Fanboi Channel

https://fanboi.ch/lounge/1161/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
https://fanboi.ch/lounge/2603/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 2nd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3016/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 3rd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3530/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 4th quotes
https://fanboi.ch/lounge/4357/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 5th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5233/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 6th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5838/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 7th quotes
https://fanboi.ch/lounge/6311/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 8th quotes
https://fanboi.ch/lounge/6680/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 9th quotes
https://fanboi.ch/lounge/7184/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 10th quotes ในรัชกาลที่ 10
https://fanboi.ch/lounge/8588/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 11th quotes

https://twitter.com/arpassss/status/1242070343050620928

เอาล่ะ ผมขอพูดถึงเรื่องหน้ากากขนาดมาตรฐานทั่วไปที่หายไป 200 ล้านชิ้น สักเม้นท์นึงนะครับ ถ้าผิดพลาดตรงไหน ขออภัย

ผมต้องใช้หน้ากากอนามัยเป็นประจำ กล่องนึงจะมีห้าสิบชิ้น

1 กล่อง = 50 ชิ้น
ขนาดกล่อง กว้าง x ยาว x สูง = 10 x 18 x 8.5 cm เท่ากับว่า หน้ากาก 50 ชิ้น มี ปริมาตรเท่ากับ 1530 ลูกบาศก์เซนติเมตร
เพราะฉะนั้น หน้ากาก200 ล้านชิ้น ก็เอา 4000000 x 1530 = 6120 ล้านลูกบาศก์เซนติเมตร

ตู้คอนเทรน์เนอร์ขนาดมาตรฐาน มีปริมาตรตู้ละ 33 ล้าน ลูกบาศก์เซนติเมตร

ต้องใช้ทั้งหมด 185 .45 ตู้คอนเทรนเนอร์เพื่อใส่หน้ากาก 200 ล้านชิ้น ส่งออกไปนอกประเทศ
หรือต้องมีโกดังเก็บหน้ากาก ที่สามารถใส่ลังขนาดใหญ่ 4000000 ลัง(ลังละ 10 กล่องเล็ก)

ผมไม่ได้สรุปว่ามีการกักตุนหรือไม่กักตุน มีการผลิตแล้วไม่แจ้งเพื่อขายในตลาดมืดหรือไม่อย่างไร
การฉกฉวยเอาประโยชน์ เอาเปรียบในสินค้าที่ขาด แอบส่งออกไปบ้าง มีแน่นอน อันนี้ผมไม่เถียง

แต่ถ้าพูดถึงหน้ากากหายไปไหน 200 ล้านชิ้น เป็นไปได้ไหม ในจำนวน 200 ล้านชิ้น

ผมคิดว่า เราลองคิด พิจารณาดูอย่างคณิตศาสตร์ง่ายๆ ว่ามันควรเชื่อถือตัวเลข 200ล้านนี้แค่ไหน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ทำไมอภิรัชต์ต้องลงมาพ่นยาฆ่าเชื้อ คำตอบส่วนนึงอยู่ในลักษณะของวัฒนธรรมไทย ที่มีความเป็น hierachical จัดๆ เรามี sense ของคำว่า สูง ต่ำ ในสังคม ที่ชัดเจนมาก
สิ่งที่ทหารยศสูงอย่างแดง (รวมไปถึงผบ.ตร.แป๊ะในกรณีโคราช) ชอบทำ คือการพยายามสร้างภาพลักษณ์ตัวเองในลักษณะที่ว่า มาจับงานระดับย่อยๆ ล่างๆ เพราะเค้ารู้ว่าคนไทยจะมีความคิดเห็นต่อการที่คนระดับสูงๆ ลงมาทำงานแบบนี้ ในแง่ที่ว่าเป็นการเสียสละ และคำว่าเสียสละนี่มันเร้าอารมณ์ มัน emotional มาก มากจนกลบความจริงข้อที่ว่า หนึ่ง การพ่นยาฆ่าเชื้อมันไม่ใช่หน้าที่ของผบ.ทบ. และ สอง ในส่วนงานสั่งการที่ตัวผบ.ทบ.ควรจะทำเพื่อรับมือกับปัญหา ก็ยังทำได้ไม่ดี ไม่ทันท่วงทีเลย
สรุปแล้วนี่เป็นการเพิ่ม legitimacy ของตัวพวกเค้า เท่านั้นเอง ลองคิดดูว่าประเทศนี้ได้อะไร นอกจากได้ความซาบซึ้งในตัวผบ.ทบ.มากขึ้น ในขณะที่เราก็รู้ดีว่าการรับมือกับสถานการณ์มันห่วยแตก แต่คนบางกลุ่มก็น้ำตาไหลไปก่อนแล้ว โอ้โหท่าน

ใครยังพยายามทำความเข้าใจแถลงการณ์ล่าสุดที่แทบไม่สามารถเข้าใจได้ของพณ. อ่านคำแปลบางส่วนค่ะ
ปล.ยืมคนอื่นมานะคะ วอนรพีไม่มีปัญญาถอดรหัสได้ขนาดนี้

เปียวชน = ประชาชน
ม้าการ = มาตรการ
ร้าบาน = รัฐบาล
สากาน = สถานการณ์
รักสะยาน =รักษาพยาบาล
กระทรวงหยาสุ =กระทรวงสาธารณะสุข
เสียยีส =เสียชีวิต
โงวมาน =งบประมาณ
งอวงะนั้น =เพราะฉะนั้น
ที่สาเงินการ =ที่สามารถดำเนินการ

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

เรื่องสยอง คือมือถือมันจะมีกล้องสแกนหน้าใช่มั้ย แล้วคือวางมือถือไว้นานมากๆละ อยู่ดีๆหน้าจอสว่างเอง เราเลยหันไปดู ที่มือถือเขียนว่า "ตรวจจับแกนใบหน้าเพื่อปลดล๊อค" .................."ไม่พบใบหน้าที่ตรงกัน" หลังจากนั้นหน้าจอก็ดับไป ตัดภาพมาที่ผม WTF

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

คือในฐานะที่บ้านเคยเปิดธุรกิจร้านอาหาร เราบอกได้คำเดียวว่า การขูดรีดจากเจ้าหน้าที่รัฐมีจริง และถ้าคุณไม่จ่ายก็จะอยู่ยากหน่อย จะมีเรื่องมาตรวจเยอะ เราต้องมั่นใจว่าเราไม่ทำอะไรผิดจริง ๆ ห้ามพลาดแม้แต่นิดเดียว และถ้าคุณเริ่มจ่าย คุณจะต้องจ่ายเรื่อย ๆ และมากขึ้น เปลี่ยนหัวที่มาคุมเขตทีก็ต้องวิ่งเข้าหาคนใหม่ จะมีคนมานั่งเป็นปรสิตกินฟรีที่ร้านด้วย จะมาขอความกรุณาช่วยสนับสนุนกิจกรรมนู่นนี่ของเขา ยิ่งถ้าร้านคุณมีขายแอลกอฮอล์ด้วยนี่ไม่ต้องพูดถึง
คนดี ๆฏ็มี แต่ไม่ดีมีจริง มีไม่น้อยด้วย เราถึงไม่เคยอินเลยที่พวกลิ่มไปเป่านกหวีดป้ายแค่ความโกงมีแต่นักการเมือง อีพวกข้าราชการนี่แหล่ะตัวดี นักการเมืองมันหมดรอบ มันโดนอภิปรายยุบสภา อำนาจก็หมด โดนเช็คบิล แต่ที่ไม่เคยไปไหนเลยคือข้าราชการ วัฒนธรรการโกงที่หยั่งรากลึกยิ่งกว่าอะไร
ขนาดสรรพากรเองยังมีผลประโยชน์ทับซ้อน เรียกตรวจเรา ยังมีการพ่วงขายประกัน บอกว่าเอามาลดหย่อนตรงนี้ตรงนั้นได้ confilc of interest แบบนี้มันได้หรอ?
มันเป็นที่รู้กันจนน่าจะรู้สึกทุเรศตัวเองด้วยซ้ำว่าเป้นประเทศ 20 30 คือใต้โต๊ะ 20-30% นี่แหล่ะคือต้นทุนที่เพิ่มเข้าไปในสิ่งที่พวกเราต้องกิน ต้องซื้อ ต้องใช้ เข้ากระเป๋าใครถ้าไม่ใช่คนพวกนี้

>>7 พูดกันมานานละเรื่องทฤษฎีสมคบคิดอันนึง ที่ว่าการที่บ้านเราพยายามให้มีกฎหมายอ่านแล้วงงๆ ตีความยากๆ ใช้ดุลยพินิจเยอะๆ เข้าไว้ก็เพื่อควบคุมให้ทุกคนที่คิดจะขึ้นมาเป็น elite ของสังคมถูกควบคุมได้นี่ละ เพราะไม่มีทางเลยที่จะขึ้นมาได้โดยไม่มีชนักติดหลัง

แต่ใครควบคุมอันนี้ไม่รู้นะ

>>4 ตามนั้น นักการเมืองบ้านเราถึงต้องพยายามสร้างภาพให้ดูติดดิน (ไม่ว่าจะบริหารเก่ง-ไม่เก่งก็ต้องทำ) ไม่งั้นชาวบ้านจะบอกว่าเข้าถึงยาก ก็ไม่ชอบอีก

ตอนอยู่ปารีส ข่าวของคิงไทยเป็นที่รู้ถึงชาวฝรั่งเศสเหมือนกันว่าไม่อยู่ประเทศ
มีเมอซิเออร์คนนึงมาถามเราด้วยความเป็นห่วงว่า เป็นเพราะทหารยึดอำนาจ ปกครองด้วยระบบเผด็จการใช่มั้ย ราชวงศ์เลยต้องหนีออกมาอยู่ยุโรป คงจะลำบากมากที่ต้องลี้ภัยทางการเมือง

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

>>9 กูว่ามันก็เป็นทุกประเทศนะ พวกที่จนจริงๆ มีไม่กี่คนเอง ต่อให้เริ่มมาจนแต่ซักพักก็ไม่จนแล้ว

https://scontent.fbkk4-3.fna.fbcdn.net/v/t1.0-0/p526x296/90918048_225134655557553_5430772312255234048_n.jpg?_nc_cat=109&_nc_sid=8bfeb9&_nc_eui2=AeHZo7WM9k9SbUad-gxde8V3Sa9SB5XLDbM193uyNXFv74zqRDb-5BpGAU1AAkmkAmp2hT2iBrKKZTn5GuQCJnbRa_ZP44yAoF_WeDW3CIOZJg&_nc_oc=AQlt4fDSdiZIwwZqaOfUfqH1vEXT50DlYL3W9aUCYKgxHs1RgszuBNK9SuaVznxLPS0&_nc_ht=scontent.fbkk4-3.fna&_nc_tp=6&oh=108e1d0be31ae23834b2e0e2b2e710ad&oe=5EA16D4F

เลิกคบกับแฟนสาวเพราะท้องครับ(ปัญหาชีวิต ปัญหาความรัก ประสบการณ์ชีวิตคู่)

ผม:เมียผมท้อง​ครับ

เพื่อน: มึงก็เลยเลิกเรอะไอ้เหี้ย

ผม: ส่วนผมเป็นหมันครับ

เพื่อน : เคสทะลุหมันก็มีนะมึง

ผม : จูบยังไม่เคยจูบเลยครับ

เพื่อน : ....

ผม: เข้าใจตรงกันนะครับ😔

#มิตรสหายท่านไหน

... เสียดายจัง ...

ปกติแล้ว ผมมักแอบส่องเฟสชาวบ้าน
แอบรู้เงินเดือนคนอื่นๆ บ่อยๆ

พอได้เห็นคนที่ได้เงินเดือนกัน3-4หมื่น
ผมก็ได้แต่อิจฉา

จนกระทั่งวันนึง ผมได้นั่งคุยกับ
พี่คนขายผลไม้รถเข็นแถวคอนโด

พี่เค้าเล่าว่า
พี่เค้ามาจากบุรีรัมย์
เดินทางมากับเงิน 120 บาท
จะมาตายเอาดาบหน้าที่ กทม.
มีลูกอยู่ที่นู่นสามคน

พี่เค้าต้องมาทำงานที่นี่
เพื่อส่งเงินกลับไปให้ลูกๆ

คุยไปคุยมาชักถูกคอ
ก็เลยเปรยๆถามเรื่องรายได้พี่เค้า
พอได้ฟังเท่านั้นแหละ
ทำเอาผมลืมเรื่องที่อิจฉา
คนเงินเดือน 3-4 หมื่นไปเลย
.
.
.
.
พี่เค้าบอกผมว่า ...
"เสือกอะไรไอสัส
เรื่องส่วนตัวมึงมายุ่งอะไรด้วย
ไม่มีมารยาทเอาซะเลย
เดี๋ยวกูทิ่มให้หน้าหงาย
มึงรีบไปเลยนะไอเด็กเหี้ย"
.
ผมก็เลยรีบตอบตกลง
แล้วเดินหนีกลับคอนโดอย่างไว

เห้อออ ... สุดท้ายก็ไม่ได้รู้รายได้ของพี่เค้าเลย
... เสียดายจัง

Grab ขึ้นค่าธรรมเนียมเป็น 35% ช่วงนี้ร้านก็แย่อยู่แล้ว จะลืมตาอ้าปากได้ก็ทางเดลิเวอรี่นี่แหละ
ถ้าหัก 35% = ขาย 1,000 บาทโดนแกรบหักไป 350 บาท
ถ้าออเดอร์ขาย 1000 บาทต้นทุน 500 = กำไร 500 โดนแกรปหัก 350 บาท = ร้านได้ 150 อะ โหดเกินไปมาก
เลิกๆ สั่งแอปอื่นหรือสั่งร้านโดยตรงดีกว่า

#มิตรสหายโดนแกรบฟัน

We are at war with a virus, and not winning it.

It took the world 3 months to reach 100,000 confirmed cases.

The next 100,000 happened in just 12 days.

The third took 4 days.

The fourth - 1.5 days.

This war needs a war-time plan to fight it.

#G20VirtualSummit #COVID19

หมอรพ.รัฐในตจว.เล่ามาตอนนี้เหลือหน้ากากกับชุดPPE ใช้ไม่ถึงเดือน ถูกสั่งจากผญ.ว่าต้องรายงานเข้าส่วนกลางว่าของมีพอใช้ตลอด ส่วนที่ว่าสธ.จะส่งของให้ ขอไป2อาทิตย์แล้วยังไม่ได้ พอเอกชนจะบริจาคก็ถูกห้ามถ่ายรูปเกรงเสียภาพพจน์ถ้าโวยผ่านโซเชียลถูกขู่สั่งย้าย เพราะนโยบายสั่งมาห้ามทำคนแพนิค

>>15 เเล้วร้านมันลืมตาอ้าปากยังไงของมึงวะงง

-มึงมัวแต่เล่น​โทรศัพท์​ไง
-เคยสนใจอะไรบ้างมั้ย
-ตามข่าวบ้างมั้ย
-ทำอะไรให้กูอะไม่เคยจะทำได้หรอก

สิ่งที่หนูอยากจะบอกนะ
-เว็ปล่มค่าาาาา
-เว็ปมันกากเหมือนรบ.ตอนนี้ค่าาา
-อย่าด่าหนูเลยนะ​ไปด่ารบ.ที่ทำเว็ปส้นตีนให้หนูโดนด่านู่น

เราไม่ทิ้งกันมึงทิ้งกูตั้งแต่​ 18.01
#เราไม่ทิ้งกัน

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

>>19 เป็นความผิดของอีแนท

เพื่อนเราเคยโพสในเฟสเรื่องร.10ค่ะแล้วตำรวจเค้าเห็นแต่ไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะเค้าแค่ทักมาบอกว่าลบเถอะครับจะได้ไม่เสี่ยงผมก็ไม่ชอบแกครับแต่ผมไม่เสี่ยง

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

ทุกประเทศในโลก จะยกเลิกการปิดเมืองปิดประเทศเมื่อไหร่? ฉันขอตอบว่า เมื่อทุกประเทศพบว่า เศรษฐกิจพังแล้ว บริษัทองค์กรต่างๆชิบหายหมดแล้ว ประชาชนไม่มีจะแดกแล้ว และเงินภาษีก็จะไม่เหลือแล้ว

จึงค่อยๆเนียนเปิดประเทศทีละนิดๆๆ จนเปิดทุกอย่างเป็นปกติ ให้คนออกมาใช้ชีวิตตามปกติ ทำงานตามปกติ เรียนหนังสือ ช็อปปิ้ง ดูหนัง กินเที่ยวตามปกติ

แต่ไม่ใช่เปิดเพราะโควิดหายหมดแล้ว อีโควิดมันก็ยังอยู่นั่นแหละ แต่ให้คนแก่กับคนมีโรคประจำตัวทำงานอยู่บ้าน ใช้ชีวิตแบบแยกตัวจากคนอื่นๆ ให้คนหนุ่มสาวและคนสุขภาพดีออกมากัน

ส่วนสื่อมวลชนก็จะค่อยๆเลิกปั่นเรื่องโควิด ไปเล่นข่าวอื่นๆแทน เพราะสื่อก็เริ่มรู้สึกแล้วว่า กูก็ไม่มีจะแดกเช่นกัน งั้นกูเนียนๆไม่พูดถึงมันดีกว่า

เพราะคนจะเริ่มชิน และคิดได้ว่า มันไม่ได้เป็นแล้วต้องตายทุกคน ส่วนใหญ่แค่เป็นหวัดแล้วหายเอง เผลอๆหลังจากนี้ ใครบอกว่าตัวเองติดโควิด จะล้อด้วยซ้ำว่า "ว้าย อีเด๋อ ทำไมเพิ่งเป็นยะ เค้าเลิกเป็นกันแล้ว"

คนงงไม่รู้เว็บโม่งคือไร คือศูนย์รวมความต่ำตมค่ะ จุดประสงค์คือปลดปล่อยด้านมืดในใจเพราะไม่มีใครรู้จัก พวกขี้แพ้ชอบสิงอยู่เพราะรวมพวกสันดานเดียวกันไว้เยอะ ปกติรู้กันเป็นที่ที่โอตะจะไปด่าเมมกับโม่ยฮานามิสินปินในนั้น ด้อมเกาหรีที่ไม่คิดว่าไม่มีใครเล่นก็อซทซ คอมมูใหญ่มากด้วยว้าวซ่า

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

ถ้าต้องจ่ายปีละสามหมื่นล้าน แล้วเป็นได้แค่ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

เอาไปเปย์ไอดอลแทนได้มั้ย ยึดเหนี่ยวจิตใจเหมือนกัน ถูกกว่าด้วย

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

>>22 เยอรมันเศรษฐกิจแข็งระดับแบก EU ไว้มาตลอด ยังเครียด บอกงบพยุงเศรษฐกิจอยู่ได้แค่ 2 เดือนนะถ้าคิดจะปิดเมืองต่อไป ไม่ต้องถามถึง ปท. กำลังพัฒนา จะได้สักเท่าไรกัน

>>23
>ผู้ใช้ทวิตเตอร์
>บอกว่าโม่งคือศูนย์รวมความต่ำตม

top kek

โม่งไม่มีขายยา ไม่มีขายกลุ่มหนังโป๊ แต่ทวิตมีนะครับ

>>26 you sure about that?

>>27 nigger

รำคาญพวกที่มาเถียงเรื่องงบซื้ออาวุธ เรือดำน้ำ เรือลำเลียง ว่าอนุมัติไปแล้วบ้าง ผูกพันจ่ายหลายปี ไม่ได้จ่ายงวดเดียวบ้าง หนักเข้าก็ถึงขั้นบอกว่าบิดเบือนอย่างงี้เลยต้องมีติดคุก

ถามจริง ว่าถ้าคุณไปจองซื้อปืนอยู่บ้านหม้อ วางเงินมัดจำไปห้าพัน แถมไปดาวน์รถมาต้องผ่อนอีกเจ็ดปี

บังเอิญที่บ้าน เมียคุณแม่คุณลูกคุณป่วยหนักร่อแร่ แถมตัวคุณก็เริ่มป่วยติดเชื้อ เงินในกระเป๋าในบัญชีมีไม่พอ ต้องรักษากันอีกยาว ถ้าไม่จ่ายค่ารักษาก็อาจตายแน่

คุณจะบอกว่า ฉันวางมัดจำปืนไปแล้ว ดาวน์รถไปแล้ว ต้องผ่อนต่อให้ครบ ส่วนค่าหมอค่ายาเอาไว้ก่อน ไปหากู้มาใหม่มั้ย

ถ้าตอบว่าเงินคนละส่วนกัน ยังไงก็จะไปเอาปืน เอารถมาเก็บไว้
ก็รอให้เอาปืนใส่ไปกับโลงศพ เผารถตามไปกงเต๊กละกัน ถ้าไม่โดนยึดก่อน

ตอนปี 40 จอง F-18 จองอัลฟ่าเจ็ทไว้ ยังต้องยกเลิก ปรับลดจำนวนได้ เพราะเงินไม่พอไม่มีใช้

ส่วนเรื่องบิดเบือนติดคุก ไปจับเนชั่น ทีนิวส์ สนธิ สนธิญาณ และเพจในเครือข่ายให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาพล่ามนะ

ถ้าเป็นไอโอ ก็ขอบอกว่า เวลาป่วยติดเชื้อ นายคุณจะถีบหัวพวกคุณส่งยิ่งกว่าหมาเลย และการไอโอไปก็ไม่ได้ทำให้คุณและครอบครัวรอดโรคระบาดด้วย ดูเจ้ากรมสวัสดิการทหารบกเป็นตัวอย่าง

ห่าแดกปอดมึงเอ๊ย (Literally เลย ยุคนี้)

>>29 งบคนละส่วน​ คือตรรกะเมนของสลิ่่มเวลาคุยเรื่องแนวนี้

เพื่อนในภาคธนาคารหลายคนยืนยันตรงกันนะคะว่า วิกฤติเศรษฐกิจรอบนี้ “หนักกว่าต้มยำกุ้ง 1997” ตอนนี้เริ่มงานเข้า ผ่อนผันหนี้เก่าพลางวิ่งหาวงเงินฉุกเฉินให้ลูกค้าแทบไม่ทัน

การรักษาสภาพคล่องของกิจการและพยายามดูแลพนักงานช่วงนี้ยากโหดหินมากๆ ระหว่างที่มาตรการภาครัฐยังไม่เพียงพอและไม่ชัดเจน เป็นกำลังใจให้ทุกท่าน

อยากรู้ว่าผู้ประกอบการในนี้แต่ละท่านเริ่มปรับตัวอย่างไรบ้างคะ เล่าสู่กันฟังหน่อย ถือว่าแชร์ไอเดียกัน

มนุษย์ฉลาดมี cliche ว่าต้องใช้อำนาจเด็ดขาดแบบ พรก. ฉุกเฉินเท่านั้น จึงจะเหมาะกับสังคมไทย คนไทย ใช้อำนาจรัฐธรรมดาแบบประเทศที่เจริญแล้วไม่ได้

จริงๆต้องพูดใหม่ ว่า การใช้อำนาจฉุกเฉินรวมศูนย์นี่มันเหมาะกับระบบราชการแผ่นดินแบบไทยเท่านั้น ใ้ช้กลไกรัฐธรรมดาแบบประเทศที่เจริญแล้วไม่ได้ ส่วนใช้แล้วจะเหมาะกับสังคมไทย คนไทยหรือเปล่า อันนี้อีกเรื่องหนึ่ง

เพราะวิกฤติครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าโครงการบริหารราชการแผ่นดิน และวัฒนธรรมการทำงานของราชการไทยนั้น ล้มเหลว ผุพังเกินกว่าจะรับมือวิกฤติใดๆได้อย่างมีเหตุมีผล ทางที่เหลือคือ โยนความรับผิดชอบกลับไปที่ผู้นำผู้เดียว

แต่ผู้นำใช้อำนาจได้ผลหรือไม่ อีกเรื่องหนึ่ง ตอนมีอำนาจธรรมดาใช้อำนาจไม่ได้เรื่อง ตอนมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ก็ไม่น่าจะได้เรื่อง ของแบบนี้ไม่ได้อยู่ที่อำนาจ อยู่ที่กึ๋น

ที่ดูน่าจะได้ผล คือ เครือข่ายท้องถิ่นที่คอยตรวจสอบ ควบคุม สกัดการระบาดกันเอง ส่วนมาตรการระดับชาติ และระดับภูมิภาค ดูไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพาย การตั้งด่านสกัดเยอะๆ ห้ามขายเหล้า ปิดห้าง บังคับสวมหน้ากากทุกคน เคอร์ฟิว ไปๆมาๆ เหมือนจะทำโชว์เจ้านายมากกว่าจะมุ่งไปที่การสกัดการระบาด น่าเสียดายว่าเครือข่ายท้องถิ่นมันอ่อนแอไปมากแล้วห้าหกปีที่ผ่านมา

ส่วนแง่มุมอื่นของโรคระบาดที่ไม่ใช่แง่มุมความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ หรือสังคม ก็ยังไม่ถูกเหลียวแลเช่นเคย รัฐบาลประกาศว่าจะไม่มีผ่อนปรน มีแต่จะยกระดับมาตรการเข้มขึ้น ไม่ทราบว่าแปลว่าอะไร สุดท้ายแล้ว เราอาจจะต้องนั่งดู good guys win, bad guys lose, and as always Thailand prevails ก็ได้

โทรไปเช็คที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพว่าห้ามญาติเยี่ยม แต่ทนายสามารถเยี่ยมได้เพราะเป็นสิทธิตามกฎหมาย พรุ่งนี้ว่าจะไปเยี่ยมผู้ต้องขังรายนึง ยังไม่รู้จะทำหน้ายังไงตอนจะไปบอกว่าพ่อเขาตายเมื่อกลางเดือน

แผ่นเพิ่งมาส่งเมื่อเช้าจากสิงคโปร์ ครับ มีเข้ามาทั้งหมด 300แผ่น แจกจ่ายไปตามร้านที่สั่งเอาไว้ มิได้นำออกมาจากตัวตึกครับ ทำไมถึงรู้ เพราะผมเป็นคนส่งให้เค้าเองครับ แล้วทำไมราคาถึงขึ้น? ที่กรมศุลสินค้าทุกอย่สงที่มาจาก ตปท. ตอนนี้ แกะทุกกล่องครับ แล้วต้องผ่านขั้นตอนเพิ่มอีกหลายช่องทาง ถ้าอยากเร็ว ต้องซิกแซก(คงรู้กันนะครับ) ต้นทุนตอนนี้ไม่ว่สเครื่อง เกม อะไรก็ตาม ขึ้นทั้งหมด ส่วนอีก 200แผ่นที่เหลือ ก็อยู่ที่ร้านต่างๆที่เหลือ จะตุนของเก็งกำไรหรืออะไรก็ตามแต่นะครับ
นี้ถือซะว่าเป็น โพสฆ่าตัวตายของผม ที่ออกมาบอกให้ทุกท่านทราบละกันครับ

“ผมทำงานเลี้ยงธนาคาร
30% ของเงินได้ผมคือดอกเบี้ยให้ธนาคาร พวกเขาได้เงินนี้จากลูกหนี้ชั้นดีที่จะไม่หนีไปไหน ที่ทำทุกอย่างเพื่อที่จะรักษาเครดิตไว้ เป็นเวลาครึ่งชีวิตของพวกเรา

แล้วอ้างเป็นบุญคุณว่า ถ้าไม่มีพวกเขาเราจะมีบ้าน มีรถ มีสินเชื่อไว้ใช้ยามฉุกเฉิน "ให้ชีวิตไปต่อ" เพื่อรับใช้พวกเขาทั้งชีวิต ได้อย่างไร

วันนี้ยามวิกฤติพวกนายธนาคารต่างๆที่เสวยสุขบนหยาดเหงื่อของพวกเรามาแรมปี ยังชักช้ารีรอ ให้พวกเราประจานความลำบากเพื่อรับสิทธิ์ผ่อนผัน ผ่านมาสัปดาห์ตัวผมเองไม่ได้ความคืบหน้าจากธนาคารพาณิชย์ต่างๆที่กรอกข้อมูลขอรับมาตรการเลย

เมื่อวานนี้ธนาคารออมสินประกาศยกเลิกการผ่อนชำระ ทั้งดอกเบี้ย เงินต้น ทันทีสามเดือน โดยไม่ต้องกรอกใบสมัครแบบถ้วนหน้าทุกคน ไม่ต้องใช้ AI ไปควานหา หรือคิดเพื่อประสิทธิภาพอะไร เพราะผู้คนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า การพักหนี้จะช่วยทำให้พวกเขาวางแผนชีวิตได้ดีขึ้น

ทั้งๆที่ออมสิน ธนาคารรัฐไม่ได้เป็นธนาคารที่มีกำไรอะไรมากมาย

ธนาคารอื่นลังเลคงไม่มีอะไรซับซ้อน นอกจากโบนัส CEO และกำไรของทุนข้ามชาติ ?

คุณสูบเลือดประชาชนมานาน พักหนี้ไม่ทำให้ใครตายหรอก

คงต้องบอกธนาคารแห่งประเทศไทยให้กล้าๆวางมาตรการกดดันหน่อย ให้รู้ว่าคนไทยยังมีที่พึ่งไม่ใช่ แค่รวมโบชัวร์โฆษณาของธนาคารมาขึ้นเพจ ธปท.”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

isekai is like corona, you just can't get rid of it
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>32 ไม่อ่านโพสมึงตั้งแต่บอกว่าพรก ฉุกเฉินฉลาด

>>37 บอกหรอ?

>>35 ธนาคารนี่แหล่ะจะตายถ้าพักหนี้ เงินในระบบไม่หมุนเวียน

เอาจริงๆนะ ข้อดีของวิกฤตครั้งนี้แม่งทำให้คนอย่างผมนี่อธิบายปัญหาโครงสร้างทางการเมืองได้ง่ายขึ้นเยอะเลย

อ่ะ มาพูดเรื่องรธน.60 นี้กัน

รัฐธรรมนูญ 2560 นี่ความตั้งใจจริงๆของมันเลยคือทำให้พรรคการเมืองแบบรัฐสภาอ่อนแอ เกิดการต่อรองผลประโยชน์ระหว่างพรรคแบบชิบหายวายป่วง ทำให้รัฐบาลขาดความเสถียรภาพ และต้องพึ่งอำนาจของ คสช. ต่อไป

รัฐบาลอ่อนแอยังไง? ก็ดูได้เลยว่าการเอาคนไม่มีความรู้ทางสาธารณะสุขเลย! อย่างอนุทิน มีอำนาจต่อรองมากจนได้มาคุมกระทรวงนี้เพื่อที่จะมาขายกัญชา อันนี้ชัดจนไม่รู้จะชัดยังไงล่ะ

และในขณะเดียวกัน คนที่ทำผลงานโดดเด่น(ในเรื่องที่เหี้ย)ในตอนนี้ ถ้าไม่นับลุง กับ แดง ก็คือ อนุทิน, ธรรมนัส, จุรินทร์ แต่ถามว่าทำอะไรคนพวกนี้ได้ไหม

คำตอบคือ ไม่ได้!

เพราะอะไร??

ย้อนไปที่ส.ส.ในสภา สถานการณ์ตอนนี้ คือฝ่ายรัฐบาล มีเสียง 274 จากทั้งหมด 488 ที่นั่ง การโหวตเห็นชอบงบหรืออะไรก็ตาม ต้องได้อย่างน้อยครึ่งนึง คือ 244 (ไม่งั้นจะเป็นแค่รัฐบาล แต่ออกนโยบาย ออกงบไรไม่ได้เลย) แต่

- อนุทิน มีเสียงในสภาอยู่ 62 (ได้เอง 52 ซื้ออนาคตใหม่มาอีก10) ถึงอนุทินจะกร่าง เหี้ย แต่ต้องยอมรับว่าพรรคนี้แม่งสามัคคีกันมาก เล่นอนุทินคนเดียว เสียงน่าจะหายไปทีเดียว 62 เสียง เสียงเหลือไม่ถึง244

- ธรรมนัส ถึงจะไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค แต่เป็นคนคุมส.ส.พลังประชารัฐโซนภาคเหนือ ซึ่งมีส.ส.อยู่ทั้งหมด 28 คน รวมถึงเป็นคนแจกกล้วยให้พรรคเศษปัดขึ้นของกกต.อีก 11 เสียง (ยังไม่นับว่าแม่งมีอะไรพร้อมแฉ ป้อม ป้อก ตู่อีกนะ) ถ้าเล่นพ่อค้าแป้งไป เสียงจะหายไป 39 ไม่ถึงครึ่ง

- จุรินทร์ ปชป. มีทั้งหมด 52 เสียง คือโอเคแหล่ะ ปชป.แม่งไม่ได้มีเอกภาพขนาดนั้น โดนแค่จุรินทร์ แต่แม่งต้องมีคนอื่นกระเสือกกระสนอยู่กับรัฐบาลต่ออยู่แล้ว แต่ใครจะการันตีว่าเสียงจะหายไปเกิน30หรือแล้วเหลือไม่ถึงครึ่งหรือเปล่า?

คือความเหี้ยโดนรวมของรธน.60นี่แหล่ะ ที่แม่งทำให้เรามาอยู่ ณ จุดๆนี้ ถ้าจะแก้ให้ถึงรากจริงๆ มันต้องแก้ที่รัฐธรรมนูญเวรนี่แหล่ะ

ไม่มีกฎหมายมาตราไหนที่ร้ายแรงหรอกตราบใดที่เราเคารพกฎหมายและไม่ทำผิด..เราก็มนุษย์ติ่งนะ แต่พวกคุณปกป้อง.รักและเทิดทูนพวกเค้าแต่หันกลับมาเหยียดสถาบันหลักของชาติ..เราว่าคุณไม่แฟร์นะ..ถ้าคุณไม่ก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์..1-112.ก็แค่เบอร์ที่เมมไว้สั่งพิซซ่า.

มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โดนัล ทรัมป์ ออกนโยบายเน้นการช่วยเหลือคนอเมริกันแท้ๆ พยายามกีดกันคนอพยพจากต่างฐิ่นซึ่งจะเข้ามาแย่งงานและเงินคนอเมริกัน ซึ่งก็นับว่าเป็นที่น่าพอใจไม่น้อยถ้าในแง่หลักรัฐศาสตร์แล้ว ก็อาจกล่าวได้ว่า รัฐบาล ทรัมป์ ก็มีคุณภาพพอสมควร ทั้งนี้ด้านปีกพรรคฝ่ายค้านในอเมริกาก็คุณภาพคับแก้ว เห็นได้ชัดจากที่ปู่ เบอร์นี่ เซนเดอร์ ออกมาชี้ว่า นโยบายของทรัมป์ ทำให้คนอเมริกันได้ประโยชน์ก็จริง แต่มันเข้าถึงแค่ชนชั้นกลางเท่านั้น เบอร์นี่ชี้ว่า นโยบายดังกล่างควรเข้าถึงชนชั้นแรงงาน และ ผู้ยากไร้ด้วย เบอร์นี่เสนอเลยว่า ประชาชนอเมริกาต้องรักษาพยาบาลฟรี ทั่วประเทศ

ถึงตรงนี้ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมการเมืองของสหรัฐอเมริกา มันถึงเดินหน้าเร็วกว่าประเทศอื่นๆ ตัดภาพมาที่การเมืองบ้านเรา ตอนพรรคเพื่อไทยสมัยยิ่งลักษณ์ ซึ่งตอนนั้นผมยังเป็นส ลิ่มอยู่ (อายุ 16-18) ได้เสนอโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง แม้ตอนนั้นผมจะไม่ชอบฝ่ายการเมืองของปีกเพื่อไทย แต่ก็อยากให้โครงการนี้ทำสำเร็จจริงๆ

ขณะนั้นเองพรรคประชาธิปปัตย์ เเทนที่จะสนับสนุนหรือช่วยตรวจสอบเช่นว่า ทำอย่างไรจึงจะใช้งบถูกลง และฯ แต่ตัวกลับไปก่อม็อบ กปปส สร้างวาทะกรรม "กู้มาโกง" และสุดท้าย สุพจน์ ไข่มุก ก็บอกว่า ให้ถนนลูกรังหมดประเทศก่อน จนโครงการนี้ต้องยกเลิก

เทียบการทำงานของฝ่ายค้านของไทยตอนนั้น กับ ฝ่ายค้านอเมริกา ในตอนนี้ ต่างกันราวฟ้ากับเหว วัฒนธรรมการเมืองในบ้านเราแย่มากคือถ้าฝั่งตรงข้ามเสนอนโนบายดีๆ แทนที่จะช่วยสนับสนุน ก็กลับเตะตัดขากันเพื่อเอาหน้า โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของพ่อแม่พี่น้องประชาชน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ออก พรก. เคอฟิว ปิดนั่น ห้ามนี่ แต่ไม่ประกาศเฟสสาม เพราะอะไรน่ะเหรอ? ก็มันกลัวพ่อมึงไปแรดเมืองนอกไม่ได้ไงล่ะ ไอ้ควาย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>43 รู้เฟสสามไม่จริงอีกตัวล่ะ

>>44 เฟสสามแบบไทยๆใช่ไหม

>>43
เฟสสาม อาการป่วยไม่หนักนอนตายอยู่บ้าน อย่าหวังได้หาหมอแบบที่อังกฤษทำ

ปล่อยให้คนไม่มีหน้าที่และไม่มีประสบการณ์เข้าดับไฟป่าจนสูญเสียถึงชีวิต เราจะโทษใคร? Fire safety ที่นี่โคตรเคร่งเพราะประวัติศาสตร์ลอนดอนหายไปเป็นแถบเพราะไฟ มี Fire alarm ต้องไปที่ Assembly Point ไม่ใช่วิ่งหาต้นเพลิง ไม่ใช่หน้าที่ และไม่ได้มีประสบการณ์ที่ดีพอ ส่วนไฟป่าเชียงใหม่ กูเห็นเด็กมอชอชวนกันไปดับไฟ มหาวิทยาลัยนี้ไม่สอนให้ทำอะไรตามหน้าที่รึไง เห็นหลายเรื่องละ เซฟตี้ก็ดูไม่เคร่ง ตามสบาย RIP ค่ะ

ดราม่ากะลาแลนด์ สุดท้ายคนที่ต้องรับผิดทุกอย่างคืออีรัฐบาลโง่ ภาษาฝรั่งคือ มึง no clue ในการเผชิญหน้ากับวิกฤตครั้งนี้ ความผิดคือมึงบริหารไม่เป็น มึงไม่เข้าใจความเสี่ยง มึงไม่รู้ปัญหาเกี่ยวกับการสาธารณสุข มึงขาดการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มึงจัดการบริหารข้อมูลไม่ได้ มึงยังใช้วิธีการบริหารงานแบบทหาร คือเคอร์ฟิว แต่เคอร์ฟิวไม่ได้ช่วยอะไร และแม้แต่การบังคับใช้กฎระเบียบของรัฐ ก็ทำแบบกะปริบกะปรอย ใช้กับคนบางกลุ่ม ขณะที่หลายๆ กลุ่มได้รับอภิสิทธิ์
....เรื่องที่เกิดที่สนามบิน บอกตรงๆ ดิชั้นไม่โทษผู้โดยสารทั้งหมด ประการแรก คนไทยทุกคนมีสิทธิกลับประเทศ เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ถ้ามึงจะปิดประเทศ มึงต้องออกหนังสือเตือนเค้าล่วงหน้าพอควร ไม่ใช่จะปิดก็ปิด จนคนขึ้นไปนั่งในเครื่องบินแล้ว ต้องลงจากเครื่องเพราะไทยปิดสนามบิน ไอ้เรื่อง fit to fly ก็ bullshit พูดไปแล้ว คนอยู่เมืองนอกตอนนี้ไปหาใบรับรองแพทย์ได้ไง แพทย์ทั่วโลกยุ่งกับการรักษาคนป่วย เค้าไม่มาออกใบรับรองแพทย์ให้มึงค่ะ พอเค้ากลับมาถึงจะกักตัวเค้า แทนที่จะจัดหาที่สะดวกนิดหน่อย ใกล้สนามบิน นี่จะเอาเค้าไปสัตหีบ ความเป็นอยู่ยังไงก็ไม่รู้ สถานที่แออัดไหม สรุปกลับจากนอกสบายดี แต่พอไปกักตัวที่สัตหีบ ดันไปติดโรคที่นั่น คือดิชั้นไม่ได้บอกว่าคนพวกนี้ต้องไม่ถูกกักตัว แต่มันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้ บอกตรงๆ เป็นดิชั้น ก็ไม่อยากไปนอนที่ไหนก็ไม่รู้ สัตหีบ? อะไร? ฐานทัพ? โรงแรม? อยู่ยังไง? อาหารการกินเป็นแบบไหน? ห้องน้ำห้องท่า? ที่ถามนี่ไม่ใช่เป็นคุณหนูและต้องการความสบาย แต่เราพูดถึงเวลาสองอาทิตย์นะคะ อีห่า ไม่ใช่สองวัน
...กระทรวงต่างประเทศแม่งก็แย่ ไม่ประสานงานกับรัฐบาล และให้ข้อมูลที่ละเอียดกว่านี้แก่ผู้เดินทาง นอกจากนี้ ตม แม่งก็ห่วยแตก ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ที่สนามบินได้ กฎที่ออกมาเรื่องกักตัว สุดท้ายก็ต้องปล่อยคนเหล่านั้นกลับบ้าน คราวนี้ ถ้าใครมีความรับผิดชอบ ก็จะยอมกักตัวเอง แต่ถ้าใครที่เป็น แต่ไม่รู้ว่าเป็น และไม่กักตัว แล้วยังออกไปแรด ประเทศไทยเตรียมตัวเป็นอิตาลีค่ะ เพราะที่ระบาดกันมากที่นั่น เพราะมี superspreader แค่คนเดียว เอเมน

>>48 อยากด่ารัฐบาลจนต้องปกป้องคนหนีด่านกักตัว kek

>>46 มาตรฐานที่ไหนกำหนดวะ

>>49 ด่าไปเหอะ​คนเหี้ยหนีด่าน​ ด่าแล้วมีประโยชไร​ รัฐบาลที่ดีต้องคิดระบบที่ทำให้คนมันพร้อมร่วมมือ​ ไม่อยากหนีหรือถึงอยากก็ไม่มีข้ออ้างหนี

-บ่นยาวมากๆ อีกแล้ว ทำไมเลิกไม่ได้สักทีเนี่ย-

เรื่องวุ่นวายที่สนามบินเนี่ย เราคิดว่าฝ่ายที่ควรถูกด่าให้เละ (หรือยิ่งกว่านั้นก็ "ถูกยิงทิ้งให้หมด ถูกรมยาลากเข้าไปกักตัว ถูกประณามว่าไม่มีหัวคิด ต้องการให้ตายกันหมดหรือไง" ตามที่ด่าๆ คนที่กลับไทยกันอยู่) คือรัฐบาล (ซึ่งไม่ได้หมายถึงราชการ แต่หมายถึงคนที่ออกประกาศแบบรัวๆ แบบสักแต่จะประกาศ) มากกว่าประชาชนที่กลับมานะ (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในหมู่คนที่กลับมาจะมีแต่คนผ่องแผ้วไม่ควรด่าเลยสักคำหรอกนะ)
.

