมใจส่งอาสาสมัครช่วยแยกขยะด้วย ทุกคนเห็นบ้านเมืองสะอาดเป็นภารกิจของตน
.
ถ้าจะถามว่าความสำเร็จเกิดขึ้นเพราะอะไร ก็คงตอบสั้น ๆ ได้ว่า เพราะวิสัยทัศน์ผู้นำที่ไม่นิ่งเฉยเมื่อเห็นปัญหา รวมถึงการรณรงค์พร้อมมาตรการที่รัดกุม การประกาศความสำเร็จเป็นสถิติที่เห็นผล จูงใจคนให้ทำตาม
.
ผู้นำคิด มีคนทำตามแล้วเห็นผล ผู้คนจึงยินยอมเปลี่ยนความเคยชินมาร่วมมือกับฝ่ายบริหารเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง…
.

799 Nameless Fanboi Posted ID:wgdo6UgVO7

>>798

ฮ่องกงก่อนปี 1974 เต็มด้วยปัญหาคอรัปชั่น คนฮ่องกงเห็นการยัดเงิน ติดสินบนบนโต๊ะใต้โต๊ะเหมือนอากาศในชีวิตประจำวัน ขาดไปก็ใช้ชีวิตไม่ได้
.
ขนาดเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสาธารณะอย่างรถดับเพลิงยังต้องติดสินบน
.
ชาวฮ่องกงยุคนั้นมีวลีติดปากว่า “เหยาโสย เหยาโสย โหมวโสย โหมวโสย, เหยาโสย ก่อโสย โหมวโสย ส่านโสย” แปลเป็นไทยว่า “เงินมา น้ำมา เงินขาด น้ำหมด มีเงินก็ให้เงินมา เงินไม่มาน้ำก็จากไป”
.
“โสย” ในประโยคแปลว่าน้ำ ซึ่งมีความหมายว่าเงินเช่นกัน เงินก็เหมือนน้ำ ขาดน้ำย่อมขาดใจ ขาดเงิน รถดับเพลิงย่อมไม่แล
.
ฮ่องกงพยายามขจัดคอรัปชั่นมาตลอดแต่ไม่เคยสำเร็จ กระแสการปราบคอรัปชั่นจุดติดเมื่อปี 1973 ปีที่ Peter Godber หัวหน้าผู้กำกับแห่งกรมตำรวจฮ่องกงเกษียณอายุราชการ เขามีชื่อเสียงด้านความเก่งกาจและมีประสิทธิภาพในการทำงาน แต่กลับคดโกงและโกยเงินคอรัปชั่นแล้วชิ่งบินกลับไปสู่เกาะอังกฤษ
.
Peter Godber เป็นตัวอย่างอันดีของวลีที่ว่า in the corruption town dirty cop is king.
.
คดีนี้ทำให้คนฮ่องกงตื่นตัวลุกขึ้นประท้วง dirty cop จนในที่สุดจุดติดจนนำมาสู่การต่อต้าน corruption town ผู้บริหารเกาะฮ่องกงรีบใช้โอกาส ก่อให้เกิด ICAC หรือ คณะกรรมการอิสระเพื่อต่อต้านคอรัปชั่นในปี 1974 ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระ มีอำนาจเด็ดขาดในการปราบคอรัปชั่น ซึ่งแม้แต่รัฐก็แทรกแซงไม่ได้
.
ICAC ไม่รอช้า ออกกฎหมายเข้มเน้นประสิทธิภาพในการสืบสวน แต่ก็ยังไม่สามารถล้างบางอย่างเด็ดขาดในทันที เพราะหากทำเช่นนั้นแล้วตำรวจและพนักงานรัฐแทบทั้งหมดคงต้องติดคุกทั้งสิ้น (ลองคิดภาพตามว่าคอรัปชั่นในยุคนั้นจะรุนแรงขนาดไหน)
.
และก็เป็นตามนั้นจริง กลุ่มตำรวจและข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคอรัปชั่นมาก่อนก็ไม่ใช่เป้านิ่ง ต่างออกมาก่อกวนและประท้วง แต่ทาง ICAC ใช้ทั้งไม้แข็งไม้อ่อน นิรโทษกรรมในการคอรัปชั่นที่เล็กน้อย และจับที่ต้นตอคอรัปชั่นใหญ่ๆ สร้างข้อตกลงเรื่องฐานเงินเดือนข้าราชการประกอบกับเงื่อนไขว่าหากคอรัปชั่นอีกจะต้องถูกจัดการเด็ดขาด รวมถึงให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสโดยเน้นประสิทธิภาพในการปกป้องผู้แจ้งความร้องทุกข์
.
เพื่อประสิทธิภาพระยะยาวยังปลูกฝังกันที่คนรุ่นใหม่ ให้เห็นความเลวร้ายของการคอรัปชั่น
.
คอรัปชั่นในฮ่องกงจึงลดลงเรื่อยๆ เพียงในปี 1986 ประชากรอายุ 15-24 ปีกว่าร้อยละ 75 ก็เห็นว่าการคอรัปชั่นเป็นความเลวร้ายต่อสังคม ต่างกับยุคก่อนหน้าที่เห็นเป็นเรื่องจำเป็นต่อชีวิต
.
ทั้งนี้การปราบคอรัปชั่นครั้งก่อนหน้าไม่ประสบความสำเร็จเพราะเน้นกฎหมายเข้มเพียงอย่างเดียว ปัญหาก็คล้ายการคลายปมเชือก ต้องถูกจุด ต้องอดทนและมีประสิทธิภาพในระยะยาวเท่านั้น
.
ทั่วทั้งเอเชียดัชนีเรื่องไร้คอรัปชั่นของฮ่องกงแพ้เพียงสิงคโปร์เท่านั้น
.
ทำไมฮ่องกงถึงทำได้ ก็คงต้องตอบว่าเพราะนโยบายจากผู้นำที่ปรับให้เข้ากับสภาพความเป็นจริงรอบด้าน มีทั้งมาตรการระยะสั้นที่เด็ดขาด และมาตรการระยะยาวที่ปลูกฝังรากลึกให้กับสำนึกประชาชน
.
ความเลวร้ายที่ผู้คนคิดว่ายังไงก็ต้องทนอยู่กับมัน จึงหมดไป...
.
เฮงซวย เป็นคำยืมจากภาษาจีนแต้จิ๋ว ในภาษาจีนมีความหมายต่างจากแบบไทย
.
เฮงซวย (兴衰- จีนกลางอ่าน ซิงซวย) ประกอบจากคำว่า เฮง แปลว่า รุ่งเรือง และ ซวย แปลว่า ตกต่ำ เมื่อประกอบกันแปลว่า “ความรุ่งเรืองและตกต่ำ” เป็นคำบรรยายสถานภาพเอาแน่เอานอนไม่ได้ มักใช้กับบ้านเมือง ตระกูลหรือไม่ก็วิถีชีวิตที่มีทั้งดีร้าย ทั้งเจริญและเสื่อม
.
ที่ใช้แบบไทยๆ เพื่อบรรยายความเอาแน่เอานอนไม่ได้ของสิ่งนั้นๆ เช่น ใช่ด่าว่าคนเฮงซวย หรือของเฮงซวย จึงผิดไปจากความหมายเดิมบ้าง
.
ซึ่งหากว่ากันตามความหมายเดิม ความเฮงซวยของสามเมืองข้างต้นทำให้เรารู้ว่า บ้านเมืองจะเฮง หรือจะซวย ล้วนเป็นไปได้ ปัจจัยด้านเวลาสำคัญแน่ แต่ที่สำคัญไม่แพ้กัน คือวิสัยทัศน์และเทคนิคการลงมือทำของผู้นำ รวมถึงศักยภาพในการเรียกร้องความร่วมมือของคนในสังคม ทำได้เมืองที่เคยซวยจะได้กลับมาเฮง ในทางกลับกัน หากไม่ลงมือทำ ไม่ระมัดระวัง คนในสังคมสูญเสียความเชื่อมั่น ที่เฮงก็จะกลับกลายไปเป็นซวย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

800 Nameless Fanboi Posted ID:3SnL4NsDop

เคลมว่าคะแนนล้านสามเกือบล้านสี่ที่ชัชชาติได้มาเป็นของฝ่ายโปรปชต.ล้วนๆไม่ได้อ่ะ สังเกตจากคนรอบตัวที่เป็นสลิ่มไม่ว่าจะเพื่อนพ่อแม่หรือพ่อแม่เพื่อนที่เป็นหัวใจฟ้า เกลียดพท.-กก. ก็พร้อมใจกันเลือกชัชชาติ สก.นี่ก็ดูที่บุคคลเป็นหลัก เผื่อใจว่าเลือกตั้ง 66 ผลอาจจะไม่เปนแบบเมื่อวานก็ได้

801 Nameless Fanboi Posted ID:TW/bOfK1EW

เมื่อวานได้พูดคุยกับกลุ่มคนรู้จักที่พอมีอันจะกินบ้าง หรือรู้จักผู้มีอันจะกินบ้าง ถึงกระแสสังคมในการ “เปย์หนัก”
เราเริ่มด้วยเศรษฐกิจ 3-4 ปีนี้ที่ไม่ค่อยดีทั้งโลก ไทยเองตัวเลขการเติบโตก็ชะลอลงมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน

เราเทียบกับปี 97 ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจเหมือนๆกัน

แต่ทำไมกระแสสังคมวันนี้จึงสวนทาง
เราเห็นดาราออกรถคันละ 10 ล้าน
วัยรุ่นจัดงานวันเกิดด้วย theme แบบสุดๆ งานละล้านบาท (ถึงมั้ยไม่รู้ แต่ประกาศว่าล้านบาท)
แม้แต่วัยรุ่นหัวเมือง ก็แต่งรถกระบะกันแบบ 5 แสน ถึงล้านบาทต่อคัน แบบไม่ยอมกัน จนเห็นได้ตามถนนทั่วไป
เด็กรุ่นใหม่ดื่มแชมเปญแทนน้ำ สะพาย Hermès กันเป็นเรื่องปกติ (LV เก่าๆขาดๆอายุ 10 ปีของผมนี่ กลายเป็นขอทานไปเลย 5555)

สิ่งที่พบ
อายุน้อยร้อยล้านจำนวนไม่น้อยในวันนี้ ขอเงินพ่อแม่มาลงทุนสร้างภาพให้ตัวเอง
ไม่ใช่แปลว่าเขาไม่หาเงินนะครับ เค้าหา
แต่รายได้ไม่ได้มากพอที่จะ afford สิ่งที่เค้า “เคลม” ว่าหามา

อย่างเคสนึง
มีคนไปเจอน้องคนรู้จักที่บอกว่าสร้างตัวจากบ้านที่ไม่มีอะไร จนมาออก Lamborghini ได้บน YouTube
พอมองๆหน้า อ้าว นั่นมันหลานเพื่อน
เลยโทรไปถามว่าบ้านมึงธุรกิจทรุดเหรอ? เพราะเท่าที่เข้าใจคือกิจการที่บ้านดีมาตลอด

สรุปใจความคือ
ธุรกิจหนะไม่ได้เป็นอะไร
แต่เด็กต้องการสร้าง story
ส่วน Lamborghini นั่นก็รบเร้าแกมบังคับให้พ่อแม่ซื้อให้เพื่อบอกว่าตัวเอง “self made”

เรื่องนี้ยังโชคดีที่ที่บ้านมีเงิน
แต่อีกหลายคนไม่ได้ร่ำรวย มีฐานะปานกลาง มีความสุข
แต่กลับต้องสร้าง “ภาระ” ในวิถีเดียวกัน
จากคนชั้นกลางมีความสุข ก็ต้องทะยานอยาก “มีภาพดีเหมือนใน YouTube” ก็ต้องจัดงานแพงๆ เที่ยวแพงๆเพื่อถ่ายรูปสวย
แม้แต่เสื้อผ้าก็ใช้ซ้ำไม่ได้ เดี๋ยวคนจำได้
ไปถึงขนาดมีบ้านขายบ้าน มีที่ขายที่ มีหุ้นขายหุ้น
เพื่อเอาเงินพ่อแม่ไป “สร้างภาพสวย”

ตรงนี้คือปัญหาใหญ่มาก ที่รุ่นพี่ๆเจอปัญหานี้กับลูกๆตัวเองในวัย 17-20 ปลายๆ

ปัญหานี้คือค่านิยมสังคมไทย

เทียบกับจีน
จีนจะมีค่านิยมการสร้างตัวเองก่อนจนเป็นที่ประจักษ์ว่าไม่ได้โกงใครมา
คนจะปรบมือให้
จากนั้นจะซื้อ Maserati หรืออะไร (คนจีนชอบ Maserati มาก) ก็ซื้อไป จะลงรูปสวยอวดใคร ตรงนี้ไม่ว่ากัน

แต่สังคมไทย “ก้าวข้าม” การทำงานหนักไปเลย
กลายเป็นรักสบาย อยากมีชีวิตฟุ่มเฟือยเกินตัว
ทำนองว่ารวยแบบกลวง

กลับมาตัวเลขเศรษฐกิจครับ
มันฟ้องว่าเศรษฐกิจ “ทั้งโลก” มันพังอยู่
ไทยก็ด้วย
แต่กลายเป็นยุคปี 1997 วิกฤติต้มยำกุ้ง
คนไทย “เก็บคองอเข่า” สู้จนออกจากวิกฤติได้
แต่ในปี 2022 วิกฤติแบบเดียวกัน กลับกลายเป็นว่าคนจำนวนไม่น้อยต้องกู้หนี้ยืมสินมาทำตัวฟุ่มเฟือยแข่งกัน

น่าห่วงวัฒนธรรมที่เกินตัวครั้งนี้มากๆ
ส่วนใครปรับตัวทัน ก็ช่วยกันเตือนนะครับ อย่าหลงกระแสปลอมๆนี้อย่างเด็ดขาด
ทำงาน สร้างนวัตกรรม สร้างเงิน เก็บเงิน
เงินเหลือแล้วเอาไปลงทุน ถึงเสียหายก็ดีกว่าไปทำฟุ่มเฟือยแข่งคนอื่น

ช่วยกันแก้ค่านิยมกลวงนี้กันเถอะครับ

802 Nameless Fanboi Posted ID:EDaZRkYz1S

>>801 ต้มยำกุ้งมันจะมีพวกที่จมไม่ลง ฆ่าตัวตายไปเยอะเหมือนกันนะ ส่วนตอนนี้คงต้องรออีกสัก 2-3 ปี แล้วค่อยย้อนมาดูกราฟกรมสุขภาพจิต ว่าอัตราการฆ่าตัวตายช่วงโควิดมันเพิ่มแค่ไหน

https://dmh.go.th/report/suicide/stat_prov.asp น่ากลัวเหมือนกันแฮะ ปี 63 ทะยานขึ้นจากปี 62 ชัดเลย เทียบกับต้มยำกุ้ง กราฟขึ้นปี 41 กว่าจะลงจริงๆ ล่อไปปี 47

แต่เรื่องสังคมขี้อวด กูว่ามันอิทธิพลของโซเชียลด้วย แต่ก่อนมึงเห็นคนแค่ไม่กี่คน คนรอบๆ ตัวแค่นั้น เดี๋ยวนี้มึงเห็นตลอดเวลา เห็นแทบ 4 ชม. ทุกครั้งที่เข้าโซเชียล ใครๆ ก็อวดชีวิตดีๆ ของตัวเองกันหมด ไม่เครียด ไม่ซึมเศร้าจากการเปรียบเทียบก็ให้มันรู้ไปสิ

803 Nameless Fanboi Posted ID:EDaZRkYz1S

>>802 *เห็นแทบ 24 ชม.

804 Nameless Fanboi Posted ID:y1BwWOpG.y

>>801 จีนวัยรุ่นสร้างตัวก็เยอะ มีคนจับได้ตลอด แต่มันยังไม่หนักเท่าบ้านเราเพราะจีนมันยังโตเยอะอยู่ พอล้มขึ้นมาคนกลุ่มนี่บะจะตายก่อน

805 Nameless Fanboi Posted ID:jW2pBkomrS

>>798-799 อันนี้น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องการปราบคอรัปชั่นของฮ่องกง แต่สงสัยเรื่องทำยังไงให้ไอ้หน่วยงานที่ว่าไม่คอรัปชั่นซะเอง
คุ้นๆว่าใน ปวศ. จีนยุคโบราณก็เคยมีทำอะไรคล้ายๆแบบนี้ แล้วสุดท้ายพวกนี้ก็โกงซะเองจนยิ่งเละกว่าเดิม

806 Nameless Fanboi Posted ID:EDaZRkYz1S

>>804 มีคนรอฟองสบู่จีนแตกตั้งแต่ตะวันตกเจอวิกฤติแฮมเบอเกอร์ ช่วงปี 2007-2008 ละนะ จนวันนี้มันก็ไม่แตกซะที อยากรู้เหมือนกันภ้าแตกแล้วจะเละเหมือนต้มยำกุ้งบ้านเราไหม

807 Nameless Fanboi Posted ID:y1BwWOpG.y

>>805 ขั้นแรกคือคนทั้งสังคมไม่เอาด้วย ตอนนี้ไทยยังมีพวกไม่เอาคอรัปชั่นแต่พร้อมจ่ายเพื่อความสะดวกเยอะ ตำรวจ+ขรก.เลยพร้อมสนอง ต่อมาคือเงินเดือน ใช้หลักการถ้าเงินมากพอคนจะไม่หาเศษหาเลย

>>806 ด้านสเกลน่าจะเละกว่า เพราะตลาดบ้านเกี่ยวกันล้มทั้งสังคม 40 ของไทยล้มแค่ส่วนบน

808 Nameless Fanboi Posted ID:y1BwWOpG.y

ในช่วงศตวรรษที่ 16 ประเทศเดนมาร์กเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกว่า the Sound Dues จากเรือสินค้า โดยที่กษัตริย์ Christian IV of Denmark จะถามกัปตันเรือว่าสินค้ามีมูลค่าเท่าไร และจะเก็บภาษีตามนั้นโดยไม่มีการตรวจสอบบัญชีอีก

ประเด็นอยู่ที่เงื่อนไขพิเศษที่ว่ากษัตริย์ของเดนมาร์กถือสิทธิ์เด็ดขาดในการเข้าครอบครองสินค้าทั้งลำเรือโดยจ่ายในราคาที่แจ้งมา

คำถามคือ กลยุทธ์นี้เป็น truth-telling หรือไม่ กล่าวคือ กัปตันเรือจะตอบมูลค่าที่แท้จริงเสมอไปหรือไม่ครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

809 Nameless Fanboi Posted ID:EDaZRkYz1S

>>807 นอกจากพวกพร้อมจ่าย ยังมีใช้ connection ด้วย และไม่ใช่คนรวยๆ เสมอไปนะ ชาวบ้านธรรมดาๆ นี่แหละ มีเพื่อนมีญาติเป็นตำรวจ อย่างน้อยๆ ต้องเคยขอเคลียร์ใบสั่งกันบ้าง

810 Nameless Fanboi Posted ID:pc1n+14kra

>>806 ก็ตอนนี้มันอุ้มเอเวอร์แกรนด์อยู่นิ

811 Nameless Fanboi Posted ID:6mBHUNUvct

ความสามารถของทุนไทย
วันก่อนคุยเรื่องนี้กับมิตรสหายท่านหนึ่ง หาข้อมูลแล้วหาไม่เจอ ปรากฏว่าวันนี้ Facebook เตือนให้เห็นโพสต์เก่าปี 2018 ที่เคยเขียนเรื่องนี้ไว้พอดี คิดว่าคงได้ใช้อีกในอนาคต เลยนำมารีรันลงบล็อก

งานวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ที่มีอิทธิพลกับผมมากคือ งานของ Akira Suehiro ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้รู้ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทยที่ดีที่สุด (แต่ตำแหน่งนี้ไม่ใช่คนไทย!!!)

