Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 19th quotes​

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:xkKUR.P5IG

https://fanboi.ch/lounge/1161/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
https://fanboi.ch/lounge/2603/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 2nd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3016/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 3rd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3530/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 4th quotes
https://fanboi.ch/lounge/4357/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 5th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5233/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 6th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5838/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 7th quotes
https://fanboi.ch/lounge/6311/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 8th quotes
https://fanboi.ch/lounge/6680/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 9th quotes
https://fanboi.ch/lounge/7184/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 10th quotes ในรัชกาลที่ 10
https://fanboi.ch/lounge/8588/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 11th quotes
https://fanboi.ch/lounge/9552/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 12th quotes ครบโหล
https://fanboi.ch/lounge/10854/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 13th quotes
https://fanboi.ch/lounge/11317/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 14th quotes
https://fanboi.ch/lounge/11656/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 15th quotes​
https://fanboi.ch/lounge/11691/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 16th quotes
https://fanboi.ch/lounge/12230/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 17th quotes​
https://fanboi.ch/lounge/12760/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 18th quotes​

2 Nameless Fanboi Posted ID:xkKUR.P5IG

ทุกวันนี้เปิดดูเรื่องเล่าเช้านี้สรยุทธ (ย้อนหลัง) แล้วสงสัยว่า เราจะมีนิยายดราม่าไปทำไมวะ แต่งยังไงก็ดาร์คสู้เรื่องจริงไม่ได้
ผมเคยคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติ สมัยเรียนมหาลัย เขาบอกว่าวรรณกรรมไทย หนังไทย เน้นตลกเนาะ
เลยว่า “อยากได้เรื่องเครียดใช่ป่ะ เดินออกไปหน้ามหาลัย คุยกับใครก็ได้ เดี๋ยวได้เอง”
นี่เขียนนิยาย พยายามทำให้มันสดใสแล้ว คนยังบอกว่าดาร์คกว่าของต่างประเทศ
คุยกับคนญี่ปุ่นบอกว่าคนไทยเนี่ยอารมณ์ดี ขนาดเรื่องเครียดๆ มีปัญหาใหญ่ ยังหาทางฮาได้
อัตลักษณ์งานไทย คือการหัวเราะใส่เหตุการณ์เหี้ยๆนี่แหละ เพราะคนไทยอ่ะ อยู่กับสิ่งนี้โดยที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากหัวเราะกับมันไง 555+

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

3 Nameless Fanboi Posted ID:DqxSMe5nHL

>>2 แต่ญี่ปุ่นชอบนิยายสืบสวนหรือบิดเบี้ยวดาร์คๆ นะ ทั้งที่บ้านเมืองมันก็เครียดเหี้ยๆ อยู่แล้วตั้งแต่ก่อนเมจิอีก กูไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าทำใม

ส่วนเรื่องหัวเราะได้ทุกเรื่องเนี่ย ในวัฒนธรรมเกาหลีก็มี เพราะบ้านเมืองมันถูกกดขี่มาตลอด เลยมักหัวเราะกับสิ่งที่ตนขัดขืนไม่ได้ แต่ถ้าพูดเรื่องเฮฮา ก็ไม่เท่าไทยอยู่ดี

ในจุดนี้กูมองว่าเพราะวัฒนธรรมไทยไม่นิยมความกดดันมากกว่า ไม่พอใจก็มีทางหลีกหนี เพราะสังคมและรัฐไทยไม่ได้เข้างวดลงไปทุกจุดแบบสังคมขงจื๊อ นิยามของคนไทยในวงการไทยศึกษาคือ flexibility ความยืดหยุ่นต่อการปรับตัว อยู่กันหลวมๆ หยวนๆ ไม่มีโครงสร้างชัดเจน เลยปลดปล่อยความรื่นเริงได้มากกว่าสังคมแบบขงจื๊อ

4 Nameless Fanboi Posted ID:0QbsBVRhAl

>>3 พูดถึงวัฒนธรรมที่ดูเรื่อยๆสบายๆนี่มันเป็นหมดทั้งภูมิภาคเลยหรือเปล่าวะ(ไทย,ลาว,เขมร,พม่าตอนกลาง-ล่าง)หรือมันเป็นแค่ไทยอย่างเดียว?

5 Nameless Fanboi Posted ID:B3Qw.MWgL/

>>4 เป็นเหมือนกันหมดเลย ถ้าไม่ได้รับวิธีคิดแบบจีนมานะ สิงคโปร์ถึงนำหน้าอาเซียนที่เหลือไปอย่างไม่เห็นฝุ่นไง ส่วนเวียดนามก็ถูกจับตาว่ามาแรงมากเพราะคนขยันเป็นพิเศษ ให้สังเกตว่าเจ๊กมาอยู่อาเซียน ขนาดถูกกดขี่แบบมาเลย์-อินโดฯ แม่งยังสร้างตัวจนรวยกว่าคนท้องถิ่นได้ ส่วนไทยนี่ก็ไม่ต้องอธิบายละ

6 Nameless Fanboi Posted ID:KW9QtGF5p/

ใครบอกว่าวัคซีนจีนไม่ดี ผมคิดว่าไม่ใช่หรอก ตอนนี้ตลาดวัคซีนทั้งหลายเป็นของผู้ขายไม่ใช่ผู้ซื้อ ซึ่งผู้ซื้อต่อให้มีเงิน บางทีซื้อไม่ได้หรอก แต่หลังจากนี้ 1 ปี ตลาดจะเป็นของผู้ซื้อ แต่เราจะรอได้มั้ยอีก 1 ปี

#มิตรสหายแพทย์นักการตลาดท่านหนึ่ง

7 Nameless Fanboi Posted ID:B3Qw.MWgL/

>>6 อาจดูตลกร้ายนะ กูว่าตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีน gen2 ที่กันติดเดลต้าได้ วัคซีนเจ๊กอย่าง sv , sp ก็คงขายได้เรื่องๆ โดยเฉพาะโลกที่ 3 เพราะพวก vector หรือ mrna โดนพวก ปท. ที่เงินถึงจองยาวๆ แล้ว

8 Nameless Fanboi Posted ID:DpgcbQqrqp

Somsak Jeamteerasakul ผมเห็นต่างนะครับ

โดนเขาหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดนสับขาหลอกมาแล้วกี่ครั้ง เขาต้องการเชื้อมาจุดไฟเท่านั้นเอง เช่น นิรโทษกรรมเหมาเข่ง จนเกิดขบวนการ กปปส. แล้วตามด้วยปฏิวัติ หรือ ส่งชื่อแคนดิเดตนายก จนเกิดยุบพรรคไทยรักษาชาติ

เขาวางแผนซ้อน กลซ้อนกล หลอกให้ดีใจว่าเคลียร์ทางให้แล้ว สุดท้ายยังไง เขาก็ไม่ให้กลับมาหรอกครับ เพียงแต่เลี้ยงกระแสเอาไว้ใช้ประโยชน์ เอาไว้ป้องปรามคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยไม่ให้ยุ่งเรื่องที่เขาไม่อยากให้ยุ่ง

ลักษณะแบบนี้ ทักษิณจะกลายมาเป็นคู่ขัดแย้งกับคนรุ่นใหม่แทน ถือเป็นการเบี่ยงเบนตำบลกระสุนตกแทนชนชั้นนำ ในทางกลับกัน เท่ากับลดทอนพลังคนรุ่นใหม่ไปในตัว

9 Nameless Fanboi Posted ID:75wCzWk0UN

>>8 กูว่าคงวางแผนไว้งั้นล่ะ​ แต่ดูจากแม้วมาCHบ่อยละ​ ตอนนี้เป้าคนรุ่นใหม่ก็ยังไม่ไปทางแม้วเลยจะมีแค่แซะๆ​ เป้า​ทางพ่องก็ไม่ลดลงเลย​ จะให้เป้าไปทางแม้วจริงก็ต้องให้ตู่ลงแล้วทีมแม้วไปรับแทนเต็มๆนั่นละ​ ซึ่งเอาจริงกูว่าทางนั้นก็ไม่มั่นใจเหมือนกันแหละ​ ล่าสุดเจียมก็แอบมาแย้บๆด้วยว่าแม้วเคยแอบนินทา​ กูว่าต้องระแวงบ้างล่ะ​ ไปๆมาๆลูกไม้นี้จะแทงเข้าตัวเองเอานะ

10 Nameless Fanboi Posted ID:DqxSMe5nHL

>>8 มันก็ควรพิจารณาบะว่าทำใมแม้วถึงหลงเชื่อตลอด ทั้งที่เแกสารก็บอกอยู่ว่าไม่ได้รักเจ้าขนาดนั้น นี่ขนาดรุ่นที่แล้วนะ รุ่นนี้ยิ่งไม่น่ารักเข้าไปใหญ่ แต่ก็ยังเชื่อจนตกหลุมได้ตลอด เขาว่าโง่ซ้ำซากนี่เป็นความผิดของตัวเองนะ แม้วไม่รู้ตัวจริงๆ เหรอ

11 Nameless Fanboi Posted ID:W5.uxa2GNx

อีลีทไทยนี่มันโง่นะ ยิ่งพยายามกดหัวเตะตัดขาแบบนี้ยิ่งจะทำให้คนต่อต้านมีมากขึ้น ลองย้อนกลับมาไปดูสมัยทักษินคือกระแสเสื้อเหลืองรักเจ้าเนี่ยเฟื่องฟูมาก เศรษฐกิจก็ดีทำมาค้าคล่อง กลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เจ้าเนี่ยแทบไม่มีเลย นิสัยคนไทยเป็นพวกปรับตัว ยืดหยุ่นอยู่แล้ว ขอแค่ชีวิตสบาย จะระบอบอะไรก็ช่างมัน แต่พออีลีทเข้ามายุ่งวุ่นวาย เอาลูกน้องห่วยๆมาบริหารประเทศ คนทำมาหากินลำบาก บิดเบือนกฏหมายเข้าข้างตัวเองอย่างน่าไม่อาย ทุจริตกันหน้าด้านๆ หนักเข้าถึงขนาดไปยุ่งกับพวกหน้ากาก ยา วัคซีน จนทุกวันนี้คนเริ่มตั้งคำถาม วิจารณ์ ก่นด่าสาปแช่ง ต่อไปอีลีทอาจต้องเป็นฝ่ายสูญเสียบ้างเหมือนกัน

12 Nameless Fanboi Posted ID:75wCzWk0UN

>>11 เด็ดดอกไม้สะเทือนดวงดาวสัส ถ้าลองหาข้อมูลดูคนที่แม่งระดับหัวๆในการด่าตอนนี้นี่ตาสว่างหลัง49เยอะนะ ขนาดดาตอปิโดที่เป็นแกนนำท้าทายยุคแรกๆ ก็ตาสว่างหลัง49 พวกใต้ดินที่ออกไปประเทศเพื่อนบ้านเองก็กลับมาลุยเรื่องนี้ต่อหลัง49 เท่ากับถ้าไม่มี49 ประเด็นนี้เผลอๆจะแทบไม่มีใครสนจริงจังนอกจากเจียมหรือธงชัยก็ได้

13 Nameless Fanboi Posted ID:75wCzWk0UN

>>12 หมายถึงพวกใต้ดินที่เป็นอดีตคอมมี่อ่ะน่ะ

14 Nameless Fanboi Posted ID:0QbsBVRhAl

>>5 เรื่องรับวิธีคิดแบบจีนมานี่กูแย้งนะ เจ็กมันคนต่างถิ่น ปกติยุคก่อนมันเข้ามาแต่งงานกับคนพื้นเมืองก็โดนกลืนเชื้อ กลืนวัฒนธรรมไปแต่ตอนหลังๆมาเยอะ เอาหญิงมาด้วย แต่งกันเอง มีพวกแซ่อะไรต่างๆ มีลูกก็สอนให้เป็นเจ็ก(สังเกตโรงเรียนจีน)
ปกติเจ็กแม่งก็คุมการค้าทำงานที่คนท้องถิ่นไม่ทำ(ในมลายูจะเห็นได้ชัด คนงานเหมืองเจ็กเอย อะไรเอย ส่วนไทยสมัยอยุธยาoutsourceเจ็กเดินเรือ) เจ็กแม่งพวกที่เป็นเจ้าของธุรกิจรวยก็มีเยอะ ที่เป็นจับกังไปจนตายก็เยอะแยะ ในบางมุมแม่งก็คล้ายๆยิวนั้นแหละ พื้นฐานในสมัยของอาก๋งพวกมึงก็ตกถอดมาถึงทุกวันนี้อย่างที่เห็นไง ของสิงคโปร์นี่มันเป็นทั้งเมืองท่า,กรณีแยกตัวจากมาเล ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวกับการรับวิธีคิดแบบจีนเลยว่ะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:B3Qw.MWgL/

>>14 กูว่าเกี่ยวนะ สังเกตว่าพวกนี้ไปไหนโดยมากแม่งสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาเหนือคนท้องถิ่นได้ ขนาดไปอยู่เมืองฝรั่งว่าคนชอบแข่งขันกันมากๆ แล้ว พวกนี้ยังแทรกตัวเองขึ้นมาได้ (แต่อาจจะไม่ใหญ่เหมือนพวกที่ไปอยู่โลกที่ 3 ไม่ว่าเอเชีย ลาตินอเมริกา แอฟริกา) ให้สังเกตว่าวิธีคิดแบบยิวกับแบบเจ๊กนี่แหละที่ถูกมองว่าเป็นหนทางสำคัญเลยหากอยากประสบความสำเร็จ แสดงว่าไอ้ 2 วัฒนธรรมนี้มันต้องมีอะไรโดดเด่นละ

16 Nameless Fanboi Posted ID:6ll.lM56B1

จําไว้คร๊หนู๋ๆ จากเลาที่เปนโทรลโม่งมากว่า7ปี จนได้รับตําแหน่ง The Troll Veteran of Fanboi ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า7ปีนั้น ดิชั้นได้ทราบว่าเปลี่ยนไอดีมันไม่เนียนหรอกค่ะ นักหลวมอย่างเหล่าโม่งล้วนมีสันดาน อุดมการณ์ ที่ถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษรเป็นเฉพาะตัว โม่งมีสัญชาตญาณพลังNew Type และจะถูกปลุกพลังให้มีความรุนแรงขึ้นตามระยะเวลาการเล่นโม่ง โม่งจึงรู้ว่าโม่งไหนคือโม่งไหน แม้จะสลับไอดีก็ปิดไม่มิดหรอกค่ะ ดังนั้น’ถ้าจะโทรล ก็จงโทรลโดยการใช้ไอดีเดิมอย่างมีศักดิ์ศรี’ -อันโตน เชคอฟ อุอิอิออิ

17 Nameless Fanboi Posted ID:q8q/vkSWUs

>>16 มึงนี่เอง กะเทยประจำโม่งมีมึงคนเดียวอะ

18 Nameless Fanboi Posted ID:N7xQiq0tq7

เรื่องแปลกแต่จริงคือ คนจีนชอบเอายิวมาเป็นโมเดล เพราะเห็นว่ายิวเก่ง ยิวฉลาด ยิวรวย

ถ้าคนยิวไปจีนแล้วบอกว่าตัวเองคือยิว คนจีนจะยิ้มแป้นแล้วชมว่าคนยิวเก่งอย่างโน้นอย่างนี้ อารมณ์ประมาณติ่งเกาเจอคนเกาหลี หรือคุเจอคนญี่ปุ่น

แปลกดี

19 Nameless Fanboi Posted ID:DqxSMe5nHL

>>18 ยิวขาย soft power ได้แปลกดีนะ ปกติมันจะขายผ่านวงการบันเทิงหรือวัฒนธรรม แต่ยิวขายผ่านความสำเร็จของเผ่าพันธ์แทน ใครๆ ก็อวยยิวยกเว้นพวกอาหรับ

20 Nameless Fanboi Posted ID:6ll.lM56B1

คิดแบบยิว ทําอย่างญี่ปุ่น
กู ต า ย ดี ก ว่ า

21 Nameless Fanboi Posted ID:Clqs/Bapt2

>>15 ที่กูต้องการจะสื่อคือ "วิธีคิดแบบเจ็กแล้วเจริญ"มันเป็นมุมมองทางสังคม ไอ้ที่่มึงพวกเห็นเจ็กรวยๆ หรือไม่ก็ขยันไต่เต้าจนรวยนี่ มันจะมีซักกี่คนกันที่ทำได้เทียบกับสัดส่วนทั้งหมด? สุดท้ายก็เป็นแค่การยัดรูปแบบๆหนึ่งให้กับเชื้อชาติๆหนึ่งแบบง่ายๆ ที่เอาไว้ใช้ในโอกาสต่างๆโดยคนต่างเชื้อชาติ?หรือไม่ก็เป็นการบูชาบรรพบุรุษรูปแบบใหม่? ซึ่งโดยจริงๆ เจ็ก=เจริญ(เอาแค่ในSEAที่อื่นกูไม่รู้)มันคือสึ่งที่ตกพลึกมาจากการเปลี่ยนแปลงพื้นหลังของสังคมโดยรวมในแต่สมัย ที่คนท้องถิ่นมองพวกอพยพที่แปลกตา(รวมทั้งต้องประนีประนอมกันด้วย)หรือไม่ก็เกิดจากความไม่พอใจจากมวลชนหมู่มากเลยยยยยยย ขี้เกียจคิดต่อแหละ ง่วง มันมีงานที่ศึกษาสังคมจีนในไทยอยู่นะ สนใจลออ่านหาได้

22 Nameless Fanboi Posted ID:Clqs/Bapt2

https://www.goodreads.com/book/show/7548260 อะตัวอย่าง ไม่ต้องไปชื้อของแม่งนะ หาอ่านตามห้องสมุดไม่ก็อี-บุคเอา
>>16 อีกุโรน มึงยังอีกไม่ตายเหรอะ

23 Nameless Fanboi Posted ID:cGZNAP.TRr

>>21 มึงดูพวกโซนเอเชีย ตอ. ดิ เจ๊ก ยุ่น เกา เหมือนมันมีรากวัฒนธรรมร่วมบางอย่าง ที่พอไปไหนแล้วมีแนวโน้มจะสร้างเนื้อสร้างตัวได้ดีกว่าคนท้องถิ่นเสมอถึงขั้นบางทีคนท้องถิ่นก็หมั่นไส้ได้

24 Nameless Fanboi Posted ID:LP5t2dZ3j4

ที่อื่นไม่รู้นะ แต่ที่ไทยเนี่ยเจ็กมันเก่งเรื่องเข้าหาผู้มีอิทธิพลกับจ่ายสินบนเพื่อให้ได้ผูกขาด

25 Nameless Fanboi Posted ID:Z7hbBfg8+F

>>23 ถ้าดูกันตามจริง คือ คนพวกนี้ที่ย้ายไปแล้วเจริญยุคนั้นนี่คือ ไปหาช่องทางทำมาหากินที่ คนท้องถิ่นเดิมไม่ค่อยทำ ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันเลยมีโอกาศสำเร็จสูง แต่ถ้าพลาดก็ล้มเลย
แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นยุคนี้ กุว่ายากกว่าสมัยนั้นหลายสิบ-ร้อยเท่าวะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:RxzGLoNJoq

>>24 ถ้า ปท. โลกที่ 3 อืนๆ ก็คงเหมือนกันละ แต่ถ้าเป็นโลกที่ 1 อย่าง EU , เมกา ที่คอรัปชั่นต่ำคงไม่น่าใช่

>>25 ถ้าว่ากันตามยุค สมัยนี้เกิดชาติไหนก็หาลู่ทางรุ่งๆ ยากหมดละ เพราะคนรุ่นก่อนจับจองไปเกือบหมดแล้ว

27 Nameless Fanboi Posted ID:OEjxu/rF5o

>>26 ก็ใช่ไง ดูคนรวยtop100ของอเมริกากับยุโรปมีเจ๊กโผล่มาเป็นตั้งแบบประเทศโลกที่3ไหมล่ะ

28 Nameless Fanboi Posted ID:TPrrb5J2ma

หันไปทางไหนก็เจอแต่คนเก่ง
=== มีที่ยืนให้กับคนธรรมดาบ้างไหม? ===
ความจริงที่บิดเบือนจากอคติของผู้อยู่รอด
.
มาร์ค อาศัยอยู่ในชุมชนปาร์คอเวนิวของเมืองนิวยอร์กซิตี้ กับเจเนทซึ่งเป็นภรรยา และลูกๆ ทั้งสามคนของเขา เขาสามารถหาเงินได้ปีละ 500,000 เหรียญไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะดีหรือจะอยู่ในช่วงถดถอยแต่เขาเองยังไม่เชื่อว่าชีวิตเขาที่รุ่งเรืองมาถึงขนาดนี้จะยืนยาว และยังไม่ได้ทำใจรับกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นมารวดเร็วขนาดนี้
.
ผู้ชายตัวกลมๆ อายุช่วง 40 ปลายๆ ที่มองภายนอกแล้วดูย้วยๆ ทำให้เขาดูแก่กว่าอายุจริงถึง 10 ปี เขาเป็นทนายความแห่งเมืองนิวยอร์กผู้มีชีวิตที่ค่อนข้างสบาย (แต่จะมีปัญหาชีวิตอยู่บ้าง) อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบของชุมชนในแมนฮัตตัน
.
แน่นอนว่ามาร์คดูจะไม่ใช่ผู้ชายที่ใช้ชีวิตกลางคืน หรือกินดื่มตามบาร์ต่างๆ เขาและภรรยามีบ้านอยู่ที่ชนบทรวมทั้งมีสวนดอกกุหลาบ แต่เหมือนกับคนอื่นๆ ที่อยู่ในวัยเดียวกัน ตรงที่พวกเขาดูมีความกังวลทางจิตใจและสถานะทางวัตถุสุขภาพและสถานะทางสังคม
.
.
.
ความเฉลียวฉลาดของมาร์คฉายแววตั้งแต่ตอนเขาเด็กๆ เขาเป็นเด็กที่มีผลการเรียนดีตอนชั้นมัธยม เขาเข้าเรียนต่อในฮาร์วาร์ด จากนั้นต่อด้วยนิติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งใครๆ ก็ต้องบอกว่าไม่เลวเลยทีเดียว
.
หลังจากนั้นชีวิตการทำงานของเขาได้พาเขามาทำงานเป็นนักกฎหมายของบริษัท ที่นั่นทำให้เขาได้ทำคดีใหญ่ๆ ให้กับบริษัทกฎหมายที่มีเกียรติในนิวยอร์กซิตี้ ซึ่งทำให้เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะแปรงฟัน นี่ไม่ได้เป็นการพูดเกินจริง เพราะส่วนใหญ่เขาทานอาหารเย็นที่ออฟฟิศ
.
เขาเริ่มสะสมไขมันในร่างกายไปพร้อมๆ กับการสะสมแต้มร้านขนมบราวนี่ ที่มันทำให้เขากลายเป็นหุ้นส่วนของร้านในอีก 7 ปีต่อมา แต่มันมาพร้อมกับต้นทุนของชีวิตที่สูงกว่านั้น
.
ภรรยาคนแรก (ที่เขาพบในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย) ทิ้งเขาไป เธออ้างว่าเธอเบื่อกับการที่ไม่เคยเห็นหน้าสามีทนายความของเธอเลย รวมทั้งหน่ายกับบทสนทนาของสามีที่มันไม่สนุกเหมือนเคย แต่ทว่าเหมือนเป็นการประชดเสียนี่กระไร ที่สุดท้ายเธอกลับไปแต่งงานใหม่กับทนายความแห่งนิวยอร์กอีกคน แต่อาจจะเป็นไปได้ว่าคนนี้คุยเก่งกว่าและทำให้เธอมีความสุขมากกว่า
.
.
.
หลังจากที่เขาหายจากอาการอกหัก เขาเริ่มออกเดทกับเจเนทเพื่อนทนายของเขาและแต่งงานกับเธอทันที พวกเขามีลูกด้วยกันสามคนติดๆ อย่างรวดเร็ว ซื้ออพาร์ตเมนต์ในปาร์คอเวนิวและบ้านในชนบท
.
จากความใกล้ชิดของเจเนทกับผู้ปกครองของลูกคนอื่นๆ ที่ส่งลูกของพวกเขาเข้าเรียนในโรงเรียนเอกชนในแมนฮัตตัน รวมไปถึงเพื่อนบ้านที่อาศัยในอพาร์ตเมนต์ตึกเดียวกับพวกเขา หากมองจากมุมวัตถุนิยม ครอบครัวของพวกเขาจะกลายเป็นกลุ่มรั้งท้าย หรือบางทีอาจจะถึงขั้นพวกปลายแถวเลยก็ว่าได้
.
พวกเขาอาจจะเป็นครอบครัวที่จนที่สุดในละแวกนั้น เพราะชุมชนที่พวกเขาอาศัยอยู่แวดล้อมไปด้วยผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จขั้นสุดในองค์กรขนาดใหญ่ เป็นเทรดเดอร์ของวอลสตรีท และเจ้าของกิจการชั่วโมงบินสูง
.
โรงเรียนเอกชนที่เด็กๆ เรียนอยู่เพิ่งจะรับสมัครนักเรียนเข้าใหม่ ถ้าจะนับเรื่องความแตกต่างของอายุและรูปร่าง หน้าตาของบรรดาแม่ๆ คนอื่นนั้นราวกับนางแบบ เทียบกับเจเนท ภรรยาของมาร์คที่เหมือนผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ ที่มีบ้านอยู่ชนบทและมีสวนดอกกุหลาบ
.
.
.
กลยุทธ์ของมาร์คในการไปอาศัยอยู่ในแมนฮัตตันอาจจะดูสมเหตุสมผล เพราะดูจากชั่วโมงการทำงานของเขาแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเดินทางไปกลับด้วยระยะทางแบบนั้น หากแต่ว่าต้นทุนที่เกิดขึ้นกับภรรยาของเขานั้นมหาศาล เพราะอะไรน่ะหรือ? ก็เพราะว่า “ความไม่ประสบความสำเร็จ” ของพวกเขาในนิยามของชุมชนชาวปาร์คอเวนิว
.
ทุกๆ เดือน เจเนทจะเจอกับวิกฤตเวลาที่ถูกดูแคลนจากบรรดาแม่ๆ บางคนตอนที่ไปรับส่งลูกที่โรงเรียน หรือจากผู้หญิงอื่นที่ใส่แหวนเพชรเม็ดใหญ่กว่าที่เธอเจอในลิฟท์ของ
อพาร์ตเมนต์ที่เธอและมาร์คอาศัยอยู่ในห้องที่มีขนาดเล็กที่สุด
.
ทำไมสามีของเธอถึงไม่ประสบความสำเร็จบ้างนะ? ทำไมเขาถึงไม่ฉลาดและไม่ทำงานหนักกว่านี้? เอ๊ะ เขาทำคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ดีหรือเปล่า? ทำไมผู้ชายที่ชื่อโรนัลด์อะไรสักอย่าง คนที่เมียเขาไม่เคยทักทายเจเนทเลย ทำไมถึงได้มีเงินหลายร้อยล้านเหรียญตั้งแต่ตอนที่เขาเรียนอยู่ฮาร์วาร์ดหรือเยลแล้ว ทำไมเขาถึงมีไอคิวสูงขนาดนั้น แล้วทำยังไงเขาถึงได้มีเงินเก็บมากมายมหาศาลขนาดนั้นนะ?
.
.
.
เอาเป็นว่าพวกเราอย่าไปยุ่งกับวิกฤตส่วนตัวของครอบครัวมาร์คและเจเนทเลย แต่เรื่องของพวกเขาได้แสดงให้เราเห็นถึงผลกระทบทางอารมณ์จากอคติของผู้ที่อยู่รอด (survivorship bias)
.
เจเนทรู้สึกว่าสามีของเธอเป็นคนล้มเหลวจากการเปรียบเทียบกับคนอื่น แต่เธอคำนวณความน่าจะเป็นผิดพลาดในภาพรวม เธอใช้การกระจายกลุ่มตัวอย่างที่ผิดในการจัดอันดับ
.

29 Nameless Fanboi Posted ID:TPrrb5J2ma

ถ้าเราเปรียบเทียบกับคนทั่วไป มาร์คจัดว่ามีชีวิตที่ดีทีเดียว ดีกว่าอีก 99.5% ของเพื่อนร่วมชาติด้วยซ้ำ ถ้าเราลองเปรียบเทียบกับเพื่อนชั้นมัธยมของเขา เขาจัดว่าอยู่ในอันดับที่สูงมาก หรือถ้าหากว่าเขาจะมีเวลาไปสังสรรค์รวมรุ่นบ้าง ก็จะพบว่าจริงๆ แล้วเขาจัดอยู่ในกลุ่มอันดับต้นๆ ของบรรดาเพื่อนของเขา
.
ถ้าลองเปรียบเทียบกับเพื่อนที่เรียนฮาร์วาร์ด เขาทำได้ดีกว่า 90% ของกลุ่ม (แน่นอนว่าเป็นในแง่ของฐานะทางการเงิน) และเมื่อลองเปรียบเทียบกับเพื่อนที่เรียนนิติศาสตร์ที่เยล เขาก็ยังทำได้ดีกว่า 60% ของกลุ่ม แต่เมื่อไปเปรียบเทียบกับชุมชนเพื่อนบ้านของเขา เขากลับได้ที่โหล่!
.
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เพราะเขาเลือกที่จะอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกับพวกที่ประสบความสำเร็จไปแล้ว มันเป็นละแวกที่ความล้มเหลวไม่ถูกนำมารวมด้วย
.
หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ พวกที่ล้มเหลวไม่มีโอกาสเสนอหน้าเข้ามาในกลุ่มตัวอย่างครับ นั่นทำให้มาร์คดูเหมือนคนที่ทำได้ไม่ดีไปในที่สุด
.
.
.
การอยู่อาศัยที่ปาร์คอเวนิวทำให้พวกเขาไม่ได้สัมผัสกับผู้แพ้ วันๆ พวกเขาพบเจอแต่กับผู้ชนะเท่านั้น เพราะเมื่อพวกเราถูกแยกให้อยู่อาศัยในชุมชนเล็กๆ จึงเป็นการยากที่จะมีโอกาสประเมินสถานการณ์ภายนอกชุมชนได้
.
ในกรณีของมาร์คและเจเนท สิ่งเหล่านี้นำไปสู่ความหดหู่ทางอารมณ์เป็นอย่างมาก ในที่นี้เรามีผู้หญิงที่ได้แต่งงานกับชายที่ประสบความสำเร็จขั้นสุด แต่ทว่าสิ่งที่เธอเห็นเป็นเพียงแค่ความล้มเหลวที่เกิดจากการเปรียบเทียบ สำหรับเธอแล้วเธอไม่ควรจะใช้แค่อารมณ์เปรียบเทียบมาร์คกับกลุ่มตัวอย่างเพื่อตัดสินว่าเขาประสบความสำเร็จแค่ไหน
.
นอกเหนือไปจากการเข้าใจผิดถึงผลงานของใครสักคน ในทางสังคมแล้ว มันยังมีเรื่องของการตั้งความคาดหวังสูงขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น (treadmill effect) คุณรวยขึ้น ย้ายไปอยู่ในชุมชนของคนรวย และคุณรู้สึกจนอีกครั้งหนึ่ง
.
จากความหมายข้างต้น เมื่อเรานำมารวมกับ treadmill effect ในทางจิตวิทยา นั่นก็คือ คุณคุ้นเคยกับความมั่งคั่งและกลับคืนสู่สถานะในจุดที่คุณรู้สึกพึงพอใจ นี่เป็นปัญหาสำหรับคนที่ไม่เคยรู้สึกพึงพอใจกับความมั่งคั่งที่มี (เกินกว่าจุดที่ตั้งไว้) ที่กลายเป็นหัวข้อในการเสวนาทางเทคนิคที่เกี่ยวกับความสุข
.
.
.
บางคนอาจจะบอกกับเจเนทอย่างมีเหตุผลว่า “ลองไปอ่านหนังสือ Fooled by Randomness ที่เขียนโดยเทรดเดอร์นักคณิตศาสตร์ดูสิ เขาเขียนเกี่ยวกับความผิดปกติของโอกาสในชีวิต มันจะช่วยให้มุมมองทางสถิติที่ทำให้คุณสบายใจขึ้นนะ” ในฐานะผู้เขียน ผมอยากจะเสนอยาครอบจักรวาลในราคาเล่มละ 397 บาท แต่จริงๆ แล้วผมอยากจะบอกด้วยความหวังดีว่ามันจะช่วยปลอบใจเธอได้เพียงชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น
.
สำหรับเจเนทแล้ว เธออาจจะต้องการอะไรที่ให้ผลรุนแรงกว่านั้นเพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ ผมย้ำเสมอว่าการมีตรรกะเป็นเหตุเป็นผล หรือการไม่ปล่อยอารมณ์ไปตามมุมมองของสังคมนั้น ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์ อย่างน้อยก็ในเผ่าพันธุ์รุ่นนี้
.
มันไม่มีคำปลอบใจจากการมีเหตุมีผล ในฐานะของเทรดเดอร์ ผมได้เรียนรู้บางอย่างจากความพยายามที่ไม่มีประโยชน์ที่จะเป็นคนมีเหตุมีผลสวนทางกับสังคม เป็นผมคงจะแนะนำเจเนทให้ย้ายไปอยู่ในละแวกของชนชั้นกลางจะดีกว่า เพราะพวกเขาจะรู้สึกถูกดูแคลนโดยเพื่อนบ้านน้อยลง และสามารถเพิ่มลำดับชั้นทางสังคมไปสู่ชั้นที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากความผิดปกติด้วยการทำในทิศทางตรงกันข้าม
.
ถ้าเจเนทให้ความสำคัญกับเรื่องสถานภาพทางสังคม ผมคงจะแนะนำให้ไปซื้อบ้านหลังใหญ่ๆ ที่เขตอื่น
.
.
.
จากหนังสือ ฝีมือ โชคชะตา หรือว่าสุ่ม
.

30 Nameless Fanboi Posted ID:cGZNAP.TRr

>>27 สมัยที่พม่ายังเป็น รบ.ทหารเต็มขั้น จีนกับสิงคโปร์ (เจ๊กทั้งคู่) เป็นชาติหลักที่เข้าไปทำธุรกิจ (โดยมีไทยตามไปห่างๆ) หรือสมัยอินโดฯ เป็นเผด็จการ พวกคนอินโดฯ เชื้อจีน ดันมีฐานะดีกว่าคนท้องถิ่น (พอปี 1998 มีการประท้วงไล่เผด็จการ เจ๊กอินโดฯ เลยกลายเป็นเหยื่อถูกปล้นฆ่าข่มขืนเพื่อระบายความแค้นไปด้วย)

31 Nameless Fanboi Posted ID:TPrrb5J2ma

เห็นเรื่องอาจารย์อดีตรัฐมนตรีลอกงานเขียน กับเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเข้าใจชีวิตคนประเทศอื่นในเวลาไม่กี่วันแล้วนึกถึงสิ่งที่ Steven Kotler ผู้เขียนหนังสือหลายเล่มร่วมกับ Peter Diamandis เขียนไว้ในหนังสือชื่อ The Art of Impossible

Steven Kotler เขียนบทหนึ่งในหนังสือ มีชื่อบทว่า The ROI on Reading

เค้าเล่าให้ฟังว่า เวลาเค้าเขียน Blog ซึ่งมีความยาว 800 คำโดยเฉลี่ย เค้าจะใช้เวลาประมาณสามวัน ครึ่งหนึ่งของเวลาหมดไปกับการค้นคว้าหาข้อมูล อีกครึ่งหนึ่งหมดไปกับการเขียน

การค้นคว้าจะรวมถึงการอ่านหนังสือและบทความ การคุยกับผู้เชี่ยวชาญ ถ้าเป็นหัวข้อที่เค้าคุ้นเคย อาจจะคุยแค่ครั้งหรือสองครั้ง แต่ถ้าเป็นหัวข้อที่เค้าไม่เชี่ยวชาญ เค้าอาจจะคุยสามหรือสี่ครั้ง และระหว่างเขียน ก็อาจจะมีการอ่านหรือคุยเพิ่มเติมอีก

รวมเสร็จสรรพ เค้าจะอ่านไปราวๆ 50 ถึง 100 หน้า คุยกับผู้เชี่ยวชาญ 3 ถึง 5 ชั่วโมง และใช้เวลาวันครึ่งรวบรวมความคิด เขียนออกมา

เวลาที่เค้าเขียนบทความยาวๆ ในนิตยสาร ซึ่งมีความยาว 5000 คำโดยเฉลี่ย เค้าจะใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ค้นคว้าหนึ่งเดือน เดือนครึ่งอ่านและคุยกับผู้เชี่ยวชาญราวๆ 25 ครั้ง และอีกเดือนครึ่งสำหรับการเขียนและขัดเกลา

ถ้าเป็นการเขียนหนังสือ ซึ่งมีความยาว 75000 คำโดยเฉลี่ย อย่างเช่น หนังสือ The Rise of Superman ที่เค้าเขียน มันคือชีวิต 15 ปีของเค้า

สิ่งที่ Steven Kotler ต้องการสื่อก็คือ หนังสือคือสื่อความรู้ที่อัดแน่นที่สุดบนโลกใบนี้ อ่านหนังสือดีที่สุด

แต่สิ่งที่ผมได้ตะหนักหลังอ่านจบก็คือนี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงเน้นอ่านหนังสือต่างประเทศ และต้องอ่านจากต้นฉบับด้วย

เวลาผมหยิบหนังสือต่างประเทศมาอ่าน แล้วคนเขียนบอกว่า ใช้เวลาเขียนสามปี สัมภาษณ์คนไป 250 คน ผมจะรู้สึกอยากอ่านมาก รู้สึกว่าเนื้อหาน่าจะละเอียด น่าจะลุ่มลึก น่าอ่าน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ดีทุกเล่มก็ตาม

ในทางกลับกัน หลายปีก่อน เคยเจอนักเขียนไทยชื่อดัง ณ ตอนนั้น คุยเชิงอวดในคำนำว่าใช้เวลาเขียนแค่ 15 วัน ความรู้สึกอยากอ่านจะหายไปทันที

ย้อนกลับไปข้างบน การทำงานเร็วๆ ลวกๆ ลอกๆ ไม่กี่วัน โอกาสที่เนื้อหาจะลุ่มลึก รอบด้าน และถูกต้อง มีน้อยมาก

ปล คำว่าเน้นในที่นี้หมายถึง “เกือบทั้งหมด” “ส่วนใหญ่”

32 Nameless Fanboi Posted ID:PlfrWKRGZ6

หมอเก่งพูดจริงมาก ไปดูงบเงินกู้คือมีแต่โครงการไรไม่รู้ แล้วเติมคำว่าโควิดไป
- เลี้ยงปลาดุกยังชีพยุคโควิด
- เลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี
- ปลูกเบอร์รี่เพิ่มผลผลิตในยุคโควิด
ขอแบบอะไรอะ มันใช่หรอ
#ClubhouseTH

33 Nameless Fanboi Posted ID:.Lhg4odz8c

สงสัยว่าทำไมคนไม่ชอบ มิ้น I roam alone เยอะ
อาจจะมีทำอะไรผิดวิสัยบ้าง แต่เหมือนคนง้างรอเพียบเลย
จริงๆ ผมเคยมีประเด็นกับเขาอยู่นะ เจ้าตัวคงจำไม่ได้
ตอน Storylog เปิดตัวใหม่ๆ มีคน copy งานเขามาลง
มีคนไปแจ้งเขา เขาเลยติดต่อเรามา เราเลยจัดการลบให้ ขอโทษขอโพยเค้าไป ชี้แจงไปว่า มันเป็น UGC platform อาจจะมีเคสแนวนี้เกิดขึ้นบ้าง เพราะเราไม่สามารถสกรีนหมดได้จริงๆ แต่ลบให้เรียบร้อย
ปรากฏเขาบอกไม่ได้ ต้องโพสต์ประกาศขอโทษ ไม่งั้นจะฟ้อง เอ้า ดุจุง!!!
ไอเราก็ขี้เกียจมีเรื่องเลยโพสต์ขอโทษไป ซึ่งอันที่จริงตามกฎหมายก็ไม่น่าจะมาฟ้องเอาผิดอะไรเราได้ ฮ่าๆๆ แต่มองอีกมุมนึงก็ดีแหละ คนจะได้รู้ว่ามาก็อปแบบนี้ไม่ได้
หลังจากนั้นจึงจำชื่อ Blogger คนนี้แม่นเลย ก่อนหน้านั้นไม่รู้จัก ฮา
แต่นั่นแหละ เหมือนคนง้างรอเยอะ ไหนใครช่วยไขกระจ่างที

34 Nameless Fanboi Posted ID:WyZFx1STKJ

>>33 มันไม่ใช่ครั้งแรก มันมีหลายรอบแล้วแค่กระแสมันไม่ปัง นางมาเริ่มแมสกับภายนอกก็ตอนชมโควิด บินไปเมกาฉีด พูดออกมาไม่สำเหนียกว่าไม่ได้ทุกคนบ้านมีตังเหมือนนาง แรกๆหลายคนก็ยังเข้าใจเพราะนางนิสัยมองอะไรโลกสวยมองอะไรโพซิทีฟไปหมด แต่พอมาเคสล่าสุดนี่มันไม่ใช่แล้ว อีโก้ล้วนๆงวดนี่กูไม่สงสารเหมือนกัน รับกรรมไปเถอะงวดนี่

35 Nameless Fanboi Posted ID:4A/Tgq0fdg

>>33 คนไทยขี้อิจฉา เห็นใครดังกว่า รวยกว่าไม่ได้

36 Nameless Fanboi Posted ID:c3OkAl63E7

โอตะว่าเหี้ยแล้ว พอดูฟค ของ โรม อล
ใครจะไปคิดว่พวกมันดักดานกว่าโครตsimp

37 Nameless Fanboi Posted ID:+WVhPck.YV

>>36 ด่าได้โคตรเจ็บ 555

38 Nameless Fanboi Posted ID:JdXd3ajdub

เจ้าตัวออกมาแถ-ลงละ จีเนียสสุดๆใช้ภาษาไทยยังผิดๆถูกๆ วันหลังอย่าเรียกชี้แจ้งนะจ๊ะ เรียกแถ-ลงถ้าจะใช้ภาษาแบบนี้ ไม่มีอะไรเคลียร์สักอย่างนะ

39 Nameless Fanboi Posted ID:qQLQe1G8Z.

คนอย่างอีมิ้นคือ ไม่ควรรอดกลับมา

40 Nameless Fanboi Posted ID:PvSN8XZzGi

มิ้นมีผัวแล้วป่าววะ

41 Nameless Fanboi Posted ID:qQLQe1G8Z.

>>40 ชอบเหรอ

42 Nameless Fanboi Posted ID:PlfrWKRGZ6

>>41 ก็น่ารักอยู่นะ

43 Nameless Fanboi Posted ID:qQLQe1G8Z.

>>42 แหวะ

44 Nameless Fanboi Posted ID:FN6MchxPLY

>>30 ทหารพม่าต่างหากที่ไล่คนจีน ยึดกิจการเข้าเป็นของรัฐ ขนาดครอบครัวคนทำยาหม่องตราเสือต้องย้ายมาอยู่สิงคโปร์และไทย

45 Nameless Fanboi Posted ID:qhAdkZFkZU

>>44 นั่นสมัยเนวินที่เป็นสังคมนิยมละสิ มันมียุคหลัง 888 ด้วยนะ slorc spdc อะ ที่ป้าอองซานโดนขังในบ้าน ยุคนี้ปิดประเทศอีกรอบ ตะวันตกก็คว่ำบาตร แต่แถวนี้มีจีน สิงคโปร์ ไทย ไม่สนน่ะ เข้าไปลงทุนตามปกติ อ่อไต้หวันด้วยนะ

46 Nameless Fanboi Posted ID:acyFV4lOCu

If you combined Taiwan and Thailand, would it be Thaiwan or Tailand?
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

47 Nameless Fanboi Posted ID:b0o/2pqP3Q

https://www.facebook.com/100004499823401/posts/1951269675033008/

กะปิบูดซุกใต้กระโปรงเมียน็อตหลุดว่ะ 55555

48 Nameless Fanboi Posted ID:ygreeNcSLl

>>47 ซุกใต้กระโปรงเมีย X
ไปอาศัยอำนาจอธิปไตยสาธารณรัฐฝรั่งเศส O

49 Nameless Fanboi Posted ID:juK1pYUJDj

จําไว้คร๊หนู๋ๆ จากเลาที่เปนโทรลโม่งมากว่า7ปี จนได้รับตําแหน่ง The Troll Veteran of Fanboi ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า7ปีนั้น ดิชั้นได้ทราบว่าเปลี่ยนไอดีมันไม่เนียนหรอกค่ะ นักหลวมอย่างเหล่าโม่งล้วนมีสันดาน อุดมการณ์ ที่ถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษรเป็นเฉพาะตัว โม่งมีสัญชาตญาณพลังNew Type และจะถูกปลุกพลังให้มีความรุนแรงขึ้นตามระยะเวลาการเล่นโม่ง โม่งจึงรู้ว่าโม่งไหนคือโม่งไหน แม้จะสลับไอดีก็ปิดไม่มิดหรอกค่ะ ดังนั้น’ถ้าจะโทรล ก็จงโทรลโดยการใช้ไอดีเดิมอย่างมีศักดิ์ศรี’ -อันโตน เชคอฟ อุอิอิออิ

50 Nameless Fanboi Posted ID:LHvUyMBnDn

555​ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=4136652819753723&id=100002271364703

51 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

>>50 พระแก้วมรกต สร้างที่ล้านนาไม่ใช่รึ ทำไมถึงเชื่อว่าเป็นของลาว ล่ะ แถมส่วนใหญ่ที่เชื่อก็พวกชังชาติทั้งนั้นเลย

52 Nameless Fanboi Posted ID:14Be1NSUSW

>>51 เรียนตำราอวยพ่องมาก็ได้แค่นี้แหละเนอะ https://www.silpa-mag.com/history/article_41815

53 Nameless Fanboi Posted ID:BAiLf/sniS

>>52 วัดที่เขตแดนก็อยู่ในไทยมาก่อน ถ้ามึงจะนับเชื้อชาติลาวแบบนี้ก็ยิ่งอยู่ไทยได้สิ เพราะเหนือกับอีสานไทยก็เป็นลาวเหมือนกัน แปะได้ฆ่าตัวตายโง่ๆ เหมือนเดิม

54 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

>>52
“พระแก้วมรกต” ได้รับการสร้างขึ้นในล้านนา ยุคที่ได้รับอิทธิพลทางพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์จากสุโขทัย ดังที่อาจารย์ศักดิ์ชัย สายสิงห์ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า “พระแก้วมรกต” เป็นพระพุทธรูปสกุลช่างพะเยาที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุโขทัย[5] เมืองซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของ “พระแก้วมรกต” นี้อาจจะได้แก่เมืองเวียงไชยซึ่งเป็นเมืองโบราณสำคัญเมืองหนึ่งใกล้กับเมืองเชียงราย เพราะเป็นบริเวณที่พบพระพุทธรูปหินทรายจำนวนหนึ่งซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับ “พระแก้วมรกต”[6]

ล้านนาอาจจะหมายถึงลาวก็จริง แต่สร้างที่เมืองเชียงราย จะมาตู่ว่าเป็นของลาวได้ไง

https://www.silpa-mag.com/history/article_8133

55 Nameless Fanboi Posted ID:8+I5JHA8nU

>>54 ไม่รู้จักวงศ์ปู่เจ้าลาวจกนะมึงนี่

56 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

>>55 วงศ์นั้นเลยครอบครองพระแก้วมาก่อนเหรอ ขอหลักฐานหน่อยสิ เพราะอิงตามเวปกรมศิลปากรอ่านก็น่าจะเข้าใจไม่ใช่เหรอ ว่าพระแก้วมรกตไม่เคยเฉียดไปใกล้โซนของทางลาวเลย

57 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

>>55 อ่านเจอล่ะ สายลับของพม่านี่เอง

ปู่เจ้าลาวจก เป็นชื่อบรรพชนกษัตริย์ล้านนา (ราชวงศ์พญามังราย) มีหลักแหล่งอยู่บนดอยตุง (จ. เชียงราย)
https://www.matichon.co.th/entertainment/arts-culture/news_19257

ราชวงศ์มังราย[1] (คำเมือง: LN-Mangrai.png) เป็นราชวงศ์ที่ปกครองอาณาจักรล้านนา ตั้งแต่รัชสมัยพญามังรายจนถึงพระเจ้าเมกุฎิสุทธิวงศ์ (ท้าวแม่กุ) เป็นเวลายาวนานกว่า 260 ปี จนถึงยุคเสื่อม เมื่ออุปนิกขิต (สายลับ) ที่พระเจ้าบุเรงนองส่งมาฝังตัวเพื่อรายงานสถานการณ์ในเชียงใหม่ แจ้งกลับไปบอกว่าเชียงใหม่ถึงยุคเสื่อมสุดแล้ว ให้ยกทัพหงสาวดีมาชิงเมือง
https://th.wikipedia.org/wiki/ราชวงศ์มังราย

ความเป็นลาวอยู่นี่เองเหรอ

58 Nameless Fanboi Posted ID:8+I5JHA8nU

>>56 กูว่าละว่ามึงต้องตีมึน
ฟ้าผ่าเจดีย์วัดป่าญะ เจอพระพอกปูนปิดทองอยู่ในกรุ ต่อมาปูนกะเทาะออกเห็นเนื้อแก้วเขียว
วัดป่าญะอยู่ในเมืองเชียงราย
เมืองเชียงรายสร้างโดยพญาเม็งราย
พญาเม็งรายคือตระกูลสายตรงของปู่เจ้าลาวจก

59 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

>>58 อ่าน >>57 ด้วยก็ดีนะ แต่เขาอยู่ที่เชียงราย ไม่ใช่เวียงจันทน์ มีแผนที่ไหมที่ช่วงนั้น ล้านนา = ลาว ให้ดูหน่อยสิ

พระแก้วมรกต ตั้งอยู่ที่เชียงรายมาตลอด ไม่เคยไปเวียงจันทน์ไม่ใช่เหรอ เอาแค่ว่าราชวงศ์ล้านนา ใช้คำเดียวกับ ลาว แล้วอ้างว่า ล้านนา = ลาว แบบนี้เหรอ

60 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

แบบนี้ เขมร = ขอม ไหมล่ะ

61 Nameless Fanboi Posted ID:BAiLf/sniS

เดี๋ยวมันก็แถอีกหรอกว่าตอนนั้นไม่มีประเทศไทย ไม่มีคนไทย มีแต่ชาวลาว พระแก้วเลยเป็นของคนลาว

62 Nameless Fanboi Posted ID:8+I5JHA8nU

>>59 มึงก็ไปอ่านประชุมพงศาวดารภาคที่๖๑ กรมศิลปากรบ้างนะ

63 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

>>62 แคปหน้าที่ใช่มาให้ดูหน่อยสิ ที่เกี่ยวกับวัดพระแก้ว ลองค้นดูล่ะ เอามาอ้างอิงได้เหรอแต่ไว้เป็นอนุสรณ์ เหมือนเป็นข้ออ้างอิงของคนๆเดียว เอามาใช้ได้ด้วยเหรอ

https://finearts.go.th/chonburilibrary/view/14205-ประชุมพงศาวดาร-ภาคที่-61

64 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

แล้วก็วัดกับพระพุทธรูป อันนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่ไม่ใช่เหรอ ไม่เกี่ยวกับราชวงศ์ เผลอๆ คนสร้างก็ไม่ใช่ ปู่เจ้าลาวจก ที่อ้างกันด้วย

ไม่งั้น ต้องส่งพระพุทธรูป ที่อยู่ที่เชียงรายจากทุกวัดให้ลาวทั้งหมดไหมล่ะ จะอ้างแต่พระแก้วมรกตเพียงอย่างเดียวก็ตลกแล้วก

65 Nameless Fanboi Posted ID:14Be1NSUSW

>>64 ก็ดีนะ เหมือนที่พยายามร้องขอทับหลังนาร้ายอะไรนั่นคืนจากเมกาไง

66 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

>>65 ตอนที่โดนขโมยไป ตอนนั้นมีเขตแดนที่เรียกว่า "ราชอาณาจักรไทย" แล้วไม่ใช่หรือ เอามาอ้างได้ไง เหมือนมี คนขโมยของมีค่าในบ้านมึง
แล้วมึงตามตัวขโมยเจอ จะยอมทางขโมยจะอ้างได้เหรอวะ ว่าของในมือโจรอยู่ที่มือของโจรถือเป็นของโจร ได้งั้นเหรอวะ

นอกจากชังชาติแล้วยังโง่ด้วยเหรอ

67 Nameless Fanboi Posted ID:14Be1NSUSW

>>66 มันขโมยไปขายเปลี่ยนมือไปแล้ว คนได้มาก็ได้มาจากการซื้อขายนะ แล้วไอ้่บ้านนี้ก็ไม่ใช่บ้านกู ตอนนั้นบ้านพ่องไงจำไม่ได้เหรอ

68 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

>>67 ทุกประเทศมีกฎหมายรับซื้อของโจรอยู่นะ ยิ่งเป็นสมบัติของชาติ ยังไงก็ต้องเอาคืนมานะ จำได้ว่าฝรั่งเศสยังเคยตามรูปภาพคืนจากอีกประเทศนึงเลย อันนี้จำข่าวไม่ได้

69 Nameless Fanboi Posted ID:14Be1NSUSW

>>68 ก็คือโชคดีมาโดนขโมยในยุคหลังๆ ส่วนไอ้ลาวซวยไปเสือกโดนปล้นฆ่ายุคก่อนมีกฎหมายก็ไม่ต้องคืน เย่ ปรบมือๆ

70 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

>>67 ถ้ามึงจะไม่ถือว่าประเทศนี้เป็นของมึงก็ตามใจ อ่านแล้วละเหี่ยใจแฮะ

71 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

>>69 ไม่ได้ปล้นฆ่าด้วย มึงได้อ่านเกี่ยวกับพระแก้วมรกตจริงๆไหมล่ะ พระแก้วไม่เคยไปเยือนลาวเลยสักครั้ง ไม่เคยเดินไปอยู่ที่เวียงจันทร์ แถมราชวงศ์ที่มึงอ้างก็อยู่เชียงราย ไม่ได้อยู่เวียงจันทร์

https://www.silpa-mag.com/history/article_8133

72 Nameless Fanboi Posted ID:8+I5JHA8nU

>>71 https://www.silpa-mag.com/history/article_8666 ไม่อ่านต่อตอนสองสักนิดล่ะ

"...ครั้นลุจุลศักราช ๙๑๓ ปี เจ้าเชียงใหม่องค์หนึ่งซึ่งครองเมืองในครั้งนั้น ชื่อเจ้าไชยเสรษฐาธิราช เป็นบุตรพระเจ้าโพธิสารซึ่งเป็นเจ้าเมืองเซ่า (คือเมืองหลวงพระบาง) เพราะเหตุที่แต่ก่อนนั้นไปเจ้าเมืองเชียงใหม่องค์ก่อนได้ยกราชธิดา ชื่อนางยอดคำให้ไปเป็นมเหสีพระเจ้าโพธิสาร จึ่งมีราชบุตรคือเจ้าไชยเสรษฐ์องค์นี้ เมื่อเจ้าไชยเสรษฐ์มีอายุได้ ๑๕ ปี เจ้าเชียงใหม่ผู้เป็นอัยกาธิบดีถึงแก่ชีพิตักษัยไป ไม่มีผู้อื่นจะรับที่เจ้าเชียงใหม่ ท้าวพระยากับพระสงฆ์ผู้ใหญ่ทั้งปวง จึงพร้อมกันไปขอเจ้าไชยเสรษฐ์ ผู้บุตรใหญ่ของพระเจ้าโพธิสารและเป็นนัดดาของเจ้าเชียงใหม่นั้นมาเป็นเจ้าเชียงใหม่ แถมนามเข้าว่า เจ้าไชยเสรษฐาธิราช ครั้นได้เป็นเจ้าเชียงใหม่แล้วไม่นาน ได้ฟังข่าวว่าพระเจ้าโพธิสารผู้บิดาสิ้นชีพวายชนม์แล้ว เจ้าน้องชายต่างมารดาได้เป็นเจ้าเมืองเซ่า เจ้าเชียงใหม่เสรษฐาธิราชจะใคร่ไปทำบุญในการศพบิดาและจะใคร่ได้ส่วนมรดกด้วย แต่ยังไม่แน่ใจลงว่าจะต้องเป็นเจ้าเมืองเซ่าเสีย ไม่ได้กลับมาเมืองเชียงใหม่ หรือจะต้องกลับมาเมืองเชียงใหม่ เพราะเมืองเซ่ามีเจ้าแล้ว หรือเมื่อไม่อยู่ฝ่ายข้างเมืองเชียงใหม่จะเป็นประการ่ใด พะวังหน้าพะวังหลังอยู่ จึงได้เชิญพระมหามณีรัตนปฏิมากรแก้วนั้นไปด้วย อ้างว่าจะรับไปทำบุญและให้เจ้านายญาติวงศ์ในเมืองเซ่าได้บูชาทำบุญด้วยกัน แล้วก็ยกครอบครัวไปหมด เมื่อพระมหามณีรัตนปฏิมากรแก้วออกไปจากเมืองเชียงใหม่ในครั้งนี้เป็นปีขาลจัตวาศก จุลศักราช ๙๑๔ ปี..."

https://vajirayana.org/พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์-รัชกาลที่-๑/๒๒-ตำนานพระแก้วมรกต

เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ เรียบเรียง กรมพระยาดำรงฯชำระ

แต่มึงจะไม่เชื่อพงศาวดารของดำรงฯก็แล้วแต่ เสียเขาพระวิหารก็เพราะดำรงฯ

73 Nameless Fanboi Posted ID:LHvUyMBnDn

>>71 แน่ใจเหรอว่าไม่เคยไป​ ลิ้งที่มึงเอามานั่นแค่ตอนแรก​ https://www.silpa-mag.com/history/article_8666

74 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

>>73 >>72 โอเค กูอ่านไม่ถึงเอง แต่เดิมพระแก้วก็อยู่วัดที่เชียงรายอยู่ดี คนเวียงจันทน์ยุคนนั้นก็ปล้นฆ่าคนล้านนา เพื่อแย่งชิงไปเหมือนกันแฮะ

75 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

แต่ยุคตอน ร.1 ก็ไม่มีกฎหมายสากลอยู่ดี จะใช้สิทธิอะไรในการเอาคืนไป ในเมื่อยุคนั้นการแย่งชิงสินทรัพย์และพื้นที่เป็นเรื่องปกติ อันนี้เอามาอ้างได้เหรอ

76 Nameless Fanboi Posted ID:b8guM2.6Mo

พูดแล้วก็นึกถึงตอนเปลี่ยนระบอบเป็นปชต. จะอ้างว่าเป็นทรัพย์สินkingได้อีกหรือเปล่า

77 Nameless Fanboi Posted ID:LHvUyMBnDn

>>75 ก็ตามที่กูสรุปนิ​ >>69

78 Nameless Fanboi Posted ID:hg/ZtvJB+s

การที่ชาติใดได้เป็นเจ้าของของเก่าแก่สมัยนู่น ที่ยังไม่ได้มีการปักปันเขตแดนหรือเป็นรัฐชาติอย่างคำกำจัดความสมัยใหม่ กูว่ามันขี้นอยู่กับ
"ความชอบธรรม"มากกว่า ไม่ว่าชนชาติใดสร้างมาก็ตาม ตราบใดที่"ประเทศชาติ"สามารถหาเครื่องยืนยันไม่ว่าจะเป็นทางภูมิศาสตร์,ประวัติศาสตร์หรืออะไรก็แล้วแต่ เพื่ออ้างว่า"ชนชาติตน"มีสิทธิมีความชอบธรรมในการครอบครอง อันนี้ตามความเห็นกูนะ

79 Nameless Fanboi Posted ID:e8Oo+yqM8X

O เรียกร้องให้คนลาว
X เรียกร้องให้อินเดียแดง

80 Nameless Fanboi Posted ID:8+I5JHA8nU

>>74 ง่าวอีก อ่านไม่ถึงหรือไม่อ่าน เขาแต่งงานดองเป็นแผ่นดินเดียวกัน แล้วย้ายไปไว้หลวงพระบางเอง

81 Nameless Fanboi Posted ID:B6PXE3y0R/

พระแก้วเคยอยู่ที่ลาวจริง แต่ต้นกำเนิด/พบที่แรกไม่ใช่ลาว ตอนหลังไทยไปเอามา ถ้าลาวจะอ้างว่าพระแก้วอยู่ลาวมาก่อน คนพะเยาหรือเชียงรายก็อ้างได้เหมือนกันละว่าพระแก้วอยู่นี่มาก่อน

>>76 ขึ้นกับว่าคนล้มล้างจะใจดีแค่ไหนนะ

82 Nameless Fanboi Posted ID:LHvUyMBnDn

>>81 ก็ส่งกลับไปเชียงรายดิ จะเอาไหมละ​ ก็ไม่อีกแหละ

83 Nameless Fanboi Posted ID:B6PXE3y0R/

>>82 เจ้าเมืองเหนือถูกผนวกรวมกับกรุงเทพแล้ว จะถือเป็นของกรุงเทพก็ไม่ผิด

84 Nameless Fanboi Posted ID:LHvUyMBnDn

>>83 ไปยึดอำนาจปลดตำแหน่งมันหมดตะหาก​ ถ้าอิงแหล่งกำเ​นิด​ ถือว่าของเชียงรายก็ไม่ผิด​ ส่งไปเชียงรายไหมละ​ จะอวยเจ้ากรุงเทพก็บอกมาตรงๆ

85 Nameless Fanboi Posted ID:B6PXE3y0R/

>>84 แล้วมึงจะอวยเจ้าไหนละ ถึงบอกพระแก้วเป็นของลาว

86 Nameless Fanboi Posted ID:BNrm4hBISv

>>85 ว่าตามความเป็นจริงพระพวกนี้มันต้องเกณฑ์ไพร่มาสร้างฟรีๆอยู่แล้ว สร้างเสร็จก็ควรเป็นของปชชในแถบนั้น ถ้าไม่ส่งให้ลาวก็ไปเชียงราย ที่เป็นลูกหลานของพวกที่ถูกบังคับมาสร้าง

87 Nameless Fanboi Posted ID:TubAVmr.o4

เอ่อ ขอแทรกนิดนึง ที่กุเคยได้ยินมาแบบสรุปคือ พระแก้วแรกสุดอยู่เชียงราย ต่อมาแต่งงานกันก็ย้ายไปตั้งที่ลาว ทีนี้อยู่ลาวหลายปีไปหน่อย 3ชั่วอายุคนป่ะ คนลาวเลยเข้าใจว่าพระแก้วเป็นของลาว แล้วพอสยามไปเอามาก็เลยโวยวายว่าพระแก้วเป็นของกู ทั้งที่จริงๆเชียงรายแค่ให้ยืมตั้งงี้ใช่มะ
ถ้านับแบบนี่จริงๆ สยามก็ลักไก่ใช้ได้ ใช้มุกเดียวกันกับลาวอะแหละ แบบ
เชียงรายเอามาตั้งไว้ที่ลาว=ของลาว
เชียงรายเป็นล้านนา และล้านนาเป็นของสยาม= ของสยาม ของๆแกก็คือของๆชั้น และของๆชั้นก็คือของๆชั้น

88 Nameless Fanboi Posted ID:BUwCWqnG/T

>>87 ก็มันเป็นทรัพย์สินของเขา จะย้ายไปก็ไม่ผิด คนที่เหี้ยคือคนที่ไปตีแย่งเขามา

89 Nameless Fanboi Posted ID:.ORtFnT+OA

>>87 -พระแก้วเจอครั้งแรกที่เชียงราย เชียงรายเป็นหัวเมืองของเชียงใหม่(เป็นเมืองหลวงเก่าด้วย พญาเม็งรายอพยพย้านเมือง เชียงแสน->เชียงราย->ฝาง->กุมกาม->เชียงใหม่)
- ย้ายพระแก้วไปไว้ลำปาง ย้ายอีกทีมาไว้เชียงใหม่ ยังอยู่ในอาณาจักรล้านนาอยู่
- จากการแต่งงานดองกัน เจ้าไชยเษฐาได้ครองล้านนาก่อน ต่อมาล้านช้างบัลลังก์ว่าง เจ้าไชยเชษฐาเลยได้ล้านช้างด้วย
- เจ้าไชยเชษฐาย้ายศูนย์กลางการปกครองไปเมืองเชียงทอง(หลวงพระบาง)เพื่อจะได้คุมได้ทั้งสองฝั่ง เอาพระแก้วไปด้วย
- เจ้าเมกุฏิ เป็นเชื้อวงศ์เม็งรายสายรองที่ครองเมืองนาย(ไทใหญ่)เข้ามายึดเชียงใหม่ ล้านนาแตกเป็นสองฝั่ง (หัวเมืองตะวันออก เชียงราย ลำปาง แพร่ น่านยังขึ้นกับหลวงพระบางอยู่)
- ล้านนาตะวันตกโดนบุเรงนองยึด
- ล้านนาตะวันออกโดนบุเรงนองยึดอีก
- เจ้าไชยเชษฐาย้ายเมืองหลวงอีกรอบมาเวียงจันทร์ เอาพระแก้วมาด้วย(ตรงนี้เลยมีตำนานว่าเทพารักษ์ของพระแก้วกับพระบางไม่ถูกกัน)
- รวมอยู่ที่ล้านช้างประมาณ230ปี

90 Nameless Fanboi Posted ID:jwvC70fHC.

>>89 งั้นก็ควรคืนให้ล้านนา แต่ปัจจุบันล้านนาอยู่ใต้การปกครองของสยาม เป็นส่วนหนึ่งของสยาม งั้นก็อยู่กับสยามถูกแล้ว? หรือถ้าจะเอาแบบเด๊ะก็ให้ชุมชนล้านนาตัดสินใจว่าจะเอาตั้งไว้ไหน

91 Nameless Fanboi Posted ID:BNrm4hBISv

>>90 ก็ดีนะ แต่ต้องยกเลิก112กับปฏิรูปให้ได้ก่อน แล้วจัดประชามติเฉพาะภูมิภาคล้านนา

92 Nameless Fanboi Posted ID:FVey2Z+jMc

>>79

ลาวยังมีประเทศ แต่ อินเดียแดงไม่มี.....

93 Nameless Fanboi Posted ID:BNrm4hBISv

>>79 ไม่ต้องไปห่วงมันหรอก พวกนี้ได้สิทธิมากกว่าคนแถวนี้เยอะ https://www.dailynews.co.th/foreign/561025/

94 Nameless Fanboi Posted ID:wA09p0f3uD

การเปลี่ยนแปลงต้องทำจากด้านบน เด็ดขาด รวดเดียว เหมือนการรัฐประหาร

เพราะล้มแล้ว ต้องมีคนปกครองต่อ ไม่ใช่ล้มแล้วเป็นสุญกาศ
ถ้าล้มแล้วไม่มีหัวขบวน ไม่มีใครปกครอง จะเกิดการแย่งอำนาจเป็นแดนเถื่อนทันที

หัวขบวน ต้องใจเย็น รวบรวมอำนาจ วางเครือข่ายก่อน ไม่ใช่ด่วนได้ใจเร็ว
ยังไม่ทันมีอำนาจในมือ ก็กระแดะ ระดมคนลงถนนซะแล้วเหมือนแหวกหญ้าให้งูตื่น

ดังนั้น แค่มาชุมนุมดิสเครดิต ด่าไปเรื่อยๆ เปลืองแรงเปล่าๆ
หัวขบวนไม่เก่ง ยังไงก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้

อ่อนหัด อ่อนหัด อ่อนหัด อ่อนหัด อ่อนหัด

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

95 Nameless Fanboi Posted ID:yRmPfMhJD8

>>94 ดูหนังมาเวลมากไป เครือข่ายแบบไฮดร้ามันวางได้แต่ในหนังเท่านั้นแหละ แล้วในหนังมันก็เพราะเป็นกลุ่มอิทธิพลตั้งแต่WW2ด้วย ถึงทำได้ขนาดนั้น

96 Nameless Fanboi Posted ID:yRmPfMhJD8

>>95 ลืม นอกจากนั้นก็เพราะมีฐานทัพมีกองกำลังและอาวุธ แถมยังมีไอ้นักฆ่าพลังเวอร์แบบบัคกี้ด้วย

97 Nameless Fanboi Posted ID:SisNuJrgla

>>95 สามกีบก็คิดได้แค่นี้ล่ะ โง่เหมือนควาย ไม่งั้นจะเรียกสามกีบหรา

98 Nameless Fanboi Posted ID:SisNuJrgla

ปฏิวัติแบบไหนสำเร็จ แบบไหนพัง มีตัวอย่างเยอะแยะ แถวประเทศมุซซี่

99 Nameless Fanboi Posted ID:yRmPfMhJD8

>>97 ชั่ยๆ ต้องแบบขี้ตีนดิเมื่อกลางวันไปโชว์เหนือมู้การเมือง เจอกูล้อเรื่องควยเหี่ยวแป๊บๆเปลี่ยนเป็นดีเฟ้นควยตัวเองว่ายังแข็งอยู่ไปอีก50เม้นมั้ง
5555555555555555555555555555

100 Nameless Fanboi Posted ID:kHNCX7.ESD

มันล้มไม่ได้หรอกในเร็วๆนี้แหละ ไทยเชื่องมันยังเยอะ

พวกนี้มันเชื่องยิงกว่าฟูฟูอีก

101 Nameless Fanboi Posted ID:nxt7CLxd8a

>>99 สามกีบสมองมีแต่ขี้ก็คิดได้แค่นี้แหละ โง่ ยังยิ่งกว่าควาย วันๆ ทำตัวเกี้ยวกาด ว่างงานก็แบบนี้แหละ เพราะไม่มีใครจ้างมึงทำงานหรอก

55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

102 Nameless Fanboi Posted ID:0ZU0k+N8sZ

สำหรับคนที่ไปม็อบกปปส. แล้วคิดว่าตัวเองไม่ได้ “เรียกทหาร”

คือ คุณต้องรู้ก่อนว่า ข้อเสนอ “สภาประชาชน” ที่ไม่เอาการเลือกตั้ง มันคือ การ “ล้มรัฐธรรมนูญ” และมันคือ การเปิดประตูสู่การรัฐประหาร

ใช่ครับ คุณอาจจะไม่ได้เรียก แต่คุณเปิดประตูรอ ดังนั้น ถ้ารู้ว่าพลาดก็จำเป็นบทเรียนครับ :)

103 Nameless Fanboi Posted ID:D6X3EQw3Wc

>>101 มึงหัวเราะมีเลข 5 เยอะกว่า >>99 แปลว่ามึงข่มมันได้ สำเร็จแล้วนะ มึงชนะมันแล้วยินดีด้วย

104 Nameless Fanboi Posted ID:ByabWL31Q0

Salim is winner
3fingers is loser

105 Nameless Fanboi Posted ID:FtJrn+SyLA

>>100 ทำไมถึงล้มยาก แค่มึงมีอาวุธดีๆ ขอให้เมกาส่งมาผ่านสถานทูต พอมึงมีอาวุธก็จะบุกวังไปเลยเหมือนอย่าง ฝรั่งเศส ไง การเปลี่ยนแปลงไม่มีทางเกิดขึ้นนอกจากต้องมีสงคราม

106 Nameless Fanboi Posted ID:45VAVFy8ts

>>105 มึงบอกไปเลยว่าแค่มีพลังแห่งแสงสว่างแล้วก็แปลงร่างเป็นอุนต้าแมน บุกพร้อมกันให้หมด กูรู้กูเพิ่งดูอุลต้าแมทีก้า ไฟเน่าโฮดิสซี่ 55555

107 Nameless Fanboi Posted ID:Micv/2yCDW

สมัยก่อนเอาศาสนามาอ้าง ใครอยากมีพลังทางสังคมต้องแสดงตัวว่าตัวเองคลั่งศาสนามากกว่าคนอื่น
ตอนนี่ก็แต่เปลี่ยนมาใช้เรื่องของความเท่าเทียมแทน
ใครอยากมีพลังทางสังคมก็ต้องแสดงออกว่าคลั่งเรื่องความเท่าเทียมให้สุดโต่งเข้าไว้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

108 Nameless Fanboi Posted ID:45VAVFy8ts

>>107 Byคนคลั่งศาสนาที่กลายเป็นขยะของโลกสมัยใหม่

109 Nameless Fanboi Posted ID:9vKaAvYlSW

>>107

สมัยก่อนเอาศาสนามาอ้าง ใครอยากมีพลังทางสังคมต้องแสดงตัวว่าตัวเองคลั่งศาสนามากกว่าคนอื่น
ตอนนี่ก็แต่เปลี่ยนมาใช้เรื่องของความรักพ่องแทน
ใครอยากมีพลังทางสังคมก็ต้องแสดงออกว่าคลั่งเรื่องความรักพ่อง รักหมาพ่องให้สุดโต่งเข้าไว้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

110 Nameless Fanboi Posted ID:FtJrn+SyLA

ฟ้าทะลายโจรเป็นแค่ยาหลอก

#เทคนิคการแพทย์ท่านหนึ่ง

ฟาวิพิราเวีย คือ ของจริง

111 Nameless Fanboi Posted ID:1PQbcbCJ0w

ความเหมือนและแตกต่างระหว่างJokerกับชีวิตจริง

หลังจากที่ได้ดูภาพยนต์เรื่องโจ๊กเกอร์ต้องยอมรับตรงๆว่า ตัวละครนี้ทำออกมาได้ดีทีเดียว พอดูแล้วรู้สึกอึดอัดพอสมควร(อึดอัดแบบควรทำไรดี อึดอัดแบบต้องรู้สึกผิดไหมต้องทำไงต่อดีอะไรแบบนี้) ซึ่งเรื่องนี้มันสอนเราไว้หลายอย่างมาก เช่น เมื่อเราถูกเป็นผู้กระทำและถูกกระทำมากพอที่จะระเบิดมันออกมา บางคนมองว่ามันผิด บางคนมองว่ามันถูกแต่ในมุมมองของผู้ถูกกระทำนั้นเค้าไม่ได้รู้สึกผิดหรือถูก เค้าแค่รู้สึกว่ามันแฟร์หรือยุติธรรมดี แต่ถ้ามองมุมมองในความเป็นจริงนั้นสิ่งที่อาเธอร์(โจ๊กเกอร์)ทำถ้าถามว่ามันผิดไหม ตอบเลยว่าผิด แต่ถ้าถามกลับไปว่าผู้กระทำในสมการนี้ล่ะ? ผิดไหมเราจะตอบยังไง? นั่นแหละคำตอบมันพูดยาก การที่เราต้องปั้นหน้ายิ้ม เพื่อหลอกตัวเองว่าไม่เป็นไรเนี้ยเหนื่อยมั้ย? เราจะเห็นสิ่งที่อาเธอร์(โจ๊กเกอร์)ทำมันค่อนข้างที่จะเก็บกด เก็บอารมณ์มาก และต้องใช้จิตนาการหลอกตัวเองเสมอว่าเป็นที่ยอมรับของสังคม เป็นคนที่ครอบครัวรัก เป็นคนที่มีความสุข แต่สุดท้ายเมื่อจินตการในการหลอกตัวเองไม่เป็นอย่างที่คิด จึงทำให้จิตหลุดและเข้าสู่ด้านมืด ปัญหาของคนที่มีปัญหาทางจิตคือ The worst part about having a mental illness is people expect you to behave as if you don’t – สิ่งที่แย่ที่สุดของการป่วยทางจิตคือผู้คนนั้นคาดหวังว่าเราจะทำตัวเหมือนไม่ได้ป่วย นั่นแหละคือปัญหาเพราะผู้คนไม่ได้ยอมรับและเข้าใจอย่างจริงจัง บางคนทำร้ายเค้าด้วยคำพูด มันให้ความรู้สึกแบบทำให้รู้ว่าทำไมโจ๊กเกอร์ถึงเป็นแบบนี้ ผู้คนที่ร้ายกาจ จิตใจที่อ่อนไหว ระบบการปกครอง สังคม สิ่งต่างๆ

มันตลกร้าย มันตลกในความฉิบหาย มันเศร้าจนต้องหัวเราะออกมาแทนน้ำตา มันเข้าใจว่าทำไมเค้าถึงต้องเป็นแบบนี้ ทีนี้เราลองมาดูกันว่าในสมุดของโจ๊กเกอร์นั้นเขียนอะไรไว้บ้าง

“I hope my death makes more cents than my life - ฉันว่าการตายของฉันน่าจะมีค่ามากกว่าการมีชีวิตอยู่เสียอีก”

นี้คือคำพูดจริงๆของคนที่ป่วยทางจิต นอกจากนี้สังคมที่ต้องเจอในก็อตเธม ไม่ต่างอะไรกับสังคมในปัจจุบันเลย ทั้งการบูลลี่ การเหยียด การทำร้ายร่างการ การตีตรา และการกดดันจากสังคม ดังนั้นเราจึงไม่มีทางรู้เลยว่าคนข้างๆตัวเรานั้นบางทีอาจจะกำลังตกอยู่ในสภาวะเดียวกับตัวโจ๊กเกอร์ก็ได้ เรื่องนี้สื่อให้เห็นว่าในยุคที่ผู้คนโหยหาอำนาจ แย่งชิงความเป็นใหญ่ และเห็นแก่ตัว เราควรที่จะสนใจคนรอบข้างคนที่เรารัก ใส่ใจและดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าทิ้งหรือละเลย เพราะเราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าเค้ารู้สึกอย่างไรและบางทีเค้าอาจจะดำดิ่งแล้วก็เป็นได้

#มิตรสหายโม่งท่านหนึ่ง

112 Nameless Fanboi Posted ID:BE+vYzr5gC

>>111

TL:DR i'm piece of useless shit

113 Nameless Fanboi Posted ID:iC/dTr6FQB

>>111 กูดูแล้วเฉยมาก เบๆ แต่มึงวิเคราะห์ดีมาก จนกูอยากไห้มึงวิเคราะห์ ตัวละคร นารุชิมะ เรียว จากมังงะเรื่องshamoมาก ตังละครน่าสนใจกว่านี้เยอะ

114 Nameless Fanboi Posted ID:eThJt.DWko

>>105 กูไม่ค่อยชอบวิธีนี้เท่าไหร่ แต่จากสภาพตอนนี้ มันดันไปสุดทางนั้นแล้วจริงๆ ยังไงก็ต้องแหลกอะ ทุกอย่างเลยจุดประนีประนอมมาไกลและอีกฝั่งยังไงก็ไม่มีจิตสำนึกแล้วลง สู้สามวันทวงเพื่อนออกคุกอีกสองเดือนงี้แม่งไม่ไปไหนสักที กูไม่อยากรอ54ปีแบบชิลีนะว้อย

115 Nameless Fanboi Posted ID:CQXacmaaL4

On this day 2 years ago Epstein didn't kill himself.
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

116 Nameless Fanboi Posted ID:uqiI3posIY

>>114 แล้วใครใช้ให้ก่อกบฏตอนปี 2475 ล่ะ ในเมื่อเขาจะมอบอำนาจอธิปไตยให้ปวงประชาอยู่แล้ว

117 Nameless Fanboi Posted ID:lhHgEVA6ZI

>>116 ใครใช้ให้ฆ่าคนชิงตำแหน่งตอนปี23xxล่ะ​ อำนาจน้อยเขาก็ยึดบ้าง​ ตอแหลยังไงก็ไม่มีคนเชื่อ​ คนปี2475ฉลาดขึ้นนะไม่ใช่23xxที่มาบอกเป็นพระอินหัวควยมาเกิดก็เชื่อกัน

118 Nameless Fanboi Posted ID:WHN/ZtI5n1

>>116 อธิปไตยที่จะมอบให้ก็เป็นแบบปัจจุบันนี้ไง อยากเลือกนายกเลือกไปแต่กุใหญ่สุด ไม่ชอบคนไหนก็เอาทหารรปห.ออก

119 Nameless Fanboi Posted ID:WkDDzvczbM

>>116 หรือจะเอาแบบฝรั่งเศษ? ปฏ ิิวัติมาสองร้อยกว่าปีกว่าจะตั้งตัวได้ ปัจจุบันตอนนี้ก็ยังโหยหากษัตริย์อยู่ อยากได้ชีวิตแบบนั้นใช่ป่ะ?

120 Nameless Fanboi Posted ID:lhHgEVA6ZI

>>119 ตอบใช่​ ฝรั่งเศสหน้าไหนอยากได้พ่องกลับมา​วะ555​ แต่ถ้าอยากได้คอมมี่นี่มีจำนวนนึง​ ถึงน้อยแต่ก็มี​ เค้าตั้งพรรคลงเลือกตั้งด้วยนา

121 Nameless Fanboi Posted ID:kCLHt3EqoI

>>120 ใครเค้าโหยหามันวะ เห็นในสภามีแต่สังคมนิยมกับริเบอรัล ไม่เห็น monarchist ซักพรรค

122 Nameless Fanboi Posted ID:lhHgEVA6ZI

>>121 ขยะหลงยุคพวกนั้นใครมันจะเลือกเข้าไปเป็นเสนียดสภาเล่า555

123 Nameless Fanboi Posted ID:mS0x7LgYxI

มีหมู่บ้านนึง ทุกคนมีกล่องคนละใบ ที่ทุกคนเชื่อว่าในกล่องนั้นมีทองอยู่ข้างใน ในช่วงแรกๆก็ได้มีคนแอบเปิด แล้วบอกว่า เฮ้ย ในกล่องนี้มันไม่ใช่ทอง แต่มันเป็นขี้ คนแรกที่แอบเปิด ก็ไปบอกคนอื่น พอบอกไป ก็โดนคนประณาม ไม่มีใครเชื่อสักคน เค้าก็เลยโดนไล่ออกไปจากหมู่บ้านเพราะรู้ความจริงว่าในกล่องนั้นมันมีขี้
จนเวลาผ่านไป ก็มีเด็กเกิดใหม่ขึ้นมาในหมู่บ้าน เป็นเด็กรุ่นใหม่
เด็กพวกนี้ก็ได้ถามผู้ใหญ่ ว่าในกล่องใบนี้มีอะไร ทำไมต้องรักษาเอาไว้อย่างดี ทำไมห้ามเปิด ผู้ใหญ่ในหมู่บ้านก็บอก กล่องใบนี้มันมีทอง แต่มึงห้ามเปิดนะ ให้ทองมันอยู่ในกล่อง
ด้วยความเป็นวัยรุ่นอยากรู้อยากเห็น พวกเด็กๆก็เลยเปิดดู เฮ้ย นี่มันกล่องขี้นี่หว่า
และ คราวนี้คือ เด็กมันก็บอกต่อๆกัน ด้วยความเป็นเด็กยุคใหม่ คือ อยากรู้ ก็ต้องลองพิสูจน์ ไม่ใช่เชื่อตามที่บอกๆกันมา
เด็กๆทุกคนก็เลยเปิด แล้วก็พบว่าข้างในกล่องมันเป็นขี้ เด็กๆก็เลยไปบอกทุกคนในหมู่บ้านว่า กล่องใบนี้มันเป็นขี้ไม่ใช่ทอง ช่วงแรกๆ ก็โดนประณาม เหมือนคนที่โดนไล่ออกจากหมู่บ้านในสมัยก่อน แต่เด็กกลุ่มนี้ก็ยืนยันว่าในกล่องนั้นมีขี้
แต่รอบนี้ทำให้ผู้ใหญ่ที่อยากรู้หลายคนลองเปิดดู เฮ้ย มันเป็นขี้จริงๆนี่หว่า ที่แล้วมากูปกป้องรักษากล่องขี้กล่องนี้เพื่ออะไรวะ พอรู้ว่าเป็นกล่องขี้ก็โยนทิ้งไป
คราวนี้มันก็มีกลุ่มคนแก่ๆ กลุ่มที่เชื่อว่ากล่องนี้เป็นทองอยู่กลุ่มนึง คนกลุ่มนี้ก็กอดกล่องของตัวเองเอาไว้ไม่ปล่อย ไม่ยอมให้ใครมาเปิด คนกลุ่มนี้ก็เยอะอยู่
แต่ ก็ปล่อยไป เพราะคนกลุ่มนี้ก็แก่แล้ว ไม่นานก็ตาย
เพราะสิ่งสำคัญคือคนยุคใหม่ คนอายุไม่เกิน35 เขารู้หมดแล้วว่าในกล่องนี้มันเป็นขี้
อีกไม่นานคนในหมู่บ้านนี้ก็จะรู้หมด เพราะเริ่มมีคนเปิดดูข้างในกล่องแล้ว เปิดต่อกันไปไปเป็นลูกโซ่ และ พอทุกคนเห็นว่าข้างในกล่องมันเป็นขี้ ทุกคนก็พร้อมโยนกล่องขี้ของตัวเองทิ้ง และเมื่อทุกคนโยนกล่องขี้ไปทีละคนสองคน หมู่บ้านแห่งนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

124 Nameless Fanboi Posted ID:LeioJIOw5l

>>122 เอ๋ .... ขยะหลงยุคนี่ ประเทศรวยๆ อย่างซาอุ ดูไบ มะกันคอแดงต้นฉบับประชาธิปไตยยังต้องเข้าไปเลียเท้าเลยนา

125 Nameless Fanboi Posted ID:pnRCkDCfOm

>>124 เมกันเลียตีนซาอุ ??? อะไรของมึงไอ้โง่ หนังสือไม่เรียนก็แบบนี้ โง่กราบหมา เหมือนพ่องมึงเลย

126 Nameless Fanboi Posted ID:LeioJIOw5l

>>125 ถถถถ ตกข่าวหรือหลบหลังเขากันล่ะ ทุกวันนี้มะกันเลียกษัตริย์ซาอุจนตีนชุ่มเพราะหวังเม็ดงานมาตั้งนานแล้ว ขนาดข่าวออกว่าซาอุแอบลอบสังหารนักข่าว โลกพร้อมประนาม พี่มะกันยังเมินเฉยเลย แล้วที่รบตามตะวันออกกลางตอนนี้ส่วนหนึ่งก็รบตามใบสั่งจากซาอุด้วย ถถถถถถ ไงล่ะ ประชาธิปเตยยยยย

127 Nameless Fanboi Posted ID:pnRCkDCfOm

>>126 โง่อย่างมึงนี่โง่ไร้ขีดจำกัดจริงๆ ไปศึกษาดูก่อนว่าประวัติซาอุมันเกิดมาจากไหน แล้วที่เขาเฉยนี่เรียกเลียแล้ว ขรรมสมองหลิ่มจริงๆ

128 Nameless Fanboi Posted ID:LeioJIOw5l

>>127 จ้าๆ เถียงให้ชนะนะ ถถถถ

129 Nameless Fanboi Posted ID:mS0x7LgYxI

>>124 >>126 >>128 มโนไปคนเมกาก็ไม่มีพรรคโมนาขี้อยู่ดีแหละ พวกไร้สาระแบบโลกแบนหรือแอนตี้แวคยังมีคนเอาด้วยมากกว่า 555

130 Nameless Fanboi Posted ID:dR+P5FkwoU

วันนี้มันก้อแสดงให้เห็นละครับ ว่ามันคือผลพวงมาจริงๆ
ตอนนี้คิดว่า ที่จริงต้องล้มล้างส ลิ่มก่อน

นายกโง่ๆ การบริหารงานโง่ๆ ล้วนมาจากการสนับสนุนของส ลิ่ม

ต่อให้ไล่ รบ. นี้ไป แต่ถ้าส ลิ่มยังอยู่ในหน่วยงานใหญ่ๆ หรือยังเชียร์แบบส ลิ่ม ก้อวนกลับมาได้ ตัวเห้ๆกว่านี้

เดินหน้าประเทศต้องหยุดส ลิ่ม

เพราะต่อให้ส ลิ่มโดยทำร้ายจากนโยบาย การบริหารงานโง่ๆ มันก้อไม่เจ็บปวดอะไร

131 Nameless Fanboi Posted ID:Ingp0/2oUG

หลิ่มบอกรักชาติรักประเทศ แต่ยังอวยคนทำประเทศชาติชิบหายอยู่ได้ กุล่ะงง

132 Nameless Fanboi Posted ID:LeioJIOw5l

>>131 ใช่ อวยทักขี้ กะปิบูด ทอน อิกวิ้น อิรุ้ง พวกมึงอวยคนที่จ้องทำลายชาติกันไปได้ไงวะ

133 Nameless Fanboi Posted ID:jzXI5DIgRV

>>132 ทำลายชาติยังไงบอกกูหน่อยดิ๊หลิ่มสวะควยเล็กหัวนมดำ

134 Nameless Fanboi Posted ID:mS0x7LgYxI

>>132 ไอ้ที่พูดมาแม่งดีกว่าโคตรเหง้าพ่องหมดทั้งหน้าตาสมองจิตใจเลยว่ะ

135 Nameless Fanboi Posted ID:LeioJIOw5l

>>134 ถถถถถถ ถ้ามันเน่าขนาดนี้ประเทศคงไม่อยู่ระดับ upper middle หรอกนะ แต่ลองคิดดูถ้าปล่อยให้พวกเบียวคอมมี่เข้ามากุมบังเหียน กูรับรองว่าไม่เกินสองปี ไทยลดระดับเหลือ low แน่นอน อิปูเคยทำมาแล้ว เชื่อกูสิ ถถถถ

136 Nameless Fanboi Posted ID:mS0x7LgYxI

>>135 เบียวคอมมี่ก็เข้าไปสภาปทพัฒนาแล้วได้น่ะ ส่วนแอ๊บโมนาขี้ ว้ายย ตัดหัวไปหมดแย้ว แงๆ

137 Nameless Fanboi Posted ID:Ingp0/2oUG

>>135 เพ้อเจ้อเหี้ยไร แค่บริหารประเทศแบบมนุษย์ปกติยังทำไม่ได้เลย วันๆเอาแดกกับรับใช้คนบ้าหี

138 Nameless Fanboi Posted ID:Z63PW5waOI

นาทีที่ 7:26

"แต่หลังจากสมเด็จพระนางเจ้าเรียกมันไป แล้วเรียกผมไปให้รักกันนะครับ ให้ทำงานด้วยกัน ทุกอย่างมันก็เลยเรียบร้อยหมด"

ยุทธศักดิ์ ศศิประภา กล่าวกับ ทักษิณ ชินวัตร
มิถุนายน 2556

นี่เป็นหลักฐานยืนยันว่าการดำเนินการเรื่องนิรโทษกรรมเหมาเข่งของฝ่ายทักษิณมาจากการได้รับสัญญาณ "โดยตรง"* จากราชินีสิริกิติ์ ซึ่งผมกล่าวไว้ในสเตตัสก่อน

คลิปนี้เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน 2556 เนื้อหาเป็นการพูดถึงแผนการนำทักษิณกลับบ้าน ในคลิป ยุทธศักดิ์ได้กล่าวย้อนหลังไปถึงเหตุการณ์ในช่วงต้นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ (ช่วงที่เขาเป็น รมต.กลาโหมครั้งแรก) ว่าเขากับประยุทธ์ก็ยังระวังกันแต่หลังจากราชินีเรียกไปพบ "ทุกอย่างก็เรียบร้อย"

หมายเหตุ - มีผู้ทักท้วงว่าที่ผมเขียนทำให้เข้าใจว่าราชินีสิริกิติ์เรียกยุทธศักดิ์กับประยุทธ์ไปคุยเรื่องนิรโทษกรรม แต่ผมไม่ได้ต้องการหมายความเช่นนี้ สิ่งที่เขียนที่บอกว่า ฝ่ายทักษิณได้รับสัญญาณ "โดยตรง" จากราชินีสิริกิติ์ ผมหมายถึงว่าพวกเขาได้รับ "สัญญาณปรองดอง" โดยตรงจาก "ตัวราชินีเอง" จึงทำให้ในเวลาต่อมาพวกเขามีความมั่นใจในการทำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหมาเข่ง

139 Nameless Fanboi Posted ID:Z63PW5waOI

ราชินีสิริกิติ์และบูรพาพยัคฆ์คือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพและสถาบันกษัตริย์อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

ในฐานะผู้ศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองในช่วงปี 2549 เป็นต้นมา ผมไม่ลังเลใจที่จะบอกเลยว่า ราชินีสิริกิติ์เกี่ยวข้องโดยตรงกับการรัฐประหาร 19 กันยา 2549 มีหลักฐานแวดล้อมมากมายที่บ่งชี้ว่าราชินีสิริกิติ์สนับสนุนการเคลื่อนไหวต่อต้านทักษิณตั้งแต่ “ก่อน” การรัฐประหาร และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจทำรัฐประหารของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน

ตั้งแต่หลังรัฐประหาร 2549 เป็นต้นมา ระดับนำของฝ่ายทักษิณตระหนักดีว่าพวกเขากำลังสู้กับราชินีสิริกิติ์ พวกเขาแยกในหลวงภูมิพลออกจากราชินีเพราะในหลวงมีท่าทีที่คลุมเครือกว่า ในขณะที่ราชินีแสดงตัวอย่างเด่นชัดในการสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรที่พยายามจะโค่นล้มรัฐบาลสมัคร-สมชาย

กลุ่มบูรพาพยัคฆ์คือตัวเชื่อมระหว่างราชินีสิริกิติ์กับกองทัพ ประยุทธ์ซึ่งเป็นคนสนิทของราชินีได้ขอให้ราชินีใช้อิทธิพลที่มีต่อ พล.อ.สนธิ สนับสนุนให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบก หลังจากนั้นกลุ่มบูรพาพยัคฆ์ได้เข้าครอบงำกองทัพ โยกย้ายนายทหารทั้งฝ่ายทักษิณและฝ่าย พล.อ.สนธิ ออกไปให้พ้นทาง และวางคนของบูรพาพยัคฆ์ในตำแหน่งคุมกำลังสำคัญ กล่าวได้ว่าในช่วงเวลาระหว่างการรัฐประหาร 2 ครั้ง 2549-2557 ราชินีสิริกิติ์และบูรพาพยัคฆ์ได้เข้าครอบงำและควบคุมกองทัพบกได้อย่างเบ็ดเสร็จ จนกองทัพเป็นอิสระจากรัฐบาล และเป็นเครื่องมือหลักของราชสำนักในการต่อสู้กับฝ่ายทักษิณ เช่น การบีบกลุ่มเนวินให้ย้ายขั้วมาสนับสนุนอภิสิทธิ์เป็นนายก ในปี 2551 และการปราบเสื้อแดงในปี 2552-2553

ชัยชนะในการเลือกตั้งของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และความเคลื่อนไหวปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ในช่วงปี 2554-2555 ที่สั่นคลอนราชสำนัก ทำให้ราชินีสิริกิติ์-บูรพาพยัคฆ์หันมาปรองดองกับทักษิณ จนนำมาสู่แผนการพาทักษิณกลับบ้านด้วยการออกกฎหมายนิรโทษกรรมเหมาเข่งของฝ่ายทักษิณ อย่างไรก็ตาม ราชินีสิริกิติ์ได้ล้มป่วยลงก่อนที่วิกฤตการเมืองรอบใหม่จะเริ่มขึ้น

ประยุทธ์ในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก คือผู้นำของขั้ว ราชินี-บูรพาพยัคฆ์ ทำการยึดอำนาจ ในปี 2557 และใช้บทเรียนจากปี 2549 จัดวางโครงสร้างอำนาจใหม่เพื่อสยบฝ่ายทักษิณอย่างราบคาบไม่ให้กลับมาได้อีก ระหว่างนี้เองในหลวงภูมิพลก็เสด็จสวรรคต รัชกาลที่ 10 ขึ้นครองราชย์และเข้าเทคโอเวอร์อำนาจของ คสช. และยึดครองกองทัพ

ถ้าไม่มีสภาพที่กองทัพถูกครอบงำโดยบูรพาพยัคฆ์ และการรวมศูนย์อำนาจของ คสช. การเข้าเทคโอเวอร์กองทัพของรัชกาลที่ 10 ก็จะไม่เกิดขึ้นโดยง่าย ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับสถาบันกษัตริย์ในปัจจุบันไม่ใช่สิ่งที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ แต่เป็นผลผลิตของวิกฤตการเมืองที่ราชสำนักใช้กองทัพในการต่อสู้กับทักษิณโดยตรง จนนำมาสู่สภาพที่กองทัพซึ่งควรจะขึ้นตรงกับรัฐบาลกลายมาเป็นบริวารของสถาบันกษัตริย์ ถูกควบคุมและใช้สอยโดยราชสำนักและไม่มีใครกล้าแทรกแซง

140 Nameless Fanboi Posted ID:Neawa/AfM3

>>138 ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ไม่ต่างกับที่คาดเดาไว้หรอก วางแผนรัฐประหารไว้แล้วเพราะกำลังจะเปลี่ยนผ่านบัลลังก์ ยังไงต้องให้คนของตัวเองคุมอำนาจ ไอ้นิรโทษกรรมก็แค่ข้ออ้างระดมม็อบ เครือข่ายข้าราชการโดนล็อบบี้หมด ทั้งสธ. มหาลัยต่างๆ พรรคปชป. ศาล ออกกฏคุ้มครองม็อบ ทหารเกียร์ว่างไม่ยอมรับคำสั่งรัฐบาล
ก็ยื้อมาจนม็อบเริ่มแผ่ว ไอ้ตู่เห็นท่าไม่ดีก็ออกมารปห.ดื้อๆ เพราะเดี๋ยวจะหมดข้ออ้าง

141 Nameless Fanboi Posted ID:nCOobwKdwX

ตกลงสกุลเงินใหม่ที่เราจะนำมาใช้แทนเฟียตคือ
"อินทนนท์"นะคะ (ดิจิตอลบาท)
การที่ทางธนาคารออกประกาศค้ำวงเงินฝากแค่หนึ่งล้าน เนื่องจากทางระบบเค้าพยายาม สโคป ให้คนถือสกุลเฟียต<ธนบัตรเก่า> น้อยที่สุดค่ะ เพราะเราจะไปที่สุกลใหม่กันแล้ว พวกเงินฟอกตายสนิท ที่พี่พูด ตรง
เป้ะทุกประเด็น
เค้ากำลังบีบให้คนคายระบบเงินธนบัตร-เฟียตเก่า
เงินฟอก เงินเทา ...
เงินระบบควอลตัม คิวเอฟเอส_QFS เค้าจับเส้นทางได้ มันอยู่ บ/ช ใคร จะถูกดูดดลืนหายทันที ที่ระบบใหม่มา
ธนาคารจึงต้องออกมาป้องกันตนเองก่อน
คนรวยจะจน คนจนจะรวยในชั่วข้ามคืน
นักการเมืองตายก่อน
พีรามิดกลับหัว
****************
ระบบกำลังจะเข้ามาจัดการ.เรื่องการฟอกเงิน
เผลอๆนักการเมืองทั้งหลายอาจยังไม่ทันรู้ตัว
หมดสิทธิ์คอรั่ปชั่นตลอดไปเลยครับ
Cr:
จาก  PP พี่แพรว
GESARA Golden Age> Thailand<
PeeTQH Rep: Q7 Aug.2Q21

142 Nameless Fanboi Posted ID:ODXfYO1TnL

>>141 ม่ายอะ
เขาแค่อยากเปลี่ยนให้คนย้ายเงินจากเงินฝากมาเป็นกองทุน เพราะตอนเป็นเงินฝากธนาคารต้องแบ่งไปใช้กับสินทรัพย์ลงทุนความเสี่ยงต่ำ
ยิ่งเงินกองทุนมาก เงินในระบบมาก มีการไหลเวียนเงินดี ศฐก.ภาพรวมจะดี
แค่นี้เอง

143 Nameless Fanboi Posted ID:cwUwaD07mA

>>142 ความคิดโคดหลิ่ม

144 Nameless Fanboi Posted ID:YVnY4ngPvW

แชร์เรื่องประเด็นทุนนิยมไป มีคนทักมาเยอะ อาจเพราะลูกกอล์ฟเองที่พูดไม่ชัดเจน ขอพูดทีละข้อ

1. ลูกกอล์ฟพยายามบอกลา กลุ่มทุนนิยมผูกขาด และกลุ่มทุนที่เป็นปลาใหญ่ให้มากที่สุด (เรามองเขาผูกขาด เขาอาจจะมองตัวเองไม่ผูกขาด ไม่เป็นไร) ลูกกอล์ฟบอกลาพวกเขา ทั้งในฐานะ "ผู้บริโภค" และ "influencer" เพื่อเอาเงินไปสนับสนุน ผู้ประกอบการรายย่อยให้มากที่สุด

2. ลูกกอล์ฟไม่มีปัญหากับระบอบทุนนิยม แต่เนื่องจาก ตัวลูกกอล์ฟมีแกนชีวิตที่เปลี่ยนไป สักพักใหญ่แล้ว เป็นผู้บริโภคที่เลือกสินค้าอย่างระวังที่สุด และอยากสนับสนุนสินค้าจากแบรนด์มีการคิดถึง "ต้นทุนทางสิ่งแวดล้อม" ด้วยเสมอ ดังนั้น ต่อให้คุณจะเป็น SME หรือ ปลาใหญ่แค่ไหน ถ้าทางบริษัทไม่ได้ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมมากพอ การอุดหนุนหรือการร่วมงานกันคงยาก การร่วมงานกับแบรนด์ใหญ่ ๆ หรือเล็กในอนาคต จึงต้องมาคุยกันเรื่องสิ่งที่ทางแบรนด์ทำเพื่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงเรื่องสิทธิแรงงาน

3. วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปด้านการบริโภค จะเรื่องการเป็นมังสวิรัติ การลดซื้อเสื้อผ้า การใช้สิ่งของทุกอย่างจนกว่าจะพัง "ไม่ใช่การรณรงค์" มันคือ ชีวิตลูกกอล์ฟตอนนี้ แม้ลูกกอล์ฟจะบอกเสมอว่า เราต้องตระหนักถึงการบริโภคของเราที่ส่งผลต่อโลกใบนี้ แต่ ถ้าคุณไม่ทำตาม ก็ว่าไม่ได้

4. เราคงหนีทุนนิยมไม่ได้ เพราะมันแทรกซึมอยู่ทุกมิติชีวิตเรา แต่ลูกกอล์ฟเชื่อว่า "พลังผู้บริโภค" เมื่อเอามารวมกันมีอำนาจพอที่จะทำให้กลุ่มทุนนิยม ที่ใหญ่หรือเล็กหันมาฟัง และเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อโลกใบนี้ได้เช่นกัน แม้จะยากมาก ๆๆๆๆๆ เราก็ต้องพยายาม และไม่ลืมว่า พลังผู้บริโภคยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่สุดท้ายคุณจะเลือกสนับสนุนใครในฐานะผู้บริโภค หรือจะทำงานให้ใครในฐานะ "influencer" ย่อมทำได้ตามเสรี

145 Nameless Fanboi Posted ID:mu6KZHAmr4

จับยายมึง เอาปากกระบอกปืนลุกซองจอกระโหลกแล้วลั่นไกยิงดัง ปั้ง! หัวแบะสมองระเบิดซากเนื้อกระจายเละเทะไปทั่วสารทิศ ปรับปืนเป็นโหมดเซฟตี้และหันปืนเอาพันท้ายปืนฟ้าดตัวศพยายหลายสิบกว่ารอบ พร้อมตระโกนเสียงดังฟังชัด “เลิกเยยายได้แล้วไอเหี้ย เลิกเยยายได้แล้วไอเหี้ย เลิกเยยายได้แล้วไอเหี้ย เลิกเยยายได้แล้วไอเหี้ย เลิกเยยายได้แล้วไอเหี้ย เลิกเยยายได้แล้วไอเหี้ย เลิกเยยายได้แล้วไอเหี้ย เลิกเยยายได้แล้วไอเหี้ย เลิกเยยายได้แล้วไอเหี้ย เลิกเยยายได้แล้วไอเหี้ย เลิกเยยายได้แล้วไอเหี้ย !!!!!!”
-โม่งห้องกาม่าพยายามฆ่าโทรลเยยาย

146 Nameless Fanboi Posted ID:dAQGrS44OM

>>144 ข้อ 2 เอาจริงๆ ระยะหลังๆ รสนิยมคนใน ปท. พัฒนาแล้วก็มาทางนี้แหละ ไม่งั้นพวก บ. ที่ต้องดีลกับ ตปท. ไม่พยายามให้ความสำคัญทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องสวัสดิการแรงงานหรอก แต่ปัญหาคือ ปท. กำลังพัฒนา มันมี gap ระหว่าง บ. ใหญ่ๆ กับ บ.กลางๆ เล็กๆ ที่พวกหลังมีข้อจำกัดในการปรับตัวมากกว่า อันนี้รัฐต้องหาทางช่วยแหละ (แต่จะช่วยยังไงไม่รู้) ส่วนข้อ 3 นี่มันไปทางพอเพียงเลยนะ แต่ถ้าว่ากันตรงๆ พอเพียงอาจจะอยู่ตรงข้ามกับทุนนิยมโดยธรรมชาติก็ได้ เพราะทุนนิยมเป็นระบบที่ต้องมีเงินมาปั่นให้ ศก. หมุนตลอดเวลา มันถึงได้มีการสร้างความต้องการเทียม คือไมไ่ด้ต้องการใช้ แต่ต้องการมี จะภาพลักษณ์หน้าตาหรืออะไรก็เหอะ สมมติทุกคนเกิดพอเพียงขึ้นมาจริงๆ ใช้ของแค่เท่าที่จำเป็น ใช้จนมันพังซ่อมไมไ่ด้แล้วค่อยซื้อใหม่ กูว่าระบบ ศก. จะมีปัญหาเอานะ

147 Nameless Fanboi Posted ID:dAQGrS44OM

- The Chinese are an “industrious, filthy, obtuse people.”
- China is a “peculiar herd-like nation," its citizens "often more like automatons than people,” he writes. He says "even the children are "spiritless and look obtuse.”
- “It would be a pity if these Chinese supplant all other races. For the likes of us the mere thought is unspeakably dreary.”

