เพื่อน ตอนนี้กูฝึก ฮาโมนิก้าอยู่ กูอยากรู้ว่าที่ไหนมีสอนเป่าฮาโมนิก้าบ้างไหมที่นอกจากยูทูปอะ
แบบรับสอนเป่าอะไรแบบนี้อะเพื่อน ช่วยแนะนำที ขอบคุณล่วงหน้า
Last posted
Total of 402 posts
เพื่อน ตอนนี้กูฝึก ฮาโมนิก้าอยู่ กูอยากรู้ว่าที่ไหนมีสอนเป่าฮาโมนิก้าบ้างไหมที่นอกจากยูทูปอะ
แบบรับสอนเป่าอะไรแบบนี้อะเพื่อน ช่วยแนะนำที ขอบคุณล่วงหน้า
กูไม่ได้เรียนเปียโนเหมือนกันหัดเอง แต่แม่งกูชอบปวดนิ้วข้างซ้ายอะไม่รู้เพราะวิธีกดผิดหรือพวกนิ้วข้างซ้ายยังแข็งๆอยู่ก็ไม่รู้
แม่งเอ้ย ลองแกะคอร์ดตามในวิดีโอแล้ว ดรอปสายก็แล้ว เสียแม่งไม่เหมือนที่เขาเล่น ปลง
ใครเคยเปิดหมวกมั้ง แนะนำกูหน่อย ควรระวังอะไรบ้างไม พันทิปมันมีแต่กระทู้เก่าๆ
หาเพื่อนเล่นดนตรีจากไหนกันวะ อยากมีวงเล่นกันสนุกๆแต่เพื่อนรอบตัวไม่มีใครเล่นดนตรีเลย
จะหัดเล่นกีต้าโปร่ง มีรุ่นไหนแนะนำมั่งวะ งบไม่เกิน 4,00
>>164 เคยเปิดหมวก แต่เดี๋ยวนี้ไม่เปิดละ แม่งยากอ่ะเพราะเปิดบนบีทีเอสก็โดนไล่ที่ แนะนำว่าไปเปิดต้องคำนวนฐานคนฟังให้ดี เช่น ไปเปิดช่วงพักกลางวันพนักงานบริษัทแถวๆตึกทำงานหลายๆตึก เปิดตรงทางขึ้นบันไดบีทีเอส ที่สำคัญอย่าคาดหวังอะไรเยอะ เล่นๆไปพักได้แต่อย่าเงียบนาน
กูเพิ่งเห็นว่าตัวเองพิมพ์ซ้ำซากมาก กูขอโทษ กูง่วงๆเบลอๆ
กูไปดู เบอร์ดี้สแลมล่าสุดมา เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิตดูด้วย กูเลยอยากถามว่า พวกงานเอ้าดออร์ใหญ่ๆเสียงเป็นแบบนี้หมดเลยปะ คือเสียงมันไม่ชัดเลยเหมือนเปิดแผ่นเลยอะแต่แลกมากับความกระหึ่มแทน สี่เพลงแรกกูได้ยินกีตาร์ตอนโซโล่ไม่ชัดเลย
มีใครชอบเพลงเเนว LOFI VAPORWave มั่งวะนี่
กูทำไม่ได้ว่ะ งงฉิบหาย
กูไม่เข้าใจวิธีคิดว่ะ แล้วก็คิดว่าไอ้ที่กูคิดก็ต้องผิดพลาดแน่ๆ
โจทย์คือ จงเขียนโน๊ตให้ต่ำลง 1 ช่วงคู่แปด โดยใช้กุญแจที่กำหนดให้
1. E คาบเส้นที่หนึ่ง กุญแจซอล
ช่องตอบ เป็นกุญแจฟา
กูตอบ E ในช่องที่สาม
วิธีคิด คือ เอาC-กลางเป็นหลัก ในกลุ่ม C-กลางประกอบด้วย D1 E1 F1 G1 A1 B1
ลดลงหนึ่งช่วงคู่แปด ก็เป็นกลุ่มหลังC-กลาง คือ
c d e f g a b ก็ตอบตัว e ในกลุ่มนี้พอดี ซึ่งก็คือ E ในช่องที่สาม อันนี้กูเพิ่งเข้าใจเรื่องC-กลางจากคลิปในยูทูปอะ
2.F คาบเส้นที่ห้า กุญแจซอล
ช่องตอบ เป็นกุญแจโดอัลโต้
ข้อที่ถูกคือ F ในช่องที่สี่
ที่กูตอบคือ F คาบเส้นที่หนึ่ง
วิธีคิด กูไม่ได้คิดเลย โจทย์บอกให้ลดลงหนึ่งช่วง
คู่แปดกูนับจากCที่คาบเส้นที่สามไล่ลงมาจนเจอFที่คาบเส้นที่หนึ่ง แล้วก็ตอบ ซึ่งกูทำแบบนี้ในทุกข้อเลยอะ ตอนนี้กูรู้แล้วว่ามันผิด แต่กูไม่รู้ว่ากูพลาดตรงไหนหรือต้องจับทางยังไง ช่วยที
กุลองทำเพลง แบบเขียน MIDI ล้วนๆมาดู ใครเซียนๆช่วยวิจารณ์หน่อยสิ ฝีมือแบบนี้พอไปวัดไปวากับเขาได้มั่งมั้ย
https://drive.google.com/file/d/1d8joSe_zN_mPYFde7-olFK-HxdBU5WsC/view?usp=drive_open
>>186 กู184 นะ คือต้องรู้จักวิธีการปรับย่านความถี่ของเสียง ตอนมาสเตอร์ไม่ใช่เอาจับมายัดๆต้อง ใส่ sub sound เครื่องดนตรีพวกนี้ จึงจะไม่ให้มันแห้งเกินไป และเสียงต้อง clean ด้วย ส่วนเครื่องดนตรีไทยที่ยัดมา เมทัลมันกลบหมดจนไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ ควรจะให้มีความเด่นของเครื่องดนตรีพวกนี้ด้วย ซึ่งอธิบายไม่ได้มากเพราะไม่เห็นหน้างานที่ทำ และไม่รู้ว่าใช้อะไรทำด้วย
ถ้าดูเร้าหรือไปหน่อยก็ขออภัยทีนะครับ พอดีโอกาสได้พูดคุยกับมืออาชีพแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยในชีวิตผม ผมก็แค่คนที่นั่งทำเพลงอยู่บ้านคนเดียวให้ตัวเองฟังไปวันๆ ไม่มีใครให้คำปรึกษา ไม่ได้มีสังคมนักทำเพลง นักดนตรี อะไรกับเขาหรอก ขออภัยที่เสียมารยาทไปหน่อย แต่ผมก็ต้องการคำแนะนำจากท่านเทพ ท่านอาจารย์ หลายๆท่านอยู่ เงียบหายอย่างนี้ก็เลยมืดบอดเลย
กูควรฝึก ear trainning อย่างไรดีวะ เข้าไปเรียนติวกับเด็กก็ใช่เรื่อง กูควรอ่านทฤษฎีดนตรีของอาจารย์ณัชชาเล่มสีชมพูให้จบทั้งเล่มก่อนดีไหมหรือเริ่มฝึกฟังได้ตั้งแต่บทไหนวะ
>>198 อ้อ แล้วจริงๆอ่านจบเล่มก็ดีอ่ะ อ่านไปก็กดเปียโนตามโน้ตในหนังสือไปด้วย ทำบ่อยๆให้เราเข้าใจคาแรกเตอร์ของขั้นคู่นั้นกับคอร์ดนั้น แรกๆอาจจะยากนะ อย่าเพิ่งท้อ ทำบ่อยๆมันจะจับทางได้อ่ะ (ของกูจะฟังขั้นคู่จนชินอ่ะ ละจับทางเอาว่าคอร์ดเมเจอร์ตัว1กับ3มันห่างเป็นคู่เมเจอร์3ใช่มะ ก็ฟังเมเจอร์สามเยอะๆจนแยกออก พอมาฟังคอร์ดกูจะนึกเป็นเสียงขั้นคู่ระหว่างโน้ตแต่ละตัวในคอร์ดอ่ะ อธิบายยังไงดีวะ เหมือนพยายามฟังเสียงกดคอร์ดปึ้งเดียวให้แยกออกมาเป็นโบรคเค่นคอร์ดให้ได้น่ะ)
ขอโทษที่กูอธิบายไม่เก่งนะt-t
ฝึกขมิบตูดด้วยนะ นักดนตรีทั่วโลกต้องวอร์มตูดก่อนขึ้นเวที
สงสัยหว่ะ เพลงที่ปล่อยในยูทูบมียอดวิว500M จะได้เงินเท่าไรวะ
https://www.youtube.com/watch?v=xllqB4JlRlU
โม่งกูถามหน่อย ในวงนี้ช่วงเป่าขลุ่ยจีนนี่ใช้ขลุ่ยไรเป่าวะ? กูนึกมาตลอดเลยนะว่าโปรดิวเซอร์เพลงเอาอะไรมาเล่นเพราะซอเอ้อหูจีนทั้งหลายแหล่นี่เสียงสูงมาก
ถ้าอยากหัดใช้ DAW ควรเริ่มยังไงดีวะเพื่อนโม่ง ควรไปเรียนหรือหามาลองดี กูกะว่าจะซื้อดูแต่พวกปลั๊กอินก็แสนแพง ยิ่งยังใช้ไม่เป็นยิ่งไม่กล้า
ถ้าเรียนมีที่แยะนำไหม ต้องมีโปแกรม+อุปกรณ์ไหมวะ
ไอ้ เควนทิน เบ็ค (Mystertio) ที่ทำตัวเป็นคนดีตอนแรกๆ แม่งจริงๆแล้วเป็นตัวโกง อดีตลูกน้องโทนี่
ตอนมันตาย แม่งยังเฉลยออกทีวี อีกว่า สไปเดอร์แมน คือ Peter Parker โคตรเหี้ย
แถมนิค ฟิวรี่ ในเรื่อง ดันเป็น ทาลอส (สครัล ในเรื่องกัปตันมาร์เวล) ปลอมตัวมา ไม่ใช่นิคจริงๆ อึ้งสัสๆ โคตรเนียน
เพื่อนๆโม่งต้องไปดู Spiderman Far From Home ให้ได้นะครับ
ไอ้ เควนทิน เบ็ค (Mystertio) ที่ทำตัวเป็นคนดีตอนแรกๆ แม่งจริงๆแล้วเป็นตัวโกง อดีตลูกน้องโทนี่
ตอนมันตาย แม่งยังเฉลยออกทีวี อีกว่า สไปเดอร์แมน คือ Peter Parker โคตรเหี้ย
แถมนิค ฟิวรี่ ในเรื่อง ดันเป็น ทาลอส (สครัล ในเรื่องกัปตันมาร์เวล) ปลอมตัวมา ไม่ใช่นิคจริงๆ อึ้งสัสๆ โคตรเนียน
เพื่อนๆโม่งต้องไปดู Spiderman Far From Home ให้ได้นะครับ
ถามคนมีความรู้เรื่องแนวเพลงหน่อยครับ คือว่าเพลงนี้ มันเป็นเพลงแนวอะไร
คือ ผมฟังๆ แล้ว มันแนวร็อคอ่ะนะ แต่เพื่อนๆ ที่ฟังๆ บอกกันว่า เป็นแนวลูกทุ่ง?
