Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 5th quotes

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:baXdba2p2

มู้เก่า
https://fanboi.ch/lounge/1161 โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
https://fanboi.ch/lounge/2603/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 2nd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3016/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 3rd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3530/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 4th quotes

2 Nameless Fanboi Posted ID:yDHIfl0RK

,.....................................
#มิตรสหายท่านนึง

3 Nameless Fanboi Posted ID:4b9Xc4peD

เจอ quote นึงบน fb ที่ไม่ได้น่าสนใจมากหรอก แต่ตรงท้ายมันเขียวไว้ว่าให้กด share เท่านั้น ใครก๊อปไปมันจะฟ้องกรมทรัพย์สินทางปัญญา
ตอนแรกกะจะเอามาลงในนี้ขำๆ คิดไปคิดมากูปอด ไม่เอาดีกว่า 555

4 Nameless Fanboi Posted ID:qIGeaDAB9

>>3 เอาลิ้งค์มาแชร์ก็ได้

5 Nameless Fanboi Posted ID:5uWMCP6wy

เคยสงสัยมั้ยว่า เรามีความรักแบบไหน ?
ทำไมบางคน ไม่เห็นดิ้นรนเรื่องคนรัก แต่อีกคนดิ้นตลอดเวลา
ทำไมบางคนแฟนอยู่ไกล แต่ทำไมไปกันรอด
ทำไมบางคนตัวติดกันตลอด สุดท้ายเลิก

รู้ป่ะ ทั้งหมดมันเป็นเรื่องของจิตใต้สำนึก
จะเล่าให้ฟัง

============================

สมัยเรียน เคยเรียนวิชาจิตวิทยาอยู่ตัวนึง
เค้าพูดถึงเรื่อง รูปแบบการมีความรักของมนุษย์
โดยใช้ ทฤษฏี Attachment theory มาอธิบาย

อะ จะสรุปทฤษฏีนี้ให้ฟังง่ายๆ

นักจิตวิทยาบอกว่า
"ตั้งแต่เด็กเลยเนี่ย เราจะมีความคาดหวังว่าจะได้ความรัก
จากคนที่ดูแล (เช่น พ่อ แม่) ซึ่งพอเราได้หรือไม่ได้
ความคาดหวังเนี้ยจะติดตัว แล้วก็ตามมา
กำหนดรูปแบบความสัมพันธ์เมื่อเรามีความรัก"

1. คาดหวังแล้วได้ความรัก = Secure type
- ครอบครัวอบอุ่น พ่อแม่เอาใจใส่ ไม่เคยรู้สึกขาด
- โตมา เลยมีความมั่นใจ เพราะรู้สึกว่ายังไงก็ได้รับความรัก

2. คาดหวังแล้วไม่ได้ความรัก = Avoidant type
- ครอบครัวอยู่ห่างไกล มีความเย็นชา หรือรุนแรง
- โตมา เลยปิดกั้นความรู้สึกรัก เพราะไม่อยากเสียใจ
- กูยืนบนลำแข้งของกูได้

3. คาดหวังแล้วได้บ้าง ไม่ได้บ้าง = Anxious type
- ครอบครัวงงๆ ใส่ใจบ้าง ไม่ใส่ใจบ้าง
- โตมา เลยเป็นคน Insecure รู้สึกไม่มั่นคง กลัวคนอื่นไม่รัก
เพราะไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าเมื่อไหร่จะได้รับความรักหรือไม่ได้

*ถ้าอยากรู้ว่าเราเป็นแบบไหน ลองทำดู ;)
http://theoryoflove.space/test/attachment-style/

=========================

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มันก็ตามมากำหนดวิธีคิดของเรา
เวลาเรามีความรัก

เช่น

"เวลาเกิดความเครียดในความสัมพันธ์"
- Secure : เคลียร์ตรงๆ แก้ปัญหา โดยไม่ให้กระทบความสัมพันธ์
- Avoidant : เลือกที่จะเงียบและหลบหนี แต่ในใจจะคอยตำหนิคนรัก
ให้เค้าดูแย่ลง เพื่อให้รู้สึกชอบธรรมในการหลีกหนี
- Anxious : ไม่พูดออกมา แต่จะแสดงพฤติกรรมต่อต้าน เช่น งอน
คือจริงๆ ก็อยากเคลียร์นะ แต่ไม่กล้า เพราะกลัวคำตอบ

.

"ทัศนคติ กับความใกล้ชิด"
- Secure : ก็อยากอยู่ใกล้ชิดคนรัก แต่ถ้าห่างกันก็ไม่เป็นไร
โนวอรี่ เราเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ รู้ว่ายังไงก็มีกันอยู่
- Avoidant : กูต้องการพื้นที่ของกู กูไม่ต้องการใคร ออกไป!
(จริงๆ เค้าต้องการนะ แต่แค่กลัว และไม่กล้าเชื่อใจใครอีก)
- Anxious : อยากอยู่ใกล้ชิดกับคนรักตลอดเวลา กระหายความรัก
การหายไป ทำให้เรากลัวว่าเค้าจะไม่รักเรา จะ insecure ตลอดเวลา
แต่ถ้าบอกไปตรงๆว่าเราต้องการอะไร เค้าต้องหนีเราไปแน่ๆ

.

"ใครเป็นคนขับเคลื่อนความสัมพันธ์"
- Secure : มันไม่ใช่ปัญหา เราไปด้วยกันแบบมีความเข้าใจ
- Avoidant : ลองพยายามควบคุมกูสิ กูจะวิ่งหนีเดี๋ยวนี้แหล่ะ
- Anxious : ตามใจคนรักดีกว่า ถ้าไม่ตามเค้า เค้าต้องไม่รักเรา
แล้วไปหาคนอื่นแน่ๆ

.

"มุมมองต่อ (ตัวเอง,คนอื่น)"
- Secure : +,+
- Avoidant : +.-
- Anxious : -,+

.

"เวลาอะไรไม่เป็นไปตามใจ"
- Secure : ไม่เป็นไร เราจะหาทางแก้ได้
- Avoidant : จะรู้สึกโดนทำร้าย รู้สึกว่าทุกคนไว้ใจไม่ได้
กูจะต้องทำทุกอย่างบนโลกด้วยตัวกูคนเดียว
- Anxious : ต้องมีอะไรที่เราผิดพลาดไปแน่ๆ
แล้วก็จะเริ่มโทษตัวเอง มีความคิดลบๆกับตัวเอง
คิดว่าจะต้อง เอาชนะหรือเปลี่ยนตัวเอง เพื่อให้ได้มันมา

ใดๆ เป็นต้น

=========================

(ต่อเม้นล่าง)

6 Nameless Fanboi Posted ID:5uWMCP6wy

( ต่อจาก >>5 )

ซึ่งการที่เรามี Attachment style แบบไหนก็ตาม
มันไม่ใช่เรื่องผิด หรือคอขาดบาดตาย
เพราะเราไม่ได้เลือกที่จะทำ แต่ประสบการณ์ชีวิต
มันหล่อหลอมมาให้เราเป็นแบบนี้

คือมัน Beyond นิสัยไปเป็นสิ่งที่เรียกง่ายๆว่า สันดารแล้ว
ไปอยู่ในจิตใต้สำนึก ที่เราไม่รู้ตัวและควบคุมไม่ได้ไปแล้ว

เราจะไม่แปะป้ายหรือโกรธกันว่าเธอเย็นชา หลีกหนี หรือ ขี้งอน
สิ่งที่ต้องทำก็คือ รู้ว่าตัวเองเป็นแบบไหน คนรักเป็นแบบไหน
แล้วก็เข้าใจมันซะ เข้าใจว่า ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลของเค้าและเรา
มันมีที่มาที่ไปจากอะไร แล้วก็ยอมรับมัน อยู่กับมันให้ได้

=============================

ความโชคดีมันอยู่ตรงนี้

มันอยู่ตรงที่ว่า การจะทำให้ความสัมพันธ์นั้นไปรอด
เราต้องการ Secure เพียงแค่ 1 คนเท่านั้น

ฉะนั้นถ้าเราเป็นคน Secure เราก็จะสามารถเลือก
อยู่กับคนที่มี Attachment style แบบไหนก็ได้

- เลือก Secure ก็ดี ต่างคนต่าง Secure ไม่มีปัญหาอะไรมากมาย
- เลือก Avoidant ก็ได้ ถ้าเราชอบที่จะมีพื้นที่ส่วนตัว
เค้าก็จะไม่รู้สึกว่าโดนคุกคามชีวิตจนเกินไป
- เลือก Anxious ก็ได้ ถ้าเราชอบคนติดแฟน
เค้าก็จะรู้สึกมั่นคงขึ้น รู้สึกว่าจะไม่โดนทิ้งไปไหน

=========================

ความพังมันอยู่ตรงที่เมื่อ Insecure 2 คนมาเจอกัน

Anxious กับ Anxious
ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ แต่แทนที่จะเข้าใจในความเป็นกันและกัน
แต่ก็จะงอน แล้วก็แสดงพฤติกรรมต่อต้านกันตลอดเวลา
เพราะต่างฝ่าย ก็จะต่างกลัวว่าอีกฝ่าย จะไม่รัก

Avoidant กับ Avoidant
เหมือนโตเกียวดริฟท์ออกจากกัน เหมือนใช้ชีวิตคนละโลก
ต่างคนต่างอยากมีโลกส่วนตัว กลัวการผูกมัด พังอยู่

Anxious กับ Avoidant
อันนี้พินาศจริง คนนึงอยากใกล้ชิด อีกคนกลัวการถูกเข้าหา
งงไปหมด Disaster มาก

===========================

เคสที่ต้องการ ความเข้าใจมากๆ คือ
ถ้ามีคนรักเป็น Anxious (เราเอง เป็นหนักด้วย)
สิ่งที่เค้าต้องการคือ คำยืนยันว่า
"เรารักเธอ ต่อให้ไม่เจอกัน เราก็อยู่ตรงนี้ ไม่ได้ไปไหน
ยุ่งอยู่ เดี๋ยวโทรหานะ เป็นต้นว่าาาาา"

ไม่ใช่เพราะว่าเราต้องการให้เค้าอยู่กับเราแค่คนเดียว
แต่เราต้องการเพื่อลดความ Insecure ของเราลง

ทำไปเถอะ ไม่ใช่เพื่อสปอยล์เค้าหรอก
แต่มันจะทำให้เค้ารู้สึก Secure ขึ้นมา และไม่เป็นบ้า
เวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

=========================

สรุปก็คือ

ถ้าเรา Secure เราหาใครก็ได้
ถ้าเรา Anxious หรือ Avoidant ให้เราหา Secure

เหนือสิ่งอื่นใด ความเข้าใจกันคือที่สุดของทางออก

สุดท้าย
ขอให้ทุกคนเจอ Blossum ของตัวเองเร็วๆละกัน
:)

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

7 Nameless Fanboi Posted ID:uQ70z7yqF

feeling เย็นหี at ห้วยมอดหมี
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

8 Nameless Fanboi Posted ID:MV/PQlIHZ

มหาลัยเราไม่ได้อนุรักษ์นิยม แต่อาจจะเข้าใจได้ยากสำหรับเสรีนิยมตะวันตก - #มิตรสหายท่านหนึ่ง

9 Nameless Fanboi Posted ID:1sfzaKRzG

>Mexico send immigrant childs to the US
>the American taxpayers fund their education, health and professional training
>Trump ends DACA
>now hundreds of qualified workers go back to Mexico even though Mexico didn't invest a dollar in them
Mexico 4d chess

#มิตรสหายanon

10 Nameless Fanboi Posted ID:L9KH080f0

"วันนี้ไปเป็นกรรมการสัมภาษณ์ให้ทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ของคณะฯ มาฮะ...จริงๆ เคยเป็นสมัยเข้ามาเป็นอาจารย์ใหม่ๆ แต่ตอนหลังมาก็ไม่ค่อยได้เป็นแล้ว เพิ่งกลับมาเป็นอีก เพราะอาจารย์เด็กๆ ไม่ค่อยเหลือ (ไปเรียนกันหมด) ไม่ค่อยชอบเป็นเท่าไหร่ เพราะหดหู่เหลือเกิน บางคนฟังแล้ว ถึงกับน้ำตาซึม คิดว่า สมัยเรียนกรูว่ากรูแย่แล้วนะ แต่เจอของจริง เรานี่ชิดซ้ายไปเลย

ประเด็นรอบนี้ ที่เราว่าไม่โอเค คือ ถามไปถามมา พบว่าเด็กจำนวนหนึ่งพยายามดิ้นรนช่วยเหลือตัวเองเต็มที่ หางานนอกเวลาทำ หลายงานจำเป็นต้องทำตอนเย็นไปยันดึกๆ ดื่นๆ ...แต่พอดึกปั๊บ ปัญหาของพวกเขาก็คือ กลับเข้า "หอใน" ไม่ได้ เพราะหอในปิดเร็ว เด็กพยายามแจ้งเหตุผลแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผล บอกแต่ว่า "ถ้ายอม เด็กคนอื่นๆ ก็จะเอาอย่างบ้าง".... เราก็เฮ้ยยยย ไม่ใช่แล้ว

เข้าใจใช่ปะฮะว่าหอในน่ะ มันตกเดือนละ 1,000-1,200 แต่หอนอกก็จ่ายอีกเท่าตัว เด็กพวกนี้แทนที่จะได้อยู่หอใน เลยต้องออกมาอยู่หอนอก เพื่อจะได้ทำงานพิเศษ

ระบบ "หอพักในสถาบันการศึกษา" จนถึงศตวรรษนี้แล้ว ก็ยังไม่ไปไหนแฮะ ยังไม่อยากให้คนเป็นผู้ใหญ่ รับผิดชอบตัวเอง คอยกดขี่เอาไว้ให้อยู่ใต้ปกครองตลอดเวลา ภายใต้คำอ้างสตึๆ ว่า เพื่อความเป็นระเบียบวินัย เพื่อไม่ให้ประพฤติออกนอกลู่นอกทาง เพื่อนั่นเพื่อนี่.. คิดกันก็แต่ว่าเด็กที่กลับดึกๆ ดื่นๆ แมร่งก็คือ "เด็กเที่ยว" "เด็กใจแตก" หรือการแข็งทื่อไม่ยอมมีข้อยกเว้นให้กรณีอะไรเลย ก็คือ การปัดภาระการตรวจสอบ ปัดให้เด็กไปแก้ปัญหากันเอาเอง... ในหมู่กรรมการเลยคิดว่าคงต้องเสนอเรื่องนี้ไปที่มหาลัยดูว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง

แต่เห็นแบบนี้แล้ว ก็เบื่อนะฮะ สังคมคุณพ่อคุณแม่รู้ดี ที่ทรีตคนแบบที่คิดว่าไม่มีวิจารณญาณ คิดเองไม่เป็น รับผิดชอบตัวเองไม่ได้ แต่พอเด็กคิดเองได้ ก็บอกว่าก้าวร้าวบ้าง ไม่เคารพผู้ใหญ่ ไม่รักดี ฯลฯ ราวกับว่าอะไรๆ ที่ผู้ใหญ่คิดไว้แมร่งถูกต้องไปหมด เป็นความดีสัมบูรณ์ #สังคมเส็งเคร็ง"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

11 Nameless Fanboi Posted ID:TStoSu3PU

>>10 มึงเป็นอาจารย์ยังไม่เห็นทำเหี้ยอะไรเลยนิ
#มิตรสหายข้างโต๊ะ

12 Nameless Fanboi Posted ID:9vQbX8/bh

ผมรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยว่าทำไมรางวัลโนเบลสาขาเคมีปีล่าสุดที่ประกาศผลไปเมื่อเดือนตุลาคม 2016 ถึงเลือกให้รางวัลกับผู้ที่คิดค้นโมเลกุลที่สามารถควบคุมให้เกิดการหมุนแบบมอเตอร์ (molecular motor) ไอเดียฟังดูน่าสนใจอยู่นะ แต่ก็แอบคิดว่ามันจะเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้ (วะ)

หกเดือนต่อมา มีข่าวในแวดวงนาโนเทคโนโลยีว่า นักวิทยาศาสตร์จากห้องแล็บต่างๆ ทั่วโลกสร้าง "รถนาโน" ที่มี molecular motor เป็นตัวขับเคลื่อนให้ล้อหมุนได้ แล้วจับพวกมันมาวิ่งแข่งกัน ผมยิ่งรู้สึกตลกเข้าไปใหญ่ ตกลงไอ้ที่ได้โนเบลกันโครมครามนี่มึงจับมาแข่งเอามันส์แบบนี้กันเหรอครับ

แต่เมื่อสองวันที่ผ่านมา ทัศนคติเชิงลบที่เคยมีต่อ molecular motor ของผมนี่หายไปจนหมดสิ้นหลังจากได้อ่านผลงานวิจัยเรื่องหนึ่งที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร Nature เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่ผ่านมา

จั่วหัวว่า Nature ขนาดนี้ มันต้องไม่ธรรมดาแน่นอน !!

ทีมวิจัยจาก Rice University ในสหรัฐนำโดยศาสตราจารย์ James M. Tour ได้สังเคราะห์โมเลกุลขึ้นมาชุดหนึ่งโดยได้รับแรงบันดาลใจจากโมเลกุลต้นแบบของ Ben Feringa เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเคมีปีล่าสุด โมเลกุลที่ว่านี้มีพันธะเคมีอยู่หนึ่งตำแหน่งที่สามารถสั่งการให้มันหมุนได้โดยใช้แสงยูวีเป็นตัวควบคุม

ศาสตราจารย์ทัวร์ได้ออกแบบโมเลกุลให้มีหัวที่แหลมและสามารถเจาะทะลุอะไรบางอย่างได้ แถมยังติดขาให้มันสองข้างด้วยสายเปปไทด์ (โปรตีนสายสั้นๆ) ให้มีความจำเพาะเจาะจงกับพื้นผิวพิเศษที่เขาอยากจะเจาะมันลงไป พื้นผิวที่ว่าก็คือ "เยื่อหุ้มเซลล์" นั่นเอง

ภาพที่เกิดขึ้นมาในหัวของเขาตอนออกแบบการทดลองก็คือการสั่งให้โมเลกุล "สว่าน" ของเขาเจาะลงไปบนเยื่อหุ้มเซลล์จนเกิดรูเต็มไปหมด พอถึงการทดลองจริงๆ ศาสตราจารย์ทัวร์และทีมวิจัยก็นำเอาเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากมาทดสอบดูเพื่อความสะใจซะเลย

เมื่อนำเซลล์มะเร็งมาแช่ในสารละลายที่มีโมเลกุลสว่านผสมอยู่ โมเลกุลสว่านจิ๋วจะเข้ามาเกาะบนเยื่อหุ้มเซลล์ได้เองโดยใช้ขาเปปไทด์ที่ออกแบบไว้เป็นตัวจับยึด เมื่อถึงเวลาอันสมควรฤกษ์ ศาสตราจารย์ทัวร์ก็กดปุ่มเปิดแพรคลุมป้าย ฉายแสงยูวีลงไปที่เซลล์มะเร็ง

พันธะเคมีที่ได้รับแสงยูวีถูกกระตุ้นให้เกิดการหมุนด้วยความเร็วสูง สว่านจิ๋วจึงเจาะทะลวงเข้าไปในเยื่อหุ้มเซลล์ได้เมื่อฉายแสงเพียงแค่ 3 นาทีเท่านั้น เซลล์มะเร็งที่เคยมีเยื่อหุ้มเซลล์ปกป้องก็ถูกสว่านเจาะจนพรุน ไม่นานนักเซลล์มะเร็งก็ถึงแก่ความตาย

การค้นพบนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของรักษามะเร็งด้วยวิธีใหม่ จากการฉายแสงวิธีเดิมที่ทำร้ายเซลล์ดีๆ ไปพร้อมกันด้วย ต่อไปนักวิทยาศาสตร์จะออกแบบโมเลกุลของสารเคมีให้เฉพาะเจาะจงกับเซลล์ที่ป่วยแล้วเข้าไปบำบัดที่กลุ่มเซลล์ที่กำลังมีปัญหาเพียงจุดเดียวเท่านั้น

ถ้าการรักษามะเร็งแบบเดิมเรียกว่า "เคมีบำบัด" ผมขอเรียกวิธีการใหม่ที่ทีมวิจัยของศาสตราจารย์ทัวร์คิดค้นขึ้นมาว่า "สว่านเคมีบำบัด"

โคตรเท่เลยครับศาสตราจารย์ !!!

อ่านเพิ่มเติม - Nature 2017, DOI: 10.1038/nature23657

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

13 Nameless Fanboi Posted ID:TStoSu3PU

>>12 https://pantip.com/topic/36834103

14 Nameless Fanboi Posted ID:+pKMaeXpo

Tokyo Idol [Kyoko Miyake, 2017]

หากหนังเรื่องนี้เป็นหนังรอมคอม หนังเรื่องนี้คงดำเนินเรื่องตามสูตรของชายหนุ่มผู้ต่ำต้อยหลงรักหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ และทำทุกทางเพื่อให้หญิงสาวคนนั้นเจิดจรัสโดยไม่หวังแม้แต่ความรักตอบกลับมา แต่ Tokyo Idols กลับไม่ใช่หนังแนวนั้น ซ้ำร้ายมันคือหนังสารคดี และมันคือเรื่องจริง !!!

จากจุดเริ่มที่อยากไปทำความรู้จักโลกของ Idol ผลิตภัณฑ์อันดับต้นๆที่ทำเงินมากที่สุดของญี่ปุ่น ในวันที่ความน่ารักถูกแปรเปลี่ยนเป็นสินค้า สิ่งๆนี้ช่วยพยุงวิกฤตเศรษฐกิจที่เกือบพังในยุค 90s ก่อนจะเฉิดฉาย และกลายเป็นการปฏิวัติวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตมนุษย์ในเวลาต่อมาจวบจนปัจจุบัน กลายกลับเป็นว่าเรามองเห็นด้านโรแมนติคที่สารคดีมอบให้ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังและรู้สึกประทับใจ

เราเห็นภาพหญิงสาวที่ไม่ได้สวยนัก เป็นไอดอลก็ได้แค่ระดับอินดี้ แต่กลับถูกรุมล้อมด้วยชายวัยกลางคน ที่บางคนดูภายนอกก็ช่างดู Underdog และไม่เอาถ่าน กลับตะโกนกู่ร้อง เต้นท่าประหลาดในสายตาคนทั่วไป “ทำไมเขาถึงเลือกมานั่งปลาบปลื้มเด็กสาวคราวลูก ซื้อของ รอจับมือพูดคุยเพียงนาที ถ่ายรูปโพราลอยด์ ... เขาทำไปเพื่ออะไร”

สารคดีแบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่
หญิงสาว > ไอดอล > มีความฝันอันยิ่งใหญ่
ชายหนุ่ม > โอตะคุ > เผชิญความจริงอันโหดร้าย

หญิงสาว > ไอดอล > มีความฝันอันยิ่งใหญ่
ดูเหมือนทั้งสองสิ่งจะตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าหนังจะเล่าไอดอลมากมาย แต่เหมือนจงใจจะโฟกัสไปที่ไอดอลที่ริโอะ หญิงสาวที่ไม่ต่างกับเด็กสาวญี่ปุ่นทั่วๆไปที่มีความฝันจะเฉิดฉายในวงการบันเทิง แต่ริโอะอาจจะน่าสนใจมากกว่าตรงที่เธอทะเยอทะยาน เธออยากเป็นนักร้อง แม้ว่าเธอจะเป็นไอดอล แต่เธอก็ยังเดินสายไปประกวดในเวทีต่างๆเพื่อที่จะก้าวไปไกลกว่านั้น

ชายหนุ่ม > โอตะคุ > เผชิญความจริงอันโหดร้าย
ตรงกันข้ามกับโคจิ ชายหนุ่มที่เผชิญหน้ากับความจริงอันขื่นขม วิกฤติวัยกลางคนมันพยายามบีบเขาให้แคบลง แคบลง ให้กลายเป็นเพียงชายหนุ่มที่จืดจางกับชีวิต ไม่หลงเหลือความฝันใดๆ ใช้ชีวิตเพียงบริหารลมหายใจไปกับการเวลาอย่างสิ้นหวัง จนกระทั่งได้รู้จักกับริโอะ มันเหมือนช่วยกระตุ้นเขาให้กลับมามองชีวิตอย่างมีหวังอีกครั้ง ริโอะช่วยเร่งสีสันในชีวิตอันแสนจืดชืดให้กลับมาสดใส เขารวบรวมทีมที่คลั่งไคล้เหมือนกับเขา ตั้งตนเป็นกลุ่ม Rio Brothers ทำการซักซ้อมท่าร้องก่อนไปดู มีการประชุมอย่างมีแบบแผน ซื้อดอกไม้เป็นกำลังใจ เพียงหวังผลตอบแทนเป้นเพียงการพูดคุยไม่กี่ประโยคต่อครั้ง รอคอยเพียงการทักทายจากหญิงสาวที่ตัวเองรักว่า “ตัดผมเหรอคะ ดูดีขึ้นนะ” ... แค่นั้น

เราในวัยที่อาจจะต่างกับโคจิไม่กี่มากน้อย ได้แต่นั่งเฝ้ามองดูโคจิที่เหมือนกระจกสะท้อนภาพความสิ้นหวังและท้อแท้ คนเราต้องใช้ความอดทนขนาดไหนในการเปลี่ยนตัวตนที่อยู่ในกรอบมาโดยตลอดชีวิต มาเป็นผู้ชายถือกระบองไฟเต้นแร้งเต้นกาแบบทุ่มทั้งตัวเพื่อใครก็ไม่รู้ เพื่อหวังให้คนที่เขารักก้าวสู่เส้นชัย ภาพที่เห็นคือ หญิงสาวคนหนึ่งใช้ความฝันกรุยทางเพื่อบรรลุสู่ความเป็นจริง ในขณะที่ชายหนุ่มเลือกหลบลี้ความจริงเพื่อเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ แม้บทสรุปสุดท้ายจะแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตเหงาๆ แต่พวกเขายังดูเหมือนมีความหวังเพื่อจะได้พบกันในวันพรุ่งนี้ต่อไป

ท่ามกลางความสับสนของชีวิต Tokyo Idols ไม่เพียงแค่ถ่างมุมมองมนุษย์ให้กว้างขึ้น โอบกอดผู้คนที่อาจแปลกประหลาดในสายตามนุษย์ปกติให้เข้าใจพวกเขา แต่มันยังโรแมนติกและทรงพลังมากๆอีกด้วย

โปรดไปดูเถิด

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

15 Nameless Fanboi Posted ID:TStoSu3PU

>>14 เพราะไม่มีเมีย

16 Nameless Fanboi Posted ID:XMopXca4t

ออกุนเจริญ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

17 Nameless Fanboi Posted ID:XNeaniC84

ผมก็จบจากคณะนี้ ขอให้ข้อมูลเชิงลึกอีกด้านหนึ่ง อยากบอกว่าวัฒนธรรมระบอบอุปถัมภ์หยั่งรากลึกมากครับ

อาจารย์หลายๆ ท่านเป็นคนใจดี แต่เป็นอาจารย์อีลีทฝ่ายขวา คือลูกศิษย์จนไม่รังเกียจ หลายท่านดูแลลูกศิษย์แก้ปัญหาชีวิตให้ บางคนเสนอควักตังค์ส่วนตัวให้ด้วยซ้ำ คือจุฬาก็มีเงินอยู่แล้ว และตัวอาจารย์เองส่วนใหญ่ก็เป็นอีลีทที่มีเงินอยู่แล้ว

มันเข้า typical วัฒนธรรมครูศิษย์แบบไทยๆ เลย สมประโยชน์กัน คนจนเข้าจุฬาได้ครูบาอาจารย์ไม่รังเกียจนะ แต่มีข้อแม้คือถ้าอยู่ในกรอบอีลีทครูๆ ก็จะช่วยกันดันให้พวกคุณมีชีวิตที่ดีขึ้น เลื่อนสถานะทางสังคมได้ แต่ต้องเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาท รู้จักกาละเทศะ สัมมาคารวะ

ในจุฬาจึงไม่ค่อยมีใครประกาศตัวว่าซ้ายอย่างโจ่งแจ้ง คิดดู อาจารย์ให้โอกาสมอบความเมตตาแก่ลูกศิษย์ แต่ลูกศิษย์เห็นอาจารย์ไปเป่านกหวีด ก็ใบ้แดกสิครับ ทุนการศึกษาที่อาจารย์อุตส่าห์วิ่งเต้นเดินเรื่องให้ เค้กวันเกิดที่อาจารย์อุตส่าห์ซื้อให้ ทริปเที่ยว สัมมนาเปิดหูเปิดตาต่างๆ ที่อาจารย์เป็นคนจัดให้ลูกศิษย์มีคุณภาพชีวิตที่ดีและหวังว่าจะเลื่อนสถานะทางสังคมได้

หากใจไม่แข็งจริงเรื่องอุดมการณ์ฝ่ายซ้าย อย่าเรียนที่นี่เลยครับ คุณจะดาวน์เกรดความคิดเชิงประชาธิปไตยและเสรีภาพลงไปไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ถึงจะไม่รุนแรงแต่ต้องมีบ้างแน่ๆ อาจที่มีมุมทำให้คุณใจอ่อนแล้วนึกถึงภาคแรงงานภาคประชาชนน้อยลง บางมุมคุณอาจจะเคลิ้มฝันว่าคุณกำลังจะเป็นอีลีทไปอีกคนจากระบบที่อีลีทช่วยหนุนคุณ อย่างจริงใจด้วยในนามของความเป็นครูศิษย์ (แบบประเพณีไทย) สุดท้ายก็กลืนไปกับระบบด้วยคำว่าสำนึกบุญคุณหรือเกรงใจผู้ใหญ่

หากไม่อยากกระอักกระอ่วนเรื่องนี้ในภายภาคหน้า จิตใจไม่แนวแน่มากพอ ขอแนะนำไปเรียน มธ ตั้งแต่แรกเถอะครับ ปรัชญาของเขาต่างกันกับจุฬาตั้งแต่รากฐานแล้ว อยู่ที่นี่ถ้้าไม่แน่วแน่พอ ระบบอุปถัมภ์ผลประโยชน์จากอีลีทมันสามารถกลืนคุณให้เจือจางอุดมการณ์ได้จริงๆ ครับ ที่เนเน่เค้ายังแสดงจุดยืนงี้อยู่ในจุฬาอยู่ได้ ผมขอนับถือว่าเค้าแน่วแน่ในจุดยืนอย่างกล้าหาญชาญชัยจริงๆ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

18 Nameless Fanboi Posted ID:XMopXca4t

>>17 ไม่ได้เข้มแข็งอะไรหรอก แต่ไม่มีใคร "อุปถัมภ์" แม่งมากกว่า มันเลยไม่สำนึกบุญคุณระบบอีลีท

19 Nameless Fanboi Posted ID:k62pQUtcG

ผมไม่กล้านั่งเพราะคนอื่นเค้ายืนกันหมดเลย ถึงแม้ผมจะรังเกียจคนที่ต้องยืนให้แค่ไหนก็ตาม ความรู้สึกไม่ต่างกับมีคนขี้รดบนหัวแต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ซ้ำร้ายยังต้องกราบขอบคุณที่มาขี้รดใส่หัวอีก ขอโทษที่ผมได้แต่พิมพ์ ผมแค่อยากสารภาพว่าผมขี้ขลาดเท่านั้นเอง
#มิตรสหายท่านดึก

20 Nameless Fanboi Posted ID:TStoSu3PU

>>19 มึงเป็นริสซี่เหรอ

21 Nameless Fanboi Posted ID:UMUJ+P5rY

ทุนนิยมสามานย์ คำนี้มันไม่เพิ่งบัญญัติขึ้นมาในสมัยทักษิณนะเว้ย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

22 Nameless Fanboi Posted ID:nPd9opfgL

>>17 มีมหาลัยไหนเป็นฝ่ายซ้ายบ้างวะ

23 Nameless Fanboi Posted ID:Wdlr/MgEd

มหาลัยฝ่ายซ้าย ลิเบอร่านว่าไง?

24 Nameless Fanboi Posted ID:ElyG2qflR

ไทยไม่มีซ้ายหรอก มีแต่ขวาน้อยกับขวามาก

25 Nameless Fanboi Posted ID:.yHe6k8eL

ผู้ชายเค้าต้องการผู้หญิงที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่ในวันที่ไม่มีอะไรเลย แต่ผู้หญิงต้องการผู้ชายในวันที่เค้ามีพร้อมทุกอย่าง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

26 Nameless Fanboi Posted ID:jMke.1tcO

มีสุดยอดเทคนิคช่วยคลายความเครียด ความกังวลใจ อย่างหนึ่งที่ใช้ได้ดีโคตรๆ กับตัวผมใน 2-3 ปีที่ผ่านมาอยากมาแบ่งปัน
หลายคนรวมถึงผมเอง มักจะหากิจกรรมเบาๆ ทำ ดูหนังฟังเพลง เล่นเกม นั่งสมาธิ ออกกำลังกายเคลียร์หัว มันก็ช่วยได้ระดับหนึ่งนะ แต่ไม่ใช่ทางออกที่ใช้ได้ทุกครั้ง
แต่มันมีอะไรง่ายๆ อย่างหนึ่งที่ผมลองแล้วเวิร์คมาก ทำง่าย ทำไว ได้ผล และเป็นอะไรที่น่าจะทำได้ทุกคนเวลากังวลใจ มีปัญหารุมเร้า
มันคือการทำ To-do-list ครับ!!!
แค่นั้นแหละ... ไม่ได้ซับซ้อนเลย
ถึงตัวเองจะเป็นคนอารมณ์ดีแค่ไหน มันก็ต้องมีบ้างบางช่วงที่งานมันตึงๆ กระหน่ำมารอบทาง ปนเปกับสิ่งที่ต้องทำทั้งเรื่องส่วนตัวและปัญหาจุกจิกที่เราต้องแก้ไข
การมานั่งสงบๆ และลิสต์สิ่งที่ต้องทำแม่งช่วยได้เสมอ
มันเหมือนเป็นการบังคับเราหา Solution ให้กับทุกปัญหาที่กำลังเจอ อย่างเป็น "รูปธรรม" ที่สุด
เครียด งานเยอะ... ก็ลิสต์มาสิ ว่าตรูต้องทำอะไรบ้าง ทุก task แตกมาให้หมด จะ 10 จะ 20 ก็ต้องจด วางแผนงานใหญ่ ทำ Present ติดต่อใคร ตามงานใคร เล็กๆ น้อยๆ จดไปให้หมด เอาให้แบบทำหมดลิสต์นี้แล้ว กูว่างแน่ๆ ไปเลย
เจอปัญหาอะไรหนักๆ ก็แตกมาเป็นข้อๆ ไปว่าต้องทำอะไรบ้างเพื่อแก้ไขมัน ...บางทีมันยังแก้ไม่ได้หรอก แต่ก็ต้องลิสต์ task ที่จะช่วยให้มันดีขึ้นลงไปด้วย
เช่น สมมติผมมีนิยายใน Fictionlog ขายไม่ดี ก็ไม่ใช่ลิสต์ไปส่งๆ ว่า "โปรโมต xxx ให้ขายได้" ไรงี้นะ มันต้องเป็นรูปธรรมชัดเจนประมาณว่า "สรุป strategy ใหม่สำหรับเดือนหน้ากับทีม ในการโปรโมท xxx ภายในสัปดาห์หน้า" อะไรแบบนี้ ...ผมไม่ได้ใส่ไปด้วยซ้ำว่าทำให้มัน" ขายได้" เพราะมันไม่การันตี วัดผลช้า แต่การคุยวางแผนกับทีม อันนี้เราทำได้แน่นอน เป็น actionable task
เครียด ทะเลาะกับแฟน ก็ลิสต์ไปด้วยว่า โทรง้อแฟน เรื่องส่วนตัวจะกับเพื่อน กับแฟน กับครอบครัว ใส่ไปให้หมด
อะไรเล็กๆ น้อยเช่นการโทรติดต่อคน ก็ใส่ลงไปด้วย task ย่อยๆ พวกนี้แหละ มักเป็นสิ่งที่ทำให้เรากังวลโดยไม่รู้ตัว อารมณ์แบบ "เชี่ย ลืมโทรหา xxx ว่ะ ว่าขอยืม xxx" "เห้ย ลืมบอก xxx เลย ว่าต้องให้มันติดต่อคนนี้ให้หน่อย" ไอพวกนี้นี่ตัวดี ลิสต์ลงไปด้วย
ถ้าเราลิสต์เป็น task ที่ต้องทำไม่ได้จริงๆ เราจะได้รู้ไปว่ามันทำไรไม่ได้ และแค่ปล่อยวาง เพราะบางอย่างต้องใช้เวลาแก้แหละ
สำคัญว่าทุก task ที่ลิสต์ลงไปต้องเป็น actionable task จริงๆ ทำเสร็จแล้วขีดฆ่ามันได้ และให้ดีควรจะมี timeframe กำหนดด้วย
ลิสต์เสร็จแล้วใส่ Priority ให้มัน
อันไหนด่วนสุด อันไหนรอได้
และก็ค่อยๆ เคลียร์ไป ทีละ task ไปเรื่อยๆ
หลังจากทำสิ่งนี้มาหลายปี
มันทำให้รู้ว่า จริงๆ เราไม่ได้กังวลงานเยอะขนาดนั้น ...เรากลัวความไม่รู้มากกว่า
ปัญหามันมีอยู่แล้ว และไม่มีวันหมดแน่ๆ
อย่างน้อยๆ การทำอะไรแบบนี้ เราก็ "เห็น" ปัญหาชัดขึ้น รู้ว่าต้องทำอะไรเพื่อแก้ไขม้น มากกว่ามานั่งกังวลว่า... โอ้ย ชีวิตพังมากช่วงนี้
ไม่เชื่อลองลิสต์ To-do-list ตัวเองออกมาดู
เชื่อไหม ว่าลิสต์ออกมาหมด ไม่ว่าจะ 10 ข้อหรือ 100 ข้อ โดยยังไม่ทำอะไรสัก task เราก็สบายใจขึ้นแล้ว
เพราะเรารู้แล้วไงว่าต้องทำอะไร
อย่างน้อยเราก็รู้แล้ว ว่าเราเครียดเพราะสิ่งเหล่านี้
ทางออกจากความกังวลใจ มันเลยง่ายแสนง่าย ก็แค่ทำให้เสร็จ แล้วขีดฆ่ามันออก
...แค่นั้นเอง
ลองดู : ))

27 Nameless Fanboi Posted ID:v9CFFAiQh

"มีสาวแอดมา น่ารักเลย เคยเรียนเซนต์คาเบรียลด้วย"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

28 Nameless Fanboi Posted ID:8bBn//Be.

สอนหนังสือล่าสุด ให้ นศ.เลือกลงทุนหุ้น1ใน3ตัวจาก Amazon, Google, Domino-pizza พร้อมเหตุผล เขาเลือก Amazon เพราะกาแฟขายดี คนสอนกลุ้มใจเลยครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

29 Nameless Fanboi Posted ID:0fCp3JOL0

>>27 รร.ชายล้วน สัส 5555+

30 Nameless Fanboi Posted ID:YGfDam69T

>>27 มุขมึงได้ 55555

31 Nameless Fanboi Posted ID:AauAb0gFM

ไอ่เกม H ที่ต้องเล่นสองมือหนูให้แม่งเป็นเกมดีไซน์ที่ล้มเหลวหมดอ่ะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

32 Nameless Fanboi Posted ID:9RbyYVJjy

Age of Prohibition: ยุคอดเหล้าเน่าเหม็น

ภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่นับวันสูงขึ้น การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพุทธศาสนา การไล่ปิดสถานบันเทิงที่ขายเครื่องดื่มให้ปิดแต่หัววัน ตลอดไปจนถึงโฆษณางดเหล้าต่างๆ ของ สสส. ที่ประณามหยามเหยียดคนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นคนบาปชั่วร้าย แต่ในอีกด้าน เจ้าสัวโรงเหล้าโรงเบียร์ก็ใช้เงินจากธุรกิจเหล้าเบียร์ไล่กว้านซื้อที่ดินและกิจการ ครองระบบเศรษฐกิจชาติโดยได้รับการยกย่องในสังคม ร้านเหล้าในสนามบินและโรงแรมหรูหราเปิดขายทุกเวลา เสมือนกับว่า หากเป็นชนชั้นล่างแล้ว การดื่มสุราก็เป็นเรื่องผิดบาปเลวร้ายเหลือทน แต่เมื่อร่ำรวยแล้วกฎของศีลธรรมและบาปผิดก็ไม่นำมาใช้เลย

ทำให้หวนไปนึกถึงยุคหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ยุคที่อาชญากรรมและความรุนแรงเฟื่องฟู แก๊งอาชญากรใต้ดินเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐแทรกซึมทุกส่วน ยุคที่เกิดการฟื้นฟู "ศีลธรรมดั้งเดิมของคริสเตียน" ไปพร้อมกับความหน้าไหว้หลังหลอก ยุคที่สุราเมรัยเป็นความผิดอาญา

ยุคแห่งการห้ามดื่มเหล้า Age of Prohibition

ปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 การดื่มเหล้าดีกรีแรงแพร่หลายไปทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา สภาพคนเมาเหล้าหยำเปนอนตามข้างถนนเป็นภาพที่เห็นได้ทั่วไป ร้านเหล้า บาร์ เป็นแหล่งซ่องสุมของอาชญากร เป็นช่องทางคอร์รัปชัน จนเกิดความรังเกียจจากคนในสังคม โดยเฉพาะหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ความเชื่อมั่นในความรู้ ความดี และจริยธรรมของมนุษย์จากวิทยาศาสตร์เริ่มเสื่อมทรามลง โรงเบียร์ โรงเหล้า ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ผลิตมีเชื้อสายเยอรมันถูกมองว่าเป็นศัตรูมามอมเมาชายหนุ่มกำลังของชาติ

กลุ่มสหภาพสตรีคริสเตียนเพื่อการเลิกเหล้า Woman's Christian Temperance Union ได้รณรงค์ให้เห็นถึงพิษภัยจากสุรา โฆษณาเรียกร้องโดยใช้ภาพภรรยาที่ถูกสามีขี้เหล้าทุบตี การรณรงค์ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากแนวเคลื่อนไหวฟื้นฟูความเชื่อโปรเตสแตนท์ (Pietistic Protestant) โดยชี้ให้เห็นว่าการดื่มเครื่องดองของเมาทำให้ขาดจากพระเจ้า และมีข้อเชื่อชี้ไว้ในพระคัมภีร์เก่า กลุ่มคริสเตียนโปรเตสแตนท์เหล่านี้สามารถระดมทุนล็อบบี้สมาชิกสภา และสร้างแนวร่วมในทางการเมืองได้มาก จนกระทั่งให้สภาคองเกรสแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมฉบับที่ 18 ในวันที่ 16 มกราคม 1920 แม้ว่าประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน ในขณะนั้นได้มองการณ์ไกลและใช้สิทธิ์วีโต้ไปแล้วก็ตาม

เหล่านักรณรงค์เลิกเหล้าได้ประกาศชัยชนะว่าเป็นชัยชนะของศีลธรรมและความสงบเรียบร้อยในสังคม

แต่ทว่า ผลที่แท้จริงนั้น กลับตรงกันข้าม

กฎหมายวอลสตีด (Volstead Act) ที่ออกมาภายหลังการแก้รัฐธรรมนูญ ได้ห้ามการดื่มเหล้า การจำหน่ายและจ่ายแจกเหล้าและเครื่อมดื่มแอลกอฮอล์โดยสิ้นเชิง เว้นแต่ไวน์ในพิธีทางคริสตศาสนาจำนวนน้อย ซึ่งถูกกำกับโดยรัฐ และโบสถ์ส่วนหนึ่งก็หันไปใช้น้ำองุ่นแทน รวมถึงการจ่ายวิสกี้เป็นยาโดยต้องมีใบสั่งแพทย์ ผู้ที่ฝ่าฝืนมีความผิดทางอาญารุนแรงมากน้อยไปตามแต่รัฐบัญญัติในแต่ละมลรัฐจะกำหนด

(มีต่อ)

33 Nameless Fanboi Posted ID:9RbyYVJjy

(ต่อจาก >>32 )

ในทางปฏิบัติแล้ว กฎหมายนี้แทบจะถูกละเลยโดยสิ้นเชิง

กลุ่มอาชญากรรมเดิมได้สร้างเครือข่ายเหล้าเถื่อน (Moonshine) ขึ้นใต้ดินทดแทนร้านเหล้าดั้งเดิมโดยไม่ต้องเสียภาษีอีกต่อไป ใช้เงินจากสุราเมรัยซื้อตัวผู้รักษากฎหมายในทุกชั้นตั้งแต่ตำรวจ นายอำเภอ จนถึงอัยการ ศาลและนักการเมือง ตลอดทั้งทศวรรษที่ 1920 อาชญากรรมจากเหล้าที่เห็นต่อหน้าอาจจะลดลง แต่อาชญากรรมแบบองค์กรที่เกิดขึ้นจากเครือข่ายมาเฟียค้าเหล้าซับซ้อนซ่อนลึกลงไป และรุนแรงมากยิ่งขึ้น ในนิวยอร์ก มาเฟียหลายเชื้อชาติเปิดฉากแย่งชิงธุรกิจเหล้าเถื่อนและค้ามนุษย์ซุกซ่อนในแหล่งเสื่อมโทรม ในรัฐต่างๆ ล้วนแล้วแต่บ่มเพาะสร้างมาเฟียท้องถิ่น เข้าสวามิภักดิ์มาเฟียใหญ่ที่กุมเครือข่ายค้าเหล้า ในขณะที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดักจับแต่ผู้ขายเหล้าต้มเหล้าขนาดเล็ก แต่ปล่อยให้มาเฟียใหญ่ลอยนวลจากกฎหมายทั้งปวง

ถึงจะมีรัฐธรรมนูญและกฎหมายอาญากำหนด แต่ในนิวยอร์กเพียงเมืองเดียว ก็มีร้านเหล้าผิดกฎหมายถึงแสนร้าน สร้างความร่ำรวยให้มาเฟีย กลุ่มอิทธิพลพนักงานรัฐและนักการเมืองที่เกี่ยวข้องมหาศาล โดยประเทศชาติไม่ได้ภาษีแม้แต่เซนต์เดียว

ในส่วนของการบิดกฎหมายเพื่อแสวงหาสุรามาดื่ม โบสถ์ท้องถิ่นและแพทย์ ได้รับรายได้จากการออกใบอนุญาตให้ซื้อไวน์และวิสกี้เพื่อกิจกรรมทางศาสนาและการแพทย์ จนเกิดช่องว่างการค้าไวน์และวิสกี้จากโบสถ์และคลินิก เป็นความเสื่อมและการคอรัปชันรุนแรง

ความรุนแรงของเหล้าเถื่อนทวีมากขึ้น มาเฟียอเมริกันยิ่งสร้างสมอิทธิพลสูงขึ้นจนเหนือเจ้าหน้าที่รัฐ การรณรงค์เพื่อเลิกเหล้าของกลุ่มคริสเตียนคนดีและหวังจะให้ได้ผลดีโดยการบังคับ ได้นำไปสู่ปีศาจตัวที่ใหญ่กว่า โดยเฉพาะเจ้าพ่อมาเฟียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค "อัล คาโปน" และแก๊งอาชญากรรมที่ถูกนำมาเล่าขานในภาพยนตร์มากมาย

อัล คาโปนสร้างตัวจากการก่อตั้งกลุ่มค้าเหล้าเถื่อนในชิคาโกด้วยวัยเพียง 20 ปี ก่อนจะสยายปีกเข้าครอบงำมาเฟียกลุ่มอื่น ใช้เงินจากอาชญากรรมหว่านโปรยแจกทานให้กับคนจนเพื่อเรียกคะแนนนิยมเป็นเกราะกำบัง อัลคาโปน สั่งให้ลูกสมุนก่อเหตุสังหารหมู่คู่อริทางการค้าที่หักหลังในวันวาเลนไทน์เลือดอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองในปี 1929

เหล้าเถื่อนนำมาซึ่งสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ ทั้งค้ากาม ค้าอาวุธ และความรุนแรงจนประชาชนเริ่มทนไม่ไหว นักการเมืองในสภาที่หน้าฉากสนับสนุนศีลธรรมการเลิกเหล้าหลายคนถูกเปิดโปงและแฉว่าเกี่ยวข้องกับการค้าเหล้าเถื่อนและอาชญากรรม กฎหมายที่หวังว่าจะนำมาซึ่งศีลธรรมและลดทอนความรุนแรงอาชญากรรมในสังคม กลับสร้างความรุนแรงยิ่งไปกว่าเดิม

เสียงสนับสนุนของกฎหมายนี้อ่อนลงตามลำดับพร้อมกับการตีความแนวคิดทางศาสนาเพื่อตอบโต้จากฝั่งคาทอลิกและลูเธอรัน จนกระทั่งเกิดสภาพเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปี 1929 ภาษีและคลังของประเทศอยู่ในสภาพวิกฤต หลายคนเริ่มคิดถึงภาษีจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่จะมาถมท้องพระคลังที่ว่างเปล่า

อัล คาโปน ถูกจับด้วยคดีหนีภาษีในปี 1931 ก่อนที่จะถูกตั้งข้อหาให้เขาอีกยาวเป็นหางว่าว อัลคาโปนถูกคุมขังในเรือนจำความมั่นคงสูง ทั้งที่สถานกักกันอีสเทิร์นสเตตเพลนิเทนเชียรี่ในฟิลาเดลเฟียและบนเกาะอัลคาทราซ

แฟรงคลิน ดี รูสต์เวลท์ ชูนโยบาย "ยกเลิกการห้ามดื่มและขายเหล้า" เป็นนโยบายเรือธงหนึ่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 1932 นอกเหนือจากนโยบายนิวดีลอันลือลั่น คะแนนเสียงที่ได้จากผู้สนับสนุนการยกเลิกกฎหมายนี้ช่วยให้รูสเวลท์ชนะเลือกตั้งอย่างขาดลอย และในปีถัดมา 1933 รูสเวลท์ก็ได้สนับสนุนใหเแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 21 ยกเลิกข้อแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 18 ออกจากสารบบกฎหมายสหรัฐอเมริกาโดยสิ้นเชิง

จอห์น ดี ร็อกกีเฟลเลอร์ อภิมหาเศรษฐีใจบุญ ผู้สนับสนุนกฎหมายอดเหล้าในปี 1919 กล่าวด้วยความเสียใจในปี 1932 ว่า

"เมื่อแรกนั้น ข้าพเจ้าก็เห็นว่าการห้ามดื่มเหล้าเป็นเรื่องดี แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็พบว่าผิดอย่างมหันต์ เมื่อคนเริ่มทำผิดกฎหมายด้วยการดื่มเหล้าที่ถูกห้าม เขาก็จะไม่เคารพกฎหมาย และสังคมก็จะไม่เคารพกฎหมายที่ใหญ่กว่านั้น ผู้ทำลายกฎหมายก็จะมากขึ้น และอาชญากรรมก็ทวีขึ้นอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน"

เมื่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กลับมาขายได้เป็นปกติ อาชญากรรมจากการค้าเหล้าเถื่อนก็ลดลง ตำรวจและผู้รักษาความยุติธรรมกลับมาบังคับใช้กฎหมายได้เต็มที่อีกครั้ง

ปิดฉากยุคแห่งศีลธรรมจอมปลอมและการอดเหล้าที่เน่าเหม็น ซึ่งเป็นผลการทดลองทางสังคมที่หลายชาติหลังจากนั้นนำมาคิดใคร่ครวญก่อนใช้ศีลธรรมทางศาสนาตัดสินใจสร้างนโยบายทางการเมืองมาอีกยาวนาน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

34 Nameless Fanboi Posted ID:+3aiClHm4

กำลังคิดถึงเพื่อนประเภทนึงครับ ที่....

- รู้ว่าตัวเองเล่นเกมกากสุด แต่ก็ยังจะชวนเพื่อนเล่นบ่อย ๆ

- อยากเล่นเกมกับเพื่อนมาก ถึงขนาดจะเลี้ยงก็ยอม

- ตอนแข่งเกมกับมันโคตรจะเกลียด แต่พออยู่ทีมเดียวกัน รู้เลยว่าไอ้นี่แหละพึ่งพาได้มากที่สุด

- เป็นคนเรียกสติเพื่อนกลับมา ในตอนที่เราติดเกมจนจะทิ้งการเรียนแล้ว

- ลุกไปต้มมาม่า แล้วใส่มาหลายห่อ เพราะรู้ว่าเพื่อนต้องขอแดกด้วยแน่นอน

- นัดไปไหนก็มาสายตลอด แต่ก็เป็นการสายแบบสม่ำเสมอ จนเรากะเวลาได้ ว่าถ้านัดตอนนี้ ไอ้เหี้ยนี่ต้องเลทโผล่มาเวลานี้แน่ ๆ

- กล้าที่จะเช็คชื่อแทนเพื่อน

- จดสูตรเกม หรือเทคนิคที่ตัวเองตกผลึกแล้ว ซีรอคแจก หรือไม่ก็ทำเป็นกองกลาง ให้อ่านกันได้ทั้งร้าน

- เลือกที่เอาเงินที่กินจากเพื่อนได้ตอนเล่นเกม มาต่อค่า ชม. แล้วเล่นเกมอื่นต่อ แทนที่จะเข้ากระเป๋าแล้วกลับบ้านไป

- ให้กำลังใจเพื่อนตอนที่สอบตก หรือเกรดไม่ดี ทั้งที่ตัวเองแย่กว่านั้นอีก

- เล่นเกมแพ้กี่ครั้ง ก็ไม่เคยโกรธเพื่อน ตลกกลบเกลื่อนไปเรื่อย

- ดีลไอเทมที่ตัวเองหวงนักหนา ให้เพื่อนเอาไปใช้ตั้งตัว

- ยอมทอดไข่ให้เพื่อนอยู่หลังร้าน ในขณะที่เพื่อนยังนั่งเล่นกันอยู่

- ปากดีตลอดเว ด่าคนโน้นคนนี้ไปเรื่อยตอนเล่นเกม แต่ก็เป็นที่ปรึกษาเพื่อนในยามฉุกเฉินตลอด

- แบ่งหน้าที่กัน กูทำงานแทนมึงเอง ส่วนมึง เล่นเกมแทนกูหน่อย ฉากนี้กูไม่เก่ง

- รู้ทั้งรู้ว่าจอยไม่ดี แต่ก็ขี้เกียจอ้าง ปล่อย ๆ ไปเถอะ

- เล่นเกมเก่งแต่กับกูคนเดียว แต่คนอื่นแม่งไปแพ้เขาตลอดเลยสัส พออยากชนะก็มาลงที่กู เหี้ยเอ้ย !

#เออ #คิดถึงพวกมึงนะเว้ย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

35 Nameless Fanboi Posted ID:fYxIOuV4T

ขี้แพ้ในนิยามไทย คือพวกแพ้บ่อย แพ้ประจำ แพ้แล้วยังสู้ แพ้แล้วไม่ยอมเลิก แพ้แล้วลองใหม่ เพราะพวกนี้จะมีสถิติการแพ้เยอะ โดยคนไทยชอบคิดในแนวหัวทาส คือไม่คิดจะสู้ อยู่สบายๆ ใครกดหัวก็ให้ยอม และจะชอบเหยียดหยามดูถูกผู้ด้อยกว่าเป็นนิจ โดยพวกนิสัยไทยๆ จะชอบมองที่ว่าขี้แพ้คือคุณสมบัติของบุคคลนั้นๆ

คนไทยคิดว่าขี้แพ้เป็นยังไง
1 ทำอะไรแล้วทำไม่ได้ในทันที ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติว่ะ มันมีใครที่คลอดจากท้องแม่แล้วคำนวณตรีโกนฯได้วะ ไปถามคนส่วนใหญ่มันยังคำนวนเรเดี้ยนไม่เป็นเลย การที่คิดว่าคนที่มาถึงก็ทำได้ ถึงจะไม่ใช่พวกขี้แพ้ ในความคิดของผมเป็นความคิดแบบ Loser เต็ม ๆ เลย
2 แพ้แล้วก็แพ้ คือตรงนี้ตลกมาก คนไทยคิดว่าคนที่แพ้เรื่องเดียวกันซ้ำๆ คือพวกขี้แพ้ โดยไม่ได้เข้าใจความหมายของการแพ้เรื่องเดียวกันซ้ำๆ เลย ความจริงแล้ว คนที่แพ้เรื่องเดิมซ้ำ แสดงว่า เค้ามีการทำซ้ำเรื่องที่เค้าแพ้ นั่นหมายความว่า เค้าไม่ได้เลิก หลังจากที่เค้าพ่ายแพ้ แต่เค้ามาพยายามทำมันอีกต่างหาก ถ้าใครตอนเด็กๆ เราล้มแค่ครั้งเดียว นั่นหมายความว่าปัจจุบัน คนๆ นั้น เดินไม่ได้ครับ การล้มซ้ำๆๆๆๆ คือกระบวนการเรียนรู้ และพัฒนา คนที่คิดแค่เค้าแพ้แล้วแพ้อีกแล้วคิดว่าเค้าคือขี้แพ้ คือความคิดของพวกขี้แพ้ครับ
3 แพ้แล้วยังพยายามสู้ คนไทยมองพวกนี้เป็นขี้แพ้ คนไทยกับคนญี่ปุ่น มีทัศนคติเกี่ยวกับความพ้ายแพ้ในทางลบพอๆ กัน ต่างตรงที่ คนญี่ปุ่นถ้าพ่ายแพ้คือยอมไม่ได้ มี 2 อย่างคือตายหรือสู้ให้ถึงที่สุด แล้วตาย แต่คนไทย แม้จะมีทัศนคติเชิงลบกับความพ่ายแพ้เช่นเดียวกับญี่ปุ่น แต่แสดงออกต่างกัน โดยทัศนคติแบบไทยๆ จะเลี่ยงไปทำอย่างอื่น คือถ้าแพ้ ก็ไม่เอาเลย ตรงนี้ชัดเจน ว่าทัศนคติแบบไทย คือทัศนคติแบบขี้แพ้
แต่แม้ที่ว่ามา จะเป็นนิสัยไทยๆ คำสอนแนวลุกขึ้นสู้ สู้จนสุดกำลัง สู้ให้ถึงที่สุด กลับเป็นคำสอนที่ไทยนิยมมาก แต่นิยมน่ะนะ ไม่ได้คิดจะเอามาใช้จริง พอเห็นใครแพ้แล้วลุกขึ้นมา คนไทยก็จะเหยียดเป็นขี้แพ้
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

36 Nameless Fanboi Posted ID:GV/CWwLqd

เห็นดีไซน์ iPhone 8 แล้วทำไมรู้สึกเหมือนว่ามันเป็นของตกยุค แบบ ยังไม่ขาย ตกยุคแล้ว

ฟัง Keynote แล้วเหมือนฟังงานเปิดตัว iPhone 7 อีกรอบ ~.~

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

37 Nameless Fanboi Posted ID:LIX/V+qVZ

"ผมทำงานให้พี่สืบ"
- มิตรสหายท่านนั้น

"ควย"
- มิตรสหายท่านอื่นหลายๆท่าน

38 Nameless Fanboi Posted ID:QjQFUmXKp

"ไอ้ค่านิยมส่งตัวแทนมาสู้กัน(โดยเฉพาะในวงการศิลปะการต่อสู้)นี่มันมาจากไหนนะ
แบบ คุณไม่เคยฝึกมวยไทยเลย คุณไม่ได้ออกกำลังกายด้วยซ้ำ และบัวขาวไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่บัวขาวชนะฝรั่งคุณจะภูมิใจทำไมวะ
แล้วค่านิยมนี้ผมว่าเป็นปัญหาในวงการต่อสู้มาก ชอบเอามาวัดกันว่าสำนักไหนเก่งกว่า ยิวยิตสุชนะยูโด เอ็มเอ็มเอชนะไอคิโด มวยไทยไร้เทียมทาน ทั้งๆที่จริงๆมันก็แค่ นาย a ชนะนาย b (ในกติกาที่นายaถนัด) เท่านั้นเอง
และสุดท้าย ไอ้ความเห็นพวกเนี้ย มักจะมาจากลุงแถวบ้านที่ขึ้นบันไดเหนื่อยต้องใช้หลานไปแทน
ไม่เข้าใจ"
- มิตรสหายฯ

39 Nameless Fanboi Posted ID:9yOVwzoY+

"ถ้านักการเมืองไทยหยุดโกงเพียงสองปี ถนนประเทศไทยจะปูด้วยทองคำก็ยังได้"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

40 Nameless Fanboi Posted ID:aj/TBoy2T

>>39 ชะโงกดูประเทศอื่นด้วยว่ามันปูด้วยทองคำได้ไหม

#มิตรสหอยทั่น1

41 Nameless Fanboi Posted ID:J5.4yDZUR

Q: ทำไมถึงมีแต่ social justice warrior ไม่มี social justice mage, social justice priest, social justice barbarian บ้าง

A: เพราะพวกเค้าไม่มี intelligence หรือ wisdom พอที่จะเล่นเวทย์หรือพระ และไม่มี constitution มากพอที่จะเป็นบาบาเรียน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

42 Nameless Fanboi Posted ID:56ZWHvr63

"ทำไมมันดีจัง ทำไมมันดีกว่าชาวบ้านเค้า"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

43 Nameless Fanboi Posted ID:FbUO3g30r

ผมว่าคนซื้อมือถือถูกหรือแพง มันเป็นสิทธิของเขานะ

คือทุกวันนี้มันสามารถพิสูจน์ได้แล้ว ว่าสมาร์ทโฟน มันไม่ใช่สิ่งของไร้สาระ เหมือนที่ชอบพูดๆกัน

ทุกวันนี้ สมาร์ทโฟน เป็นหนึ่งในเครื่องมือจำเป็นที่สามารถสร้างรายได้ สร้างเครือข่าย ทำการตลาดได้จริง รุ่นเรือธง ของบางค่ายแม่งทำได้ยันกราฟฟิค ยันตัดคลิปวิดีโอพรีเซ้นต์งานอย่างง่ายๆได้เลย

ผมต่อต้านแนวคิดที่ชอบบอกกันว่า "สมาร์ทโฟนเป็นของฟุ่มเฟือย ไร้สาระ เอาเงินไปซื้อมอไซต์ ทำโน่น ทำนี่ดีกว่า"

แม่งตรรกะเดียวกันกับพวกที่ชอบว่า "ชาวบ้านกู้กองทุนหมู่บ้านมาซื้อรถกระบะ แล้วก็เป็นหนี้ ไม่รู้จักพอเพียง ฯลฯ"

แล้วถ้ารถกระบะนั้นมันใช้ในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ทำมาหากินหละ?

พูดกันอย่างง่ายๆ มันคือ "ตรรกะง่าวๆ + ความเสือก"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

44 Nameless Fanboi Posted ID:usYZaoWfw

>>43 กองทุนหมู่บ้าน = สร้างอาชีพ
KEK

45 Nameless Fanboi Posted ID:qoxd.kgds

>>43 ถ้ามองในแง่นั้น เอาเงินกองทุนหมู่บ้านไปซื้อคอมยังคุ้มกว่าสมาร์ทโฟนอีก Iphone X เครื่องเดียวซื้อคอมได้โคตรแรง

46 Nameless Fanboi Posted ID:g/yXrMS3e

>>43 จะมีซักกี่คนที่ซื้อมือถือแพงเรือธงของค่ายเพื่อ"เอาไว้ทำงาน"

มันซื้อเพราะเท่+ใช้ง่ายเป็นเหตุผลหลักทั้งนั้นแหละ ถ้าจะทำงานเขาซื้อโนตบุคกัน ราคาเท่ามือถือเรือธงแต่ทำได้เยอะกว่าจม

47 Nameless Fanboi Posted ID:JQNAjszJP

พวกตอนคดีผู้ว่าแม่ฮ่องสอนหายไปไหนหมดคับ

48 Nameless Fanboi Posted ID:hOTE+RayV

>>47 หายเงียบตอนผลสอบออกมาแล้วผู้ว่ามีหลักฐานชัดว่าเวลาที่เด็กมันอ้างผู้ว่าอยู่ กทม.
คนไทยก็เงี้ย อยากเห็นคนใหญ่คนโตโดนเล่นงาน แต่พอหลักฐานออกมาแล้วเงิบก็ไม่ขอโทษ
แถมบางคนยังแถว่าผู้ว่าไปจ้าง ปลัด อบต. มารับบาปแทนตัวเอง

49 Nameless Fanboi Posted ID:2Po+4tFmy

ฟรีไซส์ = กูมีไซส์เดียว ใส่ไม่ได้ก็เรื่องของมึง
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

50 Nameless Fanboi Posted ID:vPHZ65OO9

อยากแชร์ แต่ยังแคร์ชีวิต
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

51 Nameless Fanboi Posted ID:tESsFNfLB

>>47-48 ตามความเข้าใจกู
คนเยดเด็กมันไปคุยโม้กับเด็กว่ากูเป็นผู้ว่า(ตำแหน่งในอนาคต)

เด็กมันก็เลยเชื่อว่าไอ้คนเยดเป็นผู้ว่า เลยบอกสื่อไปว่าเป็นผู้ว่า แต่จริงๆเป็นคนละคน

พอให้ดูหน้าผู้ว่าตัวจริงเด็กมันเลยงงชักไม่แน่ใจ คนเลยสงสัยฟันธงไปอีกทางว่าเด็กโดนสั่งอุดปาก

พอผู้ว่าตัวจริงหาหลักฐานจากกทม.มาแย้ง ได้ประกอบกับหลักฐานทางอื่นมัดอีกคนที่แหลเป็นผู้ว่าเยดเด็ก คดีเลยปิด

ไอ้ที่เหี้ยคือบรรดาคนนอก ไม่รู้ควยอะไรขอด่าไว้ก่อน ตัดสินตั้งศาลเอาเอง

52 Nameless Fanboi Posted ID:5++TvTzKD

>>51 กูเชื่อว่าถ้าคนเย็ดเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเอกชน คนจะไม่ด่าเยอะขนาดนี้
ที่ด่าเยอะเพราะคนไทยมันฝังใจกับพวกข้าราชการ

53 Nameless Fanboi Posted ID:wSkqrgj3K

เพจมิตรสหายฯเอาโปรกากๆจากเศษฝรั่งมาอวยว่าเทพ เจ๋งกว่าโปรของไทย กรรมกรแรงงานชั้นสวะ
ลูกเพจก็เลียไข่กันสนุกสนาน ทั้งที่พวกแม่งก็ไม่เคยใช้จริง

ดูรีวิวเมืองนอก ฝรั่งพร้อมใจกันแจก1ดาว โปรกากเหี้ยๆ

#มิตรสหายโม่งทั่น1

54 Nameless Fanboi Posted ID:.jdVtcqBr

ถ้าเอาแบบลึกๆ เชิงปรัชญาหน่อย โดยส่วนตัวผมค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องวิทยาศาสตร์จะมาครอบมนุษยศาสตร์มากเลยนะ

คือเวลาจะอธิบายปรากฏการณ์อะไรสักอย่างเกี่ยวกับพวกมนุษย์เนี่ย
พวกสายลิเบอรัลอาร์ต ปรัชญา ประวัติศาสตร์ มานุษยวิทยา วรรณคดี ดนตรี ศิลปะการละคร วัฒนธรรมศึกษา นี่เหมือนฝ่ายซ้าย คือเชื่อในความเป็นมนุษย์ ใช้ informal logic เป็นหลัก ส่วนพวกวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ พันธุกรรม การแพทย์ วิทยาการคอมพิวเตอร์ประมวลผลประเมินคนอะไร ต่างๆ นี่เหมือนฝ่ายขวา ใช้ formal logic เป็นหลัก

ส่วนแอเรียระหว่างมนุษย์ศาสตร์กับวิทยาศาสตร์กลางๆ ได้แก่ พวกสถิติ เศรษฐศาสตร์ จิตวิทยา สังคมศาสตร์เชิงปริมาณ พวกนี้โดยมากถึงจะกลางๆ แต่จริตเอนไปทางวิทยาศาสตร์อยู่แล้วครับ โลกในวันนี้ถึงเน้นการพัฒนาแบบสมัยใหม่จนพื้นที่ของลิเบอรัลอาร์ตเริ่มอ่อนด้อย เช่น คุณเริ่มเกิดความคิดมองว่าชนเผ่าที่อ่านหนังสือไม่ออกแต่มีพิธีกรรมเต้นระบำรำฟ้อนอย่างปราณีตเพื่อรักษาความป่วยไข้ความแห้งแล้งเป็นเรื่องไร้สาระ เสียเวลาบ้าๆ บอๆ ใช้วิทยาศาสตร์แก้ไขก็จบแล้ว

งานศึกษาทางวิทยาศาสตร์หรือสังคมสังคมศาสตร์สายอิงวิทยาศาสตร์ ทำให้เกิดมายาคติครอบงำการตีค่ามนุษย์ขึ้นมาครับ เช่น คนเอเชียสายมองโกลอยหรือพวก sino โดยเฉลี่ยมีค่าไอคิวสูงกว่าสายอื่นๆ คนตัวสูงมีแนวโน้มฉลาดกว่าคนตัวเตี้ย คนทีครอบครัวไม่แตกแยกพ่อแม่มีเวลามีแนวโน้มจะเติบโตมาหารายได้ได้ดี จริงอยู่ด้านหนึ่งเรารู้สึกตัดสินใจได้ง่ายขึ้นจากข้อมูลที่วิจัยและสรุปออกมา แต่อีกด้านมันสร้างภาพเหมารวมและเกิดเป็นกำแพงตีตรา แบ่งแยกคนด้วยความคิดแบบต้องการสิ่งที่ significant เลี่ยงความเสี่ยง เลี่ยงความล้มเหลว เลี่ยงความไร้ประโยชน์ ทุกอย่างที่เลือกที่ทำ แม้กระทั่งจะเลือกคบใครเป็นเพื่อนหรือจะมีเซ็กส์กับใครคนชาติไหนยังต้องมาวิเคราะห์จากภาพเหมารวมพวกนี้เลยว่า มีประโยชน์มากน้อยต่อชีวิตเราหรือเปล่า ไอ้พวกผลการศึกษาอ้างว่ามันอ่อนแอ มันคิดลบ มันคุณลักษณะไม่ตรงก็อย่าไปมีเอี่ยวด้วย ไปคบหาทำความรู้จักกับคนที่เข้่าเกณฑ์ดีกว่า

การเหมารวมมันก็มาจากชุดข้อเท็จจริงที่นำเสนอออกมาจนสังคมรับรู้เป็นภาพใหญ่ เกิดเป็น majority แบบวิทย์ๆ นี่ละครับ หน้าที่ในการรักษาสมดุลให้ตราชั่งมันไม่เอนไปสุดด้านคือเอาความคิดสายมนุษย์ศาสตร์ โดยเฉพาะความคิดเชิงวิพากษ์มาคัดง้างให้กับคนที่อยู่ในกลุ่ม minority พวกคนชายขอบ คนถูกละเลย อย่างกรณีสาวไทยขายตัว คุณจะอธิบายแบบ formal logic จัดๆ จนเกิดเป็นภาพเหมารวมก็ได้ เช่น เขาไม่มีการศึกษาที่ดี ผู้หญิงไทยภาคไหนมีแนวโน้มขายตัวมากกว่าภาคอื่นๆ แต่สายมนุษย์ศาสตร์ที่อิง informal logic เราจะมองไปถึงความจำเป็นของเขาที่ต้องเอาตัวรอด การใช้ภาษีกระจายโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรและพัฒนาชีวิตที่เขาขาดโอกาสไปจึงมาเลือกเส้นทางนี้

มนุษย์เรา ณ ตอนนี้ ยังไม่ใช่ Absolute Being หริอสิงมีชีวิตที่มีพัฒนาการสูงสุดครับ ข้อจำกัดของเรายังมีอีกมาก และยังสามารถทำอะไรโง่ๆ ไม่สร้างสรรค์ บ่อนทำลายต่อกันได้อีกเยอะ ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ก็ตาม

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

55 Nameless Fanboi Posted ID:t5aCXkeOo

"จิดกำ ก็แบบนี้แหละครับ ถ้ารุ่นพี่ให้จับจู๋ ก็จับ หรือถ้าต้องดูด ต้องเลีย ก็ลุยไปเลย เพราะเมื่อจบมาแล้ว รุ่นพี่จะพาให้งานของศิลปินหน้าใหม่อย่างเรา เข้าไปอยู่ในแกลลอรี่เศรษฐีหน้าเดิมๆ ของประเทศนี้เอง ทุกอย่างมันเป็นระบบของมัน"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

56 Nameless Fanboi Posted ID:uMeK8CRT7

ไม่อยากแชร์เรื่องคนของพระราชาเพราะไม่อยากเพิ่มจำนวนการจองที่นั่ง เดี๋ยวไม่ทัน
มิตรสหายท่านนึง

หนังหรือบรรยาย???
เพื่อนของมิตรสหายท่านนึง

57 Nameless Fanboi Posted ID:6igIHfsPe

2 ปีที่ผ่านมา ได้ยินคำว่า "Influencer of Influencer" บ่อยมาก

เป็นคนกลุ่มที่ Follower ไม่ต้องเยอะ (แต่จะเยอะก็ได้) แต่คนที่ตามจะเป็นกลุ่ม Influencer ต่ออีกทีนึง เรียกว่าถ้าคนนี้พูดถึงอะไร Influencer ทั้งวงการจะพูดถึงต่ออีกเวฟนึง ซึ่งถ้านับเอาเฉพาะ Reach ของคนนั้นต่อ Follower ก็จะไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ถ้าวัด Impact ที่กระเพื่อมไปสู่สังคมผ่าน Influencer รายอื่น ๆ กลับกลายเป็นเยอะแยะมากมายมหาศาล

และนี่คือความเท่ เพราะ ... กลายเป็นว่าตัวเลขมันวัดกันไม่ได้แล้วไง ใช้ความรู้สึกในการประเมิน Impact เอาล้วน ๆ 555 (ความจริงก็วัดได้แหละ แต่ไม่ตรงไปตรงมา)

ช่วงก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีใครสนใจคนกลุ่มนี้เท่าไหร่ แต่ทำไมไม่รู้ ปีสองปีที่ผ่านมามีแบรนด์เริ่มเลือกคนที่เป็น Influencer of Influencer มาร่วมงานมากขึ้น โดยเฉพาะแบรนด์ใหญ่ ๆ งานใหญ่ ๆ งานต่างประเทศอะไรงี้ ทั้ง ๆ ที่มันวัด Impact กันยากมาก แต่พอถามแบรนด์เค้าก็ตอบง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า "เค้าเชื่อ"

คนไทยที่เรารู้จักแล้วอยู่ในระดับนี้ถือว่ามีน้อยมาก ๆ คุณสมบัตินึงที่ต้องมีคือ "Trustfulness" แบบ สิ่งที่คนนั้นพูดถึงจะต้องน่าเชื่อถือและต้องมีมุมมองที่เฉพาะตัว เวลามองสิ่งใด ๆ จะเห็นสิ่งที่น่าสนใจที่คนอื่นมองไม่เห็นและสื่อมันออกมาได้ กลายเป็นผู้มองเห็นข้อมูลที่ไม่สามารถหาจากที่ไหนได้ ไม่ใช่แค่อ่านจากสื่อนอกเอาก็เจอ ซึ่งการจะทำแบบนี้จะต้องมีประสบการณ์ด้านนั้น ๆ มาพอสมควร และต้องไม่มีเรื่องเสีย ๆ หาย ๆ เช่นรับเงินมาอวแบบไม่ลืมหูลืมตา เพราะจะทำให้เสีย Trust ไป

ที่เล่ามาไม่มีอะไร เผอิญช่วงสองเดือนนี้โดนแบรนด์ 4-5 เจ้าวานให้ช่วยแนะนำ Influencer ที่สามารถสร้าง Impact ได้ให้หน่อย เลยมีโอกาสได้รวบรวมข้อมูลคนในวงการอยู่ และการหา Influencer of Influencer นี่ยากดั่งหา Block บิตคอย์นเลยทีเดียว

แต่พอเจอแล้วก็ประทับใจนะ ไอดอลเลย =)

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

58 Nameless Fanboi Posted ID:wxr9C9G6Z

สะท้อนสังคม vs นำสังคม
❝ ในประเทศเกาหลี สื่อเขาสร้างหนัง
ที่พระเอกเป็นผู้ชายอบอุ่น โรแมนซ์
เพราะสังคมเขาผู้ชายที่แต่งงานแล้วถือว่า
มีสิทธิ์เด็ดขาดในตัวภรรยาและบ้านเมืองเขา
มีข่าวตบตีภรรยาในครอบครัวสูงมากถ้าติดตาม
เขาจึงใช้กลยุทธ์ของ modeling process
สร้างค่านิยมใหม่ในสังคม
ให้ผู้ชายเป็นคนโรแมนติคมากขึ้น
นี่คือการสร้างหนังเพื่อปรับพฤติกรรม
แม้กระทั่งในญี่ปุ่น เขาก็สร้างการ์ตูนผู้พิทักษ์ต่างๆ
อุลตร้าแมนฯลฯ เพื่อให้เด็กซึมซับความยุติธรรม
การต่อสู้กับความชั่วหรือในประเทศจีน
ก็จะมีหนังในทำนองนี้เช่นกัน...
ย้อนกลับมามองประเทศไทยสิ
ทำไมละครไทยถึงมีแต่เรื่องเดิมๆ
เป็นอยู่อย่างนี้มา 50 กว่าปี
พออาจารย์ไปถามผู้จัด ก็ได้รับคำตอบว่า
“เราสร้างละครเหล่านี้เพื่อสะท้อนสังคม”
เราจะไป ʽสะท้อนสังคม’ เพื่ออะไร
เพราะเราสะท้อนมา กว่า 50 ปีแล้ว
และเนื้อเรื่องมันก็วนเวียนอยู่แค่แย่งตบตีกันแค่นั้น
ทำไมเราไม่สร้างละคร ʽเพื่อนำสังคม’
เพื่อจูงใจให้เกิดพฤติกรรมดีๆ ล่ะ
มัวแต่ไปสร้างเพื่อสะท้อนสังคม
มันก็ไม่เห็นเกิดการเปลี่ยนแปลง
อะไรในสังคมเลยสักนิด
ในทางจิตวิทยาแล้ว สื่อมีบทบาทสำคัญมากๆ
ในกระบวนการเรียนรู้ผ่านตัวแบบ... ❞

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

59 Nameless Fanboi Posted ID:.OAUNvD/6

Facebook รายงานพฤติกรรมว่า จากเป็นเพื่อน กลายเป็นแฟนกันได้ไง ได้ยังไง

ด้วย Big Data สิครับ

(When you fall in love, this is what facebook sees.)

เฟซบุคได้รับข้อมูลจากพวกเรา(แบบรวมๆ)ว่าเราทำอะไร ประกาศอะไรบนเฟซบุคบ้าง เค้าเลยมีข้อมูลมหาศาลระดับพันล้านข้อมูลมาเก็บไว้

เค้าเลยลองดูว่า ไอ้ข้อมูลที่เก็บมามันบอกอะไรบ้าง ก็มีนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล(Data Scientist) เกิดสงสัยว่า บรรดาคนที่แสดงสถานะเป็นแฟนกันนั้น ก่อนหน้านั้น มีพฤติกรรมการใช้เฟซบุคอย่างไร

เค้าพบว่า

คนที่จะกลายมาเป็นแฟนกันนั้น

- ตอนแรกก็เป็นเพื่อนกันเฉยๆ
- จากนั้นจะมีใครคนนึง กด like รูปเก่าๆของใครอีกคนติดๆๆๆๆๆกัน
- จากนั้น คนๆนั้นจะไป like comment อย่างต่อเนื่องและ
- อีกฝ่ายก็จะเริ่มมาทำแบบเดียวกัน
- จากนั้น ข้อมูลการพูดคุยบนหน้าวอลล์ของทั้งสองจะลดลงอย่างรวดเร็ว (ดูกราฟ)
- เพราะ ทั้งสอง หยุดการแซวหน้าจอ ไปคุยหลังไมค์
- จากนั้น ทั้งสองฝ่ายจะไปเช็คอินที่เดียวกันบ่อยๆ
- อีกไม่นาน เค้าทั้งสองจะโพสต์ว่า "In Relationship "

เรียบร้อยโรงเรียนเฟซบุค

นี่คือ การเอา Big Data มาใช้ครับ

อ่านแล้ว ได้อะไร เช เลียบด่วน เอามาเล่าทำไม

คือ จะบอกว่า ถ้าบริษัทของท่านมีข้อมูลเยอะๆ เช่น เวลาการเข้าออกของพนักงาน วันลาป่วย กิจ วันมาสาย กลับดึก แล้วข้อมูลนี้ หากเอามาวิเคราะห์ดีๆ เราจะทำนายได้ว่า

พนักงานคนไหนจะป่วย คนไหนจะลาออก คนไหนจะเป็นแฟนกัน คนไหนที่จะทำงานดีในอนาคต คนไหนควรให้ออก ด้วยข้อมูลจำนวนมากที่มีในบริษัท

นี่ยังไม่พูดถึงการ ทำนายการสั่งซื้อสินค้าของเอเย่นต์ของบริษัท และอื่นๆอีกมากมาย

ถ้าท่านยังไม่เข้าใจเรื่อง Big Data ว่าจะทำอะไรให้ท่านได้ ท่านต้องรีบทำความเข้าใจนะครับ

Big Data + Artificial Intelligence = future

ใครสงสัยถามได้นะครับ ผมไม่รู้หรอก 5555

https://www.theatlantic.com/technology/archive/2014/02/when-you-fall-in-love-this-is-what-facebook-sees/283865/

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

60 Nameless Fanboi Posted ID:q7Zx.JWDE

น่าแปลกใจ มีเทคโนโลยีที่จะเอามาใช้จ่ายเงินหลายแบบ แต่ไม่มี NFC ซะงั้น
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

61 Nameless Fanboi Posted ID:kLpDG5dkz

เมื่อไหร่เขาจะออกมาประกาศว่า "เราไม่มีฟีเจอร์ใหม่แต่เราลงทุนมหาศาลเพื่อให้ฟีเจอร์เดิมมันดีขึ้น stable ขึ้นใช้งานง่ายขึ้น" หวังว่าสักวัน เขาจะเข้าใจ :)
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

62 Nameless Fanboi Posted ID:q0EyiUx.K

"คือไม่ต้องพูดเรื่องสิทธิมนุษยชนก็ได้ถ้ามันแสลงหูมากนัก

เอาง่ายๆแค่ว่า ถ้าคุณชอบเล่นจู๋ ก็เล่นกันไป แต่ไม่ต้องไปบังคับคนอื่นเขาเล่นจู๋กับคุณ แค่นี้ก็พอมั้ง

แล้วถ้าจะอ้างว่าคนที่สอบเข้ามาเรียน ไม่มีใครบังคับให้มา เลือกมาเรียนเอง งั้นก็เขียนในหลักสูตรให้ชัดเลยสิครับว่าที่นี่นอกจากจะสอนวาดรูปแล้ว ยังสอนให้อาบน้ำรวมหมู่ และเล่นจู๋กันเป็นหมู่คณะด้วย

คิดแล้วก็อาจจะน่าภูมิใจ รำ่เรียนจบออกมา ไปไหนต่อไหน ใครๆเขาก็รู้กันทั่วว่า ศิลปินไทย นอกจากจะวาดรูปเก่ง (และ<เซ็นเซอร์>) แล้ว ยังเล่นจู๋เพื่อนฝูงได้อย่างเชี่ยวชาญอีกด้วย"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

63 Nameless Fanboi Posted ID:/ZPlh4f7d

>>62 จะได้วาดจู๋ออกมาได้หลากหลายและสมจริงเพราะได้สัมผัสมาแล้ว

64 Nameless Fanboi Posted ID:m.B111GZ9

"เมื่อวานไปเป็นพยานที่ศาลมา พอเข้าไปในคอก (มันเรียกงี้เปล่าไม่รู้) จนท. ก็ถามว่าผมนับถือศาสนาอะไร?

ผมไม่รู้จะตอบว่าไงดี เพราะเอาเข้าจริงผมก็ไม่รู้จะอธิบายว่าอะไร เลยตอบส่งๆ ไปตามอย่างที่เคยกรอกเอาไว้ในบัตรประชาชนว่า พุทธ

จนท. เค้าก็พลิกๆ แผ่นป้ายที่แขวนเอาไว้ตรงคอกนั้นแหละ แล้วก็บอกให้ผมพนมมือแล้วอ่านสาบานตน ผมเห็นแผ่นป้ายนั้นเขียนว่าเป็นคำสาบานของคนพุทธ ซึ่งก็เริ่มจากสาบานต่อพระแก้วมรกต เจ้าพ่อหลักเมือง พระสยามเทวาธิราช มาจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในประเทศนี้ บลาๆๆ ซึ่งอ่านไปกูก็งงไปว่านี่แม่งพุทธตรงไหนวะ? ผีชัดๆ แต่ก็เออนี่แหละ ใกล้เคียงกับอะไรที่กูเข้าใจตัวเองที่สุดละ ==

ระหว่างที่เค้าสอบพยาน มันก็จะมีจังหวะว่างๆ ผมนั่งอยู่ในคอกนั่นเป็น ชม. เริ่มรู้สึกเบื่อ ก็เลยเริ่มพลิกป้ายแผ่นอื่นดู ปรากฏว่า ของศาสนาคริสต์ให้สาบานต่อพระเยซูเจ้า ส่วนอิสลามให้สาบานต่อพระอัลเลาะห์ เป็นการสาบานแบบ one stop service ทั้งสองศาสนา ก็เลยคิดว่า เมื่อกี้กูอ่านซะยาว รู้งี้กูตอบศาสนาคริสต์, อิสลาม อะไรไปส่งๆ ดีกว่า

ก็แปลกๆ ดีนะฮะ คือมันไม่มีป้ายสาบานของศาสนาฮินดู ละก็ซิกข์ไปแบบงงๆ แต่ที่เสือกมีแบบเซอร์ไพรส์กูสัสๆ เลยก็คือ ป้ายสาบานตนของตำรวจ และทหาร (ผมไปเป็นพยานที่ศาลทหาร) ที่เขียนในทำนองว่าให้สาบานด้วยเกียรติของตนเอง (ทำนองนี้ฮะ จำไม่ได้ชัด แหะๆ) พูดง่ายๆ ว่า ไม่ต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ในการสาบานแม่งซะงั้น"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

65 Nameless Fanboi Posted ID:/ZPlh4f7d

>>64 ถ้ามึงหัดดูหนังฝรั่งที่เกี่ยวกับขึ้นศาล มึงน่าจะเห็นลูกความสาบานแบบนั้นแหละ

66 Nameless Fanboi Posted ID:M4J5i3eDj

>>64 แล้วถ้ากูบอกว่าเป็นเอทิสต์นี่เค้าจะให้กูสาบานกับอะไรวะ

67 Nameless Fanboi Posted ID:nz6io2v4n

>>66 อยู่ประเทศไหนก็อิงประเทศนั้น

ขนาดปธน.เมกา เวลากล่าวสาบานตนรับตำแหน่งยังต้องสาบานกับไบเบิ้ล ทั้งที่แกอาจไม่ได้นับถือศาสนา

68 Nameless Fanboi Posted ID:dW5RSb/4z

>>66 สาบานต่อเบค่อน

69 Nameless Fanboi Posted ID:/ZPlh4f7d

ปธน.อเมริกา เขาสาบานกับคนนี้ (บุชตัวลูกเป็นคนขับรถ)
https://imgur.com/JawHOzJ
https://imgur.com/QBFfJud

70 Nameless Fanboi Posted ID:/vPJNrliE

สาบานต่อยูจิโร่นี่ดูบิดพลิ้วไม่ได้พอๆกับสาบานต่อแม่น้ำสติกซ์แบบตำนานกรีกเลยว่ะ

71 Nameless Fanboi Posted ID:m.B111GZ9

“แล้วกูก็ไม่รู้ด้วยว่ามึงทำให้คณะกูเสียหาย กูพึ่งดูเมื่อคืน ...เดี๋ยวกูจะไปแอบกระทืบมึง ไปซ่อมมึงส่วนตัว ไอ้ห่ากี่คนนะเมื่อคืนนี้ 4 คน โอ้โห กูจำหน้ามึงได้ เดี๋ยวก็จะขอเวลานอกส่วนตัวกับมึง ซ่อมมึง ขอให้ความสุขความเจริญจงเกิดขึ้นแก่ลูกทุกคน โชคดีมีสุขๆ”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

72 Nameless Fanboi Posted ID:YdYbEkIM0

เวลาเล่นเกม ปกติผมจะเล่น 2 รอบนะ รอบแรกเล่นแบบให้จบ เน้นว่าจบ ไม่สนใจ side quest ไม่สนใจ level ลับ ไม่สนใจการตามหา secret ทั้งหมดในเกม ... มุ่งหน้าทำ quest หลักอย่างเดียว .... แล้วก็อีกรอบเพื่อเก็บรายละเอียด .... แปลว่าผมเล่นเกมอย่างน้อย 2-passes
ผมชอบการ design ระบบเกมของ Diablo 3 มากๆ คือมันจะมีเป้าหมายระยะสั้นที่เราจะต้อง deliver ให้ได้แบบ immediate ขึ้นอยู่ตลอดเวลา และขึ้นหัวข้อใหญ่ไว้ตลอดเวลาว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของ quest ใหญ่กว่านั้นยังไง (ภาพประกอบ: ด้านขวาของภาพ จะมี Quest UI -- รูปเก่ามากล่ะ :P Screenshot ตั้งแต่ปี 57) ... แล้วก็ยังแบ่งเนื้อเรื่องเป็น act ใหญ่ๆ ที่ค่อนข้างจบในตัวเอง
มันเป็นระบบเกมและ UI ที่ออกแบบมาให้เล่นให้คืบหน้าตลอดเวลา เล่นโฟกัสกับเนื้อหาตลอดเวลา ยังไงก็คืบหน้า ไม่มีการเดินวนไปวนมาทำอะไรไม่ถูก ไม่มี quest พอกหางหมูมาตลอดเวลาจนเคลียร์ไม่หมด แล้วก็บอกว่ากำลังเล่นอยู่กำลังคืบหน้าอยู่ แต่จริงๆ ไม่รู้คือยังไงกันแน่ (มันก็เล่นแหละ ของก็เพิ่มขึ้น monster kill ก็เพิ่มขึ้น level ก็ขึ้น ...​ คือ as a character มันก็ดีขึ้น แต่ as a story นี่บอกไม่ได้ว่า progress) ...
ถ้าจะเล่นเอาจบอย่างเดียว แบบไม่สนใจอย่างอื่นเลย เกมนี้จะสามารถเล่นจบได้ใน 1 ชั่วโมง (จบใน 1 ชั่วโมงไม่ง่าย แต่จบได้ ... มันมี challenge "save the world in 60 minutes" ด้วยซ้ำ ทำแล้วได้ achievement ... ก็แปลว่ามัน achievable ... มีคนทำโชว์ใน YouTube ด้วย) ....
แล้วเวลาผมเล่นรอบ 2 หรือว่ารอบหลังๆ จากนั้น ก็จะเป็นการเล่นเก็บรายละเอียดทั้งหมด กับ quest ย่อยเนื้อเรื่องย่อยฉากย่อยทั้งหมดที่ไม่ได้ไป ไม่ได้ลง บริเวณต่างๆ ในเกมที่ยังไม่ได้เข้าไป .... มีเวลาเหลือเฟือ เพราะว่า "ตัวเกมหลักมันจบไปแล้ว เรา deliver ทั้ง story ได้แล้ว ที่เหลือคือเก็บรายละเอียด"
ผมพบว่า เล่นเกมแบบนี้ ถึงจะเล่น 2 รอบ ก็จะใช้เวลาน้อยกว่าเล่นเก็บรายละเอียดทั้งหมดรอบเดียวมหาศาล ส่วนหนึ่งเพราะว่าเรารู้หมดแล้วว่าโครงเรื่องหลักมันคืออะไร อะไรอยู่ตรงไหน และตัวละครในเกมของเราก็จะ level สูงขึ้นด้วย ....
จากนั้นเราก็อาจจะเล่น adventure mode นั่นคือเลือกเล่นฉากไหนก่อนก็ได้ตามใจชอบ เลือกทำ quest ไหนก่อนก็ได้ .... จะสะสมรายละเอียดทั้งหมด ของทั้งหมด ไอเท็มทั้งหมด reward ทั้งหมด (ซึ่งตอนนี้ผมก็ยังเก็บไม่ครบนะ พวก cosmetic items ขาดอีกเพียบ) ก็ทำตอนนี้
การทำงานก็เช่นกัน .....
ผมว่าดีที่สุดก็ทำแบบนี้แหละ อย่าทำงานเก็บรายละเอียดมากไปตั้งแต่แรกเลย มันเสียเวลาโดยใช่เหตุ แล้วจะแย่มากตรงที่ทำยังไงก็ไม่จบไม่สิ้นไม่เสร็จสักทีด้วย

73 Nameless Fanboi Posted ID:orynYmru3

>>72 จุดไข่ปลาเยอะจนกูเอาไปทำซูชิแดกได้ จะจุดทำไมวะเเค่เว้นวรรคก็ได้แล้ว

74 Nameless Fanboi Posted ID:eBoavz1+H

จารย์เหลิมกลัวคนมองคณะว่าป่าเถื่อน ก็เลยจะกระทืบเด็กโชว์ว่าคณะไม่ได้ป่าเถื่อน
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

75 Nameless Fanboi Posted ID:O9jBzsPzm

https://www.wsj.com/articles/is-this-hotel-an-airbnb-killer-1505473207

WSJ : โรงแรมจะปรับตัวยังไงใน Generation Airbnb? ... ทำในสิ่งที่ Airbnb ไม่มีสิครับ

.

Public โรงแรมขนาดกลางใน NYC ที่ตั้งใจปรับตัวมาสู้กับ Airbnb โดยเฉพาะ มีบาร์ 5 แห่งในโรงแรม , มีพื้นที่สังสรรค์ทั้งกลางวันและกลางคืน , มีซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นใต้ดินที่ชื่อ World Foods , ใช้ระบบอัตโนมัติทั่วพื้นที่ในทุกจุดที่เป็นไปได้ , ลดพนักงานต้อนรับ พนักงานหน้าประตู และ Outsource Call Center ออกไปข้างนอก , ลูกค้าสามารถ Message หาโรงแรมได้ตลอดเวลาผ่าน FB Message ซึ่งให้บริการโดย Chatbot ... ส่วนพนักงานที่มีอยู่ เขาเอาไปช่วยเหลือลูกค้าในเรื่องต่าง ๆ ที่พรีเมี่ยมขึ้น

.

ผู้บริหารบอกว่า “The only way you can compete with a strong idea is by having another strong idea.” ... ไม่น่าเชื่อว่าคนที่คิดได้แบบนี้อายุ 71 ปีและทำงานโรงแรมมาตลอดชีวิตครับ ... เชื่อผมหรือยังล่ะว่าไม่ได้อยู่ที่อายุ แต่สำคัญมากที่ Mindset

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

76 Nameless Fanboi Posted ID:3Nl8hdfqQ

"หลี่เฉียว นักปั้นหม้อผู้ลือนามในยุคสามก๊ก เคยบอกกับโจโฉว่า เคล็ดลับที่ทำให้เขาปั้นดินเหนียวที่อ่อนให้แข็งตัวเปนภาชนะที่สวยงามได้นั้น เปนเพราะ หลี่ซืออาจารย์ของเขา สั่งให้ลูกศิษย์ ผลัดกันกำจู๋ ฝ่ายตรงข้าม เพราะในยามสงคราม ดินเหนียวหายาก ถูกนำไปใช้สร้างกำแพงหอรบจนหมด

จู๋นั้นก็เหมือนกับดินเหนียวคืออ่อน แต่พอนวดๆ ไปก็จะเริ่มแข็งตัวเปนรูปทรง
ดังนั้นการจับจู๋จึง เปนการจับฝึกจังหวะ การแข็งตัวของดินเหนียว ซึ่งสำคัญมาก แข็งช้าไปก็ผิดรูป แข็งเร็วไปก็ไม่สวย

โจโฉได้ฟังแล้วจึงดำริให้อาจารย์ตังสินและอาจารย์กำเหลง ก่อตั้งโรงเรียนนวด (ภาษจีนเรียกว่ากาปู๋)
ต่อมาชาวจีนที่เจ้ามาในเมืองไทยได้นำการเรียนการสอนแบบนี้ติดตัวมาด้วย

คนไทยพูดภาษาจีนไม่ชัดจึงเรียก สั้นๆ ว่า สินกำ (ย่อมาจากชื่ออาจาร์ยตังสินและอาจารยกำเหลง)"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

77 Nameless Fanboi Posted ID:I02ha2r73

โจโฉ โจสตาร์?

78 Nameless Fanboi Posted ID:v5iL6.ckK

>>77 ลูกหลานที่เหลืออยู่จะตามล่าตระกูลสุมาข้ามศตวรรษ

79 Nameless Fanboi Posted ID:c+Kl9eGSZ

>>76 เดี๋ยวกุเกือบเชื่อละเรื่องจริงหรือล้อเล่น

80 Nameless Fanboi Posted ID:sU+Fe8VJC

>>77 best jojo confirmed!!

81 Nameless Fanboi Posted ID:+D4bslron

ห่า ทั้งตังสินทั้งกำเหลงเป็นศัตรูของโจโฉทั้งคู่ต่างหาก

82 Nameless Fanboi Posted ID:/rHBEROT1

ไทยมีค่านิยมฝังหัวว่า ทุนนิยม=เลวร้าย
มีกำไร=ไม่มีศีลธรรม
มีเงิน=ไม่มีความสุข
มองว่าเงินหรือของมีค่าเป็นอะไรที่ไม่ดีอะ มันเลยมีตรรกะประเภทมีเงินแล้วมีความสุขหรอ มีเงินแล้วทำไมไม่บริจาค ซื้อของแพงทำไม ตายไปเอาอะไรไปได้บ้าง อะไรเทือกๆนี้ออกมาเยอะแยะไปหมด
ไหนจะไอ้การตีความเศรษฐกิจพอเพียงแบบผิดๆอีกว่าใช้ของแพง=ไม่พอเพียงอีก
ที่สำคัญคือเรื่องขอให้ได้ด่าก่อนเป็นพอใจ สำเร็จความใคร่ทางศีลธรรม
บอกว่าเขาเกเรไม่ตั้งใจเรียนแค่เพราะไปซื้อไอโฟนคนแรกเนี่ยนะ ไม่ทราบว่าได้แกทเชื่อมโยงเท่าไหร่เนี่ย มันเกี่ยวข้องกันได้ไง!

83 Nameless Fanboi Posted ID:f7GpXJHxp

>>82 คนที่พูดเรื่องพวกนั้นคือพวกที่ไม่มีในสิ่งที่มันมองว่าแย่ ไม่ดี
เลยองุ่นเปรี้ยวพูดด่าคนที่มี เพื่อกลบปมด้อยส่วนที่ตัวเองไม่มีแบบเขา
แค่นั้นล่ะไม่มีห่าอะไรหรอก

84 Nameless Fanboi Posted ID:mEqOfehr5

“นี่นาย…เราเรียนศิลปะนะ
ทำไมนายถึงไปให้เขาฝึกทหาร
ซ้ายหันขวาหัน
คนนะนายไม่ใช่ควาย”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

85 Nameless Fanboi Posted ID:.Jx2McsKt

"เมื่อวานเพิ่งเคยเดิน Siam Square One ในจังหวะที่ฝนตก โอ้โห คนออกแบบควรไปฆ่าตัวตายจริงๆ ครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

86 Nameless Fanboi Posted ID:Xqu/G3Klw

>>79 มึงควรไม่เชื่อตั้งแต่ตรงให้จับจู๋แล้วนะ...

87 Nameless Fanboi Posted ID:vJ6jXI0Yw

>>83 พูดสั้นๆ พวกนักหลวมขี้ริษยา

88 Nameless Fanboi Posted ID:tYtC5p5ju

"เราเรียนประวัติศาสตร์ศูนย์กลางจากบางกอกมากเกินไปจนลืมไปแล้วว่านครรัฐต่างๆ ที่รวมกันเป็นอาณาจักรล้านนาไม่เคยขึ้นกับอยุธยา เผลอๆ จะไม่เคยญาติดีกันด้วยซ้ำ จนกระทั่งเจ้ากาวิละลูกเจ้าฟ้าชายแก้ว หลานหนานทิพย์ช้างเจ้าเมืองลำปางไปสวามิภักดิ์พระเจ้าตากสิน และได้แต่งตั้งให้ไปเป็นเจ้าเมืองเชียงใหม่ ขนาดว่าตอนหนานทิพย์ปลดแอกจากเจ้าเมืองลำพูนยังส่งต้นไม้เงินต้นไม้ทองเป็นบรรณาการขอแต่งตั้งจากเจ้ากรุงอังวะเพราะกลัวเจ้ากรุงอังวะจะระแวงว่าจะแข็งเมืองจากพม่า"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

89 Nameless Fanboi Posted ID:YxoGaO1jM

เริ่มรู้สึกตัวว่าญี่ปุ่นเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ไม่ใช่เพราะปฏิทินมันถึงวันเปลี่ยนฤดู ไม่ใช่เพราะอากาศเริ่มเย็น หนังกูหนา กูไม่รู้สึก 555555555 แต่เมื่อเช้าค่ะ เข้าส้วมออฟฟิศ เปิดฝาชักโครก นั่งป๊าบบ
กรี๊สสสสส ตูดอุ่น!!

5555555555555555555555555

อ่าห์..นี่ญี่ปุ่นแล้วสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้วจริงๆ สินะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

90 Nameless Fanboi Posted ID:mAzT.ZyLR

"วันก่อนโน้นครับ...

