Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 16th quotes

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:xmwpTmb.QR

https://fanboi.ch/lounge/1161/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
https://fanboi.ch/lounge/2603/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 2nd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3016/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 3rd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3530/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 4th quotes
https://fanboi.ch/lounge/4357/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 5th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5233/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 6th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5838/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 7th quotes
https://fanboi.ch/lounge/6311/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 8th quotes
https://fanboi.ch/lounge/6680/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 9th quotes
https://fanboi.ch/lounge/7184/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 10th quotes ในรัชกาลที่ 10
https://fanboi.ch/lounge/8588/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 11th quotes
https://fanboi.ch/lounge/9552/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 12th quotes ครบโหล
https://fanboi.ch/lounge/10854/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 13th quotes
https://fanboi.ch/lounge/11317/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 14th quotes
https://fanboi.ch/lounge/11656/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 15th quotes​

2 Nameless Fanboi Posted ID:xmwpTmb.QR

ใครที่คิดว่าพระเจ้าอยู่หัว พูดไม่เก่ง เป็นการเข้าใจผิดถนัด

ทรงมีพระสติปัญญาปฏิภาณล้ำเลิศมาแต่ทรงพระเยาว์แล้ว แต่พระองค์ทรงพูดน้อยเพราะเป็นคน"ชั่งพูด" ซึ่งลูกผู้น้องในสมเด็จพระพันปีหลวงฯเคยบอกว่า พระองค์เป็นคน "ชั่งพูด" ซึ่งหาได้ยากในโลก
ที่ว่าชั่งพูด ก็เพราะพระองค์ทรงชั่งเรื่องที่จะพูดเสียก่อน แล้วจึงพูด!

เมื่อครั้งทรงเป็นสยามมกุฎราชกุมารใหม่ๆ สื่อต่างประเทศ สัมภาษณ์พระองค์ท่านว่า ตื่นเต้นหรือไม่ที่ได้ดำรงตำแหน่งสยามมกุฎราชกุมาร?
ทรงตรัสตอบว่า ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น!!!

ผู้สื่อข่าวฝรั่งออกอาการงงจึงถามว่าตำแหน่งรัชทายาทมีความสำคัญมากทำไมจึงไม่ตื่นเต้น!
ขณะนั้น พระหัตถ์ของพระองค์กำลังพับนกกระดาษอยู่ พระองค์ทรงตอบโดยพลันว่า ...

“นกบินไปได้ในอากาศ นกไม่ได้ตื่นเต้น!
ปลาว่ายไปในน้ำ ปลาก็ไม่ได้ตื่นเต้น! เพราะเป็นธรรมชาติเป็นหน้าที่ของนกและปลา พระองค์ก็เช่นเดียวกัน!!!

ผู้สื่อข่าวฝรั่งฟังแล้วก็อึ้งไปเลย มาคราวนี้ทรงใช้เวลาเพียง 2 นาทีตอบคำถามของผู้สื่อข่าว CNN ก็ดังสนั่นเป็นที่สนใจและฮือฮากันทั่วโลก ที่ได้ยินคำตอบของพระองค์กับสื่อมวลชนฝรั่งเป็นครั้งแรกในรัชกาล ว่า ...

ข้าพเจ้ารักประชาชนทุกหมู่เหล่าเสมอกัน
ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งความปรองดอง

ถ้าสนใจอยากจะรู้ว่าพระองค์ทรงปรีชาสามารถและพูดเก่งขนาดไหน ก็ให้ไปศึกษาว่า ทำไมพระนามาภิไธยจึงประกอบด้วยอักขระ 11 ตัว

ทรงพระเจริญพระพุทธเจ้าข้า
#เรามีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียวกัน

(compromiseในบริบทนี้กว้างและลึกกว่าที่แปลกันว่าประนีประนอม เพราะโดยนิรุกต์และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประนีประนอม หมายถึงต่างมีข้อเรียกร้อง และลดหย่อนข้อเรียกร้องกัน ส่วนปรองดองหมายรวมทั้งลดหย่อนข้อเรียกร้องแก่กัน และตกลงกันโดยไม่เรียกร้องอะไรกันก็ได้ เช่นทราบความจริง ว่าพระมหากษัตริย์ทรงพระคุณอันประเสริฐเพียงใดแล้ว เกิดความเข้าใจสว่างไสวขึ้น ก็เห็นว่าข้อเรียกร้องเหล่านั้นเหลวไหล จึงยกเลิกไปเสียดื้อๆก็ได้)

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

3 Nameless Fanboi Posted ID:cJraFPkF5N

>>2 มีอย่างอื่นที่เก่งกว่าพูดอีกนะ

4 Nameless Fanboi Posted ID:VbhssMGg9B

เชื่อไหมว่า ที่บางคน IQ สูงได้ เพราะ EQ ต่ำยังไงล่ะ

EQ ต่ำในที่นี้ นอกจากการควบคุมอารมณ์ต่างๆไม่ค่อยได้ ยังรวมถึงปัญหาในการสื่อสารด้วยนะ
เรามักจะเห็นได้ในรูปแบบต่างๆ เช่น
- พูดไม่คิด ใช้คำพูดไม่เป็น พูดไม่ถูกกาลเทศะ
- หงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่าตัวเอง ‘ไม่รู้’
- จะยอมรับความรู้ที่คิดว่าคู่ควรกับตัวเองเท่านั้น
- จะชอบพูดในเรื่องที่ตัวเองเชี่ยวชาญ และหลีกเลี่ยงที่จะพูดในเรื่องที่ตัวเองไม่เชี่ยวชาญ
และอื่นๆอีกมากมายซึ่งส่วนมากแสดงออกมาในรูปแบบก้าวร้าว (Agressive) และเชิงลบ (Negative)

ที่เป็นอย่างนั้นเพราะสมองพัฒนาไม่สมดุลน่ะ
พัฒนาแต่ IQ เพราะเขารู้สึกว่า ความรู้เท่านั้นที่จะเติมเต็มความกระหายนี้ได้ และทำให้เขารู้สึกพัฒนาขึ้น แต่เขาดันลืมพัฒนา EQ น่ะสิ

โชคยังดีที่เราสามารถพัฒนาสมองให้สมดุลได้ตราบจนอายุ 30 ปี หลังจากนั้นก็เป็นไม้แก่แล้วล่ะนะ ดัดยากหน่อย 555

หากคุณมีคนประเภทเหล่านี้อยู่ใกล้ๆตัว อย่างแรกเลยก็คือ ทำความเข้าใจเขา คนเหล่านี้เวลาต้องรับผิดชอบอะไรซักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานหรือกิจกรรม พวกเขามักจะคิดว่าสิ่งนั้นคือ ทั้งชีวิต ที่ผิดพลาดไม่ได้ และจะทุ่มเทกับมันมากราวกับเป็น Perfectionist รวมไปถึงคาดหวังให้คนอื่นๆทุ่มเทแบบนั้นด้วย ถ้าคุณไม่ทำหรอ คุณก็จะดูเป็นพวกด้อยประสิทธิภาพในสายตาเขาไง

5 Nameless Fanboi Posted ID:TXd0mOqiY3

>>4 คนแบบนี้ คนรอบข้างมักจะปะปนกันไป ทั้ง pos หรือ nega เพราะเขาก็แค่ต้องการคนที่ดูเป็นมิตรในสายตาเขา คำพูดแรงที่ไม่ใช่เสียดแทงอันนั้นพอรับได้พวกนี้ไม่คิดมากถึงจะรู้แต่ไม่ต้องไปรู้ดีกว่า แต่คำพูดที่รุนแรงกับเขาทำให้เขาเกลียดเพราะคนพวกนี้ ซึมซับอารมณ์รอบข้างได้เร็วแล้วตอบโต้ในตอนนั้นเลย เพราะควา่มรุนแรงทำให้พวกเขายากที่จะปรับตัว คนพวกนี้ไม่คิดจะสู้หรอก แต่จะเจอบูลลี่อยู่บ่อยๆ มีเรื่องแล้วไม่จบง่ายเพราะโดนจัดในกลุ่มพวกเอ๋อ ส่วนมากมีเรื่องต้องถึงหูพ่อแม่ทั้งสองฝั่ง

พูดไม่คิด ใช้คำพูดไม่เป็น พูดไม่ถูกกาลเทศะ : เมื่อพูดคำนึงคำนั้นมันอาจจะถูกสำหรับคนทั่วไปแต่ถ้าอยู่กับคนบางกลุ่มคำนี้ถือผิดมหันต์ พูดอะไรออกมาอาจะโดนเกลียด หรือโดนกระทืบเลยก็ได้ ส่วนมากเลือกที่จะไม่พูด แต่สถานการณ์มักจะถูกบังคับให้พูด เลยเป็นสิ่งที่แก้ยากมากๆ อาจจะกลายเป็นตัวตลก หรือเป็นคนบ้า ส่วนมากจะเป็นคนพูดตรง แต่ไม่มีวันได้รับการยอมรับในสังคมที่ปลิ้นปล้อนเอาตัวตัวรอด ทำตัวเป็นกิ้งก่าหลายสี แต่ก็ล้มเหลว
สั้นๆ มึงพูดไม่ถูกใจกู มึงเจอกูแน่

หงุดหงิดเมื่อรู้สึกว่าตัวเอง ‘ไม่รู้’: ส่วนมากคนพวกนี้เวลาไม่รู้ จะหาข้อมูลเพิ่มเติม ไม่มีปัญหา แต่ที่หงุดหงิดจริงๆคือ ไม่รู้แล้วผิด ไม่มีใครบอกก่อน ทุกอย่างอยู่ในสามัญสำนึกนี่ มึงต้องทำนะๆ อะไรกัน คนไม่รู้ไม่ผิดนี่ แต่สำหรับมึง มันผิด ใช้ชีวิตไม่เป็น บลาๆๆๆๆ จนไม่กล้าที่จะทำอะไรเพราะเจอแต่ feedback ด้านลบเข้าๆ นานๆเข้าก็เก็บเลย บางคนดีนะคอยบอกๆว่าแบบนี้ไม่ถูกนะๆ แต่ส่วนมาก มึงทำตัวแบบนี้ทีเดียว ชีวิตมึงจบ

จะยอมรับความรู้ที่คิดว่าคู่ควรกับตัวเองเท่านั้น : ego ล้วนๆเลย อันนี้ถ้าคิดว่ามันอัจฉริยะกูเก่งเรื่องนี้ กูต้องเหนือมึงในเรื่องนี้ เรื่องอื่นช่างมัน คนพวกนี้เหมือนพวกบ้าที่1อะ จะชอบพูดในเรื่องที่ตัวเองเชี่ยวชาญ และหลีกเลี่ยงที่จะพูดในเรื่องที่ตัวเองไม่เชี่ยวชาญ ถ้าไอ้เรื่องที่ไม่ถนัดมักจะให้คนอื่นที่ดีกว่าทำ เพราะก็พูดได้แต่น้ำ ส่วนเนื้อก็จะมีอีกคนพูด แล้วแถมพูดดีจนเทียบไม่ติด เสียหน้าพ่อแม่สิ เสียหน้าครูที่พาไปสิ แล้วเรื่องอื่นหัดไม่ได้เลยนะ เจอสูตรลัดจนไปไม่เป็น

และอื่นๆอีกมากมายซึ่งส่วนมากแสดงออกมาในรูปแบบก้าวร้าว (Agressive) และเชิงลบ (Negative)ตรงนี้อยู่ที่บุคคลเลย ก้าวร้าวเพราะโดนกระทำก่อนแล้วจึงแสดงออกกลับมาทันที ส่วนเชิงลบ สภาพแวดล้อมที่ไม่มีใครอยากให้ได้ดี ต้องข่ม ต้องแข่งขันตั้งแต่เกิดจนตาย แพ้ก็ขายหน้า
เพราะงั้นพวกนี้ถึงต้องทำให้เด่นจริงๆอย่างเดียว เพื่อจะได้ไม่มีคำครหาเกี่ยวกับความรู้ ถ้าเป็นเป็ด ก็จะไม่มีวันเป็นอะไรสักอย่าเลย
พวกนี้ไม่ Perfectionist number 1 only ก็ Impostor syndrome กูไม่เก่งอะไรเลยทั้งที่เก่ง
สังคมข้างนอกมันแย่เกินไปสำหรับคนพวกนี้

6 Nameless Fanboi Posted ID:xmwpTmb.QR

"ราษฎรทั้งหลายพึงรู้เถอะว่า ที่พวกทหารชอบออกมาทวงบุญคุญกันนักหนาว่าเขาเป็นคนคอยปกป้องอธิปไตยรักษาเอกราชให้เราได้มีบ้านเมืองอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้อะไรนั้น มันไม่จริง เพราะในรอบปีร้อยมานี้ หน้าที่หลักดังกล่าวคือเหล่านักการทูตต่างหาก ไม่ใช่ทหาร"
ประโยคนี้พระยาพระหลฯหรือพวกคณะราษฎรไม่ได้กล่าว ผมกล่าวเองแหละครับ
พวกเราไม่ได้เที่ยวออกมาคุย แต่พูดตามตรง ในรอบร้อยปีมานี้ สิ่งที่ทำให้ประเทศไทยอยู่รอดมา รักษาเอกราชและอธิปไตยไว้ได้ ไม่ใช่การทหารนะครับ หากแต่คือการทูต การดำเนินนโยบายต่างประเทศ ที่ขับเคลื่อนโดยบรรดานักการทูต
นับตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคมเมื่อประมาณร้อยกว่าปีมานี้ การทหารของไทยไม่มีขีดความสามารถที่จะรบชนะ รักษาบ้านเมืองไว้ได้ หากเราถูกประเทศตะวันตกโจมตีเพื่อยึดเป็นเมืองขึ้น มีหลักฐานที่ระบุว่าในสมัย ร 3 เหล่าข้าราชการขุนนางไม่มีใครเชื่อว่าอังกฤษจะรบชนะพม่าได้ แต่ต่อมาไม่นานกองทัพพม่าอันเกรียงไกรที่ไทยเกรงขามก็ต้องพ่ายแก่กองทหารอังกฤษที่ไม่ได้ใช้กำลังพลมากมายอะไรนักด้วย จนตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ
ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่ามันคือ wake up call ของสยามในตอนนั้นแล้วว่าการทหารของไทยนั้นหมดยุค หรือใช้ปกป้องอธิปไตยไม่ได้อีกต่อไป สยามจึงหันมาใช้กุศโลบายทางการทูตและเอาตัวรอดมาได้จากการตกเป็นเมืองขึ้น (แม้ว่าจะต้องแลกกับหลายสิ่ง ซึ่งวันหลังจะเล่าสู่กันฟังต่อไป)
เรื่อยมาจนเข้ายุคสงครามโลกครั้งที่ 1 สยามส่งทหารไปร่วมรบกับฝ่ายอังกฤษและฝรั่งเศส ซึ่งนี่ก็คือการใช้การทูต การต่างประเทศนำหน้าการทหาร เราส่งทหารไปช่วยรบในเชิงสัญญลักษณ์มากกว่าที่ไปรบจริงๆ แต่มันเป็นการทูตที่ชาญฉลาดมาก เพราะมันทำให้เรากลายเป็นหนึ่งในประเทศผู้ชนะสงครามไป
มาจนถึงสงครามโลกครั้งที่สอง การทูตของไทยช่วงนี้คือสุดยอดจริงๆ และเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถประคองตัวจนรอดมาได้จากภัยคุกคามอันใหญ่หลวง แถมโก้เก๋มากที่เราไม่ต้องกลายเป็นประเทศผู้แพ้สงครามอีกต่างหาก
ลากยาวมาถึงช่วงสงครามเย็น ที่การทูตไทยโดดเด่นที่สุดในภูมิภาคนี้โดยการเป็นผู้อยู่เบื้องหลังผลักดันการก่อตั้งสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนสำเร็จ ซึ่งกลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญทางการทูตของไทย ที่ช่วยคานการรุกรานของประเทศเพื่อนบ้านที่เปลี่ยนระบบการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ในช่วงนั้น
แล้วต่อไปจนถึงยุคเปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามการค้าในยุครัฐบาลน้าชาติอันลือลั่นที่ผลิกโฉมหน้าของภูมิภาคนี้ไปตลอดกาล
เหล่านี้ก็คือการทูต การดำเนินนโยบายต่างประเทศทั้งนั้นนะครับ ที่สร้างความมั่นคง ผาสุก และรักษาเอกราชและอธิปไตยของประเทศชาติเอาไว้
ไม่ใช่การทหาร
และที่พูดมาทั้งหมดนี้ก็คืออยากบอกว่า สมมุติว่างบประมาณของประเทศเราคือร้อยบาท จากบรรดางานทั้งหมดที่พวกเราต้องทำ ท่านทั้งหลายคิดว่ากระทรวงการต่างประเทศได้รับการจัดสรรสักเท่าไหร่จากร้อยบาทนี้?
20 บาท? 10 บาท? 5 บาท? 1 บาท?
เราได้ไม่ถึง 50 สตางค์นะครับ มากกว่าสลึงเล็กน้อย คือ 0.38
แล้วคุุณก็คิดเอาแล้วกันว่าใครที่ได้งบประมาณมหาศาล ว่าเขาเอาไปทำอะไร? หน้าที่ปกปักรักษาเอกราชอธิปไตยเขาทำได้จริงแค่ไหน? คุ้มค่าอย่างไร?
แม้จะไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีไปหมด ที่ห่วยน่าอายก็มี แต่พวกเราเหล่านักการทูตไม่ได้เที่ยวมาคุย หรือคอยลำเลิกบุญคุญประชาชน ในการทำหน้าที่ตนเอง
ดีกว่าพวกชอบคุย แต่หน้าที่จริงของตนเองไม่ทำ กลับไปทำในสิ่งที่ไม่ใช่หน้าที่ ที่ตัวเองไม่มีความรู้อะไร จนประเทศชาติถอยหลังในทุกมิติ จ้องคอยแต่กดขี่ประชาชนที่จ่ายภาษีเลี้ยงดูตนเองไปวันๆ
และอย่างที่บอกว่าพวกเรานักการทูตไทยก็มีข้อบกพร่องและผิดผลาด
หลายสิ่งหลายอย่างผมก็ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินงานของกระทรวงการต่างประเทศ แต่ในภาพรวมเมื่อเทียบงบประมาณอันน้อยนิดกับงานทั้งหมดที่เราทำ
ผมคิดว่าอย่างน้อยก็น่าจะพอคุ้มค่าอยู่บ้างนะครับ

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

7 Nameless Fanboi Posted ID:3ROurbp2Zf

สาเหตุที่เกิดการรัฐประหารครั้งหลัง เพื่อควบคุมสถานการณ์เมื่อเกิดการเปลี่ยนผ่าน เมื่อประยุทธ์ขึ้นเป็นนายกฯก็สอดคล้องกับการที่วชิราลงกรณ์ขึ้นเป็นกษัตริย์ ประยุทธ์สามารถใช้งานได้ทุกอย่าง วชิราลงกรณ์ต้องการควบคุมทุกอย่างในมือ
การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย สำหรับประเทศไทย มีอยู่ทางเดียว

8 Nameless Fanboi Posted ID:Mb+0DyIqe0

ทำไมเสื้อแดงหรือฝ่ายที่เรียกตนว่าประชาธิปไตยไทยจำนวนหนึ่งสนับสนุนทรัมป์? จงอภิปราย #ป #ทรัมป์

-------------------------

อันนี้สาบานว่าคือคำถามของคนจบจาก Oxford ???

ที่จริงว่าจะพูดเรื่องนี้หลังจากตอนที่ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ช่างแม่ง....

ทำไมคนที่สนับสนุนประชาธิปไตยในประเทศไทยถึงยังเชียร์ทรัมพ์ .... ทำไมจะเชียร์ไม่ได้วะ มันไม่ได้เอาปืนมาจ่อหลังบังคับให้กูรัก หรือจะจับกูไปขังคุก 3-15 ปี

ฐานเสียงของทรัมพ์คือใคร .... นอกจากกู 1 เสียงแล้ว คือพวกที่ลิเบอรัลฝั่งซ้ายเรียกเหยียด ๆ ว่าพวก Red Neck นั่นแหละ....(มะ...ไม่เหยียดซะหน่อย อันนั้นมันคนละกรณีกัน)...ใครคือ red neck มันคือชาวนาเสื้อแดงบ้านนอกที่ทำงานหนักกลางแดด จนแดดเผาต้นคอมันแดงแจ๋ แต่ไม่มีใครสนใจคุณภาพชีวิตของมันจนทรัมพ์เข้ามาประกาศนโยบายอเมริกาต้องมาก่อน แล้วบังคับให้ประเทศที่เคยได้เปรียบดุลย์การค้าจากอเมริกา ให้ต้องรับซื้อสินค้าเกษตรจากมันนั่นแหละ

ตอนหลังใครเป็นแรงงานทำงานนอกห้องแอร์ มันก็เรียกพวกนั้นว่า red neck ด้วย....ดังนั้น กูพราวด์ทู บี ควาย-แดง

ตะ ตะแต่ ทรัมพ์มันเป็นพวกอำนาจนิยมเหยียดผิวนะ.... มึงเป็นผู้อพยพ ทำไมถึงไปสนับสนุนทรัมพ์ ....จงยกตัวอย่างกรณีที่ทรัมพ์เหยียดผิวมา 0.5 กรณี.... จอร์จ ฟลอยด์ไง....ถ้ามึงเรียกโจรที่โดนตำรวจฆ่าตายว่าเป็นการเหยียดผิว ก็หยุดอ่านตรงนี้ได้เลย มึงโง่เกิน เก็บโควตาการอ่านของมึงไปไว้สำหรับอินโฟกราฟฟิคที่มีรูปการ์ตูนสีสันสดใส หรือทวิตที่ตัวหนังสือมันน้อย ๆ ดีกว่า

ความแตกต่างของนโยบายเกี่ยวกับไมนอริตี้ของ Rep. กับ Dem. คือ เมื่อคุณอยู่ในสังคมของ Dem. ตามเมืองใหญ่ พวกนี้จะเคารพมึงนะ อะไร PC PC จะออกมาจากปากมันเต็มไปหมด แต่มึงก็จะยังเป็นไมนอริตี้อยู่ดี ....ต่างจากพวก Rep. .... you work hard, you are one of us.

ถ้าคิดว่าพวก Rep. เป็นพวกนายทาส ... มึงไปดูคุณภาพชีวิตคนดำในเขตการปกครองของ Dem. ได้เลย.... ไม่หนีจากทาสในสมัยโบราณเท่าไหร่หรอก อยู่กันแออัด ๆ ในสลัม หนังสือหนังหาไม่ได้เรียน เป็นโจรเดินยากันตั้งแต่อายุ 16-17 แต่พวก Dem. ก็ยังพล่ามไม่หยุดนะ ว่าเรารักคุณ เรารักคนดำ vote ให้เราเถอะ .... Dem อยู่ในตำแหน่งบริหารกิจการของเมืองนั้นมาเป็นร้อยปี เป็นประธานาธิบดีอีกอย่างน้อยก็ 40-50 ปี... ถ้าคุณภาพชีวิตมึงไม่ดีขึ้นหลังจากคนที่อ้างว่ารักมึงนักหนาปกตรองมึงมายาวนานขนาดนั้น... มึงไม่ควรจะไปพล่ามว่านักการเมืองอีกฝั่งเหยียดผิว

แต่มึงเป็นผู้อพยพ มึงจะไปสนีบสนุนทรัมพ์ไม่ได้ เพราะมันกึดกันผู้อพยพ..... พวกแมกซิกันโดนจับเนรเทศเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยโอบามา FYI...สงครามที่สร้างความเสียหายกับสหรัฐอเมริกาได้มากที่สุดคือ สงครามยาเสพติดกับพวก Maxican Narcos นี่แหละ ไม่ใช่ Al Qaeda พวกห่านี่ข้ามแดนกันมาเป็นกองทัพมด เอายาเสพติดเข้ามาปล่อย แถมการปล่อยคนให้เดินข้ามแดนเข้ามาดื้อ ๆ โดยไม่มีการทำฐานข้อมูลเป็นเรื่องที่ไม่มีประเทศไหนในโลกแม่งทำกัน

อีดาราฮอลลีวูด โง่ ๆ อย่าง Billie Eilish (คนนี้ liberal สมองหมาของเมืองไทยคลั่งแม่งมาก) ถึงกับเคยทวิตประนามว่า ‘ฉันทนไม่ไหวแล้ว ทำไมผู้อพยพต้องถูกจองจำ ทำไมผู้นำของเราถึงโหดร้ายอย่างนี้’ ... อีควาย มึงก็ลองเดินข้ามแดนลงไปแมกซิโกดูสิ แล้วดูว่าตำรวจแมกซิโกมันจะทำยังไงกับมึง

นโยบายที่พวกซ้ายหน้าโง่มันเรียกว่าการกีดกันผู้อพยพ มันคือการจัดการผู้อพยพโว๊ยยย ....มันต้องมีการทำประวัติ ชื่อ ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด ไม่ใช่วันดีคืนดีมึงไปก่ออาชญากรรม เสร็จแล้วก็มุดรูหายกลับไป

พูดถึงดาราฮอลลีวูด พวกสื่อ ....พวกห่านี่บูชาสังคมนิยมเหลือเกิน เล่นหนังเรื่องนึงรับ 10 ล้าน จ่ายเอเจนท์ 1.5 ล้าน จ่ายภาษี 3 ล้าน .... เหลือ 6.5 ล้าน....อุ๊ย Dem พรรคโปรดของชั้นจะเก็บภาษีเพิ่มอีก. 500,000 ได้ค่าาาา เอาไปเลย ชั้นยังเหลืออีก 6 ล้าน.... ตัดกลับไปที่ Red Neck ทำงานได้เงินเดือน 3500 จ่ายภาษี 900 จ่ายค่าเช่า/ผ่อนบ้าน 1,200 เหลือใช้จริง ๆ 1,400 ....มันจำเป็นจะต้องไปสังคมนิยมกับมึงด้วยไหม แต่ไอ้พวกห่านี่เสือกมือถือไมค์ ไฟส่องหน้า พูดห่าอะไรก็เป็นข่าว ...ซึ่งคนทำข่าวก็พวกเดียวกันนี่แหละ

9 Nameless Fanboi Posted ID:Mb+0DyIqe0

>>7
อี๋ ๆๆๆมึงมันพวก Red Neck บ้าปืนชอบความรุนแรง........ สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวในสหรัฐอเมริกาที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองและครอบครัวได้เมื่อมีภัยคุกคาม คือ มนุษย์ในเขตการปกครองของ Dem. ซึ่งพยายามจะจำกัดการเข้าถึงอาวุธปืนทุกรูปแบบ เพื่อบีบบังคับให้คนต้องง้อรัฐ for protection ... หรือถ้ามึงรวยมาก ๆ อย่างพวกนักการเมือง หรือดารา มึงก็จ้างคนถือปืนมาเฝ้าบ้านมึงอีกที.....ดังนั้นคุณอย่ามีเลยปืน มีอะไรโทรเรียกตำรวจสิ.... ตำรวจใช้เวลาเฉลี่ย 12 นาทีในการมาถึงจุดเกิดเหตุ อาขญากรใช้เวลาเฉลี่ย 36 วินาทีในการประกอบอาชญากรรม.... เรียกตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พอ เอาถุงใส่ศพมาด้วย จะศพใครก็อีกเรื่องนึง แต่ศพกูจะไม่อยู่ในสภาพที่คุกเข่าพนมมือก่อนตาย ....พวกที่ปล้น ๆ เผา ๆ กันอยู่ทุกวันนี้ คือพวก Antifa กับ BLM ลูกสมุน Dem ทั้งนั้นนะครับFYI

นโยบายดึงอุตสาหกรรมกลับมายังแผ่นดินแม่ ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานจำนวนมหาศาล อัตราการว่างงานลดลงจนเหลือ 4.2% .... ผู้คนมีกำลังจับจ่ายใช้สอย เฉพาะแถวเมืองที่กูอยู่มี Intel กับ Nike แค่หากินทำมาค้าขายกับพนักงานในโรงงานก็สบายแล้ว ยังไม่รวมถึงมันไปส่งเสริมเศรษฐกิจให้ชุมชนรอบ ๆ โรงงานอีก คนย้ายเข้ามา อสังหาริมทรัพย์ราคาสูงขึ้น ทุกอย่างส่งเสริมกันเป็นลูกโซ่ไปหมด ....ผลการเลือกตั้ง county กูแดงเถือกตั้งแต่ยังไม่ปิดหีบ

อันนี้เฉพาะนโยบายภายในบางส่วนนะ ถ้าจะเอาต่างประเทศด้วยแม่งก็ยาวพอ ๆ กัน.....

ถ้ามึงจะเปรียบเทียบง่าย ๆ นายกรัฐมนตรีของไทยคนไหนที่ สื่อเกลียด ดาราเกลียด สลิ่่มเกลียด ข้าราชการประจำเกลียดเพราะไปลดพิธีรีตรอง และความสำคัญของพวกมันลง ...ปากไว ใครเลือกผม,ผมดูแลก่อน... UN ไม่ใช่พ่อ

คุ้น ๆ ไหม....

ทรัมพ์มันได้คะแนนเยอะขึ้นมากกว่าคราวก่อนเยอะจริง ๆ แหละ แต่สู้การปั่นของสื่อไม่ไหว ถ้าคราวนี้แพ้(อย่างเป็นทางการ)คราวหน้ารบกวนพรรคช่วยหาคนที่มันมีช่องให้สื่อเล่นได้น้อยกว่านี้หน่อยก็ดี

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง

10 Nameless Fanboi Posted ID:PaUzhR2b/P

>>9 ดีขนาดนั้นไม่น่าแพ้นะ แม้วออกเพราะโดน รฐป นะ แต่ ลต ได้ครองเสียงข้างมากนะ

11 Nameless Fanboi Posted ID:3ROurbp2Zf

อหห เจอฝรั่งเปิด onlyfans ได้เงินเดือนละ 40k+ ดอลลาร์ ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณล้านสอง บางเดือนได้ 80k+ ก็สองล้านกว่าๆ ถ้าหุ่นดีเคใหญ่อยู่แล้วคือแทบไม่ต้องหาทุนเพิ่มเลย ตอนนี้คืออยากเป็น anonymous กุจะทำ onlyfans กุว่ากุสู้ได้ 555555555555

12 Nameless Fanboi Posted ID:9atSZniEmZ

>>10 สังคมเมกามันเป็นสังคมเมืองมากกว่าชนบทนะ ถ้าดูเป็นรายรัฐ เขตที่เดมชนะนี่เมืองใหญ่ๆ ทั้งนั้น ต่างจากเขตที่เลือกทรัมป์นี่เหมือนพวกเมืองเล็กๆ ไม่ก็ชนบทไปเลยอะ

13 Nameless Fanboi Posted ID:KkqJP1BoZV

Hey it's Joe.
Joe who?
Joe President.

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

14 Nameless Fanboi Posted ID:scLwk1oTu7

งานนี่แหละที่เราไปนั่งรอจนมืด แล้วก็ประกาศว่าท่านทรงห่วงประชาชนกลัวจะร้อนเลยเปลี่ยนเวลาปั่น ซึ้งใจมาก ตื่นมาแต่เช้า ท่านกลัวร้อน เลยเลื่อนเป็นปั่นตอนเย็น

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

15 Nameless Fanboi Posted ID:scLwk1oTu7

ระวังมันชวนไปเย็่ดหมา ไอ้นี้ยิ่งเป็นสลิ่่มอยู่เพราะเป็นพวกเอากะสัส

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​กล่าวถึงชายต๊องหญิงเพี้ยน

16 Nameless Fanboi Posted ID:PIBlorRTpI

เห็นแท็กม็อบตุ้งติ้ง2 ทำให้กูรู้สึกว่า อืม จุดประสงค์ของการชุมนุมมันคืออะไรกันนะ ถ้าทำให้มันตลกเพราะไม่อยากให้เครียดมันก็แบบ... แต่ทุกวันนี้เหมือนชุมนุมสังสรรค์ที่มีคนเยอะล้นถนนมากกว่า อ่ะ ตอนนี้กูเหมือนดูขบวนแห่ขันหมากอยู่เลย เดินไปสู่ขอลุงตู่เหรอ

17 Nameless Fanboi Posted ID:l/mJAJ0W5q

>>16 วันนี้วางลวดหนามไว้หลายชั้น เอารถมาขวาง รอเจอความมันส์?

18 Nameless Fanboi Posted ID:q8hREMqwfG

>>17 รอเจอความมันส์ ที่ต้องยกไปเก็บ 5555

19 Nameless Fanboi Posted ID:scLwk1oTu7

>>16 เมื่อวานมัน pride parade

20 Nameless Fanboi Posted ID:Mdn2YLEOL3

ถ้าแกงรอบนี้กูว่าม๊อบพัง นอกจากกูจะด่า พ่อค้าแม่ค้าที่ตุนของไปรอขายก็จะรวมหัวด่าด้วย 555

21 Nameless Fanboi Posted ID:scLwk1oTu7

เขาไปกินฟรีกัน

https://twitter.com/charoenpura/status/1325245158816804865

22 Nameless Fanboi Posted ID:hphX0s6Fey

>>21 ต้องขอบคุณพวกหริ่มหน้าโง่ ที่ไม่เต็มใจมาเป็นท่อน้ำเลี้ยงนะ 5555555555

23 Nameless Fanboi Posted ID:Mdn2YLEOL3

ตะกวดก็แดกข้าวไข่ดาวอย่างพอเพียงตามคำสั่งนายมึงต่อไปล่ะกัน

24 Nameless Fanboi Posted ID:hphX0s6Fey

ผัวบีบยาสีฟันจนหลอดแบน เมียหิ้ว Hermes 5555 ใครว้าาาาาา

25 Nameless Fanboi Posted ID:h7c1jZZp1w

เมื่อสิบกว่าปีก่อน ผู้ใหญ่ในวงการไอทีท่านหนึ่งเคยบอกผมว่า ทีบริษัททำซอฟต์แวร์จะบังคับให้พนักงานทุกคนมาเรียนการเขียนโปรแกรมอย่างน้อย 1-2 เดือนในช่วงทดลองงาน แม้แต่พนักงานขายหรือ admin ท่านบอกผมว่าทุกคนจะได้รู้ว่าการทำซอฟต์แวร์นี้มันยาก พนักงานขายเองก็จะได้ไม่ไป overtalk เสนอขายในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

วันนี้กระแสดิจิทัลมาทั้ง Big Data, AI, Blockchain ผู้บริหารหลายๆคนต่างก็พูดกันตามกระแส จริงๆแล้วหลักสูตรผู้บริหารทุกคนทุกสาขา (ไม่ใช่แค่ผู้บริหารไอที) ควรจะจับมาเรียนเขียนโปรแกรม เรียนคณิตศาสตร์ เรียนอัลกอริทึมด้านเอไอ และให้ลงมือทำเทคโนโลยีซัก 1-2 เดือน จะได้เข้าใจภาพที่ดีขึ้น และกำหนดกลยุทธ์ที่ถูก ไม่ฝันและ overtalk จนเกินไป ในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยลงมือทำหรือปฎิบัติ จะได้รู้ว่าบางอย่างมันยากกว่าที่คิด

26 Nameless Fanboi Posted ID:oKWiRN/xM4

มันไม่ใช่เรื่องน่าขบขัน คนที่ขบขันคือคนที่ไม่รู้หรือโง่ คุณมันขบขันเสมอเพื่อปกปิดความเขลาของคุณ

27 Nameless Fanboi Posted ID:qLd8YYl0SM

สงสัยมาก ผู้ชายผลิตน้ำนมได้หรือเปล่า คือ เมื่อคืนไปเอาน้องคนนึง ออกแนวตุ๊ดๆสาวๆ หัวนมใหญ่ๆคล้ายกินยาคุม (แต่ไม่รู้ว่ากินหรือเปล่านะ ไม่กล้าถาม) ทุกครั้งที่ดูดนมน้อง เหมือนมีน้ำออกมาจากนมนิดหน่อยด้วยอ่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าใช่น้ำนมไหม กูจำไม่ได้ไงว่านมแม่มันรสเป็นไง (ใครจำตอนเป็นทารกได้ก็บ้าแล้ว)
สงสัยว่า การกินยาคุม มันทำให้ผู้ชายผลิตน้ำนมได้ไหม หรือ ปกติผู้ชายบางคนก็ผลิตน้ำนมได้หน่อยๆ ไม่เกี่ยวกับยาคุม

28 Nameless Fanboi Posted ID:uYr96z.uxd

>>25 ประเทศไทยจะมีใครมาเป็นนายกฯ ได้ไหมเนี่ย ตั้งแต่นายกรัฐมนตรียันนายก อบต.

29 Nameless Fanboi Posted ID:PIBlorRTpI

>>27 ยาคุมมันเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงอ่ะ แต่ไม่น่าจะถึงขนาดทำให้มีน้ำนมหลั่ง (คิดว่า)​

30 Nameless Fanboi Posted ID:Gs3FLZqN+F

สารที่ซ่อนอยู่ในสุนทรพจน์ประกาศชัยชนะของไบเดน
1. บอกว่ารัฐบาลต่อไป จะเป็นรัฐบาลของแนวร่วมที่หลากหลาย เป็นตัวแทนของอเมริกา แสดงว่าฝ่ายหัวก้าวหน้าจัดอย่างแซนเดอร์/AOC/กลุ่ม The Squad น่าจะผิดหวังแน่ๆ น่าจะมีครม.ที่หลากหลายที่สุดในปวศ.อเมริกา ทั้งผู้หญิง คนผิวสี คนเชื้อสายต่างๆ และตัวแทนจากรีพับลิกันที่มีความสามารถ
2. งานสำคัญที่สุดคือควบคุมเชื้อโควิดให้ได้ ไบเดนให้ความสำคัญเรื่องนี้ที่สุด และจะเน้นไปที่นักวิทยาศาสตร์อย่างเต็มที่ (แต่จะเชื่อได้แค่ไหน เพราะไบเดนยังหลงเชื่อเจ๊อลิซาเบธ โฮล์มส์ของเทรานอสมาแล้วรอบนึง)
3. พูดถึง อดีตปธน. สหรัฐ 4 คน คือ
ลินคอล์น - ชนะสงครามกลางเมือง ไบเดนคงมองว่าอเมริกาตอนนี้แตกแยกมากแบบสมัยลินคอล์น
FDR - เสนอนิวดีลและชนะสงครามโลก ไบเดนมองว่าเศรษฐกิจตกต่ำมาก ต้องเสนอแนวทางฟื้นฟู และอาจต้องปะทะกับชาติศัตรูอื่นๆ เพื่อเอาชนะ
JFK - ปธน.คาทอลิก และให้ความทะเยอทะยานสู่อวกาศ ไบเดนน่าจะสนับสนุนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอวกาศแบบเจเอฟเค อาจประกาศเป้าหมายอวกาศใหม่
โอบาม่า - สร้างความหวังความเท่าเทียมทางเชื้อชาติ ไบเดนคงพยายามจะสมานความขัดแย้งเชื้อชาติอีกครั้ง
4. ไบเดนอ้างเพลงสวดในงานศพลูกชาย และไบเบิลหลายครั้ง ดึงเอากลุ่มคริสเตียนที่เป็นประชากรหลักของอเมริกาให้ไว้วางใจรัฐบาลเดโมแครต จากที่รู้สึกกังวลเพราะโฆษณาโจมตีของฝั่งทรัมป์ที่ยกเอาส.ส.หัวก้าวหน้า/มุสลิมมาโจมตีบ่อยๆ
5. ไบเดนตีความ "อเมริกันดรีม" ใหม่ ว่าคือ "ความเป็นไปได้" ที่พระเจ้าประทานให้มนุษย์มา
6. ในสุนทรพจน์นี้ มีช่วงสุดท้ายที่ไบเดนกล่าวนอกสคริปต์ที่แจกให้สื่อ พูดถึงว่า ปู่บอกให้ไบเดน "รักษาศรัทธา" แต่ย่าบอกให้ "เผยแผ่ศรัทธา" แสดงว่ามีแนวโน้มที่อเมริกาในสมัยไบเดน จะกลับสู่การเป็นผู้นำแนวหน้าของโลกอีกครั้ง

31 Nameless Fanboi Posted ID:NV4XCiCoDc

ขวาจัดกลุ่มหนึ่งออกมาเรียกร้องให้ทหารทำรัฐประหาร (อิหยังวะ) ขวาจัดอีกกลุ่ม (ซึ่งจริงๆ อาจเป็นกลุ่มเดียวกัน) ออกมาบอกว่าอยากคืนอำนาจอธิปไตย (อิหยังวะ) ให้รัชกาลที่ 10 พระราชทาน "ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์" (อิหยังวะ) ลงมาให้

เคยคิดว่าขวาจัดไทย = ฟาสซิสต์ แต่ดูๆ แล้วฟาสซิสต์ที่อื่นไม่เห็นมีที่ไหนอยากให้คนอื่นคิดแทนทำแทนตัวเองขนาดนี้ ที่เคยจะนิยามขวาจัดไทยว่าฟาสซิสต์อาจต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เรียกว่า "ทาสที่ปล่อยไม่ไป" น่าจะตรงกว่า 😌

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

32 Nameless Fanboi Posted ID:TquGu+Qrgm

>>31 คนกลุ่มนี้เป็นพวก "ไร้สมอง" ชอบผลักภาระให้คนอื่น ไม่ชอบลงมือทำเองเพราะ "โง่" เลยต้องผลักภาระให้ทหารบ้าง ให้เจ้าแผ่นดินบ้าง

33 Nameless Fanboi Posted ID:XnrOrtd0O.

>>25 ถ้าทำจริงเดี๋ยวก็เจอไม่ยอมเข้า อู้มาสาย คนสอนให้ทำอะไรก็ไม่ทำ นั่งโง่ๆจนหมดเวลาเทรนไปวันๆ
ไม่ก็ทำอะไรง่ายๆนิดนึงได้ แล้วก็คิดว่าเออง่ายจัง จบ ไม่คิดหรอกว่าทำจริงมันมีอะไรเยอะกว่านั้น

34 Nameless Fanboi Posted ID:puw97EiKYB

อ่านหนังสือของ อ. นิธิทำให้เรารู้อะไรมากขึ้นจริงๆ อย่างที่รู้ว่าเจ้าตากกับทองด้วงไม่ได้เป็นเพื่อนกัน ความสัมพันธเป็นแค่นายกับลูกน้องกันเท่านั้น ล่าสุดคือรู้ว่าพระนารายณ์เป็นกษัตริย์ที่ประชาชนไม่นิยมเลยเพราะ favour พวกฝรั่งมาก ดังนั้นการยึดอำนาจของพระเพทราชาจึงสำเร็จได้

35 Nameless Fanboi Posted ID:c0OKf7/cqY

note ความคิดสั้นๆ ไม่ได้เรียบเรียงเพราะติดปั่นงาน 2 ประการ

1. เจ้าหน้าที่ยังใช้มาตรฐานความคิดว่ากำลังรับมือม็อบเสื้อแดง กับม็อบปัจจุบัน - เนื่องจากเสื้อแดงขายความเป็นรากหญ้า เป็นตัวแทนคนจน ผู้ได้รับความเดือดร้อน

แต่ม็อบปัจจุบันไม่ใช่

ประเด็นคือ พวกเขาไม่เคยขายว่าตัวเองจน และข้อเท็จจริงคือ โดยเฉลี่ยแล้วเกินเส้นความยากจนของรัฐไปโข

ชุดความคิดว่า "ไม่จ่ายภาษีแล้วเรียกร้อง" หรือปั่นว่า "แกนำม็อบอยู่ดีกว่าคนในม็อบ" ใช้ไม่ได้ บางคนเปิดโรงแรมห้าดาวหรูใกล้สนามหลวงนอน หลังไปม็อบ เพียงเพราะขี้เกียจรีบเดินทางกลับบ้าน

เมื่อวิเคราะห์ตามประวัติศาสตร์แล้ว ใกล้เคียงกับพวกม็อบชนชั้นกลางในประวัติศาสตร์ยุโปร เหมือนพวกม็อบของพรรคทอรี่ - ม็อบพวกนี้มีโอกาสชนะอย่างสันติสูงมากตามประวัติศาสตร์ - เพราะเป็นเรื่องการต่อสู้ระหว่างชนชั้นกลางใหม่ กับกลุ่มอำนาจศักดินาเก่าที่อาศัยโครงสร้างเส้นสายเดิมสร้างฐานะ

ในที่สุดเราก็เข้าสู่การเมืองยุค เสรีนิยม Vs ศักดินา เสียที ยินดีต้อนรับสู่ศตวรรษที่ 19-20
.
.
.
2. การที่ม็อบก่อๆ หายๆ อย่าคิดว่าไม่ส่งผลต่อรัฐ

เนื่องจากเจ้าหน้าที่อ่อนล้า และขวัญกำลังใจตกต่ำมาก อันเป็นผลมาจากความไร้ประสิทธิภาพภายในของการจัดการเจ้าหน้าที่รัฐเอง

เจ้าหน้าที่ถูกเกณฑ์มาไกลบ้าน การบำรุงขวัญย้ำแย่ นอนวัด อาหารการกินแย่กว่าข้าวหมา เบี้ยเลี้ยงยังไม่ออก รอตกเบิก - ชวนให้คิดว่านายคอรัปชั่นเอาเงินที่ควรจะได้ไปหรือเปล่าวะ

นอกจากนั้นยังส่งผลให้ กลุ่มอาชญากรรมในพื้นที่เริ่มเริ่งร่า เพราะไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่คอยควบคุม - คนเป็นเจ้าหน้าที่ก็ต้องคิดบ้างแหละว่าเขาสมัครมาเพื่อพิทักษ์สันติราช ปราบโจร สร้างความสงบสุข ก็คงถามตัวเองบ้างว่ากูมายืนม็อบให้เขาด่าทำไมวะ ไม่เอาความพยายามและเวลาไปปราบอาชญากรรมในพื้นที่

อย่าลืมว่านี่พึ่ง 1 เดือนเท่านั้นเอง กำลังใจยังตกขนาดนี้

ผมเดาว่า การที่ IO ต้องออกมาโวยวายเรื่องกุ้ง ไม่ใช่ IO เชิงโจมตีใส่ผู้ชุมนุม แต่เป็น IO ที่หวังผลป้องกันขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่เอง เพื่อบอกว่า "ไม่ใช่อาหารของอีกฝ่ายดีกว่าเราขนาดนั้นเว้ย" - น่าจะมีคนเริ่มถามแล้วแหละว่าทำไมม็อบกินกุ้ง แต่เจ้าหน้าที่มีงบเยอะแยะต้องกินข้าวกับไข่ต้มวะ?

สิ่งที่ฝ่ายรัฐกลัวตอนนี้คือคำถามจากเจ้าหน้าที่ว่า "เงินที่พวกเขาควรจะได้เป็นเบี้ยเลี้ยง และค่าอาหาร มันไปไหน"

ประเด็นคอรัปชั่นภายในของเจ้าหน้าที่นี้เป็นเรื่องที่น่าพูดถึงในการชุมนุม

ที่จริงรอบหน้าเปิดตลาดไปเลย เอาผู้ประกอบการมาย่างเนื้อหอมๆ เปิดเป็นลานอาหาร ไม่ต้องแจกก็ได้เพราะผู้ชุมนุมส่วนมากซื้อกินเองได้ และควรจะให้มีการจับจ่ายอุดหนุนผู้ประกอบการ ลองไปตั้งแถวหน้าควบคุมฝูงชน แล้วย่าง BBQ เป่ากลิ่นใส่เจ้าหน้าที่ รินเบียร์แล้วบอกว่า "พี่มาๆ มากิน" ดูซิว่าจะทนได้มั้ย

36 Nameless Fanboi Posted ID:nYHC0XGBou

>>35 นี่มันพิชัยสงครามสมัยเลียดก๊กเลยนี่หว่า ทำอาหารของแคว้นข้าศึก เพื่อให้ข้าศึกได้กลิ่นแล้วคิดถึงบ้าน หมดกำลังใจรบ

37 Nameless Fanboi Posted ID:jVEs8JKRUD

>>35
มโนสัส ๆ คนมาแดกฟรี เงินทุนมึงก็หมด

38 Nameless Fanboi Posted ID:c0OKf7/cqY

ในวงการหนังไทยอ่ะ มีคนรู้จักอยู่ 5 คน ที่เป็นสลิมแบบแรงๆ คือ โพสต์แซะ โพสต์ด่าเยาวชนปลดแอกแรงๆทุกวัน บางคนขู่จะไปฟ้องเด็กๆข้อหาหมิ่นเลย
ซึ่ง 5 คนเนี้ย มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือ "เป็นพวกต้มตุ๋น 18มงกุฏ เที่ยวหลอกเอาตังค์คนทั่วทั้งวงการหนัง จนขึ้น blacklist บุคคลที่ไม่ควรทำงานด้วยอ่ะ บางคนมีคดีฉ้อโกงยาวเป็นหางว่าว"
ทำให้ฉันสงสัยว่า สองเรื่องนี้มันเชื่อมโยงกันไหม คือ เพราะตัวเองทำความชั่วไว้เยอะ จึงพยายามโหนเจ้าเยอะๆ เพื่อใช้เป็นเกราะกำบังตัวเอง หรือใช้สร้างภาพว่าเป็นคนดี เพื่อปกปิดตราบาปของตัวเอง

39 Nameless Fanboi Posted ID:jVEs8JKRUD

>>38
พิมลอยๆไม่มีหลักฐาน ก็ได้เหรอวะ

40 Nameless Fanboi Posted ID:IwtFGaMJE+

>>37 ไหนสลิ่่มบอกว่ามีท่อน้ำเลี้ยง

41 Nameless Fanboi Posted ID:LsQ.fDFbo.

>>40 กูเห็นแชร์บัญชีรับบริจาครัวๆเลยนะควาย

42 Nameless Fanboi Posted ID:IwtFGaMJE+

>>41 สรุปไม่มีท่อน้ำเลี้ยงหยอ ยอมรับแล้วรอว่าเนชั่วสื่่อขยะ

43 Nameless Fanboi Posted ID:dMI74zwKZB

“ร.5 ไม่มีทางให้ประชาธิปไตยได้ เพราะมีเจ้านายและขุนนางทำหนังสือกราบบังคมทูลเมื่อ รศ.103 ขอให้มีธรรมนูญการปกครอง ลดบทบาทพระมหากษัตริย์อยู่ใต้ธรรมนูญ ท่านไม่ยอมรับ
เทียนวรรณเขียนหนังสือว่า เจ้ากับไพร่ต้องร่วมกันปกครองบ้านเมือง เสมอกัน เทียนวรรณติดคุก 14ปี ท่านไม่ยอม” - ส.ศิวรักษ์

44 Nameless Fanboi Posted ID:CUx4fUYPvG

เท่าที่สังเกต การชุมนุมของเยาวชนสร้าง impact หลายส่วนเหมือนกันนะ เนื้อหาในส่วนนี้ ผมได้เขียนรายงานส่งให้ผู้ใหญ่ที่เคารพได้รับทราบ ซึ่งในฉบับเต็มจะมีรายละเอียดของเนื้อหามากกว่านี้ (214 หน้า) สำหรับบทความนี้ผมคัดย่อเฉพาะหัวข้อสำคัญ เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านของบุคคลทั่วไป

1. ในกลุ่มชนชั้นสูงเริ่มแบ่งออกเป็น 2 ขั้ว คือ

- ไม่เอาคุณประยุทธ์ ปกป้องสถาบัน
- ปกป้องคุณประยุทธ์ ปกป้องสถาบัน

2. ในกลุ่มของ สว. ก็แยกออกเป็น 2 ขั้ว คือ

- สว. กลุ่มที่ยอมแก้รัฐธรรมนูญเพื่อลดอำนาจสมาชิกวุฒิสภาในการเลือกนายก แต่ไม่ให้แตะหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์

- สว. กลุ่มที่ไม่ยอมให้แก้รัฐธรรมนูญโดยสิ้นเชิง

3. ในกลุ่มของพรรเพื่อไทยก็แยกออกเป็น 2 ขั้ว คือ

- แก้รัฐธรรมนูญ ห้ามแตะต้องหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์

- สนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญทุกมาตรา

4. ในฟากรัฐบาล ก็แบ่งเป็น 2 ขั้ว คือ

- สนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญ นำโดยพรรคประชาธิปัตย์

- ไม่สนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญ นำโดยพรรคพลังประชารัฐ

5. ในกลุ่มประชาชน ก็แบ่งเป็น 3 ขั้ว คือ

- ไม่เอาคุณประยุทธ์ + ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย + แก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทุกมาตรา

- ไม่เอาคุณประยุทธ์ + ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์+ ยอมให้แก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่แตะหมวดสถาบันพระมหากษัตริย์

- ปกป้องคุณประยุทธ์ + ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ + ไม่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญโดยสิ้นเชิง

6. การเปลี่ยนแปลงของสื่อหลัก

- สื่อหลักเริ่มกล้าตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมากับคุณประยุทธ์ในการสัมภาษณ์

- สื่อหลักเริ่มพาดหัวแซวการทำงานของคณะรัฐมนตรีอย่างเปิดเผยมากขึ้น บรรยากาศความน่ากลัวของคุณประยุทธ์หลังจากก่อการรัฐประหารเริ่มลดน้อยลง

- เริ่มมีการใช้คำว่า "สถาบันพระมหากษัตริย์" ในรายการสนทนา ซึ่งในอดีต จะใช้เพียงคำว่า "สถาบัน" เพื่อเลี่ยงข้อกฏหมาย เริ่มมีการพูดอย่างตรงไปตรงมามากขึ้น

7. ในแง่ของสังคม

- เริ่มมีการตั้งคำถามมากขึ้น , ในส่วนของ fake news ถูก declair มากขึ้น เพื่อให้เกิดข้อเท็จจริงมากที่สุด

- การบอยคอตสินค้าจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลายอย่าง เช่น การแบนสินค้าที่ลงโฆษณาในสื่อเครือเนชั่น จนทำให้ทางสถานีได้รับผลกระทบ

- หลายธุรกิจเริ่มปรับตัวหากลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่มากขึ้น เนื่องจากเป็นกำลังซื้อหลัก ผ่านการจัดแคมเปญต่างๆ

- การรวมตัวของม็อบที่เกิดจากอุดมการณ์ เป็นมิติใหม่ของการประท้วงในไทย ซึ่งโดยปกติจะเป็นม็อบจัดตั้ง ด้วยเหตุผลดังกล่าว การแก้สถานการณ์ของฝ่ายรัฐบาลในรูปแบบเดิมจึงไม่ได้ผล

- มีแนวโน้มเข้าสู่ช่วงเริ่มต้นของการปฏิวัติวัฒนธรรม รวมถึงบริบททางสังคม

- สภาพเศรษฐกิจภาพรวมแย่ลงเป็นอย่างมาก ค่าครองชีพสูงขึ้นไม่สัมพันธ์กับรายได้ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นก่อนวิกฤติการณ์ covid-19

- ฐานเสียงของพรรคการเมืองอยู่บนกระแสของโซเชี่ยลมีเดียมากขึ้น หลายพรรคการเมืองเริ่มปรับกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงฐานเสียงในกลุ่มนี้ ซึ่งเริ่มมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งสูงกว่าอำนาจท้องถิ่น

8. ฯลฯ

หมายเหตุ : impact ที่เกิดขึ้น ไม่นับรวมผลกระทบต่อการจราจร การทำผิดกฏหมาย เพราะเป็น base on พื้นฐานของทุกม็อบ (หรือ การชุมนุม)

เอก ดำเนินเกษม

45 Nameless Fanboi Posted ID:aqOcfyXpaU

สงครามเย็นและข่าวในพระราชสำนัก
——-
ก่อนอื่นขอออกตัวว่าข้อเขียนของผมไม่ได้เป็นเชิงวิชาการ เป็นเพียงข้อคิดเห็น มุมมอง แง่คิด พยายามให้เข้าใจง่าย และท่านทูตพี่ๆเพื่อนๆน้องๆในกระทรวงการต่างประเทศที่เก่งกว่าผม มีมากมายนะครับ
——-
วันนี้อยากจะมาเล่าว่าการต่างประเทศซึ่งมันฟังดูไกลตัว แต่จริงๆบางทีมันใกล้ตัวเรามากเสียจนเราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นมันมีที่มาที่ไปจากการต่างประเทศ
หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าส่วนหนึ่งที่ประเทศชาติเรากลายเป็นเช่นนี้ ก็เพราะการต่างประเทศของประเทศอื่นที่เข้ามามีผลกระทบถึงขั้นเปลี่ยนแปลงประเทศของเราจนเป็นดังเช่นในปัจจุบัน
——-
เรามานั่งไทม์มาชีน ย้อนเวลาเข้าไปสักหกสิบกว่าปีในยุคช่วงสุดท้ายของรัฐบาล จอมพล ป. กัน
.——-
ในตอนนั้นนโยบายต่างประเทศของโซเวียตรัสเซียคือการส่งออกลัทธิคอมมิวนิสต์เพื่อปลดปล่อยประชาชนทั่วโลกจากการกดขี่ของจักรวรรดินิยมทุนนิยมและศักดินา (และเพื่อรัสเซียจะได้เป็นพี่เบิ้มของประเทศเหล่านี้)
ส่วนสหรัฐฯ มีนโยบายต่อต้านการเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ทุกที่ในโลก (และเพื่อสหรัฐฯก็จะได้เป็นพี่เบิ้มของประเทศเหล่านี้เช่นกัน)
การขับเคี่ยวระหว่างสองมหาอำนาจนี้นำมาซึ่งสิ่งที่เรียกว่าสงครามเย็น ซึ่งหนึ่งในสมรภูมิที่เป็นที่ประลองกำลังอย่างเข้มข้นระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ คือภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรานี่เอง
ขณะนั้น รัสเซียได้สนับสนุนฝ่ายเวียดนามเหนือต่อสู้กับฝ่ายใต้ที่สหรัฐฯหนุนหลังอยู่ โดยในตอนนั้นมีทฤษฎีโดมิโน ที่กล่าวไว้ว่าเมื่อใดที่มีประเทศหนึ่งกลายเป็นคอมมิวนิสต์ ประเทศอื่นๆในภูมิภาคนั้นก็จะล้ม เปลี่ยนแปลงระบอบตามไปด้วย
สหรัฐฯ เล็งเห็นว่าประเทศไทยน่าจะช่วยคานการแพร่ขยายลัทธิคอมมิวนิสต์ในภูมิภาคนี้ได้เพราะมีสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งย่อมต้องอยู่ตรงข้ามกับพวกคอมมิวนิสต์ที่เป็นพวกไม่เอาเจ้า และสหรัฐฯต้องการใช้ไทยเป็นฐานเพื่อการนี้
———-
เพื่อที่จะบรรลุถึงเป้าหมายด้านการต่างประเทศดังกล่าว สหรัฐฯทำอย่างไร ?
———
หลังจากนั้นไม่นาน รัฐบาลของจอมพล ป. ก็ถูกรัฐประหาร โดยจอมพลสฤษดิ์
จากนั้นประเทศไทยก็เข้าสู่ยุคตามก้นสหรัฐฯเต็มตัว มีการส่งทหารอเมริกัน และบรรดา “ที่ปรึกษา” เข้ามาเต็มไปหมด มีการสร้างฐานทัพเพื่อใช้ส่งเครื่องบินรบอเมริกันไปทิ้งในทั้งเวียดนาม ลาวและกัมพูชา ถนนมิตรภาพก็สร้างในยุคนี้ สร้างให้ทำไม? เพราะเขารักใคร่ให้เราฟรี? หรือเพื่อเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ส่งกำลังบำรุงเชื่อมโยงเครือข่ายของเขา?
เชื่อว่าทุกวันนี้หลายคนที่เดินทางบนถนนสายนี้ไม่รู้ที่มาที่ไปว่าสร้างเพราะอะไร และจริงๆนี่ก็คือส่วนหนึ่งของนโยบายต่างประเทศของประเทศอื่นที่มามีผลต่อเราโดยตรง
——-
นอกจากการตั้งฐานทัพแล้ว ยังมีการปราบปรามผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์อย่างรุนแรง มีการเข่นฆ่าประชาชนแบบศาลเตี้ย หนึ่งในเหยื่อในยุคทมิฬนั้นก็คือ จิตร ภูมิศักดิ์ นักคิด นักประวัติศาสตร์ นักวิชาการ ที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งที่ประเทศเราเคยมีมา
———
ในยุคนี้เองเริ่มมีสิ่งที่เรียกว่าปฏิบัติการจิตวิทยา โฆษณาชวนเชื่อเกิดขึ้น ถ้าใครอายุหกสิบปีขึ้นไป จะจำหนังสือการ์ตูนเล่มเล็กๆ ไม่ระบุใครเขียนใครพิมพ์ ในนั้นจะมีภาพคอมมิวนิสต์เป็นยักษ์ตัวสีแดงคอยจับเด็กกินเป็นอาหาร รวมทั้งภาพความโหดร้ายต่างๆของพวกคอมมิวนิสต์ ซึ่งนี่เป็นยุคที่ “ที่ปรึกษา” ของสหรัฐฯเหล่านี้สามารถเข้าออกได้ทุกเมื่อ พบผู้นำได้ทุกระดับ ไม่ว่าระดับไหนทั้งสิ้น
———
ย้อนกลับไปมองว่าการรัฐประหารรัฐบาลจอมพล ป. มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่?
น้อยคนทุกวันนี้ที่จะรู้ว่าในยุคก่อนที่สหรัฐฯจะเข้ามาแทนที่ฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมเดิมในภูมิภาคนี้นั้น ไทยเคยช่วยสนับสนุนชาวเวียดนามในการต่อสู้เพื่อเป็นเอกราชจากฝรั่งเศส รัฐบาลไทยในยุคปรีดี พนมยงค์ เคยให้การช่วยเหลือโฮจิมินห์ ให้พ้นจากการจับกุมของฝรั่งเศส โดยให้มาหลบซ่อนในไทยเป็นเวลานับปีๆที่จังหวัดนครพนม
ประวัติศาสตร์หน้านี้ ทุกวันนี้ฝ่ายเวียดนามก็ยอมรับและชื่นชม
ผู้ใหญ่ในกระทรวงเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนนั้นไทยเคยแม้ส่งอาวุธให้เวียดนามรบกับฝรั่งเศสด้วยซ้ำ (ซึ่งอันนี้ก็เป็นผลประโยชน์ของไทย เพราะฝรั่งเศสช่วงนั้นเป็นศัตรูของไทย และเราย่อมต้องการให้ฝรั่งเศสหมดอิทธิพลไปจากภูมิภาคนี้)
นี่ก็คือนโยบายต่างประเทศของไทยในสมัยท่านปรีดีฯ และกล่าวได้ว่าก่อนสหรัฐฯจะเข้ามา ไทยเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเวียดนาม แต่นี่เป็นสิ่งที่สหรัฐฯ ไม่น่าจะชอบใจนักในขณะนั้น
——-

46 Nameless Fanboi Posted ID:aqOcfyXpaU

>>45
แม้ว่าในภายหลังจอมพล ป. จะแตกกับท่านปรีดีฯ แต่จอมพล ป.ก็คงไม่ใช่คนที่จะมาให้ใครจูงจมูกได้ง่ายๆ โดยเฉพาะการเข้ามาตั้งฐานทัพต่างชาติแล้วเอาเครื่องบินไปทิ้งระเบิดเพื่อนบ้านทั้งหลาย ทว่าที่สำคัญที่สุดคือ จอมพล ป.เป็นคณะราษฎรแถวหน้า ที่พูดได้ว่าไม่เอาเจ้า ในขณะที่สหรัฐฯมองว่าสถาบันสามารถกลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะนำมาใช้ในการต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์ได้เป็นอย่างดี
ถามว่าแล้วจอมพล ป.จะเป็นประโยชน์ช่วยให้นโยบายของสหรัฐฯ บรรลุผลตามเป้าหมายไหม?
ใครอยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร เพื่อเอาจอมพลสฤษดิ์ขึ้นมาแทน?
ใช้ตรรกะวิเคราะห์คิดกันเอาเองนะครับ
——-
การกำจัดจอมพล ป.ก็คือการกำจัดอิทธิพลของสายคณะราษฎรที่เหลืออยู่ให้หมดสิ้นไป และแล้วในยุคที่จอมพลสฤษดิ์ขึ้นมานี้เอง ที่มีการฟื้นฟูบทบาทของสถาบันอย่างเต็มที่ หลังจากถูกลดทอนอำนาจภายหลังปี 2475 มีการประชาสัมพันธ์ต่างๆ รื้อฟื้นขนบธรรมเนียมราชพิธี รวมทั้งมีข่าวในพระราชสำนักให้เราดูทุกวัน และจากนั้นสถาบันก็กลายมาเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย และเป็นสถาบันที่ทรงอิทธิพลที่สุดตราบเท่าจนถึงทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งผมคิดว่าคงต้องขอบคุณบรรดา "ที่ปรึกษา" สหรัฐฯเหล่านั้นด้วย
———
เรื่องที่เล่ามานี้ เป็นอีกด้านหนึ่ง อีกบทหนึ่งของประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของไทย ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ เพราะไม่มีในตำราเรียน ไม่มีการสอน
แม้แต่ในกระทรวงการต่างประเทศเอง ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะรู้จักผู้ใหญ่ที่ใจดีเล่าความหลังให้ฟังไหม
———-
ที่เขียนมาทั้งหมดเพื่อให้เห็นภาพว่าการต่างประเทศ ของทั้งประเทศอื่นและของไทย มันมีผลกระทบต่อพวกเราและเป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิดและรับรู้
——-
และเพื่อจะบอกนักร้องที่คงไม่ค่อยได้อ่านประวัติศาสตร์ รวมทั้งทุกคนที่บอกว่า ซีไอเอ (Central Intelligence Agency) ของสหรัฐฯอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของพวกเยาวชนในวันนี้ เพื่อที่สหรัฐฯจะได้มายึดครองไทย ว่าหยุดละเมอเพ้อพกบ้าบอคอแตกได้แล้วครับ
คุณไม่รู้หรอกว่าสหรัฐฯเขาเคยมายึดเราไปแล้ว เขาสั่งเราซ้ายหันขวาหันอะไรก็ได้ทุกอย่าง จะว่าไปเราได้ตกเป็นเมืองขึ้นโดยพฤตินัยของเขาไปแล้ว เพราะโดยหลักการสากล ประเทศที่มีเอกราชอธิปไตยที่สมบูรณ์ ย่อมจะไม่ยอมให้ประเทศอื่นเข้ามาตั้งฐานทัพแล้วส่งทหารไปโจมตีประเทศอื่นๆได้
——-
แต่ที่ตลกร้ายไปกว่านั้นคือทุกวันนี้สหรัฐฯเขาไม่ได้สนใจไทยแล้ว เพราะเขาเห็นว่าทุกวันนี้เวียดนามต่างหากที่จะสามารถช่วยเขาคานอิทธิพลของจีนได้ในภูมิภาคนี้ ไม่ใช่ไทย โปรดรู้ไว้ด้วย จะได้ไม่เสร่อ อายเขา
———-
แต่ถ้าคุณบอกรักสถาบันอย่างยิ่ง แล้วคุณไปว่าอเมริกานี่ คือนอกจากโง่แล้วยังถือว่าเนรคุณอีก เพราะสหรัฐฯนั่นเองที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูบทบาทและอำนาจของสถาบัน ให้กลายมาเป็นดังทุกวันนี้
คุณควรไปกราบอเมริกา ไม่ใช่ไปด่าเขา
——-
อย่างไรก็ตาม ถ้ามองจากบริบท เงื่อนไขต่างๆอย่างเป็นธรรม ผมไม่ได้รู้สึกโกรธเกลียดอเมริกาที่มาแทรกแซงไทยในตอนนั้น และก็เข้าใจในสิ่งที่บรรดาผู้นำไทยทำลงไป เพราะถ้ามองกันตามจริง มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นมากนักสำหรับไทยนอกจากต้องหันไปตามสหรัฐฯอย่างหมดตัว แต่จะอย่างไร ตอนที่ไทยยอมให้สหรัฐฯเอาเครื่องบินไปทิ้งระเบิดเพื่อนบ้าน นับเป็นรอยด่างรอยหนึ่งตลอดไปของการต่างประเทศไทย
———-
และทีนี้เวลาเรานั่งรถไปโคราช หรือดูข่าวในพระราชสำนักเราก็ควรรู้ว่าเรื่องต่างๆมันมีที่มาที่ไป และเรื่องการต่างประเทศนั้น ที่จริงผลของมันใกล้ตัวกว่าที่เราคิดมากนะครับ

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

47 Nameless Fanboi Posted ID:PiFpNMp/6D

จอมพล ป. ช่วยปลายสมัยแก มันยุค 2499 ยุคนั้นตำนวด ครองเมืองนะ แถมยิ่งทีมาเฟีย เจ้าพ่อ ยิ่งเยอะ จนเละ เลยต้องเอาจอมพลสฤษดิ์มากวาด นิ

48 Nameless Fanboi Posted ID:/FQzJjmhID

>>47 หลังสงครามโลก แกไม่ได้คุมกองทัพแล้วไง

49 Nameless Fanboi Posted ID:Ry24+aakl5

อืม รายการแบนโฟกัส แทบไม่ให้มีซีนในรายการ แต่ส่งผลให้ หลังรายการจบ คนพูดถึงแต่เรื่องโฟกัส ไม่สนใจเนื้อหาในรายการเลย

ก็เหมือนกรณีแบนพอนฮับ เพื่อปกปิดเรื่องคลิปนั้น แต่กลับส่งผลให้คลิปดังกว่าเดิม แถมดังไปทั่วโลกด้วย หนักกว่าเดิมอีก

50 Nameless Fanboi Posted ID:Vwa6mzFyOt

>>49 กูไม่เคยชอบนางเลย​ ไม่ทันดูเรื่องแฟนฉัน​ รู้แค่คนนี้แสดงหนัง​ แต่มารู้ตอนม้อบกูชอบขึ้นมาเลย​ ใจแม่งได้

51 Nameless Fanboi Posted ID:iBcK3Q5HJh

>>50 เขามีผัวแล้วนะ ผัวกล้ามใหญ่ด้วย

52 Nameless Fanboi Posted ID:fZ+ulLaXrR

>>49 โซเชียลใครคุม ก็เหมือนทีมลุงนั่นละ สู้สนามโซเชียลไปก็ไม่ชนะ TJ และคณะวันยังค่ำ

53 Nameless Fanboi Posted ID:iBcK3Q5HJh

เรามาถึงจุดที่คนแบบมดดำเป็นสื่อ แต่กนกธีระปองสันติสุขเป็นความบิดเบี้ยวได้ยังไง?

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

54 Nameless Fanboi Posted ID:Vwa6mzFyOt

>>51 ชอบแบบแฟนคลับดิวะ​ ไม่ใช่แบบเยด​ กูสายของปลอมเว้ย

55 Nameless Fanboi Posted ID:0SglZ+E9Qu

>>46 เรื่องสหรัสอยู่เบื้องหลังการฟื้นฟู ส ถ า บ ัน มาเพื่อต้านคอมมิวนิส อันนี้ในหนังสือ กษัติไม่ยิ้มมีเขียนไว้ แปลว่าคนเขียนคนนี้ไม่มั่ว ข้อมูลน่าเชื่อถือ

56 Nameless Fanboi Posted ID:lBnSDFFe4Q

>>50
เพิ่งรู้ว่าพ่อเป็นนักการเมืองท้องถิ่นพรรคประชาธิปัตย์
https://www.facebook.com/napapon.chirakul

57 Nameless Fanboi Posted ID:dMI74zwKZB

>>56 อ้าว 🤔

58 Nameless Fanboi Posted ID:DDjLhDuzPs

>>57 แบบนี้ต้องรอดูยาวๆ ถ้ามองแง่ดีคืออยู่วงในรู้ความเหี้ย

59 Nameless Fanboi Posted ID:KPY6b43XJc

"จากใจเลยนะอีพวกเฟมทวิตเต่าล้านปี
วันใดพวกกูชนะกูจะโม่ยแม่งให้หมด จะโม่ยพวกมึงด้วย
วันใดที่กูชนะ
พวกมึงจะต้องเจอกับ ห อ ม คือลือ เบิ้มๆ แฮ่ก
จนพวกเฟมทวิตแบบพวกมึงจะมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ
มึงจะต้องเจอกับร่องนม สะดือ ก้นกลม
จนพวกมึงต้องอกแตกตาย ว่าทำไมมันดูเป็นเรื่องปกติในการโม่ยเรือนร่างคน
เพราะแท้จริงมันไม่ได้เป็นการโม่ย แต่มันคือการเสพย์ศิลป์ มันคือการยอมรับในความสวยงามของเรือนร่าง
พวกมึงจะต้องเจอเพลงชู้กะชู้ ขึ้นอันดับ1ตามคลื่นวิทยุ เจอเพลงปูหนีบ อิปิ๊ๆ ขึ้นอันดับ1 สปอติฟาย
เพราะมันคือศิลปะของการเล่าเรื่อง มันคือความสวยงามของวาทศิลป์ที่อีพวกเฟมอย่างมึงไม่เข้าใจ
แล้ววันนึงพวกมึงจะต้องยอมรับว่า พวกกูเก่งมา กล้ามาก ขอบใจ ที่โม่ยมาก่อนพวกมึง"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

60 Nameless Fanboi Posted ID:eKiwX76NIo

ใครเคยเจอคำถาม คุณคือใคร แล้วตอบไม่ได้มีไหมคะ

บอกตรง ๆ ค่ะ เมื่อก่อนเมย์ก็เป็นค่ะ พูดไม่ออก
แต่ภายในมีคำตอบอยู่แล้ว
ที่พูดไม่ออก เพราะกลัว กลัวคนอื่นตัดสิน กลัวไม่ปลอดภัย ไม่มั่นคง

เคยแต่จะดูแลคนอื่น จนไม่ดูแลตัวเอง ไม่ใส่ใจตัวเอง
เวลานั่งสมาธิ ก็เน้นที่จะให้จิตว่างขณะนั่ง และแผ่บุญกุศลออกไปให้มากสุดรอบขอบจักรวาล ไม่มีการนิ่งแล้วมองกลับมาที่ตัวเองเลย ไม่เน้นที่จะแผ่เมตตาให้ตัวเองด้วย

จักรวาลผู้ชาญฉลาด ก็ส่งแบบทดสอบมาหลายรอบ เพื่อให้เรียนรู้และให้มีเวลากับตัวเองให้มากขึ้น เพื่อรู้จักตนเองมากขึ้น
แต่เมย์ไม่เคยเข้าใจ กลับแต่จะมุ่งว่าจะทำอย่างไรที่จะหลุดออกมาเพื่อทำเพื่อคนที่เมย์รักต่อ ทำเพื่อให้ชีวิตออกมาแล้วมาทำเพื่อให้คนที่รักเราอยู่สบาย

มารอบนี้ จักรวาลผู้ชาญฉลาด ส่งบททดสอบมาหนักขึ้นกว่าเดิม แบบที่ริบทรัพยากรต้องเป็นที่คนที่ไปขอพึ่งพาบุคคลอื่น หนีให้ห่างคนที่เรารัก จนอยากที่จะหนีออกไปไกล ๆ เพื่อให้ตนเองไม่เป็นภาระใคร แต่สุดท้าย หนีไปทางไหนยังไงก็ต้องกลับมาหาคนเรารัก และรักเรา

เมย์โชคดีที่มีคนที่เมย์รักหลายคนหลายทิศทาง ทำให้ไปขอพึ่งพิงอยู่มาได้เกือบปี แต่ตอนนี้หมดเวลลาแล้ว เพราะคนที่เมย์รักต่างก็มีภาระ เมย์ก็ต้องกลับมาหาทางดึงตัวเองให้มีขึ้นมาพึ่งพาตัวเองให้ได้อีกครั้ง และพึ่งพาเท่าที่จำเป็นจริง ๆ

เมย์ได้ตระหนักแล้วว่า จิตวิญญาณเมย์ คือจิตของผู้บริการ
ไม่ว่าจะไปไหนก็ยังเป็นผู้บริการ แต่จะบริการอะไรเพื่อให้เรามีความสุขจริง ๆ

เมย์เคยปฏิเสธการเป็นบางบทบาทมาก่อนในอดีต เพราะตัดสินตัวเองว่าทำไม่ได้ ไม่เหมาะกับเรา
แต่สุดท้ายหนทางนั้นก็กลับมาเพื่อให้เมย์ได้เรียนรู้ความรู้ต่าง ๆ ทั้งที่เคยรู้ และไม่เคยรู้เพิ่มขึ้น พร้อมลงมือทำไม่ใช่แค่ที่เคยรู้แต่ทางตัวอักษร แบบ Concept หรือภาพโดยรวม

มาตอนนี้ เมย์ตอบตัวเองได้แล้วว่า

"เมย์ คือ นักบำบัด (Healer) ที่สวย รวย ฉลาด เก่งรอบด้าน สายบุญ ที่ประยุกต์ใช้ทุกศาสตร์ที่มีความรู้ในการถ่ายทอด บำบัด ผู้คนรอบข้างและแวดล้อมให้สุขภาพกาย สุขภาพใจ และพลังงานดี ด้วยสิ่งที่เป็นธรรมชาติ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับครอบครัวเขา สังคม และโลกใบนี้เพิ่มขึ้น"

ต่อไปในเส้นทางนี้ เมย์เป็นคนที่เก่งที่เรียนรู้เพิ่มอีกหลาย ๆ ศาสตร์ ในการพัฒนาตนเอง ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทำเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายนักบำบัดแน่นอน

#บันทึกจากหัวใจ
#ขอบคุณจักรวาลที่จัดสรร
#ขอบคุณครูบาอาจารย์ทุกท่านผู้มีพระคุณทุกคนกัลยาณมิตรทุกคนที่เ้ข้ามาในชีวิต
#ขอบคุณทุกคนในครอบครัวทางโลกทางธรรมทางจิตวิญญาณ
#ขอบคุณSoulดังเดิม
#ขอบคุณHigherSelf
#ขอบคุณHigherGuide
#ขอบคุณสิ่งดีงามทั้งหลายทั่วจักรวาล
#ขอบคุณทุกความรู้ที่ได้เรียนและหลั่งไหลมา
#ขอบคุณพี่เงินทุกบาททุกสตางค์ในชีวิตที่เข้ามาไม่ขาดสายทุกทิศทาง
#ขอบคุณความมั่งคั่งเหลือเฟือในชีวิตที่ได้รับ
#ขอบคุณหัวใจที่สุดยอดที่เมย์ให้ทุกคนตลอดมาและตลอดไป
#ขอบคุณทุกคความรักที่เมย์ได้รับจากทุกทิศทางรอบจักรวาล
#ขอบคุณขอบคุณขอบคุณ
#ด้วยรักจากใจเมย์
#MadewithLovebyMay

61 Nameless Fanboi Posted ID:Xm/8buTXKv

จุดเปลี่ยนของราชวงศ์โรมานอฟ
ราชวงศ์โรมานอฟ เป็นราชวงศ์ที่ปกครองบนพื้นแผ่นดินรัสเซียอันกว้างใหญ่ไพศาลมาเป็นระยะเวลานานหลายร้อยปี และยังเป็นราชวงศ์ที่ปกครองพื้นแผ่นดินรัสเซียแห่งนี้เป็นราชวงศ์สุดท้ายด้วย
.
ในช่วงที่จักรวรรดิรัสเซียยังคงมีอานุภาพและมีความชอบธรรมในการปกครองประเทศ สถาบันพระเจ้าซาร์ของรัสเซียนั้นถือได้ว่ามั่นคงและแข็งแกร่งมากที่สุดในบรรดาประเทศที่มีระบบกษัตริย์ของยุโรปเลยทีเดียว ประชาชนทุกหย่อมหญ้ามองว่าพระเจ้าซาร์นั้นคือ "พ่อของแผ่นดิน" คือ "คนที่บรรดาเทาทุกข์สุขของประชาราษฎร์" คือ "คนที่จะแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้เสมอ" (คล้ายๆประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นับถือพระมหากษัตริย์เป็นสมมุติเทพที่จะละเมิดมิได้)
.
แต่แม้สถาบันจะแข็งแรงมากเพียงใด ก็ย่อมจะมีคนต่อต้าน เพราะจักรวรรดิรัสเซียนั้นแม้ว่าจะเป็นมหาอำนาจที่ชาติในยุโรปหลายชาติเกรงกลัว แต่อย่างไรก็ตามด้วยความใหญ่โตของรัสเซีย รัสเซียก้าวเข้าสู้การปฏิวัติอุตสาหกรรมช้ากว่าประเทศอื่นในยุโรปทั้งหมด อีกทั้งความเหลี่ยมล้ำของชาวรัสเซียยังสูงมากอีกด้วย คนจนในรัสเซียแทบจะไม่มีข้าวกิน แต่พวกเชื้อพระวงศ์ต่างเสวยสุขอยู่ในพระราชวังในกรุงเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก
.
ชาวรัสเซียจำนวนมากมีสถานะยากจน และต้องเข้าเมืองมาเป็นแรงงานถูกเพราะมีชีวิตที่ดีกว่าอยู่ในชนบท อย่างไรนั้นไม่ว่าจะเป็นคติดั้งเดิมหรือเพราะชาวรัสเซียไม่มีการศึกษาอย่างไรไม่ทราบ พวกเขาไม่โทษพระเจ้าซาร์ เพราะพวกเขามองว่าพระเจ้าซาร์คือ"พ่อ" พวกเขาทำได้เพียงแค่ก้มหน้าก้มตาทำงานโทษชะตาชีวิตของพวกเขาที่ทำได้แค่เกิดมาจนเท่านั้น แม้ว่าด้วยสถานะตกต่ำสสุดขีดของรัสเซีย จะทำให้มีนักปฏิวัติจำนวนมากพยายามโน้มน้าวแรงงานให้เข้าร่วมคณะปฏิวัติ แต่พวกเขามักจะไม่ทำ เพราะพวกเขากลัวว่าสถาบันพระเจ้าซาร์จะเป็นอะไรไป และนั่นทำให้โอกาสของคณะปฏิวัติในการเปลี่ยนแปลงการปกครองของรัสเซียเกือบจะเป็นศูนย์
.
อย่างไรนั้นสภาพของแรงงานรัสเซียที่เป็นได้แค่แรงงานราคาถูกในโรงงานที่พึ่งจะสร้างตามการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นในประเทศ พวกเขาทำงานอย่างหนักแม้ว่าจะได้ค่าแรงเพียงแค่น้อยนิด ไม่มีสวัสดิการรองรับ และถูกเหยียดหยามจากบรรดาชาวรัสเซียด้วยกันว่าเป็นพวกไร้สมอง เป็นพวกคนจน เกิดเป็นปัญหาเรื้อรังเกิดขึ้นจนรัฐบาลพระเจ้าซาร์ต้องผ่อนปรากฎหมายแรงงานบางอย่างเพื่อลดความขัดแย้ง
.
อย่างไรนั้น แรงงานจำนวนมาก ยังคงมีชีวิตอยู่แบบเดิม ไม่ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้น และไม่ได้รับสวัสดิการที่ดี แต่สิ่งที่รัฐบาลให้มาคือแรงงานนั้นได้จัดตั้งสหภาพแรงงานที่นำโดยบาทหลวงกาปอง ซึ่งสหภาพนี้อยู่ภายใต้การดูแลของตำรวจอีกทีหนึ่ง เนื่องด้วยว่ารัฐบาลพระเจ้าซาร์กลัวว่าแรงงานจะเป็นพลังให้คณะปฏิวัติจึงต้องควบคุมเอาไว้เป็นพิเศษ
.
บาทหลวงกาปองผู้เป็นนายใหญ่ดูแลสหภาพนั้นก็เป็นตำรวจเช่นเดียวกัน แต่ว่าเขาก็เห็นใจเหล่าแรงงานจำนวนมากที่ถูกกดขี่ เมื่อแรงงานเริ่มออกมาประท้วงบาทหลวงกาปองขจึงไม่ลังเลที่จะเข้าเป็นหัวเรือควบคุมการประท้วง และพาแรงงานจำนวนมากไปยังพระราชวังฤดูหนาว เพื่อไปทูลขอพระเจ้าซาร์ตามข้อเรียกร้อง
.
ซึ่งข้อเรียกร้องนั้น
1.ลดเวลาทำงาน
2.ปรับปรุงความเป็นอยู่ภายในโรงงาน
3.จัดระบบสวัสดิการ และค่าแรงของแรงงานให้ยุติธรรม
.

62 Nameless Fanboi Posted ID:Xm/8buTXKv

>>61
การเดินขบวนของแรงงานจำนวนมากเป็นไปอย่างสงบ ฝูงชนจำนวนมากถือรูปพระเจ้าซาร์ และร้องเพลง God Save the Tsar ดังสนั่นไปทั่วทั้งเมือง ทั้งบาทหลวงกาปองและผู้ชุมนุมต่าก็คิดว่าการประท้วงนี้น่าจะจบลงด้วยดี และพระเจ้าซารืจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ แต่ว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น
.
ในตอนนั้นพระเจ้าซาร์ไม่ได้อยู่ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เพราะฉะนั้นอำนาจการตัดสินใจในเรื่องนี้จึงถูกพิจจารณาอย่างเร่งด่วนโดยเสนาบดีของพระเจ้าซาร์ที่อยู่ในพระราชวัง และนั่นก็เป็นปฐมบทที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
.
เมื่อฝูงชนเดินทางมาถึงประตูชัยกรุงเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก (Narva Triumphal Arch) ทหารจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นทหารม้าฮุสซาร์หรือทหารมหาดเล็กต่างกระจายตัวตรึงกำลังเอาไว้จำนวนมากด้วยอาวุธครบมือ ฝูงชนจำนวนมากที่เข้าร่วมการประท้วงต่างก็ไม่คิดอะไร เพราะพวกเขามาชุมนุมอย่างสงบ แต่เมื่อฝูงชนก้าวเท้าต่อไป เสียงปืนก็ดังขึ้น
.
ปืนในมือของทหารยิงใส่ประชาชนที่ถือรูปพระเจ้าซาร์ และร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าซาร์ ในขณะที่เสียงปืนดัง ทหารม้าฮุสซาณืก็ปรี่เข้าประชิดตัวประชาชนในทันที ฝูงชนจำนวนมากที่เห็นทหารโจมตีใส่ก็วิ่งหนีกันให้วุ่น บาทหลวงกาปองก็หนีเช่นกัน เขาไม่นึกไม่ฝันว่าพระเจ้าซารืจะตอบโต้รุนแรงเช่นนี้
.
ในเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้คนจำนวนมากต้องเสียชีวิต คาดการณ์เอาไว้ว่ามีประชาชนเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 5000 คน และต้องบาดเจ็บอีกร่วมหมื่นกว่าคน ถือเป็นความเสียหายทั้งชีวิตและจิตใจขั้นร้ายแรงจนถูกขนานนามไว้ว่า วันอาทิตย์เลือด(Bloody Sunday)
.
เมื่อพระเจ้าซาร์ทราบข่าว เขารีบกลับมาที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์กทันที แต่อย่างไรนั้นเขากลับไม่ทำอะไรที่จะกู้ภาพลักษณ์ของราชวงศ์ให้กลับคืนมาได้ เขาเลือกที่จะรักษาศักดิ์ศรีของกองทหารพระเจ้าซาร์และคณะเสนาบดีเอาไว้ว่าโดยแลกกับชื่อเสียงของพระองค์เอง
.
เหตุการณ์ในวันนั้นกลายเป็นจุดเปลี่ยนต่อทั้งรัฐบาลพระเจ้าซาร์และตัวพระเจ้าซาร์เอง พระเจ้าซาร์ไม่ใช่ "พ่อ" หรือ "คนที่รักประชาชน"อีกแล้ว เขาก็แค่คนที่หลงอำนาจเป็นพวกบ้าเลือดที่ไม่สนใจประชาชน สถานะ "พ่อ"และ"คนที่ให้ความเคารพสูงสุด"ไม่มีอีกแล้ว ราชวงศ์โรมานอฟและพระเจ้าซาร์จบสิ้นแล้ว ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ในขณะนี้เป็นเพียงแค่ นิโคลัสจอมกระหายเลือดเท่านั้น
.
หลังจากวันที่มีการสังหารประชาชนไป แม้ว่านิโคลัสจะรู้สึกผิดแค่ไหนก็ไม่มีวันจะหวนไปแก้ไขได้ มิหนำซ้ำเมื่อประชาชนไม่ให้ความเคารพอีกแล้วปัญหามากมายถูกโจมตีใส่พระเจ้าซาณ์ไม่เว้นวัน ทั้งความล้มเหลวในการดุแลปากท้องประชาชน ความล้มเหลวของการดูแลสภาพความเป็นอยู่แรงงาน สั่งฆ่าประชาชน และพาชาติไปปราชัยต่อญี่ปุ่น(ตอนนั้นรัสเซียกำลังจะแพ้ญี่ปุ่นในสงครามรัสเซีย-ญีปุ่น)
.
ด้วยเหตุนี้รัฐบาลพระเจ้าซาร์จึงตั้งสภาดูมา และพัฒนาความเป็นอยุ่ของประชากรให้ดีขึ้น แต่อย่างไรนั้นมันสายไปแล้ว สภาดูมาที่เป็นเหมือนของเล่นของพระเจาซาร์ไม่อาจช่วยอะไรได้ และราชวงศ์โรมานอฟก็ต้องพบจุดจบในการปฏิวัติรัสเซียเมื่อปี 2460 นั่นเอง
-----------------------------------------------------------------
ที่มา
https://victorytale.com/th/bloody-sunday-russia/
https://victorytale.com/th/bloody-sunday-ending/
https://www.nytimes.com/.../bloody-sunday-in-derry.html

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

63 Nameless Fanboi Posted ID:kc97LAvkO.

แต่ก่อนคนเก่งต้องเป็นแบบตัว I คือรู้อะไรให้กระจ่างแต่อย่างเดียวก็พอแล้ว

ยุคถัดมาคนต้องเก่งแบบตัว T คือรู้ลึกในหนึ่งเรื่อง และรู้กว้างอีกหลายๆ เรื่อง

แต่ยุคนี้เราต้องรู้แบบตัว Y คือเอาความรู้ของศาสตร์อย่างน้อย 2 เรื่องแบบลึกซึ้ง และนำมาบูรณาการ ซึ่งถ้าทำได้ คนอื่นจะสู้เราไม่ได้เลย

ความรู้แบบ Y นั้น ขาหนึ่งควรจะเป็น solid science ส่วนอีกขาหนึ่งเป็น art จะได้ผสมผสาน อย่างลงตัวทั้งสมองด้านซ้ายที่เป็น logic และด้านขวาที่เกี่ยวเนื่องกับความคิดสร้างสรรค์

ถ้าให้ดีกว่านั้นควรจะผสมทักษะด้าน softskill กับ EQ เข้าไปอีกหน่อย การทำงานร่วมกับคนอื่น การทำงานเป็นทีม การบริหารดูแลคนอื่นจะดีมาก เรียนรู้ว่าใครคือลูกค้าในการทำงานของเรา ไม่ว่าเราจะเป็นเจ้าของกิจการ หรือลูกจ้าง ทุกคนมีลูกค้าหมด

สุดท้ายคือ เรียนรู้ตลอดเวลา การนั่งฟัง lecture จะได้ผลน้อยสุด การสอนคนอื่นจะได้ผลดีขึ้น เเต่ถ้าลงมือทำเองจะเป็นอะไรที่บรรลุ

ส่วนตัวเวลาอ่านหนังสืออะไรมาแล้วอยากเข้าใจให้มากขึ้น ให้เขียนสรุปออกมาเป็นข้อๆแล้วได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะสมองเรามีเมโมรี่จำกัด สกัดเฉพาะเเก่นเท่านั้นพอ....

64 Nameless Fanboi Posted ID:eKiwX76NIo

ตอนนี้เห็นว่าในการจัดการม๊อบมันมีการเถียงกันเรื่องขอบเขตของการประท้วงแบบสันติวิธี ว่าเส้นกรอบที่ว่าถ้าเลยจากตรงนั้นไปมันจะไม่เป็นการสันติวิธี อหิงสาแล้ว มันอยู่ตรงไหน

วันนี้เลยอยากจะ รีรัน เรื่องของคานธี พระบิดาแห่งอหิงสาสันติวิธีที่เขียนไว้ตั้งแต่ 10 กว่าปีก่อนแล้วมั๊ง.....

เมื่อย้อนกลับไปสมัยก่อนพุทธกาล ศาสนาที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอินเดียคือ พราหมณ์ มีคัมภีร์คือ คัมภีร์พระเวท บรรจุนั่นโน่นนี่ เทพเจ้า กษัตริย์ ชีวิตหลังความตาย การเวียนว่ายตายเกิด บลา ๆๆ และยังรวมไปถึงวรรณะในสังคมฮินดูด้วย

เพื่อต้องการคงความบริสุทธิ์ของระบบวรรณะ การซั่มกันข้ามวรรณะจะทำให้เด็กที่เกิดของมากลายเป็น จัณฑาล ไปในทันที และเด็กที่เกิดจากจัณฑาลก็จะเป็นจัณฑาลอีกต่อนึง

เป็นจัณฑาลซวยตรงไหน .... ทุกอย่าง... ห้ามอยู่ในสังคมรวมกับคนอื่น ต้องออกไปตั้งหมู่บ้านอยู่ที่ห่างไกล เวลาจะเดินไปไหนมาไหนต้องห้อยไม้กวาดไว้ที่เอวด้วย เพื่อเอาไว้ลบรอยเท้าตัวเอง ... เพราะชนชั้นอื่นจะถือว่าเป็นเรื่องซวยสุด ๆ ถ้าเดินไปเหยียบรอยเท้าพวกจัณฑาล.... ห้ามบูชาเทพเจ้า ถ้าจะไหว้เจ้าต้องไหว้อยู่นอกกำแพงวัด นอกระยะที่เงากำแพงวัดตกไปถึง......จะตักน้ำต้องไปรอที่ปลายน้ำ .... งานที่ทำได้คือ เทขี้ แลกกับอาหารที่เหลือจากหมาของบ้านนั้น ๆ ที่กินไม่หมด.... ถ้าใครทะลึ่งไปได้ยินพวกนักบวชมันสวดคัมภีร์พระเวทกันแล้วโดนจับได้ โทษคือ โดนจับกรอกหูด้วยตะกั่วเหลวร้อน ๆ ...ฯลฯ.......ด้วยความแข็งแกร่งของระบบความเชื่อ พวกจัณฑาลอยู่กันมาได้อย่างนั้นเป็นพัน ๆ ปี..... จนกระทั่ง

การมาถึงของพวกอังกฤษ( และทหาร และเรือรบ และปืนใหญ่) ......พวกอังกฤษไม่สนวรรณะห่าอะไรทั้งสิ้น ใครทำงานได้กูจ่ายค่าแรงหมด พออังกฤษจะวางระบบรางรถไฟ แรงงานที่อังกฤษนิยมจ้างคือพวกจัณฑาล .... เทขี้แลกข้าวหมามาเป็นพันปี อยู่ดี ๆ มีคนเอาเงินให้เป็นสิ่งตอบแทนจากการทำงาน... แม่ง ทำงานถวายชีวิตสิครับ ไม่อู้ ไม่บ่น ไม่หัวหมอ yes sir อย่างเดียว.... แม่งลูกจ้างในฝันชัด ๆ .... ทุนนิยมนี่มันเหี้ยจริง ๆ

พอมีงานก็มีเงิน ซื้ออาหารดี ๆ กิน ซื้อเสื้อผ้าดี ๆ ใส่ จัณฑาลก็พากันย้ายเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ แหล่งงานในเมืองใหญ่ .... และได้เรียนหนังสือ พูดจาฉะฉานมั่นใจขึ้น.....พวกมิชชั่นมาสอนหนังสือบนพื้นฐานที่ว่า พระเจ้าสร้างมนุษย์มาเท่ากัน ใครอยากเรียนมันก็สอนหมด .... ทีนี้พวกพ่อแม่ฮินดูมันไม่พอใจที่อังกฤษรับเอาเด็กจัณฑาลมาเรียนในชั้นเรียนเดียวกับลูก ๆ พวกมัน เลยแห่กันมาพาลูกลาออก .... จำนวนจัณฑาลที่พูดภาษาอังกฤษได้ก็เยอะขึ้นเรื่อย ๆ ... อังกฤษก็จ้างจัณฑาลเยอะขึ้นเรื่อย จนตอนนี้จัณฑาลจำนวนไม่น้อย มีสภาพความเป็นอยู่ดีกว่าฮินดูแล้ว.... หลายคนทำผลการเรียนได้ดีจนได้ทุนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในอังกฤษ.... ถ้าอังกฤษปกครองอินเดียต่อไปเรื่อย ๆ สังคมฮินดูล่มสลาย เพราะจัณฑาลจะกลายมาเป็นผู้ปกครองแทนแน่นอน....

ปี 1857 เริ่มมีการต่อสู้เพื่อประกาศอิสระภาพจากอังกฤษปะทุขึ้นตามจุดเมืองต่าง ๆ มีการสู้รบกันประปราย สร้างความเสียหายให้อังกฤษได้พอสมควรแต่อังกฤษก็ยังคิดว่า จะสามารถควบคุมเอาไว้ได้

ปี 1920 หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 อำนาจของอังกฤษอ่อนแอลงไปพอสมควร เกิดกองกำลังปฏิวัติผุดขึ้นตามเมืองต่าง ๆ ขึ้นทั่วอินเดียนำโดยผู้นำกองกำลังติดอาวุธหลายคน เช่น Subhash Chandra Bose, Bhagat Singh, Bagha Jatin, Surya Sen และในขณะเดียวกันนั้นก็มีมหาบุรุษ(?)ผู้นึงก้าวขึ้นมานำชาวอินเดียปลดแอกด้วยวิธีการใหม่แกะกล่อง นั่นก็คือ Mohandas Karamchand Gandhi หรือคานธีที่เราทุกคนรู้จักกันดี คานธีมาพร้อมกับวิธีการประท้วงแบบสงบ สันติ อหิงสา เดิน นั่ง อดอาหาร อ่านบทกวี ไอ้ 4-5 ข้างบนก็รบกันไป ตายกันไป กูไม่ยุ่ง

65 Nameless Fanboi Posted ID:eKiwX76NIo

พอปี 1947 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง อำนาจทางการทหารของอังกฤษในอินเดียอ่อนแอลงไปมากกว่าเดิมอีก จากการต่อสู้กับเยอรมันในยุโรป และกับญี่ปุ่นในเอเชีย รวมไปถึงหนี้ที่ติดค้างสหรัฐอเมริกาจำนวนมหาศาลจากการกู้ยืมมาทำสงคราม ( เพื่งจะจ่ายหนี้สงครามโลกครั้งที่ 2 หมดไปเมื่อปี 2016 !!!! ) เกิดการต่อสู้เพื่อความเป็นอิสระของอินเดียเกิดขึ้นตามหัวเมืองต่าง ๆ พร้อม ๆ กัน อังกฤษเลยคิดว่าไม่คุ้มถ้าจะต้องรบต่อในอินเดีย เพราะฉะนั้นคืนประเทศให้พวกแม่งดีกว่า....แต่จะคืนให้ให้ใคร ถ้าคืนให้พวกกบฏติดอาวุธข้างบน แม่งเสียฟอร์มสัส ๆ เพราะมันจะทำให้ดูเหมือนอังกฤษรบแพ้ แล้วต้องคืนดินแดน แล้วมันจะส่งผลไปถึงอาณานิคมอื่น ๆด้วย เลยตัดสินใจให้สันติวิธีเป็นการประท้วงที่ทำให้อินเดียได้รับเอกราชเอามันดื้อ ๆ สร้างภาพคานธีว่าเป็นผู้นำการปลดแอกโดยไม่ต้องมีการเสียเลือดเนื้อ ( อังกฤษพยายาใข้วิธีนี้กับพวก IRA ด้วย... ให้ Royal Pardon พวกสันติวิธีเพื่อลดความสูญเสียของทหารฝั่งตัวเอง )

พอได้รับเอกราช ก็ต้องมีการร่างรัฐธรรมนูญเป็นของตัวเอง ถึงตอนนี้ อีกบุคคลนึงที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญจนได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งรัฐธรรมนูญของอืนเดียคือ Dr. Bhimrao Ramji Ambedkar หรือคนทั่วไปจะชอบเรียกเค้าว่า Babasaheb บาบาซาเฮบ มากกว่า .... ป๋าบับบาของเราก็แม่งเป็นลูกจัณฑาลเนี่ยแหละ พ่อเป็นแรงงานสร้างทางรถไฟ และได้เข้าเรียนหนังสือในระบบการศึกษายุคใหม่ ได้ทุนจนจบปริญญาเอกด้าน กฏหมาย และเศรษฐศาสตร์จากอังกฤษ

ต่อมาบับบาได้ได้ร่วมเป็นหนึ่งในคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญของอินเดีย ป๋าแกก็พยายามจะใส่สิทธิมนุษยชนที่พื้นฐานสัส ๆ เข้าไปในรัฐธรรมนูญ เช่น
ทุกคน(รวมไปถึงจัณฑาลด้วย) ต้องได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกับคนฮินดู ได้ใช้แหล่งน้ำเดียวกัน ได้รับสิทธิ์ในการนับสือศาสนาและเข้าวัดเหมือนกัน ได้รับสิทธิ์ในการเลือกตั้ง....คานธีแม่งไม่ยอมครับ ปัดตกหมด มึงเป็นจัณฑาล มึงต้องอยู่อย่างจัณฑาล อย่าสะเออะ

พอโดนปัดตกหมด บาบาซาเฮบก็เหลือวิธีเดียว คือ พาจัณฑาลลงถนน ไปนั่งสวดมนต์ฮินดูอยู่หน้ากำแพงวัด เป็นการประท้วงเชิงสัญลักษณ์.... คานธีเลยจัดม๊อบมาชนม๊อบให้ทันที .....คานธีนั่งประท้วงอดอาหารเงียบ ๆ แต่ม๊อบที่มากับคานธีเริ่มขว้างท่อนไม้ กัอนหินเข้าใส่ม๊อบของบับบา .... พอโดนยั่วหนัก ๆ เข้าก็เดือด ทนไม่ไหว ลุกไปกระทืบคานธี....สรุป ม๊อบจัณฑาลสูญเสียความขอบธรรมในการเรียกร้องสิทธิ์ทันที เพราะไปเสือกกระทืบผู้นำการปลดแอกอหิงสา

บับบาเห็นว่ายังงั้นถ้าเป็นฮินดูไม่ได้ เราไปเป็นชาวพุทธกันดีกว่า มันไม่มีวรรณะ มันมีแค่ พุทธมามกะ.... คานธีบอกไม่ได้ แล้วก็อดหารประท้วงต่อ (อิหยังวะ) จนมีแรงบีบออกมาจากทางรัฐสภาให้ชะลอการนำจัณฑาลเปลี่ยนศาสนาออกไปก่อน แต่ไม่ทันแล้ว .... จัณฑาลเปลี่ยนไปนับนับถือ พุทธและอิสลามกันเป็นล้าน ๆ คนเรียบร้อยแล้ว

ปี 1948 จัณฑาลทางตอนใต้และตะวันออกที่เปลี่ยนไปนับถือพุทธต่างก็สวดมนต์กันไปมุ้งมิ้ง แต่จัณฑาลที่เปลี่ยนไปนับถืออิสลามไม่มุ้งมิ้งด้วย คานธีโดนยิงตายห่า หลังจากพยายามเดินทางเข้าไปเกลี้ยกล่อมการเปลี่ยนศาสนาไปเป็นอิสลามของกลุ่มจัณฑาลทางเหนือ

นิทานเรื่องนี้สอนอะไร.... ไม่รู้....แล้วแต่ แต่ละคนอ่านจบอาจจะได้ moral of the story ไม่เหมือนกัน ... แต่ถ้าถามกู ... สันติวิธี will never win และเวลาอยู่ข้างเราเสมอ ถ้าเรารอได้ประมาณ 2000 ปี

66 Nameless Fanboi Posted ID:SvP9bEY.hh

>>65 กูมองสองคนนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
บับบานี่ใช่คนที่ขอแยกประเทศเป็นปากีป่ะ

67 Nameless Fanboi Posted ID:4bv9cDpOQe

>>64 >>65 หรือที่คานธีคลั่ง Nuke ใน civilization จะไม่ใช่แค่เรื่องโจ๊กที่ ซิด ไมเออร์ ใส่เข้ามา

68 Nameless Fanboi Posted ID:pfcTYFSqET

ชาร์ตร์บอกไว้ว่า "มนุษย์ถูกสาปให้มีเสรีภาพ" คำพูดนี้ดูเป็นคำพูดที่แปลก เพราะการบอกว่าเราถูกสาปให้มีเสรีภาพ ฟังดูราวกับเสรีภาพเป็นสิ่งไม่ดี แต่สำหรับชาร์ตร์แล้ว เรามีเสรีภาพที่จะฆ่าใครก็ได้ เรามีเสรีภาพที่จะขโมยของ แต่เราต้องรับผิดชอบผลที่ตามมา เพราะมนุษย์ถูกบังคับให้เลือก การฆ่าเกิดจากการเลือกของเรา หรือถ้าเราจะไม่ฆ่า ก็เป็นการเลือกของเราที่จะไม่ฆ่า เสรีภาพจึงเป็นสิ่งที่บังคับให้มนุษย์ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เราเลือก

"มนุษย์ถูกสาปให้มีเสรีภาพ"
ฌอง ปอล ซาร์ตร์ (ค.ศ. 1905-1980)
Classroom of the elite episode 9

69 Nameless Fanboi Posted ID:pfcTYFSqET

ผู้เปี่ยมด้วยความจริงใจ (Champion of Sincerity)
ความจริงใจคือแผนการของการหลีกหนีในการสร้าง ตัวเขาเองให้เป็นวัตถุที่เขาพิจารณา
กล่าวคือในการประกาศว่าฉันเป็นอะไรที่ฉันเป็น (I am what I am) มนุษย์ที่จริงใจ (sincere people) กำลังพูดว่า มันช่วยไม่ได้ที่ฉันเป็นอะไรที่ฉันเป็น [มันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้หรอก ฉันก็เป็นของฉันอย่างนี้แหละ] พวกเขาก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบต่อการกระทำในอดีตของตนเองอีกทั้งยังปฏิเสธการก้ามข้ามไปสู่ภาวะใหม่ที่จะปลดปล่อยตนเองออกจากการหลอกตนเองอีกด้วย

คนทุกๆคน ล้วนมีคนทรยศที่อันตรายมากที่สุดอยู่ในตัวเอง
ฌอง ปอล ซาร์ตร์ (ค.ศ. 1905-1980)
Classroom of the elite episode 10

70 Nameless Fanboi Posted ID:pfcTYFSqET

การกล่าวอ้างว่า ชีวิตมนุษย์เป็นทาสของอารมณ์ความรู้สึก สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ
หรือเป็นเรื่องของ ‘พรหมลิขิต’ หรือ ‘ดวงดาว’ ต่าง ๆ นั้น เป็นการกล่าวแก้ตัวของคนที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อชีวิตของตัวเอง และต้องการให้สิ่งอื่นมาทำหน้าที่รับผิดชอบแทน

สิ่งที่คนเรียกว่าโชคชะตาโดยทั่วไปส่วนใหญ่นั้นเป็นแค่ความโง่เขลาของตัวเอง
ฌอง ปอล ซาร์ตร์ (ค.ศ. 1905-1980)
Classroom of the elite episode 11

71 Nameless Fanboi Posted ID:vz5KcN114r

>>64-65 เรื่องความคิดเห็นต่างกันของ คานธี กับ เอมเบดการ์ นี่กูเคยเรียนในวิชาพุทธศาสนาตอนมัธยมด้วย
แต่แบบเรียนเขียนเน้นแต่เรื่องแนวคิดที่ต่างกัน ไม่มีพูดถึงม๊อบตีกัน อะไรพวกนี้เลย
จริงๆตอนเรียนกูรู้สึกไปทางว่าดูเป็นโฆษณาชูว่าศาสนาพุทธดีกว่าฮินดู
แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้กูเริ่มสงสัยว่าคานธีดีจริงอย่างที่สื่อทั่วๆไปพูดถึงรึเปล่า

72 Nameless Fanboi Posted ID:dtzNYoz0vF

>>71 ประมาณนั้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารากเหง้าแบบฮินดูมันทำให้อินเดียไม่สามารถเจริญได้ ทั้งที่ทรัพยากรมนุษย์ไม่ได้ด้อยไปกว่าจีนเลย แต่พุทธก็ดันเป็นศาสนาที่ไม่สามารถแผ่ขยายได้ไกลๆ กว้างๆ อีก ถ้าเทียบกับพวกฮินดู คริสต์ อิสลาม

73 Nameless Fanboi Posted ID:Y5wkUlrIS7

>>72 จะโทษศาสนาอย่างเดียวก็เกินไป อินเดียพึ่งรวมเป็นชาติเดียวกันตอนอังกฤษมาปกครองนี่เอง ทุกวันนี้คนเหนือใต้กลางยังเกลียดขี้หน้ากันอยู่เลย ขนาดแบ่งปากีกับบังกลาเทศออกไปแล้ว (จีนก็มีหลายเชื้อชาติแต่มันก็ยังถือว่าตัวเองเป็นคน "ฮั่น" กัน) พอคนไหนมีอำนาจก็ช่วยแต่พวกตัวเอง อินเดียเลยเป็นเมืองที่ความเหลื่อมล้ำเหี้ยกว่าประเทศอื่นแบบมากๆ อย่างบ้านเราหรืออเมริกา คนธรรมดา/คนจน ยังพอทำมาหากินมีตังได้ แต่คนรวยคือรวยจนล้นฟ้าไปเลย ส่วนของอินเดียคือคนจนแทบไม่มีจะแดก ส่วนคนรวยก็รวยทะลุฟ้าไปเลย

74 Nameless Fanboi Posted ID:dtzNYoz0vF

>>73 ศาสนานี่ละสำคัญ การแบ่งวรรณะมันทำให้คนยอมรับกันไม่ได้นะ ศูทร-จัณฑาล ต่อให้จบสูงๆ การโดนเหยียดโดนกีดกันไม่ให้ทำงานเหมาะสมกับความรู้ยังมีอยู่มาก พวกนี้มีไม่น้อยที่ไปทำงานเมืองนอกเพราะจะได้ไม่ถูกเหยียดไง อย่างบ้านเรานี่โชคดีอย่างหนึ่งคือถึงจะมีการแบ่งชนชั้นแต่มันก็เป็นไปแบบส่วนใหญ่ในโลกที่เป็นกันคือถึงแม้เกิดมาต่ำแต่ถ้ามีความสามารถก็ก้าวหน้าขึ้นไปสูงๆ ได้รับการยอมรับ แล้วความเป็นพุทธมันยืดหยุ่นได้ง่ายกว่าฮินดู อย่างที่ >>64 >>65 ว่ามาละ พุทธไม่มีวรรณะตายตัว อัมเบดการ์เลยรณรงค์ให้คนอินเดียวรรณะต่ำออกจากฮินดูไปนับถือพุทธแทน ไทยโชคดีแล้วที่มีพุทธเป็นแกนแล้วมีฮินดูเป็นเพียงส่วนประกอบ ส่วนจีนนี่คนเชื้อชาติฮั่นเป็นประชากรส่วนใหญ่ แต่จริงๆ คนจีนก็ยังมีหลายเผ่านะที่ไม่เรียกตัวเองว่าคนฮั่น และคนพวกนี้ก็มีทั้งที่อยู่กับจีนได้และพยายามจะแยกตัว (ที่ดังๆ หน่อยก็พวกอุยกูร์ , ทิเบต พวกนี้ต้องการแยกตัว ส่วนเผ่าหุยที่เป็นมุสซี่เหมือนอุยกูร์ แต่อันนี้ไม่แยกตัวและค่อนข้างใกล้ชิดชาวฮั่นมาตั้งแต่ยุคฮ่องเต้) และเอาจริงๆ จีนก็พยายามกลืนชาติอยู่ ล่าสุดเพิ่งออกระเบียบให้สอนภาษาจีนกลางมากขึ้น ลดภาษาท้องถิ่นลง แต่จีนก็ยังดีกว่าอินเดียตรงที่ไม่มีความเชื่อที่แบ่งคนเป็นวรรณะตายตัวมาตั้งแต่โบราณแล้ว (ตะวันตกมายุคแรกๆ ยังชมว่าก้าวหน้าด้วยซ้ำเพราะใช้ระบบสอบคัดคนรับราชการ ในขณะที่ฝรั่งตอนนั้นยังเป็นยุคศักดินาสืบสายเลือดอยู่เลย) พอเข้าสู่สมัยใหม่เลยปรับตัวง่ายหน่อย

75 Nameless Fanboi Posted ID:ryv2Zg0CCE

>>74 จีนก็มีวรรณะ เพิ่งมาเลิกตอนซุนยัดเซ็น

76 Nameless Fanboi Posted ID:Y5wkUlrIS7

>>74 วรรณะนี่เป็นเรื่องทางสังคมมากกว่าศาสนานะ วรรณะจริงๆ ที่อินเดียไม่ได้เป็นเหมือนที่เราสอนกันในห้องนะ แต่งงานข้ามวรรณะเรื่องปกติ ไม่ใช่ลูกตกมาเป็นจัณฑาล จัณฑาลนี่เหมือนเป็นคนที่ outcast ของสังคมมากกว่าโดนกดจากศาสนาอ่ะ อย่างญี่ปุ่น ก็มีีครอบครัวของคนฆ่าสัตว์ที่จะโดนเหยียด ไม่พูด/ไม่ยุ่งด้วย มีใครด่าว่าเป็นเพราะชินโตบ้างมั้ยล่ะ แล้วศาสนาอื่นก็มีกดเหมือนกันนะ แบบพุทธมึงเกิดมาจนเพราะมึงไม่มีบุญไง อย่าหวังไปอิจฉาคนรวยเขามีบุญมีวาสนา ไม่ได้ต่างจากกดคนให้อยู่ในวรรณะต่ำกว่าเลย ตะวันตกก็มี nobless oblige, divine rights คนปกครองได้รับสิทธิ์จากสวรรค์มึงเป็นชาวนาก็ก้มหน้าทำหน้าไปอย่ามาเสร่อยุ่งกับคนชั้นสูง

ความไม่พอใจของจัณฑาลจริง ๆ ก็ไม่ต่างจากการลุกฮือของกบฏชาวนา/แรงงานกรรมกรรมในยุคหลัง ๆ นี้หรอก

77 Nameless Fanboi Posted ID:r54PzvUBUg

>>76 มี source มั้ย

78 Nameless Fanboi Posted ID:dtzNYoz0vF

>>76 มีอยู่นะ แต่ญี่ปุ่นมันไม่เด่นชัดเหมือนอินเดียไง ชาวเกาะชาติแห่งการปิดข่าว ส่วนพุทธถึงจะสอนแบบนั้น แต่ก็ไมได้เข้มเรื่องการเลื่อนชนชั้นมากเท่าฮินดูหรือแม้แต่ชินโต

79 Nameless Fanboi Posted ID:2.4hk55KtP

>>77 เอาซอร์สเรื่องอะไรอ่ะ ญี่ปุ่น ?