ก็เลยงงๆว่า มันแนวอะไรกันแน่
https://www.youtube.com/watch?v=kpwo_LnV2HY
อยากเย็ด แมรี่ สยามดรีม จังเลยครับ
https://imgur.com/Oa4i2CR
https://imgur.com/9q1xksb
https://imgur.com/zbiNqv1
https://imgur.com/3hJrTUj
กำลังเริ่มศึกษาดนตรีคลาสสิค แต่อยากปูพื้นฐานเรื่องดนตรีตั้งแต่สตาร์ทเตอร์เลย โม่งช่วยแนะนำหนังสือหน่อย ศึกษาเป็นงานอดิเรกนะ แต่ก็ค่อนข้างจะจริงจังอยากเข้าใจให้ได้เหมือนเรียนคล้ายๆนศมหาลัยดุริยางค์งี้
เพื่อนโม่งช่วยกูด้วย กูเพิ่งเริ่มเล่นกีตาร์ แบบอ่านแล้วลองปฏิบัติ เสียงบอดแก้ยังไงวะ กูพยายามปรับน้ำหนักแล้วก็ไม่หาย ทำไงดีมึง
มึงช่วยดูหน่อย ตอนนี้กูเล่นไวโอลินมาได้ 5 ปีละ ปัญหาของกูคือเล่นแล้วไร้อารมณ์ กูพยายามแก้ทุกทาง แต่ทำยังไงก็ไร้อารมณ์อยู่ดีว่ะ มีทางไหนที่ทำให้กูเล่นใก็มีอารมณ์มากขึ้นไหม
>>219 ตีความบทเพลงให้ได้ คือกูก็เป็นประเภทแสดงอารมณ์ไม่เก่งเหมือนกันเลยเน้นที่การใช้มือขวาอ่ะ(อันนี้อธิบายยากแฮะ) เอาง่ายสุดคือเพลงtwinkleในเล่มซูซูกิ พยายามใช้คันชักสั้นๆแต่เร็ว เล่นแถวๆกลางๆโคนๆมันจะน้ำหนักมือดี ทำให้เพลงมันกระชับอ่ะ ส่วนมากกูพอแบ่งสัดส่วนคันชักมือขวาถูกแล้วอารมณ์มันจะไปเอง พยายามเล่นรายละเอียดทั้งหมด พวกเครื่องหมายดังเบา ตัวเน้น ตัวสแต๊กคาโต้(สะกดงี้ป่ะวะ?) ก็ช่วยให้มันเป็นเพลงขึ้นเหมือนกัน แล้วก็มีจังหวะในใจนี่ก็สำคัญมาก บางทีกูก็บิ้วโดยการเปิดฟังเวอร์ชั่นคนเก่งๆเล่นแล้วโยกหัวตาม
เอาเทคนิคในการเล่นดนตรีอะ มาใช้กับอารมณ์เพลง เพราะแค่เสียงดังเบาในเพลงก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกันแหละ กูก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน แม่งอธิบายยาก
>>219 มึงต้องเข้าใจเพลงที่เล่นอ่ะ ว่าเขาจะสื่ออะไร แล้วก็ต้องเข้าให้ถึง mood เข้าให้ถึงมัน สำเนียงการเล่นสำคัญ ซึ่งมันไม่ได้มาจากการฝึกฝนแต่ practical ไปวันๆอย่างเดียวเท่านั้น ทำแบบนั้นไปทุกๆวันโดยไม่ทำอย่างอื่นเลย สุดท้ายมันก็จะได้แต่กล้ามเนื้อเท่านั้น ซึ่งการจะได้สำเนียง ได้อารมณ์ในการเล่น มันต้องได้มาจากการเสพ ได้มาจากรสนิยม ได้มาจากการตกผลึก ไม่ใช่เล่นแบบส่องแต่สกอร์ แล้วก็ทำๆเล่นๆไปตามนั้นโดยที่ไม่คิดอะไร ทำอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ต่างจากเครื่องดนตรีในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ซึ่งพอป้อนคำสั่ง MIDI เข้าไปมันก็เล่นอย่างนั้นออกมาโดยที่ไม่ได้มีอารมณ์หรือความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเอง
ถามในนี้ได้ป่าว กำลังจะซื้อกีตาร์โปร่งมาฝึกเล่นอะ martin lee 400 vs kazuki39 รุ่นไหนดี
ไม่รุ้
ตอนนี้หัด sight reading อยู่ แต่แม่งทำได้แค่ทีละมือเท่านั้นว่ะ พออ่าน2มือพร้อมกันเละจ้า
https://www.youtube.com/watch?v=oxs4qWKY7xE
https://www.youtube.com/watch?v=Ezhg2Pg6SqY
มึงกูถามหน่อย เทคนิคร้องเพลงเสียงแหบๆแบบนี้มันฝึกยากมั้ยวะ แล้วมันมีชื่อเทคนิคมั้ย กูชอบมาก กูอยากร้องได้แบบนี้ แต่เป็นคนเสียงแหลม TT
เพื่อนๆ กูเพิ่งซื้อกีต้าร์มา แล้วอยากเรียนกีต้าร์ เพราะว่าอยากเล่นเป็นแบบไม่หลงทิศหลงทาง ถูกสเต็ปที่ควรเป็น เป็นไว รู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป พอผ่านจุดนึงไปแล้วต้องเรียนรู้อะไรต่อไป รวมถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยต่างๆที่อาจจะได้จากการเรียน (ไม่ใช่ว่าดู YT ช่องต่างๆไม่ดี แต่กูดูอย่างนั้นแล้วกูสะเปะสะปะอ่ะ พวกมึงเข้าใจใช่ไหม)
ทีนี้แต่ว่า
1. ช่วงนี้สภาพการเงินก็ไม่ค่อยดี แล้วกูเอาเงินไปเปย์กีต้าร์หมดตูดแล้ว งบประมาณเลยเหลือน้อย
2. เวลาสะดวกเรียนบางทีก็ไม่ค่อยคงที่นัก
3. เป็นคนหัวช้า เรียนรู้ช้า เช่น เรียนหนังสือในห้องเรียนจะย่อยความรู้ไม่ทัน ต้องมาย่อยด้วยการอ่านเองเอาทีหลังอยู่ดี (ถ้าเรียนพวกตัวต่อตัว อาจจะกินเวลามากไป (เวลามาก=ค่าใช้จ่ายมาก) เพราะคนสอนอาจต้องการให้ทำให้ได้ก่อนแล้วค่อยสอนต่อ)
ด้วยเหตุนี้ก็เลยเมียงมองพวกคอร์สออนไลน์แทน เพราะน่าจะตอบโจทย์พอควร (จริงๆถ้าเงินเยอะจะแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง 5555)
เราก็มองไว้จากการเซิร์ช มีของ nasornguitaronline , ของ Nut Chordtabs
อยากให้เพื่อนๆช่วยแนะนำหน่อยว่า มีที่ไหนน่าสนใจอีกบ้าง, ระหว่างของสองเจ้าด้านบนของครูคนไหนโอกว่า,
เรียนคอร์สออนไลน์แบบนี้จะคุ้มมั้ย และอื่นๆแล้วแต่พวกมึงอยากให้คำแนะนำเลย
ขอบพระคุณทุกคำตอบ
>>207 ที่รู้จักตัวฟรีๆก็ LMMS หามาลองๆเล่นทำความรู้จักดูก็ได้
>>225 ลองหาฟังเสียงมันดูว่าชอบตัวไหน 2 ตัวนี้ ถ้าชอบตัวใหญ่เสียงหนาก็ martinlee ชอบตัวเล็กเสียงใสก็ kazuki
คหสต. เท่าที่ดูรีวิวมาวัตถุดิบ 2 ตัวนี้มันก็ปกติดี ยังไงถ้าได้ไปเลือกเองก็ qc ดีๆ ความแน่นอะไหล่ ลูกบิด เก็บไม้ ตำหนิ
>>230 สงสาร พิมพ์ซะยาว เอาพื้นๆเท่าที่พอแนะนำได้ และนึกออกนะ (ผิดพลาดประการใด ผู้รู้แย้งหรือเสริมได้นะ)
- ธรรมชาติของกีตาร์ มันจะส่งเสียงตามตำแหน่งที่สายมันโดนกด ยิ่งแหย่เข้าไปตำแหน่งลึกๆ เสียงมันจะยิ่งสูง
- ศึกษาดูโน้ตที่ใช้ตั้งสาย ตำแหน่งโน้ตบนคอกีตาร์ โน้ตแต่ละเฟรทของแต่ละสาย (เส้นเล็กสุดคือเส้นที่ 1 เส้นใหญ่สุดคือเส้นที่ 6)
- วิธีจูนสายถ้าไม่มีจูนเนอร์ สำหรับกูหยาบๆเลยใช้แอพ guitar pro tuner สีน้ำตาลครีม (โฆษณาเด้งบ่อยหน่อย) กับวิธีเทียบเสียง เช่น
สาย 1 = สาย 2 เฟรท 5 (E)
สาย 2 = สาย 3 เฟรท 4 (B)
สาย 3 = สาย 4 เฟรท 5 (G)
สาย 4 = สาย 5 เฟรท 5 (D)
สาย 5 = สาย 6 เฟรท 5 (A)
สาย 6 = พระประแดง (E)
ระวัง: เส้นที่มึงจะใช้เป็นหลักในการเทียบเสียง ต้องไม่เพี้ยน ไม่งั้นแม่งพากันเพี้ยนหมด
ระวัง2: เวลาใช้จูนเนอร์จูนสายไหน เปิดเสียงสายนั้นจากยูทูปหรือแอพ ฟังตามด้วยก็ดี จะได้รู้ว่าที่หมุนลูกบิดมานี่ มาถูกทาง เพราะบางทีหมุนเลยป้าย สายขาดเอา
- ศึกษาโน้ต ชาร์ป (#) แฟลต (b) กับพวกระยะห่าง ถ้าให้กูเขียนให้ดูก็
ทางชาร์ป: C C# D D# E F F# G G# A A# B C
ทางแฟรต: C Db D Eb E F Gb G Ab A Bb B C
คิดเป็นภาพง่ายๆ ชาร์ป (#), แฟลต (b) มันคือ การเพิ่มขึ้นหรือลดลง "ครึ่งเสียง" มันก็เหมือนนับเลข 1 1.5 2 2.5 3
ระวัง: สังเกตว่า E กับ B ไม่นิยมใส่ชาร์ป (#) และ F กับ C ไม่นิยมใส่แฟลต (b)
- จำฟอร์มคอร์ดต่างๆ
- ฟอร์มคอร์ดทาบ หลักการทำงานก็เหมือนข้อบนๆ ยิ่งเลื่อนไปลึกๆมันยิ่งเสียงสูง ถ้าจำฟอร์มมันได้ก็จะต่อไปได้อีกหลายคอร์ด เช่น จับคอร์ด F เลื่อนทั้งมือมาเฟรทนึงก็กลายเป็นคอร์ด F# มาอีกเฟรทก็เป็นคอร์ด G
- การเปลี่ยนคอร์ด หาคอร์ดชุดที่ชอบ (เช่น G Em Am D หรือ C Am F G) ดีดลงคอร์ดละ 4 ที แล้วเปลี่ยนแบบเนียนๆก่อน ให้มันไม่มีรอยต่อ
- การตีคอร์ดไม่รู้จะแนะยังไง ฟังหรือดูคลิปแล้วเล่นตามเอา จะได้มีเซ็นส์ด้วย
- ฟอร์มคอร์ดที่ใช้บ่อยๆ เช่น Major (คอร์ดปกติ เช่น C D E ไรงี้), minor, Major7, minor7, Dominant7 (คอร์ด7 เช่น C7 D7 E7), sus4, sus2 ฯลฯ
- ขยันกว่านี้หน่อยศึกษาเรื่องสเกล (Scale) เริ่มจากสเกล C Major และ A minor
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
- เวลาจับคอร์ด E ลองไม่ใช้นิ้วชี้ คิดซะว่านัทบนหัวกีตาร์เป็นนิ้วคนเวลาทาบ มันก็ฟอร์มเดียวกับอีคอร์ด F
- อย่าหัดแบบฝืนๆ เล่นเท่าที่ไม่ทรมานนิ้ว (เจ็บมากไปจะท้อเอา) แรกๆใครก็จับบอด แต่ต้องจับและจำให้ถูก มือไม่ไหวก็แตะๆเอา
- สายกีตาร์เส้นยิ่งใหญ่เสียงยิ่งหนา ลองศึกษาดูพวกเบอร์สาย กับสีของสาย เหลืองๆมันก็จะใส ถ้าเข้มๆทองแดงก็จะหนาๆ แต่ถ้าทั้งเหลืองและหนาเรียกเส้นไข่ ไว้ทำบะหมี่กินกับหมูแดง
- คอร์ดเกิดจากโน้ต 3 ตัวขึ้นไป เล่นพร้อมกัน มีโน้ต Root ตามชื่อคอร์ดนั้น เช่น คอร์ด C มีโน้ต CEG มี Root คือ C (อันนี้กูอาจใช้คำพูดไม่ถูก เอาพอเข้าใจ)
- หาเพลงสักเพลงที่ชอบแล้วเล่นตาม ไม่รู้จักคอร์ดไหนก็กูเกิ้ลเอา เหมือนสมัยเด็กๆ ไม่รู้คำศัพท์ไหนก็เปิด Dictionary จะได้จำๆ
- อย่าเอากีตาร์จุ่มน้ำ
- พิมพ์เยอะไปละ กูไปละนะ สู้ๆ ไม่รู้ว่าจะช่วยหรือเปล่า 555 อันไหนเรียนไม่ไหวก็แยกเป็นข้อๆ โน้ตไว้เป็นข้อๆแล้วหาในเน็ตเอาทีหลัง กูอาจอธิบายแบบงงๆ เพราะ ตอนนี้ยังไม่ได้นอนเลยจะสิบโมงเช้า ก็พี่ไมค์ไม่เคยที่จะปล่อยให้โอมดาว มีสมุนไพรแต่ไม่ได้เล่นยา ก็แค่เห็นไลน์ของใครมันเด้งมา
พวกมึงกูถามหน่อย แผ่นกันเสียงพวกมึงติดของเจ้าไหนกันวะ ควรเผื่อผนังเท่าไหร่ยังไง กูจะทำห้องซ้อมดนตรีว่ะ แต่จะทำนอกบ้านเลย ก่อห้องใหม่
อยากจะลองเรียนตีกลองค่ะ รักในเสียงกลองมากๆเลย เวลาฟังเพลงแนว เมทัล นูเมทัล หรือเดธคอล เรารู้สึกเหมือนกำลังโดนสะกดให้เราเคลิ้มจนหลับไปทุกทีเลย
อยากจะรู้ว่าใช้เวลามั้ยคะ และค่าเรียนแพงมั้ย มันยากมากมั้ยคะ
เราขอฮาวทูจับคอร์ดทาบได้มั้ย เรียนมาหลายเดือนยังจับไม่ได้เลย
https://www.youtube.com/watch?v=fhbxpm8yZWA
กูถามหน่อย เพลงนี้มีโม่งเคยบอกว่าเพลงเหี้ยนี่ไม่ต่างจากขยะที่มีเสียง ...............................ถ้าเอามาฝึกร้องนี่ควรไหมวะ?
มีใครให้คำแนะนำเรื่องซื้อเปียโนไฟฟ้าได้มั้ย ยี่ห้อไหนทัชชิ่งดีๆบ้างวะ
......กูไปถามมู้เพลงไทยว่าเพลงโลโซไม่ค่อยร้องเสียงหลบ กูคงถามผิดที่.........คือกูสงสัยจริงๆว่าเพลงที่ไม่ต้องร้องด้วยเสียงหลบแล้วเป็นเพลงยอดนิยมนี่มีจริงๆเหรอวะ? เห็นสมัยนี้คือเพลงร๊อคยังต้องมีช่วงที่ร้องเสียงสูงๆแหลมๆขึ้นมาเลย(ไม่รู้ว่านั่นคือต้องร้องด้วยเสียงหลบไหม) แล้วนอกจากพี่เสกแล้วมีอีกไหมว่าที่ตั้งแต่ทำเพลงมาแล้วแทบไม่ร้องเสียงหลบเลย แบบเสือ ธนพล , โป่ง หิน เหล็ก ไฟ , หรั่ง รอคเคสตร้า นี่มีใช้เสียงหลบกันตอนร้องไหมวะ?