เช้า : เมียมาส่งหน้าที่ทำงาน
เที่ยง : กินข้าวกล่องที่เมียแพ็คให้
เย็น : เมียมารับกลับบ้าน

อาาา นี่มันสังคมไร้เงินสด"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

91 Nameless Fanboi Posted ID:6AQjx5dm2

"แล้วเราได้ทำให้เชื้ออสุจิกลายเป็นก้อนเลือด แล้วเราได้ทำให้ก้อนเลือดกลายเป็นก้อนเนื้อ แล้วเราได้ทำก้อนเนื้อเป็นกระดูก แล้วเราหุ้มกระดูกด้วยเนื้อ แล้วเราได้เป่าวิญญาณให้เขากลายเป็นอีกรูปร่างหนึ่ง ดังนั้นอัลลอฮฺทรงจำเริญยิ่ง ผู้ทรงเลิศทั้งปวงผู้สร้าง"

ข้อความข้างต้นมาจากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะห์ที่ 23 (บทที่ 23) ชื่อ อัลมุอฺมินูน อายะห์ที่ 14 (โองการที่14) เกี่ยวกับพัฒนาการของตัวอ่อนมนุษย์ในครรภ์

เนื้อหาของกุรอานโองการดังกล่าวขัดกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันหลายจุด กล่าวคือ

1. ในการปฏิสนธิตามธรรมชาติ ลำพังแค่อสุจิไม่สามารถปฏิสนธิและพัฒนาเป็นตัวอ่อนมนุษย์ได้ แต่จะต้องมีเซลล์ไข่ด้วย

(กุรอานโองการก่อนหน้านั้น คือโองการที่ 13 ก็กล่าวถึงเพียงแค่มดลูก ซึ่งคนละเรื่องกับเซลล์ไข่เลย)

2. อสุจิและเซลล์ไข่เมื่อปฏิสนธิในขั้นแรกจะได้เซลล์เพียง 1 เซลล์เท่านั้น เรียกว่า "ไซโกต" ซึ่งไม่น่าจะใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียกว่า "ก้อนเลือด" เลย

3. ตัวอ่อนระยะต่อมา (ซึ่งอาจจะดูเหมือนก้อนเลือด) ไม่ได้พัฒนาไปเป็นกระดูกอย่างที่กุรอานบอก
กระดูกของตัวอ่อนมนุษย์พัฒนาขึ้นภายในตัวอ่อนนั้นเอง

4. ดังนั้น "เนื้อ" ซึ่งกุรอานบอกว่าถูกสร้างขึ้นมาทีหลังเพื่อมาหุ้มกระดูก ก็ไม่มีอยู่จริง

ข้อมูลที่แอดมินพูดมาทั้งหมดนี้สามารถหาอ่านได้ในหนังสือชีวะวิทยา ม.ปลาย

- - - -

แม้เนื้อหาส่วนนี้ของกุรอานจะมีข้อผิดพลาดหลายจุด ดังที่แอดมินได้ชี้ให้เห็นไปแล้วข้างต้น แต่แอดมินก็พบว่ามุสลิมบางกลุ่มกลับมองเรื่องเหล่านี้ในเชิงปาฏิหาริย์หรือเรื่องมหัศจรรย์ เพราะคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่คนธรรมดายุคนั้นจะมีความรู้เรื่องดังกล่าว แล้วก็ไปสรุปว่าข้อความดังกล่าวจะต้องมาจากพระเจ้าอย่างแน่นอน [1] [2]

ก่อนอื่นแอดมินขอให้ข้อมูลก่อนว่า ความรู้เรื่องพวกนี้ไม่ได้เพิ่งมียุคมูฮัมหมัดหรอก แต่มีมาก่อนอย่างน้อยๆก็เป็น1,000 ปี เพราะแม้แต่ในศาสนาพุทธก็กล่าวไว้เช่นกัน [3] [4]

ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับในกุรอาน สิ่งที่พุทธกล่าวไว้ก็มีผิดบ้างถูกบ้าง ตามแต่ภูมิความรู้ของคนยุคนั้น

ถามว่า แล้วคนยุคนั้นรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร?
อาจจะสังเกตุจากตัวอ่อนที่แท้งออกมา ทั้งที่แท้งเองและที่เจตนาทำแท้ง

หรืออาจจะมีการผ่าศพเพื่อศึกษาแล้วตั้งแต่ยุคนั้น
หรือแม้แต่การผ่าคนเป็นๆก็จะเป็นไปได้ อย่าลืมนะครับว่าคนโบราณโหดร้ายว่าคนยุคเราเยอะนะ

อีกอย่าง การผ่าศพเพื่อทำมัมมี่ ควักสมอง ควักไส้ นี่ก็มีก่อนยุคสิทธัตถะเป็นพันปีเหมือนกัน

เราอย่าไปดูแคลนความรู้คนโบราณจนเกินไปครับ
เขาสร้างปีระมิดกันมาหลายพันปีแล้ว

ความรู้ทางคณิตศาสตร์ที่เราเรียนกันตอน ม.ปลาย (อันนี้เอา ม.ปลายสายวิทย์-คณิตเลยนะ) ส่วนใหญ่ก็มีประวัติศาสตร์เป็นพันปีทั้งนั้น
ภาคตัดกรวยก็มีมาตั้งแต่ก่อนยุคเยซู
ตรีโกณนี่ย้อนไปได้ถึงบาบิโลน
แคลคูลัสที่หลายๆคนในยุคนี้พากันร้องยี้ (เพราะยาก) ก็ย้อนไปได้ถึงยุคกรีก

- - - -

อ้างอิง
[1] http://www.islam-guide.com/th/ch1-1-a.htm
[2] http://quran.al-shia.org/th/ahlulbayt-quran/077.htm
[3] http://www.mettadham.ca/buddhist canon2.htm
[4] http://www.ojs.mcu.ac.th/index.php/ojsacademic/article/view/420

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

92 Nameless Fanboi Posted ID:KgJxZm7vN

"if you tolerate this then your children will be next"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

93 Nameless Fanboi Posted ID:zlE3EsEVb

"มิตรสหายเพื่อนรักท่านหนึ่งพูดถึงเรื่อง plaza accord ว่า ตอนเรียนหนังสือครูไม่ค่อยพูดถึง ทั้งๆ ที่มันสำคัญมาก..

เพื่อนพูดถูก...ที่จริงเรื่อง plaza accord นี่มีความสำคัญมาก ตอนเราสอนหนังสือเราพูดเน้นมาก เราคิดว่า plaza accord นี้มันส่งผลชัดเจนต่อการเติบโตของประเทศไทยมากกว่าแผนพัฒนาเศรษฐกิจสมัยตาสฤษดิ์อีก เพราะมันทำให้ญี่ปุ่นย้ายฐานการลงทุนมาที่ไทย มันคือการเปลี่ยนโลกทัศน์การพัฒนาเศรษฐกิจ ที่ให้เอกชนนำหน้าภาครัฐบาล

เดี๋ยวๆ นะ plaza accord คืออะไร

มันคือสนธิสัญญาฉบับหนึ่ง ที่อยู่ ๆ อเมริการู้สึกว่าเสียเปรียบดุลการค้ากับประเทศญี่ปุ่นมาก เพราะสินค้าญี่ปุ่นราคาถูก เลยบังคับให้มานั่งคุยกัน แล้วสรุปให้ญี่ปุ่นเพิ่มค่าเงินเย็น เพื่อให้สินค้าญี่ปุ่นเสียเปรียบสินค้าอเมริกาเวลาส่งไปขายในอเมริกา

เดี๋ยวๆ มันบังคับกันได้หน้าด้าน ๆ แบบนี้เลยเหรอ….

ใช่ค่ะ เศรษฐกิจระหว่างประเทศมันจะคุยอยู่บนพื้นฐานของการเมืองระหว่างประเทศ และถ้าคุณเป็นมหาอำนาจ คุณก็บังคับคนอื่นได้

ญี่ปุ่นมีเหรอจะโง่ สินค้าที่ผลิตจากญี่ปุ่นมีราคาแพงขึ้นก็ไปผลิตที่ประเทศอื่นซะซี่ เอาแผนที่มากางดู ไปที่ไหนดีนะ ไปประเทศไทยดีกว่า เพราะประเทศไทยมีสาธารณูปโภคที่ดี มีไฟฟ้าที่ไว้วางใจได้ มีถนน มีเขื่อน ซึ่งมาจากการพัฒนาเศรษฐกิจในสมัยก่อนหน้านั้น การเมืองก็มีเสถียรภาพในยุคป๋าเปรม อีกอย่างประเทศไทยก็เพิ่งลดค่าเงินบาทถล่มทลายเมื่อปี ค.ศ. 1984 มีอีกอย่างที่สำคัญคือ ประเทศไทยยังความทรงจำที่ไม่ดีกับญี่ปุ่นในระดับที่น้อยกว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชียอาคเนย์ ที่ญี่ปุ่นเคยไปถล่มมาซะยับเยิน

ญี่ปุ่นเลยแห่กันมาเปิดโรงงานที่ไทย

plaza accord คือการขุดหลุมปิดฉาก import substitute และเปิด EOI หรือการผลิตเพื่อส่งออกอย่างจริงจัง มันเข้ามาในประเทศไทยในจังหวะที่พอดี ๆ ที่ประเทศไทยมีถนนหนทาง มีสาธารณูปโภคต่าง ๆ อย่างพร้อมสรรพ์ และเพราะ plaza accord นี้แหล่ะ ทำให้ไทยฝันเฟื่องถึงเรื่อง NICs เลย

(มีต่อ)

94 Nameless Fanboi Posted ID:zlE3EsEVb

(ต่อจากเม้นบน)

เคยอ่านเจอคนพูดเหมือนกันว่า ญี่ปุ่นนี่แหล่ะที่ทำให้ไทยไม่พัฒนา เพราะมาทำ Turn Key Industry คือ เปิดโรงงาน แล้วให้คนไทยมาแค่เปิดปิดเท่านั้น แต่ไม่สอนเทคโนโลยีใด ๆ เรียกได้ว่าญี่ปุ่นนี่แหล่ะทำให้ไทยติดกับดักประเทศรายได้ระดับปานกลาง .... แต่ในจากมุมมองของเราเอง ไม่เห็นด้วยอย่างนั้นค่ะ เพราะหลายประเทศเขาพัฒนาเศรษฐกิจแบบอุตสาหกรรม Turn Key แบบนี้ กันมาก่อน แต่สุดท้ายเขาก็หลุดออกไปได้ ไม่ติดกับดักเหมือนประเทศเรา

ความดักดานจริงๆ น่าจะอยู่ที่ตัวเราเองมากกว่า ซึ่งถ้าให้ชี้ ก็อยากจะชี้ไปที่เทคโนแครตเลยค่ะ

ในสมัยสฤษดิ์ เทคโนแครต คือ จักรกลในการพัฒนาประเทศของไทย เพราะว่าพวกนี้ีมีความเป็นมืออาชีพมากกว่า เกาะเกี่ยวกันเป็นกลุ่มมากกว่า มีพลังมากกว่า เข้าถึงอำนาจรัฐได้ง่ายกว่า

แต่เหตุการณ์ผ่านไป เทคโนแครตไม่ได้พัฒนาอะไรเลย ในขณะที่เอกชนพัฒนาไปมากขึ้น เทคโนแครตกลายเป็นผู้ถ่วงรั้งการพัฒนาประเทศเข้าไปอีก เกาะแต่ระเบียบ ทำตัวเป็นบูโรแครตอย่างแท้จริง บางส่วนแสวงหาช่องว่าง โดยการไปเกี่ยวข้องกับภาคเอกชน เกษียณแล้วก็ไปเป็นกรรมการธนาคาร เป็นบอร์ดโรงงานอุตสาหกรรม ผลประโยชน์ทับซ้อน ส่งเสริมการผูกขาด

การพัฒนาแบบนี้มันง่อย ใคร ๆ ก็รู้ แต่เศรษฐกิจของประเทศมันเคยรันไปได้ ในช่วงที่ทรัพยากรทางเศรษฐกิจยังมากอยู่ และประชาชนในประเทศยังไม่ได้รับสื่อได้กว้างขวางเหมือนสมัยนี้

แต่เห็นไหมหล่ะ ง่อยก็คือง่อย สุดท้ายมันก็ติดกับดักรายได้ปานกลาง ออกไปไหนไม่ได้

ย้อนกลับมาที่ plaza accord

เรามอง plaza accord แล้วคิดว่าการที่ รัฐบาลตอนนี้มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการลงทุนเองมา 3 ปี แล้ว และพบว่ามันไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเท่าไหร่ รากหญ้ายังคงไม่ดีขึ้น ความเหลื่อมล้ำมากขึ้น คนรวยรวยขึ้น คนชั้นกลางจนลง คนจน จนจนไม่มีอะไรจะจนแล้ว จึงมองไปที่ตัวช่วย ที่จะพัฒนาเศรษฐกิจให้ดีขึ้น

ตัวช่วยก็คือเอกชน การทำยังไงก็ได้ห้เอกชนมาลงทุนด้วย ที่เห็นชัด ๆ คือ การเชิญบริษัทญี่ปุ่นมาหลายร้อยบริษัท มาลงทุนใน EEC โดยนัยยะคือ การรื้อฟื้นการพัฒนาแบบ plaza accord model ให้กลับมาอีกครั้ง

แบบนี้ก็ได้เหรอ?

ได้สิ ก็เพราะว่าที่ปรึกษาส่วนใหญ่เป็นเทคโนแครตรุ่น plaza accord ทั้งนั้น

อย่าลืมว่าในปี 1985 คู่แข่งของเราไม่ได้เก่งและเยอะอย่างนี้ ประเทศเพื่อนบ้านของไทยสวนใหญ่ยังไม่สงบ หรือยังเป็นคอมมิวนิสต์อยู่ แต่หันไปดูรอบบ้านตอนนี้สิ เขาเปิดเสรีกันหมดแล้ว แรงงานเยอะกว่าเรา พร้อมอ้าแขนการลงทุนมากกว่าเรา ประชาชนของเขาก็เป็นคนวัยทำงาน ไม่ได้เป็นสังคมผู้สูงอายุแบบสังคมไทย

ทรัพยากรของประเทศไทยมันแทบไม่เหลืออะไรให้ขูดรีดแล้ว ชนบทไม่เป็นที่รองรับการสูบรีดส่วนเกิน ไม่มีแรงงานราคาถูกอีกต่อไป เสถียรภาพทางการเมืองก็ไม่ได้อยู่บนเงื่อนไขเดิม ๆ เพราะการที่ยังไม่กำหนดวันเลือกตั้ง ก็เหมือนประชาชนถูกบีบจมูกอยู่ข้างหนึ่ง ไม่ให้เห็นอนาคต ยังไม่มีทางไป เหมือนไม่ได้คนของตัวเองมาบริหารประเทศ มันจะให้เชื่อใจผู้บริหารได้ยังไง มันไม่ใช่ยุคที่จะให้ขุนศึกกับพ่อค้ามาสามัคคีกันทำอะไรก็ได้กับประชาชน โดยที่ประชาชนไม่มีสำนึกของตัวเองว่าฉันควรจะสามารถกำหนดทิศทางของประเทศได้ด้วยตัวเอง

เพราะมันไม่มีวิธีเดิม ๆ ที่จะแก้ไขปัญหาใหม่ ๆ ได้หรอก"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

95 Nameless Fanboi Posted ID:zROzGKeMG

>>94 แต่ EEC ญี่ปุ่นจองไปเยอะแล้วนะ Airbus ก็จะมาตั้งฐานที่นี่ รถไฟรางคู่จีนก็มาที่นี่ รถไฟความเร็วสูงจากอยุธยามา EEC ญี่ปุ่นก็รีเควส+ขอสร้าง รถไฟความเร็วสูงจากอีสานไปพม่าเกาหลีก็ขอศึกษาความเป็นไปได้ แจ็ค หม่าบอกอาลีบาบาก็จะเข้ามาตอน EEC สร้างเสร็จ

ไอ้ที่บอกว่ารอบด้านพร้อมอ้าแขนรับนะแม่งอ้าจริง แต่มันไปแล้วไม่รอด ญี่ปุ่นเริ่มถอนจากเวียดนามแล้ว ลาวก็ไม่มีอะไรให้ทำนอกจากปลูกกล้วยอาบยาฆ่าแมลง Infrastructure พม่ายังห่างไกลไทยเกินไป เขมรยิ่งไม่ต้องพูดถึง มาเลย์เจิวิกฤตอค่าเงินไปอีกนาน อินโดอาจจะพอได้ แต่ปัญหาคอรัปชั่นหนักกว่าไทย และ Infrastructure ห่างกับไทยเกินไป ฟิลิปปินส์รอสงบกว่านี้ก็สายไปแล้ว

คือกูเห็นด้วยกับตอนต้นนะ แต่ที่บอกว่าเพื่อนบ้านเราแข่งกับเราได้เนี่ย แม่งโคตรจะมนุษย์กรุงเทพเลย แบบมองต่างจังหวัดว่าโลกสวยยังไง ก็มองเพื่อนบ้านว่ามีสายรุ้งแบบนั้นละ คือแข่งนะแข่งได้แน่ "ในอนาคต" แต่ตอนนี้ไทยยังได้เปรียบทุกอย่าง และที่ทำไปทุกวันนี้ โดยเฉพาะพวก Infrastructure ก็เพื่อรักษาความได้เปรียบนี้ให้นานที่สุด

ส่วนคนลงทุน EEC ก็มีมาแล้วไม่ใช่น้อยๆ ไม่ใช่ไม่มี ที่ลงทุน Infrastructure ไปก็เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ถึงตอนนี้ประชาชนจะยังไม่ได้อะไร แต่พอมันสร้างเสร็จก็จะได้แน่ๆ เกินคุ้มด้วย

ปัญหาของเรื่องก็มีแค่ความต่อเนื่องและโครงการลูก เพราะการจะทำให้ EEC เป็นไปตามแผน ต้องมีอภิมหาโครงการ Infrastructure อีกเป็นร้อยโครงการ เรียกว่ามีเท่าไหร่ทุ่มเท่านั้น แบ๊งค์ชาติถึงเพิ่มเงินสำรองระหว่างประเทศเต็มสูบไง เพื่อสร้างความมั่นใจว่ามีหลักประกันสุดท้ายอยู่

96 Nameless Fanboi Posted ID:zROzGKeMG

ลืม

ขูดรีดในไทยต่อไม่ได้ก็ไป AEC สิ มีคนตั้ง 800 ล้าน ปลอดภาษีอีกด้วย เดี๋ยวนี้โลกเชื่อมถึงกันแล้วนะ ต่อให้สมัย plaza accord ญี่ปุ่นมันก็ผลิตรถส่งออกนอกเป็นหลักอยู่ดี ตลาดในไทยนะไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ ดังนั้นต่อให้ขูดรีดในไทยไม่ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าโลกนี้ไม่มีที่ให้ขูดรีด

เอาง่ายๆ และใกล้ๆ ที่สุดก็คืออินเดีย ไทยอยู่ใกล้อินเดียมาก ผลิตลงแล้วเรือจากแหลมฉบังตรงไปอินเดียยังได้ ยิ่งในอนาคตถ้าแผนเชื่อมอินเดียผ่านพม่ามาไทยสำเร็จ มันก็มีทางขูดรีดได้ง่ายขึ้นอีกอีกเยอะ ตั้ง 1,300 ล้านคนแนะ ลองบวกกันดู AEC 800 อินเดีย 1,300 จีน 1,200 = 3,300 คนครึ่งโลกอยู่รอบประเทศไทยแบบบินวันเดียวถึง เรือสินค้าไม่เกิน 7 วัน ถ้าบอกว่าไม่มีลูกค้าคือปัญญาอ่อนมากแล้ว

97 Nameless Fanboi Posted ID:3TteRn.2F

http://www.nationmultimedia.com/detail/business/30323240

98 Nameless Fanboi Posted ID:M5GjD+fNx

โพสงี้เดี๋ยวเพจมิตรสหายชังชาติจุกอกตายพอดี lol

99 Nameless Fanboi Posted ID:eGD8UMHtV

ก็ไล่เข้าไปดู source แล้วไม่เห้นมีอะไรเลยอยู่ๆกล่าวขึ้นมาลอยๆ
ชังชาตินี่วาทกรรมใหม่ของสลิ่มตีปี๊ปสินะ

100 Nameless Fanboi Posted ID:I8IKPzCP6

>>99 มันมี link ไปเว็ปต้นทางอยู่นะ อ่านไม่ถึงเหรอ

https://www.usnews.com/news/best-countries/thailand
https://www.usnews.com/news/best-countries/best-start-a-business

>>98 อยากเห็นชังชาติดิ้นเหรอ กระทู้นี้เลยมึง

https://pantip.com/topic/36904481

101 Nameless Fanboi Posted ID:eGD8UMHtV

>>100
กูถึงบอกไงเวปแม่งไม่มีเหี้ยไรเลย มีแต่ paragraph narrative กะตัวเลขจากไหนก็ไม่รู้

ไอ้กระทู้เหี้ยนั่นก็เหมือนกัน เรื่องดีๆแท้ๆ แค่มีคนสงสัย data ที่มาจะคุยกันดีๆเสือกงัดวาทกรรมชังชาติมาตีโป้งๆแหละ เละเลย
ไม่รู้ตอนนี้วาทกรรมอะไรเหี้ยกว่ากันแล้วระหว่างกะลากะชังชาติ

102 Nameless Fanboi Posted ID:Ji2w/N/aG

>>100 กะลาจนไม่ดูที่มาข้อมูลไปว่ามันน่าเชื่อแค่ไหน บทความโคตรกลวง แต่ก็เชื่อเพราะเขาชม

จะรักชาติก็เรื่องมึง แต่ออกจากกะลามาก่อนนะ

103 Nameless Fanboi Posted ID:6PiHS+47I

>>100 เข้าไปดูในเวปต้นทางมีจัดอันดับหลายอย่างเลยนะ
เปิดไปดูคะแนน citizenship กับ Quality of life แล้วแทบจุกวะ
กุเชื่อแล้วว่าคนชอบมาเที่ยวเพราะ easy & cheap จริงๆประเทศเรา

104 Nameless Fanboi Posted ID:I8IKPzCP6

>>101 เขาไม่ได้ห้ามสงสัยนะ แต่แม่งเริ่มมาก็ออกตัวแรงโดยไม่ได้อ่านเลย บอกว่าไม่น่าเชื่อถือ คนก็สวนกลับสิ ทำยังกะมันมาดีๆ ก่อนงั้นละ ไม่เอาข้อมูลมาแย้งซักจุด ด่าอย่างเดียว

>>102 ถ้าไม่เชื่อก็แย้งสิว่าตรงไหน รึแค่เขาชมมึงก็ไม่เชื่อแล้ว ข้างล่างตรง slide show ก็มีบอกคร่าวๆ นะว่าทำใม อย่างใช้เวลาและเงินเริ่มกิจการน้อย world bank บอกว่ามีอัตราธุรกิจใหม่ต่ำ คู่แข่งน้อย

https://www.usnews.com/news/best-countries/articles/methodology

105 Nameless Fanboi Posted ID:M5GjD+fNx

ประเทศไทยมันหาดีไม่ได้ครับ ขนาดโปรเนคมือถือฝรั่งเศสยังเทพกว่าโปรไทย 555

106 Nameless Fanboi Posted ID:uEsnS4Ila

>>105 เทพกว่ายังไง?

107 Nameless Fanboi Posted ID:M5GjD+fNx

>>106 https://fanboi.ch/lounge/4347/133-135/

108 Nameless Fanboi Posted ID:8EvLURmRF

พวกฝรั่งขี้แพ้อะชอบมากัน ไปดูตามยูทูปได้ มีฝรั่งสอนกันเองเต็มเลย
ส่วนใหญ่ก็แนวๆ บอกค่าใช้จ่ายต่อเดือนถูกมากๆ แล้วมันก็คำนวนมีเงิบเก็บแค่นี้อยู่ได้ชิลๆ กี่ปี
แล้วมันก็จะมาอยู่นานเลย 2-3ปี มันมาก็เพราะอยู่ง่ายใช้เงินน้อย อย่างไอ้พวกนี้มึงนับเป็นนักท่องเที่ยวไหมล่ะ

109 Nameless Fanboi Posted ID:KN.yOtcdr

>>108 ถ้าทำตามกฎหมายถูกต้องทุกอย่าง ทำใมจะไม่นับละ ยิ่งมาอยู่นานๆ สิดี ตามสถิติ ยิ่งอยู่นานขึ้นก็จะยิ่งใช้เงินมากขึ้น คิดง่ายๆ ว่าถ้าอยากอยู่ยาวก็ต้องการบ้าน ตลาดอสังหาก็โตขึ้น มาอยู่นานก็บริโภคมากขึ้น ทั้งอาหาร เสื้อผ้า การเดินทาง ค่าน้ำไฟอินเตอร์เน็ต ฯลฯ ยิ่งอยู่บาวบิ่งได้ประโยชน์

พูดตามจริง พวกนี้มาอยู่ไทยนานๆ มีประโยชน์กว่านักท่องเที่ยว Hi-End กระเป๋าหนักอีก เพราะงเินมันลงไปหลายภาคส่วนกว่า พวกฝรั่งจนๆ พวกนี้มาอยู่เยอะเงินก็ไหลไปรากหญ้ามากกว่าพวกรวยๆ เยอะ เพราะมันใช้ชีวิตโลวๆ ค่อนไปกลางแบบคนไทยส่วนใหญ่นี่ละ

110 Nameless Fanboi Posted ID:VNdAPOh4I

ตอนจดไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนบอกว่าคิดให้ดีๆนะสักคำ
แต่ตอนหย่าเจ้าหน้าที่บอกอยู่นั่นแหละ คิดดีรึยัง คิดดีแล้วหรา
ถ้าจะเตือนก็เตือนให้มันครบหน่อยสิวะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

111 Nameless Fanboi Posted ID:7b1urNHyo

Is having daughters the ultimate cuckoldry?

I cannot think or comprehend of anything more cucked than having a daughter. Honestly, think about it rationally. You are feeding, clothing, raising and rearing a girl for at least 18 years solely so she can go and get ravaged by another man. All the hard work you put into your beautiful little girl - reading her stories at bedtime, making her go to sports practice, making sure she had a healthy diet, educating her, playing with her. All of it has one simple result: her body is more enjoyable for the men that will eventually fuck her in every hole.

Raised the perfect girl? Great. Who benefits? If you're lucky, a random man who had nothing to do with the way she grew up, who marries her. He gets to fuck her tight pussy every night. He gets the benefits of her kind and sweet personality that came from the way you raised her.

As a man who has a daughter, you are LITERALLY dedicating at least 20 years of your life simply to raise a girl for another man to enjoy. It is the ULTIMATE AND FINAL cuck. Think about it logically

112 Nameless Fanboi Posted ID:+DiQzqr89

#เรื่องของคำพูดประโยคเดียว

คุณหมอคะ แม่มีเรื่องมาเล่าให้ฟัง

ลูกสาวของแม่เป็นสมาธิสั้น เรียนอยู่ป.4 ตอนนี้กำลังทานยาอยู่ อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ รักษามาตั้งแต่ป.2
ตอนแรกน้องจะคุยเก่งมากในห้องเรียน หลังทานยาน้องก็มีสมาธิมากขึ้น ตั้งใจเรียน ทำการบ้านได้เองไม่ต้องนั่งคุม แม่ดีใจมาก จากที่ต้องบ่นลูกทั้งเช้าเย็น ก็คุยกันง่ายขึ้นมาก

แม่รู้สึกคิดถูกที่พาน้องไปตรวจจริงจังกับหมอ หลังที่ลังเลมานาน

แต่เรื่องของเรื่อง น้องต้องทานยาตอนเช้าและเที่ยง ตอนเที่ยงแม่ก็เลยไปคุยกับครูว่ารบกวนให้ครูเตือนให้น้องทานยาหน่อย

แต่ครูทำกับน้องไม่ดีเลย คือบางวันน้องลืมทานยา เลยชวนเพื่อนคุย พูดมาก แทนที่ครูจะบอกดีๆ แต่ครูก็บอกว่า "นี่ วันนี้เธอลืมกินยาแก้ดื้อมาเหรอ"

ครูพูดต่อหน้าเพื่อนคนอื่นๆในห้องเรียนด้วย หลังจากนั้นเพื่อนก็จะล้อน้องว่า "ยาแก้ดื้อๆ ยาแก้บ้าๆ"

แม่เห็นน้องซึมๆไป หลังจากถูกล้อไปเป็นเดือน น้องจึงค่อยมาเล่าว่าถูกเพื่อนล้อ บอกว่าไม่ได้ทานยาตอนเที่ยงไปช่วงหนึ่งเพราะน้องไม่อยากทานยาตอนเที่ยงให้เพื่อนเห็น ช่วงนั้นก็เลยคุยเก่ง จดงานไม่เสร็จเหมือนเดิม เลยยิ่งถูกครูว่าและเพื่อนล้อมากขึ้น

โชคดีหน่อยพอขึ้นชั้นใหม่ ครูดีมาก เข้าใจเด็ก พูดให้น้องรู้สึกดีขึ้น น้องได้กลับไปทานยาเหมือนเดิม พอได้กินยาสม่ำเสมอ ตอนนี้ก็เรียนดี ควบคุมจัดการตัวเองดีขึ้น น้องก็ดูมีความสุขขึ้น

ครูนั้นก็มีผลมากกับชีวิตความเป็นไปของเด็กนักเรียน อยากให้คุณหมอช่วยเขียนเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้พ่อแม่ทุกคนได้เรียนรู้ร่วมกัน

.

จริงอย่างที่คุณแม่บอก ครูมีผลต่อเด็กคนหนึ่งมาก จริงๆก็ไม่ใช่เพราะครู พ่อแม่และผู้ใหญ่รอบข้างก็เช่นกัน

คำพูดคำเดียวอาจจะส่งผลกระทบอย่างไม่ได้ตั้งใจ ถ้าผู้ใหญ่จะมีความเห็นอกเห็นใจและละเอียดอ่อน น่าจะช่วยให้คำพูดและการกระทำเกิดผลกระทบทางลบน้อยลง

ความจริงอย่างหนึ่งคือ ในชีวิตคนนั้นเราคงไม่สามารถควบคุมการกระทำของคนอื่นๆได้ ที่สำคัญคือการที่เด็กคนหนึ่งมีพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ใกล้ชิดที่จะให้กำลังใจและยอมรับในตัวตนของลูก สอนให้เขารู้จักจัดการแก้ไขปัญหาง่ายๆตามวัย เด็กก็จะมีความภาคภูมิใจในตัวเอง ปลูกฝังเป็นความเข้มแข้งทางใจ ตรงนั้นน่าจะเป็นเหมือนวัคซีนสำหรับเด็กที่จะเติบโตไปเจอกับเรื่องต่างๆในชีวิตที่มีทั้งดีและร้าย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

113 Nameless Fanboi Posted ID:4rbmkRbIW

แม่ฝากซื้อวิตามินและอาหารเสริม ส่งรัว ๆ มาสิบรูป สกรอว์ ๆ ดู เอ๊ะ ทำไมรูปที่ 5 เป็นรูปกระเป๋า Coach ...
ร้ายนะเราหนะ แอบแฝงนะเรา

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

114 Nameless Fanboi Posted ID:BBMGPzGRk

วิวัฒนาการนิตยสารเกย์บนดิน (ที่ล่มสลายไปแล้ว) กับ นิตยสารเกย์ออนไลน์ (ที่มีอยู่ในปัจจุบัน)

นิตยสารเกย์บนดิน
1 เริ่มจากดารานายแบบมีชื่อเสียง
2 เริ่มจากแค่ถอดเสื้อ ชุดว่ายน้ำ
3 กะเทยทำนิตยสารมากขึ้น จึงเริ่มแข่งกันโป๊
4 เริ่มแข่งกันใส่กางเกงในบางๆ หรือถอดหมด
5 ดารานายแบบมีชื่อเสียงไม่กล้ามาถ่าย
6 ลดระดับลง เป็นนายแบบโนเนม แต่หน้าตาดีหุ่นดี
7 เริ่มแข่งกันใส่กางเกงในบางมาก แล้วปั่นควยแข็งๆ
8 เริ่มแข่งกันไม่ใส่อะไรเลย ปั่นควยแข็งๆ ปิดนิดหน่อย
9 นายแบบหน้าตาดีหุ่นดีไม่กล้ามาถ่าย
10 ลดระดับลง เป็นนายแบบหน้าตางั้นๆหุ่นงั้นๆ
11 เริ่มแข่งกันแก้หมด โชว์ควยเต็มๆ
12 เริ่มแข่งกันเอานายแบบมาทำท่าเย็ดกันหลอกๆ
13 นายแบบหน้าตางั้นหุ่นงั้นๆไม่กล้ามาถ่าย
14 ลดระดับลง เป็นเด็กขายบริการทางเพศ หน้าไม่ดี หุ่นไม่ดี
15 เริ่มแข่งกันดูดควยจริง เย็ดจริง น้ำแตกจริง
16 ล่มสลาย เพราะนายแบบไม่หล่อ คนอ่านร้องยี้ เลิกซื้อ

นิตยสารเกย์ออนไลน์ (ปัจจุบัน)
1 เริ่มจากดารานายแบบมีชื่อเสียง
2 เริ่มจากแค่ถอดเสื้อ ชุดว่ายน้ำ
3 กะเทยทำนิตยสารมากขึ้น จึงเริ่มแข่งกันโป๊
4 เริ่มแข่งกันใส่กางเกงในบางๆ หรือถอดหมด
5 ดารานายแบบมีชื่อเสียงไม่กล้ามาถ่าย
6 ลดระดับลง เป็นนายแบบโนเนม แต่หน้าตาดีหุ่นดี
7 เริ่มแข่งกันใส่กางเกงในบางมาก แล้วปั่นควยแข็งๆ
8 เริ่มแข่งกันไม่ใส่อะไรเลย ปั่นควยแข็งๆ ปิดนิดหน่อย
9 นายแบบหน้าตาดีหุ่นดีไม่กล้ามาถ่าย
10 ลดระดับลง เป็นนายแบบหน้าตางั้นๆหุ่นงั้นๆ
11 เริ่มแข่งกันแก้หมด โชว์ควยเต็มๆ

ตอนนี้นิตยสารเกย์ออนไลน์ เริ่มอยู่ในข้อ11 แล้ว คิดว่าจะไปถึงข้อ 16 ไหม?

115 Nameless Fanboi Posted ID:y4B/fVYOw

>>114 น่ากลัวชิบหาย

116 Nameless Fanboi Posted ID:DOvnW+txO

ผมดูBNK48 ครับ เพราะเราจะได้เห็นถึงความพยายามของน้องๆในทุกๆเรื่องที่น้องๆทำ เช่น

เฌอปรางค์ อารีย์กุล หรือที่เรียกกันว่าแคปเฌอ ซึ่งน้องเป็นกัปตันของวง BNK48 หน้าที่หลักๆคือคอยดูแลสมาชิก ประสานงานและควบคุมการซ้อม สามารถตัดสินใจแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในสถานะการณ์ต่างๆได้ เป็นตัวแทนเพื่อที่จะเข้าไปคุยกับฝ่ายบริหารในเรื่องต่างๆได้

ยังไม่นับรวมที่ตอนนี้น้องเป็นผู้ช่วยอาจารย์ในคณะวิทยาศาสตร์ เอกเคมี มหาวิทยาลัยมหิดล หลักสูตรอินเตอร์เนชั่นแนล ชั้นปีที่ 3

ในตอนนี้น้อง เลยเป็นทั้งIdol(ร้อง เต้น) ทั้งนักวิทยาศาสตร์(วิชาการ) และงานอดิเรกของน้องคือการอ่านการ์ตูน เล่นเกม และแต่งตัวคอสเพลย์

คุณจะสามารถเห็นได้ว่าเด็กนักศึกษาคนหนึ่งที่กำลังพยายามทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน เพื่อหาขีดจำกัดของตัวเอง

มาเทียบกับผมแล้วที่วันๆทำแค่งานประจำกับงานขายของก็เหนื่อยมากแล้ว พอเห็นที่น้องๆเด็กๆทำแบบนี้ได้ ทำให้ผมคิดได้ว่า ที่เราคิดว่ามันเหนื่อยที่จริงแล้วมันเป็นการคิดไปเองรึปล่าว เราเคยทำอะไรที่มันต้องเหนื่อยจนหมดสิ้นเรี่ยวแรงไปตรงนั้นแล้วหรือยัง หรือว่าเป้าหมายในชีวิตของเรามันยังไม่ชัดเจนพอที่จะทำให้เราทุ่มเทสุดความสามารถเพื่อมัน

ผมว่าความคิดและทัศนคติ มันส่งผลต่อการกระทำนะ และเรื่องพวกนี้มันสามารถปลูกฝังกันได้ แม้จะเป็นเด็กๆก็ตาม

สู้ๆนะครับ เป็นกำลังใจให้

ปล.ลองมาดูน้องๆBNK48 ก็ได้ครับ ไม่ใช่แค่เฌอปรางค์คนเดียวที่เป็นแบบนี้ คุณจะเห็นน้องๆอีก 29 คน ที่กำลังพยายามกับอะไรบางสิ่งบางอย่างเช่นกัน แล้วคุณจะไม่รู้สึกเหนื่อยอีกเลย ^^
ปล.2 ขอแปะข่าวเพื่อโปรโมทน้องๆหน่อยนะครับ

เขาว่า ‘BNK48’ เป็นวงไอดอลรักการศึกษา กับสมาชิกสุดเทพด้านการเรียน มาดูว่าสมคำร่ำลือหรือไม่
https://www.spokedark.tv/posts/bnk48-idol-of-education/

117 Nameless Fanboi Posted ID:Jn4uQepZ2

>>116 แอดมินเปิดห้องให้มึงแล้ว ไปเรื้อนกันในนู้น

118 Nameless Fanboi Posted ID:B7UkFbuo6

>>116 น้องๆพยายามกันขนาดนี้ ทำไมคุถึงไม่พยายามอาบนำ้ทาโรลออนให้ตัวไม่เหม็นบ้างครับ อายน้องๆไหม

119 Nameless Fanboi Posted ID:RCaFirlaQ

>>118 ถ้าน้องทนกลิ่นสาบคุไม่ได้ อนาคตน้องจะมีความอดทนในการทำงานได้ยังไง

#มิตรสหายโซคุท่านหนึ่ง

120 Nameless Fanboi Posted ID:gTZDJMdn4

ระวัง !! โดนกับตัว มีของมาส่งจากจีนผ่านทาง เออรี่ เอ๊กแปร๊ดดด เก็บเงินปลายทาง 1,680 บาท !!! (แก้ไขโพสต์ 28 กย 60 เวลา 10.40 เพราะมีโทรศัพท์จากผู้ประกอบการขนส่งรายหนึ่งให้ช่วยลบโพสต์ ผมไม่เห็นด้วย ยอมให้เพียงเปลี่ยนชื่อผู้ประกอบการในโพสต์ผมไปเป็นชื่ออื่นเท่านั้น - เหตุผลยาวมาก และการสนทนาก็น่าจะมีการบันทึกเทป)

เหยื่อ คือ ผู้รับ(เรา) และ ผู้ประกอบการรับส่งพัสดุ เออรี่ แอ๊กแพร๊ดดด
คนเลวคือ คนส่งสินค้าจากจีน (จากประเทศอื่นก็มีนะ)

วิธีการคือ คนเลวพวกนี้ไปเอา database มาจากไหนไม่รู้ สุ่มส่งมั่วไปยังที่ต่างๆในไทย ใครไม่ทันคิดไปเซ็นรับก็ต้องจ่ายเงิน เปิดออกมาเป็นอะไรก็ไม่รู้มูลค่าไม่เกินร้อยบาท เออรี่ฯ ก็ซวยไป รับเรื่องร้องเรียนจนแน่น (เดี๋ยวมาเล่าต่อ)

(เล่าต่อ) วิธีการของพวกนี้คือ ซื้อโอกาสลักไก่โดยส่งของมั่วๆไปยังผู้รับ โดยมีคำสั่งฝากส่งให้ เออรี่ฯ เรียกเก็บเงินปลายทางในอัตราตั้งแต่ 900 จนถึง เกือบสองพันบาทต่อชิ้น (รายชื่อและเบอร์โทรผู้รับ มันเอามาจากไหน คงต้องสืบกันต่อไป) บางคนที่งงๆ และเห็นว่าชื่อตรงเบอร์โทรตรงที่อยู่ตรง และเห็นว่ายอดเงินไม่มากนัก ก็ยอมจ่ายให้แก่พนักงาน เออรี่ฯ ที่มีหน้าที่เก็บเงินและนำส่งเข้าระบบ ซึ่งโดยกฏหมายและสัญญาการฝากส่งของ เออรี่ฯ ผู้รับไม่สามารถแกะหีบห่อออกดูก่อนที่จะจ่ายเงินได้ ฉะนั้น พอจ่ายเงิน บางคนก็แกะดูเลย บางคนก็เก็บไว้แกะทีหลัง บางคนก็รับแทนญาติหรือคนในครอบครัวที่มีชื่อตามจ่าหน้า ไอ่ที่แกะดูเลยก็จะเห็นว่าของนี่มันขยะนี่หว่า มูลค่าไม่เกินร้อยบาท ไอ้ที่รับไว้แทน หรือที่ยังไม่แกะดูกว่าจะรู้ ก็อาจจะเลยกำหนดที่จะแจ้งไปยัง เออรี่ ว่าของส่งมาผิดไปจากที่สั่ง หรือจริงๆแล้วไม่ได้สั่ง เงินก็ถูกโอนจาก เออรี่ ไปยังไอ้ขี้โกงในประเทศจีนเรียบร้อยแล้ว

พวกนี้หวังผลเพียงหากครึ่งหนึ่งของของที่มันส่งมั่วๆไป มีคนรับหรือรับแทน มันก็คุ้มค่าการลงทุนในกลโกงของมันแล้ว ลองนึกดูว่า หากมันส่งผ่าน เออรี่ฯ สัก 200 กล่อง ค่าส่งกล่องละ 100 บาท ค่าขยะกับค่าแพคกล่องอีกสัก 50 บาท + ค่าเสียเวลาของมัน มันก็ลงทุนเพียง 20000-30000 บาท แต่หากในสองร้อยกล่องนี้มีคนหลงเชื่อสักครึ่งนึงที่ยอมจ่ายเงิน ก็เท่ากับ 100 x 1500 บาท (โดยเฉลี่ยต่อราย) มันก็จะได้เงินไป 150,000 บาทเลยทีเดียว

เรื่องร้องเรียนจากเหตุการณ์แบบนี้ มีไปถึง เออรี่ฯ ทุกวันและเป็นจำนวนที่มากขึ้น วันนี้ผมโชคดี เพราะเอะใจว่า ผมไม่เคยซื้อของออนไลน์แบบเก็บเงินปลายทางเลย (ยกเว้นคอร์สเรียนเปียโน และ Advanced Excel เท่านั้น) และเก็บหลักฐานการซื้อขายไว้เสมอในอีเมลและใน OneDrive พอมี จนท เออรี่ฯ มาส่งหน้าบ้านพร้อมแจ้งยอดว่ามีต้องชำระ 1680 บาท ผมจึงสงสัย และขอถ่ายรูปหน้ากล่องพร้อมรายละเอียดไว้ก่อน แล้วบอกน้องที่มาส่งว่า
ให้ไปส่งที่อื่นก่อน หากผมตรวจสอบแล้วได้ผลเป็นเช่นไร จะโทรไปหาตามเบอร์ที่น้องเค้าโทรเข้ามาถามพิกัดบ้านก่อนเข้ามาส่ง ผมจึงโทรไปที่ ศูนย์ร้องเรียนของ เออรี่ฯ เพื่อถามว่าเลขพัสดุที่ส่งมาให้ และได้รับคำตอบว่า คุณทำถูกแล้ว มีกรณีแบบนี้เยอะมาก และมีผู้เสียหายเป็นจำนวนเงินรวมๆกันเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่แน่ใจว่ามีสั่งของแบบเก็บเงินปลายทาง ให้แจ้งปฏิเสธกับพนักงานผู้นำส่งได้เลย ทางพนักงานศูนย์ร้องเรียน ยังขอให้ช่วยกระจายข่าวให้ทราบกันต่อไปด้วย ทาง เออรี่ฯ กำลังหามาตรการ และวิธีการจัดการกับพวก 18 มงกุฎที่มองเห็นช่องโหว่ในบริการการรับส่งพัสดุระหว่างประเทศอยู่

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

121 Nameless Fanboi Posted ID:ygYXrQWP6

กรุงศรีแตกเพราะอะไรครับ
ไม่ใช่คนไทยแตกความสามัคคี
ไม่ใช่เพราะพม่าชนะน้ำหลากได้
ไม่ใช่เพราะมีใครเปิดประตูให้เข้า
ไม่ใช่พระเจ้าเอกทัศน์อ่อนแอ

แต่เพราะสมัยนั้น "รัฐ" ไม่สามารถคุมกำลังไพร่หัวเมือง และจำนวนไพร่ที่ไม่อาจเกณฑ์มาใช้แรงงานได้เพราะประชาชนร่ำรวย จนสามารถจ่ายส่วยแทนแรง ไม่ต้องเข้าเกณฑ์เพื่อใช้แรงงาน ทำให้ขาดไพร่หลวงไปรับศึก

ปัญหาการไหลจากไพร่หลวง ไปเป็นไพร่สมเนื่องจากการกระจายความเจริญ ทางด้านเศรษฐกิจค้าขายตามหัวเมือง ทำให้ "รัฐ" ขาดไพร่หลวง

อีกอย่างความเข็มแข้งด้านเศรษฐกิจที่กระจายสู่หัวเมืองนี่เอง ทำให้"รัฐ" ไม่อาจใช้หัวเมืองเพื่อเป็นแนวปะทะก่อนเข้ากรุงเพราะไม่มีอำนาจในการบังคับหัวเมืองเต็มที่

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

122 Nameless Fanboi Posted ID:NsdgeZXs2

“ก่อนคุณจะไปหาหมอเพื่อตรวจว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า ให้คุณตรวจก่อนว่ารอบๆ ตัว เต็มไปด้วยคนเหี้ยๆ หรือเปล่า” – มิตรสหายท่านหนึ่ง

123 Nameless Fanboi Posted ID:CESuB09rb

เราจะทำนั่นทำนี่กันด้วย Big Data เราจะแก้ปัญหานี่นั่นโน่นด้วย Big Data ฯลฯ
หลายกรณีคนที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายถึง Big Data จริงๆ หรอก คนพูดสับสนระหว่าง Big Data กับ "Data Analysis" เท่านั้นเอง (พูดง่ายๆ หลายกรณีคนพูดเข้าใจคำว่า Big Data ผิด)
Data Analysis เป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องควรทำมากๆ แต่มันไม่ได้ imply อะไรว่าต้องเป็น Big Data เลย จริงๆ เริ่มกับ Data ที่มีอยู่แล้วก็ได้ เอามาวิเคราะห์ จะเก็บอะไรเพิ่มก็ว่ามา
หลายคนคิดว่าตัวเองมีข้อมูลเยอะ "เรามีข้อมูลอยู่แล้วเยอะเลยนะ เก็บมาตั้งหลายปี" งั้นที่ตัวเองจะทำก็คือ Data Analysis กับ Big Data ไม่ใช่หรือ .......... ไม่น่าใช่ครับ โอกาสที่จะไม่ใช่สูงกว่าใช่เยอะมาก
Big Data มันคือลักษณะของ Data แบบหนึ่งครับ ที่เป็นคนละ scale ทั้ง size, speed, structure กับแบบที่พวกเราหลายคนคุ้นเคย ... ตัวมันเองก็ไม่ได้ imply อะไรเลยกับ Data Analysis เช่นกัน (บังเอิญที่เราเห็นตัวอย่างในบทความต่างๆ มันอยู่ในมือคนที่ทำ Data Analysis เป็น และคนเหล่านี้ก็ใช้มันบอกอะไรเราได้เยอะมาก)
จริงๆ คนที่คิดว่าตัวเองมี Big Data นี่แทบไม่มีใครมี Big Data จริงๆ อ่ะ
ผมให้ Guideline ง่ายๆ ละกัน ว่าประมาณไหนถึงจะมี
1. ข้อมูลทั้งชุด เก็บใน HDD ที่ใหญ่ที่สุดที่ซื้อได้ตอนนี้ ได้หรือเปล่า -> ถ้าได้ ก็ไม่ใช่ Big Data
2. ข้อมูลไหลเข้า เร็วกว่าความเร็วที่สามารถ Download ข้อมูลออกมาถ่ายอินเตอร์เน็ตได้หรือเปล่า -> ถ้าไม่เร็วกว่า ก็ยังไม่ใช่ Big Data
แบบติดตลก คือ ถ้าผมมี Big Data ท่านจะไม่สามารถขอให้ผมไ dump ข้อมูลใส่ HDD 4TB ให้พี่วินวิ่งไปส่งท่านได้แน่ๆ หรือต่อให้ผมเพิ่งจะเริ่มทำ ข้อมูลยังน้อยอยู่ แล้วท่านจะให้ dump ด้วยการต่อท่อเน็ตตรงๆ ให้ ก็ไม่ได้อยู่ดี เพราะมันไหลเข้ามาเร็วกว่าที่ท่านโหลดได้
แล้วอะไรเป็น Big Data? ลองคิดว่าถ้ามี devices เป็นล้านตัว ส่งข้อมูลมาให้ตลอดเวลา แบบนี้ข้อมูลจะเยอะมาก อาจจะหลัก GB (หรือหลายสิบหลายร้อย GB) "ต่อวินาที" ดังนั้นยังไงๆ มันก็เก็บใน HDD ตัวเดียวไม่ได้ และ Download ไม่ได้อยู่แล้ว
ข้อมูลเยอะๆ ที่เรามีอยู่ส่วนมาก ที่เก็บไว้เป็นข้อมูลนิ่งๆ ขยับกันเดือนละครั้งปีละครั้ง และมีขนาดไม่เต็ม HDD 4TB ตัวเดียว จึงไม่ใช่ Big Data ครับ
ถามว่ามีประโยชน์ไหม .... ก็ถ้าเอามาทำ Data Analysis เพื่อตอบโจทย์บางอย่างให้ดีขึ้น มันก็มีประโยชน์แหงๆ อยู่แล้ว ไม่ได้ค้านไม่ได้ต้านไม่ได้ว่าอะไร ...
เพียงแต่ "มันไม่ใช่ Big Data" ..... ก็เข้าใจนะ ว่ามันพูดแล้วดูไม่เท่ไม่เจ๋งเท่า
และที่สำคัญ ถ้าเริ่มทำงานกับ Data ไม่เป็น เริ่มทำ Data Analysis กับ "Small Data that Matters" หรือข้อมูลที่มีอยู่แล้วไม่ได้ คิดไม่ได้ว่าจะเก็บอะไรไปเพื่ออะไร แล้วมี Strategic ในการ Acquire ข้อมูลและการใช้งานข้อมูลยังไง ฯลฯ .... กับข้อมูลที่มีอยู่แล้ว จะไป Big Data ก็ไม่ได้อะไร นอกจากเปลือง

124 Nameless Fanboi Posted ID:TojNsWzDS

"อยากให้คนไทยปรองดองต้องพูดเรื่องโรฮิงญา เพจบีบีซีที่ปกติคอมเมนต์จะดูมีสติแม่งกลายเป็นเพจนีโอนาซีไปเรย"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

125 Nameless Fanboi Posted ID:AlY.jL6u4

มึงจะชังชาติ
มึงจะสนับสนุนให้ 4จว.ไทยใต้แยกประเทศ(ทำไมงอกเพิ่มวะ)
มึงจะอวยนักการเมืองฝั่งที่มึงชอบ

ก็เรื่องของมึง

แต่มึงจะมาหาไทยเราเป็น หนี้ โรฮิงญาต้องรับเข้ามาดูแลนี้ พ่องมึงเป็นโรฮิงญาตายเหรอครับ

#มิตรสหายเพจดราม่า

126 Nameless Fanboi Posted ID:T+5vXeXiv

>>124 >เพจบีบีซีที่ปกติคอมเมนต์จะดูมีสติ
>kek

เพจนี้ขอแค่เป็นเรื่องทหารแม่งสติหลุดตลอดละ ทั้งที่ไม่เกี่ยวห่าเหวไรก็ด่าได้ตลอด สติตรงไหน

ล่าสุดที่โคตรฮาก็ตอนทรัมป์บีบไทยให้ซื้อเครื่องบิน ครวญครางว่าทำใมทหารไทยกากแบบนี้ ถึงโดนเมกาบีบได้ ทำใมพูดคุยอย่างเท่าเทียมไม่ได้

ปัญญาอ่อนกันไปใหญ่ ประเทศไหนในโลกบ้างที่คุยกับเมกาอย่างเท่าเทียมได้ จันยังทำไม่ได้ ขนาด EU ยังต้องใช้ทั้งทวีปเพื่อต่อรอง ไทยใหญ่กว่า EU เหรอวะ

127 Nameless Fanboi Posted ID:Q4VmCyJ8h

>>125 พวกชังชาติก็มีแต่พวกลูกครึ่ง จีน เขมร พม่า พวกต่างจังหวัดนั่นแหละ ไทยแท้เค้าไม่มีอะไรแบบนี้หรอก แต่กูเองก็ครึ่งจีน แต่ใจกูไทยแท้ ผูกพันกับชาติกว่าพวกลูกครึ่งอื่นๆแน่นอน

128 Nameless Fanboi Posted ID:F5yqqMdT8

>>123

"What's big data ? ผมอ่านมาจนหมดไม่เห็นอะไรมากกว่าการพยายามพูดข่มและยกตัวเองว่ารู้จักดี แต่หาประโยชน์ใดๆเพื่อเข้าใจไม่ได้

เราลองเอาคำว่า big data ของแต่ละยุคสมัยมาเทียบกัน big data เมื่อยี่สิบปีก่อนอาจจะจัดเก็บได้ด้วยแฟลชไดรว์อันเดียวด้วยซ้ำ

จริงๆคำว่า big data มันไร้ความหมายเลยนะถ้าเราเก็บแต่ข้อมูลที่ไม่มีประโยชน์ สิ่งสำคัญกว่าข้อมูลจำนวนมากคือการใช้ประโยชน์จากข้อมูลนั้นได้ ผมมีข้อมูลไม่กี่สิบเมก แต่ทำให้ผมรู้พฤติกรรมลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายผมได้ยังมีประโยชน์กว่ามีข้อมูลหลายสิบล้าน record ที่ใช้ประโยชน์ในธุรกิจยาก

แต่เมืองไทยชอบขายอะไรด้วยศัพท์แสงหรูพยายามพูดให้ชวนงงไว้ก่อนแบบนี้แหละครับ"

#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

129 Nameless Fanboi Posted ID:G3yeiT8ZV

>>127 kek of kek, u not a nationalism just a idiot.

130 Nameless Fanboi Posted ID:TLFG+BP2v

>>129 https://www.youtube.com/watch?v=xECUrlnXCqk

131 Nameless Fanboi Posted ID:bAeP7ulv+

ทำไมมีแต่ละครแนวเปลี่ยนทอมให้เป็นเธอ
แต่ไม่มีเปลี่ยน gay ให้เป็น guy อ่ะครับ
ความเท่าเทียมอยู่ไหน?

*triggered*
*เฟมินิสต์กำหมัดแน่น*

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

132 Nameless Fanboi Posted ID:PDciz7dUY

การที่ประเทศไทยมีอัตราการตายด้วยปืนสูงกว่าอเมริกา โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพและภาคใต้ ทั้งๆ ที่ประเทศเรามีกฎหมายควบคุมปืนระดับเข้มงวด เมื่อเทียบกับอเมริกาที่อนุญาตให้ประชาชนครอบครองอาวุธยิงเร็วได้ แสดงให้เห็นว่าการแบนปืนไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องตรงจุด จริงๆนั้นเราควรแบนคนใต้ครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

133 Nameless Fanboi Posted ID:cv+6xmo5G

>>131 กุพยายามแต่งอยู่ แต่ไม่สำเร็จ ผู้ชายกับผู้ชายมันน่าลุ้นกว่าคู่กับชะเน่

134 Nameless Fanboi Posted ID:bgptZfXKE

>>132 สัส กูลั่นเลย55555555555555555555

135 Nameless Fanboi Posted ID:QdDRvw8Sf

>>132 ทำไมเราไม่แบนคนอีสานแทนครับ คนที่ไปก่อปัญหาที่ภาคใต้นี่มีแต่แรงงานราคาถูกชาวอีสานทั้งนั้น

136 Nameless Fanboi Posted ID:dt2P0howx

>>132 สถิติจากไหนอะ

137 Nameless Fanboi Posted ID:4RBxM5scP

Q:why is japan a safe country?
A:No white man&niggar
#friendfrom/pol/

138 Nameless Fanboi Posted ID:tpr9CKXm7

>>137
>japan
>safe country

Nani!?

139 Nameless Fanboi Posted ID:1z+krOnoP

"มันส์สัส เพิ่งเคยเห็นการเปรียบเทียบ "หุ่นยนต์" กับการนำเข้าทาสคนดำไปอเมริกา

คือการนำเข้าทาสคนดำไปอเมริกาไม่ได้ทำให้คนขาวจนๆ ตกงาน แต่มันทำให้การกระจายรายได้ระหว่างคนขาวจนๆ กับรวยๆ แย่ลง และการเลื่อนชนชั้นทางสังคมของคนขาวจนๆ เป็นไปได้ยากขึ้น

ดังนั้นเวลาคนขาวจนแม่งเกลียด "ผู้อพยพ" แม่งก็มี Point นะ คนดำนี่มันเหี้ยจริงๆ"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

140 Nameless Fanboi Posted ID:+2yCs+Tk+

เดี๋ยวนี้ใครไปตะโกน "มิตรสหายอย่าทิ้งประชาชน" อาจได้ติดคุกอะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

141 Nameless Fanboi Posted ID:.svLf.qoF

ตั้งแต่เปลี่ยนกระเป๋าสตางค์มาใช้ Coach ก็รู้สึกได้ว่ามันบางลงมาก ๆ แฮปปี้มาก มันดูเบาและพกพาง่ายกว่าใบเก่ามาก
รู้สึกดีจนกระทั่งมารู้ความจริงที่ว่า ที่มันบางลงเพราะไม่มีเงินใส่มันก็เลยบางนี่แหละ ...

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

142 Nameless Fanboi Posted ID:KwE1umEMt

The EU:
We condemn Turkey for arresting and imprisoning Turkish citizens.

Also EU:
Spain can arrest, imprison, beat up and do whatever the fuck it wants to its own citizens.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

143 Nameless Fanboi Posted ID:bZOAcad.J

>>138 ถ้านับอัตราเหตุอาชญากรรม/ประชากร ก็ถือว่าปลอดภัยนะ ติด top10 โลก จากสถิติของ UNODC

144 Nameless Fanboi Posted ID:TQ9btdeS1

"Because good times breed weak men. And weak men are creating hard times."

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

145 Nameless Fanboi Posted ID:Xnu68Q.TL

BTS - เอกชน ไม่ใช่องค์กรการกุศล วิเคราะห์ให้ออกเรื่องการขึ้นค่าบริการ อาจไม่ถูกใจ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด
4 ตุลาคม 2560 / 19.16 น.

BTS ขึ้นค่าบริการตั้งแต่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ยกเว้นคนที่ใช้บัตรแรบบิทที่ยังคงอัตราค่าใช้บริการเดิมไปถึงไตรมาส 1 ปีหน้า

งานนี้ BTS โดนด่าไปเต็มๆ รวมไปถึงรัฐบาล โดยมีการกล่าวอ้างว่า รถไฟฟ้าเป็นระบบขนส่งมวลชน ซึ่งราคาควรจะสอดคล้องกับ "ค่าครองชีพ" และมีการเอาค่ารถไฟฟ้าบ้านเราไปเทียบกับประเทศอื่น โดยเทียบกับอัตราค่าจ้างรายวัน และอื่นๆอีกมากมาย ที่จะมาสนับสนุนว่า การขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้านั้น เป็นเรื่องที่ "ผิด"

เราควรต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า รถไฟฟ้า 2 สายแรกเริ่มของไทยนั้น ดำเนินการโดย "เอกชน" (สายสีเขียว หมอชิต - อ่อนนุช สนามกีฬา - ตากสิน และสายสีน้ำเงิน หัวลำโพง - บางซื่อ)

รถไฟฟ้า BTS (ขอไม่โยงกลับไปถึงตอนเป็น TYONG นะครับ เพราะมันไกลเกินไป) เอกชนเป็นผู้ลงทุน "ทั้งหมด" แลกกับสัมปทานเป็นระยะเวลา 30 ปี (2542 - 2572)

โครงการนี้เป็นของ กทม. ที่ กทม. ทำโครงการนี้ในตอนแรกเพราะว่าเห็นว่าเป็นโครงการของคนกรุงเทพ แต่ กทม. ไม่ได้มีเงินลงทุนขนาดนั้น ก็เปิดให้เอกชนมาประมูลแลกกับสัมปทาน 30 ปี เมื่อหมดสัมปทาน โครงการรถไฟฟ้าส่วนนี้จะตกเป็นของ กทม.

BTS ลงทุนก่อสร้างเองทั้งหมด จนเปิดบริการในปี 2542 และต้องแบกภาระขาดทุนมาตลอดในช่วงแรกยาวนานกว่า 10 ปี เป็นเพราะจำนวนผู้ใช้บริการยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน

คนที่มองว่า BTS กำไร คุณกำลังมองแค่ "ในปัจจุบัน" แต่คุณไม่ได้มองถึงอดีตของเขา เพราะตอนที่ประมูลได้ครั้งแรกในนามของ TYONG ก็เล่นเอา TYONG ต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ และมีการใช้วิศวกรรมทางการเงินประกอบกับกระบวนการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลายกลางจนสามารถเอาตัวรอดมาได้

เมื่อสัมปทานเป็นของ BTS ซึ่งเป็นเอกชน เขาขาดทุนมาอย่างต่อเนื่องในช่วงแรก นี่จึงเป็นช่วงที่เขากอบโกยจากสัมปทานที่เขาได้รับ และการได้สัมปทานนี้ หมายความว่า BTS มีสิทธิในการ "กำหนดค่าโดยสารได้เอง" แต่ต้องไม่เกินเรตที่ได้มีการกำหนดให้ขึ้นได้ตามสัญญาสัมปทาน ซึ่งการขึ้นค่าโดยสารทุกครั้ง BTS ก็ไม่เคยขึ้นเกินกว่าที่กำหนดเอาไว้

ในจุดนี้จึงควรให้ความเป็นธรรมกับ BTS ว่า ในเมื่อเขาเป็นเอกชนเข้ามาลงทุน จะให้เขามาเห็นใจผู้ใช้บริการหรือ?? BTS ไม่ใช่องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรนะครับ เมื่อเขาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เขาย่อมมีหน้าที่อีกหน้าที่หนึ่งคือ สร้างผลตอบแทนให้กับ "ผู้ถือหุ้น"

การที่เอา BTS ไปเปรียบเทียบกับรถไฟของประเทศอื่น เราต้องดูด้วยว่า รัฐบาลของประเทศอื่นเขามีการ subsidize หรือว่าจ่ายเงินอุดหนุนระบบขนส่งมวลชนกันทั้งนั้น

146 Nameless Fanboi Posted ID:Xnu68Q.TL

ที่อังกฤษ รัฐบาลทุ่มงบประมาณอย่างมากสนับสนุนค่าโดยสารรถไฟ จนรัฐบาลเองก็ต้องออกมาบอกว่า เริ่มจะไม่ไหว เพราะแต่ละปีเป็นจำนวนมหาศาล ไม่ต่างกับที่จีน หรือแม้กระทั่งญี่ปุ่น ที่ JR ก็เป็นบริษัทที่รัฐบาลเข้ามาอุ้ม จนมีความเป็นรัฐวิสาหกิจกลายๆ

ถ้าอยากให้ค่าโดยสารถูกลง รัฐจะต้องสนับสนุนเหมือนกับประเทศอื่น แต่รัฐย่อมไม่สนับสนุนหรอกครับ เพราะการโยนเงินภาษีมาสนับสนุนการขนส่งเพียงเฉพาะในกรุงเทพ แถมยังเป็นโครงการที่รัฐไม่ได้เป็นเจ้าของ (เพราะเป็นของ กทม) ใครจะทำ

ดังนั้น สิทธิขาดการปรับค่าโดยสารจึงเป็นของ BTS จนกว่าจะหมดอายุสัมปทานในปี 2572 ซึ่งหลังจากนั้น การกำหนดค่าโดยสารจะเป็นหน้าที่ของ กทม เพราะระบบรถไฟฟ้าที่เป็นของ BTS ในปัจจุบันจะกลายเป็นของ กทม ซึ่งมีอิสระในการกำหนดค่าโดยสารได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตามในปี 2555 หลังผ่านมาได้ 13 ปี (เหลืออายุสัมปทานอีก 17 ปี) ทาง กทม ได้มีการลงทุนในส่วนต่อขยายตากสิน - วงเวียนใหญ่ และมีการทำสัญญาว่าจ้างการเดินรถกับ BTS อยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว

แต่ก็มีการเปิดส่วนต่อขยายเพิ่มเติม กทม จึงได้ทำสัญาว่าจ้างแบบ "เหมา" ให้ BTS เป็นผู้ให้บริการเดินรถในส่วนต่อขยาย อ่อนุช - แบริ่ง ตากสิน - บางหว้า เป็นระยะเวลา 30 ปี จากปี 2555 - 2585

ส่วนต่อขยายที่สร้างขึ้นเพิ่มเติมนี้ เป็นของ กทม ลงทุนในงานโยธา และว่าจ้าง BTS เป็นผู้เดินรถ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเมื่อเรานั่งรถไฟฟ้าเลยจากสถานีอ่อนนุชออกไปจนถึงแบริ่ง หรือนั่งเลยจากตากสินข้ามไปถึงบางหว้า จึงต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 15 บาท เพราะ 15 บาทนี้เป็นค่า "ส่วนต่อขยาย" ที่ไม่ใช่ของ BTS แต่เป็นของ กทม. ที่จ้าง BTS ให้เดินรถให้

ดังนั้น เราต้องแยกให้ออกว่า ค่าโดยสารที่บริษัท BTS ได้รับนั้น จะเป็นค่าโดยสารในอัตรา 16 - 44 บาท ในส่วนสายเดิม (ที่ไม่รวมส่วนต่อขยาย) เท่านั้น ส่วนที่ราคาแพงขึ้นไปถึง 59 บาท เพราะมีการข้ามไปใช้เส้นทางในส่วนต่อขยายที่เป็นของ กทม. รายได้ส่วนนี้เป็นของ กทม. แต่ BTS ได้ค่าจ้างในการเดินรถตายตัว

และอย่างเพิ่งตกใจ ส่วนต่อขยายที่เลยจากสถานีแบริ่งออกไป ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 1 สถานี นั่นคือสถานีสำโรง ไม่ได้เป็นทั้งของ BTS และของ กทม. แต่เป็นของ รฟม (การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน) ตอนนี้ให้บริการ "ฟรี" จนถึงสิ้นปี 2560 จากนั้น ก็ต้อง "เก็บเงินเพิ่ม" หากใครนั่งเลยจากแบริ่งออกไปอีก และรายได้ส่วนนั้นจะเป็นของ รฟม. โดย BTS ได้รับค่าจ้างจากการเป็นผู้เดินรถ

ฉะนั้นแล้ว หากสายสีเขียวเปิดเดินรถครบทุกส่วนต่อขยาย ผู้โดยสารอาจจะต้องจ่ายค่าบริการแยกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนของ BTS ส่วนของ กทม และส่วนของ รฟม.

อย่างไรก็ตาม ในปี 2572 รถไฟฟ้าในส่วนของ BTS จะเป็นของ กทม เพราะสิ้นสัมปทาน ทำให้นับจากปี 2572 เป็นต้นไป เจ้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวจะเหลือแค่ กทม กับ รฟม เท่านั้น

147 Nameless Fanboi Posted ID:Xnu68Q.TL

เราอาจสงสัยว่า หล้งจากปี 2572 ค่าบริการในส่วนของ BTS ปัจจุบันจะเป็นเช่นไร เมื่อตกไปเป็นของ กทม อันนี้ยังไม่มีใครตอบได้ ขึ้นอยู่กับ กทม ในเวลานั้น ซึ่งอำนาจในการกำหนดค่าโดยสารเป็นของ ผู้ว่า กทม

แต่เราจะเห็นว่า สัญญาว่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยายมันหมดในปี 2585 ในขณะที่สัมปทาน BTS หมดในปี 2572 ตรงนี้จึงเป็นที่มาของข้อกล่าวหาที่ว่า กทม ประเคนต่อสัมปทานให้ BTS ออกไปอีก เพื่อให้หมดพร้อมกับสัญญาว่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยายในปี 2585

ซึ่งในความเป็นจริง ไม่ได้เป็นการ "ต่อสัมปทาน" แต่เป็นการทำสัญญาให้ BTS เป็นผูัเดินรถในโครงขายเดิมของ BTS ต่อไปอีก 13 ปี ทำให้สัญญาว่าจ้าง BTS เดินรถจะหมดพร้อมกันทุกส่วนที่เป็นโครงข่ายของ กทม ในปี 2585

แต่รายได้ของ BTS จะหมดลงในปี 2572 เท่านั้น เพราะหลังจากนั้น ผู้รับรายได้จะเป็น กทม. ไปโดยตลอด

ดังนั้น หาก กทม จะช่วยเหลือชาว กทม ได้ ก็ต้องไปรอหลังปี 2572 แต่คิดเหรอว่า ค่าโดยสารจะถูกลง!!!!

ปัจจุบัน คุณจะนั่งส่วนขยายออกไปอีกกี่สถานี กทม. ก็คิดเงินคุณ 15 บาทเท่ากันหมด จะนั่ง 1 หรือ 5 สถานีก็ 15 บาท ก็ลองไปคิดกันเอาเองว่า ใครโหดกว่าใคร BTS หรือว่า กทม

และก็อยากให้คิดอีกประเด็นหนึ่งก็คือ หลังจากที่มีการต่อสัญญาการเดินรถออกไปจนสิ้นสุดปี 2585 แล้ว BTS ได้นำเอารายได้ของรถไฟฟ้าที่เหลือสัมปทานอีก 17 ปี มาตั้งเป็นกองทุน BTSGIF และขายให้กับนักลงทุนทั่วไป และ BTS ถือหุ้นใน BTSGIF เพียง 33.33%

นั่นหมายความว่า BTS ได้สูบเอารายได้ที่จะเกิดในอนาคตนับตั้งแต่ปี 2555 ที่ตั้งกองทุนไปจนถึงปี 2572 ไปใช้ล่วงหน้า 66.66% และเหลือรอรับรู้รายได้เหล่านั้นผ่านการถือกองทุนอีกเพียง 33.33% เท่านั้น

ในการตั้งกองทุน ต้องมีการทำประมาณการผู้โดยสาร มีการกำหนดเรื่องของค่าโดยสารไว้ในสมมติฐานทั้งหมด เพื่อทำเป็นตัวเลขให้กับนักลงทุนตัดสินใจว่าเขาสนใจจะเข้ามาลงทุนหรือไม่?

หาก BTS ไม่ขึ้นค่าโดยสาร คนที่จะเสียประโยชน์จะไม่ใช่แค่ BTS เพียงคนเดียวแล้ว เพราะรายได้จากรถไฟฟ้านี้ มีนักลงทุนคนอื่นมาร่วมแชร์ลงทุนเป็นสัดส่วนถึง 66.66% ดังนั้น ในฐานะของการเป็นกองทุน ก็มีหน้าที่ต้องสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนเช่นเดียวกัน การขึ้นค่าโดยสารจึงไม่ใช่เป็นข้ออ้างว่าทำเพื่อ BTS แต่ผู้เดียวอีกต่อไป แต่มีนักลงทุนคนอื่นอีก 66.66% ที่ถือหุ้นใน BTSGIF เป็นตัวประกันอีกด้วย

มาดูในส่วนของ รถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงิน หัวลำโพง - บางซื่อ กันบ้าง โครงการนี้เป็นสัมปทานของ รฟม ไม่ใช่ กทม เพราะเป็นโครงการที่เกิดขึ้นทีหลัง ซึ่งตอนนั้นรัฐบาลเพิ่งจะคิดได้ว่า ควรหันมาทำระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพบ้างแล้ว

148 Nameless Fanboi Posted ID:Xnu68Q.TL

ผู้ที่ชนะการประมูลไปก็คือ บริษัท BMCL แต่มีข้อแตกต่างตรงที่ว่า รฟม ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ ก็ถือหุ้นอยู่ใน BMCL ด้วย เราจึงเห็นว่า รฟม. มีส่วนหลายๆอย่างในการทำให้ค่าโดยสารรถไฟฟ้าถูกลง นั่นเพราะ รฟม เป็นรัฐวิสาหกิจ การที่รัฐจะเข้าอุ้มประชาชนบ้าง ก็เป็นสิ่งที่สมควรทำ

BMCL ปัจจุบันมีการควบรวมกับบริษัททางด่วนกรุงเทพหรือ BECL จนกลายเป็นบริษัทใหม่ BEM ไปแล้ว

ใครไปดูงบ BEM แล้วบอกว่ารถไฟใต้ดินมีกำไร เดี๋ยวตีตายเลย

BECL หรือทางด่วนต่างหาก ที่่ีมีกำไร แต่ BMCL หรือรถไฟใต้ดินมาถึงปัจจุบัน ยังไม่เห็นกำไร เพราะผู้โดยสารในระยะแรกต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก

เช่นเดียวกับ BTS ค่าโดยสารรถไฟใต้ดินในส่วนของ BEM นั้น BEM เป็นผู้กำหนดทั้งหมด เพราะเป็นการลงทุนโดยเอกชน จนกว่าจะหมดอายุสัปทาน

แต่ในส่วนต่อขยายจาก บางซื่อ - เตาปูน ซึ่งมีการใช้มาตรา 44 ให้เร่งเชื่อมต่อสายสีม่วงกับสายสีน้ำเงินนั้น เป็นการที่ รฟม. ว่าจ้างให้ BEM เป็นผู้เดินรถ 1 สถานี เช่นเดียวกันกับสายสีม่วงที่เป็นของ รฟม. ที่ว่าจ้างให้ BEM เป็นผู้เดินรถเป็นเวลา 30 ปี

หากเราดูค่าโดยสารในส่วนนี้ จะเห็นว่า ผู้ที่เดินทางข้ามโครงข่ายจากสายสีน้ำเงินไปสายสีม่วงนั้น ทาง รฟม. ไม่คิด "ค่าแรกเข้า" โครงข่าย แต่คิดเพียงแค่ค่าโดยสารตามจำนวนสถานีเท่านั้น

โดยปกติ การนั่งข้ามโครงข่าย ถ้าเปรียบเหมือนการขึ้นรถใหม่ ก็ต้องจ่ายค่าแรกเข้าก่อน 14 บาท แต่ในปัจจุบันนี้ หากประชาชนเดินทางข้ามไปมาระหว่างสายสีน้ำเงินกับสายสีม่วง จะจ่ายค่าแรกเข้าแค่ครั้งเดียว โดยเป็นการจ่ายให้กับ BEM ซึ่ง รฟม ไม่เก็บในส่วนค่าแรกเข้านี้

นอกจากนั้น รฟม ยังกระตุ้นยอดผู้ใช้บริการด้วยการ "ลดราคา" ค่าเดินทางจากสถานีละ 2 บาท เหลือสถานี 1 บาท ซึ่งจะหมดอายุในสิ้นปี 2560 (แต่อาจจะต่อหรือไม่ก็ไม่รู้)

แค่นี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่า การที่ รฟม มีความเป็นรัฐวิสาหกิจ ก็ทำให้การใช้โครงข่ายมีการคิดค่าบริการที่ถูกกว่า เพราะมีอำนาจในการกำหนดค่าโดยสารได้เอง และที่สำคัญก็คือ รฟม ไม่ได้คิดค่าส่วนต่อขยาย บางซื่อ - เตาปูน 1 สถานีอีกด้วย ทั้งๆที่เป็นของ รฟม

แต่อีกนัยหนึ่ง อาจเป็นเพราะ รฟม เอง ก็มีหุ้นอยู่ใน BEM ด้วย และ BEM ก็ยังติดหนี้ที่ต้องจ่ายให้กับ รฟม อยู่เยอะ เพราะแม้จะเป็นการให้สัมปทาน แต่ก็มีการกำหนดส่วนแบ่งรายได้ที่ รฟม ต้องได้รับเช่นกัน ซึ่งตลอดระยะเวลา รฟม ได้รับต่ำกว่าที่ควรจะได้มาโดยตลอด ดังนั้น การยกเว้นค่าแรกเข้า และหลายๆอย่างที่ทำ ก็เพื่อดึงให้รถไฟฟ้าใต้ดินนั้นมีคนมาใช้บริการเยอะขึ้น ซึ่งก็เป็นประโยชน์ต่อ รฟม เองอยู่ดี

ด้วยเหตุนี้ เรื่องการขึ้นค่าโดยสาร จึงอยากให้เราทำความเข้าใจกับเรื่องราวต่างๆว่าเป็นอย่างไร มีที่มาที่ไปอย่างไร ในสภาวะที่ "รัฐบาล" ไม่ได้สนับสนุนภาษีลงไปในส่วนนี้เลย และเอกชนก็มีภาระที่ต้องสร้างผลกำไรตอบแทนผู้ถือหุ้น ประกอบกับขาดทุนมาก่อนหน้านี้ (หรือยังไม่กำไรให้เห็นเลยสำหรับรถไฟฟ้าใต้ดิน) การปรับขึ้นค่าโดยสารจึงเป็นเรื่องปกติที่บริษัทจดทะเบียนทำกัน

แต่การลดภาระให้ประชาชนนั้น เราจะร้องขอได้จากหน่วยงานของรัฐ เช่น รฟม ที่ปัจจุบันก็รับภาระอยู่ รวมถึง กทม ที่ควรหรือไม่ที่จะรับช่วยเหลือประชาชนชาว กทม บ้าง ไม่ใช่คิดค่าส่วนต่อขยายแบบเต็มเหยียดเช่นนี้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

149 Nameless Fanboi Posted ID:gWXFVQUPb

สำหรับการประกาศผลรางวัล Ig Nobel รางวัลสุดป่วนต่อมฮาในปีนี้ (2017) นั้นมีรางวัลในสาขาที่แอดสนใจอย่างสาขา "ฟิสิกส์" ด้วยน่ะครับ

ซึ่งเป็นเรื่อง “วิทยากระแสของแมว” (วิทยากระแส/ Rheology : เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยการไหลของของไหลที่ไม่ปกติเป็นหลัก) หรือเน้นไปที่การศึกษาสมบัติวิสโคอิลาสติก (Viscoelastic properties) บนของไหลน่ะครับ

โดยบทความวิจัยนั้นมีชื่อว่า “On the rheology of cats” โดยนักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสนามว่า Marc Antoine Fardin น่ะครับ ซึ่งบทความที่เค้าเขียนก็มีในลิงก์นี้นะครับ

http://www.rheology.org/sor/publications/rheology_b/RB2014Jul.pdf

โดยเค้าตั้งสมมติฐานว่า “แมวเป็นของเหลว” เนื่องจากโดยนิยามของของเหลวจะกล่าวไว้ว่า “ของเหลวสามารถเปลี่ยนรูปร่างในภาชนะที่บรรจุอยู่โดยที่ปริมาตรยังคงเดิม” จากลิงก์นี้นะครับ

https://www.boredpanda.com/cats-are-liquids/

ดังนั้นเค้าจึงใช้หลักการของ “วิทยากระแส” ในการศึกษาคำนวณพฤติกรรมการไหลของแมว ซึ่งก็ได้ผลการคำนวณพบว่าแมวนั้นมีค่า “Relaxation time (τ)” หรือเป็นเวลาที่แมว (ของเหลว) นั้นสามารถที่จะเปลี่ยนรูปร่างตามภาชนะที่มันอยู่ได้

ผลที่ได้นั้นพบว่า τ ของเจ้าแมวนั้นอยู่ในช่วง 1 วินาทีจนถึง 1 นาทีกันเลยทีเดียว โดยพบว่าค่า τ ของแมวชราวัยนั้นจะมีค่าต่ำกว่า (มีพฤติกรรมที่เป็นของเหลวมากกว่า) แมวเด็กด้วยนะครับ

และนอกจากนั้นเค้าก็ยังสรุปออกมาได้ว่าแมวนั้นสามารถที่จะเป็นทั้ง “ของแข็ง” และ “ของเหลว” ตามแต่สถานการณ์ด้วย

โดยที่เมื่อจับแมวมาใส่ในกล่องเล็กแล้วจะมีพฤติกรรมเป็นของเหลวและสามารถที่จะเติมเต็มพื้นที่ว่างในกล่องที่จับวางลงไปได้ /รวมไปถึงการไหลในช่องตีบแคบ การเป็น superfelidaphobic substrate ที่มีมุมสัมผัส (contact angle) สูงมาก/ ความสามารถในการเคลื่อนตัวออกจากภาชนะปากแคบ เป็นต้น

แต่เมื่อวางแมวลงไปในอ่างน้ำที่มีน้ำแบบเต็มๆก็จะพบว่าแมวนั้นจะพยายามที่จะลดพื้นที่ผิวสัมผัสกับน้ำให้น้อยที่สุดและมีพฤติกรรมที่เป็นของแข็งมากกว่า เป็นต้นน่ะครับ

แต่อย่างไรก็ตาม Fardin ก็ยืนยันว่าไม่มีการได้รับอันตรายของเจ้าแมวน้อยในการศึกษาครั้งนี้เลยน่ะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

150 Nameless Fanboi Posted ID:mOoyEulgF

ทำเพจในไทยให้ยอดไลค์เยอะๆ ไม่ยาก แค่
1.วาดรูปเป็นระดับนึง
2.วาดเรื่องผัวๆเมียๆ

แค่นี้ยอดไลค์จะหลั่งไหลเข้ามาให้คุณเอาไปลงโฆษณาแดกสบายใจ

-มิตรสหายบนเฟสท่านนึง

151 Nameless Fanboi Posted ID:8UzpgpPlh

อธิบายเหตุการเมืองเดือนตุลา ตามประสาหนังเป็ด

14 ตุลา 2516
รีวิว สาระแนเลิฟยูววว

6 ตุลา 2519
รีวิว Kingsman: The Golden Circle

#ด่าคนด่าหนังไม่ผิด
#คอมมิวนิสต์เพจหนัง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

152 Nameless Fanboi Posted ID:k.OD07tc3

กูเห็นรำลึกอดีตตลอด แต่ไม่เคยจำเป็นบทเรียน
6ตุลาแช่งแม่งมันดิ
#กูนี่แหละพูดเอง

153 Nameless Fanboi Posted ID:DWVvB36/l

ใครว่าเราไม่ได้บทเรียนจากประวัติศาสตร์ บทเรียนคือทหารชนะเสมอ เพราะฉะนั้นใครจะประท้วงอะไรกูไม่ไปแล้ว lol
#กูเองท่านหนึ่ง

154 Nameless Fanboi Posted ID:zKGQUxzR3

>>153 ถ้าไม่ชนะ เราคงเป็นประเทศข้างๆ

155 Nameless Fanboi Posted ID:Rvqemnfvk

เอาผลงานล่าสุดก็ปลดธงแดง icao ได้เพราะทหารใช้ม.44 ช่วยลัดปัญหา เลยแก้ได้เร็วกว่าไอ้รุ่นมาจากเลือกตั้ง(ที่มีผลประโยชน์ทับกันจนไทยโดนธงแดง)

156 Nameless Fanboi Posted ID:6K98fiEqR

>>154 ข้างไหนวะ กูเห็นติดๆกันนี่ก็ทหารชนะเสมอนะ

157 Nameless Fanboi Posted ID:wKOI0Khwi

สงครามโลกทหารก็ชนะหมดแหละ

158 Nameless Fanboi Posted ID:GgIVqjKj8

ถามมึงคิดว่า ใครสู้คนถือปืนได้วะ

ถ้าชนะได้ก็เพราะมึงก็ถือปืนเหมือนมัน

159 Nameless Fanboi Posted ID:zKGQUxzR3

>>156 ประเทศที่มีทหารไง

160 Nameless Fanboi Posted ID:mA7GlOShw

บทเรียน 6 ตุลา = don't be a fucking commie

161 Nameless Fanboi Posted ID:wF9ZhQ2mX

นศ. ที่ถูกฆ่า 6 ตุลาไม่ใช่คอมมี่ไม่ใช่หรอวะ แต่พอต้องหนีเข้าป่าไปอยู่กับคอมมี่บางส่วนเลยได้กลายเป็นคอมมี่ไปจริงๆ

162 Nameless Fanboi Posted ID:nSXls8Yn+

>>161
อย่างว่าปลาหนึ่งตัวเน่ามันก็ไปทั้งเข่งนั้นแหละ การจะมาแยกแยะมันก็ลำบาก แต่นักศึกษาหัวคอมคงมีจริง

163 Nameless Fanboi Posted ID:svTWnY85L

>>161 บางส่วนเป็นคอมมี่จริง มีอาวุธจริง มีหัวรุนแรงจริง บาโฟเคยออกมาพูดอยู่ แล้วก็โดนด่าว่าหาความชอบธรรมให้ทหาร

164 Nameless Fanboi Posted ID:4xyJYGcRW

>>161
หนีไปพึ่ง คอม เพราะว่าไม่มีใครให้พึ่ง ในตอนนั้น ศัตรูของรัฐที่ใหญ่ที่สุดตอนนั้น

165 Nameless Fanboi Posted ID:bT65EyHP5

“หากท่านรู้สึกโกรธหรือเกลียดต่อความอยุติธรรมใด ๆ ท่านคือพวกชังชาติ"

166 Nameless Fanboi Posted ID:Ai24Tnhcc

นศ.ตุลา วันนั้นก็มาเป็นนักการเมืองแดกภาษีพวกมึงนั่นแหละ

167 Nameless Fanboi Posted ID:5r0Yh7Rro

>>166 ที่แดกภาษีอยู่ทุกวันนี้มันใช่นักการเมืองหรอวะ 555

168 Nameless Fanboi Posted ID:wiG/m7RMN

>>167 พวกตุลาต้องแบ่งเป็น 2 พวก 14 กะ 6

14 ตอนหลังไปเป็นนักวิชาการกับเทคโนแครตซะเยอะ

6 ตอนหลังไม่เป็นโล้เป็นพายเท่า 14 หรอก ไปเป็นนักวิชาการก็หลายคนเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่เป็นนักกิจกรรมมากกว่า

169 Nameless Fanboi Posted ID:Vsxyc7nQw

Once upon a time.... มีชายคนนึง เป่าปี่ ได้ไพเราะมาก เมื่อเดินเป่าปี่ผ่านไปยังบ้านใคร ก็จะมีผู้คนออกมาเต้นรำ ด้วยเสมอ ครั้นชายหูหนวกคนหนึ่ง เดินผ่านมา เห็นชาวบ้านเต้นรำกัน ก็นึกว่าคนพวกนี้บ้ากันหมด แล้วก็เดินจากไป.....

170 Nameless Fanboi Posted ID:5tiv4WK.D

ไอ้ห่าพวกเพจการเมืองไปปั่นซะจนคนคิดว่าพวกนศ.ไม่ใช่คอมมี่ มันเป็นคอมมี่ทั้งหมดนั่นละ แต่ต้องเสริมว่าเป็นคอมมี่ที่หวังดีกับประเทศชาติ
คือระบบการศึกษาไทยแม่งก็แย่ ฝังหัวว่า คอมมิวนิสต์ แปลว่า เผด็จการ ไม่ใช่เว้ย คอมมิวนิสต์คือระบบเศรษฐกิจ เผด็จการคือระบบการปกครอง ปัจจุบัน(เมื่อ 3-4ปีก่อน)ไทยใช้ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย ในระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม
จีน รัสเซีย ปัจจุบันก็ใช้ระบบการปกครองแบบเผด็จการ แต่เปลี่ยนจากระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ มาเป็นทุนนิยม
แต่ในสมัยนั้นที่ยังเป็นยุคสงครามเย็น มันยังไม่มีใครรู้ว่าระบบไหนดีกว่ากัน นศ.ตอนนั้นสนับสนุนคอมมี่ เพราะทฤษฎีของคอมมิวนิสต์ในตอนนั้นถือว่าเทพซ่าฟ้าประทานกับรากหญ้ามาก ทุนนิยมสามานย์ นายทุนหน้าเลือด ธงคอมมี่ยังเป็นรูปเคียวกับค้อนหมายถึงระบบนี้เกิดมาเพื่อชาวนากับแรงงานรากหญ้าโดยเฉพาะ
มึงเป็นนายทุนมีวัว 2 ตัว ในระบบทุนนิยม วัว 2 ตัวก็เป็นของมึง แต่ในคอมมี่ รัฐเอาวัวไปตัวนึง แจกให้ชาวนา มึงเหลือวัวตัวเดียว คนเราเกิดมาเท่าเทียม เพราะงั้นทุกคนเท่าเทียม ไม่ว่ามึงจะจบหมอหรือเป็นชาวนา ทุกคนทำงานเท่ากันได้เงินเดือนเท่ากัน แดกข้าวเท่ากัน ไม่มีใครได้แดกมากกว่าหรือน้อยกว่า วันดีคืนดีนายทุนนอนเฉยๆเอาเงินไปลงทุน ให้เงินทำงาน ชาวนาไปฟ้องว่าไอ้นี่ไม่ทำงาน รัฐบอกงั้นมึงไม่ต้องแดกข้าว ก็ยังได้
นศ.ที่เป็นคอมมี่สมัยนั้น ก็ต้องการเปลี่ยนไทยให้เป็นระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ แต่ว่าปกครองในระบบประชาธิปไตย ซึ่งในตอนนั้นก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าทำได้จริงมั้ย ทำแล้วเป็นยังไง ยุคนั้นก็มีจีนยุคประธานเหมา ทำแล้วเวิร์คจะเอาอย่างจีนบ้าง
เรามาศึกษา ปวศ.เอาทีหลังถึงได้รู้ว่า ระบบมันไม่เวิร์ค ทุกประเทศที่เปลี่ยนเป็นคอมมี่ ก็โดนเปลี่ยนเป็นเผด็จการทั้งหมดด้วย เพราะเวลาปฏิบัติจริงคอมมี่มันใช้ในระบบประชาธิปไตยไม่ได้ และในท้ายที่สุดคอมมี่ก็สู้ระบบทุนนิยมไม่ได้

171 Nameless Fanboi Posted ID:M4dl46fOV

สรุป คือดีแล้วที่ไม่ได้เปลี่ยน ไม่งั้นเละเทะแน่

ส่วนพวกที่เย้วๆอยากเปลี่ยนก็หมาไป

อุดมการณ์เท่าเทียมกันแม่งปัญญาอ่อน
เอาไว้ผลิตหุ่นยนต์มาหาเงินให้ทุกคนบนโลกได้ก่อนค่อยคิดนะจ้ะ

172 Nameless Fanboi Posted ID:Hh+iYqCQs

>>171
เดี๊ยวก็มีพวกบ้ามาเรียกร้องสิทธิหุ่นยนต์ ข้อหามนุษย์ใช้แรงงานมันมากเกินไป

173 Nameless Fanboi Posted ID:wIRLi/GYV

https://imgur.com/Y2Px1G7
Free Helicopter Rides for นศ. 6 ตุลา

174 Nameless Fanboi Posted ID:Zz7jaKF4q

>>170 เอาจริงๆ นะ การบอกว่า Capitalism ขัดแย้ง/อยู่ร่วมกันไม่ได้กับ Communism นี่ก็เป็น Propaganda อย่างหนึ่งที่เชื่อฝังหัวตามๆ กันมา Marx ระบุไว้ชัดเจนว่า Capitalism เป็นต้นธารของ Communism ถ้าไม่มี Capitalism ที่แข็งแกร่ง ก็ไม่มี Communism ที่แข็งแกร่ง

เอาจริงๆ จีนก็ยังไม่สลัดจากอุดมการณ์ Communism ไปซะทั้งหมดนะ ใน 3 ปัจจัยของ Capitalism จีนยังถือครอง "ที่ดิน" ทั้งหมดอยู่ ทุกวันนี้คนจีนเพียงแค่เช่าที่ดินระยะยาว พอหมดสัญญาก็กลับมาเป็นของรัฐ อีกทั้งรัฐวิสาหกิจของจีนยังเป็นแรงขับสำคัญของเศรษฐกิจจีน เรียกได้ว่าเกือบ 1/3 ของเศรษฐกิจจีนอยู่ในมือของรัฐบาล

การบอกว่าจีนไม่ใช่ Communism อาจจะไม่ตรงความจริงนัก เพราะภาพ Communism ที่ในความคิดของคนส่วนใหญ่เป็น Leninism/Maoism มากกว่า Communism ประมาณบอกว่าขาหมูเยอรมันไม่ใช่ขาหมูอ.ต.ก.นั่นละ

175 Nameless Fanboi Posted ID:72YYTYkqH

ผักบุ้งมียาง ผักบุ้งมีข้อ มีปล้อง ที่ของเหลวผ่านได้ไม่ตลอด ผักบุ้งมี "รสชาติ" ที่ไปรบกสนรสชาติของเหลวที่เราดูด

ผักบุ้งอาจมีพยาธิ มีสิ่งมีชีวิต และ "ไข่" พยาธิ อยู่ในนั้น อันมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แค่กินแกล้มส้มตำก็อาจไม่ปลอดภัย

เอาผักบุ้งไปผัดไฟแดง แกงส้ม แล้วดื่มน้ำจากแก้ว จากขวด โดยไม่มีหลอดดีกว่าไหม?

ใช้เบคกิ้งโซดาล้าง ล้างสามครั้ง เปลืองน้ำ เปลืองเบ้กกิ้งโซดาไปอีก
บางครั้งความพยายามจะ Green มันยิ่งเปลืองทรัพยากรโลกนะ

##มิตรสหายท่านหนึ่งกล่าวถึงร้านฮิปสเตอร์เอาก้านผักบุ้งมาเป็นหลอดดูดน้ำ

176 Nameless Fanboi Posted ID:+RzIroMQi

>>174 กูมองว่าจีนหลังเหมาเป็นแบบ"ใช้ไอเดียอะไรก็ได้ที่ได้ประโยชน์"ว่ะ
ด้านปกครองไอเดียคอมได้ประโยชน์กับพวกEliteเรื่องควบคุมอำนาจ ก็ใช้ไอเดียคอม
ด้านค้าขายไอเดียทุนนิยมได้ประโยชน์เรื่องค้าขาย=เงินเข้าเป๋าElite ก็ใช้ไอเดียทุนนิยม etc.

177 Nameless Fanboi Posted ID:n+DR+wmBp

จีนทำได้เพราะประเทศใหญ่มีทรัพยากรและขนาดประชากรเกื้อหนุน (แถมคนจีนมีค่านิยมเรื่องการใช้จ่าย)
ลองจีนมีขนาดประเทศเล็กและประชากรน้อยก็ไม่ต่างอะไรกับเกาหลีเหนือ ลาว

178 Nameless Fanboi Posted ID:Hb0zEXgaQ

>>177 มึงไม่รู้อะไร ยุคหนึ่งเกาหลีเหนือล้ำหน้าทั้งไทยและเกาหลีใต้อีก ระบบจูเช่ของคิมอิลซุงทำให้เกาหลีเหนือเจริญได้จริงๆ นะ แต่จุดเปลี่ยนมันอยู่ที่โลก Communist แข่งขันกีดกันสินค้ากันเอง ทำให้ตลาดของเกาหลีเหนือที่เล็กอยู่แล้วเล็กลงอีกจนแข่งไม่ได้

ถ้าแค่นั้นเกาหลีเหนือยังพออยู่ได้ จุดพลิกผันจริงๆ อยู่ที่นโยบายที่ผิดพลาดของคิมอิลซุง ทำให้ผลิตสิ่งไม่ต้องการมากไป และสิ่งที่ต้องการน้อยไป คล้ายๆ กับ Great Leap Forward ของจีนนั่ละ แต่เกาหลีเหนือหยุดไม่ทัน ทำให้ประเทศฟื้นตัวไม่ได้

กลับกัน เกาหลีใต้ได้สุดยอดผู้นำอย่างปาร์คจุงฮี วิสัยทัศน์ของแกล้ำหน้าและเด็ดขาดมากๆ การปกครองเผด็จการเต็มขั้น 20 ของปาร์คจุงฮีทำให้เกาหลีใต้มีทุกวันนี้ได้

อ้อ แล้วเกาหลีเหนือไม่ได้ทรัพยากรน้อยนะ เชื่อกันว่าประเทศแม่งมี Rare Earth Metal มูลค่าอย่างต่ำประมาณ 6 ล้านล้าน USD แต่ขุดไปก็หาคนซื้อไม่ได้เพราะโดนคว่ำบาตร และเกาหลีเหนือไม่มีเทคโนพอขุด

179 Nameless Fanboi Posted ID:2ziQeOQl/

ระหว่างที่เกาหลีใต้ได้ผู้นำเผด็จการสร้างพื้นฐานให้ชาติ

ช่วงนั้นไทยโดนปัญหาคอมมี่ฉุดประเทศแทน ถถถ

180 Nameless Fanboi Posted ID:A/3Azg9rR

สุริยะกับอีดอกทองสมรบึ้มป่ะสัส ตายห่าทั้งตระกูลหวานวงศ์ได้ก็ดีนะ คู่รักอัปรีย์มีลูกขยะจัง บิบิ

181 Nameless Fanboi Posted ID:k7Q7ihfFk

“นึกถึงพล็อตหนังสั้นที่เคยคิดขึ้นมาตอนเห็นป้ายประกวดหนังสั้นส่งเสริมรถไฟไทย มีใครอยากเอาไปทำไหม เรื่องง่ายๆ เลย คือคนจะฆ่าตัวตาย เลยไปนอนให้รถไฟทับ แต่นอนอยู่สามวันแล้วรถไฟแม่งก็ไม่มาซักที ที่สุดก็ถอดใจไปเอง ทั้งเรื่องไม่ต้องมีไรอะ มึงไทม์แลปส์เอา”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

182 Nameless Fanboi Posted ID:g5VENvzHR

>>181 ไอ้เหี้ย โครตจี้ 555

183 Nameless Fanboi Posted ID:2vB9X.7Mz

_
_ooOoo_
o8888888o
88" . "88
(| -_- |)
O\ = /O
____/`---'\____
.' \\| |// `.
/ \\||| : |||// \
/ _||||| -:- |||||_ \
| | \\\ - /'| | |
| \_| `\`---'// |_/ |
\ .-\__ `-. -'__/-. /
___`. .' /--.--\ `. .'___
."" '< `.___\_<|>_/___.' _> \"".
| | : `- \`. ;`. _/; .'/ / .' ; |
\ \ `-. \_\_`. _.'_/_/ -' _.' /
===========`-.`___`-.__\ \___ /__.-'_.'_.-'================
`=--=-' hjw

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

184 Nameless Fanboi Posted ID:FIq975Nmn

โปเกกิหน้าหีมีเพื่อนเล่นเกมด้วยเหรอครับ เล่นlol ยังโดนเพื่อนในกลุ่มเอาไปด่าลับหลังเลยนะครับ

185 Nameless Fanboi Posted ID:pMRVizSKU

คนฉลาดมักสอนคนโง่ให้มีน้ำใจ เพื่อที่ ตนจะได้เอาเปรียบ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

186 Nameless Fanboi Posted ID:0JquG.QEC

วัฒนธรรมแว้นซ์เป็นวัฒนธรรมย่อยที่ขยายเป็นวงกว้างที่สุดในสังคมไทย​ และจะส่งผลถึงลูกหลานเราในอนาคต
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

187 Nameless Fanboi Posted ID:nndtobqFL

เหยียดรสนิยมใครเมิงเหียดไป
แต่เมิงมาเหียดถิ่นเกิดเชื้อชาติแถวบ้านกุเรียกพวกสวะ

188 Nameless Fanboi Posted ID:5jk9dqreE

>>187 PC จังเลยคับ ตบมือๆ

189 Nameless Fanboi Posted ID:pp9C5h5qs

inpeech Blumpf
B4 he go nuklear Drumpf
Let's face it
He rayciss
He got mansionz and money
Skin orange, dat funny
Em Ready
Mum's spaghetti

-มิตรสหายแรปเปอร์ผิวขาวที่กระโดดขึ้นHate Trump Bandwagon

190 Nameless Fanboi Posted ID:ma2c3gVG0

>>189 คะแนนิยมมันก็ตดจริงไม่ใช่เหรอวะ มีผลงานห่าอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมั่งเนี่ย

191 Nameless Fanboi Posted ID:ma2c3gVG0

>>190 *ตก

192 Nameless Fanboi Posted ID:UbZdgJAB9

ขายอาวุธให้ซาอุได้แสนล้าน ยุ่นเกาอีกหลายพันล้าน เริ่ม made in america ถ้าพูดถึงแค่ว่ามันยังไม่ถึงปี มันก็วัดอะไรไม่ได้อยู่ดี

การเมืองส่วนใหญ่มันเกี่ยวกับภาพลักษณ์มากกว่าผลงานนะ ปู่นอมเคยด่าโอบาม่าว่าไม่มีนโยบายอะไร ดีแต่พูด แต่คนก็ยังชอบนิกก้าคนนั้นอยู่

193 Nameless Fanboi Posted ID:ma2c3gVG0

>>192 ขายยุ่นเกานี่เอาข้ออ้างเรื่องเกาหลีเหนือแล้วมัดมือชกให้ซื้อ THAAD ชัดๆ คนประท้วงกันจะตายห่า ส่วนซาอุมมันก็ซื้อของเมกาเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่เห็นจะแปลก

194 Nameless Fanboi Posted ID:MFDsIfenY

>>193 มูลค่าไง ดีลแสนล้านไม่ใช่น้อยๆ นะ แล้วเกากะยุ่นก็ซื้อของเมกาตลอดอยู่แล้ว มากน้อยแล้วแต่ยุค

195 Nameless Fanboi Posted ID:WJnPi0HkU

"ทำดีไม่ต้องคิด" ประโยคหล่อ ๆ ที่ตอนนี้แพร่กันเต็มโซเชียลไปหมด

โคตรอันตรายเลยนะ ประโยคนี้ อยากให้คิดดูดีนะครับ เพราะเมื่อคนเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นดี โดยไม่ตั้งคำถามว่าสิ่งที่ทำนั้นดีจริงหรือไม่ ส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง ไม่รับฟังความเป้นไปได้ของสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากหลายมุม หรือข้อเท็จจริง ทำไปเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดี ทำไปเพราะหวังดี แต่สุดท้ายมันออกมาไม่ดี มันกลายเป็นทำร้ายหรือผลร้าย มันมีเกิดขึ้นจริงและเราก็เห็นเป็นอุทาหรณ์กันมาตลอดไม่ใช่หรือครับ?