ถ้าให้สรุปงานของ Suehiro ในภาพเดียว ก็ต้องเป็นภาพนี้ครับ Suehiro แบ่งกลุ่มธุรกิจในไทยออกเป็น 4 ประเภท ตามสภาพเจ้าของกิจการ

Family-owned ธุรกิจครอบครัวเศรษฐีต่างๆ (สีชมพู)
GLC (government-linked company) รัฐวิสาหกิจ (สีเหลือง)
Mixture of local/MNC ธุรกิจลูกผสม ร่วมทุนระหว่างไทย-ต่างชาติ (สีส้ม)
MNC (multi-national company) บริษัทข้ามชาติ (สีฟ้า)
แล้วแกก็วาดตาราง 2 แกน 4 quarter มาตรฐาน

แกนตั้ง รูปแบบธุรกิจที่เน้นใช้ทรัพยากร (ซีกบน) หรือใช้เทคโนโลยี (ซีกล่าง)
แกนนอน อุตสาหกรรมที่เปิดเสรี (ซ้าย) หรือผูกขาดด้วยกฎระเบียบ-คอนเนคชั่น (ขวา)
จะเห็นว่าธุรกิจของไทยกลุ่มครอบครัว จะอยู่ในแกนธุรกิจที่ใช้ทรัพยากรเป็นหลัก ส่วนรัฐวิสาหกิจไทยจะอยู่ในฝั่งที่ต้องผูกขาด

ในขณะที่ธุรกิจที่อิงเทคโนโลยีชั้นสูง อยู่ในอุตสาหกรรมเปิดเสรี (เช่น ไอที รถยนต์) ล้วนแต่เป็นบริษัทข้ามชาติด้วยกันทั้งสิ้น

ถ้ามีภาพเดียวที่อธิบายสภาพเศรษฐกิจไทยได้ ก็ต้องเป็นภาพนี้แหละ

ต้นฉบับจากเอกสารนำเสนอของ Akira Suehiro เมื่อปี 2015

812 Nameless Fanboi Posted ID:6mBHUNUvct

สมัยตอนที่ผมหาเสียงเลือกตั้งเป็นผู้ว่า กทม.มีหลายคนบอกว่าบางเรื่องที่ผมหาเสียงไม่ใช่อำนาจผู้ว่า กทม. ซึ่งผมก็ยืนยันไปแล้วตอนนั้นว่าที่ผมหาเสียงและใช้เป็นนโยบายในตอนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นอำนาจของผู้ว่า กทม. ทั้งสิ้น อาทิ
.
กทม. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ สามารถจัดทำสวัสดิการในรูปเงินอุดหนุนได้ ตามอำนาจของ พ.ร.บ. แผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ พ.ศ. 2542 มาตรา 18
.
เรื่องค่าขยะ สภา กทม. สามารถออกข้อบัญญัติเพื่อเพิ่มหรือลดค่าเก็บและกำจัดขยะได้ ตาม พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ซึ่งหมายความว่า กทม.มีอำนาจขึ้นค่าขยะห้างใหญ่ และจะตรงจุดกว่าไปขึ้นค่าขยะแต่เฉพาะของบ้านเรือนประชาชน
.
สิ่งเหล่านี้ผู้ว่า กทม. และสภากรุงเทพสามารถผลักดันให้เกิดขึ้นได้ครับ แต่ผมก็เข้าใจดีว่ายังมีปัญหาอีกหลายเรื่องที่ลำพังอำนาจของผู้ว่า กทม. ทำไม่ได้ด้วยข้อจำกัดของกฎหมายและปัญหาเชิงโครงสร้าง เนื่องจากกฎกติกาจำนวนมากในปัจจุบัน ยังจำกัดอำนาจการจัดทำบริการสาธารณะของ กทม. และผูกขาดอำนาจไว้ที่ราชการส่วนกลาง ทำให้แม้ กทม. ได้ชื่อว่าเป็น “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ” และ ผู้บริหารเมืองตำแหน่ง ผู้ว่า กทม. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของชาว กทม. หลายล้านคน แต่กลับไม่สามารถมีอำนาจเต็มในการบริหารจัดการหลายเรื่องที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน
.
ยกตัวอย่างเช่น เรื่องการจัดการการขนส่งสาธารณะ ระหว่างกรุงเทพฯ กับ เมืองหลวงประเทศอื่นที่ใช้รูปแบบการปกครองแบบเดียวกับไทย เช่น กรุงลอนดอนของอังกฤษ ระบบขนส่งมวลชนทั้งหมดอยู่ภายใต้หน่วยงานเดียวกันคือ การคมนาคมเพื่อลอนดอน (Transport for London ; TfL) ซึ่งอยู่ในกำกับขององค์การบริหารมหานครลอนดอน (Greater London Authority) ที่มีนายกเทศมนตรีลอนดอน (Mayor of London) เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด ประชาชนจะขึ้นรถลงเรือ ขึ้นรถไฟใต้ดินหรือบนดิน ใช้เพียงบัตรหอยนางรม (Oyster Card) ใบเดียว เชื่อมต่อครบจบ สะดวกสบาย
.
ตัดภาพมาที่ กทม. ความฝันที่จะมีระบบตั๋วร่วมอย่าง “บัตรแมงมุม” ไม่สำเร็จ เพราะอำนาจการจัดบริการขนส่งสาธารณะกระจัดกระจายไปหลายหน่วยงาน เช่น รถไฟฟ้าใต้ดิน อยู่กับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รถไฟเชื่อมสนามบิน (Airport Rail Link) อยู่กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ส่วนรถไฟฟ้า BTS อยู่กับบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ซึ่งท้ายที่สุด เป็นหน่วยงานเดียวที่ไม่ร่วมใช้บัตรแมงมุม
.
แม้ว่าผมจะเชื่อว่าผู้ว่า กทม. คนใหม่คือคุณชัชชาติ จะไม่ยอมปล่อยให้ข้อจำกัดเรื่องอำนาจของผู้ว่า กทม. มาเป็นอุปสรรคในการทำงานก็ตาม แต่ปัญหาโครงสร้างเช่นนี้ ไม่สามารถแก้ได้อย่างยั่งยืนหากไม่เข้าไปแก้ไขข้อจำกัดหลายๆ เรื่อง
.
หนึ่งในนั้นคือการแก้ไขกฎหมาย หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่น ให้หลักการกระจายอำนาจของประเทศไทยเกิดขึ้นจริงได้ ท้องถิ่นทุกที่สามารถจัดทำบริการสาธารณะทุกเรื่องได้ในพื้นที่ของตัวเอง หรือ หลักการ General Competences โดยมีแค่บางเรื่องเท่านั้นที่ท้องถิ่นทำไม่ได้ แล้วให้รัฐบาลกลางทำ เช่น การมีกองทัพ การมีเงินตรา
.
ต่อไปเมื่อรู้แน่ชัดว่าการจัดทำบริการสาธารณะทุกเรื่องเป็นหน้าที่และอำนาจของท้องถิ่น ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เลย จบในพื้นที่ ไม่ต้องสับสนว่าสรุปแล้วเป็นหน้าที่และอำนาจของใคร หรือมีการโยนกันไปมา ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนก็จะได้รับการแก้ไขได้อย่างทันที ไม่ล่าช้า และครบจบในพื้นที่
.
ผมจึงอยากเชิญชวนพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครทุกคน และพี่น้องประชาชนในจังหวัดอื่น มาร่วมกันแก้ไขปัญนี้ร่วมกัน ผ่านการเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่นไปกับแคมเปญ #ปลดล็อกท้องถิ่น ซึ่งหนึ่งในข้อเสนอของแคมเปญ ได้เสนอให้การจัดทำบริการสาธารณะทั้งหมดเป็นของท้องถิ่นครับ และยังมีข้อเสนออื่นๆ ที่จะมาทำให้ปัญหาอุปสรรคที่ขัดขวางการกระจายอำนาจ ปัญหารัฐราชการรวมศูนย์ได้รับการแก้ไขเสียทีครับ
.
หากทำเรื่องนี้สำเร็จ จะไม่ได้เป็นประโยชน์แค่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยในภาพรวม เมืองหลายๆ เมืองที่ถูกกฎทับด้วยข้อจำกัดทางระเบียบกฎหมาย จะทำหลายๆ เรื่องได้ เกิดนวัตกรรม เกิดการระเบิดพลังทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ รวมถึงจะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนทุกคน
.
ร่วมลงชื่อทางออนไลน์ได้ที่:

813 Nameless Fanboi Posted ID:wfAgt1tZ9/

>>812 พารากราฟแรกกับสี่ขัดกันนะ

"...ที่ผมหาเสียงและใช้เป็นนโยบายในตอนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นอำนาจของผู้ว่า กทม. ทั้งสิ้น อาทิ"

"...แต่ผมก็เข้าใจดีว่ายังมีปัญหาอีกหลายเรื่องที่ลำพังอำนาจของผู้ว่า กทม. ทำไม่ได้ด้วยข้อจำกัดของกฎหมายและปัญหาเชิงโครงสร้าง"

ถ้ากระจายอำนาจจริง ในกรณีกทม.มันพูดง่าย เพราะเป็นจังหวัดใหญ่ที่ปกครองปริมลฑลโดยรอบในทางพฤตินัยอยู่แล้ว แต่จังหวัดอื่นๆ จะเอายังไง แล้วกทม.เองก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา

ตัวอย่างชัดสุดคือ BTS และรถเมล์ที่กระจายไปรอบกทม. จะแบ่งเงินจากท้องถิ่นมาอุดหนุนยังไงให้ยุติธรรม ตามหลักแล้วกทม.ที่งบเยอะสุดก็ควรแบกรับภาระเยอะสุด แต่แบบนั้นคนกทม.ก็อาจจะไม่ชอบอีก

814 Nameless Fanboi Posted ID:6mBHUNUvct

>>813 ขัดยังไง เขาอธิบายที่ว่าหาเสียงน่ะทำได้หมด ซึ่งก็อธิบายอยู่ในโพสแล้วนะว่าทำได้ยังไง

1. สวัสดิการในรูปเงินอุดหนุนได้
2. เรื่องค่าขยะ สภา กทม. สามารถออกข้อบัญญัติเพื่อเพิ่มหรือลดค่าเก็บและกำจัดขยะได้

ส่วนเรื่องรายได้มันตกเถียงในชั้นกมธได้นะว่ามีรูปแบบรายได้จัดสรรยังไง มีโรดแม็พยังไง ไปคุยในสภาให้ตกผลึกได้ (ในร่างที่เสนอ รายได้ที่ท้องถิ่นเก็บได้ ท้องถิ่นเก็บ50%ส่งส่วนกลาง50% ,ออกบอนด์ได้)
แต่การกระจายอำนาจต้องมี และต้องเริ่มรณรงค์ ถ้าไม่เริ่มรณรงค์แล้วจะเริ่มตอนไหน
ปัญหานะมีบ้างอยู่แล้ว ก็เหมือนประชาธิปไตย ก็ค่อยเรียนรู้และแก้ไข มันไม่สมบูรณ์แบบตั้งแต่วันแรกอยู่แล้ว

815 Nameless Fanboi Posted ID:wfAgt1tZ9/

>>814 แต่มันมีบางอันที่ทำไม่ได้ไง หรือนโยบายวิโรจน์มีแค่ 2-3 ข้อนี้ ถึงบอกทำแค่นี้ได้หมด

ที่กูพูดคืออำนาจข้ามเขตจังหวัด ถึงกทม.จะเป็นหัวหน้าโดยพฤตินัย แต่ถ้ากระจายอำนาจแล้วจะมีคนไม่ฟังก็ได้ แล้วการที่กทม.จ่ายมากสุดนี่จะบอกว่าคนกทม.เห็นชอบด้วยทุกคนคงไม่ได้

แล้วออกบอนด์ต้องมี "กำไร" มาจ่ายดอกเบี้ยนะ ซึ่งมันก็จะวนกลับมาเรื่องเดิมที่กูเคยเถียงกับมึง มึงจะหากำไรจากไหนมาจ่ายละ ในเมื่อรัฐต้องขาดทุนเพื่อปชช.

816 Nameless Fanboi Posted ID:NRElD9FeE8

ชัชชาติออกมาขอโทษที่ทำให้แทกซี่โดนชาวเน็ตด่า
ชาวเน็ตชื่นชมชัชชาติว่านี่สิผู้นำที่ดี ขอโทษต่อให้เป็นเรื่องเล็กน้อย

แต่ไอ้ชาวเน็ตพวกนี้ มึงไม่ได้ทำตามแบบอย่างดีๆที่ผู้นำทำให้ดูเลย กูเห็นนะว่าตอนคลิปออกมาแรกๆใครด่าบ้าง มันส์ปากเลยนะมึง ตอนความจริงเปิดเผยแล้วม้วนเงียบกันทุกคน ไม่มีใครโพสต์ขอโทษแทกซี่

ผู้นำดีแต่ผู้ตามยังเหี้ย เมื่อไหร่จะพัฒนา หรือมึงคิดว่ามึงกาเลือกผู้นำดีแล้วมึงฟิน กลายเป็นคนดีแล้ว

#มิตรสหายซ้ายที่ด่าซ้ายด้วยกันท่านนึง

817 Nameless Fanboi Posted ID:Hc0VF0HrFy

>>814 อันนี้เข้าทางมึงพอดี

https://www.trjournalnews.com/42911

"ขณะเดียวคณะทำงานฝ่ายญี่ปุ่นมีความเห็นว่า หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นมีความสำคัญอย่างมากต่อการขยายโครงข่ายรถไฟในเมืองหลักไปยังเมืองที่อยู่รอบๆ เนื่องจากรถไฟนอกเมืองของประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบัน เกิดขึ้นมาจากการร่วมทุนของหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ เป็นผู้ลงทุนในการก่อสร้าง

อย่างไรก็ตาม คณะทำงานฝ่ายไทยเห็นด้วยกับแนวคิดของคณะทำงานฝ่ายญี่ปุ่น เนื่องจากเห็นว่าหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยหน่วยงานที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนซึ่งจะทราบความต้องการของประชาชน และมีอำนาจหน้าที่ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การพัฒนาถนนหรือทางเท้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสถานีรถไฟมากยิ่งขึ้น"

ฝ่ายญี่ปุ่นอยากให้ท้องถิ่นร่วมลงทุน ข้อนี้กูสงสัยว่าท้องถิ่นรอบกทม.จะมีงบหรือความอยากร่วมทุนแค่ไหน เพราะเรื่องงบระดับหมื่นล้านนี่คุยกันยากอยู่แล้ว

ส่วนไทยมองอีกอย่าง คือมองว่ารอบกทม.ที่รถไฟผ่านมีหน้าที่เชื่อมต่อเข้าหารางมากกว่าจะช่วยสร้างรถไฟชานเมือง ถึงเวลาจริงก็คงตามแทบบของไทยมากกว่า คือส่ในกลางลงเงินให้ไม่ก็สัมปทาน แล้วเขตไหนรฟฟ.ผ่านก็จัดการดูแลบนพื้นแทน

818 Nameless Fanboi Posted ID:TXOLh8MRjk

ประชาธิปไตยแปลว่า รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน แต่ประชาชนแม่งโง่

#OSHO

819 Nameless Fanboi Posted ID:iKVQD1rlTc

>>818 โง่สิดี ปกครองง่าย

820 Nameless Fanboi Posted ID:Lar4qnLS93

มีคนส่งคลิปคุณชัชชาติพูดเรื่องวิถีฮาลาลมาให้ผมดู พร้อมถามความเห็นผม ผมดูแล้วก็เห็นว่าเป็นการพูดที่เน้นอวย ซึ่งด้านนึงก็เป็นเรื่องปกติสำหรับงานทำนองนั้น

อย่างไรก็ตามสิ่งที่คุณชัชชาติพูดนั้นมีปัญหาหลายเรื่อง อันนึงที่ผมอยากจะยกมาพูดตอนนี้เลยก็คือการยกเรื่องการถือศีลอดไปเทียบกับ fasting

การถือศีลอดนั้นเขาอดกันแค่ 11-12 ชั่วโมง ในขณะที่ fasting เขาอดกันราว 16 ชั่วโมง หรือบางคน 18-20 ชั่วโมง
หรือกระทั่ง 23/1 (อด 23 กิน 1) ก็ยังมี

ความจริงการอด 11-12 ชั่วโมง ก็เป็นปกติของคนทั่วไปนะ อย่างถ้ากินมื้อเช้า 7-8โมง มื้อเย็น 6โมง-ทุ่ม นี่ก็อด 12-13 ชั่วโมงแล้ว

ดังนั้นศีลอดขอลอิสลามจึงไม่ใช่อะไรเลยนอกจากเทศกาลเปลี่ยนเวลากินอาหารเท่านั้นเอง
ไม่ได้ฟาสต้งฟาสติ้งอะไรเลย

นอกจากนั้นคนถือศีลอดมักจะเข้านอนหลังกินมื้อค่ำไม่นาน กินแล้วจะต้องรีบนอนจะได้ตื่นมาทันกินมื้อเช้าก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น
หรือบางคนกินอิ่มแล้วหลับตรงนั้นเลยผมก็นังเคยเห็น

ซึ่งอันนี้น่าจะขัดกับหลัก fasting อยู่นะ
ปกติ fasting จะงดมื้อเย็น
คือกินมื้อสุดท้ายราว 6-8 ชั่วโมง ก่อนนอน

ที่สำคัญ ศีลอดต้องอดน้ำด้วย ในขณะที่ fasting การดื่มน้ำเป็นเรื่องสำคัญมาก

ออ แล้วศีลอดนี่ทำกันเดือนเดียวเองนะ มันจะได้ผลอะไรเหรอ?

ความจริงการเคลมเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผม ในกลุ่มศาสนาหรือตามเพจมุสลิมเขาเคลมเรื่องนี้กันมาเยอะแยะแล้ว แต่ที่น่าตื่นเต้นหน่อยก็คือ คลิปนี้มันเป็นคำพูดจากต่างศาสนิก ไม่ใช่จากมุสลิมเหมือนที่ผ่านๆมา

อีกอย่างก็คือ จริงๆแล้วไม่ใช่มุสลิมที่พยายามเคลม fasting
คนพุทธก็ชอบเคลมกัน บอกว่าที่พระฉันอาหาร 1-2 มื้อ นั่นก็ fasting

Fasting บ้าอะไรล่ะครับ ฉันน้ำปานะกันทั้งวันทั้งคืน
เคยดูกันหรือเปล่าว่าน้ำตาลบานตะไทขนานไหน

Fasting ที่ไหน อดข้าวแต่กินน้ำตาล
ไม่มีหรอก

821 Nameless Fanboi Posted ID:bA3HnSIGds

ในโอกาสครบ 1 เดือนที่ผมประกาศร่วมงานกับพรรคก้าวไกล ในฐานะ Policy Campaign Manager (ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย) ผมขอแชร์การปราศรัยฉบับเต็มเกี่ยวกับ “อนาคตประเทศไทย” ที่ได้กล่าวบนเวทีประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2565 เพื่ออธิบายอีกครั้งถึงภารกิจที่ผมตั้งใจอยากเข้ามาขับเคลื่อนร่วมกับพรรคก้าวไกล
.
-------------------------------------
.
“อนาคต” ของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับ “โครงสร้าง” ของประเทศ
.
แทบจะทุกปัญหาเชิงโครงสร้าง สามารถถูกสรุปได้ผ่าน #หนังสือ3เล่ม ซึ่งจะกำหนดเรื่อง "กฎ" เงิน" และ "คน" ของประเทศเรา
.
#หนังสือเล่มที่1 = รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ("กฎ")
.
รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มีข้อตกหล่นบกพร่อง ทั้งในด้านประชาธิปไตย ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ และด้านการสร้างรัฐที่โปร่งใสไร้ทุจริต - ในการเลือกตั้งครั้งหน้า มันจึงไม่พอ ที่เราจะมาพูดกันแค่ว่าจะแก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญ แต่เราต้องนำเสนอ #รัฐธรรมนูญฉบับก้าวไกล ให้ประชาชนได้รับความชัดเจน ว่าถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราต้องการจะแก้อะไรเป็นอะไร เพื่อทั้งนำมาใช้ชั่วคราวแทน รัฐธรรมนูญ 2560 และ เพื่อให้ประชาชน ผู้มีอำนาจสูงสุดในประเทศ หยิบไปพิจารณาต่อยอดได้ ในวันที่ ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้ง มาร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรใหม่ทั้งฉบับ ทุกหมวด ทุกมาตรา
.
#หนังสือเล่มที่2 = เอกสารงบประมาณประจำปี ("เงิน")
.
งบประมาณของประเทศถูกจัดสรรอย่างไร เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ดีที่สุด ว่า รัฐบาลกำลังลงทุนกับอะไรหรือกับใคร - ในการเลือกตั้งครั้งหน้า มันจึงไม่พอ ที่เราจะมาแค่วิจารณ์ว่ารัฐบาลใช้งบประมาณแบบไม่ตรงจุดอย่างไร หรือ เสนอนโยบายต่างๆโดยไม่อธิบายต่อประชาชนว่าจะเอาเงินมาจากไหน แต่สิ่งที่เราต้องทำคือการนำเสนอ #งบประมาณฉบับก้าวไกล ให้ประชาชนได้รับความชัดเจน ว่าถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราจะมีกระบวนการจัดทำงบประมาณให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใสอย่างไร เราจะสร้างประเทศไทยแบบไหน และ เราจะจัดสรรงบอย่างไรเพื่อให้นโยบายที่สัญญาไว้ ทำได้จริง
.
#หนังสือเล่มที่3 = หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ("คน")
.
แน่นอนว่าปัญหาทั้งหมดเกี่ยวกับการศึกษาไทย ไม่ได้มีต้นตอมาจากหนังสือเล่มนี้ แต่คงไม่มีใครปฏิเสธได้ ว่านอกจากปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาแล้ว ปัญหาของการศึกษาไทยส่วนหนึ่งมาจากการกำหนดหลักสูตรที่ล้าหลัง - ในการเลือกตั้งครั้งหน้า มันจึงไม่พอ ที่เราจะแก้แค่ปัญหาที่เห็นผลในระยะสั้นเพียงอย่างเดียว แต่เราจำเป็นต้องลงทุนในการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการแก้ปัญหาในระยะยาวควบคู่ไปด้วย ผ่านการนำเสนอ #การศึกษาฉบับก้าวไกล ให้ประชาชนได้เห็นชัด ว่าถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล อนาคตของลูกหลาน และอนาคตของประเทศนี้ จะถูกขีดเส้นทางไว้อย่างไร
.
หากหนังสือ 3 เล่มนี้ ไม่ถูกเขียนใหม่ ไม่ถูกร่างใหม่
หากโครงสร้าง การเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม ไม่ถูกคิดใหม่ ไม่ถูกสร้างใหม่
ต่อให้เราแก้ปัญหาและวิกฤตเฉพาะหน้าได้ดีแค่ไหน
ในอนาคต ประเทศไทยก็อาจจะวกกลับมาเป็นเหมือนเดิม
.
ภารกิจของพวกเรา ไม่อาจสำเร็จได้ในค่ำคืนเดียว แต่จำเป็นต้องอาศัยเวลา
เพราะภารกิจของพวกเรา คือการร่วมกันสร้างอนาคตใหม่ของประชาชน และการร่วมกันสร้างประเทศไทยที่ไม่เหมือนเดิม

822 Nameless Fanboi Posted ID:4Rr0xXJvBO

คนมีรอยสักไม่จำเป็นว่าจะเป็นตลาดล่าง ใช่ครับ แต่ถ้าคุณดูดีๆ จะรู้ว่าตลาดล่างมักจะสักแนวๆนึง และคนที่ไม่ใช่ตลาดล่างจะสักอีกแนว ทำให้พอบอกได้ว่าสักแบบไหนเป็นตลาดล่าง

823 Nameless Fanboi Posted ID:fSaGJq.vqG

มีตลาดล่างมีมีตลาดบนไหมครับ

824 Nameless Fanboi Posted ID:0oZEzh0NqA

มีแต่ตลาดมืด

825 Nameless Fanboi Posted ID:4wTGBvyUFy

ทำไมสักญี่ปุ่นที่พวกแง๊นๆสักมันดูถูกจังวะ สีซีดๆเลือนเป็นสีเดียวกัน หมึกดำกลายเป็นหมึกเขียว เทียบกับของจริงที่สีสด ชัดตลอดชีวิต
พวกนี้จะว่าไม่มีเงินก็ไม่ใช่เพราะเป็นเภสัช ทำไมไม่มีใครคิดไปดูงานของจริงบ้าง

826 Nameless Fanboi Posted ID:8pz9Q6bNme

>>825 ถูกไง เน้นราคาวัยรุ่นสร้างตัวแตะต้องถึงได้ ไอคนที่มันสักก็ไม่ได้จบศิลป์อะไรหรอกฝึกฝนเองมั่วๆมันเลยได้แค่นี้
กูว่าหมึกกากพอๆกับพวกสัก5แถวเลย แบบนานๆไปแล้วลายเส้นจาง ไม่ชัด ไม่รู้ว่าใช้หมึกใช้เข็มอะไรมันถึงเป็นงี้

827 Nameless Fanboi Posted ID:aa2wPAU+G8

>>826 นึกถึงของแต่งรถทั้ง 2 ล้อ 4 ล้อแฮะ แบรนด์ไทยไม่แพงแต่ใช้ได้จริงตามหน้าที่ของมันไม่เอา เอาของก๊อปแบรนด์นอกราคาถูกมากๆ แต่ใช้งานไม่ได้ ติดเท่ๆ ไปงั้น แถมบางทีก่อความรำคาญกับคนอื่น ไม่ก็อันตรายกับตัวเองอีก

828 Nameless Fanboi Posted ID:Cx+h/fDgUJ

>>825 พวกที่สัก ส่วนใหญ่ก็พวกรสนิยมต่ำ ไอคิวต่ำ ทั้งนั้นอ่ะมึง เอาไรมากมาย
คนมีสมอง ไอคิวสูงๆ ไม่มีใครเขาสักกันหรอก เทียบกันแล้วผลเสียของการสักมีมากกว่าผลดี

829 Nameless Fanboi Posted ID:jxqM2NUIAv

>>828 กูเห็นสายติสต์ ดารานักแสดงสักกันเยอะนะ ยิ่งเมืองฝรั่ง อีกพวกคือทหาร ok มึงอาจจะเหยียดกทัพบ้านเรา แต่จะบอกว่าทหารไอ้กัน iq ต่ำคงไม่ใช่ละ

830 Nameless Fanboi Posted ID:Fjl.8vmrl5

>>828 เดอะร็อค อดัมM5 เบคแฮม คือพวกรสนิยมต่ำ ไอคิวต่ำ?

831 Nameless Fanboi Posted ID:gYfGY/KFHe

มันbaitล่อพวกมึง อย่าไปรีพลายดิ
>>826 ไอ้พวกนี้มันมีเงินไม่ใช่เรอะ เป็นเภสัชกรขายขนมกัน ทำไมไม่ไปสักดีๆเอา

832 Nameless Fanboi Posted ID:Cx+h/fDgUJ

>>830 มึงคิดจริงๆ หรอว่าพวกนักกีฬา นักแสดง ไอคิวสูง ?
ถ้ามึงคิดงั้นก็บ่งบอกถึงไอคิวของมึงได้ดีเลย

833 Nameless Fanboi Posted ID:/DCmTYImjR

>>829 ทหารไอ้กันก็พวกที่พี้กัญชาตอนเวียดนามไง ไอคิวต่ำอะถูกละ

834 Nameless Fanboi Posted ID:3BMCU.6is+

>>832 ถ้ามึงคิดว่าIQแยกได้แค่สูงกับต่ำ นั่นไม่ได้บ่งบอกIQมึง แต่บ่งบอกระดับความรู้ของมึงว่ากากจัดๆ

835 Nameless Fanboi Posted ID:Fjl.8vmrl5

ยังดีนะนักท่องเที่ยวมิวนิคแค่ติดแทททูไม่ได้สัก

836 Nameless Fanboi Posted ID:d4N9JmcIkE

ทุกวันนี้ทักษิณคิดเพียงแค่ทำยังไงที่ราชสำนักจะกลับมาคืนดีกับเขาเหมือนเก่า ตอนนี้มีแค่อุบลรัตน์ที่แสดงออกชัดเจนว่าสนับสนุนทักษิณ

พวกติ่งแม้วเพื่อไทย ถึงที่สุดแล้วถ้าทักษิณกับราชสำนักกลับมาคืนดีกัน คนเหล่านี้จะกลายเป็นคนจำพวกเดียวกับสลิ่ม ปกป้องเจ้า ไม่เอาปชต. (เลือกตั้ง ≠ ปชต.)

837 Nameless Fanboi Posted ID:Yw03AcuV6M

>>836 คนรุ่นเก่าและกลางเขา ignore อะนะ ขอปากท้องสบายก่อน จะเอาไงล่ะ

838 Nameless Fanboi Posted ID:3BMCU.6is+

>>837 แนวทางนี้ใช้มา15+ปี ปากท้องดีขึ้นมากเรยนะ

839 Nameless Fanboi Posted ID:Yw03AcuV6M

>>838 อย่างน้อยไอ้ความรู้สึกลำบาก มันก็เพิ่งมาเกิดในยุคตู่อะ แล้วคนก็ยังโหยหายุคแม้ว-ปู แสดงว่ามันต้องดีจริงแหละ

840 Nameless Fanboi Posted ID:bnlKiiEYfr

ที่จริงการที่ชุดนักเรียนปักชื่อเนี่ย น่าจะผิด pdpa ที่สุดด้วยซ้ำ
ชื่อนามสกุล เป็นสิ่งแรก ๆ ที่ พรบ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะปกป้อง การที่ให้เด็กนักเรียน ปักชื่อบนเสื้อ ซึ่งสามารถมองให้ได้โดยทั่วไป (expose) นี่ก็ผิดแล้ว เด็กควรจะต้องปลอดภัยกว่านี้
ถ้าเอาระเบียบกระทรวง (regulations) มาอ้าง ระเบียบกระทรวงไม่ได้ระบุให้ปักชื่อนักเรียนบนเสื้อ
ถ้าเอาการให้บริการ (services) มาอ้าง การไม่ปักชื่อ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอน
ถ้าเล่นตามกฎที่มี ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ต้องปักชื่อบนชุดนักเรียน แล้วก็ยกเลิกชุดนักเรียนได้แล้ว มันไม่จำเป็น ไร้สาระ ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรต้องจ่าย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

841 Nameless Fanboi Posted ID:dnOw01Fd6a

>>838 ปากท้องไม่ดี ทำไมตั๋วJBถึงหมดในไม่กี่วินาที

842 Nameless Fanboi Posted ID:3/bHoQSOrm

>>840 เลิกเครื่องแบบ เลิกทรงผม เลิกกำหนดแนวทางการแต่งตัวมาเรีนน

อืมมม

843 Nameless Fanboi Posted ID:fzs3C9gnfe

>>840 มีเหตุผล

844 Nameless Fanboi Posted ID:5+hjNWBUS7

ทำไมชัชชาติไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2562 ต้องไปถามทักษิณ ชินวัตรครับว่า
ทำไมถึงเลือกอุบลรัตน์เป็นแคนดิเดตนายก
(แล้วกลายเป็นการทิ้งไพ่โง่ในที่สุด)

......

คำ ผกาบอกว่า

คนอย่าง ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุควรจะเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2562

รู้หรือยังว่าประเทศไทยต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง

แม้แต่คนที่ชื่นชมหรือ crazy คุณชัชชาติมากๆในวันนี้ ในปี 2562 ก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากได้คุณชัชชาติเป็นนายกรัฐมนตรีนะ เพียงเพราะเขาเป็นแคดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคการเมืองที่คุณเกลียดเข้าไส้

รู้หรือยังว่าไอ้ภาวะที่กลัวเพื่อไทยจนขึ้นสมองและคิดว่าเพื่อไทยเท่ากับทักษิณนั้นทำให้ชีวิตคุณพลาดอะไรไปแล้วบ้าง

วันนี้ถ้าคุณชัชชาติลงผู้ว่าในนามพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ได้เป็นเชื่อไหม

https://fb.watch/dn5t8cgUP_/

ในข้อเท็จจริงคือในการเลือกตั้ง 2562 ชัชชาติไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกของพรรคเพื่อไทยในการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครับ

ตัวเลือกแรกคือสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ส่วนชัชชาติเป็นตัวเลือกอันดับที่ 2 และอันดับที่ 3 คือชัยเกษม

ดังนั้นถ้าพรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลนายกรัฐมนตรีก็จะเป็นสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

แต่ทั้ง 3 คนคือตัวหลอกครับ

แต่ตัวเลือกที่แท้จริงของทักษิณในการเลือกตั้ง 2562

คืออุบลรัตน์พรรคไทยรักษาชาติครับ

ดังนั้นคำถามที่ว่า ทำไมชัชชาติไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2562

ต้องไปถามทักษิณ ชินวัตรครับว่าทำไมถึงเลือกอุบลรัตน์เป็นแคนดิเดตนายก

845 Nameless Fanboi Posted ID:/F1Yg/lbOg

ที เจ้านโรดมสีหนุ ยังสมัครเป็นนายกได้เลย นะเมิง

846 Nameless Fanboi Posted ID:au5zwSeY2K

ฝ่ายซ้าย wokeness เติบโตที่สุดในยุคทรัมป์และเสื่อมถอยที่สุดในยุคไบเดน ส่วนฝ่ายขวาก็เติบโตที่สุดในยุคไบเดน ทั้งล่าเอเชียน ทั้งควงปืนบุกโรงเรียน ขวาเมกานี่มันขวาเมกาจริงๆ

847 Nameless Fanboi Posted ID:LMO4XnxF/D

>>846 พวกล่าเอเชียนมีแต่พวกโหวตเดโมแครท

848 Nameless Fanboi Posted ID:jaFRNbMiQX

>>846 เพ้อไรของมึงเห็นตอนนี้ก็ยังwokeแตกกันไม่หยุดหย่อน

849 Nameless Fanboi Posted ID:zqLR2sE/2L

พูดถึงwoke กูเคยเห็นคนคาดการ์(เดา?)ว่าวัฒนธรรมwokeน่าจะหมดไปภายใน4-5ปีนี้แหละเพราะ(มันว่านะ)คนเหม็นขี้หน้าเยอะ แล้ววัฒนธรรมขวา(สากลนะ)จะสไตรค์แบค คิดว่าไง มีความเป็นไปได้มั้ยเพื่อนโม่ง

850 Nameless Fanboi Posted ID:ps0LFc7/Qj

ถ้าคนขาวยิงคนดำ -> เหยียดผิว
ถ้าคนขาวกระทืบคนเอเชีย -> เหยียดเชื้อชาติ
ถ้าคนดำยิงคนขาว -> แค่อาชญากรรม ปล้น ชิงทรัพย์
ถ้าคนดำกระทืบคนเอเชีย -> ....... (ไม่มีข่าว) อย่า woke

851 Nameless Fanboi Posted ID:3/0SVoHv5N

>>846 ฝั่งขวาโตสุดก็ตอนทรัมป์ชนะไง meme ด่าซ้าย left cant meme กระจาย

ดันไปพลาดตรงโควิด (ที่ติ่งไทยไม่ค่อยพูดถึง) กับ anti mask (ที่ติ่งไทยก็ไม่พูดถึงเช่นกัน) เลยไปตกม้าตายแพ้ไบเดน กระแส woke เลยกลับมา

852 Nameless Fanboi Posted ID:rdy/+/dsdg

>>849 พวก woke อ่ะจะเพิ่มขึ้นน้อยลงแต่กูว่าพวกwokeหัวรุนแรงจะค่อยๆเพิ่มขึ้นในกลุ่ม woke แทน
ส่วนพวกคนขาวมันก็จะเพิ่มขึ้นแต่ก็ไม่ถึงขั้นสไตแบคเพราะพวก woke มันยังกระจายแนวคิดอยู่

853 Nameless Fanboi Posted ID:jaFRNbMiQX

>>851 Trumpมันก็แค่หลอกใช้พวกฝั่งขวาให้เทคะแนนให้ตัวเอง เอาจริงๆแล้วก็มีwokeผสมอยู่เยอะเลยในนโยบาย ไอ้เรื่องเป็นมิตรกับจีนที่เป็นเจ้าพ่อwokeก็Trumpนี่แหละ พวกขวาเสนอนโยบายอะไรไปก็ไม่เห็นเอาไปทำ ทำแต่สิ่งที่ตัวเองโฆษณาไว้ตอนหาเสียงเพราะเฮียไม่ใช่แบบนักการเมืองไทยที่หาเสียงได้รับเลือกเสร็จแล้วก็กระดิกเท้าทำเป็นลืมว่าสัญญาไรไว้
>>849 ไม่มีทางและมีแต่จะรุนแรงขึ้นด้วย แต่ตอนนี้ฝ่ายต่อต้านwokeเริ่มมีกำลังเพิ่มขึ้นเพราะคนเริ่มรังเกียจวิธีการของพวกwokeที่ชอบใช้การบีบคั้นคนเห็นต่างหรือเซนเซอร์ปิดปากฝ่ายตรงข้ามหรือแกล้งทำเป็นเหยื่อเพื่อโจมตีอีกฝ่าย คดี Depp vs Amber เห็นชัดเลยเพราะกระแสแบ่งเป็นสองฝ่ายชัดเจนจากที่ก่อนหน้านี้ถ้ามีคดีแบบนี้มาคนคงเทไปฝ่าย ญ หมดโดยไม่สนข้อเท็จจริง

854 Nameless Fanboi Posted ID:vMFezDPjyo

>>853 จีนเป็นเจ้าพ่อ woke ???