มิตรสหายนักวิทย์ในตำนานท่านหนึ่ง กล่าวถึงเจ๊กไว้เมื่อ 100 ปีก่อน

148 Nameless Fanboi Posted ID:gWDeb31vsi

>>146 พอเพียงแม่งก็เหมือนแค่เอาหลักทางพุทธมาย้อมแมวไปงั้นแหละ จริงๆพวกที่บอกพอเพียงๆแม่งก็ไม่ได้สนใจไอ้หลักการเหี้ยไรที่เขียนไว้เยอะๆหรอก แม่งรู้แค่พอเพียงคือประหยัดรู้จักพออะไรทำนองนั้นแค่นั้น แม้แต่คนสอนเองยังไม่ทำเลย โคตรไร้สาระชิบหาย

149 Nameless Fanboi Posted ID:3hOA1O8WtG

เศรษฐกิจพอเพียง สโลแกนคือใช้แค่พอประมาณ ใช้ 3 เก็บ 1 ไม่ทำอะไรเกินตัว ทำไปเรื่อยๆ จนเริ่มมีฐานะและนำไปสู่ความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน อารมณ์แบบเจ๊กเข้ามาทำงานในไทยเก็บเงินงกๆๆ จนกลายเป็นเศรษฐีช่วยค้ำจุนเศรษฐกิจ

กูก็ไม่แปลกใจนะที่คนไทยบางคนที่ตามความผิดยังจนแร้นแค้นอยู่ ในขณะที่คนที่เข้าใจคอนเซปต์กลับเติบโตเป็นเศรษฐีหน้าใหม่อยู่เยอะแยะ เว้นเสียแต่ว่ามึงเป็นลูกคุณหนูที่วันๆ ไม่ทำห่าไรให้พ่อแม่ถวายเงินมาให้ใช้

150 Nameless Fanboi Posted ID:LBCHZzHrFt

>>149 ทุกวันนี้ ค่าแรงกับค่าครองชีพมันไม่สอดคล้องกันว้อย ไอ้คนที่มึงบอกเป็นเศรษฐีหน้าใหม่เนี่ย อย่าให้รู้นะว่ามีรากฐานมาจากครอบครัวดีแล้ว โดนแหกมาเยอะแล้วว่ารวยรุ่นพ่อ รุ่นปู่

151 Nameless Fanboi Posted ID:Pmvhd6sW/c

>>149 พอเพียงเอาไว้หลอกควายหลิ่มโง่ๆ

152 Nameless Fanboi Posted ID:dAQGrS44OM

>>150 มันถูกในยุคสมัยนั้นไง มีงานวิจัยจริงๆ นะเรื่อง Mindset ขนมหวานที่เชื่อเรื่องการทำงานหนักแล้วประสบความสำเร็จ สมัยก่อนเขาเรียกว่าพื้นที่มันยังว่างๆ อยู่เยอะน่ะ ไม่ใช่แค่พื้นที่กายภาพนะแต่หมายถึงพื้นที่ทาง ศก. ด้วย อย่างลูกชนชั้นล่าง-กลางล่าง ส่วนใหญ่ไม่จบ ป.ตรี หรอก ได้แค่ ม.3 ม.6 ปวช. ก็หรูแล้ว แต่ไปทำงานโรงงาน กิน OT เยอะๆ เก็บเงินไว้ พออายุมากหน่อยทำไมไ่หว แต่มีทักษะอื่นๆ ก็ออกมาทำอาชีพอิสระ ขับรถบ้าง เป็นช่างบ้าง ขายอาหารบ้าง อาจจะไม่ถึงกับรวย แต่ด้วยความที่สมัยก่อนค่าครองชีพไม่สูงมาก มันก็พอมีเงินเก็บน่ะ ทีนี้บางคนมีหัวทางธุรกิจหน่อยก็เอาเงินต่อเงิน ลงทุนขยับขยายกันไปจนรวย แต่นั่นคือสมัยนั้นนะ ไม่ใช่สมัยหลังปี 2000 ที่ค่าครองชีพก็สูงขึ้น แถมลู่ทางทำธุรกิจที่ดูเหมือนง่ายเพราะมีออนไลน์ก็ดูยากในความเป็นจริง เพราะ บ.ใหญ่ๆ เขาก็ไม่ปล่อยโอกาสเหมือนกัน กลายเป็นไปตรงไหนทุนใหญ่ก็ผูกขาดหมด แต่พวกขนมหวานไม่เข้าใจตรงนี้ ก็ดูถูกพวกที่เรียกร้องให้แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ (ส่วนใหญ่คือแดงกับส้ม) ว่าเป็นพวกงอมืองอเท้ากันไป แน่นอนว่ามีผลกับพวกลูกหลานด้วยนะ ทำไมคนรุ่นใหม่บางคนเป็นขนมหวาน ก็อาจเพราะภูมิใจที่พ่อแม่มาจากไม่มีอะไรเลยนี่แหละ แต่ก็ไม่เข้าใจยุคสมัยที่เปลี่ยนไปแล้ว

ปรากฎการณ์นี้ยังเกิดขึ้นในอเมริกาด้วยนะ คนอเมริกันก็มีค่านิยม American Dream ขยัน อดทน ประหยัด ทำงานหนักเพื่อรางวัลที่ยิ่งใหญ่ ถามว่ามันจริงไหมมันก็จริง แต่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนในปลายยุค 90 และเข้าสูยุค 2000 น่ะ กลายเป็นชนชั้นแรงงานทั่วๆ ไป ทั้งคอขาวคอฟ้า รายได้ต่ำกว่าพวก CEO หรือพวกเล่นหุ้นในวอลสตรีทเป็นร้อยเท่า แถมธุรกิจต่างๆ ก็เจอทุนใหญ่เข้าไปหมด ระยะหลังๆ มันก็มีคนอเมริกันตั้งคำถามเหมือนกันว่า American Dream ยังเชื่อถือได้หรือเปล่า

153 Nameless Fanboi Posted ID:jn0lIUFeT6

>>150 จริงเห็นมาเยอะ ธุรกิจอยู่ได้เพราะสายป่านยาวพ่อแม่รวย มีคอนเนคชั่น ล้มบนฟูก10ครั้ง สำเร็จครั้งนึง เอามาคุยซะใหญ่โต

154 Nameless Fanboi Posted ID:gWDeb31vsi

>>149 เติบโตเพราะพอเพียงจริงป่าวเหอะ ในการทำธุรกิจมันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ เอาแค่ระบบบัญชีแบบฝรั่งหรือความรู้ด้านการลงทุน การบริหาร การตลาด แม่งมีผลกับธุรกิจมากกว่าเรื่องพอเพียงหลายเท่า มึงจะเถียงกูไหม

155 Nameless Fanboi Posted ID:q2MrgffCte

>>152 คหสต. สมัยก่อนกูว่าขึ้นไปยอดบนง่ายกว่าจริง เพราะมีช่องว่างเยอะอย่างที่ว่า แต่คนจะขึ้นได้ก็ต้องขยันไม่ธรรมดา
สมัยนี้มันขึ้นไปถึงระดับบนยากขึ้นมากๆเพราะติดทุน แต่ในทางกลับกัน กูว่ายกระดับจากล่างมากลางนี่ง่ายขึ้นนะ
ช่องทางมันเยอะขึ้น สมัยก่อนช่องทางแม่งน้อย แต่ถ้าหาช่องได้ถูกแม่งไปได้ไกล

156 Nameless Fanboi Posted ID:dAQGrS44OM

>>155 สมัยก่อนการไต่จากล่างมากลางมันก็ง่ายกว่าสมัยนี้ อย่างที่บอกละช่องว่างมันเยอะและค่าครองชีพก็ยังถูก ทุนใหญ่ก็ไมไ่ด้กินรวบไปทุกอย่างแบบยุคนี้ คือถ้าไม่หวังว่าต้องเป็นเจ้าสัวให้ได้ อย่างน้อยก็คือพอมีพอกินไม่อดอยากแน่ๆ พวกขนมหวานส่วนใหญ่ก็ไมไ่ด้รวยอะไรมาก แต่เป็นชนชั้นกลางบนน่ะ ซึ่งพวกนี้ถ้าไม่ใช่ตัวเองก็คือพ่อแม่โตมาในยุคที่สังคมไมไ่ด้บีบคั้นมากเหมือนยุคนี้ เลยไม่เข้าใจว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว

157 Nameless Fanboi Posted ID:BlWeIm9y9/

** นักการเมืองบางคนบินไปเมืองนอกเพื่อแสดงให้เห็นกูไม่เกี่ยวกับม๊อปเด็ก
** แกนนำบางคนปิดปากเงียบสนิท ไม่แตะม๊อปเด็ก หรือแค่มองห่างๆอย่างห่วงๆ
** แกนนำบางคนจัดม๊อปเล็กๆที่ดูเหมือนอีเว้นท์
*
*
ไม่เแปลกใจที่ม็อปผู้ใหญ่สู้มาเกือบ 10 ปี (ไม่นับช่วง คสช. ที่ไม่เคลื่อนไหว) ไม่เคยชนะ
*
ม็อปเด็กจะชนะหรือเปล่าไม่รู้ แต่สงครามเพิ่งจะเริ่ม

#มิตรสหารท่านหนึ่ง

158 Nameless Fanboi Posted ID:BlWeIm9y9/

>>149 มึงดู อีลอน มัสก์ / เจฟฟ์ เบโซท พวกสายเทคในเมกา กู้ทั้งนั้นถึงจะ คนไทยถ้าอยากรวยรู้ไว้นะ สร้างสท. ที่เป็นกิจการให้ แล้วกู้รัวๆ มึงถึงจะรวย

159 Nameless Fanboi Posted ID:oOYnavZApl

>>158 รวยเพราะกู้มีไม่เยอะ แต่เจ้งเพราะกู้นี่เยอะ ตัวอย่างก็ตอน 40 ที่พอเพียงเริ่มดังไง

160 Nameless Fanboi Posted ID:80l24WtInR

>>158 >>159 พวกสายเทคมันใช้หุ้นที่บริษัทของตัวเองตั้งขึ้นมาคำ้ประกันเงินกู้ใช้จ่าย จะได้ไม่ต้องเสียภาษี ถ้าหุ้นขึ้นก็ขายบางส่วนมาใช้หนี้ เสียหุ้นน้อยมากๆ แต่บริษัทต้องระดับยูนิคอร์นไม่ก็มีมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์สูงที่สุด

161 Nameless Fanboi Posted ID:WzKAjFXNPS

>>158 รวยสุดในประเทศไทยกู้ไหมครับ

162 Nameless Fanboi Posted ID:BJT66ZVmky

>>152 พวกที่รวยจากยูทูปเบอร์ก็เริ่มหลังปี 2000 นะ กูมองว่าโอกาสรวยยังมีขึ้นอยู่กับว่าจะมองเห็นหรือเปล่า (ซึ่งกูไม่เห็น)

163 Nameless Fanboi Posted ID:Z5dI5D0NnH

รวยจากการหลอกแดกสลิ่่มก็มีนะ ปรึกษาป๋าเมือกได้ งานสบายๆ

164 Nameless Fanboi Posted ID:FbwXTR4mpS

วันที่ ทักษิณ โดนบอกว่าโกงที่ดิน รัชดาประชาชนคนไหนเดือดร้อนบ้าง

จำนำข้าวเกิดการโกงมั้ง ประชาชนคนไหนใครเดือดร้อนบ้าง

แต่เพื่อความถูกต้อง ก็ออกมาสู้กัน หรือเพื่ออะไรไม่รู้

วันนี้ รบ. บอกไม่ได้โกง ทำดีสุดแล้ว
ทำไมประชาชนเดือดร้อนฉิบหายทั่วทุกแห่ง
แล้วทำไมคนกลุ่มเดิมไม่ออกมาต่อต้านเพื่อความถูกต้องอีกรอบ

ประเทศพินาศ เพราะส ลิ่ม หรือ คนจำพวกนี้แหละครับ

165 Nameless Fanboi Posted ID:Isdz7Ba.BO

>>164 จำนำข้าวนี่กูจำไม่ผิด แขวนคอไปหลายครัว เผาโกดังข้าวไปหลายที่ ... คือจะด่าขี้ด้วยการให้ค่าขี้ในอดีตมันไม่มีประโยชน์ว่ะ ขี้ก็คือขี้

166 Nameless Fanboi Posted ID:Vai5Hr2iaY

>>165 สาเหตุคืออะไรครับ มีหมาตัวไหนไปต่อต้านไม่ให้เขาเอาเงินไปจ่ายให้ชาวนา ที่งี้เอามาโหน
ความจริงเม้นบน เขาก็แค่เทียบให้ดูนะว่า ตอนทักษินที่แก๊งหลิ่มต่อต้าน อ้างสารพัดเหตุมาขับไล่ ยังไม่ทำประเทศชิบหายเท่าคนดีสุจริตของหลิ่ม

167 Nameless Fanboi Posted ID:Z5dI5D0NnH

>>165 ตอนนี้แขวนคอตายก็มี รมควันตายในรถก็เยอะ เยอะกว่าตอนจำนำข้าวด้วยซ้ำ ยังไม่นับพวกที่ตายคาบ้านเพราะโควิทนะ

168 Nameless Fanboi Posted ID:Vai5Hr2iaY

คำประชดง่ายๆที่หลิ่มไม่เข้าใจก็มีอีกอย่าง "คนโกงแล้วประชาชนอยู่ดีกินดี ก็ให้กลับมาโกงอีกจะดีกว่า" คนพูดเขาก็ประชดนายกที่หลิ่มชอบอ้างว่าเป็นคนดีแต่ทำให้เกิดยุคข้าวยากหมากแพงแถมตรวจสอบไม่ได้ หลิ่มก็โง่แปลความไม่ได้แล้วหาว่าชอบคนโกงซะงั้น

169 Nameless Fanboi Posted ID:Vai5Hr2iaY

คนดีที่ไหนบริหารล้มเหลว ทำคนตายไปเจ็ดพันกว่ายังหน้าด้านหยุดเสาร์อาทิตย์ ดูคนตายวันละสองร้อย ปล่อย รมต สธ. ดีแต่เอาหน้าอยู่ในตำแหน่งต่อทั้งที่ล้มเหลวแบบนี้ประเทศอื่น เขาขับออกจากตำแหน่งแล้ว เห็นชัดๆว่ามันหวงอำนาจมากกว่าชีวิตคนไทย คนแบบนี้หรอที่เป็นคนดีในสายตาหลิ่ม

170 Nameless Fanboi Posted ID:Isdz7Ba.BO

>>167 ก็ด่าไปสิ ใครห้าม กูแค่ปรามว่าอย่าไปยกย่องจำนำข้าวให้มันมากแค่นั้น

171 Nameless Fanboi Posted ID:Isdz7Ba.BO

>>169 โจ ไบเดนทำตายไป หกแสนนี่ต้องทำไงวะ กูถามหน่อย

172 Nameless Fanboi Posted ID:Z5dI5D0NnH

>>171 ไปถามพลเมืองเมกาเอาดิหลิ่ม ไปเสือกอะไรเขา หา ไอ้สมองหมา

173 Nameless Fanboi Posted ID:Vai5Hr2iaY

>>171 ถึงว่าหลิ่มมันโง่ยังไงก็อย่างงั้น เอาโจ ไบเดน มาเทียบกับตู่ ตอนที่ประชาชนซื้อเวลาหนึ่งปีให้ไอ้ตู่ มันได้เตรียมพร้อมอะไรบ้างล่ะ แผนป้องกันคืออะไร วัคซีนดีๆอยู่ที่ไหน? ชุดตรวจสำหรับประชาชน? มาตรการเยียวยา? ขณะที่ไบเดนมา รีบดำเนินการทุกอย่างให้ประชาชนเมกากลับมาใช้ชีวิตโดยเร็ว ไอ้ตู่ยังหาแดกไม่เลิก ล่าสุดก็ชุดตรวจ

174 Nameless Fanboi Posted ID:QjFf7rz52r

ดูสื่อจากชามข้าวหมาก็งี้แหละ สวะชังชาติ

175 Nameless Fanboi Posted ID:B/sQVKfjuK

>>171 ปธน มันหยุดเสาร์อาทิตย์ป่าววะ หรือจะเอาหยุดแบบพ่องมึงหยุดแม่งทุกวันเลย เวิคฟอร์มหรรม555

176 Nameless Fanboi Posted ID:Vai5Hr2iaY

>>174 ก็ว่างั้นแหละ ไอ้พวกชังชาติยังคงอวยไอ้พวกทำชาติชิบหายอย่างไอ้ตู่อยู่ได้ วันๆเสพแต่สื่อมโนเฟคนิวส์อย่างtop news รักชาติจริงคงไม่บูชาปรสิตดูดเงินประเทศ

177 Nameless Fanboi Posted ID:L2SzVczIcf

โถ เคยตาบอดพอตาสว่างแล้วถูกทำให้บอดอีกที

178 Nameless Fanboi Posted ID:Vai5Hr2iaY

>>177 ยิ่งพูดยิ่งดูโง่นะ

179 Nameless Fanboi Posted ID:Pl.wlQooAo

สันติวิธีมีการlooting
#ร่าลในคลับเฮาส์ตีสาม

180 Nameless Fanboi Posted ID:Pl.wlQooAo

>>179 หรือว่าหมายถึงlootingนายทุนเหรอวะ
ฟังมาถึงจุดนี้ จุดอ่อนของม็อบบคือความเป็นม็อบorganic มีหลายแนวคิด หลายเป้าหมายเกิน ตอนนี้มันเละสุดๆเลยหว่ะคุณ แม่งมีความพยายามรวมทุกคนให้ได้เพื่อให้คนเยอะๆ มีทั้งextremistกูจะปะทะ เบียวBLMwannabe ต่างๆนาๆบาง
ทีอุดมการณ์ทัศนคติก็ไม่ตรงกัน ขัดแย้งในตัวเองก็ดี เป็นรูปแบบของการรวมม็อบยุคเสรีสินะ ดูสิ้ว่าจะไปได้ถึงไหนกัน ก็ไม่มีคําตอบหรอกว่าสิ่งที่ทำอยู่มันถูกหรือไม่ แต่กูว่ามันช่วยยื้อๆไปได้แค่นี้แหละ จนกว่าม็อบจะเปลี่ยนการบูรณาการเป็นแบบอื่น
-จนตอนนี้ยังตีความคําว่าเสาีภาพในการชุมนุมไม่เหมือนกันเลย บางคนก็ขอสงบแบบนิ่งเลยบางตนก็บอกการเผารถคือการประท้วงแบบสันติเพราะคือภาษีประชาชน haha bruh this is actually fucked up so badly dude
-ที่กูกลัวมากๆคือไม่มีใครอ่านเกมาล่วงหน้าของฝ่ายรัฐบาลจะทำ ตอนนี้มันมาอยู่ในจุดที่ทําอะไรมันก็สามารถยัดข้อหาให้ทางม็อบได้หมด ใช้สื่อpropaganda ,manipulate violence จัดฉากได้เองทุกสิ่งเลย ตอนนี้แม่งยังแก้เกมไม่ทันเขาเลย ไอเรื่องความเป็นเอกภาพของม็อบ การจัดการปัญหาความรุนแรงภายในม็อบเอง การที่โดนอีกฝ่ายล่อมาที่นู่นที่นี่ แกนนําแม่งคือมีหลายกลุ่มแต่ไม่รวมหัวประสานงานกัน แต่คนมันรวมเป็นก้อนๆเดียวกัน ตลกชิบหาย

181 Nameless Fanboi Posted ID:Pl.wlQooAo

มึงๆคิดยังไงกับเรื่อง “ เสรีภาพในการ ทําลายข้าวของสาธารณะ” วะ
ความคิดของกู กูไม่เถียงหลอกว่าจะทําลายได้เพราะมันเป็นภาษีประชาชน แม้มันจะมีกฎหมายห้ามทําลายทรัพย์สินส่วนกลาง แต่ถ้าบ้านเมืองมันมาถึงจุดที่หนักจริงๆ มันก็มีโอกาสที่จะแสดงออกแบบนี้ได้ในแนวคิดเสรีนิยม แต่กูมองว่าคิดแบบอุดมการณ์เกินแม่งมันเป็นปัญหามาก สุดท้ายมามองในความจริงคือมึงก็จะถูกทหารเอาภาพตรงนี้ไปทํากฏอัยการศึกได้ง่ายๆ ถึงไม่ไปถึงขั้นนั้นรัฐก็จะจัดซื้อสื่งที่พวกมึงทําลายไปด้วยภาษีมึงอีกที ค่อถามหน่อยแล้วมันได้อะไรกลับมาทั้งเชิงนามธรรมและรูปธรรมวะ หรือกูมองข้ามอะไรไปมั้ย?

182 Nameless Fanboi Posted ID:Pl.wlQooAo

>>149 อ้าวเป็นเศรษฐีได้เลยเหรอ ไหนว่า พ อ เ พี ย ง ไง พอมี พออยู่ พอกิน ไม่ผิดหลักเหรอนี่
//ok no more troll คือทฤษฎีมันใช้ได้มาพลิกแพลงให้รวยขึ้นได้ แต่ดูการใช้คําหรือภาพต่างๆที่แสดงออกมาพร้อมนโยบายนี้นั่นคือพยายามทําให้สังคมพื้นบ้านสมัยก่อนเป็นเรื่องธรรมดา ทําเรื่องความจนเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ทั้งที่ตลอดที่ผ่านมาสังคมเมืองกําลังเติบโต โลกหมุนไปในทิศทางเสรีนิยมทุนนิยมหมดแล้ว มันคือpropaganda ที่ทําให้คนพอใจกับความจน ไม่มองเห็นความเหลื่อมลํ้าทางเศรษฐกิจ ซะมากกว่า
ไอหลักนี่9ก็ไม่ได้เป็นคนคิดด้วยนะ

183 Nameless Fanboi Posted ID:Pl.wlQooAo

แกนนํานี่ไม่เคยตอบคําถามได้ว่า
เราจะทําอะไร? ทําแล้วได้อะไร?
แม่งตอบทีลากยาวอดมการณ์ชักแม่น้ำทั้งห้ามาหมด วนๆซํ้าๆทคือแค่อยากรู้ว่า พนคุณจะทําอะไร เดือนนี้คุณจะทําอะไร แล้วมีProgessอะไร ที่เป็นรูปธรรมอ่ะ
ไม่มีใครเคยตอบได้ เพราะกาก

184 Nameless Fanboi Posted ID:Pl.wlQooAo

ยังไงๆการสู่กับทหารก็ต้องใช้Tactician แบบทหารหว่ะno plan is plan is just too much lame and bullshit
ill suck my own dick for that

185 Nameless Fanboi Posted ID:Cyit.KVase

ผมถาม ไปอยู่ที่เกิดเหตุทำไม ถ้านอนอยู่ที่บ้านจะตายไหม?

มิตรสหายผู้ล่วงลับ

186 Nameless Fanboi Posted ID:iQgzmKAnLL

>>185 ตอบ ตายห่าวันละ200 จบสวัสดี

187 Nameless Fanboi Posted ID:iQgzmKAnLL

>>186 อ้าวโทดๆเพิ่งเห็นวันนี้239 ไม่ใช่200 ทพจรวย

188 Nameless Fanboi Posted ID:ZKSl8l2+xq

>>186 ถ้ามึงไม่ออกไปนอกบ้าน มึงจะติดโควิทไหม แล้วมึงจะทำให้คนที่บ้านติดโควิทตายกันหมดไหม

#มิตรสหายท่านหนึ่งที่ชื่นชม โควท ถ้านอนอยู่บ้านแล้วมันจะตายไหม

189 Nameless Fanboi Posted ID:ygC/WUe5J3

จากโพสต์ของประวิตร Pravit Rojanaphruk
ม็อบ Chaos ส่วนหนึ่งคือเด็กแว้น น่าจะใช่เลย
:
เด็กแว้นเป็นปฏิปักษ์กับตำรวจ (และอำนาจรัฐ) อยู่แล้ว
เพราะถูกตำรวจใช้อำนาจเกินขอบเขตจัดการมาตลอด
รวมทั้งกฎหมายที่ใช้กับเขาก็เกินสมควรแก่เหตุ
(ขับรถเร็วมีโทษปรับ แต่ปรับอย่างเดียวเอาไม่อยู่ ก็ขยายความผิดไปยึดรถ เล่นงานถึงพ่อแม่)
แถมการอยู่ในระดับล่างของสังคม ตำรวจก็มักจะใช้กำลังใช้อำนาจคุกคามข่มขู่เพื่อสยบ
:
พอเกิดม็อบไล่ตู่ ซึ่งในทางการเมือง เด็กรุ่นนี้ ฐานะครอบครัวอย่างนี้ ไม่ชอบรัฐบาลอยู่แล้ว
เมื่อตำรวจใช้กำลังสลายม็อบ ทีแรกๆ ก็คงมีแค่บางส่วนเข้าร่วม แต่พอมีเพื่อนโดนกระสุนยาง โดนแก๊สน้ำตา ก็ตามกันมาล้นหลาม
:
การรวมตัวกันออกมาม็อบ เป็นการปลดปล่อย เกิดความรู้สึกมีพลัง communitas อย่างที่ประวิตรนิยาม แถมสนุกสะใจ
ได้ท้าทายตอบโต้ตำรวจ + ได้อยู่ฝ่ายที่ถูกต้อง (ไล่ไอ้ตู่) เคียงข้างพี่ๆ นักต่อสู้ประชาธิปไตย (ถึงใครจะว่าแนวทางนี้ไม่ถูก)
แต่พลังที่คุมไม่ได้นี้ก็เกิดขึ้นแล้ว
:
มีข้อสังเกตด้วยว่า ยิ่งม็อบสันติ Car Mob มีคนเข้าร่วมล้นหลาม
ม็อบ Chaos เด็กแว้น ก็ยิ่งเยอะ แบบวันอาทิตย์
แทบจะยกกันมาทั้งกรุง
แถมตำรวจยังทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ไล่ (จับได้ 2-3 คน)
ตำรวจเก่งแต่มาจับแกนนำม็อบสันติ คุกคาม Wevo ทะลุฟ้า แต่แกนนำม็อบ Chaos ไม่มีให้จับ
:
นี่คือโจทย์ที่รัฐบาลและตำรวจจะต้องหาทางแก้
(ลาออกซะหรือเลิกปิดกั้นใช้ความรุนแรง)
ไม่งั้นตั้งตู้คอนเทนเนอร์ที่ดินแดงเมื่อไหร่
ก็เท่ากับเรียกเด็กแว้นมาสนุกกับการท้าทาย คฝ.
(ซึ่งไอ้พวกคลั่งก็ยังไปหาเรื่องกับชาวแฟลตอีก)

190 Nameless Fanboi Posted ID:ZKSl8l2+xq

>>189 ใช่ๆ ทุกคนต้องสามารถแวนซ์ได้อย่างเสรี ปรับแต่งท่อได้อย่างเสรี ทุกอย่างต้องมีเสรีภาพ

191 Nameless Fanboi Posted ID:Cyit.KVase

น้องมิ้*ท์จะได้ผัวตาลีบันกี่คนครับ

192 Nameless Fanboi Posted ID:NiC6mmyRPg

ที่อยากศึกษาก็มีเรื่องหนี้สาธารณะ ซึ่งเป็นงานวิจัยที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ พอมาเป็นนักการเมือง มาเป็น ส.ส. ก็เห็นว่าสิ่งที่เราเคยพูดไว้เมื่อ 8 ปีที่แล้วมันก็ยังสดใหม่ ยังพูดถึงได้อยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ก็คือหนี้สาธารณะที่เราพูดกันอยู่ว่าห้ามเกิน 60 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพีมันนับรวมหนี้ที่ไม่ควรจะรวม อย่างหนี้รัฐวิสาหกิจที่มีฐานะทางการเงินที่ดีอยู่แล้ว เช่น ปตท. เราไม่จำเป็นจะต้องกังวลเลยว่าเขาจะกลายมาเป็นภาระทางการคลังหรือเปล่า ในขณะเดียวกันหนี้สาธารณะก็ไม่ได้รวมหนี้บางตัว เช่น หนี้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

มันมีความลักลั่นย้อนแย้งของการใช้นิยามคำว่า ‘หนี้สาธารณะ’ ซึ่งถ้าเราดูจริงๆ สิ่งที่เราจะต้องกังวลว่ามันจะกลายเป็นภาระทางการคลังในอนาคตมันมีไม่ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีแน่ ถ้าเรามองหนี้สาธารณะด้วยเลนส์ที่มันเป็นจริงว่าหนี้อะไรควรจะเป็นภาระ หรือไม่เป็นภาระ ความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะจะชนเพดานก็จะลดลงไปอีก หรือเราอาจจะเปลี่ยนเพดานไปเลยก็ได้ เปลี่ยนนิยามตรงนี้ไปเลยก็ได้ อันนี้เป็นงานวิจัยที่เคยทำและกำลังคิดอยากจะเขียนบทความเรื่องนี้อยู่ เดี๋ยวพอหมดฤดูงบประมาณก็คงจะได้นั่งนิ่งๆ และเขียนเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้

193 Nameless Fanboi Posted ID:ggM/afLQG8

>>189 มึงแปะชื่อคนโพสมันก็ไม่เป็น "มิตรสหายท่านหนึ่ง" มั้ย

194 Nameless Fanboi Posted ID:L7LZfDft0H

ชอบมาก คำใหม่ของพระที่มีการรับประทานอวัยวะเพศชาย = ฉันบวบ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

195 Nameless Fanboi Posted ID:TSA3shkgil

โหนกระแส วันนี้ตีแสกหน้าสังคมไทยเรื่องผัวๆเมียๆ และสันดานชายแท้ไทยชิบหาย

ผัวไปซื้อ Sex Worker กิน แล้วกินประจำ ไปๆมาๆเศรษฐกิจแย่ ดันเกิดไอเดีย จะชวนยัยคุณโส มาอยู่ร่วมบ้านเดียวกับเมียหลวง จะได้ช่วยทำมาหากิน ยัยเมียหลวงไม่ยอม จะเอาเรื่องไปหายัยเมียน้อย ยัยคุณโสบอกฉันไม่ได้อยากได้ผัวพี่ค่ะ จะเอาไปทำเหี้ยไรคะ ส่วนอีผัว จนจะตายห่าอยู่แล้ว เสือกยังเจียดเงินไปซื้อโส แต่บอกทั้งหมดคือไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยก?

เรื่องนี้สอนอะไร กับดักมากมายในเรื่องนี้ทั้งหมด

อีผัว โง่สุด กินแล้ว เสือกจะคิดว่าโลกหมุนรอบควย ได้กับคุณโส ก็คิดว่าโสจะมาอยู่ด้วย ร่วมกันทำมาหากิน อีดอก มันงานเค้า มึงจ่ายเงินเค้า ได้เค้าแล้ว ก็จบกัน ทั้งหมดที่เขาพูดจาหวานๆใส่ ก็งานเค้า ตัวเองต่างหาก มีเมียแล้ว ก็ยังจะหงี่ไปซื้อกิน ซึ่งก็ติดกับดักอีก เมียหลวงเสือกเรื่องบนเตียงไม่แซ่บ แล้วก็ดันไม่คุยกัน ไม่ปรับไม่อะไร หย่าก็ไม่หย่า เสือกเจียดเงินที่ก็ไม่ได้ว่ามีมากมายไปตีโสอีก แล้วคนจนอีดอก ผู้ชายแท้จน เมียไม่ตอบสนองความต้องการแล้ว จะเลิกก็ผิด จะซื้อกะหรี่กินก็ผิด ผิดทั้งกฎหมาย และต่อให้ทำให้ถูกกฎหมายแล้ว ก็ไม่รู้ว่าเรทราคาแบบถูกกฎหมายจะมีปัญญาจ่ายไหม จ่ายไปแล้ว เสือกคิดเป็นจริงเป็นจัง เข้าวาทะกรรม “เงี่ยน จน เจ็บ”

เมียหลวง รองลงมา แต่งงานกันมาเข้าตำราผัวตีเมียไห้ ควรจะเปิดเพลง “รักควรมีสองคน” คลอ เกิดเรื่องแบบนี้ทีไร ผู้ชายไม่เคยผิด ก็ว่าไม่ได้ แต่งงานมาอยู่กับผัว ฝากทุกอย่างไว้กับผัวแล้ว หมดจากผัว จะให้ออกไปทำอะไร ไปเสาะหาที่ไหนอีก ตีค่าตัวเองเป็นผู้หญิงใช้แล้วไปอีก แต่ก็โชคดีที่หย่าแล้ว แต่ก็กลับมาสู้ ฉันไม่ขออยู่ร่วมชายคาเดียวกับผู้และเมียน้อย สงสารตัวเอง สงสารลูก

ฝ่ายเมียน้อยชนะสุด ฉันจะรู้สึกหรือไม่รู้สึกมีใจไม่ใช่ประเด็น ได้เงินแล้วค่ะ เสือกจะมาวอแว แล้วใครบอกมึงคะ ว่ากูนอนกะผัวมึงแล้วจะหมายความว่ากูอยากได้ กูอยากไปอยู่ด้วย อย่ามโน

เรื่องเพศของสังคมนี้มีปัญหา ถ้าไม่ยกเรื่องนี้มาพูดว่าวัฒนธรรมพวกนี้มีปัญหา เรื่องแบบนี้ก็จะมีต่อไป จะมีเพลงเมียหลวงตีกับเมียน้อยดังเพลงต่อไป ทั้งๆที่แม่งเป็นปัญหาครอบครัว

196 Nameless Fanboi Posted ID:5cl7XkFTuf

>>192 คนไทยไม่ควรกังวลกับหนี้ของภาครัฐ แต่ควรกังวลหนี้ครัวเรือนมากกว่า ประชาชนรายได้น้อยลง รัฐก็จะเก็บภาษีได้น้อย และการกู้หนี้ของภาครัฐก็เป็นสิ่งจำเป็นในการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน

197 Nameless Fanboi Posted ID:kL5W3DVwMK

>>196 กูขำ มึงคิดจริงๆหรอวะว่ารัฐบาลสนใจประชาชนไม่มีจะแดก?

198 Nameless Fanboi Posted ID:mmgciDw8fD

>>197 แต่เจ้าสัวสนแน่ ถึงแม้จะไปสอยโรงแรมราคาถูกได้ ถ้าคนไม่มาเที่ยวก็เจ๊งอยู่ดี และอย่าลืมว่าตอนนี้ดอกเบี้ยตำ่ 0.5% เกือบเท่าญี่ปุ่น ภาระไม่มาก

199 Nameless Fanboi Posted ID:lhAwjJbBLI

>>195 แย่จัง ถ้าสมัยชายเป็นใหญ่นะ ผช จะถูกยกย่องว่าแมนกล้าทำกล้ารับ เมียหลวงจะถูกหาว่าเห็นแก่ตัว เพื่อความสุขผัวแค่นี้ทำไม่ได้ เมียน้อยจะโดนด่าว่าล่านไร้ศักดิ์ศรี

คิดถึงสมัยก่อนจัง

200 Nameless Fanboi Posted ID:saruxe.osq

>>199 เกิดมา 30 ปี พ่อมีเมียน้อยก็ไม่เห็นมีใครมาพูดแบบที่มึงพิมพ์มานะ ยุคที่ว่าคือยุคไหน

201 Nameless Fanboi Posted ID:fJqfSGJIXX

คุยกับเพื่อนทนายวันนี้ว่า ช่วงนี้คำพิพากษาจำคุก คือคำพิพากษาประหารชีวิตแบบสุ่ม เพราะในคุกโควิดระบาดชนิดติดกัน 95% ทุกคุก โชคดีรอด โชคร้ายตาย ถ้ามีโรคประจำตัวคือตายแน่นอน รักษาไม่ทัน

อนาถแท้ระบบยุติธรรมและผู้พิพากษาไทย

202 Nameless Fanboi Posted ID:XUnYUAiVAJ

>>201 บัย กิ้น

203 Nameless Fanboi Posted ID:xntL4o3bTG

เรื่องจากทวิตเตอร์

ระหว่างเข้าไปทำความสะอาดห้องของคุณพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วก็เจอช่องลับอยู่ใต้พรม ทุกคนที่บ้านไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีช่องลับแบบนี้อยู่ เผลอคิดไปว่ามีใครฆ่าคุณพ่อแล้วสวมรอยเข้ามาอยู่แทนรึเปล่า ถ้าเปิดออกแล้วเจอศพจะทำยังไง แต่พอเปิดมาก็เจอแผน cd หนังโป๊สาวหน้าอกใหญ่แอบซ่อนอยู่

https://twitter.com/kasumishirakaba/status/1428533163488251906

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

204 Nameless Fanboi Posted ID:t1h.lC9cVG

>>203 ลูกได้นอนฝันร้ายเพราะผีอำแน่

205 Nameless Fanboi Posted ID:+0K08HZA.y

สมัยรัชกาลที่ 7 เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ 1929 ทรงยอมลดงบประมาณของพระองค์ แต่ก็ยังโดนคณะราษฎรปฏิวัติจนได้ในที่สุด มาถึงสมัยรัชกาลที่ 10 ไม่ลดงบประมาณของพระองค์ แล้วในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น?

206 Nameless Fanboi Posted ID:QHFgQ.a.6H

>>205 อาจเป็นแบบฝรั่งเศส

207 Nameless Fanboi Posted ID:jymFKOxcHd

>>205 แต่ดุลข้าราชการออกตั้งแต่2469
จากปี2468มีข้าราชการ 87269คน
ปี2475 มีข้าราชการเหลือ 72351คน

งบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลลดลงทุกปีตั้งแต่2470(ก่อนgreat depressionอีก) สวนทางกับรายรับที่โตขึ้นตลอด เกินดุลปีละ5-9ล้านบาทจากรายรับประมาณ100-110ล้าน (หดตัวครั้งเดียวคือปี2474 เป็นปีเดียวที่ขาดดุลด้วย)

เฉือนงบตัวเองเป็นคนสุดท้าย ก็คิดเอา

208 Nameless Fanboi Posted ID:7G0sfn77e8

เห็นติ่งเพื่อไทยเที่ยวอ้างทำนองว่า เหตุที่ไม่แตะงบฯสถาบันกษัตริย์เป็นเพราะไม่ได้หาเสียงไว้ แล้วผมโคตรงงเลย

คือการพิจารณาความเหมาะสมของการจัดสรรงบประมาณมันเป็นหน้าที่ปกติของสภาฯไม่ใช่เหรอ?

แล้วมันจะต้องออกเป็นนโยบายหาเสียงอะไรไส้ล่วงหน้าด้วยเหรอ?

ถ้าต่อไปประยุทธ์เกิดปิ๊งไอเดียจัดซื้อสร้อยข้อมือหินนำโชคแจกประชาชนทุกคน เพื่อไทยก็จะไม่ค้าน ด้วยเหตุผลว่าเพราะไม่ได้หาเสียงไว้ ยังงั้นเหรอ?

คนที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยนี่บูชาพรรค ปกป้องพรรค กันจนตรรกะพังพินาศขนาดนี้เลยเหรอ?

209 Nameless Fanboi Posted ID:ojAhO.CQfN

>>208 เพื่อไทยไม่แตะอยู่แล้ว จะอ้างอะไรก็อ้างได้แหละ แต่ถ้าตู่ทำเพื่อไทยก็คงใส่เต็มเหมือนกัน

210 Nameless Fanboi Posted ID:U63WEg0mqD

#พ่อของเราเป็นตำรวจจบเตรียมทหาร โรงพักคือที่ที่ไว้มาหาพ่อ ไม่ใช่มาพิมพ์ลายนิ้วมือ มาเป็นผู้ต้องหา
ตั้งแต่เล็กๆตำแหน่งของพ่อคือรองผู้กำกับที่พัทยาแล้ว โตขึ้นมาเราเลือกเรียนกฎหมาย ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะอิทธิพลของครอบครัวฝั่งแม่ ที่จบคณะนี้มาตั้งแต่พ่อเฒ่า #ตั้งแต่สมัยธรรมศาสตร์ยังเป็นตลาดวิชา จนมาถึงน้าที่เป็นผู้พิพากษา
ลุงที่เป็นนักการเมือง จึงเป็นธรรมดา ที่เราจะถูกถามไถ่ ถูกคาดหมายว่าต้องใช้ชีวิตแบบนั้น หรือแม้แต่การเป็นนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์แบบที่ที่บ้านเป็นมาตลอดหลายสิบปี
ช่วยเป็นอะไรสักอย่าง ที่ไม่ด่างพร้อย ถูกต้องดีงาม ที่พ่อแม่ไม่ต้องตอบคำถามคนอื่นให้มากความ
ไม่ใช่ว่าเราไม่พยายาม เราพยายามเป็นลูกสาวที่ดีของแม่ พลเมืองที่ดีของรัฐ ประชาชนที่เชื่องเชื่อต่อระบบ
#แต่มันมีบางอย่างไม่ปกติ ความจริงหลายอย่างอยู่นะ
วันที่เราสอบติดนิติ มธ. น้องๆที่เราขึ้นไปสอนบนดอยต้องออกจากระบบการศึกษาเพราะไม่มีเงิน เรียนไปชีวิตก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เข้าตลาดแรงงานเลยดีกว่า
วันที่เราเครียด เราซื้อเสื้อผ้าทีครึ่งหมื่น ไปวิ่งสวนรถไฟ #แต่มีคนอีกมากที่นั่งสูบบุหรี่กินเหล้าเวลาเขาเครียด และถูกตราหน้าว่าโง่ ว่าเป็นภาระ ว่าทำตัวเอง คือเขาเหนื่อย เขาใช้แรงงานมาทั้งวัน มึงจะให้เขาคลายเครียดด้วยการไปวิ่งสวนลุมหรือไปหอศิลป์ ว่าซั่น
วันที่เราซื้อคอนโด มีคนอีกมากที่นอนอยู่ตรงนั้น บนพื้นถนน และคนที่เหลือเดินผ่านไปเหมือนพวกเขาไม่มีตัวตน
ทำไมไอสังคมเฮงซวยนี่ต้องทำเรารู้สึกผิดในทุกจังหวะก้าวของชีวิต ทั้งๆที่เราไม่ได้ปล้นใครมา ทำมาหาได้มาเอง เราเองก็ลำบาก เราสมควรได้สิ่งที่เรามีทุกวันนี้ไม่ใช่เหรอ
แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น เราแค่โชคดี โชคดีที่เกิดเป็นลูกของพ่อแม่ เรามีแค่โชคจริงๆ
แล้วคนที่เหลือเขาผิดอะไร ผิดอะไรถึงขนาดนั้น
ภาษีที่เราจ่ายไม่ได้ช่วยลดความเหลื่อมล้ำอย่างที่เราอยากให้เป็น
#กฎหมายที่เราเรียนมาไม่ได้เป็นที่พึ่งของคนบริสุทธิ์อย่างที่เราอยากเห็น
และตำรวจ ไม่ได้เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างที่มันควรจะเป็น
ในวันที่ภาษีของเรา เงินส่วนของเราถูกเอาไปใช้เพียงเพื่อคนกลุ่มเดียว ครอบครัวที่มีเกินพออยู่แล้วไม่กี่ครอบครัว เราควรได้ตั้งคำถามออกมาดังๆ
นี่ไม่ใช่นิติสงคราม เพราะประชาชนไม่ได้มีโอกาสใช้กฎหมายปกป้องตัวเองด้วยซ้ำ เราโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว
ทุกวันนี้ตำรวจกลายเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชนเสียเอง เราไม่ไว้ใจ กังวล โรงพักไม่ใช่ที่ปลอดภัยเหมือนตอนเด็กๆที่ถ้าวิ่งเข้าไปจะได้กอดพ่ออีกแล้ว
นี่ไม่ใช่โลกที่เรารู้จัก นี่ไม่ใช่โลกที่เราอยากให้เป็น
เราที่มีตาข่ายสังคมหนาแน่นขนาดนี้ยังเจอขนาดนี้ คุณนึกถึงคนที่ลำบากกว่าเรา เสียงเบากว่าเรา เปราะบางกว่าเราออกไหมว่าเขาต้องเจอขนาดไหน
อะไรทำให้คุณมั่นใจ ว่ารายถัดไป จะไม่ใช่พวกคุณ
เราไม่รู้เลยว่าต้องเข้าไปอยู่ในคุกจริงๆวันไหน #เพราะมันเป็นเรื่องการเมืองไม่ใช่กฎหมาย คุณอย่าคาดหวังว่ามันจะเหมือนในตำรา คุณอย่าคิดว่าเราจะได้รับความเป็นธรรม
เรากลัว กังวล อยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ
เราแค่ชวนสังคมตั้งคำถามถึงชีวิตที่ดีกว่า สิ่งที่เราควรมีควรได้ในฐานะคนคนหนึ่ง แต่วันนี้เรากลับถูกแปะป้ายแขวนว่าเป็นศัตรูของรัฐ
มันไม่ยุติธรรมเลย #มันไม่ยุติธรรม ⁉️
นี่ไม่ใช่โลกที่เราเชื่อ นี่ไม่ใช่สังคมที่เราอยากส่งต่อ
และเราเชื่อว่าคุณเอง ก็เหมือนกัน

211 Nameless Fanboi Posted ID:39hcJPZeq2

>>210 เกิดมาชีวิตดีกว่าคนดิ้นรนอีกเยอะ ยังกล้าบ่นไม่ยุติธรรมอีกเรอะ

212 Nameless Fanboi Posted ID:L8Oho4O4.X

>>205 นอกจากที่ >>207 บอกนั้น หลัง2475 ก็มีปัญหาเรื่องลดงบนี่แหละ ว่าจะไม่ยอมให้ลดอีก เพราะคิดว่าที่ลดมาพอแล้ว สรุปก็คือมีการยอมลดงบก็จริงแต่ก็แค่ระดับที่อ้างว่าลดแล้ว ไม่ต่างกับกลาโหมยุคนี้ ส่วนพวกไม่ยอมลดเลยนั้นนอกประเด็น

213 Nameless Fanboi Posted ID:U63WEg0mqD

>>211 ถ้ามึงมองความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหา มึงก็จะมองว่ามันไม่ยุติธรรมแหละ กูชีวิตแย่กว่าน้องเขาหน่อย แต่ก็ยังโชคดีเรียนจบ ป.ตรี และทำงานที่กูอยากทำแม้รายได้ไม่เยอะ เพราะพ่อแม่กูมีทุนสำรองพอเลี้ยงตัวเองหลังเกษียณน่ะ แน่นอนกุรู้สึกผิดตลอดเวลาใครบอกกูเก่งกูขยัน เพราะถ้ากูเกิดในครอบครัวปากกัดตีนถีบ กูคงไม่จบมหาลัยหรอก เผลอๆ มีเมียตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ ละ

214 Nameless Fanboi Posted ID:39hcJPZeq2

>>213 กูยังมองว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำมาจากสภาพสังคมอยากสบายแล้วโทษแต่คนอื่น

215 Nameless Fanboi Posted ID:U63WEg0mqD

>>214 ถ้าลดความเหลื่อมล้ำได้ คนก็จะมีโอกาสมากขึ้นน่ะ

216 Nameless Fanboi Posted ID:7Q70M7S84n

ภาษีร้อยละ 7 คือ เมื่อจ่าย 100 เสีย 7 บาทนะครับ เห็นชัดๆก็ค่าแรงขั้นต่ำ 300 เฉลี่ยวันละ 21 บาท คิดรวมทั้งปี 21 x 365 = 7665 บาทนะ ยังไม่รวม ภงด. ที่เสียแต่ละปีอีก แล้วยังมีภาษีครัวเรือนต่างๆอีก มีภาษีที่เก็บจากค่าน้ำค่าไฟอีก มันไม่ใช่ร้อยละ 7 บาทแล้ว มันมากกว่านั้น

#รัฐบาลขูดรีดปชช.
#ครอบครัวปรสิต
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

217 Nameless Fanboi Posted ID:7Q70M7S84n

>>216 vat 7% เป็นอะไรที่ขูดรีดประชาชนมากๆเลยนะเนี่ย แถมแดกไปไม่คืนให้ประชาชนอีก

218 Nameless Fanboi Posted ID:1WoFD.DF74

>>216 โง่

219 Nameless Fanboi Posted ID:7Q70M7S84n

>>218 คิดว่าตัวเองฉลาดเหรอ หลิ่ม ทั้งที่มึงโง่ให้เขาจูงจมูก อยู่ใต้ตีนเผด็จการ

220 Nameless Fanboi Posted ID:rr6R.nPqai

คนให้ตั๋วช้างคือใคร?
เจ้าของโรงงานแป้งที่แท้จริงคือใคร?
คนอย่างผู้กำกับโจ้ถึงได้เคยดูแลหน่วยปราบปรามยาเสพติดข้ามชาติ แต่ก็มีการส่งออกแป้ง ออกนอกประเทศอยู่ตลอดเวลา
จุดเริ่มต้นของระบบอุปถัมภ์ที่มีโครงสร้างเชื่อมต่อกันไปถึงยอดมาจากไหน?
งบประมาณภาษีของประชาชนที่ควรถูกใช้ให้กับประชาชนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย กลับถูกลำเลียงขึ้นไปถึงยอดแล้วค่อยถูกแบ่งเศษเล็กเศษน้อยลงมาตามชั้น จนถึงประชาชนชั้นล่างสุดที่ได้เพียงแค่เศษภาษีของตนเอง
จะเป็นทุนใหญ่ในประเทศนี้ได้ ต้องเข้าหาที่ไหนก่อน?
รัฐประหารต้องได้รับการยอมรับจากไหน? ถึงจะทำสำเร็จ

สลิ่ มพอจะมองออกรึยัง ว่าจุดยอดสุดของพีระมิดที่กดทับคนไทยอยู่คืออะไร?

221 Nameless Fanboi Posted ID:mJYOHZBmbz

>>220 เพิ่มเติมหน่อย ตั้งแต่2475ด้วยซ้ำ สมัยเรียนนอกเถียงกันเรื่องอะไรระหว่างปรีดีกับป. ก่อนปฏิวัติก็เถียงกันระหว่างคณะราษฎร หลังปฏิวัติก็เรื่องสมุดปกเหลืองจะทำอะไร พอยุคป.เป็นใหญ่ก็ว่าจะล้ม ยุคพคท ก็ว่าคอมมี่จะล้มอีก พอ49 ไอ้แม้วก็จะล้ม 57ก็ทำเพื่อเปลี่ยนถ่าย+วัตถุประสงค์บอกชัดเพื่อปกป้อง ปัจจุบันก็ตีกันเพราะม้อบเอาข้อ3 แล้วล่าสุด ฝ่ายค้านตีกันเพราะพทไม่แตะข้อ3 กกจะโดนยุบเพราะพูดถึงอะไรในสภา ทุกอย่างเชื่อมโยงกันไปสู่ศูนย์กลางไต้ฝุ่นจุดเดียวกันหมด ยิ่งปิดยิ่งเจอ

222 Nameless Fanboi Posted ID:1xgmNkKbgA

>>220 เก่งแต่ทฤษฎีสมคบคิดอ่ะ หลักฐานความจริงไม่มีเลย ว่างๆ หัดหย่ากับกาวลาเท็กซ์บ้างนะ

223 Nameless Fanboi Posted ID:S7ZjBa7FXP

>>222 หลักฐานความจริง ??? แหมไอ้สัสโง่นะมึง ว่างๆไปถามพ่อมึงด้วยนะว่าเหาะได้เหรอถึงให้คนอื่นกราบอะ

224 Nameless Fanboi Posted ID:pBSD1IJXJy

>>222 กำลังพูดถึงตำนานพ่องสร้างแผ่นดินอยู่เหรอ

225 Nameless Fanboi Posted ID:GlgJSdCcNH

ถ้าคิดว่าการให้ออกจากราชการคือจุดจบ. แสดงว่าพวกเธอยังไม่เคยอ่านประวัติชีวิตของ ธรรมนัส พรหมเผ่า

226 Nameless Fanboi Posted ID:iBcttuS/Lv

ให้ออกจากราชการมันยังไม่จบอยู่แล้ว ตามขั้นตอนคือให้ออกไว้ก่อน แต่คดีจะจบต่อเมื่อศาลตัดสิน ถ้าศาลตัดสินว่าผิดจริง นอกจากติดคุกแล้วยังมีโทษวินัย ถ้าไม่ปลดออก (ยังปราณี อย่างน้อยบำเหน็จบำนาญที่สะสมไว้ก็ยังอยู่) ก็ไล่ออก (อันนี้บำเหน็จบำนาญที่สะสมไว้หายหมด)

227 Nameless Fanboi Posted ID:GlgJSdCcNH

เมื่อพูดถึงการปฏิรูปตำรวจ มีหลายภาคส่วนมากที่ส่งเสียง

สิ่งที่หวัง

- เอางานสอบสวนไปขึ้นตรงกับอัยการแทน ลดภาระงาน ลดอัตราฆ่าตัวตายของพงส.
- แยกนรต.ออกจากรร.เตรียมทหาร
- มีงบประมาณรองรับสำหรับอุปกรณ์ทำงาน ไม่ใช่ต้องซื้อเองหมดตั้งแต่เครื่องปริ้นท์ยันปืน

สิ่งที่ได้

- ตำรวจราบ แถมชื่อยังหลุดออกจากสตช.
- พรบ.ตำรวจตัวใหม่ ยังมีมาตราที่ลอกมาจากวินัยทหารที่อนุญาตให้ยิงผู้ใต้บังคับบัญชาที่ "กำเริบเสิบสาน"
- ตั๋วช้าง ตั๋ววัง ตั๋วธรรมนัส
- ตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นสายวังเกือบทั้งหมด
- คฝ.ไล่ยิงเยาวชนกลางกรุงเทพมหานคร

ปัญหามีตั้งแต่ปัญหาหน้างาน ปัญหาเชิงโครงสร้าง ปัญหาเชิงวัฒนธรรม ตำรวจไม่เคยถูกมองว่าดีไม่ว่าในสมัยไหน

ไล่เรื่อยมาตั้งแต่ยุคอัศวินตำรวจ ไม่มียุคไหนที่ตกต่ำเท่ายุคสมัยที่ต้องอยู่ใต้ท็อปบู้ทของรัฐบาลประยุทธ จันทร์โอชา

ถึงเวลาแล้วที่เราต้องปฏิรูป และคดีของฆาตกรที่ชื่อโจ้ก็เปรียบเหมือนฟางเส้นสุดท้าย

หากโจ้รอด ระบบยุติธรรมตาย ความหมายคือแบบนั้น

ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวของพวกท่านเอง

เราไปต่อกันไม่ไหวแล้วจริงๆ

#ปฏิรูปตํารวจ

228 Nameless Fanboi Posted ID:GlgJSdCcNH

ฟังสลิ่ มใน CH : คนแต่ก่อนยอมตายเพื่อ king ได้ ดูอย่างทหารแต่ก่อนสิยังยอมตายเพื่อ king ในสนามรบเลย
Me : ทหารแต่ก่อนคือไพร่ที่โดนเกณฑ์ไปโว้ย ไม่มีไพร่คนไหนอยากไปเป็นทหาร ที่เขาต้องตาม king ไปรบเพราะถูกบังคับไปทั้งนั้น ดังนั้นไม่เคยมีทหารหรือไพร่ยอมตายเพื่อ king ด้วยความสมัครใจ

229 Nameless Fanboi Posted ID:iBcttuS/Lv

>>228 ถ้าพวกระดับนายทหาร พวกขุนนางอะคงมีละ พวกนี้ก่อนมียศ ก็ฝึกอบรมแบบมหาดเล็กมาก่อนทั้งนั้น ก็ต้องปลูกฝังให้จงรักภักดีแหละ

230 Nameless Fanboi Posted ID:FskuF83Jox

>>228 อย่าเอาความคิดสมัยใหม่ไปตัดสินค่านิยมสมัยก่อน แน่นอนกูไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะภักดีต่อกษัตริย์หรืออย่างไร แต่ในสมัยที่"ชาติ"ยังไม่เป็นตัวเป็นตน การที่ชาวบ้านคนทั่วไปมีคติแบบไหนมึงก็ลองไปคิดดู

231 Nameless Fanboi Posted ID:GlgJSdCcNH

>>230 คติแบบไหนอะหรอ กษัตริย์พิษณุโลกที่อยุธยาตั้งเองยังทิ้งอยุธยาเลย

อะ แล้วชาวบ้านบางระจัน สู้เพื่อปกป้องตัวเอง

ตายเพื่อกษัตริย์สมัยก่อน ถ้ามึงไม่ยอมตายมึงก็โดนตัดหัว ก็เลือกเอา

232 Nameless Fanboi Posted ID:6M2/zEEOXT

>>217 เกลียดการจ่ายภาษีนักหนา

ก็ ยกเลิกภาษีทุกอย่าง แล้วให้รัฐบาลพิมพ์เงินมาใช้ มาจ่ายเงินเดือนข้าราชการเอง

วิธีแก้ไขปัญหาโลกแตกง่ายๆ ถ้าสามกีบได้เป็นรัฐบาล

233 Nameless Fanboi Posted ID:JOcfDam0s8

>>230 ตาม >>231 พ่อนเรศเองแม่งเคยเป็นขุนนางยุดยาด้วยซ้ำ มีส่วนร่วมก่อการแย่งบัลลังก์ในยุดยา ได้แต่งตั้งโดยkยุดยาให้ไปครองพิษณุโลก แถมได้ลูกสาวkยุดยาอีก แม่งเจอทัพพม่าบุกยังยอมแพ้แล้วร่วมทัพมาตียุดยาเลย เรื่องเสียกรุง1เนี่ยไอ้พวกบ้าปวศชาตินิยมด่าคนทรยศขายชาติหัวควยทั้งหลายก็ไปด่าแต่ไอ้จักรี ไม่ด่าพ่อนเรศก็เพราะเป็นพ่อนเรศแค่นั้นแหละ เรื่องเอาค่านิยมคนยุคใหม่ไปสวมแทนยุคเก่าเนี่ยมึงไปบอกไอ้พวกสอนปวศชาตินิยมก่อนเหอะ หลักคิดเรื่องชาตินี่สมัยอยุธยามันยังไม่มีเลย

234 Nameless Fanboi Posted ID:VQzMMob1Xl

>>232 เวเนซุเอลาของแท้เลย เงินจะกลายเป็นกระดาษเปล่า เงินบาทจะมีมูลค่าเหมือนเงินกีป

235 Nameless Fanboi Posted ID:yqa+8Gye/d

ด้วยความอยากรู้ว่า ตำรวจด้วยกันคิดยังไงกับเรื่องซ้อมผู้ต้องหาจนตาย เลยแอบเข้าไปดูในกลุ่มตำรวจ มีความเห็นประมาณนี้

ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน ตำรวจเราไม่มีพฤติกรรมแบบนี้ เรื่องทุกแย่างในเซฟเฮ้าส์ต้องจบในเซฟเฮ้าส์ กระบวนการทุกอย่างคือสิ่งจำเป็นที่เราทำมาตานเพื่อให้ได้ข้อมูล คนเอาคลิปออกไปคือเลวมาก ทำไมขายเพื่อ ขายพี่น้องตัวเอง แล้วก็แถมท้ายว่า เป็นการสร้างข่าวทำลายผู้บังคับบัญชา

อ่านแล้วก็สยองกับความคิดเห็นตำรวจไทยเหลือเกิน

ไม่มีความเป็นคนหลงเหลือกันแล้ว

236 Nameless Fanboi Posted ID:eexfWJ9z4N

>>235 ฝ่ายความมั่นคงเอาจริงๆ ไม่ชอบพวกนักสิทธิฯ หรอก บางคนเข้าขั้นเกลียดเลยด้วยซ้ำ เพราะวัฒนธรรมองค์กรเขาสอนมาให้เชื่อเรื่องความรุนแรง ตาต่อตาฟันต่อฟัน เขามองว่าเขาอยู่ในโลกที่คนธรรมดาไม่มีวันเข้าใจ อะไรแบบนี้น่ะ

237 Nameless Fanboi Posted ID:H4dQ1snQ6a

>>234 เวเนเซุเอลา ก็ตัวอย่างของ ประเทศที่ใช้ระบบเศรษฐกิจแบบ " สังคมนิยม " แบบที่สามกีบเรียกร้องกันนั่นแหละ คลาสสิคสุดๆ

เรียกร้องรัฐสวัสดิการแบบยุโรปเหนือ ไม่ได้ดูสภาพเศรษฐกิจหรือสภาพการเงินของประเทศที่ตัวเองอยู่ คือ ต่อให้ยกเลิก ทหาร ยกเลิกตำรวจ ยกเลิกข้าราชการ ยังไม่พอจ่ายเลยมั้ง

ก็เหมือน ลูกร้องเอากัมดั้ม จากพ่อที่ทำอาชีพเก็บของเก่าขาย พ่อทนลูกแหกปากไม่ไหว ไปกู้หนี้นอกระบบมาซื้อให้ ลูกฟินน้ำว่าวแตก สุดท้ายดอกเบี้ยทับถมบานเบอะ ต้องย้ายบ้านหนีแก๊งหมวกกันน็อค

238 Nameless Fanboi Posted ID:x7/K0HDznM

>>237 ไม่ เวเนจริงๆ แล้วรวยมาก ไม่ใช่คนเก็บของเก่า แต่เป็นสุลต่านน้ำมันเลย ที่มันล้มทุกวันนี้เพราะใช้เงินโง่ๆ คิดแต่จะแดกสิ่งที่มีโดยไม่สนว่ามันจะหมดไป ส่วนสแกนดิเนเวียมันเลือกแบบฉลาดกว่า เพราะรู้ว่ามันต้องหมดไป ถึงไม่เอากำไรมาใช้ แต่เอาไปลงทุนเพื่อให้เงินงอกเองได้หลังจากน้ำมันหมดไปแล้ว

ไทยควรทำแบบนี้ แต่ภาคการเมืองไทยไม่แข็งแกร่งพอจะคัดค้านเสียงปชช.ได้ ถึงต้องใช้นโยบายน้ำมันมาหาเสียงตลอด

239 Nameless Fanboi Posted ID:H4dQ1snQ6a

>>238 ทุกวันนี้ สามกีบเค้ายังเชื่ออยู่เลย ว่าไทยรวยน้ำมันเท่าซาอุดิอาระเบีย แต่เอามาขายให้ ปชช.แพง ถึงขนาดโยงว่า ราชวงศ์เป็นเจ้าของบ่อน้ำมันอะไรว่าไปนั่น

240 Nameless Fanboi Posted ID:eexfWJ9z4N

เวเนฯ เป็นประเทศที่เอาจริงๆ บรรยากาศคล้ายภาคใต้ของไทยเลยนะ

https://www.youtube.com/watch?v=-riEk4JS02o
https://www.youtube.com/watch?v=rfCj14tot0k
https://www.youtube.com/watch?v=pAzlNGU1fsI

ดีกว่าไทยด้วยซ้ำตรงที่มีน้ำมันมหาศาล แต่ไม่รู้คิดยังไง นอกจากเรื่องยึดบริษัทน้ำมันเอกชนมาทำรัฐวิสาหกิจแล้วมีปัญหาเด็กฝากเด็กเส้นเอาคนห่วยๆ เข้าไปเป็นพนักงานยันผู้บริหารแล้ว ยังใช้พลังงานน้ำเป็นหลักในการปั่นไฟฟ้าอีก ถ้าสมมติว่าน้ำมันไม่เน้นขาย แต่เอาไปทำโรงไฟฟ้าเป็นหลักนะ ประเทศนี้จะไม่มีปัญหาไฟดับเรื่อยๆ หรอก เขื่อนหลายแห่งพอเข้าหน้าแล้งทีก็ลุ้นที น้ำแห้งก็ปั่นไฟไม่ได้ละ ถ้าระบบไฟฟ้าเสถียร อุตสาหกรรมต่างๆ มันก็มาของมันเองละ

241 Nameless Fanboi Posted ID:63D9+eF2tL

>>238 เวเน แมร่งบ้าสวัสดิการเกินเหตุ รัฐใช้สวัสดิการหาเสียงตลอด เลยล่มจม

242 Nameless Fanboi Posted ID:eh17pqm.Ex

>>237 งอแงจะเอาสวัสดิการบินฟรี ภาษีปีละสามหมื่นล้าน ผลประโยชน์อีกเยอะแยะอะหรอ ขำจัง

243 Nameless Fanboi Posted ID:wlFB/9oAmt

>>233 กูหมายถีงชาวบ้านทั่วไป ไม่ใช้เจ้าขุนบุญนาย สมัยก่อนมันมีแต่"อำนาจ"กับ"หน้าที่"มีไพร่ขึ้นกับนาย นายก็ขึ้นกับนายไปตามลำดับ การรับรู้เรื่องของ"เจ้า"สำหรับคนทั่วไปมันเป็นเรื่องไกลตัว กรณีศึกสงครามโดนเกณฑ์ก็โดนไปหรือไม่ก็หนีเข้าป่า(ทางเลือกมีไม่มาก สมัยก่อนไม่ได้มีทหารอาชีพด้วย) อีกกรณีก็มีความลำบากข้นแค้นพอให้เกิด"กบฏ"มันก็มีการรวมตัวกันโดยมี"หัวหน้า"เป็นผู้อ้างว่ามีอำนาจเช่น กบฏธรรมเถียร,กบฏบุญกว้าง
ดังนั้นมึงต้องอย่าลืมว่าสมัยก่อน ไม่มี"สิทธิ" "เสรี"เหมือนปัจุบัน

244 Nameless Fanboi Posted ID:yqa+8Gye/d

>>243 เอ้า ก็พิมพ์ว่าไกลตัว แล้วมึงจะแย้งเรื่องไม่มีคนตายเพื่อเจ้าทำไม สมัยก่อนก็อย่างที่กุบอกไม่ไปรบก็โดนตัดหัว สู้ไปรบเพื่อนอดกลับมาก็แค่นั้น

245 Nameless Fanboi Posted ID:x7/K0HDznM

>>239 ทุกสีละที่เชื่อเรื่องน้ำมัน เวลามีข่าวทีไรปตท.โดนตลอด ขนาดไม่เกี่ยวยังโดนเลย

>>241 บ้าสวัสดิการไม่ผิดหรอก แต่มันสวัสดิการผิดวิธีจนคนเป็นง่อย อย่างสวีเดนที่รัฐสวัสดิการดีมากๆ แต่ทำไปเพื่อให้คนทำงานได้อย่างมีความสุข เลือกทำงานที่ใช่ได้ เวลาทำธุรกิจผิดพลาดหรือเจ็บป่วยก็ล้มบนฟูกได้เรื่อยๆ คุณภาพคนมันถึงพัฒนา

เรื่องนี้เหมือนง่ายแต่ยากนะ ต่อให้ไทยเลียนแบบก็ไม่ได้ผลแบบนี้หรอก เพราะคุณภาพคนห่างกันเยอะ

246 Nameless Fanboi Posted ID:yqa+8Gye/d

ร.9 ดีมั้ยคับ?
“ผมว่าดีนะคับ เพราะเวลาไปประกวดวาดรูปแล้วถ้าวาดรูปเค้า หรือโครงการต่างๆ เราก็จะชนะรางวัลหมดเลย” ขอยาดขำนะคะฮือ 555555555555555555555555 #clubhouseTH

247 Nameless Fanboi Posted ID:hIhKUN3Gk2

>>244 มึงก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่ กูแค่แย้งว่าอย่าตัดสินอะไรโดยไม่ดูบริบทของยุคสมัยแค่นั้น

248 Nameless Fanboi Posted ID:yqa+8Gye/d

>>247 แล้วสรุปจะแย้งอะไร ในเมื่อต้นทางไม่ได้ตัดสินอะไร มันคือfactล้วนๆว่า คนไม่ได้พลีชีพเพื่อกษัตริย์ ประโยคนี้ไม่จริง? ก็จริง กุงงสรุปมึงมาบอกสิ่งที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว แค่นี้?

249 Nameless Fanboi Posted ID:yqa+8Gye/d

การประดิษฐ์คำจริงๆคือ "กษัตริย์มิอาจปฏิเสธได้" ซึ่งไม่จริงเลย หลายกลุ่มพยายามรัฐประหาร แต่เมื่อไม่ได้รับ"ลายเซ็น" ก็ทำให้ไม่ได้รับการยอมรับจากทหารหรือกลุ่มอำนาจอื่นๆ ที่จริงภารกิจของกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภาระหน้าที่คือรักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ+กระบวนการรัฐสภา เพราะสภามีผู้แทนราษฎรผู้มาจากประชาชนอันเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่จะเป็นผู้กำหนดชะตาของตัวเองและประเทศที้แท้จริง
แต่เมื่อกษัตริย์เซ็นรัฐประหารไปแล้ว เท่ากับว่า เสียงกษัตริย์คนเดียวมีน้ำหนักมากกว่าประชาชนทั้งชาติ ทำอย่างไรให้คนทั้งชาติ และกลุ่มอำนาจต่างๆจะยอมเชื่อได้ว่าเสียงของพระราชามีอำนาจศักดิ์สิทธิ์มากกว่า หากเซ็นหรือตรัสหรือให้การสนับสนุนแล้วเท่ากับได้รับความชอบธรรม เป็นที่ยอมรับ จึงต้องสร้าง propaganda ผ่านสื่อ ผ่านบทเรียน สร้างความน่าเชื่อถือและศักดิ์สิทธิ์ ให้คนลืมไปว่าต่อให้มีอำนาจเซ็นก็ไม่ได้หมายความว่าคณะรัฐประหารที่ได้ลายเซ็นมีความชอบธรรมมากกว่าเสียงของประชาชน

250 Nameless Fanboi Posted ID:eexfWJ9z4N

>>245 เรื่องสวัสดิการเวเนฯ ที่ผิดคืออุดหนุนราคาสินค้าเกษตรนำเข้าให้ราคาต่ำมากๆ น่ะ (แต่ก่อนรวยจากเงินขายน้ำมันไง) ผลคือเกษตรกรเวเนฯ ก็เลิกทำไร่ทำนาสิ ทำไปก็ขายไม่ได้เพราะต้นทุนสูงกว่าของนำเข้า พอราคาน้ำมันร่วง สิ่งที่ตามมาก็คือข้าวยากหมากแพงด้วย แล้วก็ยิ่งเละไปกันใหญ่เมื่อรัฐบาลบ้าจี้พิมพ์เงินออกมาจนกลายเป็นเงินเฟ้อ ทีนี้ของกินนำเข้าก็แพงด้วย ของกินในประเทศก็ไม่่มีแล้ว ถ้าไม่ทำแบบนั้น กูว่าเวเนฯ คงไม่เละแบบที่เป็นอยู คืออย่างน้อยน้ำมันร่วงก็ยังมีอาหารกินบ้างน่ะ

บ้านเราก็เคยมีการถกเถียงเรื่องจำนำข้าวกับประกันราคาข้าว ติ่งเพื่อไทยจะบอกว่าจำนำข้าว ทำให้ชาวนารวยขึ้น แต่ติ่ง ปชป. จะบอกว่าจำนำข้าวทำมากๆ สุดท้ายข้าวไทยจะขายไมไ่ด้ ไม่ใช่แค่รัฐรับซื้อสูงกว่าราคาตลาดจนรัฐต้องขายขาดทุน แต่เกษตรกรเองก็จะสักแต่ปลูกให้พ้นๆ ไป เน้นปริมาณเข้าว่า คุณภาพช่างมันเพราะรัฐบาลรับหมด ระยะยาวพังกันหมดแน่ๆ ใช้ประกันราคาว่าไม่ควรต่ำกว่าแรงงานภาคอื่นๆ ดีกว่า เพราะถ้าปีไหนผลผลิตคุณภาพดี ปริมาณมาก รัฐก็ไม่ต้องจ่าย ชาวนาก็ได้กำไร

(ส่วนขนมหวานจะสุดโต่งไปเลย คือไม่เอาทั้งประกันและจำนำ มองว่าทำไมรัฐบาลต้องเอาภาษีของคนที่รู้จักพัฒนาตัวเองไปช่วยพวกงอมืองอเท้าด้วย)

251 Nameless Fanboi Posted ID:JOcfDam0s8

>>243 เป็นเรื่องไกลตัว ก็ถูกแล้วไงไม่ได้ยอมตายเพื่อพ่อง แค่มันสั่งให้ไปก็ต้องไป แค่นั้น

252 Nameless Fanboi Posted ID:.ekhPYEJc8

เวเนน้ำมันเยอะ แต่แม่งเป็นน้ำมันเปรี้ยว ต้องผ่านขั้นตอนเยอะกว่าจะเอามาใช้ได้ น้ำมันแขกเป็นน้ำมันหวานไม่ต้องทำอะไรมากก็เติมรถได้

เวเนมันรวยเอาก็ตอนที่แขกไม่ขายน้ำมันดันราคา คนเลยมาซื้อกับมันแทน แต่พอแขกยอมขายกำไรก็หดลงเรื่อยๆ

253 Nameless Fanboi Posted ID:oULKWeOBI/

ถ้าก้าวไกลได้เป็น รบ. กูว่าแมร่งพิมพ์เงินมาทำ " รัฐสวัสดิการ " แน่นอน เพราะสัญญาน้องส้มไว้เยอะมากๆ จนแทบจะฟินน้ำว่าวแตก ไปวอร์กับเพื่อไทย เพียงเพราะโดยก้าวไกลตอแหลเรื่องสวัสดิการหีแตดไว้เยอะ

ไม่ได้ประชดนะ โอกาสเป็นไปได้สูง

254 Nameless Fanboi Posted ID:JAxbkgnNd+

>>253 รัฐสวัสดิการด้วย vat 7% เนี่ยนะ ห้ามขึ้นภาษีด้วยนะ ถ้าทำได้กูกราบเช้ากราบเย็นเลย

255 Nameless Fanboi Posted ID:VJSBuWPqib

>>254 พ่อตูบมึงขึ้นไปกี่ภาษีแล้วว้าาหลิ่ม อสกข ในความโง่ของพวกมึง

256 Nameless Fanboi Posted ID:y5P2rrbmgQ

>>253 แค่ตัดงบไม่จำเป็น ก็พอทำสวัสดิการพื้นฐานแล้ว

257 Nameless Fanboi Posted ID:I5pzhLVSbW

>>253 ว้าแย่จังประเทศแทบพังคามือรัฐบาลปัจจุบันแล้วทำไงดี อ๋อ มโนว่าถ้าอีกฝ่ายได้เป็นรัฐบาลคงจะแย่กว่านี้ไง อ่า...ฟินละ ฝันดี

258 Nameless Fanboi Posted ID:M5.jWR64uK

>>256 พื้นฐานของมึงมีอะไรมั่ง แล้วต่อให้ตัดที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่พอหรอก ไม่มีประเทศไหนพอถ้าไม่เก็บภาษีสูงๆ ยกเว้นประเทศน้ำมันที่คนน้อยๆ นั่นละถึงจะทำได้

259 Nameless Fanboi Posted ID:VJSBuWPqib

>>258 ประเทศไทยมีภาษียิบย่อยเยอะมากๆนะหลิ่ม เยอะจน ไอ้ป้อมเอาไปผลาญโง่ๆได้เยอะแยะ กองทุนน้ำมัน ภาษีสรรพสามิตนี่ อ้อลืมเงินภาษีเลี้ยงปรสิตด้วยนะ

260 Nameless Fanboi Posted ID:JAxbkgnNd+

>>259 พูดแบบนี้ไม่เข้าใจโครงสร้างภาษีแน่ๆ

261 Nameless Fanboi Posted ID:VJSBuWPqib

>>260 พูดแบบนี้ไม่ได้ไปดูงบที่โดนถลุงโง่ๆแน่ๆ

262 Nameless Fanboi Posted ID:M5.jWR64uK

>>260 ไม่ต้องเข้าใจก็ได้ รู้แค่ว่าตู่กับพ่องเหี้ยก็พอแล้ว นอกนั้นเกินแรมไป

263 Nameless Fanboi Posted ID:VJSBuWPqib

>>262 ไม่ต้องรู้มากก็ได้ เชื่อไอ้ตู่มันบอกว่าไม่มีเงินแค่นั้นก็พอแล้ว นอกนั้นเกินแรมไป เกินความสามารถสมองไป

264 Nameless Fanboi Posted ID:bcvUlf6tv9

เพิ่งเห็นที่สรยุทธคุยกับชูวิทย์เรื่องโจ้ มันส์ชิหัยยยยย

สรยุทธ: มึงตกใจภาษาอะไรวะ ลบกล้องได้ สั่งตร.ให้ไปบอกหมอว่าเสพยาเกินอย่างนั้น

ชูวิทย์: นี่ช็อกนะเนี่ย ถ้าไม่ช็อกทำไง เอาไปเผามั้ง

เฮียยุทธออกจากคุกแล้วอัพเว่ลโคตร 555

265 Nameless Fanboi Posted ID:bcvUlf6tv9

เรื่องที่น่าเบื่อและแย่ที่สุดในคดี #โจ้ถุงดำ คือการขยายและเบี่ยงประเด็นไม่เข้าท่า จนแทบจะบดบังเนื้อหาหลักของเรื่องไปเสียหมด

ไปเอาเรื่องหมวดไวกิ้ง ตำรวจสาวถือมือถือให้ผบ.ตร.มาตีข่าว
ไปมองเรื่องจัดฉาก ความขัดแย้งในสภ.นครสวรรค์
ไปจับผิดเรื่องตัวจริงตัวปลอมอะไรก็ไม่รู้งี่เง่า
ไปเอาข่าวพระมาให้กำลังใจกลายเป็นเรื่องใหญ่ ไปเพ่งเล็งที่พระ(เพี้ยนๆ)

แต่แก่นสารหลักจริงคือ การซ้อมทรมานผู้ต้องหา มันผิดแต่ต้น
ดำเนินคดีก็ต้องทำไปตามนั้น เนื้อข่าวก็ต้องเจาะไปตรงนั้นให้ชัด

การเฉไฉออกนอกประเด็น เบี่ยงเรื่อง ทำให้แก่นสารที่เกิดขึ้นจริงลบเลือนหายไป เป็นกับแทบทุกเรื่องในสื่อ

เรื่องใหญ่ก็เลยดูกลายเป็นเรื่องเล็ก เรื่องร้ายแรงก็ถูกลืมง่ายๆ ไม่มีใครกัดติดเกาะตามเอาจริงเอาจัง

บ้านเมืองเต็มไปด้วยคนสติไม่ดีแบบไม่รู้ตัว ไม่ยอมไปหาหมอ ขนาดจิตแพทย์ยังจะพาลสติไม่ดีตามไปกันหมด

คดีนี้ยังอีกยาว ถ้าประชาชนเลิกสนใจเมื่อไร โอกาสหลุดรอลอยนวลก็เกิดทันที

ดูคดีบอสกระทิงแดง ขนาดประชาชนสนใจ ตอนนี้รายงานของคณะวิชา มหาคุณ ก็หายไปกับสายลม และบอสก็ยังลอยนวล ไม่รู้สตช.แปลหมายจับเสร็จหรือยัง

266 Nameless Fanboi Posted ID:I++iBUt2uI

>>265 ถ้ากูบอกว่า Mindset คนไทยจำนวนมาก ยังเห็นด้วยกับศาลเตี้ย มึงเชื่อกูป่าวละ สมมติลองไม่มีคลิปออกมาดิ ต่อให้ตอนหลังผลชันสูตรออกมาว่าคนตายตายเพราะขาดอากาศ ไม่ใช่เสพยาเกินขนาด กูว่าคนก็ไม่ออกมาช่วยญาติคนตายหรอก อิกนอร์กันไปแหละ เพราะลึกๆ ก็อยากให้ตายอยู่แล้ว

267 Nameless Fanboi Posted ID:bcvUlf6tv9

ผมว่านะ ประธานสีเค้ากำลังหลงตัวเองอย่างผิด ๆ ว่าประเทศจีนของเขามันมาถึงจุดอิ่มตัวของ capital accumulation จนถึงระดับที่สามารถปฏิวัติไปสู่สภาวะคอมมิวนิสต์ได้

คือในทฤษฎีมาร์กซิสม์แบบดั้งเดิมเนี่ย การจะปฏิวัติเปลี่ยนแปลงสังคมมันจะไม่สามารถทำได้ถ้ากำลังทุนและเทคโนโลยีการผลิตมันไม่ถึงขั้นพร้อม ๆ กับ exploitation มาถึงขั้นสุด ไอ้ขั้นที่ว่านี่ไม่รู้ว่าจริง ๆ มันแค่ไหนมีตั้งแต่คนที่คิดว่ามันไม่จำเป็น จนไปถึงคนที่คิดว่ามันต้องเป็นเทคโนโลยีระดับพันปีแสง แต่ประเด็นก็คือตอนนี้ประธานสีน่าจะคิดว่าจงกั๋วของเค้าอะพร้อมแล้ว เราถึงเห็นการ nerf ภาคเอกชนเต็มไปหมดและลามไปทุกหย่อมหญ้า

ผู้นำที่นำมานานเกินไปหรือแก่แล้วเพี้ยนนี่แม่งเป็นทุกที่เลยแหะ อาจเป็นเพราะ psychological factor ที่ต้องการเอาชนะความสำเร็จของตัวเอง อย่างสีหวางตี้นี่ผลงานแกโดดเด่นมากนักนะ การเอาชนะสิ่งที่ตัวทำมาในทศวรรษที่ผ่านมาให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกลมันก็มีอยู่แค่ไม่กี่อย่าง ซึ่งเอาเข้าจริงผู้นำประเทศคอมมิวนิสต์ทุกคนแม่งก็มีความเบียวฮีโร่วีรชนประชาชนอยู่ไม่มากก็น้อย ดังนั้นมันไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นอะไรประมาณนี้ออกมาเป็น public policy บ้าบอ คนรอบตัวก็ไม่กล้าเตือน เพราะมันเก่ง มันพิสูจน์มาตลอดว่ามันนำประเทศมาถูกทาง ดังนั้นมันไม่มีใครกล้าแทงสวนหรอก ได้ไปหลับสบายอยู่ในลำกล้องปืนใหญ่แน่ แต่ผู้นำแบบนี้แหละ ที่ผิดครั้งเดียวเท่านั้น ไอ้ที่ทำมาก่อนหน้านี้นี่หายไปหมดแน่นอน

268 Nameless Fanboi Posted ID:JvGed31yDl

>>266 คำว่ามากมันกว้างไป สมัยก่อนถ้ามีข่าวแบบนี้คนรุมด่าพ่อค้ายาเละเป็นขี้แล้ว ไอ้โจ้เผลอๆไม่ต้องหนีด้วย แค่โดนย้ายรอสู้คดี

269 Nameless Fanboi Posted ID:Vf52CNHtgq

>>267 ความสำเร็จของจีนทุกวันนี้ควรให้เครดิตเติ้งมากกว่าสีนะ สิ่งที่สีทำจริงๆ มีแค่ BRI ที่ยังบอกยากว่าสำเร็จมั้ย รถไฟครส.คนดูแลโดยตรงก็เป็นหลี่เค่อเฉียงมากกว่า

ส่วนที่ทำใมสีถึงทำแบบนี้ส่วนใหญ่มองว่าเป็นการรวบอำนาจเพื่อให้ตัวเองทัดเทียมเหมามากกว่า การคุม big tech คือการตัดกำลังผู้นำรุ่นเก่ามากกว่า เพราะบ.พวกนี้เกิดขึ้นในสมัยผู้นำรุ่นก่อน

แล้วเพราะกลังงี้ละเติ้งถึงจำกัดสมัยของผู้นำให้อยู่ได้แค่ 10 ปีแล้วเปลี่ยนรุ่น เวลาอ่านประวัติเติ้งเรื่องการวางนโยบายนี่แกมองการไกลมากนะ ไม่มีแกก็ไม่จีนทุกวันนี้จริงๆ แต่สีเกลียดแกมากจนพยามลบภาพเติ้งไป เพราะตัวเองบูชาเหมามากกว่า

270 Nameless Fanboi Posted ID:U+fuYyI3J.

>>267 มันก็นานมากละนะ step ที่ให้คนรวยรวยก่อนของจีนน่ะ 40 ปีละ พอถึงช่วงโควิดคงคิดว่า ไม่เป็นไรมาก ไป step ถัดไปได้เลย
step ที่ให้คนรวยช่วยคนจน
ฟังแล้วมันก็ดูเป็นเหตุเป็นผลกับที่ทำอยู่ตอนนี้ แต่ยังไงกูก็ไม่ชอบวิธีนี้อยู่ดี ถ้าผลลัพธ์มันออกมาดี ก็เพราะผู้นำดี ถ้าผู้นำไม่ดีก็ลงเหวไปเลย ระบอบเนี้ย

271 Nameless Fanboi Posted ID:myWrpA5UuN

เพลาๆหน่อยลูก ละๆมันมั่ง มันร้ายแรงลูกไอ้หีเนี่ย ยิ่งกว่ายาบ้าอีก ถ้าใครได้เสพ ใครได้ติด อย่างนี้แหละ เสียผู้เสียคน เพราะอย่างงี้แหละลูก ห่างๆมันหน่อยก็ได้

272 Nameless Fanboi Posted ID:778ylYTFPF

>>267 สเต็ปสุดท้ายของการปฏิวัติตามแบบคอมคือ หลังจากแจกจ่ายทรัพยากรจนเท่ากันทุกคนแล้ว ให้ยุบพรรคแล้วคนในพรรคกลับมาใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดา เพราะหน้าที่จบแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องมีพรรคอีกต่อไป

คิดว่ามันจะทำกันไหมล่ะ

273 Nameless Fanboi Posted ID:1R1HTXXZKm

>>267 >>269 ไม่วะ กูว่าการคุมบริษัทเทคเป็นเทรนด์ของทั้งโลก และประเทศอื่นๆก็ทำมาแล้วเหมือนตอนที่มาร์กซักจะทำคริปโตเป็นของตัวเองแล้วโดนเพ่งเล็งจนพันธมิตรออกไปส่วนหนึ่ง ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกอุตสาหกรรมแพลตฟอร์มมีปัญหาเรื่องการผูกขาดจริง ถ้าในประเทศอื่นบังคับให้ขายสินค้าแบบเอ็กคลูซิฟก็โดนฟ้องเอาง่ายๆอยู่แล้ว ยิ่งมีการแข่งขัน บันได้แห่งความสำเร็จก็จะเปิดสู่คนอื่นๆได้มากขึ้น เทคโนโลยีก็จะดีขึ้นด้วย

274 Nameless Fanboi Posted ID:1R1HTXXZKm

>>267 >>271 เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมาร์กซงมาร์กซิสสักเท่าไร แต่ความเหลื่อมลำ้เป็นปัญหาที่จีนกำลังเผชิญอยู่จริงๆ จนถึงขนาดเกิดลัทธินอนราบ ไม่ทำงานหนัก พออยู่พอใช้ เพราะอดหลับอดนอนไปคนที่ได้ประโยชน์ก็แค่คนที่รวยอยู่ก่อนแล้ว

275 Nameless Fanboi Posted ID:MVU3X/im6o

>>273 มันต้องควบคุมจริง แต่ประเทศอื่นๆ ยังทำตามหลัก rule of law และทุนนิยมอยู่ ส่วนของจีนใช้หลัก rule of xi กับ rule of ideology เป็นหลัก ของเมกาต่อให้ big tech ล้ำเส้นยังไงก็ต้องจัดหารตามกฎหมาย ปชช.ทุกคนถูกคุ้มครองโดยกฎหมาย ไม่ใช่รัฐคิดจะทำอะไรก็ไม่มีใครค้านได้แบบจีน มันผิดเพี้ยนเกินไป

276 Nameless Fanboi Posted ID:w06Zevjr.X

นอกจากเรื่องtechยังมีเรื่องวงการบันเทิงอีก เห็นข่าวล่าสุดไปเสือกกระทั่งการด่ากันแบนกันของติ่งดารา เยอะจัดไม่รู้เหี้ยอะไรนักหนา

277 Nameless Fanboi Posted ID:ewy7UtXJL.

กูเดานะ จีนไม่ต้องการซ้ำรอยประเทศอื่น คือมองแล้วว่าทุนนิยมเป็นสิ่งจำเป็นในการขับเคลื่อนประเทศ แต่ปัญหาของทุนนิยมในประเทศอื่นๆ คือพอผ่านไประยะหนึ่ง จะมีทั้งบุคคลและองค์กรที่มีอิทธิพล มีบารมี มีทุน ขึ้นมาทาบรัศมีภาครัฐ ซึ่งคนหรือองค์กรเหล่านี้อาจเข้าแทรกแซงนโยบายรัฐได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม (ลองนึกถึงพวกล็อบบี้ยิสต์กลุ่มทุนต่างๆ ในเมกา หรือพวกอีลีทกลุ่มเจ้าสัวทั้งหลายในบ้านเรา) เลยต้องทุบใครหรือกลุ่มไหนก็ตามที่เริ่มโตแล้วเห็นว่าแข่งบารมีกับ CCP น่ะ

278 Nameless Fanboi Posted ID:SzywmlGZ79

อยากให้สังคมยอมรับ LGTV แต่พวกมึงยังเหยียดเพศตรงข้ามอยู่เลย พอเขาเล่นมั่งก็หาว่าเขาเซกชั่วฮาราจุกุมึง
ก็สมละที่ตาลิบันแม่งจะแค้นขนาดนั้น

279 Nameless Fanboi Posted ID:BOQRAXm.fH

พวกพ่อค้าแม่ค้าโดนเรียกภาษีย้อนหลังเพราะตอนนี้เข้าระบบแล้ว ตรวจสอบได้ ออกมาร้องกันเป็นแถว

คนทำงานประจำพนักงานกินเงินเดือนสะใจกันทั้งเมือง พนักงานบริษัทต้องจ่ายภาษีรายได้แต่พวกพ่อค้าแม่งเลี่ยงไม่จ่ายมานาน โดนเรียกเก็บเหมือนคนอื่นๆแล้วทำบ่น

280 Nameless Fanboi Posted ID:bxEvY+s2JY

>>279 ตะ..แต่เลาจ่ายแวทแล้วนะ ต้องเสียพาสีด้วยเหยอ

281 Nameless Fanboi Posted ID:LNBzzvQSP0

>>280 จ่ายภาษีเท่าต่างด้าวเนี่ยนะ หรือจะให้รัฐลดสวัสดิการตามอัตราที่เสียไหมล่ะ แฟร์แฟร์กันไปเลย

282 Nameless Fanboi Posted ID:4eFi9Z15MS

>>281 ลดสวัสดิการพ่องมึงก่อนเลย ภาษีไม่จ่าย

283 Nameless Fanboi Posted ID:L0Ft9nYHBD

>>282 ใช้ชีวิตในไทยจ่าย vat 7% เหมือนกันนะ แบบนี้บอกว่าไม่จ่ายภาษีก็ไม่ได้แล้วปะ

284 Nameless Fanboi Posted ID:4eFi9Z15MS

>>283 อะไรของมึงมโนเหรอ รายจ่ายแม่งเบิกเอาทั้งนั้น ตั้งงบประมาณเอาทั้งนั้น ไปหาข้อมูลบ้าง

285 Nameless Fanboi Posted ID:ULg3K9OU2c

>>284 เบิกไงตอนซื้อก็เสีย 7% อยู่ดีปะละ

286 Nameless Fanboi Posted ID:CWcSoz/vFR

>>283 ใช้ภาษีเพื่อเสียภาษี สุดยอดครับ

287 Nameless Fanboi Posted ID:M1tlO9U5TV

>>282 เสียครับไอ้ควาย บริษัทในเครือแกก็เสีย ประเด็นนี้มันเคลียไปตั้งแต่ดีเบทแล้ว เดี๋ยวให้ด็อกลูกบิดตบคว่ำตามอิรุ้งเลยนิ

288 Nameless Fanboi Posted ID:+UoHbedrpt

>>287 มาแล้วๆหลิ่มโชว์โง่ประจำวัน แค่ถือหุ้น บ. นี่ทำเท่ากับเสียภาษีเหรอ แหมๆๆ ไอ้ที่เบิกๆไปไม่นับเนอะ ค่าเดินทาง ค่ากิน แม่งเบิกเอาทั้งนั้น หลิ่มไม่สน กร๊ากก ควายแท้ๆ หมาเด้าหีแม่มึงแล้วล่ะ

289 Nameless Fanboi Posted ID:+UoHbedrpt

สวัสดิการล้นฟ้า ภาษีจ่ายเท่าหีหมา ไอ้สัส กองทัพก็เสือกเอาไปเป็นของส่วนตัว

290 Nameless Fanboi Posted ID:+UoHbedrpt

พอประชาชนเรียกร้องสวัสดิการบ้าง เสือกถามหาภาษี ไอ้สวะเอ้ย

291 Nameless Fanboi Posted ID:RX0wipdYLM

สวัสดิการประชาชนสิ้นเปลือง ไม่มีตัง แต่ของเทวดาและข้ารับใช้เป็นหมื่นเป็นแสนล้านกลับเงียบกริบ พอมีคนจะไปทวงเงินประเทศส่วนนี้กลับสู่มือประชาชน แม่งเสือกมาด่าซะงั้น

292 Nameless Fanboi Posted ID:+ImwBkG/mN

BRIEF: อย่าเสียเวลาเถียง งานวิจัยชิ้นใหม่พบ พวกเกรียนคีย์บอร์ด มีนิสัยบนอินเทอร์เน็ต แย่ไม่ต่างจากนิสัยของพวกเขาในชีวิตจริง
.
หากคุณคิดจะเถียงกับเกรียนคีย์บอร์ด เราขอแนะนำให้คุณเมินเฉยพวกเขาดีกว่า เพราะงานวิจัยชิ้นใหม่พบว่า อินเทอร์เน็ตไม่ได้เปลี่ยนให้นิสัยของผู้คนแย่ลง ในทางตรงกันข้าม มันช่วยเปิดเผยนิสัยที่แท้จริงในชีวิตออฟไลน์ของพวกเขา ให้ได้ใช้พื้นที่ทางออนไลน์ละเลงเป็นสนามอารมณ์และป่วนผู้คน
.
งานวิจัยชิ้นใหม่ทางรัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยโอร์ฮุช ในประเทศเดนมาร์ก ตั้งคำถามงานวิจัยของพวกเขาว่า “ทำไมการถกเถียงในประเด็นทางการเมืองบนพื้นที่ออนไลน์ มีท่าทีที่แข็งกร้าวมากกว่าการถกเถียงบนพื้นที่ออฟไลน์” ก่อนที่พวกเขาจะพบกับคำตอบที่ผิดคาด
.
มันมีความเชื่อว่า ผู้คนจะมีนิสัยที่เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง เมื่อพวกเขาอยู่หลังคีย์บอร์ด โดยจากงานวิจัยที่ใช้งานศึกษากว่า 8 ชิ้น และตัวอย่างจากผู้คนกว่า 8,000 คน ช่วยเปิดเผยว่า สมมติฐานที่ว่าคนอาจจะมีนิสัยที่แย่ลง เมื่อได้ใช้พื้นที่ออนไลน์ในการแสดงความเห็นนั้นผิด เพราะปัจจัยที่ทำให้มนุษย์คนหนึ่งกลายเป็นพวกเกรียนคีย์บอร์ด มีมากกว่าแค่เพราะพวกเขาอยู่หลังคีย์บอร์ด และไม่ได้เถียงกันแบบตัวต่อตัวในชีวิตจริง
.
จากการคัดเลือกผู้ที่มีการถกเถียงประเด็นทางการเมือง ทั้งบนพื้นที่ออนไลน์และออฟไลน์ ด้วยการจำกัดกลุ่มตัวอย่างคัดเหลือแค่ 770 คน พบว่า พวกเขามีท่าทีที่แข็งกร้าวจากการถกเถียงทั้งในออนไลน์และชีวิตจริง เนื่องจากนักวิจัยพบว่า ค่าความเกลียดชังในการถกเถียงบนออนไลน์และออฟไลน์มีเท่ากัน ทำให้สมติฐานที่ว่า ผู้คนน่าจะมีลักษณะนิสัยที่ก้าวร้าวบนโลกออนไลน์ มากกว่าในชีวิตจริงนั้นผิด
.
นักวิจัยพบว่า ด้วยเหตุผลที่ว่าพื้นที่ทางออนไลน์ เอื้อให้ผู้คนมีการถกเถียงกันมากกว่าพื้นที่ในชีวิตจริง เนื่องจากพื้นที่ออนไลน์มีคุณสมบัติของการเชื่อมต่อกันที่สูง เป็นสาธารณะ และมีความถาวรมากกว่า มันจึงทำให้นิสัยที่แท้จริงของพวกเขา ถูกเปิดเผยออกมาบนพื้นที่ออนไลน์ได้มากกว่า รวมถึงคนที่ก้าวร้าวบนโลกออนไลน์จริงๆ แล้วมีจำนวนไม่มาก แต่พวกเขาสามารถปรากฏตัวได้เด่นชัด เนื่องจากพื้นที่ออนไล์เอื้อต่อการแสดงความเห็นแบบก้าวร้าวทำได้สะดวก
.
จากข้อมูลที่ถูกเก็บในอาสาสมัครทั้งในสหรัฐฯ และเดนมาร์กพบว่า มีการโจมตีผ่านคำพูดทั้งในหมู่อาสาสมัครเอง เพื่อน และคนแปลกหน้า ซึ่งจริงอยู่ว่า มันเป็นตัวเลขของการโจมตีกันบนโลกออนไลน์ มากกว่าพื้นที่บนชีวิตจริง และในทางเดียวกัน มันเกิดขึ้นกับคนแปลกหน้ามากกว่า
.
หลักฐานจากงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า การถกเถียงประเด็นทางการเมืองบนโลกออนไลน์ เหมือนจะมีมากกว่าโลกความเป็นจริง แต่ไม่มีหลักฐานอะไรบ่งชี้ว่า พื้นที่ออนไลน์ทำให้คนกล้าที่จะถกเถียงมากกว่าพื้นที่ในชีวิตจริง และมันช่วยยืนยันข้อสรุปได้ว่า ผู้คนไม่ได้ตั้งตัวเป็นศัตรูกันบนโลกออนไลน์ มากกว่าโลกของความเป็นจริงเลย และมันขึ้นอยู่กับนิสัยของเขามากกว่า เพราะฉะนั้น เมื่อคุณเจอใครมาเกรียนใส่ งานวิจัยชิ้นนี้กำลังจะแนะนำว่า อย่าไปใส่ใจเกรียนคีย์บอร์ด และเมินเฉยคนพวกนี้เสียเถิด

293 Nameless Fanboi Posted ID:rC6AcjrIvJ

กงกรรมอะไรไร้สาระ มันก็แค่วลีเอาไว้หลอกให้คนเพิกเฉยกับความอยุติธรรม

294 Nameless Fanboi Posted ID:GdP2whsyfJ

มีหญิงสาวตาบอดคนหนึ่ง เกลียดตนเองที่มองไม่เห็นอะไร เธอเกลียดทุกคน ยกเว้นเเฟนหนุ่มของเธอวันหนึ่งเ­ธอบอกกับเเฟนว่า
'' ถ้าเธอมองเห็นเธอจะแต่งงานกับเข­า'' เเล้ววันที่โชคดีก็มาถึง มีคนบริจาคดวงตาให้เธอ เธอมองเห็นทุกอย่างรวมทั่งเเฟนเ­ธอ เเฟนหนุ่มถาม...ว่า..*ตอนนี้เธอ­มองเห็นเเล้ว เธอเเต่งงานกับฉันได้เเล้วใช่ไห­มหญิงสาวตกใจมากที่เห็นเเฟนหนุ่­ม ตาบอด เธอตอบว่า
'' ขอโทษนะ ฉันเเต่งงานกับเธอไม่ได้หรอก เพราะเธอตาบอด ''เเฟนหนุ่มเดินจากไปกับความเศร­้าเเละเขาได้แต่บอกว่า''งั้นฝาก­ดูแลดวงตาของฉันให้ดีแล้วกันล่ะ ''
ฝากเรื่องราวดีๆ ไว้ก่อนนอนนะครับ

295 Nameless Fanboi Posted ID:m8BZkr5cu9

ช่วงนี้เห็นบ่อยจัง
https://i.imgur.com/4OE4OQp.png

296 Nameless Fanboi Posted ID:xbp/SNPkSK

เริ่มจากเอาแค่ในวงการทหารนะ เอาแบบคร่าวๆ สรุปๆ(ซึ่งก็ยาวอยู่ดี555)
สมัยก่อนการรัฐประหารปี49 วงการทหาร ใครจะเป็นใหญ่ เป็นผบ.ทบ. คุณต้องมาจากสาย "วงศ์เทวัญ" หรือสายทหารที่ชาติตระกูลคุณพ่อเคยเป็นอดีตทหาร อดีตนายพลรับใช้ชาติมาแล้วหรือไม่งั้นก็ต้องเก่งมีความสามารถมาก โดยวงเทวัญจะเติบโตจาก ค่ายพล.1 รอ.รักษาพระองค์และทหารมหาดเล็ก อดีตพี่ใหญ่ของทหารสายวงศ์เทวัญก็คือป๋าเปรม แต่ในยุคทักษิณ แกได้เปลี่ยนขั้วอำนาจโดยการชู "บิ๊กป้อม" มาเป็น ผบ.ทบ ไงครับ ใครจำกันได้ที่โทนี่แกแซวว่าสมัยก่อนเสียงไม่เห็นดังไม่ขึงขัง ไม่เหมือนสมัยมาเกาะโต๊ะขอตำแหน่งเลยน้าา(เหตุนี้ด้วยชนชั้นนำเลยเริ่มระแวง โทนี่แกจะทำอะไร ทำไมกล้าหักกับป๋า) โดยลุงป้อมแกถือว่าเป็นพี่ใหญ่ของทหารสาย "บูรพาพยัคฆ์" หรือ ค่ายพล.2 รอ. รักษาพระองค์หรือที่เรามักได้ยินกันว่า "ทหารเสือราชินี" (ที่หลายๆคนในที่นี้บอกไงว่าลุงตู่คนของแม่ ก็มาจากนี่หละ) หลังจากนั้นขั้วอำนาจทหารก็เลยเปลี่ยนยาวๆเลย ใครจะเป็นใหญ่เป็นผบ.ทบ.ได้ก็ต้องมาจากสายลุงป้อมไง บิ๊กป๊อกได้เป็นก็เพราะน้องป้อม ลุงตู่ได้เป็นก็เพราะเป็นน้องเล็กน้องรักของป้อมไง ในวงการทหารเขาเลยยิ่งใหญ่มาก..จนมาช่วงปีหลังนี่หละขั้วอำนาจเริ่มเปลี่ยนอีก แต่ผมไม่พูดละ ไปหาอ่านศึกษาเอาเอง

ตัดภาพมาที่วงการการเมือง ในยุค3ป. ประยุทธ์ทำหน้าที่เป็นนายกฯ ออกหน้า ทำภาพผู้นำคนดี บิ๊กป๊อกคุมมท.1 คุมผู้ว่าทั้วประเทศ คุมกำลังคนต่างจังหวัด ส่วนลุงป้อมแกทำหน้าที่ดีลฝ่ายการเมือง อะไรเทาๆ หรือผลประโยชน์กับนักการเมืองแกเป็นคนดีลไง คนในแวดวงการเมืองเลยรู้กันว่า จริงๆแล้วใน3คนนี้อะ คุณจะดีล ต้องมาดีลกับใคร ใครใหญ่สุดจริงๆ ไม่ใช่ลุงตู่หรอกแต่เป็นลุงป้อมต่างหาก ยังไม่รวมว่าบ้านป่ารอยต่อแกคุยกับนักธุรกิจเจ้าสัวอะไรอีกมากมาย คือคุมทั้งเงิน คุมทั้งอำนาจอะครับ ไม่แปลกที่นักการเมืองจะเกรงใจอะครับ

297 Nameless Fanboi Posted ID:AQ+nOfDIS/

สะลิ่มแม่งคือคน type เดียวกันกับคนที่เชื่อว่าโลกแบน

298 Nameless Fanboi Posted ID:yRdJr/NrYB

>>297 อย่าเหยียดพวกโลกแบน อย่างน้อยกูไม่เคยเห็นพวกแม่งยัดใครที่ไม่เชื่อเข้าคุก

299 Nameless Fanboi Posted ID:xakLtD+h6M

ความเห็นไม่เหมือนกู มึงคือ IO

300 Nameless Fanboi Posted ID:L.KWFr6a2h

>>296 ป้อมมีอิทธิพลขนาดนี้เสี่ยไม่ระแวงบ้างหรอ

301 Nameless Fanboi Posted ID:JN4gX+XaJV

>>300 แก่แล้ว เดี๋ยวก็ตาย

302 Nameless Fanboi Posted ID:E5pYrzZOrJ

สุดท้าย ร่าลก็แพ้อยู่ดี

303 Nameless Fanboi Posted ID:/7eAvL96mD

บางคนด่าระบบการศึกษาไทยว่าเน้นเกรดไม่เหมือนประเทศพัฒนาแล้ว หันมาดูเยอรมัน มีระบบที่หนักกว่าไทย คือจะเอาเกรดตอนประถมมาเป็นตัวตัดสินว่าโรงเรียนมัธยมแบบไหนที่สามารถจะได้เข้าเรียน

1.เกรดประถมไม่ดีไปเรียนHauptschuleเพื่อเรียนเกี่ยวกับวิชาชีพฝึกงาน จบแล้วทำงานแนวๆโรงเรียนเทคนิค