ตัวอย่าง เด็กคลอดมาตัวเหลืองปูย่าหวังดีแอบไปป้อนน้ำอยากให้หลานหายเหลือง สรุปเด็กตาย เพราะเชื่อว่านี่คือสิ่งที่ดี ถูกต้อง ไม่ถามหมอก่อน (หรือบางทีหมอบอกก็ไม่เชื่อ)

ตัวอย่าง เห็นเต่าคลานอยู่บนพื้นดินแห้ง ๆ สงสารเต่า อยากช่วยเต่า คิดว่าเต่าต้องอยู่ในน้ำ หวังดีอยากช่วยเต่า เลยเอาเต่าไปโยนลงบ่อน้ำที่ไม่มีขอบ สรุปเต่าไม่มีที่มาพักตากแดดตากลม กระดองเน่าตาย

ตัวอย่าง อุ้ย ทำไมบริษัทห้องนี้ไม่ปิดไฟ ไม่ปิดคอม ดูสิเปลืองไฟบริษัท เราหวังดีกับบริษัท ปิดไฟแม่งหมดเลย สรุปงานและข้อมูลที่กำลังประมวลผลทั้งหมดพังเรียบ บริษัทเสียหายเป้นล้าน เพราะเชื่อว่าตัวเองทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ไม่คิดไม่ตั้งคำถาม ไม่ถามก่อนว่าใครเปิดไว้ ใครทำอะไรรึเปล่า

มีแฟน รักแฟนมาก อยากให้สิ่งที่ดีกับแฟนทุกอย่าง ให้แฟนกินคลีน กินวีแกน ให้แฟนไปออกกำลังกาย โทรไปปลุกตอนเช้า สั่งให้นอนก่อนสี่ทุ่ม เกมไม่ให้เล่นเพราะมันไม่ดีในความคิดของตัวเอง สรุปแฟนทนไม่ไหวบอกเลิก เพราะไม่เคยถามว่าสิ่งที่ดีที่ตัวเองเชื่อว่าดีมันดีสำหรับแฟนหรือแฟนต้องการไหม

คือจะทำอะไรก็ต้องคิดครับคุณ ต้องตั้งคำถามสิ่งที่ทำครับ ทำไม่คิดไม่ตั้งคำถาม เดือดร้อนตัวเองไม่เท่าไหร่ เดือดร้อนคนอื่นเป็นภาระคนอื่นตามมาน่ะจะไปรับผิดชอบยังไงครับ คือตั้งคำถามแล้วคิดแล้วรู้ถึงผลทีอาจจะเกิดขึ้นแล้วยังเลือกที่จะทำก็เป็นสิทธิ์ของคุณครับ ผลออกมราคุณก็จะได้รับรู้ว่ามันเป็นความรับผืดชอบของคุณ คนอื่นจะได้ไม่ต้องมาหัวเสียกับคำว่า รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ที่ใช้กันสิ้นเปลืองเหลือเกิน คิดกับตัวเองก็ไม่พอนะครับ ถามคนอื่นด้วยว่าคิดอย่าไร คนเราไม่รู้ทุกอย่างหรอกครับ อย่าอายที่จะถาม

ดังนั้นก่อนที่คุณจะผลิตซ้ำคำว่า "ทำดีไม่ต้องคิด" คุณช่วยคิดก่อนครับว่าประโยคนี้มันซ่อนยาพิษอะไรไว้ในความหล่อของมัน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

196 Nameless Fanboi Posted ID:CZSv.poFL

>>194 ซาอุเคยมีดีล 60000 ล้านในสมัยโอบาม่าเว้ย ที่ทรัมป์ขายได้เยอะกว่าโอบาม่าเพราะเปลี่ยนท่าทีมาแข็งกับอิหร่านมากกว่าสมัยโอบาม่า
แล้วนอกจากนี้ทรัมป์ทำไรอีกวะ เห็นนโยบายสุขภาพที่ออกมาล่าสุดก็โดนด่าเละ

197 Nameless Fanboi Posted ID:YaNkMTKnG

>>196 เอาจริงๆ ทรัมป์แคร์มันก็โอบามาแคร์ 2.0 นั่นแหละ แค่บางอย่าง ที่อาจจะดีหรือเหี้ยกว่าโอบามาแคร์ก็ได้ ต้องรอดู

198 Nameless Fanboi Posted ID:UiTTcS0Po

>>196 ขายเนื้อวัวให้จีน
ดีลพลังงานใหม่ ตัดท่อส่งก๊าซกับขุดถ่านหิน เซฟงานให้คนในรัฐกลางประเทศที่ไม่มีใครเหลียวแล(fly-over states)

199 Nameless Fanboi Posted ID:S1sS2LEk1

“พ่อค้านี่ต้องหาแม่ค้ามาเย็ดก่อน ก่อนจะมีลูกค้าสินะ”
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

200 Nameless Fanboi Posted ID:urotvWy7l

"ผัดสี่สหายมีที่มาจากตอนที่ประธานเหมากำลังรบกับเจียงไคเช็คที่ทุ่งโงลังกั๋ง ช่วงนั้นเปนฤดูแล้ง. เสบียงกองทัพไม่พอ
แต่ทหารก็ไปแย่งเป็ดไก่จากชาวบ้านมาทำอาหารให้ประธานเหมาเปนพิเศษ
เติ้งงเสี่ยวผิงเห็นดังนั้นได้แต่ส่ายหน้า แล้วกระซิบบอกประธานเหมาว่า
ถ้าท่านอยู่ในวังจะสูบบุหรี่ลัคกี้สไตค์ จะใส่แว่นดำ ก็ยังได้
แต่ในสนามรบท่านต้องบำรุงขวัญทหาร สร้างภาพให้พวกเขาเห็นว่าท่านเหน็ดเหนื่อยปานใด.
ว่าแล้วเติ้งเสี่ยวผิงก็สั่งให้ชาวเขาเหลียงซานคนสนิทไปแอบถ่ายรูปโดยไม่ตั้งใจตอนที่ประธานเหมาพึ่งอาบน้ำเสร็จ.แต่ยังไม่เช็ดตัว แล้วนำรูปนั้นแจกจ่ายให้ทหารทุกคนโดยบอกว่า. ท่านประธานเหมาเหงื่อออกจากการทำงานหนักเพื่อพวกเรา. ขอให้ทหารทุกคนพกรูปนี้ไว้ ต่อให้โดนระเบิดร่างกายแหลกเหลว
แต่ระเบิดจะไม่สามารถทำอันตรายรูปประธานเหมาได้ เพื่อข่มขวัญศัตรู

โจวเอินใหล 1 ในแก๊งค์สี่หาย กลัวเติ้งเสี่ยวผิงจะมีความชอบเกินหน้า. จึงกล่าวกับสหายทั้งสี่ว่า. ที่ทุ่งโงลังกั๋งอันเปนสมรภูมิรบดุเดือดอยู่ในขณะนี้
มีผักเลื่องชื่ออยู่สี่ชนิด ที่นำมาทำอะไรก็อร่อย ได้แก่ เก๋าคี่ ปวยเล้ง. คึ่นช่าย. เอี๊ยะแซ. ให้พวกเราหามาคนละชนิด
แล้วนำมาปรุงให้ประธานเหมารัปประธาน
เติ้งเสี่ยวผิงรู้ว่าประธานเหมาไม่ชอบของผัดจึงแอบติดสินบนพ่อครัวให้ปรุงแบบผัด

เมื่อผัดสี่สหายถูกนำมาเสริฟ แทนที่ประธานเหมาจะโกรธ แต่กลับพูดขึ้นว่า. ทุกคนเท่าเทียมกัน ถ้าพวกท่านกินได้เราก็กินได้

ต้องแต่นั้นมาชาวไหหลำที่ย้ายมาฮ่องกง จึงถือเมนูผัดผักสี่สหายเปนอาหารที่นิยมรัปประทานกัน เพื่อเปนการ ยึดหลักทุกคนเท่าเทียมกันของประธานเหมา"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

201 Nameless Fanboi Posted ID:4q28tIVXQ

หลายๆ อย่าลืมของเทคสตาร์ทอัพ
.
ปีแรก (1-2)
.
อย่าลืมแบ่งเค้ก : กำหนดอำนาจกรรมการ เงื่อนไขผลประโยชน์และให้ชัดเจน มองตัวเอง มองคนข้างๆ แล้วจินตนาการตัวเองในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด หมาที่สุดที่เป็นไปได้ก่อนจะตกลงอะไร ปีแรกข้อแม้อะไรๆ ก็ยอมได้ ปีหลังอะไรๆ ก็ไม่เอา
.
อย่าลืมสนุก : จะกางบอร์ดเกมเล่นในห้องประชุม, ตี DOTA หลังเลิกงานจนดึกดื่นบ้างก็ทำไปเถอะ ไอ้ความรู้สึกสนุกพวกนี้จะไม่หวนกลับมาอีกและยากจะสร้างขึ้นมาใหม่ได้...เพราะไม่นานคุณจะรู้ตัวว่าไมได้มาเล่นขายของ...ไม่นานคุณจะรู้ว่าเวลาเป็นเงินเป็นทอง...ไม่นานจะมีวันนึงที่คุณตื่นมาแล้วไม่รู้ว่าจะไปทำงานทำแป๊ะอะไร แต่หน้าคนที่เราทำอะไรไร้สาระด้วยนี่แหละจะทำให้คุณฮึด ทำให้คุณนึกได้ว่าเราต้องรักษาสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาให้ได้
.
เข้าปีกลางๆ (3-5)
.
อย่าลืมทำเงิน : สมัยนี้ "หา" เงินด้วยการโฆษณาตัวเองง่ายกว่าการ "ทำ" เงินด้วยการวิจัยและพัฒนาสินค้า จนหลายๆ คนลืมไปว่าทำธุรกิจควรวัดผลงานตัวเองด้วยกำไร ไม่ใช่ระดมเงินมาได้เท่าไหร่ โมเดลระดมเงินเรื่อยๆ แบบไม่โฟกัสกับการพัฒนาของนั้นดีกับพี่ๆ แค่ไม่กี่คนเท่านั้นครับ บางท่านอาจบอกว่าเงินที่ระดมทุนมาก็จ่ายเงินเดือนพนักงานสบายไปหลายปี แต่พอบริษัทยืนอยู่กับความเซเลบของ Founder พนักงานจะแทบไม่ได้พัฒนาตัวเอง แถมบางทีไม่รู้ตัวด้วยว่าตนเองยังไม่เก่ง
.
ผมเคยสัมภาษณ์คนระดับ Ex-Senior Dev จาก Startup ดังบ้างไม่ดังบ้างที่เดินผ่านเข้าประตูมาหลายคน หลายทีตกใจเพราะความถนัดของหลายๆ คนค่อนข้างพื้นฐานมาก ประมาณว่าเคยทำแต่ส่วนหน้าตา ไม่ก็ปรับโน่นแก้นี่นิดหน่อยจากของเดิมที่พนักงานรุ่นแรกทำทิ้งไว้
.
การที่ของไม่ค่อยมีคนใช้หรือใช้ได้ครึ่งๆ กลางๆ แต่ Founder ยังหากินกับชื่อเสียงได้นี่เป็นการทำร้ายคนอีกมาก เพราะจะมีพวกไม่น้อยที่เรียกตัวเองเป็น Expert , Senior Dev ทั้งที่จริงๆ มือยังไม่ถึงขั้น เทียบกับคนทำของที่ลูกค้าจริงเยอะ หรือรายได้ขึ้นกับการแก้ไข Feedback ที่ด่ากลับมารัวๆ ไม่ได้เลย
.
อยู่กับความจริงเสมอ ของถ้าทำเงินได้ก็ลุยต่อ ถ้าทำไม่ได้อย่าผันตัวเป็นเซเลบเพื่อชีวิตและชื่อเสียงตัวเอง โดยทิ้งคนที่ร่วมเดินกับเราไว้ข้างหลัง
.
อย่าลืมตัว : มีคำฝรั่งบอกว่า "What got you here won't get you there" หรือ "สิ่งที่พาคุณมาที่นี่ได้ อาจพาคุณไปต่อไม่ได้นาโว้ย" ผมว่าตัวอย่างที่ชัดเจนสุดคือตัวเองนี่แหละ เป็ดเนี่ยคิดว่าตัวเองช่วยลูกค้าเก่ง แนะนำผลิตภัณฑ์เก่ง ตั้งแต่เปิดบริษัทมาก็ทำหน้าที่นี้อย่างสนุกสนานมาตลอด แต่ช่วงนี้รู้สึกว่ามันเหนื่อยว่ะ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยปล่อยงาน Support ให้คนอื่นทำ ทั้งที่ลูกค้าทั้งไทยเทศมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางทีเสียเวลากับเรื่องโง่ๆ จนบางทีก็คิดว่าอาจจะมีดีลที่เราเสียไปเพราะแบ่งเวลาไม่ถูกเหมือนกันนะ
.
การขยายธุรกิจ แปลว่าเราต้องหาคนมาแทนในบางเรื่องเพื่อที่ตัวเองจะได้ไปโฟกัสกับอย่างอื่นที่สำคัญกว่า ลองนึกเล่นๆ ดูว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่เนี่ยคนเงินเดือนเท่าไหร่ทำได้บ้าง ถ้างานส่วนใหญ่ที่เราทำ (ถึงจะสนุก ชอบขนาดไหน) มันทำแทนด้วยคนเงินเดือนน้อยกว่าได้แสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติละครับ
.
อย่าเป็นหมาป่าเดียวดายข้าเก่งทุกอย่าง วิ่งกับฝูงและให้ความรับผิดชอบกับฝูง ไม่งั้นจะไม่มีใครเห็นใจเวลาคุณป่วย, ไม่สบาย หรืออยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง เพราะคุณเป็นใบหน้าเดียว อีเมลล์เดียว เบอร์เดียวที่เขานึกออก
.
(ต่อเม้นล่าง)

202 Nameless Fanboi Posted ID:B3FvS0AQ+

(ต่อจาก >>201 )

ย่างปีแก่ๆ (5-IPO???)
.
อย่าลืมกำพืด : เวลารายได้และกำไรเริ่มโตอย่างสม่ำเสมอ เราก็มักชะล่าใจ โดยลืมไปว่าการที่มายืนตรงนี้ได้เพราะสมัยโน้นมีบริษัทที่วิสัยทัศน์สั้น สบายใจอยู่กับสถานะของตัวเอง หลงคิดว่า คิดว่าตลาดนี้ไม่มีคู่แข่ง มองว่าไม่มี Business Model ดีกว่าแบบเดิมๆ ที่เคยทำกันมา มองทั่วหล้าอีกสิบปีก็ไม่มีใครมาแข่งได้
.
ลองดูสิครับวันนี้เขาโดนฝังอยู่ที่ไหน เราเองก็ไม่ต่างกัน มองอนาคตของตลาดแบบอย่างเป็นกลางของที่ทำมีอายุขัยเหลือกี่ปีแล้วเอากำไรลงมาสร้างสิ่งใหม่ๆ เสียบ่าง ธรรมชาติของการสร้างมันนานแต่ตอนพังมันแปบเดียวเท่านั้นแหละ อันนี้เป็นสัจธรรมไม่ว่าจะวงการไหนครับ
.
อย่าลืมกัน : ผมขอเรียกช่วงนี้ว่า "ปีแห่งการตกม้าตายของ Founder" เพราะพออะไรเริ่มนิ่ง บางคนก็อยากลดความบ้าพลังลงและแบ่งเวลาให้กับความสุขมากขึ้น บางคนก็อยากลองเปิดทำอะไรใหม่ดู ทั้งหมดนี้ไม่ผิด แต่หลายคนเลือกทำสิ่งเหล่านี้โดยลืมถึงคนข้างหลังที่ร่วมลำบากกันมาตั้งแต่สมัยยังกระเสือกกระสน
.
บางคนทิ้งความรับผิดชอบแต่หลอกตัวเองว่าบริษัทยังรันต่อได้ด้วยความเหนียวแน่นกลมเกลียวที่เคยสร้างไว้ในอดีต
.
บางคนลดโหลดงานตัวเองลง แต่ยังหวังให้ทีมทำงานหนักเท่าเดิม
.
ปีหลังต้องส่องกระจกบ่อยๆ ไม่ใช่เพื่อดูผมหงอกหรือรอยย่นบนหน้า เเต่เพื่อให้ถามตัวเองว่า เฮ้ย กูยังเป็น Founder ที่ดีกับน้องที่ไม่ได้มีสถานะแบบกู ไม่ได้มีโอกาสเอาตำแหน่งและชื่อเสียงไปใช้ประโยชน์อย่างกูไหม, กูยังเป็นเพื่อนที่ดีให้กับ Co-Founder ที่ลำบากด้วยกันมาตั้งแต่ต้นหรือเปล่า
.
การเสียศรัทธาเป็นทางไถลที่หยุดไม่อยู่ อย่าลืมว่าแม้กระทั่งเด็กจบใหม่เขาก็มีความฝัน มีความต้องการจะพัฒนาตัวเองไม่ต่างกับเรา ทุกวันนี้เราได้ช่วยให้เขาเดินไปถึงจุดหมายนั้นดีพอหรือยัง
.
"Do it right by the team" หรือทำสิ่งที่ถูกต้องให้ทีมเสมอ ก็คือระลึกว่าต่างคนต่างเป็นพาหนะสู่ความฝันของกันและกัน พูดกันตรงๆ เสมอ ทุกอย่างจะดีเอง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

203 Nameless Fanboi Posted ID:79Xo.yJnV

>>200 กูว่าแปลกๆ นะ ในหมู่คนใกล้ชิด โจวเอินไหลมีความเลียบูทเหมาน้อยมาก เหมาก็ไม่ชอบหน้าโจว แต่แกบริหารประเทศเก่งมากๆ จนเหมาหาคนมาแทนไม่ได้ ถึงไม่กำจัดให้สิ้นซาก ส่วนเติ้งเหมาก็เสียดายความสามารถ แต่น้อยกว่าโจวเยอะ เลยส่งไปทำไร่ได้

204 Nameless Fanboi Posted ID:Dn.+g29cc

>>200 แต่งไม่เนียน

205 Nameless Fanboi Posted ID:18w++UwlY

>>203 >>204 มันเป็นเรื่องตลกโว้ย พวกมึงจะจริงจังไปไหนวะ

206 Nameless Fanboi Posted ID:mj85HJn2b

บทเรียนเก่าจากคนที่เราเคย Match
#รีวิวTinder
- Slogan Tinder: "There is many fish in the sea." ใช้เวลาคุยทั้งชาตินี้ก็ไม่มีวันหมด
Policy
- กฏเหล็กสำหรับคนที่เล่น Tinder สำหรับเรา คือ คุณพร้อมที่จะโดนเทได้ทุกเมื่อ เตือนตัวเองอยู่เสมอว่าคนบนออนไลน์เค้าจะหายไปจากคุณตอนไหนก็ได้ การงอแงเรียกร้องความสนใจไม่เกิดประโยชน์ การคอยตามสืบว่าเค้าหายไปไหนเป็นเรื่องเสียเวลา ดังนั้น ถ้าไม่ใช่คนที่ตัดใจเก่งแล้ว ไม่แนะนำให้มาเล่นจริงๆ เสือ สิงห์ กระทิง แรด ในนี้เยอะนะ
- อย่าจริงจังกับคนในนี้มากนัก โลกออฟไลน์ถึงจะคุยได้ยากกว่า แต่โอกาสพัฒนาความสัมพันธ์มีสูงกว่าเยอะ
Trick
- วิธีการเพิ่มโอกาสให้ตัวเองคือการปัดขวาทีเดียวจนหมดโควต้าต่อวัน แล้วมาเลือกคนที่ Match อีกที ดีกว่ามานั่งเลือกตั้งแต่แรก โดยไม่รู้ว่าคนนั้นเค้าจะ Match กับเรามั้ย
- "กินข้าวยัง" "ทำอะไรอยู่" คือประโยคต้องห้ามสำหรับคนพึ่งรู้จักกัน
- การมี Caption ดีๆ สามารถเพิ่มสเน่ห์ได้ 10-20%
- สำหรับเรา รูปผู้หญิงโชว์ไหล่น่าหลงใหลกว่าโชว์นมใหญ่ๆเยอะ
- ลงทุนกับรูปดีๆ อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมไปอ่านได้ที่หนังสือ Modern Romance
Lesson from Tinder
- Tinder จะสอนให้เรารู้ว่าสถานะ"คนคุย"มันช่างน่ารื่นรมย์ ในขณะที่น่าอึดอัดไปพร้อมๆกันได้อย่างไร คุณสามารถมีสถานะนี้ได้พร้อมกันทีละหลายๆคน แต่จะกี่คนก็ขึ้นอยู่กับ Priority ในชีวิตคุณล่ะ
- คนที่ไม่คลิกไม่จำเป็นต้องเลิกคุย เพื่อนที่ดีมีค่ามากกว่าแฟนที่ห่วย
- ของตายคือของไม่มีค่า หัดดึง หัดผลัก หัดแย็บ หัดหยอด เอาจริงความสนุกของการจีบกันคือไม่แน่นอนของความสัมพันธ์นี่ล่ะ
- ตัวเลือกที่มากขึ้นไม่ได้แปลว่าจะมีความสุขมากขึ้น
- ผมรับประกันว่าผู้ชายงานดีใน Tinder มีเยอะมาก ทั้งไทยและเทศ แต่ไม่รับประกันความเหี้ยนะจ๊ะ
- เราเป็นคนที่ชอบหาสาเหตุของคนมีแฟนแล้วและมาเล่น Tinder ว่าคืออะไร ชอบถามวนไปมาว่าทำไมถึงเล่น, แฟนรู้หรือเปล่า หากิ้กหรอ, เหงาใช่มั้ย จนเค้ารำคาญและหายไปเอง ฟังดูโรคจิต แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบเลย 5555
- Tinder บั่นทอนให้เรากลายเป็นคนที่ Judge ผู้อื่นจากภายนอกและสิ่งที่ทำมากขึ้น
Timeline ถ้าเจอคนที่คลิก
- คุยอาทิตย์นึงแล้วยังไม่ได้ไลน์ เลิกคุยเถอะ Noti ใน Tinder มันห่วยกว่าใน Line เยอะ
- ถ้าคุยสองอาทิตย์แล้วยังไม่ได้โทร เลิกคุยเถอะ พิมพ์นานมันปวดนิ้วเนาะ
- ถ้าคุยเดือนนึงแล้วยังไม่ได้ไปเดท เลิกคุยเถอะ โทรนานมันปวดหูเนาะ
Dating with Tider's friend
- การดูหนังในเดทแรกคือกิจกรรมที่น่าเบื่อที่สุดในโลก เก็บตังค์ไว้ดูหนังที่บ้านเถอะ
- เราแนะนำการเดินสวนสาธารณะ กิจกรรมให้ทำมีเยอะ เวลาทำความรู้จักก็มาก และที่สำคัญใช้เงินน้อย!
- ตั้งโจทย์การเดทว่า "เราเหมาะกันมั้ย" มากกว่า "จะทำยังไงให้เค้าชอบ" อย่าทำตัวเป็นเหมือนผู้ถูกเลือก คุณมีค่ามากกว่านั้น
- เดทแรกมักจะล้มเหลวตรงที่ถ้าไม่อีกฝ่ายนึงพูดมากไป อีกฝ่ายนึงก็มักจะพูดน้อยไป
- สำหรับเรา Budget ในการเดท (รวมเลี้ยงอีกฝ่าย) ถ้ากินข้าวมื้อเดียวไม่ควรเกิน 1000 บาท ถ้ามีไปต่อก็ไม่ควรเกิน 1500 บาท
- คำว่า "อะไรก็ได้" ของผู้หญิง คือการประเมินไลฟสไตล์และรสนิยมของผู้ชาย 😀

207 Nameless Fanboi Posted ID:mj85HJn2b

มีคนตามไปกินชูครีม Chateraise ทุกคนบอกว่าดีมาก ราคาไม่แพง 45 บาทเอง
ถ้าเราคิดไปมากกว่านั้น ตั้งคำถามและหาคำตอบไปอีกหน่อย
เราจะพบว่าราคาที่ญี่ปุ่นคือ 100 เยน หรือ 30 บาท ราคาไทย 45 คืออัพมา 50% เลยทีเดียว
และเราจะพบว่าขนาดเราจ่ายแพงกว่าคนญี่ปุ่นถึง 50% ยังรู้สึกว่ามันไม่แพง ทั้งที่รายได้ค่าแรงขั้นต่ำเราห่างจากเขาประมาณ 800%
นั่นหมายความว่า เรารู้สึกว่าชูครึมที่เราจ่าย 45 บาทนั้นไม่แพง เพราะมันอร่อยและคุณภาพดีกว่าราคาเท่ากันหรือถูกชูครีมที่เราซื้อกินในประเทศนี้ หรือที่ถูกกว่า 45 บาทหน่อยก็ไม่อาจเทียบรสชาติและคุณภาพได้เลย
เราจะตั้งคำถามต่อไป ถ้าที่ญี่ปุ่นสิ่งนี้ราคา 30 บาท แต่ทำไมเราไม่สามารถหาชูครีม 30 บาทที่ดีแบบนี้ได้ที่นี่
เราอยู่ในประเทศที่ค่าครองชีพต่ำหรือคุณภาพต่ำ? ของเราถูกหรือจริง ๆ เราได้ของห่วย ถ้าเราอยากได้ของดีเท่าเราจ่ายเท่ากันหรือต้องจ่ายมากกว่า?
แค่ชูครีม 45 บาท ถ้าคุณตั้งคำถาม คุณจะเจอปัญหาที่ทับซ้อนพันกันไปหมดที่ทำให้เราไม่สามารถหาชูครีมที่อร่อยและคุณภาพดีแบบนี้ได้ในราคา 30 บาท

208 Nameless Fanboi Posted ID:1TjBJNcH.

>>207 มิตรสหายคนนี้ไม่เคยกินชูครีมราคา 30 บาทมากกว่ามั้ง กูว่าหลายที่ยังอร่อยกว่าอีก ที่คนบอกว่าราคา 45 บาทไม่แพงเพราะแปะแบรนด์ยุ่น อัพราคาได้ ถ้ามองแต่วัตถุดิบ แม่งแพงกว่าอีก

209 Nameless Fanboi Posted ID:5TqRIFUdX

>>207 ชูครีมร้านที่กูว่าอร่อยที่สุดในไทยราคาแค่ 25 แล้วอันโคตรใหญ่ครีมเยอะ
บางคนก็คิดแค่ว่าของแพงคืออร่อยไม่ก็เห่อตามชาวบ้านเป็นเหยื่อการตลาดเหอะ
อาหารหรือขนมญี่ปุ่นในไทยอร่อยๆแล้วไม่แพงมีเยอะแยะ แค่ไม่ใช่ร้านดัง หรือไม่เน้นโปรโมตตัวเองเวอร์ๆเท่านั้นเอง

210 Nameless Fanboi Posted ID:/qWvHlzWj

Unlocked เขมร รอบนี้เหมือนเจอความเชื่อมโยงหลายๆอย่าง คำถามหลายๆอย่าง
แต่ที่สำคัญคือ

อาหารไทย ไม่ต้องหวานต้องเผ็ดเท่านี้ก็อร่อยได้
อาหารอีสานทำให้กลมกล่อมกว่านี้ก็ได้

อาหารไทยหลายอย่างที่เคลมว่าเป็นต้นตำรับ มาเจอที่นี่ ถึงกับขมวดคิ้วเลยว่า
สรุปแล้วมันจริงเหรอวะ
และ

ทัศนคติต่อคุณภาพวัตถุดิบในอาหารไทย เข้าขั้นระยำจริงๆ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

211 Nameless Fanboi Posted ID:QZEcyALA7

"ถ้าคราวหน้าข้างบ้านเปิดเพลงเสียงดังกูจะอัดเสียงพระเอก Black Clover แล้วเปิดสวนแม่ง"
-มิตรสหายท่านหนึ่ง

212 Nameless Fanboi Posted ID:bL0Uev5Nm

>>209 25บาท อันโคตรใหญ่ เป็นไปไม่ได้ ฝักวนิลาขึ้นราคาจากฝักธรรมดา50 ขึ้นมาเกือบร้อยบาท เนยสดแท้ๆขึ้นราคาอีก ครีมสดที่ไม่ใช่ครีมเทียมทะยอยขึ้นราคาตั้งแต่ปีก่อน แค่วัตถุดิบก็แย่แล้ว ไม่รวมค่าเช่าร้าน ค่าจ้างคนงาน 25บาทนี่แทบทำฟรีแล้ว ยกเว้นร้านลดต้นทุนการผลิต ถึงแม้ร้านใหญ่ซื้อวัตถุดิบราคาถูกกว่าร้านเล็ก แต่ก็ไม่ได้ลดมาก

213 Nameless Fanboi Posted ID:kbx/ZVef+

>>211 โหดร้าย 5555

214 Nameless Fanboi Posted ID:gVoGUxifp

>>212 กุกำลังจะถามเลยว่าที่ไหนจะไปซื้อกิน เห็นเม้นมึงนี่คือของไม่ดีใช่ป่ะวะ ไปกินเบรดปาป้าเหมือนเดิมก็ได้

215 Nameless Fanboi Posted ID:ssHwQcMyW

ทำไมอาหารไทยถึงเมินเฉยกับคุณภาพวัตถุดิบ
อันนี้ผมเริ่มสังเกตจากการจุดประเด็นของ กาย เพื่อนร่วมอาชีพ
ที่บอกว่า

อาหารบ้านเราถูกกำหนดด้วยทันศนคติของศาสนามาครอบเรื่องบาปบุญจนเราไม่สนว่าวัตถุดิบนั้นจะสดหรือไม่ ทั้งที่บางอย่างมันควรต้องกินอย่างสดที่สุด เช่น อาหารทะเล ไก่ เราขอแค่มันไม่ถูกฆ่าด้วยมือเรา เราก็ยอมแล้ว
ซึ่งถ้าได้กินแบบสดๆจะรู้ว่าทำไม มันต้องกินแบบเชือดเป็นๆ
และด้วยเหตุนั้น มันเลยทำให้เราต้องประโคมเครื่องปรุงทุกอย่างเพื่อทำให้รสชาติมันดีขึ้น เพราะมันไม่อร่อยจากตัวมันเองแล้วไงล่ะ
พอผมมาเขมร เลยรู้สึกว่า อาหารเกือบทุกชนิด มีการจัดการที่ค่อนข้างดีมาก แม้เป็นประเทศที่ไม่ร่ำรวย แต่หลายอย่าง ถ้าจะกินก็ต้องสด ฆ่าเดี๋ยวนั้นได้ก็จะฆ่า
ของทะเล ถ้าทำสดได้ก็จะทำ
ซึ่งก็คล้ายกับ จีน เวียดนาม ไชนีสมาเล ซึ่งถ้ามองกัน ในสายของอาหารที่มีคนจีนเป็นพื้นจะมีทัศติว่า สดที่สุดเท่าที่จะทำได้
ส่วนฟิลิปปินส์จะคล้ายบ้านเรา แต่ต่างตรงประเทศมันดูชอบกินไก่ทอดมากกว่าของสด

คราวนี้กลับมามองที่บ้านเรา
เราประโคมเครื่องปรุงกันหนักหรือไม่?
อันนี้ผมจะอธิบายอีกทีในมุมมองของ อาหารเขมรที่เจอมา

แต่เราละเลยวัตถุดิบจริงๆ
วัตถุดิบอาหารทะเล เราสนแต่เรื่องบาปบุญจนละเลยคุณภาพ
วัตถุดิบเนื้อสัตว์ เราไม่ศึกษาว่าทำยังไงให้อร่อยขึ้นโดยไม่หมักเครื่องปรุง
ผักผลไม้ เราเน้นแต่ราคา จนลืมว่าของดีเป็นยังไง

ซึ่งทั้งหมดมันทำลายเทสของคนกินบ้านเราไปหมด หลายคนกลายเป็นคนติดน้ำจิ้ม
หลายคนติดกินรสจัด หลายคนติดกินเผ็ดจนเกินพอดี

ติดจนผมจำได้ว่า เคยมีคนบ่นเรื่องปลาหมึกสดไม่อร่อย
เพราะคนคนนั้นเคยชินกับลาบปลาหมึกแช่แข็งที่ไม่สดมาตลอด

ในปัจจุบัน เราสามารถทำให้วัตถุดิบอาหารดีขึ้นได้ แต่เราก็ไม่ทำ ส่วนหนึ่งก็เพราะผู้บริโภคอย่างเราๆสมยอม เรายอมกินปลาที่ไม่สด เพราะกลัวบาป เรายอมกิน เอาจริงๆสายส่งของทะเลก็มองมาตลาดในไทยมันสู้ที่ราคา มันไม่เรื่องมาก เลยไม่ยากถ้าจะเอาของตกเกรดมาเสนอขาย แล้วยังเสือกขายดี เช่นลอปสเตอร์แช่แข็ง ฟัวกราส์ตกเกรด เอามาให้คนไทยเปิดร้านบุฟเฟ่ท์กัน
ตลาดบ้านเราเลยสู้ด้วยราคาไม่ใช่คุณภาพ
ซึ่งจริงๆก็ไม่ผิดหรอกมันเป็นกลไกปกติ แต่ทัศนคติเรายิ่งดำดิ่งไปในจุดที่ยอมรับได้โดยไม่ท้วงติง

และที่ได้ยินมาเสมอที่คนบอกว่า ร้านนี้น้ำจิ้มอร่อย
แต่แทบไม่มีใครพูดเลยว่าร้านนี้ กุ้งโคตรสด หรือคุณภาพดีจนไม่ต้องจิ้ม

ก็นั่นหละครับ
เราสั่งกุ้งมากินรสกุ้ง หรือเราสั่งกุ้งมากินรสน้ำจิ้ม

แต่ผมก็ไม่แอนตี้ฝั่งไหนนะ แค่ยกประเด็นขึ้นมาเรื่องทัศนคติคนไทยต่อวัตถุดิบอาหาร
เพราะต่อให้ผมใช้ของสดๆ แต่ถ้าลูกค้าจะกินน้ำจิ้มซีฟู๊ด ผมก็ยินดีทำให้

ก็เทสใครเทสมัน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

216 Nameless Fanboi Posted ID:vSURL5pHm

>>215 มีคนคิดแบบนี้ด้วยเหรอ พึ่งเคยได้ยินครั้งแรกเลยว่าไม่กินของสดเพราะบาป

217 Nameless Fanboi Posted ID:/djPZoFbG

>>209 กูขรรมพวกเคยกินแต่อาหารญี่ปุ่นคนไทยทำกากๆราคาถูกแล้วมโนว่าตัวเองได้กินของอร่อยกว่าราคาถูกกว่าชาวบ้าน
ว่างๆอย่าลืมมารีวิวซูชิตลาดนัด 5 บาทลงโม่งนะจ๊ะ 555

218 Nameless Fanboi Posted ID:d4EOOgjeq

>>215 มิตรสหายท่านนี้พยายามตีเหมารวมGeneralization ให้เข้าข้างแนวคิดตัวเองเหลือเกิน

>"และที่ได้ยินมาเสมอที่คนบอกว่า ร้านนี้น้ำจิ้มอร่อย
แต่แทบไม่มีใครพูดเลยว่าร้านนี้ กุ้งโคตรสด"
-ในแถบที่อาหารซีฟูดเยอะๆอย่างภาคใต้ เขาพูดทั้งนั้นแหละว่าร้านไหนสดไม่สด มิตรสหายเคยอยู่แต่ในแถบที่หาของสดยากเลยต้องแข่งเรื่องน้ำจิ้มเหรอวะ แล้วของที่ต้องแดกดิบของไทยอย่างหอยนางรมนี่มิตรสหายไม่เคยแดกเหรอครับ ถึงได้บอกว่าคนไทยไม่เคยสนเรื่องความสด

เรื่องไม่แดกของสดเพราะกลัวบาปนี่มิตรสหายเอามาจากไหน ถึงจะไม่อยากฆ่าเองของสดก็ไม่ได้หายากขนาดนั้น หมู วัว ไก่ เชือดเช้ามืด เข้าตลาดเช้า สด+ไม่ต้องฆ่าเอง ถ้าอันนั้นไม่สดพอที่บ้านมิตรสหายล้มวัวเองเหรอครับ นอกจากนี้ทางเหนือยังมีอาหารโคตรสดถูกใจมิตรสหายท่านนี้อย่าง"ส้าจูโครง"ที่ทำลาบบนซี่โครงควายเพิ่งเชือดเลย เพราะงั้นที่บอกว่าไม่แดกสดเพราะกลัวบาปนี่ไม่น่าเชื่อ
เรื่องอาหารทะเล ไม่มีใครได้ฆ่าปลาทะเลด้วยมือหรอกเพราะแม่งโดนน็อกตั้งแต่แช่น้ำแข็งจากบนเรือแล้ว ส่วนพวกปลาน้ำจืดจะเอาสดก็ ไปเดินตลาดชี้ให้แม่ค้าฆ่าเอาเป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องฆ่าเอง+สดอีก

>"แต่เราละเลยวัตถุดิบจริงๆ
วัตถุดิบอาหารทะเล เราสนแต่เรื่องบาปบุญจนละเลยคุณภาพ
วัตถุดิบเนื้อสัตว์ เราไม่ศึกษาว่าทำยังไงให้อร่อยขึ้นโดยไม่หมักเครื่องปรุง
ผักผลไม้ เราเน้นแต่ราคา จนลืมว่าของดีเป็นยังไง"
-เรื่องอาหารทะเล-บาป บุญ อธิบายไปแล้ว
-เรื่องเนื้อสัตว์ ถ้าไม่หมักต่อให้กอร์ดอน แรมซีย์มาเองก็ทำอะไรไม่ได้มากหรอก
-ผลไม้ ถ้าคนไม่สนของดี ทำไมถึงมีแบรนด์ผลไม้อย่างสัปปะรดภูแล ทุเรียนชุมพร etc. ผุดขึ้นมาได้?

มิตรสหายท่านนี้ถ้าไม่ใช่ฮิปสเตอร์ ก็เป็นพวกชอบญี่ปุ่นที่เน้นเอารสชาติวัตถุดิบออกมามากกว่า แต่ไทยได้อิทธิพลอินเดียกับจีนเลยปรุงมากหน่อย(เห็นมิตรสหายมีแซะไทยเรื่องชอบจิ้ม กับอวยอาหารสายจีนด้วย แต่จีนน่ะแม่งตัวดีเรื่องจิ้มเลย น้ำจิ้มแม่งใช้อย่างเยอะ)

219 Nameless Fanboi Posted ID:U2jnYME1L

>>216 มีนะ ญาติกูทั้งฝ่ายพ่อแม่เลย เวลาไปร้านอาหารจีนแล้วสั่งปลาพอบ๋อยถามว่าจะเอาปลาเป็นๆมั้ยเค้าก็ไม่เอา จะเอาปลาตายกันเพราะกลัวบาป + สงสารปลา
กูก็อยากแย้งนะว่าปลามันอยู่ในร้านเค้าแล้วสุดท้ายก็ต้องโดนแดกอยู่ดี แต่กลัวโดนด่าเลยเงียบๆไว้

220 Nameless Fanboi Posted ID:DOLDiZSUa

>>219 อย่างน้อยมันก็ไม่ได้ตายเพราะเราสั่งไง

221 Nameless Fanboi Posted ID:oYHAhaaPQ

>>214 เบเกอรี่มีหลายเกรด ถ้าจะกินของคุณภาพราคามิตรภาพทำเอง. เบื้องหลังวงการเบเกอรี่นี่ลดต้นทุนทุกอย่าง ใช้ของเทียบ ของเทียม แต่ส่วนนึงคือคนกินต้องการของถูกดูแพง บางคนดีเทคไม่ได้ว่าเเป็นวัตถุดิบประเภทไหน ก็ถูกหลอกไปว่าใช้ของแพง ของดี
แบบช็อกโกแล็ตแท้ยังมีราคาตั้งแต่กิโลกรัมละสองร้อยถึงหลายพัน คิดเอาแล้วกัน คนขายบางคนฉลาดเอาของถูกมิกซ์ของแพง อัพราคาเฉยเลย

222 Nameless Fanboi Posted ID:TmTzC.OYv

>>220 ไม่รู้ดิ ในความรู้สึกกูคือปลาอยู่ในร้านยังไงจุดจบมันก็คือโดนเอามาทำอาหาร
ถึงเค้าไม่ฆ่าตัวที่เป็นๆอยู่ พอปลาตายหมดสต๊อกเค้าก็ต้องฆ่าเพิ่มมารอลูกค้าอยู่ดี
คิดแบบนี้ไปเหมือนพวกอยากกินเนื้อแต่กลัวบาปเลยหาเรื่องหลอกตัวเองอ่ะ

223 Nameless Fanboi Posted ID:vSURL5pHm

>>221 คนญี่ปุ่นไม่โกงใส้เอแคลร์หรอก เขาโกงเหล็กโกงรถกัน

>>222 ความรู้สึกมั้ง อย่างบางคนไม่กินหัวปลาเพราะกลัวปลาป้องตา บางครั้งถ้าแดกโดยไม่รู้ว่าอะไรมันจะอร่อยกว่ารู้วะ

224 Nameless Fanboi Posted ID:Yo+lcDAp/

>>216 มีเยอะเลยเว้ย พวกไทยเชื้อสายจีนจะเป็นกันเยอะ ได้พุทธจีนมาผสมกับพุทธไทยจะกลายเป็นศีลธรรมพิเศษขึ้นมาอันนึง ถ้ายังมีชีวิตอยู่แล้วฆ่าเดี๋ยวนั้นจะแดกไม่ลง สงสาร อย่างกูไปแดกบุฟเฟ่กับเมีย ให้ไปเอาปูตัวที่ยังเดินได้อยู่มาปิ้ง แม่งไม่ให้แดก ต้องไปเอาตัวที่ตายแล้วมาให้แดก สัดไม่รู้จักของดี

225 Nameless Fanboi Posted ID:gDrdkn4fx

ฆ่าตอนสดๆเป็นๆมันเจ็บไง แถมเหมือนเป็นคนสั่งให้ฆ่า(เพื่อแเดก)
แต่ถ้าตายไปแล้ว อันนี้กูไม่ผิดชะลาล่า

226 Nameless Fanboi Posted ID:cRJFDvpK1

อ่านทวิตเตอร์คนญี่ปุ่นแล้วได้รอยยิ้มเหมือนกันนะ
เรื่องมีอยู่ว่า เคียวโกะ(นามสมมติ)
ทำงานพิเศษอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
มีเด็กผู้ชายตัวเล็กน่ารักอายุ 4 ขวบมากับพ่อแม่
ตอนรับออเดอร์น้องพูดเบามาก ไม่ได้ยิน
เคียวโกะจึงก้มตัวลงไปใกล้ๆ ปากของน้อง
เพื่อที่จะฟังว่าน้องกำลังสั่งอะไร

ทันใดนั้นเองน้อง4ขวบ
ก็จุ๊บที่แก้มเคียวโกะ

เคียวโกะตกใจ
เลยถอยออกมานิดนึง

มองหน้าน้อง
น้องยิ้มให้ ดูท่าทางพอใจนัก
พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า ขอน้ำส้มครับ
..
เคียวโกะบอกว่า ชั้นไม่ทันเทคนิคน้องเค้าจริงๆ55
** เทคนิคนี้น่าจะใช้ได้แค่ตอนเด็กนะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

227 Nameless Fanboi Posted ID:2L2iNhkpp

อีก 15 ปีต่อมาเคียวโกะ(นามสมมติ)ก็ได้กับไอ้อดีตเด็ก 4 ขวบนั่นล่ะ

#กูมโน

228 Nameless Fanboi Posted ID:hqnJvUB81

>>226 น่ารัก 555

229 Nameless Fanboi Posted ID:uS8nRlFRS

ไอ้เด็กเหี้ย

230 Nameless Fanboi Posted ID:y8N4Sg9h8

คนจำนวนมาก โดยเฉพาะที่โตมากับสังคมไทย ไม่รู้และไม่สามารถแม้แต่จะจินตนาการถึงสังคมความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกันโดยไม่รุกล้ำกัน (นอกจากว่าจะไม่รุกล้ำผู้ใหญ่/ผู้มีอำนาจ)

เวลาบอกให้สร้างความเป็นหนึ่งเดียวความสามัคคีจึงคิดออกวิธีเดียวคือให้ล้อเลียนและรุกล้ำกันจนรู้สึกว่ามันเป็นปกติ จนเข้าใจว่าอีกฝั่งล้อเล่นขำๆ ไม่ถือสา

นั่นก็เป็นความสนิทสนมและ relationship รูปแบบหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวเราก็มีเพื่อนแบบนี้อยู่ ที่ด่ากันได้อะไรได้ไม่ถือสา ก็เป็นความสัมพันธ์ที่ดีสวยงามในแบบนึงไป

แต่นั่นไม่ได้เป็นวิธีเดียวที่จะสร้าง relationship ระหว่างมนุษย์ เราสามารถมี relationship ที่ "สนิท" และ "เข้าใจ" กันได้ในรูปแบบอื่นที่ไม่ได้เริ่มสร้างจากการแซวกันด่ากันไฝ้วกันทางวาจาจนพรุนจนเข้าใจอีกฝั่ง และเลิกถือสากันไปแล้ว

การสร้างความสัมพันธ์ที่สนิทมากๆ จากวิธีเริ่มต้นอื่นๆ และผลิบานมาเป็นความสัมพันธ์ที่สวยงามในลักษณะอื่น ก็เป็นเรื่องเป็นไปได้ และสวยงามไม่แพ้กัน

ซึ่งไม่ไช่ว่าทุกคนจะมองเห็นความเป็นไปได้นี้ เพราะความชัดเจนจะเกิดขึ้นต่อเมื่อมีประสบการณ์สักครั้ง

This is legacy code in relationship building, that was embedded in our brain. We need to somehow refactor it in order to move forward.

231 Nameless Fanboi Posted ID:QDrJFnry7

"Fucked Up How a Goblet Is a Cup and Not a Tiny Goblin"

232 Nameless Fanboi Posted ID:ApynKEPHr

“ในระยะไม่เกินห้าร้อยเมตรจากบ้านตัวเองมีเซเว่นอยู่สามสาขา มีสาขาหนึ่งที่ไม่ได้ไปเพราะต้องข้ามถนนใหญ่

เพราะงั้น ก็ไปมันอยู่แค่สองสาขา

เรียกว่าสาขาเก่ากับสาขาใหม่
สาขาใหม่นั้นใหญ่โตโอฬาร (โดยเปรียบเทียบ) แต่สิ่งที่สะดุดตากว่าอะไรก็คือคุณลุงท่านหนึ่ง ที่จะเดินไปรอบๆ ภายในร้าน พลางจัดของที่วางอยู่บนชั้นทุกชั้นรวมทั้งในตู้เย็นให้เรียบร้อยด้วยการจับทุกอย่างให้หันหน้าหาคนซื้อให้หมด ซึ่งแกจัดอย่างบรรจงเลยล่ะ ทว่าก็มีความคล่องแคล่วราวกับทำอย่างนี้มาช้านาน

มึงป่วยไอสัส!!

ผมคิดอย่างนั้นอย่างไม่ลังเล ก็แกไม่ใช่พนักงานร้านอะ และผู้จัดการร้านก็น่าจะคืออีกคนหนึ่ง แต่กระนั้น พฤติกรรมแปลกๆ นั่นก็ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยอะไร และแกเองก็ไม่ได้ท่าทีให้ต้องรู้สึกเกะกะเป็นปัญหาใดๆ แม้แต่นิดเดียว ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ทำให้พอไม่เจอแกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ก็ชักสงสัยว่า แกจะเป็นอะไรไปแล้วหรือเปล่า แล้วเป็นไปแล้วที่ว่านี่มันในทางดีหรือทางร้ายล่ะ

แต่แกก็หายหัวไปจากความทรงจำของผมเหมือนเรื่องสะดุดใจหลายๆ เรื่องในชีวิตอะนะ จนเมื่อกี้ผมออกไปทานข้าว แล้วก็เจอชายคนหนึ่งเดินอยู่กลางถนน กลางแบบเดินไปในเลนที่มีไว้ให้รถวิ่งนั่นแหละ ดูจากลักษณะแล้วก็เรียกว่าคนบ้าคงจะได้ แต่กูไม่ว่างจะเล่าว่ะ กูตัดจบเลยดีกว่า คือกูแม่งก็เดินเข้าเซเว่นสาขาเก่าแล้วพบว่าไอ้ลุงนั่นแม่งมายืนจัดของอยู่สาขานี้แทน สัสเอ้ย!!”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

233 Nameless Fanboi Posted ID:7E64q8DGQ

คห.บนๆ พูดเรื่องกินเนื้อสัตว์สดไม่สด สำหรับกูนี่ยอมกินไม่สด แต่ได้จากฟาร์มที่ฆ่าแบบสัตว์เจ็บน้อยที่สุดนะ ฉะนั้นกูเลยไม่กินเมนูแบบที่มันดูโหดๆ ไง จะว่ากูคิดเรื่องบาปก็ได้นะ แต่จริงๆ กูแค่ใจไม่แข็งพอจะกินเมนูพวกนั้นมากกว่า

กูคนนึงละอยากกินมัง - เจแบบประจำด้วยซ้ำ แต่เนื้อปลอมแม่งหายาก (ไม่ใช่เทศกาลกินเจแม่งมีนับร้านได้ที่ขาย) ก็ยังต้องกินเนื้อสัตว์ เลยต้องเลือกที่เบียดเบียนมันให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ละ

234 Nameless Fanboi Posted ID:YNqUmKw6H

"ไม่รู้เคยเล่าให้ฟังแล้วยัง ว่าครั้งหนึ่งผมเคยได้มีโอกาสสนทนากับฝ่ายขวาเก่า ที่เคยบุกเข้ามาใน มธ. ตอน 6 ตุลา ถึงแม้ว่ามันบทสนทนาที่สั้นมากๆ แต่ก็ไม่เคยลืมเรื่องนี้

ตอนนั้นผมยังไม่จบ ม. 6 แต่สอบตรงติด มธ. แล้ว และมารู้ว่าได้สิทธิ์สัมภาษณ์ ภาค ภาษาอังกฤษด้วย แต่ด้วยความที่เรียนโรงเรียนวัดไทยมาตลอด กรอกใบสมัครภาษาอังกฤษยังไม่ค่อยถูกเลย เลยต้องหาตัวช่วย ผมเลยตัดสินใจไปสถาบันสอนภาษาแห่งหนึ่งทีถนน่ข้าวสาร เพราะ สถาบันแห่งนี้จะส่งครูต่างชาติมาสอนที่โรงเรียนผม บางทีก็ส่งครูที่กุ๊ยและขี้นกมากๆ มา แบบพวก red neck เลย มาสอนไม่กี่วันก็โดนครูไทยสั่งเปลี่ยนก็มี

แต่คนที่ผมสนิทด้วยเป็นครูนิโกร ถักเดร็ดล็อกมาสอน คล้ายเอ็ดการ์ ดาวิด เลย ชื่อเฮนรี ผมกะจะไปหาเฮนรี แต่ด้วยที่ตอนนั้นมือถือยังไม่มี เลยเดินดุ่มๆ เข้าไป เข้าไปถามหาเฮนรีจากเจ้าหน้าที่สถาบันคนหนึ่ง เป็นชายวัยสักสี่สิบกว่าๆ ไหล่กว้าง ไม่อ้วน เค้าบอกว่าไม่อยู่ มีไรให้ช่วยไหม ผมบอกว่ากรอกใบสมัครไม่เป็น ให้ช่วยดูหน่อย

พอเขาเห็นว่าเป็นใบสมัคร มธ เขาเลยเปิดเผยตัวกับผมว่า เขาเคยเป็นตำรวจ ตชด หรือทหารนี่แหละ พันผ้าพันคอ หรือผูกแขนนี่แหละบุกเข้าไปสลายผู้ชุมนุมใน มธ วันนั้นด้วย ตอนเขาเล่าเขาก็เล่าด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ไม่ได้แสดงว่าสะใจหรือเสียใจกับสิ่งที่เคยทำลงไป แต่ย้ำซ้ำๆ ถึงเรื่องค้นเจอถุงยางอนามัยใช้แล้วเป็นตะกร้าๆในมหาลย แล้วน่าจะมีเรื่องพบอุโมงค์ใน มธ ด้วย แต่พูดไปเรื่องอื่น แล้วก็วกมาเรื่องถุงยางใช้แล้วเป็นตะกร้าๆอีก

แล้วบอกว่าชีวิตหลังจากนั้นก็ไปรบที่อื่นต่อ เห็นศพคนตายมาก็มาก แล้วคิดว่าอวัยวะคนนี่มันเหมือนๆกันหมด ต้องมีพระผู้สร้างแน่ๆ เลยลาออกจากราชการ มาศึกษาศาสนา

จำได้ว่าตอนจบบทสนทนาแกให้ที่อยู่โบสถ์มา แล้วชวนไปโบสถ์วันอาทิตย์"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

235 Nameless Fanboi Posted ID:Dm5U6FiVZ

>>234 จบหักมุมสัสๆ

236 Nameless Fanboi Posted ID:vwMyDEv9W

จริง ๆ แล้วพืชผักน่าจะนับได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตระดับสูงเทียบชั้นพรหมได้เลยนะ เพราะเป็นชีวิตที่ไม่เบียดเบียนชีวิตอื่น ตั้งอยุ่ในอุเบกขาตลอดเวลา แถมยังฟอกอากาศให้พวกกายหยาบชั้นต่ำหายใจต่อชีวิตไปอีก พวกที่แดกผักนั่นแหละบาปมหันต์

เพื่อนผมวิเคราะห์ให้ฟังเมื่อนานมาแล้ว

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

237 Nameless Fanboi Posted ID:K3aHDIC.q

"จริงๆแล้วพืชก็แค่เลี้ยงมนุษย์โดยการปล่อยอ๊อกซิเจนให้หายใจ และเมื่อถึงเวลาอันสมควรก็เก็บเกี่ยวซากศพพวกมัน"
มิตรสหายเสพย์มีมท่านหนึ่ง

238 Nameless Fanboi Posted ID:rjKltOCuL

“เทศกาลกินเจปีนี้....

ทำบุญให้น้อยลง
ขับรถถูกกฎจราจรให้มากขึ้นเถอะฮะ

#หน้าตลาดจอดซ้อนสาม
#หน้าศาลเจ้าซ้อนสอง
#ไว้ชีวิตเป็ดไก่แล้วก็ไว้ชีวิตกูบ้าง”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

239 Nameless Fanboi Posted ID:2tHc6me6L

กูต้องนับถือศาสนาพืชซะแล้ว

#กูเองนี่แหละท่านหนึ่ง

240 Nameless Fanboi Posted ID:DHFelm8jD

Alcoholism = ศาสนาเหล้า
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

241 Nameless Fanboi Posted ID:Ht/0dXKDT

เบียร์ทำจากพืช
เบียร์ = เจ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

242 Nameless Fanboi Posted ID:1kX/PVCPM

>>240 ซับนรกสัสๆ

243 Nameless Fanboi Posted ID:IiYIDp9e5

เนื้อหาการ์ตูนแต่ละประเทศเนี่ย มันสะท้อน "สิ่งที่ขาดหาย" ในประเทศนั้นๆได้ชัดเจนนะ

1.การ์ตูนญี่ปุ่น พระเอกมักไม่สนใจเรียน ไม่สนใจงานประจำ แต่รักอิสระ ชอบแหกกฏ ท้าทายกฏระเบียบ ชอบการผจญภัย มีมิตรภาพจริงใจกับเพื่อนฝูง
สังคมญี่ปุ่น เด็กแข่งขันกันเรียนหนัก แข่งกันทำงาน อยู่ในกฏระเบียบเคร่งครัด ไร้อิสระ ผู้คนไร้มิตรภาพ คบหากันด้วยผลประโยชน์

2.การ์ตูนฝรั่ง ตัวละครมักมีรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาด ทำให้ตอนแรกผู้คนไม่ยอมรับ แต่ก็ได้ใช้พลังพิเศษช่วยโลก จนผู้คนยกย่องในฐานะฮีโร่
สังคมฝรั่ง มีปัญหาเรื่องการเหยียดผิว เหยียดชาติพันธุ์ เหยียดชนชั้น คนที่แตกต่างมักไม่ได้รับการยอมรับ และถูกผลักดันไปเป็นพวกชั้นล่าง

3.การ์ตูนไทย คลั่งไคล้เรื่องการสอนให้คนทำความดี ไม่ลักขโมย ไม่พูดปด ซื่อสัตย์ ไม่คดโกง รักษาความสะอาด รักษาสิ่งแวดล้อม ขยันเรียน ขยันทำงาน
สังคมไทย ก็ขาดสิ่งพวกนี้แหละ

244 Nameless Fanboi Posted ID:l2jHldMle

>>243 ไอ้สอนให้เป็นคนดีไม่เท่าไหร่นะ ยังไงมันก็สื่อสำหรับเด็กดู
ปัญหามันอยู่ที่สอนจับยัดแบบทื่อๆไม่มีชั้นเชิง กับสอนให้เด็กท่องจำแต่ไม่ได้เข้าใจมากกว่า

245 Nameless Fanboi Posted ID:.21xlmA.5

>>244 ขนาดละครหลังข่าว นึกไรไม่ออกจับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจก่อนเลย เวรกรรม นรกสวรรค์จัดมา คือบ้านเราไม่มีใครคิดกุศโลบายสอนคนได้ดีกว่านี้แล้วหรอวะ

246 Nameless Fanboi Posted ID:l2jHldMle

>>245 อีกอย่างที่นึกออกคือมีพระไม่ก็ผู้ใหญ่มาพูดให้ฟังฉอดๆๆๆ

247 Nameless Fanboi Posted ID:SYr6p31lZ

>>243
>สังคมฝรั่งมีปัญหาเรื่องเหยียด

ใช่ครับ เหยียดมาก เหยียดจนเลือกคนดำเป็นประธานาธิบดีตั้งสองรอบแน่ะ

Wait what

248 Nameless Fanboi Posted ID:6wDLgENsV

>>247 เขาหันมาเหยียดคนเอเชียแทนแล้ว เมื่อก่อนตอนมีแต่คนขาวกับคนดำ คนขาวจะเหยียดคนดำ แต่พอมีคนเอเชีย (นำโดยคนจีน) ทั้งคนขาวคนดำก็หันมาเหยียดคนเอเชีย ดูอย่างตอนทรัมป์ได้เป็น ปธน. ใหม่ๆ ดิ Asian American มีถูกโห่ถูกแกล้งอะ

แต่ก็แล้วแต่คนนะ ทุก ปท. มีทั้งคนดีไม่ดี เพียงแต่เมื่อพูดถึงฝรั่งคนขาว เรื่องเหยียดผิวมันคือปัญหาของเขา ทุกวันนี้ก็ยังรณรงค์กันเรื่อยๆ นะ ไม่ใช่แค่อเมริกา แต่รวมถึงยุโรปด้วย ส่วนทวีปอื่นๆ เขาไม่ได้เหยียดผิวกัน เลยไม่อินเท่าไร

อย่างบ้านเราจะเหยียดอาชีพระดับล่างมากกว่า เกษตรกร คนงานก่อสร้าง ยาม แท็กซี่ แม่บ้านทำความสะอาด ถ้าย้อนไปสักทศวรรษ 2530s ช่วงนั้นกูเด็กๆ อยู่ จำได้ว่าละครหลายเรื่องพยายามแทรกบทสอนว่าอย่าไปดูถูกอาชีพเหล่านี้ พวกเขาทำงานสุจริตมีเกียรติมีศักดิ์ศรีเหมือนกัน

249 Nameless Fanboi Posted ID:7hpVYBIWp

>>248 เพ้อเหี้ยไรเนี่ย

250 Nameless Fanboi Posted ID:3JVhafD0J

>>249 555ถ้าไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่เมกาจะเข้าใจ

251 Nameless Fanboi Posted ID:7hpVYBIWp

>>250
คนขาวเหยียดเหี้ยไรเอเซียนมีแต่พวกเหยียดสปิกกะนิกเก้อซึ่งแม่งแอบเงียบๆไม่กว้ากระโตกกระตากอยู่แล้ว นอกจากเจอพวกสตรอมฟอนท์ห่าเหวไรนี่เลย แต่มึงไม่ได้เจอพวกนี้ตัวเป็นๆบนถนนอยู่แล้ว
นิกเก้อเหยียดจริง แต่ไม่จำเป็นต้องไปยุ่งพวกแม่งอยู่แล้ว

252 Nameless Fanboi Posted ID:ewtGPCaOA

กรั๊กๆๆ ประเทศขยะๆแบบนี้ ขอตายดีกว่าอยู่ครับ better dead than Thai.

253 Nameless Fanboi Posted ID:7E5QHeQ8B

สมัยก่อนคนขุดเหมือง คือคนจนที่มาแสวงหาโชค

สมัยนี้คนขุดเหมือง คือคนมีกะตังอัพคอมแรงๆมาแสวงหาโชค

254 Nameless Fanboi Posted ID:y2q2Y0OTZ

>>253 สมัยก่อนคือคนไม่มีต้นทุนสู้ชีวิตเสี่ยงดวงทำมาหากิน

สมัยนี้คือพวกมีต้นทุนแต่ขี้เกียจนึกจะสบายทางลัด

255 Nameless Fanboi Posted ID:K3ub3Yve7

>>253 คืออาเบะและอาจารย์มาวิน

256 Nameless Fanboi Posted ID:yW6VIYad6

>>253 ตะ แต่มันเงินดีนะ
//ขุดรัวๆ

257 Nameless Fanboi Posted ID:OcOYFc+JL

ตอนเป็นเด็กไม่รู้ประสา ผมเองก็ไม่ต่างจากเด็กหัวกระทู้เท่าไหร่หรอก พ่อแม่ย้ำเตือนเสมอว่า "ถ้าไม่ได้ คือไม่ได้ จะร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด ก็ไม่ได้" ฉะนั้นแล้ว ในวัยเด็กเลยไม่ค่อยได้มีของเล่นกับเขาเสียเท่าไหร่ ได้แต่มองดู ไม่ก็ยืมเพื่อนเล่น

โตมาเป็นวัยรุ่นหน่อย ของเล่นหมดความหมาย กลายเป็นเห็นพรรคพวก เล่นกีฬา ดนตรี หรือวาดรูปเกี้ยวสาว ก็เลยตัดใจ ไม่กล้าที่จะขอพ่อแม่ซื้อวัตถุจรรโลงใจเหล่านั้นเสียดีกว่า เพราะรู้ขอไปก็ไม่ได้

แต่แปลก ดันทำได้ดีเกือบทุกอย่าง เพราะก็ยืมๆเพื่อนเล่นเพื่อนใช้ทั้งนั้น ทั้งศิลปะ ดนตรี หรือกีฬา ด้วยความไม่มีนั้นแหละครับ เลยมีโอกาสได้หยิบยืมมาฝึกซ้อม มันทำให้เราโฟกัสและเรียนรู้ได้เต็มที่กว่า และเห็นคุณค่านั้นเมื่อมิได้ครอบครอง

ทั้งที่ครอบครัวก็ไม่ได้ข้นแค้นนะ ฐานะปานกลางพอมีกำลังซื้อได้ในบางสิ่งอย่าง
คิดๆไปพ่อแม่ผมโคตรพังค์เลยหว่ะ พาลนึกถึงคำน้าเดฟ โกรล์แห่งคณะฟู ไฟเตอร์

"I never took lessons to play the drums. I never took lessons to play the guitar. I just sort of figured it out. I think that if you’re passionate about something and you’re driven and you’re focused, you can do anything you want to do in life"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

258 Nameless Fanboi Posted ID:hOJpgs6sP

>>257 ขี้โม้

259 Nameless Fanboi Posted ID:6x99gY0dq

"การปฏิบัติแบบครูบาน้อยไม่ใช่หลักพุทธศาสนา ไม่มีในไตรปิฎก แต่ที่พระทั่วไปสวดมนต์งานขึ้นบ้านใหม่ ไปบ้านเก่า รดน้ำมนต์ ทำพิธีกรรมต่างๆ แบบทุกวันนี้ พระเล่นเฟส พระเชิดชูอุดมการณ์อนุรักษ์นิยม ระบบที่พระมีสมณศักดิ์ ตำแหน่ง อำนาจทางกฎหมาย ฯลฯ ก็ไม่ใช่หลักพุทธศาสนา ไม่มีในไตรปิฎกเช่นกัน

ควรยอมรับ "ความจริง" ตามที่สุจิตต์ วงษ์เทศบอกว่า "คนไทยไม่ได้นับถือพุทธศาสนา (แบบที่มีในไตรปิฎก แม้จะนิยมอ้างไตรปิฎก) แต่นับถือ 'ศาสนาไทย' คือศาสนาที่ผสมผสานระหว่างพุทธ พราหมณ์ ผี"

การนับถือศาสนาแบบครูบาน้อย, พระทั่วไป และชาวพุทธทั่วไปก็คือการนับถือ "ศาสนาไทย" เหมือนกัน

อ้อ #พระโกนคิ้วก้อไม่มีในไตรปิฎก เช่นกันนะจ๊ะ"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

260 Nameless Fanboi Posted ID:F2PYk5A9s

“You have a four year gap on your resume, where were you?”
“Oh! I was at Yale.”
“You’re hired, welcome aboard!”
“Hooray, I got a yob!!”

261 Nameless Fanboi Posted ID:fJHMdmYEk

หลายหลายสิบสิบปีก่อน

เคยตั้งใจว่า จะต้องไปเมืองนอก ไปเรียนเมืองนอก ไปทำงานเมืองนอก

หลายหลายสิบสิบปีผ่านมา

อยู่ในไทย เรียนในไทย ทำงานในไทย

ออกไปเสพ ไปสั่งสม วิชาความรู้ ประสบการณ์ พบปะเพื่อนพ้องน้องพี่ต่างเมือง ต่างประเทศ บ้าง

ภาษาอังกฤษ ก็หาทางใช้ จะถูก จะผิด ให้ได้ใช้ ใช้ให้บ่อย เดี๋ยวก็พัฒนาขึ้นเองเรื่อยเรื่อยในทุกทุกวัน

เทคโนโลยีก็เอื้ออำนวย อยู่ไทย หรือที่ไหน เราก็เสมือนอยู่เมืองนอก

อยู่ที่เราจะใช้เทคโนโลยี เพื่อการเติบโต การเรียนรู้ เพื่อสั่งสม หรือไม่

#พล่ามไปวันวัน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

262 Nameless Fanboi Posted ID:ygkqF5aFH

>>260 55555 ชอบๆ

263 Nameless Fanboi Posted ID:8qeDwUo0D

สื่อนอกวิจารณ์การใช้จ่ายเงินในงานพระราชพิธีที่เพิ่งผ่านไปว่าเปลืองเงินเละเทะ
มนุษย์ฝรั่งก็มีคนคล้ายๆคนไทยครับ
“เงินเยอะขนาดนั้นทำไมไม่เอาไปแจกคนจน”
มีหนุ่มไทยรายนึงไปตอบ ตอนแรกจะแปลให้ แต่มีคนแปลมาแล้ว ขอยกมาให้ดูครับ
.......
ชะนีฝรั่ง : 90 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,700 ล้านบาท)??? บ้าไปแล้ว!!!
หนุ่มไทย : ความมีวัฒนธรรม ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์.
บางคนกลับแสดงออกเหมือนสัตว์, ..บ้าบองั้นรึ? เรียนที่มหาวิทยาลัยบอสตัน ไม่ได้ช่วยยกระดับจิตใจคุณบ้างเลยรึไง?
ชะนีฝรั่ง : คุณไม่คิดว่าพระราชาของคุณอาจจะอยากใช้จ่ายเงินก้อนนี้ เพื่อทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยดีขึ้น?
หนุ่มไทย : มันไม่เหมือนกัน.. คุณคิดว่าเงิน 90ล้านเหรียญสหรัฐ จะซื้ออาหารแจกคนได้กี่คนในหนึ่งปี.. แล้วหลังจากนั้นล่ะ ก็ไม่มีอะไรกินเหมือนเดิม
แต่ศาสตร์พระราชาของท่านมีคุณมากกว่านั้น ท่านสอนให้คนรู้จักทำกิน อยู่อย่างพอเพียงและยั่งยืน ผ่านโครงการในพระราชดำรัสกว่า4พันโครงการ ที่จะยังคงถูกสานต่อ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ชาวไทยอีกล้านๆคน สามารถมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ด้วยลำแข้งของตนเอง
ถ้าเป็นคุณ คุณจะจ่ายเท่าไหร่เพื่อแสดงออกถึงความรัก ความเทิดทูนแด่พระองค์ซึ่งทรงเป็นที่รักเป็นครั้งสุดท้าย?
90 ล้านเหรียญสหรัฐเทียบไม่ได้เลย กับงบประมาณทางทหารที่สหรัฐใช้ไปในเวียดนาม อิรัก ซีเรีย และประเทศอื่นๆ
ผมเข้าใจ ว่าชาวอเมริกันไม่ค่อยสนใจดูแลพ่อแม่เท่าไหร่ แต่นี่คือประเทศไทย, เรารักบุพการีและยินดีที่จะทำสิ่งนี้
ประเพณีถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น. เราคือประเทศที่มีประวัติยาวนานกว่า800ปี ซึ่งได้รับการส่งผ่าน ถ่ายทอดวัฒนธรรมและประเพณีอันเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจ ..ซึ่งคุณคงไม่เข้าใจ
(ปล. อเมริกาก่อตั้งมาได้แค่ประมาณ 240 กว่าปี หนุ่มไทยคนนี้แอบจิกเล็กน้อย 🙂)
เหมือนเดินไปตบหน้ากลางสี่แยกแล้วเดินจากไป
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

“วันนี้ขอเสนอคำว่า "circlejerk" แปลว่า การอวยกันเองในกะลา เช่น มีคนไปเถียงกับฝรั่งด้วยตรรกะเสร่อๆ แล้วก็เอามาฟินน้ำแตกกันเอง เป็นต้น”
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

264 Nameless Fanboi Posted ID:3a+.yoZfU

"ความรักและความอบอุ่นของครอบครัวสามารถจรรโลงสังคมให้ดีขึ้นได้ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะหรืออาชีพใด"
(คำโปรยในเทรลเลอร์ยูทูป)

ดอกไม้ในกองขยะเป็นเรื่องของครอบครัวชนชั้นล่างครอบครัวหนึ่ง ผู้เป็นพ่อมีอาชีพเก็บขยะส่งเสียเลี้ยงดูลูกสองคนที่มีความต้องการตามกระแสสังคม
ผู้เป็นพ่อทำงานยากลำบากสัสๆ ถึงกระนั้นก็ยังอุตส่าห์พากเพียรเรียนเขียนอ่านจากหนังสือในกองขยะ ความฉิบหายมาเยือนเมื่อลูกเวรคนหนึ่งอยากได้ของแพงๆ ส่วนอีกคนก็มีอีกปัญหามาให้ปวดหัว ความสนุกของมันอยู่ที่ความรันทดของครอบครัวที่รันทดมากๆ รันทดจนสงสัยว่าความดีและความเพียรจะสามารถใช้ต่อสู้กับ class struggle นี้ได้อย่างไร

หนังเรื่องนี้มีลูกเล่นนิดหน่อย มีการดำเนินเรื่องเรียบๆ ซิมเพิลๆ คล้ายหนังแมส แต่เฮ้ย ดูๆ ไปเหอะ มันมีอะไรมากกว่านั้น

----------------------------------------------------------
สนทนา (สปอล์ย)
.
.
.
เปิดตัวเรื่องแรกก็หดหู่เลยครับ ตลกร้ายมาก หนังเปิดมาด้วยหนังสือนิทานมหาชนกจากกองขยะ ซึ่งเราก็รู้ๆ กันดีอยู่แล้วว่าเกี่ยวกับความเพียรที่จะช่วยเยียวยาความยากเข็ญ แต่ตลอดทั้งเรื่องเราจะได้เห็นเพียรความพยายามที่สุดท้ายไม่สัมฤทธิ์ผล

เราจะเห็นการดิ้นรนของคนจนในสังคมทุนนิยมที่เงินซื้อได้ทุกสิ่ง ปัญหาตลอดทั้งเรื่องคือเงิน เงินที่ไม่สามารถใช้ความเพียรคว้ามันมาได้ คุณจะเห็นคนรวยที่รวยเอารวยเอา ส่วนคนจนก็ย่ำอยู่กับที่

สุดท้ายปมเรื่องหนี้สินของลูกชายก็ยังไม่ถูกคลาย การที่ลูกสาวเสียซิงก็หดหู่สัสเพราะคนรวยไม่ต้องรับผิดอยู่แล้ว(เอาคลิปไปขายได้เงินชิวๆ อีก) เอาจริงๆ แล้วปัญหาที่ว่าลูกสาวเห็นทางเลือกนั้นดีสำหรับคนยากจนเช่นเขาแล้วหรือเปล่า อันนี้ก็ตอบยาก

ความตลกร้ายอีกอย่างคือเงินที่คุณพ่อเก็บได้ แล้วเอาไปคืนเจ้าของด้วยความหวังดีนี่แหละที่ย้อนกลับไปทำร้ายลูกสาวของพ่อเอง สรุปแล้ว ใบประกาศความดีที่ติดผนังบ้านสามารถช่วยให้ครอบครัวเขาหลุดพ้นจากความยากลำบากไปได้หรือไม่? ก็ไม่ได้ คนจนก็ยังจนอยู่ดี

ฉากสุดท้ายเราเห็นสามพ่อลูกกอดกันอย่างอบอุ่นด้วยความรัก อบอุ่นมากครับ ลูกสาวเสียตัว ลูกชายติดหนี้ หนีตำรวจ

ส่วนคุณพ่อก็นั่งอ่านพระมหาชนกผู้พากเพียร แต่ตัวเขาเองยังติดอยู่ในวังวนแห่งความยากจนไม่ว่าจะเพียรพยายามแค่ไหน

เฮ้ยนี่ผมพูดแง่ร้ายมากเกินไปหรือเปล่า
เอางี้ละกัน

ปัญหาทุกอย่างจะจบลงได้ถ้ามีความพอเพียงและขันติมานะพยายามอย่างถูกวิธี แบบนี้ดีว่า

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

265 Nameless Fanboi Posted ID:fiIJ3Fkf7

กระทู้กึ่งรีรันค่ะ

📌การแสดงตรรกะแบบไม่สมเหตุสมผลอีกประการหนึ่ง คือการแสดงความเห็นแบบ "Slippery Slope" ค่ะ แปลตรงตัวก็ประมาณ "ทางลาดชันลื่นๆ" หรือความหมายก็คือการด่วนสรุปจากสิ่งหนึ่งไปยังอีกสิ่งหนึ่ง โดยไม่สมเหตุสมผล

"เพจ mainstream" ที่ใช้ตรรกะแบบนี้บ่อยมากคือเพจ "Drama-Addict" ค่ะ คงเป็นเพราะเพจนี้มี agenda (วาระ/แรงจูงใจ) ให้รณรงค์เยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สาธารณสุข ความรุนแรง สุขภาพจิต ไบโพลาร์ ฯลฯ จึงเกิดภาวะที่ว่า พอเห็นสถานการณ์อะไรที่มีข้อเท็จจริงใกล้เคียง ก็จะจับโยงมาพูดถึงในลักษณะ "จับแพะชนแกะ" เพื่อผลักดันวาระที่ตัวเองรณรงค์

📌ในกรณีล่าสุด ที่เพจดราม่าเขียนถึงอีกเพจหนึ่งว่า พวกคอมเมนต์ที่ไปพูดว่า "คุกๆๆ แฮ่กๆๆๆ" ใต้ภาพเด็กผู้หญิงอ่านหนังสือ เป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะใจความที่สื่อถึงการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก ทำให้เกิดภาพลักษณ์ (perception) ว่าเรื่องความรุนแรงทางเพศสามารถเป็นมุกล้อเล่นธรรมดา และจะลามไปทำให้จนถีงขั้นมองว่าความรุนแรงทางเพศ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงไปด้วย เหมือนกับการใช้คำว่าข่มขืนจนเกลื่อนกลาด ดาราโพสต์ภาพแล้วบอกว่าใครอยากถูกข่มขืนให้มาหาพี่

ในโพสต์ของจ่า มี agenda อยู่ 2 ประการที่เพจเราเห็นด้วยค่ะ คือ
(1) เรื่องการโพสต์ทำนอง "คุกๆๆ" เป็นการใช้วาจาคุกคาม ไม่เหมาะสม
(2) ความรุนแรงทางเพศ ไม่ควรถูกทำให้เกิด perception ว่าเป็นเรื่องปกติ

📌แต่ปัญหาหลักของจ่า คือการเหมารวมเชื่อมโยง (1) กับ (2) โดยการ "ด่วนสรุป" แบบ slippery slope ว่าการใช้วาจาคุกคามนั้นมีผลสร้าง perception เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศให้ดูไม่รุนแรง แล้วยังเหมารวม (generalize) ไปว่า "การพูดถึงการข่มขืน" ก็เป็นการสร้าง perception ความรุนแรงทางเพศในลักษณะเดียวกันด้วย แม้เป็นการพูดถึงเปล่าๆ ไม่ได้เป็นการใช้วาจาคุกคามด้วยซ้ำ

เพจเราเคยอธิบายไปแล้วว่า ต้องแยกแยะระหว่าง "การพูดถึง/กล่าวถึงการข่มขืน" (reference to rape) และ "การสร้างภาพลักษณ์ของการข่มขืน" (perception of rape) >> โดยมีใจความสำคัญที่ว่าการ reference ถึงการข่มขืน/ล่วงละเมิดทางเพศ ไม่จำเป็นเสมอไปที่จะส่งผลไปไกลถึงการสร้าง perception ค่ะ

https://www.facebook.com/MondeGris/posts/163020840944261
https://www.facebook.com/MondeGris/posts/164841230762222

📌ตัวอย่างการสร้าง perception ที่โดนเด่นและน่าตำหนิที่สุด คือพวกละครไทยที่มักสร้างฉากข่มขืน เอาพระเอกข่มขืนนางเอก (สวรรค์เบี่ยง แรงเงา จำเลยรัก ดาวพระศุกร์ ฯลฯ) โดยไม่เกิด repurcussions (ไม่ได้รับบทลงโทษ) ใดๆ สนับสนุนให้เกิด perception ที่ว่า "คนดี" อย่างพระเอกนั้นข่มขืนไปด้วยความรัก นางเอกก็หลงรักคนที่มาข่มขืนตัวเอง เกิดการสร้างบรรทัดฐาน (Normalize) ว่า "การข่มขืนไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพราะคนดีทำด้วยความรัก"

ในทางกลับกัน การพูดถึง "คุกๆๆๆ" หรือ "ใครอยากโดนข่มขืนให้มาหาพี่" หรือที่พ่อค้าหมูท่านหนึ่งเขียนป้ายว่า "จะจับข่มขืนคนที่มาขโมยของ" เป็นเพียงการใช้ "มุก" references ไม่ได้ก่อให้เกิด perception หรือการ normalize การข่มขืนแต่อย่างใดเลย จึงไม่เข้าใจว่าจ่าจับมัดรวมกันแล้วสรุปเชื่อมโยง GAT PAT ได้อย่างไร

📌ที่เขียนไปข้างบนทั้งหมด ไม่ได้มีผลในแค่เชิงทฤษฎีตรรกศาสตร์เท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงความรุนแรงของบทลงโทษทางสังคมต่อจำเลยด้วย กล่าวคือ แทนที่จะโฟกัสในประเด็นที่ว่า ดาราหรือพ่อค้าหมูใช้วาจาไม่สุภาพไม่เหมาะสม หรือ คอมเมนต์ที่บอก "คุกๆๆๆ" เป็นการคุกคามทางวาจา แต่กลับไปขยายความจากการรณรงค์แบบ "จับแพะชนแกะ" (logic mismatch) ของจ่า ตัดหัวเสียบประจานให้คนไปรุมด่าอย่างกับว่าดารา/คอมเมนต์/พ่อค้า นั้นมีความผิดรุนแรง สร้าง perception บั่นทอนความรุนแรงของการข่มขืน

เหมือนว่า จำเลยกระทำผิดกระทงหนึ่ง แต่ไปตัดสินลงโทษด้วยโทษอีกกระทงหนึ่ง มั่วซั่วไปหมดค่ะ ล่าพ่อมดแม่มดกันสนุกสนามตามประสาโลกโซเชียลกันไป

📌เรื่อง slippery slope / logic mismatch พวกนี้ จะเห็นได้อีกจากตัวอย่างการตัดหัวเสียบประจานคนที่ใช้คำว่า "ไบโพลาร์" หรือ การกล่าวหาว่าการวางหินบนรางรถไฟนี่ต้องมาจากการเลียนแบบ My Mate Nate ฯลฯ มั่วไปหมดค่ะ

ปล. จ่าเองก็เคยเล่นมุกแซวประมาณ "จับหมอปล้ำกลาง OR" นะคะ

https://www.facebook.com/DramaAdd/posts/10156001367678291

266 Nameless Fanboi Posted ID:ArDlyZCZp

สื่อไทยวิจารณ์การใช้จ่ายเงินในงานพิธีสาบานตนของโดนัล ทรัมป์ที่เพิ่งผ่านไปว่าเปลืองเงินเละเทะ
มนุษย์ไทยก็มีคนคล้ายๆคนฝรั่งครับ
“เงินเยอะขนาดนั้นทำไมไม่เอาไปแจกคนจน”
มีหนุ่มไทยรายนึงไปตอบ ตอนแรกจะแปลให้ แต่มีคนแปลมาแล้ว ขอยกมาให้ดูครับ
.......
ชะนีไทย : 200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7,000 ล้านบาท)??? บ้าไปแล้ว!!!
หนุ่มอเมริกา : ความมีวัฒนธรรม ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์.
ชะนีไทย : คุณไม่คิดว่าประธานาธิบดีของคุณอาจจะอยากใช้จ่ายเงินก้อนนี้ เพื่อทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนอเมริกาดีขึ้น?
หนุ่มฝรั่ง : มันไม่เหมือนกัน.. คุณคิดว่าเงิน 200ล้านเหรียญสหรัฐ แลกกับการป่าวประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่ากูเป็นประธานาธิบดีอะไรสำคัญกว่ากัน
ผมเข้าใจ ว่าชาวไทยไม่ค่อยสนใจเหลียวแลเรื่องนอกประเทศตัวเองเท่าไร เพราะอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก แต่นี่คือประเทศอเมริกา, เรามีลิเบอร์ตี้และยินดีที่จะทำสิ่งนี้
ประเพณีถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น. เราคือประเทศที่มีประวัติยาวนานกว่า240ปี ซึ่งได้รับการส่งผ่าน ถ่ายทอดวัฒนธรรมและประเพณีอันเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจ ..ซึ่งคุณคงไม่เข้าใจ
(ปล. ไทยนี่คือประเทศไทยหวันรึเปล่าครับ หนุ่มฝรั่งคนนี้แอบจิกเล็กน้อย 🙂)
เหมือนเดินไปตบหน้ากลางสี่แยกแล้วเดินจากไป
#มิตรสหายในโลกคู่ขนานท่านหนึ่ง

“วันนี้ขอเสนอคำว่า "circlejerk" แปลว่า การอวยกันเองในกะลา เช่น มีคนไปเถียงกับลิเบอร์ร่านด้วยตรรกะเสร่อๆ แล้วก็เอามาฟินน้ำแตกกันเอง เป็นต้น”
#มิตรสหายในโลกคู่ขนานอีกท่านหนึ่ง

267 Nameless Fanboi Posted ID:yF3k8vPlZ

>>263 คนตอบโครตตื้นเขินอ่ะ เหมือนจะดีแต่อ่านแล้วก็แหม่งๆอย่างเช่นตรรกะที่ว่าความกตัญญู​ เงินเท่านี้เลยเล็กน้อย(ทั้งๆที่เค้าถามว่าจ่ายมากขนาดนี้ได้ประโยชน์อะไร เอาไปพัฒนาชีวิตคนในสังคมไม่ดีกว่าหรอ แล้วดูมันตอบโยงไปเรื่องความกตัญญู แปลว่านอกจากมึงพอใจ แม่งไม่มีประโยชน์​สินะ)​ คำตอบแบบนี้นอกจากจะไม่ทำให้อีกฝ่ายเข้าใจแต่ยังทำให้มองว่าแยกแยะไม่เป็น ไม่มีเหตุผล​ด้วย แล้วก็มาฟินกันเองโดยที่ยังถูกมองในแง่ลบต่อไป(และอาจจะมากกว่าเดิม)

สุดท้ายแล้ว ไปเถียงให้มันดูแย่กว่าเดิมทำไม

268 Nameless Fanboi Posted ID:XhXKPjUYU

>>266 555555555

269 Nameless Fanboi Posted ID:7.IU4Ou33

พวกมึงไม่เคยใช้เงินซื้อความพอใจกันหรอ ที่แน่ๆ กูไม่เสือกเรื่องคนอื่นจะใช้เงินตัวเองไปกับอะไรว่ะ

270 Nameless Fanboi Posted ID:UsliOgHyP

กลายเป็นว่าที่ไปเถียงฝรั่ง ยกแม่น้ำทั้งห้าอ้างวัฒนธรรมนั้นคำตอบจริงก็คือ เงินอั๊วะ อั๊วะจะใช้ยังไงก็ได้ตามที่อั๊วะพอใจ ลื้ออย่าเสือก

271 Nameless Fanboi Posted ID:n7AsHq/FS

>>269 การใช้เงินตามความพอใจ มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ และยิ่งทำตัวอินดี้มาก ไม่แคร์สังคมมาก คนก็ยิ่งซุบซิบนินทามาก หมั่นไส้มาก แต่ถ้าการใช้เงินนั้นมึงสามารถตอบคนอื่นๆ ได้อย่างมีหลักการ มีเหตุผลจับต้องได้ นั่นแหละสังคมจะหยุดนินทามึง หยุดหมั่นไส้มึง

ไม่งั้นไม่มีวลี "รวยอย่างเดียวไม่พอ" อะไรแบบนั้นหรอก อันนี้หมายถึงเรื่องทั่วๆ ไปในชีวิตประจำวันเลยนะ

272 Nameless Fanboi Posted ID:A+RaDgAa8

ไอ้การที่ต้องมาเล่าเรื่องปัญหาวนซ้ำหลายๆ รอบ เพราะไม่ยอมบันทึก log case ของลูกค้าเนี่ย ประสบการณ์ที่ได้รับมันเลวร้ายพอๆ กับ Edge of Tomorrow หรือ Haruhi Loop เลยนะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

273 Nameless Fanboi Posted ID:y8qBPsw.g

>>270 กูว่าตอบง่ายๆแบบนั้นยังดีกว่าไปโหนพิธีแพงๆของต่างประเทศอะ บางคนแม่งโหนพิธีควีนอังกฤษพร้อมแปะลิ้งข่าวประกอบการโหน หารู้ไม่ว่าในลิ้งมีฝรั่งด่าควีนรัวๆว่าเปลืองตังฉิบหาย

274 Nameless Fanboi Posted ID:7OLVVpQhj

มาแล้วครับ ที่น้อง ๆ รอคอยกัน #บทสนทนาระหว่างความดาร์คกับความบักเสียว
.
88.ความกลวงเปล่าของพวกพูดถึงแคว้นคาตาลุญญา
.
A: ผมละเบื่อเหลือเกิน พวกกลวง ๆ ที่ริอ่านจะโชว์ความเป็นปัญญาชนเห่อไปตามการประกาศเอกราชของแคว้นคาตาลุญญา คิดว่าตัวเองทวนกระแสกว่าพวกสลิ่มแต่แท้จริงแล้วพวกนี้คิดอะไรไม่ซับซ้อนเลยอ่ะครับ ในส่วนตัวผมนั้น ผมสนใจประชาชนชาวบาสก์ในสเปนมากกว่า นี่ผมกำลังจะเดินทางไปยังเมืองบีโตเรีย-กัสเตย์ซ เพื่อสังเกตุและเก็บรายละเอียดอารมณ์ของผู้คนนำมาเขียนบทความชิ้นใหม่ของผมอ่ะครับ เอ๊ะ นั่นคุณหอบเป้มาพะรุงพะรัง คุณพึ่งเดินทางกลับมาจากที่ไหนอ่ะครับ
.
B: ผมพึ่งกลับมาจากเมืองยอน สหรัฐหว้าอ่ะครับ
.
A: วะวะว่ะหว่ายยย
.
หมายเหตุ:
บทสนทนาระหว่างความดาร์คกับความบักเสี่ยวขอร่วมสนับสนุนการทำงานของ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) ในการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนไทยไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดที่ถือว่าเป็นการทำลายอนาคตของชาติมา ณ ที่เนร้ อ่ะครับ /\

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

275 Nameless Fanboi Posted ID:yDUxuPBmK

IE มีไว้โหลด Browser อื่น
Edge ก็เช่นกัน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

276 Nameless Fanboi Posted ID:DU+EXM5z+

มีเรื่องนึงที่อยากบอกว่าเคยเห็น ผู้ชายที่มีหัวใจยิ่งใหญ่ที่สุดคนนึงในประเทศไทย นั่งทำงานเหมือนวาดหรือเขียนอะไรบางอย่าง แล้วไฟหลอดตะเกียบ ที่อยู่ในหลุมฟ้าเพดานตรงที่ส่องสว่างมาโต๊ะทำงานดับมืดไปเฉยๆ
ผู้ชายคนนั้นลุก ไปหาโคมไฟใกล้ๆ เหมือนบิดๆ หมุนๆ โคมไฟ ล้วงหยิบเอาหลอดตะเกียบจากโคมไฟ เดินกลับมาเงยหน้ามองฝ้าเพดาน แล้วเลื่อนเก้าอี้ที่นั่งทำงาน ยืนขึ้นบนเก้าอี้เพื่อเปลี่ยนหลอดไฟเอง และก็นั่งทำงานต่อตรงโต๊ะตัวเดิม
ถ้าเป็นผม และแถมมีคนรับใช้มากๆ มีเงินมากๆ ผมคงไม่ทำเรื่องแบบนี้เอง
จำได้ว่า ตัวเองกำลังมุดขึ้นฝ้าเพดาน อีกอาคารนึง ที่อยู่ตรงข้ามกัน เพื่อเอาสาย lan กับ สายไฟเข้าท่อ เป็นช่วงที่อากาศเย็นมาก เกือบๆ 3 ทุ่มแล้ว มีพี่ที่อยู่ ยิปอินซอย มาคอยเช็คสัญญาณ อินเตอร์เน็ทให้ เพราะสมัยนั้นต้องเทสต์สัญญาณที่หัว RJ-45 ทั้ง 2 ข้าง
เราตัวเล็ก เลยได้มุดฝ้าเพดาน 😂
และทำให้รู้ว่า ห้องทำงานของคนที่มีหัวใจยิ่งใหญ่ มีมุ้งลวดที่หน้าต่าง เพื่อรับลมธรรมชาติ ก็แปลว่าตอนนั้นทำงานไปแล้วไม่ได้เปิดแอร์ด้วย
คงไม่มีภาพแบบนี้ให้ดูอีกแล้วในชีวิตนี้.

277 Nameless Fanboi Posted ID:lrnTs59px

โหนโอลิมปิกก็ได้ รอบหน้ากุรออยู่ //คนเทยไม่ได้กล่าวไว้

278 Nameless Fanboi Posted ID:DU+EXM5z+

ช่วงนี้มีดราม่าเล็กๆ กรณีเอาหนอนด้วงมะพร้าว มาแช่น้ำให้ตายบ้าง เสียบไม้ให้ตายบ้าง ย่างให้ตายบ้าง กินสดๆบ้าง โดยกลุ่มคนรักสัตว์โวยว่า "ทำไมต้องฆ่ามัน ทำไมไม่รอให้มันตายเองตามธรรมชาติก่อน" หนอนพ่อมึงสิ แก่ตายได้! หนอนเป็นสัตว์ที่ไม่มีวันแก่ตายโว้ย! เพราะมันจะกลายเป็นแมลง!

มึงสับสนกับ "หนอนชาเขียวโออิชิ" เหรอ! หนอนในโฆษณาโออิชิแม่งเสือกมีลูกได้ หนอนเหี้ยอะไรเติบโตจนมีลูกได้ หนอนต้องกลายเป็นแมลงก่อน ถึงมีลูกได้โว้ย

279 Nameless Fanboi Posted ID:EyTo1E78F

>>275 IE กับ ซาฟารี อันไหนห่วยกว่ากัน

280 Nameless Fanboi Posted ID:mO0FpLejv

>>279 โครม

281 Nameless Fanboi Posted ID:DU+EXM5z+

เดือนตุลาคมเดือนเดียวมีคนจากในบริษัท G บริษัท F และบริษัทเกาหลีติดต่อมาเรื่องอยากชวนไปร่วมงานด้วย แบบไม่ใช่ Head Hunt ด้วย เป็นคนภายในเลย โดยทั้งหมดบอกว่าติดต่อมาเพราะเห็น Interactive Profile (http://nuuneoi.com/profile ทำทีเดียวคุ้มเลย นี่ไม่ได้อัปเดตตั้งนานละ 555)
ไม่มีอะไรหวือหวา เป็นเรื่องปกติ คนรอบตัวก็ได้รับการติดต่อเรื่อย ๆ เหมือนกัน ไม่ใช่แค่เรา ยิ่งคนใน Bay Area นี่น่าจะมีคนติดต่อทุกสัปดาห์เลยหละมั้ง แค่จับต้องได้ว่าช่วงนี้บริษัทต่าง ๆ เริ่ม Aggressive ในการหาคนเยอะขึ้นมาก ๆ และจากที่ถามความต้องการก็พบว่าแนวโน้มของ Software Engineer ก็เปลี่ยนทางไปจากปีก่อน ๆ มากด้วยเช่นกัน
Keyword ที่จับต้องได้ ... "จงจับงานด้าน Machine Learning" ... บอกมาเป็นปีละ ก็ยังบอกต่อไป ...
เสียดายนะ คนไทยที่ผ่าน Qualification ก็มีเยอะมาก ๆ แต่ดันติดเรื่องวีซ่า ไม่งั้นคงไปทำที่โน่นกันได้สบาย ๆ ละ
Comfort Zone ก็เป็นอีกอย่างที่ทำให้คนไม่กล้าไป ...

282 Nameless Fanboi Posted ID:+H7bX3tnS

“ปลดทหารแล้วเน้อออ ปลดแบบจริงๆ สำหรับ 1 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงชีวิตที่รู้สึกโดนลดทอนคุณค่า และเสียเวลามากที่สุดในชีวิต

ประสบการณ์ในค่ายทหาร เป็นประสบการณ์ที่ไม่ต้องมาเจอก็ได้ (สำหรับเราแล้ว มันไม่คุ้มค่าเลยกับอะไรหลายอย่างที่เสียไประหว่างทาง) ที่นี่ไม่ได้ทำให้คุณเป็นลูกผู้ชายขึ้นหรืออะไรทั้งนั้น หนำซ้ำ ถ้าคุณไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดี คุณอาจนำวิธีแบบทหารไปใช้กับคนรอบข้างคุณด้วย

คุณไม่จำเป็นต้องมาเป็นทหารเพื่อฝึกให้ตัวเองมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ เพราะอยู่ข้างนอกคุณก็สามารถมีอะไรแบบนั้นได้โดยไม่ต้องเข้ามาให้คนอื่นย่ำยีคุณถึงที่นี่

ถ้าจะขอบคุณใคร เราขอขอบคุณตัวเองที่อดทน จนงงว่ากูอยู่มาได้ไงวะตั้งปีนึง ขอบคุณเพื่อนทหาร ที่น่ารักกับเรา ช่วงชีวิตที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่เรามีเพื่อนผู้ชายมากที่สุดในชีวิตแล้ว

ขอบคุณครอบครัว ขอบคุณเพื่อน พี่ๆ ที่ทำงาน น้องๆ ทุกคน ที่แวะมาเยี่ยม คอยรับโทรศัพท์ คอยเข้าใจเรา เพราะทุกคนคงรู้ว่าช่วงที่ผ่านมาเราอ่อนแอและเปราะบางมากขนาดไหน แต่เพราะทุกคนทำให้เราผ่านมาได้

ขอบคุณผู้บังคับบัญชา และนายทหารอีกหลายคนที่ทำให้เห็นว่า แม้ในรั้วแห่งนี้จะมืดมนขนาดไหน แต่ก็ยังมีแสงสว่างจากหลายๆ ท่านคอยจุดขึ้นมาให้ได้เห็นบ้าง

สำหรับวาทกรรม "รับใช้ชาติ" นั้น เราอยากบอกจากใจจริงว่า การใช้ชีวิตพลเรือนของเราก่อนหน้านี้มันเติมเติมจิตใจ มันเปิดโอกาสให้เราทำสิ่งที่มีคุณค่าและได้รับใช้ชาติด้วยศักยภาพที่เรามีอย่างเต็มที่มากกว่า 1 ปีในค่ายทหารแบบเทียบไม่ติด และต่อจากนี้ไป เราจะได้ออกไปรับใช้ชาติ และมวลมนุษยชาติตามความสามารถและวิชาชีพที่เราได้ร่ำเรียนมาสักที

ขอขอบคุณชีวิตทหารที่ทำให้เราเห็นคุณค่าของอิสรภาพและชีวิต แม้เราจะยังคงเศร้าใจ เพราะรู้ดีว่าจะยังคงมีมนุษย์เพศชายเข้ามารับความรู้สึกแบบเรา แบบนี้ ในทุกๆ ปี

1 ปีในค่ายทหาร จะเป็นช่วงชีวิตที่เราจะจดจำ แต่จะไม่คิดถึง

และใครที่รองานเขียนของกอล์ฟเกี่ยวกับชีวิตในค่ายทหาร รับรองจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง #ด้วยเกียรติของพลทหารดีเด่น”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

283 Nameless Fanboi Posted ID:Xnp8Q1ZKL

กรณีพี่ตูน บอดี้สแลม วิ่งเรี่ยไรเงิน นอกจากอาจจะผิดที่ผิดทางแล้ว คือแทนที่จะหาเงินไปช่วยรพ.ขนาดเล็ก กลับเอาเงินไปช่วยรพ.ศูนย์ขนาดใหญ่แล้ว ผมคิดใจตรงพี่ตูนไปเป็น presenter ให้ Nike อย่างเต็มตัว ตั้งแต่รองเท้าคู่นั้นที่วิ่งไป 400 กม. (Nike LunarEpic Flyknit iD) “ราคาทะลุล้านแล้ว! ประมูลรองเท้าวิ่ง "ตูน บอดี้สแลม" ไนกี้ รุ่น "รุ่งอรุณ” และ “ตูน บอดี้สแลม”ร่วมวิ่งฉลอง 30 ปีไนกี้ แอร์ แม็กซ์ ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อที่ผิด ๆ เกี่ยวกับการวิ่ง
สถิติในรอบ 30 กว่าปีที่ผ่านมา นับแต่ไนกี้ผลิตเกือกสมัยใหม่รุ่น Nike Air Tailwind เมื่อปี 1978 และรุ่น Air อื่น ๆ ตามมา กว่าครึ่งหนึ่งของนักวิ่งยังคงได้รับบาดเจ็บจากการวิ่ง (http://theatln.tc/2y8axjj) ไม่มีสถิติที่เป็นกลางที่ไหนที่ยืนยันได้เลยว่า การวิ่งด้วยรองเท้าสมัยใหม่ ที่มี cushioning มีการซับน้ำหนักที่ส้นเท้าเป็นอย่างดี ช่วยทำให้อาการบาดเจ็บน้อยลง ผู้วื่งอีกครึ่งหนึ่งที่ไม่เจ็บคือคนที่วิ่งเป็นต่างหาก รู้จักการลงน้ำหนักของเท้าว่าควรลงตรงไหน และตรงกันข้าม งานวิจัยของ University of Exeter ที่ตีพิมพ์ใน Medicine & Science in Sport & Exercise ปีที่แล้ว. (http://bit.ly/2g7rhm8) ระบุว่า ยิ่งใส่รองเท้าไฮเทค ส้นหนามากเท่าไร ยิ่งเกิดอาการบาดเจ็บมากเท่านั้น เพราะอะไร?
เพราะนักวิ่งที่ใส่รองเท้าสมัยใหม่ มักลงน้ำหนักที่ส้นเท้า (ก็อุตส่าห์ซื้อมาซะแพงนิ) อาการที่ตามมาย่างแน่นอนคือ “เจ็บเข่า” ครับ ชัวร์ป้าด การใช้รองเท้าดี ๆ ไม่กระตุ้นให้ขา/เท้าของเราสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงเลย นี่พูดจากประสบการณ์ที่ผมวิ่งมาห้าปี แต่การลงน้ำหนักที่ถูกต้อง ไม่เจ็บครับ เว้นแต่คุณเป็นนักวิ่งอาชีพที่วิ่งมานาน อันนั้นจะลงน้ำหนักที่ส้นเท้า หรือหน้าเท้า ไม่ต่างกัน ไม่เจ็บหรอก เพราะกล้ามเนื้อของเขาบ่มเพาะสร้างมาเป็นอย่างดีแล้ว และการแตะเท้าลงพื้นมันแทบจะไร้น้ำหนักอยู่แล้ว นักวิ่งระดับ elite เวลาลงแข่งมาราธอน เขาใช้รองเท้าส้นเตี้ย (low profile) ทั้งนั้น คนที่วื่งรู้กันดี
อยากวิ่ง (ระยะไกล) โดยไม่เจ็บ เริ่มจากการโยนรองเท้าแพง ๆ ทิ้งซะนะครับ หันมาศึกษาวิธีวิ่งให้ถูกต้องดีกว่า ทดลองเองครับ ไม่ต้องเชื่อผมหรือเชื่อใคร

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

284 Nameless Fanboi Posted ID:HRKmA67Gi

>>283 wannabe ยังไงไม่รู้

285 Nameless Fanboi Posted ID:.zp9JZGtA

ใส่ไนกี้วิ่ง ไม่ลิเบอรัลเอาซะเลย

286 Nameless Fanboi Posted ID:/TcUyBLrJ

ตูน 11 รพ.บุญที่มุ่งหวังบาป
กำแพงอิสลามที่พังทลาย

ม่านหมอก อัยเยอร์เวง
01 พ.ย.2017
Cerita Patani
เปิดตัวไปแล้ว
สำหรับโครงการ"ก้าวคนละก้าว" สำหรับ 11 รพ.ที่ขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ทั่วสยามประเทศรวมทั้งเขตยึดครองอย่างปาตานี

ต้องถือว่าเป็นความตั้งใจดีของคนสยามคนหนึ่ง ที่เห็นถึงความสำคัญของการรักษาพยาบาล

อีกทั้งยังเล็งเห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพของ "รัฐบาลทหาร"ในการบริหารสยามประเทศ

ที่ไม่เห็นถึงความสำคัญในด้านสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญของประชาชน ซึ่งการรักษาพยาบาลถือเป็นพื้นฐานทางคุณภาพชีวิต ของประชาชน

เราไม่จำเป็นต้องสาธยายถึงปัญหาปาตานีว่าสยามต้องแก้แบบใด

ประเด็นที่กล่าวถึง ผู้เขียนจำต้องยอมรับเสียก่อนว่า อิสลามในสภาวะปัจจุบัน เปรียบดั่งเป็นเพียงแค่สิ่งที่ถูกถ่ายทอดทางกำเนิด

เนื่องด้วยวัฒนธรรม "กาเฟร" ที่ถั่งโถมเข้ามาในทุกช่องทาง ผ่านทางการสนับสนุนทางงบประมาณให้กับผู้นำ,การเข้ามาทางสื่อมีเดียอย่างทีวี,เพลง เป็นต้น

มันจึงเป็นเช่นภาพที่ออกมา

บุตรสาวชาวมลายูมุสลิมหายใจรดต้นคอ,ภรรยาเกาะแขนผู้ชายที่ไม่ใช่สามี เป็นต้น

ซึ่งการกระทำเช่นนี้ถือเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับสตรีชาวมลายูที่นับถือศาสนาอิสลามกระทำ

การทำบุญในประเด็นนี้ ในหลักศาสนาอิสลามถือเป็นสิ่งที่สมควรกระทำ เพราะเป็นการทำบุญที่ไม่ใช่เหตุผลทางศาสนาเหมือนการนำเงินไปสร้างวัดเป็นต้น

แต่อิสลามไม่ใช่เป็นเพียงแค่สิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจหรือเป็นเพียงมรดกทางพันธุกรรม

แต่อิสลามเป็น"ศาสนาบริสุทธิ์"ที่ถูกส่งมายังหน้าแผ่นดินให้กับผู้ที่ศรัทธาในเอกองค์อภิบาล โดยมี"อัลกุรอ่าน"เป็น"ธรรมนูญการดำเนินชีวิต" และมี "ศาสนทูต"เป็นตัวอย่าง

การวิ่งของคุณตูน ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่สื่อให้เห็นถึง "การเสียแต่เนื้อใน"

การวิ่งของคุณตูน ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของการทำลายกรอบทางศิลธรรมทางศาสนาในปาตานี

นอกเหนือจากการสื่อให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพของ "ผู้ปกครอง"กับ"ผู้ถูกปกครอง"

เป็นภาพการสร้างสังคม "พหุวัฒนธรรม" ที่มีประสิทธิภาพของสยาม

เป็นภาพการพังทลายของบรรทัดฐานทางศาสนาอิสลามของปาตานี

ที่เด่นชัด

แน่นอน...