855 Nameless Fanboi Posted ID:FPlz5bxQuj

จีนพ่อมึงสิเจ้าพ่อ woke

มึงเข้าใจจริงไหมเนี่ยว่า woke คือพวกไหน

856 Nameless Fanboi Posted ID:6c6GXSNRZA

Woke = พวกรักตุ๊ด

857 Nameless Fanboi Posted ID:upHSrXbMiP

>>856 มึงโดนเสด็จแม่แบนแน่มึง รีบๆขอขมาเด็จแม่เดี๋ยวนี้

858 Nameless Fanboi Posted ID:jaFRNbMiQX

>>854 >> 855 มึงไม่เข้าใจหรือแกล้งโง่ ? จีนสนับสนุนกระแสwokeสุดตัวเว้นแต่มันจะไปแตะไข่งูจงอาจต้องห้ามเช่น ไต้หวัน หรืออุยกูร์ แต่เรื่องสิทธิระหว่างเพศหรือ #metoo หรือเซนเซอร์วับแวมหรือเฟม จีนสนับสนุนมาตลอด

859 Nameless Fanboi Posted ID:wG5WxFpXdG

>>851 ไม่นะ เรื่องโควิดถึงจะห่วยจริงแต่ก็ไม่ได้แย่กว่าไบเดน แล้วถ้าทรัมป์ไม่อัดเงินให้ไม่อั้น ก็คงไม่ได้วัคซีนเร็วแบบนี้ ไบเดนซะอีกที่ด่านโยบายทรัมป์ทุกอย่างแต่ก็ทำตามหมด ทั้งยังเหี้ยกว่าเยอะ

ที่ทรัมป์พลาดจริงๆ คือเรื่อง Insurrection นั่นละ ที่ทำให้คนเมกาออกห่างหนัก คือในเมกามึงจะทำเหี้ยอะไรก็ได้ แต่เรื่องคอขาดบาดตายในสายตาคนเมกาอย่างการต่อต้านปชต.แบบนี่เนี่ยแม่งพลาดมากๆ ถ้ามันแค่ด่าอย่างเดียวแล้วลงอีกที 2024 แม่งยังมีโอกาสชนะเลย

>>858 จีนสนับสนุน woke ตอนไหน มึงอยู่ multiverse เดียวกับติ่งแอบเบอร์ป่าววะ หรือฉีดวัคซีนเจ๊กมา สมองถึงเสียหายแบบนี้

860 Nameless Fanboi Posted ID:a8YnjE2Iyi

>>859 จีนสนับสนุน หญิงเป็นใหญ่นานละมึง

861 Nameless Fanboi Posted ID:3/0SVoHv5N

ถ้าเซนเซอร์วับแวม = เฟม

งี้รัฐบาลไทยก็มาก่อนกาล ตั้งแต่เซนหัวนมชิซูกะแล้วสิวะ

862 Nameless Fanboi Posted ID:3/0SVoHv5N

แล้วอีกอย่าง แบนหนังเกย์จนเขาต้องมุดมาดูหนังเกย์ไทย ล่าสุดก็แบนเฟมบอยอีก มึงแยกระหว่างมี เฟม มี เกย์ ในประเทศ กับรัฐบาลสนับสนุน เกย์ กับ เฟม กันไม่ออกเหรอวะ

863 Nameless Fanboi Posted ID:jaFRNbMiQX

>>859 หรือมึงจะเถียงละไอ้สี่อย่างที่ยกไปข้างบน หือ จีนทำครบเลยนะทุกcheckpoint

>>862 ก็บอกไปแล้วในrepบนไงว่ายกเว้นแค่บางเรื่อง เกย์กับเฟมบอยมันขัดกับนโยบายความพยายามสร้างประชากรเลนโดนเขี่ยทิ้ง การที่จีนไม่รับบางแค่บางเรื่องแต่อย่างอื่นเอาด้วยทุกอย่างไม่ให้เรียกwokeแล้วจะเรียกไร ก็เหมือนwokeบางตัวสนับสนุนabortionแต่บางตัวก็ไม่เอาด้วย แต่เมื่อเห็นตรงกันอย่างอื่นหมดมันก็ต้องเรียกเป็นwokeสิวะ

864 Nameless Fanboi Posted ID:Vz.tsm+oIy

>>863 นายบอกเราทีว่านายโทรล เรายังไม่อยากหมดความหวังในตัวนาย

865 Nameless Fanboi Posted ID:jaFRNbMiQX

>>864 เถียงไม่ออกละเฉไฉไปกล่าวหาว่าโทรล ไม่รู้จะต่อไงก็เงียบไปเถอะนะ

866 Nameless Fanboi Posted ID:zqLR2sE/2L

>>863 ที่ว่าทุกอย่างอ่ะ มีเรื่องไหนที่จีนเอาด้วยบ้าง แค่เรื่องคดีข่มขืนยังตัดสินให้มันดีไม่ได้เลย https://www.bbc.com/thai/international-58710264

867 Nameless Fanboi Posted ID:l8rlzJQ5wW

>>863 มึงเข้าใจว่า woke คืออะไร มันไม่ได้แปลว่ากะทะก้นกลมนะ ถึงจะบอกว่าจีนเป็นเจ้าพ่อ wok

868 Nameless Fanboi Posted ID:FPlz5bxQuj

ที่มึงพิมพ์มา คือมึงไม่เข้าใจว่าชนชาว woke เป็นยังไงจริงๆ สินะ
ตอนแรกคิดว่าโทรลล์ ไอ้ห่าเสือกโง่จริง

869 Nameless Fanboi Posted ID:huxddLKnC5

>>867 >>868 ร้อนตัวไปเปล่า wokeคุง

870 Nameless Fanboi Posted ID:Vz.tsm+oIy

>>867 มุกนี้ผ่าน 555

871 Nameless Fanboi Posted ID:jaFRNbMiQX

>>866 ไอ้หอกก็เสือกไปกล่าวหาพิธีกรCCTVที่เป็นช่องของรัฐก็โดนเล่นสิวะ ยังจะแกล้งโง่ไม่เข้าใจอีกว่าทำไมบางเรื่องถึงไม่เป็นwoke
>>867 >>868 กลบเกลื่อนให้พวกเดียวกัน ?

872 Nameless Fanboi Posted ID:zqLR2sE/2L

>>871 ใน >>858 พูดแค่เรื่องไต้หวัน อุยกูร์ ตอนนี้มีข้อยกเว้นเพิ่ม? ตกลงมีส่วนไหนของจีนที่สนับสนุนwoke? และสนับสนุนยังไง ตอบไม่ได้เหรอ เห็นใครยกเรื่องอะไรมามึงก็บอกว่าเป็นข้อยกเว้นไปหมด wokeแบบจีนๆก็ไม่ต่างกับปชตแบบจีนๆหรือแบบไทยๆใช่มะ

873 Nameless Fanboi Posted ID:CU5/JJ..Ky

>>846 เห็นข่าวกระทืบเอเชียนมีแต่คนดำ
คนดำส่วนใหญ่โหวตเดโมแครท
มันขวาตรงไหนวะ

874 Nameless Fanboi Posted ID:jaFRNbMiQX

>>872 ยกมายัน แล้วยกไม่ครบ แถแบบนี้ไม่ซื่อสัตย์เลยนะ

เต็มๆ คือ "...จีนสนับสนุนกระแสwokeสุดตัวเว้นแต่มันจะไปแตะไข่งูจงอาจต้องห้ามเช่น ไต้หวัน หรืออุยกูร์..."

ตกภาษาไทยไม่เข้าใจคำว่า "เช่น" หรือมึง ?

สนับสนุนยังไงกูยกตัวอย่างไปแล้วสี่เรื่อง ถ้าสมาธิสั้นอ่านให้จบไม่ได้ไม่ต้องกระแดะตอบเถอะ เสียเวลา

875 Nameless Fanboi Posted ID:jaFRNbMiQX

>>872 ข้อยกเว้นมันคือพวกเรื่องความมั่นคงของรัฐนะแหละเท่าที่ดู ใครตามข่าวก็เห็นพี่สีประกาศมาเรื่อยๆก็จริง

876 Nameless Fanboi Posted ID:qyOKBZNBeV

>>872 มึงพูดเหมือนโลกนี้มีแค่ขาวกับดำ สุดโต่งว่ะโม่ง
>>873 คนดำกระทืบลิงเหลืองไม่ผิดแบบในคลิปไง BLMแต่ไม่มีYLM

877 Nameless Fanboi Posted ID:6bn9aKpZXD

อ้อ รู้แล้วตัวไหน เถียงแม่งมากๆ เดี๋ยวก็ mind break อีกหรอก

878 Nameless Fanboi Posted ID:3/0SVoHv5N

>>877 คนละคน ไอ้สัส กูยังขำกระทะก้นกลมพวกมึงอยู่เลย

879 Nameless Fanboi Posted ID:3/0SVoHv5N

ส่วนมึงก็นักแยกเงาพันร่างคาคาชิสินะ 55555 แต่กูขำมิติใหม่แห่งความ woke เสรีภาพทางศาสนา = อุยกูร์ สิทธิชนกลุ่มน้อย = อุยกูร์ เสรีภาพเพศ = แบนเกย์เฟมบอย ความหลากหลายชาติพันธุ์ = เหยียดเอเชียคนอื่นเป็นพวกป่าเถื่อน เหยียดคนดำ เหยียดไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวด้วย

กูว่าไม่ใช่จีน woke หรอก ไอ้คนพิมนี่แหละ woke สุด 555555555

880 Nameless Fanboi Posted ID:7bUsbRQgLM

>>878 กูหมายถึง>>874 >>875 โม่งข้อยกเว้นเยอะแบบนี้กูพอรู้ละว่าไหน มู้นี้เลย

>>879 มันมี woke ที่อวยอิสลามจริงนะ อวยเรื่องใส่ฮิยาบด้วย ขนาดผู้หญิงมุสลิมออกมาด่าก็ยังไปเถียงเขาอีก

881 Nameless Fanboi Posted ID:OYzKjphmnw

>>880 อวยมุซซี่นี่เรื่องปกติของพวกนี้เลยหนิ ไม่ใช่ส่วนน้อย

882 Nameless Fanboi Posted ID:rj6n/l0dIB

อยากwokeบ้าง เผื่อสาวๆจะหันมาชอบบ้าง แนะนำวิธีwokeหน่อย

883 Nameless Fanboi Posted ID:3/0SVoHv5N

>>880 ก็กูนี่แหละ ที่เถียงกับตัวไหนไม่รู้ยาวเหยียด จะด่ากูย้อนหลังก็ได้นะ แต่กูไม่ได้เอ๋อ ขนาดเรียกจีนว่าเจ้าพ่อ woke

884 Nameless Fanboi Posted ID:zZGtn.dQRG

>>882 เขียนเรียงความว่าแอมเบอร์เป็นเหยื่อของสังคมปิตายังไงสักหนึ่งหน้า A4 ครับ

885 Nameless Fanboi Posted ID:xUMWXdvq04

>>879 ไอ้ >>875 อธิบายแล้วนี่ ไม่อ่านแล้วประชด ตลกนะมึง

886 Nameless Fanboi Posted ID:FqAeA9E/ud

พวกมึงเข้าใจคำว่า Woke คืออะไรวะ กูอยากรู้ สนับสนุน lgbt ก็ไม่ใช่ สนับสนุนชาติพันธุ์ก็ไม่เอา เฟมก็ไม่เอา (ลองไปเซิจเอา feminist five) เหลืออะไรให้เป็น woke วะ ชื่อคอมมี่ ?

887 Nameless Fanboi Posted ID:rdy/+/dsdg

>>886 https://en.wikipedia.org/wiki/Woke
Woke เป็นคำคุณศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายว่า "การแจ้งเตือนต่ออคติทางเชื้อชาติและการเลือกปฏิบัติ" ที่มีต้นกำเนิดมาจากภาษาอังกฤษพื้นถิ่นของชาวแอฟริกันอเมริกัน เริ่มต้นในปี 2010 เพื่อรวมความตระหนักในวงกว้างเกี่ยวกับความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม เช่น การกีดกันทางเพศ

888 Nameless Fanboi Posted ID:gQcCtwr8g7

>>887 แล้วจีนที่แบนทั้ง lgbt ทั้งกดขี่ชาติพันธ์ มัน woke ตรงไหนวะนั่น

889 Nameless Fanboi Posted ID:qyOKBZNBeV

>>888 มันเอาใจสิทธิสตรีไงว่าเท่าเทียมกับชายซึ่งก็เป็นคติของคอมมี่มาตั้งแต่ยุคแรกแล้ว แถมจงใจเซนเซอร์เนื้อนมอีกนี้ก็โดนใจเฟมทวิต

890 Nameless Fanboi Posted ID:Q3HTKhU1jM

[ ชวนมามุงอีกที ข้อเสนอปลดล็อกท้องถิ่น เสนอแก้อะไรบ้าง? ]
.
การเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ทำให้กระแสเรื่องการเลือกตั้งผู้บริหารจังหวัดและการกระจายอำนาจกลับมาอยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งแคมเปญ #ขอคนละชื่อปลดล็อกท้องถิ่น ของพวกเราคณะก้าวหน้า คือหนึ่งในกลุ่มที่รณรงค์เรื่องการกระจายอำนาจอย่างจริงจัง ผ่านข้อเสนอในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานความเชื่อมั่นในพลังของท้องถิ่นและพลังของประชาชน ว่าจะเป็นผู้กำหนดอนาคตของตัวเอง
.
วันนี้เราคัดมา 7 ข้อเสนอแบบรวบตึง ที่เชื่อว่าหากทำได้ จะเปลี่ยนประเทศไทย เปลี่ยนคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นได้
.
1. #รับรองหลักการการกระจายอำนาจ - เดิมรัฐธรรมนูญ 2560 อันเป็นมรดกจากการรัฐประหาร 2557 และระบอบ คสช. เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่มีคำว่า “กระจายอำนาจ” แม้แต่คำเดียว ซึ่งเป็นเรื่องน่ากังวลเพราะหากแม้แต่กฎหมายสูงสุดของประเทศยังไม่รับประกันเรื่องนี้ไว้ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าหน่วยงานอื่นในองคาพยพของรัฐ จะเอาจริงกับการขับเคลื่อนการกระจายอำนาจ
.
แต่ข้อเสนอปลดล็อกท้องถิ่นเราตั้งใจผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง ด้วยการบัญญัติในรัฐธรรมนูญเลยว่า รัฐต้องจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดินแบบกระจายอำนาจ เอาเรื่องนี้เป็นหลัก และต้องให้ความเป็นอิสระแก่ท้องถิ่นตามหลักแห่งการปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งเท่ากับว่า กฎหมายลำดับรองฉบับใดที่มีเนื้อหาขัดแย้งกับหลักการดังกล่าว จะใช้การไม่ได้
.
2. #ขยายอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่น – เดิม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนทองถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 16-17 กำหนดภารกิจของ อปท. (เช่น เทศบาล อบต. อบจ.) ว่าทำอะไรได้บ้าง โดยเขียนเป็นข้อๆ ตั้งแต่ 29-31 ข้อ เช่น การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น การจัดการศึกษา ซึ่งแม้ดูเหมือนว่าท้องถิ่นก็ดูทำอะไรได้เยอะ แต่ปัญหาคือหากบางภารกิจไม่ชัดเจนว่าควรเข้าข่ายข้อใด หรือ ไม่ได้บัญญัติไว้ในข้อใดข้อหนึ่ง หรือ บางภารกิจที่อำนาจซ้ำซ้อนกันระหว่างส่วนกลางกับท้องถิ่น แล้วสรุปแล้วใครเป็นคนต้องทำ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าเมื่อไม่ชัด เมื่อระเบียบกฎหมายเป็นเช่นนี้ ท้องถิ่นก็อาจลังเลที่จะทำ เพราะเกรงว่าอาจถูกเล่นงานโดยองค์กรอิสระ เช่น กรณีศึกษาเรื่องฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า
.
ข้อเสนอปลดล็อกท้องถิ่น จะคลี่คลายความลังเลนั้น ด้วยการเปลี่ยนวิธีเขียนกฎหมาย ซึ่งไม่ใช่เปลี่ยนวิธีการเขียนกฎหมาย แต่คือการกลับวิธีคิด ปรับมุมมอง จากเดิมที่ต้องเขียนเป็นสิบข้อว่าท้องถิ่นทำอะไรได้บ้าง แล้วมานั่งดูว่าข้อไหนเข้า ข้อไหนไม่เข้า เปลี่ยนเป็น เขียนให้ท้องถิ่นทำได้ทุกอย่าง ยกเว้นเพียงบางเรื่องที่ท้องถิ่นทำไม่ได้เท่านั้น เช่น การทหาร ระบบเงินตรา เพื่อยืนยันหลักการว่า อปท. ซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนในพื้นที่ ต้องมีอำนาจเต็มในการจัดบริการสาธารณะในท้องถิ่นทุกเรื่อง และยืนยันว่า ท้องถิ่นเป็นหน่วยงานที่ต้องทำก่อนหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งท้องถิ่นเองก็จะได้รู้ว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ และประชาชนก็จะได้รู้แน่ชัดว่าความรับผิดชอบเป็นของหน่วยงานใด เมื่อต้องการให้แก้ไขปัญหา ก็จะได้รู้ว่าหากเป็นเรื่องบริการสาธารณะทั้งหมดในพื้นที่ เป็นเรื่องของท้องถิ่น
.
3. #สัดส่วนรายได้ของท้องถิ่น - เดิม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ มาตรา 30 (4) กำหนดเป้าหมายให้ อปท. มีรายได้เพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลไม่น้อยกว่าร้อยละ 35 แต่ไม่ได้กำหนดระยะเวลาเป้าหมาย ทำให้ขาดสภาพบังคับต่อส่วนกลาง ผ่านมา 20 ปี สัดส่วนรายได้ท้องถิ่นจึงอยู่ที่เพียงประมาณ 29% นอกจากยังไม่ถึงเป้าแล้วนั้น แถมในจำนวนนี้ 6% ยังเป็น “งบฝาก” ที่ท้องถิ่นไม่มีอิสระในการใช้จ่าย ต้องทำตามแนวทางที่ส่วนกลางวางมาให้ ได้เงินมาก็ต้องส่งผ่านต่อไป
.
ข้อเสนอปลดล็อกท้องถิ่น กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและไปไกลกว่าเดิม ว่ารายได้ของ อปท. ต้องเพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้สุทธิของรัฐบาล ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ภายใน 3 ปีนับแต่วันที่รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขนี้ใช้บังคับ รวมถึงเพิ่มอิสระของท้องถิ่นในการหารายได้ เช่น มีอำนาจเก็บภาษีตัวใหม่ๆ กู้เงิน และออกพันธบัตรได้ง่ายขึ้น เรื่องนี้จะช่วยให้ท้องถิ่นมีเงินงบประมาณในการจัดทำบริการสาธารณะในพื้นที่ มีโครงการใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์กับชีวิตประชาชน ในการทำโครงการต่างๆ ก็อาจเกิดการจ้างงาน เกิดงานใหม่ๆ ในพื้นที่ หรือหากท้องถิ่นพัฒนา สภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ก็จะดี จะส่งผลให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นในพื้นที่ด้วย
.