นี่มันความคิดแบบทหารโบราณชัดๆ อะ แบบผู้บังคับบัญชาสั่งเมิงต้องทำ ถ้าไม่ทำเมิงต้องถูกซ่อม ซ่อมแล้วตายก็ความผิดเมิงเอง ห้ามตั้งคำถามห้ามเถียง แต่ถามหน่อยสิ วิธีแบบนั้นมันได้ผลกับเรื่องแบบนี้จริงเหรอ ไม่ใช่ว่าต้อง no blame culture หาวิธีแก้ไขปัญหาเชิงระบบ แล้วมุ่งสู่ผลลัพธ์ปลายทางคือผลประกอบการที่ดีคู่กับอิมเมจสวยๆ ของบริษัทไม่ใช่เรอะ
.
เอาแค่ประกาศล่าสุดนี่ ทำไมถึงคิดว่าจะไม่มีปัญหา ไม่ได้เรียนรู้จากตอนไปรับคนกลับจากอู่ฮั่น หรือตอนผีน้อยเข้าประเทศเลยเรอะ คุณประกาศวันนี้ มันก็มีคนที่ออกจากต้นทางมาก่อนรู้ประกาศแล้วหรือเปล่า โอเค จะไม่ผ่อนผันให้กลับมันก็มีเหตุอันควรแหละ แต่คุณมีมาตรการรองรับไหม คุณทำเอกสารชี้แจงขั้นตอนให้ชัดเจนได้ไหม พอเครื่องลงก็ส่งเอกสารให้อ่านเลย แล้วทยอยปล่อยมาได้ไหม คุณส่งจนท.ไปตรึงกำลังเพิ่ม แทนที่จะให้คนหน้างานไม่กี่คนพูดกับคนเป็นร้อยที่กำลังแตกตื่นวิตกจริตได้ไหม (คือถ้าเขาใจเย็นสงบสบายกันเขาจะเดินทางช่วงนี้เรอะ) ใช้จิตวิทยาด้วยดีไหม
.
คุณเตรียมที่อยู่ให้พร้อมได้ไหม (ถามจริงเถอะ ประเทศท่องเที่ยวที่ไม่มีนักท่องเที่ยวนี่จะไม่มีโรงแรมว่างจริงอะ ทำไมไม่เหมาแล้วขายแพคเกจเลย ถ้าไม่จ่ายเลยก็อยู่ห้องพัดลมแนต่มีข้าวกิน ถ้าจ่ายสองพันกักโรงแรมพร้อมรูมเซอร์วิส) คุณตั้งโต๊ะรอญาติพี่น้องที่มารอรับ ให้เขาคุยหน่อยกันได้ไหม ทั้งหมดทั้งมวลเนี่ย จนท.หน้างานเขามีกำลังพอทำเองที่ไหนเล่า
.
ที่สำคัญคือคนที่เดินทางมาล็อตนี้ก็ทำตามกฎก่อนหน้านี้แล้ว ไปต่อคิวขอใบ fit to fly แล้ว แต่เหตุการณ์มันเปลี่ยนกะทันหันถูกไหม เราไม่ได้บอกให้ปล่อยเขากลับไปชิลๆ นะ แต่จะมาตั้งแง่ว่าอี๋ ตัวเชื้อโรค นี่มันก็ไม่ถูกหรือเปล่า (แต่ก็ยังมีคนที่ได้กลับบ้านเฉยๆ อยู่ดีนะ สรุปเมิงจะเอายังไงวะ กฎคือไร)
.
แล้วการที่รัฐบาลไม่รับผิดชอบอะไรเลย มาโอดครวญว่าพวกนี้ไร้จิตสำนึก ไม่รับผิดชอบ แย่ๆๆ ในขณะที่คุณไม่เคยคิดจะลดจำนวนคนเข้าประเทศก่อนหน้านี้ด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ไม่มีแม้แต่มาตรการห้ามบางประเทศ หรือประกาศว่าเข้ามาต้องกักตัวตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ต่อให้ไม่ได้ตั้งแต่มกราคม แต่กุมภาพันธ์ก็ยังไม่ทำอะไร นี่ไม่เรียกว่าเห็นแก่ตัว ขาดจิตสำนึก สนใจแต่ความสบายของตัวเองมากกว่าเรอะ
.
นี่มีแต่ปัดสวะ บอกว่าก็ออกมาตรการแล้วนี่นา แต่หน้างานทำไม่ได้เอง ประชาชนไม่เชื่อฟังเอง ความผิดเธอนะ ดังนั้นทุกคนไปด่าคนพวกนั้นเองนะ แล้วก็ลอยตัวไป คนที่ไม่ทำคือไม่เสียสละ อย่างนี้มันได้เรอะ! แม่งเหมือนกันการปล่อยให้หมอพยาบาลทำงานด้วยเสื้อกันฝนไม่มีผิด! เหมือนกับการประกาศเคอร์ฟิวส์แต่ไม่เร่งเพิ่มกำลังในการตรวจเชื้อที่สุด! คือปล่อยให้ทนๆ อึดๆ แล้วก็สรรเสริญลอยๆ กันไป
.
สุดท้ายนี้ หากมีใครอ่านแล้วคิดว่านักเลงคีย์บอร์ดนี่หว่า เก่งจริงไปแนะนำเขาสิ ก็ก๊อปไปให้เขาอ่านได้เลยนะ โทรมาถามเลยก็ได้มา แต่อยากถามกลับว่าไม่มีปัญญาคิดกันจริงๆ จนต้องให้ล่ามก๊อกแก๊กแนะนำเรื่องพรรค์นี้เรอะ

>>49 ก็ผิดจริง ไม่ให้ด่ายังไงวะ
คนกลับมาเป็นช่วงรอยต่อจริง รัฐคิดไม่รอบคอบเองปะ

>>52
โรงแรมไม่มีอาสาพนักงานเพราะปลดออกไปก่อนแล้ว + ทำงานฟรี
โรงแรมกลัวมีชื่อเน่าเป็นที่เก็บเชื้อโรค

>>53 ด่ารัฐได้ แต่ปกป้องไอ้พวกหนีด่าน อ้างไม่รู้ไม่ได้วะ

โลกาวินาศแล้ว ตั้งแต่ผีน้อยละ พอเขาจะเอาไปกักที่ไหน พอชาวบ้านแถวนั้นรู้ก็ยกพวกไล่ประท้วงขับไล่ บางทีก็เห็นข่าวแล้วก็โมโหนะ แม่งน่าจะให้ติดกันให้หมด

ไอ้พวกติ่งลุงกับ IO แถวนี้มึงตั้งสติหน่อยนะ พวกที่มานี่มันมาก่อนมาตรการชะลอการบิน มันขออนุญาตถูกต้อง ทีนี้มันมาถึงรัฐบาลแม่งไม่มีขั้นตอน 1-2-3-4 ไงว่าจะทำยังไง คนหนีตายจากเมืองนอกมาก็เครียดอยู่แล้ว ดันมาเจอเจ้าหน้าที่หน้างาน ถามอะไรตอบไม่ได้สักอย่าง จะเอาไปไหน อยู่ยังไง ไอ้ห่าคนนะเห้ยไม่ใช่สัตว์จะได้เอาไปอัดตรงไหนก็ได้ เป็นกูกูก็ไม่ไปวะ กูเห็นใจเจ้าหน้าที่หน้างานนะ แม่งหนังหน้าไฟชัดๆ คือตัดสินใจอะไรเองไม่ได้ไง ทำอะไรก็ถูกด่าหมด

>>55 คำว่าหนีแม่ง misleading สัส ๆ หนีเหี้ยไรทหารปล่อยออกมาเอง

ตั้งแต่ผีน้อยละ ใช้คำว่าหนี คิดว่าเป็นหนังแหกคุกหรือไง

>>57
มึงควรรู้น่ะว่าสถานการณ์ไม่ปกติทั่วโลก
ไม่มีใครมานั่งเอาใจพวกร่านประชาธิปไตย24ชม. สันขวานแถไปเรื่อย

>>60 สถานการณ์ไม่ปกติไม่ใช่ข้ออ้างให้มึงทำอะไรเหี้ยๆได้ คิดแบบนี้ทีหลังก็เชียร์ไอ้ตูดยิงคนกลับไทยทิ้งไปเลย มาคอยดูว่าชาวโลกจะมองพวกมึงยังไง เมื่อก่อนก็เคยอ้างไม่ปกติคอมมิวนิสบุกต้องฆ่าแขวนคอคนมาแล้วนี่

ร่านจริงๆ
https://www.blognone.com/node/115621

จะว่าไป ปี53ก็สถานการไม่ปกติไอ้พวกควายเผาเมือง ต้องยิงกบาลที100ศพ ปี57คนจะฆ่ากันแล้ววว สถานการไม่ปกติต้องยึดอำนาจ ใครจะเอาใจพวกร่านประชาธิปไตย ลองอีกซักรอบก็ดีนะ โลจิกแบบนี้

>>63
ก็ใช่ไงใครสนฟ่ะ เป็นได้แต่ร่านประชาธิปไตยถ่วงความเจริญ

>>61
ดีแล้วเสียร่านประชาธิปไตยไปสัก1คน
แลกกับคนดีๆไม่ติดโควิทอีดสัก100แม่งคุ้ม

>>62 กูมั่นใจยุโรปมากกว่าเจ๊กว่ะ อย่างน้อยแม่งก็ไม่มีความคิดทำระบบเหี้ยๆ ที่ทำลายความเป็นมนุษย์แบบ Social Credit ส่วนรัฐบาลแถวนี้กูยิ่งไม่เชื่อเพราะแม่งไม่เชื่อใน ปชต. แต่แรกอยู่แล้ว

>>63 ถ้าวันหนึ่งขนมหวานถูกล่ามั่งอย่ามาร้องนะ Hate Speech กันเหลือเกิน

>>66
55555ติดโควิทกันบานแม่งยังคำนึงถึงร่านสิทธิมนุษยชนถถถถถหนีตายกลับประเทศไทยมาทำไมกากสัสหมาอีร่าน

>>67 5555เพราะสลิ่่มมึงร่านเชียร์ทเหี้ยยิงควาuแดงตายโหงกลางกรุง+เรียกเหี้ยมารปห ถึงได้รัฐบาลควายจนต้องปิดเมืองตอนนี้ยังไม่รู้ตัวอีก โควิดเวลานี้พวกกูกับมึงโอกาสติดเชื้อก็เหมือนๆกันละวะ เตรียมใจตายทั้งที่ยังเลียตีนพ่อตูบไปเถอะมึง

>>66 ตอนนี้ไงสลิ่่มเศษนรกโสโครกถูกไวรัสล่าบ้างแล้ว โดนล่าด้วยกันก็ยังดีวะ อย่างน้อยฝั่งแดงส้มก็ไม่โดนไล่ยิงไล่ยุบพรรคข้างเดียวเหมือนหมาข้างถนน

>>68
กูไม่ติดแน่ๆเพราะกูไม่ร่านแพร่เชื้อใส่ใคร ขืนดุ่มเข้าบ้านกูมียิงทิ้งแน่ๆ

>>70 ไม่มีอะไร100%หรอกไอ้โง่ ต่อให้มึงยิงเลือดกระเด็นเข้าปากมึงก็ชิบหายอยู่ดี ลองเก่งเหมือนปากดูบ้างนะกูอยากเห็นควายคลั่งยิงคนอื่นตายเพราะไวรัสเหมือนในหนังแล้ว

>>47 ไม่มีใครบังคับให้ไปหนิคร้าบ

>>71
ใครจะยิงให้เลือดกระเด็นเข้าปากตนเองฟ่ะ

>>71 ปืนนะหนู ไม่ใช่มีดปอกผลไม้

>>74 ลองยิงดูเลยหนู​ อยากเห็นข่าวแล้ว

รายชื่อ เลข passport และที่อยู่ ของผู้โดยสารเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายคุ้มครอง เอกชนเปิดเผย หรือส่งต่อกันไม่ได้ เราไม่ได้มีภารกิจที่จะเอาข้อมูลไปทำอะไรได้ ใครส่งต่อก็ลบซะเถอะครับ สื่อไหนเอาลงก็เอาออกเถอะ อันนี้เตือนสติด้วยคำพูดดี ๆ เลยนะครับ

คือต่อให้เค้าเป็นอาชญากรฆ่าคน ข่มขืน ก็ส่งต่อข้อมูลแบบนี้ไม่ได้ครับ

>>70 เริ่มยิงพ่อหรือแม่มึงก่อนอาจจะติดเชื้อมาตอนไปซื้อข้าวให้มึงแล้ว

>>77
พ่อแม่กูใส่มาสก์วะ

ครบกำหนดไอ้พวกไม่รายงานตัว สมควรโดนตั้งค่าหัวไหมครับเพราะอาจ super spread ใส่พวกมึงตายได้นะ

เชื้อจากฝรั่งงวดนี้แรงกว่าของเดิมที่เด็กวัยรุ่นก็ตายได้

>>78 แมสผ้าป่าวกันไม่ได้นะเว้ย​ ถ้าแมสดีๆเวลาถอดก็โดนเชื้ออยู่ดี​ เสื้อผ้าที่ใส่ละ​ ฯลฯ​ ถ้าออกข้างนอกโอกาสติดมีแน่ไม่มากก็น้อย​ ยิงเลยเว้ย​ ยิงสิ​ ยิงสิ

>>80
มันกันได้น่ะ
ว่าแต่ร่านอย่าเพ่นพล่านล่ะคืนนี้มีนิงแน่นวล

>>81 กันไม่ได้​ ไม่งั้นหมอพยาบาลไม่เรียกหาsurgical maskหรือn95หรอก​ ยิงเลยนะรอดูอยู่

>>80 กันได้ ไอ้โง่ ถอดเสร็จล้างมือก็จบ

>>83 เวลาถอดโดนตารึป่าว ถุงข้าวที่ซื้อมาละ เวลาใส่จงใส่จานถ้าเชื้อติดมา 9ล9 ถ้ากลัวขนาดยิงคนอื่นตายได้ยิงพ่อแม่มึงก่อนเลยเว้ย แล้วพอวันต่อมาต้องไปซื้อเองก็ยิงตัวเองตายห่าไปซะ

>>82
ไม่ต้องห่วง ร่านประชาธิปไตบจบโควิทมึงโดนยิงเป้าแน่

มีสองทางเลือกจะเอาเผด็จการหรือจะตาย
เลือก

>>85 ระวังติดโควิดทางข้าวของพ่องก่อนเหอะ เชื้อนี้มันไม่เลือกยิงเฉพาะเสื้อแดงเหมือนสิ่งที่มึงเลียตีนอยู่นะเว้ย แล้วถ้าระวังมากก็รีบๆยิงพ่อแม่มึงตายๆไปซะ ออกไปข้างนอกเสี่ยงหมดรู้ไว้

>>86
ยิงคนหนีสุวรรณภูมิก่อนร่านดีนัก
ส่วนเสื้อแดงเป็นรายต่อปายย

>>85 ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอก ยังไงโรคมันจะล้างพวกไดโนเสาร์ให้ก่อนอยู่แล้ว ยิ่งโง่ๆใส่แมสไม่เป็นอยู่ ร่านไม่ต้องทำไรสักอย่างวะ
300มึงเค้ายังจ่ายให้อยู่มั้ยวะช่วงนี้

>>88
แต่ร่านหนีจากสุวรรณภูมิน่ะฮับ

>>89 ร่านแน่เหรอว่ะ​ กูดูคลิปเฮใส่พี่ทหารที่มาปล่อยกลับดังลั่น​

ไอ้เหี้ยจูนิเบียวนักแม่นปืนบุกโม่งเว้ยเห้ย จะยิงใครก็จับปืนให้เป็นนะ เดี๋ยวปืนในจินตนาการมันจะดีดเข้าหน้าเอา 555555

>>90
ก็ร่านตื้ออ่ะ

ร่านติดโรคไม่ตายหรอกแต่ส ลิ่มตายห่าแน่นอน

กูเคยเป็นหลิ่มเพราะหลงกลโฆษณาชวนเชื่อที่ไดโนเสาร์ยัดจนกูตาสว่างเพราะเห็นความเหี้ยของนายและบ่าว
กูเคยเป็นร่านส้มเพราะคิดว่ามันคือคำตอบ ความแปลกใหม่ แต่สุดท้ายก็ท่าดีทีเหลว
ตอนนี้กูจะนั่งเฉยๆรอดูประเทศนี้มอดไหม้และย่อยยับ ให้มันชิบหายให้หมด แล้วรอดูว่าจะผงาดได้อีกมั้ย หรือจะกลายเป็นประเทศต่ำตมที่พวกมึงทั้งหลายดูถูกและยกตนข่มมาตลอด

>>94
สรุปอมควยทักษิณ ชินวัตรก็พิมยืดยาว

>>95 ตีความยังไงวะว่าเป็นแดง งงตรรกะ

>>96 อ้อ กูลืม ไม่งงตรรกะแล้ว เพราะหลิ่มจะต้องมองว่าทุกคนมีสีสินะ

โควิด-19 = ฮีโร่กู้โลก ทำให้โลกสดใสเพราะทำให้มนุษย์ไม่ออกจากบ้าน
ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ = ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ทำให้มนุษย์ลดลง มันคือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

กุนิอยากสวนไอ้พวกที่บอกไวรัสเป็นฮีโร่ไรนี้จังเลยว่า ถ้าอยากเป็นฮีโร่ก็ง่ายๆบริจาคทุกอย่างของมึงแล้วก็ตายๆไปซะ
มนุษย์ที่มึงรังเกียจก็หายไปคนนึงแถมสินทรัพย์ที่มึงหาได้ก็จะได้เอาไปช่วยคนที่มีชีวิตลำบากด้วย เห็นไหมมีแต่ได้กับได้

>>99 กูขอดื่มด่ำในโลกที่ดีขึ้นด้วยฝีมือของฮีโร่กูก่อนดิ กูไม่ใช่ควายอย่างมึงนะจะได้เอะอะคิดสั้น แล้วกูจะเสพสุขนี่มันผิดตรงไหน

วิพากษ์คำขู่หลอกเด็กของสุวิทย์ เมษินทรีย์
%%%%
-ประโยคแรก "Quarantine, No Human Right" เป็น False statement หรือ Untruth (คำโป้ปดมดเท็จ)

อย่าว่าแต่แค่กักตัวกันโรคเลย ต่อให้สถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านี้เช่นตกเป็นเชลยศึกในสงคราม เชลยในคุกทหารของชาติศัตรูเหล่านั้นก็ยังมี Human Rights ติดตัวอยู่เสมอตามกฎหมายระหว่างประเทศ

-ประโยคหลัง "No Quarantine, No Human Left" เป็น Pure Conjecture (เดาส่งทั้งเพ)

เพราะแม้แต่ในการประเมินขององค์การอนามัยโลก โควิด-๑๙ ก็ไม่สามารถฆ่ามนุษย์หมดโลกได้ และอย่างมากก็แพร่เชื้อให้มนุษย์ได้ราวกึ่งหนึ่งเท่านั้น มนุษยชาติยืดหยุ่นพลิกแพลงและมีสัญชาตญาณดำรงชีพดื้อรั้นเหนียวแน่นทนทายาดพอจะเอาตัวรอดจากโควิด-๑๙ ได้แน่

แต่ที่สำคัญ เราต้องไม่ปล่อยให้ความกลัวโควิด-๑๙ ถูกนักการเมืองอำนาจนิยมฉวยใช้มาหลอกหลอนจนสิ้นสติและสละสิทธิเสรีภาพของตนไปเพียงเพราะคำขู่ราคาถูก

-สองประโยคต่อกัน "Quarantine, No Human Right; No Quarantine, No Human Left" เป็น False Dichotomy คือทางเลือกสองขั้วสุดโต่งที่หลอกลวงเหลวไหลทั้งคู่

เพื่อป้องกันโรค เราอาจจำเป็นต้องเลือกการกักกันตัวเพื่อป้องกันเชิ้อโรคแพร่ระบาดได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีสิทธิมนุษยชนเหลือ ต่อให้เราถูกกักกันตัวก็ตาม และไม่ได้แปลว่ารัฐบาลจะใช้อำนาจตามพรก.ฉุกเฉินมากระทำยำเยียอย่างไรกับเราก็ได้ตามใจชอบ เหมือนเราไม่ใช่ผู้ใช่คนที่มีสิทธิ

และต่อให้เราไม่เลือกการกักกันตัวมาต่อสู้โรคระบาดโควิด-๑๙ ก็มิได้หมายความว่ามนุษย์จะต้องตายเหี้ยนหมดโลกแน่นอน เราจะเลือกวิธีกักกันตัวหรือไม่ หรือจะใช้วิธีอื่น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของการระบาดที่เหมาะสม ซึ่งเราพิจารณาได้ด้วยสติปัญญา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความตื่นกลัว
(ป.ล. อ้อ Human Rights มี s เป็นพหูพจน์นะครับ หัดเติมเสียด้วยคุณสุวิทย์)

ด่วนครับ ขณะนี้ประเทศไทยได้ปิดการเดินทางทางอากาศเข้าประเทศแล้ว แต่ล่าสุดมีการบินไทยเที่ยวบิน TG971 บินออกจากซูริคมายังสุวรรณภูมิ โดยไม่ทราบจำนวนผู้โดยสาร ผู้โดยสารในเที่ยวบินนี้มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เพราะประเทศสวิตเซอแลนด์มีจำนวนผู้ติดเชื่อ Coronavirus สะสมถึง 21100 ราย (05/04/2020) มากเป็นอันดับสิบของโลก ตามมาตรการ เมื่อผู้โดยสารทั้งหมดเข้าประเทศแล้วจะต้องเข้ากักตัวเป็นเวลา 14 วัน เราประชาชนคนไทยต้องร่วมกันจับตาครับ ว่าจะมีการปฏิบัติตามระเบียบหรือไม่ เพื่อคุ้มครองสุขภาพคนไทยทั้งประเทศครับ

อนุญาตให้ก็อปไปแชร์ได้ ไม่ต้องให้เครดิตครับ คนไทยต้องได้รับรู้เรื่องนี้ครับ

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

>>102 พรุ่งนี้วันอะไร กักไม่ทันมั้ง

ความเหี้ยของโควิดในไทยคือ คนรวยเป็นคนก่อเรื่อง แต่คนจนรับกรรม

คนรวยไปเที่ยวเมืองนอก แล้วเอาเชื้อกลับมา ทั้งๆที่เขาขอให้งดเที่ยว

คนรวยติดเชื้อจากปาร์ตี้ในผับ ทั้งๆที่เขาขอให้งดเที่ยวสถานบันเทิง

คนรวยดื้อเปิดสนามมวย จนคนติดเชื้อมากมาย ทั้งๆที่เขาขอให้งดชกมวย

คนรวยเป็นคนขอให้อย่าปิดประเทศ คนรวยเป็นคนกักตุนหน้ากากและเจล ฯลฯ

แต่พอรัฐบาลปิดเมือง ปิดห้าง ปิดร้าน ปิดที่ทำงาน สั่งให้คนอยู่แต่ในบ้าน ห้ามทำมาหากิน

คนรวยนอนกระดิกหีอยู่บ้าน ดูหนัง NETFLIX สั่งแกรบส่งอาหาร ใช้เงินไปวันๆ สุขสบาย

ส่วนคนจนตกงาน ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน ไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง ไม่มีเงินจ่ายหนี้สิน ทุกข์เจียนตาย

แล้วคนรวยก็ด่าคนจนว่า "ทำไมพวกมึงอยู่เฉยๆโดยไม่ทำงานไม่ได้ พวกกูยังอยู่ได้เลย หัดมีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวมบ้าง"

(แถมคนรวยมีสิทธิเข้าถึงความช่วยเหลือ มากกว่าคนจนด้วยนะ)

ระวังไว้เถอะพวกคนรวย พวกมึงทำกับคนจนเอาไว้ขนาดนี้ เดี๋ยวพอจบเรื่องโควิดแล้ว ระวังจะโดนเอาคืนอย่างสาสม

ไอ้แม่เย็ด!

จนถึงวันนี้ ผมก็ยังสนับสนุนลุง เพราะในประวัติศาสตร์ ของความเป็นผู้นำ ลุงทำทุกอย่างในเวลาที่มีหน้าที่ พร้อมทั้งสู้กับปัญหาธรรมดา ที่เป็นเรื่องความเดือดร้อน และที่พิเศษคือปัญหาพวกสารเลวที่เอาทุกเรื่องมากลั่นแกล้งเพื่อคว่ำลุง

แต่ก็เหลือเชื่อ ลุงก็ยืนหยัดรับมัน แล้วพยุงแผ่นดิน และประชาชนให้ไปต่อได้ แม้ในสถานการณ์ที่สั่นคลอน ลุงกลับรู้จักแบ่งรับแบ่งสู้ เจียกจ่าย บั่นทอน อะลุ่มอะล่วย ในสถานการณ์ที่โลมเล้ารอบด้าน แล้วลุงก็ไม่สะทกสะท้านแต่ประการใด

ถ้านึกภาพนักการเมืองที่เห็นแก่ตัว ปัญหาโลก ปัญหาประเทศ ปัญหาฝ่ายตรงข้าม ...ถ้าไม่มั่นคงหนักแน่นจริง ผมว่าไปนานแล้ว จากประชาชนนี่แหละ

ถ้าถามว่าประชาชนที่สนับสนุนงี่เง่าหรือถึงสนับสนุน ปล่าวครับ เราดูสิ่งที่ลุงทำและตั้งใจ และการฝ่าฟันถ้าเทียบกับพลเรือนที่ผ่านๆมา เวลาห้าปี ลุงทำอะไรได้เยอะ แล้วสงบ แล้ววิกฤติขั้นระดับโลก ลุงก็ยังยืนหยัด การบริหารจัดการ บกพร่องบ้าง ก็ผ่านขนาดไหนคิดดู แต่ค่อยเป็นค่อยไป สุดท้าย ก็ไม่หายนะ... คนเราไม่มีใครดีที่สุด และชั่วที่สุด แต่การที่จะทำเพื่อประชาชน ผลงานเชิงประจักษ์ จิตใจที่สำคัญ การยอมรับส่วนใหญ่ มันคือคำตอบ แม้คนเห็นต่างที่เล็กน้อยเห็นต่าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่านี่คือประชาธิปไตย

นักการเมือง พออิ่ม ก็เหนื่อย เหนื่อยก็ไม่เอาแล้ว ส่วนใหญ่แรกๆถึงดูดี แต่นั่นคือมันวางฐานไปแล้ว สมัยหน้าว่ากัน 4 ปีหลัง ก็ฟันยับ.. นี่คือการเมิอง

ถ้าห้าปีนักการเมือง ทำอะไรได้บ้าง เมื่อทำไม่ได้ มีแต่ทุจริต ประชาชนทนไหม ไม่ทน แล้วไง ออกมาตีกัน สงบไหม แล้วพอมาเจอวิกฤติโลกทั่วไปทุกประเทศ เข้าทางนักการเมืองไหม ?

เหล่านี้ ผมว่ายุคลุงนี่สวยงามแล้ว งั้นถ้าถามว่า ลุงไปเลยวันนี้ ..ใครที่เหมาะสุดจะมาเป็นผู้นำ ??

คนที่ด่าลุง ลองมาแบกรับทุกกรณีที่ว่ามาซิ ลองดูว่าจะไหวไหม !!

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

>>104 คนจนเกษตรกรขายอาหารรับทรัพย์

>>106 เสียใจ ปีนี้เจอภัยแล้ง เห็นราคาข้าวพุ่งก็ได้แต่มองตาปริบๆ

เอาจริง หงุดหงิดทุกครั้งเวลามีคนด่าพวกฝ่าฝืนเคอร์ฟิวแล้วขู่ว่าถ้าเป็นฟิลิปปินส์เขายิงทิ้งเลยนะ การที่มึงยกตัวอย่างแบบนี้ มึงคิดว่าการที่รัฐจะฆ่าประชาชนด้วยความผิดเล็ก ๆ แบบไม่ถามเหตุผลนี่เป็นเรื่องปรกติจริง ๆ หรอ ไต้หวันเกาหลีมีวิธีแก้ปัญหาน่าเอามาใช้ แต่จะเลียนแบบประเทศแบบนี้หรอ

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

>>108 ก็คนไทยมันไร้วินัย จิตสำนึกต่ำอะครับ ให้ประชาธิปไตยไปก็พังเปล่าๆ ต้องเฆี่ยนตีนั่นละถูกแล้ว

>>109 #มิตรสหายขนมหวานท่านหนึ่ง

เห็นทุกที่ก็ยกตัวอย่างเกาหลีใต้ ไต้หวัน ทั้งที่คนตายมันเยอะกว่าไทยอีก
ไม่ยกเกาหลีเหนือมั้ง ไรน่ะเผด็จการไม่นับ เตๆๆ

ไม่อยากโลกสวย แต่​ ณ นาทีนี้ นาทีที่จำนวนคนติดโควิดพุ่งทะลุล้าน และไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ดิชั้นพูดจนปากฉีกถึงแก่นสมอง เราต้องอยู่บ้าน คนที่ไม่มีธุระอะไรนอกบ้าน อยู่เถอะค่ะ แต่พูดแบบนี้ ก็จะถูกบางคนด่าว่าดิชั้นโลกสวย โดยให้คำอธิบายว่า คนอยู่บ้านได้คือคนรวย คนที่สามารถ social distancing ได้คือคนมีอันจะกิน แล้วชี้ให้ดูว่า คนจนในประเทศอีกมากไม่สามารถ afford การอยู่บ้านได้ ถึงอยู่บ้านก็แออัด มันไม่ได้ social distancing จริงๆ
....เออ เห็นด้วย แต่เราจะทำยังไง เรายอมรับข้อเท็จจริงนี้แล้วยังไง ในที่สุด เราก็ต้องกักตัวอยู่บ้านอยู่ดี ถึงจะจนแค่ไหน อยู่บ้านจะแออัดอย่างไร ก็ต้องอยู่บ้าน (ยกเว้นพวกที่ยังมีงานและยังไม่ได้ถูกพักงาน) ถ้ามึงไม่อยากให้โรคแพร่ไปมากกว่านี้ คือพวกที่อธิบายให้เห็นถึงปัญหาคนจน ไม่ได้ชี้ทางออกอย่างอื่น แค่พูดสวยๆ ว่า การกักตัวอยู่บ้านเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย คนจนยังต้องดิ้นรนต่อไป ณ วันนี้ จะมีจะจน จะมีบ้านเป็นคฤหาสน์หรืออยู่ในสลัม มึงต้องอยู่ค่ะ ฟังดูอาจใจร้าย แต่มันไม่มีทางออกอย่างอื่น ถ้าอยู่บ้านแล้วมันอึดอัด จนต้องออกไปติดโรคและแพร่เชื้อโรคนอกบ้าน อันนี้มันเลวร้ายมากกว่าค่ะ
...อ้อ แล้วไม่ต้องถามหาความช่วยเหลือจากรัฐบาลเหี้ยๆ นะคะ พวกมึงต้องช่วยตัวเองค่ะ เลิกฝันซะที

กูอยากอยู่บ้าน แต่ บ. กูให้มาทำงานทุกวัน รบ.ไม่สั่งให้มันเด็ดขาดเอง ช่วยไม่ได้

>>112 โควิดติดแล้วยังสุ่มว่าอาจจะตายหรือไม่ตายก็ได้ แถมอยู่ได้ตั้งครึ่งเดือน แต่การอยู่ในบ้านที่ไม่มีอาหาร วันเดียวก็จะตายแล้ว
คนไม่มีบ้านเค้ายังบอกว่าติดโควิดยังดีกว่า เพราะอย่างน้อยก็มีที่ให้นอน มีอาหารให้กิน
คนจนเค้าจะฝันหรือเลิกฝัน แต่ความจริงก็วิ่งชนเค้าทุกวัน
คนมีอันจะกิน จะฝันหรือเลิกฝันก็มีกินอยู่ดี
เพราะโควิดมันติดต่อกันได้ คนมีอันจะกินถึงมองว่าเลวร้าย
ความจนความอดอยากเลวร้ายยิ่งกว่า แต่ไม่ติดต่อ คนมีกินก็มองว่ามันเลวร้ายน้อยกว่าโรคติดต่อ... ค่ะ

>>114
มึงเห็นแก่ตัวจังวะ
มันอาจสุ่มไม่ไปลงที่มึงแต่มันไปโดนคนอื่นนี่สิ

สรุปมึงก็คือฆาตกรฆ่าคนที่แพร่เชื้อไวรัส

>>115 มึงให้คนไม่มีอันจะเเดกอยู่บ้าน มึงเห็นเเก่ใครกันเเน่วะ

ในขณะที่ตลาดบนกลัวติดโรค ตลาดล่างก็กลัวอดตายนะฮะ..เอาไงดี?

>>116
ไม่มีอันจะแดกเป็นไปไม่ได้
สังคมไทยมันสังคมครอบครัวญาติพี่น้อง
ไม่ใช่ฝรั่งตัวใครตัวมัน

>>118 มึงจะให้คนเอาเชื้อไปแพร่ให้ญาติเหรอครับ ไอ้ชังชาติ

>>118 จะมาแถงี้จริงดิ

>>119
มันแพร่ยังไงวะ ?
มึงก็กักตัวอยู่ในบ้านในครอบครัวมึง
กูงง

>>118 มึงควรตื่นก่อนนะ

กูรู้น่าร่านประชาธิปไตย มึงต้องการให้คนออกมาเยอะๆโดยอ้างว่าคนไม่มีจะแดก
เพื่อให้ยอดคนคนตายเพราะโควิทเยอะๆ
จะได้โทษรัฐบาล

ส่วนไอ้แม้ว ไอ้ทอนมันก็กักตัวอยู่บ้านแต่พวกมึงจะตายน่ะร่าน

เลิกร่านเลิกเลวได้แล้ว

>>117 แต่ทุกวันนี้คนแพร่โรคคือตลาดบนนะ ไอ้ปาร์ตี้เล่นไอซ์นั่นอ่ะ ผีน้อย แดกเหล้าริมหาดที่ด่ากัน ยังไม่ติดโควิดสักราย

>>124 ที่น่าสนใจคือภูเก็ตมีแนวโน้มจะอ่วมกว่า กทม. ละ

>>123 ไม่ว่ามึงจะต้องการหรือไม่ต้องการ คนออกมา แสดงว่ากำลังจะไม่มีแดก เลยยอมเสี่ยงตาย

>>126 มันทำเพื่อ 300 เลยเขียนอะไรมั่วไปหมด

>>127 เขียนได้แค่นี้ร้อยเดียวก็พอ

>>124 กระเป๋าตลาดบนแต่รสนิยมตลาดล่าง

>>126
เชิญพวกมึงตายตามกันเถอะร่านประชาธิปไตย เก่งนักล่ะเรื่องป่วนเรื่องขวางโลกหากินกับความทุกข์คนอื่นของอื่นเนี่ย

>>129 พวกเล่นยาแต่เดิมก็ตลาดบนมาก่อนละนิ คนโบราณที่สูบฝื่นก็คนรวย ยุคผงขาวระบาดก็ปาร์ตี้ของคนรวย (ส่วนคนจนดูดเนื้อ) ยาบ้าคนรวยก็ไม่ดูดแต่ไปดูดไอซ์แทน

เล่นยามันไม่เกี่ยงรวยจนนะมึงติดก็คือติด

>>131 สูบฝิ่น = รวย

แรงงานเจ๊กในศตวรรดิที่18งง กูรวยรึนี่

"เครื่องบินดับไฟป่าโดยเฉพาะที่เรียกว่า airtanker หลายขนาด บรรทุกน้ำได้ครั้งละ 15,000 ลิตร

เฮลิคอปเตอร์ชนิดต่าง ๆ บรรทุกน้ำได้ตั้งแต่เที่ยวละ 900- 7,000 ลิตร

ช่วงที่ไฟป่าโหมหนัก เครื่องบินเหล่านี้บินกันวันละนับร้อยเที่ยว

ขณะที่รัฐบาลออสเตรเลียระดมเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ที่ถูกฝึกมาโดยเฉพาะ 3,700 คน ทหารจากกองทัพบก กองทัพอากาศประมาณ 3,000 คน เข้าดับไฟป่าราวกับทำสงคราม

หากจะจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ยามนี้ บางทีรถถัง เรือดำน้ำ รถหุ้มเกราะอาจจะไม่จำเป็นเท่ากับเครื่องบินดับไฟป่า airtanker

ในปีต่อ ๆไปไฟป่าดูท่าจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ถึงเวลาแล้วที่ยุทธวิธีและอุปกรณ์การดับไฟป่าอาจจะต้องเปลี่ยนไป

หากคิดจะปกป้องลมหายใจของผู้คนทางภาคเหนืออย่างจริงจัง"

>>134 ทหารออสเตรเลียช่วยปชชเยอะจังครับ เคยทวงบุญคุณแล้วรปหแดกภาษีบ้างไม๊ครับเนี่ย

เห็นข่าววันนี้ที่ UK วันนี้วันเดียว คนตายไป 900 กว่าคน จากผู้ติดเชื้อ 6หมื่นกว่าคน
ผมขอบอกเลย ที่เป็นแบบนี้เพราะ Stereophonics
ผมเคยชอบ Stereophonics แต่ตอนนี้ วงดนตรีวงนี้ จะเป็นเดียวในโลกที่ผมขอแบนมัน ไม่ว่าอดีตเคยชอบแค่ไหน และ ต่อไปนี้จะไม่ฟังเพลงของไอ้วงเหี้ยนี่อีก เพราะวงนี้ละเลยต่อชีวิตผู้คน เห็นแก่เม็ดเงินในการทัวร์
และมีจัดทัวร์ทั่วใน UK ไปหลายรอบ รอบนึงคนไปดูเป็นหมื่น ทำให้เกิด super spreader ไปทั่ว คือ ความรับผิดชอบวงนี้ต่ำมาก จัดคอนเสิร์ตได้ยังไง สันดานจริงๆ
ผิดกับอดีต Oasis ทั้งเลียม และ โนล
ที่งดคอนเสิร์ต รณรงค์ให้คนล้างมือ และ ป๋าโนลบอกพวกมึง เมากันที่บ้านดีกว่า กูเนี่ยตุนเบียร์เป็นลังๆ
และผิดกับ Foo Fighter ที่ป๋าเดฟออกมาบอกว่า ตอนนั้นที่กูตกเวทีขาหัก พอกูเข้าเฝือกเสร็จ กูยังต้องรีบกลับมาขึ้นเวทีเพื่อพวกมึงที่ตีตั๋วมาดู แต่คราวนี้กูห่วงชีวิตพวกมึงนะเฟ้ย ดังนั้นเราจะรอจนถึงวันนั้น วันที่เราจะมาเจอกัน

SJW wanna be ระดับต่ำ สำหรับพวกมัน ผู้หญิงนมใหญ่คือ sex symbol ไม่ควรให้เด็กเห็น ปิดตาลูกปิดตา นมใหญ่มันเป็นบาปห้ามเก็บเอาไปช่วยตัวเองนะ เกี่ยวก้อยสัญญา

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>137 คิดๆดูแม่งโคตรตลกเลยนะ พวกขวาสุดแม่งก็ให้เซนเซอร์วับๆแวมๆ SJW ที่เป็นซ้ายสุดแม่งก็ให้เซนเซอร์พวกวับๆแวมๆ กุว่าถ้าให้ไอ้พวกนี้ไปนั่งแทนพวกลุงๆป้าๆที่กองเซนเซอร์สมัยก่อนผลลัพท์แม่งก็คงไม่ได้ต่างกันเลย

เขาเรียกพวกนี้ว่า puritanจะแยกออกมาจากขั้วการเมืองอีกที

>>138 มันถึงมีทฤษฏีเกือกม้าไง ที่บอกว่าสุดท้ายแล้วพวกสุดโต่งจากทั้งสองฝ่ายเหมือนกันมากกว่าที่ต่างกัน

นิสัยของพวกสุดโต่งคือไม่ฟังคนอื่น ไม่ยอมรับความแตกต่าง ดังนั้นก็คืออำนาจนิยมนี่ละ ทีนี้มันต่างกันตรงไหนอะระหว่างซ้ายกับขวา อย่าง >>137 >>138 ถ้าขวาก็จะบอกว่าขัดต่อศีลธรรมอันดี ถ้าซ้ายก็จะบอกมีนัยยะเหยียดเพศ แต่ผลลัพธ์คือแบน-เบลอเหมือนกัน

#ชอบก็แชร์นะครับ
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากไม่กี่วันที่ผ่านมา(แปลเค้ามาอีกทีครับ)
1. จีนชนะสงครามโลก(โรค) ครั้งที่ 3 โดยไม่ต้องปล่อยขีปนาวุธใดๆเลย
2. คนยุโรปไม่ได้มีการศึกษาเหมือนที่คนคิด
3. คนรวยมีภูมิต้านทานต่ำกว่าคนจน
4. ไม่มีพระ นักเทศน์ ผู้นำศาสนา หรือโหรคนไหนช่วยชีวิตคนป่วยได้
5. ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข (เช่น แพทย์ พยาบาล) มีค่ามากกว่านักฟุตบอลในตำนาน
6. น้ำมันไม่มีค่าอะไรเมื่อไม่มีคนใช้
7. สัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์คงรู้สึกเหมือนเราตอนถูกกักตัวไว้ที่บ้าน
8.โลกฟื้นตัวได้เร็วถ้าไม่มีมนุษย์มาขัดขวาง
9. คนส่วนใหญ่สามารถทำงานที่บ้านได้อย่างสบาย
10. ทุกคนสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องทานอาหารขยะ
11. การมีชีวิตที่ถูกสุขอนามัยไม่ได้ยากเลย
12. ผู้ชายก็ทำกับข้าวเป็นนะ
13. สื่อทั้งหลายมีแต่เรื่องเหลวไหลเต็มไปหมด
14. นักแสดงเป็นผู้ให้ความบันเทิง ไม่ใช่ฮีโร่ตัวจริง
15. ชีวิตนั้นเปราะบางมาก ขอให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง

>>142 ก็มันเป็นโรคจะโยงอาวุธสงครามเพื่อ

>>142 4เติมเทวดาเข้าไปด้วย
5​ 14​ ใครไปมองมันแบบนั้นวะ​ นักบอลกับนักแสดงไม่ใช่เทวดาหรือเจ้าลัทธินาเหวย

12 นี่กูชัดๆ ปกติไม่เคยมีใครมาขอแดกอีกตะหาก พอกูเจียวไข่เปิดหน้าตานี่แทบจะมาล้อมวงช่วงนี้

ซื้อหุ้นคือซื้อความเป็นเจ้าของ นั่นหมายความว่าคุณกำลังมีสวนกับหนี้อีก 2 แสนล้านบาท ถ้าเล่นเก็งกำไรยังพอได้ ถ้าลงทุนผมไม่แนะนำอะ D/E = 21 เท่า มันสูงเกินไปมากจริงๆ เพิ่มทุนไม่น่ามีคนซื้อหุ้นเพื่อเพิ่มทุนยกเว้นรัฐ ถ้ารัฐปล่อยกู้ก็เตรียมเป็นหนี้เน่าได้เลย คราวนี้จะรอดูว่าจะตอบคำถามประชาชนว่ายังไงในภาวะวิกฤต Covid ที่คนอีกเป็นล้านต้องการความช่วยเหลือ และ สภาวะทางการคลังที่กำลังง่อนแง่นที่ถึงกับต้องกู้เพื่อมาช่วยอุดหนุนเศรษฐกิจตอนนี้

>>142 ปญอ ตั้งแต่ข้อแรกแล้ว

เวลาเห็นคนแก้ต่างให้ธนาคาร ที่มาตรการช่วยเหลือให้พักชำระหนี้ แต่ไม่พักดอกเบี้ย คือคิดดอกเบี้ยหมดแม้จะหยุดชำระหนี้ ว่า ธนาคารก็ต้องมีรายจ่าย ต้องจ่ายเงินเดือนพนักงาน ฯลฯ แล้วก็คิดหัวเราะว่าคนไทยแก้ต่างให้นายทุนเก่งจริงๆ

ทีประชาชนคนธรรมดา คนทำธุรกิจ พร่ำพูดแต่ว่า ต้องมีเงินเก็บนะ ต้องมีทุนสำรองนะ ใช้ได้หกเดือนหนึ่งปี ในเวลาวิกฤตฉุกเฉิน สายป่านต้องยาวพอ ใครเจ๊งใครอดตายก็บอกว่าไม่เตรียมพร้อมพอ เรื่องเพื่อนร่วมชะตากรรมนี่เหยียดกันเก่งนัก พูดยังกับว่าคนธรรมดาคนทำธุรกิจไม่มีรายจ่าย

แล้วธนาคารกำไรต่อเนื่องมา ที่ละหมื่นล้าน กำไรรวมปีละแสนล้าน รัฐบาลกับธปท. ยังอุ้มแล้วอุ้มอีก ให้ทั้งดอกเบี้ยถูก (0.1%!!!) ทั้งจะเอาเงินไปอุ้มตราสารหนี้ แถมยังลดเงินที่ส่งเข้ากองทุนใช้หนี้ ปรส. ที่รัฐเคยเอาภาษีไปอุ้มธนาคารเป็นแสนๆ ล้านอีก ไม่ยักมีใครตั้งคำถามว่าทำไมธนาคารไม่ใช้เงินทุนสำรองเงินเก็บตัวเองบ้าง เวลานายแบงค์เขาฉลองด้วยไวน์ขวดเป็นหมื่น นั่งเฟิร์สต์คลาสไปประชุม เขาเห็นหัวคนธรรมดากันที่ไหน คำหนึ่งก็วินัยการเงิน คำสองก็ประชาชนไม่มีการเก็บออม ทั้งนั้น พอถึงเวลาแบบนี้ไหนล่ะวินัยการเงินการคลังและตลาดเงินเสรี วิ่งหาการหนุนจากภาครัฐ จากเงินภาษีทุกราย

จะงดดอกเบี้ยให้คนทั่วไปหกเดือนแบบออมสินกรุงไทย หรือจะรอให้เป็น NPL ดีดขึ้นจนต้องเอาเงินไปตั้งกันสำรองหนี้ในหกเดือนข้างหน้า ก็เลือกเอา

I believe the tree want to beg for mercy as you murder them but they forgot how

Just like me

ถ้าพ่อยังอยู่ ..พ่อจะมีแมสให้ประชาชนทุกคน จะไม่ทำให้แมสขาดตลาด...
ถ้าพ่อยังอยู่ ...พ่อจะควบคุมราคาเจลล้างมือ
ไม่ให้แพงเกินไป
ถ้าพ่อยังอยู่... พ่อออกนโยบายมา ป้องกันโรคโควิดอย่างเด็ดขาดและ #พ่อจะคอยปลอบขวัญให้กำลังใจประชาชนของพ่อได้
ถ้าพ่อยังอยู่พ่อจะไม่ทิ้งประชาชนปล่อยให้เว็บไซส์ล่มแบบนี่

คิดถึงพ่อค่ะ .. พ่อแม้ว 🙏💛 😭

คิดว่าแคมเปญ จน เครียด กินเหล้า สร้างผลต่อการรับรู้ความเป็นคนจนฝังลึกลงในจิตใจของกลุ่มขนมหวานได้ดีพอๆ กับแคมเปญการเมือง
ทุกวันนี้คนยังจำกันติดปากอยู่เลย
มันสร้างภาพว่า คนจนที่เครียดจึงกินเหล้า จึงจนต่อ น่าคิดว่าก่อนที่จะเป็นลำดับคำนี้ (จน เครียด กินเหล้า) คนคิดแคมเปญเคยคิดไหมว่าถ้าเปลี่ยนลำดับเป็น "เครียด กินเหล้า จน" จะสร้างภาพจำที่ต่างออกไปอย่างไร เช่น เพราะเครียด กินเหล้า จึงจน โดยไม่ต้องเน้น "จน" ตั้งแต่คำแรก
ตอนนี้ "จน" ทำหน้าที่เหมือนเป็นประธานของประโยค ผมเข้าใจว่าถึงเปลี่ยนลำดับ สารก็ไม่ถูกต้องนักอยู่ดี ก็ยังเบลมคนจนอยู่มาก แต่อย่างน้อย "จน" ก็ไม่ต้องเป็นประธานทำให้คนจดจำว่าคนจน นั้นเครียดจึงกินเหล้า
ส่วนโฆษณาตัวนั้น ที่บอกว่าถ้าเครียดแล้วไม่กินเหล้า "แต่ตั้งใจใช้เวลาทำมาหากินก็จะถีบตัวเองขึ้นมาเป็นชนชั้นกลางได้" นี่ก็ดาเมจรุนแรงเหมือนกัน ทำให้มองคนไม่เป็นคนมาจนถึงทุกวันนี้เลย
มันทำให้คนชั้นกลางมองคนจนว่าที่พวกเธอไม่สามารถเอาตัวรอดได้เพราะพวกเธอไม่ขยัน หรือพวกเธอโง่ ทั้งที่จริงคนจนที่ขยันและฉลาดกว่าพนักงานออฟฟิศชั้นกลางก็มีมากมาย
อย่างพอมีคนอัพสเตตัสว่าเอาเงิน 5,000 บาทไปเป็นค่าเหล้า คนก็เดือดกันทั้งเมือง
เวลาเห็นคนจน เราไม่มองว่าระบบผิดอย่างไรที่ผลักเขาไปอยู่จุดนั้น แต่เรามองว่าเขาผิดอย่างไร จึงไม่สามารถถีบตัวเองขึ้นมาจากจุดนั้นได้
พอไม่มองที่ระบบ ไปมองที่ตัวบุคคล ปัญหาที่ควรได้รับการแก้ก็ไม่เคยถูกมองเห็น กลายเป็นสังคมแบบ ตัวกูรอดก็พอ ถ้ามึงไม่รอด แปลว่ามึงไม่ดี
ชีวิตของคุณหมอทวีศิลป์ โฆษก ศบค. ก็ตอบรับเส้นเรื่องนี้เช่นกัน สื่อพาดหัวว่า "เส้นทางชีวิตเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ" เขาเล่าว่าต้องช่วยพ่อแม่ขายของทุกวันแต่เด็ก เก็บผักเก็บของมาทำข้าวกิน พ่อแม่อยากให้เป็นหมอ "เพราะจะได้มีชีวิตดีๆ" ผลักตัวเองขึ้นมาด้วยความพยายามจนมาถึงทุกวันนี้ได้
นี่คือเรื่องที่คุณหมอทวีศิลป์บอกตัวเองและบอกกับสื่อ
นี่เป็นเส้นเรื่องที่ชนชั้นกลางชอบมาก เพราะมันบอกว่า คนที่ไม่ประสบความสำเร็จคือไม่พยายาม ถ้าพยายามมากพอจะประสบความสำเร็จ
ทั้งที่อาจไม่เป็นอย่างนั้น มีคนมากมายที่ไม่เป็นอย่างนั้น
ทั้งหมดนี้ ผมจึงคิดว่าสสส. และคุณหมอนี่ร้ายจริง
ที่ร้ายเพราะทุกอย่างตั้งต้นที่ "ความหวังดี" นี่แหละ

>>151 มึงผิดเองที่จน ถ้าไม่อยากผิดก็ทำตัวให้รวยซะ ง่ายๆ แค่นี้ คิดไรมาก

China is a part of Taiwan
# มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

>>151 มันคืออันเดียวกับ American Dream นั่นละ ซึ่งระยะหลังๆ อเมริกันเองก็มีตั้งคำถามเหมือนกันว่าค่านิยมนี้มันถูกจริงหรือเปล่า ที่บอกว่าขยันให้มากแล้วจะได้ดี ทั้งที่มองไปแล้วความเหลื่อมล้ำมันมากเหลือเกิน แต่เหลื่อมล้ำแบบอเมริกันยังดีหน่อย คนไม่ค่อยอวยพวกคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด พวกนี้ยังต้องพิสูจน์ตัวเอง ส่วนเหลื่อมล้ำแบบไทยๆ แม่งดันยอมรับได้สบายๆ ว่าพวกคาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดคือคนทำบุญชาติก่อนมาดี อย่างน้อยคนอเมริกันมันก็ยังคิดท้าทายโครงสร้างสังคมนะ แพ้ชนะก็ถกเถียงต่อสู้กันไป แต่ของไทยพอเชื่อไปแล้วเรื่องกรรมเก่าก็เลยกลายเป็นสยบยอม ทำบุญกันไว้นะลูกชาติหน้าจะได้มั่งมีอย่างเขา..เอวัง!!!

คนรวยอเมริกาที่เคยจนมาก่อน มักจะโม้อย่างภาคภูมิใจเลยว่าเคยจนมายังไง เพราะถือว่าตัวเองสำเร็จAmerican Dreamแล้ว แต่คนเทยรวยๆที่เคยจนมาก่อนมักจะพยายามแอบๆปิดๆว่าเคยจน

>>151 โทษระบบนี่ เหมือนที่บอกว่านิกก้าไม่ผิดที่ไปปล้นฆ่าชาวบ้าน บอกว่าเป็นความผิดของระบบป่ะครับ
ระบบนี่มันร้ายจริงๆ เอาปืนไปใส่มือนิกก้าแล้วชี้ให้ยิงกันเฉยเลย

ไต้หวันจะเป็นประเทศหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ 2 อย่าง
1.อุดมการณ์ทางการเมืองของคุณ
2.ตำแหน่งหน้าที่การงานของคุณ

โดยส่วนตัวแล้ว ผมเห็นรูปที่มีทุกบ้านของจีนโพ้นทะเลในไทยยุค baby boomer หลายคน ติดรูป ดร.ซุนยัดเซนครับ

"ไอ้พวกประเทศด้อยพัฒนา ขอให้ประยุทธเป็นนายกและถูกปกครองด้วยทหารตลอดไป"

>>155 มันก็โทษได้ส่วนนึงละ Inequality ถึงเป็นวาระโลกไง UN ก็จี้เรื่อยๆ ว่าต้องลดให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะยิ่งสูงยิ่งเพิ่มปัญหาสังคมมากมายโดยเฉพาะอาชญากรรม

ส่วนของไทยออกแนวรวยเงียบมากกว่า เพราะกลัวสรรพากรเก็บภาษี ลึกๆ คนไทยไม่อยากจ่ายภาษีนะเพราะไม่เชื่อมั่นในระบบราชการ

>>156 แต่พอรุ่นลูกดันปลื้มจีนแดง ชอบความเผด็จการของฮ่องเต้สีซะงั้น

ลองนึกรายชื่อคนในวงการบันเทิง (และอื่นๆ) ที่ถูกคนจีนแบน ที่นึกออกตอนนี้คือ..

ไบรท์ ถูกคนจีนแบน เพราะแชร์ภาพประเทศฮ่องกง

หลิวอี้เฟย ถูกคนจีนแบน เพราะพูดว่า ภูมิใจที่เป็นคนเอเซีย (ไม่ได้พูดว่าภูมิใจที่เป็นคนจีน)

แบรด พิตต์ ถูกคนจีนแบน เพราะบอกว่า ไม่เห็นด้วยที่จีนไปรุกรานทิเบต

แฮริสัน ฟอร์ด ก็ถูกคนจีนแบน เพราะบอกว่า ไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่จีนรุกรานทิเบตเช่นกัน

Björk ถูกคนจีนแบน เพราะแต่งเพลงอุทิศให้กับชาวทิเบต ที่ต่อสู้จากการรุกรานของจีน

วง Maroon5 ถูกคนจีนแบน เพราะหนึ่งในสมาชิกไปร่วมงานวันเกิดองค์ทะไลลามะ ที่ลอสแอนเจลิส

วง Oasis ถูกคนจีนแบน เพราะนักร้องนำไปร่วมคอนเสิร์ต ปลดปล่อยทิเบตเป็นอิสระ

Bon Jovi ถูกคนจีนแบน เพราะนำรูปทะไลลามะ มาใส่ในฉากคอนเสิร์ตที่ไต้หวัน

มาร์ติน สกอร์เซซี่ ถูกคนจีนแบน เพราะไปกำกับหนังเกี่ยวกับชีวิตทะไลลามะ เรื่อง Kundun

เวอร์ซาเช่ ถูกคนจีนแบน เพราะทำเสื้อลายชื่อประเทศต่างๆ แล้วมีคำว่า ประเทศฮ่องกง

งานประชุมด้านไอทีโป๋เอ๋า ถูกคนจีนแบน เพราะมีดาราในงาน แต่งตัวเหมือนเหมาเจ๋อตุง

ไมย์ลีย์ ไซรัส ถูกคนจีนแบน เพราะแกล้งทำตาตี่เล่นๆในงานปาร์ตี้

Dolce & Gabbana ถูกคนจีนแบน เพราะทำโฆษณา นางแบบจีนกินอาหารฝรั่งด้วยตะเกียบ

วง Guns N’ Roses ถูกคนจีนแบน เพราะตั้งชื่ออัลบั้มใหม่ว่า "จีนเป็นประชาธิปไตย"

เคที เพอร์รี ถูกคนจีนแบน เพราะใส่ชุดลายดอกทานตะวันที่คอนเสิร์ตในไต้หวัน ซึ่งคนจีนบอกว่า มันเป็นสัญลักษณ์ของผู้ต่อต้านรัฐบาลจีน

Zedd ดีเจชื่อดัง ถูกคนจีนแบน เพราะไปกดไลค์การ์ตูน South Park ตอนที่มีฉากตัวละครพูดว่า Fuck the Chinese government!