>>243 silly foolนี่ขอยกเว้นได้ไหมวะ? บังโตคือมันร้องเต็มเสียงได้แบบไม่ต้องพึ่งเสียงหลบเลยอ่ะ ..... คือร้องแนวนี้มันจะไม่เน้นเสียงหลบเหรอวะ? โทษทีนะ หลักๆกูฟังแบบเพลงpopๆ ,r&bมาก่อนเลยไม่รู้ว่าร้องแบบนี้ก็เพราะได้ แล้วกูตามแต่cocktail, body slamเป็นหลักไง เห็นใช้เสียงหลบร้องกันเยอะจนเข้าใจว่านี่คือสิ่งที่มีในทุกเพลง
>>244 มึงไปฟังพวกแนว Hardrock,Heavy Metal 70s 80s เอานะรู้จักมั้ยยุค Rock ‘n’ Roll อ่ะ? แม่งมีชื่อเสียงดังมาก่อน Pop,R&B ร้องเสียงหลบของมึงซะอีก เพลงดีเพลงฮิตเป็นที่นิยมต้องมีร้องเสียงหลบมึงไปเอาตรรกะนี้มาจากไหนกันวะ? เสียงหลบ Falsetto ของมึงมันก็แค่เทคนิคนึงในการร้องเพลงมันอย่างหนึ่งจะใช้ไม่ใช้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพลงจะดีไม่ดีมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่เสียงร้องการร้องเพลงแต่มันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะ
อยากฟังเพลงแนวแปลกๆแต่ไม่รู้ควรหาว่าไร
https://www.youtube.com/watch?v=JXI21WGBItA
ไม่รู้จะถามใคร มาถามในนี้ละกัน .....เสือธนพล มันจะมีสไตล์การร้องที่กูรู้สึกว่าเหมือนกับปราโมชย์ วิเลปะนะ ซึ่งมันใช่passagioไหมวะ? อารมณ์เหมือนไปเอาอีกเสียงนึงมาร้องเพื่อให้ร้องได้โน๊ตเสียงสูงๆออกมาแทน บางทีดึงเสียงหลบมาร้องไปได้อีก คนที่เก่งๆคนฟังจะแทบแยกไม่ได้เลย......มันใช่อย่างที่กูคิดไหม
ดันๆ
ไม่มีแรงใจในการฝึกเล่นกีต้าร์เลยว่ะ ดูคนที่เล่นกีต้าร์เก่งๆ ก็แล้ว หาชอบคนเล่นกีต้าร์ก็แล้ว กูก็รู้สึกไม่อยากเดินรอยตามเลย มีอะไรที่กดดันยามฝึกดนตรีบ้างมั้ย กูขอเน้นๆมาเป็นแรงกดดันในการฝึก
พวกมึง กูชื้อกีตาร์ไฟฟ้ามา แล้วคือตอนกูใช้สายเบอร์ 9 อะ เสียงมันปรกตินะ
แต่พอกูเปลี่ยนมาใช้สาย 9.5 อะ เสียงแตกแม่ง โครตเละอะแบบฟังไม่ได้เลย มันเกี่ยวกับความห่างของปิ๊กอัพป่าวว่ะ
>>257 เปลี่ยนเบอร์สายเสียงมันก็เปลี่ยนอยู่แล้วเป็นปกติ ยิ่งสายใหญ่เสียงเสียงมันก็ยิ่งใหญ่ กูใช้สายเบอร์ 12-54 แล้วยิ่งตัว 8 สายกูสายบนสุดแม่งเบอร์ 80 พอสายเบอร์ใหญ่ๆเข้าย่านต่ำๆมันก็ยิ่งเยอะขึ้นแล้วพอย่านต่ำๆมันไปเจอกับเสียงแตกเข้ามันก็เลยฟังดูดุ่ยๆหนอดๆมันไม่พุ่งเหมือนสายเบอร์เล็กๆซึ่งเป็นเรื่องปกติไม่ใช่ว่ามันไม่ดีหรอกแค่มึงไม่ชินมากกว่า
>>260 มันเป็นเรื่องปกติ ยิ่งสายต่ำๆย่านเบสมันก็ยิ่งเยอะเป็นเรื่องปกติ ตัวกีต้าร์และปิ๊กอัพก็มีผลอย่างปิ๊กอัพบางรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อจัดการปัยหาเรื่องนี้เช่น EMG เป็นต้น รมถึงพวกแอมป์เอฟเฟคก็มีผลเช่นกัน ถ้าเบสมันเยอะเกินก็ลองไปหมุนปุ่ม Bass ของแอมป์กีต้าร์ลงแต่ถ้าหมุนลงแล้วโทนมันไม่ได้ก็ต้องแก้ปัญหาที่ปลายเหตุโดยการใช้ EQ ทำการ Low Cut ย่านทีต่ำกว่า 100 Hz ลงไปแล้วใช้ Multiband Compressor หรือ Dynamic EQ ทำการกดย่านแถวๆ 150-250 Hz ไว้ซึ่งช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้มากนะยกตัวอย่างเพลงกูที่ซึ่งอุดสายถี่มากและดีดแรงด้วยแต่ก็ไม่มีย่านเบสของกีต้าร์ที่รบกวนเลย https://drive.google.com/file/d/1lcCuJ6E5hMVIWa6fOSi1B6Pqk52JJO87/view
มูกุงฮวา โกชี พีอ๊อดซึมนีดา
>>264 ส่วนตัวถ้าในฐานะการใช้งาน Production คิดว่า Neural DSP ชนะเพราะเสียงมันก็ Axe FX หรือ Kemper ดีๆนี่แหละ แต่ข้อเสียมันก็มีอยู่คือมันแดก CPU โคตรๆดังนั้นมันจึงต้อง Require คอมที่มันสเปคแรงๆระดับหนึ่ง แต่ถ้าเครื่องที่มีมันยังไม่ไหวถ้าสำหรับสาย Modern Rock Metal ก็ยังมีพวกมวยรองๆเช่น JST Toneforge,STL Tones,Lepou Poulin เป็นต้น ส่วนพวกมัลติเอฟเฟคถ้าในฐานะงาน Production มันก็เพิ่มความยุ่งยากในการ Tracking เข้ามาเช่น การปรับหน้าตู้ที่ตอนจะแก้ทีก็ต้องอัดใหม่ทั้งหมด และที่สำคัญที่สุดเลยคือเวลาอัดเข้ามามันเป็นก้อนเวฟแบบหนาๆทำให้มองไม่เห็น Transient แล้วก็เป็นการยากมากๆต่อการ Edit ซึ่งจะทำทีก็ต้องทำการสับ Parallel สัญญานออกเป็น 2 ส่วนนั่นก็คือส่วนที่เป็นเสียงแตก กับส่วนที่เป็นเสียง DI เปล่าๆแล้วก็อัดเข้าไปพร้อมกันแล้วค่อย Group Track รวมกันจากนั้นก็ใช้แทร็คที่เป็น DI เป็นไกด์ในการมองแล้วค่อยทำการ Edit ซึ่งการจะสับ Parallel สัญญาณแบบนี้ก็ต้องไปหาอุปกรณ์มาเพิ่มอีก ดังนั้นสรุปง่ายๆเลย สำหรับในยุคที่ VST นั้นมีคุณภาพเสียงไม่ได้ด้อยไปกว่าพวก Digital Hardware ในฐานะงาน Production ยังไง VST ก็ชนะขาดเพราะมันทั้งสะดวกรวดเร็วและไม่มีวันเสียหายเสื่อมสภาพ
สุดท้ายนี้คือเรื่องคอร์สสอนนี้เลาก็มีนะสำหรับแนว Modern Rock Metal โดยเฉพาะ ดังนี้
Modern Rock Metal Mixing & Mastering 7000 ฿
-การวิเคราะห์เพลง
-ทฤษฏีในการใช้ Signal Processor (EQ,Comp,Reverb,Delay)
-เทคนิควิธีการและแนวคิดในการ Mixing
-เทคนิควิธีการและแนวคิดในการ Mastering
Modern Rock Metal Production 20000 ฿
-ปรัชญาของเสียง
-ทฤษฎีฟิสิกส์เสียงเบื้องต้น
-ทฤษฎี Digital Audio และ Meter มาตรวัดต่างๆ
-ทฤษฎีดนตรีพื้นฐาน
-การวิเคราะห์เพลง
-การ Arrangment
-การ Tracking และการเลือกใช้ Instrument ให้เหมาะสม
-เทคนิคและวิธีการในการ Edit เสียง
-ทฤษฎีในการใช้ Signal Processor (EQ,Comp,Delay,Reverb)
-เทคนิควิธีการในการ Mixing
-เทคนิควิธีการในการ Mastering
โดยผู้สอนได้ผ่านการอบรมศึกษาในสาขาดนตรีและ Audio Engineering Diploma จากสถาบัน SAE Institute รวมถึงเคยผ่านในการทำงานจริง
ถ้าสนใจก็ IB มาหาเลาผ่านทางเพจหรือส่วนตัวก็ได้ เลารู้นะว่านายไปกดติดตามไว้แล้ว
https://www.youtube.com/watch?v=rf2yboBvbVQ
คนที่ไม่เป็นเหี้ยไรเลย มาดูเรื่องทฤษฎีดนตรีที่อาจารย์แดงกีตาร์สอน ....คือไปนั่งฟังสดนี่กูได้ความว่างเปล่ากลับบ้านแน่ ทำไมกูฟังแล้วรู้สึกว่ามันยากจังวะ? หรือมันควรมีพื้นฐานอะไรก่อนมาดูคลิปอาจารย์แดง? นอกจากธรรมะแหวกๆแนวที่แกสอนแล้วแกสอนทฤษฎีดนตรีตรงนี้สอนไวชิบหายเลยหว่ะ
>>268 ไม่ใช่ๆ กูอยากรู้ว่าควรไปหาเรียนอะไรมาเพิ่มไหมก่อนมาตรงจุดนี้ เพราะเริ่มมาก็ไม่บอกเลยว่าชาร์ปคืออะไร เสียงแบบไหน มีเฟลตมีนั่นนี่ไปอีก มี15ขั้นคืออะไรทั้งๆที่มีโน้ต7ตัวทุกขั้นแล้วจะมา15ขั้นยังไง หรือศัพท์บางศัพท์ที่ฟังแล้วไม่เก็ทคือไม่ได้อธิบายเพิ่มต่อ เป็นมึงมาเรียนใหม่ๆคือมึงตื่นรู้เลยเหรอ?