80 Nameless Fanboi Posted ID:2.4hk55KtP

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/04/K6536445/K6536445.html
https://en.wikipedia.org/wiki/Burakumin
https://www.bbc.com/news/world-asia-34615972

81 Nameless Fanboi Posted ID:2.4hk55KtP

ถ้าเรื่องวรรณะของอินเดีย
https://www.thespiritualscientist.com/2013/11/do-women-have-the-same-varna-as-their-husbands/
https://en.wikipedia.org/wiki/Untouchability

คือฮินดูที่เรารู้จักกันมามันรู้จักจากมุมมองของพุทธในห้องเรียนอ่ะ มันเลยแปลกๆ วรรณะเองจริง ๆ ก็ไม่ได้มีแค่ 4 วรรณะ มันแบ่งไปตามอาชีพที่ทำเลย คอนเซ็ปของมันจริง ๆ ก็แค่พ่อทำอะไรลูกก็ทำอย่างนั้นอย่าเสือกไปทำอย่างอื่น (ซึ่งจริง ๆ โลกเราก็เป็นอย่างนี้เกือบทุกที่แหละ พึ่งเปลี่ยนไปในช่วง 100 ปีนี่เอง) กูแค่จะบอกว่า ประเทศอินเดีย ปัญหามันเยอะกว่าชาวบ้านเขามาก ๆ ทั้งเรื่องชนชาติ ภาษา ฯลฯ แต่ถ้ามึงไปอ่านมาจากซอร์สไทย แม่งจะด่าแค่ศาสนาฮินดูอย่างเดียวนั่นแหละ เพราะมันเป็น narrative ของพทุธ

82 Nameless Fanboi Posted ID:Q+YCp4xuyb

เห้เอ้ย กุเถียงกับจารย์ จารย์ถามกุว่า มี ซอส ไหม กุบอกกุโมเมคิดขึ้นเอง ได้Cเลยสัส ถ้ากุซุยมั่วๆ กุคงได้Aแล้ว

83 Nameless Fanboi Posted ID:t6wA8by/af

>>72 เป็นเพราะพุทธเป็นอเทวนิยมป่าว คือเทพมีจริง แต่พุทธไม่ได้ให้ยึดเทพเป็นสรณะเพราะไม่ใช่ทางหลุดพ้น
คนเราลึกๆมันต้องหาที่ยึด พุทธเลยไม่แพร่หลายเหมือนพวกยึดพระเจ้ามั้ง

84 Nameless Fanboi Posted ID:HINJ9WT10L

>>81 เรื่องระบบวรรณะกูก็ไม่ได้ศึกษาละเอียด แต่เห็นมันเป็นตัวอย่างคลาสสิกของการใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือปกครอง
อย่างที่บอกว่ามันคือเรื่องอาชีพ กูว่าอาชีพมันก็เป็นตัวบอกสถานะทางสังคมอย่างนึงนะ
อย่างคนใช้แรงงานนี่มันอยู่ต่ำกว่า นักบวช นักปกครอง นักรบ แน่ๆล่ะ มันเลยเป็นตัวล๊อกไม่ให้คนเลื่อนสถานะได้

85 Nameless Fanboi Posted ID:HINJ9WT10L

>>83 พุทธก็ถือว่ามาไกลพอสมควรนะ อย่างเอเชียตะวันออกนี่ก็เคยเป็นประเทศพุทธเกือบหมด แพร่มาไกลไปถึงญี่ปุ่นทั้งที่ไกลจากอินเดียมาก
เทียบกันแล้วฮินดูนี่มาถึงแค่ SEA เอง ไม่รู้เพราะฮินดูมันดูสร้างมาเพื่อใช้กับสังคมอินเดียโดยเฉพาะด้วยรึเปล่า
คริสต์ยุคแรกโตเร็วเพราะเกิดในโรมันที่มีระบบถนนดี แต่ที่ประเทศคริสต์เยอะในแอฟฟริกาใต้กับอเมริกาเกิดจากยุคล่าอาณานิคม

86 Nameless Fanboi Posted ID:YoE9KYN3O2

ในอดีตศาสนาคริสต์เคยมีพิธีกรรมประหลาดเรียกว่า "พิธีลบหลู่นักบุญ" (Humiliation of Saint) ชาวเมืองและนักบวชจะนำเอารูปปั้นนักบุญประจำโบสถ์ หรือรูปปั้นพระแม่มารีมาวางลงกับพื้น ห่อคลุมด้วยกระสอบเก่า บางทีก็เอาเถาวัลย์มีหนามแหลมโปรยไปรอบๆ

พิธีนี้จะจัดขึ้นเวลาเมืองประสบปัญหาใหญ่มากๆ เช่น ข้าวยากหมากแพงสุดขีด หรือตกอยู่ในภาวะสงคราม นัยของมันก็คือการ "สั่งสอน" นักบุญ เพื่อทวงถามเหตุใดท่านถึงไม่ยอมปกป้องพวกเราเลย

เราเคยไปทำธุระในชนบทของจังหวัดลพบุรี ผ่านศาลพระภูมิซอมซ่อ พอถามคนแถวนั้นได้ความว่า เจ้าที่ตรงนี้แต่ก่อนใบ้หวยแม่นมาก ชาวบ้านเลยมาสร้างศาลให้ แต่หลังๆ เริ่มไม่แม่นแล้ว ก็เลยเสื่อมความนิยมลงไป เดี๋ยวนี้แทบไม่มีใครสน

คำตอบนี้กระทบใจเรามาก คนเมืองชอบดูถูกคนชนบทว่างมงาย กราบไหว้อะไรก็ตามที่พิลึกพิลึ่น แต่จริงๆ พวกเขากลับสามารถต่อรอง แลกเปลี่ยนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ อะไรไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ไม่ให้คุณกับพวกเขาแล้ว ก็แค่เลิกกราบไหว้เท่านั้นเอง

เหมือนชาวคริสต์ที่ประกอบพิธีลบหลู่นักบุญ ถ้าท่านไม่ปกป้องบ้านเมืองเรา ก็ต้องมีการสั่งสอนกันหน่อย ถึงแม้จะเป็นแค่พิธีกรรม ถึงแม้สั่งสอนเสร็จแล้ว ชาวเมืองจะเช็ดถูรูปปั้นตั้งไว้ตามเดิม (พิธีนี้ถูกวาติกันตีตราว่านอกรีตในศตวรรษที่ 12)

สมเหตุสมผล และไม่งมงายแม้แต่น้อย

ในทางกลับกัน การเชิดชูบูชาอะไรที่ไม่ให้คุณกับเรา มีแต่สร้างภาระ ต่อให้สิ่งนั้นจับต้องได้ มีร่างกายหรือตัวตนแค่ไหน นั่นต่างหากคือความงมงายอย่างแท้จริง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

87 Nameless Fanboi Posted ID:vBY+8aRF2K

ถ้าจะจ้างให้จับคนไปขังไว้ 1 เดือน ต้องใช้เงินเท่าไหร่

88 Nameless Fanboi Posted ID:vBY+8aRF2K

>>87 โทษ ๆ ผิดมู้

89 Nameless Fanboi Posted ID:ccokbFmlbd

"เป็นคำถามที่ถามไปหลายคนแต่ก็ไมไ่ด้คำตอบซะที (พิมจนเบื่อขอก็อปปี้วางแม่ง)

ทำไมนายต้องการเปลี่ยนแปลง

เปลี่ยนแปลงเพราะอะไร

ข้อไหนมีปัญหา

ปัญหายังไง

แล้วนายจะแก้มันยังไง

ไล่มา 1 2 3 4

ไม่ใช่บอกแต่จะแก้

แล้วแก้แล้วมีผลกระทบอะไรตามมา

ไล่มา 4 5 6

แล้วผลกระทบที่ว่ากระทบประชาชนส่วนมากแค่ไหน มีแผนรับมือไหม

ไล่มา 7 8 9

แล้วงบประมาณละ นายจะหาจากไหน เศรษกิจกำลังแย่ไม่ใช่เหรอ

นายจะเอาเงินจากไหน

ไล่มา 10 11 12

เราไม่ได้อยากฟังปรัชญากับคำพูดลอยๆของนาย

เราต้องการรู้แค่ว่า แก้ทำไม แก้แล้วได้อะไร แก้ยังไง

ยกตัวอย่างหมอๆทั้งหลาย

หมอจะผ่าตัดคนไข้คนนึงหมอยังต้องวางแผนใช่ไหมละ

หมอจะลงมีดตรงนี้ จะเย็บตรงนี้

ถ้าหมอคนนั้นไม่วางแผนอะไรเลยจะเกิดอะไรขึ้น

นี่ชีวิตคนนะ และชีวิตคนทั้งประเทศไม่ใช่เด็กเล่นขายของ

ก่อนอื่นตอบคำถามข้างบนผมก่อนครับท่านผู้รู้ ตอบให้ได้ก่อนเพราะเราคุยเรื่องการที่ม็อปพยายามปฎิรูปประเทศโดยไม่มีแผนการใดๆอันเป็นรูปธรรมให้คนเชื่อครับ "อย่าลากเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับคำถามมาปนเพื่อเฉไฉไม่ตอบคำถามครับ" มันไร้ค่า ไร้ราคา ไม่สมเป็นอารยชน เราถกกันด้วยเหตุผลเป็นเรื่องๆครับ อย่าเบี่ยงประเด็น

ย้ำครับตอบคำถามผมให้ครบให้ได้ก่อน

ย้ำครับตอบคำถามผมให้ครบให้ได้ก่อน

ย้ำครับตอบคำถามผมให้ครบให้ได้ก่อน

พูดแค่ 3 ครั้งคงพอเข้าใจนะดูไม่น่าใช่คนโง่
"
มิตรสหายท่านหนึ่ง

90 Nameless Fanboi Posted ID:7+ya+A6kXL

>>89 เข้าเว็บilawจบบอกไว้หมดทุกอย่างแล้ว
แก้อะไร ทำไมต้องแก้ แก้ยังไง

91 Nameless Fanboi Posted ID:cBZxXn8s9B

เพิ่งเจออันนี้ ถ้าตามสมมติฐานนี้เราสามารถอนุมานว่า homo erectusสูญพันธ์เพราะรู้จักพอเพียงได้มะ https://pantip.com/topic/38360495

ที่จริงกูคิดอยู่นะว่า ถ้าสมมติคนทั้งโลกนับถือพุทธถึงแก่นแล้วเป็นอรหันต์หมด มนุษย์ก็สูญพันธุ์ เพราะไม่มีทายาทต่อไปอยู่ป่ากันหมด

92 Nameless Fanboi Posted ID:50kXrSWlwh

>>91 กูสงสัยมาตั้งแต่เด็กละ เป้าหมายของศาสนาพุทธคืออะไร ต้องการให้มนุษย์สูญพันธุ์เหรอ ทำไมแม่งสารพัดห่าเหวผิดบาปไม่ดีไปซะหมด งงชิบ

93 Nameless Fanboi Posted ID:t6wA8by/af

>>92 มีนิพพานเป็นปลายทางไง ไม่ต้องมาเกิด-ตาย วนเวียนซ้ำๆซากๆ
ตราบใดที่โลกไม่แตก อุกกาบาตชนโลก หรือภัยพิบัติระดับดาวเคราะห์ คนมันไม่สูญพันธุ์ง่ายๆหรอก

94 Nameless Fanboi Posted ID:lvKvIEu6Z2

>>92 สังสารวัฏเป็นทุกข์

95 Nameless Fanboi Posted ID:nv3ME+jolz

A: ทำงานมาตั้ง 5 ปีกว่า ยังมีเงินเก็บไม่ถึงล้านเลย Move on ไปไหนหรือทำอะไรเพิ่มให้มีเงินเยอะๆ ดีนะ

B: บางคนฆ่าตัวตายแล้วครับ ทำงานมาตั้ง 5 ปีมีเงินเก็บไม่ถึงล้าน คนธรรมดาทำ 2 ปีก้อควรได้ ถ้าวิชาชีพควร 1 ปี ไปหาอย่างอื่นทำเถอะคุณไม่เหมาะเป็นมนุษย์เงินเดือน ไปขายบะหมี่โหน่งเถอะ

C: คุณก็พูดเกินไปครับ ที่ว่า "คนธรรมดาทำ 2 ปีก้อควรได้ ถ้าวิชาชีพควร 1 ปีไปหาอย่างอื่นทำเถอะคุณไม่เหมาะเป็นมนุษย์เงินเดือน"
อย่าพูดว่าไม่เหมาะเป็นมนุษย์เงินเดือนเลย แค่เป็น"มนุษย์" ยังไม่เหมาะเลยครับ

#สังคมคุณตะพาบแห่งหนึ่ง

96 Nameless Fanboi Posted ID:C1pg7UL9Vg

พรบ คอมพิวเตอร์นี่ดีนะครับ ผมเห็นชัดเจนเลยว่าคนด่าว่ากันน้อยลง พวกเพจที่เอาความเท็จมาเสนอก็หายไปด้วย เป็นการบังคับให้คนคิดก่อนว่าสิ่งที่ตนจะเขียนลงไป หรือจะแชร์เป็นจริงหรือไม่ ทำคนอื่นเดือดร้อนรึเปล่า ก็คงเหมือนโลกแห่งความจริงที่ต้องมีกฏหมายควบคุม

97 Nameless Fanboi Posted ID:C1pg7UL9Vg

...มีชายหญิงคู่นึงพึ่งรักกัน...

ทั้งคู่รักกันมากกกก

ผู้ชายให้สัญญากับผู้หญิงว่า ...

ผมจะรักคุณตลอดไป

ผู้หญิงจึงบอกกลับว่า...

ชั้นเชื่อคุณ และจะรักคุนอย่างที่รักชั้น ให้ดีที่สุด

ทั้ง 2 คน คบกันไปซักพักนึง

ระหว่างที่ 2 คน...ได้เดินจับมือกัน

อยู่ในสวนสาธารณะแห่งนึง

ได้มีนางฟ้าคน ปรากฏกายลงมา

พร้อมกับบอกว่า...

"เราได้เห็นความรัก บริสุทธิ์จากพวกท่าน

เราอยากจะให้ท่าน
ได้เห็นอนาคตของท่านทั้ง 2 คน"

ชายหญิงคู่นั้น จับมือกันไว้แน่น และ รุสึกดีใจที่ความรักของเค้าและเธอ

ถึงขนาดนางฟ้ามาให้พร

นางฟ้าจึงพูดขึ้นว่า...

"ท่านจะดูอนาคตของท่านทั้ง 2
นับตั้งแต่นี้หรือไม่”

ชายและหญิงคู่รักมองตากัน แล้วตอบพร้อมกันว่า...

"เราทั้ง 2 ไม่กลัวอนาคตเรามั่นใจในกันและกัน"

นางฟ้าได้ยินดังนั้น

จึงเสกของออกมาเป็น cd 2 แผ่นให้ทั้งคู่ไปดูอนาคต...

หญิงสาวค่อยนำแผ่น cd ที่ได้จากนางฟ้า...ใส่ลงในเครื่องเล่นซีดี

ในภาพแรกเทอเห็น

เทอและแฟนของเทอแต่งงานกัน

เธอยิ้มมีความสุขอย่าง

บอกไม่ถูก

ในภาพหลังๆ หญิงสาวได้เห็นว่า...

"มีรูปของแฟนเทอคบชู้"

เทอนั่งร้องไห้ เสียใจ

ทันใดนั้น...มีเสียงประตูเคาะขึ้นที่ห้องของเทอ

เธอรีบปิดเครื่อง cd และ ซับน้ำตา

เธอเปิดประตู

เธอเห็นแฟนของเธอเอง

แฟนเธอยิ้ม

แต่เธอโมโหจึงตบหน้าเค้าอย่างแรง

และ ปิดประตูโดยที่แฟนเธอ งง ๆๆ

เธอนอนร้องไห้...ถึงอนาคตที่จะต้องเกิดแบบใน cd นั้น

หลังจากนั้น...

เธอพยายามหนีหน้าแฟนของเธอ

โดยที่แฟนก็ตามง้อ

แฟนของเธอเองก้ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด

เธอจึงพยายามหาทางเลิกกับเขา

จนเธอเลิกกับเค้าได้สำเร็จ

วันหนึ่ง...ได้มีเสียงเคาะประตู

เธอเปิดประตู...แต่ทันใดนั้น

คนที่เคาะประตูก้เดินไปจนลับตาแล้ว

เธอจำได้ดีถึงแผ่นหลังของ

"อดีตชายที่ตัวเองรัก"

เธอมองลงพื้น

พบ cd อีกแผ่นนึงที่นางฟ้าได้ให้กับเค้า...

เธอนำ cd แผ่นนี้ไปเปิด

พบภาพที่เหมือนกันคือ...

ภาพที่ทั้งคู่แต่งงานกันอย่างมีความสุข

แต่ภาพหลังจากแต่งงานคือ...

ภาพที่เธอมีชู้กับผู้ชายคนใหม่

โดยมีแฟนของเธอร้องไห้อยู่ข้างๆ...

เธอน้ำตาไหลและปิด cd อย่างช้าๆ

เธอค่อยๆ เปิดจดหมาย ที่แนบมากับ cd นี้อ่าน

ข้อความเขียนว่า...

"ผมไม่กลัวอนาคต เรามั่นใจในกันและกัน ขอบคุณ แม้ผมจะเชื่อใน คุณฝ่ายเดียวก็ตาม ลาก่อน"

คำว่าเชื่อใจเท่านั้น ที่ทำให้ คนทั้ง 2 คน คบกันอย่างมีความสุข

#queserasera
#truststory

98 Nameless Fanboi Posted ID:Wvg3ODYzTM

ความจนไม่ใช่เรื่องโรแมนติก

ผมว่าประเทศนี้แปลกอย่าง พยายามทำเรื่องความจนให้เป็นเรื่องสวยงาม

ตั้งแต่หนังโฆษณาบริษัทประกัน
จนมาถึงคนรวยที่ดัดจริตฝันอยากเป็นกระเป๋ารถเมล์

คุณอยู่กับความจนวันเดียว มันอาจจะดูโรแมนติก อยู่ต่างจังหวัด แห้งแล้งกันดาร หรือ ยืนเก็บเงินผู้โดยสารบนรถเมล์หนึ่งวัน

แล้วคุณก็ทำเป็นเหมือนรู้สึก และเข้าใจชีวิตคนจนแล้ว พยายามบอกให้มองหามุมที่สวยงามในความเลวร้าย

ลองอยู่แบบแห้งแล้ง กันดารทั้งชีวิต หรือ ต้องมายืนทำงานบนรถเมล์ทั้งชีวิตดูมั้ย ว่ามันจะยังโรแมนติกอยู่หรือเปล่า คุณจะยังเห็นความสวยงามของชีวิตแบบนั้นอีกหรือเปล่า

เห็นเรื่องแบบนี้เยอะๆ แล้วหดหู่

"คนที่ไม่ได้รู้สึกถึงความอึดอัดที่ถูกกดทับ ก็คือคนที่อยู่ด้านบน"

99 Nameless Fanboi Posted ID:Wvg3ODYzTM

เรียนที่ KODESTAR แล้วสามารถมาเรียนซ้ำได้ฟรีจนกว่าจะได้งานประจำเงินเดือนสูงตามที่ต้องการ ถ้ามีคะแนนสอบ TOEFL ตั้งแต่ 100 คะแนนขึ้นไป เงินเดือนเริ่มต้นที่ 40,000 บาท น้องคนนี้ได้งานแล้วอยากมาทบทวนแค่บางเรื่องก็มาได้เลยครับ

เรียนที่ KODESTAR เพียงคอร์สเดียว สามารถนำความรู้ไปใช้ทำงานได้ตลอดไป ไม่ต้องวิ่งตามศึกษาเรื่องใหม่ให้เหนื่อย เรียนที่นี่เน้นความเข้าใจ เรียนไปแล้วไม่มีวันลืม เป็นความรู้และทักษะที่ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา ดูคอร์สเรียนได้ที่นี่ https://kodestar.work/register

หลายคนบอกว่าทำงานด้านคอมพิวเตอร์ต้องศึกษาเรื่องใหม่ตลอดเวลา แต่ไม่ใช่ที่นี่ครับ มาเรียนด้วยกันจะได้ฝึกฝนทักษะที่มีมานับร้อยปี อย่าง Sequential Search และ Binary Search รวมถึง Unix Command ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการสร้าง Ecosystem

หัวข้อที่เรียนแต่ละวัน เรียนแค่ 7 วันไปสัมภาษณ์งานได้ทุกบริษัททั่วโลก
• Primitive Data & Class
• Extract Transform Load (ETL)
• Array & Matrix
• Binary Search Tree & Greedy
• Divide & Conquer and Two Pointers
• Depth-First & Breadth-First Search
• Dynamic Programming
• Superclass / Interface
• Collection
• Cloud & Unix
• System Programming
• SQL
• Web Application & JSP
• Bootstrap & Modern CSS
• Servlet & Spring MVC
• Spring Boot
• JDBC
• Hibernate
• Micro Framework
• JUnit & Selenium
#ใครก็โค้ดได้ #ล้มเหลวมาจากไหนเริ่มต้นใหม่ได้ที่นี่ #เรียนซ้ำได้ฟรีจนมีงานประจำ #หางานทำง่ายมีรายได้มั่นคง
#เรียนแล้วไม่ได้เป็นเทพหรือเทวดาแต่เป็นคนธรรมดาที่ได้เงินเดือนสูง
#กลับบ้านไปเขียนได้ทุกโค้ด #เรียนเข้าใจไม่มีวันลืม

100 Nameless Fanboi Posted ID:Wvg3ODYzTM

ทุกวันนี้ผมค่อนข้างรำคาญคอนเทนต์ประเภทกลัวเมียมากๆ ไม่ว่ามุขแกล้งบอก PS5 เป็น router บ้าง เป็นเครื่องกรองอากาศบ้าง แล้วชาวเน็ตก็มาเฮฮาขำ กับมุขฝืดๆ แบบนี้

ในระดับสถาบันที่เล็กที่สุดอย่างสถาบันครอบครัว คนไทยจำนวนมากก็ยังขำกับตลกฝืดๆ ที่ใช้แนวคิดอำนาจนิยมมาทำให้คนยอมรับสภาพ

อยากเล่นเกมก็คุยกัน ถ้าคิดว่าไหว ก็จบ แล้วก็ไปซื้อ PS5 มาเล่น แค่นี้มันยากตรงไหนที่จะให้เกียรติกัน เท่าเทียมกันในครอบครัว..?

101 Nameless Fanboi Posted ID:VXvakqkir0

>>100 เวลาซื้อเครื่องสำอางผู้หญิงต้องมาคุยกับผู้ชายก่อนมั้ยครับ

102 Nameless Fanboi Posted ID:Wvg3ODYzTM

กรณีศึกษา “แจ็ก หม่า” ปลาหมอ ตายเพราะปาก /โดย ลงทุนแมน
ในวันที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย
บริษัทของเขา กำลังทำสถิติระดมทุนได้มากสุดในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่โลกนี้มีมา
1 ล้านล้านบาท เป็นตัวเลขของเงินจากนักลงทุนทั่วสารทิศที่จะไหลเข้าบริษัทแห่งนี้

แต่ในช่วงข้ามคืน..
เขาถูกทางการจีนเรียกพบ พร้อมกับบอกอะไรสักอย่าง ซึ่งทุกคนที่จับจ้อง มองว่ามันไม่ปกติ

ในที่สุด..
เงิน 1 ล้านล้านบาท ที่กำลังไหลเข้ามา ถูกสั่งเบรกดังเอี๊ยด
และ มันต้องถูกคืนไปให้ผู้จองซื้อหุ้นบริษัทนี้ทั้งหมด

บริษัทนี้มีชื่อว่า Ant Group
บริษัทที่ไม่ใช่ธนาคาร แต่เป็นบริษัทที่เกี่ยวกับการเงิน ซึ่งกำลังถูกประเมินมูลค่าให้ “ใหญ่กว่าธนาคารทุกแห่ง” บนโลกนี้..

Ant Group มีผู้ก่อตั้งคือ แจ็ก หม่า ที่ทุกคนรู้ว่าเขาก่อตั้งอีกบริษัทคือ Alibaba
รู้หรือไม่ว่า นับตั้งแต่วันนั้น..
มูลค่าของ Alibaba ได้หายไปแล้ว 4 ล้านล้านบาท
มากกว่าเงินที่จะระดมทุนของ Ant Group เสียอีก

เกิดอะไรขึ้นกับ Ant Group และ Alibaba
แล้ว แจ็ก หม่า ได้ทำอะไรลงไป
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝

ย้อนกลับไปสัปดาห์ก่อนหน้าที่ถูกทางการจีนสั่งเบรก
แจ็กหม่า ได้ไปพูดบรรยายงานหนึ่งชื่อ The Bund Financial Summit ที่จัดขึ้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้
เขาพูดวิจารณ์ว่า “กฎเกณฑ์ของธนาคารเดิมๆ ไม่เหมาะสมกับ การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ”

ซึ่งเรื่องนี้ถ้าจะให้ตีความ ก็เกี่ยวข้องโดยตรงกับ Ant Group บริษัทเทคโนโลยีในด้านการเงิน ที่ตอนนี้คนจีนเกือบทุกคนต้องมีแอปของ Ant เอาไว้รับจ่ายเงิน รับฝากเงิน รวมไปถึง ขอสินเชื่อ ซื้อกองทุน ซื้อประกัน ในแอปนี้

พอคำพูดของ แจ็ก หม่า แบบนี้เข้าหูทางการจีนก็ไม่พอใจ เพราะดูเหมือนว่าคำพูดของเขาเป็นการท้าทายกฎเกณฑ์ของทางการจีน ซึ่งในบางแหล่งข่าวเช่น จาก The Wall Street Journal บอกว่า สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เป็นคนสั่งการเองว่าให้เบรกการ IPO ของ Ant Group ไว้

สรุปแล้ว Ant Group ก็ถูกสั่งเบรกให้หยุดการ IPO โดยให้เหตุผลว่า Ant Group ยังมีหลายสิ่งที่ผิดกฎหมายด้านการเงินฉบับใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น

นั่นก็แปลว่าทางการจีนกำลังร่างกฎหมายฉบับใหม่ สำหรับ Ant Group ขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ

แล้วกฎหมายฉบับใหม่จะทำร้าย Ant Group อะไรบ้าง?

มีการคาดการณ์กันว่า จากเดิมที่ Ant Group จะสำรองเงินทุนไว้ไม่มาก ในการปล่อยสินเชื่อ
ตอนนี้ Ant Group ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์เหมือนกับธนาคารปกติ คือต้องสำรองเงินไว้เป็นเงินกองทุนที่มากขึ้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่าจะทำให้ Ant Group ได้ผลตอบแทนต่อเงินทุนที่น้อยกว่าเดิม

เรื่องนี้ถึงขนาดมีการประเมินกันว่า มูลค่าของ Ant Group หลังมีกฎกติกาใหม่นี้ จะลดลงเป็นครึ่งหนึ่งจากเดิม

และประเด็นคือไม่ใช่มีแค่ Ant Group
เพราะ Alibaba ก็กำลังโดนเช็กบิลเช่นกัน

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีข่าวว่า ทางการจีนจะร่างกฎหมายฉบับใหม่เพื่อป้องกันการผูกขาดของบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ในจีน ซึ่งนั่นก็จะกระทบกับ Alibaba โดยตรง

ความกังวลนี้ทำให้นักลงทุนต่างพากันเทขายหุ้น Alibaba ติดลบจากจุดสูงสุดมาแล้วเกือบ 20%
คิดเป็นมูลค่าที่หายไปมากถึง 4 ล้านล้านบาท

ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ
เพราะทางการจีนไม่น่าจะชอบ แจ็ก หม่า เสียแล้ว
และอะไรที่เป็นของ แจ็ก หม่า ทางการจีนก็คงจะอยากสั่งสอนให้ แจ็ก หม่า ได้รู้ไว้
จะสำเร็จมาแล้ว มากมายแค่ไหน
จะรวยเป็นเศรษฐีอย่างไร
แต่อำนาจการควบคุม อย่ามาท้าทาย

แต่คำพูดของ แจ็ก หม่า ก็น่าคิด
กฎเกณฑ์เดิมๆจะควรใช้หรือไม่
ถ้ามีนวัตกรรมที่ดีกว่า ในการประเมินความเสี่ยงผู้บริโภค

103 Nameless Fanboi Posted ID:Wvg3ODYzTM

สรุปให้ไวๆ...กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของเจ้า "Mac"

ผมเพิ่งดู Apple Event จบตีสอง เลยสรุปก่อนเข้านอนมาให้อ่านกันว่า...

ทำไม Announcement ครั้งนี้จะทำให้คุณต้องเปลี่ยนวิธีเลือกซื้อ Laptop และคอมตั้งโต๊ะแบบ "พลิกฝ่ามือ" เลย ต่อให้กำลังเลือกดู Windows PC อยู่ก็ตาม

Apple ประกาศการเปลี่ยนมาใช้ cpu ของตัวเอง หลังจากที่ซื้อ intel ใช้มา 14 ปี พร้อมเปิดตัว
- Macbook Air ใหม่
- Macbook Pro 13" ใหม่
- Mac Mini ใหม่
ที่หน้าตาเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนไส้เป็นของ Apple ดีไซน์เองหมดแล้ว

ภาพรวมทำให้ได้คอมที่เร็วขึ้น 280-350%...พิมพ์ไม่ผิดฮะอันนี้ มันกล้าเคลมว่าเร็วกว่า laptop และ pc เกือบทั้งมวล สวนทางกับแบตอึดขึ้น 50-70% ชาร์จทีอยู่ได้ 17-20ชม. คือได้ทั้งวันจริงๆแล้ว!

ที่พีคไปกว่านั้น ผมว่าพีคที่สุด คือต่อไป Mac ใช้แอฟของ iPad ได้ด้วย

นี่เปลี่ยนตลาด pc ใหม่แบบพลิกเกมส์เลย!!!

Apple ออกแบบระบบเองหมด ทำให้รีด Hardware+Software ให้ทำงานด้วยกันได้ดีกว่าฝั่ง Windows จนกลายเป็นว่า Macbook Air รุ่นใหม่นี่เร็วพอทำงานตัดต่อวิดีโอ 4K ได้จบในเครื่อง mixเสียงได้หลายสิบtrackพร้อมกัน แต่งรูปเร็วขึ้น5เท่า แถมยังใช้ iPad app ที่หลายค่ายทำของดีๆมารองรับ iPad Pro ไว้แล้ว

ถ้าทำได้จริง จะพาให้ Mac กลับมาเป็นขวัญใจของชาวโปรจริงๆอีกครั้ง เพราะแค่เครื่องรุ่นล่างสุดตัวละ 30,000 ก็ทำงานของ pc เครื่องละแสนพอได้แล้ว แถมแอฟก็มีให้เลือกมากมายตั้งแต่วันแรกที่ย้ายกลับบ้าน ทำให้ปัญหาขาด App แทบจะไปในพริบตา

"พลิกเกมส์ให้ Mac มี Ecosystem เหนือ PC ได้ในวันเดียว"

104 Nameless Fanboi Posted ID:Wvg3ODYzTM

มันจะทำให้ตลาด pc เปลี่ยนแปลงแน่นอน จากเดิมเราซื้อ Mac เพราะรสนิยมการใช้งาน และความเสถียร เราชอบจริตแบบนี้

กลายเป็นซื้อ...เพราะมันคุ้มกว่า pc เกือบทุกด้าน เปลี่ยนจากเลือกเพราะชอบ กลายเป็นเลือกเพราะคุ้มกว่า ไม่เลือกคือพลาด โดยเฉพาะตลาด Ultrabook น้ำหนักเบาราคา 20,000ปลายถึงสี่หมื่น นี่ pc กระทบแน่นอน

เราจะได้เห็นการปรับตัวของ pc โดยเฉพาะ Microsoft ออกของใหม่มาพยายามสู้กับ Mac แน่นอน โดยเฉพาะ...
1) การออกรูปแบบเครื่องหน้าตาใหม่ๆ โดยเฉพาะจอพับได้ มีปากกาใช้เป็น tablet ในระหว่างที่กำลังแก้ลำการเสียเปรียบเรื่องความเร็วที่สู้ไม่ได้ด้วยการผลักดันการเปลี่ยน Windows ไปใช้ AMD และ ARM-based CPU แทน intel ที่พัฒนาช้าจนทำให้ทุกคนผิดหวัง
2) Google จะผลักดัน Chromebook แรงขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะมันเข้ามาทับไลน์ในตลาด Education ระดับกลาง-สูงที่ Chromebook อุตส่าห์ลุยมาตั้งนาน จนเริ่มแข็งแกร่ง อยู่ๆจะยอมให้ Apple มาแย่งง่ายๆ...คงไม่ใช่
3) Macbook Air+iPad จะกลายเป็น Laptop มหาชน ที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้จริงๆ ไม่ใช่แค่ Creative class เหมือนแต่ก่อน

ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเปลี่ยนส่วนแบ่งของ Apple device ในตลาด device ของคนทำงานจาก 10กว่า% ในปัจจุบันเป็น 30%+ ได้ไม่ยาก

รอดูต่อแค่ว่า จะมีของเด็ดอะไรมาปล่อยต่อตอนเปิดตัวรุ่นใหม่ของ...
- Macbook Pro 16"
- iMac
- Mac Pro

แต่ไม่ใช่ว่า Mac ใหม่ที่ใช้ cpu ของตัวเองจะดีไปซะทุกอย่าง เพราะการหันมาใช้ Apple silicon ทำให้เกิดหลุมดำขนาดใหญ่ ที่ยากจะปีนออกมาได้ เช่น...

1) Mac ที่ใช้ Apple silicon จะแทบซ่อมเองไม่ได้เลย เพราะเกือบทุกอย่างมันไปฝังในชิปตัวเดียวที่เป็น "System on Chip" (SoC)

2) แถมรันด้วย software ในบ้านล้วนๆ ไม่มีอะไรใช้ร่วมกันชาวบ้านเลย เพราะงั้น Apple ไม่อยากให้เราใช้อะไร ไม่อยากให้เปิดตรงไหน มันจะเปิกยากมาก หรือแทบเป็นไปไม่ได้ เหมือนอย่างที่แต่ก่อนเราเคย jailbreak iPhone ลงแอฟเองได้ มาตอนนี้จะทำได้มันยุ่งยากมาก จนไม่ทำซะดีกว่า

3) และสองข้อนี้จะทำให้เมื่อ Mac เสียต้องเปลี่ยนเครื่องไปเลยมากกว่าซ่อม Apple หรือถ้าซ่อม Apple จะคิดแพงแค่ไหนก็ต้องยอมจ่าย โกยได้เพิ่มเต็มๆเลยตรงนี้

4) ผู้ผลิต Hardware เสริมจะทำงานยากขึ้นอีก เพราะต้องดิวกับระบบที่เฉพาะตัวมากขึ้น การเขียน Software/driver ที่ความคล้ายคลึง Windows x86 น้อยลงไปอีก นั่นก็คือมีโอกาสที่อุปกรณ์เสริมรองรับแมคนอกค่ายจะออกมาน้อยลง หรือต้องยอมจ่ายแพงซื้อของ Apple มาใช้

5) Apple จะเปิดเผยสเปกแบบละเอียดของ Mac น้อยลงเรื่อยๆ เหมือนที่ทำกับ iPhone iPad มานานแล้ว แถมแอบใส่อะไรไว้ใน SoC หรือไม่ใส่ก็ได้ทั้งนั้น

6) เทียบรุ่นกับ Windows PC ก็ยาก เพราะมันคนละเรื่องกันแล้ว ทำให้ระยะยาว Apple อยากกั๊กสเปคก็แค่ไม่บอก หรือกั๊กๆไม่ออกของใหม่คนก็ต้องทน

7) สุดท้ายอัพเกรดอะไรที่หลังแทบไม่ได้เลย แม้แต่แรมเพราะมันอยู่ใน SoC ไปแล้ว คุณต้องซื้อสเปคเผื่ออนาคตไว้ไกลเลย จะทำให้เฉลี่ยเราจ่ายค่าเครื่องแพงขึ้นไปอีก

ลองช่างน้ำหนักข้อดีข้อเสียแล้วกันครับว่า การยกเครื่องครั้งนี้ มันดีพอให้คุณย้ายมา Mac เพื่อการทำงานไหม หรือกลัวข้อเสียจาก closed ecosystem จนขอไม่ยุ่งใช้ Windows PC ต่อไปดีกว่า

คิดยังไง...ผมอยากฟังความคิดเห็นทุกคนนะ เม้นมาด้านล่างนี้ได้เลย

105 Nameless Fanboi Posted ID:39xeiP4jll

โม้ขนาดนั้น ถ้าผลทดสอบออกมาไม่จริงนี่หน้าแหกนะ Apple โดยเฉพาะเรื่องความเร็ว

106 Nameless Fanboi Posted ID:2m+20HCPpX

มันแรงแค่ macOs ไง ถ้ามึงเอาไปลง windows ก็เข้าอีหรอบเดิม

107 Nameless Fanboi Posted ID:udULV//nCO

ตัวใหม่เอาไปลง win ปรกติไม่น่าจะได้แล้วมั้ง เต็มที่ก็เอา Virtual Machine มารันขำๆ

แต่มองว่ามันคือตัวเลือกสำหรับคนทั่วไป ที่อยากได้อะไรที่มากกว่า iPad เอาไปทำงานทั้งวันได้ไม่ต้องพก Adapter มากกว่า

108 Nameless Fanboi Posted ID:Wvg3ODYzTM

CEO ในตลาดฯท่านหนึ่งบอกผมว่าเมื่อก่อนหาคนทำงาน Call Center ยากมาก ตอนนี้คนที่มาสมัคร ภาษาอังกฤษได้หมด บางคนได้สามภาษา ไม่รวมไทย

109 Nameless Fanboi Posted ID:ZgeercHUcc

"ผลักดันการเปลี่ยน Windows ไปใช้ AMD และ ARM-based CPU แทน intel ที่พัฒนาช้าจนทำให้ทุกคนผิดหวัง"

อะไรของมึง AMD Intel ก็ x86-64​ เหมือนกัน ใช้ Window ได้อยู่แล้ว มาผลักดันเหี้ยอะไร

110 Nameless Fanboi Posted ID:ZgeercHUcc

>>106 Mac Arm ไม่รองรับ Boot Camp ไมโครซอฟท์​ยังไม่ขาย license Window Arm

111 Nameless Fanboi Posted ID:gedA/fqlbq

เห็นเม้นท์ชาวเนตหลายคนชอบแซะว่าสู้แบบนี้ไม่ชนะหรอก ทำม้อบแบบเด็กเล่นขายของ ไม่ต่อเนื่อง ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เหมือนทำม้อบระบายอารมณ์ด่ารัฐบาลด่าเจ้าแล้วจบเป็นครั้งๆไป
ผมเจอเม้นท์ทำนองนี้บ่อยมากจนตอนนี้ปัดผ่านไปหมดแล้ว คือแม่งไร้สาระชิบหาย ไม่ใช่เฉพาะส ลิ่มเม้นท์แนวนี้นะ ไอ้คนฝ่ายเราก็เม้นท์แบบนี้กันทั่วไป
ในใจคนพวกนี้คงอยากแบบว่าสู้รวดเดียว 3-6 เดือนจบ ปิดจ้อบ ได้ชัยชนะ กลับบ้านนอนชักว่ าวตกเบ็ด
ผมก็อยากชนะแบบ 3-6 เดือนปิดจ้อบเหมือนมึงนั่นแหละ แต่เราไม่มีขีปนาวุธ ไม่มีนุ้ค ไม่มีนิวเคลียร์ ไม่มีกองทัพอันเกรียงไกรเดินสวนสนามประกาศศักดาข่มขวัญจารีต ไม่มีรถถัง ไม่มีปืนใหญ่ ไม่มีเรือดำน้ำ ไม่มีรถเกราะ ไม่มีดาวเทียมสอดแนม ไม่มีกำลังพลแบบตะวันออกกลางที่กล้าพลีชีพพร้อมตะโกนอัลลาฮักบาร์แล้วกดบู้มใส่รัฐมนตรี
แถมพรรคการเมืองก็ล้อฟรีเชียร์ข้างสนามกันหมด เพราะกลัวโดนยุบพรรค
พูดง่ายๆ คือ ไม่มีส้นตีนอะไรซักอย่างอ่ะ
มันก็ต้องสู้กันแบบนี้แหละ โอเคนะ

112 Nameless Fanboi Posted ID:DSM.ijE+gF

>>111 ทุกอย่างมันคืบหน้าไปนานและถ้าในสภาฝ่ายซ้ายแม่งไม่เอ๋อพูดวกไปวนมาจนโดนฝ่ายขวาแซะกลับแบบปัญญาอ่อนเรียบ

113 Nameless Fanboi Posted ID:gedA/fqlbq

>>112 แค่พูดคำว่า สะ ถา ..
ก็โดนประท้วงละ

114 Nameless Fanboi Posted ID:iBAuUlCAVw

>>112 ตรรกะเดียวกับซ้ายโง่เองโดนยุบพรรค ทั้งที่พวกมึงคุมแม่งหมดทุกองค์กรเหี้ยๆ

115 Nameless Fanboi Posted ID:DSM.ijE+gF

>>113 ตัวอย่างร่ านที่ไม่เคยดูการประชุมสภา

116 Nameless Fanboi Posted ID:1XCH7K0cP0

>>115 ตัวอย่างหริ่มที่ดูการประชุมสภาแค่คลิแที่ตัดมาของเนชั่ว

117 Nameless Fanboi Posted ID:mXZEDlNvIh

ฝั่งซ้ายมันยังไม่คนที่แยกแยะเรื่องที่บางทีบอล ปวิน เจียม บางครั้ง เลยไม่เชื่อกันบ้าง แต่ทำไมสลิ่่มถึงงับเนชั่นตลอดเลยคับ

118 Nameless Fanboi Posted ID:1XCH7K0cP0

หนกคือศาสดาของหริ่ม พูดอะไรมาเชื่อหมดแหละ 5555

119 Nameless Fanboi Posted ID:1TEZJ3TUgY

>>116
นี่มึงว่าเขาจะดูแต่เนชั่นเหรอวะร่ า น

120 Nameless Fanboi Posted ID:1XCH7K0cP0

>>119 หรือไม่จริงอะหริ่มมมมมมมม โง่ๆอย่างมึงเนี่ย 5555

121 Nameless Fanboi Posted ID:1TEZJ3TUgY

>>120
จร้าพ่อร่ า นฉลาด ฟังแต่ว๊อย

122 Nameless Fanboi Posted ID:1XCH7K0cP0

>>121 สื่อหลายช่องนำเสนอข้อเท็จจริง ยกเว้นเนชั่วนะหริ่ม 55555

123 Nameless Fanboi Posted ID:yiTwJd9QcR

วันนี้ได้นั่ง Grab มีโอกาสได้คุยกับคนขับในประเด็นที่น่าสนใจเยอะดี

1. Grab vs Bolt เขาบอกว่าตอนนี้ Bolt ตีตลาดเด็กๆ กับวัยรุ่นไปเยอะมากด้วยราคาที่ดีกว่า ถึงแม้ระบบหลังบ้านจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่เขาก็แนะนำว่าบางจังหวะถ้าลองใช้ราคาจะถูกกว่า Grab ส่วนคนขับก็คนกลุ่มๆ เดียวกัน

2. เขาออกจากที่ทำงานประจำมาขับ Grab เต็มเวลาช่วง COVID-19 นี่แหละเพราะบริษัท Ads Agency ที่เขาทำอยู่ต้องปิดไป

3. เขาเล่าถึงสาเหตุที่บริษัทเก่าเขาปิดตัว เพราะโดนนายทุนจีนเข้ามาทุบ วิธีการคือเดิมทีเขาเป็นธุรกิจรับทำป้ายโฆษณา จีนก็ส่งวัตถุดิบเข้ามาขายไทยซึ่งก็ถือว่าถูกแล้วเมื่อเทียบกับราคาตลาด และก็ขายเครื่องจักรต่างๆ สำหรับธุรกิจสายนี้เอาไว้ ทำให้มีหลายคนไปลงทุน

พอถึงจังหวะนึง จีนเอาเครื่องจักรมาตั้งเองในไทย เอาวัตถุดิบเข้ามาเองหมด และลดราคาถึงมือลูกค้าไป 3 เท่า กวาดลูกค้าไปหมดตลาดช่วงนี้เลย ใครที่เคยซื้อเครื่องจักรกับเขาก็ทุนจมไป ทำต้นทุนสู้ไม่ได้เพราะทุกอย่างก็แพงกว่าหมด

ฟังจบก็ไม่รู้รายละเอียดจะแม่นแค่ไหน แต่ถ้าจริงก็ถือว่าโหดดี 555

124 Nameless Fanboi Posted ID:/tQk9eZ2rB

เพื่อนเถียงกับสลิ่.มเรื่องอะไรไม่รู้ แล้วโดนโยงเข้าหาอเมริกา ว่าเด็กโดนอเมริกามาปั่นหัว

อเมริกาไร้ราก นั่นนี่

มันเลยเอา Fairbank house ไปฟาด แล้วบอกว่าบ้านหลังนี้สร้างสมัยประเจ้าปราสาททอง อยู่มานานกว่าราชวงศ์จักรีทั้งราชวงศ์อีกนะ

ตอนนี้โดนญาติงอนว่ะ

ใจบางงงงง
https://www.insider.com/oldest-building-us-states-2018-4
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

125 Nameless Fanboi Posted ID:gedA/fqlbq

มาเรียนหนังสือท่ามกลางทหารได้เดือนครึ่ง สิ่งที่สัมผัสได้ทั้งจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง อาจารย์ และนักเรียนด้วยกันคือ
1. ทหารคิดว่าตนเหนือกว่าพลเรือน ทั้งมิติด้านอำนาจและความรู้สติปัญญา
2. นักการเมืองเลว การเมืองเป็นเวทีแห่งผลประโยชน์ ไร้เกียรติ ต้องมีพวกเขาไว้คอยแก้ปัญหา
3. ภูมิใจ มั่นใจว่าการทหารคือสิ่งที่ขับเคลื่อนทุกอย่างในโลก
4. ถ้าคุยกันในวงแคบจะยอมรับว่ามีการทุจริตในองค์กรมากมาย
5. เชื่อในทฤษฎีสมคบคิดแบบล้าน % ว่าการเคลื่อนไหวของมวลชนที่เห็นต่างจากรัฐนั้นมีเบื้องหลัง แน่นอนลาสต์บอสคือไอ้กัน

126 Nameless Fanboi Posted ID:DZGv6MxM0u

https://twitter.com/WHO/status/1327203037446889472

WHO ยกไทยเป็นตัวอย่างรับมือ covid ยอดเยี่ยม

#HealthForAll

127 Nameless Fanboi Posted ID:k/hWRpB3Fs

>>126 ผลงานรัฐบาลป่ะครับแบบนี้

128 Nameless Fanboi Posted ID:WLAaowahL4

วัยรุ่นชาวฮ่องกงที่ประท้วงอาจจะคิดว่า จีนมันเหี้ยหนีไปแคนาดาดีกว่า
หารู้ไม่ว่าความจริง การย้ายมันไม่ใช่แค่กระพริบตา นึกจะย้ายก็ย้ายได้เลย การยื่นเอกสารต้องรออย่างน้อย 1 ปีครับ ในระหว่างนี้ถ้าเอกสารผิด หรือไม่ตรงเงื่อนไขต้องยื่นไหม่ และแน่นอนว่าเอกสารบางตัว อาจจะต้องไปขอจากรัฐ ซึ่งไม่ต่างกับสารภาพว่าเป็นผู้ประท้วงเท่าไหร่

แกนนำบางคนเลยปิ๊งไอเดียว่า งั้นระหว่างนี้กูขอหนีไปใต้หวันดีกว่า อนิจาหารู้ไม่ว่าเรือตรวจหน้าน้ำจีนเยอะยังกะฝูงยุง และเนื่องจากเป็นเกาะ ช่วงระหว่างโรคระบาด จะไปทางสนามบินก็ไม่ง่ายนัก ถ้าจะไปทางบกต้องขึ้นแผ่นดินไหญ่ไม่รอดอยู่ดี

ส่วนใครคิดว่าวัยรุ่นโดนจับหมดเดี๋ยวไม่มีคนทำงาน ไม่ต้องกลัวครับ คนจีนมีตั้งหลายล้านคน ยังมีคนรอเสียบอยู่อีกเยอะ

แกนนำที่โดนจับคงมีชะตากรรมเหมือนอุยกูร์เป็นแน่แท้ ไม่แน่อาจจะติดคุกยาวนานกว่า ซึ่งหลังจากปล่อยตัว
ความรู้ความสามารถเค้าคงตกยุคไปแล้ว ทำได้แค่เป็นฟันเพืองระดับล่างตัวนึงในระบบต่อไป

129 Nameless Fanboi Posted ID:mhKpRmlnu6

>>128 ดูจากไหนว่าต้องยื่น 1 ปี ? พวกแต่งงานเอากรีนการ์ด ไปอยู่แล้วค่อยทำเรื่องยังได้เลย

130 Nameless Fanboi Posted ID:WLAaowahL4

>>129 วิธีแต่งงานคือเร็วสุดใน Permanent Resident วิธีที่ว่าคือยื่นเอกสารตามปรกติ

131 Nameless Fanboi Posted ID:mhKpRmlnu6

>>130 แล้วดูจากไหนว่ายื่น 1 ปี
จริง ๆ กฏใหม่มันก็ post graduation work permit แบบไม่จำกัดว่าต้องจบในแคนาดาเฉย ๆ ใช้เวลายื่นแค่ 83 วันเอง
https://www.evisaimmigration.com/en/post-graduation-work-permit-pgwp/
เอามาจากไหนว่า 1 ปี ? มี source ไหม หรือมั่วเอาอีกแล้ว

132 Nameless Fanboi Posted ID:Vl9V2m8kz1

>>131 คะแนนต้องผ่านก่อนนะ ไม่แน่ใจถ้าด่วนจริงมันต้อง Federal skill worker หรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นต้องดูว่าประกาศรับกี่คะแนนแยกตามรัฐไปอีก
อ่อ ส่วนวิธีคิดคะแนนก็นี่

https://www.canada.ca/en/immigration-refugees-citizenship/services/immigrate-canada/express-entry/eligibility/criteria-comprehensive-ranking-system/grid.html

แต่ถ้าไปแบบผู้ลี้ภัยแบบ Protection Visa แล้วไปเปลียนได้ไหมอันนี้ไม่รู้ว่ะ แต่ช่วงโควิตไอ้ตัวนี้ก็ยังไม่เปิดอยู่ดี

133 Nameless Fanboi Posted ID:8zymTZOagN

เห็นคนบอกว่า คนที่ปีนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขึ้นไปคลุมผ้านั้น ทำตัวเป็นลิงค่างแบบ ‘ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง’ ได้ยินแล้วทำให้นึกอะไรขึ้นมาหลายอย่าง
.
เวลาได้ยินคนพูดว่า คนสมัยนี้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง มักคิดว่าก็ถูกแล้ว เพราะสังคมที่เสมอภาค ย่อมไม่มามัวนั่งคิดถึงเรื่อง ‘ที่ต่ำ-ที่สูง’ กันนักหรอก
.
ในทางสังคม การมี ‘ที่ต่ำ’ หรือ ‘ที่สูง’ ไม่ใช่เรื่องที่ healthy สักเท่าไหร่ เพราะมันแปลว่าสังคมนั้นยกย่องอะไรบางอย่าง และกดเหยียดอะไรบางอย่างอยู่ แปลว่าเป็นสังคมที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความเสมอภาค
.
ที่น่าสนใจก็คือ คำพูดสอนว่า ‘ให้คนรู้จักที่ต่ำที่สูงนั้น’ ส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดไม่ใช่การสอนคนให้ภาคภูมิใจในความเป็นมนุษย์ของตัวเองมากเท่าการสอนว่าให้รู้จักเจียมตัวว่าตัวเองอยู่ใน ‘ที่ต่ำ’ อย่าได้ริไปทำเทียม ‘ที่สูง’ เพราะขี้กลากจะกินกบาลเอาอะไรทำนองนั้น
.
ที่สำคัญ คนที่พยายามทำให้คนอื่นๆ รู้จัก ‘ที่ต่ำ-ที่สูง’ มากๆ มักเป็นคนที่พิจารณาตัวเองว่าอยู่ใน ‘ที่ต่ำ’ (เช่นบ่าวไพร่ในบ้านเจ้าคุณที่สอนบ่าวไพร่คนใหม่) และพยายามลากดึงให้คนอื่นๆ รู้จักสำนึกและเจียมตัวว่าอยู่ใน ‘ที่ต่ำ’ เหมือนตัวเองไปด้วย
.
อย่างไรก็ดี คำว่า ‘ที่ต่ำ’ ของคนเหล่านี้ไม่ได้แปลว่า ‘ที่ต่ำ’ นั้นจะต่ำที่สุด เพราะเมื่อเจียมตัวรู้จักอยู่ใน ‘ที่ต่ำ’ (เมื่อเทียบกับที่สูง) แล้ว ก็ยังพยายามหาที่ที่ต่ำกว่าตัวเองเพื่อเหยียดกดลงไปเป็นชั้นๆ ด้วย โดยการ ‘สอน’ ให้คนอื่นรู้จักที่ต่ำที่สูง ก็คือสำนึกที่ว่า คนที่ถูกสอนนั้น ‘ต่ำ’ กว่าตัวเองลงไปอีกชั้นหนึ่ง เพราะอย่างน้อยก็ขาด ‘ความรู้’ ข้อที่ว่าด้วย ‘ที่ต่ำ-ที่สูง’ จึงต้องถูกสอนและถูกกดเหยียดไปด้วยพร้อมๆ กัน
.
วิธีคิดแบบ ‘ที่ต่ำ-ที่สูง’ มักมาพร้อมแนวคิดเรื่องกรรมแห่งอดีตชาติ ชาติก่อนทำไม่ดีไว้ จึงเกิดมาใน ‘ที่ต่ำ’ ไม่เหมือนคนใน ‘ที่สูง’ ที่ชาติก่อนทำกรรมดีเอาไว้ นั่นทำให้การเปลี่ยนแปลง ‘โครงสร้าง’ ของสังคมเป็นไปได้ยาก เพราะเอาโครงสร้างสังคมไปผูกกับกรรมเสียแล้ว นี่จึงอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมการกระจายอำนาจ กระจายรายได้ หรือกระจายความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันจึงเป็นไปได้ยากในสังคมที่มีวิธีคิดแบบนี้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

134 Nameless Fanboi Posted ID:pAJw321.DF

กิจกรรมที่ทำมาเป็นสิบๆปี ทุกวันนี้ก็ทำอยู่แต่ไม่ได้บอกใครแล้ว แต่วันนี้มันเด้งครบ 10 ปี พอดี
.
ลงพื้นที่ตามที่มีคนแจ้งว่าเจอคนลำบาก ... เขียนฏีกาถวายขอรับพระเมตตา
.
ระหว่างนั้นเบื้องต้นก็ช่วยเหลือตามกำลังที่เรามี ถ้ามีคนในครอบครัวพอประกอบอาชีพได้ ก็จะโทรหาพี่ๆสายรีเทลว่ารับคนประจำสาขาไหนมั้ย ส่วนตัวโทรหาได้หมดทุกห้าง หรือ ร้านสะดวกซื้อ หรือ ร้านขายยาและเครื่องสำอางนี่แหละ ผู้ใหญ่เค้าก็สนับสนุนเราส่วนนึง อีกส่วนนึงเค้าก็สร้างทานบารมีช่วยเพื่อนมนุษย์
.
ตอนนี้ก็ปรับแนวทางเพราะ โตขึ้นไปลุยมากไม่ได้ ต้องมีเวลาให้ครอบครัว และเจ้าตัวเล็กทั้ง 2 ทำได้แค่ โอนไปสมทบ ส่วนฏีกา เดี๋ยวนี้สบาย แคปหน้าจอ ส่งไลน์ไป ให้พวกพี่ๆที่อยู่ประจำกองแต่ละพระองค์ สะดวกดีมากตอนนี้
.
สำหรับตัวเองมองว่ามันเป็นกิจกรรมประเภทนึง ที่ทำให้อารมณ์ และ สติ สูงขึ้น แต่ความอยากมีอยากได้จะลดลง ทุกครั้งที่ได้แบ่งปัน
.
... ยกเว้นเรื่องเดียว ที่ลดความอยากมีอยากได้ แบบยากมาก ยากโครตๆ คือ เวลาเจอ new gadgets ออกใหม่เนี่ยยยย อยากได้ไปหมดทุกอย่าง

135 Nameless Fanboi Posted ID:URCev1ojQ7

>>133 ที่ต่ำที่สูงสำหรับกูไม่ใช่แค่การเหยียดนะ แต่สมัยนี้มันคือบอกให้นึกถึงมารยาท กาลเทศะบางอย่างอ่ะ เหมือนให้เคารพในตัวบุคคลไปด้วย เพราะถึงจะแก้ระบบยังไง มันก็ต้องมีคนที่เราให้เกียรติอยู่ดี แล้วสถานที่ที่พวกนั้นปีนขึ้นไป ก็เป็นสถานที่ที่คนเขาก็นับถือกันพอควร การที่พวกนั้นปีนขึ้นไปก็เหมือนไปเหมือนไปเหยียบสิ่งที่คนอื่นเขาถือว่าศักดิ์สิทธิ์แหละ เหมือนไปเหยียบสิ่งที่เขาชอบเขานับถือกัน

136 Nameless Fanboi Posted ID:3XZyAOQ+4.

>>90 แม่งยังถามแบบนี้อยู่ไงแต่ยังถึงได้อ่านแม่งก็ไม่ฟังอยู่ดี

137 Nameless Fanboi Posted ID:c/ysmoVBdC

ความไม่ฉลาดของคนในวัง ความไม่ประสาของคนที่อยู่รอบข้างวชิราลงกรณ์​ ที่แม่งยังคร่ำครึ โบราณ ตามไม่ทันความเปลี่ยนแปลงของโลก ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่า วชิราลงกรณ์ส่งทั้งเมียหลวง เมียน้อย ลูกหลวง ลูกน้อย ออกมาทำสงคราม PR แข่งกับกลุ่มผู้ชุมนุม แข่งแบบรายวัน อาทิ เมื่อวาน อีสิริวัณณวรีออกงานรำแข่งกับไพร่ และอีก้อยแวะซื้อสินค้ามูลนิธิสายใจไทย สนับสนุนโครงการหลวง ขอบอกเลย แม่งเชย เชยฉิบหาย ตามโลกไม่ทัน อีง่าว
....ที่บอกตามไม่ทันก็คือ ไอ้งานเอาหน้าแบบนี้ อาจจะใช้ได้สมัยสิริกิติ์สาวๆ สมัยยังไม่มีโซเชี่ยลมีเดีย สมัยไพร่ยังกินหญ้าแทนข้าว แต่สมัยนี้ คนรุ่นใหม่ต้องการเห็นอะไรที่ลุ่มลึก ไม่กลวง ไม่ปลอม คือลองมองไปดูราชนิกูลฝรั่งบ้าง เราแทบจะไม่เห็นเรื่องการออกงานแบบเจ้าไทย ที่แม่งหยิบหย่ง เจ้าฝรั่งเวลาออกงาน นู้น ออกงานเรื่องการส่งเสริมประชาธิปไตย ออกงานที่เกี่ยวข้องกับการเคารพสิทธิมนุษยชน การให้ความเห็นต่อประเด็นสาธารณะ อย่างตอนไดอาน่ายังมีชีวิต นางทำแต่ประเด็นใหญ่ๆ อาทิ กำจัด landmines ดูแลผู้ไร้ที่อยู่อาศัย หรือเยาวชนที่ติดยาเสพติด เค้าไม่ออกงานเดินซื้อกระเป๋าหรือรำโชว์
...แต่เอาละ ดิชั้นก็เว่อร์ไป จะเอาอีเจ้าหญิงกะโหลกกะลาพาหุรัดไปเทียบกับไดอาน่า แม่งเหวกับฟ้า อีดอก

138 Nameless Fanboi Posted ID:JHGlHXZ.ab

>>137 ทำไมต้องเหยียดพาหุรัด​

139 Nameless Fanboi Posted ID:B+tWCjeDEP

>>137 ไม่เคยดูข่าว IO สินะ เจ้าหญิงไดอาน่าเด็กๆไปเลย

140 Nameless Fanboi Posted ID:JHGlHXZ.ab

จริงๆแล้ว ที่ผู้ชุมนุมฝั่งสามเสนต้องการด่วยคือ พัดลมอุตสาหกรรม หลายๆตัว ไปตั้งเป่าให้แก๊วน้ำตากลับไปทางฝั่งเจ้าหน้าที่

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

141 Nameless Fanboi Posted ID:c/ysmoVBdC

ตั้งแต่เริ่มทำงานก็รู้ว่าประเทศไทย มันเทาๆ มันเหมือนจะมีเส้นถูกต้องชัดเจนด้วยศีลธรรมพุทธศาสนา ด้วยกฎหมาย ด้วยจารีตที่เรายึดถือ แต่ก็เหมือนไม่ใช่ แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจและมองผ่านๆมันไปตลอด

ยุคนี้เป็นยุคที่เราสามารถเข้าใจประเทศไทยได้จริงแท้ที่สุด ตั้งแต่ผมมีชีวิตมา

เราเห็นบารมีที่ไม่ได้มาจากการสั่งสมความดี
เราเห็นความดีที่ไม่มาจากการกระทำที่ถูกต้อง
เราเห็นความถูกต้องเป็นการกระทำที่เลวทรามทำคนเดือดร้อน
เราเห็นการกระทำเลวทรามเป็นการกระทำที่คนยกย่องสรรเสริญ

มันคือความวิปริตของบ้านเมืองที่เกิดจากคนถือครองอำนาจ

ฝันว่าวันนึงบ้านเมืองนี้จะไม่บิดเบี้ยว
และคนจะได้มีสิทธิ์เติบโตโดยเท่าเทียมกัน

เราไม่มีทางอยู่แบบนี้กันได้
วันนี้อาจจะถึงหรือไม่ถึงเวลา
แต่กระแสโลกไม่รอ
วันนึงจะมาถึงแน่ๆ
เพราะประเทศไทย
คนไทยกำลังเดินทางไปในทางนั้น

142 Nameless Fanboi Posted ID:c/ysmoVBdC

ออกมาปกป้องสถาบันที่รวยที่สุดในโลก
แต่ตัวเองยังแย่งของแจกเหมือนไม่มีจะกินอยู่เลย

143 Nameless Fanboi Posted ID:pAJw321.DF

ลูกค้าบริษัทนึงฝากให้สกรีนแคนดิเดทด้วยคำถามการเมือง

ขิม : คิดอย่างไรกับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันคะ

แคนดิเดท : ให้มันจบที่รุ่นเราครับ

ขิม : ผ่านเข้ารอบเลยค่ะ 😊

บริษัทนี้สนับสนุนประชาธิปไตย อยากให้ประเทศพัฒนาไปพร้อมเทคโนโลยี

โปรแกรมเมอร์ส่วนใหญ่ฉลาดค่ะ

ศึกษาข้อมูลจากข่าวต่างประเทศ รอบโลก อย่ามัวแต่เชื่อข่าวหน้าทีวี ที่ดูมาตลอด ตั้งแต่เด็ก เริ่มจาก Google ข่าวต่างประเทศบ้างค่ะ :)

คุณคิดว่านักศึกษาโดนหลอกมาประท้วง ทำไมไม่คิดว่าตัวคุณเองนั่นแหละที่โดนหลอกมาจนแก่

อย่าคิดว่าตัวเองรู้เยอะ รู้ดี เพราะสิ่งที่คุณรู้อาจจะผิดทั้งหมด

อย่าคิดว่าใส่เสื้อเหลืองแล้วคุณกำลังทำความดี คุณไม่ได้ทำความดี คุณแค่ยังไม่ฉลาดมากพอ และหลงเชื่ออะไรผิดๆอยู่ ต่างหาก :)

ถ้าไม่มีลิ่ม ประเทศคงเจริญกว่านี้เป็น 10 เท่า อย่าว่าแต่รถไฟฟ้าเลย เราคงมี ชินคันเซนวิ่งในไทย ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วแล้วล่ะ

นานๆโพสที แต่น่าจะมีสลิ่ดิ้น 🥳

144 Nameless Fanboi Posted ID:CPmFyUMUvU

เรามีสิทธิที่จะชุมนุม จะบุกไปที่ไหนก็ได้ ทำไมต้องแจ้ง
ด้วยอะ ?
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

พรบ.การชุมนุมสาธารณะ 2558
มี 35 มาตราลองไปอ่านซะนะ ไม่เยอะ
#มิตร ตร ท่านนึงที่แอ๊บกลาง

145 Nameless Fanboi Posted ID:IYILkVB8X5

>>144 เอาล่ะ กูชอบตร.คนนี้ 5555555

146 Nameless Fanboi Posted ID:xNPPb5MhGu

ปกติแล้วเขาใช้สารที่เป็นของเหลวควบคุมการชุมนุม แม้แต่แก๊สน้ำตาก็มาในรูปสารละลาย เพราะมันง่ายต่อการควบคุมทิศทาง
แต่มีประเทศควาย ๆ ใช้สารที่เป็นแก๊ส ลมพัดไปทางตัวเองก็ตายห่าสิคะ อีง่าว

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

147 Nameless Fanboi Posted ID:6W.79YzBMp

>>144 พรบ จะขัด รธนไม่ได้

148 Nameless Fanboi Posted ID:xNPPb5MhGu

เศร้าอ่ะ ป้าอยู่อังกฤษ จำได้หลายปีก่อน ฟ้าชายชาร์ลกับคามิลล่าอยู่ในรถ แล้วมีนักศึกษาออกไปประท้วงถึงขั้นทุบรถชาร์ลกับคามิลล่าเลย รู้สึกมีเด็กคนนึงกระโดดขึ้นกระโปรงรถด้วย คามิลล่า กลัวตัวสั่น ลงไปนั่งกองกับพื้นรถเลย แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่มีเด็กคนไหนโดนจับเพราะเรื่องนี้เลยค่ะ เพราะเขาถือว่า ทั้งสองคนในรถไม่เป็นอะไร และเป็นเหตุการณ์ประท้วงวุ่นวาย มิได้มีเจตนาทำร้ายใครในรถ แต่มีเด็กคนนึงจาก ม. แคมบริดจ์ โดนจับติดคุก 6 เดือน แต่ไม่ได้โดนเพราะคดีประทุษร้ายราชวงศ์ โดนเพราะไปทำลายอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์อะไรสักอย่างตอนประท้วง แล้วหันมาดูของเรา เฮ้อ เศร้าใจ

#มิตรสหายท่านหนึ่งพูดถึงบทสัมภาษณ์ ตัน สุรนาถ

149 Nameless Fanboi Posted ID:xNPPb5MhGu

ทูตมหาอำนาจ 5 ประเทศนอกแถว?
——
มีคนอยากให้เขียนเรื่องทูตห้าประเทศใหญ่ได้แก่ สหรัฐฯ เยอรมัน ญี่ปุ่น อังกฤษ และออสเตรเลีย ร่วมกันออกแถลงการณ์ ให้ทางการไทยปฏิรูปศักยภาพ ระเบียบขั้นตอนการทำธุรกิจและการลงทุน โดยมีข้อเสนอ 10 ประการ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ว่ามันมีความหมายเช่นไร เป็นเรื่องปกติหรือไม่แค่ไหน อะไรอย่างไร
——
ก็ขอเรียนว่าเรื่องนี้จะว่าไป ก็ทั้งปกติและไม่ปกติ คือถือว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในวิสัยที่ทำได้ในทางการทูต แต่จะอย่างไรก็ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยหรือว่าเป็นเรื่องปกตินัก
——
โดยปกติเมื่อเกิดปัญหาหรือมีข้อเสนอแนะใด ทูตแต่ละประเทศก็จะไปพบกระทรวงการต่างประเทศ หรือบุคคลในรัฐบาลเพื่อให้ช่วยประสานงานดำเนินการในเรื่องนั้นๆ แต่จะไม่มาตั้งโต๊ะร่วมกันแถลงการณ์ออกสื่อแบบนี้ ซึ่งแม้จะอยู่ในวิสัยที่ทำได้แต่ถ้าไม่จำเป็นพวกทูตเขาก็มักจะไม่ทำกัน เพราะโดยทั่วไปประเทศเจ้าบ้านมักไม่ปลื้ม เหมือนกับว่ามาสอนกันซึ่งหน้าผ่านสื่อ ถือเป็นการฉีกหน้าหน่อยๆว่างั้น
———
แต่สิ่งที่อยากอธิบายเพิ่มเติมเพราะหลายคนไม่เข้าใจ คือทำไมหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศตะวันตกถึงชอบเรียกร้องเรื่องประชาธิปไตยกัน (และอย่าหาว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ อย่าว่าแต่ชาวบ้านเลย แม้แต่หลายคนในกระทรวงต่างประเทศไทยสมัยนี้ก็ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ ซึ่งมันสะท้อนความอ่อนของพวกเราในยุคหลัง)
———
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่าทุกประเทศในโลกมีผลประโยชน์แห่งชาติ มากน้อยแตกต่างกันออกไป และมันมีหลายด้าน เช่นผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ด้านการเมือง ความมั่นคง อะไรก็ว่าไป แต่สำหรับประเทศตะวันตกและอีกหลายประเทศ อุดมการณ์ทางการเมือง ซึ่งก็คืออุดมการณ์ประชาธิปไตยนั้น เขาถือว่าเป็นผลประโยชน์แห่งชาติอย่างหนึ่งของเขา
———
แม้ว่าหลังยุคสงครามเย็น เรื่องผลประโยชน์ด้านอุดมการณ์ทางการเมืองจะลดความสำคัญลง แต่มันไม่ได้หมายความว่ามันหดหายไปจนหมด หลายประเทศยังคงถือว่าเรื่องประชาธิปไตยเป็นหนึ่งในผลประโยชน์ของเขา
——-
เพราะอะไร? ทำไมประชาธิปไตยจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับหลายประเทศในโลก โดยเฉพาะที่เจริญแล้ว? คำตอบที่ง่ายที่สุดคือ มันก็เป็นธรรมดาของคนเรา ที่อยากให้คนที่เราติดต่อคบค้าด้วย มีแนวคิดคล้ายกัน มีพื้นฐาน มาตรฐานที่เป็นสากล รวมทั้งเป็นผู้ที่มีความชอบธรรม มีหลักการ มีความมั่นคง ไว้เนื้อเชื่อใจได้
———
พูดกันตามตรง ประเทศตะวันตกเขาไม่ถึงกับแคร์มากนักหนาในเรื่องประชาธิปไตยของประชาชนในอีกประเทศหนึ่งนักหรอก เพราะเขามีผลประโยชน์ด้านอื่นๆที่เขาต้องคอยรักษาและส่งเสริมเช่นกันกัน
———
แต่ที่เขาออกมาเรียกร้องเรื่องนี้เพราะเขาเห็นว่าการมีประชาธิปไตยมันเอื้ออำนวยต่อผลประโยชน์ด้านอื่นๆของเขาด้วย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ที่มันต้องเชื่อมโยงกับเรื่องของความโปร่งใส การตรวจสอบได้ มีระบบของการรับผิดชอบ (accountability) ซึ่งโดยทั่วไป มันจะมาพร้อมกับระบอบที่มีความเป็นประชาธิปไตย
———
ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่หลายประเทศเขาอยากเห็นเราเป็น เพราะมันจะอำนวยประโยชน์ให้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย มันจะช่วยเพิ่มพูลผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน รวมทั้งทำให้ผลประโยชน์ในด้านอุดมการณ์ทางการเมือง ที่เขาต้องตอบสังคมของเขาเองได้ มีความสอดคล้องกันด้วย
———
แน่นอนว่าท้ายที่สุด ทุกประเทศย่อมคำนึงถึงผลประโยชน์แห่งชาติตนเป็นหลัก ซึ่งมันก็อยู่ที่วิธีเล่นของแต่ละประเทศ ว่าทำอย่างไรถึงจะส่งเสริมผลประโยชน์แห่งชาติของตนได้มากที่สุด
———-
หันมามองประเทศเราเอง ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เราได้ทำอะไรบ้างเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์แห่งชาติ หรือทำไปเพื่อตนเอง เพียงเพื่อกลุ่มคนไม่กี่คนที่ได้ประโยชน์ ในขณะที่ส่วนคนส่วนใหญ่ของประเทศต้องกระเสือกดิ้นรนกันไปตามมีตามเกิด
———-
จนบางทีทูตทั้งห้าประเทศเขามองแล้ว อาจเกิดทั้งความสงสาร และสมเพช ประเทศไทย จึงต้องออกมาแนะนำ ทำในเรื่องที่ไม่ปกตินัก แม้ว่ายังคงเปี่ยมด้วยความสุภาพเช่นที่นักการทูตฝีมือดีพึงกระทำ
———-
แต่ถึงจะสุภาพนิ่มนวลแค่ไหน บรรทัดสุด (bottom line) มันก็ยังอ่านได้อยู่ดีว่านี่คือวิธีพูดแบบนิ่มๆ ว่าที่เราเป็นอยู่นี้ มันไม่ใช่นะ ต้องปรับปรุงนะ
———-
จริงๆก็คือทั้งสอนและตำหนิกลายๆ ภาษาชาวบ้านคือตบหน้าเบาะๆ
———
ส่วนจะมีใครหน้าชา รู้สึกรู้สาอะไรบ้างไหมในฝ่ายเรานั้น อันนี้ผมไม่แน่ใจ
———-
เท่าที่เห็นเท่าที่ผ่านมา ผมว่าประเทศเราลืมไปแล้วว่า คำว่า อาย สะกดอย่างไร
—————

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

150 Nameless Fanboi Posted ID:AVWuyZ6TcJ

สุดท้ายแล้วได้อะไรครับ บุกเข้าไปล้อมสภาฯ ทำไม จะชุมนุมตรงไหนก็ได้ สองฝ่ายทะเลาะกัน ปะทะกัน ทำร้ายกันบาดเจ็บกันทำไม สภาฯก็ยังไม่ได้ลงมติอะไร ต่างฝ่ายต่างจะออกมาทะเลาะกันทำไม ถ้าพรุ่งนี้ไม่ได้ประชุมสภา แทนที่จะรับหลักการไปก่อนก็อาจต้องรอ แก้รัฐธรรมนูญไปก็ใช่ว่ามันจะรวดเร็วทันที มองไม่เห็นจริงๆเลยครับว่าประชาชนจะได้อะไรนอกจากบ้านเมืองวุ่นวาย เสียเวลาทะเลาะกันเองเพื่อนักการเมืองและผู้มีอำนาจจะได้ประโยชน์

151 Nameless Fanboi Posted ID:rgLAF8rVCw

มีคนงงเรื่องเป็ดเหลือง อาจจะบอกว่าเป็ดเหลืองเกี่ยวอะไร แต่เราเห็นเป็ดเหลืองในภาพที่ออกมาตอนแรก คือยิ้มเลย มันคือสิ่งที่ฉลาดมาก ทั้งในแง่ของฟังก์ชั่นการใช้งาน และในแง่ของภาพที่มันดึงความสนใจของคน และ viral potential ให้เกิดพูดถึง และเกิดภาพจำของเหตุการณ์ที่ชัดขึ้น

มันอาจจะเป็นแค่การกวนตีนเฉยๆ ก็ได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ถ้ามองในมุมของ strategic เชิงการสื่อสาร มันก็ได้ผลที่ดีอ่ะ

152 Nameless Fanboi Posted ID:rgLAF8rVCw

หาคนอัจฉริยะ เอาคนธรรมดาไปสัมภาษณ์ ถามคนสัมภาษณ์บอก ”ได้คุยกับ คนบ้า” ถามคนถูกสัมภาษณ์ ได้คำตอบ ”ได้คุยกับ คนโง่”.

จะหาเสือดี เอาคนเลี้ยงเสือไปหา อย่าเอาคนเลี้ยงหมาไปหาเสือ จะได้ เสือธรรมดา

153 Nameless Fanboi Posted ID:rgLAF8rVCw

รีวิวผลลัพธ์จากการออกกำลังกาย คือ แม้ว่าหลังจากฟิตหุ่นมา 1 ปี ฉันจะยังหุ่นไม่ดีเท่าคนอื่นๆ (เพราะปัญหาเรื่องอายุ) แต่มันก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในชีวิตจริงๆนะ เช่น

1.จากที่ไม่เคยมีใครส่งข้อความหลังไมค์มาชวนเอาเลย นับตั้งแต่วันแรกที่เล่น facebook จนถึงปัจจุบัน กลายเป็นว่า ปีนี้ มีคนมาชวนเอาอย่างน้อยเดือนละคน (ถ้าเป็นคนที่หุ่นดีกว่าฉัน น่าจะมีเดือนละ 3 - 5 คนขึ้นไป)

2.ช่วงที่อายุ 30 จนถึง 40 กว่าๆ ไปซาวน่าเกย์ทีไร ไม่ได้คนเอาด้วยเลย ไปแล้วนกทุกครั้ง กลายเป็นว่า ช่วงปีที่ผ่านมา ไปซาวน่าเกย์ทีไร ได้ 3 - 4 คนตลอด โดยเป็นฝ่ายถูกชวนก่อนด้วย (จากที่เมื่อก่อน กูสะกิดใคร คนนั้นต้องหนีกูอ่ะ เหมือนเจอผี)

3.จากที่เมื่อก่อน เวลานัดเอากับใครในเน็ต หลังจากเอาเสร็จ คนที่เอาด้วยก็จะไม่ชวนฉันเอาอีกเลย แบบว่าครั้งเดียวพอ อย่ามาหาอีก แต่ช่วงปีที่ผ่านมา มีหลายคนที่เป็นพูดกับฉันว่า "ขอเจออีกได้ไหมครับ" เฮ้ย! กูช็อคอ่ะ ไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนเลย แม่งน้ำตาจะไหล

การออกกำลังกายแม่งเปลี่ยนชีวิตจริงๆ สาบานได้เลย

154 Nameless Fanboi Posted ID:LAwyP6RVpQ

รู้สึกว่าตัวเองเริ่มเดือดเยอะ เราว่าเราควรจะพอกับพวกหมาเห่าหน้าคีย์บอร์ดเเต่ไม่เคยลงไปดูเหตุการณ์จริงๆเลย โปรดปรานเฟคนิวส์อีกตะหาก
เราควรทำงานให้มีชีวิตรอดกลับมาหาเเมวตัวเองให้ได้เเต่ละวันก็พอละ

สุดท้ายนี่ จะราด จะหร้าน จะซาหริ่ม จะส้ม จะเหลือง จะอะไรก็ชั่ง เเต่เราก็มีสิ่งที่รักเหมือนกันก็คือ เเมว

มิตรสหายตำรวจท่านนึงที่สามารถเปลี่ยนไปเป็น Freelance artist ได้แต่ก็ไม่

155 Nameless Fanboi Posted ID:lIv9I31GbW

>>153 นึกถึงเวลาไปเที่ยวอย่างว่า ผญ มักบอกว่าแม้ ผช จะจ่ายเงินเหมือนกัน แต่เอากับ ผช หุ่นดีมันฟินกว่า จะแก่จะหนุ่มก็ได้ มันมีอารมณ์ร่วมกว่าพวกพุงโย้อะนะ

156 Nameless Fanboi Posted ID:u+FIqR86PY

เรื่องตลกที่ไม่ตลก

คิดแล้วคิดอีกยังไม่เข้าใจว่า เสื้อเหลืองไปรวมตัวกันที่สภาเพื่ออะไร
.
จะปกป้องสถาบันฯ หรือ ปกป้องสภา ?
.
สถานการณ์ต่างๆ กำลังจะดีอยู่แล้ว คนไทยกำลังได้ข่าวดีต่อเนื่อง รัฐบาลก็แค่ทำงานให้ดี ทำเศรษฐกิจให้ฟื้น สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลงานก็เริ่มชัดเจน ตั้งแต่มาตรการคนละครึ่งกระตุ้นเศรษฐกิจ การได้คำชื่นชมจาก Who เรื่องคุมโควิด การเข้าร่วม RCEP การสนใจเข้ามาลงทุนของชาติต่างๆ ประเทศไทยกำลังมีความหวัง คนไทยเริ่มออกมาอยู่ข้างในหลวง อยากจะข้ามพ้นความขัดแย้ง แล้วร่วมกันขับเคลื่อนประเทศ
.
กำลังสบายใจ แต่พอผ่านมาไม่กี่วัน ม็อบตีกันอีก ( แถมมีผู้ชุมนุมพกปืนมาด้วย )
.
ผมเคยเตือนแล้ว ถ้าจะรวมตัวแสดงความจงรักภักดีทำไปเถอะ แต่ถ้ารวมตัวไปงัดกับอีกม็อบ อย่าหาทำ เพราะการมีม็อบชนม็อบ ทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงกว่าเดิม
.
คุณใส่เสื้อเหลืองมาชุมนุม เพราะคุณบอกว่าคุณปกป้องสถาบัน อย่าลืมว่าการอ้างแบบนั้นทำให้คุณแบกรับความเป็นรอยัลลิสต์อยู่ การกระทำของพวกคุณล้วนมีผลกระทบต่อสถาบัน ถ้าทำดีก็ดี แต่ถ้าทำเลว สถาบันฯก็เสียหายไปด้วย
.
พวกคุณเห็นที่ ในหลวง ทรงแจกลายเซ็นให้ประชาชนไหม ท่านทรงเขียนบอกว่ายังไง ภูมิใจในความเป็นไทย บอกให้มีเมตตาต่อกัน รักกัน สามัคคีกัน ประนีประนอมกัน
.
แล้วไอ้ที่มาตีกันตุ้บตั้บ นั่นมันคืออะไร
.
แล้วที่คุณเอาเสื้อเหลืองมาใส่ มายึดพื้นที่หน้าสภา ถ้าจะบอกว่ามาปกป้องในหลวง ปกป้องอะไร ในหลวงไม่ได้ทรงอยู่ในสภา ท่านไปทรงงานต่างจังหวัด
.
ถามจริงๆ จะไปตรงนั้นทำไม? ปกป้องอะไร? แสดงพลังอะไร?
.
คณะราษฎรจะม็อบก็ปล่อยเขาไปสิ อย่างมากก็ปะทะกับเจ้าหน้าที่ ล้อมสภาได้ไม่เกินคืนหรอก เก็บภาพเก็บคลิป ไล่ฟ้องย้อนหลัง
.
จะมาต้าน ร่างแก้ไขรธน.ฉบับไอลอว์เหรอ ถ้าแค่นั้น อยู่บ้านก็ต้านได้ ไปทำข้อมูลสิ ชี้แจงสิว่ามันไม่ดียังไง สู้ด้วยข้อมูลไปสิ
.
หน้าที่ตีตกหรือรับร่างเป็นของสภา ส.ส. ส.ว. ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับม็อบเลย
.
ต่อให้รับร่าง ผ่านสภามา ก็ยังมีอีกหลายขั้นตอน ยังต้องลงประชามติกันอีก ไม่ใช่จะผ่านร่าง รธน. กันง่ายๆ
.
ถ้าเห็นว่าร่างไอลอว์ไม่ดี ไม่เหมาะ มีช่องทางอีกมากในการตีตก ให้ข้อมูลความรู้ประชาชน ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความไปสิ ที่แน่ๆ ไม่ใช่การเอาม็อบไปทะเลาะกับเขา
.
ถ้าม็อบคณะราษฎร มากดดันขู่เข็ญบังคับสภาให้รับร่าง มันก็ยิ่งแสดงความเป็นอนาธิปไตย ทำให้ร่างของไอลอว์ไม่ชอบธรรมยิ่งขึ้น ไม่ใช่เหรอ ( iLaw = กฎกู )
.
ไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะต้องเอาม็อบเหลืองไปรอทะเลาะกับม็อบคณะราษฎร ที่ตรงนั้น
.
หรือมีใครอยากให้ม็อบตีกันเพื่อฉีกรัฐธรรมนูญอีกรอบ
.
อย่าหาทำ!
.
เอาปืนมายิงกันแบบนี้ โชคดีแค่ไหนที่ไม่มีคนตาย ถ้าตายขึ้นมาซักคน มันคือความผิดร่วมกันนะ ที่ทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น
.
อีกเรื่องที่บ่นมาตลอด บ้านเมืองมาถึงจุดนี้ ที่เห็นชัดๆคือ รัฐบาลสอบตกเรื่องจัดการเฟกนิวส์ อย่างร้ายแรง
.
สื่อที่พาดหัวบิดเบือน ปล่อยข่าวบิดเบือน ทำไมไม่เคยจัดการ ปล่อยแล้วปล่อยอีก เกรงใจใคร?
.
คุณตั้งศูนย์เฟกนิวส์ ถามจริง ใครเข้าไปอ่านบ้าง ถ้าทำอยู่แค่ในกะลาของตัวเอง ไม่มีการขยายในวงกว้าง ในแพลทฟอร์มต่างๆ
.
แล้วที่น่าตลกคือ คุณอ้างว่าโซเชียลมีหลายขั้นตอน ต้องฟ้องศาล ต้องขอคำสั่งศาล กว่าจะลบหรือปิดโพสต์ได้
.
ทั้งๆที่ โซเชียลมีระบบตรวจจับข่าวปลอม โพสปุ๊บ detect ปั๊บได้เลย แจ้งทันทีว่า นี่คือเฟกนิวส์ พร้อมลิงค์อธิบายชี้แจง ถ้าทำตรงนี้ก็แก้ได้แล้ว ไม่ต้องไปไล่ฟ้องเป็นรายๆ แล้วก็ทำอะไรไม่ได้
.
คุณเป็นถึงรัฐบาล ทำไมไม่ประสานงานจัดการเรื่องนี้ กินเงินเดือนแสนๆ มีที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญต่างๆนานา จ้างกันมา ไม่แนะนำกันเลยรึไง?
.
ที่น่าตลกกว่าคือ รัฐบาลง่อยทำไม่ได้ แต่พวกที่ไม่ใช่รัฐบาลเสือกทำได้
.
ทำไม่ได้ หรือไม่คิดจะทำ ผมละสงสัย
.
สุดท้ายบ้านเมืองวุ่นวายเพราะข่าวปลอม ที่ไม่เคยได้รับการแก้ไข
.
ควรพิจารณาตัวเองได้แล้วนะครับ
.
อย่าโหนเสื้อเหลือง เพื่ออาศัยพระบารมีมาปกป้องรัฐบาล สิครับ
.
ฝากไว้ให้คิด

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

157 Nameless Fanboi Posted ID:u4vFlfJYhv

อีกเรื่องที่ต้องบันทึกเอาไว้กันลืม หลังจากที่ได้เข้าประชุมกับกฤษฏีกาและสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เมื่อเช้านี้

มีตัวแทนจากฝั่งไวน์ทักท้วง สคอ ไปว่าการที่ซอมเมลิเยร์อธิบายคุณลักษณะ ถิ่นปลูก รสชาติของไวน์ มันจะไปผิดกฏหมายได้อย่างไร

แต่หน่วยงานราชการไทย ก็กล่าวว่าการที่ซอมเมลิเยร์ออกมาพูดอธิบาย ก็ถือว่ามีความผิด ไม่ต่างอะไรกับเด็กเชียร์เบียร์

นี่เป็นทัศนคติของหน่วยงานราชการไทย ที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจในวัฒนธรรมแม้แต่น้อย และยังดูถูกอาชีพซอมเมลิเยร์ว่าไม่มีคุณค่า ไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องทำความเข้าใจ

ทำไมเราต้องปล่อยให้ข้าราชการโง่ๆบางคนมีอำนาจ และให้คนโง่เหล่านี้มาคอยกีดขวางความเจริญของประเทศ ก็ไม่เข้าใจประเทศนี้จริงๆ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผมขออนุญาตมาแสดงความเห็นเพิ่มเติม ประเดี๋ยวจะมีคนเข้าใจผิดว่าผมเหยียดเด็กเชียร์เบียร์ พอดีไปม๊อบมา พึ่งว่างมาโพสเพิ่ม 555

คือก่อนหน้านี้เราพูดคุยกับทางราชการมาหลายครั้ง แล้วมันมีเคสที่หน่วยงานราชการชอบไปไล่จับร้านลาบ ร้านข้าวต้ม รวมไปถึงจับเด็กเชียร์เบียร์ด้วย ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่พวกเราพยายามร้องเรียน ว่าคุณไปไล่จับเด็กเชียร์เบียร์ทำไม น้องๆเขาทำงานสุจริต มันก็เหมือนพนักงานเสิร์ฟทั่วไป และบางครั้งเด็กเชียร์เบียร์ต้องไปเสียค่าปรับหลายหมื่นเอง (มันต้องเป็นคนแบบไหนกัน ที่เอาเปรียบคนทำมาหากินกันแบบนี้)

ราชการก็จะตอบกลับมาโง่ๆว่า มันผิดกฏหมาย ใส่ชุดมีสีมีโลโก้ ก็ถือว่าผิด น้องพูดชักชวนให้คนที่มาร้านดื่มเบียร์ก็ผิดกฏหมายเช่นกัน (คิดเอาละกันว่าคนพวกนี้มันมีความเป็นมนุษย์มั้ย)

แล้ววันนี้เราก็คุยกันโดยอ้างอิงถึงเรื่องเด็กเชียร์เบียร์ก่อน แล้วก็มีคนยกประเด็นเรื่องซอมเมลิเยร์ตามมา ฝ่ายราชการเขาก็ตอบด้วยการพูดว่าซอมอธิบายรสชาติไวน์ก็ผิดกฏหมาย และเปรียบเปรยไปถึงเด็กเชียร์เบียร์

ก็ประมานนี้นะครับ

ยังยืนยันว่าจะเด็กเชียร์เบียร์หรือซอมเมลิเยร์ก็คืออาชีพที่มีเกียรติ มีศักด์ศรีไม่ต่างกัน และเราก็พยายามจะอธิบายให้ราชการได้ทราบว่า ไอ้สิ่งที่พวกเขาทำ มันไม่ผิดกฏหมายในที่ใดบนโลกนี้ เสือกมีแต่ที่ไทยนี่ล่ะที่ไปไล่จับเด็กเชียร์เบียร์ หรือมาบอกว่าการอธิบายรสชาติเป็นสิ่งผิดกฏหมาย

นี่พวกมึงบ้ารึเปล่า ความเป็นคนนี่พวกมึงไม่มีกันเลย แต่มันคือปรสิตแล้ว
#กฏหมายส้นตีนคนใช้ก็ส้นตีน

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

158 Nameless Fanboi Posted ID:4Z3UL2gMVo

คุณบอกประยุทธ์ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ทำไมตอนไทยรักไทยหรือพลังประชาชนเป็นรัฐบาลคุณไม่ใช้เหตุผลนี้

คุณบอกรธน.เป็นกฎหมายสูงสุดจะแตะต้องแก้ไขอะไรไม่ได้ ต้องปกป้อง ทำไมตอนทหารทำรัฐประหารฉีกรธน.คุณไม่ใช่เหตุผลนี้

คุณต่อต้านการนิรโทษกรรม คสช.ทำนิรโทษให้ตัวเอง ทำไมคุณไม่ใช่เหตุผลนี้

159 Nameless Fanboi Posted ID:zTMFvRBsF.

>>158 ทุกอย่างมันรวมศูนย์อยู่ที่สิ่งเดียว ที่สิ่งนั้นเอารัฐบาลใคร

160 Nameless Fanboi Posted ID:RBTdOKrOcF

อยากรู้มั้ยคน Gen X ปลายอย่างผมเจออะไรมาบ้าง

ตอนเด็กๆผู้ใหญ่ชอบบอกเราว่าอย่าเถียง
เวลาอยากเรียนอะไรที่สนใจ จะโดนบอกว่าไม่ดี ที่ดีในโลกนี้คือวิศวะ หมอ ข้าราชการ บัญชีจุฬาฯ

อ้าว ก็กูไม่ได้ชอบหนิ
ยังโชคดีที่พ่อแม่ผมเปิดกว้าง อยากทำอะไรก็ทำ

ดูทีวีอภิปรายสภา ก็เจอแต่ขี้โม้เล่นปาหี่ ชวนทะเลาะอยู่นั่น
กูทนสิ่งเหล่านี้มา 30-40 ปี ด้วยการค่อยๆเปลี่ยนสิ่งรอบข้างให้สร้างสรรค์แทน
พอปี 2563
เจอคนรุ่นใหม่
แม่งหนักกว่าเดิม

ในขณะที่รุ่นผมพยายามปฏิรูปการศึกษา เร่งกระจายอำนาจ ผลักดัน Startup สร้างสังคมเท่าเทียมทางเพศ หยุดธุรกิจผูกขาด สร้างสังคมแตกต่าง และมีนวัตกรรม
แต่คนรุ่นใหม่ (แม้จะไม่ทุกคน) แม่งบุลลี่คนเห็นต่าง โลกต้องเป็นแบบของแม่งแบบหาทิศทางไม่ได้
วันๆแม่งพูดแต่หี ควย แดกเหล้า กับปี้เสรี แทนที่จะเสนอว่าจะปฏิรูปมหาดไทยยังไง ช่วยแก้หนี้เกษตรกรยังไง
ไอด้อลพวกแม่งคือจอมพล ป. ที่เคยจะประกาศห้ามคนไทยนับถือศาสนาอิสลาม คริสต์ ซิกข์
ถุย
จอมพล ป.ที่ประกาศปิดโรงเรียนจีน ปิดหนังสือพิมพ์จีน ปิดโรงเรียนปอเนาะ สั่งอุ้มคนเห็นต่างไปยิงเป้าเป็นผักปลา หรือโชคดีหน่อยก็ไปอยู่คุกตะรุเตาจนในหลวง ร.9 ต้องออกไปปกป้องราษฎรไทยที่ถูกทำร้าย
ในหลวง ร.9 ประกาศไม่ยอมให้จอมพล ป.กักตัวอีกต่อไป และเสี่ยงตายออกไปปกป้องมัสยิด ปกป้องปอเนาะ ปกป้องชุมชนจีน เอาเงินตัวเองปลูกป่า ปรับดิน พัฒนาระบบน้ำให้เกษตรกรที่ถูกทิ้งเหมือนหมูเหมือนหมา สู้จอมพล ป.ที่ไล่กำจัดคนเห็นต่าง

ผมพูดบ่อยว่าใครอยากปฏิรูป เราคือเพื่อนกัน
แต่ที่เห็นนี่มันคือการถอยหลังลงคลอง ด่าเจ้า ด่าคนเห็นต่าง เหยียดคนอื่น เพราะขี้อิจฉาแบบสมศักดิ์เจียม ไม่ได้อยากพัฒนาอะไร แถมโง่กว่าเดิม
โคตรกระจอก

161 Nameless Fanboi Posted ID:mwSygtGIrQ

>>160 ปฎิรูปโดยที่ไม่รู้ว่าต้นเหตุปัญหามาจากใคร ยังเทิดทูนไม่เลิกแบบมึง คงจะทำได้อยู่หรอก ฝันไปเหอะมึง 55555

162 Nameless Fanboi Posted ID:mwSygtGIrQ

>>160 ใครว้าาาที่ขยันเซ็นรฐปห จนประเทศแม่งถอยหลังแบบนี้ ตอบกูหน่อยสิ 555

163 Nameless Fanboi Posted ID:07Rl9WMLUQ

>>160 เร่งรีบเกินไปแหละว่ะ เส้นทางเลยไม่แน่นอน ล้มทีนี่ระเนระนาดเหมือนโดนโบวลิ่งชน

164 Nameless Fanboi Posted ID:RBTdOKrOcF

อยากรู้มั้ยคน Gen X ปลายอย่างผมเจออะไรมาบ้าง

ตอนเด็กๆผู้ใหญ่ชอบบอกเราว่าอย่าเถียง
เวลาอยากเรียนอะไรที่สนใจ จะโดนบอกว่าไม่ดี ที่ดีในโลกนี้คือวิศวะ หมอ ข้าราชการ บัญชีจุฬาฯ

อ้าว ก็กูไม่ได้ชอบหนิ
ยังโชคดีที่พ่อแม่ผมเปิดกว้าง อยากทำอะไรก็ทำ

ดูทีวีอภิปรายสภา ก็เจอแต่ขี้โม้เล่นปาหี่ ชวนทะเลาะอยู่นั่น
กูทนสิ่งเหล่านี้มา 30-40 ปี ด้วยการค่อยๆเปลี่ยนสิ่งรอบข้างให้สร้างสรรค์แทน
พอปี 2563
เจอคนรุ่นใหม่
แม่งหนักกว่าเดิม

ในขณะที่รุ่นผมพยายามปฏิรูปการศึกษา เร่งกระจายอำนาจ ผลักดัน Startup สร้างสังคมเท่าเทียมทางเพศ หยุดธุรกิจผูกขาด สร้างสังคมแตกต่าง และมีนวัตกรรม
แต่คนรุ่นใหม่ (แม้จะไม่ทุกคน) แม่งบุลลี่คนเห็นต่าง โลกต้องเป็นแบบของแม่งแบบหาทิศทางไม่ได้
วันๆแม่งพูดแต่หี ควย แดกเหล้า กับปี้เสรี แทนที่จะเสนอว่าจะปฏิรูปมหาดไทยยังไง ช่วยแก้หนี้เกษตรกรยังไง
ไอด้อลพวกแม่งคือจอมพล ป. ที่เคยจะประกาศห้ามคนไทยนับถือศาสนาอิสลาม คริสต์ ซิกข์
ถุย
จอมพล ป.ที่ประกาศปิดโรงเรียนจีน ปิดหนังสือพิมพ์จีน ปิดโรงเรียนปอเนาะ สั่งอุ้มคนเห็นต่างไปยิงเป้าเป็นผักปลา หรือโชคดีหน่อยก็ไปอยู่คุกตะรุเตาจนในหลวง ร.9 ต้องออกไปปกป้องราษฎรไทยที่ถูกทำร้าย
ในหลวง ร.9 ประกาศไม่ยอมให้จอมพล ป.กักตัวอีกต่อไป และเสี่ยงตายออกไปปกป้องมัสยิด ปกป้องปอเนาะ ปกป้องชุมชนจีน เอาเงินตัวเองปลูกป่า ปรับดิน พัฒนาระบบน้ำให้เกษตรกรที่ถูกทิ้งเหมือนหมูเหมือนหมา สู้จอมพล ป.ที่ไล่กำจัดคนเห็นต่าง

ผมพูดบ่อยว่าใครอยากปฏิรูป เราคือเพื่อนกัน
แต่ที่เห็นนี่มันคือการถอยหลังลงคลอง ด่าเจ้า ด่าคนเห็นต่าง เหยียดคนอื่น เพราะขี้อิจฉาแบบสมศักดิ์เจียม ไม่ได้อยากพัฒนาอะไร แถมโง่กว่าเดิม
โคตรกระจอก

165 Nameless Fanboi Posted ID:RBTdOKrOcF

อีกภายในไม่กี่ปี​ ไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงวัยโดยสมบูรณ์แบบ​ ผู้ใหญ่ในตอนนี้จะต้องพึ่งเด็กที่ตัวเองจงเกลียดจงชังในทุกๆ​ ทาง

ต่อให้คุณสร้างตัว​ เก็บเงินจนคิดว่ามีพอจะเลี้ยงตัวเองไปได้จนตาย​ หรือมีลูกหลานที่คิดว่าน่าจะดูแลคุณได้

แต่ลองคิดดูดีๆ​ ในสังคมที่มีผู้ปกครองแบบนี้​ ทำให้สภาพเศรษฐกิจและสังคมเละเทะแบบนี้​ เปิดทางให้นายทุนปู้ยี่ปู้ยำกอบโกยเงินไปหมด​ เปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาแย่งที่ทำกิน​ แม้แต่ที่ดินก็จะกลายเป็นของเขาอยู่รอมร่อ​ กิจการสำหรับคนตัวเล็กๆ​ อยู่ไม่รอด​ คนที่อยู่รอดคือพวกนายพลกับข้าราชการระดับสูงๆ​ ที่ไม่เคยสร้างผลผลิตอะไรให้ประเทศ​ ฯลฯ

ประเทศแบบนี้​ มีเงิน​ ​ค่าเงินก็จะค่อยๆ​ หายไป​ ทุกวันนี้เงินร้อยสองร้อยใช้จ่ายครบวันยังแทบไม่ได้​ แน่ใจเหรอว่าเงินที่คุณมีจะพาคุณอยู่รอดไปจนตลอดฝั่ง​ กิจการหรืองานที่คุณคิดว่าทายาทคุณจะใช้มันหาเงิน​ จะยังทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ แน่ใจเหรอว่าถ้าเศรษฐกิจและสังคมพัง​ ประเทศกลายเป็นเส้นทางการค้ายาเสพติด​ สังคมมันจะดีพอให้คุณและครอบครัวเฉิดฉายมีความสุขอยู่ได้อย่างปลอดภัย​ แน่ใจเหรอว่าถึงมีรถหรูพาไปส่งหมอที่เก่งที่สุด​ ตอนที่ความเป็นตายยื้อกันหนักสุด​ คุณจะไม่โดนขบวนอะไรมาขวางให้พะงาบรอต่อไปอย่างนั้นก่อน

คนที่ไปไม่รอด​ ถึงที่สุดก็จะถูกชะตากรรมบีบคั้นให้ทำเรื่องผิดๆ​ เหล่านี้จะสยายปีกล้อมตัวคุณไว้​ คิดเหรอว่าสร้างกำแพงสูงเท่าฟ้าแล้วยังจะขังตัวเองให้ตายตอนแก่ได้

อนาคตที่เด็กรุ่นนี้กำลังต่อสู้​ ในทางนึงมันคืออนาคตของพวกคุณเหมือนกัน

ถ้าพวกเขามีอนาคตที่ดี​ ถ้าเรามีประเทศที่ดี​ อย่างน้อยระบบมันจะวนมาดูแลคุณเองได้ด้วย​ เงินของคุณจะยังมีค่า​ ถ้าเศรษฐกิจดี​ โจรผู้ร้ายก็จะน้อยลง​ ไม่ต้องเสี่ยงว่าคุณนอนแก่หงำอยู่ในบ้านแล้วจะมีใครเข้ามาปล้น

ต่อให้คุณไม่เชื่อใจ​ และเหยียดหยามเด็กๆ แต่ถามจริงๆ​ ฝากตอบตัวเองด้วยความบริสุทธิ์​ใจ ถ้าประเทศยังอยู่ในวังวนนี้ต่อไป​ ถ้าคนอย่างธรรมมนัสขึ้นมาครองเมือง​ มีผู้กำหนดทิศทางที่วิสัยทัศน์แบบตู่​ มีรองที่กุมอำนาจแต่ประคองสังขารตัวเองเดินยังไม่ไหวแบบป้อม​ มีกลุ่มผู้นำที่เห็นคนไม่เท่าคน​ พร้อมจะขจัดคนที่ไร้ประโยชน์กับตัวเองทิ้ง​ ชีวิตคุณจะเป็นยังไง​

คุณคิดว่าวันที่ฟันหลุดไปทั้งปากหรือครึ่งปาก​ คนแบบนี้จะยังเห็นค่าคุณมั้ย

นั่นละเหตุผลของการต่อสู้
และทำไมการต่อสู้ครั้งนี้ถึงเป็นเรื่องของทุกคน

166 Nameless Fanboi Posted ID:07Rl9WMLUQ

>>162 แต่ก็เห็นด้วยกับรฐปห.ของยุทธ์นะ เพราะบ้านกูอยู่ใกล้พวกเสื้อแดง ช่วงนั้นมันรุนแรงมากนะมึง ถ้าไม่ทำ กูอาจจะโดนลูกหลงไปแล้ว ปราบให้มันจบน่ะกูเห็นด้วย กูไม่อยากตาย

167 Nameless Fanboi Posted ID:mwSygtGIrQ

>>164 ใครว้าาาที่ขยันเซ็นรฐปห จนประเทศแม่งถอยหลังแบบนี้ ตอบกูหน่อยสิ 555

168 Nameless Fanboi Posted ID:B0UJksdK1q

การ์ดม็อบ​นอก​จาก​จะ​ต้อง​ดู​แลผู้ชุมนุมแล้ว ยัง​ต้องคอย​ดู​ไอ้​พวกเหี้ย looter อีก​ เหนื่อย​หน่อย​นะ​ครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

169 Nameless Fanboi Posted ID:KMpKKaFLAk

ก็เข้าใจว่ามาด้วยความโกรธ ผมก็เข้าใจเพราะผมก็อยู่ในจุดๆเดียวกับทุกคนที่มาร่วมชุมนุม แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะเห็นด้วยกับการกระทำไปซะทุกอย่าง

ป้ายรถเมล์ใหม่ 500 ป้ายทั่วกรุงเทพฯ มีข้อมูลลอกเส้นทางการเดินรถ บอกสายรถเมล์ ที่ผ่าน เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้งานรถเมล์ทั้งขาประจำและขาจร รวมถึงตัวผมเองด้วย ที่ได้ข้อมูลบนป้ายช่วยวางแผนในการเดินทางได้

และป้ายเหล่านี้ไม่ใช่ว่าไปสั่งทำที่ร้านแล้วก็ได้ออกมาเลย มันนี้ผ่านแรงกายแรงใจของคนมากหน้าหลายตา ที่ช่วยกันสร้างมันขึ้นมา ผ่านอุปสรรคมาก็มาก กว่าจะกลายเป็นสิ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่ตลอดแนว ถนนพระราม 1 และอีกหลายเส้นทางทั่วกรุงเทพฯ

ฉะนั้นถือว่าเป็นการขอร้องละกันนะครับ ว่านี่ก็เป็นทรัพย์สินของประชาชนที่ประชาชนด้วยกันร่วมกันสร้างมันขึ้นมา อย่าทำลายมันเลยครับ

ตัวผมเองไม่มีสิทธิไปห้ามพวกคุณไม่ให้ไปพ่นสีหรอก แต่แค่อยากจะขอความร่วมมือเท่านั้น จะทำต่อหรือไม่ก็แล้วแต่คุณจะพิจารณา

ขอบคุณครับ

170 Nameless Fanboi Posted ID:BZ86X/FyCW

>>156 ถามหมอวรงค์ดิ ไทยภักดีตกลงจะปกป้องสถาบันหรือปกป้องตู่และ คสช. วะ เห็นค้านแก้ รธน. ด้วยทั้งที่การแก้มันไม่ต้องแตะเจ้าก็ได้

>>157 คนดีมีศีลธรรมและรักสุขภาพเขาบอกว่าน้ำเมาคือเครื่องดื่มแห่งความชั่วร้ายก่อปัญหาสารพัดประการให้สังคมอะ จะแย้งพวกเขายังไงดีอะ

171 Nameless Fanboi Posted ID:fsU.bJ8/2J

>>170 ไม่ต้องไปแย้งคนดีหรอก เกินเยียวยาแล้ว ต้องจับรมแก๊ซเท่านั้น

172 Nameless Fanboi Posted ID:KMpKKaFLAk

เชื้อไฟของม็อบคือความอยุติธรรม
วิธีแก้ก็แค่ให้ความยุติธรรม ง่ายๆแค่นั้นแหละ อะไรที่ฝ่ายหนึ่งได้ อีกฝ่ายความจะได้ อะไรที่ใ่ายหนึ่งโดน อีกฝ่ายควรจะโดน ก็จะไม่มีใครโกรธ
ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐควรทำตลอด เมื่อทำก็จะจบปัญหาแต่ต้น แต่เขาก็ไม่ทำ คิดว่ายิ่งเหยียบ ยิ่งโชว์ว่าเขามีอำนาจเหยียบได้ คนจะยิ่งกลัว - รัฐคิดเหมือนมาเฟีย ทำนองว่า “คนเป็นลูกน้องกูใหญ่เว้ย ถ้ามึงไม่สงบ เจอคนไปก่อกวน อยากอยู่อย่างสงบก็มาเป็นลูกน้องกู”
ความอยุติธรรมนี้ยิ่งทำคนยิ่งโกรธ
เมื่อวานความโกรธเกินเบอร์ มันระดับอยากใช้ความรุนแรง วิธีที่หาทางแสดงออกด้วยการปลดปล่อยความโกรธออกไป ด้วยสี ด้วยการฉีดน้ำ ก็ดีแล้ว คนคิดคงเป็นศิลปิน เขาเสนอว่าเวลาโกรธ ละเลงสีไป - โอเค มันยังอยู่ในเลเวลที่ไม่ได้ฆ่า ไม่ได้ทำร้ายใคร ในมุมนึงก็บอกได้ว่าโกรธแบบสันติวิธี
แต่คนอีกกลุ่มก็ยึดหลักการอีกแบบ คือคุณธรรม ต่างๆ และคิดว่าควรจัดการกับความเสียหายที่เกิดขึ้น และลดความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่
แต่คนโกรธก็โกรธกว่าเดิม เพราะรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม เพราะฝ่ายนั้นทำเหมือนกันไม่โดนด่า และเวลาฝ่ายนั้นทำ ไม่เคยมีคนมาตามเก็บใจดีแบบนี้
ทำไมเราต้องทนอยู่ฝ่ายเดียว ทำไมเราถึงเอามันคืนแบบที่มันทำกับเราไม่ได้
ผมเข้าใจอารมณ์นั้น มันคือแผลของความอยุติธรรม
และก็เข้าใจยุทธศาสตร์ของคนใจเย็น ที่พยายามให้ขบวนการอยู่ในทางของคุณธรรม
แต่ทำแล้วก็ต้องโดนด่า - ก็ทำใจไว้เลยว่าทำแล้วจะโดนด่า แต่ก็ต้องทำ เพราะมันต้องมีใครสักคนทำ เพื่อประโยชน์ทางยุทธศาสตร์
.
.
ผมคิดว่าเรื่องเมื่อวานมันเป็น reaction จากความอยุติธรรม ตรงหน้า
ยังไงมันก็ต้องเกิดขึ้น ถ้าไม่เกิดความอึดอัดจะกลายเป็นความรุนแรง การปลดปล่อยความโกรธให้ดาวน์ลง โดยไม่มีความรุนแรงนี้ประเสริฐแล้ว
ส่วนคนที่ยังใจเย็นมาตามเคลียร์ ก็ดีที่ยังมองเชิงยุทธศาสตร์ได้ ตบๆกลับมา - คิดในเชิงจิตวิทยาว่ามันต้องมีคนขู่ สลับคนปลอบก็แล้วกัน
การเถียงกันเรื่องนี้ ก็เป็นประโยชน์ ในการเคลื่อนภาพรวมของสังคม
.
.
แต่ถ้ารัฐยังฟังที่ปรึกษาอวดฉลาด ยังทำแบบนี้อีก
เดี๋ยวก็ยิ่งแค้นไปอีก คราวนี้ก็คิดรอไว้ได้เลยว่าจะทำยังไง

173 Nameless Fanboi Posted ID:t8LVA09oXJ

“ยอมรับว่าเคยสำลักกะทิส ลิ่มนิดนึงเหมือนกันตอนแอมมี่สาดสีรอบแรก เมื่อหลายเดือนก่อนนู้น ด้วยความที่ไม่ชอบการกระทำของ กปปส มากมากในทุกมิติ เราก็เลยเผลออคติเวลาเห็นอะไรคล้ายๆ หรือชวนให้คิดไปถึงช่วงเวลาน่ารังเกียจเหล่านั้น

แต่พอตั้งสติบ้วนน้ำเปรี้ยวจากกะทิบูดที่เอ่อคอทิ้งไปได้ ก็ลองนั่งทำความเข้าใจคำว่า "สันติวิธี" เริ่มจากอ่านความเห็นของเพื่อนที่แตกออกเป็นสองข้างนี่แหละ สุดท้ายก็ตกตะกอนกับตัวเองว่า ตราบใดที่ไม่ใช่การทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บถึงตาย ทำไรได้ ทำไปเถอะ ทำไปโลดดดด

เพราะขณะที่รัฐมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สามารถทำให้เราบาดเจ็บ พิการ ถึงตาย ได้ครบ ทั้งรถฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา เครื่องหูดับ กระสุนยาง กระสุนจริง มีทุกสิ่งและเริ่มใช้แล้วทุกอย่าง !!!

เทียบกับเราประชาชนมือเปล่า สเปรย์พ่น และถังสี คุณไม่เห็นกันจริงๆ เหรอว่าดีกรีความรุนแรงมันเทียบกันไม่ได้เลย ?!? แต่เครื่องมือเหล่านี้แหละที่จะค่อยๆ เพิ่มอำนาจต่อรอง ขยายให้เสียงของคนสามัญอย่างเราๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่การนั่งพับเพียบ พูดเพราะ รอกระสุนพระราชทาน !!!

ส่วนตัวคิดว่าไม่แปลก ถ้ารอบแรกๆ ที่เห็นอะไรทำนองนี้แล้วบางคนจะรู้สึกสตันท์ จะมีอ๊องบ้างไรบ้าง เพราะก็ต้องยอมรับว่าวัฒนธรรมประท้วงบ้านเรา มันยังเตาะแตะ ตัวเราเองก็ยังมีประเด็นให้ตั้งคำถามกับตัวเองและเรียนรู้ทุกวัน

แต่นับจากเคสสาดสีครั้งแรก นี่มันก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วโนะ ถ้าการสาดสี พ่นถนน หน้า สนช เมื่อวาน ยังกวนใจคุณอยู่อีก อันนี้เราว่าแปลกละ!

โดยเฉพาะกับคนที่ไปม็อบ เราว่ายิ่งแปลก! มันน่าจะถึงเวลาที่คุณต้องหยุดคิด หยุดตั้งสเตตัสสะเทือนใจการสาดสี แล้วหันมาสางปมในใจคุณดีกว่า ลองวางจรรยามารยาทลง แล้วตั้งคำถามตัวเองดังๆ ว่าทำไมตัวฉันถึงเซนสิทีฟกับคำหยาบ? ทำไมฉันถึงหวงความสะอาดของพื้นถนน ห่วงป้าย สนช มากกว่าเป้าหมายของการต่อสู้? อะไรทำให้ฉันติดกับดักปัญญาชน? ลองดูนะ เราว่าสางปมตัวเองก่อนแล้วเราจะเห็นแก่นของการกระทำหลายๆ สิ่งมากขึ้น ไม่ใช่เห็นแค่เปลือก

สุดท้ายนี้ อยากขอพูดอะไรแรงๆ สักนิด เพื่อนสายยูนิคอร์นอย่าอ่านต่อน้าาา
💖🌼💗🌼💝🌼💞✨✨✨

โถถถถ อีพวกดัดจริต สู้กับรัฐก็ยากจะตายห่าอยู่แล้ว ยังต้องมาสู้กับความตอแหล ความกระแดะ รักสะอาดของพวกมึงอีก เรื่องโง่นี่ฉลาดตลอด ต้องให้กูบอกตลอด มึงอย่ามาเก่งกับกูนะอีปลาควย!!!