เทย์เลอร์ สวิฟต์ ถูกคนจีนแบนสินค้า เพราะเธอเกิดปี 1989 ตรงกับปีเหตุนองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน และชื่อย่อของเธอคือ TS ตรงกัยคำว่าTiananmen Square

และอื่นๆอีกมากมาย

>>155 กูว่าคนรวยไทยหลายคนก็ชอบโม้ว่าสร้างคัวมายังไงนะ

>>160 ผิดด้วยเหรอจ๊ะ

>>161 ก็ไม่นิ กูแค่แย้งที่บอกชอบปิดว่าเคยจน

//..ตราบใดที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังคงใช้เงินดอลลาร์-อยู่(ถ้าไม่ใช้ดอลลาร์ แล้วจะให้ใช้ เงินบาท-ซื้อของ..รึไง),ตราบใดที่ สหรัฐ..ยังเป็นผู้ซื้อ/อุปสงค์-รายใหญ่ อยู่,ตราบใดที่ สหรัฐ ยังบริโภคน้ำมัน-มากกว่าใคร อยู่,ตราบใดที่ เหมืองทอง-สหรัฐ ยังขุดได้อยู,ตราบใดที่ สหรัฐ..ยังเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์/เจ้าแห่ง-เทคโนโลยี,ตราบใดที่...ธนาคารกลาง-ทั่วโลก ยังคงสำงรองดอลลาร์+พันธบัตร-สหรัฐ อยู่,ตราบใดที่ ดอกเบี้ยสหรัฐ-ยังไม่ติดลบ และ/หรือ..ยังพอจ่ายดอกเบี้ย/ปันผล-ได้อยู่(ไท่ผิดนัด-ชำระหนี้),ตราบใดที่ ดอลลาร์ และพันธบัตร-สหรัฐ ยังไม่ถูก ลดเกรด-เป็นจั๊งค์บอนด์,ตราบใดที่ ตลาดหุ้น-สหรัฐ ยังคงซื้อขายอยู่(ก็ต้องซื้อ-ขาย..เป็นดอลลาร์ อยู่ดี),ตราบใดที่ การค้า-ทั่วโลก ยังคงซื้อขายกันด้วย สกุลเงินดอลลาร์,ตราบใดที่ ผู้คนทั่วโลก ยังคงเชื่อถือดอลลาร์-อยู่....ตราบนั้น ดอลลาร์ ก็ไม่เฟ้อ-อ่อนค่าง่ายๆ...ดั่งใครมโน !?
..
..อ่านดูซิ...ว่คุณต้องตาย กี่ร้อย-พันชาติ..กว่าดอลลาร์ จะกลายเป็นแบงก์-กงเต๊ก 5555

>>161 มีคนร้อนตัว เขาไม่ได้สนจะด่ามึงเลยไอ้ห่า

ไลฟ์โค้ช..ผมไม่สามารถเป็นได้แน่ๆ
ข้อแรก ผมไม่คิดว่าผมดีและเก่งพอไปแนะนำใครให้ใช้ชีวิตแบบผม
ข้อสอง ผมทำได้แค่เล่าประสบการณ์ว่าผ่านอะไรมา และคิดอะไร ทำไมถึงทำแบบนั้น
ข้อสาม ผมเชื่อว่าชีวิตใครคนๆนั้นต้องออกแบบและทำมันด้วยตัวเอง ข้อจำกัดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ข้อสี่ ผมคิดว่าคำแนะนำแบบผม วิธีคิดแบบผม แนะนำให้เพื่อนฟัง ไม่ใช่ขายให้ลูกค้า
ข้อสุดท้าย ผมไม่รังเกียจอาชีพไลฟ์โค้ชนะครับ..แต่อย่าขายคอร์สแพงเกินไป
ไม่อย่างงั้น คุณจะทำให้ลูกค้าคุณเดือดร้อนเสียเอง มากกว่าช่วยเค้า

ดราม่า #ผู้กองเบนซ์
.
.
- ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่หลายคนต้องอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ โลกสงบลงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ความร้อนแรงกลับปะทุเดือดบนโลกออนไลน์ที่สั่นสะเทือนวงการ ‘ไลฟ์โค้ช’ เมื่อ #ผู้กองเบนซ์ แซงขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์เป็นที่เรียบร้อย
- ต้นตอกระแสครั้งนี้มาจากคลิป ‘วิธีคิดให้โควิดเป็นโอกาส’ ของ ‘ผู้กองเบนซ์’ หรือ ร.ต.อ.สี่ทิศ อ่ำถนอม ไลฟ์โค้ชผู้กรำศึกกระแสดราม่าไม่ขาด ที่ออกมาสอนวิธีเปลี่ยนวิกฤตเชื้อมรณะให้เป็นโอกาส ทำเอาชาวเน็ตปรี๊ดแตกออกมาแหกอย่างเผ็ดร้อนผ่านโซเชียล
.
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3thailandnews.com/news/182525
.
- “ยึดติด คิดลบ ขี้เกียจ ฟุ้งซ่าน กลัว มึงก็เสพเข้าไป ไอ้คอนเทนต์สนับสนุนความกระจอกในตัวมึง” 1 ในวลีเด็ดที่จุดกระแสดราม่าให้ลุกโชนเปลี่ยนโลกออนไลน์เป็นเวทีวาทกรรม
- สังคมไซเบอร์ต่างวิพากษ์วิจารณ์เนื้อหาของคลิปในทำนองเหยียดผู้อื่นให้ดูต่ำลงในสภาวะอ่อนไหวเช่นนี้ รวมถึงมองว่า เนื้อหาของเพจมีการเอาข้อมูลต่างๆ มาเชื่อมโยงกันอย่างไร้แก่นสาร อาศัยการพูดจาฉะฉานเหยียดคนอื่นโดยใช้คำพูดเท่ๆ แล้วปิดท้ายด้วยการขายคอร์ส
- นอกจากนี้ ชาวเน็ตยังตั้งสมญานาม ‘เทพเจ้าแห่งการบล็อก’ เนื่องจากมีการลบคอมเมนต์เชิงลบ ด่าทอ รวมถึงไล่บล็อกเพจ หรือใครก็ตามที่มีความเห็นต่าง
- ผู้กองเบนซ์ เคยโด่งดังจากคลิป ‘พระพุทธเจ้าทิ้งลูกเมีย’ ที่เจ้าตัวเรียกคนที่เชื่อว่า พระพุทธเจ้าทิ้งลูกเมียว่า “เดรัจฉาน” แต่เรียกคนที่ปฎิเสธเรื่องนี้ว่า มนุษย์หรือผู้มีจิตใจสูง จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
- นอกจากนี้ เจ้าตัวยังทิ้งท้ายว่า “แม้ว่าตัวเองจะพูดหยาบ แต่ไม่เคยพูดต่ำ ถ้าตัวเองใจหยาบ จะพูดไม่ได้ขนาดนี้”
- ขณะที่ชาวเน็ตยกประโยคตอนหนึ่งของ เจ.เค. โรว์ลิง นักเขียนนิยายชื่อดังเจ้าของผลงานภาพยนต์อมตะอย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ออกมาวิจารณ์ถึงไลฟ์โค้ชว่า “ไลฟ์โค้ชต้องหยุดการตราหน้าคนที่ไม่หารายได้ หรือไม่ยอมเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ว่าเป็นพวกขี้เกียจได้แล้ว มนุษย์แต่ละคนมีปัญหา และมีอุปสรรคที่แตกต่างกัน บางคนแค่เอาชีวิตรอดในแต่ละวันก็สาหัสมากพอแล้ว”
- ข้อความดังกล่าว ถูกนำมาเปรียบเทียบกับวลีเด็ดของผู้กองเบนซ์ในคลิปตอน ‘ต้นทุนคนเรามันไม่เท่ากัน’ ว่า “คำว่าต้นทุนไม่เท่ากันมันเป็นข้ออ้างให้ความกระจอกของมึง” ซึ่งมียอดวิวกว่า 14 ล้านครั้ง คนกดไลค์ 4.9 แสน แชร์ 4.6 แสนครั้ง
- สำหรับ #ผู้กองเบนซ์ ผู้ที่ตกเป็นประเด็นร้อนในโลกทวิตเตอร์อยู่ ณ ขณะนี้ เขาคือ ร.ต.อ.สี่ทิศ อ่ำถนอม ในอดีตเคยเป็นตำรวจ แต่ปัจจุบันลาออกจากราชการแล้ว
- ผู้กองเบนซ์จบมาจากโรงเรียนนายสิบตำรวจ รุ่นที่ 77 จากตำรวจชั้นประทวนพยายามสอบเลื่อนขั้นสู่ชั้นสัญญาบัตร จนกระทั่งสามารถเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 64 ได้ในที่สุด
- นายตำรวจหนุ่ม รับราชการอยู่สักระยะหนึ่ง ก็ได้พบโอกาสในการสร้างรายได้ด้วยสติ๊กเกอร์ไลน์ สุดท้ายจึงตัดสินใจลาออกจากราชการ เพื่อมาทำธุรกิจเต็มตัว และลองเปิดคอร์สสอนทำสติ๊กเกอร์ไลน์ จนค้นพบความสามารถในการพูดสร้างแรงบันดาลใจ จึงเปิดเพจ ผู้กองเบนซ์ – Capt.Benz ปัจจุบันมีผู้ติดตามกว่า 2.6 ล้านคน
- นายแพทย์อภิชาติ จริยาวิลาศ โฆษกกรมสุขภาพจิต เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ว่า "จิตแพทย์ต้องเรียนแพทย์ 6 ปี เพื่อต่อจิตเวชอีก 3 ปี หรือ 4 ปีในจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น นับเฉลี่ยแล้ว 10 ปี ส่วนนักจิตวิทยาที่ให้คำปรึกษาต้องเรียนอย่างน้อย 4 ปี แต่ในกรณีของไลฟ์โค้ชบางคนอบรมแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ตั้งตัวเป็นไลฟ์โค้ช ดังนั้น หากท่านใดมีความเครียดต้องการคำปรึกษาโทร 1323 สายด่วนกรมสุขภาพจิต"
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3thailandnews.com/news/182525

No นิกก้า allowed

https://www.forbes.com/sites/alexandrasternlicht/2020/04/13/black-people-are-not-allowed-reports-of-discrimination-after-chinese-city-orders-mandatory-quarantine-for-african-residents/

ขวาไทยเนี่ย ผมถาม ตรงๆ คือพี่เป็นฝ่ายขวาประเภทไหน ไม่รู้สึกเจ็บปวดบ้างเหรอ เวลาทำตัวเป็นลูกกระจ๊อกประเทศอื่น

เอาจริงๆ พี่เป็นฝ่ายขวา พี่จะมาแพร่ความคิดแบบนี้ให้คนในชาติไม่ได้!

เราเรียนจากเขา เอามาใช้ ให้ชาติพัฒนา ไม่ใช่เป็นลูกกระจ๊อกเชียร์ลูกพี่ ตบปากคนด่าลูกพี่ - นั่นมันจิ๊กโก๋ท้ายซอย

ผมถามจริงๆ ไม่เคยฝันกันบ้างเหรอ ว่าประเทศไทยจะอยู่คลาสเดียวกับ สหรัฐฯ ยุโรปฯ จีนฯ

ไม่เคยคิดว่าคนไทยจริงๆ โดยเนื้อแท้แล้วจะเก่งสู้คนชาติอื่นได้บ้างเหรอ

พรอบพากันด้าไทยนี่ล้มเหลวมาก รักชาติยังไง รักแบบเป็นลูกกระจ๊อก

พรอบพากันด้าเนี่ย เขาเอาไว้ทำให้คนในชาติมีความหวัง มีพลัง มีเป้าหมาย นำพาชาติพัฒนา เจริญก้าวหน้า - นี่อะไร สอนให้คนเป็นลูกกระจ๊อก

ขนาดสมัยจอมพล ป. โดนญี่ปุ่นยึด ยังพรอบพากันด้าว่า เราจะร่วมวงไพบูลย์ ร่วมมือกับมหามิตร นำชาติก้าวหน้า ชาวเอเชียจะยิ่งใหญ่กว่าฝรั่ง คนไทยยังเชื่อมั่นว่าเราจะยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทุกวันนี้ ไม่มี แค่เอาตัวเองออกจากอันดับต่ำร้อย ยังขี้เกียจคิด

เคยคิดมั้ยว่า เราเป็นผู้นำอาเซียน คนไทยจะแข่งกับยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น จีน

สินค้าไทยคุณภาพดี เราจะตีตลาด จีน เวียดนาม กัมพูชา พม่า ลาว เอาให้สินค้าจีนตายไปเลย - เราจะสแปมของราคาถูกกว่ายุโรปอัดใส่ตลาดอเมริกา

เราจะเป็นผู้นำรวมอาเซียนเป็นหนึ่งเดียวต้าน อำนาจตะวันตก อำนาจจีน

คนไทยจะไปช่วยลงทุนใน ประเทศอาเซียน บุกตลาด เอาความเจริญที่เรามีมากกว่าไปช่วยพัฒนาประเทศรอบๆ

เกิดเป็นฝ่ายขวา ทำพร็อบพากันด้าเนี่ย มันต้องพูดแบบนี้

คนที่เขาชัง เขาด่า เพราะเกลียดสถาพที่เป็นอยู่ตอนนี้ คือเขารับไม่ได้ กับการเป็นลูกกระจ๊อก กับความจน ความไร้ประสิทธิภาพ คอรับชั่น

เขาอยากจะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว อยากไปไหนคนอื่นก็ทักว่า คนไทยเหรอ รวยนะเนี่ย สินค้าดีผมใช้อยู่ เพลงเพราะ หนังดี อาหารอร่อย

อยากขอวีซ่าง่ายเพราะเขาเคารพ เรามีอำนาจในเวทีโลก ไม่ใช่แบบไปไหนเขาก็เช็คแล้วเช็คอีก เพราะกลัวเราไปขายตัว

พี่เป็นฝ่ายขวา แม่งไม่เจ็บบ้างเหรอเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ กับเพื่อน กับแฟน กับน้องสาว แล้ว ตม. มันเรียกตรวจนาน เพราะคิดว่าเราเป็นนายหน้าเอาเพื่อนมาขายตัว - แม่งโคตรขายหน้า แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะตอนนี้เราทำตัวเป็นลูกกระจ๊อกแบบนี้ไง

ดูเกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ หลังสงครามโลกมีแต่ซาก ทรัพยากรไม่ได้มากอะไรกว่าไทย บางประเทศพึ่งตั้งรกรากเริ่มสร้างประเทศ บางประเทศไม่มีน้ำกินด้วยซ้ำ บางประเทศถูกปิดล้อมทางการทูตทุกอย่าง ทุกวันนี้ทั้งสินค้า ทั้งวัฒนธรรม ไม่ต้องกลัวใคร พาสปอร์ตมีอำนาจติด Top ของโลก

พอทีเถอะ mind set ลูกกระจ๊อกเนี่ย ทะเยอทะยานบ้าง มีความฝันบ้าง เชื่อมั่นในตัวเองบ้าง

>>168
ฝ่ายซ้ายผมเห็นยังเลียตีน UN อยู่เลยครับ ชักศึกเข้าบ้านด้วย

>>169 ใครกันครับ ศึกที่ว่า

>>169 ช่างฝ่ายซ้ายมันดิ ในเมื่อฝ่ายขวายึดอุดมการณ์ชาตินิยม เป้าหมายคือต้องทำให้ชาติตัวเองยิ่งใหญ่ไม่ใช่หรอวะ

>>168 อันนั้นแนวคิดไอ้แม้วไง จริงๆไอ้แม้วก็ขวานะแต่บังเอิญขวาของไทยแม่งคนบ้า

ขวาไทยหัวใจหมีพู

>>171 กูยังไม่เห็นว่าปัจจุบันจะมุ่งสู่ความยิ่งใหญ่ยังไงเลย ถ้าไม่นับว่าจะกลายเป็นมณฑลหนึ่งของจีนจะได้ยิ่งใหญ่ตอนเปลี่ยนชื่อเป็นปนะเทศจีนอ่ะนะ

>>172
เห็นด้วยไอ้แม้วนี่ขวาเลย
แต่ซ้ายบ้านเราแม่งเอาเป็นไอคอน...

มันน่าคิดนะ ถ้าแม้วได้ครองอำนาจยาวๆ TJ จะลุกขึ้นมาเป็นผู้นำฝ่ายซ้ายไหม

>>176 ยาก ถ้าคนอยู่ดีกินดีไม่มีใครสนใจฝ่ายซ้ายแน่ๆ ขนาดช่วง54-57 นิติราษฎร์พูดจนปากจะแฉะทั้งเรื่อง112ปฏิรูปกองทัพ คนแม่งไม่ฟัง ขนาดได้ออกช่องแดงด้วยนะ ที่กำจัดแม้วนี่กูว่าฝ่ายขวาโคตรขุดหลุมฝังตัวเองเลย แต่จริงๆก็เป็นจุดอ่อนของฝ่ายขวายุคโบราณมาตลอดอะนะ ไอ้พวกมีขุนนางเก่งๆโผล่มาแล้วเกินหน้าเกินตาเลยโดนเก็บเนี่ย สูตรสำเร็จของปวศโบราณเลย

>>176
ไอ้ทอนนี่ก็ขวา ...ดูจากกระทำพยายามบงการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางนี่ขวาชัดๆ

ซ้ายจริงๆมีแค่พรรคประชาธิปัตย์แต่นั่นล่ะห่วย...

คนที่รอ 5000 จากรัฐ มีแต่พวกกระจอก ไม่ยอมปรับตัว

>>178 เดี๋ยว ปชป. เนี่ยนะซ้าย มันขวามาตลอด แต่ห่วยจริงนั่นละ พอเจอแม้วที่รับนโยบายซ้ายอย่าง 30 บาท-กองทุนหมู่บ้าน-OTOP เลยแพ้ตลอดแล้วก็ทำให้ขนมหวานไม่พอใจไง

เรื่องงานทรงไม่เก็ท
เรื่องเย็ดทรงปรีชา

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>180
ปชป.นี่ล่ะซ้ายแล้ว มึงจะเอาซ้ายแบบไหนหาไม่ได้แล้ว
ไม่มีนายทุนครอบงำพรรค สุเทพเองยังโดนตีออกห่าง

>>182 ซ้ายที่เป็นขี้ข้าเลียตีนฝ่ายขวา คงมีซ้ายของมึงคนเดียวในโลกอ่ะ

>>183
มึงไปจำอะไรมาผิดล่ะ
แค่สุเทพมันฉลาดดีลมึงก็ว่าเป็นขี้ข้าทหารล่ะ

อวดฉลาดจะวิจารณ์การเมืองถถถถถ

มึงอยู่ในโลกความเป็นจริงไม่ใช่ทวิตตี้บ้าง
การหาผลประโยชน์ร่วมคือวิธีของการเมือง
ไม่ใช่แยกฝั่ง

>>184 บอกพ่อเทือกด่าฝ่ายขวาให้ได้ซักประโยคก่อนค่อยอวดฉลาดเหอะนะ

>>185
ก็ไอ้เทือกมันออกจากประชาธิปัตย์ไปแล้ว...

ไม่มีนายทุนพรรค... "ต่างจากพรรคเก่าแก่ที่ค่อนข้างเงียบเหงา เพราะนายทุนใหญ่ที่หาเงินเข้าพรรคตีจากไปหลายคน “พรรคประชาธิปัตย์” นำโดย“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มทุนหน้าเดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นคนตระกูลดัง หรือนักธุรกิจ ที่ล้วนมีสายสัมพันธ์กับการก่อตั้งพรรค ผู้บริหาร หรือ สส.ในพรรค อาทิ ตระกูลโสภณพนิช หรือกลุ่มนักธุรกิจที่สนับสนุนในรูปแบบเงินบริจาค เช่น เบญจจินดา โฮลดิ้ง, ยิบอินซอย, อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสิร์ช คอร์ปอเรชั่น, เสริมสงวน กรุงธนเอนยิเนียร์, สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) สงขลาฟินิชชิ่ง อาจรวมถึงเครือดุสิตธานี คอนเนกชั่นผ่านทาง “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ในฐานะเขยดุสิตฯ หรือกลุ่มทุนขาประจำที่มักสนับสนุนทุกข้างไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ชนะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ แต่ระยะหลังๆ นี้กร่อยมาก เพราะกลุ่มทุนใหญ่ภายในพรรคย้ายข้างไปซบ พปชร.กันเยอะ ส่วนกลุ่มทุนหน้าใหม่ๆ ก็ไม่วิ่งเข้ามาอีก ถุงเงินสนับสนุน ปชป.จึงดูแฟบๆ" https://www.posttoday.com/politic/report/575969

>>186 พ่อเทือกแยกตัวเพราะจะได้เก้าอี้ให้พรรคง่ายๆแค่นี้ก็ดูไม่ออกเหรอลูก พ่อเทือกกับปชป แค่มีนายคนเดียวกันเฉยๆลูกเอ๊ย

พวกห้องการเมืองนี่เป็นควายกันเหรอครับ อ่านชื่อกระทู้ด้วยครับ ไอ้ส้นตีน

กูบอกเลยกูไม่อยากรื้อฟื้นนะ แต่ตอนนี้สถานการณ์แม่ง ถึงขั้นแล้วว่ะ
มึงจำเรื่อง salim ล้อรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมโยงประเทศว่า "รถไฟขนผักได้ไหม"
ตอนนี้ ราคาผักในตลาดสูงมาก เพราะเอาจริงๆ ผักที่ปลูกในประเทศไม่เพียงพอ และเกิดภัยแล้ง จนปลูกผักหลายชนิดไม่ได้เป้า และวงในการเกษตรคาดกันว่า มันจะแย่ลงเรื่อยๆ ถ้าแก้ไขปัญหา เรื่องภัยแล้งไม่ได้
และเราพึ่งพาผักจากต่างประเทศ จากจีนสูงมาก แต่มาวันนี้ ท่าด่านขนส่ง ทางรถปิดหมด ทางรถออกไม่ได้ เปิดได้แค่ทางทะเล
และผักสด ไม่ได้มีกำไรขนาดจะขนส่งทางเรือได้ เพราะถ้าส่งผักผ่านเรือเดินสมุทร ตู้สินค้าต้องเป็นตู้ปรับอุณหภูมิ และจำนวนวันเดินทางยาวนานมากไป
การปรับอุณหภูมิทำกลางทะเลไม่ได้ ตู้มันวางแบบไหน ก็ต้องเบียดแบบนั้น ดังนั้น เสี่ยงเสียหายไม่พอ แถมต้นทุนค่าขนส่ง แม่งระยับเลย
พ่อค้าแม่ค้ามันรับภาระเยอะมาตลอด แต่ไอ้คนกินกระแดะ บอกผักแพงเพราะพ่อค้าแม่ค้าปั่น
ปั้น ควย อะไรหล่ะ... สัส ของสด ไม่กล้ามีใครปั่นให้โง่พังตัวเองหรอก ไอ้เวร
และอะไรที่เราควรมี แม่งกลับถูกพวกหัวไดโนเสาร์ มองว่าไร้สาระ อะไรที่แม่งถึงเวลาแล้วใช้งานได้โดยไม่ติดขัด ก็ถูกพังไปซะหมด
กูบอกให้นะ ว่าบ้านกูอยู่ในวงการอาหารสดมานาน ยกตัวอย่างกุ้ง ทั้งกุ้งเกษตรหรือ กุ้งธรรมชาติ เราโดนกีดกันราคามาตลอด รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ทำห่าอะไรให้เค้าลดการกีดกันใดๆลงเลย ส่งออกไม่ได้เหมือนเดิม ยางดิบที่คุยดิบดีราคาจะได้ หมอนยางพาราพังชิบหายหมดแล้ว
นี่ไม่ต้องพูดถึงปาล์มน้ำมัน ราคาดีอยู่สองวัน นอกนั้น พวกชาวเกษตรรอไปเหอะ
ผลคือ คนเลี้ยงกุ้ง ต้องเทขายหน้าบ่อ เอาตัวรอด เพราะความมั่วซั่ว ไร้น้ำยาของ รบ. ชุดนี้ สัสๆ เลย
ส่งออกไม่ได้มานาน กำแพงสูงไม่พอ ตอนนี้กำแพงหนามาก เราไม่มีทางต่อรองใดๆเลย นี่กูยังไม่ต้องไปพูดถึง เจ้าของวงการอาหารสด ที่จะฟาดตลาดบ้านเรายังไงก็ได้นะ
เอาแค่นี้ก่อน แค่ผักก่อน... ถึงน้ำมันจะลง แต่ภาคขนส่ง ขอถ่ายสินค้าไปมาไม่ได้ แม่งก็ไร้น้ำยาป่ะวะ
ภาคดการเกษตรทั้งหลาย บ้านเราโคตรตกต่ำ กูบอกเรา โคตรแย่....
และอะไรที่เราควรมี แม่งก็หายไปเฉยๆ โครงการแก้ไขภัยแล้ว แผนแก้ไขวิกฤตภัยแล้งที่เราควรมีมานาน แม่งหายไปเฉยๆ ปีนี้ 63 แม่งระยำตำบอนใหญ่กว่าเดิมไปอีก
เริ่มมาตระหนก ในวันที่สายไป... โครงการณ์ยักษ์ไม่มี มีแต่บอกว่าเงินแจกจะหมดแล้ว ใหได้เดือนเดียว
และกูขอบอกอีกนิด มึงจะให้กูลงทะเบียนกำจัดสารพาราควอต สารฆ่าหญ้า ไปทำห่าอะไร ผ่านมาปี แล้ว ชื่อกูที่รัฐแม่งบอกกูว่า มึงต้องไปทำนะ แม่งสั่งทเน้นย้ำมาว่าใบเกษตรกรจริง มึงต้องมีใบเจ้าของสวนจริง ถึงจะส่งสินค้าออกต่างประเทศได้ กูยื่นมา 1 ปีเต็มๆ
บัดนี้เช็คในระบบ แม่งบอกชื่อกูไม่มี
ควยยยยยยยยย รัฐบาล โง่ๆ

นี่ตก Geography 101 กันเหรอ ลุ่มน้ำโขงในประเทศไทยมีพื้นที่กี่ตารางกิโลเมตรที่ “ใช้น้ำจากแม่น้ำโขง” ได้จริง ๆ กูเน้นให้ละนะว่าใช้น้ำจากแม่น้ำโขงจริง ๆ ความหมายของลุ่มน้ำมันไม่ได้หมายถึงใช้น้ำจากแม่น้ำสายนั้น แต่มันรวมถึงแม่น้ำสาขาที่ไหลลงสายนั้น อีสานแทบทั้งภาคอยู่ลุ่มน้ำโขงแต่ไม่ได้หมายความว่าทั้งภาคอีสานจะได้ใช้น้ำจากแม่น้ำโขง แต่แม่น้ำต่าง ๆ ในลุ่มน้ำโขงมันหมายถึงท้ายที่สุดมันไหลไปลงแม่น้ำโขงย่ะ ถึงจีนปล่อยน้ำมาก็ไม่ได้ทำให้โคราช ชัยภูมิ ขอนแก่น กระทั่งครึ่งหนึ่งของจังหวัดพะเยาที่เขาจัดเป็นลุ่มน้ำโขงเพราะแม่น้ำอิงไหลลงแม่น้ำโขง มีน้ำใช้ จะดราม่าก็ขอให้มีความรู้หน่อย ตีประเด็นให้แตก ไม่อยากให้เป็นเหมือนนักอนุรักษ์สาย .jpg ที่เอาแต่ดราม่าไม่เน้นความรู้

มีคนเคยคิดทำให้แม่น้ำโขงเป็นแหล่งน้ำสำหรับภาคอีสานที่แท้จริง(หมายถึงพื้นที่ลุ่มน้ำโขงที่ลึกเข้ามาในแผ่นดินเช่นถึงขอนแก่น)ไหม? คำตอบคือมี อย่างน้อย ๆ รัฐบาลสมัครฯ พรรคพลังประชาชนที่โดนยุบไปมีแนวคิดที่จะทำโครงการชลประทานที่นำน้ำจากแม่น้ำโขงจากแถว ๆ จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หรือกระทั่งจากเขื่อนประเทศลาว เข้ามาในเขตภาคอีสานตอนใน ๆ โดยอาศัยความสูงจากระดับน้ำทะเล ผันแม่น้ำโขงผ่านอุโมงค์ รัฐบาลทักษิณก็เคยคิด แต่คิดว่าจะได้ทำไหม? เป็นนายกไม่กี่เดือนโดนศาลฯ ถอดจากตำแหน่งนายก ไม่กี่ปีต่อมาพรรคโดนยุบ ตอนนั้นพวกมึงนักอนุรักษ์ห่วงชาวนาทั้งหลายทำอะไรกันอยู่

ปัญหาภัยแล้งในลุ่มน้ำโขงตอนล่างตอนนี้ต้องมองที่ฝนทิ้งช่วง หรือการจัดการบริหารน้ำภายในไม่ดีพอ แม่น้ำสายที่แห้งตอนนี้ก็สายเดียวกับที่ท่วมไม่กี่เดือนก่อน

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

>>191 ไอสัส​ ก็มันคิดยังงี้ไงถึงโดนถอด​ ไปทำแบบนี้ถ้าเสือกสำเรจขึ้นมาไอ้โครงการเอาหน้าทั้งหลายโดนกลบหมดพอดี

ยุบสภา ด้วยการกะถล่มให้สภามันยุบลงมาทั้งหลัง

วิกฤตการณ์รัฐธรรมนูญรัสเซีย 1993
คร่าวๆคือ ประธานาธิบดีบอริส เยลต์ซิน สั่งให้ยุบสภา
แต่พวกประธานสภา และสมาชิกสภาสูงสุดโซเวียตไม่ยอม และต้องการจะถอดถอนบอริส เยลต์ซินออกจากตำแหน่ง

เยลต์ซินสั่งให้สมาชิกสภาสูงสุดออกมาจากรัฐสภา ก็ดื้อด้านไม่ยอมออกมา ทั้งตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดโทรศัพท์ ก็รั้น สุดท้ายเยลต์ซินเลยสั่งให้ทหารยิงปืนใหญ่รถถังใส่รัฐสภา เพื่อกดดันให้พวกสภาสูงออกมา

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>190 มั่ว

กะหรี่พัทยา ใช้คำว่าsex work ใช้คำว่าLGBT

นักข่าวลิบร่าน เขียนเองแล้วยัดบนรูปแน่นอล

https://www.fb.com/showyourspectrum/photos/a.276495186375492/524959308195744/?type=3&theater

>>195 คนไทยรับได้ไหมอะ ถ้าโสเภณีจะไปนั่งเป็น สว. (โควตากลุ่มอาชีพ) เทียบเท่าหมอ ครู ผู้พิพากษา ทหาร ตำรวจ ทนายความ ฯลฯ

>>196 มีเกียรติมากมั้ง อี๋ ๆ

ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอให้ประยุทธ์เชิญ

เสี่ยเจริญ ไทยเบฟ มาเป็นนายก
เสี่ยธนินทร์ ซีพี คุมเกษตร
ทศ จิราธิวัฒน์ เซ็นทรัล คุมพาณิชย์
ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ BDMS คุมสาธารณสุข
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนะประภา คิงเพาเวอร์ คุมท่องเที่ยวกีฬา
คีรี กาญจนพาสน์ บีทีเอส คุมคมนาคม
สารัชต์ รัตนาวดี กัลฟ์ คุมพลังงาน
เฉลิม อยู่วิทยา กระทิงแดง คุมแรงงาน
กฤตย์ รัตนรักษ์ ช่อง 7 คุมวัฒนธรรม
บัณฑูร ล่ำซำ กสิกรไทย คุมคลัง
บุญชัย เบญจรงคกุล ดีแทค คุมดิจิตัล
วานิช ไชยวรรณ ไทยประกันชีวิต คุมพัฒนาสังคม
ฯลฯ

น่าจะดีกว่านะ ฮะๆๆๆๆ ทำไมดูชื่อแล้วน่าจะมีหวัง ไหนๆ ก็เอื้อประชารัฐกันขนาดนี้ ขอประชารัฐแบบมีประสิทธิภาพดีกว่า

>>196 รับได้ว่ะ กะหรี่เป็นอาชีพที่ให้ความสุขแก่ผู้คน เป็นอาชีพที่มีเกียรติ

>>199 เเม่มึงก็ทำงานนั้นนะ รู้ตัวยัง

>>200 ทำงานคือมีงาน ไม่ใช่เดรัจฉานอย่างมึง นั่งเกาไข่ให้แม่เลี้ยง

>>198
เอานะ อย่างน้อยก็ฉลาดกว่ารมต. ที่นั่งๆอยู่ตอนนี้แน่

>>201 คุณโกรธอะไรครับ คุณควรรู้สึกมีเกียรติสิ

นายก จะมาขอเงินกับคนรวยทำไม เขาสร้างอาชีพ ทำมาหากินต่อสู้จนร่ำรวยได้
ทำไมนายก ไม่ขอเงินกับคนนั้น คนที่เอาภาษีพวกเราไปใช้อย่างสนุกสนาน โดยไม่ต้องทำอาชีพ ไม่เปิดบริษัท ไม่ต้องต่อสู้ปากถีบตีนกัดแบบพวกคนรวยที่เขาต้องสู้ กว่าจะได้มา
แล้วคนนั้นที่ว่าเนี่ยก็ได้ข่าวว่ารวยมาก จนติดอันดับต้นๆ ของไทย (เหมือนเขาว่าอันดับ 1 เลย)
มันน่าแปลกใจมากก็ตรงนี้แหละ
ใครเอาภาษีเราไป ก็ไปขอเงินกับคนนั้นแหละ
เพราะประชาชนทั้งประเทศ 70 ล้านชีวิต จ่ายภาษีทั้งทางตรง ทางอ้อม ทุกแบบที่รัฐพากันคิดขึ้นมา รีดภาษีพวกเรา พอถีงคราวเดือดร้อนต้องช่วยเรา ดันไม่ยอมเอาภาษีนั้น มาช่วยเหลือ

>>204
มึงมโนล่ะครับร่านหลักฐานไม่มีกล่าวอ้างไปเรื่อย

>>205 ชัดเจนเลยครับว่าตรวจสอบไม่ได้

>>206
ตรวจสอบอะไรไม่ได้?
งั้นที่มึงพิมมาทั้งหมดก็มโนหลอกควายสิน่ะ

รอดูวันที่หลิ่มจะโดนรองเท้าทองและบูธที่เลียทุกวันเตะปากแตกเพราะเค้าไม่เอามึงแล้ว

>>208
รอมาหลายปีล่ะ
รอไอ้แม้วกลับมาติดคุกยังง่ายกว่า

ไม่เห็นจะต้องรอก็ยุคนี้ไง ควีนอังกฤษแก่ๆยังมีออกทีวีให้กำลังใจเลย แต่ศูนย์รวมจิตใจสลิ่่มมีแต่ตัวแทนทำ

กลับมาวันเดียวกำหนดการแน่นเอี้ยดไปนู่นไปนี่ก็หมดวันแล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปอัดเทปให้กำลังใจ แค่นี้ร่านคิดไม่ได้?

ร่านรู้ไหมว่าใครเป็นคนไปเจรจาซื้อเครื่องมือแพทย์ที่กำลังขาดแคลนอยู่ตอนนี้ทั้งที่อยากอยู่เมืองไทยใจจะขาด

มึงคุยผิดมู้นะ

ไอ้ส.ลิ่มหน้าโง่ไปคุยมู้การเมืองเว้ย ทำตัวเหมือนลูกพี่มึงตลอดอะเสร่อสัดๆ

>>212 เห็นหลิ่่มชอบถามหาหลักฐานจากร่าน แต่ทำไมของตัวเองไม่ยอมเอามาแปะบ้าง

>>214
สัสพอเถียงแพ้ไล่เลย5555

>>215 มึงก็ไปดูเพจเมดแตดดิ ด่าเฟคนิวส์ทุกวันแต่อวยข่าวลือว่าไปเยี่ยมชายแดนใต้อย่างลับๆปิดทองหลังพระ

>>211 บินมาจบงานบินกลับ ยกเลิกตารางเพียบเพราะกลัวติดโควิด จะตอบให้คุ้ม 100 บาทที่เค้าจ้างมาหน่อย

>>218
ถามเจียมดิฝรั่งเศสเป็นไงมั่ง
ทำไมรู้เรื่องคนอื่นดีจังรู้ดีกว่าตัวมึงเองไอ้เจียม

>>219 รู้ได้ไงว่ารู้เรื่องคนอื่นดีกว่า แค่เจียมโพสแต่เรื่องของคนอื่น? งอง

>>207

วิเคราะห์จากข้อมูลที่พอมีไง หรือหลักฐานอื่นที่ไม่ใช่ทางการ เช่น ภาพหลุด เอกสารหลุด คนมาเล่า
ตรวจสอบอย่างเป็นทางการไม่ได้
สงสัยว่าทำผิดอะไร ก็ฟ้องไม่ได้
เงินจ่ายอะไรบ้างก็ไม่มีใครรู้

แล้วเขาเขียนกฎหมายเอาสินทรัพย์ประเทศเป็นของตัวเอง จะไม่ให้รวยสุดได้ไงวะ

>>221 ตรวจสอบอย่างเป็นทางการก็ พรบ งบประมาณไง แกล้งโง่?

>>222 ตรวจสอบการใช้เงินอะ ไม่ใช่ได้เงินจากรัฐเท่าไร

แล้วเรื่องกฎหมายเอาสินทรัพย์เป็นของตัวเองอะว่าไง

>>223 เอาทรัพย์​สินที่คณะร่านยึดไปคืนมันผิดตรงไหน

>>223
เชี่ย.....ร่านแม่งเรียกร้องเสรีภาพของตัวเอง
แล้วไปจำกัดเสรีภาพของคนอื่น ต้องรายงานพวกมึงตลอดถถถถถถถถ

สมเป็นร่านประชาธิปไตย

>>207 ถ้าจำไม่ผิด เคยมีคนโทรไปสอบถามเรื่องรายละเอียดการใช้เงินในราชกรณียกิจจากสำนักราชฯ อยู่ สุดท้ายเค้าบอกแจ้งไม่ได้ ไปดูในรายละเอียดพรบ.ก็บอกแค่จำนวนเงินที่ให้แต่ไม่บอกว่าใช้จ่ายอะไรมีการประเมินความคุ้มค่ามั้ย หยั่งงี้เรียกตรวจสอบไม่ได้ป่ะ

รายละเอียดเยอะ โทรไปถามตัวเล็กๆเขาคงจะตอบได้หรอก แถมตอบผิดมีซวยอีก

>>226 ไม่เรียกว่าตรวจสอบไม่ได้เพราะเป็นสิทธิเฉพาะของคนที่สลิ่่มรัก​ มีสิทธิจะไม่ให้ตรวจ​ ถ้าเป็นไอ้แม้วทำสลิ่่มค่อยปาขี้ใส่

>>228
ก็ไม่มีใครตามไปเช็คว่าไอ้แม้วมันเอาเงินไปกิน ขี้ ปี้ เยี่ยวที่ไหน

โรคจิตจังร่าน

>>229 ไอ้แม้วได้เงินรายปีจากภาษีปชชด้วยไหม​ ตอนที่ได้เงินเดือนนายกแค่เดือนละแสนสลิ่่มตรวจแทบเป็นบ้าตาย

>>230
แต่สารพัดโครงการนโยบายมันไม่ได้ออกเงินตัวเองน่ะเฟ้ย

เอางี้มึงไม่เช็คข้าราชการทุกคนในไทยไปเลยล่ะเอาเงินไปจ่ายไรบ้าง

ตรรกะเหี้ยไรเนี่ย

>>231 ตอนนี้แม้วมันถึงไม่โดนเช็กไง​ ส่วนคนของสลิ่่มโครงการเยอะออกเงินตัวเองไหม​ ประสิทธิผลเท่าไร​ มีสมองคิดบ้าง

>>231 ขรกไทยคนไหนแดกเงินเดือนแต่ลาไปตปททั้งปีทำงานไม่กี่วัน​แล้วยังอยู่ได้มั่งสลิ่่มบอกที

>>232
แล้วเขาไม่ทำงานเหรอวะ ?
กูงงมึงจะบอกอะไร

>>233
ใครวะลาไปตปททั้งปี?
อีกอย่างมีลูกน้องไว้เพื่อ?
สั่งการดิ

>>234 ทำไรละวะ​ ถุงที่ให้ๆเงินส่วนไหนไปหาดูนะ

>>235 นั่นดิใครวะ​ ไม่มีหรอกมั้งคนเหี้ยแบบนั้น​ ทำงานทั้งปีแดกเงินเป็นหมื่นล้านไรเงี้ย​ ถ้ามีก็ไอแม้วแหละ​ เหี้ยจิงๆโอแม้ว

>>236
มโนจากไอ้เจียมไม่เอา
ที่นี่เอาfact

>>237
ไม่มีหรอกร่านใครไม่ทำงาน
ไอ้แม้วมันก็ยังต้องทำ

>>239 ไอแม้วแหละคนเหี้ย​ วันๆเฝ้าแต่เยดแดกภาษี​ มโนภาพทำงานต่อไปเหอะไอขี้ข้าแม้ว​

>>238 แต่นิยายทำงานปิดทองหลังพระแบบเมดแตดนี่เอาได้ใช่ไหมไอพวกกราบตีนแม้ว

>>240
ครับๆสักวันพี่ได้เป็นเจ้าคนนายคน
พี่จะได้รู้ว่าโลกเราไม่ต้องใช้แรงงานวันละ8ชั่วโมงก็มี

>>241
ด้านดีๆก็ฟังหูไว้หูบ้าง
หรือมึงจะรับแต่ด้านเหี้ยๆจากไอ้เจียมฝ่ายเดียว

หือ...ร่านประชาธิปไตย

>>242 ใครบอกไม่ใช้แรงงานครับเยดก็เป็นใช้แรงงาน​

>>244
ใครเยดครับ?
มึงเหรอ?
มาบอกกูทำไม?
อยากอวด

>>245 นั่นสิครับใครเยดครับ​ ไอแม้วแน่ๆ​ เหี้ยอม้วหน้าส้นตีน​ เรียนไม่จบงานไม่เคยทำเน้นเยดเก่ง

เรียนไม่จบ นั่นคนลูกอ่ะ

อ่ะถูกทุกข้อ โตมากับ ASTV ที่บ้านเปิดโทรทัศน์ไว้รอสนธิ ดีใจมากตอนทหารปฏิวัติ ยิ่งตอนศาลตัดสินคดีทักษิณคือดีใจที่สุด จำได้ลาง ๆ ว่า วันนั้นหลังอ่านคำพิพากษา ตุลาการท่านนึงโทรมาหาคุณย่า[เค้าเป็นเพื่อนกัน] แล้วถามว่าถูกใจไหม ตอนนั้นรู้สึกเป็นชัยชนะมาก เข้าใจอย่างนั้นอยู่นาน จนเพิ่งมาตระหนักได้ตอนโตว่ามันคือจุดเริ่งต้นของหายนะ ☠️

#ถ้าจะทวงสิทธิVAT7%
เพื่อรับเงิน 5,000 ต่อเดือน
.
ถ้าจะเสีย VAT 5,000 บาท
คุณต้องซื้อของ 71,500 บาท
.
ถ้า รับเงิน 6 เดือน = 30,000 บาท
.
ต้องมียอดซื้อของ 6 เดือน
429,000 บาท
.
เพราะตัวเลขนี้ มันจึงเป็นไปไม่ได้
ที่จะแจกเงิน 5,000 ให้ทุกคนที่จ่าย VAT
.
ในขณะที่ คนจ่ายทั้ง VAT และ ภาษีบุคคลธรรมดา
หลายคนยังไม่ได้รับเงินเยียวยาใดๆเลย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>249 กะ..ก้อคุณยังมีงานทำอยู่นี่

>>249 ถ้าจะคิดว่าคนที่จ่าย vat มากกว่า 5000 เท่านั้นที่ควรจะได้เงิน ถ้าคนทั่วไปจ่ายภาษีน้อยขนาดนั้น มึงไม่ยกเลิก vat ช่วง covid ไปเลยล่ะ ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก
อ๋อลืมไปเอาเงินไปล้มโกงเลือกตั้งล้มพวกร่านหมดแล้วเลยต้องมาโกงค่าไฟ

>>249 เราจะมีรัฐไว้ทัมมัยกันคราฟเนี้ย?

>>249 พวกรวยติดท็อปทั้งหลายถึงได้อะไรๆตอบแทนเยอะเลยสินะ แหม่

อ้าว กุลืม พวกนี้เผลอๆหาทางเลี่ยงยิ่งกว่าชนชั้นกลางอีก

มีแต่คนชั้นกลางเท่านั้นที่จ่ายภาษี พวกรวยกระโดดลอดloopholeเอา พวกจนไม่จ่าย

>>253 ตัว top เขาแก้กม.ให้ไม่ผิดครับ เช่น ขายหุ้น...,.

ไปอ่านเจอในกรุงเทพธุรกิจลงวันที่21เมษายน2563บอกว่า
ผลโหวตเว็ปไซต์ต่างประเทศผู้นำยอดแย่(ใช้คำสุภาพ)จากคนท่องเว็ปทั่วโลก
The top tens. Com
อันดับ1.ทักษิณ
อันดับ2.ยิ่งลักษณ์
อันดับ3.ฮิตเลอร์(ร่วงจากอันดับ1)
อันดับ4.ฮุนเซน(ร่วงจากอันดับ2)
อันดับ5.คิมจองอิล
จบค่ะ!!

อ่านจดหมายของประยุทธ์แล้ว ยิ่งตอกย้ำว่าอยู่ประเทศห่านี่มึงมีความสามารถยังไม่พอ มึงต้องรวยด้วย รวยเป็นมหาเศรษฐี คำพูด ความคิดมึงถึงจะได้รับการยอมรับจากรัฐบาลเผด็จการทหารไร้ความคิดส้นตีนอะไรก็ฟังแต่คนรวย คนจนเกิดมาจนกว่าจะก้าวข้ามฐานะตัวเองไปเป็นมหาเศรษฐีต้องใช้เวลากี่ชั่วอายุคนกันวะ ประชาธิปไตยทำให้คนจนมีที่อยู่ที่ยืน ส่งลูกหลานชาวนาไปยืนพูดในสภาได้ ทำให้คนระดับล่างมีปากมีเสียงขึ้นมา คนจนทั้งหลายมึงไม่ควรเป็นสลิ่่ม

>>257 คนที่ยังล่างๆ หรือกลางล่างอะ ไม่เหลืองก็แดง แต่พวกกลางบนแม้จะมีพื้นเพมาจากคนจน อันนั้นอะขนมหวาน ซึ่งกูก็งงๆ นะ มึงจนมาก่อน ทำไมมึงไม่เข้าใจคนจนวะ

>>257
มีความสามารถแต่ก็ยังจน?

>>258 กูเดาว่าตอนมันจน มันก็ตบตีกับคนจนมาก่อน พอมันเป็นผู้ชนะ มันก็อดจะถ่มถุยศัตรูไม่ได้ ทำบ่อยๆก็เป็นสันดาน

อารมณ์เหมือนพวกมึงตอนเด็กโดนผู้ใหญ่ด่า
โตเป็นควายยังอ่านการ์ตูนเล่นเกมอีก

พอพวกมึงโตมาก็ด่าเด็กรุ่นใหม่แบบเดียวกัน
โตเป็นควายยังอ่านนิยายหลอกเด็กกับเล่นเกมกาชาอีก

ทำไมถามเจ้าสัว 20 คนนี้ไม่ได้ ในเมื่อเขาเคยผ่านความจนมาเเล้ว????