>>269 ก็นี่แหละมันคือพื้นฐานสุดๆแล้วกูเรียนดนตรีอยู่กับมันมา 20 กว่าปีไม่ว่าที่ไหนจะระดับรับจ้างสอนหรือระดับอุดมศึกษามันก็สอนแบบนี้แหละ ชาร์ปหรือแฟลตความหมายมันก็ตรงตัวตามนั้นชาร์ปก็สูงขึ้นครึ่งเสียงแฟลตก็ต่ำลงครึ่งเสียงศัพท์บางศัพท์พื้นฐานมันไม่ต้องอธิบายยืดยาวเขาบอกแค่รอบเดียว ดังนั้นกูถึงบอกไงถ้าใจไม่รักจริงความอดทนไม่ถึงสมาธิการโฟกัสไม่ดีก็อย่ามาเรียนมันไม่ใช่เรื่องสนุกเพราะมันเหมือนมึงเรียนคณิตศาสตร์หรือวิศกรรมเชิงโครงสร้างดีๆนี่แหละ อันนี้กูยังถือว่าสอนค่อนข้างดีเลยนะบางคนสอนไปไวกว่านี้อีก คือเขาก็เรียนกันได้ทั่วประเทศทั่วโลกแต่ถ้ามึงเรียนไม่ได้งั้นกูว่ามันคงไม่เหมาะกับมึงแล้ว
>>270 พื้นฐานสุดๆสมัยมึงเรียนจนบรรลุได้นี่คืออธิบายศัพท์เทคนิคแบบยัดๆมาใส่ผู้เรียนเหรอ? รายละเอียดกับยกตัวอย่างห่าไรก็ไม่มี ถ้าในวงการติวเตอร์สอนดนตรีมาสอนกวดวิชาแบบนี้เชื่อกูเหอะ เจ๊งอย่างเดียวไอสัส ไม่งั้นก็ต้องหาแดกกับอะไรสักอย่างได้อยู่อ่ะ ต่อให้เขียนเป็นหนังสือก็กลายสภาพเป็นอาหารปลวกนะกูบอกเลย แต่กูยังไม่อ่านหนังสือที่แกเคยทำขายนะ สื่อการสอนอาจจะดีกว่าเวอร์ชั่นสอนฟรี
ทฤษฎีเหมือนเรียนแกรมม่าภาษาอ่ะ ถ้ามึงไม่ปูพื้นฐานดีๆ มึงก็ไม่มีวันต่อยอดไปได้ดีหรอก ทฤษฎีการไล่เสกลไล่เสียง คอร์ดทรานซิสชั่นมันก็คณิตดีๆนี่แหละ มันจะมีแพทเทิร์นของมัน ไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เก็จเอง
>>271 อ่ออ่านๆมาพอรู้ว่ามึงเถียงไรกันมา มันก็เบสิคจริงๆแหละอันนี้แต่ช่วยอธิบายแบบง่ายๆได้อยู่ มึงยังงงยังไงหล่ะเรื่องโน๊ต ลองพิมพ์ที่ตัวเองเข้าใจมาดูก่อนเผื่อมีโม่งช่วยมาตอบ (กูสอนกากเพราะกูไม่ได้เรียนสายนี้มาเคยเรียนเป็นสกิลติดตัวเฉยๆ)
แต่คือเรื่องการไล่โน๊ตทั้ง12ตัวแนะนําให้ดูรูปคีย์เปียโนนะ กูเรียนเปียโนมาแล้วมันเลยเข้าใจง่ายหน่อยเพราะเห็นภาพชัดเจน
https://i.stack.imgur.com/Rwa6l.png
-คีย์ขาวคือโน๊ตปกติแต่ละคีย์ขาวมันระยะเสียงห่างกัน1เสียง ส่วนไอคีย์ดําคือเสียงมันห่างจากคีย์ขาวมาครึ่งเสียง
-แต่กรณียกเว้น มึงเห็นมั้ยว่าในคีย์เปียโนมันมีคีย์ดําที่มี2คีย์สลับกับ3คีย์ นั่นเพราะว่าโน๊ตตัวที่3กับ4มันห่างกันครึ่งเสียง และตัวที่6กับ7ก็ห่างกันครึ่งเสียง (หมายเหตุโน๊ตนี้ก็มาจากเสกลC major เพราะคีย์เปียโนมันbased on scaleนี้ แบบคือถ้ามึงเล่นคีย์ขาวมันก็จะไล่ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด หรือ C D E F G A B Cไปเลย) เอ่อดังนั้นมึงดูที่คีย์เปียโนอ่ะตัวมี(E)และฟา(F)มันจะติดกันไม่มีคีย์ดํามาแทรก และตัวที(B)กับโด(C)ก็เช่นกันไม่มีคีย์ดําแทรก
-ทีนี้โน๊ตที่ไม่ใช่3-4 6-7 มันห่าง1เสียงชะ มันก็จะมีโน๊ตแทรกมาครึ่งเสียงได้ และสามารถเรียกชาร์ฟได้ แฟลตได้ (คือจะอธิบายว่ามันเป็นตัวเดียวกัน //จริงๆแล้วมันก็มีหลักด้วยว่าทําไมตัวนี้เรียกว่าซีชาร์ฟ ไม่เรียกว่าดีแฟลต แต่มันลึกไปอีก(คือเป็นเรื่องการไล่เสกลต่างๆ)คือเอาเบื้องต้นก่อนนะมึง ไม่งั้นยาว) ดังนั้นมันก็จะแบบ ตัวC เพิ่มครึ่งเสียงจะเป็น ตัวCชาร์ฟ-Dแฟลต มันคือตัวเดียวกัน แล้วเพิ่มอีกครึ่งเสียงก็คือ ตัวDต่อ
-ถามว่าทําไมการไล่ตัวโน๊ตแบบดนตรีตะวันตกมันกวนตรีนให้ตัวที่3-4 6-7เป็นครึ่งเสียง มันมาจากคนคิดเสกลคนแรกของโลกครัช ไอ๊ปิทากอรัสที่กูต้องมานั่งเรียนซาย คอส แทนเนี่ยแหละ มันพยายามจะหาระยะห่างเสียง เลยมาได้โน๊ตทั้ง15ตัวนั่นเอง
ปรามานเนร้พื้นฐานว่าไอโน๊ต12ตัวมีชาร์แฟลตยังไง อธิบายแบบไอคิว70 กูใช้คําสับสนหน่อยไม่ได้เรียนมานาน
ส่วนจารย์แดงสอนไปถึงไหนวะ ขกดู55
ถ้ามึงอยากเข้าใจทฤษฎีดนตรีพื้นฐานจริงจัง กูแนะนําเล่มนี้ แบบกูอ่านเรียนด้วยตนเองได้อยู่อ่ะ อธิบายดี มีแบบวึกหัด
ของอาจารย์ณัชชา พันธุ์เจริญ ไอเล่มทฤษฎีดนตรีสีชมพูๆอ่ะ
แม่งทําแบบฝึกสนุกดีเหมือนทําข้อสอบแกรมม่าภาษาอังกฤษ555 2วิชาโปรดกู
>>275 ทำไมโน๊ตสากลถึงต้องมีครึ่งเสียงมันเกิดจากการที่ฝรั่งมันคิดค้นเพื่อหา Just Intonation โดยพยามทำให้เสียงที่ได้มันมีย่านความถี่ Harmonic Series ที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบและหลีกเลี่ยงพวกความถี่ Overtone ที่มันไม่อยู่ใน Harmonic Series ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิด Dissonant ทำให้เวลาสเกลแบบตะวันตกมันฟังแล้วสมูทลื่นหูไม่แปร่งๆแบบพวกสเกลแบบพวกฝั่งเอเชียยังไงล่ะ
อยากถามท่านอาจารย์ที่ลงเพลง ให้เด็กมันดู.mp4 จังว่า......ทำงานกับวงpaper planeรึเปล่า เพราะเห็นผลงานcoverเก่าๆมีแนวทำนองดนตรีคล้ายๆกันเลย.....แล้วทั้งเสียงทั้งอะไรนี่ก็แบบว่าไปในทางนั้นด้วย
>>279 ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับ Paper Planes เลยนะบอกไว้ก่อน แล้วก็อีกอย่างที่อยากชี้แจงอีกข้อนึงก็คือซาวด์ดนตรีลักษณะแนวดนตรีแบบนี้เขาเรียกว่า Post-Hardcore จ้ะ จะมาบอกว่ากูก้อป Paper Planes อันนี้ตลกว่ะ เพราะ Post-Hardcore มันมีมีมาเป็น 10 กว่าปีแล้วโด่งดังมากในหมู่วงการเมทัลอันเดอร์กราวในช่วงยุค 2010s ตอนนั้น Paper Planes ยังเป็นวุ้นฮายยังทำเพลงไม่เป็นเลยด้วยซ้ำแค่ในภายหลัง Paper Planes นั้นเอาแนวนี้นี้มาเล่นในกระแสเมนสตรีมเมืองไทยแค่เพียงกูทำแนว Post-Hardcore เหมือนกันไม่ได้หมายความว่ากูจะก้อป Paper Planes นะจำเอาไว้ เอางี้นะมึงลองไปฟังวง Sleeping With Sirens,A Skylit Drive,Hand Like Houses,Pierce The Veil,Young Guns,Broadway,Secrets,Of Mice & Men อะไรพวกนี้ดูในช่วงอัลบั้มแรกๆ ย้ำนะในช่วงอัลบั้มแรกๆเท่านั้นที่ออกช่วงยุคปลายๆ 2000s ถึงต้น 2010s เผื่อมึงจะได้เปิดโลกรู้จักคำว่า Post-Hardcore มากขึ้นจะได้ไม่หาว่ากูก้อป Paper Planes อีก
>>281 ในด้านงาน Music Production ทั้งหมด Paper Planes คนที่รับหน้าที่นี้คือฮายนักร้องนำทำทั้งหมดคนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบตั้งแต่แต่งเพลงยัน
Post-Production ไม่มีทีมงานหรือคนอื่นมาเพิ่มเติม ดังนั้นไม่มีใครหรอกทีมงานด้าน Music Production อะไรที่มึงบอกอ่ะเพราะแม่งใช้คอมเครื่องเดียวทำทุกอย่างอยู่คนเดียว ส่วนที่มึงบอกทำนองมันมีกลิ่นอายมึงไปฟังวงพวกนั้นที่กูลิสต์ไปให้หมดนะแล้วมึงจะรู้ว่ากูไม่ได้รับอิทธิพลจาก Paper Planes แต่เป็น Paper Planes ต่างหากที่รับอิทธิพลจากวงพวกนั้น รวมถึงกูด้วยที่รับอิทธิพลมาจากวงพวกนั้นเหมือนๆกัน
กูสังเกตุมาสักพักละ คนที่ร้องเพลงเสียงก้องกังวาลได้ ต่อให้เสียงจะทุ้ม แหบ หรือแหลมยังไง ชาย หญิงยังไงก็ได้ ส่วนมากนี่แม่งโครงหน้าออกไปทางหน้าไม่เรียวทั้งนั้นเลยนะ พวกv shapeได้แต่ร้องแบบR&B นุ่มๆ ยิ่งหน้ากลม ครูอ้วนยังบอกเลยว่ายิ่งทำให้ส่งพลังเสียงก้องได้ แสดงว่าคนหน้าเรียวมาร้องเพลงอาจจะเสียงเปรียบกว่าในเรื่องของการทำให้เสียงกังวาลไหม? เห็นคนร้องเพลงร๊อคในไทยนี่เจอแต่หน้าไปทางกลมๆทั้งนั้นเลย แบบเสก , แด็ก , บังโต นี่เวลาร้องคือเห็นถึงความก้องเวลาขึ้นเสียงสูงมาก หรือจริงๆแล้วแค่คนโครงหน้าไปทางเหลี่ยมๆกับกลมๆเวลาร้องเพลงจะทำอะไรๆง่ายกว่าแล้วทำเป็นเร็วกว่า? หรือไม่เกี่ยวกันเลย? ขึ้นกับพรแสวงล้วนๆ?
>>283 เสียงแบบนั้นหลักๆมันเป็น Chest Tone มากกว่าซึ่งมันคือการร้องเพลงออกมาจากส่วนท้องและลำตัวซึ่งให้เสียงที่มีพลีงแข็งแรง แล้วบางคนที่แบบเสียงก้องกังวานพลังๆแหลมๆสูงๆมันก็เป็น Mix Tone ระหว่าง Chest กับ Head ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่ Advance ขึ้นไปอีก ซึ่งไอ้เทคนิคนี้กูก็เคยร้องเอาไว้ในเพลงที่กูเคยเอามาลงตอนท่อนใกล้จะจบอ่ะแบบนั้นแหละ แต่ของกูไม่ได้เก่งเท่าเขา
ไอ้สัส ปี 2 ว่าจะต่อเอกซาว์ด
ไม่ทันไรปี 1 กูติด F วิชา TEC007 แล้วว่ะ ท้อเลย
>>289 มันไม่ได้เป็นการฝึกหรอกหลักๆมันมาจาการเสพมากกว่า ซึ่งไม่จำเป็นต้องแจ๊สหรือคลาสสิคหรอกมันจพแนวดนตรีไหนก็ได้ที่เราชอบเราถนัด เสพจนกว่าจะเข้าใจถึงแก่นอย่างถ่องแท้ รู้ Culture และเข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับแนวนั้นๆจนเกิดการตกผลึกแล้วมันจะรู้ว่าเพลงพวกนี้ควรจะมีซาวด์เป็นยังไงเลือกใช้อุปกรณ์ยี่ห้อไหนถึงจะได้โทนออกมาแบบนี้ ซาวด์เอนสายโปรดักชั่นที่เก่งมักจะมีรสนิยมฟังเพลงที่ถูกต้องและชัดเจนในแนวทางนั้นๆจึงสามารถทำซาวด์แนวเพลงนั้นๆได้ออกมาดีกว่าพวกซาวด์เอนดาษดื่นทั่วๆไปที่เหมือนเป็ดยกตัวอย่างสมัยก่อนแนว Nu-Metal เอาคนแจ๊สมาอัดส่งคนป็อปมิกซ์แล้วให้คนลูกทุ่งหมอลำไปมาสเตอร์แบบนี้ซาวด์มันจะไปดีได้อย่างไรกัน
Epiphone Les Paul studio ไม่LT มีปัญหาเฟรตติดมั้ยวะ พอดีไปเจอมือสองราคายั่วใจแต่รู้สึกหลังๆEpiphoneงานเฟรตห่วยลงเยอะ