ชาวสยามอย่างคุณตูนคงมองไม่เห็น

ความปลิ้นปล้อนของกอ.รมน.สยาม ในการโหนใบบุญเพื่อสร้างกระแสทำลายศาสนาอิสลามของคนปาตานี ด้วยภาพที่สื่อถึงการไม่ยึดบทบัญญัติที่กำหนดมาในอัลกุรอ่าน

แต่....
ที่สำคัญ...ผู้นำศาสนาในปาตานีมองเห็นมันหรือไม่
ที่สำคัญ...ผู้นำศาสนากล้าพอที่จะพูดในสิ่งที่ผิดต่อ
หลักศาสนาให้ผู้ปฏิเสธและประชาชนได้
รู้ว่าเป็นสิ่งที่ผิด

"การทำลายที่น่ากลัว คือ การทำลายหลักศรัทธา"

บุญที่หวัง ได้กลายเป็นบาป
ไม่ใช่แค่ทำลายตัวท่านเอง

แต่มันได้ทำลายขอบเขตศาสนาอิสลามยับเยิน

แน่นอนเป็นความต้องการของผู้ปฏิเสธ

แต่ท่านได้ให้ความร่วมมือในการกระทำ

นาอูซูบิลลาห์ฮีมินซาลิก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

287 Nameless Fanboi Posted ID:P2WS+JnZS

“กอ.รมน.ในปัจจุบัน เดิมชื่อ กองบัญชาการปราบปรามคอมมิวนิสต์ ชื่อชัดเจนมากนะตัว คอมมิวนิสต์ไม่มีแล้ว แต่องค์กรนี้ยังอยู่จนปัจจุบัน งบเยอะด้วย แฟ้มลับคงเยอะแยะ

ฟูลไบรท์ ไอ้ชื่อทุนยากๆ นั้นมาจากส.ว.ชื่อนี้ที่ตรวจสอบการทำสงครามเวียดนามของเมกาอย่างหนัก หลังสงครามมีออก กม.ชื่อนี้ เพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรม (เอ๊ะ ซอฟต์เพาเวอร์สินะ) เอางบจาการขายยุทโธปกรณ์ในการทำสงครามของเมกาในที่ต่างๆ หลังสงครามมาให้ทุน

และเขาเคยอภิปรายในคองเกรสน่าสนใจ (2509) ว่า รบ.จอห์นสันปกปิดเรื่องฐานทัพในไทยและภารกิจที่ไปโจมตีเวียดนาม เอาคนหนุ่มเมกันไปตายเยอะแยะ และว่ารบ.ไทยว่า เรื่องภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์ในอีสานของไทย รบ.ควรตำหนิตัวเองมากกว่าภายนอก เพราะไม่สามารถสร้างความเจริญได้ในดินแดนตน (เออ อันนี้ชอบ สงสัยเคยมาอีสาน 55) แถมขยายภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์ให้ใหญ่โตเกินจริงเพราะหวังความช่วยเหลือจากเมกา

มีคนทักว่าป้าอ่านหนังสือเยอะหรือ ป่าวเลย และเพราะนิสัยอ่านน้อยแต่พูดมาก แถมตื่นเต้นง่าย เจออะไรก็จะทำการโน้ตไว้แล้วกัน”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

288 Nameless Fanboi Posted ID:+4cNaTVnE

>>286 ทำไมกูอ่านแล้วขำ พหุวัฒนธรรมไม่ดียังไงวะ ทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน หรืออยากให้เคร่งจัดๆ จนเป็นแบบบางประเทศที่มีอิสลามหัวรุนแรง (พุทธหัวรุนแรงก็มีนะ พม่าไง) มุสลิมที่อื่นๆ ในไทย เขาไม่เห็นเป็นขนาดนี้นะ ไม่ได้คลั่งความบริสุทธิ์ของศาสนาขนาดนั้น อ่อลืมไป..พวกนี้มันต้องเลี้ยงความเคร่งไว้ เพื่อให้คนของตนรู้สึกแตกต่างกับคนไทยภาคอื่นๆ เพราะถ้าคน 3 จว. ไม่รู้สึกแตกต่างกับคนไทยภาคอื่นๆ แล้วใครจะสนับสนุนแนวคิดแบ่งแยกดินแดนของพวกปาตานีล่ะ?

>>287 สมัยสงครามเย็น เมกาแม่งทุ่มงบลงกับไทยเยอะมาก ทั้งตัดถนน ส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้ทุนหนุ่มสาวไปเรียนต่อ pop culture ของคนไทยสมัยนั้นเลยไปทางอเมริกันจ๋า ไม่ใช่ญี่ปุ่นเกาหลีแบบทุกวันนี้ ส่วนเรื่องภาคอีสานนี่เห็นด้วย กูนี่นึกถึงแม้วเลยมึง คนอีสานจะยกแม้วเป็นเทพเจ้า พรรคแม้วชนะเลือกตั้งถล่มทลายในอีสาน ไม่ต้องโทษใครอะ โทษพรรคการเมืองก่อนหน้านั้นเถอะ ทำไมถึงปล่อยให้คนอีสานรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง

289 Nameless Fanboi Posted ID:MnttHJSoO

>>288 ชาติไทยกับความหวังใหม่ แม้วก็อยู่นะ ถถถ

290 Nameless Fanboi Posted ID:Qg57O7XG7

>>286 เวลามึงป่วย อัลกุรอ่าน, กับอัลเลาะห์ ช่วยมึงได้ไหม ?

เราไม่เชื่อของในคัมภีร์เมื่อพันปีก่อนเพราะมันช่วยปัญหาสมัยใหม่ไม่ได้น่ะสิ

291 Nameless Fanboi Posted ID:Qg57O7XG7

หมูหำหมัด พ่อมึง เคยบัญญัติไหมว่า ห้ามเล่น สี่คูณร้อย ยาบ้า ยาแก้ไอ น่ะ
ไม่มีในคัมภีร์เพราะ มันเขียนเมื่อพันปีก่อน ปัญหาปัจจุบัน มึงทำเป็นลืมลอกเสพได้เพราะคัมภีร์ไม่เขียนไว้

292 Nameless Fanboi Posted ID:tUxeBAx5r

>>288 พหุวัฒนธรรมกับมุสลิมไปด้วยกันได้ที่ไหนล่ะ

293 Nameless Fanboi Posted ID:im5/b5jkA

หมูฮัมมัดเคยบอกไว้ว่าเยี่ยวอูฐเป็นยา หลายปีก่อนตอนเชื้อเมอร์สระบาดพวกมุสซี่ก็ยังแดกเยี่ยวอูฐกัน ตายห่าเป็นแถบ

294 Nameless Fanboi Posted ID:UEN+.iGNJ

>>292 ไปกันได้นะ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาถ้าไม่นับช่วงเวลาที่อิสลามพิชิตดินแดนไหนได้ เวลาที่ถูกปกครองก็สามารถอยู่ร่วมกับศาสนาอื่นได้เป็นอย่างดี อย่างแบกแดด เมืองหลวงของโลกอิสลามสมัยก่อนยังมีทั้งยิว คริสต์คาทอลิค-ออร์โธดอกซ์-คอปติคอยู่ร่วมกันได้

คริสต์คาทอลิคตะหากที่อยู่ร่วมกับใครไม่ได้ ต้องทำลายทิ้งให้หมดตลอด เพียงแต่พวกนี้ไม่ค่อยได้เป็นผู้พิชิตใครเท่าไหร่ เพราะรบกากกว่ามหาอำนาจในโลกเก่า ที่โดนทำลายทิ้งเพราะอ่อนกว่าก็เป็นพวกโลกใหม่ กวาดอารยธรรมและศาสนาไปเกือบเกลี้ยงเลย

พอถึงยุคที่พวกคริสต์มีอำนาจพอยึดโลก แนวคิดทางศาสนาก็เปลี่ยนไปแล้ว เพราะไม่ได้ยึดดินแดนในนามศาสนา แต่ยึดในนามรัฐชาติ การกวาดล้างทางศาสนาเลยไม่จำเป็น เลี้ยงพหุศาสนา-วัฒนธรรม-เชื้อชาติไว้ให้ฆ่ากันเองมีประโยชน์กว่าเยอะ

ที่อิสลามเริ่มอยู่กับใครไม่ได้ว่ากันตามตรงพึ่งเป็น "ศาสนาที่พึ่งสร้าง" เอง อย่างร็วสุดก็ตั้งแต่นิกายวะฮบีย์พวกซะอู๊ดก่อตั้งประเทศซาอุดิอาราเบีย (ซะอู๊ดแห่งอาหรับ) นั่นละ แนวคิด "อิสลามบริสุทธิ์" ถึงเริ่มแพร่หลาย และก็ถูกเร่งด้วยเงินจากน้ำมัน ถ้าซาอุไม่รวย แนวคิดนี้ไม่โตขนาดนี้หรอก

295 Nameless Fanboi Posted ID:uyTZyvtvt

>>294 จริงๆ กูงงมาก ช่วงยุคมืดของยุโรปอะ ตอ.กลาง ก็เป็นโลกมุสลิมแล้ว แต่ดูเปิดกว้างเอามากๆ ไม่ได้กดขี่ทางศาสนา เคร่งคัมภีร์เท่าไร หลักฐานคือสมัยนั้นศูนย์กลางทางวิชาการอยู่ใน ตอ.กลาง เสียเยอะ ยุโรปเองก็รับเอาอะไรหลายๆ อย่างมาจากทางนั้น ไหงพออีกไม่กี่ร้อยปีต่อมา ตอ.กลาง กลายเป็นพวกหัวรุนแรงไปเสียได้

296 Nameless Fanboi Posted ID:p9exMp0DR

กูเห็นด้วย พวกอิสลามแม่งเยอะขาดความยืดหยุ่นฉิบหาย เวลามีอะไรกูจะหลีกพวกแม่งก่อนเลย
เคยมีประโยคเจองูกับเจอแขกให้ตีแขกก่อนเป็นจริง
ปล.คนมักเข้าใจผิดว่าเป็นแขกอินเดีย แขกอิสลามนี่แหละ

297 Nameless Fanboi Posted ID:UEN+.iGNJ

>>295 อย่างที่กูบอก พวกอิสลามพึ่งมาหัวรุนแรงจริงๆ เมื่อตอนซาอุมีน้ำมันเอง ก่อนหน้านั้นก็อยู่ร่วมกับพวกอื่นได้อย่างสงบ ถ้าไม่นับกับยิวตอนตั้งประเทศนะ เอาใกล้ๆ อย่างตอน Battle of Vienna ในปลายศ. 17 พวกออตโตมันก็ไม่ได้ทำร้ายชาวคริสต์ใต้ปกครองอะไร ยังเปิดกว้างต่อชาวคริสต์มากกว่าในประเทศคริสต์ซะอีก

>>296 เอาหลักฐานมาหน่อย เพราะตามหลักแล้วพวกมุสลิมจะไม่ทำเรื่องปล่อยกู้ แขกที่คนไทยกู้บ่อยๆ ก็มีแขกซิกข์กับแขกฮินดู กูไม่เคยได้ยินเลยว่าวลีนี้มีที่มาจากมุสลิม

298 Nameless Fanboi Posted ID:AuCIe3/iS

>>296 กูว่ามึงมากกว่าที่เข้าใจผิด ที่กูเข้าใจก็แขกอินเดียเนี่ยแหละ

299 Nameless Fanboi Posted ID:D+2fF3soh

>>296 พวกปล่อยเงินกู้คือแขกซิกข์จ้า มาจากชมพูทวีป (เลือกเอาเลย อินเดีย ปากี บังกลาเทศ) เจอบ่อยมากแถวพาหุรัด นอกจากปล่อยกู้แล้วยังส่งผ้าด้วยนะเออ

300 Nameless Fanboi Posted ID:THOgzJrdo

>>297 มุสซี่หัวรุนแรงถูกสร้างมาเพราะผลประโยชน์เกี่ยวกับน้ำมันว่างั้น

301 Nameless Fanboi Posted ID:6nErBhJs4

>>294 >>295 >>297

เรื่องจริงคือมุสลิมมันรุนแรงตั้งแต่โน้นแล้ว เอาแค่ประวัติมูฮัมมัดในกุรอาก็โชกเลือดสัสๆ หลังbig Mตายก็มีสงครามเรื่องผู้สืบทอด(ซุนนี-ชีอะ)อีก อิสลามเป็นศาสนาที่มีคำสอนเรื่องความรุนแรงมากที่สุด ทุกอย่างที่พวกISISทำ มันเอามาจากกุรอานทั้งหมด มีคำสอนที่สอนเรื่องความสงบสุขบ้างแต่พวกนั้นมาจากสมัยมูฮัมมัดเริ่มสอนใหม่ๆในเมกกะที่ยังไม่มีกำลังมาก(เพราะกลัวว่าถ้าสอนรุนแรงตั้งแต่ยังอ่อนอยู่จะโดนตัดตอน) แต่พอมีศิษย์เยอะๆช่วงที่อยู่ในเมดินะคำสอนก็เปลี่ยนไปเป็นรุนแรงเต็มที่

เรื่องที่บอกว่าโลกอาหรับเป็นศูนย์กลางความรู้ เก็บเอกสารกรีกมากมาย จริงๆแล้วไปได้มาจากในคอนสแตนตินโนเปิลที่คริสเตียนเก็บรักษาไว้ ไม่ได้รักษาเอง เอามาแปลเฉยๆ

ส่วนที่บอกว่ามุสลิมโบราณอยู่ร่วมกันได้ ไม่จริง ในยุโรปที่ถูกปกครองโดยออตโตมันมีทั้งกองทหารJanissariesที่เกิดจากการจับเด็กชายคริสเตียนไปฝึกเป็นทาสทหาร มีทาสหญิงคริสเตียนในฮาเร็ม etc.

ไอเดียเรื่องGolden age of tolerance in Spain ที่ว่าอยู่ร่วมกันทุกศาสนาอย่างสันติในสเปนสมัยที่โดนมุสลิมปกครองก็ไม่จริง แนวคิดนี้มันเกิดจากนักเขียนตะวันตกในยุคThe Enlightenmentคนนึงglorifiedอิสลามว่าเป็นศาสนาที่ดีแค่เพราะอยากจะสวนทางกับศาสนาเมนสตรีม(คริสเตียน)ในตอนนั้น

302 Nameless Fanboi Posted ID:gvzLmo78w

>>301 อิสลามรุนแรงกว่าศาสนาอื่นจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าอยู่ร่วมกับศาสนาอื่นไม่ได้ ใรประวัติศาสตร์มีตัวอย่างอยู่มากมายที่ผู้ปกครองมุสลิมให้คนต่างศาสนาอยู่ร่วมกันอย่างสันติ จากบันทึกของมองโกลสมัยฮูเลกู ในเมืองแบกแดดก็มีชาวคริสต์ไม่ใช่น้อย

มึงสับสนยุคนะ การตีกรุงคอสนสแตนติโนเปิลมันสมัยออตโตมันโน่น ไม่ใช่พวกอาหรับ แหล่งความรู้ยุคแรกๆ เชื่อกันว่ามาจากห้องสมุดแห่งอเล็กซานเดรีย แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โลกมุสลิมเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้คือศาสนาอิสลามที่ระบุให้ทุกคนต้องมีความรู้สามารถอ่านอัลกุรอ่านได้ด้วยตัวเอง ทำให้อัตราการรู้หนังสือสูงมากที่สุดในโลกโบราณ อัตราการรู้หนังสือย่อมส่งผลถึงความรู้ทุกอย่าง

ส่วนเรื่องการแปลก็ไม่ผิดอะไรนิ ยุโรปก็เอาความรู้จากอิสลามมาแปลจนเกิดยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาได้ และกาหลิบสมัยแรกๆ ก็กระหายความรู้มาก มีการออกกฎว่าถ้ามีใครเอาหนังสือจากต่างแดนมามอบให้ได้ จะได้รับทองคำหนักเท่าหนังสือ เรียกว่า Translation movement จุดนี้เป็นจุดสำคัญอย่างมากที่ทำให้โลกอิสลามมีพื้นฐานด้านความรู้ดีกว่ายุโรป

แต่จุดที่ทำให้โลกอาหรับมีระดับความรู้สูงมากจริงๆ คือหลังจากพวกมองโกลพิชิตอาหรับได้แล้วทำการแลกเปลี่ยนความรู้จากจีน ทำให้โลกอาหรับมีความรู้จากจีน กรีกโบราณ และของอาหรับเอง ผิดกับยุโรปที่มีแหล่งความรู้น้อยมากและถูกสั่งห้ามโดยวาติกัน ผิดกับอิสลามที่ไม่มีการกีดกันความรู้ ทั้งยังส่งเสริมอย่างมากอีก

Janissaries สมัยหลังเปิดรับคนโดยสมัครใจด้วยนะ แล้วมันก็เป็นแค่ส่วนเดียวของการปกครอง ไม่ใช่ทั้งหมด ในบันทึกของชาวยุโรปสมัยนั้นก็บันทึกอยู่ว่าแผ่นดินออตโตมันให้อิสระต่อผู้นับถือศาสนาคริสต์ต่างนิกายมากกว่าในแผ่นดินยุโรปเอง ไม่ได้ปกครองโหดร้ายขนาดนั้น ดีกว่าสมัยหลุยส์ที่ 14 อีก

ศาสนาอิสลามอาจจะไม่ใช่ศาสนาที่ดีนักในหลายด้าน แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าคริสต์ตอนนั้นแน่นอน คนสมัยนั้นเลยยกย่องโลกอิสลาม มันเป็นบริบททางประวัติศาสตร์ ถ้ามึงไม่รู้บริบททางประวัติศาสตร์ มึงจะอ่านได้แค่ความรู้พื้นๆ แบบนี้ละ

303 Nameless Fanboi Posted ID:CzHHu9otk

>>302 งั้นทำไมโลกอาหรับตอนนี้ถึงมีliteracy rate ต่ำพอๆกับแอฟริกาวะ

304 Nameless Fanboi Posted ID:3P7guMD2o

>>303 ตีกันเองบ่อย แบ่งพรรคแบ่งพวก ไม่ลืมความแค้น ผู้นำหาผลประโยชน์เข้าตัว ไม่แบ่งการศึกษา,ไม่พัฒนาระบบพื้นฐาน, ประปา,ไฟฟ้า,ถนน,สาธารณสุข. ส่วนพวกมีเงินไปใช้บริการอเมริกัน

สรุปคืออำนาจไม่ได้อยู่ในมือประชาชน

305 Nameless Fanboi Posted ID:I/b1l/Iod

>>303 >>304 จริงๆ ก็แค่พวกออตโตมันจงใจไม่พัฒนาแถบนี้ก็เท่านั้น เพราะพวกออตโตมันที่ตุรกีกลัวว่าถ้าอาหรับรุ่งเรืองแล้วจะกู้เมืองกลับไปแบบสมัยยุคทองของอาหรับ พื้นที่แถบนั้นเลยไม่มีพัฒนาการอะไรเลยมาเป็นร้อยปี สมัยยุคทองของอาหรับมันอยู่แถบนี้ก็ต้องพัฒนาแถบนี้ พวกออตโตมันไม่อยู่แถบนี้เลยไม่พัฒนา

ดูได้เลยว่าดินแดนที่รุ่งเรืองในอดีตต้องเป็นจักรวรรดิใหญ่ๆ ยุคทองของอาหรับเกิดได้เพราะมันตีพิชิตได้เยอะมากๆ ดูดความรู้และวิทยาการจากทุกสารทิศมาที่แบกแดด มันเลยก้าวหน้า พอจักรวรรดิอาหรับจบสิ้นไปและถูกปกครองโดยออตโตมันที่ไม่ต้องการให้อาหรับโต ผลก็อย่างที่เห็น

ส่วนในยุคใหม่คือมันโดนกดมานานมาก ผู้ปกครองยุคก่อนก็สนแต่ดูดทรรพยากร ไม่ให้โอกาสคนท้องถิ่นก้าวหน้าและมีการศึกษา พอได้รับอิสระหลัง WW I-II ก็ไม่เหลืออะไรแล้ว ชาติตะวันออกกลางที่รุ่งขึ้นมาได้คือชาติที่มีน้ำมัน ถ้าไม่มีก็หาโอกาสเจริญได้ยาก

306 Nameless Fanboi Posted ID:I/b1l/Iod

สงสารพี่ตูนนะครับ วิ่งจนหลังเดี้ยง เข้าใจใน “เจตนาดี” แต่ผมยังเห็นว่า พึ่ตูนไม่จำเป็นต้องใส่ “ไนกี้” ไปวิ่งก็ได้ รัฐบาลสามารถหาเงิน 700 ล้านได้ง่าย ๆ จากการตัดลดงบประมาณทางทหารลงซะ สี่ปีที่ผ่านมา เราใช้งบประมาณทางทหารแปดแสนกว่าล้านบาท เพื่อจัดซื้อรถถัง เรือดำน้ำ เครื่องบินรบ เฮลิคอปเตอร์ ซึ่งคนตั้งคำถามว่าจะเอาไปรบกับใคร? แค่กองทัพไทยลดงบประมาณลง 0.08% พี่ตูนก็ได้เงิน 700 ล้านไปมอบให้โรงพยาบาลแล้วล่ะ

มิตรสหาย>>283

307 Nameless Fanboi Posted ID:w0WbYdEM.

https://imgur.com/vLm7buL อืม...

308 Nameless Fanboi Posted ID:DhfyDvD5k

>>307 มัสยิดนี่มีหมอป่ะวะ

309 Nameless Fanboi Posted ID:SPR9yErP/

>>307 มัสยิดมีอัลกุรอ่าน แต่อ่านแล้วคนกลับชอบระเบิดและเย็ดแมะจนอักบัร ดังนั้นไม่บริจาคเสียดีกว่า
ปล.พี่ตูนเอ้ย มึงควรเริ่มวิ่งจากเหนือสุดไปใต้สุดเถอะ

310 Nameless Fanboi Posted ID:yvmeRQCE1

>>307 มัสยิดรักษาคนด้วยการพาไปหาอับดุลเลาะเรอะ

311 Nameless Fanboi Posted ID:aoK4FIauQ

>>307 ขำได้โล่ ขอเชิญมึงไปวิ่งรับบริจาคเข้ามัสยิดเองเหอะ

312 Nameless Fanboi Posted ID:qrU7SZqGF

>>307 จะเอาไปทำอะไรมัสยิด

313 Nameless Fanboi Posted ID:.LJ32aoWP

>>312 เหมือนคุณเอาอะไรไปวัดน่ะแหละ

314 Nameless Fanboi Posted ID:1YXSdmBGw

>>307 เอาเงินให้มุสลิมไปแสวงบุญมั้ง

315 Nameless Fanboi Posted ID:8ctV6Lh2x

หิวเงินแม่งทุกศาสนา ทำไมองค์กรศานาไม่ผันตัวป็นผู้ประกอบการทำสินค้าขายสาวก เช่น ยาสีฟันสบู่ชาเขียวบลาๆ แล้วลุยไปทีละธุระกิจจะได้ไม่ต้องมานั่งบริจาค

กลัวสิ้นศัรทธาหรือมีกฏหมายควบคุม ?

316 Nameless Fanboi Posted ID:yguipMRQn

>>315 ทำขายทำไมให้ลำบาก ลำพังขายศรัทธาก็สบายดีอยู่แล้ว

317 Nameless Fanboi Posted ID:6TJxFelle

>>315 เคยเห็นคุกกี้ขององค์กรคริสขายอยู่นะมึงถถถถ

318 Nameless Fanboi Posted ID:idyFV+n7Q

>>315 มึงไม่เคยเห็นพระเครื่องเหรอ?

319 Nameless Fanboi Posted ID:mocP7gsgA

>>315 ศาสนาเขียนไว้ห้ามแสวงหากำไร แต่ก็อย่างที่ >>318 ว่าละ

320 Nameless Fanboi Posted ID:pW4XdtBOT

>>317 คุกกี้ไหนวะ

321 Nameless Fanboi Posted ID:teAPc+wTo

>>320 คุ้กกี้เสี่ยงทาย

322 Nameless Fanboi Posted ID:7AOe+TKty

คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าตัวเองเป็น programmer แต่แท้ที่จริงแล้วเขาเป็น debugger ต่างหาก ... วันวันเอาแต่ debug ... วันนี้คุณ debug แล้วหรือยัง "แสรด"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

323 Nameless Fanboi Posted ID:8bpqfMNgT

นี่ก็เย็ดกับเพื่อนบ่อยๆนะ เย็ดกันเสร็จ ก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม กินข้าว เที่ยวเตร่ ดูหนัง คุยกันปกตินะ แปลกใจกับเกย์บางคนที่คิดว่า "อุ้ย ถ้าเย็ดกับเพื่อนแล้ว ความสัมพันธ์ต้องเปลี่ยนแน่ๆ ต้องมองหน้ากันไม่ติด ต้องไม่คุยกันเหมือนเดิม ต้องหึงหวงตบตีกันแหงๆ" อะไรแบบนั้น
คือ อีเหี้ย มึงอย่าเอาตรรกะพระเอกนางเอกละครมาใช้ คือ เย็ดกันแล้ว เยื่อพรหมจรรย์มึงฉีกขาดเหรอ ทำให้มึงเป็นราคีมัวหมอง ต้องรับผิดชอบกันเหรอ อีดัดจริต อีโง่ว เย็ดก็คือเย็ด มันคือกิจกรรมนันทนาการ เหมือนชวนเพื่อนเล่นกีฬา ตีแบต เตะบอล สนุกๆขำๆ เล่นเสร็จก็จบ ความสัมพันธ์เหมือนเดิม จะต้องมีอะไรมากมายวะ

324 Nameless Fanboi Posted ID:f2ZbwrSrx

"ผักแขนงทำมาจากกระหล่ำปลีไม่ใช่ยอดคะน้าอย่างที่เข้าใจมาสามสิบปี ... โลกนี้จะเหลืออะไรให้เราเชื่อถือได้บ้าง"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

325 Nameless Fanboi Posted ID:XbSnRSDhW

>>323
คือเกย์?????!?????

326 Nameless Fanboi Posted ID:JbL.WIq4J

>>325 กูเคยเห็นโพสต์ไหนสักโพสต์บอกว่าเกย์เย็ดกันเป็นเรื่องปกติ

327 Nameless Fanboi Posted ID:LodfDe6ic

ค. ลัทธิลักเพศนิยม (Homosexuality) คือการเสพย์เมถุนระหว่างชายกับชาย และหญิงกับหญิงซึ่งเป็นเพศเดียวกัน ลัทธิเสพย์เมถุนระหว่างหญิงกับหญิงนั้นยังมีชื่ออีกอย่างว่า "เลสเบียนิสม์ " (Lesbianism) "ลักเพศนิยม" ถือว่าเสรีภาพของบุคคลที่จะกระทำการใดตามความพอใจในการเสพย์สุขนั้นมีค่าสูงสุด บุคคลจึงต้องหาความสุขสำราญให้เต็มที่ โดยไม่ต้องคำนึงศีลธรรมอันดีของปวงชน เพราะการเสพย์เมถุนระหว่างคนเพศเดียวกัน ลัทธินี้ถือเอาความเสพย์สุขทางเมถุนเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าชาติพันธ์ของมนุษยชาติ โดยไม่คำนึงถึงว่ามนุษยชาติมีเพศชายและเพศหญิง ซึ่งได้แพร่พันธุ์สืบต่อ ๆ มา ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ มิฉะนั้นมนุษยชาติก็สูญสิ้นชาติพันธุ์ไปพ้นจากโลกนี้ช้านานมาแล้ว ผู้ประพฤติลักเพศและเผยแพร่ลักเพศในชาติใด ผู้นั้นก็ทำลายชาติพันธุ์แห่งชาติของตนเอง อันเป็นอาชญากรรมอย่างมหันต์

328 Nameless Fanboi Posted ID:Z2JiNpDeZ

ปี 2017 ละเนอะ

329 Nameless Fanboi Posted ID:a2Br4k6M/

>>327 5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555 อาชญากรรมอย่างมหันต์ ป๊าดดดดดดด

330 Nameless Fanboi Posted ID:uP88lpL2c

>>328 ทั่น ปรีD ไม่ลิเบอรัลเลย

331 Nameless Fanboi Posted ID:kWLU6VIqR

เมื่อก่อนคนมันหายากไง. ไม่จับคู่ทำลูกกันแล้วรัฐเสียหาย

แต่ตอนนี้คนยิ่งมากปัญหายิ่งเยอะ มึงเป็นเกย์กันเยอะๆจะได้ลดประชากรไปในตัว.

ถ้าคนมันเยอะแออัดเกินต้องแย่งกินแย่งใช้ทรัพยากร แต่ผลิตไม่ทันเดี๋ยวก็อดตายเป็นโรคระบาดตาย

สรุป. ถ้าอยู่ดีกินดี ไม่มีสงครามก็ปล่อยให้มันเย็ดตูดกันเถอะเป็นเอดส์ตายเยอะๆยิ่งดี

332 Nameless Fanboi Posted ID:et/DMNeTd

>>330 จิตร ภูมิศักดิ์ ยัง anti การทำแท้งเลย

https://www.gotoknow.org/posts/187560

แต่ก็นั่นแหละ มันคือค่านิยมหลักของคนสมัยนั้น (ชายเป็นใหญ่) ต่อให้เป็นปัญญาชนหัวก้าวหน้าแค่ไหนก็หนีไปได้ไม่พ้นทุกเรื่องหรอก มันก็ต้องมีอนุรักษ์นิยมบ้างไม่มากก็น้อย

>>331 กูนั่งดูข่าวทั้งไทยและต่างชาติ เขาบอกว่าทุกวันนี้มนุษย์นอกใจกันง่ายขึ้น เลิกรากันง่ายขึ้นโดยมี internet เอื้อต่อพฤติกรรมดังกล่าว ทีนี้ก็มีคนอธิบายให้กูฟังคล้ายๆ มึงนี่แหละ คือสมัยก่อนคนเกิดมาแล้วตายง่าย ดังนั้นการจับคู่ชายหญิงแต่งงานมีลูกจึงสำคัญ แต่สังคมมันก็มีระบบทรัพย์สิน ระบบมรดก ดังนั้นจึงต้องมีกรอบห้ามมั่ว sex เพราะกลัวเด็กเกิดมาไม่รู้ใครเป็นพ่อ การสืบกรรมสิทธิ์ต่างๆ จะเละเทะไปหมด

แต่ยุคใหม่ ถุงยางมี และเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้คนสบายขึ้น คนเลยเป็นโสดมากขึ้น รวมถึงไม่ต้องแคร์คู่สมรสมากขึ้น ถ้ารับไม่ได้ก็หย่าก็แยกทาง กูนี่คิดไปถึงอนาคตเลยว่าเผลอๆ ต่อไปการแต่งงานอาจกลายเป็นค่านิยมที่ล้าสมัยก็ได้ เพราะคนยุคใหม่ไม่อยากมีลูก หรือถ้าอยากมีก็ไปผสมเทียมเอา ในอนาคตอาจจะมีโคลนนิ่ง ฯลฯ สังคมก็ยอมรับ single mom - dad มากขึ้น แล้วจะแต่งไปทำไม

333 Nameless Fanboi Posted ID:5d9/64qk/

ลิเบอร่าน สำส่อน เย็ดมั่ว แพร่เชื้อโรค ออกมาดิ้นกันเยอะเลยว่ะ

334 Nameless Fanboi Posted ID:Q5DmnvgGz

เบื่อพวกหมกมุ่นการเมืองขึ้นสมองว่ะ

335 Nameless Fanboi Posted ID:KX2ti2Of7

"@wongthanong blocked you"
มิตรสหายท่านหนึ่ง

336 Nameless Fanboi Posted ID:tk4dVDafm

"หลังงานเผา ก็ตัวใครตัวมัน"
มิตรสหายท่านหนึ่ง

337 Nameless Fanboi Posted ID:uYfMcOAs.

ปัญหาเรื่องทำไมไทยจึงทำนโยบาย culture as an export ไม่สำเร็จเหมือนเกาหลี

แอดมินกำลังจะมีเสวนาเรื่อง "Heritage Industry: เศรษฐกิจคิดใหม่" ในเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นการเสวนาเพื่อตอบคำถามว่าทรัพยากรทางวัฒนธรรมนั้นจะมีการบริหารจัดการอย่างไรให้เอกชนมีบทบาทมากขึ้นและแปรรูปออกมาได้ในเชิงเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เน้นยั่งยืนนะคะ เราเชื่อว่าคนต้องการเลี้ยงปากท้องการอนุรักษณ์เป็นเรืื่องสำคัญแต่ถ้ายังไงต้องขายกันอยู่แล้วเราต้องมีการควบคุมระบบการขายให้ดีเพื่อที่จะอนุรักษณ์ได้ต่อไป
นโยบายนี้ใช้มรดกทางวัฒนธรรมเป็นตัวสร้าง อำนาจอ่อน เพื่อสร้างความยอมรับและอุปสงค์สินค้าอุตสาหกรรมของประเทศ รวบรวมปัญหาคร่าวๆคือ

๑ เนื้อหาสื่อไทยนั้น Thai Centric มากเกินไป คือหลายๆเรื่องทำออกมาดีแต่ดีสำหรับคนไทย คนที่พูดภาษาไทยจะเข้าใจ จริงๆเกาหลีก็ใส่ความเป็นเกาหลีเข้าไปในสื่อแต่มีการอธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจได้ด้วย ความเชื่อที่มักนำมาใช้ในสื่อไทยมักมีเรื่องของศาสนาพุทธเยอะซึ่งการที่ทำให้ตัวละครนับถือศาสนานั้นทำได้แต่อย่าอธิบายเนื้อเรื่องและการกระทำด้วยศาสนาเพราะจะทำให้ผูู้ที่ไม่ได้นับถือศาสนานั้นๆงงกับเนื้อหาและการตัดสินใจของตัวละคร หลายๆครั้งที่ศาสนามักถูกนำมาใช้เป็นทางแก้ปัญหาแบบ "ตัดช่องน้อยแต่พอตัว" แถมไม่อธิบายความคิดให้ดี อันนี้ทำให้เนื้อเรื่องไม่สนุกและตื้นเกินไป

๒. ผู้ที่แปลและทำซับฯภาษาอังกฤษมักมีปัญหาเรื่องคุณภาพที่ทำออกมายกตัวอย่างเช่นละครหลายๆเรื่องของช่องน้อยสีซึ่งเนื้อหาดีแต่แค่ชื่อละครที่ทำออกมาเป็นภาษาอังกฤษก็ใช้ภาษาผิด

๓ เนื้อเรื่องของหนังและละครไทยมักขาด universal value หรือ ค่านิยมที่เป็นสากลที่เป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญ เรื่องนี้ยอมรับว่าสื่อไทยที่มักทำได้ดีคือโฆษณาเลยได้รับการยอมรับตลอด แต่หนังกับละครต้องทำการบ้านเรื่องมาตฐานและประเด็นที่เป็นสากลให้มากขึ้น

๔ การออกนโยบายที่สร้างจุดเด่นที่แน่ชัดและคงเส้นคงวามากกว่าการส่งเสริมกิจกรรมทางวัฒนธรรมไปในเชิงการรักษาและขายจะทำให้วัฒนธรรมเข้มแข็ง อันนี้ต้องตอบให้ได้ว่าความเป็นไทยคืออะไรซึ่งต้องเป็นลักษณะที่ทุกฝ่ายในประเทศเข้าถึงได้รวมถึงเป็นเอกลักษณ์ที่เป็นค่านิยมที่คนที่ไม่ใช่คนไทยเข้าใจได้ง่ายๆ อาจจะเป็นเรื่องอย่างเช่นเป็น"สังคมที่คนมีวิถีชีวิต slow life หัวเราะสู้ปัญหาได้ มีความโอนอ่อนในการแก้ปัญหา" และเน้นให้สื่อและกิจกรรมต่างๆทางสังคมหาทางแสดงค่านิยมดังกล่าวออกมา จะทำให้วัฒนธรรมมีชีวิตมากกว่าการขายความสวยงาม

๕ การสื่อวัฒนธรรมต้องทำให้ผู้เสพต้องการค้นคว้าเพิ่มเติมและมีศูนย์ข้อมูลที่เข้าถึงง่าย เนื้อหาประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่ออกมาผ่านสื่อต้องมีความหลากหลายของตัวละครมากขึ้น เช่นตัวเอกที่มีพื้นเพไม่เหมือนตัวละครทั่วไป เรื่องการเข้าถึงข้อมูลทางการท่องเที่ยวได้ทำไว้จุดหนึ่ง แต่หนังสือที่ออกมากับแหล่งโบราณคดีหรือสถานที่ต่างๆต้องมีความพร้อมมากกว่านี้ในแง่สื่อที่เป็นภาษาต่างชาติ สิ่งที่ยังไม่่เห็นคือ guide book ภาษาอังกฤษในแหล่งโบราณคดีทั่วไปอย่างวัดต่างๆ อาหารไทยอร่อยแต่ยังไม่มีการแยกว่าอะไรเป็นอาหารที่มีมูลค่าและทำไมบางอย่างจึงมีมูลค่าสูงมากว่าอย่างอื่น สื่อสามารถเล่นประเด็นเหล่านี้ได้โดยนำทรัพยากรต่างๆมาใช้ตกแต่งงานแสดงที่ทำออกมา

สุดท้ายแอดมินเชืื่่่่อว่าวัฒนธรรมมีทั้งด้านดีและด้านเลว การจะสร้างวัฒนธรรมที่ดีต้องยอมรับก่อนว่าเรามีวัฒนธรรมที่อาจจะไม่ค่อยเป็นไปตามหลักการที่ดีของสังคมนัก การยอมรับและเปิดเผยสื่อออกมาจะทำให้เราสามารถนำวัฒนธรรมที่ดีและสร้างแนวทางที่ดีมาช่วยแก้ปัญหาต่างๆได้มากกว่าการ "ปิด" ปัญหาเอาไว้ค่ะ

เราต้องเข้าใจ "ตลาด" ของเรามากกว่าสำหรับสื่อไทยที่เป็นสินค้าสำหรับคนไทยอย่างเช่นละคร เราต้องเข้าใจตลาดของเพื่อนบ้านเรามากกว่านี้เขาชอบอะไรไม่ชอบอะไร ให้ความสำคัญกับเนื้อหาแบบไหน มีความคิดแบบไหน เพราะอะไรที่คนเสพอย่างสื่อแล้วมีความรู้สึกร่วมไปได้นั้นจะขายได้ง่ายกว่าของแปลกที่เข้าใจยาก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

338 Nameless Fanboi Posted ID:vDtYMCzfL

>>337 ดีว่ะ ขอบคุณมิตรโม่งมากที่เอามาให้อ่าน

339 Nameless Fanboi Posted ID:Gq5YFlASt

>>338 ถ้าชอบก็อ่านที่เพจนี้ต่อได้เลย

https://www.facebook.com/econoarchaeology/photos/a.1660757967586783.1073741829.1660705554258691/1855143861481525/?type=3

ให้ความรู้ดีมากๆ แต่เงียบชิบหาย

340 Nameless Fanboi Posted ID:erjGBuAml

เพจดี มีสาระ ละความแตกแยก แทรกสิ่งจรรโลงใจ
คนไทยไม่อ่านจ้ะ

#มิตรสหายเล่นโม่ง

341 Nameless Fanboi Posted ID:vDtYMCzfL

>>339 ขอบคุณมาก แหกโม่งออกไปไลค์เลย

342 Nameless Fanboi Posted ID:P5U0AxN9A

เหตุการณ์สั่งลบ Multisig Contract ของ Parity Wallet ทิ้ง (โดยบังเอิญหรือตั้งใจไม่รู้) ส่งผลกระทบต่อ ETH มูลค่ารวมสูงถึง $152MM หรือราว ๆ 5,032 ล้านบาท

พอไปดูรายละเอียด พบว่า Wallet ที่ได้รับผลกระทบจริง ๆ แล้วมีเพียง 152 Addresses เท่านั้น เพียงแต่ Address ที่มีมูลค่าสูงสุดนั้นมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นถึง 306,276 ETH หรือคิดเป็นเงินก็ $98MM หรือ 3,245 ล้านบาท (อันนี้ https://etherscan.io/address/0x3bfc20f0b9afcace800d73d2191166ff16540258 )
ซึ่งด้วยเงินมูลค่าเท่านี้ก็น่าจะเดาออกว่ามันเป็น Wallet ของ ICO เจ้าหนึ่งนั่นเอง และหวยออกมาที่ตัวนี้ ... Polkadot ! https://polkadot.network

ทั้งนี้ จริง ๆ แล้ว Polkadot Raise ได้ทั้งหมดกว่า 485,000 ETH ก็ไม่รู้ว่าประมาณ 180,000 ETH นั้นหายไปไหน ยังไม่ได้ Track ต่อ แต่เอาเป็นว่าก็นั่นแหละ เหลืออยู่อีกสามแสนกว่า ๆ ในบัญชี

มี ICO ตัวอื่นอีกที่ถูกหวยงวดนี้คือ iconomi, musiconomi และ ARToken by Cappasity โดยทุกเจ้าไม่สามารถทำอะไรได้เลยตอนนี้นอกจากนั่งรอฟังจาก Parity ว่าจะแก้ไขยังไงได้บ้าง ส่วนเจ้าที่กำลังรัน ICO อยู่ตอนนี้เช่น ARToken ก็ระงับการขาย ICO ด้วย ETH ไปเป็นที่เรียบร้อย แต่กับ BTC ยังรันอยู่ต่อไป

นอกจากสมรภูมิ Scam ที่ต้องพานพบ เรื่อง Exploit ต่าง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่ต้องพบเจอเช่นกัน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

343 Nameless Fanboi Posted ID:.sWDHHt1r

แปลกนะ ประเทศไทยที่ว่า กะลาแลนด์ ไดโนเสาร์เดินว่อน แต่กลับมีสิทธิ์เสรีภาพบางอย่างแก่พวกเพศที่3ได้อย่างเหลือเชื่อ แม้กระทั่งประเทศที่อนุญาติให้เพศเดียวกันแต่งงานได้ยังทำแทบไม่ได้ นั่นคือ เกย์ตุ๊ดแสดงออกอย่างโจ๋งครึ่มในสถานศึกษา และยังไม่มีพวกผู้ใหญ่คนไหนในสถานศึกษาออกมาไล่ออกหรือกีดกันเพราะความเป็นเพศที่สาม (เว้นแต่เพศที่สามคนนั้นทำอะไรที่แย่แม้ในมาตรฐานคนทั่วไป) แถมมองแบบขำๆอีก และยังไม่เคยมีข่าวว่ามีการแกล้งกันหรือฆ่ากันเพียงเพราะว่า อีกฝ่ายเป็นเพศที่สาม โดยไม่มีมูลความแค้นอื่นๆมาก่อน
ขนาดเมืองนอกที่ว่าจัดงาน gay pride กันถี่ยิบ อนุญาติให้เพศเดียวกันแต่งงานกันได้ ลองไปแสดงออกแบบตุ๊ดแต๋วในโรงเรียนสิ โดนรุมแกล้ง + เชิญผู้ปกครองมาพบ แน่นอน
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

344 Nameless Fanboi Posted ID:dUAEEkQ3d

>>343 เมืองนอกของมันนี่คือลาว กัมพูชา เวียดนามไรงี้อ่อ หรือว่าประเทศอาบังวะ?

345 Nameless Fanboi Posted ID:IH0YP3R+A

“ลมหนาวยังไม่รู้จักหน้าที่เลยครับ เราจะคาดหวังอะไรกับประเทศนี้”
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

346 Nameless Fanboi Posted ID:jzQO52C3n

>>344 ยุโรปกับเมกาตุ๊ดเด็กม.ต้น-ปลายออกสาวแบบในไทยไม่ได้นะ ในมหาลัยก็ยังออกมากไม่ได้ แต่ไทยนี่ตุ๊ดตั้งแต่ปประถมยังมี บ้านเรามีเสรีภาพสุดๆ แล้ว พวกฝรั่งยังงงกับเรื่องนี้เลย

347 Nameless Fanboi Posted ID:BK6XJJc.H

ศาสนาก็มีส่วนเยอะ ฝรั่งมันเขียนไว้ชัดเจนในไบเบิลถ้าผิดเพศมันบาปต้องปาหิน ฝั่งพุทธมันไม่มีเขียนไว้ก็เลยไม่ได้มีอคติฝังหัวกัน จะมีแอนตี้บ้างก็พวกครอบครัวจีน กลัวไม่มีคนต่อนามสกุล ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็น้อยแล้ว

348 Nameless Fanboi Posted ID:jnsQj./Pm

>>343 มันเลยมีคำพูดประชดไง แต่อันนี้เป็นฟิลิปปินส์กับไทยนะ "ฟิลิปปินส์มีเสรีภาพทางการเมืองแต่ไร้เสรีภาพทางเพศ ส่วนไทยมีเสรีภาพทางเพศแต่ไร้เสรีภาพทางการเมือง"

ปินอยครึ่งนึงเป็นคริสต์คาทอลิก อีกครึ่งเป็นมุสลิม ทั้ง 2 ศาสนาเดิมไม่ยอมรับเพศที่ 3 อยู่แล้ว และไม่ส่งเสริมให้คุมกำเนิดด้วย (ปินอยเคยเจริญกว่าไทย ต่อมารัฐบาลโกงกันเละเทะ แต่ที่ไม่ฟื้นทั้งที่ไล่รัฐบาลนั้นไปแล้วเพราะพวกไม่คุมกำเนิดเลย ส่วนบ้านเราคุมกันจนตอนนี้กลัวประเทศมีแต่คนแก่เพราะคนรุ่นใหม่ไม่อยากมีลูก) ส่วนไทยเป็นพุทธ ห้ามแค่เพศที่ 3 บวชเท่านั้น แต่ไม่รังเกียจในฐานะฆราวาส และไม่ห้ามคุมกำเนิด จะว่าไปถือเป็นโชคดีนะนิที่บรรพบุรุษเราเลือกรากเหง้าวัฒนธรรมแบบนี้

349 Nameless Fanboi Posted ID:MZ7cqKoNC

ขันทีสมัยก่อนเค้ารับบุตรบุญธรรมกัน ถ้าไม่ใช่ระดับราชวงศ์เค้าไม่ซีเรียสเรื่องสายเลือดหรอก

350 Nameless Fanboi Posted ID:LaSyaY2s8

>>348 นี่ห้ามเพศสามบวชจริงอ่ะ กุเห็นหลวงเจ้เยอะแยะ

351 Nameless Fanboi Posted ID:jnsQj./Pm

>>348 ถ้ายังไม่ตัดอวัยวะเพศชายทิ้งก็บวชได้นะ (ในพระธรรมวินัยมีคำว่า "บัณเฑาะว์" หมายถึงคนที่มี 2 เพศ ตรงนี้มันก็มีคนตีความรวมถึงชายที่แปลงเพศแล้วด้วย) ก่อนหน้านี้ยังมีข่าวมิสทิฟฟานีคนนึง ทำนมมาละอย่างสวยแต่ยังไม่ได้ตัดส่วนล่างออก วันนึงเกิดดวงตาเห็นธรรมหรือยังไงนี่แหละ ก็ไปให้หมอเอานมที่ทำออก กลับเป็นเพศชายแล้วโกนหัวบวชเลย

ที่เขาห้ามเพศที่ 3 บวชก็ไม่ใช่ว่ารังเกียจอะไร แต่พระต้องถือพรหมจรรย์ไม่ยุ่งเรื่องทางเพศ ถ้า ช แท้ มาอยู่รวมกันมันก็ไม่คิดอะไรอยู่แล้ว แต่เกย์หรือกระเทย ถ้ายังคุมกิเลสในตัวไม่ได้แล้วมาบวชมันก็ไม่ต่างจาก ผช เข้าไปอยู่ในดง ผญ ล้วนอะ หื่นทั้งวันละมึง เลยห้ามไง

แต่ถ้าตอนไปขอบวชไม่แสดงท่าทางที่ส่อไปทางนั้นเขาก็ให้บวชอยู่ดี (จริงๆ อันนี้ถ้าสมัยก่อนเขามีให้เตรียมตัวด้วยนะ 15 - 30 วัน ทั้ง ช แท้ไม่แท้ ให้ลองอยู่เลียนแบบพระก่อนว่ารับสภาพได้ไหม ถ้าได้ถึงจะให้โกนหัวนุ่งจีวร)

352 Nameless Fanboi Posted ID:jnsQj./Pm

>>350 โทษที กู >>351 นะ พิมพ์ผิด

353 Nameless Fanboi Posted ID:PaKrLnUTU

>>344 ประเทษเจริญแล้ว ในห้องเรียนใครเป็นตุ๊ด มึงเตรียมโดนรุม bully วะ

354 Nameless Fanboi Posted ID:uvvc4Ng9T

ไม่นานมานี้กูเพิ่งรู้ว่าในก้วนเด็กอเมริกา
พวกเด็กนักเรียนชายเฮ้วๆ มันมีวัฒนธรรมผลัดกันต่อยใส่หน้า ต่อยแบบเต็มแรงอีกฝ่ายก็กัดฟันรับ ต่อยเสร็จยิ้มใส่กอดกันแล้วเปลี่ยนกันต่อย
กูเดินเที่ยวย่านดาวทาวน์นิวยอร์กกลางวันแสกๆเห็นพวกแม่งเกาะกลุ่มกันต่อยจริงๆแต่ไม่ใช่ทะเลาะกัน จะว่าเมายาก็ดูไม่ออก

แถมไม่กี่เดือนก่อนเห็นกระทู้มีคนไทยเรียนเมืองนอกโพสขอความช่วยเหลือเพราะโดนเพื่อนแม่งชวนเพื่อนอีกคนพากันโดดเรียนไปต่อยกัน พอไม่ต่อยด้วยโดนเพื่อนเท แถมจะโดนครูเล่นงานเพราะโดดเรียน โฮสที่บ้านก็จะไม่รับ

355 Nameless Fanboi Posted ID:s25LkhiDV

>>353 ถ้าเมกานี่แล้วแต่รัฐมั้ย? พวกรัฐที่มีคนหลากหลายแล้วความเจริญสูงมันไม่น่ามีอย่างว่ามั้ยมึง แต่ถ้าออกชนบทหน่อยก็ไม่เถียงว่าจะมีพวกอย่างที่มึงบอกไป แล้วมึงรู้ได้ไงว่ามันมีแบบนี้จริงๆ ถ้าไม่จริงขึ้นมานี่สุริยะกับสมรบึ้มป่ะล่ะสัส

356 Nameless Fanboi Posted ID:2EOmEsnDp

>>355 mehhhhhh

http://www.telegraph.co.uk/education/2017/07/10/nearly-50-per-cent-lgbt-pupils-bullied-school-report-finds/
https://nobullying.com/lgbt-bullying-statistics/

357 Nameless Fanboi Posted ID:rwLSMo97X

>>356
1.define "Bullying"
2.define if that "bullying" stem from the fact that they are lgbt and nothing else

บูลลี่ของแต่ละคนไม่เหมือนกันว่ะ บางคนแค่เดินเฉียดๆแล้วพูดด่าลอยๆก็นับเป็นบูลลี่แล้ว
อย่างที่สองคือ มึงรู้ได้ไงว่าโดนแกล้งเพราะเป็นlgbt ถ้าโดนjockแกล้งเพราะเป็นเนิร์ดแต่เนิร์ดคนนั้นเป็นlgbt มันนับไหม?
อย่างที่สาม ซอร์สของมึงเป็นเซอร์เวย์ทั้งนั้น มันไม่ใช่hard-science มันมีเรื่องของopinionกับfeelingมาเกี่ยว ถ้าคนกรอกมันกรอกว่าเคยโดนแกล้ง แล้วช่องเพศกรอกว่าlgbt คนทำเซอร์เวย์มันก็เอามาคลุมๆว่าโดนแกล้งเพราะเป็นlgbt ต่อให้มีให้เขียนอธิบาย พวกlgbtส่วนใหญ่มีแนวโน้มว่าจะโทษการโดนแกล้งไปที่เพศของตนเองด้วยทั้งๆที่จริงๆแล้วอาจไม่ใช่

mehhhhhhhhhhhhhh

358 Nameless Fanboi Posted ID:JFIMu9iBY

ปกติพวก bully มันก็หาผลวิจัยยากอยู่แล้วนะเพราะแม่งไม่ยอมบอกกันหรอกว่ากูรังแกคนในห้อง

359 Nameless Fanboi Posted ID:cs0.kXz5+

จำเลยเคยประกอบ อาชีพขับรถส่งของ ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรแล้วเนื่องจากอายุมากและพูดไม่ถนัดหลังการ ผ่าตัดมะเร็งใต้ลิ้นตั้งแต่ปี 2550 ทุกวันนี้อาศัยอยู่กับภรรยาในห้องเช่าราคาเดือนละ 1,200 บาท ย่านสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ และอยู่ได้ด้วยเงินที่ได้รับจากลูกๆ อีกเล็กน้อย แต่ละวันมีหน้าที่ต้องเลี้ยงหลาน 3-4 คน
หลังถูกจับกุมเมื่อ วันที่ 3 ส.ค.53 เขาถูกคุมตัวในเรือนจำนวน 63 วัน และได้ประกันตัวเมื่อวันที่ 4 ต.ค.53 หลังจากนั้น ในวันที่ 18 ม.ค. 54 อัยการมีคำสั่งฟ้องคดี จำเลยจึงต้องถูกควบคุมตัวอีกครั้ง ซึ่งศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวโดยให้เหตุผลว่า ข้อเท็จจริงตามข้อหาการกระทำความผิดตามฟ้องกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนและ ความมั่นคงของประเทศอย่างร้ายแรง คดีอยู่ในชั้นพิจารณา หากผลการพิจารณาสืบพยานมีหลักฐานมั่นคงจำเลยอาจหลบหนี ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว

360 Nameless Fanboi Posted ID:nhVWU/YNj

ชื่อเรื่อง: พี่ไปธรรมศาสตร์
#งงสัสๆ
เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้กำลังจะไป ม.
เห็นรถมันติด ก็เลยว่าจะไปโดยมอไซค์รับจ้าง
ก็เดินไปที่วิน แล้วพูดว่า "พี่!! ไป ธรรมศาสตร์"
พี่แม่งก็ยักหน้าแล้วก็ยื่นหมวกกันน็อคให้กู
แล้วก็บิดดดไป ธรรมศาสตร์
โดยที่กูยังอยู่ที่วิน.....
.
ตอนแรกนึกว่าพี่จะหาที่จอดให้กูขึ้นง่ายๆงี้ แม่งค่อยๆบิดออกไปเรื่อยๆๆๆ ไกลออกไปเรื่อยๆ
กูก็เรียกกก "พี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!! เบอร์ 4ๆๆๆๆๆๆๆ" แบบคนหาเสียงอ่ะ
.
ตอนนี้พี่น่าจะแจ้ง จส.100 ไปแล้วว่ามีผู้โดยสาร ใส่เสื้อสีเทา ตกจากมอไซค์ บนถนนบรมราชชนนี โปรดให้ทุกหน่วยช่วยกันตามหาแล้วแน่ๆ
#กูอยู่ที่เดิม
.
ปล.คราวหน้าจะบอกว่า "ขอซ้อนไปธรรมศาสตร์หน่อยนะครับพี่เบอร์ 4"
ปล.2 กูว่ากูรีบละนะ พี่แม่งรีบกว่าอีก TT

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

361 Nameless Fanboi Posted ID:sBDIDNOTb

จริงๆ พี่ตูนพูดดีมากเลยนะ แกเคยให้สัมภาษณ์ว่า แกไม่ใช้ผู้ให้ คนที่บริจาคเงินต่างหากคือผู้ให้ตัวจริง

ใช่เลย สิ่งที่พี่ตูนทำคือการ "บริหารชื่อเสียง" เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมบางอย่าง ขณะเดียวกันตัวแกก็ได้ชื่อเสียงตอบแทนกลับมา เพื่อเอาไปผันแปรเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ หรือบริหารชื่อเสียงในโปรเจคต่อไป

ไอ้กิจกรรมการบริหารชื่อเสียง การเล่นกับพื้นที่สาธารณะแบบนี้แหละ โดยนิยามแล้ว มันคือ "กิจกรรมการเมือง"

ดังนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจที่การวิ่งของพี่ตูนมันจะโคตรการเมืองเลย และสมควรเป็นอย่างยิ่งที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์บนฐานประเด็นการเมือง

ล่าสุดดูสปอตบนรถไฟฟ้า โอ้โห ทำอย่างกับพี่เขาเป็นแม่ชีเทเรซ่า สรรเสริญความดีงาม ยาวเกือบนาทีกว่าได้ มีรูปทหารแทรกขึ้นมาโรแมนติไซต์กองทัพอีกต่างหาก

สปอตนาทีกว่าบนรถไฟฟ้านี่ยาวมากเลยนะ เอามาใช้สร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติได้ตั้งมากมาย ขอสักครึ่งนาที เอามาพูดถึงชาวบ้านที่เขาทนอยู่กับน้ำท่วมมาเป็นเดือนๆ เอามาแจกแจงว่า งบกลาโหมภายใต้รัฐบาลเผด็จการมากมายแค่ไหน ซื้ออาวุธ ซื้อเรือดำน้ำ สร้าง "ประโยชน์" เป็นรูปธรรมอะไรไปแล้วบ้าง

การเอาพื้นที่สาธารณะมาขับเคลื่อนประเด็นอะไรก็ตาม ถามว่าผิดไหม ไม่ผิดหรอก แต่มัน "การเมือง" ไง

ดังนั้นถ้าใครจะบอกว่า "ฉันไม่บริจาคให้พี่ตูนหรอกนะ เพราะฉันไม่ชอบภาพลักษณ์ทางการเมืองของกิจกรรมนี้" นั่นไม่ใช่ความใจแคบนะ แต่เป็นการแสดงจุดยืนทางการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับความไม่ชอบมาพากลที่กำลังดำเนินอยู่ในประเทศนี้ต่างหาก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

362 Nameless Fanboi Posted ID:Ioy4SIEaJ

>>361 โพสบนเฟซนี่โดนแร้งลงแน่นอน แม่งเกินจะอธิบายล่ะ พี่ตูนตอนนี้แทบไม่ต่างไปจากสมมุติเทพแล้ว วิจารณ์นิดเดียวแม่งด่าซะกูอยากทะลุจอไปกระทืบเรียงตัวเลย

363 Nameless Fanboi Posted ID:+QNW7/hcB

>>361 เป็นความคิดที่ลิเบอรัลมาก ยินดีมองคนตายเพราะคนช่วยเหลืออยู่คนละฝ่ายทางการเมือง พูดจาสวยหรูใช้ได้เลย

นิยามที่บอกว่าอะไรที่อยู่บนพื้นที่สาธารณะถือเป็น "การเมือง" ก็ไม่ถูกต้องนัก นิยามที่ว่ามีการตีความหลากหลาย โดยเฉพาะคำว่าพื้นที่สาธารณะ เพราะการใช้พื้นที่สาธารณะทุกอย่างไม่ใช่การเมือง การแสดงเจตจำนงค์ให้คนอื่นรู้ก็ไม่ใช่การเมืองไปซะหมด

- ไอ้กิจกรรมการบริหารชื่อเสียง การเล่นกับพื้นที่สาธารณะแบบนี้แหละ โดยนิยามแล้ว มันคือ "กิจกรรมการเมือง" -

ถ้านับตามนิยามนี้ ไอดอลเกาหลีคือนักการเมือง และจัสติน บีเบอร์สมควนเป็นนายกแคนนาดา

ถ้าคนไม่คิดจะบริจาคก็ไม่แปลกนะ แต่การหาความชอบธรรมให้การไม่บริจาคของตัวเองด้วยการบอกว่าอีกฝ่ายอยู่ฝั่งตรงข้ามทางการเมือง มันดูโลว์สุดๆ เลยวะ แม้แต่สังคม LibTard/SJW ที่ีเมกายังไม่โลว์ขนาดนี้เลย ข่าวยิงกันในโบสถ์พวกนี้ยังบริจาคให้เลย เพราะต่อให้พวกนี้ปัญญาอ่อนยังไง ก็ยังรู้ตัวว่ามีบางอย่างที่อยู่เหนือการเมือง

กูอยากรู้จังว่ามิตรสหายนี้พูดยังไงตอนที่มีข่าวว่าคนจะไม่บริจาคให้มูลนิธิกระจกเงาของบก.ลายจุดหรือไม่บริจาคของให้ปูตอนน้ำท่วม 54 จะเห็นชอบเพราะเป็น "การแสดงจุดยืนทางการเมือง" แบบนี้รึเปล่า แต่ก็คิดว่าคงไม่ เพราะเขมี "จุดยืนทางการเมือง" เดียวกับมิตรสหายท่านนี้

364 Nameless Fanboi Posted ID:g5yuXOH3k

โคตรลิบร่านเลยว่ะ กูไม่บริจาคกูยังไม่เห็นจะมาหาเหตุผลต่ำตมมาเพื่อเชิดชูตัวเองอะไรได้ขนาดนี้

365 Nameless Fanboi Posted ID:nOLVv1uwV

แจ้ง Meta ให้แบนพวกลิเบอร่านให้หมด
โคตรน่ารำคาณ

366 Nameless Fanboi Posted ID:u8sr00.q4

>>361 กูบริจาคให้เพราะเขาบอกว่าจะเอาไปให้โรงพยาบาล กูรู้สึกขอบคุณพี่ตูนด้วยที่เอาชื่อเสียงมากระตุ้นให้คนเห็นแก่ส่วนรวม กูคิดแค่นี้ กูงงกับความบ้าการเมืองของมิตรมาก กูอยู่เมืองท่องเที่ยว ไม่ได้ขึ้นรถไฟฟ้า(ไทย)นานแล้ว กูไม่คิดว่าโฆษณาบนรถไฟฟ้าจะมีอิทธิพลขนาดนั้น แม้แต่คนกลุ่มเดิมๆ ที่ใช้บริการ รฟฟ ยังไม่ค่อยมีคนสนใจด้วยซ้ำเห็นมองกันแต่โทรศัพท์ ต่อให้เอางบมาแจกแจงบนนั้นแล้วมันจะทำให้เกิดอะไรขึ้นหรอ?

367 Nameless Fanboi Posted ID:m7Pi2uCmf

เพจมิตรสหายริษยาพี่ตูนนี่หว่า

#มิตรสหายทั่นหนึ่ง

368 Nameless Fanboi Posted ID:r+t+pEmAQ

>>365 อยากฟ้องก็ไปฟ้องเลยสิ ไม่ต้องมาโพสขู่หรอก น่ารำคาญ

369 Nameless Fanboi Posted ID:Cky9b3wQp

สุริยะกับสมรบึ้มควยสัสเย็ดเป็ดผัดเผ็ดหัวควยอัลเลาะห์อักบัร

370 Nameless Fanboi Posted ID:pr7wCodQF

บางอารมณ์กูเริ่มเชื่อละที่บอยโกฯ เคยบอกว่าน่าจะแบนอินเตอร์เน็ตในไทยสัก 10 ปี

เอาละไม่ต้องบอกว่าแกเป็นสลิ่มนะกูรู้แล้ว แต่พอให้ใครโพสต์อะไรก็ได้นี่แม่งวุ่นวายชิบหาย แดง เหลือง สลิ่ม คลั่งชาติ ลิเบอร่าน ฯลฯ หาเรื่องซัดกันนัวได้ตลอดทุกเหตุการณ์ในบ้านในเมือง

อ่านแล้วประสาทจะกิน

371 Nameless Fanboi Posted ID:mWhTGlmro

แล้วถ้ากูเป็นชาวท่าแซะมันทั้งสองสีนี่จะเรียกกูว่าอะไรดี ?

372 Nameless Fanboi Posted ID:+QNW7/hcB

>>371 กลางกลวง เพราะมึงต้องเลือกฝั่งใดฝั่งใดฝั่งหนึ่งที่ถูกต้อง และลิเบอรัลถูกต้องกว่าเสมอ

373 Nameless Fanboi Posted ID:nOLVv1uwV

>>371 ลิเบอร่านชังชาติอีแอบสลิ่ม

374 Nameless Fanboi Posted ID:woIL3xukE

>>370 ถ้าประสาทจะแดกก็ไม่ต้องเข้าเว็บพวกนั้น แค่นี้ก็กำจัดมะเร็งทางใจไปได้เยอะแล้ว

375 Nameless Fanboi Posted ID:dW5dgzZwi

>>370 มึงไม่อยากอ่านก็ปิดเครื่องไม่ต้องเข้ามาอ่านคนเดียวสิ จะมาห้ามคนอื่นใช้ทำเหี้ยอะไรล่ะ

376 Nameless Fanboi Posted ID:URVNZ+aEJ

>>375 ถ้ากู PC คนอื่นต้อง PC ตาม นะจ๊ะ

377 Nameless Fanboi Posted ID:gjUZkunDG

>>374 กูเจอแม่งทุกที่อะ มีเพจ/เว็บไหนไหนไม่บ้าการเมืองมั่งไหมวะ

378 Nameless Fanboi Posted ID:jlaRa/nZ7

เลือกรับสื่อไม่เป็นก็ประสาทแดกไปซะ

379 Nameless Fanboi Posted ID:pr7wCodQF

>>378 ปัญหาคือมึงไม่มีสิทธิ์เลือก เอาง่ายๆ มึงเปิดเฟสมา กูมั่นใจว่าหน้าวอลมึงยังไงแม่งต้องมีคนแชร์พวกนี้มา กูนี่รำคาญมากกับการต้องมานั่งปัดให้ผ่านๆ ไป จะลบจะบล็อกก็เกรงใจเพราะคนรู้จักจริงๆ ทั้งนั้น นี่ยังไม่นับเวลาเข้าไปอ่านข่าวแต่ละวันอีกนะ หลังๆ กูนี่ตัดปัญหาไม่อ่าน comment เลย เพราะเดี๋ยวหงุดหงิดอีก

380 Nameless Fanboi Posted ID:68CnSe5mT

>>379 ปัญหาคือมึงไม่มีสิทธิมาจำกัดการรับรู้สื่อสารของคนอื่นเหมือนกัน มึงอยากตัดเนทมึงก็ตัดบ้านตัวเอง ไม่ใช่มาตัดของคนทั้งประเทศ แล้วอ้างว่าเพราะวุ่นวาย ถ้าคิดว่ามีเนทแล้ววุ่นวายมึงเลิกใช้ไฟฟ้ากับโทรศัพท์ด้วยละกัน ฟังแต่ข่าวตรงจากรัฐบาลอย่างเดียว สงบสุขแน่มึง

381 Nameless Fanboi Posted ID:pr7wCodQF

>>380 ถามจริงมึงไม่รำคาญมั่งหรอวะ เสื้อสีกัดกันทุกเรื่อง เอาง่ายๆ ที่มิตรสหายแชร์ๆ กันข้างบนเนี่ย บางอันกูนี่ไม่เข้าใจว่ะว่าแม่งคิดมาได้ยังไง

382 Nameless Fanboi Posted ID:68CnSe5mT

>>381 มันง่ายกว่าถ้ามึงเลิกเล่นเนทเองแทนที่จะมาบังคับให้คนอื่นเลิกเล่นเนทเพราะมึงไม่ชอบ

383 Nameless Fanboi Posted ID:pr7wCodQF

>>382 เลิกได้เลิกไปแล้ว เมื่อก่อนกูไม่มีเฟสไม่มีไลน์ตอนนี้ก็ต้องมีเพราะเอาไว้ทำงาน แต่พอมีแม่งก็อย่างที่กูบ่นละ อย่างเพจสำนักข่าวทั้งหลายนี่กูแทบจะแค่กด Link เข้าไปอ่านข่าวพอ ไม่อ่าน comment เลย เพราะรู้ว่าแม่งต้องกัดกันเสียเป็นส่วนใหญ่ (กูใช้คำนี้นะ เพราะหาพวกที่เถียงกันแบบมีสาระมันยาก อันนี้ทั้ง 2 สีเลย คำก็ลิเบอร่าน อีกคำก็สลิ่มคลั่ง) ล่าสุดอย่างข่าวตูนเนี่ย ดูยังไงมันก็ไม่น่าจะมีเรื่องให้ทะเลาะกันใหญ่โตด้วยซ้ำ

384 Nameless Fanboi Posted ID:OQ3RU9mBw

ตัวเองไม่พอใจคนอื่นบนอินเตอร์เน็ตเลยบอกให้แบนอินเตอร์เน็ตแทนที่ตัวเองจะเลิกเล่น สมกับเป็นลิเบอร่านจริงๆ

385 Nameless Fanboi Posted ID:68CnSe5mT

>>384 กุว่าตรรกะไปทางสลิ่มมากกว่านะ กูไม่พอใจมึงออกไปจากประเทศ กูไม่พอใจมึงต้องเลิกเล่นเนททั้งประเทศ

386 Nameless Fanboi Posted ID:68CnSe5mT

>>383 ถ้ามึงไม่รู้วิธีหลบหลีกToxicบนโลกโซเชี่ยล มันเป็นความรับผิดชอบของตัวมึงเอง ไม่ใช่โทษคนอื่น

387 Nameless Fanboi Posted ID:+QNW7/hcB

>>361 กูเจอต้นทางละ

https://www.facebook.com/NiSatharnrathWiMar/photos/a.197511890380851.50244.197506433714730/1159068167558547/?type=3

เพจนี้นี่เอง กูเคยคิดว่าเพจนี้สุดโต่งในหลายแง่นะ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะขนาดนี้

>>371 มึงเป็นกลางไม่ได้นะ เพจนี้บอกว่าในโลกนี้ไม่มีใครกลางจริง ถ้ากลางก็แปลว่าเข้าข้างเผด็จการ ดังนั้นอะไรที่ไม่แดง ก็เป็นสลิ่มหมด รวมถึง "กลาง" อย่างมึงด้วย

388 Nameless Fanboi Posted ID:pr7wCodQF

>>387 กูนี่นึกถึงบาโฟเลย สลิ่มไม่เอาแกก็เข้าใจได้ แต่แดงก็ไม่เอาแกด้วย

คนยึดหลักข้อมูล ไม่เน้นอารมณ์ดราม่านี่อยู่ยากบนโลกนี้ชิบหาย

389 Nameless Fanboi Posted ID:+QNW7/hcB

>>388 บาโฟบางทีมันก็ตั้งใจกวนส้นตีนไป ถ้าไปดู live งานสมนาซักงานจะเข้าใจเลยว่าทำใมบาโฟถึงบ่นว่าแต่คนไม่ฟังแก แต่บาโฟไม่บอกไปว่าแม่งไปกวนตีนไม่รู้จักมารยาทก่อน

ถ้าว่ากันตามตรง บาโฟเป็นคุนที่คุยด้วยหลักข้อมูลได้แค่ครึ่งเดียวนะ แกเป็นพวกเชื่อตำรามากกว่าคำบอกเล่า ในแง่นึงก็ไม่ผิดหรอก แต่มันจะผิดก็ต่อเมื่อเอาตำราไปเถียงกับคนในตำรา อย่างที่เคยไปเถียงแกนนำ 14 ตุลาว่าผิดเพราะหนังสือไม่ได้บอกแบบนี้ ตลกดีเหมือนกัน

390 Nameless Fanboi Posted ID:qK7GMDZds

ยังมีคนให้ค่าหงอกด้วยหรอวะ โดนเพจตบดิ้นงัดด้วยข้อมูล เงิบกลับเฟสตัวเองบ่อยๆ

391 Nameless Fanboi Posted ID:c.CBIFeWO

มีคนให้ค่าตบดิ้นด้วยเหรอวะ

392 Nameless Fanboi Posted ID:biQVnAjbw

มึงว่าพวกลิเบอร์ร่านไปดู Thor มันจะรู้สึกอึดอัดทรมานมั่งป่าววะ แบบว่าตอนออกจากโรงอยากจะตะโกนให้คนทั่วไปให้ยินว่า "ธอร์ได้ปกครองแอสการ์ดเพียงเพราะแค่เป็นลูกโอดิน ทำไมธอร์ถึงไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง" หรือ "ทำไมอเมริกาอันเป็นต้นแบบประชาธิปไตยถึงยอมปล่อยให้มีเนื้อเรื่องแบบนี้ออกมาได้ นี่ฮอลีวูดกำลังล้างสมองเด็กรุ่นใหม่ว่าพระเอกเป็นคนที่ใช้กำลังยึดอำนาจการปกครองประเทศมาด้วยความชอบธรรม"

393 Nameless Fanboi Posted ID:huo+BZpqA

>>390 >ตบดิ้น
>ข้อมูล
KEK

394 Nameless Fanboi Posted ID:Ih80VPy/G

>>392 คงมีแต่มึงนั่นแหล่ะที่มาคิดมากเยี่ยวเหนียวแทนลิเบอร่าน

395 Nameless Fanboi Posted ID:Rq+ZVg2.L

>>394 มันมีพวกที่คิดแบบนี้จริงๆ นะ ไม่งั้นกวินิเวียร์ใน Merlin หรือ Heimdall ใน Thor จะกลายเป็นคนดำได้ยังไง

396 Nameless Fanboi Posted ID:Udj1pnal7

>>392 ทำไมกูนึกถึงเพจลิเบอร่านฯ วะ เห็นมีอันนึงบอกทำไม Thor มีคนดำ (ใช้คำว่า Nigga เลยนะมึง) ฮอลลีวู้ดอวยมากไปแล้ว

397 Nameless Fanboi Posted ID:p4qCuBvt7

>>395 เรื่องการปกครองในเทพนิยายเกี่ยวอะไรกับการใส่ตัวละคร token ล่ะ
โยงมั่วไปเรื่อยขอให้ได้ด่าสินะ

398 Nameless Fanboi Posted ID:qK7GMDZds

กลายเป็นเรียกคนมาด่าตัวเอง สมน้ำหน้า คิดเองเออเองสัสๆ

399 Nameless Fanboi Posted ID:LL0kJebd3

ถ้าพูดถึงการแฝง Propaganda ว่าปชต.ดีที่สุดมันก็แฝงมานานนะ

หลังๆ ก็ยัด Value ว่าต้องได้รับการยอมรับจากปชช.หรืออะไรที่ผิดยุคมาเยอะ

300 นี่ก็ชัด สปาร์ตันเป็นนครรัฐเผด็จการ ไม่มีคำว่าเสรีภาพ ตะโกนว่า Junta ยังเข้ากว่า Freedom เยอะ

400 Nameless Fanboi Posted ID:p4qCuBvt7

>>399 Freedom ในที่นี้มันไม่ใช่เสรีภาพแบบโลกสมัยใหม่ แต่คือการได้เป็นรัฐอิสระที่ไม่ได้ถูกรัฐอื่นปกครองรึเปล่าวะ

401 Nameless Fanboi Posted ID:6DGmR2nGl

>>400 ในเรื่องมันสื่อถึง Freedom ในแง่มุมสมัยใหม่มากกว่านะ

และต่อให้เป็นแบบนครรัฐอิสระก็ไม่เข้าอยู่ดี เพราะสปาร์ตันเป็น "ผู้นำ" เมืองต่างๆ เยอะพอดู

ถ้าว่ากันตามมุมมองด้านยุทธศาสตร์ การที่ลีโอไนดาสไปขวางเปอร์เซียที่นั่นไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนนะ

คนชนะสุดท้ายก็คือเอเธนส์ ที่ต่อให้ทัพสปาร์ตัน 300 และ "ทัพเสริม/ทาส" อีกหลายคนไม่ไปขวางก็ชนะได้อยู่ดี

402 Nameless Fanboi Posted ID:HPIbLggYd

สายโปรพี่ตูน มีสองกลุ่มหลักๆคือ

1.โปรไม่ลืมหูลืมตา แตะไม่ได้ด่ากราด แต่งนิยาย เอาหินเขวี้ยงหมา อย่างภูมิใจ
2.โปรอย่างมีสติ ยอมรับว่ากิจกรรมนี้มี outcome ที่เบาบาง แต่เชื่อมั่นว่ามี Impact ที่ยิ่งใหญ่

โดยส่วนตัวผมไม่ได้ชอบกิจกรรมนี้แต่ต้น เพราะขอเงิน 10 บาท มารวมกันให้ได้ 700 ล้าน แล้วงัยต่อ
สุดท้ายจะเอามาคืน มันก็คืนได้ 10 บาทเท่าเดิม ไม่เห็นมันจะเกิด multiply ,turn over ประการใด ส่วนพี่ตูนก็ได้สปอนเซอร์ ได้ไทอินสินค้า ได้เพิ่มมูลค่าตัวเองแบบเนียนๆ

ข้อสังเกตุที่น่าแปลกคือ ฟรีทีวี พร้อมใจกันทำข่าวพี่ตูนทุกช่อง ทุกเบรค มีขบวนนักเรียนเข้าแถวเกียรติยศรอต้อนรับยาวเป็นกิโล ทั้งที่อยู่ในเวลาเรียน ราวกับมีการจัดตั้ง กิจกรรมนี้มันเหมือน propaganda แห่งชาติยังงัยไม่รู้

การที่พี่ตูนอยากจะก้าวข้ามการเป็นร๊อคเกอร์ มาสู่การเป็นวีรบุรุษของชาติ ผมอยากให้พี่ตูนแสดงสปิริตงดรับงานโฆษนาทุกตัวสองปี หลังจบงานนี้ครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

403 Nameless Fanboi Posted ID:IGPlBXiA8

>>402 มุมมอง Purification แบบนี้ละเป็นกับดักอย่างหนึ่งของไทย เพราะเราเอามาตรฐานนี้ไปใช้กับนักการเมือง

และมองหาคนที่บริสุทธิที่สุด ไม่ได้มองหาคนที่เหมาะสมที่สุด เก่งที่สุดอะไร ต่อให้คนนั้นเก่งยังไง ถ้าไม่ Pure ก็ไม่เอา

สิ่งที่ดู Pure ที่สุดในประเทศนี้จึงมีแค่อย่างเดียว อยู่เหนือการเมือง และมิอาจถูกล่วงละเมิด เพราะมันจะไม่ Pure

404 Nameless Fanboi Posted ID:cROwsW2vo

Puritan Citizen 5555

405 Nameless Fanboi Posted ID:9.r2LFVVp

>>403 กูว่าไม่ใช่แค่การเมืองละ ไอ้ความพยายามตามหา "Pure (หรือ Perfect) Human" เนี่ย มันทำให้คนในสังคมบ้านเราอยู่ลำบากขึ้นนะ

คือแบบคนมีตำแหน่งหน้าที่ มีเงินมีชื่อเสียง ปกติทำตัวดีมาตลอด แต่วันนึงไปหัวร้อนสติหลุด เอาแค่ครั้งเดียวพอ และยังไม่มีใครตายหรือเจ็บสาหัสนะ มึงโดนขุดโคตรเหง้าศักราชมาประจานจนแทบไม่มีที่ยืนในสังคม ราวกับมึงเป็นโคตรอาชญากรปล้นฆ่าข่มขืนมาชั่วชีวิตอะ หรือบางทียังไม่ต้องทำอะไรผิดกฎหมายด้วย แต่แค่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหน่อย (อารมณ์ดาราสมัยก่อนที่ต้องแอบสูบบุหรี่หลังเวที) ถึงทำในที่ลับ บางทีอาจจะแค่นินทาใครนิดๆ หน่อยๆ ถ้าหลุดออกมาก็เตรียมตัวโดนประณามลามไปยันญาติสนิทมิตรสหาย

กูนี่ปวดกบาลประจำเวลาเห็นดราม่าพวกนี้ ก็สงสัยนะว่าคนที่ดีบริสุทธิ์ 100% จะหาได้บนโลกนี้จริงๆ หรอวะ

406 Nameless Fanboi Posted ID:p4KwWeKui

>>405 จริงว่ะ แต่กุว่าพวกนี้มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ตามหาความเพอร์เฟค แต่แค่อยากระบายอารมณ์ด้วยการประนามความผิดพลาดของคนอื่นมากกว่า

407 Nameless Fanboi Posted ID:A6it6U/nf

ประสบการณ์ที่เคยเป็นผู้ช่วยพยาบาล ในโรงพยาบาลเอกชน แผนกกุมารเวช และเด็กอ่อน

1. เจอแม่วัยใสมาทุกรูปแบบ ทั้งแต่คุณแม่ ม.ต้น ใส่ชุดคอซอง คุณแม่ ม.ปลาย คุณแม่สาวพาณิชย์ คุณแม่นักศึกษามหาวิทยาลัย

2. แม่วัยใสที่เจอบ่อยสุดคือ คุณแม่ ม.1 กับ คุณแม่ ม.3 สาเหตุเพราะ ม.1 เริ่มโตเป็นสาว อยากลอง อยากเห็น
ส่วน ม.3 อยู่ในช่วงหัวเลี้ยว หัวต่อว่าจะเรียนต่อ หรือว่าจะมีผัวดี บางคนไม่อยากเรียน ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองท้อง

3. ปัญหาที่พบบ่อยคือ ไม่มีพ่อเด็ก และแม่วัยใสขาดวุฒิภาวะความเป็นแม่ เลี้ยงลูกไม่เป็น ภาระต้องตกอยู่กับ ปู่ย่าตายายญาติพี่น้อง

4. 80% ของคุณแม่วัยใส แรดมาก (เติม ด.เด็ก สิบตัว) ระหว่างพาลูกมาโรงพยาบาล ส่องแต่เฟสผู้ชาย จับกลุ่มคุยเรื่องผู้ชาย และที่สำคัญแม่วัยใสเวลาเอาลูกมาโรงพยาบาล บ่อยๆ เปลี่ยนผู้ชายที่พามาด้วยไม่ซ้ำหน้า

5. แม่วัยใสหลายคนท้องกับคนใกล้ตัว เช่นพ่อเลี้ยง สามีใหม่ของแม่ ญาติพี่น้อง ลักษณะจะเป็นการสมยอม เช่นเจอพ่อเลี้ยง สามีใหม่ของแม่ที่หนุ่ม หน้าตาดี ก็อยากใช้ผัวร่วมกับแม่ตัวเอง บางทีตบแย่งผู้ชายกับแม่ตัวเองก็มี (แม่วัยใสคนไข้คนหนึ่งเล่าให้ฟัง)

6. แม่วัยใสมักจะมีคุณแม่ที่อายุน้อย เช่นแม่วัยใสอายุ 13-15 จะมีคุณแม่ (ยายของเด็กทารก) ที่อายุ 27-30 เช่นเดียวกัน

7. จากข้อ 6 ทุกครั้งที่มาแบบแพ๊คคู่ คือแม่วัยใส่ และคุณแม่ของแม่วัยใส(ยายของเด็กทารก) ระหว่างนั่งรอคุณหมอ จะได้ยินการพูดคุยระหว่างแม่ลูก ถึงเรื่องผู้ชาย เรื่องบนเตียง 95% แบบไม่น่าเชื่อว่าจะหลุดออกจากปากคนเป็นแม่

8. ปัญหาที่พบบ่อยอื่นๆ เช่นเอาน้ำยาป้วนปากเทใส่ปากลูก แล้วปากอักเสบ ใส่สบู่ที่ไม่ใช่สบู่เด็ก เกิดอาการแพ้ ใส่ผ้าอ้อมขนาดไม่พอดี เป็นรอย ถูกยุงกัดรีบพาลูกมาหาหมอ ลูกเล่นกับแมว เห็นแมวเลียให้กัน เลยเอาปากเลียขนแมว (ลำบากหมอ พยาบาลต้องเอาขนแมวออกจากปากเด็ก)

9. การท้องที่แปลกพิศดารที่สุดคือ อยากท้องมาก แต่แฟนใส่ถุงยางทุกครั้ง (ขอชื่นชมฝ่ายชายว่าครอบครัวสอนมาดี) แต่ฝ่ายหญิงแรด อยากท้องให้ได้ สุดท้ายไปเอาถุงยางอนามัยที่ฝ่ายชายทิ้งถังขยะ มาบีบเอาน้ำเชื้อเทใส่ Hee ตัวเอง ได้ท้องสมใจ ขอเสริมนิดหนึง โดยปกติถุงยางอนามัยที่ได้คุณภาพ จะมีสารฆ่าตัวอสุจิทุกยี่ห้อ แต่ถ้าถุงยางอนามัยเกรดต่ำๆ ราคาถูกหน่อยจะไม่ค่อยมี ถึงมีแต่น้อย หรือสารอ่อนมาก

10. ปัญหาแปลกพิศดาร หมอต้องปวดหัวทุกวันคือ
10.1 เอากล้วยให้ลูกกินตั้งแต่เดือนแรก
10.2 เอาทุเรียนให้ลูกกิน
10.3 เอาเหล้าให้ลูกกิน แม่กำลังกินเหล้ากับเพื่อน เลยลืมตัว
10.4 เอาโค้ก น้ำอัดลมให้ลูกกิน
10.5 เชื่อว่าลูกโดนผีเข้า
10.6 แม่วัยใสเกิดอารมณ์ทางเพศระหว่างให้นมลูก แล้วสำเร็จความใคร่ (เจอมา 8 ราย)

11. แม่วัยใส ส่วนใหญ่ ท้องแบบหัวปีท้ายปี คนหนึ่งอายุ 18 ลูกสามคน

12. เลี้ยงลูก ทิ้งๆ ขว้างๆ หมกหมุ่นแต่เรื่องเที่ยวหาแฟน เด็กที่เกิดมากลายเป็นหมาหัวเน่า ส่วนเกินชีวิตทันทีถ้าเลิกกับพ่อของเด็ก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

408 Nameless Fanboi Posted ID:JdqNtC7.z

>>407 อ่านมาจากเพจอีจ่า กูนี่อย่างงง ปกติเอาๆ กันเขาก็ไม่อยากให้มีปัญหานิ โดยเฉพาะ ผญ น่าจะระวังตัวมากกว่าเพราะท้องเอาเจ็บตัวเอง ผช น้ำออกก็จบละ

409 Nameless Fanboi Posted ID:u109c5eIr

>>408 มีไม่น้อยผู้หญิงระที่จุดมุ่งหมายในชีวิตคืออยู่ให้ผัวเลี้ยง แต่มันจะยอมเลี้ยงก็ต่อเมื่อมีลูกไง

410 Nameless Fanboi Posted ID:mD/K0GUMt

"ปกติถ้าไปสอน จะมี plot เรื่องที่เล่าเพื่อหลอกล่อเอาความสนใจของนักศึกษา วันนี้ใช้มุก “คุณรู้ป่าวว่าประเทศไทยเพิ่งมีสมัยร.5 ที่คุณเคยเรียนๆ มาว่าเริ่มต้นสมัยกรุงสุโขทัยนี่มันผิดนะ” ในใจกะแบบ ความรู้ใหม่แน่นอน

นศ. ทำหน้าแบบ ใครๆ รู้ค่ะจารย์ ไม่ใช่เรื่องใหม่นะ 🙄🙄🙄

ก็เป็นสัญญาณที่ดีนะ"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

411 Nameless Fanboi Posted ID:8Fu6PwAOZ

"พักนี้โลกโซเชียลมีแต่การด่าทอ
ทั้งๆที่โลกิเป็นตัวโกง" #มิตรสหายท่านหนึ่ง

412 Nameless Fanboi Posted ID:j2Yb6SuTa

>>410 จริงๆ กูคิดว่ามุขนี้เสล่อนะ เพราะมันเป็นการนิยามตามรัฐชาติสมัยใหม่ ไม่ได้มองว่าประเทศของ "คนไท" มีมาแต่อดีต

413 Nameless Fanboi Posted ID:jCfvWEMLX

>>412 แต่มันไม่ได้มีแต่"คนไท"มาตั้งแต่แรกซะหน่อย

414 Nameless Fanboi Posted ID:j2Yb6SuTa

>>413 ถ้านับสุโขไทย มันก็เป็น "คนไท" ที่ปลดแอกจากเขมรมาจริงๆ นะ

แล้วถ้าจะใช้ข้ออ้างนี้ มึงจะเรียก England France Germany ยังไงละ

415 Nameless Fanboi Posted ID:eMB6+1P3M

จีนเคยโดนมองโกลยึดประเทศ เราควรเรียกคนจีนปัจจุบันเป็นคนมองโกลไหม
หรือพวกแขกที่โดนเจงกิสข่านยึดประเทศก็ด้วย

416 Nameless Fanboi Posted ID:TsUVWiwme

https://imgur.com/nu0NwYa

คิดมากปวดหัวพอมาเห็นรูปนี้ปุ๊บกูโล่งเลย

417 Nameless Fanboi Posted ID:Xxhnq0kQ3

กูว่า quote นี้ไม่ได้พูดถึงรัฐชาติสมัยใหม่นะ แต่พูดถึงชาติในแง่ของความรู้สึกของคนที่มีวัฒนธรรมร่วมกันและรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกันมากกว่า
ของไทยมันเป็นรัฐเล็กๆหลายรัฐของกลุ่มคนที่ใช้ภาษาในกลุ่มภาษาไท แต่ว่าแต่ละรัฐก็ไม่ได้รวมตัวกันเป็นปึกแผ่น ต่างคนต่างอยู่มากกว่า
กว่าอยุธยากับสุโขทัยรวมกันจริงๆก็หลังเสียกรุงครั้งที่ 1 แล้ว อยุธยาก็ไม่ได้มีอำนาจเหนือหัวเมืองต่างๆแบบรวมศูนย์การปกครองจริงอย่างที่สอนๆกัน

จีนอย่างน้อยฝั่งตะวันออกของดินแดนปัจจุบันก็มีการรวมชาติและรวมศูนย์การปกครองที่ชัดมาตั้งแต่ยุคจิ๋นซีแล้ว
ถึงดินแดนจะมีหดตัวขยายตัว แยกประเทศแล้วกลับมารวมกันใหม่ หรือโดนคนอื่นเข้ามายึดบ้างแล้วมีวัฒนธรรมอื่นเข้ามาปนบ้าง
แต่ความเป็นจีนมันก็ยังอยู่

418 Nameless Fanboi Posted ID:cPxbj6eHK

ว่ากันตรงๆ อาณาจักรแถวเอเชียนี่มีแต่จีนนะที่เข้านิยามรัฐชาติสมัยใหม่มานานที่สุด คืออำนาจอยู่ที่ส่วนกลางเป็นหลัก เจ้าเมืองก็แต่งตั้งจากส่วนกลาง ทหารเกณฑ์ก็รับเบี้ยเลี้ยงจากส่วนกลาง

ที่อื่นๆ เขาเป็นระบบนครรัฐ เป็นเมืองใหญ่บ้างเล็กบ้างก็ว่ากันไป ช่วงไหนเมืองไหนกำลังเข้มแข็งสุดเมืองอื่นๆ ก็ยอมสวามิภักดิ์ ส่งบรรณาการเป็นสัญลักษณ์กับส่งทหารมาร่วมรบเฉยๆ แต่อาณาจักรที่ใหญ่สุดไม่ได้ส่งคนไปปกครอง ยังให้เจ้าเมืองดั้งเดิมดูแลกันเอง

อย่างตอน ร.5 คิดจะเลิกทาสใหม่ๆ ยังออกกฎหมายบังคับได้แค่กรุงเทพฯ กับภาคกลางก่อนที่แรก เพราะเป็นเมืองในบังคับของรัตนโกสินทร์ (สยาม) ส่วนภาคเหนือ อีสาน ใต้ สมัยนั้นเขาก็มีเมืองของเขาที่ปกครองกันเอง สยามจะไปเร่งบังคับอะไรมากไม่ได้

419 Nameless Fanboi Posted ID:4CHqzunPG

มีคนรู้จักอยู่คนนึง เป็นเกย์นะ แต่จุดที่น่าสนใจคือ นางเป็นเกย์ที่ไม่เคยโดนใครหมั่นไส้เลย ซึ่งปกติแล้ว ชีวิตของเกย์คนหนึ่ง จะต้องเคยถูกคนหมั่นไส้ตั้งแต่ 5 คน ถึง 5,000,000 คน แต่อีนี่ไม่มีเลย ชีวิตอยู่ดีมีสุขมาก กูจึงลองสังเกตุดูพฤติกรรมการเล่นเน็ตของนาง แล้วก็พบว่า "นางไม่โพสต์อะไรที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของเกย์เลย!?"

นางไม่เคยโพสต์เรื่อง การประกวดนางงาม แฟชั่น นางแบบ นายแบบ สินค้าแบรนเนม เครื่องสำอาง เครื่องประดับ นักร้องดีว่า ผับเกย์ ฯลฯ ไม่เคยโพสต์ชมว่าผู้หญิงคนนั้นสวย ผู้ชายคนนั้นหล่อ อาจโพสต์เกี่ยวกับดาราบ้าง แต่ก็โพสต์เกี่ยวกับข่าวสารและผลงาน แต่ไม่โพสต์ชมทำนองว่า ดาราคนนั้นเลิศ เก๋ เป็นแม่ ฯลฯ ที่สำคัญ ไม่โพสต์เรื่องทะลึ่งลามกสัปดน เรื่องควยๆหีๆ เรื่องอยากกินผู้ชายคนนั้นคนนี้ ไม่เคยโพสต์เลย

ถามว่า วันๆนางโพสต์อะไร ก็โพสต์เรื่องชีวิตประจำวันพื้นๆ เรื่องงาน เรื่องธุรกิจ เรื่องท่องเที่ยว เรื่องอาหารการกิน เรื่องหมาแมว เรื่องรถ เรื่องการเดินทาง เรื่องหนัง ละคร

กูก็เลยสรุปบางอย่างได้จากเกย์คนนี้ว่า การที่เกย์คนหนึ่งจะรอดพ้นจากการถูกหมั่นไส้ได้ คือ จะต้องไม่แสดงอัตลักษณ์ใดๆเกี่ยวกับความเป็นเกย์เลย

420 Nameless Fanboi Posted ID:cPxbj6eHK

>>419 เอาจริงๆ ไม่ว่าเพศไหน ถ้าแสดงออกในแนวนั้นนี่ชีวิตแทบไม่ถูกหมั่นไส้เลยละ

421 Nameless Fanboi Posted ID:E5jc0bI3Z

>>419 นี่มึงเอามาจากมิตรสหายท่านนึงหรือความเห็นส่วนตัวมึงเองวะ? คือถ้าเรื่องงาน ธุรกิจ เรื่องท่องเที่ยว ของพวกนี้มันเข้าถึงได้สำหรับคนจำนวนเยอะๆไง แต่พวกรสนิยมมันเป็นเรื่องของเฉพาะตัวบุคคล มันเลยเข้าถึงเรื่องของความรู้สึกมากขึ้นหว่ะ

422 Nameless Fanboi Posted ID:ZL3lPKt1P

"อ่านวรรณคดีไทยยุคโบราณนางพิมพิลาไลยแต่งงานอายุ 16 ปี และมีเพศสัมพันธ์กันก่อนแต่งงานกับพลายแก้ว(ขุนแผน) ก็แปลว่าอายุพอๆ กับ ”แม่วัยใส” สมัยนี้ คนสมัยนั้นก็คงจะเริ่มมีเพศสัมพันธ์กันในช่วงอายุ 13-17 ปี และแต่งงานช้ากว่านั้นนิดเดียว คงเพราะไม่เห็นโอกาสและประโยชน์ในการพัฒนาตัวเองก่อนการแต่งงานไปมากกว่านั้น

แต่ยุคโบราณคนอายุ 15-16 ปีถูกถือเป็นวัยทำงานที่ต้องไปทำไร่ไถนาแล้ว ในขณะที่ยุคนี้ยังถือว่าเป็นวัยภาระ เลยทำให้แม่วัยใสยุคนี้ถูกมองในทางลบกว่าในอดีต

เวลามองแม่วัยใสเหล่านี้ ผมว่านอกจากการที่การศึกษาบ้านเราไม่สอนเรื่องคุมกำเนิดแล้ว การศึกษาและสังคมบ้านเรายังไม่เปิดโอกาสให้พัฒนาตนเองอีกด้วย

ลองมองกลับไปเป็นแม่วัยใสบ้าง ถ้าสมมติเรามาจากครอบครัวที่ไม่ร่ำรวย ก็คงมองไม่เห็นว่าจะตั้งใจเรียนและทำงานไปทำไม คนรอบข้างไม่มีใครสนใจการศึกษา โรงเรียนก็ไม่มีคุณภาพสอนให้เราอยู่ในกรอบซึ่งก็คือความยากจนแบบเดิม ไม่กระตุ้นให้เราแสวงหาช่องทางใหม่ๆ ไปทำงานก็มีแต่งานหนักค่าแรงแค่พอมีชีวิตอยู่ กิจกรรมที่ให้ความสุขกับชีวิตที่ไม่รู้จะไปต่อทางไหนก็หนีไม่พ้นเพศสัมพันธ์ ยาเสพติด กลุ่มอันธพาลในรูปแบบต่างๆ หรืออาชญากรรม

จะแก้ปัญหาเยาวชนและแม่วัยใสต้องทำให้เขาเห็นช่องทางว่าถ้าเอาดีแล้วสังคมเอื้อให้ไปในทางดีได้ง่ายด้วยครับ"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

423 Nameless Fanboi Posted ID:qNlpw9x0j

สมัยก่อนมันไม่มีโรงเรียน ไม่มีการศึกษา ผู้หญิงเลยมีหน้าที่เป็นเบ้ให้ผัว (ประเทศที่มีวัฒนธรรมหน่อยเลยสอนให้ลูกรักแม่ ให้เกียรติแม่)

สมัยนี้ผู้หญิงมีสิทธิ์มากขึ้น มีโอกาสเรียน มีโอกาสให้ทำงานที่ผู้ชายเคยผูกขาดได้

เพราะงั้นการที่ผู้หญิงยังกลับไปทำตัวไร้วุฒิภาวะย้อนยุค เยดมั่ว ท้องตั้งแต่เด็กก็ไม่ต่างอะไรกับพวกไดโนเสาร์นะจ้ะ
#มิตรสหอยท่านหนึ่ง

424 Nameless Fanboi Posted ID:SVao+wLuZ

>>423 อันนี้กลับกันนะ ของไทยผู้หญิงเป็นใหญ่ ผัวมีหน้าที่เลี้ยงเมีย เมียมีหน้าที่ปกครองบ้าน

425 Nameless Fanboi Posted ID:2bY++T3.4

>>424 แต่ในขณะเดียวกัน สังคมไทยก็มีกฎหมายอนุญาตให้สามีขายภรรยาไปเป็นทาสได้ โดยเพิ่งมายกเลิกเอาตอนสมัย ร.4 นี่เอง

ลักลั่นแปลกๆ เหมือนกันนะนิ

426 Nameless Fanboi Posted ID:xi2GMnpja

>>425 มันเป็นเรื่องระหว่างราษฏกับหลวง 2 ส่วนนี้แยกกันเกือบตลอด พูดง่ายๆ ก็กรุงเทพกับต่างจังหวัด ชายเข้ามาเป็นแรงงานในกรุงศรี/กรุงเทพ หญิงเลยมีอำนาจในบ้าน แต่ในเมืองกรุงผู้ชายเป็นใหญ่เพราะไม่ต้องจากบ้านมาเป็นแรงงาน และกฎหมายบังคับใช้ได้จริง ดังนั้นเรื่องที่กฎหมายเมืองกรุงว่าอย่าง วิถีชีวิตคนต่างจังหวัดว่าอย่างจึงมีให้เห็นเสมอ

แต่คนไทยสมัยก่อนก็นิยมขายตัวไปเป็นทาสโดยสมัครใจมากกว่านะ เพราะมีคนเลี้ยงคนคุ้มครอง ไม่ต้องใช้สมองก็อยู่รอดได้

427 Nameless Fanboi Posted ID:p0EMMyRTL

ช็อปช่วยชาติ หรือ ช่วยพวกมันกันเอง ?

ช็อปช่วยชาติ คุณจะสามารถซื้อของหรือช็อปช่วยชาติได้เฉพาะในห้างสรรพสินค้าดังๆเท่านั้น และร้านค้าในห้างสรรพสินค้าดังนั้น ใครเป็นเจ้าของร้านเหล่านั้นและห้างสรรพสินค้า ? แน่นอนต้องเป็นกลุ่มนายทุนทั้งหลายระดับต้นๆของประเทศ และกลุ่มนายทุนทั้งหลายในประเทศต่างก็จับมือ ร่วมมือ ฮั้ว หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะเรียก เพื่อได้ผลประโยชน์ร่วมกันอยู่แล้ว

เข้าใจไหมครับ ช็อปช่วยชาติ จริงๆแล้วคือการ ระดมให้ชาวบ้านโง่ๆทั้งหลายมาซื้อของพวกมันให้เยอะๆเท่านั้นเอง ส่วนที่เขาบอกว่า เพื่อลดหย่อนภาษีได้ ถามจริงๆฮะ ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่กันครับ คุณช็อบตามห้างทีคุณช็อปเป็นแสนเป็นล้านรึเปล่า? ก็ไม่อีก เอาให้เต็มที่เลย คุณช็อปของอ่ะนะ แค่วันเดียวเท่านั้นจริงๆ คือวันที่คุณว่าง และงบอย่างมากสุดนะ ผมให้แค่สามหมื่นพอ แล้วเงินแค่นี้ คุณจะลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่กันครับ สองร้อยจะถึงรึเปล่าก็ไม่รู้

แล้วสิ่งที่คุณได้อะไรจากการช็อปครั้งนี้ ถ้าไม่คิดถึงของที่คุณได้จากการซื้อของนะครับ คือ

เป็นหนี้บัตรเครดิตมากขึ้น

หรือถ้าคุณใช้เงินสด คุณก็หมดเงินไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งเงินจำนวนนั้นอาจจะเป็นเงินที่คุณทำงานมาทั้งเดือน หรืออะไรก็แล้วแต่ คุณยอมเสีย ก็ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน ส่วนเรื่องปากท้อง การกินการอยู่ การอาศัยในชีวิตประจำวันคุณก็ช่างมันนะครับ

คุณสามารถไปช็อปช่วยชาติในตลาดสดได้หรือไม่ ตามร้านของชำได้หรือไม่ หรือร้านค้าเล็กๆหน้าปากซอยเพียงเพื่อจะซื้อข้าวสารอาหารแห้งมาเพื่อการดำรงอยู่ในชีวิตประจำวันได้หรือไม่ ?