💖🌼💝🌼💗🌼💞✨✨✨”

มิตรสหายท่านหนึ่ง

174 Nameless Fanboi Posted ID:u+FIqR86PY

3อันดับในตอนนี้​ 12.40 ที่มาคอเม้นที่ชอบที่สุด3อันดับคือ​
1.​ คนที่บอกว่าเกษรเปิดให้สไนเปอเข้าไปส่องยิงเสื้อแดงเมื่อ10ปีก่อน​ ทั้งที่อาคารเขาไม่มีช่องเปิดด้านถนนใดๆ​ แถมไม่มีดาดฟ้าให้นั่งนอนยืน​
2.​ คนที่บอกชั้นเป็นสลิ่่ม​ เหี้ย​ avant-gant มากครแรกที่พูดคนนี้​ 54555
3.​ คนนี้แชร์​ ตั้งหัวข้อว่าผมเขียนยืดยาวแต่ไม่ได้ตอบว่า​ มันเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับนายทุนเลย​ เดี๋ยว​ตรงไหนที่กูพูดว่าจะอธิบายวะ​ แล้วมันก็ไม่ได้พ้อยปะ​ งงจัง​ จะมาหาอะไรกะกู้​ 555555

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

175 Nameless Fanboi Posted ID:gvo/6KeEyc

ตามทฤษฎีทางรัดสาด ระบอบประชาธิปไตยและระบอบเผด็จการ, ทั้งคู่สามารถทำให้เศรษฐกิจดีได้ทั้งหมด มีคำอธิบายเยอะแยะว่าทำไมระบอบเผด็จการจึงสามารถทำให้ประเทศร่ำรวยได้
แต่ความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของระบอบเผด็จการทหารของไทยหลังปี 2557 เป็นต้นมา คือ ความล้มเหลวด้านเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนร่ำรวยไม่ได้
เมื่อระบอบเผด็จการทหารทำให้ประชาชนร่ำรวยไม่ได้ เมื่อถึงจุดหนึ่ง ประชาชนจะถอนการสนับสนุนออกจากระบอบเผด็จการ (เราอย่าลืมว่าหลังรัฐประหาร 57 ใหม่ๆ ทหารได้รับแรงสนับสนุนทางการเมืองในวงกว้างเยอะมากนะครับ เพราะสังคมเชื่อว่าหมดความขัดแย้งแล้ว สเตปต่อไปก็คือบริหารประเทศให้อยู่ดีกินดี)
ในความเป็นจริง ตอนนี้ต่อให้ไม่เอา text ทฤษฎีทางรัดสาดมากาง ชาวบ้านร้านตลาดทั่วไปก็รู้แล้วว่าทหารบริหารประเทศไม่ได้ ทำคนยากจนชิบหายกันหมด ค้าขายอะไรก็ย่ำแย่ รายจ่ายมากกว่ารายรับ บรรลัยทุกหย่อมหญ้า
พวกเราจึงเรียนรู้จากของจริงว่าระบอบเผด็จการทหารแม่งทำเราพินาศทางเศรษฐกิจจริงๆ มีแต่พรรคพวกนายทุนของรัฐบาลที่ร่ำรวย สถาบันกษัตริย์ร่ำรวย แต่เรายากจนกันหมด
ตราบใดที่ทหารยังอยู่ เราจึงหมดหวัง หมดอนาคต มองไม่เห็นแสงสว่าง
การชุมนุมของพวกเราตอนนี้จึงเป็นผลผลิตของการรัฐประหาร 57 โดยตรงนั่นแหละครับ (แต่มีพัฒนาการมาก่อนหน้านี้แล้วนับตั้งแต่ปลายรัฐบาลไทยรักไทย) และเห็นแล้วว่าสถาบันกษัตริย์สนับสนุนระบอบรัฐประหารนี้ด้วย ก็ยิ่งทำให้เรารู้เลยว่าสถาบันกษัตริย์คือตัวขัดขวางอนาคตของชาติเช่นกัน

176 Nameless Fanboi Posted ID:37G7cJrG15

Freedom of speech?? On twitter??? HAHAHAHAHA

Only for leftists dude…
#Anonymous

177 Nameless Fanboi Posted ID:5PV.wIicyT

เจ้าหน้าที่รัฐควรเป็นสัญญาจ้างทั้งหมด สวัสดิการเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไม่ได้ตลอดไปนะ

178 Nameless Fanboi Posted ID:jyVkl5f26x

การเมืองคือการหาพวกหาเพื่อน ไม่ใช่การระบายความโกรธแค้นหรือเอาคืนโดยไม่เลือกวิธีการ เป้าทางการเมืองต้องชัดเจนและเป็นตัวนำกำกับการต่อสู้ แน่นอนการระบายความโกรธแค้นหรือเอาคืนเป็นเรื่องเข้าใจได้และก็คงมีในฐานะมนุษย์ปุถุชน แต่ถ้ากำลังต่อสู้ทางการเมือง ก็ควรระมัดระวังไม่ให้มันไปทำลายแนวร่วม โดดเดี่ยวตัวเอง บ่อนเบียนความชอบธรรมของวิธีการต่อสู้ของคนนับหมื่นนับแสนคนที่ร่วมกันช่วยกันยึดมั่นมา
ทุนที่คนไม่มีอาวุธ ไม่มีอำนาจรัฐ ไม่มีอำนาจทุนมี ก็คือความชอบธรรมทางการเมือง ซึ่งฝ่ายอำนาจรัฐไม่มีเพราะได้อำนาจมาและรักษาอำนาจไว้โดยไม่ชอบธรรม อย่าทำลายจุดแข็งของตัวเองเพื่อลงไปอ่อนแอเท่ากับคู่ต่อสู้ อย่าทำลายทุนทางการเมืองที่มีในขณะที่ยังขาดแคลนทุนด้านอื่น ๆ

179 Nameless Fanboi Posted ID:bq2OUf4wX1

Code ได้, ขายเก่ง, สื่อสารระดับสอนได้, บัญชีได้ ทำ financial plan ได้เป็นระดับเทพ, อ่านงบเป็น, คอนเนคชั่นดีเยี่ยม, แม่นข้อกฏหมายการค้าในประเทศ​และ ต่างประเทศ, มีประสบการณ์ดูแลระบบที่มี transaction ประมาณ 200 ล้าน requests/วินาที
.
ยังโดนเรียกว่า สลิ่- เลย (" " ) เสียจัย

180 Nameless Fanboi Posted ID:djIB5qUF5C

สลิ่ มคือคำชมแปลว่าผอม

181 Nameless Fanboi Posted ID:Bx/xUBxgCE

>>180 นั่นมันสลิม

182 Nameless Fanboi Posted ID:/xAFSNwC+a

>>179 เอาจริงๆ ขนมหวานที่เคยเจอ แม่งค่อนข้างสถานะทาง ศก. ดีกว่าฝั่งแดงนะ ถ้าทำ SME ก็เป็นพวกที่กิจการไปได้ดีอะ ถ้าพวกมนุษย์เงินเดือนก็ตำแหน่งสูงหน่อย + มีรายได้เสริมจากการขายของบ้าน เทรดหุ้นบ้าง พวกนี้มี mindset ว่ารัฐแค่ทำให้บ้านเมืองสงบพอ แต่ไม่ต้องเอางบไปช่วยใครทั้งนั้น คนควรจะดิ้นรนด้วยตัวเอง ชีวิตดีอยู่ที่เรา พวกนี้จะเชียร์ตู่ เหมือนเก็บกดที่เห็น 2 พรรคอย่าง พท กับ ปชป. เอางบไปถลุงกับคนจนที่ขี้เกียจ แต่หลังๆ ก็ด่าตู่ (บ้างแต่ไม่มากเท่า 2 พรรคที่ว่า) จากการออกบัตรคนจน

183 Nameless Fanboi Posted ID:/xAFSNwC+a

>>182 ขายของบ้าง*

184 Nameless Fanboi Posted ID:XQ.aNokplo

>>182 ขนมหวานที่เคยเจอ ก็ยากจน จนต้องไปคว่ำรถน้ำส้มแจกอะครับ 555555

185 Nameless Fanboi Posted ID:Uv4RT9i9aM

>>182 พวกเทรดหุ้นน่ะคงมี แต่ ศก. แบบนี้ยังมี SME ที่ไหนอวยตู่อยู่อีกหรอวะ

186 Nameless Fanboi Posted ID:tZp83caf2I

>>184 กูเห็นของฟรีของแจกแม่งเละเทะหมดทุกรายการอะคนไทย ถ้าไม่รวยจริง เป็นแค่ชนชั้นกลาง นิสัยก็ไม่ได้หนีจากรากหญ้าเท่าไรหรอก

>>185 ถ้าช่วงนี้พวกนี้จะโทษโควิดไง เพราะก่อนโควิดพวกนี้ไม่เดือดร้อน

187 Nameless Fanboi Posted ID:Bx/xUBxgCE

ข้อคิดที่ได้จากการทำงานมาครบ 10 ปี
Cr. https://m.pantip.com/topic/30347780
1. วิธีการขึ้นเงินเดือนที่เร็วที่สุดคือการย้ายงาน ไม่ใช่ขึ้นตำแหน่งในบริษัทเดิม
2. ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด บริษัทไม่รักคุณเท่าครอบครัวของคุณหรอก
3. อย่าทำงานจนละเลยสุขภาพของตัวเอง
4. ไอ้คนที่พูดแต่เรื่องให้คุณเสียสละทุกอย่าง ถวายตัวกับงาน office คือบ้าน ต้องกลับดึก ฯลฯ , พูดเรื่อง company loyalty/spirit/team work ซ้ำไปซ้ำมา คือคนที่หลอกใช้คุณเพื่อความเจริญของเขาเอง
5. คนที่เจริญได้เพราะนำเสนอ+ทำ powerpoint+สรุปงานเก่ง แต่ทำงานไม่ได้เรื่องอะไรเลยมีอยู่จริง คุณเหนือกว่าพวกเค้าได้ด้วยการทำงานให้เก่งด้วย+present ตัวเองเก่งด้วย
6. ควรเก็บออมเงินตั้งแต่ปีแรกของการทำงาน เพราะปีแรกของการทำงานคุณจะสนุกกับการใช้เงินจนลืมเก็บตังค์
7. ผมเคยทำงานแบบถวายหัวชนิดทิ้งทุกอย่าง ทิ้งบ้านทิ้งครอบครัว ทิ้งเพื่อนฝูง เพื่องาน เพื่อลูกค้า เพื่อบริษัท สุดท้ายผมก็ได้เรียนรู้ว่าผลตอบแทนที่ได้รับไม่ว่าจะเป็นเงิน ลมปาก เหล้า-เบียร์ฟรี ข้าวฟรี มันชดเชยสิ่งที่ผมเสียไปไม่ได้เลย
8. ตอนคุณไปคุยเรื่องขอลาออก ถ้าเค้า offer ตำแหน่งให้ถ้าคุณอยู่ต่อ นั่นเป็นเรื่องโกหก 100% คุณอยู่ต่อคุณก็ไม่ได้ขึ้นตำแหน่งหรอก
9. ความสามารถในการขวนขวายหาความรู้ด้วยตัวเองและกล้าที่จะลองผิดลองถูก จะช่วยให้คุณไปได้ไกลกว่าไอ้พวกงอมืองอเท้ารอคนอื่นมาสอน
10. เพื่อนร่วมงานมีทั้ง “เพื่อน” และ “คนรู้จัก” อย่าไปคาดหวังว่าทุกคนจะเป็นเพื่อนที่จริงใจกับคุณ
11. จงพยายามเรียนรู้สิ่งต่างๆ นอกเหนือจากอะไรที่เกี่ยวกับงานที่คุณทำอยู่เสมอ หลายๆ อย่างที่คุณไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวกับงาน มันสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานได้
12. ภาษาอังกฤษสำคัญมาก
13. จงใช้วันลาพักร้อนให้เต็มที่ อย่าเกรงใจ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ
14. ความอดทน ใจเย็น สำคัญมาก จงหัดทำหน้ายิ้มแต่ด่าไอ้เห้ในใจ

188 Nameless Fanboi Posted ID:Bx/xUBxgCE

บางทีก็ไม่เข้าใจนะ..กลุ่มที่อยากให้ยกเลิก ม.112

กลับเป็นกลุ่มที่แสดงให้อีกฝั่งมั่นใจว่า ทำไมต้องมี ม.112

189 Nameless Fanboi Posted ID:K8DAHNj+7o

>>188 ขอแค่มึงจะยกเลิก112 อีกฝั่งก็มองมึงเป็นเป้าหมายแล้ว

190 Nameless Fanboi Posted ID:JpIpQ3Tu+H

>>188 กล้าที่จะ ตั้งพรรค

191 Nameless Fanboi Posted ID:j7uGq.9kZ8

"ถ้าจะอธิบายง่ายๆ สังคมไทยกำลังถูกเปลี่ยนไปจากสังคมที่วิจารณ์กษัตริย์ไม่ได้ ไปเป็นสังคมที่วิจารณ์ตุ๊ดและเพลงวง K-Pop ไม่ได้แทน"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

192 Nameless Fanboi Posted ID:Bx/xUBxgCE

"ความน่าสงสารของ Gen X"
Gen X น่าสงสาร ตรงที่ Gen Y Gen Z กำลังจะแซงคุณแล้ว
ทั้งเรื่อง Digital ภาษา และอารมณ์

ถ้า Gen X อย่างคุณเป็นผู้บริหาร อย่าคิดว่าตัวเองฉลาด หัดฟังเด็กบ้าง ต้องฝึกและปรับตัวเองนะครับ

... มุมมองดีๆ
จาก ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ

👍อย่าลืมติดตาม Subscribe youtube channel : วรภัทร์ ภู่เจริญ
👍ติดตาม Facebook Page : https://web.facebook.com/woraphatFC

#จุดตะเกียงดีกว่าด่าความมืด
#BojjhangaFoundation
#FacilitatorAcademy

193 Nameless Fanboi Posted ID:IfAnn2X3s3

>>191 อย่าให้ไปถึงขั้น US เลยว่ะ นั่นก็อีกทางไปเลยทีเดียว

194 Nameless Fanboi Posted ID:Bx/xUBxgCE

เชื่อผม เลิกทำแล้วใช้เวลาพัฒนาตัวเองดีกว่าครับ เรียกร้องรัฐบาลให้ปฏิรูปการศึกษาดีกว่า ประโยชน์ต่อตนเองโดยตรงครับ

195 Nameless Fanboi Posted ID:Bx/xUBxgCE

การผลิตชุดความคิดบิดเบือนในหมุ่วัยรุ่นนับแสนนับล้านยังคงทำอย่างต่อเนื่อง ชุดความคิดที่ว่า "รัฐบาลอนุญาตให้ขายโคเคนได้ และในหลวงอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้"

(เนื้อหานี้จากเพจ The Matter และมีการยิงโฆษณาเข้ามือถือคนทั่วไปในวงกว้างด้วย)

ซึ่งถ้าไปอ่านในเพจใหญ่ๆ ที่เขาปั่นกัน ต้องบอกว่าวัยรุ่นเชื่อเรื่องพวกนี้กันหมด เพราะมันปั่นเป็นขบวนการโดยคนำจนวนมากและ Influencer หลายเพจ

ในขณะที่ภาครัฐยังไม่มีการออกมาชี้แจงรายละเอียดกฎกระทรวงดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหา (ขนาดกระตุกไปแล้วก็ยังเฉย) แต่กลับปล่อยไปเรื่อย และทำให้สถาบันฯ ถูกใส่ร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ
--------------------

อธิบายง่ายๆ ว่า

1. ปรับปรุงอะไร : ใช้ปฐมพยาบาลในเครื่องบิน + แยกเงื่อนไขจำหน่ายกับครอบครองออกจากกัน

2. เนื้อหาที่เขียนว่าใช้ในราชการ หรือการจำหน่ายและครอบครองโดยทางการแพทย์มันมีมาตั้งแต่แรกแล้ว (พ.ร.บ.ฉบับแรกสุดปีอะไร)

3. "เพื่อใช้ในประโยชน์ทางราชการ" ยกตัวอย่างมาสัก 10 อย่าง เช่น ฝึกสุนัขตำรวจ, จัดแสดงเพื่อให้ความรู้ด้านยาเสพติดของหน่วยงานราชการ ฯลฯ อะรไก็ว่ากันไปประชาชนที่ไม่เข้าใจ จะได้เข้าใจ

ทำแค่นี้มันยากมากหรือครับ?

ปล่อยให้ม็อบปลดแอกและขบวนการบิดเบือนกันมาเป็นสัปดาห์แล้ว ไม่คิดจะทำอะไรเลยหรือ?

#เรามีรัฐบาลไว้ทำไม

196 Nameless Fanboi Posted ID:ZSlrM+jBGX

ผมว่าเราคงต้องมาคุยเรื่อง Self-fulfilling prophecy (คำพยากรณ์ที่เป็นจริงด้วยตัวเอง)​ กันหน่อยแล้ว

สภาวะเศรษฐกิจขาขึ้น หมายถึงการที่เงินเปลี่ยนมือเร็ว เมื่อผู้คนจับจ่ายใช้สอยซื้อหาสินค้า เงินดังกล่าวก็จะไหลไปสู่ผู้ผลิตต้นทาง อาจนำไปสู่การจับจ่ายใช้สอยเพิ่มเติมหรือการจ้างงาน

แต่เมื่อคนส่วนใหญ่ในสังคมคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะแย่ในอนาคต สิ่งที่เกิดขึ้นคือกลุ่มคนเหล่านั้นจะเข้าสู่สภาวะ ‘รัดเข็มขัด’ ลดการใช้จ่ายและการลงทุนซึ่งทำให้เศรษฐกิจแย่ที่เคยเป็น ‘คำพยากรณ์’ ของคนส่วนใหญ่ก็จะกลายเป็นความจริง

ดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นของสาธารณชน เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญในการพยากรณ์ว่าอนาคตอันใกล้สภาวะเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร

ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องแสดงความเชื่อมั่น และพร่ำบอกซ้ำๆ ย้ำว่าเศรษฐกิจดี อนาคตสดใส เพื่อหวังให้คนส่วนใหญ่คล้อยตาม ดึงความเชื่อมั่นของคนในสังคมกลับคืนมา เมื่อคนส่วนใหญ่เชื่อว่าเศรษฐกิจดี สุดท้ายเศรษฐกิจมันก็จะดีเอง.

• ซิลวิโอ กีเซลล์ มองว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยมีสาเหตุมาจากคนส่วนใหญ่ที่มีเงินแต่ ‘กอด’ เอาไว้ไม่ยอมนำมาใช้
เขาเชื่อว่าเมื่อเงินไม่ถูกกักตุนและหมุนในระบบเศรษฐกิจอย่างที่ควรจะเป็น ปัญหาสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำย่อมไม่เกิดขึ้น

197 Nameless Fanboi Posted ID:IfAnn2X3s3

>>196 นึกถึงยุ่น พอ ศก. พังในยุค 90 คนก็เอาแต่เก็บเงินจน ศก.ฝืดถึงปัจจุบัน จะกี่รัฐบาลก็แก้ไม่ได้สักที

198 Nameless Fanboi Posted ID:eZJhXjz2Ox

ใครอยากเป็นเศรษฐี ฉันน่ะสิ ฉันน่ะสิ

วันก่อนครับ มีงานสำรวจอันนึงของนิตยสาร the sun เค้า โดยเค้าอยากรู้ว่าความยาวของจู๋กับรายได้มีความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกันยังไงนะครับ

เค้าก็เลยทำแบบสอบถามให้ผู้ชายชาวอังกฤษเข้ามาตอบกันครับ เกี่ยวกับรายได้ ความยาวจู๋ ความสุขในการทำงานไรเงี้ย ซึ่งมีคนมาร่วมในโปรเจคทนี้ประมาณ 1000 คนครับ ซึ่งผลที่ออกมานี่น่าสนใจดีเลยเอามาฝากกันนะครับ

ผลคือเค้าพบว่ารายได้หรือเงินเดือนเนี่ยแปรผกผันกับขนาดจู๋จริง ๆ นะครับ

คือพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่จู๋ยาว 3 นิ้วเนี่ยมีรายได้เฉลี่ยต่อปีมากสุดครับ ตกปีละประมาณ 2.4 ล้าน ในขณะที่คนที่ให้ข้อมูลว่า 7 นิ้วเนี่ยรายได้ต่อปีประมาณ 1.6 ล้าน และคนที่บอก 8 นิ้วรายได้ประมาณปีละ 1 ล้านบาทครับ (อันนี้เค้าเก็บข้อมูลจากประเทศอังกฤษนะครับ รายได้ต่อปีเลยดูเยอะ ๆ หน่อย ถ้าของไทยก็คงตัดศูนย์ออกไปตัวนึงครับเพราะการเมืองเราดี)

และอาชีพที่เค้าบอกไส้แห้งแต่จู๋ยาวสุดนี่ก็คือพวกศิลปินครับ มีสัดส่วนเป็นเจ้าของดุ้น 8 นิ้วเยอะสุด ส่วนพวกที่บอก 3 นิ้วนี่ส่วนใหญ่ใส่สูททำงานแบงค์ครับ คือสั้นแต่รวยมากกกก

ก็เป็นสถิติสนุก ๆ ที่เอามาเล่าให้ฟังนะครับ อย่าไปจริงจังมากเพราะกลุ่มตัวอย่างมันน้อย และตัวเลขก็ต่างคนต่างวัด ขนาดของไทยเองวัดกันแต่ละคนยังไม่เท่ากันเลย บางคนวัดซะกดไม้บรรทัดแทบหัก บางคนวัดจากไข่ บางคนวัดจากด้านข้างไรงี้ ค่าที่ได้มันก็ต่างกันเป็นนิ้วแล้ว ถามคนไทยบอก 7-8 นิ้วทุกคนแหละ ยอมกันได้ที่ไหน ดังนั้นอย่าไปซีเรียสครับ เปิดมาแล้วมีเท่าไหร่ใช้เท่านั้นนั่นแหละครับ

ว่าแต่เดี๋ยวขอตัวไปใช้คนละครึ่งก่อนนะครับ ช่วงนี้จนมากเลยครับ

199 Nameless Fanboi Posted ID:IfAnn2X3s3

>>198 ทำเป็นชาวกรีกไปได้ แหม่! ผู้ดีอันเล็ก เลยสร้างค่านิยมว่าคนดีต้องอันเล็ก ส่วนพวกอันใหญ่ๆ มันคนเถื่อนด้อยอารยธรรม

200 Nameless Fanboi Posted ID:eNGzJlNh6Y

>>195 ไม่เนียน ไปเรียนมาใหม่ เฮโรอีนมีประสิทธิภาพการออกฤทธิ์แค่4เท่าของมอร์ฟีน อนุพันธุฝิ่นตัวอื่นที่ดีกว่ามีเยอะแยะ มีเหตุอะไรต้องโอนจากประเภท1 มาประเภท2

201 Nameless Fanboi Posted ID:ZEdLM+vX1B

>>200
>>200
มีอนุพันธ์ฝิ่นตัวอื่นอีกเหรอวะ
ค่าใช้จ่ายในการสกัดเท่าไร

202 Nameless Fanboi Posted ID:ZEdLM+vX1B

>>200
https://www.bbc.com/thai/international-44603394

ทำไมไม่เหมือนที่มึงพิม

203 Nameless Fanboi Posted ID:IPwoAQWoW8

>>201 http://www.wmcares.org.uk/wp-content/uploads/opioid-equianalgesic-does-conversions.png

ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าชัดเจนก็เฟนตานิล องค์การเภสัชกรรมผลิตเองได้

204 Nameless Fanboi Posted ID:UANiY1PA.V

UKใช้เฮโรอีนเป็นยาสั่งแก้ปวดมานานแล้ว ในชื่อDiamorphine

ประเทศการเมืองดีนะเนี่ย

205 Nameless Fanboi Posted ID:VC013xtTyN

>>204 มอร์ฟีนก็เป็นยาสั่งแก้ปวดมานานแล้ว สั่งกลับบ้านได้ทั้งชนิดเม็ดชนิดน้ำ เฟนตานิลก็มี เพทิดีนก็มี เมทาโดนหรือออกซีโคโดนก็มีให้สั่งใช้

206 Nameless Fanboi Posted ID:dcLxcefDjA

ศิระพงษ์ ธิติพัฒนโชติ เป็นพวกล้มเจ้า
มันต้องการที่จะใช้กิโยติน

207 Nameless Fanboi Posted ID:SARJWmPmjh

สรุป RISE #Rethink ที่จดๆๆ ไว้ (แปะไว้ก่อน กำลังทยอยแก้คำผิดและเรียบเรียงนะคะๆ )
งาน Rethink คืออะไร??
>> เมื่อ RISE ชวนตัวจริงในวงการ Corporate Innovation มา Rethink กันสำหรับปี 2021 บอกเลยว่ามาจริงทุก Industries <<<

ขออนุญาต เก็บประเด็นจาก Audience-panelist Interactive discussion ซึ่ง Moderated by พี่จิน COO of RISE นั่นเอง! พร้อมกับแขกรับเชิญทั้ง 3 ท่าน พี่ธนา ARV, พี่ต้อง กวีวุฒิ SCB 10X และ พี่อาร์ท อภิรัตน์ SCG Digital Transformation

**คำถามแรก**
2020 ของคุณเป็นอย่างไรกันบ้าง

พี่ต้อง บอกว่า " SCB 10X เรา เป็น speedboat เรือลำเล็ก สร้างง่าย เลี้ยวง่าย failure, fail fast องค์กรยุคใหม่ ต้อง allow failure

พี่อาร์ท บอกว่า "Survive, รอดตาย แบบลีนขึ้น แปลว่าผอมลง แข็งแรงขึ้น
Thrive, เหมือน chef ที่มาเข้าใจว่าจริงๆ เรามีแค่ครัวและอยู่ใกล้ตลาด ขายผ่าน delivery ก็รวยและรอด
Awaken ถูกทำให้ตื่นยอมรับความจริง บางอย่างมันก็เป็น แค่ Status Quo ได้เวลา Reframe เรื่องต่างๆ เช่น ตอนนี้ขอจ้างคน work from where you are Covid บังคับให้เปลี่ยน Perception จากคนอยู่บ้านดูทีวี ไม่ทำงาน แต่ปรากฎกับคนอยุคนี้ตรงข้าม การ WFH กลายเป็ณีองค์กรไม่มี cost หลายอย่าง คนกลับบ้าน มีเวบาครอบครัว ลดปัญหาสังคม all win ถือว่าเป็นยาแรง"

พี่ต้องเสริม
"โลกเปลี่ยน ลูกค้าเปลี่ยน เราไม่มีทางรู้ต้องทำ experimentation
ของใหม่ไม่มี process ดังนั้น ต้องเน้น conduct experiment"

พี่อาร์ทตอบ
"มนุษย์ก็คือ corporate คือ พวกเรา หรือมนุษย์
การจะ transformation ต้องเน้นที่ เรื่องคน เรื่อง mindset
ธุรกิจเข้าสู่ zero to 1 ต้องมี mindset เปลี่ยนไป
เปลี่ยนจากเดิม zero to n ทำซ้ำๆแบบเดิมไม่ได้
"เรามองหาคนคิดเหมือนเจ้าของกิจการมาตีโจทย์ใหม่
องค์กรอยู่ไม่ได้ถ้ายังทำแบบเดิม คนที่ทำเรื่องใหม่ๆ ได้ ต้องมี passion ต้องมีความสุข ต้องเชื่อว่าฉันเปลี่ยนประเทศ เปลี่ยนโลกได้ มองเห็นในประกายตา"

"เราจะไม่ตกงาน แค่ออกจากงาน มันไม่ใช่ออกจากงานแล้วทำอะไรไม่ได้ แต่มันคือการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานใหม่ การออกจากที่ทำงานแล้วมีความสุขขึ้น ไม่มีคนตกงานจริง มีแต่จะตกจากงานที่ไม่จำเป็นใช้มนุษย์ทำ งานที่ใช้มนุษย์ทำมันจะต้องมีคุณค่า
เรามองหา passion ที่จะลงมือทำ เพราะที่น่ากลัวสุดสำหรับยุคนี้ คือ หลายคนไม่สามารถถูกจ้างได้ (unemployable) ไม่ใช่ การตกงาน unemployment

"คนที่ขาด skill ที่คุณน่าจะรู้แต่ไม่ยอมรู้ จะทำให้คุณ unemployable"

**คำถามสอง**
Skills Top 3 ที่สำหรับสำคัญ Corporate Innovation
(Audience ตอบ Communication, Leading Change, Creating Innovation, Designing Business และ Leveraging Technology ตามลำดับ)

พี่ธนา ARV บอกว่า "Design Business หรือ Entrepreneurship ต้องมี และต้องสามารถ creating innovation นวัตกรรมต้องต้องลงมือทำ ต้อง hands-on ตามมาด้วย communication for effectiveness เพราะจะช่วยทำให้หเกิด teamwork และช่วยสร้าง partnership วิธีเติมสกิล เหล่านี้คือ ให้ลงมือทำจริง ผู้ใหญ่ก็สามารถช่วยพัฒนาน้องๆ ขึ้นมา โดยให้โอกาส คิด ออกแบบ ทำงาน เบลนด์โอกาสเหล่านี้เข้าไปในงาน"

พี่ต้อง บอกว่า "Creating innovation โดยการเข้าไปอยู่ใกล้ลูกค้า ต้องรู้จักทดลอง MVP มีทักษะ Prototype สร้างของออกไปเทสให้เร็วที่สุด อย่างที่ SCB 10X ต้องเร็วกว่าแบงค์ปกติ 5 เท่า และเราไม่ต้องสอนน้องเลย ให้เชื่อว่าน้องทำเป็นอยู่แล้ว เราเปิดโอกาสให้คนที่ใช้ได้ทำอย่างถูกต้อง พี่ๆ ต้องเข้าใจและให้น้องทำ"

208 Nameless Fanboi Posted ID:SARJWmPmjh

>>207 หาน้องๆ มี passion ยุคนี้ต้อง สัมภาษณ์ยังไง คำถามเสริมจากพี่จิน พี่ต้องบอกว่า "ให้ดูว่าเขาอยู่ตรงไหนก่อน ไปหาเข้า แล้วชวนมา ให้ดูว่าทำงานได้ไหม คือ สกิล ต่อมาดูว่า เรียนรู้ได้ไหม พวกเทคโนโลยีมัน obsolete เร็วต้องเปลี่ยนใหม่ทุก ๆ cycle 6 เดือน องค์กรเขาซื้อเทคโนโลยีเข้ามากว่าจะได้ใช้ไม่ใช่ของที่ใหม่ที่สุดแล้ว แต่ของใหม่อยู่ใน community ต่อมาดูว่าน้องทำงานเป็นทีมได้ไหม ต้องเชื่อเรื่องทีม เชื่อไปถึงดวงดาว และเครื่องมือทำความรู้จักกันที่มีอยู่แล้วเป็น Prototyping ที่ดีคือ probation ให้น้องทดลองทำงาน มาทดลองทำงานและ set expectations กันเลยว่าทำได้ ไม่ได้"

พี่อาร์ท บอกว่า "SCG เป็น องค์กรที่มีมานานแล้ว เรามี core business คือ น้ำบ่อเดิม การหาคนมาลงน้ำบ่อเดิมเหมือนจ้างเรือเดินสมุทร ใช้สเปกเดิมทำงานเดิม ๆ ได้ แต่การจ้างคนหาน้ำบ่อใหม่ ใน Zero to One คือ ทีม Jet Ski จึงต้องจากที่ attitude แล้วค่อยเอามา train for skill เพราะทักษธการทำงานมันสอนกันได้ แต่ passion มันสอนกันไม่ได้

เราจึงเลือกที่ Empathy และ Creativity ส่วน Technology มันซื้อได้ แต่จะเอาไปทำอะไรล่ะ ส่วน Innovation ต้องมี Storytelling จึงจะ drive change ทำให้ Leading change ต้องมีคนที่ขี่รถนำ ยอมตายก่อน พร้อมลุยไปข้างหน้า นั่นคือ Communication

**คำถามสาม**
มุมมองแบบมองไปข้างหน้า หาโอกาสใหม่ ๆ แบบ Outside-in Innovation บ้างกับการนำ Startup มาแก้ปัญหาหรือทำงานร่วมกับ corporate

พี่ธนาบอกว่า "ไม่มีสูตรสำเร็จ การทำงานร่วมกัน เน้น collaboration ต้องทำงานทั้งสองฝั่งเพื่อหาความร่วมมือกัน"

พี่ต้อง บอกว่า "ให้ดูก่อนว่า pain ในองค์กรคืออะไร ให้ไปดูว่าพนักงานบ่นเรื่องอะไรกันบ้าง ปัญหาอะรไที่ "ทำไมเมื่อไหร่จะแก้สักที" ใครแก้ได้ก็ฮีโร่ไป แต่ถ้าแก้ไม่ได้ ลองเอาสตาร์ทอัพมาแก้ หา pain point และ prioritize ซึ่งวิธีการก็มีหลากหลาย เช่น venture capital fund เพื่อให้องค์กรเรามีสตาร์ทอัพ แต่เราจะทำงานกับเขาต้องเขาใจว่า startup ไม่มีฟอร์ม มีฟังชั่น ไม่มีคอนเท้น ถามตัวเองว่าทำไมองค์กรเราจะอยากจะได้ จากนั้นก็ไปฟังเขามากๆ ถ้าไปฟังสตาร์ทอัพก่อนก่อน ให้ curious ว่าอยากแก้อะไร ให้ benefit of the doubt

ที่สำคัญ คือ ให้เข้าใจว่าเขาไม่มีทางเข้าใจ context ขององค์กรเรา จงเอ็นดู และถาม อย่ามองว่าเขาเหมือนองค์กรเรา set of คำถาม และเขาไม่ใช่ลูกน้อง และอย่ามองว่าเขาเป็นเด็ก อย่ามองว่าเขามาขาย เขาเองก็กลัวองค์กรว่าอยากจะแก้ปัญหาจริง หรือ just another meeting แล้วจะใช้เวลาคุยกันน้อยมาก แล้วจะรู้เลย เข้าใจ และเปิดใจ ในสิ่งที่ startup ถนัด ก็ให้เขาทำไป

พี่อาร์ท บอกว่า "การใช้ start up ช่วยแก้ปัญหา ข้อดี ต้นทุนต่ำ พวกเขาทำเพราะมีแพสชั่น และมีความคล่องตัว แต่เขาไม่มี runway จึงต้องมา synergy กัน เพราะการหาน้ำบ่อใหม่สำหรับองค์กรใหญ่ ๆ เสี่ยงต่อ brand และหลุมพรางที่ต้องระวังที่จะเข้าไปร่วมงานกับสตาร์ทอัพ เรามองเขาเหมือน หน่วยใต้ดินจิงแล้วเขากลัวเรา เรากลัวโดนฆ่าทิ้ง เราต้องเข้าใจว่าพวกเขา อยากแก้ปัญหาเล็กๆ ที่ scalable สำหรับข้างในเราก็มี build startup ถ้าจะเป็นธุรกิจสตาทอัพข้างนอกเราหาจากการทำ open innovation และเอาเขามาช่วย สนับสนุนทักษะระหว่างกัน สำหรับองค์กรเราต้องอย่าไปเปลี่ยนเขา"

"ให้มองว่าเราเป็น corporate ถ้าเศรษฐกิจดี เศรษฐกิจแข็งแรง ปรชะาชนมีกำลังซื้อ มีความสุข พวกเราจะได้กันหมด แต่ตอนนี้มีหน่วยลับยิ่งกว่าใต้ดินอีก คือ maker club พวกเขาต้นทุนตำสุดและ passion นำเลย เป็นพวก R&D แบบเล่นเองทำเองทั้งวัน"

ก่อนจบขอแนะนำ trend ที่จะมา กลุ่ม Social, e-commerce, 5G
Al/Ml และ IoT disruption จะรุนแรง เพราะตอนนี้ทุกคนเริ่มโดน engage เข้าไปแล้ว IoT นี่จะมาสนับสนุน Human Interaction ไม่ต้องจับไม่ต้องสัมผัส ใช้เซนเตอร์ช่วย Automation ตอนนี้นักลงทุนพากัน invest ใน IoT เยอะมาก ลาก่อนยุคสร้างแอพพลิเคชั่น

สุดท้ายพี่อาร์ทจบที่ 2021 ขอเป็น Humble, Passionate และ
Fearless

ปล. อ่านมาถึงตรงนี้ แอบมาบอกว่า SCB10X และ SCG Zero to One are always hiring นะจ้ะะะะะะ

209 Nameless Fanboi Posted ID:OWQCsyDhnH

หลายๆ คนมองว่านี่คือม๊อบล้มเจ้า ปราบมันเลย มันไม่ใช่คนไทย
แม้จะแย้งว่าข้อเรียกร้องหนึ่งคือ Constitutional Monarchy – ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างแท้จริง แต่คนเหล่านี้ก็ยังกรีดร้องว่าพวกล้มเจ้าๆ ทุกคนที่ไปม๊อบนี้สนับสนุนการล้มเจ้า เพราะไอ้รุ้งไอ้เพนกวินมันพูดจาสามหาวจาบจ้วง
ขออนุญาตแลกเปลี่ยนสิ่งที่เรามองเห็น
แน่นอนว่าในกลุ่มคนรุ่นใหม่ (และรุ่นอื่นด้วยประปราย) มีคนที่ถ้าให้เลือกก็อยากได้การปกครองแบบสาธารณรัฐมากกว่า แต่อีกมากมายและอาจจะเป็นส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ ยังคงต้องการกษัตริย์ทำหน้าที่เป็นประมุขอย่างแท้จริง ยังต้องการประเพณีแห่เรือหงส์ ฯลฯ ข้อเสนอให้เป็น Constitutional Monarchy จึงเป็น compromise แล้วสำหรับคนที่ชอบแนวสาธารณรัฐมากกว่า
การพูดคุยถึงลักษณะการปกครองชีวิตทุกคนในประเทศร่วมกันทำไมจะเป็นเรื่องที่พูดไม่ได้ มันเป็นการทำลายชาติตรงไหนกัน?
เด็กที่โดยส่วนตัวใฝ่แนวสาธารณรัฐมากกว่า แต่ยังคงเลือกและยึดกับข้อเสนอ Constitutional Monarchy ไม่ได้ใช้มุมมองเอาแต่ใจตัวเอง พวกเขาประณีประนอมแล้ว เหตุใดเราจะไม่ใจกว้างพอที่จะรับฟัง เหตุใดเราไม่สามารถก้าวข้ามมารยาทที่ขัดใจเราบางอย่างได้ ยิ่งผลักไส เขาก็ยิ่งแรงเป็นธรรมดาใช่ไหม?
ที่สุดแล้วเราทุกคนต้องประนีประนอมเพราะไม่มีใครเป็นเจ้าของประเทศแต่เพียงผู้เดียวหรือกลุ่มเดียว
การชี้หน้าด่าล้มเจ้า ชังชาติ ทำลายชาติต่างหากที่เป็นความใจคับแคบ ใครคิดไม่เหมือนพวกคุณอยู่ในประเทศนี้ไม่ได้
นี่ไม่ใช่จิตใจของคนดีแน่นอน

210 Nameless Fanboi Posted ID:cMvJA21lJP

ถ้าศรียังอยู่เป็นเมีย ชีวิตเสี่ยไม่มีทางมาถึงจุดนี้แน่ๆ อันนี้ไม่ได้หมายถึงแค่ในแง่ศรีได้ใจ ปชช นะ แต่รวมถึงการเป็นเมียที่ผัวอยู่ด้วยแล้วดูมีความสุขอ่ะ เนี่ยตอนอยู่กะเบนซ์ กะศรี ดูเป็นผู้ชายที่มีความสุขกับชีวิตครอบครัวนะ เหอะ ไม่น่าโง่เลยจริงๆ

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

211 Nameless Fanboi Posted ID:OWQCsyDhnH

พูดกันมากว่าคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปแล้ว จะไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิม จะไม่กลับไปอนุรักษ์นิยมอีก อย่าเพิ่งมั่นใจจนกว่าจะชนะ และอย่าเพิ่งมั่นใจว่าจะชนะ หนทางการต่อสู้ยังอีกยาวไกล
ตัวอย่างที่ดีที่สุดของคนรุ่นใหม่ที่ตาสว่างแล้ว แต่กลายมาเป็นรอยัลลิสต์ก็คือ คนเดือนตุลา นี่แหละ
3 ปีหลัง 14 ตุลา แนวคิดสังคมนิยม-เสรีนิยมเบ่งบานในมหาวิทยาลัย และยังขยายไปสู่ขบวนการชาวนา-กรรมกร พวกเขาอ่านงานที่วิพากษ์ระบบศักดินา-ทุนนิยมไทยอย่างถึงรากถึงโคน ไม่ว่าจะเป็นงานของจิตร ภูมิศักดิ์ สรรนิพนธ์เหมา ลัทธิมาร์ซิสม์ วีรกรรมของนักปฏิวัติทั่วโลก หนังสือพิมพ์ “อธิปัตย์” ของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย นี่ซ้ายมาก วิพากษ์ศักดินาตรงไปตรงมา
จารีตประเพณีจำนวนไม่น้อยถูกตั้งคำถาม เครื่องแบบนักศึกษาถูกสลัดทิ้ง เกิดกลุ่มเฟมินิสต์ พุทธสายใหม่ ในมหาวิทยาลัย นักเรียนมัธยมเข้าร่วมกิจกรรมการเมืองแข็งขัน ฯลฯ ก็เช่นเดียวกับคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน พวกเขาต้องการเปลี่ยนโครงสร้างสังคมและวัฒนธรรมอย่างถอนรากถอนโคน ฝ่ายขวาจึงกลัวพวกเขาเหลือเกิน มันจึงนำไปสู่การสังหารหมู่ 6 ตุลา 2519
พ่ายแพ้จาก 6 ตุลา อกหักจากเผด็จการคอมมิวนิสต์ พวกเขากลายเป็นผู้แพ้ คนเดือนตุลาจำนวนไม่น้อยลุกขึ้นใหม่โดยยังสามารถรักษาจุดยืนประชาธิปไตยไว้ได้ แต่ก็ไม่น้อยกลายเป็น คนเดือนตุลารักษาพระองค์ (รอ.) ชาวนาไม่น้อยกลายเป็น พคท.รอ. ... หรือกรณีเร็วๆ นี้ แกนนำ นปช.ที่สร้างคำว่า “กระสุนพระราชทาน” ในเหตุการณ์ปี 2553 ก็ได้กลายเป็น นปช.รอ. ไปแล้ว
ตัวอย่างเสรีนิยมโดยคนรุ่นใหม่ที่ชนะก็มี แต่มันเกิดขึ้นในสังคมที่องค์กร-สถาบันหลักของสังคมทำหน้าที่ปกป้องกติกาประชาธิปไตยได้อย่างมั่นคง เช่น กรณีขบวนการต่อต้านสงครามเวียดนามในสหรัฐอเมริกาในยุค 60 ที่เป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมฮิปปี้ เฟมินิสต์ ปฏิวัติความสัมพันธ์ระหว่างเพศ วัฒนธรรมไม่ไว้วางใจอำนาจรัฐ ฯลฯ พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าสังคมอเมริกันไม่อนุรักษ์นิยม ในความเป็นจริง พวกอนุรักษ์ฯมีไม่น้อยไปกว่าพวกเสรีนิยมด้วยซ้ำ แต่เขามีระบบที่ทำให้คนคิดต่างไม่ลุกขึ้นมาฆ่ากันง่าย ๆ แบบไทย
สิ่งที่อยากพูดก็คือ ความพ่ายแพ้และผลประโยชน์สามารถกระทำกับคนได้สารพัดแบบ คนที่เคยตาสว่างแล้ว ก็อย่าคิดว่าจะกลับไปเป็นอนุรักษ์นิยมอีกไม่ได้ ก็ขนาดคนที่ไม่เคยแพ้ ตอนเป็นวัยรุ่นก็ดูเสรีนิยมดี แต่พอแก่ก็ยังกลายเป็นอนุรักษ์นิยมได้เลย
สิ่งสำคัญในขณะนี้คือ สู้อย่างไรไม่ให้แพ้ สู้อย่างไรที่จะขยายการสนับสนุนได้มากที่สุด ไม่สร้างความแปลกแยกให้คนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ไล่คนที่เชื่อเหมือนกันแต่เห็นต่างในวิธีการ ให้กลายเป็น “ตัวตลก” “พวกโลกสวย” ไม่ด่วนไล่คนที่ออกมาเตือน ให้ไปวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ แล้วเอาแต่เชียร์กันเองโดยไม่หันไปดูคนกลุ่มอื่น ๆ บ้าง พวกเดียวกันทำอะไรก็ถูก
หลายปีมานี้เราพูดถึง 6 ตุลากันมาก บทเรียนสำคัญที่เราต้องไม่ลืมคือ มันเกิดขึ้นในภาวะที่ชนชั้นกลางอยู่ในภาวะลงแดง หมดความอดทนกับการเคลื่อนไหวของนักศึกษากรรมกรชาวนา อยากบอกว่าคนไทยในปัจจุบันอนุรักษ์นิยมไม่น้อยไปกว่าเมื่อปี 2519 เลย พวกเขาอยู่กับโฆษณาชวนเชื่อมา 60-70 ปี จะให้ทิ้งไปทันทีได้อย่างไร ฉะนั้น อย่าดูเบาความน่ากลัวของพลังอนุรักษ์นิยมไทย

212 Nameless Fanboi Posted ID:cMvJA21lJP

การชุมนุมประท้วงคราวนี้ ออกจะแปลกและแตกต่างจากการประท้วงครั้งก่อนๆ ชัดเจน

อันแรกเลย คือมีการถือธงชาติของต่างประเทศ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในไทย เคยมีที่ฮ่องกง ที่ผู้ประท้วงถือธงชาติอังกฤษ อเมริกา ออกมาประท้วง

เรื่องที่สองคือ ถ้าประท้วงไล่รัฐบาล แก้รัฐธรรมนูญเรื่องสว ป่านนี้มีมวลชนสนับสนุนมาก และสำเร็จนานแล้ว แต่การประท้วงครั้งนี้ กลับชูประเด็นเปลี่ยนแปลงสถาบัน ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นการล้มล้างสถาบัน เพื่อไม่ให้จบเร็ว จบง่าย แต่ต้องการให้ประเด็นยืดเยื้อและรุนแรง

จนดูเหมือนว่า เป้าจริงคือ ปะทะกับสถาบัน เรื่องไล่รัฐบาลเป็นประเด็นบังหน้า
เพราะผู้วางแผนรู้ว่า ประเด็นสถาบัน สร้างความรุนแรงได้ง่าย

เรื่องที่สาม คือ แปลกที่ปกติผู้ชุมนุม จะไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรง แต่การประท้วงครั้งนี้ดูเหมือนแกนนำระดับหัวจริงๆ ต้องการให้เกิดความรุนแรง พยายามยั่วยุให้เกิดการปะทะ ต้องการให้มีคนเจ็บและตาย

เพื่อ เรียกมวลชน ให้คนเห็นใจและออกมาสนับสนุนมากขึ้น

เพื่อใช้เป็นเหตุอ้างให้ต่างชาติมีข้ออ้างเข้ามาแทรกแซงกดดันประเทศไทย เพราะรัฐบาลไม่ตามใจตามคำขอที่จะให้ไทยเป็นเป้าในความขัดแย้งระหว่างอเมริกากับจีน

แกนนำจึงพยายามสร้างสถานการณ์ให้เจ้าหน้าที่สลายการชุมนุม เพื่อให้มีคนเจ็บและตาย ตามที่ได้รับแผนและทุนมา

ผู้ชุมนุมที่ไปด้วยใจบริสุทธิ์ เลยตกเป็นเหยื่อ และเป็นเบี้ยของแกนนำที่ต้องเจ็บ

ฝ่ายรัฐก็รู้แผนนี้ พยายามที่จะไม่ใช้การสลายการชุมนุม จนสุดท้ายจึงต้องใช้การฉีดน้ำและแก๊สน้ำตา

การชุมนุมที่รัฐสภา เกิดเรื่องทุกครั้ง เพราะตำรวจต้องป้องกันรัฐสภา ในขณะที่แกนนำก็รู้และต้องฝ่าเข้าไปให้มีเรื่อง

ฝ่ายสีเหลืองก็รู้แผนนี้ ไม่ยอมออกมาปะทะ เพราะจะเข้าแผนของต่างชาติผ่านแกนนำ

แรกๆ แกนนำไม่อยากออกหน้า เพื่อสร้างภาพว่าการชุมนุมไม่มีแกนนำ เป็นการชุมนุมอิสระ (แต่มีการนำทางออนไลน์ในรูปแบบใหม่)

สองวันหลังที่รัฐสภาและราชประสงค์ชัดเจน เพราะถ้าแกนนำไม่ออกมา แผนจะไม่สำเร็จ เพราะมวลชนประท้วงเสร็จก็กลับบ้าน จนแกนนำและผู้สนับสนุนไม่พอใจว่าไม่อึด

ที่น่ากลัวและต้องระวังคือ ผู้วางแผนเบื้องหลังจะจัดคนมายิงผู้ประท้วงเสียเองแล้วป้านสีเจ้าหน้าที่ หรือฝ่ายเหลือง เพื่อสร้างสถานการณ์ ที่หน้ารัฐสภา ก็มีการใช้ปืนยิงและมีการแสดงปลอกกระสุน ซึ่งยังไม่รู้ว่าใครยิง

การประท้วงครั้งนี้ ผู้วางแผนและแนวทางมืออาชีพระดับ CIA ทีเดียว

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

213 Nameless Fanboi Posted ID:cMvJA21lJP

#หยุดคุกคามเทศกาลดนตรี

ตั้งแต่เริ่มฟังเพลงมาตั้งแต่เด็ก เชื่อมาตลอดว่า "ดนตรี" เป็นอะไรที่โครตเสรี ทุกคนมีอิสระในการเลือกที่จะชอบ เลือกที่จะฟังชอบเพลงแนวไหนก็ฟัง ชอบศิลปินวงไหนก็ติดตาม

จนถึงวัยทำงานที่มีโอกาสเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในเทศกาลดนตรีตั้งแต่ Fat Fest. จนถึง Cat Expo ซึ่งทุกครั้งทีมงานจะทุ่มเทกับการเตรียมงานล่วงหน้ากันหลายเดือน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์ที่สุด เพื่อให้ผู้ชมมีความสุขกับดนตรีและศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบมากที่สุด

แม้กระทั่งการจัดงานในปีนี้ ก็เชื่อว่าผู้จัดและทีมงานทุกคนก็ยังคงมุ่งมั่นในเจตนารมย์นี้เช่นเดิม

แต่น่าเสียดาย ... ที่มีศิลปินวงหนึ่งกลับดูถูกความตั้งใจของผู้จัดงาน ด้วยการนำเอาความขัดแย้งทางการเมืองในเวลานี้ ขึ้นมาเห่าหอนประกาศศักดาบนเวที โดยไม่สนใจว่าพื้นที่ที่ยืนอยู่ในเวลานั้นเป็นเวทีอะไร

สรุปง่ายๆคือ ศิลปินวงนั้นลักลอบพาแกนนำคณะราดอย่างรุ้ง , ไผ่ , แอมมี่เข้ามาในงาน ซึ่งถ้าเข้ามาในฐานะคนรักดนตรีแล้วทิ้งเรื่องการเมืองไว้นอกรั้ว ก็คงไม่มีใครไปปิดกั้น

แต่นี่กลับมีนอกคิว ประกาศเชิญขึ้นเวทีในช่วงท้ายโชว์ ... สะกดคำว่า " มารยาท " เป็นมั้ย?? ทั้งศิลปินวงนั้น และสามคนนี้

ไม่ใช่เฉพาะฝั่งนี้เท่านั้น ถ้าอีกฝั่งอย่างหมอวรงค์ , อุ๊ หฤทัย แอบมาขึ้นเวที ผู้จัดก็คงไม่รู้สึกยินดีเช่นกัน

อย่าลืมว่า ในพื้นที่ของผู้ชมนับหมื่นคน อาจมีทัศนคติทางการเมืองที่ต่างกัน แต่พวกเค้าเหล่านั้นมางานนี้เพราะรักในสิ่งเดียวกันนั่นคือ "ดนตรี"

และนี่คือเวทีแห่งความสวยงามของเสียงเพลง ไม่ใช่เวทีการเมืองที่ใครจะมาสร้างความแตกแยก

... กลับไปเรียน ป.1 กันใหม่ แล้วสะกดคำว่า "มารยาท" ให้เป็นด้วย ...

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

214 Nameless Fanboi Posted ID:uBD3UKgtgQ

ใครเคยบ่นเรื่องไทยมีการศึกษาและค่าเดินทางที่แพงกว่า ด้อยกว่ายุโรป หรือสวัสดิการและการรักษาพยาบาลแย่กว่ายุโรป หรืออยากให้ประเทศไทยเป็นรัฐสวัสดิการ โดยให้เบี้ยอะไรต่างๆ มากมาย … ยกมือขึ้น

👜 ของฟรี ไม่มีในโลก
…เมื่อตอนเด็กวัยประถม เดิน supermarket ระหว่างเลือกของ ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกแพคที่แถมชาม หรืออีกแพคที่ไม่แถมอะไร
มาม้าถามว่า “นุชจะเอาชามไปทำอะไร ที่บ้านมีเยอะแยะ”
เราถามกลับว่า “แล้วทำไมจะไม่เอาชามล่ะ ในเมื่อมันแถมฟรี”
มาม้าบอกว่า “ดูราคาสิ แพคที่มีชามมันแพงกว่า ของฟรีน่ะ ไม่มีในโลก ต่อให้ราคาเท่ากัน ของฟรีที่ไม่ได้ใช้ มันก็แค่เพิ่มขยะชิ้นนึง จะหิ้วให้หนักทำไม”

🐥 จำมาตลอดชีวิตเลยค่ะ
******

การให้สวัสดิการโดยภาครัฐที่ถูกต้องตามหลักการของเศรษฐศาสตร์นั้น คือ การให้สินค้าและบริการที่ไม่สามารถมีตลาดซื้อขายเกิดขึ้นหรือหากเอกชนเป็นผู้ผลิตสินค้าหรือให้บริการนั้นจะมีต้นทุนสูงจนไม่มีผู้ผลิตสินค้าหรือให้บริการนั้น (เรียกอีกอย่างว่าความล้มเหลวของตลาด)
เช่น การจัดให้มีหน่วยงานดูแลความปลอดภัยและสงบสุขของประเทศ แทนกรมตำรวจหรือหน่วยงานดับเพลิง (ที่คงไม่มีเอกชนที่ไหนให้บริการนี้) รวมถึงการโอนเอาค่าใช้จ่ายบางส่วนมาเป็นของรัฐ เช่น การให้ความช่วยเหลือในเรื่องของการดูแลเด็กเล็กระหว่างเวลาทำงานของผู้ปกครองและการให้ความดูแลคนชราหรือผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณ ไม่ว่าจะเป็นการลดราคาค่าโดยสารรถเมล์รถไฟในประเทศสหราชอาณาจักร การให้บริการรักษาพยาบาลโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย (เช่นค่าหมอ) ในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป และการให้ที่พักอาศัยชั่วคราวแก่ผู้ไม่มีที่อยู่อาศัย
******

แน่นอนว่ามีค่าใช้จ่าย ก็ต้องมีเงินเพื่อใช้จ่าย
หลายคนคงสงสัยว่าเงินที่นำไปใช้จ่ายในนโยบายเหล่านี้หากนักการเมืองได้เป็นรัฐบาลล่ะ มาจากไหน บางคนอาจคิดว่า “ก็รัฐบาลจ่ายให้เราไง” แต่ในความเป็นจริงแล้ว ของฟรีไม่มีในโลก คนที่จ่ายคือ ผู้เสียภาษี
รัฐบาลหรือหน่วยงานราชการเป็นแค่องค์กร อาศัยคนเป็นผู้ให้บริการและจัดให้มีสวัสดิการ คน (ข้าราชการ เจ้าหน้าทีรัฐ พนักงานของรัฐ) ก็คือแรงงาน แรงงานต้องได้รับค่าจ้าง แต่เงินที่จะมาจ่ายค่าจ้างแรงงานนี้รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นในการจัดให้มีสวัสดิการต่างๆ นั้นมาจากเงินที่รัฐมีอยู่และได้มา
รายรับของรัฐบาลแบ่งเป็น (1) รายรับจากเงินที่กู้ยืมมา และ (2) รายได้ที่มาจากเงินภาษีและเงินที่เกิดจากสินทรัพย์ของรัฐ
หากรัฐกู้ยืมเงินมาไม่ว่าจะเป็นการกู้โดยตรงจากสถาบันใดสถาบันหนึ่งหรือออกพันธบัตรเพื่อระดมเงินทุนมาใช้จ่ายในการให้สวัสดิการแก่ประชาชน ย่อมต้องมีการจ่ายคืนทั้งต้นและดอกเบี้ย
นั่นก็หมายความว่าไม่ว่าจะเป็นนโยบายสร้างรัฐสวัสดิการหรือเป็นแค่นโยบายแจกเงิน เงินที่ใช้ไปก็คือภาษีจากประชาชน … ของฟรี ไม่มีในโลก
***

215 Nameless Fanboi Posted ID:uBD3UKgtgQ

❓แล้วเงินใช้จ่ายสำหรับรัฐสวัสดิการในต่างประเทศล่ะ มาจากไหน
ในต่างประเทศนั้น มีการให้สวัสดิการสังคม (social welfare) ที่ครอบคลุมแตกต่างกัน เช่นการลดหย่อนภาษีแก่ครอบครัวที่มีบุตรธิดา การให้เงินช่วยเหลือรายเดือนแก่ผู้ตกงาน ในรูปแบบของรัฐสวัสดิการที่แตกต่างกันไปนี้ แต่ละประเทศก็หาเงินมาจ่ายสวัสดิการสังคมที่รัฐเป็นผู้จัดหาให้แตกต่างกันไปเช่นกัน

🖍ในฝรั่งเศสและเดนมาร์กนั้น รัฐให้สวัสดิการมากมายครอบคลุมชีวิตประจำวันของประชาชนแทบทุกด้าน แต่ก็แลกมาด้วยการเก็บภาษีในอัตราภาษีที่สูง โดยรายได้ภาษีนั้นสูงกว่าร้อยละ 45 ของผลผลิตมวลรวมของประเทศ

🖍ประเทศเดนมาร์ก แทบจะไม่เก็บภาษีจากคนเกษียณอายุ คนพิการ หรือพวกองค์กรเพื่อสังคมค่ะ ในขณะที่นิวซีแลนด์ไม่เก็บภาษีจากกลุ่มนี้เลย โดยทั้ง 2 ประเทศเก็บภาษีจากผู้มีรายได้และธุรกิจสูงมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จนทำให้รายได้จากภาษีเงินได้ของเดนมาร์กและนิวซีแลนด์สูงกว่าร้อยละ 50 ของรายได้รัฐทั้งหมด

216 Nameless Fanboi Posted ID:uBD3UKgtgQ

📕งานวิจัยชิ้นหนึ่งโดย SensAge ได้แบ่งรัฐสวัสดิการของกลุ่มประเทศยุโรปไว้เป็น 5 แบบ โดยแต่ละแบบมีการจัดหาแหล่งเงินที่ใช้จ่ายในการให้สวัสดิการสังคม (social welfare) แตกต่างกัน

1. รูปแบบนอร์ดิก ใช้เงินจากภาษีส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นมาใช้จ่ายในการให้สวัสดิการ โดยใช้หลักการของการกระจายรายได้ คือเก็บภาษีรายได้สูงเพื่อนำไปจัดให้สวัสดิการแก่ประชาชนทุกกลุ่มเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันทั้งในเรื่องการเข้าถึงบริการโดยภาครัฐ การศึกษา และการดูแลรักษาพยาบาล (การหาหมอหรือใช้บริการโรงพยาบาลฟรีในเดนมาร์ก) เรียกได้ว่าในเกือบทุกด้านของชีวิตประจำวัน ประเทศที่ใช้รูปแบบนี้ ได้แก่ประเทศ Norway, Sweden, Finland, Denmark, และ Netherlands กลุ่มนี้มีการเก็บภาษีรายได้ในอัตราที่สูงมากที่สุดในยุโรปก็ว่าได้

2. แบบแองโกลแซกซอน (Anglo-Saxon) ที่ใช้ใน United Kingdom และ Ireland นั้น เงินที่ใช้ก็ยังคงมาจากประชาชน โดยเป็นสวัสดิการแบบผสม คือในกลุ่มคนชั้นกลาง (ผู้ใช้แรงงานหรือมีรายได้) จะเป็นสวัสดิการที่จัดหาโดยรัฐและองค์กรร่วมกัน ที่เรียกว่าประกันสังคม ทั้ง (1) ผู้ได้รับสวัสดิการ (ซึ่งก็คือผู้มีรายได้) (2) องค์กรต้นสังกัดของผู้ได้รับสวัสดิการและ (3) รัฐร่วมกันรับผิดชอบจ่ายเงินเข้ากองทุนนี้ แต่ในกลุ่มคนชั้นล่างจะเป็นสวัสดิการที่จัดหาโดยรัฐซึ่งก็คือมาจากภาษีที่เก็บจากผู้มีรายได้ล้วนๆ เพื่อหวังผลให้เกิดการกระจายรายได้

3. แบบคอนติเนนทัล หรือเรียกว่า Bismarck ซึ่งเป็นการบังคับจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคม ประเทศที่ใช้แบบนี้ คือ Austria, France, Germany, Belgium และLuxembourg เช่น ในเยอรมัน รัฐส่งเงินเข้ากองทุนสำหรับการให้ความดูแลรักษาสุขภาพ (Healthcare) ร้อยละ 21 แปลว่าเป็นเงินที่ใช้จ่ายในสวัสดิการสังคมมาจากภาษี 21%

4. แบบเมดิเตอเรเนียน ซึ่งใช้ในประเทศ Italy, Spain, Greece, Portugal และ Turkey ใช้หลักการที่ว่าครอบครัวมีหน้าที่ดูแลสมาชิกในครอบครัว แม้จะมี public healthcare แต่ภาครัฐมีส่วนร่วมในเงินที่จ่ายในการให้สวัสดิการน้อยกว่าแบบที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด จะเห็นได้ว่าในประเทศกลุ่มนี้เก็บภาษีจากผู้มีรายได้ในอัตราที่ต่ำกว่าทั้ง 3 กลุ่มข้างต้น

5. แบบยุโรปกลางและตะวันออก กลุ่มประเทศยุโรปกลางและตะวันออก เช่น Hungary, Poland, Czech Republic และ Slovenia เคยเป็นประเทศที่เป็นสังคมนิยม แต่กลับมีการยกเลิกการให้สวัสดิการสังคมในหลายๆ ด้าน มีการตั้งกองทุนต่างๆ แยกกันตามประเภทสวัสดิการ เงินที่เอาเข้ากองทุนคือภาษี และเงินปันจ่ายจากผู้มีงานทำ รูปแบบนี้เป็นผสมผสานทำให้กลุ่มนี้มีการเก็บภาษีจากผู้มีรายได้ในอัตราภาษีต่ำกว่าประเทศที่ใช้รูปแบบอื่นทั้ง 4 รูปแบบข้างต้น ขณะเดียวกันก็ยังคงเก็บภาษีในกลุ่มผู้ด้อยโอกาสหรือมีรายได้ต่ำด้วย

📌เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการให้สวัสดิการสังคมนั้นมาจากภาษี ในภาวะที่เก็บภาษีได้น้อยก็ย่อมเกิดปัญหาตามมา เช่น ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ภาครัฐขาดดุล จนต้องตัดค่าใช้จ่ายสวัสดิการต่างๆ ส่งผลให้เกิดการประท้วงจากทั้งกลุ่มแพทย์ กลุ่มนักศีกษา กลุ่มแรงงาน ในหลายๆ ประเทศ การแบ่งภาระระหว่างประชาชนและรัฐให้มีความสมดุลมากขึ้นอาจเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่า

การจะใช้นโยบายรัฐสวัสดิการหรือว่านโยบายประชานิยม ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงิน ดังนั้นพรรคการเมืองในต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรป เวลาเสนอนโยบายใช้เงิน จะบอกแก่ประชาชนด้วยเช่นกันว่าแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้เพิ่มขึ้นนั้นมาจากไหน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนของนโยบาย และเพื่อให้ประชาชนเห็นถึงความเป็นไปได้และความยั่งยืนของนโยบายใช้เงินที่ทางพรรคเสนอมา เพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้อง

🧮 ถ้าเราอยากได้ชีวิตแบบยุโรป ของถูก (ที่ต้องจ่ายอย่างอื่นแพง) ของดี (ที่ไม่ได้ดีเสมอไป) ของฟรี (ที่ไม่มีอยู่จริง) ก็ดีดลูกคิดก่อนค่ะ ว่าพร้อมจะเสียภาษีรายได้และประกันสังคมที่แพงขึ้นมั้ย

ก่อนจะบอกว่าพร้อมจ่ายมากขึ้นถ้ามีสวัสดิการดีจริง ลองคำนวณดูก่อนนะคะว่าทุกวันนี้คุณจ่ายภาษีดอกเบี้ยครบมั้ย คุณเคยพยายามจะทำทุกทางเพื่อให้ได้ลดหย่อนภาษี ได้ภาษีคืนหรือแอบเอาของเข้าประเทศโดยไม่เสียภาษีรึป่าว คุณจ่ายภาษีอยู่เท่าไหร่เมื่อเทียบกับรายได้ที่หามาได้ และลองคิดดูว่ามีกี่ครั้งที่มีการประกาศเก็บภาษีเพิ่มแล้วคุณไม่โวยวายแต่พร้อมควักกระเป๋าจ่ายทันที

Credit figures from OECD, https://www.taxpolicycenter.org/,
Our world in data, Tax Foundation

217 Nameless Fanboi Posted ID:LPDab6MXib

>>216 ถึงว่าประเทศเขาคนเขาถึงได้โวยหนัก เวลาราชวงศ์เอาภาษีไปใช้ฟุ่มเฟือยไม่ก่อประโยชน์ต่อสังคม

218 Nameless Fanboi Posted ID:bNzSNJwKUU

>>210 อย่างน้อยสุดถ้าศรียังเป็นเมียคงไม่มีภาพท๊อปครอปให้เห็น มีแต่คลิปริมสระก็แย่พอแล้ว

219 Nameless Fanboi Posted ID:wjOnmRSnEG

>>216 เยอรมันที่คนอวยๆกัน แม่งก็ไม่ได้สวัสดิการดีเท่าไหร่ เรื่องรักษาพยาบาลนี่ไม่ฟรีเพราะรัฐบังคับให้มึงซื้อประกันแล้วประกันเป็นคนจ่าย เรื่องเกษียญนี่ยิ่งเหี้ยใหญ่ เพราะเด็กเกิดใหม่น้อยตอนนี้เลยมีเรื่องคำนวณรายได้กันว่าถ้าเงินเดือนมึงเกินเกณฑ์จะไม่ได้บำนาญรัฐ

สงสัยว่าคนที่อวยๆระบบไอ้หรั่งนี่เคยมาสัมผัสเองไหม ไม่มีเลิศเลอเมจิคัลแบบที่อวยกัน

แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไทย

220 Nameless Fanboi Posted ID:h6w3v/VkZs

>>219 ‘แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไทย’
จริงๆคนไทยไม่ต้องการอะไรมากหรอก แค่ต้องการสิ่งที่มันแย่น้อยลง ลองเสดกิจดีแบบจริงๆดิ ม็อบหาย

221 Nameless Fanboi Posted ID:TXmOv0.4Oc

>>220 ถ้าไม่มีโควิด ม็อบจะลากยาวได้แค่ไหนวะ เพราะ ศก. ถึงจะไม่ดีแต่ก็ไม่ดิ่งขนาดนี้

222 Nameless Fanboi Posted ID:6lkUYbN+dv

>>219 เอาจริงๆ แค่แก้ให้คนขายแบกะดินได้อย่างเสรี คนก็ไม่ประท้วงแล้ว รัฐทำอะไรงี่เง่าจริงๆ ขัดขวางการทำมาหากินของชนชั้นล่างเนี่ย

223 Nameless Fanboi Posted ID:.mgbOO5oD6

>>222 ไม่ต้องถึงกับเสรีก็ได้ แต่ต้องยอมรับการทำมาหากินรูปแบบนี้ ขนาด LA อเมริกา แม่งยังแก้ กม. ให้ยอมรับเลย (แต่ก่อนไล่กวาดล้างอย่างเดียว ลดลงมาเหลือจัดระเบียบแทน อะไรขายได้ไม่ได้ตรงไหน ขนาดร้านเท่าไร อันนี้ตลกร้ายมากนะ พรบ.รักษาความสะอาดของเราแม่งก้าวหน้ากว่า LA อีก ออกมาตั้งกะปี 35 ให้ทำจุดผ่อนผันได้ แต่ทัศนคติตู่กับผู้บริหาร กทม. ไม่ยอมรับ) อีกอันก็ป่าชุมชน พวกที่ดินแปลงใหญ่อะมาถูกทางละเพราะจะได้ขายไม่ได้ กรรมสิทธิ์ยังเป็นของรัฐ แต่ปัญหาคือรัฐยุคตู่ไม่ยอมรับการให้โอกาสพิสูจน์สิทธิชุมชนที่อยู่ตามแนวป่า-อุทยาน ว่าอยู่มานานแค่ไหนแล้ว จะไล่อย่างเดียว

คือตอนนี้ Trend การทำงานแม่งเปลี่ยนละไง คนมีแนวโน้มจะออกไปเป็นอาชีพอิสระมากขึ้น งานโรงงานมันน้อยลงกว่าช่วง 20-30 ปีก่อนเพราะผู้ประกอบการเขาจะเอาเทคโนโลยีมาแทนคนเรื่อยๆ แล้วไทยนี่ยังบวกสังคมคนแก่อีก อาชีพพื้นฐาน 2 อันบนเนี่ย คนวัย 40+ ทำกันเยอะเพราะไม่ต้องใช้ความรู้สูงนัก แล้วพอพวกนี้มีงานทำ มีรายได้ ก็ไม่ต้องเดือดร้อนลูกหลานมากนักที่ต้องมาอุ้ม พอตู่และคณะไปกวาดล้าง วัยกลางคน-ชรา รายได้หาย ก็ต้องมาพึ่งคนหนุ่มมากขึ้น คนหนุ่มที่กำลังเริ่มทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็เดือดสิ ผลก็เลยออกมาเป็นม็อบนี่ละ

224 Nameless Fanboi Posted ID:Vmga0U0Muj

การศึกษาไทยไม่ได้แย่มากมาย ที่มันแย่เพราะครูบางคนต่างหาก แล้วก็การที่หาสิ่งที่ชอบไม่เจอ บางทีไม่ควรโทษระบบการศึกษา แต่ให้ลองคิดดูดีกว่าว่าได้ทำอะไรไปบ้าง คำว่าไม่มีเวลาหาตัวเองเลยนี่ส่วนใหญ่เป็นข้ออ้าง ช่วงปิดเทอมเอาไปทำอะไรล่ะ นอนอยู่บ้านเหรอ ลองถามตัวเองจริงๆ ว่านอกจากนอนเล่นแล้ว ได้ออกไปข้างนอกหาสิ่งที่อยากทำบ้างมั้ย บางทีแค่ไปเที่ยวห้างอาจจะเจอนิทรรศการเปลี่ยนโลกก็ได้ ได้ไปบ้างรึเปล่าล่ะ

225 Nameless Fanboi Posted ID:wZZyYkezO8

>>224 ถามตัวเองว่าที่เรียนมาแต่เด็กมีวิชาไหนที่ยังเอามาใช้ในชีวิตอยู่บ้าง

226 Nameless Fanboi Posted ID:Vmga0U0Muj

>>225 ก็ใช้บางอัน คิดเลข วาดรูป ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น วิชาการงาน การเย็บผ้า ทำอาหาร แกะสลัก ลูกเสือเรียนผูกเชือกกับหุงข้าว เผลอๆ ทำอาหารได้หน่อย วิชาชีวะกูเอาไว้ดูของเวลาซื้อพวกของบำรุง สกินแคร์ ว่าอันไหนมีสรรพคุณจริงๆ อะไรบ้าง วิชาเคมีก็สารต่างๆ บางอย่างห้ามผสมกัน มันระเบิดนะ มันมีฟองแก๊สนะ รู้ว่าน้ำมันดิบมีกระบวนการมาจากไหนด้วย วิชาพละทำให้กูเล่นกีฬาเป็นด้วย โคตรเจ๋ง วิชาคอมทำให้กูเขียนโค้ดพื้นฐานกับใช้โฟโต้ชอปและโปรแกรมหลายอย่างเป็นด้วย สุดยอดชิบหาย และที่ว่ามาคือที่กูใช้ ที่เหลือกูไม่ใช้เท่าไหร่ อาจจะมีวิชาคณิตวิทย์ส่วนม.ต้นบ้างที่กูเก็บไว้สอนลูกในอนาคตของกู

227 Nameless Fanboi Posted ID:tbW2Yzx3C+

>>225 ต้องถามว่ามีอะไรไม่ใช้มากกว่า

228 Nameless Fanboi Posted ID:Vmga0U0Muj

>>227 ไม่ใช้เหรอ คงเป็นฟิสิกส์มั้ง กูไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แล้วไม่คิดจะไปด้านเกี่ยวกับฟิสิกส์ด้วย น่าจะมีแค่นั้น เพราะจริงๆ กูใช้หมดเลย กูเป็นพวกเรียนเพื่อเอาสิ่งที่อยากรู้ อันไหนไม่อยาก กูก็แค่ทิ้ง ทิ้งที่แปลว่าทิ้งจริงๆ สอบก็ยังทำไม่ได้

229 Nameless Fanboi Posted ID:Vmga0U0Muj

>>228 แล้วเราก็ชอบวรรณกรรมไทยมาก อ่านเพลินดี แล้วมันเป็นแนวทางในการแต่งนิยายกับวาดรูปของเราด้วย

230 Nameless Fanboi Posted ID:eRJvkaufSA

>>227 เลขนี่เยอะเลยที่คนธรรมดาไม่ใช่
เช่น ตรีโกน และ เลขสมัย ม.ปลาย ยกเว้น ตรรกศาสตร์
ส่วนใหญ่ แค่ +-*/ กุว่าเพียงพอแล้ว

231 Nameless Fanboi Posted ID:Vmga0U0Muj

>>230 แต่เขาก็ต้องสอนแหละ เผื่อมีเด็กแบบว่าพลิกอยากไปเรียนวิทย์คณิตตอนมหาลัยดื้อๆ บางคนมาเจอตัวเองตอนม.6 แก้ตัวแทบไม่ทัน ครูเขาอยากให้อารมณ์ประมาณว่า เออ กูสอนพื้นฐานมึงไปแล้วน่า มึงทำได้แน่นอน พยายามเข้า มันมีครูที่เรียนโทเรียนเอกบางคนเล่าชีวิตอันน่าประทับใจว่าอยากเรียนคณิตตอนม.6 ตั้งใจเรียนปีสุดท้ายของม.ปลาย สอบเข้ามหาลัยจบออกมาใช้วิชานี้ด้วยการเป็นครู 555555

232 Nameless Fanboi Posted ID:lnsVYErB83

>>228 >>229 >>230 อ่ะ งั้นคำถามต่อมา วิชาที่พวกมึงคิดว่าไม่สำคัญมันอยู่ ม ปลายทั้งนั้น แล้วทำไมพวกมึงไม่เลือกเรียนสายอาชีพกัน

233 Nameless Fanboi Posted ID:nXF+KJ4xP0

ต้องเปลี่ยนค่านิยมเรื่องสายสามัญ-สายอาชีพ นะกูว่า
ปัจจุบันเรียนเกินใช้ไปถึงมหาลัยนั่นแหละ เรียนเอาวุฒิ ไม่ได้เรียนไปใช้งาน
สายอาชีพปวช ปวส เป็นพวกรากหญ้าชั้นล่างเรียน เรียนไปไม่เจริญเท่าสายสามัญต่อมหาลัย
จัดการปัญหาไอ้พวกนักเลงสายเทคนิคให้ได้ด้วย คนจะไม่ไปเรียนเพราะพวกนี้

234 Nameless Fanboi Posted ID:Vmga0U0Muj

>>232 เอ้า มึง กูใช้ชีวะกับเคมีนะ คือที่เข้าไปเรียนเพราะว่า อยากได้วิชาบางอัน แต่บางอันไม่อยากได้ คือที่ไม่อยากได้มันน้อยกว่า กูต้องเลือกอันที่กูอยากเรียนมากกว่าแล้วไปเรียนดิ อันที่ไม่อยากได้ก็แค่วิชาเดียว กูทิ้งได้อ่า สายอาชีพเน้นใช้จริงในการทำงานที่กูไม่ได้ใช้เลยนี่ แต่กูว่าบางคนที่ไม่ไปเรียนอาชีพคือโดนกรอกหูมาว่าวิชาสามัญมันจำเป็นกว่าสายอาชีพมั้ง

235 Nameless Fanboi Posted ID:.mgbOO5oD6

>>233 ถ้าไม่แก้ค่านิยมว่าบางอาชีพเป็นชนชั้นสูงพิเศษ เป็นแล้วมีออร่ารอบตัว มันก็แก้ค่านิยมบ้าปริญญาไม่ได้หรอก ชนชั้นล่างถ้าได้เป็นอาชีพพวกนี้ก็กลายเป็นอภิสิทธิ์ชนเท้าลอยจากพื้นเหมือนกันนะมึง

236 Nameless Fanboi Posted ID:gJGs1HBnY2

อันนี้โพสต์บ่น

ไหนๆก็พูดเรื่องรถไฟญี่ปุ่นแล้ว
ผมจะมาขอต่ออีกเรื่องนะครับว่า

นอกเหนือไปจากค่าตั๋วแล้ว
การรถไฟของญี่ปุ่นเขาอยู่กันได้เพราะอะไร

....
...
..
.

.......... เอาที่ดินรอบๆสถานีมาเปิดเป็นโซนร้านค้าครับ

-------------------------

ผมไม่ใช้คำว่าประเทศที่เจริญแล้วให้แสลงหูใครบางคน
แต่ขอใช้คำว่า "ประเทศที่ระบบการรถไฟในเมืองใหญ่เจริญ" ละกันนะครับ

ประเทศที่ระบบการรถไฟในเมืองใหญ่เจริญนั้น
ผู้คนจะเดินทางโดยขนส่งสาธารณะมากกว่าการใช้รถส่วนตัว

........ เพราะมันสะดวกและถูกกว่าการจะต้องมาหาและจ่ายค่าที่จอดรถ

พื้นที่รอบๆสถานีหลัก
เลยเป็นจุดที่มีผู้คนเดินทางผ่านกันอย่างหนาแน่นไปโดยปริยาย

แล้วเวลาที่เขาออกแบบสถานี
เขาจะออกแบบให้ผู้คนจะต้องเดินผ่านโซนร้านค้าอย่างเลี่ยงไม่ได้

ทำให้มีการค้าขายเพิ่มการไหลเวียนของเศรฐกิจ
และสถานีรถไฟเองก็มีค่ามากกว่า
ที่ๆมีไว้เพื่อเป็นทางผ่านอย่างเดียว

--------------

เช่นภาพที่ผมเอามานี้
มาจากโซนใต้ดินของสถานี Ikebukuro
ซึ่งบริหารจัดการโดยบริษัท Metro Properties

ซึ่ง Metro Properties นั้น
ถือหุ้น 100% โดยการรถไฟใต้ดิน หรือ Tokyo Metro

และ Tokyo Metro ก็ถือหุ้นโดยรัฐมนตรีการคลังและที่ว่าการจังหวัดอีกที

เป็นการออกแบบโดยภาครัฐเพื่อส่งเสริมธุรกิจครับ

---------------------------

คำถาม ........... เราเดินผ่านอะไรเวลาเดินทางไป BTS หรือ MRT?

ถ้าเอาที่ผมใช้บ่อยๆก็จะมี BTS สนามกีฬาไป MBK
BTS สยามไป Siam Paragon กับ Central World
MRT พหลโยธินไป Central ลาดพร้าว
MRT พระรามเก้าไป Fortune

.......... ซึ่ง ......... ในระหว่างทางนะ
มันไม่ได้จำเป็นจะต้องเดินผ่านโซนร้านค้าอะไรเลย

ถ้าจะให้เจาะจง
มันจะมีพวกร้านติดถนนใหญ่ที่เราจะเข้าไปแบบมีจุดประสงค์
มันไม่ใช่ร้านจำพวกที่ว่าเราเดินผ่าน
แล้วแวะพักทานของหรือแวะซื้อของกัน

ผลที่ได้ก็คือ
ถ้าผมจะไปห้างพวกนั้น นอกจากค่าตั๋วรถไฟแล้ว
คนที่ได้เงินผมไป ........ มันก็มีแต่ร้านค้าในห้าง

...... มันไม่ได้ต่างอะไรกับกรณีที่ผมจะขับรถไปเอง

---------------------

คือพวกห้างที่เขามีเงินกันอยู่แล้ว
เขามีรายได้เพราะห้างนั้นเป็นจุดประสงค์หลักในการเดินทาง
แล้วเขาก็มีรายได้เพิ่ม
เพราะสถานีรถไฟมันติดอยู่กับเขา

แต่ถ้ามันมีโซนร้านค้าที่อยู่กันระหว่างนั้น
มันจะเป็นตัวกระตุ้นเศรฐกิจให้ไหลเวียนดีขึ้นกว่าเดิม
เพราะมีที่ให้ร้านค้าที่กลุ่มอยู่นอกนโยบายห้างมาเปิด
บนพื้นที่ทำเลดีได้

และ BTS เองก็มีรายได้เพิ่มขึ้น
โดยไม่ต้องเพิ่มค่าตั๋ว

------------------------------

แล้วขอความกรุณาอย่าเรียก
พวกร้าน 4-5 ร้านบนสถานีว่าเป็น"โซนร้านค้า" เลยนะครับ
มันไม่มากพอจะเรียก

และมันตั้งอยู่ในจุดที่แคบแออัดเกิน
ไม่ใช่จุดที่เราจะไปยืนเข้าไปแวะซื้อของได้อย่างสบายใจ

แล้ว MRT พหลโยธินนี่
พื้นที่ด้านในก็ออกจะกว้าง มีจุดที่เป็นโซนร้านค้าอยู่
แต่ดันออกแบบให้เดินตรงไปขึ้นรถไฟได้โดยไม่ต้องเดินผ่าน

โคตรจะเสียดายพื้นที่

-------------------------------

และ BTS สยาม นะ
มันควรจะตั้งเป็นสถานีใหญ่ลงมาใน Siam Square
ให้มีโซนร้านค้าของตัวเอง
แล้วทางขึ้นอยู่ตรงแถวซอยจุฬา 64

ทำให้คนที่จะไป Siam Paragon หรือ Central World
จะต้องเดินผ่านโซนนี้โดยปริยาย

และพอเป็นสถานีใหญ่แล้ว
มันจะเป็น hub สำหรับต่อ MRT สายใหม่ได้ด้วยครับ
https://www.metro-pro.jp/enterprise/commerce/echika_ikebukuro/

237 Nameless Fanboi Posted ID:eRJvkaufSA

>>232 อยากเรียนวิศวะ มันมีจบม.ต้นแล้วไปต่อเลยหรือเปล่า
สมัยกุเรียนยังไม่มีนะถ้าสมัยนี้มีแล้วบอกที

238 Nameless Fanboi Posted ID:Vmga0U0Muj

>>237 ยังไม่มีนะ ต้องเรียนสามัญแล้วไปต่อเหมือนเดิม ไม่ก็เรียนช่างแล้วไปต่อมหาลัยเหมือนกัน ง่ายๆ ก็ต้องเข้ามหาลัยอยู่ดี

239 Nameless Fanboi Posted ID:cMsU8RxrkU

มึงช่วยให้การศึกษาไทยมันให้คะแนนตรงกับวิชาที่เรียนด้วยครับ วิชาคณิตให้กูไปทำmvเพลงส่ง ภาษาไทยให้วาดรูปสุนทรภู่ สังคมให้ทำโบชัว แต่ดันไม่คิดคะแนนจากเนื้อหาแต่คิดจากความสวยงาม

240 Nameless Fanboi Posted ID:gJGs1HBnY2

มีคนถามว่าอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ไปจนแก่เลย ไม่อยากเป็น Manager ต้องเตรียมตัวเตรียมสกิลอะไรบ้าง
.
เป็นคำถามที่ดี ก็อยากแบ่งเป็นสองอย่างนะ
.
1) Faste Learner Skill - การเขียนโปรแกรมนั้นเราไม่สามารถบอกแบบ Fix ได้ว่าต้องเขียนโน่นเป็นนี่เป็นเพราะ "สกิลของงานสายนี้เป็น Dynamic และเปลี่ยนไปตามยุค" ทุกอย่างมันเปลี่ยนทุกวัน มีของใหม่เกิดมาทุกวัน มีของเก่าตายไปทุกวัน
.
สกิลสำคัญของคนที่จะทำสายนี้ยืดคือ "ต้องวิ่งตามเทคโนโลยีให้ทัน" ต้องลองลงมือทำทุกอย่าง มีอะไรใหม่ก็ต้องทำให้เป็นให้หมด ก็คือต้องเรียนรู้เร็วมากนั่นเอง
.
ช่วงแรก ๆ เหนื่อยแหละ แต่ถ้าทำไปเรื่อย ๆ .... ก็เหนื่อยแหละ มันจะไม่เหนื่อยได้ไงอ่ะ ! 5555
.
แต่สิ่งที่หลายคนทำพลาดไปในข้อนี้คือไม่ยอมฝึกสกิลใหม่ ๆ และยึดติดกับสิ่งที่ตัวเองทำเป็นอยู่แล้วเท่านั้น มันไม่พอนะ บอกเลยว่ามันไม่เคยพอ ตระหนักไว้เสมอว่าสิ่งที่คุณทำเป็นอยู่แล้วอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ได้
.
ก็ได้ยินอยู่บ่อย ๆ นะว่า "งานประจำหนักอยู่แล้วเลยไม่มีเวลาฝึกสกิลใหม่เลย"
.
แนะนำให้ลองบริหารเวลาใหม่เพราะฟังดูน่าจะมีปัญหาเรื่อง Work Life Balance ที่ทำอยู่มันอาจจะดีกับบริษัท แต่มันไม่ดีกับตัวคุณนะ
.
อยากอยู่สายนี้อย่าหยุดพัฒนาตัวเองและตามให้ทันเทคโนโลยีครับ
.
ไม่ฝากเรื่องว่าต้องเขียนอะไรให้เป็นบ้างเพราะสกิลที่ยั่งยืนของสายงานนี้คือ "ต้องปรับตัวเองตามยุคให้ทันเสมอ" ก็ลองดูว่าตอนนี้โลกไปทางไหนแล้วฝึกสกิลที่ขาดดูนะ
.
2) Teamwork Skill - สำคัญมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ต่อให้อยากจะโค้ดจนแก่ชราแต่การทำงานดี ๆ ขึ้นมาสักชิ้นเราทำคนเดียวไม่ได้หรอกนะ มันต้องทำเป็นทีม
.
และแน่นอน คุณเลยต้องฝึกทุกสกิลที่เกี่ยวข้องให้หมด เช่น การสื่อสาร การ Collab การเขียน Doc ฯลฯ
.
หลายคนมาก ๆ ที่ยังติดกับการทำงานคนเดียวเพราะมันสะดวกว่องไว Doc ก็ไม่ต้องเขียน ไม่ต้อง Co งานกับใคร
.
แต่ถ้ายังทำได้แค่นั้นคุณจะโตไปไหนไม่ได้หรอกนะ
.
ชีวิตจริงมันต้อง Collab กับ PM, PMM, Designer, Customer Supporr ฯลฯ เพราะเราก็ต้องการข้อมูลจากเค้า เค้าก็ต้องการข้อมูลจากเรา หรือก็ต้อง Collab กับโปรแกรมเมอร์คนอื่น จะทำคนเดียวหมดนี่จะ Deliver งานเมื่อไหร่ ?
.
ถ้ายังทำงานเป็นทีมไม่เป็น สุดท้ายคุณก็จะได้ทำแค่งานเล็ก ๆ เพื่อนร่วมงานก็ไม่อยากทำงานด้วย ท้ายที่สุดบริษัทไหนก็คงไม่ต้องการ ทำได้อย่างมากก็รับงาน Freelance เล็ก ๆ
.
เดินคนเดียวมันเดินเร็ว แต่ก็เหงานะ อยากเดินไปได้ไกลต้องเดินไปเป็นทีม จำไว้
.
3) Mentorship - ยิ่งอายุมากขึ้นประสบการณ์ก็มากขึ้น แม้จะยังทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ต่อไปแต่สิ่งที่ทุกคนคาดหวังในตัวคุณจะมีมากกว่ามานั่งเขียนโปรแกรมเสมอ
.
หนึ่งในนั้นคือ คุณต้องสามารถส่งต่อความรู้และปั้นคนได้
.
มันก็คือสกิลการสอนแหละ การที่มีคนที่ทำเป็นอยู่แล้วแต่กลับส่งต่อความรู้ให้คนอื่นไม่ได้นี่มัน Waste มากเลยนะ มันไม่ส่งผลดีกับใครเลย
.
ก็ถือเป็นสกิลที่ยากอยู่เพราะการสอนมันเป็นศิลปะ สอนคนยังไงให้ใช้เวลาน้อยแต่ได้ประสิทธิภาพ รู้ได้ยังไงว่าจะสอนอะไร เรียบเรียงเนื้อหายังไง ฯลฯ ก็ถือเป็นอีกสกิลที่อยากให้ฝึกไว้ครับ
.
ที่เมกาคนอายุ 50-60 แต่ยังเขียนโปรแกรมอยู่มีอยู่ถมไปมาก ต่างจากที่เมืองไทยที่พออายุเกิน 40 ก็เริ่มโดนกีดกันหรือโดนบังคับให้เปลี่ยนสายงานละ เราเสียโปรแกรมเมอร์เก่ง ๆ ไปเพราะสาเหตุนี้กี่พันคนแล้วก็ไม่รู้
.
เป็นอีกสิ่งที่ถ้าสังคมไทยเปลี่ยนได้ก็คงส่งผลดีต่อวงการอย่างมากเลยทีเดียว

241 Nameless Fanboi Posted ID:nXF+KJ4xP0

>>239 อันนี้เป็นปัญหาที่อาจารย์-โรงเรียนมึงเองแล้ว

242 Nameless Fanboi Posted ID:wZZyYkezO8

>>226 คิดเลข ok
วาดรูป-จำเป็นเหรอ แถมบางทีไปลดคคิดสร้างสรรค์อีก
ภาษาอังกฤษ-เรียนข้างนอกดีกว่า
ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น-มีสอนในรรเหรอ?
วิชาการงาน การเย็บผ้า ทำอาหาร-พ่อแม่กูสอนดีกว่าอีกพวกนี้ เรียนรร โง่สัส ท่องไปสอบ
แกะสลัก-ใช้ทำไร?
ลูกเสือเรียนผูกเชือก-ไม่เรียนแล้วผูกไม่เป็นรึ?
หุงข้าว-ไม่เรียนแล้วหุงไม่เป็น?
วิชาชีวะกูเอาไว้ดูของเวลาซื้อพวกของบำรุง สกินแคร์-ชีวะที่ไหนวะ สอนบำรุงสกินแคร์???
วิชาเคมีก็สารต่างๆ บางอย่างห้ามผสมกัน มันระเบิดนะ มันมีฟองแก๊สนะ -ปกติทำอาชีพผสมสารเหรอ
รู้ว่าน้ำมันดิบมีกระบวนการมาจากไหนด้วย-อาชีพผลิตน้ำมันดิบ?
วิชาพละทำให้กูเล่นกีฬาเป็นด้วย โคตรเจ๋ง-กูเรียนกีฬาข้างนอกเยอะกว่า ได้ผลดีกว่า เพราะเป็นสิ่งที่กูอยากเล่นจริงๆ
วิชาคอมทำให้กูเขียนโค้ดพื้นฐานกับใช้โฟโต้ชอปและโปรแกรมหลายอย่างเป็นด้วย-กูหัดข้างนอกได้ผลมากกว่า

แบบมึงนี่ คือได้ข้างนอกรรแต่พยายามจับโยงให้มันเหมือนมาจากรร แหงๆ

243 Nameless Fanboi Posted ID:KB1SAoZBoD

>>242 แต่ละคนไม่เหมือน และจบมาคนละที่ ใช้วิตคนละแบบไง แบบของกู

เย็บผ้าทำให้กูเย็บกระดุมหลุดเป็น รวมทั้งผูกเชือกด้วย กูใช้แค่นั้นพอ ที่บ้านไม่มีสอนนะ

แต่ของกูสายช่างเลยใช้ได้เยอะหน่อย แบบเดินสายไฟบ้านกูทำเองได้หมดยันเปลี่ยนอุปกรณ์ห้องน้ำ พัดลมเตารีด monitor ยัน ps4 กูซ่อมเองได้หมด เอ่อ ออกแบบวงจรกับเขียนโปรแกรม micro-controller ได้ด้วยนะ ของกูเค้าสอนหมดนะ

แกะสลัก ของกูทั้งแกะทั้งตะไบ ขึ้นรูป เอามาทำกันพลาสบาย แต่ใช้จริงเวลาเอาอะไหล่คนละเบอร์มาต่อกัน แก้มุมนี้นิด ปรับตรงโน้นหน่อย

ภาษาอังกฤษ ของกูตอนเรียนไม่ได้เรียนข้างนอกเลย แต่ก็พอได้พื้นฐานเรียนเอาทีหลังเพิ่มได้ง่าย

คอมกูก็ในห้องเรียนเฉยๆ แต่แค่นั้นก็เกินพอ ที่จะทำให้ต่อยอดภาษาอื่นได้ ทำได้ตั้งแต่เดินระบบ network ยัน server เขียนโปรแกรมก็ได้
คอมกูเรียน 2 สายภาษาต่ำกับสูง ภาษาต่ำใช้พวก micro-controller สูงก็ภาษาทั่วไป

กีฬากูไม่ได้ต้องการเป็นนักกีฬามืออาชีพกูก็เอาแค่ในห้องเรียนนะ เล่นเอาสนุกไม่ได้ไปลงแข่งที่ไหน

244 Nameless Fanboi Posted ID:Vmga0U0Muj

>>242 วาดรูป-ได้พื้นฐานเรื่องเส้นแสงแน่นอน มึงไม่ใช้ แต่กูใช้ โทษที กูสายวาด และอนาคตกูสายฟรีแลนซ์กับจะออกแบบเองด้วย
ภาษาอังกฤษ - โรงเรียนกูสอนดี ขอบคุณที่แนะ
ภาษาจีน ญี่ปุ่น - มีจ้า โรงเรียนกูมีเฉพาะ จริงๆ ถึงไม่ได้เรียนโดยตรงก็ไปถามครูที่เขาสอนเอาก็ได้นะ
เย็บผ้า ทำอาหาร - ของกูปฏิบัติ มึงท่องไปสอบมึงคงได้อะไรมั้ง อ่ะ บางคนรอบตัวยังเย็บเสื้อผ้าไม่เป็น พ่อแม่บางคนก็ทำไม่เป็นไง บางอย่างใช่สักแต่จะดูยูทูปก็ทำได้นี่ ต้องมีคนแนะ
แกะสลัก - กูตกแต่งอาหารไง กูเป็นพวกศิลป์ ใดๆ สวยงามกูทำหมดแหละ ตอน.ต้นมีแกะกระจกแกะผักด้วย
ลูกเสือ - ผูกเชือกที่ไม่ใช่เงื่อนตายโง่ๆ อ่ะ
หุงข้าว - ที่ไม่ใช่หุงเตาไฟฟ้า แต่เป็นหุงแบบใช้อุปกรณ์บ้านๆ เผื่อไปเที่ยวบนเขาที่ไม่มีไฟฟ้า อ่ะ กูเสริมให้ มีให้ฝึกกางเต๊นท์ สำหรับกูที่กางไม่เป็น ก็จำเป็นอยู่
วิชาชีวะ - มึงเรียนมาปะเนี่ย มันมีพวกฮอร์โมนไง แล้วในสกินแคร์ก็จะมีพวกสารช่วยกระตุ้นฮอร์โมนบ้าง กูก็แค่ต้องดูให้รู้ไว้ เชื่อเถอะ ครั้งนึงเคยมีคนโง่เอาครีมกลางคืนมาทากลางวัน เพราะคิดว่าแม่งเหมือนกัน เอาไอ้นู่นไอ้นี่มาทาผิวเพราะคิดว่าช่วย แต่จริงๆ แล้วแม่งไม่
วิชาเคมี - อ่ะ มันมีบางอย่างที่ผสมกันแล้วทำให้เกิดสารอันตรายนะ อย่างเป็ดกับไฮเตอร์งี้ ผสมทีมีแก๊สทำให้ตายได้นา
รู้ว่าน้ำมันดิบมาจากไหน - รู้ไว้ไม่โง่ น้ำมันแต่ละอย่างมีที่มาไม่เหมือนกันด้วย แล้วบางอย่างใช้ว่าจะใช้ได้เหมือนกัน
วิชาพละ - กูแค่เน้นออกกำลังกายให้ถูกหลักกับรู้กติกาพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่งที่อ่านเอาอย่างเดียวไม่ได้ มันเลยโคตรเจ๋ง
วิชาคอม - ก็กูไม่มีพื้นฐาน แล้วทำไมกูต้องไปหัดข้างนอก ในเมื่อโรงเรียนสอนให้กูได้
ถึงบางอย่างมันเป็นพื้นฐาน ได้ใช้มั้ย กูได้ใช้ แต่ถ้ามึงไม่ได้อะไรเลย กูก็ไม่รู้น้า

245 Nameless Fanboi Posted ID:+HCwQD0Khh

กูได้ประโยชน์จากโรงเรียนส่วนใหญ่เรื่องคอนเนคชันกับกิจกรรมนอกเวลาว่ะ บางวิชาไม่ได้ใช้แต่ตอนเรียนสนุกดีก็มีเยอะ
เกลียดจริงๆ แค่ลูกเสือ

246 Nameless Fanboi Posted ID:Vmga0U0Muj

อยู่ๆ ก็นึกภาพเวลาโม่งคุยกัน โม่งที่เป็นโม่ง
https://www.img.in.th/image/s2Cm0T

247 Nameless Fanboi Posted ID:u7PTPFdmmJ

กู่ไม่กลับ
////

ขนาดอาจารย์เกษียร เตชะพีระซึ่งเป็นมหามิตรของม็อบคณะราษฏร์ยังโดนทัวร์ลงเลย เมื่อออกมาแนะนำ ตักเตือนม็อบคณะราษฏรด้วยความหวังดี จากประสบการณ์ชีวิตอันโชกโชนของเขา ที่เคยเข้าป่าจับปืนเป็นนักปฏิวัติในช่วงหลัง 6 ตุลา 2519 ก่อนออกจากป่า ไปเรียนต่อปริญญาเอกที่อเมริกา แล้วกลับมาเป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในเวลาต่อมา

นี่คือ #ตัวอย่างรูปธรรมล่าสุดของปรากฏการณ์ซ้ายไร้เดียงสาในขบวนการม็อบคณะราษฏร์

และบ่งบอกชัดเจนว่า #mentalityแบบพวกเรดการ์ดได้ครอบงำจิตใจคนรุ่นใหม่พวกนี้ รวมทั้งชี้นำทิศทางการเคลื่อนไหวต่อสู้ของขบวนการคณะราษฏร์ 2563 นี้อยู่
คนพวกนี้คงกู่ไม่กลับแล้ว

และจุดจบของขบวนการม็อบคณะราษฏรนี้ก็คงอยู่ไม่ไกลด้วย

จะว่าไปแล้ว #คนที่อยู่เบื้องหลังขบวนการม็อบคณะราษฏรนี้เป็นคนปลุกปีศาจในจิตใจเยาวชนขึ้นมาเอง พวกเขาทำการปล่อยปีศาจตัวนี้ออกมา แต่สุดท้ายกลับคุมปีศาจตนนี้ไม่ได้เสียแล้ว ... นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้

ต่อไปเรื่องราวความล่มจมล้มเหลวของขบวนการม็อบคณะราษฏรจะเป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาว่า

... "คนรุ่นใหม่" สมัยนั้นทำลายตัวเองให้พินาศในเวลารวดเร็วแบบทำลายสถิติได้อย่างไร

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

248 Nameless Fanboi Posted ID:T1057EHuus

>>247 มีแต่มโนกับมโน ข้อมูลแทบไม่มี

249 Nameless Fanboi Posted ID:q8xoZPhFQe

>>247 ... "คนรุ่นเก่า" สมัยนั้นทำลายตัวเองให้พินาศในเวลารวดเร็วแบบทำลายสถิติได้อย่างไร ใส่เสื้อเหลืองทำเรื่องเหี้ยๆจนเสื้อเหลืองกลายเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ

250 Nameless Fanboi Posted ID:wjOnmRSnEG

>>244 ปัญหามาจากพวกที่พูดว่า"เรียนมาไม่ได้ใช้=ไม่มีประโยชน์ ไม่ควรสอน"เพราะพวกนี้ไม่ได้ดูภาพรวม

สมมติมีสามวิชา ประวัติศาสตร์ ภาษาจีน เคมี

นายA ไปเป็นนักโบราณคดีไทย
นายB ไปเป็นล่าม
นายC ไปเป็นเภสัช

นายA มองไปที่จีนกับเคมี แล้วบอกว่าสอนทำไมไร้ประโยชน์ กูไม่ได้ใช้
นายB มองไปที่ปวศ.กับเคมี แล้วบอกว่าสอนทำไมไร้ประโยชน์ กูไม่ได้ใช้
นายC มองไปที่ปวศ.กับจีน แล้วบอกว่าสอนทำไมไร้ประโยชน์ กูไม่ได้ใช้

สรุป ควรจะตัดวิชาไหนออก?

251 Nameless Fanboi Posted ID:RFRX2Lfjt2

>>250 ถ้าคิดอย่างนั้นจะมีแยกสายวิทย์-สายศิลป์ไปทำห่าไรวะ

252 Nameless Fanboi Posted ID:RFRX2Lfjt2

ถ้าจะพูดแบบจริงจัง

นาย A พอขึ้นมหาลัยก็ต้องเรียนวิธีคิดใหม่หมด เพราะประวัติศาสตร์ในอุดมศึกษากากมาก ไม่ได้มีสอนวิธีคิดห่าไรเลย

นาย B เป็นล่ามทำไมถึงได้เรียนเคมี ? เรียนสายวิทย์เรอะ ? ทำไมไม่ไปเรียนศิลป์จีน

นาย C เป็นนักเคมี แต่ได้เรียน ภาษาจีน ? เออวิชานี้ควรตัดทิ้งไปอยู่นะ

253 Nameless Fanboi Posted ID:gJGs1HBnY2

ถ้าคนที่ป่วยทุกข์ทรมานอยากทำการุณยฆาตได้รู้ว่า ที่ตัวเองทุกข์ตอนนี้แค่หอกแทงวันละ 300 เล่ม ทุกข์เท่าหินในมือ แต่ถ้าตายแล้วไปนรกจะทุกข์ทรมานเท่าภูเขาหินทั้งลูก ยังจะอยากตายอยู่มั้ย

254 Nameless Fanboi Posted ID:raxj+ZIS3M

ถ้าแยกสาย ก็มีในสายอีกล่ะวะที่จะโดนพวกสมองกลวงบ่นว่าเรียนไปทำไม

เรียนศิลป์ฝรั่งเศส พวกอยากทำงานสายแปลก็บ่นว่าจะมีวิชาวรรณคดีฝรั่งเศสกับกวีฝรั่งเศสทำไม เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ตอนทำงานแปล พวกอยากไปต่อสายวรรณกรรมเลิ่กลั่กเลยดิ ก็กูต้องใช้ป่ะ

มึงไม่ได้ใช้แต่คนอื่นได้ใช้ไง democracyว่ะ

255 Nameless Fanboi Posted ID:RFRX2Lfjt2

>>254 ทำให้เป็นวิชาเลือกก็จบแล้วป่ะวะ ....

256 Nameless Fanboi Posted ID:ZwWwk8VB9z

>>255 ของบางอย่างที่ยัดรวมวิชาคล้ายๆ กันเป็นกลุ่มในหลักสูตรเดียวกันไม่ซอยย่อยไปกว่านี้แล้ว เพราะถ้าไปย่อยมันอีก

คนมันจะกระจัดกระจายจนเป็นกลุ่มย่อยจนเปิดสอนไม่ได้ มันเลยเป็นแบบนี้ไง

257 Nameless Fanboi Posted ID:emRkeX5RTb

>>256 มักง่ายมากกว่านะ แค่นี้ก็ห้องละ 40-50 คนละ (ประเทศอื่นเขา 20-30 ก็เยอะแล้ว) มันจะย่อยไม่ได้ได้ยังไง

258 Nameless Fanboi Posted ID:+ULPDQpl7o

ทุกหลักสูตรการเรียนทุกประเทศทั่วโลกมันมีcoreกับelective ต่อให้มึงไปยุโรปไปอเมริกาไปญี่ปุ่นมึงก็ต้องโดนบังคับเรียนวิชาที่ไม่อยากเรียนเพราะเป็นวิชาcore

อยากให้มีแต่electivesนี่ฝันไปเหอะ เชิญไปเปิดโรงเรียนเองไม่ก็โฮมสคูล

259 Nameless Fanboi Posted ID:JK0q5p2uq2

>>258 แล้วกูบอกตอนไหนว่าให้ทุกอันเป็น elective ? ใช่โม่งตัวเดิมที่ชอบ strawman โง่ ๆ ป่ะวะ

แต่มึงมาตอบแบบนี้ก็ตลกดีนะ จากที่มึงตอบก็คงรู้อยู่แล้วว่าปัญหาของไทยคือทุกวิชาคือวิชา core แล้วต่างประเทศเขามีแยกวิชา core กับ elective แต่มึงก็ยังเลือกที่จะแถข้าง ๆ คู ๆ ต่อไป เจริญพร

260 Nameless Fanboi Posted ID:+ULPDQpl7o

>ทำให้เป็นวิชาเลือกก็จบแล้วป่ะวะ
>อ่ะ-เอามาจากไหนว่าป๋มอยากให้มันเป็นelectiveทั้งหมด นะ-นายน่ะมันstrawman จะ-เจริญพร

https://i.kym-cdn.com/photos/images/facebook/001/096/564/2f7.jpg

261 Nameless Fanboi Posted ID:qY5G.gliht

>>260 ก็ที่มึงยกตัวอย่างมา ไอ้วรรณคดีกับกวีฝรั่งเศสมันมีมหาลัยไหนมั้ยล่ะที่ให้เป็นวิชา core มั้ยล่ะ นอกจาก introduction วันหลังก็ยกตัวอย่างให้มันดี ๆ หน่อย ถ้าระดับมหาลัยที่สูงกว่าเขายังให้แยก ทำไมระดับมัธยมมันจะแยกไม่ได้ล่ะวะ

แล้วเว็บนี้เขาใช้ imgur ไอ้สัสจะ hotlink facebook ทำห่าไร นอกจากจะ greentext แล้วยังใส่ dead meme มาอีก cringe ชิบหายไอเหี้ย

262 Nameless Fanboi Posted ID:qY5G.gliht

จะว่าไป พอโดนจี้เรื่องต่างประเทศมีแยก core กับ elective (ที่มึงก็เป็นคนยกมาเอง) ก็กลายเป็นใช้ ad hominem แทนหน้าตาเฉยเลยว่ะ ถือว่าเก่งดีนะ ชมแล้วดีใจด้วยล่ะ

263 Nameless Fanboi Posted ID:zF/weGGy.+

ที่มันแยก Core กับ Elective ไม่ได้ในไทยหลายโรงเรียนเพราปริมาณอาจารย์ไม่พอ
โรงเรียนที่กรูเรียนสมัย ม.ปลายมันก็มีแยก เรียนขั้นต่ำตามสายที่เลือก เช่นสายทั่วไป อย่างภาษาอังกฤษยังแยกไป 3 ตัวไม่บังคับหมดที่ ตัวที่บังคับคือตัวหลัก ตัวที่เรียนบทสนทนา กับ การอ่านเป็นตัวเลือก วิชาพวกคนตรีกับพละเป็นวิชาหมวดตัวเลือกมีตั้งแต่พิมพ์ดีดไปจนถึงเรียนวิชาหลักๆอย่างคณิต
ที่เมกาเองบางโรงเรียนก็ไม่ได้ให้เลือกเพราะปริมาณอาจารย์ไม่พอเหมือนกัน

264 Nameless Fanboi Posted ID:M0BoW.0QJj

กูเห็นที่คนเถียงกัน ถ้าการศึกษาดีจะไม่มีห้องกิฟท์ ทุกคนจะได้รับการศึกษา​อย่างเท่าเทียม จริง?

265 Nameless Fanboi Posted ID:HKPkMLDdpG

มาตรฐานการเรียนนี่มองว่าเพราะมันไม่ได้มี Cap สมัยแรกก็แค่วางไว้ให้ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ ตีว่า 50 ตอนนั้นขั้นสูงสุดแค่ 100
ไปๆมาข้างบนแข่งขัน จาก 100 เป็น 200 เป็น 300 ข้างล่างยังอยู่ขั้นต่ำ 50 เหมือนเดิม ช่องวางมันเลยห่างไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าจะเท่าเทียม จากแทนทีมึงจะได้ข้างล่าง 50 แต่มีพวก 100+ มากลุ่มนึง
ทีนี้มึงจะได้แค่มาตรฐาน 60-70 กันทั้งประเทศไปแทนรึเปล่า

266 Nameless Fanboi Posted ID:M0BoW.0QJj

>>265 กูไปบอกคนว่ามันไม่มีอะไรเท่าเทียมมาตั้งแต่แรก แล้วห้องกิฟท์ก็ยอมเสียเงินเพื่อไปแลกความรู้ที่เพิ่มขึ้น ผิดตรงไหน แล้วกูก็ถามกลับไปว่าต้องทำยังไงการศึกษาถึงจะเท่าเทียม แล้วกูก็โดนตอกกลับมาประมาณว่าว่าวาจาไม่ได้ส่อให้เห็นถึงความเป็นจริงของสภาพสังคมสมัยนี้เลย

แล้วแม่งอ้างสังคมโลกที่ 1 อ่า ว่าทำงู้นงี้ได้ สังคมโลกที่ 1 เท่าเทียมมากเหรอ
.
แม่ง กูอาจจะผิดก็ได้ เลยต้องมาถามโม่งปรับเปลี่ยนความคิด

267 Nameless Fanboi Posted ID:83VDAz9Fvu

>>264 แบ่งกันน่ะดีแล้ว ลองเอามาตรฐานห้องกิ๊ปมาใช้กับห้องปกติดูคิดว่าจะไหวมั้ยล่ะ

268 Nameless Fanboi Posted ID:rlQaDjm+Kf

ถ้ามองจากมุมนี้ สิ่งที่คนพวกนี้ต้องการคือดึงทุกอย่างลงมาต่ำเพื่อจะได้เท่าเทียมงี้เหรอ

269 Nameless Fanboi Posted ID:rlQaDjm+Kf

ต่อ >>268 เพราะต่อให้ไม่มีห้องกิ๊ฟในห้องปกติก็ยังมีคนไปเร็วไปช้าไม่เท่ากันเลย ต้องให้ครูสอนให้ช้าๆจนกว่าคนที่ไม่เข้าใจจะเข้าใจจนครบอย่างนี้เหรอถึงจะเท่าเทียม

270 Nameless Fanboi Posted ID:M0BoW.0QJj

แล้วอีกอย่าง มีบอกว่า "สภาพแวดล้อม พ่อแม่ ของแต่ละคนเอื้ออำนวยต่อการเรียนของเด็กมากเลยหรือไง ไม่งั้นเขาจะเอาไปฝากฝังโรงเรียนทำไม กูเลยแบบตอบใส่อารมณ์ พ่อแม่ที่ดีแม่งให้โรงเรียนเลี้ยงลูกเหรอวะ ไม่เลี้ยงเองบ้างล่ะ ปละปะละเลยให้โรงเรียนดูแลอย่างเดียว พอลูกออกมาไม่ดีก็โทษโรงเรียน ทั้งๆ ที่ความจริงอิทธิพลอาจจะมาจากพ่อแม่ เป็นครั้งแรกที่กูเห็นแล้วมองบน ประโยคนี้ช่างสะท้อนสภาพสังคมเหลือเกินว่าคนไทยแค่เลี้ยงลูกยังทำไม่ได้ ทำได้แค่ฝากความหวังคนอื่นอย่างเดียว

271 Nameless Fanboi Posted ID:M0BoW.0QJj

>>269 บางทีกูก็ไม่แน่ใจว่าความเท่าเทียมในการศึกษาคืออะไร อุปกรณ์ที่พร้อม เวลาเรียนที่เท่ากัน อะไรงี้เหรอ หรือไม่ก็ความไม่ลำเอียงของครู แต่อันนี้ต้องแก้ที่ครูปะ มาแก้ที่ระบบแล้วช่วยอะไร

272 Nameless Fanboi Posted ID:HKPkMLDdpG

อีกส่วนที่เป็นไปไม่ได้เลยคือเพราะความหนาแน่นประชากรแต่ละพื้นที่มันไม่เท่ากัน
พวกหมู่บ้านไกลๆ จำนวนนักเรียนมันน้อย จะเอางบเอาบุคลากรไปลงให้เท่ากับในตัวเมือง
สุดท้ายก็กลายเป็นไม่เท่าเทียมอีก ในเมืองมึงเรียนกันเบียดเสียด นอกเมืองมึงสบายเลยทีนี้

273 Nameless Fanboi Posted ID:F9816aqJw.

ปัญหาของระบบการศึกษาเริ่มจากปริมาณและคุณภาพของผู้สอน ซึ่งเป็นปัญหาทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศโคตรเจริญแบบเมกาหรือญี่ปุ่นก็มีปัญหานี้ ผู้สอนที่ดีก็ต้องการค่าตอบแทนสูงเลยย้ายไปทำเอกชนหรืออาชีพอื่นหมด

274 Nameless Fanboi Posted ID:xTT521cWl2

คิดเยอะจนเหมือนชักแม่น้ำทั้งห้าเกินไปว่ะ แค่พื้นฐานอย่างให้เด็กมีที่เรียน มีอุปกรณ์การศึกษาครบถ้วน ก่อนดีไหม แล้วมาบอกว่าระบบไม่มีผลต่อการสอนของครูมันไม่ใช่นะ อย่างระบบประเมินการสอนที่ทำให้ครูแม่งละเลยการสอนจริงเพราะมัวแต่ไปทำเอกสารประเมิน
หรือระเบียบข้อบังคับที่ทำให้สอนในแนวทางตัวเองลำบาก

275 Nameless Fanboi Posted ID:VCmWvjYdzb

"ม็อบเด็กเลี้ยงแกะ" จะไปสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ เพื่อ.....???
1.ไปเผาสำนักงานทรัพย์สิน (โทษประหาร)
2.ไปทำลายทรัพย์สินข้าวของ (โทษจำคุก10ปี)
3.ไปขว้างปา สาดสี ทำให้สกปรก เพื่อเหยียดหยาม (โทษจำคุก5-7ปี)
4.ไปตะโกนด่าว่าเป็นเชิงสัญลักษณ์ว่าไม่พอใจ (โทษจำคุก 3 ปี)
5.ไปชุมนุมเชิงสัญญลักษณ์ เช่นไปทวงทรัพย์สิน ให้ใครก็ไม่รู้
6.ไปซ้ำเติมสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนและสังคม
7.ไปร่วมถ่ายภาพลงสื่อโซเชี่ยล และสื่อต่างประเทศ เพื่อเบิกเงินสนับสนุนก้อนใหม่
8.ไปร้องเพลง Happy Birthday กล่าวคำอวยพรแก่ "ธนาธร"

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

276 Nameless Fanboi Posted ID:sUBMm4obm9

ซื้อหนังสือมาเล่มนึง เป็นหัวข้อหมวดที่ไม่อยู่ในสิ่งที่สนใจ (แฟชั่น)
แต่คิดว่าเวลาอ่านหนังสือหมวดเดิมติดต่อกันนานๆ ก็ควรจะเปิดอ่านเรื่องที่ไม่เคยอ่านบ้างเพื่อรับข้อมูลอะไรใหม่ๆ
ตอนซื้อมาก็คิดอยู่ว่าจะคุ้มกับเงินที่เสียไปไหม

...

อ่านบทนำไป 4 หน้า เจอประโยคที่ Trigger ความคิดหนึ่งขึ้นมาในหัวให้ตกผลึกออกมาได้แบบมือสั่น

คุ้มกับเงินที่เสียไปแล้ว

บางทีข้อความบางอย่างก็ไปอยู่ในเส้นทางที่ปกติเราจะผ่านไป เปลี่ยนเส้นทางการเดินทางสักนิดก็อาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้

277 Nameless Fanboi Posted ID:EvxV7.v+B2

>>275 ไปสืบทอดพระราชดำริเรื่องเสรีภาพในการแสดงออกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า
ทพจร

278 Nameless Fanboi Posted ID:3FinzH/9uL

เรื่องประเทศเนี่ย
ขอพูดถึงทัศนคติรวมของคนในประเทศนี้หน่อย

ไอัพวกมายาคติโรแมนติกประเภท เจ้าทรงงานเหนื่อยเพราะทำเพื่อเรา ลุงตู่เหนื่อยเพราะทำเพื่อเรา ทุกคนที่เป็นชนชั้นปกครองเหน็ดเหนื่อย ทำเต็มที่ เหงื่อไหลไคลย้อย ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำ เราขอให้กำลังใจน้ำตาไหลซึ้งใจ สู้ๆนะคะ

มันฟังดูยอดเยี่ยมไปเลย ที่ได้อาศัยในประเทศที่ชนชั้นปกครองเหน็ดเหนื่อยทำงานเพื่อเรา ทั้งที่เขาเป็นเจ้าของประเทศนี้อยู่แล้ว

แต่คุณเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมเราต้องฝากประเทศนี้ไว้กับคนที่ชอบแสดงออกว่าเหน็ดเหนื่อยตลอดเวลาด้วย? มันจะฝากไปได้ซักกี่น้ำ? ทำไมไม่ฝากอนาคตไว้กับ “ระบบ” ที่มันจะไม่เหน็ดเหนื่อย และจะทำงานแทนคุณไม่ว่ายามหลับหรือตื่นแทน? และถ้าสมมติคุณปักใจเชื่อเรื่องฮีโร่แห่งชาติจริงๆ ผมถามหน่อย คุณคิดว่าประชากร 60 ล้านคน จะไม่มีซักคนหนึ่ง ที่เก่งกว่าผู้ปกครองเหล่านี้เลย จริงๆเหรอ? หาดีกว่านี้ไม่มีแล้วเหรอ? อัตราส่วนคือ 1 : 60,000,000 เลยนะ (ถ้าเป็นการลงทุน ผมถามคุณหน่อย คุณจะเดิมพันในอัตราต่อรองนี้ได้จริงๆเหรอ คุณจะเสี่ยงทุ่มเงินทั้งหมดไปกับคนๆเดียว ทั้งที่คุณสามารถกระจายความเสี่ยงได้ แล้วคุณเรียกสิ่งนี้ว่าความมั่นคงจริงๆเหรอ? ผมเรียกมันว่าการพนันมากกว่า)

แล้วนิยามคำว่าเจ้าของประเทศนั้น คุณเคยคิดดีๆไหมว่าใครคือเจ้าของประเทศตัวจริง?

ผมว่านะ เรื่องเหนื่อยอะ ใครๆเขาก็เหนื่อยกันทั้งนั้น
ไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องที่ควรเอามาเคลมอะไรเลย
เหงื่อจะหยดจากตรงไหน จากใคร มันไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่
มันก็แค่เหงื่อหยดนึง คุณควรมองมันอย่างที่มันเป็นมากกว่า อย่าไปโรแมนติกกับมันมาก ใครที่ทำงานกลางแจ้งในประเทศเมืองร้อนแบบไทย ก็ล้วนก็มีเหงื่อทั้งนั้น ยิ่งถ้าใส่เสื้อหนาๆก็ยิ่งร้อนนะครับ

และผมไม่ได้ตั้งเสตตัสนี้เพื่อจู่โจมสถาบันหรือรัฐบาลลุงตู่
ทั้งหมดที่ผมเขียนไปนี้เพื่อชี้ให้เห็นมุมมองอีกมุมหนึ่ง ผมกำลังคุยอยู่กับประชนด้วยกัน ผมอยากชี้ให้เห็นว่า การหลุดออกจากโลกที่ถูก romanticized โดยความเชื่อ มันจะทำให้เรามีศักยภาพที่สูงกว่าที่เคยเป็นได้แน่นอน ขอแค่หลุดออกมาจาก metrix ที่ถูกมอมเมานี้ให้ได้

ในมุมมองนอกเหนือการเมือง ผมยังมองในมุมปรัชญา ผมมองว่าการใช้ชีวิตโดยมองโลกผ่านกรอบแว่นจรรยาศีลธรรมประเพณีความเชื่อที่คนอื่นสร้างให้ สำหรับผมเป็นชีวิตที่สูญเปล่า ถ้าไม่อยากให้ชีวิตนี้จบลงโดยที่ทั้งชีวิตเรายึดถือความเชื่อของคนอื่นอยู่ เราต้องสร้างมุมมองที่มีต่อโลกใบนี้ขึ้นมาเองครับ

279 Nameless Fanboi Posted ID:3hrYWo0WhJ

>>278
คอมมี่แบบจีนไง

280 Nameless Fanboi Posted ID:c4RyA879Te

>>278 มีคนมากมายแทบนับไม่ถ้วนในประเทศที่เหนื่อยกวาเจ้าและสัสตูบ ที่เขาต้องดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดในแต่ละวันโดยที่ไม่มีคนอารักขา ไม่มีรถประจำตำแหน่ง ไม่มีเงินเดือน พวกชนชั้นปกครองเคยเห็นเขาอยู่ในสายตาไหม ???

281 Nameless Fanboi Posted ID:BO1qixeHw2

>>280 บริจาคเองซิ พ่อคนใจบุญ

282 Nameless Fanboi Posted ID:GUm2DOeKWS

>เป็นเรา
>อยู่ในกลุ่มคนรักประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดของไทย
>เพราะเรารักประชาธิปไตย
>เห็นสมาชิกคนนึงโพสต์ถามความน่าเชื่อถือของข่าวจากผู้สร้างกลุ่ม
>นึกในใจ’นี่สิประชาธิปไตย ต้องสงสัยและตรวจสอบทุกอย่าง’
>เปิดเข้าไปดูในคอมเมนต์
>คนโพสต์โดนด่าว่าเป็นฝั่งตรงข้าม โดนด่าเรื่องสติปัญญา มีการเรียกร้องให้เตะออกจากกลุ่มโดยสมาชิกคนอื่น ข้อหาถามและสงสัยคนสร้างกลุ่ม
>mfw

283 Nameless Fanboi Posted ID:rPKEmqL2.6

>>282
55555555555555555

284 Nameless Fanboi Posted ID:jP3GB2HNnN

>>282 ถ้าเข้ากลุ่มหริ่มป่านนี้โดนด่ายันบรรพบุรุษไปแล้ว

285 Nameless Fanboi Posted ID:eoAbJ0zUQx

>>282 เข้าไปกลุ่มขึ้ตีน นอกจากโดนเตะแล้วอาจได้กินข้าวฟรีในคุกเป็นของแถม

286 Nameless Fanboi Posted ID:Wkb4r0BtsL

เขาไปล่วงหน้าไว้ก็ว่าเขาโดนแกง พอเขาไปเจอม๊อบก็หาว่าไปดักทำร้ายม๊อบ

287 Nameless Fanboi Posted ID:jP3GB2HNnN

>>286
นอนอยู่บ้านดิ หน้าที่ทหาร หน้าที่ตำรวจคืออะไร มาทำร้ายประชาชนเหรอ

288 Nameless Fanboi Posted ID:9CCF4VNbxi

>>287 หน้าที่มึงคือ?