สันดานขนมหวานก็เงี้ย ขี้อิจฉาไม่อยากให้คนอื่นเท่าเทียม รบ. ออกโครงการช่วยเหลือคนจนแม่งต่อต้าน แต่พอเอาเงินไปค้ำคนรวยเสือกใบ้แดก

คนรวยมีลูกจ้างเป็นคนจนเยอะไง

ก็ถ้าคนจนมีโอกาสเท่าเทียมกัน ลืมตาอ้าปากมีกิจการตัวเองได้ คนรวยจะหาแรงงานถูกๆจากไหนล่ะ ก็ต้องกดหัวไว้แหละ สนองความอยากยิ่งใหญ่ของตัวเอง

>>265 ทุกคนมันก็ต้องใช้เวลาสร้างตัวทั้งนั้น

มึงจะเอาเงิน 1 ล้าน ภายในสามนาทีเเบบต้มมาม่า

ในชีวิตจริง ไม่ใช่ถูกหวยมันมีที่ไหน

ออกจากโลกจินตนาการได้เเล้วห่า

อยากรวยเร็วเหรอ
คิด/สร้างนวัตกรรม แล้วเอาไปขายลิขสิทธิ์ให้ฝรั่งดิ

เดือนก่อนเพื่อนของน้องแค่เขียนโปรแกรมบัญชีกลุ่ม ยังขายไปได้ 5ล้าน

>>266 อัดคลิปดราม่าพร้อมเลขบัญชีสิเดี๋ยวก็รวยเอง แต่ไม่รอดสรรพากรนะ

>>268 พวกทำเเบบนั้นส่วนมากเป็นส้มกับเเดงอ่ะนะ

>>266 ไม่มีประโยคไหนที่กูพูดถึงเรื่องให้รวยเร็วๆเลย มึงมโนไปเอง ตื่นก่อน...ห่า

เมื่อวานดูสารคดี
อิตาลีคนทำงานได้วันหยุด8สัปดาใน1ปี โดยที่มีเงินให้ทุกวันหยุด ใครไม่หยุดเอาไปทบปีหน้าได้ พักกลางวัน2ชั่วโมง
คนอิตาลี ตอนหยุดได้เที่ยวเพราะมีเงินเที่ยว

ถ้าไทยไม่มีแรงงานคนจน ก็ต้องนำเข้าแรงงานจากเพื่อนบ้าน
แรงงานคนจนก็เป็นแรงขับเคลื่อนประเทศ มันขาดไม่ได้ พยายามแค่ไหนก็เป็นผู้บริหารทั้งประเทศหรือทั้งโลกไม่ได้
แต่แรงงานมีสวัสดิภาพที่ดีได้ ไม่มีหนี้ มีเงินพอสำหรับปัจจัย4 พอที่จะเอาไปซื้อความสบายในบางครั้งบางคราวได้
แล้วก็ไม่ใช่ทำงานเอาเป็นเอาตาย แต่มีเงินใช้วันชนวัน

ถ้ามึงไม่มีอุตสาหกรรมไอทีผูกขาดแบบไต้หวัน แรงงานก็มีแต่ระดับจนนั่นแหละ

ตราบใดที่พวกเจ้าสัวไทยแม่งไม่ลงทุนด้านเทคโนโลยีไทยก็ได้แค่นี้แหละวะ ดีแต่ทำอสังหาขายสินแร่กับของกินของใช้ทั่วไป ชาติจะพัฒนาได้ไงวะ

ไทยไม่ได้ยกเลิกดีล F-18 สมัยต้มยำกุ้ง

จากข่าวที่กองทัพบกไทยจะจัดหารถหุ้มเกราะล้อยาง Stryker จากสหรัฐฯ รวมถึงโครงการจัดหาอาวุธอื่นๆของทั้งสามเหล่าทัพที่ถูกชะลอไป ผมเห็นหลายคนนำไปเปรียบเทียบกับดีล F-18 สมัยต้มยำกุ้ง ประมาณว่าสมัยนั้นไทยยังยกเลิกดีล F-18 ได้เลย (จริงหรือ ?) ตอนนี้ก็น่าจะยกเลิกได้เช่นกัน ผมเลยจะเล่าที่มาที่ไปของดีล F-18 ไทยอย่างย่อๆอีกครั้งหนึ่งครับ

สมัยนายกฯ บรรหาร ศิลปอาชา กองทัพอากาศไทยสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่ F/A-18 C/D Hornet จำนวน 8 ลำจากสหรัฐฯ เริ่มทยอยจ่ายเงินไปแล้ว แต่ต่อมาเกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งก่อนจะได้เข้าประจำการ ในสมัยนายกฯ ชวน หลีกภัย ไทยจึงเจรจากับสหรัฐฯ ส่งผลให้ทางเพนตากอนรับซื้อ F/A-18 C/D ชุดดังกล่าวไว้แทน เข้าประจำการในหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ ส่วนนี้ต้องถือเป็นบุญคุณของสหรัฐฯ เพราะถ้าสหรัฐฯไม่รับซื้อ F/A-18 C/D ชุดดังกล่าว แล้วไทยต้องยกเลิกสัญญาขึ้นมา ไทยอาจถูกปรับหรือถูกยึดเงินที่จ่ายไปแล้วทั้งหมดก็ได้

อย่างไรก็ตาม พูดถึงเงินค่า F/A-18 C/D ที่ไทยจ่ายไปก่อนหน้านั้น สหรัฐฯไม่ได้คืนให้แต่อย่างใดครับ ไทยจึงเจรจาขอใช้เงินดังกล่าวซื้อเครื่องบินขับไล่ F-16 ADF มือสองจากสหรัฐฯจำนวน 16 ลำแทน (ไม่อย่างนั้นสหรัฐฯก็ไม่คืนเงินให้อยู่ดี) รับมอบครบสมัยนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร

จะเห็นได้ว่าสมัยต้มยำกุ้ง ไทยไม่ได้ยกเลิกดีล F-18 เฉยๆแบบที่หลายคนเข้าใจ ความจริงคือไทยขอให้สหรัฐฯช่วยรับซื้อ F-18 ไว้แทน แต่สหรัฐฯก็ไม่ได้คืนเงินค่า F-18 ที่ไทยจ่ายไปแล้วแต่อย่างใด ภายหลังไทยต้องเอาเงินส่วนนี้ไปซื้อ F-16 มือสองมาแทน ไม่อย่างนั้นก็เสียเงินฟรี

สวัสดี

22.04.2020

ภาพเครื่องบินขับไล่ F/A-18 C Hornet ของสหรัฐฯขึ้นบินจากเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Kitty Hawk (CV 63) เมื่อปี 2005 โดย Jonathan Chandler จาก wikipedia

เอาแบบไม่สน คอมมิวนิสต์หรือประชาธิปไตยนะคือตรงนี้

ก่อนหน้านี้ชาวจีนจำนวนมาก ใช้เกมนี้เป็นช่องทางการหลีกหนีจากโลกจริงในช่วงกักตัวอยู่บ้าน หรือทำการเรียนการสอนแบบออนไลน์ในตัวเกม และยังมีผู้เล่นสายฮาร์ดคอร์อีกมากมาย ทำรายได้จากการขายไอเท็มโดยใช้ระบบจ่ายเงินด้วย QR Code ของประเทศจีนอีกด้วย
^
^
^
พอโดนแบนมาก็ซวยไง ไม่มีอะไรจะกินอยู่แล้ว และต้นเหตุมันมา 2 ที่ คือ โจชัว หว่อง ทำให้เกมที่เขาเล่นกันหาเงินกันโดนกระทำ และรัฐบาลจีนแบนเกม เอาตามความคิดคนทั่วไป เขาจะเลือกจะมีเรื่องกับใครระหว่าง โจชัว หว่อง คนเดียวหรือจะสู้กับผู้นำจีนที่ไม่รู้มีลูกน้องกี่คน เพราะมันคือต้นเหตุทั้งคู่ เป็นผมเซฟตัวเองผมเลือกตีกับ โจชัว หว่อง นะครับ

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง

เซฟตัวเอง แล้วไปตีเขาทำไมอะครับ งง

#มิตรสหาย​อีกท่าน

คือมีความแค้นเคืองครับ ถ้าเจอตัวระหว่าง โจชัว หว่อง กับผู้นำจีน(ผมจำชื่อไม่ได้ รู้จักแต่เหมา เจ๋อ ตุง) จะไปรุมใส่ใคร ถ้าผู้นำจีนมาเดี่ยวๆก็ไม่แน่ ผู้นำจีนก็อาจจะโดน(ไม่รู้ว่าแนวความคิดคนจีนโดนปลูกฝังจนขนาดไหนอ่ะนะ) บังเอิญว่าคนคุ้มกันเยอะเข้าไปมีตายแน่ๆ ผมเลยบอกว่าสองฝั่งนี้เลวร้ายพอกัน เพื่อผลประโยชน์ตัวเองทั้งคู่

เรื่องของเรื่องคือเพื่ออุดมการตัวเอง ทำคนอื่นที่หารายได้เลี้ยงตัวเองในช่วงวิกฤติยังต้องหมดช่องทางหารายได้เข้าไปอีกในช่วงนี้ (โครตเกลียด) ระดับผู้นำอย่าง โจชัว หว่อง ไม่มีทางที่จะไม่รู้ผลกระทบจากสิ่งที่เขาทำหรอก แค่ว่าผลที่อยากให้คนจีนโกรธแค้งรัฐบาลจีน วกกลับมาหาตัวเองด้วยแค่นั่นหล่ะ
ลองนึกถึงปากท้องตัวเองและครอบครับและชีวิตของคนใกล้ชิดครับ มันก็แบบนั้นแหล่ะ ต้องมาก่อน

#มิตรสหาย​ท่าน​แรก

>>276 ผมคิดว่าระดับโจชัวหว่องก็คงไม่รู้ว่ารัฐบาลจีนเอ๋อขนาดนี้ แล้วก็คงไม่รู้ว่าคนจีนเป็นขี้ข้ารัฐบาลไปแล้ว แต่ก็ว่ามากไม่ได้เดี๋ยวเข้าประเทศตัวเองอิอิ

>>276 นึกถึงความจริงบางประเทศ ผู้คนอยู่ทับกันเป็นชั้นๆ คนชั้นกลางบนหน่อยรู้ว่าไม่สามารถเทียบเทียมกับคนชั้นสูงผู้มั่งมี จึงพยายามทำตัวเองให้คล้ายคลึงที่สุด ด้วยการเที่ยวเทศนาและดูหมิ่นคนชั้นล่างกว่า ปลอบประโลมใจว่าอย่างน้อยข้าก็ยังเก่งและดีกว่าคนเหล่านั้น

>>276 ถึงจะโทษรบสีก็ออกสื่อไม่ได้ ถ้าโพสจะโดนลบโพส เผลอๆถูกอุ้มหายด้วย ที่เห็นเลยมีแต่โกรธโจชัวไง

โจชัวมีอุดมการ สีมันจะไปอุดมการอะไร ทำให้ปชชคลั่งชาติ แต่ตัวเองส่งลูกหลานไปเรียนตปท มีแต่หลิ่มที่หลงเชื่อร้องห่มร้องไห้ในความรักชาติ ถ้าเชื่อว่าประเทศตัวเองดีที่สุดทำไมไม่ให้ลูกเรียนอยู่ประเทศตัวเอง

"สายธรรมถูกใจโควิด-19 เพราะทำให้มนุษย์ต้องหยุดมือเบียดเบียนธรรมชาติและธุรกิจบาปอย่างสุรานารีถึงกาลอวสาน"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

เราไม่รู้ว่ารัฐบาลตั้งเป้าของโควิดไว้แค่ไหน ให้ไทยเป็นโควิดฟรี? ตัวเลขแบบนี้มันต้องผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ได้แล้ว ตอนนี้ต้นทุนที่เราเสียไปในรูปของเศรษฐกิจ ชีวิต ทรัพย์สินและรายได้ของคนมันเกินกว่าความเลวร้ายของการระบาดแล้ว อีก 8 วันจะหมด พรก ฉุกเฉิน รัฐต้องส่งสัญญาณอะไรบ้างนะ

โจชัวหว่องมีแผนจะทำให้จีนชนะตะวันตกรึเปล่า?

หรือเป็นแค่ขี้ข้าหุ่นเชิดไอ้กัน

โจชัวจะปั่นราคาหุ้นหัวไชเท้าจนคนอ้มริกาคลุ้มคลั่ง

>>282 ไอ้สีมีแผนแข่งไอ้กัน​ ให้ชาวเจ๊กเป็นขี้ข้าใต้ตีนไอ้สีแทน​ ยอดเยี่ยมไปเรย

ตามนั้นครับ กสทช. จ่ายให้ตามลงทะเบียนโดยหักจากค่าใบอนุญาตที่ต้องจ่าย
เห็นคุยว่าตกหัวละ 50 บาท
ผมไม่แน่ใจเท่าทุนไหม แต่ถ้าขาดทุนคงไม่ทำ แสดงว่าไอ้ 5 จิ๊ก 10 จิ๊ก ขาย 3วัน 7 วัน
กำไรมหาศาล นั่นกำไรมหาศาลเลยนะนั่นหนะ

พูดถึงดราม่านางงาม ด่านางงาม ซึ่งมีทุกๆปี กะเทยไทยจะเอาอะไรมากมาย ทุกวันนี้ คนทั้งโลกเค้ารู้กันหมดแล้วว่ามันคือการแสดง เค้าดูกันขำๆสนุกๆ เหมือนดูรายการเรียลลิตี้โชว์ เค้ารู้แต่แรกว่ามันเฟค นางงามก็คือนักแสดง ขึ้นไปแสดงบทนางฟ้าเจ้าหญิงบนเวที พอลงจากเวที นางจะทำเหี้ยทำห่าอะไร ก็ไม่มีใครสนใจ

นางงามชาติอื่นๆ บางคนมีร้อยผัว ไปเล่นหนังโป๊ ไปเป็นเมียน้อยเศรษฐี ไปเป็นกะหรี่ แต่คนทั้งโลกเค้าก็ไม่ว่าอะไร เพราะรู้ว่าการประกวดนางงามมันเฟคแต่แรกแล้ว

มีแค่เวเน ปินส์ ไทย อยู่สามประเทศมั้ง ที่ยังมองนางงามคือพระแม่ เป็นบุคคลสำคัญระดับโลก เป็นตัวแทนมนุษยชาติ ต้องงามทั้งกายและใจ ใจงามสม่ำเสมอทั้งบนเวทีและนอกเวที ใจงามจวบจนวันตาย

ทุกวันนี้ หน่วยงานองค์กรระดับโลกเค้าก็แทบไม่เชิญนางงามไปทำกิจกรรมกันแล้ว เพราะเค้ารู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ นางงามช่วยหยุดสงครามไม่ได้ ช่วยเด็กยากไร้ไม่ได้ ช่วยแก้ปัญหาอะไรในโลกไม่ได้เลย นางงามทุกวันนี้ถึงได้ว่างงานกันชิบหาย รับมงแล้วไม่มีงานให้ทำต่อ

พวกเธอเคยดูซีรี่ส์ฝรั่ง แนวไฮสคูล ที่มีฉากประกวดราชินีงามพรอมไหม นั่นแหละ คนทั้งโลกเค้ามองการประกวดนางงามต่างๆมีความสำคัญอยู่ในระดับนั้นแหละ คือดูเอาสนุก ขำๆ ไม่จริงจัง ประกวดจบก็จบๆกันไป

ขนาดเวทีประกวดใหญ่ๆ ทุกวันนี้ เจ้าของเวทียังต้องตะเวนไปกราบตีนขอร้องนานาประเทศ ให้ช่วยเป็นเจ้าภาพเลย เพราะไม่มีประเทศไหนเขาอยากเป็นเจ้าภาพกันแล้ว มันสิ้นเปลือง ไม่ก่อประโยชน์ใดๆ ทั้งในแง่เศรษฐกิจ สังคม การเมือง สันติภาพ

สรุป ดูเอาสนุก เชียร์แค่ขำๆ ไม่ต้องอิน ไม่ต้องไปจริงจังกับมันมากหรอก

ป.ในช่วง 2495 ต้องการสร้างสถานะพิเศษของตนให้อยู่เหนือ เผ่า และ สฤษดิ์ และแน่นอน มากกว่าใ..จึงมีการสร้างองค์กรสำคัญขึ้นมาเพื่อจะสนับสนุน สถานะภาพพิเศษของตนเองคือ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งยกสถานะมาจากสภาวัฒนธรรม
ช่วงนี้มีการเผนแพร่ข่าวสารทาง วิทยุ โรงเรียน สั่งสอนประชาชนเรื่องวัฒนธรรมไทยอันดีงาม ละครวิทยุห้ามการเสนอเรื่องราวรักๆใคร่ๆ ประโลมโลก และส่งเสริมการเกลียดคอมมิวนิสต์ ช่วงนี้หละครับที่มีรำไทย
และยังมีการช่วงชิงบารมีของราชวงศ์จักรี ด้วยการ สร้างอนุสาวร์ย์พระเจ้าตาก ที่วงเวียนใหญ่ หรือการสร้างอนุสารวรีย์พระยาพหล ซึ่งทั้งสองบุคคลเป็นหนามยอกอก ราชวงศ์. และมีการสร้างเครือข่ายโดยปรากฎว่ามีการบูรณะวัดวามากมาย รวมถึงเมืองโบราณที่อยุธยาก็บูรณะในช่วงนี้ รวมถึงงาน ฉลองกึ่งพุทธศตวรรษที่ สร้างพุทธมณฑล
ซึึ่งแต่เดิมงานพวกนี้จะเกี่ยวข้องกับราชวงศ์โดยตรง แต่ ป. ซึ่งเป็นสามัญชนกลับช่วงชิงไป
พวกนี้ก็สร้างความขุ่นเคืองให้กับ ราชวงศ์ และ ร...เช่นกัน

>>287
ปรีดีเลยโหนสถาบันมาล้มจอมพล.ปผ่านอเมริกาและสฤษดิ์ สุดท้ายเขาไม่เอาไอ่เหี้ยปรีดีเลยไปปลุกปั่นนักศึกษามาย้อนเล่น อเมริกา สถาบันต่อ

---------

สรุปปรีดีอยู่ไหนฉิบหายหมดตั้งแต่คณะร่าน เสรีไทย อเมริกา

สัส ปรีดีหรือเล่าปี่วะ

- ช่วงนี้ใครบอกธุรกิจไหนขายดีอย่าไปเชื่อ -

เมื่อเช้าผมสั่งอาหารผ่าน App, นี่ก็เป็นหนึ่งในงานที่ "รายได้ดีมากๆ" เวลามีคนถามถึงตามกระทู้ต่างๆ

แต่สังเกตอย่าง, คนที่ตอบ...

คือคนที่ไม่ได้ขี่

"ทำได้ทันทีไม่ต้องลงทุนสักบาท !!!"

ก็เป็นอีกหนึ่งคำตอบที่เห็นบ่อยๆ

แต่เท่าที่คุยกับคนทำ, เหมือนสถานการณ์ตอนนี้แย่ลงทุกวัน

เพราะ

1. ทุกคนหันมาขี่ส่งอาหารกันหมด [แม้แต่รถยนต์ก็หันมาใช้ส่งอาหารแล้ว !!!]

2. แต่ลูกค้ามีเท่าเดิม...

3. และจริงๆ อาจเริ่มน้อยลง [กว่าช่วงแรกของการกักตัว] ด้วยซ้ำ, ใครจะอยากสั่งอาหารแพงๆ บวกค่าส่งทุกวันในสภาพที่ "ยังมองอนาคตไม่เห็น"

4. บาง App ก็เริ่มบังคับไม่ให้วิ่งกับคู่แข่ง, ต้องมีชุดมี Uniform มีกล่องมีอุปกรณ์ซึ่งก็ต้องเสียเงินซื้อเพิ่ม [บางคนคิดว่า App ให้ฟรี !?!]

5. และช่วงนี้ฝนก็ตกทุกวัน...

6. อย่าลืมว่าหน้าฝนอย่างจริงจังก็ใกล้เข้ามา

ที่พิมพ์อยู่นี่ก็ตกหนัก, เพิ่งส่งข้อความไปทักว่า "ไม่ต้องรีบก็ได้"

เพราะตอนเด็กผมก็เคยซ้อนท้ายพ่อที่เป็น Messenger เหมือนกัน, บางครั้งฝนตกหนักๆ เราก็ต้องฝ่าไปด้วยความที่กลัวลูกค้าจะด่า

แม้ว่าถนนกรุงเทพฯ จะอันตรายมาก

ฝืนวิ่งข้างๆ รถใหญ่สักครั้ง, อาจไม่ได้กลับไปพบหน้าลูกอีกเลย...

7. ก็ลองถามตัวเองดูว่า, ถ้าหน้าฝนมาจะยังวิ่งส่งอาหารได้ไหม ?

8. กับข้าวของอุปกรณ์ที่เพิ่งลงทุนซื้อไป

9. และไม่ใช่แค่งานส่งอาหาร, ตอนนี้สถานการณ์มันคล้ายกันทุกวงการ

10. คือ " มองอนาคตไม่เห็น"

.

.

.

ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด...

แน่นอน, บางคนอาจไม่มีทางเลือกมากนัก

แต่อย่างน้อย, ผมก็อยากทักว่า

ช่วงนี้ถัามีธุรกิจไหนเข้ามาแล้วให้เราต้องลงทุนมากๆ หรือวางเงินก่อน, ก็ลองคิดดีๆ

นี่คือชั่วโมงที่หลายคนเหลือเงินเก็บแค่ก้อนสุดท้าย

ข่าวฆ่าตัวตายรายวัน

ผมรู้ดีเลยว่าบางครั้ง, ตัว "ลั่นไก" มันก็เกิดจากการที่เงิน "ก้อนสุดท้าย" หายไป

พร้อมกับความหวัง

ของทั้งครอบครัว...

.

.

.

ปล. ในฐานะอดีตลูก Messenger, ถ้าช่วงนี้อาหารส่งช้าเพราะหน้าฝนก็ใจเย็นๆ กันนิดนะครับ

ถือว่าช่วยๆ กัน

ได้กินข้าวช้าหนึ่งมื้อเรารอได้

เชื่อเถอะว่าลูกของเขาก็อยากให้พ่อกลับบ้านไวๆ เหมือนกัน

น้ำมันแพง ราคาขึ้น สินค้า/บริการ ต่างขึ้นราคา

น้ำมันลง ราคาตกเป็นประวัติศาสตร์ใหม่ สินค้า/บริการ เสือกจะขอขึ้นราคา

"โควิดทำให้เราถึงกับอึ้งกิมกี่ไปเลยเนาะพี่น้อง คนไทยกลับกลายเป็นคนมีระเบียบวินัยในชั่วข้ามคืน ตรงกันข้ามญี่ปุ่นผู้มีชื่อเสียงเรื่องระเบียบวินัยกลับเละตุ้มเป๊ะไม่เป็นท่าโอ้ยกูงงหนักมาก"

มิตรสหายท่านนึงที่อยู่ญี่ปุ่นกล่าวไว้

ต้องขอบคุณหมอท่านที่มีส่วนร่วมสร้างความตระหนักอย่างสุดความสามารถ​

คนชอบเข้าใจผิดว่า สังคมเหลื่อมล้ำเกิดจากการที่มีคนรวยเยอะ
จริงๆมันเกิดเพราะมีคนโง่เยอะต่างหาก

โง่แถมขี้เกียจแต่อยากได้เท่ากับคนที่ทำงานหนัก

"If wealth was the inevitable result of hard work and enterprise, every woman in Africa would be a millionaire"

>>292 ลองไม่ปิดสถานที่ต่างๆ ไม่เคอร์ฟิวดู คิดว่าไทยกับยุ่นน่าจะพอๆ กัน

บางคนเกิดมามีบันไดทำจากทองให้เดินขึ้นไป
บางคนเกิดมาต้องตัดไม้มาทำบันไดปีนขึ้นไปเอง
นั่นคือความเหลื่อมล้ำต่างหาก
ออกจากทุ่งลาเวนเดอร์ก่อนนะหลิ่ม

>>292 ถ้าตำรวจยุ่นไล่จับคนระดับล่าแม้แต่​พวกไร้บ้านแล้วเอามาประจานการจับกุมรายวันกูว่าก็ไม่ต่างกันว่ะ น่าจะลดเท่ากัน แต่ ศก.ในประเทศ​คงชิบหายกว่าแน่ ปกติก็ฆ่าตัวตาย​เยอะสุดอยู่แล้ว​ดีไม่ดีเปิดล๊อกดาวมาจะเจอแต่ศพเต็ม​อพาร์ทเม้นท์​

อย่างแรกต้องเกริ่นก่อนว่า GSP คือ โครงการของอเมริกาที่ให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรกับประเทศกำลังพัฒนาและด้อยพัฒนา ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2519 เพื่อเปิดโอกาสให้สินค้าจากประเทศเหล่านี้สามารถเข้าไปแข่งขันในตลาดสหรัฐได้
.
ข้อมูลต่อจากที่ผมไปเจอมาผมอิงจากเว็บกรมการค้าต่างประเทศนะครับ
.
http://www.dft.go.th/th-th/DFT-Service/ServiceData-Information/dft-service-data-privilege/Detail-dft-service-data-privilege/ArticleId/5010/5010?fbclid=IwAR2M-LCcJImUTltS0VdQZA9QFJRzzlqaQkBW8cGmslZgfQ5ZrvrKoVnbmpk
.
1. ไทยเข้าโครงการนี้ตั้งแต่ปี 2519 และโครงการสิ้นสุดตั้งแต่ปี 2540 แล้ว
.
2. พอโครงการสิ้นสุด ไทยก็ขอต่ออายุ โดยการขอต่ออายุครั้งล่าสุด เป็นการต่ออายุครั้งที่ 10 แล้ว !!!!! โดยครั้งที่ 10 เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 ถึง 31 ธันวา 2563
.
นี่จะเห็นว่าอเมริกามีความพยายามจะยกเลิก GSP เร็วกว่าที่ตกลงกันไว้ เพราะประกาศจะยกเลิกในเดือนเมษา ทั้งๆที่ข้อตกลงเดิมจะยกเลิกสิ้นปี 2563
.
อเมริกาจะยกเลิกด้วยสาเหตุว่าไทยยังมีปัญหาเรื่องแรงงาน ข้ออ้างนี้มีมูลหรือไม่? ผมเลยลองไปดูเรื่องคุณสมบัติที่ประเทศนั้นๆจะขอสิทธิ GSP ได้ ก็พบว่ามีเงื่อนไขเรื่องนี้ถูกระบุเอาไว้ด้วย คือ
.
"การคุ้มครองสิทธิแรงงาน : จะต้องมีการคุ้มครองสิทธิแรงงานในระดับที่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ"
.
พอมีเงื่อนไขแบบนี้แล้ว มันก็ยิ่งสะท้อนเลยว่า นอกจากไทยจะขอต่ออายุไปเรื่อยๆแล้ว ก็ไม่มีความพยายามในการแก้ไขในเรื่องสิทธิแรงงานเลย เพราะผ่านมา 20 กว่าปีก็ไม่มีอะไรดีขึ้น มันเป็นเรื่องที่รู้กันทั่วไปว่า รัฐบาลไทยนั้นไม่เคยลงนามในอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) สองฉบับที่จัดว่าเป็นเรื่องพื้นฐานมากๆ ของการคุ้มครองแรงงานเลย นั่นก็คือ ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัวกัน และฉบับที่ 98 ว่าด้วยการปฏิบัติตามหลักแห่งสิทธิในการรวมตัวกันและการเจรจาต่อรอง
.
ดังนั้นสิ่งที่ทรัมป์กำลังเล่นงานไทยนั้นมีมูลอย่างแท้จริง และเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่อง IUU ที่ยุโรปให้ไทยผ่านแล้ว เพราะนั่นเป็นเรื่องการประมง คนละเรื่องกันเลย
.
แล้วการที่อเมริกาพึ่งจะมาเล่นงานไทยเอาตอนนี้นั้น มันเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ไทยแบนสารเคมี 3 ตัวหรือไม่? ประเด็นตรงนี้ผมจะต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่า อเมริกาได้วางแผนจะยกเลิก GSP ไทยตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมเลยลองไปหาข่าวเก่าๆดู แล้วผมก็เจอข่าวจากเว็บไซต์นึงพาดหัวข่าวว่า https://www.commercenewsagency.com/news/1485
.
"สหรัฐฯ ส่งคนพบ “พาณิชย์” ย้ำไม่แก้มาตรฐานแรงงานเป็นสากล จะมีผลต่อการได้สิทธิ GSP "
.
ข่าวนี้เขียนไว้ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2561 แล้ว นี่จึงเป็นการเตือนล่วงหน้าของอเมริกา ซึ่งเตือนตั้งแต่ยุครัฐบาล คสช. แล้ว แต่ลุงตู่และผองเพื่อนไม่แคร์อะไร ปล่อยปละละเลยมาเรื่อยๆ จนกระทั่งโดนทรัมป์เล่นในคราวนี้นั่นเอง
.
จากข้อมูลตรงนี้ทำให้ข้อครหาที่บอกว่าอเมริกาหาเรื่องไทยจากเรื่องการแบนสารเคมีนั้นไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไหร่ ดังนั้นการที่เจ้าหน้าที่รัฐบางคนรวมถึงประชาชนโจมตีอเมริกาว่า อเมริกาชั่วร้ายเห็นแก่ตัว รังแกคนไทย จึงดูเป็นเรื่องตลกไร้สาระเป็นนักโยนขี้ใส่คนอื่นไปในทันที เพราะต้นตอของปัญหาจริงๆ คือ การที่รัฐบาลไทยหลายยุคหลายสมัยไม่สนใจเรื่องสิทธิแรงงานสากลมากกว่า
.
ผมว่าเจ้าหน้าที่รัฐควรจะโทษตัวเองที่เผิกเฉยมาโดยตลอด แล้วคนไทยก็ควรจะรู้ตัวว่าไทยไม่ทำตัวให้เข้าเงื่อนไขของอเมริกาเอง ช่วยไม่ได้ครับ

>>298
ถามพ่อแม่ ปู่ย่าตายายมึงนะว่าทำไมเค้าไม่มีบันไดให้มึง

>>301 เพราะโดนเกณฑ์แรงงานฟรีกับผูกขาดการค้าไป500กว่าปี

>>302
โทษทุกอย่างยกเว้นตัวเอง ดูรายการอายุน้อยร้อยล้านเยอะๆนะโม่ง

>>300 นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังอเมริกาลืมชื่อไปละ อ่านข่าวเรื่องไทยเจอยกเลิก GSP เรื่องแรงงานแล้วขำก๊ากเลยนะ แถมประชด "อเมริกาเนี่ยนะสนใจเรื่องแรงงาน ?" ดังนั้นมึงเลิกคิดเรื่อง แรงงาน ไปได้เลย

>>304 ไม่ครุกแมนก็เบอนังเก้นี่ละที่พูด คือ 3 สารน่าจะเป็นฟางเส้นสุดท้าย แต่เรื่องแรงงาน ลองดูหน้าทรัมป์แล้วถามตัวเองสิว่าคนอย่างนั้นห่วงแรงงานต่างชาติเหรอ ขนาดในเมกาแม่งยังจะเนรเทศออกไปให้หมดเลย

>>304 ไอพวกร่านชังอเมริกา

>>304 GSPมันจะเลิกดื้อๆแบบไม่ให้เหตผลก็ทำได้นิ เล่นเลยเส้นตายมาสิบปีแล้ว

>>305 แรงงานต่างชาติ != แรงงานลักลอบผิดกม.

>>301 บอกให้โทษปู่ย่าตายาย แต่ >>303 บอกว่าโทษทุกอย่างนอกจากตัวเอง
เลิกดูทีวีซะนะโม่ง เผื่อจะเป็นผู้เป็นคนขึ้น

>>308
ไม่มีสมองที่จะคิดก็ตายกับความเหลื่อมล้ำต่อไปน่ะร่าน

>>307 ทรัมป์ไล่หมดละ ปีก่อนพึ่งวางระเบียบให้ขอวีซ่าทำงานยากขึ้น พวกโปรแกรมเมอร์อินเดียตกงานกันเป็นแถบ

>>309 พูดไม่ออกมีปัญญาแค่ยัดให้คนอื่นเป็นร่านเหรอวะ กูไม่ใช่คนที่เถียงกับมึงตอนแรกนะ

กูไม่คิดว่าความเหลื่อมล้ำมีปัญหาหรอก แต่สมองมึงอ่ะไม่ไหวแล้ว อิอิ

>>311
มีแต่ร่านชอบคิดว่าตัวเองเป็นไพร่

>>312 แล้วกูคิดว่าตัวเองเป็นไพร่ตอนไหน คิดแค่มึงเอ๋อพิมอะไรย้อนแยงปัญญาอ่อนอ่ะ แบบนี้เป็นร่านด้วยป่ะ งี้คนที่อ่าน >>301 >>303 คงเป็นร่านกันหมด

>>313
ใช่มึงเป็นร่าน
คนปกติที่ไหนจะอยากเป็นไพร่
บ่นแต่เรื่องเหลื่อมล้ำ เท่าเทียม

>>314 กูบ่นตอนไหน อย่าทำตัวเอ๋อให้มาก กูแค่เข้ามาขำคนปัญญาอ่อนที่เล่นอินเทอร์เน็ทเป็น

ใครจะหลิ่มจะร่านกุไม่สนใจหรอก แต่ไอ้ควายที่เอารายการอย่างอายุน้อยร้อยล้านเอามาเป็นตัวอย่างต่างหาก
ที่ควรจะไปถามพ่อแม่ปู่ย่าตายยายมึงเองว่าใช้นมคนหรือนมควายมาเลี้ยงมึงจนโต

ตกลงโรงบาลเมกามันวิกฤติจริงป่ะวะ กุเห็นพยาบาลเมกาแม่งโพสต์วิดิโอเต้นtiktokระหว่างเวลางานกันรัวๆ แล้วก็รอคำชื่นชมว่าเป็นฮีโร่ไหลมาเทมา

>>314 นิ่งๆ กินหญ้า ยอมโดนเอาเปรียบไม่พอเสือกมาบังคับให้คนอื่นยอมโดนเอาเปรียบเหมือนตัวเองด้วย นี่ยิ่งกว่าวัวควายอีกนะเนี่ย

คิดว่าไม่บอกไม่ได้ครับ เพราะ API มีแค่ขอให้ Service ของ Google/Apple คืนข้อมูลออกมา แม้ยังไม่มีหน้าจอออกมาตอนนี้ แต่ก็พอเดาได้ว่าตอนเรียก API จะกลายเป็น system UI ในการขออนุญาตผู้ใช้ ตัว app เองไม่เคยเข้าถึงฐานข้อมูลตรงๆ อยู่แล้ว (เป็นประเด็นสำคัญที่สองบริษัทออก API ออกมา)

มหาอำนาจกำหนดเทคนิคโนโลยีตัวเองก็เรื่องหนึ่ง แต่การที่บริษัทภายนอกทำได้ต่ำกว่ามาตรฐาน เช่น หมอชนะ ที่ใช้ static ID สร้างความเสี่ยงให้ผู้ใช้โดยไม่เกิดประโยชน์ใดๆ

ประเด็น static ID นี่เก่ามากๆ แล้ว (เกิน 5 ปีแล้ว) บทเรียนมีมาจำนวนมากว่าเวลา device ปล่อย static ID อย่าง MAC address จะมีคน abuse มัน ทั้ง iPhone/Android แก้ปัญหานี้กันหลายปี แต่ "ความคิดต่อยอด" อย่างหมอชนะก็ยังสร้างความเสี่ยงให้ประชาชนได้

“อ่านโพสต์นึงในกลุ่มหาคู่ น่าสนใจมาก เจ้าของโพสต์เปิดประเด็นว่า

“...ชวนเม้าท์ #เหตุผลปัญญาอ่อนที่สุด
ที่เคยเทหรือลดคะแนนคนที่คุยด้วยอยู่ คือเรื่องอะไรคะ ?...”

แล้วเขาก็ยกตัวอย่างเคสเขาที่เดทกับผู้ชายที่ร้านชาเฉพาะทาง ถาทฝ่ายชายว่าชอบดื่มชาแบบไหน? โดยคาดหวังคำตอบ มัทฉะ, โฮจิฉะ, เซนฉะ, เก็นไมฉะ ฯลฯ หรืออะไรเทือกๆนั้น

แต่คำตอบที่ได้จากฝ่ายชายคือ “แบบเย็น”

แน่นอนทางเจ้าของโพสต์ก็บอกตั้งแต่ต้นว่านี่เป็นเหตุผลปัญญาอ่อนที่สุด แต่ก็มีผลให้หมดอารมณ์คุยกับอีกฝ่ายไปพอควร ผมนั่งอ่านคำตอบของคนอื่นๆ มีมาตอบกันเยอะมาก อ่านไปอ่านมา เออ เจออะไรขำๆดี เลยเอาบางส่วนมาแชร์

และนี่คือเหตุผลที่มาจากประสบการณ์จริง และมีผลให้คนๆหนึ่งตัดคะแนน หรือไม่ไปต่อกับอีกฝ่าย ได้แก่...

- เคี้ยวอาหารเสียงดัง, ซดน้ำซุปดัง
- ไม่กินผัก
- กินข้าวด้วยแล้วไม่อร่อย (อีกฝ่ายไม่ enjoy eating)
- คู่สนทนาโง่, ตอบอะไรแบบโง่ๆ
- เสร่อเรียก “ที่รัก” เร็วเกินไป (เพิ่งเดทกัน)
- อีกฝ่ายแสดงอาการโกรธเพราะไปแดกสุกี้กันแล้วไม่ได้สั่งลูกชิ้นให้ (WTF!!)
- เอาตะเกียบคีบเนื้อจากหม้อสุกี้เข้าปาก
- ทานข้าวกันแล้วอีกฝ่ายไม่แกะกุ้งให้ ซ้ำยังแกะกินเองรัวๆอย่างรวดเร็ว
- พิมพ์ภาษาไทยผิดบ่อย, พิมพ์ภาษาสก๊อย
- เล็บยาว, ดูดนิ้ว, แคะขี้มูก
- เจ้ากี้เจ้าการ เช็คตลอดว่าทำอะไร ให้รายงานตัว
- โดนชวนไปไหว้พระ 7 วัด
- ทักมาถามเช้าเที่ยงเย็นทุกว่า “ทานข้าวแล้วยัง?”
- แต่งตัวเห่ย
- พกตะเกียบส่วนตัวไปร้านอาหาร
- ห้ามไม่ให้กินเฟรนฟราย
- ทักว่าหน้าเราเหมือนแฟนเก่าเขา
- ทักเรื่องสรีระ รูปร่าง หน้าตา
- พูดเรื่องคบจริงจังและแต่งงานตั้งแต่เดทแรก
- ร้องเพลงให้ฟัง แต่เพลงโคตรไม่ถูกใจ
- ยกมือเบรกตอนจะแสดงความเห็น เพราะเขาอยากชิงพูดก่อน
- ขวานผ่าซาก พูดตรงเกินไปจนเสียบรรยากาศ
- อวดเก่ง ขี้โม้
- พูดว่า “หมาปอมน่าเกลียด” โดยไม่รู้ว่าเราเลี้ยงหมาปอม
- ชวนตื่นมาเล่มเกมทุกวัน ตอนตีห้า
- ไปเดทที่ร้านอาหารดัง แต่อีกฝ่ายสั่งไข่เจียวหมูสับ กับแกงจืด
- ไปเดทที่ร้านอาหารอิตตาเลี่ยน แต่อีกฝ่ายสั่งผัดไทย
- กินราเมงแล้วเห็นอีกฝ่ายคายเส้นลงในชาม
- นามสกุลไม่เพราะ
- เขาเป็นภูมิแพ้
- เขากลัวจิ้งจก
- ชื่อเล่นเขาไม่ถูกใจเรา
- ยังไม่ทันตอบไลน์ สามนาทีต่อมาพิมพ์มาว่า “เงียบ”
- กด like โพสต์ หรือ รูปที่ลงเองในเฟสบุ๊ค
- เห็นน้ำลายยืดตอนหัวเราะ
- ผู้ชายกลัวปลาหมึก
- อีกฝ่ายทำเป็นเหมือนรู้ทุกอย่างว่าเราคิดอะไรอยู่
- รีบเรียกพนักงานมาสั่งอาหารอย่างไว ทั้งที่เรายังดูเมนูไม่เสร็จ
- ขับรถช้า
- ใส่รองเท้าแตะมาเดท
- อีกฝ่ายพูดจาเหมือนระลึกชาติได้ตอนกำลังกินข้าว
- แคะฟัน แคะขี้ฟัน แล้วกินขี้ฟันที่แงะออกมาต่อหน้า
- แนะนำให้ไปซื้อสีทาบ้านที่อิเกีย
- เจอกันแล้วบอกว่าสัตว์เลี้ยงเราไม่น่ารัก
- ผู้ชายเอื้อมมาตักข้าวเปล่าในจานเราไปกิน
- ผู้ชายบอกว่าเรารถเราเก่านะ เธอขับมารับเราสิ
- ผู้ชายใส่รองเท้ารูปปลามาเดท
- ไปเดท อีกฝ่ายสั่งสปาเกตตี้แกงเขียวหวาน แล้วดันขอน้ำปลาพริกมาปรุงเพิ่ม
- อวยประยุทธ์
- เล็บดำ
- พูดมาก พูดฝ่ายเดียว เหมือนปาฐกถาอะไรสักอย่าง
- ขนจมูกโผล่ งอนดกออกมานอกรูจมูก
- อยากตักอาหารให้เรา แต่ช้อนเลอะ เลยอมช้อนจนเกลี้ยงเกลา แล้วตักอาหารมาให้เราทาน
- แย่งหนังไก่ในจานเราไปกิน ทั้งที่อุส่าเก็บไว้ทานตอนท้ายสุด
- ผู้ชายขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ด้วยคำพูดคำว่า “ไปเยี่ยวนะ”
- ผู้ชายปลอบให้กำลังใจด้วยคำว่า “อย่าคิดมากนะ เดี๋ยวเยี่ยวเหนียว”
- เสื้อเหม็นเปรี้ยว
- ปากมีกลิ่นถั่วตลอดเวลา
- ผู้ชายพยายามอ่อนหวานพูดคะขา แต่พิมพ์ “นะคะ” เป็น “นะค่ะ” และพิมพ์ “ใช่ค่ะ” เป็น “ใช่คะ” ใช้ภาษาไทยผิดทุกครั้งที่คุย

ฯลฯ

อิสัส แต่ละอย่าง อ่านไปลั่นไป บ้าบอคอแตก แต่ก็พอเข้าใจได้”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ตอนเรียนวิชาประวัติศาสตร์จีนสมัยเป็นนักเรียน จำได้ว่าเหล่าซือเคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับยุคล่าอาณานิคม

"ตอนนั้นชาติตะวันตกพากันรุมทึ้งแผ่นดินจีน มีการยึดครองดินแดนและบังคับให้มีเขตอยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ มีการติดป้ายหมิ่นหยามคนจีนด้วยว่า [สุนัขกับคนจีนห้ามเข้า] "

พวกเรานักเรียนฟังแล้วพากันเลือดขึ้นหน้า ก่นด่าฝรั่งไปตาม ๆ กัน ยิ่งวันใดได้ดูหนังประเภทคนจีนต่อยกับฝรั่งด้วยแล้ว ถ้าเห็นฝรั่งถูกพระเอกสั่งสอนจะสะใจมาก

แต่ความจริงที่ได้รับรู้เมื่อโตแล้วก็คือ เขตเช่าไม่ใช่สิ่งที่ชาติตะวันตกเรียกร้องให้มี !

ตามสนธิสัญญานานกิงที่อังกฤษทำกับพระจักรพรรดิจีนหลังสงครามฝิ่น อังกฤษต้องการแค่สิทธิพำนักอยู่ในเซี่ยงไฮ้ได้เท่านั้น

แต่เป็นฝ่ายจีนเองที่เสนอให้มีเขตเช่า เพราะไม่อยากให้คนจีนต้องไปอยู่ใกล้ฝรั่ง กลัวว่าอาจมีเรื่องไม่เข้าใจแล้วกระทบกระทั่งกัน เลยตัดไฟแต่ต้นลม

รัฐบาลแมนจูเองก็ไม่อยากปกครองฝรั่ง เลยคิดว่าการมีเขตเช่าให้ฝรั่งปกครองภายในกันเองจะดีกว่า ตอนทำข้อตกลงเรื่องเขตเช่า ตัวแทนฝ่ายอังกฤษเป็นข้าราชการฝ่ายพลเรือนด้วยซ้ำ

ภายหลังจีนมีการทำสนธิสัญญากับประเทศอื่นอีกหลายฉบับ แทบทุกประเทศก็ล้วนมีเขตเช่าในเมืองจีน กระทั่งประเทศเล็ก ๆ อย่างเบลเยี่ยมซึ่งแทบไม่ได้กดดันอะไรรัฐบาลแมนจูเลย ก็ยังอุตส่าห์ได้เขตเช่ามา

สมัยนั้นฝรั่งต้องการเข้าไปตักตวงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในประเทศใต้อาณานิคมเท่านั้น เขาไม่อยากกระทบกระทั่งกับคนพื้นที่โดยไม่จำเป็น คนที่เข้ามาอยู่อาศัยก็ไม่ได้มีแต่ทหาร มีพลเรือนที่เป็นพ่อค้าจำนวนมาก อพยพมาอยู่กันเป็นครอบครัว

ความรู้สึกเหยียดเชื้อชาติของฝรั่งคงมีอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องของนโยบาย ยุคนั้นอย่าว่าแต่ประเทศใต้อาณานิคม คนอังกฤษที่มีฐานะด้อยก็ยังถูกชนชั้นสูงเหยียด

มีเรื่องเล่าว่าตอนที่รัฐบาลแมนจูเสนอจะยกเขตเช่าในเทียนสินให้สหรัฐอเมริกา ตัวแทนอเมริกาถึงกับตกใจ ไม่กล้าตัดสินใจโดยพลการ ต้องโทรเลขกลับไปหารือกับรัฐบาลที่วอชิงตัน

สุดท้ายรับไว้แบบชั่วคราว ตอนหลังมีการติดต่อขอคืนเขตเช่าด้วย แต่รัฐบาลแมนจูเพิกเฉย อเมริกาเลยยกเขตเช่านี้ให้อังกฤษไป

ขึ้นชื่อว่า "เขตเช่า" ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ผู้เช่าต้องจ่ายราคาในการเช่า เช่ารัฐบาลก็ต้องจ่ายรัฐบาล เช่าเอกชนก็ต้องจ่ายเจ้าของที่

ที่กวางเจามีโรงแรมแห่งหนึ่งชื่อว่า White Swan สร้างมาเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ ๆ เรียกว่า "ซาเมี่ยน" ซาเมี่ยนเกิดจากการถมที่ดินบนแม่น้ำจูเจียง (Pearl River) หมายความว่าเดิมไม่มีแผ่นดินนี้ แต่อังกฤษและฝรั่งเศษออกเงินจ้างคนถมเพื่อให้ได้แผ่นดินใหม่ขึ้นมา ใช้เป็นเขตเช่า

ถึงซาเมี่ยนจะไม่มีเจ้าของอยู่เดิม แต่การสร้างและอาศัยบนเกาะนี้ อังกฤษและฝรั่งเศษต้องจ่ายค่าเช่าให้รัฐบาลทุกปี

ข้อตกลงเกี่ยวกับเขตเช่า มีความที่ระบุมิให้ชาวตะวันตกปล่อยเช่าแก่คนจีน แรก ๆ ก็เป็นตามนั้น แต่ต่อมาคนจีนเจอปัญหาแก๊งค์มาเฟีย รู้สึกชีวิตไม่ปลอดภัย เลยแห่กันเข้าไปอยู่ในเขตเช่า พวกมาเฟียไม่กล้าเข้ามายุ่งในเขตเช่า เพราะมีทหารตะวันตกคุมอยู่

เมื่อคนจีนอยากเข้ามาอยู่ คนอังกฤษก็เลยถือโอกาสนี้สร้างบ้านให้เช่าเสียเลย มีการโฆษณาเชิญชวนทั้งที่ผิดกฎ

>>321 ต่อ

เขตเช่ามีระบบรักษาความปลอดภัยดี สาธารณูปโภคพร้อม แถมเวลามีคดีความ เจ้าหน้าที่ตะวันตกเป็นคนจัดการ ดีกว่าตำรวจจีน (เรื่องนี้ทำให้ฝรั่งไม่พอใจเหมือนกัน เพราะบ่อยครั้งที่คนจีนก่อความผิดในเขตเช่า ต้องส่งตัวให้ตำรวจจีน แต่ฝรั่งเขียนรายงานส่งตัวเป็นภาษาอังกฤษ พอตำรวจจีนอ่านไม่ออก ก็มักจะปล่อยตัวไป)

คนจีนที่มีระดับหน่อย ล้วนอยากเข้าไปอยู่ในเขตเช่าทั้งนั้น ครั้งหนึ่ง ประธานาธิบดีในยุคสาธารณรัฐ ก็เคยประกาศย้ายที่ทำการรัฐบาลไปอยู่ในเขตเช่าอังกฤษที่เมืองเทียนสิน

ถ้ามองในแง่ศักดิ์ศรีของประเทศ การมีเขตเช่าก็คือการเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต แต่ถ้ามองในแง่ดี มันก็ช่วยกดดันให้รัฐบาลจีนหาทางปรับปรุงกระบวนการยุติธรรมให้ทันสมัยมากขึ้น เช่นเดียวกับกรณีของไทย

ย้อนกลับมาดูประเด็น [คนจีนกับสุนัขห้ามเข้า] อีกครั้ง หลายปีก่อนเคยค้นข้อมูลเรื่องนี้ ผลสรุปที่ได้คือ

ไม่เคยมีการห้ามคนจีนเข้ามาในเขตเช่า !

แต่เคยมีการห้ามคนจีนไม่ให้เข้าไปในสวนของเขต The Bund สวนนี้สร้างขึ้นด้วยเงินของฝ่ายบริหารเขตเช่า

เคยมีข้อเขียนของบุคคลในอดีตหลายคนเช่น ดร.ซุนยัดเซ็น และโจวซู่เหริน (น้องของหลู่ซิ่น) พูดถึงป้าย [คนจีนกับสุนัขห้ามเข้า] แต่ก็ไม่เคยมีวัตถุพยานจริง ๆ และไม่มีแม้กระทั่งรูปถ่ายป้ายนั้น ท่านเหล่านี้จึงอาจ "ฟังเขาว่า" แล้วนำมาเขียนอีกที

แต่มีหลักฐานที่อาจพอจะอนุมานได้ว่าคล้าย ๆ กับป้ายห้ามคนจีนนั้น คือป้ายระเบียบการเข้าสวนสาธารณะที่ The Bund

สวนสาธารณะในเขต The Bund เคยอนุญาติให้คนจีนเข้าได้ในช่วงแรก ๆ แต่ต่อมาฝรั่งเห็นว่าคนจีนไม่ค่อยจะอารยะสร้างปัญหาเลยมีคำสั่งห้าม ต่อ ๆ มาอีกผู้บริหารเห็นว่าไม่ควรกีดกันคนจีน จึงผ่อนปรนให้เข้าได้ แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎที่วางไว้

ป้ายระเบียบนี้มีข้อหนึ่งที่บอกว่า "ห้ามบุคคลที่แต่งกายไม่สุภาพเข้ามาในสวน" และมีข้อที่บอกว่า "ห้ามนำสุนัข,จักรยานเข้ามาในสวน" คนจีนที่ไม่ชอบฝรั่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยอาจตีขลุมเอามารวม ๆ กันแล้วเล่าให้คนรุ่นหลังฟัง กลายเป็น [คนจีนกับสุนัขห้ามเข้า]

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

หลายคนพูดปาวๆว่ากลัวอดตาย แต่กูไม่เคยเห็นคนไทยอดตายจริงๆซะที
ไอ้พวกฆ่าตัวตาย บอกกลัวอดตายแต่ไม่กลัวฆ่าตัวเองตาย แปลกดี

>>323 ใครพูดครับ

- บอกเสมอว่า "การ์ดอย่าตก"

- มีเงิน 5 พัน ก็อยู่กันอย่างสบายๆ ประเทศเรามีผักสวนครัว รั้วกินได้

- คนไปหมอกันเยอะในช่วงธรรมดา เพราะมีประกันสังคม และ 30 บาท ให้ใช้

- เทียบสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งเกิดวิกฤตโควิด กับทุกๆปี ว่ามีคนตายจากการใช้รถใช้ถนนน้อยลง ตัวเลขเมาแล้วขับลดฮวบ พูดติดตลกว่า อยากให้ประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ช่วงนี้ทุกปี

- แนะคนกำลังวิกฤต กำลังไม่มีจะกิน "ให้ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ถ้าใจดี กายก็ดีขึ้นมาด้วย"

- ตกใจที่คนไม่มีจะกิน ไปต่อแถวรับแจกของประทังชีวิต โวยว่าสื่อสารทุกวัน ไม่เชื่อฟัง ชี้คนต่อแถวมีความเสี่ยงเป็นพาหะนำโรค ซึ่งผ่านมา 14 วัน ยังไม่มีใครที่ไปต่อแถวรับของแจก ป่วยโควิดเลย

- "คนฆ่าตัวตายจากภาวะโควิด ไม่เหนือความคาดหมาย และน้อยกว่าช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ฯลฯ"
.
.
.
ทั้งหมดนี้ Present By "นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน" โฆษก ศบค. อดีตหมอจิตเวชชื่อดัง รับบทตัวประกอบในภาพยนตร์หลายเรื่อง กล่าวเอาไว้...