สุดท้ายแล้ว มันก็แค่เป็นการโฆษณาชวนเชื่อระดมชาวบ้านให้ไปซื้อของมันเยอะๆเท่านั้นเอง ด้วยใช้วาทกรรมสวยหรูว่า ช็อปช่วยชาติเพื่อลดหย่อนภาษี

มันเป็นการช็อปช่วยชาติ หรือ ช็อปช่วยพวกมันกันเอง ลองคิดดูนะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

428 Nameless Fanboi Posted ID:hK4MZ+gmx

เสือกเงินในกระเป๋าตังค์กูอีกละ

429 Nameless Fanboi Posted ID:2bY++T3.4

>>427 พอๆ กับบัตรคนจนละ มีแต่ร้านธงฟ้ากับร้านสะดวกซื้อที่รับ ทั้งที่ถ้าเป็นคนจนจริงๆ เขาซื้อของจากตลาด + โชห่วยมากกว่า (อย่างตามสลัมหรือห้องเช่าที่อยู่ในซอยลึกๆ พวกนี้ 7/11 ไม่ไปเปิดนะ แต่มันก็มีคนในชุมชนตรงนั้นแหละตั้งร้านค้าขึ้นมาเอง มีตู้น้ำเรียบร้อย ถ้าซื้อวัตถุดิบทำอาหารก็ซื้อจากตลาดไม่ก็รถกับข้าวเอา)

430 Nameless Fanboi Posted ID:dZJRBcT.2

รอบนี้ดูวันที่เริ่มกะเลิกก็รู้แล้วว่าแม่งแหม่งๆ ปีก่อนหน้าจะปลายปีเพราะให้มันตรงกะลดราคา ปีนี้ดันเขยิบขึ้นมาก่อน

431 Nameless Fanboi Posted ID:pdBAL8QUW

>>427 ถ้าร้านค้าทั่วไปอยู่ในระบบภาษี มีการทำใบกำกับภาษีให้เรียบร้อยก็ไม่ใช่ปัญหา แต่บ้านเราไม่มีตรงนี้วะ หากินกันนอกระบบภาษีอย่างเดียว มันเลยไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลยจากระบบภาษีของรัฐไงละ

>>429 จุดนี้ช่วยได้ถ้าร้านค้าทั่วไปเข้าระบบ E-Payment มากกว่านี้ แล้วให้จ่ายเงินผ่านบัตรคนจนกับร้านที่มีระบบ E-Payment เป็นการรวบร้านค้าทั่วไปเข้ามาอยู่ในระบบภาษีอีกด้วย ซึ่งคงต้องใช้เวลา แต่นโยบายนี้ถ้าทำอย่างครอบคลุมได้ถือว่ามีประโยชน์มาก

432 Nameless Fanboi Posted ID:JU8.8H1vU

มันเป็นเรื่องทำให้ถูกระบบแค่นั้น มึงไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อเงินใครเงินมัน อย่าเสือกมากจ้ะ
#มิตรสหายหัวควย

433 Nameless Fanboi Posted ID:VUCiWAKnv

I have a tattoo of Disney on my knee, I showed it to Disney and they asked me why did I put it on my knee, and I said "this knee"

They asked me if I was okay

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

434 Nameless Fanboi Posted ID:9SSdjLqpg

คนไทยบางคนแม่งไม่จน แต่อยากจน กระเสือกกระสนอยากได้บัตรนี้ชิบหาย

435 Nameless Fanboi Posted ID:X/6.o9OlT

"วันนี้จะมารีวิวความแย่อย่างชั่วช้าโหดเหี้ยมของบริการในบริษัทใหญ่ๆ ของเยอรมนี

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าเมืองนอกไม่ใช่สถานที่ประเสริฐเลิศหรู วัฒนธรรมทุกวัฒนธรรมมีจุดดีจุดด้อยและความแตกต่าง ความสนุกมันอยู่ตรงที่เราเรียนรู้โลกใหม่และเอาสิ่งที่ดีมาเก็บไว้ คือใครที่วันๆ เอาแต่อัปว่าเมืองนอกดีกว่าสารพัดอันนี้อ่านกันแล้วก็อยากจะให้ใช้วิจารณญาณดีๆ

เริ่มจากกลุ่มแรกที่จะเฉ่งคือบริษัทประเภทเทเลคอม ก็คือพวกโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตเนี่ยแหละ

สองปีก่อนเท้ามาแตะประเทศเยอรมนีครั้งแรก เราเซ็นสัญญาเน็ตกับ O2 ตั้งแต่อาทิตย์แรกที่มาถึง ในการนี้ บริษัทจะตัดเงินค่าเน็ตเราในเดือนถัดไป ช่วงประมาณวันที่ 15 ของทุกเดือน

จากวันที่เซ็นสัญญา (ราวปลายตุลา น่าจะ 20 ตุลาคม เพราะเราไปถึงวันที่ 14 ตุลาคม วันมงคลมาก 555) เราต้องรอนานทั้งหมด สิริรวมเกือบ 2 เดือน กว่าเราจะมีอินเทอร์เน็ตในที่พัก

เราเสียเวลาไปกับการรอของมาส่ง (เราเตอร์) ซึ่งนานมาก แบบมาไม่ตรงเวลาที่บอก และวันแรกที่บอกให้รอก็ไม่มา คือเราไม่ได้ไปเรียน ต้องนั่งรอ เออวันนี้ไม่มา พรุ่งนี้ก็รอต่อไป แบบนี้

ฉะ สองคือลุงที่จูนสายเน็ต ไม่มาสองรอบ ต้องโทรไปถามบริษัท บริษัทนอกจากเก็บเงินค่าโทรมาคุยเป็นนาทีแล้ว ยังบอกว่าช่วยไรไม่ได้ เค สรุปลุงมาจริงตอนเจ็ดโมงเช้าในเช้าวันนึง คือเช้ามากเราตกเตียงเลยตอนเขากดกริ่ง

ทั้งหมดทั้งปวงไม่มีอะไรเฮียเท่าตอนพยายามจะเลิกสัญญา คือเรารู้อยู่แล้วว่าทีนี้เลิกสัญญายาก เราก็ยอมจ่ายอินเทอร์เน็ตแพงเพื่อทำให้ในสัญญาเราสามารถเลิกสัญญาอินเทอร์เน็ตนี้เมื่อไหร่ก็ได้

ตอนไปเลิกเราพูดเยอรมันได้แล้ว เราก็คิดว่าคงง่าย

แต่ช้าก่อน ไม่มีอะไรง่ายดายในประเทศเยอรมนี คือสรุปไอ้หน้าร้านที่มีเอาไว้ให้คนเข้ามาเซ็นสัญญากับบริษัท ทำได้แค่นั้นแหละ บริการอย่างอื่นทำไม่ได้เลย

เราเลิกสัญญาไม่ได้ คืนของที่นี่ก็ไม่ได้ สรุปเราต้องไปเลิกสัญญาเองทางอินเทอร์เน็ตหรือส่งจดหมายไป แล้วเราก็ต้องส่งเราเตอร์กลับไปด้วยตัวเองอีก

ในการนี้ ระหว่างช่วงที่ถอดอินเทอร์เน็ตไปแล้ว และถึงแม้จะเลิกสัญญาไปแล้วในทันที แต่ในระยะเวลาสองเดือนหลังจากวันที่กดเลิกสัญญา อินเทอร์เน็ตก็ยังตัดบัญชีเราอยู่ดี ทางบริษัทยังทำใบตอบรับการเลิกสัญญาของเราลงวันที่ในเดือนสุดท้ายด้วย ซึ่งตอนนั้นเราโมโหนะเพราะช้ามาก แล้วคนเสียเงินคือเรา แต่ตอนนั้นก็เหมือนเอาเหอะ ช่วงนั้นยุ่งๆ ก็ผ่านไป

(มีต่อ)

436 Nameless Fanboi Posted ID:X/6.o9OlT

(ต่อจาก >>435 )

สองปีต่อมาเมื่อเดือนตุลา (ตุลาอีกละ ทมิฬมาก) อาทิตย์แรกของเดือนเลยเราเซ็นสัญญาอินเทอร์เน็ตใหม่เนื่องจากเราย้ายบ้าน ครั้งนี้เราเซ็นแม่งก่อนย้ายเข้าเลย กับ Telekom กะว่าในช่วงวันที่ย้ายจะต้องมีเน็ตแล้วแน่แน่

มาจนถึงวันนี้เรายังไม่มีอินเทอร์เน็ตและไม่รู้ว่าจะมีอินเทอร์เน็ตเมื่อไหร่ ทั้งหมดทั้งปวงไม่ใช่เพราะเราไม่มีเราเตอร์หรือไม่มีสายเคเบิลด้วย เพราะเราได้ซื้อทุกอย่างมารอไว้หมดแล้ว แต่ความล่าช้าของทางบริษัททั้งในเรื่องที่เราต้องรอจดหมายตอบรับ และต้องนัดวันให้คนมาติดตั้งสัญญาณ

ที่พีคสุดคือ ที่จริงหลังจากรอมานานมาก เราก็ได้คิวว่าเมื่อวานจะมีคนมาติดตั้งสัญญาณซึ่งเราต้องรออยู่ที่บ้านเพราะเค้าจะมาดูสัญญาณที่เสาตรงข้ามบ้านก่อน แล้วขึ้นมาดูว่าเน็ตในบ้านใช้ได้หรือยัง

เราตื่นมารอตั้งแต่ 8 โมง ไม่ไปมหาลัย ไม่ไปทำงาน ไม่ไปไหนทั้งสิ้น คือกะว่ามาสายแน่ๆ ก็เลยเผื่อเวลาไว้ให้ว่างทั้งวันไปเลย

ตอนเที่ยงมีคนโทรมา บอกว่าเป็นนักติดตั้งจากบริษัทนี่แหละ แล้วก็บอกว่าตอนนี้อยู่ที่หน้าบ้านแล้วแต่ติดตั้งอะไรไม่ได้ เราก็ตกใจถามว่าทำไมล่ะ เค้าก็บอกว่ามันมีการก่อสร้างที่ถนนหน้าบ้านและมีคนเอาห้องน้ำเคลื่อนที่ไปวางไว้หน้าเสาที่เขาจะต้องติดตั้ง เราก็ถามเขาว่านี่ไม่รู้เลยหรอ

สิ่งที่พีคมากคือนางตอบกลับมาว่าทางบริษัทรู้มาประมาณหนึ่งอาทิตย์แล้ว แต่ก็ไม่ได้แจ้งนางเหมือนกันทำให้นางก็มาเสียเที่ยวเหมือนกัน

อ้าว ไอ*** รู้ละทำไมไม่บอกกัน

ยิ่งไปกว่านั้นคือเราก็ถามว่าแล้วทำงัยอ่ะ นี่คือต้อรออีกไหม ต้องนัดใหม่ไหม ต้องส่งจดหมายอะไรอีกไหม คืนนี้กูต้องเริ่มทุกอย่างใหม่เหรอ ชาตินี้จะมีอินเทอร์เน็ตเมื่อไหร่จะได้เห็นหน้าครอบครัวก่อนปีใหม่ไหมอะไรแบบนี้

คำตอบคือนางก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ให้รอก่อนสรุปก็คือรอต่อไปจนกว่าจะได้รับการติดต่อนั่นเอง

ที่ทำให้เราโมโหมากเพราะเราเสียเวลากับเรื่องนี้พอสมควรและต้องลางานหรือไม่ไปมหาลัยก็เพราะเรื่องนี้ แถมการไม่มีอินเทอร์เน็ตก็ทำให้เราไม่สามารถทำงานบางอย่างในห้องได้ด้วย ต้องเข้ามหาลัยตลอดเวลา ยกตัวอย่างแบบง่ายง่าย จะสั่งหนังสือจากเว็บห้องสมุดก็ต้องเข้าไปมหาลัยทำเอง เพราะในมือถือเว็บมันแย่มาก คุยกับพ่อแม่ก็ไม่ได้เพราะจำนวนอินเทอร์เน็ตในมือถือทางเยอรมนีมีจำกัด (อันนี้เป็นความแย่อีกประการหนึ่งแต่เรื่องนี้เราจะยกไว้ชำแหละวันอื่น)

ทั้งหมดทั้งปวงนี้ เราไม่ใช่คนเดียวที่มีปัญหา เราถึงขั้นไปเสิร์ช เพราะเราอยากรู้ว่า มันเกิดกับเราคนเดียวหรือเปล่า ผลปรากฏว่าชาวโลกก็ได้รีวิวบริการการให้บริการทางเน็ตของเยอรมนีไว้ว่า service is shitty upto none existence เลยทีเดียว

ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง เพราะตอนนี้ดูท่าทางเหมือนกับว่าเราย้ายเข้าบ้านตั้งแต่ตุลาแต่เราจะมีเน็ตจริงๆในเดือนธันวาคม

โคตรจะแย่ และไม่ใช่สิ่งเดียวที่เป็นข้อลบของเยอรมนี เลยอยากจะเอามาให้ทุกคนได้อ่านดู ไม่อยากจะให้รู้กันแต่ภาพสถาปัตยกรรมสวยสวยที่คนถ่ายรูปมาลงตลอดเวลา คือการอยู่เมืองนอกจริงๆ มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

บ่นมาถึงเท่านี้ก็ต้องไปแล้ว เพราะเราต้องเซฟอินเทอร์เน็ตมือถือเอาไว้ใช้ยามจำเป็น ลาก่อน"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

437 Nameless Fanboi Posted ID:mEXZSMfKM

>>435 >>436
แก้ง่ายนิดเดียวครับ ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ว่าบริษัทเอาเปรียบเพราะไม่ใช่คนขาว บริษัทเหยียดผิว แค่นี้ทั้งเยอรมันก็วิ่งมาช่วยคุณแล้ว ทั้งสื่อและรัฐบาล

Kappa

438 Nameless Fanboi Posted ID:zgS3XUlyJ

>>435-436 เพื่อนกูที่เรียนอยู่เยอรมันก็บอกว่าถึงประเทศนี้ภาพลักษณ์จะดูระเบียบจัดแต่ก็มีอะไรเหี้ยๆแฝงอยู่เยอะ
อย่างเช่นรถไฟมาสายบ่อยมาก คือไม่เหี้ยระดับรถไฟไทย แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าประเทศที่ดูมีระเบียบวินัยจะเป็นแบบนี้
>>437 ทำเป็นเล่นไป อาจจะได้ผลจริงๆนะมึง 555

439 Nameless Fanboi Posted ID:I+Z7pJQ2I

ลองค้นหากลุ่มนักเรียนไทยในเยอรมนีดูนะ จะพบกับความบันเทิงเยอะมาก มียันเจ้าของบ้านเช่าโกงค่ามัดจำอ่ะ นิดๆหน่อยๆก็เอา แถมด่าลูกบ้านว่าผู้ก่อการร้ายอีกสัส5555 บางทีนี่มียันขอเลข3ตัวหลังบัตรเครดิตอีก

440 Nameless Fanboi Posted ID:ygotR9hS7

>>435-436 #สมเป็นประเทศด้อยพัฒนา ?

441 Nameless Fanboi Posted ID:UZg2ZuRcZ

เอาจริงๆความพยายามอย่างเดียวมันไม่พอหรอกน่า มันยังมีปัจจัยอื่นๆด้วยนะ

442 Nameless Fanboi Posted ID:GN0vIHqCu

>>435-436 เล่าซะ True เป็นบริษัทเทวดาเลยไอ้สัส

443 Nameless Fanboi Posted ID:kPqKA4X8.

>>442 อ่านเจอแบบนี้ละTOT ที่กูเกลียดมากที่สุดในประเทศไทยแม่งกลายเป็นผู้ทรงโปรดเลย ขอลิงค์มิตรสหายท่านนี้หน่อยมึง

444 Nameless Fanboi Posted ID:fDbfgqEvH

>>434 ได้มามันลดค่าใช้จ่ายได้ไง คือคนไทยส่วนใหญ่อาจจะไม่จนนะ แต่ปริ่มๆ จนน่ะเยอะมาก

กูนั่งรถเมล์บ่อยๆ เห็นประจำ แต่งตัวดูก็รู้ละว่าเป็นหนุ่มสาวออฟฟิศ รอนั่งรถเมล์ฟรีแม้มันจะมีน้อยก็เถอะ รถเสียตังค์ไม่ขึ้น

445 Nameless Fanboi Posted ID:PbDKkKCwL

เรารักธรรมศาสตร์ เพราะเบอนาร์ดสอนให้เรากินถั่ว

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

446 Nameless Fanboi Posted ID:GCtwH+cD9

"#แล้วทำไมพึ่งมาบอก!!!
😱😱😱😱😱😱😱😱

ซีม่าโลชั่น ห้ามทาสังคัง
ซีม่าครีม ทาสังคังได้
ซีม่า Zema คือ ยาจากบริษัทสามัคคีเภสัช ขึ้นชื่อลือชาด้านการใช้รักษาเชื้อราบนผิวหนัง
ปัญหาคือเรื่องเชื้อราในร่มผ้าสมัยก่อนๆ เรามีหลายตำแหน่ง เรื่องในร่มผ้าเราก็ไม่ค่อยกล้าพูดกัน
ดังนั้นเชื้อราในขาหนีบหรือที่เรียกว่าสังคัง จึงไม่มีคนบอกว่ารักษากันอย่างไร
ซีม่าโลชั่น เป็นตัวที่โดนโฆษณาเยอะในสมัยนั้น ดังนั้นคนจึงเอามาใช้รักษาสังคัง
ปัญหาคือซีม่าโลชั่น คือ Salicylic acid เป็นกลุ่มน้ำมันมวย การรักษาเชื้อราของยากลุ่มนี้คือการกัดผิวจนเชื้อไม่มีที่อยู่
ดังนั้นพอทาที่รอบไข่และจู๋ก็จะเกิดอาการแสบร้อนทุรนทุรายได้ บางรายก็หนังลอก ... เพราะความจริงแล้วยาตัวนี้เค้าสร้างมาไม่ได้ให้ทาไข่ แต่เอาไว้ทาเชื้อราที่เท้าเป็นหลัก

การใช้ยาทาไข่และอวัยวะเพศ ควรใช้กลุ่มที่ไม่กัดครับ ... ถ้าจะใช้ซีม่าก็ใช้ซีม่าครีม ซึ่งเป็นClotrimazoleจึงจะไม่แสบ"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

447 Nameless Fanboi Posted ID:ayHUOpT85

แต่ซีม่าก็ยังไม่ช่วยให้ลิ้วพูลหายกากนะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

448 Nameless Fanboi Posted ID:/EloIFX4L

“ใกล้ๆ หมดเทอม พวกอาจารย์มหาลัยที่ตรวจข้อสอบเสร็จแล้ว น่าจะแต่งเพลง "คุกกี้เสี่ยงไทร์" พร้อมมิวสิกวิดีโอประกอบ”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

449 Nameless Fanboi Posted ID:eNng6xB.y

“โลกการศึกษาเราแม่ง static สัส แต่ที่เปลี่ยนตลอดคือ....ค่าเทอม”
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

“อาจารย์บอกว่า Text editionใหม่ อย่าไปซื้อ เนื่อหามันเปลี่ยนไป ไม่ตรงกับที่ครูสอน 555555”
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

450 Nameless Fanboi Posted ID:oUpmkx3y3

เก็บน้ำตาไว้เยอะๆ มีที่ให้ใช้ มีคนที่เหมาะจะใช้ด้วยแน่นอน อย่าเสียเวลาฟูมฟายกับอะไรวันนี้ขนาดนั้น
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

451 Nameless Fanboi Posted ID:3NbrnctTT

ต้องลงท้ายด้วยมิตรสหายท่านนึงเพราะกลัวเมียเห็น
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

452 Nameless Fanboi Posted ID:zmWplOzSR

"I hate conservatives, but I really fucking hate liberals"
-A Certain Radical Centrist-

453 Nameless Fanboi Posted ID:ExZTjz4lc

>>452 กูก็เกลียด(เป็นบางคน)จากทั้งสองฝั่งนั่นแหละ อะไรที่มันเยอะเกินก็น่าเบื่อ
#กูเอง

454 Nameless Fanboi Posted ID:hyyWwQsMg

การบอกว่าความเห็นส่วนตัวไม่ใช่การเปิดบาเรียให้คนอื่นวิจารณ์คุณไม่ได้นะเออ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

455 Nameless Fanboi Posted ID:X3k2XE/uc

"คือขึ้นศาลทหารนี่มันควรจำเพาะไว้ที่การทำผิดทางวินัย หรือ เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ทหารโดยแท้อ่ะฮะ นี่พี่ดันทุกคดีที่ทหารทำเข้าไปหมด โคตรมาเฟียอ่ะ ขนาดตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทำผิด กลายเป็นคดีผู้มีอิธิพล คดีซับซ้อน เค้ายังต้องส่งให้ ดีเอสไอ ทำแทนเลย"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

456 Nameless Fanboi Posted ID:A9ko/XkCK

แพทย์ทำผิดก็ส่งเข้าแพทย์สภา
#มิตรสหายดราม่าท่านนึ่ง

457 Nameless Fanboi Posted ID:KLR128iOd

มีความรู้สึกว่าทหารมันปัญญาอ่อนขึ้นเรื่อยๆ เพราะไทยไม่ได้รบมาหลายสิบปีแล้วอ่ะครับ พวกห่านี่แม่งไม่ได้มีประสบการณ์อะไรในสนามรบจริงๆ ดีแต่เห่าใส่พลเรือนไปวันๆ

ถ้าแม่งเคยออกรบบ้าง มันอาจจะได้ซาบซึ้งถึงข้อมูลตัวนึงแล้วน่าจะเห็นลูกน้องเป็นคนมากขึ้นและไม่พล่ามอะไรโง่ๆ แบบนี้อ่ะครับ

ข้อมูลนั้นคือ "สาเหตุการตายในสงครามของทหารระดับสั่งการ อันดับหนึ่งคือโดนลูกน้องฆ่า"

มิตรสหายฯ

458 Nameless Fanboi Posted ID:+QjOHxq5i

>>457 มิตรสหายท่านนี้อ่านแขนกลคนแปรธาตุเยอะไปหน่อยไหม

459 Nameless Fanboi Posted ID:KLR128iOd

สมัยเด็กๆ การโพสด่าดารา BoyBand กับยกย่องวงร็อกถือเป็นเรื่องปกติ

แต่พอมองย้อนกลับไป D2B นี่ถือว่าเป็นบอยแบนด์ วงดนตรี ศิลปิน กับ คอมมูนิตี้ ที่สมบูรณ์แบบสุดแล้ว เป็นสิ่งที่ RS กับค่ายไหนๆไม่สามารถปั้นขึ้นมาได้เป็นครั้งที่ 2 ทั้ง

- ความสมบูรณ์ของสมาชิก 3 คนเข้ารวมกัน
- ตัวเพลงที่เพราะเป็นอมตะ
- สมาชิกที่มากความสามารถทั้งร้องเพลง เต้น การแสดง การแต่งเพลง เล่นเครื่องดนตรีได้หลายอย่าง เป็นพิธีกรที่เป็นธรรมชาติมาก
- ความสัมพันธ์เหมือนพี่น้องของสมาชิกในวง แม้จะตายจาก ก็ยังมีระลึกอยู่เสมอ แม้จะย้ายค่าย ต่างค่าย ทำงานต่างกัน ก็ยังหาโอกาสมาเจอกันร่วมงานกันเสมอ
- สมาชิกทุกคนทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดี ข่าวซุบซิบน้อย ข่าวฉาวเรียกได้ว่าแทบไม่เจอ โดยเฉพาะพี่บีม ถือเป็นดาราดังที่ประวัติเรียกว่าคลีนมาก
- ความสัมพันธ์ระหว่างแฟนคลับกับครอบครัวสมาชิกวง ที่หาได้ยาก ที่แม้สมาชิกวงจะเสียชีวิตไปแล้ว แฟนคลับก็ยังคงไปมาหาสู่ ช่วยเหลือดูแลพ่อแม่ของสมาชิกวงดุจครอบครัวเดียวกัน
- ความเหนียวแน่นของแฟนคลับ ที่จัดคอนเสิร์ต 2 รอบ ตั๋วหมดทันทีที่เปิดจอง กับวงมีบารมีสูงระดับไม่มีแขกรับเชิญเลย เรียกว่าหาได้ยากมากในการจัดคอนเสิร์ตใหญ่

จากอดีตแอนตี้ ตอนนี้ต้องเรียกได้ว่ากลายเป็นคนที่ติดตามอย่างเหนี่ยวแน่น สะสมแผ่น D2B / Dan Beam แถมยังตามข่าวผลงานตลอดแทนแล้ว

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

460 Nameless Fanboi Posted ID:hcGKB4fqj

"เปิดประสบการณ์ใหม่เหนือระดับกับ BTS ที่เพิ่งขึ้นราคา วิ่งๆ หยุดไฟดับหยุดเฉย แอร์ก็ดับ อากาศไม่ค่อยมี แต่เสือกมีเสียงโฆษณาที่ไม่หยุด นี่เสียงโฆษณาเมิงใช้แหล่งจ่ายไฟจากไหน หรือว่าเงินที่ขึ้นราคาเมิงเอามาพัฒนาอันนี้ น่าจะจำเป็น ยังชีพด้วยระบบเสียงโฆษณา ขอให้ Shareholders BTS ร่ำรวยและรุ่งเรือง เช่นเคยนะครัช #BTS"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

461 Nameless Fanboi Posted ID:RmAXnJ0d5

>>459 ถุย มิตรก็อวยเกินไป ส่วนหนึ่งที่ศิลปินโดนแอนตี้ก็เพราะแฟนคลับอวยจนเพ้อนี่แหละ

462 Nameless Fanboi Posted ID:kzzi9mF7o

เอาจริงๆเรื่องซ่อมทหารโหดๆนี่มีมาตั้งแต่อยุธยาแล้วนะ
ทหารไทยแม่งกลัวพระนเรศวรมากกว่ากลัวพม่าอีก คือกูโดนพม่าแทงตายคาสนามรบ ดีกว่าหนีทัพแล้วโดนจับมาทรมาณจนขาดใจตายอะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

463 Nameless Fanboi Posted ID:x6XqXrTZp

มึงไม่สู้ศตรูแล้วมึงจะเข้ากองทัพมาเปลืองเสบียงทำไมวะ

เรื่องที่กูอ่านแล้วว่าโหดสุดคือ กองทัพโรมันที่ปราบสปาตาคัส ตอนแรกมีทหารหนีทัพ แล้วแม่ทัพ จับกองที่หนีทัพมาจับฉลาก 1:5 แล้วคนซวยจะโดนเพื่อนเอาท่อนไม้ตีจนตาย

คิดดูว่าไอ้ที่โดนตีตายอาจจะกล้าหาญสุดไม่หนีด้วยซ้ำ คนที่เหลือมันจะอับอายมากที่ทำให้เพื่อนตาย แต่หลังจากนั้นไม่มีใครกล้าหนี

464 Nameless Fanboi Posted ID:ds9EoZ8ev

ของโรมันมัน 1/10 โว้ย เป็นที่มาของคำว่า decimate

"แต่หลังจากนั้นไม่มีใครกล้าหนี"
กูขำ

465 Nameless Fanboi Posted ID:TaiiinrKO

เฉพาะกองนั้นเว้ย
สมัยนั้น มันเป็นนายทุน,เป็นเจ้าของกองทัพเอง

466 Nameless Fanboi Posted ID:TaiiinrKO

แล้วมึงคิดว่าหนีได้เหรอวะ ถ้ามีคนเตรียมหนี เพื่อนๆแม่งลอคไว้แล้วเพราะเดี๋ยวโดนจับสลากอีก

467 Nameless Fanboi Posted ID:QK24hYUTt

>>457 อ้างอิงจากไหนวะ FMA?

468 Nameless Fanboi Posted ID:TE+ZRUs3A

im not gay, but my boyfriend is.
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

469 Nameless Fanboi Posted ID:bhcGotBFy

>>468 น่าเอาไปทำลายเสื้อ ให้คนเอาไปใส่เดินเที่ยวกับแฟน

470 Nameless Fanboi Posted ID:KuOeVqfy8

หมามันฉี่รดเสาไฟฟ้า เพื่อครอบครองเสาไฟฟ้าต้นนั้น
แต่ต่อให้ฉี่รดทุกวี่วัน หรือพยายามฉี่แค่ไหน
เสาไฟฟ้า ก็เป็นของหลวงอยู่ดี

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

471 Nameless Fanboi Posted ID:4ZE0MTLHp

คือ อยากรู้ว่า BNK 48 แล้วจริงๆคืออะไร

เลยไปดูหลักการคิดงานของเค้า แฟนคลับ และอื่นๆ

ดูไปดูมา ไอ้สัสเริ่มอิน...ทนเห็นเด็กผู้หญิงร้องไห้ไม่ค่อยได้

😂😂😂😂😆😆😂😂😂😂😂

ฟังไป ฟังมา กูเริ่มโอนิกิริตาม

มือฟาดโต๊ะ55555555555555555555555

ปล. เสื้อแบบน้องๆหาซื้อที่ไหน จะหาให้เมียใส่

😳😳😳😳😂😂😂😂😂😂😂

472 Nameless Fanboi Posted ID:yY/gSGJCW

>>471 แล้วก็จะมีทู้พันทิป แฟนติดไอดอล อยากเลิกกับแม่ง

473 Nameless Fanboi Posted ID:kq7ViuF7+

>>472 ปรึกษาหน่อยค่ะ สามีเปย์ให้ไอดอลเหมือนเปย์ให้เมียน้อยเลย ควรจะรู้สึกยังไงดีคะ

474 Nameless Fanboi Posted ID:2GvWq9ubc

ก่อนกลับบ้าน แวะถามร้าน Breadtalk ว่า เค้กตัวที่เราชอบหมดแล้วหรือ

'หมดแล้วค่ะ ลูกค้า'

เดินออกแทบไม่ทัน

แม่งจะจิกกบาลเรียก'ลูกค้า' ทำไม ไม่มีความจำเป็นเลยสักนิด ในปริบทนี้

ที่จริงฉันมีมุขใหม่เอี่ยม เวลาถูกเรียก'ลูกค้า'

ฉันจะบอกเนียนเนียนว่า'ดิฉันอาชีพอาจารย์ ไม่ใช่อาชีพลูกค้า'

แต่ยังใช้มุขนี้ไม่คล่อง เพราะจะเสียอารมณ์ก่อน ตอนถูกเรียก ทุกที

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

475 Nameless Fanboi Posted ID:T9edmaIWc

>>474 ไม่ให้เรียกลูกค้า แล้วให้เรียกอะไรว่ะ? แล้วคนขายจะตรัสรู้มั้ยว่ามีงทำอาชีพอาจารย์ งงในงง??

476 Nameless Fanboi Posted ID:KY5f/getb

>>474 อยากเย็ดหีอาจารย์แบบร้องร.หรรรหีบรรเจิดเลยครับ

477 Nameless Fanboi Posted ID:3Kl/th.zt

"สัส เพิ่งนึกออกว่าถ้าพูดกันตามนิยามของ "Sharing Economy" ว่าแม่งคือธุรกิจที่แม่งเกิดจากการเห็นทรัพยากรห่าอะไรวางอยู่เฉยๆ ว่างๆ ก็เอามันมา "ให้เช่า" เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว "กะหรี่" นี่แม่งน่าจะเป็น Earliest Form of Sharing Economy เลยนะ"

#มิตรสหายท่ายหนึ่ง

478 Nameless Fanboi Posted ID:Tsc0HvfiD

>>477 กูนึกว่าที่ดินตามระบบศักดินา

479 Nameless Fanboi Posted ID:GSBqse4+m

ไม่เกี่ยวกัน..เพราะเกมส์การด์มันมีemotionที่ต่างกัน เราไม่สามารถเอาของสะสมมาเป็นของเล่นได้
ถึงแม้นถ้าเราชอบbnkแทบตาย แต่เราก็ไม่สามารถเอาความรักไปทำการbattleได้เพราะมันไม่สนุกที่เห็นสิ่งชอบถูกเอาไปจัดระดับหรือเทียบกับskillของการ์ดใบอื่นซึ่งมีทั้งสมหวังและผิดหวัง

เพราะมันเป็นอารมณ์ชั่ววูบไงล่ะครับ เพราะพวกเขาต้องการความรักที่เป็นนามธรรมให้กลายเป็นรูปธรรมมากขึ้น
โดยส่วนตัวคิดว่าผมคงไม่อยากเอาลูกไปเปรียบเทียบผลการเรียนรูปร่างหน้าตากับลูกคนอื่นและก็ไม่อยากเอาลูกไปตีกับเด็กอื่นที่หน้าคล้ายลูกของเราโดยเหตุสมมุติ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

480 Nameless Fanboi Posted ID:oAHRRzBJz

"สังเกตว่า ผู้ชายในบทของกฤษณา เป็นเหมือน resource หรือ achievement ของผู้หญิงเสมอ ทั้งๆ ที่ผู้ชายนี่แหละที่เป็นคนก่อปัญหา เป็นคนสร้างปมขัดแย้งในเรื่อง ทุกเรื่องเลย แต่ผู้ชายไม่ตาย ไม่โดนลงโทษ ผู้ชายมักจะกลับมาหาฝ่ายนางเอก เพื่อบอกว่านางเอกชนะ มาเป็นรางวัลแห่งความดีของนางเอก บางครั้งมองนิยายของกฤษณาไม่ใช่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ แต่เป็นการห้ำหั่นกันใน career path (การมีผัว) ของผู้หญิงสองคน ที่คนนึงเลือกวิธีสุจริต คนนึงเลือกจะโกง และคนโกงในเกมที่ monogamy เป็นกติกาสมควรตายตามความคิดของกฤษณา"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

481 Nameless Fanboi Posted ID:qVpWBJCMw

น่าคิด
“การที่เคยเรียนทันตแพทย์แล้วลาออกมาทำงานเขียน มีคนมาชื่นชมเยอะ ‘เก่งมาก ทำตามความฝัน!’ แต่ผมเฉยๆ นะ คุณไม่รู้หรอกว่าเบื้องหลังคือความเห็นแก่ตัว ตอนยังไม่ได้งาน แม่บ่นว่าเหนื่อยกับงานธนาคาร ผมถามไปว่า ‘แม่ชอบทำอะไร’ เขาบอกว่า ‘แม่มีความสุขกับการได้จัดสวน’ ผมถามต่อว่า ‘ทำไมไม่ลาออกมาล่ะ’ สิ่งที่แม่ตอบคือ ‘ต้องทำงานธนาคาร เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงลูกไง’ จุกฉิบหาย ถ้าแม่ทำตามฝันมาจัดสวน เขาจะเอาเงินที่ไหนมาให้ผมตามฝันวะ ผมมีเพื่อนคนนึงที่บ้านทำอาชีพค้าขาย ไม่ได้มีเงินมาก เขาเกลียดทันตแพทย์ แต่ตอนนี้เรียนจบแล้ว เนื่องจากพ่อป่วยเป็นมะเร็ง เพื่อให้พ่อได้รับสวัสดิการ และในอนาคตก็เพื่อแม่ เขาตัดสินใจอยู่โรงพยาบาลรัฐบาล ยอมอยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบ คนแบบนี้น่าเคารพกว่าผมอีก คำพูดว่า 'ทำตามความฝันสิ!' มันไม่ใช่แค่สิ่งที่เห็น แต่ชีวิตจริงมีอะไรมากกว่านั้น”

482 Nameless Fanboi Posted ID:6/qzkXYPT

นี่ยังดู ละครไทยอีกหรอ เขามี NetFlix แล้วรู้ยัง
หนังออนไลน์ก็มีนะ
แมงป่องกับบูมเมอแรง ก็ลดราคาหนังราวกับแถมฟรี

นี่ยังดูละครไทยอีกหรอ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

483 Nameless Fanboi Posted ID:yPKIcR6Zy

งบประมาณไทยก็เหมือนพ่อแม่ให้เงินลูก

พ่อแม่ให้เงินลูกไปโรงเรียนวันละ100บาท ในวันนึงลูกใช้กินอย่างมาก70บาทก็อิ่มแล้ว ตอนเย็นก็เอาเงินมาคืนพ่อแม่30บาท

วันรุ่งขึ้นพ่อแม่เลยให้ลูกไปแค่70บาท เพราะถือว่ากินแค่70บาทก็พอแล้ว

ส่วนลูกพอรู้ว่าพ่อแม่ตัดเงินเหลือ70บาท ก็เลยต้องโกหกพ่อแม่ว่ามีค่าใช้จ่ายนู่นนี่อีกเพื่อที่จะได้เงิน100บาท/วันกลับมาเหมือนเดิม

#มิตรรักเด็กประถม

484 Nameless Fanboi Posted ID:fMY.54FCg

***เตือนภัยค่ะ ใครไปโซนธนาคารชั้น 4 MBK ระวังกันด้วยนะคะ***

เรื่องมันมีอยู่ว่า เราได้นัดเจอกับเพื่อนและน้องที่ MBK ซึ่ง เพื่อนกับน้องที่มาถึงก่อนได้ลงไปกดเงินที่ชั้น 4
ระหว่างที่เพื่อนกดเงิน น้องก็ปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำ เดินออกมาอีกที เพื่อนเราหายค่ะ หายไปแบบติดต่อไม่ได้เลย!!! น้องจึงรออยู่แถวๆบันไดเลื่อนไปก่อนเผื่อเพื่อนเราเดินกลับมา //ตอนนั้น 13.19น.

เราไปเจอน้องตอน 13.35น. เพื่อนเราก็ยังไม่โผล่มา แถมโทรไปก็ไม่รับ.....ตอนนั้นคิดว่าติดธุระเลยไปเดินเล่นกับน้อง จนกระทั้ง 13.55น. เพื่อนส่งMessengerมาบอกว่า - ช่วยด้วย โดนลากมาขายคอร์ส - ถามไป ถามมาได้ความว่า อยู่ที่ร้าน แถว AIS เรากับน้องเลยรีบไปหา

พอลงไปถึงชั้น 4 ก็เดินตามไปที่บอก ซึ่งก็เจอร้านหลายร้าน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าร้านไหน เพราะที่หน้าร้าน เราไม่เห็นเพื่อนเราเลย จะว่าอยู่ในห้องก็ไม่น่าใช่ เพราะปกติแล้วร้านพวกนี้ จะไม่ให้เข้าห้อง ถ้าเราไม่ได้เข้าไปรับบริการ ส่วนใหญ่มักให้นั่งฟังโปรฯที่หน้าร้านมากกว่า....ซึ่งเรากับน้องก็วนเวียนมองหาเพื่อนอยู่หน้าร้านแหละค่ะ ระหว่างนั้นก็พยายามส่งข้อความหา และโทรไปด้วย //ซึ่งก็มีทั้งโทรไม่ติด และตัดสายอีกด้วย

คือเรากับน้องเดินวนจน พนง.ร้านหนึ่งเดินออกมาถามว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า//เหมือนรู้เลย// น้องเลยถามหาเพื่อนค่ะ แต่เค้าบอกว่าร้านเค้าไม่มีนะ//ตัดไปได้ 1 ร้าน

เรากับน้อง เดินวนอีกซักพัก ก็เห็นเพื่อนเราเดินออกมาจากห้องที่อยู่ด้านหน้าสุดค่ะ//เป็นห้องทึบ ที่มองเห็นแค่ประตูจากข้างนอกร้าน ตอนนั้นเวลา14.10น.

จากนั้นก็เกิดการซักพยานค่ะ เพื่อนเราตอบว่า
ตอนที่กำลังกดเงินอยู่ที่ตู้ATM -เค้าก็เค้ามาถามว่า เป็นลูกค้า kbank หรือป่าว เค้าจะขอโปรโมท แบรนด์ ขอเวลา 2 นาทีค่ะ - เพื่อนก็คิดว่า เค้าเป็นพนง.ของแบงค์ เลยตกลงแล้วตามเค้าไป แต่ก็เริ่มตงิดใจเพราะโดนพาเข้าไปในสถาบันเสริมความงาม แต่ยังคงติดว่าเค้าเป็นพนง.ของแบงค์อยู่

พอเข้าไปในร้าน เพื่อนเราโดนพาเข้าห้องเลยค่ะ ปิดประตูเสร็จสรรพ//เป็นห้องทึบที่คนข้างนอกไม่สามารถมองเห็นข้างในได้ค่ะ แล้วก็ชวนคุยว่าทำงานอะไร ใช้บัตรเครดิตของที่ไหน มีกี่ใบ
ใช้จ่ายยังไง ใช้อันไหนบ่อย คุยไปซักพัก ก็ขอดูบัตรเครดิต เพื่อนเรายังคิดอยู่ว่า เค้าเป็นพนง.แบงค์K มาสำรวจเรื่องบัตรก็ตอบไปว่า ไม่ได้เอาบัตรของK มาด้วย มีแต่ของแบงค์S แล้วก็มี พนง.คนใหม่นี่เข้ามาเซลคอร์สทันที......//คนเก่าสลับออกไป

พนง.คนใหม่นี่พยายามจะขายคอร์สอย่างเดียวเลยค่ะ ไม่ยอมให้ปฏิเสธด้วย เพื่อนบอกไม่เอา ไม่ซื้อก็พยายามหว่านล้อมลดราคาให้อีก จะให้ซื้อให้ได้ เพื่อนเราเห็นเค้าอ้างว่าโปรฯใช่ได้กับของธนาคารโน้น เลยบอกว่ามีบัตรของอีกธนาคาร จะใช้ได้ไหม กะให้เค้าออกไปถามแล้วจะชิ่งออกไปด้วย...

แต่พนง.บอกว่า ขอบัตรด้วย จะเอาไปถามหัวหน้าให้ว่าใช้ได้ไหม เพื่อนเลยให้ๆไป ตัดปัญหา กะลุกตามออกไปด้วย พร้อมบอกว่า ยังไงไม่เอา ไม่ซื้อนะ เค้าเลยหันกลับมากล่อมต่อพร้อมนั่งขวางประตูไว้ค่ะ เพื่อนเราก็บอกแล้วนะคะว่าไม่ทำ ไม่ซื้อ กำลังรีบ มีนัด พนง.โต้มาว่า -ถ้าน้องรีบจริงน้องไม่เดินเข้ามาหรอก- //คือ คุณบอกว่า ขอ 2 นาที แต่นี่มันเกือบชม.แล้วไงคะ มันอ้างได้หรอ?

ตอนที่เพื่อนพิมพ์ข้อความมาหาเราว่าให้มาช่วยหน่อย พนง. มีการถามด้วยนะคะว่าคุยอะไรกับใคร เพื่อนก็ตอบไปตามตรงคะว่า คุยกะน้องกับแฟน เค้ารอเจ้าตัวอยู่ค่ะ พนง.ก็ยังไม่เลิกขายของนะคะ

พอเพื่อน นั่งลง พนง. ก็พยายามกล่อมต่อค่ะ จนกลับมานั่งข้างๆ เหมือนเดิม เพื่อนเลยขอบัตรคืนค่ะ แล้วรีบลุก เปิดประตูออกมาเลย..... จังหวะนั้นแหละค่ะ ที่เราเห็นเพื่อนเดินออกมาจากห้อง

-----------------------------------------

คือเราเข้าใจนะคะ ว่าคุณต้องการโปรโมท ขายของ แต่คุณมีสิทธิอะไร เอาเพื่อนเราไปขังไว้ในห้องปิดประตูขนาดนั้นค่ะ

คุณอ้างว่า ถ้าเพื่อนเรารีบ คงไม่ตามมา แต่คนของคุณขอเวลาเพื่อนเราแค่ 2 นาที ไม่ใช่เกือบชั่วโมงอย่างงี้ค่ะ

ความจริง เพื่อนเราก็ผิดด้วยที่เกรงใจ ไม่เด็ดขาดพอ แต่เค้าก็ไม่ควรเจอเหตุการณ์อย่างนี้รึเปล่าคะ

เราว่าเหตุการณอย่างนี้ มันอันตรายมากเลยนะ โดนจับเข้าไปอยู่ในห้องปิดทึบ กับใครไม่รู้ 2 ต่อ 2 เนี่ย น่ากลัวมากเลยนะคะ ไม่ว่าใครก็ไม่ควรเจออย่างนี้ค่ะ เราเลยมาบอกเล่าแชร์กัน จะได้ระวังกันนะคะ

ปล. เหมือนร้านนี้ จะทำอย่างนี้เป็นปกติค่ะ น้องอีกคนก็เคยโดน แต่ไม่ถึงขนาดโดนพาเข้าห้องค่ะ คุยอยู่หน้าเคาท์เตอร์เท่านั้นเอง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

485 Nameless Fanboi Posted ID:xlMG7aAhG

ขอความเห็นหน่อยครับว่าทำไมกลุ่มหนังโป๊ถึงไม่ค่อยมีคนทะเลาะกัน หนังโป๊ก็มีหลายค่ายแท้ๆ
ทีหนังฮีโร่มี 2 ค่ายยังทะเลาะกันเลย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

486 Nameless Fanboi Posted ID:ul7L8O/+G

>>485 เพราะนักแสดงหนังโป้เล่นค่ายไหนก็ไม่ต่างกัน ต่างกันแค่จะเล่นแนวที่ทำให้มึงแจ๊งเขียวหรือเคียวห่วย

487 Nameless Fanboi Posted ID:iuJm0bZXJ

"พี่ตูนวิ่งมาพักที่คิงพาวเวอร์ เพราะคิงพาวเวอร์เป็นหนึ่งในสปอนเซอร์หลักในการวิ่งครั้งนี้ (ไม่ใช่แค่บริจาค แต่เข้าใจว่าช่วยจ่ายค่าดำเนินการหลายๆ อย่างให้ด้วย)

ก็ตลกร้ายดีนะครับ บริษัทชื่อฉาวมีข่าวเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่นเอาเงินมาทำเรื่องแบบนี้ พี่ตูนก็รับมาวิ่งแบบ naive ต่อไป"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

488 Nameless Fanboi Posted ID:E1scowrPH

“เฮ่อคนใต้ชื่อสุรินทร์ คนเหนือเสือกชื่อทักษิณ”
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

“คนอีสานชื่อประจวบ”
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

“คนประจวบชื่อพะเยาว์”
#มิตรสหายอีกท่านสอง

489 Nameless Fanboi Posted ID:rn0iUMck0

"วันนี้ขอเสนอสุภาษิตไทย ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง หมายถึง คนที่ไปด่าคนอื่น แต่ตัวเองกลับเป็นเช่นนั้นเสียเอง
ตัวอย่างเช่น โอตาคุคนหนึ่งไปด่าชาวนาว่า ได้เงินมาก็เอาเงินไปเล่นการพนันจนหมดตัว เพราะอย่างนี้ถึงไม่หายจากความจนเสียที แล้วตัวเองก็หันกลับมาเอาเงินไปเติมเกมกาชาต่อ ทำให้เดือนนี้เงินไม่พอใช้ เป็นต้น"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

490 Nameless Fanboi Posted ID:W.oRewK9m

>>489 คุที่มีเงินไปใช้ไร้สาระขนาดนั้นเงินมันยังเหลือ แต่ชาวนานี่เงินมันเหลือมั้ยล่ะ

491 Nameless Fanboi Posted ID:YJozfp9L2

>>490 ไม่ใช่ทุกคน

492 Nameless Fanboi Posted ID:2T7vpoCYc

>>490 คุมันใช้เงินตัวเองที่ไหน เงินพ่อแม่ทั้งนั้น

493 Nameless Fanboi Posted ID:J4hpHfZFi

>>490 และชาวนาบางคนก็รวยมากด้วย

494 Nameless Fanboi Posted ID:rDo++1wqk

ชาวนาที่รวยไม่ใช่ชาวนา แต่เป็นลูกหลานชาวนาที่เอาที่ของบรรพบุรุษไปขายจนรวยตะหาก

495 Nameless Fanboi Posted ID:rtDfhdZaJ

"ขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขที่มอบเงินบริจาคให้พี่ตูนเพื่อที่พี่ตูนจะได้นำเงินบริจาคไปมอบให้กระทรวงสาธารณสุขอีกที"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

496 Nameless Fanboi Posted ID:4b0.zdkVJ

“น้องสาวข้อความมาระบายเรื่องการ sexual harassment ในโรงเรียนชั้นมัธยม

เพื่อนชายร่วมชั้นหลายคนแอบถ่ายรูปหน้าอกนักเรียนหญิงทีเผลอ บางคนติดกล้องแอบถ่ายในห้องน้ำ เด็กสาวทั้งชั้นปีตื่นตระหนกเพราะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นหนึ่งในเหยื่อหรือไม่

ร้ายยิ่งกว่า เมื่อเรื่องถึงหูรองผู้อำนวยการ แทนที่ผู้ก่อเหตุจะถูกพิพากษา กลายเป็นนักเรียนหญิงถูกเรียกไปอบรม ให้รักงวนสงนตัว ติดกระดุมให้มิดชิด หากฝ่ายปกครองตรวจพบว่าใส่กระโปรงสั้น ไม่ติดกระดุมจนชิดคอ "จะถือว่าให้การสนับสนุน" ยอมให้ตัวเองถูกแอบถ่าย พร้อมย้ำให้เอาตัวออกห่างจากเพื่อนชายทุกคน

เธอทำอะไรไม่ได้ สาวน้อยได้แต่ตั้งคำถามอยู่คนเดียวว่าเหตุใด เหยื่อจึงกลายเป็นผู้รับผิด

หมดคำจะผรุสวาท”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

497 Nameless Fanboi Posted ID:Q7DOtRC/G

>>495 เงินบริจาคจากบุคลากรในกระทรวง ไม่ใช่จากกระทรวง

498 Nameless Fanboi Posted ID:bdfHZr0zM

"อาจจะมีคนสงสัยว่า โพสต์เมื่อกี๊แอดมินพูดเรื่อง #การลงโทษเกย์ ตามที่ระบุไว้ในกุรอานและหะดีษ เพื่ออะไร?
ต้องการให้มุสลิมลุกขึ้นมาลงโทษเกย์ยังงั้นเหรอ?

แน่นอน, คำตอบย่อมต้องเป็น "ไม่ใช่"

สิ่งที่แอดมินต้องการก็คือ การยอมรับความจริง
เพราะทุกวันนี้เวลามีข่าวเกี่ยวกับการลงโทษเกย์ ไม่ว่าจะโดยรัฐชาติที่ใช้กฎหมายชีรีอะห์ หรือโดยกลุ่มหรือขบวนการอิสลามที่ปกครองพื้นที่บางพื้นที่ ก็มักจะมีคนพูดแก้ต่างในลักษณะที่เป็นการโยนความผิดให้กับตัวบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ไม่ว่าจะกล่าวโทษไปที่วิธีคิดหรือการตีความของคนเหล่านั้น
("แก้ต่าง" ที่ว่านี้ก้คือแก้ต่างให้อิสลาม ว่าอิสลามไม่มีปัญหาเรื่องนี้)

คำถามก็คือ ในเมื่อบทบัญญัติทางศาสนา ทั้งในกุรอานและหะดีษ กล่าวถึงการลงโทษไว้ชัดเจนขนาดนั้น จะถือว่าเป็นแค่ปัญหาเกี่ยวกับวิธีคิดหรือการตีความของมุสลิมบางกลุ่มได้อย่างไร?

ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับบทบัญญัติเหล่านั้น แต่เราควรยอมรับก่อนว่ามีบทบัญญัติที่ว่านั้นอยู่จริง

และเมื่อมาถึงตรงนี้ เราอาจมีทางเลือกแค่เพียง 2 ทาง เท่านั้น
คือ 1. ยอมรับว่าบทบัญญัติของอิสลามมีปัญหา ซึ่งรวมถึงตัวกุรอานเอง หากเราสนับสนุนสิทธิเกย์

หรือ 2. ยืนยันว่าบทบัญญัติถูกต้อง และสนับสนุนหรืออย่างน้อยก็ไม่ต่อต้านการลงโทษเกย์ ซึ่งอาจรวมถึงการลงโทษประหารชีวิต ขึ้นอยู่กับว่าเราจะยืนยันเฉพาะกุรอานหรือยืนยันหะดีษด้วย

หรือเราจะมีทางเลือกที่ 3 ?
อันนี้อาจจะต้องช่วยกันขบคิด

แต่สารภาพตามตรง เท่าที่นึกออกตอนนี้แอดมินยังมองไม่เห็นทาง"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

499 Nameless Fanboi Posted ID:GMsdRJ.NR

ข้อความในนิตยสาร TIME ฉบับนี้ยังเขียนถึงคนที่มองว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ ไร้อำนาจ ดังนั้นการถูกล่วงละเมิดทางเพศจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร โดย TIME แนะนำว่า

“อันดับแรก ให้หุบปากซะ หลังจากนั้นให้รู้ไว้เถอะว่า ผู้หญิงทุกคนที่อยู่รอบตัวคุณเขาแข็งแกร่ง กล้าหาญ และสมควรอย่างยิ่งที่จะให้เกียรติและได้รับความเคารพ”

#มึงไปพูดในรัฐมุสซี่นะไอ้สัส

500 Nameless Fanboi Posted ID:BzNxj/o5w

ทุกวันนี้เหมือนคนทำถูก กลายเป็นโง่ หยุดรอไฟแดง ไม่ฝ่ากลายเป็นโง่ คนทำผิดเริ่มไม่อายแถมยังกระแหนะกระแหนคนที่ทำถูก ชวนกันหาทางเลี่ยงบาลี
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

501 Nameless Fanboi Posted ID:3wXMSXwTx

The rule of thumb is if it can be said simply, to say it simple without bogging it down with words you flip through the thesaurus for...

Or rather:

Eloquently demonstrating the nuance of discrete verbage permeates the naisant desire to convey cognitive pragmatisms in one's craftsmanship

502 Nameless Fanboi Posted ID:bdfHZr0zM

หาเกมเบาสมองเล่น สรุปไม่เบาสมองว่ะ 5555 เริ่มต้นเกมจะให้เราสุ่มเกิดบนโลกนี้ สุ่มเพศให้ แต่พอโตขึ้นแล้วสามารถเลือกได้ว่าเพศสภาพเราเป็นแบบไหน ชอบทำงานอะไร เข้าเรียนมั้ยหรือโดดไปสำมะเลเทเมาไล่เตะอีกาไปบวกกับคนไร้บ้าน แล้วบางทีตัวเลือกมันส่งผลกระทบต่ออนาคตด้วย

รอบแรกตั้งใจเล่นมาก เกิดเป็น ผช. ปั้นให้เป็นศิลปิน ไปเรียนศิลป์เรียนดนตรี เกรดดีมาก เผลอไปลองของเตะโฮมเลสมีเรื่องเลยโดนเข้าคุก 3 ปี สอบใบขับขี่ไม่ได้ พอออกจากคุกก็เรียนต่อจนจบเป็นเด็กทำบัญชี ไปๆมาๆไปเที่ยวรัสเซียหาแฟน ตั้งใจแก้ไขชีวิต สรุปตายตอน 27 ตายแบบรถชนตายพร้อมแฟนด้วย เอ๋อมาก

รอบสองเกิดเป็น ผช. อีกละ คราวนี้กะจะปั้น CEO แต่สรุปหัวไม่ดี ได้เกรด E เรียนไม่จบแต่ด้วยความเรียบร้อยและใจบุญเลนมีรุ่นพี่อายุ 14 มาจีบตอนอายุ 12 แล้วดันเป็นทรูเลิฟ เข้ ด้วยความที่หัวไม่ดีดรอปเรียนแล้วไปสายวาดภาพหลักๆ หางานไม่ได้วาดรูปไปวันๆแล้วก็ค่อยๆมีชื่อเสียงขึ้นมา ถูกล็อตเตอรี่สองรอบ ขายภาพเก็บเงินซื้อบ้านได้ ไปเที่ยวบ่อย บ้านถูกงัดสองรอบแต่เรียกตำรวจทัน ส่งคนเข้าคุกไปหลายคน โดนรถชนตอนไปเที่ยวสองรอบแต่ไม่เป็นไร มีเงินรักษาตัวแล้วก็กลับมาวาดรูปขายไปเรื่อยๆ เที่ยวด้วยปาร์ตี้ที่บ้าน แต่งงาน มีลูก(แก้ไขนิด จริงๆคือปล่อยมีแล้วแต่ไม่ได้ลูก ก็อยู่กันแบบนั้นไป) ไม่มีที่ไหนรับทำงานเพราะเรียนไม่จบก็ใช้ชีวิตแบบศิลปินไปเรื่อย ส่วนใหญ่เที่ยวแล้วก็ทำบุญหนักๆลัคกี้แมนมาก แล้วก็จากไปแบบมีความสุขท่ามกลางคนที่รัก อบอุ่นใจจัง สำหรับคนว่างๆหรือเบื่อๆดพลอตเรื่องพลอตนิยายไม่ออกลองเล่นดู จะเครียดกว่าเดิม 5555

https://play.google.com/store/apps/details?id=com.instcoffee.instlife

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

503 Nameless Fanboi Posted ID:FPIdHYLzD

มูลค่าของ Bitcoin ตอนนี้เกิดมาจากคนที่ซื้อมาในราคา 10 บาทอยากขายต่อในราคา 20 บาท และคนได้รับต่อไปก็เอาไปขายต่อในราคา 40 บาท และก็มีคนขายต่อไปเรื่อย ๆ จนล่าสุดถึง 600,000 บาท และเดี๋ยวก็คงลากไปถึงล้านนึงไม่ยาก

แต่ถามว่ามูลค่าที่แท้จริงของมันคืออะไร ?

นิ่งเงียบไปสักระยะ ... ไม่มี ไม่รู้ ... มันเกิดจากการที่คนซื้อต่อคาดว่ามันต้องขายได้มากกว่าที่ซื้อมาล้วน ๆ (a.k.a. เก็งกำไร) แต่ไม่มีใครรู้เลยว่ามันมีค่ายังไง อนาคตจะใช้ประโยชน์ได้ยังไง

เพชรยังรู้ว่ามีค่ายังไง ทองก็ยังรู้ มันเป็นเครื่องประดับ มันมีคนที่พร้อมจ่ายเพื่อได้มาใช้งาน แม้แต่ ICO ตัวอื่น ๆ ก็ยังรู้เพราะเป็นธุรกิจจริง ๆ แล้ว Bitcoin หละ ... ?

หากศึกษาพื้นฐานของ Bitcoin จะรู้ว่ามันทำได้อย่างเดียวคือโอนกันไปโอนกันมา จบ ... แต่น้อยคนมาก ๆ ที่เอามันมาใช้เป็น Currency จริง ๆ และไม่มีใครตีค่ามันจากมูลค่าของความเป็น Currency แม้แต่น้อย

จากกระแสที่ Bitcoin เริ่มเข้าสู่กระแสหลัก ด้วยปริมาณคนใน Network ที่ยังมีไม่มากในขณะนี้ การโอนยังต้องรอหลายวันเลย (ล่าสุดมี Transaction รออยู่ในคิว 2 แสนและยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ) แถมค่าส่งเมื่อตีเป็นเงินบาทก็ยังแพงขึ้นเรื่อย ๆ แพงจนไม่ Make Sense แล้ว บางเจ้าที่เคยรับจ่ายสินค้าด้วย Bitcoin ก็เริ่มไม่รับแล้วด้วยเหตุผลดังกล่าว

เอาจริง ๆ ด้วยเทคโนโลยีระดับโบราณที่ Bitcoin มี เรายังมองไม่ออกเลยว่ามันจะใช้จ่ายซื้อสินค้าในชีวิตจริงได้ยังไง แถมก็ยังไม่พัฒนาขึ้นอีกต่างหาก ตัว Fork ยังดูมีอนาคตกว่า

แม้แต่หน้าที่ที่มันเกิดมามันยังทำงานได้ไม่ดีเลย แต่มูลค่าดันขึ้น เรียกว่าสวนทางมาก ๆ แต่ก็ยังขึ้นเพราะ Demand สูงกว่า Supply และทุกคนล้วนเข้ามาเพื่อ "เก็งกำไร" ล้วน ๆ ไม่มีเหตุผลอื่น

นาทีนี้ที่ราคาขึ้นเพราะมีผู้เล่นเยอะขึ้น จาก 1 เป็น 10 ราคาก็เลยขึ้นได้ไม่ยาก ในขณะเดียวกันมันก็เริ่มกลัวขึ้นทุกขณะ

เชื่อว่าน่าจะขึ้นไปได้ถึง $25000 ภายในสิ้นปีก่อนจะโดน Correct ครั้งใหญ่ ตอนต้นปีหน้า แต่ก็จะขึ้นอีกหลังจากนั้น น่าจะ $60000 ภายในปลายปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ใครจะเล่นก็เตรียมรับความเสี่ยงกันด้วยนะ เพราะผู้เล่นที่เกิดมาเพื่อแข่งกับ Bitcoin ก็เริ่มปรากฏแล้ว ตลาดนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ร่วงจาก $100 เหลือ $2 ก็เคยมาแล้วนะ

ที่พิมพ์นี่ไม่ได้ตกรถนะ ซื้อไว้อยู่แล้ว แค่เตือนให้เล่นด้วยสติกันด้วย นี่เพิ่งขายทิ้งไปครึ่งนึงตอน 6 แสน ด้วยความรู้สึกส่วนตัว

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

504 Nameless Fanboi Posted ID:dOL30lj.T

พวกที่ด่าคนที่skepticกับบิทคอยว่าเป็นไดโนเสาร์เต่าล้านปีเนี่ย กูอยากชี้ให้มันไปดูเด็จพ่อเก๊บ นิวเวลจริงๆ เพราะValve เลิกรับบิทคอยแล้ว หรือมึงจะบอกว่าสตีมก็ช้า ไม่ทันเทคโนโลยีด้วย?

https://steamcommunity.com/games/593110/announcements/detail/1464096684955433613

505 Nameless Fanboi Posted ID:QpyzErOLH

เดี๋ยวเรื่องเกิด คนก็บอกว่าบิทคอยด์=ทิวลิป พวกเก่งหลังเกมส์แม่งเยอะ

506 Nameless Fanboi Posted ID:2CXa5tbOj

บิทคอยกำลังมาว่ะ ลิเบอร่านว่าไง?

507 Nameless Fanboi Posted ID:NfPX0umAK

บิทคอยด์กูว่ามันใกล้พีคแล้ว คงอยู่ได้อีกไม่นานมาก
จริงๆระหว่างนี้ถ้าเล่นเป็นก็ยังมีช่องว่างให้ตักตวงกับความผันผวนของมันอีกเยอะ
แต่กูป๊อดว่ะ ไม่กล้าโดดลงไปเล่น ถ้าถึงตอนล่มสลายนี่กูว่ามันจะร่วงพรวดเดียวลงเหวไปเลย ชิบหายหนักกว่าหุ้นเยอะ 555

508 Nameless Fanboi Posted ID:/lgEdwfSz

Bitcoinมันเข้าสู่ช่วงฟองสบู่ใกล้แตกแล้วแหละ เก็งกำไรกันเข้าไป ราคาพุ่งเรื่อย ๆ แต่ไม่มีมูลค่าจริงๆไม่มีใครกล้ารับประกัน

509 Nameless Fanboi Posted ID:l1kEWidyU

ไอ้กระบือทั้งหลายยยยย
นักวิแคะมันบอกจะฟองสบู่มาตั้งแต่ 3000 เหรียญแล้วไอ้ง่าววววว
จนขึ้นไปกำไร 5 เด้งมันก็ยังหน้าด้านวิแคะต่อ
มันจะฟองสบู่ๆจริงเมื่อไอ้พวกนี้หุบปาก ยอมรับว่าตัวเองตกรถนั่นแหละ
ไม่งั้นก็ขึ้นไปได้อีกเรื่อยๆ กร๊ากกกดดดกด

510 Nameless Fanboi Posted ID:LcCoPwN3/

>>509 กูเห็นด้วยว่ะ ถ้าน้องตุ้มข้างบ้านกูเล่นบิทคอยน์เมื่อไหร่ เมื่อนั้นล่ะฟองสบู่จริงๆ แต่ในขณะที่ยังมีคนกลัวคนระวังอยู่มันไม่ใช่ฟองสบู่หรอก

จำซับไพร์มได้ป่ะ ใครๆก็เชื่อว่าน้ำมันจะไป 200 เหรียญต่อบาร์เรล ...

511 Nameless Fanboi Posted ID:s0fV+rdAu

>>510 ซับไพร์มไม่เกี่ยวกับน้ำมันนะ คนละเรื่องกันเลย

512 Nameless Fanboi Posted ID:QpyzErOLH

เกี่ยวนิดหน่อยเพราะค่าเงินดอลมันอ่อนลง คนขายหุ้นอเมริกาออก แล้วเอาเงินไปเก็งตัวอื่นแทน

น้ำมันคือตัวนึงที่ราคาขึ้นตอนแรก แต่ต่อมาการบริโภคอเมริกาหดตัว ทั้งจีนทั้งอเมริกาเลยไม่ต้องผลิตสินค้ามาก ราคาน้ำมันก็เลยไม่แพงกว่านี้ แถมพอมีคนทำเชลแก้ส(น้ำมันจากชั้นถ่านหิน) ทำให้มีข่าวว่าน้ำมันสำรองอเมริกามันมีเพิ่มขึ้นเยอะเลย ราคาน้ำมันก็ไม่ขึ้นอีก

513 Nameless Fanboi Posted ID:oL9uaVZBu

Bitcoinจะฟองสบู่หรือป่าวไม่รู้ ใครอยากเล่นก็เล่นไป ได้หรือเจ๊งก็รับผิดชอบตัวเอง
ส่วนตัวกูไม่ยุ่ง เหวี่ยงแรงเกิน แถมไม่กำเนิดกระแสเงินสด

514 Nameless Fanboi Posted ID:Y7ziFxn+x

bitcoin มันพอมีประโยชน์ตอนยังใช้ซื้อยาเสพติดจาก silkroad ได้อยู่แค่นั้นแหละ

515 Nameless Fanboi Posted ID:QpyzErOLH

พวกนั้นมันมีร้านแลกกลับเป็นเงินสดมันก็สะดวกสิ่วะ แล้วบ้านเราเอาบิทคอยด์ไปแลกข้าวมันไก่จานเดียวยังไม่ได้เลย

มึงจำยูฟันได้ป่าว อันนั้นยังใช้สะดวกกว่าเลย

516 Nameless Fanboi Posted ID:zTLYgfRAU

>>514
พวก cia มันไม่เล่นเหรอว่ะ หริอว่ามีลับลมคมไหน

517 Nameless Fanboi Posted ID:IVuSCb1jF

บิทไหลเข้ารัสเซีย cia มีปัญญาตรวจเหรอ

518 Nameless Fanboi Posted ID:QpyzErOLH

CIA มันไปตามลากข้อมูลทางอื่นง่ายกว่าไง ก็รวบเจ้าของเวปใต้ดิน Silkroad ไปแล้วไง(ที่มันมาฆ่าตัวตายในคุกไทยป่าววะ) ได้เส้นทางติดต่อหมด สมมุตจับได้ขาใหญ่คนนึง ก็ไปอ่านบทสนทนาว่ามันขายลอตใหญ่ให้ใครบ้างแล้วก็ลากออกมาได้เยอะแล้ว

519 Nameless Fanboi Posted ID:bCGTl7vrZ

"เราไปเพื่อปลดปล่อย ไม่ใช่ไปเพื่อกำราบ เราจะไม่โบกสะบัดธงอังกฤษในประเทศของคนอื่น เราไปอิรัก เพื่อปลดปล่อยชาวอิรัก และธงอิรักเท่านั้น ที่เราจะโบกสะบัดเหนือดินแดนของพวกเขาเอง"
"จงแสดงความเคารพต่อเจ้าของประเทศ พวกนายบางคนที่ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ฉันเสียใจที่ต้องบอกว่า อีกไม่นานพวกนายก็จะตาย ใครไม่อยากร่วมเดินทางไปกับเรา เราจะไม่ฝืนบังคับคนเหล่านั้น ส่วนคนที่สมัครใจ ฉันคาดหวังให้พวกนายเขย่าโลก สังหารข้าศึกให้หมด ถ้านั่นคือทางเลือกของพวกเขาเอง"

"แต่จำไว้ ยิ่งพวกนายดุดันในการรบเท่าไหร่ ยิ่งต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ในชัยชนะ อิรักเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ มันคือสวนแห่งอีเดน คือสถานที่ซึ่งน้ำท่วมโลก คือบ้านเกิดของอับราฮัม ระวังรอยเท้าของพวกนาย นายกำลังจะได้เห็นในสิ่งที่แม้แต่เงินตราก็หาซื้อมาให้ชมไม่ได้"

Tim Collins กล่าวต่อหน้ากองทหารไอริช ปี 2003 สงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งที่สอง หนึ่งในปราศรัยให้กำลังใจทหารที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์

แต่อย่าอินมากครับ รู้ๆ กันอยู่ว่าสงครามอ่าวรอบสองฝ่ายอเมริกา อังกฤษ ทำเละเทะไว้ขนาดไหน :-D

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

520 Nameless Fanboi Posted ID:HtIkjvCra

พวกอนุรักษ์นิยมบางคนอาจจะเป็นพวกมือถือสาก ปากถือศีล

แต่ฝ่ายประชาธิปไตยเราบางคนอาจจะเป็นพวกมือถือคัมภีร์มาร์กซิสต์ ส่วนเท้ากำลังเตะก้านคอภรรยาอยู่อ่ะครับ

#มิตรสหายขาด้วนท่านหนึ่ง

521 Nameless Fanboi Posted ID:8NKp29t1B

>>520 ขาด้วนแล้วมึงจะเตะก้านคอยังไงครับ

522 Nameless Fanboi Posted ID:qbPCxjbay

>>521 มิตรสหายขาด้วนท่านนั้นยึดวิถีอู๋ม่งต๊ะเป็นสรณะครับ

523 Nameless Fanboi Posted ID:8HFYGpVVx

>>520 นึกถึงนักวิชาการบางคนเลยนะนั่น

524 Nameless Fanboi Posted ID:q69ih/b89

BREAKING....สื่อยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นทั้ง Yahoo, Nikkei และ Livedoor รุมประณามร้านราเม็งไทย(ไม่ขอเอ่ยชื่อ) โดยพาดหัวข่าวแรงว่า "ก๊อปทั้งดุ้น" ร้านราเมงชื่อดัง "อิจิรัน" โดยไม่ได้ขออนุญาต (เด๋วมาขยาย)
รายละเอียดข่าว !!

ประเทศไทยนั้นขึ้นชื่อเรื่อง "ดินแดนสวรรค์ของก๊อปปี้" ซึ่งคุณสามารถพบของก๊อปปี้ได้อย่างมากมายราวกับว่ามันไม่ผิดกฏหมาย ทั้ง นาฬิกา กระเป๋า เสื้อผ้าแบรนด์เนม ซอฟท์แวร์ และ สมารท์โฟนได้ทั่วไปที่นี่ คงไม่เกินไปนักหากจะพูดว่า ที่นี่คือ "ตลาดสินค้าก๊อปปี้ขนาดยักษ์"

ไม่เว้นแม้แต่ร้านราเมง ....

ประเทศไทยคือตลาดที่น่าสนใจนักสำหรับชาวญี่ปุ่น โดย ร้านราเมงอิจิรัน ร้านต้นตำหรับซุปกระดูกหมูแท้ต้นกำเนิดจากคิวชู (สาขาแรกเปิดปี 1993 ที่ฟุคุโอกะ ปัจจุบันนี้เปิดในญี่ปุ่นไปแล้ว 71 สาขา) ซึ่งครองใจผู้บริโภคทั่วโลกด้วยต้นกำเนิดรูปแบบการสั่งราเมงผ่านกระดาษแบบสอบถาม (ภายหลังคนไทย เรียกทำข้อสอบ) ซึ่ง ขยายสาขาไปแล้วหลายประเทศทั้ง อเมริกา ไต้หวัน และ ฮ่องกง โดยเน้นให้นักชิมได้ลิ้มรสชาติอาหารให้ได้ใกล้เคียงกับรสนิยมของตัวเองมากที่สุด และ รูปแบบการนั่งกั้นฉากกินแบบออริจินัลไม่เหมือนใคร ต่อมาทางบริษัทที่ทำอิจิรันกลับมารู้ความจริงว่าราเมงในเอกลักษณ์ของตัวเองนั้น มีคนเอาไปเปิดที่ไทยแล้ว จนหลายคนเข้าใจผิดเสียว่าเป็นต้นตำรับแท้ที่ขยายมาเปิดที่ไทย

ผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นได้เดินทางไปชิมร้านราเมงไทยดังกล่าว พบว่ามีการลอกเลียนแบบแทบทุกอย่าง ทั้ง วิธีการสั่งผ่านกระดาษ กั้นฉากที่นั่ง กระดิ่งเรียก ก๊อกน้ำดื่ม และ สไตล์ร้านไปจนถึง หน้าตาของซอสพริกสูตรเฉพาะที่หย่นลงบนเส้นราเมง

หากเราเข้าไปดูเว็บไซต์ของอิจิรันจะได้เห็นว่าทางบริษัทชูเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร 5 องค์ประกอบ
1.ซอสพริกสูตรเฉพาะ
2.ซุปกระดูกหมูไร้กลิ่นคาว
3.ที่นั่งกั้นฉาก
4.กระดาษข้อสอบสั่งอาหาร
5.ระบบสั่งเพิ่มเส้น

โดยทั้ง 5 เอกลักษณ์ นี้ คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่าโดนก๊อปปี้ไปทั้งหมด (ระบบการสั่งอาหารแบบข้อสอบผ่านที่นั่งกั้น บริษัทที่ทำอิจิรันได้จดสิทธิบัตรไว้แล้วเลขที่ 4267981)

ทำให้เป็นไปได้สูงว่าร้านราเมงดังกล่าวนั้นได้ละเมิดกฏหมายนี้อยู่

แต่ทว่าสิทธิบัตรที่จดนั้นโดยพื้นฐานจะครอบคลุมเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นทำให้ยังเป็นประเด็นว่าในต่างประเทศ (แต่ละประเทศมีเกณฑ์พิจารณาต่างกันไป) นั้นจะพิจารณาครอบคลุมไปถึงการฟ้องร้องนี้ได้หรือไม่

และหากร้านราเมงไทยดังกล่าวชิงจดสิทธิบัตรวิธีการขายและเอกลักษณ์นี้ในไทยเสียก่อน อาจกระทบต่อการเปิดร้านของราเมงอิจิรันในประเทศไทยได้

ดังนั้น ผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นหากคุณคิดจะเปิดธุรกิจในประเทศไทยนอกจากการจดสิทธิบัตรในญี่ปุ่นแล้วคุณต้องไม่ลืมที่จะจดสิทธิบัตรที่ประเทศไทยด้วยเพื่อป้องการการละเมิดแบบที่ร้านราเมงอิจิรันกำลังประสบอยู่

ที่มา : http://news.livedoor.com/lite/article_detail/14008487/

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

525 Nameless Fanboi Posted ID:FQx.oexf4

>>524 เดี๋ยวพอคนกินแบนร้านมันก็ตายๆ ไปเอง หอยหลอด กูก็เกือบไปกินเพราะนึกว่าแม่งนำเข้ามา

526 Nameless Fanboi Posted ID:mdWiL/SxZ

>>525 กูเคยไปกินครั้งนึงยังชมอยู่เลยว่าวิธีการจัดร้านดี ราเมงสั่งงายดีมีเอกลักษณ์​กลายเป็นก๊อปมาซะงั้น

527 Nameless Fanboi Posted ID:AToaUjTgC

>>526 ตอนแรกกูก็นึกว่า อิจิรัน มาเปิดเฟรนชาย 555

528 Nameless Fanboi Posted ID:E7QAwGQQP

>>524 กูก็พึ่งรู้ว่าแม่งก๊อปมานะเนี่ย

529 Nameless Fanboi Posted ID:9ljiWIsW3

โดนพนักงานแบงค์เขียวบอกให้ลงชื่อรับเครื่องรูดบัตรไว้ใช้ที่ร้าน ตอนลงชื่อมี ref code. ให้ใส่ด้วย (รหัสพนักงาน) นางก็เร่งเรื่องเอาให้ไว ...ตอนนี้ผ่านมาครึ่งเดือนยังไม่ได้เครื่องรูดเริดบัตรเบิดอะไรทั้งสิ้น QR โค๊ดแมวกวักยิงปิ๊บๆ ปั๊บๆ อะไรนั่นก็ไม่ได้ จนร้านไปออกบูทกลับมาอาทิตย์นึงละ ทัก Line ไปก็ไม่ตอบ

รู้สึกเหมือนคนโดน one night stand พอเสร็จกิจกรอกรหัสแนะนำแล้วก็ทางใครทางมันเลยนะครับ ...แค่คนโดนหลอกฟันดันเป็นหมีตัวใหญ่ๆ ไม่ค่อยน่าสงสารเท่าไหร่อะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

530 Nameless Fanboi Posted ID:zbrC5wgh5

ทางเพจได้ติดต่อไปทางอิจิรัน ราเมน (Ichiran Ramen) เพื่อขออนุญาตสัมภาษณ์ และเช้าวันนี้แอดมินได้บินไปฟุคุโอกะ ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ อิจิรัน ราเมน เพื่อเข้าพบพูดคุยกับ คุณ อิโอริ ฮานาอิ (Mr. Iori Hanai) ผู้ดูแลในส่วนการประชาสัมพันธ์และโฆษณาในต่างประเทศ (Oversea Public Relation & Advertisent) เรื่องราวจะเป็นอย่างไรมาติดตาม!

★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★

Q1: เกี่ยวกับอิจิรันหรือราเมนข้อสอบของญี่ปุ่นที่คนไทยคุ้นเคย

>> Ichiran Ramen เป็นราเมนน้ำซุปกระดูกหมู (ทงคตสึราเมน) มีจุดเริ่มต้นที่จ.ฟุคุโอกะในปี 1960 เดิมเป็นร้านรถเข็นชื่อ ฟุตาบะราเมน โดยมีเอกลักษณ์คือราเมนที่มีซอสพริกสีแดงแต้มอยู่ด้านบน ในปี 1996 ได้ย้ายร้านและเปลี่ยนชื่อเป็นอิจิรัน จนในปี 1993 ก็ได้มาตั้งร้านสาขาแรกในตัวเมือง เนื่องจากเจ้าของร้านต้องการให้ลูกค้ามาทานราเมนได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งอื่นใด จึงสร้างระบบฉากกั้นและระบบการสั่งราเมนแบบให้เลือกในกระดาษ โดยลูกค้าสามารถเลือก ความแข็งของเส้น, ความเข้มของซุป, ปริมาณกระเทียมและซอสสูตรลับของร้าน, ใส่หรือไม่ใส่ต้นหอมและหมูชาชู เป็นต้น (โดยจดลิขสิทธิ์ไว้แล้ว)
ปัจจุบันได้ขยายสาขาไปกว่า 70 สาขาในหลายจังหวัดทั่วประเทศรวมถึงอีก 4 สาขาในต่างประเทศ และยังมีโรงงานอยู่ที่เมืองอิโตะชิมะ พร้อมกับ “ป่าของอิจิรัน (Ichiran no Mori)” และโรงงานอยู่ที่โยโกฮาม่าอีกด้วย

ทางร้านอิจิรัน ราเมน จะเน้นที่การไม่เพิ่มเมนูให้มากมาย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีราเมนหลากหลายเช่น โชยุราเมน ชิโอะราเมน มิโสะราเมน ราเมนซุปปลา และอื่นๆ ซึ่งทางบริษัทเราก็สามารถทำได้ แต่จะเน้นให้ความสำคัญกับความอร่อยให้กับ “ราเมนซุปกระดูกหมูสูตรต้นตำรับ” เพียงอย่างเดียว เพื่อมุ่งสู่ความเป็นสุดยอดราเมนซุปกระดูกหมู! ผู้เชี่ยวชาญด้านราเมนของบริษัทเรากว่า 40 คนทุ่มเทชีวิตและจิตวิญญาณให้กับการค้นคว้าหาความอร่อยขั้นสุดยอดของราเมนซุปกระดูกหมูอยู่ทุกเช้าเย็น บริษัทอิจิรันของเรามุ่งหน้าที่จะเป็นที่หนึ่งในการทำราเมนซุปกระดูกหมู และจะตามหารสชาติที่สุดยอดไปเรื่อยๆไม่มีวันสิ้นสุด

★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★
Q2: สอบถามเกี่ยวกับร้านที่คล้ายๆกันในประเทศไทย

>> ทางร้านอิจิรัน ราเมนของเรามีหน้าที่ในการทำรสชาติของราเมนซุปกระดูกหมูที่อร่อยสุดยอดให้กับลูกค้าทาน และสิ่งนี้นั้นเองจะนำไปสู่การสร้างความไว้ใจที่มีให้กับแบรนด์ของเรา

ในหลายปีมานี้ มีหลายร้านในทั้งในและต่างประเทศ มีร้านที่นำโลโก้หรือระบบออริจินัลของร้านเราไปเลียนแบบ รวมถึงบุคคลที่แอบอ้างว่า “ไปฝึกฝนฝีมือที่ร้านอิจิรันมา”, “ทำรสชาติได้เหมือนร้านอิจิรัน”, “ฉันเป็นคนคิดค้นระบบนี้เอง”, “ทางเราคือของจริง”, “เราเป็นผู้สืบทอดรสชาติของร้านอิจิรัน” ฯลฯ ทำให้ลูกค้าของทางร้านอิจิรันของเรานั้น สับสน และก็มีเสียงต่อว่าหรือส่งความเห็นมาทางเราว่า “รสชาติไม่เห็นเหมือนเลย”, “ทางร้านอิจิรันตัวจริงควรจะทำอะไรสักอย่างให้คนไม่เข้าใจผิด!”

ขอพูดให้ชัดเจนในที่นี้เลยว่า นโยบายของบริษัทเราคือการไปเปิดทุกสาขาด้วยตัวเองเพื่อควบคุมคุณภาพและรสชาติความอร่อยที่แท้จริง เราไม่มีการขายแฟรนไชส์หรือร่วมทุนกับบริษัทอื่นในการขยายสาขาแน่นอน และถึงแม้จะเป็นในต่างประเทศ ทางเราจะไม่มีการเปลี่ยนชื่อร้าน ปรับระบบ หรือเปลี่ยนแปลงรสชาติใดๆอย่างแน่นอน
“ในโลกนี้ไม่มีร้านไหนที่ไม่ได้ใช้ชื่อ “อิจิรัน” แล้วเกี่ยวข้องกับเราอย่างแน่นอน!”

ในต่างประเทศนั้นก็ยังมีบางร้านที่ใช้ชื่อคล้าย หรือทำเว็บไซต์คล้ายกับทางเราเพื่อสวมรอยอยู่มาก ขอย้ำอีกครั้งเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันว่าทางบริษัทอิจิรันของเรานั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใดครับ!

★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★
Q3: มีอะไรอยากฝากถึงลูกค้า Ichiran Ramen ชาวไทยบ้างไหมครับ?
>> การได้เห็นข่าวครั้งนี้ ทำให้มีลูกค้าจำนวนมากรู้สึกสับสนกับแบรนด์ของเรา ทางเราก็รู้สึกเสียใจมาก
เราจะพยายามนำ Ichiran Ramen ของจริงไปให้ถึงทุกท่านให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ เราจะไม่ยอมแพ้กับเรื่องใดๆเพื่อทำความอร่อยของราเมนที่แท้จริงไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ขอให้แฟนๆทุกท่านตั้งตารอด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★☆★
สุดท้ายนี้ทั้ง แอดมินเอง และเชื่อว่าลูกเพจ ก็คาดหวังให้ทางอิจิรันราเมงจะได้มาเปิดสาขาในไทยให้พวกเราทานกันไวๆ อยากลิ้มรสชาติต้นตำหรับก็เป็นกำลังใจให้อิจิรัน ราเมนกันด้วยนะครับ

ปล: แอดมินถ่ายคลิประหว่างสัมภาษณ์ไว้ด้วย แต่ขอไม่เผยแพร่นะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

531 Nameless Fanboi Posted ID:vuhMg7yod

>>524 เพิ่งดู VLOG เจ้านึงไปญี่ปุ่น บอกไปเปิดที่ไทยแล้ว (แต่ไม่ได้สัมภาษณ์ใครนะ เป็นการเที่ยวเฉยๆ เปิด Google พูด) เพิ่งรู้เหมือนกันว่าก๊อป.....

532 Nameless Fanboi Posted ID:pv.7Ab78V

>>502 มึงทำให้กูไปทำงานสาย เล่นแม่งติดพันนอนไม่หลับยันตีสี่เลยกู /ขอบคุณมากโม่งสหายรัก

533 Nameless Fanboi Posted ID:pv.7Ab78V

>>532 ขออวดหน่อย อายุ 11 เจอเพื่อนในโรงเรียนกลั่นแกล้งเลยใช้กำลังกลับ เสือกล่อซะเพื่อนแขนขาหัก ติดคุกไป 4 ปี
ออกจากคุกมาไม่เรียนต่อ มุ่งทางสายดนตรี พอยี่สิบปลายๆ จะออกนอกประเทศ แต่เข้าประเทศเขาไม่ได้(สก็อตแลนด์)
มีตัวเลือกขึ้นมาว่าจะลักลอบเข้ามั้ย สุดท้ายโดนยิงตายตอนลักลอบเข้าประเทศ =_= โถ พ่อหนุ่มพั๊งก์กู

มีรอบนึง เด็กหญิง เจอมะเร็งตับตอนอายุ 12 แต่ก็ใช้ชีวิต ทำงานทางการแพทย์มาจนตายตอน 27
มีรอบนึงตายตอน 97 โน่น ลูกชายลูกสาว 50+ กันหมด แต่เมียชิงตายไปก่อนนานแล้ว
อีกอันตายประมาณ 80 เป็นเกย์เฒ่าที่โคตรฉลาด งานดี เงินแจ่ม ใช้ชีวิตอยู่ 3 ประเทศ แต่ซึมเศร้าตลอด แล้วดวงความรักกุดตลอด เลิกมาไม่รู้กี่ราย

534 Nameless Fanboi Posted ID:DM5ZhJyvA

Why sex with My Little Pony characters is NOT a good idea.

First of all, sex with horses is illegal. That will get you thrown in fucking prison. Are you willing to go to jail for five years just so you can fuck a little horse? Thought so. I don't care that they are intelligent, sexy, adorable little vixens but you CANNOT stuck your willie in there.

But, if you try to fuck a MLP character anyways, make sure you don't break your dick. If they try to give you a hoofjob, and squeeze a bit too hard, splat. Game over. Lap dance? splat. Sex positions where they are on top of you? splat. Human women don't come with that risk, even if that means you will have to settle with something worse. Better to have bad sex than no sex.

Do you even know where the clitoris is inside a pony? Do you? Thought so. She is going to be absolutely bored out of her mind until you spend twenty minutes searching through her massive vagina.

HORSES DON'T HAVE TITS! Cmon. I know they have good asses but, tits are life man. They go up and down, and are squeezable, mendable, jiggly balls of fun.
Look, I know we all secretly want to fuck a pony, but the reality is that we, and they, won't be able to enjoy it as much as you think you would. So just branch out more. Settle with a dolphin or an octopus. Just don't fuck a pony.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

535 Nameless Fanboi Posted ID:MGVMaEh7S

สาวดุ้นนั้นไม่ได้เป็นเกย์
เเต่ชอบสาวดุ้นนั้นเกย์เเน่นอน

-มิตรสหายท่าน1

536 Nameless Fanboi Posted ID:aWLoa2V2K

>>533 กูอยากลองเล่นมั่ง แต่กลัวไวรัส มีคอมครื่องเดียว ไว้ใช้ทำงานด้วย

537 Nameless Fanboi Posted ID:BVIJDsL9Q

>>532-533 >>536 ย้ายไปคุยห้องเดมส์มั้ย

ส่วนตัวกูเล่นแล้วค่อนข้างอินเลยว่ะ เพราะอยู่ในวัยทำงาน เวลาสุ่มตัวที่หัวไม่ดีเรียนต่อไม่ได้นี่แอบเครียดนะ ว่าจะทำยังไงให้ตัวละครที่เราสุ่มได้ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆจนแก่ตาย

แถมเวลาเกษียณมันคำนวณให้ด้วยว่าเงินที่สะสมมาจะใช้ชีวิตได้ถึงกี่ปี พอตัวละครตายก็รู้สึกว่า เออซักวันเราก็คงเกษียณแล้วเอามาตายนี่แหละ ขึ้นอยุ่กับว่าตายแบบไหน ของกูเล่นสองรอบ แก่ตายรอบหนึ่งกับมะเร็งรอบหนึ่ง

เกมส์นี้ถ้าพัฒนาดีๆน่าจะสนุกนะ แบบว่าใส่ตัวเลือกกับความเป็นไปได้เข้าไปเยอะๆ เกิดในครอบครัวคนรวยเป็นแบบนี้ มีทุนเยอะกว่า แต่ถ้าเลือกเส้นทางไม่ดีก็ดับอนาถได้ หรือเกิดในครอบครัวคนจนนี่ลำบากชิบหายกว่าจะสร้างตัว อะไรแบบนี้

538 Nameless Fanboi Posted ID:aWLoa2V2K

>>537 มึงทำไมไม่คอนเฟืมกับกุว่าไม่มีไวรัส นี่คือที่คาใจ โถ่วววว 55555 ยังอุตส่าห์เล่าซะยาวเชิญชวนกูอีก

539 Nameless Fanboi Posted ID:MGVMaEh7S

>>>/game/4961/ ตั้งละ

540 Nameless Fanboi Posted ID:5oe8oB52g

>>538 กูคิดว่าไม่มีนะ กูเล่นบน Android เวอร์ชั่นไรจำไม่ได้ - Samsung J7 ยังไม่มีอาการอะไรแปลกปลอม เกมมันเรียบง่ายมาก

541 Nameless Fanboi Posted ID:UIEjYfhX1

มิตรสหายผู้พี่ท่านนึงแวะsuperจะไปซื้อมิรินมาทำกับข้าว พบว่าต้องรอหลัง5โมงเย็นถึงจะซื้อได้เพราะประเทศนี้ตีความให้มิรินอยู่ในหมวดหมู่เดียวกันกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆที่เราทราบกันดี โอยยยย เพลียยย

#ไหนมีใครเอามิรินไปผสมโชดากินบ้าง #หรือจะNeat #หรือออนเดอะร๊อค

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

542 Nameless Fanboi Posted ID:.TyhuQCj6

>>541 ทำไมกูซื้อไม่เห็นจะมีปัญหาวะ? หรือคนละมิริน

543 Nameless Fanboi Posted ID:L7pnhOiu4

>>542 กูเห็นที่ทอปมันเอามิรินไปตั้งชั้น เครื่องดื่มแอลกอฮอร์นะ. จำกัดเวลาขายจริง

544 Nameless Fanboi Posted ID:iFEDZg5Mo

>>542 แล้วแต่ห้างด้วยมั้ง ของกูเคยจะซื้อที่แมคโครก็ซื้อไม่ได้

545 Nameless Fanboi Posted ID:YZdf2zQj5

สังคมเรามัน post-truth อะครับ คือความจริงไม่สำคัญเท่าอารมณ์ความรู้สึก คนส่วนใหญ่ก็เลยคิดว่า ช่วยได้ก็ช่วย (บริจาค) ไป โดยที่ไม่ได้คำนึงว่า ทำแบบนี้แล้วมันจะแก้ไขปัญหาได้จริงไหม

พอมีคนท้วงหน่อยว่า เฮ้ย ปัญหาเชิงโครงสร้างมันก็ต้องแก้ไขด้วยกระบวนการเชิงโครงสร้าง จะมาทำฉาบฉวยแบบนี้ไม่ได้ ก็จะกลายเป็นเอาเรือมาขวางน้ำเชี่ยวไป

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

546 Nameless Fanboi Posted ID:Kk5E2RfLs

>>545 การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างคือการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ แต่ปัญหาก็มีกลางเหตุและปลายเหตุเหมือนกัน ซึ่งมีวิธีการจัดการต่างกัน การโม้ว่าต้องแก้ปัญหาที่ปลายเหตุนะอยู่หน้าคอมก็พูดได้ แต่ขั้นแรกคือต้องบรรเทาปัญหาที่ปลายเหตุเพื่อเอาตัวรอดก่อน แล้วจึงแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง

คนพูดทำนองนี้ 100% สอบตกวิชาบริหารจัดการแน่ๆ บอกเลย ถึงไม่รู้จักการจัดการปัญหาตามสภาวะการณ์และรัดับที่ต่างกัน อย่างสมมุติมีไฟป่า การปก้ปัญหาขั้นต้นไม่ใช่ไปบอกว่าป่านี้มีโครงสร้างเหมาะแก่การเกิดไฟป่า ต้องปรับโครงสร้างป่าใหม่ แต่เป็นการดับไฟป่าหรือลดความเสียหายให้มากที่สุด จนความเสียหายนั้นไม่ส่งผลต่อการดำเนินงาน แล้วจึงปรับแก้

ไม่งั้นก็มีอีกทางคือปรับโครงสร้างขั้นเด็ดขาด บริษัททั่วไปคือไล่คนออกเพื่อลดขนาดและเพิ่มประสิทธิภาพ กรณีรพ.ปัญหาคือมีผู้มาใช้บริการที่ไม่เกิดรายได้มากเกินไป ทางแก้ทั่วไปคือลดจำนวนพวกนี้ลง พูดง่ายๆ คือปล่อยให้ตายไปไม่ต้องรักษานั่นละ แต่รัฐทำแบบนั้นไม่ได้ อย่างน้อยรัฐไทยก็ทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะรัฐไทยไม่ใช่เเมกา

จริงๆ พวกนี้ก็ตลกดี ถ้าจะใช้ตรรกะพวกนี้สวนเข้าไป โลกนี้ก็ไม่สมควรช่วยพวกโรฮิงยาที่อพยพลี้ภัย เพราะมันไม่ใช่การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างหรือที่ต้นเหตุของเรื่อง การบริจาคและการให้ที่พักพิงก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร กลับยิ่งทำให้เกิดปัญหาด้วยซ้ำ เพราะทำให้เผ็ดจการได้ใจยิ่งขึ้นว่ามีคนรับเลี้ยง จะได้รีบๆ ไล่ออกไป ลองไปพูดอย่างนี้สิ ได้โดนด่าว่าไม่ PC แน่ๆ ทั้งที่เป็นการช่วยชีวิตคนเหมือนกัน แต่โรฮิงยามีค่ามากกว่าชีวิตคนไทยเยอะ

547 Nameless Fanboi Posted ID:BBR49KRHk

เขามาช่วยเหลือ ไม่ได้มาแก้ปัญหาให้ เอาแต่ใจไปรึเปล่า

548 Nameless Fanboi Posted ID:6M3c4697B

บางปัญหามันก็เหมือนของที่สางไม่จบอ่ะ

สมมุติกูให้ก้อนเชือกมึงไปแก้หนึ่งก้อน และมีกฏว่าเือกมันจะขมวดปมใหม่ให้มึงหนึ่งครั้งต่อวันตอน 24:00
ถ้ามึงมีหน้าที่ต้องแก้ปมให้หมดตอน 12:00ของทุกวันมึงจะทำไง เช้ามาก็นั่งก้มหน้าก้มตาแก้แมไปดิ่วะ เอาให้จบก่อน12:00 เป็นพอ

คราวนี้เดือนนี้พี่ตูนบอกกูรวมแรงคนอื่นๆมาช่วยแก้ปมให้เดือนนึง มึงอาจจะหนีไปพักร้อน หรืออยู่อก้กับพี่ตูนก็ได้ พอหมดเดือนมึงก็ต้องมาแก้เองอีก

ใครพูดว่าพี่ตูนวิ่งก็ช่วยแก้ปัญหาไม่ได้ กูขอเชิญไปแทะเล็บขบที่บ้านเฮอะ เพราะปัญหาแบบนี้มันเป็นของคนที่มีหน้าที่ และมีงอกใหม่ให้แก้ทุกวัน

549 Nameless Fanboi Posted ID:2niNLcNyD

แก้ปัญหาเชิงโครงสร้างระบบสาธาฯ การรักษา,พยาบาล ฯลฯ

ก็แค่ยกเลิกไอ้พวกรักษาฟรี รักษาถูก เลิกอุ้มคนจน ปล่อยเป็นไปตามกลไกตลาดและทุนนิยมครับ รับรองพลิกจากขาดทุนเหี้ยๆเป็นกำไรแน่นอน เหลือเพียงแค่คนจะตายห่าไปแค่ไหน

550 Nameless Fanboi Posted ID:axMWBAQLz

>โครงการ 30 บาททำให้โรงพยาบาลขาดทุน
>พี่ตูนวิ่งหาเงินมาช่วยโปะตรงส่วนที่ขาดทุน
>แล้วพวกสนับสนุนโครงการ 30บาทก็ออกมาด่าพี่ตูนว่าต้องไปแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง

#มิตรสหายในโลกคู่ขนานท่านหนึ่ง

551 Nameless Fanboi Posted ID:3E2blAd5J

>>550 โครงการมันดี แต่องค์กรที่บริหารงบ(ตระกูลส.)มันปัดการเบิกงบของรพ.จนงบที่เบิกได้-งบที่จ่ายไปมันติดลบ

552 Nameless Fanboi Posted ID:wa2k77yYo

มีคนบอกว่า รพ.ต้องหาจ้างคนที่ดีล เรื่องเคลม30บาทเก่งๆว่ะ คือไปขอทานจากคนคุมงบก้อนนี้แหล่ะ เซ็นยากเซ็นเย็น สงสัยต้องเอาหีไปถวายถึงจะเซ็นให้ทีนึง

553 Nameless Fanboi Posted ID:ti7x.FS8y

>>551 ประเทศเราไม่รวยพอจะทำตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าจะทำก็ต้องเก็บภาษีเพิ่ม คนไทยไม่ยอมหรอก

ปัญหาอีกอย่างคือแพทย์น้อย ผลักภาระไปที่โรงบาล แล้วก็ไม่รู้จักดูแลตัวเอง

การรักษานี่คือปลายเหตุ ต้นเหตุมันต้องมาจากตัวเอง การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างคือปรับเปลี่ยนวิธีชีวิตของตัวเองนั่นละ

554 Nameless Fanboi Posted ID:VCZPNwSvI

>>549 แก้ที่สันดานคนเลยน่าจะดีที่สุดมั้ง คนไทยแม่มไม่รักษาสุขภาพไม่พอยังขยันถล่มสุขภาพตัวเองอีก บัดซบที่สุด

555 Nameless Fanboi Posted ID:/MrVpmfZF

ปล่อยคนจนแม่งตายห่าไปเถอะ ประชากรไร้คุณภาพล้วนๆ

556 Nameless Fanboi Posted ID:mqitE0ayS

>>555 ขับรถสิบล้อชนแฟลตดินแดงพร้อมกับแหกปากว่าอัลเลาะห์ผัดผัก

557 Nameless Fanboi Posted ID:3WAejEgQj

พอคนจนตายหมด แสดงว่ามึงจนเป็นคนสุดท้ายของประเทศ

คนรวยกว่ามึงก็จะบอก มึงอ่ะจนสุดแล้วตามึงละนะ

558 Nameless Fanboi Posted ID:5VR9GRAd0

ไม่มีคนจนก็ไม่มีคนรวยว่ะ จะให้ไม่มีคนจนจริงมันต้องเป็​น​คอมมี่ตามปรัชญา​แท้ๆ ซึ่งในความเป็นจริง​ทำไม่ได้​หรอก

559 Nameless Fanboi Posted ID:KlR9kEt5B

>>557 แล้วก็ตายกันหมด

560 Nameless Fanboi Posted ID:ikvrz3jgp

ขนาดประเทศคอมมี่ก็ยังมีรวยจนวะ

561 Nameless Fanboi Posted ID:Wh46s+wV3

เอ้อ กูนึกถึงที่ฝ่ายซ้ายคนนึงพูดไม่นานนี้เลยว่าไม่ควรทำให้คนจนหายคน เพราะมันหายไม่ได้ แต่ควรทำให้จนอย่างมีศักดิ์ศรี

ถึงไอ้คนนี้จะมีความคิดที่ทำให้กูทึ่งมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้กูทึ่งจริงๆ ฝ่ายซ้ายเดี๋ยวนี้ไม่สนความกินดีอยู่ดีกันแล้วเหรอวะ

ฝ่ายซ้ายสมัยก่อนเกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือคนยากไร้ คนต่ำสุดของสังคมให้ลึกขึ้นยืนได้ แต่เดี๋ยวนี้ดูเหมือนจะไม่สนใจกันแล้วแฮะ

562 Nameless Fanboi Posted ID:4ct+lG5h.

ไม่ใช่แค่จนรวยนะ มีHis Supremacy
ยิ่งว่า His majesty ซะด้วย

เพี้ยนๆแบบ คนเท่ากันงั้นเอาปัญญาชนไปใช้แรงงาน แล้วกันมันจะได้รู้ความลำบากคนชั้นค้อนเคียว

563 Nameless Fanboi Posted ID:4ct+lG5h.

ที่จริงประชาธิปไตย =คอมมี่แบบนามธรรมนะ

คอมมี่มันหยาบกว่าตรงที่บอกว่า
คน=คน
ทรัพยากรให้คนนึง=ทรัพยากรให้คนนึง
เริ่มทะแม่งๆแล้วใช่ป่ะทำไม สมาชิกพรรคธรรมเทศนาทั้งทรัพยากรทั้งอำนาจวัด

ประชาธิไตย =อำนาจอยู่ที่ประชาชน
บอกว่า สิทธิของคนเท่ากัน
สิทธ์ของคนนึง=สิทธ์ของอีกคน

มึงคิดว่าคอมมี่กับ ประชาธิปไตย อะไรเท่ากันมากกว่าวะ

564 Nameless Fanboi Posted ID:4ct+lG5h.

แก้ ทำไมสมาชิกพรรคคอม ถึงมีทรัพยากร,อำนาจมากกว่าวะ

สมมุติกูกับมึงสองคนตกลงว่าจะยึดหลักคอมมี่

กูได้ขนมปังมาสี่ก้อน
กูถือสอง มึงถือสอง เพราะเราได้เท่ากัน
กูกินสองก้อนหมด
แล้วบอกมึงว่าเฮ้ยตอนนี้กูไม่มีแต่ทำไมมึงรางวัล
แล้วกูก็แย่งขนมปังออกมาจากมือถึงก็นึง
ตอนนี้เราเท่ากันแล้วมีคนละก้อน

แบบนี้ได้ป่ะ คอมมี่มันไม่มีคำตอบให้คนเจ้าเล่ห์,กับคนที่ผลาญแบบสุดๆแล้วไปแย่งเอาทรัพยากรมาเกลี่ยกัน เพราะทรัพยากรมันจะขาดแคลนมากขึ้นไปเรื่อยๆ

565 Nameless Fanboi Posted ID:4ct+lG5h.

สมมุติกูกับมึงสองคนตกลงว่าจะยึดหลักคอมมี่

กูได้ขนมปังมาสี่ก้อน
กูถือสอง มึงถือสอง เพราะเราได้เท่ากัน
กูกินสองก้อนหมด
แล้วบอกมึงว่าเฮ้ยตอนนี้กูไม่มีแต่ทำไมมึงมีสองก้อนวะ
แล้วกูก็แย่งขนมปังออกมาจากมือมึวมาก้อนนึง
ตอนนี้เราเท่ากันแล้วมีคนละก้อน

แบบนี้ได้ป่ะ คอมมี่มันไม่มีคำตอบให้คนเจ้าเล่ห์,กับคนที่ผลาญแบบสุดๆแล้วไปแย่งเอาทรัพยากรมาเกลี่ยกัน เพราะทรัพยากรมันจะขาดแคลนมากขึ้นไปเรื่อยๆ

566 Nameless Fanboi Posted ID:LTYpvN2Mi

มันคือพัฒนาการของคอมฯ คนส่วนใหญ่มองคอมฯ ในปัจจุบัน/ที่เคยเห็นมากกว่าแนวคิดหรือประวัติจริงๆ ของมัน เรื่องนี้เข้าใจได้ คนไทยขาดความรู้เรื่องคอมมีอย่างหนัก เพราะแทบไม่มีการเรียนการสอนเรื่องนี้กันเลย คนจะไม่รู้ก็ไม่แปลก