289 Nameless Fanboi Posted ID:jP3GB2HNnN

>>288
ถามโง่ๆสมเป็นหริ่มดีวะ 5555

290 Nameless Fanboi Posted ID:ViIP4QVGTB

>>287 this

291 Nameless Fanboi Posted ID:wJ6qMoNE1O

>>287 หน้าที่ของตำรวจกับทหาร คือดูแลความสงบของประชาชนที่รักษากฏหมายกับกำจัดพวกกบฏ ก็ทำถูกแล้วหนิ

292 Nameless Fanboi Posted ID:5K3naOcgYd

>>288
โจรขายชาติ

293 Nameless Fanboi Posted ID:U.1AOBa9mH

>>291 ทำไม 6 ปีก่อนไม่ไปจับกบฏที่รัฐประหาร

294 Nameless Fanboi Posted ID:+Wjtw5Hb1B

>>293 ศาลฎีกาไทยตีความว่า รัฐประหารมิได้ขัดต่อกฎหมาย เพราะ "กฎหมายคือคำสั่งคำบัญชาของรัฏฐาธิปัตย์"

295 Nameless Fanboi Posted ID:9CCF4VNbxi

>>293 นิรโทษกรรมทำไม จำนำข้าวทำไม

ถ้าคิงมีอำนาจอย่างที่พวกมึงโม้ท่านก็ต้องหยุดตั้งเเต่อีโง่เริ่มโครงการเเล้ว

296 Nameless Fanboi Posted ID:U.1AOBa9mH

>>295 ก็มึงถามว่าทหารตำรวจมีหน้าที่กำจัดกบฏแล้วทำไมตอนมีกบฏรัฐประหารถึงไม่ไปจับ เปลี่ยนเรื่องเก่งสมเป็นสลิ่่มจริง ๆ

297 Nameless Fanboi Posted ID:5K3naOcgYd

>>296
รัฐประหารสำเร็จแล้ว
มันจะเป็นกบฏได้ไงวะ?
มึงนี่โง่สัสๆ

298 Nameless Fanboi Posted ID:+Wjtw5Hb1B

>>296 ศาลฎีกาไทยตีความว่า รัฐประหารมิได้ขัดต่อกฎหมาย เพราะ "กฎหมายคือคำสั่งคำบัญชาของรัฏฐาธิปัตย์"

299 Nameless Fanboi Posted ID:8tUIDHcXyo

ปล่อยพวกโง่กราบ​หมา​ไปเหอะ

300 Nameless Fanboi Posted ID:cS+YKfP27z

>>298 ตามนั้น ศาลตัดสินตามความจริงที่สุดละ ยึดอำนาจได้ก็คืออยู่เหนือทุกสิ่ง เพียงแต่บ้านเรายังไม่มีผู้นำทหารคนไหนมีบารมีพอจะล้มเจ้าออกหรือเปลี่ยนเป็นเจ้าองค์อื่นแค่นั้นเอง ส่วน ตปท. ไม่แน่ใจว่ะ กูไม่แม่น ปวศ. ว่ามีที่ไหนทีทหารยึดอำนาจแล้วทำถึงขั้นนั้น

301 Nameless Fanboi Posted ID:ddcoO1MoSJ

>>300
นโปเลียน
....แต่งตั้งพี่น้องเป็นกษัตริย์ตามประเทศต่างๆ

302 Nameless Fanboi Posted ID:naSjEGUTm2

>>300 มันไม่ได้ตัดสินตามความจริงไรหรอก ก็แค่เอื้อประโยชน์ให้หมาของคิงรปห.อย่างชอบธรรม

303 Nameless Fanboi Posted ID:naSjEGUTm2

หลังยุคเปรม ผบ.กำลังพลหลัก ก็เด็กคิงทั้งนั้น

304 Nameless Fanboi Posted ID:B5kCaJ.PTR

>>302 https://www.facebook.com/notes/tanond-jullavech/คำพิพากษาศาลฎีกา-เรื่องความเป็นองค์รัฐาธิปัตย์/281824505163904/ มีคำพิพากษามาตั้งแต่ปี 2496 ละ ว่าด้วย รปห.2490 ที่ไล่ PD ไป แล้วให้ ป. มาเป็นผู้นำแทน

305 Nameless Fanboi Posted ID:h9K22a5mnv

สันติวิธีไม่ได้แปลว่า ให้ยื่นดอกไม้ให้คนที่ทำร้ายเรา อันนั้นสันติวิธีดัดจริต สันติวิธี คือการทำให้เราน่ารักเพื่อให้ภาพการใช้ความรุนแรง โดยรัฐออกมาแย่ที่สุดต่อสายตาประชาชน และประชาคมโลก และเพื่อให้ชัดเจนว่า ถ้าเกิดความรุนแรงขึ้น มันไม่ได้มาจากฝ่ายเรา

#มิตรสหายประชาธิปไตยท่านหนึ่ง

306 Nameless Fanboi Posted ID:h9K22a5mnv

ผมถามไปที่เกิดเหตุทำไม ถ้านอนอยู่บ้าน แล้วจะตายไหม
- อดีตนายกท่านหนึ่ง

โง่ก็ไปตายได้นะคะ
- ดาราท่อน้ำเลี้ยงประชาธิปไตย

307 Nameless Fanboi Posted ID:iFFQHEgqUO

>>306 นอนอยู่บ้านก็มีสิทธิตายน่ะนะ https://women.kapook.com/view12980.html

308 Nameless Fanboi Posted ID:bNipg5rULg

ร่าานหลงเชื่อเฟคนิวส์อีกแล้ว

https://facebook.com/100001454030105/posts/3619120114813087/

309 Nameless Fanboi Posted ID:AR50Akbo0i

>>308 เฟรคนิวส์ของมึงนี่มีหลักฐานบานเลยเนอะ แต่ข่าวจริงมึงมีแต่ลม 55555

310 Nameless Fanboi Posted ID:cJft6W.O1l

สหายที่เบียวความรุนแรงอ่ะ ลองไปจัดตั้งองค์กรนักฆ่าแบบ assassin creed ดูดิ แฝงตัวสะกดรอยตามผู้มีอำนาจแล้วสังหารไปทีละคนเงี้ย ได้ทั้งยกระดับทั้งได้ประโยชน์กับขบวนการอ่ะ จึ้กๆ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

311 Nameless Fanboi Posted ID:pWW06plk2g

>>310 มันไม่มีกองฟางให้หลบอะ จะเบียวก็เอายุคปัจจุบันแบบ watch dog ไปเลย

312 Nameless Fanboi Posted ID:+NPKFM7wiD

จอมขวัญ : ทำไมการโอนหุ้นมาเป็นชื่อส่วนตัวของกษัตริย์ถึงไม่เคยมีการทำมาก่อนในรัฐบาลอื่นของสมัยรัชกาลที่ 9

313 Nameless Fanboi Posted ID:SD1KvhQwz4

>>312 ตุล ตอบไงวะ

น่าจะถามเพิ่ม ทำไมสมัยร9 กต ชี้แจงไปทั่วโลกว่าเป็นเงินของแผ่นดินไม่ใช่ของกษัตริย์

314 Nameless Fanboi Posted ID:G5wewvgBdz

อย่าลองกฎหมาย ผมเคยเขียนและเคยพูดไว้หลายครั้งว่า ชีวิตมนุษย์เขาไม่นำไปทดลองในเรื่อง 2 เรื่อง คือทดลองยา กับ ทดลองกฎหมาย

ยาที่จะใช้กับมนุษย์ต้องทดลองกับสัตว์ก่อนจนปลอดภัย จึงจะนำมาใช้กับมนุษย์ ส่วนกฎหมายนั้น การกระทำอย่างใดผิดกฎหมายหรือไม่ ผิดแล้วลงโทษเท่าไหร่ อย่าไปทดลองไม่คุ้มหรอก

การกระทำใด ผิด ปอ.มาตรา 112 หรือไม่ อย่าไปทดลอง ไม่คุ้มครับ และไม่มีใครเขายกย่องหรอก ทำแล้วเข้าไปอยู่ในคุกสัก 2-3 ปี คนที่เคยปรบมือให้หน้าเวทีเดี๋ยวเขาก็ลืม ออกจากคุกมาก็ไม่มีใครจำได้หรอก

มาตรา 112 ไม่มีใครยกเว้นให้ใครได้ การกระทำผิดกฎหมายทุกเรื่องอาจยกเว้นไม่ลงโทษได้ด้วยการขอพระราชทานอภัยโทษอย่างเดียวเท่านั้น ที่อาจารย์ ส.ศิวรักษ์ พูดเรื่อง ม.112 ท่านก็พูดของท่านไป แต่เห็นได้ชัดว่า ที่ ส.ศิวรักษ์ ไม่ถูกลงโทษก็เพราะพระเมตตาด้วยการพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์หรือพระประมุขแห่งรัฐ

ผมอ่านคำสัมภาษณ์ของท่านรองนายกฯวิษณุ เครืองาม น่าสนใจ ท่านกล่าวว่า ม.112 ยังมีอยู่ หากเข้าข่ายคงละเว้นลำบาก แต่กระบวนการดำเนินการต่างจากความผิดทั่วไป ผมว่า ถ้าเราช่วยกันพูด เตือนสติเด็กๆ อย่าให้ท้ายเด็ก เหตุการณ์ก็ไม่ลุกลาม แต่ไม่ค่อยมีคนพูดความจริงให้เด็กฟัง จะรักนวลสงวนตัวกันไปถึงไหน วันนี้ ดอกพิกุลร่วงจากปากท่านรองนายกฯวิษณุแล้ว ก็ให้ผู้ชุมนุมระวังไว้ ผมก็พยายามเตือนด้วยความหวังดีจริงๆ เตือนไปทัวร์ก็ลงเป็นระยะๆ แต่ก็ต้องทำ ชีวิต-ร่างกายเป็นของเราทุกคน ใครจะใช้ชีวิตนอกคุก หรือในคุก ก็เป็น”สิทธิ-เสรีภาพ” ในชีวิต-ร่างกาย ของท่าน ก็เป็นสิทธิที่ท่านเรียกร้องอยู่ทุกวันนั่นแหละ นี่ถ้าผมจะเขียนหยาบๆ ผมก็จะเขียนว่า เวลาผู้ชุมนุมติดคุก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารในคุก มันก็เป็นภาษีที่ผมต้องจ่ายให้คุณนะ ผมจึงมีสิทธิแสดงความเห็นได้ เพราะผมเสียภาษี แต่ไม่ได้ตั้งใจจะว่านะ เพียงแต่เตือนเจ็บๆ ให้คิดกันเท่านั้น

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

315 Nameless Fanboi Posted ID:XLCYeEDzsO

อ่านจบหล่ะ​ ^^.ดีงามสำหรับคนเพิ่งเริ่มหัดใช้ดาต้าเพื่อก้าวสู่การทำ​ Digital​ Marketing​ และอีกหลายๆด้าน​

เป็นหนังสือที่อัพสกิลคนอยากเริ่มทำดิจิทัลและหัดใช้ข้อมูลจริงๆ​

ต้องบอกว่านาทีนี้การตลากทุกอย่างต้องใช้ดาต้าหมด​ หมดเวลาสัญชาตญาณ​แล้ว

Insight​ not instinct

อยากทำแะไรให้เก่งต้องฝึกบ่อยๆ​ ดาต้าเช่นกัน

#DataDriveMarketing
#การตลาดวันละตอน

316 Nameless Fanboi Posted ID:XLCYeEDzsO

ผมอยากจะแชร์เรื่องของพี่ชายให้อ่าน...
พี่ชายผมจบศิลป์ฯ (สาขาดนตรี)
เล่นดนตรี(คีย์บอร์ด+เปียโน)ตามผับ
โรงแรม, รีสอร์ต, คอฟฟี่ช็อป ฯลฯ
ตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ จนถึงอายุ 33+
(โดยประมาณ)
เขาเลิกเล่นดนตรี ไปหางานกลางวันทำ
เพราะแพ้แอลกอฮอล และบุหรี่
ไปเป็นจัดซื้ออยู่ห้างๆหนึ่งได้ 2 ปีก็ออก
ไปเปิดร้านอินเตอร์เน็ต
ทำเองหมด ไม่พึ่งพาช่างเลยสักคน
เปิดไปได้ 5 ปี เป็นช่วงขาลงของธุรกิจนี้
เลยถอย ไปเป็นQCโรงงานอาหารทะเล7ปี
ออกเพราะโรงงานเจ๊ง
อายุปาเข้าไป 47ปีแล้ว หางานยากแล้ว
สำหรับผู้ชายอายุ40+
ไปสมัครงานที่ไหน HRเห็นเป็นผู้ชาย
จับไปลงงานใช้แรง ทั้งที่ความรู้ที่มี
เขาเก่งคอมทุกอย่าง ซ่อมได้ งานเอกสาร
งานโปรแกรม งานตัดต่อภาพ วีดีโอ
แต่กลับให้ไปยกแบกสินค้าขึ้นรถเทลเลอร์
ซึ่งเขาไม่เคยทำงานหนัก ไม่ใช่สายถึก
เลยทำได้ครึ่งเดือนถอย
เขาหางานยากมากๆ ไม่มีที่ไหนมอง
ความสามารถเขาเลย ไม่มีHRที่ไหนดูประวัติการทำงานเขาเลย
ด้วยความที่หมดหนทางเดิน
เขาไปสมัครงานมั่วเลย
ไม่เอาประวัติงานไปด้วย เพราะคิดว่า
งานอะไรก็ได้ ขอแค่มีงาน และพอทำไหว
สุดท้ายตอนนี้ เขาไปได้งาน รปภ.

จบ

ที่เอามาแชร์ให้อ่านนี้
เพื่อที่จะสื่อว่า อดทนครับ
คนที่แย่กว่า โอกาสหางานแทบไม่มีใครรับ
ผู้ชายอายุ47+ มีความรู้ยังไง
ไปสมัครที่ไหน ก็ไม่มีใครรับ
เขายังสู้เลย จาก อาจารย์สอนเปีบโน
จากจัดซื้อ จากเจ้าของร้านเน็ต
จากQC สู่รปภ.
นี่เขาก็บ่นนะ ถ้าหมดสัญญาว่าจ้างนี้
จะไปทำไรต่อดี
ท่านจขกท.ยังอายุน้อยกว่าพี่ผม
นั่นหมายความว่า ทางเลือก ยังมี
ยังเยอะกว่า โอกาสยังมี สู้ๆนะครับอย่าท้อ
มองคนทีาเขาด้อยโอกาส หรือ โอกาสน้อย
หรือไม่มีโอกาสเลย แล้วจะรู้ว่า
ท่านยังโชคดีกว่าเขาเยอะ
สู้ๆครับ เป็นกำลังใจให้

317 Nameless Fanboi Posted ID:8hODacjaAK

>>316 นี่คือpatriarchy และmale priviledgeที่เฟมทวิตชอบพูดกันสินะ

318 Nameless Fanboi Posted ID:rWSPR+Lxql

ตอนฉลอง ในหลวงร.9 เตียมชื่อเสื้อเหลืองใว้4ตัวๆละ700ยอมเพื่อจะใดัใส่วันงานเฉลิมฉลอง..ติดงาน ไปไม่ใดัใส่ไปทำงาน เปิดทางโทรศัพ..น้ำตาแห่งความปรามปลื้มล้นออกตา..มาวันนี้ใส่ไม่ใดัปูใหั หมานอนแลัวละ

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

319 Nameless Fanboi Posted ID:/FvcioN1UB

>>314 พูดเหมือนไม่เคยมีใครคนนึงบอกว่าไม่ให้ใช้112 แล้วก็ไม่มีการใช้จริงๆเลยเนอะ

320 Nameless Fanboi Posted ID:b2bu.NrOmy

ถ้าคิดจะปั้น Startup ให้โตทะลุพันล้านใน5ปี..

1..ต้องมีไอเดียธุรกิจ ที่โดนใจตลาดที่แท้จริง และตลาดนั้นมีขนาดที่ใหญ่พอและใหญ่จริง ข้อนี้ผมให้เป็นข้อแรกนะครับ เพราะถ้า product หรือ service คุณไม่เจ๋งจริง ยากครับที่จะสเกลธุรกิจได้เร็วระดับนี้

2..มี founder และ co founder ที่มีวิสัยทัศน์สูง แต่อีโก้ต่ำ..ข้อนี้สำคัญมากครับ ส่วนใหญ่แล้วคนที่จะบุกเบิกอะไรใหม่ๆมีความเชื่อมั่นและวิสัยทัศน์กันทั้งนั้น แต่ขณะเดียวกัน ถ้าอีโก้สูงไม่รับฟังความคิดใหม่ๆ ก็จะปรับเปลี่ยนไปหาสิ่งที่ดีกว่าแม้ไม่ตรงกับสิ่งที่ตัวคิดได้ยาก และเชื่อเถอะครับ คุณต้องปรับเปลี่ยนอะไรเยอะแยะไปหมด ในการที่จะโตทางธุรกิจ..และหลายเรื่องมันไม่ตรงกับที่คุณคิดเสียด้วย

3..มีทีมที่ยอดเยี่ยม ข้อนี้สำคัญมาก มันเป็นผลสืบเนื่องจากข้อ2และนับเป็นฝีมือที่แท้จริงของ CEO หรือ founder เพราะแม้คุณจะมีไอเดียที่เลิศ และ มีfounderที่เก่งแค่ไหนก็ตาม คุณไม่มีทางจะสเกลธุรกิจได้เลย ถ้าขาดทีมที่ยอดเยี่ยม
การสร้างทีมนั้น คุณต้องเข้าใจจิตใจของมนุษย์ และเข้าใจในเรื่องการบริหารจัดการ มันไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยี่ที่ founder มักจะชำนาญและคุ้นเคย
ข้อนี้ เป็นจุดอ่อนอย่างมากสำหรับผู้ไม่มีประสบการณ์เป็นผู้บริหารมาก่อน หรือไม่เข้าใจในศาสตร์ของการบริหารจัดการ

4..การบริหารและการตัดสินใจ ให้ยึดข้อมูลตัวเลขทางบัญชีให้ดี อย่าละเลยการสร้างระบบข้อมูลทางบัญชีเป็นอันขาด เพราะถ้าคุณละเลย สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวฉุดรั้งให้คุณไม่สามารถเติบโตได้ในระยะยาว
ช่วงแรก คุณอาจใช้ sense ในการตัดสินใจได้ แต่เมื่อธุรกิจเติบโตการใช้ sense ตัดสินใจโดยไม่มีข้อมูลทางบัญชีการเงินที่ถูกต้องมาสนับสนุนการตัดสินใจ นั้นนำหายนะมาสู่องค์กรนักต่อนักมาแล้ว

5..ความสามารถในการนำเสนอ..ข้อนี้จำเป็นอย่างมากเมื่อคุณต้องการระดมทุน และต้องระวังไม่ให้ความสำคัญของข้อนี้ มากกว่าข้อ1-4เป็นอันขาด
เพราะถ้าข้อนี้คุณทำได้ดี มากกว่าข้อ1-4 คุณจะนำหายนะมาสู่ผู้ลงทุนและตัวคุณเอง..ในที่สุด

ทั้งหมดลองนำไปคิดต่อดูนะครับ..

321 Nameless Fanboi Posted ID:lpPZosA+At

มึงสั่งให้ใครอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ
กูสั่งให้พวกมึงออกนอกประเทศ

#คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน

ชาญณรงค์ ครุฑโต
ทีมโฆษกไทยภักดี

322 Nameless Fanboi Posted ID:wGcPykjoM0

>>321 #กูไม่ออก

323 Nameless Fanboi Posted ID:8WMXIT6lgg

>>321
ซื้อบ้านให้กูดิ ไอ้หัวดอร์

324 Nameless Fanboi Posted ID:fRL4juuTbI

>>321 ไล่ออกทำไมเป็นภาระต่างประเทศเค้าอีก รับผิดชอบหน่อยดิวะ

วิธีที่สะดวกประหยัด สะอาด คือ จับผังทั้งเป็นไง บรรเจิดสุดแล้ว หลุมนึงใส่ได้ตั้งหลายตัว
เวลาปศุสัตว์ติดโรคเค้าก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้นแล อย่าเอาไปนั่งยางล่ะ ควันเยอะ ช่วงนี้ยิ่งรณรงค์ไม่ให้อากาศเกิดมลพิษอยู่

325 Nameless Fanboi Posted ID:+E0cN2eaJz

>>324 เชี่ย บรรเจิดมาก พอรุ่นใหม่มาขุดหลุมสำรวจคงงงว่าทำไมมีซากกระดูกเต็มไปหมด ตรงนี้เคยเกิดภัยพิบัติอะไรเปล่าว้า

326 Nameless Fanboi Posted ID:8WMXIT6lgg

>>324 ทดสอบฝังพวกหริ่มแก่ๆก่อนเลย

327 Nameless Fanboi Posted ID:/FvcioN1UB

>>325 ไม่งงหรอก เรื่องเหี้ยๆมันโดนบันทึกหมดสมัยนี้ ขนาดของจีนแม่งหลายพันปีก่อนที่ไปขุดหลุมฝังทหารทั้งเป็นยังบันทึกไว้เลย

328 Nameless Fanboi Posted ID:8WMXIT6lgg

>>324
ไอเดียดีน่าจะลองเอาพ่อแม่มึงไปฝังดูก่อนนะ 5555

329 Nameless Fanboi Posted ID:n589gsjirF

ด้วยความที่ม็อบราษฎร 2563 ถูกมองว่า เป็นม็อบของเด็กเจเนอเรชั่นแซดเสียส่วนใหญ่ ในฐานะที่น้องเกดก็อยู่ในช่วงวัยดังกล่าวเหมือนกัน เราจึงถามต่อว่า ในกลุ่มเพื่อนที่โรงเรียนมีจุดยืนแบบไหนกันบ้าง เธอรีบตอบกลับทันทีว่า

ส่วนใหญ่แล้วทุกคนมีอุดมการณ์ตรงกันข้ามกับเธอ เห็นต่างกันเยอะมาก แต่เธอไม่ได้รู้สึกอะไรหากเพื่อนๆ จะเห็นต่างกันเพราะมองว่า ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงความเห็นอย่างเท่าเทียมกัน

330 Nameless Fanboi Posted ID:/FvcioN1UB

>>329 ถ้ารุ่นก่อนๆคิดแบบนี้ คงไม่บานปลายมาขนาดนี้หรอก ช่วยไม่ได้ สมัยเป็นเสียงส่วนมากเสือกเหิมเกริมเอง

331 Nameless Fanboi Posted ID:tIAmT/m7WO

"ชนชั้นกลาง" เป็นคำดูถูกอะถูกแล้ว
เพราะชนชั้นกลาง จริง ๆ ก็คือแรงงานแหละ เพราะไม่ได้เป็นเจ้าของ means of PDT
เป็นแรงงานที่ยังไม่มี class consciousness
แค่รวยกว่าแรงงานคนอื่นหน่อยก็ผูกตัวเองว่าใกล้เคียงกับนายทุนคนรวย มองว่าตนไม่ใช่ "แรงงานไร้ฝีมือพวกนั้น"

332 Nameless Fanboi Posted ID:J2xZ0prENR

เมื่อวานนี้อาจารย์ Arnond Sakworawich บ่นกับผมจะต้องไปออกรายการ “เถียงตรงๆกับจอมขวัญ” นี่เธอยังหาให้ใครมาออกรายการกับผมไม่ได้ พอบอกว่าผมจะมาทุกคนปฏิเสธหมด ไม่รู้ว่าวันนี้จะโดนเทไหม ผมเองพอเข้าใจเพราะรู้จักอาจารย์ดีว่ามีความรู้ในหลายด้าน โดยเฉพาะทางประวัติศาสตร์และธุรกิจด้วย คนที่ไม่มีความรู้คงมาเถียงกับอาจารย์ลำบาก สุดท้ายจอมขวัญไปได้รุ้งซึ้งขาดความรู้ความเข้าใจในหลายเรื่องมาช่วยจอมขวัญเถียงกับอาจารย์อานนท์ ขนาดจอมขวัญช่วยเถียงเต็มที่แล้วก็ยังทำหน้างงๆ เพราะพิธีกรที่ลำเอียงก็ขาดความรู้แม้จะพยายามใช้วิธีการที่เธอถนัดคือช่วยเถียงเองก็สู้ไม่ได้ ชอบที่อาจารย์บอกว่า. “คุณจอมขวัญไม่ต้องทำหน้างงๆ” และสอนเด็กว่า “ควรทำการบ้านมาก่อน” ขอบคุณกับความรู้ที่มาสอนจอมขวัญและรุ้งในรายการ ผู้ฟังทางบ้านก็ได้ความรู้ไปด้วย

(ชื่อรายการผมตั้งให้เองละ)

333 Nameless Fanboi Posted ID:OEb9TFHy6m

>>332 พูดเก่งพลิ้วเก่งมีแต่ลมแบบสนธิแต่ถ้าลองไปเจอคนแน่นจริงๆสวนเหอะ

334 Nameless Fanboi Posted ID:J2xZ0prENR

ดูทรงหลังจากนี้จอมขวัญคงต้องเลือกเชิญให้ถูก เชิญแต่แบบ เอ๋ อุ๊ แล้ว เชิญมั่วแล้วเละเลย

335 Nameless Fanboi Posted ID:d9zC0ygwxp

>>332 >>334 ถ้าเป็นอานนท์ vs อานนท์ มันจะไม่เละแบบนี้หรอก เถียงกันเรื่องข้อกฎหมายแต่ฝ่ายม็อบไม่ส่งนักกฎหมายไปก็เละสิ

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=4724522380922454&id=100000942179021&set=a.163415147033223l ช่วยไม่ได้นะ เลือกไปเที่ยวกับสาวแทนที่จะเลือกไปต่อสู้ ฝ่ายม็อบเสียเครดิตไปพอสมควรเลยทีนี้

336 Nameless Fanboi Posted ID:Fp.DQZZu9/

Original post from Panachit Kittipanya-ngam

ไหนว่าสนับสนุน Startup ไทย!!??

ช่วง โควิด-19 Horganice ระบบจัดการหอพัก อพาร์ทเม้นท์ อันดับ 1 ของไทย ทำระบบจอง และรวบรวมข้อมูลห้องว่างในเมืองใหญ่ไว้ เอาไปนำเสนอ แถมเข้าช่วยอบรม โรงแรมปรับปรุง และรองรับการดูแล PUI กระทรวงได้แต่รับเรื่องๆ สุดท้ายก็เอาไปทำเอง เพราะบอกว่ารัฐต้องเป็นคนออกมาตรฐาน ไม่เอื้อเอกชน หรือ สมาคม ก็เข้าใจ!!

แต่ตอนนี้มาจบแบบนี้ เอื้อเอกชนที่แม้แต่ 'ออกใบกำกับภาษีท้องถิ่น' ในเมืองไทยยังไม่ได้ เน้นย้ำ ออกใบกำกับภาษีไทยไม่ได้ถ้าจองล่วงหน้า เพราะไปคิดเงินกันที่สิงคโปร์ ต้องไปกระตุ้นเศรษฐกิจที่สิงคโปร์หรือ? รัฐไทยนี่ใจกว้าง!

รัฐไทยทำได้!!

ตอนลำบากคนไทยเรามาช่วยกันเข้าไปดูได้ครับ
https://www.facebook.com/pedthaisupai/videos/2521740291376563/

มาดู สธ.+ยูนิคอร์น ก๊อปไอเดีย และเอาไปทำโครงการ เอง ตอนนั้นเฟิร์สวิ่งคุยแทบตาย มีแต่ขอข้อมูล (คุ้นหน้าคนใส่แว่นตรงกลางมาก เหมือนคนที่เคยคุยด้วย)

แต่พอเริ่มจะดี ไม่ช่วยกันไม่พอ
แต่มาเอื้อต่างชาติอีก!

337 Nameless Fanboi Posted ID:tIAmT/m7WO

ตลกที่สุดคือ วันหนึ่งมีคนออกมาดิ้นมากมายเรื่องที่ Forbes จัดอันดับ ร.9 รวยอันดับหนึ่ง เพราะขัดกับภาพลักษณ์พอเพียง แล้วก็บอก สำนักทรัพย์สินไม่ใช่ของท่าน

ตอนร.10 โอนเป็นของตัวปุ๊บ กริบ วันนี้ก็ยังเงียบอยู่...

338 Nameless Fanboi Posted ID:595CPwgoZG

>>337 จริง วันนี้กูรำคาญกรุปไลน์เหี้ยๆ แต่ผู้ใหญ่ทั้งนั้น เหตุผลที่กูบอกว่า สำนักทรัพย์สินเป็นของส่วนตัวก็เหตุผลเดียวกับอานนท์นี่ล่ะ แต่วันนั้นกูโดนด่ายับ มาวันนี้หลักฐานตำตาใช้โลจิก อดีตคืออดีต ปัจจุบันท่านทำให้ถูกต้อง

339 Nameless Fanboi Posted ID:ezO/+bzCwa

สว.วางดักไว้ 5 ปีนั้นคือ 2 สมัยครับ

และถ้าพลังประชารัฐแพ้หมดรูปแล้วงัดไม้ตาย 250 สว ถึงตอนนั้นคนคงออกมาประท้วงหลักแสน ลุงตู่แพ้อยู่ดี

แต่ในทางกลับกันทำไมม๊อบต้องเร่งออกมาช่วงโควิท เพราะม๊อบรู้ตัวแล้วว่าฐานเสียงรัฐบาลเริ่มเยอะ จากผลเลือกตั้งซ้อม และโครงการที่จะเริ่มสำเร็จในปีหน้า ม๊อบรอให้ครบวาระไม่ได้ เลยรีบออกมา ใช่หรือไม่?

340 Nameless Fanboi Posted ID:PdXkG4ieEL

>>339 ไม่เกี่ยวหรอก มันเปนเพราะความอัดอั้นที่ทนมานานด้วย ประจวบกับปัญหาเศรษฐกิจ เวลาคนบ่นเรื่องอะไรมันบ่นกันเพราะตอนนั้นเจออยู่
กับหลายเรื่องที่มันแสดงความสองมาตรฐานออกมาแบบ หนัหน้าคอนกรีตไงมึง

341 Nameless Fanboi Posted ID:4m.QVai4Td

>>339 โครงการที่จะเริ่มสำเร็จในปีหน้า อะไรบ้างเหรอ เห็นมีแต่กู้แล้วแจก แล้วก็มาขึ้นภาษี

342 Nameless Fanboi Posted ID:jGSRw7LzPc

คนละครึ่ง เที่ยวด้วยกัน ใช้กันดิ
รบ ยุคอื่นไม่เห็นมีแบบนี้เลย

343 Nameless Fanboi Posted ID:DpuCYToucJ

นักการเมืองให้ปลา พระราชายื่นเบ็ด กุคิดถึงประโยคนี้จัง 5555

344 Nameless Fanboi Posted ID:oYRrOlgrP1

>>339 ทำเป็นเล่น อันนี้น่าคิดนะ พวกโครงการรางทั้งหลายทีทยอยสร้างมาตั้งแต่ยุค คสช. ตามแผนคือจะเริ่มเปิดใช้งานได้ในปี 64-65 อันนี้คือในสายตานักลงทุนทั้งหลายคือชอบมาก ส่วนพวกโครงการอัดงบลงรากหญ้า หลังจากลองผิดลองถูกจนโดนด่ามาเยอะ คนละครึ่งนี่เป็นโครงการแรกเลยมั้งที่ไม่โดนด่า แถมบัตรคนจนนี่โคตรได้ใจคนแก่อะ แต่ที่ม็อบออกมาประท้วง ก็ต้องยอมรับละว่าที่ผ่านมาตู่และทีมงานมีปัญหาเรื่องบริหาร ศก. แล้วคนไทยส่วนใหญ่รู้สึกว่าแย่กว่ายุคก่อนๆ จริง อัดอั้นมาตลอดหลายปี พอเลือกตั้งแล้วไม่มี ม44 เลยออกมากัน

มันน่าสนใจตรงทีถ้าไม่มีโควิด แผนอึดไว้นานๆ แล้วรอสวนทีเดียวให้อีกฝ่ายน็อกเลยจะเห็นผลเร็วกว่านี้หรือเปล่า หรือโควิดจะทำให้ตัวเองหมดแรงก่อนชนะหรือเปล่า (กูเดาว่าตู่และทัมงานคิดแบบนี้ คนระดับล่างและกลางล่างคิดถึงแม้วเพราะแม้วมีภาพว่าทำ ศก. ดีใช่ปะ ดังนั้นถ้ายุคตู่มีช่วง ศก. ดี คนก็จะไม่ยึดติดกับแม้ว พวกซ้ายที่อิงแอบอยู่ก็จะเสื่อมไปเองด้วย)

345 Nameless Fanboi Posted ID:s2eRIZ11ep

>>344 ถ้าทำได้จริงทำไมถึงทำไม่ได้ตั้งแต่ยังเป็น คสช ?

346 Nameless Fanboi Posted ID:AWCXuj9fA7

>>345 กมายถึงอันไหน ถ้าพวกก่อสร้างมันเริ่มมาตั้งแตาสมัยนั้นแล้วไง แต่พึ่งทยอยมาเสร็จสมัยนี้ เอาจริงถ้าสายสีแดงไม่เลื่อนปีหน้าก็ใช้ได้แล้ว

347 Nameless Fanboi Posted ID:s2eRIZ11ep

>>346 สายสีแดงไม่ใช่ผลงานไอ้ตู่มึงจะเคลมอย่างนี้ไม่ได้

348 Nameless Fanboi Posted ID:WpV1TSMAf1

โครงการขนาดใหญ่ส่วนที่มีปัญหามากที่สุดคือ การเวนคืนที่ดิน ใครทำส่วนนี้ได้มากก็เอาเครดิทไปเหอะ

ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องการเวรคืน ป่านนี้ Hopewell ไปตั้ง 20 ปีก่อนแล้ว

349 Nameless Fanboi Posted ID:VNWnANI2ov

>>348 และที่มันตลกร้ายมากคือ การเวนคืนที่ดินมักทำได้ในช่วงเผด็จการ หรือ ปชต. ไม่เต็มใบ ทำเป็นเล่นนะ หลังมี รธน.40 ไทยแทบไม่เคยมีโครงการขนาดใหญ่แบบถี่ๆ อีกเลย เพราะ รธน.40 มันเป็น รธน. ฉบับแรกที่ใส่คำว่าสิทธิมนุษยชนไปด้วย เกิดกลไกโดยเฉพาะศาลปกครอง เรียกว่าเวนคืนไม่ได้ง่ายๆ ก็เพราะมีอันนี้ละ เจอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวลากยาวเป็นปีก็มี ก็หยุดชะงักไปหมด พอ รธน.50 กลไกนี้ก็ไม่ได้ถูกยกเลิกไป จน รปห.57 นี่ละ รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ที่มันมาทำได้ในยุค คสช. เพราะเจอทุบโต๊ะด้วย ม44 นี่ละ พวกรถไฟทางคู่ทั่ว ปท.-ความเร็วสูงอีก ก่อนหน้านี้มีปัญหาเวนคืนทั้งนั้น

ทีนี้ลองย้อนกลับไปมองยุคตั้งแต่สฤษดิ์ถึงเปรมนะ เออ ยุคที่ยังมีผีคอมมี่ให้ชนชั้นนำใช้หลอกหลอนประชาชนนั่นละ ยุคนั้นการรวมกลุ่มคัดค้านอะไรจะเจอข้อหาอย่างเบาก็ถ่วงความเจริญ อย่างหนักก็เป็นคอมมี่ (สมัยก่อนแรงงานนัดหยุดงานหรือตั้งสหภาพยังทำไม่ได้เลย เพราะพวกนี้มันแนวคิดมาจากคอมมี่ไง) บ้านใครเจอโครงการตัดถนน สร้างทางด่วน สร้างเขื่อน ฯลฯ ต้องยอมรับสภาพอย่างเดียว

350 Nameless Fanboi Posted ID:s2eRIZ11ep

>>348-349 ชั่ย ๆๆๆๆ เหมือนสนามบินสุวรรณภูมิ ที่เริ่มสมัยสฤษดิ์ แต่เสร็จสมัยทักษิณใช่มั้ย

351 Nameless Fanboi Posted ID:AWCXuj9fA7

>>347 ก็จริง แต่ถ้าไม่มีคสช.ผลักดันหลายอย่างคงทำแบบนี่ไม่ได้

>>350 เอาจริงแม้วคือคนเร่งให้เสร็จ แต่ก็ถือเป็นผลงานละ

352 Nameless Fanboi Posted ID:nDP6Jt90jR

>>351 การเคลมว่าแม้วสร้างนี่ ทำไมกุรู้สึกว่าอวยเกิน

353 Nameless Fanboi Posted ID:DpuCYToucJ

>>352 เขาบอกว่า ''สร้างเสร็จ''

354 Nameless Fanboi Posted ID:VNWnANI2ov

>>350 ที่ดินมันมีพร้อมมานานแล้ว พอแม้วยุค ศก. ดีเลยอัดงบได้เต็มที่ ซึ่งก็ไม่ผิดหรอกถ้าจะบอกว่าเป็นผลงาน

355 Nameless Fanboi Posted ID:opnzrtaO9/

>>353 นั่นแหละ กุพิมพ์ตก กุรู้สึกว่ายังไงมันก็ต้องเสร็จอยู่ดี

356 Nameless Fanboi Posted ID:d3G3vf3.qQ

ชั่ยคับ เหมือนที่โฮปเวลยังไงก็ต้องเสร็จอยู่ดีไงคับ

357 Nameless Fanboi Posted ID:WGRyUvZvtp

พูดถึงยุคเปรมแล้วนึกได้ว่า มีกบฎหลายครั้งไม่สำเร็จแล้วพวกหัวหน้าคณะหนีลี้ภัยสักพักก็นิรโทษกรรม นี่หว่า

อ่อแต่บางคนก็ประหารไปเลยก็มีนะ กบฎพลเอกฉลาดไง

358 Nameless Fanboi Posted ID:Fzm0XWRMRu

จริงๆ เรื่องนี้ มีเรื่องโต้เถียงมากครับ แต่คนไปออกรายการไม่ทำการบ้านเอง ผมจะยกตัวอย่างให้ฟังนะครับ
อย่าง ร3 ขึ้นครองราชต่อจาก ร2 ลูกร 2 ก็ไม่ได้ทรัพย์สิน แต่ทรัพย์สินตกไปกับ ร3 และร 3 ก็ไม่ใช่ลูก ร2 พอ ร3 สวรรคต ทรัพย์สินก็ไม่ตกกับ ลูก ร3 แต่ผ่านไปยัง ร4 ซึ่ง ร4 เองก็ไม่ใช่ลูก ร3 กรณี แบบนี้เช่นเดียวกัน ร 6 ซึ่งมีพระราชธิดาองค์เดียว คือ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ ก็ไม่ได้สมบัติ แต่ ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตกไปเป็นของ ร 7 จะเห็นว่าการผ่านทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นี้ เป็นการผ่านแผ่นดิน ไม่ได้ผ่านเพราะเป็นสาย หรือเป็นลูกหลาน แต่ผ่านเพราะเป็นของแผ่นดิน ฉะนั้นแม้รัชกาลก่อน จะไม่มีกฏหมายแบ่งแยกชัดเจน การพฤตินัยแล้ว ท่านก็แยกทรัพย์สินส่วนพระองค์ กับทรัพย์สินส่วนกษัตริย์ค่อนข้างชัดเจนในพฤติกรรม
ในประการต่อมาหลังจาก เปลียนแปลงการปกครองก็มีการแยกทรัพย์สินชัดเจนว่าอันไหนส่วนพระองค์ อันไหนส่วนกษัตริย์ ส่วนพระองค์ก็มีระบุเลยครับ ว่าเป็นกิจการที่ทำมาเอง หรือว่าพ่อแม่ให้มา อันไหนเป็นส่วนที่รัชกาลก่อนๆ ใช้บริหารแผ่นดิน ก็แยกกัน จนประชาธิปัตย์ขึ้นมา ก็ไปแก้กฏหมายตรงนี้อีก จนกลายเป็นทรัพย์สินที่ก่ำกึ่งอีกรอบ ซึ่งคำถามก็มีต่ออีกว่า ถ้าทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ คือทรัพย์สินส่วนพระองค์ ทั้ง SCB และ ปูนซีเมน ก็ควรตกเป็นของสายสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตน์ใช่หรือไม่ เพราะท่านก็คือลูกคนเดียวของ ร6 แต่พฤติกรรมของ ร6 และรัชกาลก่อนๆ ก็บอกอยู่แล้วว่า ทรัพย์สินตรงนี้ไม่ใช่ของลูกท่าน แต่ให้เป็นของแผ่นดิน
และประการต่อมา ปี 2551 ทางวัง ก็ให้กระทรวงต่างประเทศตอบโต้กับนิตยสาร Forbes ที่บอกว่า ร9 รวยสุด ซึ่งคำแถลงของกระทรวงต่างประเทศต่อชาวโลกก็บอกว่า "ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นของแผ่นดิน ไม่ใช่ของส่วนตัวท่าน"
และอีกเรื่องคือ ช่วงวิกฤตปี 2540 สำนักงานทรัพย์สินก็ร่อแร่มา จนคลังต้องมาอุ้ม ซึ่งก็คือภาษีประชาชนนี่แหละครับ เพราะสำนักงานทรัพย์ฯ ไม่มีเงินเพิ่มทุนพอ คลังเลยเข้ามาช่วย คราวนี้ คลังจะช่วยได้ก็ต้องเป็นหน่วยงานรัฐ กับ รัฐด้วยกันใช่ไหมครับ ซึ่งก็แปลว่า สำนักงานทรัพย์ก็ต้องเป็นของแผ่นดิน ถึงใช้ภาษีประชาชนเข้าไปอุ้มได้ แต่พอประเทศฟื้่นตัว สำนักงานทรัพย์ฯก็เอาหุ้ SCB คืนไป คำถามก็คือ ถ้าทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตีความว่าเป็นของส่วนตัว ทำไมคลังถึงเข้าไปอุ้มได้
คือคำถามเยอะมากครับ แต่อีรุ้ง มันไม่ทำการบ้านเอง

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

359 Nameless Fanboi Posted ID:WGRyUvZvtp

>>358 ซื้อ big lot โดยแลกกับที่ดินตรงทุ่งพญาไท ไปนี่หว่า ราคาที่ดิน 16,500 ล้านบาท แลกกับหุ้นมูลค่า 2,500 ล้านคุ้มโคตร จะโวยวายอะไรอีก

360 Nameless Fanboi Posted ID:idabZNKvW/

Feminists want the authority of men, the privileges of women and the responsibilities of children.

361 Nameless Fanboi Posted ID:UhlbuWmE61

สรุป
- SCB ไม่ได้มาจากพระราชทรัพย์ ร.5
- ก่อตั้งเพื่อความมั่นคงทางการเงินของไทย
- ได้รับความช่วยเหลือและหุ้นก่อตั้งจากธนาคารเยอรมัน
- กระทรวงการคลังเอาเงินงบประมาณแผ่นดินไปอุ้มหลายครั้ง

362 Nameless Fanboi Posted ID:rBqAjB1BKE

เวลาผมบ่นคนรุ่นใหม่นี่คือผมเข้าใจเพราะผ่านตรงนั้นมาเหมือนกันนะ สมัย ป.ตรีผมก็แพลนจะไม่เข้าพิธีรับปริญญา ซึ่งสุดท้ายเลยได้เข้าใจว่าพิธีรับปริญญาไม่ใช่การแสดงความยินดีหรือมอบหลักฐานความสำเร็จให้ผม

แต่ให้คนในครอบครัวผม ใบปริญญามันไม่ใช่ความสำเร็จของผมคนเดียว อาศัยความช่วยเหลือของครอบครัว (ครูอาจารย์และคนอื่นๆในสังคมอีกมากมาย) ผมถึงเรียนผ่านมาจนถึงไมล์สโตนนี้ ผมไม่เห็นว่าใบนี้สำคัญ แต่ครอบครัวผมจะมีความสุขกันมากเมื่อได้เห็นผมเข้าพิธีนี้

พิธีรับปริญญาไม่ใช่วันของบัณฑิต แต่เป็นวันของพ่อแม่ ที่จะได้มีความสุขและโล่งใจอย่างมากที่สุดวันนึงในชีวิตของท่าน

ถ้าพ่อแม่ไม่ได้เห็นว่าพิธีสำคัญก็ไม่จำเป็นต้องไป แต่ถ้าเขาเห็นความสำคัญ ประเด็นจะอยู่ที่ว่าเราจะมอบความสุขนี้ให้เขาไหม ไม่ได้อยู่ที่เราเชื่อในพิธีนี้หรือไม่
——

ข่าว: www.dailynews.co.th/regional/809567

363 Nameless Fanboi Posted ID:rBqAjB1BKE

เกษตรพอเพียง หรือในชื่อที่เป็นทางการว่า "เกษตรทฤษฎีใหม่" เป็นศาสตร์ที่เน้นหัวใจสำคัญสามอย่างคือ การจัดสรรพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การพอดีพอตัวพอประมาณ และการรวมตัวกันเพื่อความมั่นคง(ต่อรองผลประโยชน์) ศาสตร์นี้ไม่ใช่อยู่ๆจะเกิดขึ้นมาเป็นระบบเองได้เลย แต่มันคือศาสตร์ประยุกต์ ซึ่งประยุกต์มาจากอะไรบ้าง ดังนี้
1. ประยุกต์จากระบบฟิวดัลในยุคกลางของยุโรปเมื่อ 1,500 ปีที่แล้ว ระบบนี้มีจุดเด่นอยู่ที่การจัดสรรที่ดินและพึ่งพาตนเอง โดยระบบนี้ขุนนางจะเป็นเจ้าของที่ดิน มีปราสาทอยู่ตรงกลาง ที่ดินของเขาจะถูกจัดสรรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีการแบ่งการจัดการเป็นส่วนต่างๆเช่น พื้นที่สำหรับปลูกข้าวสาลี ข้าวโพด ผักผลไม้ ปศุสัตว์ มีทั้งบ่อน้ำและระบบคลองส่งน้ำ รวมทั้งโรงแปรรูปต่างๆ เช่นโรงทอผ้า ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะถูกใช้แรงงานจากทาสเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้ระบบนี้แทบไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสังคมภายนอกเลย กระทั่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม เศรษฐกิจพอเพียงได้หยิบระบบนี้มาใช้โดยการย่อขนาดที่ดิน ตัดทาสออก และใช้ตัวเองเป็นแรงงานแทน ซึ่งสุดท้ายแล้วการพึ่งพาตนเองหรือพึ่งพาคนอื่นให้น้อยที่สุดอย่างนี้ก็จะไปสู่ทางตันในระบบเศรษฐกิจแบบปัจจุบัน ทางตันอย่างไร ผมอยากให้ทุกคนคิดตาม เกษตรกรทุกคนแบ่งพื้นที่ 30 : 30 : 30 : 10 มีข้าว ผักผลไม้ เนื้อสัตว์ กินกันทุกบ้าน แล้วเศรษฐกิจในชุมชนจะเนินไปได้อย่างไร ในตลาดสดก็คงเอาของที่ปลูกจากบ้านมาขายกันแล้วก็นั่งมองหน้ากัน เพราะที่บ้านเราก็มีไม่จำเป็นต้องชื้อ เราทำเองกินเองได้ แต่เราจะเอารายได้จากไหนไปให้ลูกเรียนหนังสือ เราจะเอารายได้ที่ไหนพาแม่ไปหาหมอ คนที่ทำเศรษฐกิจพอเพียงแล้วยังอยู่ได้ปัจจุบันคือ ขายผลผลิตให้กับคนที่ไม่ได้ทำ แล้วถ้าคนหันมาทำเหมือนกันจะเกิดอะไรขึ้น จึงจำเป็นจะต้องใช้ ข้อ 2 และ 3 เข้ามาช่วย
2. ประยุกต์จากหลักทางสายกลางของศาสนาพุทธ ซึ่งแนวนิดนี้มีหัวใจหลักคือ การประมาณตนด้วยความพอดี ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ไม่ตึงเกินไปไม่หย่อนเกินไป เป็นหลักการที่พระพุทธเจ้านั้นใช้ปฎิบัติและแผ่กระจายไปพร้อมกับศาสนา เศรษฐกิจพอเพียงหยิบหลักการนี้มาใช้เพื่อ ลดความเสี่ยงในเรื่องไม่ดีที่จะเกิดจากตัวผู้ปฎิบัติเอง โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่าย และหลักการนี้เกี่ยวเนื่องกับศาสนาทำให้เข้าถึงและเป็นที่ยอมรับของคนในสังคมได้ง่าย

364 Nameless Fanboi Posted ID:rBqAjB1BKE

3. ประยุกต์จากระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม ซึ่งใกล้เคียงกับระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ หัวใจหลักที่เหมือนกันของสองระบบนี่คือ รัฐเป็นผู้ดำเนินการกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ การดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจของชาติทั้งด้านการผลิตและการจำหน่าย ซึ่งข้อ 3 นี้ถูกประยุกต์ใช้เพื่อเป็นการอัพเกรดหรือต่อยอดให้ข้อที่ 1 และ 2 โดยจะกำหนดให้ผู้ที่ดำเนินกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียงนั้นเข้ามารวมตัวกันในชุมชน ซึ่งการรวมตัวของคนขึ้นเป็นสังคมนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดรัฐในทางรัฐศาสตร์ ในบริบทนี้เปรียบได้เหมือนกับการจำลองระบบเศรษฐกิจของรัฐสังคมนิยมขึ้น โดยการตั้ง สหกรณ์ โรงงานอุสาหกรรมแปรรูปต่างๆขึ้นในชุมชน เมื่อมีการรวมตัวกันจึงมีอำนาจต่อรองกับกลุ่มอื่นๆเพิ่มขึ้นไปด้วย สมาชิกต้องนำผลิตผลป้อนให้กลุ่ม แล้วกลุ่มจะดำเนินการขายให้กับคนภายนอก จากนั้นกลุ่มก็จะจัดการแบ่งผลประโยชน์ให้กับสมาชิก การที่คนมารวมตัวกันเพื่อต่อรองกับสังคมภายนอกหมายถึงอะไร หมายถึงเราต้องการผลประโยชน์จากเขา แล้วกลุ่มที่เราจะเอาของไปขายให้ก็จะต้องไม่ใช่กลุ่มแบบเราด้วย ดังนั้นกลุ่มพอเพียงของเราก็จะต้องเข้าไปหากินกับระบบทุนนิยมภายนอก สุดท้ายก็วนเข้ามาสู่การพึ่งพาระบบทุนนิยม ซึ่งถ้าหากคุณต้องการเพียงแค่พึ่งพาตนเองคุณก็จะติดกับอยู่ในข้อ 1 ที่ผมเรียกว่า กับดักความจน

ปัจจุบันกลุ่มที่พัฒนาตนมาถึงขั้นที่ 3 ได้นั้น คือกลุ่มที่ใช้คำว่า อโศก ตามท้าย ซึ่งไม่ใช่กลุ่มที่ทางการโปรโมทออกทีวีแต่อย่างใด โดยกลุ่มนี้ก็ประยุกต์หลายๆอย่างเพิ่มเข้าไปอีก ส่วนในทีวีที่โฆษณากันคือติดอยู่ข้อแรกทั้งนั้น บางคนอาจภูมิใจที่ทำแบบนี้แล้วมีคนสนใจ แน่นอนว่าการโปรโมทย่อมทำให้เป็นที่สนใจ แต่ลึกๆจะรู้ตัวดีว่ากำลังหลอกตัวเอง จากใจคนทำเกษตรพอเพียงมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ที่เรายังจนอยู่ไม่ใช่เราฟุ่มเฟือย แต่เป็นเพราะเราเลือกใช้ระบบที่เป็นกับดักความจน เราถึงต้องติดอยู่แบบนี้ เราอยู่ในโลกทุนนิยม ยังไงเราก็ต้องใช้ชีวิตในแบบทุนนิยม ที่ผมบอกเพราะไม่อยากให้คนในประเทศต้องติดกับดักตามๆกันไป บางคนถึงขั้นออกจากงานเอาเงินเก็บทั้งชีวิตเป็นล้านมาลงกับเศรษฐกิจพอเพียงตามที่ทีวีโปรโมท สุดท้ายมานั่งขายผักมัดละ10บาทข้างๆกันกับเรา ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เงินล้านคืน โอเคถ้าหากมีความสุขก็ไม่ว่าอะไร แต่ประเทศเราก็จะพัฒนาช้าหน่อย เพราะภาษีจากคนพอเพียงแบบเรานั้นเข้ารัฐน้อยมาก ถ้าหากจะทำเศรษฐกิจพอเพียงจริงๆ แนะนำให้ไปเข้ากลุ่ม อโศกต่างๆดีกว่า พวกเขาพัฒนาถึงขั้นที่ 3 แล้ว

365 Nameless Fanboi Posted ID:rBqAjB1BKE

สำหรับคนที่ไล่ให้ผมไปทำเกษตรพอเพียงนะครับ ผมและพ่อเคยยอมรับและคลั่งไคล้ทฤษฎีนี้มาก พ่อผมทำเกษตรกรรมกับปู่มาตั้งสมัยยังเด็ก ปัจจุบันพ่ออายุ 60 ปี เริ่มทำตามรูปแบบเกษตรกรทฤษฎีใหม่เมื่อตอนอายุประมาณ 30ปี รายได้มีแค่พออยู่พอกิน ไปโรงพยาบาลก็ใช้แค่สิทธิบัตรทอง ไม่มีรายได้พอที่จะส่งลูก 3 คน เรียนมหาวิทยาลัย(ซึ่งมีรายจ่ายตกอยู่ปีละ 1.7 แสนบาท) ผมเองจบ ป.ตรี รัฐศาสตร์เนื่องจากมีคนอุปการะ ในขณะที่เรียนอยู่นั้น ก็มีวิชาที่เป็นเศรษฐศาสตร์ปนอยู่ด้วยความสงสัยจึงได้หาคำตอบเกี่ยวบกับเกษตรพอเพียงอย่างจริงจัง ว่าทำไมเราพอเพียงแล้วคุณภาพชีวิตถึงแตกต่างจากคนอื่น จนมาตกผลึกได้คำตอบตามที่เขียนในบทความนี้
เราทำเกษตรพอเพียงเราปลูกไปซะทุกอย่าง ทำให้เราไม่มีเวลาพอที่จะดูแลแต่ละอย่างใด้เต็มที่ ผลผลิตที่ได้ก็จะอยู่ในเกรดตลาดสด ก็พอขายและเลี้ยงชีพได้ แต่สู้สวนใหญ่ๆไม่ได้
3 ปีก่อนผมจึงบอกให้พ่อเลิกทำนา เลิกปลูกผัก เลิกเลี้ยงสัตว์ แล้วเอาเวลามาดูแลผลไม้ 3อย่างที่ทำเงินได้ดีที่สุดในสวนอย่างจริงจัง ผลตามคาด เรามีรายได้เพิ่มขึ้นมาก เรามีเงินเก็บ ผลไม้เราสามารถตีตลาดสู้เจ้าอื่นได้ ปัจจุบันเรากำลังจะขยายสวน มีแผนจ้างแรงงาน และใช้การตลาดแบบทุนนิยมเข้ามาจัดการอย่างเต็มตัว ตอนนี้ผมออกมาทำอาชีพเกษตร และหากผมมีลูกผมก็สามารถส่งลูกเรียน ป.ตรีได้แน่นอน

366 Nameless Fanboi Posted ID:JQo3lBDR4u

>>362 อันนี้จริง กูไม่ได้อินหรือไม่อินกับเจ้านะ ตอนเรียน ป.ตรี ไม่อยากรับ เพราะไม่อยากลางานแค่นั้นละ ยังทำงานกินรายวันไง กว่าจะปรับเป็นรายเดือนต้องรอหลังจากนั้นอีก 1-2 ปีอะ ตอนทำรายวัน หยุดงานก็ไม่ได้เงิน แต่ที่บ้านอยากให้รับก็ต้องหยุด 2 วัน วันซ้อมกับวันจริง

>>363 >>364 >>365 ก็แสดงว่ามันใช้ได้ แต่มันใช้ไม่ได้ในแบบปัจเจก ต้องรวมกลุ่มกัน (เหมือนยุ่นที่ระบบสหกรณ์เข้มแข็งมาก) เกษตรพอเพียงไม่ได้ปฏิเสธทุนนิยม แต่ต้องการให้คนในท้องถิ่นพึ่งพากันไม่ใช่ตัวใครตัวมัน

367 Nameless Fanboi Posted ID:6HTBxAistN

เกษตรพอเพียง=เอาเรื่องธรรมดาที่มีอยู่แล้วมาโม้ว่าเป็นผลงานของคนหนึ่งจนเกินจริง

368 Nameless Fanboi Posted ID:6HTBxAistN

การที่กษัตริย์มีหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์เป็นกองกำลังส่วนตัวไม่ได้ต่างอะไรกับที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์มีหน่วย SS ไว้ปราบปรามฝ่ายตรงข้าม จักรภพ ภูริเดชซึ่งเป็นคนอุ้มคนนู้นคนนี้นี่ก็ไม่ต่างอะไรกับไฮน์ริช ฮิมม์เลอร์เลย

369 Nameless Fanboi Posted ID:Y63xfSJMF9

เปรียบเทียบได้เพ้อเชิบหายถ้าระดับ ss ป่านนี้ไม่ได้มาเย้วๆ แบบนี้หรอก โดนรมแก๊สทิ้งไปหมดแล้ว

370 Nameless Fanboi Posted ID:QMmB6Q4jGq

>>369 แล้วคนที่โดนฆ่าผ่าท้องถ่วงปูนล่ะ ???

371 Nameless Fanboi Posted ID:QMmB6Q4jGq

>>365 โคตรไร้สาระ สอนให้จมปลักอยู่กับการทำสวน ไม่ต้องโผล่หัวขึ้นมาคิดอย่างอื่น ไร้การพัฒนา

372 Nameless Fanboi Posted ID:QMmB6Q4jGq

วิชาศาสตร์พระราชานี่ก็เรียนไปทำไม ??? โลกไปถึงไหนแล้ว ดีแต่เอาของโบราณใช้ประโยชน์ไม่ได้มาสอน

373 Nameless Fanboi Posted ID:Y63xfSJMF9

>>370 คนละระดับกัน ss = 6 ล้านคนเว้ย

ถ้าเป็น ss แค่คนหลักหมื่น ป่านนี้โดนเคาะบ้านไปรมแก๊สหมดแล้ว

374 Nameless Fanboi Posted ID:utM77RIkp3

>>370 มีด้วยเหรอ

375 Nameless Fanboi Posted ID:WMnxsbzT.1

>>371
งั้นมึงอย่าแดก

376 Nameless Fanboi Posted ID:ahFM0kNwTi

>>373 นั่นคนยิวที่โดนรมแก๊ส
คนเยอรมันด่านาซีไม่ได้โดนเยอะขนาดนั้น

377 Nameless Fanboi Posted ID:xIayTLDetK

ไอสัส กูขรรม

https://facebook.com/story.php?story_fbid=129992885559706&id=102110851681243

378 Nameless Fanboi Posted ID:da.1ICnfxG

>>365 คำว่าพอเพียงมันมีหลักการเรื่อง ความพอประมาณอยู่ถ้าคิดว่าสิ่งที่ทำอยู่น้อยเกินไปไม่พอจะส่งลูกเรียน ก็ปรับเปลี่ยนขยับขยายให้ได้ ปัญหาคือคนตีความว่าพอเพียงคือทำตามมีตามอยู่

379 Nameless Fanboi Posted ID:Nb0ODv/l.7

>>378 ต้องโทษโฆษณาอ่ะ สร้างแต่ภาพแบบนั้นไว้กับคำว่าพอเพียง

380 Nameless Fanboi Posted ID:da.1ICnfxG

>>379 อันนี้กรูเห็นด้วยโฆษณาชวนคนเข้าใจผิดมากๆ

381 Nameless Fanboi Posted ID:mPlOP5npK.

>>378 คนสอนแหละอธิบายให้มันชัดๆก่อน คนอื่นเวลาเสนอแนวคิดเศรษฐกิจกูเห็นเขียนหนังสือเป็นเล่มๆ

382 Nameless Fanboi Posted ID:wTgIC9qV5h

>>381 555555555555555555555555

383 Nameless Fanboi Posted ID:xVoWNUskjs

>>381 จริง พวกแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ของต่างชาติทั้งหลายที่เขานำไปใช้กันจริงจัง มันจะทำเป็นตำราอธิบายกันเป็นเล่มโตๆไว้ศึกษาเลย แต่แนวคิดพอเพียงนี่ไม่มีการอธิบายจำเพาะเจาะจงห่าอะไรซักอย่าง มีแค่คำกับประโยชน์สั้นๆที่โคตรกำกวมโผล่มาโด่ๆแค่นั้น 100คนอ่านก็ตีความไปได้100แบบ

384 Nameless Fanboi Posted ID:mPlOP5npK.

>>383 กูงงไง ทำไมมีแต่คนบอกว่าโฆษณาผิด คนเข้าใจผิดๆไปเอง ทั้งที่ปกติแล้วถ้าคนสอนแล้วคนไม่เข้าใจอ่ะ ถ้าไม่เข้าใจแค่คน2คนพอว่า แต่ถ้าทั้งห้องเข้าใจไปคนละทางนี่แม่งปัญหาอยู่คนสอนละ แต่กรณีนี้ทั้งปท เข้าใจไม่ตรงกัน กลับไปโทษการเรียนการโฆษณา

385 Nameless Fanboi Posted ID:wTgIC9qV5h

พ่อแม่ผมคือกลัวตัวเองโง่ครับ

คือผมเถียงกับพ่อแม่บ่อยมากในประเด็นนี้ และให้ข้อมูล Educate ไปหลายครั้ง แกก็เถียงผมกลับไม่ได้ และบางครั้งก็ดูจะเห็นด้วยในสิ่งที่ผมพูด

แต่ไม่ว่ายังไงพ่อแม่ผมก็ยังทำใจเกลียดรัฐบาลนี้ไม่ได้อยู่ดี ผมมั่นใจเลยว่ามันเกิดจากกระบวนการอันเป็นจิตใต้สำนึกของมนุษย์ ที่เมื่อความเชื่อใดความเชื่อหนึ่งที่เชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจมาทั้งชีวิตโดนสั่นคลอน จิตใต้สำนึกก็จะสั่งให้หาเหตุผลมาปกป้องความเชื่อนั้น ถึงแม้มันจะเป็นเหตุผลที่ดูโง่ ไม่สมเหตุสมผล เท่าไรก็ตาม

พ่อแม่ผมเกลียดทักษิณมาทั้งชีวิต รักสถาบันมาก ไปม็อบตั้งแต่พันธมิตรยันกปปส ดูแต่เนชั่นและบูลสกาย

พวกเค้าคงทำใจไม่ได้จริงๆ ว่าสิ่งที่เชื่อมาตลอดคือสิ่งที่ผิด เพราะถ้ายอมรับว่ามันผิด ตัวเองจะกลายเป็นโง่ขึ้นมาทันที ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนดูถูกเสื้อแดงเช้าเย็นว่าเป็นพวกโง่

386 Nameless Fanboi Posted ID:8n4LRT0J.J

>>385 กูเข้าใจพ่อแม่มึงนะ กูอินกับมวยจีนตั้งแต่เกิดอะ ทุกวันนี้ก็ยังรับไม่ได้ที่เห็น MMA ไล่กระทืบครูมวยจีนกองกับพื้นไปหลายราย

387 Nameless Fanboi Posted ID:BZL0oXrKhU

>>383 มันมีตีพิมพ์ไปตั้งหลายภาษาทั่วโลกแล้ว ทางองค์สหประชาชาติก็เคยเอาไปตีพิมพ์ ปัญหาคือคนเคยอ่านตัวเต็มกันกี่คน มันไม่ได้ตีความไปร้อยแบบอะไรเลย

388 Nameless Fanboi Posted ID:IFUtveiqF1

>>386 สู้กับมวยไทยเพียวๆ มวยไทยยังกินขาดเลย
วิชาท่าสวยใช้งานจริงไม่ได้เรื่อง สู้พวกดุดันเถื่อนๆไม่ได้

389 Nameless Fanboi Posted ID:94o4wRbNwF

>>387 ภาษาไทยชื่อไร

390 Nameless Fanboi Posted ID:boOiEQQ95w

การทำน้ำเมาในบ้านเรา
สรุปปัญหาคือ เพราะทุนจดทะเบียนขั้นต่ำแพงไปหน่อย ให้ทำธรุกิจคราฟเบียร์ในครัวเรือนลำบากแค่นั้นเองนี่หว่า ไม่ได้ผูกขาดอะไรเลย

วิธีแก้แค่ลดเพดานทุนจดทะเบียนจบ

ส่วนเปิดเสรีใครขายก็ได้ ยังไงก็ไม่ควร เพราะโซนนี้ไม่รู้เป็นอะไร ชอบสรรหาของพิลึกมากินกัน อยากดูตัวอย่างไปดูประเทศข้างเคียงได้ตายเพราะเรื่องแบบนี้กันบ่อยมาก ก็เล่นเอา ยาฆ่าหญ้า เอทาน่อล หรือ บางทีก็เอาราใส่แทนยีส อีห่าแดกกันพิสดารชิบ

391 Nameless Fanboi Posted ID:iHlumRedD8

>>390
ห้ามโฆษณาด้วย ทุกรูปแบบ แต่เจ้าใหญ่มันมีธุรกิจน้ำดื่ม ที่เอายี่ห้อมาเนียนโฆษณาได้

392 Nameless Fanboi Posted ID:E3CWnxVTrP

>>391 +1 ชอบเอาศาสนามาอ้าง ความจริงเป็นเรื่องของนายทุน

393 Nameless Fanboi Posted ID:8n4LRT0J.J

>>390 กฎหมายบอกกำลังผลิตขั้นต่ำต้อง 10 ล้านลิตร/ปี ถึงจดทะเบียนได้ ซึ่ง SME ไม่ไหวอะ

394 Nameless Fanboi Posted ID:8n4LRT0J.J

>>392 ศาสนามันคือความเชื่อฝังหัว แล้วพวกนี้เสียงดัง เลยเข้าทางนายทุน เหมือนโสเภณีนั่นละ นักศีลธรรมรับไม่ได้ที่อาชีพนี้จะมีเกียรติมีศักดิ์ศรีเทียบเท่าอาชีพอื่นๆ ในสังคม เลยค้านแก้ไขให้ถูกกฎหมาย แน่นอนว่าถ้ายังอยู่ใต้ดินก็เข้าทางพวกเก็บส่วยนันละ

395 Nameless Fanboi Posted ID:boOiEQQ95w

>>393 จดเป็น Brewpub เอาดิ ผลิตแสนลิตรต่อปีได้

396 Nameless Fanboi Posted ID:zLgy46VBMC

ย้ำอีกที ผมคิดว่า ประเด็นของการไม่ใส่ชุดนักเรียนเนี่ย มันไม่ได้อยู่ที่ว่า ใส่ชุดนักเรียนแล้วดีหรือไม่ดีเลย - การเถียงประเด็นนี้ไม่ใช่สาระที่แท้จริงของเรื่อง

ประเด็นของเรื่องมันอยู่ที่การที่อาจารย์ไปไล่ไถหัว ตรวจสีชั้นในเด็ก แล้วก็ใช้ตรรกะบ้าๆ ประมาณว่าผมยาวทำให้เด็กสนใจแต่เรื่องผัวๆเมียๆ - ทั้งๆที่กฎกระทรวงก็บอกว่าเด็กแต่งตัวแบบนั้นได้ และอาจารย์ก็ไปไถหัวเด็กไม่ได้

ดังนั้นเมื่ออาจารย์ไม่เคารพตามข้อบัญญัติเรื่องการแต่งกายของเด็กเสียเอง แล้วไปตั้งกฎเอาตามใจอาจารย์ที่ขัดต่อกฎกระทรวง มันเลยกลายเป็นสิ่งที่ไม่ใช่กฎ แต่เป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับความพอใจจะใช้อำนาจของอาจารย์ไปเสีย ความศักดิสิทธิ์ในเชิงกฎหมายมันเลยหมดลง

คือกฎที่ใช้เองแบบที่ไม่มีเหตุผลรับฟังได้ ไม่สอดคล้องกับกฎหมายธรรมชาติ มันก็จะพัง แค่นั้นแหละ

ที่ผ่านมากฎการแต่งตัวมันถูกถามหาความชอบธรรมโดยเหตุผลมาพักใหญ่ๆ

คำตอบของผู้ใหญ่มันเป็นไปทาง "ไม่ต้องมีเหตุผลเลย ก็อยากเอาแบบนี้ และกูมีอำนาจอ่ะ พวกมึงเป็นเด็กก็ก้มหน้าทำตามไป"

การไม่ใส่ชุดนักเรียนแม่งเลย จึงเป็นการประชดเอาสุดทาง เพื่อแสดงการไม่ยอมรับอำนาจ

ชุดนักเรียนหัวเกรียนตอนนี้เลยกลายเป็นสัญลักษณ์ของการยอมรับอำนาจเถือนเกินขอบเขตกฎกระทรวง - การเลิกใส่ชุดจึงเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิเสธอำนาจเกินขอบเขต

ไม่มีอะไรยากเลย

ดังนั้นประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ชุดดี หรือชุดไม่ดี

ประเด็นมันคือ ครูไม่สนกฎกระทรวง จะโชว์ว่าตัวเองมีอำนาจเหนือเด็ก เด็กก็เลยบอกว่า "ได้ งั้นผมจะโชว์ให้ดูว่าอาจารย์ไม่ได้มีอำนาจเหนือผม" แค่นั้นแหละ
.
.
.
วิธีการทำให้ทุกอย่างมันจบ อาจารย์ก็แค่ไปอยู่ใต้กฎหมายที่ตัวเองควรจะอยู่ ทั้งกฎกระทรวง และศีลธรรม เด็กมันก็จะกลับไปอยู่ในกฎการแต่งกายของกระทรวงเอง

หรือถ้ากฎกระทรวงมันไม่เข้ากับยุคสมัย ไม่สอดคล้องกับความคิดแล้ว ก็ว่ากันตามกระบวนการเปลี่ยนแปลง ไปดีเบทกันไป

397 Nameless Fanboi Posted ID:Qg8uZ1f5L5

เชียรชุดนักเรียนมากกว่าเยอะ ไม่ได้มองว่าเกี่ยวไม่เกี่ยวกับการเรียน แต่เกี่ยวกับภาพลักษณ์ เงินซื้อเสื้อผ้า การแบ่งกลุ่ม การอวด มันจะมากขึ้นตามมาแน่นอน 🔥🔥🔥

398 Nameless Fanboi Posted ID:0T9EdpP1NM

>>397 ทางออกคือรัฐควรรับภาระค่าใช้จ่ายชุดนักเรียนจริงๆ จังๆ เสียที แต่ต้องเป็นชุดที่มีคุณภาพด้วยนะ

399 Nameless Fanboi Posted ID:Qg8uZ1f5L5

Note to self: การ deflect compliment หรือปฏิเสธคำชมมันไม่น่ารัก

คนชมเขาก็คิด ตั้งใจ รวบรวมความกล้า และใช้พลังงานมากชมเรานะ จะไปปฏิเสธเขาทำไม ไม่น่ารัก

400 Nameless Fanboi Posted ID:yOb4swVk+T

ปัญหาของชุดนักเรียนไทยกูว่ามันเป็นเพราะออกแบบห่วยดูอุบาทว์ด้วยแหละ โดยเฉพาะของผู้ชายนี่ม.ปลายหนวดเฟิ้มขนหน้าแข้งยุบยับแล้วยังต้องมาแต่งตัวไม่ต่างจากชุดเด็กอนุบาลอีก

401 Nameless Fanboi Posted ID:0T9EdpP1NM

>>400 อันนี้จริง กูว่า ม.ปลาย ผช. น่าจะใส่ขายาวได้ละ ดูพวกอาชีวะ ปวช. ดิ ช็อปขายาวแม่งเท่สัส

402 Nameless Fanboi Posted ID:7pvEO1grb1

>>401 ขายาวเตะบอลลำบาก ขี้เกียจเอากางเกงมาเปลี่ยนด้วย

403 Nameless Fanboi Posted ID:0T9EdpP1NM

>>402 ยุ่นมีปัญหานี้ปะวะ กูเห็นชุด นร. ม.ปลาย ในการ์ตูน แม่งอย่างเท่

404 Nameless Fanboi Posted ID:kpDsjigjH0

ชุดนักเรียน ญป. ในความเป็นจริงชุด ผช. มันก็เหมือนชุด นศ./ ชุดอาชีวะ ธรรมดา นี่ละเสื้อขาว กางเกงดำ

405 Nameless Fanboi Posted ID:wMkbBL9WCn

นักเรียนหญิงใส่ชุดนักเรียนชายนี่เฟติชกูเลย

406 Nameless Fanboi Posted ID:jCG..htF6+

>>402 กูเรียนเอกชนใส่ขายาว เวลาเตะบอลพวกกูก็เตะทั้งๆแบบนั้นนั่นแหละ มันไม่ได้ลำบากมากเว้นแต่มึงจะไปแต่งเป็นเดฟ

407 Nameless Fanboi Posted ID:dyZRnRN7aT

"จนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่ากฏหมายข้อไหน มาตราไหน กดขี่ นศ.อยู่ เราที่ทำงานไปเรียนไปยังไม่เห็นจะรู้สึกถูกกดขี่เเต่อย่างใด

เราถามเรื่องกฏหมายนะ ที่มีคนออกมาเย้วๆก่อนหน้านี้

เรื่องชุดนักเรียนอยากใส่ชุดอะไรเราไม่สนอะ จะใส่ชุดนักเรียนหรือใส่ชุดไปรเวท ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรในการดำเนินชีวิตตอนเรียนเลย เคยมีเเต่ตอนช่วงนึงที่ว่ากลัว นศท. จะเรียนไม่ทันเพื่อนเลยจัดให้เรียนเสริมช่วยเสาร์ ให้ใส่ชุดไปรเวทได้ก็ยังเรียนได้ปกติไม่มีมาอวดเรื่องเสื้อใครเเพงกว่ากันนะ เเต่เราว่าชุดปกติเรามีเเต่เสื้อธรรมดาสุดๆ เสื้อนักเรียนนี่ดูดีสุดละในบรรดาชุดในตู้เสื้อผ้าเราละ
เรื่องครูเรื่องการเรียนเราอาจจะโชคดีเจอครูที่ดีด้วย ไม่เข้าใจเเกก็ช่วยสอนเเนะนอกเวลาเรียนได้ตลอด "
อันนั้นเรื่องระหว่างบุคคล ใครทำผิดใครโดนกลั่นเเกล้ง มีหลักฐานก็ดำเนินคดีไปตามเคส เราอยู่ในยุคที่มีกล้องกันทุคนเเล้ว

408 Nameless Fanboi Posted ID:Co0xwImqhu

ผมว่าการใส่ชุดนักเรียนมันเป็นพื้นฐานของการฝึกระเบียบวินัย และการเคารพในกติกาสังคมเลยนะ
มันไม่ใช่เรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่มันเป็นเรื่องหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบตัวเองเลยนะ ตามกติกาของโรงเรียนในประเทศไทยเลย

หลายๆท่านอาจจะลืมไปว่า ท่านส่งลูกไปโรงเรียนทำไม
นอกจากว่าไปเรียนหนังสือ หาวิชาความรู้แล้ว
โรงเรียนเค้าต้องฝึกเรื่องระเบียบวินัย การเคารพในกติกาของสังคม เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันภายใต้กฎระเบียบที่ควบคุมให้คนหมู่มากอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขด้วย

เพื่ออะไร เพื่อให้ลูกท่านเป็นผู้เป็นคน ที่รู้จักยอมรับในกติกาของสังคม เคารพกฎระเบียบของสังคม เพื่อให้ออกไปใช้ชีวิตในสังคมได้

แน่นอนว่าลูกท่านยังมีสิทธิเสรีภาพเต็มเปี่ยม ภายใต้กฎระเบียบ ที่กำหนดว่าลูกท่านต้องมีหน้าที่ ความรับผิดชอบที่ต้องทำเช่นกัน

ไม่ใช่มีแค่สิทธิเสรีภาพเฉยๆ แต่หน้าที่ ความรับผิดชอบ ลูกท่านก็ต้องยอมรับด้วย
เพราะสิทธิเสรีภาพ มันก็มีราคาที่ต้องจ่ายเหมือนกัน ด้วยหน้าที่ และความรับผิดชอบ ตามกติกาของสังคมนั้นๆเช่นกัน

ท่านจะหวังให้ประเทศไทยเจริญเทียบเท่าประเทศอื่นๆได้ยังไง ในเมื่อท่านสอนให้อนาคตของชาติของท่าน เคารพกฎระเบียบของสังคมไม่ได้ สอนให้มีวินัยรับผิดชอบต่อสังคม เคารพในกติกาสังคมไม่ได้

ท่านอยากให้ประเทศเจริญเหมือนญี่ปุ่น เหมือนเยอรมัน ท่านควรจะเริ่มจากการผลิตประชาชนที่มีวินัยสูง สำนึกในหน้าที่ตนเองก่อนเหมือนเค้าดีไหม ไม่ใช่ประชาชนที่ไม่ชอบอะไรก็มาประท้วงให้ยกเลิก เพียงเพราะไม่ถูกใจ หรือเพิ่มความลำบากนิดหน่อยให้ตัวเอง สนแต่สิทธิเสรีภาพตัวเอง แต่ไม่รู้จักวินัย หน้าที่ และความรับผิดชอบต่อสังคม

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

409 Nameless Fanboi Posted ID:ISGcND9f/y

>>408
คนที่ใส่ชุดนักเรียนไปเรียนทุกวัน ก็ยังมีลางาน 300 กว่าวันบ้าง อมเบี้ยเลี้ยงบ้าง นั่งหลับเวลางานบ้าง ถามว่าการใส่ชุดมันช่วยให้คนมีระเบียบขึ้นจริง หรือแค่คิดไปเอง

410 Nameless Fanboi Posted ID:Co0xwImqhu

>>409 เหมือนบิลเกต สตีฟจ๊อบ เรียนไม่จบก็เป็นมหาเศรษฐีของโลกได้

411 Nameless Fanboi Posted ID:ocayot5rGW

>>408 ชาวประเทศที่ฉีกกฎหมายสูงสุดทุก7-8ปี กำลังมโนว่าได้ปลูกฝังการเคารพกฎระเบียบอย่างดีแล้ว

412 Nameless Fanboi Posted ID:V5LKBogAEu

https://discord.gg/qX7JZMPk

413 Nameless Fanboi Posted ID:MCk2E.TKXP

>>410 หยุดเอาexceptionมาพูดเหมือนเป็นruleดิวะ

เทียบเปอร์เซ็นพวกเรียนไม่จบว่าไปเป็นมหาเศรษฐีกับไปนอนคุก อันไหนเยอะกว่ากัน

414 Nameless Fanboi Posted ID:x7Q61FfXaq

#5ธันวา ไปรับเสด็จสนามหลวง

ก่อนเขียนโพสต์นี้ ผมก็คิดอยู่นานพอสมควร ว่าควรจะเขียนดีไหมใน สถานการณ์ปัจจุบัน แต่ผมเชื่อเสมอว่า ไม่ว่า เพื่อน พี่ น้อง ที่ผมรู้จัก อาจจะมีความคิดต่างกับผม แต่เราก็ยังหวังดี ช่วยเหลือ และ เกื้อกูลกันได้เสมอ ด้วยการให้เกียรติซึ่งกันและกัน

สำหรับผมแล้ว ผมมี 5 เหตุผล ที่ใช้ทั้งสมอง และ หัวใจในการพิจารณาว่าทำไม 5 ธันวาถึงไปสนามหลวง

1. #คุณูปการที่สถาบันพระมหากษัตริย์ มีต่อสังคมไทย

ในวัยเด็กผมยังจำได้ดี ตอนที่ไปเยี่ยมบ้านของแม่ที่ ตำบล บางแก้ว จังหวัดเพรชบุรี เคยถาม ญาติของผมว่าทำไม ชายหาดที่บ้านแม่ถึง เต็มไปด้วยก้อนหิน ญาติของแม่บอกว่า เพราะ ตำบลนี้ มีปัญหาเรื่อง คลื่นทะเล กัดเซาะหน้าดิน
เป็นหลายปี แก้ไขไม่ได้ จนวันนึง ในหลวง รัชกาลที่ 9 ส่องกล้องมาจากวังไกลกังวล แล้วสงสัย ว่าทำไมพื้นที่นี้ถึงเกิดหน้าดินเซาะ เลยให้ข้าราชการ เข้ามาหางช่วยเหลือ จนสามารถแก้ปัญหาเรื่องการ เซาะหน้าดินได้สำเร็จ นั้นอาจจะเป็นโมเม้นต์แรก ที่ผมรู้สึกรัก และ ผูกผันกับ สถาบันกษัตริย์ มาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากนั้น สมเด็จพระเทพ ก็ยังมาทำโครงการเพาะเลี้ยง สัตว์ทะเล ที่แหลมผักเบี้ย ใกล้ตำบลที่แม่ผมอยู่ ช่วยให้ระบบ นิเวศของทะเลดีขึ้น และทำให้คนในพื้นที่ทำอาชีพประมง มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่นับรวม ที่ ในหลวงรัชกาลปัจจุบันส่งทีมจิตอาสา เข้ามาช่วยในพื้นที่
และ ลูกของเพื่อนแม่ผม รอดตายจาก โรคมะเร็ง เม็ดเลือดขาว เพราะได้เป็นคนไข้อุปถัมภ์ของ สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์

นี้อาจเป็นส่วนนึง ที่ สถาบันกษัตริย์ได้ทำให้กับ ประเทศไทย

2.#ความกล้าหาญและเสียสละ

มีคำถามนึงที่อยากชวนทุกคนให้ลองคิดกันครับ สมมุติว่าเรามีลูกชายอยู่คนเดียวในบ้าน เราจะยอมให้เขาเสี่ยงชีวิต หรือ มีภัยอันตรายอะไรไหม ผมเชื่อว่าพ่อและ แม่เกินกว่าร้อยละ 50 ต้องไม่ยอมกันแน่ๆ แต่กับสถาบันนั้นต่างกันไป ในช่วงนึงของประวัติศาสตร์ไทย ที่มีการต่อสู้กับ พรรคคอมมิวนิสต์ รัชกาลที่ 10 ที่ยศขณะนั้น แค่ร้อยเอก ได้เข้าไปทำการรบเคียงบ่า เคียงไหล่กับทหาร ในพื้นที่เสี่ยงภัยและมีการสู้รบจริง ไม่นับการที่ รัชกาลที่ 9 เสด็จด้วยพระองค์เอง พร้อมครอบครัวไปในพื้นที่เสี่ยงภัย และ เข้าไป เรียนรู้ปัญหา เพื่อแก้ความยากจน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการแก้ปัญหา
ด้วยคำสั่งที่ 66/23 ในภายหลัง เปลี่ยนคนคิดต่างให้กลายมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ได้อย่างสงบร่มเย็น

415 Nameless Fanboi Posted ID:x7Q61FfXaq

ในบันทึก ของ พล ต . อ. วศิษฎ์ เดชกุญชร นายตำรวจ ราชองครักษ์ ได้ เล่าไว้ว่า เคยถามในหลวงรัชกาลที่ 9 ว่าถ้าคอมมิวนิสต์ บุกเข้าประเทศไทย จะทำอย่างไรดี ท่านตอบว่าประเทศนี้ จะมีคนชื่อ ภูมิพล มหิดล เพิ่มขึ้น 1 คนและจะไม่มีวันหนีออกจากประเทศไทยเป็นอันขาด

นี้คือความกล้าหาญ และ เสียสละที่ผมยังไม่เคยหาได้เจอ ในนักการเมืองคนไหน ในประวัติศาสต์ของชาติไทย

3. #การทำให้คนไทยเป็นหนึ่งไม่แบ่งแยก และ ขัดแย้งรุนแรง

ถ้าเราลองสังเกตุกันให้ดี ประเทศไทยเราแทบจะไม่มีปัญหา ไทยคริสต์ กับ ไทยพุทธ ทะเลาะกัน หรือชาวมุสลิมกับ ชาวพุทธ ทะเลาะกันอย่างรุนแรง หรือ ไทยเชื้อสายจีน ตีกับ ชาวไทยพื้นเมือง ถึงมีก็จบได้เร็วและ สูญเสียน้อย เพราะเราถูกเชื่อมร้อยเข้าหากันด้วยคำว่า ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่ทำให้เรามีความเอื้อเฟื้อ ผ่อนหนัก ผ่อนเบาซึงกันและกัน

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ การเสด็จสำเพ็งของรัชกาลที่ 8 ที่ช่วยเชื่อมร้อยคนไทยเชื้อสายจีน เข้ากับผืนแผ่นดินนี้อย่างแท้จริง

4. #การด้อยค่า และ กล่าวหา สถาบันอย่างไร้หลักฐาน

ผมเชื่อว่า เรื่องนี้หลายๆคนคงได้เห็นหลักฐานเชิงประจักษ์กันมากแล้ว ไม่ว่าการกล่าวหา เรื่องของ ทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ การด้อยค่า สร้างข่าวเท็จ ให้ร้ายโดยไม่มีหลักฐาน หรือ ปั้นหลักฐานกันขึ้นมา ผมคิดว่าอันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง ตัวอย่างที่เห็นกันได้ชัด เราสามารถดูได้จากการดีเบตนี้ครับ

https://www.youtube.com/watch?v=MpfJh4AWSCk&t=2174s

" ถก!! พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ 2561 "

5.หลักนำใจให้ ทำเพื่อคนอื่น และ ส่วนรวม

ตัวผมเกิดมาในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะดีมากนัก เพื่อนสมัย วัยเรียนมัธยม ก็ล้วนเหี้ยวๆ กันตามประสอของเด็กวัด มีทั้งเรื่องการพนัน , บุหรี่ ,ผู้หญิง มีหลายๆ ครั้งผม ก็เกือบจะพลาดไปทำอะไรไม่ค่อยดี แต่ทุกครั้งที่จะทำอะไร ที่ไม่ดีๆมากๆ ผมก็จะนึกถึง ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตลอดในคำสอนต่างๆ ที่สอนให้เรายึดถือประโยชน์จของส่วนรวมเป็นที่หนึ่ง ประโยชน์ของตนให้อยู่ในลำดับรองลงมา มีพระราชดำรัสมากมายที่ท่านสอนและยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้น และไม่ลงไปในอบาย หรือ คดโกงผู้อื่น

สุดท้ายแล้วโลกนี้ ล้วนนาๆ จิตตัง ไม่มีใครสามารถคิดเหมือนกับเราได้หมด แต่หากใครที่มีจิตใจ จงรักภักดี อยากให้ 5 ธันวานี้ เราได้เจอกันนะครับ

ปล. ผมเลือกภาพประกอบโพสต์นี้ เพราะนึกถึงคำพูดนึงของรัชกาลที่ 9 ว่า

#ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือการได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง "

และเป็นการร้อยเรียง ในหลวงรัชกาลที่ 9 , ประชาชน และรัชกาลที่ 10 ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

#ขอความกรุณางดคอมเม้นท์ที่ไม่สุภาพ เสียดสี หรือ ต้องการสร้างให้เกิดการทะเลาะกันนะครับ

#ถ้าเราให้เกียรติกันถึงแตกต่างก็อยู่ร่วมกันได้ครับ

416 Nameless Fanboi Posted ID:aCLfiJdLdH

เหมือนเครื่องมือการอยู่ร่วมกันแบบที่คนส่วนมากในสังคมไทยรู้จักมันมีน้อยไปอ่ะ มีแค่กฎ อำนาจ ตำแหน่ง หน้าที่ บุญคุณ และอื่นๆ ซึ่งเซ็ตเครื่องมือนี้ มันไม่เคยพอในการสร้างสังคมที่ดี แล้วความไม่เพียงพอของมันยิ่งเห็นชัดขึ้นมาระเบิดใยยุคนี้

เครื่องมืออื่นๆ ที่ขาด ก็มีเช่น sympathy, empathy, การเจรจาต่อรอง, justification, coaching, การหาจุดร่วม, ความระลึกรู้ตัวเอง, ความฉลาดทางอารมณ์ และอีกมากมาย

(การเขียนเครื่องมือพวกนี้เป็นภาษาไทยที่เหมาะสมพอจะคงความหมาย ได้แค่ครึ่งนึง ยิ่งสะท้อนว่าเราขาดแคลนขนาดไหน)

417 Nameless Fanboi Posted ID:7VKzspN/BM

>>414 น่าเวทนานะ ยุคนี้จะเขียนอวยก็ต้องเขียนเผื่อไว้ก่อนว่าทุกคนอาจจะมีความคิดต่างกัน ไม่มั่นหน้ามั่นโหนกแบบยุคก่อนเลย ถ้าทำแบบนี้ได้ตั้งแต่ยุคก่อน ก็คงไม่เป็นไปขนาดนี้แท้ๆ

418 Nameless Fanboi Posted ID:8TGJOKLQXx

>>416 คนไทยไม่เคยถูกฝึกให้คุยกันด้วยเหตุผล เอาว่าตั้งแต่เกิดมาก็ชินกับการใช้อำนาจแล้ว พ่อแม่ข่มลูก พี่ข่มน้อง พอเข้าเรียนเจอครูข่มนักเรียน ใครถูกเพื่อนในห้องในรุ่นแกล้ง มีหน้าที่ต้องใช้กำลังงัดหน้าแม่งกลับเท่านั้นถึงจะได้รับการยอมรับ (จะแพ้หรือชนะช่างมัน แต่ต้องกล้าสู้ห้ามถอยจนกว่าตัวเองจะตายหรืออีกฝ่ายรามือไปเอง) พอเข้ามหาลัยยังเจอ SOTUS สอนอีกว่าต้องชินกับการถูกตะคอกถูกจิกหัวด่าแบบไร้เหตุผล เพื่อที่จบไปทำงานแล้วเจอนายจ้างหรือหัวหน้างานงี่เง่าจะได้ทนได้ อยู่เป็น ไม่ต้องตกงาน ไม่แปลกหรอกที่สังคมนี้จะชินเวลามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นจะชินกับการใช้กำลังตัดสินก่อน กระทืบอีกฝ่ายให้จมตีนก่อน เพราะเชื่อว่าต้องกดให้อยู่ในอำนาจไม่งั้นจะไม่ยอมทำตาม อันนี้เป็นกันทุกฝ่ายนะแม้แต่ฝ่ายที่หวังดีจริงๆ ก็เหอะ

419 Nameless Fanboi Posted ID:LQmfk85v4Y

>>418 แพ้อย่าบอกว่ากลัว ถ้ามึงผ่านตรงนี้ไปได้มึงเป็นเพื่อนกัน กลัวคือขี้ข้า บางทีไม่ยอมกันก็ซัดกันไปเรื่อยๆ เก่งมากเจอรุม พ่อแม่ดีๆก็ลงมาช่วยลูก พ่อแม่บางคนเหยียบลูกให้ต่ำกว่าเพื่อน จะได้ไม่เสียหน้า มีอะไรก็ลงที่ลูกเอา ลูกจะได้เชื่องกับทุกๆคนไปเลย คุมง่ายดี ในกรณีที่พ่อคู่กรณีอยู่สูงกว่าและพร้อมจะซัดหน้า ตายก็เผา
แต่คนที่เก่งได้ก็เหมือนมึงต้องมีพวกพ้องตลอด พวกมึงหาย หรือมึงไปไหนมาไหนคนเดียว โดนตีตายแน่นอน

420 Nameless Fanboi Posted ID:8TGJOKLQXx

>>419 นั่นแหละ สังคมอำนาจนิยม พอโตมาก็หาแบ็คมีสีคุ้มหัวกัน คนไทยโตมากับวิธีคิดแบบนี้ ไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรม (เพราะเส้นสายมักช่วยอะไรได้เยอะ) ทำใจอย่างเดียวว่ะ

421 Nameless Fanboi Posted ID:JGT4.C/kNO

พวกที่บอกให้เคารพ กม. ตอนนี้ ก็คือพวกเดียวกับที่เชียร์ รปห.เย้วๆ เมื่ออดีต

422 Nameless Fanboi Posted ID:lKtDpc.cgt

>>421 อดีตที่ไหนกูเห็นมันก็ยังเชียให้รปหอยู่ตอนนี้เลย555

423 Nameless Fanboi Posted ID:ZGJGavb1V9

ช่วงสมัยยุคก่อนคริสตกาล หรับชาวจารวาก ทั้งพระเจ้า กฎแห่งกรรม ภพภูมิ สังสารวัฏ โมกษะ และความศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ไม่มีอยู่จริงนอกจากในห้วงมโนของมนุษย์เท่านั้น ดังปรากฏในตัวอย่างคำสอนต่อไปนี้

"ไฟรุ่มร้อน น้ำหนาวเหน็บ อากาศยามรุ่งอรุณเย็นสดชื่น ความหลากหลายนี้มาจากผู้ใด? ก็เกิดจากธรรมชาติของตัวมันเองนั้นแล"

"ไม่มีสวรรค์ ไม่มีความหลุดพ้นในท้ายที่สุด และไม่มีจิตวิญญาณใดในโลกอื่น รวมถึงการปฏิบัติของวรรณะทั้งสี่ บทบัญญัติ และอะไรอื่นก็มิได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นจริงใดๆ ทั้งสิ้น"

"ไม่มีโลกอื่นใดนอกจากโลกนี้ ไม่มีสวรรค์และไม่มีนรก ภพภูมิแห่งศิวะและดินแดนทำนองนั้นล้วนถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยนักต้มตุ๋นที่โง่เขลา"

"สามผู้ประพันธ์คัมภีร์พระเวท ได้แก่ ตัวตลก คนโป้ปด และปิศาจ"

"ขณะที่ชีวิตยังเป็นของท่านก็จงใช้ชีวิตอย่างรื่นเริงเถิด ไม่มีผู้ใดรอดพ้นสายตาสอดส่องของความตายไปได้ ยามที่สังขารของเราถูกแผดเผาไปแล้ว มันจะหวนกลับมาอีกได้อย่างไร?"

"ความสุขแห่งสวรรค์อยู่ที่การได้ลิ้มอาหารเลิศรส อยู่รายล้อมด้วยหญิงสาว ใช้เสื้อผ้า น้ำหอม มาลัย และแป้งหอมอย่างดี... ส่วนโมกษะคือความตายอันเป็นจุดสิ้นสุดของชีวิตและลมหายใจ ดังนั้น ผู้มีปัญญาจึงไม่ควรต้องเจ็บปวดด้วยเรื่องของโมกษะ"

"คนเขลาทำให้ตนเองเสียประโยชน์ด้วยการบำเพ็ญตบะและงดอาหาร ความบริสุทธิ์และบทบัญญัติใดๆ ถูกตั้งขึ้นโดยคนกระจอกที่ปราดเปรื่อง"

424 Nameless Fanboi Posted ID:7cNrrww8Ld

https://discord.gg/BggXwVNd

425 Nameless Fanboi Posted ID:OKxfQceLKV

ทำไมผู้บริหารหลายคนถึงมองปีหน้าคือของ(เผา)จริง?
หลังจากแอดได้ฟัง Podcast หรือคลิปสัมภาษณ์ผู้บริหารของไทย ทั้งด้านอสังหา ด้านห้างสรรพสินค้า ด้านการโรงแรม หรือด้านการเงิน และอื่นๆ
ทุกคนบอกว่าปีหน้า "จะหนัก" ยิ่งกว่าปีนี้ ต่อวัคซีนที่ประกาศข่าวดีกันไปแล้วแต่กว่าจะมาถึงมือทุกคนบนโลก คงไม่ใช่เรื่องง่ายภายในข้ามเดือน
เหตุผลของแต่ละท่านก็มองต่างไปในหลายมุม ตาม "ตัวเลข" ที่เห็นออกมาจริงๆ ในธุรกิจที่พวกเขาเป็นผู้บริหารอยู่
ผมเลยสรุปมาสั้นๆตามนี้
✓ สายป่านที่เคยมีเริ่มสั้นลง แม้ก่อนหน้านี้ตุนเงินสดไว้แต่ค่าใช้จ่ายพนักงาน และน้ำ-ไฟฟ้ายังคงอยู่
✓ Soft loan ไปไม่ถึง SME หรือธุรกิจขนาดกลาง เมื่อคู่ค้า หรือลูกค้าของกิจการล้มลง กำลังซื้อและความต้องการสินค้าราคาแพงย่อมหดตัวตามลงไป เพราะกระทบการจ้างงานและการซื้อขายของธุรกิจย่อย กระทบชิงมายังภาพใหญ่
✓ Pend-up Demand เริ่มหดตัวลงไปตามระยะเวลา แม้ของ Brand Name ขายดีเพราะคนระดับบนที่ปกติไปเที่ยว-ช็อปตปท. ก็ยังคงมีเงินเหลือช็อปของหรูอยู่ดี แต่คนระดับกลาง-ล่าง เริ่มไม่ได้มีเงินมาเที่ยวทุกวีคแบบคนรวย
✓ การพักหนี้หมดลงจากเดือนตุลาคม แบงค์ชาติให้เข้าไปเจรจาขอพักหนี้อีก 6 เดือนต่อได้ (แต่ต้องคุยจบในสิ้นปีนี้) จะเห็นคลื่นการผิดนัดชำระหนี้ในช่วงเวลาแบบนี้
✓ ยังไม่มีตัวเลข "ความเสียหายจริง" ที่เกิดขึ้นเพราะปกติทุกวิกฤต จะต้องพบการล้มหายตายจากกันจริงๆ และเห็นผู้อยู่รอดที่แท้จริงก่อน แต่ครั้งนี้ธุรกิจทั่วโลกถูกเลื่อนไม่ให้ล้มละลายด้วยมาตรการต่างๆจากรัฐ ซึ่งสักวันต้องหมดมาตรการเพื่อให้สะท้อนความจริง เพราะคงไม่มีรัฐบาลใครสามารถอุ้มบริษัทเอกชนไปได้ตลอดชีวิต
==========================================
ใครไม่เห็นด้วยโดยคิดว่าเราผ่านจุดต่ำสุดแล้ว หรือเห็นด้วยกับผู้บริหารข้างต้น ลองเอาข้อมูลมาแย้ง/สนับสนุน ได้เลยนะครับ แอดก็อยากรู้ตัวเลขแท้จริงของ SME ด้านอื่นๆที่ไม่ใช่อสังหา ห้าง โรงแรม การเงิน ว่าเป็นยังไงบ้าง...
แม้ปัจจุบัน ศก.จริงไม่เกี่ยวกับตลาดทุนอย่างสิ้นเชิง เมื่อฟังคลิปเสร็จหันมาเปิดแอพ Investing มันช่างส่วนทางกับสภาพตลาดทุนในตอนนี้ที่จอทำนิวไฮกันแทบทุกวัน
สภาพศก.เผาจริงจะเป็นยังไง มารอรับชมไปพร้อมๆกันครับ

426 Nameless Fanboi Posted ID:7cNrrww8Ld

https://discord.gg/BggXwVNd

427 Nameless Fanboi Posted ID:NJDluz/IjV

>>425 ปีที่แล้วก็มีคนบอกปีนี่เผาจริงเหมือนกันนะ ถึงมันจะเผาจริงๆ ก็เถอะ แต่คนละเรื่องกับที่คาดไว้คนละโลกเลย

428 Nameless Fanboi Posted ID:T38AceN1wE

Q : ทำไมถึงต้องซื้อเรือดำน้ำ

A : เพราะจะได้ไม่เกิดเหตุแบบนี้ไง
https://www.sanook.com/news/8309791/

สมัยยุคทักกี้ ตอนนั้นเพื่อนบ้านใครๆ ก็เกรงใจเรา ถ้าเกิดเหตุแบบนี้เอาเรือรบไปจ่อก็ปล่อยละ เดี๋ยวนี้นะเหรอก็ตามข่าวนั่นละ
ปล. ไต๋โทมี license ข้ามไปตกปลาฝั่งพม่าได้ แบบถูกกฏหมายแต่ไม่รอด ถ้าจะไถ

และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ว่าทำไม คนมอญ คนกะเหรี่ยง คนไตใหญ่ ที่ไม่เคยอยู่ร่วมกันแบบสงบสุข กับทหารพม่าได้ซักที

429 Nameless Fanboi Posted ID:8IbJAmeA0T

>>428 แล้วทำไมซื้อมาแล้วพม่ารามัญมันถึงหยามหน้าเราได้ขนาดนี้ล่ะครับ

430 Nameless Fanboi Posted ID:ftQUq2j7Nb

>>429 รอ ผบ.ทร ขับเรือดำน้ำไปเจรจาก่อนนะ

431 Nameless Fanboi Posted ID:nPlNYwsvAf

ที่ CODEST เป็นที่แรกของโลกที่รับรองว่ามาเรียนคอร์สเดียวแล้วสามารถเขียน Code ได้ทุกรูปแบบ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นมหาวิทยาลัยไหนทำได้เลย อาจจะมีก็ได้ ส่งข้อมูลมาบอกกันได้เลยครับ

ไม่แน่เหมือนกัน ที่ CODESTA อาจจะค้นพบทฤษฎีสำคัญในการเขียน Code อะไรขึ้นมาก็ได้ แต่มันยังติดปัญหาบางอย่างที่ยังไม่ชัดเจน อย่าลืมว่าทฤษฎีทั่วไปใช้เวลาพัฒนา 20-30 ปี หรือนานกว่านั้น อย่าเพิ่งดูถูกดูแคลนกัน Church-Turing Thesis ผมศึกษาตั้งแต่อายุ 15-16 (สมัยนั้นไม่แปลกอะไรมาก ดูภาพประกอบใน Comment) ผ่านมาเกือบ 30 ปี จะคิดอะไรต่อยอดจากตรงนั้นไม่ได้เลยเหรอ?

ธุรกิจคนไทยที่ประสบความสำเร็จในระดับโลกมีหลายที่อย่าง เซ็นทรัล, ซีพี, คิงเพาเวอร์ หรือ กลุ่มไมเนอร์ เดินหน้าขยายธุรกิจไปต่างประเทศมากมาย รวมถึงธุรกิจที่แข่งขันได้กับระดับโลกอย่าง กาแฟอเมซอน สุกี้เอ็มเค หรือ นครชัย ทั้งรถโดยสารและรถแท็กซี่ สามารถไปเปิดบริการแข่งกับธุรกิจชั้นนำของโลกได้อย่างสบาย

ที่ CODESTA ก็เหมือนกัน สอนไปสอนมาตอนนี้กลายเป็นคนสอน Java ที่มีประสบการณ์สอนมากที่สุดในโลก 4,100 ชั่วโมง และเป็นคอร์สเรียน Java แห่งแรกของโลกที่สอนครบทั้ง 56 คำ สำหรับคนที่สนใจ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ลองมาเรียนด้วยกันได้ครับ

ดูคอร์สเรียนได้ที่นี่ https://code

เนื้อหาที่ CODEl สามารถอ่านได้ตามหนังสือทั่วไปครับ ไม่ต้องเสียเวลามาเรียนให้เหนื่อย อ่านเล่มเดียวส่งใบสมัครงานมาได้ทันที หนังสืออยู่ใน Comment ครับ ถ้ามีคะแนนสอบ TOEFL มาด้วยตั้งแต่ 100 คะแนนขึ้นไป เงินเดือนเริ่มต้นที่ 40,000 บาท ไม่ต้องมีประสบการณ์ทำงาน หรือวุฒิการศึกษาปริญญาอะไรทั้งสิ้น

คอร์สเรียน Java Bootcamp ทำอะไรได้บ้าง
• ทำ Web Service ด้วย Spring Boot, Spring MVC และ Micro Framework
• ทำ Web Application ที่ใช้กับ Tomcat, GlassFish, WebSphere, JBoss เรียนครบ
• ทำ Web ได้สวยงามเป็นมาตรฐานเหมือนมืออาชีพ ออกแบบด้วยมือ เขียนสดๆ ทีละตัวอักษร ที่แรกในเมืองไทย
• ทำ ระบบฐานข้อมูล MySQL, SAP/HANA, Oracle, SQLServer ทั้ง JDBC และ JPA บน Ubuntu และ Cloud
• ระบบ Ecosystem ที่เขียนด้วย Java จะมีข้อดีในระยะยาว 10 ปี 20 ปี ดูตัวอย่างได้จาก Amazon หรือ LinkedIn

432 Nameless Fanboi Posted ID:+ILxB7zqde

พวกหัวเกรียนทำงานถึงตีสองเลยเหรอวะ หวังว่าวันนี้พวกมึงจะได้หยุดกันนะ

433 Nameless Fanboi Posted ID:DAyf.gMegL

>>428 จับปลาอะไรวะ ไปกัน22คน ลักลอบเข้าเมืองชัดๆ

434 Nameless Fanboi Posted ID:AgrHSBOViU

>>433 ลักลอบเข้าเมืองพม่าทำบ้าอะไร เรือ POLARIS ONE มันเรือทัวร์ตกปลา ตามเพจตกปลาจัดทริปไปกันบ่อย

435 Nameless Fanboi Posted ID:AgrHSBOViU

https://www.youtube.com/watch?v=U4g101lMSto

436 Nameless Fanboi Posted ID:nPlNYwsvAf

เหตุผลที่นายจ้างไม่ค่อยชอบรับคนไทย แต่เลือกรับพนักงานจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก เพราะคนไทยธุระจะเยอะหน่อยๆแหละ เดียวก็มาสายพาเมียไปหาหมอ กลับไวพาแม่ไปหาหมอ ลางานพาลูกไปหาหมอ

เอาจริงก็เห็นใจแหละ ถ้าคนในครอบครัวป่วยต้องพาไปหาหมอ แต่ตอนนี้ ขอเลือกเห็นใจชีวิตตัวเองก่อนดีกว่า เพราะเศรษฐกิจแบบนี้ก็แทบไม่รอดกันทุกคนอยู่แล้ว

เหตุผลแบบนี้แหละ ในหลายๆที่เวลาจะเลือกคนมาทำงาน ถ้าสกิวสองคนเท่าๆกัน ระหว่างคนไทย กับต่างชาติ จะเลือกต่างชาติ ระหว่างคนมีภาระเรื่องลูก กับไม่มีภาระเรื่องลูก จะเลือกคนไม่มีภาระเรื่องลูก มันเป็นสิ่งที่กระบวนการ recruit ให้น้ำหนักประเด็นนี้เงียบๆในใจ ไม่มีใครกล้าพูดออกมา เพราะพูดออกมาแล้วจะดูเหมือนคนใจดำ แต่นัตโตะกล้าพูด เพราะตรงๆ 555

437 Nameless Fanboi Posted ID:jjCttHR6sd

>>436 นักสิทธิฯ ไม่ชอบสิ่งเน้

438 Nameless Fanboi Posted ID:ddxvpqau54

ในเพจ ตลาดหลวง
มีคนโพสรูปที่อ้างว่าเป็น'ภาพหลุด'
ของเจ้าคุณพระ(รูปน่าจะเก่าอยู่)
หลากท่วงท่า หลายอริยาบท มีทั้งทำปากจู๋โชว์รักแร้ ,แอ่นหน้าโชว์กล้าม อก ,แอ่นหลัง อวดทรวดทรงหน้ากระจก รวมทั้งนั่งเช็ดเก้าอี้ทำหน้าซกมก เฮียเชื่อว่าหลายคนเคยเห็นและแอบเม้นท์โดยไม่บอกญาติมิตร

ภาพเหล่านั้นแพร่ตามช่องทางไซเบอร์ต่างๆมาได้ซักระยะหนึ่ง
ไม่มีเอกสารยืนยันจากทางราชการ
ว่าสตรีในรูปคือเจ้าคุณพระจริง
แต่ก็ไม่มีหน่วยงานใดกล้ายืนยันว่าไม่จริง
ขนาดเฮียซึ่งศึกษาและเสาะแสวงมาทางด้านนี้อย่างจริงจังก็ยังลังเลไม่ปักใจเชื่อ เพราะคนเราอาจมีใบหน้าละม้ายหรือรูปกายที่คล้ายกัน มันเป็นไปได้
เอ่า ก็ดูอย่างรูปผู้ชายแต่งตัวพิลึกเดินช้อปปิ้งในห้างฯต่างประเทศที่เขาลือว่าคือในหลวงประไร เฮียเห็นแล้วก็ว่ายังไงก็ไม่ใช่
ในหลวงอะไรจะพิเรนท์ปานนั้น,ไอ้พวกปากหอยปากปูนินทาราชวงศ์เฮียล่ะเกลียดนักเชียว

ทุกครั้งที่มีการโพสรูปสตรีท่านนั้น
มักมีคอมเม้นท์ล้อเลียน บุลลี่
รวมทั้งลามไปถึงที่มาที่ไปของเธอ
บางเม้นท์รู้จริงเรื่องในวัยสาวราวกับเรียนห้องเดียวกัน บาง
เม้นท์บรรยายชีวิตรักเป็นฉากๆเหมือนแอบอยู่ใต้เตียงทุกคืน
และมีอีกส่วนหนึ่งมักเม้นท์ประมาณว่า เธอมาได้ไกล
เฮียไม่เห็นด้วยกับการคอมเม้นท์เหยียดหยาม เช่น นมเล็ก รักแร้เหมือนตูดไก่
แต่ก็ไม่รู้จะโต้แย้งยังไงเพราะเฮียก็เห็นเช่นเดียวกับพวกเขา

บุญวาสนาของคนเรานั้น มันเท่ากันซะที่ไหน ลูกเลี้ยงของยัยป้าใจร้ายยังกลายเป็นซินเดอร์เรลล่า ,ทหารแก่โง่เง่าเงอะงะยังถูกผีถีบให้เป็นนายกฯได้
แปลกอะไรถ้าสาวน้อยบ้านนาขนในร่มผ้าหรอมแหรม/ร๋อมแร๋ม
จะคว่ำฟ้าพลิกแผ่นดินยืนหนึ่งโดดเด่นเป็นเจ้าคุณพระผู้ไม่มีมลฑิณมัวหมองมุ้งมิ๊ง

ไม่ว่าแกจะเป็นลูกเต้าเหล่าใครมาจากตรอกซอกซอยไหน โดยส่วนตัวเฮียไม่ปัญหาอันใดดอกแถมออกจะเอ็นดูเสียด้วยเพราะว่าแกถูกสเป๊ค
แต่วันนั้นนั่งไล่อ่านไปเรื่อยเจอเม้นท์น้องผู้หญิงคนนึงแล้วหัวเราะจนเมื่อยกระบังลม
น้องเค้าว่า
"มึงเอาใครมาให้กูกราบ"

พิมพ์อยู่นี่ก็ยังขำ

สวัสดี

#เฮียชอบกินข้าวผัดกุนเชียงนะ
#ชาไข่มุกอย่าหวานมาก

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

439 Nameless Fanboi Posted ID:YupkfEBh/+

Soft despotism (เผด็จการนุ่มนวล) เป็นศัพท์ที่รู้สึกว่าเหมาะกับไทยมาก คือจริงๆเป็นเผด็จการเพราะแตะผู้มีอำนาจตัวจริงไม่ได้และเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจไม่ได้ แต่ทำให้คนรู้สึกว่าไม่เผด็จการในชีวิตประจำวันเพราะมีความหละหลวม มีความชิล ในเรื่องอื่นๆเกือบหมด เป็นมายาของเสรีภาพในเขาวงกต

440 Nameless Fanboi Posted ID:rNja5Ton9T

>>436 โม้เหม็น สกิลเท่ากันยังไงก็เลือกคนไทย เพราะไม่ต้องจ่ายเพิ่ม วุ่นวายเรื่องเอกสาร ที่เลือกพวกต่างด้าวเพราะ ราคาถูกและใช้งานได้มากโดยที่ไม่กล้าต่อความเยอะ

441 Nameless Fanboi Posted ID:jjCttHR6sd

>>440 ก็อันหลังนั่นละทำให้นายจ้างเลือกต่างด้าวกัน เพราะคนไทยลาบ่อยและชอบต่อรอง ต่างด้าวมาไกลบ้านไม่ค่อยลา และกฎหมายยังไม่ให้ตั้งสหภาพแรงงาน

442 Nameless Fanboi Posted ID:h53BIISsIt

>>441 มันก็เหมือนฝรั่งไม่จ้างฝรั่งด้วยกันมาล้างจานไรงี้ป่ะวะ

443 Nameless Fanboi Posted ID:l2SUkzrTi8

>>442 ก็ใช่แหล่ะ ความเจียมเนื้อเจียมตัวตอนไปของานทำต่างบ้านต่างเมืองน่ะนะ

444 Nameless Fanboi Posted ID:xM2Bh3kV1M

>>442 ตามนั้น จริงๆ สมัยก่อนเทียบใน ปท. ยังได้เลย เถ้าแก่ กทม. ไม่ค่อยอยากจ้างคน กทม. แต่ชอบจ้างคนอีสาน เพราะดูซื่อๆ ไม่มีปากเสียง ตอนนี้คนไทยทุกภาครู้มากหมดแล้ว จ้างต่างด้าวดีกว่า หรือพวก บ.ใหญ่ๆ ที่ไปลงทุนในโลกที่ 3 เพราะคนบ้านตัวเองรู้มาก เรียกร้องเยอะไง

445 Nameless Fanboi Posted ID:1Pd55sjfuH

>>444 นายจ้างไม่อยากได้ลูกจ้างรู้มาก กดหัวไม่อยู่ อีลิทถึงไม่อยากยกระดับให้พวกไพร่

446 Nameless Fanboi Posted ID:.Q9+AMZ4oR

สหภาพแรงงานไม่มีนายจ้างที่ไหนอยากให้ตั้งหรอก เรื่องมาก เรียกร้องประสาทแดก ทำตามหมดเจ้งกันพอดี

ปรกติแล้วถ้าใครทำตัวเหมือนแกนนำ จะโดนไล่ออกก่อนเพื่อนเป็นเรื่องปรกติ

447 Nameless Fanboi Posted ID:V+88Q0RqZs

มีแต่พวกแรงงานที่ฝันว่าสักวันตัวเองจะเป็นนายทุนแบบเขาบ้าง เลยมีอาการเป็นห่วงนายทุนเกินเหตุ

448 Nameless Fanboi Posted ID:i6QQYqLYCx

กูอยากรู้จะเกิดไรขึ้นวะ ถ้าคนทั้งโลกรู้จักสิทธิแรงงานกันหมด นายจ้างจะไปใช้หุ่นยนต์ AI แล้วไงต่อ? สินค้าจะขายใครอะ

449 Nameless Fanboi Posted ID:DTf9UB2CeW

ก็เป็นสังคมนิยมมากขึ้น ของอุปโภคบริโภคที่เป็นmassราคาต่ำ ทุนไหลไปภาคcreativeมากขึ้น แข่งกันผลิตIPแทน

450 Nameless Fanboi Posted ID:V+88Q0RqZs

ตอนเกิดเครื่องจักร เทคโนโลยีคอม ก็กังวลกันแบบนี้ละมั้ง สุดท้ายโลกมันไปต่อของมันได้เองแหละ

451 Nameless Fanboi Posted ID:KPT2+JXA7S

>>450 ตอนนั้นกังวลจริง แต่เครื่องจักรยังแทนคนได้ไม่เท่าไรไง ส่วนใหญ่คืองาน Routine ทำซ้ำๆ ในโรงงานหรืออฟฟิศ กระทั่งปัจจุบันเมื่อมี AI เข้ามาแทนนี่แหละ แม่งกังวลกับเกือบทุกอาชีพเลย

452 Nameless Fanboi Posted ID:xyhQ07futc

กังวลไปทำไม คนก็จะได้ไปทำในสิ่งที่ตัวเองชอบไง ไม่ต้องมาทำงานรูทีนที่ตัวเองไม่ชอบ

453 Nameless Fanboi Posted ID:6oqUcgNLf/

>>450 คอมก็ทำให้ลดคนงานไปได้เยอะนะ อันที่ไกล้ตัวที่สุด คือ ธนาคารไง พอปรับปุ๊ปปิดสาขาพรวดๆ

ส่วนงานในสำนักงานงานไหนถ้าเป็น routine ซ้ำๆ ให้คนมาเขียนโปรแกรม หรือใช้พวก software automation สั่งปรุ๊ดเดียวจบ สังเกตง่ายๆ แบบระบบบัญชีก็ไม่ได้ใช้คนเยอะเหมือนสมัยก่อน

ส่วน AI อันนี้คือเอามาแก้งานที่ระบบ routine แล้วแก้ปัญหาไม่ได้ ถ้ายกตัวอย่างก็ระบบ OCR (แปลง text เป็นรูป) สมัยก่อนเขียนโปรแกรมยังไงก็ทำยาก เพราะ font มีหลากหลาย ต้องใช้ file คุณภาพสูงคมชัดห้ามเบี้ยวถึงดึงได้ แต่เดี๋ยวนี้ถ้าใช้ AI ช่วยแบบ google photo ดึง text มาได้ง่ายๆ เลย
หรือ แบบไกล้ตัวสุดก็แปลภาษา 10 ปีที่แล้วยังทำได้แค่ replace คำ แต่ตอนนี้เริ่มอ่านรู้เรื่องมากกว่าเดิม แล้วลองคิดดูอีก 10 ปีต่อไปจะเป็นยังไง เผลอๆ ไม่ต้องซื้อหนังสือแปลไทย ใส่แว่นแปลภาษาอ่านได้เลย เพราะเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีไปเร็วจะตาย

ส่วนเรื่องดีไซน์ตอนนี้ AI อาจจะทำได้ห่วยแตก แต่ถ้าปล่อยไปซัก 10-20ปี ข้างหน้าอาจจะไม่ห่วยก็ได้ เพราะดีไซน์ช่วงหลังมันตีออกมาเป็นสูตรได้หมด ตั้งแต่ความสูงบรรทัด การจัดข้อความ ระยะห่าง ปัจจุบันตีออกมาเป็นสูตรที่ทำตามนี้แล้วออกมาสวยได้หมดเลย

454 Nameless Fanboi Posted ID:5MYH+oKXDw

การฆาตกร ในโลกทุกเคส เกิดจากอีกฝั่งมองคนถูกคิล เป็นแค่สิ่งของเท่านั้น

455 Nameless Fanboi Posted ID:5MYH+oKXDw

>>450 คอมมี่ ไม่ใช่นวัตกรรม อย่าเอ๋อนะร่าล

456 Nameless Fanboi Posted ID:GgE852iLFU

ในสายตาของส ลิ่มอ่านวันพีซ
วันพีซไม่เกี่ยวกับการเมือง
วันพีซเป็นการ์ตูนอวยเจ้า แม้แต่โจรสลัดอย่างลูฟี่ ก็ยังช่วยเหลือกษัตริย์ที่ดี อย่างราชวงศ์เนเฟลตาลี ริคุ โอเด้ง ให้ได้กลับมามีอำนาจ
ครอคโคไดล์ โดฟลามิงโก้ ก็เหมือนพวกนักการเมืองล้มเจ้า ไอ้แม้วไอ้ทอน ใช้ประชานิยมขนมหวาน หลอกลวงประชาชนโง่เขลาให้มาสนับสนุน พอมีอำนาจก็ล้างสมองเด็กให้ชังชาติ บิดเบือนประวัติศาสตร์เหมือนโอโรจิ
โจรสลัดคือพวกที่ทำผิดกฏหมายเพื่อความดีงาม เหมือน กปปส. ปิดเมือง แช่แข็งประเทศ เพื่อไล่นักการเมืองโกง ถวายคืนพระราชอำนาจ
ทั้งหมดทั้งมวลไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นเรื่องจิตสำนึก จิตอาสา รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว สุดท้ายโจรสลัดก็กลับไปออกทะเลอย่างพอเพียง รู้ประมาณ ไม่ฟุ้งเฟ้อ ความดีย่อมชนะความชั่ว
ให้อ่านวันพีซจนจบสามรอบมันก็ไม่เข้าใจหรอกว่าเผ่ามังกรฟ้าคืออะไร ดีไม่ดีจะนึกว่าหมายถึงพม่าเขมรไม่ก็ฝรั่งเศสที่มารุกรานไทย

457 Nameless Fanboi Posted ID:5MYH+oKXDw

>>456 เมิงอะควรรู้ด้วยว่า ร่าล ทั้งนั้นที่อ่านวันพีช พวกหริ่ม มันแก่เกินจะอ่าน

458 Nameless Fanboi Posted ID:Tw.n.y3SBh

>>456 กาวหรือกัญชาครับ

459 Nameless Fanboi Posted ID:2mWoMiarfd

>>456 กูเห็นมีเเต่ร่าลอ่านวานพีซซุที่ด่าเจ้า

สลิ่่มได้เเค่ตามสปอยกับด่า เพราะรูขี้มันปัญญาอ่อนเกิน

460 Nameless Fanboi Posted ID:9.Mq.awPUk

>>459 แสดงว่าคนยุ่นร่า นทั้งประเทศเลยการ์ตูนมันถึงดัง มิน่าล่ะทำไมประเทศแม่งไม่เจริญ

461 Nameless Fanboi Posted ID:UsagZS/RDk

ผมว่าเหตุการณ์ที่ตำรวจล้อมจับการ์ดอาสาสมัคร Wevo นี่ลึก ๆ เป็นวิกฤติระดับลึกในจิตสำนึก หรือ เป็น Identity Crisis ขององค์กรตำรวจเลย ขอยกมาสักสองสามข้อ

1. ลึก ๆ ตำรวจรู้ว่าตนเองไม่เคยทำงานเพื่อประชาชน มันเป็นแค่อาชีพ ๆ หนึ่งที่มีผลประโยชน์พึงรับ มีรายจ่ายที่ต้องจ่าย ไปตามราคาค่างวด และระดับอำนาจที่จะถือเอาไว้ในมือ ดังนั้น เมื่อมีองค์กรใดที่อาสามาทำเพื่อประชาชนอย่างจริงจัง โดยไม่หวังผลตอบแทน และมีจำนวนมากพอ โดยไม่ได้จัดตั้ง นั่นคือความสั่นไหวในระดับ existential หรืออัตถิภาวนิยม ของความเป็นตำรวจเลย เพราะนั่นคือสิ่งที่พวกเขาควรทำตั้งแต่แรก แต่ทำไม่ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม

2. ลึก ๆ ตำรวจมีความสั่นไหว ว่าจะไม่ได้รับความไว้ใจจากประชาชน โดยพฤติกรรมที่กล่าวมาแล้ว แต่ที่เขายังพึ่งพาอยู่ก็เพราะไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้ ในทางเศรษฐศาสตร์การบริการของตำรวจก็คือ monopoly of service ที่ไม่เคยมีคู่แข่งมาก่อน ไม่ว่าจะบริการห่วยอย่างไร ก็สามารถทำได้ เพราะมันไม่มีตัวเปรียบเทียบ แต่เมื่อมีองค์กรจัดตั้งที่ดูมีความเข้มแข็ง มีอุดมการณ์ มีจำนวนคนมากพอที่ได้รับการยอมรับจากชาวบ้าน และทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในการบำบัดทุกข์ของประชาชน พวกเขาย่อมจะเสียหน้าอย่างมาก และต้องใช้มาตรการรุนแรงเกินกว่าเหตุในการกำจัด "คู่แข่งทางการตลาด" นั่นเสีย ด้วยวิธีการอย่างไรก็ได้ ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าหากประชาชนสามารถเลือกได้ว่าต้องการตำรวจแบบไหน ตำรวจแบบที่มีอยู่ย่อมสูญพันธ์อย่างแน่นอน

3. ตำรวจยังหวังอยู่ลึก ๆ ว่าพวกเขาจะได้รับความรักและความไว้ใจจากประชาชน (ถึงแม้จะทำพฤติกรรมอันแสนเลวทราม) และเมื่อได้รู้ว่าประชาชนพร้อมจะตีจากพวกคุณ ถ้าหากมีทางเลือกที่ดีกว่าก็ทำให้อัตลักษณ์ใน imaginary realm ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เพราะตนเองไม่ได้เป็นวัตถุแห่งความปรารถนาอีกต่อไป

และทั้งหมดนี้เกิดจากความบิดเบี้ยวเชิงโครงสร้างของประเทศนี้ ที่ทำให้ไม่มีองค์กรไหนเลยที่จะสามารถสถาปนาธรรมดำรง (integrity) ของตนเองเอาไว้ได้ ดังนั้นข้อเรียกร้องข้อ 3 ของเยาวชนปลดแอก เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน

462 Nameless Fanboi Posted ID:fKD7NcJEcf

ใช่ครับ แรงงานจำนวนมาก (อาจจะส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ) ไม่คิดว่าตัวเองเป็นแรงงาน
แม้จะอยู่ในระบบประกันสังคม ที่ทำให้เห็นกันอยู่ชัดๆว่าเป็นลูกจ้าง ก็ยังคิดว่าตัวเองไม่ใช่แรงงาน
ประเทศไทยถึงได้มีสมาชิกสหภาพแรงงานแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ไงล่ะครับ (ข้อมูลเดิมคือ 3% แต่ผมว่าเดี๋ยวนี้น่าจะไม่ถึงแล้วมั้ง)
คุณว่าเพราะอะไรถึงเกิดจิตสำนึกแบบนี้ขึ้นล่ะ?
ลองคิดว่าใครได้ประโยชน์จากการที่แรงงานมีจิตสำนึกแบบนี้ก็จะเข้าใจได้ไม่ยาก
แล้วเราควรสนับสนุนให้มันเป็นแบบนี้ต่อ โดยการวางเฉย หรือกระทั่งห้ามปราม ไม่ให้คนพูดอธิบายว่าเขาคือแรงงาน งั้นเหรอ?
เขาไม่คิดว่าเขาเป็นแรงงาน ก็เลยไม่ควรมีใครพูดความจริงว่าเขาเป็น งั้นเหรอ?
การไม่คิดว่าตัวเองเป็นแรงงาน ไม่เพียงแต่เป็นอุปสรรค์ในการรวมตัวเท่านั้น แต่บ่อยครั้งที่เมื่อแรงงานรวมตัวกันต่อสู้ พวกที่ไม่คิดว่าตัวเองเป็นแรงงานนี่แหละที่ดาหน้าออกมาขัดขวาง

463 Nameless Fanboi Posted ID:TesNXygycP

>>461 เบียวจัง

>>462 เปล่า คนไทยแค่ขี้อิจฉา ไม่อยากให้คนอื่นได้ในสิ่งที่ตนได้ ต้องการได้มากกว่าคนอื่น คนไทยถึงไม่คุยเรื่องเงินเดือนกันไง กลัวคนอิจฉาว่าทำใมได้ไม่เท่ากันแล้วหาเรื่อง

464 Nameless Fanboi Posted ID:xaQfdlMpOQ

>>463 มั่วแล้ว เรื่องเงินเดือนเป็นกันทั้งโลก มันอยู่ที่การบริหารทรัพยากรบุคคล

465 Nameless Fanboi Posted ID:9.Mq.awPUk

>>463 กูว่าฝ่ายขวานะที่เบียว ดูตั้งชื่อแต่ละอย่าง ภาษาที่เขียนกฎหมาย เขียนเอกสาร ฯลฯ

466 Nameless Fanboi Posted ID:UsagZS/RDk

เมื่อวาน
หนูดีไปตรวจตา และวัดความดันตา ตามปกติหลังจากผ่าตัด Relex ไปได้ 17 วัน
ดวงตาหนูดีอยู่ในระดับดีแล้วค่ะ ไม่มีอาการติดเชื้อ มองเห็นใสแจ๋ว และดวงตาไม่แห้งมากอย่างที่คิด ทั้งๆ ที่ได้รับคำเตือนว่า หลังผ่าตัด ตาจะแห้งมาก แต่ไม่เท่าไหร่เลย นับว่า โชคดีค่ะ
หนูดีมีคำถาม ที่หลายๆ ท่านฝากมาถามคุณหมอ เอกเทศ ชันซื่อ ณ TRSC นะคะ ถามให้แล้ว และนำมาตอบสั้นๆ ก่อนค่ะ
1. ได้ยินมาว่า หมอตา ไม่นิยมผ่าเลสิก เพราะอันตราย จริงหรือ ...ตรงนี้ คุณหมอตอบว่า ไม่จริงเสมอไปค่ะ หมอตา ก็ผ่าเลสิก และหมอตาที่ speicialize ด้านการผ่าเลสิก ยิ่งมีเปอร์เซ็นการผ่าเลสิกสูงกว่าหมอทั่วไปค่ะ ประเด็นคือ หมอตาไม่ได้รู้อะไรที่เป็นความเสี่ยงที่คนทั่วไปไม่รู้ สำหรับการผ่าเลสิกแล้ว เรามีสิทธิรู้ได้เท่าหมอค่ะ คนที่ไม่ผ่า คือ เขาไม่ยินดีรับความเสี่ยงนั้นด้วยเหตุผลเฉพาะตัว เช่น หมอผ่าสมองอาจผ่าเลสิกน้อยกว่า เพราะตามีผลกับอาชีพของเขามากๆ จึงทำให้ท่านไม่ยินดีรับความเสี่ยงเท่าคนทั่วๆ ไปค่ะ
2. ความเสี่ยงของ Lasik หรือ Relex คืออะไร ... หลักๆ แล้วคือ Glare หรือ แสงกระจายในที่มืด อาการตาแห้ง และอาการติดเชื้อค่ะ ปัจจุบัน ยังไม่มีการบันทึกเคสผู้สูญเสียดวงตาจากการผ่าเลสิกค่ะ หนูดีเอง ตาแห้งมาก่อนผ่า คุณหมอได้แจ้งแล้วว่า ผ่าแล้วตาอาจแห้งมากขึ้น แต่หนูดีเอง ยินดีรับความเสี่ยงนี้ค่ะ ส่วนเรื่องติดเชื้อ เกิดน้อยมาก หนูดีต้องหยอดยาฆ่าเชื้อตาวันละ 4 ครั้ง ขณะนี้ เข้าสู่ระยะปลอดภัย ตาแข็งแรงแล้ว งดหยอดยาแล้วค่ะ
ที่หนูดีผ่า เรียกว่า เทคนิค Relex ค่ะ ไม่ใช่ LASIK เพราะแผลเล็กกว่า ความเสี่ยงต่ำสุดค่ะ เป็นคนละวิธี แต่ให้ผลเดียวกันค่ะ
นาทีนี้ คุณหมอไฟเขียวให้ไปดำน้ำลึกได้แล้ว เพราะแผลที่ตาสมานดี เดือนนี้ หนูดีลงภูเก็ตค่ะ ขอแวะไปดำน้ำล่ะ
หนูดีพึงพอใจมากค่ะ ตามองชัด และไม่แห้งเท่าตอนใส่คอนแทกเลนส์ เหมือนได้ตาคู่ใหม่
หากใครมีคำถามเพิ่มเติม โพสไว้ได้นะคะ หนูดีจะไปถามให้อีกค่ะ
ด้วยรัก
หนูดี

467 Nameless Fanboi Posted ID:UsagZS/RDk

ตั้งใจไว้ว่าหลังจากไปทำตามาแล้วจะมารีวิวให้ฟัง พี่โพสต์ยาวนะ หนูอ่านไหวหรอออ🤓

468 Nameless Fanboi Posted ID:UsagZS/RDk

ความรู้สึกหลังทำสั้นๆๆ ประโยคแรกเลย ..... โลกที่ชัดมันเป็นแบบนี้นี่เอง มองสบู่ชัดเวลาอาบน้ำมันมีความสุขสุดๆๆ🛀👁️👁️

มามะ เริ่มต้นกันเลย ....