891 Nameless Fanboi Posted ID:nSh63Gaz2v

>>889 เมกามันก็เคยเซนไม่ใช่เหรอวะ การ์ตูนยุคเก่า ๆ ทั้งนม ทั้งปืน

ไทยก็มีหมอกศีลธรรม

แล้วจีนไม่ใช่ว่ามีวัฒนธรรมบังคับให้สาวๆ ใส่รองเท้ารัดให้ตีนเล็กเหรอ แถมตอน #Metoo ก็แบนทั้ง เหว่ยโบ้

มึงแยกกันหน่อยว่าเซ็นเพราะมันล้าหลังหรือเซ็นเพราะเป็นเฟม ไม่งั้นไทยยุคหลุมดำที่แบนนมการ์ตูนนี่คงโคตร woke

892 Nameless Fanboi Posted ID:Q3HTKhU1jM

4. #ที่มาของผู้บริหารท้องถิ่น - เดิมรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 252 กำหนดว่า ผู้บริหารท้องถิ่นให้มาจากการเลือกตั้งหรือมาจากความเห็นชอบของสภาท้องถิ่น แต่ในกรณี อปท. รูปแบบพิเศษ ผู้บริหารอาจมาโดยวิธีอื่นก็ได้ ซึ่งหมายความว่า อาจไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้งก็ได้
.
ข้อเสนอปลดล็อกท้องถิ่น จะแก้ไขเรื่องนี้โดยยืนยันว่า ผู้บริหาร และ สมาชิกสภาท้องถิ่น ทุกคนต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน เพื่อสร้างความยึดโยงและความรับผิดรับชอบต่อประชาชนในพื้นที่ ซึ่งการยึดโยงกับประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะส่งผลให้ผู้บริหารท้องถิ่น ทำอะไรก็จะนึกถึงประชาชนว่าเขาต้องรับผิดชอบต่อประชาชน หากทำอะไรไม่ดี ไม่ตอบโจทย์ประชาชน ครั้งต่อไปพวกเขาก็จะไม่ได้รับเลือกตั้งกลับมาได้อีก
.
5. #อนาคตของราชการส่วนภูมิภาค - รัฐธรรมนูญ 2560 หมวด 6 แนวนโยบายแห่งรัฐ บัญญัติตอนหนึ่งในมาตรา 76 ว่า “รัฐพึงพัฒนาระบบการบริหารราชการแผ่นดินทั้งราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น และงานของรัฐอย่างอื่น ให้เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี” ซึ่งตีความได้ว่า กลไกราชการส่วนภูมิภาค เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ที่มาจากการแต่งตั้งของกระทรวงมหาดไทย จะยังมีอยู่ต่อไป และยังต้องส่งเสริมให้พัฒนาหรือเข้มแข็งยิ่งขึ้นด้วย
.
ข้อเสนอปลดล็อกท้องถิ่น จะเสนอภาพอนาคตใหม่ โดยกำหนดว่าภายใน 5 ปี นับแต่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขนี้ ให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีการออกเสียงประชามติถามประชาชน ว่าต้องการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาคหรือไม่ เนื่องจากหากกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นไปแล้ว ภารกิจจัดทำบริการสาธารณะไปอยู่ที่ท้องถิ่น งาน เงิน คน ก็ต้องไปอยู่ที่ท้องถิ่น เมื่อเป็นเช่นนั้นส่วนภูมิภาคยังจำเป็นอยู่อีกหรือไม่ หากจำเป็นส่วนภูมิภาคจะควรไปทำภารกิจอื่นใดในโครงสร้างใหม่หรือไม่อย่างไร หรือว่าจะไม่มีแล้วหรือไม่อย่างไร ซึ่งพวกเราเข้าใจดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และลำพังเราเองไม่ได้มีความชอบธรรมเพียงพอในการเสนอยุบหรือไม่ยุบ เรื่องนี้จึงต้องกลับไปถามประชาชนในฐานะผู้ทรงอำนาจสูงสุด โดยการประชามติ ว่าจะกำหนดอนาคตประเทศไทยอย่างไร
.
6. #ความซ้ำซ้อนของอำนาจ ที่ผ่านมาส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น มีอำนาจที่ทับซ้อนกัน ต่างฝ่ายต่างมีอำนาจหน้าที่ในกฎหมายแต่ละฉบับ กลายเป็นว่า อำนาจเลยทับซ้อนกัน มีอำนาจทั้งคู่ สุดท้าย องค์กรตรวจสอบ ก็มีการตีความว่า ทั้งหมดมีอำนาจ ให้ต่างคนต่างทำ กลายเป็นว่า พอเป็นเช่นนี้ นอกจากเกิดความสับสนแล้ว และด้วยความที่ท้องถิ่น มีทรัพยากรน้อยกว่า หลายๆ เรื่องเลยกลายเป็นส่วนภูมิภาคและส่วนกลางยึดทำไปโดยปริยาย
.
ข้อเสนอปลดล็อกท้องถิ่น จะแก้ไขเรื่องนี้คือ บริการสาธารณะในพื้นที่ทั้งหมดท้องถิ่นต้องทำก่อน หากท้องถิ่นทำไม่ได้ ทำไม่ไหวเกินศักยภาพ จึงจะให้ส่วนกลางเป็นคนทำ เมื่อแก้ได้ดังนี้ ปัญหาหลายๆ เรื่องก็จะถูกแก้ไข เพราะจะไม่เกิดการโยนงาน เกี่ยงกันว่าเป็นหน้าที่ของใคร ประชาชนก็จะทราบด้วยว่าต้องไปติดตามได้จากใคร
.
7. #ริเริ่มให้มีสภาพลเมือง และ #จัดทำงบประมาณท้องถิ่นแบบมีส่วนร่วมโดยประชาชน - เป็น 2 เรื่องที่กฎหมายท้องถิ่นในอดีตและปัจจุบัน ไม่เคยพูดถึง
.
ข้อเสนอปลดล็อกท้องถิ่น ยืนยันถึงการส่งเสริมสิทธิในการมีส่วนร่วมของประชาชน เพราะการกระจายอำนาจต้องไม่ใช่การกระจายระบบราชการไปอยู่ในพื้นที่ต่างๆ แต่การกระจายอำนาจต้องเป็นการยุติรัฐราชการรวมศูนย์ คืนอำนาจให้กับประชาชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมและมีบทบาทอย่างแท้จริง โดยเสนอให้มี สภาพลเมืองประจำท้องถิ่น ซึ่งจะให้สมาชิกมาจากการลงชื่อแสดงความจำนง แล้วสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันของประชาชนในท้องถิ่น เพื่อทำหน้าที่เสนอแนะและตรวจสอบการบริหารจัดการของ อปท. ขณะที่การจัดทำงบประมาณแบบมีส่วนร่วมนั้น ต่อไปท้องถิ่นต้องมีงบประมาณในสัดส่วนเปอร์เซ็นต์ที่สมเหตุสมผล กันไว้เฉพาะให้ประชาชนมาร่วมกันตัดสินใจเลือกโครงการหรือแผนงานที่จะนำงบประมาณไปใช้ได้

893 Nameless Fanboi Posted ID:qyOKBZNBeV

>>891 นมแบบจะๆที่ไหนก็เซนยกเว้นเป็นการ์ตูนติดเรท แต่ที่กำลังพูดนี่คือแค่เปิดน่องกับร่องอกนิดหน่อยพี่สีก็สั่งให้ไปแก้ละ ส่วนปืนนี่มันเคยเซนด้วยหรือวะเมกามันเป็นชาติที่บ้าปืนมากถึงขนาดใส่ไว้ในรธน.เลยนะ

แล้วจีนไม่ใช่ว่ามีวัฒนธรรมบังคับให้สาวๆ ใส่รองเท้ารัดให้ตีนเล็กเหรอ - หมดไปตั้งแต่เริ่มยุคคอมแล้ว

เซ็นเพราะมันล้าหลังหรือเซ็นเพราะเป็นเฟม - มีเทคโนโลยีเกือบเท่าเมกาแล้วจะอ้างล้าหลังหรือวะ

894 Nameless Fanboi Posted ID:7bUsbRQgLM

>>890 >>892 กูสนใจข้อ 3.

"...รายได้ของ อปท. ต้องเพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้สุทธิของรัฐบาล ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ภายใน 3 ปีนับแต่วันที่รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขนี้ใช้บังคับ รวมถึงเพิ่มอิสระของท้องถิ่นในการหารายได้"

ตัวเลขกูเห็นด้วย แต่กูมองต่างนิดนึงเรื่องจำกัดเวลา กูว่าควรให้จังหวัดไหนที่ทำได้ถึง 50% ติดกัน XXX ปีมีสิทธิจัดโหวตประชามติดีกว่า แบบนี้จะได้แน่ใจด้วยกว่าท้องถิ่นนั้นจะอยู่ได้เองโดยไม่พึ่งพารัฐบาลกลางมากนัก แล้วการเร่งทำภายใน 3 ปีมันอาจจะทำให้ไม่ยั่งยืนด้วย รอให้ทำได้ติดกันระดับหนึ่งจนมั่นคงแล้วค่อยปล่อยจะดีกับทักฝ่าย

อีกอันที่ต้องเพิ่มตามคืออำนาจตรวจสอบจากภายนอก เพราะแค่คนในระดับท้องถิ่นมันโกงกันง่ายมาก ทั้งยังตรวจสอบคัดค้านไม่ได้ กูอยากให้ทำแบบเแกชนคือมีบอร์ดอิสระเข้าไปนั่งด้วย และมีหน่วยงานตรวจสอบท้องถิ่นโดยเฉพาะคุมอีกที

>>891 กาวขนาดนั้นมึงปล่อยผ่านเถอะ

895 Nameless Fanboi Posted ID:ToXPYz7.jX

>>846 ตกลงคนกระทืบคนเอเชียนมันขวาตรงไหน มาคุยกันก่อนดิ๊ ในเมื่อคนดำ80-90%โหวตเดโมแครทที่แสนดีของมึงอ่ะ

896 Nameless Fanboi Posted ID:4bx7P3GJJx

>>893 เมิงไปเซิจ 4kids one piece censored

ไม่ตอบเรื่องที่มันแบน #Metoo หน่อยเหรอ

หมายถึงความคิดล้าหลัง แล้วจีนมันเซ็นเบาสุดด้วยมั้ง กูเห็นแค่ให้เปลี่ยนชุดใน Genshit กับ เรือเจ๊ก

เมกานี่มีทั้ง alternate art pixelated แถมมึงพูดงี้ไม่น่าอยู่ทันยุคหลุมดำของไทยอ่ะดิมึงอ่ะ แค่กระโปงขาสั้นก็ไม่เหลือแล้ว

ปล โทรศัพท์ดับ ID น่าจะเปลี่ยนแต่กุคนเดิม

897 Nameless Fanboi Posted ID:qyOKBZNBeV

4kidsนี่คือรุ่นบุกเบิกของwokeเลยนะ อะไรนิดหน่อยก็เซนหมดมึงจะยกมาช่วยกูเถียงหรือ 555 แล้ววันพีซนี่มันการ์ตูนเมกาตรงไหนวะ

เรื่องแบนMetooไม่เคยเห็นข่าวไหนยกมาหน่อย

จีนมันเซ็นเบาสุดด้วยมั้ง - เบาสุดยังไงวะเอาสเกลอะไรมาวัด genshitกับเรือมันตัดตอนในขั้นตอนออกแบบเลยนะมึงไม่ใช่ปล่อยออกมาแล้วค่อยเซ็น นี่คือเบาหรือ
เมกานี่มีทั้ง alternate art pixelated - ก็ใช่ไงคืออย่างน้อยก็สามารถไปหาแบบuncenได้ แล้วแบบนี้คือมึงจะเถียงว่าเมกาเซนหนักกว่า ไม่ใช่แล้วมึง

898 Nameless Fanboi Posted ID:BpqntrpV0Y

>>895 คนดำทำไรก็เป็นซ้ายprogressiveหมดแหละ โม่งพึ่งรู้หรือ

899 Nameless Fanboi Posted ID:4bx7P3GJJx

>>897 4kids มันขายการ์ตูนเด็ก เอาตรงไหน มา woke วะ แล้วมันไม่ได้จะเซ็นเองแต่โดนผู้ปกครองโวยวาย แล้วมึงไม่เห็นตอบกูเลย ตอนไทยเซ็นเซอร์มันก็ woke เหรอ ? คือถ้ามึงแยกไม่ออกว่าเซนเซอร์แบบ woke โซหนี้ หรือเซนเซอร์แบบหัวโบราณ อสกข

https://letmegooglethat.com/?q=china+metoo

มึงคิดว่า re design กับใส่ pixel ตัดฉากคัตซีน อันไหนมันเหี้ยกว่ากันล่ะ

งง เซนหนักกว่าแต่ไปหา uncen ได้คือเบากว่าแล้วเหรอวะ จีนมันก็ไปหา ไป mod ได้นะ งี้ก็เซ็นเบาแล้วดิ ตลกว่ะ

900 Nameless Fanboi Posted ID:7bUsbRQgLM

>>897 ใช่เหรอ woke สมัยใหม่น่าจะเริ่มจาก reddit มากกว่านะ

901 Nameless Fanboi Posted ID:BpqntrpV0Y

>>899 woke = ชอบเซ็น ชอบอ้างว่าเพื่อคุณธรรม ปกป้องเด็ก แค่นี้ง่ายๆรู้กัน มานั่งเถียงบ้าบออยู่

902 Nameless Fanboi Posted ID:WzkfVL1S.R

>>899 4kids นี่ระยำที่สุดในโลกการเซ็นเซอร์แล้ว

903 Nameless Fanboi Posted ID:zvOsxttcIj

4kidsมันไม่ได้แค่เซ็น แม่งแถม

904 Nameless Fanboi Posted ID:zvOsxttcIj

>>903 กดผิด แม่งแถมความAmericanizationและบันทอนIQมาด้วย เปลี่ยนชื่อตลคเป็นคนขาว ซาโคชิชื่อโครตอุบาวท์ ชื่อAsh Ketchum คือเหี้ยไร หนักๆเลยคือเปลี่ยนชื่อเรื่องอย่าง กัชเบล แม่งชื่อภาษาอังกฤษมันเปลี่ยนเป็นZatchbellเฉย กูอยากจะบ้าแซชพ่อง แล้วแม่งกลายเป็นชื่อออฟิเชียลในวิกิพีเดียภาษาอังกฤษ ครวย

905 Nameless Fanboi Posted ID:6ostKM7st/

>>904 ทีไอ้ยุ่นทำไม่เห็นมึงจะบ่น

Ghostbusterเวอชั่นภาษายุ่น แม่งเปลี่ยนTwinkiesเป็นPai(pie)
Twinkiesไม่ใช่พาย ทำไมไอ้ยุ่นไปเปลี่ยนแบบนั้น แย่มั่กๆครั่บ

906 Nameless Fanboi Posted ID:9ILajVQBtE

>>904 ชื่อ Ash มันออกเสียงง่ายกว่าซาโตชิสำหรับเด็กฝรั่ง พวกโปเกมอนบางตัวอฟชยังเปลี่ยนชื่อเลยเพราะมันออกเสียงยาก

907 Nameless Fanboi Posted ID:e5z1u0mzIk

>>906 บางชื่อมัน refernce วัฒนธรรมยุ่นด้วย บางตัวก็เล่นคำของยุ่น เด็กฝรั่งเห็นคนงงหมดอะไรวะ บางทีมันก็ทำถูกแล้วคนจะบ่นก็บ่นอยู่ดี

908 Nameless Fanboi Posted ID:iIZ0mRtECQ

>>905 เพราะยุ่นไม่ทำบ่อยไม่ทำเละเท่ามะกัน อีกอย่างคนเสพengเยอะกว่าและกูอ่านยุ่นไม่ออกจึงไม่แคร์

909 Nameless Fanboi Posted ID:ne4NnG0Y3i

>>908 มันก็ทำบ่อยนะ พวกเกมสามก๊กแม่งเพี้ยนไปหมด อะไรที่ยุ่นมันอ่านยากเช่น จีน เกาหลี แม่งเปลี่ยนหมดแหละ เยอรมันแม่งชอบเบียวไปตั้งชื่อ ก็เอาไปออกเสียงแปลกๆ

910 Nameless Fanboi Posted ID:iIZ0mRtECQ

>>909 ง่ายๆนะ มันไม่ดัดแปลงชื่อทั้งดุ้นแบบมะกันทำหรือถ้ามีก็ไม่บ่อย มึงดู4kidsช่องเดียวแต่งชื่อตัวละครใหม่ไปกี่เรื่องแล้ว กูจำได้ตอนมันเปลี่ยนชื่ออันซุแฟนยูกิเป็นทีกาดเนอร์อะไรของมันนั่นละ มั่วจริง

911 Nameless Fanboi Posted ID:6ostKM7st/

ไปดูบลีชดิ แม่งมั่วภาษาสเปนภาษาเยอรมัน ไม่เห็นจะมีคนบ่นว่าทำเพี้ยน
แต่พอฝรั่งแตะญี่ปุ่นอันเลอค่าสวยงามเกรียงไกร weebคุอ้วนดิ้นกันเป็นแถวๆ ขำสัส

912 Nameless Fanboi Posted ID:6ostKM7st/

>>910 "มันไม่ดัดแปลงชื่อทั้งดุ้นแบบมะกันทำหรือถ้ามีก็ไม่บ่อย"
เรียกกวนอูว่าคานยู่
เรียกลิโป้ว่าเรียวฟู่
เรียกเตียวหุยว่าโชฮิ
เรียกจูกัดเหลียงว่าโชคัตซึ เรียว
Chu say nigga?

913 Nameless Fanboi Posted ID:/81KmptciG

เรื่อง 3 ก๊กมันคือการปรับวัฒนธรรม ไม่ใช่การแปลทั่วไป อย่างไทยเองก็ใช้ชื่อจีนฮกเกี้ยน ไม่ใช่จีนกลางเลย มึงไปเรียกกวนอูกับคนจีนนี่ไม่รู้เรื่องนะ

ชื่อจีนในภาษาญี่ปุ่นมันซับซ้อนกว่าเรื่องการเปลี่ยนชื่อ เพราะบางชื่อมันรับมาต่างยุคเสียงก็ต่างกัน บางวัดโบราณจะมีชื่อ 3-4 ชื่อไล่ตั้งแต่ถังมาถึงจีนคอมเลย ตัวอักษรเดียวกันหมดแต่อ่านคนละอย่าง

แล้วถ้าจะพูดให้ถึงที่สุด ชื่อจีนกลางก็ไม่ใช่ชื่อสมัย 3 ก๊กจริงๆ นะ วัฒนธรรมจีนมันหลากหลายจนยุคนึงสำเนียงนึงเลย

914 Nameless Fanboi Posted ID:3afwSuwjD+

>>912 ควาย มันแค่อ่านแบบญี่ปุ่น

915 Nameless Fanboi Posted ID:3nrFE41/f7

>>914 ก็เปลี่ยนชื่อป่ะละ ทำเป็นเลี่ยงบาลีจะเลียยุ่น

916 Nameless Fanboi Posted ID:6ostKM7st/

>>913 >>914 มันต่างกันตรงไหนวะ ระหว่างฝรั่งอ่านซาโตชิยากเลยเรียกแอช กับญี่ปุ่นอ่าน林冲ยากเลยเรียกรินชูแทน
เพี้ยนจากต้นฉบับเหมือนกัน

917 Nameless Fanboi Posted ID:gEfT948H+Z

>>916 แยกไม่ออกว่าต่างกันตรงไหนนี่ไม่แถข้างๆคูๆมึงก็ควายเรียกพ่อแล้วนะ

918 Nameless Fanboi Posted ID:/+V+t5OFxU

>>915 >>916 มันไม่ได้เปลี่ยนชื่อเพราะเรียกยาก แต่มันรับมาแล้วกลายเป็นคนละภาษา

เอาง่ายๆ ที่สุดนะ มึงรู้มั้ยว่าชื่อคนและสถานที่ทุกอันเลยในพุทธประวัติ+ชื่ออินเดียทั้งหมดที่คนไทยรู้จัก เรียกผิดหมด คำว่าพุทธนี่ยังผิดเลย ฝรั่งเรียกตรงกว่าอีก

แต่ถ้าจะให้พูดตรงๆ กูก็ไม่ชอบชื่อจีนแบบญี่ปุ่นเหมือนกัน อ่านแล้วตลก แม้แต่ weeb สุดติ่งในไทยกูก็ไม่เคยเห็นคนชอบนะ อย่างในเฟทเกลือ 3 ก๊กมุโซ หรือ kingdom อันนี้เห็นชัด กูไม่เคยเจอคนเรียกด้วยชื่อญี่ปุ่น พวกที่อ่านยุ่นออกก็ไม่เคยเรียก ขนาดอ่านเถื่อนมายังเรียกชื่อจีนเลย

919 Nameless Fanboi Posted ID:d23/dP9.7X

>>918 แต่ตอนหมอยาเมาเมานี่มีคนดราม่าเพียบหาว่าทำไมไม่แปลเป็นชื่อจีนเสียงญี่ปุ่นเลยนะ แต่นั่นแหละ ตามแต่ของเถื่อนแล้วของเถื่อนแม่งขี้เกียจถอดเสียงพินอินเลยเล่นง่ายใช้เสียงอ่านญี่ปุ่นไปเลย พอชินแบบนี้แล้วมาเห็นของ LC ถอดเป็นชื่อจีนปกติเลยบ่นกันว่าไม่คุ้นไม่ชอบ ซึ่งเป็นอะไรที่งี่เง่าดี