2.เกรดปานกลางไปเรียนRealschuleโรงเรียนกลางๆสอนทั้งวิชาการและวิชาชีพ ถ้าทำเกรดดีระหว่างเรียนRealschuleสามารถอัพเกรดตัวเองไปGymnasiumได้

3.และอันสุดท้ายที่จะเข้าได้ถ้าเกรดประถมดี คือ Gymnasiumเรียนวิชาการล้วนๆเพื่อเตรียมพร้อมเข้ามหาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนแบบเดียวที่มหาลัยรับเข้าเรียน

ประเทศที่พัฒนาแล้วที่ฝันถึงกัน ใช้เกรดเป็นตัวกำหนดอนาคตตั้งแต่ประถมอ่ะ ดังนั้นเลิกเพ้อได้แล้วว่านักเรียนประเทศพัฒนาแล้วเขาไม่ต้องใช้เกรด เดินชิลๆไปเข้ามหาลัยได้เลย

ลองนึกภาพว่าเอาระบบนี้มาใช้ในไทย จะมีพวกที่ตอนนี้บ่นอยากได้ระบบการศึกษาต่างประเทศกี่คนโดนเตะลงไปเรียนโรงเรียนวิชาชีพมัธยมเพราะคะแนนประถมไม่ดี รับกันได้ไหม

-มิตรสหายท่านนึง

304 Nameless Fanboi Posted ID:oMIqCmbq.7

>>303 ประถม6มันก็ตัดสินคนได้แล้ว แต่พวกร่าลต้องออกมาโวยแน่นอน

305 Nameless Fanboi Posted ID:VKpL9LfD+B

>>303 พอเห็นระบบนี้ กูมองระบบเมืองไทยดีขึ้นมาทันที อย่างน้อยเด็กไทยมีสิทธิ์แก้ตัวได้ตลอด ประถมไม่ดี มัธยมยังแก้ตัวได้ มัธยมไม่ดี ยังมีมหาลัยให้แก้ตัวอีก ที่สำคัญกูว่าเด็กประถมนี่พ่อแม่มีส่วนมากเพราะเป็นเด็กเล็ก ถ้าเกิดในบ้านที่พ่อแม่ไม่มีคุณภาพนี่หายนะเลย ต่างจากมัธยม-มหาลัยที่เด็กเริ่มรู้ความ คิดเองตัดสินใจเองได้มากขึ้น

แต่บ้านเรามันก็มีปัญหาคุณภาพ รร. หรือ ม. แตกต่างกันมากไปจริงๆ ว่ะ อันนี้ก็ต้องแก้เหมือนกัน

306 Nameless Fanboi Posted ID:p4y/C+JspN

>>303 งานเทคนิกนี่มันกากเหมือนของไทยป่าว อย่างนิวซีแลนนี่ไอ้ตั้งพูดบ่อยๆว่าชีวิตค่าแรงผิดกันลิบลับ แล้วคำว่าไม่ดีของมึงนี่กว้างเหลือเกิน เอารายละเอียดมาดูก่อนค่อยตัดสินก็ได้มั้ง ง่ายๆถ้ามันเหี้ยคนส่วนมากก็เรียกร้องแก้ไปแล้วแหละ ไม่ได้มีกฎหมายห้ามแก้หมวดโน้นมาตรานี้ซะหน่อย

307 Nameless Fanboi Posted ID:p4y/C+JspN

>>305 คิดง่ายไป ต้องดูก่อนว่าคำว่าไม่ดีของ >>303 มันคือเกรดระดับไหน ถ้าแบบระดับต่ำมากคะแนนต่ำจริงๆ ที่เหลือเป็นระดับกลาง มันจะไปขั้น Realschule พวกนี้ก็อัพเกรดตัวเองได้เหมือนกันป่ะ

308 Nameless Fanboi Posted ID:JN4gX+XaJV

>>303 มึงมองว่า โรงเรียนเทคนิค ของเยอรมันมันกาก เด็กแว้น เหมือนไทยอะดิ

309 Nameless Fanboi Posted ID:VKpL9LfD+B

>>306 >>308 บ้านเราจบอาชีวะรายได้มันแย่ไงมึง สร้างเนื้อสร้างตัวได้ยาก โอกาสไม่เปิดกว้างเท่ามหาลัย เยอรมันมึงไม่ต้องจบมหาลัยมึงก็สร้างเนื้อสร้างตัวได้นะ มันเกี่ยวกับโครงการการรับและจ้างงานด้วย กู >>305 มองในแง่นี้ว่าถ้าเอาระบบนี้มาใช้กับไทย ความเหลื่อมล้ำจะยิ่งหนักกว่าเดิม

>>307 อะไรก็ช่าง ถ้าวัดที่ประถมนี่โคตรลำบากเด็กเลย เพราะวัยนี้ขึ้นกับผู้ปกครองมากกว่าตัวเด็กเองอะ

310 Nameless Fanboi Posted ID:Yn2CAB6H.E

พวกสายอาชีพไทยกูว่าไม่กากเลยนะ ไม่ต้องไปเทียบพวกยุโรป เอาแค่แถวๆนี้ก่อน
แรงงานฝีมือเราค่อนข้างเหนือกว่าเยอะนะ
แต่ปัญหาแม่งกลายเป็นคนพยายามดันตัวเองไปเรียนมหาลัยเพราะมองอนาคตมันเปิดกว่าตามค่านิยม
แต่เอาจริงๆมหาลัยเกรดล่างๆนี่พวกสายอาชีพแม่งดีกว่าซะอีก
แถมเจอปัญหาพวกเด็กนักเลงช่างที่แม่งกลายเป็นปัญหาหมักหมมแก้ไม่ตก คนไม่อยากไปเรียนกันอีก

เคยได้ยินข่าวญี่ปุ่นมีคนถูกจับไล่ออกจากงานเพราะแจ้งวุฒิสมัครต่อกว่าความจริง คือไม่เอาวุฒิสูงยื่น
แต่ตำแหน่งเขาสงวนไว้สำหรับคนวุฒิต่ำกว่า
บ้านเราอาจควรต้องมีแบบนั้นบ้าง เปิดรับตำแหน่งวุฒิเฉพาะสายอาชีพเลย ไม่รับเป็นขั้นต่ำ สูงเกินไม่เอา

311 Nameless Fanboi Posted ID:Yn2CAB6H.E

xxต่อกว่าxx --ต่ำกว่า--

312 Nameless Fanboi Posted ID:VKpL9LfD+B

>>310 ถ้าแถวนี้ การันตีโดยพวกทุนยุ่นนี่แหละ เห็นพวกนี้ย้ายฐานออกจากไทย คือย้ายออกเฉพาะพวกสินค้าที่ไม่ได้ใช้ฝีมือมากนะ ส่วนพวกสินค้ามีเกรดสูงมาหน่อยยังใช้แรงงานไทยอยู่ (โดยเฉพาะพวกรถ ถ้าไม่นับที่ ญป รองมาก็ไทยละ งานเนี้ยบกว่าจีน เวียด อินโด) แต่ปัญหาจริงๆ คือเรื่องชนชั้นนี่แหละ ตะวันตกมันไม่ได้แบ่งกันมากเหมือนบ้านเรา มันไม่ใช่แค่เรื่องของรายได้แต่เป็นเรื่องความรู้สึกด้วย จบ ปวช.-ปวส. มันไม่มีทางได้ทำอาชีพที่สังคมมองว่าสูงส่ง จะทำจะพูดอะไรก็มี credit พิเศษไง อีกอันคือบ้านเราแรงงานทักษะดีจริง แต่ภาษาสู้เขาไม่ได้ อันนี้จะเห็นประจำ พวกปินส์ชอบข่มคนไทย บอกคนไทยภาษาอังกฤษสู้พวกตัวเองไม่ได้ เลยไม่สามารถไปแข่งขันกับตัวเองเรื่องหางานทำในต่างประเทศ ส่วนพวกตีกันไม่เท่าไรหรอก มันแค่ กทม-ปริมณฑล พอออก ตจว. ก็ไม่มีปัญหาพวกนี้นะ

อันนี้กูหมายถึงเฉพาะสายช่างนะ สายพาณิชย์กูไม่รู้ว่าเป็นยังไง

313 Nameless Fanboi Posted ID:p4y/C+JspN

>>310 ที่กากไม่ได้หมายถึงฝีมือ แต่เป็นพวกค่าแรง สวัสดิการต่างๆในระบบ ไอ้ตั้งก็เคยบอกว่าตอนมันอยู่ไทยอย่างกาก พอไปโน่นได้ตังซื้อบ้านรถลูกเป็นโขยง

314 Nameless Fanboi Posted ID:VKpL9LfD+B

>>313 กูสงสัยว่านิวซีแลนด์มันชาติอุตสาหกรรมหรอวะ ค่าแรงอาชีวะถึงดีขนาดนั้น ถ้าพวกเยอรมัน-อเมริกา-ยุ่น กูไม่แปลกใจนะ พวกนี้สินค้าแนวๆ นี้เยอะและดังมาก แรงงานสายนี้จะค่าตัวแพงก็ไม่แปลก

315 Nameless Fanboi Posted ID:Yn2CAB6H.E

>>313 มันก็คือกับดักประเทศรายได้ปานกลาง นั่นแหละ ปัญหาถ้าเพิ่มค่าแรงให้เยอะ พวกประเทศเจ้าของโรงงานแม่งก็ไม่มา
เพราะงั้นแม่งไม่ใช่ปัญหาที่ประเทศรับจ้างผลิตจะแก้ได้ว่ะ ถ้าอัดค่าแรงเพิ่มสุดท้ายกลายเป็นงานหด จากเดิมสมมุติได้ 30000 3ล้านคน
กลายเป็นได้ 50000 1ล้านคน 2ล้านตกงาน

316 Nameless Fanboi Posted ID:p4y/C+JspN

>>314 จริงๆอาจจะไม่ถึงกับดีมาก แค่ของเราโคตรกากเอง

317 Nameless Fanboi Posted ID:d37PF.5Dkw

เคยอ่านเจอว่าประเทศที่เจริญแล้ว ประกันชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะรัฐเขาซัพพอร์ตทั้งชีวิตให้ประชาชน แต่สำหรับประเทศนี้วิธีแก้ปัญหาที่คุณว่าก็คงเป็นวิธีที่ง่าย แต่ไม่ใช่ทุกคนจะมีศักยภาพทำได้ เลยอยากให้มองวิธีแก้ปัญหาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ อย่างการเป็นรัฐสวัสดิการ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

318 Nameless Fanboi Posted ID:D.OWRGdNVr

>>314 มันไม่มีคนทำ พวกงานแรงงานไม่แปลกที่ค่าแรงจะแพง

319 Nameless Fanboi Posted ID:I9V+oLMXAT

>>317 ที่ไหน ขนาดสวีเดนโคตรรัฐสวัสดิการยังให้เงินประกันแค่ 3 ปีเอง ถ้ายังหางานไม่ได้ก็ไม่มีเงินช่วยเหลือ ยกเว้นจะเป็นคนไม่มีทรัพย์สินเลย แต่เงินที่ให้ไม่ได้เยอะแค่ค่าเช่าห้องกับของกินก็หมดแล้ว

320 Nameless Fanboi Posted ID:D.OWRGdNVr

จริงๆพวกช่างไฟ กับช่างน้ำ เมืองไทยไม่ได้จนนะ พวกนี้เดือนนึงได้เงินครึ่งแสนสบายๆ แถมรับเงินสดเลี่ยงภาษีอีก

321 Nameless Fanboi Posted ID:p4y/C+JspN

>>319 สวัสดิการซัพพอตนะ ไม่ใช่งบรักษาพระเกียรติ

322 Nameless Fanboi Posted ID:VKpL9LfD+B

>>315 ใช่ บ้านเราติดคำว่าไม่มีสินค้านวัตกรรม เป็นได้แค่โรงงานรับจ้างผลิต แถมพอหลังปี 40 ที่อุตฯ เจ๊งไปเยอะมากแต่ท่องเที่ยวจู่ๆ ก็บูมขึ้นมาเพราะเงินบาทอ่อน ทุกๆ รัฐบาลเลยไปส่งเสริมภาคบริการกันหมด เรียกว่าถ้าไม่มีโควิดก็คงไปทางนี้กันเรื่อยๆ แหละ แต่เรื่องนี้ก็พูดยาก คนไทยเหยียดกันด้วยแบรนด์ว่ะ เหยียดกันเป็นทอดๆ หรั่ง ยุ่น เกา เจ๊ก ใครจะอยากพัฒนา แถมภาครัฐจะส่งเสริมด้วยการให้สิทธิพิเศษบางอย่างก็อาจจะผิดกฎ WTO อีก

>>317 อเมริกาเจริญไหม? ธุรกิจประกันแม่งใหญ่คับฟ้าอะ ถึงขนาดมีเทียบกันด้วยซ้ำว่าไทยอาจจะล้าหลังกว่าในหลายๆ เรื่อง แต่ระบบสุขภาพดีกว่าแน่ๆ เพราะอย่างน้อยคนก็เข้าถึงได้ง่ายกว่า

>>320 ครึ่งแสนนี่ระดับไหนวะ เท่าที่กูเคยเจอก็แค่หลักหมื่นต้นๆ แต่ข้อดีคือมึงไม่ตกงานแน่นอน มีงานเข้าตลอด แถมวัฒนธรรมแบบไทยๆ จ้างไปทำบ้านไหน นอกจากจ่ายค่าแรงแล้วเจ้าของบ้านมักจะซื้อข้าว ซื้อ M150 เลี้ยงด้วยนะ ประหยัดค่าอาหารได้อีก อันนี้ทั้งพวกเดินไฟ ทั้งพวกก่อสร้าง แต่ก็นั่นละ เงินดีแต่ไม่มีเกียรติเหมือนคนมีปริญญาไง อ่อ เป็นรัฐมนตรีไม่ได้นะ รธน. เขียนไว้บังคับต้องจบ ป.ตรี ขึ้นไป

323 Nameless Fanboi Posted ID:D.OWRGdNVr

>>322 ช่างที่มาซ่อมให้ที่บ้านกรูนี่แหล่ะ มาซ่อมไฟวันนี้ค่าแรง 1500 ไม่รวมกำไรที่ชอบหักหัวคิวค่าอะไหล่อีก แถมงานแมร่งโคตรยุ่งช่วงไม่มีโควิดนี่แทบจะจองที่ข้ามเดือน

324 Nameless Fanboi Posted ID:d37PF.5Dkw

>>322 WTO เนี่ยนะ

ขรรม โคตรไร้น้ำยา ดูอย่างตอน จีน เมกา ดิ เงียบเป็นเป่าสาก

325 Nameless Fanboi Posted ID:VKpL9LfD+B

>>324 5 เทพ UNSC ผู้ปกครองโลก พวกนี้อยู่เหนือกฎทั้งปวงอะ ส่งทหารไปบุกที่ไหนก็ได้ แต่ถ้ามึงไม่ใช่พวกนี้มึงก็ต้องอยู่ใต้กฎหมดแหละ

326 Nameless Fanboi Posted ID:sTWJq.jWSm

>>323 อาชีพช่างที่ซ่อมตามบ้านแบบ delivery หนึ่งในอาชีพที่คนมองข้ามกัน แต่จริงๆ เงินดีนะ คู่แข่งน้อย บริษัทซ่อมเป็นกิจจะไม่ค่อยมี แถมพวกนั้นก็แพงด้วย

327 Nameless Fanboi Posted ID:Yn2CAB6H.E

>>326 พวกสารพัดช่างนี่ต้องอาศัยชื่อ ความเชื่อใจ เริ่มมาใหม่ไม่รู้จักซิงๆ คงไม่มีใครกล้าเรียกใช้งาน
ที่เคยเห็นส่วนใหญ่จะเริ่มมาจากงานรับจ๊อบภายนอก แบบเป็นช่างประจำสนง.แล้วพนักงานเรียกไปช่วยตามบ้าน
บอกกันปากต่อปาก สุดท้ายเงินดีกว่าก็ออกจากงานประจำมาทำเต็มตัว
หรือไม่ก็ต้องเป็นลูกมือ ลูกจริงๆ ของช่างพวกนี้มาก่อน แล้วรับมรดกลูกค้ามา
บ้านเราพวกสารพัดช่างพวกนี้แต่ก่อนเยอะ อยู่ได้สบายเพราะเน้นซ่อมกันมากกว่าทิ้ง มีอะไหล่ มีคนซ่อม
แต่เดี่ยวนี้พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ซ่อมกันน้อยลงแล้วละมั้ง โรงงานวางยามา อะไหล่ซ่อมพอๆกันซื้อใหม่
ยังเหลือรถเนี่ย ใช้กันเกิน 10 ปีเป็นปกติ ซ่อมจนตัวถังแม่งผุแล้วผุอีก ดัดแปลงอะไหล่เอาเครื่องรุ่นอื่นมาใส่กันสนุกเลย

328 Nameless Fanboi Posted ID:VKpL9LfD+B

>>327 จริง พวกผู้รับเหมาก่อสร้างนี่ชัดๆ แต่เดิมก็เป็นกรรมกรหรือช่างในทีมมาก่อนนะ

329 Nameless Fanboi Posted ID:sTWJq.jWSm

>>327 ปรกติแล้วสารพัดช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ไม่เป็นนะ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้ามันซับซ้อนและมันคนละภาควิชากันเลย ถ้าเอามาล้างแอร์ก็พอได้ แต่ถ้าให้ซ่อม TV เครื่องเสียง อันนี้สารพัดช่างจะซ่อมไม่เป็น

330 Nameless Fanboi Posted ID:Yn2CAB6H.E

>>329 จะพูดถึงพวกร้านซ่อมเครื่องไฟฟ้าร้านเล็กๆตามซอยอะ
แต่ดันใช้เรียกสารพัดช่างเหมือนช่างตามบ้านเลยสื่อสารผิด
จะหมายถึงสมัยนี้พวกนี้แหละที่หายเยอะ

331 Nameless Fanboi Posted ID:Jsq0nSMc3s

>>317 เยอรมันบังคับให้ประชาชนซื้อประกันอ่ะนาย บังคับด้วยตัวกฏหมายเลย ถ้าไม่มีประกันถือว่าทำผิดกฏหมาย

เยอรมันเจริญไหมนาย

332 Nameless Fanboi Posted ID:j1E0mSgyBr

>>331 เพ้อและกลวง เมกา ญี่ปุ่น พวกนี้ก็ซื้อประกันกันหนักมาก

333 Nameless Fanboi Posted ID:mvDG3gPVFH

>>331 จ่าย 7 แล้ว ต้องได้ทุกอย่างดิ ทำไมต้องเสียเงินซื้อประกันอีก รัฐห่วย ทำให้คนจนหาเช้ากินค่ำลำบาก

#โคฟเป็นสามกีบการเมืองดี

334 Nameless Fanboi Posted ID:PU.4EUSEHP

>>331 >>332 >>333 เมกา ยุ่น​ เยมัน​ ล้มพ่องกันหมดแล้ว

เจริญไหมนาย​ ถถถ

335 Nameless Fanboi Posted ID:hkN5au2XN9

>>317 ถ้าอยากได้ซัพพอร์ตทั้งชีวิต มึงคงต้องไปเกิดในดินแดนน้ำมันอาหรับ ไม่ก็นอร์ดิค

นอร์ดิคนี่อุ้มปชช.จนระบบกำลังจะล่มแล้ว วิ่งแก้กันอุตลุด ล่าสุดสวีเดนดันอายุบำนาญไปที่62ปี เพราะถ้าเพดานต่ำเหมือนในอดีตไม่รู้จะเอาอะไรไปจ่าย

ส่วนชี้คนี่ก็หนาวๆร้อนๆ ถ้าน้ำมันหมดหรือพลังงานทางเลือกได้รับความนิยมก็ไม่รู้การท่องเที่ยวกับเงินลงทุนจะพออุ้มปชช.ไหม

336 Nameless Fanboi Posted ID:iWrYZcYA8G

>>335 อันนั้นอุ้มปชช.ทั้งหมด ส่วนประเทศนึงอุ้มแค่บางครอบครัวก็จะล่มหมดแล้ว ตลกชิบหาย

337 Nameless Fanboi Posted ID:VKpL9LfD+B

>>335 ออกตัวก่อนกูเห็นด้วยกับระบบที่ลดความเหลื่อมล้ำนะ (อาจไม่ถึงขั้นรัฐสวัสดิการเต็มรูปแบบ แต่บางอันก็ควรมี เช่น รักษาพยาบาล , การศึกษาขั้นพื้นฐาน) แต่เหมือนไปๆ มาๆ พอระบบนี้ใช้กันมากๆ เหมือนกลายเป็นผลข้างเคียงตรงที่เกิดสังคมสูงวัยเลยว่ะ ยุโรปนี่ชัดเลย ก่อนหน้านี้บ่นกันตลอด รัฐบาลแต่ละประเทศทำนั่นนี่สารพัดก็ไม่สามารถทำให้คนอยากแต่งงานมีลูกได้ซะที อัตราการเกิดก็ไม่กลับมาเพิ่มในจำนวนน่าพอใจ กลับกันคนแก่ก็เพิ่มเอาๆ จนมีคนประชด (หรือแม้แต่มีทฤษฎีสมคบคิด) ว่าที่ยุโรประบาดคนตายกันเป็นเบือในปี 63 ก็เป็นรัฐบาลยุโรปนี่แหละได้ประโยชน์ เพราะคนแก่ตายกันเยอะมากในระดับที่อายุขัยเฉลี่ยประชากรในภาพรวมลดลงครั้งแรกในรอบกี่ปีก็ไม่รู้ ระบบสวัสดิการที่เคยคิดว่าจะล่มแน่ๆ ก็น่าจะยืดไปได้อีกพักใหญ่

338 Nameless Fanboi Posted ID:7Y3MrOr+YP

>>335 ป่าว​ ถ้าอยากได้ซัพพอตทั้งชีวิตก็เกิดที่นี่ล่ะ​ แต่ให้ถูกหี

339 Nameless Fanboi Posted ID:HuLjo6wdCK

>>322 >>324 >>325 เรื่องการสนับสนุนนวัตกรรมโดยรัฐไม่ผิดกฏของ WTO นะโว้ย รัฐบาลต่างๆทั่วโลกมีกองทุนที่ลงทุนในสตาร์ทอัพขั้นต้นอยู่ ไม่งั้นการดิสรัปชั่นด้วยเทคโนโลยีใหม่คงไม่เกิดเพราะผู้ก่อตั้งไม่มีเงินเพียงพอ ขนาดซีไอเอยังตั้งกองทุนของตัวเองเลย ลองถามกูเกิลดูซิว่าเคยซื้อสตาร์ทอัพที่มีเอี่ยวกับซีไอเอไหม ส่วนเรื่องที่อุดหนุนการผลิตให้ต้นทุนตำ่กว่าธรรมชาติแล้วไปตีตลาดต่างประเทศนี่ผิดชัดเจน เรื่องนี้นักการเมืองชอบเอามาอ้างในการหาเสียงโดยที่ไม่รู้ว่าต้นทุนของแต่ละประเทศไม่เท่ากัน ไม่งั้นแพ้เขาเหมือนตอนที่โกดักฟ้องฟูจิฟิล์มนี่แหละ ตอนหลังโกดักเป็นบริษัทตัวอย่างที่โดนดิสรัปจากคลื่นลูกใหม่ จะไปทำยาก็สู้กับฟูจิที่ทำยาฟาวิก็ไม่รอด

340 Nameless Fanboi Posted ID:x+lTw3lH+g

>>337 ปัญหาคนเกิดน้อย ก็เกิดขึ้นกับประเทศทุนนิยมเช่นกัน เช่น จีน

แยกออกก่อน สวัสดิการไม่ได้ทำให้คนเกิดน้อยกรือคนเกิดน้อยไม่ได้มาจากสวัสดิการ จำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มมาจากระบบต่างๆมันดีขึ้น ตรงนี้เป็นภาระมั้ย ก็อาจใช่

เอางี้นะ ยุคนี้จะรวยช้ากว่ายุคพ่อแม่ เป็นกันทั้งโลกเลยมั้ง สมัยก่อนมึงไปดูสมัยสงครามเย็นสิ โตปีละกี่เปอร์เซ็นต์ บริษัทใหญ่หลายบริษัทก็เกิดช่วงหรือหลังสงครามเย็น แต่ยุคนี้ทุกอย่างมันตันไง ไม่มีอนาคต ใครจะอยากมีลูก

341 Nameless Fanboi Posted ID:5PZdyodsDB

>>340 กูว่าอีกส่งนหนึ่งคือสื่อบันเทิงมันพัฒนาขึ้นมากด้วย มือถือ อินเตอร์เน็ต ทีวีความละเอียดสูง วันหยุดอยู่บ้านนอนดูบอล ดูซีรี่ย์ ดูอนิเมะ เล่นเกมส์ ออกไปดูหนัง จนชนชั้นกลางยุคใหม่เกิดความคิดว่าถ้าคนเดียวก็มีความสุขได้ แทนที่จะเสียเงินเสียเวลาไปกับครอบครัว เอาไปเปย์สิ่งที่ตัวเองชอบดีกว่า ในขณะที่ชนชั้นกลางก่อนยุค 90 มันไม่มีอะไรแบบนี้ ไม่มีใือถือ อินเตอร์เน็ต เครื่องเล่นเกมส์ มาตรฐานชีวิตชนชั้นกลางยุคเก่าก็คือ แต่งงานมีบ้านมีครอบครัว มีลูก ถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ

342 Nameless Fanboi Posted ID:DKyaWs.Eb9

>>340 กูว่าพอพัฒนาไปจุดหนึ่งคนแม่งไม่อยากมีลูกเองเลยโดยอัตโนมัติ ยุ่นนี่เริ่มส่งสัญญาณคนเกิดน้อยตั้งแต่ยุค 70 ละ ส่วนพวกยุโรปน่าจะยุค 90 มั้ง หรืออย่างของไทยก็ช่วงใกล้ๆ 2010 จีนก็ไล่ๆ กับไทย กูเรียกมันว่าคำสาปของการพัฒนาว่ะ คือแม่งเป็นกันหมดไม่ว่าตะวันออกหรือตะวันตก

343 Nameless Fanboi Posted ID:UI04EoYLwg

กูคนเจนวาย ตอนนี้ก็เป็นแบบที่พวกมึงคุยกันนะ ชีวิตมันไม่อยากมีพันธะอะรู้สึกยุ่งยาก อยากใช้ชีวิตสบายๆตามใจตัวเองมากกว่า เมียนี่ไม่อยากมีถ้าเงี่ยนก็ซื้อกินเอา ลูกก็ขี้เกียจเลี้ยงตอนนี้เลี้ยงกระต่ายอยู่สองตัวดูมันทำบ้าๆบอๆไปวันๆ บ้านก็ไม่ซื้อซื้อคอนโดแทนมันทำความสะอาดง่ายกว่า บ้านแม่งใหญ่เหนื่อยเกิน วันหยุดนั่งเล่นเกมดูเมะดูหนัง ไม่คิดที่จะใช้ชีวิตแบบรุ่นพ่อแม่เลย แม่งดูยุ่งยากเสียเวลาชีวิตสุดๆ

344 Nameless Fanboi Posted ID:ubXSXKljrG

>>334 ไม่พูดถึงแถวตะวันออกลาง ที่ล้มพ่องแล้วชิบหายบ้างล่ะ ล้มแล้วรวมกลุ่มไม่ได้ อัพกันต้นเหตุความชิบหายก็เกิด อยู่ดีไม่ว่าดีไปล้มพ่องแบบโง่ๆ เนี่ยแหละ

345 Nameless Fanboi Posted ID:4yHrZycldB

>>340 ที่มึงพูดคือเรื่อง social mobility อย่างเยอรมันเคยมีคนวิจัยว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 รุ่นถึงจะเปลี่ยนจากจนเป็นรวยได้ เพราะ social net ที่คอยไม่ให้คนตกลงมาแรง ก็เหนี่ยวรั้งคนไม่ให้คนไปด้วย กลับกัน เมกาที่ไม่มีอย่างว่าเลยกลับมี social mobility สูงมาก อย่าว่าแต่ชั่วคน 10 ปี=ครึ่งชั่วคนก็เปลี่ยนจากจนเป็น 1% ได้

แต่ที่กูว่าสำคัญจริงๆ ในเมดาคือเรื่องศาสนาและค่านิยมทางสังคม คนที่นั่นไม่ว่ารวยหรือจนก็มักมีลูกกันหลายคน เคยอ่านเจอว่าขวาจะมีลูกเยอะกว่าซ้าย ยิ่งมีดิจกรรมหรือรวมกลุ่มทางศาสนาบ่อยก็ยิ่งมีลูกเยอะ นิยมเป็นครอบครัวใหญ่กว่า สื่อเมกาก็ปลูกฝังค่านิยมเรื่องครอบครัวด้วย แม้ตอนนี้พวกสื่อซ้ายใหม่เริ่มต่อต้านค่านิยมด้านครอบครัวมากขึ้น แต่โดยพื้นฐานคนเมกาก็นิยมสร้างครอบครัวอยู่ดี

เสริม กูคิดว่าไลฟ์สไตล์แต่งได้ก็หย่าได้+จ่ายค่าเลี้ยงดูแบบเมกาเนี่ย ส่งเสริมให้คนมั่นใจการมีลูกมากนะ แม่ก็ไม่ต้องกลัวเลี้ยงเดี่ยว ผัวไม่เงี่ยนกับเมียแล้วก็หาคนใหม่ได้ นอกจากศาสนาแล้ว กูคิดว่าเรื่องนี้ละสำคัญมากๆ เลย

346 Nameless Fanboi Posted ID:DKyaWs.Eb9

>>345 พูดถึงศาสนานี่กูก็ว่าแปลกดี อเมริกานี่สร้างชาติจากผู้อพยพที่เบื่อค่านิยม เบื่อคติความเชื่อแบบยุโรป แต่ดันกลายเป็นประเทศที่มีคนเคร่งศาสนา (คริสต์) อยู่กันเยอะมากซะงั้น

347 Nameless Fanboi Posted ID:4yHrZycldB

>>346 เพราะมันใช้เทคนิคการตลาดร้านฟาสฟู้ดกับศาสนาไง มึงไม่ชอบนิกายนี้ก็ไปอีกนิกายนึงได้ตลอด แต่ละนิกายก็ทำตลาดในแบบของตัวเอง แล้วนิกายในเมกาจะมากจะน้อยก็มีหลัก evangelical อยู่ คือเน้นการตื่นรู้/ประสบการณ์นิยม อารมณ์เห็นคนทรงเจ้าแล้วของขึ้นนะ คนเมกาชอบกันมาก เพราะเชื่อว่าการเข้าหาพระเจ้าเป็นเรื่องส่วนตัว คำสอนโปรแตสแตนซ์เลยเข้ากันได้ดีกับแนวคิดเสรีภาพส่วนบุคคล

348 Nameless Fanboi Posted ID:9nDExxSlCX

>>346 ไม่แปลกหรอกที่จะเคร่ง เพราะพวกที่อพยพมาคือพวกเคร่งสุดขีด ที่ขัดแย้งกับพวกยุโรปเพราะเห็นว่าคริสต์ยุโรปหย่อนยาน

แต่งตัวดำหมดห้ามมีสีฉูดฉาด ห้ามทำอะไรก็ตามที่สนุกสนาน วันอาทิตย์ห้ามทำงานทุกชนิดแม้แต่จุดไฟหรือทำอาหาร etc.

349 Nameless Fanboi Posted ID:iVzkV04Zlf

>>348 นี่มันแนวๆ เดียวกับตาลีบันชัดๆ

350 Nameless Fanboi Posted ID:2UgFUYkYZp

>>349 ไม่อะ พวกเควกเกอร์ไม่เคยบังคับใคร แต่ใครก็บังคับเควกเกอร์ไม่ได้เหมือนกัน

351 Nameless Fanboi Posted ID:5Zc/wR/mnv

>>345 ทำไมสื่อเมกาต้องปลูกฝังเรื่องครอบครัวเรื่องการมีลูกวะ ประเทศออกจะใหญ่ ใช้ภาษาอังกฤษ
ถ้ากลัวประชากรผลิตไม่ทัน ก็รับผู้อพยพแบบคัดเกรดไปเลยก็จบ พวกหัวดีๆก็ให้ไปทำงานสายวิทย์
พวกเกรดรองลงมาก็เอาไปทำงานกรรมกร

352 Nameless Fanboi Posted ID:fPLELfzYDb

ทุนไทยมันทุนพ่อค้า ในหัวคิดเป็นแต่ทำกำไรจากการซื้อมาขายไปอย่างเดียว
รอซื้อเทคโนใหม่ๆจากชาวบ้านเขาเอาเพราะถูกกว่า ไม่ต้องไปเสี่ยงสูญเงินวิจัยไปเปล่าๆถ้าไม่สำเร็จหรือออกมาห่วยกว่าชาวบ้าน
พอซื้อเอามาขาย-ให้บริการกับลูกค้าในประเทศ ก็ไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานแพงๆเพราะงานไม่ยากเท่างานพัฒนา

เมื่อไม่จำเป็นต้องเอาเงินกำไรไปลงทุนวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ก็เอาเงินไปกว้านซื้อที่ดินแปลงงามๆสะสมไว้ทุกปีๆ ปีละเป็นหมื่นเป็นแสนไร่
ผ่านไป20-30ปี บรรดาเจ้าสัวทั้งหลายก็มีที่ดินในมือรวมกันเป็นล้านสองล้านไร่ 555 ความเหลื่อมล้ำก็ยิ่งถ่างขึ้นไปอีก

ถามกูว่าเจ้าสัวผิดไหม กูก็ขอบอกว่าไม่ผิด เพียงแต่คิดว่าไม่เหมาะเท่าไหร่ในการผลักดันให้ประเทศพัฒนาไปให้ใกล้เคียงกับพวก G7
ตำแหน่งงานที่เกี่ยวกับการวิจัยพัฒนาสิ่งใหม่ๆหายไปหลายพันหลายหมื่นตำแหน่ง
เกิดเหตุการณ์สมองไหลเพราะอุตสาห์ไปร่ำเรียนสูงๆจากต่างประเทศมาก็ไม่มีงานในไทยให้ทำ
ไม่เกิดการสะสมองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้ความสามารถในการแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีของประเทศลดลง

353 Nameless Fanboi Posted ID:fPLELfzYDb

พอความสามารถในการแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีไม่สูงเหมือนกลุ่มจี7 ก็มีปัญญาได้แค่รอรับจ้างเขาผลิตได้อย่างเดียว
พอต้องรอรับจ้างเขาผลิตเอาก็จะไม่สามารถเรียกเงินค่าจ้างแพงๆได้ เพราะตัวเลือกไม่ได้มีแต่เราประเทศเดียว

354 Nameless Fanboi Posted ID:2k2MLlqY4Q

วิธีแก้ปัญหาที่ดินแพง

ที่จีน โซนไหนเจริญแล้วภาษีที่ดินขึ้นพรวด 1~1.5% ต่อปี จ่ายไม่ไหวก็คืนให้รัฐไป ไม่สนหรอกว่าจะบ้านหลังแรกหรือเปล่า ถือว่าเมืองมึงเจริญแล้ว มึงก็ต้องจ่ายดิ

แต่จะว่าเพราะเป็นจีนไม่ได้ ลองมาดูญี่ปุ่นบ้างที่นี่ 1.4% มาตั้งนานแล้วอย่างเก่งสร้างใหม่ก็ลดหย่อนให้เสียภาษีครึ่งนึง 3 ปี

แต่ของไทย มึงเอาไปปลูกมะนาว ถือว่าเป็นการทำสวน ภาษีที่ดิน 0.01% จ้า แถม 3ปีแรกไม่เสียอีก อีห่า ก็กว้านซื้อเกร็งกันเข้าไปดิ สนุกเลย

355 Nameless Fanboi Posted ID:c.owWvlSAz

10 ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

1.ยกเลิกมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ
2.ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
3.ยกเลิกพ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ศ.2561
4.ตัดลดงบประมาณแผ่นดินที่จัดสรรให้กับสถาบันกษัตริย์
5.ยกเลิกส่วนราชการในพระองค์
6.ยกเลิกการบริจาคและรับบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลทั้งหมด
7.ยกเลิกพระราชอำนาจในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในที่สาธารณะ
8.ยกเลิกการประชาสัมพันธ์และการให้การศึกษาที่เชิดชูสถาบันกษัตริย์แต่เพียงด้านเดียวจนเกินงาม
9.สืบหาความจริงเกี่ยวกับการสังหารเข่นฆ่าราษฎร
10.ห้ามมิให้ลงพระปรมาภิไธยรับรองการรัฐประหารครั้งใดอีก

356 Nameless Fanboi Posted ID:azhsRz7HXw

>>352 เจ้าสัวที่ซื้อเก็บที่ดินไม่ใช่เรื่องแย่อะไรนะ ถ้าเอามาสร้างเมืองหรือทำการเกษตร แต่ส่วนใหญ่มันเอามาเป็นสินทรัพย์กันเงินเฟื้อไม่ได้ทำอะไร แถมการพัฒนาเมืองสุดห่วยของเมืองไทย ทำให้เกิดที่ดินตาบอดเอาไปลงทุนอะไรไม่ได้มาก ได้แต่ปล่อยเฉยๆไว้อย่างเดียว

357 Nameless Fanboi Posted ID:1EJE248Yu8

>>356 ระบบภาษีที่ดินมันถึงเกิดขึ้นไง เพราะไม่ต้องการให้เก็บที่ดินไว้เฉยๆ เพื่อเก็งกำไร มันไม่มีประโยชน์ในแง่ ศก. ภาพรวมน่ะ

358 Nameless Fanboi Posted ID:5Ji5mUoA.W

>>351 มันเป็นค่านิยมแบบคริสต์นะ แล้วก็เข้าถึงคนง่ายด้วย

>>354 ภาษีที่ดินจีนยังอยู่ในช่วงทดลองอยู่นิ เพราะโดนพวกผู้ใหญ่ในพรรคที่เล่นที่ดินกดดันกลับมา สีถึงไม่เดินหน้าเต็มสูบแบบเรื่องอื่น

ว่ากันตามตรง รากปัญหาของปัญหาอสังหาจีนมาจากการที่จีนกันไม่ให้เงินไหลออก และกีดกันไม่ให้คนเล่นหุ้นเยอะ ข้อแรกเพื่อทำให้ทุนไหลเวียนในประเทศจนดันค่าแรงให้พุ่งแบบทุกวันนี้ ส่วนข้อหลังเพราะกลัวตลาดหุ้นล้มแล้วยะลามไปทุกวงการ เมื่อเงินไหลออกไปไหนไม่ได้เลยไปลงภาคอสังหาหมด ทางแก้ง่ายๆ คือเปิดเสรีทางการเงินระหว่างประเทศและหุ้น แต่จีนไม่กล้าทำ เพราะรู้ว่าเงินจะไหลออกไปจนล้มแน่นอน

359 Nameless Fanboi Posted ID:x0wt.mHgwa

ผู้หญิง โนบรา เดินออกมารับอาหารจากไรเดอร์ชาย = เรื่องของกูว์ my body my choice

ถ้าผู้ชายใส่กางเกงในตัวเดียว หรือผู้ชายใส่กางเกงบางๆ ไม่ใส่กางเกงใน เดินเจี๊ยวย้วย ออกมารับอาหารจากไรเดอร์หญิง = ไอ้เลว อนาจาร

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

360 Nameless Fanboi Posted ID:1EJE248Yu8

>>359 โคตรเซ็ง บางทีก็ไม่ได้อยากจะมองหรอก แต่มันเห็นตรงนั้นเลยไงหลบไม่่ได้ จะให้หลับตามันก็ไม่ใช่เรื่อง

361 Nameless Fanboi Posted ID:N27fQBMt6l

จีนสั่งห้ามออกอากาศรายการแนวค้นหาไอดอล
.
หลังเหตุการณ์ที่เหล่าแฟนคลับใช้วิธีฟุ่มเฟือยเพื่อเปย์ศิลปินในรายการค้นหาไอดอลชื่อดังอย่าง Youth with You ก็ทำให้เกิดกระแสว่ารัฐบาลจีนอาจไม่ปล่อยให้รายการแนวนี้ได้ไปต่อนะคะ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นไปตามคาดเมื่อทางการจีนออกมาประกาศแล้วว่า หลังจากนี้จะไม่อนุญาตให้มีการออกอากาศรายการเฟ้นหาไอดอลบนหน้าจออีกต่อไป
.
ในที่สุดรายการแนวค้นหาไอดอลในจีนก็เดินทางมาถึงทางตันนะคะ เมื่อสำนักงานบริหารวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติของจีนออกประกาศอย่างเป็นทางการว่าหลังจากนี้จะไม่อนุญาตให้มีการออกอากาศรายการเรียลลิตี้เพื่อเฟ้นหาไอดอล ทั้งทางโทรทัศน์และแพลตฟอร์มออนไลน์อีกต่อไป และก็ยังห้ามจัดทำระบบโหวตที่ต้องจ่ายเงิน จูงใจให้ซื้อสินค้า หรือสมัครสมาชิก เพื่อแก้ปัญหาวัฒนธรรมแฟนคลับเป็นพิษที่กำลังเกิดขึ้นในจีนอีกด้วยค่ะ // โดยมาตรการใหม่ที่ทางการจีนออกมาคว่ำบาตรวงการไอดอลในครั้งนี้ ได้รวมอยู่ในกฎเหล็ก 8 ข้อของประกาศเกี่ยวกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับรายการเชิงศิลปะและบุคคลากรที่ทำงานในด้านนี้ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เรื่องของการต่อต้านบุคคลที่กระทำผิดกฎหมาย จรรยาบรรณ และศีลธรรม / การกำหนดมาตรฐานความงามอย่างถูกต้อง / การควบคุมนักแสดงและแขกรับเชิญให้อยู่ในกรอบวัฒนธรรมที่ดีและไม่สร้างค่านิยมผิดๆให้แก่สังคม / ปฏิตามระเบียบการจ่ายค่าตัวอย่างเคร่งครัด / ไปจนถึงการเสริมสร้างจรรยาบรรณในวิชาชีพและเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมค่ะ
.
ต้องบอกว่าการปิดฉากรายการค้นหาไอดอลในจีนไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายนะคะ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีหลายหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านสื่อของจีนออกมาวางระเบียบให้กับรายการแนวนี้มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานวิทยุโทรทัศน์ปักกิ่งที่ออกประกาศเกี่ยวกับการจัดการรายการวาไรตี้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ และสำนักงาน Cyberspace แห่งชาติจีน หรือ CAC ที่งัดไม้แข็งอย่างมาตรการ “ชิงหล่าง” เพื่อจัดระเบียบวงการบันเทิงในโลกออนไลน์
.
นอกจากรัฐบาลจีนจะมองว่าวัฒนธรรมไอดอลเป็นการสร้างค่านิยมผิดๆให้แก่เยาวชนแล้วนะคะ อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้ทางการต้องใส่ใจกับเรื่องนี้มากขึ้นก็คือขบวนการแสวงหาผลประโยชน์จากกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการเข้าสู่วงการบันเทิงค่ะ โดยสำนักข่าวซินหัวได้เปิดเผยว่า มีเอเจนซี่ปลอมที่หลอกลวงคนหนุ่มสาวให้จ่ายเงินกว่าหลายแสนหยวนเพื่อแลกกับการเข้าไปเป็นเด็กฝึกในสังกัด ซึ่งนี่ก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้จีนต้องเร่งปราบปรามรายการค้นหาไอดอล เพื่อลดความนิยมในการสมัครเป็นเด็กฝึก และป้องกันการฉวยโอกาสจากความฝันของเด็กๆ
#ไทยบันเทิง #ศูนย์สื่อศิลปวัฒนธรรม #ThaiPBS

362 Nameless Fanboi Posted ID:LgapZk.25f

>>361 เรื่องนี้อยากให้ไทยทำตามจีนว่ะ เวทีประกวดตอนนี้เยอะเกินไป ดูแล้วไม่อิน ดังก็ดังแบบงงๆ ดาราศิลปินขายไม่ออกล้นตลาด แย่สุดผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมมาเป็นดาราได้ เป็นยุคที่วงการบันเทิง อิหยังเดสึก้ะ? มากที่สุดเท่าที่เคยประสพมา

363 Nameless Fanboi Posted ID:Z0Z34x/VJY

อันนี้กุเห็นด้วยนะ อุตสาหกรรมหากินกับการโหวตของคนดูมันเกินไปจริง ไม่นับเรื่องติ่งเชี่ยที่พาดาราตัวเองลงเหว

364 Nameless Fanboi Posted ID:MBMVkC7.vT

หลักการของวัคซีนคือการป้องกัน หลังจากฉีดแล้วควรจะไม่มีการติดเชื้ออีก ยิ่งได้รับเข็มบูธยิ่งควรมีภูมิคุ้มกันที่ป้องกันการติดเชื้อ มีประเทศสารขัณฑ์ประเทศเดียวนี่ล่ะ ที่บอกว่า วัคซีนแล้วยังติดได้อีก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

365 Nameless Fanboi Posted ID:LgapZk.25f

>>364 พูดอะไร ไม่เกรงใจมหาอำนาจตะวันตกกับกรมอยามัยโลกเลยนะเนี่ย

366 Nameless Fanboi Posted ID:Z0Z34x/VJY

>>364 ใช่ถ้าเป็นโรคเก่า
พอดีโควิทมันเคสพิเศษที่ทำวัคซีนแบบ fast track ทุบสถติโลกกันทุกช่องทาง แถมเชื้อกลายพันธุ์แบบสนุกสนาน เพราะงั้นตอนนี้ไม่ว่าฉีดตัวไหน ก็มีโอกาศติดเชื้อซ้ำหมดนั่นละ ไม่ใช่แค่ไทยที่บอกแบบนี้ แต่เป็นทั้งโลกนะ ยกเว้นเกาหลีเหนือ

367 Nameless Fanboi Posted ID:Uvt1/DbGce

>>364 ก็มันติดได้จริงนิ ไม่งั้นจะมีบูสเหรอ PZ นี่ละตัวตั้งตัวตีให้มีเลย จะได้ขายซ้ำได้ อันนี้ถือเป็นเรื่องแปลกเลย อพราะปกติวัคซีนจะขายซ้ำไม่ค่อยได้ แต่โควิดทำได้ เพราะคิดวัคซีนได้เร็วเกินไป โรคยังอยู่ตัว ไม่มีสายพันธ์หลักเพียงหนึ่งหรือสอง แต่ยังกลายพันธ์อยู่เรื่อยๆ

368 Nameless Fanboi Posted ID:NWKiA1MbCI

หลอกขายวัคซีนกากๆให้ไทยกำไรเป็นหมื่นล้านหลิ่มไม่พูดดดด 555

369 Nameless Fanboi Posted ID:1EJE248Yu8

>>366 โควิดมันเชื้อตระกูลไข้หวัด กลายพันธุ์ง่ายก็ไม่แปลกหรอก สำคัญคืออย่าให้มันระบาดง่ายขึ้นและอาการป่วยแรงขึ้นก็พอ (ซึ่งในทางสถิติเก่าๆ จะไม่เป็นแบบนี้ เพราะเท่ากับเชื้อทำลายตัวเอง ติดง่ายตายง่าย เชื้อก็ระบาดต่อไม่ทัน)

370 Nameless Fanboi Posted ID:NWKiA1MbCI

ทั้งหมดทั้งมวล เกิดจาก "เจ๊ก" เหี้ย

371 Nameless Fanboi Posted ID:qzaJlDuZle

>>366 เกาหลีเหนือก็จะแบบ รักษาโควิดด้วย.38

372 Nameless Fanboi Posted ID:qzaJlDuZle

>>371 หลิ่มควรสรรเสริญนะ

373 Nameless Fanboi Posted ID:tMCkZcxeS5

การศึกษาแย่อยู่แล้ว ยังจะขี้เกียจอีกเหรอครับ

-มิตรสหายท่านนึงพูดถึงแฮชแทคที่กำลังดังในทวิต

374 Nameless Fanboi Posted ID:9gtScvB97U

>>364 ไปฟังใครมาวะว่า”สารขัณฑ์ประเทศเดียว”

เพื่อนกู คนยุโรปเมืองนูเรมเบิร์ก ไฟเซอร์สองเข็ม วันนี้โดนตรวจquick testเป็นบวก ตรวจย้ำอีกรอบก็เป็นบวก โดนส่งกลับไปนอนบ้าน รอผลตรวจละเอียด

เยอรมันเป็นสารขัณฑ์ด้วยเหรอ

375 Nameless Fanboi Posted ID:NWKiA1MbCI

>>374 เพื่อกู Sinovac 10 เข็ม คนกะลาแลนด์ วันนี้โดนตรวจquick testเป็นบวก ตรวจย้ำอีกรอบก็เป็นบวก โดนส่งกลับไปนอนบ้าน รอผลตรวจละเอียด

376 Nameless Fanboi Posted ID:9gtScvB97U

CDC ของอเมริกามีข้อแนะนำให้ทำยังไงถ้ามีวัคซีนแล้วแต่ผลตรวจเป็นบวก

อเมริกาเป็นสารขัณฑ์เหรอ

https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/vaccines/fully-vaccinated.html

377 Nameless Fanboi Posted ID:NWKiA1MbCI

ตอนแรกบอกว่า ไม่ได้ฉีดกันติดแต่กันตาย
สักพักมึคนฉีด 2 เข็มแล้วติดตาย ก็ว่าดีกว่าไม่ฉีด
ถถถถถ ไอ้วัคซีนน้ำเปล่า

378 Nameless Fanboi Posted ID:9gtScvB97U

หมออิสราเอลพบBreakthrough infection

อิสราเอลเป็นกะลาแลนด์รึเปล่า

https://www.reuters.com/world/middle-east/israeli-doctors-find-severe-covid-19-breakthrough-cases-mostly-older-sicker-2021-08-20/

379 Nameless Fanboi Posted ID:NWKiA1MbCI

>>378 เพิ่งพบเหรอ ไทยพบนานแล้วนะหลิ่ม

380 Nameless Fanboi Posted ID:NWKiA1MbCI

พยายามบอกว่าต่างประเทศก็เป็น แต่ตางประเทศเขาจัดการได้ดีกว่ากะลาแลนด์แดนคนบ้าหีปกครองอะหลิ่ม

381 Nameless Fanboi Posted ID:9gtScvB97U

เอาจากไหนมาพูดว่ามีแค่ที่ไทยที่เดียวที่ประกาศว่าสองเข็มแล้วยังติดได้ แบบนั้นมั่ว ทั้งๆที่ชาติอื่นก็ประกาศว่าสิงเข็มยังติดได้

มั่วแล้วอย่าแถ

382 Nameless Fanboi Posted ID:9gtScvB97U

>>380 moving the goal post fallacyอ่ะ

ตอนแรกบอกไทยที่เดียว โดนจับโป๊ะก็ย้ายไปว่าฝรั่งจัดการดี

โถ logical fallacyนี่เคยเรียนไหม

383 Nameless Fanboi Posted ID:NWKiA1MbCI

>>381
ตะ ตะ แต่ประเทศเราประกาศตั้งแต่ยังไม่มีเดลต้าเข้ามาเลยนะหลิ่มวที่ว่า 2 เข็มแล้วยังติดอะหลิ่มโง่

384 Nameless Fanboi Posted ID:NWKiA1MbCI

>>382 เอาตอนนี้ที่มีเดลต้ามาแถว่าต่างประเทศเขาก็ประกาศ เหอๆตลกอะหลิ่ม

385 Nameless Fanboi Posted ID:tMCkZcxeS5

ข่าวจากJanuaryจากอเมริกาเกี่ยวกับคนที่สองเข็มแล้วยังติด

ตอนนั้นเดลต้ายังไม่เข้าเมกา

https://www.forbes.com/sites/brucelee/2021/01/31/why-you-can-still-test-positive-for-coronavirus-after-covid-19-vaccination/amp/

386 Nameless Fanboi Posted ID:9gtScvB97U

เลื่อนgoalpostไปเป็นเดลต้าด้วย 55555555555

เลื่อนสองครั้งแล้ว ครั้งที่สามจะเลื่อนไปไหน

387 Nameless Fanboi Posted ID:NWKiA1MbCI

>>385
อ่านภาษาอังกฤษออกปะเนี่ย เขาบอกว่าทำไมผลตรวจถึงเป็น + หลังจากฉีดวัคซีน 2 เข็ม แค่นั้นอะหลิ่มเข้าไปอ่านบ้างดิเหตุผลเขาก็มีอยู่ ไม่ใช่เอาวัคซีนกากๆมาฉีดแล้วบอกว่าไม่ได้ฉีดกันติด โดยไม่บอกว่าวัคซีนที่ฉีดอะกาก

388 Nameless Fanboi Posted ID:NWKiA1MbCI

ขรรมในความแถของหลิ่มวะ 55555
ต่างประเทศเขาเดินถอดหน้ากากกันพักใหญ่นะหลิ่ม รู้บ้างป่าว

389 Nameless Fanboi Posted ID:tMCkZcxeS5

ฝรั่งในข่าวฉีดไฟเซอร์สองเข็ม ไล่ให้คนอื่นไปอ่าน ตัวเองอ่ะอ่านไหม

อันนี้จากDecember 2020 พยาบาลไฟเซอร์สองเข็ม ติดโควิด

เลิกแถเหอะ ทำเอาพวกเกลียดหลิ่มดูโง่ไปเลยนะมึงน่ะ ไม่น่าเชื่อว่าอยู่ซ้ายเหมือนกัน

https://www.forbes.com/sites/marshallshepherd/2021/12/30/a-nurse-got-coronavirus-after-being-vaccinatedwhy-reactions-are-familiar-to-meteorologists/?sh=414c9e002f14

390 Nameless Fanboi Posted ID:9gtScvB97U

ไม่ไร้สติ = หลิ่ม

ไร้สมองจริงๆ

โกลโพสต์ที่สามเลื่อนไปที่ฝรั่งไม่ใส่หน้ากาก ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกันเลย 55555

สุดยอดfallacy

391 Nameless Fanboi Posted ID:NWKiA1MbCI

>>389 อะไรของมึงหลิ่มแถให้สุดนะ มีคนติดแต่รัฐบาลยังไม่ได้ประกาศว่าฉีดแล้วมีโอกาสติดอะหลิ่ม แถให้สุด โชว์โง่เรื่อยๆ อวยวัคซีนเจ๊กพ่อมึงไปเหอะ

392 Nameless Fanboi Posted ID:NWKiA1MbCI

>>390 จ้าไม่ได้เกี่ยวเลยเนอะ เขาไม่ใส่เพราะตอนนั้นเขาฉีดวัคซีนครบแล้วโอกาสติดมันแทบไม่มีไงหลิ่ม มึงต้อโง่ขนาดไหนเนี่ย

393 Nameless Fanboi Posted ID:NWKiA1MbCI

แถมาต่อดิ๊หลิ่ม

394 Nameless Fanboi Posted ID:wmhG3KH4Hs

เดี๋ยวนี้มีสลิ่ มไฟเซอด้วยเหรอวะ ปกป้องยังกะมีหุ้นในบริษัท ใครเอาข้อมูลอะไรมาคือด้อยค่า อวยซิโนแวคหมด ตรรกะสลิ่ มสัสๆรู้ตัวมั้ยล่ะนั่น

395 Nameless Fanboi Posted ID:hmafsae4Yj

>>394 เหมือนมึงบอกคนดีเฟ้นเรื่องโลกกลมคือสลิ่่มโลกกลมอ่ะ555 เอาให้เจ๊กยอมใช้แต่เชื้อตายไม่แลmrnaให้รอดก่อนนะจ๊ะ

396 Nameless Fanboi Posted ID:t6ypE9nuoc

>>394 ยังไงวะ ต้องปกป้องวัคซีนจีน ขอบคุณจีนทั้งๆที่มึงซื้อมาแบบนั้นเหรอ

397 Nameless Fanboi Posted ID:tMCkZcxeS5

เอาแค่statementเริ่มต้นของ >>364 ที่บอกว่า"มีประเทศสารขัณฑ์ประเทศเดียวนี่ล่ะ ที่บอกว่า วัคซีนแล้วยังติดได้อีก"

ซึ่งมันผิด มีหลักฐานให้เห็นชัดๆว่าประเทศอื่นก็บอกประชาชนว่ามีวัคซีนยังติดได้

แต่ไม่ยอมรับว่าstatementนี้ผิด เลยโยนป้ายหลิ่มให้คนที่มาแย้งผิดๆนี้ แล้วแถไปแถมาไร้สาระ หลักฐานที่จะเอามาแย้งก็ไม่มี อ่านแล้วคิดดูละกัน

398 Nameless Fanboi Posted ID:hmafsae4Yj

>>397 มีไม่กี่ประเทศที่บอกว่าวัคซีนอะไรก็ติดได้ "เหมือนกันหมด" แล้วฉีดๆไป และกะลาคือ1ในนั้นแน่นอน ส่วนประเทศพัฒนาแล้วมันหาวัคซีนดีที่สุดเท่าที่หาได้ทั้งนั้น

399 Nameless Fanboi Posted ID:hmafsae4Yj

คิดเล่นๆ ตรรกะขี้ตีน แดกอะไรก็หายหิวเหมือนกันหมด เพราะงั้นหาอะไรได้ก็แดกแม่งเลย ข้าวไม่สุกไข่เน่า ถุงขนมเหลือในถังขยะ แดกหมด อิ่มเหมือนกัน

400 Nameless Fanboi Posted ID:d+rRDRaJm6

ก่อนนี้เห็นหลิ่มออกมาแซะมะกัน อังกฤษ ว่ายอดพุ่ง
ก็มีบอกว่าเขาไม่สนยอดติดแล้ว เขาสนว่าติดแล้วไม่ตายเพราะฉีดวัคซีนแล้ว
ไอ้ตรรกะนี่มันก็ที่คือที่แบบที่ >>397 บอกนี่

401 Nameless Fanboi Posted ID:hmafsae4Yj

>>400 ไม่ตาย ไม่ป่วยหนักด้วย

แล้วก็ไม่เชิงไม่สน แต่ตอนนี้วัคซีนมันยังพัฒนาได้แค่นี้ตะหาก ถ้ามีเวอร์ชั่นกันติดได้ด้วยออกมา พวกปทพัฒนาแล้วก็ไม่มีใครบอกว่าจะไม่ลงทุนซื้อมาใช้นะ เพราะยังไงก็ต้องบูสวัคซีนอยู่แล้ว

402 Nameless Fanboi Posted ID:5Ji5mUoA.W

ก็ยังไปเถียงกับมันได้นะ อยู่ห้องนี้มาซักพักก็น่าจะรู้แล้วว่าคุยไปก็เท่านั้น

403 Nameless Fanboi Posted ID:1EJE248Yu8

>>400 >>401 บ้านเขาอยู่กับความจริงน่ะ ในเมื่อรู้ว่าล็อกดาวน์ยาวๆ มีแต่จะพังกันหมด งั้นก็ต้องทนอยู่กับมันทั้งแบบนี้แหละ อยากติดก็ติดไปตราบใดที่ไม่ป่วยหนักหรือไม่ตายกันเป็นเบือก็ไม่ล็อกดาวน์ (แต่อังกฤษก็สุดโต่งไปหน่อยนะเล่นไม่บังคับใส่แมส อเมริกา-อิสราเอล มาแนวเดียวกันยังบังคับใส่แมสอยู่) แล้วก็ฉีดกระตุ้นภูมิวนไปจนกว่าจะเจอวัคซีนที่ป้องกันการติดเชื้อได้จริงๆ นั่นละ

404 Nameless Fanboi Posted ID:9P1LBDu.ME

พยายามทำความเข้าใจกับเนิ้อหาที่เขียนเกี่ยวกับการทุจริตในการซื้อ Sinovac ว่าผลต่างระหว่างงบประมาณที่ ครม. อนุมัติกับจำนวนเงินจริงที่ อภ. ใช้ในการซิ้อวัคซีน จำนวนเงิน 1,603 ล้านบาท เข้ากระเป๋าใคร

ถ้าเข้าใจไม่ผิด ผลต่างนี้น่าจะเรียกว่า "งบประมาณเหลือจ่าย" (ใช่ไหม) ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติ เกิดขึ้นแทบทุกครั้งที่มีการจัดซื้อจัดจ้าง งบประมาณเหลือจ่ายนี้ก็สามารถนำไปจัดสรรสำหรับโครงการอื่นที่มีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณ เงิน 1,603 ล้านบาท ก็ไม่ได้หายไปเข้ากระเป๋าใคร เพราะไม่ได้ถูกจ่ายออกไป

ประเด็นนี้ไม่น่าจะหยิบยกขึ้นมาอภิปรายนะ มันไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับการทุจริต นอกเสียจากว่าจะจงใจสื่อสารให้คนเข้าใจผิดไป

หากต้องการยกประเด็นว่าการจัดซื้อวัคซีนไม่ชอบมาพากล ก็ควรพูดกันเรื่องราคาที่ตกลงซื้อว่าแพงเกินหรือไม่ (อาจไปสืบมาว่าประเทศอื่นเค้าซิ้อกันราคาเท่าใด) ซึ่งอาจนำไปสู่การมีเงินทอนได้ กระบวนการจัดซื้อถูกต้องตาม พรบ จัดซิ้อจัดจ้างหรือไม่ การต่อรองราคาเป็นไปเพื่อประโยชน์ของทางราชการหรือไม่ อะไรทำนองนี้ ก็เข้าใจว่าประเด็นนี้หาข้อมูลยาก ก็เลยอยากแกล้งใช้เรื่องงบประมาณเหลือจ่ายเอามาตีให้คนเข้าใจผิดดีกว่า จำนวนเงินเยอะด้วย ตีฆ้องได้ดัง เรียกความสนใจของคนได้เยอะด้วย

405 Nameless Fanboi Posted ID:vhXRaBKjQA

>>404
แล้วเงินที่เหลือเอาไปไหน อย่ามามโนเอาเองว่าเป็นงบเหลืองจ่ายดิ ในการอภิปราบก็ไม่มีใครตอบได้ว่าไปอยู่ แค่ตอบว่าผมไม่โกง แค่นั้น อย่ามโน

406 Nameless Fanboi Posted ID:9P1LBDu.ME

จากข้อมูลในรูป คำถามไม่น่าจะอยู่ที่ผลต่าง 2,098 ล้านบาท เข้ากระเป๋าใคร เพราะความแตกต่างระหว่างงบที่อนุมัติกับงบที่ซื้อจริงเป็นเรื่องปกติ ส่วนนี้ไม่ใช่ "เงินทอน"

สิ่งที่สงสัยคือ ครม. อนุมัติงบประมาณครั้งเดียวเป็นกรอบวงเงินเลยใช่ไหม ถ้าใช่ ก็เข้าใจได้ว่าทำไมราคาที่อนุมัติงบประมาณจึงเป็น USD 17 ต่อโดส คงที่ แต่ถ้าไม่ใช่ ต้องมีคำอธิบายว่าเมื่อรู้แล้วว่าราคาเริ่มลดลง ทำไมยังอนุมัติวงเงินโดยใช้ราคา USD 17 ต่อโดส ตามเดิม การอนุมัติงบประมาณให้มากเกินไป ใช้เหลือ อภ. ก็ต้องคืน แต่เหมือน อภ. ชี้แจงว่า ออกเงินไปก่อน แล้วทำเรื่องขายให้กรมควบคุมโรคในราคาซื้อบวกค่าดำเนินการ 2-4% ซึ่งต่ำกว่างบประมาณที่อนุมัติ ตรงนี้ก็เป็นการเสียโอกาสในการนำงบส่วนเกินนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างทันท่วงที

พยายามคิดว่า จะมีประโยชน์อะไรในการอนุมัติงบเกินไป ทั้งๆ ที่รู้ว่าก็ต้องจ่ายตามจริง จ่ายเกินราคาตามสัญญาไม่มีใครกล้าทำ มันโง่เกินไป ตรวจปุ๊บก็เจอปั๊บ (ถ้ามีเงินทอน ก็จะไม่ใช่ก้อนนี้ จะต้องเป็นเงินที่ผู้ขายแอบส่งคืนให้จากเงินที่เราจ่ายตามราคาซื้อจริง) ถ้าจะเดานะ งบเหลือจ่าย 2,098 ล้านบาทนี้ ก็อาจจะนำไปจัดสรรสำหรับโครงการอื่นๆ ได้ ก็สุดแล้วแต่ว่ารัฐบาลจะเห็นสมควร ก็ไม่รู้ว่างบเหลือจ่ายส่วนนี้จะมีข้อจำกัดในการใช้อย่างไร กระทรวงไหนจะได้งบส่วนนี้ไป มีงบประมาณในมือมากขึ้นก็ย่อมดีกว่าไม่มีงบประมาณ

407 Nameless Fanboi Posted ID:9P1LBDu.ME

หญิงที่แอบเสียความบริสุทธิ์ครั้งแรกตั้งแต่วัยเรียนให้ใครก็ไม่รู้ที่พ่อแม่ก็ไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า หญิงที่พอเริ่มคิดจะแต่งงานก็ไล่นึกย้อนไปจนอาจจำไม่ได้ว่าผ่านชายนอกสมรสมากี่คน หญิงที่บางคนก็แต่งตัวหวือหวาเมาเหล้าเต้นลิวล้อกับผู้ชายรอบผับ แล้วบางครั้งก็ไปจบที่ใครสักคนในค่ำคืนนั้นและเรียกมันว่าวันไนท์สแตนด์

อิตถีเพศแบบนึ้ละหรือ ที่ริมาวิพากษ์สตรีที่พยายามอยู่ในผ้าคลุมแห่งความดี สตรีที่พยายามอยู่ในศีลในธรรมของศาสนา และพยายามอย่างยิ่งที่จะรักษาพรหมจรรย๋ไว้ให้กับสามีของพวกเธอเท่านั้นในวันแต่ง

ต้องให้พวกเธอมีความคิดและพฤติกรรมดารดาษเช่นท่านละหรือท่านถึงจะพอใจ ต้องให้พวกเธอเสรีเปลื้องผ้า ต้องให้เสรีฟรีเซ็ก เสรีปะปนทุกอย่าง เสรีจนกระทั่งไปจบที่อ้างสิทธิ์ตัวเองเพื่อฆ่ามนุษย์ในท้องเพียงเพราะเกิดมาจากการระงับอารมณ์ความใคร่เยี่ยงปศุของตัวเองไม่ได้แบบนั้นละหรือ

การอวดโฉมตัวเองสำหรับอิสลามนั้นเป็นสื่อเบื้องแรกที่จะนำพาไปสู่บาปที่ใหญ่หลวงกว่า ยิ่งผู้หญิงอวดความงดงามหรือยิ่งปะปนกันระหว่างเพศมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเปิดประตูนำพาไปสู่สิ่งนั้นได้ง่ายขึ้น และบาปเหล่านี้ในศาสนาเราบอกว่ามันคือความชั่วที่จะทำให้ถูกลงโทษในโลกหน้าถ้าไม่สำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัว

ความเสรีของเราไม่ได้อยู่ในโลกนี้ แต่เราจะมีอิสระและความสุขที่แท้จริงในโลกหน้า ฉะนั้นจงอย่ามาบังคับให้เราเสรีเลย

408 Nameless Fanboi Posted ID:L.MjnVG5Hx

>>407
>มุซซี่

GTFO

409 Nameless Fanboi Posted ID:0eLwAyhYZa

>>407
>มุซซี่

Based

410 Nameless Fanboi Posted ID:TTbE1aG+MR

Warden ช่วยชีวิตผมไว้อีกแล้ว ในช่วงที่ btc ใน binance ร่วงเหลือ 42900
ผมเลือกใช้ best rate ใน warden เลยยังสามารถขาย btcb ได้ที่ 48,000 ในชั่วพริบตา ก่อนจะร่วงมาเท่ากัน
Warden จงเจริญ

411 Nameless Fanboi Posted ID:TTbE1aG+MR

"แล้วมันมีประโยชน์ยังไง ถ้ามีก็ทำเลย แต่ถ้าไม่มีก็อย่าทำ มันไร้ความหมาย"
.
แก่นของการทำสิ่งหรือพิจารณาสิ่งใด ๆ ในโลกนี้มันก็มีแค่นี้แหละ ทุกเรื่องไม่ว่าจะเล็กใหญ่ง่ายซับซ้อน หลักพิจารณามันก็มีแค่นี้
.
วันก่อนที่ พส. ออกมาเทศน์ในรูปแบบแนวใหม่แหวกประเพณีนิยมแบบไทย ๆ เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลากหลาย
.
ความจริงไม่มีอะไรซับซ้อนเลย คิดแค่ว่า "มันมีประโยชน์ยังไง"
.
และสิ่งที่ พส. ทำก็เห็นชัดว่ามันมีประโยชน์ให้ธรรมะเข้าถึงคนรุ่นใหม่ง่ายขึ้น
.
มันก็แค่นั้น มีประโยชน์ก็ทำ ไม่มีประโยชน์ก็อย่า
.
ถ้าโดนคนต่อย จะต่อยกลับมั้ย ? ถามตัวเองสิว่า "มันมีประโยชน์ยังไง" ถ้ามีก็ทำ ถ้าไม่มีก็เดินหนีไป มันก็แค่นั้น
.
หรือคนเห็นผี เห็นแล้วมันมีประโยชน์ยังไง ? ถ้ามีประโยชน์ก็เห็นผีแล้วทำอะไรที่ดีขึ้นมา แต่ถ้าเห็นแล้วไม่มีประโยชน์อะไรก็แค่เดินผ่านไป เพราะเห็นหรือไม่เห็นมันก็ไร้ความหมาย
.
หากลบกิเลส โมหะ โทสะ และสิ่งที่ไร้สาระทั้งปวงไป แก่นแท้มันก็แค่นี้แหละ
.
มีประโยชน์ก็ทำ ถ้าไม่มีประโยชน์ไม่ต้องทำ
.
มันก็แค่นั้น
0

412 Nameless Fanboi Posted ID:kUnTpdArGs

หลายคนที่ถือพุทธ มักมองพุทธเจ้าว่าเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์​ แต่ในแง่หนึ่งพุทธเจ้าคือนักปฏิวัติหัวรุนแรง จะมีสักกี่คนที่อยู่ ๆ ออกมาประกาศ​ว่า โลกนี้ไม่มีชนชั้นวรรณะ ไม่มีพระเจ้าสร้างโลก

อย่าลืมว่าตอนพุทธเจ้าออกมาปฏิวัติสังคม อายุ 20 ปลายๆ เท่าปรีดี จอมพลป. ตอนคิดปฏิวัติสังคมไทย

413 Nameless Fanboi Posted ID:FxvBxumOee

>>412 มีคนกล่าวมาก่อนแล้ว แต่พระพุทธเจ้าคือคนที่มีอิทธิพลที่สุดคนหนึ่ง

414 Nameless Fanboi Posted ID:I5/GOKmtC8

>>412 เอาจริงบุดด้าเองก็คงมีแบ็คใหญ่พอตัว แค่วาทะที่บอกว่าคนเกิดจากหีนี่ก็น่าจะแรงมากในสมัยนั้นนะ เอาแค่ซัก20ปีก่อนถ้ามีคนบอกฉันเกิดในรัช....แล้วอีกคนแซะว่าฉันเกิดจากหี คงเป็นเรื่องเป็นราวกัดกันใหญ่โต แต่นี่อินเดียโบราณที่นั่งท่องพระเวทโอร่าๆชาบู3เทพ ชาบูพวกตัวเองว่าเกิดจากปากเทพมาเป็นร้อยปี อยู่ๆมาบอกทุกคนเกิดจากหีตะหาก ไม่โดนชาวบ้านรุมกระทืบก็คงโดนพวกขาใหญ่ยุคนั้นจ้างคนมากระทืบกันบ้างล่ะ

415 Nameless Fanboi Posted ID:xKTWjOj/gm

ดูสถิติเด็กไทยที่ออนไลน์เล่นเกมส์ ดูหนัง ดูโซเชียลวันละ 8-9 ชม. ผมจำได้ว่า ผลการสำรวจประมาณสิบปีหลัง นักเรียนและนักศึกษาไทย เราเล่นเนทผ่านมือถือ ชนะค่าเฉลี่ยโลกกระจุย ติดท็อปเทนมาตลอด
...
ก็เลยรู้สึกตลกร้าย ที่ไปทำท่าแขวนคอ ประท้วงการเรียนออนไลน์ ด้วยเหตุผลว่า ใช้เนทมากอย่างนี้ไม่ไหว😁😁😁
...
ผมพยายามจะคิดว่า นักเรียนนักศึกษาไทย ก็คืออายุ 6-21 ปี ที่เรียนหนังสือคือสิบล้านคน แต่ที่ลงชื่อประท้วงกันคือหลักพัน คงเป็นส่วนน้อย ที่ใช้เนทมากไม่ได้ หรือใช้เนทได้เพื่อเล่นเกมส์ ดูหนัง โซเชียล หรือแค่เพื่อบันเทิง
...
คงน่าอนาถ ถ้าเทคโนโลยีที่พยายามเอามาชุบตัวว่ารุ่นใหม่ ใช้ได้เพียงแค่บันเทิง แต่ไม่สามารถใช้เพื่อกิจกรรมที่มีประโยชน์ได้
...
อย่ายอมแพ้นะครับ พวกไดโนเสาร์ที่น้องๆ ด่ากัน ผมเห็นเขาออนไลน์โครมๆ เพื่อทำงาน หาเงิน รักษาสภาพการทำงานกันมาปีครึ่งแล้ว ผมไม่ค่อยเห็นสลิ่ มไดโนเสาร์รอบตัวผม บ่นว่า องค์กรเฮงซวย ประชุมผ่านเนท สั่งงานผ่านเนท ไม่เป็นเวลา เห็นทุกคนที่มีงานอยู่ มีแต่ยิ้มนะ
...
บอกว่า "กูโชคดีแล้ว ที่ยังมีงานทำอยู่!!!"
😂😂😂😂😂
#มิตร

416 Nameless Fanboi Posted ID:DzJ79J7tpk

>>414 เป็นเจ้าชายราชวงศ์ใหญ่และมีชื่อเสียงเลื่องลือมาก่อนแล้ว ใครจะทำอันตรายก็ต้องคิดหน้าคิดหลังละ

417 Nameless Fanboi Posted ID:dEKIGyjB3Y

>>415 ขออนุญาตขำการเอาเลขสถิติมาตีความบิดเบือนเพื่อด้อยค่าคนเห็นต่างนะ 55555

418 Nameless Fanboi Posted ID:I5/GOKmtC8

>>416 จริงๆไม่ใหญ่ขนาดนั้น​ กบิลพัสแค่เมืองเล็ก​ กูมองแบคน่าจะพิมพิสารป่ะ​ คิงที่บุดด้าไปสอนคนแรกๆ​ แต่ปูมหลังที่เคยเป็นปริ๊นก็อาจมีส่วนให้เข้าหาพิมพิสารง่ายขึ้น

419 Nameless Fanboi Posted ID:kUnTpdArGs

ปัญหาของพรรคกล้าคือ เป็นพรรคที่ครึ่งๆกลางๆไปไม่สุดสักทาง ในด้านความกล้า คุณก็สู้ก้าวไกลไม่ได้ ในด้านปฏิบัตินิยมเน้นลงมือทำจริง คุณก็สู้เพื่อไทยไม่ได้ ในด้านความเป็นส ลิ่ม คุณก็สู้พลังประชารัฐและรวมพลังประชาชาติไทยไม่ได้ ฐานเสียงที่คุณอยากได้ มันโดนแย่งจากพรรคอื่นไปแล้ว

420 Nameless Fanboi Posted ID:+oJSp00E+N

>>419 เหมือน ปชป. นั่นละ ขวาจัดเขาไป พปชร.-รปช. กันหมด แต่เรื่องปฏิบัตินิยมกูค้านหน่อย มันยังไม่ได้เป็นรัฐบาลเลย (มีแต่กรณ์เป็น รมต.คลัง) เพื่อไทยเป็นมาแล้วก็มีผลงาน

421 Nameless Fanboi Posted ID:+oJSp00E+N

เขาไม่ได้มีข้อเรียกร้องตามม๊อบทั่วไป เช่น ให้ประยุทธ์ลาออก ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่ใช่ตรงนี้เลย ข้อเรียกร้องของพวกเขาคือต้องการรัฐบาลใหม่ มีคนเข้ามาจัดการใหม่ ได้รับวัคซีน ต้องการให้พ่อแม่ของพวกเขาได้กลับไปทำงาน”

“ซึ่งเป็นประเด็นเรื่องปากท้องของปัจเจก ไม่ใช่ประเด็นที่พวกเขาต้องตกผลึกทางสังคมจากทฤษฎีสังคมการเมือง แต่เป็นประเด็นที่พวกเขาได้รับผลกระทบโดยตรง”

#มิตรสหายดินแดงท่านหนึ่ง

422 Nameless Fanboi Posted ID:zY1FwWe8S7

เจอซ้ายไทย สื่อซ้ายไทย อวย เค้าโครงเศรษฐกิจของปรีดีว่าดีอย่างงู้น อย่างงี้ อู้หูว เลาจะมีรั๊ดสวัดดิ๊ก๊าน !!!!

อ่านๆดู ก็แนวๆรัฐผูกขาดอุตสาหกรรมและ กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่ดิน เกือบทั้งหมด แล้วให้ประชาชนทุกคนเป็นข้าราชการ ไม่มีอิสระทางเศรษฐกิจ แทรกๆมาว่า จะเลี้ยงดูปู่เสื่ออย่างดี AKA รั๊ดสวัดดิ๊ก๊าน ดีกว่า คอมเพียวๆ นิดๆ คือ มี Social safety net ให้ แต่ จะเอาเงินมาจากไหน ไม่ต้องรู้หรอก แค่บอกว่าจะทำให้ได้

แบบนี้ ซ้ายไทย ชอบกันนัก แล้วก็อวยกันซ้ำ ๆ แต่อีกปากนึก ด่า ช้าราชการ ว่า เปลือง แดกงบประมาณ กูนี่ขรรมสัสๆ จะเอายังไงกันแน่

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

423 Nameless Fanboi Posted ID:641e9DOieM

>>422
เหมือนหลิ่มอวยจีน แต่จึนไม่มีกษัตริย์มาแตกงบนะ กร๊ากกกก ไอ้โง่กราบหมา

424 Nameless Fanboi Posted ID:zTBfcH.Ubg

democret ไม่ว่าที่ไหนก็ขยะเหมือนกันทั่วโลกมุกเดิมๆ คือ กดดันใช้มวลชนให้ตัวองเป็นฝ่ายถูก บังคับให้แสดงท่าทีนี่
เอาจริงๆ คือมันไม่มีอะไรให้ประท้วงอยู่แล้ว มันไม่ใช่ประท้วงเพื่อให้กลุ่มตัวเอง"เท่าเทียม" แต่มันประท้วงให้กลุ่มตัวมีสิทธ์มากกว่าคนอื่น

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

425 Nameless Fanboi Posted ID:zTBfcH.Ubg

BLM

1.เดิมทีก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมของคนผิวสีให้มีความเท่าเทียมที่เทียบเท่าคนผิวขาวและชนชั้นสูงของอเมริกา

2.กลุ่มนี้ได้รับความสนใจและเป็นกระแสไปทั่วโลกหลังจากได้ออกมาประท้วงการเสียชีวิตของ George Floyd

3.ช่วงแรกๆที่ออกมาประท้วงนั้นทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อยและสงบสุข

4.พอผ่านไปสักพักแล้วทางกลุ่มเริ่มคุมมวลชนของตัวเองไม่อยู่จนมีคนจากกลุ่ม ANTIFA มาผสมโรงก่อการจลาจล ทำลายทรัพย์สิน เข้าประทะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปล้นสดมภ์ ทำร้ายผู้คน ตามรัฐต่างๆทั่วประเทศ

5.บรรดาฝ่ายบริหารเมืองและรัฐต่างๆนั้นแบ่งท่าทีเป็น 2 ฝ่าย คือ
1.ฝ่ายสนับสนุนซึ่งสั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามใช้กำลังปราบปรามผู้ชุมนุมถึงแม้ว่าพวกเขาจะก่อเหตุปล้นสดมภ์ ทำร้ายผู้คน และเผาอาคารก็ตาม ถึงแม้จะมีคนโดนจับกุม อัยการก็สั่งปล่อยกลับบ้านทันที (เคสเมือง Portland นี่เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด)
2.ฝ่ายคัดค้านกลุ่ม BLM นั้นเกิดขึ้นตามเมืองต่างๆที่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดซึ่งมีกฎหมายการครอบครองปืนที่เสรีและกฎหมาย Stand on your groud ที่เข้มงวดสุดๆซึ่งเป็นผลดีต่อบรรดาเจ้าของบ้านและธุรกิจ สนับสนุนงบประมาณและดันหลังตำรวจเต็มที่

6.BLM จะออกมาประท้วงก็ต่อเมื่อมีคนผิวสีเป็นผู้เสียหายเท่านั้นโดยไม่สนใจว่า คนผิวสีดังกล่าวนั้นทำถูกหรือผิด (เคสหญิงสาวในรัฐ OHIO ที่จะเอามีดแทงคู่กรณีแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสั่งให้ทิ้งมีดแล้วแต่ไม่ยอมทำตามเลยโดนจัดการนั้นเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมากครับ) แต่พอคนผิวสีเป็นผู้ก่อเหตุอย่างการปล้นสดมภ์ในเมือง Portland และ Sanfrancisco,การสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจในรัฐ Florida นั้นบรรดาผู้สนับสนุนเงียบกริบไม่ออกมากัน

7.พอทางฝ่ายบริหารเมืองมีการปรับปรุงกฎหมายบทลงโทษการก่อจลาจลให้เข้มงวดขึ้นกลุ่ม BLM ออกมาประท้วงเพราะเป็นการกดขี่สิทธิ์เสรีภาพในการแสดงออกและเป็นการเหยียดเชื้อชาติโดยให้เหตุผลว่า จะมีคนผิวสีตกเป็นเหยื่อจากฎหมายดังกล่าวมากขึ้น

8.บรรดาผู้ก่อตั้งและผู้นำนั้นชีวิตเปลี่ยนไปฐานะดีขึ้นจากเมื่อก่อนในขณะที่บรรดากลุ่มผู้ชุมนุมนั้นยังอยู่ที่เดิม

9.สงวนลิขสิทธิ์การเรียกร้องความเท่าเทียมทางเชื้อชาติให้คนผิวสีเท่านั้น ถ้ามีคนอื่นๆออกมาเรียกร้องให้กับเชื้อชาติอื่นๆจะโดนต่อว่า เหยียดเชื้อชาติและอาจจะถึงขั้นทำร้ายร่างกายไปเลย

10.พอจนมุมไม่สามารถโต้เถียงด้วยเหตุผลและข้อมูลได้สุดท้ายจะหงายการ์ดเหยียดเชื้อชาติออกมาและใช้มวลชนเข้ากดดันให้พวกตัวเองเป็นฝ่ายถูก

11.บังคับให้คนรอบข้างเห็นด้วยกับแนวคิดของกลุ่ม ใครที่ไม่เห็นด้วยหรือไม่แสดงท่าทีกระตือรือร้นจะโดนมวลชนบังคับให้แสดงท่าทีออกมา

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

426 Nameless Fanboi Posted ID:7.NETvVNy5

>>425 ไม่ต่างจากสามกีบบ้านเราเท่าไหร่เลยแฮะ

427 Nameless Fanboi Posted ID:mmIjxp88T4

>>426 จริงหรา ดูยังไงก็พฤติกรรมหริ่มชัดๆเลยนะ

428 Nameless Fanboi Posted ID:BsoBz/KVFS

>>426 >>427 พวกมึงก็ไม่ต่างอะไรกันหรอก หลิ่่ม ร่่าล ไม่มีความคิดริเริ่มเหี้ยอะไรเลยไร้จุดยืนโง่ให้เขาจูงไปเรื่อย

429 Nameless Fanboi Posted ID:EDZNz6APGu

>>424 เดโม+รีพับเมกา ไม่เอาพ่องทั้งคู่นา​ จะเอาพ่องต้องไปกลุ่มโปรโมนาขี้เมกานู้น​ มีหยิบหมอยนึงแถมมันจะเอาคอนโมขี้แบบอังกฤษอีก​ ถถถถ

430 Nameless Fanboi Posted ID:R8DBMmilqE

>>422 กระแสโลกตอนนั้นคิดว่าทำแบบนั้นแล้วจะเจริญไวนะ ตอนจีนเสนอแผนก้าวกระโดดไปข้างหน้ามั้งญี่ปุ่นและเมกามองว่าจีสคอมจะเจริญขึ้นมาอย่างรวดเร็วเหมือนตอนที่สตาลินใช่แผน 5 ปีฉบับแรก โซเวียตทำสำเร็จแต่ก็แลกด้วยชีวิตคนเป็นล้าน ส่วนจีนแลกชีวิตคนเป็นล้านเหมือนกันแต่ไม่สำเร็จ

431 Nameless Fanboi Posted ID:wLBPq5n+3z

มีขวาโง่ๆแบบนี้ เดมก็ชนะต่อไป

432 Nameless Fanboi Posted ID:7.NETvVNy5

>>429 ใช่ เมกะ ไม่เอาโมนาขี้ เมกาชอบเลียตีนกษัตริย์ซาอุฯ ต่างหาก

433 Nameless Fanboi Posted ID:+oJSp00E+N

มนุษย์แม่งเป็นงี้หมดแหละ เหมือนหลุดลูปนี้ไม่ได้จริงๆ นะ จากโดนเอาเปรียบก็ต่อสู้เรียกร้อง พอเรียกร้องชนะก็ยังรู้สึกว่าตัวเองยังไม่เท่าเทียมพอ ก็เรียกร้องต่อไปอีก ใครค้านใครตั้งคำถามก็ด่าเขาเป็นพวกโลกเก่า พวกศักดินา นายทุน ชายเป็นใหญ่ ฯลฯ แล้วพอถึงจุดหนึ่งกระแสสังคมก็เหวี่ยงไปอีกฝั่ง จากซ้ายมากๆ ก็เป็นขวา พอขวามากๆ ก็กลับมาเป็นซ้ายอีก

ทำไงมนุษย์จะหลุดลูปนี้ได้วะ

434 Nameless Fanboi Posted ID:knJmi74nY5

>>432 น่าสนใจ จะรอดูปธนเมกาไปเลียตีนขอให้ซาอุมาปกครองประเทศนะแจ๊ะ

435 Nameless Fanboi Posted ID:knJmi74nY5

>>433 มันขวามากไม่ได้แล้ว ไอ้ที่ขวาๆเมกาอยู่ตอนนี้ไม่ได้ขี้ตีนขวาไทยเลย (นับความคลั่งอะนะ) เพราะงั้นดูยังไงเทรนโลกก็ไปทางซ้าย พอมันเกินไปก็มีคนเบรกแค่นั้นเอง

436 Nameless Fanboi Posted ID:zY1FwWe8S7

เมกาให้ เงินอิสราเอลแบบเปล่าๆ ปี 4-5 พันล้านเหรียญ

437 Nameless Fanboi Posted ID:sCTLnIcs3X

เพราะยิวครอบครองอเมริกายังไงล่ะ

438 Nameless Fanboi Posted ID:wLBPq5n+3z

วันนี้เมื่อ 36 ปี รัฐประหาร 9 กันยากับคาราบาว

........

รัฐประหาร 9 กันยายน 2528 เปิดด้วยมนูญและมนัส รูปขจร และนายทหารอาวุโสในกองทัพที่เป็นปฏิปักษ์กับเปรม ติณสูลานนท์เช่นเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เสริม ณ นคร จนกลายเป็นชื่อเรียกว่าเป็นการรัฐประหารโดยทหารนอกราชการ

9 กันยายน 2528: กลุ่ม “ทหารนอกราชการ” ก่อกบฏ อ้าง “เศรษฐกิจแย่-ว่างงานเยอะ-อาชญากรรมสูง”
https://www.silpa-mag.com/this-day-in-history/article_2356

แต่ตัวหลักจริงๆคืออาทิตย์ กำลังเอกผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่ตอนนั้นกำลังใหญ่คับฟ้าแต่มีปัญหากับเปรมตั้งแต่เรื่องลดค่าเงินบาท มาจนถึงการต่ออายุราชการ

การรัฐประหารดังกล่าวล้มเหลวเพราะว่า "ไม่มาตามนัด"

(ส่วนวงในบอกว่าอาทิตย์ใจไม่ถึงเพราะราชสำนักยังยืนเคียงข้างเปรมมาตั้งแต่ รัฐประหารเมษาฮาวาย และอีกข่าวคือพิจิตร กุลละวณิชย์ทหารคู่ใจของอาทิตย์ กำลังเอก ทรยศเปลี่ยนข้างไปอยู่กับเปรม)

สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือแผนการรัฐประหาร 9 กันยายน 2528 นั้นจะเป็นการรัฐประหารโดยมีการเคลื่อนมวลชนไปพร้อมกัน (สงสัยไปเอาแผนการรัฐประหารสมัยพระเพทราชา เพื่อล้มพระนารายณ์)

คนที่รับอาสาปลุกระดมมวลชนคือวงคาราบาว ที่ตอนนั้นกำลังโด่งดังทะลุฟ้าด้วยอัลบั้มเมดอินไทยแลนด์

คาราบาวเต็มวง รับหน้าที่ไปตั้งเวทีที่ลานพระรูปทรงม้า ทั้งร้องเพลงและปราศรัยด่าเปรม ส่วนนี่เป็นบทสะท้อนว่า ณ เวลานั้นคือปี 2528 เปรมเป็นที่เกลียดชังขนาดไหน ซึ่งไม่เหมือนกับประวัติศาสตร์ของเปรมที่เขียนมาภายหลัง

แต่เมื่อตั้งได้ไม่นานก็มีเสียงปืนมาถล่มบริเวณเวทีจึงต้องล่าถอยไปในที่สุด
และเป็นการปิดฉาก 10 ชั่วโมงของการรัฐประหาร ดังที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐได้พาดหัว

อีก 3 เดือนต่อมา อเมริโกย เป็นอัลบั้มชุดที่ 6 ของวงคาราบาว วางจำหน่ายวันที่ 1 ธันวาคม 2528 โดย อามีโก้ เป็นผู้โปรโมทและจัดจำหน่าย

ในอัลบัมมีเพลง มะโหนก (ถึกควายทุย ภาค 6) ที่อุทิศให้มนูญ รูปขจรด้วยแม้ไม่ประกาศออกมาตรงๆ

อย่างที่ทราบกันดีถ้าเอาเทปชุดดังกล่าวมากลับหัวก็จะเจอข้อความว่า 9 ก.ย. เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น 3 เดือน

แต่ที่น่าตลกกว่านั้นก็คืออีก 20 ปีต่อมาแอ๊ด คาราบาวกลายเป็นลูกรักคนหนึ่งของเปรม ติณสูลานนท์และแต่งเพลงเชียร์ ให้เปรมและคณะออกมารัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ทักษิณ ชินวัตรจนกลายเป็นวิกฤติการเมืองมาจนถึงปัจจุบันด้วย

439 Nameless Fanboi Posted ID:BWi0FIVuDB

>>438 ว้าว

440 Nameless Fanboi Posted ID:8iNNFEG1pR

มาจ๊ะมา เราไปกันอีกครั้งที่ Florida สถานที่น้ำใสไหลเย็น

....เห็น จระเข้!!!!!!

ละไม่ใช่ตัวเล็กๆนะจ๊ะ ตัวเกือบเท่า Paddle Board เลยทีเดียว!!!

Vicky Baker ไปพาย Paddle Board เล่นกับเพื่อนที่แถว Silver Spring Park ใน Florida ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ดีๆก็มีจะเข้ American Alligator ตัวเท่านี้ ว่ายเข้ามาหา พยายามจะกัด paddle ของเธอเขา

อยากรู้ว่า Vicky ทำอย่างไร?

A. กรี๊ดกร๊าดดดดด ลนลาน ตะโกนบอกเพื่อนแตกตื่นโทรแจ้ง 911

B. ลูบหัวจระเข้เล่น บอกทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะ กลับไปว่ายน้ำตามเดิม

C. รับเลี้ยงจระเข้ ประหนึ่งว่าเธอเป็นเจ้าหญิง Disney

ไม่บอกหรอก ดูเฉลยได้ใน comment

ปล. น้ำใสสวยมาก ก้อยอยากไปพายเล่นช่วงที่มีพะยูน แต่แถมพี่เข้แบบนี้ไม่เอานะ

Cr: Fox News 35 Florida และ ภาพจากเพจ FB ของ Vicky Baker

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

441 Nameless Fanboi Posted ID:hF4bCNsQi0

จากวันที่ลิซ่าปล่อยเพลงทำให้เรารู้ว่าทำไมชาติไทยหลุดพ้นยาก
1.คนทำชุดคือหลิ่ม
2.รายการสัมภาษณ์เป็นหลิ่ม
3.ช่องที่ออกคือช่องหลิ่ม
4.ติ่งพร้อมกับไปเข้าใจหลิ่ม
5.ทุกอย่างในไทยรันด้วยพวกหลิ่ม
#ลิซ่า #TodayIsLalisaDay #asava #รัฐบาลส้นตีนคนเชียร์ก็ส้นตีน

442 Nameless Fanboi Posted ID:2GGsQLC0oq

>>441 แต่มันไปดังที่เกาหลีนะ...

443 Nameless Fanboi Posted ID:P3PUOV.DZl

รัฐบาลพลัดถิ่นของพม่าได้ประกาศ civil war ระดับ full scale กับรัฐบาลทหารอย่างเป็นทางการไปเมื่อ 2-3 วันก่อน เท่ากับว่าพม่าจะเกิดสงครามกลางเมืองไปจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแพ้พินาศย่อยยับไป

คนรุ่นใหม่ คนหนุ่มสาว ที่เดินขบวนประท้วงรัฐบาลทหาร คนเหล่านี้จำนวนมากได้เข้าร่วมฝึกอาวุธและยุทธวิธีทางการทหารเมื่อราวๆ 3-4 เดือนก่อน ตอนนี้เริ่มทยอยออกมาร่วมปฎิบัติการโจมตีรัฐบาลในหลายๆรัฐ

444 Nameless Fanboi Posted ID:qYnbZA5L1u

>>443 รวมถึงกูด้วย ถ้าเจอรูปคนโบกธงไทยหน้าทำเนียบพม่าในเวลาไม่เกินปีนี้ นั่นคือกู

445 Nameless Fanboi Posted ID:YtGlqXR4G+

>>443 จะขยายสเกลไประดับรัฐล้มเหลวป่าววะ แบบนี้ชายแดนไทยน่าจะไม่สงบอ่ะ
ผู้อพยพทะลัก ส่วนฝั่งทหารพม่าถึงครองอำนาจแต่ก็คงปกครองไม่ได้
เจอสงครามกองโจรเรื่อยๆ นายทุนหนีหมด

446 Nameless Fanboi Posted ID:w.NmCj8kYZ

>>445 เจ้าสัว cp คงบ่นอิบเลยสิลงทุนไปเยอะ ผลยังไม่ทันออกเลย เยดแม่ม

447 Nameless Fanboi Posted ID:hXtP92JyI7

>>444 เบียวจัง 👏👏👏👏

>>446 เจ้าสัวลงเยอะที่รัฐฉาน เมื่อก่อนชอบทำ PR ให้ไทใหญ่ลงช่องทรู ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังทำมั้ย

448 Nameless Fanboi Posted ID:T+yCPeIXAP

โตต้าลงงบวิจัย1.5ล้านล้านเยนเพื่อพัฒนาแบตเตอรี่ ถ้าเป็นเจ้าสัวไทยนั่งบริหารก็คงเก็บเงินไว้กว้านซื้อที่ดินดีกว่า
เรื่องการจ้างงานและสะสมองค์ความรู้คืออะไรกรูไม่สน รอซื้ออันที่ชาวบ้านเขาพัฒนาแล้วถูกกว่า อิอิอิ
https://www.youtube.com/watch?v=3v9idim6RjI

449 Nameless Fanboi Posted ID:qtJeypyRLp

>>448 สันดานเจ๊ก เก่งแค่ ซื้อมาขายไป เน้นลอก ไม่เน้นคิด เอามักง่ายเข้าว่า

เชื่อว่าถ้าคนไทย ยุคก่อนได้โอกาสพอๆกัน ไม่ต้องส่งส่วย สักเลก เข้ากะนู่นนี่นั่น เจ๊กแมร่งไม่มีที่ยืนในปัจจุบันหรอก ขนาดเกณฑ์ทหารยังยกเว้นให้

คนที่ ชอบบอก เจ๊กขยัน ทำงานหนัก เลยรวย คนไทยขี้เกียจ เล่นการพนัน เล่นยา (ซึ่งเจ๊กก็ไม่ได้น้อยไปกว่า สำหรับเรื่องพวกนี้ ) เลยจน แปลว่าไม่เข้าใจ คำว่า แรงจูงใจ คือ คนจะทำอะไรมันต้องมีแรงจูงใจ ถ้ามึงปลูกพืชผล ดูแลอย่างดี ทุกอย่าง แทนที่จะได้เอาไปขายเอง เอากำไร รัฐก็มาริบเข้าเป็นส่วยหมด ใครมันจะไปอยากทำ อยากคิด ทำไปคิดไป รัฐก็เคลม คนไทยยุคก่อน ไม่มีกรรมสิทธิ์ส่วนตัว หรือ แนวคิดทุนนิยม เพราะรัฐไม่ต้องการแบบนั้น

450 Nameless Fanboi Posted ID:qtJeypyRLp

ญี่ปุ่นที่เจริญขึ้นมาได้ ก็เพราะ รัฐรวมศูนษ์ ลดอำนาจศักดินาผูกขาดทางการค้าลง ให้กรรมสิทธิ์ ประชาชน และผลักดันระบบทุนนิยมกับระบบตลาด รวมไปถึงพัฒนา ภาคธนาคาร ให้คนกู้ยืม ไปลงทุนได้ง่ายขึ้น ธุรกิจเลยตามมา

คนที่บอกว่าญี่ปุ่นเจริญ เพราะคุณภาพคน นี่ก็พูดส่งเดช เหมือน แค่ weeb โง่ๆตัวนึง ที่รู้เรื่องญี่ปุ่นผ่านทางแค่ มังงะกับอนิเมะ

ก่อนเรือดำ มา คนญี่ปุ่น ป่าเถื่อนจะตาย วิ่งเอาดาบซามูไรไล่ฟันกัน ไปวันๆ ไม่เห็นจะมีคุณภาพตรงไหน เทคโนโลยีอะไรก็แทบไม่มี นอกจาก การตีดาบโง่ๆ ขนาดปืนไฟ ยังต้องนำเข้าจากยุโรปอีกที ดินปืนก็ซื้อมาหมด ไม่ได้คิดเอง

นึกสภาพ ไทยยกเลิกระบบ ไพร่ ทาส ตั้งแต่ยุคอยุธยา ให้มีอิสระในการเลือกทำอาชีพ ทำมาหากิน ออกกฎหมายคุ้มครองกรรมสิทธิส่วนบุคคล กับ กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา

451 Nameless Fanboi Posted ID:.h/4Yqwh7D

>>449 แหงดิ เจ๊กเสียค่าผูกปี้3ปีครั้ง ครั้งละ3สลึง ไพร่ไทยถ้าไม่เข้าเดือนออกเดือนก็ต้องเสียเป็นเงินแทนเดือนละบาท ปีนึงก็6บาทแล้ว จะออกนอกเขตสังกัดก็ไม่ได้

แล้วเจ๊กมีศักดินาสูงกว่าไพร่ด้วยนะมึง เพราะหลวงอยากค้าขายกับจีน แต่โล้สำเภาเองไม่เป็น ต้องใช้สำเภาเจ๊ก เลยต้องให้อภิสิทธิ์เจ๊ก

452 Nameless Fanboi Posted ID:oKya2zXdJZ

>>450 อย่าเพิ่งคิดไปไกลถึงขั้นยกเลิกอะไรขนาดนั้นเลย เอาแค่ระบบสอบรับราชการแบบจอหงวนที่เจ๊กทำมานานเป็นพันปี แม่งยังไม่มีปัญญาคิดจะทำ คิดแต่ยึดสมบัติจากไพร่ที่ทำงานงกๆ ไปก้มหัวขอเป็นขี้ข้าเจ๊ก แล้วเอาตราตั้งหมวกกากๆมาหลอกไพร่ต่ออยู่ได้

453 Nameless Fanboi Posted ID:EeStAKQy50

>>448 ตามข่าวมั่ง ในอาเซียนไทยลงทุนด้านนี้สุดแล้วมั้ง มสกกว่าเวียดนามกับอินโดที่คนชอบเอามากดไทยอีก

https://www.prachachat.net/economy/news-654313

>>449 เดี๋ยวนี้เจ๊กเริ่มตามทันแล้วนะ เพราะมันมีทุนเยอะและคนเยอะ ถึงจะไม่ระดับ cutting edge ระดับเมกาทุกอัน แต่มีดีที่ขั้นตอนวิจัย>ผลิตจำนวนมากง่ายกว่า ของเมกาล้ำกว่าจริงแต่ขั้นตอนการวิจัย>ผลิตจำนวนมากมรปัญหาอยู่ เพราะไม่ค่อยมีรง.ในประเทศ จ้างจีนถูกกว่า เวลาเห็นจีนออกอะไรได้เร็วกว่าก็เพราะแบบนี้ละ

>>450 อัตราการรู้หนังสือกับความทันโลกของญี่ปุ่นสมัยนั้นสูงมากนะ ชนชั้นซามูไรส่วนใหญ่คือบันฑิตที่มีความรู้สูงมากอยู่แล้ว ถึงพวกป่าเถื่อนจะมีเนอะจริง แต่ป่าเถื่อนและฉลาดก็มีเยอะกว่า และเพราะความป่าเถื่อนนี่ละถึงมีความกล้าดำเนินนโยบายพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่ชนขั้นพ่อค้าก็มีความกล้าหาญและองอาจผิดกับชาติเอเชียอื่นๆ ที่กดพ่อค้าเป็นเพียงข้าทาสไว้ขูดรีด

สิ่งแรกๆ ที่ชนชั้นนำญี่ปุ่นทำหลังรวบอำนาจได้คือนำคณะรัฐบาลเกือบทั้งคณะไปทัวร์ตปท.เพื่อเปิดโลกและเลือกทางเดินของตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่ก่อนหน้านั้นไม่มีชาติไหนกล้าทำ แม้แต่ไทยที่พยามเลียนแบบก็ส่งไปแค่กลุ่มคนรุ่นใหม่เล็กๆ ไม่มีขุนนางใหญ่ไปเป็นคณะแบบนี้เลย เพราะกลัวการปฏิวัติซ้อน แต่ญี่ปุ่นไม่กลัว เพราะกำจัดภัยแฝงเรียบร้อยแล้ว และคนที่เหลือดูแลประเทศอยู่ก็มีความมุ่งมั่นแบบเดียวกัน ไม่กลัวการรวบอำนาจ ถ้ามึงบอกว่านี่ไม่ใช่คุณภาพคน มึงนั่นละที่ไม่อ่านปวศ.อะไรเลย

454 Nameless Fanboi Posted ID:aTlLnDT3im

>>453 ที่มึงยกมามันยังเป็นแค่การรับจ้างผลิต ส่วนที่กูแปะคือการลงทุนวิจัย
แล้วทุนวิจัยเพื่อพัฒนามันมาจากไหน มันก็มักจะมาจากผลกำไรส่วนหนึ่งของบริษัท
นอกจากได้พัฒนาเทคโนโลยีแล้วมันยังเป็นการกระจายความมั่งคั่งของนายทุนไปสู่ชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง
แล้วชนชั้นกลางที่มีงานทำในแผนกวิจัยก็เอาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เงินก็หมุนไปในระบบมากขึ้น
GDP ของประเทศก็จะเพิ่มขึ้นกว่าการที่นายทุนเอาเงินไปกว้านซื้อที่ดินเก็บไว้

455 Nameless Fanboi Posted ID:oKya2zXdJZ

>>453 คำว่าคุณภาพคนมันหมายถึงคุณภาพปชชส่วนใหญ่ ปกติเวลาพวกอ้างคนไม่พร้อมชิงสุกก่อนห่ามอะไรเนี่ย ก็หมายถึงคุณภาพคนส่วนใหญ่อยู่แล้วไม่ใช่เรอะ แต่ถ้าคุณภาพชนชั้นนำนี่ก็คนละชั้นกันจริงแหละ ชนชั้นนำไทยไม่น่าเลียนแบบญีปุ่นหรอก น่าจะแค่พยายามเอาตัวรอดและจัดสรรแบ่งปันผลประโยชน์จากการมาของฝรั่งให้ได้ดีที่สุดตะหาก การปฏิรูปเมจิเป้าหมายคือพัฒนาให้ทันตะวันตก แต่ของไทยแค่ขายผ้าเอาหน้ารอดพอให้ตะวันตกเลิกด่าว่าด้อยพัฒนาแค่นั้น

456 Nameless Fanboi Posted ID:rlDpoShtlE

ต่อให้ไม่มีระบบไพร่ คนไทยก็ไม่ค่อยชอบทำธุรกิจนะ การเลิกระบบไพร่มันแค่แก้ไขเรื่องไม่คุ้ม แรงงานไพร่ใช้ฟรีๆ เหมือนดีแต่งานไม่ค่อยต่อเนื่องและมีคุณภาพเท่าไรถ้าเทียบกับการจ้างแรงงานโดยตรง แต่พอเลิกไพร่ ความฝันของเจ๊กกับไทยมันก็ยังต่างกัน เจ๊กเป็นกุลีความฝันคือเป็นเถ้าแก่มีกิจการห้างร้านของตัวเอง ส่วนไทยเป็นกรรมกรความฝันคือเก็บเงินซื้อที่ดินไว้ปลูกนั่นเลี้ยงนี่

จะว่าไปกูก็งงๆ นะ ทำไมเจ๊กคิดว่าอาชีพค้าขายเป็นธุรกิจ แต่ไทยดันไม่มองอาชีพเกษตรเป็นธุรกิจมั่ง

457 Nameless Fanboi Posted ID:EeStAKQy50

>>455 มีหลายตัว มันแค่ไม่มีใครเล่นข่าวพวกนี้ อย่างสาย EV ปตท.คือผู่เล่น ลงทุน และวิจัยใหญ่สุดของไทยเลยก็ว่าได้ แต่ความเร็วในการวิจัยก็ตามเงินกับกำลังคนอะนะ จะให้เทียบกับยีกษ์ใหญ่ด้านนี้ก็ยากหน่อย

https://www.prachachat.net/economy/news-753863

https://www.vistec.ac.th/news/detail.php?mid=W054&id=585

ส่วนหลังที่มึงพูดนะกูเห็นด้วยนะ กูถึงเชียร์ EEC มาตั้งแต่แรก ไทยควรเดินด้านนี้ตั้งนานแล้ว ถึงจะช้ายังไงก็ควรไป

>>455 ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นตอนนั้นก็ไม่ได้แย่นะ อัตราการรู้หนังสือ 50% เทียบเท่ายุโรปเลย อีกทั้งพอเปิดประเทศ จริงๆ คือก่อนเปิดก็มีกระแสแล้ว คือการแปลหนังสือ ทั้งจากจีนและฝรั่ง หนังสือบางเล่มขายได้เป็นพันเล่มในช่วงก่อนเปิดประเทศ พอเปิดประเทศคนญี่ปุ่นยังกระหายความรู้จากต่างชาติจำนวนมาก หนังสือแปลขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเรื่องนี้บอกได้ชัดเจนว่าคนญี่ปุ่นจำนวนมากในช่วงนั้นมีความรู้หรือความอยากรู้สูงมาก ซึ่งเป็นตังบ่งบอกคุณภาพปชก.อย่างหนึ่ง ทุกวันนี้คนญี่ปุ่นก็ยังนิยมอ่านหนังสือแปลอยู่ ระดับการตามแปลไวมากจนแปลออกภายในปีเดียวกันก็มีเยอะแยะ เรื่องนี้พอเทียบกับไทยแล้วคงเห็นความต่างชัดเจนนะ

458 Nameless Fanboi Posted ID:EeStAKQy50

>>455 มีหลายตัว มันแค่ไม่มีใครเล่นข่าวพวกนี้ อย่างสาย EV ปตท.คือผู่เล่น ลงทุน และวิจัยใหญ่สุดของไทยเลยก็ว่าได้ แต่ความเร็วในการวิจัยก็ตามเงินกับกำลังคนอะนะ จะให้เทียบกับยีกษ์ใหญ่ด้านนี้ก็ยากหน่อย

https://www.prachachat.net/economy/news-753863

https://www.vistec.ac.th/news/detail.php?mid=W054&id=585

ส่วนหลังที่มึงพูดนะกูเห็นด้วยนะ กูถึงเชียร์ EEC มาตั้งแต่แรก ไทยควรเดินด้านนี้ตั้งนานแล้ว ถึงจะช้ายังไงก็ควรไป

>>455 ส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นตอนนั้นก็ไม่ได้แย่นะ อัตราการรู้หนังสือ 50% เทียบเท่ายุโรปเลย อีกทั้งพอเปิดประเทศ จริงๆ คือก่อนเปิดก็มีกระแสแล้ว คือการแปลหนังสือ ทั้งจากจีนและฝรั่ง หนังสือบางเล่มขายได้เป็นพันเล่มในช่วงก่อนเปิดประเทศ พอเปิดประเทศคนญี่ปุ่นยังกระหายความรู้จากต่างชาติจำนวนมาก หนังสือแปลขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเรื่องนี้บอกได้ชัดเจนว่าคนญี่ปุ่นจำนวนมากในช่วงนั้นมีความรู้หรือความอยากรู้สูงมาก ซึ่งเป็นตังบ่งบอกคุณภาพปชก.อย่างหนึ่ง ทุกวันนี้คนญี่ปุ่นก็ยังนิยมอ่านหนังสือแปลอยู่ ระดับการตามแปลไวมากจนแปลออกภายในปีเดียวกันก็มีเยอะแยะ เรื่องนี้พอเทียบกับไทยแล้วคงเห็นความต่างชัดเจนนะ

459 Nameless Fanboi Posted ID:qtJeypyRLp

>>456 คนไทยไม่ชอบค้าขาย เพราะไม่ชอบเองแต่แรก หรือ เพราะ ราชสำนักไม่อนุญาติ ?

