"สงครามที่ไม่มีโอกาสชนะ .."
...
กุยแก ที่ปรึกษาโจโฉ .. แนะนำให้โจโฉต้องเข้าตีเล่าปี่ก่อนเป็นคนแรก .. จนเมืองซีจิ๋วแตก เล่าปี่ต้องหนีไปพึ่งอ้วนเสี้ยว ..
อ้วนเสี้ยว ลูกชายตระกูลเก่าแก่ อาศัยชื่อเสียงบรรพบุรุษไต่เต้า แต่มีกองกำลังมากที่สุด .. ต่อมาเมื่อโจโฉคิดจะเปิดศึกกับอ้วนเสี้ยว ทั้งๆที่กองกำลังทหารของอ้วนเสี้ยวมีมากกว่าถึง 10 เท่า .. โจโฉจึงได้ถามความเห็นกุยแก กุนซือของตน
กุยแก . วิจารณ์ข้อดีโจโฉ 10 ประการ .. และวิจารณ์ข้อเสียอ้วนเสี้ยว 10 ประการ .. ทำให้โจโฉมั่นใจในชัยชนะที่จะทำศึกครั้งนี้
โจโฉ ถามกุยแกว่า .. "ท่านคิดว่า สงครามม็อบปลดแอก เป็นอย่างไร"
กุยแก ตอบ "เป็นสงครามที่ไม่มีโอกาสกำชัยชนะ"
โจโฉ .. "เพราะเหตุใด"
กุยแก .. "ด้วยเหตุแห่งการชัยชนะที่มองไม่เห็น 10 ประการคือ
1. เป็นสงครามที่ ไม่มีความชอบธรรมอย่างชัดเจน .. การมุ่งเป้าเพื่อทำลายฮ่องเต้ บรรพบุรุษ ในโลกนี้เทพเทวดาจะมอบความชอบธรรมได้อย่างไร .. ประชาชนจะมอบความชอบธรรมได้อย่างไร .. จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความถดถอยสิ่งแรก
2. การไล่เกลียดชัง คนเก่า คนแก่ , การไม่นับถือพุทธศาสนา ไม่เคารพวัฒนธรรมดั้งเดิม การชิงชังการศึกษา .. เท่ากับตัดพลังมวลชนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเคยอยู่ตรงกลางไม่เข้าข้างใคร พร้อมจะเข้าร่วมช่วยเหลือถ้ามีประเด็นที่น่าสนใจ กลับถูกความกร้าวร้าวโถมเข้าใส่ ทำให้ต้องถอยห่างออกไป
3. ข้อนี้สำคัญในการนำทัพ .. คือขาดผู้นำทัพที่แท้จริง .. ในการศึกใดถ้าผู้นำทัพที่แท้จริงไม่ปรากฏตัวให้ชัดเจน นั้นหมายถึงเป้าหมายที่มุ่งมั่น ขาดคนตัดสินใจในเหตุการณ์เฉพาะหน้า
หลักการรบ แม่ทัพต้องอยู่หน้า .. มิใช่ให้ทหารเลว หรือม้าใช้ถือธงต่างกระบี่ ทิ่มแทงสะเปะสะปะ
4. ขาดกำลังพลที่แท้จริง .. การยืมกำลังพลจากผู้อื่น ไม่มีทางจะทำสงครามได้ชนะ .. เราจะถูกเงื่อนไขบางประการในการยืมกำลังพลนั้นผูกติด .. อาจต้องตอบแทนบางอย่าง .. กำลังพลที่ยืมมาก็มิได้ศรัทธาในกระบวนทัพของเราอย่างแท้จริง
วันไหน กำลังพลที่ยืมถูกเรียกคืน .. สงครามนั้นก็มีโอกาสสูญเสียอย่างใหญ่หลวง
5. เด็กขึ้นเป็นแม่ทัพไม่ได้ .. ด้วยยังไม่เคยปรากฏผลงานให้เกิดบารมี .. เป็นเพียงการสร้างวาจาที่แตกต่างรุนแรง ไม่สามารถทำให้มวลชนที่มีความรู้ยอมรับ มวลชนที่เคยอยากไปรู้ไปฟัง เมื่อฟังแล้วเห็นแล้ว ก็ถอนตัวกลับ
6. การตั้งเป้าหมายล้มประเทศ เปลี่ยนวัฒนธรรมครั้งใหญ่นี้ ต้องใช้ความรุนแรงเท่านั้นจึงจะกระทำสำเร็จได้ .. มีคนเบื้องหลังกลุ่มประท้วงนี้เคยกล่าวเปรียบเทียบกับแว่นแคว้นของฝรั่งเอาไว้ ว่า มีแต่ความรุนแรง จึงสามารถบีบบังคับขับไล่กษัตริย์ฝรั่งออกไปได้..