>>291 Epiphone งานมันก็ไม่ได้ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วกูว่ามึงไป Schecter คุณภาพดีกว่าเยอะแต่แนะนำล๊อตเก่านะล๊อตใหม่ในปัจจุบันงานกากลงเยอะปิ๊กอัพก็ไม่ดี กูแนะนำล๊อตในช่วงยุค 2000s หรือ 2010s โดยเฉพาะล๊อต 2010s รุ่นที่ราคาเทียบเท่ากับ Epiphone รุ่นที่มึงบอกหมื่นกลางๆแม่งได้ EMG หรือ Semour Duncan เลยไม่มียี่ห้อไหนบนโลกในตอนนั้นจะกล้าทำถึงขนาดนี้งานดีเสียงดีคุ้มสัสๆ มือสองได้ราคาดีๆกว่าพวกแบรนด์หลักเป็นเท่าตัวเลย แค่คนมันไปติดภาพจำว่า Schecter มันเฉพาะสายชาวร็อคเล่นไม่กว้างแม่งไม่เป็นความจริงเลยความเชื่อผิดๆทั้งนั้นอย่างรุ่น 9 สาย ปิ๊กอัพ EMG แม่งยังเอามาสับคอร์ดเพลงป๊อปได้เสียงไม่ได้แข็งอะไรเลย อย่างกูรับทำเพลงเพลงทุกแนวเพลงไอดงไอดอลหวานๆแบ๊วกูก็เอา Schecter ที่เขาว่าโหดนี่แหละอัดทั้งนั้นเสียงที่ได้มันก็ไม่ได้แบบว่าเฉพาะทางแบบที่เขาว่ากันเลยเห็นก็ปกติเหมือนกีต้าร์แบรนด์หลักไม่ได้ต่างกันเลย Epiphone ราคามือสองถูกมากก็จริงแต่เทียบกับปัญหาที่มึงต้องเจอในระหว่างการใช้งานรวมถึงค่า Maintenance ในอนาคตไม่คุ้มกันหรอกย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีตอนสมัยกูยัง Noob ในเรื่องนี้กูก็เกือบตกหลุมเหมือนกันดีได้เพื่อนที่เป็นเซียนกีต้าร์มาเบรคไว้ก่อนแล้วก็แนะนำ Schecter C1 Classic มา งานดีงานเนี๊ยบสัสได้ปิ๊กอัพ Semour เสียงนี้คือน้องๆ Gibson เลยเพราะรุ่นนี้มันทำเสปคเลียนแบบ Gibson นี่แหละคือเป็นบอดี้เป็นมฮอกกานี หนาๆหนักๆเลย คอเมเปิ้ลกับวอนัทต่อคอเป็น Neck Thru ราคามือหนึ่งได้แม่งถูกกว่า Epiphone รุ่นที่กูเคยเล็งเอาไว้ตอนนั้นเป็นเท่าตัวเลยก็ว่าได้แต่คุณภาพที่ได้นี้มันเกินราคาสัสๆ
ดีนะมาอ่านตอนท้ายเลยรู้ว่าเค้าคุยเรื่องกีต้าร์กัน 55555 กูแอบชอคที่มีดเชฟแล่ปลามาล้านๆตัว, กระทะทอด ผัดของแม่ค้าที่ว่าใช้งานหากินได้นานนับสามสิบปีแล้ว กีต้าร์นี่ใช้งานได้นานขนาดนี้อีกเหรอวะ เหยดเข้
>>293 มึงไม่รู้เหรอกีต้าร์บางตัวอยู่มานาน 40-50 ปีเขาเอามาขากันราคาพุ่งเป็นแสนๆบางตัวที่หายากสัสๆเป็นล้านก็มี ของงี้มันยิ่งอยู่นานยิ่งมีมูลค่าตราบใดที่ยังมีคนให้ค่า ยิ่งผ่านไปนานไม้ในตัวกีต้าร์มันก็เริ่มแห้งให้เสียงที่ดีอันนี้เป็นความเชื่อของพวกเล่นกีต้าร์นะไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน
>>295 มันไม่ใช่แค่นั้นหรอกวัสดุบางอย่างที่เป็นสิ่งที่หาไม่ได้จากยุคนี้เช่นพวกแผงวงจรหรือคาปาซิเตอร์หรือไม่ปิ๊กอัพที่ซึ่งในยุคปัจจุบันไม่มีผลิตแล้วหรือไม่ชิ้นส่วนเหล่านั้นมันอาจจะเกิดความเก่าเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาแล้วมันทำให้เกิดเสียงฮาโมนิกอะไรบางอย่างที่ทำให้มันมีโทนเสียงบางอย่างที่มันมีมนต์ขลังที่หาไม่ได้จากของใหม่ๆเป็นต้น
schecter bass omen 5 ดีไหมว่ะชาวโม่ง ได้มือสองมา 3500 เล่น เมทัลเห็นเป็น schecter เลยชื้อเลย เป็นเบสตัวแรกเลยไม่รู้ว่ามันดีขนาดไหน
>>299 มันก็มีโอกาสที่มันจะออกมาดีนะเพราะปิ๊กอัพสมัยนี้มันดีไซน์มาเพื่อให้เน้นเสียงปิ๊กอัพทากกว่าเนื้อไม้ แต่มันก็มีโอกาสที่มันจะออกมาไม่ดีได้เหมือนกันเพราะเสียงกีต้าร์มันไม่มีองค์ประกอบแค่เนื้อไม้กับปิ๊กอัพแค่นั้น แต่มันยังมีเรื่องของโครงสร้างการดีไซน์ต่างๆทั้งหมดของกีต้าร์ตัวนั้นๆซึ่งมันก็มีโอกาสทุกสิ่งทุกอย่างที่กีต้าร์ตัวนั้นมันเป็นอยู่พอมารวมกับปิ๊กอัพใหม่แล้วมันจะเกิดความไม่แมชกันของเสียงก็เป็นไปได้ ดังนั้นทุกการโมกีต้าร์มันก็คือความเสี่ยงนั่นแหละถ้ามันดีขึ้นก็โเคแต่ถ้ามันแย่ลงมันก็อาจจะต้องไปเปลี่ยนปิ๊กอัพไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะแมชกันแค่นั้นแหละ
เรียนกีตาร์ด้วยตัวเองแล้วเหนื่อยจัง สกิลไม่ขยับไปไหนสักที เพื่อนโม่งพอจะมีคำแนะนำอะไรบ้างไหม
มีใครเรียนเปียโนบ้าง
ฝากผลงานด้วยครับ นักดนตรีท่านไหนมีจุดประสงค์ทำเพลงทำ Demo แล้วเสียงไม่ได้คุณภาพ Bundle นี้อาจช่วยท่านได้ครับผมทำขึ้นมาแจกฟรีลองไปโหลดมาเล่นดูได้ครับ
>>306 ถ้าอะไรพวกนั้นน่าจะจัดอยู่ในประเภทงาน Jingle ซึ่งเขาคิดเป็นจำนวนเวลาเช่นหลักนาทีหรือวินาทีราคาขึ้นอยู่กับความยากง่ายของบรีฟแต่งานนี้แน่นอนว่ามันแพงกว่าทำเพลงปกติอยู่แล้วเพราะมันต้องทำให้สอดคล้องกับภาพหรือวิดีโอซึ่งเป็นงานที่ยากกว่าการทำเพลงปกติพราะถ้างานทำเพลงคุณภาพระดับมาตรฐานตั้งแต่แรกจนจบงานเริ่มต้นที่ 10000 แต่ถ้าเป็นงานอย่างที่มึงบอกมันก็จะเพิ่มไปมากกว่านั้นอีก แต่อันนี้กูก็ไม่กล้าฟังธงเท่าไหร่นะว่าจริงหรือไม่เพราะกูก็ไปฟังเขามาอีกที กูไม่ได้เคยรู้จักหรือเคยทำงานประเภทที่มึงว่านี้เลย
ส่วนอย่างของกูจะเรียกว่ารับทำมั้ยก็คงไม่เต็มปากเท่าไหร่ เพราะถ้าเป็นงานทำเพลงทำดนตรีกูจะรับแค่แนวร็อคกับเมทัลอย่างเดียวเพราะแนวอื่นกูไม่ได้เชี่ยวชาญมากนักกลัวทำออกมาแล้วมันไม่ดีไม่ได้มาตรฐานก็เลยยังไม่กล้ารับเพราะกูยังรู้จักมันไม่มากพอเท่ากับแนวร็อคหรือเมทัลที่กูเติบโตกับมันมาร่วม 10-20 ปี แต่ถ้าเป็นงานประเภท Post-Production เช่นงาน Audio ต่างๆ Edit เสียง Clean Track ลบ Noise ในเสียง หรือจะในเชิง Musical เช่น Tune เสียงร้อง Mixing และ Mastering อันนี้กูรับหมดทุกประเภทเพราะกูทำสายนี้เป็นหลัก
>>307 มันยากมากขนาดไหนวะ? ที่กูหมายถึงคือพวกเพลงintro ไม่กี่วิของพวกstreamerออนไลน์ที่ไม่ซ้ำแบบกับเพลงลิขสิทธิ์ฟรีตามอินเตอร์เน็ตอ่ะ แบบเป็นเพลงประกอบintroเปิดตัวไรงี้ ถ้าเอาให้ชัดๆกว่านี้ก็แบบเพลงเปิดตัวของข่าวสามมิติ,ข่าวไทยรัฐnewshow,เรื่องเล่าเช้านี้ อะไรทำนองนี้นะ ราคาค่าจ้างพอๆกับจ้างทนายไปว่าความในศาลเลยเหรอวะ?
>>308 ถ้าคิดว่ามันง่ายมึงก็ลองไปทำเองสิ ทำได้มั้ยก็ไม่ ในมุมของคนไม่เคยทำมึงอาจะคิดว่าทำเพลงไม่กี่วิมันง่ายแต่ถ้าลองมองมุมของคนสร้างงานศิลปะเขาใช้เงินทุนค่าอุปกรณ์ค่าเล่าเรียนหมดไปก็หลายแสนแถมใช้เวลาฝึกฝนมาแทบจะทั้งชีวิตเพื่อมาทำไม่กี่วิให้มึงเนี่ย
ถามว่ายากขนาดไหนถ้าแบบของกู กูฝึกดนตรีมาเป็นเวลา 20 ปีเรียนระดับอุดมศึกษาสาขาดนตรีอีก 2 ใบ เรียนในอนุปริญญาสาขา Audio Engineer อีกใบ และใช้เวลาฝึกฝนประสบการณ์ทางด้านสาย Music Production อีกหลายปี และอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ใช้ทำงานถึงมันจะดูกิ๊กก๊อกเมื่อมองด้วยตาแล้วเทียบกับของที่มีสตูดิโอใหญ่แต่ทุกชิ้นทุกอันที่กูใช้ก็แบรนด์ระดับเดียวกันกับที่ใช้ในสตูดิโอใหญ่ซึ่งราคาของแต่ละชิ้นก็พอจะดาวน์รถได้เป็นคัน
เท่าที่กูบอกมามึงคิดว่ามันยากระดับไหนล่ะกว่าทำงานให้ออกมาได้ระดับมาตรฐาน แต่ถ้ามึงคืดว่าแพงไปงั้นกูเสนอทางเลือกให้มึงลองไปหาพวกเด็กหัดทำบีทตามกลุ่มแจกบีทราคาหลักร้อยที่มันนิยมความมักง่ายเอา Loop เพลงสำเร็จรูปมาแปะๆกันมันก็ทำออกมาเป็นเพลงได้เหมือนแต่กูไม่รับประกันคุณภาพนะ เสียงผิดคีย์ จังหวะไม่ตรง เบสบวม แหลมแสบหู เสียงบางไม่แน่นก็ตามมีตามเกิดตามสภาพราคาเนอะ
ถามหน่อย Schecter Hellraiser C-1 เหมาะเอามาทำแนว J ROCK ไหม
อยากได้ซาว์ดกีตาร์แบบประมาณนี้อะ https://youtu.be/SdEI1AZhF0U
มีโม่งเล่นเบสปะวะ กูถามหน่อยว่าเล่นยังไงถึงจะสนุกวะ
คือกูฟอร์มวงเมทัลเล่นขำๆกับเพื่อนหลังเลิกงาน แล้วเสือกมีแต่คนเล่นกีต้า ทีนี้เลยพลั้งปากไปว่าเดี๋ยวย้ายไปเล่นเบสแทนให้
พอไปดูไลน์เบส แม่งดูน่าเบื่ออะ แหน่วๆๆไม่กี่โน้ต แค่เห็นก็ซึมแล้ว
>>312 ต้องยอมรับนะว่าในแนวเมทัลเครื่องดนตรีเบสไม่ได้มีบทบาทโดดเด่นอะไรถ้าเทียบกับพวก Funk หรือ Fusion อย่างมากมันก็แค่เล่นตามริฟกีต้าร์เพื่อทำให้เพลงมันมีย่าน Low ในส่วนของ Root หลักซึ่งถ้ามึงอย่างจะเล่นเบสให้มีบทบาทมากกว่านี้ก็คงต้องเปลี่ยนไปเล่นพวกเมทัลแบบ Progressive ซึ่งในฐานะวงเล่นเอาสนุกมันจะไหวกันหรือเปล่าเพราะมันเป็นแนวดนตรีที่จริงจังแหละอาศัยสกิลการเล่นดนตรีขั้นสูง หรือทางออกที่ดีกว่านั้นก็พวก Funk Metal อย่าง Rage Against The Machine หรือพวก Nu-Metal แบบ Korn หรือ Mudvayne ซึ่งเพลงขงวงพวกนี้เบสนั้นค่อนข้างมีบทบาทที่โดดเด่นเลย แต่ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะยอมกันมั้ยแค่นั้นแหละ
epiphone les paul เอามาเล่นดรอบสายคุ้มไหมว่ะ
การทำเพลงละต้องมีเพลงเดโมนี่คือสมัยนี้ก็ยังมีใช่ไหมวะ? ที่กูตกใจคือเพลงนี้คิดค้นมาสมัย30ปีก่อน(ละ30ปีก่อนไม่ได้มีพวกpluginให้แต่งเยอะ ตัดต่อเสียงผ่านคอมกูว่าก็ไม่น่าง่ายๆด้วย สมัยนั่นคอมแม่งราคาแพงกว่าทีวีกับมือถือหลายขุม) กูสงสัยเลยอ่ะ คนที่พูดแล้วทำเสียงปีศาจระหว่างเพลงบรรเลงเค้าทำกันยังไงวะ? หาไมค์ หาคนแยกมาแล้วพูดต่างหากเหรอ? อีกอันที่อยากรู้นะ ตัวอัดเสียงสมัยก่อนเนี่ย มันอัดแบบสเตอริโอ อัดทั้งกลอง อัดทั้งเบส ไม่ได้ใช่ไหม? แล้วก็อัดแยกไม่ได้ด้วยรึเปล่า? ทำไมเพลงมันดูละelementบางตัวเหมือนเวลาเล่นโซโล่แล้วคนเล่นเล่นสุดนะแต่ความคมชัดเสียงไม่ขนาดนั้นวะ? แล้วที่สงสัยอย่างสุดท้ายคือ เวลาเข้าห้องมาอัดเพลง สมาชิกทุกคนต้องมาครบวง อัดแยกไม่ได้แบบสมัยนี้ถูกต้องไหม? ถ้าใครพลาดก็เริ่มใหม่เลยกูเข้าใจถูกไหม?