>>325
ร่านแซะโง่อีกล่ะ
เค้าใจจิตวิทยาเป็นบวกเพื่อควบคุมคน
แต่ร่านแม่งไม่ชอบ

การใช้ชื่อสถานีรถไฟฟ้า บางบัวนั้น มหาวิทยาลัยศรีปทุมไม่มีข้อโต้เเย้ง

สิ่งที่อยากชี้ให้เห็นคือ ผู้ที่ใช้บริการสถานีนี้มากที่สุดตลอดวันน่าจะเป็นน.ศ บุคลากร และผู้มาติดต่อมหาวิทยาลัยศรีปทุมที่มี
นศ.ร่วม20,000 คน

เนื่องจากสถานีนี้
ตั้งอยุ่หน้าป้ายชื่อมหาวิทยาลัยและติดประตูทางเข้าออกมหาวิทยาลัย
หากจะช่วยอำนวยความเข้าใจและเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้คนที่ใช้บริการ
ทั้งหลาย
จีงน่าจะใช้ชื่อ
สถานีบางบัว(ม.ศรีปทุม)
ดังเช่น ตัวอย่างของสถานีหลักหก
(ม.รังสิต ) ดังรูป

เพิ่งทราบว่าเคยมีการสำรวจความคิดเห็นประชาชนไปก่อนหน้านี้โดย
สำนักงานการจราจรและขนส่ง
กรุงเทพมหานคร
เมื่อ ต้นปี 63

เราไม่ได้ต้องการ
ลบชื่อบางบัว เพียงเเต่
ขออำนวยความเข้าใจให้แก่ผู้สัญจร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อชุมชนบางบัวที่มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ด้วย ต่อผู้ใช้บริการ ต่อระบบขนส่งมวลชน
และกรุงเทพมหานคร

ศรีปทุมเป็นส่วนนึงของบางบัวมา 50 ปี และไม่เคยทิ้งชุมชนในยามวิกฤต

นี่คือเจตนารมณ์ เพื่อประโยชน์ของทุกคนที่ใช้เส้นทางนี้เเละผู้ที่ใช้สถานีนี้ค่ะ

บันทึกการปลดหนี้ #2: "หนี้ครอบครัวเป็นเรื่องของทุกคนในครอบครัว"
.
สถานการณ์ที่ขัดขวางการปลดหนี้ครอบครัวที่เจอบ่อยมากคือ มีคนนึงพยายามหาเงินใช้หนี้ ในขณะที่คนอื่นพยายามหาหนี้มาเพิ่ม จึงเกิดการติดลูปอนันต์ ผ่านไป 10 ปีหนี้ก็ไม่มีทางลดลง
.
ถ้าตั้งใจจะปลดหนี้ครอบครัวแล้วจริง ๆ สิ่งสำคัญมากที่ต้องตระหนักไว้ในใจคือ "ทุกคนต้องร่วมมือกันถึงจะทำสำเร็จได้"
.
จุดเริ่มต้นที่ดีของการวางแผนสำหรับภารกิจคือ "การจับทุกคนที่เกี่ยวข้องมาคุยกันอย่างเปิดใจถึงสถานการณ์ที่เจออยู่"
.
ทุกคนต้องเปิดชัดว่ามีรายได้เท่าไหร่ รายจ่ายส่วนตัวเท่าไหร่ มีค่าอะไรบ้าง และหนี้สินที่ต้องชำระต่อเดือนเป็นต้นเท่าไหร่ ดอกเบี้ยเท่าไหร่ หนี้เสียเท่าไหร่ หนี้สินทรัพย์เท่าไหร่ กางออกมาให้หมด
.
มาถึงจุดนี้ทุกคนต้องมีจุดหมายร่วมกันว่าจะจบหนี้ลงละนะ เป้าหมาย 5 ปี 10 ปีว่าไป แต่เปิดใจไปเลยว่าช่วงเวลานี้ทุกคนจะต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากหน่อย อาจต้องประหยัดหน่อย อาจเที่ยวบ่อยไม่ได้ละนะ อาจจะกินของดี ๆ บ่อยไม่ได้ละนะ แต่ถ้าผ่านไปได้ หลังจากนี้ก็จะสบายไปยาว ๆ แล้ว
.
หากใครไม่ยอมรับ เราก็อาจจะต้องใจร้ายหน่อยด้วยการควบคุมแกมบังคับ เช่น ถ้าเค้าก่อหนี้เพิ่ม เราต้องให้เค้ารับผิดชอบเอง คนอื่นจะไม่ช่วย ฯลฯ ทั้งนี้เพราะหนี้ครอบครัวไม่ใช่เรื่องของคน ๆ เดียว ทุกคนต้องช่วยกัน
.
ซึ่งหลังจากกางทุกอย่างออกมาแล้ว จริง ๆ ก็มีหลายทางเลือกให้เลือกนะ หากหนี้สินล้นจนร้อยปีก็จ่ายได้แค่ดอก บางทีการล้มละลายก็อาจเป็นทางเลือกนึง พวกนี้ไว้ลงรายละเอียดอีกที ที่สำคัญสำหรับโพสต์นี้คือ "ทุกคนต้องลงเรือลำเดียวกัน"
.
อย่างครอบครัวเรา หลังวันที่ตกลงวางแผนกัน เราก็หักบัตรเครดิตที่บ้านทิ้งหมด เหลือเราถือไว้ใบเดียว เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้เป็นไปตามแผน (และสำรองไว้สำหรับตอนที่มันไม่เป็นไปตามแผนด้วยเช่นกัน)
.
ระหว่างนี้ก็บอกครอบครัวว่าอาจจะเที่ยวบ่อยไม่ได้ละนะ ขอเวลาสักนิดนึงแล้วค่อยไปเที่ยวอีกที ซึ่งก็เจ็บปวดใจหน่อย ๆ เพราะอีกทีนั่นพ่อแม่อาจจะแก่แล้ว แต่นั่นแหละ ชีวิตมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
.
นี่ผ่านมาห้าหกปีได้ละหลังจากเป็นตัวหลักในการจัดการทุกอย่างในบ้านอย่างจริงจังและมีแบบแผน เหนื่อยเลือดตาแทบกระเด็น ลำบากกันหมดทุกคนในบ้าน ล่าสุดตอนนี้ถึงหนี้ยังไม่หมดแต่เริ่มให้พ่อแม่ไปเที่ยวได้(บ้าง)แล้ว
.
สำหรับคนที่มีปัญหาคุยกับคนในครอบครัวไม่ค่อยได้ความ นาทีนี้ก็คงต้องใช้ภาวะผู้นำและทำให้ได้หละ เพราะก้าวแรกนี้สำคัญมาก
.
ทุกคนต้องเดินไปในทางเดียวกัน ลำบากพร้อมกัน แต่สุดท้ายถ้าทำได้ รางวัลมันเรียกว่าสวยงามเลยนะ
.
ลุยเลย !

>>327 เป็นดราม่าที่ตามมาตลอดและมองว่าไร้สาระมาก สถานีใดๆ มันควรใช้ชื่อจุดที่คนทั่วไปรู้จักมากที่สุดแบบไม่ต้องคิดต่อ มองจากคนนอกนะ กูไม่รู้จักบางบัว แต่รู้จัก ม.ศรีปทุม เวลาเรียกแท็กซี่หลายคันยังไม่รู้จักบางบัวเลย แต่บอกศรีปทุมคือไปถูก

คนไทยชอบดูการ์ตูนนะ รวมถึงผมด้วย วันพีซ AOT ชอบมาก แต่การ์ตูนไทยพวกนี้มันไม่สนุกเท่าอ่ะ เหมือนจุดมุ่งหมายในการทำการ์ตูนของคนไทย คือ นำเสนอความเป็นไทย ความสนุกถือเป็นเรื่องรอง มันเลยไม่สนุก และขาดความคิดสร้างสรรค์ ลองดูของญี่ปุ่นทำไมการ์ตูนหลายเรื่องมากที่ดังไปทั่วโลก เค้าทำเพื่อให้คนดูสนุกและอินกับมัน เป็นจุดหมายหลัก ส่วนไอ้การยัดความเป็นญี่ปุ่นเข้ามาก็มีบ้างประปราย การ์ตูนไทยยัดเยียดเข้ามาจนมันรู้สึกเอียน น่าเบื่อ

>>330 แหกกรอบมากไม่ได้ โดนพวกหัวเก่าโวย

เพราะวาดไปก็โดนหาว่าลอก(ได้แรงบียดาลใจ)จากญี่ปุ่นไง
เขาถึงพยายามแนะให้มีอะไรที่มันไม่ดูแล้วนึกว่าเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น

วาดตัวละครหน้าตาดีหรือเซ็กซี่เกินไป ก็หาว่าเป็นวัตถุทางเพศ

>>333 อันนี้จริง แต่เดิมสังคมไทยก็ปวดหัวกับขวาสุดโต่งเอะอะๆ ก็อ้างศีลธรรมอยู่แล้ว หลังๆ ดันเจอซ้ายตกขอบเอะอะๆ ก็บอกเหยียดนั่นนี่อีก สรุปอยู่นิ่งๆ ดีกว่า

ชอบทักษิณ เลือกอนาคตใหม่ไม่เกี่ยวอะไรกับความเป็นลิ่มค่ะคุณ ลิ่มคือคนที่ไม่เข้าใจปัญหาทางโครงสร้าง ปัญหาของระบอบ

"อยากให้ช่วยกระจายข่าว วันก่อนเห็นข่าว รัฐอุ้มการบินไทย 60000 ล้าน เพราะเป็นสายการบินแห่งชาติ แต่ผมมานั่งคิด รถเมล์ รถสารธารณะ ในเมืองและ ตามต่างจังหวัดยังเป็นรถเก่าๆ ผมเคยนั่งรถอมก๋อย-เชียงใหม่ ยังเป็นรถเก่า ร้อนคนแน่น คือ ทำไมรัฐไม่เคยมาอุ้มอะไรแบบนี้เลย ผมมีความรู้สึกว่ารถพวกนี้มันเข้าถึงทุกคนได้ง่าย ทุกคนทุกระดับ แต่มีสภาพแย่ ซึ่งต่อให้ขาดทุนแต่มันก็ทำให้คนจนได้ใช้ แต่การบินไทย คนจนคนทั่วไปแทบจะเอื้อมไม่ถึงกับราคาที่สูง บางครั้งผมยังรุ้สึก airasia เป็นสายการบินแห่งชาติมากกว่าอีก"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง ส่งความเห็นพร้อมข่าวมาหลังไมค์

https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2166865

>>335
บ่นไรร่าน

"เปิดเมืองเปิดเทอมให้ลูกไปเรียนตามปกติ แล้วให้ลูกมึงติดเชื้อระบบหายใจล้มเหลวต้องใส่เครื่องช่วยหายใจนอนกระเสือกกระสนในห้องความดันลบ เอาไหมล่ะ ?"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>334 ขวาร้าย
ซ้ายร่าน

>>338 มีเด็กกี่คนอาการหนักมั่งวะ

โหนทั้งขวา ทั้งซ้าย = ขนมหวาน

>>340 ต่ำกว่า 0.5% อีกมั้ง แต่มึงอยากเสี่ยงเหรอ ต่อให้ลูกมึงอาการไม่หนักก็ไม่ได้แปลว่าตัวมึงจะอาการไม่หนักนะ ที่จีนตายทั้งบ้านเหลือลูกน้อยคนเดียวก็มี

>>342 มันขึ้นอยู่กับมุมมอง ถ้าคนที่พร้อม ต่อให้ 0.001% ก็จะไม่เสี่ยงเพราะไม่รู้ว่าหวยจะออกที่ตัวเองหรือเปล่า แต่ถ้าคนที่ต้องทำมาหากิน ต่อให้เสี่ยงแบบ 1 ใน 100 ก็ยอมเพราะถ้าไม่ทำงานก็อดตายชัวร์ การเรียนก็เหมือนกัน เมืองฝรั่งว่าเจริญก็มีปัญหานี้ ตลาดบน พ่อแม่ WFH ได้ ลูกเรียนออนไลน์ได้ แต่ตลาดล่างทำไม่ได้ไง งานพ่อแม่ใช้แรงกายต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แถมรายได้ก็ไม่ได้มากพอมาจ่ายค่าเน็ตแรงๆ รายเดือนอีก

ในนี้แม่งมีแต่คุ กลัวนู้น กลัวนี่ ไม่อยากออกจากบ้าน คิดง่าตัวเองฉลาด
ไม่ต้องทำเหี้ยไรแล้ว

>>343 โอกาสโดนรถชนขณะเดินยังมีมากกว่าเลยมั้ง

ทำไมบางคนยังแยกแยะไม่ออกว่าประชาชนอดตายส่วนใหญ่มันคนละกลุ่มกับไปซื้อเบียร์เหล้าตาม Makro ฯลฯ

ใครอดตายก็ไปโรงทาน ไปวัดสิ มีมือมีตีนแท้ๆ

*ใครกลัวอดตาย

>>346 จะบอกว่าคนจนไมากินเหล้า?

>>346
ซื้อเหล้าเบียร์มาตุนคือคนจน หาเช้ากินค่ำ ❌
ซื้อเหล้าเบียร์มาตุนคือเจ้าของร้านโชห่วย ร้านขายของชำท้องถิ่น ✅

>>346 เวเนซูเอลา เศรษฐกิจเละเทะ แต่เหล้ายังขายดี ผับยังมีคนเข้านะฮะ https://www.bbc.com/thai/international-49673193 (ตุลา 62 ยังไม่มีโควิด แต่ประเทศเละเทะไปแล้ว)

ข้อสอบเด็กญี่ปุ่นทำไมถามอะไรโหดชิกหาย...

*******************
ข้อ 3. จากส่วนที่ขีดเส้นใต้ในข้อ (2) "การงานอันสิ้นหวัง เพ้อฝันว่าตนจะสร้างที่อยู่อันมีคุณค่าของตนขึ้นมาในโลกของผู้อื่นได้" ให้ยกตัวอย่างการงานที่มีลักษณะเช่นนั้นภายใน 40 ตัวอักษร

ตอบ : แฟนของไอดอลที่หลงเข้าใจผิดว่าหากตนไม่ไปงานจับมือ จะทำให้ไอดอลคนนั้นเสียใจ

*******************

อาจารย์ให้ถูกด้วยนะเออ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>351 มึงอ่านข่าวยังไงให้ตีความได้อย่างนั้นวะ แล้วกูเห็นเอาข่าวนี้มาเล่นกันจัง พวกที่แปะลิ้งมันได้อ่านกันสักคนมั้ยน่ะ

'ที่นี่เคยคนแน่นไปหมด'
'ที่นี่เกือบจะไม่มีแขกเข้าร้านเลย มีพนักงานมากกว่าลูกค้าด้วยซ้ำ'
'โกกุย 1 ขวดมีราคา 14,000 โบลิวาร์ หรือไม่ถึง 30 บาท'

อ่านมันยังไงถึงตีความได้ว่า "เหล้ายังขายดี ผับยังมีคนเข้า" วะ ให้เหล้าไทย 30 บาทมึงค่อยเอามาเทียบนะ

ผมเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกเฉยๆกับคณะราษฎร์นะ คือไม่ได้คิดว่าคณะราษฎร์คือฮีโร่ผู้มาปลดปล่อยอะไรแบบนั้นน่ะ แต่ก็ไม่ได้มองว่าคณะราษฎร์แม่งชั่วเลวทรามด้วยเหมือนกัน ผมไม่เคยมองแยกแบบขาว-ดำง่ายๆเหมือนที่หลายคนมอง

ถ้าเราไปดูก่อนหน้านี้ เราจะเห็นว่าก่อน 2475 โดยเฉพาะช่วง ร.5-7 มันมีความพยายามเปลี่ยนระบอบจากสมบูรณฯไปเป็นระบอบอื่นอยู่ตลอด งานเขียนของนิธิบางชิ้นก็เคยให้มุมมองเรื่องนี้ว่าระบอบสมบูรณฯมันไม่สามารถรักษาตัวเองไว้ได้ต่างหาก และมีอายุสั้นมากด้วยซ้ำไป

คณะราษฎร์เองก็มีปัญหาหลังเปลี่ยนระบอบเยอะแยะ งานศึกษามีให้อ่านเพียบเลยครับ ผมเลยเฉยๆ คือมันก็ดีที่เปลี่ยนระบอบได้ แต่สุดท้ายฝ่ายเปลี่ยนระบอบก็ไม่สามารถรักษาระบอบใหม่ไว้ได้นานนัก ช่วงหนึ่งคนในคณะราษฎร์บางคนพาประเทศไปเป็นเผด็จการทหารชาตินิยมด้วยซ้ำไป แค่มันกด..ไว้ใต้ตีนทหารเท่านั้นเอง

พอระบอบใหม่ไม่ได้ลงหลักปักฐานดี จอมพลสฤษดิ์กับเมกาเข้ามา พวก.ผงาดเลย เหยียบฝ่ายอำนาจประชาชนมิด คนอีกฝ่ายก็เลยต้องไปอยู่กับ พคท เพราะมันมีช่องแค่นั้น

คูณูปการเดียวของคณะราษฎร์ที่ผมคิดว่าพูดได้เต็มปากก็คือคณะนี้สานภารกิจจากกลุ่มต้องการความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ ร.5 ได้สำเร็จ

และความผิดพลาดสำคัญที่คนรุ่นหลังรู้ดีคือคณะราษฎร์ไม่กวาดล้างเจ้าให้สิ้นซากจนหมด ไม่ยอมตัดหัว เนรเทศ หรือสลายตระกูล...ให้หมดอำนาจทางการเมืองนั่นล่ะครับ (ผมก็รู้ดีว่าต่อให้...โดนกวาดล้างจนหมดในครานั้น เราก็จะมีปัญหาใหม่ๆเกิดขึ้นอยู่ดี, แต่อย่างน้อยก็ไม่มีพวก...มาชูคอสลอนใช้ภาษีประชาชนให้เปล่าประโยชน์ไปวันๆอย่างทุกวันนี้แน่นอน)

คณะราษฎร์คือการคลี่คลายตัวส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองสยามเท่านั้น ใครจะมองว่าเป็นฮีโร่หรือผู้ร้ายก็แล้วแต่จุดยืนทางการเมืองของคุณ

สำหรับผม ฮีโร่แม่งมีพวกเดียวเท่านั้นคือ "ประชาชน"

ถ้าคุณไม่เชื่อก่อนว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน คุณจะมองหาฮีโร่ผู้ปลดปล่อยอยู่ทุกวันนั่นแหละครับ...

>>353 มันแค่ไม่ดีเหมือนก่อน แต่ดูจากภาพก็ยังมีคนเข้าไปเที่ยวผับ ยังมีคนมุงเพื่อซื้อเหล้า ทั้งที่เศรษฐกิจแม่งเละเทะกว่าไทยเยอะ

ชีวิตเราต้องการเพียงสี่อย่าง
อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย
เเต่พอมีวิกฤตโควิด ผู้คนก็เครียดกันเพราะว่าจะไม่ได้ทำงาน ซึ่งมันทำให้ไม่มีเงิน

เมื่อไหร่เราถึงจะหลุดออกจากระบบนี้ได้?

>>353 ศก.เละเทะ แต่ก็ยัง แดกเหล้าเข้าผับขับรถเที่ยว ไง

ปัญหาที่สังคมให้ความสนใจในช่วงนี้ คือความล่าช้า (เป็นเดือนๆ) ของการเบิกเงินกรณีว่างงานของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ที่มีคนไปขอใช้สิทธิจำนวนมากเป็นประวัติการณ์

ความเดือดดาลที่เข้าใจได้ของคนเดือดร้อน ส่งผลให้บางคนถึงขนาดออกมาขู่ฆ่า จนท.สปส. เพราะมองว่า จนท. นิ่งดูดายต่อปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกันตนที่ตกงาน

มีเจ้าหน้าที่รัฐหลังไมค์มา อยากให้ข้อมูลตามนี้นะคะ —

เรื่องความล่าช้าในการรับแจ้ง วินิจฉัย อนุมัติกรณีว่างงานครั้งนี้ ต้องขอเรียนว่า จนท. สปส. หลายพันคนถูกเกณฑ์ทำงานกันอย่างเต็มที่ และมูลเหตุของปัญหานี้หลักๆ ไม่ได้อยู่ที่ จนท. แต่เป็นเพราะ ความผิดปกติของระบบ IT ที่ สปส. ใช้ระบบเดิมมาอย่างยาวนานถึง 20 ปี

ระบบ IT ที่ใช้กับผู้ประกันตนในกรณีว่างงานครั้งนี้ (และใช้ทั่วไปเกี่ยวกับ ม.33 และ 39) ชื่อ SAPIENS เป็นระบบที่ สปส. ได้ว่าจ้างให้พัฒนาขึ้นเมื่อราวปี ค.ศ. 2000 และที่ปรึกษาด้าน IT ของ สปส. ในขณะนั้น บอกว่าระบบนี้จะทันสมัยอยู่แค่ 3-5 ปีเท่านั้น วันนี้เวลาผ่านมาอีกสิบกว่าปี ดังนั้นคำถามคือ ทำไมทุกวันนี้ สปส. ยังใช้ระบบนี้อยู่ และทำไมถึงได้ยอมเสียค่าบำรุงรักษาปีละมหาศาล กับระบบที่ล้าสมัยสุดขีด ทำไมไม่ซื้อระบบใหม่มาใช้แทน

ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา สปส. มีการตั้งงบประมาณอย่างน้อย 3 ครั้ง เพื่อพัฒนาระบบ SAPIENS เป็นระบบอื่น เช่น Web Application (จริงๆ น่าจะมากกว่า 3 ครั้ง แต่อะไรที่เกี่ยวกับ IT จะเป็นความลับระดับคอขาดบาดตายใน สปส.) โดยครั้งหนึ่ง เคยตั้งวงเงินสูงถึงกว่า 2 พันล้านบาท และได้ดำเนินการไปจนมีการตรวจรับแล้วเสร็จ แต่ทว่าทุกวันนี้ก็ไม่มีระบบใหม่มาทดแทนระบบ SAPIENS อย่างเต็มรูปแบบ และกรณีว่างงานครั้งนี้ก็ยังใช้งานระบบ SAPIENS อยู่เช่นกัน

เรื่องจ่ายเงิน 2 พันกว่าล้านแล้วไม่รู้ว่าได้อะไรกลับมานี้ ได้ยินมานานแล้วว่า เรื่องอยู่ที่ ปปช. แล้ว แต่จนถึงบัดนี้ ก็ยังไม่เห็นมีผลการตัดสินอะไรออกมา ก่อนหน้านี้หลายคนก็คุยกันเล่นๆ ว่า ถ้าเกิดวิกฤติหนักๆ ขึ้นมา ระบบนี้จะรองรับไหวได้อย่างไร ในที่สุดก็มาเกิดเหตุการณ์ไวรัส COVID19 ขึ้น

ในกระบวนการใช้ระบบ SAPIENS กับการรับแจ้ง วินิจฉัย และอนุมัติเงินทดแทนกรณีว่างงานในครั้งนี้นั้น จนท.สปส. จะต้องนำข้อมูลลงทะเบียนของผู้ว่างงานแต่ละคน ที่เป็นข้อมูล Digital อยู่แล้ว ปรินท์ออกมาเป็นกระดาษ ปรินท์กันเป็นร้อยๆ รีม จนเครื่องปรินท์พังแล้วพังอีก แล้วก็เอาข้อมูลในกระดาษเหล่านั้น มาให้ จนท. พิมพ์มือใส่เข้าไปใหม่ใน SAPIENS โดยต้องพิมพ์ข้อมูลเข้าไปทีละคน ทั้งที่อยู่ เบอร์โทร บัญชีธนาคาร ฯลฯ แบบ manual สุดขีด

จากนั้น จนท. ต้องเข้าไปดูอีกหน้าหนึ่งของ SAPIENS ว่า นายจ้างมีการรับรองมาแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่รับรอง ก็ทำต่อไม่ได้ (บางกรณีรับรองแล้วแต่ระบบยังไม่อัพเดทก็มี ต้องมาเช็คอีกครั้งวันรุ่งขึ้น ทำให้ช้าไปอีก) ถ้ารับรองแล้ว จนท. ต้องกดยืนยันและบันทึกการรับรองนั้นในระบบอีกครั้ง แล้วถึงจะเข้าไปดูการเกิดสิทธิได้ ว่ามีเงินสมทบ 6 ใน 15 เดือนหรือไม่ วิธีดู 6/15 คือ จนท. ต้องกดเข้าไปในหน้าแสดงเงินเดือน แล้วใช้ตาดู แล้วนับนิ้วเอาว่า ประสบเหตุเดือนไหน แล้วถ้านับถอยหลังไป 15 เดือน จะเริ่มนับที่เดือนอะไรปีไหน และดูด้วยตาอีกครั้งว่ามีเงินสมทบครบ 6 เดือนหรือเปล่า
​

ต่อมา ในการคำนวนเงินทดแทนกรณีว่างงาน จนท. ต้องดูในหน้าเงินสมทบใน SAPIENS เหมือนเดิม แล้วดูด้วยตาอีกครั้งว่า 3 เดือนไหนมีเงินเยอะสุด ดูเสร็จแล้ว ถ้าตัวเลขซับซ้อน ไม่เหมือนกัน 3 เดือน เช่น เดือนนึง 9,826 บาท อีกเดือน 6,378 บาท อีกเดือนนึง 11,720 บาท สมอง จนท. จำไม่ไหว ก็ต้องจดลงกระดาษ แล้วค่อยเอาเลขที่จดนั้นมากรอกลงใน SAPIENS อีกหน้าหนึ่งด้วยมืออีกครั้ง

ในกระบวนการ digital to manual แบบสุดยอด manual เหล่านี้ ต้องยอมรับว่ามีโอกาสเกิดความผิดพลาดของมนุษย์หรือ human error แน่นอน

นอกจากนี้ จนท.รับแจ้ง (ที่ถูกเกณฑ์มาเฉพาะกิจ) กับ จนท.วินิจฉัยอนุมัติ ก็เป็นคนละคนกัน เพราะเป็นเรื่องเงิน จึงต้องละเอียดอ่อน และต้องใช้คนมีประสบการณ์ในการวินิจฉัยอนุมัติ ทำให้ จนท.วินิจฉัยอนุมัติ ต้องมาตรวจอีกว่า จนท.รับแจ้ง กรอกข้อมูลถูกหรือไม่ แถมบางครั้งก็มีความซ้ำซ้อน เพราะ จนท. ไม่รู้ว่าข้อมูลกระดาษที่ตัวเองได้มา มี จนท. จากหน่วยอื่นเอาไปทำแล้วหรือยัง เหล่านี้ก็ทำให้ยิ่งล่าช้าเข้าไปอีก

นี่ยังไม่รวมถึง คำสั่งควบคุมของ SAPIENS ที่มีลักษณะไม่เหมือนกับคำสั่งของโปรแกรมสมัยใหม่ คือ มีหน้าจอเหมือน DOS และต้องกดปุ่ม F1-F12 ร่วมกับปุ่มอื่นๆ ในการสั่งการ อีกทั้ง การที่ จนท. นับพันคนใช้ระบบพร้อมกัน ทำให้ระบบช้า อืด บางทีก็ค้าง กดทีนึงแล้วต้องรอไป 3-10 วินาที หรือบางทีก็เจ๊งไปเลยครึ่งวัน เข้าไปทำงานไม่ได้ ที่ช้าอยู่แล้ว ก็ยิ่งช้าเข้าไปอีก

เชื่อว่าประชาชนคงจะงง และสงสัยว่านี่มันยุคสมัยไหนแล้ว เรื่องพวกนี้ทำไมทำให้มันอัตโนมัติไปเลยไม่ได้ ข้อมูลที่เป็น Digital แล้ว ทำไมต้องมากรอกมือใส่เข้าไปใหม่อีก ซึ่งขอบอกว่า จนท.สปส. ทุกคนเองก็งง และสงสัยไม่ต่างกัน แต่เขาสั่งมา และเงื่อนไขมันเป็นอย่างนี้ ทุกคนก็มีหน้าที่เดียว คือทำไปเงียบๆ (หลายคนไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของปัญหา SAPIENS นี่ด้วยซ้ำ เพราะอย่างที่บอกว่า ลับระดับคอขาดบาดตาย คนข้างในก็ไม่ค่อยกล้าคุยกันเรื่องนี้)

สรุปได้ว่า ความล่าช้าในการดำเนินงานกรณีว่างงานในช่วง COVID19 นี้ จนท.สปส. ไม่ได้มีส่วนในการทำผิดเลย แต่เป็นผู้ที่ต้องมารับผิดชอบต่อความผิดที่ตนไม่ได้ก่อด้วยซ้ำ คือต้องถูกเกณฑ์ให้มาทำเรื่องรับแจ้ง วินิจฉัย และอนุมัติ ไปพร้อมๆ กับทำงานในหน้าที่หลักของแต่ละคน ซึ่งหลายคนถูกสั่งให้ทำงานนี้ตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม อาทิตย์ละ 7 วัน คือทำเต็มที่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยระบบ SAPIENS มันทำให้ทำได้เร็วที่สุดได้แค่นี้

ถ้าถามว่า แล้วใครที่ต้องรับผิดชอบในความล้มเหลวนี้ คิดว่าน่าจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง ในโครงการพัฒนาระบบ IT ของ สปส. ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา คนพวกนี้ต้องมาตอบคำถามให้ได้ว่า ทำไมเอาเงินในกองทุนประกันสังคมจ่ายออกไปแล้วเป็นพันๆ ล้าน ทำไมมีการตรวจรับเซ็นงานกันมาหมดแล้วทุกครั้ง แต่ทำไมทุกวันนี้ยังต้องใช้ SAPIENS อยู่ ทั้งๆ ที่มันล้าหลัง และเน้นใช้แรงงานคนขนาดนี้ (ถ้า สปส. มี IT ที่ดี เราจะไม่จำเป็นต้องจ้าง จนท. เยอะขนาดนี้) และในช่วงเวลาสำคัญอย่างนี้ ต้องมาทำให้ผู้ว่างงานจำนวนมากต้องมาเดือดร้อนไปด้วย ทั้งๆ ที่เขาก็จ่ายเงินสมทบให้เราทุกเดือน

ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ คงต้องช่วยกันกระทุ้งสื่อมวลชนให้สืบหาข้อเท็จจริง และส่งเสียงดังๆ ไปถึง สำนักงาน ป.ป.ช. ว่าเคยสอบสวนกรณี IT ใน สปส. หรือไม่ ถ้าทำ เรื่องไปถึงไหนแล้ว ทำไมถึงไม่มีความคืบหน้า

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

เมื่อไหรธนาธรจะโอนตังค์ 3000 ค่ะ

/มิตรสหายผูกคอตายทั่นหนึ่ง

ป้าข้างบ้านกูเป็นส_ลิ่มด่าทอน วานซืนด่าไอ้ทอนต่อว่าให้เงินช้ายุ่งยาก wtf

>>361 แปลกไร ร่านด่ารัฐบาลขอทานยังแบมือขอเงินเลย

ถ้าอยากได้ประชากรเด็กเกิดใหม่มากกว่านี้ ก่อนอื่นมึงหยุดให้เด็กดูคลิปแม่คลอดลูกทั่วประเทศก่อนเลยค่ะอิสัส นี่สาบานว่าจะไม่มีลูกเด็ดขาดตั้งแต่ ป.3 เพราะคลิปนี้แหละ

>>363 จะเอาเชื้อไพร่ไปทำไมเยอะแยะ​ คนดีเทวดามันสูงส่งนักให้ขยายพันกันเองเหอะไงๆก็อยากยึดปทอยู่ละนี่​ อย่างน้อยกูเป็นขี้ข้ารุ่นเดียวจบก็พอใจละ

>>364
ทำไมมีมึงเป็นขี้ข้าอยู่คนเดียว
ถามคนอื่นรึยัง

>>365 เเรง

>>365 ไอ้สัสถูกใจ 555+

เอาอาไรกับปาเทดที่มองแอลกอฮอล์เป็นเครื่องมือฆ่าคน แต่ไม่เคยมองเป็นวัฒนธรรมอาหารเครื่องดื่มอ่าคะ รายการทำอาหารใส่สาเกมึงยังเซ็นเซอร์คิดดูเอา รัฐศาสนาชัดๆ

เจ้าสัวไม่ได้รวยเพราะว่าพอเพียง เขารวยเพราะไม่พอ

>>369 มีทุนพอ มีคนพอ มีทรัพยากรพอ มีเส้นสายพอ
ถึงรวยได้เรื่อยๆต่างหาก ลองไม่พอโดนคู่แข่งแซงไปนานแล้ว

>>370 ไม่พอ นี่หมายถึง มีความทะเยอะทะยาน มีความโลภ ต้องการเรื่อยไม่=(ที่มีอยู่) ไม่พอไม่ได้พอใจสินทรัพย์ที่ตัวเองมี

*ต้องการเรื่อยๆ= (ที่มีอยู่)ไม่พอ

ว่าแล้วต้องเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น อะไรมันจะพอดีพล็อตนิยายขนาดนั้น เรื่องคือวันนี้ตอนบ่ายจะมีสอบวิชานึงซึ่งอาจารย์ require การเปิดซูมตลอดเวลาพร้อมกับทำข้อสอบส่ง
แน่อยู่ละอาจจะต้องมี ipad พร้อมคอม หรือมือถือเพื่อเปิดกล้องไปด้วยทำข้อสอบไปด้วยแล้วถ่ายรูปข้อสอบส่งpdf ไปให้อีก
ทีนี้เมื่อคืนดั้นนฝนตกหนักมากไฟดับตั้งแต่ตี 3 จนตอนนี้ยังไม่ติดเลย ละยังไงต่อ การติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกและอินเตอร์เน็ตชั้นทำได้จากมือถือเครื่องเดียว มัน impossible มากที่จะสอบและเปิดzoomและโหลดข้อสอบมาสอบพร้อมๆกัน หรือจะแชร์เน็ตเข้าipadแต่ใช้zoomแล้วจะกระตุกมาก ทีนี้ความผิดเกิดจากชั้นมั้ย ก็ไม่ ใครมันจะไปทราบว่าไฟดับ มันสุดวิสัย เลยนึกถึงประเด็นของทวิตนึงเลยที่บอกว่า’ถ้าบ้านจนก็ไม่ต้องสอบนะครับ5555’ ซึ่งเนี่ย เด็กคนนึงมันต้องมีipad 2เครื่องสามเครื่องพร้อมระบบอินเตอร์เน็ตไฮสปีดกันหมดเลยหรอ ชั้นว่าชั้นเริ่มเห็นความเหลื่อมล้ำของการ study and exam from home เข้าอย่างจังๆแล้ว

ปล.ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาไงถ้าบ่ายแล้วไฟยังไม่มา ถอนก็อยากถอนให้มันติด W ไปรอเรียนอย่างมีประสิทธิภาพใหม่อีกครั้งดีกว่า

เวลาที่คุณเห็นภาพคนต่อคิวรอรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลกันแน่นทั้งวัน
บางกลุ่มก็ออกมาร้องเรียน เรียกร้องทั้งวัน แล้วรู้สึกยังไงบ้าง
ขอโทษที่อยากเล่าความรู้สึกตัวเอง ทั้งที่รู้ว่าจะมีคนเกลียดเพิ่มขึ้น
แต่ช่วงนี้เห็นภาพเหล่านี้แล้วตั้งคำถามในใจตัวเองทุกวันจริงๆ

- ไม่ทำมาหากินหรอ? ถ้าว่างงาน จะจ้างไปล้างรถที่ร้าน จ่ายเงินตามกฏหมายด้วย แต่ต้องทำงานแบบไม่บ่น ไม่อู้ ตื่นมาทำงานให้ทัน ไม่ทันหักตามนาที ทำได้ไหม?
- บอกว่าตกงาน เดือนร้อนไม่มีเงินกิน? แล้วคิดว่าเจ้าของธุรกิจ เค้าไม่เจ๊งหรอ เค้าก็เจ๊งเหมือนกันเด้อ เค้าเจ็บหนักกว่าด้วยต้องหาเงินมาใช้หนี้
- ปกติทำงานแล้วไม่มีเงินเก็บ ไม่มีทรัพย์สินไว้ขายกินในยามขัดสนหรอ แล้วเอาเงินไปทำอะไรหมดหละ
- บอกว่าเป็นคนจนไม่มีงานทำรัฐต้องดูแล แล้วไม่คิดถึงคนทำมาหากิน จ่ายภาษีรายได้ส่วนบุคคล ภาษีบริษัทหรอ จะบอกว่าจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว คือคนทำมาหากินเค้าก็จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มเหมือนกัน
- เวลาที่ซื้อบุหรี่สูบ ซื้อเหล้ากิน โดยอ้างว่าเคลียดงาน ทำงานเคลียด
ทำไมไม่เอาเวลามา ฝึกทักษะทำนู่นทำนี่พัฒนาศักยภาพหละ ฝึกทำอาหาร ไปสมัครงานที่แปลกใหม่ฝึกทักษะกับนายจ้าง ที่กล้าพูดแบบนี้เพราะในชีวิตเคยมีลูกน้องหลายคนที่มาทำงานด้วยฝึกฝนทักษะอย่างมีวินัย จนเก่ง และไปต่อยอดได้ก้าวหน้า แต่ยอมรับว่าส่วนมากที่เห็นคือ หาเช้ากินค่ำ เช้ากินข้าว บ่ายซื้อบุหรี่ เย็นกินเหล้า หาเช้า ค่ำกินหมดนั่นเอง อย่าอ้างว่าทำอะไรไม่เป็นเลย รีบหันกลับไปมองตัวเอง แล้วด่าตัวเองให้หนักว่าทำไมตอนนี้กูขี้เกรียจว่ะ ทำไมกูไม่มีวินัยในการฝึกฝนเลยว่ะ ทำไมกูใช้ชีวิตไปวันๆว่ะ แล้วก็ลุกขึ้นมาสู้ซะ ลุกขึ้นมาาาาาา

คนทำมาหากินทำงานทำการ จ่ายภาษีให้ประเทศชาติ ทุกคนก็หวังว่าประเทศจะได้นำเงินไปพัฒนาส่วนต่างๆ แต่สุดท้ายก็เอาเงินไปแจกจ่ายให้คนที่บอกว่าเป็นผู้มีรายได้น้อยต้องดูแล แจกแบบนี้มากี่ปีแล้ว ทำไมคนรายได้น้อยมันก็ยังไม่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญหละ เพราะว่าเงินที่แจกๆไป ไม่ได้นำไปลงทุนไปต่อยอด ได้มาก็กินหมดใช่ไหม หรือว่าไม่ใช่ ช่วยบอกทีเอาเงินไปทำอะไร การแจกเงินแบบนี้มันช่วยอะไรกันแน่ #ร้องไห้

มือกำจับแท่งร้อน ขึ้นลง
ประหนึ่งแทนถ้ำอนงค์ ห่อหุ้ม
ประคองแท่งทวนองคะ ชาติให้เคลื่อนนา
เป็นกิจคลายผ่อนกลุ้ม หงุดเงี้ยวหายดี

วัยรุ่นคิดครุ่นค้น อยากลอง
ใช่มีสองต่อสอง ให้ใช้
ธรรมชาติมีเกิดนอง น้ำหยาด นิทรา
หัตถกามจึงเกิดไว้ เผื่อต้องสนองสนาน

กำหนัดเกิดรุ่มร้อน ผ่อนคลาย
กำหนัดเกิดอยากระบาย ฟุ้งซ่าน
กำหนัดจับแท่งคู่กาย อย่าบ่อย นาพี่
เกรงบ่มีจิตสะท้าน ต่อเนื้อนวลจริง

โลกเราใช่ดีล้วน เสียมี
พอเหมาะกำลังดี เกิดค่า
หมกมุ่นในราคี โทษเกิด แท้นอ
เรียนตกแรงลดช้า อย่าได้เผลอตัว

สีเสียดเกิดบ่อยให้ เสกสี
เกินเหมาะเกินพอดี เกิดคล้ำ
จิตมุ่งแต่โลกีย์ ต้องเสื่อม
เอ็นฝ่อเนื้อแท่งช้ำ ห่อนรู้รสสนาน

มีดคมมีเพื่อใช้ จำเป็น
ใช่ชักกวัดแกว่งเล่น หมดค่า
โดนลมโบกพัดเย็น สนิมเกาะ
สู้ศึกจริงอ่อนล้า อีกทั้งตื่นสนาม

ฝักใฝ่จนคลั่งไคล้ หัตถ์ปรือ
สุขยิ่งจนติดมือ ค่ำเช้า
โทษก่อแน่แท้คือ ยึดติดแทนนาง
พอเสพย์สาวคลอเคล้า จิตฟุ้งสติผวา

เรือล่มปากอ่าวทิ้ง จมลง
นกกระจอกบ่ทันลง จิบน้ำ
เหมือนปืนลั่นงุนงง ไปก่อน
หนุ่มเครียดสาวชอกช้ำ สุขแท้เป็นไฉน

จึงขอเตือนบอกให้ เยาวชน
รู้สิ่งร้ายดีปน ก่อนใช้
เรียนรู้เหมาะวัยตน อย่าเร่งร้อนเริง
แรงหนุ่มออมเก็บไว้ คู่แท้คนควร

ความลักลั่นย้อนแย้งของรัฐบาลชุดนี้ เวลาคุยกับชาวโลกบอกว่าไทยมีผู้ติดเชื้อไม่สูงมาก แต่สิ่งที่รัฐบาลทำคือนอนกอด พรก ฉุกเฉิน

>>375 ไอ้สัส!!!

"สิ่งที่คุณควรมีก่อนอายุ30
คืออายุ29"
Made in ประทานเต๋า
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>376 ก็ผ่อนคลายกฎแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้ามันนอนกอดจริงป่านนี้ยังไม่ให้คนออกจากบ้านหรอก

>>379 ถ้าล็อกดาวน์ต่อไปอีกมันเสี่ยงม็อบไง เพราะรู้ว่าไม่มีปัญญาดูแล แต่พวกทีมเสธ. ที่มีแต่หมออยากให้ล็อกต่อไปอย่างน้อย 15 วันนะ

พมต จะให้เริ่มเรียนเดือนสิงหาให้ได้เลยนะมึง แทนที่จะหามาตรการมาเพื่อให้ได้เปิดเทอมเร็วขึ้น ประเทศใกล้เคียงเขาไปเรียนกันแล้ว

>>381 ถ้าทำให้ทุกคนเรียน-ทำงานออนไลน์ได้ ใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้มั่งวะ (ลองมาทฤษฎีสมคบคิดกันหน่อยดิ)

>>382 กูสนับสนุนให้เรียนออนไลน์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเด็กยากจนควรทำยังไง แต่ถ้าทำไม่ได้ก็อยากให้เขาหาวิธีให้ไปเรียนปลอดภัยก่อนเดือนสิงหา ตอนนี้คือตั้งใจให้เรียนสิงหา-เมษา อัดแน่นเพื่อให้ครบหลักสูตร เพราะเขาอยากให้กลับไปเปิดพฤษภาเหมือนเดิม

>>382 เจ้านาย - เรียกใช้ได้ตลอดเวลา เพราะคิดว่าลูกน้องอยู่บ้านเเล้ว ชิล ๆ
ครู , นักเรียน - นักเรียนอู้ได้ ครูไม่ต้องดุ ไม่เรียนก็ช่างมัน ไม่จำเป็นต้องเข้าทุกชั่วโมง ไม่มีการหักคะเเนนจิตพิสัย (มั้ง) ไม่ต้องเข้าเเถว เเต่ตอนสอบอาจจะยากหน่อย
พนักงาน - ได้ทำงานในสภาพเเวดล้อมที่อิสระ

>>380 อีกพวกบอกล็อคดาวกันม็อบ อีกพวกบอกเลิกล็อคดาวเพราะกลัวม็อบ ตกลงจะเอาไงกัน

>>385 ล็อกดาวน์กันม้อบ = ม็อบ นศ. ติ่งส้ม , ล็อกดาวน์นานเกินไป = ม็อบชาวบ้าน เครียดตกงาน ไม่มีรายได้ จะอดตาย

พวกหลังน่ากลัวกว่าพวกแรกนะ เพราะรากหญ้า-กลางค่อนล่างมีทั้งแดง ส้ม เหลือง (ส่วนขนมหวานชิลๆ สถานะโดยรวมมีเงินมากกว่าอีก 3 สีที่เหลือ)

เห็นช่วงนี้มีประเด็นเรื่องคนจนซื้อเหล้า ถึงขั้นมีบางเพจวาดการ์ตูนล้อเลียนเลยก็มี บางคนก็เอาไปเปรียบเทียบว่าคนจนชอบบ่นว่าจน อดอยากต้องไปต่อแถวรอรับข้าวฟรีตามจุดต่างๆในกรุงเทพฯ แต่พอห้างเปิดให้ขายเหล้า ก็แห่กันไปซื้อตุน แย่งกันซื้อในห้างสรรพสินค้า (จากกรณีคลิปเมื่อวานนี้)

อันนี้ขอแสดงความคิดเห็นว่าค่อนข้าง Misleading นิดหนึ่งนะครับ มันเป็นเรื่องจริงที่ว่ามีคนไปต่อแถวตีกินเนียนรอรับข้าวฟรีตามจุดต่างๆในกรุงเทพ หรือจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์จังหวัดตามเขตศาลากลาง แล้วพอห้างเปิดก็เอาเงินเยียวยา 5,000 บาทไปซื้อเหล้ากันจริง อาจมีบ้าง

แต่ต้องไม่นำมาปนกับเรื่องคนจนที่จนกันจริงๆแบบไม่มีจะกิน ไม่มีเงินกินข้าว ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน เพราะไม่มีงานทำ ออกไปทำงาน ไปขายของไม่ได้นะครับ พวกนี้เขารอรับเงิน 5,000 บาทสำหรับการเยียวยาจริง และผมมั่นใจว่าเขาคงไม่ไปต่อคิวแย่งกันซื้อเหล้า ซื้อเบียร์เป็นลังๆตามห้างสรรพสินค้าหรอก

ถ้าพิจารณาเอาทีละจุด สังเกตคนที่ไปรุมทึ้งกองลังเบียร์ ส่วนใหญ่เขาซื้อไปเก็บเตรียมขาย เตรียมโก่งราคา ทำกำไรกันมากกว่าครับ ตรงนี้ใครที่อยู่ตามต่างจังหวัดคงทราบดีว่าช่วงที่มีการห้ามขายเหล้า เบียร์ก่อนหน้านี้ ทำให้ราคาของเหล้าเบียร์ ที่ร้านโชห่วยเอามาแอบขายนั้นพุ่งไปหลายบาท

คนที่มาซื้อกันในคลิปที่แพร่ออกมาเมื่อวานนั้น มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเป็นพวกคนจนที่ต่อคิว ต่อแถวรอรับข้าวฟรี หรือกลุ่มที่ไปประท้วงหน้ากระทรวงการคลังเลย ผมจะบอกอะไรให้อย่างหนึ่งนะครับ เวลาคนจนต่างจังหวัดเขาซื้อหาเหล้ามากระดกกินกัน

เขาไม่ได้ซื้อทีละเป็นขวด หรือซื้อเป็นแพ็ค เป็นลังเอาไปเก็บ ไปตุนเอาไว้ที่บ้าน พวกที่ซื้อเป็นลัง เป็นแพ็คนั้นพวกมีตังค์ มีเงินพอประมาณอยู่แล้ว เป็นชนชั้นกลางที่มีเงินเก็บ ส่วนคนจนเวลาเขาซื้อนะ ถ้าไม่ได้มีปาร์ตี้หรือตั้งวงเหล้าเป็นหมู่คณะเขาไม่ซื้อเป็นขวดๆกันหรอก

เขาซื้อกันเป็นเป๊ก เป็นกลม เป็นแบนกันทีละน้อย บางทีก็ซื้อใส่ถุงหิ้วกลับบ้าน ทีละเล็กละน้อย ไม่ได้ซื้อทีละเยอะๆ เพราะอะไรรู้ไหมครับ? เพราะเขาหาเช้ากินค่ำ เงินเก็บ เงินในกระเป๋าไม่ค่อยมีจะถือกัน แต่ก็ยังอยากกินเหล้ากัน ก็จะซื้อทีละน้อยๆ พอเป็นกระษัยให้หายอยาก บางทีดีไม่ดีซื้อแบบแปะ แบบเซ็นไว้กับร้านโชห่วย

ติดหนี้เป็นเดือนๆไม่มาจ่ายก็มี นี่คือวิถีชีวิตคนจน คนหาเช้ากินค่ำ คนทำงานก่อสร้าง และคนที่เป็นลูกจ้างรายวันตามต่างจังหวัดครับ เขาไม่มีเงินไปเดินห้าม เดินเข็นรถเข็นหอบเบียร์ หอบเหล้าเป็นลังๆซื้อตุนไว้ที่บ้านกันหรอก พวกนั้นมันซื้อไปขายต่อครับ

ประเด็นนี้จึงไม่ควรโทษคนจน พวกแร้งรุมทึ้งเมื่อวานผมดูยังไงก็ไม่น่าใช่คนจนอะครับ นะเห็นใจคนจนกันหน่อย แค่นี้เขาก็แย่กันแล้ว อย่าไปดูถูกหรือไปเหยียดหยามอะไรพวกเขาเลย สงสารเขา แค่นี้ก็ฆ่าตัวตายประชดชีวิตกันไปหลายคนแล้วเฉลี่ยวันละ 1-2 คน

(มีต่อ)

( ต่อจาก >>387 )

ส่วนอีกประเด็นหนึ่งที่มีข้อครหาและเป็นประเด็นกันว่าจนแล้วเอาเงินไปซื้อเหล้ากินกันทำไม?