ท้าวความก่อนนะ ว่าทำไมถึงมาทำเลสิค...พรพิ ใส่คอนแทคเลนส์มาตั้งแต่อายุ15 แหละ นับนิ้วก็คงไม่พอ รวมๆก็ 20 กว่าปีได้ 😅😅 มีแว่นใส่สลับบ้าง หลังๆๆแข็งข้อขึ้นไม่จับแว่นเลย ใส่ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมา จนกระทั่งนอน อย่างน้อยก็มี 10 กว่าชม.ขึ้น ไม่เคยใช้น้ำตาเทียม เพื่อความชุ่มชื้น จนมาถึงวันนึงทำไมเคืองตา ก็ขยี้ตาปกติ มองกระจกอีกที ตาแดง เคืองตาหนัก แต่ก็ยังฝืนทำงานต่อให้จบ จนวันรุ่งขึ้นไปหาหมอ หมอบอกว่ากระจกตาอักเสบให้งดคอนเทคเลนส์ อาทิตย์นึง .... ขุ่นพระ 🤯 แว่นพรพิอยู่ไหน ไม่มีนิ ทำไงละทีเนี่ย ก็มาทำงานสภาพเหมือนคนตาบอด มองไม่เห็นอะไรเลย หน้าแทบจะฝังลงไปในคอมฯ 🖥️ จนต้องไปตัดแว่นเดี๋ยวนี้!!
และก็เลยทำให้คิดว่า จะใส่แว่นตลอดไม่ไหวนะ เพราะว่า หนักหู ดั้งก็ไม่มี ออกกำลังกายไม่ถนัด ไม่ชอบ ไม่ชิน นี่เลยเป็นที่มาของการศึกษาหาข้อมูลว่า ถึงเวลาที่ฉันต้องทำเลสิคแล้วแหละ เลยเริ่มหาข้อมูลบ้างแหละ พอดีมีพี่ที่รู้จักคนนึงไปหาหมอเพื่อทำเลสิคก็เลยขอข้อมูล เริ่มศึกษา ประจวบเหมาะว่าเพื่อนสมัยมัธยมก็ทำกะหมอคนนี้อีก ก็เลยยิ่งมีความมั่นใจในการอยากทำมากขึ้นแหละ ก็นัดคิวหมอสิจ๊ะ รออารายยยย

📲add facebook / add line คุณหมอจะมีทีมเลขาช่วยในการตอบคำถาม นัดคิว สงสัยอะไรถามได้หมด เลยรู้สึกมั่นใจมากขึ้น
👩‍🔬คุณหมอตุลยา ตรวจ 2 ที่ คือปิยเวช (ที่นี่มี 2 แบบ PRK /LASIK) กะ ศูนย์แว่นท้อปเจริญ (PRK /LASIK/ FEMTO/RELEX SMILE) เลยเลือกมาที่ท้อปเจริญดีกว่า เพราะเครื่องมือทันสมัยกว่า รวมทั้งเมื่อ5ปีที่แล้วเคยตรวจแล้วกระจกตาบาง เลยอยากทำแบบดีที่สุด(ถ้าทำได้)

☎️ก่อนวันนัด จนท.จะโทรมาบอกข้อมูลทั่วไป เช่น ต้องพาคนมาด้วยนะ*อันนี้สำคัญ* (เพราะว่าเดี๋ยวขยายม่านมา มันจะทำให้การมองเห็นทุกอย่างชัดกว่าปกติ) งดคอนแทคกี่วัน ห้ามแต่งหน้า ห้ามใส่น้ำหอม ใส่เสื้อกระดุมหน้า(เผื่อทำได้เลย จะได้สะดวกในการเปลี่ยนถอด) ฯลฯ
📌17สค.วันนัดก็มาถึง...มาถึง9โมงกว่าก็ทำบัตรนัด แต่สายตาดิฉันก็กวาดส่องหาโปรฯ บัตรไหนลด บัตรไหน cashback 5555 🧐
เริ่มต้นการตรวจ ก็ถอดแว่น ปิดตา อ่านเลข (มันเป็นอะไรที่เกลียดมาก เพราะว่าพรพิ มองไม่เห็นอะไรเลย) จนบอกจนท.ว่าอย่าให้อ่านเลยเพราะมองไม่เห็น 5555 จนวัดความดันตา ใส่แว่นปรับค่าสายตา ก็พบว่า🕵️👀
ข้างขวา สั้น 850 เอียง 100
ข้างซ้าย สั้น 650 เอียง 200
+ เป็น lazy eye อีก เอาเข้าไปซี๊

ด้วยความที่สายตาเราสั้นเยอะ หมอเลยซีเรียสในการทำ จึงขอตรวจจอประสาทตาอีกครั้งอย่างละเอียด (ซึ่งรู้สึกโอเคนะ เพราะว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ)
ตรวจๆๆเดินห้องโน่น ห้องนี่ เรียกชื่อไปมา ปาไป 3 ชม.ได้ แล้วก็พักเบรคให้ไปกินข้าวก่อนมาเจอหมอตุลยา เราก็ไปกินบิ๊กซีแถวนั้น ใส่แว่นตาดำไป😎 ก็คิดว่าตัวเองเก่งไม่น่าจะแสบตาเท่าไหร่ ถอดแว่นตาดำจ้า ปรากฏว่าน้ำตาไหล สู้แสงไม่ได้ มองเห็นไม่ชัด 55555

🎉ถึงเวลาพบหมอตุลยาแล้วจ้าาาาา ..... หมอวัยรุ่นมากกก มาถึงก็บอก ทำได้นะ แต่ได้ครั้งเดียว ทำ PRK ไม่ได้ ที่เหลือทำได้หมด เลือกเอา เลย....เล่าให้หมอฟังว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้วเคยไปตรวจวัดที่รพ.รามาฯ หลังจากตรวจหมอก็บอกว่า กระจกตาบาง ไม่สามารถทำได้ ถ้ายังใส่คอนแทคไหวก็ใส่ไปนะ เลยรู้สึกว่า ถ้ารอบนี้ทำได้ ก็อยากทำเลย หมอบอกงั้นก็เอาแบบที่เจ็บตัวน้อยสุดไปดีกว่า นั่นก็คือ RELEX SMILE เราก็เลยถามหมอว่า แล้วค่ากระจกตาพรพิเท่าไหร่ หมอบอก 516 หน่วยอะไรจำไม่ได้แหละ ซึ่งก็อยู่ในเกณฑ์บางนะ แต่ก็ทำได้ ซึ่งค่ากระจกตา ที่ทำได้ประมาณ 500 - 700 ก็สบายใจ

หมอบอกว่า ทำให้ได้....แต่ค่าสายตาจะไม่กลับมา100% เหมือนคนอื่นนะ เราก็งงเด่ 🙄.... หมอก็อธิบายว่าด้วยอายุของเรานั้น อีกนิดเดียวจะเริ่มสายตายาวแล้ว พรพิเลยรีบบอกไปว่า ที่ไปตัดแว่นมา เค้าบอกยาว 100 แล้วค่ะ 😅😅
ก็คือ หมอจะทำให้แบบ monovision สายตาข้างนึงเราจะมองใกล้ชัด อีกข้างจะมองไกลชัด จะทำให้เรายังไม่ต้องใส่แว่นสายตายาวได้อีกนาน เราก็อ๋อ...เข้าใจแหละ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ยังไม่ต้องแว่นตายาวด้วย🤓🤓
หมอบอกถ้าวันนี้เตรียมตัวมา จะทำเลยก็ได้นะ หมอทำให้ ... แต่หมอแนะนำว่าให้กลับไปพักผ่อน หยอดน้ำตาเทียมเยอะๆ ตาจะได้ชุ่มชื่น เวลาทำเราจะได้ตาไม่แห้ง เวลาทำจะได้ไม่เจ็บตามาก
แล้วก็ไปฝึกสมาธิ ฝึกเพ่งเยอะๆ เอาคลิปการทำไปดู จะได้รู้วิธีการ เวลาทำจะได้ไม่ตกใจ (หาได้ใน youtube เลย)

469 Nameless Fanboi Posted ID:UsagZS/RDk

🙋23สค.พร้อมมม...หนึ่งอาทิตย์ของการทำใจมาละ มาถึงเค้าจะให้ตรวจสายตาเพื่อความแม่นยำอีกรอบ ตรวจสอบดูว่าค่าต่างๆ เพี้ยนไหม จะได้มั่นใจมากขึ้น และมาพบหมออีกรอบ ตอนนั้นยังแอบลังเลใจ ระหว่าง FEMTO กับ RELEX SMILE อยู่เล๊ยยยย เพราะระยะที่ทำต้องห้ามกรอกตาไปมา FEMTO ประมาณ 15 วินาทีต่อหนึ่งข้าง เปิดกระจกตาประมาณ 20 mm. กับ RELEX SMILE ประมาณ 26 วินาที เปิดกระจกตาประมาณ 2-4 mm....มันตัดสินใจไม่ได้ตรงนี้แหละ เพราะถ้าเราทำ RELEX SMILE แล้วเราเกิดกรอกตาไปมา เครื่องมันจะเปลี่ยนวิธีการทำออโต้ เปิดแผลใหญ่ขึ้นเท่ากับเป็นการทำเลสิคปกติ แต่จ่ายราคาแพง เลยคิดในใจไม่สิ ฉันต้องทำได้

ตอนนั้นก็คิดเอาวะ....ทำครั้งเดียวไม่อยากให้ค่ากระจกตาบางไปกว่านี้ รวมทั้งไม่อยากหยุดงานนาน เลยเลือกทำ relex smile ไปจ่ายเงิน พร้อมผ่อน0%6เดือน 💳 เมื่อพร้อมก็รอคิวเรียกโล๊ดดด
🔈🔉🔊เรียนเชิญคุณพรพิมล..... ต้องพร้อมสินะ✌️ เข้าไปในห้อง ก็สวมเสื้อคลุมฆ่าเชื้อโรค แล้วก็จะมีพยาบาลมาทำความสะอาดหน้า เช็ดตา หยอดยาฆ่าเชื้อ กินยาแก้ปวด ยานอนหลับอ่อนๆ เพื่อหลังทำเสร็จจะได้ไม่เจ็บมาก พร้อมทั้งมีเพลงบรรเลงฟังเพื่อผ่อนคลาย💆 เก้าอี้ปรับนอนสบาย และฉันก็เผลอหลับ 😴 จากนั้นก็เรียกเข้าห้องเครื่องมือใหม่มากสะอาดมากและแอร์เย็นมาก โชคดีที่เตรียมตัวใส่ชุดมาพร้อมจะได้ไม่หนาวมากตอนทำ อารมณ์เตียงที่ทำแบบเหมือนขึ้นยานอวกาศ พยาบาลจะอธิบายพร้อมทดลองจริงว่าเครื่องทำงานยังไง จะได้ไม่กลัว หลังจากนั้นจะมีจนท.ทวนชื่อ ค่าสายตา และจะบอกว่าทำแบบไหนยังไง ระหว่างการทำให้ตอบโต้กะหมอได้ ห้ามพยักหน้า ให้พูดดังๆ
👩‍🔬เมื่อคุณหมอเข้ามา....ทำใจสบายนะ ไม่มีอะไรน่ากลัว ตั้งใจมีสมาธิ สู้ๆ✌️✌️
1️⃣จะมีเครื่องมือถ่างตา มาถ่างตาเราไว้เพื่อไม่ให้ตากระพริบ 👀 บอกเลยขั้นตอนนี้พรพิว่า.....เจ็บสุดแหละ เพราะมันเอาเครื่องมือถ่างตาไว้ มันจะแบบน้ำตาไหลทันที อดทนค่ะต้องผ่านไปให้ได้
2️⃣หมอจะหยอดยาชา แล้วเอาสำลีเช็ดตาประมาณ3-4หมด ตอนเอาสำลีเช็ดตามันก็จะแบบแสบตาน้ำตาไหลนิดนึง แต่พอยาชาออกฤทธิ์มันก็ไม่รู้สึกอะไรล่ะ
3️⃣จากนั้นเครื่องก็เลื่อนเราเข้าไปในเครื่อง หมอจะจับหัวเราไว้ ให้มองจุดเขียวๆห้ามกรอกตาไปมา มองนิ่งๆ แล้วจะมีพยาบาลช่วยนับเลขว่ากี่วินาที เหลืออีกกี่วิ ก็ทำให้รู้สึกว่าจะเสร็จแหละ ซึ่งมันแปปเดียวเอง
4️⃣ออกจากเครื่องนั้นมา หมอก็บอกให้มองตรงๆห้ามกรอกตา แล้วความรู้สึกเหมือนหมอเอาอะไรสักอย่างมาถูๆในตาไปมา ซึ่งบรรยายไม่ถูก อยากบอกว่าหมอมือเบามากก
5️⃣เสร็จหนึ่งข้าง ข้างที่2เริ่มต่อ แต่ตอนนั้นตาข้างนึงมันทำไปแล้ว เวลาลืมตาทำข้างที่2ก็จะไม่ค่อยถนัดเหมือนตาแรก
6️⃣ทุกอย่างเสร็จ ไม่เกิน30 วินาทีต่อข้าง ... พยาบาลก็บอกลุกขึ้นได้คะ ตอนนั้นในใจคิดจะเห็นชัดเลยหรอ แต่ตอนนั้นเห็นทุกอย่างมัวๆ ฝ้าๆไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
หลังจากนั้นพยาบาลก็พามานอนเก้าอี้ตัวเดิม รอพบหมอเพื่อดูตาหลังทำเสร็จ หมอส่องตา ... สวยค่ะ งานดี ถามหมอว่าหนูกรอกตาไหมค่ะ ตอนทำ(กลัวแผลกว้าง) หมอบอกไม่เลย....มีสมาธิดีมาก โล่งอก😅😅
และก็ปิดตามดแดง กลับบ้านได้
แต่พรพิ เลือกนอนคอนโดรายวันที่อยู่ในซอยศูนย์ท้อปฯ เพราะว่าวันรุ่งขึ้นต้องมีตรวจแต่เช้า เลยขอเอาสะดวกดีกว่า รวมทั้งไม่อยากนั่งรถกระเทือน เดี่ยวเจ็บแผล(ปล.มโนเองล้วนๆๆ😆😆) ราคาห้องพักมีราคาสำหรับศูนย์ฯท้อปด้วยนะ 800ลดเหลือ 600 คิดแล้วค่ารถค่าทางด่วนค่ารถติดคุ้มกว่าเยอะ
🛌เมื่อกลับมาถึงที่พัก หิวอีกสั่งgrabมากิน แต่มันลืมตาไม่ไหว สู้แสงไม่ได้ ก็กินในความมืดซิ เสร็จก็รีบนอนเลย เพราะกลัวเจ็บตา ตอนนั้นตามันสู้แสงไม่ได้ ห้ามเปิดไฟ พอล้มตัวนอน น้ำตามันก็ไหลๆ ไม่ได้เจ็บตานะ แต่ลืมตาไม่ได้ แต่มันเจ็บตาอยู่ประมาณ 3 ชม.ก็ไม่เจ็บแหละ ก็หลับยาวไปจ้าา
🌅 Good morning เช้าวันใหม่ มองทุกอย่างลอดช่องพลาสติกเล็กๆ เฮ้ย..มันชัดขึ้น แกะตามดแดงออกไปอาบน้ำ แต่ยังใส่แว่นตาดำนะเพราะกลัวน้ำกระเด็น ...... เท่านั้นแหละ เห็นหน้าตัวเองในกระจกชัดมาก มองสบู่ชัดสุดๆๆ โลกที่ชัดไม่ต้องใส่คอนแทคเลนส์มันเป็นแบบนี้นี่เองง ดีใจสุดๆๆรีบไลน์ไปหาพี่แอม(ผช.หมอตุลยา) .... พี่ค่ะ พรไม่เคยเห็นอะไรชัดขนาดนี้มาก่อนเลย ดีใจอ่ะ พี่แอมบอกว่านี่แค่เริ่มต้น มันจะค่อยชัดขึ้นอีก 6 เดือนจะเป็นของจริง ในใจคิดแค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว 💗
หลังจากนั้นก็ข้ามถนนมาพบหมอ แต่อันนี้มาเช้าเลยพบทีมแพทย์แทนในการตรวจตา ทุกอย่างโอเค วัดสายตาล่าสุด อ่านตัวเลขที่ป้ายออกหมด ไม่ต้องพึ่งแว่นแล้น อ่านชัดทุกตัว อยากจะกรี๊ดดดด 🙋💁🙆🤷
วัดสายตาล่าสุด....
ตาซ้าย สั้น 25
ตาขวา สั้น 125
นี่คือการทำแบบ monovision อ่านใกล้ไกลชัดหมด เริศเลอเฟอร์เฟค

470 Nameless Fanboi Posted ID:UsagZS/RDk

อีกหนึ่งอาทิตย์มาเจอหมอตุลโลดด
ก่อนกลับบ้านก็มันหิวเลยแวะห้าง ใส่แว่นเป็นเซเลป มองทุกอย่างเห็นชัดมาก ไม่แสบตาไม่น้ำตาไหล แฮปปี้สุดๆๆ
กลับบ้านหยอดยาฆ่าเชื้อต่อ10วัน หยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ ใส่แว่นตาดำไว้ก่อน ตอนแรกไม่กล้าตอนตะแคง แต่พี่แอมบอกทำrelex มา ใช้ชีวิตสบายๆๆจ้า

เมื่อทุกคนได้อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว บอกเลย ถ้าสั้นสัก300 เก็บตังค์ไปทำเลสิคเถอะจ๊ะ แล้วเธอจะพบโลกใบเดิมกับดวงตาคู่ใหม่ ที่แฮปปี้สุดๆๆ
🙏ขอบคุณคุณหมอตุลยา ที่ทำให้โลกนี้สดใส 🥰😍
🙏ขอบคุณพี่แอม เลขาหมอตุลยา ที่ช่วยตอบทุกคำถาม แนะนำ อธิบายทุกสิ่งทุกอย่าง
👸ขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจทำตา ทำให้โลกสดใส ถือว่าเป็นรางวัลชีวิตที่ยิ่งใหญ่ให้ตัวเอง
🤴ขอบคุณสารถี ขับรถรับส่ง ดูแลทุกสิ่งอย่าง วันนี้ฉันเห็นหน้าเธอชัดละนะ🥰🥰
ปล.นี่เป็นครั้งแรกที่โพสต์ยาวที่สุดในสามโลก แต่อยากแบ่งปันเรื่องดีๆให้คนอื่นรู้ และอยากเก็บไว้ในความทรงจำ ว่าฉันคิดไม่ผิดที่ทำ 👍

https://youtu.be/yx1mDZpESC4
วิธีการทำ เผื่อมีคนสนใจอยากรู้รายละเอียดในแต่ละวิธี

471 Nameless Fanboi Posted ID:Kb0uQOl21l

ผมมีอาชีพเป็นนักบินการบินไทยตอนนี้เนื่องจาก covid19 หยุดบินมา 9 เดือนแล้ว
รายได้หายไปมาก แต่รายจ่ายยังเท่าเดิม
และยังไม่รู้เมื่อไรจะได้กลับไปบิน
เลยออกมาจาก safe zone มาทำกาน่าฉ่าย
แบบ homemade ซึ่งเป็นสูตรของที่บ้านกินมาตั้งแต่เด็กตั้งใจทำตั้งใจแพคทุกขั้นตอน
ออกแบบโลโก้เอง ทำเพจเองไม่เคยทำมาก่อนขายทางออนไลน์
ไม่รู้ท่านใดเคยลองชิมมั้ย
ก็มั่นใจในคุณภาพสินค้า
พรุ่งนี้จะลุยเป็นเซลล์แมนลองไปเสนอขายฝากวางตามร้านต่างๆดู
ไม่มีประสบการณ์เลยครับ ไม่รู้ต้องไปติดต่อใครยังไง แต่ลุยเต็มที่ครับ
จะลองขับวนใน กทม ครับ ตื่นเต้นเหมือนบินไฟล์แรกเลย
ขอ กลจ หน่อยนะครับ _/\_

472 Nameless Fanboi Posted ID:jzDp/KnHbV

>>471 ทำไมเพื่อนกูนักบินการบินไทยมันบอกยังได้เงินเดือนอยู่วะ

473 Nameless Fanboi Posted ID:/WMjk6bX7x

>>472 ได้อยู่แค่รายได้หายไปราวๆแสนห้าต่อเดือน ถ้าคนมันจมไม่ลงก็นะ ....

จากโม่งวงใน lw20

474 Nameless Fanboi Posted ID:fKD7NcJEcf

เรื่อง เยาวชนปลดแอก จะแปลงร่างหรือแตกหน่อหรืออะไรซักอย่างแล้วกลายเป็น Restart Thailand ที่มีโลโก้เป็นค้อนเคียวเนี่ย โดยส่วนตัวเราไม่ได้คิดว่ามันมีปัญหาที่มันน่ากลัวหรือคอมมิวนิสต์แต่ประการใด

ค้อนเคียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ใช้แรงงาน กรรมาชีพ ขบวนการแรงงานไม่จำเป็นต้องเป็นคอมมิวนิสต์เสมอไป แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือประเทศไทยไม่มีซ้ายมานานมากกกกกกแล้ว ตั้งแต่ยุคเดือนตุลาก็เป็นซ้ายงงๆ ที่ออกจากป่ามาแล้วย้ายไปอยู่กับพุทธทาสหรือเศรษฐกิจพอเพียง หลังจากนั้นก็ไม่เห็นใครซ้ายเป็นชิ้นเป็นอันอีกเลย ประเทศนี้มีแต่ขวาเจ้าตีกับขวานายทุนสลับฮั้วกัน

อีกอย่างคำว่า “ปลดแอก” มันก็เป็นคำของคอมมิวนิสต์มาแต่ต้นแล้ว ถ้าจะมีใครรับไม่ได้กับค้อนเคียวก็ควรจะกรีดร้องมาตั้งแต่ “เยาวชนปลดแอก” “ประชาชนปลดแอก” “ศิลปินปลดแอก” “โยคีปลดแอก” ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ประมาณสามชาติครึ่งที่แล้วแล้ว ไม่ใช่ “ปลดแอก” มาถึงวันนี้แล้วมารับไม่ได้กับค้อนเคียว มันตลก

ถ้าจะมีส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับสัญลักษณ์ค้อนเคียวก็มีเพียงแต่ว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของขบวนการที่แพ้ไปแล้ว และแพ้แบบไม่มีทางจะกลับมาชนะได้ในศตวรรษนี้ ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมชอบเอาสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้มาใช้อยู่เรื่อย แต่ก็นั่นแหละ เข้าใจว่ามันโรแมนติกแบบพระเอกตายตอนจบ คนหนุ่มสาวอาจจะชอบ สมัยก่อนเราก็อินกับเพลงชาติจีนแดงเหมือนกัน โตแล้วถึงมารู้ว่าคนโดน purge ยุคปฏิวัติวัฒนธรรมตายไปเป็นสิบล้านคน แต่ก็อีกนั่นแหละอย่าไปว่าคอมมิวนิสต์มือเปื้อนเลือดเลย ใครที่ชนะขึ้นมาเป็นมหาอำนาจโลกได้ก็มือเปื้อนเลือดระดับ Holocaust ทั้งนั้น ไปนับดูว่าอเมริกาทิ้งระเบิดปรมาณู 2 ลูกคนตายไปกี่คน ฆ่าอินเดียนแดงไปเท่าไหร่ตอนสร้างชาติ จักรวรรดิบริเตนใหญ่ทำคนตายไปกี่คนในระบบการค้าทาสและค้ากุลี เจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสกับเบลเยี่ยมฆ่าตายไปกี่คนในแอฟริกา สเปนยึดอเมริกาใต้ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ นี่ไม่ยกตัวอย่างพวกผู้ชนะในประเทศนี้นะว่ามือเปื้อนเลือดเรื่องอะไรบ้าง ขี้เกียจมีคดีในประเทศที่ไม่มีเสรีภาพทางวิชาการ

สรุปคือไม่อยาก take seriously กับสัญลักษณ์พวกนี้เท่าไหร่ เพราะอะไรอย่างนี้มันก็มีความหมายมุมกลับของมันทั้งนั้น คุณจะเลือกสัญลักษณ์ของฝ่ายแพ้ที่เป็นเหยื่อ หรือคุณจะเลือกสัญลักษณ์ของฝ่ายชนะที่มือเปื้อนเลือด แลดูไม่น่าเลือกซักอย่าง ถ้าจะต้องคิดมากทุกเม็ดขนาดนั้นก็อย่าเคลื่อนไหวอย่ามีสัญลักษณ์อะไรเลยค่ะ เหนื่อย เบื่อ ไร้สาระ เสียเวลา

475 Nameless Fanboi Posted ID:6h3KXyBDmZ

>>474 https://www.youtube.com/watch?v=SFFIU7A-sNo เพลงชาติเยาวชนคอมมี่ปลดแอส

476 Nameless Fanboi Posted ID:yldFSrm1LM

ขอผิดพลาดที่สำคัญที่สุดของมาร์กซ คือไม่เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อไม่เข้าใจมนุษย์ทุกอย่างจึงล้มเหลว แม้ทฤษฏีจะสวยหรูเพียงใด แต่ทำไม่ได้จริงในภาคปฏิบัติ ส่วนทุนนิยมก็รู้จักมนุษย์ รู้จักจุดอ่อนของมนุษย์ดีเกินไป กระตุ้นจุดอ่อนไม่หยุดหย่อนจนทำลายตัวเอง โลกนี้ไม่มีอะไรพอดี

477 Nameless Fanboi Posted ID:fobvKah5Pt

อดีตคอมมิวนิสต์ไทยที่หนีเข้าป่าไปนั้นหลังจากที่พ่ายแพ้ต่อรัฐบาลต้องออกจากป่ามา พวกนี้หลายๆคนเลือกไปเรียนต่างประเทศและกลับมามีอิทธิพลต่อสังคมไทยมาก พวกนี้จะยังคงความแค้นต่อภาครัฐของไทยและต้องการแก้แค้นฝ่ายขวารวมถึงยังพกเอาแนวคิดปฏิวัติสังคมชนชั้นอยู่ด้วย โดยเฉพาะพวกที่เลือกเข้าไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยนี่ยังพยายามส่งต่อแนวคิดและความเกลียดชังรวมถึงอุดมการณ์สังคมนิยมไปให้บรรดานักศึกษารุ่นใหม่ตลอด สอนไปเรื่อยๆทุกปีก็พยายามฝังความคิดนักศึกษารุ่นใหม่ไปเรื่อยๆ นักศึกษาที่ยังอ่อนประสบการณ์ด้านการเมืองก็หลงเชื่อและกลายเป็นพวกซ้ายจัดเพิ่มขึ้น

ถ้าคุณลองสังเกตดีๆพวกที่หัวรุนแรงทางการเมืองรวมถึงพวกที่คิดจะปฏิวัติสังคมกันใหม่นี่ ส่วนใหญ่จะมีพวกซ้ายอกหักอดีตคอมมิวนิสต์เข้ามาอยู่เบื้องหลังกันแทบทั้งนั้น

478 Nameless Fanboi Posted ID:FlV8Qxw9o2

ธันวาคม พ.ศ. 2548 ผมกำลังจะออกเดินทางจากกรุงพนมเปญไปยังเมืองพระตะบองเพื่อเที่ยวชมบ้านเมืองในชนบทของกัมพูชา

แม่บ้านชาวเขมรอายุสี่สิบปลาย ๆ เข้ามาเลียบ ๆ เคียง ๆ ขออนุญาตติดรถร่วมเดินทางไปด้วย เธออยากจะไปที่ตำบลเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเมืองพระตะบองซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ ผมไม่ขัดข้องและรู้สึกยินดีที่จะมีคนท้องถิ่นช่วยพาผมเที่ยวชม

กัมพูชาในขณะนั้นยังไม่มีแม้แต่ไฟจราจร ถนนสายหลักในประเทศยังเป็นแค่ถนนดินลูกรัง 2 เลน เราใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงจึงถึงจุดหมาย
บริเวณนั้นเป็นที่ราบ มีวิหารเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนเพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ประปราย แต่ไม่มีบ้านคนแม้สักหลังเดียว

แม่บ้านลงจากรถ หยุดยืนนิ่ง แล้วจึงเดินช้า ๆ ไปยังพื้นที่ด้านข้างวิหาร สีหน้าเรียบเฉย ไม่พูดไม่จา
ทันใดนั้น เธอก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ร้องไห้ออกมาอย่างโหยหวน น้ำตาไหลพราก สะอึกสะอื้นปานแทบจะขาดใจ

สักพัก เธอจึงเล่าให้ผมฟังว่า
บริเวณนี้คือที่ฝังศพของพ่อ แม่ และพี่สาวของเธอ ทั้ง 3 คนถูกล่ามไว้กับพื้นดินจนตายอย่างช้า ๆ เพราะขาดน้ำและอาหาร เมื่อตายแล้วก็ถูกดินฝังกลบเพียงบาง ๆ และไม่นานหลังจากนั้นสุนัขก็เข้ามากัดกินซากศพจนหมดสิ้น

พ่อ แม่ และพี่สาวของเธอตายเพราะ "ต่อต้านการปฏิวัติ"
สำคัญ คือ ผู้ที่กล่าวโทษ ลงทัณฑ์ พ่อ แม่ และพี่สาวของเธอจนตาย ก็คือตัวเธอขณะกำลังเป็นยุวชนเขมรแดงนั่นเอง

ไม่ใช่แค่เธอที่ฆ่าพ่อแม่และพี่สาว แต่ยุวชนเขมรแดงอีกมากมายก็นำพ่อแม่ของตัวเองมาฆ่าทิ้งที่นั่นด้วยวิธีการต่าง ๆ นานาจนกลายเป็นทุ่งสังหาร
ในวัย 16 ปี เธอไม่รู้สึกผิดใด ๆ ทั้งสิ้น เธอเฝ้าดูพ่อ แม่ และพี่สาวของเธอกำลังตายอย่างช้า ๆ ด้วยใจที่มุ่งมั่น เธอเชื่อว่าเธอกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อสร้างสังคมใหม่ให้กับกัมพูชา-ประเทศชาติอันเป็นที่รักของเธอ สิ่งที่ล้าหลังคร่ำครึทั้งหลายจะต้องถูกทำลายให้หมดสิ้น เพื่อรับศักราชใหม่ของกัมพูชา
หลายสิบปีผ่านไป เธอไม่เคยกลับไปที่นั่นอีกเลยจนกระทั่งวันนั้น

นพนันท์ อรุณวงศ์ ณ อยุธยา
17 สิงหาคม 2563

https://www.facebook.com/NoppananLive/posts/10218574609060638

#กูไปก็อปมาแปะไม่ได้เขียนเองนะ

479 Nameless Fanboi Posted ID:iL.3X3dnB6

ใต้ Mobile Suit ตัวแรกได้สลักอักษรไว้ว่า เกรี้ยวกราดรุนแรง ทำลายล้างทุกสิ่ง เมื่อวัยหนุ่มฉกรรจ์ ใช้ชิงชัยกับเหล่าผู้กล้าทั่วโคโลนี่ ลักษณะหุ่นมีความสูงประมาณ 100 เซียะ เปล่งประกายสีเขียว นับเป็นศาสตราวุธคมกล้า

ถัดมาเป็น เกาลูน Gundam เมื่อยกขึ้นมีข้อความจารึกไว้ว่า กันดั้มอ่อนกุหลาบม่วง ใช้ก่อนอายุสามสิบ พลั้งมือทำร้ายผู้กล้าฝ่ายธรรมมะ ถือเป็นสิ่งอัปมงคล โยนทิ้งลงสู่ก้นทะเล

Mobile suit ตัวที่สาม เป็นกันดั้มสีดำมีน้ำหนักมาก ปลายโค้งมนไม่มีคม กันดั้มแบบนี้ไหนเลยใช้ได้คล่องแคล่วถนัดมือ แต่ใต้กันดั้มกลับจารึกไว้ว่า หุ่นหนักไร้คม ใช้ได้คล่องแคล่ว ฝีมือการสร้างไม่ประณีต ก่อนอายุสี่สิบใช้พิชิตทั่วแผ่นดิน

Mobile Suit สุดท้าย เอี้ยก้วยคิดว่าต้องหนักยิ่งกว่ากันดั้ทเหล็กนิล จึงเกร็งลมปราณสู่แขนซ้าย แต่ลองบังคับกลับเบาหวิว ที่แท้เป็นเพียง Leo ผุๆตัวหนึ่ง จารึกไว้ว่า

"หลังอายุสี่สิบปี ไม่ยึดติดกับวัตถุ แม้นจะไผ่หรือหินล้วนคือหุ่นยนต์ นับแต่บัดนี้ "มุ่งสู่ขอบเขต" ไร้ Mobile Suit เหนือกว่ามี Mobile Suit"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

480 Nameless Fanboi Posted ID:UEQ58pgmbr

>>479 อ่านตอนแรกเห็นเกาลูนกันดั้ม นึกว่าภาค G ว่าด้วยประวัติโตโฮฟุไฮ (อ่านคำว่าตงฟางปุ๊ป้ายแบบญี่ปุ่น)

481 Nameless Fanboi Posted ID:6qQUsvfRGo

>>477 เบียวทฤษฎีสมคบคิด แต่ลืมดูว่ามหาลัยเรียนแค่4ปี แถมอาจารย์บางคนอาจจะได้เจอกันแค่วิชาเดียวด้วยซ้ำ

482 Nameless Fanboi Posted ID:THKKrLZYUo

>>481 ระยะเวลาไม่ใช่ปัญหา แกนนำแค่โพสเพียง 1 วิ ก็สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้มากมาย

483 Nameless Fanboi Posted ID:qyq86RpfUA

เรื่องที่สังคมชอบด่าว่า ธุรกิจบริการในไทย คิดราคาคนต่างชาติแพงกว่าคนไทย เช่น วินมอไซค์ไปเยาวราช 10นาทีเท่ากัน คิดคนไทย 30 คิดต่างชาติ 60 หรือทริปเกาะกูด คิดคนไทย 3000 คิดต่างชาติ 5000
คืองงว่าสังคมจะประนามวินมอไซค์ทำไมนักหนา หาว่าค่าน้ำมันค่าระยะทางก็เท่ากัน ทำไมคิดแพงกว่าให้ประเทศไทยเสียภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยว
คืองงว่าคิดได้แค่นี้จริงๆหรอ คิดไม่ได้หรอว่ามันก็มีต้นทุนที่ต่างกันปะ คนที่ต้องสื่อสารกับฝรั่ง มันใช้ทักษะ ใช้ความเหนื่อย(ภาษามือจนเหมื้อยเยสโนจนคอแห้ง) มากกว่าสื่อสารกับคนไทยอยู่แล้ว effort /skill ที่มากขึ้น ก็ต้องผลตอบแทนมากขึ้นปะ ไม่ต้องสงสัยอะไรมาก ย้อนกลับไปถามอุทยานท่องเที่ยวต่างๆในไทยก็ได้ ทำไมไม่เก็บค่าเข้าต่างชาติให้เท่าคนไทยหละะะ

อย่าฟังความคิดนัตโตะมาก เพราะบางทีมันดูขัดสังคมจนอยู่ในสังคมไทยปกติได้ยาก
แต่ก็อย่าเชื่อสังคมมาก เช่นกรณีนี้ ถ้าเชื่อสังคมมาก ก็จะทำให้คุณเสียเวลาขับรถ10 นาทีแล้วได้เงิน 30 บาทไปตลอดชีวิต

บ่นเฉยๆเก็บกดในใจ555

484 Nameless Fanboi Posted ID:6qQUsvfRGo

>>482 งั้นที่ยัดมาตั้งแต่เกิดก็ยิ่งสร้างแรงบันดาลใจได้ดิ

485 Nameless Fanboi Posted ID:yldFSrm1LM

ในขั้นตอนพัฒนาสังคมของวัตถุนิยมวิภาษไทยยังไม่ได้ถึงสังคมทุนนิยมเลย ไทยยังมีราชวงศ์ครองอำนาจ ขุนนางศักดินาในรูปแบบยุคใหม่ และศาสนาในฐานะทัศนคติพื้นฐานของระเบียบอนุรักษ์นิยม

486 Nameless Fanboi Posted ID:6AJ.xlRF6q

https://discord.gg/WnFYABwj

487 Nameless Fanboi Posted ID:2IrAfNzZuc

>>484 ใช่แล้วคนถึงฝักใฝ่ คอม กันทุกบ้าน

488 Nameless Fanboi Posted ID:k//f8tdVK8

เรื่องเล่า Software Engineer
1. Feature X จากบริษัท N ถูกออกแบบมาเพื่อความง่ายในการเขียนโค้ด ในคู่มือเขียนไว้ตัวหนาๆว่าถ้าอยากให้รันเร็ว **ไปใช้อันอื่น** อันนี้ทำมาเพื่อความง่าย ไม่ใช่ความเร็ว
2. ลูกค้าใช้ feature X อยู่ สั่งคอมพิวเตอร์จากบริษัทเรา อยากให้ใช้งาน feature X ได้ และอยากให้เร็วด้วย
3. โปรแกรมเมอร์ก็ถามเพื่อนว่า ลูกค้าไปโดนตัวไหนมา จะบ้าเหรอ
4. เพื่อนบอกว่าลูกค้าจ่ายมาพันล้านเหรียญ
5. อ๋อ โค้ดแปป..

489 Nameless Fanboi Posted ID:LaQF5JQAiR

ทุนนิยมไม่ใช่แนวคิดทางเศรษฐกิจที่ปราศจากข้อติ แต่เป็นแนวคิดเดียวที่มอบสิทธิ์ในการถือครองทรัพย์สิน สิทธิ์ในการแสวงหาโอกาส และสิทธิ์ในการเลื่อนฐานะชนชั้น (ไม่ว่าจะเลื่อนขึ้นหรือลงก็ตาม) อย่างเท่าเทียมเสมอกัน ต่างจากแนวคิดทางเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น feudalism, syndicalism, socialism หรือ communism ที่มีการขีดกรอบจำกัดไม่ให้ทุกคนมีสิทธิในชีวิตตนเองอย่างเสมอกัน

ถ้าจะบอกว่าทุนนิยมเลวร้าย สังคมนิยมก็คือความฉิบหายของมนุษยชาติ

สังคมนิยมนี่แหละที่ฆ่าคนยิว (อาจจะขัดกับสิ่งที่หลายคนรู้กันมา แต่ผมมีคำอธิบายว่าทำไมจึงนับนาซีเป็นอีกแนวคิดย่อยในปีกสังคมนิยม แน่นอนว่าผมจะไม่อธิบายโง่ ๆ ว่าเป็นเพราะแค่ชื่อพรรคแน่นอน)

สังคมนิยมนี่แหละที่ฆ่าชาวนาโซเวียต (แนวคิดคอมมิวนิสต์คือสุดขอบของสเปคตรัมแนวคิดทางเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม)

ถ้าอยากจะนิยมหลักคิดสังคมนิยมก็ทำไปเถอะ แต่อย่าไปจนสุดทาง เพราะเรามีบทเรียนแห่งความชิบหายของมนุษยชาติจากพวกสังคมนิยมมาแล้ว 😀

490 Nameless Fanboi Posted ID:LaQF5JQAiR

ถ้าคุณเชื่อมาร์กซ คุณจะมองเห็นแค่ว่าปลายทางของทุนนิยมคือการผูกขาด แต่ถ้าคุณเชื่อในทุนนิยม คุณจะเห็นว่าการผูกขาดนี่แหละคือการทำลายการสะสมทุนอย่างแท้จริง

เมื่อคุณสามารถคุมตลาดได้เสร็จสรรพ ทุกอย่างเป็นของคุณโดยที่ไม่มีคู่แข่งอีกต่อไป สิ่งแรกที่ระบบผูกขาดทำลายคือระบบกลไกราคา เมื่อไม่มีระบบกลไกราคา คุณจะไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างราคา ต้นทุน และกำไรได้ เพราะเมื่อไม่มีคนแข่งกับคุณ คุณก็ไม่มีข้อมูลเชิงลึกที่จะบอกได้ว่า อะไรที่มีมากเกิน อะไรที่มีน้อยไป อะไรที่คุ้มค่าหรือไม่คุ้มค่าแก่การลงทุน สินค้าและบริการมีการกระจายอย่างทั่วถึงหรือไม่ คุณภาพเป็นอย่างไร ฯลฯ

ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เราเคยมีอภิมหาบริษัท (Megacorporation) ที่ผูกขาดทุกอย่างในสังคม แล้วล้มลงพังพินาศอย่างไม่เป็นท่ามาแล้ว บริษัทนั้นชื่อว่า The Soviet Union 😉😉😉

491 Nameless Fanboi Posted ID:LaQF5JQAiR

ผมมองว่าประเด็นที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้แหละที่ทำให้คนไม่ชอบคอมมิวนิสต์ ที่คุณเขียนมามันคือประเด็นยิบย่อย
—————
ปัญหาของพวกนิยมคอมมิวนิสต์คือ คนพวกนี้จะชอบมองข้ามไปว่า สิทธิในการเลือกใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองเลือก มันต้องมาพร้อมกับสิทธิในการถือครองปัจจัยการผลิตของปัจเจกบุคคลด้วย

ถ้าปัจจัยการผลิตถูกถือครองโดยชุมชน สังคม รัฐ หรือส่วนรวม คุณจะเลือกทางเดินชีวิตตัวเองได้ยังไง คุณไม่สามารถเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตอันใดได้ แถมคุณยังไม่สามารถเลือกที่จะตัดสินโดยวิจารณญาณของตนเองได้ว่าปัจจัยการผลิตนี้ควรจะเอาไปทำอะไรอีก (เพราะคุณไม่มีสิทธิมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว) ในประวัติศาสตร์ก็มีตัวอย่างมาแล้ว เช่น สังคมสมบูรณาญาสิทธิราชย์ สังคมสหภาพโซเวียต สังคมนาซี ฯลฯ

แน่นอนว่าทุนนิยมไม่ได้เป็นระบบที่ทำให้คนมีปัจจัยการผลิตไม่ต่างกัน แต่มันเป็นระบบเดียวที่รับรองสิทธิว่า “ต่อให้วันนี้คุณยังไม่มีปัจจัยการผลิตอะไรเลย ถ้าวันหน้าคุณหามันมาได้ มันย่อมเป็นของคุณ และคุณมีสิทธิที่จะทำอะไรยังไงกับมันก็ได้ ภายใต้ความรับผิดชอบของคุณเอง” สิ่งที่ทุนนิยมเสนอให้กับคนในสังคมคือความเสมอภาคในด้านสิทธิที่จะถือครองปัจจัยการผลิต ไม่ใช่ความเสมอภาคในด้านผลลัพธ์จากการถือครองปัจจัยการผลิต

ส่วนสิ่งที่คอมมิวนิสต์เสนอคือผลลัพธ์จากการถือครองปัจจัยการผลิต แต่ไม่รับรองความเสมอภาคในด้านสิทธิที่ปัจเจกบุคคลพึงมี ครับ 🙂

There is no choice in a Communist society because there is no Liberty at all in that society.

492 Nameless Fanboi Posted ID:GsPgJ3GrOo

ไม่นานมานี้: "หากมีการทำร้ายกันเกิดขึ้นแล้วคุณยังเงียบ ยังเป็นกลางอยู่ ก็เท่ากับว่าคุณเข้าข้างผู้กดขี่"
ตอนนี้: "เราแค่ดัดแปลงสัญลักษณ์ของลัทธิที่ทำคนตายไปหลายสิบล้านคนมาใช้เอง ผิดตรงไหน พวกคุณนั่นแหละความรู้ไม่พอ"

493 Nameless Fanboi Posted ID:GsPgJ3GrOo

เราสามารถแยกการเมืองกับเศรษฐกิจออกจากกันได้อย่างเด็ดขาดจริงหรือ มีระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์โดยไม่เป็นเผด็จการได้จริงหรือ

ขอออกตัวก่อนว่าสเตตัสนี้ไม่ได้เป็นผลโดยตรงจากรูปฆ้อนเคียวของกลุ่มเยาวชนปลดแอกแต่อย่างใด ตอนเห็นโลโก้นั้นเราไม่ได้รู้สึกตกใจเลยแม้แต่น้อย เพราะไม่ได้คิดว่ามันจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะไม่เห็นว่าแนวคิดคอมมิวนิสต์มีพลังอะไรในสังคมนี้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องต้องห้ามหากคนจำนวนหนึ่งอยากทดลองนำเสนอส่ิงที่ตัวเองเชื่อออกมา โดยเฉพาะวิธีที่กลุ่มเยาวชนปลดแอกเสนอเรื่องแรงงานในโลกยุคใหม่ ก็ทำได้ดีทีเดียว

แต่สิ่งที่ทำให้เขียนสเตตัสนี้มาจากประเด็นหนึ่งที่ลอยขึ้นมาในระหว่างที่ได้อ่านการถกเถียงใน ฟบ คือ การพูดราวกับว่าเราสามารถไปถึงโลกอุดมคติแบบคอมมิวนิสต์ได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเผด็จการ

เราคิดว่านี่เป็นการมองโลกที่ไร้เดียงสามากๆ คุณกำลังร้องหาระบอบที่ต้องการถอนรากถอนโคนระบบทรัพย์สินส่วนบุคคลของคนทั้งสังคมให้กลายเป็นของส่วนรวมหรือชุมชนโดยมีรัฐเป็นผู้จัดการใหญ่ คุณคิดหรือว่าคนในระบบเก่า ทั้งคนมีอำนาจและปัจเจกชนทุกระดับ จะยอมโดยไม่ต่อต้าน ตอบโต้ ไปจนถึงปราบปรามคุณอย่างงั้นหรือ ที่ฆ่ากันตายตลอดช่วงสงครามเย็นก็ไม่ใช่เหตุนี้หรอกหรือ

ก็ด้วยเหตุที่เจอกับการต่อต้านนี่เอง เมื่อสามารถปฏิวัติยึดอำนาจรัฐได้ ระบอบที่ขึ้นมาใหม่จึงต้องหาทางกวาดล้างระบอบเก่าให้สิ้นซาก สิ้นซากทั้งในแง่โครงสร้างและผู้คนที่เคยมีอำนาจอยู่ รวมทั้งผู้คนที่ถูกติดป้ายว่าเป็นขุนนาง เจ้าที่ดิน นายทุน กระฎุมพี ก็ต้องสิ้นซากด้วย

โปรดเข้าใจด้วยว่าการกวาดล้างศัตรูทางชนชั้นหลังการปฏิวัติในรัสเซีย จีน กัมพูชาโดยเขมรแดง ส่งผลให้คนตายเป็นล้าน ไม่ใช่เป็นเพราะผู้นำเป็นโรคจิตชอบฆ่าคน แต่เพราะพวกเขาได้คิดวางแผนอย่างรอบด้านมาแล้วว่า หากต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างถอนรากถอนโคน ก็ต้องกำจัดศัตรูทางชนชั้นให้สิ้นซาก อย่าให้มันมีโอกาสแผลงฤทธิ์ต่อต้านการสรรค์สร้างสังคมยูโทเปียนี้ได้ เมื่อปราบปรามศัตรูของปฏิวัติแล้ว การจะสถาปนาระบอบรวมศุนย์การจัดการทางเศรษฐกิจได้สำเร็จ ก็ต้องอาศัยอำนาจรัฐที่รวมศุนย์ระดับเผด็จการเบ็ดเสร็จเช่นกัน ฉะนั้น แม้ว่ามันจะเป็น bloody Utopia แต่ตราบที่มันกระทำในนามของคนส่วนใหญ่ ก็ย่อมต้องดี ต้องทำ อย่างนั้นหรือ

ระบอบทุนนิยมมีปัญหาเลวร้ายมากมาย ใคร ๆ ก็รู้
ระบอบทุนนิยมภายใต้ทรราชย์ฆ่าคนมากมายมหาศาล ใคร ๆ ก็รู้
ระบอบทุนนิยมผูกขาดในประเทศเสรีนิยม ได้สร้างบาปกรรมกับคนทั่วโลก เราก็เห็นกันอยู่

โปรดเข้าใจด้วยว่าการปกป้องระบอบประชาธิปไตยไม่ได้เท่ากับบอกว่าระบอบทุนนิยมไม่มีปัญหา ไม่ได้เท่ากับว่าเราพอใจหรือหลงรักระบอบทุนนิยมเสียเหลือเกิน

แต่ระบอบเผด็จการคอมมิวนิสต์ก็ไม่ใช่คำตอบสำหรับเราเช่นกัน เราไม่เชื่อว่าเราสามารถเป็นคอมมิวนิสต์พร้อมๆ กับเป็นประชาธิปไตยได้ ไม่ต้องพูดถึงว่ากลไกเศรษฐกิจของคอมมิวนิสต์เองก็ล้มเหลวไม่เป็นท่ามาแล้ว คอมมิวนิสต์แบบจีนและเวียดนามจึงต้องหันมาใช้ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมกันในที่สุด

มีคนพูดทำนองว่าคนที่พอใจแค่รัฐสวัสดิการ หรือระบบ social democracy ว่าเป็นฝันที่กระจอก ....​อืม มันอาจเป็นฝันของคนที่ถูกหลอกหลอนจากประวัติศาสตร์ ของคนที่ไร้จินตนาการ แต่สำหรับเรา ประว้ติศาสตร์มีไว้ให้เรียนรู้ว่าอย่าผิดซ้ำซาก ....​

ถ้าก่อนตายเราได้เห็นสังคมไทยเป็นได้แบบที่อ.ป๋วยเคยเขียนไว้ใน “จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน” เราก็คงมีความสุขมาก ๆ แล้ว กระนั้น ฝันแค่นี้ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีโอกาสได้เห็นในชั่วชีวิตนี้

494 Nameless Fanboi Posted ID:GsPgJ3GrOo

>>493 ต่อ
เราคิดว่า social democracy คือมรดกที่ดีที่สุดที่ลัทธิมาร์กซ์ทิ้งไว้ให้กับมนุษยชาติ มันคือระบบที่เกิดจากการประนีประนอมของระบบทุนนิยมกับการต่อสู้เรียกร้องของชนชั้นแรงงาน เกิดจากการตระหนักว่าหากคนรวยและอำนาจรัฐไม่ประนีประนอมแบ่งความมั่งคั่งของตนให้กับคนยากไร้ ด้วยการสถาปนาความยุติธรรมในรูปของสวัสดิการของสังคมแล้ว มันจะพังกันไปทั้งหมด มันจะผลักให้กรรมกรและชาวนามุ่งหน้าสู่เส้นทางปฏิวัติ ซึ่งมันแพงกว่าการประนีประนอมหลายร้อยหลายพันเท่า และพวกเขาอาจไม่เหลืออะไรเลยก็ได้

Social democracy คือประนีประนอมในทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ยืนยันแนวทางประชาธิปไตย ซึ่งเคารพในความแตกต่างหลากหลายของชีวิตทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การเมือง ศาสนา เพศสภาพ ของกลุ่มคนและปัจเจกในสังคม อนุญาตให้กลุ่มต่าง ๆ มีพื้นที่ต่อรองกันโดยไม่ต้องกลัวการปราบปราม

ในทางตรงกันข้าม เรากลับเห็นว่าการจัดคนในสังคมให้เป็น “ชนชั้น” ไม่กี่ชนชั้นของลัทธิคอมมิวนิสต์ หยาบเกินไป มันกดความหลากหลายของผู้คนไว้ในกรอบของ “ชนชั้น” พร้อม ๆ กับช่วยให้รัฐจัดการกับคนง่ายขึ้น กำหนดความเป็นพวกเรา พวกเขา ความเป็นสมาชิก หรือศัตรูของชนชั้นได้ง่าย ๆ

ใครจะนิยม ใครจะผลักดัน ก็ตามสบายนะ แต่เราไม่เอา และไม่ได้กล้วด้วย

495 Nameless Fanboi Posted ID:XwZNkRRSWm

สิ่งที่วาดฝัน
Dictatorship of Proletariat หรือเผด็จการของชนชั้นกรรมาชีพ เกิดขึ้นโดยหลังการปฏิวัติจากระบบทุนนิยมสู่คอมมิวนิสต์โดยคาร์ล มาร์กซ์ได้ระบุไว้ว่ากรรมกรแรงงานจะเข้าควบคุมรัฐและใช้กลไกของรัฐในการจัดการเพื่อเปลี่ยนผ่านสังคมใหม่ ออกคำสั่งให้ทรัพย์สินผลผลิตของนายทุนและเอกชนให้ตกมาเป็นของสาธารณะและจากนั้นจะเปลี่ยนผ่านไปสู่จุดที่เป็นคอมมิวนิสต์อย่างเต็มรูปแบบ

ความเป็นจริง
มันจบเห่ตั้งแต่ที่บอกว่าให้กรรมกรแรงงานเข้าควบคุมรัฐแล้ว คิดว่าชนชั้นกรรมกรแรงงานจะมีปัญญาบริหารประเทศได้เหรอ
ต่อให้ชนชั้นกรรมกรจะใช้กำลังปฏิวัติแย่งอำนาจมาได้ แต่ก็ไม่มีปัญญาบริหาร สุดท้ายจะมีแค่ 2 ทางคือให้กรรมกรบริหารแบบล้มเหลวต่อไปจนพังไปเองอย่างเขมรแดง ไม่ก็เอาปัญญาชนมาบริหารแต่ก็จะเกิดชนชั้นปกครองขึ้นมาแทนอย่างเช่นจีน
แต่ยังไงก็ไม่มีทางเกิดสังคมอุดมคติที่ให้ผลผลิตเป็นของสาธารณะ เพราะคนที่ขยันและฉลาดจะไม่ยอมได้ส่วนแบ่งเท่าคนที่ขี้เกียจและโง่แน่นอน!!

496 Nameless Fanboi Posted ID:GsPgJ3GrOo

มันไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าตกใจอะไรที่กลุ่มเยาวชนปลดแอกจะมีแนวคิดมาร์กซิสต์ แต่ที่น่าตกใจคือการโผล่หางให้เห็นแบบโจ่งแจ้งต่างหาก ซึ่งผมก็พูดได้แค่ว่า กูบายล่ะ
คอมมิวนิสต์ถ้าพูดในแง่ของคอนเซ็ปต์ ผมว่ามันดีมาก โลกที่ไม่มีรัฐ(อย่างที่เองเกลส์ว่า) ไม่มีชนชั้น ไม่มีนายทุน ไม่มีอาชญากรรม เรื่องของการใช้จริงเราอาจต้องมานั่งคุยกันอีกครั้ง มีแนวคิดของรัฐสวัสดิการหลายที่ๆมาจากแนวคิดเดียวกันนี้
ปัญหาของคอมมิวนิสต์คือการเปลี่ยนผ่านจากสังคมทุนนิยมที่มีชนชั้นไปสู่คอมมิวนิสต์ ไอ้ที่คนเขาพูดกันว่า คอมมิวนิสต์ที่แท้จริงมันไม่เคยถูกใช้จริงๆแล้วถูกต้อง สิ่งที่เราเห็นกันมาก่อนในประเทศที่อ้างตัวว่าเป็นคอมมิวนิสต์ มันคือ เผด็จการกรรมาชีพ ซึ่งตามทฤษฎีมันคือภาวะคั่นกลางระหว่างที่สังคมทุนนิยมจะไปสู่คอมมิวนิสต์ที่แท้จริง (สังคมทุนนิยม -> การแพร่ขยายแนวคิดคอมมิวนิสต์ทั่วโลก -> การปฎิวัติทางชนชั้น -> เผด็จการกรรมาชีพ [ส่วนใหญ่หยุดอยู่ตรงนี้] -> สังคมคอมมิวนิสต์ที่แท้จริง -> คอมมิวนิสต์ทั่วโลก)
ซึ่งเราก็เห็นแล้วว่าเผด็จการกรรมาชีพมันเป็นแกปที่ใหญ่มาก แน่นอนว่ามันเป็นไปได้ที่จะก้าวข้าม แต่ถ้าถามกู กูไม่เอาอะ มาแนวนี้ขอผ่านละกัน ทำลายอำนาจเบ็ดเสร็จนิยมนึงเพื่อเรียกอีกอำนาจเบ็ดเสร็จมาก็ไม่ขอยุ่งเกี่ยว
เรื่องสังคมคอมมิวนิสต์จริงผมว่าก็มีปัญหาในตัวเอง ซึ่งอย่างที่หลายคนว่า มันยูโทเปียไปหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ ผมเองก็ฝันถึงโลกที่ไร้รัฐ ไร้ชนชั้นเหมือนกัน แต่คงจะยากที่จะให้รัฐค่อยๆเสื่อมคลายไปเอง(withering away) เพราะรัฐเป็นตัวตนที่เห็นแก่ตัวและต้องการรอดโดยสันดาน สำหรับผม ทุกคนต้องลืมตาตื่นจากความเป็นรัฐและเอามันทิ้งไปเอง ในโลกของอนาธิปไตยเราจะมีชีวิตอยู่ด้วยคอมมอนเซนส์ของสิ่งดีชั่ว แต่เราคงจะคาดหวังให้ทุกคนทำตัวดีๆกันตลอดเวลา ในโลกนี้เราจึงต้องมีปืนเพื่อปกครองตนเอง เพราะเราได้เป็นอิสระอย่างแท้จริงไม่ต้องถูกรัฐผูกรั้ง เราจึงต้องแบกรับตัวเองด้วยตัวเอง

497 Nameless Fanboi Posted ID:qat1N4Jl+Z

>>495 ใช่ อยู่ๆจะให้คนที่ไม่ทำอะไรแต่เอาอดีตเอาสายเลือดมาแอบอ้างนำภาษีไปใช้ที่ละหลายหมื่นล้านแถมยักยอกเงินประเทศเข้ากระเป๋าตัวเองได้ไง

498 Nameless Fanboi Posted ID:qat1N4Jl+Z

กุเลือกเอาระบอบที่คัดคนเก่งมาบริหารประเทศหรืออย่างน้อยๆก็เปลี่ยนได้หากมันไม่ดี ไม่ใช่พวกอิทธิพลมาเฟียมีลูกน้องมีปืนได้ตำแหน่งมาเพราะสายเลือด เส้นสาย แต่ไร้ซึ่งความสามารถ

499 Nameless Fanboi Posted ID:NKBgtmV7.I

รัฐสวัสดิการมันคือการที่ประเทศเสรีประชาธิปไตยเอาแนวคิด”ส่วนหนึ่ง”ของคอมมิวนิสต์มาใช้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำไม่ให้มันมากเกินไปแค่นั้น
(ไม่งั้นพวกชนชั้นแรงงานจะก่อม็อบสร้างความไม่สงบตลอด)

แต่ไม่ได้เอา”เป้าหมาย”ของคอมมิวนิสต์ที่จะให้ผลผลิตเป็นของสาธารณะหรือเน้นให้ทุกคนเท่าเทียมกันมาใช้เลย

ต้วอย่างเช่นกฎหมายแรงงานพวกค่าแรงขั้นต่ำหรือสหภาพแรงงาน ที่ทำได้แค่เพิ่มสิทธิให้ลูกจ้างบางส่วน แต่สุดท้ายนายจ้างก็ยังเป็นเจ้าของผลผลิตได้กำไรมากกว่าลูกจ้างหลายเท่า และก็ไม่ได้ทำให้ลูกจ้างได้เป็นเจ้าของผลผลิตหรือมีความเท่าเทียมนายจ้างอย่างที่คอมมิวนิสต์ตั้งเป้าหมายไว้เลย
โลกทุกวันนี้มันไม่มีแนวคิดใดอยู่ได้เพียวๆ 100% มันต้องมีผสมกันไปบ้าง อย่างที่จีนคอมมิวนิสต์ตอนนี้ก็ใช้ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมจ๋านั่นแหละ
แต่มันไม่มีประเทศไหนบ้าพอที่จะเอาเป้าหมายของระบบคอมมิวนิสต์ที่เพ้อฝันให้คนเท่ากันได้ผลผลิตเท่ากันมาใช้แน่นอน

อนึ่ง ฟินแลนด์ นอร์เวย์ไม่ใช่คอมมิวนิสต์ แต่ เป็น ทุนนิยมเสรีโดยมีภาษีโหดมา เป็นสวัสดิการ อีกทีนึง

500 Nameless Fanboi Posted ID:NKBgtmV7.I

และจริงๆรัฐสวัสดิการไม่ได้เก็บภาษีคนรวยโหดครับ มันเก็บภาษี "ทุกคน" โหด

กลับกัน เขาค่อนข้างเป็นมิตรกับคนรวยและภาคธุรกิจด้วย (เพราะรู้ว่าคนรวยเขาไม่สนอยู่แล้ว ถ้ารัฐมายุ่งให้ต้นทุนเขาสูงไป เขาก็เผ่นดื้อๆเลย) อย่างสวีเดนเนี่ย มาดูโครงสร้างภาษีแล้วพบว่ามันไม่ได้ไปข่มเหงคนรวยเท่าไหร่เลยครับ gap ภาษีบุคคลธรรมดาระหว่างเรทสูงสุดกับเรทต่ำสุดก็ห่างกันไม่มาก ภาษีบริษัทก็ 20% นิดๆเอง (น้อยกว่าหลายๆที่ในยุโรป) แถมไม่มีภาษีมรดกด้วย

501 Nameless Fanboi Posted ID:tOt+OTMgR4

>>495 นึกถึงซิมบับเว มูกาเบเปลี่ยนจากวีรบุรุษจากทรราชจุดเริ่มต้นมันมาจากตรงนี้แหละ ตอนแรกๆ ที่ประกาศเอกราชจากอังกฤษ ตัวเองเป็นผู้นำ ยังให้คนขาว (ซึ่งแม้จะเป็นสายเลือดฝรั่งแต่ก็ลงหลักปักฐานที่แผ่นดินแอฟริกามานานแล้ว) ทำมาหากินปกติต่อไปได้ ประเทศก็เจริญดี กระทั่งพี่แกนึกอะไรไม่รู้ ออกคำสั่งยึดที่ดินคนขาว เอามาแจกจ่ายคนดำ ทีนี้ละบรรลัย คนดำตอนนั้นบริหารก็ยังไม่เป็น ทำนาทำไร่ก็ยังไม่เก่ง ผลคือนำประเทศไปสู่ความยากจน แล้วดันไปแก้ปัญหาแบบพิมพ์แบงก์แจก กลายเป็นพาชาติล้มละลายกว่าเดิม

ในทางเดียวกันกับตัวอย่างนี้ คอมมี่มันถึงเป็นจริงไม่ได้ เพราะแรงงานไม่ใช่นักบริหาร ไปเอาแรงงานมาบริหารก็พัง หรือไม่แรงงานที่เก่งพอจะบริหารได้ ท้ายที่สุดก็จะไม่เรียกตัวเองว่าแรงงานอยู่ดี เป็นกระฎุมพีอะไรก็ว่ากันไป แล้วก็จะเรียกร้องผลประโยชน์ว่าต้องเหนือกว่าแรงงานอื่นๆ ก็เหมือนบรรดาแกนนำพรรคคอมมี่ทั่วโลกที่มีโอกาสได้เข้าถึงอำนาจนั่นละ เกิดชนชั้นขึ้นอยู่ดี

>>496 สังคมคอมมี่มันจะอยู่ได้ต่อเมื่อมนุษย์คิดดีทำดีเหมือนกันหมด คือทำงานเต็มที่โดยไม่หวังว่าตัวเองจะดีจะเด่นกว่าคนอื่่น คำถามคือมันเป็นไปได้หรือในความเป็นจริง

502 Nameless Fanboi Posted ID:NKBgtmV7.I

Marx มีชีวิตอยู่เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว โลกยังอดอยาก อุตสาหกรรมเริ่มเข้ามามีบทบาท ในความคิดของคนสมัยนั้นจึงคิดว่าเมื่ออุตสาหกรรมเจริญถึงขีดสุด คนเราจะได้สิ่งที่ต้องการ โดยทำงานเท่าที่จำเป็น

สมัยนี้โลกเจริญไปกว่ายุคที่ Marx คิดมากมายแล้ว แต่จะให้ทุกคนไปเท่ากันอย่างที่คอมมิวนิสต์ฝันไว้ ก็ยังไม่มีใครคิดทำตามหรอก

503 Nameless Fanboi Posted ID:PjQblmqKZB

กูคิดเรื่องนี้มานานมากแล้วว่าคอมจะสำเร็จได้ถ้าหุ่นยนต์และ AI พัฒนาไปจนทำงานแทนมนุษย์ได้ แล้วประชากรมนุษย์มีแค่หยิบมือของตอนนี้ เพราะหลักคิดพื้นฐานที่สุดของคอมคือข้อจำกัดของวัตถุนิยม แปลว่าถ้าตัวหาร (ประชากร) ต่อวัตถุ (ทรัพยากร) น้อยลง ส่วนแบ่งก็จัมากขึ้นตามธรรมชาติ ทีนี้ในสังคมมนุษย์สมัยใหม่ต้องมีการแบ่งงานกันทำจำนวนมาก เราเลยต้องดารประชากรเยอะ แต่ถ้าหุ่นยนต์พัฒนาไปถึงขั้นรับใช้มนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ การแบ่งงานกันทำของมนุษย์=ความหนาแน่นของประชากรก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป

ในมุมมองกูนะ ยูโทเปียของคอมคือโลกของสังคมมนุษย์จำนวนน้อยและวิทยาการที่ตอบสนองทุกอย่างได้ คำว่า Robot เป็นภาษาโปแลนด์แปลว่า "แรงงาน" ในสังคมสมบูรณ์แบบที่ไม่มีชนชั้น ตะเกิดขึ้นได้เมื่อมนุษย์ทั้งปวงคือผู้ปกครอง/นายทุน (ทรัพยากร) และหุ่นยนต์คือแรงงานอันสมบูรณ์แบบ

504 Nameless Fanboi Posted ID:TQnA9eZzCE

เมื่อ 2-3 ปีก่อน มีคนไทยกลุ่มนึงได้รับเงินค่าจ้างให้เขียนถึงข้อดีของระบบฐานข้อมูลตัวนึง ตอนนั้นคนไทยหลายคนก็ฮือฮากันอยู่พักนึง มาถึงวันนี้ฐานข้อมูลที่ว่านี้ ก็ไม่ได้มีการใช้งานอะไรได้จริงจัง ตอนนี้กลายเป็นฐานข้อมูลที่มีงานรองรับน้อยที่สุดในสหรัฐ ตามคู่แข่งอยู่ 20-30 เท่า

คนกลุ่มนี้ยังติดต่อมาที่ CODEST เพื่อขอเงินค่าจ้างในการเขียนถึง CODEST เพื่อดีงให้คนมาเรียนมากขึ้น แต่ทาง CODES ไม่สนใจ สุดท้ายคนกลุ่มนี้เขียนใส่ร้ายป้ายสี CODES จนถึงวันนี้
อย่าไปหลงเชื่อพวก Influencer ครับ อย่ามาหลงเชื่อที่ CODES ด้วย เพราะข้อมูลทุกอย่างเราสามารถตรวจสอบได้เอง ภาษาไหนไม่มีงานรองรับ ศึกษาไปก็เหนื่อยเปล่า อย่าให้ใครมาหลอกเราได้ พวก

Influencer ก็รู้กันอยู่แล้วว่ารับเงินมา จะเขียนยังไงก็ได้ ที่ไหนไม่ให้เงินก็เขียนใส่ร้ายกันไป คนพวกนี้เชื่อถืออะไรไม่ได้ครับ
ประกาศรับสมัครงานในสหรัฐสัปดาห์นี้มีงาน Java มากเป็นอันดับ 1 ลองกดเข้าไปดูด้วยตัวเองที่ Dice.com ได้ตลอดเวลาครับ งาน Java มีข้อดีหลายอย่าง โดยเฉพาะในระยะยาว ระบบที่เลือกใช้ Java มักจะมีปัญหาตามมาน้อยกว่าภาษาอื่น

สำหรับคนที่สนใจเรียนภาษา Java โดยเน้นความเข้าใจ เรียนไปแล้วไม่มีวันลืม หัดเขียนโดยการพิมพ์ทีละตัวอักษร สามารถมาเรียนซ้ำได้ฟรีจนกว่าจะได้งานประจำ เงินเดือน 30,000 บาทขึ้นไป ถ้ามีคะแนนสอบ TOEFL ตั้งแต่ 100 คะแนนขึ้นไป เงินเดือนเริ่มต้นที่ 40,000 บาท

ดูคอร์สเรียนได้ที่นี่ https://codar.work/register

505 Nameless Fanboi Posted ID:LaQF5JQAiR

>>503 นี่ไงที่เขาว่ามาร์ซเป็นแนวคิดวิทยาศาสตร์ แต่มาร์ซก็ยังคาดการณ์พลาดไป มันค้องอนาคตไปไกลกว่านี้
แล้วคอมมิวนิสต์หรือยูโทเปียเนี่ยมันไม่มีเรื่องของการ ‘วิวัฒนาการ’ ต่อไปเลย เพราะไม่มีการแข่งขันแค่กระจายให้ทรัพยากรไปอยู่ให้เท่าเทียมกับคนทุกกลุ่มพอ ก็คือคอมมิวนิสต์เนี่ยแหละแม่งคือช่วงสุดท้ายของมวลมนุษยชาติ

506 Nameless Fanboi Posted ID:LaQF5JQAiR

>>504 มั่ยกูจะเรียนกับโค้ดสตา

507 Nameless Fanboi Posted ID:eZbHESrPL3

สังคมยูโทเปียหุ่นยนต์คอมมิวนิสต์นี่มันเป็นมีมที่พวกคอมมี่ยุคใหม่คิดขึ้นมาเพราะรู้ตัวว่าระบบคอมใช้ไม่ได้ในชีวิตจริงแต่ไม่ยอมรับเลยซุยเรื่องเพ้อฝันเวอร์ชันใหม่ขึ้นมา

“ถ้าโลกนี้ใช้หุ่นยนต์100% จะไม่มีการเอาเปรียบกัน มนุษย์จะไม่ต้องทำงาน ไม่มีชนชั้นไม่มีเงินตรา เพราะเราจะได้ผลผลิตจากหุ่นยนต์ตามต้องการ การจะทำให้สำเร็จก็แค่ต้องมีหุ่นยนที่ซ่อมหุ่นยนที่ซ่อมหุ่นยนที่ซ่อมหุ่นยน..........”

508 Nameless Fanboi Posted ID:PjQblmqKZB

>>505 จริงๆ มันมีเรื่อง Transhumanism อยู่ด้วย แต่มันอาจจะนอกเรื่องไซไฟไปหน่อย แล้วมีหลายแบบเกิน ส่วนตัวกูเป็นพวกจิตนิยม กูเชื่อว่ามนุษย์จะพัฒนาพลังจิต/สมองเพื่อควบคุมหุ่นยนต์และเผ่าพันธ์ที่ต่ำกว่า แต่คนสายนี้ส่วนใหญ่เชื่อเรื่อง Singurality ในหุ่นยนต์มากกว่า ไม่ก็สาย Immortal หลายปีนี้กำลังมาแรงเลย ส่วนตัวกูคิดว่าสายนี้เป็นจริงยากกว่าเรื่องพลังจิตอีก ถ้าเอาแค่สมองลงคอมนนะทำได้อยู่แล้ว แต่กูไม่เชื่อว่าจะรักษากายเนื้อถึงขั้นอมตะได้

509 Nameless Fanboi Posted ID:4t1Co5XgDK

>>508 กูว่าเรื่องจิตมีความเป็นไปได้อ่ะ กับสมองAIเหนี่ย ลองคิดแบบกาวๆแล้วนะแบบกายเนื้อเน่าแต่สมองเปลี่ยนเอาข้อมูลไปใส่ในAIงี้
-ส่วนตัวกูไม่รู้ว่าอันนี้แนวคิดอะไร แต่ถ้าจะปกครองแบบคอมมี่ แต่หน่วยคนควบคุมAdministers เป็นAIแทนละ เรื่องการคดโกงนี่ไม่ต้องกลัวเลย ตรวจสอบได้ แล้วคนก็ไปทํางานตามหน้าที่ เอ๊ะแต่แบบนี่ก็เหมือนคนเป็นทาสหุ่นยนต์เลยนิหว่า

510 Nameless Fanboi Posted ID:4t1Co5XgDK

เอาตรงๆคอมมี่ง่ายสุดกลับไปเป็นชนเผ่าอุบ่ะๆกันเถอะ อุบ่ะๆๆๆๆ อู้วๆๆ

511 Nameless Fanboi Posted ID:6ha0hhPRzm

ชนเผ่ายังมีการครอบครองทรัพสิน
ลิงยังมีจ่าฝูง
ผึ้ง-มดยังมีโดรนกับราชินี

512 Nameless Fanboi Posted ID:NO2O7bfGr5

ออกซิเจนเป็นเหตุทำให้เรามีอายุไม่มาก

513 Nameless Fanboi Posted ID:PiRXwTuTDi

>>512 โอเคต่อไปนี้กูจะได้ไม่สูดออกซิเจน 😤👌💯

514 Nameless Fanboi Posted ID:NO2O7bfGr5

>>513 กูเคบอ่านเจอว่าออกซิเจนมีส่วนทำให้เราตายอย่างช้าๆ ว่ะ

515 Nameless Fanboi Posted ID:fKuHMB7vc5

ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะคิดว่า เด็กไทยอ่อนแต่อังกฤษ คณิตเก่งพอสมควร
แต่ก็ไม่ค่อยแปลกใจนะ ที่ World Bank ออกมาเผยว่าเด็กไทยอ่อนวิทย์คณิตด้วย

ไอ้ตัววิทย์นี่ ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะ scientific thinking มันก็น่าจะไม่สามารถเติบโตได้ดีในประเทศที่สอนให้คนดำรงชีวิตและตัดสินอะไรต่างๆด้วยศรัทธา ความเชื่อ ประเพณี ความงมงาย ความขาด critical thinking พวกนี้มีผลต่อความสำเร็จทางวิชาการและเทคโนโลยีโดยตรงอยู่แล้ว

แต่คณิตศาสตร์นี่ ก็เพิ่งได้มานั่งคิด ว่าเด็กไทย ไม่ได้เรียนคณิตศาสตร์แบบเชื่อมโยงกับธรรมชาติ คือไม่ใช่ mathematical modelling/thinking แต่เป็นการเรียนอย่างกดดัน เร่งรีบ เพื่อเข้าห้องสอบ เอาตัวรอด เอาเกรด แล้วยังอยู่ในสภาพที่เรียนอัดๆกันหลายวิชา แล้วต้องเก่งทุกวิชา ทำให้กดดันจนไม่มีเวลานั่งคิดนานๆกับคณิตศาสตร์ ที่เป็นวิชาที่ต้องให้สมาธิ โฟกัสกับมันสูงมาก พยายามรีบเมื่อไหร่คือท่องจำ

กลายเป็นว่า วิชาคณิตศาสตร์ เป็นวิชาของผู้โชคดีไม่กี่คน ที่สมองดีพอจะจับทางได้เอง เพราะวิธีการสอนในโรงเรียน มันไม่ค่อยช่วยคนที่เหลือเท่าไหร่ในการวาดภาพให้เขาเห็นถึงความสัมพันธ์ของคณิตศาสตร์กับชีวิตประจำวันและเทคโนโลยีที่เขาถือใช้กันอยู่

ปัญหานี้ผมก็เป็น ผมเป็นคนที่ทำ modelling ไม่เก่งเลย เพราะแทบไม่เคยได้ผ่านการเรียนคณิตศาสตร์อย่างถูกต้อง มาเรียนช้าไปมาก เริ่มมาเข้าใจอะไรพวกนี้ก็หลังปริญญาโทแล้ว ในขณะที่เด็กฝรั่ง เด็กจีน ไม่รู้ครูเขาสอนยังไง เขาเก่งอะไรพวกนี้กันมากๆเลย

มันน่าจะเป็นปัญหาทางประวัติศาสตร์และสังคมด้วย คืออารยธรรมไทยตั้งแต่อดีต ไม่ใช่อารยธรรมคณิตศาสตร์ ต่างกับยุโรป จีน อินเดีย ที่อารยธรรมดั้งเดิมของประเทศเหล่านี้มีคณิตศาสตร์เป็นฐาน

จะปฏิรูปคณิตศาสตร์ในไทย มันเป็นปัญหาระดับการปฏิรูปอารยธรรมและวัฒนธรรม ที่ต้องเริ่มจากการที่คนไทยต้องให้โอกาสคนที่มีความคิดเป็นวิทยาศาสตร์มานำประเทศ ไม่งั้นจะไม่มีแรงผลักดันสังคมทั้งหมดสู่ความเป็นเลิศทางคณิตวิทย์เพียงพอ

516 Nameless Fanboi Posted ID:0MGBxyhp9X

ข้าพเจ้า​นาย​อนุชิต​ สพันธุ์​พงษ์
ข​อนับสนุน​ให้​ใช้​ มาตรา​ 112
ต่อผู้​กระทำผิดให้ถึง​ที่​สุด

ข้าพเจ้า​ไม่มี​ปัญหา​อะไร​กับมาตรานี้​ครับ​

ปล.​ ขอให้ลงโทษ​ผู้​กระทำผิดแบบสุดๆๆๆไปเลยนะครับ

517 Nameless Fanboi Posted ID:6ha0hhPRzm

>>515 วิทย์เกี่ยวอะไรกับสังคมความเชื่อวะ บังอินเดียงมงายกว่าคนไทยเยอะ เห็นแม่งไปอยู่ซิลิคอนวัลเลย์กันยั้วเยี้ย

518 Nameless Fanboi Posted ID:q8qleIb02O

“เขาก็อวบๆขาวๆ เหมือนซาลาเปา แต่จิตใจเขาต่ำทราม”

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

519 Nameless Fanboi Posted ID:0tNaaccjM9

>>518
Ink Waruntorn เหรอครับ

520 Nameless Fanboi Posted ID:WsOlpniZZn

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ..... ตั้งแต่สมัยที่ Apple ยังใช้ PowerPC CPU (Motorola G4, IBM G5) ..... ณ วันนั้นแทบไม่มีคนใช้ Mac Laptop กันเท่าไหร่ ... ในเมืองไทยนี่นานๆ จะเห็น PowerBook/iBook สักเครื่องหนึ่ง

ก็เข้าใจได้นะ เรื่องปกติ ตอนนั้นเนื่องจากมันไม่ได้ใช้ Intel CPU เหมือนกับชาวบ้าน ดังนั้นอะไรที่ชาวบ้านเขาใช้งานได้เป็นปกติกัน บน Mac OS X ก็แทบจะไม่มีหรอก ....

โปรแกรมใหม่ๆ โดยมากที่ออกมาสมัยนั้น ก็ไม่มีใครทำ Mac version หรอก .... จะทำไปทำไม คนใช้มันน้อยมาก และส่วนมากเป็นคนใช้เฉพาะด้าน ..... เรียกได้ว่าถ้าไม่มีฐานผู้ใช้อยู่แล้ว ก็จะไม่มีการสร้างฐานผู้ใช้ใหม่หรอก .....

ไมโครซอฟต์ยอมทำ Office for Mac กับ Internet Explorer (ที่ห่วยและล้าหลัง Windows version มากๆ) ให้ก็ดีถมไปแล้ว .... ว่างั้นเถอะ .... Adobe Photoshop/Illustrator นี่แทบจะเป็นตัวเดียวเลยมั้ง ที่ Mac กับ Windows version มันทันกัน ....

แล้วช่วงนั้นก็ยังเป็นช่วงแรกๆ ของ Mac OS X ... เพิ่งจะเปลี่ยนจาก OS9 มาไม่นานเท่าไหร่ .... พวก Developer ก็ยังแทบไม่สนกัน

จะสนไปทำไม ก็ในเมื่อเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ได้ใน Linux แบบง่ายๆ (แบบที่ apt-get install หรือเทียบเท่าลงได้ไม่ยาก) มันยังแทบไม่มีบน Mac เลย .... มันเป็น Unix ก็จริง แต่การต้องเอา source code ของทุกอย่างมา ./configure; make; make install แล้วไปไล่เก็บ dependencies เองไม่ใช่เรื่องสนุก ...

สมัยนั้นเรายังอยู่กับภาพที่ว่า "Mac มีไว้ทำงานกราฟิกส์แทบจะเท่านั้น" กันอยู่เลย ....

ปกติหาคนใช้ยากอยู่แล้ว ... ในคณะในมหาลัย ในร้านกาแฟทั่วไป ตามที่นั่นที่นี่ มองไปทางไหนก็ไม่เจอคนใช้ Mac หรอก ....ยิ่งเป็น Developer ที่ใช้ Mac นี่แทบไม่ต้องหาเลย ยากมากถึงยากที่สุด ....

(ตอนนั้น Mac มี Marketshare ทั้งหมดน้อยกว่า 3% มั้ง ถ้าผมจำไม่ผิด)

===============

จนกระทั่งไปงาน WWDC (ปีนั้นผมกลับมาเป็นอาจารย์แล้ว พานักศึกษาที่ ม. ไปด้วยกลุ่มหนึ่ง) .....

เราได้พบกับกลุ่มคนขนาดใหญ่ที่เป็นคนที่เป็น Developer ที่ใช้ Mac Laptop กันทั้งนั้น .... ไม่ว่าเราจะเดินไปทางไหนของ Moscone West ที่เป็นที่จัดงาน (ตึกเบ้อเริ่ม) ... ตามทางเดิน ตามโต๊ะ ตามทุกที่ที่คนนั่งได้ ... จะเห็น "โปรแกรมเมอร์ทำงานกับ Mac Laptop ทั้งนั้น"

ไม่มี PC Laptop ไม่มี Windows .... ถึงมีก็เป็นส่วนน้อยมากจริงๆ ที่ผมไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ

===============

ผมเขียนเรื่องนี้ทำไม นิทานเรื่องนี้สอนให้เรารู้อะไร?

ถ้าเราอยู่ที่ WWDC เราอาจจะเห็นว่า Developer แม่งมีแต่คนใช้ Mac เต็มไปหมด .... เราอาจจะคิดว่าเราเป็นคนกลุ่มที่ใหญ่พอประมาณ อาจจะใหญ่มากด้วยซ้ำไป ....

แท้จริงแล้ว ณ เวลานั้น เราเป็นคนกลุ่มน้อยมากๆ ของโลกใบนี้ ... Developer บน Mac นี่แทบจะเป็นประชากรชั้นสองชั้นสามของทุกอย่าง น้อยจนแทบไม่มีใครจะลงทุนลงแรงไปทำอะไรด้วย ....

===============

เราเห็นแต่คนที่คิดเหมือนเรา แวดล้อมด้วยคนที่คิดเหมือนเรา ไปงานที่มีแต่คนแบบเรา .... เราก็อาจจะเข้าใจว่าเราเป็นคนส่วนใหญ่ คนส่วนมาก เราอาจจะเผลอคิดว่าตัวเองเป็น "ตัวแทนที่ดีของนักพัฒนาโปรแกรม" ซะด้วยซ้ำไป .....

จริงๆ แล้วเมื่อเรากลับมาอยู่ในสังคมปกติ ... เมื่อจบ WWDC ... เราก็กลับมาที่เมืองไทยกัน .... ทั้งภาควิชา มีผมใช้ Mac อยู่คนเดียวเหมือนเดิม ..... แทบทุกคนที่ผมเจอไม่ว่าจะไปที่ไหน ไม่มีใครใช้ Mac เขียนโปรแกรม .... (มีน้อยมากๆ) ... เพื่อนที่ใช้ Mac กันในเมืองไทย แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ทำงานด้านออกแบบกันหมด .... เหมือนเดิม

อย่าว่างั้นงี้เลย ... ก่อนที่ผมจะกลับมาเป็นอาจารย์ ... สมัยเรียนมหาลัยที่ญี่ปุ่น ก็แทบไม่มีคนใช้ Mac ในคณะเหมือนกัน .... น่าจะมีผมกับอาจารย์ผม แค่สองคนทั้งคณะล่ะมั้ง (นึกคนอื่นไม่ออกจริงๆ แฮะ ....) .....

แน่นอนว่าวันหนึ่งหลายอย่างมันก็เปลี่ยนไป ... Apple เปลี่ยนมาใช้ Intel .... ตัว Unix ใน Mac มันมี Mindshare เพิ่มขึ้นหลังจากนั้น (เพราะว่า port โปรแกรมต่างๆ มาง่ายขึ้น) .... เริ่มเกิด Homebrew เริ่มเกิด Package manager มากมาย ....

จนวันนี้ไปไหนมาไหนเจอทั้ง User ทั่วไป และ Developer ที่ใช้ Mac เป็นเรื่องปกติพอตัว .......

===============

เมื่อเอาคนใน Niche มารวมตัวกันในที่ๆ หนึ่ง ... (อาจจะเป็น Social Network ที่มีแต่คนคิดแบบเดียวกันก็ได้) .... เราอาจจะเผลอคิดไปว่าเราเป็นคนส่วนมากหรือเยอะแล้ว ... ทั้งที่จริงอาจจะน้อยก็ได้ ....

และไม่ได้แปลว่ามันจะเปลี่ยนแปลงกลายเป็นคนกลุ่มใหญ่มากพอขึ้นมาจริงๆ ไม่ได้สักวันหนึ่ง .....

===============

จริงๆ ผมไม่ได้พูดเรื่อง Mac ..... แต่เล่ามันผ่านเรื่องนี้เฉยๆ :-)

521 Nameless Fanboi Posted ID:azVVEpp+aK

>>517 มันมีแนวคิดประมาณว่าการค้นหาความจริงทางวิทยาศาสตร์/คณิตศาสตร์เป็นวิธีเข้าถึงพระเจ้าด้วยอ่ะนะ อย่างรามานุจันงี้

522 Nameless Fanboi Posted ID:hCps/YFi1N

>>521 อันนี้ไม่ใช่ทางศาสนาคริสต์ตีความใหม่หรอวะ ตอนรอยต่อยุคกลาง-ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมอะ หลังจากพยายามปราบปรามพวกนักวิทยาศาสตร์รุ่นแรกๆ ก็หยุดกระแสการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เลยตีความคำสอนใหม่ทำนองส่งเสริมมันเสียเลย ว่ายิ่งมนุษย์ค้นคว้าวิทยาศาสตร์มากเท่าไรก็จะยิ่งเข้าใจพระเจ้ามากขึ้น

523 Nameless Fanboi Posted ID:c4izq2CPw0

>>522 แนวคิดนี้มีมาแต่โบราณแล้ว ยุคนึงที่วิทยาศาสตร์อิสลามเจริญมากๆ ก็เพราะแนวคิดแบบนี้ละ

524 Nameless Fanboi Posted ID:WsOlpniZZn

“ว่าแต่ตอนนี้ได้เงินเดือนเท่าไหร่ล่ะ ?” เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ผมโดนคนแปลกหน้าถาม
ตอนนั้นกำลังบวชอยู่ที่วัดในขอนแก่น แล้วพอดีมีคนที่บวชพร้อมๆ กันอีก 2-3 รูป
วันหนึ่ง พ่อแม่ของพระที่บวชพร้อมผม ก็มาเยี่ยมลูกตัวเอง ผมอยู่ด้วยพอดีก็เลยนั่งคุยตามปกติ
.
บรรยากาศช่วงแรก การคุยปกติดี สักพักเขาก็วงเข้ามาเรื่องเงินๆ ทองๆ
เขาถามว่าหลวงพี่เรียนจบที่ไหน ทำงานอะไร โบนัสดีไหม พอเหลือเก็บรึเปล่า
ผมก็แลกเปลี่ยนตามปกติ ก็จบป.ตรี ทำงานในกรุงเทพ เขียนโปรแกรมอยู่ที่นั่นนี่
.
“เอ้อ ว่าแต่ตอนนี้ได้เงินเดือนเท่าไหร่ล่ะ ?” คุณแม่ของหลวงพี่ท่านนั้นถามขึ้น
ผมอึ้งไป 5 วิ ตามองด้วยความสงสัย ไม่เคยเจอคนไม่รู้จักถามแบบนี้มาก่อน แถมอยู่กันหลายคนด้วย
บรรยากาศเปลี่ยนไปทันที ทุกคนจ้องมองมาที่ผม ความเงียบและเสียงหายใจดูอึดอัด รอลุ้นคำตอบ
.
“อ๋อ ... ก็ประมาณนึงน่ะครับ” ผมตอบ
“ประมาณนึงน่ะเท่าไหร่ล่ะ ?” แม่ท่านนั้นถามย้ำ ซึ่งน่าแปลกว่าคนอื่นๆ ก็ไม่ขัดอะไร แถมตั้งหน้าฟังด้วยความอยากรู้
แม้จะหงุดหงิด และอยากตอบไปตรงๆ ว่า “เสือก !!” (แบบในคลิปไวรัล)
แต่ก็ต้องรักษามารยาท ผมเลยบอกไปว่า “ก็พอผ่อนคอนโดในกทม.ได้ครับ”
.
ท่ามกลางความน่าอึดอัด และชวนสงสัยว่าถามทำไม(ฟะ) คุณแม่ท่านนั้นก็พูดว่า
ลูกชายเพิ่งได้เงินเดือนขึ้นมา ตอนนี้สี่หมื่นแล้วนะ โบนัสตั้ง 5 เดือน เนี่ยแฟนก็ทำงานใหญ่โต สองคนรวมกันเกือบแสน เพิ่งดาวน์รถคันใหม่ ส่งตั๋วเครื่องบินมา ชวนแม่ไปเที่ยวกรุงเทพ ดีใจมาก ทำงานที่กทม.เหมือนกัน คิดว่าหลวงพี่ก็น่าจะเงินเดือนดี เห็นจบวิศวะ แต่ลูกชายจบโทเลยนะ เนี่ยรอต่ออีกใบที่จุฬา ฯลฯ
.
ผมฟังแม่ท่านโม้อยู่ 10 นาที ถึงได้เข้าใจแล้วว่าเค้าถามเงินเดือนผมไปทำไม
1. อยากเปรียบเทียบกับลูกตัวเอง
2. อยากโม้เรื่องลูกให้คนอื่นฟัง
3. มีความอยากโชว์อยู่ตลอดทุกจังหวะที่คุย
ผมคิดว่า จริงๆ แล้วเค้าไม่ได้อยากรู้เรื่องเราสักเท่าไหร่ (หรือก็อาจจะอยากรู้จริงๆ เพื่อหาจังหวะอวด) แต่คำถามเปิดแบบนี้มันก็น่าหงุดหงิดจริงๆ
.
อีกเรื่องที่สังเกตคือ ตอนที่ถาม ทั้งครอบครัวนั้น ไม่สะท้านใดๆ กับคำถามเรื่องเงินเดือน เลยเดาว่าเค้าอาจจะคุยกันเป็นปกติ
จนเข้าใจว่าการถามคนอื่นอาจจะเป็นเรื่องปกติด้วยมั้ง
ว่าแต่ คุณเคยโดนคนอื่นถามเงินเดือนกันบ้างไหม ? และมีวิธีจัดการกันอย่างไรบ้างครับ
Cr. ภาพ https://fb.watch/2jbTUKWT2g/

525 Nameless Fanboi Posted ID:RQ5t5RVQ+Q

เพื่อนเฟมินิสต์คนนึงเขาโพสต์ชื่นชมระบบคอมหลังมีเรื่องโลโก้ค้อนเคียว แต่โพสต์ต่อมาคือกรี๊ดอินซีรีย์start upเกาหลี
ผมนี่งงเลย ถ้าในระบบคอมพวกตัวละครเกือบหมดในซีรีย์นี้ต้องโดนยึดทรัพย์ยิงเป้าไม่ใช่เหรอครับ

-มิตรสหายที่กำลังงงท่านนึง

526 Nameless Fanboi Posted ID:VVf/L/PMOu

ประกาศโจมตีระบบชนชั้น ประกาศเชิดชูความเท่าเทียม

แต่พอโดนคัดค้านเท่านั้นแหละ
"คนอื่นโง่"
ความเป็น Elitist มาเต็ม

#hypocrisy101

527 Nameless Fanboi Posted ID:L/MVgSzKQt

>>524 ทำไมไม่บวชที่นครศรีธรรมราช​

528 Nameless Fanboi Posted ID:iJRh7vM4sg

>>526
ซ้ายชนชั้นกลางเรียนจบมหาลัย:“ฝั่งเราคือฝั่งผู้ใช้แรงงาน ผู้ใช้แรงงานมาเข้าร่วมกับเราสิ”
ชนชั้นผู้ใช้แรงงาน: *ศรัทธาในศาสนา ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมหัวเก่า มีค่านิยมเรื่องเพศและเชื้อชาติแบบอนุรักษ์นิยม*
ซ้ายชนชั้นกลางเรียนจบมหาลัย: “อี๋ พวกหัวโบราณล้าหลัง ไร้การศึกษา โง่จริงๆ แบบนี้ประเทศเลยไม่พัฒนา”
ชนชั้นผู้ใช้แรงงาน: ....