การอัดเสียงด้วยคอมมันมีมตั้งแต่ยุค 90 นั่นแหละแต่ป่านนั้นที่ไทยคงยังไม่มีอะไรแบบนี้คงจะเป็นระบบอนาลอคอยู่นี่แหละอัดใส่ Tape Reel ซึ่งมันไม่จำเป็นอัดรวมหรอกเพราะการอัดแยกมันมีมาตั้งแต่ยุค 80 แล้วโดยการอัดนั้นมีทั้งการอัดแบบ Mono และ Stereo ขึ้นอยู่กับชนิดของเสียงซึ่่งส่วนมากจะอัดเป็น Mono ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นแบบนั้นไม่มีใครอัดทุกสิ่งทุกอย่างเป็น Stereo หรอกเพราะอัดเป็น Mono สุดท้ายเอามารวมกันแล้ว Pan มันก็เป็น Stereo อยู่แล้ว ส่วนปลั๊กอินสมัยก่อนมันก็คืออุปกรณ์ Hardware เพราะปลั๊กอินมันก็คือการจำลองมาจากอุปกรณ์ Hardware นี่แหละ อย่างเพลงที่ว่าพวกกลองก็ไม่ได้อัดจริงแต่ใช้ Drum Machine ซึ่งว่ากันง่ายๆมันก็เหมือนกับปลั๊กอินกลองสมัยนี้นี่แหละ ซึ่งความชัดความ Clarity ของซาวด์สมัยก่อนมันสู้สมัยนี้ไม่ได้หรอกเพราะอุปกรณ์ทุกอย่างมันเป็น Hardware มันมีข้อจำกัดของมันอย่างบอร์ด Mixer มี EQ แค่ 4 Band มี Compressor ให้ตัวนึงวึ่งถ้าเป็นรุ่นถูกๆยิ่งมีมาให้น้อยกว่านี้อีก แต่กลับกันตรงกันข้ามในสมัยนี้ทุกอย่างมันเป็น Software มันจะทำอะไรก็ได้จะปรับ EQ ซัก 100 Band ก็ได้ใส่ทุกสิ่งทุกอย่างทำได้เหมือนกับอยู่ในสตูดิโอระดับโลกที่ของครบ
เดือนนี้จะลาออกจากการเป็นหมอมาเล่นดนตรีเต็มตัว จะได้หลุดพ้นจากชีวิตที่มีแต่ความเครียดซะที
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Stereo คืออะไร Mono คืออะไร Mono ก็คือเสียงที่อยู่แค่ตรงกลางส่วน Stereo มันก็คือเสียงสองข้างซ้ายกับขวาที่ไม่เหมือนกันคอนเสปมันก็ง่ายๆเลยมันก็คือการเอาเสียง Mono ที่มันไม่เหมือนกันมาทำการ Localize ทำการ Pan ให้มันออกซ้ายออกขวาก็แค่นั้นแหละซึ่งในการอัดเสียงมันก็มีแบบทั้งอัดแบบ Mono ก็คือไมค์ตัวเดียวแทรคเดียว แล้วก็แบบ Stereo ก็คืออัดสองไมค์พร้อมกันสองแทรคแล้วเอาไป Pan ซ้ายกับขวาซึ่งก็อย่างที่บอกเลยว่าแท้จริงมันก็คือ Mono สองแทร็คที่ไม่เหมือนกันแล้วเอาไป Pan ซ้ายขวาแค่นั้นเองไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ดังนั้นมันไม่เกี่ยวเลยว่าต้องใช้คอมทำ เพราะระบบเสียง Stereo มันมีมานานกว่าครึ่งศตวรรษโน่นแล้วสมัยก่อนไม่มีคอมเขาก็ใช้ระบบ Analog ล้วนคืออัดเข้า Tape Reel จากนั้นก็เอามากด Playback แล้วใช้บอร์ด Mixer และอุปกรณ์ Outboard Gear ต่างๆในการผสมเสียงจัดการเสียง ส่วนเวลาอัดแยกก็ไม่มีอะไรมากหรอกก็แค่อัดทับซ้อนลงไปที่เทปนั่นแหละจะอัดทับกันเป็นร้อยครั้งก็ไม่มีใครว่าหรอก เพียงแต่ในเชิงการ Edit เสียงการ Quantization มันไม่ได้ละเอียดระดับ Millisecond หรือ Microsecond แบบในคอมพิวเตอร์เหมือนสมัยนี้ดังนั้นเขาถึงบอกไงว่าศิลปินหรือนักดนตรีมือปืนห้องอัดต้องซ้อมกันหนักมากๆเพราะจะต้องเล่นให้ผิดพลาดน้อยที่สุด เพราะมันพลาดแค่นิดเดียวมันก็ต้องอัดใหม่ทั้งยวง สิ้นเปลืองเวลาแถมสิ้นเปลืองงบอีกเพราะ Tape Reel ม้วนนึงแม่งโคตรแพง ในขณะที่เดี๋ยวนี้มันสะดวกสบายขึ้นเยอะอัดพลาดแค่นิดดียวมันก็อัดเจาะซ่อมทีละจุดได้ ขนาดอัดทีละโน้ตเอาไปตัดแปะกันจะเป็นคอร์ดทำทีละคอร์ดทีละพยางค์จนกลายเป็นเพลงก็ยังทำได้ เพราะเดี๋ยวนี้คนทำเพลงกันจนเกร่อเพราะอุปกรณ์ถูกลงราคาจับต้องได้เอาทั้งสตูดิโอยัดลงคอมเครื่องเดียว แถมความรู้ How to ต่างๆมันก็หาง่ายพวกแม่งออกมาขายคอร์สสอนกันเกลื่อนเน็ต แถมไม่พอมันยังมีพวก Software โกงๆที่มันมี่แค่ปุ่มเดียวหมุนปุ๊ปเสียงแม่งดีเลย มีหนักกว่านี้อีกคือทำเป็นเสียงไลนืเครื่องดนตรีเป็น Loop สำเร็จรูปมาให้เลยก็มี ดังนั้นเดี๋ยวนี้ไม่ต้องคนมีความรู้ไม่ต้องคนเรียนด้านนี้มาเดี๋ยวนี้ก็ทำเพลงได้ ซึ่งมันก็ไม่แปลกหรอกที่เดี๋ยวนี้มันจะมีพวกมือสมัครเล่นอยากจะมาเติมเต็มความฝันตัวเองซึ่งถ้าว่ากันตามตรงว่าการ Performance หรือความรู้สกิลก็ไม่ได้ดีพอที่จะใช้ในการทำเพลงได้จริงหรอก แต่มันอาศัยพวกทางลัดตัวช่วยพวกนี้แหละโกงกันจนตลาดเศรษฐกิจวงการแทบจะพินาศเพราะตัดราคากันดิ่งลงเหวไปเรื่อยๆนี่แหละ จนมีอยู่ช่วงนึงที่พวกทำบีทกันเกร่อๆเรียกได้ว่าช่วงนั้นคือยุควงการทำเพลงถึงจุดตกต่ำขนานแท้เพราะเพลงในชาร์ตช่วงนั้นมันมีแต่พวกเพลง Sound Production ห่วยๆชุ่ยๆเต็มไปหมดเลยแล้วพอมันยิ่งดังคนมันก็ยิ่งแห่กันมาทำตาม แต่ไม่ได้ศึกษาอะไรให้มันดีเลยสักแต่ทำอย่างเดียวแล้วก็แข่งกันตัดราคาจนเป็นดราม่ากันอยุ่พักนึงเลย
>>325 ประโยคท้ายดูท่าจารย์คงไม่โอเคกับผลงานบางชิ้นที่เสือกดังขึ้นมาได้แต่แม่งทั้งเสียงร้องกับทำนองเพลงนี่ปรับมาจนเหมือนไม่มีมนุษย์คนไหนร้องสดจริงๆได้แบบนั้นแน่ๆเลยหว่ะ เข้าใจเลยว่าทำไมพวกค่ายเพลงที่แตกไลน์มาจากแกรมมี่คือยังคงอะไรที่มันมาจากยุคอานาลอกได้บ้าง(แล้วมีคนที่แยกอะไรแบบนี้ออกเลยยังเหนียวแน่นกับแกรมมี่555) ส่วนที่จารย์บอกว่าตัดราคาจนตลาดเพลงบัดซบนี่ใช่สมัยอดีตค่ายเพลงย่อยๆของฝั่งค่ายใหญ่ลาดพร้าวมันเคยปล่อยเพลงเจาะกลุ่มวัยรุ่นจนเพลงดังแต่คนแต่งแม่งโกงฝีมือด้วยอุปกรณ์ไรงี้ป่ะวะ?
>>326 มันไม่สมัยไหนหรอกก็สองสามปีก่อนนี้แหละสมัยพวกกดบีทร้องออโต้จูนเกร่อๆนี่แหละ พวกนี้มันไม่ใช่ค่ายอะไรหรอกพวกใต้ดินมันทำกันเองนี่แหละแล้วมันเสือกดังเพราะกระแสมันแรง แต่เพราะเพลงของพวกนี้มันทำง่าย เพราะไม่ต้องศึกษาอะไรขนาดโปรแกรมแม่งก็ยังแคร๊กทั้งดุ้นช่วงนั้นมันก็เลยมีแต่งานชุ่ยๆมีแต่พวกมักง่ายเพราะมันไม่เคยต้องพยายามไม่เคยต้องลงทุนลงแรงอะไรได้มาแบบง่ายๆมันเลยไม่เห็นคุณค่าจนแข่งกันตัดราคาจนเดือดร้อนคนที่เขาทำอาชีพนี้อย่างจริงจังนี่แหละ อีกอย่างนะกูไม่ได้อวยยุคอนาลอคอะไรขนาดนั้นหรอก กูว่ายุคนี้นี่แหละดีที่สุดแล้วเพราะสกิลมึงถึงความรู้มึงถึงมึงสามารถทำ Sound Production ระดับ Worldclass ได้โดยที่จบงานอยู่ห้องนอนในขณะที่สมัยก่อนแม่งต้องต้องใช้อุปกรณ์ใช้สถานที่งบหลักล้าน แล้วอีกอย่างกูก็ไม่คิดจะอวยพวกค่ายใหญ่ๆที่เคยผูกขาดตลาดด้วย เพราะพวกนี้แหละมันคือตัวการที่ทำให้วงการเพลงบ้านเราอยู่แต่ในกะลาไม่ก้าวไปไหนสักที ดูเดี๋ยวนี้สิคนทำมันฝีมือสู้เด็กรุ่นใหม่ได้ซะที่ไหน โลกเขาไปถึงไหนแล้วตัวแม่งยังมาทำทรงเหยียดคนใช้โปรแกรมกลองโปรแกรมแอมป์กีต้าร์อยู่เลย เพราะตัวแม่งต่อให้อัดกลองจริงผ่านอุปกรณ์เป็นแสนยังไงมันก็เสียงสู้เด็กรุ่นใหม่ที่ใช้โปรแกรมกลองแต่มีความเข้าใจในเพลงมากกว่าอยู่ดี มึงต้องปรับความคิดซะใหม่นะว่าการใช้อนาลอคราคาหลักแสนหลักล้านก็ไม่ได้แปลว่าจะงานดีเสมอไป เพราะหลักๆมันอยู่ที่คนทำต่อให้จะใช้ของดีแต่ถ้าคนทำมันไม่เข้าใจในดนตรีมีเทสที่ห่วยแตก ยังไงซาวด์ที่ได้มันก็ห่วยแตก ง่ายๆเลยก็ไปดูไอ้ซาวด์เอนร้านเหล้าที่โพสแซะนักร้องกลางคืนที่เปิดดูเนื้อเพลงในไอแพดที่กำลังเป็นกระแสตอนนี้ดูสิ ไอ้นี่ใช้ System หลักล้านนะ แต่ซาวด์ออกมาก็นึกว่าฟังรถแห่ เพราะเทสมันห่วยแตกไงซาวด์ที่ได้มันก็เลยห่วยแตกไม่สมกับราคาอุปกรณ์ที่ใช้เลย
ไม่รู้จะถามมู้ไหน ลองมามู้นี้เผื่อใครมีความรู้ อยากรุ้ว่าไอ้ที่ตีกลองไปฟังเพลงไป แบบไม่เคยฟังเพลงมาก่อน นี่เขามีศัพท์เฉพาะมั้ยวะ กุอยากหาฟังเยอะ ๆ น่ะ แล้วแบบนี้มันต้องใช้เทคนิคไรวะ กุไม่มีค.รู้เรื่องดนตรีเลยว้าวมาก แบบ เราไม่เคยได้ยินแล้วจะรู้ได้ไงว่าต่อไปต้องตีแบบไหน แค่เดาเอาเหรอ หรือเพลงปกติมันมีแพทเทิร์นอยู่แล้ว ใคร ๆ ก็ทำได้หรือว่าต้องเป็นเซียนเทพ ๆ เลย
ตย.แบบนี้ ๆ https://youtu.be/Y6Lw9lYM-pk
>>330 อันนี้ไม่ใช่ว่ามโนหรอกมันก็ถูกที่ไฟฟ้าส่งผลต่อเสียงเพราะสัญญาณเสียงในระบบอนาลอคมันก็คือไฟฟ้าจากนั้นค่อยแปลงออกลำโพงเป็นความดันอากาศแล้วเดินทางเข้าหูเรา ซึ่งต้นทางถ้าไฟฟ้ามันไม่ดีมันก็ส่งผลทำให้สัญญาณมันไม่ดีตามไปด้วย แต่แค่ปลั๊กพ่วงโง่ๆมันต้องราคาขนาดนี้มั้ยในขณะที่ราคาขนาดนี้สามารถซื้อ Furman รุ่นดีๆได้เลยซ้ำไปแถมยังใช้งานประสิทธิภาพได้ดีเป็นมาตรฐาน Professional Audio ทั่วโลกใช้กันโดยที่ไม่ต้องน้ำลายโม้เหม็นโฆษณาอะไรมากมายเหมือนบริษัทเครื่องเสียงระดับ Consumer พวกนี้เลยฝากไว้ให้คิดก็แล้วกันว่าอันไหนของจริง อันไหนแค่คำลวง Marketing