ตอบคำถาม>>563 ก่อนนะ คอมฯ เท่ากว่า เพราะมันเท่าเทียมทั้งสิทธิเสรีภาพ และสิทธิในทรัพยากร

ส่วน>>564 ทำไมสมาชิกพรรคคอม ถึงมีทรัพยากร,อำนาจมากกว่าวะ

คำตอบมี 2 ข้อ

1) เพราะหน้าที่มากกว่า จึงได้รับการปันส่วนทรัพยากรมากกว่า

2) เพราะยังอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่านตามแนวคิดของ Marxism ที่ระบุว่าระยะนี้ต้องเป็นเผด็จการ บังคับให้ประชาชนเปลี่ยนผ่านเพื่อไปสู่ความเป็นคอมฯ ที่สมบูรณ์ ซึ่งมีหลายขั้น แต่ประเทศส่วนใหญ่ยังอยู่แค่ขั้น 1 เป็น 1 ไม่เต็มด้วยซ้ำ ผิดกับอุดมการณ์ของ Marx เต็มๆ

ถ้าเป็นคอมฯ สมบูรณ์จริงๆ มันจะไม่มีพรรคหรอก เพราะประชาชนทุกคนคือรัฐ สมัยก่อนคงเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าสมัยนี้เป็นไปได้ เทคโน IT ทำให้ประชาชนทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับการปกครองตนเองได้อย่างทั่วถึงและเท่ากัน นึกไม่ออกก็ลองดูข่าวคนสวิสที่ทำประชามติเพื่อกำหนดนโยบายของตัวเองก็ได้ คอมฯ ในขั้นสุดท้ายก็แบบนั้นละ โลกแห่งการลงมติอย่างเท่าเทียมของประชาชนทุกคน

567 Nameless Fanboi Posted ID:Wh46s+wV3

ลืม ตัวอย่างขนมปังมึงไร้สาระไปหน่อย เพราะการแบ่งปันอย่างเท่าเทียมที่มึงพูดถึงมันนับเวลาแจก แต่การที่อีกคนไปแย่งชิงมานั้นไม่ใช่หลังคอมฯ เพราะคอมนั้นแจกอย่างเท่าเทียม แต่ได้มากขึ้นตามผลงาน การที่มึงไปแย่งของคนอื่นมาแบบนั้นไม่ใช่หลักคอม อย่าเอามาปนกัน

568 Nameless Fanboi Posted ID:4ct+lG5h.

>>567 กูสมมุติเว้ย

อ่ะเอาใหม่ มีขนมปัง 100ชิ้น
แจกคน 30 ให้สมาชิกพรรคคอมมูนิสต์เป็นคนแจก
แจกคนละสามก้อน ต้องเหลือ 10 ใช่ป่ะจะเก็บไปแจกงวดหน้าก็ได้
แต่สมาชิกพรรคคอมบอก กูหน้าที่เยอะกว่า รับผิดชอบเยอะกว่า งั้นกูแฮ้บไปใช้เองละกัน
สหายแรงงานคงมองตากันปริบๆ
ตำรวจรัฐเข้ามาบอกเฮ้ยได้ข่าวสมาชิกพรรคคอมฯ ยิกของ
สมาชิกเชิญ ตำรวจไปนั่งในบ้านแล้วบอกคุณตำรวจนี่เป็นการเข้าใจผิด สิบก้อนนั้นผมเก็บไว้ใช้กรณีจำเป็นพิเศษ
ตำรวจถาม ใช้ยังไงแบบพิเศษ
สมาชิกพรรค แบบนี้ไงคุณตำรวจหิวใช้ไหม ครอื่นเขาได้คนละสามก้อนเอง แต่คุณตำรวจมีหน้าที่ มีอำนาจ มีงานมากกว่า งั้นผมให้คุณตำรวจห้าก้อนแล้วกัน ผมกลัวว่าให้คุณตำรวจถือห้าก้อนจะโดนสหายแรงงานอิจฉาเลยห่อก่อนแล้วส่งให้ตอนนี้

คุณตำรวจ ถือห่อขนมปังห้าก้อนกลับบ้าน แล้วรำพึง สมาชิกพรรคฯ ท่านเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ

ที่กูยกมานี้ หลักคอมฯ ไม่ผิดนะ แต่มันเพี้ยนไปเพราะคนมันคอรัปชั่นเอง แต่เพราะสมาชิกคอมมันอำนาจมากกว่า เอาผลประโยชน์เข้าตัวแล้วคนต่ำกว่าทำอะไรมันได้ยาก

569 Nameless Fanboi Posted ID:oK9/Ni3IQ

>>568 อ่านที่กูเขียน>>566 อีกที คอมแบ่งเท่ากันเป็น minimum wage แต่ถ้าทำงานมากขึ้นก็ได้มากขึ้น มันจะเป็นการ "แฮ้บ" ยังไง

ขั้นแรกคือมึงเข้าใจผิดเองว่าคือการแฮ้บ แล้วจะมาบอกว่า "ที่กูยกมานี้ หลักคอมฯ ไม่ผิดนะ" คือการแฮ้บมันก็ผิดแต่แรกแล้วป่าววะ เพราะมันคือการเอาของที่ไม่ใช่ของตัวเองหรือไม่มีสิทธิไป แล้วก็เขียนต่อด้วยว่า "สหายแรงงานคงมองตากันปริบๆ" นั่นคือการย้ำอีกทีว่าสิ่งที่ทำนั้นผิด ไม่ใช่เป็น "หลักคอมฯ ไม่ผิด" ในมุมมองของมึงอย่างที่มึงแก้เก้อตอนหลัง

ขอเถอะ ก่อนจะมาเถียงอะไร เรียบเรียงความคิดให้ไปในทางเดียวกันก่อน ไม่ใช่พยามทำตัวเป็นคนดี/คนกลางที่ด่ามา 9 บรรทัด ชมบรรทัดนึงแล้วบอกว่าตัวเองเป็นกลาง ตลกน่า ความคิดมึงเองยังไม่ตกผลึกดีเลย ขาดความเข้าใจในคอมฯ เห็นๆ

570 Nameless Fanboi Posted ID:4ct+lG5h.

ถ้าจะเอาตามมาร์ก มันผิดตั้งแต่แรกแล้วว้อย
ที่บอกว่ายอมให้ เป็นเผด็ดการได้ตอนแรก

ถ้ากูไม่มีแดก หรือโดนกดขี่จนไม่มีแดก วันนั้นกูก็ไม่ยอมอดตายหรอก
รวมถึงถ้ากูโดนกดดันทางจิตใจ,อิสระภาพมากๆ กูบอกคนควบคุมกูว่า ถ้ามึงคิดจะทำแบบนี้ถือมีดมาเสียบกูไปเลยดีกว่า

571 Nameless Fanboi Posted ID:4ct+lG5h.

กูคงหลงประเด็นไปเยอะแต่สรุปแบบไม่ยกตัวอย่างแล้วกัน จะได้ไม่เข้าใจผิด

ตัวหลักการคอมฯ มันดีแค่ในกระดาษ และมันต้องการคนที่ควบคุมกฏที่เหมือนพระเจ้า เพราะอำนายสูงและมีความยุติธรรมที่ตรงเป๊ะ แถมมันเป็นแบบแข็งเกร็ง แบบลำดับสังคมเหมือนไพ่ 2,3,4---JQK ,Ace

หลักประชาธิไตยมันให้สิทธ์เท่ากัน และถือว่าไอ้คนที่เลือกมาเป็นผู้นำ มันก็คงจะมีข้อบกพร่องบ้างเล็กๆน้อย ก็กล้อมแกล้มทนๆไปเพราะเขาดีมากกว่า แต่ถ้าไม่ดีมากก็ล้มในสภา
แต่มันดีกว่าตรงที่กำหนดระยะเวลาหมดอำนาจไว้ชัดเจน ไม่ชอบนายกคนนี้รอหมดวาระกูก็ไม่เลือกมันแล้ว

572 Nameless Fanboi Posted ID:5VR9GRAd0

>>560 เพราะมันไม่ใช่คอมมี่ตามหลักการแท้ๆแล้วไง เพราะพวกคอมมี่แท้ล่มสลายไปหมดแล้ว หรือจะบอกว่าจริงๆมันไม่เคยมีอยู่แล้วมีแต่พวกวอนนาบีอยากจะเป็นซึ่งก็ล่มไปหมด มันหนีระบบรวยจนไม่ได้เพราะไม่มีคนก็ไม่มีแรงจูงใจพัฒนาตัวเองหรือพัฒนาประเทศ คนทำงานดีไม่ได้รับผลตอบแทนคนทำงานแย่ไม่ได้รับผลเสีย ได้เท่ากันหมดมันเลยไม่รอดไง ส่วนผู้ปกครองก็ไม่มีทางเป็นผู้ที่ตรงยุติธรรมได้จริงเพราะยังไงก็เป็นคนมันต้องมีพลาดบ้าง และต่อให้ตรงจริงถูกจริงจะให้ทุกคนพอใจมันก็เป็นไปไม่ได้ มันต้องมีคนเสียผลประโยชน์ที่ไม่พอใจแล้วสุดท้ายความเครียดในระดับผู้ถูกปกครองก็จะประทุแล้วพวกปกครองก็เจ๊ง ปรัชญาคอมมี่จึงเป็นไปไม่ได้เพราะคนนั่นแหละที่ไม่ได้พอใจสิ่งที่ถูกต้องจริงๆและไม่สามารถทำสิ่งที่ถูกต้องได้ตลอด คอมมี่จะเกิดได้จริงอาจต้องให้สกายเน๊ตมาปกครองโลกแทนมนุษย์แล้วมีอำนาจเบ็ดเสร็จแทนและควบคุมจิตใจคนได้ด้วย

573 Nameless Fanboi Posted ID:oK9/Ni3IQ

>>570 ตลกว่ะ

ถ้าจะเอาตามมาร์ก มันผิดตั้งแต่แรกแล้วว้อย
ที่บอกว่ายอมให้ เป็นเผด็ดการได้ตอนแรก

5555555 ไม่เคยอ่านจริงๆ ละสิ แนวคิดเผด็จการเพื่อบังให้ให้เปลี่ยน หรือเผด็จการของชนชั้นกรรมมาชีพคือรากฐานสำคัญที่สำคัญที่สุดของพรรคคอมฯ ยุคแรกเลยนะ แหม่ ผิดลงผิดหลักอะรั้ย ไม่รู้จริงก็บอกมาเถอะ ดันทุรังต่อไปยิ่งทุเรศ

>>571 นี่ก็ด้วย

ตัวหลักการคอมฯ มันดีแค่ในกระดาษ และมันต้องการคนที่ควบคุมกฏที่เหมือนพระเจ้า เพราะอำนายสูงและมีความยุติธรรมที่ตรงเป๊ะ แถมมันเป็นแบบแข็งเกร็ง แบบลำดับสังคมเหมือนไพ่ 2,3,4---JQK ,Ace

โถถถถถถ เคยอ่านงานสายคอมฯ จริงๆ ป่าววะ ไปเอาเรื่องแบบนี้มาจากหนายยยยยยยย วู้วววววววววๆๆๆๆๆ ถ้าช่วงแรกนะพอใช่ แต่ตามความคิดของ Marx หรือกรัมซี่ก็เสนอให้ใช้ "เผด็จการของชนชั้นกรรมมาชีพ[ในรูปแบบสภา]" มากกว่า "อธิปัตย์" นะมึง เลนินก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ในช่วงแรกของบอลเชวิคก็ทำแบบนี้ พึ่งมาเปลี่ยนหลังสตาลินทำ Great Purge นั่นละ

มึงน่าไปเล่นบิทคอยนะ อ่านน้อย (ไม่เคยอ่าน) แต่รู้มากแบบนี้ โลกแห่งบิทคอยต้องการคนแบบนี้ละ

อ้อ ส่วนสุดท้ายมึงก็เข้าใจผิด อย่างที่กูเขียนไปในย่อหน้าสุดท้ายของ >>566 แต่มึงคงไม่ได้อ่านสินะ เข้าใจๆ มันเกินโควต้าไปแล้ว

ในหลักของคอม ไม่มีตรงไหนที่บอกว่าคอมไม่มีเลือกตั้งนะ แม้แต่จีนกับโซเวียตยังมี แต่มันคนละระบบกับการเลือกตั้งทั่วไป ถ้าจะให้เทียบ ก็เหมือนการเลือกตั้ง Super Tuesday ของเมกา เพียงแต่พรรคคอมคือผู้ปกครองรัฐ การเลือกผู้นำพรรคก็คือการเลือกผู้นำประเทศนั่นละ

574 Nameless Fanboi Posted ID:KzihQ/vPO

คอมมี่ปัจจุบันก็พวกMilleniumตามมหาลัยต่างประเทศไง ใส่เสื้อคอมมี่ โพสต์ทวิตเตอร์ว่าเป็นคอมมี่ แต่กินสตาร์บัคทุกวันกับเป็นสาวกแอปเปิล กูขำ

575 Nameless Fanboi Posted ID:oK9/Ni3IQ

>>572 คอมฯยุคแรกๆ เสนอให้ใช้ Oligarchy นะ แต่สตาลินไม่เห็นด้วย เลยกวาดซะเรียบเลย ตั้งแต่นั้นคอมฯ ก็กลายเป็นเผด็จการไป ของจีนก่อนชิงแผ่นดินได้ก็ยังเป็นกึ่งๆ Oligarchy เพราะถึงเหมาจะเป็นใหญ่ แต่คนอื่นก็มีสิทธิมีเสียง และมีการลงมติเรื่องสำคัญตลอด

576 Nameless Fanboi Posted ID:/7S7rr6oe

พวกคอมมี่มองมนุษย์ เป็นเครื่องจักรยิ่งกว่าทุนสามานย์อีก
ประชาธิปไตยอย่างน้อยยังพอมองเห็นโอกาสบ้าง ตามปัญญาและสมองของมึง

577 Nameless Fanboi Posted ID:oK9/Ni3IQ

>>576 ไม่นะ ถ้าว่ากันตามจริง คอมฯ คือ "เผด็จการของชนชั้นกรรมมาชีพ" ดังนั้นจึงไม่มีนายทุนที่สะสมทุนส่วนเกิน ถ้าพูดกันตามหลักแล้วก็ไม่ต่างจากการที่บริษัททำเงินได้เท่าไหร่แล้วก็เอามาแจกพนักงาน 100% นั่นละ ไม่ได้จ่ายเงินตามเงินเดือน ไม่ได้มองเป็นเครื่องจักรเลย

และอันนี้กูเห็นหลายรอบแล้ว คือพวกที่ไม่ชอบคอมฯ เนี่ยไม่ได้มองทฤษฏี แต่ไปมองโซเวียต+จีนแทน เลยมองภาพผิดๆ ว่าคอมเป็นแบบนี้แบบนั้น โดยที่ขาดความเข้าใจอย่างแท้จริงว่าคอมฯ คืออะไรเลยเกิดอคติจากความไม่รู้ขึ้น

อย่าง>>576 นี่ก็เห็นชัด คอมฯ ที่แท้ไม่ขัดแย้งกับปชต. เพราะคอมคือระบอบเศรษฐกิจ ไม่ใช่การปกครอง รูปแบบการปกครองของโซเวียตที่เป็นต้นแบบนะเอามาจากสตาลิน ซึ่งผิดที่ผิดทางอยู่มาก และไม่ควรเอามาตัดสินว่าคอมจะเป็นแบบนี้

ถ้ามึงจะพูดถึงขั้วตรงข้ามของคอมฯ มึงต้องพูดถึง Laissez-Faire พูดถึงสำนัก Friedman พูดถึงพวก Chicago Boys นั่นละถึงจะตรงกันข้าม เพราะปชต.ไม่ได้อยู่ตรงข้ามกับคอมฯ (ขั้นสุดท้ายนะ)

578 Nameless Fanboi Posted ID:/7S7rr6oe

นั่นล่ะเขาเรียกว่าเครื่องจักร เพราะไม่มีสมอง มันทำงานตามคำสั่ง ทำมากได้มากทำน้อยได้น้อย ซึ่งในตามหลักความเป็นจริงมนุษย์ที่ฉลาดคือทำน้อยแต่ได้มาก ทำไมต้องไปเท่าเทียมกับพวกโง่ล่ะ พวกไม่คิดล่ะ และความจริงในโลกคือเราเป็นได้ทั้งลูกจ้างและนายทุน ขึ้นอยู่กัลสมอง

มึงอย่างยัดเยียด perfection ideal ของไอ้มาร์คเลย ถ้ามันทำได้จริงเขาทำไปนานแล้ว ซึ่งทฤษฎีของไอ้มาร์คคือขาดตัวแปรที่มองไม่เห็นของมนุษย์อีกเยอะ

579 Nameless Fanboi Posted ID:Wh46s+wV3

>>578 มันก็ดูตามผลงานได้ ไม่จำเป็นต้องนับตามเวลางานอย่างเดียว ไม่มีตรงไหนในสำนัก Marxism ระบุว่าการทำมากหมายถึงการใช้เวลามากนะ Marx เป็นคนเยอรมัน ธรรมชาติของคนเยอรมันมุ่งมั่นด้านการทำให้ได้ประสิทธิผลเป็นหลัก หลัก Marxism บทแรกยังพูดเลยว่าคนไม่ควรทำงานหนักเกินไปเพื่อดำรงค์ชีพ ดังนั้นคอมฯ นะดูที่ผลมากกว่าวิธีการ ไม่งั้นมันพูดเรื่องเผด็จการของชนชั้นกรรมมาชีพและสรรเสริญเรื่องเสรีภาพพร้อมกันไม่ได้หรอก

ต่อให้กูไม่ยัดเยียด perfection ideal ของ Marx ที่มึงพูดก็ไม่ถูกอยู่ดี เพราะไม่มีตรงไหนใน Communist Manifesto กล่าวหรือมองว่าคนเป็นหุ่นยนต์แม้แต่น้อย กลับกัน ยังมองมนุษย์ว่ามีคุณค่าเกินกว่าจะทำงานใช้แรงอย่างไร้ประโยชน์แบบงานในโรงงานด้วยซ้ำ

หาอ่านงานของสำนักคอมหรือสังคมนิยมก่อนมาเถียงก็ดี ไม่งั้นมันจะดูตลกแบบไม่จำเป็น

580 Nameless Fanboi Posted ID:BUSCwwWLo

hey commie, u want a free helicopter ride?

581 Nameless Fanboi Posted ID:/7S7rr6oe

ของที่อยู่บนกระดานดำแต่เอาไปใช้จริงไม่ได้มันก็ไร้ค่า นี่คือการพูดตามความเป็นจริง
จะให้อ่านทฤษฎีอุปโลก แล้วมาทึกทักขอล่ะ เอาเวลาไปพัฒนาตนเองและผู้อื่นดีกว่า

582 Nameless Fanboi Posted ID:3RnO2MsoH

กูว่าต้องนิยามก่อนว่าเราจะคุยเรื่อง
ทฤษฏีในกระดาษ
หรือเรื่องระยำที่เกิดขึ้นจริง

เหมือนคนที่คุยกันมันคนละเรื่องอยู่ว่ะ
จะโมโหลุกมาฟาดเก้าอี้ใส่กันเปล่าๆ

แต่เรื่องเอาหนังสือที่ศรัทธา เอามาใช้จริงมันยากนะ เติ้ง,เหมา,โจเอิ่นไหล เคยแอบประชุมกันตั้งหลายครั้งว่าจะเอา ของในหนังสือ มาใช้จริงได้ยังไง มันก็มีใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง

ขนาดที่บอกให้เลือกเลขาพรรค มันก็ลอปบี้กันจนได้ ทายาทสายตรงมาปกครองเลยนี่หว่า

583 Nameless Fanboi Posted ID:Wh46s+wV3

>>581 ถ้าจะให้พูดกันในแง่นี้ ทฤษฏีทางเศรษฐศาสตร์ 90% คือทฤษฏีบนกระดานนะ และระบอบคอมฯ ก็ทำได้ในบางสเกล แต่ไม่ใช่ทั้งหมด และในสายเศรษฐศาสตร์และประวัติศษสตร์ คอมฯ ก็เป็นสำนักที่ทรงพลัง ถึงคนส่วนใหญ่จะไม่รู้ตัวก็เถอะว่ามันมีที่มาจากคอมฯ

ละที่กูให้มึงไปอ่านนี่คือจะได้ไม่มาพูดมั่วๆ แบบมโนไปเองนะ การพัฒนาตัวเองขั้นแรกคืออย่ามโน เพราะที่มึงพูดนี่ไม่จริงเลยซักอย่าง ทั้งบอกว่าคอมฯ มองคนเป็นเครื่องจักร ซึ่งไม่จริง และบอกว่าไม่ได้วัดที่ผลงาน ก็ไม่จริงอีก

คือที่มึงพูดมานะมโนทุกอย่าง แต่กลับพูดซะแบบกูรู้จริง แล้วก็ตบท้ายว่าพูดความจริง ไม่เถียงแล้ว เอาเวลาไปพัฒนาตัวเองดีกว่า อืม กูก็ว่ามึงควรพัฒนาตัวเองจริงๆ นั่นละ พัฒนามากๆ ด้วย แต่เริ่มจากการไม่มโน คุยด้วยข้อมูลจริงก่อนนะ

584 Nameless Fanboi Posted ID:Wh46s+wV3

>>582 ใน 3 คนนั่นเหมาไม่เคยศรัทธาในระบอบคอมฯ เลย เหมาเคยพูดว่าถ้าระบอบคอมฯ ทำให้เขาขึ้นสู่อำนาจไม่ได้ เขาก็ไม่ต้องการ โจวกับเติ้งเป็นพวกปฏิบัตินิยมที่สุด อะไรที่ทำได้ก็ทำ และเก่งมากในเรื่องการอยู่กับปัจจุบัน พวกเขาถึงเลือกที่จะสร้างปัจจุบันก่อน ในวิธีที่เป็นไปได้ และตามลำดับขั้น นั่นคือพัฒนาทุนนิยมให้ถึงขีดสุด เพื่อให้มันกลายเป็นคอมฯ ในท้ายที่สุด

585 Nameless Fanboi Posted ID:3RnO2MsoH

กูดูทีวี เขาบอกว่า เหมา มันชอบแบบชาบูๆคนเดียว ท่านผู้นำสั่งแล้วต้องทำ เชื่อผู้นำชาติพ้นภัยแบบเนี้ย แล้วไอดอลคือเลนิน,สตาลิน จริงป่าวไม่รู้นะ

แต่พอเลขาฯ ของฝั่งรัสเซียพูดว่า สตาลินทำผิดพลาดเยอะ เหมา เลยไม่กินเส้นกับรัสเซียยุคนี้ เปิดวอร์กับรัสเซียหลายครั้งเหมือนกัน

586 Nameless Fanboi Posted ID:LTYpvN2Mi

>>585 สตาลินคิดจะเข้ามามีอิทธิพลในจีน แต่เหมาไม่ยอม เขาถือว่าจีนเป็นของเขาคนเดียว ไม่มีเหมา ไม่มีจีน ไม่ว่าใครก็มาแตะจีนของเหมาไม่ได้ สตาลินที่รู้ตัวเรื่องนี้เลยเลิกสนับสนุนจีน ซึ่งจุดแตกหักอยู่ที่สงครามเวียดนาม ที่โซเวียตสนับสนุนเวียดกง แต่จีนไม่อยากเห็นโซเวียดมีอิทธิพลในภูมิภาคนี้มากขึ้น เลย "สั่งสอน" แม่งเลย หลังจากนั้นจีนกับโซเวียตก็ไม่พูดกันอีกนาน พึ่งกลับมาดีกันยุคปูตินนี่ละ

587 Nameless Fanboi Posted ID:/7S7rr6oe

>>593
อยากเอาตัวหนังสือของไอ้มาร์คมาแปะก็ตามสบาย เพราะกูพูดถึงความจริง ผลลัพท์

588 Nameless Fanboi Posted ID:3RnO2MsoH

กูว่าตอนนั้นอำนาจทหารมันจะแบบ
รัสเซีย9/จีน6/US11

จีนเปิดวอร์กับรัสเซียจริงๆกูว่า จีนเละว่ะ. จีนทหารประสบการณ์น้อยกว่า,เทคโนฯสู้ไม่ได้ แต่รัสเซียมีเครื่องบินเจ๊ท ผลิตรถถังไวหยั่งกับโกงใน RA2
แต่US แม่งได้ที สนับสนุนลับๆให้จีน. ให้มันแตกกันกวนตีนกันเอง
คือถ้ารัสเซียเปิดวอร์จีน. กูว่า US รีบเข้ามาเสือกแน่นอน

589 Nameless Fanboi Posted ID:LTYpvN2Mi

>>587 เอาความจริงเหรอ อืม ถ้าดูจากแผนพัฒนาประเทศ 5 ปีฉบับที่ 1 ของโซเวียต ความเป็นอยู่ของประชาชนถือว่าพัฒนาขึ้นมาก เทียบกับตอนระบอบซาร์ไม่ได้เลย ชาวโซเวียตได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม ผู้หญิงและผู้ชายมีสิทธิมีเสียงเท่ากัน และโซเวียตโดยเฉพาะรัสเซียกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว หลุดจากระดับความยากจนของยุคนั้น

เกาหลีเหนือก็ใช้แผนพัฒนาประเทศตามรอบโซเวียต ทำให้ในสมัยคิมอิลซุง เกาหลีเหนือเจริญกว่าเกาหลีใต้มากๆ ถึงขั้นคนเกาหลีใต้อิจฉาคนเกาหลีเหนือ แต่จุดเปลี่ยนอยู่ที่การแข่งขันในโลกคอมฯ เอง ทำให้สินค้าเกาหลีเหนือไม่มีตลาด จนเกาหลีใต้ของปาร์คจุงฮีเริ่มตามทันจนแซงได้ในที่สุด

ความจริงเหรอ ความจริงของระบอบคอมฯ คือถ้าโลกตะวันตก ฝ่ายตลาดเสรีเปิดการค้าขายกับฝั่งคอมฯ อย่างแท้จริง ทุกวันนี้ระบอบคอมฯ ก็จะค่อยๆ พัฒนาตัวเองจนอาจกลายเป็นแนวทางใหม่ได้ และระบอบคอมในยุคแรกๆ นั้นดีจริง อย่างน้อยก็ดีกว่าระบอบเก่า และมีส่วนช่วยพัฒนาประเทศจริง แต่เนื่องจากการถูกกีดกันจากโลกเสรีมากไป จึงทำให้ตลาดของคอมฯ ไม่สามารถสู้กับตลาดโลกเสรีที่ใหญ่กว่าได้ ก็แค่นี้ละ

ส่วนที่โม้ว่ามองคนเป็นเครื่องจักรและทำแค่ไหนก็ได้เท่ากันคือมโนล้วนๆ อย่างน้อยก็ในตอนต้นที่สถาปนาระบอบคอมฯ ขึ้นมา

กูเอาความจริงมาพูดละนะ เอาไงต่อดีละ กูรู้ว่ามึงไม่เคยรู้เรื่องนี้หรอก เพราะมึงไม่น่าจะเคยอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ หรือรัฐศาสตร์อะไร ถึงพูดได้แค่นี้ ต่อให้ไม่เอางานของ Marxism มาอ้าง ผลก็อย่างที่กูกล่าวไปนั่นละ ว่ามึงมโนไปเอง

ระบอบคอมไม่ใช่สิ่งที่สมบูรณ์พร้อม แต่ก็ใช่ว่าในช่วงเวลาหนึ่ง สถานที่หนึ่ง มันจะไม่มีดี หรือไม่ได้ผลเลย เพราะช่วงเวลาหนึ่งมันเป็นตัวกระตุ้นให้โลกพัฒนาความเป็นอยู่ของคนขึ้น ซึ่งก็คือ สังคมนิยม ที่ในแง่หนึ่งก็คือคอมฯ อย่างอ่อนนั่นละ

590 Nameless Fanboi Posted ID:LTYpvN2Mi

>>588 ไม้ตายของจีนคือทะเลมนุษย์ คนมันเยอะ ตายๆ ไปมั่งคนอื่นจะได้มีกิน เป็นอย่างนี้มาทั้งประวัติศาสตร์ ตอนสงครามเกาหลีก็มีตัวอย่างให้เห็น กองทัพที่เหนือกว่าทุกอย่างดันเกือบแพ้ทหารที่เสื้อผ้าไม่สมบูรณ์ ปืนไม่มีลูก พกดาบจีนซะงั้น

591 Nameless Fanboi Posted ID:3RnO2MsoH

>>589 จุดอ่อนมึงเยอะนะ ที่จริงมึงจะพูดว่า รัสเซีย,จีน,เกาหลีเหนือ มันเจริญได้ดีในยุคแรก
กูว่ามันเป็นลักษณะเฉพาะ เวลาที่ประเทศที่บอบช้ำมากได้ผู้นำเผด็จการว่ะ

คืออยากทำอะไรให้ดีก็สั่งทำเลย เรื่องอนุมัติอะไรเร็วๆมันเลยทำได้ว่ะ อย่างรัสเซียมันเคยมีเมืองอุตสาหกรรมหนัก เปลี่ยนมาผลิตอาวุธพอ สงครามมันซาลงก็เปลี่ยนกลับมาผลิตสินค้า

ถ้ารัสเซีย,เกาหลีเหนือ,จีนได้ดี กูก็ว่าช่วงนั้นได้ผู้นำดี คนมีคุณภาพมากกว่าว่ะ หลังสงครามWWII พวกG7 ก็พวกนี้อเมริกา,ฝรั่งเศส,อิตาลี่,เยอรมัน,ญี่ปุ่น ผู้เล่นหลักในWWII ทั้งนั้นเลย และศก. มันก็ดีกว่า จีน,รัสเซีย,เกาหลีเหนือ

ถึงจะบอกว่าดีจริงทำไมมาล้มทีหลังวะ มึงจะโทษว่าโลกเสรีไม่ซื้อของมันเหรอ มึงดูผลงานระยำรัสเซีย,กับจีนหลังWII ไหมว่าไปยึดตรงไหนของโลกบ้าง กูต้องไปอุดหนุนมันมั้ยถ้ากูยังเสี่ยงจะโดนมันมายึดเนี้ย ที่จะเข้าไปอัฟกันน่ะ มันหาทางจะเข้าไปติดตะวันออกกลางที่เจอน้ำมันนะจ๊ะ

อเมริกาถึงต้องไปเสือกตรงนั้น

592 Nameless Fanboi Posted ID:9oImTdy6u

>>591 มึงว่ามานี่กูคุ้นๆเลยนะ 555

593 Nameless Fanboi Posted ID:/7S7rr6oe

>>591
ดีจริงกำแพงเบอร์ลินไม่ล่มสลายหรอก มันมั่วเอาคอมมาปนกับเผด็จการ ฮิตเลอร์ก็เคยทำให้เยอรมันเจริญ จอมพลสลษฏ์ก็ทำให้ประเทศไทยเจริญ คือผู้นำมีสิทธิเด็ดขาดมันเลยง่าย มึงพูดถูก

594 Nameless Fanboi Posted ID:GSjBf97Nf

>>593 ฮิตเล่อำม่ำด้ทำให้เยอรมันเจริญนะ เป็นความเข้าใจผิดอย่างหนึ่ง ต่อให้ไม่มีฮิตเล่อก็ทำให้เยอรมันเจริญำได้

และรัสเซียกับเกาหลีเหนือที่กูยดตัวอย่างมาใช้วิธีการพัฒนาตามแนวคิดคอมทำให้ประเทศเจริญได้ ในช่วงนั้นนะ

ที่ระบบเศรษฐกิจึอมล่มสลายปัจจัยหลักๆ คือขาดตลาด โดนโลกเสรีนำโดยเมกาและยุโรปกีดกัน ถ้าไม่มีการกีดกัน เป็นได้ว่าโซเวียตก็ยังอยู่ถึงทุกวันนี้

เรื่องนี้ไม่น่าแปลก เพราะจีนตอนนี้ก็เผด็จการ แต่เศรษฐกิจดี ทำให้ปกครองคนได้ แต่โซเวียตเศรษฐกืจแย่ เลยปกครองไม่ได้ ปัจจัยสำคัญอยู่ที่เศรษฐกิจล้วนๆ

595 Nameless Fanboi Posted ID:/7S7rr6oe

ก็ทุนนิยมอยู่ดี จะแถไปไหนนี่ครับ

596 Nameless Fanboi Posted ID:t8vADH9lL

เราเถียงเรื่องไรกันอยู่

ถ้าเป็น Fact แบบ เรื่องนี้เกิดกับไง,ที่ไหน,เมื่อไหร่,เพราะอะไรกูจะคุยด้วย

แต่ถ้าวอร์ คอมมี่-ทุนนิยม แบบideal หนังสือฯหนังสือดูว่ายาก

เพราะคนคุยด้วย มันจะลากไปวอร์แบบ เรื่องที่้เกิดขึ้นจริง คอมมี่เละเป็นขี้อ่ะขอบอก

มึงรู้ป่ะว่า คนเขียน Wealth of Nation อ่ะ แม่งเอามาแปลซะ ทำให้คนคิดว่า สร้างอาณาจักรแบบจักรวรรดินิยมเนี้ยดีสุด คือเอากำลังทหารแข็งๆไปยึดเขา

วิธีปกครองแบบไหนดีสุดรู้ป่าว หนังจีนแม่งบอก ทำไมเราต้องปล้น เพราะไม่มีอาหาร,ไม่มีเงิน
ทำไมเราต้องมีเงิน เพราะจะเอาไปซื้ออาวุธซื้อม้า
ทำไมเราจะต้องมีม้ามีอาวุธ ก็กูจะเอาไปปล้น

ขำๆนะถ้าเป็นยุคที่มึงไปปล้นเขาแ้วข่าวมันไม่แพร่ไปเร็วทั่วโลกแบบยุคนี้คงนี้ไม่ได้ละ

597 Nameless Fanboi Posted ID:a2N39eyii

จับสอยดาวก็เหมือนไขกาชะ
#มิตรจับได้แต่ของกากๆ

598 Nameless Fanboi Posted ID:fVMJoMtV0

อ่านบทสัมภาษณ์หรือที่มีคนออกมาพูดเรื่อง Bitcoin พบว่าเกินครึ่งยังไม่รู้จริง ๆ เลยว่า Bitcoin คืออะไร ซื้อไม่เป็น โอนไม่เป็น อ่านเค้ามาอีกที (แต่เข้าใจผิดหมด) รู้จักคำว่าขุด แต่อธิบายแล้วไม่ใช่สักอย่าง ไม่ต้องพูดถึง Blockchain นะ รู้จักแต่ชื่อ

แต่ผู้นั้นกลับสามารถวิเคราะห์ได้เป็นฉาก ๆ ซึ่ง ... ผิดหมด อ่านแล้วช่างน่ากังวล

ช่วงนี้ Bitcoin กำลังเข้ากระแสหลัก คนก็พยายามเกาะกระแสกันเยอะ แต่ถ้าจะลงทุนอะไรก็ให้ศึกษาเองให้ดีก่อน อย่าเชื่อคนอื่นมาก เพราะคนที่เข้าใจตลาดนี้จริง ๆ มีอยู่ไม่มาก

อย่างไรก็ตาม อนาคตของด้านนี้คือ Blockchain ไม่ใช่ Bitcoin ... ระหว่างที่คนตื่นเต้นกับการขึ้นมา 20 เท่าของ Bitcoin ในปีนี้ รู้หรือไม่มีตัวอื่นขึ้นไป 70 เท่าใน 1 ปี หรือบางตัว 10 เท่าใน 1 เดือน

ตัวที่ขึ้นมาพันเท่าก็มี ...

ถึง Market Cap ของ Crypto Market ตอนนี้ Majority จะอยู่ที่ Bitcoin แต่ก็คอยดูกันต่อไป ตลาด Blockchain เพิ่งเริ่ม

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

599 Nameless Fanboi Posted ID:JoDsW9VxD

เหมือนตอนที่มี ทิวลิปดอกเดียว ราคาเท่ากับที่ดินที่ปลูกทิวลิปได้ พันดอกป่าวครับ. แล้วก็มีตลาดขายล่วงหน้าทิวลิป
โบรกเกอร์ทิวลิป คนซื้อทิวลิปจริงๆ กับคนที่ซื้อตั๋วแล้วแลกเป็นเงิน เวลาครบสัญญา. มีกระทั่งคนขายที่ดินมาซื้อตั๋วทิวลิป

ที่เหลือไปต่อเอาเอง. BCมมันดีกว่าทิวลิปอย่างเดียวคือมันไม่เน่าตามเวลา มันจะอยู่ที่หน้าจอจนกว่าจะไม่มีอินเตอร์เนตใช้กัน

600 Nameless Fanboi Posted ID:ymSEKjNNM

หลายบทวิจารณ์ของสตาร์วอร์สนั้นดีมาก แต่ติดอย่างเดียวคือแม่งอธิบายตรงกันว่าแนวคิดมาจากหลักพุทธเชี่ยไรนั่น

ไอ้พวกตายแล้วไปรวมเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ มันพราหมฮินดูที่เรารังเกียจอะคับ ตายแล้วเป็นสวนนึงของปรมาตมัน พุทธะนี่เจไดบรรลุโสดาบันแล้วตายห่าต้องหายไปเลยคับ ไม่สามารถโผล่มายิงฟ้าผ่าแบบพวก animism พวกศาสนาผีได้ด้วย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

601 Nameless Fanboi Posted ID:JoDsW9VxD

>>600 อ่ามันเป็นรากที่คิดว่ามนุษย์เหมือนกันน่ะ

แต่กูว่าบางทีก็เป็นเราเองที่มโนว่า ของเรามีก่อนแล้วเลฝรั่งเอาไปทำเป็นหนังอ่ะนะ
กูเคยเจอคนเขมร เห็นภาพร.9 บนธันบัตรครั้งแรก แล้วมันบอกว่าอุ้ยเหมือน สมเด็จ ฮุนเซน เลย
กูนิ่หน้าเบ้เลย กูเกลียด สด. HS ของมึงแทบจะเอาขี้ขว้างใส่

602 Nameless Fanboi Posted ID:X4BoRvEBx

>>596 นอกจาก Marx ก็มี Adams Smith ที่น่าสงสารที่สุด เพราะงานแกถูกเอามาตีความผิดๆ ตลอด Wealth of Nation ไม่มีตรงไหนเลยที่พูดเรื่อง "จักรวรรดินิยม" อะไรนั่น มึงเอามาจากไหน เคยอ่านบ้างรึเปล่า มโนไปเองเพราะเอาเวลาไปพัฒนาชีวิตอยู่เหรอ

สิ่งที่น่าสงสารที่สุดของ Adams Smith คือการที่ไม่ค่อยมีคนอ่านหนังสือเล่มแรกของแกชื่อ The Theory of Moral Sentiments ที่อธิบายถึง "ธรรมาภิบาล" ของรัฐและเอกชนในระบบตลาดเสรี และกล่าว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในระบบเศรษฐกิจ เป็น "มือที่มองไม่เห็น" อีกมือหนึ่งที่ควรมี

คนรุ่นหลังเอาแต่ Wealth of Nation มาแปลโดยไม่เข้าใจบริบทและวิธีคิดของแก Adams Smith เชื่อในตลาดเสรีก็จริง แต่ก็เชื่อมั่นด้วยว่ามนุษย์มีคุณธรรม อันจะนำมาสู่ธรรมภิบาลในการประกอบธุรกิจ แกคงร้องไห้เมื่อรู้ว่าคนรุ่นหลังเอางานแกมาใช้ยังไง

สุดท้ายนะ ก่อนคอมมีเละเป็นขี้ มึงหัดไปหาข้อมูลจริงๆ มาอ่านก่อนเถอะ

603 Nameless Fanboi Posted ID:JoDsW9VxD

>>602 เมื่อวันก่อนกูก็ไปเงิบในบางกระทู้จนต้องไปอ่านหนังสือใหม่เลยว่ะ พอได้ข้อสรุปว่ากูผิดนี่โคตรอายเลย
กูถือว่าถ้ามีคนทักกู กูจะทบทวนตัวเองดู ไปหาความรู้อีกรอบ

604 Nameless Fanboi Posted ID:2M6sOTPJV

เชิญมึงตีความที่ถูกต้องไปเถอะไอ้คอมมี่ เขารู้กันทั้งโลกว่าคอมมี่แท้ๆแม่งเหี้ย

605 Nameless Fanboi Posted ID:CGkAOZ8Hp

>>600 อ่านแล้วนึกถึงคนพุทธที่ชอบเคลมว่าการทำสมาธิเป็นองค์ความรู้ที่กำเนิดจากศาสนาพุทธเลย

อีกเรื่องก็ตอนที่มีหนังโรแมนติกฝรั่งเรื่องนึงมีเอาเรื่องชาติภพมาเล่น
แล้วคนพุทธก็เขียนรีวิวหนังบอกว่าพระพุทธเจ้ารู้เรื่องชาติภพมาเป็นพันปีแล้ว ฝรั่งเพิ่งจะรู้
แล้วคนก็แห่กันอวยพุทธด่าฝรั่ง เห็นแล้วเพลียชิบหาย

606 Nameless Fanboi Posted ID:5Csvh8tOm

>>605 กบในกะลาก็งี้ล่ะเนอะ

607 Nameless Fanboi Posted ID:OeIbT3cdH

ก็คล้าย ๆ กับ ROV เป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลอะนะ

608 Nameless Fanboi Posted ID:MBtBqdFJJ

มีเด็กชายคนหนึ่งขโมยมีดทหารของพ่อไป เมื่อพ่อถามว่าเขาเห็นมีดไหม ลูกชายจึงบอกว่าตนเอาไปขายแล้วนำเงินไปซื้อนาฬิกามา พ่อขอดูนาฬิกาแล้วบอกว่าสวยดี พร้อมกล่าวว่า "ลูกรู้ไหม ถ้าหากวันนี้บ้านเราถูกปล้น โจรจะฆ่าพ่อและฆ่าแม่ของลูก พี่สาวของลูกจะถูกขืนใจ ส่วนลูกก็จะเดินออกมาแล้วบอกว่า สวัสดี ขณะนี้ที่กรุงมอสโกเป็นเวลา 12.30 น."

#มิตรสหายผู้โหดสัดท่านหนึ่ง

609 Nameless Fanboi Posted ID:to0g+Ltqe

>>608 จะบอกว่าถ้าไม่มีอะไรป้องกันตัว มึงมีโอกาสโดนปล้นชิบหายหมดบ้าน

อดัม สมิท ก็กล่าวไว้นิดนึงว่า ถ้าเรามั่งคั่ง เราก็ต้องมีระบบป้องกันดีพอกันไม่ให้คนอื่นมาแย่งความมั่งคั่งของเราไปดื้อๆ

610 Nameless Fanboi Posted ID:CIorYCqFQ

(1) Obvious

ความเศร้าที่เห็นชัดมักมีผู้คนเข้ามาปลอบใจ ความเปรมปรีด์ที่เห็นชัดมักมีผู้คนมาร่วมยินดี

ความทุกข์หรือพิการที่เห็นชัดก็มักมีผู้คนเข้ามาแสดงความช่วยเหลือหรือห่วงใย

ความเห็นชัด(obvious)มักดึงดูดผู้คน

ซึ่งนั่นก็ถูกต้องแล้ว

ครอบครัวที่มีลูกพิการ พ่อแม่ก็ต้องดูแลมากเป็นพิเศษในเรื่องการใช้ชีวิต

ครอบครัวที่ลูกมีปัญหาขี้กังวลหรือซึมเศร้า พ่อแม่ก็เพ่งใส่ใจในเรื่องความเครียดหรืออารมณ์

ครอบครัวที่มีลูกออทิสติก พ่อแม่ก็ต้องคอยกระตุ้นพัฒนาการและช่วยเหลือการเข้าสังคม

ฯลฯ

(2) Ordinary

แต่ถ้าครอบครัวนั้นมีลูกอีกคนที่ไม่พิการ ไม่ได้ซีมเศร้า ไม่ได้เป็นออทิสติก ไม่ได้มีภาวะอะไรที่โดดเด่นเห็นชัดว่าต้องการความช่วยเหลือ ลูกอีกคนที่ดูแสนจะสามัญธรรมดาไปจนถึงอาจดูว่าเป็นเด็กเข้มแข็ง

เมื่อพ่อแม่เห็นลูกคนนั้นดูแลตัวเองได้ก็อาจเผลอวางใจไม่ค่อยถามไถ่ว่า “เหนื่อยมั้ย มีอะไรอยากให้พ่อแม่ช่วยมั้ย”

เมื่อพ่อแม่เห็นลูกคนนั้นสอบได้คะแนนดีหรือมีผลงานที่ภูมิใจก็อาจเผลอละเลยไม่ชื่นชมเท่าเวลาลูกที่มีปัญหาทำอะไรได้ดี เพราะคิดว่าลูกคนนั้นทำได้ ‘ดีอยู่แล้ว’

ก็จริงแหละว่าบางคนพอใจกับการอยู่ลำพังไม่อยากให้ใครมายุ่ง แต่บางคนไม่ใช่แบบนั้น

เขาหรือเธอแค่ต้องพยายามซ่อนความรู้สึกเหล่านั้นไว้เพราะไม่อยากเป็นภาระให้พ่อแม่เหนื่อยหรือลำบากใจที่ต้องมาดูแลตัวเอง

เขาหรือเธอรู้สึกผิดที่ต้องแย่งเวลาของพ่อแม่มาจากพี่น้องที่ต้องการการดูแลมากกว่า

เขาหรือเธอถูกพ่อแม่สวมบท‘คนเก่งของพ่อแม่’ทีละนิดโดยไม่ได้ตั้งใจ

ทำให้เขาหรือเธอไม่กล้าแสดงออกว่าบางครั้งก็อยากให้กอด บางครั้งก็อยากให้ถาม บางครั้งก็อยากมีเวลาเล่นขำๆด้วยกัน

เขาหรือเธอแค่ซ่อนมันเอาไว้
ซ่อนความเศร้า
ซ่อนความกังวล
ฯลฯ

ยิ่งซ่อนเก่งเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้พ่อแม่มองไม่เห็นราวกับว่าไม่มีความทุกข์เหล่านั้น

ดังนั้นเมื่อพ่อแม่มองไม่เห็น ก็ทำให้พ่อแม่ลืมไปว่าลูกอีกคนที่ปกติธรรมดานั้นก็ต้องการอะไรบางอย่างเหมือนลูกอีกคนที่มีปัญหา

ต้องการคำพูด
ต้องการความใส่ใจ
ต้องการพ่อแม่ในแบบที่ลูกอีกคนต้องการ

อาจไม่ได้ต้องการเวลาที่มากเท่า ไม่ได้ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ไม่ได้ต้องการความรักที่มากมายใหญ่โต

ขอแค่อย่าลืมว่า

คนเก่งของพ่อแม่ก็อยากให้พ่อแม่ถามบ้างว่า “เหนื่อยไหม มีอะไรอยากให้พ่อแม่ช่วยหรือเปล่า”

คนเก่งของพ่อแม่ก็อยากให้พ่อแม่มาร่วมยินดีเมื่อเขาทำตั้งใจทำอะไรดีๆขึ้นมา

หรือเมื่อถึงเวลามีปัญหาแล้วคนเก่งของพ่อแม่พยายามจะเก็บไว้จัดการคนเดียว แต่เขาหรือเธอก็จะดีใจมากถ้าพ่อแม่สังเกตเห็นแล้วไม่ทิ้งเขาไว้กับปัญหานั้นลำพัง

===

ภายใต้เปลือกภายนอกที่มีปัญหา ภายใต้ภาวะพิการหรือหรือภาวะทุพพลภาพ ภายใต้เปลือกนอกที่ดูเก่งกาจ ภายใต้ความธรรมดาสามัญ

[ภายในของเรา]ล้วนมีพื้นฐานของจิตใจที่ต้องการอะไรคล้ายๆกัน

[รัก มั่นคง ปลอดภัย สงบสุข ปลอบประโลม ความรู้สึกว่าเป็นที่ต้องการ ฯลฯ]

อย่าให้เปลือกของความธรรมดาสามัญมาลวงให้เราเข้าใจว่า คนตรงหน้าเป็นมนุษย์วิเศษที่ไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้นเหมือนคนทั่วไป

เขาหรือเธอแค่อาจมีสกิลการซ่อนที่เก่งมาตั้งแต่เด็กเท่านั้นเอง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

611 Nameless Fanboi Posted ID:UvR7gLUAz

>>610 สัส นี่มันกู

612 Nameless Fanboi Posted ID:MuQQ4bC+c

>>611 กูต่างหาก

613 Nameless Fanboi Posted ID:7Yt3makvH

ไม้ต้นเดียวกัน ท่อนหนึ่งกลายเป็นพุทธรูป ท่อนหนึ่งกลายเป็นไม้กระดาน
ไม้กระดานรู้สึกไม่พอใจ "เราต่างก็เป็นไม้ที่มาจากต้นเดียวกัน ทำไมคนอื่นๆถึงเหยียบฉันเพื่อขึ้นไปกราบเธอ?"
พุทธรูปบอกกับไม้กระดานว่า "เพราะเธอถูกเลื่อยเพียงครั้งเดียว แต่ฉันถูกแกะถูกกรีดเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง!"
...
ชีวิตคนก็เช่นกัน ทนได้กับการหล่อหลอม ชีวิตจึงเกิดคุณค่า
เมื่อใดก็ตามที่เธอเห็นความรุ่งเรืองของใครๆ อย่าได้เกิดความอิจฉา แต่จงถามตัวเธอเองว่า เธออดทนและทุ่มเทมากกว่าใครคนนั้นแล้วหรือยัง?

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

614 Nameless Fanboi Posted ID:M53ZbfVi.

>>613 เกือบจะดี แต่ตัวไม้เองมันเลือกไม่ได้นะสิ

615 Nameless Fanboi Posted ID:EFMU5n7bL

>>613 คล้ายๆกับพวกที่เข้าเรียนนายร้อยมั่ง หมอมั่ง แล้วมาบอกว่ากูเหนือกว่าพวกเอ็งเพราะกูผ่านการเคี่ยวกรำมามากกว่าน่ะสิ

ไม้ก็ไม้เหมือนกันโยนเข้ากองไฟก็ไหม้หมดแหละ

616 Nameless Fanboi Posted ID:8zw+HPFXl

>>613 กูกลับคิดว่าพุทธรูปมันมีไว้แค่ประดับ ส่วนกระดานมันใช้ประโยชน์ได้เยอะกว่า

617 Nameless Fanboi Posted ID:MXSHGAhsg

>>615 พูดแบบนี้ก็เหมือนกับบอกว่าทุกคนต้องตาย งั้นไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องพัฒนาตัวเอง ไม่ต้องทำประโยชน์ดีกว่า เพราะเดี๋ยวต้องตายกันหมดอยู่ดี

618 Nameless Fanboi Posted ID:kV0XfurxF

โม่งมึงมองแต่ตัวอักษรแต่ไม่ตีความเนื้อในตัวอักษรนั้นเลย มึงจะได้ประโยชน์​อะไรวะกับการมองแค่เปลือกแล้วแย้ง ในเมื่อเนื้อความที่เค้าจะสื่อมันคือการพูดถึงการอดทนพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นคนที่มีค่า ซึ่งกว่าจะถึงจุดนั้นก็ต้องผ่านการขัดเกลามามากและเพราะไม่ยอมแพ้วันนึงเลยกลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่าให้คนกราบไหว้ไง
ถ้าไม่เห็นด้วยก็แย้งที่ใจความดิ ไปแย้งเรื่องไม้กระดานหรือพระอันไหนมีค่ามากกว่ากัน หรือเผาแล้วก็ตายหมดเพราะมันคุณค่าเท่ากันไปเพื่ออะไร มึงได้ประโยชน์​อะไรจากการแย้งแค่ตัวอักษร​แบบนี้หรอ
แล้วพ้อยหลักของมันผิดตรงไหน คนที่พยายามมากกว่าก็ย่อมไปได้ไกลกว่า

619 Nameless Fanboi Posted ID:NZEYG3Z83

คำว่า"ผิวดำ" สุภาพกว่า "ผิวสี" นะครับ

แต่จริงๆ ในประเด็นนี้ ละ "ผิว" ไปเลยก็ได้นะครับ รูปมันก็แสดงอยู่ไม่จำเป็นจะต้องใส่เลย

ปล. ผิวสี มันแปลมาจาก colour skin/people หมายถึงใครก็ตามที่ ไม่ใช่คนขาว (caucasian) ซึ่งมันหยาบกว่า เรียกว่า Black skin/people มันไม่แม้แต่เคารพ ethnic ด้วยซ้ำคือเหมาไปเลย คำว่า black ทุกวันนี้ ในอเมริกาใช้กันได้เป็นปกติแล้ว อังกฤษใช้กันปกติมานานแล้ว แตคำว่า colour people ยังเป็นคำเหยียดหยามที่รุนแรงอยู่
สื่อไทยชอบใช้คำว่า "ผิวสี" มาก ผมก็ไม่เข้าใจว่าไปเอาความเข้าใจผิดๆว่ามันสุภาพกว่า "ผิวดำ" มาจากไหน แต่ไหนแต่ไร คำนี้มันหยาบมาก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

620 Nameless Fanboi Posted ID:+3knovaPk

>>618
มันเป็นการเปรียบเทียบเชิงนัยยะที่ผิดพลาด ตรรกะเพี้ยนนั่นแหละ ความพยายามของมนุษย์มันซับซ้อน กว่าสิ่งของที่มีมิติเดียวเยอะ

621 Nameless Fanboi Posted ID:nfzcoJazi

>>620 มันเป็นอุปมา การที่มึงมองให้มันเป็นมิติเดียวนั่นละคือความผิดพลาด

622 Nameless Fanboi Posted ID:+3knovaPk

>>621
อุปมาก็ต้องมีชั้นเชิงครับ ไม่ใช่จะใส่ symbolic อะไรก็ได้ เหมือนดราม่าไอ้เพจแว่นที่ใส่คนพิการนั้นแหละ

623 Nameless Fanboi Posted ID:i0vxjaD1C

>>622 เพจไอ้แว่นนั่นมันเปรียบเทียบกากหาที่มาที่ไปไม่ได้สื่อความหมายผิดพลาด คนรับสารเข้าใจไปในทางเหยียดเกือบทั้งหมด แต่การเปรียบว่าคนเราจะมีความสามารถ มีคุณค่า(โดยที่มีคุณค่าจริงๆ ไม่ใช่ตรรกะมนุษย์ทุกคนมีค่าเท่ากัน)ได้ต้องผ่านการขัดเกลามามากโดยการเปรียบกับพระพุททธรูปที่คนให้ความเคารพบูชา(ในเชิงสัญลักษณ์) มันตรรกะป่วยยังไง

624 Nameless Fanboi Posted ID:nfzcoJazi

>>622 มันไม่มีชั้นเชิง ตรรกะเพี้ยนยังไง

ลองมองในโลกจริงนะ มันคือการเชิดชูคนที่สามารถผ่านอะไรมาได้นั่นละ ลองเทียบคนที่ผ่านความลำบาก กับคนที่ไม่เคยผ่านอะไรมาเลยก็ได้ คนเราเลือกจะชมคนที่ผ่านมามากนั่นละ อย่างหนังลาสุด Stronger ก็เป็นตัวอย่างที่สังคมชื่นชมความมุ่งมั่นและความอดทนของคน

อุปมาอันนึงไม่ได้หมายความว่าต้องครอบคลุมทั้งหมดนิ อันนี้เป็นอุปมาชื่นชมความอดทนและความมุ่งมั่นในการผ่านความลำบาก ถ้าอยากได้มิติอื่นก็ไปหาอุปมาอื่นสิ

แล้วมึงคิดว่าอุปมายังไงถึงจะล้ำลึก Edgy อย่างที่มึงต้องการละ

625 Nameless Fanboi Posted ID:+3knovaPk

พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้เคารพรูปบูชาว่ะ แค่นี้การเปรียบเทียบของมึงก็ผิดพลาดแล้ว
การกราบไหว้อย่างงมงาย ไม่ใช่ความพยายามว่ะ อีกอย่างไม้มันก็ไม่ได้แกะสลักตัวเองด้วย ถ้ามึงจะยก ก็"ยีราฟ"ที่คอยาวเพื่อจะได้กินใบไม้สูงๆ นี่คือความพยายาม

626 Nameless Fanboi Posted ID:ThYgNJjHd

เขาบอกให้เน้น คำสอนที่เป็นสัจธรรมเพื่อหาความสุขทางจิตวิญญาณเฟ้ย

627 Nameless Fanboi Posted ID:VYcxGnpCZ

>>618 ผิดแล้ว ขอแค่มึงโชคดีหรือมีพรสวรรค์ มึงก็ไปได้ไกลกว่าคนที่พยายามแล้ว บิบิ

628 Nameless Fanboi Posted ID:+3knovaPk

เออพรสวรรค์ที่เอามาใช้ประโยชน์ไม่ได้มันก็ไร้ค่า อย่างเช่นมึงพันด้ายเก่ง

629 Nameless Fanboi Posted ID:1qf7+GZSS

>>628
ยิงปืนโคตรแม่นแทนที่พ่อแม่จะส่งเสริมให้ไประดับโลก เสือกโขกสับเรื่องเรียนไม่ดี โนบิตะนี่ซวยจริงๆ

630 Nameless Fanboi Posted ID:i0vxjaD1C

>>625 กูว่ามึงหลงประเด็น
ประเด็นแรก มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าจะสอนให้เคารพอะไรป่าววะ เพราะมองตามความเป็นจริงพระพุทธรูปคือสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ว่ามีคุณค่ามีคนให้ความเคารพบูชา สำหรับบางคนถือเป็นสิ่งศักดิสิทธิด้วยซ้ำไม่งั้นจะมีหิ้งพระตั้งไว้สูงๆให้คนกราบไหว้ทำไมล่ะถ้ามันไม่ได้เป็นสิ่งที่แทนถึงความเคารพบูชา คนเราจะมีวัฒนธรรมไหว้พระทำไมถ้าไม่มองว่ามันคือสิ่งที่มีค่าสูงส่ง เอาตามคอมมอนเซนส์นะมึงไม่ใช่หลักธรรมของศาสนาถ้ามองว่าเป็นเพียงรูปสลักแม่งก็คือรูปสลักแต่คนเราให้คุณค่ากับมัน มันเลยมีค่า
เพราะฉะนั้นมันไม่เกี่ยวเลยว่าพระพุทธเจ้าสอนว่ายังไง มันคือการเปรียบเปรยตามคอมมอนเซส์ของทั่วไปที่มองว่าพระพุทธรูปคือสิ่งที่มีคุณค่า เราไม่ได้มาถกเรื่องพุทธศาสนาจะเอาแนวคิดพระพุทธเจ้ามาทำไม เราพูดถึง"สิ่งที่เป็นที่เคารพบูชาตามจารีตของสังคม" พระพุทธรูปจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่แทนถึงสิ่งที่มีคุณค่าได้

เหมือนกับที่บอกว่าอัญมณีมีค่าทั้งๆที่ในความเป็นจริงแม่งเอามาทำห่าไรได้นอกจากเป็นเครื่องประดับ แต่ทำไมมันถึงมีค่าเพราะคนให้คุณค่ามันไง ต่อให้มีบางคนแหลมมาว่าแม่งก็แค่หินในความเป็นจริงกรวดหินดินทรายยังเป็นประโยชน์กว่า แต่ในสังคมมันคือของมีค่าอัญมนีก็สามารถเปรียบเทียบว่าเป็นของมีค่าได้ไม่สำคัญว่าใครจะว่ายังไง มึงต้องแยกแยะระหว่าง "ความจริง" และ "การเปรียบเทียบเชิงสัญลักษณ์" ให้ออกนะ

ประเด็นสอง การกราบไหว้อย่างงมงาย มีตรงไหนที่บอกว่าการกราบไหว้อย่างงมงายคือการแทนถึงความพยายาม การที่พระพุทธรูปถูกกราบไหว้คือการแสดงออกว่าพระพุทธรูปเป็นสิ่งที่มีค่าในสายตาของสังคมไม่เกี่ยวกับพ้อยหลักที่จะสื่อ ความพยายามในที่นี้มันแทนถึงการพยายามอดทนต่ออุปสรรคต่างๆที่เข้ามาขัดเกลาจนวันนึงจึงมีคุณค่าขึ้นมาเพราะผ่านเรื่องยากลำบากมานับไม่ถ้วนแต่ยังยืนหยัดได้อย่างสวยงามในท้ายที่สุดต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวกับพระพุทธรูปมาเกะสลักไม้ให้ตัวเองอะไรนั่นเลย

มึงอ่ะมองแค่มิติเดียวไม่ได้มองถึงเนื้อความที่เค้าจะสื่อ มองว่าพระแกะไม้ กราบไหว้คืองมงาย คำสอนพระพุทธเจ้าบ้างล่ะ คือมันไม่เกี่ยว พ้อยของข้อความนั้นคือ คนที่ผ่านอะไรมามากมายจนประสบความสำเร็จเป็นที่นับถือต่างหาก เป็นการบอกว่ากว่าจะประสบความสำเร็จได้คนเราต้องเจ็บมานับครั้งไม่ถ้วน ถ้ายอมแพ้กับอุปสรรคที่เข้ามามันก็จะกลายเป็นเพียงไม้กระดานที่โดนเลื่อยครั้งเดียวแล้วเลิกไม่ทำอะไรต่อมันก็จะจบลงแค่นั้น

631 Nameless Fanboi Posted ID:+3knovaPk

มึงจะมาขายตรงไปที่อื่น จับแพะชนแกะไปเรื่อย ถ้าข้อความมึงดีจริงเขาไม่ทักหรอกสัส

632 Nameless Fanboi Posted ID:+3knovaPk

มึงเคยได้ยินประโยค ขยันผิดที่สิบปีไม่รวย ม่ะ
การพยายามทำตามฝันอ่ะเป็นสิ่งดี แต่ถ้าทำแล้วไม่ถึงสักที เขาเรียกโง่ มึงจะรู้ได้ไงว่าไม้กระดานไม่มีความพยายาม หรือไอ้ไมืพระพุทธรูปมี มันเป็นไม้ที่คนแกะสลัก เพราะฉะนั้นการเปรียบเทียบ มึงมันผิดที่โยนความผิดให้ไม้รับชะตากรรมของคน

ที่กูอยากจะบอกอย่างสุดท้ายความพยายามอย่างเดียวไม่พอ ถ้ามึงไม่มีสมองก็ทำงานไปจนตายนั่นแหละ แล้วอิจฉาคนอื่นโดยการเปรียบเทียบอะไรโง่ๆอย่างนี้

633 Nameless Fanboi Posted ID:krywA15dg

คำคมที่มึงเอามาโพสสิ่งที่เอามาเปรียบเทียบมันไม่สมเหตุสมผล
เนื้อความที่จะสื่อก็ตื้นมากไม่ได้มีความลึกซึ้งอะไรเลย ว่าง่ายๆคือมันกลวงอ่ะ
โดนคนอ่านสับมึงจะมาอ้างว่าคนอ่านผิดไม่พยายามทำความเข้าใจมันใช่หรอวะ

634 Nameless Fanboi Posted ID:i0vxjaD1C

>>632 โอ้ย สัส เค้าเทียบให้เห็นว่าการแแกะสลักอ่ะแม่งคืออุปสรรคที่ผ่านเข้ามา กว่าจะเป็นพระพุทธรูปได้ก็ผ่านการแกะสลักมานับไม่ถ้วนก็คือคนที่ประสบความสำเร็จจนมีคุณค่าเป็นที่นับถือของสังคมอ่ะมันต้องผ่านอะไรมาเยอะมาก เพราะงั้นมันเลยต่างจากไม้กระดานที่ผ่านการเลื่อยแค่ครั้งเดียวไงสัส แค่นี้เองงงง มันเข้าใจยากยังไงวะ อะไรคือมีความพยายามมากกว่ากัน อะไรคือความพยายามแบบไม่มีสมอง กูงงกับมึงจัง
>>633 กูไม่ใช่คนโพส แต่กูอ่านและตีความได้

635 Nameless Fanboi Posted ID:krywA15dg

>>634 กูว่าที่คนด่าๆกันก็เข้าใจหมดทุกคนนะว่าคนเขียนคำคมพยายามจะสื่ออะไร
ปัญหาอยู่ตรงที่สิ่งที่พูดมันงั้นๆมาก ค่อนไปทางพูดอะไรเอาด้านเดียวเอาเท่ และวิธีการนำเสนอก็แย่

636 Nameless Fanboi Posted ID:+3knovaPk

ยังไงว่ะ ไม้กระดานผิดที่คนแกะสลักไม่ใส่ใจ แล้วไม้มันเกี่ยวอะไรว่ะ เมื่อต้องเอาไม้กระดานมาเป็นฐานคือไม้ที่ไม่มีความพยายาม ไม่ต้องไสกบ ไม่ต้องเหี้ยไรเลย จริงๆมันคนล่ะหน้าที่กันเลย ประโยชน์มันต่างกันกลายเป็นไม้กระดานไม่มีค่า กูงงกับมึงมาก
เหมือนรูปศิลปะสุดสวย พอมึงเห็นงานabstract ที่ว่าง่ายเสือกขายดีกว่า ไม่อกแตกตายเหรอ เห็นอ้างจิตวิญญาณนามธรรมกูขอสักหน่อย
มึงนี่สมองกลวงมาก

637 Nameless Fanboi Posted ID:B229eOaXb

>>613 ถึงไม้จะมาจากต้นเดียวกัน แต่พระพุทธรูปก็มีค่ากว่าไม้กระดาน
ไม้กระดานแม่งมูลค่าตำ่ เพราะMass produceได้ง่ายๆ ช่างไม้ที่ไหนก็ทำไม้กระดานได้เหมือนๆกัน
พระพุทธรูปเป็นศิลปะ Mass produceไม่ได้ มีองค์เดียวในโลก ทำให้ประเมินมูลค่าไม่ได้ แต่อย่างน้อยมูลค่าก็สูงกว่าไม้กระดานแหละวะ
จริงอยู่ที่ไม้ส่วนที่ได้เป็นพระพุทธรูปนั้นต้องทนกับการถูกแกะถูกกรีดเป็นพันๆครั้ง ต่างจากไม้กระดานที่โดนเลื่อยครั้งเดียว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นคือไม้พวกนี้เลือกเกิดไม่ได้ เลือกเป็นไม่ได้
ไม้ที่ได้เป็นพระพุทธรูปก็แค่ดวงดี ที่มีโอกาสถูกเลือกมาทำเป็นพระพุทธรูปแต่แรก ถึงจะต้องเจออุปสรรคมากกว่าไม้กระดานก็เถอะ
ไม้กระดานแม่งก็แค่ดวงซวย ที่จริงแล้วไม้กระดานก็อาจจะทนอุปสรรคแบบไม้ที่เป็นพระพุทธรูปได้เหมือนกันแหละ แต่มันก็ไม่มีทางเป็นพระพุทธรูปได้ เพราะคนทำพระพุทธรูปไม่ได้เลือกมัน

638 Nameless Fanboi Posted ID:AXZVpfvSf

คำคมเหมือนกัน คำคมหนึ่งมีคนสรรเสริญ อีกคำคมมีคนเยาะเย้ย
คำคมแรกรู้สึกไม่พอใจ "เราต่างก็เป็นคำคมเหมือนกัน ทำไมคนอื่นๆถึงเยาะเย้ยฉันแล้วสรรเสริญเธอ?"
คำคมแรกบอกกับคำคมที่สองว่า "เพราะเธอถูกนั้นตื้นเขิน แต่ฉันนั้นลุ่มลึก!"
...
ชีวิตคนก็เช่นกัน เมื่อรู้จักคิดให้ลึก ไม่มองแต่เพียงเปลือกนอกอันตื้นเขิน ชีวิตจึงเกิดคุณค่า
เมื่อใดก็ตามที่เธอเห็นคำคมของคนอื่นมีคนชม อย่าได้เกิดความอิจฉา แต่จงถามตัวเธอเองว่า เธอแต่งคำคมได้ดีกว่าใครคนนั้นแล้วหรือยัง?

#กูเอง

639 Nameless Fanboi Posted ID:VZO/440X3

คือ กูเป็นคนโพส >>613 กูไม่คิดเลยว่ากลับมาละจะเจอพวกมึงเถียงอะไรกันยืดยาวขนาดนี้
ใครอยากจะตีความยังไงก็แล้วแต่นะ มันจะคมจะเขลาจะตื้นเขินลุ่มลึกห่าอะไรก็แล้วแต่มึงจะเลือกเก็บไปแล้วกัน
ก็แค่ข้อความที่มีคนส่งมาทางไลน์ พอกูอ่านแล้วรู้สึกมีแรงที่จะเหนื่อยตอนนี้เพราะหวังผลในอนาคต ก็เท่านั้นแหละ
#กูไปนอนล่ะ

640 Nameless Fanboi Posted ID:AIUaCTilR

>>638 กูชอบอัยนี้มากกว่าไอไม้กระดานนั่นอีก555

641 Nameless Fanboi Posted ID:EHszvAJnL

>>639 มึงกำลังโดนตัดแต่งรูปร่างอยู่ไง

642 Nameless Fanboi Posted ID:EHszvAJnL

ส่วนกูนะ กระดานที่ดีคือกระดานที่มาจากไม้เก่าเนื้อแน่น เมื่อครั้งที่ตัดออกมาจากต้น จะต้องให้คนชำนาญเลือกมุมที่จะตัด ตามแนวเส้นของเส้นใยของต้นไม้ หลังจากตัดซอยหลายครั้งจะได้ความหนา หนึ่งนิ้ว,สองนิ้ว, สามนิ้วตามต้องการและเอาไปอบด้วยความร้อน เป็นเวลานานเพื่อไล่ความชื้นออก สิ่งที่ได้จากการทำแบบนี้คือไม้ที่แกร่งลายสวยและไม้บิดงอเพราะไล่ความชื้นออกหมดแล้ว และส่งไปทำการเลื่อยครั้งสุดท้ายให้ได้ความหนาที่ต้องการ ไม้กระดานจะมีความหนา ความกว้าง แล้วแต่ยังคงความยาวไว้ 5-10เมตร จะถูกตัดอีกครั้งให้ใส่รถบรรทุกส่งไปยังร้านขายวัสดุก่อสร้าง เพื่อรอวันที่จะถูกเลือกโดยช่างไม้เอาไปทำกระดาน

ช่างไม้ต้องทำการซักอย่างแม่นยำในทุกชิ้นแล้วเรียงบนโครงสร้างแข็งแรง โดนวางชิดจนแทบไม่มีช่องว่างให้เห็นบางงานต้องเลือกสายไม้ให้ดูสอดคล้องกันกับแผ่นต่อไป ถ้ามีรอยบิ่นก็ต้องอุด ถ้ามีจุดที่ยื่นเป็นปม ก็ต้องไรหรือขัดกระดาษทรายจนวางชิดกันได้

ขั้นตอนสุดท้ายคือการย้อมเนื้อไม้ด้วยเคมี, เพราะอาจต้องทาแลคเกอร์ วัสดุเหลวใสแข็งแล้วจะเป็นฟิล์มผิวเรียบรักษาเนื้อไม้ อย่างต่ำสองรอบ หรือเป็นการทาแลคเกอร์ ขัดออก ทาแลคเกอร์ขัดออก ถึงสี่ห้ารอบเพื่อให้เนื้อไม้แสดงสี,ความเงาตามต้องการ ทำครั้งนึงจะอยู่ได้ 5-10 ปี ถ้าอยากให้สวยเหมือนเดิมก็ต้อง ขัดออก ย้อมสีใหม่ ทาแลคเกอร์ใหม่อีก

กระดานก็มีศาสตร์,ความแกร่งและความงามของมันอยู่โดยฝีมือของช่างไม้ผู้ชำนาญ แต่คนก็ไม่ได้ชื่นชมมันเพราะเห็นพระพุทธรูป(ที่ไม่รู้ว่าเหมือน กี่เปอร์เซนต์) มันสวยกว่า

643 Nameless Fanboi Posted ID:MQdQKTcT6

>>639
ถ้ามึงเหนื่อยแบบโง่ๆ มึงก็เป็นรูปสลักน้ำแข็งรอวันละลายนั้นแหละ

644 Nameless Fanboi Posted ID:aMrg/3DkY

มันก็เหมือน ประชากรA(ขยัน) B(ขี้เกียจ)
สุดท้าย B ขยายพันธุ์ได้มากกว่า Aจนครองโลกไป

645 Nameless Fanboi Posted ID:MQdQKTcT6

>>644
ความเจริญในสังคมมนุษย์ ก็มาจากการที่มนุษย์แสวงหาความขี้เกียจนี้แหละ

646 Nameless Fanboi Posted ID:Us64A99nD

กูว่าประเด็นมันก็สั้นๆ แค่ว่าคนที่อดทนกับความยากลำบากได้มากกว่าจะประสบความสำเร็จได้มากกว่านะ ทำใมพวกมึงตั้งแง่กันจัง

>>642 พระพุทธรูปใช้เทคนิคมากกว่านะ ทุกเทคนิคที่มึงพูดมาก็ใช้ ใช้มากกว่าหลากหลายกว่าด้วย

647 Nameless Fanboi Posted ID:IjJKU41.m

>>645 มาอีกแล้ว ไอ้โม่งขี้เกียจ ครั้งที่แล้วคนก็อธิบายไปแล้วนะว่าประสิทธิภาพไม่ใช่ความขี้เกียจ ครั้งนี้ก็ยังมาเหมือนเดิมอีก

648 Nameless Fanboi Posted ID:9EaqOdxRG

จะว่าไปต้นทางนี่ใช่มิตรสหายวอร์วชิระเมธีป่ะ รู้สึกคุ้นๆว่าแกชอบทวีตคำคมแนวๆนี้

649 Nameless Fanboi Posted ID:l/K0DCWGD

>>648 เปล่า เอามาจากจีน รู้สึกจะเป็นพระพุทธรูปกับระฆังมั้ง โลหะทั้งคู่ เนื้อความจริงยาวกว่านี้อีก แต่ไทยคงลอกมาแล้วปรับให้สั้นลง

650 Nameless Fanboi Posted ID:eNEzyuveb

>>646 กุก็ว่างั้นไม่เข้าใจว่าจะไปเอาเรื่องอื่นอย่างอะไรมีค่ามากกว่ากันมาเถียงทำไม เพราะในเชิงสัญลักษณ์แล้วพระพุทธรูป​ก็มีค่ามากกว่าไม้กระดานอยู่ดีป่ะ สงสัยแม่งไม่เข้าใจเรื่องการเปรียบ​เทียบเชิงสัญญลักษณ์​ พยายามทำให้ไม้กระดานมีค่ามากกว่าพระพุทธ​รูปให้ได้
ก็พูดเรื่องสัญลักษณ์​ กุงงว่าคนกราบไหว้ไม้กระดานกันหรอถึงได้บอกว่าแม่งมีค่าเท่ากันในเชิงสัญญลักษณ์​อ่ะ

651 Nameless Fanboi Posted ID:INZGIhJ76

>>650 +1
กูก็ไม่เข้าใจว่ามันจะตั้งแง่กันทำไม พาลมาดูถูกว่ากูเหนื่อยแบบโง่ๆ ซะอย่างงั้น รู้จักกูหรือก็เปล่า
ทำทานให้แม่งฟินกับการยกตนหน้าคอมแบบไม่มีใครรู้ว่ามึงเป็นใครไปแล้วกัน

652 Nameless Fanboi Posted ID:MQdQKTcT6

ต้องด่าอ่ะถูกแล้ว พระพุทธรูปเป็นของสูงของไอ้พวกงมงายหน้าโง่ไม่กี่คน เผอิญว่าคนบนโลกนี้ไม่ได้ถือพุทธ และมองไม้กระดานไร้ค่า
ไม่ว่ามองยังไงมันก็คำคมคนโง่

653 Nameless Fanboi Posted ID:vK0YLPYsn

มึงรู้ไหมว่ากูเป็นคนพิมพ์ >>642 แล้วมาอ่านต่อตอนเช้าแล้วกูว่ากูยอมรับได้ทุกข้อความเลยว่ะ
เพียงแต่เรามองคนละมุมแค่นั้นเอง อย่าคิดมากกับเรื่องอุปมาเลยว่ะ ของจริงมันตลกกว่านั้นอีก

654 Nameless Fanboi Posted ID:5miwen9YW

>>652 กูก็ไม่เห็นมึงจะฉลาดตรงไหนนะ ถึงได้ตีความอุปมาอุปมัยตามตัวอักษรแค่นี้

655 Nameless Fanboi Posted ID:MQdQKTcT6

ครับไอ้อัจฉริยะ พอดีกูไม่เคยกราบไหว้พระพุทธรูป กับพวกพระสงฆ์จัญไร กูเอาคำสอนทุกศาสนามาปรับใช้ และยึดหลักตัวกูของกูว่ะไอ้จั๊ดง่าว พระพุทธรูปมันก็ไม่ได้มีค่าในสายตากู มันคือขยะของไอ้พวกงมงายเหลือบไร

656 Nameless Fanboi Posted ID:wUVxZqQuP

>>654 แยกแยะคนที่มาเถียงจริงๆจังๆกับคนที่มา bait ไม่ออกก็บ่งบอกสติปัญญามึงมากพอแล้วล่ะ

657 Nameless Fanboi Posted ID:W0PEaF8Ts

ไม้กระดาน กับ บ้องกัญชา

มาจากไม้เหมือนกัน อะไรมีประโยชน์กว่ากันครับ

658 Nameless Fanboi Posted ID:q8s2Zz94T

แล้วแต่สถานะการ์ณ ถ้ามึงจะเดินข้ามตึก แล้วถือบ้องกัญชาคงได้ตกตึกตายอ่ะ

659 Nameless Fanboi Posted ID:ogFuMYixj

>>658 พระพุทธรูปก็เช่นกัน

660 Nameless Fanboi Posted ID:AIUaCTilR

ทำเป็นเอาquoteนู่นนี่นั่นมาลง แต่พอโดนแกะสลักหน่อยดันรับไม่ได้ บิบิ

661 Nameless Fanboi Posted ID:by+HS1reb

>>655 กูก็ไม่ได้มีศาสนามองพระพุทธรูป​เป็นของตกแต่งบ้าน แต่มึงแม่งโครตตื้นเขิน ถ้ามึงจะยกมาแบบอะไรมีค่าในสายตามึงถึงเอามาเปรียบเทียบได้ ชาตินี้คงหาอะไรมาเปรียบไม่ได้หรอกควย พูดมาได้แล้วยังกล้าด่าคนอื่นอีกนะ

คำคมมันพูดถึงบริบทของสังคมนะไอ้เหี้ย อะไรที่สังคมให้ค่า ไม่ใช่การให้ค่าส่วนบุคคล อย่างที่บอกว่าเชิงสัญญลักษณ์​แล้วพระมีค่ากว่าไม้กระดานเพราะสังคมยกให้มันเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่สมัยไหนๆแล้วไงสัส ใครๆเค้าก็รู้แหละว่ามองตามจริงแม่งก็แค่รูปสลัก แต่ความหมายเชิงสัญญลักษณ์​มันคือของมีค่าไงไอควายยยย
คือมึงคิดว่ามึงเป็นใครถึงบอกว่าสิ่งที่มึงมองว่าไร้ค่าแปลว่ามันไร้ค่า ไม่งั้นตอบกุหน่อยว่าถ้ามันไร้ค่าทำไมคนต้องกราบไหว้ ต้องเคารพไอ้ของอย่างรูปสลักด้วย เพราะสังคมมองว่ามันมีค่าไงสัส
ถึงปัจจุบันแนวคิดคนแม่งจะเปลี่ยนไปแล้วแต่พระก็ยังคงเป็นสิ่งที่แทนถึงของมีค่า การเคารพบูชาในเชิงศาสนาอยู่ดี แม่งก็เลยยังคงมีค่าอยู่ไม่งั้นจะขายได้เป็นล้านหรอวะ ทำตัวขวางโลกเอาเท่แต่ข้างในกลวงนี่นา ทำมาพูดว่าเอาคำสอนทุกศาสนามาปรับใช้แต่ด่าคนที่เค้่นับถือศสาสนานั้น คืออย่ามาพูดเอาเท่เลยว่ะ ดูเปลือกมาก

662 Nameless Fanboi Posted ID:l7PqUcXGO

>>660 กูเป็นคนเอามาลง กูรับได้ รับอยู่ ที่มึงแซะถึงจะไม่มีประโยชน์กูก็รับมา จะรออ่านไปเรื่อยๆ ว่ามึงจะเถียงกันไปถึงได้ถึงแค่ไหน

663 Nameless Fanboi Posted ID:MQdQKTcT6

>>661
ก็ไอ้สิทธัตถะ ฮัลเลาะห์ ยะฮะโฮวาแม่งขี้หี
กูไม่เคารพมัน แต่กูฟังคำสอนมันไง อันไหนเข้าท่าใช้ได้จริง ก็ทดลองปฏิบัติ เพราะกูเชื่อในตัวกูอันดับแรก กูจะบอกอะไรให้น่ะคนที่ยิ่งใหญ่ เขาเชื่อ ตนเอง 99% ที่เหลือ 1% ข้อแก้ไขของเขาที่ได้มาจากผู้อื่น
ทำมาเอาโควทเท่ๆมาปะหน้า ถุยไอ้สันขวาน

664 Nameless Fanboi Posted ID:ZW+S4mLWM

>>661 คำคมนี่มันไม่เวิร์ค เพราะไม้ที่มันได้เป็นพระพุทธรูปมันไม่ได้เลือกเองกระเสือกกระสนจนได้ดีเป็นพระพุทธรูปเอง แค่โชคดีโดนเลือกไปกรีด แต่ตัวไม้กลับเอามาพูดข่มไม้กระดานว่ากูนี่ต้องอดทนผ่านการกรีดซ้ำๆนะกูถึงเหนือกว่ามึง

665 Nameless Fanboi Posted ID:MQdQKTcT6

อีกอย่างสังคมของพวกจิตป่วย ที่บูชาเพราะหวังรวยทางลัดกูไม่ให้ค่า ถุยประเทศไทยมีคนอย่างมึงนี่แหละมันจึงไม่พัฒนา

666 Nameless Fanboi Posted ID:MQdQKTcT6

>>665
ไม้กระดานคือตัวอย่างของการเสียสละเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นอย่างแท้จริง แต่กลับน้อยเนื้อต่ำใจตนเองซะงั้น คำคมแม่งบัดซบ

667 Nameless Fanboi Posted ID:d0uDDuyC6

กูว่าแล้วที่คนบอกว่าพอเริ่มจะใช้อารมณ์แล้วให้ถอยออกมาก่อน แล้วค่อยๆคิดกันใหม่น้า. กูอยากให้ใครที่เริ่มพิมพ์แบบใช้อารณ์ กูว่าจะเพิ่งพิมพ์ให้เมื่อยนิ้วเลย ไว้อารมณ์ดีดีแลเวมาพิมพ์ใหม่เหอะกูรออ่านได้

668 Nameless Fanboi Posted ID:F.3xI5SQQ

>>664 มันก็ตาม>>646 สั้นๆ แค่นี้ละว่าใครอดทนต่อความลำบากได้มากกว่า

ถ้ามึงจะบอกว่าคนที่โชคร้ายโดนกระทำซ้ำๆ คือโชคดี กูว่ามึงตีความผิดแล้วละ

คนที่ประสบความสำเร็จต้องผ่านอะไรมามากกว่าคนทั่วไปเยอะ ประเด็นมันน่าจะจบแค่นี้แล้วนะ

หรือมึงคิดว่าคนที่ไม่เคยผ่านความยากลำบาก ไม่ว่าจะมาจากตัวเองหรือไม่ ควรถูกชมมากกว่าละ

669 Nameless Fanboi Posted ID:IjJKU41.m

>>666 มันเสียสละตรงไหน มันเลือกเองหรอว่าจะโดนเหยียบโดนกระทำ มันไม่ได้เลือกเองซักหน่อย

ก็เหมือนพระพุทธรูปนั่นละ นั่นก็ไม่ได้เลือกเหมือนกัน แต่มันดันสรรสเริญไม้กระดานว่าเสียสละซะงั้น ย้อนแย้งจริงๆ

และไม่กระดานมันมีหน้าที่หลากหลายนะ ไม่จำเป็นต้องเอามาทำเป็นพื้นก็ได้ มึงแค่คิดไปเองว่ามันมีคุณค่า

670 Nameless Fanboi Posted ID:MQdQKTcT6

คนที่ประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องลำบากอะไรมากมาย ถ้าพวกเขาโฟกัสตรงจุด

671 Nameless Fanboi Posted ID:MQdQKTcT6

>>669
ตามนั้นมันไม่ได้เลือกเอง ถูกต้องแล้ว กูแค่เสนออีกมุมของไอ้คำคมโง่ๆนั้น

672 Nameless Fanboi Posted ID:IjJKU41.m

>>670 จริงเหรอ มึงเคยประสบความสำเร็จเหรอ ถึงบอกว่าไม่ต้องผ่านอะไรมามาก

เวลาอ่านที่คนประสบความสำเร็จออกมาพูดเขาก็บอกนะว่าผ่านมามากกว่าจะมาถึงจุดนี้

มีแค่พวกขายตรงเท่านั้นละมั้ง ที่บอกว่าอะไรก็ได้มาง่ายๆ แป๊ปเดียวรวย

>>671 ไม่ได้เลือกเองไม่ได้หมายความว่าไม่มีความหมายนะ

ลองเทียบกับมาลาล่าดูก็ได้ แม่งเลือกโดนตาลีบันยิงเหรอ ก็ไม่ แต่แม่งผ่านมาได้ เลยกลายเป็นไอคอนไป

673 Nameless Fanboi Posted ID:Yd7QX6ZrF

คือถ้ายกตัวอย่างเป็นสัตว์ หรืออะไรที่มันตรงประเด็นกว่านี้มันก็โอเค
แต่พอยกเป็นไม้แล้วมันไม่ใช่อะ เพราะตัวไม้มันไม่ได้เป็นคนเลือกว่าจะเป็นอะไร มันหืออืออะไรกับช่างไม้ไม่ได้ แล้วไม้ที่โชคดีเป็นพระพุทธรูปไปตอบยังงั้นกับไม้กระดาน กุว่าไม่ใช่อะ

ปล ขอสำนวนจีนดั้งเดิมหน่อยสิ อยากรู้ว่ามันเป็นยังไง

674 Nameless Fanboi Posted ID:eNEzyuveb

>>663 แล้วการเชื่อตัวเองมันเกี่ยวเหี้ยอะไรกับคำคมที่เถียงอยู่ มึงก็แค่อยากทำเก๋าด่าศาสนาอื่นโชว์พาวเท่านั้น แต่กลวง กาก ที่ไม่พัฒนาก็เพราะเจอพวกแย้งแบบกลวงๆอย่างมึงอ่ะ คุยกะมึงแล้วเหมือนสีซอให้ควายฟัง แล้วดันเสือกเป็นควายอีโก้สูงด้วย

>>673 กูมองว่ามันเปนียบเทียบถึงปัญหาในชีวิตคนที่เราเลือกไม่ได้ เราเลือกเจอปัญหาไม่ได้อ่ะมึง เราทำได้แค่อดทนและพยายามผ่านมันไปให้ได้ เมื่อมึงผ่านไปได้มึงก็จะประสบความสำเร็จ​อะไรแบบนี้
เพราะงั้นคำพูดที่พูดกับไม้กระดานมันเลยไม่ใช่การยกตนข่มท่านว่าตัวเองพยายามมากกว่า แต่เป็นการบอกถึงสัจธรรม​อย่างตรงไปตรงมาว่ากว่าจะเป็นอย่างกูเนี่ยต้องผ่านอะไรมามากนะ ต้องอดทนต่อการถูกแกะเป็นพันเป็นหมื่นครั้งกว่าจะมายืนอยู่ตรงได้ เท่านี้เองอ่ะ

675 Nameless Fanboi Posted ID:XQ3marcj/

กูให้อีกคำคม
"ที่ว่าสวยแบบ ปฏิมากรรม,แข็งแกร่งเหมือนกระดาน, น่ากราบไหว้อย่าง พระพุทธรูปเกิดจากที่มันอยู่นิ่งปล่อยให้คนมีฝีมือขัดเกลามันขึ้นมา"

การวางเฉยอดทนต่อแรงเสียดทานได้เป็นคุณสมบัติของคนที่จะพัฒนาขึ้นได้

676 Nameless Fanboi Posted ID:fVumWEb35

>>674 อ่าน >>656

677 Nameless Fanboi Posted ID:IjJKU41.m

>>673 กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในวิหารมีระฆังใหญ่ใบหนึ่ง พุทธรูปองค์หนึ่ง ทุกวันระฆังถูกเคาะหลายร้อยครั้ง ต้องร้องคร่ำครวญออกมา หากพุทธรูปประทับนั่ง รับการหมอบกราบจากผู้คนนับร้อยพัน สร้างความไม่พอใจแก่ระฆังใหญ่ยิ่ง ตัดพ้อว่า "พวกเราต่างหลอมจากทองเหลือง เหตุใดท่านอยู่เบื้องสูง ทุกวันมีคนหมอบกราบ จัดผลไม้ น้ำชา จุดธูปเทียนบูชา แต่ทุกครั้งที่ผู้คนหมอบกราบท่าน ข้าจะถูกตี นี่หายุติธรรมไม่"

พุทธรูปตรัสว่า "เจ้าไม่ต้องเลื่อมใส ท่านทราบหรือไม่ว่าตอนที่ช่างแรงงานขึ้นรูปของเรา ก็ต้องใช้ค้อนทุบ ใช้ดาบแกะสลัก ผ่านการหลอมด้วยอัคคี ขัดเกลานับครั้งไม่ถ้วน ค่อสำเร็จเป็นปากแก้มคิ้วคาง เราผ่านความลำบากอย่างมาก ค่อยนั่งอยู่ที่นี้ รับการกราบไหว้จากผู้คน ท่านเพียงถูกเคาะเบาๆ ครั้งหนึ่ง ก็ทนทานไม่ได้หรือ?"

เซี่ยสิน จากพยัคฆราชซ่อนเล็บกล่าวกับเจ้าโจวอ๋องในเล่ม 7 ภาคแรก

กูมองว่าคนเราเลือกโชคชะตาไม่ได้เหมือนกัน แต่เลือกว่าจะทนได้หรือไม่เหมือนกันวะ

678 Nameless Fanboi Posted ID:l7PqUcXGO

พวกมึงแม่งประสาทแดกดีว่ะ (ชม)

679 Nameless Fanboi Posted ID:SzxWpC66P

ดูสมมุติจริงว่าเวลาเจอคนที่ดีจริงมึงจะรีบไปซื้อดอกไม้ธูปเทียนไปถวายให้เขาลำบาก เดินลำบากทำไมวะ สวัสดี แล้วมองดูห่างๆว่าเขาทำอะไรบ้าง แล้วเอามาปรับใช้กับตัวเองดีกว่ามั้ง

680 Nameless Fanboi Posted ID:MQdQKTcT6

ถุยเหอะสัส เป็นพระพุทธรูปหีหมาอวดตัวว่าผ่านมาเยอะ ไอ้กระจอก คนเราอ่ะน่ะ ถ้ามันฉลาดมันเจ็บนิดหน่อยก็ยิ่งใหญ่ได้ คำคมหีหมาเอาไปหลอกควายเถอะไป
หัดอ่านหัดเรียน กาลามสูตรบ้างน่ะสัส โดยเฉพาะอย่าเชื่อที่เขาพูดกันมา ไอ้ควายได้ยินไหมไอ้ควาย

681 Nameless Fanboi Posted ID:MJA6XqGOu

อ่อนชิบหาย คนเขาก็เมินไปหลายรอบแล้วยังไม่รู้ตัวอีกหรอวะ สักแต่ด่าแบบกลวงๆ คนอื่นเขาหมดอารมณ์ดีเบตกันไปเลย

682 Nameless Fanboi Posted ID:p.2qAqi7N

จบรึยังวะ กูจะได้เอา quote ในสต๊อกมาลงซะที

683 Nameless Fanboi Posted ID:BykrMpXM6

>>680 มึงหาหมอมั้ย? อะไรก็ถุย อะไรก็ควาย กูงง คุยกันดีๆทำไมต้องทะลุกลางป้องขนาดนั้น หรือมึงหงุดหงิดอะไรมา ไปห้องระบายมั้ย?

684 Nameless Fanboi Posted ID:MQdQKTcT6

ให้ทานความรู้หมา มันต้องแรงแบบนี้ ในเมื่อพิมพ์ภาษาคนไม่รู้เรื่อง ไอ้พวกหมาไม่แดก ต้องรอให้คนอท่นเขามาทำเป็นพระพุทธรูปหีหมาไปจนตายเหอะมึง ไอ้กระจอก

685 Nameless Fanboi Posted ID:MQdQKTcT6

คนที่แน่จริงเขาไม่อยากเป็นไอ้พระพุทธรูปหีหมาหรอกว้อย ต้องรอให้คนบงการ ถุย
สันดานไอ้พวกกระจอก

686 Nameless Fanboi Posted ID:VswnOIwNU

>>682 เอามาลงเถอะ กูอยากคุยเรื่องใหม่แล้ว

687 Nameless Fanboi Posted ID:+lxvydEVR

รำคาญคนบ้าว่ะแม่ง ไม่คุยกะแม่ละ โง่เกิน เปลี่ยนเรื่องเลย

688 Nameless Fanboi Posted ID:VswnOIwNU

WAGRRRRWWGAHHHHWWWRRGGAWWWWWWRR

#มิตรสหายหน้าขนในแกแล๊กซี่อันไกลโพ้น

689 Nameless Fanboi Posted ID:iR3YwJUIX

>>688 https://www.youtube.com/watch?v=t0vsNFO2pDg

690 Nameless Fanboi Posted ID:BMQGC0Y0Q

คำคม "ถ้าเจอโทรล มึงอย่าฟีด"
"Ignore รัวๆ is magic"

691 Nameless Fanboi Posted ID:aU+ms8bmL

" มีแต่เศษสวะมนุษย์ ที่กราบไหว้พระพุทธรูปจัญไรขอหวยหวังรวย ไม่มีสักคนเอามันมาใช้ประโยชน์ได้สักคน มันชอบอยู่เฉยๆให้คนกราบไหว้ fuck ไอ้บุดด้าหน้าหี"
มิตรสหายท่านหนึ่ง

692 Nameless Fanboi Posted ID:Y/7g0y9Uu

ยังไม่ไปแฮะ

693 Nameless Fanboi Posted ID:aU+ms8bmL

>>692
ลูกศิษย์ธัมที่ป่ะมึงอ่ะ ตงิดตั้งแต่คำคมแล้ว

694 Nameless Fanboi Posted ID:vLmN3KK4h

สรุปว่าไอ้คำคมไม้นั่นมันผิดที่ใช้พระพุทธรูปมาอุปมาหรอวะ ถึงได้มีแอนตี้แฟนศาสนาออกมาดิ้นพราดๆ
นี่ถ้าไม่กระดานมันอิจฉารูปสลักคิวปิดเล่นเจี้ยวเยี่ยวราดดราม่าคงไม่เกิด

695 Nameless Fanboi Posted ID:vLmN3KK4h

- รถตู้วินแถวบ้าน ตอนเปิดทางด่วนใหม่ มาขอเพิ่มค่าโดยสารจาก 50 บาทเป็น 52-53 บาท แต่เพราะ เรื่องกฏเกณฑ์ อะไรไม่รู้มันจึงไม่สามารถขึ้นแบบออฟฟิเชี่ยวได้ เลยประกาศว่าขอเป็นน้ำใจละกัน ใครจะให้ก็ได้ไม่ให้ก็ได้ แต่!! หลังจากนั้น ผดส. ทุกคนรับทราบทั่วกันว่าค่าโดยสารคือ 52 บาท
- อยู่มาวันหนึ่งคงมีปัญหาบางอย่าง นายท่าเลยประกาศว่าค่าโดยสารคือ 50 บาทถ้วน แต่ตอนที่ประกาศดันไม่ประกาศให้ชัดเจนไม่รู้ถึงทั่วกันเหมือนตอนประกาศขึ้นราคา ผดส. ส่วนใหญ่ ยังเข้าใจว่า ค่าโดยสารคือ 52 บาท ทวง 2 บาทที่เหลือจากเราตลอดด เราบอกว่ามันคือ 50 บาทก็ไม่เชื่อ บางคนบอกว่า 2 บาทจะให้ก็ได้ไม่ให้ก็ได้เป็นน้ำใจ แต่ตอนพูดมันมีฟีลลิ่งแบบ เมิงต้องให้ (ซึ่งกุไม่ให้ เชรี่ยน้ำใจคือให้ก็ได้ไม่ให้ก็ได้เว้ย ไม่ใช่มาบังคับเหมือนกุเลวมาก)
- เคยบอกนายท่าว่า โดนแบบนี้ ช่วยประกาศให้มันชัดเจนได้ไหมว่า 50 บาท ให้ทุกคนรู้ นายท่าบอกบอกคนขับไปแล้ว คนขับบอกว่าผดส.ให้มาเอง (สึดด แค่นี้ก็ได้หราาา)
- วันนี้โดนทวงอีก เจ๊คนนี้ไม่ยอมจะให้จ่าย52 ให้ได้ เราเลยถามคนขับว่า ค่ารถเท่าไหร่คะ คนขับเงียบปล่อยให้ ผดส. เถียงกันเอง (สัส อะเกนนน)
-ถ้าคิดว่าค่ารถ 50 บาทมันไม่คุ้มวิ่งก็ไปคุยกันเองแล้วปรับราคามาแบบให้เป็นทางการ ไม่ใช่ผลักภาระให้ ผดส มากดดันกันเอง ป้าย 50 บังคับให้จ่าย 52 บ้างก็อ้างน้ำใจงั้นงี้
- บ้านเมืองเจริญช้าอย่าโทษแต่คนมีอำนาจอย่างเดียวเลย คนธรรมดาทั่วๆไปไม่รักษาสิทธิตัวเอง ไม่ทำสิ่งที่มันถูก แค่ความสะดวกของตัวเองเล็กๆน้อยๆก็ปล่อยๆไป ไม่มีระเบียบวินัย เบื่ออออออออ

#มิตรใกล้ตัวกูท่านหนึ่ง

696 Nameless Fanboi Posted ID:Vbx/bNXg0

ของจีนมีอีกเวอร์ชั่นก็
ต้นไม้มีประโยชน์กับไร้ประโยชน์

697 Nameless Fanboi Posted ID:9nIByiYK3

>>694 นี่ก็พยายามแถว่าเป็นเรื่องพระกับไม้กระดานจัง
มึงกลับไปอ่านแรกๆถ้าไม่โง่ก็น่าจะเข้าใจนะว่าที่คำคมนี้โดนสับเพราะจุดไหนบ้าง

698 Nameless Fanboi Posted ID:7RnhdkJxk

>>694 มันคงบอกว่าเด็กเล่นเจี๊ยวไม่มีประโยชน์ เสียสละตัวเองเท่าไม้กระดานอีกนั่นละ

699 Nameless Fanboi Posted ID:eysilAZc2

>>697 กูไม่ได้หมายถึงมึง กูหมายถึงไอ้พวกที่ด่าศาสนาอยู่ แค่อ่านผ่านๆ มันสมองระดับมึงก็ควรจะรู้นะ

700 Nameless Fanboi Posted ID:kGhCvVDbc

คือมึงจะไม่เชื่ออะไรแล้วเอาอันนั้นมายัดใส่คนอื่นเนี่ยมันถูกเหรอวะ สุดท้ายมันก็แค่เถียงไปมาเปลืองกระทู้ไม่จบสิ้น

แล้วมึงก็จะของขึ้น ออกควาย ออกหี ออกหยาบ เพื่อพยามเอาชนะ นี่หลังคีย์บอร์ดนะ ถ้าต่อหน้าไม่ออกหมัดกันเลยเหรอ

กูอยากเตือนเพราะอยากให้มึงใจเย็นหน่อย พูดครั้งสองครั้งก็พอเถอะ ไม่ต้องพยาม หรือ จะ จับผิดขนาดนั้นหรอก เพราะไม่เข้าหูคนที่เชื่อไม่เหมือนมึงหรอก

ลองมึงเข้าห้องแม่บ้านเกมดิ วันๆมีแต่จ้องจับผิด ด่าคนอื่นสวะมั่ง แมลงสาบมั่ง แถมพอคุยดีๆก็พยามแถแบบโง่ๆ มึงไม่ช้ำในตายเลยเหรอ?

701 Nameless Fanboi Posted ID:kNFFrP0mW

ท่านคะ ท่านเข้าใจความรู้สึกของหนูแล้วใช่ไหมคะ ว่าอยู่ญี่ปุ่นแล้วทำไมไม่ค่อยอาบน้ำ...
หน้าร้อน อาบวันละครั้งพอ ช่วยประเทศเค้าประหยัดน้ำ ส่วนหน้าหนาว เอ่อ..แล้วแต่สภาพจิตใจ 555555555555

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

702 Nameless Fanboi Posted ID:5Ta2TumBU

"I have a very good friend in Rome named Biggus Dickus."

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

703 Nameless Fanboi Posted ID:OgZ2W2dgc

>>697 กูเห็นแม่งสับว่าเพราะไม่นับถือศาสนาพระเลยไม่มีค่า แต่ไม้กระดานมีค่ากว่า หรือ พระไม่ได้แกะสลักตัวเองก็แค่โชคดี(ซึ่งอันนี้ก็มีคนแย้งไปแล้วว่าพระไม่ได้พูดข่ม ก็ไม่เห็นมีใครมาแย้งประเด็นนี้)​ ที่เหลือก็ด่าออกทะเลไม่เห็นมีอันไหนแย้งได้เข้าท่าเลย มีแต่เอาบรรทัดฐาน​ตัวเองที่มองว่าไม่มีค่าคนอื่นก็ต้องมาตามนั้นมาพูด ซึ่งดูโง่มากเลยอ่ะแกร

704 Nameless Fanboi Posted ID:ZENS4zrt8

>>703 ผ่านไปแล้วก็ผ่านไปเถอะ เดี๋ยวมันกลับมาอีก

705 Nameless Fanboi Posted ID:JC4ObtU4.

ก็บางคนเขามองไม้กระดานมีค่ากว่าพระพุทธรูปขี้หี มึงก็ยัดเยียดไม่ต่างกัน

706 Nameless Fanboi Posted ID:mY8IV1XPO

พวกมึงนี้ก็โง่จัง มองให้เป็นผลิตภัณฑ์สิว่ะ จะไม้กระดานไม้ฝาหรือบุ๊ดด้าไอค่อน
ท่อนไม้เอาไปแปรรูปยังไง ก็ขายได้แค่ตามราคาตลาด
แต่ถ้าเอาไปทำเป็นบุ๊ดด้าไอค่อน มึงใส่เรื่องราว เมกสตอรี่ ปาฏิหาริย์ อภินิหารเพิ่มเข้าไป
แต่นี้มึงก็หลอกขายพวกควายๆ ฟันหัวแบะรำไรบานแล้ว เพิ่มมูลค่าได้ไม่รู้เท่าไหร่
สรุปง่ายๆ เลยว่า บุ๊ดด้าไอค่อนมีค่ามากกว่า

707 Nameless Fanboi Posted ID:M/OWLkwxZ

>>703 ย้อนกลับไปอ่านถึงแรกๆแล้วรึยัง?