เป็นแบบนี้ทุกประเทศไม่ใช่แค่ไทย แล้วก็มาสงสัยว่าทำไมแรงงานส่วนใหญ่โหวตขวา

529 Nameless Fanboi Posted ID:PXhKIR896/

>>528 นึกถึงอเมริกา รากหญ้าโหวตทรัมป์ คนชั้นกลางโหวตเดม มาร์กซ์ควรร้องไห้นะนิ อยากช่วยแรงงานปลดแอกจากนายทุน แต่แรงงานไม่ได้คิดขนาดนั้น ขอแค่กินอิ่มนอนหลับไปวันๆ ก็พอละ

530 Nameless Fanboi Posted ID:2m6I1qpqAN

>>528 เคยมีคนวิเคราห์ไว้นะว่าคนที่จะกินวันๆยังไม่มีมันไม่สนใจเรื่องไกลตัวอย่างโลกร้อน สิทธิ LGBT สิทธิคนพิการ อะไรพวกนี้หรอก
ถ้าฝ่ายซ้ายอยากชนะควรโฟกัสนโยบายเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนก่อน
พอคนระดับล่างๆมีคุณภาพชีวิตเรื่องพื้นฐานดีขึ้น คนพวกนี้ถึงจะมีอารมณ์มาสนใจเรื่องอื่นๆ ถึงตอนนั้นค่อยยกประเด็นพวกนี้มาพูด

531 Nameless Fanboi Posted ID:WD14Dlpd/s

ทำยังไงให้คุณภาพชีวิตคนระดับล่างดีขึ้น โดยที่ไม่แตะหรือขัดผลประโยชน์ของนายทุน Elite
อยากรู้ว่ะ

532 Nameless Fanboi Posted ID:R5uUXtbGzi

การได้พบเห็นคนใกล้และไกลตัวจากไปในเฟสบุคแม่งน่าเศร้าชิบหาย

เฟสบุคก็เหมือนการบังคับให้เรานั่งดูนาฬิกาทรายหลายๆขวดให้เราเห็นต่อหน้าวางเรียงรายบนโต๊ะขนาดใหญ่ เราจะได้เห็นขวดทรายบางคนรูปร่างสวยงาม ขวดทรายบางคนรูปร่างธรรมดา แต่ที่เหมือนกันคือทรายที่อยู่ข้างในจะไหลลงไปเรื่อยๆไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเม็ดทรายให้ร่วงหล่นไปได้

เราจะได้เห็นทรายบางคนร่วงหล่นจะหมดเหลือเพียงแต่ขวดเปล่าๆที่เป็นแค่ความทรงจำใต้พื้นขวดด้านล่างซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะถูกทิ้งไปเมื่อใด ในขณะที่ขวดทรายบางคนตกแตกกระทันหันเหลือเพียงแต่รอยร้าวขนาดใหญ่ที่ครอบครัวไม่สามารถซ่อมได้

ที่น่าตลกคือเราเห็นขวดทรายบนโต๊ะนี้ของทุกคนที่เราอยากรู้แต่เราไม่มีวันเห็นขวดทรายของตัวเองอยู่บนโต๊ะนี้และเม็ดทรายที่ร่วงหล่นไปก็ยังทำหน้าที่ของมันอยู่โดยที่เรามองไม่เห็น ขวดทรายของเรายังคงทำหน้าบอกเวลาที่กำลังจะหมดลงไปอย่างซื่อตรงและไม่โอนอ่อนต่อความอ่อนแอใดๆทั้งสิ้น

พูดเลยว่าไม่เคยเขียนสเตตัสยาวขนาดนี้มาก่อนแต่การให้เจอความสูญเสียของคนอื่นๆทำให้เรากลับมานั่งทบทวนขวดทรายของตัวเองว่าเราใช้เวลาไปอย่างคุ้มค่าทรายทุกเม็ดที่ร่วงหล่นไปแล้วหรือยัง.......จนกว่าทรายเม็ดสุดท้ายของเราจะหมดไป

533 Nameless Fanboi Posted ID:aEt6TJHINw

>>529 แต่นโยบายของไบเดนก็ไม่ได้ช่วยชนชั้นล่างเท่าไหร่นะ เทียบกับไทยคือนโยบายเอาใจหลิ่มมั้งนั้น แทบไม่ได้ช่วยชนชั้นแรงงานอะไรเลย

534 Nameless Fanboi Posted ID:HdQKTgsjeF

>>531 เรื่องเอาชนะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ทำได้แค่ต่อรองนั่นละ แน่นอนฝ่ายอีลีทก็ยังคงครองผลประโยชน์ส่วนใหญ่ แต่สัดส่วนในการโยกมาที่คนทั่วไปจะมากขึ้น วิวัฒนาการทางสังคมมันจะไปแบบนี้ คือจากขวาสุดจะค่อยๆ มาทางตรงกลาง แล้วพอสังคมโดยรวมไม่เดือดร้อนเรื่องเศรษฐกิจมากนัก มันก็จะว่างพอสนใจเรื่องอื่นๆ พวก LGBT , โลกร้อน ฯลฯ ทีนี้การเมืองก็จะเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างขวากับซ้ายจริงๆ ละ

535 Nameless Fanboi Posted ID:R5uUXtbGzi

น้ำหยดลงหินทุกวัน หินบอกว่า "เราเป็นได้แค่พี่น้อง"

536 Nameless Fanboi Posted ID:R5uUXtbGzi

สิ่งที่มันกำลังจะเกิดขึ้น ในความเห็นส่วนตัวของดิฉัน
- ยุบง่าย ยุบได้ ยุบไปเค้าไม่แคร์ เค้าสร้างมันขึ้นมาเพื่อให้ซับพอร์ตอิทธิพลของเค้าให้มีชื่อเสียงในวงการเกม และมีหน้ามีตาอยู่เบื้องหลัง
- เค้าเป็นเงา จะเปิดใหม่กี่สังกัด ชื่อใหม่ หรือธุรกิจอะไรก็ได้ แล้วจับใครสักคนนั่งอยู่เบื้องหน้า เพราะเค้ามีเงิน มีแบค แล้วก็จะทำแบบเดิมอีก พอเรื่องแดงก็ยุบ รอซาละทำใหม่ๆ ตราบใดที่เค้ามีเงิน มีทีมที่ทำงานให้เค้าได้
- เค้าทำแบบนี้ตั้งแต่แพลตฟอร์มเก่าที่ดึงคนจากสังกัดที่ใหญ่ ณ ตอนนั้นด้วยการยื่นข้อเสนอที่สูงกว่า ดีกว่า ทำให้เหล่าดีเจ สตรีมเมอร์ หลงเชื่อ และรวมตัวกันแตกหักกับสังกัดเก่า แล้วก็เจ๊งไปในที่สุด
- สุดท้ายตอนนี้พวกเราอาจจะสะใจ สมน้ำหน้าเค้า ที่เค้ายุบสังกัดไป แต่เราก็ทำได้เท่านั้น เพราะคนที่เดือดร้อนจริงๆ ไม่ใช่สังกัด เค้ารวยอยู่แล้ว นี่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของเค้าแน่นอน แต่เป็นอินฟลูที่โดนแคนเซิลงานที่เดือดร้อน เพราะนั่นคือรายได้ของพวกเค้า
- น้องผู้หญิงที่ออกมาแฉทั้งหมดจะเสียหาย เวลาผ่านไปแค่ไหน คนก็จะจำว่า น้องเคยโดนแบบนี้มาๆ และน้องอาจจะตกอยู่ในอันตรายเพราะน้องอยู่ในที่สว่าง เราควรจะช่วยเป็นหูเป็นตา คอยซัพพอร์ตและให้กำลังใจกัน
- สิ่งที่ทำได้คือภาวนาอย่าให้ให้อำนาจเงินมันอยู่เหนือกฎหมาย ร่วมกันดำเนินคดีมันให้ได้ รบกวนขอความช่วยเหลือจากคนที่สามารถช่วยเรื่องคดีได้ด้วยนะคะ ถ้าต้องมีค่าใช้จ่าย ระดมร่วมด้วยช่วยกันคนละ 5 บาท 10 บาท ก็ยังดี อย่างน้อยก็เป็นกำลังให้น้องๆ ได้สู้ อย่าปล่อยให้เรื่องนี้มันหายไปเฉยๆ ยุบสังกัดไม่ได้แปลว่าเรื่องจะจบ
- สุดท้ายนี้ ในฐานะที่เป็นผู้หญิง และอยู่ในวงการเกมมาบ้าง ขอเป็นกำลังใจและหนึ่งแรงที่ซัพพอร์ตให้น้องๆ ทุกคนต่อสู้กับความชั่วร้ายเหล่านี้ ให้ผ่านพ้นมันไปด้วยดี
แค่คนหนึ่งคนอาจทำอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเราช่วยกันคนละไม้คนละมือ เราอาจจะชนะสิ่งเลวๆ เหล่านี้ได้ อยากให้ทุกคนช่วยดูแลกันและกันด้วยนะคะ อนาคตข้างหน้าจะได้ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีก เพราะดิฉันมั่นใจ ว่ายังมีคนแบบนี้ที่แฝงอยู่อีกเยอะในวงการเกมบ้านเรา สู้ๆ นะคะ ♥️

537 Nameless Fanboi Posted ID:3InuheMpHU

คนไทยเกือบ 100% ชอบลอร์ดออฟเดอะริงแต่ไม่ซื้อไอเดียแหวน อะไรทำไมคนดีๆกลัวแหวน มันเป็นไอเดียง่ายๆที่เด็กฝรั่งทั่วโลกเข้าใจ ว่าแหวนมันคืออำนาจ แม้แต่คนดีที่สุดก็พร้อมจะกลายเป็นคนระยำที่สุดถ้ามีอำนาจ มอร์กอธหรือซอรอนก็ไม่ได้กำเนิดมาเป็นคนระยำ พวกเขาก็อยากได้อำนาจไปทำสิ่งที่ดีในสายตาตัวเองทั้งนั้น

ทำไมแกนดาฟไม่ถือแหวนเอง แกนดาฟบอกว่ากลัวจะห้ามใจไม่ให้เอาไปทำสิ่งที่ดีไม่ได้ คือมันสื่อชัดมาก ว่าแกนดาฟอยากให้อำนาจไปอยู่ในมือคนกลุ่มที่ไม่มีปัญญาใช้อำนาจ คือมีปัญญาใช้อำนาจได้จำกัดที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ มันเป็นสัญญะแบบโต้งๆมาก ที่คนไทยก็ยังไม่เข้าใจ งง เอ้า ให้คนดีใช้สิ ให้ไอ้เอ๋อที่มีปัญญาแค่หายตัวใช้ไปทำไม

538 Nameless Fanboi Posted ID:ogbXJNypKy

>>523 ทำไมตอนนี้มันตรงกันข้ามเลยวะ จุดพลิกผันอยู่ตรงไหน

539 Nameless Fanboi Posted ID:fgZYZbLnqm

>>537 เคเลบริมบอร์สร้างแหวนเพื่อรักษาสิ่งดีงามในโลกให้อยู่ไม่เสื่อมสลายตามกาลเวลา ขนาดยอมแตกหักขับไล่กาลาเดรียลออกจากฮอลลิน สุดท้ายเกือบจะทำให้เอลฟ์ตกเป็นทาสเซารอน

ไม่ต้ิงขนาดแหวน แค่เดเนธอร์ใช้ศิลาส่องภพเพื่อสอดแนมกำลังทัพมอร์ดอร์ ยังโดนอิทธิพลจนหมดหวังเลย

540 Nameless Fanboi Posted ID:HyEiqZ+XTK

กระเช้าหนังสือ ที่อยากแนะนำให้ซื้อเพื่อมอบให้กันประจำปี 2564
.
1. Knowing the Chinese
2. China Next Normal
3. รู้แค่นี้ขายดีทุกอย่าง
4. ลงทุนแมน 13.0
5. ล้ม ลุก เรียน รู้
6. ปัญญา {ฝ่า} วิกฤติ
7. No Rules Rules
8. หนังสือธรรมะ อะไรก็ได้ 1 เล่ม
9. หนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ 1 เล่ม
.
ถือว่าเป็นสิ่งดีๆที่ควรมอบให้กัลยาณมิตรสำหรับ พร้อมก้าวเดินในปี 2564 นี้ครับ

541 Nameless Fanboi Posted ID:HyEiqZ+XTK

เคยเห็นคนขายดอกมะลิแถววัดดอยคำไหมครับ ทีแรกมีอยู่เจ้าเดียว พอคนอื่น ๆ เห็นเจ้านี้ขายดิบขายดี เลยมาเปิดร้านขายบ้าง ตอนนี้เปิดกันเต็มถนนยาวประมาณ 2 กิโลเมตรจนถึงวัดเลย ปรากฎว่ากำไรหายหมด แย่งกันขาย

ยุทธศาสตร์ AI ของชาติตอนนี้ก็เป็นแบบนี้ครับ lol

542 Nameless Fanboi Posted ID:/kCj7HaAD.

>>532 สัสเพ้อเจ้อ

543 Nameless Fanboi Posted ID:HyEiqZ+XTK

สวัสดีครับ ผมคือเจ้าของค่ายที่ถูกเนตไอดอลพาดพิงถึงจนเป็นข่าวใหญ่ในขณะนี้ รอบแรกผมต้องขออภัยที่เขียนน้ำเยอะไปหน่อย เนื่องจากต้องการลงรายละเอียดทั้งหมดตั้งแต่รู้จักกันมาและมีปัญหาอะไรกัน แต่รอบนี้ผมขออธิบายใหม่แบบตรงประเด็นและไม่เพลย์เซฟให้ใครอีกต่อไป มีสามคนที่ผมขอพูดถึง 2 คนแรกหาว่าผม SH เขา อีกหนึ่งคนหาว่าผมนินทาเขา

1. คนแรกผมเคยคบกับน้องคนนึงจริงๆ ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเข้ามาสังกัด เนื่องจากน้องคนนี้ก็มีหนี้สินอยู่ ผมก็ใช้หนี้ให้เค้ารวมถึงซื้อของให้ หลายเดือนหมดไปหลายแสนบาท ผมชัดเจนว่านี่คือการผูกปิ่นโต เด็กตอบตกลงก็ตามนั้น แต่พอถึงเวลาจริง เด็กก็ยอมมีอะไรกับผมแค่ก่อนได้เงิน หลังจากนั้นผมก็ยอมรับตามตรงเลยว่าถูกหลอกแดก ก็วีนไปพอสมควรและจบไม่สวยเท่าไหร่ เรียกง่ายๆก็คือถูกเบี้ยวแบบเอาเรื่องไม่ได้นั่นแหละครับ

2. คนที่สองที่ใส่ร้ายว่าผมไปลวนลามเขา บอกเลยเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ผมไม่เคยไปจก ไปลวนลาม ถ้ามีหลักฐานก็ฟาดมาเลยครับ เพราะเค้าเป็นแฟนเก่าคนที่ผมรู้จัก แต่เวลาน้องมานั่งใกล้ๆ หรือมานั่งตัก ผมก็ไม่ได้รังเกียจ แต่ไม่เคยไปจก ไปล้วงอะไรอย่างที่เขากล่าวหา เพราะเขาไม่ใช่สเป็คผม และผมก็ไม่ได้ของขาดขนาดนั้น

3. คนสุดท้ายคือเนตไอดอลท่านนั้น คนนี้ผมมั่นใจว่าเขาไม่พอใจ จากกรณีที่แฟนเขาไลฟ์สดตบเด็ก ทำร้ายร่างกายอย่างหนัก ผมไม่รู้นะ ว่าเด็กคนนี้ขโมยของจริงไหม แต่บ้านเมืองมีขื่อมีแป ถ้าเขาขโมยของคุณ คุณก็แจ้งความสิ แต่นี่ก็คือไม่แจ้งไม่ดำเนินคดี แต่ทำร้ายเด็กโชว์พาวไปงั้นๆ พอเด็กโทรมาร้องไห้ขอความช่วยเหลือ ผมก็ช่วยไปเพราะเห็นใจ ส่วนเรื่องศัลยกรรม ผมไม่แคร์เลย หน้าคุณตัวคุณ คุณอยากทำอะไรกับร่างกายของคุณมันก็สิทธิของคุณ มีแต่คุยกับเพื่อนว่าขายกล้องราคาแพง จ่ายภาษีถูกต้องตามกฎหมายไหม คุณเป็นคนดังขนาดนี้ เป็นข่าวดังขนาดนั้น จะไม่ให้คนวิจารณ์มันจะเป็นไปได้เหรอ แต่คุณใช้ความแค้นที่มีต่อผม มาใส่ร้ายผม โดยไม่รู้เรื่องทั้งหมด คุณทำถูกไหมอยากให้คิดอีกที

ครั้งแรกผมพูดอ้อมๆ รอบนี้ผมพูดตรงประเด็นอย่างที่ทุกคนต้องการ ถ้าทำให้ใครผิดหวัง ผมก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้

544 Nameless Fanboi Posted ID:V9EMls6MTv

>>539 จริงๆความเข้าใจที่ว่าอำนาจมากทำให้เสื่อมมันน่าจะเป็นสากลแล้วนะ อย่างจีนโบราณนี่ก็ยังมีความคิดแบบนี้ แค่ยังไม่ตกผลึกขนาดสร้างระบบคานอำนาจจริงจังมากนัก ไม่เข้าใจว่าบ้านเราทำไมยังไม่เข้าใจกันอีกวะ ล้าหลังเค้าไปกี่ร้อยปีเนี่ย

545 Nameless Fanboi Posted ID:hPwxTKgH.a

จริงๆ ผมไม่ค่อยอยากจะพูดแบบนี้เท่าไหร่นะ

แต่กลุ่มเยาวชนปลดแอก ไม่ได้อยู่ในฐานะแกนนำมาสักพักแล้วนะ
กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ ที่มาพร้อมประเด็นปฏิรูปสถาบันฯ เข้ามา take over ขบวนการมานานแล้ว
(แต่คือก็ทำงานสนับสนุนกันมาตั้งแต่แรกแหละ)

แต่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า ขบวนการเคลื่อนไหว=เยาวชนปลดแอก=ประชาชนปลดแอก=แนวร่วมธรรมศาสตร์=คณะราษฎร

แต่จะเข้าใจแบบนั้นก็ไม่แปลก เพราะม็อบที่ความหากหลายสูงแบบนี้มันก็เพิ่งเคยมีขึ้นในประเทศไทย

ผมถึงได้ใช้คำว่า diversity panic ไง

546 Nameless Fanboi Posted ID:hPwxTKgH.a

ในฐานะที่เกลียดระบอบคอมมิวนิสท์
ก็รู้สึกหงุดหงิดพอสมควรกับวิธีการเถียงกับคนที่สนับสนุนคอมมิวนิสท์ โดยเฉพาะวาทกรรมน่าเบื่อประเภท คอมมิวนิสท์ดีในทางอุดมคติ ใช้จริงไม่ได้ บลาๆ ซัมติง และท่าทางการแสดงออกถึงการกลัวภัยคอมมิวนิสท์ ที่ใช้วาทกรรมตกค้างจากยุคสงครามเย็น
คือรู้สึกได้ว่าคนพูดแบบนี้ไม่ได้รู้จักคอมมิวนิสท์จริงๆ และมันยิ่งทำให้คนที่ศรัทธาลัทธิคอมมิวนิสท์ยิ่งรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองเชื่อมันถูกต้องแล้ว
argument แบบข้างบนนั่นมันไม่ได้ตีไปที่ปัญหาของแนวคิดคอมมิวนิสท์จริงๆจังๆ
ก่อนอื่นจริงๆเลยคือทุกคนที่กลัวคอมมิวนิสท์ ควรทำความเข้าใจก่อนว่าคำว่าคอมมูนคืออะไร ทำไมคอมมูนถึงได้รับความนิยม และค่อยมาพูดถึงว่าการเป็นคอมมูนมันไม่ดียังไง
และคนที่จะสนับสนุนคอมมิวนิสท์ด้วย ควรคิดให้ดีก่อนว่าเรากำลังสนับสนุนคอมมูนจริงๆเหรอ

547 Nameless Fanboi Posted ID:CvNdXHui7O

สงสัยว่าทำไมเยาวชนปลดแอก ถ้าจะเสนอ economic model ให้คนเห็นภาพ ทำไมไม่พูดเรื่อง social democracy หรือ democratic socialism หว่า หรือทำไมไม่เอาเรื่องประชาธิปไตยให้จบก่อน ก่อนจะไปเรื่องระบบเศรษฐกิจ?
ปัญหาพื้นฐานของคอมมิวนิสต์ คือระบบมัน centralized by default (นึกถึงระบบราชการ) มันไม่มี incentives ให้คนลุกขึ้นมาแก้ปัญหาที่ตัวเองสนใจ ให้มาเป็นเจ้าของในการสร้างสิ่งที่ช่วยให้โลกดีขึ้น แบบราชการไทยก็ไม่มีแรงจูงใจให้ทำตัว efficient
ต่างกับทุนนิยมที่ decentralized กว่า สมมุติว่าเราตั้ง startup การศึกษา ก็จะได้ทดลองสิ่งที่ตัวเองสนใจและอาจไม่ตรงกับคนหมู่มาก ถ้าเราทำออกมาดีก็จะได้ payoffs เป็นเงิน มัน self-sustaining และทำให้เกมมันเดินได้ด้วยความต้องการของทุกคน
แม้จะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังไงรัฐก็สู้ธุรกิจและสู้ communities ที่ประชาชนตั้งไม่ได้ โตช้ากว่าแน่ๆ แต่ยังไงรัฐก็ต้องเข้ามากำกับดูแลให้ไม่เกิด monopoly และให้แต่ละธุรกิจทำงานร่วมกันได้
เราว่าทุนนิยมไม่ใช่ปัญหา ปัญหามันคือ basic necessities มีไม่เพียงพอ ซึ่งแก้ได้ด้วยระบบอย่าง UBI (Universal Basic Income) หรือ free healthcare/free education แบบหลายๆ ประเทศ ซึ่งถ้าคนอยากสร้างธุรกิจเค้าก็ทำได้ ถ้ามี basic needs ซึ่ง democratic socialism แก้ปัญหานี้ได้
กับอีกปัญหาคือกลุ่มนายทุน เรื่อง monopoly และ antitrust ที่มันต้องแก้ไขจากรัฐ ซึ่งเรายืนยันว่ามันทำได้ รัฐสามารถออก policy หรือ break down companies ให้เล็กลงได้ หรือ enforce antitrust laws ได้
ปัญหาหลักของ ideology แบบคอมมิวนิสต์คือ common ownership of means of production มันทำให้มันไม่รองรับกับการสร้างอะไรเอง เช่นธุรกิจส่วนตัวที่เราเป็นเจ้าของ means of production ทำให้ชีวิตเราต้องผูกไว้กับการตัดสินใจของรัฐ หรือของ "คนหมู่มาก" ทำให้เราไม่มี freedom to choose เท่ากับระบบทุนนิยม
เราอยากเห็นประเทศไทยที่ decentralized but interconnected เด็กทุกคนมี foundation ที่สามารถแก้ไขปัญหาที่ตัวเองสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา การขนส่ง การวิจัย เทคโนโลยี แล้วทุกคนบอกได้เต็มปากว่าฉันเป็นเจ้าของ ทุกคนมาเล่นในเกมที่ payoffs มันดีมากพอที่จะให้รางวัลคนที่ช่วยพัฒนาสังคม
เราว่า communism มัน proven มาแล้วนับครั้งต่อครั้งจากประวัติศาสตร์ ว่ามันมีปัญหาเชิงระบบ มันมักจะดู sexy กับชนชั้นที่ไม่ได้รับการตอบสนอง basic needs ว่าอย่างน้อยก็จะมีข้าวกิน มีบ้านอยู่ แต่สำหรับคนที่อยากสร้างความเปลี่ยนแปลงแบบเรา อยาก make a dent in the universe มันไม่พอแน่นอน
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ชอบที่หลายๆ คน ด่าคอมมิวนิสต์โดยไม่ทำให้มันเป็น valid argument เหมือนกัน เพราะเราอ่าน comment ก็อยากเห็นเหตุผลแต่ละคนว่า "ทำไม" ไม่เห็นด้วยกับคอมมิวนิสต์ ไม่ใช่แค่ด่าอย่างเดียว มันไม่ constructive เอาซะเลย

TL;DR: ไม่เห็นด้วยกับคอมมิวนิสต์แน่นอน เพราะไม่เห็นด้วยกับ common ownership of means of production และ centralization
แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับคนที่ด่าคอมมิวนิสต์โดยไม่ยก argument ยกเหตุผลว่าทำไมไม่เห็นด้วย จะด่าทั้งทีก็ให้มัน constructive หน่อย เราก็อยากอ่านว่าทำไมคนอื่นไม่ชอบคอมมิวนิสต์ เราว่าเหตุผลทุกคนต่างจากเรา

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

548 Nameless Fanboi Posted ID:3t+JXqqnsM

>>547 มิตรสหายท่านนี้ก็ยกตัวเองฉลาดเก่งจังเบย เหตุผลแบบนี้คนอื่นพูดถึงเยอะแยะ หลายคนสรุปด้วยภาษาไทยจบได้ใน 1 ทวีตด้วยซ้ำ สั้นกระชับเข้าใจง่าย

549 Nameless Fanboi Posted ID:64SgOW8csq

>>548 ยกตัวเองให้ดูฉลาดยังไงหว่า ที่ใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษอ่ะนะ kek

550 Nameless Fanboi Posted ID:kHuYa/8wEw

>>549 น่าจะตรงที่เขียนน้ำเยอะไปหน่อยป่ะ ขนาด tldr แล้วยังยาวอยู่เลย

551 Nameless Fanboi Posted ID:r89SV.zMbq

มีความงวยงงว่า เพจเยาวชนปลดแอกโดนแฮ็กโดยซ้ายใหม่ไร้เดียงสาหรือไร
:
1.นี่พูดในฐานะที่ผมยังมีอุดมการณ์คอมมิวนิสต์นะ แต่มีในแง่ของความใฝ่ฝัน เหมือนร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา เชื่อมั่นว่าสักวันมนุษยชาติจะไปสู่สังคมแสนงาม
แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ อาจเป็นร้อยๆปีก็ได้ ยังมองไม่เห็นแนวคิดทฤษฎีใหม่หรือทิศทางที่ใกล้เคียงความเป็นไปได้ จึงเป็นความใฝ่ฝันที่ตระหนักบนความเป็นจริง ว่าถ้าชาติหน้ามีจริงตายก็อาจยังไม่เห็น (แต่ไม่เชื่อชาติหน้าอีก เพราะยังยึดปรัชญาวัตถุนิยมวิภาษของมาร์กซ์)
:
2.การหวนไปศึกษาแนวคิดมาร์กซิสม์ เพื่อเอามาปรับใช้กับวิกฤติทุนนิยมปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องผิด แต่มันก็ยังไม่ได้ให้คำตอบชัดเจน แม้แต่พวกซ้ายใหม่ในยุโรป การจะเอาสังคมนิยมประชาธิปไตยมาใช้ ก็ยังมีปัญหาหลายอย่าง ต้องผ่านการถกเถียงคิดวิเคราะห์ (แม้ผมสนับสนุนนะ แต่ต้องคิดให้รอบและยาวไกล)
:
3.คำอธิบายเรื่องคอมมิวนิสต์ในเพจเยาวชนปลดแอก เป็นอะไรที่ naive มาก พูดทื่อๆ เก่าๆ และไม่เป็นประโยชน์ การบอกว่าคอมมิวนิสต์จะไม่ใช่เผด็จการแบบจีน เกาหลีเหนือ การบอกว่าคอมมิวนิสต์ไม่ได้ริบแปรงสีฟัน เป็นคำอธิบายที่ตลก เปล่าประโยชน์ เมื่อมองไม่เห็นภาพว่า จะไปสู่อุดมคตินั้นได้อย่างไรโดยยังคงเป็นประชาธิปไตยที่เคารพสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล
:
อันนี้แม้แต่ อ.ปิยบุตร ซึ่งสนใจศึกษาบทเรียนซ้ายใหม่ในยุโรป ก็ยังบอกว่า สิทธิเสรีภาพมาพร้อมกับการมีกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคลในสังคมทุนนิยม มีไว้เพื่อปกป้องกรรมสิทธิ์ส่วนบุคล
:
มันทื่อและง่าย ถ้าเราจะบอกว่าทุกหนแห่งในโลกทุนนิยมเต็มไปด้วยการเอาเปรียบขูดรีด ต้องมุ่งสร้างโลกที่เท่าเทียม ผมเคยเล่าถึงความหายนะของจีนยุคแก๊งสี่คนแล้วว่า เมื่อไม่มีความแตกต่างของรายได้ ไม่ยอมให้สั่งสมทรัพย์สิน ฐานะส่วนบุคคล มันก็ไม่มีแรงจูงใจให้คนทำมาหากิน เศรษฐกิจเจ๊งหมด เติ้งเสี่ยวผิวจึงต้องกลับสู่ทุนนิยม
:
โลกมันขับเคลื่อนด้วยสองด้าน ด้านมืดด้านสว่าง กิเลสตัณหาความอยากได้ใคร่รวย กระตุ้นให้เศรษฐกิจเทคโนโลยีก้าวไปไม่หยุดยั้ง ขณะเดียวกันก็ต้องมีคนที่ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม องค์กรสิทธิเสรีภาพ ประชาสังคม สหภาพแรงงาน พรรคการเมืองที่มีอุดมคติ เพื่อถ่วงดุลกัน ต่อสู้กันไปอย่างนี้ไม่สิ้นสุดเพื่อรักษาสมดุลระหว่างด้านมืดด้านสว่าง
:
4.ที่เราต่อสู้อยู่ตอนนี้ ในประเทศนี้ ยังไม่ใช่ปัญหาเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่ แม้คาบเกี่ยวกันบ้าง แต่ที่สำคัญคือ ทุนผูกขาดอภิสิทธิ์ อิงอำนาจเผด็ขการ แบบที่ด่ากันเต็มไปหมดเรื่องซีพีควบโลตัส หรือความร่ำรวยของทุนพลังงาน แบบขายลมขายแดดให้ กฟผ.ได้ก็เอาเข้าตลาดหุ้นรวยเป็นหมื่นๆล้าน
:
5.ที่แน่ๆ ที่สำคัญที่สุด คือขบวนคนรุ่นใหม่ที่ออกมาต่อสู้วันนี้ ส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยไม่ได้สมาทานคอมมิวนิสต์ไปกับเพจปลดแอก เพราะเป็นขบวนคนชั้นกลางรุ่นใหม่ที่มีจุดร่วมกันในความคิดเสรีเท่านั้น
:
กลุ่มซ้ายใหม่อาจเป็นส่วนหนึ่งในขบวนนี้ แต่ก็เป็นคนส่วนน้อย(อาจจะน้อยมากด้วย) แม้มีเสรีภาพเสนอความคิด แต่มันควรจะไปโผล่ในเพจ "มาร์กซิสม์ใหม่" อะไรทำนองนั้น ไม่ใช่เพจเยาวชนปลดแอก ซึ่งเป็นเพจหลักของขบวน
:
ยกตัวอย่างง่ายๆว่า อ.ษัษฐรัมย์ ก็เผยแพร่แนวคิดตัวเองในกระแสม็อบ แต่ไม่ใช่กระแสหลัก มีคนเห็นด้วยบ้างไม่เห็นด้วยบ้างก็ว่ากันไป
:
แต่การมาประกาศในเพจหลัก มันเลยเหมือนขบวนประชาธิปไตยคนรุ่นใหม่โดน "แฮ็ก" โดยคอมมิวนิสต์ใหม่หยิบมือหนึ่ง ซึ่งส่งผลเสียทั้งขบวน โดยที่แกนนำม็อบคนอิ่นๆ น่าจะไม่เห็นด้วย
อันนี้ต้องเรียกร้อง ให้คนอื่นเพจอื่น ประกาศให้ชัดว่า เป็นความคิดของเพจปลดแอกกลุ่มเดียว เป็นเสรีภาพทางความคิด ไม่จำเป็นต้องเห็นร่วมกัน

552 Nameless Fanboi Posted ID:z2dWq7vFxb

>>548 >>549 >>550 คือมันแม่งพูดภาษาต่างต่างดาวไง ใครไม่เข้าใจมันก็เท่ากับโง่ ไร้การศึกษาไง ผญในเมืองเดี๋ยวนี้กูเห็นชอบพูดแบบนี้เยอะ แล้วก็ด่าแต่คนอื่น
เอ้ายกตัวอย่างง่ายๆวรรคนี้ เราว่าทุนนิยมไม่ใช่ปัญหา ปัญหามันคือ basic necessities(สิ่งจำเป็นพื้นฐาน) มีไม่เพียงพอ ซึ่งแก้ได้ด้วยระบบอย่าง UBI (Universal Basic Income)(รายได้มูลฐาน กูว่าชัดกว่าสั้นกว่าด้วย) หรือ free healthcare/free education(ดูแลสุขภาพฟรี,การศึกษาฟรี) แบบหลายๆ ประเทศ ซึ่งถ้าคนอยากสร้างธุรกิจเค้าก็ทำได้ ถ้ามี basic needs(ความต้องการขั้นพื้นฐาน) ซึ่ง democratic socialism(ระบบสังคมนิยม)แก้ปัญหานี้ได้
ทำไมมึงต้องเสร่อใช้ภาษาอื่นปนวะ ในเมื่อคำไทยแม่งง่ายกว่า อันไหนมันคำเฉพาะก็พอแทนได้ เพราะไม่มีความหมายเป็นภาษาไทย แต่อันนี้มีคำที่ใช้ได้และดีกว่า เสือกไม่เอา

553 Nameless Fanboi Posted ID:W0+Dt1indw

คอมมิวนิสต์ = รัฐสวัสดิการ ทุกคนเข้าถึงเหมือนกัน ... ช่องว่างระหว่างคนจนคนรวยมีน้อย ... เป็นรัฐในอุดมคติ .. ประเทศที่ใกล้ที่สุด น่าจะเป็นเยอรมัน ... ซี่งอาจจะเริ่มต้นด้วยทุนนิยมประชาธิปไตยแบบ US ... หรือ คอมมิวนิสต์แบบทุนนิยมแบบจีน ... ถ้าพัฒนาสุดขีด จะได้คอมมิวนิสต์

มิตรสหายสามนิ้วท่านหนึ่ง

554 Nameless Fanboi Posted ID:64SgOW8csq

>>553 เคยเห็นมิตรสหายสามนิ้วท่านนึงบอกว่าประเทศคอมคือสวีเดน

กูนี่เศร้าเลย กลุ่มที่circlejerkว่าเป็นกลุ่มปัญญาชน คนในกลุ่มฉลาดกว่าหลิ่ม สุดท้ายความรู้ก็ไม่ได้ห่างกันซักเท่าไหร่

555 Nameless Fanboi Posted ID:EuP6et28vT

ลาว เวียดนาม ก็คอมนะ แต่ความเป็นอยู่ผู้คนไม่ค่อยดี สวัสดิการก็ไม่มี นั่นแหละ คอมมิวนิตส์ เน้น(จน)เท่าเทียม แต่คุณภาพชีวิตจะเป็นยังไง ไม่พูดถึง จะได้เอามาหลอก ร่า นสามนิ้วโง่ๆ ให้เอาไป woke ต่อได้

556 Nameless Fanboi Posted ID:ee+ZffaN82

จีนก็คอมไม่เห็นสลิ่่่มด่า

557 Nameless Fanboi Posted ID:EuP6et28vT

>>556 ที่เขาด่ากันคือ ระบบเศรษฐกิจ มากกว่า จะเป็นเรื่องการปกครองนะ

558 Nameless Fanboi Posted ID:EqS3naaobA

>>555 พูดเหมือนตอนนี้ไทยแม่งไม่จนอะ ไอ้ควาย

559 Nameless Fanboi Posted ID:ee+ZffaN82

>>557 กูเห็นแต่ไม่พอใจคอมมิวจะล้มการปกครอง

560 Nameless Fanboi Posted ID:EmH3XkCSL6

>>558 ไม่รวยแต่ก็ไม่จนนะ อยู่ในระดับกลาง-กลางถึงกลาง-สูง ปัญหาของไทยคือเรื่องอาชีพที่จำนวนมากยังยึดติดค่าแรงขั้นต่ำอยู่ ถ้าคนส่วนใหญ่มีอาชีพที่ไม่อิงแรงงานขั้นต่ำ ซึ่งก็คือแรงงานมีฝีมือ ไทยก็จะก้าวข้าวเป็นประเทศพัฒนาได้ไม่ยากหรอก เพราะตัวเลขเรามาถึงคอขวดแล้ว แค่ผ่านตรงนี้ไปได้ก็ปลดล็อคเลย

561 Nameless Fanboi Posted ID:6oj8JXKoxl

>>560 ถ้าพูดแบบคนเล่นเกม lv ไทยในคลาสนี้อะตันแล้ว ต้องเปลี่ยนอาชีพไปคลาสสูงกว่านี้ แต่ปัญหาคือมันมีเควสที่ต้องทำให้ผ่านถึงจะเปลี่ยนได้ คือไทยเนี่ยในระดับ ปท.กำลังพัฒนาเรามาสุดทางละ แต่ไปต่อเป็นปท.พัฒนาแล้วไม่ได้เพราะเราไม่ใช่ชาติเจ้าของนวัตกรรมไฮเทคไง

562 Nameless Fanboi Posted ID:EqS3naaobA

>>561 ปลูกผัก เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ พอเพียงไปวันๆ ตามพ่องสอน สอนตั้งแต่เด็ก ตามมาหลอนยันโต นวัตกรรมอะไรไม่ต้อง ประเทศเฮงซวย

563 Nameless Fanboi Posted ID:r89SV.zMbq

>>560 ถ้าดูค่าเฉลี่ยก็ไม่รวยไม่จน แต่ถ้าดูลึกลงไป กุให้จนนั้นแหละ หมายถึงตัวบุคคลนะไม่ใช่ประเทศ

564 Nameless Fanboi Posted ID:0NrvRYtSeA

เข้าใจอะไรระหว่าคำว่า self sufficiency กับ self sufficiency of economy ผิดหรือเปล่าหว่า

เวลาพูดกี่รอบๆ ก็พูดถึง self sufficiency of economy มาตั้งแต่ไหนแต่ไรนะ คือ ใช้จ่ายอย่างสมฐานะตน จะได้ไม่ลำบาก
ไม่ได้หมายความว่าพอเพียงแล้วห้ามหาเพิ่ม

565 Nameless Fanboi Posted ID:EmH3XkCSL6

>>561 จริงๆ ไทยก็มีเทคของตัวเองบ้างละ แต่ไม่ใช่เทคแนวหน้าแบบประเทศพัฒนาแล้ว แต่เป็นเทคระดับกลางๆ ซะมากกว่า เพราะเอกชนไทยไม่ค่อยสนใจด้าน R&D เท่าไหร่ ประเทศพัฒนาแล้วตัวเลขนี้ของเอกชนจะล้ำหน้ารัฐไปไกลมากจนรัฐแทบไม่ต้องทำไรเลย

>>563 จนแปลว่าขาดแคลน ลองมองตามความเป็นจริงสิว่าคนส่วนใหญ่ขาดแคลนจริงๆ เหรอ โอเคว่าไม่รวยแน่ แต่ก็ไม่ถึงกับขาดแคลนจนอยู่ไม่ได้

566 Nameless Fanboi Posted ID:4BxR/WG6QW

เรื่อง tech กับ นวัตกรรม ของไทย อย่าหวังเลย ขนาดคนไทยพยายามคิดแบรนด์ไทย เพื่อให้คนไทยใช้ คนไทยด้วยกันยังไม่เลือกเลย
ธานินท์ แฟมิลี่ ไอโมบาย จะกลายเป็นตำนานที่ถูกลืม

>>562 มึงลองคิดนวัตกรรมอะไรสักอย่างในไทยดูสิ แล้วจะมีคนไทยหนุนมึงหรือไม่อันนั้นอีกที ยิ่งถ้าดังนะ รอเจ๊กก็อป แล้วแปะชื่อไทย คนไทยจะยิ่งหนุนเจ๊ก

คนไทยพยายามพัฒนาอะไรบอกเลย ไม่เจริญหรอก 555

567 Nameless Fanboi Posted ID:aDdR.yE.MQ

>>565 จนแปลว่าขาดแคลนเหี้ยไรวะ นิยามจากไหน แล้วไอ้ขาดแคลนคืออะไร แค่มีเงินพอแดกประทังชีวิตไปได้วันๆ นี่คือไม่จนแล้ว?

568 Nameless Fanboi Posted ID:r89SV.zMbq

>>565 กุงงนะ จนของมึงคือต้องขาดแคลนอยู่ไม่ได้ งั้นประเทศเราก็ไม่มีใครจนอะ เพราะก็ยังทนอยู่กันได้ คนเก็บขยะหาเช้ากินค่ำก็ไม่จนเพราะยังอยู่ได้

569 Nameless Fanboi Posted ID:kPPUW+7XAs

>>566 ไอโมบายเน่าเพราะมันจ้างเจ๊กทำแบบจิ้มเลือกแบบแล้วแปะแบรนด์ไม่ได้มีอะไรแตกต่างนอกจากโลโก้ พอเจ๊กมาลุยเองเลยเจ๊งไม่ใช่เหรอ

570 Nameless Fanboi Posted ID:b7mbLvM/jq

นวัตกรรมไทยระดับโลกก็ไซโจเด็นกิไง ตลกร้ายชิบเป๋ง ขายได้เพราะฉลาดตั้งชื่อ

571 Nameless Fanboi Posted ID:yW+HZntSHJ

ไซโจระดับโลกจริงเหรอวะ กูเอาชื่อไปเซิจมีแต่เว็บไทย แถมมีแต่คอมเม้นอวยกันเอง

572 Nameless Fanboi Posted ID:EmH3XkCSL6

>>567 ก็ถูกแล้วนี้

(๑) ว. อัตคัดขัดสน, ฝืดเคือง, มีเงินไม่พอยังชีพ.

การมีเงินประทังชีวิตไปวันๆ นี่ก็ต้องเจาะจงไปอีกว่าเพราะอะไร คนส่วนใหญ่ตอนนี้ก็อยู่ได้โดยคุณภาพชีวิตพื้นฐานไม่ลดนัก ก็ไม่น่าจะนับว่าจนนะ

>>568 ตามนิยมจริงๆ ก็ใช่ การขาดแคลนจนไม่มีบ้าน อาหาร อาชีพ หรือโอกาสทางการศึกษานับว่าจน ตอนนี้คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ถึงขั้นนั้น

แต่ปัจจัยนี้ก็บอกไรมากไม่ได้ อย่างแคลิ รัฐที่อู้ฟู้ที่สุดของเมกามีอัตราคนจนและไร้บ้านมากที่สุด เพราะมาตรฐานค่าครองชีพเฉลี่ยสูงมาก ส่วนของไทยมันไม่สูงมากนัก คนถึงไม่จนจริงๆ ไง เก็ตมะ

>>571 มันไม่ค่อยขายตลาดตปท. แต่คุณภาพสูงจริงนะ

573 Nameless Fanboi Posted ID:Cm.jh6S91+

>>564 ตรรกะควายๆ

574 Nameless Fanboi Posted ID:Cm.jh6S91+

>>565 เศรษฐีไทย นายทุนไทย ส่วนใหญ่ก็เชื้อเจ๊ก แล้วเจ๊กแมร่งคิดเองเป็นที่ไหน เห็นอย่างมากก็ลอกเค้ามาทำขายไปวันๆ นวัตกรรมเหรอ เจ๊กไม่สน เจ๊กสนแค่สิ่งที่ทำเงินเดี๋ยวนี้ทันทีเท่านั้น

575 Nameless Fanboi Posted ID:rFsETNg0aV

>>574
แต่ว่า ดินปืนกับกระดาษ รวมถึงบะหมี่ที่กลายเป็นพาสต้านั่นมัน...

576 Nameless Fanboi Posted ID:UVzX.tAJeN

>>574
ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์เร็วสุดในโลกอยู่ที่จีนนะ รู้ยัง?

577 Nameless Fanboi Posted ID:/4ISu/3vy7

https://discord.gg/MwbJYtkzen

578 Nameless Fanboi Posted ID:enA8Yer9AD

>>576 อันดับหนึ่งคือฟุกาคุของไอ้ยุ่นเว้ย

เถียนหีกับซันเวย์ของเจ๊กมันอันดับกลางๆของTop10โน่นเลย อยู่แถวๆ456มั้ง จำไม่ได้

579 Nameless Fanboi Posted ID:bOvxu/3c/P

>>575 ดินปืนสร้างเสร็จดันไม่ได้เอาไปรบแต่เสือกเอาไปทำประทัดจุดไปดวงจันทร์ กระดาษ ? ปาปิรุสไม่ถูกใจสิ่งนี้ พาสต้าไม่ได้มาจากบะหมี่ วิธีทำต่างกัน วัตถุดิบก็ต่างกัน เหมือนแค่เป็นเส้นเหมือนกัน (และมาร์โค โปโลไม่ใช่คนเอามา)

>>576 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของจีนตกไปอยู่อันดับ 4 แล้วนะ รู้ยัง ?

580 Nameless Fanboi Posted ID:hS1zq/vNnK

>>579 ดินปืนก็เอามารบนะ ตั้งแต่สมัยหมิงจีนมีหน่วยรบที่ใช้ดินปืนเป็นหลักอยู่ อันนี้ต้องยกความดีความขอบให้มองโกลที่พัฒนาอาวุธพวกนี้ขึ้นมาแล้วทำให้แพร่หลาย

กระดาษที่ใช้กันทุกวันนี้เอาวิธีทำมาจากจีน เพรสะพวกอาหรับชนัสงครามทาลัสแล้วได้ช่างทำกระดาษของจีนไป วิธีทำกระดาษแบบจีนเลยแพร่ไปทั่วโลก ส่วนปาปิรัสนั้นนับเป็นกระดาษได้ แต่วิธีทำคนละอย่างกับกระดาษปัจจุบันเลย คนเลยถือกระดาษจีนมากกว่า

581 Nameless Fanboi Posted ID:Ysoe0VLM1q

>>575 ยังมีคนเชื่อว่าพาสต้ามาจากเส้นบะหมี่จีนอยู่อีกหรอ

582 Nameless Fanboi Posted ID:+AdUIwowun

>>566 ขนาดตอนนี้มอไซค์ GPX คนไทยแม่งยังแซะอยู่เลยว่ารถเจ๊ก OEM บ้าง ไปซื้อรถยุ่นใช้เถอะบ้าง ทั้งที่มีโรงงานประกอบในไทยแล้วนะ

583 Nameless Fanboi Posted ID:D8epp7n/La

>>582 มันถึงหันไปจับมือไต้หวันเอาเครื่องเขามาใช้ไง พยายามลบภาพลักษณ์​รถจีนติดแบรนด์​ไทยอยู่นี่

584 Nameless Fanboi Posted ID:/3TWMJrjO7

>>583 ตัว legend , demon รุ่นใหม่ๆ พัฒนาดีกว่ารุ่นแรกๆ ละ ปัญหาลดลงกว่ารุ่นก่อนๆ พอสมควร แต่ก็นั่นแหละ ยุคนี้มันยุครถออโต้ ไปจับมือกับ sym ก็ดีละ

585 Nameless Fanboi Posted ID:.LZ5CKqxJT

หัวใจสำคัญส่วนนึงของการทำธุรกิจ นอกจาก Product & Innovataion และทีม แล้ว เราต้องรู้ว่า ธุรกิจเรามี รายได้ ค่าใช้จ่าย กำไร-ขาดทุนเท่าไร อยู่ตลอดเวลา หลายบริษัทเลือกที่จะให้เป็นหน้าที่ของบริษัทบัญชี และคุณก็ไม่รู้ว่าตัวเลขพวกนี้ ซึ่งบอกได้เลย “อันตรายเหี้ยๆ” เลยครับ หากคุณไม่ “รู้” และ “วางแผน” ตัวเลขเหล่านี้เอาไว้

หากต้องการให้ธุรกิจ “รอด”คุณต้องดูตัวเลขพวกนี้ทุกวัน ทุกอาทิตย์​ จำให้ได้ ว่าตอนนี้ รายได้เท่าไร? กำไร-ขาดทุนเท่าไร? เงินสดเหลือเท่าไร?

ต่อให้คุณ Product และทีม ที่ดี แต่ถ้าคุณไม่รู้ข้อมูลเหล่านี้ มันก็เหมือนมีเรือยอร์ชดีๆ แต่ไม่มีเข็มทิศที่จะคุมทิศทางในการเดินทางของธุรกิจคุณได้

ทุกบริษัทที่ผมเข้าไปลงทุน อย่างแรกที่จะให้ทุกทีมทำคือ การวางแผนทางการเงิน และจัดให้มีการติดตามตัวเลขเหล่านี้อย่างต่อเนื่องทุกอาทิตย์

ดังนั้นจง “วางแผนตัวเลขเหล่านี้ให้ชัด และติดตามอัพเดทและดูมันอย่างเสมอ”

ผมมีเทมเพลท การวางแผน รายได้-รายจ่าย-กำไร-ขาดทุนไว้แล้ว ลองไปใช้กันได้ครับ

586 Nameless Fanboi Posted ID:46KhAOd+n7

>>581
อิตาลีเขายอมรับ ไม่ใช่เกาหลีสักหน่อย

587 Nameless Fanboi Posted ID:Ymwy/ajOqP

>>586 อิตาลีคนไหนมันยอมรับ เขาวิจัยกันมาตั้งนานแล้วว่าวิธีทำเส้นมันไม่เหมือนกัน ของอิตาลี่มันใช้ hard wheat ปลูกไม่ขึ้นในจีน วิธีทำเส้นก็ไม่เหมือน แถมมีบันทึกว่าก่อนโปโลจะไปจีนอีก

588 Nameless Fanboi Posted ID:a9UIV5Hjp7

คนละครึ่งไม่ได้ทุกคน
แต่หนี้สาธารณะที่รัฐก่อไว้
กลับได้จ่ายทุกคน

589 Nameless Fanboi Posted ID:DASDSWjFhv

>>588 ไม่มีคนในม็อบอธิบายให้มึงฟังมั่งหรออะไรคือหนี้สาธารณะ หรือมีแต่คนบอกว่ารบ.เหี้ยก่อหนี้สาธารณะให้พวกกูจ่าย

590 Nameless Fanboi Posted ID:46KhAOd+n7

>>587
การค้าทางสายไหมมีก่อนโปโลถูกแล้ว....

591 Nameless Fanboi Posted ID:76TO4479HN

พูดถึงมาร์กซิสต์ คนที่น่าเสียดายคือ Salvador Allende นางเป็นมาร์กซิสต์ที่ขึ้นเป็นประธานาธิบดีชิลีด้วยการเลือกตั้ง อยู่ในตำแหน่งสามปี ดำเนินนโยบายยึดคืนกิจการหลักมาเป็นของรัฐ พัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานด้วยการเพิ่มค่าแรง มีสวัสดิการบ้านพัก ขยายการศึกษา ปฏิรูปที่ดิน etc

อาเยนเดอยู่ในตำแหน่งสามปีจนถึงปี 1973 ซีไอเอสนับสนุนให้กองทัพทำรัฐประหารใส่อาเยนเดซะงั้น เพราะสนิทกับคิวบาเกินไป อาเยนเดไม่ยอมลาออก กองทัพเอาเครื่องบินมาทิ้งระเบิดใส่ทำเนียบประธานาธิบดี La Moneda อาเยนเดอ่านคำอำลาประชาชนชิลีออกวิทยุแล้วก็ยิงตัวตาย เมกาเอา ออกุสโต ปิโนเชต์ ขึ้นมาแทนแล้วก็อยู่ยาวจนถึงปี 1990 (เหตุการณ์ช่วงนี้อยู่ในหนัง No กับ Neruda ของ Pablo Larraín) แล้วหลังจากนั้นชิลีและละตินอเมริกาก็กลายเป็นสนามทดลองนโยบายเสรีนิยมใหม่ของเหล่า Chicago Boys

โลกเลยไม่มีโอกาสได้รู้ว่าการเปลี่ยนผ่านไปเป็นสังคมนิยมด้วยการปฏิรูปมันควรจะมีหน้าตาเป็นยังไง เห็นแต่การปฏิวัติและผลลัพธ์ที่ขึ้นอยู่กับความบ้าบอของผู้นำการปฏิวัติแต่ละคน

592 Nameless Fanboi Posted ID:.LZ5CKqxJT

เห็นนายกแถลงการณ์ว่าตัวเองเป็นคนคิดหลักการของโครงการคนละครึ่ง

"ผู้สื่อข่าวถามว่าใครเป็นคนต้นคิดโครงการคนละครึ่งเปิดเผยได้ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คนคิดน่ะหรอ ตนในฐานะระดับนโยบาย

นี่นายกฯทำงานอย่างนี้ ไม่จำเป็นต้องไปคิดข้างล่างเอง ไม่เช่นนั้นจะมีกระทรวงไว้ทำไม ผมบอกทุกอย่าง 1.จ่ายตรง ได้จ่าย 2.ถ้าจ่ายตรงไม่ได้ ถ้าใช้งบประมาณสูงก็ต้องจ่ายสมทบ นี่คือหลักการของผม แต่จะทำอย่างไรก็ไปทำมา”

ผมรู้สึกว่าโครงการนี้มันดีกว่าโครงการอื่นตรงรายละเอียด ไม่ใช่ตรงหลักการอ่ะครับ คือหลักการแบบนี้เรามีโครงการมาเยอะแล้วนะที่ตายตรงรายละเอียด

นอกจากนั้น เรารู้สึกว่าเวลาผู้หลักผู้ใหญ่หรือเจ้าคนนายคนขโมยเครดิต โดยการบอกว่าคนคิดคือตนเองในฐานะนโยบายและหลักการ แถมไม่ให้เครดิตคนอื่นเลย เอาแต่ชื่อตัวเองไปใส่ มันไม่น่ารักและทำให้คนทำงานเสียกำลังใจมากเลยนะ ถ้าผมเป็นคนทำงาน ผมก็จะอยากได้รับการชื่นชมและได้เครดิตบ้างอ่ะนะ เจองี้ก็รู้สึกแย่แหละ

ส่วนตัวจะจำไว้ว่าใช้คำพูดยังงี้มันไม่ดียังไง จะได้ไม่ทำกับใครอีก

ปล. เวลาพูดแบบนี้ หลายคนที่มีอำนาจแล้วขโมยเครดิตคนอื่นชอบบอกว่าไม่เข้าใจทำไมต้องอยากได้เครดิตด้วย เงินก็จ่ายแล้วบ้าง ได้โอกาสไปแล้วบ้าง เอาจริงๆ เรื่องทำไมอยากได้เครดิตเนี่ยเข้าใจไม่ยากเหอะ คือ ขนาดตัวเองยังอยากบอกเลยว่าฉันเป็นคนคิดนะเว้ย ทำไมจะเข้าใจว่าคนอื่นก็อยากยืนตรงนั้นเหมือนกันบ้างไม่ได้ล่ะ ถามใจตัวเองละกันว่าทำไมอยากตอบว่า "ตน" คนอื่นเขาก็รู้สึกแบบคุณได้ไง

593 Nameless Fanboi Posted ID:xWqa6OJQR7

คอมมิวนิสต์ก็แค่คำๆ หนึ่ง

เวลานักมาร์กซิสต์ นักคอมมิวนิสต์ นักสังคมนิยม จะโต้แย้งหรือถกเถียงเกี่ยวกับคำว่า "คอมมิวนิสต์" กับคนทั่วไป คุณต้องเข้าใจว่าความเข้าใจต่อคำๆ นี้มีสองแบบ แบบหนึ่งคือความหมายในเชิงประวัติศาสตร์ความคิดหรือในเชิงทฤษฎี คำว่าคอมมิวนิสต์มันมีหลายสำนัก มีมาตั้งแต่ก่อนมาร์กซ์ บางทีก็ใช้สลับกับคำว่าสังคมนิยม บางทีก็ใช้แยกกัน ไปจนถึงว่าในทฤษฎีมาร์กซิสต์นั้น คอมมิวนิสต์คือเป้าหมายสุดท้ายที่เป็นสังคมอุดมคติ ในขณะที่เผด็จการสหภาพโซเวียตและจีนยังเป็นแค่สังคมนิยม เป็นแค่ขั้นตอนหนึ่งที่จะบรรลุสังคมอุดมคตินั้น ฯลฯ อยากรู้ละเอียดเรื่องพวกนี้ก็ต้องอ่านหนังสือหรือไปเข้าเรียนชั้นวิชาว่าด้วยอะไรพวกนี้

คอมมิวนิสต์มีอีกความหมายในความเข้าใจของคนทั่วไป ตรงนี้นักคอมมิวนิสต์/มาร์กซิสต์มักเถียงคนอื่นว่า ความหมายของคอมมิวนิสต์ในแง่นี้เป็นสิ่งที่ฝ่ายทุนนิยมโฆษณาชวนเชื่อ แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็ต้องเข้าใจว่านั่นก็เป็นความจริงครึ่งเดียว สิ่งที่เป็น "ขบวนการคอมมิวนิสต์" เมื่อต้นศตวรรษที่ 20 มันมีความผิดพลาดเกิดขึ้นจริง มันมีการบริหารจัดการเศรษฐกิจผิดพลาด มันมีความเป็นเผด็จการ เอาคนเห็นต่างไปเข้าค่ายกูแล็ก กวาดต้อนคนไปทำนารวม มีพรรคคอมมิวนิสต์ในบางประเทศที่สู้ไปสู้มา กลายเป็นขบวนการค้ายาหรือจับตัวเรียกค่าไถ่จริง ถ้าคุณเอาแต่เถียงว่า คอมมิวนิสต์เป็นประชาธิปไตย (ในใจคุณคิดถึงคำอธิบายทางทฤษฎีของมาร์กซ์) ไปแย้งคนที่บอกว่าคอมมิวนิสต์เป็นเผด็จการ (ในใจเขาคิดถึงสหภาพโซเวียตกับจีน) แล้วฝ่ายนั้นเขาด่าว่าคุณเลอะเทอะ คุณก็ควรยอมรับว่าคุณเลอะเทอะจริง เลอะเทอะในแง่ที่คุณจะอธิบายให้เขาเข้าใจยังอธิบายไม่ได้ แล้วจะคิดเรื่องเปลี่ยนแปลงสังคมได้ยังไง

ทำไมคุณไม่ยอมรับล่ะว่ามันเคยมีความผิดพลาดเกิดขึ้นจริง แต่ในขณะเดียวกัน พลังของขบวนการคอมมิวนิสต์ในสมัยนั้นก็ทำให้ทุนนิยมมีการปรับตัวขนานใหญ่ มีการสร้างรัฐสวัสดิการในหลายประเทศ กลายเป็นยุคทองของบางพื้นที่ในโลกที่การศึกษาขยายตัว การพัฒนาคุณภาพชีวิตขยายตัว เห็นไหมว่านี่เป็นไปตามตรรกะวัตถุนิยมประวัติศาสตร์วิภาษวิธีของมาร์กซ์แท้ๆ เลย ทุนนิยมมันยังไม่เคยสร้างทฤษฎีที่อธิบายได้แม่นขนาดนี้

ทำไมคุณไม่บอกล่ะว่า แนวคิดมาร์กซิสต์/คอมมิวนิสต์ในปัจจุบัน มีการปรับตัว ล้มเลิกแนวทางปฏิวัติด้วยอาวุธไปแล้ว หันมาทำงานในระบอบรัฐสภา สร้างพรรคสังคมนิยมหรือพรรคคอมมิวนิสต์เพื่อเอาชนะการเลือกตั้ง เปลี่ยนผ่านระบอบแบบสันติวิธี มีตัวอย่างที่ดีไม่น้อยที่เกิดการผสมผสานแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดี แน่นอน มันก็ต้องมีพวกเบียวคอมมิวนิสต์บริสุทธิ์มาวิจารณ์ว่านั่นไม่ใช่คอมมิวนิสต์จริง คุณก็แค่ยักไหล่แล้วไล่ให้มันไปจัดตั้งกองกำลังจรยุทธ์ นอกจากนี้ คุณลองไปศึกษาประวัติศาสตร์สวีเดนดู เราจำได้ว่ามีช่วงตอนหนึ่งที่มีความพยายามเปลี่ยนระบอบกรรมสิทธิ์ในสวีเดนผ่านนโยบายรัฐ ถึงแม้ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ทำไมไม่ปัดฝุ่นมาลองเสนอดู

เราเป็นฝ่ายซ้าย เราต้องมีศักดิ์ศรี มีความซื่อตรง ผิดก็ยอมรับว่าผิด อย่าไปเอาสันดานแบบทุนนิยมมาใช้ ทำเหี้ยอะไรแล้วดีแต่แถ เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ก็อ้างว่ากลไกตลาดไม่สมบูรณ์ (เมื่อไรจะสมบูรณ์ล่ะอีดอก) อ้างว่าตลาดไม่แข่งขันมากพอ (ก็มึงปากว่าตาขยิบ เอื้อทุนผูกขาดมาตลอด) สนับสนุนเผด็จการที่โหดร้ายทารุณ (สหภาพโซเวียตยังแค่เอาคนไปขังค่ายกูแล็ก อเมริกาใต้นี่ตัดหัวคนทั้งครอบครัวรวมเด็กทารกตั้งเรียงบนโต๊ะกินข้าว ข่มขืนแม่ชี บุกยิงบาทหลวงระหว่างพิธีมิซซาในโบสถ์ ฯลฯ)

ลองดูฝ่ายอนาธิปไตยเป็นตัวอย่าง พวกเราไม่เคยแถเลยว่าในอดีตเคยมีแนวทางอนาธิปไตยที่ก่อการร้าย ก่อวินาศกรรม เรายอมรับ แต่เราก็ยืนยันว่านั่นเป็นเรื่องแนวทางในอดีต นักอนาธิปไตยยุคใหม่ยึดหลักไม่ใช้ความรุนแรง (ต่อชีวิตคนและสัตว์ ส่วนเรื่องทุบกระจกสตาร์บัคส์ ก็ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกัน) ดูซีแอตเทิลสิ ดูการประท้วง WTO ดูการประท้วงสงครามอิรัก ดูขบวนการ OCCUPY สิ เราไม่ใช้ความรุนแรงอย่างแท้จริง

ถ้าเพียงแค่คุณยอมรับว่าเคยมีความผิดพลาดในอดีต แต่แนวคิดยังมีข้อดีอยู่มาก และยังใช้การได้ในปัจจุบัน มันไปต่อได้อีกเยอะ มันยังเป็นทางเลือกอื่นนอกเหนือจากทุนนิยมได้

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

594 Nameless Fanboi Posted ID:.LZ5CKqxJT

มนุษย์เงินเดือนหลายคน เข้าใจผิด คิดว่า คนละครึ่ง คือสิ่งที่ดีที่สุด แต่หากเพราะยังไม่เข้าใจ ช้อปดีมีคืน อย่างเพียงพอ

หลายคนเข้าใจว่า คนละครึ่งเนี่ย มันคือ ได้เงินมาใช้ ซึ่งผิด เราต้องจ่ายเงิน แต่จ่ายเงินครึ่งนึงจากที่ต้องจ่ายจริง ไม่ใช่ได้เงินมาใช้นะ

แต่ ช้อปดีมีคืนเนี่ย มันจะเข้ามาช่วยลดภาษี ซึ่งบางกรณี จะทำให้ได้เงินคืนด้วยนะ ไม่ใช่ลดภาษีอย่างเดียว และมันอาจจะมีมูลค่ามากกว่า 3500 บาท เมื่อเทียบกับคนละครึ่งอีกต่างหาก

เพื่อให้เข้าใจง่ายที่สุดเลย นั่นคือขอภาพประกอบจาก iTax ครับคุณจิตดี ตามใน post นี้ คือตารางภาษี 2563 นะครับ แบ่งตามเงินเดือน ที่ต้องจ่าย

และสำหรับคนที่ไม่มีลูก ถ้าคุณเข้าโครงการ ช้อปดีมีคืน เท่ากับคุณมีลูก 1 คน (ถ้าใช้สิทธ์ลดหย่อนเต็มๆ 30000 บาท) ดังนั้น ภาษีที่ประหยัดได้ ก็คือ ความต่างระหว่าง ลูก 0 คนกับ 1 คนนั่นแหล่ะ คิดง่ายๆแบบนั้นเลย (ถ้าคนมีลูก ก็ บวกลูกไปอีก 1 คนนั่นแหล่ะ)

ตัวอย่างกลางตาราง เงินเดือน 70000 โสด ลูก 0 คน จ่ายภาษี 53622 แต่ถ้ามีลูก 1 คน(หมายถึงเข้าโครงการ ช้อปดีมีคืน) จ่ายเพียง 49122 บาท ประหยัดไปได้ถึง 4500 บาท
แต่นั่นยังไม่พอ หากคุณโทรเข้ามาตอนนี้ เอ้ย หากคุณให้บริษัทหักภาษีให้คุณทุกเดือน ดังนั้น ปลายปีคุณจะได้เงินคืน 4500 บาท จากภาษีที่จ่ายเกินไปนั่นเอง

นี่สิ ได้เงินคืนของจริง

แต่..... ช้อปดีมีคืน ไม่เหมาะสำหรับคนรายได้น้อย จากตัวอย่างที่คุณ จิตดียกขึ้นมาอีกครั้ง คือ ถ้าเงินเดือน 40000 เนี่ย เข้าโครงการช้อปดีมีคืน ก็ประหยัดไปได้ 1500 บาทเท่านั้นเอง ดังนั้น จากการดูด้วยตา คนที่เข้าโครงการ ช้อปดีมีคืน แล้วจะคุ้ม คือเงินเดือน ก่อนหักภาษี 50000 บาทหรือมากกว่านั่นเอง ถึงจะคุ้ม และยิ่งเงินเดือนเยอะมากขึ้นเท่าไร ยิ่งได้มากขึ้นเท่านั้น โตตามขั้นภาษีเลย

และ.... ถ้าหัวหมอว่า ก็เข้าทั้ง คนละครึ่ง + ช้อปดีมีคืน เลยสิ จะได้สองเด้งเลย อันนี้ ไม่ได้นะครับ เพราะว่า ถ้าลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งสำเร็จ จะถูกตัดสิทธ์ช้อปดีมีคืนทันที ให้ได้อย่างเดียวเท่านั้น

ใครเงินเดือนเยอะ แล้วลงทะเบียน คนละครึ่งเรียบร้อย ก็ขอแสดงความเสียใจมา ณ ที่นี้ด้วย คุณเป็นเหยื่อการตลาดแล้วเรียบร้อย (เห็นเค้าทำกันแล้วเป็นกระแส เลยตามน้ำไปด้วย)

ป.ล. ถ้าเรามองแบบไม่ bias เลยนะ คนคิดโครงการนี่ ถือว่าดักเอาไว้ได้ดีเลยล่ะ โครงการนึง ดึงให้คนมีเงินให้เอาเงินออกมาใช้ อีกโครงการนึง ออกมาช่วยคนเงินเดือนน้อยให้ใช้ชีวิตได้ดีขึ้น แต่เรื่องอื่น หรือ การเมือง ไม่พูดถึงนะ อันนี้ว่าด้วยแค่ mechanic โครงการนี้เท่านั้น
ป.ล.2 บางคน อาจจะเงินเดือนเยอะ แต่ตั้งใจจะเอาสิทธ์คนละครึ่ง ก็มีเหมือนกันนะ ด้วยความขี้เกียจตามเก็บสะสมใบกำกับภาษีนี่แหล่ะ

595 Nameless Fanboi Posted ID:UdQG78eFeu

>>590 ถ้าจะอ้างสายไหม แต่เบี่ยงประเด็นหลักฐานอื่น ๆ แค่บอกว่าทุกอย่างมีต้นกำเนิดจากจีนก็จบแล้ว

596 Nameless Fanboi Posted ID:46KhAOd+n7

>>593
ไอ้คอมมิวนิสเนี่ยมันก็
เหมือนเอานิยายมาหลอกว่าเป็นงานวิชาการชั้นสูง

597 Nameless Fanboi Posted ID:xWqa6OJQR7

เพจเยาวชนปลดแอก พอวันหนึ่งอยากเสนอแนวคิด “ปลดแอก” ขึ้นมาจริงๆ รีบกระโดดชิ่งหนีกันทั้งวงการ ปญช กูขำ อิห่าเพนกวินเพิ่งโพสว่า 'กูไม่เกี่ยวแล้ว 1' ส่วนพวกซ้ายพ่อซ้ายแม่ ตัวมึงเองร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธามาจนหัวหงอก พอประเด็นของตัวเอง ถูกดึงเสนอขึ้นมาบนโต๊ะบทสนทนาวงกว้าง แทนที่จะสนับสนุน กลับกันซีนประเด็นฝ่ายซ้าย บอกว่าเพจ Free Youth ตีกิน เอาอุดมการณ์ส่วนตัวของกลุ่มตัวเองมายัดเยียดมวลชน ทำไมไม่ไปเปิดเพจคอมมี่แยก เอามาปนเปื้อนกับเพจหลักทำไม โอ๊ย กูอนาถ สรุปว่าที่พวกมึงเขียนหนังสือพ่นน้ำลายในงานเสวนากันมา กะคือ อุดมการณ์หาแดก ปลอมเปลือก

เวลามึงจะมาโจมตีว่า ประเด็นนี้จะมาลดทอนม็อบ บั่นทอน movement มึงต้องพิจารณาว่าอุดมการณ์ของประเด็นนั้นๆมันขัดแย้งกับอุดมการณ์ของภาพใหญ่หรือไม่ หากหลักการไปในทางเดียวกันคุณต้อง include ได้หมด อันนี้มึงรีบออกมารุมประชาทัณฑ์ Marxist, Communism กันเหมือนเป็นผู้ร้าย พักสงครามเย็นก่อน อิดอก Marxism มีประชุมอะเจนด้าโลกกันทุกปี มันมีพลวัตในงานวิชาการปรับเปลี่ยนเคลื่อนไหวไปกับยุคสมัย กี่ทศวรรษจนอากิวเลยไปถึงดาวนาเม็ก ไปไม่รู้กี่อากิว อิพวกนี้เหมือนโดนแช่แข็งอยู่ยุคจอมพลถนอม

พวกมึงก็เหี้ยกันมาแต่ไหนแต่ไร สมัยก่อนก็อย่างนี้ ห้ามคนเสื้อแดงมาปนกับการต่อสู้ของปัญญาชน ห้ามใส่สีแดง มันจะดูไม่บริสุทธิ์ เดี๋ยวคนกลางๆไม่เอาด้วย เดี๋ยวล่อเป้าให้ทหารจัดการ....แล้วเป็นงะ มึงดูทุกวันนี้แดงเถือกกันเต็มม็อบ มีปัญหาไรมั๊ยล่ะ? ตอนนี้เอาอีกแล้ว อย่าคอมมี่ มันดูลุนแลง เดี๋ยวคนจะไม่เอาด้วย โง่วนๆลูปเหมือนเดิม ไม่เคยพัฒนา นอกจาก ปญช หน้าหมา อิพวกเสื้อแดงหลายคนที่กันซีน socialist ให้สำเหนียกไว้นะ ว่าพวกมึงเองก็เคยโดนกีดกันจากพื้นที่การเมืองมาก่อน วันนี้เสือกออกมากีดกัน กดทับคนอื่นต่ออีกทอด

พูดไว้นานล่ะ เวลาที่ด่าสลิ่่มกันว่ากะลาครอบถอยหลัง ไม่เปิดสมอง ไม่ศึกษาโลกสมัยใหม่ สอนเก่ง สอนให้สลิ่่มรับฟังเสียงเยาวชนคนรุ่นใหม่ มึงส่องกระจกดูตัวเองกันด้วย แต่ละคำที่พวกมึงใช้ตอนนี้ สลิ่่มขวาดีๆนี่แหละ รังเกียจคอมซะจนกูมองหน้าแต่ละตัวกูนึกว่าเมมเบอร์ลูกเสือชาวบ้าน กลายเป็น อ.ธิดา แม่ทัพ นปช. ยังชิลล์ ยัง progressive กว่าพวก ปญช กระแสหลักมีชื่อ น่าอายมาก ทุเรศทุรัง แต่ละตัว

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

598 Nameless Fanboi Posted ID:xWqa6OJQR7

Communist ไม่ใช่เผด็จการถ้ามึงไม่เสือกทำให้มันเป็น

การสร้างความหมายที่ผิดและผลิตซ้ำมันเกิดจากคนมาทำกันเองทั้งนั้น มันจริงที่ลัทธิคอมมิวนิสต์​ในยุคสงครามเย็นมันคือเผด็จการรวมอำนาจเบ็ดเสร็จ​แต่มันหาใช่เกิดจากแนวคิดสังคมนิยม​ ภายใต้สังคม​ปัจจุบัน​ที่คนยึดถือคุณค่าของสิทธิมนุษยชน​และแสวงหาความเท่าเทียม คอมมิวนิสต์​​นก็ควรนับถูกนับเป็นทางเลือกหนึ่งในการวิพากษ์​ถกเถียงหาทางออกเสนอแนวทางแก้ปัญหา​ของสังคมได้ร่วมกับแนวคิดอื่นๆ แต่มรดกภาพจำที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดทอนความชอบธรรมของคอมมิวนิสต์​ของแนวคิดที่ถูกสร้างขึ้น​ในยุคสงครามเย็นยังคงถูกผลิตซ้ำและส่งต่อความเชื่อผิดๆมาตลอด การผลิตซ้ำทางสังคมแบบนี้ควรถูกกำจัดไปให้หมดถ้าเราต้องการถกเถียงบนฐานเดียวกันได้โดยปราศจากความอคติและโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่สมาทาน​แนวคิดนั้น สิ่งเหล่านี้ไม่ควรมีให้เห็น การที่คุณจะไม่ชูธงสังคมนิยมนำไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรมันไม่เป็นไร แต่เสือกมาป้ายมั่วป่ายซั่วช่วยผลิตซ้ำนำสื่ออะไรที่ผิดๆต่อ ถ้าเป็นลิเบอร่า นโง่ๆที่อื่นกูจะไม่ด่าเลย แต่ไอเย็ ดแม่นี่มันมาจากคนที่ยึดถือสังคมนิยม​และเชื่อในสังคมอุดมการณ์​มาตลอด ให้ตายเถอะไอเย็ ดหมา กูพยายาม​เข้าใจเงื่อนไขต่างๆให้เข้าใจนะ แต่มันก็มีตั้งหลายวิธีที่จะไปต่อด้วยกันและไอเหี้ยนี่ไม่ใช่หนึ่งในนั้นด้วยเย็ ดเข้

https://imgur.com/aQ4FQMv
#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

599 Nameless Fanboi Posted ID:enA8Yer9AD

พวกเบียวคอมชอบพิมพ์อะไรยืดยาว ชาวบ้านเขาอยากรู้แค่ว่าใช้ได้จริงรึเปล่า ถ้าใช้ไม่ได้จริงก็หุบปากไป ยาวไปไม่อ่านว่ะ

ลองใช้ทุกครั้ง ล้มเหลวทุกครั้ง กิ๊วๆ

600 Nameless Fanboi Posted ID:76TO4479HN

>>599 จะบอกว่า จะทุนนิยมหรือคอมก็พิมพ์ยาวๆได้ทั้งนั้น อดัมสมิธ เคน ก็เขียนโคตรเยอะ
ก็คอมมันถูกเข้าใจผิด เขาก็ต้องอธิบาย พิมพ์สั้นก็ตอบคำถามไม่ครบอีก

601 Nameless Fanboi Posted ID:UdQG78eFeu

>>600 มึงต้องเข้าใจหน่อยว่ามันโง่ อ่านอะไรยาว ๆ ไม่ได้

602 Nameless Fanboi Posted ID:7KHlPczK2r

มีเพื่อนผมคนนึงสมัยอยู่ห้องเดียวกับมัน เวลามันจะออกจากห้องมันจะวิ่งเข้าชนกำแพงทุกครั้ง ไม่ยอมใช้ประตู จมูกหัก ปากแตกไปหลายรอบ แล้วก็ต้องใช้ประตูออกอยู่ดี พอผมถามว่าทำไมไม่ใช้ประตูล่ะ มันบอกผมว่าการวิ่งชนกำแพงนี่คือวิธีออกจากห้องที่ถูกต้อง ผมถามกลับไปว่ามึงวิ่งชนกำแพงมาเป็นสิบครั้งแล้ว เจ็บตัวทุกครั้ง เฟลทุกครั้ง ยังจะพยายามอีกเหรอ มันไม่ได้ผลหรอก มันก็ตอบผมว่าครั้งก่อนๆอาจจะล้มเหลว แต่ครั้งนี้จะได้ผลแน่นอน

มิตรสหายท่านนึง

603 Nameless Fanboi Posted ID:zrxxTYXVcu

คนก็นะ ยังบอกว่าสวีเดนเป็นทุนนิยมแบบใจดีอยู่ คือจะบอกว่ามึงรู้กันไหมว่าสวีเดนนี้มันมีองค์ประกอบมากมายในสังคมทุกวันนี้ในรูปแบบสังคมนิยม แม้จะไม่จ๋าแต่มันก็มีมาก การถือครองกรรมสิทธิ์ การแบ่งความรับผิดชอบ การมีส่วนร่วมและการที่สังคมสามารถกำหนดอะไรต่อมิอะไรได้เหนือทรัพย์สินของเรา กูล่ะเบื่อจริงๆ พวกแม่งไม่ได้ทำงานกับกฎหมาย งานผังเมือง คือจะไม่ได้รู้เลยว่ามันมีมรดกตกทอดมาจากอดีตมากมายในยุคที่สวีเดนเคยพยายามสร้างยูโธเปียในแบบฉบับของตัวเอง

Strandskydd คือกฎหมายห้ามปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างใกล้แหล่งน้ำ 100 เมตร บางแห่ง 300 เมตร ทั้งแม่น้ำ ลำคลอง ( มึงคลองกว้างแค่เมตรก็นับ!) แม้กระทั่งทะเล สระ ทะเลสาบ กฎหมายศักดิ์สิทธิ์นี้เพื่อมนุษย์สามารถใช้สิทธิ์ในการเดิน ชื่นชมธรรมชาติริมน้ำล้วนๆ โดยที่คนเหล่านั้นไม่ต้องกังวลว่าจะรุกล้ำไปในเขตบ้านของใคร สิ่งก่อสร้างใดที่สร้างก่อนปี ค.ศ.1975 นั่นถือว่ายกยอดไป นี่ยังไม่นับกรรมสิทธิ์ส่วนรวมอย่าง allemansrätten ที่มึงเข้าป่าสามารถเก็บของป่าได้บางประเภทโดยที่ไม่ต้องสนว่าป่านั้นใครถือครอง ทรัพยากรเหล่านั้นเป็นของทุกคน

การสร้างผังเมืองเมื่อก่อนนี้ ผังเมืองย่อยจะให้บ้านในชุมนุมเป็นเจ้าของถนน บางแห่ง สวนสาธารณะ เรียกได้ว่าแบ่งกรรมสิทธิ์กันคนละนิดละหน่อยที่เรียกว่า samfällighet เพื่อประโยชน์หลายทาง หนึ่งคือยกภาระหน้าที่รับผิดชอบให้ชุมชน เช่นเงินซ่อมบำรุง โดยที่เทศบาลไม่ต้องเอางบประมาณของส่วนรวมมาลงทุน และการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจร่วมกันเช่นการกำหนดความเร็ว การดูแลพื้นที่สีเขียวร่วมกัน และทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ คุ้นๆไหม

ถ้าใครซื้อที่พักอาศัย อพาร์ตเมนต์ในสวีเดนนั้นอย่าเสือกหลงว่ามึงซื้ออพาร์ตเมนต์นะ มึงซื้อแค่ส่วนแบ่งของ bostadsförening เท่านั้น หมายความว่าเราซื้อส่วนหนึ่งของสมาคมบ้านพักอาศัยแห่งนั้นเท่านั้น คือมึงจะปรับปรุงอะไร เช่นทุบกำแพงในอพาร์ตเมนต์ เปลี่ยนเครื่องดูดควันในครัว มึงต้องขออนุญาตบอร์ดของสมาคม บอร์ดของสมาคมคือคนที่มึงเลือกให้ไปนั่งบริหาร บอร์ดพวกนี้ส่วนมากทำให้ฟรี เรียกว่าพวกอยากมีส่วนในการสร้างความเปลี่ยนแปลง และอพาร์ตเมนต์พวกนี้แม้กระทั่งมึงซื้อก็ตามเขาจะมีการนัดออกมาทำความสะอาด ช่วงฤดูใบไม้ผลิครั้งนึง ฤดูใบไม้ร่วงครั้งนึง การออกมามีส่วนร่วมทำกิจกรรมร่วมกันนั้นนี่ หัวใจหลักคือการสร้างความสมานสามัคคีกัน ดูแลร่วมกัน คนที่พักอาศัยต่างมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลง เช่นการเสนอไปให้บอร์ดจัดการทาสีอาคาร หรือทำที่จอดรถ อันนี้โคตรคุ้นๆเลย ซึ่งอันนี้ที่พักอาศัยแบบเช่าก็จะมีลักษณะคล้ายๆกัน

โรงเรียนแบบ föräldrakooperativ หรือโรงเรียนอนุบาลแบบพ่อแม่นั่งเป็นบอร์ดบริหาร งานทุกอย่างคือด้วยความสมัครใจ แต่มีส่วนในการกำหนดทิศทางในการบริหาร เช่น สนามเด็กเล่นต้องปรับปรุงไหม ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติม รวมไปถึงการจ้างงานบุคคลากร บางคนก็เข้ามาทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้งเพื่อแลกกับการไม่ต้องมานั่งบริหารงาน ลินดาเคยเป็นสมาชิกบอร์ด จะว่าไปแล้วลงแรงไปเยอะเหมือนกัน

ตัวอย่างสุดท้ายนี่จะบอกว่าพีคที่สุด เคยพูดมาแล้วหลายที คือมึงมีบ้านก็ใช่ว่ามึงจะทาสีอะไรก็ได้ตามใจชอบ มีสนามหญ้ากว้างใช้ว่าจะปลูกสิ่งก่อสร้างใดๆก็ได้ ที่นี่เขาพูดถึง allmänt intresse นั่นคือผลประโยชน์ส่วนรวม นั่นหมายถึงว่าการสร้างความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินของตัวเองไปส่งผลกระทบกับส่วนรวม หรือสิ่งรอบข้างนั้น ผลประโยชน์ส่วนตัวนั้นมาทีหลัง แม้จะไม่ทุกครั้งไปแต่ก็มักจะมาทีหลัง ใครมีบ้านเก่าๆนี่หนักเลย บ้านพวกนี่คือมรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นของส่วนรวม มึงทำตามอำเภอใจไม่ได้น๊า เพิ่งมีเคสล่าสุด บ้านโบราณถูกทุบทิ้งโดยไม่ขออนุญาต ศาลสั่งให้สร้างกลับไปให้เหมือนเดิมเป๊ะๆเลย ด้วยเหตุผลที่ว่ามรดกทางวัฒนธรรมเพื่อส่วนรวม เจ๋งไหมล่ะมึง

คือจะบอกว่ามีอีกมากมายที่ไอเดียแบบสังคมนิยมมันซ่อนอยู่ในกฎหมาย ยิ่งประมวลกฎหมายสิ่งแวดล้อมและ ผังเมืองและก่อสร้างยังมีหลงเหลือให้เห็นอยู่มาก ไอ้ที่กล่าวมาข้างต้นไม่ได้มโน กูทำงานมา มีกฎหมายอ้างอิง และมาจากประสบการณ์โดยตรง นี่เรายังไม่ต้องนับการเสียภาษีโปรเกรสซีพ การเสียภาษีมรดก 70% การเสียภาษีคนรวยที่เคยสูงถึง 80% ระบบสาธารณสุข เรียนฟรี มีแม้กระทั่งโรงเรียนสำหรับฝึกความรู้ด้านสังคมนิยมและแรงงานอย่าง ABF สมาชิกพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตยแรงงานเป็นคนก่อตั้ง

ถ้าใครไม่เอาทฤษฎีมาบังตาจนเกินไป จะพอเข้าใจว่าสวีเดนในอดีตนั้นมีความพยายามมากเพียงใดในการสร้างโลกอุดมคติในแบบฉบับของตัวเอง แม้ว่าวันนี้จะเป็นอย่างนึง แต่เราต้องมองย้อนขึ้นไปด้วย เปิดใจบ้าง เอะอะอะไรก็บอกว่าสวีเดนเป็นทุนนิยมแบบน่ารัก พูดแบบนี้ พ่อของแผ่นดินอย่าง แพร์ อัลบิน ฮ่านซ่อน ผู้นำตลอดกาลอย่าง ทาเก้ เอ้ลานเด้อ คงเสียใจน่าดู

604 Nameless Fanboi Posted ID:7KHlPczK2r

>>603 ขายกิจการรัฐไปเป็นของเอกชนซะเหี้ยนนี่นับเป็นสังคมนิยมเปล่าครับ อิอิ
ว็อดก้าแอปโซลุท บริษัทโทรศัพท์Telia รถไฟArlanda Line ไปรษณีย์PostNord

น่าฉงฉานเหล่าคอมมี่ หาตัวอย่างดีๆของระบอบตัวเองไม่ได้จนต้องไปตู่เอาของที่อื่น เคลมว่าเป็นเพราะระบอบฉัน

605 Nameless Fanboi Posted ID:27sYa9hpJW

>>604
ใจเย็นเพื่อน ไอ้นี่มันแซะร่ า น

606 Nameless Fanboi Posted ID:mhNfr9YtiY

“สวยมาก, น่ารักจังเลย, ชุดสวยจังเลย, ลิปสีสวยจังเลย, ผมทรงนี้เข้ากับเธอมาก,น้ำหอมของอะไร” และคำอื่นๆอีกมากมายที่ได้ยินแล้วโคตรจะmade my day

การชมกันของผู้หญิงไม่ใช่เรื่องตอแหลเข้าหากัน แต่เป็นการเพิ่มพลังบวกให้กันและกัน ถ้าสำหรับบางคนจะพูดดีๆไม่เป็นก็เงียบนั้นแหละดีแล้ว บางทีไม่จำเป็นต้องแสดงทัศนคติแย่ๆต่อคนอื่นก็ได้ เก็บความtoxicไว้คนเดียวพอ

ขอบคุณค่ะ

607 Nameless Fanboi Posted ID:mhNfr9YtiY

แต่ไหนแต่ไร เราได้ยินผู้คนตำหนินิสัย 'ช่างก๊อป' หรือจอมลอกเลียนแบบของชาวจีนมาเนิ่นนาน กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังมีให้เห็นตลอดเวลา แต่น่าแปลกไหมว่าในยุคสมัยที่แข่งกันที่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ จีนกลับกลายเป็นประเทศที่มาแรงขึ้นเรื่อยๆ

ผมมาพบคำตอบผ่านดร.หลี่ ไคฟู ซึ่งเป็นกูรูเทคฯ อาจเปรียบได้กับสตีฟ จ็อบส์ชาวจีน (ซึ่งเกิดในไต้หวัน) เขาอธิบายว่าโลกสตาร์ทอัพในซิลิคอนวัลเลย์นั้นแตกต่างจากของจีนคนละขั้ว

ที่อเมริกา สตาร์ทอัพทั้งหลายขับเคลื่อนไอเดียด้วย 'ภารกิจ' พวกเขาเริ่มต้นด้วยไอเดียใหม่ๆ เป้าหมายในอุดมคติ คำประกาศของบริษัทก็จะดูยิ่งใหญ่ สูงส่ง ไม่เกี่ยวกับแรงจูงใจทางการเงิน

ขณะที่ในจีน บริษัทไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยภารกิจ แต่มีแรงบันดาลใจเป็น 'เงิน' จึงยินดีทำทุกอย่าง ทุกวิธีการเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น ซึ่งวิธีคิดแบบนี้ก่อให้เกิดความยืดหยุ่นอย่างมาก

เมื่อแรงจูงใจหลักไม่ใช่ชื่อเสียง เกียรติยศ การเปลี่ยนแปลงโลก แต่รางวัลใหญ่คือความร่ำรวย จึงไม่สำคัญว่าคุณจะรวยด้วยวิธีไหน

จีนจึงมีการก๊อปปี้กันหนักมาก

แต่ดร.ไคฟูบอกว่า ที่จริงแนวคิดลอกเลียนของจีนมีรากมาเนิ่นนานในประวัติศาสตร์ เพราะการสอบขุนนางนั้นต้องท่องจำข้อความโบราณจนจำได้ทุกคำ วัฒนธรรมนี้ลงรากมาเป็นพันๆ ปีแล้ว

นักปราชญ์จีนโบราณสอนให้ทำตามแนวคิดบรรพบุรุษ การลอกแบบได้สมบูรณ์ไม่ผิดเพี้ยนกลับถูกมองว่าเป็นหนทางสู่ความเป็นเลิศ!

...

ไม่เพียงแค่นั้น จีนยังอยู่ในยุคของความยากจนมาเนิ่นนาน สิ่งที่พ่อแม่สอนลูกจึงไม่ใช่ "ลูกจงออกไปเปลี่ยนแปลงโลก" หากคือ "จงเอาตัวรอด หาเงินมาเลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่เฒ่า"

ต้องไม่ลืมว่า ตอนบิล เกตส์ ตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ในปี 1975 จีนยังอยู่ในยุคการปฏิวัติวัฒนธรรม การศึกษาที่เปิดกว้างยังเป็นสิ่งต้องห้ามอยู่เลย

สามเหตุผลที่ทำให้เศรษฐกิจอินเตอร์เน็ตจีนคึกคักอย่างมากคือ
1. วัฒนธรรมยอมรับการลอกเลียน
2. ความฝังใจเรื่องความยากจน
3. ความพร้อมที่จะพุ่งเข้าหาโอกาสใหม่ๆ

มองในมุมซิลิคอนวัลเลย์อาจหัวเราะเยาะจีนที่ก๊อปปี้สิ่งต่างๆ ที่พวกเขาสร้างสรรค์ขึ้นมา แต่ดร.ไคฟูมองต่างออกไป เขามองว่าผลผลิตล้ำค่าที่สุดของนักก๊อปชาวจีนไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ หากคือตัวผู้ประกอบการเอง

พวกเขาสร้างวัฒนธรรมและบรรยากาศแห่งการแข่งขันด้วยสารพัดวิธีการขึ้นมา

และสร้างนิสัยผู้ประกอบการวิ่งสู้ฟัด

...

สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาจากการก๊อปปี้คืออะไร?

การลอกเลียนแบบทำให้เกิดการแข่งขันอย่างเข้มข้น ทะเลนองด้วยสีแดงของเลือดคู่แข่งที่เชือดเฉือนกันตลอด คนหนึ่งสร้างนวัตกรรมขึ้นมา อีกคนก็ก๊อปปี้เพื่อแย่งคู่แข่ง ผู้ประการทุกคนถูกบีบให้ทำงานหนักขึ้นเพื่อให้เก่งกว่าคู่แข่ง เมื่อบวกรวมกับความขยันของชาวจีนด้วยแล้ว หลี่ ไคฟู บอกว่า "บริษัทในซิลิคอนวัลเลย์ดูขี้เกียจไปเลย"

วัฒนธรรมการทำงานเช่นนี้ทำให้คนที่มาร่วมงานกับบริษัทเทคในจีนเคยชินกับการตอบสนองที่รวดเร็ว แก้ไขปรับเปลี่ยนแบบไม่หลับไม่นอน ซึ่งเมื่อเทียบกับที่สหรัฐฯ แล้ว สปีดต่างกันมาก

เมื่อธุรกิจขับเคลื่อนไว แข่งขันสูง และต้องเอาใจผู้บริโภคแบบปรับเปลี่ยนกันรายวันแบบเกาะติด มันจึงสร้างวัฒนธรรมแบบลีนสตาร์ทอัพที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงเพื่อตอบสนองอย่างต่อเนื่อง พร้อมจะโยนผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำกำไรทิ้งไป แล้วโยกเงินไปที่อื่น

ซึ่งเมื่อไม่มี 'ค่านิยมหลัก' หรือ 'ภารกิจเปลี่ยนโลก' พวกเขาจึงทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว คิดค้นโมเดลใหม่เพื่อตอบโจทย์ที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา

เหลือเชื่อว่า ในโลกแห่งการสร้างสรรค์ วัฒนธรรมก๊อปปี้ของจีนกลับกระตุ้นให้เกิดการสร้างสรรค์ที่รวดเร็วและเข้มข้น กระทั่งกลายเป็นคู่แข่งที่ผู้มาก่อนอย่างชาวซิลิคอนวัลเลย์ต้องจับตา และ...หนาวๆ ร้อนๆ

608 Nameless Fanboi Posted ID:VGPNAy+hSv

พวกกราบหมา หลอนคอมมี่อีกแล้วเหรอวะ ัสดานเหี้ยจริงๆ

609 Nameless Fanboi Posted ID:FeXqOgiP6J

>>607 นึกถึงคำพูดที่ได้ยินบ่อยๆ ในหนังจีนกำลังภายใน "ขอเพียงบรรลุเป้าหมายใยต้องสนใจวิธีการ" และคงเพราะเหตุนี้ เจ๊กถึงได้กำลังจะครองโลก ไล่กวาดยึดธุรกิจไปทั่วทุกแคว้น ในขณะที่พวกฝรั่งตะวันตกยังติดหล่มกับคำว่าสิทธิมนุษยชน ทั้งที่ในความเป็นจริง เงินซื้อทุกอย่างได้ทั้งนั้น

610 Nameless Fanboi Posted ID:QfZWOkkCiB

>>609 แต่อยู่กับเจ๊กมันมองมึงไม่ใช่คนนะ โรงงานนรกไม่ใช่เรื่องแต่งแต่เป็นเรื่องจริงๆที่เริ่มจากที่นี่ มึงคงไม่อยากชิวแบบฝรั่งสินะ

611 Nameless Fanboi Posted ID:PTV8V./vRs

ใต้เม้นfreeyouthมีคนขายของเต็มเลย ทุนนิยมนี่แม่งเทพชิบหาย เอาสังคมนิยมมาหาแดกได้เรื่อยๆเหมือนรูปเช

612 Nameless Fanboi Posted ID:QfZWOkkCiB

>>611 มึงต้องยอมรับนะรูปพี่ดูโครตขลังสุดๆ เมื่อเทียบกับพวกสตาร์ลิน เหมา โฮ

613 Nameless Fanboi Posted ID:27sYa9hpJW

>>612
ฟิเดล คาสโตรไม่มีฟามหมาย

614 Nameless Fanboi Posted ID:zrxxTYXVcu

สรุปหนังสือบริหารที่จะเป็นตำนาน
NO RULES RULES เขียนโดย CEO NETFLIX

-Netflix ให้ค่ากับคนมากกว่ากระบวนการ
ถ้าคนมันใช่ คุณปล่อยให้เขาทำงานอย่างอิสระเถอะ --> Netflix เป็นตัวอย่าง Extreme case แบบนี้

-ภาพใหญ่ของเล่มนี้มี 3 หัวข้อหลัก
หาคนเก่งเข้ามา(Talent density)
พูดคุยกันอย่างโปร่งใส(Feedback)
ลดการควบคุม : อย่าสร้าง Process การทำงานให้มันเยอะ

-Culture อันนึงของ Netflix คือ F&R : Freedom and Responsibility
ถ้าคุณมี Freedom คุณต้องมี Responsibility
สิ่งสำคัญสุดคือ เขาเชื่อว่าถ้าคุณมีคนเก่งในองค์กร เขาจะแก้ปัญหาในองค์กรได้เองอยู่แล้วโดยไม่ต้องมีกระบวนการเยอะแยะ

-หลักการ Talent density
คน average คนนึงแต่หากไปอยู่ในองค์กรที่เป็น Top performer
เขาเชื่อว่า คน average คนนั้นจะดึงประสิทธิภาพทีมลง 30%
เพราะฉะนั้น Netflix จะไม่เอาคน average เข้ามาสักคน
(คน average ทำให้ระดับ management ต้องเสียเวลามานั่ง Coaching กันเยอะ)
และคนที่เก่งมากๆเวลาทำงานกับคนที่เก่งเฉลี่ยจะหัวเสีย ลาออก

615 Nameless Fanboi Posted ID:zrxxTYXVcu

-Netflix เชื่อว่า Performance จะเกิดขึ้นเพราะคนเก่งจะเรียนรู้ซึ่งกันและกันเอง

-Netflix ดึงคนที่เก่งที่สุดมาทำงานด้วยโดยการ จ่ายให้แพงที่สุดในตลาด และต้องให้เขารู้ว่าเขาได้แพงที่สุดในตลาดด้วย (Hire the best, Pay the top)

-เขาเชื่อว่าหากอยากได้คนที่ดีที่สุด คุณต้องจ่ายให้แพงที่สุด
เพราะคนฉลาดไม่โง่

-เมื่อคุณมีคนเก่งมากๆ 1 คน อาจจะเท่ากับ คน average ถึง 50 คนเลยทีเดียว สรุปคือถ้าองค์กรคุณได้คนเก่งจริงๆ คุณไม่ต้องหาคนเยอะ

-องค์กรที่มีคนเก่งเยอะ ไม่จำเป็นต้องมีหัวหน้ามาคอยคุม แต่พวกเขาจะต้องเปิดอกคุยกันเองได้อย่างชาญฉลาด = Culture of Feedback ลำดับชั้นการทำงานก็จะลดลง

-ให้พูดอะไรเกี่ยวกับคนๆนึงในสิ่งที่คุณจะพูดกับเขาต่อหน้าเท่านั้น
ก็คือถ้าคุณไม่พร้อมจะพูดต่อหน้า ก็อย่าไปพูดหลับหลัง
ถ้าคนเริ่มพูดกันลับหลัง Trust ของทีมจะหายไป Freedom and responsibility ก็จะหาย

-Continuous Feedback จะช่วยเพิ่ม Performance อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องมีการทำโทษกัน
คนที่ไม่ยอมรับ Feedback ไม่ควรได้เข้ามาอยู่ในองค์กรตั้งแต่แรกแล้ว
ถ้าคนโอเคถึงจะ Feedback กันได้

-เริ่ม Culture of Feedback โดย
เริ่มจากให้ลูกน้อง Feedback หัวหน้า : set agenda 1 on 1 ทำเป็น Formal เลย
ถ้า Informal เช่น มีอะไร feedback พี่ได้เลยนะ ก็จะไม่ค่อยมีคนมา feedback

-หลักการ 4A เวลาจะให้หรือรับ Feedback
1.Aim to assist : คุณให้ feedback เพราะหวังดี พยายามที่จะช่วย ไม่ใช่ไประบายอารมณ์
2.Actionable : แนะนำให้ชัดว่าเขาจะปรับปรุงตัวยังไง ไม่ใช่ ไปบอกว่าเขาทำไม่ดีแต่แนะนำไม่ได้
3.Appreciate : ควรขอบคุณคนที่ให้ feedback คุณ ไม่ควรมีความคิดอื่นและต้องเชื่อว่าเขาหวังดีกับคุณ
4.Accept or Discard : ยอมรับคำแนะนำนั้นเข้ามาหรือไม่ต้องใช้ก็ได้ คนที่ Defensive ส่วนใหญ่จะหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง เช่น คุณไม่เข้าใจฉันนี่ ซึ่งมันเสียเวลาในการทำงานมาก

-Remove control
ที่ Netflix เขาไม่ track ว่ามีโควต้าหยุดอะไรได้กี่วัน --> เขา Trust กันสูงมาก
ถ้าเราเชื่อใจว่าเขามาทำงาน ทำไมเราต้องไป track เขา
เขาเชื่อว่าถ้าความเครียดเยอะไม่ได้พักผ่อน ยังไงก็คิดของใหม่ไม่ออก
และมัน reduce admin cost มากที่ต้องมานั่ง track อะไรแบบนี้

-ก่อนจะ Remove control ได้ต้องมี 2 อันก่อนคือ คนที่เก่งและ Freedom and responsibility

-เวลาเจอคนไม่ดีต้องไล่ออกแล้วประกาศให้คนอื่นรู้อย่างดัง
แต่ไม่ควรเจอคนไม่ดี 1 คนและตั้งกฏมาให้คนดีที่เหลือโดยกฏเยอะแยะครอบพวกเขา
Don’t Punish good guy, don’t over react.

-Pay top of the market เสมอ
จ้างคนให้แพงที่สุดในตลาด
เขาเชื่อว่า องค์กรที่คน average เยอะ ไม่ดี สู้เอาคนเก่งแต่น้อยดีกว่า

-Research ในเล่มบอกว่า งาน Innovation, Creativity คนที่เก่งจริงๆต้องให้เงินเดือนและโบนัสโดยไม่เอาไปผูกกับ performance
เพราะเขาจะทำเต็มที่อยู่แล้ว โดยไม่ต้องกังวลกับตัววัดผล เช่น set kpi ไม่เป็นไปตามบริบท
เขาเอาโบนัสไปรวมในเงินเดือนให้หมด

-หัวหน้าควรจะตัดสินใจให้น้อยที่สุด
เพราะเขาจ้างคนเก่งมาเพื่อให้ตัดสินใจ ไม่ใช่จ้างมาเพื่อให้ทำตาม
ใน Long run สร้าง Mistake ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
เขาเชื่อว่าคนเก่งจะเรียนรู้จากความผิดพลาด
แต่หากคุณไม่ตัดสินใจ คุณมีโอกาสถูกไล่ออก

-ที่ต้องดูต่อคือเวลาเขาตัดสินใจ มันเป็นการตัดสินใจที่ดีไหม
เขาดูจากถามหาความเห็นจากคนอื่นด้วยไหม(Ego ไหม)
ให้ออกไปหาคนที่ไม่เห็นด้วยกับคุณด้วย, ตัดสินใจต่อเลย ถ้าดีก็ฉลอง ถ้าไม่ดีก็เอามาเรียนรู้กัน

-THE KEEPER TEST***
ถ้ามีพนักงานแล้วลองถามตัวเองว่าถ้าคนนี้เดินมาลาออกกับเรา เราจะยื้อให้เขาอยู่ต่อไหม
หากคำตอบคือไม่ใช่ คุณต้องให้เขาออกวันนี้เลย
เพราะคนที่ทำงานแบบ average Netflix ไม่ได้อยากได้อยู่แล้ว

-Circle of Feedback : Stop, Start, Continue
อะไรไม่ดีให้ stop
อะไรดีแต่ยังไม่ทำให้ start
อะไรดีอยู่แล้วแล้ว continue

-การให้ Feedback แบบไม่ระบุชื่อคนให้ เกิดจากการไม่ trust กัน
ทีมที่มี Trust กันควรใส่ชื่อแล้วให้ feedback กันตรงๆได้
เพราะถ้าเราหวังดีกับเขาจริงๆทำไมต้องไม่ใส่ชื่อ นั่นคือ culture

-ถ้าคุณได้ Feedback มาแล้ว คุณต้องอ่านสิ่งที่คนอื่น feedback มาให้คนอื่นฟังแล้วถามความเห็นด้วยว่าฉันต้องปรับปรุงไหม

-CEO ใช้เวลาไปกับการ 1 on 1 กับพนักงานว่าองค์กรไปทางไหน 500คนต่อปี คนละครึ่งชั่วโมง และระดับต่ำกว่าหัวหน้ารวมๆ 1,000กว่าชั่วโมงต่อปี

---------------------------------------------------

ถ้าแกะคลิปผิดพลาดต้องขออภัยล่วงหน้าครับ
ขอบคุณ คุณต้อง มากที่เอาเล่มนี้มาเล่าให้ฟังครับ
ตามไปฟังได้ที่คลิปนี้ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=5TARjCcImr4

616 Nameless Fanboi Posted ID:FeXqOgiP6J

>>610 กูเข้าใจ ถ้าถามคนไทยรุ่นเก่าๆ ยุคที่นานาชาติเพิ่งแห่มาลงทุน คำตอบจะประมาณนี้แหละ พวกทุนหรั่ง-ยุ่น มันเคร่งครัดเรื่องงานจริงแต่พวกวันหยุด OT อะไรมันก็ให้ตามสิทธิ์ แต่ทุนเจ๊ก (ไม่ว่าเจ๊กจากไหนก็เหอะ) คือเขี้ยวมาก สิทธิ์ต่างๆ ถ้ามึงไม่ทวงถามก็อาจจะไม่ได้ แต่ก็นั่นแหละ ไม่ต้องพูดถึงคนต่างชาติ ขนาดลูกหลานเจ๊กด้วยกันยังไม่ค่อยจะมีสิทธิ์เลือกทางเดินชีวิตเลย ไม่ว่าลูกชายลูกสาว พ่อแม่ขีดเส้นอนาคตไว้หมด จะทำงานอะไร จะแต่งงานกับใคร โดยดูผลประโยชน์เชิงเงินหรืออำนาจเป็นหลัก ถึงกระนั้นกูก็ไม่รู้นะว่าเจ๊กสอนกันแบบนี้ถูกหรือผิดนะ เพราะท้ายที่สุด ก็เป็นเจ๊กนี่ละที่ขึ้นมาอยู่เหนือคนท้องถิ่น ถึงเวลานั้นมีเงินทองอำนาจล้นฟ้าแล้วจะเขียนประวัติตัวเองให้เป็นโคตรผู้ทรงคุณธรรมยังไงก็ได้อะมึง

617 Nameless Fanboi Posted ID:QfZWOkkCiB

>>616 ถึงต้องพยายามสกัดดาวรุ่งมันอยู่นี่ไง พวกฝรั่งมันก็ทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองผลพลอยได้คือคนอื่นๆได้ประโยชน์จากการไปสกัดมันด้วย

618 Nameless Fanboi Posted ID:dYFiUiLJ3f

ทุนเจ๊กกับทุนศักดินาอะไรน่ากลัวกว่า

619 Nameless Fanboi Posted ID:AZvz/fFhIj

>>618 ไม่น่ากลัวไปกว่ากันหรอก เพราะมันจับมือช่วยกันเหยียบหัวพวกมึง

620 Nameless Fanboi Posted ID:dYFiUiLJ3f

ใช้ Dtac ทั้งบ้าน ลงทะเบียนคนละครึ่งระบบก็มาล่มวันนี้อี๊กกก จะย้ายค่ายไปค่ายนึงก็เกลียดตัวพ่อมันที่หนีคดี จะไปอีกค่ายก็ไม่อยากไปช่วยการผูกขาด ชั้นควรไปต่อหรือพอแค่นี้ 55555555

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

621 Nameless Fanboi Posted ID:5GRyWXPdoW

ย้ายมาค่ายแมวดิ

622 Nameless Fanboi Posted ID:+jXhKxiqh2

>>620
กูใช้ CAT

623 Nameless Fanboi Posted ID:+jXhKxiqh2

>>613
เพื่อนกันนะมึง พูดถึงเชก็ต้องพูดถึงคาสโตร

624 Nameless Fanboi Posted ID:QfZWOkkCiB

>>623 แต่คาสโตรไม่เคลมเครดิตเลยนะ ที่ระลึกอะไรสำหรับกูไม่ต้องสร้าง กูอยากให้ทุกคนจำเพื่อนกูมากกว่า

ใจป๋าชิปเป๋ง

625 Nameless Fanboi Posted ID:mhNfr9YtiY

ทำไมเราต้องไปดวงจันทร์?

1 ในอุตสาหกรรมที่จะถูกผลักดันใน EEC

คือ Aerospace Industry หรือ อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ

อุตสาหกรรมที่จะสร้างรายได้เข้าประเทศถึง 5.6 หมื่นล้านบาท มีการจ้างงาน 3.6 หมื่นคน และมูลค่าทางสังคมที่เพิ่มขึ้น 5 พันกว่าล้านบาท

เป้าหมายคือ Aerospace Hub แห่งอาเซียน

ไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อ แต่มีการผลักดันโครงการเหล่านี้อย่างจริงจัง และการไปดวงจันทร์ก็เป็นเรื่องที่ทำกันได้หลายประเทศแล้ว ในขณะที่ไฮเปอร์ลูปยังอยู่ในขั้นทดลอง

มีการพลักดันให้เกิดการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับอวกาศในหลายด้าน นำไปสู่การสร้างอุตสาหกรรมที่จะเกิดใหม่ในประเทศไทย ทั้งด้านการผลิตชิ้นส่วนอวกาศยาน(ไทยซัมมิตสนมั้ย?) การพัฒนาด้านวิศวกรรม การพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ แม้กระทั่งยารักษาโรคบางชนิดก็มีการวิจัยทางอวกาศ

หากภายใน 7 ปีสามารถทำได้จริง ประเทศไทยจะกระโดดเข้าสู่บลูโอเชี่ยนทางอุตสาหกรรมแห่งใหม่ และจะยังนำเพื่อนบ้านบางประเทศในอาเซียนไปอีก 30 ปี

https://www.salika.co/2019/09/05/thailand-aerospace-industry-rising/?fbclid=IwAR2XoCe8T5v-HuXcdMuiWHjGVxaa9RKPYMf7eslOEX-dxok3pnF9gitg_xg

626 Nameless Fanboi Posted ID:VPnV5WfuME

กูว่าประกาศเรื่องดวงจันทร์​ตอนการเงินประเทศ​อย่างงี้ ใครก็ไม่เห็นด้วย ยิ่งช่วงนี้ยิ่งแล้วใหญ่

627 Nameless Fanboi Posted ID:mhNfr9YtiY

"AI-Driven Competitive Advantage Isn't the Future—It's Now." ชอบโคว้ทนี้ (ไม่ได้คิดเอง 55) ในบทความข้างล่างจาก McKinsey ก็พูดไปในทางเดียวกัน หลายๆบริษัทเริ่มสร้าง value/revenues ได้จากการ adopt AI

หลายคนอาจไม่รู้ มุกทำ AI Product ให้กับบริษัทค่ะ สองปีที่สิงคโปร์ เรา go-live ไปสองตัวแล้ว ปีละแอพกันไปเลยจ้า

ปีนี้ถึงจะมี COVID เราเห็น tool ใหม่ๆ tech stack ต่างๆที่ออกมาทำให้คนทำ AI ได้ง่ายและเร็วขึ้นเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นฝั่ง AWS หรือ GCP ก็คือมี AI/ML Service ออกมาให้ใช้เต็มไปหมดจนตามไม่ทันเลยค่ะ ทีมปัจจุบันของมุกก็เน้นใช้งาน service พวกนี้แทนที่จะทำเองทั้งหมด เราเน้นออก Product ให้ user ได้ใช้งานจริงมากกว่าการเป็นแค่ research project
ส่วน Product ลูกรักของเราก็เริ่มมี cost reduction ได้จริง ช่วยย่นเวลา ลดต้นทุนให้บริษัทได้จริงนะ

บริษัทไหนยังกล้าๆกลัวไม่แน่ใจว่าจะเอา AI ไปทำอะไรได้ ทักทายมากคุยกันได้นะคะ

ปีหน้าจะย้ายกลับมาทำงานที่ไทยแล้วค่า เดี้ยวเจอกัน!!

https://www.mckinsey.com/business-functions/mckinsey-analytics/our-insights/global-survey-the-state-of-ai-in-2020#

628 Nameless Fanboi Posted ID:5HM7VWkpPe

>>626 มันพูดตอนนี้เพราะโดนด่าเรื่องอินโดมากกว่า แต่แผนมีอยู่แล้วนะ เรื่องธุรกิจอวกาศเนี่ย

629 Nameless Fanboi Posted ID:+xIm89nVR1

>>625 55มันรู้ยังวะว่า airbus มันเมินแล้วตัวศูนย์ซ่อมที่อู่ตะเภา แล้วจะไปหวังอะไร หวังให้ space x มา ลงทุน?? สำหรับรัฐบาลข้าราชการที่วิสัยทัศน์นายกแม่งโง่ที่สุดเท่าที่เคยเห็น ผลักดันอะไร

630 Nameless Fanboi Posted ID:PUOOTFzdOu

ใครมาฉอดว่าคอมมิวนิสต์​ยูโทเปียไป

ทุนนิยม​จากพระบิดาอย่างอดัม สมิธ มันก็ยูโทเปียจัดๆอะน้า

631 Nameless Fanboi Posted ID:sT5mfH+.WM

>>630 แล้วมีที่ไหนมันใช้อดัมสมิทแบบเปะๆตอนนี้ว่ะ แม่งก็พิสูจน์กันมาหมดแล้วว่าทฤษฎีพวกนี้แม่งสุดโต่งมาใช้จริงโดยตรงไม่ได้

632 Nameless Fanboi Posted ID:sT5mfH+.WM

>>615 ซิลิคอนวัลเลย์แม่งก็ก๊อปกันชิบหายวายว่อด แค่แม่งใช้วิธีเลี่ยงบาลีให้อยู่ในกฎหมายทั้งนั้น ไม่ได้ก๊อปโต้งๆแบบเจ๊ก

633 Nameless Fanboi Posted ID:G.K5sjEBM7

บิทคอย23K usd

โม่งคนไหนขายแล้วบ้าง

634 Nameless Fanboi Posted ID:2T0ou.q43s

#งานยังไม่เสร็จ แต่ปัญหามันต้องเอามาเล่าจริงๆของทีม #vronline

อันนี้เป็นปัญหาที่ เอิ่มมม เรียกว่าไงดีนะ เจอต้นตอ เจอ Error แต่ยังไม่รู้สาเหตุ และยังหาทางแก้อยู่ครับ

เรื่องของเรื่องคือ มีลูกค้าเจ้านึงที่วางระบบกับผมมานานมากแล้ว แล้วก็ระบบก็ทำงานมาปกติหลายปี ไม่มีอะไร

จนเมื่อซัก 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งว่า Internet ใช้ไม่ได้
พอ Remote เข้าไป ก็ใช้ได้นี่หว่า

ระบบก็ไม่ได้ Down

ก็ไม่ได้คิดอะไร

ซักพัก แจ้งมาอีก พอเข้าไปดูก็ไม่มีอะไรอีก
แล้วก็มีมาเรื่อยๆ จนไม่ไหวแล้วเว้ยย อัลไลของที่นี่เนี่ย

สุดท้ายพอผมไปหน้างานแล้วก็ไปตั้ง Notebook ทดสอบใช้งานหน้างาน

เออ มันใช้ไม่ได้จริงๆด้วยว่ะ

แต่ระบบไม่ได้ Down , Internet ไม่ได้ตัด , Uptime ปกติ

ไม่ได้เป็นที่เครื่องลูกค้าด้วย เพราะผมเอา Macbook Pro ผมไปตั้งทดสอบ มันก็ใช้ไม่ได้

อาการคือ อยู่ดีๆ เน็ตก็อึ้ง.... แบบค้างไปเลย ไม่ตอบสนอง ซักพักกกกกกกยาวๆเลย มันก็กลับมาใช้ได้แบบงงๆ

แล้วเป็นแบบจับจังหวะไม่ได้ คือ อยากเป็นก็เป็น ไม่เป็นก็ไม่เป็น

แล้วอีกสาเหตุนึงที่จับสังเกตได้อีกอย่าง ตอนผม Internet ใช้ไมไ่ด้ แต่เครื่องลูกค้าข้างๆใช้ได้ปกติ มันคละกันไปหมดทั้งคนใช้ได้ และคนใช้ไม่ได้ สลับไปสลับมา

อาการมันคุ้นๆ

จังหวะที่เครื่องผมใช้ไม่ได้ปั๊บ ผมก็ลองรัน nmap เพื่อ Scan ว่าเห็นใครใน Network บ้าง

มันมาโป๊ะเช๊ะตรงที่ ทำไม Gateway ของผม ที่ผมใช้เป็น Mikrotik มาโดยตลอด ตัว nmap มันดัน Scan แล้วบอกว่าเจอเป็น Huawei ฟระ

ผมเลยสงสัย เอ๊ะ หรือใครเอา Router Huawei ที่เป็น ONU มาเสียบสายแปลกๆแล้ว IP ชนกับระบบของผมหรือเปล่าเนี่ย

พอไปไล่สาย ก็ไม่มี สายทุกอย่างปกติ ไม่ได้อุปกรณ์อะไรแทรกเข้ามาเลย

เลยเอา Mac Address ไป Search ในระบบพบว่าเป็นมือถือ Huawei ตัวนึง ก็ไปเดินไล่หา เพราะว่า Client มันเกาะแล้วก็ แจ้งมาใน Access Point อยู่แล้วว่าเป็นเครื่องไหน

พอเจอเสร็จ ก็เป็นมือถือ Huawei ธรรมดา ที่ Office นี้ซื้อให้พนักงานใช้ในงานองค์กร มือถือธรรมดาไม่มีอะไร แถมตัวมันเองก็รับ IP Address จาก DHCP ในระบบผมแบบปกติ ไม่มีอะไร

ตอนหยิบมาดูยังแบบ อัลไลของเมิงเนี่ย

แต่ที่แน่ๆ Mac Addrss ของ มือถือเครื่องนี้ พยายาม Spoof ตัวเองเป็น Gateway เพื่อพาคนอื่นออก Internet ผ่านตัวมัน แต่ตัวมันไม่มี SIM มีแต่ WIFI เลยออกไม่ได้

ผมก็กดๆ มือถือดูยังไม่เจออะไร ก็ว่าจะเก็บตัวอย่างไว้วิเคราะห์ก่อน

แต่สุดท้าย มือถือมันก็ต้องให้พนักงานใช้ แล้วระบบจะปล่อยให้ Down ก็ไมไ่ด้ เลยให้พนักงาน reset default เจ้ามือถือนั่นทิ้ง แล้วก็กำลังจะเก็บของกลับบ้าน

เจออีกรอบ

เลยลองรันคำสั่ง arp -a เพื่อแสดง Mac Address List ในเครื่องผมดู นั่นไง เจออีกแล้ว อาการเดิม เพิ่มเติมคือ เป็นอีก Mac Address มาแทรก พอ Track ย้อนไป เฮ้ยยย มือถือ Huawei รุ่นเดียวกัน แต่เป็นอีกเครื่องนึง

เครื่องที่ Office ซื้อให้พนักงานใช้เหมือนกันเลย แต่เป็นคนละเครื่อง

ผมก็ เฮ้ยยย

เลยนั่ง Monitor อีกแปบ

เจออีกเป็นมือถือ Huawei เครื่องที่ 3

นั่งอีกแปบ เจออีกเป็นเครื่องที่ 4

มือถือ 4 เครื่องพยายามปลอมตัวเองเป็น Gateway

อัลไลของมัน

แต่ช่างเถอะ ผมยังไม่รู้สาเหตุว่าทำไมมือถือ 4 เครื่องนี้ ถึงมีอาการแบบนี้ น่าจะติดไวรัสมา เพราะว่า อาการแบบนี้คือ มือถือที่พยายามจะหลอกเอาดักข้อมูล เพราะจะให้คนอื่นมาวิ่งผ่านตัวเอง

และการเป็น 4 เครื่องเนี่ย มันก็งงๆ ว่าทำไม แต่อาจจะเพราะ 4 เครื่องนี้ คือ 4 เครื่องที่พนักงานวนๆใช้กันใน Office อาจจะมีใครซักคนเล่นอะไรแล้วเผลอติดไวรัสมาก็ได้

แล้วทางแก้ในเขิง Network คืออะไร

ถ้าเป็นพวก managed Switch ที่สามารถทำ Packet Filtering ก็สามารถป้องกันปัญหาตรงนี้ได้ (แต่ Switch ต้องแรงหน่อยนะครับถ้าเอา Switch ธรรมดามาใช้ CPU พุ่ง ความเร็วตกแน่นอน)

ความบรรลัยก็คือ ที่นี่ผมดันใช้ UNIFI Switch แล้ว UNIFI Switch ดันไม่รองรับ Packet Filtering นี่สิ

ตอนนี้ก็กำลังหาทางแก้ไขแบบไม่ให้เหนื่อย User และ Owner อยู่

ทางแก้แบบประหยัดแรง เช่น
- ทำ Static ARP เพื่อระบุไปเลยว่า Gateway เป็นใคร จะได้ไม่จำผิด แต่นะ ทำบนคอมได้ แต่ทำบนมือถือไม่ได้
- ทำ Port Isolation อาจจะกันได้เป็นโซน แต่ก็กันได้ไม่หมดอยู่ดี
- เปลี่ยน Switch เป็น Cisco Catalyst (Owner กระอักเลือดจ้า)

นั่นแหละ ยังหาทางแก้อยู่ครับ
เฮ้ออออออออ

635 Nameless Fanboi Posted ID:2T0ou.q43s

ชีวิตผู้ประกอบการ... ต้องเอา "การ" เยอะแยะ มาประกอบกัน

ใครหนอ ที่บัญญัติภาษาไทยคำว่า "ผู้ประกอบการ" ขึ้นมา
ผมชอบคำนี้มาก เพราะคำนี้มันแทนของงานที่พวกเราทำอยู่ได้จริงๆ

ลอง list มาก็มีอยู่หลาย "การ" มากมาย

ลองนึกๆ ดูว่า ถ้าจะต้องเลือก 3 การ ที่จำเป็นต่อการเป็นผู้ประกอบการ น่าจะเป็นอะไร? ถึงผู้ประกอบการอาจแตกต่างกันในเรื่องขนาด อุตสาหกรรม และ รูปแบบธุรกิจ

แต่ผมคิดว่า 3 การ ที่เราจะขาดไม่ได้เลยคือ
การขาย / การบัญชี / การตัดสินใจ

ความเห็นส่วนตัวนะครับ... เชิญเพื่อนๆ แลกเปลี่ยนมุมมองกันได้

636 Nameless Fanboi Posted ID:kFgx1SaoA2

มีเรื่องใหญ่ที่ Apple กำลังเปิดให้ผู้ใช้ทุกคนตรวจสอบได้ว่ามีใครบ้างที่กำลัง Track พฤติกรรมของเราเองอยู่บ้างระหว่างอ่านหรือดูโน่นนี่ไปเรื่อย โดยเริ่มจากการที่กำหนดให้ทุก App ใน iOS14 จะต้องขออนุญาตผู้ใช้ก่อนทุกครั้ง โดยจะต้องบอกให้ละเอียดด้วยว่าจะเห็นข้อมูลอะไรบ้าง, จะเอาข้อมูลอะไรไปบ้างและผู้ใช้จะต้องยินยอม โดยที่ Apple จะไม่อนุญาตให้มีการ Track แบบอัตโนมัติ, หรือการแอบ Track ผู้ใช้โดยไม่ให้รู้ตัว อีกต่อไป ... และนั่นรวมถึงการให้ผู้ใช้เป็นผู้เปิดหรือปิดการ Track เหล่านี้ได้เองด้วย

.

Facebook ตอบโต้ Apple อย่างรุนแรงผ่านทางการลงโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์ WSJ เต็มหน้า - ว่า Apple กำลังทำร้ายผู้ประกอบการรายเล็กที่ต้องการเอาบริการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย ซึ่ง Facebook อ้างในโฆษณานี้ว่าพวกเขาจะยืนอยู่ข้างผู้ประกอบการเพื่อสู้กับ Apple ให้ถึงที่สุด

.

Apple สวนกลับด้วย Statement ในเว็บไซต์ว่า "Facebook ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเลย พวกเขายังสามารถทำทุกสิ่งที่อยากทำได้เหมือนเดิมทั้งการ Target ลูกค้าเป็นรายบุคคลและการเก็บข้อมูลผู้ใช้ ... เพียงแค่ต้องให้ทางเลือกกับลูกค้ามากขึ้นเท่านั้นว่าจะยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้ Facebook หรือเปล่าและเปิดเผยมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง"

.

จากกรณีนี้
ผมพบว่าสิ่งพิมพ์ยังไม่ตาย
และมีประโยชน์เพื่อให้ Facebook ใช้ป่าวประกาศถึงทุกคน

637 Nameless Fanboi Posted ID:WMF3Enfs5n

หาเงินเก่ง VS ทำงานเก่ง

สองสิ่งนี้ บางคนมองว่าเป็นเรื่องเดียวกัน แต่สำหรับผมคิดว่ามันคนละเรื่องกัน

แต่มีความเกี่ยวโยงกัน เพียงแต่ว่าใครที่สร้างความเกี่ยวโยงมันไม่ได้มักจะไปได้ไม่ไกลนัก แต่ใครเชื่อมมันได้สำเร็จก็จะร่ำรวยมหาศาล

บางคนหาเงินเก่งจริงๆ เห็นลู่ทางเห็นโอกาสเต็มไปหมด แต่พอเข้าไปทำเข้าจริงๆกลับ ไม่ได้ดีอย่างที่คิดไว้ คนกลุ่มนี้เหมาะเป็นเถ้าแก่ที่ต้องมีลูกน้องเก่งๆมาช่วยทำงานให้

ส่วนบางคนทำงานเก่งมาก แต่มักจะเก่งกับเรื่องที่ตนชำนาญไม่คิดขยับขยายงานเดิม หรือทำงานเก่งแต่ทำให้คนอื่นรวย คนกลุ่มนี้มักเป็นคนทำงานมืออาชีพ หรือผู้บริหารในองค์กรใหญ่ๆ

มีหรือไม่ ที่ทั้งหาเงินเก่งและทำงานเก่งอยู่ในตัวคนเดียวกัน..??

คำตอบคือมีครับ..แต่พอทั้งหาเงินเก่งด้วยทำงานเก่งด้วย จะเลือกลดบทบาทการทำงานของตัวเองลง..แต่ไปหาคนทำงานเก่งๆมาช่วย

เพราะถ้าคุณจะทำทั้ง2บทบาท คุณจะถูกบทบาทการทำงานเก่งดูดเวลาไปจนหมด..เพราะการจะทำงานเก่งได้นั้นต้องใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งใช้เวลามากๆ

คนที่หาเงินเก่งและทำงานเก่งด้วย จะต้องเลือกบทบาทหาเงินเก่งไว้ แต่บทบาททำงานเก่ง ให้มืออาชีพมาทำแทน

เพราะถ้าหาเงินเก่งแต่ทำงานไม่เก่ง มักจะคุมลูกน้องมืออาชีพเก่งๆไม่อยู่ หรือตามไม่ทันลูกน้องมืออาชีพที่ตัวจ้างมา

ดังนั้น การจะเป็นผู้ประกอบการที่ดีนั้น ต้องรู้จักประเมินตัวเองด้วย

ว่าเรามีทักษะด้านหาเงิน หรือเรามีทักษะด้านทำงาน

และจากเท่าที่เห็นมา คนที่เป็นมืออาชีพแม้จะไม่ร่ำรวยเท่าผู้ประกอบการ

แต่ชีวิตมีความสุข ได้ง่ายกว่านะครับ..

เพราะคนเป็นผู้ประกอบการนั้น ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเสี่ยงมากกว่ามาก

การเป็นผู้ประกอบการที่ไม่โดดเด่น สู้การเป็นมืออาชีพที่โดดเด่นไม่ได้ครับ ในแง่มาตรฐานการใช้ชีวิต และการมีตัวตนในสังคม

ดังนั้น..เลือกเส้นทางที่เหมาะกับจริตตนนั้นสำคัญมากครับ..

638 Nameless Fanboi Posted ID:.y8V.M18rd

ถ้าคุณด่าชาวบ้านว่าโง่เพราะชอบนโยบายประชานิยมแจกเงินของประยุด ก็เท่ากับว่าคุณด่าในตรรกะเดียวกันกับพวก พธม-กปปส,

สมัยก่อนพวกมันชอบพูดว่าชาวบ้านโง่ จน เจ็บ ถูกซื้อได้ด้วยเงินไม่กี่บาทจากรัฐบาลทักษิณนั่นล่ะ

639 Nameless Fanboi Posted ID:BqOkBKEarF

คนที่กดติดตามFacebookของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุลมานานหลายๆปี โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่ที่เขาระเหเร่ร่อนหนีคดีไปอาศัยหลบซุกหัวอยู่ในฝรั่งเศส ก็จะเห็นได้ชัดว่าช่วงนั้นสุขภาพจิตเขาทรุดโทรมตกต่ำถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า คิดถึงบ้านจนมีอาการโรค homesick ยิ่งเมื่อมาได้ข่าวว่าแม่ที่เขารักมากตายก็ยิ่งทำให้อาการซึมเศร้ากำเริบ คิดมากยิ่งขึ้นจนเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่นาน
.... วันหนึ่งมีข่าวว่าเขาคลานตกบันไดลงมาจากชั้น 2 ทำให้เขาเสียชีวิต มีคนไปพบศพของชายจรจัดซึ่งศพเริ่มเน่า เจ้าหน้าที่เทศกิจของฝรั่งเศสจึงนำศพของเขาใส่ลงไปในลังไม้เก่าๆ แล้วเข็นออกไปเผาร่างของเขา โดยใช้ยางรถยนต์และเศษไม้ผุๆจากกองขยะเป็นเชื้อเพลิง
.... ดังนั้นบัญชีFacebookชื่อสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล จึงไม่ใช่ตัวนายสมศักดิ์เองแต่มีคนอื่นเขียน จะสังเกตได้ว่าเนื้อหาสาระหรือถ้อยคำสำนวนจะไม่เหมือนกับช่วงที่เขาเขียนโพสต์เอง
.....หากไม่เป็นความจริงนายสมศักดิ์เองก็ควรจะออกมาแก้ข่าวให้ประชาชนหายข้อข้องใจ โดยคุณทำคลิปสั้นๆพูดถึงเหตุการณ์ในปัจจุบันโพสต์ออกมา ง่ายๆแค่นี้เอง ทำได้มั้ยล่ะคุณสมศักดิ์?!? จบข่าว

#ธรรมศาสตร์
#Somsuk_Jeamteerasakul
#สมศักดิ์_เจียมธีรสกุล

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

640 Nameless Fanboi Posted ID:LdjsZYOEDl

>>639 ใครวะ เมาแบงค์ใหม่เหรอ555

641 Nameless Fanboi Posted ID:ROCpfr9j2t

สมเจียมไม่ใช่ผู้คน แต่คือสถานที่!!