อันนี้ผมพยายามนั่งคิดลองพิจารณาหาเหตุผลมาทำความเข้าใจคนเหล่านั้นดู ว่าทำไมจนแล้วยังต้องซื้อเหล้า จริงๆถ้าพูดในมิติหนึ่งแบบ Common sense หรือเหตุผลตรงๆเลยก็คือ คนพวกนี้ไม่รู้จักออมเงิน ไม่รู้จักควบคุมความอยาก ความกระหายของตนเอง ไม่รู้จักหักห้ามใจ และปล่อยปละละเลยให้ตัวเองเสพติดกับของมึนเมา

แต่ในความเป็นจริงถ้าเราใส่มิติทางสังคมวัฒนธรรม และมิติทางเศรษฐกิจกับความเหลื่อมล้ำเข้าไป เราอาจจะเห็นกันได้ว่า มันไม่ใช่แค่นั้น มันไม่ใช่ว่าเขาโง่ หรือ จน หรือ เสพติดของมึนเมา เอาแต่กินเหล้าสำมะเลเทเมาตั้งวงเหล้าเมากันแต่หัววันหลังเลิกงานทุกวันเสมอไป

แต่เพราะเขามีทางเลือกชีวิตที่น้อยกว่าคนชนชั้นกลางแบบพวกเราทั่วๆไป เขาไม่ได้มีเงินเดือน 15,000 บาทหลังเรียนจบ ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีเก่งจนสามารถทำการค้าขายออนไลน์ได้ ไม่มีเงินเก็บ พ่อแม่ไม่ได้รับราชการ ไม่ได้มีเงินมรดก ไม่มีบ้าน ไม่มีรถเป็นของตัวเองแล้วส่งต่อให้ลูก

แบบชนชั้นกลาง หรือคนเมือง คนที่ทำงานตามออฟฟิศสมัยนี้ ที่พ่อแม่ก็เริ่มมีทุนไว้ให้บ้างบางส่วนแล้ว ในทางกลับกันหลายคนที่เป็นคนจนเขาไม่มีแม้กระทั่งโอกาสจะได้เรียนหนังสือ เรียนจบ ม.3 เขาก็ออกไปทำงาน ไปหัดใช้แรงงาน หลายคนไม่ได้กลับเข้าสู่ระบบโรงเรียน

หนังสือไม่ได้เรียน ไม่มีทักษะความรู้มหาวิทยาลัย เงินเดือนก็น้อย โอกาสที่จะทำมาหากิน ค้าขายให้ประสบความสำเร็จเป็นคนรวย เลื่อนชนชั้นมันก็ยิ่งน้อยลง ที่บอกว่าเรียนไม่จบก็เป็นเศรษฐีได้มันมีน้อยนะครับ ในโลกความเป็นจริง และคนจน คนหาเช้ากินค่ำเขาไม่ค่อยมีทางเลือกในการหาความสุขใส่ตัวแบบพวกเรา

เขาไม่มีเงินไปกินบุฟเฟต์หมูกระทะหรือปิ้งย่างมื้อละ 499 หรือ 599 อาหารเหลายิ่งไม่ต้องพูดถึง อาหารโต๊ะจีน ร้าน Fine-dining อะไรเย็นวันศุกร์ไม่มีทาง เขาไม่มีโอกาสหาความสุขง่ายๆแบบพวกเรา อย่างพวกเราทำงานมาเหนื่อยๆวันศุกร์ก็ไปสุขุมวิท ไปทองหล่อ ไปนั่งจิบค็อกเทลอยู่บนชั้น 55 ของโรงแรมทุกสุดสัปดาห์

หรือบางทีเบื่อๆก็ไปกิน Omakase ชุดละ 5,000 บาท อะไรแบบนี้กัน บางคนเบื่อๆไปช็อปปิ้งตาม Central Embassy ก็ได้ความสุข แก้เครียดไปได้หลายเปราะแล้ว แต่สำหรับคนหาเช้ากินค่ำ พวกเขาไม่มีต้นทุน ไม่มีเงินมากพอจะไปหากิจกรรมอะไรที่ผ่อนคลายทำได้แบบพวกเราไงครับ

ชีวิตเขาก็มีแต่ทำงานๆ หลายคนทำงานกันเกินวันละ 8-9 ชั่วโมงตกเย็นมืดมาต้องทำ OT รับงานมาทำเพิ่มอีก ทางเลือกเขามีไม่มากครับ เวลาจะทำกิจกรรมหาความสุข ตังค์จะซื้อเกมผ่านระบบ Steam ยังคิดแล้วคิดอีกเลยมั้ง จะให้เขาไปเล่นเกมคลายเครียดก็ไม่มี Smartphone ดีๆใช้อีก

ดังนั้นเหล้า เบียร์ แอลกอฮอล์อะไรพวกนี้มันก็เลยกลายเป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้ง่าย และสะดวก บริโภคง่ายสำหรับพวกเขา เลิกงานมาก็กินหล้า ไม่ใช่ว่าเขาอยากกินนะครับ แต่เขาก็มีความเครียด มีความทุกข์ยากในแบบของเขา แต่คือเขาไม่มีทางเลือกไงครับ ก็มีทางเลือกไม่กี่อย่าง เหล้าก็เป็นความสุขเล็กๆ

ให้เวลาหลังเลิกงานของเขา ได้สามารถหลบหนีออกจากความระทม ความเลวร้ายในชีวิตและสภาพแวดล้อมที่เขาเจอมาในแต่ละวันได้ การเมา ก็เหมือนเขาได้เข้าไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ได้หลบ ได้หลุดออกไปจากอะไรที่จำเจ หรือเลวร้าย ความเครียดที่รุมเร้าชั่วครู่ชั่วยาม

แน่นอนมันไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง และลำบากหมอ ลำบากคนสาธารณสุขต้องมาดูแลอีก ก็จริงครับ ผมไม่เถียงเรื่องนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเหลื่อมล้ำ และความยากจน ความทุกข์ของคนหาเช้ากินค่ำมันเป็นปัจจัย เป็นตัวแปรที่เข้ามามีอิทธิพลต่อพฤติกรรมทำนองนี้ไม่น้อย

ที่เขียนนี้ผมไม่ได้เข้าข้างหรือต้องการบอกว่าคุณต้องเห็นใจคนจน หรือบอกว่าคนจนสามารถกินเหล้าได้ไม่ผิด อะไรทำนองนั้น แต่ผมเขียนเพราะอยากชวนกันมาลองขบคิดถึงเหตุผลในหลายๆแง่มุมต่อประเด็นปัญหาสังคมที่เกิดขึ้น มองจากหลายๆกรอบ หลายๆมุม จะได้เห็นภาพที่กว้างขึ้น

เพราะเรื่องพวกนี้นั้นมันไม่ได้มีแค่แง่มุมหรือมิติใดมิติหนึ่งเพียงชุดเดียว มันมีอีกหลายแง่มุมมากที่คนแก้ปัญหาต้องทำเพื่อทำความเข้าใจ เพื่อที่จะได้สามารถสรรหา และออกแบบนโยบายดีๆมาช่วยเหลือพวกเขาได้ จะทำความเข้าใจกับอะไรพวกนี้ บางทีเราต้องใส่แง่มุม มิติของความเป็นมนุษย์ เรื่อง sympathy อะไรพวกนี้ลงไปด้วยน่ะ

(พูดง่ายๆคือในเชิงนโยบายแล้วมันซับซ้อนมากกว่าการจะมาบอกว่า "คนจนโง่")

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

"สังคมปัจจุบันแม่งทำจิตใจคนเปราะบางจนแม้กระทั่งหมาตัวเดียวยังเกิดเอฟเฟกต์ขนาดนี้ หาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้เลยนะครับ จุดกองฟอนเผาทั้งเป็นเลย ผมเชื่อว่าปัญญาชนอย่างพวกคุณอยากทำ"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ใครที่ไม่มีอะไรจะเสีย แล้วคิดจะฆ่าตัวตาย กูขอเลยอย่าตายแบบโง่ๆ ไหนๆจะตายช่วยทำเพื่อปลดเอกประชาชนหน่อย มึงไปหาอาวุธมาเลย รวมตัวกันเข้าไปบุกธรรมเนียบ จัดการล้างบางไอ้พวกนายก รมต. เหี้ยๆไปจากโลกนี้ซะ มันอาจเป็นการกรทำที่รุนแรง แต่มันก็เป็นความหวังเพื่อปลดเอกได้ ถ้าไม่สำเร็จมันก็เป็นการต่อสู้เพื่อจุดประกายสังคมให้คนที่ถูกกดขี่ออกมาลุกขึ้นสู้ตาม

>>390 เห็นด้วยว่ะ

โดนลอบสังหาร = Martyred = สร้างความชอบธรรม

ปลดแอกยังไงวะ ดูหนังมากไปเปล่า

>>392 Guy Falwk หน้ากากแป๊ะยิ้ม กลายเป็นสัญลักษณ์ของม็อบต้านรัฐบาลทั่วโลกเพราะทำแบบ >>390 อะ ถึงจะไม่สำเร็จก็เหอะ

ต้องเป็นคนแบบไหน ถึงจะยุให้คนที่สิ้นหวังไปก่อวินาศกรรมเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองได้

>>393 ไอ้ที่พอโดนจับ ก็ยอมคายข้อมูลจนพรรคพวกโดนจับประหารเหี้ยนใช่ป่ะ

ก็ปกตินะ การโค่นล้มอะไรต่าง ๆ ก็มีหลายวิธี เเต่ดูเเล้วถ้าอดข้าวประท้วง รัฐบาลไทยก็คงจะไร้สำนึกเหมือนเดิม พวกคนประท้วงบางคนก็ป็อดกลับบ้านไปเเดกข้าว โดนตอกกลับว่าไม่เเน่จริงอีก

ถืออาวุธไปฆ่าพวกเหี้ย ๆ เเบบศาลเตี้ยเลยเเน่กว่าเยอะ

>>396 ในประเทศที่กระบวนการยุติธรรมไร้ความน่าเชื่อถือ ศาลเตี้ยนี่แหละคือทางออกที่ดีที่สุด

>>396
โดนทหารปราบอย่าร้องโอดโอย

สมมุติน่ะ P40. อยากขาย อายุ 2 วัน จะขายได้กี่บาทครับ อุปกรณ์ครบยกกล่องยังไม่ได้ใช้เลยอุปกรณ์ ... ขออนุญาติไม่อวย ในฐานะคนใช้หัวเหว๋ยตั้งแต่ P10 , P20 , P30pro , P40 ตามทุกรุ่นตอนแรกคิดว่าไม่มี GMS ไม่เป็นไรหรอกมั่งคิดปุ๊บซื้อปั๊บ ไม่ลองเล่นไม่เคยเห็นตัวจริง มั่นใจในแบรนด์สุงมาก , เอาไปเอามาแค่ขาด YouTube อกก็จะแตกตายละผม ยังไม่รวม Google drive , Google Photo , Google map ขาดไม่ได้ แต่กล้องคือเทพ ดีหมด แต่ไม่มี GMS ไปนั่งติดตั้ง APK. รู้สึกมันไม่เรือธงเท่าไหร่ 😁😁😁

>>398 ไม่ร้องหรอก ตายก่อนจะร้อง

พรรคการเมืองกู้ ธนาธรปล่อยกู้ คือยุบพรรค

รัฐบาลกู้ ประชาชนปล่อยกู้ คือ ออกพันธบัตร

ช่วงนี้หันกลับมาทำ approximation algorithms เลยมีไอเดียว่ามันน่าจะมีปัญหาที่เราสามารถที่จะทำ quantum approximation algorithms ได้ เพราะ quantum computers ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาประเภท NP-complete ได้ เลยค้น ๆ ดู ปรากฏว่ามีคนทำไว้แล้วพอสมควรเลยแหละครับ
งานวิจัยพื้นฐานบ้านเราค่อนข้างอ่อนแอและดำเนินไปอย่างเชื่องช้ามาก อันนี้เป็นปัญหาใหญ่เลยนะครับ เพราะเราจะไม่สามารถที่จะมี technology เป็นของตนเองได้เลย หากขาดการวิจัยพื้นฐาน ทำให้เราต้องเป็นทาสทางเทคโนโลยีของประเทศอื่น ๆ ตลอดกาล😥

https://scontent.fbkk3-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-0/p180x540/96527739_10222899727780231_4357204524625035264_o.jpg?_nc_cat=101&_nc_sid=730e14&_nc_eui2=AeH2lOYO7qIcphNWPQreFPDds47RQgDwF-WzjtFCAPAX5V5xLrPYPi2lKyzppqSIppY&_nc_oc=AQmtsexF6jsO34-1Dne79BHxhnj-9SziTgUB9Mwaw5pcyAZ50FXNaKeFsf67Ot_0_Gw&_nc_ht=scontent.fbkk3-1.fna&_nc_tp=6&oh=81be2c456019a58dea2a855b83d75994&oe=5EDD695B

การเปิดเสรีการบินยุครัฐบาลทักษิณ เป็นเหตุให้การบินไทยกำไรลดลงแน่นอน เพราะเกิดการแข่งขันและมีตั๋วราคาถูกลง (แต่การล้มละลายน่าจะเป็นเพราะไม่มีความสามารถในการแข่งขันมากกว่า)​

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้นะ ว่าต้นทุนการเดินทางที่แพงคืออุปสรรคของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ดังนั้นการเปิดเสรีการบิน จึงเป็นรากฐานสำคัญให้ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่ม 3 เท่า จาก 9 แสนล้านบาท/ปี มาเป็น 3 ล้านล้านบาท/ปี โดยจำนวนคนที่เดินทางด้วยตั๋ว Low cost เพิ่มขึ้นถึง 7 เท่า จาก 10 ล้านคน/ปี มาเป็น 72 ล้านคน/ปี ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

ต้นทุนของการเปิดเสรีการบิน คือ Wealth (Equity Value) ของ ก.การคลัง จากการถือหุ้นการบินไทย 51% ลดลงไป 3 หมื่นล้านใน 10 ปี (เฉลี่ยปีละ 3 พันล้าน)

สรุปว่าไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นที่กระจายไปให้ชาวบ้านทั่วไทยปีละ 2 แสนล้านบาท แต่รัฐบาลไทยมี Wealth (Equity value) จากการบินไทยที่ลดลงปีละ 2.6 พันล้านบาท ดังนั้น การตัดสินใจของรัฐบาลทักษิณในการเปิดเสรีการบินนั้นถูกต้องแล้ว และทุกการตัดสินใจย่อมมีต้นทุน

>>403 มันมีแนวคิดหนึ่งบอกว่า รัฐที่ดีคือรัฐที่ตัวรัฐ (หมายถึงหน่วยงานราชการ พวกกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ไม่ใช่รัฐบาลหรือผู้บริหารหน่วยงาน) รวยน้อยลงหน่อย ถาษีไม่ต้องขยันเก็บเยอะ (คนละเรื่องกับการเก็บได้กว้างขวางนะ) แต่ปัจเจกชนแต่ละคนมีเงินในกระเป๋ามากในระดับที่ไม่เดือดร้อนใดๆ ในการใช้ชีวิต --------> ซึ่งบ้านเราไม่ใช่แนวนี้แน่ๆ

>>403 มันจะดีกว่าถ้าทักษินเอาสายการบินไทยมาแตกสาย(เหมือนมือถือจีน)ทำโลว์คอสไม่ใช่ไปเอาชาติอื่นมาแข่งตีตัวเข้าบ้าน

>>405 การบินไทย ก็แตกไทยสไมล์? ไม่ได้ช่วยบริษัทแม่หรอ

>>404 งั้นรัฐแสกนดิเนเวียคงเลวสุดในโลกเลยละแบบนี้ ภาษี 45-50% ทั้งนั้น

>>407 เป็นแนวระบบเศรษฐกิจทุนนิยม

แนวคิดสำหรับ*

คุณแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง = โดนทัวร์ลง
แล้วคนเหล่านั้นเขามาจับคุณไปกักขัง ห้ามพูด หรือแสดงการคุกคามชีวิตคุณหรือเปล่า ถ้าไม่ นั่นก็คือเสรีภาพในการพูดหรือการแสดงความคิดเห็นของคุณ
ซึ่งโคตรแตกต่างกับการเชียร์เผด็จการ เพราะหากคุณพูดไม่เข้าหูก็โดนเรียกไปปรับทัศนคติ พร้อมแสดงการข่มขู่และคุกคามไง
คุณมืงเข้าใจเข้าใจด้วยว่านี่แหละคือการคุกคามเสรีภาพ ที่มันไม่ใช่ประชาธิปไตย

>>410
เขร้ ต่อไปนี้กฏหมายหมิ่นประมาทไม่ต้องมีแล้วอยากพ่นไรก็ได้สิน่ะร่าน

>>411 ด่าทักษิณ ด่าทอนนี่โดนหมิ่นประมาทป่าว เอียงกระเท่เร่สมเป็นสลิ่่มเลยนะครับ

>>412 สมัยแม้วขู่ตลอดนะ แต่ฟ้องจริงมั้ยกูจำไม่ได้

>>412
หมิ่นดิ มึงลืมที่ทักษิณฟ้องชาวบ้านแล้วเหรอ?

>>413
ฟ้องสนธิลิ้มไง ก่อนจะเกิดเสื้อเหลือง

https://www.thairath.co.th/content/630435

>>413-416 ศาลยกฟ้องทุกคดีนะคร้าบ มีอันไหนโดนจับจริงบ้าง ต่างจากอีกฝั่งที่ไม่ต้องรอศาลก็หัวเกรียนแล้ว เอียงเป็นศาลไทยเลยนะครับ

แยกให้ออกนะครับ อันไหนหมิ่นประมาท อันไหนแค่วิจารณ์
ช่วงปี59 ยังไม่วิจารณ์ แค่ไม่ใส่เสื้อก็โดนตีนแล้ว

>>417
ศาลยกฟ้อง?
ร่านเลยหมายความว่าไอ้แม้วไม่เคยฟ้องถถถถถถถถ

>>419 >>412 กูเขียนว่าโดนหมิ่นประมาทหมายถึงโดนคดีไม่ได้เขียนว่าโดนฟ้อง ไอ้ควาย
หายไปตั้งนานไปหาคดีแต่หาไม่เจอเพราะมันไม่มีหรอไอ้โง่

>>420
แล้วคนที่โดน112แล้วรอดล่ะ ?
ไม่นับ

>>421 หมายถึงยกฟ้องตอนโดนขังคุกไปแล้ว หรือสนธิลิ้มล่ะ ???

>>420
https://prachatai.com/journal/2007/07/13597
เอานี่หมิ่นทักษิณ โดนรอลงอาญา2ปี

>>422
https://www.posttoday.com/politic/news/546046
ยกฟ้องคดี112

https://www.benarnews.org/thai/news/TH-royal-defamation-03312020142303.html

สำหรับคดีหมิ่นเบื้องสูง หรือประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ศูนย์ทนายความให้ข้อมูลว่า คดีเกิดขึ้นในระหว่างปี 2557-2560 โดยมีผู้ที่ถูกฟ้องร้องด้วย ม.112 ถึง 94 ราย แต่มีเพียง 15 รายเท่านั้น ที่ได้รับการประกันตัว และต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไป และในปี 2561 มีอย่างน้อย 7 คดี ที่ได้รับการตัดสินยกฟ้อง ส่วนในปี 2562 มีผู้ที่ต้องถูกควบคุมตัวในเรือนจำอย่างน้อย 25 คน จากการกระทำที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายดังกล่าวนี้

>>423 รอลงอาญา ......
>>424-425 ก็ถูกขังคุกไปแล้วนี่ ในข่าวก็ก็มีเขียน ต่างจากที่กูพูดตรงไหน

>>426
ขนาดนี้แล้วมึงยังแถอีกเหรอร่าน

>>427 ? แถ มึงหาข่าวที่เป็นผู้ต้องหาแล้วไม่โดนขังคุกมาดิ ไอ้ข่าวที่มึงส่งมาทอมมันโดนขังไปตั้งกี่วัน ข่าวที่ 2 ก็โดนขังไปเดือนนึงกูแถตรงไหนวะ

แต่มีเพียง 15 รายเท่านั้น ที่ได้รับการประกันตัว และต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไป

>>429 ก่อนจะถูกประกันตัวนี่ต้องถูกอะไรก่อนนะ

>>430

www.lawyerthailand.biz บริษัท เอสแอลเอส(2017) จำกัด

หน้าแรก > ความรู้กฎหมาย > การประกันตัว
การประกันตัว
Tags: กฎหมายอาญา, กฎหมาย, คำพิพากษา, ประกันตัวจำเลย, ประกันตัวผู้ต้องหา
บทความการประกันตัว บริษัทฯเรามีทนายความมืออาชีพมากมาย หากท่านสนใจต้องการติดต่อได้ที่เบอร์ 063-995-3361
หรือ E-mail : sls2017law@hotmail.com, sls2017law@gmail.com
ทำไมผู้ต้องหาบางคนถึงยื่นประกันตัวไม่ได้ ?
1.เป็นไปตามเกณฑ์ มาตรา 108/1 ป.วิ.อ. ถ้ามีเหตุดังต่อไปนี้ ศาลจะสั่งให้ไม่ประกันตัว
(1) ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะหลบหนี
(2) ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
(3) ผู้ต้องหาหรือจำเลยจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น
(4) ผู้ร้องขอประกันหรือหลักประกัน ไม่น่าเชื่อถือ
(5) การอนุญาตให้ประกันตัวจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการสอบสวนของเจ้าพนักงานหรือการดำเนินคดีในศาล
2.พนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว
คือ มีการระบุในคำร้องขอฝากขังว่าขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา
3.ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งหรือไม่มีการงาน
เนื่องจากที่ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งนี้ เชื่อว่าอาจมีการหลบหนีได้โดยง่ายและมิอาจตามตัวได้พบ
4.ผู้นั้นได้มีการรับสารภาพในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาในศาล
การรับสารภาพในชั้นศาลนี้หากคดีความผิดโทษจำคุกน้อยกว่า 5 ปี ศาลจะพิจารณาเลยก็ได้โดยไม่ต้องสืบพยาน ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 176 จึงอาจพิพากษาได้เลย
5.ไม่มีแจ้งถึงเหตุผลในการขอประกันตัวให้ศาลทราบ
กล่าวคือ ต้องเขียนเหตุแสดงให้ศาลเห็นว่ามีเหตุผลอย่างไรที่จะขอประกันตัวออกไปในคำร้อง เช่น ขอไปรักษาตัวเพราะเป็นโรคที่ต้องทำการรักษาอยู่สม่ำเสมอก็ต้องมีใบรับรองแพทย์มายืนยันต่อศาล
6.หลักทรัพย์ที่มาขอใช้ประกันตัวไม่น่าเชื่อถือ
กล่าวคือ หากมีการวางประกันต่อศาล โดยการใช้หลักทรัพย์หลักทรัพย์นั้นต้องไม่ต่ำกว่ากำหนดที่ศาลให้ประกันและควรเป็นหลักทรัพย์ที่คำนวณเป็นจำนวนเงินแน่นอนได้ เช่น ที่ดิน ตั๋วแลกเงิน สลากออมสิน เงินสด เป็นต้น กรณีใช้บุคคลเป็นเป็นประกัน ต้องเป็นผู้ดำรงตำแหน่งมีหน้าที่การงานหรือมีรายได้แน่นอน อีกทั้งต้องเป็นผู้มีความสัมพันธ์กับผู้ต้องหาหรือจำเลย หรือเป็นบุคคลที่มีความใกล้ชิด
7.ผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นผู้ไม่น่าเชื่อถือ คือ เป็นผู้ที่เคยได้รับการปล่อยตัวมาแล้วครั้งหนึ่งแต่กลับหลบหนี
8.คดีที่ก่อให้เกิดผลกระทบโดยทั่วไปต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ การเมือง และความเสียหายต่อประชาชนโดยทั่วไป

การขอประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยต่อศาลจะทำได้ในชั้นใดบ้าง ?
1.การขอประกันตัวระหว่างชั้นฝากขัง คือ ขณะเป็นผู้ต้องหายังไม่ได้ถูกสั่งฟ้องคดี
2.การขอประกันตัวในศาลชั้นต้น คือ กรณีอัยการเป็นโจทก์ฟ้องได้ยื่นฟ้องต่อศาลชั้นต้นแล้ว หรือ กรณีที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องเอง ศาลชั้นต้นได้มีการไต่สวนมูลฟ้องและมีการประทับรับฟ้องแล้ว
3.การขอประกันตัวชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา เมื่อศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดอาจมีการขอประกันตัวได้

การขอประกันตัวมี 3

การขอประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยต่อศาลจะทำได้ในชั้นใดบ้าง ?
1.การขอประกันตัวระหว่างชั้นฝากขัง คือ ขณะเป็นผู้ต้องหายังไม่ได้ถูกสั่งฟ้องคดี
2.การขอประกันตัวในศาลชั้นต้น คือ กรณีอัยการเป็นโจทก์ฟ้องได้ยื่นฟ้องต่อศาลชั้นต้นแล้ว หรือ กรณีที่ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องเอง ศาลชั้นต้นได้มีการไต่สวนมูลฟ้องและมีการประทับรับฟ้องแล้ว
3.การขอประกันตัวชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา เมื่อศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิดอาจมีการขอประกันตัวได้

>>431-432 ก็อปมาตั้งเยอะ มีขั้นตอนไหนที่ทำได้ก่อนถูกขังมั้ยจ้ะ ? มันต้องถูกขังก่อนถึงจะประกันตัวได้รึเปล่าน้าาาาา

>>433
1.การขอประกันตัวระหว่างชั้นฝากขัง คือ ขณะเป็นผู้ต้องหายังไม่ได้ถูกสั่งฟ้องคดี

>>434"ฝากขัง"?

>>435
ไอ้ควาย เขาสอบสวนยังไม่เอาฝากขังก็ขอประกันตัวสู้คดีได้ว้อย

>>436 ขั้นสอบสวนคือเอาขังคุกไปแล้ว ไอ้โง่

ไอ้ควายสลิ่่มยอดนัก google รู้เหี้ยอะไรไม่จริงสักอย่าง

>>437
ขังพ่อมึงเถอะ

ผู้ต้องหาจะถูกควบคุมนานเท่าใด
เมื่อบุคคลใดถูกจับเป็นผู้ต้องหา ตำรวจมีอำนาจควบคุมผู้ต้องหานั้นได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง และไม่เกิน 24 ชั่วโมง สำหรับความผิดที่ขึ้นศาลคดีเด็กและเยาวชน ทั้งนี้นับแต่เวลาที่ผู้ต้องหาถูกนำตัวมาถึงที่ทำการของเจ้าพนักงานสำหรับความผิดลหุโทษ (ความผิดที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) เจ้าพนักงานจะควบคุมตัวไว้เพียงเท่าเวลาที่จะถามคำให้การ ชื่อ และที่อยู่เท่านั้น จากนั้นต้องปล่อยตัวไป

ร่านแม่งศรีธนญชัย กะจะให้112เป็นกฏหมายแย่ ๆ ห้ามฟ้องร่าน

>>439-440 ก็อปมามึงอ่านคำว่าควบคุมออกรึเปล่า เวลาโดน 112 พ่อมึงโดนขัง 2 วันเหรอ ไอ้นิรนามก่อนจะโดนประกันก็ปาไปเป็นอาทิตย์ ยังไม่นับคนเก่า ๆ เป็นเดือน หลักฐานไม่มีควยไรสักอย่างเอาแต่ก็อปข้อความจาก google แบบโง่ ๆ ยิ่งเอาข้อมูลมาก็ยิ่งสนับสนุนกู ตาสว่างได้แล้วนะไอ้ควายสลิ่่ม

>>442
เอ้าก็ตามกฏหมายเขาเขียนงี้
มึงอย่ามโนร่าน เขาให้สอบสวน48ชั่วโม่งแล้วฝากขังต่อศาล

1อาทิตย์มึงมาจากไหน ?
ยี้ ร่านมโน

>>440 "เจ้าพนักงานจะควบคุมตัวไว้เพียงเท่าเวลาที่จะถามคำให้การ ชื่อ และที่อยู่เท่านั้น จากนั้นต้องปล่อยตัวไป"

แต่ตัดหัวเกรียนจ้า ยิ่งมึงก็อปกูเกิ้ลมาโง่ ๆ ยิ่งสนับสนุนกูนะครับ เลิกโง่ซะเถอะไอ้ควาย

ร่านแม่งศรีธนญชัยเลี่ยงบาลีไปเลย

อยากท้าทายกฏหมายใจจะขาด

หาข้ออ้างร้อยแปด ไอ้แม้วฟ้องมั้ง ทำเป็นไม่เห็นไม่สส

>>444
เออก็ใช่ไง งงไรวะ?สำหรับเด็กและเยาวชน

>>443 https://www.tlhr2014.com/?p=16191

ไอ้ควายเอ้ย จะเลิกโง่ได้ยัง ฝากขังต้องไปผู้ต้องหาไปศาล แต่โดนจับตัวไปอาทิตย์นึงคือควยไร เลิกอ้างได้ยัง แถซะจนอนาถสัสไ

สุดท้ายสำหรับร่านกูทำผิด กูไม่อยากถูกจับ ไม่อยากโดนสอบสวน ไม่อยากถูกขัง ถถถถถถถถถ
หาข้ออ้างหมิ่นสถาบันให้จงได้

>>447
มึงเอาเคสที่ศาลตัดสินเป็นจำเลยนี่หว่า

>>449 แล้วก่อนศาลตัดสินล่ะไอ้สัส โดนขังแบบไม่มีหมายศาลคือควยไรครับ ก็นี่พูดเรื่องประกันตัว เคสที่มึงยกมาก่อนหน้านี้ที่ถูกตัดสินให้รอดก็ถูกขังเป็นเดือน กูต้องหาเคสไหนมาให้มึงถึงจะเลิกโง่ได้วะ

ต้องเหี้ยแค่ไหนมาเรียกร้องความเป็นธรรมทั้งๆที่มึงผิด

>>450
เอ้าก็มันผิด ให้ทำไง
ใครสนวะ

อย่าว่าแต่หมายศาล หมายจับยังไม่มี

ทำไมมึงไม่คิดก่อนทำล่ะร่าน

ง่ายๆแค่นี้

>>453
หมายจับไม่มีทำไมมึงไม่ฟ้องเจ้าพนักงานกลับล่ะไอ้โง่

สรุปคุยเรื่องอะไร ?? กูพูดเรื่องก่อนจะโดนประกันตัว ก่อนจะรอด ก็ถูกขังทุกคน ทุกอย่างที่มึงส่งมาสนับสนุนที่กูพูดหมด ?
ถ้ามึงไม่สนแต่แรกจะเถียงกูข้ามคืนทำควยไร ปัญญาอ่อนสัสเสียเวลาทำมาหากินชิบหาย

>>456
ไหน เขาต้องจับมาสอบสวน ก่อนจะส่งศาลตัดสินแล้วเอาไปขัง
มึงอย่าศรีธนญชัยร่าน

>>457 โพสสุดท้ายสำหรับไอ้ควายนี่ กูจะไปทำมาหากินแล้ว แล้วคดีหมิ่นประมาทพ่อมึงโดนจับไปสืบสวนเหรอไอ้ควาย มึงยกมาเทียบเองนะ >>410 สรุปมึงยอมรับเองว่าเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจโดยไม่ชอบ >>455

ถ้ามึงตอบว่า 112 ต้องโดนจับมาสอบสวนก่อน ก็คือยอมรับนะว่าหมิ่นประมาทกับ 112 ไม่เหมือนกัน เอามาเทียบกันไม่ได้เหมือนใน >>410

ควายชิบหาย ยกหลักฐานมาเถียงยังไงให้จำนนต่อหลักฐานซะเอง

>>458
อะไรของมึง ไม่ว่าจะทำผิดอะไรก็ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่ดี แถไปเรื่อย

>>458
มึงอ้างเองใน>>453
ว่าไม่มีหมายจับ แล้วพิมเหี้ยไรของมึงน่ะ
นี่มึงหมิ่นเจ้าพนักงานน่ะรู้ตัวยัง

>>458 มึงไปเถียงไอ้โทรลเหี้ยนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เจอคนในนี้รุมไปกี่ครั้งแม่งก็ยังกล้ากลับมา ไอ้นี้พูดอะไรกุข้ามอย่างเดียว เวลาเห็นคำว่า ร่าน

>>461
ยัดกูเป็นโทรลอีกล่ะ
ทั้งที่พวกมึงโทรลชัดๆ ไงใช้สองไอดีหรือว่าไปรีไอดีมา

เปลี่ยนสำนวนด้วยน่ะร่าน

>>462 รีไอดีควยไรอย่าเอ๋อ โดนเขาไล่เป็นควายกี่รอบยังไม่สำนึก
>>459 ถ้ามึงแยกระหว่างโดนจับไปสอบสวนกับได้รับหมายศาลไม่ออกก็เรื่องของมึงเถอะไอ้ควาย

>>463
แล้วไหนล่ะหลักฐานว่าไม่ได้หมายศาล หมายจับ ไม่มีใช่ไหมล่าชะลาล่า

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/724879
เนี่ยเขาก็ออกหมายจับอยู่นี่หว่า

ร่านมโนจากไหนน้าาาา>>453

>>464 ไหนใครรีไอดีนะไอ้ควาย
https://www.bbc.com/thai/thailand-51577352
?
https://thaienews.blogspot.com/2017/07/13-112-10-116-3.html?m=1 ?

สรุปไม่มีหลักฐานอะไรสักอย่าง ตอนเขามาตอบก็แถไปเรื่อย ๆ จนเข้ารำคาญขี้เกียจตตอบไปเองแล้วคิดว่าตัวเองชนะ เอาเป็นว่ามึงชนะนะ กูขี้เกียจตอบมึงละ แถเก่งชิบหาย

>>466
ถ้าเคสนี้เป็นจริง ๆทำไมทนายไม่ฟ้องเจ้าพนักงานกลับ?
เฟคนิวส์สัสๆ สมแล้วที่ร่านเชื่อ

>>468 ถ้าเฟคนิวจริง ๆ ทำไมสำนักข่าวป้องกันเฟคนิวโง่ ๆ ของพวกมึงไม่ออกมาบอกว่าไม่จริงละ

จับได้ตั้งหลายสำนักเลยนะ

https://prachatai.com/journal/2020/02/86426
https://www.bbc.com/thai/thailand-51577352
https://voicetv.co.th/read/bpqUUYUH7
https://www.thaijobsgov.com/jobs/294437

>>469
มีว๊อยด้วย5555555555555555555

แค่คิดก่อนทำไม่ได้เหรอร่าน
ทำไมอยากหมิ่นสถาบันขนาดนั้น

จะขาดใจตายหรือไง

>>469 โห เเต่ละช่อง 55555

>>470 มีข่าวสดด้วยนะจ้ะ
https://www.khaosod.co.th/bbc-thai/news_3615121
มึงเอาไปแจ้งสำนักเฟคนิวดิจะได้โดนจับให้หมดสื่อร่าน ๆ ทั้งนั้น 55555555

>>471 เถียงไม่ออกประชดปัญญาอ่อนตามเคย เปลี่ยนมุขบ้าง เบื่อแล้ว

>>473
เอามาจากbbcหมดสิน่ะถถถถถะ

>>474 เอามาเผยแพร่ต่อก็มีความผิดนะ นี่หมิ่นเจ้าหน้าที่พนักงานด้วย ดีไม่ดีมึงได้รางวัลนำจับด้วยนะเว้ย
เฟคนิวจริงเอาไปแจ้งจับเลย รวยแน่ ๆ 555555555555555555555
https://www.tlhr2014.com/?p=16073
https://today.line.me/th/article/สรุปเหตุการณ์+saveนิรนาม+เกิดอะไรขึ้นกับผู้ใช้ทวิตเตอร์+‘นิรนาม+’+หลังถูกจับกุมด้วย+พ+ร+บ+คอมฯ-lOQ0N3

>>475
สื่อหลิ่มมันเล่นไปนานแล้ว
วนเวียนอยู่กับอดีตจริงๆเหมือนหมาขี้แพ้ที่จมอยู่กับ2475

>>476 เอ๊ะ คุ้นๆ

>>476 ไหนจ้ะ ถ้าสื่อเล่นก็ต้องมีลิ้งมาให้ซิเนอะ

>>478
เป็นโม่งอย่าขี้เกียจ

>>479 ถ้ากูตอบแบบนี้ตอนมึงถามเรื่องไม่มีหมายจับมึงคงด่าร่านมโนแหง ๆ อันนี้อะไรดี สลิ่่มมโน ? 55555555555555555555

>>480
กุอยู่แล้วว่ามึงจะไปเอามาจากไหน?
ข่าวมโนจากสื่อร่าน

>>481 แล้วทำไมไม่โดนจับเฟคนิวอ่ะ ลิ้งของมึงอยู่ไหนสื่อสลิ่่มของมึงอ่ะ ไม่มีหลักฐานมโนไปเรื่อยตั้งแต่ต้นจนจบจริง ๆ

>>482
ถถถถถถถเขาขุดกันมานานแล้ว เบื่อต้องไปขุดมาให้มึงเนี่ย

กูโยนหลักฐานอะไรให้ร่านก็ตะแบงไปเริ่อยเบื่อ

>>483-484 มีปัญญาขุดข่าวปี 50 แต่ไม่มีปัญญาขุดข่าวเดือนกุมภานะครับ
ขี้เกียจหรือขี้มโน แถข้าง ๆ คู ๆ ไปเรื่อยเลยนะไอ้สลิ่่ม

อย่างนี้แปลว่ารัฐบาลกระจอกเหรอวะ เฟคนิวแชร์กันตั้งกี่สำนักแต่ไม่มีปัญญาจับ

"ไทยนี่แหละ ข่มขืน ไทยด้วยกัน
ไทยนี่แหละ ฆ่าฟัน ไทยกันบ่อย
ไทยเห็นใจ อุปถัมภ์ ไทยซ้ำรอย
ไทยจึงปล่อย ไทยทำ ก่อกรรมเวร
เป็นไทยไม่ ควรข้าม ความเป็นคน
เป็นพี่น้อง กันจน มองไม่เห็น
ความเป็นครู ไหว้ได้ ใช่เหลือเดน
อย่าเลอะเลือน เหมือนเช่น ไม่ใช่ครู"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ไม่เห็นเงาหัว

"ว่าคนอื่นเลือกข้างโผงผางลั่น
ตัวเองดันเลือกข้างอย่างไม่เขิน
ว่าคนอื่นยุ่งเรื่องการเมืองเกิน
ทำเป็นเมินร้อยเรื่องการเมืองตัว
เกลียดกระจกยกส่องมองเห็นข้าง
น้ำในโอ่งอางขนางเห็นเงาหัว
ทุบโอ่งเกลี้ยงเขวี้ยงกระจกอกสั่นรัว
ด่าได้อย่างไม่กลัวจะเขินอาย"

ธนาคารชาติของอังกฤษ ประมาณการว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้เลวร้ายสุดในรอบ300 ปี
คือติดลบร้อยละ 14
ย้อนไปถึง 1706 ที่อังกฤษสงครามกับฝรั่งเศสยืดเยื้อจนเงินเกลี้ยงประเทศ
จนเศรษฐกิจหดตัวร้อยละ 15
(ตอนนั้นอุตสาหกรรมสงครามยังไม่ใช่ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจเหมือนอีก 200 ปีให้หลัง)
สำทับด้วย great frost หรือ”ภาวะเหมันต์น้อย”(สภาพอุณหภูมิในประเทศเขตเหนือเส้นศูนย์สูตรทั่วโลกลดลงอย่างฮวบฮาบ จนการเพาะปลูกเสียหาย ผู้คนอดอยากไปค่อนโลก)ในอีก 2-3 ปีต่อมา
สรุปคือ ธนาคารกลางอังกฤษประเมินว่า ความยับเยินทางเศรษฐกิจจากนี้ไป
เลวกว่าช่วงสองครามโลก 2 ครั้งในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา
และหนักหนายิ่งกว่า”เดอะ เกรท ดีเพรสชั่น”เมื่อทศวรรษ 1930
(ขอบพระคุณข้อมูลเบื้องต้นและแรงบันดาลใจจากอาจารย์เกษียร เตชะพีระ Kasian Tejapira ครับ)
...
ไฟแนนเชียลไทมส์ ตีพิมพ์บทความล่าสุดชิ้นหนึ่งว่า
ภาระหน้าที่สำคัญที่สุดของทุกรัฐบาลในโลกนี้
ก็คือจะทำอย่างไรให้เด็กที่จบการศึกษาใหม่ หรือคนที่เข้าสู่สัยแรงงาน
ไม่ว่างงาน ไม่ตกงาน
เพื่อไม่ซ้ำเติมให้เศรษฐกิจทรุดลงยิ่งกว่านี้
จนเป็นมหาวิกฤติ
...
กลับมาที่เมืองไทย
การประเมินเบื้องต้นของ”คนวงใน”ในรัฐบาลก็คือ
เศรษฐกิจไตรมาสแรกน่าจะลบ 5
และที่หนักหนากว่านั้นก็คือ
ไตรมาสสองนี้น่าจะลบ 10-เป็นอย่างน้อย
เป็นอย่างน้อยนะครับ
เพราะแทบทุกกิจกรรมทางธุรกิจถ้าไม่งดก็หดตัวลงอย่างมหาศาล
ในขณะที่มองไปข้างหน้า ยังประเมินไม่ได้ด้วยว่าไตรมาสสามจะเป็นอย่างไร
รู้อย่างเดียวว่า
จะเป็นลบมากกว่าบวก
...
ในขณะที่ตัวเลขติดเชื้อเพิ่มจากโควิด-19 ในประเทศเป็นเลขตัวเดียวมาร่วมสัปดาห์
(ถ้าเชื่อมั่นว่าไม่หลอกกัน)
แต่มาตรการประหลาดๆ ทั้งหลายยังไม่ไปไหน
ยังใช้การ”ควบคุม”อย่างเข้มข้น
ทั้งที่หลายอย่างน่าขบขันหรือน่ารำคาญ
และเป็นตัวขัดขวางกิจกรรมปกติ(ซึ่งไม่น่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการแพร่เชื้อโดยตรง หรือจำนวนมาก)
เช่น การขนส่ง
หรือใครติดว่า”ต้นทุน”ของผู้ประกอบการขนส่งวันนี้จะไม่เพิ่มขึ้น
ทั้งจากมาตรการจำกัดเวลา จำกัดประเภท
รวมไปถึงการ”หาเศษหาเลย”ในหลายพื้นที่
ขณะที่มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจก็ยังไม่ชัดเจน
หรือชัดแค่บางส่วน บางหน่วยงาน
ในขณะที่”โครงการเสือหิว”ตั้งท่าจ่อคิวรออยู่แล้ว
โดยเฉพาะจาก”แกนนำ”ด้วยกันเองนั่นแหละ
บอกแล้วว่า 400,000 ล้านนี่มัน”เหยื่อ”อันโอชะสำหรับหลายคน หลายกลุ่ม
ถ้า 400,000 ล้านละลายน้ำ
หรือผันไปเข้ากระเป๋าใครบางคนมากกว่าตกถึงคนส่วนใหญ่
ก็หายนะซ้อนหายนะละครับ
...
เพราะฉะนั้น ถ้านึกอะไรไม่ออก ให้ลอกการบ้านต่างประเทศเอาครับ
หนนี้จะลอกอะไร
ก็ลอกเรื่องจ้างต้น
จะใช้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจไปทำอะไร
ใช้กับจ้างงานเป็นหลักไงครับ
จะเป็นรัฐจ้างเอง
หรือกระตุ้น-ให้สิทธิประโยชน์เพื่อให้เอกชนจ้างคนเพิ่ม รักษาคนเอาไว้
ได้หมด
และจริงๆ การสร้างเงื่อนไขให้เกิดการจ้างงานนั้นใช้สตางค์น้อย
แต่ใช้สติปัญญา ความกล้าหาญ
แลพความไม่เห็นแก่ตัวมากหน่อย
ทำได้ไหม
...
ที่เรียนมาทั้งหมดนี้ เพื่ออยากจะบอกว่าอย่าประมาทไปนะครับ
นรกยังมาไม่ถึง
ถ้ายังปล่อยกันไปแบบนี้
เราจะเจอสภาพคนส่วนใหญ่ล้มละลาย
ขณะที่”ขาใหญ่”จะยิ่ง”กินรวบ”มากขึ้น
ถ้าเศรษฐกิจ-ปากท้องคนจำนวนมากทรุดลง
แต่”ความเหลื่อมล้ำ”สูงขึ้น
ตอนนั้นแหละ นรกของแท้จะมาเยือน
และเดินเคาะประตูทุกบ้านไม่เลือกหน้า
ไม่ว่าเรือนโซเซในสลัม
หรือคฤหาสน์ที่อยู่ตรงกลางสลัมนั้น

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

มัวเเต่ด่ากันก็ไม่มีประโยชน์อะไรคับ.....
ออกมาปกป้องหมาเตี้ยของเราดีกว่านะ......
นี่เป็นบทความส่วนหนึ่งจากสัตวเเพทย์...
ได้รับฟังเรื่องราวบางส่วนจากสัตวแพทย์ผู้ที่รับใช้ใกล้ชิด ได้เล่าให้ฟังว่า
ภาพที่เตี้ยนั่งเหม่อลอยอยู่ริมอ่างแก้วเป็นเวลานานเหมือนจะ ร้องไห้นั้น
คนบางกลุ่มนำมาพูดกันในทางที่ไม่ดีว่าเตี้ยมีปัญหากันกับหมาตัวอื่นในม.
ที่จริงแล้วเตี้ยเสียใจเรื่องของเด็กมช.ที่กำลังแตกแยกกัน ทะเลาะกันอย่างมาก
ณ.ที่ตรงนั้นกับเวลาที่ยาวนานเตี้ยเห่าออกมาประโยคเดียวว่า
"เราไปทำอะไรให้เขาเจ็บช้ำ หรือ? เด็กมช.เหล่านั้นถึงได้โกรธ/เกลียดเราขนาดนี้"
ผู้อยู่ใกล้ชิดเตี้ยน้ำตาไหลพรากเพราะสงสารเตี้ยที่ทำทุกอย่างทั้งชีวิตเตี้ยเพื่อ
เด็กมช.มาตลอด เตี้ยที่ไม่เคยคิดทำร้ายเด็กมช.แม้แต่น้อย
แต่สิ่งที่เตี้ยได้รับจากเด็กมช.กลุ่มนั้นมันคืออะไร
วันที่เตี้ยออกจากโรงพยาบาลในเวลากลางคืนเพื่อกลับHB7 ก็มีข่าวออกมาในทางที่ไม่ดี
คุณหมอก็เล่าให้ฟังว่า ข่าวนั่้นไม่ใช่ความจริงแม้แต่น้อย
คุณหมอเล่าว่าความจริงแล้วเตี้ยไปเยี่ยมหมาที่มีอาการผิดปกติของการเต้นของ หัวใจ
เตี้ยจับขาหมาตัวนั้นไว้เพื่อเป็นกำลังใจให้กันและกัน
แล้วเตี้ยก็กลับมาพักที่โรงพยาบาลเพราะเตี้ยเองก็ไม่สบาย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ขำเรื่องหมาตัวนี้นะ รักกันมากแต่เสือกไม่มีใครเอาไปเลี้ยงจริงๆจังๆ เงินจากการทำเพจก็ไม่รู้ตกถึงปากท้องมันกี่มากน้อย แถมตอนตายยังโดนเอามาโหนเป็นยี่ห้อของคนรักสัตว์

ไหนจะเรื่องที่กองทัพเข้ามาเกี่ยวและต้อง #ตามหาความจริง อีกหลายเรื่อง ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ไม่เคยมีคนออกมารับผิดชอบ ที่บอกปฏิรูปกองทัพก็ยังไม่เห็นคืบหน้า
-การเสียชีวิตของน้องเมย
-ทุจริตการสร้างอุทยานราชภักดิ์
-กราดยิงโคราช
-คลัสเตอร์ที่สนามมวย
-กอ.รมนเอาภาษีปชชไปตั้งไอโอ

หมาแบบเตี้ยมช.นี่มันสะท้อนอะไรได้อย่างนึง ทุกคนพร้อมใจกันจะเป็นคนใจบุญ ให้ข้าวให้น้ำมันแต่ไม่พร้อมจะรับผิดชอบเลี้ยงดูมัน

เหมือนที่คนรวยคนมีอำนาจชอบทำบุญทำทานคนจน แต่ไม่พร้อมจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำอย่างจริงจัง

>>493 ประเทศนี้เชื่อเรื่องการทำบุญ ใครๆ ก็อยากทำ ถึงขนาดดีใจที่มีเรื่องเล่าว่าฝรั่งงงที่ไทยเหลื่อมล้ำสูงแต่คนไทยมีความสุขเพราะคนชอบทำบุญให้ทาน (World Giving Index จัดอันดับร้อยกว่าประเทศมา 10 ปี ไทยติด Top5 เรื่อง Donating Money แทบทุกปี) ก็ไม่รู้ว่าน่าดีใจป่าวนะ

>>406 ก่อตั้งปีอะไรล่ะ ช้าไปไหม

ในฐานะเป็นควายแด งมาตั้งแต่ปี 49 สิ่งหนึ่งที่รู้คือ เราไม่ได้สู้เพื่อทักษิณ เราสู้เพราะ รบ. ที่เราเลือกมาถูกรปห. เพราะสิทธิของเราถูกปล้น ง่ายๆแค่นั่นเลย ต่อให้ตอนนั้น นายกฯไม่ใข่ทักษิณคนก็ลุกขึ้นมาอยู่ดี เพราะเห็นว่านี่คือความไม่เป็นธรรมเพราะเวลานั้นเราอยู่กับปชต. เต็มใบมา10ปี ควายแด งจึงไม่เคยคิดว่าทักษิณติดค้างอะไรตัวเอง ไม่เคยคิดว่าทักษิณทรยศ ทิ้งขว้าง เพราะเขาไม่ได้ look up to ทักษิณ ไม่ได้คิดว่าทักษิณเป็นวีรบุรุษ ตรงข้ามเขาเห็นว่าทักษิณถูกรังแก ควายแด งเห็นว่าทักษิณและพรรคคือแนวร่วมแต่ไม่ใช่พระผู้ช่วยให้รอด ไม่ใช่คนที่ต้องส่งมือมาประคองช้อนปชช. ขึ้นมาจากปลักตม ไม่ผู้เสียสละ ควายแด งเห็นทักษิณเป็นนักการเมือง นักการเมืองก็ต้องมีผลประโยชน์ หน้าตัก เครือข่าย พวกพ้อง นักการเมืองไม่ใช่แอคติวิสต์ทางการเมือง เราจึงไม่เคยคิดว่าทักษิณควรจะต้องมาเคียงข้างมวลชนหรืออะไร มวลชนเราอยากทำอะไรก็ทำ ใครเหนื่อยไม่อยากสู้ก็พัก ไม่เห็นมีอะไรซับซ้อน ดังนั้นอย่ามาเสร่อบอกว่าเสื้อแดงน่าสงสาร สงสารตัวเองเถอะ มองหาแต่ไอดอลอยู่ได้

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

ถ้าข่มขืน=ประหาร เหยื่อจะมีโอกาสรอดชีวิต 0% เพราะถ้าอัตราโทษเท่ากับการฆ่า ผู้กระทำความผิดจะไม่มีทางปล่อยให้เหยื่อรอดไปได้ เขาจะเลือกฆ่าปิดปากเพื่อหนีความผิด กฎหมายบ้านเราไม่ได้อ่อน สิ่งที่เป็นปัญหาคือการบังคับใช้ที่เด็ดขาด ตั้งแต่ต้นน้ำคือเจ้าพนักงานสืบสวนจนถึงการรับโทษและอภัยโทษ
อ้างอิงทวีต

สมัยสาว ๆ เคยมีนักเรียนทหาร, นายทหารมาจีบครบ 4 เหล่า ไม่อยากพูดงี้เพราะกลุ่มตัวอย่างมีแค่คนที่มาจีบเรา คนดี ๆ sensible อาจจะมีก็ได้ แต่เหล่าที่คุยแล้วอิหยังสุด คือเหล่าที่ตู่ป้อมจบมา แบบจะพราวด์กับเรื่องแปลก ๆ เช่น สั่งรุ่นน้องให้แบกเตียงพร้อมตัวเขานอนจากโรงนอนชั้น 3 ไปชั้น 2 ได้

อ๋อ! เพิ่งนึกเหตุผลของ "เสื้อแดง" ออก ที่ต้องจัดพิธี "รำลึก"กันบ่อยๆ ทุกๆเดือนๆก็เพราะ "เสื้อแดง ไม่มีอวัยวะช่วยจำ"

มีคนบอก เสื้อแดงเป็นพม่าตอนกรุงศรี กลับชาติมาเกิด ตอนนี้เลยเผากรุงครั้งใหม่ ทำอะไรซ้ำๆ เป็นสัมพเวสี เป็นบาปของแผ่นดิน

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

>>499 KEK โยงโคตรเก่ง

นี่มันเป็น pattern รึยังไงว่ะเนี่ย ก่อนๆ นางอยากได้มือถือ กูก็ถอยให้ สร้อยทอง ของใช้ ห้องคอนโดก็ให้อยู่แบบปลอดภัย แต่ที่มาติดสังเกตุ คือ รูปแบบของนาฬิกาข้อมือ

ลองดูในสังคมที่นี่ เฮ้ย มันแบบเดียวๆกันหมดเลย คือ เด็กๆที่นี่ ชอบ Casio แบนๆ รุ่นเก่าๆ สายถักเรียง กันรึยังงายยยยยย

ตอนนั้นจะถอย Baby G ให้ ดันโดนด่าว่า เสี่ยว... แง๊ะ

คือ คงมองว่ารุ่นเก่าไม่มีปลอม.. มั้ง กูคิดงี้นะ

นอนดีฟ่า.. ต้องกลับไป โดนด่าอีก ตอนนี้โดนอีนางมารตรวจสอบ บช. ว่าจ่ายให้เด็กคนไหนไปเท่าไหร่ หูอื้อแน่กู

เรื่องอย่างว่ากูไม่ขาด แต่ที่ขาดคือ นิสัยชอบรนหาเรื่อง มองหาความสบายจายยยยย ใหม่.. ๆ

>>499 ไอ้เหี้ยมุขนี้ได้

จู่ๆ ก็นึกถึงวันก่อนที่เถียงกันเรื่องฮิตเลอร์ชนะเลือกตั้ง แล้วคนกลุ่มนึงบอกว่าไม่ว่าฮิตเลอร์จะเป็นคนยังไง เขาก็ชนะเลือกตั้ง that is a fact

แล้วก็คนเดียวกันนี้เองที่ไม่ยอมรับว่าทักษิณ ยิ่งลักษณ์ เพื่อไทย ชนะเลือกตั้ง และอภิสิทธิ์ ประยุทธ์ไม่เคยชนะการเลือกตั้ง

What a joke

>>503 มีด้วยเหรอวะ

"จู๋ = อวัยวะเพศชาย
ทำปากจู๋ = ???"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ก็ยังสงสัยว่า #เคอร์ฟิว มันช่วยจริงๆไหม เพราะพอมันร่นระยะเวลาลงมา คนออกไปไหนมาไหนไม่ได้จริง แต่คนที่มีภาระหน้าที่การงาน ก็ต้องเบียดกันกลับให้ได้ในเวลาที่จำกัด ยิ่งเป็นการบีบให้คนเว้นระยะห่างกันน้อยลง ไม่นับรวมว่าไม่ได้มีมาตรการปูพรมตรวจแบบจริงจัง ตรวจต่อวันกี่เคสก็ยังไม่มีคำตอบ

ประวัติศาสตร์สำหรับผมการให้เด็กเรียนเนี่ยเพื่อปลูกสำนึกความเป็นชาติ และให้เกิดความเป็นชาตินิยม ภูมิใจในชาติครับ เพราะทรัพยากรมนุษย์คือทรัพยากรที่สำคัญ การเรียนประวัติศาสตร์จุดหมายเพื่อรับใช้ชาติครับ เพื่อให้เกิดชาตินิยม การเรียนลึกแล้วไม่เกิดความรักชาติ ไม่จำเป็น สำหรับผมนะ ที่จะให้เด็กเรียน

การแสดงออกของเพจสมาคมจีนสมาคมหนึ่งในวันนี้ เมื่อรวมๆกับการแสดงออกของเพจของหน่วยงานหรือกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนก่อนหน้านี้ต่อประเทศไทย/คนไทยในประเด็นเรื่องเกี่ยวกับไต้หวัน และเรื่องประเด็นเขื่อนแม่น้ำโขง ทำให้ผมต้องกลับมาคิดทบทวน/ตั้งข้อสังเกตบางอย่างเกี่ยวกับมุมมองของจีน/ชาวจีน/รัฐบาลจีนที่มีต่อประเทศต่างๆ โดยรอบตน ว่ามุมมองของจีนทุกวันนี้อาจไม่ได้แตกต่างจากมุมมองของจีนเมื่อกว่าสองร้อยปีที่แล้วในสมัยราชวงศ์ชิง (清朝) ก็เป็นได้

แล้วมุมมองของจีนในยุคราชวงศ์ชิงเมื่อกว่าสองร้อยปีที่แล้วที่มีต่อรัฐเพื่อนบ้านโดยรอบเป็นอย่างไรเล่า?