920 Nameless Fanboi Posted ID:/+V+t5OFxU

>>919 อันนี้กูว่าเพราะมันเป็นตัวละครสมมุติด้วยมั้ง แล้วเป็นแนวโชโจนะด้วย กูคิดว่าคนอ่านมองเป็นญี่ปุ่นมากกว่าจีน เลยอยากได้ชื่อญี่ปุ่น แต่สาเหตุสำคัญสึดก็น่าจะเพราะอ่านเถื่อนกันเยอะ แล้วคนแปลขี้เกียจแบบมึงว่านั่นละ

921 Nameless Fanboi Posted ID:8qXJ4aXmx5

>>916 ง่าวละมึง เสียงอ่าน on’yomi ใกล้เคียงกับmiddle chineseที่เป็นเสียงอ่านจริงๆยุคฮั่น-ซ่งยิ่งกว่าmandarin chineseที่เป็นสำเนียงพวกนอกด่านอีก

เหมือนสำเนียงบางกอกที่เป็นสำเนียงไทยผสมเจ๊ก สำเนียงไทยแท้ๆคือสำเนียงหลวงแถบสุพรรณ

922 Nameless Fanboi Posted ID:GiFbXhCDFa

ความเหมือน และ ความต่าง
ระหว่าง “จำนำข้าว” กับ “GT200”

ความเหมือน
แม่งโกงทั้งคู่

ความต่าง
- จำนำข้าว -
move on เถอะ 8 ปีมีแต่พูดเรื่องจำนำข้าว เขาไปถึงไหนกันแล้วลุง คิดอะไรไม่ออก ก็พ่นแต่จำนำข้าว

- GT200 -
มันคือมหากาพย์แห่งการโกง เราจะไม่ลืม เราจะจดจำโครงการนี้ไปจนชั่วลูกชั่วหลาน

ป.ล. เรื่องโครงการโกง ๆ เนี่ย ไม่ว่าจะรัฐบาลไหน เราก็ไม่ควร move on ครับ อย่าให้การโกงมันคือเรื่องปกติของสังคม จำให้ได้ ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ยังไง และอย่าให้มันได้กลับมาโกงอีก ไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม

••••••••••••••••••••••••••••••

ใครที่จะช้อปปิ้งออนไลน์ ทั้ง Shopee ไม่ขออะไรมาก ขอแค่ว่าก่อนเข้าไปช้อปปิ้งที่ Shopee โปรดคลิกเข้าไปจากลิ้งค์ด้านล่างนี้ก่อนนะครับ มันก็คือทางเข้าแอพปกตินั่นแหละ คลิกลิ้งค์เข้าไปแล้วกด search หาร้านค้าตามปกติ แล้วช้อปของที่อยากซื้อกันตามสะดวกเลย หรืออยากจะซื้อจากร้านที่ผมแปะลิ้งค์เอาไว้ก็ไม่ว่ากัน ขอแค่กดลิ้งค์ด้านก่อนก็เป็นใช้ได้ ขอบคุณนะครับ

ลิ้งค์นี้ครับ 👇👇👇👇

Shopee 👉 https://shope.ee/1L0DMYLhxI

👆👆👆👆

923 Nameless Fanboi Posted ID:JaSdLjh1r5

>>922 เขาเอามาพูดกันว่ามูฟออนตอนรัฐบาลหาข้ออ้างหัวตัวอองปะ ทำไมทำนู้นนี้ไม่ได้ก็โบ้ยจำนำข้าว รัฐบาลก่อหนี้ก็บอกให้ไปดูจำนำข้าว

924 Nameless Fanboi Posted ID:fJIHDkMUWe

>>922 ปากบอกว่าจำนำข้าวขาดทุน เอ่อโครงการแจกเงินของมึงขาดทุนเหมือนกันอะ ทำไมไม่พูดไอ้ควย

925 Nameless Fanboi Posted ID:/+V+t5OFxU

>>924 มันเป็นเรื่องจำเป็นตอนล็อคดาวน์ ทั้งโลกก็ทำกัน ไม่งั้นคนก็อดตาย ส่วนจำนำข้าวตอนนั้นทำไปเพราะการเมืองล้วนๆ แล้วต่อให้ไม่ทำคนก็ไม่อดตายอยู่ดี

926 Nameless Fanboi Posted ID:.ZBd5OUMCM

>>925 ทั่วโลกเขาเรียกเงินชดเชย อันนี้เรียก? คนละเศษไหม

927 Nameless Fanboi Posted ID:/+V+t5OFxU

>>926 มึงรู้มั้ยว่าคนละครึ่งก็อปมาจากอังกฤษนะ แต่เรามีหลายเฟสกว่า กูก็ไม่เห็นคนอังกฤษบ่นว่าคนละเศษเลย แล้วถ้ามึงไม่อยากได้ก็ไม่ต้องเอาสิ ไม่มีใครบังคับนะ

928 Nameless Fanboi Posted ID:i.8cZhRFF9

>>925 แถผิดประเด็นละ บอกจำนำข้าวขาดทุน ถามว่าโครงการแบบนี้มีที่ไหนได้กำไรบ้าง ชดเชยยางพาราได้กำไร? ทำถนนได้กำไร? บัตรสวัสดิการได้กำไร?

929 Nameless Fanboi Posted ID:/+V+t5OFxU

>>928 แล้วใครบอกไม่ขาดทุนละ ประเด็นมันอยู่ที่ความจำเป็น นโยบายทางสังคมควรทำหน้าที่ขี้นำให้ปชช.พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และยืนได้ด้วยตัวเอง 30 บาทเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด มันพัฒนาสังคมทุกด้าน และทำให้คนไทยลดภาระค่าหมอจำนวนมาก

จำนำข้าวมีอะไรดี มันไม่ใช่การจำนำแต่แรกด้วยซ้ำ เพราะซื้อมาสูงกว่าราคาตลาดโลก รัฐต้องเสียค่าโกดังไม่พอ ยังต้องไปขายขาดทุนเองอีก แต่ที่แย่ที่สุดคือมันลดคุณภาพปชก. เพราะทำให้ชาวนาไม่ขวนขวายพัฒนาตัวเอง เน้นแต่ของด้อยคุณภาพเพื่อรับเงินจากภาครัฐ ทั้งที่รัฐควรผลักดันคนออกจากภาคการเกษตรให้มากที่สุด ถ้ามันจำนำต่ำกว่าราคาตลาด กูยังโอเคนะ แต่การจำนำเหนือราคาตลาดมากแบบนี้มันเหี้ยมาก และไร้ประโยชน์สุดๆ

930 Nameless Fanboi Posted ID:4nGy/Jmwzg

I used to hate it when people mistaken Taiwan for Thailand, I'm actually okay with it now; as long as people don't mistaken Taiwan for China, then I'm all good.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

931 Nameless Fanboi Posted ID:q5beE7Sw2w

>>929 จำนำข้าวมันแย่กว่านโยบายอุดหนุนเกษตรแบบอื่นๆ ตรงนั้นแหละ อย่างประกันราคาคือประกันจากรายได้ขั้นต่ำ แต่ถ้าอยากได้สูงกว่านี้ก็ต้องทำผลผลิตให้มีคุณภาพกว่านี้ อารมณ์เดียวกับค่าจ้างขั้นต่ำเลย คือรัฐประกันรายได้พื้นฐานให้ แต่ถ้าอยากได้มากกว่านั้นก็ต้องเป็นแรงงานมีฝีมือ มีทักษะวิชาชีพ แต่ก็นั่นละ

แต่ก็นั่นละ จำนำข้าวมันจิ๊บๆ ฝ่ายซ้ายเขาจะไป UBI กันแล้ว

932 Nameless Fanboi Posted ID:xDcG5Vh3/v

การโหวตสวนมติพรรคจะเป็นความผิดต่อประชาชนก็ต่อเมื่อมตินั้นเป็นสิ่งที่พรรคสัญญาไว้กับประชาชนก่อนการเลือกตั้ง แต่ถ้าไม่ใช่สิ่งที่เป็นนโยบายพรรคมาก่อน ส.ส.ย่อมต้องใช้วิจารณญาณเป็นรายกรณี หากสวนมติ อาจถือเป็นความผิดต่อวินัยภายในพรรค แต่ไม่ใช่ความผิดต่อประชาชน
//////////

อย่าลืมว่า ส.ส.ทุกคนมีเอกสิทธิ์ในการออกเสียง และโดยหลักการคือ “ต้องเป็นอิสระ” ในการใช้วิจารณญาณของตนเอง นั่นหมายความว่าใครจะไปสั่งให้โหวตอย่างไรไม่ได้ มติพรรคเป็นเรื่องของพรรคที่คนในพรรคพึงเคารพกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าสิทธิในการพิจารณาตัดสินใจของ ส.ส. จะหายไปหรือจะมีใครไปละเมิดได้

ส่วนพรรคจะมีมาตรการอย่างไรในการบริหารจัดการสมาชิก ก็คงต้องตั้งอยู่บนความพอดี อย่าให้สังคมถึงกับเห็นว่าพรรคไม่เคารพเอกสิทธิ์ในการลงมติของส.ส.เลย เพราะนั่นเท่ากับการไม่เคารพในระบบรัฐสภา แล้วจะเป็นประชาธิปไตยกันได้อย่างไร ยิ่งในครั้งนี้เป็นการโหวต พรบ.งบประมาณประจำปี ซึ่งที่ผ่านมาพรรคร่วมฝ่ายค้านก็โหวตให้ผ่านมาตลอดตามธรรมเนียมปฏิบัติ เพราะถือว่าจำเป็นต่อการใช้จ่ายบริหารประเทศ หากมีปัญหาหรือคิดว่ามีข้อควรปรับปรุงอย่างไร ก็ไปปรับกันได้ในชั้นกรรมาธิการอยู่แล้ว

มติของพรรคในการโหวตคว่ำงบครั้งนี้ จึงมาจากเป้าประสงค์ทางการเมือง ไม่ใช่สิ่งที่เคยเป็นมาตามปกติ และอาจเกิดข้อกังขาในสายตาประชาชนได้ ส.ส.แต่ละคนจึงต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก หากใครคิดแล้วว่าเป็นประโยชน์กว่าที่จะให้ผ่าน ก็ย่อมมีสิทธิที่จะโหวตตามวิจารณญาณ

เพราะที่สุดแล้ว หน้าที่ส.ส.คือ “การรับใช้ประชาชน” ไม่ใช่ “การรับใช้พรรค”

933 Nameless Fanboi Posted ID:vDxg6WJkwt

ปชช.พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
และยืนได้ด้วยตัวเอง

: 30 บาทเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด

**5555*** กูคิดว่าไอ้ 30บาทเนี่ย ทำบางกลุ่มเป็นง่อยมากขึ้นป่ะ

934 Nameless Fanboi Posted ID:5zTyBzn04d

>>933 ยังไงวะ การที่ป่วยแล้วมี 30 บาททำให้เป็นง่อยไงวะ ไม่ต้องเสียหมดตัวเลยป่วยได้งี้เหรอ ใครมันจะไปป่วยเพื่อ 30 บาทวะ

935 Nameless Fanboi Posted ID:+Me7W3ec.X

>>933 กูว่าไม่ง่อยนะ 30บาท ราคาตามคุณภาพการรักษาอยู่แล้ว สมัยนี้ บ. หลายๆแห่งที่ให้มึงทำประจำแต่ยังไม่เอาเข้าประกันสังคมเลยมึง

936 Nameless Fanboi Posted ID:Up8Er.Igmg

กูเคยเป็นอาสาพลเปลโรงพยาบาลชนบทแห่งนึง คนแก่บ้านห่างจากโรงพยาบาลเกือบ 20 กม. นั่งซาเล้งมาโรงพยาบาล อนามัยแถวนั้นก็ช่วยอะไรมากไม่ได้ ต้องการหมอวินิจฉัย ออกจากบ้านไม่รู้เวลาเท่าไหร่ มาถึงโรงพยาบาล 6 โมงเช้า มารอคิว หมอมา 10 โมง หมอมีคน 2 คน ผลัดกันนอน ตรงที่รอคิวคนมารอไม่ต่ำกว่า 50-60 คน ตรวจเสร็จได้กลับบ้านบ่าย 2 เพราะ 30 บาททำให้คนที่ไม่มีจริงๆเข้าถึงการรักษา หมอทำงานหนักขึ้น พยาบาลวิชาชีพไม่ได้บรรจุ มีแต่อัตราจ้าง งบไม่มาอุดหนุนเท่าที่ควร ยิ่งช่วงโควิดจะตายทั้งหมอ พยาบาล คนไข้

937 Nameless Fanboi Posted ID:F6fjx7oamY

กูเห็นหมอทั่นนึง ค่อนข้างมีชื่อเสียง บ่นนโยบาย30บาทว่าทำให้คนไม่อยากหาย คนเป็นเบาหวานก็ดื่มโซดาน้ำอัดลม ไม่ยอมหยุดเพราะใช้สามสิบบาทมาโรงบาลได้เรื่อยๆ

938 Nameless Fanboi Posted ID:D+ZB/8m7BV

30 บาทเป็นนโยบายที่ดี แต่ ต้องมีการจำกัดการรักษาด้วย พวกปวดหัวตัวร้อนทั่วไปอ่ะไม่ควรให้เข้ามารักษาง่ายๆ
ส่วนโรคอื่นๆก็ต้องมีการนัดหมอที่เหมาะสม ไม่ใช่ให้ walk-in ไปหาเองได้ยกเว้นใกล้ตายจริงๆ

939 Nameless Fanboi Posted ID:hdOidJ71rm

ถามนิดทำไมต้อง 30 บาทด้วย มีเหตุอันใดต้องเก็บเท่านี้ตอนตั้ง
จริงๆเก็บซัก 300 ยังดูได้น้ำได้เนื้อหน่อย แถมไม่แพงเกินไป เท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ 1 วัน
เป็นการกันไม่ให้ป่วยเล็กป่วยน้อยก็มาหาหมอหมดแบบ >>938 ว่าด้วย
รวมถึงเคยได้ยินเรื่องที่เพราะถูกเกินไป เลยไม่สนใจทำตามหมอสั่ง ยากินไม่หมดโดสมั่ง
ไม่รักษาตัวเองเพราะคิดว่าค่าข้าวมื้อนึงก็ไปหาหมอได้

940 Nameless Fanboi Posted ID:8R8r/pKAyh

>>938 คิดเองรึป่าว ถ้ามีคนยอมเสียเวลาครึ่งวันไปเสีย 30 บาทก็ปล่อยเค้าไปเถอะ ขอใบรับรองแพทย์ยังแพงกว่า

941 Nameless Fanboi Posted ID:5zTyBzn04d

>>938 คำพูดมึงทำกูนึกถึงหมอที่บ่นคนไข้ราวๆว่าอาการตั้งขนาดนี้แล้วทำไมไม่มาหาก่อนตั้งแต่มีอาการแรกๆ คือคนไข้มันก็ไม่รู้หรอกอาการตัวเองหนักขั้นไหนในสายตาหมอ
ในสายตาหมอคนไข้มีไข้สูงหน่อยไม่ต้องมาก็ได้ แต่สายตาคนไข้มันคือไข้ที่เขาอยากหาย เขาจะเป็นไรมากกว่านี้มั้ยเขาไม่รู้ เขาสามารถไปหาหมอโดยไม่ต้องคิดว่ากูจะหมดตัวมั้ยก็เป็นเรื่องดี
แต่เรื่องงบหมอ/พยาบาลหรือหน้าที่หมอ/พยาบาลที่หนักเกินกูก็อยากให้แก้นะ

942 Nameless Fanboi Posted ID:0F/jyhZoAq

>>933 ถือเป็นส่วนน้อย แต่ส่วนใหญ่ได้อิสระภาพทางการเงินมากขึ้นนะ

>>939 30 บาทคือค่าทางด่วนสมัยนั้น เป็น symbolic fee นะ

>>940 มึงเคยไปรพ.รัฐใหญ่ๆ แบบรามามั้ย เรื่องนี้โคตรปกติเลยนะ มาจากตจว.ก็เยอะ ไกลกว่า 20 โลแน่ๆ

>>941 มันควรตั้งระบบคัดกรองปฐมภูมิ คือให้เข้าคลีนิคก่อนถึงจะไปรพ.ได้

943 Nameless Fanboi Posted ID:kT30.sgPWJ

>>942 จะให้ไปคลินิกก่อนก็ได้ คือกูคิดว่ากูโอเคตราบใดที่สามารถให้คนไม่มีเงินได้รับการรักษาโดยที่ไม่ค้องคิดมากเรื่องเงิน(และหมอ/พยาบาลไม่ต้องรับภาระหนักเกินไป)

944 Nameless Fanboi Posted ID:8ncmO9vaWg

กู >>933 ยังยืนยันเหมือนเดิมว่ามันทำให้คนบางจำพวกทำตัวเป็นง่อย แถมมาเบียดเบียนเดือดร้อนกลุ่มอื่นๆ

945 Nameless Fanboi Posted ID:kT30.sgPWJ

>>944 ง่อยของมึงคือไงวะ ส่งเสริมให้คนป่วยเพราะไม่ต้องเสียตังเยอะรักษา คนที่จงใจป่วยเพราะงี้กูว่ามัน wtf มากเลย

946 Nameless Fanboi Posted ID:WDeTPKMlAu

ข้อเสีย 30 บาทก็รู้ๆอยู่แต่ไม่ยอมแก้ไข กลัวโน่นกลัวนี้กันไปหมด สุดท้ายก็กลายเป็นอะไรที่เหมือนรถไฟไทย

อย่างการรักษา มันควรไหลไปด้วยกันได้แบบ คนไข้ต้องการมารักษา กับ หมอ

แต่พอสามสิบบาทมา
หมองานโอเวอร์โหลด คุณภาพการรักษาก็ตกทำให้รักษาเคสอาการหนักขาดประสิทธิภาพ

คนไข้ก็นั่งดองเสียเวลาทำมาหาแดกทั้งวันเพื่อเข้าคิวที่ล้นโรงพยาบาล แถมอาจต้องมาวันอื่นอีกเสียเวลาเพิ่มอีก ยิ่งพวกอาการหนักแต่คิวดวงซวยยิ่งแล้วใหญ่

947 Nameless Fanboi Posted ID:EbZkLI.tfT

ก่อนมี 30 บาท = ธรรมชาติคัดสรร คนที่ไม่ร่ำรวยแล้วไม่สามารถดิ้นรนให้ร่ำรวยได้ก็ตายไป ก็เหมือนกับสัตว์อื่นๆ ที่หากินไม่เก่ง สุดท้ายก็ตายไป พวกที่รอดมาก็เป็นสายพันธุ์ที่ปรับตัวได้หรือแกร่งพอจะรอด

คำถามคือ กล้ามองมนุษย์เท่ากับสัตว์ไหมล่ะ

948 Nameless Fanboi Posted ID:WDeTPKMlAu

>>947 บางจำพวก (ฆาตกรสนองอารมณ์ ข่มขืนฆ่า ทรมานเด็กคนแก่คนพิการ ฯลฯ)

กูให้ต่ำกว่าสัตว์

949 Nameless Fanboi Posted ID:kT30.sgPWJ

>>947 เบียว
>>946 กูก็อยากให้แก้แหละ อยากให้คง 30 บาท แต่จะให้เปลี่ยนระบบส่วนไหนที่จะลดโหลดหมอ/พยาบาลได้มันก็ดี กูคิดว่าคนที่มารอก็คนป่วยอยากได้การรักษาแหละ โอเคอาจมีคนป่วยไม่มากปน ถ้าสามารถมีระบบที่คัดส่วนนี้ดีๆได้มันก็โอเคกว่า

950 Nameless Fanboi Posted ID:YuryxOGvpt

>>947 ธรรมชาติคัดสรร มันจบตั้งแต่มีการแพทย์บนโลกใบนี้แล้วละ ถ้าให้ชัดหน่อยก็พวกการผ่าตัด ยาฆ่าเชื้อทั้งหลาย ไอ้ประเภทที่รักษาอาการที่ไม่มีทางหายตามธรรมชาติอ่ะ