642 Nameless Fanboi Posted ID:DLW+iauBAP

>>640 มิตรสหายคนนี้อยู่ 251 มู้การเมืองข้างล่างนี่แหละ

643 Nameless Fanboi Posted ID:wZIIApjGhC

>>639 จริงครัพ แล้วเวลามีไลฟ์เนี่ยต้องมช้โปรแกรมlive2Dแน่ๆเลยคับ เอาภาพสัมเจียมมาเรนเดอร์แล้วใช้โปรแกรมดัดเสียง จริงๆแล้วตัวจริงเป็นJKน่ารักวัยใสๆ

644 Nameless Fanboi Posted ID:ku.kOgnA19

นี่โดนมาตลอด หน้าบาน คางเหมือนแม่มด หน้ามะม่วง จมูกโต สารพัด พอโตขึ้นมาทำศัลยกรรมก็โดนด่าอีก งงมาก หน้าก็หน้าเราแท้ๆ เลยเป็นปมในใจว่าเราไม่สวยสักที เพราะโดนคนใกล้ตัวเบลมเรื่องหน้าตาตลอด ทั้งๆที่บางทีก็คิดนะว่าหน้าตาตอนเด็กเราก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นไม่ใช่หรอวะ

645 Nameless Fanboi Posted ID:ku.kOgnA19

เมดมายเดย์มาก ตอนนี้ "ฉันยืนคนเดียวในโรงหนัง" กลายเป็นวิธีการแสดงความกล้าหาญยืนหยัดต่อสู้แม้โดดเดี่ยวไปละอ่ะ มีคนทวิตน้อยใจ หันซ้ายขวาไม่มีใครยืนเลย ฮือๆๆๆๆ แต่ฉันก็ยืนต่อนะ เปล่งเสียงร้องเพลงสรรเสริญต่อไปปป
.
สู้ค่ะคุณพรี่ ยังไงก็ยืนโดยไม่มีใครละเมิดทำร้ายอยู่แล้วเนอะ คุณพรี่และเหล่าคนนิยมกษัตริย์ทั้งหลายจะได้ตระหนักสักทีว่ายืนหรือไม่ยืนก็ได้ เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่คนที่เคยไม่ยืนคนเดียวมาก่อนคุณพรี่ เขาเจออะไรรู้ไหมคะ? สาดน้ำ ถูกทำร้าย ชี้หน้าด่า ถูกแจ้งความ ฯลฯ
.
พูดเหมือนลืมว่าคนเฉย ๆ กับเจ้าเคยโดนอะไรกันมาบ้าง หลายคนต้องย้ายที่เรียนเพราะแสดงออกว่าไม่รักเจ้า มีคนถูกให้ออกจากงาน มีคนที่ไม่ยืนในโรงหนังโดนแจ้งความขึ้นโรงขึ้นศาล มีคนต้องลี้ภัยเพราะพูดข้อเท็จจริงเรื่องราชวงศ์ มีคนตาย มีคนสูญหาย มีคนกลายเป็นศพถูกคว้านท้องยัดแท่งปูน
.
ฉันเก่ง ฉันกล้า ฉันยืนหยัดต่อสู้แม้จะเดียวดาย แหม่ แค่ยืนคนเดียวในโรงหนัง พากันรู้สึกร่วมว่าเดียวดายกล้าหาญ แห่ให้กำลังใจกัน

ในสังคมที่ไม่ใส่เสื้อดำช่วงกษัตริย์ตายก็โดนรุมทำร้าย คนที่แค่บอกว่าเฉย ๆ กับกษัตริย์สังคมก็รังเกียจ ใส่เสื้อระบุว่าเราหมดศรัทธาสถาบันแล้วก็ถูกจับเข้าโรงพยาบาลจิตเวช พิมพ์คำว่ากล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ ถูกแจ้ง 112 ยังกล้าคิดว่าตัวเองคือฝ่ายที่กล้าหาญยืนหยัดหรอคะ 55555555555
.
ถ้าเพื่อบอกเล่าเข้าใจได้ค่ะ แต่ถ้ากำลังบอกเล่าเพราะคิดว่าสิ่งนี้กล้าหาญเต็มประดาขออนุญาตเอ็นดูนะคะ คนเรามีสิทธิภูมิใจในการกระทำอะไรก็ได้

แต่ถ้ามองว่ายืนตอนเพลงสรรเสริญในโรงหนังคนเดียวนี่คือการยืนหยัดต่อสู้แบบนักรบเดียวดาย แม้ใครไม่สู้ ฉันจะมั่นคงต่อไป รักเจ้ารักแผ่นดินจนตัวตายตั่งต่าง อยากบอกว่าคนที่สู้และยืนหยัดกล้าหาญเพื่อสิ่งที่เชื่อจนตัวตาย มีจริงค่ะ แต่ไม่ใช่รอยัลลิสต์หรอกนะคะ ลองหาอ่านดูค่ะ
.
ไม่ต้องร้อนตัวค่ะ ใจเย็น ๆ ถ้าคิดว่าดีก็ทำต่อไป และโปรดจงรู้ไว้ค่ะว่าในวันที่คุณมีสิทธิทำและยืนหยัดในสิ่งที่เชื่อแม้คุณจะเป็นคนส่วนน้อย ณ พื้นที่นั้น คุณก็ทำได้

แต่มีคนที่เคยยืนหยัดในสิ่งที่เขาเชื่อ เขาโดนทำร้าย ถูกอุ้มหาย ต้องลี้ภัยและตายจากโลกนี้ไปเพียงเพราะเชื่อต่างจากพวกคุณ เพียงเพราะไม่ได้รักในสิ่งที่คุณรักอยู่จริง ราคาของคุณอาจเป็นแค่เขิน ๆ ตอนยืนเปล่งเสียงร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีในที่มืดลำพัง แต่ราคาของพวกเขาคือชีวิตค่ะ

#ฉันยืนคนเดียวในโรงหนัง
#พับไมค์

646 Nameless Fanboi Posted ID:ku.kOgnA19

Covid -19 @ สมุทรสาคร
Screen 1192 ราย
Positive 516 ราย (43%!)
รวมที่สมุทรสาครตอนนี้ 548 ราย
ทำ New high in 52 weeks เลย

การระบาดในประเทศไทยเกิดแต่ละครั้งมาจาก
- สนามมวย
- ผับบาร์
- ลักลอบเข้าเมืองและการจ้างงานผิดกฏหมาย

คนส่วนใหญ่ในประเทศต้องทนทุกข์เพราะคนเพียงหยิบมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หวังว่าวิกฤติครั้งนี้จะสอนอะไรเราบ้าง

ใส่ mask & Social distancing กันด้วยนะครับ

รีบไปตัดผมดีกว่า😓

647 Nameless Fanboi Posted ID:p9Y7t1aGIX

ผมมีความเห็น 4 ข้อ เกี่ยวกับมาตรา 112 ปอ. ดังนี้
1. กฎหมายควรให้ความคุ้มครองประมุขของรัฐจากการดูหมิ่น หรือการอาฆาตมาดร้าย ตราบใดที่บุคคลทั่วไปยังได้รับความคุ้มครอง ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่กฎหมายจะไม่คุ้มครองประมุขของรัฐ
2. อย่างไรก็ตามโทษของมาตรา 112 รุนแรงเกินไปและไม่ได้สัดส่วนกับความผิดของมาตรานี้และความผิดอาญาฐานอื่น ควรมีการพิจารณาแก้ไขบทกำหนดโทษให้ได้สัดส่วนกับความร้ายแรงของความผิด
3. การดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ควรใช้มาตรฐานเดียวกับการดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อสันนิษฐานความเป็นผู้บริสุทธิ์และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพด้านอื่นๆ ของผู้ถูกกล่าวหา การใช้มาตรฐานการดำเนินคดีอาญาที่แตกต่างกันเป็นการบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อกระบวนการยุติธรรม
4. การดำเนินคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ตลอดจนความผิดที่เกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐฐานอื่นไม่ควรถูกใช้เพื่อแก้ปัญหาทางการเมืองหรือเป็นเครื่องมือทางการเมือง โดยเฉพาะการปิดปากผู้ที่เห็นต่าง นอกจากจะไม่ประสบผลสำเร็จแล้ว จะเป็นการยั่วยุให้เกิดการต่อต้านมากขึ้น หากแม้นสำเร็จ ก็จะเป็นความสำเร็จระยะสั้นเท่านั้น แต่จะไม่มีทางแก้ไขปัญหาทางการเมืองได้อย่างยั่งยืน ทั้งยังอาจซ้ำเติมปัญหาให้ร้ายแรงมากยิ่งขึ้นไปอีก

648 Nameless Fanboi Posted ID:qZNohCtGil

>>646 สิ่งที่ควรทำอันดับแรกตอนนี้คือตัดผม ถ้าเป็น ผช. แนะนำว่าเอาแบบเกรียนไปเลย เผื่อ lockdown ด้วย -*-

649 Nameless Fanboi Posted ID:wIhhFOqU37

>>647 ขอแย้งข้อ1. บุคคลทั่วไปไม่มีกฎหมายว่าห้ามอาฆาตมาดร้ายนะ ดูหมิ่นก็ต้องซึ่งหน้าด้วย

650 Nameless Fanboi Posted ID:FNAULy.kQe

จำคดีที่ผมโดนแจ้งข้อกล่าวหาว่าไปตะโกน "ประยุทธ ออกไป" ได้มั๊ยครับ ?

คดีนี้ตำรวจได้สั่งฟ้องไปยังอัยการ ทีนี้ล่าสุดตำรวจเจ้าของคดีโทรมาบอกผมว่าจะขอให้ผมไปรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่ม ทีแรกนี่งงนิดหน่อยว่าคดีอะไรอีก ปรากฏว่าอัยการส่งเรื่องกลับมาที่ตำรวจให้ปรับแก้สำนวนเนื่องจากหากฟ้องข้อหาตะโกน "ประยุทธ ออกไป" เกรงว่าอัยการจะสั่งฟ้องศาลไม่ได้ เลยให้มาทำสำนวนว่าเป็นการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ตามประกาศ พรก ฉุกเฉินในสถานการณ์ร้ายแรงที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน

ผมค่อนข้างเห็นใจพนักงานสอบสวนเพราะคงไม่เคยทำคดีที่เกี่ยวข้องกับคดีทำนองนี้มาก่อนเลย คือ ให้ไปจับคดีปล้น วิ่งราว จะง่ายกว่าเพราะคุ้นเคย จริงๆ ผมเคยบอกใบ้พนังงานสอบสวนไปแล้วเรื่องนี้ เพราะเวลาฟ้องผมว่าชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนแล้วฟ้องผมคนเดียว แล้วเกิดผมปฏิเสธขึ้นมา ขอให้หาจำเลยมาให้ครบ 5 คน มันจะเหมือนจับวงไพ่แล้วจับมาได้คนเดียว แล้วไอ้นี่เล่นพนันกับตัวเองแล้วนับเป็น 5 คนมันจะไม่ได้นะครับ มันจะดูงงๆ นิดหน่อย แล้วหลักฐานที่เอามายืนยันมีแค่ตอนที่ผมให้สัมภาษณ์สื่อ ไม่ใช่ตอนผมอยู่ในม๊อบ แล้วที่อ้างว่าผมชุมนุมแถวอโศก บ้านผมอยู่แถวนั้นนะครับ

651 Nameless Fanboi Posted ID:554gVzpv+n

>>647 >>648 จริงๆ เรื่องอาฆาตมาดร้าย เคยมีข้อถกเถียงด้วยนะว่าควรมีความผิดนี้กรณีบุคคลธรรมดาด้วยหรือไม่ เพราะมันมีคนรู้สึกกลัวไง เช่น ผัวเมียภรรยามีปากเสียง ผัวขู่เมียว่ามึงเลิกกับกูมึงระวังไว้กูเอามึงตายแน่ หรือพวกเก็บเงินกู้จะชอบขู่ลูกหนี้แบบนี้เหมือนกัน แต่เวลาไปแจ้งความตำรวจจะเอาผิดอะไรไม่ได้เพราะไม่มีข้อหานี้ คนที่เรียกร้องให้มีเขาบอกว่าเผื่อพวกหัวร้อนชอบเบ่งชอบกร่างมันจะได้มีสติยับยั้งชั่งใจบ้าง

652 Nameless Fanboi Posted ID:554gVzpv+n

>>651 *ผัวเมียมีปากเสียง ผัวขู่เมียว่ามึงเลิกกับกูมึงระวังไว้กูเอามึงตายแน่

653 Nameless Fanboi Posted ID:C4gBAOIk+U

ปัญหาอาชญากรรมของไทยคือ ขู่แล้วเสือกทำจริง มีเยอะกว่าที่คาด

654 Nameless Fanboi Posted ID:7CA6hxQGve

https://imgur.com/G7nO6oS

โพสต์ต่อเนื่องจากเมื่อวาน เผอิญเมื่อวานงานเยอะเลยไม่มีเวลาพิมพ์เท่าไหร่ วันนี้เลยขอมาแบบเต็ม ๆ ละกันสำหรับ Status ในภาพนี้
.
ก็เสียงแตกกันไปต่าง ๆ นานา บางคนก็บอกว่าเป็นความคิดที่แย่มาก บางคนก็บอกว่าเข้าใจว่าเจ้าของสเตตัสคงเจออะไรมาถึงคิดแบบนี้
.
ซึ่งมันเผอิญตรงกับหัวข้อ Blog ที่เขียนค้างมาสัปดาห์กว่า ๆ ละ แต่หาเคสดี ๆ มาลงไม่ได้ แล้วก็สะดุดตากับสเตตัสนี้พอดีและมันตรงกับหัวข้อเด๊ะ ๆ เลยขอเขียนเป็นโพสต์แทน
.
"Empathy เสริมความเป็นมนุษย์ด้วยการเอาใจเขามาใส่ใจเรา"
.
Empathy เป็นคำที่น่าจะได้ยินกันมาเรื่อย ๆ ความหมายของมันในภาษาไทยคือ "การเอาใจเขามาใส่ใจเรา"
.
มันเป็นขั้นกว่าของการเห็นใจ (Sympathy) เพราะการจะ Empathy ได้จะต้องเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น ภาษาอังกฤษคือ Put yourself into someone's shoe
.
Sympathy เป็นการแสดงความเห็นใจ สู้นะ ๆ จบ แต่ไม่มีอะไร ส่วน Empathy จะเป็นการเข้าใจความรู้สึกร่วมและ Take Action บางอย่าง การจะทำ Empathy ได้ก็เลยยากกว่าแค่การเห็นใจเยอะมาก
.
ได้เรียนรู้คำว่า Empathy มาจากตอนเป็นซึมเศร้า ก็เห็นว่าจิตแพทย์ไม่ตัดสินอะไรเราเลย เรารู้สึกว่าเค้าเข้าใจเรา เหมือนเคยเจอสิ่งที่เราเจอ รู้สึกไม่โดดเดี่ยว รู้สึกมีกำลังใจอีกครั้ง
.
หลังจากนั้นก็พยายามยึด Empathy เรื่อยมาในชีวิต ได้ประโยชน์จากมันมาพอสมควร ชีวิตมีความสุขมากขึ้น และได้ช่วยใครหลายคนจากสิ่งนี้
.
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับสเตตัสนี้ ?
.
เกี่ยวสิ เพราะพอมาอ่านสเตตัสนี้ก็รู้สึกทันทีว่าคนโพสต์น่าจะต้องเจอปัญหาครอบครัวอยู่ เกิดคำถามขึ้นมาในหัวทันทีว่าเค้าเจออะไรอยู่นะ ไม่งั้นคงไม่เกิดความสงสัยต่อการกตัญญูต่อพ่อแม่หรอก
.
ไม่ต้องแปลกใจที่คนพากันตัดสินเจ้าของสเตตัสทันทีที่อ่าน เพราะเราดันถูกปลูกฝังว่า คนเป็นพ่อแม่รักลูกทุกคน คนไม่กตัญญูต่อพ่อแม่คือคนเลว
.
และทุกคนก็อยู่แต่ในกรอบความคิดนี้
.
แต่ความจริงที่อยากจะแชร์คือ ที่ผ่านมาเคยให้คำปรึกษาคนเป็นซึมเศร้ามาหลายสิบคนแล้ว รู้มั้ยว่าครึ่งนึงมีสาเหตุมาจากปัญหาครอบครัว ?
.
พ่อแม่เฆี่ยนตีตลอดเวลา บ้างก็เมาตลอดเวลา บ้างก็ทะเลาะกันทุกวินาที หรือพ่อแม่เห็นตัวเองเป็นแค่เครื่องมืออวดเพื่อนฝูง ไม่เคยได้รับรู้ถึงความรักจากผู้เป็นพ่อเป็นแม่เลย
.
เราปลูกฝังว่าลูกต้องรักพ่อแม่ แต่อาจจะลืมปลูกฝังว่าพ่อแม่ก็ต้องรักลูกด้วยเหมือนกัน เพราะมันไม่เป็นความจริงเสมอไปหรอกนะเอาจริง ๆ
.
ปัญหามีต่าง ๆ นานา และเกิดขึ้นจริงตลอดเวลาในสังคมทุกวันนี้ ไม่ว่าคุณจะมองเห็นหรือไม่ก็ตาม ซึ่งส่วนใหญ่คนที่มองไม่เห็นคือคนที่โชคดีที่โตมาในครอบครัวที่ดีและคิดว่าครอบครัวอื่นต้องเป็นเหมือนเรา ซึ่งมันไม่ใช่หละ
.
ไม่งั้นโลกนี้จะมีคำว่า Child Abuse หรอ ถ้าทุกครอบครัวอบอุ่นจริง
.
สุดท้ายใครมี Empathy พอเจอสเตตัสนี้ก็คงจะบอกว่าเด็กคนนี้คงเจออะไรมาหนักพอสมควรถึงตั้งคำถามนี้และอาจกำลังต้องการความช่วยเหลือทางจิตใจอยู่ก็ได้
.
นี่แหละข้อดีของ Empathy ไม่ตัดสินใคร เอาใจเขามาใส่ใจเราในทุกสถานการณ์ ลดการตัดสินลง เข้าใจคนอื่นมากขึ้น สังคมก็จะมีความสุขขึ้นมากโข 😊

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

655 Nameless Fanboi Posted ID:t3RnJ/sg9p

#แหวน
นิสิตน้อย ในเรื่อง มีนามสมมติว่า "แหวน" แหวนเป็นสาวเจียงใหม่ แต่มาเรียนกับพวกเราที่กรุงเทพฯ นางก็จะเรียบร้อยหงิมๆ ใครพูดอะไรแรงๆใส่ก็จะน้ำตาคลอ บุคลิกประมาณนั้น

เทอมนั้น..แหวนทำเปเปอร์เรื่องเกี่ยวกับชนกลุ่มน้อยในพม่า (แทรกความรู้นิดนึง ชนกลุ่มน้อยในพม่า คือชาติพันธุ์ซึ่งไม่ใช่ชาวพม่าแท้ อันได้แก่ มอญ กะเหรี่ยง ไทยใหญ่ คะฉิ่น ว้า ยะไข่ และ ชาวเขาเผ่ายิบย่อยอีกมากมาย)

ทำเปเปอร์เสร็จนางก็พรีเชนต์หน้าห้อง เนื้อหาและรูปภาพบางส่วนทำเอาทุกคนสะเทือนใจ
เพราะชนกลุ่มน้อยเหล่านั้นมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก ต้องสู้รบกับพม่าอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าเป็นดินแดนที่รันทดที่สุดแห่งหนึ่งในโลกก็ว่าได้

เสร็จเรื่องงานแหวนบอกว่า " ทำเปเปอร์เรื่อง ชนกลุ่มน้อย ในพม่าคราวนี้ทำให้คิดได้ว่า ร.5 ท่านมีบุญคุณล้นหัว "

ทุกคนก็งงว่า ร.5 มาเกี่ยวไรกับชนกลุ่มน้อยของพม่าวะ

นางก็เงียบๆอึนๆของนาง จริงๆคือมีเพื่อนในกลุ่มที่เกลียดเจ้าแบบรุนแรงมาก พวกเราเลยมักหลีกเลี่ยงที่จะคุยประเด็นอะไรแบบนี้

หลังจากนั้นไม่นาน ภาควิชาก็มีการจัดงานสัมมนา หัวข้อเกี่ยวกับ สมัย ร.5 วิทยากรก็จะมีทั้งอาจารย์ในภาค และมีอาจารย์จาก
ภายนอกด้วย แต่ละท่านก็จะรับผิดชอบหัวข้อต่างๆกันไป

ทีนี้ก็จะมีอาจารย์จากภายนอกท่านหนึ่งรับผิดชอบบรรยายหัวข้อเกี่ยวกับ
“การผนวกรวมเชียงใหม่กับสยาม”

(แทรกความรู้นิดนึงนึง สมัย ร.5 นั้น เชียงใหม่ยังมีสถานะเป็นเมืองขึ้นของสยาม ยังไม่เป็นรัฐเดียวกันกับเรา ณ ตอนนั้นอังกฤษซึ่งยึดครองพม่าอยู่ก็อยากได้เชียงใหม่มาก สยามเราก็อยากได้มาก แต่ในที่สุดฝั่งที่ได้เชียงใหม่ซึ่งรวมถึงหัวเมืองทางเหนือทั้งหมดมา ก็คือ สยาม)

ความแปลกของอาจารย์ท่านนี้คือ เค้าดูเหมือนโกรธ ร.5 ที่พยายามดึงเชียงใหม่มาอยู่กับสยาม ไปลดทอนทำลายอำนาจของเจ้านายฝ่ายเหนือ เหมือนในความคิดของเค้าคือ ร.5 ท่านใช้เล่ห์เพทุบายอะไรทำนองนั้น แล้วยิ่งบรรยายอารมณ์ก็ยิ่งคุกรุ่น

จนในที่สุดถึงกับหลุดคำหยาบออกมา

พวกที่เกลียดเจ้าก็ตบมือชอบใจกันใหญ่

พวกที่มีใจเป็นธรรมก็นั่งงงๆ กันอยู่ว่าโกรธท่านทำไมวะ เป็นใครก็ต้องทำแบบนั้นป่ะ

สิ้นเสียงตบมือ ไอ้แหวนคนหงิมๆ ก็ลุกขึ้นถาม อาจารย์ท่านนั้นว่า

“ถ้า ร.5 ไม่พยายามอย่างจริงจังที่จะดึงเชียงใหม่มาอยู่กับสยาม เชียงใหม่ก็ต้องตกเป็นของอังกฤษ พออังกฤษปล่อยพม่า ชาวเชียงใหม่ก็คือชนกลุ่มน้อยในพม่า ใช่ไหมคะ”

อาจารย์เงียบ ไม่ตอบ

แหวนถามอีกว่า “เชียงใหม่เข้มแข็งพอจะตั้งอยู่เป็นรัฐอิสระระหว่างสยามกับอังกฤษหรือคะ”

อาจารย์เงียบไปพักหนึ่ง แล้วตอบเสียงเย็นชาหน้าบึ้งประมาณว่า

"คุณต้องดูด้วยว่าผมกำลังพูดประเด็นอะไร คุณถามนอกประเด็น และยังไม่ใช่เวลาที่อนุญาตให้ถาม"

ถ้าเป็นแหวนเวอร์ชั่นปกติ มันคงน้ำตาคลอไปแล้ว แต่ตอนนี้เหมือนอะไรก็หยุดมันไม่ได้

แหวนพูดต่อว่า

“ ที่ต้องแทรก เพราะหนูทนฟังอาจารย์หยาบคายใส่ ร.5 ไม่ได้ หนูเป็นคนเชียงใหม่ ถ้า ร.5 ท่านไม่ดึงเชียงใหม่มาไว้กับสยาม ป่านนี้เชียงใหม่ก็คือชนกลุ่มน้อยของพม่า แล้วคุณภาพชีวิตหนูจะเป็นยังไง

อาจารย์ทราบใช่ไหมว่าชนกลุ่มน้อยของพม่าเค้าลำบากมาก เด็กๆอายุยังไม่ทันเข้าวัยรุ่นดีก็ต้องจับปืนขึ้นสู้กับทหารพม่า วันดีคืนดีทหารพม่าบุกเข้าหมู่บ้าน ฆ่าผู้ชาย ข่มขืนผู้หญิง เผาหมู่บ้านวอดหมด

ดังนั้นการดึงเชียงใหม่มาไม่ใช่เล่ห์เพทุบาย แต่เป็นพระมหากรุณาธิคุณ

ถ้าหนูไม่ได้ทำเปเปอร์เกี่ยวกับชนกลุ่มน้อยในพม่าก่อนหน้านี้ หนูก็คงจะเป็นคนหนึ่งที่ตบมือชอบใจกับคำหยาบคายของอาจารย์ "

แหวนมันพูดประมาณนี้ละค่ะ

ทุกคนในห้องคือตกตะลึงมาก

อาจารย์ของพวกเราต้องพาไอ้แหวนไปสงบสติอารมณ์ข้างนอก

ส่วนในห้องสัมมนา อาจารย์ท่านนั้นก็บรรยายต่อไปอีกแป๊บก็จบเอาดื้อๆ ขอตัวกลับไปพร้อมกับหงอกที่เกือบหมดหัว

เหตุการณ์นี้ทำให้เราคิดว่า จริงๆเราถูกชักจูงได้ง่ายกว่าที่คิดนะ

อย่างที่แหวนว่า ถ้านางไม่รู้เรื่องราวชีวิตของชนกลุ่มน้อยพม่ามาก่อน

นางก็คงเป็นหนึ่งในคนที่นั่งตบมือสนุกกับการบรรยายอันหยาบคายนั้น "

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

656 Nameless Fanboi Posted ID:t3RnJ/sg9p

ประวัติศาสตร์ชาติไทยที่เกิดขึ้นมานั้น มีเพียงข้อเท็จจริงเดียว.. ไม่ต้องย้อนไปไกลถึงสมัยสุโขทัยหรอกครับ.. หากศึกษาด้วยใจเป็นกลาง ไม่อคติ.. “ราชวงศ์จักรี” ได้สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนชาวสยามมากมายเหลือคณานับ

แล้วอยู่มาวันนึง มีคนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มนึงที่ชอบพล่ามแต่คำว่า “ประชาธิปไตย” แล้วมโนไปเองว่า.. ประชาชนคือเจ้าของประเทศ...

ก็พอจะเข้าใจได้ครับเพราะคิดถูกเป็นบางส่วน.. แต่คุณอาจจะลืมบางส่วนที่สำคัญไปไม๊ครับว่า.. ผู้ที่เป็นผู้นำในการ “รวมเลือดเนื้อ ให้เป็นชาติเชื้อไทย” จนมีผืนแผ่นดินและชื่อประเทศเป็นของพวกเราเอง.. คือใคร??

อย่าได้ลืมกำพืดของตนเอง หรือหากบางคนอาจมีกำพืดบนแผ่นดินอื่น ก็อย่าได้ลืมบุญคุณในวันที่บรรพบุรุษของตนได้ก้าวเท้าลงจากเรือ และใช้เท้าก้าวแรกนั้นเหยียบลงบนแผ่นดินนี้ จนวันนี้ได้ชื่อว่าเป็น “คนไทย” !!!!

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

657 Nameless Fanboi Posted ID:7gZ+dY16xZ

>>656 พระเจ้าตากทรงกริ้วมาก

658 Nameless Fanboi Posted ID:rsbXHn84R5

>>656 ขอให้ผู้นำชาติไทยสำลักบุญคุญตายไวๆครับสาธุ

659 Nameless Fanboi Posted ID:zck6OjMood

>>655 อันนี้เป็นเรื่องแต่งใช่ไหมครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงมันเป็นการเอาปัจจุบันไปวิพากษ์อดีตโดยที่ไม่ได้กล่าวปัจจัยอื่นเสริม และตัดการพิจารณาถึงมุมอื่นไปเลย
>>656 ราชวงศ์มีส่วนสูงนั้นถูกแล้วจากบริบทสังคมสมัยก่อนเราปฏิเสธไม่ได้ แต่การพัฒนาไปเพื่อให้ปรับตัวไปกับสถาพสังคมที่เปลี่ยนไปก็ไม่ผิดนี่ครับ

660 Nameless Fanboi Posted ID:VBQ0d6tkc8

>>656 ครับ ขอบคุณจอมพลแปลกครับ

661 Nameless Fanboi Posted ID:b.3KuPwUON

พรบ. ทวงหนี้ ครอบคลุมถึงการทวงบุญคุณแผ่นดินไหม ทวงกูมากๆ กูจะไปแจ้งความ

662 Nameless Fanboi Posted ID:qlUmt4g6d7

>>655 5เป็นคนบริหารประเทศมาตลอดตั้งแต่ตอนนั้นจนสมัยที่ชนกลุ่มน้อยพม่าทำสงครามกันเลยเหรอครับ แล้วได้ไปดูงบประมาณประจำปีสมัยนั้นหรือยังว่าเน้นหนักไปที่ส่วนไหน

>>656 ใจเป็นกลาง ไม่อคติ แต่ถ้าคิดไม่เหมือนกูคือลืมกำพืดนะครับ สุดยอดเลย

663 Nameless Fanboi Posted ID:/KZhjRjdgf

>>655 ไม่ให้เครดิตAnglo-French Declaration of 1896เลยนะ เขาตกลงแนวกันชนเรียบร้อยแล้วตั้งแต่5จะไปยุโรปอีก
ป.อีกคน ถ้าแกไม่เอาแนวคิดPan-Thaiismมาใช้เป็นนโยบายระดับชาติ ป่านนี้ล้านนาเก่าก็เป็นชนกลุ่มน้อยเผ่าลาว เงี้ยว ยอง ฯลฯ ขนาดเจ้าดิลกฯเป็นลูกแท้ๆยังโดนว่าเป็นลาว เหอะ

664 Nameless Fanboi Posted ID:7loOZaS77W

>>663 สมัย ร.6-7 คนเชียงใหม่ยังโดนเรียกว่าลาวยู่เลย

665 Nameless Fanboi Posted ID:uUvKlxo8r8

พวกมึงแย้งผิดนะ ประเด็นของอีแหวนคือการที่ร.5 ผนวกภาคเหนือเข้ามาเป็นของไทยทำให้ไม่โดนกดขี่จากพม่าในฐานะชนกลุ่มน้อย แน่ละว่าคนเหนือไม่ถึงกับไม่โดนอะไรเลย แต่เทียบกับชนกลุ่มน้อยในพม่าตอนนี้แล้วดีกว่าเป็นไหนๆ แถมตอนนี้ก็กลืนได้เกือบหมดแล้ว

ที่อ.นั่นอยากให้ภาพเหนือเป็นอิสระก็พูดได้ละ แต่ถ้าถามว่าความเป็นอยู่จะดีกว่าตอนนี้มั้ย สมมุติว่าไปรวมกับพม่า ตอบได้เลยว่าไม่ ส่วนถ้าเป็นเอกราช ด้วยพื้นที่แค่นั้นแล้วไม่มีทางออกทะเล สภาพอาจจะดีกว่าลาวหน่อยแค่นั้นละ

คนอื่นที่พวกมึงยกมาก็มีข้อดีนะ แต่ต้องยอมรับว่าถ้าตอนนั้นไม่ผนวกหัวเมืองภาคเหนือมาก็ทำไรไม่ได้หรอก แล้วการมารวมกับไทยเป็นการตัดสินใจของเจ้าเมืองฝ่ายเหนือเอง เพราะเห็นว่าพม่าล้มแล้ว ไทยก็อยากได้หัวเมืองเหนือ เรียกว่าสมประโยชน์กันมากกว่าเข้ายึดฝ่ายเดียวอะนะ

666 Nameless Fanboi Posted ID:7loOZaS77W

>>665 ก็ไม่ได้แย้งผิดนะ เอางี้ง่าย ๆ
>>662 บอกว่า 5 ไม่ใช่คนจัดการทั้งหมด ซึ่งก็ถูก
>>663 บอกว่าฝรั่งเศสกับอังกฤษจัดการเขตแดนไว้แล้ว ซึ่งก็ถูก (จริงๆ ผนวกล้านนา ถ้าอังกฤษหรือฝรั่งเศสจะแทรกแซงจริง ๆ ก็ทำได้นะ ควรให้เครดิตฝรั่งเศสกับอังกฤษด้วยมั้ย ?) ที่บอกป.เอานโยบายชาตินิยมมาใช้ก็ถูก ถ้าไม่มีนโยบายนั้นเชียงใหม่ก็ถูกปฏิบัติเป็นชนกลุ่มน้อยอ่ะ แล้วชนกลุ่มน้อยก่อน 9 จะขึ้นมาชีวิตเป็นอยู่ไม่ได้ดีขนาดนี้นะ ดูอย่าง 3 (หรือ 4) จังหวัดภาคใต้ ดีไม่ได้จะกลายเป็นแหล่งคอมมี่สมัย 9 ด้วยซ้ำถ้าไม่มีนโยบายของ ป.

อ.นั่นก็ไม่ได้พูดผิดนะ จากหลักฐานจริง ๆ ตอนเจ้าเมืองเหนือโดนกดหัวหนักเลยแหละลองดูนี่ https://www.silpa-mag.com/history/article_41612

แต่ถ้าเอามาเทียบกับปัจจุบันนี่มัน what if ไปว่ะ เอาเป็นว่าลาวยอมอยู่ใต้ฝรั่งเศสมากกว่าอยู่ใต้ไทยอ่ะ ถ้าไม่มีนโยบายกลืนชาติของ ป. คนภาคเหนืออาจจะอยากแยกตัวมากกว่าอยู่กับไทยก็ได้มั้ง ใครจะไปรู้

667 Nameless Fanboi Posted ID:uUvKlxo8r8

>>666 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทุกอย่างตามมาคือ 5 ผนวกเขตแดนได้จากการสวามิภักดิ์ของเจ้าเมืองฝ่ายเหนือ การรวมชาตินั้นมาที่หลัง แล้วการที่ทำให้อังกฤษและฝรั่งเศสยอมรับการปักปันเขตแดนได้ก็ถือว่าเป็นผลงานเหมือนกัน ถ้าขาดจุดนี้ไปการถกเถียงจะไม่เกิดขึ้นเลย 5 สมควรได้เครดิตตรงนี้ไป

แล้วก็แน่ละว่าไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่เวลาให้เครดิตก็มักให้หัว เพราะเป็นคนผลักดันทุกฝ่ายจนสำเร็จ อย่าง 30 บาท ถ้าดูบทบาทจริงๆ หมอหงวนกับหมอมงคลเป็นคนที่เริ่มต้นและลงแรงไปมากที่สุด แต่คนได้รับเครดิตไปคือแม้ว ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะถ้าไม่มีแม้วก็ทำไม่ได้หรอก เรื่องเขตแดนก็เหมือนกันละ

ส่วนเรื่องโดนกดกูก็บอกนะว่าโดนกด แต่เทียบกับพม่าแล้วดีกว่าเยอะ สมัยนั้นที่อังกฤษปกครองก็ไม่ได้ดูแลดีอะไร สมัยพม่ายิ่งแย่กว่า เจ้าเมืองฝ่ายเหนือสมัยนั้นพิจารณาแล้วว่าอยู่กับไทยดีกว่าก็แค่นั้น สมัยนี้แล้วจะลองมองแง่ what if ก็ได้ เรื่องปกติ แต่ถ้าถึงขนาดมองว่าอยู่กับพม่าดีกว่าไทยตอนนี้กูก็คงแย้งเหมือนอีแหวนนั่นละ

668 Nameless Fanboi Posted ID:7loOZaS77W

>>667 มันปักเขตแดนกันเองไม่เกี่ยวไทย แค่ได้อานิสงค์ด้วยเฉย ๆ ถ้าใช้ตรรกะเดียวกัน ถ้าอังกฤษกับฝรั่งเศสไม่ตกลงกันตั้งแต่แรก 5 ก็ไม่ได้ผนวก ควรให้เครดิตอังกฤษกับฝรั่งเศสด้วยมั้ย ?

669 Nameless Fanboi Posted ID:Kf0.YHyvpV

ถ้าเหนือเป็นอิสระมาตลอด เป็นประเทศล้านช้าง GDPกับความเป็นอยู่มันจะเป็นยังไงในปี2020
ให้กูเดา คงจะไม่ได้ดีไปกว่าตอนนี้

ก็เหมือนการที่อเมริกามีทาสนั่นแหละ การค้าทาสเป็นเรื่องโหดร้าย แต่ลูกหลานทาสคนดำในอเมริกาปัจจุบันมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีกว่าลูกหลานแอฟริกันที่ไม่โดนจับไปขายแน่นอน

"Thank God my granddaddy got on that boat.” -Mohammed Ali

670 Nameless Fanboi Posted ID:NogwQWagM3

>>668 ถ้า 5 ไม่ผนวกภาคเหนือมาคนอื่นจะขีดเส้นให้เหรอไง ใครจะใจดีขนาดนั้น ตอนนั้นป่าไม้ภาคเหนือในไทยฮิตกว่าแถบนั้นในพม่าอีก เพราะขนส่งสะดวกกว่า อังกฤษจะยกให้ฟรีๆ ทำใม คิดตามความเป็นจริงหน่อย

671 Nameless Fanboi Posted ID:Sk4ExxhPUa

>>670 สยามผนวกล้านนาได้ตอนพระเจ้าอินทวิชยานนท์สิ้น ปี 1897 แต่ฝรั่งเศสกับอังกฤษทำสัญญาปี 1896 คือไร ถ้ามันไม่ทำสัญญากันก่อนจะกล้าผนวกเหรอ แค่กบฏเงี้ยวยังไม่มีปัญญากันเมืองเลยจะเอาอะไรไปสู้ฝรั่งถ้ามันจะมาจริง ๆ คิดตามความเป็นจริงหน่อย

672 Nameless Fanboi Posted ID:Sk4ExxhPUa

>>669 เหมือนบอกว่าคนลาวว่าพวกมึงน่าจะมาอยู่ใต้กูนะ ป่านนี้ได้เป็นคนไทยไปแล้ว เขาคงอยากจะมาอยู่ด้วยอ่ะ

673 Nameless Fanboi Posted ID:Sk4ExxhPUa

>>669 กูไม่อยากตอบหลาย ๆ เม้น แต่เม้นนี้แม่ง tier เดียวกับร่่านที่บอกว่าถ้าเป็นเมืองขึ้นฝรั่งก็เก่งอังกฤษสบายกันแล้วไรงี้เลยว่ะ

674 Nameless Fanboi Posted ID:NogwQWagM3

>>671 นั่นคือปีที่ผนวกได้ ก่อนหน้านั้นสยามแผ่อิทธิพลในภาคเหนือไม่ขาด กรมป่าไม้กับขุนนางกรุงเทพก็มานี่ตลอด รวมทั้งการที่เหล่าเจ้ามืองยอมสวามิภักดิ์กับสยามมากกว่า ทำให้อังกฤษกับฝรั่งเศสยอมรับว่าเป็นของไทย

ไม่มีใครยกอะไรให้ใครฟรีโดยไร้สาเหตุหรอก ความเป็นจริงคือถ้าเจ้าเมืองเหนือตอนนั้นบอกอยากอยู่กับอังกฤษหรือฝรั่งเศสก็เสร็จไปแล้ว ไม่มาอยู่กับไทยหรอก แต่พอเลือกอยู่กับไทยผลก็อย่างที่เห็นทุกวันนี้

>>672 มันก็พูดไม่ผิดนะ เกิดห่างกันไม่กี่เมตรที่ชายแดนชะตาชีวิตก็ต่างกันมสกแล้ว อย่างคนเชื้อสายไทยในมาเลย์ตอนที่อังกฤษตัดแบ่งไป ทุกวันนี่เขาก็ยังมีอัตลักษณ์ความเป็นไทยอยู่ พูดไทยได้ก็เยอะ แต่เลือกเป็นคนมาเลย์มากกว่า คงไม่ต้องบอกนะว่าเพราะอะไร

675 Nameless Fanboi Posted ID:IYAoxR1fT6

>>674 คนไทยในมาเลย์ไม่โดนกดขี่เลยอยู่ได้ละมั้ง กูสงสัยคนจีนมาเลย์มากกว่า น่าจะไม่ ok กับชีวิตในมาเลเซียเท่าไรจากนโยบายภูมิบุตร พวกนี้ถ้าไม่อยากไปสิงคโปร์ก็คงมาไทยแหละ

676 Nameless Fanboi Posted ID:Sk4ExxhPUa

>>671 1. กรมป่าไม้ตั้งหลังจากฝรั่งเศสอังกฤษดีลกันไปแล้ว แล้วก็ถูกที่ไม่มีใครยกอะไรให้ฟรี ๆ เพราะหลังจากตั้งกรมป่าไม้ก็ให้สัมปทานอังกฤษไปกินเรียบ คนที่มาสำรวจป่าไม้ให้ก็คนของอังกฤษ ฝรั่งเศสมันถึงนั่งตาซึมอยู่ริมแม่น้ำโขง ต้องขอบคุณอังกฤษมั้ย ?
2. ขุนนางที่มาถ้าจำไม่ผิดมีแค่ดารารัศมีคนเดียว
3. ถ้าความจริงถ้าเจ้าเมืองเหนืออยากอยู่อังกฤษกับฝรั่งเศสก็ไปอยู่ได้ แปลว่าคนที่ควรได้เครดิตคือเจ้าอินทวิชยานนท์รึเปล่า ?
4. ถ้าคิดอย่างนั้น ขนาดคนไทยอยู่มาเลย์แล้วยังอยากเป็นคนมาเลย์ แปลว่าถ้าไทยอยู่ใต้อังกฤษแล้วจะเจริญกว่านี้รึเปล่า ควรโทษ 5 ที่ทำให้ไทยมีเอกราชมั้ย ?

หลายอย่างกูกวนตีนแต่ถ้าตอบมาเป็นข้อได้กูจะขอบคุณมาก

677 Nameless Fanboi Posted ID:Kf0.YHyvpV

>>672-673

แล้วจริงป่ะที่คนดำในเมกาชีวิตดีกว่าคนดำในแอฟริกา

แล้วคิดให้ดีๆว่าถ้าภาคเหนือไม่เป็นส่วนนึงของไทย ป่านนี้จะใช้อะไรเป็นตัวดำเนินเศรษฐกิจ? ทะเลก็ไม่ติดแล้วหนึ่งประการ เป็นประเทศlandlock เสียเปรียบตายห่าเรื่องการค้า สินค้าต้องส่งผ่านชาวบ้านทั้งขาเข้าขาออก โดนแดกอากรจนอ้วก เอาอะไรไปพัฒนา

มึงคิดว่าถ้าภาคเหนือไม่อยู่กับสยาม มันจะขุดเจอไวเบรเนี่ยม แล้วจะพัฒนาเป็นวากานด้า มียานอวกาศ มีBlack Elephantใส่ชุดไวเบรเนี่ยมรึไง Lan Na Forevaงี้เรอะ

678 Nameless Fanboi Posted ID:Sk4ExxhPUa

>>677 ไม่น่าเลย ร.5 ป่านนี้ไทยได้เจริญกับเขาไปแล้ว น่าจะยอมเป็นขี้ข้าฝรั่ง เห้อๆๆๆๆ

679 Nameless Fanboi Posted ID:NogwQWagM3

>>675 ได้ภูมิบุตร

>>676 มึงชี้ผิด
1. ขอบคุณขุณนางที่เจรจากับอังกฤษสิ เสียแค่ป่าไม่แต่ได้ดินแดนมาตั้งเยอะ คุ้มจะตาย
2. เสนาหกนี่นับว่าสยามส่งคนมาปกครองได้มั้ย กูหมายถึงคนจากกรุงเทพขึ้นไปเชียงใหม่ ไม่ใช่เชียงใหม่ลงมานะ
3. เหมือนข้อ 1 เครดิตอยู่ที่คนเจรจาได้
4. ที่พวกนั้นอยากเป็นมาเลย์มากกว่าเพราะนโยบายภูมิบุตร ผลประโยชน์มันมากกว่าคนไทยแค่นั้นละ

ส่วนจะโทษ 5 มั้ย ก็ขึ้นอยู่กับว่ามึงมองยังไง ถ้ามองว่าการเป็นเอกราชปกครองตัวเองสำคัญกว่า ก็จะชอบ 5 แต่ถ้ามองว่าการเป็นบ่าวแล้วเจริญกว่าก็คงโทษ 5 นั่นละ

ข้อนี้แปลกอย่าง หลิ่มเชิดชู 5 เพราะเรื่องนี้ กลับกัน ร่่านกลับเกลียด 5 เพราะเรื่องนี้ เมืองไทยแม่งคัลท์สัดๆ กลุ่มนึงไม่อยากเป็นฝุ่นใต้ตีนแต่อยากเป็นเมืองขึ้น อีกกลุ่มเป็นฝุ่นแต่ไม่ยอมเป็นเมืองขึ้น พวกมึงจับคู่กันยังไง

680 Nameless Fanboi Posted ID:A/XfzvJFnQ

>>679 กลุ่มนึงอนุรักษืใช้ของเดิมทั้งหมด อีกกลุ่มก็ไม่เอาของเดิมทั้งหมด คิดง่ายแค่นี้

681 Nameless Fanboi Posted ID:UsdNd+.ciE

>>679 1 กับ 3 แล้วคนคนนั้นคือใครวะ ? ในประวัติศาสตร์เราไม่รู้ว่าใคร แต่ไม่ใช่ 5 แน่นอน
2 เสนาหก หมายถึงอะไรวะ ?
4 กูถามกวนตีน เห็นบอกว่าล้านนาอยู่ใต้ไทยแล้วเจริญกว่าเป็นเอกราช ไทยมาเลย์เลือกเป็นมาเลย์มากกว่าไทย กูเลยสงสัยว่าถ้าเทียบกับกรณีของเอกราชไทยบ้างจะตอบว่าไง แต่มึงเองก็เลี่ยงคำตอบนี้นะ

682 Nameless Fanboi Posted ID:NogwQWagM3

>>680 กูเก็ตที่มึงสื่อละ แต่เรื่องนี้ดูกี่ทีกูก็ขำทุกที เถียงกันเรื่อง what if เมื่อ 100 ปีที่แล้ว

>>681 อย่างที่กูตอบไปเมื่อวาน หัวได้เครดิตมากสุดเพราะเป็นคนผลักดัน ส่วนคนเจรจาคงต้องให้นักปวศ.สืบค้นมา เพราะกูก็ไม่รู้

เสนาหกอ่านเอา สรุปคือเป็นหน่วยงานที่ทางกรุงเทพตั้งขึ้นเพื่อปกครองเชียงใหม่นั่นละ

https://th.m.wikipedia.org/wiki/การผนวกนครเชียงใหม่ของสยาม

กูไม่ได้เลี่ยงคำตอบ เพราะคำถามมึงขึ้นกับมุมมอง อย่างที่ข้างบนยกคำพูดของมูฮัมหมัด อาลีมานั่นละ ถ้ามึงคิดว่าเป็นเมืองขึ้นแล้วจริญ คำตอบก็จะเป็นแบบนึง ถ้าคิดว่าเป็นเอกราชดีกว่าทุกอย่างคำตอบก็จะเป็นอีกแบบนึง ก็แค่นี้ละ

683 Nameless Fanboi Posted ID:F0CuophWZq

พวกเหนือกับอีสานควรขอบคุณที่อยู่ในประเทศไทย ไม่งั้นคงไม่เจริญแน่ ขนาดโดนผนวกสมัยก่อนยังต้องส่ง สาวๆมาทำงานขายตัวในกรุงเลย ตกเขียว

684 Nameless Fanboi Posted ID:jQxyrg9g50

>>677 - อุตสหกรรมป่าไม้ที่มีการสำรวจตัดไม้ตามวงรอบ ไม่ใช่ตัดดะแล้วทิ้งแต่ภูเขาหัวโล้น
-สารพัดเขื่อนต้นน้ำเจ้าพระยา
-แหล่งแร่แบไรต์ ถ่านหิน

685 Nameless Fanboi Posted ID:UXrbW.jiI9

ถ้าตรรกะแบบเดียวกันนี้จีนก็ต้องยกย่องจิ๋นซีฮ่องเต้มั้ยอ่ะ ถ้าจิ๋นซีไม่รวมประเทศในตอนนั้นจีนอาจแยกเป็น7ประเทศก็ได้ แบบนี้เหรอ ทำไมกูไม่เห็นคนจีนที่ไหนมันจะเคยบูชาจิ๋นซีขนาดต้องมาดิ้นเมื่อมีคนด่าไอ้นี่เสียๆหายๆอย่างที่อีแหวนในเรื่องเป็นเลย

686 Nameless Fanboi Posted ID:IYAoxR1fT6

เรื่องทางสังคมศาสตร์มันน่าเบื่ออย่างเพราะเถียงให้ตายก็ไม่่จบตรงที่ความจริงไม่ได้มีแค่หนึ่งเหมือนวิทยาศาสตร์ไง คือมันมองได้หลายมุม เอาง่ายๆ ถ้าลองสถานการณ์ทางการเมืองเป็นปกติ พวกซ้ายๆ สายสิทธิฯ ทั้งหลายคงไม่ชอบ ป. อะ ในทางตรงข้ามพวกขวาจะชอบ ป. จากนโยบายไทยเดียว ที่ ป. บังคับให้ทุกเชื้อชาติที่เป็นพลเมืองไทยต้องใช้ภาษาไทยกลาง นโยบายนี้ได้รับการสืบทอดมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเลิกไปช่วงหลังสงครามเย็นนี่เอง (สมัยก่อนจะมาพูดอีสาน เหนือ ใต้ ออกสื่อไม่ได้นะ ถือว่าบ้านนอก แต่สมัยนี้พูดได้แล้วและเป็นจุดขายด้วย) ที่บอกว่าพวกขวาชอบ เพราะมันทำให้ไทยไม่มีปัญหาขัดแย้งด้านเชื้อชาติมากมายเหมือนในต่างประเทศ แต่พวกซ้ายจะไม่ชอบเพราะละมิดสิทธิในการแสดงออกทางอัตลักษณ์วัฒนธรรม

687 Nameless Fanboi Posted ID:AOY/UBXyak

>>685 มึงก็พูดไม่ถูกซะทีเดียว ถ้าตามตรรกะนี้กุว่ามึงต้องเทียบกับเหมามากกว่าจิ๋นซีนะ

688 Nameless Fanboi Posted ID:UXrbW.jiI9

>>687 ถ้าไม่มีจิ๋นซีรวมอาณาเขต วางมาตรฐานภาษาวัฒนธรรมให้7แคว้นรวมเป็นประเทศฉินประเทศเดียวให้ เหมามันจะกำหนดเขตแดนยังไงละ

689 Nameless Fanboi Posted ID:UXrbW.jiI9

>>686 กูว่าต่อให้ปกติขวาไทยก็ไม่เอา ป.อยู่ดี ถ้าปรีดีนั่นพอเข้าใจสมัยนึงเคยเป็นรัฐบุรุษ แต่ ป.นี่ชื่อเหม็นมานานแล้ว เพิ่งมาฟื้นเอาสมัยหลังๆนี่เอง

690 Nameless Fanboi Posted ID:jQxyrg9g50

สรุปการพยายามควบรวมเชียงใหม่
- พศ2426 (รศ102) คศ 1883 ส่งกรมหมื่นพิชิตฯไปเชียงใหม่ ล้มเลิกระบบเค้าสนามหลวง(ที่ประชุมขุนนางชั้นต่างๆ ซึ่งจะมีนายบ้านมารายงานตามรอบ) ตั้งระบบเสนาหก(กรมมหาดไทย ทหาร กรมนายุติธรรม กรมคลัง กรมวัง) ยกเลิกการเก็บภาษีแบบเดิม(ส่งเป็นผลผลิตตามเขตที่กำหนด + บ้านส่วยวัดไม่ต้องส่งภาษีแต่ต้องดูแลวัด) เปลี่ยนให้ส่งเป็นส่วยเงินรูปี เอาระบบประมูลภาษีมาบังคับใช้(คือคนส่วนกลางเสนอว่าจะให้ภาษีเท่าใด เมื่อได้สิทธิ์ก็ไปเร่งรัดภาษีเอา ได้น้อยก็ควักเนื้อ ได้มากก็กำไร ระบบนี้ส่วนกลางสยามเลิกไปก่อนแล้ว) ส่งดาราฯมาเป็นตัวประกัน
ผล กบฎพญาผาบ พศ2432 (รศ108) ชาวบ้านโดนระบบภาษีใหม่ไม่เป็นธรรม ขุนนางสยามปราบได้สำเร็จ แต่ก็ต้องยุบเสนาหกกับระบบภาษีใหม่ออกไป
พศ 2439 รศ115 คศ1896 อังกฤษกับฝรั่งเศสลงปฏิญญากำหนดแนวกันชนระหว่างสองประเทศ
พศ 2440 เจ้าอินทวิชยานนท์ตาย ข้าหลวงใหญ่ก็รวบอำนาจ รื้อฟื้นระบบเสนาหก ตัดรายได้-ตัดอำนาจเจ้านคร ขนาดว่าอังกฤษกับฝรั่งเศสตกลงแล้วว่าจะไม่ยุ่งตรงนี้ ข้าหลวงสยามยังโดนกบฎจนต้องหนีตาย

691 Nameless Fanboi Posted ID:d8mAoSiytv

มีคนอายุ40up บ่นว่าหางานใหม่ยาก..บริษัทต่างๆมักไม่ให้โอกาส

ขอบอกตามตรงว่า..มีแนวโน้มเป็นแบบนั้นจริงครับ

เพราะทุกวันนี้ แต่ละบริษัทก็มีปัญหากับพนักงานตัวเองเดิมที่อายุเกิน40อยู่แล้ว..

ปัญหาเรื่อง Digital transformation หรือการปรับเปลี่ยนให้เป็นองค์กร Digital นั่นเอง

เพราะคนอายุ เกิน40ในวันนี้ มักจะขาดทักษะดิจิตัลออนไลน์ เนื่องจากโตมากับระบบ Analog ดังนั้นความคุ้นชินกับเทคโนโลยี่ จึงน้อยกว่าคนวัย30-35

ที่แม้จะประสบการณ์ทำงานน้อยกว่า แต่มีทักษะด้านดิจิตัลดีกว่า

ดังนั้นวันนี้ องค์กรที่อยากปรับตัว จึงมักจะมองหาพนักงานใหม่ที่อายุ 35ลงมาจะทำให้การปรับเปลี่ยนองค์กรไปด้วยเทคโนโลยี่ทำได้ง่ายกว่า

แล้วคนอายุ40 up ควรทำตัวยังไงดี ถ้าอยากหางาน..

คุณก็ควรจะมีบทพิสูจน์ ว่าเป็นคนที่มีทักษะด้านดิจิตัล หรือสนใจเรื่องเทคโนโลยี่สิครับ..

พิสูจน์ยังไง..??..

หลักสูตรอบรมทางด้านนี้ เคยไปบ้างมั้ย มีใบเซอร์อะไรที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี่..??

เขียนบรรยายสรรพคุณตัวเองในใบสมัครงาน หรือตอนสัมภาษณ์งานทำให้บริษัทที่จะรับคุณ คิดว่าคุณมีความรู้ทางด้านดิจิตัลออนไลน์ ดีแค่ไหน..??

ถ้าคุณทำให้นายจ้างเชื่อว่า คุณเป็นคนทันโลก ทันเทคโนโลยี่ คุณก็มีโอกาสได้งาน..

มิหนำซ้ำ..ด้วยอายุงานที่มากกว่าคุณยังได้เปรียบเรื่องประสบการณ์ทำงานอีกด้วย

ที่สำคัญ คุณปรับเปลี่ยนตัวเองให้พร้อมกับโลกธุรกิจยุคใหม่แล้วหรือยัง..??

ถ้ายัง..ก็อย่าสงสัยครับ ทำไมเค้าไม่อยากรับคุณที่อายุมากๆเข้าไปทำงาน

#เปลี่ยนที่ตัวเราเองก่อนครับไม่เคยเรียนรู้อบรมด้านนี้ก็ต้องรีบปรับตัว

692 Nameless Fanboi Posted ID:jQxyrg9g50

>>690 สรุปให้’แหวน’นะ
-ต่อให้ร.5ไม่รวมหัวเมืองล้านนาเข้าเป็นดินแดนสยาม อังกฤษกับฝรั่งเศสก็ตกลงกันแต่แรกแล้วว่าดินแดนตรงนี้เขาจะเอาเป็นแนวกันชนไม่เข้ามายึด สยามเลยเข้ามาบังคับยึดตัดสิทธิ์ตัดเงินเจ้านายล้านนาได้ง่ายๆ ถ้าจะขอบคุณที่เชียงใหม่ไม่ต้องไปเป็นชนกลุ่มน้อยในพม่าก็ควรขอบคุณอังกฤษกับฝรั่งเศสที่เขาตกลงขีดเส้นเว้นล้านนาไว้ทำแนวกันชน
ถ้าจะขอบคุณที่ไม่ต้องเป็นชนกลุ่มน้อยในแผ่นดินที่อยู่มาตั้งแต่อุ๊ยแต่หม่อน โน่น จอมพลป.

ส่วนนักจินตนาการwhat ifว่าถ้าล้านนาเป็นประเทศอิสระสภาพคงไม่ต่างจากลาว ก็ขึ้นกับว่าตอนww1-2ล้านนาเข้าฝ่ายไหน

693 Nameless Fanboi Posted ID:UXrbW.jiI9

>>692 ประเด็นว่าควรขอบคุณพวกฝรั่งที่ไม่เข้ามาหักด้วยกำลังนี่เคยคิดเหมือนกัน คือกูเห็นสภาพพวกพรรคปชต โดนไล่ยุบไล่ฟ้องรัวๆแบบนี้กูคิดนะว่า สมัยนั้นถ้าฝรั่งแม่งจะจับผิดไอ้ "ความศิวิไลซ์" ที่เราอ้างว่าเรามีได้อ่ะ มันก็ทำได้ป่ะ ถึงไม่หมอบคลานไม่มีทาสก็ยังมีประเด็นให้จับผิดอีกเยอะ เช่นกว่าปชชจะใส่เสื้อกันก็ยุค ป.โน่น (ถึงข้าราชการจะใส่เข้าเฝ้าแล้วก็เหอะ) หรือการเลิกทาสก็ใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะเลิกได้จริง คือถ้าฝรั่งมันหน้าด้านเท่าที่เราๆด่ามันกูว่าไม่เหลืออ่ะ แม่งแค่อ้างว่าที่พัฒนาคือมึงตอแหล เสร็จแล้วรวมหัวกันขนเรือปืนเข้ามา อ้างช่วยพัฒนาชีวิตปชชคนไทย แค่นี้จะทำไรได้วะ

694 Nameless Fanboi Posted ID:UrLouzC+rF

>>685 ในทางปวศ.และการเมืองก็พูดแบบนั้นจริงๆ นะ ถ้าจิ๋นซีนไม่เผาตำราฆ่าบัณฑิต สร้างระบบอักษรและชั่งตวงวัดให้เป็นหนึ่งเดียวก็คงไม่มีจีนเดียวทุกวันนี้ เพราะนี่ละคือต้นกำเนิดนโยบายรวมศูนย์อำนาจและจีนเดียวของจีน

>>692 อย่างที่กูบอกมาตลอด ถ้าสยามไม่พยายามแผ่อิทธิพลและใช้การเจรจาคงไม่ได้พื้นที่ภาคเหนือมาครอบครอง เพรสะถ้าเจ้าเมืองเหนือเลือกอังกฤษกรือฝรั่งเศส สยามก็ได้แต่ก้มหน้ารับอย่างเดียวนั่นละ

ส่วนสงครามโลกนี่ต้องถามเหรอ อยู่ข้างอังกฤษและฝรั่งเศสแน่นอนสิ ตอน WW II เผลอๆ ไทยจะทำสงครามกับล้านนาด้วยซ้ำ

695 Nameless Fanboi Posted ID:UXrbW.jiI9

>>694 มันไม่ได้พูดแบบอีแหวนในเรื่องอ่ะ กลางๆคือยอมรับว่าเป็นทั้งมหาราชและทรราช แต่ถ้าคนด่าถึงด้านทรราช มันก็ไม่มีใครลุกขึ้นมาดิ้นขนาดนั้นหรอก แล้วด้านที่เป็นมหาราชก็ไม่ได้ฟันธงถึงขั้นว่า ถ้าไม่มีแล้วจะไม่มีชาติ ด้วย เพราะจริงๆหลังยุคจิ๋นซีมันก็มียุคแบบฮั่น ที่สามารถรวมคนเป็นชาติได้โดยไม่ต้องกดขี่ขนาดนั้นอยู่

696 Nameless Fanboi Posted ID:Kf0.YHyvpV

ทำไมเจ้าล้านนาสมัยนั้นไม่สู้ ปล่อยให้ยึดเอาง่ายๆ

อังกฤษกับสยามไปเซ็นสัญญาบอกกล่าวกัน ระบุว่าล้านนาเป็นส่วนนึงของสยามโดยที่ล้านนาไม่รู้เรื่องด้วย แล้วก็มาเคลมเอาง่ายๆ ทำไมไม่ลุกฮือฮึกเหิมเหมือนลูกหลานล้านนานักวิชาการสมัยนี้เลย แบบนี้ลูกหลานล้านนาเสียจัย แทนที่จะได้พาช้างเข้าป่าลากซุงขายไม้สักกินตามขนบล้านนา กลายเป็นว่าต้องทำเงินจากท่องเที่ยว ดูแลพวกสยามซะนี่ เศร้า

697 Nameless Fanboi Posted ID:UXrbW.jiI9

>>696 งั้นทำไมสยามไม่สู้กับพวกฝรั่งบ้างละ จะได้ไม่ต้องเสียดินแดน ปชชในเขตแดนที่เสียก็ไม่ต้องไปอยู่กับปทอื่น หรือถ้าย้อนไกลหน่อย ทำไมยอมส่งบรรณาการให้จีนโดยไม่โต้แย้งซักแอะ เอาตราเขามาใช้นี่มันอยู่สถานะเจ้าประเทศราชป่ะ แบบนี้จะว่าเป็นเอกราชได้ไง

698 Nameless Fanboi Posted ID:.tC1TpmBOS

>>698 เพราะคนไทยกาก รบกับใครก็แพ้ ไงล่ะ ทหารไทย รบกับใครก็ไม่ชนะ เวียตมาตี ต้องไปเลียจีนให้ช่วย ลาวมาตี ไปเลียเมกา ให้มาช่วย
ตู่ก็กาก โดนจับตัวไปได้ไงว้า เป็นนายพลแท้

699 Nameless Fanboi Posted ID:jQxyrg9g50

>>696 เอาลูกเอาหลานเขามาเป็นตัวประกันนี่นะ
ตอนสยามทำสัญญากับอังกฤษข้ามหน้าเชียงใหม่ เจ้ากาวิโลรสเพิ่งช้ำใจตายเพราะโดนกรุงเทพหักหลังนั่นไง ตอนทำสัญญาซ้ำก็เอาเจ้าดารามาเป็นตัวประกันเพิ่มอีก ถามว่าพยายามครอบงำรอบแรกสำเร็จไหม ก็ดูว่าปราบกบฎพญาผาบได้แต่ต้องยอมถอนระบบภาษีใหม่กับเสนาหกออกไปนั่นไง มาสำเร็จหลังจากอังกฤษกับฝรั่งเศสตกลงแนวกันชนเรียบร้อย
ถ้าอยากจะอ้างว่าร.5เจรจาดึงเยอรมันกับรัสเซียมาคานอำนาจ อังกฤษกับฝรั่งเศสคุยกันเสร็จออกปฏิญญาตั้งแต่ก่อนร.5ไปยุโรปแล้ว ต้องถามว่าคานอำนาจยังไงให้เสียฝั่งขวาแม่น้ำโขงเพิ่มไปอีก

700 Nameless Fanboi Posted ID:JTo.GMsiPj

>>695 ฮั่นมันก็ยึดหลักปกครองตามฉินนั่นแหละ แค่ไม่ได้ถึงขั้นฆ่าปราชญ์ เผาหนังสือ คนมันชินจากสมัยฉินแล้วเลยไม่ด่าอะไร อย่างน้อยก็ดีกว่าตอนที่แตกเป็น 7 แคว้น

701 Nameless Fanboi Posted ID:S885ttzt8D

>>699 คณะร่า นก็เอาเจ้าเป็นตัวประกันตอนปฏิวัติ​นะ

702 Nameless Fanboi Posted ID:tVch8LjZk6

>>701 ควย​ รอยัลลิสต์เกือบทั้งแก๊ง​ ทำครึ่งๆกลางๆกูว่าไม่ทำดีกว่า​ สภาพแบบนั้นปล่อยบริหารต่อก็พังไปเองไม่น่ารอดถึงWW2

703 Nameless Fanboi Posted ID:kNKFzTDFa6

>>697 บรรณาการจีนมีผลอะไร ไทยไม่ใช่ประเทศที่ถือศักดิ์ศรีมากกว่าผลประโยชน์ ก้มหัวให้แล้วฟันกำไรหัวแตกจนจีนต้องส่งหนังสือมาห้ามนี่ยังจะด่าอีกเหรอ

>>698 ตอนเวียดนามต้องบอกว่าไทยเก่งนะ ใช้ล้อมเว่ยช่วยจ้าวได้ทันเวลามาก ตอนลาวไทยชนะนะ แต่มีคนโง่ออก TV สงบศึกทั้งที่ขยายผลต่อได้

704 Nameless Fanboi Posted ID:UXrbW.jiI9

>>703 แต่บอกว่าภูมิใจที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นฝรั่ง แล้วกู้เอกราชจากพม่าอะนะ

705 Nameless Fanboi Posted ID:.tC1TpmBOS

>>703 ต้องเรียกว่าหมาหมู่เรากล้า ตัวต่อตัวเราขลาด มากกว่า ทั้งที่ประเทศด้อยกว่าเราเยอะ ดันรบแพ้ เลยต้องไปเลียจีนให้ช่วย

พอมานั่งนึก ตั้งแต่ร.1 มา ระบบทหารเรา ไม่เอาไหนมากๆเลย ตีใครก็แพ้ ไม่งั้นต้องสามัคคีชุมนุม

706 Nameless Fanboi Posted ID:UXrbW.jiI9

>>703 ถ้าบอกว่ายอมส่งให้จีนเพราะกำไรเยอะ แสดงว่าที่ตีกับพม่าจนก่อสงครามนี่ก็แค่เพราะกำไรไม่เยอะเท่าจีน? แบบเงินซื้อกูไม่ได้ ถ้าไม่มากพอ ป่ะ

707 Nameless Fanboi Posted ID:UXrbW.jiI9

>>705 เราเคยไปตีใครแล้วชนะด้วยเหรอว่ะ ไกลสุดก็นเรศวรล่ะมั้ง ก็ไม่ได้ชนะขาดแบบบุเรงนองหรือมังระนะ

708 Nameless Fanboi Posted ID:tVch8LjZk6

>>703 ที่ว่าฟันกำไรหัวแตกนี่กำไรเข้าที่ไหนนะ​ ไม่น่าใช่ปชช​ เท่าที่อ่านมากูไม่รู้สึกว่าชีวิตคนทั่วไปในสมัยอยุธยากับกรุงเทพต้นๆจะมีการพัฒนาอะไรเป็นพิเศษ

709 Nameless Fanboi Posted ID:egYc6asOxY

>>705 ถ้าหมายถึงเวียดนามตอนนั้นโซเวียตจัดเต็มด้านอาวุธนะ แถมส่งคนมาเป็นที่ปรึกษาทางยุทธวิธีด้วย ขณะที่อเมริกาทิ้งฐานทัพในไทยไปแล้ว

710 Nameless Fanboi Posted ID:TfxbZR/N8+

>>704 ตอนนั้นมีแค่ไม่กี่ประเทศที่รอด ก็ควรภูมิใจอยู่นะ

>>705 ตอนเวียดนามที่พูดนี่คือสงครามเวียดนามใช่มั้ย คุยกันให้ตรงก่อน ไม่ใช่สมัยไดเวียด ถ้าตอนสงครามเวียดนามทางนั้นเหนือกว่านะ ทหารเวลเยอะ ของโซเวียดจัดเต็ม ไทยเหนือกว่าแค่ตั้งรับแค่นั้นละ แต่ทางผ่านจากเขมรมันเป็นทางเรียบ บุกสบายมาก

>>706 เราตีกับพม่าเพื่อการค้านั่นละ ไทยต้องการท่าเรือฝั่งอันดามันเลยไปตีเมืองมอญ พม่าก็ต้องการมอญเพื่อขยายอำนาจ เราเริ่มจัดแย้งกันตรงนี้ สมัยก่อนส่วนใหญ่แล้วการทหารไทยอ่อนกว่าพม่า แต่ไทยค้าขายเก่งกว่าเลยเจริญกว่า เอาจริงแล้วสงครามไทยพม่า 99% พม่ารุกได้เพื่อมากดเงินนะ ไทยแทบไม่เคยบุกก่อนเลย มีแต่ตีสวนกลับ จำไม่ผิดมีแค่สมัยพระนารายน์มั้งที่บุกก่อนเพราะรวยจัดของเต็มแม็กซ์

>>707 กับพม่าคือพระนารายน์ แต่ด้านเหนือกับตะวันออกไทยชนะตลอด สงครามไทยเวียดนามสมัยไดเวียดไทยก็ชนะ

>>708 ก็รัฐสิ สมัยก่อนมันเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว อย่างเจิ้งเหอค้าเดินเรือ 7 ครั้งได้กำไรจากการค้ามหาศาล รู้มัยเงินเข้าใคร เข้าวังเพียวๆ รวยจนเกือบชนะมองโกลขาดเลย ถ้าหลานไม่โง่คงไม่เละ

711 Nameless Fanboi Posted ID:tVch8LjZk6

>>710 สรุปแล้วเกณฑ์คนไปฆ่ากันเพื่อเงินล้วนๆ​ มีอะไรให้ภูมิใจเหรอ

712 Nameless Fanboi Posted ID:.tC1TpmBOS

>>711 ก็ปกตินะ มีผลประโยชน์ก็ต้องแย่งชิงกันเป็นปกติ คิดว่าคนอังกฤษ กับ ฝรั่งเศส จะภูมิใจสมัยล่าอาณานิคมไหมล่ะ
การที่พยายามเอายุคสมัยที่มีเรื่องสิทธิมนุษยชน ไปตัดสินสมัยที่ยังไม่มี มันแปลกๆนะ กับตรรกะ

>>710 แสดงว่า กูยังศึกษาไม่เพียงพอ ไม่นึกถึงส่วนนี้เลยแฮะว่ารัซเซียมีเอี่ยวด้วย ยอมรับว่า ฟังผ่านๆมา แต่บางทีก็อดตัดสินไม่ได้ว่า ท. ก็ไม่ได้เรื่องอยู่ดี

713 Nameless Fanboi Posted ID:5KLF9ALFk8

>>711 คําพูดสุดเอจจี้คลาสสิค

714 Nameless Fanboi Posted ID:tVch8LjZk6

>>712 อังกฤษฝรั่งเศสมันภูมิใจเหรอ​ ก็ไม่นะ แล้วนี่ไม่เกี่ยวกะสิทธิอะไรเลย​ แค่เหตุผลพื้นๆว่าเกณฑ์บรรพบุรุษกูไปฆ่ากันเพื่อเงินนี่จะให้กูภูมิใจไปทำไม

715 Nameless Fanboi Posted ID:jQxyrg9g50

>>710 อ้างเจิ้งเหอ แต่ดูในฎีกาขอให้ยุบกองเรือนี่ระบุว่าได้กำไรไม่คุ้มค่าบำรุงรักษา ออกเรือแต่ละครั้งสิ้นเปลืองทั้งเงินทั้งแรงงาน ควรเอามาพัฒนาบ้านเมืองให้เป็นประโยชน์กับราษฎรมากกว่า นะ
แต่ก็เหมาะกับประเทศที่ชอบอ้างว่าต้องซื้ออาวุธไม่ให้ขาดเพื่อข่มเพื่อนบ้านดี

716 Nameless Fanboi Posted ID:TfxbZR/N8+

>>715 ก็กำไรมันเข้าวังไม่ได้เข้าขุนนางหรือชาวบ้าน แล้วมึงอย่าเชื่อลมปากขุนนางมาก มึงต้องดูสภาพแวดล้อมประกอบด้วย ถ้าเดินเรือแล้วจนจริงทำใมหย่งเล่อถึงสร้างอภิมหาโครงการได้ขนาดนั้นละ

ดูอย่างสุยหยางตี้ ขุดคลองกับบุกเกาหลี 3 ครั้งประเทศอดอยากจนสิ้นแผ่นดิน หย่งเล่อทั้งขุดคลองเพิ่ม ตีมองโกล 3 ครั้ง เดินเรือ 7 ครั้ง ต่อเติมกำแพงเมืองจีน ย้ายเมืองหลวง ขยายทหาร ฯลฯ ก็ยังไม่สิ้นชาติ ประชาชนไม่อดอยาก ทั้งยังเหลือเงินทุนให้หลานไปผลาญเล่นที่ป้อมถู่มู่อีก มึงคิดว่าเงินมาจากไหนละ

717 Nameless Fanboi Posted ID:5KLF9ALFk8

คือพวกมึงคุยสมัยไหนกันวะ ตามอ่านแล้วหงุดหงิดชิบหาย คืออิงมาเป็นปีๆให้มันชัดๆไปเลย แม่งวนตั้งแต่ยุคจักวรรดิยันยุคสงครามเย็น คือควรแยกกันถ้าอยู่คนละสมัยกันเพราะนโยบายต่างประเทศในแต่ละสมัยมันตีความคัาว่าผลประโยชน์ต่างกันเลยสัส มึงจะมาปนกันไม่ได้ ไอเหี้ยกูนึกว่าเล่นเกมCivilization 🤕🤮🙄🙄🙄

718 Nameless Fanboi Posted ID:jQxyrg9g50

>>716 ไม่ให้เครดิตการปฏิรูปที่ดิน-ภาษีของจูหยวนจางเลยว่างั้น เงินที่หย่งเล่อเอามาสร้างกองเรืองวดแรกมาจากไหนล่ะ ถ้ามันกำไรดีซวนเต๋อจะให้เลิกทำไมทั้งที่ยุคซวนเต๋อนี่เป็นจุดพีคสุดของหมิงแล้ว

719 Nameless Fanboi Posted ID:Pq779I4Y.k

กรณีจีนยังพอเห็นภาพนะว่าถ้าไม่รวมแผ่นดินมันอาจจะมีไอ้พวกนอกด่านเข้ามาละเลงจนเละ แบบที่เป็นอยู่ในบางยุค แต่ของแถวนี้กูเห็นแม่งมีแต่หงสา/อังวะ กับอยุธยานี่แหละที่คอยทำตัวมาเฟียแย่งกันรวบเมืองต่างๆเข้ามาอยู่ในอำนาจ เสร็จแล้วก็เขม่นกันกัดกัน ก่อสงครามคนก็ตายมหาศาล แต่พอชนะสงครามขนเงินทองขนคนเข้ามาให้ชนชั้นปกครอง ถ้ามาบอกปกติของยุคนั้นก็พอเข้าใจหรอก แต่มาเสือกให้กูภูมิใจด้วยสำนึกบุญคุณห่าไรด้วย ถามหน่อยเพื่ออะไร

720 Nameless Fanboi Posted ID:TfxbZR/N8+

>>718 เวลาห่างกันตั้งกี่ปี ทั้งยังมีสงครากลางเมืองมาคั่นอีก หย่วเล่อครองราชหลายปีกว่าจะเริ่มสร้างเริ่มออกเรือ ให้เครดิตการเงินยุคหย่งเล่อหน่อย แล้วหลังจากนั้นกองเรือนี่ก็สร้างเงินตลอด ถ้าบอกว่ากำไรดีทำใมถึงเลิก มึงดู 30 บาทบ้านเราก็ได้ มันขัดผลประโยชน์กับกลุ่มขุนนาง แล้วเซวียนเต๋อนะได้บุญจากหย่งเล่อทั้งนั้น

721 Nameless Fanboi Posted ID:Pq779I4Y.k

>>720 มีบันทึกหลักฐานมั้ยว่ากำไรเยอะจริง ปีนึงๆรายได้มาจากหลายทางจะพูดเองเออเองว่าอันนี้กำไรเยอะไม่ได้หรอก

722 Nameless Fanboi Posted ID:pATG0hqCQ7

>>720 -หย่งเล่อครองราชย์ 17กค1402
- หย่งเล่อมีโองการต่อเรือ200ลำ 4กย1403 สั่งต่อเพิ่มอีก50ลำ 1มีค1404
สรุปเงินใคร? หย่งเล่อหาเงินมาต่อเองได้ในเวลาปีกว่า?
-ออกเรือครั้งแรก 11กค1405
-ออกเรือครั้งสุดท้าย 19มค1431 กลับปักกิ่ง22กค1943
28ปีออกเรือได้แค่7เที่ยว กำไรที่ได้มานี่คุ้มค่าบำรุงรักษาเรือ250+ลำจริงเหรอ?

723 Nameless Fanboi Posted ID:jQxyrg9g50

>>720 อ่ะ เสริมอีกนิด ถ้ามันกำไรดีจริงทำไมหย่งเล่อสั่งเบรคเจิ้งเหอไม่ให้ออกเรือแล้วหลังจากออกเรือเที่ยวที่6 ปี1421ล่ะ หลังจากนั้นกองเรือมหาสมบัติโดนดองยาวจนซวนเต๋อให้ออกเรืออีกรอบปี1431 แต่พอกลับมาแล้วก็รับฎีกาสั่งยุบกองเรือเลย สรุปคุ้มจริงเหรอ

724 Nameless Fanboi Posted ID:xaNyHTCqJ3

>>721 ดูจากสภาพแวดล้อมที่มีโครงการใหญ่มากมายอย่างไม่เคยมีมาก่อนในรัชกาลเดียวนั่นละ

>>722 มันมียุคเจี้ยนเหวิอนคั่นอยู่ 5 ปี แล้วก็มีสงครามเกือบตลอด เงินในสมัยนั้นก็ต้องนับเป็นเงินสมัยหย่งเล่อนั่นละ

ระดับการค้าสมัยก่อนไม่ใช่กำไร 10-20% นะ 2,000% ยังมี กองเรือสมบัติตอนนั้นแทบจะผูกขาดการค้าในเส้นทางนั้นเลย เพราะเอกชนสู้ไม่ได้ อีกทั้งกองเรือยังทำตัวขูดรีดรัฐรายทางอีก อย่างศรีลังกาตอนนั้นไม่อ่อนข้อก็เปลี่ยนรัชกาลเลย ได้รับสมบัติอีกไม่รู้เท่าไหร่

>>723 อย่างที่กูบอก เมื่อชนชั้นนำไม่ได้ประโยชน์จะเก็บไว้ทำใม หย่งเล่อสะกดชนชั้นนำได้หมดเพราะเด็ดขาดและฆ่าฟันไม่ยั้งเหมือนพ่อ แต่ฮ่องเต้ยุคหลังถูกเลี้ยงดูแบบหยูมากไป ขุนนางเลยกล่อมฮ่องเต้ได้ ราชวงศ์จีนส่วนใหญ่เละก็เพราะแบบนี้บะ

อย่างอ่านเรื่องผลทางการค้าหาอ่านในนี้ดู

https://en.m.wikipedia.org/wiki/Ming_treasure_voyages
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Diplomacy_and_commerce_during_the_Ming_treasure_voyages

725 Nameless Fanboi Posted ID:pATG0hqCQ7

>>724 คือจะบอกว่าเจี้ยนเหวินเผาเงินคงคลังที่จูหยวนจางสั่งสมมา30ปีหมดในเวลา4ปี13วันที่ครองราชย์ แล้วหย่งเล่อใช้เวลาไม่ถึง2ปีปั่นเงินคงคลังจนสร้างกองเรือมหาสมบัติ ซึ่งในเวลา16ปีก็สร้างกำไรมหาศาลพอที่จะมีเงินคงคลังเหลือไปถึงตอนที่อิงจงเอาไปละลายที่ป้อมถูมู่ใน28ปีให้หลัง? แต่ทั้งที่ได้กำไรดีขนาดนี้แถมไม่แคร์ขุนนางหย่งเล่อกลับสั่งเบรกไม่ให้ออกเรืออีกหลังปี1421 ทั้งที่เจิ้งเหอก็ถวายฎีกาขอออกเรืออีกอ่ะนะ?
แล้วซวนเต๋อนี่เป็นฮ่องเต้สายนิยมขันที อนุมัติให้เจิ้งเหอออกเรืออีกรอบท่ามกลางเสียงคัดค้านของขุนนาง แต่ออกเรือได้รอบเดี๋ยวก็สั่งยุบกองเรือ ทั้งที่ได้กำไรมหาศาล2000%อ่ะนะ?
ที่เอามาแย้งนี่ในลิงค์ที่แปะก็บอกไว้นะ ได้อ่านไหม

726 Nameless Fanboi Posted ID:GPZ41/hqCj

ร่วมกันแสวงหาความพอดีใหม่ ไม่หยุดกิจกรรมแต่ปรับวิถีชีวิต ไม่หลบอยู่บ้าน ...Lockdown ไม่เป็นประโยชน์ ทุกคนต้องใช้ชีวิตไม่ใช่นอนอยู่บ้านอดทำมาหากิน ปฏิเสธคำสั่งให้กักตัวอยู่บ้านอีกรอบ ผู้ใหญ่ต้องทำงาน เด็กต้องเรียนหนังสือ คนต้องออกไปใช้ชีวิตกับเพื่อนร่วมโลก ออกกำลังกาย มีชีวิต ดำรงชีพ เว้นระยะพร้อมใส่หน้ากากและล้างมือก็พอ ที่เหลือให้อิสระคนใช้ชีวิต โรคนี้ติดง่ายแต่ไม่อันตราย อัตราการรอดอยู่ที่ 99.7% เลิกกลัวได้แล้ว โอกาสเป็นหนักและตายน้อยมาก คนส่วนใหญ่ที่ติดไม่เป็นอะไรเลยด้วยซ้ำหรือไม่ก็รักษาหายได้ ชีวิตมนุษย์ต้องเดินไปข้างหน้าไม่ใช่ปล่อยให้ความกลัวนำแล้วให้มันเปลี่ยนชีวิตเราอย่างนี้

มิตรสหายท่านหนึ่ง

727 Nameless Fanboi Posted ID:G.PL3Xpy1v

>>710 ไม่รอด เราตกเป็นเมืองขึ้นทางความคิด การที่ร5ต้องปฏิรูปนู่นนั่นนี่ รวบอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง คือการล่าอาณานิคมภายในประเทศ
ถามจริงถ้าเป็นคนล้านนาจะบอกว่าตัวเองรอดพ้นหรอในเมื่อมึงถูกสยามผนวกอะ

728 Nameless Fanboi Posted ID:xaNyHTCqJ3

>>725 คงไม่ถึงกับหมด แต่น่าจะลดลงเยอะเพราะทำศึกแพ้ซะขนาดนั้น แล้วกูไม่ได้บอกว่าจูหยวนจางไม่มีส่วนเลยนะ เงินต้นเอามาจากท้องพระคลังจริง แต่การค้าของเรือสมบัติทำให้หมิงมั่งคั่งอย่างมาในสมัยหย่งเล่อ

กูก็อธิบายแล้วไงว่ามันขัดประโยชน์ชนชั้นขุนนาง ในนั้นก็บอกนะว่าการค้าขายทำให้จีนได้วัตถุดิบจากเส้นทางการค้ามสพัฒนาอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจในประเทศ ความรุ่งเรืองของหมิงยุคหย่งเล่อมีรากฐานจากตรงนี้

แล้วมึงให้ค่าขุนนางจีนมากไป ดูยุคใกล้อย่างชิงก็ได้ ของมีประโยชน์แค่ไหนก็ค้านเพราะขัดผลประโยชน์ รถไฟยังสร้างไม่ได้เลย ทั้งที่รู้ว่ามีประโยชน์ขนาดไหนนะ ไม่ต่างจากกองเรือสมบัติหรอก

>>727 ถ้ามึงจะนับงั้นว่าตกเป็นเมืองขึ้นทางความคิด ทั้งโลกก็เป็นเมืองขึ้นหมดละ ถ้าไม่อยากเป็นเมืองขึ้นทางความคิดก็ต้องห้ามใช้ทุกอย่างจากต่างประเทศเลยสิ xenophobia ไปป่าววะ

ถ้าล้านนานับว่าตัวเองเป็นคนไทยก็จะบอกว่ารอดพ้น ถ้าไม่นับก็คือไม่รอด

729 Nameless Fanboi Posted ID:jQxyrg9g50

>>724 ขอเสริมอีกนิดให้พวกเบียวเจิ้งเหอ
- การค้าเครื่องเทศของดัตช์ที่ว่ากำไรหนักหนา ราคาขายเครื่องเทศแทบจะเท่ากับทอง(ซึ่งไม่จริง)ช่วงพีคสุดยังได้กำไรต่อเที่ยวแค่400% เจิ้งเหอกำไร2000%นี่ขายอะไรวะ
-เช่นกัน VOC ของดัตช์ช่วงพีคๆยังมีเรือแค่ราว200-300ลำ แถมเป็นเรือcarrackขนาดอย่างมากแค่150ฟุต เรือมหาสมบัติเจิ้งเหอมี250ลำ ขนาดขั้นต่ำ160ฟุต ใหญ่สุด450ฟุต ค่าบำรุงรักษามันจะเท่าไหร่
-เรือยุโรปหลังปี1450ใช้ใบสามเหลี่ยม แล่นสวนลมได้ ทำรอบไปกลับได้มากกว่าไม่ต้องรอฤดูลมมาก ช่วงท้ายๆของVOCพอโดนEICเข้ามาแข่ง กำไรเครื่องเทศหดยังติดตัวแดงเพราะoperation costเลย แล้วเรือสำเภาที่เที่ยวนึงใช้เวลาปีกว่ามันจะต้องมีรายได้ต่อรอบเท่าไหร่ถึงจะคุ้มทุนรายจ่าย

730 Nameless Fanboi Posted ID:jQxyrg9g50

>>728 ยังติดค้างคำอธิบายว่าหย่งเล่อกำหราบขุนนางอยู่หมัด กองเรือสมบัติก็ได้กำไรมหาศาล แล้วทำไมหย่งเล่อสั่งหยุดออกเรือเองในปี1421
แล้วซวนเต๋อก็ไม่ได้ฟังขุนนาง(เป็นสายนิยมขันที เพิ่มอำนาจให้ขันทีเป็นขุนนางสูงกว่าระดับ4ได้ แถมไว้ใจให้ดูแลตงฉ่างอีก) สั่งให้เจิ้งเหอออกทะเลอีกรอบ แต่ทำไมกลับมาแล้วถึงสั่งยุบกองเรือ?

ฮ่องเต้ที่เข้มแข็ง เป็นยุคทองของหมิง ไม่สนใจขุนนาง กลับสั่งเลิกกองเรือมหาสมบัติทั้งที่ตัวเองก็เป็นคนริเริ่มโครงการ(และเริ่มรื้อฟื้น) ถ้ากองเรือมันคุ้มจริงจะเลิกทำไม

731 Nameless Fanboi Posted ID:xaNyHTCqJ3

>>729 จำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นโคบอลต์หรือไม่ก็สารอะไรซักอย่างแถวตะวันออกกลางนี่ละ เพราะไม่มีในจีน ยุโรปก็ต้องการ ราคาแพงมากเหมือนกัน แต่อันนี้กูแค่ยกตัวอย่าง ประเด็นสำคัญคือกองเรือมันผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมาก ในนั้นก็บอกอยู่

การขาดทุนของ VOC เกิดจากการแข่งขันอย่างรุนแรงกับ EIC ซึ่งมึงก็บอกเอง แต่ตอนนั้นจีนแทบผูกขาดเส้นทางการค้าไปถึงแแฟริกาตะวันตก แน่นอนว่าต้องมีค่าใช้จ่ายอย่างตามรายทาง แต่เมื่อไม่มีคู่แข่งการตะมีกำไรก็ไม่แปลก

>>730 ลิงค์ที่กูยกมาก็มีเขียนอยู่นะ ถึงจะไม่มีใครรู้รายละเอียดโดยตรง แต่คาดการณ์ว่าเพราะการค้าที่เฟื่องฟูมากเกินไปลดอิทธิพลของรัฐบาลกลาง ด้วยรัฐจารีตเข้มข้นอย่างจีน เรื่องนี้ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง อันนี้น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้หย่งเล่อยกเลิกไป แล้วที่ฟื้นมาอีกครั้งน่าจะเพราะการผลักดันของเหล่าขันที แต่เมื่อกำลังของขุนนางกล้าแข็งกว่า กลุ่มขันทีจึงออกเรือได้แค่ครั้งเดียว

อันนี้กูอยากจะบอกแต่แรก มึงเอาเอาความคุ้มค่าในมุมมองคนปัจจุบันไปใส่จีนยุคจารีตไม่ได้ จีนยุคจารีตหยูเป็นะวกคร่ำครึขวางโลกและไม่แคร์ทุนนิยมมาแต่ไหนแต่ไร สิ่งแรกๆ ที่ถูกประณามว่าเป็นสาเหตุให้จีนด้อยพัฒนาในขบวนการ 4 พฤษภาคือขงจื๊อ และเป็นงั้นเรื่อยมาจนพึ่งมารื้อฟื้นในไม่กี่ปีให้หลังมานี่เอง

732 Nameless Fanboi Posted ID:pRWHWC8IBv

>>731 อ่ะ ขอไล่ประเด็นนะ
>>710 บอกว่ากองเรือเจิ้งเดินเรือ7ครั้ง “ได้กำไรมหาศาล” แต่เอกสารชั้นต้น(ถึงจะเป็นขุนนางใ่ายตรงข้ามเจิ้งเหอ)บอกว่าได้ของแปลกพิสดารกลับมา แต่กำไรไม่คุ้ม
>>715 บอกว่าอย่าฟังขุนนางมาก ถ้ากองเรือไม่ได้กำไรหย่งเล่อจะเอาเงินมาจากไหนมาทำโปรเจกต์ แย้งว่ารายได้เพิ่มขึ้นมาจากการปฏิรูปของจูหยวนจาง
>>720 บอกว่าหย่งเล่อครองราชย์”ตั้งหลายปี”กว่าจะสร้างกองเรือ ข้อเท็จจริงคือแค่ปีเศษก็สร้างกองเรือแล้ว
>>724 บอกว่า”การค้าเมื่อก่อน”มีกำไร2000% แต่ขนาดแบกเครื่องเทศเต็มลำเรือยังได้กำไรแค่400% ก็ต้องถามแล้วว่าบรรทุกสินค้าอะไร-ซื้อสินค้าอะไรกลับมา(ไม่รับว่าหลักฐานชั้นต้นคือบอกว่ามีของแปลกพิสดารมากมาย แต่ไม่ได้กำไรคุ้มค่า)

ถ้าจะโทษว่าขุนนาง+คติหยูต่อต้านกองเรือ คนที่สั่งเลิกสั่งยุบกองเรือก็เป็นฮ่องเต้ที่กดหัวขุนนางได้+ไม่เอาหยูทั้งนั้น(หย่งเล่อหนักพุทธ ซวนเต๋อหนักเต๋า)

คือถ้าจะบอกว่าการมีกองเรือมหาสมบัติมีประโยชน์ในแง่projection of powerนี่ไม่เถียงนะ แต่ถ้าบอกว่าได้กำไรมากมาย หลักฐานชั้นต้น+หลักฐานเปรียบเทียบมันชี้ว่าไม่ใช่อ่ะ (ค่าmaintainaceมันมากไป ง่ายๆเลยคือในระหว่างการออกเรือครั้งแรกกับครั้งที่6 ในระยะเวลา16ปีต่อเรือใหม่86ลำ แต่ขนาดกองเรือสูงสุดคือ255ลำ จากตั้งต้นตอนแรก250ลำ แสดงว่าในช่วง16ปีนี่ปลดระวางเรือไปอย่างน้อย81ลำแล้ว ถามว่าแปลกไหมก็ไม่แปลกหรอก เพราะยิ่งเรือใหญ่ แรงเค้นเวลาเจอคลื่นมันจะดันกลางเรือให้โก่งมาก(ตัวอย่าง https://www.marineinsight.com/wp-content/uploads/2014/10/hull-break-elli.jpg) เรือมหาสมบัติมี9เสา ยาว450ฟุตยิ่งหนัก)

733 Nameless Fanboi Posted ID:pRWHWC8IBv

แถม เครื่องปั้นดินเผาที่ใช้sumaliqing(samarra-blue สีน้ำเงินจากแร่โคบอลต์ที่มีเหล็กเจือปน)มีใช้มาตั้งแต่สมัยหยวน เจิ้งเหอเอา suboliqing(sumatra-blue)เข้ามา
แต่จุดพีคของเครื่องลายครามสมัยหมิงคือการผสมระหว่างshijiqing(mineral-blue แร่โคบอลต์จากเจียงซี มีแมงกานีสสูงเหล็กต่ำ)กับhuiqing(muslim-blue มาจากเอเชียกลาง ซินเกียง ยูนนาน)แล้วได้สีน้ำเงินเหลือบม่วง
https://www.christies.com/features/Shades-of-Blue-Subtle-Differences-in-Chinese-Blue-and-White-Porcelain-8954-1.aspx

734 Nameless Fanboi Posted ID:9ClM2jg.Cc

>>732 มึงตอบให้ได้ก่อนดีกว่าว่ากำไร 2000% มึงไปเอาเลขมาจากไหน VOC นี่ถ้าเทียบค่าเงินปัจจุบัน คือรวยกว่าแอปเปิ้ลกับวินโดว์รวมกันมันยังไม่ได้กำไรขนาดนั้นเลย

735 Nameless Fanboi Posted ID:9ClM2jg.Cc

อ๋อกูอ่านพลาด มันคืออีกคนนี้หว่าที่บกอว่ากำไร 2000% เคๆๆ

736 Nameless Fanboi Posted ID:NX/drXV.yW

เจิ้งเหอมันไม่ได้เอาไว้ทำกำไร แต่ภารกิจหลักคือเอาไว้อวดเบ่งชาวบ้านไม่ใช่เรอะ เหมือนจิ้มก้องนั่นแหละ ถือว่าตัวเองยิ่งใหญ่สุดในโลก เวลาได้ของขวัญจากประเทศอื่นก็ต้องให้ของขวัญที่มีค่ามากกว่ากลับไป

จิ้มก้องเอาไว้อวดเบ่งประเทศใกล้ๆที่รู้จักกันอยู่แล้ว แต่กองเรือสมบัติเอาไว้อวดเบ่งใส่ประเทศที่ยังไม่รู้จักจีนว่ากูรวย เอาผ้าไหมไปแลกม้าลายยีราฟเงี้ย

737 Nameless Fanboi Posted ID:TeX8m1Maok

>>732 เรื่องขุนนางถ้ามึงศึกษาดูจริงๆ มันจะมีข้อขัดแย้งกันอยู่หลายอย่าง เพราะเป็นมุมมองจากระดับบนสุด ไม่ใช่ระดับชาวบ้าน อย่างพริกไทยดำ สมัยหย่งเล่อเป็นยัคสมัยเดียวในตอนนั้นที่ชาวจีนมีพริกไทยดำเป็นของประจำบ้านในระดับชาวบ้าน เพราะการค้าขายเจริญมากจนของแพงกลายเป็นของถูก แต่ขุนนางจะบันทึกว่าไม่มีประโยชน์ มึงควรพิจารณาจากสภาพแวดล้อมทางสังคมประกอบด้วย

ในลิงค์ที่กูเอามาลงบอกชัดเจนว่าจากความเห็นของคนที่ศึกษาหลายคน บอกตรงกันว่าการคลังหมิงหล่อเลี้ยงกองเรือได้ ไม่ได้ตัวแดง ส่วนการยกเลิกเพราะอะไรนั้นเป็นการคาดเดา ไม่มีการบันทึกแน่ชัด ที่กูพูดอยู่นี่คือการวิเคราะห์ในยุคหลัง

>>736 แต่มันก็ได้กำไรจริงๆ นะ เพราะระบบการค้าที่ขึ้นกับจีนจากอำนาจของกองเรือตอนนั้น

738 Nameless Fanboi Posted ID:AxKpexa6Bf

>>737 งั้นมึง

739 Nameless Fanboi Posted ID:AxKpexa6Bf

>>737 งั้นมึงตีความผิดแล้ว การเงินการคลังของหมิงหล่อเลี้ยงกองเรือได้ =/= กองเรือสร้างกำไรทางเงินให้หมิง

มันแปลว่าหมิงมีรายได้ทางอื่นมากพอที่จะบาลานซ์ค่าบำรุงรักษาเรือยักษ์250ลำ+คนเรือ27kได้
ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะหน่วยทหารประจำการไหนๆมันก็กินงบอยู่เปล่าๆ แต่รัฐยังมีปัญญาเลี้ยงทั้งนั้น

740 Nameless Fanboi Posted ID:bd9RnXL5pv

>>737 การคลังหมิงหล่อเลี้ยงกองเรือได้ ไม่ได้ตัวแดง มันก็เหมือน การคลังไทยหล่อเลี้ยงการซื้ออาวุธได้ หรือ การคลังเมกาในยุคอวกาศ หล่อเลี้ยงNASAได้นั่นแหละ มันไม่เกี่ยวกับว่าไอ้การส่งกองเรือ/ซื้ออาวุธ/วิจัยยานอวกาศ จะทำเงิน แค่การเงินในตอนนั้นยังแบกไหวเฉยๆ ในทางกลับกัน ถ้าทำเงินจริงๆมันควรจะมีหลักฐานชัดเจนกว่านี้เยอะแยะ เอาง่ายๆถ้ากองเรือค้าขายทำเงิน แสดงว่าต้องขนของไปขายให้เค้ามากกว่าที่ซื้อมา ก็ต้องมีบันทึกถึงการขนสินค้าต่างๆจากวังไปขาย หรือถ้าขนทรัพย์สมบัติมาจากตปท มากจนกำไรมหาศาล ก็ต้องมีบันทึกถึงการขนของมีค่าพวกนั้นเข้าวัง

741 Nameless Fanboi Posted ID:loKbkKVXfT

>>739 ถามจริง ไม่เข้าไปอ่านที่กูลงให้เลยเหรอ ในนั้นก็บอกชัดอยู่นะ

Ray (1987) adds that the Ming treasure voyages were a profitable enterprise and rejects the notion that the voyages were terminated because they were wasteful, costly, or uneconomic

>>740 กูตอบข้างบนแล้ว เพิ่ใฃมให้ด้วยนะว่ามีหลักฐานหลายอย่างนะว่าการค้าสมัยนั้นรุ่งเรืองมาก บันทึกของอินเดียกล่าวถึงสินค้าจีนว่าขนลงเรือแล้วต้องใช้เวลาเป็นเดือนแค่ติดราคาสินค้า หมายถึงของเยอะมาจนนับไม่ไหว นี่แค่กองเรือนี้กองเรือเดียว ไม่นับกองเรือเอกชนที่ทำให้หมิงเก็บภาษีการค้าได้อีกเยอะ

742 Nameless Fanboi Posted ID:loKbkKVXfT

อีกนิดนะ หลักฐานนะมีอยู่ แต่ไม่ค่อยได้รับการแปลเป็นภาษาไทย ส่วนใหญ่ไทยรับจากปวศ.ทางการ ซึ่งเป็นการลอกมาจากบันทึกจารีตอีกที ไม่ได้มีการชำระด้วยมุมมองยุคปัจจุบัน

ในจีนและฝรั่งมีการเปลี่ยนมุมมองไปหลายอย่างแล้ว เพราะมีการวิพากษ์ปวศ.กันหลายรอบ แต่ไทยยังไม่อัพเดทแพทตรงนี้ก็เท่านั้น

743 Nameless Fanboi Posted ID:pRWHWC8IBv

>>741 มีแค่Haraptasad Rayคนเดียวนะที่อ้างว่าprofitable ต่อให้ไม่นับDuyvenak ที่เก่าปี1939 แต่FinlayกับDreyerก็บอกแค่not overburden
ปล. อ้างงานของHaraptasad Rayนี่คิดดีๆนะ งานของแกนี่มีcitationทางการคือในหนังสือเรื่องIndian OceanของM.N.Pearsonกับself-referenceรอบเดียวนะ ส่วนในwikiอ้างงานแก3บทความ โดยuserคนเดียว สัส

744 Nameless Fanboi Posted ID:O88fN0FzgD

>>743 พวกนิยมเจ๊ก/เจ๊กใส่ไอ้โม่งป่ะวะ ที่cherrypickหาunpopularเปเปอร์ที่บอกว่าได้กำไรมาแปะหลอกคนที่อ่านเป็นแต่วิกิ

745 Nameless Fanboi Posted ID:HymBjQjX.M

นิยามของความเสี่ยง

วันนี้ผมมีโอกาสได้รับเชิญไปคุยเรื่อง Bitcoin ในงาน Blockchain Thailand Genesis 2020 มีโอกาสได้พูดเรื่องของ Asset Allocation ว่าเราควรกระจายความเสี่ยงอย่างไร

ในทฤษฏี Modern Portfolio Theory แนะนำให้เราผสมผสานสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงและความเสี่ยงต่ำเข้าด้วยกัน ดังนั้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เราจะเห็นส่วนผสมของ Portfolio มักจะมีสินทรัพย์อย่างตราสารหนี้ หรือพันธบัตรรัฐบาลอยู่ใน Portfolio ในสัดส่วนที่สูง

เนื่องจากเหล่า Fixed Income เหล่านี้ ได้รับการการันตีแปะป้ายว่า "ความเสี่ยงต่ำ" กว่าสินทรัพย์อย่างพวกหุ้น หรือสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำ หรือ Bitcoin

นิยาม "ความเสี่ยง" ของนักการเงิน ที่นิยมใช้กัน คือเอาประวัติความผันผวนในอดีตมาคำนวน Standard Deviation แล้วสินทรัพย์ใดที่ผันผวนสูง จะสรุปได้ว่าเป็นสินทรัพย์ "เสี่ยงสูง" และสินทรัพย์ในที่ผันผวนต่ำ จะสรุปได้ว่าเป็นสินทรัพย์ "เสี่ยงต่ำ"

เรานิยมและยอมรับการใช้นิยามความเสี่ยงแบบนี้ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา

แต่ความจริง ในโลกอนาคตจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่

สินทรัพย์ที่ในอดีตผันผวนต่ำอย่างพันธบัตรรัฐบาล แต่อนาคตมีโอกาสที่จะ Default เราจะนับสินทรัพย์นี้เป็นสินทรัพย์เสี่ยงสูงหรือเสี่ยงต่ำ

ในขณะที่สินทรัพย์ที่ในอดีตผันผวนสูงอย่าง Bitcoin แต่อนาคตมีโอกาสที่จะแพงขึ้นเรื่อยๆ เราจะนับสินทรัพย์นี้เป็นสินทรัพย์เสี่ยงสูงหรือเสี่ยงต่ำ

แน่นอนว่าการประเมินความเสี่ยง จากการมอง Outlook ในอนาคต คงไม่เป็นที่ยอมรับในวิชาการเงินการลงทุน แต่สิ่งนึงที่ผมจำขึ้นใจ และนำมันมาใช้วิเคราะห์ในทางเศรษฐศาสตร์และการลงทุนเสมอๆ

มันคือ quote ที่ถูกใช้บ่อยในวิชาสถิติครับ "Correlation doesn't imply causation.." ความสัมพันธ์ไม่ได้บอกถึงความเป็นเหตุเป็นผล

สิ่งที่เราเคยเห็นว่ามันเป็นแบบนั้นในอดีต (ผันผวนน้อย >> เสี่ยงต่ำ) ไม่ได้บ่งบอกว่าจะเป็นแบบนั้นต่อในอนาคต

ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะลองนิยาม "ความเสี่ยง" กันใหม่ ในโลกการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปแบบหน้ามือเป็นหลังมืออย่างในทุกวันนี้

746 Nameless Fanboi Posted ID:LRHYhKBHSV

ถ้าถึงพระเนตรพระกรรณ หม่อมฉันรักสถาบันสุดหัวใจ รักและจะปกป้องสุดกำลัง แต่อยากกราบทูลในหลวงว่า ก่อนหน้านี้พวกฝ่ายล้มล้างมันเผยแพร่สารพัด หรือใส่ร้ายป้ายสีทุกอย่าง แต่หลังจาก 2 วัน มันกลับมาสนับสนุนคุณพระ มันไม่เคยหวังดีกับสถาบันอยู่แล้ว และมันก็กำลังทำลายความรักความศรัทธาที่ประชาชนมีต่อในหลวงกับพระราชินี เกล้ากระหม่อมฉันไม่ได้อคติกับคุณพระ แต่ดูแล้วการวางตัวของเจ้าคุณพระไม่เหมาะสมกับตำแหน่งจริงๆ ท่านวางตัวเหมือนหรือเทียบเท่าราชินี ในสายตาของหม่อมฉัน เพจอีประวิน มันอวยคุณพระไม่แปลกหรอกเพราะอะไรที่มันทำลายสถาบัน มันทำ แต่ถ้ามันอวยพระราชินี อันนี้แปลก เพราะคนอย่างพวกมันมันอยู่ตรงข้ามกับสถาบันอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าค่ะ

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

747 Nameless Fanboi Posted ID:LRHYhKBHSV

เร่เข้ามา เร่เข้ามา มาฟังพี่อึ้งล่าสาส ถลกหนังหัวเหล่าอีพวกกองเชียร์ กองเลียทั้งหลาย //
*************

วันนี้พี่อึ้งมีเรื่องสบายๆ อยากคุยให้ฟัง เพื่อจะได้เลิกไปเชื่อข่าวลือ ข่าวเล่า ข่าวเขาว่ามาจากวงใน วงไหน มันก็ข่าวตอแหล

พี่อึ้งเข้าใจล์นะ รอยหยักในสมองของคนเรามันไม่เท่ากัน ง่ายๆนะน้องนะ ถ้ามีลูกชายด้วยกันยิ่งต้องแต่งตั้ง ตอนทรงขึ้นครองราชย์ก็ต้องสถาปนาเป็นพระโอรส และต้องมีการแต่งตั้งมารดาของลูกเป็นเจ้าจอมมารดาไปแล้ว นี้ไม่ใช่อะไร มาแต่งตั้งตำแหน่งข้าราชบริพารฝ่ายในระดับ 10 เป็นเพียงนางอยู่งาน แม้แต่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าลงมาเป็นสนมเอกในรัชกาลก็ไม่มี พี่อึ้งจะบอกให้นะจ๊ะ การแต่งตั้งพระสนมเอกต้องมีการโปรดเกล้าลงมาว่าแต่งตั้งพระสนมเอกในรัชกาล ต้องแยกให้ออกว่า ตำแหน่งเจ้าคุณพระ ไม่ใช่ตำแหน่งของพระสนมของพระเจ้าแผ่นดิน

เรื่องที่มีลือกันว่า เดือนเมษายนนี้ จะปลดพระราชินี แล้วแต่งตั้งใหม่ เรื่องนี้พี่อึ้งบอกเลยว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะได้รับการสถาปนาให้เป็นพระอัครมเหสี เป็น "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี" ถ้าหากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือพ่อของแผ่นดิน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ก็คือ แม่ของแผ่นดิน

และที่สำคัญ ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งยศบรรดาศักดิ์ ที่เป็นบาทบริจาริกา นางอยู่งาน ในรัชกาลแผ่นดิน ตามกฎมณเฑียรบาล จะสถาปนาให้เป็นพระมเหสีไม่ได้ และเน้นนะเน้น ในรัชกาลปัจจุบันยังไม่ได้มีการแต่งตั้งผู้ใดเป็นพระสนมเอก แต่อยากที่บอกพวกอวยพวกเชียร์พวกเสี้ยม ไม่รู้ว่ามันรู้หรือแกล้งไม่รู้ แต่กลับไปเผยแพร่ลงในวิกิพีเดีย อย่างไม่ถูกตามกฏมณเฑียรบาล

กรณีของเจ้าคุณจอมมารดาแพ เป็นสะใภ้หลวง ที่รัชกาลที่ 4 ทรงสู่ขอให้กับเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ (รัชกาลที่ 5) แต่เป็นด้วยเหตุที่ รัชกาลที่ 5 ต้องขึ้นครองราชย์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ จึงมีการแต่งตั้งให้ สมเด็จเจ้าพระยามหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เมื่อทรงเจริญชันษาครบ 20 พรรษา จึงได้ประกอบพิธีบรมราชาภิเษก แต่ด้วย เจ้าคุณจอมมารดาแพ เป็นผู้อยู่ในสายสกุลบุนนาค อันเป็นสายสกุลเดียวกันกับผู้สำเร็จราชการ ช่วง บุนนาค แม้จะเจ้าคุณจอมมารดาแพจะมีคุณความดีมากมาย ก็จำต้องเสียสละไม่รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระมเหสี เพราะจะเป็นที่ครหาได้ อีกทั้งสำนึกในต้นตระกูลมิใช่ไทยแท้ สืบเชื้อสายเปอร์เซียที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ แผ่นดินอยุธยา

กาลต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ทรงมีพระประสงค์จะยกย่องเจ้าคุณจอมมารดาแพให้เหนือกว่าเจ้าจอมมารดา ผู้อื่นจึงโปรดให้เปลี่ยนเครื่องในพานทองเครื่องยศ เป็นลงยาราชาวดี ซึ่งพระมเหสีเท่านั้นจึงจะได้รับ และไม่มีการเรียกคืน อีกทั้งยังได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับหน้าที่เบิกพระโอษฐ์พระราชโอรส พระราชธิดา ทุกพระองค์ ในรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นปฐมมงคล

มาถึงสมัยรัชกาลที่ 6 เจ้าคุณจอมมารดาแพ ได้รับการสถาปนาเกียรติยศขึ้นเป็นเจ้าคุณชั้นพิเศษ โปรดเกล้า ฯ ให้ออกนามว่า "เจ้าคุณพระประยุรวงศ์"

พี่อึ้งเล่าประวัติศาสตร์มาเสียยาว ก็เพื่อให้เห็นตัวอย่างว่า แม้เจ้าคุณจอมมารดาแพ จะเป็นคู่ชีวิตกับรัชกาลที่ 5 มาตั้งแต่ยังไม่ได้ครองราชย์ มีพระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้ากับ รัชกาลที่ 5 ถึง 3 พระองค์ เมื่อเสียสละไม่รับสถาปนาขึ้นเป็นพระมเหสี เป็นเพียงเจ้าคุณจอมมารดา ก็ไม่อาจสถาปนาขึ้นเป็นพระมเหสีได้

บางคนเอาไปอิงกับพระมเหสีในรัชกาลที่ 6 พี่อึ้งเคยบอกแล้ว สมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 พระองค์ทรงครองราชย์ไม่ได้มีพิธีสถาปนาผู้ใดเป็นพระบรมราชินีในตอนพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ต่อมาพระองค์ทรงครองราชย์มาระยะเวลาเกือบ 10 ปี ถึงมีพระมเหสีเพื่อให้มีทายาทสืบสันตติวงศ์

ตามกฏมณเฑียรบาล จึงได้มีการสถาปนาพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ เป็นพระมเหสี พระนางเธอลักษมีลาวัล แต่แล้วก็ไม่ทรงมีพระครรภ์ พระองค์ทรงมีเจ้าจอม 2 คน พี่น้องสกุลสุจริตกุล อดีตนางสนองพระโอษฐ์ของอดีตพระวรกัญญาปทาน (อดีตพระคู่หมั่นพระขนิษฐาพระนางเธอลักษมีลาวัณ) ถ้าใครทรงมีพระครรภ์ จะได้รับโปรดเกล้าเป็นพระมเหสี ต่อมาพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีทรงตกพระครรภ์หลายครั้ง จึงถูกปลด กาลต่อมาพระนางเจ้าสุวัทนา ทรงพระครรภ์ จึงเลื่อนเป็นพระมเหสีในรัชกาลที่ 6 พี่อึ้งจะบอกว่ากรณีของรัชกาลที่ 6 แตกต่างจากรัชกาลในปัจจุบัน เพราะมีเจ้าฟ้าถึง 3 พระองค์ มีทายาทสืบสันตติวงศ์ตามกฏมณเฑียรบาลแล้ว เอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้หรอก

ด้วยพระปรีชาของพระราชาได้ทรงสถาปนาสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีที่ดีไว้ให้พสกนิกรของพระองค์แล้ว

ข่าวลือบ้า ๆ พี่อึ้งว่าน่าจะจบนะ ปล่อยมันบ้าเพ้อเจ้อกันไปเหอะ เพราะบ้านมีกฏบ้านเมืองมีกฏเมือง สถาบันพระมหากษัตริย์ก็มีกฏมณเฑียรบาล

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

748 Nameless Fanboi Posted ID:LRHYhKBHSV

ถ้าจะออกงานสาธารณะ ควรวางตัวให้เหมาะสม รักในหลวง รักสถาบันก็อย่าให้มัวหมอง ถ้าจะไปส่วนพระองค์ ไม่ออกงาน เราก็รู้ว่า ท่านคือภรรยาเจ้า ไม่ใช่รับไม่ได้ ก็ต้องมีปกติที่ต้องไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่นี้จะนั่งคู่ราชา ทั้งๆที่เป็นสามัญชน เหมาะมั้ย??? จะใส่ชุดคู่ ราชากับสามัญชน เหมาะมั้ย? จะออกงานด้วยกัน ออกได้ แค่ คุณพระวางตัวให้เหมาะสมกับฐานะตำแหน่ง หรือถ้าให้ดีไม่ต้องสร้างความไม่สบายใจกับประชาชน ออกพร้อมกัน คือครอบครัว ท่านนึงฟื้นฟู สืบสาน ต่อยอด ส่งเสริม ทำให้เป็นปึกแผ่น เข้าไปนั่งในหัวใจประชาชนได้อย่างรวดเร็ว แต่อีกท่าน ออกงาน 2 วัน แตกกระจาย แตกทั้งความคิด ความรู้สึก รวมถึง จิตใจ ส่วนเพจอวยก็เอามาขยายต่อไปไกลจนประชาชนสับสน เหมาะสม???????
ปล อีพวกหมิ่นเจ้าหรือ 3 นิ้ว ไม่ต้องมาแอด หรือจะเอาไปขยายต่อก็เชิญ นี่คือตัวอย่างการวิจารณ์ สถาบันสามารถแสดงความคิดเห็น วิจารณ์ได้ มันอยู่ที่เจตนาปรารถนา ที่จะส่งเสริม หรือบ่อนทำลาย แล้วไม่ต้องร้องแร่แหกกระเชอว่าวิจารณ์ไม่ได้ เพราะพวกแกไม่ได้วิจารณ์ค่ะ พวกแกคิดล้มล้างค่ะ และไม่ต้องดีใจว่าสลิ่่มตีดันเอง เค้าไม่ได้ตีกัน เค้าเตือนกันโว้ย เพราะต่างฝ่ายต่างเตือนกันเพราะความรัก และต่อให้ยังงัย พวกกูก็ไม่มีทางจะไปอยู่ฝั่งเดียวกับม็อบล้มล้างสถาบันว่ะ ไม่ต้องร่่านดีใจ

#​มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

749 Nameless Fanboi Posted ID:J2ksS/apQj

ตลาดหุ้น : ตรวจสอบแล้ว ไม่พบการปั่นหุ้น สบายใจได้
คนขายบริการทางเพศ : ตรวจสอบแล้ว ไม่พบการขายบริการ สบายใจได้
ล้อตเตอรี่ : ตรวจสอบแล้ว ไม่พบขายเกินราคา สบายใจได้
บ่อน : ตรวจสอบแล้ว ไม่พบบ่อน สบายใจได้
ส่วยแรงงานข้ามชาติ : ตรวจสอบแล้ว ไม่พบ จนท ทุจริต สบายใจได้

750 Nameless Fanboi Posted ID:5U55nDf+.+

>>748 เพราะออกตัวว่าอวยเจ้าเลยบอกว่าวิจารณ์ได้ ถ้าออกตัวว่าไม่อวยเจ้า ไม่ชอบเจ้า แล้วพูดอย่างเดียวกันเป๊ะก็โดน112แน่นอน

751 Nameless Fanboi Posted ID:OB0Si.vwtl

ผลพวงสำคัญของสงครามเย็นในไทยเรื่องหนึ่งที่ยังส่งผลต่อความคิดของคนในสังคม คือ "คำ" ว่า สังคมนิยม คอมมิวนิสต์

"คำ" สองคำนี้ถูกทำให้กลายเป็นปีศาจมาเนิ่นนาน เพราะฝ่ายขวาโยงคำเหล่านี้เข้ากับความหมายแห่งความชั่วร้าย การทำลายชาติ ศาสนา กษัตริย์

แม้วันนี้แนวคิดเรื่อง ชาติ ศาสนา กษัตริย์ ถูกท้าทายอย่างมากมายจนสังคมรู้สึกว่าวิจารณ์ได้เต็มที่ แต่กับคำว่า สังคมนิยม และ คอมมิวนิสต์ ยังเอาความหมายด้านลบออกจากหัวคนไม่ได้

แต่ให้สังเกตว่าถ้าพูดคำว่า ความเป็นคน ความเป็นมนุษย์ ความยุติธรรม ความเป็นธรรม ความเท่าเทียม ความเสมอภาค ความเหลื่อมล้ำ สวัสดิการประชาชน ความเห็นอกเห็นใจผู้ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ความเห็นอกเห็นใจคนยากคนจน ฯลฯ สังคมไทยกลับ "อิน" กับสิ่งเหล่านี้ ทั้งๆที่ไอเดียที่ผมยกมาทั้งหมดในพารากราฟนี้คือเซ้นส์แบบสังคมนิยม-คอมมิวนิสต์ทั้งสิ้น

------------

ประเด็นคืออะไรรู้มั้ยครับ ?