นักวิชาการได้นิยามคำศัพท์ที่ใช้สื่อความหมายถึงลักษณะความสัมพันธ์/รูปแบบความสัมพันธ์ของจีนกับรัฐต่างๆ ในมุมมองของจีนเอาไว้ที่เรียกว่า "ระเบียบโลกแบบจีน" (Chinese World Order) โดยในระเบียบโลกแบบจีนนั้น ถือว่าประเทศจีนตั้งอยู่ตรงกึ่งกลางของโลก (จึงเป็นที่มาของชื่อประเทศจีนในภาษาจีนว่าจงกั๋ว 中國 ซึ่งแปลตามตัวอักษรหมายถึง ประเทศ/รัฐ/อาณาจักรที่อยู่ตรงกลางนั่นเอง) แล้วรอบๆ ประเทศจีนก็จะแวดล้อมไปด้วยพวก "คนป่าเถื่อน/อนารยชนทั้งสี่ทิศ" (四夷 ซื่ออี๋) ชาวจีนแต่โบราณนั้นถือว่าตนเป็นพวกอารยชน เป็นผู้มีอารยะ มีสถานะสูงส่งกว่าพวกซื่ออี๋ที่อยู่โดยรอบ โดยเฉพาะในทางวัฒนธรรม ดังนั้นสถานะของรัฐจีน และรัฐที่อยู่ในปริมณฑลของซื่ออี๋ หรือคนป่าเถื่อนทั้งสี่ทิศของจีน จึงย่อมมีสถานะไม่เท่าเทียมกัน ดังนั้น หากบรรดารัฐในปริมณฑลของซื่ออี๋ต้องการจะสร้างปฏิสัมพันธ์กับจีน ก็จะต้องได้รับการยอมรับจากชนชั้นปกครองของจีนเสียก่อน ซึ่งนั่นก็หมายถึงการยอมรับว่ารัฐของตนนั้น "ด้อยกว่า" รัฐจีน ผ่านระบบการติดต่อทางการทูตกับจีนที่เรียกว่า "เฉาก้ง" (朝貢) หรือการเข้าเฝ้าถวายเครื่องราชบรรณาการต่อจักรพรรดิ (皇帝) หรือฮ่องเต้ของจีน เพื่อแสดงความอ่อนน้อมและยอมรับในความเหนือกว่าและสูงส่งกว่าของจีน (ในเชิงวัฒนธรรม) หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่าการจิ้มก้อง
(进贡 ภาษาจีนกลางอ่านว่าจิ้นก้ง) ซึ่งในรายละเอียดนั้น กระบวนการในการที่คณะทูตจากรัฐต่างๆที่เป็น "ซื่ออี๋" กว่าจะได้เข้าเฝ้าคุกเข่าเคอโถว (磕头) หรือการคุกเข่าถวายบังคมโขกศีรษะต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ (แบบที่เราเคยเห็นกันในซีรีส์จีนย้อนยุค) แล้วถวายเครื่องราชบรรณาการเพื่อให้จีนยอมรับและสามารถติดต่อสัมพันธ์ทางการค้าและการทูตกับจีนได้นั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะครับ และรัฐที่ได้เข้ามาติดต่อสัมพันธ์กับจีนผ่้านระบบบรรณาการ และได้รับการ "ยอมรับ" จากจีน (ผ่านการที่ฮ่องเต้จีนจะพระราชทานตราตั้ง (印 อิ้น) กับคำหับ (勘合) ซึ่งเป็นเครื่องแสดงถึงการยอมรับจากจีน) รัฐนั้นก็จะมีสถานะเป็นฟานสู่กั๋ว (藩属国) หรือรัฐบรรณาการของจีนไปโดยปริยาย

นอกจากนี้ ชนชั้นนำจีนโบราณยังมีการจัดระดับความสำคัญของบรรดารัฐบรรณาการทั้งหลาย โดยแบ่งออกเป็นยสามระดับ ได้แก่

ระดับที่ 1 ถือเป็นรัฐที่มีสถานะสูงที่สุดในสายตาของจีน รัฐที่ถูกจัดระดับนี้ได้นั้น คือรัฐที่ผ่านกระบวนการ Sinicization หรือการกลายเป็น/ทำตนให้เป็นจีน คือรับวัฒนธรรมจีนเข้าไปอย่างเต็มที่ รัฐพวกนี้จะถูกเรียกอีกอย่างเสี่ยวจงหัว (小中華) หรือจีนน้อย ประกอบด้วยเกาหลี ญี่ปุ่น ริวกิว และเวียดนาม (ซึ่งในทางปฏิบัติ สี่รัฐนี้ยังถูกจัดระดับความสำคัญไม่เท่ากันอีกนะครับในสายตาจีน)

ระดับที่สอง ถือเป็นรัฐที่มีความสำคัญ หรือสถานะต่ำกว่ารัฐระดับที่ 1 กล่าวคือเป็นรัฐที่อยู่ใกล้กับจีน จิ้มก้องต่อจีนสม่ำเสมอ แต่รัฐพวกนี้ไม่ได้รับเอาวัฒนธรรมจีนเข้าไปเป็นหลัก หรือพูดอีกอย่างคือไม่ได้มี/เกิดกระบวนการ Sinicization เหมือน/เท่ากับรัฐระดับที่ 1 คือยังมีความเป็นจีนน้อยกว่า จึงถูกมองว่าต่ำต้อยกว่า เช่นพวกมองโกล ทิเบต ราวมทั้งรัฐในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงไทย

ระดับที่สาม ถือเป็นรัฐที่อยู่ในระดับต่ำที่สุด พวกนี้คือรัฐที่อยู่ไกลจากจีน ไม่ค่อยได้มีการติดต่อสัมพันธ์ผ่านระบบจิ้มก้องกันมากนัก มีวัฒนธรรมประเพณี กระทั่งรูปร่างหน้าตาต่างจากชาวจีนโดยสิ้นเชิง เช่นพวกอาหรับ รวมทั้งชาวตะวันตก

ซึ่งมุมมองการมองโลกแบบจีน ที่ถือว่าตนคือราชวงศ์สวรรค์ (天朝) ที่อยู่ศูนย์กลาง แล้วมีรัฐต่างๆ ที่มีสถานะต่ำกว่าตนล้อมรอบอยู่นั้น มีคำศัพท์เฉพาะที่เรียกว่า "แนวคิด/ลัทธิถือจีนเป็นศูนย์กลาง" (中國中心主義 - จงกั๋วจงซินจู่อี้/Sinocentrism)

>>508 ต่อ

แนวคิดระเบียบโลกแบบจีน หรือลัทธิถือจีนเป็นศูนย์กลางเช่นนี้นี่เอง ที่เป็นหลักคิดเบื้องหลังของชนชั้นนำจีนมาแต่โบราณนับร้อยนับพันปี สืบมาจนถึงคริสตศตวรรษที่ 19 เมื่อโลกเข้าสู่ยุคจักรวรรดินิยม (Imperialism) ราชวงศ์สวรรค์ของจีนต้องเผชิญหน้ากับชาติมหาอำนาจตะวันตกที่มีแสนยานุภาพทางทหารและเทคโนโลยีที่เหนือกว่า ทำให้ระเบียบโลกแบบจีนดั้งเดิมต้องพังทลายลง เรือปืนของชาติตะวันตกบีบบังคับให้จีนจำต้องยอมรับระบบการทูตสมัยใหม่ที่ถือว่าสองรัฐมีสถานะเท่าเทียมกันในทางกฏหมายระหว่างประเทศ สองรัฐจะต้องมีการส่งตัวแทนของรัฐบาลไปประจำอีกรัฐหนึ่งในฐานะเอกอัครราชทูต (ambassador) ของรัฐตนประจำรัฐนั้น แต่กระนั้นโดยเนื้อแท้ จีนไม่ได้ยินยอมพร้อมใจนักในการยอมรับระเบียบโลกแบบใหม่นี้ สิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าชนชั้นนำจีนยุคนั้นไม่ยินยอมพร้อมใจยอมรับระเบียบโลกใหม่นี้ คือการตั้งชื่อตำแหน่งเอกอัครรราชทูตของตนในยุคแรก ราชสำนักชิงใช้ชื่อตำแหน่งว่า "ข้าหลวงใหญ่ผู้แทนพระองค์" (欽差大臣 ชินไชต้าเฉิน) ประจำรัฐต่างๆ ราวกับว่าขุนนางที่ถูกส่งไปเหล่านี้มิใช่ "เอกอัครราชทูต" ที่เป็นตัวแทนรัฐบาลในการติดต่อเจรจากับรัฐบาลประเทศนั้น แต่เป็นเสมือน "ผู้แทนของฮ่องเต้" ที่ถูกส่งไปใช้อำนาจปกครอง/แผ่ปกพระบารมีของฮ่องเต้เหนือดินแดนเหล่านั้น เหมือนกับการแต่งตั้งขุนนางผู้ใหญ่เป็นผู้แทนพระองค์ของฮ่องเต้ไปจัดการปัญหาต่างๆตามหัวเมืองห่างไกลพระนครหลวงของตนในอดีต (ซึ่งก็ใช้ชื่อตำแหน่งแบบเดียวกันนี้) กว่าที่จีนจะเปลี่ยนคำศัพท์ในภาษาของตนที่หมายถึงเอกอัครรราชทูตเสียใหม่ว่ากงสื่อ (公使) นั้น ต้องรอจนถึงปี ค.ศ.1912 หลังสิ้นราชวงศ์ชิง เข้าสู่ยุคสาธารณรัฐแล้ว และมีการปรับเปลี่ยนเป็นคำว่าต้าสื่อ (大使) แบบที่ใช้ในปัจจุบัน

ดังนั้น ในวันนี้เมื่อสาธารณรัฐประชาชนจีน (中华人民共和国) หรือจีนแผ่นดินใหญ่ (中国大陆) เริ่มที่จะกลับมามีกำลังเข้มแข็งมากกว่าในอดีตที่ผ่านๆ มา ความคิด "ระเบียบโลกแบบจีน" ที่ถือว่าจีนเป็นศูนย์กลางของโลก (Sinocentrism) ซึ่งชนชั้นนำจีนเก็บกดเอาไว้มานานนับร้อยปีตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 19 นั้น จึงได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และถูกแสดงออกผ่านพฤติการณ์ต่างๆ ที่เราได้เห็นกันอยู่ในตอนนี้นั่นเอง

ภาพประกอบ : คณะทูตจากรัฐต่างๆ ที่เดินทางมาเข้าเฝ้าเพื่อจิ้มก้อง หรือถวายเครื่องราชบรรณาการต่อจักรพรรดิเฉียนหลงแห่งต้าชิง ภาพวาดในสมัยราชวงศ์ชิงของจีน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ตามนั้นละ "จงกั๋วเมิ่ง" (ความฝันของจีน) ก็คือการได้กลับไปอยู่ในสถานะ "ศูนย์กลางโลก" เหมือนสมัยโบราณที่ชนชั้นสูงของจีนยึดมั่นมาตลอด กระทั่งเจอ "ร้อยปีแห่งความอัปยศ" (ชาวตะวันตกที่มีเทคโนโลยีการทหารเหนือกว่า) เข้ามาทำลายความเชื่อนั้น

"สิบปีแก้แค้นไม่สาย" สำนวนนี้เริ่มทำงานของมันตั้งแต่สีจิ้นผิงขึ้นครองอำนาจละ

แต่ระบบเบ่งจีนใหญ่สุดนี่ก็ทำให้เกิดโมเม้นฮาๆในปวศนะ จำได้ว่ามียุคกษัตริย์ไทยองค์นึง(จำไม่ได้ละว่าองค์ไหน) เพราะรู้แกวว่าจีนชอบอวดว่าเหนือกว่าพวกป่าเถื่อน เวลาได้รับจิ้มก้องก็จะส่งขบวนของขวัญของจีนกลับมาให้มีค่ามากกว่าที่ได้รับเพื่ออวด ทำให้สยามส่งไปรัวๆเอากำไรจนทูตจีนต้องกระซิบบอกว่าพอแล้วไอ้สัส

ได้ยินมาตามนี้ จริงเท็จไม่รู้ รู้แค่ฮาดี

>>511 ตั้งแต่สมัยอโยธยาละ คำว่า Siamese Talk นอกจากเรื่องฝรั่งแล้วก็ต้องนับเรื่องจีนตรงนี้ด้วย คนสยามเก่งเรื่องการทูตมานาน

(แต่สมัยนี้ไม่แน่ใจนะ)

>>512
สังคมบ้านเราใครพูดเก่งนี้ ได้ไต่ขึ้นมาตำแหน่งสูงๆได้หมดทุกอาชีพเลยนะ

ดารา นักร้อง พิธีกร นักแสดงตลก ครูสอนพิเศษ ยูทูป/สตีมเมอร์ ฯลฯ

>>512
สมัยนี้ก็ยังเก่ง
ขนาดได้ชื่อเผด็จการต่างชาติก็ยังชม

>>513 น่าจะทุกที่ละมั้ง อย่างเมกานี่ให้ความสำคัญกับการกล่าวสุนทรพจน์ เป็นวัฒนธรรมเลย

(ทรัมป์ถึงโดนมองว่าเหมือนคนเพี้ยน พูดแต่ละอย่างเหมือนล่อตีนคนนั้นคนนี้ตลอด)

มันก็เป็นทุกที่แหละ พวก political scientists ถึงชอบวิจารณ์ว่าระบอบปชต. สุดท้ายก็เลือกคนพูดเก่งมากกว่าคนที่บริหาร/ปกครองเก่งจริง ๆ

ทำไมมึงเนิฟคนพูดเก่ง ทักษะการสื่อสารก็ถือเป็นหนึ่งในทักษะการบริหารนะ
น่าจะเคยทำงานกับคนพูดไม่รู้เรื่อง พูดแล้วคนไม่เข้าใจกันนะ

>>517 เพราะทักษะเรื่องการสื่อสารเป็นทักษะพื้นฐานของผู้นำ/ผู้ปกครอง/ผู้บริหารรึเปล่า คน overrated กันมากเกินด้วยซ้ำ

ที่ฝรั่งชอบเปรียบเทียบคือคนพูดเก่งเป็นเจ้าของร้านขายขนมหวาน กับคนที่บริหารเก่งเป็นหมอฟัน เด็กชอบคนขายขนมหวานมากกว่าเพราะมีขนม (คำพูดสวยหรู) ยิ่งทำให้ฟันผุ (ปัญหา) หนักขึ้น ในขณะที่หมอฟันเด็กไม่ชอบทั้ง ๆ ที่มารักษาฟันผุ เพราะรักษาแล้วเจ็บ (กระทบกับชีวิตตัวเอง)

มันเลยเป็นที่มาว่า politician scientists วิจารณ์ระบบปชต. ว่าเลือกแต่คนพูดเก่งที่กูยกมาใน >>516

เรื่องการประชาสงเคราะห์นี้ ก็ต้องขอผิดมารยาทนิดหน่อยคือจะต้องไปแขวะต่างประเทศบ้าง ว่าในต่างประเทศในเมืองใหญ่ๆเช่นที่สหรัฐอเมริกา ที่นิวยอร์ก วันหนึ่ง ๆ เงินสงเคราะห์คนที่ว่างงานต้องจ่ายจำนวนหลายๆล้านบาท ของเขาใช้ดอลลาร์ แปลงเป็นบาทก็หลายล้าน คนพวกนี้เขาไม่อยากทำงานเพราะว่าถ้าทำงานจะไม่ได้รับการสงเคราะห์ ถ้าคนไหนมีงานทำก็ตัดเงินสงเคราะห์ทั้งๆ ที่งานที่ทำนั้นอาจมีรายได้น้อยกว่าเงินที่สงเคราะห์ เพราะตามกฎหมายเขาต้องสงเคราะห์เท่านั้น ๆ เป็นสิทธิ์ของเขา ตามรัฐธรรมนูญอเมริกันที่จะได้รับการสงเคราะห์ถ้าไม่มีงานทำ เขาก็มาที่สำนักงานสงเคราะห์คนไม่มีการทำ แล้วก็มาบอกว่าไม่มีงานทำ เจ้าหน้าที่ก็ถาม "จริงหรือไม่มีงานทำจริงหรือ " เมื่อตรวจสอบได้ว่าไม่มีจริงก็จ่ายเงินให้ นั่นเป็นระเบียบของเขาคนเหล่านั้นจึงไม่ยอมทำงาน เขาไปรับเงินประกันสังคมของเขา เขาก็ได้รับ แต่พวกนั้นไม่ยอมทำงาน คือต้องไม่ทำงานเพราะถ้าไปทำงานแล้วมีผลงาน มีเพียงเล็กน้อยก็จะไม่ใช่คนว่างงานเสียแล้ว และจะถูกตัดการสงเคราะห์ ลงท้ายคนที่ได้รับการสงเคราะห์นั้นก็เป็นคนไม่มีประโยชน์ต่อสังคมหรือแม้แต่ตนเอง ซ้ำต้องใช้เงินของสังคมสงเคราะห์อีกด้วย

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

>>518 มึงอธิบายซะกูเห็นภาพหมอ Deep State แถวนี้เลย คิดแบบสุดโต่งหมด อะไรที่จะเป็นปัจจัยเสี่ยงสุขภาพต้องเลิกหมด เหล้า บุหรี่ โสเภณี อาหารหวานมันเค็ม ไปจนนั่งกระบะหลัง ให้เด็ก-เยาวชนขี่มอไซค์ ให้เด็กมาชกมวย E-Sport ต้องทำเกษตรอินทรีย์เท่านั้น ฯลฯ คือกูสงสัยอะ หมอกลุ่มนี้ (ไม่ใช่หมอทุกคนที่จะเห็นด้วยกับหมอ Deep State) เขาไม่มีสุนทรียภาพในชีวิตแบบโลกียะเหมือนคนทั่วๆ ไปมั่งหรอวะ

หมอ Deep State พวกนี้จะไม่ชอบนักการเมือง เพราะนักการเมืองต้องประนีประนอมกับวิถีชีวิตประชาชน

>>520 เพราะมันเพิ่มภาระให้หมอไง ของพวกนี้มัน preventable death อ่ะ แล้วหมอบ้านเราจำนวนผู้ป่วยที่ต้องรักษา/วัน/หมอ มันเยอะกว่าประเทศอื่น ๆ หมอไม่ต้องตรวจในแต่ละวันเยอะ แต่เป็นอะไรจะไปหาหมอต้องจองเป็นเดือน

ลองให้กินเหล้า สูบบุหรี่จนเป็นมะเร็ง โรคตับ กินเค็มกินหวานแล้วเป็นโรคไตเบาหวาน แล้วต้องเข้าเอกชนอย่างเดียว หมอพวกนี้ไม่บ่นหรอก

>>521 แสดงว่าลึกๆ แล้ว หมอเกลียด 30 บาทจริงๆ ซึ่งมันก็เข้าใจได้ละ แต่อีกทางหนึ่ง ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านั้นเลย กูว่าไม่น่าเรียกว่าชีวิตละ

>>522 หมอก็ยังคนปกตินะแหละ ตอนรับตำแหน่งกันก็มีฉลองกินเหล้ากันปกติ ไม่ได้ lifeless กันขนาดนั้น แต่นิสัยคนไทยสูบบุหรี่วันละซอง แดกเหล้าขาววันละขวด จะให้หมอมาคอยตรวจก็ไม่ไหวหรอก นิสัยคนไทยแม่งต้องเจอไม้แข็งถึงจะหยุดกันได้

>>523 ตรรกะเดียวกับประชาธิปไตยไม่เหมาะกับคนไทยนี่หว่า เพราะคนไทยส่วนใหญ่โง่และขี้เกียจ

>>524 โนคอมเม้นเรื่องประชาธิปไตยเหมาะกับไทยมั้ย แต่โง่และขี้เกียจน่าจะจริงนะ 55

ผมกลับมองว่า ประเทศไหนหนี้เยอะๆ เป็นประเทศที่มีความฉลาดทางการเงินสูง
การใช้เงินคนอื่น OPMจากประเทศอื่น เพื่อมาลงทุนสร้างกระแสเงินสดเข้าประเทศ โดยไม่ต้องควักเงินตัวเองสักแดงนี่เป็นระดับการเงินขั้นสุด แถมยังขยายขนาดเศรษฐกิจทวีเพิ่มหนี้ได้ไม่มีขีดจำกัด ตราบใดที่กู้มาแล้ว แล้วลงทุนในสิ่งที่คืนทุนได้ มีเงินไหลคืนหนี้และมีกำไรแน่นอน สิ่งนี้คือหนี้ที่ดี
แต่ถ้าแถวนี้จะกู้แข่งเค้า ก็ต้องมาดูรายละเอียด เอาไปทำอะไร ถ้ากู้มาจ่ายไปเรื่อย โดยไม่มีแผนสร้างกระแสเงินสดนี่บรรเทิงลูกหลานแน่ๆ ไม่ต้องกำไรก็ได้ เอาแค่ผ่อนหนี้นะ เอาไปลงทุนแบบ ประกันสังคมหรือแบบการบินไทยนี่ไม่โอนะ

>>520 “พอดี” “บันยะบันยัง”

มีผู้ใหญ่ท่านนึงขอให้เขียนสรุปเรื่องเกี่ยวกับ พรก. เงินกู้ แบบให้อ่านง่ายๆ

ไหนๆ ก็เคยให้สัมภาษณ์ตามสื่อมาหมดแล้ว ก็ถือว่าน่าจะลงในนี้ได้ เผื่อเป็นความรู้และสร้างความเข้าใจให้คนที่ไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับ พรก. เงินกู้ที่ออกมา

อดทนอ่านหน่อยนะคะ ยาวนิดนึง และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่ะ

1. รัฐบาลกู้ 1.9 ล้านล้าน จริงเหรอ ?

ไม่จริงค่ะ พรก. ที่รัฐบาลออกมา มีอยู่ 3 ฉบับ แบ่งเป็น
1. พรก. เงินกู้ 1 ล้านล้าน
2. พรก. Softloan 500,000 ล้าน
3. พรก. Bond Stabilization Fund BSF 400,000 ล้าน

แม้ว่าถ้าบวกกันจะมีมูลค่ารวม 1.9 ล้านล้าน แต่มีเพียงพรก. ฉบับที่ 1 ฉบับเดียวเท่านั้นที่จะใช้เงินกู้ ส่วนอีก 2 ฉบับ เป็นการใช้สภาพคล่องของ ธปท.ค่ะ

ดังนั้น การบอกว่ารัฐบาลกู้เงิน 1.9 ล้านล้าน เป็นการเข้าใจที่ไม่ถูกต้องค่ะ

2. รัฐบาลจะกู้เงินจากที่ไหน ?

รัฐบาลมีเครื่องมือในการกู้เงินทั้งเครื่องมือระยะยาว เช่น การขายพันธบัตร ตั้งแต่อายุ 5-50 ปีให้นักลงทุนสถาบัน การขายพันธบัตรออมทรัพย์ให้ประชาชน การกู้จากองค์การระหว่างประเทศหรือสถาบันการเงินระหว่างประเทศ และเครื่องมือระยะสั้น เช่น การออกตั๋วเงินคลัง การกู้เงินผ่านสถาบันการเงินในรูป PN หรือ Term loan ซึ่งภายใต้ พรก. กู้เงิน 1 ล้านล้านนี้ก็จะกระจายการกู้เงินไม่ให้กระจุกตัวอยู่ในเครื่องมือใดเครื่องมือนึงเป็นการเฉพาะ

3. รัฐบาลกู้เงินมา 1 ล้านล้านแล้วหรือยัง ?

ยังค่ะ รัฐบาลจะทยอยกู้เงินตามความต้องการใช้เงิน ซึ่งในขณะนี้มีเพียง 2 โครงการเท่านั้น ที่ได้รับอนุมัติให้ใช้เงินกู้ คือการเยียวยาประชาชน และเกษตรกร

ในปัจจุบัน (16 พค. ) ได้ทำการกู้เงินไปแล้ว 170,000 ล้านบาท ผ่านตั๋วสัญญาใช้เงินและพันธบัตรออมทรัพย์ เครื่องมืออื่นจะทยอยตามมาค่ะ

4. จำเป็นต้องกู้ทั้ง 1 ล้านล้านไหม ?

อาจจะไม่จำเป็นค่ะ ทั้งนี้ จะต้องกู้เป็นจำนวนเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการใช้เงิน ถ้า COVID ทำให้เศรษฐกิจฟุบนาน งบประมาณปี 2564 ใช้ไม่เพียงพอในการดูแลประชาชนและเศรษฐกิจ ก็อาจจะต้องกู้จนครบจำนวน 1 ล้านล้าน แต่ถ้าพวกเราช่วยกันแล้วคุมโรคอยู่ ทุกๆอย่างค่อยๆ ผ่อนคลาย เศรษฐกิจเริ่มหมุน คนกลับมามีรายได้ เงินงบประมาณ 2564 ดูแลได้อย่างเพียงพอ ก็อาจจะไม่ต้องกู้จนครบ 1 ล้านล้านบาทก็เป็นได้

5. เมื่อกู้ครบ 1 ล้านล้านบาทแล้ว สภาวะหนี้ของรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ?

จากการประมาณการ หากต้องกู้เงินครบ 1 ล้านล้านบาท ภายใน 30 กันยายน 2564 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จะสามารถกู้ได้ตามพรก. ฉบับนี้ คาดว่าหนี้สาธารณะของไทย ณ 30 กันยายน 2564 จะอยู่ที่ 57.96% ของ GDP ซึ่งยังอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังที่ประกาศกำหนด Debt / GDP ไว้ที่ 60%

อย่างไรก็ดี Debt/GDP ที่ระดับ 60% นี้ เป็นระดับหนี้พึงมีในสภาวการณ์เศรษฐกิจที่ปกติ แต่ในสภาวการณ์ที่ไม่ปกติ หากมีความจำเป็นต้องมีเงินเพื่อดูแลประชาชนและเศรษฐกิจเพื่อให้เดินต่อไปได้ และสามารถกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และอาจทำให้หนี้สาธารณะเกินระดับ 60% ไปบ้างก็ไม่ใช่เรื่องที่โลกจะถล่ม ประเทศจะทลาย ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจกลับมาเจริญเติบโต สัดส่วนดังกล่าวก็จะกลับมาอยู่ในภาวะปกติ

สมัยวิกฤตต้มยำกุ้ง เป็นช่วงที่หนี้สาธารณะสูงที่สุด คือ 59.9% และเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นประกอบกับการมีวินัยในเรื่องหนี้ที่ดี ทำให้ในปัจจุบัน หนี้สาธารณะอยู่ในระดับเพียง 41.4% ของ GDP

6. หนี้ก้อนนี้เมื่อไหร่จะใช้หมด ?

อายุเฉลี่ยของหนี้สาธารณะในปัจจุบันอยู่ที่ 10 ปีกว่าๆ โดยหนี้ที่อายุยาวที่สุดคืออายุ 50 ปี

ทั้งนี้ ในการชำระหนี้ รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณเพื่อชำระหนี้ไว้ในงบประมาณทุกปี ซึ่งจากการศึกษาพบว่าอัตราการชำระหนี้ที่เหมาะสมในแต่ละปี ควรจะจัดสรรงบประมาณไม่ต่ำกว่า 3% ของงบประมาณเพื่อใช้ในการชำระเงินต้นค่ะ

ดังนั้นการจะตอบว่าประเทศไทยจะชำระหนี้ก้อนนี้หมดเมื่อไหร่ มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย คงไม่สามารถตอบเป็นจำนวนปีที่ชัดเจนได้ อย่างไรก็ดี หากเศรษฐกิจดี ประเทศไทยจัดเก็บรายได้ได้มากขึ้น และได้รับการจัดสรรงบชำระหนี้อย่างเหมาะสม จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้ชำระหนี้ก้อนนี้ให้หมดได้เร็วขึ้นค่ะ

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง

Review 2018
โดนไปเกือบ 10 ล้าน จึงได้เรียนรู้
"สรุปบทเรียนที่ได้จากการทำธุรกิจ"
เป็นรวมตะกอนความคิดที่ผมได้พบเจอตลอดช่วงเวลาที่ทำธุรกิจเเละจดไว้ทุกๆวัน บางข้ออาจใช้ได้ บางข้ออาจใช้ไม่ได้แล้ว ขึ้นอยู่กับจังหวะ เวลา และธุรกิจ แต่ลองอ่านเล่นดูนะครับ
====================
พาร์ทเนอร์ที่ดีต้องทะเลาะกันตั้งแต่วันแรก ด่ากันให้จบ ตกลงกันให้เคลียร์ ผลประโยชน์ต้องชัดเจน อย่าร่วมธุรกิจด้วยความเกรงใจ เดี๋ยวจะเสียเพื่อนในอนาคต
พาร์ทเนอร์ พาร์ทเนอร์ที่ดีต้องรู้จักนิสัยใจคอ ทัศนคติเหมือนกันและรู้จักกันมาหลายๆปี อย่าหาพาร์ทเนอร์เพราะเค้ารวย เพราะเรื่องบางเรื่องเงินก็แก้ปัญหาไม่ได้ เงินไม่ใช่ทุกอย่างของธุรกิจ
อย่าหาพาร์ทเนอร์ที่ไม่มีเวลา เพราะธุรกิจต้องการการดูแล ไม่ใช่จะมานั่งกระดิกเท้าแล้วได้เงิน
อย่าหาพาร์ทเนอร์สายวิชาการ เพราะความรู้เค้าเยอะเกิน คิดเยอะทุกจุด จนเราไม่กล้าทำอะไร เเต่เหมาะจ้างมาไว้เป็นผู้บริหาร
พาร์ทเนอร์ที่ดีเวลาอยู่ด้วยกันต้อง Synergy กัน มีความถนัดแต่ละด้านและช่วยเหลือกันได้ดี ไม่ใช่แค่บวกกัน หรือรวมกันแล้วช่วยกันนั่งงงเพราะทำไรไม่เป็น
ธุรกิจเจ๊งอันดับต้นๆเกิดจากการไม่เข้าใจกันของพาร์ทเนอร์ ดังนั้นถ้าเจอเพื่อนที่เป็นพาร์ทเนอร์ดีๆ รักษาไว้ เพราะสำคัญมากกว่าปัญหาธุรกิจมากนัก
อย่าให้เพื่อนยืมเงิน เพราะจะเสียทั้งเงินและเสียทั้งเพื่อน
มองให้ออกว่าธุรกิจที่สนใจเป็นเทรนด์หรือเป็นแค่กระแส ต้องคิดดีๆว่า อีก 1 ปี 3 ปี 5 ปี มันยังอยู่มั๊ย
ธุรกิจต้องคุยกันประจำสม่ำเสมอ ธุรกิจไหนคุยกันอาทิตย์ละครั้ง คุณช้ากว่าบริษัทอื่นไป 7 วัน แล้ว เดือนหนึ่งคุณคุยกัน 4 ครั้ง คู่แข่งทำไปแล้ว 30 วัน
ธุรกิจที่ไม่มีเวลาดูแล ไม่มีทางประสบความสำเร็จ ทำธุกิจต้องดูแล มันไม่มีทางอยู่เฉยๆ แล้วเงินจะมา ต้องลงมือ ต้องลงแรงไม่มีใครรักธุรกิจเราเท่าตัวเราเอง
อย่าทำธุรกิจที่เราไม่สามารถดูแลได้หรือไม่มีความรู้ หรือต้องพึ่งคนอื่นเป็น core หลัก เพราะเราจะเหนื่อยและไม่มีอำนาจต่อรอง
จ้างคนมีประสบการณ์ย่อมดีกว่าคนไม่มีประสบการณ์ บางครั้งอาจแพงหน่อยแต่คุ้มค่า
อย่าหลงคารมคนขี้โม้ที่มีแต่โปรไฟล์แต่ไม่มีผลงาน
ทำธุรกิจอย่าหน้าใหญ่ อย่ามือหนัก จ่ายมั่ว ควรลงทุนในสิ่งที่สร้าง Cashflow ให้บริษัท หรือเป็น Core หลักของบริษัทก่อน อย่าลงทุนไปในสินทรัพย์ที่ไม่สร้างรายได้
ธุรกิจเป็นเหมือนเด็กที่ต้องปั้น ต้องรอเวลาให้เติมโต ไม่มีใครเซทธุรกิจแล้วพร้อมสมบูรณ์แบบ 100% ตั้งแต่วันแรก ควรแบ่งเป็นเฟสๆ
อย่าทำธุรกิจฉาบฉวยเพราะเครดิตสำคัญกว่าเงิน รักษาไว้ให้ดี คนไม่มีเครดิต เงินซักบาทก็หายาก แต่คนมีเครดิต เงินเท่าไหร่ก็หาได้
ธุรกิจเป็นเรื่องของแบ่งปันผลประโยชน์ ทุกอย่างตกลงได้หมด ไม่มีสัญญาหรือดีลอะไรตายตัว บางอย่างมันตั้งไว้เผื่อต่อ
ทำธุรกิจอย่า take all แต่ต้องวิน วิน วิน ทุกฝ่าย ไม่มีใครอยากทำธุรกิจแล้วไม่ได้กำไรหรอก คนอื่นจะไม่อยากทำงานด้วย ทุกคนต้องได้เงินเหมาะสม
ทำธุรกิจต้องมองภาพกว้าง มองระยะยาวให้ออก อย่าโลภอยากรวยไว โดยไม่นึกถึงคนอื่น
สินค้ามูลค่าเกินสองสามล้าน ควรร่างสัญญาให้ละเอียด ค่าทนายร่างสัญญาไม่กี่บาทหรอก แต่จะช่วยลดความเสียหายได้หลายล้านมาก
อยากได้ ล้าน บางครั้งต้องเอา แสน แลก
อยากได้ แสน บางครั้งต้องเอา หมื่น แลก
อยากได้ หมื่น บางครั้งต้องเอา พัน แลก
ไม่มีธุรกิจไหนที่ไม่ลงทุน ไม่ลงแรง ไม่ลงความรู้ แล้วจะรวยได้ และต้องถามตัวเองดูว่า สิ่งที่คุณทุมเทไป มันมูลค่าเท่าไหร่
เมื่อคุยรายละเอียดงานเสร็จให้ สรุปและคอนเฟิร์มงาน หรือเซนสัญญาทุกครั้ง ไม่เช่นนั้น จะโดนตอดนิดตอดหน่อยหรือเกิดเรื่องที่ไม่เป็นตามตกลงได้
เจ๊งบนกระดาษให้หมด ดีกว่าเสียเงินหลายล้านเพราะความไม่รู้ วิเคราะห์ให้ครอบคลุมทุกประเด็น นึกภาพในหัวให้ออก
การสั่งผลิตสินค้าลอตแรกแพงเท่าไหร่ก็ได้ ขอให้ได้สินค้าจำนวนที่น้อยๆที่สุด เพราะเราต้องซื้อมาลองตลาดก่อน ซื้อมาดูฟีดแบคลูกค้าก่อน ดู Flow ดูทราฟฟิคก่อน ลอตต่อไปค่อยสั่งเยอะ

คู่ค้าที่ดี ไม่ใช่ต้นทุนถูกแล้วจะแข่งกับคนอื่นได้ มันมีเรื่องหาความเชื่อใจ ความสม่ำเสมอ ความเป็นมืออาชีพ เซอร์วิสที่ดี และ การช่วยกันแก้ปัญหาเวลาอีกฝ่ายเจอปัญหาด้วย ไม่ใช่ขายให้แล้วจบไป ต้องคิดเผื่อเค้าด้วย คู้ค้าที่ช่วยแก้ปัญหาให้เราไม่ได้ อย่าไปร่วมงาน มันเหนื่อย
ต้องหาลูกค้าก่อน ค่อยหาสินค้า อย่าผลิตสินค้าแล้วค่อยมาถามว่าจะขายใคร ขายยังไง ลูกค้าต้องการมั๊ย
การทำธุรกิจอย่ามองแค่ตัวเอง อย่าประเมินแค่ยอดขายตัวเอง บางครั้งยอดขายมันไม่ได้โกรทขึ้นเรื่อยๆทุกเดือน ต้องประเมินเทรนด์ ประเมินคู่แข่ง จังหวะของตลาด และมิติอื่นๆด้วย หลายคนตายเพราะลอตแรกขายดี แต่ลอตสองขายไม่ได้
การดูคน เวลาคุยงาน ให้ดูความสำเร็จของคนที่คุยด้วย เอาผลงงานมาคุยกัน อย่าดูที่มันโม้ อย่าดูที่การเก่งกาย เข็มขัด กระเป๋า ต้องแยกตัวจริงให้ออก
ทำธุรกิจถ้าทำให้ดีกว่าที่มีอยู่ไม่ได้ อย่าไปทำไม่มีแต้มต่อและเหนื่อยเปล่าๆ
ระวังคู่แข่งรายใหญ่ เพราะเค้าคิดบิดนิดเดียวเราก็ตายได้
การทำบัญชีสำคัญ เราจะได้รู้ว่าเราควรแบ่งเงินไปลงทุนที่ส่วนไหน การบริหารต้นทุนและรายรับรายจ่าย ก็เป็นหนทางเพิ่มกำไรอีกทางนึง
ทุกคนในองค์กรมีหน้าที่และความสำคัญแตกต่างกันไป ทำงานให้ถูกหน้าที่ ถ้าไม่เข้าใจหน้าที่ของตัวเอง องค์กรจะยิ่งโตช้า
ทำธุรกิจกับต่างประเทศ เก็บเงินก่อน อย่าให้เครดิต
ไปที่ใหม่ที่ไม่คุ้นเคยให้หาพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง อย่าหลับหูหลับตาเดินใสๆเข้าไปให้เค้ากระทืบ
อย่าคิดว่าเราอยากขายอะไร ต้องถามลูกค้าว่าเค้าต้องการอะไร
ทำธุรกิจอย่าใจดี ยิ้มบ้างเพื่อสร้างมิตร โหดบ้างเพื่อไม่ให้ใครมารังแก อย่าเป็นเด็กให้เค้าขูดเลือดขูดเนื้อได้
อย่าอีโก้ คุณประสบความสำเร็จในธุรกิจแรก ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จในธุรกิจต่อไป
โอกาสมักมากับคนรู้จักใหม่ๆ ยังใช้ได้เสมอ เจอคนให้มาก เจอโลกให้มาก เรียนรู้ให้มาก
ไม่มีเงิน ก็ใช้แรง ไม่มีแรงก็ใช้ความรู้ แลกมันมา
ทุกอย่างคือทุน
คอนเนคชั่นสำคัญกว่าเงินและความรู้ ถึงจะมองดูเหมือนตลกร้าย แต่มันจริง
เรียนรู้จากความสำเร็จ ถ้าคนอื่นทำได้ แสดงว่าเราก็ทำได้ แต่ต้องขยันให้ได้มากกว่า
คิดและทำให้มากกว่าพูด อย่าเป็นนักธุรกิจสายคำคม สายอ่านหนังสือเยอะ แต่ไม่ลงมือทำซะที
เวลาสำคัญกว่าเงิน เงินหมดหาใหม่ได้ แต่เวลาเมื่อเสียไปแล้วไม่สามารถกลับมาอีกได้ เพราะเวลา เดินเป็นเส้นตรง ไม่ใช้เดินเป็นวงกลม
ขยันให้ถูกจุด ไม่งั้นจะเหนื่อยฟรี
อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วหรือเกิด ego จากความสำเร็จ อย่ายึดติดกับความสำเร็จ เมื่อไหร่หน้าใหญ่ เมื่อนั้นเตรียมพัง อย่ายึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ ต้องพร้อมเปลี่ยนแปลงหรือวางแผนหาช่องทางใหม่รอตลอดเวลา

อย่าทำตามทุกความคิดเห็น ต้องดูผลลัพธ์โดยรวม การฟังทุกความคิดเห็นทำให้บริษัทเจ๊งแน่นอน บางเรื่องยอมแล้วทำให้พัฒนาควรฟัง บางเรื่องยอมแล้วไม่ทำให้ส่วนรวมดีขึ้น เราควรยึดธงของเรา
มันมีนักธุรกิจแบบคบได้ กับ แบบคบไม่ได้
นักธุรกิจที่ดีดูที่พฤติกรรมที่ผ่านมา อย่าดูที่คำพูด ยิ่งพวกที่ชอบพูดว่าทำเพื่อคนอื่นนี่ต้องคิดดีๆ
เวลาหาลูกค้าหรือขอคอนแทค เราควรเก็บเบอร์ที่เค้ามา อย่ารอให้เค้าโทรมา เดี๋ยวตามไม่ได้
จงลงทุนกับคนขยันลงมือทำ คิดบวก มีไฟ ความสม่ำเสมอ และ อย่าเสียเวลากับคนที่ไม่มีสิ่งพวกนี้
การจ้างมืออาชีพทำงานดีกว่าจ้างถูกๆ แล้วมาตามแก้ทีหลัง
รู้จักใช้เครื่องมือควบคุม Performance ตัวเองเช่น ตารางงาน ตารางนัดหมาย to do lists
ต้องโฟกัส ไม่มีใครประสบความสำเร็จทุกเกมส์ ไม่มีใครรวยได้ด้วยการกระจายความเสี่ยง ส่วนความเสี่ยงจัดการได้ด้วยความรู้และการศึกษาหาข้อมูล ยิ่งศึกษามากยิ่งเสี่ยงน้อย
อย่าเดินตามเกมส์ของคนอื่นหรือก็อปปี้คนอื่น ธุรกิจคือสงคราม กลยุทธ์ และ จังหวะ ต้องหาแนวทางของตัวเองให้เจอ
อย่าทำธุรกิจเป็นวันๆ ต้องรู้จักวางแผนล่วงหน้า 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ถึงแม้การตลาดปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงไปเร็ว แต่ก็ดีกว่าทำธุรกิจแบบไม่รู้อนาคตหรือทางเดินที่จะไป
ต้องมองความสะดวกของลูกค้าเป็นหลัก อย่าสร้างโมเดลมาเพื่อแค่แก้ปัญหาแต่ไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน
โลกออนไลน์น่าสนใจก็จริง แต่ไม่ใช่ลูกค้าทุกคนที่อยู่ในตลาดออนไลน์ การตลาดแต่ละที่ มันมีอายุที่เหมาะสมกับเครื่องมือแตกต่างกัน
ต้องมีมาตราฐานวัด Performance ในใจ ว่าตัวเองอยู่เลเวลไหน เมื่อเปรียบเทียบ Performance ของตลาด ตอนนี้เราเดินหน้าหรือถอยหลัง เพื่อที่จะได้แก้ไขและปรับปรุงให้ดีขึ้น
ใช้กฎ 20/80 ให้เป็น งานมี 2 แบบ แบบแรกคืองาน Routine เป็นงานที่ทำประจำเพื่อรักษาสถานะของธุรกิจ ส่วนงาน New project เป็นงานเพื่อสร้างสถานะของธุรกิจในอนาคต
/ ส่วนงาน Routine ควรกระจายงานออกไปให้ได้มากที่สุด ควบคุมอยู่ห่างๆ และเฝ้าติดตามเมื่อมีปัญหา / ส่วนงาน New Project ต้องให้เวลากับมันจนกว่ามันจะเปลี่ยนเป็นงาน Routine และรอกระจายงานต่อไป
นักธุรกิจที่บริหารเวลาตัวเองไม่ได้ เอาตัวเองลงไปทำงานทุกอย่างเพราะเชื่อว่าตัวเองทำงานออกมาได้ดีที่สุด ไม่เชื่อมั่นในทีม สุดท้ายก็จะเหนื่อยและตายในที่สุด ต้องรู้จักวางระบบและบริหารเวลาให้เป็น
อย่าเป็นเจ้าโปรเจคที่วางแผนไว้สวยหรูแต่ไม่ลงมือทำซักอย่าง
เราไม่สามารถควบคุมคนได้ ถ้าเป้าหมายของเค้าไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกับเรา ทุกๆคนไม่ชอบให้สั่ง แต่ควรอธิบายให้เค้าเข้าใจและลงมือทำให้เค้าดู
คน เป็นเรื่องของความหลายและแตกต่าง เพราะโตมาไม่เหมือนกัน อย่าได้คิดจะเอาชุดความคิดอันเดียว ไปใส่ให้กับทุกคน ต้องเรียนรู้และยอมรับในความหลากหลายและสิ่งที่เค้าเป็น