มนุษย์อยู่ได้ด้วยการแลกเปลี่ยนสินค้า ถ้าไม่ใช่ขนาด ชนเผ่าไร้อารยธรรม ขนาดแก้ผ้า ล่าสัตว์ ไม่ติดต่อใดๆ แบบเกาะ sentinel

คนจีน มาค้าขายที่ไทยได้ เพราะ ราชสำนักไม่ห้าม ประเทศในยุโรปนี่สนับสนุนด้วยซ้ำ

สมัยก่อน เขาผูดขาดการค้า ชนชั้นสูงไทยสมัยก่อน งี้ โคตรรวย ไพร่ สามัญชน หมดสิทธิ์ แล้วก็เอาเงินมาจ้าง พวกนั่งโต๊ะ ให้เข้าไปเลีย เอ๊ย เข้าไประบราชการ จนเกิดเป็นค่านิยม ต่อๆกันมา ว่าต้องเข้าทำงานหลวง มีกินมีใช้ การค้าขายเลยไม่ค่อยอยู่ในหัวคนไทย

460 Nameless Fanboi Posted ID:qtJeypyRLp

ดู พอ ไทยเข้าโลกทุนนิยม จริงๆ คนไทยก็ค้าขายกันเยอะแยะ ไม่เห็นจะไม่ชอบตรงไหน ได้เงินอ่ะ

และ 2 คำที่กูไม่เคยเห็นด้วย

คุณภาพประชากร กับ ความขี้เกียจ

461 Nameless Fanboi Posted ID:oKya2zXdJZ

>>457 อัตราการรู้หนังสือของญี่ปุ่น มันไม่ใช่ได้มาจากปชชส่วนใหญ่ดิ้นรนหาเอาเองทั้งที่ชีวิตมีแต่เกณฑ์แรงงานกับสักเลกนะมึง

462 Nameless Fanboi Posted ID:rlDpoShtlE

>>459 คนไทยชอบเป็นลูกจ้างว่ะ ระยะแรกๆ แน่นอนมีแต่ราชการแหละที่มีอนาคต แต่พอ ศก. มันขยายตัวมากขึ้น คนก็เข้าไปทำงานภาคเอกชนเยอะเหมือนกัน คำว่าเจ้าคนนายคนยุคต่อมาจึงไม่ได้หมายความแค่ราชการแล้ว เอกชนในตำแหน่งเสมียนก็นับด้วย เพราะมีโอกาสโตเป็น ผจก. ได้ในอนาคต แล้วพอโตระดับนั้นก็อยู่ไปจนเกษียณน่ะมึง

463 Nameless Fanboi Posted ID:oKya2zXdJZ

>>462 ชอบเป็นลูกจ้าง X
โดนกดจนชิน O

สังเกตไหม ปวศไทย แทบไม่มีคนดังใหญ่โตที่มาจากสามัญชน หรือแม้แต่ขุนนางผู้น้อยเลย มากสุดคือดังซักอีเวนท์นึงแล้วก็จบไป ไม่ตายก็หายตัวไปจากหน้าปวศ จบ

464 Nameless Fanboi Posted ID:rlDpoShtlE

>>463 วัฒนธรรมไทยไม่ส่งเสริมความทะเยอทะยานไง คำๆ นี้ในไทยเป็นคำที่มีความหมายลบนะ ต้องพยายามเลี่ยงไปใช้คำอื่นแทนเวลาจะกล่าวถึงคนอื่นในเชิงบวก

465 Nameless Fanboi Posted ID:aTlLnDT3im

>>457 ที่กูเอามาแปะไม่ได้จะด้อยค่าหรือกดประเทศไทยนะ กูแค่อยากแซะนายทุนใหญ่ๆทั้งหลายในประเทศ
อยากให้พวกเขาสนใจเรื่องการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีบ้าง ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีแล้วขายให้คนทั้งโลก โกยเงินเข้าประเทศได้เยอะๆ จะทำให้คนที่ทำงานในประเทศไทยเกิดการได้เปรียบทางเศรษฐศาสตร์มากขึ้น เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น ค่าแรงทำงาน 1 วันสามารถซื้อของสิ่งๆหนึ่งได้ในจำนวนที่มากกว่าคนที่ทำงานในประเทศอื่น

466 Nameless Fanboi Posted ID:EeStAKQy50

>>461 ไม่ว่าจะด้วยอะไร ตอนนั้นคนญี่ปุ่นก็มีคุณภาพมากกว่าไทยจริงๆ นั่นละ แม้ในบางแง่คุณภาพชีวิตจะแย่กว่าไทยก็เถอะ เพราะด้วยระบบซามูไร ต่อให้ฌดนฟันก็ทำไรมากไม่ได้ แล้วก็มีปัญหาเรื่องอดอยากอีก ใน 2 ด้านนี้ไทยค่อนข้างดีกว่าหน่อย แต่ก็แค่นั้นละ

>>465 กูก็แย้งไงว่ามันมี แต่คนไม่ค่อยเล่นข่าว อย่างโตโยต้าก็เหมือนกัน มันมีสิทธิบัตรด้าน EV กับแบตมากที่สุดในโลก มากกว่าเทสล่าอีก เพราะริเริ่มมาตั้งแต่ 20+ ปีก่อน และทำมาเรื่อยๆ คนไม่ค่อยรู้ความจริงข้อนี้เลยอวยเทสล่ามากดรัวๆ แต่ความจริงคือมันมีพื้นฐานแน่นมาก และพร้อมเปลี่ยนได้อย่างมั่นคง แค่มันไม่หวือหวาแบบเทสล่าก็แค่นั้น

467 Nameless Fanboi Posted ID:oKya2zXdJZ

>>464 ไม่ใช่วัฒนธรรมหรอก​ ระบบการปกครองล้วนๆ

468 Nameless Fanboi Posted ID:qzwE6oV.A1

>>467 แล้วทำไมตระกูลเจ้าสัว CP ตระกูล Central ตระกูลแบงค์กรุงเทพ ถึงรวยมาได้ พวกนี้เริ่มจากลูกจ้างทั้งนั้นนะ

469 Nameless Fanboi Posted ID:oKya2zXdJZ

>>468 จีนไม่ต้องเกณฑ์แรงงาน​ และที่จีนก็มีระบบการศึกษากับสอบราชการมาเป็นพันปีแล้วด้วยนะ

470 Nameless Fanboi Posted ID:oKya2zXdJZ

>>469 หมายถึงจีนมาอยู่ไทยอะ​ ไ​ม่ต้องเกณฑ์แรงงาน

471 Nameless Fanboi Posted ID:qzwE6oV.A1

>>469 ต้นตระกูลอพยบมาจากจีน แต่รุ่นสร้างตัวอ่ะเกิดในไทย อยู่ภายใต้การปกครองแบบไทยนี้แหล่ะ แต่เค้าพยายามกันมา

472 Nameless Fanboi Posted ID:oKya2zXdJZ

>>471 อพยพจากจีน​ ไม่เกณฑ์แรงงาน​ ต้นทุนก็สูงกว่าแล้ว​ อย่าเนียน

473 Nameless Fanboi Posted ID:oKya2zXdJZ

>>471 คนจีนได้เรียน​ สอบจอหงวน​ ได้เข้าระบบค้าขาย​ เดินเรือ​ ตั้งแต่สมัยไหน​ มาถึงไทยก็สอนให้ลูกหลาน​ พยายามเองยังไงวะ​ 555

474 Nameless Fanboi Posted ID:qzwE6oV.A1

>>473 ตระกูล CP ต้นตระกูลมาจากรับจ้างปลูกผัก
ตระกูล Central มาจากเด็กยกของในร้าน
ตระกูลแบงค์กรุงเทพมาจากคนรับจ้างล้างเรือ
ไม่ได้มาจากตระกูลรวยหรือได้เรียนมาจากตอนอยู่จีนเลย เลยต้องอพยบมาไทย

475 Nameless Fanboi Posted ID:qzwE6oV.A1

>>474 ถ้าบอกตระกูล โอสถานุเคราะห์ หรือ โชควัฒนา อ่ะได้เรียนมาไม่แปลก เพราะพวกนี้มาถึงค้าขายเลย

476 Nameless Fanboi Posted ID:qzwE6oV.A1

>>474 ตระกูลพวกนี้คือเริ่มจาก 0 เลย แต่อาศัยความพยายามจนสร้างมาได้

477 Nameless Fanboi Posted ID:gj3M98ooX.

>>474 เขียนโง่ๆ​ คนจีนรับจ้างปลูกผักมันรู้นะ​ เรื่องเรียนหนังสือไปสอบราชการแล้วเจริญ เรื่องได้เงินมาแล้วค้าขายได้​ ยิ่งพวกอพยพมา​ ยิ่งรู้เลยเรื่องค้าขายกับปทอื่นๆได้​ ส่วนไอ้ไทยนั่งทำงานงกๆ​ พ่องห้ามค้าขาย​ ถึงให้ค้าก็ไม่มีเวลา​ ปีนึงทำงานฟรีไปครึ่ง​ ข้าวไม่ให้แดกอีกต้องเอาไปเอง555​ มีหน้ามาแถ

478 Nameless Fanboi Posted ID:pv/q+IPRDx

>>474 รับจ้างปลูกผัก 5555555
“ แต่เดิมนั้น เจีย เอ็ก ชอ เป็นเจ้าของที่ดิน รายได้ที่ใช้ในชีวิตประจำวันมาจากการเก็บค่าเช่าที่ดินเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็เป็นรายได้ที่เพียงพอ”

479 Nameless Fanboi Posted ID:gj3M98ooX.

>>478 รวยมาตั้งแต่ที่จีนเลยนี่หว่า555 สาวกมีหน้ามาอ้างว่าไม่มีต้นทุน ไม่ได้อาศัยระบบของจีน https://www.blockdit.com/posts/5ce6ba37e1b7e50a50e0d29f

480 Nameless Fanboi Posted ID:pv/q+IPRDx

>>474 เซนทรัลเริ่มจากเด็กยกของในร้าน
“ ครั้นเมื่อบิดาของเตียงเสียชีวิตและจัดการไว้ทุกข์ตามประเพณีเรียบร้อยแล้ว เตียงจึงพาครอบครัวอพยพสู่ประเทศไทยตามที่ตนตั้งใจ โดยมาอาศัยอยู่กับพ่อตาคือนายตงฮั้วและนางด่านตี๋ แซ่หง่าน ที่เดินทางล่วงหน้ามาก่อนแล้ว 2-3 ปี โดยเตียงได้ช่วยกิจการของพ่อตาในร้านขายข้าวสารชื่อ “อั้นฟงเหลา” บริเวณท่าช้าง วังหน้า
ต่อมาเตียงเริ่มประกอบธุรกิจของตัวเอง โดยยืมเงินพ่อตาจำนวน 300 บาท “

481 Nameless Fanboi Posted ID:PK4B8CXu/2

>>479 พวกเจ้าสัวไทยมันจะมีรวยมาตั้งแต่จีนหรือไม่ก็ได้เมียรวย แต่สื่อจะชอบบอกว่าเริ่มจาก0 คนไทยจะได้มีกำลังใจทำธุรกิจ

482 Nameless Fanboi Posted ID:ky5wkz5F4Y

>>480 นี่เตียงแกมาเป็นเด็กในร้านของพ่อตาตัวเองก่อนจะยืมเงินมาตั้งตัว สมัยอยู่จีนแกไม่ได้รวย ไม่ได้เรียน มาถึงไทยก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว

483 Nameless Fanboi Posted ID:wn1N3BJSZK

>>480 เซ็นทรัลมารวยรุ่น คุณสัมฤทธิ์นะ สมัยพ่อแกเป็นร้านขายของชำ
สมัยนั้นแกเป็นคนแรกๆเลยที่ยอมขนของลงใต้ไปขาย ยิ่งตอนที่ดพไรสุดคือแกนำเข้าหนังสือเอาผลต่างของค่าเงิน สมัยนั้นพ่อแกเตียงยังไม่เห็นด้วย จนแกต้องขายทรัพย์สินส่วนตัวไปทำเลย

484 Nameless Fanboi Posted ID:wn1N3BJSZK

>>478 เจ้าสัวเจียเป็นคนเล่นให้ฟังเองว่า สมัยปู่แกตอนอยู่ที่จีนบ้านแกมีที่ให้เช่า แต่สมัยพ่อแกไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น
ตอนจบยังขายหมดแบกเงินมานิดเดียวกับเมล็ดผักมาที่ไทย สมัยแรกๆร้านขายเมล็ดผัก แกยังไปรับจ้างปลูกอยู่เลย

485 Nameless Fanboi Posted ID:Bu58DD+y./

ว่าแต่จอหงวนคนสุดท้ายมันสอบตั้งแต่ปี 1904 จากนั้นอีก 8 ปีราชวงศ์ชิงสิ้นอำนาจไปแล้ว หลังจากนั้นก็เป็นช่วงงดเว้นการศึกษา นี่เตียงแกเกิด 1905 จะเอาเวลาที่ไหนไปเรียน

486 Nameless Fanboi Posted ID:vAuRoTX9Ic

ญาติเล่าให้ฟังว่า ต้นตระกูลเป็นคนรวยในจีน ให้เงินมาตั้งตัวในไทย แต่เอาไปเล่นพนันหมด...

487 Nameless Fanboi Posted ID:gj3M98ooX.

>>482 >>483 >>485 โควต้าหมดเร็วจัง "มาอาศัยอยู่กับพ่อตาคือนายตงฮั้วและนางด่านตี๋ แซ่หง่าน ที่เดินทางล่วงหน้ามาก่อนแล้ว 2-3 ปี โดยเตียงได้ช่วยกิจการของพ่อตาในร้านขายข้าวสารชื่อ “อั้นฟงเหลา” บริเวณท่าช้าง วังหน้า"

>>484 "ไม่เยอะขนาดนั้น" แต่ "เพียงพอ" ส่วนไอ้ไทยตลอด300-400ปี มีแค่ข้าวสารกรอกหม้อแดก ทำงานฟรีแถมต้องเอาข้าวกรอกหม้อไปแดกเองอีก

488 Nameless Fanboi Posted ID:gj3M98ooX.

>>485 เออว่าแต่ งดเว้นการศึกษา แต่ระบบค้าขายที่ฮ่องเต้ปล่อยให้คนจีนทำได้ค่อนข้างอิสระ(กว่าไทยมากๆ) มันมีอยู่มาตลอดนะ ระบบถ่ายทอดองค์ความรู้ไม่ได้หายไปไหนด้วย ประวัติเจ้าสัวบางคนก็บอกๆอยู่ว่าคนจีนค้าขายเก่ง

489 Nameless Fanboi Posted ID:liCj9ES1Nr

พวกที่เอะอะอะไรๆ ก็โทษเจ้า (เหมือนกับ meme มันคือความผิดของแกสโซฮอล์ มันคือความผิดของดีเคด) ถามว่าหลังจากเลิกระบบไพร่ ทำไมคนไทยถึงยังเลือกค่านิยมเป็นลูกจ้างต่อไปล่ะ ไอ้เรียนเก่งๆ เป็นเจ้าคนนายคน มันไม่ใช่แค่ราชการแล้ว หลังๆ ลามไปยันเอกชนด้วย เมืองไทยถึง ป.ตรี เยอะจนล้นตลาดไง

490 Nameless Fanboi Posted ID:/UrdlkYMPo

>>487 ก็ถูกแล้วเตียงมายืมเงินพ่อตาแก แกไม่มีเงินมาแล้วก็ไม่ได้เรียนมา สมัยแรกแกทำแค่ร้านกาแฟเอง มารุ่นลูกแกต่างหากที่รวย

491 Nameless Fanboi Posted ID:ERFfh50jtW

>>489 คนไทยเก่งในการหาข้ออ้าง

492 Nameless Fanboi Posted ID:dZe/G8U4Hs

>>489 โยงมั่วได้่โล่เลยอะ

493 Nameless Fanboi Posted ID:mw9MsT0HL0

>>489 แหม เลิกแป๊บเดียว โรงเรียนก็ตั้งมาส่งๆ มหาลัยแทบไม่มี จะให้เก่งเทพเลยว่างั้น

494 Nameless Fanboi Posted ID:mw9MsT0HL0

>>489 เออลืม เรียนเก่งๆเป็นเจ้าคนนายคน นี่ก็มาจากระบบเรียนไปสอบรับราชการที่เจ้าตั้งนะ ถ้าก่อนหน้านั้นคือ มีเรียนแค่วัด มึงเรียนไปก็ไม่มีปัญญาเป็นเจ้าคนนายคนเหี้ยไรหรอก อย่างมากก็ไปแต่งกวีเหมือนไอ้พวกสุทรภู่ไรงี้ แต่เอาเข้าจริง สุนทรภู่หรือศรีปราชญ์ กวีอะไรที่อวยๆกัน มันก็ไม่ใช่สามัญชนจริงอีกแหละไปดูประวัติได้ เพราะงั้นถ้าสามัญชนแบบไพร่เลย ต่อให้เรียนกวีไปก็ไม่น่ามีประโยชน์อะไรนั่นแหละ

495 Nameless Fanboi Posted ID:pv/q+IPRDx

>>494 สอบเข้ารับราชการที่เจ้าตั้ง ❌
“ถวายตัวเข้ารับราชการ” ✅

เพิ่งมีเกณฑ์สอบแข่งขันเข้ารับราชการตอนพรบ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2476นี่เอง

496 Nameless Fanboi Posted ID:416bs185Ho

คหสต ไม่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งและสังกัดใดทั้งสิ้น

เข้าใจนะว่าเป็นปัญหาที่เรื้อรังสลับซับซ้อนและต้องแก้ไข

แต่รู้สึกว่าจะโทษ ปชช กับ ธนาคาร หรือ FI ก้อไม่ใช่ทั้งหมด เพราะราคาสินทรัพย์เช่นบ้านและคอนโด แพงมากจนคนเงินเดือนหกหลัก ยังมิอาจเอื้อม

ในขณะที่ ประเทศอื่น แก้ปัญหา household debt to gdp โดยการเร่งตัวส่วน ขยายศก. Inflate ให้มากที่สุด แต่ไทยกับกังวลแต่ตัวเศษ ไม่เร่งตัวส่วน

ไม่รวมจุดบอดใหญ่อย่างสหกรณ์ออมทรัพย์ หลักล้านล้าน หนี้กยศ บลาบลา แต่ไร้การกำกับดูแล

เรื่องนี้คุยอย่างยาวเลย ไว้หาโอกาสจิบไวน์สนทนากัน

497 Nameless Fanboi Posted ID:mHGH7S.Mj+

>>496 อะไรคือตัวเศษตัวส่วน

498 Nameless Fanboi Posted ID:mw9MsT0HL0

>>495 สอบรับราชการ เป็นคำกว้างๆ สอบจอหงวนก็เรียกว่าสอบรับราชการได้ ไม่ได้บอกว่าสอบแข่งขันเข้ารับราชการตอนพรบ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน

"สมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการปฏิรูประบบการบริหารราชการแผ่นดิน รวมทั้งปรับปรุงระบบการคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการ โดยทรงหันไปจัดตั้งโรงเรียนเพื่อเตรียมบุคคลเข้ารับราชการ และทรงเลิกวิธีการเกณฑ์ไพร่และทาสมาเข้ารับราชการ" http://wiki.ocsc.go.th/สำนักงาน_ก.พ/กลุ่มห้องสมุด/จดหมายเหตุสำนักงาน_ก.พ/2526/วิวัฒนาการของระบบการเข้ารับราชการฝ่ายพลเรือน

499 Nameless Fanboi Posted ID:pv/q+IPRDx

>>498 ชอบเคลมอีกแล้ว

“ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ทรงรับสนองพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่องการให้ข้าราชการผ่านการถวายตัวเป็นมหาดเล็กก่อน ”
“ จึงนำไปสู่การจัดตั้งโรงเรียนมหาดเล็กขึ้นในปี พ.ศ.๒๔๔๒ (ระยะแรกใช้ชื่อว่า “สำนักฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือน” และเปลี่ยนเป็น “โรงเรียนมหาดเล็ก” ในปี พ.ศ.๒๔๔๕) ในยุคนั้นมีการจัดการศึกษาด้านรัฏฐประศาสนศาสตร์เพียงสาขาวิชาเดียว มีนักเรียนจำนวน ๕๐ คน”

มหาดเล็กมาจากไหน ก็ลูกท่านหลานเธอข้าเก่าขุนนางเดิม ถวายตัวมาทั้งนั้น

จอหงวนยังสอบแข่งขันวัดความสามารถบ้าง แต่”ถวายตัว”นี่วัดตามความพึงพอใจส่วนตัวล้วนๆ

500 Nameless Fanboi Posted ID:D8btRMWcen

https://readery.co/9786167667782 เล่มชมพูของจารย์กุลธิดา จริงๆระบบราชการก็มาเริ่มช่วง ร5 นั้นแหละ
ทีนี้มันเกิดปัญหาผลิตคนไม่พอตำแหน่ง เลยต้องเปิดให้สามัญชนเข้ามารับราชการด้วย
แล้วพอเวลาผ่านไป สามัญชนที่เข้ามาในระบบราชการก็เจอปัญหาขึ้นตำแหน่งสูงๆไม่ได้
จนกลายเป็นหนึ่งในสาเหตุของ 2475

501 Nameless Fanboi Posted ID:u/bRjbc3vb

ฝรั่งไม่มีคำว่ากตัญญู จึงเป็นคนไม่รู้คุณจริงหรือเปล่า?

กตัญญูกตเวที เป็นศีลธรรมที่สำคัญมากในไทย

ผมเรียนมาในโรงเรียนตั้งแต่เด็ก ว่า "กตัญญู" แปลว่า "การรู้คุณ"​ - "กตเวที" คือ "การตอบแทนบุญคุณ" - สังคมไทยพร่ำสอนเรื่องนี้เราซ้ำๆ

ศีลธรรมของไทยเป็นหลักของการตอบแทน หลักผลของการกระทำ และการชดใช้ ดีตอบแทนดี สิ่งแล้วร้ายเกิดขึ้นตอบแทนการทำเลว

ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสามัญว่าเมื่อใครทำสิ่งดีต่อเรา เราต้องตอบแทนเขากลับไป

จีนยิ่งหนักกว่า มีคัมภีร์ชื่อ เซี่ยวจิ้ง 孝 經 เป็นตำราสำคัญของข่งจือ พูดถึงหลักศีลธรรมที่อยู่กับความกตัญญู - ความกตัญญูคือแกนกลางของศีลธรรมแบบขงจือ

ถ้าอ่านนิยายกำลังภายในยิ่งหนัก แทบจะจดบันทึกของการชดใช้บุญคุณความแค้น

ผมคิดว่าตอนที่ชาวตะวันตกปรากฎต่อโลกตะวันออกแรกๆ ผู้คนคงช็อคมากจริงๆ

เนื่องจากคอนเส็ปแบบนี้ไม่มีในหลักศีลธรรมตะวันตก คือศาสนาคริสต์จริงๆ

แล้วสังคมที่ไม่รู้จัก กตัญญู กตเวที มันอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้ยังไง?

ไม่ใช่ว่าตะวันตกไม่มีหลักศีลธรรมที่เกี่ยวพันธ์กับความสัมพันธ์เช่นนี้ มันมี แต่มองคนละแบบโดยสิ้นเชิง

ผมจะอธิบายวิธีคิดของโลกตะวันตก ให้ทุกคนลองคิดตาม แล้วจะสรุปตอนท้าย
.
.
.
1. "Gift"

Gift คือสิ่งที่ให้ด้วยใจรัก และให้เปล่า ให้เพราะรัก ไม่ใช่สินจ้าง

ในแนวคิดตะวันตก ทุกสิ่งที่เรามีนั้น ไม่ได้มาจากตัวเราเพียงอย่างเดียว แต่เรา "ได้รับ" มา

ต้องเข้าใจรากฐานความคิดก่อน เหมือนกับที่คนไทยมีเรื่องบุญกรรม ฝรั่งมีพระเจ้า

มีคำอธิษฐานว่า "ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เมล็ดข้าวงอกออกมาจากต้นข้าว" หมายความว่า เราไม่มีทางปลูกข้าวได้ผล ถ้าไม่มีระบบที่พระเจ้าวางไว้

ถ้าเราไม่มีระบบของโลก ไม่มีโอกาส ไม่มีอากาศหายใจ ไม่มีคนอื่นๆ เราไม่มีทาง มีสิ่งที่เรามี

ในศีลธรรมของยุคเอธิส เราอาจจะเรียกสิ่งนี้ว่า โอกาส สังคม จักรวาล หรืออะไรก็แล้วแต่

พระเจ้า (ระบบของโลก จักรวาล ดวง โอกาส) + แรงงานของเรา + สังคม = สิ่งที่เรามี

สิ่งที่เราทำมันเกี่ยวจริงอยู่ แต่มันไม่อาจสมบูรณ์หากปราศจากองค์ประกอบรอบๆ ที่ได้มาเป็น Gift

ทุกอย่างที่เรามีเป็น Gift ความสามารถ โอกาส เวลา สายสัมพันธ์ การพบพาน - ทุกอย่างเป็น Gift ที่มาจากความรักของพระเจ้า

ประเด็นเกี่ยวกับ พ่อ แม่ - ลูก ก็เหมือนกัน

ในไบเบิลเล่าถึงเรื่องของ "คนเป็นหมัน" หลายครั้ง - หมายความว่าลูกเนี่ย ต่อให้อยากมี แต่ถ้าพระเจ้าไม่ให้มีก็ไม่มี - ชีวิตคนต่อให้พ่อแม่อยากให้เกิด ถ้าพระเจ้าไม่ให้เกิดก็ไม่ได้เกิด

ในทางเดียวกัน เราเลือกเองไม่ได้ว่าจะไปเกิดที่ไหน สิ่งนี้ต่างจากวิธีคิดแบบไทย เพราะที่ที่เราอยู่ ขึ้นกับสิ่งที่เราทำในชาติที่แล้ว - แต่สำหรับตะวันตก เราเลือกพ่อแม่ไม่ได้ เราเลือกลูกไม่ได้ พระเจ้าเลือกให้เรา

เราไม่ได้รวยเพราะ เรารวยเองอย่างเดียว บางทีอาจจะเพราะเราเกิดมาในที่ที่ดีด้วย อย่าลืมว่าโอกาส จังหวะ ทั้งหมดเป็น "ของขวัญ"

ลูก เป็น "ของขวัญ" / ในทางเดียวกัน พ่อแม่ ก็เป็น "ของขวัญ" ที่เราได้รับมาจาก "ความรัก"
.
.
.
2. "Thanks"

ในแนวคิดของศาสนาคริสต์ เราไม่มีทางตอบแทนคืนให้กับผู้ที่ให้เราได้

ในไบเบิล ดาวิดเป็นคนเลี้ยงแกะ แต่พระเจ้าเจิมตั้ง พาเขาผ่านเหตุการณ์มากมาย และให้เขาเป็นกษัตริย์

วันหนึ่งดาวิดนึกขึ้นได้ว่าเอาแต่สร้างวังของตัวเอง และเลยอยาก "ตอบแทน" พระเจ้าด้วยการสร้างวิหารให้พระเจ้า

สิ่งที่พระเจ้าทำคือบอกทำนองว่า "เจ้าเนี่ยนะจะสร้างวิหารให้เรา" และบอกว่าไม่ต้องสร้างวิหารให้พระเจ้า แต่พระเจ้าจะตั้งเชื้อสายของดาวิดให้เป็นกษัตริย์อยู่ตลอดไป

ตรงนี้มันเล่นคำนิดหน่อย คือดาวิดบอกว่าจะ "สร้างบ้าน" ให้พระเจ้า ผลคือพระเจ้าบอกว่าไม่ต้อง แล้ว "สร้างบ้าน(ราชวงศ์)" ที่ไม่ใช่แค่ตัวอาคารให้ดาวิด

ดาวิดได้ยินก็ตกใจ (ผมคิดว่าดาวิดน่าจะร้องไห้ด้วย) แล้วร่ายบทกวีออกมา เพื่อสรรเสริญพระคุณของพระเจ้า

ในแนวคือของคริสตศาสนา พระเจ้าคือสิ่งที่สมบูรณ์มากๆ เต็มอยู่แบบอินฟินิตตี้ ไม่มีทางพร่อง ไม่อาจเติมให้มากขึ้น

(ต่อเม้นล่าง)

502 Nameless Fanboi Posted ID:u/bRjbc3vb

(ต่อจาก >>501 )

ดังนั้นถ้าเปรียบความพยายามตอบแทนคืนของเรา เหมือนเราซาบซึ้งกับความร้อนของพระอาทิตย์จึงพยายามคืนจุดไฟคืนให้พระอาทิตย์

ในทางที่คล้ายกัน เราจึงไม่มีทางแลกเปลี่ยน กับพระเจ้า (การทำแบบนั้น เหมือนพยายามเติมไฟให้พระอาทิตย์ แล้วต่อรองเอาแสงสว่าง) ซึ่งต่างจากความสัมพันธ์ของแนวคิดถือผีแบบไทย ที่เราต่อรอง บนบานกับผี ทำสิ่งที่ผีพอใจเพื่อให้ผีตอบแทนได้

การพยายามคืนของขวัญ หรือการคิดว่าของขวัญเป็นการแลกเปลี่ยนต่อรองนั้นค่อนข้างเสียมารยาทเสียด้วยซ้ำ

ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ - ลูก เป็นแบบนี้

คือพ่อแม่ - ให้กับลูก ในสิ่งที่ลูกไม่มีทางคืนตอบกลับได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่จะไม่มีความคาดหวังทางศีลธรรมสำหรับการรับของขวัญเลย

สิ่งที่โลกตะวันตกคาดหวังกับผู้รับคือ "ความซาบซึ้ง" และ "การขอบคุณ" มันคือความรู้สึกแบบที่เกิดกับดาวิดตอนที่พระเจ้าอวยพรเขาซ้ำ ตอนที่เขาบอกว่าจะทำอะไรสักอย่างให้พระเจ้า

ความรู้สึกซาบซึ้งนี้เป็นแกนกลาง ซึ่งเคลื่อนไหวผู้คนในศาสนาคริสต์

ซาบซึ้งกับของขวัญที่ได้จากพระเจ้า ซาบซึ้งกับการไถ่ของพระคริสต์ ซาบซึ้งกับการได้รับการอภัย

ดังนั้นความรู้สึกขอบคุณจึงสำคัญมาก ในศีลธรรมของโลกตะวันตก

ดังนั้นท่าทีของการได้รับ จึงไม่ใช่ "เฮ้ย เป็นหน้าที่ของแกที่ให้ฉันอ่ะ" สังคมตะวันตกเอง ก็คาดหวังให้ผู้รับ "ซาบซึ้ง" และ "ขอบคุณ" และแสดงท่าทีเช่นนั้น

ไม่แปลกที่ไม่ว่าเราอ่านหนังสือพัฒนาตัวเองของตะวันตกเล่มไหนก็ตาม "ความรู้สึกขอบคุณ" นั้นสำคัญมาก
.
.
.
3. "Pass it on"

สังคมตะวันตกไม่ได้คาดหวังการตอบแทนกลับไป แต่คาดหวังการส่งต่อ

คำสอนในไบเบิลเตือนเราในเรื่องนี้เสมอ ว่าอย่าลืมว่าสิ่งต่างๆที่เรามีนั้นเราได้รับมา ให้นึกถึงความรู้สึกเดือดร้อนก่อนเราได้รับ นึกถึงความรู้สึกตอนได้รับ และส่งต่อไป

ตัวอย่างเช่น
พระเยซูบอกว่า "สิ่งใดที่ท่านให้กับผู้เล็กน้อยที่สุดในหมู่พวกท่าน ก็เหมือนทำกับเรา" - หรือคำอุปมาเรื่องทาสที่พระราชายกหนี้ใหญ่ให้ แต่ดันไปทวงหนี้เล็กกับเพื่อนทาส ฯลฯ - อย่าลืมว่าเราได้รับการอภัยจากพระเจ้า จึงต้องอภัย - อย่าลืมว่าพระเจ้าเลือกที่จะไม่ตัดสินเรา ดังนั้นเราจึงมีหน้าที่ที่จะไม่ตัดสิน - อย่าลืมว่าเราได้รับความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขจากพระเจ้า เราจึงมีหน้าที่จะรักผู้อื่นอย่างไม่มีเงื่อน

พวกคำอุทานต่างๆในภาษาจริงๆมันนำเสนอวิธีคิดที่เราไม่รู้ตัว เช่น "เวรกรรม" "XXXก็บุญแล้ว" - ฝรั่งก็มี "ขอบคุณพระเจ้า" (คนไทยฟังจะงงว่าขอบคุณพระเจ้าทำไม ฝรั่งก็คงงงว่า เกี่ยวอะไรกับเวรกรรม" 555+)

คำขอร้องคำหนึ่งที่เราได้ยินบ่อยๆ คือ "เห็นแก่พระเจ้าเถอะ"

หากมีขอทานยืนอยู่ตรงหน้า และพูดคำนี้กับเรา คือเตือนให้เราละลึกว่า สิ่งที่เรามีเราก็ได้รับมาจากพระเจ้า ดังนั้นโปรดส่งต่อ

หากมีคนที่เราจะแก้แค้นอยู่ตรงหน้า และพูดคำนี้กับเรา คือเขาขอร้องให้เราละลึกว่าความผิดบาปของเราได้รับการยกโทษด้วยการชดใช้ของพระคริสต์ ดังนั้นโปรดส่งการยกโทษต่อ

คนที่ถูกร้องขอว่า "เห็นแก่พระเจ้าเถอะ" แล้วนึกย้อนไปยังสิ่งที่เราเคยได้รับ หรือความระยำที่เราเคยทำ แล้วมีคนยกโทษให้เหมือนกัน ก็มักจะรู้สึกแบบ "เอ้อ ก็ได้วะ!"

อย่าลืมว่าในแนวคิดแบบตะวันตก ทุกสิ่งที่เรามี เราได้รับมา จากพระเจ้า สังคม โลก จักรวาล อะไรก็แล้วแต่ - ดังนั้นเรามีหน้าที่ส่งต่อไป

พ่อแม่รักเรา เราจึงมีหน้าที่จะส่งต่อความรักนี้ให้ลูกของเราต่อไป

บาปทำงานให้สายของการส่งต่อขาดลง ให้สิ่งที่ถูกส่งไปคือความเกลียดชัง หน้าที่ทางศีลธรรมเชิงศาสนาที่เราต้องอภัยให้คนที่ส่งความเกลียดให้กับเรา รับความรักจากพระเจ้าและส่งต่อความรัก
.
.
.
โดยสรุป ไม่ใช่ว่าโลกตะวันตกไม่มีศีลธรรมในความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเราได้รับ

โลกตะวันออกให้คุณค่ากับ "การตอบแทน" - โลกตะวันตกในคุณค่ากับ "การส่งต่อ"

สังคมตะวันตกต้องการให้เราระลึกว่าสิ่งที่เรามีอยู่คือ "Gift" ให้เรา "Thanks" และ "Pass it on"

สิ่งที่พ่อฝรั่งซึ่งใจที่สุดคือการบอกพ่อว่า "ผมขอบคุณที่พ่อเลี้ยงผมมาอย่างดี ผมนับถือพ่อมากๆ และจะเลี้ยงลูกผมเหมือนที่พ่อเลี้ยงผม" ถ้ามีพบพูดแบบนี้มีในหนังฝรั่ง พ่อร้องไห้ แน่นอน

ในทางเดียวกัน ความคาดหวังที่มีต่อครูของฝรั่งคือการที่ศิษย์บอกว่า "ขอบคุณวิชาความรู้ของอาจารย์มากๆ เป็นประโยชน์กับชีวิตผม มันสร้างตัวผม ผมจะเอาสิ่งนี้ไปสอนคนรุ่นต่อไป"

ความคาดหวังต่อผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือคือ การบอกว่า "ผมซาบซึ้งใจมากที่คุณช่วยเหลือผม ตอนที่ผมลำบาก เมื่อไหร่ที่มีโอกาส ผมจะไม่ลืมสิ่งที่คุณให้ และช่วยคนอื่นแน่นอน" ถ้าพูดแบบนี้ แล้วทำจริงๆ คือเป็นตัวอย่างบาทหลวงเอาไปเทศน์ในโบสถ์ได้เลย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

503 Nameless Fanboi Posted ID:7Y0cjB.+ty

>>499 จากลิ้งเดิม "ไพร่จึงได้เป็นประชากรอิสระสามารถที่จะศึกษาเล่าเรียนแล้วเข้ารับราชการในตำแหน่งหน้าที่แทนขุนนางมากขึ้น และในปี พ.ศ. 2459 รัชกาลที่ 6 ได้ทรงสถาปนาโรงเรียนข้าราชการพลเรือนขึ้นเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย" ดูไทม์ไลน์ด้วย กูไม่ได้บอกว่าตั้งมาแล้วไพร่ได้เรียนทันทีเลยนะ แต่มันไม่ใช่ว่าต้องรอถึง2476แน่ๆ (แต่ถ้านับ%การเรียนอ่านออกเขียนได้ไรงี้ก็น้อยมากๆจริง)

จริงๆอ่านเล่มชมพูที่ >>500 ว่าก็ได้ เขียนพร้อมอ้างอิงไว้ละเอียดเลย เรื่องต้องเอาสามัญชนเข้ามาเรียนด้วยเพราะคนไม่พอใช้ในระบบราชการ ถึงกรมดำรงจะพยายามตั้งเกณฑ์ชาติวุฒิไว้ตอนแรกแต่ไม่ได้เอามาบังคับใช้ ตอนหลังพวกไพร่มาเรียนได้ดีเยอะขึ้นจนมีปัญหากับพวกผู้ดีที่ไม่อยากโดนเด้่งออกจากระบบด้วย แล้วมีพูดถึงการพยายามปลูกฝังค่านิยมให้รับราชการกันเยอะๆ มันปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเรื่องค่านิยมรับราชการไม่ได้มาจากไอ้เรื่องตั้งโรงเรียนสอบรับราชการเนี่ย

504 Nameless Fanboi Posted ID:pv/q+IPRDx

>>503 มึงควรแยกแยะก่อน ระหว่างตั้งใจเรียนเพื่อไปเป็นเจ้าคนนายคน(ข้าราชการ) กับ ได้รับเลือกเป็นข้าราชการแล้วถึงได้เข้าเรียน(เพื่อเตรียมตัวเป็นข้าราชการ)

อันแรกมึงต้องตั้งใจเพื่อไปสอบแข่งขันเข้ารับราชการ(จอหงวน) ซึ่งกว่าจะมีคือ2476
อันหลังคือระบบเจ้าขุนมูลนาย เป็นคนรู้จักได้รับความไว้วางใจจากเจ้า ชี้ตัวให้เป็นมหาดเล็ก ส่งไปเข้าโรงเรียนข้าราชการ

505 Nameless Fanboi Posted ID:tY.HISMShF

"ทมยันตีเสียชีวิตอย่าสงบ" สุดท้ายเวรกรรมเป็นเรื่องอุปโลกน์งมงาย เพราะคนอย่างทมยันตีแทบไม่ได้รับผลจากสิ่งที่ตัวเองทำเอาไว้เลย...

นักเขียนในตำนาน? ถุยเหอะ สิ่งที่เราต้องจำคือ นี่คือคนที่จัดรายการวิทยุยานเกราะก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลา ปลุกปั่นว่านักศึกษาเป็นคอมมิวนิสต์ ล้มล้างสถาบัน สร้างความชอบธรรมในการฆ่านักศึกษา ทำให้ชาวบ้านตาสีตาสาเขาเห็นด้วยและอนุญาตให้เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่

ด้านวรรณกรรมที่ใครๆ ก็อวย "คู่กรรม" นี่เลวทรามน่าขยะแขยงมาก สงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นทำอะไรกับเราบ้าง แต่ทมยันตียังกล้าหน้าด้านสร้างโกโบริให้เป็นพระเอกแสนดี แล้วสร้างตัวละครมนัสให้ดูเลวร้าย เพื่อให้ขบวนการเสรีไทยดูแย่ ทำให้โกโบริต้องตาย นี่คือ Propaganda ที่กลายเป็นนิยายขายดีให้คนซาบซึ้งน้ำหูน้ำตาน้ำมูกไหล จะอ้วก!

ถ้าไม่มีเสรีไทย ไม่มีปรีดี ไม่ใช่แค่เราจะเป็นประเทศแพ้สงคราม แต่เราจะไม่มีเค้าโครงเศรษฐกิจที่พัฒนาใช้มาจนถึงวันนี้อ่ะ คิดว่าที่ต้นตระกูลลืมตาอ้าปากจนเราเดินเหินอยู่ได้ทุกวันนี้ เป็นเพราะเขา "พระราชทาน" รึไง

ลืมคนที่เขามีบุญคุณจริงๆ ไปจนหมดสิ้น แล้วหันไปยกย่องปีศาจที่รัฐชุบเลี้ยง หลับหูหลับตาเชื่อสิ่งที่เขาบอกก็พอ นั่นแหละประเทศไทย

506 Nameless Fanboi Posted ID:wn1N3BJSZK

สอบจอหงวนก็เป็นการแต่งตั้งตามใจฮ่องเต้เหมือนกัน รุ้มั้ยว่าคนสุดท้ายที่เลือกคือฮ่องเต้
จอหงวนคนสุท้าย อย่าง หลิวชุนหลิน ก็ได้เป็นจอหงวนทั้งๆที่ไม่ได้สอบได้คะแนนดีสุด แต่แค่คนที่สอบได้ที่ 1 ทั้งชื่อและที่กำเนิดไม่ถูกใจ ส่วน หลิวชุนหลิน ชื่อเป็นมงคลเลยได้
วิชาหลักในการสอบจอหงวน คือ วรรณกรรม กวี เรียงความ แนวคิดขงจื้อ ซึ่งภายหลังโดนหาว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้คนจีนพัฒนาช้าลง เพราะวิชาที่สอบไม่มีประโยชน์จริง

507 Nameless Fanboi Posted ID:jw4fkFQobS

>>504 มันจะบอกว่าได้รับเลือกเป็นข้าราชการแล้วได้ไง ในเมื่อไอ้โรงเรียนฝึกขรก เนี่ยมันตั้งมาฝึกคนเป็นขรก หมายถึงคนที่เข้าเรียนยังไม่มีตำแหน่งขรก มันต้องเรียนแล้วสอบให้ผ่านตามที่กำหนดก่อน ก็เป็นแค่การสอบอีกแบบนึงนั่นแหละ ไม่ได้แข่งกันเอาแค่คนเดียวเหมือนจอหงวน แบบจอหงวนมันทำไม่ได้ในยุคนั้นอยู่แล้ว เพราะกำลังต้องการคนให้กับระบบราชการแบบตะวันตกที่เพิ่งสร้างขึ้นมา

อ้อ เรื่องความไว้วางใจนี่ก็ปัญหาสำคัญหลังตั้งโรงเรียนเลย เพราะพวกสามัญชนถูกเลือกมาโดยไม่สนใจเรื่องชาติวุฒิมากนัก(แน่นอนก็มีโดนกีดกันตามยุคสมัย แต่ยังน้อยกว่าก่อนจะมีโรงเรียนเยอะ) 5ถึงกับออกปากว่าพวกขรกสามัญชนหนุ่มๆที่เพิ่งมานี่ไม่ค่อยรู้จักมักคุ้นกับตัวเอง ตอนหลังเลยคิดระบบให้เป็นรรมหาดเล็ก แล้วระหว่างเรียนมีการถวายตัว(เรียกแบบนี้ แต่ไม่ใช่เอามาเยดเหมือนพวกสนมนะเว้ย)มาสร้างความสนิทสนมกับ5ก่อนในระหว่างเรียน แล้วปลูกฝังหลักสูตรชาตินิยมเข้าไป ไปอ่านเล่มชมพูของ >>500 ก่อนเหอะ เอาแค่บทที่3ก็ได้ พูดถึงการสร้างระบบราชการด้วยการศึกษาไว้แบบละเอียด

508 Nameless Fanboi Posted ID:01Tq5RIzji

https://www.matichonbook.com/p/2112/ภาษาเจ้า-ภาษานาย-การเมืองเบื้องหลังการศึกษาภาษาอังกฤษ-สมัยรัชกาลที่๕.html
เสริมเล่มชมพู เล่มนี้ให้ข้อมูลว่าการสอบชิงทุนเพื่อไปเรียนแล้วกลับมาเป็นข้าราชการก็เริ่มคั้งแต่ ร5

509 Nameless Fanboi Posted ID:tDKjXHdItr

ขออนุญาติถามความเห็นคุณกรณ์ครับ
ปัญหาใหญ่ที่สุดของไทย คือนักการเมืองคอรัปชั่น เราจะแก้ไขจุดนี้อย่างไรครับ ไม่เคยมีนัการเมืองพรรคไหนออกมาบอกเลยว่าจะปฎิรูปตนเองอย่างไร
อยากขอเสนอดังนี้ครับ
1.ให้พรรคกล้า เสนอการปฎิรูปนักการเมือง จะจัดการอย่างไรกับนัการเมืองในพรรคที่คอรัปชั่น มีบทลงโทษอย่างไร และแนวทางของพรรคเป็นอย่างไร
2. ให้พรรคกล้า ชูนโยบาย "โกง=ประหาร " เป็นผู้นำในการส่งสารไปยังกลุ่มพรรคการเมืองอื่น
3. ให้พรรคกล้า เสนอกฎหมายเพิ่มโทษเอาผิดผู้ที่ทุจริตให้รุนแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพือ่ให้นักการเมืองต่างๆ เกรงกลัวต่อความผิดบ้าง
อยากให้คุณกรณ์เป็นตัวแทนของประชาชนที่เบื่อนักการเมืองเลวๆ ช่วยทำอะไรสักอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรมครับ เชื่อว่าถ้าคุณกรณ์เน้นนโยบายต้านการคอรัปชั่น ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนแน่นอนครับ
ประชาชนคนไทยอยากเห็นประเทศไทยในทางที่ดีขึ้น เบื่อโกงแล้ว
คุณกรณ์มีความเห็นอย่างไร ทำได้มั้ยครับ ?

510 Nameless Fanboi Posted ID:ZnIUOks.3y

>>507 เอ้า มึงไปอ่านประวัติโรงเรียนข้าราชการพลเรือนเขียนโดยกรมพระยาดำรงฯเลยก็ได้
http://clmjournal.org/_fileupload/journal/376-1-1.pdf

“แต่ก่อนมาลูกผู้ดีที่จะทำราชการย่อมถวายตัวเป็นมหาดเล็กตตั้งแต่รุ่นหนุ่ม……แล้วจึงไปเป็นขุนนางต่างกระทรวง”

“ตามโครงการดังกล่าวนี้ สำนักฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือนได้ขยายกิจการเป็นโรงเรียนมหาดเล็กซึ่งมีระเบียบรับนักเรียนดังนี้

1.รับนักเรียนอายุในระหว่าง15ถึง20ปี ‘เป็นผู้มีสกุลโดยฐานะกำเนิด’อันเห็นว่าสมควรที่จะถวายตัวเป็นมหาดเล็กได้
2.จำนวนนักเรียนจะจำกัดเพียงเท่าที่กระทรวงต่างๆเสนอความต้องการมาเพื่อให้เข้ารับราชการในกระทรวงนั้นๆ ไม่ให้นักเรียนสำเร็จมากเกินไปจนหางานทำไม่ได้”

สรุป เลือกเอาลูกผู้ดีมีตระกูลมาเข้าโรงเรียนมหาดเล็ก เรียนจบออกไปก็ได้ล็อกตำแหน่งงานในกระทรวงเรียบร้อยแล้ว
มีสอบแข่งขันแย่งตำแหน่งงานตรงไหน

ระบบเคอจวี่มันยังมีสอบคัดหลายรอบ คนที่ผ่านรอบสาม(จิ้นซื่อ)ก็ยังมีสิทธิ์ได้รับราชการทุกคน

ฮ่องเต้มีสิทธิ์แทรกแซงลำดับคะแนนสอบ ให้คนที่ถูกใจได้คะแนนที่1(จ้วงหยวน) แต่ที่เหลือที่สอบผ่านก็ได้เป็นข้าราชการ

แต่ระบบโรงเรียนมหาเล็ก เจ้าเป็นคนเลือกลูกผู้ดีมีตระกูลมาเข้าโรงเรียน(ไม่มีสอบ) เรียนจบก็ได้ตำแหน่งข้าราชการชัวร์ๆ
มันจะส่งเสริมค่านิยม’ตั้งใจเรียนเพื่อเป็นเจ้าคนนายคน’ได้ยังไง ในเมื่อเป็นลูกเจ้าลูกนายอยู่ก่อนแล้ว ได้รับเลือกเข้าโรงเรียนมหาดเล็กก็ได้การันตีตำแหน่งราชการรอไว้แล้ว

511 Nameless Fanboi Posted ID:jw4fkFQobS

>>510 จะเชื่อแต่ไอ้กรมดำรงจริงดิ ก็บอกแล้วให้ไปอ่านเล่มชมพูก่อน ไม่เคยฟังเล้ยย
พิมพ์แบบย่อๆตัดคำเวิ่นเว้่อนะ "กรมดำรงรับผิดชอบสถาปนาโรงเรียนฝึกหัดขรกด้วยตัวเอง...กำหนดเกณฑ์ว่าผู้สมัครต้องคุณสมบัติเหมาะสมดังมหาดเล็กหลวงที่ถวายตัวแต่เดิม..จดหมายฉบับหนึ่งของผอรร.ในปี2449 กล่าวว่าแต่เดิมรร.มิได้กีดกันนรจากสามัญชน...มิได้กำหนดคุณสมบัติว่านักเรียนจะต้องมีชาติกำเนิดสูงศักดิ์...แม้ว่ารรสำหรับขรกจะประสบความสำเร็จมากกว่ารรเฉพาะทางอื่นๆ แต่การจำกัดชาติวุฒิตามความคิดกรมดำรงก็ไม่ได้ถูกบังคับใช้ อันที่จริงหลังก่อตั้งไม่กี่ปี รรได้ลดข้อกำหนดในการรับบุตรหลานผู้ดีลงเหลือเพียงต้องมีคุณวุฒิระดับประถมศึกษาเท่านั้น เพื่อให้แน่ใจได้ว่าจำนวนนักเรียนสามัญชนจะไม่หลั่งไหลเข้าโรงเรียนมากเกินไป..."

สรุปง่ายๆ ข้อกำหนดก็กำหนดไว้ พอถึงเวลาจริงไม่ได้บังคับใช้ พวกสามัญชนก็เข้ามาเยอะจนต้องพยายามออกกฎมาจำกัดไม่ให้เยอะเกินไป ลดคุณสมบัติสำหรับพวกลูกผู้ดีเป็นต้น แถมหลังจากนี้ไอ้กฎพวกนี้ก็ใช้ไม่ได้ผลอีก พวกไพร่ยังเข้ามาเยอะจนขนาดพวกที่เน้นคุณวุฒิมากกว่าชาติวุฒิแต่เดิมก็ยังบ่น อย่างที่บอกว่าปัญหาลามไปจน5ก็ยังบ่นเลย ไปอ่านเองเหอะ ขี้เกียจพิมพ์ อย่าให้เอาแต่ป้อนเข้าปากนักเลย

512 Nameless Fanboi Posted ID:.S7VN10kZl

>>509 ราชการยิ้มเลย แบบนี้ กุไม่ต้องหักหัวคิวให้นักการเมืองแล้ว ได้กินเต็มที่สักที

513 Nameless Fanboi Posted ID:IF5+N8p4mI

>>509 สงสารพรรคกล้า แดง-ส้มก็ยี้ ขนมหวานก็ไม่เอา

514 Nameless Fanboi Posted ID:ZnIUOks.3y

>>511 อ่ะ ก่อนที่มึงจะหลงประเด็นไปมากกว่านี้
กูเริ่มจาก >>494
“ เออลืม เรียนเก่งๆเป็นเจ้าคนนายคน นี่ก็มาจากระบบเรียนไปสอบรับราชการที่เจ้าตั้งนะ”

กูแย้งว่า “การสอบรับราชการ”มันเริ่มมีตอนพรบ.ข้าราชการพลเรือน2476 ก่อนหน้านั้นเป็นระบบถวายตัว หรือเจ้ากรมเสนอชื่อให้เป็นข้าราชการสัญญาบัตร(ก็คือฝากตัวกับเจ้ากรม)

ถ้ามึงจะว่าการสอบเข้ารับราชการมาจากเจ้าตั้ง มึงไปหาว่ามีการ”สอบเข้ารับราชการ”เมื่อไหร่

การ”ได้เข้าโรงเรียนมหาดเล็ก”มันการันตีไปแล้วว่าจะมีตำแหน่งราชการรอมึงอยู่ ดังนั้นมันไม่ใช่การ”เรียนเพื่อไปสอบเข้ารับราชการ”

515 Nameless Fanboi Posted ID:EA2Un+zfeH

>>514 รรขรกพลเรือน​ ต้องเรียนก่อนแล้วสอบจบถึงรับราชการ​ ก็เรียนไปสอบรับราชการที่เจ้าตั้งถูกแล้วไง​ กูบอกตอนไหนว่าเป็นสอบแข่งแบบพรบของมึง?​ เล่มชมพูอ่านก่อนเหอะ​ ยิ่งพูดยิ่งเพ้อ

516 Nameless Fanboi Posted ID:nz2aHg0nUD

มันไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล
มันไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล ที่จะทำให้ฉันมีความสุข
มันไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล ที่จะทำให้ฉันสมหวัง
มันไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล ที่จะทำให้ฉันแข็งแรง
มันไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาล ที่จะทำให้ฉันสะดวกสบาย
ฯลฯ
ถ้าคุณทำให้ตัวเอง สุข สมหวัง แข็งแรง สะดวกสบาย ด้วยตนเองได้ = คุณควรทำ
เหตุเพราะ ถ้าคุณพึ่งรัฐบาล คุณจะขาดเสรีภาพ
ในการมีความสุข ในเวลาที่คุณต้องการ
ในการสมหวัง ในเรื่องที่รัฐบาลไม่ให้คุณหวัง
ในการแข็งแรง ในระดับที่น่าพึงพอใจ
และมีความสะดวกสบาย ที่มันมากเกินคนทั่วไปจะมีกัน
อย่าเอาการเริ่มต้นที่จะมีอิสระและเสรีภาพ
ไปผูกติดกับรัฐบาล
คุณจะไปเอาอะไรมาก กับคนที่มีหนี้สินรุงรัง รายได้ลด อายุเยอะ ขี้กลัว ขี้กังวล สมองเสื่อมแล้ว อะไรอย่างนั้น

517 Nameless Fanboi Posted ID:xi/kL7B/VB

>>515 พล่ามแต่เล่มชมพู มึงหัดไปอ่านเอกสารชั้นต้นมั่งเหอะ บรรทึกจัดการโรงเรียนมหาดเล็กประจำปีรศ….มีอยู่ในราชกิจจา ค้นมั่ง
โรงเรียนที่เปิดรับปีละ20คน พิจารณารับลูกผู้ดีมีตระกูลก่อน หลักสูตรคือการทำเอกสาร ลำดับพระราชวงศ์ ราชาศัพท์ นามพระที่นั่ง ระเบียบบรรดาศักดิ์และตำแหน่งราชการ
พวกนี้มันสร้างค่านิยม”เรียนเก่ง สอบเป็นข้าราชการ”ในหมู่ไพร่เหรอ

518 Nameless Fanboi Posted ID:4wkasY1vhS

>>517 เอกสารชั้นต้นก็เล่มชมพูเนี่ยแหละตัวใช้เลย ไอ้ห่าบอกแล้วก็ไม่ยอมอ่าน มันถึงโง่อยู่ยังงี้ ท้ายเล่มชมพูน่ะเอกสารอ้างอิงเพียบ ตั้งแต่ราชกิจจาไปถึงจดหมาย ราชโองการยุคนั้น มันไปค้นมาจากหอสมุดเพราะงานมันปรับปรุงมาจากงานวิจัย ป.เอก อ่านก่อนแล้วค่อยมาเถียงต่อเหอะน่ะ ราคาเล่มไม่กี่ร้อยเอง เรื่องค่านิยมเรียนแล้วพ้นจากความเป็นไพร่ เรียนมารับราชการ บท3พูดโคตรละเอียดพร้อมอ้างอิงไว้หมดแล้ว

519 Nameless Fanboi Posted ID:4Hfmceua82

>>516 เมื่อไหร่รัฐบาลไม่เก็บภาษีกู เมื่อนั้นแหละไม่ใช่หน้าที่รัฐบาล

520 Nameless Fanboi Posted ID:MNUCaoZDQY

>>510 สอบผ่านรอบที่ 3 เป้น ฮั่งลิ้ม เฉยๆ มีสิทธิ์เข้าสอบจอหงวน
จากนั้นรอบต่อมาเป็นการสอบคัดเลือกในเขตราชฐานจะคัดเลือกโดยฮ่องเต้ ผู้ที่ผ่านคัดเลือกคนที่ผ่านเป็น จิ้นซื่อ แล้วจิ้นซื่อจะมาสอบอีกรอบ เป็นจอหงวน จิ้นซื่อทุกคนที่จะรับราชการจะต้องผ่านการลงนามและคัดเลือกโดยฮ่องเต้
ฮั่งลิ้ม ยังไม่ได้เป็นข้าราชการ

521 Nameless Fanboi Posted ID:xi/kL7B/VB

>>520 มึนแล้วมึง
ท่องสือ/หยวนสือ สอบระดับอำเภอ จัดทุกปี ผู้สอบผ่านเป็นซิ่วไฉ
เซี่ยงสือ สอบระดับมณฑล จัดทุกสามปี ผู้สอบผ่านเป็นจู้เหริน
ฮุ่ยสือ สอบเมืองหลวง จัดทุกสามปี ผู้สอบผ่านเป็น ก่งเซิ่ง
เตี้ยนสือ สอบหน้าพระพักตร์ ผู้สอบผ่านได้เป็นจิ้นซื่อ ได้เป็นข้าราชการ ได้เข้าวิทยาลัยฮั่นหลิน(ฮั่งลิ้ม) สิบได้ที่1(ฮ่องเต้เลือก)เป็นจ้วงหยวน ที่สองเป็นปังเยี่ยน ที่3เป็นทั่งฮัว

>>518 ไปเรื่อยละมึง จะขยับไป”เรียนแล้วพ้นความเป็นไพร่”ทำไม เอาประเด็นเดิมก่อนว่า”เรียนเพื่อสอบรับราชการ”น่ะมันเริ่มมีสมัยไหน

ถ้ามึงหาพรบ. พรก. ราชโองการ ที่ให้มีการสอบคัดเลือกเพื่อเข้ารับราชการ ก่อนปี2476ก็เอามาให้ดู แค่นั้นจบ

522 Nameless Fanboi Posted ID:4wkasY1vhS

>>521 มันเป็นขั้นตอนต่อเนื่องกันเขียนไว้บทเดียวกัน มึงอยากหาหลักฐานเล่มชมพูมีให้มึงหมดเลย เวลาเรียนปวศ ใครสอนให้มึงดูแค่จากพรบ พรก วะ ยกตัวอย่าง ยุคนั้นราชโองการก็เป็นกฎหมายนะ หรือมึงลืม?

523 Nameless Fanboi Posted ID:xi/kL7B/VB

>>522 มึงไม่เห็น หรือจงใจไม่อ่านที่กูเขียนว่า”พรบ. พรก. ราชโองการ”

กูก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าก่อนหน้าพรบ.ข้าราชการพลเรือน2476 มันไม่มีการสอบคัดเลือกเข้าเป็นข้าราชการ มีแต่เจ้ากรมเสนอชื่อให้โปรดเกล้าฯพระราชทานสัญญาบัตรเป็นข้าราชการ

ค่านิยม”เรียนไปสอบรับข้าราชการ”จึงต้องมาทีหลังพรบ.ฉบับนี้

มึงจะแย้งกูก็ง่ายนิดเดียว ไปหามาว่ามีกฎหมายว่าด้วยการสอบคัดเลือกเป็นข้าราชการที่ประกาศก่อนปี2476หรือเปล่า แค่นั้น

524 Nameless Fanboi Posted ID:MNUCaoZDQY

>>521 แล้วผิดตรงไหนที่บอกว่าผ่านรอบ 3 ยังไม่ใช่ราชการ
จะเป็นราชการได้ต้องผ่านเป็น จิ้นซื่อ ที่สอบหน้าพระพรรค์แล้วฮ่องเต้เป็นคนเลือกอีกที

525 Nameless Fanboi Posted ID:4wkasY1vhS

>>523 มึงไม่เห็นหรือจงใจไม่เห็นคอมเม้นนี้? >>515 มันเรียนหนังสือไปสอบจบจากรร ก็ได้รับราชการอยู่แล้วสมัยนั้น มันไม่จำเป็นต้องมีพรบมาก่อนค่านิยม "เรียนไปสอบรับราชการ" เลย ที่จริงเล่มชมพูเขียนรายละเอียดไว้หมดแล้ว บอกหลายรอบแล้วมึงไปอ่านมาก่อน ดีกว่ามาเพ้อวนเวียนมั่วกับไอ้กฎหมายอะไรของมึงเนี่ย

526 Nameless Fanboi Posted ID:xi/kL7B/VB

>>525 มึงจะเรียนไปสอบรับราชการได้ยังไง ถ้าตอนนั้นยังไม่มีการสอบรับราชการ

ปีหนึ่งมีโปรดเกล้าฯพระราชทานสัญญาบัตรตามกระทรวงกรมต่างๆปีละกี่ร้อยคน โรงเรียนมหาดเล็กที่ปีหนึ่งรับไม่เกิน20คน หลักสูตรที่สอนก็เรื่องเกี่ยวกับราชวงศ์ ไม่มีตัดตก มีแต่จำหน่ายตายหรือคัดออกเพราะประพฤติเสื่อมเสีย มันจะสร้างค่านิยมเรียนเพื่อสอบเป็นข้าราชการ”ในหมู่ไพร่ได้ยังไง

ปีที่ก่อตั้งโรงเรียนมหาดเล็กยังไม่เลิกไพร่เลิกเกณฑ์แรงงานเลยเหอะ
ถ้ามึงจะใช้คำอธิบายว่า “เรียนจบประโยคมัธยมแล้วจะได้ยกเว้นไม่ต้องเกณฑ์แรงงาน” มันก็เข้ากับบริบทสมัยร.5
“เรียนไปเป็นเสมียน” ก็เข้ากับบริบทสมัยร.6

แต่”เรียนเพื่อไปสอบเป็นข้าราชการ” มันก็ต้องหลังยุค2476

527 Nameless Fanboi Posted ID:7oJJ/dhCu1

นี่มันเผ่ามังกรฟ้าชัดๆ
https://pantip.com/topic/37579167

528 Nameless Fanboi Posted ID:VaCBwIugx2

>>526 มั่วหมดทั้งจำนวนคน​ หลักสูตร​ อ่านเล่มชมพูก่อนเหอะค่อยคุย​

529 Nameless Fanboi Posted ID:IF5+N8p4mI

>>527 อีก 1 ชื่อในทฤษฎีสมคบคิดของฝรั่งเขาเลยละ

530 Nameless Fanboi Posted ID:FvuX7JjwQ8

>>528 จำนวนนักเรียน
https://i.imgur.com/oYl4y63.jpg
หลักสูตร
https://i.imgur.com/lIW5A79.jpg
https://i.imgur.com/PBFTVp7.jpg

อ่านราชกิจจาฯบ้าง ไม่ใช่สักแต่อ่านความรู้จานด่วน

531 Nameless Fanboi Posted ID:7XPq5sTc30

>>530 มึงเรียกว่าจานด่วน นี่คิดว่าหนังสือพวกนี้เหมือนตำราโง่ๆที่มึงเรียนมาสมัยประถมเหรอ

"หลังจากโรงเรียนฝึกหัดขรกพลเรือนตั้งขึ้นได้ไม่นานนัก ก็ต้องละทิ้งแผนการแต่เดิมที่จะสอนวิชาความรู้แล้วหันมามุ่งเน้นการฝึกหัดภาคปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการทำงานแทน หลักสูตรของโรงเรียนแบ่งเป็น3ระดับ ระดับพื้นฐานที่สุดสอนการศึกษาทั่วไป ระดับกลางสอนวิชาที่จำเป็นต่อการทำงาน (อาทิ การเขียนรายงาน) ระดับสูงสุดฝึกหัดภาคสนาม อ้างอิง หจช.ร.5 ศ 5/7 (ก-บ) เอกสารกรมราชเลขาธิการร5 ก.ศึกษาฯ เรื่อง สคีมที่จะตั้งโรงเรียนฝึกหัดวิชาพลเรือน (30พ.ย. ร.ศ.115-21 พ.ค. ร.ศ.116)"

"โรงเรียนฝึกหัดขรกพลเรือนสถาปนาในปี 2442 ภายใน2ปีแรกมีนักเรียนถึง252คน (อ้างอิง หจช. ร.5ศ 5/4(ก-บ) เอกสารกรมราชเลขาธิการร5 ก.ศึกษาฯ เรื่อง นักเรียนเรียนการรถไฟ(20มค-6กพ ร.ศ.124) จดหมายฉบับหนึ่งของผอ.รร.ในปี 2449 กล่าวว่าแต่เดิมรรมิได้กีดกันนรที่มีชาติกำเนิดสามัญชน(อ้างอิง หจช ร5 ศ5/9 เอกสารกรมราชเลขาธิการร5 ก.ศึกษาฯ เรื่อง รรขรกพลเรือน...)แม้ว่ารรฝึกหัดขรกพลเรือนจะประสบความสำเร็จกว่ารรเฉพาะทางอื่นๆ แต่การจำกัดชาติวุฒิตามแนวคิดกรมดำรงก็มิได้ถูกบังคับใช้ ที่จริงหลังก่อตั้งไม่กี่ปี โรงเรียนได้ลดข้อกำหนดในการรับบุตรหลานผู้ดีลงเหลือเพียงคุณวุฒิประถมศึกษา เพื่อให้แน่ใจว่านรสามัญชนจะไม่เข้ามามากเกินไป(อ้างอิง หจช ร.5 ศ 5/4)"

เออ แล้วยุคนั้นเป็นเสมียนเนี่ยเค้าเรียกว่าหัดรับราชการนะ ถ้าได้จังหวะตำแหน่งว่างฝีมือถึงก็รับราชการได้ เหมือนมึงไม่รู้ แล้วพยายามแยกเรื่องเสมียนกับขรก ออกจากกันป่ะ?
"พ.ศ.2433 มีราชโองการถุึงปัญหาดังกล่าวอย่างชัดเจน
"...ทุกวันนี้บุตรข้าราชการที่หนุ่มๆไม่ใคร่มีผู้ใดฝึกหัดรับราชการในกรมต่างๆเหมือนอย่างแต่ก่อน เปนแต่อยู่เปล่าๆ...ผู้ซึ่งทำการในออฟฟิศกรมต่างๆ เปนแต่คนพลเรือนซึ่งอยู่ข้างขัดสนจึงมารับเงินเดือนเปนเสมียนทำการ ทำการในออฟฟิศนานๆ ก็รู้ราชการมากขึ้น อธิบดีในกรมนั้นก็ต้องมีความเมตตายกย่องคุณวิชา เมื่อตำแหน่งราชการในกรมว่างลง จะเลือกหาผู้ใดรับราชการในตำแหน่งนั้น ก็คงต้องเลือกเอาผู้ที่เห็นว่าจะใช้ในราชการได้เปนที่ตั้ง..."
(อ้างอิง เอกสารเรื่องการจัดการศึกษายุคร5 โดยคณะกรรมการจัดงานฉลองราชสมบัติร5ครบ100ปี)

ที่อ้างอิงมาเนี่ย มึงอ่านเข้าใจหรือเปล่าเหอะ ไอสัส ไปอ่านก่อนแล้วค่อยคุย พิมพ์ยาวชิบหาย ควย

532 Nameless Fanboi Posted ID:FvuX7JjwQ8

ลดคุณวุฒิเหลือเพียงประถมศึกษา
ขำตายห่า
https://i.imgur.com/50NuGm6.jpg
“มัธยมศึกษา”
นี่ราชกิจจาปีรศ.124 ตรงกับพ.ศ.2447 หลังก่อตั้ง5ปี

คนเขียนหนังสืออาจจะศึกษามาดีนะ แต่มึงอ่ะความรู้แดกด่วนจากการอ่านหนังสือเล่มเดียว

533 Nameless Fanboi Posted ID:7XPq5sTc30

>>532 แปะมามึงอ่านจบไหมนั่น "เว้นแต่บุตรผู้มีบรรดาศักดิ์...ถ้ามีความรู้เลขและหนังสือพอสมควรจะเข้าชั้นเล่าเรียนได้..." แปะเองเบลอเองเหรอ 555 มึงนี่ไม่รู้อะไรเลย พวกตั้งโรงเรียนแม่งยังขัดแย้งกันอยู่เลยว่าจะเอาคุณวุฒิหรือชาติวุฒิ ยังมีพวกอะไรที่พวกนั้นเขียนมาเองอีกเยอะที่บ่นว่าพวกสามัญชนทะลักเข้าระบบเยอะเกินไป ที่จริงก็ตั้งแต่ยุคตั้งรรสวนกุหลาบเลยแหละ มึงนี่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยจริงๆ อ่านเถอะเล่มชมพูอ่ะ แค่บทเดียวมันไม่ได้เยอะขนาดนั้น จริงๆเขียนสนุกใช้ได้เลยด้วยนะจ๊ะ อ่านแล้วจะติดใจ

534 Nameless Fanboi Posted ID:FvuX7JjwQ8

แถมอีกนิด การเลื่อนจากเสมียนเป็นข้าราชการตามความเมตตาของอธิบดีหน่วยงานนี่ล่ะที่โคตรขัดกับ”การสอบเข้ารับราชการ”เลย

เพราะมึงไม่จำเป็นต้องตั้งใจเรียนให้เก่งเพื่อสอบแข่งกับคนอื่นเพื่อให้ได้ตำแหน่ง แต่อาศัยความเมตตาของอธิบดีเข้าว่า ต่อให้มีวิชาความรู้ แต่ไม่ถูกใจนายก็เป็นเสมียนต่อไปนั่นแหละ

จะเป็นเจ้าคนนายคนในยุคร.5 ไม่ใช่ว่าตั้งใจเรียนแล้วจะเป็นได้ แต่มึงต้องเข้าตานาย

535 Nameless Fanboi Posted ID:FvuX7JjwQ8

>>533 นี่ตกลงมึงจะพูดถึงค่านิยมเรียนไปสอบเป็นข้าราชการ(เจ้าคนนายคน)ของลูกไพร่ หรือพูดถึงลูกท่านหลานเธอที่เกิดมายังไงก็ได้เป็นเจ้าคนนายคนอยู่แล้วล่ะ

536 Nameless Fanboi Posted ID:7XPq5sTc30

>>534 อ่านไม่จบอีกละ... >>531 "...รู้ราชการมากขึ้น อธิบดีในกรมนั้นก็ต้องมีความเมตตายกย่องคุณวิชา เมื่อตำแหน่งราชการในกรมว่างลง จะเลือกหาผู้ใดรับราชการในตำแหน่งนั้น ก็คงต้องเลือกเอาผู้ที่เห็นว่าจะใช้ในราชการได้เปนที่ตั้ง..." มันไม่ได้เมตตาที่อยู่มานานสนิทกัน แต่มัน "เลือกเอาผู้ที่เห็นว่าจะใช้ในราชการได้เปนที่ตั้ง" โว้ะ ไม่ได้บอกว่าเรื่องเข้าตานายมันไม่มีหรอก แต่มันมีโอกาสที่พวกสามัญชนที่ทำงานเป็นจะได้งานมากกว่าพวกลูกผู้ดี(ที่ตอนนั้นไม่ชอบเรียนหนังสือหรือฝึกงานเสมียน)แน่ๆ

537 Nameless Fanboi Posted ID:B7IWbx3rRu

>>536 คำมันก็ต้องเขียนแบบนั้นอยู่แล้ว สมัยนี้ ทุกที่ ทุกหน่วยงานมันก็เขียนประมาณนี้หมด ทำมั้ยอีกเรื่อง
ขนาดปัจจุบันยังมีแบบนี้ แล้ว ตรรกกะ ค่านิยม สมัยก่อนเป็นยังไง ไม่ยิ่งหนักกว่าเหรอ

538 Nameless Fanboi Posted ID:FvuX7JjwQ8

>>536 เพราะลูกผู้ดีมีสกุล(ขุนนางชั้นพระยาขึ้นไป) ถ้าจะทำราชการก็จะได้บรรจุที่ชั้นหลวงอยู่แล้วไง(กฎหมายตราสามดวง) เลยไม่ต้องมาเริ่มจากเป็นเสมียนก่อนแล้วค่อยเสนอชื่อโปรดเกล้าฯ

การเริ่มจากเสมียนแล้วทำงานเข้าตานายจนได้เป็นข้าราชการมันเป็นเรื่องของไพร่อย่างเดียวอยู่แล้ว (ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าต้องเรียนเก่งถึงจะได้ แต่เป็นเรื่องของระบบอุปถัมป์ นายถูกใจใครก็เสนอคนนั้นก่อน)

ปี2468ถุงจะมีการเสนอในที่ประชุมอภิรัฐมนตรีว่าให้ปรับเกณฑ์การรับเข้าเป็นข้าราชการ(เพราะมีพระยาล้นจากสมัยร.6เยอะแล้ว ร.7ก็พยายามดุลข้าราชการออกด้วย ถ้าใช้ความเป็นลูกพระยารับหมดก็เละ) มีการออกพรบ.ปรับปรุงเกณฑ์ในปี2471 จนถึงปี2476ถึงมีการ”สอบคัดเลือก”

539 Nameless Fanboi Posted ID:7XPq5sTc30

>>537 เทียบกับตอนนี้ก็หนักกว่าแน่ๆ แต่โอกาสของพวกไพร่ก็มากขึ้นกว่าก่อนจริงๆ ดังนั้นไม่แปลกที่ค่านิยมเรียนไปได้รับราชการมันจะเริ่มขึ้น

>>538 กฎหมายตราสามดวงเป็นแบบนั้น มันถึงมีปัญหาพวกลูกผู้ดีไม่ยอมเข้ารร ไม่ยอมฝึกงานเสมียนที่เขียนไปก่อนหน้านี้ไง เพราะคิดประมาณว่าต้องมาเรียนกว่าจะได้เป็นขรก หรือฝึกงานตำแหน่งเสมียนมันไม่สมฐานะ แต่ปัญหาคือระบบราชการสมัยใหม่มันต้องใช้ความรู้หนังสือมากกว่าแบบเก่า เอาพวกผู้ดีแต่ไม่เคยเรียนเข้ามามันทำงานไม่ได้ แล้วเรื่องความคิดแบบนี้ของพวกลูกผู้ดี ก็ทำให้เกิดปัญหารรที่ตั้งขึ้นมามีสามัญชนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ระบบราชการก็มีสามัญชนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนต้องวุ่นวายกันหลายอย่าง บอกหลายรอบแล้วว่าเล่มชมพูเขียนไว้หมดแล้ว เล่มไม่กี่ร้อยอ่านแค่บทเดียวเอง เป็นเหี้ยไรนักหนาไม่ยอมอ่านแล้วมาพ่นอะไรโง่ๆอยู่นั่นแหละ

เออ2471 ก็ดูเหมือนว่ามีสอบแล้วนะ แต่รายละเอียดไม่แน่ใจกูหามาแค่คร่าวๆ อันนี้เล่มชมพูเขียนไม่ถึง http://wiki.ocsc.go.th/สำนักงาน_ก.พ/กลุ่มห้องสมุด/จดหมายเหตุสำนักงาน_ก.พ/2526/วิวัฒนาการของระบบการเข้ารับราชการฝ่ายพลเรือน
"พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2471
คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัครเข้ารับราชการ
เป็นคนสัญชาติไทย
อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี และไม่เกิน 40 ปี
เป็นผู้มีร่างกายสมบูรณ์ ไม่ทุพพลภาพพิการ หรือไร้ความสามารถ หรือมีจิตใจฟั่นเฟือนในศีลธรรมอันดี
ไม่มีหนี้สินล้นพ้นตัว
ไม่เป็นผู้ที่เคยต้องโทษจำคุก หรือถูกไล่ออกจากทบวงการใดๆ
การสอบมี 2 หลักสูตร คือ
สอบความรู้ทั่วไปสามัญ มัธยม 6 จากโรงเรียนรัฐบาล หรือเทียบเท่า
สอบความรู้วิชาสามัญ ซึ่งกระทรวงทบวงกรมต่างๆ เป็นผู้ตั้งหลักสูตรเอง
วิชาที่ใช้จัดสอบข้อเขียนมี 3 วิชา ได้แก่
วิชาภาษาไทย
วิชาความรู้รอบตัวเกี่ยวกับเมืองไทยและต่างประเทศที่สำคัญ
วิชาเฉพาะกรม (สามารถเลือกสอบได้อีก 2 วิชา)
นอกจากนี้ผู้สมัครสอบต้องตอบคำถามของกรรมการผู้สอบไล่เพื่อพิจารณาถึงท่วงทีและวาจาของผู้สมัครสอบด้วย ผู้ที่สอบได้คะแนนมากกว่ามีสิทธิเลือกกระทรวงทบวงกรมที่ตนชอบเข้าทำราชการได้ก่อน ทั้งนี้ต้องถือความประสงค์ของทางราชการเป็นสำคัญ
ตำแหน่งที่ได้รับเมื่อสอบบรรจุ
ตำแหน่งชั้นราชบุรุษ
ตำแหน่งสัญญาบัตร
ไม่ต้องสอบแข่งขัน แต่ต้องมีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
ได้รับปริญญา หรือประกาศนียบัตรจากมหาวิทยาลัยที่รัฐบาลรองรับวิทยฐานะ
มีภูมิความรู้ในวิชาการด้านเทคนิค
ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
เคยรับราชการมาก่อนและออกจากราชการไปโดยมิได้มีความผิด
ข้าราชการพลเรือนวิสามัญ
คือ การที่รัฐบาลจ้างผู้ที่มีวิชาพิเศษมาทำการเฉพาะในเวลาที่จำกัด และทางกระทรวงสามารถบรรจุบุคคลนั้นเป็นเสมียนได้เลยโดยไม่ต้องผ่านการสอบไล่ แต่หากกระทรวงใดประสงค์จัดให้มีการสอบไล่ก็สามารถจัดการสอบไล่ขึ้นเองได้เช่นกัน"

540 Nameless Fanboi Posted ID:7XPq5sTc30

ที่น่าสนใจของพรบ2471
"ตำแหน่งสัญญาบัตร
ไม่ต้องสอบแข่งขัน แต่ต้องมีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
ได้รับปริญญา หรือประกาศนียบัตรจากมหาวิทยาลัยที่รัฐบาลรองรับวิทยฐานะ
มีภูมิความรู้ในวิชาการด้านเทคนิค
ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง"

แสดงว่าในปี2471 การจบปริญญาหรือจบการศึกษาแบบต่างๆ ในสังคมก็เป็นโอกาสให้ได้รับราชการโดยไม่ต้องสอบแล้ว ดังนั้นค่านิยมเรียนไปเป็นเจ้าคนนายคนยังไงก็มีก่อน2475 แล้วจากข้อมูลของเล่มชมพู บท3 ก็เขียนชัดเจนว่าสร้างขึ้นมาเป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่ตั้งรรวัดมหรรณฯหรือสวนกุหลาบโน่น ที่คุยมาทั้งหมดนี่ยังแค่รรฝึกขรกพลเรือน มันยังมีรรกฎหมายกับรรนายร้อยทหารบกอีกนะ ยังไงโอกาสที่พวกไพร่จะ "เรียนแล้วสอบผ่าน=เป็นขรก" มันเยอะกว่าสมัยก่อนหน้านั้นอย่างเทียบกันไม่ได้เลยแน่ๆ

541 Nameless Fanboi Posted ID:7LXkXztcS5

เอ ถ้าย้อนไป พ.ศ. 2471 คนทั่วไปที่อ่านออกเขียนได้มีน้อยหรือเปล่า

542 Nameless Fanboi Posted ID:dKB6ew9rAi

>>539 ลูกพระยามันไม่ต้องเรียนก็ได้ชั้นหลวงอยู่แล้วไง ราชการก็ไม่มีทางเลือกแต่ก็ต้องรับทั้งที่คุณภาพต่ำเพราะกฎหมายมัดมือ ก็ถูๆไถๆใช้ไปเพราะอย่างน้อยพวกนี้ก็ทำงานเช้าชามเย็นชามได้อยู่

มันก็สรุปความอยู่แค่ว่า สมัยร.5 (ลากมาถึงร.6ด้วย) จะเป็นข้าราชการก็ต้องใช้ระบบอุปถัมภ์ โคตรพ่อเป็นพระยาก็บรรจุลูกเข้ากรมตัวเองได้เลย เป็นไพร่ก็ต้องทำงานเข้าตานาย

ค่านิยม"เรียนเก่งจะได้เป็นเจ้าคนนายคน" จึงมายุคหลัง2476 ที่มีทั้งการจัดสอบคัดเลือกข้าราชการแล้ว
สมัยร.5 อย่างมากที่สุดก็คือ"ทำงานดีจะได้เป็นใหญ่เป็นโต"

มึงพลิกเล่มชมพูของมึงดูเหอะ ไม่มีหน้าไหนที่พูดถึงค่านิยม"ตั้งใจเรียนแล้วจะได้สอบเป็นข้าราชการ"ในสมัยร5

543 Nameless Fanboi Posted ID:FvuX7JjwQ8

กูไม่เถียงนะ ถ้าจะบอกว่าร.5เริ่มจัดการศึกษาสมัยใหม่ จัดระบบข้าราชการสมัยใหม่
แต่”เรียนเพื่อสอบ”ไม่ใช่ค่านิยมสมัยร.5 และไม่ใช่เจตนาของร.5 (หรืออย่างน้อย ไม่มีหลักฐานว่ามีเจตนาจะใช้การสอบแข่งขันเข้ารับราชการ)

อย่างเร็วที่สุด ค่านิยม’เรียนเพื่อสอบ’ต้องเกิดในยุคปลายร.7นั่นแหละ เพราะการปรับปรุงวิธีรับข้าราชการมันเริ่มปี2471 กว่าจะเป็น’ค่านิยม’ได้มันก็ต้องหลังจากนั้น

544 Nameless Fanboi Posted ID:VaCBwIugx2

>>542 มึงอะอ่านยัง​ แค่ย่อหน้าแรกของมึงก็ค้านกับบท3เล่มชมพูทั้งบท​

545 Nameless Fanboi Posted ID:7XPq5sTc30

เรียนเพื่อสอบ”ไม่ใช่ค่านิยมสมัยร.5 และไม่ใช่เจตนาของร.5 (หรืออย่างน้อย ไม่มีหลักฐานว่ามีเจตนาจะใช้การสอบแข่งขันเข้ารับราชการ)?

"ในเวลานี้ชัดแล้วว่าการอ่านออกเขียนได้เป็นบันไดให้สามัญชนมีชีวิตที่ดีขึ้น...ยื่นโอกาสใหม่ในการเข้ารับราชการและเลื่อนตำแหน่ง พวกผู้ดีก็ตระหนักด้วยว่า การเข้ารับราชการยุคศักดินาที่เริ่มต้นด้วยการถวายตัวเป็นมหาดเล็กนั้นไม่ใช่กุญแจสำคัญในระบบราชการสมัยใหม่อีกต่อไป บุตรหลานตระกูลขุนนางจึงเข้ารรมากขึ้นเรื่อยๆ...มีราชโองการในปี2428 เพื่อส่งเสริมให้สามัญชนศึกษาเล่าเรียนขั้นสูงขึ้น แถลงว่าจะมีการจัดสอบประจำปี ผู้ที่ผ่านการสอบตำรา6เล่มได้เป็นที่พอใจจะได้รับประกาศนียบัตรรับรองระดับความรู้ ใช้ศึกษาต่อในโรงเรียนมัธยมศึกษาของรัฐบาล ไพร่ที่เรียนจบระดับมัธยมจะพ้นจากความเป็นไพร่"

กูต้องพิมพ์อะไรจากเล่มนั้นมาสนับสนุนอีกไหมว่า ยุคนั้นแค่เรียนจบพื้นฐานอ่านเขียนก็ทำงานเสมียนได้แล้ว ดังนั้นถ้าสอบจบ6เล่มแล้วจบมัธยมด้วยเนี่ย ผลที่ได้จริงมันไม่ใช่แค่พ้นจากความเป็นไพร่เฉยๆ ก่อนหน้าประโยคนั้นก็พูดถึงความต้องการกำลังคนที่จบการศึกษาสูงกว่าขั้นพื้นฐานด้วย แต่ขี้เกียจพิมพ์

546 Nameless Fanboi Posted ID:FvuX7JjwQ8

>>544 ขนาดมึงอ่านมาแล้วยังเพิ่งมาquoteพรบ.2471ตอนกูอ้างถึง

ถ้ากฎหมายเรื่องการรับเชื้อสายพระยาเข้ารับราชการ หรือตัวข้าราชการชั้นพระยายัดญาติสนิทเข้าเป็นข้าราชการในกรมตัวเองมันไม่มีปัญหา สภาอภิรัฐมนตรีจะเสนอให้ปรับเกณฑ์ปรับระเบียบทำไม

การจัดการศึกษาสมัยใหม่มันเปิดโอกาสให้ไพร่ได้เข้ารับราชการมากกว่าเดิม ทำให้มีกลุ่มก้อนข้าราชการแนวใหม่จริง แต่”เรียนเพื่อไปสอบ”มันยังไม่เกิดสมัยนั้น
สมัยร.5ยัง “เรียนเพื่อเอาไปทำงาน ทำงานดีจะได้เป็นใหญ่เป็นโต”

547 Nameless Fanboi Posted ID:FvuX7JjwQ8

>>545 ไอ้ที่มึงลอกquoteมาทั้งดุ้นเพื่อจะบอกว่า”เรียนจบประโยคมัธยมจะได้พ้นความเป็นไพร่” กูพูดไว้ตั้งแต่>>526 แล้วเหอะ

มึงแยกแยะก่อนว่า
“เรียนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต(พ้นจากความเป็นไพร่)”
“เรียนเพื่อเป็นเสมียน(ทำงานออฟฟิส)”
“เรียนเพื่อไปสอบ”
มันต่างกันยังไง

548 Nameless Fanboi Posted ID:7XPq5sTc30

>>546 ไอ้เรื่องเล่นพรรคเล่นพวกเส้นสายอะไรเนี่ยมันมีอยู่แล้ว ปัจจุบันก็ยังมี แต่ไม่ได้หมายความว่าการศึกษาจะไม่ได้ทำให้พวกไพร่ได้มีโอกาสมากขึ้น ก็เห็นชัดว่ามันมากขึ้นจริงๆ จำนวนสามัญชนทะลักเข้ามาแล้วมีปัญหาจริง บท3นี่แค่พูดถึงการศึกษากับระบบราชการ พอบท4นี่ปัญหาจากพวกขรกใหม่ที่มาจากสามัญชนเพียบเลย

549 Nameless Fanboi Posted ID:7XPq5sTc30

>>547 แม้แต่ >>545 มึงยังแย้งทั้งที่อ่านเม้นไม่หมดเลยเหรอเนี่ย...
""ในเวลานี้ชัดแล้วว่าการอ่านออกเขียนได้เป็นบันไดให้สามัญชนมีชีวิตที่ดีขึ้น...ยื่นโอกาสใหม่ในการเข้ารับราชการและเลื่อนตำแหน่ง พวกผู้ดีก็ตระหนักด้วยว่า การเข้ารับราชการยุคศักดินาที่เริ่มต้นด้วยการถวายตัวเป็นมหาดเล็กนั้นไม่ใช่กุญแจสำคัญในระบบราชการสมัยใหม่อีกต่อไป บุตรหลานตระกูลขุนนางจึงเข้ารรมากขึ้นเรื่อยๆ"
"กูต้องพิมพ์อะไรจากเล่มนั้นมาสนับสนุนอีกไหมว่า ยุคนั้นแค่เรียนจบพื้นฐานอ่านเขียนก็ทำงานเสมียนได้แล้ว ดังนั้นถ้าสอบจบ6เล่มแล้วจบมัธยมด้วยเนี่ย ผลที่ได้จริงมันไม่ใช่แค่พ้นจากความเป็นไพร่เฉยๆ ก่อนหน้าประโยคนั้นก็พูดถึงความต้องการกำลังคนที่จบการศึกษาสูงกว่าขั้นพื้นฐานด้วย แต่ขี้เกียจพิมพ์"

550 Nameless Fanboi Posted ID:2u9O8iGypi

ผมหลงรักตัวละครตัวหนึ่งมากครับ ขอบอกเลยละกันครับ ตัวละครตัวนั้นคือ Shiina Mashiro ผมรักเขาแต่ไม่รึว่าทำยังไงถึงจะได้ไปหาเขาไปคุยกับเขาไปเดทกับเขาผมทำไรไม่ได้เลย ได้แต่มองดูเขาอยู่ในอนิเมะ และเราก็เปนแบบนี้มา 2 ปีแล้วเราควรทำไงดี เวลาเรานึกถึง เราก้จะรู้สึกจุก ทำไงดีเรายากคบกับเขาจิงๆนะ

อยากเป็นแฟนกับเธอ มาชิโระ!!!!! ผมควรทำไงดีตัดใจจากเขาไม่ได้ ไม่เคยรักใครมาก่อนแต่รักแรกของเรามันคือแบบนี้นี่เองคือความรัก แต่ มันก้เป็นครั้งอรกที่รู้สึกแย่แบบนี้เหมือนอกหัก เราทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ถ้าชาติหน้าเราหวังว่าคงจะไปเกิดเป็น โซราตะนะ ทำไงดีครับ

551 Nameless Fanboi Posted ID:zSDL.OxXJl

เอาจริงๆ กูก็แอบเห็นด้วยนิดๆ

https://scontent.fbkk28-1.fna.fbcdn.net/v/t39.30808-6/241817331_4196811513688867_2771280998039733126_n.jpg?_nc_cat=105&ccb=1-5&_nc_sid=730e14&_nc_eui2=AeFz1Oz0AM47j3YwFQP_R-_7xDtiOUNixXvEO2I5Q2LFeyDX0Sof-VHERb6U0LoXqStqo2yFxdIL2AGFwFSWc8LR&_nc_ohc=wheFJ8BMp_4AX-mZ7gO&_nc_ht=scontent.fbkk28-1.fna&oh=a7967b356d5afc9d03c48054a111f320&oe=6145B9F0

552 Nameless Fanboi Posted ID:AqhsoDYtrF

ผมมองว่าการซ้ำศพมันก็แค่การแสดงชัยชนะอย่างหนึ่ง เป็นเรื่องปกติที่ผู้ชนะจะอยากให้คนอื่นได้รับรู้ว่าตนเองชนะ

553 Nameless Fanboi Posted ID:zXU.2Vwp/1

>>551 ไอ้พวกนี้ก็เพี้ยนเกิน เขาหมายถึงการแต่งตัวตามปกติ ทำอย่างกับว่า ผญ ทุกคนที่ไม่คลุมตัวจะยอมขายกันหมดอะนะ

554 Nameless Fanboi Posted ID:Rcac1nRdSk

#ศาลโลก ที่คุณทักษิณพูดถึงเมื่อคืนคือศาลไหน?