สังคมไทย "ติดกับดักของคำ"

สังคมไทยถูกสร้างให้เกลียดชังหวาดกลัวต่อ "คำ" สองคำมาตั้งแต่สงครามเย็น

แต่ "ความหมาย" จริงๆของทั้งสองคำนั้นกลับถูกทำความเข้าใจเชิงบวกด้วยคำอธิบายแบบอื่นๆ แต่ไม่ใช่จากคำว่า สังคมนิยม คอมมิวนิสต์ ในตัวมันเอง เพราะสองคำนี้กลายเป็นปีศาจไปแล้ว

คนไทยจึงยึดติดที่คำ แต่ไม่รู้ว่าความหมายและสาระที่แท้จริงมันคืออะไร เพราะโดนกำแพงของคำกั้นเอาไว้ ผลจากสงครามเย็น

แนวนโยบายของรัฐหลายตัวคือไอเดียแบบสังคมนิยมด้วยซ้ำไป เช่น พรบ สหภาพแรงงาน, นโยบายบัตรทอง 30 บาท, นโยบายบ้านเอื้ออาทร, นโยบายประกันสินค้าเกษตรต่างๆ, นโยบายเรียนฟรี เป็นต้น

-------------

ผมคิดว่ามิตรสหายที่สมาทานสังคมนิยม คอมมิวนิสต์ ต้องทำความเข้าใจ cultural politics แบบสงครามเย็นในไทยด้วย เพราะเวลาคุณสื่อสารทางการเมือง คุณจะได้ขยายแนวร่วมได้ง่ายขึ้นโดยไม่ถูกกำแพงของ "คำ" มาทำลายเนื้อหาที่แท้จริงออกไป

เมื่อเรายังสลายกำแพงของคำไม่ได้ ก็ต้องหาวิธีการทำงานความคิดที่ถูกช่องให้เจอ แล้วมันจะไปได้

พูดง่ายๆ ถ้าคุณเข้าใจเรื่องนี้ คุณจะสื่อสารไอเดียแบบสังคมนิยม คอมมิวนิสต์ได้อย่างสบายมากๆโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องพูดคำว่าสังคมนิยม คอมมิวนิสต์ เลยซักคำ แถมมวลชนจะเข้าใจสิ่งที่คุณสื่อสารได้มากยิ่งขึ้น

752 Nameless Fanboi Posted ID:hdUKLUVoD7

>>751 ผีพอลพตยิ้มข้ามชายแดนมาเลยครับแบบนี้

753 Nameless Fanboi Posted ID:gH4QMahrOv

>>752
เอาทางตาลปาดคอสหายกัน

754 Nameless Fanboi Posted ID:j7VkilYRYg

>>752 แปลกนะทำไมหลายๆปทเค้าไม่เห็นกลัวผีพอลพตเลยครับ พรรคคอมมิวนิสแม่งตั้งดำเนินการกันสบายๆ ส่วนพรรคฟาสซิสรปห ไม่มีที่ยืน

755 Nameless Fanboi Posted ID:dMIML+TFD3

Covid รอบนี้ ผมมองต่างจากรอบที่แล้ว

รอบที่แล้ว มองว่า น่าจะติดเยอะแยะแน่นอน แต่จริงๆคือ คุมได้อย่างดี เอาอยู่อย่างมั่น ด้วยเพราะความที่เราตื่นตัวเป็นอย่างมาก และเอาจริงกันสุดๆ

รอบนี้ผม มองว่า ติดกันเยอะแน่นอน แต่ผมเชื่อว่าผลจะออกมาติดเยอะจริงๆ เพราะรูปแบบการกระจายตัวต่างจากรอบที่แล้วมาก

และที่สำคัญ รอบนี้ หลายเคส เราไม่สามารถย้อนไปได้ว่าติดมาจาก "ใคร" แต่แค่พอจะประเมินได้ว่าจากย่านไหน ร้านอะไร แล้วจบไป ทำให้การควบคุมเป็นไปได้ยากมาก เพราะหาพาหะไม่เจอ (จริงๆคือ ไม่มีทรัพยากรมากพอจะหาพาหะ) อีกทั้ง คนที่ติด ก็ใช้ชีวิตแบบปกติเหมือนไม่มี covid อย่างไปร้องคาราโอเกะ ไปงานรื่นเริงสังสรรค์

แต่ๆๆๆๆ ก่อนจะตื่นตระหนกไป เอาจริงๆ ดูจากทั่วโลก อัตราการตาย 3% และถ้าเจาะลึกลงไป ก็คือคนที่มีโรคประจำตัวด้วย ดังนั้น เราก็น่าจะประเมินความเสี่ยงตัวเองได้ ถ้าเราติด เราจะอยู่ใน 3% หรือ 97%

และถ้าพูดกันตามหลักการ เราควรจะรับเชื้อในปริมาณน้อยๆ ที่ร่างกายสร้างภูมิเองได้ แล้วในที่สุด เราจะเป็นคนที่ต่อต้านเชื้อนี้ได้โดยธรรมชาติ

ก็ไม่ต้องตระหนกกันมากเกินไป

756 Nameless Fanboi Posted ID:hdUKLUVoD7

>>754 พรรคฟาสซิสต์ของฝรั่งก็มีครับ ตัวอย่างGolden Dawn ของกรีก, NDPของเยอรมัน,
AFPของออสเตรเลีย,DNSBของเดนมาร์ก etc

แบบนี่แสดงว่าฝรั่งมันก็ไม่กลัวผีฟาสซิสต์เหมือนกันงั้นเรอะ อิอิ

757 Nameless Fanboi Posted ID:dMIML+TFD3

เฝ้าคิดมานานหลายปี ว่าวันหนึ่ง อยากซื้อหุ้นต่างประเทศ (และจริงๆถ้าซื้อไปเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้ก็คงได้เงินมาเยอะแล้ว) แต่ว่า มันติดหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเอกสาร การเปิดบัญชี และอีกสารพัด

แต่ในที่สุด โลก DEFI ก็พาเข้ามาบรรจบพบเจอกัน ผ่านทาง Terra platform https://terra.mirror.finance/

จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ platform ซื้อขายหุ้น US โดยตรงอะนะ แต่ว่า มันเอาดัชนีราคาหุ้น มาใช้เป็นสินทรัพย์อ้างอิง ในการสร้าง token อิงกับราคาหุ้นนั้นๆขึ้นมา แล้วก็ให้คนเข้ามาทำ farming หรือ mint ออกมา (เพื่อเอาไป farm อีกที) จะซื้อขาย เกร็งกำไรก็ได้ แล้วแต่สะดวกเลย

ส่วนตัวก็ลองแหย่ๆเข้าไป ตั้งแต่ 2020.12.10 จนถึงวันนี้ ก็ได้มา 12% หรือ 230% ต่อปี นี่ถือว่าน้อยแล้วนะ เพราะว่าทยอยเอา MIR (ที่เค้าให้ตอบแทนการ farm) มาขายต่อเนื่องเลย บางวันสองรอบ ซึ่งบ่อยครั้งราคาต่ำกว่า $1/MIR ก็หมูกันไป

แนวทางสำหรับ platform นี่ก็มีหลากหลาย

1) แบบคนต้องการเสี่ยงน้อย จะใช้เงินเยอะ (เงินจะมีประสิทธิภาพแค่ประมาณ 75% ของเงินต้น)
หลักการคือ เอา $666 ไป mint หุ้นที่ตัวเองชอบออกมา โดยใช้เงินค้ำ 200% นั่นคือ เราจะได้หุ้นมูลค่า $333 ออกมา จากนั้น +เงิน $333 เพื่อเอาคู่นี้ pair กัน แล้วไป stake ก็จะได้กำไรจากการ stake
- เมื่อเลิก ก็เอาหุ้นไปคืน แล้วเอาเงิน $666 กลับมา แบบนี้เสี่ยงต่ำมากๆ (รวม port นี้ใช้ $999)

2) แบบเสี่ยงสูงหน่อย และอยากเติบโต ไปพร้อมกับราคาหุ้น อันนี้ จะใช้เงิน 100% ก็คือ เอา 50% เช่น $500 ไปซื้อ token หุ้น แล้ว + 50% เช่น $500 จับ pair แล้วเอาเข้า stake ก็จะได้กำไรออกมา
- เมื่อเลิก ก็เอา token หุ้นไปขายคืน ราคาตลาดตอนนั้นเท่าไร ก็รับส่วนแบ่งออกมา หรือ ขาดทุนก็ว่ากันไป
- แต่ด้วย Impermanent loss จะทำให้ มูลค่าหุ้นที่ขายกำไร หรือ ขาดทุน จะน้อยกว่าความเป็นจริง ครึ่งนึงโดยประมาณ เช่น ราคาหุ้นขึ้น 10% เราจะขายออกแล้วได้กำไรออกมาเพียงแค่ 2.5% เท่านั้น (อีก 2.5% จะไปอยู่ในรูปแบบเงินสดคู่ pair ก่อนแล้ว) กลับกัน สมมุติ ตอนขายราคาลง 20% เราจะขายหุ้นแล้วขาดทุนจากตอนเริ่มต้น 5% (และขาดทุนส่วนเงินสดไปอีก 5% รวมเป็น10%)

หลายคนที่ trade Forex อยู่ จะงงว่า ทำให้วุ่นวายทำไม เพราะหลาย broker ก็มี ดัชนีหุ้น US ให้ trade อยู่แล้ว ไม่เห็นต้องยุ่งยากเลย

ต้องบอกว่า แตกต่างกันเยอะมาก เพราะว่านี่เราจะได้กำไรส่วนเพิ่มจากการถือสินทรัพย์ด้วย แม้ว่าราคาไม่วิ่งไปไหนเลย (การทำ farming)
ส่วนตัวเข้าดัชนีน้ำมัน ซึ่งราคาปรับเพิ่มแค่ประมาณ 0.5% เท่านั้น แต่ว่ากำไรออกมาถึง 12% จากกำไรส่วนเพิ่ม และยิ่งถือนานก็ยิ่งได้เพิ่ม

ดังนั้น นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับการจัดเข้าเอามาเก็บไว้ใน port

758 Nameless Fanboi Posted ID:wcqa0gpaE+

>>755 สรุปคือจะเอา Herd Immunity กันแล้วสินะรอบนี้?

759 Nameless Fanboi Posted ID:l1JOob9uci

>>756 ถ้าฟาสซิสพยายามก่อรปห โดนยุบพรรคนะครับ NDPรอดไปหวุดหวิด https://www.silpa-mag.com/history/article_42746

760 Nameless Fanboi Posted ID:WErwCWD+XI

>>759 พรรคคอมก็โดนยุบเป็นเรื่องปกติครับ ในลิงค์ที่แปะมาก็มีบอกว่าคอมโดนยุบเพราะเป็นภัย ในออสเตรเลียก็มีการผ่านบิลยุบพรรคคอมเหมือนกัน

761 Nameless Fanboi Posted ID:90b.C0nlbY

>>760 ยุบพรรคไม่ใช่เรื่องปกติครับ เยอรมันจะ100ปียุบมาแค่3พรรค เป็นขวาไป2 แล้วNDPไม่ใช่ไม่โดนยุบนะ แต่เสียงตุลาการไม่พอเลยยังไม่ได้ตัดสิน (คล้ายๆบางพรรคที่เอกสารหายมั้ง อิอิ)

แล้วก็พรรคขวาจัดAFPออสเตรเลีย นี่ขวาหนุนรปหจริงเหรอ นโยบายพรรคไม่เห็นพูดถึงรปหล้มรัฐสภาเลยครับ? "The party stands on a nationalist, anti-multicultural and economic protectionist platform" จะเอาพรรคขวาของเขามามั่วกับขวาไทยหลงยุคอีกแล้วมั้งเนี่ย https://en.wikipedia.org/wiki/Australia_First_Party

762 Nameless Fanboi Posted ID:F0N5VqBMX9

>>761
กูว่ามึงหลงวะ?
ประเทศไทยมีพรรคคอม กับฟาสซิสตอนไหน

พรรคมนังคศิลา?

763 Nameless Fanboi Posted ID:9xS4qvK52Z

>>761 ปชป พปชร ก็ไม่มีนโยบายสนับสนุนรัฐประหารนะ โดยเฉพาะพรรคแรกปากบอกไม่เอา ถึงเวลาจริงต่อต้านเป็นพิธี พรรคไหนจะใส่นโยบายว่าสนับสนุนรัฐประหารวะ

764 Nameless Fanboi Posted ID:WErwCWD+XI

>>761
Ideology : Neo-nazism
นาซีเป็นฟาสซิส ก็ถูกแล้วนี่
ที่แปะมานี่ได้อ่านบ้างไหมวะ หรือกูเกิลสามนาทีแล้วแปะ

>>763 พรรคเผด็จการไทยก็ไม่มีบอกในนโยบายรัฐว่าสนับสนุนรัฐประหาร พรรคเผด็จการเกาเหนือของไอ้คิมก็บอกว่าไม่เอารปห.เหมือนกัน บอกว่าตัวเองเป็นdemocratic

ไอ้นี่มันชอบmove the goalpost ไปเรื่อยๆน่ะเพราะเป็นคอมสมองฝ่อ เถียงสู้ไม่ได้แล้วใช้logical fallacy

ตอนแรกบอกฝรั่งมีพรรคคอมแต่ไม่มีพรรคฟาสซิสต์ แล้วมีคนบอกว่านี่ไงตัวอย่างพรรคฟาสซิสฝรั่ง มันก็เลื่อนgoalpostไปอีกว่าพรรคฟาสซิสโดนยุบ พอคนบอกว่าพรรคคอมก็โดนยุบเหมือนกัน มันก็เลื่อนgoalpostไปเรื่อยๆแบบนี้แหละ

765 Nameless Fanboi Posted ID:xaROQcMgLk

มีคนให้เงิน อ. สองพันบาท อ. คิดว่า เก็บเงินเอาไว้ที่บ้านเปล่าๆ มันจะไม่ได้ประโยชน์อะไร จึงคิดนำเงินไปฝากธนาคารดีกว่า โดยหวังจะได้ดอกเบี้ยเล็กๆ น้อยๆ

วันนี้จึงเอาเงินไปฝากธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ปรากฏว่า ธนาคารกรุงไทยไม่รับฝากธนบัตร 2 ฉบับนี้ โดยพนักงานธนาคารกรุงไทยแจ้งว่า ธนบัตรนี้เป็นธนบัตรที่ระลึก มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการใช้จ่าย

เอิ่ม . . แล้วที่พิมพ์อยู่หน้าธนบัตรข้อความว่า “ธนบัตรเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย”—-นี่ก็ไม่เป็นความจริงสินะ ขนาดธนาคารของรัฐยังไม่รับฝาก (คงจะไม่รับแลกด้วยล่ะ) แล้วจะนำไปจับจ่ายใช้สอย-ชำระหนี้ตามกฎหมายได้เยี่ยงไร ?

ระบอบอนุรักษ์นิยมใกล้ล่มเต็มทีแล้ว เพราะความน่าเชื่อถือของระบบการเงินการธนาคารเพิ่งถูกทำลายให้เสียไปโดยกรรมนี้.

766 Nameless Fanboi Posted ID:JoKvkPjTvl

>>765 มีไม่รับฝากด้วยเหรอ

767 Nameless Fanboi Posted ID:r+RDBjp/3U

สู้ๆคับคอมมี่ เดี๋ยวสู้กับเผด็จการเสร็จอย่าลืมมารับตีนประชาธิปไตยต่อนะฮับ555

768 Nameless Fanboi Posted ID:xaROQcMgLk

ตลาดหุ้นไทย ผู้ซึ่งกินรวบไม่แบ่งใครมานานแสนนาน
ไม่คิดแม้กระทั่งจะผลักดันให้มี API ทั้งที่ technology ทำได้มานานหลายปีมากแล้ว

หนำซ้ำข้อมูลทุกอย่างเป็นเรื่องเงินทอง คนมีเงินเยอะกว่าเท่านั้น ถึงจะเข้าถึงข้อมูลได้ดีกว่าคนอื่นๆ(พูดถึงแค่ข้อมูลการซื้อขาย หรือ real time นะ ไม่เอาเรื่อง insight หลังบ้าน)​ แทนที่จะเปิด open data เพื่อให้ access ได้ฟรี ตลาดจะได้ขยายตัวออกไปอีก ยิ่งเปิดคนยิ่งเข้า เครื่องมือยิ่งมาก ตลาดยิ่งโต

แต่ตลาดการลงทุนโลก crypto กำลังจะเข้ามา disrupt เรื่องนี้ไปแทน (จริงๆก็ตั้งแต่การคืบคลานมาของตลาด forex แล้วนะ แต่นั่นยังไม่สะเทือนวงการเท่าไรเพราะความเคลื่อนไหวมันมีจำกัดแถมไม่มี license กลต อีกด้วย)

เท่าที่สังเกตุ หลายคนเข้ามาตลาด crypto พอรู้แล้วเข้าใจ ก็จะไม่ไปยุ่งตลาดหุ้นอีกเลย

ยิ่งตลาดกองทุนรวมต่างๆ ที่โปรโมทกันสุดๆว่าดอกดี 2% ต่อปี คนอยู่วงการ crypto นี่หัวเราะกันแทบตกเก้าอี้ ยังหยิบมาแซวกันแบบขำๆ

ถ้าไม่พูดถึงเรื่อง ผลตอบแทน ตลาดก็ยังน่าสนใจกว่าอยู่ดี เพราะมี API ให้เชื่อมมากมาย ข้อมูลมหาศาลหาได้ฟรี มีเครื่องมืออย่างเยอะ เปิด 24 ชั่วโมง เลือกลงทุนได้อย่างอิสระ อย่างเสี่ยงมากน้อยเลือกเอาที่สบายใจ ทำเงินได้ตลอดเวลา

สำคัญคือ เข้าถึงได้ทุกคน(ถ้าไม่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดรัฐในบางประเทศอะนะ)​ อิสระ ออกแบบ วางแผน ดำเนินการได้อย่างสบายใจ

ล่าสุดถอนเงินประกันออกจากพอร์ตหุ้นไทยแห่งหนึ่ง เมื่อวาน แบบถอนหมด จะได้เงินวันที่ 5 มกรา

จ้าาาาาา

ในยุคที่คนรอโหลดหน้าเว็บเกิน 1 วินาทีก็ปิดทิ้งแล้ว แบบนี้จะไปไหวเหรอ ถามจริง เห็นแล้วยังตกใจอยู่เหมือนกัน กองทุนต่างๆก็ไม่น้อยหน้านะ ถอนวันนี้ ได้พรุ่งนี้นี่คือเร็วสุดแล้ว (ต้องก่อน 16.30 น. ด้วยนะตัวเธอ ไม่งั้นถือว่าไม่ทัน)​ ในประวัติศาสต​ร์เคยมีเร็วกว่านี้คือ TMB ที่ให้เป็นบัตร ATM ผูกกับกองทุนมา กดได้ที่ตู้เลย นั่นโคตรนวัตกรรม แต่อยู่ไม่นานโดนยกเลิกไป แล้วไม่มีใครทำได้อีกเลย คิดว่าเพราะอะไรนะ?

ในขณะที่การลงทุน crypto ลงนาทีนี้ ถอนนาทีต่อไป ก็ได้กำไรได้เงินคืนทันที ทุกธุรกรรมเปิดเผยใน blockchain ทั้งหมด ไม่มีใครโกงใคร ทำไมเค้าทำได้? ทีนี้เห็นหรือยัง อะไรกำลังคืบคลานมา

ที่เขียนนี่ก็เพื่อให้ฉุกคิดนะ และต้องรีบปรับด้วย

เอาจริงๆถ้าวันนี้เปิด open data, API trade ก็ยังทันอยู่นะ ยังไม่ช้าเกินไป แต่ถ้าขอคิดก่อน อีก 3 ปีค่อยว่ากันก็น่าจะสายไปจริงๆแล้วล่ะ

อย่าลืมว่า first jobber หรือเด็กปัจจุบันเค้าโตมากับอะไร พฤติกรรมเค้าเป็นยังไง

เมื่อวานสมัครเว็บ Trade แห่งหนึ่ง(ได้ license กลต ไทยนะไม่ใช่เว็บเถื่อน) รวมขั้นตอนการทำ KYC ใช้บัตรประชาชนใบเดียว กับเวลาประมาณ 10 นาที ไม่ต้องมีสำเนาบัตร สำเนาเอกสารอะไรใดๆเหมือนการสมัครกับ broker หุ้นเลย แค่นี้ก็เห็นถึงกำแพงตั้งแต่ตอนเริ่มแล้ว ยังไม่นับข้างในอีกเยอะนะ

769 Nameless Fanboi Posted ID:xaROQcMgLk

「お疲れ様でした」

หนึ่งในคำที่สะท้อนวัฒนธรรม Mutual Respect ของญี่ปุ่นที่ผมชอบมาก .....

ผมอยู่ญี่ปุ่นหลายปี สังเกตเห็นวัฒนธรรมอะไรหลายอย่างที่ดีและน่ารักของเขานะ .... หนึ่งในนั้นก็คือการพูดขอบคุณในความเหน็ดเหนื่อยของคนอื่น (ที่ช่วยทำงานให้เรา)

จริงๆ แล้วมีอีกหลายอย่างที่เราเห็นได้ในชีวิตประจำวันน่ะแหละ .... การไปกินอาหารตามร้าน ที่ทั้งคนซื้อ (คนมากิน) และคนขาย (คนทำ) ต่างขอบคุณซึ่งกันและกัน .... คนหนึ่งขอบคุณที่มากิน คนหนึ่งขอบคุณที่ทำอาหารให้กิน ..

หลายคนในบ้านเราในปัจจุบัน เอากรอบความคิดทุนนิยมแบบสุดโต่งมามองการทำงาน ... คนจ่ายเงินเป็นเหมือนเจ้าเหมือนนาย ไม่จำเป็นต้องขอบอบขอบใจอะไรคนที่ทำงานให้ ไม่ต้องรู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยอะไรของพวกเขาเหล่านั้น ...

ซึ่งพอกรอบความคิดทุนนิยมสุดโต่ง มันมารวมกับกรอบความคิดศักดินา (คนสั่งเป็นนาย คนจ่ายเงินเป็นนาย คนทำให้เป็นบ่าว คนรับเงินเป็นบ่าว คนเป็นนายจะสั่งอะไรยังไงก็ได้) ที่มันฝังรากลึกมากในบ้านเรา ..... มันก็กลายเป็นอะไรที่ข้ามทุก Mutual Respect ที่เราควรจะมีให้กันได้

และนี่ไม่ใช่เรื่องของ "บุญคุณ" .... ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่บ้านเรามีความคิดสุดโต่งกันมาก ... คือมันประมาณว่า ไม่มีบุญคุณอะไรซึ่งกันและกันเลย ทุกอย่างเป็นหน้าที่หมด .. หรือไม่ก็ทุกอย่างถือเป็นบุญคุณหมด ....

จริงๆ แล้ว .... จากความรู้สึกของผมนะ ... เวลาได้ยินคำพูดเหล่านี้ในภาษาญี่ปุ่น มันไม่ใช่แสดงถึงบุญคุณอะไรแต่อย่างใด ....

แต่มันรู้สึกถึง Appreciation ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง .... ที่มีหัวอกหัวใจไม่ต่างจากคนอื่นๆ ที่มีความเหน็ดเหนื่อยไม่ต่างจากคนอื่นๆ ..... และหลายกรณี ... ก็อยากทำของให้คนอื่นให้ดีน่ะแหละ ... ไม่ต่างจากที่คนอื่นอยากได้ของดีหรอก ....

การรับเงินค่าจ้างหรือไม่ มันไม่ใช่ใจความสำคัญของเรื่องนี้ .... ถึงเราจะรับจ้างทำงาน เราก็ยังควรถูกทำให้รู้สึกเหมือนเป็นมนุษย์คนหนึ่งอยู่ดี .... มนุษย์ที่ผิดได้ พลาดได้ เหนื่อยได้ ทำงานออกมาไม่ดีอย่างที่อยากจะให้เป็นได้ (แม้จะทำดีที่สุดแล้ว, given circumstances & constraints) .....

ครั้งสุดท้ายที่ผมได้ยินคำนี้จริงๆ ก็คือวันสุดท้ายที่เข้าไปทำงานที่ Lab วิจัยที่ญี่ปุ่น ก่อนจะกลับมาเมืองไทย ... จากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และอาจารย์ใน Lab ......

บางที .... ก็อยากได้ยินคำแบบนี้ หรือรู้สึกอะไรแบบนี้อีกทีเหมือนกัน ....

โพสท์นี้จะทำลายตัวเองคืนนี้

770 Nameless Fanboi Posted ID:xaROQcMgLk

ถอดบทเรียน 2020 พาท 4

ในมุมของการเป็นนักเขียน - ปีนี้ผมทำงานในฐานะผู้บริหาร สนพ​. มากกว่าเป็นนักเขียนเยอะ

สิ่งที่ดูดเวลามากที่สุดในปีนี้คือการทำเกมส์แม่มิโกะ

หลักการก็เหมือนเดิมอ่ะครับ

งานที่ดีคืองานที่เสร็จ ถ้างานไม่เสร็จก็ไม่มีความหมาย

ความเพอเฟ๊คเหมือนดาวเหนือ เอาไว้นำทาง แต่ไม่มีทางเดินทางไปถึง

ข้อจำกัดสำคัญที่สุดคือทุน ทุนค่าจ้าง ทุนเวลา เราทำได้เท่าที่ทุน และขอบเขตของเราพาไปได้

ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำคือวางแผนเพื่อใช้ทุนที่มีให้คุ้มที่สุด เราต้องคิดว่าจะจ่ายน้อยที่สุดอย่างไร เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่โดดเด่นที่สุด

ถ้าเรากระจายลงทุนกลางๆทุกมิติ งานก็จะไม่โดดเด่น ถ้าควบคุมทุนไม่ได้ ก็จะล่มอยู่ดีในตอนท้าย ควรเลือกว่าจะจ่ายทุนกับอะไร ลงทุนเยอะในสิ่งที่ควรเยอะ และน้อยในสิ่งที่ควรน้อย

ทำแค่บางอย่าง โดดเด่นแค่บางจุดก็พอ ที่เหลือเลือกจ่ายน้อยที่ได้ผลกลางๆ

เลือกทำสิ่งที่ใช้ทรัพยากรน้อย แล้วได้สิ่งที่ตรงจุดประสงค์หลายอย่าง

ในการทำงานนั้น ให้ทุกคนเข้าใจเป้าหมาย หน้าที และขอบเขตเวลาของเขา ให้เขามีอิสระในการทำส่วนที่ตัวเองรับผิดชอบ ทำให้เขาทำงานได้อย่างสนุก เห็นความก้าวหน้า และคิดว่าเป็นงานของเขาเอง

พยายามหลีกเลี้ยงการแก้นู่นนี่ไม่หยุด ระหว่างงานไม่ควรให้การเสนอและวิจารณ์ผลงานไม่ควรพูดกันเอง แต่ควรให้ผู้กำกับมีหน้าที่ฟังและตัดสินใจ ว่าควรจะแก้ หรือควรจะปล่อยไปเท่าที่ได้ตามทุนที่มี

771 Nameless Fanboi Posted ID:qYECBlw63c

>>763 ปชปต่อต้านอะไรพอเป็นพิธีวะ โดยเฉพาะไอ้2ครั้งหลังสุดเนี่ย555 ของที่อื่นมันไม่มีทั้งนโยบายพรรคและก็การกระทำนะ

>>764 พรรคขวาฝรั่งหาพฤติการณ์ที่สนับสนุนรปหไม่ได้ เลยถึงขั้นเอาเกาหลีเหนือเข้ามาเอี่ยวด้วยเลยเหรอ ไอ้แต่ละประเทศที่อ้างมา กรีก ออส เดนมาร์ก เยอรมัน เนี่ย ไม่มีรปหมากี่ปีแล้วครับ

772 Nameless Fanboi Posted ID:qYECBlw63c

>>771 อนุโลมให้เป็น coup attempts ก็ได้นะจ๊ะ หามาให้ได้ล่ะ อิอิ

773 Nameless Fanboi Posted ID:Vsi5E.gOY.

รีวิวปี 2020 มั่งก็ได้ เห็นคนฮิตรีวิวกันใหญ่

ปี 2020 เป็นปีที่กูได้ "ควยฟรี" เยอะที่สุดในรอบ 10 ปี

คือตั้งแต่อายุ 32 ถึง 41 กูอ้วนขึ้นมาก เลยไม่มีใครอยากมีเซ็กส์ด้วย ชวนใครก็โดนปฏิเสธหมด ไปซาวน่า ยืนจนร้านปิด ก็ไม่ได้สักควย

จนปลายๆปี 2019 กูตัดสินใจออกกำลังกาย แล้วก็ทำมาเรื่อยๆ ผลคือ ตลอดทั้งปี 2020 กูได้ควยฟรี (ไม่ต้องเสียเงินซื้อ) เยอะมากอ่ะ

แบบว่า ชวนใครมีเซ็กส์ด้วย ก็มักไม่ถูกปฏิเสธ และมีหลายครั้งที่อีกฝ่ายส่งข้อความมาชวนกูด้วยซ้ำ ซึ่งมันไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาเป็นสิบปีแล้ว
บางคนรูปร่างหน้าตาดี กูแกล้งชวนเล่นๆ ไม่คิดว่าเขาจะตอบตกลง ก็ดันตอบตกลง! ไปซาวน่าก็ได้คืนละไม่ต่ำกว่า 3 ไม้ แถมได้คนที่ดูโอเค ด้วย

ดังนั้น ข้อคิดที่กูได้จากปีนี้คือ ถ้าอยากกินควยฟรี คุณต้องทำตัวเองให้ดูน่ากินด้วย ไม่ใช่ว่าปล่อยตัวจนอ้วน ไม่ยอมออกกำลังกาย พอคนที่ดูดีเขาปฏิเสธคุณ คุณก็ดันไปด่าเขา หาว่าเขาเหยียดรูปร่างหน้าตาคุณ ซึ่งมันไม่ใช่เลยนะ มันไม่ใช่ความผิดของเขา มันเป็นความผิดของตัวคุณเอง

จบการรีวิว

774 Nameless Fanboi Posted ID:PxxvKaHJHB

ขวาตกขอบแถกับซ้ายตกขอบเหรอวะ
ฝรั่งมันก็ไม่เอาทั้งฟาสซิสทั้งคอมมี่นั่นแหละไอ้ควาย

775 Nameless Fanboi Posted ID:IESMwDU482

ใต้ตีนwannabe VS. กรรมกรwannabe

776 Nameless Fanboi Posted ID:0EJHUGjkV5

Wannabeคอม แต่คอมจริงๆอยากจับไปยิงเป้า เพราะเป็นชั้นกลาง

พวกเบียวคอมนี่ในหัวมโนกันทั้งนั้นว่าถ้าปฏิวัติสำเร็จจะไปเป็นสมาชิกพรรคถือบัตร เป็นเลนินเป็นเหมาเป็นเช ไม่มีใครอยากไปเกี่ยวข้าวกับทำงานโรงงานเหมือนสหายคนอื่นซักคน กรั่กๆ

777 Nameless Fanboi Posted ID:r8qhY6IinT

>>771 แม่งmove the goalpostอีกแล้วว่ะ คราวนี้ลากไปเรื่องcoup 5555555555

778 Nameless Fanboi Posted ID:PxxvKaHJHB

>>776 แปลว่าเบียวเผด็จการนี่ chad ป่ะ อยากเป็นใต้ตรีน แต่พออยู่ในเผด็จการแล้วก็เป็นได้แค่ใต้ตรีนจริง ๆ ถือว่าประสบความสำเร็จกว่าเบียวคอมป่ะวะ

779 Nameless Fanboi Posted ID:aN7E8vF763

>>778 ถ้าเผ็ดกลางไม่บ้าสุดขั้ว ชีวิตในสังคมส่วนใหญ่จะสบายกว่าคอมนะ เพราะไม่ได้เปลี่ยนกฎให้มันขัดกับโลกเกินไป

780 Nameless Fanboi Posted ID:m1IQWelmtW

เหมา สตาลิน ไม่เผด็จการเบย

781 Nameless Fanboi Posted ID:qYECBlw63c

>>774 พรรคคอมได้เขียนคำว่าคอมในชื่อพรรคเลยนะ แต่ชื่อพรรค fascist กับ coup หาไม่เจอเลยครับ จริงๆฝ่ายเบียวเผด็จการก็บอกเองใน >>764 ว่าไม่มีที่ไหนกล้าบอกชัดๆว่าสนับสนุนรปห ไม่ใช่เหรอ ทั้งที่พรรคคอมหลายๆที่ เค้าประกาศตัวชัดเจนว่าอุดมการคอมมิวนิสนะจ๊ะ เอามาเป็นชื่อพรรคเลย

>>777 ก็พูดเรื่องฟาสซิสแบบที่ "รปห" ตั้งแต่เม้นแรกเลยนะ >>754 ถ้าหาไม่ได้ก็บอกกันตรงๆก็ได้ครับ

782 Nameless Fanboi Posted ID:qYECBlw63c

>>779 ถ้าคอมไม่บ้าสุดขั้วบ้าง ก็เห็นเขาอยู่ในสังคมปชต ตั้งพรรคตั้งอะไรกันได้หลายประเทศมากเลยอะครับๆ

783 Nameless Fanboi Posted ID:0EJHUGjkV5

>>778 ไม่รู้ดิ จะว่างั้นก็ได้มั้ง เพราะพวกเบียวคอมยุคนี้มีแต่พวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ข้อไม้ข้อมืออ่อน เอาแต่ปากดีบนเน็ตแต่ไม่ออกไปปฏิวัติบนถนน ถ้ามาร์กซ์มองขึ้นมาคงเสียใจ

784 Nameless Fanboi Posted ID:r8qhY6IinT

ไม่ชอบคอมเพราะผมรักสาวแว่นครับ พวกคอมมันสั่งฆ่าคนใส่แว่น ไม่ คุ ณ ภ า พ เลย

785 Nameless Fanboi Posted ID:jV7K7MI6Qf

>>783 มีแต่คนอยากเป็นน้าเช แต่ไม่มีใครทำแบบน้าเช

786 Nameless Fanboi Posted ID:gN/d2qITr0

>>783 สู้ในระบบได้จะถือปืนทำไมวะ​ พวกคอมเค้าตั้งพรรคลงลตกันหมดแล้ว

787 Nameless Fanboi Posted ID:qrsaNn/iPV

⭕️ 21 ข้อคิด สำหรับทำธุรกิจในปี 2021 นี้ 🌟
จากประสบการณ์ของผม จาก 0 ถึงยอดขาย 9 หลัก

1) เริ่มต้นธุรกิจโดยไม่ใช้เงิน หรือ ใช้เงินให้น้อยที่สุด เพราะถ้าผิดแผน อย่างน้อยๆ ก็แค่แผลถลอก ไม่ถึงตาย

2) การลงโฆษณาจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะตอนนี้ค่าแอดยังถูกกว่าที่ อเมริกา 10 เท่า ฉะนั้นให้ยิงแอดเพื่อสะสมลูกค้าไว้ให้ได้มากที่สุด

โดยเฉพาะช่วงปีใหม่นี้เพราะ ค่าแอดถูกที่สุด

3) สูตรการทำ Content ให้ปัง สร้างยอดขาย 7 หลักในคลิปเดียว คือ Video Funnel
- เริ่มต้นด้วย ปัญหา
- ตามด้วยจุดเด่น
- ปิดการขายด้วย โปรโมชัน
- สั่งซื้อให้ง่ายผ่าน Inbox, Line, โทร

4) “ความถี่” สำคัญที่สุด ในการขายออนไลน์ ถ้าทำให้ลูกค้าที่กำลังสนใจอยู่ เห็นโฆษณาบ่อยๆ

- คนที่ยิง FB ให้สร้างกลุ่ม
มีส่วนร่วม 3 วัน , ความถี่ 3 ครั้ง/1 วัน
- คนที่เข้าเว็บ 3 วัน
ให้ Remarketing Google 10 ครั้ง/1 วัน

แล้วคุณจะขายดีขึ้นทันที

5) นอกจาก Facebook แล้ว ให้เริ่มลงทุนปลูกบ้าน (ช่องตัวเอง หรือ Website) เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืนไปด้วย

6) ให้ทำรีวิวสินค้าทิ้งไว้ใน Youtube ด้วย
ทุกวันนี้ผมมีรายได้ passive income จากคลิป รีวิวสินค้า ใน Youtube เดือนละหลายแสน แบบฟรีๆ มา 3 ปี

7) การทำออนไลน์ จะสำเร็จได้ ต้องวัดผลเป็น
โดยใช้ Google Analytic + UTM
ไม่ว่ายอดขายจะมีจาก FB , Google , Line จะรู้หมด

8. ความยั่งยืน = รวย
ฉะนั้น ให้เน้นความยั่งยืน มากกว่า สินค้ากระแส เพราะ คนที่รวย คือคนที่มีรายเข้าตลอดแบบสม่ำเสมอ

โมเดลธุรกิจ สำคัญที่สุด

9) การทำธุรกิจคือ การช่วยให้ชีวิต คนอื่นดีขึ้น
ถ้าอยากขายดีให้มองที่ความสุขของลูกค้ามาเป็นอันดับ 1

10) ให้ทำธุรกิจ 2 แบบ
- มั่นคง แต่กำไรน้อย (อยู่ได้ยาวๆ)
- กระแส แต่กำไรเยอะ (ไว้เป็นโบนัส)

11) ยุคนี้ โอกาส มีเวลาจำกัด ไม่ได้เปิดประตูรอนาน ฉะนั้น เมื่อมีโอกาส ทำให้เกิน 100% แบบไม่ต้องเสียดายที่หลัง

ลูกศิษย์ล่าสุด ปกติทำได้เดือนละ 300,000 มา Private เลยให้เห็นแนวทางที่ผมทำ
3 เดือนผ่านไป ปลดล็อค มาวันนี้ยอดขาย เดือนละ 8ล้านบาท

12) เมื่อได้กำไร ให้แบ่งกำไร 20% ออกมาจัดเป็นทัพเชลย เพื่อไปเริ่มช่องทางใหม่ๆ หรือ จ้างคนมาช่วย ทำให้เรามีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้น

13) ความลับที่จะทำให้ประสบความเร็จ

0-1 ล้าน = ให้ใช้ Outsource มาช่วยงาน ประหยัดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด

1-10ล้าน = ให้วางระบบสร้างทีม กระจายงานออกจากตัวเราทั้งหมด มาช่วย Support เช่น Graphic, ตัดต่อ, ยิงแอด

10-100 ล้าน = ต้องเป็นระบบเต็มรูปแบบ มีผู้จัดการ หรือ Partner คอยรับผิดชอบงานในแต่ละส่วน แล้ว แบ่งรายได้กัน ตามหน้าที่ความสำคัญ ที่รับผิดชอบ

100-1000 ล้าน = เน้นความมั่นคงเป็นหลัก
ยอดขาย สำคัญกว่า กำไร

*ระดับนี้ยอดขายสำคัญมากไว้ใช้ Money game ต่อยอดธุรกิจ และ ไปสร้าง Wealth ต่อ

14) อย่าทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว เพราะเราเป็นเจ้าของกิจการ ตีราคามูลค่าตัวเอง ทำเฉพาะหน้าที่สำคัญที่สุด อย่าเป็นแรงงานราคาถูก

15) ให้ทำความรู้จักลูกค้าในแต่ละช่องทางจริง เช่น
Lazada = กลุ่มหลักๆ เป็นแม่บ้าน
Shopee = คนชอบซื้อในราคาคุ้มค่า
FB = กลุ่มคนอายุ 20-60 โดยเฉพาะ สูงอายุมีกำลังซื้อ
IG = กลุ่มคนมีกำลังซื้อ โดยเฉพาะ แฟชั่น , ความงาม
Tiktok = กลุ่มเด็ก และ วัยทำงาน

16) ให้วางแผนสำรองไว้ในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะ เหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เช่น สร้างสินค้าตัวนี้ขายไม่ได้ เราจะขายอะไรต่อ หรือ สร้างรายได้จากที่ไหน

17) ยุคนี้ ใครสามารถแก้ปัญหาได้ดี
จะเป็นคนที่รวย
เพราะทุกอย่างเปลี่ยนกันรายวันเลยทีเดียว

18) คนจะซื้อของจากความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ให้รีบสร้างแบรนด์สินค้า , แบรนด์ร้านค้า หรือ ออกมาทำ Personal Branding

19) ยุคต่อไป ลูกค้าจะซื้อของ จากคุณค่า ที่เค้าได้รับ ฉะนั้นจงให้ประโยชน์กับลูกค้าให้ได้มากที่สุดครับ

20) ขายดีอย่างเดียว อาจจะไม่ทำให้รวย
แต่การเป็นนักธุรกิจที่ลงทุนเป็น จะทำให้รวย

21) ลงทุนในความรู้ ไม่มีวันขาดทุน
อย่าหยุดที่จะเดินอยู่แค่นี้ มีอะไรที่เราไม่รู้อีกหลายอย่าง ให้เป็นคนที่รอบรู้ แต่เจาะลึกในสิ่งที่เชียวชาญ

สุดท้ายนี้หวังว่าประสบการณ์ ของผมที่เข้าใกล้วัยจะ 40 คนนึง เคยล้มหมดตัวมา 3 รอบ จะช่วยให้ทุกๆ คนผ่านวิกฤตในปี 2021 นี้ไปได้

สวัสดีปีใหม่ทุกๆ คนนะครับ 😊
#แชร์บอกต่อผ่านวิกฤตไปด้วยกัน

788 Nameless Fanboi Posted ID:kKgkKz8ghV

>>785 ทำแบบน้าเชต้องไปนอนป่าโดนยุงกัดโดนฝนสาดใส่อ่ะดิ คอมยุคใหม่แบบเราทั้งชีวิตอยู่ในห้องแอร์เพราะพ่อแม่รวย สู้ด้วยการเล่นโซเชี่ยลก็พอละ ปลดแอกกรรมาชีพ เอ้า เฮ้ เฮ้

789 Nameless Fanboi Posted ID:VhR09dkSpV

จะเอาไรมาก คนสอนให้พอเพียงยังไม่เคยจนเลย

790 Nameless Fanboi Posted ID:9awDYP5z7t

>>789
มาอีกล่ะ ต้องอธิบายคำว่า"พอเพียง"อีกซะกี่ครั้งวะ

พอเพียงไม่ได้หมายความว่าให้จน

ควยเถอะร่ า นคอมมี่

791 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>790 เหรอหลิ่มมม สอนลูกตัวเองยังไม่ได้ ยังเสือกเสนอหน้ามาสอนคนอื่นนี่อะนะ ดิ้นเข้าไปสิ 55555

792 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>790 พอเพียง คือ ให้กูรวยคนเดียว ที่เหลือมึงก็จนๆไปนะ อย่าสเออะขึ้นมารวยแบบกูป่าวอะหลิ่ม 5555

793 Nameless Fanboi Posted ID:l8S4+4T7mk

เศษฐกิจพอเพียง ≠ อยู่อย่างพอเพียงว่ะ

โดนตุ๊ดล้างสมองมาแล้วไม่รู้ตัวอีก 55555

794 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>793
เหรออออ ใช่เหรอ มึงป่าวอะที่โดนล้างสมองจนโง่ดักดานไม่รวยเสียทีอะ 55555

795 Nameless Fanboi Posted ID:l8S4+4T7mk

>>794 งั้นลองอธิบายสิ แต่ไม่รู้ไม่แปลกหรอก คนโง่มักไม่ยอมรับว่าโง่

วันนี้แอบเล่นโทรศัพย์ตอนดึก เดี๋ยวแม่ก็มาไล่ไปกรอกน้ำอีกหรอก 555555

796 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>795 แม่ไล่ไปหรอกน้ำอะมึงป่าวอะ
คนโง่มักไม่ยอมรับว่าโง่ อืม...เข้าตัวมึงเองเต็มๆเลยนะหลิ่ม 55555

797 Nameless Fanboi Posted ID:l8S4+4T7mk

>>769 เถียงคอเป็นเอ็นแบบนี้ หัวเกรียนแน่นอล 55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

798 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>797 ดิ้นเข้าไปนะหลิ่ม กูสมเพชมึงว่ะ 555555

799 Nameless Fanboi Posted ID:9awDYP5z7t

>>791 >>792
ไปดูวอเรน บัฟเฟต

800 Nameless Fanboi Posted ID:GrcIi9KUNm

>>790 ไหนอธิบายให้ฟังหน่อยสิว่าเป็นเป็นไง คนคิดมันยังอธิบายเป็นภาษาคนให้เข้าใจไม่ได้เลย
พอเพียงไม่ได้หมายความว่าให้จน แต่เวลาคนจนเสือกโทษว่าไม่พอเพียง ตลกดีมั้ย

801 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>800 หลิ่มมันอธิบายไม่ได้หรอก 555555555555555555

802 Nameless Fanboi Posted ID:l8S4+4T7mk

level 0 มาอีกละ

803 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

เลเวล 0 มาอีกละ กูก็พิมพ์ได้ 55555

804 Nameless Fanboi Posted ID:l8S4+4T7mk

https://imgur.com/lgfTfBH หุ

805 Nameless Fanboi Posted ID:GrcIi9KUNm

เรียกคนอื่นว่า level 0 ก็ name-calling รึเปล่าคุณ โพสด่าตัวเองเหรอ

806 Nameless Fanboi Posted ID:l8S4+4T7mk

ไหนเถียงแบบ เหตุผล อยู่ในประเด็น ของ >>790 ให้ดูหน่อยดิ๊
พ่นมาแต่ level 0

807 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

พอเขาให้อธิบาย ก็อธิบายไม่ได้ แล้วมาเลเวล 0 ส้นตีนอะไรของมึงเนี่ย
สัสเอ้ยโง่แล้วเสือก ทำฉลาด 5555555555

808 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>806 " พ่นมาแต่ level 0 " มึงเองทั้งนั้นหลิ่ม

809 Nameless Fanboi Posted ID:l8S4+4T7mk

อ้าว สรุปมึงอธิบายไม่ได้เหรอ เถียงมาตั้งนาน 555555

กูเอาหลักฐานมาให้แล้ว ที่เหลือไปค้นเอง
Self-Sufficiency of Economy ≠ Self-Sufficiency
17 JAN 2001 @ไกลกังวล

810 Nameless Fanboi Posted ID:GrcIi9KUNm

>>809 เข้าใจก็อธิบายมาดิคร้าบ จะโยนไปทำไม จุ๊ๆๆ

811 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>809 อะไรของมึงหลิ่มมม นี่อะนะหลักฐานมึง 55555+

812 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>809 หลักฐานแบบมึงกูก็ทำได้
Self-Sufficiency of Economy = Self-Sufficiency
ที่เหลือไปค้นเอาเองนะ 5555555

813 Nameless Fanboi Posted ID:l8S4+4T7mk

บอกวันที่ กับสถานที่ ของคนพูดไว้แล้ว มีบัญทึกทั่วไปตาม google อ่านไม่เกิน 3 บรรทัดเหรอมึง

814 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>813 อ้าวสรุปว่ามึงอธิบายไม่ได้ใช่ไหม เลยต้องโยนอะ 555555555555555555555

815 Nameless Fanboi Posted ID:l8S4+4T7mk

อ้าวแล้วสิ่งที่มึงเข้าใจ ก็บอกไว้แล้ว ถ้าโต้แย้งว่าไม่ใช่ก็บอกสิ เห็นพิมพ์ 555555555555555555555 ใหญ่

816 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>815 โง่ก็บอกว่าโง่สิหลิ่มมมม

817 Nameless Fanboi Posted ID:l8S4+4T7mk

level 0 อีล่ะ

818 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>817
level 0 อีล่ะ เอ้อ เบื่อชิบหายเลยอะ เถียงไม่ออกก็พิมพ์แต่ level 0 อีล่ะ ปัญญาอ่อนจริงๆ

819 Nameless Fanboi Posted ID:l8S4+4T7mk

เพราะกูไม่เห็นเหตุผลมึงไง

820 Nameless Fanboi Posted ID:I4p4JeZaji

https://imgur.com/lgfTfBH

821 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>819
กูก็ไม่เห็นเหตุผลมึงเหมือนกันอะ

822 Nameless Fanboi Posted ID:I4p4JeZaji

“...ฉันพูดเศรษฐกิจพอเพียงความหมายคือ ทำอะไรให้เหมาะสมกับฐานะของตัวเอง คือทำจากรายได้ ๒๐๐-๓๐๐ บาท ขึ้นไปเป็นสองหมื่น สามหมื่นบาท คนชอบเอาคำพูดของฉัน เศรษฐกิจพอเพียงไปพูดกันเลอะเทอะ เศรษฐกิจพอเพียง คือทำเป็น Self-Sufficiency มันไม่ใช่ความหมายไม่ใช่แบบที่ฉันคิด ที่ฉันคิดคือเป็น Self-Sufficiency of Economy เช่น ถ้าเขาต้องการดูทีวี ก็ควรให้เขามีดู ไม่ใช่ไปจำกัดเขาไม่ให้ซื้อทีวีดู เขาต้องการดูเพื่อความสนุกสนาน ในหมู่บ้านไกลๆ ที่ฉันไป เขามีทีวีดูแต่ใช้แบตเตอรี่ เขาไม่มีไฟฟ้า แต่ถ้า Sufficiency นั้น มีทีวีเขาฟุ่มเฟือย เปรียบเสมือนคนไม่มีสตางค์ไปตัดสูทใส่ และยังใส่เนคไทเวอร์ซาเช่ อันนี้ก็เกินไป...”

พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล
๑๗ มกราคม ๒๕๔๔

823 Nameless Fanboi Posted ID:I4p4JeZaji

กูแปะให้แล้ว ที่แชร์มามั่วๆ ของมึงมันผิด แหมเห็นคำว่าพอเพียงไม่ได้เลย

824 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>822 โถๆๆๆๆๆ ย้อนแย้งในตัวเองมากมาย

825 Nameless Fanboi Posted ID:I4p4JeZaji

ปั้มไปกี่กลุ่มแล้วล่ะ ไอ้ที่ว่าพอเพียงแบบเข้าใจผิดของมึงเนี่ย

826 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>825 บอกตัวเองเหรอหลิ่มมมม สื่อทีวี สื่อการสอน โฆษณา มันออกมามันแนวนั้นหมด แล้วมาแย้งกลบด้วยข้อความข้อความเดียวนี่อะนะ 5555

827 Nameless Fanboi Posted ID:I4p4JeZaji

>>826 ไหนหลักฐานโชว์หน่อย โต้แย้งอย่างมีอารยะ

828 Nameless Fanboi Posted ID:MDAmT+eQCM

>>827 https://www.prachachat.net/social-media-viral/news-519642

829 Nameless Fanboi Posted ID:I4p4JeZaji

>>828 อันนั้นมีแต่คนด่า

แบบดั้งเดิม สื่อความหมายไม่ผิดนะ
https://www.youtube.com/watch?v=KUm8PUsrKXs

830 Nameless Fanboi Posted ID:9awDYP5z7t

ร่ า นแถอีกล่ะ
เมื่อไรเลือกตั้งจะชนะ
เป็นได้แค่นายกโซเชี่ยล
หาบอทมาโหวตตัวเอง

831 Nameless Fanboi Posted ID:nA+9S80LgX

จำได้ป่ะ เดือนก่อน ฉันเคยพูดว่าหุ่นณเดชน์นั้นแปลก คือ "มีพุง แต่ก็มีซิกแพค"
ซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่เทรนเนอร์ฟิตเนสสอนเรามาตลอดว่า คนจะมีซิกแพคได้นั้น ต้องลดพุงก่อน แล้วซิกแพคที่ซ่อนอยู่ใต้พุงจะโผล่ออกมา แต่ณเดชน์มาทั้งพุงมาทั้งซิคแพค 2in1เลย จะไม่ให้ฉันว่าแปลกได้ไง

832 Nameless Fanboi Posted ID:5NcyONEFoJ

สลิ่่มจะรู้ตัวมั้ย ว่าการที่บอกว่าคนไม่เข้าใจเศรษฐกิจพอเพียง ก็ไม่ต่างอะไรจากร่่าน บอกว่าคนเข้าใจคอมมี่ผิด

833 Nameless Fanboi Posted ID:05hJRcVQHw

>>832
ตรรกะป่วยน่ะมึง
พูดกันบน"ข้อเท็จจริง"
อย่าใช้ตรรกะเพี้ยนๆ

834 Nameless Fanboi Posted ID:5NcyONEFoJ

>>833 บอกว่าข้อเท็จจริงแต่ไม่บอกว่าข้อเท็จจริงยังไง ก็ไม่ต่างจากเด็กเอ๋อ

835 Nameless Fanboi Posted ID:05hJRcVQHw

>>834
กูว่าอธิบายจนปากฉีกแล้วน่ะ
แต่บัวใต้ตมก็น่ะ

836 Nameless Fanboi Posted ID:TqqNE/Mr.c

ฝุ่นใต้ตีนอะนะ แถไปเรื่อยแหละ 5555

837 Nameless Fanboi Posted ID:1/afy/aeVp

>>835 งั้นก็เอา "ข้อเท็จจริง" มาอธิบายสิว่า >>832 มันตรรกะผิดตรงไหน
ไม่งั้นก็อย่าอ้าง "ข้อเท็จจริง" ถ้ามึงไม่ได้ใช้

838 Nameless Fanboi Posted ID:f55z2n48P2

ใครที่ทำธุรกิจ จะรู้ดีว่าต้นทุนมี 2 อย่างคือ fixed cost และ variable cost

Variable Cost คือต้นทุนแปรผันตามยอดสินค้าที่ขาย เช่น ถ้าทำร้านอาหาร ก็จะเป็นวัตถุดิบ ข้าว หมู กะปิ น้ำปลา

Fixed cost คือต้นทุนคงที่ ขายมากหรือขายน้อย ต้นทุนพวกนี้มักไม่เปลี่ยน

ซึ่งธุรกิจ SME ส่วนใหญ่ ต้นทุน fixed cost ที่หนักที่สุด 2 อย่างคือ ดอกเบี้ยเงินกู้ และ ค่าเช่าที่ดิน

ส่วนค่าแรงลูกจ้าง ปกติแล้วถ้าไม่ใช่ธุรกิจที่ต้องจ้างคนเป็นโรงงาน ก็มักจะไม่ใช่สัดส่วนใหญ่โตที่สุดหรอก — หรืออย่างเลวร้ายเลยคือ เค้าไล่คนออกได้ หรือปรับลดเงินเดือนได้

ดังนั้นธุรกิจจะอยู่ หรือ ตาย ขึ้นกับค่าเช่า และ ดอกเบี้ย ล้วนๆเลย

——-

ตัดภาพมา ถ้าใครเรียนเศรษฐศาสตร์ จะรู้ว่า “ปัจจัยการผลิต” สำคัญที่สุด 3 อย่างคือ 1. เงินทุน 2. ที่ดิน 3. พลังงาน

ซึ่งในแทบทุกประเทศ 3 อย่างนี้ คือสิ่งที่ “รัฐคุม” ไว้หมด อาจต่างกันว่าคุมทางตรง หรือ อ้อม คุมมาก หรือ คุมน้อย .. แต่คุมทั้งนั้นแหละ

รัฐบาลไทย สามารถช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจได้ โดยการเอาตัวเองเข้ามา “บริหารจัดการ” ปัจจัย 3 ข้อนี้อย่างจริงจังนะครับ

เรื่องดอกเบี้ย และ เงินทุน ก็ไปคุยเรื่องโครงการพักชำระหนี้ผ่านธนาคารต่างๆ

เรื่องพลังงาน (น้ำมัน + ไฟฟ้า) อันนี้รัฐคุมหมดอยู่แล้ว จะปรับ จะลด จะยกเว้น ก็อาจกระทบเงินเข้าคลังบ้างแหละ แต่ก็แลกมากับเศรษฐกิจ สังคม และชีวิตคน ที่ไม่พังจนเกินไป

เรื่องที่ดิน ทุกคนรู้ดีว่า “เจ้าของที่ดิน” รายใหญ่ๆ สำคัญๆ ในประเทศนี้มีอยู่กี่คน กี่ตระกูล —- ถ้ารัฐบาลจะทำตัวเพื่อประชาชนเสียหน่อย ตั้งโต๊ะเจรจา หาทางปรับ ลด งดเว้น ค่าเช่าที่ดิน ตั้งแต่ “ต้นน้ำ” เลย ก็จะเป็นประโยชน์กับทั้งระบบเศรษฐกิจ

ซึ่งรัฐสามารถทำได้หลายกลไกนะ ไม่ว่าจะใช้เรื่องภาษีมาส่งเสริมหรือกดดันค่าเช่า หรือจะกำหนดไปว่าจะอุดหนุนค่าเช่าให้ระดับนึงแลกกับธุรกิจยังคงต้องจ้างงาน ไม่ไล่คนออก ไม่ปิดกิจการ อะไรก็ว่าไป ฯลฯ

ทั้งหมดนี้รัฐทำได้ทั้งนั้น และ ควรทำ

รัฐทำอะไรได้มากกว่าตั้งโครงการแจกเงินแน่ๆ

แต่ก็นั่นแหละครับ
รัฐจะทำ ก็ต่อเมื่อรัฐคือประชาชน

รัฐบาลยึดโยงกับประชาชน

ความมั่นคงของรัฐ คือความมั่นคงของประชาชน

ซึ่งน่าเศร้าที่วันนี้ ผมไม่คิดว่ารัฐไทย จะมีประชาชนอยู่ในสมการ

หวังว่าถึงตอนนี้จะเข้าใจเสียทีนะครับว่าทำไมต้องชูสามนิ้ว

ทำไมต้องเรียกร้องให้ ชาติ = ประชาชน

และทำไมถึงบอกว่าการเอาที่ดินสาธารณะไปเป็นของส่วนตัวคือเรื่องไม่เหมาะสม

839 Nameless Fanboi Posted ID:iW9MqR.p.v

>>837
กูว่าพิมหลายรอบแล้ววะ
ทำไมต้องให้กูย้ำคิดย้ำทำวะร่ า น
กูเบื่อ

840 Nameless Fanboi Posted ID:1/afy/aeVp

>>839 มันหลายรอบยังไงในเมื่อ >>832 มันประเด็นใหม่
อยู่ ๆ มาบอกคนอื่นเขาตรรกะป่วยมัน "ข้อเท็จจริง" ตรงไหน
ถ้าโต้แย้งไม่ได้แล้วไรด่าคนอื่นนี่ไม่ต่างจากที่มึงว่าเขา level 0 วันก่อนเลยนะ ตรรกะป่วยสัส

841 Nameless Fanboi Posted ID:IBafbWZ1gZ

ความเก่งที่สุดของรัฐบาลนี้คือความไม่รับผิดชอบ

ตั้งแต่เหมืองทองอัครา ที่ยืดอกพูดตรงๆว่ากฏหมายบอกว่าผมไม่ต้องรับผิดชอบ
เวลามีปัญหาดัง ก็จะไม่แก้ปัญหาก่อน แต่จะโวยวายใส่คนแจ้งปัญหา หาว่าเล่นการเมือง ถ้าคนแจ้งมีน้อย จัดการแล้วเงียบ ปัญหาก็ไม่ต้องแก้ เรื่องนี้ดูตัวอย่างได้ตั้งแต่ตอน ลักลอบขายหน้ากากที่แจ้งจับควีน ฐานเอาวีดีโอมาแฉ

ถ้าคนแจ้งมีมาก ปฏิเสธไม่ได้ ก็ย้ายพอเป็นพิธี เช่นเจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ที่คุมเวทีมวยจนเกิดซูเปอร์สเปรดเดอร์รอบแรก นี่ย้ายกลับมาแล้ว เรื่องแรงงานเถื่อนรอบนี้ที่ผิดวินัยไม่ร้ายแรง อาจจะจบแบบเดียวกัน

ถ้าแรงสุดๆจริงๆ เลี่ยงไม่ได้ ก็ตั้งกรรมการสอบ ซื้อเวลา พอแดดร่มลมตกข่าวเงียบ เรื่องก็หายไปกับสายลม เช่น บ้านป่าแหว่ง หรือ รายงานการทุจริตกระทิงแดงฉบับวิชา มหาคุณ ที่หายสาปสูญไปในอากาศ

พรก ฉุกเฉินต่อแล้วต่ออีก จะได้ไม่ต้องรับผิดชอบ ถึงขนาดนั้นก็โบ้ยคำสั่งลงไปให้ผู้ว่าสั่ง จะได้การันตีว่าไม่ต้องรับผิดชอบ

แล้วถ้าเอาตัวรอดไม่ได้จริงๆ ปัญหายังโผล่ ก็ให้โฆษกออกมาบอกว่าประชาชนการ์ดตก แล้วตัวเองก็หน้ามู่ทู่ออกมาโทษชาวบ้าน

ไม่ว่าอะไรก็ตาม รัฐบาลนี้ไม่เคยผิด

คนดีย์ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟก็ไม่ไหม้ ทำผิดอะไรก็ไม่ผิด
ไม่ยอมติดโควิดซักที ไอ้เชื้อกระจอก!

842 Nameless Fanboi Posted ID:1JA++GIDnK

อยากให้มีพรรคการเมืองที่จะเลือกตั้งรอบหน้า มีสัก 2 นโยบายง่ายๆ
.
1 ประหารชีวิต ทุกกรณี ที่เกี่ยวกับ ธุรกิจสิ่งเสพติด พนัน(ยกเว้นทำเป็นคาสิโนนำรายได้เข้าประเทศในอนาคต) การค้ามนุษย์ ทารุณกรรม ข่มขืน ฉ้อราษฎร์บังหลวง โดยไม่มีอภัยโทษหรือลดหย่อน

2 คนจนในประเทศต้องหมดไปใน 15 ปี ทุกคนต้องมีรายรับพอเพียงกับค่าใช้จ่ายขั้นต่ำในท้องถิ่นนั้นๆ

.
ถ้ามีแบบนี้ จะไปช่วยหาเสียงให้ฟรีๆด้วยน่ะ

843 Nameless Fanboi Posted ID:1AAUqzTm+i

>>842 ข้อ 2 นี่ผลพวงมาจากข้อ 1 ใช่มั้ย คนจนโดนโทษประหารหมดละ

844 Nameless Fanboi Posted ID:V/oYywjoMW

>>843 จะกล่าวหากระบวนการยุติธรรมไทยว่าทำให้เกิดแพะเร้อ ?

845 Nameless Fanboi Posted ID:IBafbWZ1gZ

ตอนเรียน ป.โท อาจารย์ที่ PPR ให้อ่านคู่กับ The Essence of Decision ของ Graham Allison แต่เนื่องจากต้องทำการบ้านหลายวิชา จึงได้แต่ Bookmark เก็บไว้ใน Chrome ไม่ได้อ่านซักที หยุดยาวนี้มีเวลาว่างเลยเอาออกมาอ่าน เป็น Memoir ที่ค่อนข้างอ่านสนุก แถมยังมีเกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับช่วงระยะอันตราย 13 วันนั้นเยอะดี เช่น:

1. ในช่วงที่โซเวียตขนมิสไซล์ และอาวุธนิวเคลียร์มาติดตั้งที่คิวบานี้ มันตึงเครียดขนาดที่ว่าคนระดับรัฐมนตรี หรือคนระดับสูงภายในรัฐบาลหลายๆคนไม่กล้าเดินทางไปประชุมที่ทำเนียบขาวพร้อมกัน เพราะกลัวจะผิดสังเกตจนพวกสื่อมวลชนรู้สึกสงสัย ว่าชาติกำลังมีภัย (กลัวคนจะแตกตื่น) วิธีแก้ของพวกนี้คือ ขึ้นไปอัดๆกันที่รถคันเดียวกัน 3-4 คน แล้วก็ขับไปหา JFK ทีเดียว

2. พัฒนาการด้านกลไกการดำเนินนโยบายต่างประเทศในระดับองค์กรของสหรัฐอเมริกา คือ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือก่อนหน้านั้น องค์กรระดับกระทรวงที่มีบทบาทด้านการต่างประเทศ หรือการทูตมีเพียง State Department เวลาจะมีศึกสงครามก็เป็นหน้าที่ของ State Department แต่ในช่วงสงครามเย็นเป็นต้นมา กระทรวงที่มีบทบาทด้านการทูตนั้นมีเยอะมากขึ้น ไม่ว่าจะกลาโหม การคลัง และยุติธรรม ฯลฯ โดยระหว่างที่มีวิกฤติขีปนาวุธในคิวบานี้ น้องชายของ JFK ที่เป็น Attorney General ประจำรัฐบาล ก็เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการติดต่อเอกอัครราชทูตของโซเวียต

3. การมีทหาร หรือผู้แทนทหารในวงประชุม สมช. (National Security Council) ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป โดยเฉพาะในยามศึกสงคราม เพราะมีแต่ปัญหา และรังแต่จะสร้างจุดบอดให้กับการตัดสินใจของประธานาธิบดี เนื่องจากทหาร ถูกฝึกมาให้รบ ไม่ได้ถูกฝึกมาให้คิดแบบนักการทูต หรือนักนโยบาย พอถามว่าจะแก้วิกฤติเรื่องคิวบาอย่างไร คนเป็นทหารก็มักจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ยิงมันเลยๆ" หรือไม่ก็ "ระเบิดเกาะคิวบาทิ้งไปเลยสิ จะรออะไร" ซึ่งไม่ถือว่าเป็นทางออกที่ดี เนื่องจากจะนำมาสู่การยิงโต้กลับของโซเวียต

4. Mindset ของ JFK และน้องชายขณะนั้นคือ จะทำอย่างไรก็ได้ แต่สงคราม หรือการโจมตีจะต้องเป็นทางเลือกสุดท้าย โชคดีที่ตอนนั้น Robert McNamara รัฐมนตรีกลาโหมเลือกจะเสนอ นโยบาย Quarantine (Naval Blockade) ที่ค่อนข้างดี และเป็นทางสายกลางไม่ก้าวร้าวเกินไป และไม่ดูอ่อนปวกเปียกเกินไปในทางปฏิบัติ (แม้ว่าจะถูกโจมตีอย่างมากจากที่ประชุมว่าเป็นนโยบายที่ไม่แสดงความยิ่งใหญ่ของอเมริกาก็ตาม) แต่ JFK ก็ไม่ได้สนใจ เพราะเชื่อว่าการมี Devil's advocates ไว้ในวงประชุมด้านความมั่นคงและนโยบายย่อมดีกว่าไม่มี เพราะอย่างน้อยมันยังเถียงกันได้ ทำให้ Excomm จึงยังเต็มไปด้วยผู้คนจากหลากหลายพื้นเพ ทั้ง CIA ทั้งกลาโหม ทั้งการต่างประเทศ และหน่วยสารสนเทศ

5. เทคโนโลยีด้านภาษาทางการทูตสมัยนั้น ถ้ามองจากในมุมคนปี 2020 จะมีความรู้สึกว่า Speech ที่ทำเนียบขาวร่างให้ JFK นั้นโคตรของโคตรเหยียด และมีถัอยคำของการจิกกัดประเทศคิวบาเต็มไปหมด มันมีกลิ่นอายของการข่มอยู่ในประโยคเกือบทุกประโยคแบบเห็นชัดเจนมากกว่าสมัยนี้เยอะ

6. พี่น้อง Kennedys มีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า วิธีการใช้ภาษาทางการทูต และการดีลกับวิกฤติ Cuban Missile Crisis จะต้องทำอย่างนิ่มนวล ไม่กดดัน ไม่แสดงออกถึงชัยชนะหรือความเหนือกว่ามากจนเกินไป และที่สำคัญคือไม่พยายามทำให้ฝ่ายตรงข้าม หรือโซเวียตนั้นเสียหน้า/รู้สึกอับอายต่อหน้าประชาชนภายในประเทศของเขาเอง แต่พอสุนทรพจน์ที่ทำเนียบขาวร่างออกมาให้ JFK พูด แต่ละประโยคมีแต่ถ้อยคำที่เสียดสี และแสดงออกถึงความเหนือกว่ายกหางตัวเองทั้งนั้น (อันนี้ส่วนหนึ่งอาจจะเป็น gap ที่เกิดขึ้นระหว่างยุคนี้กับยุคนั้น เลยทำให้รู้สึกว่ามันแสดงออกมาแบบนั้นด้วย คนยุค 1960s อาจจะไม่รู้สึกอะไรก็ได้)

7. วิธีการโกหกของทูตโซเวียตสมัยนั้นคือ โกหกหน้าตายให้สุดทาง แม้ว่าจะถูกจี้ ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่มีหลักฐานมายืนยัน ให้ตอบ "ไม่รู้" อย่างเดียว โดยในสเต็ปถัดไป หากอีกฝ่ายมีหลักฐานมายืนยัน แต่ยังไม่ได้จวนตัว ก็จะให้คำตอบแบบเลี่ยงๆ แต่ไม่ยอมรับเช่นเดิม เช่น ถ้ามีรูปถ่ายทางอากาศ ให้ตอบไปว่า "อ๋อ มิสไซล์นั้นไม่ได้มีความอันตรายอะไรหรอก เอาไว้แค่ช่วยคนคิวบาป้องกันตัวเองน่ะ" เท่านั้น

จริงๆมีอีกบางประเด็น แต่นึกไม่ออกละ ไม่ได้จดไว้ โดยรวมสนุกดี เหมือนอ่านนิยายเรื่อง Cuban Missile Crisis จากมุมของน้องชาย JFK

846 Nameless Fanboi Posted ID:1AAUqzTm+i

>>844 ธุรกิจพวกนี้เห็นคนจนมีส่วนร่วมหมดอะ จะว่าแพะก็ไม่ใช่ เรียกว่าสาวไปไม่ถึงนายทุนใหญ่มากกว่า

847 Nameless Fanboi Posted ID:1JA++GIDnK

เงินเยียวยาเหรอ? จริงๆก็มีอยู่หน่วยงานนึงนะ เอาเงินภาษีไปใช้มากมหาศาลทุกๆปี โดยที่ประชาชนไม่ได้อะไรเลย กล้าโยกเงินจากหน่วยงานนั้นมาเยียวยาประชาชนไหมล่ะ จริงๆเขาก็น่าจะยอมให้นะ เพราะหน่วยงานนั้นโปรโมทบ่อยๆว่ารักประชาชน

848 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>847
เอางบกระทรวงศึกษาก่อนเลย

849 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>848
โถๆๆๆๆ คิดได้แค่นี้เหรอ

850 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>849
เงินภาษีกูได้อาจารย์เหี้ยๆอย่างปิยะบุตร โคตรเสียดายตัง

851 Nameless Fanboi Posted ID:cku+lP8xxi

>>850 เงินภาษีกู ได้พ่อเหี้ยๆเอาแต่เยหมา 20 ตัว โคตรเสียดายตังค์

นี่รอตามข่าวเมื่อไหร่นางรองจะได้ขึ้นเป็นนางหลัก แล้วถีบนางหลักลงมาเป็นหรี่ให้ลูกน้องอยู่

852 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>850 เขาเหี้ยยังไงหลิ่มม​ หรือแค่ไม่ถูกใจมึง

853 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>851
มึงหมายถึงใคร?
นั่นเขาใช้เงินตัวเองธุรกิจเขามี

ไม่เหมือนอาจารย์ร่ า นหลายตัวที่กินเงินเดือนภาษีประชาชน แล้วเสี้ยมนักศึกษา

854 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>852
ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ เกาะกระโปรงเด็กไม่ดีน่ะจ๊ะ

855 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>853 ใช้เงินตัวเอง​ อีกแล้ว​ หลิ่มมาโชว์โง่อีกแล้ววว

856 Nameless Fanboi Posted ID:06b0Cvsk7n

>>854 มึงเมากาวหรอ เค้าไม่ได้นำม็อบ แต่อย่างว่ามึงก็ไม่เชื่อ แล้วก็มโนเอาจนได้

857 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

ข้ออ้างของหลิ่มหน้าโง่สวะ
เขาใช้เงินตัวเอง, เขามีรายได้เยอะแยะ
ถามจริงงงง ถ้ามึงใช้เงินตัวเองไปซื้อของ มึงต้องตั้งบประมาณไหมไอ้ควาย โง่กว่าควายอีกมึงเนี่ย

858 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

ใช้เงินตัวเองแล้วจะถวายภาษีให้ทำไมคับ ใช้เงินตัวเองอย่างเดียวก็พอละหนิ

859 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

อุ๊ยเดี๋ยวกูใช้เงินตัวเองเข้าเซเว่น ช่วยตั้งงบประมาณหน่อยนะ 555555555555555555555

860 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>855
รุ้งไม่ถามอาจารย์อานนท์แบบนี้บ้างจ๊ะ

861 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

นายกมีเงินเดือน มีรายได้เยอะแยะ ทำไมต้องใช้รถฟรีอะหลิ่ม เอ้อออออ ตามตรรกะหลิ่มแล้ว คนรวยเขาไม่ได้เงินภาษีใช่ไหมอะหลิ่มมมม
คิดเหมือนเด็กเอ๋อเลยว่ะ 5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

862 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>860
เรื่องบางเรื่อง ถามออกทีวีแล้วมันจะติดคุกเอาไงหลิ่มม เพราะพวกมีงมัน ปสด.

863 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

อุ๊ย เดี๋ยวกูต้องไปสอย PS5 ต้องทำงบประมาณแจ้งนายกก่อน 555555

864 Nameless Fanboi Posted ID:cku+lP8xxi

หริ่มจะมาปั่นอ่ะ ค่ากุ้งที่ค้างไว้คราวก่อนว่าแพงอ่ะ มีใบราคามาแปะให้ยัง?

865 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>862
ว้ายยยยยย

ตอนก่อม๊อบออกสื่อป่าวๆ

866 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>861
เอ้านายกก็ใช้เงินเดือนภาษีถูกแล้วสี่

867 Nameless Fanboi Posted ID:06b0Cvsk7n

>>865 มึงไปผันวรรณยุกต์ให้ถูกก่อน ปาวๆ ไอ้สัส โง่แล้วยังเสือกโง่

868 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

ไหนอะหลักฐานของหลิ่มว่าไม่ใช้เงินภาษี แต่หนังสือราบการ ที่ตั้งงบสารพัดนี่มีเต็มเน็ทเลยนะหลิ่มมม

869 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>868
เอามาสิ กูกับอาจารย์อานนท์รอยู้้้

870 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>869 อาจารย์ที่ปล่อยเฟคนิวส์ เรื่องแกนนำได้ไปเมกาอะนะ น่าเชื่อจุงเบย 55555555555555555555

871 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>869 ไหนอะหลักฐานมึงที่ว่าไม่ใช้เงินภาษี มีแต่ลมปากทั้งนั้น หลิ่มมมมม

872 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

อุ๊ยๆๆๆๆ ใครอะ fake news เฉยเลย
https://news.trueid.net/detail/8e7aBaB1wAqk

873 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>871
https://youtu.be/MpfJh4AWSCk

874 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>873
อะไรของมึงอะหลิ่ม ในคลิปก็มีแต่ลมปากเหมือนมึงนี่แหละ ไม่มีเอกสารสักแผ่น เอามาทำเหี้ยอะไร

875 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>874
แล้วฝั่งอีอ้วนช้างเยดรุ้งมึงล่ะ
มีเอกสารไม่โชว์ล่ะ

876 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>875
เอกสารมีเยอะแยะหลิ่มมม นี่มึงดูคลิปหรือยังว่าเขาพุดถึงอะไร ที่เอามาแปะโชว์ควายแบบนี้อะ

877 Nameless Fanboi Posted ID:cku+lP8xxi

>>875 ไหนอ่ะหลักฐานค่ากุ้ง พวกกูก็รออยู่

878 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>876
ไหนนนน

879 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>877
ค่ากุ้งไรวะ?

880 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>878 ของมึงอะไหน มีแต่ลมปากทั้งนั้นที่มึงหามาอะ

881 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

ไหนวะชอบอ้างข้อเท็จจริง ไปไหนแล้วล่ะ หลักฐานข้อเท็จจริงของมึงอ่ะไอ้ควายมีแต่ลมปาก

882 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>880
ลมปากไรวะ หลักฐานเขามีอ้างอิงหมดล่ะ

883 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>882 อ้างอิงไรมึง​ ค่าส้วมพ่อมึงก็เงินภาษีนะ

884 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>883
นั่นเครื่องบินต้อนรับทูตต่างประเทศ?
ไม่ใช่เครื่องบินส่วนตัว

885 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

>>884 แล้วเอาไปบินต้อนรับทูตต่างประเทศหรือเอาไปบินส่วนตัวล่ะ

886 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>884 ฑูตคนไหนได้นั่งมั่งหริ่มมม

887 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

เอาเครื่องบินต้อนรับทูตไปใช้ส่วนตัวไม่เรียกใช้ภาษีเหรอ ยิ่งเอาหลักฐานมาพูดยิ่งเอามามัดตัวเองนะ สงสารว่ะ

888 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>887
มึงพิมอะไรโง่ๆดีวะหลักฐานไม่มี
เครื่องบินกองทัพอากาศ...

889 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>888 ไหนบอกว่าใช้รับฑูตอะ ฑูตคนไหนได้นั่งบ้างยังอะหลิ่มมม

890 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>889
เยอะแยะ

891 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>890 ไหนหลักฐานมึง

892 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

เอาเครื่งบินกองทัพไปใช้ส่วนตัว นี่เงินภาษีไหมหลิ่มมมม

893 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

>>888 แล้วที่บินไปกลับที่ผ่านมานี่ไปส่งทูตตลอดเลย ? ทูตคนนั้นคือใครวะทำไมสำคัญตัวจัง

894 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

แล้วเอาเครื่องบินกองทัพไปเยอรมันทำห่าไร เรากำลังจะวางแผนตียุโรปเหรอ

895 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>891
http://www.3armyarea-rta.com/armyisoc3/aisoc3.htm

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎร
เมื่อ วันที่ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๔

" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เสด็จพระราชดำเนินโดยเครื่องบินพระที่นั่งจากกรุงเทพฯ ไปยังเชียงใหม่
พร้อมด้วยประธานาธิบดีซูการ์โน แห่งอินโดนีเซีย ที่บรเวณท่าอากาศยาน
จังหวัดเชียงใหม่ มีประชาชนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จเป็นจำนวนมาก "

896 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

>>895 ไปหานานมั้ย แต่หายังไงก็คงเจอแต่ของคนเก่าป่ะ ถึงใช้เวลาขนาดนี้ 555555 ไม่ move on ซะทีวะเฟรน เขาคุยกันคนปัจจุบันไอ้เสร่อ

897 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>896
จะพระองค์ไหนก็คือ เครื่องบิน"พระที่นั่ง"

898 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>897 แถให้สุดนะหลิ่มมมม

899 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

>>897 แต่เขาพูดถึงปัจจุบันว่าไม่ได้เอาไปใช้รองรับทูต ถ้าคนเก่าเอาไปใช้ถูก คนต่อไปจะเอาไปใช้ยังไงก็ได้ ?

900 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>898
มึงสิแถ
ถามเองน่ะ"ทูตเคยนั่งเครื่องบินพระที่นั่งไหม"
ก็หามาให้แล้ว

901 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

>>900 อันนี้คือมาเล่นตลก หรือไม่รู้ตัวจริง ๆ

A: เครื่องบินนี้เอาไปใช้เป็นการส่วนตัว ไม่ได้ใช้ในทางราชการแล้ว
B: มั่วแล้วเขาใช้รองรับทูตเมื่อ 50 ปีก่อน เห็นมั้ยหลักฐานคาตา
A: ?????

902 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>899
ร.10 ก็เอาไปประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนเยอะแยะ Google ก็เจอแล้ว

แยก"เครื่องบินพระที่นั่ง"กับ"เครื่องบินส่วนพระองค์"ให้ออกก่อน

903 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>902 ไหนอะ ขอหลักฐานหน่อยยย

904 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

ไปเยอรมันนี่เพื่อประชาชนไหมน้ออออ

905 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>903
https://www.komchadluek.net/news/crime/103691
นี่คือเครื่องบินส่วนพระองค์

906 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

ร่ า นโดนอีตุ๊ดเจียมหลอกเอาเครื่องบินส่วนพระองค์มาปนกับเครื่องบินพระที่นั่งสิน่ะ

907 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>905
ใช้เงินภาษีซื้อ น้ำมันเติมจากเงินภาษีป่าวหลิ่ม ไปเช็ฺคดูให้ดีนะ เคี๊ยกๆๆๆๆๆ

908 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

หลิ่มนั่งมโนเอาเอง แล้วมาโชว์โง่ในโม่งอีกแล้วสินะ 55555

909 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>907
เครื่องบินพระที่นั่งต้องใช้น้ำมันจากภาษีอยู่แล้ว
ใครจะทำงานฟรี

910 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>908
https://www.thairath.co.th/content/186439

911 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>909 อ้าวไหนบอกว่าไม่ใช้ภาษีเลยอะหลิ่มม เขารวยอยู่แล้วววว หลิ่มตอแหลนี่นา

912 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

>>905 https://youtu.be/GC4TARRSMHw

แล้วเอาวิหคตองห้าไปทำห่าอะไรที่บาเยิร์นครับ ?

913 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>911
เครื่องบินพระที่นั่ง พระองค์ไว้ประกอบพระราชกรณียกิจทำงานเพื่อประชาชน
อยู่มึงจะให้พระองค์ทำงานฟรี?

914 Nameless Fanboi Posted ID:V/oYywjoMW

โคกหนองนาแห่งความสุข
* ต้องมีที่
* น้ำชลประทานนานๆปล่อยที อยากได้น้ำทำเกษตร ก็จ้างคนสูบเป็นทอดๆ เสียเป็นชั่วโมง
* น้ำประปา อ่อไม่มี หรือมีก็ไม่ค่อยดี แต่ไม่เป็นไร เพราะเราต้องพอเพียง พึ่งพาตัวเอง
* ต้องขุดหนอง 30% ลึกอย่างน้อย 3 เมตรของพื้นที่เพื่อเก็บน้ำฝนที่ตกมาตลอดปี เอาไว้ใช้
* ค่าแรงรถขุดชั่วโมงละ 700 บาท
* ถ้าไม่มีตังค์ ก็ขุดเอง แต่ถ้าทำคนเดียวไม่ไหวก็ไปเรียกเพื่อนบ้านมาช่วย เย่ๆ วิถีไทย
* ทำยังไงไม่มีเครื่องมือ นั่งรถออกไป 10 โล
* ไม่มีรถทำไง ก็เดินสิ พอเพียงนะ อย่าไปลงทุนอะไรไม่จำเป็น
* ถ้าซวยหน่อยดินโครตแข็งจอบลงไป 30 cm ก็รอไป เอาน้ำรด หรือรอหน้าฝน
* อ่อ ประเทศไทยปีที่แล้วฝนไม่ตกติดต่อกันเป็นปี หนองขุดไว้ไม่มีน้ำ
* จะขุดบาดาล ต้องลุ้นว่ามีไม่มี ค่าขุดอย่างน้อย 20,000 บาท ~ 50,000 บาท
* ไม่มีตังค์ทำไง ขุดเอง ดูคลิปในยูทูปเอานะ

เย่ๆ โคกหนองนาแห่งความสุข

915 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>913 อ้าวก็เห็นขยันทวงบุญคุณนี่ ตกลงไม่ได้ทำฟรี แล้วจะมาทวงบุญคุณอะไรอะหลิ่มมมมม

916 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

ไหนจะค่าป้ายโปรโมทตัวเอง ที่ติดแทบจะทุก 4 แยกอีก

917 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

หายไปไหน กูเอามาให้แล้วนะ เครื่องบินพระที่นั่งบินไปเยอรมันอ่ะ กลับมาตอบหน่อยดิไอ้เอ๋อ

918 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>915
ทำฟรี?
บนโลกนี้ใครทำงานฟรี?

919 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>918 งั้นก็อย่ามาเสือกให้ประชาชนสำนึกบุญคุณบ้าบอสิไอ้แม่เยส

920 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

https://youtu.be/Pn_op7Wfumk

ไปรับทูตคนไหนที่ไลพซิก ?

921 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>917
พระราชกรณีประพาสยุโรปหรือเปล่า ถ่ายมาแค่นี้?

922 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>921 ไปหาหลักฐานมาสิหลิ่มมม 55555555

923 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

>>921 ไม่เห็นมีข่าวเลยว่ามีพระราชกรณียกิจที่เยอรมัน ?

924 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>922
มึงดิหาหลักฐานมา

925 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

แล้วไหนชี้แจงกับศาลเยอรมันว่าไม่ได้ทำพระราชกรณียกิจที่เยอรมัน ? ยิ่งแถยิ่งมัดตัวเรื่อยๆ เลยนะ

926 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

แล้วเป็นไปได้ด้วยหรอที่จะไปทำพระราชกรณียกิจโดยที่สาธารณชนไม่รับรู้ ? แถต่อดิกูรอฟัง

927 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>926
https://hilight.kapook.com/view/207901
เยอรมันก็ยอมรับมีการปฏบัติพระราชกรณียกิจเยอรมัน แต่ไม่ต่อเนื่อง เข้าใจยังร่ า น

928 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนีว่า ผู้แทนรัฐบาลเยอรมนีได้กล่าวบรรยายสรุปในประเด็นที่เกี่ยวกับกษัตริย์ไทยให้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการการต่างประเทศของสภาผู้แทนราษฎรฟังว่า รัฐบาลเชื่อว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้รับอนุญาตให้ตัดสินพระทัยเป็นครั้งคราว ตราบใดที่พระองค์ไม่ได้ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจอย่างต่อเนื่องในแผ่นดินเยอรมนี

"รัฐบาลเยอรมนีมองว่า ขณะนี้ยังไม่อาจกล่าวได้ว่าพระองค์ทรงงานอย่างต่อเนื่อง (ในประเทศเยอรมนี)"

929 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>927 เหรอออออ แหมต้องเหมาโรงแรมด้วยอะนะ 55555

930 Nameless Fanboi Posted ID:NMrrdPF8Y3

>>927-928 มึงอ่านยังไงถึงเข้าใจอย่างงั้น ? เรียนจบ ป.6 แล้วไปเป็นทหารเกณฑ์เลยเหรอ

"และเมื่อถูกถามถึงพระราชสถานะของพระมหากษัตริย์ไทย รัฐบาลเยอรมนีให้คำชี้แจงต่อรัฐสภาว่า พระองค์ทรงถือวีซ่าที่อนุญาตให้ประทับอยู่ในเยอรมนีได้เป็นเวลาหลายปี ในฐานะบุคคลทั่วไป ขณะที่ทรงได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มครองทางการทูต ในฐานะประมุขของรัฐ"

ถ้าไปทำ "พระราชกรณียกิจเยอรมัน" จะมีประเด็นถึงพระราชสถานะมั้ย ? ก็ตอบไปเลยสิว่ามาทำพระราชกรณียกิจ

"รัฐบาลเชื่อว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงได้รับอนุญาตให้ตัดสินพระทัยเป็นครั้งคราว ตราบใดที่พระองค์ไม่ได้ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจอย่างต่อเนื่องในแผ่นดินเยอรมนี"

เขาหมายถึงตัดสินใจพระราชกรณียกิจของไทยในเยอรมันนี ไม่ใช่พระราชกรณียกิจของเยอรมันนี

โง่แล้วขยันมันเป็นอย่างงี้นี่เอง

931 Nameless Fanboi Posted ID:5noGxMKR9A

เดี๋ยวนี้คุยงานผ่าน zoom / google meeting แล้ว เขาจะไปทำที่ไหนก็ไม่ควรมีปัญหานา ขนาดพวก CEO หลายๆบริษัทก็ทำกัน

932 Nameless Fanboi Posted ID:V/oYywjoMW

เกษตรพอเพียง ไม่มีเงิน ทำไม่ได้เด้อ

ที่บ้านทำเกษตรพอเพียงครับ ... มันไม่ง่ายเหมือนคำโฆษณาเด้อ ต้องมีที่ทาง ค่าใช้จ่ายก็สูง (วัวในคอกก็ซื้อมาหลักแสน) ต้องมีคนดูแล

สุดท้าย ผมยังต้องสร้างระบบบำเหน็จบำนาญ ส่งให้ที่บ้านอีก เพื่อสร้างระบบให้มันเสถียรขึ้น นี่ยังไม่นับค่าหยูกค่ายา นั่นนู่นนี่อีก

933 Nameless Fanboi Posted ID:LtRDBqmOX0

>>931 ที่เซ็งคือสภาฯ หรือ กมธ. ดันไม่มีกฎหมายรับรองการประชุมออนไลน์ ทุกอย่างเลยต้องเลื่อนไปหมด

934 Nameless Fanboi Posted ID:ilXbi65y+3

>>692 หลงประเด็น ประเด็นคือรัฐไทยไม่ยอมรับว่าผนวกล้านนาเข้ามา ทำเบลอ เขินมั้ง โฆษณาไว้ว่าตัวเองรอดพ้นจากการล่าอาณานิคมจากฝรั่ง แต่ตัวเองก็ล่าเองด้วย เดี๋ยวเด็กมันไม่อินไม่ซาบซึ้งอะนะ

935 Nameless Fanboi Posted ID:ilXbi65y+3

>>933 ก้าวไกลเคยยื่นเรื่องแล้ว แต่มันยังค้างอยู่ในชั้นไหนจำไม่ได้

936 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>930
มึงอย่ามาเราไม่รู้ว่าพระราชกรณียกิจในเยอรมันนี หรือไทย

"คำว่าไม่ต่อเนื่อง"
มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว

937 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

ทำไมบ้างครั้งถึงใช้เครื่องบินพระที่นั่งไปเยอรมัน
ก็เพราะว่าไปทั้งงาน
ถ้าไม่ใช่งานก็ไปเครื่องบินส่วนพระองค์

มันก็เข้าบริบท คำว่า"ไม่ต่อเนื่อง" ที่เยอรมันบอกมา

938 Nameless Fanboi Posted ID:V/oYywjoMW

คนทำคอนเทนต์นี่ต้องระวังการพาดหัวข้อนึดนึง ในช่วงที่มนุษย์ทั่วไปกำลังใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก
.
เบิร์นเอาท์ ป่วยพะงาบๆ ออฟฟิศซินโดรม เมนส์มา
แล้วไง
ชีวิตคนไม่รวยเลือกได้เหรอคะ ใครอยากจะทำงานจนป่วย
.
มีแต่คนหน้าเงิน หน้าโง่เท่านั้นแหละค่ะที่ห่วงงานกว่าชีวิต
คนแบบนั้นมันก็มี แต่น้อยค่ะ น้อยมากกก
.
ที่คนเค้าต้องทนกันน่ะ
เพราะเค้ามีภาระ
มีเงินจ่ายเลี้ยงลูกไหม พ่อแม่ที่เข้า รพ ล่ะ
โสดก็เปย์หมา เปย์แมว
.
ยุคผู้คนกราดเกรี้ยว กะเจี๊ยวงอแง

939 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>936 แถน้ำขุ่นๆ

940 Nameless Fanboi Posted ID:rHExr9rMkI

>>937 คำถามคืองานอะไรต้องไปทำที่เยอรมัน ?

941 Nameless Fanboi Posted ID:AjdSji+fSs

>>940 อีปูยังเอาแต่บินไปต่างประเทศงานการไม่ทำเลย

942 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>940
https://www.komchadluek.net/news/crime/103691

สัมพันธไมตรีเพราะเคสนี้ล่ะ?
ถ้าพระองค์จะเป็นทูตระงับข้อพิพาท

943 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>941 คิดไม่ออกบอกทักษิณกับอีปูว์ 55555

944 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>943
ก็เหี้ยจริง

945 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>942 ระงับข้อพิพาท ??? อะไรของมึงหลิ่ม ข่าวกี่ชาติมาแล้ว

946 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>944 ก็แถจริง แถน้ำขุ่นๆ โง่ๆ

947 Nameless Fanboi Posted ID:9nbcMi986X

>>945
เห็นมึงย้อนไป2475กันได้ทำไมกูจะย้อนไม่ได้

948 Nameless Fanboi Posted ID:4tR/BVuPFI

>>947 โถๆๆๆ เอาปัจจุบันไปปนกับอดีตมั่วหมดแล้ว แถมยังมาแถโง่ๆอีก สมเพชชิบหาย

949 Nameless Fanboi Posted ID:+mDUrYJEIL

>>934 อันนี้ตอนนั้นมัน Win-Win ไม่ใช่เหรอวะ ล้านนาไม่อยากตกเป็นเมืองขึ้นอังกฤษแบบพม่าเลยมาขอสวามิภักดิ์กับสยาม สยามก็รับดิ เพราะเค้ามาขอสวามิภักดิ์เอง ได้พื้นที่เพิ่ม ได้ทรัพยากรเพิ่ม ได้ภาษีเพิ่ม อย่าลืมว่าสยามตอนนั้นก็ถือว่าขาใหญ่แถวนี้นะ คิดว่าสกัดอังกฤษไหวเพราะเริ่ม modernize ไปแล้วไม่ได้อยู่แบบโบราณแบบพม่า

950 Nameless Fanboi Posted ID:jPJfOwSNR/

>>934 ไทยไม่ยอมรับว่าผนวกล้านนาตอนไหน ในแบบเรียนก็ใช้คำว่าผนวกล้านนา ทุกที่ก็ใช้คำว่าผนวก มีอันไหนมั่งไม่ใช้คำว่าผนวกเหรอ

951 Nameless Fanboi Posted ID:7JcRZGjUnh

ช่วงนี้หลิ่มโดนรุมบ่อยจัง ไม่เหลือตังจ่ายIOแล้วเหรอ

952 Nameless Fanboi Posted ID:D/7rzOIm7W

หลิ่มโดนแหกทุกวัน​ 555

953 Nameless Fanboi Posted ID:jpjcVjPiKi

>>949 ล้านนามาขอสวาวิภักดิ์มั้ย ไม่รู้ แต่รัฐกลืนอย่างเป็นระบบ
กล่าวอย่างรวบรัด สยามทำอย่างไรในการกลืนและยึดล้านนาจนสำเร็จ

สยามใช้วิธีการผสมกันระหว่างวิธีการของเจ้าอาณานิคม และวิธีการของรัฐจารีต วิธีการที่หยิบยืมจากเจ้าอาณานิคม คือ 1.ออกกฎหมายบังคับใช้ เดิมล้านนามีกฎหมายของตัวเอง รัชกาลที่ 5 ทรงไปดูงานต่างประเทศ อย่าง สิงคโปร์ ปัตตาเวีย พม่า และอินเดีย เรียนรู้วิธีการจัดการอาณานิคม การแบ่งส่วนบริหารราชการ กรอบนี้ถูกเอามาปรับใช้

2.ตั้งข้าหลวงไปกำกับราชการ ควบคุมดูแลเจ้านายให้อยู่ภายใต้กฎหมายของสยาม ข้าหลวงที่ถูกส่งไปนี้กินอยู่ในเชียงใหม่เป็นการถาวร

3.ควบคุมการจัดเก็บภาษีอากร

4.จัดทำแผนที่และทำบัญชีสำมะโนครัว ซึ่งเดิมเขตแดนไม่มีความสำคัญ แต่พอมีการขยายทำป่าไม้เข้ามาในล้านนา เกิดข้อพิพาทเรื่องการทำไม้และการปล้นสะดมข้ามฝั่งแม่น้ำสาละวิน จึงจำเป็นต้องมีเขตแดน แผนที่ รวมทั้งบัญชีควบคุมคนให้ชัดเจน

5.พัฒนาการคมนาคมและการสื่อสาร เช่น ในเมืองน่าน ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกล การคมนาคมยากลำบาก ถ้าไม่มีโทรเลข รัชกาลที่ 5 เองก็ทรงยอมรับว่าขุนนางของเราแพ้กงซุลเขาจริงๆ

นอกจากนี้ยังใช้วิธีการแบบรัฐจารีตคือการสู่ขอบุตรหลานของเจ้านายระดับสูงมาเป็นเจ้าจอม สรุปคือ สยามใช้วิธีการผสมกันระหว่างวิธีการของเจ้าอาณานิคมกับวิธีการของรัฐจารีต

https://www.matichon.co.th/prachachuen/news_323474

954 Nameless Fanboi Posted ID:jpjcVjPiKi

>>950 >>949 นี่ไงตัวอย่างจากผลิตความรู้ต้องรัฐต้องการ ให้เราเข้าใจว่าผนวกแบบควบรวมบริษัททุกคนwin-win จริงๆคือล่าอาณานิคมนี่แหละ

955 Nameless Fanboi Posted ID:jpjcVjPiKi

การปฏิรูปมณฑลพายัพหลังเหตุการณ์กบฏเงี้ยว

เมื่อปราบกบฏเงี้ยวเสร็จแล้ว สยามได้ดำเนินการ “เชือดไก่ให้ลิงดู” ประหารชีวิตนักโทษที่คิดก่อการกบฏต่อสยาม และยกเลิกเจ้าผู้ครองนครแพร่ ทำให้บรรดาเจ้านายเมืองเหนือมีท่าทีโอนอ่อนลงและจำเป็นต้องยอมรับอำนาจของสยามมากขึ้น แต่เหตุการณ์นี้ทำให้สยามได้เห็นจุดอ่อนและข้อบกพร่องหลายประการจากการปฏิรูปในมณฑลพายัพที่ไม่สำเร็จผลเท่าที่ควร จึงได้พยายามปฏิรูปใหม่อีกครั้ง
การปฏิรูปมณฑลพายัพของสยาม บีบบังคับให้เงี้ยวก่อกบฏ เมื่อ พ.ศ. 2445 ???
https://www.silpa-mag.com/history/article_28848 Win-win??
มองตอนนี้ก็win-winเพราะมึงเอาสภาพเศรษฐกิจของประเทศในปัจจุบันที่เหนือกว่าพม่ามารวมไง

956 Nameless Fanboi Posted ID:jPJfOwSNR/

>>954 มึงก็ชอบคุยเรื่องนี้จัง รอบที่แล้วก็คุยแบบนี้ รอบนี้กูแย้งแค่ที่บอกว่าไม่เคยผนวก ทุกเล่มก็บอกว่าผนวกหมดละ ถ้ามึงบอกว่ารัฐไทยปกปิดการผนวก ก็หามาสิว่าเล่มไหนไม่ใช้คำว่าผนวก

จริงๆ เมื่อวานก็อยากทักเรื่องพรรคอันดับ 2 อยู่นะ แต่เห็นว่าไม่อยากตอบกูก็ไม่อยากตื๊อ

อันนี้ถามเล็กน้อย มึงติดใจอะไรกับเรื่องนี้จัง

>>953 ขอสวามิภักดิ์สิ เอกสารทุกอันชี้ตรงนี้หมด เต็มใจมั้ย ก็คงไม่ แต่ตอนนั้นล้านนาหันหน้าไปพึ่งใครไม่ได้แล้วไง

957 Nameless Fanboi Posted ID:+mDUrYJEIL

>>953 ล่าอาณานิคมมันต้องแบบอังกฤษ<-พม่า/อิเดีย/มาเลย์/จีน หรือ จีน<-เกา->ยุ่น มึงน่าจะเห็นภาพ
เอาเป็นว่าล้านนาใจจริงไม่ได้อยากอยู่ใต้ใคร แต่โดนบีบเพราะด้านนึงก็อังกฤษ ด้านนึงก็สยาม ยังไงก็หนีไม่พ้น แต่ในตอนที่ยังมีทางเลือกอยู่ ขอเลือกสยามดีกว่าเพราะเจรจาได้(คงมองว่าเป็น lesser evil ด้วยแหละ)

958 Nameless Fanboi Posted ID:5SjGMgJHAI

เอาข้อมูลมาร่ า นมันก็เบลอ
ก็มันโดนธนาธรจ้างมา

เดี๊ยวมันก็วนลูปใหม่

959 Nameless Fanboi Posted ID:D/7rzOIm7W

>>958 ไหนหลักฐานการจ้างอะหลิ่ม พูดลอยๆ มโนเอาเองอีกแล้วเหรอมึงอะ

960 Nameless Fanboi Posted ID:D/7rzOIm7W

รอหลักฐานการจ้างของธนาธรอยู่นะหลิ่ม หวังว่ามึงจะมาตอบไม่ปล่อยเบลอนะ 55555

961 Nameless Fanboi Posted ID:iFuzcpsDQF

>>959
แล้วหลักฐานกองทัพจ้างio ล่ะ

962 Nameless Fanboi Posted ID:D/7rzOIm7W

>>961 ของกองทัพโดนแหกแล้ว แหกอีก แหกคาปรเะมสภาก็มี แต่ของมึงเนี่ยย กูรอยู่นะ อย่าเบี่ยงประเด็น

963 Nameless Fanboi Posted ID:iFuzcpsDQF

>>962
ไหนครับใบเสร็จ

964 Nameless Fanboi Posted ID:D/7rzOIm7W

>>963 อ้าว ของตัวเองยังไม่ตอบเลยอะ

965 Nameless Fanboi Posted ID:iFuzcpsDQF

เอาใบเสร็จการรับเงินเป็นio ของกองทัพมาให้ได้น่ะร่ า นกูรออยู่

966 Nameless Fanboi Posted ID:iFuzcpsDQF

>>964
มึงตอบของมึงก่อน

967 Nameless Fanboi Posted ID:D/7rzOIm7W

>>965 ตัวเองากล่าวหาคนอื่นก่อน แล้วทำเนียนเปลี่ยนประเด็นเหรอวะหลิ่ม กากชิบหายวะมึง

968 Nameless Fanboi Posted ID:jpjcVjPiKi

>>963 โดนทวิตเตอร์แบนไปรอบนึงแล้วนี่ ใบเสร็จคงเผาไปแล้วละ

969 Nameless Fanboi Posted ID:D/7rzOIm7W

เขาแฉกันมาเรื่อยๆอะหลิ่ม ไหนอะของธนาธร ที่มึงบอกว่ามีอะ
https://www.prachachat.net/politics/news-566239

970 Nameless Fanboi Posted ID:iFuzcpsDQF

>>967
กล่าวหา?
เบื้องหลังม๊อบใครเขาก็รู้

971 Nameless Fanboi Posted ID:D/7rzOIm7W

>>970 ไหนหลักฐานมึง เราเรื่อง io เนี่ย ที่มึงว่าธนาธรจ้างมาอะ ไหนอะ

972 Nameless Fanboi Posted ID:iFuzcpsDQF

>>971
มึงหาใบเสร็จกองทัพจ้างio มาก่อนดิ

973 Nameless Fanboi Posted ID:D/7rzOIm7W

>>972 เหยดดดด หลักฐานต้องเป็นใบเสร็จอย่างเดียวเหรอหลิ่ม รูปตอนที่กำลังทวิตเอย รูปสไลด์เอย เนี่ย ของมึงมีทั้งนั้น

974 Nameless Fanboi Posted ID:D/7rzOIm7W

กล่าวหาคนอื่นแต่ไม่มีเหี้ยอะไรมายืนยันเลย มีแต่ลมปากอีกแล้ววววว สมเป็นพวกกราบหมาจริงๆ

975 Nameless Fanboi Posted ID:+mDUrYJEIL

ทำ IO เพื่อไรวะ ยังไงมันก็ดูออกว่าไม่ใช่ Organic แถมไอ้ IO คนนั้นจริงๆมันอาจอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วย

976 Nameless Fanboi Posted ID:iFuzcpsDQF

>>973
งั้นที่ปิยะบุตรไปกระซิบข้างหูเพนกิ้นล่ะ

ก้าวไกลมีส่วนเกี่ยวข้องปลุกปั่นยุยงม๊อบไหม

977 Nameless Fanboi Posted ID:PcgBYpWdjT

>>976 ปิยบุตรเอาอำนาจอะไรไปบังคับบัญชาเพนกวิ้นวะ กวิ้นเคยสาบานว่าจะปกป้องปิยบุตรและครอบครัวไหม

978 Nameless Fanboi Posted ID:iFuzcpsDQF

>>977
นั่นดิ แล้วพรรคไหนใช้สิทธิส.สประกันตัวพวกม๊อบ

979 Nameless Fanboi Posted ID:1BFHgxMadt

>>977 ปิยบุตรแฟมิลี่ กวิ้นต้องจูบหลังมือสาบานตนเพื่อเข้าร่วมแก๊งค์ และสาบานตนว่าจะปกป้องแฟมมิลี่ให้จงได้

980 Nameless Fanboi Posted ID:KePTezsL8L

>>961 เยอะแยะไปหมด

981 Nameless Fanboi Posted ID:PcgBYpWdjT

>>978 ถ้าประกันตัวแล้วสั่งได้ กูเซ็นค้ำประกันให้ใครกู้เงินก็คงสั่งคนนั้นได้เหมือนกัน

982 Nameless Fanboi Posted ID:iFuzcpsDQF

>>981
ก็ทำอยู่มิใช่หรือ?
ให้ส.สในพรรคกู้น่ะ

983 Nameless Fanboi Posted ID:jpjcVjPiKi

>>982 สั่งอะไรละ

984 Nameless Fanboi Posted ID:iFuzcpsDQF

>>983
ก็อย่างเช่น "ด่าคนอื่นสนิม"
ที่โหวตสวนพรรค

985 Nameless Fanboi Posted ID:PcgBYpWdjT

>>984 ก็สั่งไม่ได้ เลยต้องออกมาด่าอยู่นั่นไง

986 Nameless Fanboi Posted ID:iFuzcpsDQF

>>985
ไล่พ้นพรรคไปแล้วอ่ะเน่อะ

987 Nameless Fanboi Posted ID:lpc.XD.isW

หลิ่มดิ้นเข้าไปไหนอะหลักฐาน io ของมึง

988 Nameless Fanboi Posted ID:lpc.XD.isW

หลิ่มหนีไปกราบหมาแล้วเหรอวะ สัสกากชิบหาย

989 Nameless Fanboi Posted ID:/nooD3Fyvl

A message to the guy below me, you need to live some more man, life ain't just about eating, sleeping, fucking and finally dying. You need to take a gamble that love exists and do a loving act. We can't make ourselves happy sometimes but if helping out someone else makes you happy then help them out, we never know when we will die so try and do the best we can, hearts were made to be broken but they can heal. The world has become extremely cruel now but there is hope.

990 Nameless Fanboi Posted ID:PcgBYpWdjT

>>986 เสียคะแนนเสียงพรรคไปคนนึงฟรีๆ เค้าก็ไปพรรคอื่นสบาย ก็พอๆกับกูให้เพื่อนยืมตังแล้วไม่คืน เลยตัดเพื่อนน่ะแหละ ตัดได้แต่สั่งให้คืนไม่ได้ซักคนเลยสัส

991 Nameless Fanboi Posted ID:jpjcVjPiKi

กทม. ประกาศกินข้าวในร้านได้ถึง 1 ทุ่ม / นายกฯ บอกได้ถึง 3 ทุ่ม

รมช.สธ. ประกาศล็อกดาวน์ 5 จังหวัด / นายกฯ บอกไม่ใช่ล็อกดาวน์ แต่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดเข้มงวด

ในช่วงที่การสื่อสารสำคัญที่สุด ในยุคที่ข่าวสารไปไว แล้วบอกอย่าเชื่อ Fake News แต่ละอย่างก็ออกจากทางการทั้งนั้นนะครับท่าน

992 Nameless Fanboi Posted ID:1BFHgxMadt

>>989 ah yes fuck my ass pls daddy

993 Nameless Fanboi Posted ID:ttX9RDZz72

ปัญหาของวิชาศาสนาเปรียบเทียบ และประวัติศาสตร์ทางความคิด ที่สอนในโรงเรียนไทย คือการสอนตัวเลข การเกิดของศาสนาแบบเป็นเลข แป๊ะๆ และสรุปคำสอน ให้เด็กท่องไปสอบ

ทำให้คนไทย (ที่อายุมากหน่อย) มีทัศนะเกี่ยวกับศาสนากับความคิดคนแบบแปลกๆ คือเชื่อว่า จู่ๆ เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่ง มีศาสดามาจุติ แล้วศาสนาต่างๆก็อุบัติขึ้นตรงนั้น โดยขาดความเข้าใจ สายธารของความคิด

คนไทยมีปัญหามาก ในเรื่องความเข้าใจภาพรวมความคิด และเหตุการณ์ต่างๆของโลก

คือมองไม่ออกว่า ยุคจิ๋นซึ ยุคกรีกคลาสสิค อเล็กซานเดรีย ยุคฮั่น ยุคโรมัน ยุคสามก๊ก ยุคราชวงศ์ถัง ยุคกลาง มองโกล เรเนสซองของยุคโรป มีการพัฒนาความคิดอะไรขึ้นบ้าง และเชื่อมโยงกันอย่างไร

แนวคิดทางปรัชญาของไทย มีแนวโน้มจะ มองเห็นะประวัติศาสตร์ ทุกอย่างคลุมเครือไปหมด

ปัญหาหนึ่งคือ เส้นแบ่งที่เหมือนจะบางแต่มีผลมาก ระหว่างตำราไทยที่เขียนด้วย พ.ศ. กับตำราสากลที่เขียนด้วย ค.ศ. - ซึ่งเราขี้เกียจคำนวน 543 ในหัว

เรามักจะงงๆ เมื่อนึกถึงประวัติศาสตร์ไทย ไม่รู้จะจัดวางมันตรงไหนในประวัติศาสตร์โลก และมีแนวโน้มจะคิดว่า มันเก่าเกินจริงเสมอ

ในการเรียนวิชาศาสนา และประวัติศาสตร์ความคิดของไทย เราไม่เคยได้เรียนการพัฒนาของความคิดตามเส้นทางของประวัติศาสตร์เลย

การสอนวิชาศาสนาพุทธแบบเถรวาทคือการโฟกัสทุกสิ่งไว้เมื่อ 2500 ปีก่อน ว่านั่นคือความจริงแท้ที่ไม่เปลี่ยนแปลง และไม่ได้มีอิทธิพลใดเจือปน

เพราะการท่องเลข พ.ศ. ทำใช้ชาวพุทธไทยมีความคิดประหลาดๆ คือศาสนาพุทธเกิดขึ้นก่อนศาสนาหลักอื่นๆของโลก ดังนั้นศาสนาอื่นๆ ก็น่าจะลอกการบ้านพุทธมา

ชาวไทยไม่ได้รู้ว่า ในช่วงเวลาเดียวกับพระพุทธเจ้านั้นสำหรับฟากศาสนา อับราฮัมมิก แบบยูดาห์ คริสต์ อิสลาม - เศรุบาเบลได้ฟื้นฟูพระวิหารที่สอง จนเกิดการรวบรวมจัดการสาระบบโทรา ชุดหนังสือผู้เผยวัจนะใหญ่ และวรรณกรรมขึ้นแล้ว

หมายความว่าจารีตของศาสนายูดา และตัวคัมภีร์ที่ชาวคริสต์เรียกว่า "พันธสัญญาเก่า" ได้เกิดขึ้นแล้วในยุคพุทธกาล (ซึ่งพัฒนามาอย่างเป็นระบบตั้งแต่อาณาจักรของดาวิด ช่วง 1000 ปีก่อนคริสตกาล หรือประมาณ 400 ปี ก่อนพุทธกาล)

ยุคสมัยเดียวกับพุทธกาล ทางจีนได้พัฒนาปรัชญาหลักหลายสำนักขึ้นในช่วง รณรัฐ เพื่อมุ่งหาออกจากยุคสงครามกลางเมือง ได้เกิดสำนักเต๋าของเล่าจือ จารีตของข่งจือ ความรักของม่อจือ และสำนักนิตินิยมของหายเฟยจือ ขึ้น คู่กับสำนักเกษตรนิยม หยินหยาง ฯลฯ

(ต่อเม้นล่าง)

994 Nameless Fanboi Posted ID:ttX9RDZz72

(ต่อจาก >>993 )

ในทางเดียวกัน ทางกรีกก็เกิดปรัชญาทั้งสำหนักหลักคลาสสิค อย่างพวกสำนัก โสเกรติส เพลโต อลิสโตเติล หรือสำนักอื่นๆ ที่เป็นคู่แข่งที่ถูกเรียกว่าพวกโซฟิส

หรือแม้แต่อินเดียเอง ก่อนที่จะเกิดศาสนาพุทธขึ้น ก็มีปรัชญาสำนักมากมายที่พยายามจะแสวงหาทางหลุดพ้นจากโจทย์หลักที่แนวคิดแบบ พราหมได้วางรากฐานไว้

ปรัชญาของยุโรป และจีน มีการปะทะกันมากมาย

ในฟากของยุโรปเมื่ออเล็กซานเดอร์ ได้เชื่อมโลกยุโรปที่กระจัดกระจายเข้าหากัน ทำให้ตำนาน แนวคิดต่างๆ เกิดการปะทะกัน มีสถานที่ซึ่งเรียกว่า ยิมเนเซียม เป็นเหมือนโรงเรียนที่พบปะกัน เกิดการปะทะถ่ายเทของตำนาน

ฟากจีน เมื่อราชวงศ์ฮั่นปักหลักมั่นคง แนวคิดต่างๆถูกนำมาใช้งานปฏิบัติการจริง

แม้แต่แนวคิดพุทธเอง ในช่วง 500 ปีหลังพุทธกาล เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว แท้จริงก็เป็นช่วงที่สำคัญยิ่ง ที่เหล่าผู้สืบทอดยุคต้น จะมาถกเถียงกันว่าที่สุดแล้วคำสอนที่เที่ยงแท้จะเป็นอย่างไรกันแน่

ในจารีตของมหายาน ได้พูดถึงการถกเถียงตรงนี้ อย่างไรก็ตาม ชาวเถรวาท พยายามไม่ได้สอนนักเรียนในโรงเรียนทั่วไป ในเรื่องนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคำสอนของศาสนาพุทธไทยมาจาก 2500 ปีที่แล้ว ไม่ได้เจือปนผ่านการเลือกของสาวก

การพัฒนาในช่วงเวลาจึงไม่จำเป็น เป็นแค่สิ่งเจือปนทำให้ความจริงบิดเบือนไป ไม่น่าสนใจจะศึกษา

จากนั้น ความคิดทางศาสนาของชาวไทย ก็เหมือนใส่กล่องเมื่อ 2500 ปีไว้ แล้วกระโดดข้ามมาหาเราในทันที เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง

ถ้าเป็นยุโรปอย่างน้อย อย่างน้อยหลังจากนั้นเราจะได้เรียน ออกัสติน ยุคกลาง โทมัสอไควนัส นักคิดเรเนสซอง การปฏิรูปศาสนา การเกิดขึ้นของยุคแสงสว่างทางปัญญา

ถ้าเราพูดถึงประวัติศาสตร์ เด็กชาวยุโรปจะพอนึกภาพวางได้ว่า นั่นอยู่ในสมัยไหน เมืองหน้าตาเป็นยังไง มีภาพยุคกรีก ภาพยุคโรมัน หรือยุคกลางตอนต้นเป็นไวกิ้งบุก ยุคกลางตอนปลายเป็นกษัตริย์อัศวินเจ้าหญิง หรือเรเนสซองเวนิสโรม ปฏิรูปศาสนา ยุคสำรวจตั้งอาณานิคม หรือยุคแสงสว่างทางปัญญาที่

แต่การศึกษาไทย ทำให้เรารู้สึกแค่คำว่า "โบราณ" แต่เราไม่รู้ว่า "โบราณ" นี้เมื่อไหร่ บางที 100 ปีก็โบราณแล้ว

เรามีชุดความคิดเกี่ยวกับ "คนไทยโบราณ" อยู่ชุดหนึ่ง และไม่ว่าเราจะพูดถึงคนไทยสมัยไหน มันก็จะออกมาจากภาพ "คนไทยโบราณ" นี้เสมอ คือผู้หญิงใส่ชุดไทย ผู้ชายหนวดเขี้ยวๆ เคร่งศาสนา ผู้ชายเป็นคนแข็งๆรักษาสัจจะ - ผมมักจะสงสัยว่า นั่นคือคนจริงๆ หรือสิ่งที่กิมเหลียง สร้างขึ้นมาในสมัยจอมพล ป.

ชาวไทยเชื่อว่าวิชาประวัติศาสตร์มีอยู่เพื่อสร้างความภูมิใจของชาติ

คนไทยพยายามควบคุมให้รู้ประวัติศาสตร์น้อย แต่ต้องรู้เฉพาะที่เขาอยากรู้ ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ที่ทำให้เกิดความภูมิใจ

ดังนั้นเราจึงไม่รู้ว่าชาวอยุธยาต้มเหล้ากันสูตรไหนบ้าง เราไม่รู้ว่าคนในสมัยก่อนกรุงแตกครั้งแรก กับก่อนกรุงแตกครั้งที่สอง มีความคิดอย่างไร เหมือนกันมั้ย เขาคิดยังไงกับระบบทาส เขานับถือศาสนาพุทธแบบที่เรานับถือหรือไม่ เขาได้อิทธิพลอะไรจากหงสาฯมาบ้างมั้ย พวกเขาอ่านวรรณกรรมอะไรหรือเปล่า ชอบดูละครเรื่องอะไรกัน มีรามเกียรดูกันหรือยัง

เราไม่รู้เลยว่าประวัติความคิดเรามาถึงตรงนี้ได้อย่างไร และถูกทำให้ภูมิใจกันเหลือเกินกับสิ่งที่เราไม่รู้จักมันด้วยซ้ำ ว่ามันเป็นของจริงมั้ย หรือถูกสร้างขึ้นเมื่อไหร่

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

995 Nameless Fanboi Posted ID:IMs3.gtUDn

บอสผมไม่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีเลยครับ แต่เค้าเก่งในมุมของเค้า เค้ารู้ว่าเค้าอยากได้อะไร อยากทำอะไร เพื่อใคร ตลาดคือใคร ทิศทางเป็นยังไง ปัญหาคืออะไร คู่แข่งเป็นใคร เทคโนโลยีที่จะพัฒนาจะทำเงินได้ยังไง จะหานักลงทุนยังไง นักลงทุนสนใจอะไร บลาๆๆ ประมาณนี้ครับ
แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างที่เห็น ต้องลองผิดลองถูกกันไป 2-3 ปีแรกถึงจะเริ่มชัดเจน และต่อให้ยังไม่มี actual product มีแค่ไอเดียก็ทำเงินได้แล้วครับ ล่าสุดได้มา 70 ล้านบาท คือ คุณต้องขายของเก่งขนาดไหนถึงมีคนยอมลงทุนขนาดนี้ นี่ละฮ่ะสกิลนักธุรกิจ

996 Nameless Fanboi Posted ID:FXNaIa0+Ce

>>991 รอเปลี่ยนชื่อนายกเป็นไอ้แม้วหรือไอ้ทอนก่อน รับรองสลิ่่มหันมาไล่โดยพร้อมเพรียง

997 Nameless Fanboi Posted ID:4s1gW1zm4a

>>996 ก่อนจะมี่วันนั้นก็โดนยุบพรรคจนหมดมุขจะตั้งชื่อพรรคแล้วคับ

998 Nameless Fanboi Posted ID:olbZvYRKtH

อวยลาวได้วัคซีนแต่ด่าวัคซีนจีน .... บางทีผมก็งงกะสามนิ้ว จรต้องไปหาคะแนน GAT/PAT ดูเลย อ่อ มีน 15

999 Nameless Fanboi Posted ID:olbZvYRKtH

ไปดวงจันทร์ก็แซะ สอนหลักสูตรดูดวงให้ไปประกอบอาชีพก็ไม่ดี สงสัยต้องแดรกไก่โชว์อย่างเด ประชาธิปไตยถึงจะปลื้ม

1000 Nameless Fanboi Posted ID:olbZvYRKtH

หลายคนที่เคยประกาศ ไม่ใช่ผลงานรัฐบาล เพราะประชาชนดูแลตัวเอง ตู่อย่ามาเคลม ก็เริ่มมั่นใจแล้วว่าที่ระบาดรอบนี้เพราะตู่ดูแลไม่ดี

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.