เจอลูกน้องคิดลบอย่าคิดเอามาร่วมองค์กร /
เจอลูกน้องทำงานดีขยันให้รักษาเท่าชีวิตให้เหมือนคนในครอบครัวของเรา / เจอลูกน้องไม่ฉลาดแต่ขยัน (ขยันในเรื่องไม่ควรขยันนะ) ไล่ออกเพราะมันเกิดความเสียหายกับบริษัทจริงๆ เหมือนในตำราเลย
ควรให้เกียรติลูกค้าไม่ว่าจะรายเล็กหรือรายใหญ่ ลูกค้ารายเล็กอาจเป็นลูกค้ารายใหญ่ของที่อื่นหรือเค้าอาจเติบโตเป็นรายใหญ่ในอนาคตได้เช้นกัน
ทำธุรกิจมันจะมีช่วงลงทุน ช่วงเติบโต และช่วงเก็บเกี่ยว อย่าพึ่งเก็บเกี่ยวเร็วเกินไป มันจะทำให้ธุรกิจโตช้า
Work life balance ใช้ได้กับคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจแล้วเท่านั้น ถ้าคุณพึ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ คุณต้องใช้แรงไปให้เต็ม 100% ถ้าทำงานประจำด้วย คุณต้องใส่ไป 200% ห้ามใส่ไป 50 50
ไม่มีคำคมไหนปลุกใจคุณได้ทั้งชีวิตถ้าไม่ลงมือทำอะไรซักที อ่านหนังสือร้อยเล่ม ฟังคนเก่งพูดร้อยครั้ง ก็ไม่มีทางไปไหนไกล
อย่าทำสินค้าบริการที่ลูกค้าไม่อยากได้
ต้องหาของที่ใช่มาขายคนที่ใช่
เงินสดโคตรสำคัญ ต้องมีเงินเข้ามากกว่าออก
กระแสเงินสด(cashflow) สำคัญ กว่าเงินสด (cash)
สินค้าห่วยคือจบ ไม่ต้องไปวิเคราะห์อะไรต่อ
สินค้าดีจะทำอะไรต่อก็ง่าย แต่สินค้าดีกับสินค้าขายดีไม่เหมือนกัน
ยุคต่อไปเป็นยุคของความเร็วและความรู้
ไม่ทำมาร์เกตติ้ง คุณก็ประสบความสำเร็จในธุรกิจยาก
feedback ลูกค้า คือเสียงสวรรค์ เพื่อการปรับปรุงและพัฒนา ถ้าเค้ายิ่งบ่น แปลว่าเค้าใส่ใจ
ธุรกิจมันมี cycle และจังหวะของมัน ถ้าไม่ใช่อย่าฝืน ต้องรอ
แม้จะคิดมาเยอะขนาดไหน พอลงสนามจริงก็มีเรื่องให้ปรับอยู่ดีเป็นเรื่องปกติ อย่าคิดมาก
ทุกการลงทุน เราต้องประเมินให้ได้ว่าเคสหนักสุดที่เราจะสูญเสียคืออะไร ต้องคิดไว้ตั้งแต่แรก อย่าคิดตอนมันขาดทุนแล้ว มันเครียด เช่น โปรเจคนี้โดนอย่างมากแสนนึง ถ้าคิดว่าไหว ก็ทำ ไม่ต้องมาเสียใจ กันขาดทุนไว้เลย
อย่าทำการตลาดเกินตัว ธุรกิจแต่ละช่วงมีขนาดที่เหมาะสมกับไซท์ค่าการตลาด ธุรกิจไม่ใช่แค่เรื่องของเงินอย่างเดียว
ดีลที่ดี มันต้องใช่ทั้งดีล และ คนดีล ยิ่งถ้าคนดีลที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก แล้วแต่งตัวจัดเต็มแบรนด์เนม ตั้งแต่เข็มขัด กระเป๋า นาฬิกา หรูๆ นี่ต้องเชคดีๆเลย อาจจะตัวปลอม 55

อยากรวยต้องคุยกับคน ไม่รู้ต้องถาม ถ้าอยากจนก็เงียบไว้ ไม่ต้องคุยกับใคร
ทำแบบเดิม เเต่หวังยอดขาย 2-3 เท่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ และทุกระดับยอดขาย มีวิธีการได้มาแตกต่างกัน
เมื่อไหร่ที่เก่งสุดๆ ต้องพิจารณาตัวเอง
ต้องรู้จักให้เครดิตคนอื่น ให้พื้นที่เค้าได้แสดงออก แสดงความสามารถ
เราไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกได้ แต่เราสามารถควบคุมปัจจัยภายในจิตใจเราได้ ดังนั้นแก้ที่ตัวเองง่ายกว่า รอให้คนอื่นแก้ อย่าเอาแต่โทษคนอื่นหรือโทษโชคชะตา
เราไม่สามารถชนะทุกเกมส์ได้ บางครั้งมันก็มีวันที่ผิดหวังอยากร้องไห้ แต่มันคือเรื่องปกติของธุรกิจ มาทำธุรกิจไม่ใช่มาเดินพรมแดง ขอแค่ไม่ตายแล้วเดินต่อไปก็พอ
ผู้บริหารมีหน้าที่บริหารปัญหา ถ้ากลัวปัญหาอย่ามาเป็นผู้บริหาร
ทุกคนมีเวลาเท่ากัน ถ้าคุณไม่มีเวลาแปลว่างานนั้นไม่สำคัญกับคุณพอ
อย่ามองธุรกิจเป็นจุด ต้องมองเป็นช่วง วันนี้แกร่ง วันหน้าอาจมีคนเเกร่งกว่า เกมมันเปลี่ยนทุกวัน
คนอีโก้จัด คิดลบจัด อย่าเข้าใกล้ เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอยู่ดี
คำพูดของคนประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ธงที่ต้องยึด บางอย่างเค้าอาจคิดผิดก็ได้ เค้าประสบความสำเร็จในเรื่องของเค้า ไม่ใช่ทั้งโลก
ถ้าคุณทำงานด้วย Passion คุณไม่มีทางสำเร็จ
คุณต้องมี Management skill ด้วย
Day to day คือ Manager / Day to tomorrow คือ Leader
pull สำคัญกว่า push สินค้าที่ดีผู้บริโภคต้องต้องการและถึงมือผู้บริโภค
Risk ของการไม่ทำ สูงกว่าทำเสมอ และการไม่ตัดสินใจคือการหนีปัญหาและเป็นการตัดสินใจแบบหนึ่ง
การลงมือทำธุรกิจ ทำงาน ผลลัพธ์มันเกิดขึ้นได้ 2 ทาง ถ้าทำแล้วเวิร์คก็ทำต่อไป ถ้าทำแล้วล้มเหลวก็แค่แก้ไข จนกว่ามันจะลดลง จนกว่ามันจะหมด ถ้าไม่หมดก็คัต ยอดขาดทุน แล้วก็ไปทำสิ่งใหม่ ไม่มีใครที่ทำธุรกิจแล้วประสบความสำเร็จตลอดเวลา เจ๊งเป็นเรื่องปกติ ก็แค่เริ่มใหม่ ต้องฝึกยอมรับความล้มเหลว เพราะความล้มเหลวเป็นผลลัพธ์ส่วนหนึ่งของการลงมือทำ อย่าหนีจากมัน ต้องเข้าใจมัน
Learning สำคัญกว่า Education
ใช้เวลาให้คุ้มค้า ทำตัวให้พร้อม กับโอกาสเข้ามาถึง
ปัญหายิ่งใหญ่ ธุรกิจนั้นทำแล้วยิ่งรวย
ยิ่งส่งผลกับคนในวงกว้างยิ่งรวยใหญ่
อ่านให้มากๆ ธุรกิจเปลี่ยนทุกวัน มันหมดยุคขายไปเรื่อยๆจนแก่แบบยุคเดิมแล้ว อย่าหลงระเริงกับความสำเร็จ ต้องมีแผนสอง แผนสาม เสมอ
ควรมีเวลาอยู่เงียบๆ นิ่งๆ ไม่มีทีวี ไม่มีมือถือ และ คุยกับตัวเองบ้าง ทำความเข้าใจความคิด เข้าใจความรู้สึกตัวเอง ว่าตัวเองต้องการอะไร ถ้าตัวเองยังไม่เข้าใจ ก็ยากที่จะเข้าใจธุรกิจที่กำลังจะทำอยู่
======================
ขอบคุณที่อ่านจบทั้ง 100 ข้อนะครับ
ทั้งหมดนี้เป็นสรุปค่าครูทั้งหมดที่ผมไปเจอมา ใครอ่านจบแล้วโดนค่าครูไปกี่ดอก ดอกไหนมาบ้างครับ มาแชร์กันหน่อยนะ
หวังว่าบทความจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ ถ้าชอบฝากกดแชร์ด้วยนะจ๊ะ
#เจอกันบทความหน้าสิ้นปี2019
#หนึ่งปีหนึ่งบทความ
ท็อป ณัฐบดินทร์ ไชยศรี

ข้อดีของการสอนออนไลน์

- ทำให้สังคมได้รู้ว่าสิ่งที่หลักสูตรที่รัฐจัดสอนเด็กประถมมัธยมอยู่มันชิบหายขนาดไหน
- ทำให้เด็กต่างโรงเรียนได้แชทกัน
- จบ

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง

เจอคนรุ่นใหม่หลายคน เกิดแล้วแต่โตไม่ทันช่วงทักษิณเป็นนายกฯ ทักษิณไม่ดียังไงจำไม่ได้แล้ว ฝ่ายต่อต้านก็ทบทวนแต่วาทกรรมลอยๆ

พออยู่กับ นายกห่วยๆ นานเข้า เลยเรียนรู้ว่า เอาทักษิณกลับมาก็ได้ ดีกว่ารัฐบาลแบบนี้

ฝ่ายต่อต้านทักษิณทำตัวเอง ทำให้เขามีคนสนับสนุนมากขึ้น มีภาษีดีขึ้น

>>535 คือคงสิ้นหวังสุดๆ แล้วละ

ทำตัวเหมือนคนแก่ระลึกวัยยุค90ไปได้

>>537 ระลึกยุค 90 นี่คือแก่แล้วเหรอวะ

>>538 วัยรุ่นยุค 90 ตอนนี้อายุน่าจะเหยียบเลข 4 แล้วละ ขนาดกูเป็นเด็กยุค 90 ตอนนี้ยังเลข 3 ค่อนปลายแล้วเลย

เรื่องดราม่าอย่าบุลลี่คูสอนออนไลน์ทุกวีชาเนี่ยแหละ

อันนี้ทุกคนควรมองแฟร์ๆนะ
ว่าทีมงานไร้คุณภาพ
ไร้การกรองQCหรือการคัดเลือกบุคคลที่มาสอน
ก็เป็นปัญหาใหญ่อันนึง

แต่อีกปัญหาใหญ่
ที่มีอยู่ในไทยมาตลอดและ
ไม่มีการยอมรับกันเท่าไหร่

คือบุคคลที่ทำอาชีพที่สอนคนอื่น
ไม่ว่าจะเป็นครูที่รร.หรือครูสอนพิเศษก็ตาม
“บางคน” ไม่ยอมพิจารณาความสามารถของตัวเองจริงๆ ว่าเก่งพอที่จะสอนคนอื่นได้หรือยัง
(อันนี้ไม่นับถึงวิธีสอนว่าเก่งไม่เก่งนะ)
อันนี้หมายถึง knowledge มีมากพอมั้ย?
มีknowledge ที่ถูกมั้ย

การที่เราไม่มีการประเมิณความสามารถของคนที่จะสอน คือการลดระดับการศึกษาประเทศไทยนะครับ

ดังนั้นกรณีครั้งนี้ทั้งอังกฤษคณิตศาสตร์
ผมเชื่อว่าเราทุกคนรู้ว่า ทั้งคนทำเอกสารและคนสอน ไม่มีความรู้แน่นพอเลยสักนิด

แต่เรากลับมองข้ามตรงนั้นและพยายามให้กำลังใจครูให้สู้ต่อไป เพราะครูน่าจะตั้งใจเต็มที่แล้ว ฯลฯ
นี่เท่ากับคุณกำลังสนับสนุนให้คนที่ไม่มีความรู้มาผลิตอนาคตของชาติด้วยความรู้ความเข้าใจผิดๆนะครับ

อาชีพหลายอาชีพผมว่า มันมองที่ว่า ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจไม่ได้ บางอาชีพมันต้องมีความ professional มากถึงจะเป็นได้

ดังนั้นงานทุกงานถ้าเรารู้ว่าฝีมือไม่ถึง
ไม่ควรรับงานครับ
ไม่ใช่แค่ครูแต่นี่รวมไปถึงงานล่าม
ล่ามญี่ปุ่นในไทยเฟ้อมาก
เพราะทุกคนเรียนมานิดหน่อยพอพูดได้
ก็รับงานล่ามกันหมด ผมเคยติดตามเข้าร่วมประชุมกับหลายบริษัท ที่ขอให้ผมเข้าไปฟัง เพื่อQCการแปล คือบางที่นี่แย่มาก ฟังไม่ออก ล่ามแปลมั่ว หรือ ตัดทิ้งเลย

ขอเถอะครับ การบุลลี่กันมันอาจจะไม่ดีจริงๆ
เราควรเลือกใช้คำที่จะติหรือแนะนำ
แต่เราไม่ควรมองข้ามความเป็นจริง
แล้วบอกครูให้สู้ต่อไป คูมีความตั้งใจดี

เราควรจะบอกครูว่านี่เป็น sign จากข้างบนแล้ว
ว้าครูควรไปขัดเกลาความรู้ใหม่ก่อนนะแล้วค่อยมาสอน ถ้ารักในการสอน รักในอาชีพจริงๆ
ควรจะปั้นตัวเองให้แน่นก่อนแล้วค่อยไปปั้นคนอื่นนะครับ

ผมเอาใจช่วยถ้าครูทั้งหลายที่โดนดราม่า
คิดจะพัฒนาตัวเองใหม่ก่อนจะกลับไปสอนครับ

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง

อีชั้นไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนโหนหมาถึงเป็นเซ็ตเดียวกับคนโหนเจ้า

>>540 ทามมายต้องใช้Knowledgeครั๊ฟ คำว่าความรู้ก็มี แถมสั้นกว่าด้วย

ทามมายคนพวกนี้ต้องuseคำenglishสำหรับwordที่notศัพท์เฉพาะอ่ะครั๊ฟ คิดว่าtypeแบบthatแล้วจะmakeให้ดูsmartกว่าotherคนเหรอครั๊ฟ

>>542 คิดว่าบางคนเขาถนัดและนึกคำในหัวออกเป็นภาษาอังกฤษออกก่อนภาษาไทยก็เลยพิมพ์มาแบบนั้น คิดว่าส่วนใหญ่คงไม่ได้มีความตั้งใจที่จะให้ดูฉลาดกว่าคนอื่นหรอก

>>542 มันเป็นปัญหาของนักวิชาการโดยเฉพาะที่จบนอก คือชินกับภาษาอังกฤษมากกว่า ไม่ได้โชว์ภูมิอะไรหรอก

Faggot มั่กๆ
https://imgur.com/ojPRkqp

>>545 เพจนี้กาก อาร์ตห่วย มุกในคอมิคไม่ตลก แต่ดังได้เพราะเป็นที่ที่ให้พวกซ้ายมารุมเลียไข่กันเองในคอมเมนต์

22 พฤษภาคม 2557 วันรัฐประหารของคสช.
ผมถูกทหารควบคุมตัวไปค่ายทหารเป็นคนแรก ในฐานะคนรับผิดชอบการออกอากาศของ THAIPBS ที่รายงานสดข่าววันทำรัฐประหารผ่านออนไลน์ ขัดคำสั่งคสช.

สี่ปีต่อมา ถูกทหารบีบให้ลาออกจาก
ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว PPTV เป็นรายแรก เพราะเสนอข่าววิจารณ์รัฐบาลเผด็จการ

พักก่อน! เพราะตอนนี้เราไม่ได้เจอจักรวาลคู่ขนาน ที่มีเวลาเดินย้อนหลังกลับอย่างที่กำลังเป็นกระแสกันอยู่เลย

มันก็น่าเศร้าอยู่แหละที่ข่าวแบบนี้ไม่ได้เป็นความจริง แต่คุณไม่ควรเชื่อข่าวที่มีการอ้างอิง NASA แต่มีต้นทางมาจากการรายงานของ New York Post, the Daily Star และ New Scientist โดยไร้วี่แววการรายงานจากทาง NASA เองอยู่แล้ว

ทีนี้มาเจาะรายละเอียดแบบเต็มกัน

โดยต้นเหตุของข่าวที่ทำให้เกิดเป็นกระแสนั้น มาจากการรายงานของ New Scientist ในวันที่ 8 เมษายน ซึ่งมีการอ้างอิงถึงสามงานวิจัยดังนี้

- Characteristics of Four Upward-pointing Cosmic-ray-like Events Observed with ANITA ( https://arxiv.org/pdf/1603.05218.pdf )
- Upgoing ANITA events as evidence of the CPT symmetric universe ( https://arxiv.org/pdf/1803.11554.pdf )
- A search for IceCube events in the direction of ANITA neutrino candidates ( https://arxiv.org/pdf/2001.01737.pdf )

สรุปแบบกระชับเลยก็คือ อุปกรณ์ ANITA ตรวจพบปรากฏการณ์ที่เสมือนรังสีคอสมิกเคลื่อนที่แบบพุ่งจากโลกไปสู่อวกาศ ซึ่งสามารถหาคำอธิบายได้ยาก และมันค่อนข้างสอดคล้องไปกับไอเดียของการมีจักรวาลคู่ขนาน

อย่างไรก็ตาม แม้มันจะมีความสอดคล้องกันในเชิงไอเดีย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าปรากฏการณ์ที่อธิบายได้ยากนี้ จะไม่สามารถถูกอธิบายได้ในอนาคต แต่เชื่อเถอะว่าเรายังอยู่ห่างจากการจะอ้างว่านี่คือสัญญาณของจักรวาลคู่ขนาน หรือแม้แต่การแหกกฏฟิสิกส์ด้วยซ้ำ

และก็สิ่งเดียวจากเรื่องนี้ที่มีความเชื่อมโยงกับ NASA คืออุปกรณ์ ANITA ของมหาวิทยาลัยฮาวาย ที่ได้รับการสนับสนุนจาก NASA และ DOE โดยนักวิทยาศาสตร์ที่บางเจ้าได้อ้างถึงอย่าง Dr. Peter Gorham นั้นก็ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของ NASA แต่อย่างใด

แม้กระนั้น เราก็ไม่อาจปฏิเสธความเป็นไปได้ของทฤษฏีนี้ได้ 100% เสียทีเดียว แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริง เราจะได้ข่าวจากนักวิทยาศาสตร์ และแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือกว่าที่ถูกกล่าวถึงในข้างต้นอย่างแน่นอน

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง

สำหรับ​เรื่อง ที่เยอรมัน​นะคะ​ สืบทราบมาแล้วว่า​ ไม่มีผลใดๆ​ ในทางปฏิบัติ​ค่ะ​ นางยังลัลลาต่อได้อีกแบบไม่มีอะ​ไร​เกิดขึ้น​ ส่วนคนที่มโนไปว่าเยอรมัน​จะเนรเทศ​ออกไปจากประเทศ​นั้นก็ลืมไปเลยค่ะ​ เพราะอย่าว่าแต่ เลยค่ะ​ ต่อให้ผีน้อยหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย​จะเนรเทศ​พวกนี้กลับบ้านเกิดยังทำได้ยากเลยค่ะ​ ต้องทั้งปลอบทั้งขู่​ ให้เงินพ้อคเก็ต​มันนี่ติดตัว​ ซื้อตั๋ว​เครื่องบิน​ให้​ สาธยายคุณ​ประโยชน์​ต่างๆ​สารพัด​ อย่าลืมว่าเยอรมัน​คือประเทศ​ที่ให้ความสำคัญ​กับสิทธิ​มนุษยชน​มากอับดับต้นๆของโลก ยังไม่รวมสิทธิ​ทางการทูต​ วีซ่าถาวร​ของกษัตริย์​ และความสัมพันธ์​ระหว่าง​ประเทศ​อีกมากมาย​ เขาไม่ละเมิด​ตรงนี้แน่นอนค่ะ

สิ่งที่จะมีผลต่อ ​ในการอยู่​ที่เยอรมัน​ และอาจโดนเนรเทศ​คือ​ ..​ไปทำผิดกฎหมาย​อาญา​ หรือลูกน้องไปทำผิดอาญา​โดยคำสั่ง​..​ค่ะ​ เรื่องลัลลาไปตามที่ต่างๆปี้หญิงมั่วเซ๊กไม่มีผลใดๆให้ระคายเคือง​แม้รูขุมขน​ค่ะ

เพราะฉนั้นเลิกมโนค่ะ...ก้มหน้าก้มตาทำมาหากิน​ เป็นฝุ่น​ PM2.5 ต่อไปนะคะ

ยุคล่าแม่มดของเสื้อแดงคือโดนไล่ออกจากงาน โดนฟ้อง มีคดี ลี้ภัยไป ตปท บางคนโดนสั่งเก็บ ในขณะที่ยุคล่าแม่มดของลิ่มที่ลิ่มพูดถึงก็คือโดนขุดทวิตมาด่า แล้วออกมาขอโทษ คนบอกเรื่องมันผ่านไปแล้วคนเราต้องมีพัฒนาการบ้าง ความเจ็บปวดมันเทียบกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เลิกเปรียบเทียบแบบนี้ จะอ้วก

ตอนกลับไทยสิ่งที่แม่สั่งทุกครั้งเวลาขับรถจากลำปางเข้าเชียงใหม่ คือ “ถ้าหมาแมววิ่งตัดหน้าไม่ต้องเบรค ชนไปเลย หมาแมวตายดีกว่าเราตาย” บ้านกูเลี้ยงกูมาแบบนี้เพราะคนในหมู่บ้านอัดเสาไฟ 1 ต้นไม้ 1 เพราะหักหลบหมา
#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

>>551 แล้วถ้าเสาไฟล้มตัดหน้าหรือหลุมถนนตัดหน้า มึงจะพุ่งชนหรือจะเบรค

>>551 เห็นแก่ตัวชิบหาย กูว่าให้แม่มึงตาย ยังดีกว่าให้หมาแมวตายอีก

>>553 เห็นแก่ตัวไงวะ หักหลบหมา บาดเจ็บพิการหรือถึงขั้นเสียชีวิต จะเรียกร้องค่าเสียหายกับใครวะ

>>551 กุเข้าใจนะ ในสายตาคนเป็นแม่ ยังไงชีวิตลูกตัวเองก็ต้องสำคัญกว่าชีวิตหมาแมวที่ไหนก็ไม่รู้อยู่แล้วป่ะ
ว่าแต่ไอ้พวกหมาแมวที่ชอบวิ่งตัดหน้ารถเพราะอะไรวะ มันไม่รู้เรื่องเหรอ

>>555 สัญชาติญานสัตว์มั้ง แมวกับหมาชอบวิ่งตัดหน้าคนอยู่แล้ว

มีแต่พวกโง่ที่หักหลบหมาแมวตอนขับรถ แล้วก็มีแต่พวกโง่เหมือนกันที่ขับชนหมาแมวในตอนที่ตัวเองขับมอเตอร์ไซค์

ทำ 4000 โครงการจริงหรือ?

ถ้าถามอย่างนี้ก็ตอบได้เลยว่า ไม่จริง แต่ถ้าถามว่า โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมีกว่า 4000 โครงการหรือ? จึงตอบว่า จริง

ประเด็นแรกคือเราต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ใหม่ เพราะคำนี้เป็นคำกำกวม ทำให้เข้าใจไปว่า...เป็นคนทำโครงการต่างๆหลายพันนั้นหมดเลย ซึ่งถ้าเฉลี่ยแล้วจะพบว่าทำโครงการใหม่ๆทุก 6 วัน ซึ่งไม่ถูกต้อง ความเป็นจริงก็คือ...มีความคิดอะไรบางอย่างออกมา แล้วอาจจะมีพระราชดำรัสไว้ รัฐก็ทำโครงการที่ใกล้เคียงกับความคิดนั้น ซึ่งความคิดนึงอาจจะมีได้หลายโครงการ เช่น ...อยากให้สร้างอ่างเก็บน้ำในพื้นที่หนึ่ง ก็มีหน่วยงานไปทำอ่างซัก 10 อ่างก็ได้ 10 โครงการ (ถ้าพิจารณาดูใน 4000 โครงการก็จะพบว่า เป็นเกี่ยวกับน้ำไปแล้ว 3000 กว่า) นอกจากนี้ตัวโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือโครงการที่เนื่องมาจากความคิดของราชวงศ์นี้ ไม่ได้มี ...แค่คนเดียว แต่ยังมีคนอื่นแบบควีนสิริกิติ์ พระเทพ และคนอื่นๆด้วย

ประเด็นต่อมาคือตัวเลข 4000 กว่านี้ มันคือเท่าไหร่กันแน่ จากสรุปของกปร.(สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) พบว่าในปี 2554 มีทั้งหมด 4100 โครงการ พอมาถึงปี 2559 มี 4,685 โครงการ และจากปี 2562 แม้ ....จะสวรรคตไปแล้ว แต่โครงการยังเพิ่มเป็น 4810 โครงการ ก็จะเห็นว่าตัวเลขโครงการนี้มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วในปีหลังๆแม้ ...จะไม่อยู่แล้ว มันก็ยังเพิ่มมาอีกเยอะเลย เพราะอะไรกัน เพราะหน่วยงาน กปร. ได้งบประมาณปีละ 2500 ล้าน ซึ่งไม่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้าว่าจะเอาไปใช้ทำอะไรบ้าง ทำให้บรรดาหน่วยงานต่างๆที่ไม่มีงบทำโครงการ ก็จะหาว่าโครงการตัวเองเข้ากันได้กับพระราชดำริไหนหรือไม่ เสร็จแล้วก็จะเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จาก สำนักงาน กปร. โดยมีคณะกรรมการของ กปร.ตัดสิน (ยังกะประกวด startup) แต่ละปีก็จะมีการอนุมัติโครงการโดยกปร. 5-8 ครั้ง ต่อปี

ก็จะเห็นว่าโครงการต่างๆนี้ไม่ใช่เป็นโครงการที่ในหลวงทำแบบที่เข้าใจกัน ที่มีทำเองจริงๆนั้นเมื่อคิดเป็นสัดส่วนแล้วมีไม่เท่าไหร่ ส่วนในสี่พันกว่าโครงการนี้ก็มีอะไรแปลกๆเช่น เผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก็จัดเป็นหนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้วย (เอ๊ะ ยังไง) หรืออะไรหลายอย่างมันดูแปลกๆ เช่น ทำไมหน่วยงานไม่ของบจากรัฐโดยตรง แต่ไปขอผ่านกปร. มันง่ายกว่าหรือยังไง มีทุจริตหรือเปล่า แต่ก็คงไม่มีใครกล้าวิจารณ์อะไรอยู่ดี

รูปประกอบเป็นตัวอย่างการขออนุมัติงบประมาณของกปร.

>>558 ถ้าพูดตอนโอดินยังอยู่นี่คือเป็นพวกล้มเจ้าไปแล้ว

>>559 พูดตอนนี้ก็โดนจับให้เป็นอยู่ดีวะ

>>560 มึงอ่อนไหวไป เค้าไม่จับมึงด้วยเรื่องแค่นี้หรอก มึงต้องแอบอ้างชื่อไปหาเงินแบบ หมองหยอ เชื้อจะเข้ากระแสเลือดมึงเอง

>>561 อ่านดี ๆ มันหมายถึงจับให้เป็นล้มเจ้า ไม่ใช่จับเข้าคุก

สิ่งที่เบื่อที่สุดในวงการนายแบบโป๊ คือ พวกเสี่ยกะเทยที่เอาเงินมาเลี้ยงพวกนายแบบที่กำลังดังๆ แล้วออกคำสั่ง "ห้ามถ่ายโป๊อีก" กูจะเก็บควยมึงไว้ดูคนเดียว
ความรู้สึกเหมือน มีมหาเศรษฐีมาซื้อ "ภาพโมนาลิซ่า" ไปจากพิพิธภัณฑ์ เพื่อเอาไปเก็บไว้ดูคนเดียวที่คฤหาสตร์ส่วนตัว ไม่ให้ชาวโลกได้เห็นอีก
จนเมื่อเสี่ยกะเทยเบื่อ เลิกเลี้ยงนายแบบคนนั้นๆแล้ว นายแบบก็อยู่ในสภาพหมดตัว ไม่มีเงินเก็บสักบาท เพราะเสี่ยเอาคืนหมด
จะขอกลับสู่วงการถ่ายแบบหรืองานรับจ้างเย็ด ก็ไม่มีใครจ้างแล้ว เพราะอยู่ในสภาพเยิน หุ่นเผละ และเสื่อมความนิยมไปแล้ว (และผู้จ้างหลายคนก็แค้น ที่มึงเคยปฏิเสธเขา เพราะเห็นแก่เงินของเสี่ยกะเทย)

ประเทศนี้แม่งพึ่งท่องเที่ยวเป็นหลักนะ แต่ไม่ tourist friendly เลยซักนิด ตลกดี เฮงซวยตั้งแต่สนามบินยันรถตู้ ลองไปเที่ยวเมืองนอก เอาประเทศที่คมนาคมเทพๆ แบบญี่ปุ่นหรือไต้หวันดู กลับมาชังชาติเลย 555555555555

>>564 กูคนไทยยังจะเดินทางไปไหนมาไหนลําบากเลยถ้าไม่มีรถส่วนตัว ปัจจุบันยังขึ้นรถเมย์ไม่เป็นสัส แล้วรถตู้นะถ้าไม่รู้ทางต้องลงไหนก็ไม่รู้อีก ที่กูเกลียดสุดๆนอกจากเรื่องการโกงค่าโดยสารคือลุงขับรถตู้มึงช่วยขานรับกูที บางทีกูไม่รู้ว่าลุงได้ยินเปล่าวะว่ากูให้จอดป้ายหน้า.... แพนิคไอเชี่ย

>>564 >>565
แล้วยังสนับสนุนให้คนไทยเที่ยวไทยด้วยนะ อีห่า พวกจังหวัดท่องเที่ยวแม่งอัพราคาค่าครองชีพกันฉิบหาย ข้าวจานนึงเกือบร้อยใครมันจะอยากไปวะ
แล้วถามว่ามีอะไรให้เที่ยว วัด ตลาดน้ำ โบราณสถาน แค่นึกภาพกูก็เบื่อละ เก็บตังค์ไปเที่ยวประเทศที่มันเจริญหูเจริญตาดีกว่า
รถโดยสารนี่คือถ้าไม่ใช่สายประจำที่ขึ้นแม่งไปไม่เป็นจริงๆ ดูยากฉิบหายว่าคันไหนไปไหนต้องรอตรงไหน
ยังไม่รวมคุณภาพรถกับการบริการแหกปากใส่กูเหมือนหมูเหมือนหมาอีก

คนไทยหันมาสนใจ BlackLiveMatter มันดี คำเหยียดบางคำยังใช้เรียกพวกเขาสนุกปาก เอาจริงๆถ้าเทียบกับบริบทของไทย คนดำเมกันกับตำรวจ น่าจะพอเทียบได้กับคนมุสลิมสามจังหวัดกับรัฐไทย ทั้งรัฐบาล จนท.รัฐ และแม้แต่คนไทยที่เหลือยังเหมารวมเขาทุกคนเป็นผู้ร้าย และทำเบลอๆเวลารัฐละเมิดสิทธิคุกคามอ่ะ

มีคนขายของแบบเดียวกับเรา มาส่องร้านเรา แล้วน่าจะมือลั่นกดหัวใจไว้ ทีนี้จังหวะเราเข้าไปดูพอดี (ร้านพึ่งเปิด) ขายแบบเดียมกันเป๊ะ
ครั้งแรกที่เข้าไปดูค่อขายแพงกว่า อีกวันนึงเราก็เอ๊ะอยากเข้าไปดูหน่อย นางลดราคาถูกกว่าเราจ้า ตัดราคานั่นแหละ จนตอนนี้ผ่านไป หลายสัปดาห์แล้ว ก็ยังขายไม่ได้สักชิ้นเลย จะบอกว่า ขายถูกกว่สไม่จำเป็นต้องขายดีกว่าเสมอไปนะคะ ลูกค้าคือไม่ได้แคร์ราคาก็มีเยอะ เห็นคนอื่นกินขี้เราไม่จำเป็นต้องกินขี้ตามค่ะ เหมือนกัน เห็นคนตัดราคาเราไม่จำเป็นต้องตัดราคาตาม โชคดีไม่ได้ขายของกระแส 😅😅

คนไทยที่ร่วมร่านไปกับBLMด้วยเนี่ย มันรู้รึเปล่าว่ามีการlootingปล้นร้านขายขางที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ไปด้วยเท่าไหร่

คนไทยหวงทรัพย์สินส่วนบุคคลจะตาย ถ้ารู้เรื่องนี้เข้าไปแล้วขี้คร้านจะร่านไม่ออก

วัฒนธรรม-ภาษาของไทยกลัวไฟ ดูได้จากสำบัดสนวนเกี่ยวกับไฟ 'โจรปล้นสิบครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว'
ทำให้รีแอคชั่นกับการใช้ไฟในการประกอบกิจกรรมดูน่ากลัว น่าเกรงขาม หรือดูข่มขู่มากขึ้น

ด่ากรูโอตะ ตามไอดอล ไปรอจับมือไปถ่ายรูปไอดอล ว่าบ้าหี
แล้วที่มานั่งสลอน เฝ้าหีเช้าจรดเย็น งานการไม่มีทำหรือไง โดนผู้หญิงหลอกใช้เสียเงินเสียทอง โดนหลอกให้ยกข้าวยกแกง ให้ขับรถพาไปเที่ยวนู่นเที่ยวนี่ แล้วก็ควักก็จ่าย สุขใจที่ได้เปย์หี หมดเป็นหมื่นเป็นแสนเพื่อหีแก่ๆ ฝนตกแดดออกวันพระวันเจ้าไม่ไปไหน นั่งหน้าสลอน เฝ้าแต่หี ไม่หนักกว่าโอตะเหรอวะ ปุโถ่ 😂😂😂
ใครมาอ่านเจอก็ช่างกูไม่แคร์

ประเทศจีนไม่เห็นมีข่าวตำรวจทำร้ายประชาชนจนตายเหมือนประเทศเสรีอย่างอเมริกา

>>569 blm กับ ม็อบปล้นสะดมเผาร้านไม่ควรเอามาโยงกันนะ เข้าใจละว่าม็อบมันลามไป แต่จุดเริ่มมันไม่ได้ออกมากันเพราะอยากเผาร้านกันนี่?

>>572 แต่อุ้มหายเลยนะฮะ

>>573 ทำไมตอนคนขาวโดนตำหมวดฆ่าตาย ไม่เห็นมีใครออกมาปล้นของกันหว่า 🤔

https://en.m.wikipedia.org/wiki/Shooting_of_Justine_Damond

>>575 เมืองเดียวกับที่เป็นข่าวอยู่ตอนนี้ด้วยนา

>>575 แก้ปัญหาจนท.รุนแรงเกินเหตุ=> No
เหยียดผิว=> Yes

>>575 white live does not matter

อเมริกามีดราม่าคนดำ ไทยมีดราม่าคนจน

ประเทศอื่นมีแบบนี้มั่งไหมวะ

death by police stats

White > All

ทำไมไม่มี White lives matter บ้างอ่ะครับ อ่ะครับ

https://www.statista.com/statistics/585152/people-shot-to-death-by-us-police-by-race/

>>572 ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีเสรีภาพ และความเท่าเทียมกันในทุกเชื้อชาติ แผล่บๆ

ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ Minneapolis ที่ตำรวจขาวเอาเข่ายันคอคนดำที่ทำผิด จนขอร้องว่าหายใจไม่ออกแล้ว ก็ยังไม่ปล่อย ต่อหน้าสาธารณชนที่มีการถ่ายคลิปไว้ จนในที่สุดเสียชีวิต จนนำไปสู่การจราจลใหญ่โต เผาสถานีตำรวจ ลุกลามไปมาก ถามจริงๆ เถอะ มันต่างอะไรจากบ้านเรา ที่คนเห็นต่างจะต้องถูกเจ้าหน้าที่จัดการด้วยวีธีป่าเถื่อนแบบนี้ discrimination มันมีทั่วโลก จะเป็นเรื่องผิวสี รสนิยมทางเพศ หรือความเห็นทางการเมือง ที่รำคาญที่สุดก็คืออีพวกลิ่มจัญไร โอดครวญว่าอเมริกาแม่งเถื่อน ตำรวจฆ่าประชาชน อีดอกทอง ตอนทหารฆ่าคนในประเทศของมึงเอง มึงกลับเชียร์ให้ทหารฆ่าอีก ฆ่าเยอะๆ และทุกวันนี้มึงก็ยังไล่ล่าคนเห็นต่างอยู่ ส้นตีนค่ะ

>>582 discriminationยังไง ในเมื่อคนขาวโดนตำรวจฆ่าตายมากกว่าครับ ตอบ

>>583 ต้องคนดำสิ

>>582 กูยังเห็นข่าวคนขาวโดนยิงตายฟรีอยู่บ่อยๆ ปัญหาไม่ใช้การเหยียดแต่เป็นตร.บ้านแม่งเถื่อนเกินต่างหาก

>>585 https://www.instagram.com/p/CA0LZuPHOsK/?igshid=yc5vfmq7zq0r

เดี๋ยวนี้เริ่มตลกยากขึ้นละ ไม่เอนจอยกับมุกซื้อของต้องโกหกราคาแฟน หรือพอซื้อมาแพงก็จะมีคนขำเวลาผู้ชายโดนตบร่วงเงี้ย

สมมุติเงินเราซื้อ ความสุขสะสมของเรา เออ ทำไมต้องมาเอนจอยกับมุกกลัวแฟน

ถ้ามึงเอาเงินที่มึงหามาได้ด้วยตัวเองซื้อจองที่ชอบแล้วมึงกลัวหรือโดนเมียด่า มึงมันกระจอก ความสุขคนเราไม่เหมือนกันยิ่งไม่ได้ขอเงินมััันซื้อด้วย กูเคยพูดใส่เบาะๆกับเมียกูไปตอนกูซื้อ ps4pro แล่วแม่งง๊องแง๊งใส่กูไปว่านี่มันเงินออมกูที่กูหามาได้ด้วยน้ำพักนำ้แรงกู กูซื้อในสิ่งทีีกูอยากได้เหมือนมึงซื้อกระเป๋าซื้อลิปสติก(ซื้อทำควยอะไรวะสิบๆแท่งแถมใข้ก็ไม่หมด) มึงซื้ออะไรกูไม่เคยบ่นดังนั้นอย่ามากวนตีนใส่กู มึงต้องด่าเมียมึงบ้างให้มันรู้

>>588 สุดยอด ด่าเมียโม่งต้องรู้

ช่วงนี้ต้องไปติดต่อราชการบ่อย

คุณเอ๊ย...เข้าใจเลยทำไมมันได้แค่นี้

อย่ามาโทษคนไทยเลย

ถ้าคุณเป็นคนธรรมดาที่อยากจะคิดจะทำกิจการอะไรให้มันเจริญงอกงามขี้นมาสักอย่างนะ คุณจะเจอด่านกฏหมายสารพัดที่ไปจบลงที่การขออนุญาติราชการ

ติดป้ายต้องขออนุญาติ
เปิดร้านต้องขออนุญาติ
ก่อสร้างต้องขออนุญาติ
จะจ้างคนงานต้องขออนุญาติ

มีอีกสารพัดการขออนุญาติ

ดูเผินๆเหมือนจะดีไง ราชการจะได้ปกป้องประชาชนจากกิจการที่ไม่มีมาตรฐาน

แต่ในความเป็นจริง คือ...ทุกอย่างอยู่ที่คนอนุญาติ ถ้าอยากให้ผ่านก็ผ่าน ถ้าไม่อยากให้ผ่านก็ไม่ผ่าน แค่นั้น ทุกอย่างบิดได้ แก้ไขได้ ต่อให้สิ่งที่คุณทำมันจะไม่ผ่านมาตรฐานก็ช่วยให้ผ่านได้

แล้วทำไงล่ะให้เขาอนุญาติ....

ไม่เคยรู้สึกเลยว่าราชการสนับสนุนความเจริญงอกงามอะไรเลย มุ่งแต่จะเกาะกินและปิดกั้นไปเรื่อยๆ อย่าไปคิดทำอะไรให้มันมากเรื่องดีกว่า

อยากให้คนไทยมี awareness เรื่อง riot มากกว่านี้ คืออีมายเซ็ตเรื่องสงบสันติอะ เราถูกปลูกฝังมาโดยรัฐทั้งนั้น ถูกคอนดิชั่นให้มองเห็นแต่ความรุนแรงโดยชาวบ้าน ไม่เคยเห็นความรุนแรงของรัฐ รัฐฆ่าประชาชนไปกี่คน เรานิ่งเฉย แต่คนออกมาตะโกนด่าบนถนนเราตกใจ อย่าก่อความรุนแรงนะ

>>591 กูว่าคนไทยไม่ค่อยมีปัญหากับการปิดถนนไรนะ ที่ด่าและรังเกียจกันเยอะคือไปเผาทำลานอะไรมากกว่า อย่างน้อยถ้าเผาสน.ก็ยังโอเค แต่นี่เผาเพื่อปล้น มันคนละเรื่องกับการเรียกร้องอะไรวะ

>>591 ถ้าไทยจะไรออท ต้องไรออทที่สยามนะครับ เตรียมตัวรอหิ้วของแบรนด์แล้ว มีไอด้อลเป็นBasketball Americanที่มินนีอาโพลิส

ลงเม้นต์คนไทยที่พูดเหมือนลงพื้นที่จริงหน่อยวู้ว

>“เพราะมึงเป็นคนขาวมึงจึงได้รับอภิสิทธิ์” “คนสีผิวมอบอภิสิทธิ์ให้มึง”
“ควย”
- คนขาวที่หางานไม่ได้เพราะที่ทำงานต้องการ Racial quotas กล่าว
ถ้านี่เป็นซัก 10-20 ปีก่อนก็ยังฟังขึ้นอ่ะนะ แต่เดี๋ยวนี้คนดำแม่งแทบจะได้อภิสิทธิ์เหนือผิวสีอื่นๆจนน่าเกลียดแล้ว ฟังจากที่พูดแล้วน่าจะเป็นคนพวกเดียวกับที่บอกว่าคนดำไม่สามารถเป็น racist ได้เลยว่ะ ทุเรศชิบ

>>594 อะไรที่มีโควต้า ไอ้นั่นแหละได้อภิสิทธิ์

ระบบเข้ามหาลัย คนขาว,อินเดี่ยน(dot not feather),เอเชี่ยนโดนกดเกรด คนดำได้ช่วยเกรด

ใครpriviledgeกันแน่หว่า

>>590 ตามนั้้น อยู่เมืองไทยถ้าเกิดมาเป็นชนชั้นต่ำแล้วคิดจะไต่เต้าขึ้นไปเป็นชนชั้นนำมึงไม่มีวันได้เป็นแบบขาวสะอาด ทุกคนจะถูกบีบให้ต้องมีชนักติดหลังอะไรสักอย่างสองอย่างเป็นอย่างน้อย จนมันมีทฤษฎีสมคบคิดละว่าที่มันมีระบบนี้ก็เพื่อไม่ให้ใครสามารถเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่โครงสร้างบางอย่างได้หรือเปล่า

>>591 คนไทยยังมองความเหลื่อมล้ำเป็นเรื่องเวรกรรมชาติก่อนอยู่เลย แค่นี้ก็จบแล้ว

>>592 แค่ปิดถนนก็โวยวายละ ไม่ต้องเผาอะไรหรอก ม็อบเกษตรกร ม็อบแรงงาน มาล้อมทำเนียบล้อมกระทรวง สิ่งที่คนนอกบ่นคือ "พวกงอมืองอเท้าไม่รู้จักออม ลงทุน วางแผนชีวิต ปรับตัว ฯลฯ" หรือพวกที่ประท้วงเพราะจะถูกเวนคืนที่ดินไปสร้างถนนสร้างเขื่อน สิ่งที่คนนอกบ่นคือ "พวกถ่วงความเจริญ ไม่ยอมเสียสละ" กูเห็นแบบนี้มานานละ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนนะ

>>597 ปิดถนนคนยังยอมรับได้ไงว่าคนมันเดือดร้อน แต่เผาแล้วปล้นมันคนละเรื่อง

ถ้ามึงเห็นมานานมึงน่าจะรู้ว่าที่คนไทยด่าไม่ใช่เพราะประท้วงแล้วตัวเองเดือดร้อน แต่ด่าเพราะตัวเองชอบไม่ชอบฝ่ายไหนมากกว่า คำด่าที่มึงเอามาลงก็น่าจะรู้ว่าเป็นอคติ และเป็นทุกระดับชั้นด้วย อย่างตลาดล่างตอนนี้ก็ทับถมการบินไทยกันใหญ่

น่าเศร้าที่จริงๆแล้วในไทยมีการประท้วงหลายครั้งมากที่ไม่เกิดการรายงานข่าว แค่คนเดือดร้อนนั่งเฉยไม่เป็นข่าว...

>>598 คำด่าที่กูยกมาใน >>597 กูได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ ละ ก่อนจะมีม็อบเหลือง-แดงอีกนะ

>>600 แล้วกูพูดถึงม็อบเหลืองแดงตรงไหนละ

แค่ม็อบเกษตรประท้วงรถติดก็บ่นกันแล้ว

พวกมึงหลอนอะไรกับคำว่าเผาปล่าววะ หลอนมาจากเผากรุงศรีหรอ
เผาก็เผาอะ มันร้ายแรงกว่าอย่างอื่นไม่เท่าไรหรอก นอกจากว่ามึงเผาคนด้วยอะ ส่วนปล้นเพราะอดยาก ไม่มีจะกินอะ

Marxism Revisited

ผมคิดว่าการลุกฮือของฝูงชน หรือที่เค้าเรียกกันว่า social unrest เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ (natural phenomenon) ที่ตอบสนองต่อความผิดปกติของทุนนิยม คือเมื่อความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่ง (wealth gap) ของคนในสังคมถ่างสูงขึ้น คนรวยๆ ขึ้น คนจนๆ ลง เมื่อนั้นก็จะเกิดการลุกฮือของชนชั้นล่างเพื่อหวังแก้ไข (correction) ความแตกต่างตรงนี้

ซึ่งสิ่งที่เกิดในช่วงก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นอาหรับสปริง, ประท้วงฝรั่งเศส หรือแม้กระทั่งม็อบฮ่องกง จนมาล่าสุดที่สหรัฐอเมริกาที่มีเรื่องเชื้อชาติเข้ามาเกี่ยวพันด้วย ผมคิดว่ามันสะท้อนภาพเดียวกันของความล้มเหลวของทุนนิยม ที่ ‘ทุน’ ไหลไปยังกลุ่มชนชั้นสูงมากขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้นถ้าเรามองไปที่รากของปัญหา การแก้ไขจะไม่ใช่การใช้ความรุนแรง เพราะมันจะมีแต่ความรุนแรงที่มากขึ้น เพราะคุณไม่สามารถหยุดท้องที่หิวด้วยกระบอกปืนได้ (ผมใช้คำว่า ‘ท้องหิว’ ในความหมายเปรียบเทียบนะ)

ทางแก้เดียวที่ควรทำ คือการร่วมกันออกแบบระบบเศรษฐกิจใหม่ ที่จะทำให้ทุกชนชั้นอยู่ร่วมกันได้อย่างพึงพอใจ

คุณอาจจะคิดว่าผมกำลังพูดถึงมาร์กซิส หรืออะไรที่ใกล้เคียง และอาจจะคิดว่าเราจะเอาระบบที่ล่มสลายไปแล้วกลับมาทำไม

เอาจริงๆ โลกเราเปลี่ยนไปเยอะมากในช่วง 2 ศตวรรษนี้นะครับ สภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน เทคโนโลยีที่ต่างกัน อาจจะเป็นหัวใจหลักที่มาร์กซิสอาจจะมาช่วยเติมเต็มให้กับทุนนิยมได้

เอาจริงๆ ปัญหานี้ของทุนนิยม คาร์ล มาร์กซพูดได้ตั้งแต่เกือบ 200 ปีที่แล้ว ว่าชนชั้นกรรมาชีพจะเป็นผู้เปลี่ยนสังคม สิ่งนี้เป็นมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และจะยังคงจริงต่อไปในอนาคต

ใครคิดว่ามาร์กซิสตายแล้ว และทุนนิยมสอบผ่าน อาจจะต้องเริ่มมาคิดใหม่

PS. บางคนบอกว่าจีนเป็นคอมมิวนิสต์อยู่แล้วนี่ แต่ถ้าคุณมองไปที่ระบบเศรษฐกิจ มันเป็นโคตรของทุนนิยมเลยนะครับ ชนชั้นนายทุนในจีนทรงอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ (แม้ตอนนี้ชนชั้นกลางและชนชั้นล่างของจีนกำลังมีความสุข เพราะนายทุนต้องการให้พวกเขามีพลังการบริโภค แต่ฮ่องกงเป็นอีกเรื่อง พวกเค้าจนลง เมื่อเทียบกับคนจีนที่รวยขึ้น)

>>603 เผาร้ายแรงกว่าอย่างอื่นไม่เท่าไหร่ โทรล?

ผมเดาเอาว่า ปฏิรูปรถไฟและขสมก.ไม่สำเร็จ เพราะจะอ้างคำเดิมๆ "รังแกคนจน"
...
ต่างจากการบินไทย ที่มีแต่คนอยากจะทำลายทิ้ง
...
ทุกวันนี้ ถ้าใครไปขึ้น รถไฟ รถเมล์ จะรถร้อนหรือรถแอร์ จะน่าตกใจมาก เพราะมีคนใช้บริการน้อยมาก เมื่อเทียบกับตัวขนาดยานพาหนะ
...
ในชั่วโมงเร่งด่วน 6-7 น. รถแอร์ ปอ.3 แถวบ้านผม ไม่เคยเห็นคันไหนจะมีคนขึ้นรถเกินร้อยละ 25 ของความจุ แต่ก็ยังต้องจัดให้มี เพราะกลัวคนจำนวนน้อยนิดจะเดือดร้อน
...
ช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5 มากๆ ผมจอดรถไว้บ้าน นั่ง ป.อ.ไปทำงาน ส่วนใหญ่จะนั่งแค่ 1-5 คน จนถึงที่ทำงาน
...
ความเป็นจริงก็คือ ผู้คนส่วนใหญ่ในสังคม มีเศรษฐานะ ก้าวข้ามบริการเหล่านี้ไปแล้ว แต่ก็ยังต้องจัดรถที่มีคนใช้บริการน้อยนิด
...
ใครดูก็รู้ ยังไงก็ขาดทุน แล้วก็มาให้รัฐบาลจัดงบชดเชยให้ หรือกู้โดยให้รัฐบาลค้ำอยู่ดี
...
ควรยุบลดบริการที่มีคนใช้น้อยเหล่านี้ เปลี่ยนเป็นพิสูจน์ถึงปัญหาฐานะทางการเงิน แล้วให้ตั๋วลดราคากับบริการคนอื่นเขาใช้กันอยู่แล้วไม่ดีกว่าเหรอ