>>332 อันนี้ยิ่งโคตรไร้สาระแค่แท่นวางอินทิเกรดแอมป์มันจะมามีผลอะไรต่อเสียง ถ้าแท่นวางลำโพงกว่าว่าไปอย่างเพราะมันส่งผลทางด้านอคูสติกโดยตรง แต่อันนี้เอามาวางแอมป์ซึ่งข้างในมันยังเป็นภาคอิเลคโทรนิกส์ซึ่งมันอยู่ข้างในมันยังไม่ได้ถูกแปลงเป็นภาคอคูสติกเลยด้วยซ้ำไปแถมหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อะไรก็ไม่มีมาพิสูจน์นั่งเทียนเขียนเอาเองว่าส่งผลต่อเสียงอย่างนั้นอย่างนี้แบบนี้ใครกก็พูดได้ความน่าเชื่อถือแม่งเข้าขั้นติดลบเลย คือถ้ามันกันของพังกันแอมป์พังเพราะน้ำหนักมันเยอะอันนี้ว่าไปอย่าง แต่ส่งผลต่อเสียงแล้วก็ราคาขนาดนี้แบบนี้มันแหกตากันเห็นๆ ไอ้วงการพวกนี้ยิ่งเข้าไปสัมผัสคลุกคลีแม่งยิ่งมีแต่พวกงมงายไสยศาสตร์สายมูทางด้านเสียงอ่ะ
ในงานสาย STUDIO เวลาอัดกีตาร์อันไหนจะมีคุณภาพมากกว่ากันระหว่าง interface vs DI Box
หรือว่าควรใช้ทั่งคู่เลย
>>334 AI สิ di มึงเอาไมค์จ่อก็ได้ ปรับดี ๆ ได้ทั้งคาร์แรคเตอร์ไมค์ ตู้ room สาระพัด
https://youtu.be/HAqIZnQ63Ao
>>334 ไอ้ที่ยกตัวอย่างมาเนี่ยมันเป็นการต่อตรงทั้งคู่เลยต่างกันแค่อีกอย่างหนึ่งใช้ DI Box ถามว่าอันไหนดีกว่ากันก็ต้องอันที่ใช้ DI Box อยู่แล้วแต่ถ้ากรณีแบบ Home Studio ที่ทำๆกันที่ System มันไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมีแค่ Audio Interface กับคอมถามว่ามันจำเป็นถึงขนาดนั้นมั้ยก็ไม่เพราะถ้าบ้านมึงมีระบบกราวด์ที่ดี กีต้าร์หรือเบสมีการตรวจเช็ควงจรตลอด หรืออาจจะใช้ปิคอัพแบบดีๆพวกสัญญาณ Noise Floor มันก็มีน้อยอยู่แล้วใช้ Gate ตัดออกนิดเดียวก็หายเว้นแต่จะใช้ Single Coil แต่ถ้าเป็นห้องอัดจริงๆที่มี System ที่ซับซ้อนอันนี้ถือว่ายังจำเป็นเพราะยิ่งผ่านอุปกรณ์เยอะ Noise Floor มันก็ยิ่งสูงขึ้น
>>335 เอาจริงๆนะในยุคนี้จะ Real Amp หรือ Amp Sim ในยุคนี้มันไม่ได้จะมีอะไรดีหรือด้อยไปกว่ากันแล้วมันอยู่ที่ความเหมาะสมอยู่ที่สถานการณ์มากกว่า อัดแอมป์จริงก็ไม่ได้แปลว่าจะได้ซาวด์ที่ดีกว่าเสมอไปถ้าขาดความรู้ประสบการณ์ หรืออุปกรณ์สถานที่ไม่พร้อมหรือแม้แต่มันไม่แมชกับโทนโดยรวมของเพลงสุดท้ายก็เจ๊ง ดังนั้นมันต้องมองที่ความเหมาะสมมากกว่ามองที่ค่านิยมเป็นหลัก เพราะการอัดแบบ Amp Sim ยิ่งกับยุคสมัยนี้มันไม่ได้กากเลยเพราะฝรั่งโดยเฉพาะแนวร็อคๆเขาก็หันมาใช้การอัดแบบนี้กันหมดแล้วแม้แต่วงระดับโลกก็ยังทำอย่างวง AC/DC อัลบั้ม Black Ice ปี 2008 รู้มั้ยว่าทั้งอัลบั้มนั้นใช้ Amplitube 3 อัดทั้งอัลบั้มเลยนี่ขนาดว่าในยุคสิบกว่าปีก่อนที่เทคโนโลยี Amp Sim ยังไม่พัฒนาก้าวกระโดดแบบยุคนี้นะแล้วซาวด์ที่ได้มันห่วยมั้ยล่ะก็ไม่เลยเพราะไอ้ซาวด์กีต้าร์ที่เขาเรียกว่า Wall of Sound เนี่ยหลักๆมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้แอมป์จริงจ่อไมค์เหมือนกับในคำโฆษณาในคลิปนั้นหรอก แต่หลักๆมันเกิดจากการ Sound Selection การทำ Source ของเพลงโดยรวมให้มันมันมีโทนที่แมชกันทำให้ย่านความถี่ของแต่ละชิ้นเครื่องดนตรีมันไม่ซ้อนทับตีกันเองทำให้แต่และเครื่องมีพื้นที่ของมันในเพลงแล้วพอบวกกับการเอาไป Process เอาไปมิกซ์เอาไปมาสเตอร์ผลที้ได้คือซาวด์ที่เคลียร์สะอาดและแน่นใหญ่ไม่เพียงแต่กีต้าร์แต่ทั้งเพลงเลย แต่อย่างในคลิปนั้นมันก็เป็นแค่ห้องอัดเป็นงานเซอร์วิสอย่างหนึ่งเขาก็แค่ตอบสนองในสิ่งที่ลูกค้านั้นอยากได้ แต่ความเป็นจริงแล้วถ้าเป็นงาน Music Production จริงๆแล้วล่ะก็เอนจิเนียร์หรือโปรดิวเซอร์เก่งๆส่วนมากเขาจะไม่ตามใจลูกค้ามากเกินไปเพราะเขาเชื่อในหูและความรู้ประสบการณ์ตัวเองมากกว่าเชื่อในหูลูกค้าซึ่งก็ร้อยพ่อพันแม่ไม่ได้มีมาตรฐานอะไรมากำหนดว่าใครจะเก่งหรือไม่เก่ง เพราะต่อให้จะเล่นเก่งมันไม่ได้แปลว่าจะเก่งในเรื่องการทำเพลงเสมอไป เพราะถึงมันจะเป็นดนตรีเหมือนกันแต่มันก็ศาสตร์คนละแขนง
ขาย Mix Ready Template (Studio One) แนว Modern Rock แค่เปิดมาปรับ Tempo ใหม่ แล้วเอาเสียงเดิมออกอัดทับเขียนกลองเขียนเบสในแทรคเดิมทับไปได้เลยไปโดยที่ไม่ต้องปรับมิกซ์หรือมาสเตอร์เพิ่ม แค่ปรับบาลานซ์นิดหน่อยพอ
สามารถฟังเพลงตัว Demo ที่ใช้ Template นี้ได้และรายชื่อ Plug-In ทั้งหมดที่ใช้ใน Template ตามลิ้งค์ในคลิป สนใจไปเม้นใต้คลิปนะเด๋วส่งคอนแทคให้
https://www.youtube.com/watch?v=DprTa3rFBZg
อยากรู้อย่างนึง SVOT exerciseมันคือไรวะ? อ่านละยังงงๆ ดูคลิปก็ไม่เข้าใจ เป็นการวอร์มเสียงหรืออะไร
>>342 มันต้องทำใจว่ะแนวเมทัลเบสมันเป็นลูกเมียน้อยอยู่แล้วเพราะขนาดกูทำเพลงเมทัลกูยังใช้โปรแกรมเขียนเบสใส่ไปแบบโง่ๆไม่มีห่าอะไรเลยแล้วสุดท้ายเสียงมันก็จะไปกลืนเป็นเนื้อเดียวกับเพลงจนแม่งฟังไม่ออก 5555 มีไม่กี่วิธีแหละที่จะเล่นเบสแนวเมทัลให้ไม่น่าเบื่ออย่างแรกก็คือตามที่กูบอกว่าเป็นไปเล่นแนว Funk Metal,Nu-Metal คือเบสมีบทเด่นแน่นอน หรือไม่ก็เปลี่ยนไปเล่นแนว Thrash Metal หรือสาย Melodic Metalcore รับรองมึงได้เล่นโน๊ตเยอะๆสมใจแน่นอนเพราะมันต้องริฟยูนิซั่นกับกีต้าร์
https://www.youtube.com/watch?v=nOnXAs0VFvU
กูมีคำถามมาตั้งมากมายจนในที่สุดก็ลืมไปแล้วและมานึกได้ว่าเกมส์ในตำนานแบบRA2-3ก็เคยทำผลงานเพลงที่กูว่าดีไม่น้อยในแง่ของความร๊อคนะ กูชอบเพลงGinder 2 มากกว่าอันแรกหว่ะ ด้วยความที่น่าจะใช้พวกกีตาร์ไฟฟ้ากับเสียงดนตรีออเคสตร้าเข้าผสมวงมากกว่าแบบGrinder 1 มั้งเลยดูมีมิติหน่อยๆ ทีนี้คำถามคือ สมมติว่าเอาไปเล่นสด .... ถ้าสร้างเสียงออเคสตร้าที่ใช้ในคลิปเพลงนี่โดยใช้ตัวคีย์บอร์ดมันทำได้ไหมวะ? หรือว่าไ่ได้เพราะเสียงบางอันทำได้ไหมถึงไหม? อาจจะไม่ต้องมีเสียงร้องคอรัสแบบในคลิปประกอบ ไม่ต้องมีเสียงพวกโทรเลขแบบในเพลงประกอบจังหวะก็ได้ เอาเข้าจริงมันสามารถบรรเลงออกมาให้ดีกว่านี้ได้ไหม? หรือแค่เครื่องดนตรีสากลเบสิกๆแบบกลอง กีต้าร์ เบส เพียวๆนี่ก็ได้แล้ว? อีกคำถามนึงคือ เพลงนี้อ่ะ สมมติเด็ก ม.ปลายเอาไปเล่น สำหรับมือใหม่ด้านกีต้าร์ .....ถือว่ายากไหมวะ 55555
โดนแบนอะ
ถามผู้รู้หน่อย ถ้าจะ EQ เสียงกีตาร์แตก แบบเมทัล ควร low cut ประมาณที่ย่านไหนอ่อ ควร 80hz หรือ 150hz
ต่อจาก 355
ยกตัวอย่าง เพลง Into the Great beyond ของ Crystal Lake
https://www.youtube.com/watch?v=8SvkeVDu3vs
Breakdown มันดูแน่นมากเสียงกีตาร์นี่ ชั่งๆๆ เลย
กูอยากเก่งไวโอลินแต่แถวบ้านไม่มีโรงเรียนสอนเลย มีสอนแต่พวกกลอง กีต้าร์งี้ แถมถ้าจะเรียนต้องเข้าไปในเมืองอีก กูสามารถฝึกเองแล้วดูพวกสอนในยูทูปได้ไหมหว่ะ
>>355 HPF ที่ 100 Hz แล้วระหว่าง 150 - 300 Hz ก็เอา Dynamic EQ มากดไว้ซักประมาน -5 -6 dB เพราะตอนอุดสายย่าน Low มันจะหึ่งขึ้นมา แล้วก็ LPF ที่ 12 KHz จากนั้นก็ใช้ Bell Curve ค่า Q แคบๆไป Cut ตรงที่แถวๆ 4 KHz กับ 3 KHz ออกซัก -5 -6 dB ถ้า EQ ที่มึงใช้มันมีโหมด Auto Gain ก็ให้ใช้ด้วยเพราะมันจะเห็นผลเป็นอย่างมากระหว่าง A/B Test มันจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง
การเล่นกีต้าร์แบบเคาะตบสายเป็นจังหวะมันมีกี่รูปแบบวะ กูกำลังฝึกแต่ไม่เข้าใจสักนิด มีคลิปไหนพอเป็นแนวทางให้ฝึกมั้ย
แนะนำกีตาร์ไฟฟ้า hh งบห้าหมื่นบวกได้นิดหน่อย ขอแบรนด์ดีแต่ไม่โหล (ที่ไม่ใช่ godin เพราะมีแล้ว) หน่อยสิเพื่อนโม่ง
>>363 John page โอเคนะ
Charvel ส่วนตัวว่าแพงไป
Caparison ก็ดีนะ
Fender น่าซื้อเฉพาะลิมิเต็ด
Gibson เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีตัวน่าเก็บ
Shecter ก็โอนะ
Ibanez แพงไปหน่อย
G and L ดีมากแนะนำแต่ราคาปีใหม่เพิ่มเยอะ
PRS มือสองน่าสน มือใหม่ของแพงเหมือน GL
MusicMan มือสองปีเก่า
Suhr, Tom Anderson, Vigier จับแล้วเฉย ๆ
จีนไฮเอน ซื้อแบรนเมกาดีกว่า
แบรนไทย ถ้ามั่นใจในตัวเองก็จัดเลย แต่ขายต่อแล้วจบเห่
เพลงของ John Cage ต้องเล่นอย่างไร พวก 4′33″ Water walk
จารย์แดงแกเก่งจริงป่าววะ หรือแอ็คไปงั้น แล้วเดี๋ยวนี้แค่เพี้ยนตามภาษาคนแก่ แพร่บๆ
มีคนบอกว่าริปซีดีออกมาเป็นไฟล์ WAV เสียงดีกว่า FLAC จริงหรือครับ.? เพราะอะไร ในเมื่อ FLAC ก็เป็นไฟล์ Lossless?