แต่คงเป็นเพียงคำกล่าวของคนผิดหวังในชีวิต
เพราะการจะปฏิวัติประชาชนด้วยความรุนแรง .. ต้องมีกองกำลังที่ใช้อาวุธ และกองกำลังติดอาวุธที่ถูกต้องตามกฏหมาย จึงมีเพียงรัฐบาลเท่านั้น
7. ต้องมีทุนในการดำเนินการ .. ทุน เสมือนเสบียงของกองทัพ ไม่ปรากฏชัดว่าพร้อมสรรพ ด้วยการไม่กล้าปรากฏโฉมหน้าของกลุ่มทุนผู้สนับสนุน .. การจะต่อสู้ที่ต่อเนื่องก็แผ่วเบาลง
ยิ่งการต่อสู้ที่ยาวนานออกไปนานเท่าไร ทุนจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญ .. การขู่ที่ว่า เราจะต่อสู้อย่างยืดเยื้อนั้น เป็นเพียงเสียงปลอบใจของคนใกล้จมน้ำ
8. การขาดการผสาน องคาพยพ .. ในทุกส่วนของประเทศ .. เพราะการตั้งยุทธศาสตร์ที่ผิด โดยการแบ่งแยกชนชั้น แบ่งแยกเหล่า .. ว่ากลุ่มของตนเป็นเด็กรุ่นใหม่ เป็นคนหัวก้าวหน้า .. ขาดความอดทนในการเชื่อมต่อกับชุมชนระดับจังหวัด อำเภอ หมู่บ้าน ..
9. ที่สำคัญขาดการเชื่อมต่อกับระดับ นักคิด ปราญช์ อาจารย์ อดีตข้าราชการส่วนต่างๆ .. เพราะอคติที่มองเห็นพวกเขา โบราณไร้ซึ่งทัศนวิสัย .. ทำให้ขาดพลังในการขยายแนวคิดให้กว้างออกไป
10. การจะกระทำให้ประเทศที่เป็น ราชอาณาจักร กลายเป็น สาธารณรัฐ แบบมีประธานาธิบดี นั้นเป็นไปไม่ได้ ..
การใช้คำว่า ถ้าการเมืองดี จะไม่มีแบบนั้น แบบนี้ .. เป็นเพียงคำพูดที่ซ่อนนัยยะว่า ถ้าการเมืองดี (คือต้องไม่มีกษัตริย์ แล้วทุกอย่างจะดี) ..
ทั้งๆที่ปัญหาการปกครอง เกิดจากระดับนักการเมืองชั้นต่ำ เล่นเกมกันแบบไม่คำนึงถึงประเทศชาติ
...
กุยแก .. จบด้วยคำกล่าวที่ว่า ..
14 ตุลาคม 2563 .. จึงเป็นเพียงสงครามที่ต้องหาทางลงให้กับพวกตนเอง ..
เพราะมันเป็นสงคราม ที่ไม่มีโอกาสชนะ ..
..
✍✍✍