ถ้าหมายถึง ICJ (International Court of Justice) นี่เขาตัดสินกรณีพิพาทระหว่างรัฐสมาชิกนะ อย่างเช่นคดีเขาพระวิหาร (ไทยกับกัมพูชา)

มันฟ้องคุณประยุทธ์ไม่ได้

แต่ถ้าหมายถึง ICC (International Criminal Court) อันนี้ไทยยังไม่ได้ให้สัตยาบันนะ

ซึ่งสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หลายๆคน รวมถึงผมด้วย ก็พยายามผลักดันเรื่องนี้กันอยู่ แต่ถึงที่สุดรัฐบาลยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้ให้สัตยาบัน

แน่นอนเพื่อไทยและแฟนคลับก็มีข้ออ้างสารพัดเรื่องที่ไม่ยอมให้สัตยาบัน

คือถ้ายังไม่ให้สัตยาบันก็ยังฟ้องไม่ได้
หรือต่อให้ไปให้สัตยาบันทีหลังก็ฟ้องย้อนหลังไม่ได้อีกเหมือนกัน

ผมจึงอยากฝากพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทุกพรรค และคนที่คิดว่าตัวเองอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยทุกคน ให้ช่วยกันผลักดันเรื่องนี้

ถ้าพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยได้เป็นรัฐบาลก็ควรทำเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกๆเลย

และเอาเข้าจริงพรรคดารเมืองฝ่ายประชาธิปไตยทุกพรรคควรระบุไว้เป็นนโยบายตั้งแต่ตอนหาเสียงเลย ถ้าเผื่อได้เป็นรัฐบาลจะได้ไม่มาอ้างโน่นอ้างนี่

555 Nameless Fanboi Posted ID:LoR40e/QYv

>>554 ฟังไปก็แหม่งๆอยู่แล้วแหละว่ามันฟ้องไม่ได้ไม่ใช่เหรอ เพราะมันก็เคยมีประเด็นเรื่องแม้วไม่ยอมลงสัตยาบันนี่แหละ กูก็งงว่าจะพูดทำไม พูดเอามันหรือไงไม่รู้ แต่อย่างน้อยถ้าเป็นคนพูดเองก็ขอให้ในอนาคต พท เป็นรัฐบาลแล้วจะรีบลงสัตยาบันทันทีละกัน

556 Nameless Fanboi Posted ID:a0kSirvoM6

เหตุเพราะรูปใบเดียวทำให้ทักษิณถอย และทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้
.....................
อ่านข้อเขียนของคุณ สมลักษณ์ ส่งสัมพันธ์ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร ซึ่งเมื่อ 15 ปีที่แล้วดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ในบทความชื่อ
อดีตข้าราชการทำเนียบฯ เล่าเหตุการณ์ในนิวยอร์กเมื่อทักษิณรู้ว่าถูกรัฐประหาร
https://www.bbc.com/thai/58552609?at_medium=custom7...
คุณสมลักษณ์ ส่งสัมพันธ์ ได้เล่าถึงอารมณ์เกรี้ยวกราดของทักษิณ เมื่อได้รับการยืนยันแล้วว่าเกิดรัฐประหารที่เมืองไทย ในเวลานั้นทักษิณคิดจะสู้เต็มที่โดยใช้เวทีที่ประชุมสหประชาชาติได้กล่าวสนุทรพจน์
คุณสมลักษณ์ ส่งสัมพันธ์ เล่าว่า
"นายกฯ ทักษิณประณามพวกทำการรัฐประหารและตอนแรกคิดจะสู้ไม่ถอย กำหนดการในช่วงเช้าต้องยกเลิก ท่านสั่งการให้แก้ไขสุนทรพจน์ซึ่งมีกำหนดจะพูดที่สมัชชาสหประชาชาติในเวลา 19.00 น ซึ่งได้เปลี่ยนจากเดิมที่จะกล่าวในวันที่ 20 ก.ย เพื่อประณามและบอกเล่าให้นานาชาติรับรู้ถึงการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง พร้อมทั้งมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดไปประจำการใกล้ห้องท่าน ตั้งใจจะทำ war room ศูนย์บัญชาการรบสู้ โดยให้อยู่ที่นิวยอร์กอีก 2 วันเพื่อดูสถานการณ์ ดิฉันจึงต้องวุ่นวายเร่งรีบติดต่อกับผู้อำนวยการของการบินไทย และบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง"
แต่ทั้งหมดต้องยุติลงประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 19 กันยา ต่อ 20 กันยา เมื่อคณะรัฐประหารเผยแพร่ภาพ
"พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯ ให้พลเอก เปรม ติณสูลานนท์, พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน, พลเรือเอก สถิรพันธุ์ เกยานนท์ และพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุก เข้าเฝ้าฯ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต"
ต่อมาเมื่อท่านทราบว่าคณะปฏิวัติได้มีการเข้าเฝ้าฯ แล้ว ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะต่อสู้ต่อไป ท่านจึงเปลี่ยนใจพร้อมกับยกเลิกการไปกล่าวสุนทรพจน์ และเปลี่ยนกำหนดการที่จะเดินทางกลับทันที ทั้งที่ก่อนหน้านี้สั่งให้ยกเลิกการเดินทางกลับประเทศไทย ในการขอเส้นทางบิน หรือ flight clearance เพื่อขออนุญาตบินผ่านน่านฟ้าของแต่ละประเทศ โดยเปลี่ยนเส้นทางบิน ซึ่งเดิมจะบินตรงกลับกรุงเทพฯ เพื่อเปลี่ยนให้นายกฯ ทักษิณไปลงที่ลอนดอนก่อน ก็ต้องใช้เวลานานในการติดต่อประเทศอื่นเพิ่มเติม
นายกฯ ทักษิณประณามพวกทำการรัฐประหารและตอนแรกคิดจะสู้ไม่ถอย กำหนดการในช่วงเช้าต้องยกเลิก ท่านสั่งการให้แก้ไขสุนทรพจน์ซึ่งมีกำหนดจะพูดที่สมัชชาสหประชาชาติในเวลา 19.00 น ซึ่งได้เปลี่ยนจากเดิมที่จะกล่าวในวันที่ 20 ก.ย เพื่อประณามและบอกเล่าให้นานาชาติรับรู้ถึงการล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง พร้อมทั้งมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดไปประจำการใกล้ห้องท่าน ตั้งใจจะทำ war room ศูนย์บัญชาการรบสู้ โดยให้อยู่ที่นิวยอร์กอีก 2 วันเพื่อดูสถานการณ์ ดิฉันจึงต้องวุ่นวายเร่งรีบติดต่อกับผู้อำนวยการของการบินไทย และบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
คุณสมลักษณ์ ส่งสัมพันธ์ เล่าต่อว่า
ต่อมาเมื่อท่านทราบว่าคณะปฏิวัติได้มีการเข้าเฝ้าฯ แล้ว ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะต่อสู้ต่อไป ท่านจึงเปลี่ยนใจพร้อมกับยกเลิกการไปกล่าวสุนทรพจน์ และเปลี่ยนกำหนดการที่จะเดินทางกลับทันที ทั้งที่ก่อนหน้านี้สั่งให้ยกเลิกการเดินทางกลับประเทศไทย ในการขอเส้นทางบิน หรือ flight clearance เพื่อขออนุญาตบินผ่านน่านฟ้าของแต่ละประเทศ โดยเปลี่ยนเส้นทางบิน ซึ่งเดิมจะบินตรงกลับกรุงเทพฯ เพื่อเปลี่ยนให้นายกฯ ทักษิณไปลงที่ลอนดอนก่อน ก็ต้องใช้เวลานานในการติดต่อประเทศอื่นเพิ่มเติม
.......................
แน่นนอนว่าถ้าทักษิณใช้เวทีสหประชาชาติประณามพวกทำการรัฐประหาร ก็คงไม่มีประเทศไหนไม่ยอมรับการกระทำของทักษิณ
และการรัฐประหารดังกล่าวก็คงจะไม่มีประเทศไทยยอมรับ และล้มเหลวในที่สุด
แต่เมื่อมีรูปใบนั้นออกมา ทักษิณจึงถอย และประเทศไทยก็ตกในหลุดดำของรัฐประหาร 2549 มานจนถึุงปัจจุบัน

557 Nameless Fanboi Posted ID:a0kSirvoM6

‘ลับลวงพราง’
ผ่านมา 15 ปี “ทักษิณ” ทำได้แค่บอกกับคนรุ่นใหม่ว่า ตัวเองซื่อบื้อ ไม่ทันเกมอำนาจของชนชั้นนำ ทั้งที่มีอำนาจเต็มมือ แต่ก็ปล่อยให้ฝ่ายจารีตก่อการยึดอำนาจได้สำเร็จ
จิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายของทักษิณคือ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ เตรียมทหารรุ่นที่ 5 รุ่นเดียวกับ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.ทบ. และอดีต ผบ.สส.
ก่อนฤดูโยกย้ายปลายปี 2548 พล.อ.ชัยสิทธิ์ เกษียณอายุ ผลักดันเพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.เรืองโรจน์ เข้าดำรงตำแหน่ง ผบ.สส. ขณะที่คู่แข่งได้แก่ พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ รอง ผบ.สส.ขณะนั้น แต่สุดท้าย พล.อ.เรืองโรจน์ ได้เป็น ผบ.สส.
ช่วงรัฐประหาร 2534 พล.อ.เรืองโรจน์ เป็นนายทหารเสนาธิการประจำตัวของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ผบ.สส.สมัยนั้น เรียกว่าเป็นนายคนสนิท “บิ๊กจ๊อด”
อีกด้านหนึ่ง คืนวันนั้น (19 ก.ย.2549) ทายาท “บิ๊กจ๊อด”อย่าง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. ยังเป็นนายทหารระดับคุมกำลัง ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) “บิ๊กแดง” ได้ปล่อยวลีเด็ดไปถึงนายทหารฝ่ายทักษิณว่า “ผมอยู่กับพี่บัง” (พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน) ทำให้ขบวนการต้านรัฐประหารต้องจบเกม

558 Nameless Fanboi Posted ID:rXmeP28Syb

ถามว่ากังวลในกรณี Evergrade ไหม กังวลนะ แต่ไม่ใช่ในแง่เศรษฐกิจหรอก
.
ถามว่าทำไมคิดงั้น เพราะคิดว่าถึงมันล้ม มันก็ชิบหายในประเทศมันน่ะแหละ จีนก็จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรงเหมือนตอน Layman น่ะแหละ สุดท้ายเอกชนต่างๆที่ในจีนที่เอาไปลงทุนตามที่ต่างๆก็จะต้องเทขายเพื่อเอาเงินกลับประเทศรักษาสภาพคล่องตัวเอง
.
แต่สิ่งที่กังวลจริงๆคือ "ความรู้สึกของคนในประเทศที่ต้องเผชิญปัญหา" และ "การรับมือของภาครัฐในการแก้ปัญหา" ต่างหาก
.
ถ้าประชาชนที่ตอนนี้กินดีอยู่ดี อยู่ๆก็เจอภาวะเงินฝืด อาจจะส่งผลกระทบลามไปยังปัญหาอีกตัวของจีนที่ยังรอวันระเบิดอยู่คือเรื่อง "หนี้สินครัวเรือน" ด้วย คราวนี้แหละ ประชาชนก่อหวอดแน่ๆ
.
ถามว่า รบ. ปักกิ่งมัน give a shit หรือกลัวคนเดินประท้วงไหม ไม่หรอก มันปลูกฝังความ "เชื่อง" มาซักพักแล้ว แต่ความขุ่นเคืองของคนต้องหาที่ลง นั่นแหละที่กลัว
ไม่รู้ว่าไอ้สีเกิดไปกินรังแตนที่ไหนมา อยู่ๆอยากกระตุ้นความคลั่งชาติให้ถึงขีดสุด ยกทัพบุกไต้หวันเพื่อกะเคลมเงินกับทรัพยากรขึ้นมานี่ "เละ" ทั้งเอเชียแน่

559 Nameless Fanboi Posted ID:F8BGpKWJ1N

>>558 เรื่องหนี้ครัวเรือน รัฐบาลจีนก็แก้ปัญหาด้วยการเชือด Ant Financial ของแจ็คหม่าไปก่อนหน้านั้นไง หนี้ครัวเรือนจีนมันมาจากการกู้ออนไลน์ด้วย ซึ่งตอนนี้กะจัดระเบียบการกู้ใหม่ไม่ให้สร้างหนี้เกินควร ส่วนไอ้จะยึดทรัพยากรเนี่ยเล่นเกมส์ 4X มากไปหน่อยใหม่ ทุกวันนี้จีนลงทุนไปที่อัฟกานิสถานจะขุดเหมืองยังไม่ได้เลย เพราะติดสถานที่โบราณ

560 Nameless Fanboi Posted ID:MMZ7o/Q0qR

>>559 นั่นแค่ปลายเหตุ แล้วเป็นส่วนน้อยด้วย หนี้ครีวเรือนจีนส่วนมสกอยู่ที่อสังหา เพราะคนจีนเอาเงินไปลงทุนตปท.กับตลสดหุ้นไม่เสรี แล้วอสังหาจีนเป็นภาคส่วนที่เฟ้อที่สุด ตามตัวเลขแล้วกำไรมันดีมาก ซื้อไว้ยังไงก็กำไร แต่นั่นก็แค่ตัวเลขมูลค่านะ ไม่ใช่ตัวเลขการซื้อขาย ถ้าภาคอสังหาล้มคือเละแน่นอน

561 Nameless Fanboi Posted ID:E6JPIO+DOP

นี่ถ้า ทักษิณไม่โดนรัฐประหารตอนนั้น เจ้าของโรงเบียร์ โรงเหล้าขาว เจ้ามือหวย น่าจะมีเงินไป ซื้อ กว้าน ดิสนีย์แลนด์ได้ทั่วโลกแล้วมั้ง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

562 Nameless Fanboi Posted ID:ksBpnnzsBD

พี่หมีตื่นมา
เหมือนกำลังอยู่ในภาวะบรรลุสัจธรรมหลังน้ำแตก
ก็เลยมีมาพิมพ์เล่าเรื่องในห้วงเวลานี้ครับ
.
หัวข้อในวันนี้ เกี่ยวกับการลงทุนครับ
พูดโดยภาพรวม แบบอคติ แบบ คหสต ของพี่หมี
ถึงพวก กรนลท (กระหรี่นักลงทุน)
.
พี่หมีไปค้างกับ กรนลท หลายคนแล้วนะครับ
รวมถึงเคยวอร์พวกนี้มาหลายสมัย
จนปัจจุบัน เลิกแล้วค่ะ หนูเลิกวอร์แล้วค่ะ
.
ขอสรุปเป็นข้อๆ เพื่อให้ง่ายต่อการพิมพ์
กูพิมพ์สดๆนะไอ้สัส
.
1. หลายครั้ง พี่หมีไปค้างกับ กรนลท
พี่หมีก็เลยทดสอบง่ายๆ ด้วยคำว่า
demand supply ไอ้สัส แม่งก็ไม่รู้ความหมาย
ก็ไม่น่าแปลกใจหรอก ถถถถ
.
2. กำไร ที่เราได้มาจากอะไรสักอย่าง
มันจะต้องมีที่มาจาก คุณค่าอะไรสักอย่าง
สำหรับใครบางคน
แต่ว่า กำไร % มหาศาลที่ กรนลท บอก
พี่หมีถามหาที่มา แม่งก็ตอบวนไปวนมา
ตอบไม่ได้ เหมือนกับพวกแชร์ลูกโซ่
หรือ พวกโค้ชโง่ๆ อีกหลายคน ถถถ
.
3. พี่หมีออกตัวก่อนเลยว่า
พี่หมีอาจจะคิดผิดก็ได้
แต่ทีนี้ มันมีพวกขุด bitcoin
ไปซื้อการ์ดจอมา ทำเหมือง
การทำแบบนี้ ไม่ได้อยู่ในแนวคิดของพี่หมีเลยครับ
เพราะว่า การขุด bitcoin แบบนี้
มันสร้างคุณค่าให้อะไร ให้ใคร
เพื่ออะไร มันดูไร้ค่ามากๆ
ไม่สามารถต่อยอดได้ด้วย
เสียเวลาสัสๆ
.
4. พี่หมี ตอนนี้ เข้าสู่ภาวะงานฟาร์มเงินรัวๆๆๆ
จนเข้าใจแก่นแท้ในเรื่องการหาเงินไปทุกที
เราจะต้องสร้างคุณประโยชน์อะไรให้กับ
กลุ่มคน กลุ่มนึง ที่เต็มใจจะจ่ายกับราคานี้
ที่เราทำต้นทุนได้ให้เราพอมีกำไร
มันมีรากฐาน มี knowledge มีเน็นแฝงอยู่ข้างใน
คือ เราจะต้องสร้าง value ขึ้นมาจริงๆ
มันถึงจะยั่งยืน และต่อยอดได้
.
5. ส่วนไอ้พวก กรนลท และ แม่ข่ายของ กรนลท
พวกมันสร้างคุณค่าอะไรหรือเปล่า ก็ไม่
มันก็เลยนัดกันสร้างภาพ เหมือนสมัยแชร์ลูกโซ่
จะต้องใช้ชีวิตไฮโซ ทำชีวิตให้ดูฉลาด
ไปหลอกคนโง่ๆเลเวล 1 อีกที
.
6. พี่หมี แม่ง bias สัสๆ กับเรื่องนี้
กูสงสัยมาก ไอ้พวกโค้ชพวกนี้
ที่มันทำมาเป็นอ่านหนังสือ
โพสคำคมโง่ๆ อ่านหนังสือโง่ๆ
มึงก็แค่ลงทุนโง่ๆ ในอะไรโง่ๆ
เวลาผ่านมาหลายปีแล้ว
ไอ้สัส พวกนี้ ทำแปบเดียว
แล้วก็หายหัวกันหมด ถถถถถถถ
.
7. พี่หมีเลยอยากจะสอนมวยพวกมึง
ใครที่ต้องการจะฟาร์มเงินแบบแท้ทรู
ต้องการสร้างรากฐานทางการเงิน
อย่าไปยุ่งกับไอ้เหี้ยพวกนี้เลย
เสียเวลาสัสๆ ยกเว้นว่า จะไปกระแทกพวกมัน
ตอนที่พวกมันตกอับ ถถถถถ
.
8. แนวคิดพวกนี้ มันจะแบบ ไม่อยากทำงาน
ไอ้สัส ไม่เหมือนพี่หมีเลย พี่หมีอยากทำงาน
กูอยากทำงานไปจนแก่ ไม่อยากหยุดงานเลย
การทำงานของกู แม่งสนุกมากๆ
เหมือนเล่นเกมส์เลย กูไม่อยากเลิก
กูทำงานแล้วได้เงินด้วย คนรอบๆตัวกูก็ได้เงิน
ลูกค้า คู่ค้า ก็มีความสุข
ระบบนิเวศน์ขององค์กรพี่หมี ก็มีความสุข
เราเติบโตไปเรื่อยๆ ไม่เหมือนไอ้พวก กรนลท
.
9. กูไม่อยากจะโม้เลย ในบรรดาเพื่อนๆ
ช่วง covid แม่งเงิบกันหมดไอ้สัส
แต่ของพี่หมีแม่งเอ้ย เป็นปีที่เติบโตเยอะสุด
ปีที่แล้วกูตั้ง kpi ไว้ขำๆ ไอ้สัส ทำได้ด้วย
ก็คิดว่าเยอะแล้วนะไอ้ห่า
ปีนี้ แม่งเยอะกว่าปีที่แล้วอีก โหดสัส
สวรรค์ของพี่หมีชัดๆ ได้เงินเยอะๆ
แถมมีพวกตกอับเยอะ ได้ลองอาชีพใหม่ๆ
แต่อย่างว่า พอทั้งระบบมันตกต่ำ
มันเลยก่ออาชีพพวกกลุ่ม กรนลท เสมอ
เป็นมาทุกยุค ทุกสมัย มันแค่เปลี่ยนรูปแบบ
.
10. พี่หมีแม่ง ไม่ค่อยได้มาทำเพจแล้ว
เพราะว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สนุกกับการทำงาน
สนุกกับการฟาร์มเงิน สนุกกับการใช้ชีวิต
กับการกระแทกอาชีพใหม่ๆ
เพราะถ้าสถานการณ์ปกติ พี่หมีน่าจะไม่ได้กระแทก
มันเหมือนกับว่า ไปออกเดทแบบคืนเดียว
กับดอกไม้ที่เพิ่งเบ่งบาน
ดอกไม้แต่ละดอก กว่าจะออกมาเป็นแบบนี้่
มนุษย์กว่าจะเกิดมา 1 คน ใช้ต้นทุนไปเท่าไหร่
กว่าจะออกมาให้น่าผสมพันธุ์แบบนี้
อายุที่เหมาะสม คือ ช่วงเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่ปี
แต่ต้องมาโดนสัตว์เพศผู้แบบพี่หมี ผสมพันธุ์
แลกกับตัวเลขดิจิตอลในมือถือ
ที่ไม่ได้มีผลห่าอะไรเลยกับพี่หมี
แค่เศษเสี้ยวของเงิน แต่พี่หมีได้เข้าไปถึงส่วนลึกของร่างกาย
ไม่ต้องเสียเวลาไปจีบ ไม่ต้องเสียเวลาศึกษา
ไม่ต้องเสียเวลาไปคุย ไม่ต้องเสียเวลาพาไปกินข้าว
.
ขอบคุณโลกนี้ ที่ให้พี่หมีเกิดมา
พี่หมีคิดว่า ถ้าสมัยอดีต คนที่จะทำแบบนี้ได้
คงมีแต่ราชา ของอาณาจักรต่างๆ
แต่ด้วยโลกทุกวันนี้ เราสามารถเป็นราชาได้
เราคัดเลือกคนจะมาผสมพันธุ์ได้รัวๆๆๆ
แล้วไม่ต้องมีพันธะใดๆด้วย
พี่หมีเหมือนเป็นราชาเลย ในช่วงเวลานี้
ขอบคุณจริงๆ ที่ได้เกิดมา
ขอบคุณที่พี่หมี วิ่งแซงชนะตัวอื่นๆ
มาปฏิสนธิก่อนใคร จนเกิดมาจนถึงทุกวันนี้
จนถึงตอนนี้ ที่พี่หมีนั่งพิมพ์อยู่
พี่หมีซาบซึ้งในคุณค่าของการมีชีวิตมากๆครับ

563 Nameless Fanboi Posted ID:ksBpnnzsBD

Young people are more likely to believe and pass on misinformation if they feel a sense of common identity with the person who shared it in the first place. This research has lessons for all of us.

564 Nameless Fanboi Posted ID:as1o0WT.zJ

>>563 Source: trust me bro

565 Nameless Fanboi Posted ID:Es.FkHuwl/

กุโครตสิ้นหวังเลยวะ แม้วมันอยู่ดีมีสุข ขนาดโกงปทไทย ไปขนาดนั้น และถ้ามันเติบโตกว่านี้ ก็จะไม่มีใครทำอะไรมันได้

566 Nameless Fanboi Posted ID:u5j+gUjmXO

วันนึงที่ลูกเราเล็กแล้วบอกว่าโตขึ้นอยากอาชีพอะไรซักอย่าง เราต้องระวังความโอหังในประสบการณ์ของตัวเองให้มาก
คือเอาเข้าจริงถ้าเด็กมันอายุ 5-7 ปีเงี้ย กว่าจะเข้าทำอาชีพเป็นหลักเป็นฐานก็อีก 10-15 ปีข้างหน้า ถามว่าเราเดาได้เหรอว่าอาชีพที่จะบูมหรือจะเละเทะในเวลานั้นเป็นอะไร เราเอาอะไรมามั่นใจว่าอย่าทำอาชีพนั้นเลยพ่อรู้มันไม่เวิร์คหรอก ทำอาชีพนั้นดีกว่าพ่อรู้มันจะเวิร์คแน่นอน
คนรุ่นก่อนเคยบอกว่าศิลปินไส้แห้งรุ่นถัดมาก็บูม เขาก็บอกจากประสบการณ์ของเขาแหละว่าเขาเจอมา คนอีกรุ่นนึงบอกเป็นเกมเมอร์หาเงินไม่ได้ เกมเมอร์ก็บูม ซึ่งเขาก็เดาจากประสบการณ์ของเขาอีก คนรุ่นนึงบอกรับราชการเวิร์คมาก เอาเข้าจริงตอนนี้เวิร์คขนาดไหนกันนะ
ถ้ามีอะไรจะเรียนรู้จากสิ่งนี้ คือ ระวังความโอหังความมั่นใจในประสบการณ์ตัวเองให้ดี การเดาอะไรในระยะเวลา 10-20 ปีมันแทบเป็นไปไม่ได้ ขนาดคนที่ทำอาชีพเดาอนาคตแล้ววางเดิมพันที่ท็อปๆ ของโลกอย่าง Buffet, Ray Dalio ยังเดาผิดเยอะแยะไปหมด แล้วเราล่ะ เราเอาอะไรมาโอหังได้ขนาดนั้นว่าฉันรู้ดีนะจากประสบการณ์ฉัน อีก 20 ปีข้างหน้าศิลปินจะไส้แห้งแน่นอน เกมเมอร์จะหาเงินไม่ได้แน่นอน ฉันรู้ฉันผ่านมาเยอะเจอมาเยอะ
เราจะเอาอะไรมามั่นใจได้เล่า เราโอหังหลงตัวเองหลงมั่นใจประสบการณ์ตัวเองกันมากเกินไปหรือเปล่า ขนาดคนทำงานเดาอนาคตโลกนี้เป็นอาชีพหลักเขายังไม่กล้าเดากันแบบนั้นด้วยความมั่นใจ 100% เลยนะผมว่า
คือเราคิดว่าเราควรสำรวจและเปิดรับเรียนรู้โลกที่เปลี่ยนไปพร้อมกับเด็กมันอ่ะครับ เราถึงจะบอกได้จริงๆ ว่าเทรนด์มันเป็นยังไง และบอกได้เมื่อเวลามันใกล้เคียงหน่อย อาชีพที่เด็กมันอยากจะทำอ่ะมันอาจจะเวิร์คหรือไม่เวิร์คก็ได้ สำรวจความเวิร์คไม่เวิร์คไปกับเด็ก ดีกว่าตัดสินจากประสบการณ์ตัวเองนะ ยิ่งตัดสินล่วงหน้า 10-20 ปี อย่าทำเลย คุณเก่งเห็นเทรนด์โลกขนาดนั้นได้จริงเล่นหุ้นให้รวยก่อนดีกว่านะ

567 Nameless Fanboi Posted ID:mBH5K89i2V

>>566 อ่ะกูเเาให้ไกลๆ ทําเกี่ยวกับพลังงานทางเลือก พลังงานนิวเคลียร์ หรือเทคโนโลยีอวกาศ อาชีพมึงอยู่ได้อีก100ปี

568 Nameless Fanboi Posted ID:BqIbwnrBkP

>>566 เป็นกระหรี่ รุ่งทุกชาติ

569 Nameless Fanboi Posted ID:.tZNRKFJ+T

>>568 กะหรี่เป็นได้ถึงอายุ 80 ปี ป่ะ

570 Nameless Fanboi Posted ID:KQHvV8RXYP

>>569 ได้ เฟติชป้าๆยายๆก็มีนะนาย อาจจะขายบริการไม่ได้คนเยอะหรอกก็ต้องทํางานด้านคอนเท้นแทน เล่นหนัง ลงคลิป ว่าไป

571 Nameless Fanboi Posted ID:D2.aYpAIfa

>>566

survivorship biasเต็มๆเลยอ่ะมึง เห็นคนที่รอดมาได้ส่วนน้อยแล้วคิดว่านั่นคือส่วนใหญ่ เพราะพวกที่ไม่รอดตายหมดแล้ว

เขาพูดกันว่าศิลปินไส้แห้ง เพราะมีศิลปินไม่กี่คนที่ก้าวไประดับร่ำรวยได้ แทนที่จะไปดูBTSหรือBlackPinkเป็นตัวอย่าง มึงไม่ไปดูพวกที่ต้องเล่นตามร้านเหล้าจนแก่ล่ะ

เกมเมอร์ มึงรู้ไหมว่าในทวิชท์ ถ้ามึงมีคนดู10คนนั่นถือว่ามึงอยู่ในระดับTop 3%ของทวิชท์แล้ว เพราะว่า93.3%ของเว็บมีคนดูห้าคนหรือต่ำกว่า แต่มึงไม่ไปดูพวกนี้ไง มึงไปดูนินจา เชราด์ แล้วคิดไปว่าเกมเมอร์ทำเงินได้โว้ย

572 Nameless Fanboi Posted ID:ed5/X.I6kG

>>571 พวกงานศิลปะเป็นแบบนี้จริงๆ นะ รวมถึงพวกยูทูบเบอร์ เกมแคส แอดมินเพจ พวกนี้มีสักกี่คนที่สามารถหารายได้เลี้ยงตัวได้จริงๆ ไม่ต้องถึงขั้นซูปตาร์หรอก เอาแค่ให้มันเป็นรายได้หลักก็ยากละ หลายคนเลยเอาแค่เป็นงานเสริม เป็นโลกอีกใบเวลาว่างจากงานหลักดีกว่า

573 Nameless Fanboi Posted ID:oo2ItyA8oS

เมื่อความเชื่อที่เราสนับสนุนไม่ใช่สิ่งที่ถูกกฎหมาย
.
จากกรณีที่ไข่เน่า (ตะวัน,โบ้ท) ถูกดำเนินคดี หลายคนคงรู้แล้วว่าจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรื่องราวขยายเป็นวงกว้างเกิดจากการที่ตะวันได้มาเล่าถึงการทำอาชีพ sex creator ในรายการ “เรื่องบนเตียง(ระเบียงก็นับ)” รายการของผมเอง
.
มีหลายคนบอกว่าถ้าไม่ทำคลิปนี้ขึ้นมาไข่เน่าคงไม่โดนอะไร แอบทำคอนเทนต์ได้ต่อไปเรื่อยๆ ผมอยากให้ทุกคนมองลงไปลึกกว่านั้น ว่าการที่ไม่พูดอะไรเลยแล้วยอมทำอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ตลอดไป ในระยะยาวมันดีต่ออาชีพนี้จริงๆ หรือเปล่า วันนี้รอดโชคดีไป วันหน้าโดนขึ้นมาก็ซวยไป เราอยากให้มันเป็นแบบนั้นกันจริงๆ หรอ ถ้าหากไม่พูดออกมาสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายตลอดไป
.
การทำคลิปนี้ขึ้นมาเกิดขึ้นจากการที่ ผม ตะวัน และโบ้ท ได้ตกลงร่วมกันว่าเนื้อหาสามารถเผยแพร่ได้ และผมโคตร Respect ทั้งสองคนเลยที่กล้าพูดออกมาเพื่อสังคมในอุดมคติที่พวกเค้าอยากให้เป็น
.
พอมีผลกระทบที่ตามมากับทั้ง 2 คน ผมเครียดมากและรู้สึกว่าผมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มันเกิดขึ้น สิ่งที่พวกเราพลาดไปคือการอยากพูดจนลืม Protect ตัวเอง การแจงรายได้และการแจกช่องทางการติดตามมันสามารถตีความไปได้ว่าเป็นการชักจูงให้คนทำตาม ซึ่งเรื่องนี้ก็พลาดไปจริงๆ หลังจากนี้ผมจะระวังการสื่อสารให้ดียิ่งขึ้น ไม่ให้แขกรับเชิญต้องรับผลกระทบแบบนี้อีก
.
หลายคนบอกว่าผมทำคลิปหิวแสง ถ้าการสร้างคอนเทนต์แล้วอยากให้คนมาดูเยอะๆ เพื่อให้คนเปิดใจรับอาชีพ sex creator มันคือการหิวแสง ผมก็คงต้องตอบว่าใช่ ผมหิวแสงจริงๆ ตามที่กล่าวมา
.
ที่ผมลบคลิปออกจากบ้านกูเองเป็นเพราะว่าผมเป็นห่วงตะวันที่ถูกกระแสโจมตีจากทุกช่องทางเพราะคลิปของผม (และลึกๆก็เป็นห่วงสภาพจิตใจตัวเอง) ผมคิดว่าคลิปได้กระจายออกไปมากพอแล้ว ตะวันได้ขับเคลื่อนประเด็นนี้ออกมาสู่สังคมได้มากพอแล้ว มากจนไม่อยากให้คลิปของผมเป็นการซ้ำเติมเธออีก
.
และผมคิดว่าแกนนำที่จะชูประเด็นเรื่องนี้ไม่ควรเป็นเธอคนเดียว ถ้าอยากสร้างความเปลี่ยนแปลงในอนาคตเราต้องออกมาช่วยกันพูด ช่วยกันผลักดัน ทำได้ดีกว่าที่ผมทำยิ่งดี รอบคอบและรัดกุมมากกว่านี้ให้ไม่มีใครต้องเจ็บตัวจากการพูดความจริง
.
ในวันนี้ตะวันและโบ้ทได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ให้แก่สังคมไทย ให้ใครหลายคนได้หันมามองคนกลุ่มนี้อาชีพนี้ ถกเถียง พูดคุยกัน ถึงทิศทางที่ประเทศควรจะไป โอเคสิ่งนี้มันอาจจะผิดกฎหมายไทยในวันนี้ แต่กฎหมายมันเปลี่ยนได้ถ้าคนในสังคมเห็นด้วยตรงกันและสร้างความเปลี่ยนแปลงในอนาคต
.
แรงกระเพื่อมที่ไข่เน่าได้สร้างไว้ ผมอยากให้ทุกคนช่วยสานต่อ ช่วยกันผลักดันกฎหมายที่คุ้มครอง sex creator ให้เกิดขึ้นจริง
.
และผมยังคงเชื่อว่า sex creator ควรถูกกฎหมาย
.
นอท บ้านกูเอง

574 Nameless Fanboi Posted ID:F+x8pLMhId

>>573 พูดมาซะยืดยาว

ถามง่ายๆ ถ้ามึงมีเมียแล้ว มีลูกแล้ว เมียมึงขอไปเล่นหนังโป๊ เอาเงิน มึงจะให้มั้ย

ถ้าบอกว่าให้ กูก็ช่างแมร่ง เรื่องของมึง ถ้าบอกไม่ ที่พูดมายาวๆก็ขยะ

575 Nameless Fanboi Posted ID:vyDALd7E5M

>>574 โง่อีก 1 ละ

576 Nameless Fanboi Posted ID:MCO4WrPrwU

>>575 มันเป็นคำถามที่ท้าทายน่ะ อย่างกูเองที่สนับสนุน Sex Worker ให้ถูกกฎหมายจะได้ไม่ต้องถูกเอาเปรียบ+ลดปัญหาส่วยคอรัปชั่นทั้งหลาย ตัดสินใจไม่มีเมียมีลูก เพราะกูก็ไม่มั่นใจว่าถ้ารู้ว่าเมียหรือลูกแบบไปทำกูจะทำใจได้ไหม

577 Nameless Fanboi Posted ID:vyDALd7E5M

>>576 ถ้าลูกสาวมึงขอไปเป็นแรงงานประมงมึงจะให้ไปมั้ย

578 Nameless Fanboi Posted ID:RHwaX6vs1S

>>577 ลูกสาวมันอยากเป็นเจ้าแห่งโจรสลัดหรอวะ

579 Nameless Fanboi Posted ID:NvKccIaaAQ

>>576 โคตรพระเอก ตัดสินใจไม่มีเมียเพราะอุดมการณ์ แถมยังเป็นห่วงสิทธิคุณตัวด้วย ขอยกย่องตำแหน่งwhiteknight ให้ 1 ea

580 Nameless Fanboi Posted ID:bu.0/9ABGj

เบ็ดโง่ๆแบบจะให้ลูกเมียไปทำมั้ยนี่พวกมึงก็เลิกๆงับเหอะ

581 Nameless Fanboi Posted ID:RPxm/i1VKO

กูไม่เก็จหว่ะ ว่าเสื่อกเริ่องไรลูกวะ ไอพวกโม่งที่บอก “มึงคิดซี้คิดส์ ถ้าลูกมึงต้องไปทํางานนู่นนี้เมิงจะยอมหราาา อันตะ บากะะ!!! ฮึ่มมุ” 😣👉👈

582 Nameless Fanboi Posted ID:RPxm/i1VKO

คือไม่ได้ไปขายตัวเอง แต่เสือกดิ้นอย่างจะถูกจับไปขายตูดไปให้กระเทยย่านทองหล่อ

583 Nameless Fanboi Posted ID:1r5EH/Tuk0

>>573
มิตรสหายท่านหนึ่ง : ไข่เน่าโดนจับเพื่ออุดมการณ์อันยิ่งใหญ่!
มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง : เท่ฝุดๆไปเลยลวกเพ่ ละลวกเพ่ช่วยคดีเค้ายังไงบ้าง หาทนาย? ช่วยค่าประกันตัว?
มิตรสหายท่านแรก : อ่อ ไม่อะ ผมกำลังเยียวยาสภาพจิตใจตัวเองอยู่ ไม่ออกหาแสงหรอกครับ

584 Nameless Fanboi Posted ID:ylUgVRDSRg

"A 3some with 2 guys isn't a 3some. It's gay sex with a spectator"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

585 Nameless Fanboi Posted ID:4B1hcYaV6s

>>583 สรุปคือห้ามconcernเหตุการณ์ต่างๆเหรอวะ ต้องออกไปช่วยเค้าลุยในศาลด้วยหรา? อิหยังวะ แล้วเหตุการณ์การเมืองกูต้องเข้าไปเถียงในรัฐสภาด้วยเปล่าครับเพ่

586 Nameless Fanboi Posted ID:KtPMBSBmI.

>>585 คนทั่วไปไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้คนพูดมันลากเขาจากซอกมืดออกมาเปิดตัวสู่สาธารณชน

587 Nameless Fanboi Posted ID:Fw.8yjYoV6

>>585 A wild SJW อ่านไม่แตกเน้นฉอดเร็ว appears!

588 Nameless Fanboi Posted ID:bdy3ZcVaW4

>>586 ได้ค่าโฆษณาอิ่ม ๆ

589 Nameless Fanboi Posted ID:RX+mtzgrfx

หากใครที่เคยได้อ่านมังงะ หรือ ดูอนิเมะ attack on titan (ผ่าพิภพไททัน) หรือ進撃の巨人(Shingeki no Kyojin) คงจะต้องเคยได้ยิน ชื่อของ Ymir(ยูมี หากอ่านตามในมังงะ) อยู่บ้าง ซึ่งยูมีที่จะพูดในที่นี้ จะหมายถึง Ymir Fritz ซึ่งเป็นผู้ที่ครอบครองพลังไททัน คนแรกในโลกของ attack on titan ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ ๒๐๐๐ปีก่อน ซึ่งเรื่องตำนานเรื่องเล่าเรืองเดียวกันนี้ก็จะแตกต่างกันออกไป ฝ่าย เอลเดีย(Eldia) ผู้ได้รับประโยชน์จากการใช้พลังไททันของ Ymir ก็จะบอกว่าพลังไททันคือพลังที่พระเจ้าได้ประทานมาให้ แก่ Ymir แต่ทางฝั่งมาร์เลย์(Marley) ซึ่งเป็นศัตรูคู่ขัดแข้งกับเอลเดีย จะเล่าสู่ลูกหลานฟังว่า Ymir ได้ทำสัญญากับปีศาจจนได้รับพลังไททันมา แต่ไม่ว่าพลังไททันจะมาจากเทพหรือปีศาจ พลังไททันก็ได้ถูกใช้ในสงครามระหว่าง สองจักรวรรดิ์ในเรื่องในที่สุด และทำให้จักรวรรดิ์ เอลเดีย ยึด มาร์เลย์ เป็นเมืองขึ้นได้

แต่แล้วก็มีเหตุที่ทำให้ Ymir Fritz ต้องตายลงกษัตริย์ Fritz จึงสั่งให้พระโอรส และพระธิดา มาเรีย โรเซ่ และซีน่า กินซากศพแม่ตัวเอง เพื่อสืบทอดพลังไททัน จนสุดท้ายพลังไททันได้แบ่งออกเป็น ๙ ตน และพลังของยูมีร์ดั่งเดิม ได้กลายเป็นพลังไททันบรรพบุรุษในที่สุด จากนั้นเป็นต้นมาก็ได้มีการสืบทอดพลังไททันกันจากรุ่นสู่รุ่นผ่านการกินศพของผู้ที่เป็นเจ้าของพลังไททันยุคก่อนและต่างฝ่ายต่างก็ใช้พลังไททันที่ตนครอบครองเพื่อการทำสงคราม ขยายอาณาเขตของตนเองและกดขี่เชลยและอาณาจักรที่ตนไปยึดครองไว้เป็นทาส

จนเนื้อเรื่องดำเนินมาถึง ยุคสมัยของเอเรน ตามเนื้อเรื่องในมังงะ ตอนที่๑ "แด่เธอในอีก 2000 ปีจากนี้: การล่มสลายของเขตชิกันชิน่า 1" To You, in 2000 Years: The Fall of Shiganshina, Part 1
(二千年後の君へ ―シガンシナ陥落①―)

หากพูดถึงอนิเมะ attack on titan (ผ่าพิภพไททัน)แล้วจะพบว่า อนิเมะเรืองนี้ มีความเป็นตะวันตกค่อนข้างสูงมากกว่าตะวันออก ทั้งการเลือกใช้ชื่อตัวละคร ถึงฉากต่างๆ มักจะเป็นภาษาเยอรมันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น เอเรน เยเกอร์ (Eren Jäger)ลีไว แอคเคอร์แมน (Levi Ackerman) แจน เคียร์ชไตน์ (Jean Kirstein) คอนนี่ สปริงเกอร์ (Connie Springer)ซาช่า เบลาส์ (Sasha Blouse) คริสต้า เลนซ์ (Christa Lenz) หรือชื่อจริง ฮิสทอเรีย ไรส์ (ヒストリア・レイス Historia Reiss) ล้วนแล้วแต่มีความเป็นตะวันตก(เด่นที่สุดก็เยอรมัน)สูงทั้งสิ้น

รวมถึง สถานที่และเมืองต่างๆ ก็อ้างอิงมาจากสถานที่จริงในเยอรมัน และเหตุการณ์ในเรื่อง ก็ให้ภาพของเยอรมันยุคปลายๆยุคกลาง ต่อเนื่องมาถึงยุคปฎิวัติอุตสาหกรรม และต่อเนื่องมาถึงสมัยสงครามโลกทั้งสองครั้งทั้งสิ้น (ซึ่งพลังไททันในเรื่องก็ได้กลายมาเป็นอาวุธในการทำลายล้างกัน และผู้แต่งจงใจใช้มันเป็นตัวแทนของอาวุธสงครามตัวอย่างเช่น ตอนที่เจ้าของพลังไททันมหึมา ใช้พลังดังกล่าว จะมีแรงระเบิดขนาดใหญ่มาทุกครั้ง ซึ่งแรงระเบิดนี้ มีที่มาจากความรุนแรงของระเบิดปรมณู และพลังของไททันเกราะเป็นตัวแทนของรถหุ้มเกราะ ไททันเกวียนเป็นตัวแทนของยานรบทหารราบ เป็นต้นซึ่งผู้เขียนมังงะต้องการใช้สะท้อนถึงความโหดร้ายของสงครามนั้นเอง)

โดยเนื้อเรืองของมังงะเรืองนี้จัดได้ว่ามีความรุนแรงสูงมาก และการดำเนินเนื้อเรืองค่อนข้างสะท้อนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วจริงๆบนโลกใบนี้ทั้งสิ้น ทั้งเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่ได้แบบมาจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว การสร้างเขตกักกันของมาร์เลย์ ที่กระทำต่อเอลเดีย ชาวมาร์เลย์กิตติมศักดิ์ ซึ่งล้อกับคำว่าอารยันกิตติมศักดิ์ของนาซีรวมถึงเกาะพาราดี ที่มีลักษณะคล้ายกับเกาะมาดากัสก้า ที่นาซีเยอรมัน เคยวางแผนจะเนรเทศชาวยิวไปที่นั้น ก็มีที่มาจากตรงนี้

590 Nameless Fanboi Posted ID:RX+mtzgrfx

>>589

ถึงแม้นฉากในเนื้อเรื่องและตัวละครจะเป็นเยอรมันสูง แต่ตำนานเรือง Ymir ผู้เป็นต้นกำเนิดของไททัน กลับมีที่มาจากตำนานของนอร์ส ที่เล่าว่า Ymir คือไททันผู้เป็นต้นกำเนิดของไททัน(ยักษ์) และเทพเจ้าทั้งมวลของนอสต์(หนึ่งในนั้นคือ โอดิน บิดาของ ทอร์) แต่สุดท้าย Ymir ก็ถูกลูกหลานของตนเองฆ่าจนตายแล้วร่างกายของยูมีก็ถูกนำไปสร้างดินแดน ต่างๆ (ซึ่งไม่ใช่รายละเอียดที่เราจะพูดถึง หาสนใจให้ดูรายละเอียดได้ที่ช่อง ของน้องวิว ที่ช่อง Point of View ,หลงไปในประวัติศาสตร์ by หมอเอ้ว ชัชพล และสุริยบุตร ได้อธิบายไว้แล้วจะไม่ขอเล่าอีก)

เป็นที่น่าสนใจว่า “Ymir” ซึ่งคำนี้ สามารถสืบค้นรากคำจนพบเสียงที่สืบสร้างเสียงดั่งเดิมได้ในภาษาตระกูลอินโดยุโรเปียน /*yemH-/(แปลว่าฝาแฝด “twin”) ซึ่งรากคำของคำนี้ตรงกับ यम (yáma) ที่แปลว่า"แฝด"ในภาษาฮินดี และยังเป็นชื่อเทพเจ้าองค์หนึ่ง ซึ่งก็คือ “พระยม” ผู้ปกครองโลกแห่งความตายของชาวอารยันโบราณอีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดสมมุติฐานว่าแท้จริงแล้ว เรื่องของพระยมของอารยัน และ ยูมีร์ ของนอร์ส อาจมีที่มาจากแหล่งเดียวกัน?

พระยม 🇨🇳 จีนรับไป 閻魔(阎魔) (เสียงจีนยุคกลาง jiᴇm muɑ) 🇨🇳 ภาษาจีนกลาง Yánmó 🇯🇵ญี่ปุ่นที่รับไปจากจีนえんま(enma) 🎌ญี่ปุ่นรับไปจากอินเดียอีกครั้งทำให้เกิดเทพอีกองค์ 夜摩 (Yama) 🇰🇷เกาหลี 염마 (yeomma) 🇲🇲พม่า ယာမာ (yama) 🇰🇭เขมร យម (yum)

หากค้น จากรากคำภาษา🇮🇳อินโดยุโรเปียน🇪🇺 /*yemH-/สืบทอดมาจนถึง Proto-Italic /*jem anos / สืบทอดมากลายเป็นภาษาละติน คำว่า Geminus ซึ่งแตกมาเป็นคำในภาษาละตินอีกจำนวนนึง

รากคำละติน Geminus(เจมินุส) แปลว่าฝาแฝด หรือคล้ายคลึง และยังเป็นที่มาของ Remus หนึ่งในผู้ก่อตั้งกรุงโรมในตำนานร่วมกับ Romulus อีกด้วย

ซึ่งแตกออกมาเป็นอีกจำนวนหนึ่งในภาษาละติน
bigeminus(บิเจมินุส) สองเท่า

geminī (เจมินี) หมู่ดาวราศีเมถุน
ซึ่งชื่อนี้ยังถูกนาซ่าไปตั้งเป็น โครงการ gemini (เจมิไน) ของนาซ่าอีกด้วย ซึ่งถ้าใครได้อ่านหนังสือ First Man The Life of Neil A. Armstorng ที่เล่าประวัติของ neil armstrong หรือดูภาพยนต์ที่สร้างจากหนังสือเล่มนี้ คงจะได้ว่าเขาเคยเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากโครงการนี้(ตามรายละเอียดได้ที่ spaceth.co นะครับ)

trigeminus (ตรีเจมินุส)สามเท่า สร้างจาก tri- (ไตร สาม“three”) +‎ geminus
🇬🇧 ซึ่งคำนี้ยืมไปสร้างคำในภาษาอังกฤษ trigeminus ซึ่งเป็นเส้นประสาทชนิดหนึ่ง

591 Nameless Fanboi Posted ID:RX+mtzgrfx

>>590

quadrigeminus(ควาดริเจมินุส) สี่เท่า ซึ่งมาจากรากคำ quattuor (“จตุร หรือ สี่ four”) +‎ geminus (“ double, twin”)ซึ่งกลายมาเป็นคำว่า quadrigemino ในภาษาอิตาลีปัจจุบันนี้ l

septemgeminus (เซ็ตเต็มเจมินุส) เจ็ดเท่า

ingemino(อินเจมิโน) ย้ำ

geminatus(เจมินาตุส) ทวีคูณ .
🇬🇧การเป็นคำว่า gemination การทําสําเนา ในภาษาอังกฤษ

geminatio(เจมินาติโอ)
🇬🇧ในภาษาอังกฤษยืมไปใช้ในความหมายเดียวกันคือ "ทวีคูณ" และคำนี้ถูกนำไปใช้ในวิชา สัทศาสตร์ หมายถึงพยันชนะที่ออกเสียงยาวกว่า ในภาษาอังกฤษ geminate และ🇷🇺รัสเซียยืมไปใช้ гемина́та (gemináta)

ingeminātus (อินเจมินาตุส)"ย้ำอีกครั้ง"สร้างจากรากคำ in- +‎ geminō
🇬🇧ซึ่งภาษาอังกฤษก็ยืมไปใช้เช่นกัน ingeminatus

นอกจากนี้ Geminus ยังถูกสร้างรากคำจากภาษาละติน ในคำศัพท์ภาษาอังกฤษ อีกเช่น

geminus. เป็นสองเท่า
geminal (chemistry) Describing identical atoms or groups attached to the same atom in a molecule)

ซึ่งชื่อบุคคลทั้ง 3 พระยม (Yama) ยูมีร์(Ymir)และ Remus ดั้งเดิมก็มีเค้าความหมายของคำว่าแฝดด้วย เพียงแต่ Ymir อาจพัฒนาไปไกลหน่อย

อนึ่ง Ymir ให้ถูกต้องตามตำหรับของนรอสแล้วจะต้องอ่านว่า [ˈymez̠] (อวีเมียร์) ซึ่งเป็นภาษา Norseโบราณ แต่ปัจจุบันอ่านว่า /ˈiːmɪər/(อีเมียร)แต่ที่ไปอ่านเป็น ยูมีร์ กันหมดเพราะ อิทธิพลของมังงะ Attack on Titan ซึ่งถือความพิเศษอย่างนึงของภาษาญี่ปุ่นคือ เวลาถอดคำอ่าน ไม่ยึดภาษาอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจาก Romanisation ของทุกภาษา ที่ไม่ตรงกันอยู่แล้ว มีระบบเฉพาะของแต่ละภาษาและ Romanisation ไม่ใช่สัทอักษร จึงเกิดการลักลั่นในการสะกดคำของแต่ละภาษาในชื่อ Ymir นั้นเอง

สรุป Ymir (ยูมีร์) ในทางวรรณคดีมีอนุภาคที่ตรงกับ พระยม (Yama) และยังมาจากรากคำเดียวกับ Remus (ผู้ก่อตั้งกรุงโรม) และชื่อบุคคลทั้ง 3 ดั้งเดิมก็มีเค้าความหมายของคำว่าแฝดด้วย และชื่อบุคคลทั้งสามมีรากคำเดียวกัน

แอดมิน videō(วิเดโอ)

ภาพวาด ymir fritz โดย omarving94
https://twitter.com/omarving94/status/1439973412924010501?s=21&fbclid=IwAR1F9MedLnbi2pRgiU3t7DQkP-dlEfL3WPfX3cYhXzwxGf2VswaSy7ZEuQ0

ภาพจิตกรรมไทย พระยม วาดโดย ATIPONG PADANUPONG ศิลปินชาวไทย
https://www.blockdit.com/posts/60535984e3202301875bd79b

บทความเดียวกันบนblockdit
https://www.blockdit.com/posts/614db54eb99d5b0c9986b74e

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

592 Nameless Fanboi Posted ID:yv9uORwm5N

สวัสดิการไม่ดี -> ซื้อประกันเอง -> ประกันเจ๊ง
เวรี่กู๊ด

593 Nameless Fanboi Posted ID:Jh7dL/ofnj

>>592 ประกันตัวที่เจ๊งเพราะแม่งโง่เอง โลภมากไปก็งี้ คิดจะฟันกำไรเหนาะๆ แต่ดันพลาดที่ไทยเกิดเวฟใหญ่ขึ้นมา แล้วคนไทยบางพวกก็ดันฉลาด รู้ว่าตัวเองไม่ตายก็หาเรื่องติดเอาประกันซะเลย

แต่อันนี้ด่ารัฐได้นะว่าทำให้เจ๊ง เพราะตอนหลังรัฐออกมาตรการให้เคลมประกันง่ายขึ้น รอบแรกๆ จ่ายยากมาก พอรัฐทำให้จ่ายง่ายพวกนี้ก็หาข้ออ้างไม่ได้แล้ว เงินก็เลยหมดอย่างที่เห็น

594 Nameless Fanboi Posted ID:8dLtOPA65S

คดีโกงไอโฟนมันทำติดต่อกันจนรวยมีฐานะเลย แสดงว่าตำรวจไทยไม่เคยสนใจคดีหลอกโอนเงินแม้แต่นิดเดียว

595 Nameless Fanboi Posted ID:6GtrAvlCmS

>>591 ดีหว่ะ มีสาระแถมถาพประกอบสวยๆ

596 Nameless Fanboi Posted ID:uCZyPBcc9w

>>594 เอาจริงๆ คือเกือบทุกคดีที่ผู้เสียหายเป็นชาวบ้านธรรมดาๆ นั่นละ ถ้าสื่อไม่ช่วยกันเสนอข่าวเป็นกระแส มันก็จะเงียบอยู่อย่างนั้น

597 Nameless Fanboi Posted ID:Zxhrg29EC7

>>594 ไม่สำคัญเท่าคดีด่าพ่อง เผารูปพ่อง ทำใจละกันเกิดในยุคไพร่ทาส

598 Nameless Fanboi Posted ID:CNzKi5Ufhk

>>592 ประเทศสวัสดิการดี คนก็ยังซื้อประกันกันลึ่มเลยนะโม่งนะ

599 Nameless Fanboi Posted ID:GTFLiEViGk

ม.มหิดล ผู้ก่อตั้งคือ จอมพล ป.
ม.จุฬา กลุ่มคณะราษ ได้เอาที่ดินหลวงคืนมาเพื่อสร้าง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ศักดินาจงพินาศ

600 Nameless Fanboi Posted ID:DD2KB5kEjZ

ปรีดีเกลียดfaggot

#Trannyจงพินาศ Heterosexualจงเจริญ

601 Nameless Fanboi Posted ID:nF4I/gWkxK

ปรีดีเกลียดตุ๊ด

602 Nameless Fanboi Posted ID:jK/UvkH/TB

อภิปรายไม่ไว้วางใจ - ผมสวดมนต์ทุกวัน ผมเป็นคนดี
น้ำท่วมสุโขทัย - ช่วยกันสวดมนต์อย่าให้พายุมาอีก
.
เป็นนายกแบบประยุทธ์ จันทร์โอชา
บริหารประเทศด้วยการสวดมนต์
สภาพ !!!

#สวดมนต์ไล่ตัวเองก่อน

603 Nameless Fanboi Posted ID:UrH2fQvAnS

ที่น้ำลดไม่ใช่เพราะมันระเหยไปในอากาศ มันลดเพราะมันไหลลงอ่าวไทย
บ้านใครที่รู้ตัวว่าขวางทางระบายแน่ๆ....มีเวลาเตรียมตัว1เดือน อย่ามัวแต่รอให้เจ้าหน้าที่ประกาศ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

604 Nameless Fanboi Posted ID:lEJiEPWZTy

โรงหนังเปิด ฟิตเนสเปิด กองถ่ายหนังออกกองได้ ปรากฏว่า ลุงตู่ทำน้ำท่วม คนออกมาดูหนังเล่นฟิตเนสไม่ได้ ส่วนโลเกชั่นถ่ายหนังก็จมน้ำ

605 Nameless Fanboi Posted ID:Z7PetkqZDu

>>604 ถ่ายหนังส่วนมากก็ต้อง โลเคชั่นสวยๆ อย่างภูเขาป่าไม้ ทะเล

ภาคอีสาน ที่ท่วมอยู่ มีแต่ที่ราบเกือบทั้งภาค น่าถ่ายตรงไหน

606 Nameless Fanboi Posted ID:MeJF/yPs.y

ปัญหาของประเทศไทยคือความคิดแบบโพสโมเดิร์น มันเข้ามาในประเทศเรา ก่อนที่เราจะกลายเป็นโมเดิร์น
(และผมจะบอกว่าทำไม วิธีคิดแบบสลิ่่มมันถึงเคยทันสมัยมากๆ คือโคตรคูล)
มันก็เลยยากจะตั้งฐานประชาธิปไตย วิทยาศาสตร์ ฯลฯ​ ก็เลยวนๆ กันอยู่แบบนี้
อธิบายแบบง่ายที่สุดคือ ความคิดแบบ โมเดิร์น คือเชื่อว่าความจริงมีหนึ่งเดียว คือ "เป็นวิทยาศาสตร์" "เป็นความเจริญ"
โลกในยุคที่โมเดิร์นเบ่งบานคือช่วง ศตวรรษ 18-19 ที่เชื่อว่าบางส่วนของโลก มันเจริญ มันโมเดิร์นแล้ว "มีเหตุผล" แล้ว "เป็นวิทยาศาสตร์" แล้ว แต่บางส่วนคือ ล้าหลัง เป็นพวกยังไม่เจริญ ยังโง่อยู่ ดังนั้นพวกนี้ต้องเลิกงมงาย ต้องเปิดรับอารยธรรม เข้าสู่ความจริง ความถูกต้องอันเป็นหนึ่งเดียว
คลื่นความคิดนี้ มันเริ่มจากโลกตะวันตก และเข้ามาหลายประเทศทางเอเชียที่พยายาม "ทำให้โมเดิร์น"
คลื่นความคิดนี้มันกวาด "ความล้าหลัง" "งมงาย" ลงถังขยะจำนวนมาก
สำหรับประเทศไทยเรา เราเริ่มการคิดแบบนี้พร้อมๆกับยุคเมจิของญี่ปุ่น พยายามจะโมเดิร์น จากราชสำนัก ร.4 ร.5 ร.6
เราต้องเข้าใจว่าก่อนหน้านั้น ประเทศเราเนี่ยคือยุคกลาง เราไม่เคยเข้าสู่เรเนสเซอง ไม่เคยรู้จักยุคเอนไลเทน เรายังเป็นยุคกลาง วันหนึ่งฝรั่งที่คิดแบบโมเดิร์นแล้วก็มาที่ไทย แล้วบอกว่า "เฮ้ ยู ไอ้ที่ทำอยู่มันไม่โมเดิร์นเลยนะ"
การปฏิรูปเพื่อให้มัน "โมเดิร์น" จึงเริ่มจากศูนย์กลางอำนาจ
การปฏิรูปเมจิ เป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก เพราะมันพยายามทำให้ญี่ปุ่นโมเดิร์น แม้แต่ศาสนา คือทำให้ชินโต ที่มีตำนานเทพเจ้าต่างกันไปตามแต่ละพื้นถิ่น กลายมีตำนานเดียว เป็น "ชินโตของรัฐ"
ไทยเองก็พยายามจัดตำนานเรื่องเล่า พยายามจัดระเบียบพุทธ และพยายามทำลายศาสนาถือผี ด้วยการเอาพุทธไปครอบ
ถ้าคุณเป็นคนไทยในสมัย 1900s คุณคิดแบบโมเดิร์นนี้จะโคตรโก้ เก๋ ถ้าคุณคิดแบบฝรั่ง แต่งตัวแบบฝรั่ง พูดภาษาฝรั่งได้ รู้จักวิทยาศาสตร์ บอกว่าอะไรที่มันพื้นบ้านนี้งมงาย เขาจะบอกว่าคุณโคตรเป็นผู้ดี มีอารยธรรม
แต่มันปัญหาคือคนที่เข้าถึงวิธีคิดนี้ มันอยู่ที่ศูนย์กลางอำนาจของไทย และกระจายไปรอบๆ ได้ช้า
จนมาเร่งช่วง 1940s 1950s หลังการเกิดขึ้นของชนชั้นกลาง ข้าราชการ และคณะราษฎร
.
.
.
ทีนี้ความคิดแบบโมเดิร์นมันเริ่มตกเทรนไปหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ลองคิดว่า นอกจากพวกกลุ่มเจ้ากลุ่มนาย เขารู้จักปอบ มากกว่าเชื้อโรค วิธีคิดแบบวิทยาศาสตร์ยังไม่ทันกระจายออกไปเลย พอไทยเริ่มจะปฏิรูปประเทศในยุค จอมพล ป. ความคิดแบบโมเดิร์น ก็เริ่มตกเทรนแล้ว
.
.
.
(มีต่อ)

607 Nameless Fanboi Posted ID:MeJF/yPs.y

(ต่อจาก >>606 )

เนื่องจาก วิธีคิดแบบโมเดิร์นมันมีปัญหาหลายประการ
ปัญหาแรกก็คือมันเป็นวิธีคิดแบบ โปรยุโรป เป็นวิธีคิดแบบ "เจ้าอาณานิคม" มันยัดเยียดไปบอกประเทศที่เป็น "อาณานิคม" ว่าด้อยกว่า
ดังนั้นในยุคหลังสงครามโลกจึงเกิดความคิด "หลังอาณานิคม" ขึ้นมา เริ่มมาเชิดชูอะไรที่มันพื้นบ้านๆ ตะวันออกๆ
ดังนั้นถ้าคุณเป็นคนไทยในยุค 1960s อะไรที่มันโมเดิร์น มันไม่เท่แล้ว มันตามฝรั่ง มันเป็นทาสทางความคิด - ยุคนี้มันต้องปลดแอกตัวเองจากความคิดแบบอาณานิคม ปลดแอกจากจักรวรรดินิยม มันถึงจะเท่
ชาวไทย 1960s-1970s เป็นต้นมา ก็จะพยายามไปขุดหาอะไรที่มัน ไทยๆ ตะวันออกๆ ขึ้นมา เชิดชู (ซึ่งจริงๆหลายอย่างก็สร้างใหม่) - แล้วก็เริ่มปฏิเสธอะไรที่มันฝรั่ง
คือประชาธิปไตย ทุนนิยม เสรีนิยม ยังไม่ตั้งฐานอย่างแข็งแกร่งเลย แต่กระแสวิพากษ์ประชาธิปไตย มาถึงแล่ว
เกิดปรัชญาแนวพุทธทาสๆ เกิดความนิยมแพทย์แผนไทย นิยมมวยไทย นิยมสมุนไพรไทย นิยมพิธีกรรมแบบโบราณ นิยมการเอาอะไรเก่าๆกลับมา ฯลฯ
หรือไม่ก็ต้องเป็นพวกนิยมคอมมูน ออกจากเมือง ทำเกษตร เข้าหาธรรมชาติ ที่เอาบางส่วนจากสังคมนิยม มาลบอะไรที่มันแดงๆออก แล้วใส่ความไทยๆ พุทธๆ ไปแทน
ความคิดชาตินิยม ซึ่งมีอิทธิพลวิธีคิดแบบหลังอาณานิคม นิยมไทย (หรือจีนซึ่งคือตะวันออก) เป็นรากฐานของความคิดแบบ "เสื้อเหลือง" และ "สลิ่่ม"
ดังนั้น ในยุคของชาวไทยบลูมเมอร์ ความคิดแบบนี้มันโคตรใหม่ โคตรเท่ มัน หลังอาณานิคม มันไม่เป็นทาสฝรั่ง มันวิพากษ์ความฝคิดฝรั่ง
จึงไม่แปลกที่พวกเสื้อเหลืองจะงงมาก เวลามองเด็กหัวตะวันตก พวกเขาจะรู้สึกเหมือน มองไปยังความคิดของคนรุ่นก่อนพวกเขา - พวก 1960s พวกคณะราษฎร์ พวกจอมพล ป. พวกที่มีความคิดแบบยุค ร.7 เป็นทาสฝรั่ง ไม่เป็นตัวของตัวเอง กลับมาอีกครั้ง - มันแบบโง้โง่ เก่ามากในสมัยเขา มันไม่หลังอาณานิคม มันเป็นวิธีคิดแบบพวกทาสจักรวรรดินิยมในสมัยเขา
.
.
ปัญหาที่สองของโมเดิร์นคือ ความคิดโมเดิร์น มันไม่มีที่ให้ความจริงที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น "ในนามของวิทยาศาสตร์" เพศมีแค่โครโมโซม XX กับ XY หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องบอกว่า "ป่วย ผิดปรกติ"
แต่คลื่นของ โพสโมเดิร์น เนี่ย มันนิยมความหลากหลาย และยุคของ "ก็มันเรื่องของฉันอ่ะ มาเสือกอะไร"
.
.
.
ทีนี้ในการพัฒนาประชาธิปไตย และสังคมของตะวันตกนั้น มันเป็นขั้นเป็นตอน จากยุคกลาง สู่ยุคเรเนสซอง เอนไลเทน โมเดิร์น และค่อนเข้าสู่โพสโมเดิร์น
แต่ไทยเนี่ย เราอยู่ในยุคกลาง วันหนึ่งเราอัพเพทโมเดิร์นได้สัก 10-20% แล้วก็กระโดดเข้า สู่หลังอาณานิคม โพสโมเดิร์น เลย
.
เพื่อให้เห็นภาพ ผมยกตัวอย่างเอกสารหนึ่งที่ตลกมาก คือมิชชันนารีที่มาเผยแพร่ศาสนาในไทย เขียนเอกสารวิชาการอย่างจริงจัง เพื่อบอกให้พวกศาสนจารย์ฝรั่งเชื่อว่า "มีผีอยู่จริงๆ มีการผีเข้าจริงๆ ในไทย" ย้ำว่าจริงจัง ไม่ได้เกิดจากโรคทางจิต
คือแม้วงการศาสนาของตะวันตก ก็ถูกความคิดแบบโมเดิร์นกลืนไป 1-2 ร้อยปี จนไม่เชื่อจริงๆ ว่าจะมีปรากฎการเช่นผีเข้า คือคิดว่าเป็นแค่ความไม่เข้าใจโรคทางจิตของคนโบราณ
.
แต่สำหรับไทย ปอบข้างบ้าน ไม่ได้ถูกกวาดด้วยยุคโมเดิร์น มันยังอยู่ข้างบ้านเรานั่นแหละ
ในขณะที่เทรนความคิดเราเข้าสู่ โพสโมเดิร์นแล้ว ดังนั้นใครไปบอกว่าปอบงมงายไม่ได้เด้อ เพราะสำหรับยุคโพสโมเดิร์น ปอบเป็นวิถีชุมชน เป็นสิทธิ์ทางความเชื่อศาสนา
ความพรีโมเดิร์น แบบยุคกลาง มันดันไปจับมือกับโพสโมเดิร์น ได้อย่างน่าทึ่ง
เวลาเห็นคนกินน้ำผุด (ที่เชื่อมมาจากส้วม) รักษาโรค ในยุคโมเดิร์น เราคงด่าไปละว่า "โง่ งมงาย ไม่เป็นวิทยาศาสตร์" แต่ทุกวันนี้ โพสโมเดิร์น มันค้ำคออยู่ เลยได้แค่ "ก็ความเชื่อส่วนบุคคลละกันเนาะ"
.
.
ตลกมากคือ เทรนหนึ่งของการเรียกร้องประชาธิปไตยไทย คือกลับ Modernisation มาพยายามลากประเทศให้เป็นตะวันตก คนรุ่นใหม่เลยกลับมาชอบ movement 1940s 1950s แบบพวกคณะราษฎร จอมพล ป.
(ขนาดผมยังรู้สึกว่า มันเป็น การปฏิรูปอะไรที่เรโทๆ แต่เป็นช่วงเวลาที่ถ้าจะขวาแบบนั้น ก็เท่กว่าขวาแบบไทยๆในยุคสฤษฎิ์)
แต่อีกกระแสหนึ่ง เราก็ไปตามคลื่นของโพสโมเดิร์น
ทีนี้ปัญหาคือ ประเทศไทยกำลังสับสนใจตัวเอง ว่าเราจะโมเดิร์นดี หรือเราจะไปทาง พรีโมเดิร์นที่จับมือกับโพสโมเดิร์นดี? คือมันซับซ้อน สับสน ไม่สุดสักทาง
ทีนี้คำถามคือ ประชาธิปไตยไทยจะตั้งตัวยังไงกับสถานการณ์แบบนี้?
เออ ผมก็ไม่รู้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

608 Nameless Fanboi Posted ID:Gx/I7Z5/Bm

>>606 >>607 เอาจริงๆ ไม่ใช่แค่ไทยนะ แต่มันดันกลายเป็นปัญหาร่วมของประเทศที่ไม่ใช่คอเคเชียน (ฝรั่ง) ทั้งนั้นเลย

ถ้าไปดูวิวัฒนาการของฝรั่ง ก่อนจะมีการเมืองแบบประชาธิปไตย เศรษฐกิจเริ่มเปลี่ยนเป็นทุนนิยม-เสรีนิยมก่อนนะ หลังยุคศาสนจักรเสื่อมอิทธิพล ชนชั้นกลาง พวกพ่อค้ากระฎุมพีก็เกิดขึ้น มีการแข่งขันกันออกสำรวจโลกหาทรัพยากรและตลาดใหม่ๆ พอพวกนี้มีจำนวนมากขึ้นถึงได้เรียกร้องสิทธิในการมีส่วนร่วมการปกครอง (ปชต. ยุคแรกถึงให้สิทธิ์เฉพาะคนที่รายได้ถึงเกณฑ์เสียภาษีในการเลือกตั้งแต่ลงสมัครผู้แทน) ส่วนสังคมที่ให้ค่ากับสิทธิมนุษยชนมาทีหลังสุด แต่ก็ต้องบอกว่าฝรั่งมันมีลำดับขั้นวิวัฒนาการของมัน และไม่ได้เกิดขึ้นรวดเร็วแต่ค่อยๆ เกิดขึ้น ใช้เวลาหลายร้อยปีกว่าจะเป็นสังคมแบบที่เราเห็นกัน

ในขณะที่เอเชีย แอฟริกา ลาตินอเมริกา ไม่เคยมีวิวัฒนาการทางสังคมแบบฝรั่ง เรียกว่าอยู่อย่างไรก็อย่างนั้น อย่างเอเชีย ขนาดจีน อินเดีย Iran (เปอร์เซีย) เป็นอารยธรรมเก่าแก่ โตมาพร้อมๆ กับพวกฝรั่งตั้งแต่ยุคกรีก-โรมัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับไม่มีวิวัฒนาการแบบเดียวกับฝรั่ง เผลออีกทีฝรั่งก็เอาปืนมาจ่อหน้าบ้านแล้ว ยิ่งพวกที่เหลือ อย่างแถว SEA กับลาตินอเมริกานี่เป็นสังคมกึ่งเมืองกึ่งชนเผ่า ส่วนแอฟริกานี่ชนเผ่าชัดเจน เป็นการบีบให้ชนชั้นนำท้องถิ่นค้องหาทางปรับตัว ถ้าปรับไม่ทันก็จะโดนบังคับให้ปรับด้วยการยึดเป็นอาณานิคม แต่คนที่เข้าใจก็คือชนชั้นนำไง คนทั่วๆ ไปยังไม่ได้เข้าใจไปด้วย พอ ปชต เข้าไปในประเทศโลกที่ 3 ผลคือถ้าไม่ใช่ได้ผู้นำประเภทเผด็จการซ่อนรูป (คือมีเลือกตั้งแหละ แต่ฝ่ายค้านถูกเตะตัดขา การวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำและรัฐบาลเป็นเรื่องต้องห้ามถ้าไม่อยากมีอันเป็นไป) ก็วนๆ กันไป รัฐบาลเลือกตั้งบ้าง ทหารออกมา รปห. บ้าง หรือหนักสุดก็กลายเป็นเผด็จการสมัยใหม่แทน (ไม่มีเจ้า แต่เป็นท่านผู้นำหรือคณะผู้นำ)

609 Nameless Fanboi Posted ID:J3z3UPkE8g

>>606-607 แต่มันจะมีซ้ายไปอีกที่กลายเป็นโพสโมเดิร์นนะ คือพวก politic of identity นะ และพวกนี้หลายอย่างก็ไม่เอาวิทยาศาสตร์อะไรขนาดนั้นด้วย แต่ยังไม่หนักเท่าฝรั่ง อาจจะเพราะมีความเชื่อเรื่องผีสางอยู่สูง แม้จะปฏิเสธศาสนา ดูอย่างสายมูในทวิตสิ จริงจังกันชิบหายเลย

ส่วนขวาแก่ๆ นี่ก็ใช่ว่าจะไม่เอาโมเดิร์นนะ หลายคนก็เน้นวิทยาศาสตร์เยอะเหมือนกัน แต่อยู่บนพื้นฐานว่าไม่แตกหักกับความเชื่อส่วนกลางมากนัก พวกนี้ถึงได้เข้าวัดทำบุญทำพิธีพราห์มได้อย่างสบายใจ ทั้งยังมองว่าสูงส่ง แต่เหยียดศาสนาผีนอกกรุงไม่มีชิ้นดี มองว่าไม่ "ทันสมัย" เพราะพวกนี้ถือว่า "พุทธแท้" นั้นเป็นวิทยาศาสตร์แบบหนึ่ง

610 Nameless Fanboi Posted ID:Gx/I7Z5/Bm

>>609 อันนี้ตลกร้ายมาก ฝั่งก้าวหน้าปฏิเสธศาสนาที่เป็นกระแสหลัก แต่เชื่อเรื่องดูดวงโชคลาง ส่วนฝั่งอนุรักษ์นิยมให้ความสำคัญกับศาสนาหลัก แต่พยายามตีความให้เข้ากับวิทยาศาสตร์ (นอกจากพุทธแล้วคริสต์กับอิสลาม ก็มีผู้นำศาสนาที่พยายามทำเหมือนกัน) ดูลักลั่นแปลกๆ นะ

611 Nameless Fanboi Posted ID:U6dlInSV18

เอออันนี้กูก็สงสัย หัวก้าวหน้าหลายคนประกาศตัวไม่เคารพนับถือศาสนา แต่เชื่อโชคลางแบบสุดขั้ว

612 Nameless Fanboi Posted ID:OmYWCFqjXf

"ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ พล.อ. ประยุทธ์กลายเป็นสินค้าเสื่อมคุณค่าทั้งในสายตาประชาชนทั่วไป กลุ่มทุน และชนชั้นนำทางการเมือง เพียงแต่ยังหาคนที่จะขึ้นมาเป็นตัวตายตัวแทนไม่ได้

613 Nameless Fanboi Posted ID:IqC0qmgpdl

>>609 โมเดลขวาแก่มันปกติแหละ ชนชั้นนำไทยใช้โมเดลนี้ตั้งแต่ฝรั่งเข้ามาใหม่ๆแล้ว มันถึงมีพวกทำพิธีพราหมณ์ทำนงทำนาย นับถือพุทธขี้โม้ที่เล่าเรื่องเดิน7ก้าว เรื่องอรหันต์มีอิทธิฤทธิ์งู้นงี้ ตั้งผีประจำเมือง แต่ด่าพวกชาวบ้านเชื่อเรื่องปลุกเสกทรงเจ้าเข้าผีกราบไหว้ต้นโพธิไง ส่วนสายมูในทวิตจริงจัง กูว่าไม่แน่ละมั้ง ถ้าเทียบกับฝั่งขวาที่มีทำพิธีอะไรกันดูขวาจริงจังกว่าเยอะ

614 Nameless Fanboi Posted ID:J3z3UPkE8g

>>610 ประเทศนี้ก็แบบนี้ละ ชอบมีอะไรไม่เข้าพวกตลอด โดยเฉพาะเรื่องศาสนานี่ฝังรากลึกกันจนถอนยากสุดๆ

>>613 ไม่มีใครถามมึงนะ

615 Nameless Fanboi Posted ID:IqC0qmgpdl

>>614 ปกติคนเล่นเน็ต เวลาเห็นคอมเม้นแล้วอยากตอบอะไรก็ตอบได้อยู่แล้วนะ มึงอายุเท่าไหร่เนี่ย เพิ่งเคยเล่นเน็ตเหรอ หรือเพราะความเป็นขี้ตีนมันอุดสมองจนสติปัญญาอุดตันชั่วขณะ? อันนี้กูถามแล้ว อยากตอบก็ตอบได้่

616 Nameless Fanboi Posted ID:uBeb0IB.NA

>>615 ทำใมกูต้องตอบละ

617 Nameless Fanboi Posted ID:Nsp5+aS+qR

>>613 สายมูในกลุ่มคนรุ่นใหม่จริงจังกว่าที่มึงเข้าใจ ความจริงจังในการใช้ไสยศาสตร์มันแปรผันตามปริมาณเงินในมือ ยังเด็กก็แค่ดูดวงครั้งละ 50-100 โตมาก็กลายเป็นคนบ้าที่ซื้อเบอร์มงคลเบอร์ละล้าน แล้วพวกนี้ก็อีโก้จัดไม่ต่างกับคนแก่ เกาะธง"ความเชื่อส่วนบุคคล"ไว้แน่น no one can prove me wrong สุดโต่งไม่ต่างกันแค่ใช้คำศัพท์คนละคำ

618 Nameless Fanboi Posted ID:RouBCahXXC

>>617 ใช้คำว่าไม่ต่างกันไม่ได้​ เพราะรุ่นใหม่ไม่มีกฎหมายยัดใครเข้าคุก​ ไม่มียัดเยียดไอ้ที่เชื่อส่วนบุคคลที่มึงบอกไปเป็นศาสนาประจำชาติ

619 Nameless Fanboi Posted ID:HFojpLzURO

มันจะมีคนประเภทนึงที่เวลาเห็นสองฝ่ายทะเลาะกัน แล้วจะทำตัวเป็นกลาง แต่ไม่ใช่เป็นกลางแล้วมาตัดสินปัญหานะครับ แต่เป็นกลางเพื่อจะได้สูงส่งและเหยียดไอ้พวกที่ชอบทะเลาะกันว่าต่ำต้อย ไม่ได้คิดจะแก้ปัญหา
พวกนี้แม่งน่ารังเกียจนะครับ อย่าหาทำ

620 Nameless Fanboi Posted ID:Cdjxq0P0mO

>>619 ที่กูเจอบ่อยคือบอกเป็นกลางแต่ให้ฝ่ายนึงด่าได้ไม่ต้องสนว่าจริงไม่จริง พอมีคนมาแย้งก็บอกอย่าทะเลาะกัน แถมมาช่วยแก้ตัวอีก เจอแบบนี้น่าเบื่อนะ

621 Nameless Fanboi Posted ID:0ChmHXsLC7

เพิ่งรู้ว่ามีหนังไทยไปถึงแข่งออสการ์ได้ขนาดนี้​ แต่เจอรบขี้ตีนแบนจนคนไทยไม่รู้ห่าเหวอะไรเลย​ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=4363876363697779&id=100002263750390

622 Nameless Fanboi Posted ID:ggR1Yd8pvj

>>621 ถึงไม่แบนก็ไม่มีใครสนใจ

นายทุนท่อน้ำเลี้ยง เห็นร่าลเอาเงินมาทำหนังโง่ๆ สนองอุดมการ์ณร่าลๆ ซ้ายๆชิคๆ ฟินน้ำว่าวแตก น่าจะเอาตีนก่ายหน้าผาก

623 Nameless Fanboi Posted ID:R2Qqx9P6rv

>>622 นายทุนฮอลลีวู้ดมันก็สนใจหนังออสการ์น้อยอยู่แล้ว แต่มันก็มากกว่าหนังอวยพ่องอ่ะ555 ดูอันนี้ดิวอนนาบี ขนาดไปจ้างผกกออสการ์ขั้นเทพมาช่วย ยังไม่มีปัญญาเหยียบปลายพรมเวทีเขา ถถถถ https://www.siamzone.com/movie/news/310

624 Nameless Fanboi Posted ID:j9aub2d71U

ดอลล่าร์ตอนนี้ทำ high ในรอบปี

บ่งบอกว่าเทรนด์ดอลล่าร์แข็งปีนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับการอัดฉีดนโยบายการเงินการคลังใดๆ ตามทฤษฏีเศรษฐศาสตร์ที่เคยเรียนกันมา

QE เยอะสุดในประวัติศาสตร์ แต่ค่าเงินแข็งโป๊ก เราควรเลิกพูดประเด็นเรื่องพิมพ์เงินแล้วเงินจะเฟ้อได้แล้วครับ

ยุคนี้พิมพ์เงินแล้ว สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นต่างหากที่เฟ้อแทนดอลล่าร์

625 Nameless Fanboi Posted ID:O.TENXudve

>>622 มีเงินขนาดเป็นนายทุนหรอฮะถึงรู้ว่าจะเอาตีนก่ายหน้าผาก

626 Nameless Fanboi Posted ID:j9aub2d71U

ภายหลังรัฐประหาร 23 กุมภาพันธ์ 2534 และเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 เชื่อกันว่าประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ประชาธิปไตย โดยมีรัฐธรรมนูญ 2540 เสมือนเป็นฉันทามติของสังคมไทยในเวลานั้น และประเทศไทยคงไม่มีรัฐประหารอีกแล้ว แต่เมื่อการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2540 นี้ทำให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ สามารถส่งมอบนโยบายตามที่หาเสียงไว้ จนได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างสูง เหล่าบรรดาชนชั้นนำจารีตประเพณีผู้ครองอำนาจในประเทศนี้ก็ไม่ยอมให้ฝ่ายของทักษิณ ชินวัตร ได้บริหารประเทศอีกต่อไป

พวกเขาก่อรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

ฉีกรัฐธรรมนูญ 2540 ยุบพรรค นักการเมืองฝ่ายทักษิณ ถูกตัดสิทธิ ถูกดำเนินคดี ถูกติดคุก

เขียนรัฐธรรมนูญ 50 “ล้อมคอก” ไม่ให้ฝ่ายทักษิณกลับมาเป็นรัฐบาล

แต่พวกเขาคาดการณ์ผิด ฝ่ายของทักษิณยังชนะเลือกตั้ง กลับมาเป็นรัฐบาลอีก

“ตุลาการภิวัฒน์” และกลไกรัฐของพวกเขาเดินเรื่องต่อไป จนล้มรัฐบาลสมัคร/รัฐบาลสมชาย ได้

ผู้สนับสนุนฝ่ายทักษิณและประชาชนออกมาชุมนุมเรียกร้อง ถูกปราบปรามเข่นฆ่ากลางมหานคร

ฝ่ายทักษิณชนะเลือกตั้งอีกครั้ง กลับมาเป็นรัฐบาลอีก

แล้วก็เกิดรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์อีก

627 Nameless Fanboi Posted ID:JEkZTfYC5+

>>623 มึงดูหนังไทยด้วยเหรอวะ กูเลิกดูเลิกฟังมาหลายปีล่ะ แค่หนังติส แปลกหน่อย ก็เข้าตาพวกฝรั่งล่ะ

628 Nameless Fanboi Posted ID:.TQPJ7B8mM

ใครบอกว่า "ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท" ไม่ได้แปลว่าสามัญชนเป็น "ฝุ่น" นี่พูดถูกแล้วครับ

เพราะเวลาใช้คำนี้ มันใช้เวลาคุยกับกษัตริย์ ผ่านคำว่า "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม"

คือคนพูด (สามัญชน) ไม่ใช่ฝุ่น แต่ต่ำกว่าและเล็กกระจ้อยร่อยกว่า "ฝุ่น" ติดพระบาทเสียอีก

629 Nameless Fanboi Posted ID:9e/5GwQV9z

>>624 ทำได้ประเทศเดียว

630 Nameless Fanboi Posted ID:KrILuCnvT1

ขอเล่าหน่อย วันก่อนคุยกับแขกเดนมาร์กที่มาsandboxภูเก็ต เค้าบอกว่ารัฐบาลยูทำให้การมาเที่ยวยุ่งยากจนไม่มีใครอยากมา เตรียมเอกสารเยอะมาก ขั้นตอนก็ไม่ชัดเจน พอเตรียมครบ มาถึงสนามบินก็ตรวจเอกสารปึ๊งนั้นทุกจุด ถ้าเอกสารมันถูกตั้งแต่จุดแรก อีก5จุดก็ไม่ควรตรวจแล้ว

นี่เจ้าหน้าที่ตรวจซ้ำไปมาจนเอกสารยับ แล้วทำไมถึงไม่มีตรวจออนไลน์ ที่อื่นสแกนตรวจครั้งเดียวเพราะโหลดไฟล์เอกสารไว้หมดแล้ว แถมมาถึงทุกอย่างปิด แอลกอฮอล์ก็กินไม่ได้ ตลาดสตรีทอะไรก็ปิด บาร์ปิด เคสเยอะ รัฐบาลยูหลอกคนทั้งโลก

นี่เลยตอบไปว่า I feel so sorry for tourists who come for sandbox while everywhere is shut and It’s not what you expected แขกคนนั้นตอบกลับมาว่าไงรุ้มะ เค้าบอกว่า But I feel so sorry for you guys who work really hard but get little salary … มึงงงงงงง กูสงสารแขกแต่ลืมสงสารตัวเอง

หน้าชามาก อย่ามัวแต่สงสารคนอื่น ดูสภาพตัวเองด้วย เงินเดือนคนไทยอะ ใครๆก็รู้ว่าเงินทอน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

631 Nameless Fanboi Posted ID:aYaEb8QWeQ

>>630 ถ้าทำงานในสายท่องเที่ยวโดยเฉพาะสนามบินจะไม่พูดว่าเงินน้อยหรอกนะ รายได้เยอะกว่า 95% ของคนไทยอีกมั้ง

632 Nameless Fanboi Posted ID:.7r91K5QHL

>>631 อ่านดูน่าจะทำงานโรงแรมนะ พนักงานโรงแรมบางที่รายได้ไม่เยอะนักหรอกต่อให้สื่อสารภาษาอังกฤษได้ก็ตาม

633 Nameless Fanboi Posted ID:4AQV61qZ4Y

>>628 คนไทยเป็นขี้ตีน แต่พอไปคุยกับฝรั่งก็คุยได้ปกตินะ

634 Nameless Fanboi Posted ID:N6duR/8yap

>>630 and then everyone clapped

635 Nameless Fanboi Posted ID:YKhTTsUf2w

>>634 clapped ma ass daddy

636 Nameless Fanboi Posted ID:SB01TiicML

>>630 รายได้ประเทศไทย 1 ใน 3 มาจากการท่องเที่ยว ไม่มีการท่องเที่ยว เงินเดือนก็ไม่มี

637 Nameless Fanboi Posted ID:QT.bVysRRL

ตอนนี้ผมกำลังฝึกทักษะหนึ่งอยู่ เป็นทักษะที่ใกล้สูญหายในประเทศไทยไปแล้ว ผมเชื่อว่าถ้าคนไทยมีทักษะนี้กันมากขึ้น เราจะมีความสุขกันมากขึ้น ทักษะนั้นคือความ “ ใจกว้าง “ ทักษะนี้มีความลึกซึ้งมากกว่าแค่เรื่องเงิน ใจดี sport กทม หรือการไม่อิจฉาคนที่เขาประสบความสำเร็จมากกว่า มันมีความลึกและกว้างมากกว่านั้น อย่างที่เขาพูดกันว่า
‘’อยู่ที่ไหนก็ไม่แคบ ถ้าอยู่อย่างคนใจกว้าง อยู่ที่ไหนก็ไม่กว้าง ถ้าอยู่อย่างคนใจแคบ’’
ตอนแรกผมก็คิดว่าผมเป็นคนใจกว้างนะ แต่พอได้ศึกษาเรื่องราวของ “โจโฉ” ทำให้ผมดูเป็นคนใจแคบไปเลย ผมจะเล่าเคสนี้ให้ฟัง
ในช่วงปี พ.ศ. 743 ศึกใหญ่ระหว่างโจโฉกับอ้วนเสี้ยวกำลังจะเกิดขึ้น โจโฉจัดประชุมแม่ทัพและกุนซือ เราจะทำยังไงถึงจะเอาชนะอ้วนเสี้ยวได้ ในขณะที่เรามีกองทัพ 7 หมื่นคน แต่อ้วนเสี้ยวมี 7 แสนคน และอีกด้าน เรายังมีปมที่ยังไม่แก้กับเตียวสิ้วที่พึ่งสังหารลูกชายคนโต หลานชายและแม่ทัพของเราไปหลายคน ตามทฤษฏีแล้วเราไม่ควรทำศึกหลายด้านพร้อมกัน ด้วยความใจกว้างของโจโฉ ยึดมั่นในเป้าหมายและความสำเร็จมากกว่าอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัวจึงแต่งตั้งทูตไปผูกมิตรกับเตียวสิ้ว บอกที่แล้วมาก็ให้มันแล้วไป เราให้อภัยทั้งหมด ในขณะที่เตียวสิ้วทั้งระแวงและลังเลอยู่นั้น ว่าจะเข้าเป็นพวกโจโฉหรืออ้วนเสี้ยวดี ก็ได้มีกุนซือของเตียวสิ้วที่เป็นกุนซือระดับอัจฉริยะผู้มองการไกลมีนามว่ากาเซี่ยง ได้ให้ไว้หลายเหตุผลว่าทำไมควรเข้ากับโจโฉและปฏิเสธอ้วนเสี้ยวไป
ต่อมาโจโฉก็ทำศึกชนะอ้วนเสี้ยวได้จริงทั้งที่มีกำลังน้อยกว่า 10 เท่า ตามที่กาเซี่ยงคาดการณ์ และการชนะศึกครั้งนี้เปรียบเสมือนชนะศึกสามก๊ก ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มแบ่งเป็นสามก๊กด้วยซ้ำ เพราะโจโฉชนะศึกครั้งนี้ทำให้สามารถยึดพื้นที่ภาคเหนือทั้งหมดซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของจีนไว้ได้ ทำให้ทรัพยากรมากกว่าหัวเมืองอื่นๆที่เหลือเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ชนะศึกกับอ้วนเสี้ยวและเข้าเมืองของอ้วนเสี้ยวมาได้แล้ว ทหารรายงานโจโฉว่าค้นพบจดหมายแปรพักตร์ของแม่ทัพนายกองของโจโฉที่เขียนมาขอแปรพักตร์เข้าร่วมกับอ้วนเสี้ยวมากมายหลายร้อยฉบับ ด้วยความใจกว้างของโจโฉบอกว่าถ้าเขาเป็นทหารเขาก็ไม่คิดว่าจะชนะศึกนี้ได้เหมือนกันเขาเข้าใจว่าทหารพวกนี้ต้องทำไปเพื่อความอยู่รอดเพราะฉะนั้นจดหมายพวกนี้ให้เอาไปเผาทิ้งให้หมด
ย้อนกลับมามองตัวเอง ตอนนี้เราใจกว้างได้ระดับไหนเทียบกับโจโฉ ทุกวันนี้ที่ผมสังเกตเห็นคือแค่เราเจอความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับความคิดเรา หรือไม่ถูกใจเรา เราก็หัวร้อน เราก็พร้อมลงไปตัดสิน ลงไปไฟท์ทุกสนาม ถ้าโจโฉใจแคบคิดว่ายังไงก็ต้องแก้แค้นทุกวันนี้ก็คงไม่มีชื่อโจโฉในประวัติศาสตร์ น้อยคนที่จะใจกว้างได้อย่างโจโฉ แต่ก็นั้นแหละน้อยคนที่จะประสบความสำเร็จบรรลุเป้าหมายในชีวิต

638 Nameless Fanboi Posted ID:efXbzpbqri

>>637 แต่ “เล่า โจ ซุน ต่อสู้แย่งชิงกันมา สุดท้ายสุมาได้ครองแผ่นดิน” แพ้อยู่ดี

639 Nameless Fanboi Posted ID:9WJLPnKi.d

>>637 จริงๆโจโฉมันทำได้เพราะกุมอำนาจเด็ดขาดจริงๆด้วย ถ้าไม่มีอำนาจก็มีโอกาสโดนแว้งกัด ตัวอย่างชัดๆก็คณะราษฎร 2475 นั่นเอง

640 Nameless Fanboi Posted ID:AEJnMCIVqj

ผมพึ่งเข้าสู่วงการกล้องฟิล์มได้ไม่นาน วันก่อนพึ่งได้ leica minilux มา วันนี้จึงเดินไปปรึกษาต้นกล้า เซียนกล้องฟิล์มประจำออฟฟิศ

“ต้นกล้า กูพึ่งได้ leica minilux มา ถ้ากูถ่ายรูปตัวเองเอากล้องขึ้นมาทำท่าเล็ง แล้วตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ กูต้องได้รับการยอมรับจากคนอื่นแน่เลย”

“เฮอะ ปลายแถวในวงการอย่างพี่ แค่ได้ร่วมเฟรมกับจุดแดง ก็สำคัญตนผิดว่า เจนจัดมากแล้วสินะ พี่มันก็แค่เศษสถุลที่ซื้อกล้องฟิล์มแพงๆ มาแค่เพิ่มคุณค่าให้ตัวตนแสนกระจอกและเบาหวิว ให้ผมเดา ก่อนจะซื้อ พี่คงลังเลระหว่าง minilux และ contax t3 ใช่ไหม และพี่ก็สะกดจิตตัวเองทุกเมื่อเชื่อวันว่า ถ้าได้กล้องใหม่เมื่อไร ฉันจะพกมันออกไปถ่ายทุกที่ทุกเวลาเลย”

“ระ...รู้ได้ยังไง”

“เฮอะ เดาไว้ไม่ผิด เพราะพี่ใช้กล้องฟิล์มแค่เพื่อวิ่งหนีภูมิหลังของตัวเอง ที่เคยหอบหิ้ว dslr ออกไปถ่ายผู้หญิงที่สวนรถไฟ, ถ่ายสโลว์ชัตเตอร์ที่สะพานหน้ามาบุญครองหรือถ่ายพระบิณฑบาตที่สังขละบุรี พี่คิดเองว่า การเป็นตากล้องแบบนั้นมันเป็นจุดตำหนิเลยต้องเหชีวิตมาฉวยจับกล้องฟิล์มเพื่อใช้รสนิยมวิไลแห่งยุคสมัยมากลบทับร่องรอยด่างพร้อยในอดีต ยุทธจักรของพี่ มันเลยไปสุดแค่ minilux, t3 หรือมากสุดก็แค่ hasselblad xpan พี่มืดบอดจนคิดว่า ตัวเองอยู่ในโพ้นทะเลบริสุทธ์ทั้งที่จริงยังไม่ทันพ้นขอบตลิ่งแสนโสมมด้วยซ้ำ ผมที่เติบโตมากับน้ำยา tetenal c-41 และเชี่ยวกฏ sunny 16 จนชาญฉมังตั้งแต่สี่ขวบ เห็นพี่ดังนั้นก็ได้แต่ถอดถอนใจ เมื่อไรกันที่เด็กน้อยอย่างพี่จะหย่าน้ำนมและออกจากอ้อมอกของฟิล์ม 35 mm พี่เคยสัมผัส medium format บ้างไหม, large format ของ linhof karden พี่เคยลองหรือยัง, wet plate และฟิล์มกระจก คำศัพท์พวกนี้มันไม่ได้ปลุกวาบความคิดในสมองกลวงเปล่าของพี่เลยใช่ไหม ช่างน่าขบขันและน่าสำรอกในเวลาเดียวกัน คนอย่างนี้เหรอที่คิดว่าตัวเองป็นทวยเทพจุดแดง แท้จริงแล้วพี่มันก็แค่กากเดนชั้นสวะของวงการเท่านั้นเอง

“ต้นกล้า กูแค่อยากมีความสุข ทำไมมึงต้องเบียวกูด้วยวะ”
“ผมไม่ได้เบียว แต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับแผ่นเซลลูลอยด์”
#จบ #ออกจากวงการ

641 Nameless Fanboi Posted ID:AEJnMCIVqj

ผมพึ่งเข้าสู่วงการงานฝิ่นได้ไม่นาน วันก่อนพึ่งได้โปรเจคบ้านนักธุรกิจระดับ1,500ตรม มา เลยนำไปปรึกษาต้นกล้า เซียนงานนอกประจำรุ่น

"ต้นกล้า กูพึ่งได้ งานนอกค่าแบบระดับแสน++ มาว่ะ ถ้ากูอัพรูปเรนเดอร์ กับภาพไปดูไซท์เสาร์อาทิตย์ กูต้องได้รับการยอมรับจากคนในวงการแน่ๆ"

"เฮอะ มึงคิดว่า มี ภาพเรนเดอร์มาโพสหน้าไทม์ไลน์แล้วจะสูงส่งเสียเต็มประดาสินะ มึงมันก็แค่พวกใช้งานนอกเป็นเครื่องมืออวดโอ้ตัวเอง หวังใจแค่ให้ภาพดิจิตอลในโลกโซเชียลเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ต่อชาวโลกว่าฉันก็ประสบความสำเร็จในชีวิตนะ วัฏสงสารของมึง มันเลยเวียนว่ายขายดีไซน์ อวดภาพไปดูไซท์ ลงงานเรนเดอร์ พิมพ์สเตตัสว่าท้อแต่สู้ แชร์งานที่พี่บ๊วบแชร์ ที่มึงทำไปเพราะมึงขลาดเขลาเกินที่จะก้าวพ้นดงดานแห่งรสนิยมสาธารณ์ ผมถามหน่อย มึงขับเบนซ์ ใช้ปากกาลามี่ กระเป๋าตังค์โบเตก้า และกล้องไลก้าใช่ไหม แล้วเป้าหมายเดียวของชีวิตมึงมีแค่ ส่งงานไปประกวดแล้วเข้าลองลิสต์ ช้อตลิสต์ ไฟนอล แล้วก็ชนะสักวัน เพื่อที่จะได้ไปพูดบนเวทีว่าผมพยายามจนมีวันนี้ ดีใจที่ออกจากร่มไม้บริษัทคนอื่น มาทำตามความฝันของตัวเองใช่ไหม"

"ระ รู้ได้ไง"

"เฮอะ เดาไว้ไม่พลาด คาดไว้ไม่ผิด คิดไว้ไม่เพี้ยน ตัวตนของมึงมันช่างน่าพะอืดพะอม ลึกลงไปในใจ มึงก็ยังเป็นแค่เด็กปีหนึ่ง ผู้เรียกร้องความเห็นชอบจากโลกและความเห็นดีจากคนรอบตัว มึงคือมนุษย์ชำรุดที่กำลังจมดิ่งลงไปสู่บาดาลแห่งความ insecure จนต้องเอาคุณค่าและเรื่องเล่าของแต่ละงาน มาเป็นเสื้อชูชีพ พยุงตัวตนที่ประกอบสร้างจากเศษเดนความจอมปลอมให้ลอยพะงาบพ้นผิวน้ำ ผมถามหน่อย มึง เคยลอกไดอะแกรม BIG ด้วยใช่ไหม"

"คะ เคย"

"แล้วมึงเคยได้ทำตัวให้มานะและอุตสาหะสอดคล้องกับปรัชญา ความกล้าที่จะปฎิวัติงานออกแบบและ สร้างสังคมเมืองให้ดีขึ้นจากงานของมึงบ้างไหม หรือมึงแค่ทำไดอะแกรมตามเค้าเพราะแค่มันง่ายคนทั่วๆไปดูยังเข้าใจ และมันไม่ได้ใช้สกิลมากไปกว่าสเกตอัพหรือไรโนง่อยๆที่มึงมี ยอมรับซะเถอะ งานนอกคือเครื่องสะท้อนความหวั่นไหวประจำวันของมึง วันไหนมึงรู้สึกว่าตัวฉันอ่อนแอปวกเปียก มึงก็เอางานเรนเดอร์สักใบมาโพส วันไหนมึงรู้สึกว่า รสนิยมตัวฉันไม่ค่อยวิไล มึงก็กดแชร์เพจ little design หรือเพจพี่บ๊วบแล้วก็ออกไปเล่นละครจำอวดให้โลกชม ออกไปดูหมิ่นถิ่นแคลนคนอื่นที่ดูเรฟจาก pinterest ก่อนจะกลับมาเคว้งคว้างและตั้งคำถามกับตัวเองในยามค่ำคืน ท้ายสุดก็ระงับความเจ็บปวดนั้นด้วยการเปิดเวป dezeen และหางานนอกใหม่มาสนองตัณหา พร้อมหลอกตัวเองว่า มันคือการงานดีไซน์ของตัวเอง ทั้งหมดทั้งมวล มันก็ไม่ผิดอะไร ถ้ามึงไม่ริสะเออะมาขอความเห็นชอบจากผม เพราะสำหรับผม คนที่ รับตีแคดเป็นตั้งแต่อายุสิบสองขวบ งานเป็นมากกว่าเครื่องมือเสริมบารมี ถ้ามองลึกลงไป มึงจะพบความงดงามของงานเหล่านั้นด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น งานเขียนแบบตึกแถว เคลียร์แบบ แบบบ้านหลังละ4-500ร้อย หรืองานรับก๊อปแบบตัวเองไปขายคนอื่นแต่เดาว่า มึงคงไม่เคยสัมผัสปัญญาและอัจฉริยะภาพพวกนี้เลยสินะ เช่นนั้นแล้ว ถึงมึงจะลำพองตนว่าเป็นเซียนดีไซน์เพียงใด มึงมันก็แค่กากเดนชั้นสวะของวงการเท่านั้นเอง"

"ต้นกล้า กูแค่อยากมีความสุข ทำไมต้องเบียวกูด้วยวะ"

"ผมไม่ได้เบียว แต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับงานสถาปัตยกรรม"
#จบ #ออกจากวงการ

642 Nameless Fanboi Posted ID:AEJnMCIVqj

ผมพึ่งเข้าสู่วงการนาฬิกาได้ไม่นาน วันก่อนพึ่งได้ rolex submariner สีดำมา เลยนำไปปรึกษาต้นกล้า เซียนนาฬิกาประจำออฟฟิศ

"ต้นกล้า กูพึ่งได้ sub date ขอบเซรามิคมา ถ้ากูถ่ายรูปแล้วอัพลงโซเชียล กูต้องได้รับการยอมรับจากคนในวงการแน่ๆ"

"เฮอะ พี่คิดว่า มี rolex มาประดับข้อมือแล้วจะสูงส่งเสียเต็มประดาสินะ พี่มันก็แค่พวกใช้นาฬิกาเป็นเครื่องมืออวดโอ้ตัวเอง หวังใจแค่ให้วัตถุบนข้อมือเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ต่อชาวโลกว่าฉันก็ประสบความสำเร็จในชีวิตนะ วัฏสงสารของพี่ มันเลยเวียนว่ายขายเทรดกับแค่ rolex sport, nautilus ของ patek ไม่ก็ royal oak ของ ap พี่เล่นแต่ตัวแมสๆเพราะพี่ขลาดเขลาเกินที่จะก้าวพ้นดงดานแห่งรสนิยมสาธารณ์ ผมถามหน่อย พี่ขับเบนซ์ ใช้ปากกามงบลองค์ กระเป๋าตังค์หลุยส์ และกล้องไลก้าใช่ไหม แล้วเป้าหมายเดียวของชีวิตพี่มีแค่ เก็บเงินถอยปอร์เช่สักคัน อาจจะเป็น macan หรือ cayman มือสอง เพื่อที่จะได้เอามือซ้ายจับพวงมาลัย ถ่ายรูปนาฬิกาคู่กับโลโก้รถ และปรี่ขับไปจอดที่จอด super car ตามห้างสรรพสินค้าสินะ"

"ระ รู้ได้ไง"

"เฮอะ เดาไว้ไม่พลาด คาดไว้ไม่ผิด คิดไว้ไม่เพี้ยน ตัวตนของพี่มันช่างน่าพะอืดพะอม ลึกลงไปในใจ พี่ก็ยังเป็นแค่เด็กชายธนชาติ ผู้เรียกร้องความเห็นชอบจากโลกและความเห็นดีจากคนรอบตัว พี่คือมนุษย์ชำรุดที่กำลังจมดิ่งลงไปสู่บาดาลแห่งความ insecure จนต้องเอาคุณค่าและเรื่องเล่าของแต่ละแบรนด์ มาเป็นเสื้อชูชีพ พยุงตัวตนที่ประกอบสร้างจากเศษเดนความจอมปลอมให้ลอยพะงาบพ้นผิวน้ำ ผมถามหน่อย พี่มี omega speedmaster ด้วยใช่ไหม"

"มะ มี"

"แล้วพี่เคยได้ทำตัวให้มานะและอุตสาหะสอดคล้องกับ buzz aldrin และโครงการ apollo 11 บ้างไหม หรือพี่แค่ซื้อ moonwatch มาเพื่อเล่าให้คนอื่นฟังว่า ฉันมีนาฬิกาเรือนแรกที่ไปอยู่บนดวงจันทร์ ยอมรับซะเถอะ นาฬิกาคือเครื่องสะท้อนความหวั่นไหวประจำวันของพี่ วันไหนพี่รู้สึกว่าตัวฉันอ่อนแอปวกเปียก พี่ก็เอา panerai หรือ richard mille ใหญ่ๆมาใส่ วันไหนพี่รู้สึกว่า รสนิยมตัวฉันไม่ค่อยวิไล พี่ก็ควัก cartier หรือ nomos มาสวม แล้วก็ออกไปเล่นละครจำอวดให้โลกชม ออกไปดูหมิ่นถิ่นแคลนคนอื่นที่ใช้เครื่อง quartz ก่อนจะกลับมาเคว้งคว้างและตั้งคำถามกับตัวเองในยามค่ำคืน ท้ายสุดก็ระงับความเจ็บปวดนั้นด้วยการเปิดเวป expert watch และหาซื้อนาฬิกามาเรือนใหม่สนองตัณหา พร้อมหลอกตัวเองว่า มันคือการลงทุน ทั้งหมดทั้งมวล มันก็ไม่ผิดอะไร ถ้าพี่ไม่ริสะเออะมาขอความเห็นชอบจากผม เพราะสำหรับผม คนที่ overhaul นาฬิกา tourbillion เป็นตั้งแต่อายุสิบสองขวบ นาฬิกาเป็นมากกว่าเครื่องมือเสริมบารมี ถ้ามองลึกลงไป พี่จะพบความงดงามของกลไกเบื้องหลังหน้าปัดเหล่านั้นด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่อง in house หรือเครื่อง eta ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา jaeger lecoultre, fp journe, philippe dufour, daniel wellington หรือ casio g shock แต่เดาว่า พี่คงไม่เคยสัมผัสปัญญาและอัจฉริยะภาพพวกนี้เลยสินะ เช่นนั้นแล้ว ถึงพี่จะลำพองตนว่าเป็นเซียนนาฬิกาเพียงใด พี่มันก็แค่กากเดนชั้นสวะของวงการเท่านั้นเอง"

"ต้นกล้า กูแค่อยากมีความสุข ทำไมต้องเบียวกูด้วยวะ"

"ผมไม่ได้เบียว แต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับเรือนเวลา"
#จบ #ออกจากวงการ

643 Nameless Fanboi Posted ID:AEJnMCIVqj

ผมพึ่งเข้าสู่วงการวิ่งได้ไม่นาน วันก่อนพึ่งถอย nike air zoom alpha fly next% มา วันนี้ผมเลยใส่เดินไปปรึกษาต้นกล้า เซียนมาราธอนประจำออฟฟิศ

"ต้นกล้า กูพึ่งถอย alpha fly next% มา ถ้ากูใส่แล้วถ่ายรูปลงโซเชียล กูต้องได้รับการยอมรับจากผู้คนแน่เลยว่ะ"

"เฮอะ ปลายแถววงการอย่างพี่เนี่ย self-esteem มันต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ถึงขนาดต้องใช้รองเท้าเดียวกับคิปโชเก้ มาปลอบประโลมความเส็งเคร็งของตัวเองเลยเหรอ พี่มันก็แค่นักวิ่งสายอุปกรณ์ที่ใส่รองเท้าคาร์บอน เสื้อ aero swift และใช้เจล maurten 100 ไปวิ่งสวนลุมตอนเช้าสามรอบ แล้วก็หลงระเริงไปคนเดียวว่าแน่นักแน่หนา โดยที่ไม่เคยไตร่ตรองถึงความจอมปลอมนั้นๆเลยด้วยซ้ำ เพราะคำถามเดียวในใจของพี่ ก็คือจะซื้อสมาร์ทวอชของ garmin หรือ suunto ดีน้า ผมขอถามสักนิด ก่อนยุคแอพ nike run พี่ไม่เคยคิดจะวิ่งเลยใช่ไหม"

"ระ รู้ได้ไง"

"เฮอะ คิดไว้ไม่ผิด เพราะขยะอย่างพี่มันทรีตการวิ่งเป็นแค่การโชว์ปาหี่ให้คนอื่นมาดู มาสนใจ พี่ไม่ได้รักการวิ่งแต่พี่แค่กำหนัดและเงี่ยนการยอมรับจากผู้คนในโลกโซเชียล ตราบใดที่พี่วิ่งเพื่อคนอื่น ไม่ได้วิ่งเพื่อตัวเอง พี่จะไปหยั่งถึงความงดงามของจังหวะฝีเท้าได้อย่างไร"

"มะ ไม่นะ จริงๆกูก็วิ่งเพื่อตัวเองเหมือนกั..."
"หุบปาก พี่จะบอกว่า พี่วิ่งเพื่อชนะใจ วิ่งเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ใช่ไหม เฮอะ น่าหัวร่อสิ้นดี นั่นไม่เรียกว่าการวิ่ง แต่เรียกว่า การหนีความจริงต่างหาก ความจริงที่ว่า พี่เกิด early mid-life crisis เริ่มอยู่ตัวกับชีวิตและความมั่นคง จนเกิดความหวั่นไหวว่า เอ...หรือชีวิตเราจะได้ประมาณนี้ จนต้องตะโกนก้องหลอกตัวเองว่า ไม่ ตัวฉันไปได้ไกลกว่านั้น แล้วพี่ก็ใช้การวิ่งมาราธอนเป็นยาชาสมานบาดแผลทางจิตใจนั้นๆ โดยพี่ตั้งเป้าว่าจะเริ่มจากมาราธอนที่จอมบึง จากนั้นก็ไปบางแสนหรือบุรีรัมย์ แล้วก็กระสันว่า ฉันจะไปพิชิตหก major marathon ของโลก จนได้เหรียญพอน เดอ ริง มาประดับให้ได้ ช่างน่าสมเพชเสียเต็มประดา เพราะไม่ว่าพี่จะวิ่งไปไกลถึงชิคาโกหรือเบอร์ลิน พี่ก็หนีความ insecure ของตัวเองไม่ได้หรอก"

"ระ รู้ได้ไง แกเป็นใครกันแน่"
"เฮอะ ผมน่ะเหรอ ผมคือคนที่วิ่งเท้าเปล่า มาราธอน sub 3 ด้วย heart rate zone 2 มาตั้งแต่มหาลัยปีหนึ่ง ผมคือคนที่ค่า vo2 max 80 ตั้งแต่เจ็ดขวบ ผมคือคนที่บอสตันมาราธอนส่ง invitation มาให้สามหน แต่ปฏิเสธไปทุกครั้ง เพราะหมาป่าเดียวดายอย่างผมไม่วิ่งเป็นกลุ่มเยี่ยงปศุสัตว์ ผมไม่ได้วิ่งเพราะต้องการความเห็นชอบจากโลก ผมวิ่งเพราะอยากวิ่งก็แค่นั้นเอง เพราะฉะนั้น พอเห็นพี่ระริกระรี้กับรองเท้าคาร์บอน ก็ได้แต่ระเหี่ยใจ เพราะแท้จริงแล้ว พี่มันก็แค่เศษสวะชั้นต่ำของวงการเท่านั้นเอง"

"ต้นกล้า กูแค่อยากมีความสุข ทำไมต้องเบียวกูด้วยวะ"
"ผมไม่ได้เบียวแต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับการวิ่ง"
#จบ #ออกจากวงการ

644 Nameless Fanboi Posted ID:QghlbqHFNW

ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของการเรียน ป. โท/เอกในเมืองไทยคือคนเรียนมีความจำเป็นจะต้องทำงานอื่นไปด้วย ทำให้มีเวลาเรียนไม่เต็มที่
การเรียน ป. โท/เอกต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก เป็นงานเต็มเวลา ไม่ใช่งานพาร์ทไทม์ทำในเวลาว่าง คนที่มีงานอื่นทำไปด้วย แล้วเรียนไปด้วย ยากที่จะทำได้ดี
มหาลัยต้องเปลี่ยนแนวคิด จากการคิดว่า ป. โท/เอกเป็น "วัวนม" ให้รีดนมเอาเงินเข้าคณะหรือมหาลัย (cash cow สำนวนภาษาอังกฤษ) มาเป็น "ต้นทุน" ที่มหาลัยต้องลงทุน จ่ายเงินออกเพื่อให้พวกเขาได้เรียนกับทำงานวิจัย
ความหมายก็คือว่า แทนที่จะเก็บค่าเรียนจากนิสิต ป. โท/เอก มหาลัยกลับต้องจ่ายเงินให้เขาใช้เวลาเต็มที่กับการเรียนกับทำวิจัย เพียงพอที่จะทำให้เขาไม่ต้องทำงานไปเรียนไปได้ แล้วมหาลัยกับรัฐบาลก็ต้องใช้อำนาจทำให้นิสิตไม่รู้สึกว่า ก้าวหน้าไม่ทันเพื่อนที่ไม่ได้เรียน เช่นจบแล้วได้เงินเดือนแบบก้าวกระโดด ฯลฯ

645 Nameless Fanboi Posted ID:QghlbqHFNW

จบนิติจุฬา เกียรตินิยมอันดับ1 แต่ไปเสือกวิ่งเป็นพันกิโลเรี่ยไรเงินคนที่จนกว่าตัวเอง มอบให้กับรัฐบาลเผด็จการที่ยึดอำนาจโดยที่ไม่สนกฎหมาย ร้องเพลงยกย่องต้นตอรากเหง้าของปัญหาทั้งหมดในประเทศ ตั้งคำถามถึงอดีตนายกที่มาจากการเลือกตั้งแบบโปร่งใสด้วยน้ำเสียงหล่อๆปลอมๆ ว่าเขามีเงินเท่าไหร่ แต่เสือกไปกอดนายกทหารเผด็จการ พร้อมมอบเช็คเงินสดที่วิ่งเรี่ยไรจากประชาชนที่ส่วนใหญ่จนกว่าพวกมึงซะอีก แถมไม่เคยกล้าตั้งคำถามไอ้ตู่ ไอ้ป้อมว่าทุกวันนี้มีเงินเท่าไหร่แล้ว ร็อคเกอร์เชี้ยไรโคตรกากเลยว่ะ หมดสภาพสุดๆ