708 Nameless Fanboi Posted ID:bxQnAOfUA

เมื่อไหร่กูจะได้เอา quote ใหม่มาลงซะที...

709 Nameless Fanboi Posted ID:fsHzZe6Wd

โอเคครับ
ดูสตาร์วอร์แล้ว
เล่นเน็ตได้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

710 Nameless Fanboi Posted ID:yFVyIbMGJ

อัพแพทช์แล้วมันก็ดี แต่เหมือน GM มึงหนาวชดเชยของเดือนที่แล้วด้วยอ่ะ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

711 Nameless Fanboi Posted ID:R2w75mCCa

Winter is coming

712 Nameless Fanboi Posted ID:Y364Frkr8

You know, a lot of people today are saying that this generation of kids are in fact are[sic] the stupidest. Now that's debatable. Now I believe there have always been stupid people. But the internet provides greater opportunity for stupidity to be expressed and paraded. In this day and age with the internet, ignorance is a choice!
AND THEY'RE STILL CHOOSING IGNORANCE

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

713 Nameless Fanboi Posted ID:8cXPrgq4h

>>712 เขียนดีกว่าไอ้คำคมกลวงๆนั่นเยอะเลย

714 Nameless Fanboi Posted ID:4TemPvkpJ

“Admit nothing. Deny everything. Make counter-accusations”.

715 Nameless Fanboi Posted ID:59HfGONBL

>>713 มึงนี่ง้องแง้งไม่เลิกจริงๆ กูขอชมเลย

716 Nameless Fanboi Posted ID:1uG7bQNzO

"128 ประเทศโหวตสนับสนุน UN General Assembly resolution เรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาเปลี่ยนท่าทีเรื่องการตั้งสถานทูตสหรัฐในกรุงเยรูซาเล็ม ทั้งที่สหรัฐขู่ฟ่อว่าจะหมายหัวประเทศที่คัดค้าน แคนาดาของ Justin Trudeau สุดหล่อหัวก้าวหน้างดออกเสียง 🙄 ฟิลิปปินส์ที่ Rodrigo Duterte เล่นละครเกลียดอเมริกาจะเป็นจะตายก็งดออกเสียง แหม่ พวกนี้เล่นไม่เนียน"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

717 Nameless Fanboi Posted ID:qQWLBCLuY

BTCร่วงหนักเลยสัส555555

718 Nameless Fanboi Posted ID:zMHiWlCgQ

ขายเอาเงินไปเที่ยวกัน

719 Nameless Fanboi Posted ID:YsFyNSRpU

Why do Russians rush b when it's RussiA

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

720 Nameless Fanboi Posted ID:3T7HtHoPA

>>716 หนับหนุนเมกา = โดนด่าเป็นขี้ข้าเมกา
โหวตค้านเมกา = โดนด่าว่าเกลียดยิว

จัสติน the cuck เลยต้องงดออกเสียงประการฉะนี้แล

Kappa

721 Nameless Fanboi Posted ID:0aQwAGZr7

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1820485787970905&substory_index=0&id=277100888976077

บทความนี้เขียนดีนะ ต่อให้ตัดเรื่องความผันผวนไป บิทคอยมันมีปัญหาในตัวมากเกินกว่าจะกลายเป็นสกุลเงินได้

ส่วนตัวกูว่าในอนาคต Cryptocurrency น่าจะเกิดละ แต่คงเป็นแบบที่รัฐบาลสร้างและกำหนดเอง ซึ่งคงไม่ใช่ในเร็วๆ นี้

722 Nameless Fanboi Posted ID:I2Q8PK9cc

เอดส์ไม่กลัว

กลัวเอดส์ยด

723 Nameless Fanboi Posted ID:1hEVFFtb8

>>721
ความอันตรายอยู่ที่ไม่มีระบบการป้องกันภัยที่ดีที่สุดในโลกอยู่จริง กูว่าสังคมไร้เงินสดมันเกิดไม่ได้

724 Nameless Fanboi Posted ID:M1Fl1JjD1

>>723 ที่จีนก็เป็นอยู่นะ ระบบ cashless society ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยนะ มีโกงบ้างไม่ต่างจากเงินสด แต่เป็นระบบที่ใช้การได้ที่สุดตอนนี้แล้ว

725 Nameless Fanboi Posted ID:cwIyAQC8S

จีนทำได้เพราะแบ้ชค์ปลอมมันระบาดด้วยมั้ง

726 Nameless Fanboi Posted ID:Hf4FViEBg

ติดเกม = ติดเหล้า
https://www.blognone.com/node/98593
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

727 Nameless Fanboi Posted ID:R/apFfln9

>>724 มันทำได้เพราะเป็นเผด็จการ -*-

728 Nameless Fanboi Posted ID:F+lt9PRSC

USDT ตอนนี้มีมูลค่ารวม 1.25 Billions USD แล้ว
และทั้งหมดนั้น ... คือการพิมพ์เงินเอง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

729 Nameless Fanboi Posted ID:LFOPoOlM6

>>727 เป็นปัจจัยแค่ส่วนหนึ่งว่ารัฐสามารถหนุนได้เต็มที่ แต่ปัจจัยหลักจริงๆ คือประชาชนมีสมาร์ทโฟนเยอะ แอพใช้ได้ เอกชนปรับตัวไว มันมีปัจจัยเสริมด้วยว่าการที่คนใช้สมาร์ทโฟนเยอะหมายถึงแบรนด์ในประเทศอย่างหัวเหว่ยจะขายดีตามไปด้วย รัฐเลยสนับสนุนเต็มที่

730 Nameless Fanboi Posted ID:LFOPoOlM6

>>728 แต่มันยังมีทองกับเงินสำรองค้ำประกันอยู่นะ

ทุกประเทศก็พิมพ์เงินเองหมด ให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด แต่ก็มีทองคำระบบเงินสำรองระหว่างประเทศค้ำอยู่ พูดง่ายๆ ว่ามันมีหลักประกันว่าจะจ่าย แต่ BTC ไม่มีเลย

มิตรสหายท่านนี้เรียนมาน้อยจริงๆ

731 Nameless Fanboi Posted ID:AeaTp7wb.

เห็น btc ร่วงแรงนี่กูสงสารเม่าในฟิวเจอร์​เทรดเลย

732 Nameless Fanboi Posted ID:WmalpfyhP

มันเป็นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว เม่าอ่ะตายแต่รายใหญ่เขาเช่าบอทตั้งลิมิตไว้ว่าต่ำกว่าเกณฑ์ให้เทขายได้

733 Nameless Fanboi Posted ID:Cmza1TB+n

ไม่มีอะไรจะทำให้มึงรวยเร็วนอกจากโกง ค้ายาและถูกหวย

734 Nameless Fanboi Posted ID:HK+XGgab7

>>733 มรดกด้วย

735 Nameless Fanboi Posted ID:WmalpfyhP

ทำตู้อัตโนมัติ เครื่องซักผ้า, ตู้น้ำ ,เติมเงินมือถือ ,ขายทิชชู่,ถุงยาง, น้ำขวด,กระป๋องอัดลม

736 Nameless Fanboi Posted ID:E4i33LX3h

"The best argument against democracy is a five minute conversation with the average voter".

737 Nameless Fanboi Posted ID:qcfXJ2LdH

"แทนที่จะเลิกหลอกตัวเองว่าไม่มีคนจนที่โง่หรือคนโง่ที่ไม่รู้อะไรเลย คนจนคนโง่แบบนั้นมันมีอยู่จริงๆในประเทศนี้นะ ไม่เคยเห็นกันเหรอ

ที่เราควรพูดคือ โง่แล้วไง ทำไมกูโง่แล้วกูจะโหวตไม่ได้ อย่าเสือก เพลียทั้งพวกเห็นแก่ตัวชอบดูถูกริดรอนสิทธิ์ชาวบ้านไปทั่ว เพลียทั้งนักเอ็นดูคนจน จนเว่อร์"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

738 Nameless Fanboi Posted ID:y+X7mciBx

>>733 bitcoin คอยไป หรือไปเล่นสกุลอื่นก็ได้

739 Nameless Fanboi Posted ID:p7NMtsTxV

ข่าวครึกโครมเมื่อปี 2016 ที่อเมริกา แต่บ้านเราเงียบกริบ

เจมี่ โอลิเวอร์ ชนะคดี แมคโดนัลด์ หลังสู้มายาวนานหลายปี หลังเขาท้าผู้บริหารแมคโดนัลด์ให้ตอบคำถามเรื่องเบอร์เกอร์ไม่ได้ใช้เนื้อวัวแท้ 100% แถมยังใช้สารแอมโมเนียมไฮดรอกไซด์เพื่อฟอกสีเนื้อ ไม่เหมาะให้มนุษย์บริโภค เป็นเพียงเกรดอาหารสุนัขเท่านั้น
.
McDonald สัญลักษณ์ของวัฒนธรรมอเมริกันและทุนนิยม ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเด็กที่บริโภค เพราะใช้สารฟอกสีเนื้อสัตว์ที่ราคาถูก ใช้ทำอาหารสุนัข ขณะที่ Burger King และ Taco Bell ยกเลิกการใช้สารแอมโมเนียในผลิตภัณฑ์ ไปแล้ว
.
เชฟดัง Jamie Oliver ชนะคดี ที่เรียกร้องให้ผู้บริหาร McDonald ตอบคำถาม เรื่องเนื้อวัวในแฮมเบอร์เกอร์ ว่าไม่ได้ทำจากเนื้อวัวแท้ 100% มีเนื้อวัวเพียง 15% เท่านั้น โดยที่เนื้อส่วนใหญ่ไม่เหมาะแก่การบริโภคของมนุษย์ ทั้งมีสารอันตราย ammonium hydroxide ในส่วนผสมของเนื้อ เพื่อใช้ฟอกสีเนื้อราคาถูกเพื่อเร่งเนื้อแดง ทำให้เป็นเนื้อเกรดสำหรับใช้ทำอาหารสุนัขเท่านั้น
.
อ้างอิงจาก
http://healthycures.org/hamburger-chef-jamie-oliver-proves-mcdonalds-burgers-unfit-for-human-consumption-…

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1921687994813547&id=1561375730844777

https://m.youtube.com/watch?v=II14yxN71Dk

http://www.dailymail.co.uk/news/article-2092127/Jamie-Oliver-Victory-McDonalds-stops-using-pink-slime-burger-recipe.html

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

740 Nameless Fanboi Posted ID:x/R59T1w1

อิสราเอลเตรียมห้ามบริษัทเอี่ยวบิตคอยน์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์: นายชามูเอล ฮอเซอร์ ประธานสำนักงานกำกับหลักทรัพย์อิสราเอล (ISA) กล่าวว่า เขาจะเสนอกฎระเบียบเพื่อห้ามบริษัทที่มีการทำธุรกรรมเกี่ยวกับบิตคอยน์ และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ มิให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เทลอาวีฟ (TASE)

นายฮอเซอร์จะยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับกฎระเบียบดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ISA ในสัปดาห์หน้า ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ ข้อเสนอดังกล่าวก็จะต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ และการปรับปรุงแก้ไขจาก TASE

"เรารู้สึกว่าราคาของบิตคอยน์กำลังเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ และเราไม่ต้องการให้นักลงทุนตกอยู่ภายใต้ความไม่แน่นอน และความผันผวน" นายฮอเซอร์กล่าว

741 Nameless Fanboi Posted ID:tB2CsM5UU

>>739 มีข้ออ้างให้หลานกับพี่กูเลิกแดก แม๊คฯ ได้ล่ะ แต๊งซ์มั่กๆ เพื่อนโม่ง

742 Nameless Fanboi Posted ID:I590Ob/M0

>>741 ข่าวเก๊นิ?

743 Nameless Fanboi Posted ID:sgKvxwke/

>>741 มึงบอกหลานกับพี่มึงให้ชัดๆไปเลยว่าของแบบนั้นมันไม่ได้เอาไว้กิน แต่เอาไว้เย็บกระดาษ

744 Nameless Fanboi Posted ID:K5KCmnkeB

>>739 fake and gay

745 Nameless Fanboi Posted ID:bGIEOa0Uw

"เรื่องพี่ตูนนี่ทำให้คนมองข้ามการแก้ปัญหา​เชิงระบบไป​ ผมกลับมองว่าทำไมเราไม่ออก​กฎหมาย​ให้พี่ตูนและผู้สืบสกุลต้องวิ่งทั่วประเทศ​ทุกๆ​ เดือน​ แค่นี้เราก็จะสามารถแก้ปัญหา​อย่างเป็นระบบ​ ไม่ใช่เห่อเป็นครั้งๆ​ ไปแบบที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้​ ที่เมืองจีน​ เขาสามารถรักษาสกุลผู้สืบทอดสายเลือดขงจื่อมาเป็นพันๆ​ ปี​ ทำไมเราจะทำไม่ได้​ พี่ตูนมีลูกปุ๊ป​จับเข้ายิม​เลย​ พร้อมให้โตมาวิ่ง"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

746 Nameless Fanboi Posted ID:Kw3c6vqO6

>>745 ดีครับ เพื่อแก้ปัญหาเชิงระบบให้ได้อย่างยั่งยืนเราควรรณรงค์ให้มีการวิ่งทุกเดือน ทุกสองเดือน ทุกครึ่งปี หรือทุกปี และให้ทุก รพ. หาตัวแทนมาวิ่งทุกจังหวัดด้วยครับ

แค่นี้ ร.พ.ไทยก็จะไม่จนอีกต่อไปสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างมีปะสิทธิภาพครับ

747 Nameless Fanboi Posted ID:O9CRqKyjn

"ในการแสดงความคิดเห็น ผู้พูดจะยกตัวอย่างคำพูดของคนที่มีชื่อเสียงมาใช้เพื่อสนับสนุนความคิดของผู้พูดมีเพียงสองกรณีเท่านั้น คือการบอกถึงแหล่งที่มาของแนวคิด หรือการเอาชื่อเสียงของผู้พูดคนก่อนมายกระดับความคิดตนเท่านั้น"

748 Nameless Fanboi Posted ID:bGIEOa0Uw

- พ่อครับแม่ครับ.. ผมมันอัปลักษณ์ ส่วมผมน่ะชอบผู้ชาย -
#มีสปอยล์เรื่องWonderและCallMeByYourNameนะครับ

ช่วงนี้มีหนังสองเรื่องที่เข้าฉายไล่ๆกัน เนื้อหาหนังของทั้งคู่อาจจะไม่ได้ใกล้เคียงกันนัก แต่มันมีแง่มุมหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังของทั้งสองเรื่องซึ่งต่อเนื่องและสนับสนุนกันโดยบังเอิญแต่ก็เปี่ยมไปด้วบคุณค่าอย่างมาก
นั่นคือแง่มุมที่ทำให้ผมได้ตระหนักถึง "ความสำคัญของครอบครัว" ต่อการเติบโตและ "ก้าวข้ามวัย" ของเด็กๆนั่นเอง

Wonder เป็นหนังที่เล่าถึง อ๊อกกี้ เด็กชายที่เกิดมาพร้อมกับโรคปากแหว่งเพดานโหว่ทำให้เขาต้องเข้ารับการผัดตัดนับครั้งไม่ถ้วนจนมีใบหน้าผิดไปจากทั่วไป ส่งผลให้กลายเป็นความยากลำบากในการเข้าสังคมกับที่โรงเรียน ซึ่งไม่ว่าจะเด็กๆคนไหน หรือจะแม้แต่ผู้ปกครองก็ตามก็มักจะมองว่าเขาเป็นตัวประหลาด ไม่น่าคบค้าสมาคมด้วย และเลวร้ายหนังไปถึงการโดนกลั่นแกล้งไม่เว้นแต่ละวัน

โชคดีที่ อ๊อกกี้ ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ เขามี พ่อ มีแม่ มีพี่สาว ที่พร้อมจะยืนหยัดอยู่ข้างกายเขาเสมอไม่ว่าจะเมื่อใดก็ตาม และมันทำให้เขากล้าพอที่จะก้าวข้ามเรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้น.. ก้าวข้ามการมองว่าตนเองอัปลักษณ์ไม่น่ามองและแตกต่างจากคนอื่น จนในที่สุด อ๊อกกี้ ก็ทำให้ทุกคนรอบๆตัวเค้าเปลี่ยนแปลงความคิดและเชื่อได้ว่า "ความอัปลักษณ์" มันไม่ได้วัดกันที่รูปกาย.. แต่มันหมายถึงที่หัวใจต่างหาก

เช่นเดียวกันกับใน Call Me By Your Name ตัวหนังจะเล่าถึง เอลีโอ เด็กหนุ่มวัย 17 ปี ที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในชีวิต และเขาก็ได้เจอเข้ากับหัวเลี้ยวหัวต่ออันยากลำบากและย่ิ่งใหญ่ที่สุดของเด็กวัย 17 คือการได้พบว่าเส้นทางเดินเรื่องเพศของเขานั้นมันไม่ใช่อะไรทั่วๆไปอย่างที่ควรจะเป็นตาม Norm ของสังคม จากการเข้ามาของชายหนุ่มวัยมหาลัย โอลิเวอร์ ที่ทำให้เขามั่นใจในที่สุดว่าอะไรคือสิ่งที่ตัวเขาเป็นจริงๆ แต่ที่ เอลีโอ ยังไม่มั่นใจคือเขาควรจะเปิดเผยหรือไม่ หรือควรจะทำอย่างไรกับความรู้สึกต่างๆที่มันเริ่มชัดเจนขึ้นมาทุกที?

และก็โชคดีเช่นกันกับเรื่องราวใน Wonder ที่ เอลีโอ มีพ่อแม่ที่เข้าใจในตัวเขาและพร้อมจะอยู่เคียงข้างเขาไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม

ทันทีที่ผมได้ดูทั้งสองเรื่องจบ ภาพๆหนึ่งที่มันค่อนข้างน่ากลัวก็ได้ผุดขึ้นมาในห้วงความคิดของผมว่า ถ้าหาก อ๊อกกี้ และ เอลีโอ ไม่ได้เติบโตมาในครอบครัวที่มีพ่อแม่และคนรอบข้างทั้งครูโดยตรงและโดยอ้อมที่มีทัศนคติต่อตัวลูกๆและต่อโลกที่ดีแล้ว "เด็กๆแบบพวกเขา" จะเติบโตกลายเป็นคนแบบไหนกันแน่? คำตอบอาจไม่จำเป็นต้องมี เพราะแค่กวาดตามองไปรอบๆบางทีเราก็อาจจะได้เจอแล้ว

มันมีคำหนึ่งที่ผมได้ยินมาบ่อยแต่ค่อนข้างไม่เห็นด้วยก็คือคำที่บอกว่า "ลูกน่ะ มีๆไปแล้วเดี๋ยวก็เลี้ยงได้เอง" มันอาจจะจริงที่ถ้าเกิดเรามีขึ้นมา "การเลี้ยงให้ได้" นั้นมันก็คงจะไม่ยากนัก แต่ "การเลี้ยงให้ดี" มันคงเป็นคนละเรื่องกัน

ในฐานะของการให้กำเนิดชีวิตหนึ่งขึ้นมา สิ่งที่เรา "ต้อง" ทำมันไม่ใช่แค่ว่าเลี้ยงดูเพียงร่างกายให้เขาโตขึ้นเท่านั้น แต่มันยังต้องมีการเลี้ยงดู "จิตใจ" ของพวกเขาได้โตขึ้นไปพร้อมกัน

ดังนั้นผมจึงมองว่าหน้าที่ที่สำคัญมากที่สุดของคนเป็นพ่อเป็นแม่และสถาบันครอบครัวก็คือการ "ส่งต่อทัศนคดี" ที่เหมาะที่ควรต่อการใช้ชีวิตและมองโลกในแบบที่สร้างสรรค์และงดงามให้แก่เด็กๆ... เพื่อที่เขาจะได้เติบโตต่อไปด้วยการมีทัศนคติที่ดีเหมาะสมและมีความรักเป็นสิ่งนำทาง... และนำมันไปส่งต่อให้กับสังคม และลูกหลานรุ่นต่อๆไปสืบไป

ทั้งครอบครัวของอ๊อกกี้และเอลีโอคือครอบครัวตัวอย่างที่ผมอยากให้หลายๆคนได้ลองไปสัมผัสกันด้วยตนเอง

อย่างน้อยก็อาจจะทำให้เราเข้าใจหัวอกเด็กๆกันมากขึ้น ว่าการก้าวข้ามวัยสำหรับพวกเขานั้นมันเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน และเขาก็คงต้องการใครสักคนที่จะมาอยู่เคียงข้าง และเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาเป็นอย่างแท้จริง.. 👨‍👩‍👧‍👦

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

749 Nameless Fanboi Posted ID:oyv+XI4tY

>>745 ไม่รู้ทำไมภาพพี่ตูนโดนเอาไปทำโคลนแบบใน attack of the clones แล้วส่งไปวิ่งทั่วประเทศลอยขึ้นมาเลย

750 Nameless Fanboi Posted ID:1BjH6YrzO

ดูว่าไปศึกษาว่าพี่ตูน(เติบโตมายังไง) (คิดยังไง)

ถึงมีพลังใจ, ความมุ่งมั่น,ความอดทน ขนาดนี้
แล้วใช้งบสร้างคนแบบพี่ตูนซัด 1/1,000 คนด็พอแล้วว่ะ

พี่ตูน=ผอ. เอดาจิม่า เฮฮาจิ

751 Nameless Fanboi Posted ID:RbQo/CB8.

แค่พวกมึงใครซักคนที่ปากดีอยู่นี้ ออกมาทำอะไรเพื่อสังคมด้วยจิตสาธารณะได้อย่างพี่ตูน กูก็อยากจะกราบเท้าแล้ว

752 Nameless Fanboi Posted ID:RbQo/CB8.

เบื่อพวกที่มาโพสว่า ไม่สนับสนุนให้พี่ตูนและคนอื่นๆ ทำแบบนี้อีก ไม่ได้แก้ปัญหา
คือก็ใช่ แต่พี่ตูนก็ไม่ได้บอกว่าเค้าเจะแก้ เค้าบอกว่าเค้าอยากช่วย
เมื่อเช้ากวาดตาไปเจอ "พี่ตูนเป็นคนดีแต่ไม่สนับสนุนให้ใครทำแบบนี้อีก"
โหแล้วเมิงนอกจากนั่งพิมอยู่หน้าคอมเมิงทำอะไรเพื่อส่วนรวมมั่งวะ เมิงเคยต้องไปต่อคิว รพ. นานๆไหม

แล้วพวกตอแหลไม่ต้องทำเป็นสนับสนุนให้เป็นนายก เค้าคนละบทบาทกัน คนมันไร้ความคิดไง นายกไม่ใช่ใครก็ได้ที่เป็นคนดีนะเว้ย ต้องบริหารเป็นด้วยพูดออกมาได้โง่ๆ เรารู้สึกว่า บ้านเมืองเราเจริญช้าเพราะคนส่วนใหญ่เห็นแก่ตัวและไม่ค่อยพัฒนา ไม่งั้นจะไม่มีหรอกหรอกขอให้พี่ตูนเป็นนายกอ่ะ ไร้สาระ ได้คืบจะเอาศอกเนอะ แต่ตัวเองไม่ทำอะไร

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

753 Nameless Fanboi Posted ID:PGc30CFD.

>>751 เค้าไม่ได้ด่าพี่ตูน เป้าหมายแท้จริงคือด่า.......ที่มีไม่ประสิทธิภาพจนต้องให้นักร้องมาวิ่ง

754 Nameless Fanboi Posted ID:P5D/wVtuZ

>>751 ตรรกะทำไม่ได้เท่าเค้าอย่าวิจารณ์มาอีกแล้ว

755 Nameless Fanboi Posted ID:IJ0UOXjdC

อยากด่ารัฐ......จนต้องเอาตูนมาอ้างอ่ะ ตุ๊ดจริมๆ

756 Nameless Fanboi Posted ID:4yrsjMqkO

เห็นคนทำงานโรงบาลบริจาคตังให้พรี่🅱️oon แล้วนึกถึงระบอบอะไรสักอย่างที่พรี่ๆ ทหารยุคเก่าๆ เค้าทำสงครามต่อต้านกันแทบเป็นแทบตาย แบบว่าทำงานได้มาเท่าไหร่ก็มอบให้ส่วนกลาง เพื่อที่เขาจะเฉลียแบ่งให้ตัวเองอีกทีอะครับ ถ้าชอบแบบนี้ สงสัยถ้าให้ไปทำนารวมก็คงชอบกัน
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

757 Nameless Fanboi Posted ID:crLDfOFcg

ถ้าเราบอกรักเพื่อน แปลว่าเราเสี่ยงที่จะเสียเพื่อน
ถ้าเรายืมเงินเพื่อน เราก็เสี่ยงที่จะเสียเพื่อนเหมือนกัน

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว

หลังเราบอกรักเพื่อน ถ้ามันไม่รับรัก ขอยืมเงินแม่งต่อเลยครับ
เอาแม่งแพคเกจเดียว

ไหนๆก็จะเสียเพื่อนแล้ว มันต้องไม่ขาดทุน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

758 Nameless Fanboi Posted ID:sBlJU9xr4

เคสเมษานี่เหมือนเป็นสิ่งยืนยันว่า BNK48 คือ female objectification ชัดเจน สำหรับเราไม่คิดว่าเป็นเรื่องผิด แต่โอตะพยายามดีเฟนตนเองมาตลอดว่ามอนิเตอร์พัฒนาการความสามารถ ไม่ได้คิดอะไรแง่นั้น แต่พอถึงเวลาเด็กๆจะคบหาแฟนความนิยมกลับหล่น การห้ามมีแฟนไม่ได้เชิงเป็นกฏ official แต่ในทางธรรมเนียมปฏิบัติเป็นที่ทราบกันว่า มีแฟนคือคุณทำร้ายจิตใจอันบอบบางของโอตะ ทำให้โอตะเสียความรู้สึก ซึ่งเป็นข้อหาร้ายแรงและนั่นหมายถึงคุณจะกลายเป็นสินค้าที่ทำเงินในธุรกิจนี้ได้ยากขึ้น

อ่านหน้าเฟสคนชื่อนวยที่เอาเรื่องราวมาแฉก็อุบาดมาก fucking loser ที่แท้ มันบอกไม่อยากจับมือคนมีผัว ถ้าเมษาทำตัวอย่างนี้ยังเป็นไอดอลได้ งั้นกะหรี่ที่ไหนก็เป็นได้ เพราะกลุ่มลูกค้าของวงต้องการภาพผู้หญิงวัยเด็กสดใส คนละเกรดและตลาดกับกลุ่มผู้หญิงโสเภณีแรดๆเต้นยั่วบด อันนี้คือลูสเซอร์แบบชายเป็นใหญ่ ที่มีทัศนคติจัดลำดับช่วงชั้นให้ผู้หญิง values ของผู้หญิงถูกเอาไปผูกติดกับ virginity เอาจริงๆเราว่าผู้หญิงที่เค้าแก้ผ้า live โชว์ขายของยังมีเสรีภาพในการแสดงออกทางเพศ พวกเด็กๆในวงซะอีกที่น่าสงสารกว่า ต้องมาตกเป็นวัตถุทางอารมณ์ให้โอตะเอาไปสนองจินตนาการความใคร่ แต่ตัวพวกน้องๆเองกลับแสดงออกถึงความต้องการทางเพศบ้างไม่ได้

โอเค assume ว่าทุกคนก็รู้กันดีมันเป็นเงื่อนไขทางธุรกิจที่ตัวเมมเบอร์ในวงไอดอลทุกคนจะต้องยอมรับกับข้อตกลงร่วมกันตรงนี้ ว่าทั้งหมดจะต้องมีสถานะแบบกึ่งนักบวช แต่เป็นนักบวชที่ต้องเสิร์ฟความเป็นโลลิต้า เสิร์ฟ sex drive ให้กลุ่มแฟนคลับ เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นผลตอบแทนทางรายได้และโอกาสต่างๆในชีวิต

objectified ไม่ได้เป็นเรื่องผิดในตัวของมันเอง แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ากรอบของ idolize มันเป็น sexuality ที่ทำงานอยู่บนแนวคิดที่มีต่อเรื่องเพศหญิงอย่างไร คุณค่าของคุณถูกกำหนดโดยโลกของผู้ชาย ประเทศแม่ของ BNK48 คือญี่ปุ่น ประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความไม่เท่าเทียมทางเพศเป็นอันดับต้นๆ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

759 Nameless Fanboi Posted ID:2du1lETk4

>Classic tier
- Digimon
- Spirited Away
- Escaflowne
- El Hazard
- Fushigi Yuugi
- The Twelve Kingdoms
- Rayearth
- Dunbine
- Monster Rancher
- Tenchi Muyo - Isekai no Seikishi Monogatari
- Now and Then, Here and There
- Those Who Hunt Elves
- Inuyasha
- Kyo Kara Maoh
- Zero no Tsukaima
- Magical Shopping Arcade Abenobashi
- Duel Savior
- Eien no Aselia
- Muv-Luv Unlimited/Muv-Luv Alternative
>Archetype tier
- Mushoku Tensei
- Kenkyo Kenjitsu
- Overlord
- Shield Hero
- I'm a Spider
- Evil God Average
- Oda Nobuna
- Log Horizon
- GATE JSDF
- Release that Witch
>Atypical tier
- Re:Zero
- Grimgar
- The Faraway Paladin
- Konosuba
- Youjo Senki
- Dungeon Defense
- Mondaiji
- The Weakness of Beatricethe Level Cap Holy Swordswoman That Made Being the Strongest Even More Trouble – His Name? Boo Boo
- Fate Kaleid Liner Prisma Illya 3rei!
>Fun garbage tier
- Arifureta
- Bluesteel Blasphemer
- No Game No Life
- Outbreak Company
- Mixed Bathing in Another Dimension
- In Another World With My Smartphone
- How A Realist Hero Rebuilt the Kingdom
- Slime Tensei
- Koihime Musou
- Dog Days
- Knights and Magic
- Tsuki ga Michibiku
- Wortenia Senki
- Risou no Himo Seikatsu
- Hagure Yuusha no Aesthetica
- Average Abilities
- Shinju no Nectar
>Total garbage tier
- Death March
- Re: Monster
- World Teacher
- Word Master
- Dungeon Seeker
- Master of Monster
- Gun Ota
- Nidome no Yuusha
- Suterareta Yuusha
- Seirei Gensouki
- Atelier Tanaka
- Anything about Skill Taking, Slaves, Cheats, Guns, Healing Magic, or R18
>Not isekai tier
- Sword Art Online
- Danmachi
- UchiMusume
- Ore ga Heroine
- Infinite Dendrogram
- Sevens
- Utawarerumono
- .hack
>Inverse Isekai Tier
- Maou-sama
- Maidragon
- Elf-San wa Yaserarenai
- Thermae Romae
- Fullmetal Alchemist - Conqueror of Shamballa
>Gaijin Isekai Tier
- Alice in Wonderland
- Gulliver's Travels
- A Connecticut Yankee in King Arthur's Court
- The Wizard of Oz
- The Chronicles of Narnia
- A Princess of Mars
- Jumanji (inverse gaijin isekai)

760 Nameless Fanboi Posted ID:mGgaRqgfP

>>754 คิดจะวิจารณ์​ต้องอยู่กับความเป็นจริงด้วย ไม่ใช่สักแต่มีปากก็พูดเรื่อยเปื่อยทำตัวเป็นกูรูการเมือง ตูนต้องทำแบบนี้สิ แบบนี้ไม่แก้ปัญหา

ตูนไม่ใช่นายก ไม่ได้มีหน้าที่มาแก้ปัญหา คิดจะวิจารณ์​อะไรต้องแหกตาดูด้วยนะว่ามันบริบทไหน ไม่งั้นจะกลายเป็นดีแต่ปาก พอถูกด่าก็จะมาใช้ตรรกะ "ทำไม่ได้แต่วิจารณ์​ได้" มันก็ดูจะแถเกินไป

761 Nameless Fanboi Posted ID:6PO8kQ5d/

>>759 ลิสบางอันตลกดี มีแบ่งเป็น archetype ด้วย แถมเรื่องที่เลือกมาก็...... บ่งบอกรสนิยมดี

762 Nameless Fanboi Posted ID:2du1lETk4

>>761
อ้อลืมบอก มันเป็นลิสต์แนวโลกคู่ขนาน มีแบ่งเกรดตามนี้
-คลาสสิก
-ต้นตอแห่งความเลวร้ายทั้งมวล
-ขยะแต่สนุก
-ขยะล้วน
-โลกคู่ขนาน เอ๊ะไม่ใช่ว่ะ
-โลกคู่ขนานย้อนกลับ
-ไกจินแต่ง

763 Nameless Fanboi Posted ID:l46w2Z0pX

>>760 ถ้าคิดว่าคนที่วิจารณ์พูดผิดมึงก็ด่าสิว่าผิดตรงไหน ไม่ใช่เอาเรื่องตัวคนวิจารณ์ไม่ได้ทำแบบพี่ตูนมาอ้าง

764 Nameless Fanboi Posted ID:v.OH7sFlH

>>759 กูชอบลิสต์นี้ว่ะ โดยเฉพาะประเภทขยะล้วน 2 เรื่องแรกนี่โคตรใช่ กูลองอ่านแล้วมีแต่ข้อมูลสกิล พระเอกเก่งเทพเกินไป เนื้อเรื่องเลยจืดหมด

765 Nameless Fanboi Posted ID:kO4HdJ8Dt

>>763 เพราะตูนวิ่งเพื่อหาเงินบริจาคให้กับ 11รพ.ที่ขาดแคลน ช่วยชีวิตคนไข้ที่กำลังต้องการการรักษา
ไม่ได้วิ่งเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศหรือสนองนีทพวกตกมันทางการเมือง

766 Nameless Fanboi Posted ID:qoP.I24Hr

>>762 เรื่องแรกของ >Fun garbage tier

- Arifureta

อ่านเรื่องนี้สนุกได้ยังมีหน้ามาจัดอันดับอีกนะ

767 Nameless Fanboi Posted ID:jQa6Bu.g0

>>765 ช่วยชีวิตคนไข้แม่มึงสิไอ้ควายยย
คนไข้เค้าได้รับการช่วยเหลืออยู่แล้วต่อให้จะวิ่งหรือไม่วิ่ง
ไอ้ง่าวนี่ฟังเค้ามาแล้วเชื่ออย่างไม่คิดก็สมควรเป็นขี้ตีนเกาะคนดังไปจนวันตาย

768 Nameless Fanboi Posted ID:MX/qaP6bZ

>>765 กูก็ยังไม่ได้โพสว่าอะไรตูนหรือแคมเปญนี้เลยนะ
กูแค่พูดถึงคนที่ออกมาปกป้องด้วยข้ออ้างโจมตีตัวคนที่วิจารณ์ เห็นโพสแนวๆว่าไม่ได้ทำดีอย่างเค้าอย่าพูดอยู่นั่นแหละ

769 Nameless Fanboi Posted ID:jQa6Bu.g0

>>768 แต่พวกแบคทีเรียเกาะหนังไข่คนดัง
อย่าไปให้ค่ามันนักเลย เดี๋ยวมันเบื่อก็ย้ายไปเกาะคนดังคนอื่นแทน

770 Nameless Fanboi Posted ID:+hGU0U3jY

>>767 แต่มันช่วยไม่พอไง เพราะขาดอุปกรณ์ เขาก็วิ่งเพื่อเอาเงินมาซื้อตรงนี้ให้ ถ้ามีมันก็ช่วยคนได้มากขึ้น มันพูดผิดตรงไหนอะ

771 Nameless Fanboi Posted ID:og5RG9prM

>>763 ไอ้ตูนมันอยากทำแค่นั้น เหมือนมึงเอาเงินยี่สิบหยอดใส่ตู้บริจาค เพียงแต่ตูนมันรู้ตัวว่ามันทำเสกลไหนได้ และมันก็มีเพื่อนๆหรือทีมงานที่เห็นด้วยกับมัน มันเลยลองทำ และทำสำเร็จ

ในขณะที่คนวิจารณ์ไม่ได้ดูบริบทหรือสถานะของไอ้ตูนว่าเป็นได้แค่ไหน แล้วพูดพล่อยๆแบบขวางโลกว่าทำแล้วไม่ดี ไม่ช่วยอะไร

ถ้าตูนมันเป็นนักการเมืองหรือเกี่ยวข้องกับนักการเมืองแล้วมันจะขอเสนอเรื่องเข้าสภาแก้ไขบัญญัติ นั่นคงใช่

ถ้าจะวิจารณ์อย่างนี้ ก็เหมือนที่วิจารณ์คนหลังคีย์บอร์ดแล้วไอ้คนหลังคีย์บอร์ดโกรธก็ไม่แปลก เพราะมันไม่คิดทำอะไร ปากดี กวนตีนไปวันๆ พอโดนสวนเลยโกรธ (สถานะเป็นแค่ขี้แพ้ ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้)

นี่กูยังไม่พูดถึงว่าการวิจารณ์แบบนี้อาจมาจากเรื่องอื่นเช่น อิจฉาเขา อยากดังในเรื่องขวางคลอง หรืออยากเกาะกระแสนะ ไม่ก็แค่โทรลกากๆหลังคีย์บอร์ด

772 Nameless Fanboi Posted ID:KZGbe.erz

รับเงินมาด่าพี่ตูนได้โพสละกี่บาทวะถามจริง

773 Nameless Fanboi Posted ID:kO4HdJ8Dt

1ปี"รพ.บางสะพาน"ดอกผลแห่งความสำเร็จจากก้าวคนละก้าวของ "ตูน บอดี้สแลม"
https://www.posttoday.com/analysis/report/519270

ครั้งนั้นท้ายที่สุดเขาสร้างปรากฎการณ์ระดับประเทศ สามารถระดมทุนได้มากถึง 85 ล้านบาท จากระยะทางวิ่ง 400 กม. ในเวลา 10 วัน

เกือบ 1 ปีที่ผ่านมา น่าสนใจว่า ดอกผลความสำเร็จจากการระดมทุนของร็อกเกอร์หนุ่มนั้นเป็นอย่างไร..

นพ.เชิดชาย ชยวัฑโฒ เล่าว่า เงิน 85 ล้านบาทถูกจัดสรรเปลี่ยนแปลงเป็นอุปกรณ์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ การก่อสร้างอาคารและซ่อมแซมอาคาร ส่วนที่เหลืออีกกว่า 30 ล้านบาท อยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อโครงการในอนาคต

“อุปกรณ์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์นั้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วนได้เเก่ รพ.บางสะพานเองประมาณ 25.7 ล้านบาท รพ.บางสะพานน้อยที่มีขนาด 30 เตียง 1.1 ล้านบาท อีกส่วนเป็นอุปกรณ์และครุภัณฑ์ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 14 แห่ง ประมาณ 6.9 แสนบาท”

“ในเรื่องการก่อสร้างแบ่งออกเป็น 2 ส่วน หนึ่งการซ่อมแซมอาคารประมาณ 7 ล้านบาท หลังจากประสบกับภาวะน้ำท่วม อีกส่วนเป็นงบในก่อสร้างอาคารราว 10 ล้านบาท โดยทำการปรับปรุง ออกแบบเเละก่อสร้างอาคารหลายแห่งเช่น อาคารแพทย์แผนไทย อาคารซ่อมบำรุงเเละระบบประปา อาคารดูแลเครื่องเอ็กซเรย์ ให้สูงขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงภัยน้ำท่วม”
อุปกรณ์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลบางสะพานจัดซื้อนั้นมีมากกว่า 70 รายการ ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ตัวอย่างเช่น เตียงผู้ป่วย ถังออกซิเจน เครื่องนับเม็ดเลือดขาวชนิดไฟฟ้า เครื่องดูดเสมหะ ที่นอน ตู้อบเด็กทารกเคลื่อนที่ เครื่องอัลตราซาวด์ เครื่องบันทึกการบีบตัวของมดลูก เครื่องมือผ่าตัดตา เครื่องไตเทียม รถเข็นผู้ป่วยพร้อมสายน้ำเกลือ เครื่องวัดความดันโลหิต ฯลฯ ทั้งหมดทำให้ศักยภาพและความสามารถในการรองรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลนั้นยกระดับแบบก้าวกระโดด

นพ.เชิดชาย บอกว่า ตัวเลขการเข้ารับบริการรักษาของผู้ป่วยนั้นเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากเดิมอัตราการครองเตียงของผู้ป่วยในเฉลี่ยอยู่ที่ 90-100 คนต่อวัน ปัจจุบันเพิ่มเป็น 150-180 คนต่อวัน ขณะที่อัตราผู้ป่วยนอก จากเดิม 300-400 คนเพิ่มเป็น 400-500 คน

774 Nameless Fanboi Posted ID:kO4HdJ8Dt

>>767 ไว้แม่มึงอยู่รพ.ที่งบจัดให้ไม่ทันดูก่อนนะ

775 Nameless Fanboi Posted ID:hR1iskUd4

>>772 500 บาท (ทำเสียงแม้ว)

776 Nameless Fanboi Posted ID:+hGU0U3jY

>>773 เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมากๆ ไม่ยั่งยืน ไม่พัฒนา ไม่ Liberal เลย

#มิตรสหายราคา 500 บาทท่านหนึ่ง

777 Nameless Fanboi Posted ID:rwWxxzH8+

>>763 คำตอบของคำถามมึงก็อยู่ในโพสกูแล้วป่ะวะมึงไม่ได้อ่านหรอ ก็ไอ้คนวิจารณ์​มันวิจารณ์​ไม่ดูบริบทในความเป็นจริงที่มาโยนภาระให้ตูนช่วยแก้ปัญหาให้ประเทศอ่ะ ตรงนี้ไงทีผิดที่กูโจมตีอยู่เนี่ย ไม่ได้ห้ามวิจารณ์​เลย
กูก็เลยบอกว่าอยากวิจารณ์​ก็ต้องแหกตาดูด้วยว่าเรื่องมันเป็นยังไงไม่งั้นคือดีแต่ปากแต่มือไม่ทำไรเลยนอกจากถ่วงแข้งถ่วงขาคนอื่น
คือถ้าตูนมันทำผิดแล้วมึงวิจารณ์​แบบมีสมองมันก็วิจารณ์​ได้อย่างที่กูบอก แต่ถ้าวิจารณ์​แบบโง่ๆคนจะมองมึงว่าดีแต่ปากให้ออกไปทำอย่างเค้าให้ได้ก่อนมันก็ไม่แปลก ไม่ผิดด้วยเพราะอะไรรู้มั้ย? เพราะนอกจากตูนจะไม่สามารถนำคำวิจารณ์​มึงไปแก้ไขได้แล้วยังทำให้อะไรๆแย่ลงไปอีก
มันไม่ใช่ว่ามึงต้องทำให้ได้อย่างเค้าก่อนถึงจะวิจารณ์​ได้แต่ว่ามันคือการที่คำวิจารณ์​มึงมันไร้สาระไม่สามารถใช้ประโยชน์​ได้​ตะหาก เค้าเลยไล่ให้มึงไปทำตัวเป็นประโยชน์​ดีกว่ามาตัดกำลังคนอื่นไง

คือมึงจะมาอ้างตรรกะ กูไม่ทำแต่กูวิจารณ์​ได้ กับทุกๆเรื่องไม่ได้ มึงต้องแหกตาดูความจริงก่อน คือถ้าคอมเม้นมีประโยชน์​จริงมันก็เป็นค่าบวกป่ะวะ ถึงทำไม่ได้อย่างเขาแต่ก็ช่วยส่งเสริมได้ ถ้ายังโดนไล่ให้ไปทำอย่างเค้าก่อนอีก เออ อันนี้มึงไม่ผิดละ แต่มันเสือกไม่ใช่แบบนี้ไง
อย่างที่กูบอกตั้งแต่บรรทัด​แรกอ่ะ "คิดจะวิจารณ์​ต้องอยู่กับความเป็นจริงด้วย" วิจารณ์​ได้แต่ต้องมีสมอง ถ้าไม่มีสมองก็เงียบไปหรือออกไปทำดีกว่า

กูเขียนให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วนะ ถ้าอ่านแล้วมึงยังมาบอกอีกว่า ไม่ทำก็วิจารณ์​ได้ อีกกูก็ขี้คร้าน​จะเสวนาด้วยแล้วเพราะไม่รู้จะแจกแจงยังไงอีก

778 Nameless Fanboi Posted ID:ZddSK2lOl

>>777 อ่าน >>768

779 Nameless Fanboi Posted ID:XAuZa+INN

>>777 อ่าน >>778

780 Nameless Fanboi Posted ID:rwWxxzH8+

>>778 อ่าน>>777

781 Nameless Fanboi Posted ID:Jc6yfWcFU

>>775 กระจอกกูได้โพสละ 700 กระทู้ละ 1500
มึงมาเป็นดาวไลน์กูป่ะ

782 Nameless Fanboi Posted ID:6nnB6fAZR

เอาเวลาไปนั่งขี้ยังคุ้มกว่าคุยกับคนที่คิดไม่เหมือนเรา

#มิตรสหายกูเอง

783 Nameless Fanboi Posted ID:WO8n5whhL

>>777 ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้นรึเปล่า คือมึงจะเถียงเรื่องเหตุผลที่คนด่าตูนหรือแคมเปญก็เถียงไป ถ้ามันเถียงโง่ๆก็ด่ามันตรงนั้น
ไม่ใช่อ้างว่าไม่ทำแบบเค้าแล้วไม่มีสิทธิพูด ประเด็นสาธารณะใครๆก็ควรมีสิทธิวิจารณ์ได้
ย้ำอีกรอบว่ากูยังไม่ได้โพสว่าอะไรตูนหรือแคมเปญนี้เลยนะ กูคนละคนกับที่โพสตอนแรก แค่รำคาญคนที่เอาเรื่องแบบนี้มาอ้างแทนที่จะเถียงในประเด็น

784 Nameless Fanboi Posted ID:MCHlvmPBJ

>>782 กูว่าบางทีมันไม่ใช่คิดไม่เหมือนนะมันคุยกันคนละเรื่อง แต่เสือกนึกว่าคุยเรื่องเดียวกัน

785 Nameless Fanboi Posted ID:rwWxxzH8+

>>783 กูก็ไม่เคยพูดว่าไม่ทำอย่างเค้าแล้วไม่มีสิทธิ์​พูด กูก็คนละคนกับโม่งบนๆนู้นนะ กูมีแค่สองคอมเม้น
แต่ประเด็นคือมึงมีสิทธิ์​วิจารณ์ได้(กูพิมพ์​รอบที่3ละว่าวิจารณ์​ได้)​ ใครๆก็วิจารณ์​ได้ แต่การวิจารณ์​ที่ดีต้องอยู่บนหลักความเป็นจริงด้วย ไม่ใช่อยากพิมพ์​ไรก็พิมพ์​พอโดนด่าก็มาอ้างว่ากูมีสิทธิ์​พูด คนอื่นก็มีสิทธิ์​วิจารณ์คนที่อ้างแบบนี้เหมือนกันป่ะ
มันก็เหมือนดีแต่ปากมั้ยแต่ไม่ทำเหี้ยไรเลยนอกจากขัดขาคน ไล่ไปทำแบบตูนมันคือคำด่าที่แสดงถึงความไร้ประโยชน์ของคนที่วิจารณ์​โง่ๆ​ไงมึง แบบแทนที่จะแสดงความเห็นโง่ๆก็ออกไปวิ่งอย่างเค้าให้ได้ก่อนดีกว่า ความหมายไม่ได้ห้ามวิจารณ์​แต่เป็นการเปรียบเปรยให้เห็นว่าอย่างน้อยตูนก็ทำอะไรบางอย่างมากกว่านักเลงคีย์บอร์ด​ไง

*คือถ้าคอมเม้นดีแล้วโดนไล่ห้ามวิจารณ์​ มึงไม่ผิด แต่ถ้าคอมเม้นโง่แล้วโดนไล่ กูก็รู้สึกว่าสมควรแล้วเพราะไร้ค่าจริง คือคำว่าห้ามวิจารณ์​เนี่ยมันก็ต้องดูบริบทด้วยป่าววะว่าเค้าพูดว่ายังไง

ปล.กูรู้ตั้งแต่>>768 ละว่ามึงไม่ได้ด่าตูน แต่ที่ใช้สรรพนามว่า "มึง" มันคือกูสมมติโดยเอามึงมาแทนตัวพวกคอมเม้นโง่เฉยๆแต่กูละคำว่าสมมติออกไป อย่างบรรทัดที่กู*ไว้นั่นคือสมมติโดยเอามึงมาแทนเหมือนกัน

786 Nameless Fanboi Posted ID:M+VSAgGw1

"พวกลิเบอร่านนี่ ไปถามมันว่าอเมริกามันเคยบริจาคเงินช่วยพี่ตูนมั้ยแม่งก็แดกจุดแล้ว"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

"พอถามกลับไปว่ามิวนิคบริจาคกี่บาท สลิ่มแม่งไม่มีแรงแม้จะนึกถึงจุด"

#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

787 Nameless Fanboi Posted ID:6jFB/gDq9

>>786 มิวนิคก็บริจาคนะ แค่ไม่ใช่เงิน

788 Nameless Fanboi Posted ID:TA8024qaW

28 ธันวาคม วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขอนำบทความท่องเที่ยวของ อ.ปริวัฒน์ จันทร เรื่อง สุสานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (แต่อ๊วง) ในประเทศจีน ท่ีได้เคยลงตีพิมพ์ในนิตยสาร New Silk Road แล้วมาให้ทุกท่านได้อ่านกันอีกครั้งครับ

หนึ่งเดียวของวีรกษัตริย์มหาราชไทย ผู้มีสุสานอยู่ดินแดนโพ้นทะเล

หนึ่งเดียวของลูกชาวจีนโพ้นทะเล ผู้ได้เป็นวีรกษัตริย์ในประเทศทางทะเลใต้

ณ หมู่บ้านฮั้วปู่ (ฮวาฟู่ 华富村Huafu) อำเภอเถ่งไฮ้ (เฉิงไห่ 澄海县Chenghai) เมืองซัวเถา (ซ่านโถว 汕头市Shantou) ทางตอนใต้ของมณฑลกวางตุ้ง (กว่างตง Guangdong) เป็นที่ตั้งของสุสานแต่อ๊วง หรือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (17 เมษายน พ.ศ.2277 – 7 เมษายน พ.ศ.2325) ราชสำนักจีนเรียกพระองค์ว่า แต่เจียว (เจิ้งเจา 郑昭Zhengzhao) หรือกษัตริย์แซ่เจิ้ง

สุสานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในอำเภอเถ่งไฮ้นี้ แม้จะเป็นสุสานขนาดเล็ก ๆ หากแต่ยิ่งใหญ่ในความหมายในใจของปวงชนชาวไทยทุกคนเสมอมา ตามแผ่นศิลาจารึกหน้าสุสานระบุไว้ว่า "เสียนหลอเจิ้งหวงต๋าซิ่นต้าตี้อีก่วนมู่" 暹罗郑皇达信大帝衣冠墓 หรือสุสานฝังฉลองพระองค์และพระมาลาของเจิ้งหวางกษัตริย์แห่งเสียนหลอผู้ยิ่งใหญ่

แผ่นป้ายศิลาจารึกหน้าสุสานของพระองค์ระบุปีสร้างในรัชกาลจักรพรรดิเฉียนหลง แห่งราชวงศ์ชิง ในปีค.ศ.1782 (พ.ศ.2325 อันเป็นปีเดียวกันกับที่พระองค์สวรรคต) ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในฤดูใบไม้ร่วง ปีค.ศ.1985 (พ.ศ.2528) เล่าสืบต่อกันมาว่า หลังจากพระองค์ได้สวรรคตแล้ว ข้าราชบริพารเชื้อสายจีนได้นำฉลองพระองค์และพระมาลาของพระองค์มา 2 ชุด ชุดหนึ่งเป็นไทย ชุดหนึ่งเป็นจีน กลับมามอบให้พระญาติที่บ้านเกิดของพระราชบิดา-เจิ้งหยง 郑镛 (แต่ย้ง) จากนั้น พระญาติจึงได้บรรจุฉลองพระองค์และพระมาลาของพระองค์ไว้ในสุสานของพระองค์ (ซึ่งสร้างไว้ก่อนหน้านี้แล้ว)

แต่ย้ง พระบิดาของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นชาวอำเภอเถ่งไฮ้ ผู้หนีความยากลำบากและเหตุทุพภิกขภัยบ่อยครั้งที่บ้านเกิดเมืองนอนเช่นเดียวกับชาวเถ่งไฮ้เป็นจำนวนมาก ลงเรือสำเภาหัวแดง (อั่งเถ่าจุ๊ง) รอนแรมมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในสยามประเทศสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มาอาศัยอยู่แถบคลองสวนพลูนอกเกาะเมือง พระนครศรีอยุธยา ดังนั้น ในช่วงทำสงครามกอบกู้เอกราชของไทย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจึงมีทหารชาวจีนแต้จิ๋วจากเถ่งไฮ้มารวมรบอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก

มล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ (บุรุษรัตพันธ์) นักค้นคว้าจากสถาบันไทยคดีศึกษา ได้อธิบายเรื่องบทบาทของชาวจีนแต้จิ๋วในสมัยกรุงธนบุรี ไว้ในบทความ “ชาวจีนแต้จิ๋วในสภาพสังคมไทยสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้นว่า”

“...ในความเป็นจริงอาจจะไม่ใช่พระประสงค์ของพระเจ้าตากสินฯ ที่จะยกย่องเชิดชูจีนแต้จิ๋วเหนือจีนกลุ่มอื่น ๆ ที่ได้อพยพเข้ามาในสยามประเทศก่อนหน้านั้นแล้ว อันจะเป็นสาเหตุแห่งความไม่สมัครสมานสามัคคีในยามที่พระองค์ต้องการฐานกำลังสนับสนุนจากจีนทุกกลุ่มในเวลานั้น แต่เหตุที่จีนแต้จิ๋วได้รับการยกย่องไปโดยปริยาย ก็เนื่องมาจากความที่พระองค์ท่านเป็นลูกครึ่งไทย-จีนแต้จิ๋ว โดยที่เจิ้งหยง พระบิดาเป็นจีนแต้จิ๋ว เคยมีถิ่นฐานพำนักแถวคลองสวนพลูข้างวัดพนัญเชิง ซึ่งเข้าใจว่าเป็นแหล่งอาศัยของชาวจีนแต้จิ๋วในอยุธยา...อีกประการหนึ่งนั้น เพราะจีนแต้จิ๋วคือกลุ่มคนที่รวมผนึกกำลังช่วยพระเจ้าตากสินฯ ตีแหกพม่ามุ่งไปยังหัวเมืองชายทะเลตะวันออก....เมื่อพระเจ้าตากสินฯ ตีได้เมืองระยอง ได้มีพระราชสาส์นไปถึงพระยาราชเศรษฐี จีนกวางตุ้งผู้เป็นเจ้าเมืองเพื่อขอความสนับสนุน ตลอดจนความพยายามที่จะมีสัมพันธไมตรีเป็นอย่างดีกับพระเจ้ากรุงจีน เพื่อให้เกิดการยอมรับอำนาจความชอบธรรมของพระองค์ สถานการณ์ทางการเมืองที่อำนวยให้จีนแต้จิ๋วดูเด่นเช่นนี้ ดึงดูดให้จีนแต้จิ๋วจากผืนแผ่นดินใหญ่อพยพเข้ามาเมืองไทยมากยิ่งขึ้น...”

พระองค์จึงนับเป็นลูกจีนคนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์ ที่สามารถขึ้นครองราชย์เป็น วีรกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศโพ้นทะเลได้ นับเป็นความภาคภูมิใจของชาวหมู่บ้านฮั้วปู่ อำเภอเถ่งไฮ้ เป็นอย่างยิ่ง

ในปีพ.ศ.2556 ได้มีสาธุชนทั้งฝ่ายคณะสงฆ์ ฆราวาส และสมาคม มูลนิธิต่าง ๆ ได้ร่วมกันขยายสุสานของพระองค์ให้มีขยายใหญ่โตขึ้น และเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2556 ซึ่งตรงกับวันปราบดาภิเษกของพระองค์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ได้มีการอัญเชิญพระบรมรูปของพระองค์ขึ้นประดิษฐานอยู่บนเหนือสุดของสุสานแห่งนี้ ที่ตั้งอยู่บนภูมิลักษณ์อันงดงามใกล้แม่น้ำหานเจียง (หั่งกัง) ทำให้สุสานของพระองค์มีความโอ่อ่าอย่างสมภาคภูมิวีรกษัตริย์ในดวงใจของชาวไทยทุกคน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

789 Nameless Fanboi Posted ID:iKHc6m/+V

"อีกตัวไม่รู้มันไปแรดที่ไหนแล้วก็ไม่รู้นะฮะ"

#มิตรสหายท่านหนึ่งที่ Live วันนี้

790 Nameless Fanboi Posted ID:aRpagSJyi

“เห็นหลายสเตตัสพูด+เถียงกันเรื่องข้อห้ามทางศาสนา ห้ามผู้หญิงเข้าโบสถ์อะไรสักอย่าง....

เรายืนหยัดเสนอมาหลายสิบปีแล้วว่า ผู้หญิงอย่าไปเถียง อย่าไปเรียกร้องสิทธิ์อะไรเรื่องนี้ค่ะ เลิกนับถือศาสนาไปเลยก็สิ้นเรื่อง ปล่อยให้ศาสนานั้นมีแต่ผู้ชาย จะได้บริสุทธิ์ผุดผ่องสมใจ การเลิกนับถือศาสนาของประชากรผู้หญิงทั้งหมดน่าจะเป็นคุณูปการยิ่งใหญ่ เป็นการทำมหากุศลอุ้มชูศาสนานั้นให้ผ่องแผ้วปราศจากผู้หญิง ปล่อยให้พวกผู้ชายเขานิพพานกันไปค่ะ”

มิตรสหายท่านหนึ่ง

791 Nameless Fanboi Posted ID:JxJ5EHg0M

>>790 มึงกล้าพูดงี้กับมุสซี่ไหมครับ อีดวก
#มิตรสหายอีกท่าน​หนึ่ง​

792 Nameless Fanboi Posted ID:6UhOrCPvr

>>790 กูว่าศาสนาจริงๆ ไม่ห้ามนะ สาวกมาทีหลังห้ามแม่งมากกว่า
นึกดูตั้งสองพันกว่าปี คำสอนก็เพี้ยนบ้าง ปากต่อปาก กว่าจะได้จดลงเป็นอักษร
ก็เพี้ยนแล้ว เป็นทุกศาสนาด้วยกูว่า

793 Nameless Fanboi Posted ID:xggTO/GyP

>>791 พูดไม่ได้ เพราะฝรั่งจะบอกว่ามันคือความแต่ต่างทางด้านศาสนา และพวกเสรีนิยมจะรุมด่ามึง อืมๆ
สหายมุสซี่ท่านหนึ่ง

794 Nameless Fanboi Posted ID:v5K4hc4AQ

"I saw the world; it is not beautiful"

795 Nameless Fanboi Posted ID:LJJa11Xek

มดที่เศร้ามากๆคือ มดความหวังนั่งน้ำตารินข้าวปลาไม่กินนั่งรินกินแต่เหล้าขาว

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

796 Nameless Fanboi Posted ID:LMxj1YXj2

Death to the infidels.
#มุซซี่หลายท่าน

797 Nameless Fanboi Posted ID:6EzXjEwqu

"นักชีววิทยาสมัยวิคตอเรียนสงสัยกันว่า ทำไมมดแต่ละอาณาจักรสามารถจดจำสมาชิกของตนเองได้ทั้งๆที่ก็ดูเหมือนๆกันไปหมด จึงตั้งข้อสมมติฐานว่า มดแต่ละอาณาจักรต้องมี"พาสเวิร์ด"เพื่อส่งสัญญาณให้กันว่าเป็นพวกเดียวกันแน่ๆเลย! (โอ๊ยยคิดได้ยังไง๊ นี่อาณาจักรมดนะ ไม่ใช่บาร์ลับ 55)

สุดท้ายก็มีนักชีวฯคนหนึ่งทำการทดลองเพื่อ mythbust ความเชื่อว่ามดมีพาสเวิร์ดนี้โดยนำมดมาสองอาณาจักร แล้วนำมดจำนวนครึ่งหนึ่งของทั้งสองอาณาจักรมามอมเหล้า! โดยเอาไปจุ่มในวิสกี้จนมันเมาเดินโซซัดโซเซ บ้างก็เดินไม่ไหว บรรดาเพื่อนๆมดของทั้งสองอาณาจักร ต่างก็กรูกันมาช่วยเพื่อนสมาชิกของตน โดยช่วยกันหามเพื่อนผู้เมามายกลับรัง อีกทั้งถ้าเจอมดขี้เมาต่างอาณาจักรก็จะนำไปทิ้งน้ำ

นักชีวฯท่านนี้จึงสรุปว่า มดไม่มีพาสเวิร์ดส่งถึงกันแน่นอน เพราะมดที่โดนมอมเหล้าเมาแอ๋เนี่ย หมดสภาพจนไม่มีทางจะจำพาสเวิร์ดอะไรได้แน่ๆอะ เพื่อนมันจะต้องมีวิธีจดจำสมาชิกโดยทางอื่นชัวร์ๆ #จบการทดลอง #นักวิทยาศาสตร์วิคตอเรียนนี่ช่างเอ็นดู 😆😆"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

798 Nameless Fanboi Posted ID:DzhT.dbJh

เอากันจริงๆคือสหภาพที่ใหญ่ที่สุดคือประชาชนทั้งชาติ ถ้าประเทศเป็นประชาธิปไตย ในประเทศนึงๆลูกจ้างมันก็ต้องมากกว่านายจ้างอยู่แล้ว แล้วนักการเมืองมันก็ต้องออกกฏหมายออกระเบียบให้คนส่วนใหญ่พอใจไปเอง

แต่การมีสหภาพ คือการที่คนกลุ่มนึงแบ่งแยกตัวเองจากคนส่วนใหญ่มาเรียกร้องจะเอาเฉพาะเรื่อง แน่นอนว่าคนพวกนี้ไม่ได้คำนึงถึงคนทั้งชาติและความเป็นไปได้ในเรื่องที่ตัวเองเรียกร้อง เป็น echo chamber เล็กๆที่สักแต่จะเรียกร้องเอาโน่นนี่ทุกวิถีทาง ไม่เห็นหัวคนส่วนใหญ่ อย่างสหภาพการรถไฟที่อยากได้เหี้ยอะไรก็ขู่ว่าจะสไตรค์สร้างความลำบากให้ประชาชนที่ต้องเดินทาง

สหภาพแรงงานที่แท้จริงคือต้องเป็นสหภาพแรงงานแห่งชาติ ที่เห็นหัวคนทั้งชาติ ประชาชนทั้งชาติ ไม่ใช่สหภาพส้นตีนพวกนี้เลย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

799 Nameless Fanboi Posted ID:ZSMaaT1cx

>>798 ถ้าจะเอาNational Union ต้องเปลี่ยนให้ประเทศเป็นคอมมูนิสต์ก่อนล่ะ

แต่ถ้าเป็นประเทศเป็นคอมมูนิสต์แล้ว ถ้าออกมาประท้วงไม่ยอมทำงานไม่โดนยิงก็ส่งเข้าGulag

800 Nameless Fanboi Posted ID:8vXtyaGpL

Much of history is defined by chance, not circumstance.
Because in the end, reality is just the confluence of chance and circumstance.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

801 Nameless Fanboi Posted ID:/Qf7KsNqv

i ate a salad last week and gouged my mouth with a crouton and it still hurts =.=
and people say salads are good for you...

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

802 Nameless Fanboi Posted ID:7KWnthzhp

"รถโดนล็อกล้อ เพราะจอดในที่ห้ามจอด แต่ตามตัวตำรวจเจอง่ายมาก เพราะตำรวจก็จอดอยู่ในละแวกห้ามจอดเดียวกัน จอดกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ .. คือเหี้ยไรเนี่ย"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

803 Nameless Fanboi Posted ID:sSxOFNjyf

"ในประเทศที่แม้แต่คนอย่างเสี่ยโป้ แก๊งวัดดาว-แก๊งโอรส พี่วันบางบอน ยังเป็นไอดอลได้ หรือหนังของพจน์อานนท์ไม่เคยเจ๊ง แล้วการที่คนอย่างเสกโลโซจะยังมีสาวกติดตามเป็นจำนวนมากมันจะแปลกตรงไหน"

กูกล่าวเองไม่อิงมิตรสหายท่านไหนทั้งนั้น

804 Nameless Fanboi Posted ID:ZWEfHPiUT

>>803 แล้วจะโพสในกระทู้มิตรสหายเพื่อ?

805 Nameless Fanboi Posted ID:.GVpn.Onm

>>804 >>803 มันโพสที่โม่ง Feed ข่าวแล้วไม่มีคนต่อยอดเลยเอามาโพสที่นี่ด้วย

กูคือ >>751 พอดีไปเที่ยวปีใหม่เพิ่งกลับมา กูว่าโพสกูก็ไม่ได้ห้ามใครวิจาร์ณพี่ตูนเลยนะ (ห้ามได้ด้วยหรอวะ)

806 Nameless Fanboi Posted ID:3utYx5b8i

เมื่อก่อนเราคิดว่า "แม่งงมงายวะ เชื่อไปได้ไง" แต่อย่างคุณถ้าไม่พึ่งเจลใส่ผมแล้วจะไม่สบายใจ เจลใส่ผมก็อาจจะเป็นลัทธิหนึ่งเช่นกัน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

807 Nameless Fanboi Posted ID:7XilQcigm

พ่อกูสาวกลัทธิ Coffee and Cigarette
ส่วนกู สาวก wifi and social App
แม่กูสาวก หวย and ป้อกเด้ง

808 Nameless Fanboi Posted ID:F1NZjmZb6

ปวดหัวปวดหลังมานานเกิน ชักทนไม่ไหว เอางี้ ลองมันทุกศาสตร์เลยละกันจนกว่ามันจะหาย วันนี้เลยไปลองนี่ ฝังเข็มที่แพทย์แผนจีนรพ.หัวเฉียว !

ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะมาฝังแค่อาการปวดหลัง ที่เหลือเดี๋ยวมันคงสานต่อเองได้ถ้าหลังหายปวด
ไปถึงปุ๊บ กรอกประวัติอะไรเรียบร้อย พยาบาลก็ให้เดินไปที่ห้องหมอ ขึ้นเตียงนอนรอจนกว่าหมอจะมีอารมณ์มารักษา

(จริง ๆ คือหมอแกฮอตมากหนะ เลยต้องรอ)

รอไม่นานเท่าไหร่ หลับไปสองรอบเท่านั้นเอง ซึ่งก็ดี ได้เวลาทำใจเพิ่มอีกหน่อยนึง

สักพักม่านประเพณีที่ปิดอยู่นานก็ถูกแหวกออก เผยให้เห็นโฉมหน้าอาจารย์ป้าหมอที่ดูมีอายุแล้วแต่ก็น่ารักและยิ้มเก่งมากกกก น่ารักสุด ๆ

หมอเริ่มคอนเวอเซชั่นทันทีเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา "เป็นอะไรมาหนู"

ตอบทันทีตามสคริปต์ที่วางไว้ "ปวดหลังมากครับหมอ"

ยังไม่ทันบรรยายเพิ่มว่าปวดยังไง หมอถามกลับมาทันที "ปวดตรงสะบักใช่มั้ย"

ชะชะใช่ครับ (รู้ได้ไงฟระ)

"แล้วก็ร้าวลงแขนด้วยใช่มั้ยจ๊ะ"

ถะถะถูกต้องเลยครับ (หรือหมอจะตามเฟสเราอยู่)

"แล้วก็ปวดหัวตรงท้ายทอยตรงนี้ด้วยใช่มั้ย" พร้อมกับเอานิ้วกด

ปะปะปะปวดด้วยครับ ตรงนั้นเลย (เอ๊ะ หรือนอกเวลาแกจะรับจ็อบหมอดูด้วย)

"แล้วก็จะปวดไปถึงขมับตรงนี้เลยเนอะ"

พนักหน้าหงึก ๆ (ถามหวยงวดหน้าเลยดีมั้ยนะ)

"แล้วก็ปวดแถว ๆ เอวตรงนี้ด้วยใช่มั้ยคะ"

ไม่รู้จะตอบหมอยังไงละ ว่าจะถามว่าซื้อ ICO ตัวไหนดี แม่นขนาดนี้พี่จะ All In !!

ระหว่างที่กำลังชื่นชมจิตสัมผัสหมออยู่นั้น หมอก็ยิ้มด้วยสีหน้าแจ่มใสพร้อมจบบทสนาด้วยประโยคสั้น ๆ ที่น่าสะพรึงว่า

"งั้นรักษามันหมดนี่ทีเดียวเลยละกันเนอะ"

............

โอ้โห สคริปต์ที่เตรียมไว้ไม่ได้ใช้ ! ภาพในหัวตอนนั้นเหมือนนุศราเสิร์ฟ ปลื้มจิตร์ชง แล้วอรอุมาตบ ลูกวอลเล่ย์พุ่งตรงมากระแทกหัว !

ตอบไปแบบมึน ๆ เหมือนเลือกอะไรไม่ได้

"ดะดะดะได้ครับ ดีเลยครับ"

"โอเคค่ะ งั้นถอดเสื้อและนอนคว่ำนะคะ ^__^"

จากนั้นหมอก็เริ่มฝังจากหัว ทุกครั้งที่แทงเข็มลงไป หมอก็จะถามว่ามันตึงมั้ย มันจี๊ดมั้ย ถ้าไม่ก็จะขยับจนกว่าจะรู้สึก ก็เจ็บนิด ๆ แต่ไม่มาก แล้วจากนั้นหมอก็ไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนถึงหลัง ...

"ปวดฝั่งขวาใช่มั้ยคะ ... ไม่เป็นไร ฝังฝั่งซ้ายไปด้วยละกันเนอะ ๆ"

ยังไม่ทันตอบรับ หมอก็ปักลงเรียบร้อย โป้ง !

แล้วก็ไล่ลงไปเรื่อย ๆ จนถึงเอว ตรงนี้เจ็บฝุด ๆ ร้องจ๊ากเลย

ยัง ยังไม่จบ หมอเพลินมือ "ฝังขาไปด้วยเลยละกันเนอะ จะได้ทีเดียว"

... แล้วฉันเลือกอะไรได้มั้ย เลือกให้เธอไม่ฝังได้รึเปล่าาาา

จึก ! จึก ! จึก ! จึก ! จึก !

สรุปรวมฝังไปทั้งหมด ... 43 เล่มถ้วน !!! กุนี่นึกว่าตัวเองเป็นเม่น !

ยังไม่จบ ฝังเข็มอย่างเดียวกล้ามเนื้อยังไม่ได้รับการกระตุ้นที่ดีพอ ก็เลยโดนกระตุ้นไฟฟ้าด้วยอีกครึ่งชั่วโมง

แต่อันนี้เวิร์คมาก กล้ามเนื้อกระตุกตุ๊บ ๆ ตลอดเวลา รู้สึกดีฝุด ๆ เห็นแล้วอยากให้หมอฝังเข็มที่ท้องแล้วเปิดกระตุ้นสักสามวัน เผื่อ Six Pack จะขึ้น

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป พี่พยาบาลก็มาถอนเข็มออก อันนี้ไม่รู้สึกอะไรเลย น่าจะด้านชาแล้วเป็นแน่แท้ แต่นาทีนั้นเพลียมาก ร่างแทบขยับไม่ได้ นึกว่าจะจบแล้วแต่ยัง ! เดี๋ยวก่อน ยังไม่ได้เสิร์ฟของหวาน !

คอร์สสุดท้ายพี่พยาบาลจบด้วยการ "ครอบแก้ว" อันนี้สนุกหลังดี ไม่นึกว่ามันจะดูดแรงขนาดนี้ แต่ชอบนะ

และสุดท้ายสงครามก็จบลง เราผ่านสมรภูมิรบมาได้ !! (ถึงจะลุกออกจากเตียงด้วยสภาพเหมือนคนโดนชายฉกรรจ์ 30 คนรุมทำร้ายมาก็ตาม ...)

สรุป เข้าไปให้หมอทรมาน 1 ชั่วโมงเต็ม ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 900 บาท (ถูกมาก) และความมหัศจรรย์ก็บังเกิด ...

หายปวดหลัง !!!!

ตรงสะบักที่ก่อนหน้านี้กดไปไม่เคยเจอกล้ามเนื้อ ตอนนี้ก็กลับมาเป็นมัด ๆ เรียบร้อยยยยย สะบักนอกที่ก่อนหน้านี้กดไปแล้วเจ็บมาก ตอนนี้ไม่มีความผิดปกติใด ๆ เหลืออยู่เลย แขนที่อ่อนแรงก็กลับมีแรงขึ้น หัวที่ตอนแรกมึน ๆ หน่อย ตอนนี้ก็โล่งมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

เป็นศาสตร์ที่มหัศจรรย์มาก 10 เต็ม 10 ไปเลยจ้าาา เลิฟฝุด ๆ จำชื่อหมอไม่ได้ จำได้แต่ห้อง 406 หมอเก่งมากจริง ๆ ^__^

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

809 Nameless Fanboi Posted ID:ULFTOG3Fq

>>808 เหย็ดดดดดดดดด กูต้องไปแล้ว

810 Nameless Fanboi Posted ID:n74IVeVdl

"คนที่เหี้ยกับเราแต่สร้างภาพว่าตัวเองเป็นคนดีใส่คนอื่น" ชอบประโยคนี้มากจนไม่รู้จะเอาไปแปะไว้ที่ไหน แบบ มันมาจากไอคำถามเยอะๆข้อ อันนี้ถามว่าอะไรที่ทำให้โมโห แล้วคนนี้ตอบมามีอันนี้ด้วย
คือแม่งปังมาก ตรงใจกู แต่จะไปตอบเขาก็รู้สึกประหลาดๆ ขอเอามาลงไว้แถวนี้แหละ เรพาะคือกูทนคนประเภทนี้ไม่ได้เหมือนกัน

811 Nameless Fanboi Posted ID:LJdzsmQFp

'ใคร' เป็นคนยกให้อี มล.ข*ัญทิพย์ เทวกุล เป็น "เจ้าแม่ตำราอาหารไทย" กันวะ? คือช่วงหลังๆมานี้เห็นโผล่หน้าที่นู่นที่นี่บ่อยมาก

คือมึงกล้าเหรอวะ ที่จะเรียกอีคนที่กล้าพูดออกทีวีว่า 'ผัดไทย' เป็นอาหารตำรับโบราณมีมานานนม ทั้งๆที่ไทม์ไลน์ของผัดไทยมันไม่ใช่ของที่สูงส่งตำรับชาววัง และเพิ่งจะมีตัวตนในประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่ คือแค่คำว่าไทยแมร่งก็เพิ่งมีไม่นานด้วยซ้ำให้เป็น "เจ้าแม่ตำราอาหาร" ยกย่องว่ามีความรู้ด้านอาหารไทยโบราณและประวัติศาสตร์อาหารเสียเหลือเกิน

แค่เพราะว่าแมร่งเป็นอีลิท มีโอกาสได้แดกของที่สารพัดกว่าแต่ไม่ได้หมายความว่าความรู้ที่มันมีถูกต้องทั้งหมดไง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

812 Nameless Fanboi Posted ID:Ll9VrXjlH

หนูก็เป็นของหนูแบบนี้...หรือจะให้หนูไปเป็นของพี่ล่ะคะ?? 😊😊😊

813 Nameless Fanboi Posted ID:h3S6UGJf6

"Imagine Killing Yourself Just to End Up in a Logan Paul Video"

814 Nameless Fanboi Posted ID:AmdkaWxTi

>>813 https://imgur.com/kuplooa

815 Nameless Fanboi Posted ID:WmdQA7/+7

เนื่องจากในในตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ (?) ไทยท่านหนึ่งได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสำนักคอนเท้นออนไลน์รายหนึ่งว่าด้วยเรื่อง "การทำนายแผ่นดินไหว แสงออรอร่า และดาวเรียงตัว" ทางทีมงาน SPACETH.CO จึงได้เกิดข้อสงสัยขึ้นว่า "เขาทำได้จริงหรือ ?"
ลิ้งต้นข่าว โปรดใช้จักรยานในการอ่าน : https://readthecloud.co/thoughts-11/

มาลองฟังกรณีตัวอย่างในต่างประเทศกัน เกี่ยวกับปฏิทินออโรร่าคดีกับปรากฏการที่คาดเดาล่วงหน้าไม่ได้และการเดาอย่างมีหลักการ(จริงๆ)ของนักวิทยาศาสตร์

ในปี 2009 เกิดเหตุการแผ่นดินไหวที่เมือง L'Aquila ในประเทศอิตาลี ตามด้วยข่าวที่ช็อควงการธรณีวิทยาด้วยการสั่งฟ้องนักธรณีวิทยา 6 คนในข้อหา manslaughter (ประมาณคดีฆาตกรรมของไทย?) เพราะไม่สามารถเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้าได้ แต่สุดท้ายก็ยกฟ้อง เพราะถึงจะมีทฤษฎีหลายๆอันที่อ้างว่าทำนายได้ แต่ในทางวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่มีอันไหนที่มีหลักฐานมากพอจะพิสูจน์ได้ว่าคาดการณ์ได้จริง

เรื่องนี้สอนอะไรเราบ้าง?

ในการคาดการณ์ด้วยวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นพยากรณ์อากาศ การระเบิดของภูเขาไฟ แสงออโรร่า หรือ solar activity ไม่มีการคาดการณ์ไหนที่จะถูกต้อง 100% และไม่สามารถเดาได้แม่นยำในระดับบอกว่ามันจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ การคาดการณ์ทางวิทยาศาสตร์เกิดจากการสังเกตความเปลี่ยนแปลง การคำนวน การใช้แบบจำลอง simulator ต่างๆและรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงนั้นๆ และใช้ผลที่ได้ที่ได้ในการ "เดาอย่างมีหลักการ" ซึ่งแน่นอนว่าในธรรมชาติมีความซับซ้อนและตัวแปรแทรกซ้อนมากมาย ไม่มีทางที่จะบอกได้ว่า เหตุการนี้จะเกิดขึ้นในวันนี้ หรือคำนวนล่วงหน้าเป็นปีๆได้ (ยกเว้นคนๆนั้นย้อนเวลาไปอนาคตแล้วกลับมาเขียนเล่าให้พวกเราอ่าน ซึ่งเชื่อว่าเขาคงไปซื้อหุ้นเทสลากับบิตคอยน์ตั้งแต่สมัยมันยังถูกๆแทนที่จะมานั่งทำนายอะไรให้พวกเราฟัง)

การคาดการณ์ทุกชนิดมีโอกาสความผิดพลาดและการแหกแบบจำลองโดยธรรมชาติเสมอ อย่างพยากรณ์อากาศที่เป็นการคาดการณ์ทางวิทยาศาสตร์ที่มีที่มายาวนานมากๆ ประเทศไทยที่เรามีทั้งเรดาร์สำรวจอากาศ ดาวเทียม ข้อมูลนานหลายสิบปี ก็ยังคาดเดาล่วงหน้าได้ไม่แน่นอนจนหลายคนหลังหักเสียเงินซื้อเสื้อกันหนาวมารอแต่ก็ไม่ได้ใส่มาหลายปีแล้ว เพราะเขตเส้นศูนย์สูตรเป็นเขตที่อากาศแปรปรวนที่สุดที่หนึ่งของโลก

หรืออย่างการคาดการณ์ออโรร่า ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ solar activity ที่การคาดการต้องคำนวนหลายอย่าง ทั้งจุดดำบนดวงอาทิตย์ ความแปรปรวนของสนามแม่เหล็ก ปรากฏการ solar flare ต่างๆ ที่แน่นอนว่าถึงเราจะศึกษาอวกาศมานานนับหลายร้อยปี แต่ความรู้ความเข้าใจในปรากฏการต่างๆในธรรมชาติของเราในตอนนี้ยังไม่มากพอที่จะคำนวนล่วงหน้าหรือสร้าง simulation ที่มีความแม่นยำในระดับวันต่อวันได้ ซึ่งใครที่ทำได้จริงจะได้มีชื่อในรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์แน่ๆ เพราะการคาดการณ์ solar activity ล่วงหน้าที่มีความแม่นยำมากๆจะช่วยตรวจจับและป้องกันความเสียหายจากพายุสุริยะอนุภาคพลังงานสูงที่สามารถเผาแผงวงจรดาวเทียมให้เกรียมคาวงโคจรและทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งโลกพังเหมือนถูกอาวุธ EMP ได้

ยิ่งเหตุการใหญ่แค่ไหนยิ่งคาดการณ์ยากขึ้นและแม่นยำน้อยลงเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด แสงออโรร่า สึนามิ พายุสุริยะ ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุดและนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งที่สุดในปัจจุบัน ยังไม่มีการคาดเดาทางวิทยาศาสตร์ที่แท้จริงอันไหนที่แม่นยำในระดับวันต่อวันอย่างแน่นอน

ถ้ามีก็สงสัยได้เลยว่าถ้าคนพูดไม่ใช่เอเลี่ยนที่มีวิทยาการสูงกว่าเรามากๆ หรือคนที่เดินทางย้อนเวลามาจากอนาคต ก็ไม่ใช่การคาดการณ์ทางวิทยาศาสตร์ของจริงแน่ๆ =w=

สงสัยจริง ๆ นะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

816 Nameless Fanboi Posted ID:.rhxpDMsd

Dorsa Derakhshani อายุ 17 ปี นักกีฬาหมากรุกทีมชาติอิหร่าน เคยได้แชมป์หลายสมัย ถึงกับตัดสินใจลาออกจากทีมชาติ และเดินทางไปอยู่ในสหรัฐฯ เพราะทนไม่ได้กับการบังคับกดขี่ให้ผู้หญิงต้องปฏิบัติตามจารีตอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการคลุมผมตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่สาธารณะของ #รัฐศาสนา แห่งนี้

เธอบอกว่า “ดูเหมือนพวกเขา (สมาคมหมากรุกอิหร่าน) จะให้ความสำคัญกับผ้าคลุมผมของดิฉันมากกว่าสมอง”

“....they cared more about the scarf covering my hair than the brain under it.”

นักกีฬาหญิงอิหร่านในทุกประเภทกีฬาต้องแต่งตัวมิดชิด และคลุมผม ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะถูกตัดสิทธิลงแข่งขันได้ เหมือนอย่างน้องแชมป์หมากรุกคนนี้ ที่เลือกไปเล่นหมากรุกในสหรัฐฯ มากกว่าจะเป็น “เป้า” ให้เจ้าหน้าที่สมาคมกีฬาด่าและตำหนิเกี่ยวกับการแต่งกาย

ความคับข้องใจเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของ #IranProtest การประท้วงในกระแสรองที่เรา1อาจไม่เห็นในทีวี

https://www.nytimes.com/2017/12/29/opinion/iran-chess-woman-america.html

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

817 Nameless Fanboi Posted ID:YMet+oBGh

>>816 พอมาอเมริกา เห็นlibtardเมกันเชิดชูฮิญาบว่าเป็นของดี จะทำหน้ายังไงวะ

อย่างกับผู้อพยพจากประเทศคอมมูนิสต์เก่าเดินไปเจอเด็กมหาลัยจิบตาร์บัคชูป้ายคอมมูนิสต์

818 Nameless Fanboi Posted ID:qziWZP0Mc

สรุปภาพรวมของประเทศไทยในปี 2017 ถึงต้นปี 2018

• ตลาดหุ้นไทยเตรียมปิดตัว 1,800 จุด มูลค่าการซื้อขายทะลุ 90,000 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดในรอบ 43 ปี
• เงินสำรองระหว่างประเทศของไทยพุ่งแตะ 1.95 แสนล้านดอลลาร์ สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
• คาดการณ์ GDP ปี 2017 ขยายตัวถึง 4.3%
• ส่งออกข้าวมากที่สุด อันดับ 1 ของโลก
• ยอดนักท่องเที่ยวปี 2017 ทะลุ 35 ล้านคน
• ทำรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุด อับดับ 3 ของโลก ประจำปี 2017
• กรุงเทพมหานคร คือ เมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก ประจำปี 2017
• เชียงใหม่ ครองอันดับ 3 เมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก ประจำปี 2017

• ไทยครองอันดับ 1 ประเทศที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลก จากรายงานของ US News
• ครองอันดับ 4 ประเทศที่การท่องเที่ยวโดดเด่นมากที่สุดในโลก
• ครองอันดับ 6 ประเทศที่มีการเติบโตโดยภาพรวมมากที่สุดในโลก
• ครองอันดับ 7 ประเทศที่มีวัฒนธรรมโดดเด่นมากที่สุดในโลก
• ครองอันดับ 7 ประเทศที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการประกอบธุรกิจ
• ครองอันดับ 13 ประเทศที่เปิดโอกาสทางธุรกิจมากที่สุดในโลก
• ครองอันดับ 17 ประเทศที่มีวัฒนธรรมทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก
• ครองอันดับ 21 ประเทศที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นทำงาน
• ครองอันดับ 26 ประเทศที่ดีที่สุดในโลกในภาพรวม
• ครองอันดับ 29 ประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก

• สำนักข่าว Bloomberg จัดอันดับให้ไทยเป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก 3 ปีซ้อน
• ประเทศไทยมีสถานะเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ เช่นเดียวกับจีน มาเลเซียและบราซิล
• ธนาคารโลกชี้ ไทยกำลังหลุดพ้นจากความยากจนและก้าวขึ้นสู่ “ประเทศที่มั่งคั่ง” แล้ว

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

819 Nameless Fanboi Posted ID:s4nTyrq1T

>>818 หะ?...

820 Nameless Fanboi Posted ID:CwdOx26Oh

>>819 มันเป็นข้อมูลเชิงสถิติ ไอ้อันดับต่างๆ เนี่ยต่างชาติจัดทั้งนั้นนะ ไทยไม่ได้จัด

แต่มีอันนึงที่กูยังสงสัยอยู่ คือตัวเลข GDP 2017 4.3% ไตรมาศ 3 - 4 มันดีมากจริงๆ แต่กูไม่แน่ใจว่าจะถึง 4.3%

821 Nameless Fanboi Posted ID:FE67HOSHA

>>818 แรกๆก็เชื่อนะ หลังๆแม่งเริ่มเมากาวละสัส เชียงใหม่นี่ใช่เหรอคนเป็นมิตร เป็นมิจฉาชีพเหอะสัส นั่งรถส่วนบุคคลไร้ทะเบียนเขียวเหลืองเจอแท็กซี่ล้อมไอเหี้ยแล้วแหล่งอ้างอิงข้อมูลนี่แทบไม่มี แถมอันดับ21ที่เหมาะกับการเริ่มต้นทำงานนี่หัวควยมากๆ งานห่าไรวะที่แม่งไปสำรวจมาอ่ะ? กรรมกร จับกัง ดูดส้วม คนขับรถบรรทุก คนขับรถเมล์ งี้อ่อ ปัญญาอ่อนเหี้ยๆ แล้วเหมาะแก่การเริ่มต้นธุรกิจมึงฝันเอานะ รถติด น้ำท่วม
สรุป มีดีแค่ท่องเที่ยวกับคอรัปชั่น ที่เหลือแม่งไม่ต่างจากกัมพูชา

822 Nameless Fanboi Posted ID:+.z06U/04

กูไม่เชื่อตัวเลข กูเชื่อแต่ประสบการณ์ตรงที่เห็นว่าชนชั้นแรงงานไทยกำลังสูญเสียความมั่งคั่งไป
ไอ้ตัวเลขที่ออกมาเขาให้ระดับผู้บริหารอ่าน

823 Nameless Fanboi Posted ID:CwdOx26Oh

>>821 U.S. News &World Report มันเอามาจากที่นี่

ถ้ามึงเคยไปกัมพูชาจริงๆ มึงจะไม่พูดหรอกว่าไทยไม่ต่างจากกัมพูชา มันห่างชั้นกันมาก ส่วนคอรัปชั่นเทียบกับกัมพูชา ไทยเด็กๆ ไปเลยวะ

824 Nameless Fanboi Posted ID:KCgqEayZz

>>822 อันนี้กูว่าแรงงานไทยขี้เกียจและไม่อยากทำงานเอง

ดูข่าวที่ขอโบนัส 8 เดือนจนเจ้าของแก้ทางโดยการเลิกจ้างสิ พม่าไม่ทำแบบนี้หรอก พวกนี้เรียกร้องน้อยกว่าไทยเยอะ ขยันกว่าด้วย

825 Nameless Fanboi Posted ID:DzvCEXe93

>>822 ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวชนชั้นแรงงานก็ถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์แล้ว

826 Nameless Fanboi Posted ID:iZlGztHp.

แรงงานไทยเรื่องมากนะ ทั้งที่ฝีมือ วินัย คุณภาพก็ไม่ได้ดีไปกว่าต่างด้าวนอกจากคุยภาษาไทยรู้เรื่องกับตำรวจไถ่ (แต่อนาคตไอ้พวกรุ่น Genภาษาวิบัตคงอาการหนักกว่า)

แรงงานต่างด้าว เลยมีงานเพียบจนแม่งแทบจะยึดบางจังหวัดได้ล่ะ

ส่วนไปเปิดกิจการเองก็มีแต่สินค้าหลอกลวง,ซื้อมาขายต่อไม่มีปัญญาสร้างผลิตภัณฑ์เอง

827 Nameless Fanboi Posted ID:pwAwSki93

>>818 ไหนวะ Thailand 3 ปีซ้อน?
https://www.bloomberg.com/news/articles/2017-03-20/world-happiness-report-2017-rankings-released

828 Nameless Fanboi Posted ID:pwAwSki93

>>823 ตรงไหนใน U.S. News &World Report วะมึงช่วยหาที เพราะกูไม่เห็นแร้งค์อะไรที่เข้าเค้าเลย
https://www.usnews.com/rankings

829 Nameless Fanboi Posted ID:fPkBmiL00

>>827 คนละตัวกัน มันเป็นดัชนีความทุกข์ยาก ไทยมีความทุกข์ยากน้อยมาก คนเลยแปลงว่าทุกข์น้อยเท่ากับสุขมาก

https://www.bloomberg.com/news/articles/2017-03-03/these-countries-are-getting-more-miserable-this-year

830 Nameless Fanboi Posted ID:CwdOx26Oh

>>828 https://www.usnews.com/news/best-countries/best-start-a-business

831 Nameless Fanboi Posted ID:6cT+4NqSz

Btc มูลค่าขยายจนแตกหรือยังครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

832 Nameless Fanboi Posted ID:0V8Nelcf1

>>821 แท็กซี่ทั่ว ปท. ไทย เขามีทีมล่าหัวอูเบอร์ และไม่ใช่แค่ไทย แต่อูเบอร์เป็นศัตรูกับแท็กซี่ทั่วโลก (ไม่เว้นแม้แต่ต้นกำเนิดของมันอย่างอเมริกา ลองหาคำว่า Greyball ดูดิ อูเบอร์ทำขึ้นมาเพื่อตรวจสอบว่าคนเรียกเป็น จนท. มาล่อซื้อหรือเปล่า) ไม่แปลกที่มึงจะเจอเหตุการณ์แบบนั้น

>>826 แรงงานไทยฝีมือดีนะ กูฟังจากหลายที่ละ เอาง่ายๆ ตะวันออกกลาง ไต้หวัน เกาหลีใต้ เขาอยากได้คนงานไทยไปทำงานนะ ถ้าเทียบกับพวกฟิลิปปินส์ อินโด เวียดนาม แต่ปัญหาคือ คนไทยทักษะภาษาอังกฤษกากสัสๆ กว่าพวก ปท. ที่กูว่ามา อันนี้ไม่ใช่แค่ระดับช่างทั่วๆ ไปนะ แม้แต่ระดับวิศวกรก็โดนตำหนิมาแบบนี้ คือบ้านเราแม่งไม่ได้อยู่ด้วยขาตัวเองไง ไม่เหมือนญี่ปุ่นกับจีนที่แม่งมีอุตสาหกรรมเอง มึงทำงานใน ปท. ได้ ใช้ฝีมืออย่างเดียวภาษาไม่ต้อง ส่วนต่างด้าวดูด้วยว่าเขามาทำงานแบบไหน ก็งานที่คนไทยไม่ทำนั่นแหละ ก่อสร้าง ประมง คนทำความสะอาด คนเข็นของในตลาด พวกนี้คืองานระดับล่างที่คนท้องถิ่นไม่ทำ ก็เหมือนที่คนไทยไปรับจ้างล้างจานในร้านอาหารเมกาหรือยุโรปนั่นแหละ

833 Nameless Fanboi Posted ID:.RM4PvC5k

ไป pantip มาร้านบางร้านแม่ง
เจ้าของที่ คนคุม คนขายแม่งคนจีนชัดๆ คุยกันช้งเช้งฉี่เฉี่ยวหัว ฟังไม่ออกแต่ลูกจ้างแม่งเหมือนโดนจิกหัวด่า(แค่คุยกันเสียงดังเฉยๆนั่นแหละ)

แต่น้องคนจีนที่เป็นลูกจ้างพูดไทยยังไม่ชัด แม่งน่ารักดีวะ -////-

834 Nameless Fanboi Posted ID:P0.JDZ4Po

ขาว หมวย สาวจีน
>>833 #มิตรสหายบอกต่อ

835 Nameless Fanboi Posted ID:pwAwSki93

>>829 >>830 ใจมากเพื่อนโม่ง
จริงๆ เคยอ่านเจอฝรั่งสายสตาร์ทอัพคนนึงอัพในบล็อคส่วนตัวว่าเชียงใหม่เป็นสวรรค์สำหรับทำสตาร์ทอัพแหละ
เบเนฟิตก็ประมาณว่ามีความกึ่งเมืองกึ่งความสงบ ที่พัก+ค่าครองชีพถูก Co-working Space เยอะ เน็ตแรง เฟรนด์ลี่กับต่างชาติ ฯลฯ
เอาไว้ถ้าหาลิงค์เจอจะเอามาบอกต่อ
แต่ถ้าในภาพรวมสำหรับทุกอาชีพนี่กูก็ยังค่อนข้างกังขาอยู่ว่าจริงหรอวะ

836 Nameless Fanboi Posted ID:JneAffDew

ต่างชาติลงทุนง่ายขอแค่”มีเงินและเส้นสาย”นิดหน่อย

ซื้อ บ้าน&รถ เป็นเจ้าของได้ง่าย จีนขายจีน แขกขายแขก ฝรั่งขายฝรั่ง
Net แรง&ถูก สามารถทำธุรกิจออนไลน์ได้ง่ายดาย
เป็นประเทศเหมาะแก่ต่างชาติคนเกษียนงานมาอาศัย
ค่ารักษาถูกกว่าประเทศต้นทาง (เกื้อหนุนกับข้อข้างบน)

837 Nameless Fanboi Posted ID:rVm.+Rq7g

"ว่าไป เรื่องการแห่กินแห่เที่ยวช่วงปีใหม่ ที่เห็นผู้คนหนาแน่นในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต หรือที่เป็นกระแส ลึกๆ แล้วมันก็มีเรื่องของความเหลื่อมล้ำเชิงโอกาสและความรู้อยู่เหมือนกัน
เชื่อว่าเพื่อนๆ ใน Friend list ของผมส่วนใหญ่ มีฐานะทางเศรษฐกิจ สถานะทางสังคม หรือหน้าที่การงานที่ดีในระดับที่สามารถที่จะไปพักผ่อนที่ไหนเมื่อไรก็ได้ตามที่ต้องการ สามารถกำหนดไว้ในแผนการชีวิตได้โดยไม่ต้องรอวันหยุดยาว รวมถึงสามารถไปเที่ยวในท้องถิ่นที่ Unique หรือประเทศที่คนไม่ค่อยเที่ยวกันได้

แต่มีคนอีกจำนวนมาก ที่ไม่สามารถลางานหรือลาพักร้อนเช่นนั้นได้ ในประเทศที่วันลาพักร้อนน้อยนิดอันดับต้นๆของโลก (10 วันต่อปี) ไม่นับว่า คนส่วนใหญ่ต้องเก็บวันลาพักร้อนเหล่านี้ไปทำธุระส่วนตัวหรือหาหมอที่นัดหมายไว้ เพื่อไม่ให้เสียวันลาป่วยลากิจ ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำงานหรือจ่ายค่าจ้าง

ผู้คนเหล่านั้นต้องรอวันหยุดยาวในเทศกาล ที่เป็นวันหยุดราชการ หรือวันหยุดตามประเพณี ที่นายจ้างห้างร้านหรือหน่วยงานไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงฝ่าฝืนได้ เพื่อกลับไปหาญาติพี่น้องที่บ้านเกิด หรือไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจประจำปี

นี่ทำให้ผู้คนต้องออกเที่ยวพร้อมๆกันจำนวนมหาศาล ในเทศกาลวันหยุดประจำปี

นอกจากนี้ ด้วยสภาพการขนส่งมวลชนและการคมนาคมที่ด้อยพัฒนาของไทย ทำให้การเดินทางของผู้คนไม่มีทางเลือกมากนัก การเดินทางทางรถยนต์จึงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่จำเป็นหรือเป็นหนทางเดียว รวมถึงการไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในประเทศนี้ แทบทั้งหมดจะต้องไปด้วยรถยนต์หรือยานพาหนะส่วนตัว

รถราจึงไปกระจุกติดขัดเต็มถนนสายหลัก และในเส้นทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ

เหล่านี้คือความเหลื่อมล้ำเชิงโอกาส แต่นอกจากนั้นแล้ว ความเหลื่อมล้ำเชิง "ความรู้" ก็เป็นปัจจัยสำคัญให้คนแห่ไปเที่ยวแต่ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต หรือที่เป็นกระแส เพราะสำหรับคนส่วนใหญ่ ที่ไม่ได้มีความลุ่มลึกทางวัฒนธรรม หรือการศึกษาหาข้อมูลเรื่องการท่องเที่ยว (ที่การที่จะมีความลุ่มลึกหรือความรู้นั้นได้ ต้องมีการศึกษาและสถานะที่ "ว่าง" หรือ "สบาย" ประมาณหนึ่ง)

เมื่อประกอบด้วยโอกาสทางเวลาและการเงิน สถานที่ท่องเที่ยวที่พวกเขาไปกัน คือ "สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต" ทั้งประเภทชื่อดังดั้งเดิม อย่าง บางแสน หัวหิน เชียงใหม่ ภูเก็ต หรือพวกสถานที่ยอดฮิตตามกระแส อย่างปาย ภูทับเบิก ม่อนฝอย เขาเท่าต้นซวย ฯลฯ

ไม่ใช่ไปโบราโบรา หรือไปชมเจดีย์ที่พุกาม เล่นสกีที่สโลวีเนีย (หรือถ้าในไทยก็อาจจะเป็นรีสอร์ทส่วนตัววังน้ำเขียว หรือเกาะลับห้องลึกในทะเลอันดามัน

คนต้องแห่ไปเที่ยวช่วงเดียวกัน ด้วยตัวเลือกที่มีไม่มากนัก ด้วยการเดินทางที่อัตคัต ก็เลยเกิดสิ่งที่เราได้เห็นกันในทุกช่วงวันหยุดปีใหม่ หรือสงกรานต์ ภาพของผู้คนเต็มแน่นในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่เป็นกระแส รถราติดเต็มตามถนนสายหลักๆ ให้หลายๆคนรู้สึกสงสารสมเพช ว่าจะออกไปแย่งกันกินกันเที่ยวทำไมนั้น จึงเกิดจากความเหลื่อมล้ำซ้ำซ้อนกันหลายต่อหลายเรื่อง ทำให้ผู้คนจำนวนมากในประเทศนี้ไม่มี "เสรีภาพในการท่องเที่ยว" ได้เท่าที่ควร

เช่นนี้ มิตรสหายของผมที่ไม่ต้องไปแออัดแย่งกินแย่งเที่ยว ถือว่าเป็น "ผู้โชคดี" กลุ่มน้อยในประเทศนี้แล้วละครับ

ปล. เขียนซะดิบดี ผมก็ได้แค่พาลูกไปบางแสน"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

838 Nameless Fanboi Posted ID:uwTeL+NmK

>>837 กูว่าทุกประเทศก็เป็นแบบนี้นะ คนแน่นในที่เที่ยวยอดฮิตตามวันหยุด ประเทศไหนไม่เป็นเหรอวะ

839 Nameless Fanboi Posted ID:r90F0pJAg

>>838 เกาหลีเหนืออ่ะ มีวัฒนธรรมของตัวเอง แถมไม่มีระบบวันจันทร์-อาทิตย์แบบบ้านเราอีก ทำงาน7วันจนกว่าจะตาย

840 Nameless Fanboi Posted ID:SfCuFjuOs

>>839 เกาหลีเหนือมีวันหยุดนะ

841 Nameless Fanboi Posted ID:qducn.zIY

>>840 อย่าเอ็ดไป เดี๋ยวลิเบอร่านก็มาดิ้นหรอก

842 Nameless Fanboi Posted ID:SfCuFjuOs

OK นะคะ

เป็นการคอนเฟริ๋มจาก Status ก่อนได้ว่า "เงินส่วนหนึ่ง" (แต่ไม่ทราบว่าเท่าไร) ที่คุณตูนวิ่งหามาได้นั้น ก็จะกลายเป็น "ค่าใช้จ่าย" ให้กับ โรงพยาบาลของฝ่ายทหารจริงๆ

ก็เป็นที่เคลียร์แล้วว่า ทหารที่บาดเจ็บเหล่านั้น ไม่สามารถพึ่งสวัสดิการจากงบประมาณประจำปึ จากกระทรวงกลางโหมได้ เพราะฉะนั้น ต้องมึการขอรับบริจาคจากประชาชนเพื่อช่วยเหลือในเรืองเหล่านี้กัน

และก็ไม่ทราบว่า จะเป็นอย่างนี้กันต่อไปอีกนานกี่ปี และ จะต้องมีคนมาขอบริจาคกันทุกปีหรือเปล่า ก็ไม่ทราบได้

---------------------

ที่แปลกใจสุดๆ คือ ในเวลานี่้ ทางโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ เอง ก็ไม่สามารถบอก "ตัวเลข" ให้กับประชาชนทราบได้ว่า ท่านต้องการ "งบจัดสรร" จากการวิ่งของคุณตูน ทั้งหมดเท่าไรแน่

ซึ่งปกติแล้ว หน่วยงานทุกๆ แห่งจะต้องแจ้งหรือแสดงตัวเลขให้เห็นก่อนเลยว่า ต้องการทั้งหมดเท่าไร เพราะผู้มีอำนาจ จะเป็นผู้อนุมัติจัดสรรงบให้ ไม่ว่าจะเป็นงบประจำปี และ ทบยอดไปปีต่อไป หรือ อื่นๆ

หรือว่า ทางโรงพยาบาล "อาจจะต้องการ" ส่วนที่เหลือทั้งหมด หลังจากการ "จัดสรร" ให้กับโรงพยาบาลทั้ง 10 แห่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ดิฉันถือว่า มันเป็นเรื่องที่ไม่แฟร์ เลยค่ะ

---------------------

แต่สิ่งที่ดิฉันสังเกตุนอกเหนือไปจากนี้คือ:

1. รัฐบาลได้ทำการ "ทดสอบ" จาก "ภาคสนาม" (โดยฝีเท้าของคุณตูน) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

2. ผลปรากฎว่า ประชาชนคนไทย ยังมีเงินเหลือกันอยู่อย่างมากมาย และ ใช้ชีวิตกันได้ อย่างไม่เดือดร้อนอย่างแสนสาหัสเท่าไรนัก

3. การนำเอา Super Star ออกมาสร้าง "ความดี" มันกลายเป็น Model ที่สามารถใช้ต่อได้ในอนาคต อีกเป็นจำนวนหลายๆ ครั้ง

4. สรุปแล้วคือ การขึ้นภาษี VAT ในปีนี้ ก็เป็นไปตามแผน และจะไม่มีการ "ชะลอ" อีกต่อไป

เพราะเห็นแล้วว่า ประชาชนยัง OK กันอยู่ ถึงแม้ว่า จะเรียกร้องกันอย่างมากมายว่า เศรษฐกิจแย่ๆๆ (ถ้าแย่มากๆ จะเอาเงินมาบริจาคกันเป็นพันๆ ล้านได้อย่างไร?)