951 Nameless Fanboi Posted ID:EbZkLI.tfT

>>948 ก็บอกอยู่แล้วนะบางจำพวก เอาแค่คนทั่วไปส่วนใหญ่สิ

>>949 เบียวเห้ไรสัส นั่นเรื่องจริง ตั้งแต่มีไอ้เรื่องสิทธิต่างๆ เนี่ย ประชากรโลกเพิ่มอย่างต่อเนื่องนะ หลายๆ เรื่องที่เคยเป็นของ Previllege ตอนนี้ก็เป็นของปกติธรรมดาไปแล้ว แน่นอนรวมถึงการแพทย์ด้วย อายุคนเลยยืนยาวไง แต่ยืนยาวนี่ผลข้างเคียงคือวัยพึ่งพิงเพิ่ม ไม่งั้นตอนโควิดแถวๆ ยุโรปไม่โดนแซะหรอกว่าที่ไม่เข้มล็อกดาวน์เพราะจะปล่อยคนแก่ตายไปบ้างจะได้ตัดภาระสวัสดิการ สมัยก่อนสังคมคนแก่ หรือคนพิการ-ป่วยเรื้อรัง ไม่เคยเป็นปัญหานะ เพราะคนรวยๆ มีเงินก็จ่ายเองดูแลเองคนจนก็ปล่อยตายไป ก็กฎธรรมชาติคัดสรร สัตว์หากินได้ปรับตัวรับภัยได้ก็อยู่รอด คนให้คุณค่ากับเงินตรา หาได้มากเอาไปซื้อ Facility ต่างๆ ก็ไม่ต่างกันอะ

952 Nameless Fanboi Posted ID:EbZkLI.tfT

>>950 แพทย์สมัยก่อนคนจนเข้าถึงยาก จนโลกเริ่มมีแนวคิดรัฐสวัสดิการน่ะ

953 Nameless Fanboi Posted ID:YuryxOGvpt

>>952 คำว่าธรรมชาติคัดสรรไม่มีคนจนคนรวยว่ะ มันเป็นแค่ทฤษฎีวิวัฒนาการ ปรับตัวตามสภาพแวดล้อมไม่ได้ก็ตาย แต่ต้องปรับตัวโดยวิวัฒนาการ ไม่ใช่สร้างอะไรมาทำให้ตัวเองรอดแบบมนุษย์

954 Nameless Fanboi Posted ID:YuryxOGvpt

>>952 ต่อ ดังนั้นแค่มึงมีการแพทย์มาทำให้ร่างกายมนุษย์ไม่ต้องปรับตัวเพิ่ม(เพราะมีการผ่าตัด+พวกยารักษา ฯลฯ) ก็ถือว่าจบแล้วสำหรับธรรมชาติคัดสรร

955 Nameless Fanboi Posted ID:kT30.sgPWJ

>>951 ก็ย้ำคำเดิมว่ามึงเบียว

956 Nameless Fanboi Posted ID:YuryxOGvpt

>>955 เห็นด้วย โคตรเบียว เหมือนเอาทฤษฎีวิวัฒนาการมาปนกับไอ้นิยายย้อนยุคเบียวๆ พวกที่ชอบบอกว่าใครมีอำนาจมากกว่าก็ถูกต้องกว่าอ่ะ

957 Nameless Fanboi Posted ID:EbZkLI.tfT

>>953 ธรรมชาติคัดสรร กรณีของสัตว์คือตัวที่หาอาหารได้เก่ง เอาตัวรอดจากภัยต่างๆ ได้ดี ก็มีโอกาสจะอยู่รอดสืบพันธุ์ต่อไปได้ ส่วนของคนที่มีระบบเงินตราและตำแหน่งอำนาจ คนที่ดิ้นรนจนมีเงินมาก มีอำนาจในสังตมสูง ก็มีโอกาสอยู่รอดสืบพันธุ์ไปได้

แม้จะต่างกันตรงที่รูปแบบ แต่ที่เหมือนกันคือความอยู่รอดส่วนนี้เป็นเรื่องของปัจเจกน่ะ ซึ่งสัตว์ไม่สามารถวิวัฒนาการขึ้นมาแบบคน ที่สร้างระบบสวัสดิการต่างๆ แบบไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แต่ระบบนี้มันเพิ่งเริ่มคิดกันแค่ 100-200 ปีนี่เอง ก่อนหน้านั้นแล้วแต่ความพร้อมแต่ละคนจริงๆ

958 Nameless Fanboi Posted ID:EbZkLI.tfT

>>956 ก็สมัยก่อนมันเป็นงั้นจริงๆ

959 Nameless Fanboi Posted ID:YuryxOGvpt

>>957 จะใช้คำว่าปัจเจกได้ไง มนุษย์อยู่รอดได้เพราะอยู่รวมกันเป็นสังคมตั้งแต่ตอนแรกๆแล้ว อย่างเอาชนะสัตว์ใหญ่ได้เพราะรวมกันล่า หรือชนะมนุษย์พันธุ์อื่นบางพันธุ์เช่นนีแอนเดอร์ทัลได้ก็เพราะพวกนั้นมักจะอยู่แยกๆเป็นปัจเจก หรือกลุ่มเล็กๆ ไม่เป็นเผ่า/กลุ่มขนาดใหญ่ ไอ้ระบบเงินหรืออำนาจที่มึงบอกมันก็มาจากการอยู่รวมกันเป็นสังคมเหมือนกัน มันจะมาจำแนกได้ไงว่าอยู่รวมเป็นสังคมแบบรัฐสวัสดิการ=ไม่ธรรมชาติคัดสรร แต่อยู่รวมกดขี่กันแบบโบราณ=ธรรมชาติคัดสรร???

960 Nameless Fanboi Posted ID:kT30.sgPWJ

>>958 เขาทำให้มันดีขึ้น มึงก็มาบอกทำให้ไม่เกิด"ธรรมชาติคัดสรร"อะไรวะ กูว่าแม่งแปลกตั้งแต่งโนง"ธรรมชาติคัดสรร"ไปกับเงินแล้วนะ
ที่พิมพ์มาอาจแล้วอิมเมจเอจจี้ลอร์ดลอยมาเลยวะ

961 Nameless Fanboi Posted ID:YuryxOGvpt

>>957 เพิ่ม ถ้าจะมองแบบนี้ควรจะเลิกกฎหมายไปเลย ฆ่ากันได้ตามใจชอบ อยากเยดใครก็ตีหัวลากเข้าถ้ำ อยากได้อำนาจก็ยกพวกมาฆ่ากันแบบเก่าไหมละ จะได้ธรรมชาติคัดสรรแบบที่มึงต้องการให้เต็มที่ไง

962 Nameless Fanboi Posted ID:YuryxOGvpt

>>957 เพิ่มอีกหน่อย ก่อนจะเอาทฤษฎีวิวัฒนาการมาสนับสนุนระบบศักดินาโบราณ มึงควรไปดูแผนผังการแต่งงานสืบพันธุ์ของไอ้พวกนั้นก่อนนะ แล้วบอกกูหน่อยว่าตามกฎของเมนเดลมันควรจะได้สิ่งที่ดีที่สุดตามธรรมชาติคัดสรรไหม

963 Nameless Fanboi Posted ID:EbZkLI.tfT

>>959 >>960 >>961 ความเหลื่อมล้ำมันเป็นธรรมชาติ สัตว์ไม่มีคำว่าทุกตัวเท่ากันนะ แต่คนเราอยากเอาชนะธรรมชาติเลยทำนั่นทำนี่ขึ้นมา สังคมเก่าเขาไม่มีนะไอ้หลักคิดไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ถึงบอกว่าถ้าอ่อนแอแล้วไม่รวยพอจะหาตัวช่วยได้ก็ตายไป แล้วสมัยก่อนมันก็เรื่องอำนาจเป็นใหญ่จริงๆ รัฐไหนเผ่าไหนใหญ่ก็ไปรุกรานรัฐอื่นเผ่าอื่นแย่งทรัพยากรเป็นปกติ แล้วคนที่มีค่าต่อสังคมยุคนั้น ถ้าไม่แข็งแรงก็ต้องหัวดี รัฐหรือผู้ปกครองจะเลี้ยงคนพวกนี้ไว้เป็นหลัก ส่วนพวกที่ไม่เข้าข่ายกผ้เป็นแค่การสงเคราะห์ตามบุญตามกรรม

ทุนนิยมถึงเป็นระบบที่ใช้กับคนได้ดีที่สุดไง ทุกคนถูกกระตุ้นให้ต้องเก่งเพื่อหาเงินได้มากๆ เพื่อให้อยู่รอดและมีลูกหลานได้ แล้วแบบนี้มันก็กระตุ้น Productivity ของเผ่า รัฐหรือสังคมนั้นไปโดยปริยาย ในขณะที่จารีตนิยมถูกมองว่าล้าสมัยไปแล้วเพราะไม่ทำให้คนได้ประชากรที่เก่ง ซึ่งก็เทียบกับการที่สัตว์ไม่ได้สายพันธุ์ที่ดี ส่วนสังคมนิยมก็ถูกมองว่าเพ้อเจ้อเกินไป ถ้าทุกคนไม่ต้องดิ้นรน แล้วจะเหลือสักกี่คนที่สร้าง.Productivity ให้สังคม เผ่าหรือรัฐนั้นอยู่ต่อไปได้ล่ะ

แต่ก็นั่นแหละ คนเรามันมีเรื่องสุนทรียะด้วย เราไม่ได้คิดแต่เรื่อง Productivity เลยไม่ได้เน้นเลี้ยงแต่คนที่ปั้นเป็นกำลังของสังคม (aka พลเมือง-citizen) แต่เผื่อแผ่ไปถึงทุกคน แม้ผลจะไม่ชัดว่าทำแล้วจะเกิด productivity ของสังคมได้แค่ไหน แต่มันมีคุณค่าทางใจแน่ๆ

964 Nameless Fanboi Posted ID:zDJJi5beAh

>>963 ถ้าอ้างสัตว์ไม่มี มันไม่มีตั้งแต่ใช้ไฟแล้วป่ะ มึงเลิกใช้ไฟดิ ถ้าอยากตามธรรมชาติขนาดนั้น

965 Nameless Fanboi Posted ID:EbZkLI.tfT

>>962 เพิ่งเห็น กูตอบใน >>963 ละ จารีตนิยมถึงล้าหลังละไง แต่สังคมนิยมก็เฝันเฟื่องพอกัน

966 Nameless Fanboi Posted ID:zDJJi5beAh

>>965 ตอบตรงไหน สัตว์ก็ไม่มีไอ้แบบที่บังคับผสมกับครอบครัวเดียวกันเท่านั้นเพราะต้องรักษาสายเลือดสูงส่งนะ ทีงี้ทำไมมึงไม่บอกล่ะว่าไม่ตรงกับธรรมชาติ

967 Nameless Fanboi Posted ID:1drBgWBONQ

>>963 แต่ก็นั่นแหละ คนเรามันมีเรื่องสุนทรียะด้วย เราไม่ได้คิดแต่เรื่อง Productivity เลยไม่ได้เน้นเลี้ยงแต่คนที่ปั้นเป็นกำลังของสังคม (aka พลเมือง-citizen) แต่เผื่อแผ่ไปถึงทุกคน แม้ผลจะไม่ชัดว่าทำแล้วจะเกิด productivity ของสังคมได้แค่ไหน แต่มันมีคุณค่าทางใจแน่ๆ << แปลว่าอะไร ว่ะ ขยายความยกตัวอย่างหน่อย

968 Nameless Fanboi Posted ID:EbZkLI.tfT

>>967 สัตว์มันเห็นใจตัวที่ตกทุกข์ได้ยาก ไม่สามารถสร้าง Productivity ได้แบบคนปะละ ไอ้ที่คนยกตัวเองว่าเป็นสัตว์ประเสริฐก็เพราะตรงนี้แหละ ทั้งที่เป็นการใช้ทรัพยากรไปแล้วอาจจะไม่ได้ผลตอบแทนกลับมาคุ้มค่าด้วยซ้ำ

969 Nameless Fanboi Posted ID:zDJJi5beAh

>>968 ธรรมชาติมันมีการคำนวณผลตอบแทนคุ้มหรือไม่คุ้มค่าด้วยเหรอ นี่ก็อีกที่ไม่ธรรมชาติ แล้วสัตว์ในธรรมชาติที่พึ่งพากัน ดูแลกันในฝูงก็มี ตัวอย่าง โขลงช้าง https://m.facebook.com/SeubNakhasathienFD/posts/10152640985875827?locale2=th_TH

970 Nameless Fanboi Posted ID:kT30.sgPWJ

>>963 กูก็ไม่เข้าใจว่ามีงจะยกสังคมสมัยก่อนมาทำไม คือมึงจะบอกว่าสมันก่อนดีกว่า ทุกคนควรเป็นอย่างงั้นเหรอ
กระตุ้น Productivity มันก็ดีแต่ไม่ใช่ในแง่ มึงป่วยมึงสร้างProductivityไม่ได้มึงต้องตาย มึงยังไม่มีเงินมึงป่วยมึงต้องตาย แม่งโลกดิสโธเปียชิบหาย
เอาจริงถ้าไม่มีคนตัวเล็กตัวน้อยคนบนๆมันก็อยู่ไม่รอดหรอกนะ

971 Nameless Fanboi Posted ID:EbZkLI.tfT

>>966 มนุษย์มีความกระตือรือร้นที่จะแหกกฎธรรมชาติตลอดเวลา สมัยก่อนก็ได้แค่คนกลุ่มหนึ่งแล้วก็อ้างจารีต ส่วนสมัยใหม่พยายามบอกว่าความเหลื่อมล้ำไม่ใช่เรื่องปกติจึงต้องไปสังคมนิยมซึ่งมันก็ไม่ใช่อีก มีแต่ทุนนิยมเท่านั้นที่สอดคล้องกับธรรมชาติ ปัจเจกมี productivity = ปัจเจกอยู่รอด ถ้าสังคมที่มีแต่คนที่สร้าง productivity = สังคมนั้นก็อยู่รอด

>>969 productivity ของสัตว์มันมองแบบดิบๆ ไง ปัจจัยพื้นฐานล้วนๆ แต่ productivity ของคน คือเงินคืออำนาจแล้วเอาพวกนี้ไปปัจจัยพื้นฐานอีกที

>>970 คนตัวเล็กตัวน้อยในมุมของทุนนิยมคือถ้าปั้นให้สร้าง productivity ได้ก็มีคุณค่า แต่ถ้าปั้นไม่ได้ก็คือภาระน่ะ

กูสรุปให้อีกที ที่กูจะสื่อคือทุนนิยมเป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับธรรมชาติคัดสรร วัดกันโดย productivity ใครมีมากก็ได้มาก พวกที่ขึ้นเป็นเจ้าผู้ปกครองแต่แรกก็คือคนธรรมดาๆ นี่ละ แต่มี productivity สูง ( บริหารจัดการทรัพยากรทั้งคน สัตว์ สิ่งของได้ดี จนขยายเขตปกครองได้) แต่ต่อมาคนรุ่นหลังจากนี้ไม่ได้พิสูจน์ตัวเอง เกิดมามีอำนาจเลย ระยะยาว productivity ของสังคมก็ถูกสกัดขัดขวาง ผู้ปกครองที่ใจกว้างใช้คนตามความสามารถถึงทำให้เมืองตัวเองใหญ่ขึ้นมาได้

ทีนี้เพื่อให้มันเป็นระบบ ไม่ต้องคาดหวังกับสายเลือด พ่อเก่งไม่รู้ลูกจะเก่งไหม ประชาธิปไตยถึงเกิดมาจากตรงนี้ ชนชั้นพ่อค้านายทุนนี่แหละ ด้วยเห็นว่าระบบเก่ามันขัดขวาง productivity ไง เอาละสังคมคนเริ่มกลับสู่ธรรมชาติอีกครั้ง ในวิถีทุนนิยม ใครมี productivity สูงก็ได้เงินเยอะได้อำนาจเยอะ คนข้างล่างก็ถูกพัฒนาทักษะเพื่อให้มากระตุ้น productivity กันด้วย ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งก็เพื่อประกันว่าจะมีนโยบายเอื้อต่อการสร้าง productivity

แต่สังคมนิยมหรือพวกสิทธิมนุษยชนต่างๆ มันไปไกลกว่านั้น คือมองคนเป็นคน ไม่ใช่มองคนเป็นแค่ปัจจัยการผลิตสร้าง productivity ให้ระบบ แม้ว่าสวัสดิการบางอย่างจะมีส่วนช่วยให้เพิ่ม productivity (เช่น 30 บาท , กยศ. , วันหยุดวันลาแรงงาน) แต่วิธีคิดต่างกัน ทุนนิยมจะให้เพียงขั้นพื้นฐานพอยังชีพ จะได้มีแรงมาทำงานสร้าง productivity เช่น รักษาแค่โรคพื้นฐาน , ให้กู้แค่ ป.ตรี หรือระบบทุนการศึกษาก็จะให้แต่คณะที่สอดคล้องภาคการผลิต , ค่าจ้างขั้นต่ำ แต่สังคมนิยม-สิทธิมนุษยชนจะมองถึงสุนทรียะของความเป็นมนุษย์ ค่าจ้างไม่ใช่ขั้นต่ำแต่จะไป ubi กันละ สุขภาพจะไปรวมถึงศัลยกรรมหรือแปลงเพศกันละ และการศึกษาไม่ใช่แค่กู้แต่ต้องเรียนฟรีทุกระดับทุกคณะ ที่ว่านี่ห่างไกลธรรมชาติไปมาก มันไม่มีใครรับประกันว่าทำแล้วคนจะยังขยันสร้าง productivity

แต่ก็นั่นละ เราเป็นคนไง เราไม่ใช่สัตว์ที่จะปล่อยตัวที่อ่อนแอตาย เราเลยจะมาทางรัฐสวัสดิการมากขึ้นเรื่อยๆ และที่กูประชดใน >>947 เพราะกูหงุดหงิดเวลาใครอยากทำให้ 30 บาทร่วมจ่ายหรือเลิกไปเลย เพราะกูอยู่มาก่อนยุคมี 30 บาท แล้วเห็นหรือได้ยินเรื่องแน่ๆ มาไม่น้อย

972 Nameless Fanboi Posted ID:FI084f3ZEs

พวกสเตรทมันเคยไปสารภาพว่าผมชอบผู้หญิงครับแล้วโดนสายตาผิดหวังจากพ่อแม่มันบ้างมั้ยอะ ถ้าไม่เคยก็หุบปากไปอิสัด มึงจะมารับรู้อะไรกับความเจ็บปวดของเขา กะแค่มีเดือนๆเดียวเป็นของตัวเองแม่งยังดิ้นขนาดนี้ พวกมึงเป็นสเตรททุกวันมีใครด่าอะไรมึงไหม

สเตรทที่เป็น lgbtqia+ ally ไม่ควรรู้สึกออฟเฟ้นกับทวิตนี้นะ แต่ถ้ารู้สึกออฟเฟ้นก็นั่นแหละค่ะ กุด่ามึง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

973 Nameless Fanboi Posted ID:5X..lE0/Ln

XX chromosome = human female woman. Libfems/gendies saying they have gone past gender as a "binary" by just placing more and more nonsensical labels along the binary. Y'all just putting decimals between 0 and 1 and being like "but the 0 and 1 aren't important we've gone past it". You are literally working within it.