646 Nameless Fanboi Posted ID:teh+v1wEwW

เจ้าของทวีตบอก

ความหวังดีจากการบริจาคเสื้อผ้าเก่าให้ประเทศกำลังพัฒนา
ได้กลายมาเป็นฝันร้ายที่ทำลายกิจการเสื้อผ้าท้องถิ่น

โดยเสื้อผ้าเก่าจำนวนมหาศาลถูกส่งไป Uganda
มีราคาอยู่ที่ชุดละ 3 บาท
ทำให้อุตสาหกรรมทอผ้าของประเทศที่เคยรุ่งเรืองได้เสื่อมถอยลง

โดยในปี 2016
กลุ่มประเทศแอฟริกาตะวันออก
ออกมารณรงค์ว่า เราไม่ใช่ที่ทิ้งเสื้อผ้าเก่าของอเมริกา
และพยายามปิดกั้นการนำเข้า
แต่ก็ถูกขวางโดยสหรัฐ

ซึ่งปัญหานั้นมีอยู่ว่า
อเมริกาเป็นชาติที่เน้นการบริโภคแฟชั่นอย่างรุนแรงมาก
ทำให้มีเสื้อผ้าเก่าที่จัดการไม่ได้กองกันมหาศาล
แล้วถูกโยนมาให้ชาติด้อยพัฒนาในแอฟริกากัน

เพราะถ้าไม่ทำ
อเมริกาเองก็จะเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม
และมีผู้ตกงานเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าเก่า
ถึง 40,000 คน

ทำให้เราต้องมาตั้งคำถามกันว่า
ต่อให้เราทำอะไรสักอย่างด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์
แต่มันไม่ได้หมายความว่าคนอีกฝากจะได้ผลดีจากการกระทำนั้น

เราจึงต้องมาทบทวนการกระทำของเราเองด้วย

-----------------------------------

มีคอมเม้นท์หนึ่งบอก
อันนี้เป็นเรื่องที่เคยได้ยินมา

มีประเทศหนึ่งเกิดการอดอยาก
=> คนประเทศนั้นกินข้าวโพดเป็นอาหารหลัก
=> บริจาคข้าวไปให้
=> คนประเทศนั้นเลิกกินข้าวโพด
=> ข้าวโพดขายไม่ออก
=> เลิกผลิตข้าวโพด
=> อดอยากกันต่อไป

647 Nameless Fanboi Posted ID:2xOxJjWaAw

ยุ่นอดอยากหลังสงครามโลกไม่มีข้าวกิน อเมริกาบริจาคแป้งสาลีมาให้ ยุ่นเอาแป้งสาลีไปทำบะหมี่ แต่ไม่เห็นยุ่นไม่เห็นมันจะเลิกกินข้าวเลิกปลูกข้าวเลยนะ

648 Nameless Fanboi Posted ID:teh+v1wEwW

Realtime Salary..?
ทีม Avareum จะทดลองการจ่ายเงินเดือนด้วย smartcontract แบบ realtime salary ในปีหน้า
บริษัท Avareum ในกลุ่ม Ava Advisory Group ที่ฮ่องกง พวกเราจ่ายเงินเดือนเป็น stablecoin ครับ เลยสามารถทำแบบนี้ได้
จุดเริ่มต้นมาจากความคิดที่ว่า ทำไมพนักงานต้องทำงานแทบตายทั้งเดือน เพื่อต้องรอเงินเดือนออกช่วงปลายเดือนด้วยนะ ทำไมเราไม่จ่ายเงินเดือนแบบ realtime คิดซะว่าเหมือนทีมงานทำ proof of work ให้เงินไหลมาเรื่อยๆ ตามเวลางานที่ทำ
เราสามารถทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยระบบการจ่ายเงินเดือนแบบ realtime นี้ คิดว่าพนักงานจะมีเงินเดือนไหลเข้า pool ตลอดเวลา แล้วเมื่อไหร่พนักงานรีบใช้เงิน ก็สามารถมากด harvest เพื่อถอนเงินจาก pool เมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ
ใครไม่ร้อนเงิน เก็บเงินลง pool ไว้เรื่อยๆ ก็ได้ อาจจะมี reward พิเศษในการใส่เงินเข้า pool นี้ไว้ คือเราอาจจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งใน pool ไปลงทุนในกอง Avareum ด้วย นั่นแปลว่า การฝากเงินไว้ที่ salary pool ของ Avareum จะทำให้พนักงานมีโอกาสได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 20-50% ต่อปีจากฐานเงินเดือน แถมเป็นกำไรแบบทบต้นอีกด้วย
ความโปร่งใสอาจจะเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเรามีกลไกที่ทำให้เราสามารถปิดเงินเดือน ด้วยการไม่ให้รู้ว่าใครถือ wallet address ไหน (คือเห็นเงินที่จ่ายออกไป แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนได้เงินก้อนนั้น)
ใครบอกว่า DeFi มีแต่กาว.. ใช้ในโลก real-world use case ไม่ได้..? เดี๋ยวเราทำให้ดูครับ 😆

649 Nameless Fanboi Posted ID:7h5np7I7dB

>>647 สังเกตแบบกูไหม ทำไมมีแค่ฝรั่งคอเคเชี่ยน เอเชียตะวันออกแล้วก็ยิว ที่มีความเป็นมหาอำนาจอยู่ในตัว ในขณะที่มนุษย์เผ่าอื่นๆ ที่เหลือ ไม่สามารถยิ่งใหญ่ได้เท่า

650 Nameless Fanboi Posted ID:rzIaohLOWe

>>645 เขาทำเพื่อให้เป็นแรงบันดาลใจ แล้วเงินที่ได้ก็มอบให้ทุก รพ. ที่เขาบอกจะให้ตลอดทางกูเห็นมีแต่คนชื่นชมนะยกเว้นคนที่ไม่ได้ทำห่าอะไรเกาไข่อยู่บ้านอิจฉาเขาไปวันๆ เพราะตัวเองทำแบบเขาไม่ได้ อย่างว่านะการจะทำการใหญ่ต้องใจเด็ดเดี่ยว มัวแต่สนใจหมาเห่าตามทางเมื่อไหร่จะได้ทำกัน

แต่กูแอบแปลกใจนะที่เด็กเจนนี้มองเรื่องการให้การบริจาคเป็นเรื่องผิดแปลกสะงั้น ทั้งที่แม่งควรเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมแท้ๆ

651 Nameless Fanboi Posted ID:yxQGik41IV

>>650 วิ่งไปได้หน้าได้เครื่องราช โดนไม่สนต้นตอของปัญหา การบริจาคมันไม่ผิดหรอก มันผิดตรงที่เราบริจาคกันแทบทุกอย่างโดยที่รัฐบาลไม่สนใจที่จะแก้ปัญหาไง ไอ้ควาย

652 Nameless Fanboi Posted ID:a5a/shVP/x

>>650 ประมาณนี้นะ

- การบริจาค : สิ่งที่คนทั่วไปเห็น = เป็นการแสดงน้ำใจช่วยเหลือกันของเพื่อนมนุษย์ , สิ่งที่ฝ่ายซ้ายเห็น = เป็นการส่งเสริมให้รัฐไม่ต้องรับผิดชอบปัญหา
- เด็กช่วยผู้ปกครองทำงานหารายได้เลี้ยงครอบครัว (พร้อมกับเรียนไปด้วย) : สิ่งที่คนทั่วไปเห็น = เด็กขยัน รู้จักช่วยเหลือครอบครัว แบ่งเวลาเป็น , สิ่งที่ฝ่ายซ้ายเห็น = รัฐทำให้เด็กไม่มีเวลาไปตามหาความฝัน เพราะว่างจากเรียนแล้วก็ต้องมาช่วยพ่อแม่ทำงาน

653 Nameless Fanboi Posted ID:yxQGik41IV

>>652 งั้นไม่ต้องเก็บภาษีแล้ว บริจาคเอาพอ เอาไหม ตอบดิ๊ ช่วยเหลือมนุษย์ ถถถ ช่วยแก้ปัญหาให้รัฐบาลหัวควยมากว่า

654 Nameless Fanboi Posted ID:NW5fqDaGsp

>>649 เมื่อก่อนญี่ปุ่นก็เป็นขี้ข้าคนอื่นเหมือนกันละน่า วัฒนธรรมยุ่นมีจุดนึงที่เคารพผู้ชนะตัวเองได้ ยิ่งชนะมากเท่าไหร่ยิ่งเคารพ ถึงรับวัฒนธรรมจากมหาอำนาจได้ไว เพราะแม่งชอบซ่าแล้วโดนตบคว่ำอยู่ตลอด

>>653 มันทำควบคู่กันไปได้ อย่างเยอรมันที่ซ้ายไทยเชิดชูนักก็เป็นชาติที่บริจาคมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเหมือนกัน คนเยอรมันก็ไม่ได้บอกว่าทำให้รัฐบาลว่างงานซักหน่อย

655 Nameless Fanboi Posted ID:GYfOs1bnEq

>>654 ลืมไปป่ะว่าเยมันไม่เอาภาษีไปให้ตระกูลไหนๆเป็นหมื่นล้านด้วย

656 Nameless Fanboi Posted ID:VQCXpCj020

>>652 เหมารวมแบบ men are trash เลยนะครัช เพื่อนกูที่ซ้ายหลายคนก็บริจาคด้วย ด่ารัฐบาลด้วย ทั้งสองอย่างมันควบคู่กันได้แม้จะเป็นฝ่ายซ้ายก็ตาม อย่าบิดเบือนและเหมารวมตามสไตล์ขวาสิครัช มัน black swan fallacy

657 Nameless Fanboi Posted ID:a5a/shVP/x

>>656 ก็เหมือนไม่ใช่มุสซี่ทุกคนเป็นผู้ก่อการร้าย แต่ผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่เป็นมุสซี่น่ะ ฝ่ายขวามันไม่มองการบริจาคเป็นเรื่องไม่ดีอยู่แล้ว ทั้งขวาเก่าอิงจารีตและขวาใหม่ที่ชอบ CSR มีแต่ฝ่ายซ้ายที่มองการบริจาคในแง่ร้าย

658 Nameless Fanboi Posted ID:GYfOs1bnEq

>>657 ถ้าสากล​ ทั้งขวาซ้ายมองระบอบขี้ตีนเหี้ยหมด​ เสียใจด้วยนะ

659 Nameless Fanboi Posted ID:a5a/shVP/x

>>654 ยุ่นมันช้าแค่ตอนปิดประเทศ พอเปิดปุ๊บดันไปไวมาก ขนาดพวก ปท. ที่เป็นเมืองขึ้นยังไม่ไวเท่าเลย หรือไทยที่รับวัฒนธรรมตะวันตกไล่ๆ กับยุ่นก็เอื่อยๆ เฉื่อยๆ เหมือนเดิม หรือเอาง่ายๆ นะ หลัง WW2 พอช่วงสงครามเย็น อเมริกาอัดงบให้หลายประเทศแถบนี้ ยุ่น เกา ไต้หวัน สิงคโปร์ ไทย ปินส์ ทำไมไทยกับปินส์ถึงกากกว่า 4 ชาติแรกล่ะ กูมองว่าพวกเอเชียตะวันออก (สิงคโปร์ประชากรส่วนใหญ่ก็เจ๊กอพยพ) มันมีอะไรพิเศษน่ะ เหมือนมาเลเซีย พวกหัวกะทิแม่งเป็นจีนมาเลย์ทั้งนั้น ไม่ใช่มลายู

660 Nameless Fanboi Posted ID:GYfOs1bnEq

>>659 หลังww2ช่วงสงครามเยด​ รู้เลยแก๊งไหนปกครอง555

661 Nameless Fanboi Posted ID:gQQqvoVivH

ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้แผนการสร้างประเทศอิสราเอลสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับมหาอำนาจใหม่ของโลกอย่างสหรัฐอเมริกาครับ เพราะถ้าสหรัฐอเมริกาไม่เอาด้วย แผนการนี้ของอังกฤษและ UN ก็น่าจะล่มไม่เป็นท่าครับ เรียกได้ว่าอนาคตของชาวยิวนับล้านคน อยู่ในมือของประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาในขณะนั้นอย่าง แฮรรี ทรูแมน (Harry Truman) แต่เพียงผู้เดียว
.
กลุ่มชาวยิวอพยพในสหรัฐอเมริกาพยายามอย่างหนักครับ ที่จะล็อบบี้ให้ทรูแมนเห็นด้วยกับแผนการของอังกฤษและ UN และก็บังเอิญว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใน 1948 ซึ่งเป็นปีที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีพอดี ซึ่งทรูแมนต้องลงสนามเลือกตั้งเพื่อกลับมาเป็นประธานาธิบดีในสมัยที่สอง, กลุ่มชาวยิวเสนอกับทรูแมนว่า ถ้าทรูแมนสนับสนุนประเทศอิสราเอล ชาวยิวกว่าสามล้านคนในอเมริกาจะพากันเทคะแนนเสียงให้เขา และนักธุรกิจชาวยิวผู้มั่งคั่งหลายคนก็จะบริจาคเงินสนับสนุนให้กับพรรคเดโมแครตของเขาไปใช้หาเสียงเลือกตั้ง
.
ทรูแมนซึ่งในขณะนั้นมีคะแนนเสียงเป็นรองคู่แข่งจากริพับลิกันอย่าง ทอม ดูวีย์ (Tom Dewey) อย่างมาก เห็นว่าการสนับสนุนอิสราเอลน่าจะเป็นหนึ่งในอาวุธที่เขาจะเอามาใช้เพื่อพลิกสถานการณ์ได้ เพราะชาวยิวส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในมลรัฐใหญ่ๆ ที่มีคะแนน electoral college เยอะๆ อย่าง นิวยอร์ค, อิลลินอยล์ และ แคลิฟอร์เนีย และเงินบริจาคก็น่าจะทำให้พรรคเดโมแครตที่กำลังถังแตกมีเงินไปซื้อโฆษณาสู้กับริพับลิกันที่มีเงินทุนหนากว่า

662 Nameless Fanboi Posted ID:VQCXpCj020

>>657 ยอมรับซะแล้วว่ากำลัง fallacy อยู่

663 Nameless Fanboi Posted ID:yxQGik41IV

เงินภาษีไปสร้างส้วมพ่องบ้าง แต่งเครื่องบินพ่องบ้าง พอประชาชนเดือดร้อน มาหน้าด้านรับบริจาค คืออะไร

664 Nameless Fanboi Posted ID:VQCXpCj020

อันที่จริงกูว่าฝ่ายขวาที่มองว่าบริจาคเป็นเรื่องที่ดีอ่ะย้อนแย้งมาก ยังจำข่าวตู้ปันใจ หรือแบ่งปันห่าเหวไรนั่นได้อยู่เลย เอาของไปวางแบ่งปันแล้วรู้สึกฟิน แต่พอรู้ว่ามีคนหยิบไปหมดคนเดียวดันเป็นเดือดเป็นร้อนซะงั้น ขนาดคำผกาที่ซ้ายยังด่าเลยว่าไหนว่าบริจาคไปแล้วทำไมถึงไม่ปล่อยวาง ยังไปกำหนดว่าของบริจาคต้องแบ่งแบบไหนด้วย ร้อนยิ่งกว่าฝ่ายซ้ายซะอีกนะเจ้าพวกขวา 555

665 Nameless Fanboi Posted ID:gQQqvoVivH

>>664 คำผกา ถือว่าเป็นขวาโลกนะจริงๆ ในไทยมันขวาตกขอบจนกลาง-ขวากลายเป็นซ้ายกันหมด

666 Nameless Fanboi Posted ID:NW5fqDaGsp

>>659 อันนี้เป็นคสามเข้าใจผิดของภาพจำอย่างหนึ่ง คนมักเข้าใจว่าช่วงปิดประเทศยุ่นไม่พัฒนา แล้วมาพัฒนาทีเดียวตอนเปิดประเทศ อันนี้เป็นความเข้าใจที่ผิด ช่วงก่อนเปิดประเทศหลายสิบปี ยุ่นก็มีการพัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับต่างชาติมาตลอด การเปิดประเทศของญี่ปุ่นไม่ได้จากเรือดำ แต่เรือดำแค่ทำให้พัฒนาการที่สั่งสมมาเบ่งบานแค่นั้น

ส่วนที่ว่าทำใมยุ่นถึงพัฒนาไว สำหรับกูคือมันเปลี่ยนตัวเองเป็นตะวันตกได้ไวและถึงแก่น แต่ก็ยังมีเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นอยู่ ชาติที่พัฒนาได้คือเน้นหลักการนี้

หลายวันก่อนมู้นี้มั้ง คนคุยกันว่าพัฒนาการของไทยมันผิดฝาผิดตัว เพราะยังไม่ westernization ก็มี modernization มาแทรก แล้วยังไม่เสร็จก็มี post-modernization มาแทรกอีก คือมันพัฒนาไม่เป็นขั้นเป็นตอน สิ่งหนึ่งไม่เสร็จสิ่งอื่นก็มาแทรกแทน มันถึงพัฒนาแบบผิดเพี้ยนที่ไปไม่สุดแบบที่เห็นตอนนี้

>>665 ขวาโลกตรงไหน woke ขนาดนั้นมีขวาที่ไหนรับมั่งอะ

667 Nameless Fanboi Posted ID:hOgbH.1D45

อีแขกมันคือ karen ไม่ใช่ ซ้าย ขวา กลาง อะไรทั้งนั้น

668 Nameless Fanboi Posted ID:a5a/shVP/x

>>662 เข้าใจคำว่า stereotype ไหม พวกไหนส่วนใหญ่ (หรือไม่ใหญ่แต่มีจำนวนมากพอจนสร้างกระแสได้) ทำตัวยังไง มันก็จะกลายเป็นภาพจำแบบเหมารวมไปโดยปริยายนั่นละ แม้วาจะมีคนอีกส่วนในกลุ่มนั้นที่ไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ตาม

669 Nameless Fanboi Posted ID:a5a/shVP/x

>>666 มู้นี้ละ ลองไล่ๆ ย้อนขึ้นไปอ่านดู >>606 >>607 แล้วก็มีคนตอบใน >>608 ว่ามันคือปัญหาของประเทศกำลังพัฒนา (หรือจะเรียกประเทศโลกที่ 3 ก็แล้วแต่) ไม่ใช่แค่ไทยแต่เป็นกันทั่วโลก คือวิธีคิดยังไม่ทันเปลี่ยนเป็นฝรั่ง ก็ได้ ปชต. มาแล้ว และ ปชต. ที่ได้มาก็ยังไม่ทันเรียนรู้เลย อ้าว สังคมนิยมมา ประชานิยมมา อำนาจนิยมก็ยังอยู่ ศาสนานิยมก็ยังไม่จางหาย ผลก็คือมันก็จะบิดๆ เบี้ยวๆ ไปหมด ถ้ายังรักษาหัวใจของ ปชต. ไว้ได้ ไม่มี รปห. ยังมีเลือกตั้งปกติ สิ่งที่เห็นก็จะเป็นประชานิยมเอียงซ้ายแจกแหลกจน ศก.มีปัญหา ไม่ก็อำนาจนิยมแบบพรรครัฐบาลครองอำนาจยาวๆ พร้อมกับการเตะขัดขาคู่แข่งแบบกดไม่ให้เกิด หรือถ้ารักษาไว้ไม่ได้ก็เรียบร้อย ใครมีกำลังมากกว่าก็ยึดอำนาจไป ทีนี้ก็เลือกเอาเลย เผด็จการคอมมี่ เผด็จการรัฐศาสนา เผด็จการบูชาผู้นำ

670 Nameless Fanboi Posted ID:VQCXpCj020

>>668 ก็ยังคงสร้างความชอบธรรมให้ความย้อนแย้งของตัวเองต่อไป พยายามเข้านะ ลูกหลานจะได้เคารพ

671 Nameless Fanboi Posted ID:BcpuWLqQ6n

>>659 อเมริกาไม่ได้ตั้งใจ ประเทศแถวนี้เจริญ อยู่แล้ว ให้เงินกระปริบ กระปรอย ที่ส่วนมากก็ใช้จ่ายไปกับการทหาร มากกว่าพัฒนาเศรษฐกิจ กับ โครงสร้างพื้นฐานเล็กๆ น้อยๆ แบบส่งๆ พร้อมกับสนับสนุนระบอบการเมืองแบบเผด็จการ เลี้ยงไข้ ไว้ชนกับคอมมิวนิตส์ไปเรื่อยๆ จะเอาอะไรมาเจริญ แล้วพอสงครามเย็นจบ อเมริกาเอง ก็แสร้งทำเป็นรัก ประชาติ๊บตัย เกลียดเผด็จการขึ้นมาทันที จะได้มีข้ออ้างไปกดดันจีน รัสเซียต่อในขณะ ที่พวก สี่เสือเอเชีย อเมริกาสนับสนุนด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ ภัยคอมมิวนิตส์ก็ไม่มี เสถียรภาพดีกว่าแถบ southeast asia มาก

กูไม่เคยเชื่อ อ่ะ ว่า ต้องเป็น เชื้อชาตินู้น เชื้อชาตินี้ ถึงจะเจริญ เชื้อชาตินี้ คุณภาพต่ำ เลย ไม่ประสบความสำเร็จเท่า เชื้อชาติโน้น ทุกอย่างมีที่มาที่ไป และ hidden agenda

672 Nameless Fanboi Posted ID:a5a/shVP/x

>>671 กูสงสัยไง ทำไมเอเชีย ตอ. (เจ๊ก ยุ่น เกา) ยิว แล้วก็หรั่งคอเคเชี่ยน ถึงโดดเด่นในโลก ที่เหลือเป็นได้แค่ประชากรชั้นรองลงมาหมด

673 Nameless Fanboi Posted ID:n.kAQBWD5p

>>669 ควรย้อนกลับไปตั้งต้นใหม่ตามขั้นตอน งวดนี้เอากิโยตินมาใช้ให้มันจบๆ ปฏิรูปศาสนาล้างโครงสร้างขุนนางพระ

674 Nameless Fanboi Posted ID:190dZ/r2Qy

มันหนาวไงเลยต้องทำงานให้อบอุ่น พวกเมืองร้อนอะมันเหงื่ออกเลยขี้เกียจ

675 Nameless Fanboi Posted ID:NW5fqDaGsp

>>672 มึงมองแค่สมัยนี้ไง ย้อนไป 5-600 ปีก่อนฝรั่งนี่ขี้ข้ามุซซี่หมดนะ โดยเฉพาะเติร์กที่รุ่งเรืองจนฝรั่งอิจฉา ยิวที่คนอวยกันตอนนี้ก็เป็นจัณฑาลในยุโรป ญี่ปุ่นซ่ากับจีนจนโดนตบ เกาหลีเป็นขี้ข้าจีนตลอดชาติ เจ๊กก็แพ้มองโดลแล้วก็ชิงที่เป็นคนเถื่อนนอกด่าน พันปีที่ผ่านมาถูกคนนอกปกครองไปแล้ว 500 ปี

กูเข้าใจละว่าทำใมมึงถึงเข้าใจแบบนี้ เพราะมึงอยู่ในโลกตอนนี้ แต่ถ้ามึงย้อนกลับไปในอดีตเรื่อยๆ ชนชาติอื่นก็มีเวลาที่เป็นใหญ่เหมือนกัน และชาติที่มึงว่าก็เคยเป็นชาติด้อยพัฒนาเช่นกัน

676 Nameless Fanboi Posted ID:iIBOg2TIX6

>>675 แบบนี้ทำให้กุเชื่อแล้วว่าเราอยู่ในซิมูเลเตอร์ แพทเทินในโลกของเราถูกกำหนดไว้แล้ว

677 Nameless Fanboi Posted ID:8sWkHT0NWJ

จริงๆมันดูไม่ยากขนาดนั้น ฝรั่งเจริญเพราะเทคโนโลยีนี่แหละ พอเลิกชาบูก๊อดกับคิง หันมาชาบูวิทย์แม่งก้าวหน้าเอาๆ คิดเอาหยาบๆ เอาแค่ยุคกาลิเลโอ(น่าจะท้ายๆยุคคลั่งศาสนา)จนถึงตอนนี้แค่ราวๆ500ปีเอง มนุษย์เจริญกว่าจีนที่เป็นมหาอำนาจมาเป็นพันๆปี

678 Nameless Fanboi Posted ID:NW5fqDaGsp

>>676 กูไม่เข้าใจ

>>677 มันไม่ง่ายขนาดมึงพูดหรอก เพราะฝรั่งไม่ได้เลิกบูชาก็อดกับคิง จนถึงหลัง WW II ทั้ง 2 สถาบันก็ยังได้รับการเคารพอยู่มาก

จุดสำคัญคือการแบ่งแยก ศาสนาไม่เกี่ยวกับรัฐหรือวิทยาศาสตร์ คิงก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่กระบวนการทั้งหมดมีขั้นมีตอนของมันเอง

เอาง่ายๆ อย่างสมัยวิคตอเรียที่วิทยาการรุ่งเรืองสุด ก็อดและคิงยังได้รับความเคารพอยู่มาก เพราะผูกติดกับเรื่อง white supremacist ชาวอาณานิคมถูกบังคับให้จงรักภักดีกษัตริย์อังกฤษ แม้แต่หลังได้รับเอกราชก็ยังมีความรู้สึกนี้หลงเหลืออยู่ เยอรมันยุคไกเซอร์ก็มีเรื่องนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น วิทยาศาสตร์ก็รุ่งเรืองอย่างมาก

ส่วนศาสนานี่ฝังรากลึกจนแยกยาก คนในโปรเจคแมนฮัตตันที่คิดค้นนิวเคลียร์ คนกลุ่มนี้คือคนที่ฉลาดที่สุดในฌลกยุคนั้น ก็มีคนเคร่งศาสนาอยู่หลายคน แม้แต่ตอนนี้ก็ยังมีนักวิทยาศาสตร์ชั้นยอดที่เป็นแบบนี้ การนับถือหรือไม่นับถือศาสนาเลยไม่เกี่ยวกันเท่าไหร่หรอก

679 Nameless Fanboi Posted ID:QBxnED/2Bc

>>678 คำว่าบูชาความหมายมันกว้างน่ะนะ คำว่าบูชาก๊อดของกูคือบูชาแบบยุคคลั่งศาสนา ส่วนบูชาคิงก็แบบไอ้กะลายุคนี้นี่แหละ ซึ่งไอ้เคารพอยู่มากของมึงนี่มันไม่เข้าเกณฑ์ทั้งสองอย่าง ห่างชั้นมากๆ ไอ้การแบ่งแยกศาสนาหรือเจ้าจากการเมืองหรือวิทย์นี่แหละที่รัฐยุคคลั่งศาสนาทำไม่ได้ กะลาปัจจุบันก็ทำไม่ได้

680 Nameless Fanboi Posted ID:8aG0eAAuvx

>>679 อียิปต์ก็บูชาก็อดกับคิงยังเจริญโดดเด่นเลย
หรือยิวย้อนไปยุคก่อนจะแตกเป็นจัณฑาลในยุโรป ยังบูชาไฟอยู่เลย นี่ก็คลั่งศาสนายังเจริญเหมือนกัน

ศาสนาเนื้อแท้มันก็นิทานเล่มหนึ่ง เอาไว้บอกให้อยู่ในกฏการอยู่ร่วมกัน แต่ถ้าใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือการเมืองหาผลประโยชน์เมื่อไหร่ก็เหี้ยไปเลยเมื่อนั้น

681 Nameless Fanboi Posted ID:wX3+s21kIF

>>675 แต่ไทยก็ขี้ตีนเขาทุกยุคนะคับ คนไทยอยู่เหนือวังวนแห่งอคาชา น้ำตาจะไหล

682 Nameless Fanboi Posted ID:NLJ2WycglF

>>675 ที่มึงไล่ๆมานี่ก็คนขาวกับคนเอเชียตะวันออกอยู่ดีมั้ย

683 Nameless Fanboi Posted ID:8aG0eAAuvx

>>681 ส่วนประเทศที่เหลือรอบข้าง king ไม่อยู่แล้วเจริญมากไหมนะ เจริญเหมือนยุโรปเลยเนอะ

684 Nameless Fanboi Posted ID:QBxnED/2Bc

>>680 อียิปต์กับยิวโบราณโดดเด่นมากขนาดนั้นเลยเหรอ เอาแค่ไฟฟ้ามีใช้รึเปล่า อียิปต์นี่อยู่เป็นพันปีเลยนี่ ถ้าบูชาก๊อดกับคิงแล้วเจริญได้จริงไม่น่าแพ้ระบบฝรั่งที่มาได้แค่500ปีว่าไหม?

>>683 อยู่ก็ไม่เจริญ ไม่อยู่ก็ไม่เจริญ แถวบ้านเรียกว่าไม่มีประโยชน์น่ะนะ ยิ่งถ้าดูเป็นเทรนด์โลกนี่เค้ามีแต่จะเฉดหัวคิงทิ้งหมดเลยนา แงๆ

685 Nameless Fanboi Posted ID:WMt3bn8haV

>>675 ยุคก่อนอุตสาหกรรม ที่มีแค่จำนวนคนก็ชนะได้แล้ว ไม่ควรเอามาเทียบกับยุคหลังปฎิวัติอุตสาหกรรม

ถ้ายุโรปไม่ออกล่าอาณานิคม ฉลาดแค่ไหน ไม่มีทรัพยากร ก็ปฎิวัติไม่สำเร็จหรอก อุตสาหกรรม ทุกวันนี้อยู่ดีกินดี มั่งคั่ง เพราะหยิบยืมมาจากทวีปอื่น ทั่วโลกทั้งนั้น

686 Nameless Fanboi Posted ID:s5d8eLnN82

>>679 ถ้ามึงจะนิยามแบบนั้นก็ตามสบาย

>>682 อืม อินโดอารยันก็นับเป็นคนขาวจริงนั่นละ แต่นั่นก็แค่ที่กูยกมา ปวศ.โลกมีอีกหลายอารยธรรมที่โดดเด่นขึ้นมาได้ อย่างอินเดียนี่ก็มีหลายช่วงที่โดดเด่น โดยเฉพาะเรื่องคณิตย์ศาสตร์ปละปรัชญา

>>685 ต้นเรื่องมันชี้ว่ามีแค่ชนชาติเหล่านั้นที่เจริญโดดเด่นได้ กูก็แย้งไงว่าชาติที่มันยกมาก็เคยเป็นขี้ข้าคนอื่นเหมือนกัน ไม่ได้ยิ่งใหญ่มาทุกยุคสมัย มันพึ่งมายิ่งใหญ่สมัยนี้

ส่วนเรื่องอาณานิคมนี่จริง การปฏิวัติอุตสาหกรรมนอกจากใช้ทรัพยากรจำนวนมากแล้วต้องใช้ตลาดจำนวนมากอีก

687 Nameless Fanboi Posted ID:/eyp0G3fXp

>>686 กูเองนะที่เป็นคนตั้งข้อสังเกตเรื่องฝรั่ง ยิว และเจ๊ก ทำไมตะวันออกกูไม่นึกถึงอินเดีย แม้ว่าจริงๆ อินเดียจะมีเทคโนโลยีไม่ได้น้อยหน้าไอ้ 3 ชาติที่ว่าเลย แต่อินเดียก็ไม่ได้มีเขตแผ่ขยายอำนาจ ไมไ่ด้มีอิทธิพลต่อโลกมากเท่าไอ้ 3 ชาติที่กูว่าน่ะ รัสเซียว่าดร็อปไปเยอะถ้าเทียบกับยุคโซเวียต ยังมีบทบาทมากกว่าอีก

688 Nameless Fanboi Posted ID:HxDA4ajWS+

>>687 ลืมมุสลิมไปได้ไงอ่ะตัว อิอิ ภัยคุกคามของทุกชาติและun

689 Nameless Fanboi Posted ID:HxDA4ajWS+

กูว่าแม่งคุยกันไม่รู้เรื่องเพราะเอาทุกอย่างทุกยุคทุกเกณฑ์มายํามั่ว
เอาเป็นทีละหัวข้อดิวะ เช่นความเป็นประเทศมหาอํานาจ ระดับSuper power , Major power, Regional power อันนี้ก็ดูเรื่องประชากร พื้นที่ นโยบายต่างประเทศ ความมั่นคงทางการทหาร ความมั่นคงทางด้านการเงิน เทคโนโลยี อะไรก็ว่าไป
หรือมองเรื่องความเป็นผู้นําด้านSoftpower ด้านสื่อบรรเทิง ด้านความเชื่อศาสนา อย่างในสงครามเย็นก็เรื่องอุดมการณ์การเมือง
แล้วเรื่องTime lineในแต่ละยุคก็สำคัญ การมีอิทธิพลในแต่ละนุคมันมีรายละเอียดปัจจัยแตกต่างกัน
กูอาจจะแบ่งไม่ถูกนะ แต่กูย้อนไปอ่านแต่ละอันแล้วโครตงงว่าพวกมึงคุยเรื่องอะไรกันอยู่อ่ะ

690 Nameless Fanboi Posted ID:HxDA4ajWS+

พวกมึงควไม่ได้คุยเกี่ยวกับเกมพวกcivilizationใช่มั้ยวะ ไอเหี้ยไปทุกยุคละ จริงๆปัจจัยที่ประเทศใดประเทศหนึ่งเจริญมาได้ไม่ได้มีแค่ปัจจัยทางด้านศาสนานะ ว่าตะวันตกผ่านการปฏิวัติศาสนาแล้วเป็นมนุษย์นิยมทําให้วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าขึ้นมีนก็ใช่ แต่มันมีปัจจัยอื่นๆด้วย แบบตั้งแต่เรื่อ่งทรัพยากรในแต่ละพื้นที่ เรื่องภูมิอากาศ ไปอ่านต่อได้ในหนังสือ The Great Divergence ของ Kenneth Pomeranz

691 Nameless Fanboi Posted ID:s5d8eLnN82

>>687 ไม่มีอิทธิพลตรงไหน กูรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าพวกชอบถามคำถามแบบนี้คือรู้ปวศ.แค่ผิวเผินมากๆ แต่กดอินเดียขนาดนี้ก็เกินไป

>>689 ใช่ มันต้องแบ่งยุคกับปัจจัยคุยด้วย เอามาเหมารวมหมดมันไม่ได้ แต่ที่กูแย้งคือมันบอกว่ามีแต่พวกฝรั่ง/ยิวกับเอเชียตะวันออกเท่านั้นที่โดดเด่น กูถึงแย้งว่ามันเป็นแค่ในยุคใกล้นี้ ในยุคก่อนหน้ามีอีกหลายชนชาติที่เคยเด่นเหมือนกัน ไม่ได้จำกัดแค่พวกที่มันบอก

>>690 ไม่ใช่จากเล่มนี้นะ มีทฤษฏีนึงที่กูคิดว่าน่าสนใจ คือการพัฒนาเทคเกิดจากปัญหาค่าแรง สมัยก่อนคนในยุโรปน้อยและเป็นทาสติดที่ดินเยอะ ทำให้ค่าแรงเพิ่มขึ้นตลอด เลยมีการพัฒนาเครื่องทุนแรงเพื่อลดภาระค่าแรงมากตาม ในขณะที่จีนที่มีแรงงานมากแม้จะมีพัฒนาการทางด้านนี้บ้าง แต่เนื่องจากมีแรงงานจำนวนมาก เมื่อถึงจุดนึงทางตะวันตกจึงพัฒนาด้านนี้เป็นหลักชัดเจนกว่าจีน กูคิดว่าเรื่องนี้อธิบายเหตุผลของยุคสมัยได้ดี

692 Nameless Fanboi Posted ID:YeKXrGHcBm

ผมพึ่งเข้าสู่วงการคราฟเบียร์ได้ไม่นาน วันก่อนซื้อ Inedit มาชิมที่บ้าน วันนี้เลยไปปรึกษาต้นกล้า เซียนแอลกอฮอร์ประจำออฟฟิศ

“ต้นกล้า กูซื้อ Inedit มาลองกิน เห็นว่าเป็นเบียร์โดยเชฟมิชลินชั้นดี ถ้ากูถ่ายภาพขวดกับหนังสือเล่มโปรดในบ่ายวันอาทิตย์และโพสลงโซเชียล กูต้องได้รับการยอมรับจากคนอื่นแน่นอน”

“เฮอะ คนเจตนาไม่บริสุทธ์อย่างพี่ ย่างกรายไปที่ไหน ก็รังแต่จะทำให้อาณาจักรนั้นแปดเปื้อน ศึกครั้งนี้เห็นทีผมจะต้องปักปักษ์ดินแดนสีเหลืองอำพันแห่งนี้แล้วสินะ”

“มะ มึงพูดเรื่องอะไร มันไม่มีอะไรเลย กูแค่อยากดื่..”

“แต่ครั้นจะให้หยิบ lager เจ้าตลาด พี่ก็หวั่นเกรงการตัดสินจากคนอื่นใช่ไหม พี่เลยเสิร์จหา เบียร์แพงๆ สตอรีดูเท่แล้วก็กดหยิบใส่ตะกร้า”

"ระ รู้ได้ไง"

"เฮอะ เดาไว้ไม่พลาด คาดแล้วไม่ผิด ละอองฝุ่นหวิวโหวงอย่างพี่ มิติชีวิตมันก็ตื้นเขินประมาณนี้แหละ พี่ไม่ได้ดื่มเบียร์เพื่อตัวเองด้วยซ้ำ แต่ดื่มเพื่อสายตาของคนอื่น ตอนมหาลัยปีหนึ่ง ผมเดาว่า พี่คงเห่อเหิมอิสรภาพทางสุราที่ได้รับมาหมาดๆ จนตกดึกทีไร ต้องกระสันและเสือกตัวเองไปร้านข้าง ม. กับแก๊งเพื่อนและสั่งทาวเวอร์ใหญ่ๆมาประดับบารมีบนโต๊ะ จากนั้นก็เพียรพยายามที่จะเมามายให้ไวที่สุด เพื่อรอเวลาวงสดเล่นเพลง เพียงกระซิบ แล้วส่งเสียงตะโกนก้องคำว่า ไอ้เย็ขดเหี้ย ดังๆ นั่นทำคงทำให้เด็กชายธนชาติรู้สึกเติบโตและแมนมากเสียเต็มประดาเลยสินะ สารัตถะของพี่มันช่างน่าสำรอก"

"มะ ไม่จริง"

693 Nameless Fanboi Posted ID:YeKXrGHcBm

“สันดาน toxic masculinity อย่างนี้ มันตามตัวพี่ดั่งเงามาจนถึงขวบวัยปัจจุบัน เวลาพี่ไปร้าน พี่จะสั่ง double ipa หรือ stout แปลกๆมานั่งข่มใจกินเพื่อให้คนอื่นรู้สึกว่า พี่เสพของแรง ทั้งที่ตอนอยู่บ้าน พี่ก็แค่มีความสุขกับ hoegaarden rose ขวดจิ๋วและนั่นไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรเลย ความใคร่อยากในเสียงชื่นชมโสมนัสในความแมนจอมปลอมของพี่ต่างหากที่ผิด น่าเศร้าชะมัดที่พี่ใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อแค่แก้โจทย์ว่า ตัวฉันไม่ติ๋ม ตัวฉันก็เป็นผู้ชายร้ายและ rough เหมือนกัน นี่สินะคงเป็นคือเหตุผลให้พี่เริ่มดื่มเบียร์ สักมินิมอลที่แขน และใช้กระเป๋า freitag พี่แค่ต้องการจะ unnerd ตัวเองเท่านั้นเอง พี่หารู้ไม่ว่า ไม่เคยมีใครมาหมกหมุ่นตัวตนของพี่ขนาดนั้นตั้งแต่แรก เพราะในขณะที่พี่กำลังยกเครื่องดื่มสีอำพันเพื่อเล่นละครประโลมโลก ผมได้ออกเดินทางไปฝึกการทำเบียร์คราฟกับพี่ชิตที่เกาะเกร็ดตั้งแต่ยุคก่อตั้ง ขณะที่พี่กำลังเอื้อมมือไปหยิบน้ำแข็งหยาบกระด้างโยนลงแก้ว ผมกำลังเอื้อมมือคว้าจอบเสียมขึ้นท้าทายภูมิอากาศเขตร้อนด้วยการปลูกฮอปส์ในบ้านที่อีสาน และในขณะที่พี่เดินเข้าห้างและหลงระเริงกับเบียร์นำเข้าทุนนิยมสามานต์ที่ล้างสมองชนชั้นกลางค่อนสูงว่า เบียร์คราฟท์ยิ่งแพงยิ่งดี ผมกลับเดินทางไปตามโฮมบริววิ่งทั้งหลายทั่วประเทศเพื่อสะสมความรู้ให้เท่าทวี เพราะเบียร์คือการแสดงออกซึ่งเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่น เราควรจะมีโครงการ OTOB one tumbon one beer ด้วยซ้ำ ประทับถ้อยคำของผมใส่กระโหลกหนักหนาของพี่ไว้ไม่ให้เคลื่อนคล้อยว่า เบียร์ต้องเป็นของทุกคนและทุกคนต้องการสนามแข่งขันที่ผ่าเผยสง่างาม เบียร์คราฟไทยที่ได้รางวัลระดับโลกควรยืดอกในฐานะที่ผลิตที่ไทยไม่ใช่ประเทศเพื่อนบ้าน เรื่องพวกนี้พี่ไม่กังขาเลยใช่ไหม กฏกระทรวงการอนุญาตผลิตสุราปี 2560 พี่ได้อ่านหรือเปล่า ไม่สินะ ถ้าเช่นนั้น ผมคงไม่อยากเสียเวลาสนทนาไปมากกว่านี้ เพราะแม้จะพี่หลงคิดว่าตัวเองเซียนสุราเพียงใด แท้จริงแล้วพี่ก็แค่กากเดนชั้นสวะของวงการเท่านั้นเอง"

"ต้นกล้า กูแค่อยากมีความสุข ทำไมมึงต้องเบียวกูด้วยวะ"

"ผมไม่ได้เบียว แต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับวีตและฮอปส์"
#จบ #ออกจากวงการ

694 Nameless Fanboi Posted ID:YeKXrGHcBm

ผมเพิ่งเข้าสู่วงการครูผู้ช่วยได้ไม่นาน ล่าสุดคิดหัวข้อวิจัยในชั้นเรียนได้ เลยไป PLC กับต้นกล้า ครูชำนาญการ ประจำโรงเรียนบ้านใหม่ห้วยปลาดุกฟู สังกัด สพป. ๑
"ต้นกล้า กูเพิ่งคิดหัวข้อวิจัยในชั้นเรียนได้ แล้วกูจะทำเป็นวิจัยหน้าเดียว เสร็จแล้วจะอัพลงเฟส กูต้องได้รับการยอมรับจากบรรดาคุณครูแน่ๆ"
"อย่างงั้นหรอ? คุณคิดว่าทำงานเอกสารแมสๆ อย่างวิจัยหน้าเดียวแล้ว จะได้คะแนนประเมิน ว.๒๖ เต็ม ๑๐๐ เลยล่ะสิ นี่คุณคงใช้วิธีแบบ active learning ที่กำลังเป็นเทรนด์อีกเหมือนกันล่ะสินะ ส่วนความเป็นมาและความสำคัญก็ไปก็อปมาจาก Thailis สินะ อ่อนหัดจริงๆ คุณมันก็คนขลาดที่ไม่กล้าทุ่มเททำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อแก้ไขปัญหาผู้เรียนด้วยตนเอง แถมยังฉาบฉวยอยากสร้าง content"
"ระ... รู้ได้ไง"
"เฮอะ เดาไว้ไม่พลาด คาดไว้ไม่ผิด คิดไว้ไม่เพี้ยน ตัวตนของคุณมันช่างบอบบางและน่าสมเพช จนต้องทดแทนความบอบบางของ self-esteem ที่คุณขาดหายไปด้วยงานเอกสารอย่างวิจัยหน้าเดียวยังไงล่ะ ผมถามหน่อยสิ คุณมี SAR ที่ก็อปมาจากคนอื่นเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนปี แล้วก็กำลังจัดซุ้มดอกไม้รอประเมินรอบที่ ๒ อยู่ใช่มั้ยล่ะ"
"อะ... ใช่"
"อ่อนหัด อ่อนหัดยิ่งนัก อย่างคุณน่ะเหรอ จะเรียกตัวเองว่าเป็น revolutionary ทางการศึกษา? คุณเคยได้ศึกษาเนื้อหาของ active learning ที่แท้จริง แล้วศึกษาความต้องการของผู้เรียนรายบุคคลบ้างรึยัง? ทั้งรูปแบบการเรียนรู้ ทั้งพฤติกรรมการเรียนน่ะ แต่ละคนแตกต่างกันโดนสิ้นเชิง แล้วยังมีวิธีการจัดการเรียนรู้อีกหลากหลาย ที่เหมาะกับผู้เรียนที่แตกต่างกันออกไป คุณกล้าพูดได้ยังไงว่าจะเป็น educator ทั้งที่ยังไม่ได้สัมผัสสิ่งเหล่านี้น่ะ!!!
หึ อย่างคุณน่ะคงทำได้แค่รอก็อปไฟล์ เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนปก เท่านั้นหละ ผมที่ทำ thesis เกี่ยวกับ active learning ไป 3 เรื่อง ตั้งแต่เรียนปริญญาตรี เพื่อ personalize กับ localization การสอนให้เข้ากับตัวผู้เรียนทั้งหมด ได้ยินแล้วคลื่นไส้ อยากจะจับพี่ไปเรียน Research for Learning Development สัก ๓ ตัว"
"ต้นกล้า ผมแค่อยากมีความสุขกับการประเมิน ว.๒๖ ครั้งที่สอง และประเมินเงินเดือนให้ได้ ๓.๒% ทำไมต้องเบียวใส่ผมด้วยวะ"
"ผมไม่ได้เบียว แต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับวงการการศึกษาไทย"
#จบ #ออกจากวงการ #ออกจากราชการ

695 Nameless Fanboi Posted ID:YeKXrGHcBm

ผมพึ่งเข้าสู่วงการต้นกล้าได้ไม่นาน วันก่อนเห็นคนโพสเรื่องต้นกล้าเยอะแยะ เลยคิดจะโพสบ้าง จึงนำไปปรึกษากับต้นกล้า เซียนวงการต้นกล้าประจำออฟฟิศ
“ต้นกล้า กูคิดจะโพสเรื่องมึงบ้างวะ ถ้ากูโพสแล้วอัพลงโซเชียล กูต้องได้รับการยอมรับจากคนในวงการของมึงแน่ๆ”
“เฮอะ พี่คิดว่าพี่โพสเรื่องผม เพื่อจะใช้เบนซ์ธนชาติเป็นเครื่องมือ ที่บังเอิญไถฟีดเฟสบุ๊คมาเจอแล้วกดแชร์ออกไป เพื่อโอ้อวดให้คนในวงการที่ติดตามพี่เค้าอยู่เห็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า โพสนี้ประสบความสำเร็จ วัฏสงสารของพี่มันก็เลยเวียนว่ายหายใจอยู่กับการเกาะกระแสต้นกล้า แล้วก็รอเวลาที่จะอ่านโพสต้นกล้าในตอนถัดไป ที่ก็ได้แต่คอมเม้นท์ว่า ขอเรื่องในรัฐสภา กับเรื่อง Mechanical Keyboard ด้วย ผมถามหน่อย พี่ติดตามกระแสของผม ก็เพื่อให้รู้สึกถึงความเท่ ถึงความสะมะริงกิงกอง สะมะลองกองแกง ทั้งๆ ที่พี่ก็ไม่ได้เข้าใจในคำศัพท์ของวงการของต้นกล้าสักโพส ที่มีภาษาไทยสองคำภาษาอังกฤษหนึ่งคำ แล้วก็ขี้เกียจเปิด Dictionary หาความหมาย พาลคิดไปว่า มันคงเป็นศัพท์อะไรที่คลิเช่ไปงั้นๆ สินะ”
“ระ รู้ได้ไง”
“เฮอะ เดาไว้ไม่พลาด คาดไว้ไม่ผิด คิดไว้ไม่เพี้ยน ตัวตนของพี่มันช่างน่าสะอิดสะเอียน ลึกลงไปในใจพี่ก็ยังเป็นแค่เด็กชายคนนึง ที่เรียกร้องความสนใจจากกระแสของต้นกล้า จึงคิดจะหาเรื่องราวมาโพสในสิ่งที่เป็นส่วนลึกของแต่ละวงการ แต่พี่ไม่มีความรู้ลึกใดๆในวงการอื่นนอกจากวงการต้นกล้าที่พี่ตามอ่านทุกโพสแต่ไม่ได้กดไลค์แสดงตัว พี่ก็คือมนุษย์ที่ทุกพลภาพทางอารมณ์ที่ดิ่งลงใต้สมุทรแห่งโลกโซเชียล จนต้องเอาคุณค่ามาเป็นขอนไม้ที่พยุงพี่ขึ้นมาจากใต้สมุทรไร้แก่นสารนั้น เพื่อให้ลอยมาควักเอาอากาศบนพื้นผิวโลก เช่นนั้นแล้ว ถึงพี่จะลำพองว่าตนอยากเป็นเซียนต้นกล้าเพียงใด ก็เป็นได้แค่กากเดนชั้นสวะของวงการเท่านั้นเอง”
“ต้นกล้า กูแค่อยากมีความสุข ทำไมต้องเบียวกูด้วยวะ”
“ผมไม่ได้เบียว แต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับเบนซ์ธนชาติ”
#จบ #ออกจากวงการ

696 Nameless Fanboi Posted ID:YeKXrGHcBm

ผมพึ่งเข้าสู่วงการไพ่พยากรณ์​ได้ไม่นาน วันก่อนพึ่งได้ Baroque Bohemian Cats Tarot พิมพ์ครั้งที่หนึ่งมา เลยนำไปปรึกษา "ต้นกล้า" เซียนไพ่หมอดูชื่อดังประจำ อบต.บ้านหนองปลากริม
.
"ต้นกล้า กูพึ่งได้ แมวโบฮีเมียน รุ่นแรกมา ถ้ากูถ่ายรูปแล้วอัพลงโซเชียล กูต้องได้รับการยอมรับจากหมอดูและนักสะสมในวงการแน่ๆ"
.
"เฮอะ พี่คิดว่า มีสำรับไพ่จาก Baba Studio มาประดับเต็มชั้นแล้วจะสูงส่งเสียเต็มประดาสินะ พี่มันก็แค่พวกใช้ไพ่เป็นเครื่องมืออวดโอ้ตัวเอง หวังใจแค่ให้วัตถุบนชั้นหนังสือเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ต่อชาวโลกว่าฉันก็ประสบความสำเร็จในชีวิตนะ
วัฏสงสารของพี่ มันเลยเวียนว่ายขายเทรด ตามเก็บไพ่กระแสที่ใครๆเค้าว่าดี ไม่ว่าจะ ญาณ ณ โลก, Dark Mansion, ฟังใจ, จาตุมหาราช หรือไม่ก็ Energy of Asia, New Heart หรือสำรับไพ่ ตำราอะไรก็ตามที่เป็นของอาจารย์ถาวร รวมทั้งไพ่เทวดานางฟ้า หรือไพ่อะไรก็ได้ ขอแค่เคยมีชื่อแม่ดอรีนติดอยู่หน้ากล่อง
วันดีคืนดี พี่ก็ไปหาสำรับไพ่แนว masculine หรือ feminine บางวันก็ตามล่าไพ่แนว multi-culture เพียงเพื่อแสดงว่าพี่อินเทรนด์​เรื่องสิทธิความเท่าเทียม
.. พี่เล่นแต่ตัวแมสๆ ตัวตามกระแส เพราะพี่ขลาดเขลาเกินที่จะก้าวพ้นดงดานแห่งรสนิยมสาธารณ์
.

697 Nameless Fanboi Posted ID:YeKXrGHcBm

ผมถามหน่อย พี่มีสารพัดพร็อพ
- ทั้งผ้าปูรองไพ่หลากสีสันลวดลายให้เข้ากับไพ่ที่ถ่ายรูป
- ตำราหมอดูเล่มหนาที่แทบไม่เคยพลิกอ่าน
- หินอัญมณีคริสตัลหลายประเภทหลายรูปทรง ที่แทบจะจำคุณสมบัติไม่เคยได้
-​ แล้วถ่ายรูปไพ่แต่ละที ต้องจุดกำยานและเทียนหอมกลิ่นฟุ้งเต็มบ้านแทบสำลักด้วยใช่ไหม?
.
แล้วเป้าหมายเดียวของชีวิตพี่ คงกะว่าจะสร้างไพ่ทาโรต์​หรือไพ่ออราเคิลซักสำรับ เพื่อลงตามสื่อโซเชียลหรือโชคดีหน่อยก็ออกทีวีช่องดัง จะได้โชว์ไพ่หน้าตาแปลกประหลาดที่พี่อุตส่าห์สะสมมาเรื่อยๆจนเต็มชั้น พิธีกรจะได้อู้วหู้ว เผื่อจะได้จารึกชื่อเป็นหมอดูโด่งดังที่คนรู้จักกันทั่วประเทศ​สินะ"
.
"ระ.. ระ.. รู้ได้ไง"
.
"เฮอะ เดาไว้ไม่พลาด คาดไว้ไม่ผิด คิดไว้ไม่เพี้ยน ตัวตนของพี่มันช่างน่าพะอืดพะอม ลึกลงไปในใจ พี่ก็ยังเป็นแค่ ด.ช. เซ่ ผู้เรียกร้องความเห็นชอบจากโลกและความเห็นดีจากคนรอบตัว
พี่คือมนุษย์ชำรุดที่กำลังจมดิ่งลงไปสู่บาดาลแห่งความ insecure จนต้องเอาคุณค่าและเรื่องเล่าของการรังสรรค์ผลงานของเหล่า Artist แต่ละคน Publisher แต่ละเจ้า มาเป็นเสื้อชูชีพ พยุงตัวตนที่ประกอบสร้างจากเศษเดนความจอมปลอมให้ลอยพะงาบพ้นผิวน้ำ
ผมถามหน่อย พี่มี Tarot Roots of Asia ด้วยใช่ไหม"
.
"มะ.. มะ.. มี"
.
"แล้วพี่เคยได้ทำตัวให้สมทั้งทาน ศีล ภาวนา เจริญวิปัสสนา ดำเนินรอยตามวิถีธรรม สอดคล้องในตำราเซียมซี​พุทธ​ อนุสาสนีย์ปาฏิหาริย์ ที่พระอาจารย์​อำนาจ ประพันธ์​ไว้รึเปล่า
หรือจะแค่ลองนั่งสมาธิ ใช้ภาพหน้าไพ่เป็นสื่อนำความสงบซักชั่วโมง เหมือนที่ไพ่หลายสำรับ ตำราหลายเล่มบอกไว้บ้างไหม
หรือพี่ได้แต่งมงายจุดกำยาน อาบแสงจันทร์ เอาหินวางรอบไพ่ แบบที่ใครๆเค้าบอกมา โดยที่ตัวเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไปทำไม
.
แล้วพอหาซื้อ Prague หรือ Victorian Romantic​ ได้มา เพียงเพื่อเล่าให้คนอื่นฟังว่า ฉันมีไพ่สำรับแรกๆ ของสำนักพิมพ์ ที่เป็นไพ่หายาก ราคาอีเบย์พุ่งไปเรือนหมื่นเรือนแสน
ยอมรับซะเถอะ ไพ่คือเครื่องสะท้อนความหวั่นไหวประจำวันของพี่ วันไหนพี่รู้สึกว่าตัวฉันอ่อนแอปวกเปียก พี่ก็เอาเหล่าไพ่คลาสสิคของค่าย il Meneghello มาใช้ ทั้งๆที่พี่อ่านมันก็ไม่เป็น วันไหนพี่รู้สึกว่า รสนิยมตัวฉันไม่ค่อยวิไล พี่ก็เอาไพ่ Bohemian Gothic Tarot หรือ Alice Tarot ของค่ายบาบ้ามาสับคลี่
แล้วก็ออกไปเล่นละครจำอวดให้โลกชม ออกไปดูหมิ่นถิ่นแคลนคนอื่นที่ใช้ไพ่ท้องตลาด ก่อนจะกลับมาเคว้งคว้างและตั้งคำถามกับตัวเองในยามค่ำคืน ท้ายสุดก็ระงับความเจ็บปวดนั้นด้วยการเปิดเพจ Kickstarter บ้าง Etsy บ้าง และหาซื้อไพ่สำรับใหม่สนองตัณหา พร้อมหลอกตัวเองว่า มันคือลิมิเต็ดอีดิชั่น มันคือการลงทุน มันคือการช่วยสนับสนุนศิลปินวงการไพ่
ทั้งหมดทั้งมวล มันก็ไม่ผิดอะไร ถ้าพี่ไม่ริสะเออะมาขอความเห็นชอบจากผม เพราะสำหรับผม คนที่สูบกลิ่นอายจากไพ่ไรเดอร์เวท หรือแคทพีเพิล ที่แถมหนังสือ อ.ขุนทอง กับ อ.สังคม คนที่อ่านไพ่ที่มีแค่ไพ่แต้ม pip cards แยกความต่างของความหมายและอารมณ์ที่ได้จากการอ่านไพ่มาร์เซย์แต่ละรุ่น และวิเคราะห์รู้แจ้งเหล่ารหัสแฝงในธ็อธและตำราของโครวลี่ส์ ตั้งแต่อายุสิบสองขวบ ไพ่จึงเป็นมากกว่าเครื่องมือเสริมบารมี
.
ถ้ามองลึกลงไป พี่จะพบความงดงามของกลไกเบื้องหลังสารเคลือบมันเคลือบด้านอันฉาบฉวยบนหน้าไพ่เหล่านั้นด้วยกันทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะเป็นไพ่ indie หรือไพ่ mass productionไม่ว่าจะเป็นไพ่ US Games, Llewellyn, Tarocco, Taroteca, Labyrinthos, Liminal11, Hayhouse, Deckstiny, Konigsfurt Urania, AG Muller หรือ Lo Scarabeo แต่เดาว่า พี่คงไม่เคยสัมผัสปัญญาและอัจฉริยะภาพพวกนี้เลยสินะ เช่นนั้นแล้ว ถึงพี่จะลำพองตนว่าเป็นเซียนไพ่เพียงใด พี่มันก็แค่กากเดนชั้นสวะของวงการเท่านั้นเอง"
.
"ต้นกล้า กูแค่อยากมีความสุข จากการถ่ายรูปคุยเรื่องไพ่ หวังยอดไลก์ยอดแชร์ ทำไมต้องเบียวกูด้วยวะ"
.
"ผมไม่ได้เบียว แต่ผมเป็น ดิออราเคิล หนึ่งเดียวกับคลื่นลมฝนฟ้า ต้นไม้ใบหญ้า ภูผามหาสมุทร​ ศิลปะ เรือนชะตา จักรราศี
กระบี่อยู่ที่ใจ กระดาษไพ่เป็นแค่สิ่งปรุงแต่ง แทบทุกศาสตร์ทุกอณู​ที่ผ่านเข้ามา ล้วนใช้พยากรณ์​ได้ทั้งนั้น"
#จบ #ออกจากวงการ

698 Nameless Fanboi Posted ID:YeKXrGHcBm

ผมพึ่งจะเข้าสู่วงการแต่งห้องสไตล์มินิมอลได้ไม่นานจึงเดินไปปรึกษาต้นกล้า เซียนมินิมอลประจำออฟฟิศ

"ต้นกล้า กูว่าจะรีโนเวตห้องใหม่ให้เป็นสไตล์มินิมอลว่ะ พอทำเสร็จแล้ว ถ้ากูถ่ายรูปลงโซเชียล กูต้องได้รับการยอมรับจากผู้คนแน่นอน"
"เฮอะ เหลือบไรวงการอย่างพี่ ผมเห็นแล้วก็ได้แต่สะอิดสะเอียน พี่ยังติดกับดักมินิมอลอยู่แค่เฟอร์นิเจอร์อิเกีย ของแต่งห้องมูจิ และนาฬิกาแดเนียล เวลลิงตัน มัวแต่ป้วนเปี้ยนอยู่บนเปลือก แล้วเมื่อไรจะเจาะไปถึงแก่นกระพี้.."
"ต้นกล้า กูแค่อยากมีความสุข กูแค่.."
"พี่เคยศึกษางานของ sol lewitt, donald judd, walter de maria หรือศิลปินยุคปลาย 70 บ้างไหม ผมเดาว่า ไม่เคยใช่ไหม เพราะจอมปลอมอย่างพี่ มันใช้ความมินิมอลเป็นแค่เครื่องอัพสถานะไม่ก็เป็นวัสดุรองพื้นบนอินสตราแกรมเท่านั้นเอง ปลักโคลนแห่งรสนิยมสาธารณ์ แช่นานๆมันก็สบายดี แต่ถ้าพี่อยากล้มผมเมื่อไร ก็จงป่ายปีนขึ้นมาศึกษา เผื่อว่าจะเกิดประกายปัญญา และสันดาปเนื้อหาอะไรในสมองได้บ้าง ไม่เช่นนั้นพี่ก็เป็นได้แค่เศษเดนชั้นสวะของวงการเท่านั้นเอง"

"ทำไมมึงต้องเบียวใส่กูด้วยวะ"
"ผมไม่ได้เบียว แต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับความเรียบง่าย"
#จบ #ออกจากวงการ

699 Nameless Fanboi Posted ID:/eyp0G3fXp

>>691 OK กูเข้าใจละ แต่อินเดียกูยังยืนยันนะว่าไม่เคยแผ่อำนาจไปไกล เทียบกับคู่แข่งตลอดกาลตั้งแต่โบราณถึงปัจจุบันอย่างจีนก็ได้ SEA โบราณนี่กษัตริย์จะขึ้นครองราชย์ต้องแจ้งให้ฮ่องเต้รับรองตลอด พอมาสมัยใหม่ แถวนี้แทบอยู่ใต้อิทธิพลจีนหมดละ แถมขยายไปยันประเทศเล็กๆ น้อยๆ ในชมพูทวีป ศรีลังกา บังกลาเทศ ปากีฯ อัฟกาฯ เจ๊กแม่งยึดหมด อินเดียโดนปิดล้อมซะงั้น ที่กูเปิดประเด็นเรื่องชาติพันธุ์ เพราะรู้สึกน้อยใจแทนชาว SEA (ยกเว้นพวกคนนอกอย่างสิงคโปร์ที่เป็นเจ๊กอพยพ) แอฟริกา แล้วก็ลาตินอเมริกาน่ะมึง จะยุคไหนก็เป็นลูกไล่เขาตลอด ไม่ว่าฝรั่ง ยิว เจ๊ก ยุ่น

700 Nameless Fanboi Posted ID:YeKXrGHcBm

ผมเข้าสู่วงการสเต๊กได้ไม่นาน วันก่อนสั่งเนื้อคาโกชิมะ a5 มาทานที่บ้าน วันนี้จึงเข้าไปปรึกษาต้นกล้า เซียนสเตกประจำออฟฟิศ

"ต้นกล้า กูสั่งเนื้อวากิวมาทำกับกระทะ cast iron ที่บ้าน ถ้าถ่ายรูปลงและอัพโซเชียล กูต้องได้รับการยอมรับจากผู้คนแน่นอนเลยว่ะ"

"เฮอะ ปลายแถวในวงการอย่างพี่ มันขี้ขลาดเสียจนต้องอาศัยชั้นไขมันระดับ a5 เป็นเกราะกำบังความอ่อนหัดของตัวเองเลยเหรอ ในสมองอันเบาหวิวของพี่นั้นมันคงเปื้อนเปรอะไปด้วยมายาคติวากิว, มัตซึซากะ และเนื้อดรายเอจสินะ และความเส็งเคร็งมันคงจำกัดการรับรู้ของพี่อยู่แค่คัทแมสๆ อย่าง ริปอาย, ทีโบน หรือสตริปลอยสินะ ลำพังแค่พิคันย่าในร้านดังๆ ก็คงทำให้พี่ระริกระรี้และหลงลำพองตนไปหลายวัน โดยที่ไม่มีสักเศษเสี้ยวในแง่งสมอง ที่กระตุ้นให้พี่เกิดการสันดาปทางปัญญา เริ่มค้นหา secondary cut แปลกๆมาบ่มเพาะฝีมือ คัทอย่าง denver, eye of chuck, osso buco หรือ ichibo หากผ่านการใช้ไฟและอุณหภูมิที่เหมาะสม ก็จะกลายเป็นคัทระดับพระกาฬ พี่เคยได้รู้เรื่องพวกนี้ไหมหรือหมดเวลาไปกับการดูถูกสเต๊กข้างทางของชาวบ้านชาวช่องเขา ผมที่เติบโตมาใช้เตาถ่าน josper และ เตาเผา kiln เป็นตั้งแต่เจ็ดขวบ เห็นความจอมปลอมของพี่ก็ได้แต่ละเหี่ยใจ เพราะเราต่างรู้ดีว่า แท้จริงแล้ว พี่มันก็แค่กากเดนชั้นสวะของวงการเท่านั้นเอง"

"ต้นกล้า ทำไมมึงต้องเบียวกูด้วยวะ"
"ผมไม่ได้เบียว แต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับเนื้อน่องลาย"
#จบ #ออกจากวงการ

701 Nameless Fanboi Posted ID:GPWidftVc9

>>699 กูถึงบอกไงว่าความรู้ด้านปวศ.ของมึงตื้นเขิน คู่แข่งตลอดกาบคืออะไร จีนกับอินเดียพึ่งทะเลาะกันเรื่องพรมแดนเพราะทิเบตไม่ถึง 100 ปีเอง ก่อนหน้านั้นก็คบกันด้วยดีมาตลอด ไม่มีความเป็นคู่แข่งเลย เพราะห่างไกลกันเกินไป และก่อนหน้าโมดีสมัย 2 จีนกับอินเดียก็มีความสัมพันธ์อันดีกันมาก มีความร่วมมือมากกว่าการแข่งขันด้วยซ้ำ เพราะเขตอิทธิพลไม่ทับกันมาก

ส่วนเรื่องจิ้มก้องมันเพราะพิธีการค้ากับจีน ส่วนอินเดียไม่มีระบบรวมศูนย์ตรงๆ แบบนั้น มีระบบการค้าขายเสรีกว่ามาก และที่สำคัญคือมี east india company เป็นตัวกลางมาตั้งแต่ก่อนเป็นอาณานิคมของอังกฤษอีก เลยไม่ต้องมีระบบจิ้มก้องแบบจีน

มึงน้อยใจเพราะความรู้มึงน้อย ถึงคิดว่าคนอื่นไม่เคยเด่น ทั้งที่ชาติอื่นก็เคยโดดเด่นมาก่อน แต่ถ้ามึงจะเชื่อแบบนั้นก็ตามใจ ถ้ามึงไม่คิดจะเปลี่ยนความคิด ไม่มีใครเปลี่ยนมึงได้อยู่แล้ว

702 Nameless Fanboi Posted ID:QBxnED/2Bc

>>701 กูไม่ใช่เม้นที่เถียงกับมึงนะ แต่เห็นพูดถึงจิ้มก้องเป็นพิธีการค้าขอถามหน่อยละกัน ปทอื่นๆนอกจากไทยที่ส่งจิ้มก้องนี่มันเอาตราตั้งกับหมวกยศที่จีนให้มาใช้ในการบริหารปกครองประเทศตัวเอง หรือพยายามขอคำรับรองจากจีนเวลาเปลี่ยนแผ่นดิน หรือมีกระสันต์ส่งจิ้มก้องจนจีนบอกให้ลดๆน้อยๆหน่อยอะไรพวกนี้ด้วยไหมวะ

703 Nameless Fanboi Posted ID:A7rbBdwyVc

>>702 ไม่ใช่>>701นะ จิ้มก้องนี่มันแค่เอาไว้ให้มีสิทธิผูกการค้ากับจีนเฉยๆ เพราะการค้าสมัยก่อนส่วนใหญ่เป็นการค้าปิด(แบบผูกขาด?) คือมันก็มีการค้าแนวๆเสรีอยู่บ้าง แต่ก็เป็นแค่บางราชวงศ์ และครั้งที่จีนมายุ่งกับแถวนี้จริงๆก็ตอนสมัยมองโกลยกทัพเรือมาบุกอินโดมั้ง

704 Nameless Fanboi Posted ID:QBxnED/2Bc

>>703 คนที่เป็นฝ่ายส่งก็อ้างได้เพราะไม่อยากถูกมองว่าเมืองขึ้น แต่ในเวลานั้นจริงๆก็เชื่อยากนะว่าจะไม่รู้ว่ามันมีนัยของการยอมรับว่าจีนมีอำนาจเหนือกว่า ของไทยเองก็ดูกระตือรือร้นมากๆ กูถึงถามไงว่าความกระตือรือร้นของไทยนี่เป็นเรื่องปกติของที่อื่นด้วยรึเปล่า ไม่เข้่าใจว่าถ้าแค่ค้าขายกันทำไมเอาตราตั้งของเค้ามาใช้ในราชการของตัวเองด้วย

705 Nameless Fanboi Posted ID:WNDem4.UZc

>>702 เชียงรุ้ง แสนหวี ฯลฯ

706 Nameless Fanboi Posted ID:GPWidftVc9

>>702 แล้วไทยเอาตราตั้งกับหมวกยศมาใช้ตอนไหน นอกจากรูปภาพแล้วนึกไม่ออก

707 Nameless Fanboi Posted ID:A7rbBdwyVc

>>704 สมัยนั้นระบบการค้าถูกผูกขาดโดยราชสำนัก คือถ้ามึงมีตรามึงค้าจีนได้ สมมุติลพบุรีแข็งข้อขึ้นมา แต่ล้มอยุธยาไม่ได้และไม่ได้ส่งทูตไปจีน อยุธยา(ที่มีตรา)ก็มีสิทธิค้ากับจีนแต่เพียงผู้เดียว(ลพบุรีไม่มี) และอย่างที่กูบอกจีนมันไม่ได้มาคิดจะยุ่งแถวนี้โดยตรงอยู่แล้ว(เว้นพม่ากับเวียด)ดังนั้นการที่จะตกเป็น"เมืองขึ้น"ก็เป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะแถบสุมารตรา,ชวา ที่ส่งทูตให้จีนเพื่อให้จีนยอมรับสิทธิในการค้ากับอาณาจักรของตนโดยเฉพาะ(ซึ่งมันก็จะมีการเมืองภายในและระหว่างอาณาจักรมาเอี่ยวด้วย) ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งที่ส่งไปคือเป็นการยอมรับอำนาจจีนอย่างที่มึงบอกนั้นแหละ ไอความกระตือรือร้นของไทยเป็นเรื่องปกติของที่อื่นไหมยังไงกูไม่รู้

708 Nameless Fanboi Posted ID:L7+Gg5kwKh

มึงนิยามคำว่า เมืองขึ้น เหมือนกันรึเปล่าเหอะ
ระดับของเมืองขึ้น ก็มีอยู่นะ

709 Nameless Fanboi Posted ID:GPWidftVc9

>>707 ที่ไทยกระตือรือล้นเพราะตั้งแต่สมัยก่อนไทยเป็นฮับแลกเปลี่ยนสินค้าหลักในภูมิภาค ในสมัยอยุธยากำลังทหารไทยมักสู้พม่าไม่ได้ แต่เรื่องเงินทองนั้นกินขาด เวลาฝรั่งมาติดต่อการค้าที่ไทยก็เพราะต้องการแลกเปลี่ยนสินค้าจีนและสินค้าอื่นๆ เพราะในั่งติดต่อจีนโดยตรงไม่ได้ พอหลังสงครามฝิ่นที่ฝรั่งค้าขายกับจีนโดยตรงได้แล้ว การทำจิ้มก้องเพื่อเป็นตัวแทนการค้าก็ไร้ประโยชน์ นี่เป็นสาเหตุหลักที่ไทยยกเลิกจิ้มก้อง เพราะมันหมดประโยชน์แล้ว

แคว้นอื่นโดยรอบไม่ได้กระตือรือล้นเท่าไทยเพราะขนาดเศรษฐกิจ ไทยมีกำลังผลิตข้าวซึ่งเป็นสินค้าที่จีนต้องการมากจนส่งออกได้ไม่จำกัด รัฐอื่นโดยรอบเล็กกว่าไทยมาก และผลิตข้าวหรือสินค้าอื่นๆ ได้ไม่มากเท่า จีนเลยให้ความสำคัญกับไทยมากกว่า

710 Nameless Fanboi Posted ID:WNDem4.UZc

>>707 งั้นประเทศราชที่ส่งดอกไม้เงินดอกไม้ทองตามกำหนดก็ไม่ใช่”เมืองขึ้น”สินะ

711 Nameless Fanboi Posted ID:GPWidftVc9

>>710 ไทยส่ง "ตัวแทน" ไปร่วมปกครองด้วยนะ แต่จีนไม่ส่งมา

712 Nameless Fanboi Posted ID:WNDem4.UZc

>>711 มีเหรอ เอากฎหมายพระไอยการตำแหน่งนาทหารพลเรือนมาเปิดสิว่ามีตำแหน่งข้าหลวงตัวแทนส่งไปประจำหัวเมืองประเทศราชไหม

ข้าหลวงที่เข้าไปร่วมดูแลประเทศราชเพิ่งจะมีสมัยร.5 ไทยก็เลิกส่งก้องให้จีนนานแล้ว

713 Nameless Fanboi Posted ID:QBxnED/2Bc

>>709 หลังสงครามฝิ่นไม่ใช่ฝรั่งค้าขายตรงได้อย่างเดียวนิ สถานะมหาอำนาจของจีนก็หายไปโดยสมบูรณ์เหมือนกัน ประจวบเหมาะกับไทยตรัสรู้ขึ้นมาพอดีว่า "โดนจีนหลอก" เรื่องเมืองขึ้น เลยเลิกพอดี๊พอดี มันบังเอิญอะไรเช่นเนร้555 พล็อตนิยายหลอกขี้ตีนหน้าโง่

714 Nameless Fanboi Posted ID:QBxnED/2Bc

อ้าว อ่านไปอ่านมา รู้ว่าเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอกนี่หว่า ถถถ
"ครั้นทูตเก่าแลล่ามเก่าตายไปหมดแล้ว ได้ยินว่าคราวหนึ่งมีล่ามจีนเปนคนซื่อ แปลความตามฉบับหนังสือจีนที่จริง แจ้งความจริงให้ท่านเสนาบดีฝ่ายไทย ในเวลาที่ล่วงแล้วเปนลำดับมานั้น ให้รู้แท้แน่ว่า จีนกวางตุ้งดูหมิ่นดูแคลนมีหนังสือมาสั่งให้ไปก้อง คือให้ไปอ่อนน้อม ฝ่ายเสนาบดีไทยในเวลาหลังนั้น ก็นำความกราบทูลต่อพระเจ้ากรุงไทยในเวลาลำดับ ครั้นภายหลังพระเจ้าแผ่นดินไทย จะแต่งพระราชสาส์นไปกรุงปักกิ่งอีก จึงโปรดให้จัดหาล่ามจีนที่ซื่อตรง มาแปลพระราชสาส์นไทย แลหนังสือเจ้าพระยาพระคลังตามความในสำนวนไทย เขียนเปนอักษรจีนส่งออกไปกับทูตานุทูตไทย ฝ่ายพวกจีนที่เปนท่องซือใหม่ๆ นั้น ครั้นออกไปถึงเมืองกวางตุ้งก็ไม่ไว้ใจ จึงเอาความไปแจ้งแก่ต๋งตกตามสำเนาพระราชสาส์นที่ส่งไปนั้น ฝ่ายต๋งตกเขาก็โกรธทูตไทย ต๋งตกเขาไม่รับรอง เขาไล่ขับทูตไทยกลับมา โดยการขู่เข็ญว่า ถ้าจะขืนใช้หนังสือเปนอย่างใหม่นี้ ไม่ใช้เหมือนอย่างเก่าแต่ก่อนนั้น สำเภาไทยไปมาค้าขายสืบได้ความแน่แล้ว เขาจะริบเอาไว้เสียสิ้น สำเภาเมืองจีนก็จะห้ามไม่ให้ไปมาค้าขายที่เมืองไทยสืบต่อไป ครั้นพวกทูตานุทูตไทยได้ถูกขู่เข็ญดังนี้แล้ว ก็ต้องกลับมากรุงไทย แจ้งความกับเสนาบดีไทยทุกประการ ฝ่ายพวกพ่อค้าสำเภาจีนทั้งหลายในเมืองไทยนั้น บ้างมีญาติเคยไปมาค้าขายที่เมืองจีน ก็ร้องทุกข์กระสับกระส่ายขึ้นว่า ขอพระเจ้าแผ่นดินได้โปรดการเปนดังนี้

ฝ่ายเมืองไทยในเวลานั้น ไม่มีทางค้าขายกับเมืองต่างประเทศ ฝ่ายทางทะเลมีแต่เมืองจีนแห่งเดียว จึงยอมกันทำหนังสือไปตามเคย แต่ฝ่ายฉบับเปนพระราชสาส์นแท้อักษรไทยนั้น ก็ยังคงเขียนเปนอักษรไทยไปเปนทางไมตรีอย่างเดิม หนังสือสำเนาก็ต้องแขงใจข่มขืนเขียนไปเปนหนังสือจีน ข้อความนั้นก็ต้องเก็บเอาความเก่าที่ล่ามจีนหลอกลวงเขียนไว้แต่ก่อนนั้น เขียนไปให้เปนที่ชอบอัชฌาศรัยพวกจีนปักกิ่ง พระราชสาส์นแลหนังสือเสนาบดีจีนที่มีมาแต่เมืองปักกิ่งนั้น ครั้นมาถึงเมืองไทยแล้วก็เขียนอ่านให้ชอบหูไทยอย่างเช่นแปลมาแต่ก่อนนั้นเปนตัวอย่างแล้วๆ ก็เอาออกอวดกันเล่นในท้องพระโรงหลวง อ่านตามชอบใจไทย ให้เพราะหูไทยเท่านั้น คนที่โง่เง่าไม่สืบรู้เท่านั้น ก็เชื่อเอาเปนแน่แท้จริง ผู้ที่สืบรู้ก็กลั้นหัวเราะไม่ใคร่จะได้ พลอยอดสูใจไปด้วย แต่เปนการจำเปนต้องนิ่งงุบงิบเสีย เพราะไม่รู้ที่จะทำอย่างไรได้ ธรรมเนียมนี้จึงเสียสืบมาแต่โบราณมิใช่การใหม่ๆ ในปัจจุบันนี้ใครๆ อย่าพาโลทึกเอาไม่ได้"

https://www.facebook.com/groups/783674078384718/permalink/2249902398428538/

แบบนี้ก็เท่ากับว่ารู้แหละว่าที่ส่งไปนี่คือไปเป็นเมืองขึ้น แต่ก็ต้องยอมส่งจะเพราะเรื่องค้าขายหรืออะไรก็ตาม แล้วก็แต่งหนังสือภาษาไทยมาหลอกพวกเดียวกันเองว่าไม่ใช่เมืองขึ้นนะ ที่กูส่งไปคือสื่อแบบนี้นะ ก็มีความไทยๆดี

715 Nameless Fanboi Posted ID:GPWidftVc9

>>712 ประเทศราชมันมีหลายระดับ รู้มั้ยว่าตามหลักแล้วลำปางหรือโคราชก็ถือเป็นประเทศราชนะ พวกนี้มีการปกครองใกล้ชิดกว่า มียกกระบัตรไปดูแลคดีความโดยตรง แต่ถ้าไกลหน่อยก็ไม่ค่อยมีหรอก อย่างมากก็ส่งคนไปหาเป็นระยะ

>>714 จีนก็รู้ตัวนะ ติดต่อกันบ่อยขนาดนั้นไม่รู้ก็แปลก หลอกตัวเองกันทั้งคู่เพราะผลประโยชน์

นึกออกอันเดียวที่จีนไม่ยอมแกล้งโง่คือกับญี่ปุ่นที่ใช้ตำแหน่งเสมอเหรอเหนือกว่าจีน คือใช้คำว่าเทนโน=ราชาสวรรค์ กับยกกลอนมาเทียบเท่าจีน จีนไม่ยอม กับเรื่องโชกุนที่จีนถือว่าเป็นกบฏต่อบัลลังก์ ญี่ปุ่นถึงไม่ค่อยได้จิ้มก้องจีน ญี่ปุ่นก็เลยปล้นแทน

716 Nameless Fanboi Posted ID:WNDem4.UZc

>>715 มั่วอีก หัวเมืองประเทศราชส่งต้นไม้เงินต้นไม้ทองมีอค่
“ เมืองนครหลวง (กัมพูชา) ศรีสัตนาคนหุต เชียงใหม่ ตองอู เชียงไกร เชียงกราน เชียงแสน เชียงรุ้ง เชียงราย แสนหวี เขมราช แพร่ น่าน ใต้ทอง โคตรบอง แรวแกว อุยองตะหนะ มะละกา มลายูและวรวารี”

โคราชกับลำปางหลุดมาจากไหน อยู่ดีๆก็ยกไปให้เป็นประเทศราช จะกบฏเหรอมึง

717 Nameless Fanboi Posted ID:QBxnED/2Bc

>>715 อ้างอิงจากไหนว่าจีนรู้ตัว ถ้าจากที่กูแปะมานั่นจีนที่รู้ตัวคือระดับขุนนางนะ ระดับฮ่องเต้หรือพวกส่วนกลางอำนาจมันก็นึกว่าไทยส่งมายอมเป็นเมืองขึ้นเหมือนเดิมตลอดตั้งแต่แรก แล้วมันก็เขียนชัดเจนว่าพวกจีนให้ความสำคัญกับอันที่เป็นฉบับแปลจีน แล้วไทยต้องยอมทำตามฝั่งจีน จะมาโมเมว่าเหมือนกันทั้งคู่ได้ไง

718 Nameless Fanboi Posted ID:GPWidftVc9

>>716 มึงลืมไปรึเปล่าว่าสมัยก่อนร.5 ลำปางถือเป็นของล้านนา ไม่ใช่กรุงเทพ ส่วนโคราชเคยเป็น แต่ก็ถูกกลืนตั้งแต่อยุทธยาแล้ว

"ในส่วนที่เหลือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มปฏิรูปการปกครองโดยการรวมเมืองประเทศราชทางเหนือ เช่น นครเชียงใหม่, นครน่าน, นครลำปาง, นครลำพูน, แพร่, เถิน เข้าเป็นมณฑลลาวเฉียง"

http://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=หัวเมืองประเทศราช_(บุญยเกียรติ_การะเวกพันธุ์_และคณะ)

>>717 ใช่ ที่รู้ตัวนะระดับขุนนาง แต่ถ้าจะบอกว่าฮ่องเต้ไม่นะแคะระคายเลยก็เหมือนจะดูถูกสติปัญญาไปหน่อยมั้ง เจ้าหน้าที่ส่วนกลางที่เคยผ่านงานการท่ามาก็มี เพราะเมืองท่าสมัยนั้นเป็นเมืองใหญ่ ต้องมีขุนนางชั้นสูงคอยไปดูแลประจำ

719 Nameless Fanboi Posted ID:WNDem4.UZc

>>718 ก็ใช่ไง โคราชเป็นเมืองพระยามหานคร ผู้ครองเมืองแต่งตั้งจากส่วนกลาง มีเบี้ยหวัดเงินปีจากส่วนกลาง มึงจะเอาไปเทียบกับประเทศราชที่ส่งดอกไม้เงินดอกไม้ทองอย่างเดียวได้ไง

เอาเฉพาะยุคที่สยามยังส่งก้องให้จีนนะ ตรรกะของมึงคือ
- สยามส่งก้องให้จีน ไม่ถือว่าเป็นเมืองขึ้น
- ประเทศราชส่งดอกไม้เงินดอกไม้ทองให้สยาม ถือว่าเป็นเมืองขึ้น

ลักลั่นฉิบหาย

720 Nameless Fanboi Posted ID:QBxnED/2Bc

>>718 งานในปทตัวเองก็เยอะอยู่แล้วนะฮ่องเต้เนี่ย จะบอกว่ารู้ตัวหรือระแคะระคายควรจะมีหลักฐานนะ เอาแค่หลักฐานว่าฮ่องเต้มาใส่ใจกับเนื้อหาของสาส์นภาษาต้นฉบับของพวกอ๋องของรัฐบรรณาการก็ยังดี ถ้าดูจากหลักฐานฝั่งไทยนี่เอาแค่ไทยโดนเข้มงวดเรื่องเนื้อหาเฉพาะฉบับที่แปลเป็นภาษาจีนนี่ ก็น่าจะชัดเจนนะว่าฮ่องเต้่ไม่ได้สนใจเนื้อหาของสาส์นเวอร์ชั่นภาษาไทยหรอก

721 Nameless Fanboi Posted ID:GPWidftVc9

>>719 โคราชกูผิดเอง แต่ลำปางนี่ถือเป็นประเทศราชได้อยู่นะ เพราะตามหลักตอนนั้นก็ไม่ใช่ของสยามจริงๆ

ถ้าแค่จุดนั้นยังไม่พอ งั้นเรื่องอำนาจสั่งการละ ประเทศราชของไทยนอกจากส่งต้นไม้ดงินต้นไม้ทองแล้วยังมีหน้าที่เหมือนระบบฟิวดัลด้วย คือส่งของและคนเมื่อถูกร้องขอ จีนไม่มีอำนาจนี้นะ ไม่เคยร้องขอด้วย เพราะจีนถือเป็นลูกพี่ ต้องปกป้องลูกน้องมากกว่าให้ลูกน้องปกป้อง สงครามอิมจินเป็นตัวอย่างหนึ่ง

722 Nameless Fanboi Posted ID:QBxnED/2Bc

>>721 ไม่ร้องขอกับไม่มีอำนาจร้องขอมันคนละเรื่องกันเลยนะ เท่าที่อ่านดูเหมือนจีนไม่ได้สนใจจะยุ่งกับพวกที่อยู่ไกลอยู่แล้วมากกว่า

"ทั้งนี้โดยปกติจีนก็ไม่ค่อยเข้าไปยุคเกี่ยวกับเรื่องภายในของรัฐต่างๆ อยู่แล้วหากไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน นอกจากประเทศราชใกล้ชิดที่อยู่ใต้ปกครองจีนโดยตรงอย่างโชซอนหรือไดเวียต สำหรับรัฐอย่างสยามแม้ว่าจีนจะส่งตราตั้งกับหอง (封) มาให้เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเป็นเจ้าอธิราชที่เหนือกว่าสามารถออกคำสั่งแต่งตั้งกษัตริย์รัฐอื่นได้ แต่ในทางปฏิบัติจีนก็ไม่เคยมาควบคุมการเมืองรัฐที่ห่างไกลอยู่ดีครับ

กษัตริย์ตั้งแต่สมัยอยุทธยาจนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้นก็ไม่ปรากฏจะมองว่าการยอมรับอำนาจจีนเป็นเรื่องเสียศักดิ์ศรีแต่ประการใด (พิจารณาจากหลักฐานต่างๆ แล้วน่าเชื่อว่ากษัตริย์สมัยโบราณรู้ว่าจีนมองไทยในฐานะประเทศราช จากการที่ต้องส่งพระราชสาส์นขอตราตั้งเสมอเมื่อผลัดแผ่นดิน ไม่ใช่เรื่องจีนแปลงพระราชสาส์นตามที่รัชกาลที่ ๔ บอกอย่างเดียว) เพราะจีนถือเป็นมหาอำนาจใหญ่ในภูมิภาค นอกจากนี้สิทธิประโยชน์ทางการค้าในระบบกับของตอบแทนที่จักรพรรดิพระราชทานตอบแทนให้ตามธรรมเนียม ได้กำไรมูลค่าสูงกว่าบรรณาการที่ส่งไปหลายเท่า ในสมัยอยุทธยาถึงรัตนโกสินทร์จึงนิยมส่งบรรณาการไปให้จีนมากแทบทุกปี จนจีนถึงกับออกคำสั่งให้มาส่งแค่สามปีต่อครั้งก็พอ" https://pantip.com/topic/38989268

723 Nameless Fanboi Posted ID:WNDem4.UZc

>>721 อ้อ สยามไม่เคยสงครามทวงก้องแบบพม่าหรือล้านนา ไม่เคยโดนจีนเกณฑ์ไปรบแบบเมืองไทใหญ่ในรัฐฉาน เลยจะว่าจีนไม่มีอำนาจสั่งการ เหรอ

จีนสั่งให้มลายูเลิกโจมตีสยาม ให้สยามเลิกโจมตีมะละกา จะสั่งให้กองทัพสยามร่วมโจมตีพม่า ก็ชัดเจนว่าในลำดับความสัมพันธ์คือสยามเป็นเบ๊

ถ้าบอกว่าสยามไม่ทำตามก็ได้ ประเทศราชก็เหมือนกัน จะไม่ทำตามก็ได้ แค่จะโดนคิดบัญชีย้อนหลังหรือเปล่า

ลำปางมึงไม่ควรยกมาเปรียบตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเป็นแค่”ส่วนหนึ่งของประเทศราช” สยามก็ไม่เคยส่งข้าหลวงไปประจำที่ลำปางก่อนยุคร.5

724 Nameless Fanboi Posted ID:fxTqv35Xtl

ไม่ยุ่งเพราะไทยมันไกลปล่าว ไม่ใช่ไม่ยุ่งเพราะไม่อยากยุ่ง กุว่าเราต้องนึกถึงบริบทยุคนั้น ที่ต้องเดินทางไกล นั่งเรือเป็นเดือนๆ ด้วยนะ การติดต่อ สื่อสาร ไม่ใช่ง่ายๆ เข้าใจไม่ตรงกันเยอะแยะ

725 Nameless Fanboi Posted ID:FMJo71NZwF

ม โ น แ จ่ ม

726 Nameless Fanboi Posted ID:7wjbyYJghN

ไม่ใช่ว่ามันมีซักสมัยนึงที่ไทยส่งไปก้องอย่างบ่อย จนทูตจีนต้องสะกิดว่าพอแล้วไอ้สัส กูไม่อยากส่งของตอบแทนคืนเยอะ เพราะจีนในฐานะ”พี่ใหญ่”เวลาได้ของขวัญจากน้องๆเอเชีย ต้องส่งของขวัญที่มีค่ามากกว่ากลับไปเพื่อโชว์ป๋า สยามแม่งจับทางได้เลยกระหน่ำส่งไปก้องรัวๆ

727 Nameless Fanboi Posted ID:EhRbOKo80H

>>724 ไม่ยุ่งเพราะลงมาไม่ได้ สมัยนั้นเคยมีลองเอาทหารเดินเท้าลงมาสุดท้ายไข้ป่าแดกตายซะเยอะ โซนนี้สมัยก่อนมีแต่ป่า ที่ราบก็มีน้อย น้ำท่วมบ่อยอีก ใช้ประโยชน์อะไรแทบไม่ได้ อีกอย่างสมัยก่อนเจ๊กมันก็มองแถว Sea ตอนล่างว่าเป็นที่อยู่ของคนป่า

728 Nameless Fanboi Posted ID:E/5zR5PP9e

>>727 ถ้าอยากจะมาก็มาได้ กองเรือเจิ้งเหอแวะมาจอดที่อยุธยาหลายครั้ง หมิงยกทัพมาทวงก้องจากล้านนากับพม่า

เรื่องไข้ป่านี่ชอบอ้างกัน แต่ไม่ได้เทพตามที่อ้างหรอก ยาArtesunateที่เป็นมาตรฐานรักษามาลาเรียก็มาจากการศึกษาสูตรยาจีนที่ใช้รักษาไข้ป่า เจอว่าสูตรที่ใช้โกฐจุฬาลัมพา(ชิงเฮาซู)รักษาได้ผลดี

729 Nameless Fanboi Posted ID:uEpi7s9cG1

>>728 แล้วไอ้โกฐจุฬาลู๋เหี้ยอะไรของมึง มันเลี้ยงทั้งกองทัพได้ไหม? ไหนจะทั้งฤดูน้ำหลากอีก ถ้ามึงสังเกตดูดีๆแถวนี้เวลาทำศึกรุกเดินทัพไกลๆ แม่งไม่ค่อยทำช่วงฤดูฝนกัน แล้วมึงลองยกตัวอย่างครั้งไหนที่จีนยกทัพเรือลงมาอินโด,สุมาตรา,มลายูแล้วประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ได้เอาทัพมาละลายเล่นๆ?