---------------------

แผนการนี้ลึกซึ้งจริงๆ ขอคารวะกับผู้วางแผนและกลุ่มเสนาธิการ ที่ประสบความสำเร็จด้วยการนำเอา Model คนดี เข้ามาผสมและก่อให้เกิดเป็นการบริจาคทานและทุนทรัพย์

และก็ขอแสดงความเสียใจด้วย ที่ท่านผู้อ่านจะโดนเก็บภาษีอากร กันอย่างหนักเลยทีเดียวในปีนี้ เพราะงบประมาณของกระทรวงกลาโหม คงจะเพิ่มขึ้นอีกหลายพันล้านบาท แต่จะไม่มีการจัดสรรงบประมาณอย่างพอเพียงให้กับ โรงพยาบาลของฝ่ายทหารเองมากตามที่ต้องการแต่อย่างใดทั่งสิ้น

Have a Happy Weekend ค่ะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

มีคนคิดแบบนี้จริงๆ แฮะ เอาเถอะ สุดท้ายแล้วพวกนี้ก็ทำตัวเองอยู่ดี

843 Nameless Fanboi Posted ID:gbEYV8FVJ

จุ๊ๆอย่าบอกชาวบ้านสิ

844 Nameless Fanboi Posted ID:Qt7B7ulOY

>>842 ร่านนี่มันร่านจริมๆ

845 Nameless Fanboi Posted ID:wnF3E3Xdf

ลิเบอร่าน everyday

846 Nameless Fanboi Posted ID:L.zz0g11v

"สำหรับผม สัญลักษณ์แห่ง Anarchy ที่แม่งสุดตีนมากๆ คือ The Pirate Bay นี่แหละครับ ทุกวันนี้แม่งยังอยู่ดี ยังไม่มีห่าอะไรทำลายมันให้สิ้นได้ (ผมสงสัยเหมือนกันว่าพวกเชื่อ Conspiracy Theory แม่งจะอธิบายว่ายังไง)

ป.ล. 15 กันยาปีนี้ แม่งจะอยู่มาครบ 15 ปี"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

847 Nameless Fanboi Posted ID:bAxIqcyfC

>>846

Pirate Bay = Anarchy ผิด
Pirate Bay = พวกชอบของฟรี ถูก

848 Nameless Fanboi Posted ID:.t6wuiFHv

>>847 Anarchy กับการต่อต้าน Right (ลิขสิทธิ) เป็นอะไรที่ไกล้เคียงกันนะ ในหลายๆ แง่นะ

849 Nameless Fanboi Posted ID:P4l0TOtGo

"ทำบุญ = ทำร้ายสังคมทางอ้อม ?"
การทำบุญทำทานนั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน ตั้งแต่สมัยโบราณมาจวบจนถึงทุกวันนี้ คำกล่าวที่ว่าคนไทยใจดีนั้นก็ยังคงใช้ได้อยู่เสมอ จนบ้างครั้งนิสัยใจดีใจบุญของคนไทยนี่เอง...กลับเป็นการทำร้ายสังคมไทยทางอ้อมด้วยเช่นกัน
จะเห็นได้ว่าในสังคมเมืองมักจะมีกลุ่มคนที่มาอาศัยความใจบุญของคนไทยในการหากิน ไม่ว่าจะเป็นเด็กเดินขายของ คนแก่นั่งขายของ หรือแม้แต่ขอทาน โดยส่วนตัวแล้วการทีี่หลายๆคนทำงานเพื่อแลกมาด้วยเงินรายได้มาเลี้ยงปากท้องนั้นเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม ยังรู้สึกว่าผู้คนเหล่านั้นได้พยายามเท่าที่เค้าจะสามารถทำได้ ไม่งอมืองอเท้านั่งรอเงินไปวันๆ แต่มีอยู่สื่งหนึ่งที่ผมเริ่มสังเกตุว่ามันมีมากขึ้นเรื่อยๆ นั้นคือ การให้ผู้สูงอายุมานั่งกึ่งขายของกึ่งขอเงิน

ต้นปี 59 ผมได้มีโอกาสมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ย่ายใจกลางเมืองเก่ากรุงเทพฯ และได้พบกับยายคนหนึ่งนั่งริมฟุตบาทละแวกที่พัก พร้อมด้วยตระกร้าที่เต็มไปด้วยลูกอม ยาดม ยาหม่อง 4-5 ชนิด ผมได้เดินไปอุดหนุสินค้าแกแล้วก็คิดว่า เอ้อ สูงอายุขนาดนี้แล้วแกยังทำมาหากิน น่าเห็นใจแกนะ น่าสงสาร.... ผ่านไป สักครึ่งปี ผมก็เริ่มเห็นบางสิ่งที่มันแปลกๆ ผมเห็นยายคนเดิมแต่เพิ่มเติมด้วยยายอีก2 ท่าน และตาอีก 1 คน นั่งจับเข่าคุยกัน ทุกคนจะมีตะกร้าแบบเดียวกัน พร้อมด้วยสินค้าแบบเดียวกันเป๊ะ!! จากนั้นจะกระจายกันนั่งตามมุมถนนคนละมุม ผมเริ่มสงสัยว่านี่เป็นการคิดค้นช่องทางทำมาหากินของผู้สูงอายุ หรือเป็นการหากินกับผู้สูงอายุและความใจดีของคนไทยกันแน่

ลองคิดกันเล่นๆ ว่าถ้าเรายังสนับสนุนอุดหนุนยายกันแบบนี้อยู่หล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น หากว่ายายมีรายได้ดีกว่าอยู่ที่ต่างจังหวัด เข้ามานั่งขายของตอนเช้า เย็นกลับที่พักก็อาจจะมีการบอกต่อ ชักชวน เพื่อนๆ ญาติๆ คนรู้จักเข้ามาทำในรูปแบบเดียวกัน จากนั้นก็จะมีการย้ายถื่นฐานจากบ้านเกิดเข้ามามากขึ้น จังหวัดต้นทางก็จะไม่มีความเจริญ ขาดแคลนและสุดท้ายก็จะเป็นการบีบให้คนในพื้นที่ต่างจังหวัดจำเป็นต้องย้ายเข้ามาในตัวเมืองในที่สุด

หากไม่คิดอะไรมากคงไม่เป็นไร แต่ถ้าหากลองมองดูแล้วจุดเล็กๆ จุดนี้จะเป็นรูรั่วที่ก่อให้เกิดปัญหามากมายในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความหนาแน่นของประชากรตามเมืองใหญ่ๆ (อ้างอิง : http://stat.bora.dopa.go.th/stat/y_stat59.htm), ปัญหาการย้ายถื่นฐานจากบ้านเกิด (อ้างอิง : http://service.nso.go.th/nso/nsopublish/themes/files/migrationPocket59.pdf ถึงแม้จะลดลงแต่ก็ยังคงมีอยู่) ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะนำมาอีกซึ่งหลายๆปัญหาตามมาไม่ว่าจะเป็น ปัญหาด้านสาธราณะสุข, ด้านการขนส่ง, ด้านสภาพสิ่งแวดล้อม, ด้านการค้ามนุษย์ และอื่นๆ อีกมากมาย ส่งผลให้เมืองใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวและประชากรท้องถิ่นอาศัยหนาแน่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจะแย่ลงไปเรื่อยๆ

แล้วเราจะปล่อยให้สังคมเดินหน้าไปแบบนี้..เราจะส่งมอบสังคมแบบนี้ให้กับลูกหลานเราแล้วจริงๆนะหรือ?

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

850 Nameless Fanboi Posted ID:ac6Wh1kWv

>>846
มันเหมือน freeloading มากกว่า anarchy
anarchy มันต่อต้านระบบเพราะมันคิดว่ามันอยู่ได้ด้วยตัวเอง
แต่พวกของเถื่อนมันเกาะระบบแดก

851 Nameless Fanboi Posted ID:xTQP16962

ที่สังคมโซเชียลมันมีดราม่าทุกวี่ทุกวัน ชนิดที่ว่า เราแค่ไม่สบายแล้วไปงีบ ตื่นมาดราม่าใหม่มาอีกแล้วจ้าาา ...นั้น

สาเหตุหลัก ๆ ก็มาจากความ "เสือก" ของคนเรานั่นแหละ ...เฮ้ย ทำไมมึงทำอย่างงั้นวะ, ทำไมมึงไม่ทำงี้วะ, ทำไมมึงต้องเป็นงั้น, ทำไมไม่เป็นอย่างงี้, พูดงั้นทำงี้ไม่ดีกว่าเหรอวะ

เพราะไอ้สิ่งเหล่านี้แหละ ที่ทำให้คนเราทะเลาะกัน ขัดแย้งจนเกิดเป็นดราม่าขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่บางเรื่องเราเองก็ไม่ได้มีส่วนได้-เสียอะไรกะเขาด้วยซ้ำ แต่เราก็เลือกที่จะ "เสือก" เรื่องเหล่านั้นด้วยความเคยชิน

....เอาจริง ๆ ถ้าเราเห็นอะไรที่มันขัดหูขัดตา แล้วรู้จักตั้งสติ สูดลมหายใจลึก ๆ ผ่อนยาว ๆ แล้วบอกกับตัวเองเบา ๆ ว่า "ไม่เสือกเรื่องเขาสิ"

แค่นี้... สังคมโซเชียลก็จะปลอดดราม่าและน่าอยู่ขึ้นเยอะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

852 Nameless Fanboi Posted ID:bjd.ZcjmP

"คำตอบที่คนไข้ไม่ได้ตั้งใจ แต่ทำให้กล้ามเนื้อกรามหมอกระตุก กึก กึก ประจำคือ ...
เวลาถามว่า เป็นอารายมาคะ? แล้วตอบว่า

"ไม่สบายค่ะ" 😂😂😂"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

853 Nameless Fanboi Posted ID:bV91WJWpI

If Pokemon were real people would be showing how to make pikachu fry ..
Good they aren't real.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

854 Nameless Fanboi Posted ID:31tC97w.X

"จงอย่าก้าวพ้นความกลัว..มิฉะนั้นท่านจะก้าวเข้าสู่กรมราชทัณฑ์อ่ะครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

855 Nameless Fanboi Posted ID:X4xRKvzaB

釈迦は言った。
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า

実はこの世は苦しみの世界でしかなく、享楽に耽っている人は火事の家で子供が遊んでいるようなものだ。
โลกนี้เต็มไปด้วยความทุกข์ คนที่มีความสุขก็เหมือนกับเด็กที่วิ่งเล่นอยู่ในบ้านที่ไฟไหม้

2000年前の教えであっても真実だとひしひし思う。
ท่านตรัสไว้เมื่อ 2,000 กว่าปีที่ผ่านมา แต่ผมคิดว่าคำพูดนั้นยังคงอยู่ในปัจจุบันครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

856 Nameless Fanboi Posted ID:Y3hus33wt

>>855 พุทธพจน์นี้มีจริงเหรอ

857 Nameless Fanboi Posted ID:uFXVe+Ciy

>>856 search ภาษาไทยแล้วไม่เจอ น่าจะของทางมหายาน

858 Nameless Fanboi Posted ID:SY6gpnyXW

เอามิตรสหายบุดดามาแอบอ้างนี่หว่า

859 Nameless Fanboi Posted ID:9wMQv8YoA

เมื่อไหร่ kratos จะไปหาบุดด้าครับ

860 Nameless Fanboi Posted ID:SY6gpnyXW

ถ้าไปหาได้จริง ก็นิพพานหลุดจากวัฏสงสารแล้ว มันจะเหลือความแค้น อาฆาตได้ไงวะ

861 Nameless Fanboi Posted ID:w65COREfB

"เพื่อนๆครับ ผมมีคำถาม
หลอดดูดน้ำหนึ่งหลอด ถือว่ามีรูเดียว หรือมีสองรูครับ จงอธิบาย"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

862 Nameless Fanboi Posted ID:GNdt62JXV

สยามเป็นประเทศที่ไปเข้ากับใครประเทศนั้นตายหมด ไปเข้ากับฝรั่งเศสตอนยุคนารายณ์ ต่อมาหลุยส์ที่ 16 ก็โดนตัดหัว

ไปเข้ากับรัสเซียตอนยุค พระเจ้าซาร์ก็โดนฆ่ายกครัว
ไปเข้ากับเยอรมนี เมืองเยอรมันก็โดนกระทืบจนเละ
ไปคบกับเบลเยี่ยม ลีโอโปลด์ก็บ้าไปฆ่าคนคองโกจนโดนประนามทั้งยุโรป
ไปเข้ากับญี่ปุ่น ญี่ปุ่นก็โดนนิวเคลียร์บอม
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

863 Nameless Fanboi Posted ID:A7irez3wA

>>859 บุดด้าไม่ใช่เทพแต่เป็นมนุษย์ธรรมดา

864 Nameless Fanboi Posted ID:k9iOVWjDK

>>862 ต้องดูว่าเยอรมัน​จะชิบหายรึเปล่าเพราะตอนนี้ไทยมีสัมพันธ์​อันแน่นแฟ้น​กับเยอรมัน​อยู่​

865 Nameless Fanboi Posted ID:E3KNIUio3

>>863 ศาสนาพุทธไม่ได้มีแค่เถรวาทนิกายเดียวนะโยม อย่าเอาพุทธไทยเป็นศูนย์กลางจักรวาล

866 Nameless Fanboi Posted ID:GhShoa8c9

บุดด้ายุ่นกับบุดด้าเจ๊กนี่ตบมารเป็นแมลงวันเลย

867 Nameless Fanboi Posted ID:fV1v9om6z

บุดด้ายุ่นก็มาจากเจ๊กนี่แหละ

868 Nameless Fanboi Posted ID:AMWIgM8eW

>>867 แต่บุดด้ายุ่นเถื่อนกว่า เพราะโดนแปลงสารให้เป็นบุดด้าอัคบาของซามูไร บูชิโดฆ่าคนไม่บาปเพราะคนเป็นสิ่งสมมุติ ข้อนี้มาจากเซ็น ของจีนมีหลักโพธิ์สัตว์ที่เสียสละตนฆ่ามาร แต่ไม่ถึงขั้นญี่ปุ่น และในจีนถ้าหัวรุนแรงไปเดี๋ยวจะโดนฮ่องเต้ปราบ ในญี่ปุ่นพวกซามูไรนับถือกันเยอะ เลยปราบไม่ค่อยได้ จนพัฒนามาเป็นหลักการฆ่าคนไม่บาปนี่ละ

869 Nameless Fanboi Posted ID:GhShoa8c9

และสุดท้ายจึงกลายมาเป็นฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน

870 Nameless Fanboi Posted ID:Kin8MkU9l

และคนสมัยก่อนเหาะได้

871 Nameless Fanboi Posted ID:SByRqDzEO

อย่างมงายในวิทยาศาสตร์

872 Nameless Fanboi Posted ID:GhShoa8c9

อย่าลืมกลับวัด

873 Nameless Fanboi Posted ID:42ZBiRuj6

แดกเอ๋ยแดกฟรีต้องมีหน้าที่10อย่างด้วยกัน

1แดกเรื้อนอย่างกับหมา
2แดกหรูหราตามงานหมั้น
3เนียนแดกกับครูอาจารย์
4แดกฟรีบางครั้งต้องสุภาพอ่อนหวาน
5แย่งแมวแดกปลาทู
6ชิงแดกหมูเพื่อนในจาน
7ต้องศึกษาเส้นทาง ถ้าพนักงานว่าง ให้ออกหลังร้าน
8วัดนี่ตัวประหยัด
9ดราม่าจัดตลอดกาล น้ำใจคนไทยให้ทาน น้ำตาหนึ่งจาน แลกข้าวได้ทุกเวลา
10แดกฟรีก็มีประโยชน์ ถ้าแดกแล้วเจอลงโทษ ก็ให้รีบใส่เกียร์หมา

หากเราทำได้ทุกเวลา มันจะช่วยนำพาให้เราเจริญ

874 Nameless Fanboi Posted ID:cPfx/VTZu

พระไทยนี่แดกเนื้อสัตว์ได้ป่าววะ

875 Nameless Fanboi Posted ID:8ERKtsKSd

ฉันได้แต่ห้าม ไปลงทุนเสาะแสวงหามาฉันเอง ผิดวินัยถ้ามีพฤติกรรมไปล่า,เพื่อตอบสนองความอยากตัวเอง

876 Nameless Fanboi Posted ID:cPfx/VTZu

ลิเบอร่านคิดว่าถ้าพระมันไม่กินสัตว์ จำนวนที่ถูกฆ่ามันก็ลดลงตามดีมานด์
อย่างนี้ไม่ต่างกับพระฆ่าสัตว์พวกนั้นทางอ้อมอยู่ดี
พระวินัยแบบนี้มันเขียนสนองความอยากชัดๆ สรุปพระที่แดกเนื้อสัตว์ผิดศีลข้อหนึ่งทั้งสิ้น

877 Nameless Fanboi Posted ID:+huxOoIR1

ตรรกะมึงเหมือนจะบอกว่าแดกเจก็เบียดเบียนแย่งอาหารของสัตว์กินพืชวะ

878 Nameless Fanboi Posted ID:NF/.oFggI

ถ้าคนญี่ปุ่น มีศาสนาพุทธแบบไทย เค้าจะเครียดน้อยลงมั้ย? จะรู้จักปล่อยวางมากขึ้นรึเปล่า?

879 Nameless Fanboi Posted ID:/bv7VJuVw

>>878 Flexibility ในสังคมไทยมาจากหลายๆ ปัจจัย ศาสนาพุทธมีส่วนก็จริง แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลักขนาดนั้น

880 Nameless Fanboi Posted ID:TtJhZaf.V

หลักการดั้งเดิมของบุดด้าคือให้พระกินง่ายอยู่ง่าย ชาวบ้านให้อะไรก็แดกไปเท่าที่มีอย่าเลือกมาก แต่ห้ามไปไฟต์หาเนื้อมากินเองตามที่>>875ว่านั่นแหละ แต่หลังจากกระจายไปทั่วโลกหลังปฏิบัติของแต่ละนิกายก็เปลี่ยนไปตามความเชื่อเดิมของแต่ละที่นั่นแหละ

881 Nameless Fanboi Posted ID:+huxOoIR1

บางนิยายจีน ก็ให้ทำไร่เองไปเลยไม่ต้องรอทานเพราะมองว่าที่กันดาร หรือฤดูแล้งพ่วงโดนอุทกภัย จะกลายเป็นสร้างบาปมากกว่า

ผลคือยุคไหนไม่รู้ ที่ฮ่องเต้จีนสั่งปราบพวกขอทาน พระโดนกันบานแต่นิกายนี้รอด

882 Nameless Fanboi Posted ID:AMWIgM8eW

>>881 แต่พอพระทำนาเองจนร่ำรวยและไม่จ่ายภาษี ฮ่องเต้ก็หมันใส้ ริบทรัพย์เผาวัดแม่งเลย

883 Nameless Fanboi Posted ID:7yuJzHVYd

>>864
แววชิปหายเยอะอยู่นะ รับเรปฟูจีมาเยอะเกิน

884 Nameless Fanboi Posted ID:+JGLnGGas

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10156003313686649&set=a.10150096728651649.281712.824066648&type=3&theater

นอกจากเกาหลีเหนือแล้ว ไทยน่าจะเป็นชาติเดียวในโลกที่ฉลอง #วันเด็กแห่งชาติ ด้วยการให้เด็กเล่นกับอาวุธสงคราม เป็นสิ่งที่ดีแล้วหรือ? #บ้านพี่เมืองน้อง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ซาร่า : นี่ทหารไรอัล คุณรู้ไหมว่าเอาอาวุธมาโชว์แบบนี้มันปลูกฝังความรุนแรงให้เด็ก ดูซิเพราะพวกคุณประเทศอังกฤษเราล้าหลังประเทศอื่นหลายสิบปีเลย ทำไมไม่จัดงานที่มันสร้างสรรค์ แบบประเทศเจริญๆ
ทหารไรอัล : เอ้า อีห่า! เอ้ย! คุณซาร่า นี่งานกองทัพจะให้โชว์เมียงูหรอ งานวิทยาศาตร์จัดที่มหาลัยเคมบริดจ์ มึงเสือกไม่พาลูกไปดูเอง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ปัญญาอ่อนชิบหายเลยครับ ปกติผมอยู่ทีมคุณนะ แต่ครั้งนี้ไม่ว่ะ เกลียดทหารจนขึ้นสมองหรอ? ผมก้อเกลียดเหมือนกัน แต่ผมเกลียดแค่ทหารการเมือง ไม่ได้เกลียดส่งๆ อาวุธสงคราม มันทำให้เด็กโตมาเป็นคนเหี้ยยังไงวะ? เด็กที่ไหนแม่งไม่ชอบปืน ชอบรถถังมั่งวะ? ตลกสัส ขอร้องเถอะครับ #อย่าทำให้ภาพลักษณ์พวกลิเบอรัลดูโง่ไปกว่านี้เลย 😑

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

885 Nameless Fanboi Posted ID:1BQaZKc2O

ผู้อัญเชิญพระเกี้ยวนี่ เรียกซะเห็นภาพในหัวเป็น

จ่ายไลฟ์พอยนท์ 500 ขออัญเชิญพระเกี้ยวลงสู่สนามแบบพิเศษ จบเทิร์น
มิตรฯ

886 Nameless Fanboi Posted ID:wWCHOs+AK

ผู้ใหญ่ : เด็กๆต้องเรียนเท่านั้นห้ามเล่น ห้ามบ้ากีฬาเดี๋ยวโง่
ผู้ใหญ่ : เด็กๆห้ามเล่นเกม เกมส่งเสริมความรุณแรงปลูกฝังให้เด็ก
ผู้ใหญ่ : เด็กๆห้างอ่านการ์ตูน การ์ตูนมันไร้สาระ มอมเมาสมองเด็กให้โง่
ผู้ใหญ่ : วันเด็กห้ามเด็กไปค่ายทหาร ชมอาวุธสงคราม ปลูกฝังความรุณแรงเด็ก

นี้กูยังต้องเจอผู้ใหญ่หัวควยแบบนี้ทุกรุ่นเลยหรือวะ
https://imgur.com/OwnWY7s

887 Nameless Fanboi Posted ID:CLrV25uOo

ทีกูอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ เสือกบอกว่าคอมพ์แพงกลัวกูเอาไปเล่นเกมส์อีกสัด

แต่มือถือมึงสาม-สี่หมื่นเอามากด ROV หน้าตาเฉย ผู้ใหญ่หัวกวย

888 Nameless Fanboi Posted ID:/8SHqDNd0

ก็ได้แต่สัญญากับตัวเองว่า ถ้ากูโตขึ้นกูจะไม่เป็นแบบนั้น
#กูเอง

889 Nameless Fanboi Posted ID:MY0DgcQf8

>>886 ธรรมชาติของผู้ใหญ่มักอยากให้เด็กมีชีวิตมั่นคงสขสบาย ไม่ต้องลำบากเหมือนตน เลยพยายามขีดกรอบกับลูกหลานไว้โดยมองเห็นว่าต้องเรียนสายนั้นเพื่อไปเป็นอาชีพนี้ มันจะทำรายได้ได้มากไง อย่างยุคซิโก้ยังหนุ่มๆ สมัยนั้นใครบอกอยากเล่นฟุตบอลอาชีพนี่สังคมไทยไม่หัวเราะเยาะก็ด่าว่าเพ้อเจ้อนะ ซึ่งจะไปผู้ใหญ่ก็ไม่ผิดหรอก เพราะสมัยนั้นมันไม่มีลีกอาชีพแบบตอนนี้ไง หรือ่กอนหน้านั้นอีก ใครบอกอยากเป็นดารานักแสดง นักร้องนักดนตรีก็จะโดนด่า เพราะอาชีพพวกนี้ไม่รวยไม่มั่นคง (ดารายุคเก่าๆ อย่างสมบัติ สรพงษ์ ฯลฯ พวกนี้ในยุคของเขาแม้จะดังจริงๆ แต่ค่าตัวและช่องทางหารายได้ไม่ได้มากนะ ถ้าเทียบกับพระเอกรุ่นหลังๆ) ประมาณนี้แหละ

890 Nameless Fanboi Posted ID:uwvLKoUOZ

นึกภาพ สรพงษ์ โฆษณาโฟมล้างหน้าไม่ออกว่ะ
แต่ถ้าพระเอกรุ่นใหม่แบบมาริโอ้ โฆษณาเครื่องสำอาง ตั้งแต่ผมลงไปเท้าได้เลย

891 Nameless Fanboi Posted ID:QldW0s8NT

มีคนเล่นเกมเพื่อการแข่งขันทั่วโลกนับล้านคน จะมีกี่คนที่ลงทุนทั้งเวลาและทรัพยืยากรณ์ แล้วไปถึงเงินรางวัลเลห่านั้นทั้งหมด

กับพวกบรรดาคนดังในแวดวงเกม ทั้งนักกีฬาE-sport Game Youtuber ที่ตอนนี้ดังตั้งแต่เยาว์วัย มีผู้สนับสนุนทางการเงินคอยเปย์ แต่ชีวิตจะเป้นแบบนี้ไปตลอดไหม วันหน้าเกิดไฟมอด หรือ มีหน้าใหม่ที่ผลงานดีกว่าขึ้นมา ก็ลงเอยเหมือนพวกคนดังวงการอื่นๆแหล่ะ

ขนาดตอนนี้ ยังมีพวกชอบอ้าง สตีฟ จอบส์ กับ บิล เกตต์ แบบข้างๆคูๆเวลาเรียนไม่จบ นับประสาอะไรกับจะมีคนจำพวกเดียวกันอ้าง E-sport เื่อการนี้ พวกนี้มันก็พวก ติ่งเกม นั่นแหล่ะ ชนชั้นเดียวกับคนเล่นเกมจำพวก "เล่นเกมช่วยเรื่องภาษา พี่ครับๆ ตรงนี้แปลว่าอะไร"

มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ค ถ้าเขามัวแต่เล่นเกมแบบไร้ความรับผิดชอบ ก็คงไม่มี Facebook ให้่เราใช้แบบทุกวันนี้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

892 Nameless Fanboi Posted ID:Cjk8J0kNj

"ถ้าอยากให้คนไทยเชื่ออะไร ให้เอาชื่อคนดังแปะท้ายเป็นคนพูด"

#สตีฟ จ็อบส์ เคยพูดถึงคนไทยไว้ก่อนเสียชีวิต

893 Nameless Fanboi Posted ID:O22CX4fPg

The other day, someone said, "Newton's rolling over in his grave" in response to a basic physics mistake. But if Newton heard someone suggest his corpse could move without an external force acting upon it, he would roll over in his grave

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

894 Nameless Fanboi Posted ID:h0U08BSZw

A:ทรัมป์เป็นนักเก็งกำไร โดยแท้จริงแล้ว ไม่ใช่นักบริหาร
A:ซึ่งสรุปแล้วทรัมป์กำลังทุบอเมริกา แล้วเตรียมขายให้จีน
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

895 Nameless Fanboi Posted ID:y4Xzx5JeX

เสร็จแล้วจีนก็ติดดอย

896 Nameless Fanboi Posted ID:hbKQu3NvL

>>894 ถ้าดูตัวเลขแล้วเมกาก็ไม่ได้แย่ลงนะ นักเศรษฐศาสตร์ยังสองจิตสองใจอยู่เรื่องนโยบายกีดกันการค้าซึ่งหน้าแบบนี้ แต่โดยรวมคิดว่าก็คงไม่แย่ไปกว่ายุคโอบาม่าหรอก

897 Nameless Fanboi Posted ID:h0U08BSZw

เคยพาเพื่อนจากประเทศจีน ซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์ ไปเที่ยวธรรมศาสตร์ เขาตกใจมากที่เห็นว่าแต่งชุดนักศึกษา แล้วถามว่ามีชุดเครื่องแบบนักศึกษาทุกมหาวิทยาลัยหรือเปล่า พอตอบว่าใช่ เขาก็หัวเราะแล้วบอกว่า เด็กจีนเลิกแต่งเครื่องแบบมาตั้งแต่ปีที่เหมาเจ๋งตงตาย
#มิตรสหายท่านหนึ่งได้กล่าวไว้

898 Nameless Fanboi Posted ID:uVCntjd96

โจนส์ขึ้นสูงสุดในสมัยทรัมป์ อัตราว่างงานต่ำสุดในสมัยทรัมป์

แต่ลิเบอร่านก็ยังดิ้นบอกว่ามันเป็นเพราะสมัยโอบาม่าส่งผลมาถึงตอนนี้

899 Nameless Fanboi Posted ID:VJoZZQVEW

>>898
ถ้ามันขึ้นในสมัยคิงนิกก้าคงจะพูดอีกแบบ

900 Nameless Fanboi Posted ID:j5SEPzIF.

>>898 ตลกดี ทั้งไทยทั้งเมกาหุ้นขึ้นนิวไฮสมัยผู้นำที่คนด่ามากที่สุด

901 Nameless Fanboi Posted ID:zMo.gBCxs

ประเทศมาก่อนถูกใจศก.ชาติแต่ไม่ถูกใจพวกเสียผลประโยชน์

902 Nameless Fanboi Posted ID:NnOHJeKRb

"Study one religion, and you'll be hooked for life. Study two religions, and you're done in an hour."

903 Nameless Fanboi Posted ID:MR2VYj9h.

คุณจามาลหายตัวไป หลังออกจากเซฟเฮาส์ไปร่วมกิจกรรมหยิบเสื้อแจกฟรีจากร้าน H&M เมื่อวันก่อนครับ
ใครพอจะทราบข่าวรบกวนรายงานด้วยครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

904 Nameless Fanboi Posted ID:.tCNp4PNG

"ตำรวจ แท็กซี่ รถแดง และคุณวรวีร์ มะกูดี" ในประเทศไทยนี้ใครบ้างจะไม่ด่า... แต่เมื่อพวกเขาหายไปคนไทยจึงรู้สึกอ่ะครับ ว่าพวกเขามีคุณค่ามากแค่ไหน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

905 Nameless Fanboi Posted ID:9jWpvYaWu

>>904 มีคนคิดถึงบังยีด้วยเหรอวะ

906 Nameless Fanboi Posted ID:Q+s.jhbur

>>905 เริ่มมีแล้วนะ หลังทีมชาติไทยยุคอดีต ผบ.ตร. ใช้โค้ชนอก ใช้ทีมงานนอก ผลงานก็ไม่ได้ดีไปกว่ายุคบังเท่าไร

ลองไปส่องของศุภฯ พันทิปดิ มีบ่นกันเรื่อยๆ ประปราย

907 Nameless Fanboi Posted ID:qeqiWIhIO

>>906 ดูจากซิโก้เกือบทำท่าเรือเจ๊ง กูว่าพอเหอะ

908 Nameless Fanboi Posted ID:rlf.O6VL2

ครับ ไม่มีใครสาปแช่งคนไทยยิ่งไปกว่า สสส. หรอกครับ ขอให้มึงตายอย่างทรมานในซองบุหรี่ และขอให้มึงจนและป่วยจนไม่มีทางรักษาในโฆษณาต่อต้านเหล้า

แม้แต่เรื่องเมาแล้วขับก็เป็นเรื่องทัศนคติมากกว่าเหล้า คนที่ทำอย่างนั้นขาดสำนึกถึง “คนอื่น” ซึ่งเป็นเหตุให้เราทำร้ายกันถึงชีวิตหรือถึงพิการกันตลอดมา สำนึกถึงคนอื่นนั้นขาดหายไปในการศึกษาไทยนับตั้งแต่ระดับอนุบาลขึ้นมาเลยนะครับ แม้แต่พระไทยก็ไม่ค่อยเทศน์เรื่องคนอื่น

คนอื่นที่ผมหมายถึงคือคนที่ไม่มีหน้าตา เราไม่รู้จักและไม่เกี่ยวข้องเชิงผลประโยชน์อะไรกับเราทั้งสิ้น เพียงแต่เขาต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเรา (ไม่ใช่ “ชาติ” เฉยๆ หรือ “ความเป็นไทย” หรือ “ความสามัคคี” นะครับ) ซึ่งทำให้เราต้องห่วงหาอาทรต่อสวัสดิภาพของเขา เช่นเดียวกับที่เขาต้องห่วงหาอาทรต่อสวัสดิภาพของเรา สำนึกอย่างนี้คือที่เรียกกันว่า “ภราดรภาพ” อันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในสังคมสมัยใหม่ และอาจไม่จำเป็นแก่ชีวิตในหมู่บ้านซึ่งทุกคนเป็นญาติกันหรือเห็นหน้าค่าตากัน

สำนึกภราดรภาพนี่แหละครับที่ขาดหายไปในสังคมไทย ขาดหายไปในการศึกษา, ในสื่อ, ในการอบรมเลี้ยงดู, ในนโยบายของรัฐ, ในทุกอย่างที่สร้างบุคลิกภาพคนไทยขึ้นมา

ดังนั้น ตั้งด่านกันสักเท่าไร ก็หนีไม่พ้นเหยื่อของเมาแล้วขับไปได้หรอกครับ ผมไม่ได้หมายความว่าเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ไม่สำคัญ สำคัญอย่างยิ่งและขาดไม่ได้เลย แต่ไม่เพียงพอครับ ส่วนที่กล่อมเกลาทัศนคติให้มองเห็นคนอื่นก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน หรืออาจมากกว่าด้วยซ้ำ แต่เป็นส่วนที่การรณรงค์ต่อต้านเหล้าของ สสส. ไม่เคยใส่ใจเลย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

909 Nameless Fanboi Posted ID:ws+Z9/sOS

>>908 กูว่ามันเป็น Inconvenient Truth ที่คนไม่ยอมรับมากกว่า แบบเดียวกับอันนี้>>737 คือพวกนี้โง่จริง แต่ก็ไม่ต้องไปเสือก อยากตายก็ตายไปเถอะ

910 Nameless Fanboi Posted ID:x0kAvoSgi

>>908 "ส่วนที่กล่อมเกลาทัศนคติให้มองเห็นคนอื่น" - https://www.youtube.com/watch?v=OMNwX1Qsi0A

911 Nameless Fanboi Posted ID:ejRmR0kCK

>>909 แต่เมาแล้วขับมันอันตรายคนอื่นด้วยนะ ไม่ได้ตายคนเดียว จะให้ปล่อยไปคงไม่ได้

912 Nameless Fanboi Posted ID:brt0Lmj3m

#ช่วงดูหนังอย่างมาร์กซิสต์

A: ผมว่าลิขสิทธิ์นี่มันมาจาก common knowledge และควรจะเป็นของส่วนรวมมนุษย์นะครับ คุณคิดดูว่าศิลปินสร้างสรรค์งานหนึ่งๆ ขึ้นมา ก็เพราะเขาได้ใช้ทรัพยากรในส่วนที่คนอื่นสร้างขึ้นมา รวมทั้งเวลาที่เขาใช้เพื่อพัฒนาทักษะเหล่านั้น ก็ต่างมาจากเจ้าของปัจจัยการผลิตซึ่งก็คือส่วนรวมทั้งสิ้น ผมเลยว่าเรื่อง copy right นี่เป็นอะไรที่ bullshit มากเลยนะครับ

B: ใช่ครับ ใช่ครับ อ๊ะ แล้วนั่นคุณกำลังจะไปไหนอ่ะครับ

A: อ่อผมโหลดบิทหนังเน็ตฟลิกซ์ไว้จะรีบกลับไปดูอ่ะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

913 Nameless Fanboi Posted ID:XYmf0669c

“เห็นตัวอักษรบนฝาผนังจางๆ เขียนว่า”ห้ามเหยียบสายลม”โห บ้านนี้แม่งกวีหรือนักเขียนอยู่แน่ๆ เลย

สักพักมีคนเดินมาถามว่าพี่ๆ คนปะยางไปไหน
สึส”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

914 Nameless Fanboi Posted ID:9vpv5P/mV

>>913 "เป็นจุดอ่อนจุดหนึ่งของคนเรียนมนุษยศาสตร์นะครับ เห็นอะไรแม่งจับ philosophize ตีความหมาย ถอดสัญญะ อะไรไปทั่ว บางเรื่องเขาก็สื่อความหมายตรงตัวแบบ labor บ้านๆ นี่แหละ ไม่ต้องไปอินจัดขนาดนั้น นอกมหาลัยต้องลดความคาดหวังที่ตนเองมีต่อสังคมแบบหอคอยงาช้างลงไปสักครึ่งหนึ่งครับ ไม่งั้นคุณจะหลุดโลก ทำงานสื่อสารกับคนทั่วไปไม่ติด"

#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

915 Nameless Fanboi Posted ID:8Hz/PMv.Q

>>914 งานมโนสำคัญกว่าความรู้

#มิตรสหายวิทยาศาสตร์

916 Nameless Fanboi Posted ID:Dfn5Qbq62

>>915
ก็แค่มโนจนเป็นนิวเครียเอง
#มิตรสหายนักฟิสิกส์

917 Nameless Fanboi Posted ID:AC8qQ6UVq

>>913 5555555555555555555

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

918 Nameless Fanboi Posted ID:AWVe95NpK

“ผณี” วีรสตรีไทยในสงครามโลกที่คนไทยไม่รู้จัก แต่ถูกยกย่องจากทั่วโลกเธอโด่งดังมากในต่างแดน ในฐานะที่เธอช่วยเหลือชีวิตเชลยสงครามโลกไว้เป็นจำนวนมาก แต่น่าแปลกที่ในเมืองไทย น้อยคนนักที่จะเคยได้ยินเรื่องของเธอ

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 “ด.ญ.ผณี สิริเวชชะพันธ์” อายุได้ 14 ปี กำลังเรียนอยู่ที่ ร.ร. ราชินี ก็ถูกครอบครัวเรียกกลับมาที่กาญจนบุรีเพื่อหนีสงคราม แต่เปรียบได้กลับหนีเสือปะจระเข้เลยนะ เพราะตอนกลับไปถึงบ้าน เมืองกาญจน์นี่แหละ…หนึ่งในบริบทที่เศร้าที่สุดของสงครามโลกครั้งที่ 2 ในประเทศไทย

ที่นั่นทหารญี่ปุ่นเข้าควบคุมทุกพื้นที่ มีการตั้งค่ายเชลยตามจุดต่างๆ เพื่อสร้างทางรถไฟข้ามไปยึดอินเดียผ่านไทยไปทางพม่า ต้อนเชลยหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งเชลยชาวดัชท์ ออสเตรเลีย อังกฤษ อเมริกัน มารวมกันเพื่อการนี้ คนญี่ปุ่นบอกไว้ว่าจะไม่ทำอะไรคนไทยหรอก พวกเราเป็นพันธมิตรกันนี่นา แต่ถ้าคุณเข้ามาขวางเมื่อไหร่ ก็ไม่ปล่อยไว้เหมือนกันนะ

2 แสนกว่าชีวิตถูกพรากไประหว่างการสร้างทางรถไฟสายนี้ ด้วยการร่นระยะเวลาทำงานของญี่ปุ่น จากเส้นทางที่ต้องใช้เวลาตามปกติถึง 5 ปี พวกเขาทรมาณเชลยให้ทำทั้งวันทั้งคืนจนสำเร็จใน 14 เดือน! สภาพเชลยนี่ไม่ต่างอะไรกับโครงกระดูกเดินได้ บางคนก็เป็นคอตีบ บิด อหิวาห์ บ้างก็ออกไปอึ๊แล้วก็ตายจมหลุมส้วมไม่กลับมาอีกเลย

ยารักษาโรค ญี่ปุ่นก็แทบไม่ประทานมาให้แพทย์ประจำค่าย ทำงานได้แผลมาก็ค่อยๆ เป็นแผลเปื่อย เนื้อเน่า ตายกันไปตามๆ กัน บางคนป่วยหรือทำงานช้าก็จะถูกยิงทิ้งให้เพื่อนดูเป็นอุทาหรณ์

…ณ จุดนั้น ญี่ปุ่นเกินขอบเขตคำว่า “มนุษยธรรม” ไปมากจริงๆ

แต่มีอยู่ครอบครัวหนึ่ง ครอบครัวของคุณบุญผ่อง พ่อของคุณผณีนี่แหละ เลี้ยงชีพด้วยการทำร้านขายของชำ ซึ่งต้องส่งของเข้าไปที่ค่ายเชลยเป็นประจำ พวกเขาทนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเชลยเหล่านี้ไม่ได้

คุณบุญผ่องเลยร่วมมือกับแพทย์เชลยในค่ายชื่อคุณหมอดันล็อป แอบซ่อนยาเข้าไปในเสบียงต่างๆ อย่างมิดชิด (คือยิ่งกว่าหนังสายลับ) ปอกก้านส้มโอเพื่อสอดยาบ้าง ซ่อนไว้ที่ตาข่ายเข่งสานบ้าง ใส่ถุงมัดยางไว้ในแก้วแล้วเทโอเลี้ยงใส่ลงไปบ้าง
โดยให้คุณผณี ลูกสาวตัวน้อยๆ อายุเพียง 14 ปีเป็นนกต่อ ด้วยความเป็นเด็กน่ารัก ทหารญี่ปุ่นจึงเอ็นดูเธอ ไม่ค่อยจะตรวจตราเธอเท่าไหร่นัก และด้วยความฉลาดหัวไว เธอจึงเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นได้ไวมาก บางครั้งเธอก็หันเหความสนใจทหารญี่ปุ่นด้วยการร้องเพลงญี่ปุ่น เหล่าทหารก็เคลิ้มหยุดฟังด้วยความคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอน

ทหารญี่ปุ่นเริ่มคุ้นชินกับเธอ เธอจึงเข้าออกค่ายเชลยเป็นว่าเล่น แต่หารู้ไม่ว่า…รอบตะเข็บผ้าถุงของเธอนี่เต็มไปด้วยยารักษาเชลยทั้งนั้น พวกเขารู้ดีว่า ถ้าทหารญี่ปุ่นจับได้เมื่อไหร่วาระสุดท้ายของพวกเขาจะมาถึงเมื่อนั้น แต่ก็ยังไม่หยุดที่จะช่วยเหลือเชลยจนวินาทีสุดท้ายของสงคราม เราประทับใจคำหนึ่งตอนสัมภาษณ์คุณผณี เธอบอกว่า ถ้าเธอเดินช้าไปนิดนึง เชลยจะตายไปคนนึงเลย ต้องรีบเดิน เพื่อจะเอายาไปให้เค้าให้ไวที่สุด
หลังสงครามจบ คุณบุญผ่องถูกลอบยิง 1 ครั้ง แต่ก็รอดมาได้ กองพันธ์ประเทศต่างๆ รีบส่งคนมาคุ้มกัน ไม่ให้ฮีโร่ของพวกเขาต้องเป็นอะไรไป เงินมากมายที่ให้เชลยยืมไปใช้ก่อนหลายส่วนก็ไม่ได้คืน ทำเอาบริษัทของเขาเกือบล้มละลาย รัฐบาลฝ่ายสัมพันธมิตรก็วิ่งโร่ช่วยส่งเงินส่งของมาให้เค้าหนุนกิจการ

เชลยหลายคนกลับมาเยี่ยมเขาพร้อมครอบครัว ในขณะที่ชาวบ้านยังงงอยู่ว่าทำไมบ้านนี้มีทหารฝรั่งมาเยี่ยมเยียนมากขนาดนี้ คุณผณีเองก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครต่อใครฟังเท่าไหร่ คุณอมรศรีลูกสาวของเธอเล่าว่าเธอยังรู้สึกผิด
เพราะเธอเองก็เป็นเพื่อนกับทหารญี่ปุ่นเหล่านั้น ทุกคนดีกับเธอมาก ในขณะเดียวกันก็ทนเห็นพวกเขาทำสิ่งที่ผิดมนุษยธรรมขนาดนั้นไม่ได้ คงเป็นเรื่องที่ขัดแย้งอยู่ในใจเธอเหมือนกัน

เรื่องราวสิ้นสุดลงที่คุณบุญผ่องถูกขนานนามให้เป็น “วีรบุรุษสิงโตเงียบ” และเรื่องราวของพวกเขาก็เงียบจริงๆ ไม่ได้ถูกเล่าขานต่อไปในหมู่คนไทยนัก ในขณะที่เรื่องราวของแพทย์ทหารชาวออสเตรเลียที่ร่วมมือกัน ถูกประโคมลงในบทเรียนจนคนออสเตรเลียทุกคนรู้จัก

คุณผณี ตำนานที่ยังหายใจอยู่คนนี้ เพิ่งจะสิ้นลมหายใจไปเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง เราคิดว่าสิ่งที่เธอเคยทำไว้มันมากเกินกว่าจะเงียบหายไปพร้อมตัวเธอ การส่งต่อเรื่องนี้อาจไม่ได้ทำให้คนรู้จักเธอมากขึ้นมากมาย

แต่เราก็ยังอยากทำความระลึกถึงเธอสักครั้งหนึ่งด้วยการเขียนถึงเธอในห้วงเวลานี้

919 Nameless Fanboi Posted ID:g58QjnQfb

>>918 ทำไมเรื่องแบบนี้กูอยู่จนจะสี่สิบกูพึ่งเคยได้ยินวะ

920 Nameless Fanboi Posted ID:g58QjnQfb

หมายถึงว่าเรื่องมันเงียบจริงๆ วีรกรรมแบบนี้กูว่าสมควนบันทึกลงหนังสือให้ได้อ่านกันเยอะๆน่ะ

921 Nameless Fanboi Posted ID:hc+2V9cnG

>>918 >>919 >>920
เพราะคนที่รุ้เรื่องนี้ มีในกลุ่มเล็กๆรึเปล่า แล้วก็ยังไม่มีใครเอาเรื่องมาเผยแพร่
ลองเอาไปโพสพันทิปสิ น่าจะมีคนเห็นเยอะ ถ้ากระทู้มีคนโหวตเยอะๆก็จะอยู่ยาวในพันทิป หาเจอง่าย

ยุคนี้มันมีข่าวดราม่านู่นนี่นั่นแทบทุกวันด้วย เพราะโซเชียลมีเดีย คนก็ไปสนใจข่าวไร้สาระพวกนั้น
แล้วพอมีเรื่องวีรกรรมอะไรแบบนี้มา คนก็อาจจะไม่ค่อยสนใจ หรือ ไม่เชื่อกันอ่ะ

แต่กูว่าเรื่องนี้น่าสนใจ น่าเอาไปโพสพันทิปนะ

922 Nameless Fanboi Posted ID:MrSPR8VKm

กำลังจะเป็นหนังโรง อีกครั้งไม่ใช่เหรอวะ

923 Nameless Fanboi Posted ID:hms0UTQT/

>>920 >>921 เคยมีละคร TPBS ด้วยนะ

https://drama.kapook.com/view61721.html

924 Nameless Fanboi Posted ID:nSoEoXZl.

"เมย์เจย์ ต้องเลิกกัน ด้วยปัจจัยหลายอย่าง
และปัจจัยหลายอย่างนั้น ส่วนใหญ่ไร้สาระ

1. เรื่องหวงเงิน - เรื่องสินสอด ตกลงกันไม่ลงตัว

ถ้าเป็นมุสลิม: อิสลามสอนว่า ให้แต่งงานง่ายซินายาก การแต่งงานที่ดีที่สุด คือการแต่งงานที่ไม่แพง เรียบง่าย สินสอดไม่โหดร้ายกับเจ้าบ่าว ไม่ให้ทำเรื่องแต่งงานเป็นการโอ้อวด และไม่ให้ทำการแต่งงานเป็นการผลาญเงิน

2. เรื่องแม่ไม่ยอมรับ - ฝ่ายสาวกล่าวว่า แม่ฝ่ายชายไม่ยอมรับ

ถ้าเป็นมุสลิม: สิทธิในการแต่งงานของผู้ชายนั้น เป็นสิทธิของเขาแต่เพียงผู้เดียว ไม่ต้องมีวะลีก็ได้ ไม่ต้องได้รับการอนุญาตจากผู้ใหญ่ อาจจะดูเหมือนไม่เคารพผู้ใหญ่ แต่นี่เป็นกฎทางศาสนาที่ออกแบบมาอย่างสุดยอด ให้ผู้ชายได้เป็นผู้นำอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ต้องถามพ่อแม่ก่อน แล้วจะเป็นหัวหน้าครอบครัวได้ไง

3. อ้างไม่มีฤกษ์ - เมย์เจย์เกิดปีไก่เหมือนกัน อยู่กันไม่ได้หรอก ตีกันตาย

ถ้าเป็นมุสลิม: อิสลามสอนว่าการเชื่อฤกษ์หรือดวง เป็นบาปใหญ่ของศาสนา เป็นการตั้งภาคีต่อพระเจ้าสูงสุดอย่างรุนแรง เพราะไม่มีมนุษย์คนใดมีสิทธิมาบอกว่า ตนรู้ชะตาชีวิตของมนุษย์คนอื่นๆ ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นในโลกและจักรวาล อดีต ปัจจุบัน อนาคต และอื่นๆทั้งหมด เป็นสิทธิ์ของพระเจ้า แต่เพียงผู้เดียว

#อิสลามทำให้ง่าย"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

925 Nameless Fanboi Posted ID:jXd5s9stv

>>919 >>920 กูก็เหมือนมึง

926 Nameless Fanboi Posted ID:FzKiKnpLv

ณ จุดพักมอเตอร์เวย์ ตอนตีสองครึ่ง ผมกำลังขับรถไป จ.ชลบุรี

อยู่ๆก็ปวดขี้สุดๆ เข้าไปในห้องน้ำ นั่งทันที ปิดประตู ปัง!

สักพักก็มีคนเข้ามานั่งห้องข้างๆ แล้วก็มีเสียงลอดมา

ไอ้คนห้องข้างๆ
: "สวัสดี เป็นไงมั่ง สบายดีไหม?"

ผม นึกในใจ อืม อะไรของมันเอาวะใจดีสู้เสือตอบไป
: "เอ่อ สบายดีครับ สวัสดีครับ"

มันถามต่อ
: " ทำอะไรอยู่ล่ะ"

ผม เอ่อ จะให้ทำอะไรฟะ นั่งขี้อยู่ในส้วม
: " เอ่อ ก็รู้ๆกันอยู่นะครับ "

มันยังถามอีก
: " นอนดึกนะเนี่ย ไม่หลับไม่นอน จะไปไหนเนี่ย"

ผม อืม แปลกดีวุ้ยมีชวนคุย
: " เออ ไปชลบุรีครับ ต้องไปงานแต่งตอนเช้า"

แล้วมันก็พูดประโยคที่ทำให้ผมช๊อคมากออกมา

" เฮ้ย แค่นี้ก่อนนะ ห้องข้างๆ มันเป็นอะไรไม่รู้ พูดตอบมาตลอดเลย "

#มิตรสหายขี้แตกพ่วงหน้าแตกท่านหนึ่ง

927 Nameless Fanboi Posted ID:bZQxFbCsY

>>926 Dinosaur wants this joke back

928 Nameless Fanboi Posted ID:IJnAVLj.l

>>927 lmao

929 Nameless Fanboi Posted ID:yaXhCAPBX

>>928 https://i.imgur.com/9C2Ng4e.jpg

930 Nameless Fanboi Posted ID:oZ4SdSfiu

"เห็นข่าวลูกไม่อยากไปโรงเรียนแม่เลยให้เก็บขวดขายที่คนชื่นชมกันเยอะๆแล้วหงุดหงิด

หาสาเหตุก่อนมั้ยว่าทำไมลูกไม่อยากไปโรงเรียน โรงเรียนไม่สนุก เพื่อนแกล้ง ครูน่าเบื่อ ติดบ้าน หรือขี้เกียจเฉยๆ พวกนี้มันต้องใส่ใจแล้วค่อยๆแก้ปัญหาให้ลูกไหม ทำยังไงเขาถึงจะคิดว่าการไปโรงเรียน/ การเรียนรู้เป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องสนุก เป็นประตูนำไปสู่ชีวิตที่เขาอยากเป็น

สอนแบบนี้นี่ก็เหมือนถ้าไม่ทำตามที่สั่งก็จะโดนตี ไม่ไปเรียนหนังสืออีกหน่อยต้องเป็นขอทาน คือเด็กมันอาจจะได้เรียนรู้ว่าต้องเรียน แต่การไปเรียนเพราะไม่อยากเป็นคนใช้แรงงาน ไม่อยากลำบาก แบบนี้มันโอเคจริงๆเหรอ ไม่ต้องไปพูดถึงว่าการสอนแบบนี้มันยัดทัศนคติการเหยียดชนขั้นแรงงานให้เด็ก(นั่นไงต้องมาเก็บขวดขายเพราะไม่ตั้งใจเรียน, พวกรังเกียจค่าเเรงขั้นต่ำถึงเต็มไปหมด) เอาแค่ถามว่าการมีชีวิตด้วย motivation แค่นี้นี่มันใช่ไหม สมัยก่อนอาจจะพอเพราะแค่มีกินก็ยากแล้ว แต่ยุคนี้นี่ไม่ได้แล้วไหม โลกมันไปไกลแล้ว การเรียนรู้มันไปไกลแล้ว ความหมายของชีวิตมันพ้นตรงนั้นไปแล้ว

เบื่อพวกคนที่มีต้นทุนขนาดนั้นแล้วยังเอาอะไรตื้นๆทื่อๆไปยัดหัวเด็ก บ้านเมืองไม่ไปไหนก็เพราะสอนกันอย่างนี้เนี่ย"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

931 Nameless Fanboi Posted ID:BeXj99l73

>>930 กูขอย้ำคำเดิม มันเป็น Inconvenient Truth วะ เป็นกันทุกชาติแต่ไม่อยากพูดออกมา ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนหรอกอยากให้ลูกเป็นแรงงาน แม้แต่ตัวเด็กเองก็ไม่อยากเป็น ยกเว้นจะเป็น Specialist ด้านใดด้านหนึ่ง อย่างเชฟหรือวิศวะกร ใครละอยากจะเป็น Unskill Labor กัน

พูดกันตามตรงนะ ทุกคนอยากเป็นสิ่งดีๆ แปลว่ามันมีสิ่งแย่ๆ อยู่ การทำเหมือนว่ามันไม่แย่นั่นละ เป็นอะไรที่ Ignorant และ Insult มากกว่าการด่าตรงๆ ซะอีก

932 Nameless Fanboi Posted ID:Y75YDOCun

คนไม่มี left mind ที่คิดเคียงข้างชนชั้นแรงงานไม่ผิดนะครับ เหมือนคนทั่วไปทุกคนไม่จำเป็๋นต้องเป็น feminist

เราอาจจะคิดถึงความเป็นอยู่ ภาคแรงงานบ้าง สนับสนุนค่าแรงขั้นต่ำ แต่ไม่ได้หมายความว่า common sense ของคนทั่วไปจะไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ลักษณะของอาชีพได้ตามความสมจริง

เช่น ถ้าคนทั่วไปพูดกันเองว่า

"อย่าทำร้านสะดวกซื้อเลย ใช้งานหนักมากแถมเงินน้อย เวลาพักแทบไม่มี"

"ถ้าไม่เรียนหนังสือเธอจะไปทำอะไร ไปเป็นเด็กปั๊มเหรอ"

ลักษณะการพูดแบบนี้เป็นบทสนทนาในชีวิตจริง ที่มีการประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาครับ ไม่ใช่การเหยียดหรือดูถูก

ตรรกะที่สมจริงมากกว่า คือเราควรจัดการชีวิตความเป็นอยู่ภาคแรงงานให้ดีขึ้นครับ จนคนทั่วไปเห็นความเป็นอยู่ของเขาก็พอรับได้

แต่ไม่ใช่ให้คนทั่วไปที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ห้ามกังวลว่าลูกตัวเองจะไปลงเอยด้วยการทำงานใช้แรงงานครับ ในมื่อสภาพที่เป็นอยู่มันทำให้คนที่เลือกได้เขาก็ไม่อยากเข้าไปทำจริงๆ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

933 Nameless Fanboi Posted ID:nh7bVdMp1

มันถึงเกิดอาชีพขุด Bitcoin ครับ

มโนว่ามันเป็น Passive income กันไปล่ะ

934 Nameless Fanboi Posted ID:9L/JbDyFw

"ถ้าไม่ใช่เพราะตัวข้าเองยืนอยู่ตรงนี้ ข้าก็คงไม่มีหน้ามาบอกพวกเจ้าให้กัดฟันสู้ ถ้าหยาดเงื่อของพวกเจ้ามีค่าเพียงความสุขของตัวข้า ข้าจะเอาอะไรมาตะโกนบอกพวกเจ้า

แต่ความจริงคือ ท่านสุภาพบุรุษทั้งหลาย ข้าและพวกเจ้าต่างฟันฝ่าอันตรายมาด้วยกัน รางวัลทั้งหลายจะแบ่งปันกันในหมู่พวกพ้องเรา ดินแดนที่ยึดครองได้จะตกเป็นของพวกเจ้า ข้าจะเลือกเจ้าครองนครจากหมู่กองทหาร สมบัติมากมายได้ถูกส่งต่อถึงมือพวกเจ้าแล้ว และเมื่อใดที่เราได้เอเชียมาไว้ในกำมือ เจ้าจะได้รางวัลตอบแทนมากกว่าที่เคยคิดฝันทะเยอะทะยาน เจ้าต้องการสิ่งใด ความร่ำรวยหรือ อำนาจล้นฟ้าหรือ ข้าจะหามาปรนเปรอเอง

ใครที่อยากกลับบ้าน ข้าจะไม่เหนี่ยวรั้งเขาไว้ แต่ข้าสัญญา คนที่ยืนอยู่กับข้า จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาริษยาของคนที่หันกลับเดินจากไป"

-- พระเจ้าอเลกซานเดอร์มหาราช กล่าวแก่กองทหาร ก่อนข้ามแม่น้ำเฌลัม เพื่อบุกประเทศอินเดีย

หลังจากออกแคมเปญครั้งแรก พระเจ้าอเลกซานเดอร์ก็ไม่เคยได้กลับบ้านอีกเลย พระองค์เป็นกษัตริย์หนุ่มผู้สวรรคตในการเดินทางไกล ในการรบครั้งใหญ่ครั้งแรก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

935 Nameless Fanboi Posted ID:uMKIoSAUG

>>934
"ใครที่อยากกลับบ้าน ข้าจะไม่เหนี่ยวรั้งเขาไว้ "

อยากกลับบ้านหมดทุกคน อเล็กจะไปรบคนเดียวก็ไม่ได้เลยต้องกลับด้วย

ไม่รั้งไว้จริงๆ

936 Nameless Fanboi Posted ID:gaQTRsWIG

>>934
เงิบเลยสัส

937 Nameless Fanboi Posted ID:Hf4l3MbV5

>>935 จริงๆ หลังจากนี้ก็บุกอินเดียนะ อีกซักพักเลยกว่าจะถอยทัพกลับ

938 Nameless Fanboi Posted ID:nhu08SQei

>>934 อเล็กซ์ตายเพราะโดนฆ่าในบ้านตอนเมาไม่ก็เมาจนตายหลังจากคู่ขาตายนิ มันไม่ได้สรรคตตอนเดินทางไกลซะหน่อย

939 Nameless Fanboi Posted ID:mBNlGlclK

>>934 กูสงสัยว่า quote พวกนี้จากบันทึกยุคโบราณจริงๆหรอวะ หรือคนยุคหลังแต่งกันเอง
>>935 น่าสงสารเค้านะครับ
>>938 อันนี้มันก็ก้ำกึงเพราะบาบิลอนไม่ใช่บ้านเกิด เป็นเมื่องใหญ่ที่ยึดได้ระหว่างเดินทางมาทำสงคราม
แล้วตั้งแต่ออกมาก็ไม่ได้กลับไปบ้านเกิดอีกเลย ตอนตายคือกำลังวางแผนจะกลับไปบ้านเกิดเพื่อไปขยายดินแดนอีกฟากแทน

940 Nameless Fanboi Posted ID:Hf4l3MbV5

>>938 ป่วยตายเว้ย ก่อนตายยังมีคนมาเยี่ยมข้างเตียงกันอยู่เลย ไอ้ประโยคอมตะ "ท่านจะยกแผ่นดินให้ใคร" ก็มาจากตอนนี้ละ มึงไปเอามาจากไหนวะ

941 Nameless Fanboi Posted ID:kqpd6s8Kw

กูสงสัยมานานแล้วเหมือนกันว่าพวก quote หรือวีรกรรมยิบๆย่อยๆของเอล็กซานเดอร์ที่เล่าๆกันนี่อิงจากบันทึกยุคโบราณจริงๆแค่ไหน หรือแต่งเติมกันเอง
รู้สึกว่าเป็นคนในประวัติศาสตร์ที่ถูกเล่าแต่ด้านดีๆอย่างเดียวเลย

942 Nameless Fanboi Posted ID:aJZtyQiP8

อเล็กมันไม่ใช่แค่บุคคลในประวัติศาสตร์เฉยๆแต่เข้าขั้นLegendaryไปแล้ว จะมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เรื่องเล่ามากมายก็ไม่แปลก

อเล็กมีลุงคนนึง ชื่ออเล็กซานเดอร์เหมือนกัน(Alexander I of Epirus) ตอนที่อเล็กซานเดอร์เดอะเกรทพากองทัพไปทะลวงตีเปอร์เซียดันไปทางตะวันออก อเล็กผู้ลุงนำกองทัพไปรบกับชนเผ่าอิตาเลียนโดยเฉพาะโรมัน พอลุงได้ยินคำสรรเสริญถึงวีรกรรมหลาน ก็พูดขึ้นว่า "ควยเถอะ กูสู้กับตัวยากอย่างโรมันแต่หลานกูดังกว่าเพราะไล่คิลนู้บ"

943 Nameless Fanboi Posted ID:9IW+ePXF1

มันย้ายไปแมนยูแล้วไม่ใช่เหรอวะ

944 Nameless Fanboi Posted ID:se078Jlhn

>>942 อันนี้ในความเป็นจริงไม่น่าใช่มั้ง ยกเว้นลุงจะคิดเข้าข้างตัวเอง
ยุคอเล็กซานเดอร์นี่โรมันยังไม่ได้ยิ่งใหญ่มาก เปอร์เซียกับอินเดียก็ไม่ใช่ว่าจะกระจอก

945 Nameless Fanboi Posted ID:HZi9c6cGp

ประวัติศาสตร์ช่วง 1000ปี ที่แล้วนี่นิยายทั้งนั้นแหละ เพราะว่าช่วงนั้นถึงมนุษย์จะสร้างระบบตัวอักษรได้แล้วก็จริง
แต่ระบบวัสดุที่บันทึกมันมีข้อจำกัดสูง ประวัติศาสตร์วีรบุรุษหรือผู้นำศาสนาก็คือเครื่องมือที่ชนชั้นนำเอาไว้ใช้สร้างประโยชน์ให้กับตัวเอง
อยากใส่อะไรก็ใส่ ยังไงชนชั้นที่ถูกปกครองแม่งก็ไม่รู้ความจริงอยู่ดี
เอกสารประวัติศาสตร์ที่มีความน่าเชื่อถือใช้อ้างอิงได้ เพิ่งจะมีหลังยุคกูเตนเบิกกับระบบออฟเซต

946 Nameless Fanboi Posted ID:lO2+ur3bV

นโปเลียนบอกจะนำฝรั่งเศสไปบุกอิยิปต์ พอรบแพ้ทหารเป็นโรคระบาดมันก็เนียนหนีกลับมาแล้วให้ หนังสือพิมพ์แจ้งข่าวว่าชนะที่อียิปต์มานะจ๊ะ

947 Nameless Fanboi Posted ID:ivIBk6sGL

>>942 นี่ละตัวอย่างที่ดีของ>>945 มโนได้เป็นวรรคเป็นเวร เผ่าอิตาเลี่ยนสมัยนั้นเป็นได้แค่คนป่าคนดอย เผ่าโรมันเป็นได้แค่ขี้ข้าอิทรัสกันอยู่เลยมั้ง มันจะไปสู้กรีกตอนนั้นได้ไงวะ ละกล้าบอกว่าเปอร์เซียที่เป็นจักรวรรดิใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลกว่านู้ป โง่ได้อีก

948 Nameless Fanboi Posted ID:MyjZ8xObq

>>945 ก่อนยุคกูเต็นเบิร์กนี่สำหรับโลกตะวันตกแล้ว "ชนชั้นสูงเท่านั้นที่ผูกขาดการจดบันทึก" เลยละ คนอ่านหนังสือออกมีแต่เจ้า ขุนนาง แล้วก็พระเท่านั้น ก็งงๆ นะ ก่อนหน้านั้นเขาไม่มีกระดาษหรือวัสดุอะไรง่ายๆ มาจดบันทึกแล้วถ่ายทอดมั่งหรอ ที่เมืองจีนนี่ตั้งกะยุคก่อนจิ๋นซีรวมประเทศ ก็มีคำกล่าวแล้วว่า "แทบทุกบ้านท่องตำราซุนวูกับอู๋ฉี (เง่าคี้)" ยิ่งสมัยสามก๊กนี่มีปราชญ์ชาวบ้านเดินกันเกลือนไปหมดรอขุนศึกมาเชิญไปร่วมงานกันทีเดียว

949 Nameless Fanboi Posted ID:se078Jlhn

>>946 มึงจะเปรียบเทียบว่าเหมือนที่กรีกยกทัพกลับหลังเข้าอินเดียใช่ป่ะ
เรื่องนี้นี่เห็นคนเถียงกันเยอะเหมือนกันว่าจริงๆแล้วแพ้เลยถอยทัพกลับ แต่นักประวัติศาสตร์กรีกช่วยเขียนหาทางลงดีๆให้อเล็กซานเดอร์รึเปล่า
>>947 ตอนนั้นยุค Roman Republic เข้ามาในอิตาลีแล้ว ถือว่าเข้าช่วงที่เริ่มขยายตัว แต่กูก็ไม่คิดว่าจะชนะยากกว่าเปอร์เซียอยู่ดี

950 Nameless Fanboi Posted ID:evoElHvE5

>>948 เทคโนโลยีกระดาษในยุโรปยุคโบราณสู้จีนไม่ได้มั้ง แล้วอีกอย่างชนชั้นกลางเพิ่งมามีตแนปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วย ก่อนหน้านั้นถึงเทคโนโลยีกระดาษจะพัฒนาได้ แต่ชนชั้นไพร่คงไม่นิยมการเขียนบันทึกเท่าไร

951 Nameless Fanboi Posted ID:BDsgM2qlu

อเล็กซานเดอร์นี่ถือว่า Overrated ได้มั้ยด้วยขนาดดินแดนที่ยึดได้ก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น
แต่เหมือนสื่ออวยกันจนเวอร์ ยุคโบราณคนที่ปกครองดินแดนใหญ่กว่านี้แต่ไม่ดังเท่ามีอีกเยอะแยะ

952 Nameless Fanboi Posted ID:P+CMkM7SJ

>>947 กูคือ942 จะด่าก็ไปด่าลุงอเล็กมัน อย่ามาด่ากู 555 กูไม่ได้มโนเพราะมีบันทึกว่าอีลุงมันคิดงั้นจริงๆ เห็นว่าคุยเรื่องอเล็กอยู่เลยเอาเรื่องมาแปะให้หนุกๆว่ามีคนsaltyชัยชนะของอเล็ก

>>951 กรีกเป็นคนบันทึกแล้วตะวันตกรากฐานการศึกษามาจากกรีกเลยดังสุด

ไม่น่าเกี่ยวแต่กูว่าอเล็กมันดูเป็นฮีโร่เลยดังได้ง่ายด้วย เตมูจินกับมองโกลฮอร์ดมันรุนแรงไปหน่อยคนทั่วไปเลยไม่ค่อยพูดถึงในทางฮีโร่มั้ง

953 Nameless Fanboi Posted ID:vU5DEYRWW

>>951 มันเด่นเพราะเป็น Intercultural Empire ที่ใหญ่มากในสมัยนั้น

จักรวรรดิใหญ่ๆ มักไม่ค่อยมีแบบนี้ อย่างจีนใหญ่มาก แต่วัฒนธรรมมีพื้นฐานใกล้เคียงกัน

มาซีโดเนียตอนนั้นยึดอารยธรรมหลักตอนนั้นได้เกือบหมด ทั้งกรีก อียิปต์ เปอร์เซีย และอินเดีย

ขาดแค่จีนก็ถือว่ายึดอู่อารยธรรมได้หมดแล้ว มันพิเศษตรงนี้ละ เพราะมันดูเหมือนเจ้าโลกที่ปกครองทุกชาติพันธ์จริงๆ

>>952 มองโกลมีชื่อเสียเพราะนักวิชาการตะวันตกในสมัยหลังในยุคเรืองปัญญา และคลั่งชาติ

อย่างคำว่ามองโกลลอยด์ซินโดรมเคยเป็นชื่อโรคออทิสติคและความพิการ เพราะถือว่ามีเชื้อสายมองโกล ทำให้โง่

แต่หลังสมัยมองโกลถึงยุคเรืองปัญญาตอนต้น จักรวรรดิมองโกลคือภาพนิมิตของแดนสวรรค์ในยุโรป

ฟรานซิส เบคอนกับอดัม สมิธก็เคยเขียนชื่นชมจีนและมองโกลอย่างสูง เป็นต้นแบบของ Utopia

คนในสมัยยุคกลางถือว่าสินค้ามองโกลคือของชั้นดีที่สุดในโลก โลกมุสลิมรุ่งเรืองที่สุดในสมัยอิลคาเนท

ภาพเขียนในยุคกลางยังให้คนสวใชุดแบบมองโกล มีตัวอักษรมองโกลเพื่อสื่อถึงฐานะสูงส่ง

แต่มันก็มีประเด็นทางการเมืองด้วย อเล็กซานเดอร์ถูกทำให้ยิ่งใหญ่ และมองโกลถูกกดให้ต่ำในยุคคนขาวครองโลก

มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญเท่าไหร่

954 Nameless Fanboi Posted ID:EWdlt2Swx

>>952 กูว่าภาพลักษณ์เป็นฮีโร่แบบเวอร์ๆนี่ถูกแต่งแต้มเอาด้วยสื่อยุคใหม่มากกว่านะ
มองโกลขึ้นชื่อเรื่องความโหดก็จริง แต่อเล็กซานเดอร์ก็มีมุมโหดๆเหมือนกันแหละ

>>953 อันนี้เป็นการตีความของกูเอง
ถ้าวัดที่ความเป็น Intercultural Empire กูว่าเปอร์เซียยุคนั้นก็ใหญ่นะ
ความสำเร็จของ Cyrus the Great นี่พอจะเทียบเคียงกับอเล็กซานเดอร์ได้เลย

อเล็กซานเดอร์ดังมากๆเพราะโรมันรับอารยธรรมกรีก แล้วโรมันเป็นรากของยุโรปส่วนใหญ่
เลยทำให้เรื่องของอเล็กซานเดอร์ถูกพูดถึงมากเพราะผ่านมาทางโรมันมากกว่า

ส่วนการเมืองเคยเห็นคนอินเดียพูดว่าชาติตะวันตก (โดยเฉพาะอังกฤษ)
พยายามโหมกระแสอเล็กซานเดอร์เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองที่เป็นคนขาวปกครองอินเดียด้วย

955 Nameless Fanboi Posted ID:V/P8mQLB/

คนอินเดีย บอกต้นตระกูลกูก็อยู่ตรงนี้ไม่มีหรอกชาวอารยันที่ใช้รถม้าศึก มึงบุกเข้ามาที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ ก็เจอโคลนดูดล้อรถหมดแหล่ะ สมัยนั้นเจ้าบ้านคงไปปรับที่ดินให้แข็ง ให้พวกมึงเอาล้อรถมาวิ่งเล่นได้หรอก

956 Nameless Fanboi Posted ID:tfzFeZ4b9

>>955 มึงจะให้อรชุนขี่เวฟเหรอ ถึงบอกว่าไม่มีรถม้าศึกเนี่ย

957 Nameless Fanboi Posted ID:V/P8mQLB/

มันมีแค่ทุงงกรุเกษตรเท่านั้นแหล่ะ เลยไปนัดวอร์กันที่ทุ่งนี้

958 Nameless Fanboi Posted ID:Nv7ZOZnKK

Alex ดังเพราะความ Racist ของฝรั่งแค่นั้นแหละ

959 Nameless Fanboi Posted ID:kPeb9RAE6

เรารับองค์ความรู้จาก คนฝรั่งมากไปไงเลยคิดว่าเขาเป็นเซเลบ ในโลก อิสลาม ,จีน,ญี่ปุ่น ,อินเดีย ไม่ได้ยกยออะไรมากมาย

มึงคิดดูว่าสื่อมีผลไหมอย่าง คนในสามก๊ก, ยุคเซนโกคุ เราได้เห็นบ่อยไม่ แต่อย่างซาลาดิน ที่เป็นคนวอร์มกับกลุ่มครูเซด เรารู้เรื่องเขานิดเดียว

อย่างอินเดียนี้ พระราม,พระกฤษณะ แทบจะเป็นคนธรรมดาแต่ยกไปเป็นเทพ เหมือนคนจีนยกกวนอูเลย

960 Nameless Fanboi Posted ID:B71QhBbVB

>>958
เผลอๆแกจะเป็นคนแรกที่รู้ว่าโลกกลม และเป็นคนแรกของโลกมั้งที่คิดการใหญ่ครองโลก

961 Nameless Fanboi Posted ID:AC.y1GXdZ

>>960 น่าจะรับมาจากทางสำนักอาจารย์ เพราะทั้งเพลโตกับอริสโตเติ้ลคิดว่าโลกกลม แต่ยังพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้

962 Nameless Fanboi Posted ID:b2IlV3ToM

>>958 การที่คนขาวดังไม่ได้แปลว่าต้องมาจากความ racist อย่างเดียวนะ เหมารวมขนาดนี้ก็อคติไป
>>959 จีนญี่ปุ่นนี่ไม่มีทางดังเปรี้ยงอยู่แล้ว เพราะไปไม่ถึง
แต่อินเดียกับโลกอิสลามนี่มึงคิดว่าอเล็กซานเดอร์ไม่ดังจริงอ่ะ?
สื่อมีผลมั้ยก็ใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
>>960 นักปราชญ์กรีกคาดการณ์ว่าโลกกลมนี่มาก่อนอเล็กซานเดอร์นะ คิดจะครองโลกนี่เปอร์เซียก็พยายามทำมาก่อน

963 Nameless Fanboi Posted ID:kPeb9RAE6

คนยุโรปมองพวก อัตติลา, พวกฮาน ยังไง
อิสลาม,อินเดีย มันก็มอง อเลกซ์แบบนั้นแหล่ะ

แต่ตอนนั้นไม่มีอิสลาม อาจจะเป็นชนเผ่าอาหรับเองมั้ง

964 Nameless Fanboi Posted ID:tfzFeZ4b9

>>962 ดังจริง ✓

ดังที่สุดตอนนี้เพราะสื่อคนขาว ✓

965 Nameless Fanboi Posted ID:uyJf5hBZQ

ตอนนี้ตะวันตกครองโลกมันก็ต้องดังสิวะ ลองถึงขาลงเมื่อไหร่มันก็หายต๋อมน่ะแหล่ะ ปกติของโลก

966 Nameless Fanboi Posted ID:LvOBBuNrM

อารยธรรมโลกหลักๆ มันก็มีไม่กี่ที่หรอก ยุโรปนี่มันไปกันเป็นกลุ่ม (ปัจจุบันก็คือ EU) เลยเด่นหน่อย ยิ่งต่อมาคนขาวไปสร้างอเมริกาจนเป็นมหาอำนาจเบอร์ 1 ของโลก ก็ยิ่งแล้วใหญ่ แต่พวกก็มีรากคือกรีกกับโรมัน ส่วนตะวันออกนี่จีนกับอินเดียใหญ่สุด (เปอร์เซียหลังๆ ก็ไม่ได้ใหญ่นะ อิหรานไง วันนี้เทียบจีนเทียบอินเดียไม่ได้) แน่นอนสื่อมีผลมาก หลักๆ เราก็ได้รับสื่อจากฝรั่งผิวขาว ส่วนเอเชียเราก็ได้จากจีนกับอินเดีย (ไทยอาจจะได้ญี่ปุ่นหน่อยผ่านมังงะและอนิเมะ) ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชาติมหาอำนาจได้เปรียบในการส่งออกประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอะ

967 Nameless Fanboi Posted ID:g0uk7ehV/

กูอยากให้มึงเห็นเหมือนกูคือ กูคุญกับเพื่อนว่ามันทำธุรกิจเมล็ดกาแฟ,ชาอยู่ กูก็ถามมันว่าทำไมไม่โฟกัสไปเลยวะ เอาเมล็ดกาแฟอย่างเดียวขายทั่วโลก

เพื่อนตอบ " มึงรู้หรือเปล่าว่า ชา ขายเยอะกว่ากาแฟ 4-5 เท่าตัว " เพราะคนอินเดียกับจีนเนี้ยแหล่ะ คนสองชาตินี้ไม่น้อยนะมึง เพียงแต่เรารู้สึกว่ามันไกลตัวเรา ไม่ได้ข่าวทางตรงเลยรู้สึกว่าเขาดูกระจอก ที่จริงไทยเราตอนนี้แทบจะ division ล่่างสุด เผด็จการทหารคุม ไม่เคยไปบอลโลก

968 Nameless Fanboi Posted ID:tfzFeZ4b9

>>967 ทำใมกูหาความเชื่อมโยงไม่เจอ

969 Nameless Fanboi Posted ID:m96pTlLPL

ดูหมายถึงว่าเราชอบคิดว่าอะไรที่ฝรั่งว่าดีว่าดัง มันแค่ส่วนเดียวของโลกเอง แต่ถ้าเป็นพวก อินเดียพวกจีน เราจะไม่รู้ว่าเขาฮิตอะไร

970 Nameless Fanboi Posted ID:D0PlPq4eS

>>969 ตรงนี้กูเข้าใจนะ แต่มันเกี่ยวอะไรกับประโยคสุดท้ายวะ

ที่จริงไทยเราตอนนี้แทบจะ division ล่่างสุด เผด็จการทหารคุม ไม่เคยไปบอลโลก

971 Nameless Fanboi Posted ID:Nv7ZOZnKK

บ้าจะโหนการเมืองมีเหี้ยอะไรก็โยงมั่วๆแม่งหมดแหละ สมองสมองไปหมด

972 Nameless Fanboi Posted ID:m96pTlLPL

ไม่นะกูแค่จะสื่อว่า กูเข้าใจว่าอะไรที่ผ่านมาในชีวิตกู เป็นของที่ฮิตกันทั่วโลก ที่จริง มันแค่คนส่วนเดียวเอง ที่จริงแค่พวก จีน ,อินเดีย มันก็เยอะมากไปแล้ว แต่กูไม่เข้าใจเขา ขนาดกาแฟ-ชา กูยังนึกว่ากาแฟคนนิยมกว่าชาเลย

973 Nameless Fanboi Posted ID:XZKiZsRg3

"ล่าสุดเจอ Salman Khan เจ้าของ Kahn Academy พยากรณ์รูปแบบตลาดการศึกษา การสมัคร และการรับคนเข้าทำงานจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในอีก 10 ปีข้างหน้า
.
ก่อนไปต่อ Salman Khan คือใคร?
.
Salman Khan เป็นนักศึกษาอัจฉริยะ ผู้แตกฉานหลากหลายศาสตร์ที่มีสอนในสถาบันการศึกษาและเขานำมันมาสอนต่อแบบเร่งรัดในเว็บไซต์ของเขา ที่สำคัญเขาสอนฟรี แต่หลังจากสอนฟรีไปเป็นปี ๆ โดยไม่มีรายได้ เขาก็เริ่มจะไปต่อไม่ไหว
.
แต่เพราะสิ่งที่เขาทำมันดีมากจนปล่อยให้ตายห่าไปไม่ได้ ผู้คนจากทั่วโลกจึงเริ่มบริจาคเงินเพื่อให้แพลทฟอร์มของเขาสามารถ Operate ต่อได้
.
ผู้สนับสนุน กลุ่มแรก ๆ คือ Bill Gates แห่ง Microsoft อัดเงินให้ Khan ทันที 50 กว่าล้านบาท และตลอดเวลา 7 ปีที่ผ่านมา Bill Gates สนับสนุนเงินให้เขาแล้วกว่า 300 ล้านบาท! นอกจากนั้น Google ก็ยังเข้ามาร่วมสนับสนุนเงินและให้ใช้ระบบ Google Cloud ในการโฮสต์เว็บไซต์และข้อมูลต่าง ๆ
.
นี่คือคร่าว ๆ ของ Salman Khan ซึ่งจะเรียกว่าเป็นต้นแบบของ Online Academy กลุ่มแรก ๆ ของโลก (ไม่ใช่คอร์สออนไลน์ทั่วไปแบบ Undemy นะครับ แต่เป็น สถาบันการศึกษา เพราะเขาสอนเนื้อหาที่เป็น ศาสตร์วิชาการ และ วิทยาการ)
.
เกริ่นยาว อ่ะ ไปต่อ Salman Khan ออกมาเล่าผ่าน Quora ผมนำมาสรุปบรรยายสไตล์ CEO
.
1. การศึกษาเฉพาะทางจะมาแรง การเรียนจับฉ่ายจะหมดไป
Khan เล่าว่าระบบการศึกษาในระบบปัจจุบันยังยึดตามกฏเมื่อ 200 ปีก่อน คือ บังคับเรียนหลาย ๆ วิชา และต้องสอบให้ผ่านตามเกณฑ์ หากไม่ผ่าน ไม่ได้ไปต่อ หรือไม่มีสิทธิลงเรียนวิชานู่นนี่นนั่นอะไรก็ว่าไป
.
แต่เพราะเทคโนโลยีก่อเกิดแพลทฟอร์มการศึกษาทางเลือกมากมาย ทำให้คนสามารถมุ่งไปเรียนสิ่งที่อยากเรียน อยากรู้ และอยากเป็นได้ทันทีแล้วเอาให้สุดในจุดที่ยืน ยกตัวอย่าง ที่กูเกิ้ลประกาศหลักสูตร Google IT Support Professional Certificate เขาบอกเลยว่า ไม่ต้องมีพื้นฐานใด ๆ ก็เรียนได้ ออกใบรับรอง สมัครงานได้ เป็นต้น
.
2. วุฒิการศึกษาในระบบหมดราคา เพราะเอกชนจะออกวุฒิกันเอง

ระบบการศึกษาตลอด 200 ปีที่ผ่านมาโฟกัสที่การยัดเยียดการเรียนรู้ให้มากที่สุด เน้นจำนวนชั่วโมงเรียนเยอะ ๆ ๆ ๆ ๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี แต่ไม่ได้ห่าอะไรที่จะเอาไปทำงานได้ และ Khan บอกนี่คือเหตุผลที่ บริษัทในอเมริกา (รวมถึงไทย) ต้องจัดให้มีการสอบเข้าสมัครทำงานด้วยข้อสอบและวิธีวัดผลของบริษัทนั้น ๆ แยกต่างหาก เพราะวุฒิจากการศึกษาในระบบมันวัดผลไม่ได้
.
Khan พยากรณ์ว่าในอีก 10 ปี บริษัทเอกชนที่ได้รับการนับถือระดับสากล (อาทิ Google, Microsoft เป็นต้น) จะกลายเป็นสถาบันการศึกษาเสียเอง พวกเขาสร้างหลักสูตร และออกใบวุฒิบัตรได้ และไม่ใช่แค่นั้น วุฒิบัตร จากเอกชนจะได้รับการยอมรับจากเอกชนด้วยกันมากกว่าจากสถาบันการศึกษาแบบดั้งเดิม (ส่วนปรากฏการณ์นี้ในไทยอาจต้องบวกเพิ่มไปอีก 5-10 ปีกว่าจะแพร่หลาย)
.
3. ในอนาคต คนจะทำงานก่อนเรียนทีหลัง

Khan บอกว่าปัจจุบัน (ในอเมริกา) คนจบจากสถาบันการศึกษาแบบดั้งเดิมตกงานเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง วุฒิการศึกษาอย่างเดียวไมพอ แต่ประวัติผลงาน หรือ พอร์ตโฟลิโอในการทำงานจริงเป็นสิ่งสำคัญ
.
จริง ๆ ปัญหานี้เป็นกันหลายประเทศรวมถึงไทย วุติเป็นเอกสารประกอบการสมัครงาน แต่ถามว่าบอกอะไรนายจ้างเกี่ยวกับผู้สมัครได้ไหม... ก็ไม่ค่อยได้ --- ส่วนบริษัทขนาดเล็กนิยมดึงตัวคนรู้จักมาทำงานเพราะมีข้อมูลและรู้ว่าคนนี้ทำได้จริง เป็นต้น ฯลฯ
.
ฉะนั้น หากใบรับรองเฉพาะทางจากเอกชนสามารถใช้สมัครเข้าทำงานได้ ผู้เรียนจะสามารถเรียนจบหลักสูตรใน 1 ปี (แทนที่จะเรียน 4 ปีรวด) แล้วทำงานเพื่อสร้างพอร์ตประสบการณ์ แล้วเก็บหลักสูตรขั้นสูง (ในสาขาที่ตนทำงาน) คู่กันไป ทำให้ คุณวุติ และ ประสบการณ์ ทำงานจริงโตคู่กันไปและอัพ Career path และฐานเงินเดือนอย่างเป็นรูปธรรม
.
สรุป
.
วันนี้เราเริ่มได้ยินคนจบปริญญาตรี ทำงานวุติ ปวช ปวส หรือจบโท เอาวุติตรีไปสมัครงาน ส่วนตัวผมเป็นคนหนึ่งที่สมัย จบ ม.6 แต่ได้ทำงานในตำแหน่งที่รับคนจบ MBA เป็นต้น เหล่านี้เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ
.
หากแนวโน้มของอนาคตเริ่มจะเป็นเช่นนี้ ธุรกิจการศึกษาใดไม่ว่าจะเปิดมากี่ 100 ปี หากไม่ปรับเปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์คนในอนาคตก็น่าจะเสื่อมความนิยมใน 10-20 ข้างหน้า
.
ส่วนคนที่ยังยึดติดอยู่กับความเชื่อทางการศึกษาแบบเดิม ๆ เรียนเยอะ ๆ เรียนสูง ๆ เรียนไปเรื่อย ๆ สุดท้ายพวกเขาก็จะคอยถามตัวเองว่า เรียนตั้งนาน เรียนก็เก่ง ทำไมไม่มีใครรับกูเข้าทำงานเลย"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

974 Nameless Fanboi Posted ID:r34dT3LvZ

>>972 มึงก็เข้าใจถูกแล้ว ถ้าวัดทั่วโลกกาแฟก็มีคนนิยมกว่า แต่มึงต้องคิดว่า แค่จีน+อินเดีย 2 ประเทศนี้จำนวนประชากรมันคือ 1/3 ของโลก เพราะงั้นถ้าขายแค่จีน+อินเดีย ก็เกินพอแล้ว (ชานี่อังกฤษก็นิยมด้วย)
เหมือนกับที่บอกว่าภาษาจีนมีคนใช้มากที่สุดในโลก เพราะเอาฝรั่งพูดอังกฤษทุกประเทศมารวมกันยังมีจำนวนคนไม่เท่าคนจีน

975 Nameless Fanboi Posted ID:8bVN98kfw

>>974 แต่การเมืองท่อนท่ายนี่โคตรเสล่อไม่ได้เกี่ยวไรเลยไง บ้าการเมืองขึ้นสมองสุดๆ

976 Nameless Fanboi Posted ID:q8va7Jvm+

salman khan นี่เป็นญาติทางไหนของ genghis khan หรอครับ

977 Nameless Fanboi Posted ID:HQdDd3PGx

"ก็ขาดข้อมูลความรู้ด้วยส่วนหนึ่ง ความรู้ทางวัฒนธรรมด้วยส่วนหนึ่ง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจส่วนหนึ่ง

ถ้าเอาพวกชนชั้นกลางธรรมดาๆ ในเมืองที่เหยียดตาสีตาสาเข้ากรุงครั้งแรกแล้วใช้รถไฟฟ้าไม่เป็น ไปเจอลูกอีลีทของจริงแบบที่ไปหลายประเทศ มีประสบการณ์ใช้ชีวิตหลากหลาย มีเพื่อนนานาชาติ พูดได้หลายภาษา วางตัวได้ไม่เคอะเขินแล้วจะรู้สึกว่าโลกของตัวเองหดแคบเล็กลงเหลือเกิน

เพราะยุคต่อไป คนรวยจะสั่งสมความรวยทางวัฒนธรรมครับ ที่ละเมียดลุ่มลึก ไอ้พวกชนชั้นแรงงานก็กินแมสๆ เสพเร็ว แดกด่วนต่อไป

ถึงได้บอกชนชั้นครึ่้งๆ กลางๆ ที่แอนตี้ซ้ายว่ายังไงก็ต้องลงเรือลำเดียวกับคน ตจว ที่โปร ปชต เสือกไปสนับสนุนม็อบอีลีทคิดว่าเป็นพวกเดียวกับเขา เหอะๆ เขาจัดพวกมึงไว้อยู่คนละเกรดกับเขาหรอก มันแค่ต้องการยืมมือชนชั้นกลางให้ดูจำนวนเยอะๆ อ้างความชอบธรรมโค่น รบ คนจนเรียกร้องอะไรไม่ได้ ได้แต่มีชีวิตแบบทำงานงกๆ รอชีวิตดับปลิวไป ไม่มีสิทธิ์แสวงหาสุนทรียะให้กับชีวิต จากที่กูสัมผัสเพื่อนๆ มานะ ดูรู้เลยว่าบางคนน้อยเนื้อต่ำใจคุณภาพชีวิต เดี๋ยวนี้คนแยกเกรดกันด้วยความสามารถและเวลาที่ใช้ในการเดินทางออกไปหาประสบการณ์

ทำไมไม่คิดว่าถ้าพลเมืองบ้านเราความเหลื่อมล้ำน้อย มีเงินพอ และสวัสดิการจ้างงานที่เคารพวัันลาพักร้อนยาว เดินทางไปเสพสุนทรียะจากหลายๆ มุมทั่วโลก บ้านเราจะต่อยอดความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมได้อีกขนาดไหน หันไปไหนมาไหนเจอแต่คนฉลาด มีรสนิยม

ถ้าเลือกได้เขาก็คงอยากซึมซับประสบการณ์ที่มันละเอียดกว่าหาดที่เต็มไปด้วยขยะ รีสอร์ททาสีฉูดฉาดเกินงาม หรือ่ถายรูปนั่งม้านั่งคู่กับป้ายตัวอักษรสีมั่วๆ ไม่มีการจัดวางองค์ประกอบศิลป์ ทั้งคนเที่ยวและคนจัดการสถานที่เที่ยวคงขาดแรงบันดาลใจพอๆ กัน"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

978 Nameless Fanboi Posted ID:Sq/oM.WWP

>>975 เอ่อ...การเมือง???

979 Nameless Fanboi Posted ID:8bVN98kfw

>>978 มึงอ่าน>>967 ประโยคท้ายสุด

ที่จริงไทยเราตอนนี้แทบจะ division ล่่างสุด เผด็จการทหารคุม ไม่เคยไปบอลโลก

แล้วหาความเชื่อมโยงกับประโยคก่อนหน้านี้นะ แม่งโคตรจะเกี่ยวกันเลย

980 Nameless Fanboi Posted ID:DHn+p4+rF

>>977 ชนชั้นกลางบ้านเราแตกคอกันอะ กูพยายามนึกอยู่นะว่าอ่านเจอจากไหนสักแห่งนี่แหละ เขาบอกว่าชนชั้นกลางไทยกลุ่มแรก (ที่หมายถึงสลิ่ม หรือเชียร์ คสช.-รังเกียจประชาธิปไตย) ถ้าไม่ใช่คนที่โตเอง ก็เป็นลูกคนที่โตในยุคก่อนทักษิณ (2544) คือได้ดิ้นรนเองหรือเห็นพ่อแม่ดิ้นรนจนยกระดับตัวเองถีบจากชนชั้นล่างขึ้นมาได้ โดยไม่มีนโยบายรัฐบาลหนุนเลย

(โม่งทั้งหลายใครรู้บอกที ช่วงยุคทศวรรษ 2520-ทศวรรษ 2530 ที่เศรษฐกิจโตมากๆ ก่อนฟองสบู่แตกปี 2540 ที่เกิดชนชั้นกลางจำนวนมากมาไล่สุจินดาตอนพฤษภาทมิฬ 2535 พวกนี้เกิดกันเองรัฐไม่ได้ช่วยจริงป่าววะ)

ชนชั้นกลางไทยกลุ่มนี้เลยติดกับสำนึกที่ว่า "คนเราเกิดอย่างไรต่ำแค่ไหนก็เจริญได้ถ้าไม่งอมืองอเท้า" คือไม่เชื่อเรื่องความเหลื่อมล้ำ ไม่เชื่อว่าต้องได้แต้มต่อจากรัฐบาล ซึ่งต่างจากชนชั้นกลางกลุ่มใหม่ที่เกิดขึ้นหลังยุคทักษิณขึ้นครองอำนาจ คนกลุ่มนี้ไม่ต้องดิ้นรนแบบเสี่ยงๆ เหนื่อยๆ เท่าชนชั้นกลางกลุ่มแรก แต่มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เลยมองเห็นว่าการเมืองแบบจับต้องได้มันเป็นอย่างไร

จริงๆ ในม็อบทั้งเหลืองและแดงก็มีชนชั้นกลางทั้งคู่นั่นแหละ แต่แตกต่างที่มา ชนชั้นกลางเหลืองหรือสลิ่มมักเป็นพวกหนุ่มสาวออฟฟิศหรือเจ้าของกิจการที่ภาพลักษณ์หรูๆ หน่อย แต่ชนชั้นกลางแดงเป็นพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย พวก Food Truck หรือพวกร้านข้าวห้องแถว หรือพวกชาวนาชาวไร่ที่มีที่ดินเยอะพอควร อะไรแบบนั้น แต่ชนชั้นกลางฝั่งแดงมันดูบ้านๆ ดิบๆ ไงเลยโดนชนชั้นกลางฝั่งเหลืองเหยียดเป็นรากหญ้าไป ก็ดราม่ามาจนวันนี้แหละ กลางเหลืองกลางสลิ่มก็บอกกลางแดงเอาเปรียบสังคมเพราะจ่ายภาษีน้อยกว่า ดิ้นรนน้อยกว่าแต่รัฐอุ้มจนโตได้ ส่วนกลางแดงก็บอกกลางเหลืองกลางสลิ่มเป็นพวกใจแคบอยากกดหัวคนจนไม่ให้ตีตื้นขึ้นมาเทียบชั้นตัวเองที่พยายามจะไปเป็นคนรวยแต่ไปไม่ถึง

981 Nameless Fanboi Posted ID:PNSlxBFux

ลิเบอร่านเอฟวี่แวร์

982 Nameless Fanboi Posted ID:e.W1NdKdm

คือถ้ามันเดือดร้อนขนาดไม่มีจะแดกแบบนั้นจริงๆมึงก็เจอแบบ จีน สมัย ตาเหมา ไง บรรดานักปกครองที่มีรอยหยักในสมองมันเลยพยายามไม่ทำให้ประชาชนยากจนถึงขั้นไม่มีจะแดก ไม่งั้นไอ้ที่จะตายก็พวกบนๆน่ะแหล่ะ -*-

983 Nameless Fanboi Posted ID:tgx3ODwvF

>>980 ชนชั้นกลางตอนนั้นขยายตัวพร้อมกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จะพูดว่ารัฐไม่มีส่วนก็ไม่ได้ เพราะรัฐไปจับมือกับญี่ปุ่นหลัง Plaza Accord โยกฐานการผลิตมาไทยจำนวนมาก จนพูดได้ว่าชนชั้นกลางยุคนั้นเกิดจากการลงทุนของญี่ปุ่น

แต่โดยพื้นฐานแล้วสมัยนั้นมีการแข่งขันสูงจากทั้งธุรกิจไทยและต่างชาติ คนที่รอดคือคนที่ปากกัดตีนถีบด้วยตัวเองจริงๆ ลองไปดูประวัติเจ้าสัวแต่ละคนสิ โตมาด้วยตัวเองทั้งนั้น ต่อให้พูดว่าได้ดีเพราะเศรษฐกิจโต แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะรวยนิ คนที่ล้มเหลวก็มีเยอะ

อีกจุดนึงที่กูมองคือเจ้าสัวมักเป็นคนจีน ชื่อก็บอกอยู่อะนะ และชนชั้นกลางก็เป็นคนจีนจำนวนมาก พวกนี้เชื่อมั่นในการดิ้นรนของตนมากกว่ารัฐ เป็นระบบคิดจากประวัติศาสตร์จีน การไม่เชื่อใจรัฐและหาทางฉกฉวยในทุกโอกาศ เป็นแรงผลักดันและแนวคิดเบื้องกลังคนกลุ่มนี้ด้วย

984 Nameless Fanboi Posted ID:tgx3ODwvF

>>982 ที่คนเจอทุกวันนี้ภาษาธุรกิจคือขาดทุนกำไร คือไม่ได้จนจริงๆ แค่สุขสบายน้อยลง ลำบากมั้ย ก็ลำบาก แต่ตายมั้ย ส่วนใหญ่ก็ไม่ตาย เมืองไทยนะอดได้ทุกอย่าง แต่อดตายนะไม่มีทา ขอทานพิการทั้งตัวยังไม่อดตายเลย

ภูมิศาสตร์และสภาพสังคมวัฒนธรรมไทยทำให้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนอดตาย ทั้งการผลิตอาหารส่วนเกินอย่างล้นเหลือจนแทบไม่มีทางเกิดทุกภิขภัย แนวคิดการบริจาคและความเกื้อกูลกัน อย่างแถวบ้านกูจะมีร้านหมี่เกี๊ยวที่คอยให้อาหารคนบ้าเพราะสงสารอยู่ ถ้าคนไทยขี้สงสาร ไม่มีทางเห็นคนอดตายได้หรอก และในเมื่อมีอาหารเหลือเฟือ ความมีเมตตาจิตก็จะยังมีต่อไปเรื่อยๆ นั่นละ

985 Nameless Fanboi Posted ID:C0zG16kTi

>>983 กูนี่นึกถึงยิวเลย ประวัติศาสตร์มีแต่ความโหดร้าย ดังนั้น 1.ต้องรวมเป็นกลุ่มเป็นก้อนช่วยเหลือกัน 2.ไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า ฉะนั้นต้องชิงลงมือก่อน

จีนมีสมาคมลับยิวก็มี จีนค้าขายเก่งยิวก็เก่ง

986 Nameless Fanboi Posted ID:e.W1NdKdm

>>985 มันก็ปกติอ่ะนะ มันต้องผจญลำบากก่อนถึงจะเก่ง ที่สำคัญคือเจ็บแล้วต้องจำ

987 Nameless Fanboi Posted ID:.TlHdKK5J

>>980
มันมีทั้งชนชั้น ที่อยากถีบประเทศให้เหมือนประเทศเจริญแล้ว (ทำตามกม. มีวินัย รักสะอาด เอาตัวรอดเองได้)
กับชนชั้น ทำอะไรตามใจคืนไทยแท้ (จ่ายใต้โต๊ะ ภาษีไม่จ่าย ผิดกม.แต่สะดวกกู กูลำบากต้องช่วยกันสิ เจ้าของวลีรังแกคนจน)

988 Nameless Fanboi Posted ID:jTEI/wV7g

"People give us millennials a lot of shit but the baby boomers and Gen X in Congress can't keep our government running, and Gen Z is eating Tide Pods for likes on YouTube."

989 Nameless Fanboi Posted ID:OKAyyKkCe

https://www.youtube.com/watch?v=7bUVjJWA6Vw

เพิ่งรู้ว่า ระบบเมทริกส์ เกิดพร้อมการปฏิวัติในฝรั่งเศส โลกก่อนหน้านั้นวุ่นวายมากทุกที่มีหน่วยวัดของตัวเอง มีความพยายามจะสร้างระบบกลางหลายครั้งแต่ก็ล้มไป จนฝรั่งเศสทำให้ดูก่อนโดยบอกว่า เราจะไม่เปลี่ยนแค่ระบบการปกครองนะ เราจะเปลี่ยน วิถีความเป็นอยู่ของคน เช่นจัดตารางปฏิทินใหม่ สร้างหน่วยวัดกลาง โดยของทั้งหมดนี้ทำเพื่อให้ทุกๆอย่างเป็นธรรม แน่นอนมันวุ่นวายและเจ็บปวดมากเพราะมันคือ "change" อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านพ้นความวุ่นวายไปได้โลกก็เริ่มเห็นว่ามันดีและหันมาใช้อย่างกว้างขวาง ของบางอย่างก็ต้องมี คนนำที่เด็ดเดี่ยวและเด็ดขาดนะ ถ้าใจไม่เด็ดเดี่ยวคงต้องกลับไปวุ่นวายแบบเดิม

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

990 Nameless Fanboi Posted ID:4GF6MfdZL

>>989 บังคับให้ประชาชนทำตามโดยไม่สนเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ลิเบอรอลเลยครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

991 Nameless Fanboi Posted ID:.2ZazAFhO

>>990 ใช่ครับๆ ดูอย่างอเมริกาแดนแห่งเสรีสิ ไม่เห็นต้องไปสนใจระบบเมตริกซ์หัวควยนี่เลย แผล่บๆ

992 Nameless Fanboi Posted ID:6yLpdYXYz

ลิเบอร่านมาดิ้นกันเต็มเลยว่ะ

993 Nameless Fanboi Posted ID:R0868ieo/

วิ่งควายกันให้เต็มมู้หน่อยเร็ว กระทู้ใหม่แม่งตั้งละ

994 Nameless Fanboi Posted ID:H.mLMK9YE

วิ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

995 Nameless Fanboi Posted ID:1Xyam2p+4

ดุ๊กดิ๊กดีดๆดิ้นๆ นั่นคือ ลิเบอร่านไงล่ะ!!

996 Nameless Fanboi Posted ID:D+lZcCGTn

ร่านพ่องคิดเป็น%

997 Nameless Fanboi Posted ID:84vz.1ioB

เดี๋ยวบลัสแม่ง

998 Nameless Fanboi Posted ID:tYUieSxTQ

วิ่งกันยังไงให้ไม่เต็มซักทีวะ

999 Nameless Fanboi Posted ID:F/3ebwGrQ

กูรอ last shot อยู่ แต่ไม่เป็นไรยกให้คนอื่นก็ได้วะ

1000 Nameless Fanboi Posted ID:9QwmCpDsh

ปิดมู้

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.