974 Nameless Fanboi Posted ID:PZ1s8XBMJt

"เราจัดไพรด์พาเรดเพราะอยากให้คนทั่วไปเห็นว่าพวกเราก็เป็นคนปกติเหมือนกับคุณ"

*ใส่ชุดหนังโชว์ตูด เดินส่ายไปมาพร้อมแส้ ใส่หน้ากากหมามีสายจูงเดินสี่ขา ใส่แค่กางเกงในมีตาข่ายทับ*

เอ่ออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ

975 Nameless Fanboi Posted ID:zjsZax1xD0

>>974 อันนี้จริง แต่งตัวปกติเหมือนคนทั่วไปไม่ได้รึไง ต้องแต่ง Drag เท่านั้นแล้วคนก็กลัวเนี่ยนะ

976 Nameless Fanboi Posted ID:m8nxJe5qla

>>974 กูไม่อะไรถ้าอยากจะจัดแบบนี้กันนะ แต่อยากให้แยกโซนให้ชัดและไม่เอาเด็กเข้ามา
ไม่รู้เมืองไทยแยกโซนมั้ย แต่เมืองนอกเห็นภาพเอาเด็กที่พอรู้ความแล้วอายุซัก 8-12 ขวบเข้ามาดูอะไรแบบนี้เยอะ
แล้วถ้าใครไปวิจารณ์ประเด็นนี้ก็โดนยัดข้อหาเป็นพวก anti LGBT ไปโดยไม่สนใจเลยว่าเค้าจะสื่ออะไร

977 Nameless Fanboi Posted ID:V40nKw4ECx

โม่งกูโดนด่าเป็น fatphobia มาวะ กูแค่พยายามออกกำลังกายลดความอ้วนเอง ทำไงดีวะ

978 Nameless Fanboi Posted ID:sEeOnPH6ga

มันก็แค่กระแสอะ อย่าไปไรมากดูอย่างเทรนรักสุขภาพอยู่มาอย่างนาน แล้วอยู่ดีๆก็มาเปลี่ยนเป็น real size บ้างอ้วนก็ไม่เป็นไรบ้าง
นายทุนขายของสนุกเลยปั่นหัวกันโคตรง่าย

979 Nameless Fanboi Posted ID:V40nKw4ECx

แม่ง มันด่ากูว่าไอ้พวก fatphobia
รังเกียจคนอ้วน body shaming
มันไม่มีผิดที่จะอ่อนแอ หรืออ้วน บลาๆๆๆ

กูแค่ไม่อยากเป็นโรคหัวใจกับเบาหวาน.....

980 Nameless Fanboi Posted ID:0oAKin5gkM

Real Size Beauty มันไม่ใช่คนไม่ดูแลตัวเองโว้ย มันคือคนดูแลตัวเองเพียงแต่ดูแลแล้วหุ่นไม่จำเป็นต้องเหมือนกันหมด เพราะคนมันมีโครงร่างใหญ่บ้างเล็กบ้าง ต่อให้ออกกำลังกายจนหุ่นเฟิร์มยังไงมันก็มีทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่อยู่ดี แต่แบบนี้ก็ยังดูดีกว่าพวกปล่อยตัวอะ

แม่งเลอะพอๆ กับพวกที่บอกว่าต่อให้เป็น NEET รัฐก็ต้องเลี้ยงเพราะการเป็น NEET เป็นสิทธิอย่างหนึ่ง

981 Nameless Fanboi Posted ID:pyrnq2cLdi

>>979 อ่านแล้วประสาทจะแดกตาม

982 Nameless Fanboi Posted ID:V40nKw4ECx

เรื่องมันเริ่มจากกูพยายามแดกอาหารลดความอ้วนเช่นลดข้าวขาว แล้วแดกไข่กับอกไก่แทน แล้วพยายามวิ่งเบาๆ
แม่งมีคนมาใส่กูเลยว่ามึงเป็นพวก fatphobicหรอ!
กูก็งงดิ แค่ออกกำลังกายกับแดกข้าวอกไก่
แล้วแม่งก็พูดว่าความอ้วนคือสุขภาพดี
ถ้าออกกำลังกายคือ fatphobic กูก็งงไปดิ

983 Nameless Fanboi Posted ID:0oAKin5gkM

>>982 ความอ้วนเป็นสิ่งดี แต่ป่วยมารัฐต้องจ่ายค่ารักษาให้กูนะ , ใช้ชีวิตแบบ NEET เป็นสิทธิ แต่ไม่มีเงินกินอยู่รัฐต้องเลี้ยงกูนะ

อืมมมม

984 Nameless Fanboi Posted ID:b82/m4vjYC

การเมืองใหม่ คือ การเมืองทางสายกลาง ที่ไม่คิดเชิงปฏิปักษ์ต่อใคร ๆ ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง แต่ใช้ปัญญา ความเป็นเหตุเป็นผล ไมตรีจิต และการรวมตัวร่วมคิดร่วมทำถ้าการเมืองระดับชาติขยับมาเป็นกลาง การเมืองทางสายกลาง คนไทยจะก้าวข้ามความขัดแย้ง แบ่งข้างแบ่งขั้ว สามารถเข้ามารวมตัวร่วมคิดร่วมทำเต็มแผ่นดิน มีความมุ่งมั่นร่วมกันคนไทยไม่เคยมีความมุ่งมั่นร่วมกัน เมื่อใดคนไทยเกิดความมุ่งมั่นร่วมกัน จะเกิดพลังประดุจการรวมแสงเลเซอร์ ทำให้ทะลุทะลวงออกจากวงล้อมอันหนาแน่นของปัญหาได้

กุญแจของประเทศไทย คือ การรวมตัวร่วมคิดร่วมทำทั้งแผ่นดิน ทุกพื้นที่ ทุกองค์กร ทุกประเด็น การเมืองทางสายกลางจึงเป็นการเมืองที่ทำให้เกิดพลังแผ่นดิน หรือ ภูมิพละ

ถ้าสื่อมวลชนทุกประเภทสื่อให้ประชาชนรู้ความจริงอย่างทั่วถึงว่า ทางสายกลาง คือ ทางออกของประเทศ ออกจากความมืดของการแบ่งข้างแบ่งขั้ว และเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ไปสู่ความสว่างทางปัญญา ไมตรีจิต การร่วมคิดร่วมทำ นั่นแหละประชาธิปไตยที่แท้จริง ประชาธิปไตยทางสายกลางการคิดแบบตายตัวแยกส่วน แยกข้างแยกขั้ว ที่นำโดยตะวันตก นำโลกมาสู่สภาวะวิกฤตจนสุดทางไป อรุโณทัยแห่งทางสายกลางเริ่มจับขอบฟ้าตะวันออกแล้ว

985 Nameless Fanboi Posted ID:pyrnq2cLdi

>>984 ผลจากเสรีกัญชา

986 Nameless Fanboi Posted ID:0oAKin5gkM

>>984 สำนวนหมอประเวศ แต่ก็ไม่แน่ ชช อาจจะทำงานนี้สำเร็จก็ได้

987 Nameless Fanboi Posted ID:gUjVFwij2j

มันเอาคนรุ่นก่อนมาเฉลี่ยไม่ได้ คนรุ่นก่อนมีแค่เพศชาย เพศหญิง เพศที่สามก็จบ แต่คนรุ่นใหม่มันมีเพศเยอะเพศหลากหลาย

988 Nameless Fanboi Posted ID:b82/m4vjYC

[ออกบอนด์ท้องถิ่นพัฒนากรุงเทพฯ มีดีมีเสียอย่างไร]
.
อธิบายให้เห็นภาพชัดๆ การออกพันธบัตรท้องถิ่น คือ ตราสารหนี้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ออก เพื่อกู้เงินจากประชาชน ดังนั้นท้องถิ่นจะอยู่ในฐานะ “ลูกหนี้” ส่วนผู้ที่ถือพันธบัตร คือ ประชาชน สถาบันการเงิน หรือองค์กรใดๆ ที่ถือพันธบัตรมีฐานะเป็น “เจ้าหนี้” ในการกู้ยืม วิธีนี้จะได้ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำ และมีระยะเวลาการกู้ยืมที่ยาว ถือเป็นการระดมทุนก้อนใหญ่เพื่อให้ได้เงินมาพัฒนากรุงเทพฯ นอกเหนือไปจากงบประมาณที่พึ่งพิงจากรัฐบาลกลาง และการหารายได้ของกทม. ที่มาจากการเก็บภาษีเสียเป็นส่วนใหญ่
.
แนวคิดออกพันธบัตรท้องถิ่นพัฒนากรุงเทพฯ มีมาตั้งแต่ปี 2552 ยุค ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ บริพัตร เป็นผู้ว่าฯ กทม. ที่คิดจะระดมทุนออกพันธบัตร 20,000 ล้านบาท มาสร้างโรงบำบัดน้ำเสีย-เตาเผาขยะ-รถไฟฟ้าโมโนเรล แต่ก็มีความยุ่งยาก อุปสรรค ซับซ้อนในรายละเอียด สุดท้ายก็ไม่ได้เริ่ม
.
...จนมาพูดอีกครั้งในปี 2556 ที่มองว่า กรุงเทพฯ ควรปรับตัวออกพันธบัตรท้องถิ่นมาลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานของกรุงเทพฯ เอง แม้จะไม่สำเร็จในเวลาสั้นๆ แต่ถ้าได้เริ่มก็จะเป็นแนวทางในอนาคต เพราะศักยภาพความเป็นเมืองของกรุงเทพฯ นั้น สามารถออกบอนด์ระดมทุนได้เช่นวิธีที่เมืองใหญ่ๆ ในโลกทำกันอย่าง ลอนดอน โตเกียว โซล และหลายเมืองในอเมริกา ยุโรป ที่ใช้แนวทางนี้สร้างเมือง
.
กรณีศึกษาในสหรัฐ ตั้งแต่ ค.ศ.1812 นครนิวยอร์กก็ใช้การออกพันธบัตรท้องถิ่นระดมเงินมาพัฒนาการจัดการเรื่องแม่น้ำลำคลองของเมือง ขยายทางรถไฟ รวมทั้งเมืองอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกาก็ใช้วิธีออกพันธบัตรสร้างเมือง มีโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่สร้างสะพาน ถนน ระบบราง พัฒนาสนามบิน นอกจากนี้ยังเอาไปใช้ช่วยเหลืออุปถัมภ์ด้านสังคม อย่างการจัดการศึกษาฟรีให้ชุมชน จัดหาที่อยู่อาศัย ช่วยเหลือคนฐานราก จะเห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานที่เกิดขึ้นในหลายเมืองของสหรัฐถึง 2 ใน 3 ได้รับเงินสนับสนุนจากการระดมทุนออกพันธบัตรท้องถิ่น
.
แนวคิดการเปิดให้ประชาชนสามารถร่วมลงทุน ผ่านเครื่องมือทางการเงินรูปแบบต่างๆ ได้นี้ จึงถูกพูดถึงอีกครั้งว่า คนกรุงเทพฯ น่าจะมีโอกาสในการลงทุนอนาคตของตัวเอง อีกทั้งเมื่อมองมาที่สถานะของเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่ากรุงเทพฯ มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ย และคืนเงินต้นในเกณฑ์สูงมาก ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำเลยทีเดียว
.
นี่ยังไม่นับรวมว่า กรุงเทพฯ คือเมืองหลวงที่มีประชากรอาศัยอยู่ ไม่เพียงแค่คนกรุงเทพฯ ตามทะเบียนราษฎร์ แต่รวมถึงทุกคนที่เข้ามาทำงาน ใช้ชีวิต มาติดต่อธุรกิจ เรียนหนังสือ มีนักท่องเที่ยวคนไทยด้วยกันจากจังหวัดอื่นๆ และชาวต่างประเทศหมุนเวียนกันในเมืองหลวงแห่งนี้ถึง 10 ล้านคน มองแง่นี้จึงมีนัยสำคัญ หมายถึงรายจ่ายของกรุงเทพฯ ที่เพิ่มขึ้น และเราก็ต้องการการลงทุนพัฒนาเมืองที่เพิ่มขึ้นตาม
.
[โอกาสมีแค่ไหน?]
.
นโยบายที่ประกาศไว้ช่วงหาเสียงของอาจารย์ชัชชาติ เป็นนโยบายที่คนกรุงเทพฯ ขานรับ และเป็น “ความหวัง” อยากให้เกิดขึ้นได้จริง ทว่า ดูเหมือนความท้าทายแรกๆ ที่เริ่มพูดถึงตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคือ ความห่วงใยเรื่องงบประมาณที่จะสานฝัน 214 นโยบายให้เกิดขึ้นอย่างสัมผัสจับต้องได้
.
นักวิชาการที่คุ้นเคยกับการวางแผนพัฒนาเมืองอย่าง รศ.ดร.อภิวัฒน์ รัตนวราหะ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้มุมมองน่าคิดว่า นโยบายสำคัญหลายอย่างของอาจารย์ชัชชาติ นอกจากเกี่ยวข้องกับองค์กรอื่นที่มีเจ้าภาพอยู่แล้ว ยังต้องใช้งบประมาณสูงอาจจะถึงหมื่นล้านบาท เช่น นโยบายเกี่ยวกับรถเมล์ ที่เสนอไว้ว่าจะให้รถเมล์เป็นของ กทม. ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะการบริหารจัดการ รถเมล์โดย กทม. มีนัยในเชิงองค์กรและงบประมาณของ กทม. ที่ค่อนข้างใหญ่มาก
.

989 Nameless Fanboi Posted ID:RqNTpeQN0h

>>987 เพศแม่มด เพศนกฟีนิกซ์

990 Nameless Fanboi Posted ID:cu7yPgU+rC

ไม่เข้าใจว่าคนที่บอกว่าพรรคนี้ก็ “ดีล” นี่เค้าไม่เข้าใจจริงๆหรอครับว่า ดีลที่มันไม่มีปัญหากับมีปัญหามันต่างกันยังไง

สภามันเป็นที่สำหรับต่อรองอยู่แล้ว ดีลไปเลย ควรทำด้วย

แต่แบบที่มันมีปัญหา คือ ดีล ลับหลังปชช. ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการหรือมีผลประโยชน์ปชช.เป็นแค่ผลพลอยได้ต่างหาก

991 Nameless Fanboi Posted ID:y/luj7q9zW

กัมพูชากำลังจะมีเรือดำน้ำก่อนไทย และสมรภูมิในเอเชียจะเริ่มที่ไทย-กัมพูชาย โดยมีเส้นแบ่งเขตแดนที่เกาะกูดในอ่าวไทย เพื่อผลประโยชน์กันในส่งของ น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ โดยที่กัมพูชามีสิทธิชนะมากกว่าไทย เพราะมีจีนหนุนหลัง จีนจะได้ประโยชน์ในพื้นที่อ่าวไทย จากการที่ไทยสูญเสียพื้นที่ทางทะเลในอ่าวไทย และไม่เกิน 5 ปี คาดว่ากัมพูชาจะยึดทางขึ้นเขาพระวิหารได้สำเร็จและไทยจะสูญเสียพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นทางบกและทางทะเลเป็นอันมาก

992 Nameless Fanboi Posted ID:yuFQKsb0IO

>>991 สู้ด้วยกำลังทหารเพียงๆ เขมรสู้ไม่ได้หรอก ครั้งก่อนโดนถล่มทีลูกฮุนเซนยังเกือบตาย แล้วถ้าเขมรเปิดก่อนจริงอู่ตะเพาก็พร้อมรบ เมกาก็พร้อมแจม ไม่มีทางเลยที่ไทยจะแพ้ทางทหาร ส่วนตปท.ยิ่งเป็นผลดีกับไทย เพราะถ้าจีนออกตัวไทยก็จะเข้าหาเมกาง่ายขึ้นเยอะ

993 Nameless Fanboi Posted ID:y/luj7q9zW

>>992 ไอ้กันที่หนีหางจุกตูดเกือบทุกสงครามอ่ะนะ ตั้งแต่สงครามเวียตนามก็แพ้แบบง่าวๆ อัฟกันก็หนีเพราะสู้กลุ่มก่อการร้ายไม่ได้ ในขณะที่จีนสามารถตบเวียตนามลงได้หลังจากที่ไอ้เหี้ยกันหนีหางจุกตูดไปแล้วนี่นะ แล้วก็โซนตั้งแต่ทะเลจีนใต้ลงไปถึงอ่าวไทย ตอนนี้ยังไงก็พี่จีนรัซเซียคุมอยู่ ไอ้เหี้ยกันแม่งก็ไม่ยอมทำอะไรกับรัสเซียสักทีนี่นะ กองเรือที่ 7 ก็อยู่ใกล้ๆรัสเซียแทนที่จะยิงขีปนาวุธเขาไปที่กรุงเคลมลินเพื่อยับยั้งรัสเซียเข้ายึดยูเครน ยังไม่กล้าทำเลย ดูยังไงก็ไอ้กันแม่งไม่ได้เรื่องสักอย่าง

994 Nameless Fanboi Posted ID:y/luj7q9zW

>>992 แถมตอนนี้กัมพูชา มีทั้งเรือดำน้ำ และโดรน โดยที่โดรนมีจีนร่วมพัฒนาด้วย ในขณะที่ไทย แม่งไม่เอาไหนสักเรื่อง หาแดกกับ GT200 ทั้งที่ใช้งานไม่ได้แล้ว ทหารไทยตอนนี้ สู้อะไรเพื่อนบ้านไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็ตาม ยิ่งหาแดกกับ GT200 เป็นพันล้าน จะงบที่ไหนไปซื้อหรือวิจัยอาวุธไปสู้คนอื่นเขาวะ ตอนนี้อาจจะยังไม่แน่ แต่ไม่เกิน 5 ปีหรอก กัมพูชา พม่า ได้รับแรงหนุนจากจีนแต่ไทยเราไม่มีเหี้ยอะไรสักอย่างเลย จะไปสู้อะไรเขาได้วะ

995 Nameless Fanboi Posted ID:yuFQKsb0IO

ไม่มีคนคุยด้วยในมู้ยูเครนเหรอ ถึงเปลี่ยนมามู้นี้

996 Nameless Fanboi Posted ID:y/luj7q9zW

>>995 ???? อันนี้คุยเรื่องที่กัมพูชามีเรือดำน้ำและโดรนนะ เกี่ยวอะไรกับยูเครน แค่พูดถึงไอ้กันนิดหน่อยเองว่าไม่ช่วยเหี้ยไรยูเครน ถ้ามึงหวังว่าตอนเกิดปัญหาจีน-ไทย มึก็อย่าหวังว่ามันจะมาช่วยอะไรเลย มันไม่เคยช่วยให้ชนะสงคราม

997 Nameless Fanboi Posted ID:qoyQs9u5GE

>>993 เหมือนมึงจะขาดความรู้เรื่องกองทัพเอามากๆนะ ถึงคิดว่าไอ้กันกระจอกน่ะ

998 Nameless Fanboi Posted ID:wsYWf+w1lZ

>>994 ลาวล่ะ จีนลงทุนไปจนประเทศจะเจ๊งแล้ว

999 Nameless Fanboi Posted ID:y/luj7q9zW

>>997 ไม่กระจอก แต่ไม่ชนะสงครามใหญ่ๆเลย หลังจาก ww2 อ่ะนะ ตบเวียตนามก็แพ้จุกตูดกลับบ้าน ตอนนี้จีนตั้งฐานทัพอยู่ก็ไม่ทำเหี้ยอะไรอีกต่างหาก ในอัฟกันแม่งก็หนีเหมือนกัน แทนที่จะทำให้รัฐบาลอัฟกันตั้งตัวได้ แต่แม่งกลัวผู้ก่อการร้ายเลยหนีก่อน

แต่กรณีนี้ กูว่ายังไงถ้าเกิดปัญหาสงครามในอาเซียน ไอ้กันก็ไม่ช่วยอะไรอยู่ดีเหมือนตอนยูเครนน่ะแหละ

1000 Nameless Fanboi Posted ID:y/luj7q9zW

ปิดให้ไอ้กันที่หลังสงครามเย็นไม่ชนะเหี้ยอะไร สิ่งที่ดีที่สุดที่ทำได้แค่ลอบสังหารบินลาเดน กับตบซัดดัมตาย

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.