730 Nameless Fanboi Posted ID:hgEpQQDsuU

>>729 มึงพูดจากยุคนี้ก็พูดได้ว่าไม่มีทาง แต่ถ้ามึงเป็นเจ้ายุคนั้นมึงจะรู้ได้ไงว่าจีนจะทำได้หรือทำไม่ได้ ที่จริงกูว่าทำได้หรือไม่มันไม่ใช่ประเด็นด้วยซ้ำ ในเมื่อรู้ว่าส่งก้องคือยอมเป็นเมืองขึ้นแล้วเต็มใจส่ง มันก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงอ่ะ

731 Nameless Fanboi Posted ID:5xP7vl16WI

ผมเข้าสู่วงการดาต้าไซได้ไม่นาน วันก่อนทำkaggleใช้ pytorch ได้เหรียญทองแดง จึงไปปรึกษามิสเตอร์พีเซียนดาต้าไซประจำdiscord
"มิสเตอร์พี กูสร้างโมเดลdeeper learningที่บ้านแข่งkaggle ถ้าใช้มือถือถ่ายรูปหน้าจอและอัพโซเชียล กูต้องได้รับการยอมรับจากผู้คนแน่นอนเลยว่ะ"
"เฮอะ ปลายแถวในวงการอย่างพี่ มันขี้ขลาดเสียจนต้องอาศัย framework ระดับ pytorch เป็นเกราะกำบังความอ่อนหัดของตัวเองเลยหรอ พี่นั้นมันคงเปื้อนเปรอะไปด้วยมายาคติด้วย ANN, CNN, RNN และมันก็คงจำกัดการรับรู้ของพี่อยู่ที่ Architecture แมสๆ อย่าง ทรานฟอเมอร์, เรสเน็ต, หรือ โยโล่ สินะ ลำพังแค่ XGboost ก็คงทำให้พี่ระริกระรี้และหลงลำพองตนไปหลายวัน โดยไม่มีสักเศษเสี้ยว ที่กระตุ้นให้พี่เกิดการสันดาปทางปัญญา เริ่มค้นหา classic ML มาบ่มเพาะฝีมืออย่าง elasticnet, catboost หรือ decision tree หาผ่านการทำ feature engineering ที่เหมาะสมก็จะกลายเป็นโมเดลระดับพระกาฬ พี่เคยได้รู้เรื่องพวกนี้ไหมหรือหมดเวลาไปกับการดูถูกโมเดลข้างทางของชาวบ้านชาวช่องเขา ผมที่เติบโตมากับหนังสือMachine Learning! for Babies & Toddlers ตั้งแต่หกเดือน ออก vim เป็นตั้งแต่สองขวบ เห็นความจอมปลอมของพี่ก็ได้แต่ละเหี่ยใจ เพราะเราต่างรู้ดีว่า แท้จริงแล้ว พี่มันก็แค่กากเดนชั้นสวะของstackoverflowเท่านั้นเอง"
"มิสเตอร์พี ทำไมมึงต้องเบียวกูด้วยวะ"
"ผมไม่ได้เบียว แต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับเนื้อแพนด้าสและpower point"
#จบ #ออกจากวงการ

732 Nameless Fanboi Posted ID:5xP7vl16WI

ผมเพิ่งเข้าสู่วงการ Psychoanalysis ได้ไม่นาน วันก่อนเพิ่งได้อ่าน The interpretation of dream จบ จึงไปปรึกษาต้นกล้า ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิเคราะห์ประจำสายงาน
"ต้นกล้า กูเพิ่งอ่าน The interpretation of dream ของ freud จบ ถ้ากูเขียนบทวิพากษ์ลงโซเชี่ยลกูต้องได้รับการยอมรับการยอมรับจากคนในวงการแน่ๆ"
"เฮอะ พี่คิดว่าการวิพากษ์บุรุษผู้ให้กำเนิดจิตวิเคราะห์แล้วพี่จะเก่งซะเต็มประดาสินะ พี่มันก็แค่พวกใช้สติปัญญามาโอ้อวดตนเอง หวังใจไว้ให้แค่บทวิพากษ์​ไม่กี่พารากราฟจะเป็นหลักฐานแห่งการประสบความสำเร็จในสายวิชาการ กลไกป้องกันทางจิตของพี่จึงวนเวียนอยู่กับ intellectualization และ rationalization พี่เจ็บปวดเกินกว่าจะ confront จิตไร้สำนึก ถามหน่อยชีวิตปัจจุบันพี่ก็ไม่พ้นการศึกษาจิตวิทยาสาย behaviorism หรือ positive psychology หวังว่าจะสร้างคำพูดสวยหรูเหมือนดังโค้ช หรือพวก cult leader เพื่อที่จะให้คนยกยอปอปั้น กดไลค์ กดแชร์ มีชื่อเสียงในโซเชี่ยลสินะ"
" ระ รู้ได้ไง"
" เฮอะ เดาไว้ไม่มีพลาด คาดไว้ไม่มีผิด คิดไว้ไม่มีเพี้ยน ตัวตนของพี่มันช่างน่าเวทนา ลึกลงไปในใจพี่ พี่ก็ยังคงเป็นแค่เด็กชายลอย ที่ไม่สามารถทำความเข้าใจ oedipus complex ได้ พี่ยังคง fixed อยู่ในขั้น oral state ของ psychosexual development จนต้องใช้กลไกทางจิตแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้ตัวเองไม่จมลงไปใน death instinct ผมถามหน่อยพี่มี หนังสือ how to ด้วยใช่ไหม"
" มะ มะ มี"
" แล้วพี่เคยศึกษาพัฒนาการของจิตวิเคราะห์บ้างหรือเปล่า attachment theory ของ melanie klein ไปจนถึง jacques lacan หรือพี่แค่ใช้ชื่อฟรอยด์ เพื่อมาบอกให้คนอื่นฟังว่ากูก็ศึกษาจิตวิเคราะห์ ยอมรับซะเถอะว่าพี่กำลังใช้ defense mechanism เดิมๆซ้ำซากอันเป็นต้นเหตุของ psychosis symtom วันไหนที่พี่เจ็บปวดจนเกินจะรับไหวกับ conflict ระหว่าง id และ super ego พี่ก็ใช้กลไก repression เพื่อเก็บกดความเจ็บปวดของการไม่ได้รับการเติมเต็มนั้นไว้ หากพี่ไม่สะเออะมาขอความคิดเห็นจากผมที่อ่าน the ego and the id, the principle of pleasure และศึกษา slips of the tongue มาด้วยตนเอง จิตวิเคราะห์เป็นมากกว่าทฤษฎี​ หากพี่มองลึกลงไปพี่จะเห็นความความเจ็บปวดของมนุษย​์ที่เกิดจากการกดทับของค่านิยม โครงสร้างทางสังคม แต่พี่คงไม่มีปัญหาสัมผัสอัจฉริยภาพ​ของผู้คิดค้นทฤษฏี​นี้ทำทำให้โลกมองว่าความเจ็บป่วยทางจิตสามารถรักษาได้ ถึงพี่จะมองว่าตนเป็นผู้เชี่ยวชาญเช่นใด พี่มันก็แค่กากเดนของวงการเท่านั้น"
" ต้นกล้า กูแค่อยากมีความสุข ทำไมมึงต้องเบียวกูด้วยวะ"
" ผมไม่ได้เบียว แต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับจิตวิเคราะห์​"
#จบ #ออกจากวงการ

733 Nameless Fanboi Posted ID:5xP7vl16WI

ผมพึ่งเข้าสู่วงการเดินป่าได้ไม่นาน ทริปก่อนใช้
Zpacks Duplex special color มาลอง วันนี้เลยไปปรึกษาต้นกล้า เซียนเดินป่า ประจำออฟฟิศ
“ต้นกล้า กูซื้อ Zpacks มาลอง เห็นว่าเป็นสุดยอดเต้นท์เดินป่าสายแบก กรูฟังจากรุ่นใหญ่ใน page แนะนำกรูมา ถ้ากูถ่ายภาพเต้นท์ กับเขาช้างเผือก และโพสลงโซเชียล กูต้องได้รับการยอมรับจากคนอื่นแน่นอน”
“เฮอะ คนเจตนาไม่บริสุทธ์อย่างพี่ ย่างกรายไปป่าที่ไหน ก็รังแต่จะทำให้ยอดเขานั้นแปดเปื้อน ศึกครั้งนี้เห็นทีผมจะต้องปกปักษ์ดินแดนแห่งนี้แล้วสินะ”
“มะ มึงพูดเรื่องอะไร มันไม่มีอะไรเลย กูแค่อยากดื่..”
“แต่ครั้นจะให้หยิบ เต้นท์ Naturehike Mongar2 เจ้าตลาด พี่ก็หวั่นเกรงการตัดสินจากคนอื่นใช่ไหม พี่เลยเสิร์จหา เต้นท์ แพงๆ สตอรีดูเท่แล้วก็กดหยิบใส่ตะกร้า”
"ระ รู้ได้ไง"
"เฮอะ เดาไว้ไม่พลาด คาดแล้วไม่ผิด ละอองฝุ่นหวิวโหวงอย่างพี่ มิติชีวิตมันก็ตื้นเขินประมาณนี้แหละ พี่ไม่ได้เลือกเต้นท์ เพื่อตัวเองด้วยซ้ำ แต่เลือกเพื่อสายตาของคนอื่น
ตอนมหาลัยปีหนึ่ง ผมเดาว่า พี่คงเห่อเหิมอิสรภาพช่วงส่ง project หมาดๆ รวมตัวกับเพื่อน กระสันและเสือกตัวเองไปภูกระดึง โบกรถ แบกกีตาร์ นุ่งกางเกงยีนต์ พร้อมเหล้าสี
จากนั้นก็เพียรพยายาม ที่จะเอาทุกสิ่งขึ้นไปบนยอด เพื่อปลอบประโรมความเหนื่อยล้าจาก การเรียน
นั่นคงทำให้เด็กชายที่กระสันธรรมชาติแบบพี่ รู้สึกเติบโตและแมนมากเสียเต็มประดาเลยสินะ สารัตถะของพี่มันช่างน่าสำรอก"
"มะ ไม่จริง"
“สันดาน toxic masculinity อย่างนี้ มันตามตัวพี่ดั่งเงามาจนถึงขวบวัยปัจจุบัน เวลาพี่ไปร้าน outdoor พี่จะหยิบ แต่สินค้าตัว Top นอกกระแส หรือ New items แปลกๆ มานั่งข่มใจเพื่อให้คนอื่นรู้สึกว่า พี่เสพ”ของแร”
ทั้งที่ตอนอยู่บ้าน พี่ก็แค่มีความสุขกับ เนสกาแฟ และเปิดแอร์ 24 นั่นไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรเลย ความใคร่อยากในเสียงชื่นชมโสมนัสในความลึกจอมปลอมของพี่ต่างหากที่ผิด น่าเศร้าชะมัดที่พี่ใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อแค่แก้โจทย์ว่า ตัวฉันนั้นลึกกว่าคนอื่น
ตัวฉันก็เป็นผู้ชายร้ายและ rough เหมือนกัน นี่สินะคงเป็นเหตุผลให้พี่เริ่มเดินป่า สักมินิมอลที่แขน และเปิด page ภาพซีด พี่แค่ต้องการจะ unnerd ตัวเองเท่านั้นเอง พี่หารู้ไม่ว่า ไม่เคยมีใครมาหมกหมุ่นตัวตนของพี่ขนาดนั้นตั้งแต่แรก
เพราะในขณะที่พี่กำลังกางเต้นท์ตัวลึกของพี่ มันก็แค่ละครประโลมโลก
ผมได้ไปพิชิต ยอดโกบาราซี กับพ่อตั้งแต่ อายุ15 ขณะที่พี่ยังกำลัง หรี่หญิง ด้วยกีตาร์ บนภูกระดึง
ผมกำลังเปิดทัวร์ เพื่อพาคนไปพิชิตยอดเขาเล็กๆ นอกกระแส ในเมืองไทย รับแต่พวกหักกระทิ ไม่ใช้เอาพวก แบกไดโนเสาไปถ่ายรูป บนม่องจอง
ในขณะที่พี่เดินเข้าห้างและหลงระเริงกับร้านอุปกรณ์นอกกระแส ทุนนิยมสามานต์ที่ล้างสมองชนชั้นกลางค่อนสูงว่า เต้นท์ยิ่งแพงยิ่งดี
ผมกลับเดินทางไปตามเทือกเขาเล็กๆ ที่ไม่มีคนรู้จักทั่วประเทศเพื่อสะสมความรู้ให้เท่าทวี
เพราะ”การเดินป่า”คือ การเข้าใจวิถีธรรมชาติเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่น เราควรจะมีโครงการ OTOT one tumbon one trail ด้วยซ้ำ
ประทับถ้อยคำของผมใส่กระโหลกหนักหนาของพี่ไว้ไม่ให้เคลื่อนคล้อยว่า การเดินป่า ต้องเป็นของทุกคนและทุกคนต้องการสนามแข่งขันที่ผ่าเผยสง่างาม
เส้นทางเดินป่าบ้านเรา สวยงามระดับโลก ควรยืดอกในความเป็นไทย ไม่ใช่ประเทศเพื่อนบ้าน เรื่องพวกนี้พี่ไม่กังขาเลยใช่ไหม
กฏ อช. ฉบับใหม่ ปี 2560 พี่ได้อ่านหรือเปล่า ไม่สินะ ถ้าเช่นนั้น ผมคงไม่อยากเสียเวลาสนทนาไปมากกว่านี้
แม้ เพราะ
พี่หลงคิดว่าตัวเองเซียนเดินป่าเพียงใด แท้จริงแล้วพี่ก็แค่กากเดนชั้นสวะของวงการเท่านั้นเอง"
"ต้นกล้า กูแค่อยากมีความสุข ทำไมมึงต้องเบียวกูด้วยวะ"
"ผมไม่ได้เบียว แต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับ Trail"
#จบ #ออกจากวงการ
Born on the trail

734 Nameless Fanboi Posted ID:5xP7vl16WI

ผมพึ่งเข้าสู่วงการกันพลาได้ไม่นาน วันก่อนพึ่งได้ คีมตัด godhand ultimate nipple มา เลยนำไปปรึกษาต้นกล้า เซียนกันพลาประจำออฟฟิศ
"ต้นกล้า กูพึ่งได้ godhand ultimate nipple​มา ถ้ากูถ่ายรูปแล้วอัพลงโซเชียล กูต้องได้รับการยอมรับจากคนในวงการแน่ๆ"
"เฮอะ พี่คิดว่า มี godhandมาประดับโต๊ะแล้วจะสูงส่งเสียเต็มประดาสินะ พี่มันก็แค่พวกใช้เครื่องมืออวดโอ้ตัวเอง หวังใจแค่ให้อุปกรณ์เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ต่อชาวโลกว่าฉันก็ประสบความสำเร็จในวงการนะ วัฏสงสารของพี่ มันเลยเวียนว่ายขายเทรดกับแค่ HG, MG ไม่ก็ PG พี่เล่นแต่ตัวแมสๆเพราะพี่ขลาดเขลาเกินที่จะก้าวพ้นดงดานแห่งรสนิยมสาธารณ์ ผมถามหน่อย พี่จะถอยBMC ใช้ปากกาtamiya และแค่ต่อดิบใช่ไหม แล้วเป้าหมายเดียวของชีวิตพี่มีแค่ ถ่ายรูป ทำรีวิวโง่ๆ สร้างเพจ ลงเฟสบุ๊ค​ลงยูทูป เพื่อที่จะได้รู้สึกว่าเป็นที่รู้จักเชิดหน้าชูตาในวงการใช่ไหม
"ระ รู้ได้ไง"
"เฮอะ เดาไว้ไม่พลาด คาดไว้ไม่ผิด คิดไว้ไม่เพี้ยน ตัวตนของพี่มันช่างน่าพะอืดพะอม ลึกลงไปในใจ พี่ก็ยังเป็นแค่เด็กชายธนชาติ ผู้เรียกร้องความเห็นชอบจากโลกและความเห็นดีจากคนรอบตัว พี่คือมนุษย์ชำรุดที่กำลังจมดิ่งลงไปสู่บาดาลแห่งความ insecure จนต้องเอาคุณค่าและเรื่องเล่าของพวกนี่ มาเป็นเสื้อชูชีพ พยุงตัวตนที่ประกอบสร้างจากเศษเดนความจอมปลอมให้ลอยพะงาบพ้นผิวน้ำ ผมถามหน่อย พี่มี HG Dendrobium ด้วยใช่ไหม"
"มะ มี"
"แล้วพี่เคยได้ทำตัวให้มานะและอุตสาหะสอดคล้องกับ การหา Hg Neozeog กับวงแหวนที่เป็น P-bandai ไหม หรือพี่แค่ซื้อ Dendobium มาเพื่อเล่าให้คนอื่นฟังว่า ฉันมี HG ในตำนาน ยอมรับซะเถอะ กันพลาคือเครื่องสะท้อนความหวั่นไหวประจำวันของพี่ วันไหนพี่รู้สึกว่าตัวฉันอ่อนแอปวกเปียก พี่ก็เอา ปากกาทามิย่า หรือ planel line มาทำหลังต่อดิบแล้วก็แตก รสนิยมตัวฉันไม่ค่อยวิไล พี่ก็ต่อดิบไม่ตัดเส้น ไม่เล็มเกจแล้วก็ออกไปถ่ายลงเพจรีวิวจำอวดให้โลกชม ออกไปดูหมิ่นถิ่นแคลนคนอื่นที่ซื้อกันพลามาประกอบ ก่อนจะกลับมาเคว้งคว้างและตั้งคำถามกับตัวเองในยามค่ำคืน ท้ายสุดก็ระงับความเจ็บปวดนั้นด้วยการเปิดเวป dalong.net และหาซื้อนกันพลาใหม่สนองตัณหา พร้อมหลอกตัวเองว่า มันคือการลงทุน ทั้งหมดทั้งมวล มันก็ไม่ผิดอะไร ถ้าพี่ไม่ริสะเออะมาขอความเห็นชอบจากผม เพราะสำหรับผม คนที่ เล่นกันพลาเป็นตั้งแต่อายุสิบสองขวบ กันพลาเป็นมากกว่าเครื่องมือเสริมบารมี ถ้ามองลึกลงไป พี่คงไม่เคยสัมผัสปัญญาและอัจฉริยะภาพพวกนี้เลยสินะ เช่นนั้นแล้ว ถึงพี่จะลำพองตนว่าเป็นเซียนกันพลาเพียงใด พี่มันก็แค่กากเดนชั้นสวะของวงการเท่านั้นเอง"
"ต้นกล้า กูแค่อยากมีความสุข ทำไมต้องเบียวกูด้วยวะ"
"ผมไม่ได้เบียว แต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับกันพลา"
#จบ #ออกจากวงการ

735 Nameless Fanboi Posted ID:uEpi7s9cG1

>>730 "เมืองขึ้น"ในทางทฤษฎีหรือปฎิบัติ? ตราบใดที่ยังมีอำนาจของตนเต็มที่แม่งก็ไม่สนหรอก การส่งก้องอะไรนั้นก็เพื่อผลประโยชน์เหมือนอย่างที่จีนสั่งให้ทำนู่นนี้ ถ้ามีไทยมีผลประโยชน์ร่วมด้วยคงทำตามอยู่แต่ถ้าไม่มีผลประโยชน์ร่วมก็ตีมึนทำอือๆอาๆไป มึงรู้ไหมสมัย ร.๗ สยามไม่ถือว่ามี"เอกราช" โดยสมบูรณ์นะ และสึ่งที่ปรีดีทำเป็นสึ่งแรกๆตอนเปลี่ยนแปลงฯสำเร็จ คือแก้ไขสิทธิสภาพนอกอาณาเขต
คำว่า"เมืองขึ้น"ต้องดูด้วยนะว่าใช่ในความหมายไหน บริบทใด ยุคไหน ถ้าจะเปิดประเด็นต่อก็ไป >>>/lounge/13473/ เหอะ

736 Nameless Fanboi Posted ID:E/5zR5PP9e

>>729 1406 สั่งสอนวิกรมวัฒนาแห่งชวาตะวันออก เรียกค่าเสียหายเป็นทองคำ6หมื่นเหลี่ยง
1407 ปราบโจรสลัดที่ปาเลมบัง
1410-1411 ยกทัพเรือบุกอาณาจักรKotteในศรีลังกา ปลดราชาอลเกศวร พาเจ้าชายปรกรมพาหุมากราบหย่งเล่อเพื่อรับตราตั้งกลับไปเป็นราชาคนใหม่
1415 ช่วย Zain al-'Abidinแห่งสุมาตราซึ่งเป็นราชาที่ได้รับตราตั้งปราบSekandarที่ตั้งตัวเป็นใหญ่แต่ไม่ได้รับตราตั้ง เอาตัวSekandarกลับไปประหารที่ที่จีน

มีที่ยกทัพบกมาทวงก้องจากล้านนากับพม่าอีกนะ

737 Nameless Fanboi Posted ID:hgEpQQDsuU

>>735 ยอมเป็นรัฐใต้อำนาจเขาให้เขาแต่งตั้งเป็นอ๋องนู้นนี้ จะเปลี่ยนแผ่นดินก็ต้องไปขอรับรอง มันจะเรียกว่าอำนาจเต็มที่ได้ไง อย่างที่บอกจะเหตุผลเพื่ออะไรมันไม่เกี่ยว เป็นเมืองขึ้นก็คือยอมรับเจ้ารัฐอื่นว่ามีอำนาจเหนือกว่า ก็เป็นหลักการที่ไทยใช้กับประเทศราชเหมือนกัน พอถึงทีตัวเองจะยกเว้นได้ไง

เรื่องสิทธิสภาพนอกอาณาเขตกูเห็นด้วยนะ ก็ตามนั้น

738 Nameless Fanboi Posted ID:5xP7vl16WI

ผมพึ่งเข้าสู่วงการ camp ได้ไม่นาน วันก่อนพึ่งถอย Snow Peak Glamberg L มา วันนี้ผมเลยเดินไปปรึกษาต้นกล้า เซียน Camp ประจำออฟฟิศ
"ต้นกล้า กูพึ่งถอย ถอย Snow Peak Glamberg L มา ถ้ากูเอาไปกางที่ ลาน 8 แก่งลานรัก แล้วถ่ายรูปลงโซเชียล กูต้องได้รับการยอมรับจากผู้คนแน่เลยว่ะ"
"เฮอะ ปลายแถววงการอย่างพี่เนี่ย self-esteem มันต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ถึงขนาดต้องใช้ เต้นท์ตัว Top ราคาเกือบแสน ของค่ายหิมะ มาปลอบประโลมความเส็งเคร็งของตัวเองเลยเหรอ
พี่มันก็แค่สาย Camp ที่ใส่ เวส Gripswany ลังพลาสติก YETI และเปลี่ยนด้ามจับ AsimoCrafts
ทุกจุด แล้วก็หลงระเริงไปคนเดียวว่าแน่นักแน่หนา โดยที่ไม่เคยไตร่ตรองถึงความจอมปลอมนั้นๆเลยด้วยซ้ำ
เพราะคำถามเดียวในใจของพี่ ก็คือจะซื้อเก้าอีก Kermit หรือ Blackdesign ดีน้า
ผมขอถามสักนิด ก่อนยุค Coleman เฟื้องฟู พี่ไม่เคยคิดจะ Camp เลยใช่ไหม"
"ระ รู้ได้ไง"
"เฮอะ คิดไว้ไม่ผิด เพราะขยะอย่างพี่มันทรีตการ Camp เป็นแค่การโชว์ปาหี่ให้คนอื่นมาดู มาสนใจ
พี่ไม่ได้รักการ Camp แต่พี่แค่กำหนัดและเงี่ยนการยอมรับจากผู้คนในโลกโซเชียล ตราบใดที่พี่ Camp เพื่อคนอื่น ไม่ได้ Camp เพื่อตัวเอง พี่จะไปหยั่งถึงความงดงามของธรรมชาติรอบตัวได้อย่างไร"
"มะ ไม่นะ จริงๆกูก็ Camp เพื่อตัวเองเหมือนกั..."
"หุบปาก พี่จะบอกว่า พี่ Camp เพื่อใกล้ชิดธรรมชาติ เพื่อความสุขของครอบครัว เฮอะ น่าหัวร่อสิ้นดี นั่นไม่เรียกว่าการ camp แต่เรียกว่า การหนีความจริงต่างหาก
ความจริงที่ว่า พี่เกิด early mid-life crisis เริ่มอยู่ตัวกับชีวิตและความมั่นคง จนเกิดความหวั่นไหวว่า เอ...หรือชีวิตเราจะได้ประมาณนี้ จนต้องตะโกนก้องหลอกตัวเองว่า “ไม่” ตัวฉันไปได้ไกลกว่านั้น แล้วพี่ก็ใช้การ Camp เป็นยาชาสมานบาดแผลทางจิตใจ
โดยพี่ตั้งเป้าว่าจะเริ่มจาก K2 forrest จากนั้นก็ไปเก็บชุดเก้าอี้ naturehike หรือ ขยับไป DOD
แล้วก็กระสันว่าจะไป จัด พรอพ โชว์ ของ Camp ที่ ปางหวั่น ทุกคนในห้อง หลงเต้นท์ ต้องยอมรับ
ช่างน่าสมเพชเสียเต็มประดา เพราะไม่ว่าพี่จะ Camp อีกกี่ปี พี่ก็หนีความ insecure ของตัวเองไม่ได้หรอก"
"ระ รู้ได้ไง แกเป็นใครกันแน่"
"เฮอะ ผมน่ะเหรอ ผมคือทายาท ของ Yukio Yamai ผู้ก่อตั้ง Snow Peak คนแรก และเป็นที่ปรึกษาร่วมออกแบบ กับ Top brand ระดับโลกมากมาย (ไม่สามารถเอ่ยชื่อได้) มาตั้งแต่มหาลัยปีหนึ่ง
ผมคือคนที่ รู้ สูตรการผสมค่า โลหะอลูมิเนียม Dac ของ Helinox เป็น 1 ใน 5 คนในโลกนี้ที่รู้สูตรนี้
ผมคือคนที่ Coleman พยายามซื้อตัว เพื่อสะกัดความก้าวหน้า ของแบรนที่ผมเป็นที่ปรึกษา แต่ปฏิเสธไปทุกครั้ง
หรือสรุปง่ายๆ สิ่งที่พี่เล่นกันอยู่ 90% มาจากผม
เพราะหมาป่าเดียวดายอย่างผมไม่ Camp เป็นกลุ่มเยี่ยงปศุสัตว์ ผมไม่ได้ Camp เพราะต้องการความเห็นชอบจากโลก ผม Camp เพราะอยาก Camp ก็แค่นั้นเอง
เพราะฉะนั้น พอเห็นพี่ระริกระรี้กับ Snowpeak ก็ได้แต่ระเหี่ยใจ เพราะแท้จริงแล้ว พี่มันก็แค่เศษสวะชั้นต่ำของวงการเท่านั้นเอง"
"ต้นกล้า กูแค่อยากมีความสุข ทำไมต้องเบียวกูด้วยวะ"
"ผมไม่ได้เบียวแต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับวงการ Camp"
#จบ #ออกจากวงการ

739 Nameless Fanboi Posted ID:bViDUchzpT

คอมมิวนิตส์ชนะ
โซเวียต น่าจะเกิน 30 ล้านศพ
ทุ่งสังหารกัมพูชา 1.7 ล้านศพ
ปฏิวัติวัฒนธรรมจีน 20 ล้านศพ

คอมมิวนิสต์แพ้
หกตุลาฯ 500+ ศพ

แบบไหนเลือกเอา

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

740 Nameless Fanboi Posted ID:GHxIYPtcq0

ต้องคอมมี่ชนะดิเพิ่ล จะได้เจริญๆ แบบลาว เขมร เวียดนาม.... อุ๊ย รถไฟฟ้าเวียดนามทำเสร็จยังวะ

741 Nameless Fanboi Posted ID:bViDUchzpT

ไหนจะสมุดปกเหลือง เกิดมามีที่ดิน 1000 ไร่ รออยู่แล้ว ขายแดก ไม่ได้เรียน ไม่ต้องทำงานตลอดชาติยังได้เลย

742 Nameless Fanboi Posted ID:oEGoVhSi7x

>>740 อุ๊ยรถไฟความเร็วสูงลุงตูบทำเสร็จยังวะ 555+

743 Nameless Fanboi Posted ID:GHxIYPtcq0

>>742 รถไฟฟ้า ครส ตัวหัวจักรและขบวนซื้อมาเรียบแล้วนะจ้ะรอสร้างระบบรางให้เสร็จอย่างเดียว แถมสเปคไม่ได้ไก่กาแบบของลาวที่เป็นรถไฟความเร็วปานกลางด้วว แต่เวียดนามนี่สิ สิบกว่าปีจนจะยี่สิบปีแล้วนะ

744 Nameless Fanboi Posted ID:hgEpQQDsuU

>>743 เห็นบอกแบบนี้มานานแล้วไม่คืบหน้าซักที ไอ้รอสร้างรางห่าอะไรนี่แหละ ได้ยินจนเบื่อ

>>741 ต้องสมุดรูปตราเบียว ลามเกรียน ดิว้ะ เกิดมามีที่ดินเป็นล้านไร่ รออยู่แล้ว ไม่ต้องขายแดก เรียนไม่จบไม่เป็นไร ไม่ต้องทำงานเน้นเยดหีตลอดชาติยังได้เลย แถมมีขี้ตีนหน้าโง่ชาบูๆด้วย เย่ๆ

745 Nameless Fanboi Posted ID:bViDUchzpT

https://i.4cdn.org/int/1633517051177.gif

lol

746 Nameless Fanboi Posted ID:oEGoVhSi7x

>>743 ทำไมต้องเปรียบเทียบกับเวียดนามอะขี้ตีน ไม่เสร็จก็คือไม่เสร็จป่าววะ โถ ไอ้ลูกตุ๊ด

747 Nameless Fanboi Posted ID:AuWRgkobl/

เอาตรงๆเรื่องรถไฟกูไม่ซีเรียสเรื่องหัวจักรอ่ะ แม่งก็ใช้ได้เหมือนกันแหละเทคเรากากยุ่นบริจาคให้ก็ดีแล้ว แต่กูอยากได้ทางรถไฟที่มันไปได้ทุกจังหวัดมากกว่า แล้วเชื่อมไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะลาว เวียดนาม กัมพูชาก่อนอ่ะ แม่งมีแค่เส้นไปจีน แต่เส้นเชื่อมกันเองเสือกไม่มี แล้วจะทําระเบียงเศรษฐกิจรอดมั้ยเนี่ยยย

748 Nameless Fanboi Posted ID:kvQQKKm75a

>>747 ถ้าไม่บ้ากับ ครส. เน้นทางคู่รถไฟปกติ 1 เมตร ไทยจะเป็นศูนย์กลาง SEA แผ่นดินใหญ่ได้เลย เพราะรอบบ้านก็ยังใช้ราง 1 เมตรเป็นหลักกันหมด พม่า ลาว เขมร มาเลย์ เวียดนาม แต่ถ้าไม่เน้นจีน เน้นค้าขายกับ SEA ไทยจะได้ประโยชน์คุ้มจริงๆ หรอวะ

749 Nameless Fanboi Posted ID:bViDUchzpT

>>747 >>748

เรื่องรถไฟ ความผิดคณะราษฎร 60 %
นโยบายรถยนต์เป็นใหญ่ในช่วงสงครามเย็น 40 %

750 Nameless Fanboi Posted ID:fxTqv35Xtl

เปรียบเทียบเรื่องสถาบันกับคณะราดให้ฟังง่ายๆ

1.มีครอบครัวนึงสร้างอพาร์ทเม้นท์ขึ้นมา
แล้วก็บริหารกันมารุ่นต่อรุ่น

2.มีลูกบ้านคนนึงถือปืนเข้าไปจับลูกหลานเจ้าของ
แล้วขู่ให้ยกอพาร์ทเม้นท์ให้คนในอพาร์ทเม้นท์

751 Nameless Fanboi Posted ID:kvQQKKm75a

>>749 กูไม่สนเรื่องนั้นนะ กูสนแค่ว่าถ้าจะเอาระบบรางจริงๆ ต้องเอาให้สมฐานะ คือมีเม็ดเงินมาหล่อเลี้ยงได้ตลอด พวก ครส. ประเทศที่มีคือประเทศคนเยอะมากๆ อย่างจีน ขนาดกดค่าตั๋วให้ถูกกว่าชาวบ้านเขายังกำไรเลย หรือไม่ก็ต้องรวมประเทศเป็นหนึ่งแบบ EU วีซ่าเชงเก้นใบเดียวเที่ยวได้ทั้งภูมิภาค ขนาดญี่ปุ่นเคยเป็นต้นแบบเรื่องนี้ พอประชากรวัยทำงานลด มีแต่คนแก่เต็มบ้านเต็มเมือง ยังลดสายรถไฟลงเลย แสดงว่ามันไม่คุ้มไง ไทยเองตอนนี้จะสร้างกูก็ว่าไม่น่าคุ้ม ประชากรก็ลดแล้ว จะไปรวมกับเพื่อนบ้าน SEA นี่ฝันไปเถอะ แต่ละชาติหวงความเป็นชาติขนาดนั้น หรือถ้าเอาไว้ต้อนรับจีน บอกตรงๆ กูว่าเตรียมสิ้นชาติได้เลย จีนน่าจะเป็นชาติเดียวในโลกที่หาพยายามกินรวบทุกอย่างตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ มันน่าตลกไหมล่ะ รังเกียจตะวันตก แต่ไทยส่งออกได้ดุลการค้ากับตะวันตกนะ ในขณะที่จีนพูดจังบ้านพี่เมืองน้อง แต่ไทยขาดดุลการค้าตลอด มีแต่จะถูกสูบจนหมดตัว

ที่กูงงมากกว่าคืออเมริกา นี่คือประเทศที่สร้างชาติด้วยรถไฟนะ คนก็เยอะตลาดก็ใหญ่ ทำไมอยู่ดีๆ ทิ้งรถไฟไปเน้นเครื่องบิน + รถยนต์ก็ไม่รู้

752 Nameless Fanboi Posted ID:XVsKjAvnPX

>>750 เจ้าของอพาทเม้นที่ไปฆ่า ไปข่มห้องทีละห้องแล้วยึดมาเป็นชื่อตัวเองทั้งหมดอ่ะหรอ

753 Nameless Fanboi Posted ID:rUfn2AujRv

>>747 รางรถไฟไทยก็เชื่อมกับรอบด้านได้นิ ดูในรูปนะ สีเหมือนกันคือเชื่อมกันได้ ส่วนครส.นั้นเป็นอีกส่วนนึงเลย ที่มีอดีตผบ.ตร.ฆ่าตัวตายเรียกร้องให้ใช้รางขนาดยุโรปนะแม่งปัญญาอ่อน สมควรตายจริงๆ นั่นละ

https://commons.m.wikimedia.org/wiki/File:Rail_gauge_world.png

754 Nameless Fanboi Posted ID:8rKAI/KCdF

>>752 มึงแต่อยู่อาศัย ไม่ได้เป็นเจ้าของอพาร์ทเมนต์นะ แล้วเขาก็ไม่ได้ฆ่าใครสักคน

755 Nameless Fanboi Posted ID:5xP7vl16WI

ถ้ารัฐบาลลงมาเก็บข้อมูล จะต้องรู้ว่า ช่วงที่ฟาดเงินให้สิทธิ์ คนละครึ่ง หรืออื่นๆบราๆ ที่ให้ฟรี เป็นช่วงที่กิจการ SME แทบพัง
สิ่งที่สัมผัสได้ทุกรอบคือพนักงานจะไม่มาทำงาน และก็จะเป็นช่วงที่หาพนักงานใหม่ยากมากๆ เพราะฉันได้ฟรีจากรัฐแล้วฉันจึงไม่ง้อเงินจากการทำงานไปช่วงนึงก็ได้ รู้ไหมว่ามันทำให้ตลาดพังมากๆ
และเลวร้ายไปกว่านั้นคือ ส่งเสริมให้วันรุ่นไทย "ขี้เกียจ"

756 Nameless Fanboi Posted ID:hgEpQQDsuU

>>754 พูดไม่เกรงใจเจ้าของคนเก่าเลย แล้วไอ้คนเก่าๆๆก็ฆ่ากันต่อมาอีก4-5ทอด น่าจะเป็นสิทธิถือครองถ้ำของพวกมนุษย์ยุคหินมากกว่าเจ้าของอพาร์ทเม้นต์มั้ง?

757 Nameless Fanboi Posted ID:8rKAI/KCdF

>>756 ย้อนไปสมัยที่ไม่มี un นี่นะ 5555

758 Nameless Fanboi Posted ID:YUjOPZWodo

>>754 มึงจ๊ะ แต่ละห้องของอพาทเม้นอ่ะ คนอยู่สร้่งด้วยตัวเองจ่ะ จนมีคนบ้าอำนาจอ้างฟ้าส่งมาเกิดเกณฑ์ไพร่พลที่ศรัทธาไปยึดห้องจ่ะ พอได้มาเยอะถึงอ้างเป็นอพาทเม้นได้

เจ้าของอพาทเม้นที่มึงว่าไม่ได้สร้างทั้งอพาทเม้นเองนะแค่ยึดมาแล้วครอบด้วยระเบียบอพาทเม้น คนอยู่อ่ะคนสร้าง

759 Nameless Fanboi Posted ID:e9nqAJHb74

>>755 คห. แบบนี้ขนมหวานแน่นอน เกลียดสวัสดิการทุกประเภท

760 Nameless Fanboi Posted ID:ftqSVWv8HU

>>751 มันไม่มีใครไปห้ามเอกชนไปซื้อของจีนหรืออเมริกานี่หว่า มันไม่เกี่ยวกับว่ารัฐจะให้ใครได้ดุลกับใคร เสียดุลกับใคร ทำธุรกิจเขาสนแต่ต้นทุน จะซื้อวัตถุดิบยามาเข้าโรงงานก็ต้องไปซื้อต้นทุนที่ถูกซิ แล้วไปขายต่อในประเทศที่รับซื้อราคาดีๆ ได้ดุลขาดดุลเป็นเรื่องงี่เง่าที่สุดที่นักการเมืองชอบเอามาเป็นประเด็นจริงๆ

761 Nameless Fanboi Posted ID:a5P6CsRahm

>>758 สร้างด้วยตัวเอง ??? ยกตัวเองว่าสร้างตั้งแต่สมัยก่อนพระเจ้าตากด้วยไหมอ่ะ ตกลงว่าอพาร์ทเมนต์นี้มันสร้างสมัยไหนกันแน่ มึงสร้าง หรือคนอื่นสร้าง ?

762 Nameless Fanboi Posted ID:BwQB3N54ZN

>>761 เสกเอา​ กูรู้กูอ่านรามเกรียนมา เคยอ่านป่าวยิงธนูไปกลายเป็นเมืองได้ด้วย555

763 Nameless Fanboi Posted ID:deDGHii4Wn

>>761 นั่นสินะ ใครสร้างกันแน่ แต่ที่แน่ๆ เจ้าของปัจจุบันก็ไม่ได้สร้างอะไรนี่หน่า หรือเจ้าของคนก่อนๆที่ฆ่าคนที่กู้อพาทเมนต์คืนจากนายทุนต่างชาติ หรือเจ้าของที่ฆ่าพี่ชายตัวเองก็ไม่ได้สร้างห้องทุกห้องเอง อาศัยยึดมาทั้งห้องล้านนาเอย ห้องมลายูเอย

เข้าจะนะว่าอยากดีเฟนสิ่งที่ศรัทธา แต่เอาการสร้างชาติมาเทียบกับอพาทเมนต์นี่เป็นอะไรที่โง่มากๆ ถ้าอยากปกป้องด้วยการเปรียบเปรยอะไรแบบนี่มันรังแต่จะทำให้คนยิ่งเกลียดนะจ๊ะ

764 Nameless Fanboi Posted ID:a5P6CsRahm

>>763 รู้ไหม ชาติไทยเริ่มตอนช่วงจักรีนะ ถ้าจะมาบอกว่า อยุธยา สุโขทัย คือประเทศไทย ก็ตลกไปหน่อยไหม

คนที่ยกเรื่องอพาร์ทเมนท์ ฝั่งมึงเริ่มก่อนด้วยซ้ำ

เรื่องการสร้าง อันนี้ก็มรดกตกทอดป่าววะ

765 Nameless Fanboi Posted ID:++0Nbc+MW4

ทางเข้าดินแดนสวรรค์
https://discord.gg/dQXhcR7

766 Nameless Fanboi Posted ID:deDGHii4Wn

>>764 แหมๆๆ ได้อ่านอันแรกป่าวนี่ว่าอพาร์ทเมนต์เริ่มจากไหน

แต่สุดท้ายแล้วมึงก็จงใจมองข้ามห้องล้านนาและมลายูอยู่ดี เพราะเขตแดนของสองห้องนี้ก็ถูกช่วงชิงมาเป็นส่วนนึงของอพาร์ทเมนต์ในสมัยของตระูกูลเจ้าของนี่แหละ และสองห้องนี้ก็ถูกสร้างจากมือผู้อาศัย เจ้าของไม่ได้สร้างให้นะ

767 Nameless Fanboi Posted ID:lnEa8kHzi5

>>759 ถ้ามองในมุมขนมหวานมันก็ไม่แปลกนะ พวกชั้นส่วนมากอยู่กลางบนโดนเก็บภาษีเยอะ แต่ไม่ได้ใช้สวัสดิการซักกะแอะ ส่วนถ้าชั้นบนไปเลยจะไม่มีปัญหาหนีไปเปิดบริษัทประเทศที่ภาษีถูกๆ แล้วโอนรายได้เข้า หรือเปิด บริษัทนอมินี โยกย้าย A-B ก็ไม่เสียภาษีบ้าบอแบบ 35% บนฐานต่ำๆ แบบนี้

แต่เรื่องภาษีฐานบ้านเรามันมีปัญหาด้วยเหละ เอื้อบางจุดเยอะไม่สมดุล เล่นหุ้นไม่ต้องจ่ายภาษี แม้หุ้นต่างประเทศก็ตาม ในขณะที่คนทำงานประจำฐานสูงๆ เสียแบบขุดรีดกันเลย พอเสียเยอะเกินไปคนจะหาทางเลี่ยง แล้วผลจากการเลี่ยง คือ เก็บภาษีไม่ได้เลย

768 Nameless Fanboi Posted ID:msj8MKJtGJ

>>764 ถ้าจะตีความว่าพวกจักรีสร้าง ก็ควรจะพูดให้หมดว่าสร้างโดยการลากเจ้าของคนก่อนมา "ทุบด้วยท่อนจันท์"(?) แล้วก็ยึดกิจการมาคุมต่อโดยเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่

อีกอย่าง คนเริ่มยกเรื่องอพาร์ตเมนท์คือ >>750 ซึ่งถ้ามึงยังมีปัญญาอ่านหนังสือออก ก็น่าจะเข้าใจได้ไม่ยากว่ามันก็สันดานขี้ตีนแบบมึงนั่นแหละ

769 Nameless Fanboi Posted ID:x3jTa.5qC+

ทางเข้าดินแดนสวรรค์
https://discord.gg/dQXhcR7

770 Nameless Fanboi Posted ID:q7dM2/Ff/g

ข้อสังเกต 45 ปี สังหารหมู่ 6 ตุลา

นับได้ว่ามีการรับรู้เรื่อง 6 ตุลาเพิ่มขึ้นมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นการรับรู้ที่ยังคลุมเครือคือรู้ว่ามีการฆ่า แต่ก็ยังจัดการกับคนสั่งการ/คนสนับสนุนไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้เรื่อง 6 ตุลาที่รัฐพยายามแบน,เซนเซอร์(และพูดถึงแต่ 14 ตุลา) กลับมาถูกพูดถึงได้ ก็หวังว่าความจริงทั้งหมดจะถูกเปิดเผยในเร็วๆนี้

- ชัดเจนว่าเหตุการณ์ 6 ตุลามีการวางแผนล่วงหน้าจากฝ่ายขวาที่พยายามสร้างสถานการณ์ด้วยการเอาถนอมกลับไทย การปลุกปั่นจากนสพ.ดาวสยาม วิทยุยานเกราะ เป็นที่รับรู้ว่าสงัด(หัวหน้าคณะรัฐประหาร)และคิงมีการวางแผนเลีอกนายกหลังรัฐประหารล่วงหน้า ถึงอย่างนั้นก็ยังชี้ตัวคนสั่งการไม่ได้สักที ใครเป็นคนสั่งเคลื่อนพลตชด.จากหัวหิน และใครเป็นคนสั่งกลุ่มฝ่ายขวาหัวรุนแรงให้บุกธรรมศาสตร์

- ผู้กระทำไม่เคยถูกดำเนินคดีใดๆ ในทางกลับกันแกนนำ 6 ตุลาโดนขังคุกคนละ 2 ปี ก่อนจะได้รับการนิรโทษ หลังปล่อยตัว นายกเกรียงศักดิ์ก็บอกกับอดีตแกนนำว่า “โยนมันทิ้งไป เขาว่ายังไงนะ เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง” เป็นอันว่าให้เหตุการณ์นี้เป็นเหมือนฝันไป ไม่ต้องพูดถึงมันอีก

771 Nameless Fanboi Posted ID:q7dM2/Ff/g

- บทบาทของคิง ภรรยา และลูกๆ ซึ่งส่งผลต่อเหตุการณ์เป็นอย่างมาก ทั้งการไปเยี่ยมให้กำลังใจกลุ่มฝ่ายขวา การแสดงออกสนับสนุนพระถนอม การแต่งตั้งแกนนำกลุ่มนวพลเป็นอมต ฯลฯ แต่กลับมีการพูดถึงน้อยกว่าที่ควรจะเป็น (คนส่วนใหญ่รับรู้ว่ากลุ่มฝ่ายขวาหัวรุนแรงผิดแน่ๆ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าตัวครอบครัวกษัตริย์มีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์มากขนาดไหน)

ปล. การอธิบายเรื่อง 6 ตุลาในช่วงไม่นานมานี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อยๆ ช่วงแรกมีความพยายามอธิบายสภาพสังคมในช่วงนั้น บทความที่สำคัญคือ "บ้านเมืองของเราลงแดง" อธิบายว่าฝ่ายขวาลงแดงเลยโมโหฝ่ายซ้าย ผมเคยสรุปบทความนี้หลังจากนั้นมีความพยายามของโครงการบันทึก 6 ตุลา ในการรวบรวมหลักฐานและคำอธิบายที่น่าจะครบที่สุดในตอนนี้ ดูได้ใน มีการพูดถึงขบวนการแรงงานและชาวนาที่มีบทบาทคู่กับนักศึกษามากขึ้น ในทางกลับกันกลุ่มฝ่ายขวา(และครอบครัวของฝ่ายขวา)ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์จากที่เคยภูมิใจก็พยายามหลบเลี่ยง บางคนบอกว่าวันนั้นแค่ไปเดินผ่าน บางคนก็บอกว่าแค่แอคท่าถ่ายรูปเฉยๆ แม้จะมีบางคนยังอ้างว่าไม่อยากทำแต่จำเป็นต้องทำ หรือบางคนจะยังคลั่งและภูมิใจกับเหตุการณ์นี้อยู่ก็ตาม

772 Nameless Fanboi Posted ID:KzkG+Tp5sx

อย่าโลกสวยเวลาลงทุน
.
เห็นกูรูหลายคนในเฟซบุ๊กโชว์สรรพคุณการลงทุนแบบสำเร็จรวดเร็ว แล้วรู้สึกเป็นห่วงนักลงทุนหน้าใหม่ทุกที
.
สูตรรวยเร็วบ้างล่ะ สูตรลับบ้างล่ะ สร้างเงินล้านใน 3 เดือน Passive Income 50,000 บาทต่อเดือน ใน 90 วัน และอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย พักหลังเริ่มมีดึงพลังที่มองไม่เห็นมาสนับสนุนกันอีก อันนี้ยิ่งไปกันใหญ่เลย
.
ที่รู้สึกเป็นห่วงเพราะในฐานะนักลงทุนคนหนึ่ง กล้าพูดเลยว่าถ้ากูรูคนไหนบอกว่าการลงทุนนั้นง่าย มีสูตรลัด มีเคล็ดลับที่ใช้ได้กับทุกคนทำทุกคนให้รวยได้ หรือพูดแต่โอกาส พูดแต่ด้านดี หรือยังไงก็มีแต่ได้
.
รับประกันเลยครับว่า กูรูคนนั้นเป็นของปลอม ที่แย่คือ เจ้าพวกนี้อาจยังไม่เคยลงทุนเลยเสียด้วยซ้ำ อาจแค่จำเค้ามาพูด หรืออย่างดีก็อาจลงทุนเคสถึงสองเคส ก็เอาเท่าที่รู้มาหลอกขายฝันไปไกล ยังเจอมาน้อยยังเห็นไม่ครบทุกมุม แต่กล้า (หน้าด้าน) สอนไปไกลกว่าขอบเขตความรู้ตัวเอง
.
เอาเข้าจริงการลงทุนนั้นไม่ง่าย ไม่หมู ไม่ได้ดูดี และอุดมไปด้วยโอกาสผิดพลาดที่พร้อมสร้างความเสียหายให้กับเงินของเราได้ตลอดเวลา
.
ดังนั้นสิ่งที่ผู้แนะนำควรเน้นและควรให้ความรู้กับนักลงทุนมือใหม่จึงไม่ใช่แค่เรื่องของ “โอกาส” แต่ต้องชี้ให้เห็นถึง “ความเสี่ยง” และวิธีป้องกัน รวมถึงจัดการกับมันด้วย
.
หลายเดือนก่อนมีนักลงทุนมือใหม่ส่งข้อความหลังไมค์เล่าให้ผมฟังว่า เพิ่งซื้อคอนโดลงทุนไป 3 ห้อง กระแสเงินสดบวกทุกห้อง กำลังอยากซื้อห้องที่ 4 จะเอาสลิปแฟนมากู้ซื้อห้องลงทุนด้วยจะดีมั้ย ด้วยมุ่งหวังอยากมีฟาร์มคอนโดสัก 10 ห้อง เก็บค่าเช่ากินเป็น Passive Income (ทั้งสองคนรายได้ต่อเดือนสูงพอสมควร)
.
“ก่อนจะไปหลังที่ 4 สามหลังเดิมเรามีแผนรับมือกับความเสี่ยง กรณีผู้เช่าย้ายออกมั้ย เพราะถ้าไม่มีผู้เช่า ทั้งสามห้องจะติดลบทันทีเลยนะ ถ้าเขาออกพร้อมๆ กัน เราจัดการได้ใช่มั้ย” จำได้ว่าวันนั้นผมถามกลับไปประมาณนี้
.
“งั้นสรุปแล้วถ้าห้องนี้คำนวณแล้วกระแสเงินสดบวก ผมให้แฟนกู้ซื้อได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ”
.
นอกจากจะไม่ตอบแล้ว ยังสรุปคนละเรื่องกับที่คุยกันเสียอีก การสนทนาของเราจบลงแค่นั้น ชีวิตเขา เขาตัดสินใจ เราก็ทำได้แค่นี้แหละ แต่พอขาดทุนมา ก็โทษคนสอนด่าคนตอบคำถาม
.
ผ่านไปไม่นาน คำถามของโค้ชก็กลายเป็นคำแช่ง (เขาคงคิดอย่างนั้น 555) คนเช่า 2 ห้องย้ายออก แค่เดือนแรกที่ต้องผ่อนเอง สองสามีภรรยาก็เดือดร้อนหนัก เงินเก็บเงินสำรองไม่มี กำไรส่วนต่างจากค่าเช่าและเงินผ่อนในเดือนก่อนๆ ก็เอาไปกินใช้จนหมด ไม่เหลือสะสมสำรองไว้เลย
.
ที่แย่คือ เงินเดือนแต่ละเดือนไม่เคยเหลือ และเมื่อต้องมาผ่อนคอนโดฯสองห้องด้วยตัวเอง ก็เลยเป็นปัญหา และที่ซื้อเพิ่ม ไม่ใช่แค่หนึ่งห้อง จัดมาทีเดียวอีก 3 พร้อมๆ กันเลย
สองห้องเดิมว่าง สามห้องใหม่ยังหาคนเช่าไม่ได้ ภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเดือนละหลาย 4-5 หมื่น สำหรับคนไม่มีเงินสำรอง ยังไงก็เหนื่อยหนักแน่นอน
.
หลายครั้งคนที่มาเรียนด้วยชอบถามผมว่า “ทรัพย์ดีๆ ทำไมคนถึงเอามาขายให้คนอื่นซื้อลงทุน ทำไมไม่เก็บไว้” คำตอบหนึ่งที่พบบ่อยๆ ก็คือ เรื่องราวข้างต้นเลยครับ
.
เจอทรัพย์ที่ดี สร้างกระแสเงินสด แต่ขาดการวางแผนจัดการความเสี่ยงที่ดี สุดท้ายเรื่องที่คิดว่าคงไม่เกิดกับเรา ดันเกิดกับเราสภาพคล่องพัง ถูกติดตามหนี้ สุดท้ายต้องขายทิ้ง
ทรัพย์สินที่ดี ... จึงกลายเป็นการลงทุนที่แย่ในที่สุด
.
ดังนั้นในทุกครั้งที่บรรยายเรื่องการลงทุน ผมจึงมักให้เวลากับเรื่องความเสี่ยงมากหน่อย แต่คนอยากรวยเร็วมักหูอื้อ ไม่ได้ยินพาร์ทนี้ หรือไม่ก็ฟังข้ามๆ ไป
ทุกครั้งที่จะลงทุน อย่าลืมตั้งคำถามต่อไปที่ เพื่อเตรียมความพร้อมรับเรื่องร้ายๆ ที่มีโอกาสเกิดกับการลงทุนของเราด้วยเสมอ
.
1. การลงทุนของเรามีความเสี่ยงอะไรบ้าง ที่ส่งผลกระทบต่อ รายได้ รายจ่าย มูลค่าทรัพย์สิน และหนี้สินทั้งหมดของเรา
.
2. ถ้าเรื่องที่กลัวตามข้อ 1 เกิดขึ้นจริง จะมีผลกระทบทางลบอย่างไร
.
3. เรามีวิธีป้องกันไม่ให้มันเกิด หรือลดโอกาสในการเกิดปัญหานั้นได้อย่างไร
.
4. ถ้าป้องกันไม่ได้ ลดก็แล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสโดน เรารับมือกับมันได้มั้ย เราทำอะไรได้บ้าง และเจ็บสุดที่น่าจะเป็นแค่ไหน เรารับมือไหวหรือเปล่า
.
ถ้าตอบและเตรียมทุกคำถามไว้ได้ ความสบายใจในการลงทุนก็จะแบบหนึ่ง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ตอบ เลือกมองข้าม มองโลกสวยว่ายังไงเราคงไม่โชคร้ายขนาดนั้น ก็อาจต้องทุกข์และเหนื่อยหนักในวันที่เรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาเยี่ยมเยือน
.
เตรียมพร้อมรับมือกับเรื่องร้ายๆ ชีวิตจะเจอแต่เรื่องดีๆ และเจอแต่เรื่องรับมือไหว ผมสอนคนเรียนกับผมแบบนี้เสมอครับ
.
ทุกครั้งที่เจอโอกาสลงทุน อย่าลืมมองความเสี่ยงไว้ด้วยเสมอทุกครั้งนะครับ
#GoodMorningWithMoneyCoach #โค้ชหนุ่ม #TheMoneyCoachTH

773 Nameless Fanboi Posted ID:zFr76dseBE

มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลก็จริงว่าจะฉีดหรือไม่ฉีด แต่ทำไมไม่นึกถึงสิทธิส่วนรวมบ้าง คนเขาอยากออกไปใช้ชีวิตแล้วจรื้อ #ไฟเซอร์นักเรียน

774 Nameless Fanboi Posted ID:e9nqAJHb74

- ตอนไม่มีไฟเซอร์ เด็กก็อยากฉีดไฟเซอร์ ไม่เอาซิโนแวค แอสตราก็ยี้
- พอไฟเซอร์มาจริง เด็กหลายคนก็โดนผู้ปกครองห้ามฉีดเพราะกลัวผลข้างเคียง ส่วนเด็กอีกหลายคนก็ไปโดนโซเชียลปั่นกระแสผลข้างเคียงแล้วก็ไม่กล้าฉีด
- คน GenZ , GenY วัยมหาลัย-เริ่มทำงาน ที่ออกไปต่อสู้บนท้องถนนเรียกร้องให้ไฟเซอร์มาไวๆ พอมาจริงก็ไม่ได้ฉีด เพราะวัตถุประสงค์คือเน้นไปให้เด็ก 12-18 ปีฉีดเนื่องจากเป็นยี่ห้อเดียวที่ใช้กับเด็ก 12-18 ได้

ปวดกบาลชิบหายสังคมนี้

775 Nameless Fanboi Posted ID:3RbjlupkWj

https://scontent.fbkk29-1.fna.fbcdn.net/v/t1.6435-9/244464184_2904331026564105_3769769128135152540_n.png?_nc_cat=105&ccb=1-5&_nc_sid=730e14&_nc_eui2=AeGTcFH_XfTNrPh54XIDYYLui2Fsz-aqIsGLYWzP5qoiwbfHFqbVxz-FoVK4QtQnTfcZ-Ys5p-sf8PWJF-zPvJKj&_nc_ohc=rbI1VS77YtcAX8lz7GE&_nc_ht=scontent.fbkk29-1.fna&oh=fb640082807c0ac8b77147c83e0a058e&oe=61849FAE

ฉีดวัคซีนดีๆแบบ ซนว ไปเถอะมึงไอเด็กเหิ้e ตอน ฟซ ยังไม่มาเรียกร้องกันแทบตาย ตอนมาเสือกไม่ฉีดซะงั้น ทำไมมีความคิดแบบนี้wa

776 Nameless Fanboi Posted ID:ohV+e/dYF3

>>774 >>775 รู้ไหม ตอนนี้ สวีเดน กับ เดนมาร์ก ให้หยุดฉีด pz แล้วนะ เพราะผลข้างเคียงระยะสั้นเริ่มส่งผลเยอะขึ้น แถมตอนนี้ยังไม่มีการวิจัยผลระยะยาวอีกนะ

777 Nameless Fanboi Posted ID:mpfGMrPc.0

>>776 MD ไม่ใช่ PZ

778 Nameless Fanboi Posted ID:hEZmiT55xD

อยากฟัง ความคิดเห็น ของคนที่สนับสนุนเค้าโครงเศรษฐกิจของปรีดี ว่ามีดีอย่างไร และทำไมถึงเห็นด้วย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

779 Nameless Fanboi Posted ID:2vbnQ2pOQD

>>778 สั้นๆเลย คนเท่ากัน ไม่เหมือนปัจจุบันหรอก แม่งไม่เท่ากันสักอย่าง เหลื่อมล้ำที่สุดในโลกนี้ ไม่มีประเทศไหนเหลื่อมล้ำเท่าไทยอีกแล้ว

การยึดของพวกศักดินากลับมาคืนให้ ประชาชน เป็นสิ่งที่ส่งเสริมความเท่าเทียมกัน

780 Nameless Fanboi Posted ID:XwsDOHRyxp

>>779 โดนใครเป่าหูมาล่ะ สื่อแต่ละประเทศก็ดราม่าว่าประเทศตัวเองเหลื่อมล้ำที่สุดในโลกอยู่แล้ว แต่ข้อมูล world bank ประเทศที่เหลื่อมล้ำที่สุดในโลกคือแอฟริกาใต้ ส่วนไทยดีกว่าอินเดียหน่อย

https://data.worldbank.org/indicator/SI.POV.GINI?most_recent_value_desc=true&view=map

781 Nameless Fanboi Posted ID:2vbnQ2pOQD

>>780

OXFAM เผยไทยติดอันดับ 3 ประเทศที่เหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก...
ไทยติดอันดับ 3 ประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก โดยอันดับ 1 ได้แก่รัสเซีย และตามมาด้วยอินเดีย

https://www.facebook.com/drsuvitpage/posts/1462139714092754

เห็นชัดไหม ว่าเผด็จการกินรวบประเทศไทย

782 Nameless Fanboi Posted ID:niznlyV.AJ

>>780 เปลี่ยนเป็นแง่ดี​ ถ้าติดTOP3รับรองโหมโฆษณาเป็นที่สุดในโลก​ ไม่แพ้ชาติใดในโลกกันให้ควั่ก555

783 Nameless Fanboi Posted ID:JbuGlfs1VK

>>781 ....2017 แล้ว ณ บัดนาวอยู่ที่เท่าไหร่วะ?

784 Nameless Fanboi Posted ID:2vbnQ2pOQD

>>783 ที่ 1 สิ รัซเซีย ยังไงก็พัฒนามากกว่าไทย ส่วนอินเดียมีเมกาหนุนหลัง ส่วนไทยให้จีนแดก

785 Nameless Fanboi Posted ID:XwsDOHRyxp

>>781 Oxfam เฉพาะประเทศไทยน่ะสิ. หิวเงินบริจาคจัดเลยเขียนบทความให้แฟนๆ น้ำแตก
ปรกติ Oxfam En เวลามันอ้างอิงมันจะไปอ้างมาจาก https://www.inequalityindex.org/ กับ world bank วนๆ อยู่แถวนี้

786 Nameless Fanboi Posted ID:hEZmiT55xD

https://www.youtube.com/watch?v=J8TwwUl9UPs

คลิปนี้ น่าจะเป็น ฝันเปียก ของใครหลายๆคน

ไม่มีทหาร ไม่มีกองทัพ มีปัญหาก็เจรจาทางการทูต ฟ้อง UN ง่ายแค่นี้เอง เห็นมะ แต่เรื่องที่ซาอุดิอาระเบีย ทิ้งระเบิดใส่เยเมนทุกวัน แล้ว UN ไม่สนเหี้ยอะไรเลย ไม่แม้แต่จะประณามซาอุ อันนั้นไม่นับนะ

ใครอยากจะเสียเวลาอันมีค่า 10 นาที ก็ลองเค้าพูดดู ช่องแมร่งเลอะเทอะตั้งแต่ เรื่องแจกเงินฟรีแล้ว

787 Nameless Fanboi Posted ID:mri.8Nl+GX

เดนมาร์กก็มี 112 ค่ะ 112 เป็นเบอร์โทรเรียกรถฉุกเฉิน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

788 Nameless Fanboi Posted ID:e9SVeLRhe7

>>786 ขนาดตอนตาลีบันยึดอัฟกานิสถาน มึงดูสิ่งที่ยูเอนทํานะ https://m.youtube.com/watch?v=9SmQOZWNyWE&vl=en
//คําเตือนเพลงเสนียดหู ก่อนจะเปิดต้องทําใจ

789 Nameless Fanboi Posted ID:mri.8Nl+GX

>>786 ถ้ากะลาโดน ซาอุดิอาระเบีย ทิ้งระเบิดใส่ทุกวัน กองทัพไทยจะทำเหี้ยอะไรได้มากกว่า UN เหรอจ๊ะ

790 Nameless Fanboi Posted ID:mri.8Nl+GX

>>788 อัฟกันก็มีกองทัพ เห็นอย่างกากแถมพอจะโดนยึดรีบเผ่นหนีเลย ถถถ

791 Nameless Fanboi Posted ID:6fzWuPNcLg

>>789 Un ก็แบบว่าจะออกBTS single album ใหม่อ่ะคร่ะ
ถุย คือUNมันก็เจรจาได้บางเรื่องเหอะ บางเรื่องแม่งก็มั่วซั่ว อย่างตอนเทกาบุกอีรัคเงี๊ยะ ไม่มีใครประนามเลย lmao

792 Nameless Fanboi Posted ID:JX7ChqZ0.x

UNมีผลงานแค่ครั้งเดียว คือตอนสงครามเกาหลี

ตอนนั้นทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้เพราะทูตโซเวียตประท้วงไม่ยอมเข้าโหวต ฝั่งประเทศเสรีเลยโหวตเยสไปช่วยเกาหลีใต้

หลังจากนั้นมา โซเวียตก็ไม่เคยขาดการประชุมเลย และUNก็ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมาตั้งแต่นั้น

793 Nameless Fanboi Posted ID:llSYXuSc0x

พวกที่ยังหวังพึ่งองค์กรระหว่างประเทศแม่งคือพวกเพ้อเจ้อ มึงดูดิ UNSC 5 ชาติ ต้องสนใจกฎองค์กรห่าพวกนี้ที่ไหน อยากทำอะไรก็ทำ หรือถ้าไม่อยากให้คนอื่นทำก็กด VETO ซะ หรืออินเดีย หรืออิสราเอล ไมไ่ด้เป็น UNSC แต่มีพาวมากพอ ก็ไม่ต้องแคร์ใครเหมือนกันละ

794 Nameless Fanboi Posted ID:dJ.FHEj079

>>786 ในคลิปลืมบอกไปว่าคอสตา ริก้าเป็นประเทศเล็กๆ ที่มีประชากรไม่กี่ล้านคนเอง ไม่ได้มีความสำคัญอะไรขนาดนั้น

795 Nameless Fanboi Posted ID:nN.7O53Adv

>>791 >>792 UNมีผลงานครั้งเดียวสงครามเกาหลี งั้นกองทัพกะลากากกว่า เพราะรบได้มากสุดแค่สงครามกับประเทศแถวๆนี้

>>793 กองทัพกะลา ถ้าเจอพวกUNSC5ชาติที่ว่าบุก ก็ไม่มีปัญญาจะไปทำอะไรให้เขาแคร์เหมือนกันนี่?

796 Nameless Fanboi Posted ID:g7ukVd6ocd

ผลงาน UN
พม่า กูด่าแล้วน้าา ส่วนมึงจะลาก ปชช ไปยิงกลางถนนก็เรื่องของมึง
ตาลีบัน กูออกเพลงใหม่ 555

797 Nameless Fanboi Posted ID:g7ukVd6ocd

https://th.wikipedia.org/wiki/ประเทศไทยในสงครามเกาหลี

798 Nameless Fanboi Posted ID:nN.7O53Adv

>>796 ผลงานกองทัพกะลา
ทัพพม่า:ยิงปืนใหญ่ใส่เปนความเข้าจัยผิดด
ตาลีบัน:แบ้ะๆๆ โชคดีอยู่ไกล 555

799 Nameless Fanboi Posted ID:nN.7O53Adv

>>797 รบอยู่จิ้ดนึง กะลาไม่ส่งไปสงครามคงพลิกเลยมั้ง ถถถถ

800 Nameless Fanboi Posted ID:g7ukVd6ocd

แต่วันนี้ IO สามกีบห้องนี้ก็โชว์โง่ หน้าแหกมาทั้งวันอ่ะนะ
>>781 Oxfam แหมๆ เหลื่อมล้ำสุด เจอแหกด้วย >>785 หลักฐานในเครือเว็ป Oxfam

ล่าสุดสงคราเกาหลีโชว์โง่อีกล่ะ นิดหน่อยเค้าคงไม่ตอบแทนด้วย ฟรีวีซ่า กับสร้างอนุสาวรีย์ หรอกมั้ง
โง่สมกับที่เรียกสามกีบ ควาาาย ไงล่ะ
55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

801 Nameless Fanboi Posted ID:nN.7O53Adv

>>800 วีซ่ายกเลิกแล้วนะจ๊ะอัพเดทหน่อย ส่วนอนุเสาลีแค่นั้นก็สำคัญตัวผิดแล้วหรา ลิ้งก็แปะมาเองทั้งสงครามแม่งทำเป็นเรื่องเป็นราวแค่เฝ้าเนิน สงสัยไอ้ที่เค้ายอมทำนู่นนี่ให้อาศัยใบบุญUNส่วนใหญ่อะป่าว ที่ไปก็ในนามทหารUNนี่หว่า ถถถถ

802 Nameless Fanboi Posted ID:nN.7O53Adv

อีกหน่อยๆ ยิ่งย้อนไปกองทัพไทยยุคเหล่าพ่องขี้ตีนทั้งหลายน่ะอย่างกาก คิดได้ไงรบพม่าบอกเอกลาดๆๆๆ ลับหลังเสือกไปกราบตีนจีนขอเป็นขี้ข้า แล้วแต่งหนังสือมาหลอกควายว่าไม่ใช่ขี้ข้านะเป็นแค่การค้า ถถถถ

803 Nameless Fanboi Posted ID:Psq.mu32CQ

>>801 "สำนักข่าวยอนฮับรายงานเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมาระบุว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ประกาศยกเลิกฟรีวีซ่าและโปรแกรมยกเว้นวีซ่ากับ 90 ประเทศซึ่งหนึ่งในนั้นคือประเทศไทยโดยจะเริ่มต้นในวันที่ 13 เมษายนนี้ หนึ่งในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศ"

https://www.matichon.co.th/foreign/news_2131987

804 Nameless Fanboi Posted ID:nN.7O53Adv

ฟรีวีซ่าเกาหลี90วันนี่ยุ่นยังได้เลย​ เพิ่งยกเลิกปีก่อนเหมือนกัน​ ทั้งที่กัดกันมานานขนาดนั้น555​ https://aec10news.com/contents/news/world/57915/

805 Nameless Fanboi Posted ID:F2g6eE0lO4

ยยังยืนยันว่า ถ้าไม่บ้าจี้วัคซีนดีสั่ง Sv มาเยอะกว่านี้คนก็จะก็ตายน้อยกว่านี้ และดีใจด้วยครับ เกมการเมืองที่เล่นกันคือศพใครสักคน ที่ไม่ไช่แค่ตัวเลข

806 Nameless Fanboi Posted ID:6kDGddc4yz

หลายคนที่เขียนบทความ หรือพูดทำนองว่า เขียนโปรแกรมไม่ยาก เขียนไม่กี่บรรทัด ง่ายๆ ก็ทำเงินได้สารพัดแล้ว ว่าไม่จะเป็นตั้งบริษัทมูลค่าหลายล้าน ไปถึงได้งานประจำเงินเดือนหลายหมื่น ....
พวกนี้ไปดูดีๆๅ นี่ หลายคน ขายคอร์สเขียนโปรแกรม คอร์สเขียนโค้ด .... เอาเงินหรือ “ความรวย” มาล่อให้คนไปเรียน
พูดถึงคนที่หลงไปเรียนกับพวกนี้ ... แล้วก็นึกถึงน้องคนหนึ่งที่เคยมาสมัครทำงานกับผม ...
เคยมีน้องคนหนึ่ง ไปเรียนกับพวกนี้ .... มาสมัครงาน ขอเงินเดือน 70,000 ... ตามคำโฆษณาเชิญชวน ....
น้องเล่าว่า น้องถูกชมจากคนสอนมากมาย ว่าเก่งมาก
ตามธรรมเนียมของการสมัครงาน ก็ให้ลองเขียนโปรแกรมเล็กๆ ดูขำๆ .... น้องก็เขียน Java ตามที่เรียนมาจากที่นั่น .... แต่น้องเขียนทุก Method เป็น Static หมดเลย (น้องเขียนแบบอื่นไม่เป็นเลย) ...
เท่าที่ผมดูจากเอกสารที่น้องเรียน ... คือที่เขาสอนมา ก็สอนแบบ C แล้วเขียนคลาสครอบ Procedures ทั้งหลาย .... มันก็เลยต้องเป็น Static ไม่งั้นใช้ไม่ได้ (อันนี้ผมดูเองจากเอกสาร น้องไม่ได้อธิบายแบบนี้)
ไม่ต้องพูดถึง algorithm หรือพวก abstraction design ต่างๆ นะ เอาแค่เรื่อง technical ของการใช้ภาษาโปรแกรมแบบพื้นฐานล้วนๆ ก็ไม่ผ่านแล้ว
น้องคิดว่า เป็นงานไม่ยาก วันๆ นั่งเปิดนั่งลอก Stackoverflow ให้มันทำงานได้ก็พอแล้ว เขียนยังไงก็ได้ ความเข้าใจอะไรไม่ต้องมีมาก นอกจากให้มันทำงานได้พอ .... และก็ได้เงินเดือนเยอะๆ

807 Nameless Fanboi Posted ID:6kDGddc4yz

มีลูกเพจส่งมาให้จริงเท็จยังไงพิจารณากันเอาเองนะครับ
เตือนกันนะ!
พ่อค้าแม่ขายทั้งหลายที่อยากขายดี
แล้วมีอิพวกชวนไปเรียนยิงแอดโฆษณา
ยิงยังไงให้ปัง ยิงยังไงให้ขายได้ขายดี
มันตอแหล
พวกนี้มันเล่นกันเป็นขบวนการ
มีทีมงาน หน้าหมาหน้าด้านเยอะแยะ
แม้ค่าเรียนจะไม่กี่บาท
แต่มันคือ "ค่าโง่" ที่ไม่น่าเสีย
ที่หากินบนความอยากขายดีอยากขายได้
ขนาดเพจที่ไลฟ์ขายกันทุกวัน
มีคนดูเป็นพันเป็นหมื่น ยังถูกปิดกั้นได้
เฟสมันก็ยังบีบหำกำไข่ให้ไปลงโฆษณากับมัน
เริ่มต้นที่ห้าร้อยถึงหนึ่งพัน
แต่ผลออกมาก็เป็นลมตด
จ่ายแล้วหมดหดหาย เห็นได้เฉพาะคนที่เรารู้จัก
เพราะมันรู้ว่าเรารู้จักใครบ้าง คุยกับใครบ้าง
ก็เอาไปเสนอหน้าให้เห็น เพื่อเอามาบอกเล่าให้เราฟัง
ฉันเห็นที่เธอลงโฆษณานะจ๊ะ
"อยากดัง ต้องสร้างประเด็น"
ทำไงก็ได้ ให้คนมันทะเลาะกัน
อันนี้คือนโยบายหลักของเขาที่เรารู้ ๆ กัน
พอคนทะเลาะ เฟสมันชอบมาก
เกิดความเห็นต่าง เกิดประเด็น
นั่นแหละ เกิดทันที
แนะนำทันที โดยเฉพาะคนที่เห็นต่างกับเรา
พักหลัง ๆ มานี่
ส่วนตัวก็ลดการใช้งานไปเยอะมาก
เปิดใช้เท่าที่จำเป็น
เพราะบางที
ก็เหมือนว่าเราเอาความปลอดภัย
และความเป็นส่วนตัวไปมอบให้ใครก็ไม่รู้
ที่วันดีคืนดี อยากปรับอยากแก้อะไรก็ได้
โดยไม่สนไม่แคร์เราเลย
เพราะเราเสพติดไป กลายเป็นทาส โดยไม่รู้ตัว
#กรัชกาย
ที่มา : พวกสอนยิงแอดให้(มัน)รวยเป็นล้าน โผล่มาทั้งหน้าวอลล์และในแมสเซนเจอ ปกติก็เฉย ๆ แต่พอมีทั้งพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ทำมาค้าขายโดนไปคนละหลายเงิน ก็เริ่มไม่สบายใจ เพราะไอ้คนสอน ทีมงานที่ทำเป็นสัมภาษณ์ เราเองก็รู้ขี้รู้ไส้เห็นสันดานมัน

808 Nameless Fanboi Posted ID:ltczqPdMDl

ชาว Crypto หลายๆ คนโดยเฉพาะสาย Defi ต่างเฝ้ามอง (ด้วยความหวังเล็กๆ) อยากเห็น CBDC (Central Bank Digital Currency) หรือ Digital Currency ที่ออกโดยรัฐ เพราะมันจะช่วยให้ product ของพวกเขาซื้อง่ายขายคล่องขึ้นได้มาก
แต่ Fact ที่เขาไม่ได้นึกถึงคือ CBDC นั้น คือศัตรูของ Concept ของ Decentralized ที่ซาโตขิได้นำเสนอไว้ชนิดสุดขั้ว เพราะ Bitcoin หรือ Crypto อื่นๆ หลายๆ ตัวนั้นเกิดขึ้นจากการตั้งเป้าจะลดทอนอำนาจของรัฐบาลกลางของทุกประเทศ และหวังใจว่า Decentralized System พวกนี้จะทำให้การซื้อขายแลกเปลี่ยนมูลค่าเกิดขึ้นได้ทั่วโลกกับทุกคนอย่างอิสระภาพและไร้การควบคุมจากใครก็ตาม
แต่ถ้าที่สุดแล้ว CBDC (เช่น หยวนดิจิทัล หรือใดๆ ที่ Digitalized Fiat) ถูกใช้งานอย่างกว้างขวาง มันจะยิ่งทำให้รัฐบาลกลางมีพลังในการ Control + Monitor ระบบการเงินได้หนักข้อขึ้นไปอีก เมื่อเทียบกับความพยายามในการควบคุมพวกมันผ่าน Exchange (ตัวเชื่อมโลกแห่ง Decentralized เข้ากับ Fiat) ในปัจจุบัน
และดูจากทิศทางของคนที่เขาสู่วงการ Crypto ที่มุ่งเข้ามาด้วยความย้อนแย้ง คือมองว่า Crypto นั้นจะรุ่งเรือง โดยความรุ่งเรืองนั้นคือการที่เขาเก็งกำไรเงิน Fiat ของเขาวันนี้ เพื่อปรารถนาใน Fiat ที่มากขึ้นกว่าเดิม
โลกแห่งอุดมคตินั้นไม่มีจริง...
ที่สุด วงการ Crypto นี้ ก็จะเป็น Digitally Centralized โดยใครสักคน สักกลุ่ม อยู่ดี

809 Nameless Fanboi Posted ID:15XGjFoyRn

>>805 กุไม่มีปัญหาที่มันสั่ง SV แต่มันควรทำให้โปร่งใสกว่านี้ ตัวอื่นที่ดีกว่าและเขามาน้อยตอนนั้น ต้องบอกให้ชัดเลยว่านี่คือของให้คนที่จำเป็นจริงๆมีการแทรคกลับได้ ไม่มีการเส้นแย่งฉีด และ บอกแผนระยะยาวให้คนรู้แบบว่า มึงฉีดตัวนี้ไปก่อน เดี๋ยว พอมีของกุจะหามาเป็นบูสเตอร์ให้แบบนี้ กุว่าคนฉีดเยอะขึ้นแน่นอน

ไม่ใช่อวดแบบหน้ามืดตามัว นี่คือวัคซีนดีสุดใน สามโลก ด่าไม่ได้ เดี๋ยวจีนน้อยใจ บลาๆ เพราะมันทำแบบนี้ละ คนเลยหนีมากกว่า

810 Nameless Fanboi Posted ID:ltczqPdMDl

กูจะบอกเรื่องนึง บางคนขายครีม อาหารเสริมบังหน้า เพื่อกลบเกลื่อนแหล่งที่มาของเงิน ให้ดูเหมือนว่ามีงานทำ มีธุรกิจ แต่ลับหลังแอบผัวไปขายหี ยิ่งช่วงหลังๆกูเห็นเยอะมาก บางคนหัวใสหน่อย ทำเป็นเทรดหุ้น เทรดคริปโต เทรด fx แต่จริงๆไม่เคยเทรด เพราะเทรดไม่เป็น บางคนเนียนๆอัพรูปคู่กราฟบ่อยๆ ทำตัวให้ดูน่าเชื่อถือ มีแหล่งที่มาของเงิน และไอ้พวกนี้นะชอบโชว์เงิน ชอบอัพรูปเงินเป็นฟ่อนๆบ่อยๆ แต่พอร์ตไม่เคยโชว์ ไอ้พวกนี้มีหรอเทรดได้เยอะๆมันจะไม่โชว์ เพราะมันไม่เคยเทรดไง
บางคนขายครีมได้ยอดวันละพัน แบบยังไม่หักทุนและค่าส่ง แต่ช้อปแบรนด์เนมทุกเดือน นั่นแหละใช่เลย

811 Nameless Fanboi Posted ID:kjiwVnQt7n

>>809 ขนาด SV ตอนแรกๆ มันยังไม่อยากสั่งเลย หมอบุญคนเดิมนี่แหละ ช่วงระบาดใหม่ๆ ที่สมุทรสาคร แกจะสั่ง SV มาเป็นวัคซีนทางเลือก (ตอนนั้นยังไม่ได้สนใน MN , PZ) โดนเบรกจ้า ในขณะที่รัฐบาลเอง AZ ก็สั่งแค่ 26 ล้านโดสจ้า พอเห็นคุมไม่อยู่ถึงสั่ง SV แบบลนๆ อะ คือไม่ยอมรับความผิดพลาดไง เรื่องวัคซีนนี่ มีแค่ ผอ.สถาบันวัคซีน คนเดียวเองมั้งที่กล้าขอโทษประชาชน ที่เหลือแถไปเรื่อยหมด

812 Nameless Fanboi Posted ID:NblCad2v6e

เห็นข่าวเรื่อยๆ อดีตดาราดังป่วยหนัก ไร้เงินรักษาตัว วอนผู้เห็นใจช่วยเหลือด่วน อันนี้ไม่เข้าใจว่า ทำไมตอนมีชื่อเสียงถึงไม่เก็บหอมรอมริบ พอแก่ตัวทำไมถึงหมดตัวไม่เหลืออะไร ไม่มีแม้แต่เงินรักษาตัว เอาละ ก่อนอื่น เราต้องโทษประเทศเฮงซวยที่แม่งไม่มีระบบสาธารณสุขช่วยเหลือคนป่วยอย่างเท่าเทียม แต่กลับมาเรื่องประเด็นป่วยของอดีตดาราเหล่านี้ ตอนคุณสุขสบาย คุณไม่วางแผนอนาคตหรอ โดยเฉพาะถ้ารู้ว่า อาชีพดาราไม่ยั่งยืน และยิ่งถ้ารู้ว่า ประเทศห่านี่ไม่มีระบบสาธารณสุขที่พึ่งได้ บางคนแก้ต่างว่า เราควรเห็นใจเพราะดาราเหล่านี้เคยทำงานสร้างความสุขให้ประชาชน เมื่อเค้าลำบาก เราควรต้องช่วยเหลือ... เอ่อ ไม่ซื้อค่ะ เพราะอาชีพอื่นๆ เค้าก็คืนกำไรให้สังคมเหมือนกัน กรรมกรทำงานหนักกว่ามาก สร้างเมืองให้เราอยู่ พอเค้าไม่มีเงินรักษาตัว ไม่เห็นมีใครออกมาสงสารเค้า นั่นเพราะเค้าไม่มีชื่อเสียง สังคมเลยไม่สนใจและปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม นี่คือความน่าเศร้าของสังคมที่ฉาบฉวยแบบไทยๆ

813 Nameless Fanboi Posted ID:af05tFeo9i

จําไว้คร๊หนู๋ๆ จากเลาที่เปนโทรลโม่งมากว่า7ปี จนได้รับตําแหน่ง The Troll Veteran of Fanboi ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า7ปีนั้น ดิชั้นได้ทราบว่าเปลี่ยนไอดีมันไม่เนียนหรอกค่ะ นักหลวมอย่างเหล่าโม่งล้วนมีสันดาน อุดมการณ์ ที่ถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษรเป็นเฉพาะตัว โม่งมีสัญชาตญาณพลังNew Type และจะถูกปลุกพลังให้มีความรุนแรงขึ้นตามระยะเวลาการเล่นโม่ง โม่งจึงรู้ว่าโม่งไหนคือโม่งไหน แม้จะสลับไอดีก็ปิดไม่มิดหรอกค่ะ ดังนั้น’ถ้าจะโทรล ก็จงโทรลโดยการใช้ไอดีเดิมอย่างมีศักดิ์ศรี’ -อันโตน เชคอฟ อุอิอิออิ #มิตรสหายโม่งทั่นนุงส์

814 Nameless Fanboi Posted ID:hg/cQPQxe9

>>812 ระบบสธ.ไทยนี่ดีสุดในภูมิภาคนี้แล้วนะ ระดับต้นๆ ของโลกเลย ถ้าบอกว่าไม่ช่วยนี่ไม่ใช่ละ ค่ารักษาและการเข้าถึงนี่เป็นตัวทำคะแนนหลีกของไทยเลยนะ เพราะเข้าถึงคนทุกชนชั้นจริงๆ พวกดาราที่ขอรับบริจาคนะ ต้องดูว่าเข้ารพ.อะไร ถ้ารพ.รัฐแม่งตอแหลแน่นอน ไม่ก็จมไม่ลง อยากได้ห้องเดี่ยว อยากได้คลีนิคนอกเวลา อันนั้นมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ถ้าใช้สิทธิเท่าปชช.ทั่วไปนี่แทบไม่มีค่าใช้จ่ายเลย ค่ายาค่าตรวจก็ไม่ต้องเสีย แต่ต้องยอมรับว่ามันต้องนานหน่อย ไม่ตรวจเร็วทำเร็วแบบรพ.เอกชน

ถ้ามึงอยู่ตปท.แล้วถูกบังคับให้ทำประกันสุขภาพถึงจะหาหมอได้เนี่ย มึงจะว่ายังไงดี

815 Nameless Fanboi Posted ID:ATtWschs33

ข่าวไทยรัฐ ออนไลน์ วันนี้ “โทมิโนะ เผย ชาร์ อัสนาเบิ้ลเป็นเสื้อแดง”
สมัยก่อนที่พลตำรวจโททักษิณ ชินวัตรจะลงมาเล่นการเมืองและขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี วันหนึ่งแกเขาได้ไปญี่ปุ่นเพื่อที่จะไปดูงาน International Robot Exhibition 1999 จัดที่เมืองโอซาก้า เพื่อที่จะศึกษายุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีของแต่ละประเทศและทําความรู้จักกับเจ้าของบริษัทหุ่นยนต์จากทั่วโลก วันนั้นเองคุณทักษิณกําลังจะกลับเข้าที่พักหลังจากไปดูงานเสร็จ คุณทักษิณก็ได้เดินเข้าไปในร้านหนังสือข้างทางเพื่อที่จะหานิตยสารหาความรู้มาอ่านให้เข้าสมองยามว่างๆ ก็ได้บังเอิญไปเจอกับผกกโทมิโนะ บิดาแห่งกันดั้ม ซึ่งเป็นการ์ตูนโปรดของโอ๊ค พานทองแท้ ชิณวัตร ลูกชายของคุณทักษิณ คุณทักษิณเลยเข้าไปทําความรู้จักเพื่อที่จะขอลายเซ็นจากโทมิโนะ สรุปว่าทั้ง2คนกลับคุยกันได้อย่างเข้าขา ซึ่งล่ามส่วนตัวของคุณทักษิณ นายจินตภัทร แซ่ลิ้ม ได้ออกมาเผยบทสนทนาที่ตนรู้สึกประทับใจในวันนั้นให้ทางทีมข่าวของเราฟัง ว่าโทมิโนะกับคุณทักษิณคุยกันนานเป็นชั่วโมงเหมือนสนิทกันมา10ปี โดยมีบทสนทนาที่พูดถึงสีที่คุณทักษิณชอบด้วย และมันไปตรงกับสีที่ชาร์ อัสนาเบิ้ลใช้ทั้งแต่งตัว ทั้งเอาไปทาซาคุ ด้วยความเชื่อที่ว่าสีแดงแรงล้มตระกูลซาบี้เร็วสามเท่า ซึ่งอาจารย์โทมิโนะก็ได้เอ่ยชมคุณทักษิณว่ามีลักษณะท่าทางและการวางกลยุทธ์เหมือนชาร์อัสนาเบิ้ล ซึ่งต่อมาหลังจากที่คุณทักษิณถูกเนรเทศออกนอกประเทศ โทมิโนะก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสํานักข่าวญี่ปุ่นว่าผมได้วางบทไว้แล้วว่าชาร์ อัสนาเบิ้ลนั้นเป็นเสื้อแดง แล้วโทมิโนะยังพูดถึงเหตุการณ์การกราดยิงราชประสงค์ปี53อีกด้วย ซึ่งอาจารย์เขาได้ให้ความหมายใหม่ของสีแดงที่ชาร์ใช้ว่าเป็นสีเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ประชาธิปไตยนั่นเอง

816 Nameless Fanboi Posted ID:A3vsze2KE9

พอฟิตเนสงดคลาสเต้น เกย์ตุ๊ดกะเทยหายไป 70% อ่ะมึง จากที่เคยเหมือนเดินอยู่ในสีลมซอย2 ตอนนี้เหมือนเดินอยู่ในประเวศน์ยิม

817 Nameless Fanboi Posted ID:6mLVPED7WH

>>812 ตฝซ. ย้อนแย้ง

818 Nameless Fanboi Posted ID:A3vsze2KE9

คนยืนในโรงหนังวันนี้ โดนถ่ายรูปถ่ายคริปมาหัวเราะโปกฮา ไม่น่าเชื่อจากไม่กี่ปีที่เรารณรงค์คนมีสิทธิ์ไม่ยืนต้องเปลี่ยนมาเป็นคนมีสิทธิ์ยืนในโรงหนังแล้ว #ประชาธิปไตยจงเจริญ

819 Nameless Fanboi Posted ID:ATtWschs33

>>818 สาเหตุที่กูไม่ชอบซ้ายบางคน คือไม่ชอบที่ต้องทําตัวBiasเลียนแบบส ลิ่ม ด่าอีกฝ่ายว่ามาคุกคามตน แต่ตนก็ไปคุกคามเขา ไม่แยกเรื่องการเมืองกับเรื่องมนุษยธรรม และพวกที่มองแนวคิดทางการเมืองแค่2เสป็คตรัม มึงคิดต่างนิดเดียวโดนไล่ไปเป็นอีกฝั่ง...

820 Nameless Fanboi Posted ID:3zA6beGszS

>>818 สนน​ วะ

821 Nameless Fanboi Posted ID:3zA6beGszS

แค่โดนถ่ายรูปทำมาบ่น​ ขี้แพ้จริงๆ​

822 Nameless Fanboi Posted ID:y/kY4tKus9

>>821 จริงครับ เมื่อปี2018ทําไมร่า นต้องมาโวยวายเรื่องสิทธิที่หลิ่มถ่ายรูปคนไม่ยืน นักหลวมจริงๆเนอะๆ

823 Nameless Fanboi Posted ID:CeHC7tifXz

>>818 >>819 >>822 สมัยก่อนสลิ่่มทำมากกว่านี้เยอะ​ ตอนนี้ก็ยังทำ​ จับคนยัดคุกไปเท่าไหร่แล้ว ที่ค้างอีกเป็นร้อยคดี​ ยุติธรรมไม่มีจะมาขอสังคมเลิกกดดันไปขอพ่องมึงเถอะ

824 Nameless Fanboi Posted ID:3zA6beGszS

>>822 แค่ถ่ายรูปเหรอหลิ่ม​ ดักตบบ้าง​ สาดน้ำบ้าง​ ถถถถ​ ไอ้ขี้แพ้

825 Nameless Fanboi Posted ID:2HqTa6VE5G

>>819 ประเด็นนี้พูดแบบซีเรียสคือกูว่าพวกที่ทำนี่มันมีบางส่วนที่เป็นพวกไหลตามกระแสแล้วฉวยโอกาสได้กลั่นแกล้งคนอื่นนะ
เรื่องนี้กูนึกถึงดราม่าที่มีคนใส่รองเท้าผ้าใบขาดๆขาดขึ้น BTS แล้วมีคนถ่ายรูปเค้ามาประจานลงเน็ตหาว่าใส่กล้องแอบถ่ายใต้กระโปรงในรองเท้า
คนก็ไปรุมด่าเค้ากันชิบหาย พอสุดท้ายคนโพสออกมายอมรับว่าไม่ได้ว่าเห็นเป็นกล้อง เห็นแค่รองเท้ามันแปลกๆเลยมโนเอง
กระแสก็ตีกลับ คนโพสโดนรุมด่าว่ามโนเอาเองจนคนอื่นเสียหายใหญ่โต
แล้วก็มีคนไปแคปมาว่าคนที่ด่าคนใส่รองเท้าขาดตอนแรกกับคนโพสนี่หลายๆเม้นแม่งก็คนเดียวกันนั่นแหละ

826 Nameless Fanboi Posted ID:JU4mNzH9cK

>>824 เหี้ยพอกันว่างั้น ผั้งนึงเหี้ย เราก็เหี้ยตามดีจังว่ะ

827 Nameless Fanboi Posted ID:j8UUbowpN+

>>826 มาตรการทางสังคมเป็นปกติของสังคมมนุษย์ว่ะ มึงไปทำเหี้ยๆเบียวขี้ตีนที่ปทพัฒนาแล้ว คิดว่าเค้าไม่ยี้มึงเหรอ แหกตาดูขี้ตีนในต่างแดนสิบางที่ก็จำนวนไม่น้อยนะ แต่ไม่กล้ากร่างเหมือนในกะลาซักตัว

828 Nameless Fanboi Posted ID:cttP7tubSv

>>823 ใช่ครับๆ เราต้องแก้แค้นกลับให้แรงกว่า เพราะสังคมมันมีแต่ความอยุติธรรมยังไงหล่ะ ดังนั้นการกระทำของเราไม่ถือว่าเป็นการรุกล้ำเสรีภาพคนอื่น เพราะกูโดนรุกล้ำมาจนเยอะแล้ว โอ้ยยน พวกคนชั่วอย่างหลิ่มทั้งหมด ชั้นจะจํากัดให้มันสิ้นซาก!!! เพราะ ชั้น คือ ค ว า ม ยุ ติ ธ ร ร ม!

829 Nameless Fanboi Posted ID:vKgh/nAPeD

>>826 หูย ช่างกล้าพูด "เหี้ยพอกัน" แหมพ่อคนเป็นกลาง เอาไว้ให้พวกสามกีบมันทำถึงขั้นดักตบดักสาดน้ำก่อนแล้วค่อยมาพ่นอะไรหล่อๆก็ได้นะ ไม่ต้องรีบ

830 Nameless Fanboi Posted ID:cttP7tubSv

จะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ ถ้าเทียบลูลูซ กับ ซุซาคุ กูสายซุซาคุมากกว่าหว่ะ กูเชื่อว่ายิ่งเรากระทํากลับอีกฝ่ายมันก็หาจ้ออ้างในการกระทํารุนแรงเชี่ยๆใส่มึงกลับอีกที แล้วทําให้สองฝ่ายมันแยกกันชัดเจนด้วย
กูอยากให้หลิ่มกลับใจแล้วอย่างน้อยมารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยนะ แบบเน้นจํานวนคนเยอะๆ แม่งก็หลอกๆหลิ่มมาก็ได้ว่าแบบเราคือกลุ่มรวมตัวขวาก้าวหน้าและซ้าย ไรงี้คือในม็อบบางทีก็มีหลิ่มมาร่วมด้วยนะถ้าไม่ล้มทั้งสถาบัน แต่ปฎิรูปเฉยๆ และกูไปคุยกับหลิ่มหลายๆคนก็ไม่ชอบตู่นะ //เพราะตนโดนผลกระทบทางเศรษฐกิจ
-ดังนั้นกูเชื่อในเรื่องภาพลักษณ์soft powerด้วย คือไม่ต้องไปด่ากลับสิ่งปญอที่หลิ่มทํามาก คือเขาเป็นเหี้ยอะไรเราอย่าเหี้ยตามกันสิวะ เราเรียกร้องเสรีภาพนะเว้ย แต่เราไปริดรอนเสรีภาพคนอื่น แล้วสังคมจะเกิดคําว่าสิทธิเสรีภาพได้มั้ย พอเรามีภาพลักษณ์Biasเงี่ย อีกใ่ายก็ไอโอโจมตีอีก
-ค่อยๆหาทางปฎิรูปไปเรื่อยๆ คือโครงสร้างประเทศเรามันซับซ้อนมีชุมชนอะไรก็ค่อยๆรณรงค์เปลี่ยนแปลงกันไป คือกูก็รู้ว่ามาทางโลกสวยสันติแม่งมันยากสัสๆ แต่ให้ไปสายExtremists จับอาวุธเลยกูเชื่อว่ากลุ่มม็อบจะเหลือน้อยลงกว่านี้อีก แล้วมันก็ไม่มีคําตอบเหมือนกันทั้ง2หนทาง แต่กูว่าประท้วงโดยสันติแม่งเซฟกว่านะ
กูโอเคหมดกับการจัดม็อบที่ผ่านมา กูว่ามันมีความสร้างสรรค์นะ คือมันก็เกิดการกระตุ้นตั้งคำถามในสังคม อะไรผิดอะไรถูก แต่อย่ามาโป๊ะตรงไปแหกเรื่องส่วนตัวชาวบ้านดิวะ ทําแล้วได้อะไร ซะใจ? แล้วไอคนที่มึงบุลลี่มันคือหลิ่มคนเดียวกันที่ไปกระทืบคนเห็นต่างเหรอ คือคอนเฟิร์มได้ไงว่าเขาเลวขนาดนั้นเลยเหรอ

831 Nameless Fanboi Posted ID:knWgaMjl9i

มึงจะเอาหลิ่มเข้าพวก แค่มึงหลุดหลิ่มก็เห็นลิ้นไก่ล่ะ

832 Nameless Fanboi Posted ID:j8UUbowpN+

>>828 ผิดตั้งแต่บอกว่าแรงกว่าแล้ว ดิ้นต่อไปนะจ๊ะขี้ตีนยุค2021 ถถถ

>>830 ทำไมคิดว่ามาตรการทางสังคมจะต้องจับอาวุธล่ะ ถ้าไปทำตัวขี้ตีนในปทพัฒนาแล้วก็โดนเหมือนกันแหละ มันไม่จับอาวุธมากระทืบแต่ก็ล้อเลียนเล่นเป็นตัวตลกไปเรื่อยๆไง ไม่ฆ่าแต่ถ้าเสือกตายก็กลายเป็นขยะให้คนถ่มถุยใส่ก็เท่านั้นเองแหละ แล้วนี่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ด้วย ยุคโบราณเองก็มีหนักกว่าเยอะแยะไป

833 Nameless Fanboi Posted ID:j8UUbowpN+

>>829 ดักตบสาดน้ำยังถือว่าเบาถ้าเทียบกับขี้ตีนสมัยก่อน ถ้าจะวัดกับจุดพีคของขี้ตีนต้องฆ่าหมู่แบบปี2519 หรือถ้าเอาร่วมสมัยหน่อยก็ออกกฎหมาให้คนรักแล้วแสดงออกต้องติดคุกห้ามประกันน่ะนะ

834 Nameless Fanboi Posted ID:hsEU3qEfF/

กูยังจำภาพหลิ่มเอาตีนกระทืบหัวคนให้กราบรูปพ่องมึงได้นะหลิ่ม

835 Nameless Fanboi Posted ID:hsEU3qEfF/

แงๆๆๆ มีคนถ่ายรูปเลามาด่า เลายืนในโรงหนังอะ มันรุนแรงเกินปายยย
นี่โดนกระทืบหัว หลิ่มไม่สนจายยย ถุย ไอ้ขี้แพ้
https://imgur.com/eEck35C

836 Nameless Fanboi Posted ID:j8UUbowpN+

>>835 ความคิดขี้ตีนเปลี่ยนได้ ขึ้นกับพวกกูได้เปรียบรึเปล่า555 https://mgronline.com/politics/detail/9550000001731

837 Nameless Fanboi Posted ID:IfKTUGVgcY

I usually wear black.

For most days, it’s just a meaningless personal preference.

Today, Oct 13th, it’s for a reason.

And, for that reason, even if it’s a national holiday, and my company’s, I will work today.

838 Nameless Fanboi Posted ID:IfKTUGVgcY

“ถ้าคุณทำงาน 1 ครั้งแล้วได้เงินรอบเดียว
คุณกำลังตามโลกไม่ทัน”
—Leverage mindset

839 Nameless Fanboi Posted ID:PJ8Dv6M/Mj

“เราจะมีสันติ… เมื่อมึงโดนนกกาจิกกินบนตะแลงแกง เราจะมีสันติ”
เธโอเดน

840 Nameless Fanboi Posted ID:MUWkTjz8Ex

Sex is like Golf
You have to play every hole is the goal.

841 Nameless Fanboi Posted ID:IfKTUGVgcY

คนไทยบางคนมีปัญหากับ การที่หัวหน้าฮงทำอาชีพรับจ้างทั่วไปทั้งๆที่จบ วิศวะ ม.โซล (อารมณ์จุฬา/มธ) เพราะไม่คุ้มความรู้ที่ร่ำเรียนมา และค่าใช้จ่ายที่ลงไป
แต่
ไม่มีปัญหากับแนวคิด ที่ให้พอเพียง ไม่ต้องดิ้นรนมาก ไม่ต้องแข่งขันมาก ซึ่งสุดท้ายไปจบที่ใช้ความรู้ไม่คุ้มพอๆกัน

842 Nameless Fanboi Posted ID:IfKTUGVgcY

ผู้ชายที่แต่งงานแล้ว แชทอ่อยๆ กับผู้หญิงคนอื่น ... มันไม่ควรเป็นเรื่องปกติ ที่ใครก็ทำกัน
บ่นลอยๆ

843 Nameless Fanboi Posted ID:oQGRJVonPZ

กูไปตามดูชีวิต พวก กรพต ที่พยายามปรับตัว ขายของออนไลน์ แต่เบื้องหลัง กูก็มีคอมการ์ดมันอยู่หลายคนนะ กูก็นั่งว่างๆ นั่งศึกษาชีวิตพวกมัน
.
บางทีกูก็สงสารพวกมันนะ จะขอแบ่งประเด็นย่อยๆ เพื่อความง่าย
.
1. พวกนี้ เหมือนมีปมด้อย ปมด้อยเรื่องฐานะอย่างรุนแรง มันจะพยายามอวดบ้าน อวดรถ อวดกระเป๋า อวดชีวิตของมัน ว่าชีวิตมันประสบความสำเร็จ ซึ่งแตกต่างจากพวกกลุ่มนักฟาร์มเงินตัวจริงแบบพี่หมี และเพื่อนๆ ที่จะทำตัว low profile สัสๆ หรือ อย่างเฟซพี่หมี แม่งร้างสัสๆ เราจะใช้เซ็ทสึ อำพรางตัวไว้เงียบๆ แล้วก็แอบไปกระแทกเงียบๆ แบบไม่มีใครรู้
.
2. พวกนี้ เวลาโดนจี้ จุดอ่อน มันจะดิ้นรัวๆ เหมือนวัวสันหลังหวะ จะต้องดิ้นพล่าน เหมือนถูกน้ำร้อนลวก กูก็ไม่เข้าใจ ทำไมต้องร้อนตัวอะไรกันขนาดนี้ กูงงชิบหาย จนกลายมาเป็น content สนุกๆ ให้ชาวเรือได้ไปต่อยอด
.
3. หลายๆคน กูไปติดตามชีวิต หลังจากได้คอมการ์ดมา ไอ้สัสเอ้ยย แม่งมีต้นทุนที่ดีสัสๆ เรื่องหน้าตา รูปร่าง แต่มันทำการค้าไม่เป็น หลายคนแม่งก็พยายามนะ พยายามสัสๆ แต่มันเหมือนมันพยายามผิดจุด คล้ายๆว่า กำลังจะเอา blackberry กับ pager ไปขายเด็กรุ่นใหม่ เปรียบเปรยนะมึง บางทีแม่งก็สงสารพวกมัน อยากเข้าไปโค้ชชิ่งให้เลย แม่งมีตัวเอง ที่เป็น presenter ได้สบาย เป็นแต้มต่อที่ได้เปรียบมากๆ
.
4. จุดนึง ที่พวก กรพต พวกนี้ แผ่ออร่าออกมา คือ พวกเหล่าบรรดา กรพต เพื่อนๆมัน ที่คอยยกหางให้ แล้วก็มี อครพทห คอยออกมาปกป้อง แต่แม่งก็แค่เปลือก พวกนี้ มันแค่เปลือกความสัมพันธ์ผ่านทาง social กูเห็นมาเยอะแล้ว จนบรรลุสัจธรรมเรื่องนี้ พอถึงเวลา แม่งก็ไม่เหลือใคร กลายเป็นซึมเศร้า แม่งเอ้ยย pattern เดิมๆ ตอนจบเหมือนเดิม
.
5. พี่หมีได้ทฤษฎีใหม่มา เรียกว่า ทฤษฎี curse ตัวอย่างใกล้ตัวที่ดีมากๆ คือ น้องหมอย ที่มันมี curse ติดตัวมา เรียกว่าเป็นคล้ายๆแผลเป็นทางจิตใจ ที่มันจะต้องใช้ชีวิตทั้งชีวิต คอยเยียวยาแผลของตัวเอง เช่น มันอาจจะรู้สึกต่ำต้อยกับตัวเองที่ไม่เก่งเหมือนความคาดหวังของคนในครอบครัว มันเลยจะต้องพยายามเอาเรื่องที่มันพอจะเติมเต็มตัวเองได้ เอางี้ ไอ้สัส เรื่องนี้มันยาว ไว้เดี๋ยวแยกอีกโพส ถ้าพวกมึงอยากอ่านต่อ กด 1

844 Nameless Fanboi Posted ID:KXFf/lsJsF

The Philippines is the true successor to the Holy Roman Empire

The Philippines is basically the Holy Roman Empire. It thinks its a great nation but it sucks. Its made of lots of different people who speak different languages and will only do things for the benefit of their own region. It's riddled with religious corruption and has claims over provinces that don't want to be a part of it. It's basically an elective monarchy where all the feudalists pick the next scapegoat for their mistakes. Tell me this isn't the Philippine Republic, I dare you.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

845 Nameless Fanboi Posted ID:fhL5FGmlkc

หลายเรื่องในโลกนี้
ไม่ปกติ แต่ธรรมดา

846 Nameless Fanboi Posted ID:oQGRJVonPZ

ยิง Ads มา 70 ปี ลูกค้าจะไม่เยอะได้ไง

847 Nameless Fanboi Posted ID:sXAMoWQdpa

มีเงินแต่ไม่มีความฝัน มีชีวิตก็เหมือนไม่มีชีวิต
คนเราขาดเงินยังอยู่ได้ แต่ขาดแรงบันดาลใจก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม
นี่คือสาเหตุที่คนทั้งโลกไม่เคยมองว่าเงินเป็นใหญ่ที่สุด แต่ก็ใหญ่อยู่

848 Nameless Fanboi Posted ID:ENuU/ZV3pP

แก เอาจริงๆ รณรงค์ลดกินแซลม่อนกันมั้ย ตอนนี้มันเดือดร้อนระบบนิเวศน์ทางทะเลไปหมดแล้ว สัตว์ที่ต้องกินแซลม่อนเป็นอาหารก็จะตายเอา แชลม่อนเพาะพันธุ์ยาก เพราะจะเกิดโรคติดต่อ เลยมีการล่าแซลม่อนใน wild ขึ้นมา เอาจริงอโวคาโด้จิ่มโชยุมันก็รสชาติเหมือนแซลม่อนเลย ลองไหม ลองมาลดการกินแซลม่อนกัน

849 Nameless Fanboi Posted ID:iJEJoqYYhi

>>848 กูจะแดก มึงไม่แดก ก็เรื่องของมึง

850 Nameless Fanboi Posted ID:3CK8APi.Bz

whenever you hear "this is NOT a get rich quick scheme" just know it's most likely a get rich quick scheme.

851 Nameless Fanboi Posted ID:6X6HR9DH4v

ในชีวิตนี้มีแต่คนเหี้ยๆเท่านั้นที่กล้าประกาศว่าตัวเองเป็นคนดีค่ะ
ใครชอบประกาศว่าชั้นดี ชั้นดี วิ่งหนีมันค่ะ อย่าไปใกล้ค่ะ มันเป็นคนบ้าค่ะ

คนที่ดีจริงๆ มีเมตตา มีสัจจะ ไม่มีใครบ้าประกาศสักคนว่าตัวเองดีสักคน
คนที่บริจาคทรัพย์สินส่วนมากของตัวเองให้คนยากไร้ ไม่ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย ก็ไม่มีใครประกาศนะ ดูพี่โจว คีนู ไรงี้สิ
บิลเกตยังไม่กล้าประกาศเลย ว่าดูชั้นสิ ดูชั้นสิ ชั้นเป็นคนดี
มีแต่คนเหี้ย ย้ำค่ะ ว่ามีแต่คนเหี้ยชอบอวดตัวว่าดี

852 Nameless Fanboi Posted ID:6VXFvdFRVe

สมัยก่อนๆ 14 ตุลา ดังกว่า 6 ตุลามาก เรื่องราวโรแมนติกกว่า นักศึกษาต่อสู้กับทหารเผด็จการจนได้ชัยชนะ เป็น good against evil ตามแบบฉบับ

3 ปีต่อมา ถึงได้รู้กันว่า ภัยซ่อนเร้น มีอยู่จริง The Phantom Menace

ตอนนี้คนเลยสนใจ 6 ตุลาเยอะกว่ามาก

853 Nameless Fanboi Posted ID:UPw9/LpqLi

>>852 คนสมัยนี้มองเป็นก้อนเดียวกันหมดแหละ แต่14ตุลาเหมือนแค่ปฐมบท จบแบบดาร์กที่6ตุลา แถมมีสตอรี่เป็นอีเว้นท์ที่โดนปกปิดมาเป็นสิบๆปีและปัจจุบันก็ยังพยายามเลี่ยง (ไม่เหมือน14ตุลาที่เอาเข้าจริงก็ได้แสงมาตลอด) 6ตุลาเลยรู้สึกว่าน่าสนใจกว่า

854 Nameless Fanboi Posted ID:Vp5/nsDnyy

>>853 กูมองว่าคนเดือนตุลามาอยู่ฝั่งเจ้าเยอะด้วยละ การเล่าด้านนี้ถึงถูกลดความสำคัญมาตลอด แต่ก็ไม่เชิงถูกปกปิดนะ เขียนถึงหลายเล่ม อย่างดังสุดคงเป็นบ้านเมืองของเราลงแดงมั้ง เป็นหนังสือภาคบังคับเลย สมัยก่อนทั้งอวยไม่อวยเจ้าอ.ก็สั่งให้อ่านหมด

855 Nameless Fanboi Posted ID:6X6HR9DH4v

มาเล่นเกมกับกูกัน

ให้ทายว่าคนภาคไหนโดยที่ไม่ต้องบอกชื่อ

- จน สกปรก ขี้เกียจ
- หน้าบาน กรามใหญ่ ตัวดำ ดั้งแหมบ
- หาแต่ผัวรวย เรียกสินสอดแพง
- หาไม่ได้ก็ไปหลอกฝรั่ง
- ชอบเต้นรถแห่ มีลูกตั้งแต่อายุยังน้อย ลูกดก
- ชอบแดกน้ำส้วม
- แดกแต่ของแปลกๆ สกปรก ล่าสุดแดกปูเต้น
- แหล่งทำงานยอดฮิต ข้าวสาร ภูเก็ต พัทยา หวังฟลุ๊คได้ผัวฝรั่ง
- วันๆทำมาหาแดกทางอื่นไม่ได้ นอกจากเล่นไพ่ เล่นหวย หวังฟลุ๊คไปวันๆ
- พอมีเวลาว่าง กินแต่เหล้า แล้วโทษฟ้าดินว่าทำไมไม่รวยสักที
- ต่อให้ฟลุ๊คถูกหวย ก็ไม่เคยเอาไปต่อยอด ซื้อแต่รถมาอวดคนข้างบ้าน
- เป็นทุกข้อข้างบนมารวมกันไม่เคยอายชาวบ้าน แต่จะอายชาวบ้านอยู่อย่างเดียวคือไม่ได้สินสอด

856 Nameless Fanboi Posted ID:ZhOqutKZS.

>>855 คนใต้ควายๆ แถมเป็นหลิ่มโง่ๆ

857 Nameless Fanboi Posted ID:heb+ElulIC

>>855 ภาคใต้

858 Nameless Fanboi Posted ID:+9n6mS1DTB

ทำไมอาหารอีสาน อร่อยที่สุดในโลก ละ

859 Nameless Fanboi Posted ID:C90yzqaJgM

>>855 ภาคที่โควิดกำลังระบาดหนักเพราะคนโง่ๆ ไม่ระวังตัวเต็มไปหมด ชัวร์!

860 Nameless Fanboi Posted ID:YH79O3W/Tl

ขนาดยังไม่ได้บอกชื่อภาคนะ พวก ลูกอีพ่อลูกส่งขายหีออกมาดิ้นกันเต็ 5555

861 Nameless Fanboi Posted ID:HcyGq5PAKc

>>860 ก็ภาคใต้ไง​ไม่ถูกเหรอ​

862 Nameless Fanboi Posted ID:vpK1yjPSnR

วันนี้ใครทำอะไรอยู่ในแค่เฟซบุ้คคุณจะเริ่มเจ็บปวดมากขึ้น
กับเจ้าของแพลตฟอร์มที่นับวันเริ่ม “อะไรของมึง” มากมายขึ้นทุกวันๆ
เพจของท่านจะมีคนเห็นน้อยลงไปอีกในช่วงเวลาอันใกล้
ไม่ว่าคุณจะทำคอนเทนท์กำเนิดเกิดมาจากสวรรค์ที่ไหน
อย่างไรก็จะไม่มีวันชนะ อัลกอริทึ่มที่เค้าสร้างขึ้นมา
คำถามที่หลายคนทำเพจอาจจะถามตามมาว่า “แล้วจะให้พวกเราทำอย่างไร”
ผมที่ทำเพจมาแล้ว 8 ปีในวันนี้คงตอบได้เพียงว่า
ในอนาคตอันใกล้ใครที่สร้างตัวตนในแพลตฟอร์มเดียว
อย่างเดียว ไม่คิดขยับขยาย แตกแขนง หรือทำไปวันๆ
คุณอาจจะหยุดมันภายในเดือนเดียวที่เริ่มต้นขึ้น ..
2017-2018 เฟซบุ้คมันไม่ง่ายอย่างไร
2021 โลกเฟซบุ้คไม่ง่ายอีกครั้งนึงแล้วครับ

863 Nameless Fanboi Posted ID:0jbN8N0Bdu

เลิกเล่น facebook ซะสิ คนเล่นน้อยลงเยอะๆ มันก็กลับมาง้อพวกมึงเอง

864 Nameless Fanboi Posted ID:LlCdDpWcvU

ว้าย 2021 แล้วยังเล่นเฟซกันอยู่อีก แต่ก็นะ เป็นแพลตฟอร์มยอดฮิตของพวกซีนิกก้า

865 Nameless Fanboi Posted ID:+sOvUlQG3z

>>864 ใช่ค่ะ เฟมทวิตอย่างดิชั้นปวดหัวสุดๆค่ะกับพวกไม่ได้มีการเอดดูเขต

866 Nameless Fanboi Posted ID:BFyPIe6j84

>>864 กลับบอร์ดมึงไปไอ้วี้บเต่าเหม็น

867 Nameless Fanboi Posted ID:WzqgbwZ5AX

“…วันหนึ่งขุนนางจีนมาบอกกับทูตไทยว่า มีหนังสือมาจากหัวเมือง ว่าทูตฝรั่งเศสจะขึ้นมาเฝ้าสมเด็จพระเจ้ากรุงปักกิ่ง ทูตใกล้จะมาถึงปักกิ่งแล้ว ท่านจะกลับก่อนหรือคอยดูทูตฝรั่งเศสเฝ้าก่อนถึงจะไป ทูตไทยว่าในกรุงสยามมีทูตฝรั่งเศสมาเฝ้าสมเด็จพระเจ้ากรุงสยามอยู่เนือง ๆ เคยเห็นแล้วไม่อยากจะคอยดู อยากจะกลับไปกรุงสยาม เจ้าพนักงานว่าหลีปูตาถังมีธุระมาก จะจัดการรับรองทูตฝรั่งเศส หลีปูตาถังยังไม่มีเวลาที่จะจัดการเครื่องราชบรรณาการตอบแทนพระเจ้ากรุงสยามได้ เพราะต้องรับทูตและทำหนังสือสัญญากับฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ในยุโรป กรุงสยามเป็นเมืองเล็กน้อย ควรคอยให้ธุระเมืองใหญ่สิ้นก่อน ทูตจึงว่าแล้วแต่หลีปูตาถังจะจัดการ

ประมาณเดือนเศษ เจ้าพนักงานนำทูตสยามไปดูแห่รับทูตฝรั่งเศสในพระราชวังพร้อมทูตทั้ง ๖ เมือง ทูตไทยเห็นจีนรับรองทูตฝรั่งเศสยิ่งกว่าที่รับทูตไทยหลายสิบเท่า มีแห่รับราชสาส์นและรับทูตฝรั่งเศสขึ้นคานหามทอง ๒ คน ขุนนางฝรั่งเศสขึ้นเกี้ยว ๖ คน มีกระบวนแห่รับรองแข็งแรง ยิงปืนใหญ่สลุตรับพระราชสาส์น ๒๔ นัด ทูตฝรั่งเศสพักที่พระที่นั่งไถหิมหุยี่ในพระราชวังใกล้กับพระมหาปราสาท เวลาบ่าย ๔ โมง ทูตฝรั่งเศสเชิญพระราชสาส์นเข้าไปเผ้าสมเด็จพระเจ้ากรุงปักกิ่งในพระมหาปราสาท เมื่อทูตฝรั่งเศสเข้าในพระมหาปราสาท ทูตทั้ง ๖ เมืองไม่ได้เข้าไป เจ้าพนักงานจีนให้พักอยู่แต่ที่ชาลาพระที่นั่ง

ทูตเมืองเกาหลีและเมืองคุลิคะพูดขอต่อเจ้าพนักงานจีนให้นำเข้าไปคอยเฝ้าในพระมหาปราสาท เพราะอยากเห็นธรรมเนียมฝรั่งเศสเฝ้า เจ้าพนักงานว่าทูตทั้ง ๖ เมืองเข้าไปดูในพระมหาปราสาทไม่ได้ เพราะเป็นทูตเมืองเล็กเมืองน้อย ต้องเฝ้าที่หน้าพลับพลาเหมือนเมื่อมาเฝ้าแต่ก่อน ถ้าเฝ้าตามถนนตามประตูเมืองประตูวัง ตามสวนตามพระที่นั่งที่ประพาสต่างๆ ได้ไม่ห้าม ในพระมหาปราสาทเฝ้าได้แต่ทูตเมืองใหญ่คืออังกฤษ ฝรั่งเศส แต่อเมริกันก็เฝ้าไม่ได้ ต้องเฝ้าหน้าพลับพลาเพราะถึงเป็นประเทศใหญ่จริงแต่ก็ไม่มีกษัตริย์ เมืองพม่า, ลาว, ญวน, ไทย, ยะไข่, คำติ, ไซตอง, เกาหลี, สุลี, คุลีคะ, จุกศรี, ลิวขิว, มองละ, มองมลา เมืองเหล่านี้เป็นเมืองกษัตริย์ก็จริงแต่เป็นเมืองเล็กน้อย จึงรับเป็นเมืองก้องหน้าพลับพลา พระราชสาส์นไม่ได้ถวายด้วยมือตัวเองต่อพระหัตถ์ เจ้าพนักงานถวายก่อนเฝ้า เมื่อเฝ้าก็เฝ้าตามธรรมเนียมเหมือนเมืองประเทศราชกรุงปักกิ่ง ทูตทั้ง ๖ เมืองต้องคอยพระราชสาส์นตอบ จนฝรั่งเศสกลับจึงจะได้ตอบ ทูตฝรั่งเศสได้มาดูทูตทั้ง ๖ เมืองด้วย…”

หนังสือ ระยะทางราชทูตไทยไปกรุงปักกิ่งฯ มูลนิธิสมเด็จพระเทพฯ

868 Nameless Fanboi Posted ID:D2FoX5sSI+

ราเห็นเพื่อไทยกลับไปใช้ลายมือทักษิณมาทำแคมเปญ
แต่ก้าวไกลไม่ต้องใช้อัตลักษณ์ใดๆของธนาธรเลย

ยิ่งชัดว่าถ้าไม่มีทักษิณ พรรคเพื่อไทยก็ไม่เหลืออะไร
แต่ก้าวไกลก็ยังเดินต่อไปได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะต้องล้มลุกคลุกคลานยังไง เพราะมันคือแนวคิด อุดมการณ์ ไม่ใช่บุคคล

869 Nameless Fanboi Posted ID:tWTq.Ofl4h

โคตรน่ารำคาญ เวลาพูดเรื่องราคาตั๋วรถไฟฟ้า แล้วพวกเชียร์รัฐบาลบางเพจจะมาแย้งด้วยการกดทับคนจนให้หนักขึ้นกว่าเดิม..
📍 ใครได้ค่าแรงขั้นต่ำแล้วนั่งรถไฟฟ้า ก็มีแต่พวกโง่เท่านั้นแหละ
📍 ถ้าจนก็นั่งรถเมล์ไป
📍 บริหารเงินไม่เป็นไงถึงไม่รวย
📍 ย้ายบ้านสิ เปลี่ยนที่ทำงานสิ แค่นี้คิดไม่ได้เหรอ
ประเด็นหลักมันไม่ใช่คนไทยไม่มีทางเลือกหรือเค้าคิดไม่ได้โว้ย มันมีทางเลือก แต่ทางเลือกมันห่วยไง ห่วยกว่าที่คนจนประเทศอื่นมีทางเลือกไง
📍 เพราะจนก็เลยไม่มีสิทธิเข้าถึงสาธารณูปโภคพื้นฐานเหรอ..?
📍 เพราะจนเลยต้องนอนน้อยหน่อย ตื่นเช้ากว่าคนอื่น นั่งรถเมล์ สูดควันพิษเต็มปอดให้ตายเร็วขึ้นเหรอ..?
📍 เพราะจนเลยไม่มีโอกาสเลือกงานที่หลากหลาย หรือเลือกที่พักที่เหมาะกับตัวเองได้เหรอ
เพราะค่าสาธาณูปโภคมันแพงไง ทางเลือกมันก็เลยน้อยลง เค้าไม่ได้ถกเถียงเพราะเค้า "ไม่มีทางเลือก" แต่เค้าถกเถียงเพื่อให้เค้า "มีทางเลือกที่มากขึ้น" หรือ "มีทางเลือกที่ดีขึ้น" (โดยอ้างอิงจากคุณภาพชีวิตคนจนของประเทศอื่นๆ)
ก็ได้ๆ ถ้าใครบอกว่าเอาค่าเดินทางมาคุยแล้วยังยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่าประเทศไทยค่าครองชีพเหมาะสมแล้ว คนจนมีคุณภาพชีวิตที่ไม่แย่ ผมตัดส่วนนึงจากโพสยาวๆ ก่อนหน้านี้
ผมจะเอาราคา "หนึ่งหน่วยโปรตีน" มาเทียบระหว่างไทยกับญี่ปุ่น..!!
โปรตีนเป็น basic need for survival มนุษย์คนนึงไม่ว่าคุณอยู่ประเทศไหน ไม่ว่ารวยหรือจน คุณต้องได้รับโปรตีนในปริมาณที่เหมาะสมถึงจะมีชีวิตอยู่ได้
ดังนั้นราคาโปรตีนของแต่ละประเทศจึงเป็นตัวชี้วัด ค่าครองชีพของประเทศนั้นๆ ได้ ว่าถูกหรือแพงกันแน่ ลืมราคารถไฟฟ้า ลืม Big Mac Index ไปก่อน
เนื้อไก่ 1 กิโล ให้โปรตีน 270 กรัม
ที่ญี่ปุ่น โปรตีน 270 กรัมจากเนื้อไก่ ราคา 254 บาท (865 JPY) คิดเป็น 12% ของค่าแรงขั้นต่ำของคนญี่ปุ่น (วันละ 7,200 JPY)
ส่วนของไทย โปรตีน 270 กรัมจากเนื้อไก่ ราคา 70 บาท คิดเป็น 20.59% ของค่าแรงขั้นต่ำ
สรุปคือ คนไทยจ่ายค่าสารอาหารเพื่อดำรงชีพแพงกว่าคนญี่ปุ่น
คุณจะมาบอกอีกมั้ยว่า ถ้าจนก็อย่าเสือกกินไก่ ให้หาโปรตีนถูกๆ กินแทน
ถ้าจนก็กินถั่วไป ให้โปรตีนเหมือนกัน (ซึ่งถั่วญี่ปุ่นก็ถูกกว่าถั่วไทยอีกนั่นแหละ เมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ)
ผมพูดเป็นกลาง เพราะมันเลวร้ายแบบนี้มาทุกรัฐบาล ผมไม่ได้โจมตีรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง คุณจะมาปกป้องรัฐบาลทำไม.. เถียงแทนรัฐบาลนี้ทำไม..?
เมื่อไหร่จะยอมรับว่า ค่าครองชีพของคนไทยมันโคตรจะแพง.. แค่ยอมรับว่ามันมีปัญหา ประเทศไทยมันแย่มากในเรื่องนี้ มันจะเป็นจะตายหรือไง มันจะกลายเป็นพวกชังชาติหรือไง
คุณจะรักประเทศไทยยังไง เป็นประเทศที่น่าอยู่ขนาดไหน อุดมสมบูรณ์ขนาดไหน แต่มันไม่ใช่สำหรับคนจน..!!
PS. คุณจะวัดด้วย โปรตีน คาร์โบไฮเดรต หรือไขมันก็ได้ แม่งก็แพงกว่าทุกอย่างแหละ
PS2. ส่วนใครจะมาแย้งว่า ญี่ปุ่นภาษีแพงกว่า ลองคำนวนรายได้ขั้นต่ำที่ญี่ปุ่น ถ้าไม่เกิน 3 ล้านเยนต่อปี แทบจะไม่เสียภาษีนะครับ
PS3. สมควรแล้วที่เพจมึงชื่อเม็ดแตด

870 Nameless Fanboi Posted ID:y/cm9Fum2.

เอาจริงๆ ดราม่าเรื่อง ธนาคารขายประกันการโดนแฮกเงินในบัญชี จริงๆ เป็นเรื่องที่ออกจะน่าเห็นใจนะ
คือ การที่คุณฝากเงินไว้กับธนาคารมันไม่ได้หมายความว่ามันจะปลอดภัย 100%
เพราะอะไร..?
ธนาคารมีประตูทางเข้าไปสู่เงินตรงนั้นได้ในรูปแบบหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น mobile banking หรือ บัตรเดบิต
📍 สมมติคุณโดนขโมยโทรศัพท์โดยที่อาชญากรรู้รหัสผ่าน mobile banking ของคุณ (เช่น ตั้งเป็นวันเดือนปีเกิด ซึ่งเดาโคตรง่าย) อาชญากรก็เป็นผู้มีสิทธิถอนเงินนั้นออกมาได้โดยถูกต้องตามกลไกรักษาความปลอดภัยทุกอย่าง
📍 หรือถ้าคุณไปกรอกบัตรเดบิตในเวบคุณภาพต่ำ ที่ไม่มีพวก 3D Secure แล้วดันไปทะลึ่งให้เวบนั้นจำข้อมูลบัตรคุณด้วย แล้วเวบนั้นโดนแฮก หรือเจ้าของเว็บเป็นมิจฉาชีพ เงินในบัญชีบัตรเดบิตคุณก็โดนตัดได้แบบง่ายโคตรๆ
ทั้งสองประเด็นนี้ ไม่ว่าระบบรักษาความปลอดภัยของแบงค์จะเทพแค่ไหน เค้าก็ช่วยป้องกันให้ไม่ได้นะครับ เพราะมันคือความสะเพร่าส่วนบุคคลล้วนๆ คุณเป็นคนส่งกุญแจตู้เซฟให้โจรเองเลย มันไม่เกี่ยวอะไรกับความผิดของธนาคาร
ดังนั้น การที่ธนาคารขายประกันในเรื่องความเสี่ยงต่างๆ เหล่านี้ มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลด้วยประการทั้งปวง
สุดท้ายมันต้องไปดูในเงื่อนไขของกรมธรรม์ ว่าปกป้องคุ้มครองในกรณีไหนบ้าง ก่อนจะมาดราม่ากันหน้าเฟสบุ้คนะ
บางที สังคมเราก็ดราม่าง่ายเกินไปหน่อย..

871 Nameless Fanboi Posted ID:2PC2wcbTeB

ผมพึ่งเข้าสู่วงการซื้อบ้านได้ไม่นาน วันก่อนพึ่งตกแต่งชั้นล่างจนเสร็จพร้อมอยู่ เลยถ่ายรูปแล้วเอาไปปรึกษาต้นกล้า เซียนบ้านจัดสรรประจำออฟฟิศ
“ต้นกล้า กูพึ่งรีโนเวตบ้านใหม่เสร็จ ด้านล่างใช้พื้นไม้สีอ่อนหมดเช่นเดียวกับเฟอร์นิเจอร์ ส่วนผนังขาวหมดจด ถ้ากูถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย กูต้องได้รับการยอมรับจากคนอื่นแน่ๆ”
“เฮอะ เนื้อแท้แค่หางอึ่ง แต่ทำตัวประหนึ่งจ่าฝูง บ้านจัดสรรสำหรับพี่ มันก็แค่เครื่องมือไว้อวดชาวโลกว่า ฉันเป็นคนรสนิยมวิไลสินะ เดาว่า เดี๋ยวพี่ก็ซื้อมู่ลี่ไม้และเซ็ตดริปกาแฟของ fellow ด้วยใช่ไหม จากนั้นพี่ก็ทำทรงถ่ายรูปแก้วกาแฟบนโต๊ะไม้โอ๊กแบบมีแดดอ่อนผ่านมูลี่เข้ามาแล้วโพสว่า lazy sunday”
“ระ ระ รู้ได้ไง”
“เฮอะ เดาไว้ไม่พลาด คาดไว้ไม่ผิด คิดไว้ไม่เพี้ยน พี่มันก็แค่คนที่ใช้บ้านเป็นโทรโข่งป่าวประกาศว่า ฉันมีรสนิยมวิไลและไปถ่มถุยใส่เฟอร์นิเจอร์และการจัดบ้านของคนรุ่นพ่อแม่ รู้ไหม แท้จริงแล้ว พี่ไม่เคยอยู่อาศัยในบ้านหรอก พี่อยู่อาศัยใน pinterest ต่างหาก”
“หะ...โหดร้าย กะ...กูแค่อยากมีบ้านสวยๆ ถ่ายรูปขึ้นมันผิดตรงไหน”
“พี่ไม่ผิดเลย แต่พี่ก็พลาดเรื่องที่ลึกลงไปกว่าพื้นผิว พี่เคยใส่ใจ ท่อปลวก ท่อน้ำ แทงค์น้ำ พื้นกระเบื้องที่ทนทาน หรือ joint ผนังที่อาจจะรั่วซึม กับถาดพื้นห้องน้ำ บ้างไหม ผมเดาว่า สาบสันดานแห่งการดูแค่เปลือกผิว มันคงคละคลุ้งไปที่มิติอื่นในชีวิตพี่ด้วยสินะ เวลาพี่ดูหนังก็รู้จักแค่ดาราและผู้กำกับ แต่ไม่เคยสนใจตากล้อง โปรดิวเซอร์ คนตัดต่อ และตำแหน่งเบื้องหลังสำคัญอื่นๆ กินโอมากาเสะก็ดูแค่อูนิและโอโทโร่ แต่ไม่เคยใส่ใจน้ำส้มสายชูที่เขาใช้คลุกข้าวหรือน้ำแร่ที่เขาใช้หุงข้าว เพราะพี่เออออไปเองว่า ไม่เห็น ย่อมไม่สำคัญ เรื่องบ้านก็เช่นกัน ยังมีเรื่องอื่นที่พี่เขลาและมืดบอด พี่เคยรู้ไหมว่า การอยู่อาศัยจริงๆนั้น บ้านควรจะสอดคล้องกับวิถีชีวิตให้ครบทุกด้านมากกว่าที่ตาเห็น เช่นที่ SC Asset บ้านของเขามีบริการ…”
“เฮอะ มึงพลาดแล้ว พ่นพวยถ้อยคำออกมามากล้น เหตุตั้งต้นแค่รับเงินมาโฆษณา”
“เฮอะ พี่เองก็หลงละเมอคิดว่า ตัวเองสะอาดจากโลกทุนนิยมหนักหนา พี่มันก็แค่คนที่เข้าไปจับผิดคอนเทนต์ advertorial ใดๆ ในโซเชียลมีเดีย แล้วก็ทำทีเป็นรู้ทันว่า โถ ที่แท้ก็รับเงินเขามาโฆษณา เด็กชายธนชาติช่างอ่อนเยาว์และ naive ถึงขนาดไม่รู้ความเป็นไปของโลกในปี 2021 เลยเหรอนี่ อ้อ ผมลืมไป เพราะพี่ไม่ได้อยู่ในโลกจริงไงล่ะ พี่มัวแต่อยู่ในโลก pinterest ที่เสพเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็งสีอ่อนดั่งตัวปลวกที่มืดบอด”
“มะ มะ ไม่ขัดแล้วก็ได้”
“ดี จะได้ไม่เสียเวลาทำมาหากิน... ที่ SC Asset เขาตั้งใจจะให้บ้านทุกหลัง เป็น Homes For All คือเป็นบ้านสำหรับทุกคน ทุกไลฟ์สไตล์ พูดให้ถูกก็เหมือนบ้านสั่งตัดแบบ tailor-made เหมือนเสื้อสูทที่เหมาะกับแค่พี่คนเดียว แถมเขายังใส่ใจเรื่องบ้านในแบบที่คนอย่างพี่อาจจะมองไม่เห็น โครงสร้างบ้านที่มีคุณภาพ ระบบดูแลหลังการขายที่สะดวกสบาย สมคอนเซปต์ Worry-free Home หึ คนอย่างพี่จะรู้มั้ยว่าเขามี Ruejai Subscription ที่สามารถจ่ายค่าบริการรายเดือนเหมือน Netflix แต่เป็นการ subscribe ให้เขาบริการดูแลบ้านแทนเรา เช่น แม่บ้านทำความสะอาด หรือช่างซ่อมบำรุงส่วนต่างๆ ในราคาพิเศษเฉพาะลูกบ้าน SC Asset แถมอนาคตเขายังมี Ruejai Pulse ที่ทำให้บ้านเหมือนมีชีวิต ดูแลตัวเองได้รอบด้านมากขึ้น เช่น เตือนเวลาแก๊สรั่ว หลังคารั่ว น้ำรั่ว หรือปรับอุณหภูมิของบ้านได้โดยอัตโนมัติ นี่แหละ สิ่งที่มองไม่เห็นเหล่านี้ แต่แก่นกระพี้ของมันมีคุณค่ายิ่งนัก พี่คงไม่เข้าใจสินะ เพราะพี่ยังหมกมุ่นกับการประเมินค่าสิ่งต่างๆ ด้วยยอดไลค์และคอมเมนต์ จนหลงลืมแหวกว่ายสู่ความจริงที่ว่า บ้านที่ดี ต้องมีมากกว่าความสวย ถ้าเช่นนั้นแล้ว ผมคงสรุปได้ว่า พี่ไม่ใช่เซียนที่ไหนหรอก พี่มันแค่เศษเดนชั้นสวะของวงการเท่านั้นเอง”
“ตะ ต้นกล้า กูแค่อยากมีความสุข ทำไมมึงต้องเบียวกูด้วยวะ”
“ผมไม่ได้เบียว แต่ผมเป็นหนึ่งเดียวกับที่อยู่อาศัย”
#จบ #ออกจากวงการ #แต่ลูกค้าเข้า #ฟลุ๊คสัส #เออเข้าไปดูโครงการเขาหน่อยนะ #ดีจริง #ไปฟังพอดแคสต์ด้วย #7รายการแน่ะ #ทุกช่องทางของSalmonPodcast #SCASSET #จักรวาลบ้านเรา #SalmonPodcast #SCHomesForAll

872 Nameless Fanboi Posted ID:o8xQ708zW1

112 ตอนนั้นก็คงแก้ยากแหละ เลยไม่คิดจะลองหรือพยายามเลย มันยาก
เช่นเดียวกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ยากและโดนต้านหนักแน่นอน แต่อันนี้ รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง รวบรัดผ่านตอนตีสาม นิรโทษทุกคนตั้งแต่มวลชน(ยกเว้นคนโดน 112) ยันคนสั่งฆ่า

873 Nameless Fanboi Posted ID:Eh5cq+jHjF

>>872 ขยายนิรโทษยาวไปถึงแม้วด้วยป่ะ แต่ไม่ถึงคนโดน112 ก็ไม่อยากจะว่านะ เข้าใจว่าสมัยนั้นยาก แต่ข้อมูลมันก็ชี้อยู่กลายๆว่าคนโดน112สมัยนั้นเหมือนชนชั้นล่างของล่างอีกทีเลยว่ะ

874 Nameless Fanboi Posted ID:Ku5mPyxklF

เคยได้ยินครั้งแรกจากห้องch งงมากว่าพูดออกมาได้ไง ~ ดูถูกคนที่เค้าอยู่ในคุกมากอะ มองการต่อสู้เค้าว่าเป็นการถูกพรรคการเมืองหลอก ทั้งที่ตัวเองก็เคยสู้มา เห็นเพื่อนร่วมขบวนติดคุก เป็นเหยื่อของรัฐ ทุกคนให้เกียรติยกย่องให้เป็นนักสู้ แต่พอกับกลุ่มอื่นกลับมองเค้าเป็นหมากพรรคการเมือง!

875 Nameless Fanboi Posted ID:841DEf15Bf

>>873 ใช่ และนั่นเลยเป็นเรื่องให้เกิด กปปส. ทั้งที่ตอนแรก ร่างที่ตกลงกันไว้ (แม้แต่ ปชป. ก็เอาด้วย) คือนิรโทษกรรมเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับ "การชุมนุมทางการเมือง" เท่านั้น แต่ตัวลักหลับ มันเอาไปรวมพวกคดีก่อน รปห.49 ด้วยซ้ำ

876 Nameless Fanboi Posted ID:17BHYOF2N4

>>875 -สุเทพยอมรับว่าคุยกับประยุทธ์เรื่องล้มรัฐบาลตั้งแต่ปี53
- ประยุทธ์ยอมรับกับไทม์ว่ามีความคิดจะยึดอำนาจมา6เดือนแล้ว
- ก่อนประกาศกฎอัยการศึก20พค. ส่งไลน์บอกสุเทพว่ากปปส.เหนื่อยมามากแล้ว เดี๋ยวกองทัพรับช่วงต่อเอง
- ชุมนุมกปปส. เริ่ม29พย.56

จ้า

877 Nameless Fanboi Posted ID:841DEf15Bf

>>876 เผอิญ ปชป. มันเป็นสถาบันการเมืองน่ะ มีหลายกลุ่มก้อน ไม่ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พอหลัง รปห.57 ก็จะเริ่มเห็นความขัดแย้งชัดขึ้นไง กลุ่มเทือกกับกลุ่มมาร์ค ถึงขั้นอยู่ด้วยกันไม่ได้

878 Nameless Fanboi Posted ID:17BHYOF2N4

>>877 ถึงกับต้องปั้นคำว่าสถาบันทางการเมืองมายกหางตัวเอง
ยอมรับมาง่ายๆว่าตัวเองวางแผนจะล้มรัฐบาลยึดอำนาจมานานแล้ว ถึงไม่มีลักหลับก็จะหาเหตุอื่นมาปั่นให้มีเหตุยึดอำนาจอยู่ดี
นิทานอิสปหมาป่ากับลูกแกะ
The tyrant will always find a pretext for his tyranny, and it is useless for the innocent to try by reasoning to get justice, when the oppressor intends to be unjust.

879 Nameless Fanboi Posted ID:Uoiv4B6/cc

>>875 ควย อย่าเนียน กู >>873 เอง กูบ่นพทแต่ไม่ได้บอกว่าต้นเหตุรปหมาจากพท พวกมึงวางแผนจะเอาอยู่แล้วไอ้พวกเหี้ย

880 Nameless Fanboi Posted ID:J6PyHXVmHE

อ่าวเหี้ย มีคนโดนแหก ถถถถถ

881 Nameless Fanboi Posted ID:841DEf15Bf

>>879 ยังไงความจริงก็คือพวกมึงก็เดินสะดุดขาตัวเองด้วย การเมืองมันโหดแบบนี้แหละ เปิดช่องเขาก็เอามึงตาย อย่าบ่นนะ

882 Nameless Fanboi Posted ID:17BHYOF2N4

การเมืองมันโหด
เปิดช่องเขาก็เอามึงตาย

ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกันพวกป.ตายแล้วตายอีกเป็นพารามีเซียมแล้ว
อย่างว่าแหละ ไม่ได้คิดจะให้เป็นธรรมอยู่แล้ว เหมือนป่าอยากแดกลูกแกะ ยังไงก็หาเหตุผลมาแดกให้ได้อยู่ดี

ซื่อสัตย์หน่อยว่าเออ กูกระหายอำนาจไงสัส แค่นี้ทำไม่ได้ก็สัตว์สันหลังขนานพื้นต่อไป

883 Nameless Fanboi Posted ID:841DEf15Bf

>>882 ล้มเขาได้ปะละ รู้ว่าแต้มต่อน้อยกว่าก็ต้องระวังให้มาก ไม่ใช่ประมาท มึงดูตู่ ดู พปชร. ทำไมกร่างได้ เพราะทุกองคาพยพดันหลังให้หมด การต่อสู้จริงมันไม่ใช่กีฬาน่ะนะ ไม่ได้แบ่งรุ่นน้ำหนัก

884 Nameless Fanboi Posted ID:lEBvVyd+uy

ก็วนอยู่เหมือนเดิมไม่ไปไหน ปากนึงก็ท่องว่ามึงเปิดช่องให้โดนทุบเองมึงแหละผิด อีกปากก็พล่ามว่ากูมีพาวกูทำได้ทุกอย่างไม่ต้องสนกติกามึงทำได้เหมือนกูป่าวล่ะ

แค่ขยับปากก็เห็นตาขาวแล้ว กระหายอำนาจก็มีกระดูกสันหลังหน่อย ไม่ใช่ว่าอ้างหลักการโน่นนี่ แถว่าตัวเองมาตามกระบวนการประชาธิปไตย
จะหน้าด้านก็ด้านให้มันตลอด ไม่ใช่ทำใจเสาะบอบบางแตะต้องไม่ได้

885 Nameless Fanboi Posted ID:Ku5mPyxklF

เรื่องนิรโทษกรรม ในเฟสยังมีพวกเพิ่งจะเบิกตาโพลงเรื่องการเมืองมาเย้วๆอยู่เลยว่าคนค้านพรบ.ปี56ตอนนั้นคือส ลิ่ม จริงๆจะว่างั้นก็ได้ เพราะมันมีพวกค้านพรบ.เพราะไม่เห็นด้วยกับความเหี้ยของพรบ.นี้ กับอีกประเภทนึงคือเกลียดตระกูลชินวัตร และคนกลุ่มหลังคือคนที่ไปต่อกับปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งอะ

886 Nameless Fanboi Posted ID:841DEf15Bf

>>885 กูไม่เอาแม้วกลับบ้านเท่ๆ อะ กูไปม็อบตลอดนะ จนยิ่งลักษณ์ยุบสภา กูก็ไม่ไปละ

887 Nameless Fanboi Posted ID:Ku5mPyxklF

ถ้ามีลูกเมื่อพร้อมทางด้านfinancialเนี่ย ประเทศนี้จะมีลูกได้สักกี่ตระกูล ไม่ต้องมีแรงงานกันแล้วมั้ง เกิดมามีแต่ประธานบริษัท เจ้าของที่ดินพันล้านงี้หรอ ประเทศมันจะรันยังไงอะ5555

888 Nameless Fanboi Posted ID:mNUMS5XpVT

>>887 อย่าว่าแต่ประเทศเราเลย ประเทศไหนๆ ก็มีแต่ชนชั้นแรงงานนี่แหละที่ผลิตลูก และเพราะประเทศที่เจริญแล้ว คนเป็นชนชั้นกลางกันเยอะ ผลคืออัตราการเกิดเลยลดกันหมด

889 Nameless Fanboi Posted ID:Z56LAYf0rP

ถ้าหากชนชั้นล่างยังคงจำเป็น เช่นนั้นมาคัดสรรค์ผู้เสียสละกันเถอะ

กูโหวตคนอีสาน

890 Nameless Fanboi Posted ID:z4u2LQfNQF

กูโหวต ครอบครัวตัวเหี้ย ครอบครัวเดียวพอ

891 Nameless Fanboi Posted ID:+1MTntMOfn

กูโหวต พวกคนใต้โง่ๆ หลิ่มๆ พวกเหี้ยนี่แหละที่ถ่วงความเจริญประเทศ

892 Nameless Fanboi Posted ID:uAzEE7Xqtv

>>890 >>891 มึงอ่านคำถามไม่เข้าใจสินะ ไม่ผสมจริงๆ

893 Nameless Fanboi Posted ID:+1MTntMOfn

>>892 ใช่ๆ ไม่ผสมก้นจริงๆ ตั้งคำถาม พอคนตอบไม่โดนใจก็ว่าเขาไม่เข้าใจ ไม่ผสมจริงๆ ควายล้วนๆ

894 Nameless Fanboi Posted ID:55ElzvM.zF

สมเสร็จ

895 Nameless Fanboi Posted ID:MPMev.a0/g

คนที่เข้าใจว่าคนที่ค้าน พรบ.นิรโทษกรรมเหมาเข่งมีแต่พวก กปปส. นี่ถ้าไม่ใช่เพราะความจำสั้นก็น่าจะเพราะเพิ่งมาสนใจการเมือง
ในความเป็นจริงมีคนเสื้อแดง/ฝ่าย ปชต.จำนวนมาก รวมถึงญาติผู้เสียชีวิตปี 53 ที่ออกมาค้าน
และ พรบ.นี้ไม่นิรโทษนักโทษ 112

896 Nameless Fanboi Posted ID:hZ.U+rO00D

>>895 เนติวิต เป็น กปปส

897 Nameless Fanboi Posted ID:uAzEE7Xqtv

>>896 ตอนนี้เนเน่เป็นไงมั่ง เงียบไปเลย

898 Nameless Fanboi Posted ID:6FEGaGepnZ

>>895 คนที่อ้างว่าพรบ.นิรโทษกรรมเหมาเข่งเป็นต้นตอการชุมนุมกปปส.นำไปสู่การรัฐการก็คือพวกหลิ่มที่หาความชอบธรรมชุบตัว

7พย รัฐบาลถอนร่างพรบ.นิรโทษกรรม
11พย สุเทพลาออกมานำการชุมนุม
15พย ประกาศยกระดับการชุมนุม จากต่อต้านพรบ.นิรโทษกรรมเป็นโค่นล้มรัฐบาล เริ่มแคมเปญเป่านกหวีด
20พย นับถอยหลัง6เดือนก่อนประกาศกฏอัยการศึก จุดเริ่มต้นประยุทธนอนคิดรัฐประหาร
27พย ยึดศูนย์ราชการ
29พย ก่อตั้งกปปส.

พวกที่มาร่วมเป่านกหวีดหลังถอนร่างพรบ.ไปแล้วน่ะอย่ามาเนียนอ้างเลย

899 Nameless Fanboi Posted ID:MPMev.a0/g

>>897 เป็นนายก อบจ คุมจุฬาอยู่

900 Nameless Fanboi Posted ID:MPMev.a0/g

>>898 ต้นทางคือ คนที่ไปต่อต้านรัฐประหารมาตั้งแต่ปี 49 อะครับๆ เขาเป็นหริ่มมั้ยละ

พรบ.นิรโทษกรรมนี่ บก ลายจุดยังต่อต้านเลย

แล้วต้นทางก็พูดชัดเจนว่า คนค้าน... ก็มีเสื้อแดง ฝั่งปชต

901 Nameless Fanboi Posted ID:yfK2rfpsEM

>>898 ไล่รัฐบาลก็ไม่เห็นผิดตรงไหนนี่หว่า ทุกวันนี้ก็ยังมีกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ออกมาไล่ตู่เรื่อยๆ จุดตัดอยู่ตรงหลังยุบสภาต่างหาก

902 Nameless Fanboi Posted ID:6FEGaGepnZ

>>900 ชอบเคลมเหมือนเคย คนที่ต้านพรบ. รบ.ถอนร่างแล้วก็จบ
พวกที่มาเป่านกหวีดหลังจากนั้นอย่าอ้างเลยว่ามาชุมนุมค้านพรบ.

903 Nameless Fanboi Posted ID:uAzEE7Xqtv

>>902 ใน>>895 มันก็บอกว่าจ้านพรบ.เหมาเข่งนะ ไม่ได้บอกว่าเป่านกหวีดหลังจากนั้นซะหน่อย มึงไปรวมเองอะ

>>899 เงียบจัง เมื่อก่อนเห็นมีปากเสียงได้ทุกเรื่องแท้ๆ

904 Nameless Fanboi Posted ID:6FEGaGepnZ

>>903 ใน>>898กูก็พูดชัดนะว่าหมายถึงพวกที่มาเป่านกหวีดหลังรบ.ถอนร่างไปแล้ว พวกนี้ไม่ได้มาเพื่อต้านพรบ.แต่มาเพื่อล้มรัฐบาล
แล้ว>>899จะมาโยงไปหาคนที่ต้านรปห.49หรือบก.ลายจุดทำไม ในเมื่อมันคนละเรื่องคนละช่วงเวลากัน กลุ่มลายจุด-ญาติเหยื่อ53มาช่วงสั้นๆ24ตค พอ7พยถอนร่างก็จบ จะดึงมาเอี่ยวกับม็อบกำนัน15พยให้ได้เหรอ

905 Nameless Fanboi Posted ID:uAzEE7Xqtv

>>904 ก็>>895 มันไม่ได้พูดถึงที่มึงว่าเลยไง มึงลากเข้ามารวมกันเอง เหมือนคนพูดเรื่อง 14 ตุลาแล้วมึงเอา 6 ตุลามารวมกันนั่นละ ถึงมันจะต่อเนื่องกัน แต่ก็เป็นคนละส่วนกันอยู่ดี

906 Nameless Fanboi Posted ID:6FEGaGepnZ

>>905 อ่ะ แจกแจงให้
- >>895 พูดว่าพรบ.นิรโทษ คนที่ต้านก็มีหลายกลุ่ม ไม่ใช่แค่กปปส.
- >>898 กูเลยย้อนว่ากปปส.มันเริ่มมาหลังจากรบ.ถอนร่างพรบ.ไปแล้ว จะมาอ้างว่าการต้านพรบ.เป็นต้นตอของกปปส. หรือกปปส.มาร่วมต้านพรบ.นิรโทษมันเป็นสร้างความชอบธรรมชุบตัว
- >>899 ก็ยังมาลากไปหากลุ่มลายจุด/ญาติ53อีก กูถึงต้องตอบว่าอย่ามาเคลม กปปส.ไม่ได้มาต้านพรบ.

907 Nameless Fanboi Posted ID:uAzEE7Xqtv

>>906 มึงอ่านดีๆ >>895 มันพูดถึงคนที่เข้าใจผิดว่ากปปส.คือกลุ่มต้านเหมาเข่ง แต่มันไม่ใช่ไง เอาจริงๆ >>895 ไม่ได้บอกด้วยนะว่ากปปส.ออกมาค้าน แต่จะมองว่าเป็นจุดเริ่มของกปปส.ก็ได้ เหมือนกลุ่มที่ออกมาต้านเสื้อเหลืองก่อน 49 จนพัฒนากลายเป็นแดงนั่นละ คำว่าเสื้อแดงมาที่หลัง น่าจะ 51 เลยมั้งถึงเป็นทางการ แต่จะนับย้อนไปก่อนหน้านั้นก็ไม่ผิดอะไร เก็ตมั้ย

908 Nameless Fanboi Posted ID:fvNSL2NNwd

(Oct 23) เว็บไซต์ Variety เปิดสาเหตุเบื้องหลัง ‘รัสเซลล์ โครว์’ และ ‘แซค เอฟรอน’ ถ่ายทำที่ไทย เพราะทีมงานหนังไทยเก่ง : จากกระแสดาราระดับโลกอย่าง ‘รัสเซล โครว์’ โพสต์ภาพคู่สายระโยงระยางในไทย รวมถึงโพสต์ภาพเที่ยวภูเก็ตและกรุงเทพ ส่วนอีกคนคือ ‘แซค เอฟรอน’ ที่โพสต์ภาพทะเลภูเก็ต จนรัฐบาลออกมาขอบคุณยกใหญ่ และในภายหลังชัดเจนว่า ทั้งคู่เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย

แต่นอกเหนือจากประเด็นอวดประเทศไทยให้โลกรู้ อีกหนึ่งคำถามที่สำคัญก็คือ สาเหตุอะไรที่ทำให้ภาพยนตร์ต่างชาติถึงเลือกเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย

มันเป็นเพราะสถานที่ ผู้คน หรือปัจจัยอะไรกันแน่?

เว็บไซต์ Variety สื่อด้านธุรกิจบันเทิงชื่อดัง เปิดเผยว่า การที่รัสเซล โครว์และแซค เอฟรอนอยู่ในประเทศไทยขณะนี้ เพราะกำลังถ่ายทำภาพยนตร์ The Greatest Beer Run Ever กำกับโดย Peter Farrelly ผู้ชนะรางวัลออสการ์ถึง 3 รางวัลในปี 2019 ด้วยเรื่อง Green Book

สาเหตุที่กองหนังต่างประเทศเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ เพราะในไทยมีทีมงานทำหนังที่เก่งกาจ ส่งงานตรงต่อเวลา รวมถึงเป็นบริษัทผู้แทนช่วยประสานงานที่ดี อย่างในกรณีนี้คือ Living Films บริษัทโปรดักชั่นเฮ้าส์ที่มีเครดิตในการร่วมงานกับภาพยนตร์ฮอลลีวูดมาแล้วหลายเรื่อง เช่น The Hangover Part II, Shanghai, Survivor และ Changeland

เว็บไซต์ Variety ยังเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ทีมงานของ Paramount Television และ Apple TV Plus ได้เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Shantaram ในไทย โดยถ่ายทำนอกกรุงเทพมหานคร แต่แล้วสตูดิโอก็ถูกสั่งปิดตัว เนื่องจากโควิดระบาดในระลอกที่สาม แต่ถึงที่สุดแล้ว ทีมงานในไทยก็สามารถปิดงานได้ตรงตามเวลาและงบประมาณที่กำหนด

โดยสรุปแล้ว สิ่งที่ทำให้ไทยกลายเป็นจุดหมายของการถ่ายทำภาพยนตร์ สื่ออย่าง Variety วิเคราะห์ว่า เป็นเพราะประเทศไทยมีระบบการจัดการที่ดี มีสตูดิโอถ่ายทำที่ดี ทีมงานมีทักษะ และมีระบบคืนเงินสำหรับการผลิตที่ดี (คล้ายๆ กับระบบ Refund เวลาซื้อสินค้า)

Source: Workpoint Today
https://workpointtoday.com/variety-russell-crowe-zac.../

เพิ่มเติม
- Russell Crowe, Zac Efron Join Peter Farrelly on ‘The Greatest Beer Run Ever’ Shoot in Thailand (EXCLUSIVE) https://variety.com/.../russell-crowe-zac-efron-peter.../ via @variety

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

909 Nameless Fanboi Posted ID:WJjrqig+zL

เสดกิจอย่างแย่ ถ้ารัฐบาลดีเราจะไม่ต้องกังวลเรื่องินเปย์ศิลปิน #ม็อบ23ตุลา64

910 Nameless Fanboi Posted ID:+JKGPrZ1aZ

>>909 พวกนี้หาเงินไม่เก่ง

911 Nameless Fanboi Posted ID:tvvrbBEsbc

For Bitcoin to be $5 million before the next halvening it would need to consume AT LEAST $4 billion/day just to pay the miners for the new coins entering the system. That's $1.5 trillion/year (before transaction fees). Ten times the revenue of ExxonMobil, just for bitcoins.

Also since price and energy consumption scale together that would mean it would need to consume something like 100x as much energy as it does now. Currently the Bitcoin network consumes 1% of our electricity.

At $5 million/Bitcoin the human species would be a Bitcoin mining operation with a small civilization attached.

912 Nameless Fanboi Posted ID:Wbi9mrvxV3

>>911 หืม ขนาดนั้นเลยเหรอ

กูสงสัยมานาน ถ้าใช้ Quantum Computer ตามความหมายจริงๆ มาขุดมันจะไวขึ้นมั้ย

913 Nameless Fanboi Posted ID:TU6kCFL6yg

ใครพูดเรื่องความเท่าเทียมบ่อยๆ เราฟันธงฉับ พวกมีปมด้อยเยอะ และเค้าเจ็บปวดมาก จนยอมรับความเป็นตัวเองไม่ได้ เพราะพยายามแล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างที่หวัง เอาไงดี โทษสังคม โทษโครงสร้าง อ้างทฤษฎีฯลฯ ง่ายดี จบ

มิตรสหายทวิตเตอร์ท่านหนึ่ง

914 Nameless Fanboi Posted ID:L2pxIBCvEC

ตรรกะส ลิ่มเกี่ยวกับกฎหมายมีอยู่ 2 อย่าง
1. อยากแก้กฎหมายแสดงว่าอยากทำผิด
2. ไม่ได้ทำผิดจะไปกลัวกฎหมายตัวนี้ทำไม

915 Nameless Fanboi Posted ID:TU6kCFL6yg

>>914 พบเด็กมีปม 1ea

916 Nameless Fanboi Posted ID:MwrgjtoN1S

ใครพูดเรื่องความรักชาติ สำนึกบุญคุณแผ่นดินบ่อยๆ เราฟันธงฉับ พวกมีปมด้อยเยอะ และเค้าเจ็บปวดมาก จนยอมรับความเป็นตัวเองไม่ได้ เพราะพยายามแล้วก็ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างที่หวัง เอาไงดี ต้องโหยหาที่พึ่ง ให้กราบหมาก็ยอม ไม่สามารถยืนด้วยตัวเองได้ วันๆเอาแต่เดินก้มหน้า

มิตรสหายทวิตเตอร์ท่านหนึ่ง

917 Nameless Fanboi Posted ID:MwrgjtoN1S

>>913 พบเด็กมีปม 1 ea

918 Nameless Fanboi Posted ID:T2mL1WbHPt

การที่เราเห็นพานไหว้ครูไอเดียเจ๋งๆ ล้ำๆ ทุกปี ก็พิสูจน์ได้ว่าถ้าไม่ได้เอาอะไรไปแขวนไว้บนหิ้งให้ฝุ่นเกาะ แต่ปรับตัวเข้ากับโลกปัจจุบันได้ ทุกคนก็พร้อมรับ เด็กก็ชอบ ครูก็ชอบ ประเพณีก็ยังอยู่ แฮปปี้จังเว้ย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

919 Nameless Fanboi Posted ID:/dkr502wXn

เราไม่พูดเรื่อง คนดี คนไม่ดีนะครับ ไม่ได้บูลลี่ด้วย เอาแค่ว่า อ้วน ไม่หนักหัวใคร จริงเหรอ?

1. ถ้าประสบอุบัติเหตุ เป็นลม หรือ วันที่ต้องมีคนอื่นมาช่วยเหลือ การที่คุณอ้วน มันก็หนัก คนช่วยไม่ใช่เหรอ แบกยาก เหนื่อยอีก

2. เมื่อใช้บริการสาธารณะ ขึ้นรถ ไปเที่ยว ขึ้นลิฟต์ ความอ้วนของคุณ มันก็ไปเดือดร้อนคนอื่นไม่ใช่หรือ กินที่ ใช้ Space มาก ทำให้พื้นที่ต้องรับน้ำหนักมากจนเกินไป เพียงเพราะความสุขของคุณฌองที่ได้กินตามใจปาก

3. เคสคนอ้วนแล้วมีโรคแทรกซ้อนเยอะ มันก็เดือดร้อนหมอ คนรอบข้าง หน่วยงานพยาบาล ไม่ใช่เหรอ? เพราะการป่วยมีโรค ถึงคุณจะจ่ายเงินเอง แต่ คนไม่อ้วนหรือสุขภาพดีก็ไม่ต้องเพิ่มภาระให้หมอ หรือหน่วยงานพยาบาล

4. ถ้าตายไป ตอนคนมาแบกศพ แบกโลง มันก้อ หนักคนแบกไม่ใช่เหรอครับ หนักเกินความจำเป็นไม่ใช่เหรอ

5. ทรัพยากรที่นำมาตัดเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มก็ต้องใช้มากกว่าเดิม อ้วนเกินเกณฑ์ ต้องใช้ผ้ามากกว่าเดิมมันก็เดือดร้อนไม่ใช่เหรอ

ทำไมถึงกล้าพูดกันว่า อ้วนไม่หนักหัวใคร ไม่ได้ทำใครเดือดร้อน ทั้งๆที่มันทำให้เดือดร้อน และเอาจริงๆมันก้อหนักลิฟท์ กินที่ยืนในรถไฟฟ้า คือหลอกตัวเองกันเหรอว่า อ้วนไม่ทำใครเดือดร้อน

920 Nameless Fanboi Posted ID:yoQC5L5Ihx

>>919 จริงมึง ถ้าอ้วนเพราะเป็นโรคเพราะยายังพอเข้าใจได้ว่ามันแก้ยาก แต่บางคนอ้วนเพราะขี้เกียจ เพราะแดกเยอะ เวลานั่งรถสาธารณะแม่งเบียดชิบหาย กินที่กูหมด แถมนอนกรนอีก เวลากูบอกให้ไปลดความอ้วนแล้วหาว่ากูเหยียดคนอ้วน ทำไมกูถึงเหี้ยไม่สนับสนุนวิถีชีวิตของเค้า คนเราสวยในแบบที่เราเป็น คือเวลามึงเห็นคนแดกเหล้าจนจะเป็นตับแข็งตายมึงไม่อยากห้ามหรอวะ แดกขนมจนเป็นโรคอ้วน กับแดกเหล้าจนเป็นโรคตับแข็งมันต่างกันยังไง หยุด normalize อะไรที่มันไม่ normal ซะทีเถอะ

921 Nameless Fanboi Posted ID:FVBgZ9t7lV

>>919 คิดได้แบบนี้ก็ผิดแม่งทุกคนแหละไอ้เหี้ย แย่งอากาศกูหายใจ พวกหน้าหี

922 Nameless Fanboi Posted ID:8DOHKNo3y4

เพิ่งเห็นว่าคุณจุลเจิมโพสต์อันนี้เอาไว้ ผมก็ลองพยายามนึกดูว่าตอนที่แกกำลังเขียนโพสต์ด้วยถ้อยคำนี้แกมีความรู้สึกนึกคิดยังไงอยู่บ้าง

ผมเดาว่าแกคงเห็น "สายลม" จริงๆที่กำลังพัดผ่านในเวลานี้ สายลมของการเปลี่ยนแปลง เมื่อผู้คนจำนวนมากในสังคมไม่อินกับการมีอยู่ของสถาบันกษัตริย์ก็ย่อมมีผลต่อความรู้สึกของคนรักเจ้าไม่มากก็น้อย รวมถึงจุลเจิมด้วย

ผมเองก็บอกไปแล้วว่าตัวแปรสำคัญที่ทำให้สถาบันกษัตริย์มีความนิยมตกต่ำลงอย่างรวดเร็วแบบติดจรวดก็คือเขาผู้นั้นเองแหละ ตราบใดที่เขาผู้นั้นยังครองอำนาจอยู่ ตราบนั้นผู้คนในสังคมก็จะไม่อินกับสถาบันกษัตริย์ไปเรื่อยๆเพราะมองมาทีไรก็ได้หัวเราะเยาะ ขบขัน ไม่มีความเคารพให้เลย

สถาบันกษัตริย์ไทยสมัยใหม่หลัง 2475 ไม่ได้ดำรงอยู่มาในฐานะความเป็นสถาบันอย่างเข้มแข็งแต่แรกเพราะการสร้างอำนาจของสถาบันโดยเฉพาะหลัง 2500 คือการเน้นไปที่บูชาตัวบุคคลอย่างเข้มข้น จึงทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ทุกประการของสาถบันกษัตริย์ไทยหลัง 2500 เป็นต้นมาผูกอยู่กับรัชกาลที่ 9 ชนิดแยกกันไม่ออก พวกเขาทำให้ "สถาบันกษัตริย์ = รัชกาลที่ 9" กันขึ้นมาเอง เป็นเรื่องช่วยไม่ได้จริงๆ

ตอนนี้รัชกาลที่ 9 ไม่อยู่แล้ว...

แต่ปมปัญหาใหญ่หลวงที่พวกขวาจารีตไทยสร้างเอาไว้มาตั้งแต่หลัง 2500 กำลังรัดคอตัวเองอย่างแน่นหนาเพราะสมัยปัจจุบันเริ่ม "ไม่ต้อนรับ" สิ่งที่พวกเขาสร้างกันเอาไว้

อำนาจอ่อนพังพินาศลง เหลือเพียงแค่อำนาจดิบ อำนาจดิบที่วันหนึ่งจะหมดไปเรื่อยๆเพราะไม่สามารถสร้างใหม่ได้จากอำนาจอ่อน (การยอมรับ ความศรัทธา ความเชื่อมั่น ฯลฯ)

จุลเจิมน่าจะเห็นเรื่องราวในอนาคตอีกไม่ไกลนั่นแหละครับแกถึงเขียนอะไรทำนองนี้ออกมาให้เราเห็นกัน โดยยังมีท่าทีปลอบประโลมตัวเองในทางการเมืองเอาไว้บ้างไม่มากก็น้อย...

923 Nameless Fanboi Posted ID:9EYJgzxAox

ปัวโรต์ทอดถอนใจ เอ่ยว่า “โลกเป็นของพวกเธอแล้ว ฟ้าใหม่แผ่นดินใหม่ เด็กเอย ในโลกใหม่ของเธอ โปรดให้มีเสรีภาพ และโปรดมีความเอ็นดูสงสารกันบ้าง ฉันขอเพียงเท่านี้”

924 Nameless Fanboi Posted ID:Wbi9mrvxV3

>>922 เอาจริงนะ อย่างน้อยถ้าคนขึ้นไม่ใช่เสี่ย หรือเสี่ยเหี้ยน้อยกว่านี้ ทุกอย่างจะไม่พังลงเร็วอย่างนี้หรอก แล้วจึดเปลี่ยนสำคัญคือโควิด อย่างน้อยถ้ากลับมาร่วมทุกข์ร่วมสุขแสดงท่าทีดีๆ เก็บเนื้อเก็บตัวบ้าง เรื่องคงไม่บานปลายขนาดนี้ ที่ผ่านมามันเกินไปจริงๆ

925 Nameless Fanboi Posted ID:y/eAVCsIcx

>>911 >>912 ควอนตัมคอมพิวเตอร์ถ้าถึงระดับ supremacy จริง อย่าว่าแต่ขุดเลย ทั้งบล็อกเชนโดนแฮคได้หมด แต่ตอนนี้จะดปรแกรมยังไม่ได้เลย

926 Nameless Fanboi Posted ID:TzwjG6Fvw.

“ให้ปลูกไม้ไผ่ 1000 ไม้แก่น 1000 ไว้ท่าท่านผู้มีบุญจะมาข้างหน้า จะได้สร้างปราสาท ไม้ไผ่จะทำร่างร้าน ไม้แก่นดูกในก่อตั้งเสาปราสาท ปลูกไว้สำหรับผู้มีบุญจะมา พระองค์ท่านจะเหาะแล้ว”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

927 Nameless Fanboi Posted ID:8DOHKNo3y4

ความเท่าเทียม เป็นเป้าหมายที่ทำให้สังคมช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำไปเรื่อยๆ

เมื่อความเหลื่อมล้ำลดลง เราก็จะเข้าใกล้ความเท่าเทียมมากขึ้น เป้าหมายก็จะขยับให้ท้าทายขึ้น ความเหลื่อมล้ำอื่นๆ ก็จะถูกแก้ไปเรื่อยๆ สังคมก็จะพัฒนาขึ้น

เราไม่อาจยอมรับความไม่เท่าเทียม และยอมจำนนต่อโชคชะตาได้

928 Nameless Fanboi Posted ID:75KR8WZ2y0

>>927 ไร้สาระ

929 Nameless Fanboi Posted ID:Z7viP.QqA2

>>919
1. เค้าขอให้มรึงช่วยหรอ มรึงไม่อยากช่วยก็เรื่องของมรึง
2. บริการสาธารณะ ถ้าเค้าคิดว่าผิดเค้าก็ออกกฏห้ามใช้บริการ ที่แสดงความคิดเห็นคือมรึงเสือก
3. 4. 5. เค้าจ่ายเงินของเค้าจะเสือกทำไม

930 Nameless Fanboi Posted ID:EaJx1tcJbr

>>929 ร้อนตัวใหญ่เลยนะอีอ้วน

931 Nameless Fanboi Posted ID:474N+5C9Z9

คนไทยมักจดจำ ร.5 ในฐานะ "modernizer" ที่ปฏิรูปประเทศให้ทันสมัย ริเริ่มระบบสาธารณูปโภค การศึกษา ธนาคาร ฯลฯ ผมก็เคยมีภาพจำแบบนั้น (และปัจจุบันก็ยังมีอยู่บ้าง)

แต่ผมไปนั่งฟังเลคเชอร์วิชา Modern Middle Eastern Politics มา แล้วได้บทเรียนเกี่ยวกับ ร.5 มาโดยไม่ได้คาดคิด
(1)

ในคลาสนี้ อาจารย์เล่าว่าอาณาจักรใน ตอ.กลาง ช่วงศตวรรษที่ 19 ล้วนตามกระแส modernization ของโลก ด้วยการสร้างรางรถไฟ ไปรษณีย์ ผังเมือง โรงเรียน ธนาคาร

ถนนแบบ boulevard ที่มีอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ หรือประตูชัย หรือ royal pavilion ปิดท้าย นั้นกลายเป็นแฟชั่น ที่ผุดทั่วตะวันออกกลาง
(2)

แม้ว่าโครงการ mega-project เหล่านี้ต้องได้ไฟเขียวจากกษัตริย์ แต่โดยมากไอเดียริเริ่มไม่ได้มาจากตัวกษัตริย์เอง แต่มาจากนักธุรกิจต่างชาติและนักธุรกิจท้องถิ่น เพราะการค้าระหว่างประเทศที่เติบโต ทำให้ธุรกิจเรียกร้องถนน ระบบขนส่งทางราง และระบบธนาคารที่ได้มาตรฐาน
(3)

แต่โครงการ mega-project เหล่านี้ก็มาพร้อมกับภาระทางการคลังมหาศาล ...หลายประเทศใน ตอ.กลาง ที่บริหารไม่ดีก็ประสบวิกฤติการคลังภายหลัง (เช่นเดียวกับปลายสมัย ร.5 และต้นสมัย ร.6)
(4)

คลาสนี้ให้บทเรียนผม 2 อย่างเกี่ยวกับ ร.5

หนึ่งคือ การ modernize สยามไม่ได้เกิดลอยๆ จากดำริของใครคนเดียว แต่มันกระแสโลกช่วงนั้น ไม่ทำคือแปลก (ที่จริงสยามทำช้าด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับหลายประเทศ) ...modernization สมัย ร.5 จึงไม่ใช่เรื่องพิเศษ อัจริยะ อย่างที่ผมเคยถูกสอนให้เชื่อ
(5)

932 Nameless Fanboi Posted ID:RdIXaRCMJI

มาจะกล่าวบทไป
ถึงจุฬามหาลัยอนาถา
แรงค์กิ้งโลกร่วงรูดอายชาวพารา
ถืออำนาจบีทาประชาชี
วิชาการถามไปไร้คำตอบ
แต่สั่งสอบอาจารย์ป๊อกเสียป่นปี้
โจนบีบคอเนติวิทย์ไม่สมประดี
สั่งไล่ที่สร้างตึกพิลึกมหัศจรรย์
เด็กไม่แบกพระเกี๊ยวชัยไม่สุจริต
ต้องกล่อมเกลาให้สุดฤทธิ์ความคิดนั่น
เหล่าผู้เฒ่าท็อปนิวส์ปทุมวัน
อุดมศึกษานับวันเสื่อมสูญเอย

-ฉันไม่กินข้าวกล่อง

933 Nameless Fanboi Posted ID:aC2VPC59WL

>>931 มาอีกล่ะ เจ้าตัวบอกเองเลยว่ากูไปเอามาจากฟากตะวันตกเพราะต้องไล่พัฒนาให้ทัน แต่ขอชมว่าพวกมึงมีความพยายามสูงมากในการะชง ถถถถ

934 Nameless Fanboi Posted ID:5WgvqW6eoD

>>933 พัฒนาอะไรให้ทันวะ ที่แน่ๆทรัพย์สมบัติทุกวันนี้แม่งเยอะกว่าของพวกโมนาขี้ชาติอื่นหลายเท่าตัวเลยปฏิรูปเก่งจริงๆ555

935 Nameless Fanboi Posted ID:.wM2bIHQMk

>>933 พวกเพิ่งwokeก็งี้แหละครับ เอาไรมาก ถถถถ อะไรที่มันเคยโดนสอนว่าพ่อดีอย่างนู้นอย่างนี้ ก็จะเจ็บจัยแหละพอเพิ่งมารู้ความจริง แล้วก็จะมองตรงข้ามแบบสุดโต่งเลย
//ไม่ต้องหาว่ากูเป็นหลิ่มนะ บ้านกูไม่เคยอมควยพ่อตั้งแต่สมัยก่อนละ ถถถถถ

936 Nameless Fanboi Posted ID:.wM2bIHQMk

ลอว์ห้ามันไม่ได้ปฎิรูปหรือช่วยประเทศพ้นจากการครองอณานิคมของหรั่งเสดกับอังกฤษคนเดียวอ่ะจริง คือมันทีเรื่องของในวังอีก คือจะมีลูกลอว์ห้าที่เป็นฝ่ายนิยมอังกฤษ ฝ่ายนิยมหรั่งเสด มันมีการแกร่งแย่งชิงดีในอำนาจในวังด้วย
แต่ลอว์ห้าเทียบกับกษัตริย์อื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่แบบกษัตริย์ยังไม่รู้ห่าไรเเลยเกี่ยวกับกระแสของการเมืองโลก กูก็ยอมรับนะว่าเอ่อลอว์ห้าแม่งยังwokeทัน มีการส่งลูกไปเรียนนอกไรงี้ ยังดีกว่าแถวบ้านที่แท่งยังอุๆก่าๆคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่
แต่ก็แน่นอนอยู่แล้วครัช แล้วใครมันจะไปยอมสละบรรลัง ทําประชาธิปไตย ทําเหี้ยไรครัชในยุคนั้น ถถถถถถ กูว่าส้นตีนเท่ห์ดีไอนี่อ่ะ แล้วแม่งมีปลอมตัวไปเนียนกับชาวบ้านอีก อินดี้สัส อ่อ แล้วฮาเร็มเยอะสุดละมั้ง

937 Nameless Fanboi Posted ID:aC2VPC59WL

>>935 >>936 สมัยนี้มันดักควายกันหนักขนาดนั้นเลยเหรอวะ ถึงได้ทำเป็นช๊อคซินีม่าคุณหลอกดาว อิชั้นเพิ่งจะเลิกแดกหญ้า กันได้ปานนั้น? สมัยกู โอดิน ยังอยู่แท้ๆก็ไม่เห็นจะอวยเหี้ยอะไรขนาดนั้นเลยนี่หว่า? เรื่องที่พวกแม่งบ่นๆกันเนี่ยกูรู้มาตั้งแต่สมัยประถมเลยมั้ง เรื่องเสี่ยนี่ก็เห็นนินทากันมาเป็นชาติเศษล่ะ ที่เบื่อคือสมัย ลุงแม้ว กูเอียนพวก อาจารย์บ้าอำนาจมากขึ้นและขยันอวยลุงแกเช้ายันเย็น ตอนให้ซ้อมเลือกตั้งที่ รร พวกกุเลยรวมหัวกันเลือก ชูวิทย์ ประชดพวกแม่งเล่น ผลคือแม่งโกรธกันเลือดตาแทบกระเด็น สรุปให้เลือกใหม่จนกว่าจะเลือก ทรท จี้ชิบหาย

938 Nameless Fanboi Posted ID:EgXu0pKCOW

>>937 มันแสดงให้เห็นไงว่าะวกที่เสียงดังในเน็ตตอนนี้อายุเท่าไหร่ คนที่โตมาทันแค่ยุคแม้วเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้ลับอะไรเลย หาอ่านได้ทั่วไป งานสัมก็มีเยอะแยะ อ่านของพวกขวาสมัยนั้นอย่างนิธิก็เขียนชัด สุจิตรหรือเกษียรที่ออกซ้ายก็ไม่ได้ว่าอะไร 5 ชื่นชมด้วยซ้ำที่ทำได้ขนาดนั้น เพราะเทียบกับรอบด้านแล้วไทยเป็นรองแค่ญี่ปุ่นเอง ถึงจะเป็นรองไกลมากก็เถอะ

ในทางเลือกปวศ.เนี่ย ไทยมีกเลือกผิดบ่อย มีแค่เรื่องเลือกเมกาที่ถือว่าถูกมาจนทุกวันนี้ สมัยนั้นถ้าไทยเลือกเส้นททงผลิตเพื่อทนแทนการนำเข้าแบบญี่ปุ่น ไทยคงผ่านยุคอุตสาหกรรมไปตั้งแต่ยุคป.แล้ว ไม่ใช่พึ่งเริ่มสมัยสฤษดิ์ แต่ต่อให้อยากทำก็ติดปัญหาขาดแคลนบุคลากรอยู่ดี ปัญหาไก่กับใข่เลย

939 Nameless Fanboi Posted ID:wq2g.ZE/g5

>>935 55555 ต้นทางนี่ไม่ใช่พวกพึ่งwokeแน่ๆ ก็คนมีการศึกษา ได้มีโอกาสถามโปรเฟสเซอร์มอท็อปโลก ไม่ใช่ยั่งดูข่าวสองทุ่มไปวันๆ

940 Nameless Fanboi Posted ID:5WgvqW6eoD

>>937 >>938 สมบูรณาญาสิทธิราชเล่มชมพูของกุลลดา พิมพ์ครั้งแรกปี2562นะ อาณานิคมสมบูรณาฯ ของไชยันต์ รัชชกูล พิมพ์ครั้งแรก2560 บทแหกเงินถุงแดงกูเห็นปล่อยมาในเนตปี2ปีนี้เอง คนโพสมันบอกกำลังทำตัวเปเปอร์อยู่ ยุคแม้วไหนวะหาอ่านได้ทั่วไป กูงงรู้ปวศดีชิบหาย แต่เสือกนึกว่าวงการจะต้องหยุดนิ่งอยู่ที่ยุคนิธิ สุจิตต์ เกษียรไปตลอด?

941 Nameless Fanboi Posted ID:wq2g.ZE/g5

ประวัติศาสตร์ไทย ที่ผ่านมามันเน้นเล่าแบบ The great man คือ คนๆเดียวเปลี่ยนแปลงโลก เช่น การสอนแบบว่าโคลัมบัสค้นพบอเมริกา ค้นนู่นคนนี่ประดิษฐ์
มันขาดการเล่าบริบทรอบข้างมาก เช่นการลงพื้นที่ของ9ก็ขาดบริบทเรื่องคอมมิวนิสต์

942 Nameless Fanboi Posted ID:EgXu0pKCOW

>>940 มึงเคยอ่านแค่นี้เหรอ เห็นมีไรก็อ้างเล่มชมพูตลอด ศิลปวัฒนธรรมเล่มเก่าๆ นะกลับไปหาอ่านมั่ง สมัยซัก 15-20 ปีก่อนรู้สึกจะเป็นเทรนด์พระเจ้าตาก แต่ก็มีเรื่องสมัย 4-5 อยู่ตลอด เพราะสุจิตรตั้งแง่กับหลักศิลาจารึกหลักที่ 1 เป็นการส่วนตัว แนวคิดการทำประเทศให้ทันสมัยเพื่อความมั่นคงของสถาบัน ไม่ใช่ประเทศสุจิตรก็เป็นคนริเริ่มเองมั้ง ศ.ก็มีส่วน แต่คนหลังมองว่ามันได้ประโยชน์คู่กันไปมากกว่า เลยอวยเยอะอยู่ ส่วนสุจิตรถึงจะแซะบ่อยแต่ก็ไม่ได้มองว่าแย่อะไร สิ่งที่แกเกลียดมากกว่าคือเรื่องการเขียนปวศ.ไทยนี่ละ เพราะแกไม่เชื่อว่าคนไทยมีจริง

กูรู้ว่ามึงไม่น่าทัน แต่งานสัมนาสมัย 40 เวลาคุยกันเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความลับอะไร ทั้งที่จุฬากับมธ.ก็คุยกันตลอด แต่จะเน้นต่างกัน สีชมพูเน้นอวย ส่วนแดงเน้นบอกว่ามันจำเป็นต้องทำ ไม่ห้ามชมแต่ก็ไม่ได้อวยแบบสีชมพู ที่ศิลปกรที่กูเคยไปฟังอ.จุฬาคนนึงพูดชัดเลยว่าถึงศิลา no.1 จะจริงไม่จริง แต่การสร้างชาติสมัยใหม่มันจำเป็นต้องสร้าง creation myth ที่จับต้องได้ สมัยนั้นทำไม่ถือว่าผิดอะไร แล้วก็โดนอ.จากมธ.แซะว่าไม่ควรใช้หลักรัฐศาสตร์มาอ่านโบราณคดี แต่โดยรวมงานก็เฮฮาดี

แล้วมันไม่ได้หยุดนิ่งหรอก กูแค่บอกว่าเรื่องพวกนี้เขาพูดกันในระดับมหาลัยมานานมากแล้ว คุยกันจนเป็นเรื่องปกติเลย ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่พึ่งเกิดขึ้นตอนเล่มชมพูที่มึงชอบอ้าง ไชยยันต์ที่ชอบสบัดบ็อบนั่นก็พูดเรื่องนี้มาไม่ต่ำกว่า 20 ปีแล้วมั้ง คนที่เรียนหรือเคยฟังแกก็รู้เรื่องหมด ประวัติศาสตร์ที่พึ่งสร้างก็พิมพ์มาได้ 20 ปีแล้ว เจียมสอนในชั้นมานานกว่านั้นอีก จำไม่ผิด แกมองคล้ายๆ สุจิตร คือเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ แค่โชคดีที่รอดมาได้ แต่แกไม่ชอบเวลาคนอวย 6 เรื่องปชต. การจะมาเคลมว่าพึ่งตาสว่างสมัยนี้เพราะเล่มชมพูมันอ้างเครดิตมากไป ลองไปถามคนเขียนลยว่ากล้าอ้างเครดิตมั้ยว่าเป็นคนพูดเรื่องนี้คนแรก ตอบเลยว่าไม่ เพราะมันมีคนมาก่อนกาลนานมากแล้ว

943 Nameless Fanboi Posted ID:5WgvqW6eoD

>>942 ใครบอกว่าเพิ่งตาสว่างสมัยนี้เพราะเล่มชมพู เคลมมั่วอีกแล้ว แต่เล่มชมพูมันรวบรวมหลักฐานสมัย5ไว้เยอะเกือบทั้งสมัย หลักๆมันคือการต่อสู้ทางการเมืองของ5 มันถึงเห็นภาพชัดเจนว่าทำแต่ละอย่างไปเพราะอะไร มีแนวคิดการเมืองหรือเหตุการณ์ทางการเมืองเกี่ยวข้องตรงไหนบ้างอะไรพวกนี้ ไม่ใช่พูดแค่กว้างๆทำเพื่อความมั่นคงแล้วจบ แถมตัวงานจริงมันเขียนตั้งแต่2540กลางๆแล้วมั้ง เป็นงานป.เอกมาก่อน ระดับมหาลัยจะเคยมีพูดก็ไม่แปลก แต่มันไม่ได้ "หาอ่านได้ทั่วไป" แบบที่มึงชอบอ้าง ศปวฒ.เล่มเก่าๆกับงานเสวนาของมึงน่ะแม่งโคตรเฉพาะกลุ่ม แม้แต่เวทีแดงยังไม่ได้ไปเลยมั้ง พวกก้าวหน้าแดงสยามก็ไปได้แค่เวทีเล็กๆ จำไม่ได้เหรอ แล้วพวกนี้ก็ไม่ได้เน้นวิชาการด้วย ตอนล่าชื่อแก้112สมัยนั้นได้แค่3หมื่นกว่าชื่อ ทั้งที่ตอนล่าชื่อแดงถวายฎีกาได้เป็นหลายล้าน เอามาจากไหนว่าพูดเป็นปกติ ใครกันแน่เกิดไม่ทัน

ถ้าเรื่องใหม่จริงที่กูเห็นก็แหกเงินถุงแดงนี่ล่ะ ทำไมอันนี้มึงไม่แย้งแล้วอ้างศปวฒ.อีกละ เพราะไอ้นิทานหลอกเด็กนี่ก็ตีพิมพ์ใน ศปวฒ.ใช่ป่าว555

944 Nameless Fanboi Posted ID:5WgvqW6eoD

>>942 เออ แล้วไอ้เล่มที่เพิ่งพิมพ์ไม่นานน่ะมีอีกเยอะ อย่างปณิธานที่หาญมุ่งก็พิมพ์ปี61 พระพรหมช่วยฯ 2557 ขอฝันใฝ่ฯ 2556 ปชตที่มีฯ 2556 ขุนศึกศักดินาฯ ก็2563 นี่เห็นสนพ.มันกำลังปรับวยพ.ของอาสา คำภามาเป็นหนังสือเล่มใหม่อีก ไอ้เรื่องจะเคลมว่าพูดมาก่อนสมัยกูพูดเยอะกว่าอะไรน่ะเลิกเหอะ สมัยนี้โดนแหกง่ายชิบหาย

945 Nameless Fanboi Posted ID:EgXu0pKCOW

>>943 เวลาแย้งทีไรมึงก็ชอบอ้างว่าเล่มชมพูพึ่งพิมพ์ไม่ดี่ปีตลอด จะไม่ให้คิดงั้นก็แปลกละ

แน่นอนว่าเล่มชมพูละเอียดมาก แต่ก็ไม่ใช่คนริเริ่มด้านนี้ เท่าที่กูเคยฟังพัฒนาการด้านนี้มา กระแสใหญ่เริ่มตั้งแต่หลัง 14 ตุลาแล้ว มีความพยามรื้อสร้างปวศ.ไทยใหม่

มึงต้องเข้าใจบริบทของสมัยก่อนยุคเน็ตเฟื่องฟูแบบตอนนี้ สมัยนี้ที่มึงว่า "หาอ่านได้ทั่วไป" วัดกันตามจริงก็ไม่ได้ทั่วไปขนาดนั้น จำนวนตีพิมพ์ไม่ต่างจากสมัยก่อนนักหรอก ส่วนใหญ่คนซื้อคือห้องสมุดมากกว่า แต่ที่มันเป็นกระแสเพราะเน็ต คนถึงเข้าถึงเนื้อหาได้ แต่ถ้าถามว่าคนอ่านตัวเล่มจริงๆ เยอะมั้ย ส่วนตัวกูไม่คิดว่าเยอะขนาดนั้น

แล้วสมัยก่อนเน็ตเฟื่องฟูการกระจายเรื่องพวกนี้ส่วนใหญ่ก็ทำกันในงานสัมนานั่นละ หนังสือไม่ได้หาอ่านง่ายขนาดนั้น อ.ใจดีหน่อยก็หามาให้ซีร๊อกแบ่งกันอ่าน การไปงานสัมนาคือแหล่งข้อมูลที่ดีสุดแล้ว ได้ความกระจ่างชัดกว่าทวิตเยอะ

ถุงแดงกูไม่รู้จะแย้งอะไร เพราะกูไม่คิดจะแย้งไปทุกเรื่อง ส่วนที่มันลงอยู่ในศิลปวัฒนธรรมแล้วไม่มีคนแย้งได้ตั้งนานนี่ก็น่าสนใจเหมือนกัน แถมคนที่ออกมาแย้งคนแรกๆ ก็ไม่ใช่นักวิชาการซ้ายๆ ที่ควรทำด้วย ตลกดี

>>944 ในสมัยนี้มีแหล่งข้อมูลหลากหลายและละเอียดขึ้นจริง ไม่มีใครแย้งจุดนี้ ที่กูแย้งคือมึงพูดเหมือนว่าพึ่งมีกระแสตาสว่างเมื่อๅมากีปีนี้เพราะเล่มชมพู เพราะกี่ทีกี่ทีมึงก็ยกเล่มนี้มาตลอด

เรื่องพวกนี้เขาพูดกันมานานมากแล้ว แต่ที่มันไม่แพร่หลายเพราะไม่มีเน็ต แต่ละเล่มที่มึงยกมานะถามจริงเถอะว่ามีคนอ่านเล่มจริงๆ กี่คน มีคนอ่านแค่ที่คนอื่นสรุปมาให้ในเน็ตกี่คน ถ้าสมัยนั้นมีเน็ต งานพวกนั้นก็แพร่หลายได้ง่ายไม่แพ้สมัยนี้หรอก

บางทีกูก็คิดว่างี่เง่าอยู่เหมือนกันที่งานสมัยไม่ใหม่อย่างฟูโกต์ นาโอมิ ไคลน์ ชอมสกี้มีคนไม่รู้จัก แต่กลับใช้ Marxism มาฉอดคนอื่นได้ ทั้งที่สมัย 20 ปีก่อนงานพวกนี้ไม่อ่านถึงขั้นเข้าสังคมไม่ได้แท้ๆ สมัยนี้เหมือนอ่านไม่ต่อเนื่องกัน

946 Nameless Fanboi Posted ID:5WgvqW6eoD

>>945 ยอมรับแล้วเหรอว่าก่อนสมัยเน็ตมันหาอ่านยากกว่าปัจจุบันมาก ไม่ต้องอธิบายยาวหรอก ใครผ่านยุคนั้นมาก็รู้ ถ้ารู้แบบนั้นแล้วเสือกพิมพ์มาทำไม "คนที่โตมาทันแค่ยุคแม้วเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้ลับอะไรเลย หาอ่านได้ทั่วไป งานสัมก็มีเยอะแยะ" น่ะ

แล้วจำนวนตีพิมพ์ มึงไม่ได้ตามข่าวอะไรเลยเหรอ ตอนฟดก.โดนตำรวจค้น บก.ออกมาบอกว่างานธงชัยเล่มเหลือง+ขอฝันใฝ่+ขุนศึก ยอดขายไม่ต่ำกว่าหมื่นเล่ม ตอนไปยึดนั่นแต่ละงานเหลือค้างไว้ที่สนพรวมกัน10เล่มถ้วนพอดี หลังจากโดนยึดกระแสก็บูมต้องพิมพ์เพิ่มอีก ส่วนสมัยก่อนเป็นไงนะ ของเจียมพิมพ์2000เล่มป่ะ มันมีอีกงานที่เป็น4000โครงการของชนิตา ชิดบัณฑิตย์ อันนี้ปี50ก็พิมพ์1000เล่ม ขายหมดป่าวไม่รู้

947 Nameless Fanboi Posted ID:5WgvqW6eoD

>>945 เออ แล้วไอ้งานเสวนาที่ว่ากระจ่างของมึงเนี่ย รู้ป่าวว่ายุคนี้มันจัดเสวนาทางสเปซ ทางCHกันแล้ว พวกที่เคยเสวนามหาลัยก็มาร่วมเยอะแยะไป อย่างธงชัยนี่มาCHเรื่อยๆ ปิยบุตร กนกรัตน์ พวงทอง ประจักษ์ ธำรงศักดิ์ แล้วยังมีที่จัดทางยูทูปอีก หรือมึงหมายถึงว่าถ้าจะให้กระจ่างชัดคือต้องเอาพวกขวาขี้ตีนมาร่วมด้วย?

948 Nameless Fanboi Posted ID:5WgvqW6eoD

>>945 ลืม ถ้าอยากฟังสุจิตต์ นี่ก็เห็นมาโผล่รายการ ทอดน่องท่องเที่ยว ของมติชนทางยูทูปนะ ดูไปก็ได้ความรู้เยอะเหมือนกัน ดูยังไงก็ไม่เห็นจะรู้สึกว่าสมัยก่อนมันจะ "หาอ่านได้ทั่วไป งานสัมก็มีเยอะแยะ" เท่ายุคนี้สักนิด

949 Nameless Fanboi Posted ID:fOBu21Cby5

>>946 กูไม่ยอมรับตรงไหน มึงนั่นละไม่เคยผ่านยุคนั้นมาเลยไม่รู้อะไรมากกว่า เข้าใจว่ายุคนี้ "หนังสือเข้าถึงง่ายกว่า" จริงๆ ไม่ใช่หรอก ที่เข้าถึงคือคนสรุปให้ฟังผ่านเน็ตมากกว่าได้อ่านหนังสือจริงๆ

ยอดขายมากถึงหมื่นเลยเหรอ อันนี้กูตกข่าวจริงๆ กูคิดว่าแค่ยอดพิมพ์ 4-5,000 เล่มก็เก่งแล้ว อันนี้มึงหมายถึงยอดแต่ละเล่มหรือรวม 3 เล่มที่มึงบอก

>>947 อะไรของมึง

>>948 อย่างที่กูบอก คำว่าหาอ่านง่ายของยุคนี้มันเพราะมีเน็ต สมัยก่อนไม่มีเน็ตทุกที่แบบตอนนี้ การเข้าถึงแบบสมัยก่อนก็ถือว่าดีแล้ว มันไม่ได้ปิดบังอะไร หนังสือเครือมติชนก็มีบูตใหญ่ที่งานหนังสือทุกปี ฝดก.นอกจากช่วง 49 กูมีบูตหลักตลอดมั้ง ติดๆ กับอมรินทร์เลย

มึงเข้าใจมั้ยว่าที่กูแย้งมึงคือเรื่องที่มึงเคลมว่าเรื่องพวกนี้พึ่งมีพูดตอนเล่มชมพู ทั้งที่มันมีมานานมากแล้ว แค่ไม่แพร่หลายเท่ายุคนี้เพราะตอนนั้นไม่มีเน็ต ถ้ามีมันก็ดข้าถึงง่ายไม่ต่างจากตอนนี้หรอก

950 Nameless Fanboi Posted ID:fIKfM7vrNZ

>>949 ยอดแต่ละเล่ม​ แล้วถ้าอ้างว่าจะถกเรื่องหนังสือเข้าถึงง่าย​ มึงลืมสิ่งที่เรียกว่าpdfไปแล้วเหรอ​​

แถมคนสรุปที่มึงอ้างยุคนี้มีเยอะ​ หลายอันก็ไม่ต่างกับเสวนายุคก่อน อย่างคลาสออนไลน์ของธงชัยนี่เอาธงชัยมาสอน​​ มึงจะอ้างว่าเพราะมีเนต​ ก็ยิ่งยืนยันว่าสมัยนี่เข้าถึงง่ายกว่า​ คุยกันเยอะกว่ามาก​ ฟังไม่ขึ้นว่ะ​ อย่าพยายามเลย

951 Nameless Fanboi Posted ID:jVn8weDfKz

>>949 แม้แต่ช่วงรัฐบาล คมช. จาก รปห.49 ช่วงนั้นที่ปี 50 รัฐบาลขิงแก่ มีงานหนังสือ 2 หน กูเห็นบูธ ฟดก. เปิดปกติเลยนะ ไม่มีการสั่งห้าม ก็งงๆ ดีเหมือนกัน

952 Nameless Fanboi Posted ID:fIKfM7vrNZ

>>951 ขิงแก่สมัยนั้นยังแอ๊บ แถมปี50ยังเพิ่งเริ่มกระแสตาสว่างเอง​ อย่าว่าแต่เรื่องตาสว่างเลยขนาดเรื่องแม้วมันยังนึกว่าแก้รธนก็เอาอยู่

953 Nameless Fanboi Posted ID:s0IiRmv33f

สงสารโม่งเล่มชมพูหน่อยเหอะ มันเพิ่งwokeหลังได้อ่านฉบับภาษาไทย

The Rise and Decline of Thai Absolutism มันงานเก่าตีพิมพ์ตั้งแต่ปี2004แล้ว

954 Nameless Fanboi Posted ID:fOBu21Cby5

>>950 20 ปีก่อนสิ่งที่ควรถูกไหว้ครูมากที่สุดในมหาลัยคือเครื่องซีร๊อกนะรู้มั้ย

มึงไม่เข้าใจ norm ของแต่ละยุคสมัย สมัยนั้นถือว่าเข้าถึงง่ายตามยุคสมัยแล้ว สมัยนี้เข้าถึงง่ายกว่าจริง แต่ก็เป็นไปตามเทรของยุคสมัย

>>951 กูคุ้นๆ ว่าเหมือนเคยเห็นปิดไปอยู่นะ หรือกูจำผิดเอง แต่บูตมันก็ได้ที่ดีมากจริงๆ ทั้งที่สมัยนั้นก็ขายไม่ดีเท่าไหร่

>>953 เล่ม "อวสานสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสยาม" ก็สนุกอยู่นะ กูว่างานที่ฝรั่งเขียนถึงไทยเนี่ยสำนวนสนุกกว่าคนไทยเขียนทั้งนั้นเลยนะ เพราะคนไทยติดเขียนแล้วคิดสำนวนทางการไป อ่านไม่สนุกเท่าของฝรั่ง

955 Nameless Fanboi Posted ID:s0IiRmv33f

>>954 งานเก่าฉิบหาย
หางานArjun Subrahmanyanมาอ่านบ้างนะโม่ง

956 Nameless Fanboi Posted ID:UtH+ScXwQx

>>953 "คนที่โตมาทันแค่ยุคแม้วเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้ลับอะไรเลย หาอ่านได้ทั่วไป งานสัมก็มีเยอะแยะ"

>>954 เออ ก็ตามเทรนด์ยุคสมัย ซึ่งสมัยนี้ก็เข้าถึงง่ายกว่าถูกแล้วไง ทำไมถึงคิดว่ากูบอกว่าสมัยนี้เข้าถึงง่ายกว่าคือกูไม่ได้ผ่านยุคเครื่องซีร็อกวะ เรื่องง่ายแค่นี้ก็ไม่เข้าใจเหรอ อ้อ อวสานฯ ของเบน กูก็อ่านนานแล้วนะ เบนตายไปหลายปีแล้วรู้ป่าว คงไม่ใช่ตกข่าวอีกนะมึง

957 Nameless Fanboi Posted ID:s0IiRmv33f

>>956 thus spake โม่งที่เอาเล่มชมพูมาพล่ามเหมือนกับเป็นของเพิ่งค้นคว้าตีพิมพ์หมาดๆ

958 Nameless Fanboi Posted ID:fOBu21Cby5

>>955 ก็พูดถึงงานเก่ากันอยู่ว่าเรื่องพวกนี้มันมีมานานแล้ว ไม่ใช่พึ่งมีตอนเล่มชมพูฉบับภาษาไทย

ในไทยมีร้านไหนขายมั่ง หรือต้องสั่งเข้ามาอย่างเดียว

>>956 คุยกันมาขนาดนี้มึงรู้ยังว่างานพวกนี้มีมานานแล้ว คนก็รู้กันนานแล้ว ไม่ใช่พึ่งมีตอนเล่มชมพู

959 Nameless Fanboi Posted ID:UtH+ScXwQx

>>958 คุยมาขนาดนี้ตกลงว่า "คนที่โตมาทันแค่ยุคแม้วเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้ลับอะไรเลย หาอ่านได้ทั่วไป งานสัมก็มีเยอะแยะ" มันจริงไหม

960 Nameless Fanboi Posted ID:s0IiRmv33f

>>958 Thailand's Theory of Monarchy คิโนะมีให้สั่งอยู่
Reinventing Siam ที่เป็นงานจบป.เอกแกมีให้อ่านในescholarship

961 Nameless Fanboi Posted ID:fOBu21Cby5

>>959 จริงสิ ไม่งั้นงานสมัยนั้นจะเขียนออกมาได้ไง เล่มชมพูที่มึงชอบอ้างก็มีมาตั้ง 20 ปีแล้ว แต่ความแมสมันก็ขึ้นกับการตื่นตัวของสังคมอะนะ สมัยก่อนคนไม่อินกระแสตาสว่างเท่าตอนนี้ด้วย แต่ถ้าอยากรู้ก็รู้ได้ ไม่มีใครปิดกั้น พูดคุยกันได้ปกติ

>>960 ขอบคุณมาก

962 Nameless Fanboi Posted ID:6b+UpMXvIh

>>961 "คนที่โตมาทันแค่ยุคแม้วเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้ลับอะไรเลย หาอ่านได้ทั่วไป งานสัมก็มีเยอะแยะ" หมายรวมถึงการไปอ่านวยพ.ป.เอก ภาษาอังกฤษด้วย? แหม "หาอ่านได้ทั่วไป งานสัมก็มีเยอะแยะ" จริงๆเลย

963 Nameless Fanboi Posted ID:6b+UpMXvIh

>>961 ว่าแต่คำว่าไม่ปิดกั้นของมึง พูดโดยที่ยังจำคดีนี้ได้อยู่ป่ะ? https://prachatai.com/journal/2013/11/49912

964 Nameless Fanboi Posted ID:HBD.urJaFO

>>962 ก็ถ้ามึงมีความขวนขวายอยากศึกษา หนังสือพวกนี้แม่งไม่ได้หาอ่านยากเลย ยุคแม้ว(2001-2006) ADSLก็มีแล้ว หรืออ่านผ่านระบบjournalของมหาวิทยาลัยก็ได้ ตามร้านซีร็อกส์ก็มีให้ถ่ายอ่าน
งานสัมนาวิชาการก็มีเอางานเขียนงานศึกษามาอภิปรายกันเยอะแยะ
พวกหนังสือ'ตาสว่าง'อย่างเล่มชมพูที่มึงชอบอ้าง หรือของสมเจียมก็ตีพิมพ์ช่วงนี้ทั้งนั้น

965 Nameless Fanboi Posted ID:HBD.urJaFO

>>963 ฮัลโหล คดีนี้อัยการยื่นฟ้องศาลชั้นต้นปี2550 หลังยุคแม้วนะ

966 Nameless Fanboi Posted ID:xfT1CO8v2g

>>963 สัส
กุอ่านแล้วขึ้น เลย อัยการกับศาลใช้สมองส่วนไหนคิดว่ามันเป็นการหมิ่นได้วะนั่น
ถ้ากุเดา ไอ้คนไปฟ้องกับศัตรูการเมืองของเหยื่อ น่าจะเป็นผู้มีอำนาจนอกระบบสูง

967 Nameless Fanboi Posted ID:lZt.gYPys3

หมิ่นหมายังโดนอะ ปญอ สุดๆ
ล่าสุดโดนข้อหาเขียนที่หลังว่า พ่อกูไม่ได้ชื่อโอ ด้วย

968 Nameless Fanboi Posted ID:lZt.gYPys3

แค่นี้หมิ่นตรงไหนวะ
https://prachatai.com/journal/2021/10/95640

969 Nameless Fanboi Posted ID:fOBu21Cby5

>>962 ถ้าอ่านภาษาอังกฤษไม่ออกก็มีงานสัมนาหรือเลคเชอร์ ถ้าอ.มึงใจดีก็หามาให้มึงซีร๊อกเอาไปแบ่งกันอ่าน เอาจริงนะ ตอนนั้นกูนึกไม่ถึงด้วยซ้ำว่ามันจะพัฒนาจนสะดวกเหมือนสมัยนี้ แต่สมัยนั้นแค่นี้ก็ถือว่าดีแล้ว ถ้าอยากหาอ่านก็มีที่ทางให้อ่านได้เยอะแยะ ไม่มีใครปิดกั้นอะไร

มึงนี่เหมือนเด็กที่บอกเน็ต 56K เมื่อ 20 ปีก่อนปิดกั้นความรู้เพราะไม่เร็วเท่า 500MB ตอนนี้เลย

นิดนึง สมัยกูนี่แต่ละคนขวนขวายอ่านงานภาษาอังกฤษกันทั้งนั้นนะ อ.ก็ชอบให้คะแนนพิเศษกับ ref eng มากกว่า แต่ก็ดี จบมาก็ใช่ได้ทั้งชีวิตเลย

970 Nameless Fanboi Posted ID:H8++ltVvOT

>>964 >>969 จากเดิม "คนที่โตมาทันแค่ยุคแม้วเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้ลับอะไรเลย หาอ่านได้ทั่วไป งานสัมก็มีเยอะแยะ" ตอนนี้กลายเป็น "ถ้ามึงมีความขวนขวายอยากศึกษา" แล้วจากเดิม "หาอ่านได้ทั่วไป" ตอนนี้กลายเป็นต้อง "ขวนขวาย" ใช้เนต 56K เปิดหางาน วยพ.ป.เอก หรือไปไล่หาที่คลาสสัมมนามหาลัย ร้านซีร็อกมหาลัยแล้วเหรอ ประเทศไทยมีแค่นศมหาลัยว่างั้น? ทำไมพวกมึงไม่ตีกรอบเป็นเฉพาะนศมหาลัยสาขาประวัติศาสตร์ไปเลยล่ะ จะได้ไม่ต้องมัวแถอยู่แบบนี้

อ้อ แล้วเรื่องปิดกั้นนะ พวกมึงคงไม่ได้อ่านกันเพราะดูท่าความรู้จะตันแค่ยุคร้านซีร็อก ต้นๆเล่มเหลืองของธงชัยน่ะเขียนเล่าตอนงานปาฐกถา 14ตุลา ปี48 ที่เจ้าตัวพยายามจะพูดเรื่องเจ้าในงาน ก็เขียนชัดว่าร่างปาฐกถูกดึงออกไปให้ฝ่ายกฎหมายดู แล้วไม่ได้พิมพ์เผยแพร่ปีนั้น แถมโดนข่มขู่จากสนพที่มันเรียกว่าดาวสยามยุคใหม่(น่าจะเป็นของไอ้ลิ้ม?)จนต้องมีบอดี้การ์ดประกบช่วงนั้น ผ่านยุคนั้นมาด้วยกันแท้ๆ อย่ามาหลอกกันเลย เสียเวลาเปล่าๆ

971 Nameless Fanboi Posted ID:HBD.urJaFO

เออ ฟ้าเดียวกันที่ก็ก่อตั้งปี2546ยุคแม้วนะ ก็ไม่เห็นต้องหลบซ่อนอะไร
ถ้ามึงโตไม่ทันยุคแม้ว มาตาสว่างช่วงงานศพน้องโบว์ก็ไม่แปลกว่าจะเห็นว่าปิดกั้น

ปลายปี2548นั่นเป็นช่วงทักษิณขาลง การเชิดชูสถาบันมาแรงแซงหน้านะมึง
มึงมึนไทม์ไลน์ละโม่ง

972 Nameless Fanboi Posted ID:H8++ltVvOT

>>971 ธงชัยพูดถึงประสบการณ์ปี48 >>970 คดีหมิ่น4 ที่กูเอามา ก็เกิดในปี48 จะมาอ้างว่าอัยการฟ้อง50 แต่ภาระทางคดีเกิดตั้งแต่ชั้นตำรวจแล้วว่ะ จะเอามาอ้างว่าอัยการยังไม่ฟ้องคือไม่ได้ปิดกั้นไม่ได้หรอก นี่พยายามหลอกคนยุคเดียวกันไม่พอ จะพยายามหลอกคนประเทศเดียวกันด้วยเหรอว่าโดนคดีนี่ไม่ถือเป็นภาระ ไม่มีผลปิดกั้นอะไร? นี่งานกษัตริย์ศึกษาครั้งสุดท้ายที่มึงอ่านคือปีไหนเนี่ย โพสมาเหมือนไม่ได้อ่านประเด็นผลลัพธ์ด้านการเซ็นเซอร์ตัวเองของ112เลย

973 Nameless Fanboi Posted ID:H8++ltVvOT

ปล.กูฮา ยุคหลังแม้ว50ไม่นับ ยุคปลายแม้วไม่นับอีก กูว่ามึงตีกรอบไปเลย ยุคแม้ว1 แล้วนับแค่นศสาขาประวัติศาสตร์ น่าจะจบพูดถูกทุกอย่าง555

974 Nameless Fanboi Posted ID:Q5YiR6Vbu/

"ก็วันนั้นพวกมึงรุมกู!!!"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

975 Nameless Fanboi Posted ID:fOBu21Cby5

>>970 ก็ norm สมัยคือเปิดกว้างเข้าถึงง่ายแล้ว จะให้เท่ากับสมัยนี้ถึงจะบอกว่าเปิดกว้างมันเป็นไปไม่ได้หรอก งานพวกนี้คือถ้าคนสนใจก็สนใจ ไม่สนใจก็ไม่สนใจ แต่ก็ไม่ห้ามหาความรู้หรือปิดกันอะไร แม่แต่สมัยเสื้อเหลืองที่ไม่ได้หมายถึงแป๊ะลิ้มพีคๆ ก็ยังเข้าถึงข้อมูลได้

มึงแค่อ่าน แต่กูโตมากับยุคนั้น จะเชื่อสิ่งอ่านไม่ลืมหูลืมตาก็ตามสบาย

>>973 ก็คนทั่วไปมันไม่สนใจเองนิ เลยไม่แมส แต่ถ้าอยากหาข้อมูลก็มีช่องทางเยอะแยะ ถ้ามันปิดกั้นจริงเล่มชมพูที่มึงอวยจะเอาข้อมูลมาจากไหน

976 Nameless Fanboi Posted ID:H8++ltVvOT

>>975 เวลาบอกไม่มีการปิดกั้นเนี่ย มันหมายความว่าไม่มีนะ ไม่ใช่มีแต่มีคนพยายามจนทำโน่นทำนี่ได้ แค่กูเอาคดียัดคุกคนที่พูดเรื่องนี้มาคดีเดียวเครดิตมึงก็ไม่เหลือแล้ว เจอประสบการณ์ตรงของคนในวงการอย่างธงชัยอีก แล้วก็จะให้บอกกี่รอบว่ากูก็ผ่านยุคนั้นมา เลิกพยายามหลอกกันซะที

977 Nameless Fanboi Posted ID:HBD.urJaFO

>>972 ถ้ามึงตามรายละเอียดข่าวมึงจะรู้ว่าแจ้งความปี2550

เวลาพูดถึงยุคแม้วก็ต้องพูดยุคที่แม้วมีอำนาจสิ ปลายปี48แม้วโดนเล่นจนขยับตัวไม่ได้ ต้องยุบสภาแล้ว

กูฟันให้เลยว่า7กันยา2548 ที่แม้วต้องโหนสถาบันเพื่อถอดรายการสนธิออกจากผังนั่นปิดยุคการถกวิชาการเรื่องสถาบัน

ปล. ถ้าพวกเรื่องเล่านินทาปากต่อปากมันไม่เคยหนุดหรอก แต่ศึกษาเชิงวิชาการมันมีกันทั่วไปในยุคแม้ว

978 Nameless Fanboi Posted ID:HBD.urJaFO

ต่อ ถ้ามึงจะเอาเอาเรื่องฟ้อง112เป็นตัวชี้วัด มึงหาจำนวนคดีที่สั่งฟ้องและศาลพิพากษาว่าผิดก่อนปี2548มาสิ

979 Nameless Fanboi Posted ID:H8++ltVvOT

>>977 >>978 ตามข้อมูล สถิติฟ้องคดีนี้ตั้งแต่2535-2547 เฉลี่ยปีละ "ไม่ถึง10คดี" แต่ถ้ามีการฟ้องคดีแบบนี้จะมาอ้างว่าไม่มีการปิดกั้นไม่ได้หรอก

แล้วกูยังไม่ได้บอกมึงว่า เล่มเหลืองของธงชัยยังมีบทความที่เล่าเรื่องเครือข่ายต้านเจ้าอีกว่า หลัง2519เก็บตัวเงียบ เขียนแต่งานใต้ดินเผยแพร่กันลับๆไม่ใช่งานแบบวิชาการ ไอ้แบบวิชาการนี่มันมาหลัง49 ถึงงานของเจียมจะมาก่อน ก็ไม่ได้หมายความว่าเจียมทำแล้วคนอื่นทำตามทันทีนะ กว่าเจียมจะได้ไปออกสื่อวงกว้างหน่อยก็เป็นยุครายการตอบโจทย์ 2556โน่น (แถมทำแล้วโดนถอดจากผังทันทีอีก) แบบนี้ตกลงไอ้ยุคที่มึงบอกว่าเป็นยุคถกวิชาการเรื่องเจ้านี่มันยุคไหน ไทม์ไลน์มั่วไปหมดแล้วมึงอ่ะ

980 Nameless Fanboi Posted ID:H8++ltVvOT

>>979 ลืมลิ้งสถิติคดี https://www.tcijthai.com/news/2014/05/watch/4217

981 Nameless Fanboi Posted ID:HBD.urJaFO

>>979 มั่วละมึง อ่านแต่ข้อมูลที่ย่อยมาให้เสร็จสรรพสิท่า
ไปหาอ่าน “รายงานสถิติคดีของศาลทั่วราชอาณาจักรประจำปี…”บ้างนะ

คดีความผิดต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ฯลฯ

มึงดูจำนวนกระทง จำนวนสั่งฟ้อง จำนวนพิพากษาว่าผิดดีๆ

982 Nameless Fanboi Posted ID:HBD.urJaFO

ปี2519นี่สมัยแม้วมั้งสัส

“ ไอ้แบบวิชาการนี่มันมาหลัง49 ถึงงานของเจียมจะมาก่อน” เล่มชมพูของมึงตีพิมพ์ปี2547นะ

983 Nameless Fanboi Posted ID:H8++ltVvOT

>>981 แถแล้วมึง มึงจะมีกี่กระทง สั่งฟ้องเท่าไหร่ พิพากษาว่าผิดน้อยแค่ไหน ไม่ใช่ประเด็นเลยนะ แค่มีคดีประเภทนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าที่มึงบอกว่า ไม่มีปิดกั้น มันไม่จริง ไม่ได้อัพเดทข้อมูลตั้งแต่ยุคร้านซีร็อกสิท่า

>>982 ตีพิมพ์ที่ไหน? แล้วเรากำลังพูดถึงประเทศไหน?

984 Nameless Fanboi Posted ID:/P01JfIio1

คนที่กรี๊ดกร๊าดดีใจที่ลิซ่าไม่มา รู้เลยนะทัศนคติเป็นยังไง แกไม่ได้อยากให้ประเทศดีขึ้นหรอก แกแค่อยากชนะอีตู่ ประเทศจะเป็นยังไงจะดีหรือชิบหายก็ช่างมัน

985 Nameless Fanboi Posted ID:H8++ltVvOT

>>981 ไอ้รายงานของมึงน่ะหายากชิบหาย หาของปี45มาให้ละ http://oppb.coj.emworkgroup.co.th/th/file/get/file/2018092505e79cd0a5deaee111d5b8aea55040a6202418.pdf หน้า81 คดี112ที่ขึ้นชั้นศาลปาเข้าไปเกือบ40คดีได้มั้ง นี่เหรอไม่ปิดกั้นของมึง จะค้นมากกว่านี้เช่นค้นว่าตัดสินว่าผิดกี่% ก็ทำเอาเองนะ มันไม่มีประโยชน์อะไรอยู่แล้ว

986 Nameless Fanboi Posted ID:iEerpU7gkD

>>984 กรี๊ดกร๊าดควยไรควาย เค้ารู้กันตั้งแต่แรกแล้วว่ายังไงแม่งก็มาไม่ได้ ของงี้มันต้องมีการจองคิวกันล่วงหน้าเป็นปีๆ ไม่ใช่อยู่ๆนึกจะเอาก็จะเอาให้ได้เด๋ยวนี้ ของแบบนี้มันต้องทำอย่างมืออาชีพ ไม่ใช่มาทำเป็นเด็กเล่นขายของแบบไอ้ร้าบาลหน้าโง่แล้วเสือกอวดฉลาด นอกจากเรื่องบ้าอำนาจก็ทำเหี้ยอะไรไม่เป็นซักอย่าง ซึ่งถ้าประเทศมันจะชิบหายจริงก็เพราะไอ้พวกเหี้ยนี่แหละไม่ต้องสะเออะไปโทษคนอื่น

987 Nameless Fanboi Posted ID:lgnWYy.9E.

>>985 จ้า ไม่แจกแจงเลยจ้า เป็นคดีดูหมิ่น-อาฆาตมาดร้ายไปกี่คดีแล้ว

บทความ/หนังสือวิชาการที่โดนฟ้อง112น่ะมีเหรอยุคนั้น ยิ่งวิชาการว่าด้วยปวศ.ยุคก่อน9นี่อิสระเลยเหอะ ไม่งั้นเรื่องร.4ปลอมศิลาจารึกนี่คงโดนฟ้องไปนานแล้ว ตีพิมพ์ตปท.แต่ตัวอยู่ไทยก็ไม่รอดหรอก เล่มชมพูที่มึงเพ้อพล่ามมันงานจบป.เอกของUniversity of Londonจะให้ตีพิมพ์ในดำรงวิชาการเหรอ

988 Nameless Fanboi Posted ID:6/PWOZLY3E

>>987 มันเขียนฟ้องก็เขียนดูหมิ่น/อาฆาตมาดร้ายทุกคดีแหละ มึงไม่ได้อ่านตัวบทเหรอ แล้วมึงไม่รู้เหรอว่ามันใช้ภาษาแบบวิชาการเพื่อเลี่ยง อย่างเรื่องศิลาจารึกที่มึงบอก บทความในศิลปะฯ ที่พิมพ์ปี47 ก็เขียนพาดหัวเป็น หลักฐานทางวิทยาศาสตร์กับศิลาจารึก(ประมาณนี้นะ) แล้วก็ใช้คำว่า ทำศิลาจารึก ไม่ใช่ปลอมศิลา เป็นต้น แต่ตรงนี้ก็มีผลทำให้คนทั่วไปอ่านแล้วต้องใช้สมองมากขึ้นด้วย ส่งผลให้เข้าถึงยากขึ้นเหมือนกัน แถมมันเป็นหลักฐานแสดงว่ามีการปิดกั้น ทำให้พูดตรงๆไม่ได้อีกตะหาก ตกลงมึงเคยอ่านงานวิชาการด้านนี้จริงไหมเนี่ย

แล้วมึงจะให้พวกขวาไปไล่ฟ้องนะ มึงจะให้พวกแม่งไปนั่งคุ้ยงานของนศไทยทุกคนที่เรียนมหาลัยตปทสาขานี้ แล้วนั่งอ่านงานภาษาอังกฤษ คุ้ยว่างานไหนด่าพ่องมัน ไล่ฟ้องหมดทุกคนงี้เหรอ พวกที่มึงพูดถึงมันอยู่ในยุค254xนะเว้ย ไม่ใช่เห็นเล่มชมพูพิมพ์แล้วขายได้เยอะในปี2564แล้ว จะได้คิดได้ว่าต้องไปฟ้องคนนี้ที่ลอนดอน ขนาดฟ้าเดียวกันในไทยตั้งปี46กว่าจะโดนฟ้องก็ปี49แล้ว คิดนานไหมที่แถเนี่ย

989 Nameless Fanboi Posted ID:lgnWYy.9E.

ย้อนนะเผื่อโม่งหลงประเด็น
“คนที่โตมาทันแค่ยุคแม้วเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้ลับอะไรเลย หาอ่านได้ทั่วไป งานสัมก็มีเยอะแยะ”
ยุคแม้ว = ช่วงเวลาที่ทักษิณเป็นนายกฯ
เรื่องพวกนี้ = ว่าด้วยการสร้างประวัติศาสตร์แบบผูกกับราชา ในลักษณะวิชาการ
หาอ่านได้ทั่วไป = ไม่เป็นหนังสือต้องห้าม การครอบครองหนังสือดังกล่าวไม่ผิดกฎหมาย มีการตีพิมพ์เรื่อยๆ
งามสัมก็มีเยอะแยะ = การสัมนาทางวิชาการว่าด้วยปวศ.

การปิดกั้นการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นในเชิงวิชาการก็หลังยุคแม้วนั่นแหละ

990 Nameless Fanboi Posted ID:6/PWOZLY3E

>>989 หาอ่านได้ทั่วไป = ไม่เป็นหนังสือต้องห้าม การครอบครองหนังสือดังกล่าวไม่ผิดกฎหมาย มีการตีพิมพ์เรื่อยๆ
งามสัมก็มีเยอะแยะ = การสัมนาทางวิชาการว่าด้วยปวศ.

ปัจจุบันก็ยังเป็นนี่ จากสถิติที่กูให้ไป ยังมีการตีพิมพ์เรื่อยๆ เยอะแยะมากกว่าอีก ปวศที่เพิ่งสร้างของสมเจียมก็ยังไม่ผิดกฎหมา เห็นมีการประมูลขายเป็นเรื่องเป็นราวแน่ะ ฟ้าเดียวกันก็ขายได้ออกบูธได้ แค่มีตำรวจไปเสือกเรื่อยๆแค่นั้นเอ๊งง การสัมมนาก็มีจัดทางออนไลน์ เยอะแยะยิ่งกว่า แบบนี้แสดงว่าไม่เคยมีการปิดกั้นการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นในเชิงวิชาการในประเทศเลามาก่อนเลย ว้าวๆ ลาเวนเดอร์สัสๆ

991 Nameless Fanboi Posted ID:XIwuRqYy3U

แม้แต่การรักนวลสงวนตัว ห่มปิดร่างกาย และมองว่ากะหรี่เป็นเรื่องผิด ก้เป็นค่านิยมที่เอามาจากฝรั่งนะคะ ไทยแท้อะไรของมึง 555

ไทยแท้ต้องขี้เงี่ยนข่าาาา ความเงี่ยนเต็มวรรณกรรม

992 Nameless Fanboi Posted ID:RyHCXz9nek

ต้องขี้เงี่ยนเหมือนพ่องหนวดจิ๋ม มีเมียเป็นร้อยๆ

993 Nameless Fanboi Posted ID:/7miK8HlJG

>>990 ก็ยิ่งชัดเจนว่างานศึกษาพวกนี้มันมีต่อเนื่องมาเรื่อยๆ
ไม่ใช่เพิ่งปังด้วยเล่มชมพูอย่างที่โม่งพล่ามเพ้อกัน

994 Nameless Fanboi Posted ID:Kaa6HLsb/L

>>993 มีมาเรื่อยๆและพัฒนาขึ้นเรื่อยๆก็ถูกแล้วไง ไม่ใช่
-"คนที่โตมาทันแค่ยุคแม้วเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้ลับอะไรเลย หาอ่านได้ทั่วไป งานสัมก็มีเยอะแยะ"
-"7กันยา2548 ที่แม้วต้องโหนสถาบันเพื่อถอดรายการสนธิออกจากผังนั่นปิดยุคการถกวิชาการเรื่องสถาบัน"
-"ศึกษาเชิงวิชาการมันมีกันทั่วไปในยุคแม้ว"
-"งานพวกนี้คือถ้าคนสนใจก็สนใจ ไม่สนใจก็ไม่สนใจ แต่ก็ไม่ห้ามหาความรู้หรือปิดกันอะไร"

ถุย

995 Nameless Fanboi Posted ID:Guv/fY8.Pn

ต้องตาสว่างมาอวยทักษิณเท่านั้นครับถึงจะเรียกว่าเลือดแท้ นอกนั้นเป็นส ลิ่มเฟสสองสามสี่

996 Nameless Fanboi Posted ID:OkDaJ.H/.O

>>994 ไหนมึงบอกพึ่งมีตอนเล่มชมพูไง

997 Nameless Fanboi Posted ID:Kaa6HLsb/L

>>996 เม้นไหนแปะมาเลย แล้วของมึงไอ้ยุควิชาการปิดฉากที่แม้ว กับไม่เคยปิดกั้นล่ะว่าไง จะทำเนียนเหมือนกับไม่เคยพูด หรือตีมึนว่ากะลาไม่เคยปิดกั้นกลายเป็นสลิ่่มขี้ตีนแม่งเลย

998 Nameless Fanboi Posted ID:MaubTibeYu

จ๊ะ พ่อหลิ่มเล่มชมพู อย่าลืมเอาใส่กรอบกราบเช้ากราบเย็นด้วยนะ
พล่ามเพ้อยังกะเป็นไบเบิลของยุค5

999 Nameless Fanboi Posted ID:MaubTibeYu

อย่าลืมแปะหลักฐานมาด้วยนะว่างานวิชาการเล่มไหนโดนฟ้อง112สมัยแม้วหรือโดนตีเป็นหนังสือต้องห้ามในสมัยแม้ว

1000 Nameless Fanboi Posted ID:OkDaJ.H/.O

มันฟังซะที่ไหน

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.