----------
คำตอบคือ "จริง" ส่วนเหตุผลที่ริปซีดีออกมาเป็นไฟล์ WAV แล้วให้เสียงดีกว่า FLAC เป็นเพราะว่า เมื่อเลือกไฟล์ WAV ในการริปเพลงจากแผ่นซีดี ตัวโปรแกรมริปแผ่นจะทำการก๊อปปี้สัญญาณเพลงที่อยู่ในแผ่นซีดีออกมา "ทั้งหมด" โดยไม่มีการตัดทอนส่วนใดทิ้ง สัญญาณที่ริปออกมาจากแผ่นซีดีจะเป็นสัญญาณ PCM 16/44.1 ที่มีจำนวนบิตข้อมูลเสียงครบถ้วนตามที่ถูกบันทึกอยู่บนแผ่น และถูกแพ็คเข้าไปในแพ็คเกจของ WAV ทั้งหมดนั้น และสัญญาณเสียงเหล่านั้นจะถูกส่งผ่านไปบนคอมพิวเตอร์ด้วยอัตราความเร็วอยู่ที่ 1411kbps ตรงตามมาตรฐานของซีดี
.
ส่วนการริปเพลงจากแผ่นซีดีแล้วเลือกเอ๊าต์พุตจากโปรแกรมริปแผ่นให้ออกมาเป็นไฟล์ FLAC นั้น แม้ว่าตัวฟอร์แม็ตจะระบุชื่อว่าเป็นไฟล์แบบ Lossless (FLAC = Free Lossless Audio Coding) คือไม่มีความสูญเสียเกิดขึ้นในขั้นตอนเข้ารหัส (endcode), ขั้นตอนส่งผ่าน (transfer) ไปจนถึงขั้นตอนที่แตกไฟล์ (decode) FLAC ออกมาเป็นสัญญาณ PCM ซึ่งทีมผู้ให้กำเนิดฟอร์แม็ต FLAC ยืนยันไว้แบบนั้น
.
ทว่า หลังจากมีการทดลองริปเพลงจากซีดีแผ่นเดียวกันออกมาเป็นไฟล์ WAV และไฟล์ FLAC แล้วนำไฟล์เพลงทั้งสองรูปแบบนั้นมาฟังเปรียบเทียบกันผ่านชุดเครื่องเสียงชุดเดียวกัน ผลออกมาว่า เสียงไม่เหมือนกัน ซึ่งผลจากการทดลองฟังหลายๆ เพลงได้ข้อสรุปออกมาว่า ไฟล์ WAV ให้คุณภาพเสียงออกมา "ดีกว่า" ไฟล์ FLAC
.
เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนั้น.?
.
จริงๆ แล้ว การเข้ารหัสสัญญาณเสียงด้วยไฟล์ FLAC ก็มีการ "ตัด" ข้อมูลเสียงบางส่วนทิ้งไปในขั้นตอนการเข้ารหัส เพียงแต่ว่า ข้อมูลเสียงที่ตัดทิ้งไปนั้นคือส่วนที่เป็นแค่องค์ประกอบย่อยมากๆ ที่เรียกว่า Less Significant Bit = LSB ของเสียง อย่างเช่น ปลายๆ เสียงฮาร์มอนิกที่เบามากๆ ซึ่งไม่ใช่ส่วนสำคัญ (Most Significant Bit = MSB) ที่เป็นข้อมูลเสียงที่ได้ยินชัดๆ ผู้ให้กำเนิดไฟล์ FLAC ใช้มาตรฐานการวัดผลที่อิงอยู่กับ human perception โดยทั่วไปที่ไม่สามารถรับรู้ถึงรายละเอียดลึกๆ ที่ตัดทิ้งไป คนทั่วไปจึงฟังความแตกต่างของเสียงที่ได้จากการเล่นไฟล์ทั้งสองประเภทไม่ออก แต่ถ้าผู้ฟังมีเวลามากพอในการนั่งฟังเพื่อจับความแตกต่างผ่านชุดเครื่องเสียงที่มีคุณภาพสูง จะสามารถรับรู้ได้.. /
#ยิ่งเครื่องเสียงดีบวกกับเซ็ตอัพดียิ่งฟังออกง่าย
>>368 มั่ว
เทสง่ายๆ แปลงไฟล์ .wav เป็น .FLAC แล้วแปลงกลับ มาhash เทียบกัน ได้ค่าเท่ากันเป๊ะ แสดงว่าได้บิทเหมือนกันทุกบิท
วิธีเทสง่ายๆทำได้ด้วยตัวเอง และมีคนทำหลายคนแล้ว อย่าบอกนะว่าบิทเท่ากันแล้วเสียงไม่เท่ากัน?
FLAC มันคือการบีบอัดแบบไร้การสูญเสีย คล้ายการzipไฟล์อื่นๆ นั่นแหละคือตอนคลายออกมาก็ได้เท่าเดิมเสมอ ถ้าไฟล์ไม่เสียหาย
https://www.diymobileaudio.com/threads/wav-and-lossless-flac-m4a-md5-hash-comparisons.83056/
เครื่องเสียงดี? คนทำเพลงใช้ studio monitor speaker ทั้งนั้น โดยเฉพาะยี่ห้อแบบ genelec ที่นักฟังเพลงไม่นิยม ฟังเพลงเพราะๆไม่เท่ากับฟังเพลงที่เที่ยงตรง
>>368 โคตรมั่ว FLAC ไม่ได้ใช้ LSB ในการ Compression ข้อมูลไม่เกี่ยวกับเรื่อง Harmonic ห่าเหวอะไรทั้งนั้นมันเป็นแค่การย่อ Code ที่ซ้ำๆกันให้สั้นลงแค่นั้นแล้วพอเอามา Playback ค่อยมา Decode ตัวที่ย่อให้ออกมาเหมือนเดิมเป๊ะๆ ทดสอบได้โดยการเอา WAV กับ FLAC ที่มาจาก Source เดียวกันไปทำการกลับ Phase เพื่อที่มห้เสียงที่เหมือนกันเกิดการหักล้างกันเอง แล้วผลออกมาก็คือเงียบสนิท ดังนั้นก็แปลว่ามันเหมือนกัน 100% ไม่ใช่ว่าเอะอ่ะก็เอาไปใส่เครื่องเสียงแล้วทดสอบด้วยการฟังโดยที่ไม่มีผลทางวิทยาศาสตร์อะไรมาแ้างอิงเลย แม่งโคตรปัญญาอ่อน แบบนี้กูท้าให้มึงมา Blind Test เอาเพลงมาสัก 10 คละกันทั้ง WAV ทั้ง FLAC แล้วให้มึงขี้ว่าอันไหนคือ FLAC เชื่อสิมึงตายห่ากันทุกตัว แม่งอุปทานกันไปเองทั้งนั้น เพราะมันไม่มีใครในโลกนี้แยกได้หรอกขนาดคนทำ Music Production หรือ Sound Engineer ก็ยังแยกไม่ได้หรือจะบอกว่ามึงเก่งกว่าคนทำเพลง คนทำซาวด์งี้เหรอวะ 555555
คราวก่อนก็สายแลนเทพ มาวันนี้เจอไฟล์เทพ
ยกสายลอยจากพื้น.. มันส่งผลกับเสียงจริงมั้ย.?
-----
ต้องยอมรับว่า หลายๆ เรื่องในวงการเครื่องเสียงมันหมิ่นเหม่กับการถูกมองว่าไร้สาระ คนที่ไม่เชื่อ (จริงๆ แล้ว เกือบทั้งหมดคือคนที่ไม่ได้เล่นเครื่องเสียง) มักจะมองว่าเป็นเรื่องมโน คิดไปเอง
.
แต่ก็ต้องยอมรับอีกล่ะว่า หลายๆ เรื่องที่ได้รับการยอมรับในปัจจุบันก็เคยเป็นเรื่องที่ถูกมองว่า "ไม่น่าจะมีผล" มาก่อน ซึ่งหากเราถอยออกมามองด้วยใจที่เป็นธรรม จะพบว่า ปรากฏการณ์แบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก ตราบใดที่คำว่า "พัฒนา" ยังทำหน้าที่ของมัน การค้นพบอะไรใหม่ๆ จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก อะไรที่เราไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ในอดีต จนถึงปัจจุบันมันก็เป็นไปแล้วมากมาย ไม่เว้นหลายๆ เรื่องที่เราพบเจอกันอยู่ในวงการเครื่องเสียง
.
ในบางครั้งผมก็พบว่า การยกสายไฟเอซี, สายสัญญาณ รวมถึงสายเชื่อมต่อสัญญาณรูปแบบต่างๆ ไม่ให้แตะพื้นและไม่ให้แตะต้องกันเอง มันส่งผลกับเสียงมากจนรู้สึกได้ทันที แต่ก็มีบางครั้งที่ผมพบว่า การทำเช่นนั้นมันส่งผลต่อเสียงน้อยมากจนสังเกตยาก.. เป็นไปได้มั้ยว่า การยกสายต่างๆ ให้ลอยจากพื้นอาจจะไปสอดคล้องกับ "ปัจจัย" บางอย่างที่เกิดขึ้นในซิสเต็มด้วย คือถ้ามีปัจจัยเหล่านั้นอยู่ในซิสเต็มแล้วเรายกสายลอยจากพื้นมันจะเสริมกันให้เกิดผลกับเสียงมากจนฟังออกถึงความแตกต่างได้ง่าย..?? แต่ถ้าไม่มีปัจจัยนั้นเกิดขึ้นในซิสเต็ม หรือมีอยู่น้อย เมื่อเรายกสายลอยจากพื้นก็อาจจะไม่มีผลกระทบกับเสียงมาก.?
.
ความสนุกของการเล่นเครื่องเสียงก็คือการค้นหาและทดลองทำอะไรกับซิสเต็มของเราเองนี่แหละ ลองแล้วฟัง เก็บสังเกตผลของมันเอาไว้ บางอย่างอาจจะส่งผลเยอะ ในขณะที่บางอย่างอาจจะส่งผลน้อย แต่สิ่งที่ได้แน่ๆ คือประสบการณ์ในการฟังแบบ "แยกแยะ" (critical listening) ที่ประสาทหูของเราจะถูกฝึกฝนให้มีความละเอียดมากขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว จากฟังไม่ออก วันหนึ่งคุณจะฟังออก แม้ว่าความแตกต่างจะน้อยแค่ไหนก็ตาม ...
#การฟังให้ออกบังคับกันไม่ได้ต้องใช้เวลาฟังไปเรื่อยๆ
#การหาอุปกรณ์เสริมมาลองเล่นเป็นวิธีฝึกฝนการฟังได้ดี
ไมค์ clean audio ca289 ดีมั๊ยวะ
ทีแรกกุจะซื้อ se v7 มาร้องเพลง(เล่นๆ) แต่เพื่อนที่เป็นนักร้องบอกให้ลอง clean audio
อยากร้องเพลงดังๆแต่กลัวเพื่อนบ้านได้ยิน ควรทําห้องเก็บเสียงยังไงดีโม่ง
ตอนนี้กูกำลังหัด Pentatonic กับกีตาร์อยู่ กูอยากรู้ว่าถ้าเกิดต้องการดีดโน๊ตที่อยู่ใต้นิ้วทำยังไงวะ
ตัวอย่าง
เล่น สายหก เฟรท 3 ไป 6
จากนั้นไป สายห้า เฟรท 3 ไป เฟรท 3 ของสายสี่หรือของสายอื่น ๆ ก็ได้
ถ้ากูยกนิ้วชี้ออกมันจะกลายเป็น pull off อะ หรือกูต้อง mute สายตอนยกนิ้วชี้วะ
ตอนนี้เรียนอยู่ ม.กรุง ปี 3 สายซาว์ด ละอยากฝึกงานในสตูที่ไปออกสายเมทัลหรือใกล้เคียงอะ ชาวโม่งมีแนะนำบ้างป่ะ
ล่าสุดแม่งมีดร่าม่ารับสมัครงานของ audio engineer แม่งมีคนสมัครไม่ติดเลยไปโพสด่าว่าโดนแย่งงาน
>>387 วิถี Loser แบบนี้แหละ บ้านรวยมีตังทำห้องอัดเอง มีแต่ของแต่ไม่มีสมอง เป็นพวกเด็กทำบีท แต่พอเจอโจทย์ที่มันเป็น Source เครื่องจริง เจอปัญหาจริงๆแล้วแก้ไม่ได้เพราะชั่วโมงบินต่ำ เก่งแต่ใช้ Samp ใช้ Loop เคยชินแต่ใช้อะไรโกงๆ แบบนี้ใครเขาจะเอา แล้วเสือกมาตีโพยตีพาย แม่งกระจอกชิบหาย เห่อม๋อย กาก แถมไม่พอไปโพสเชิงข่มขู่เขาอีก วงการนี้มันแคบนะ อายุแม่งก็พึ่งจะเรียนจบมหาลัยมาปีเดียวเอง ไม่ทันได้เกิดก็เสือกคุมกำเนิดตัวเองซะงั้น กุล่ะสมเพชแม่งชิบหาย
ถามหน่อยสำหรับ คนอัดกีตาร์ผ่าน interface ควรมีเครื่องกรองไฟไหม
กูเห็นมาเยอะนะ แบบ ไม่ได้ทำอะไรแล้วคิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนรุ่นก่อน จนบางทีกูก็สงสัยนะว่าแบบไอ้คนโง่นี่มันไม่รู้ว่าตัวเองโง่เลยหรอวะ
>>392 เก่งกว่าคนรุ่นก่อนอันนี้ถูก แต่ไม่ใช่ทุกคน เอาจริงกุว่าถือเป็นส่วนน้อยนะในบรรดาพวก Gen Z รุ่นหลังๆ แต่คนไหนที่มันเก่งก็คือเก่งจริงๆแบบก้าวกระโดดแซงคนรุ่นก่อนไปเลย อันนี้ยอมรับ แต่พวกที่เหลือนอกนั้นคือเก่งแต่ปากมีความมั่นหน้าสูง คิดว่าตัวเองเก่ง แต่พอให้ทำจริงแม่งหมูสนามจริง อย่างประสบการณ์ของกูในสายอัดเสียงทำเพลงเคยเจอคนนึงเป็นพวกเด็กทำบีท แม่งมั่นหน้าชิบหายแต่พอเจอ Operate ห้องอัดอัดเครื่องจริงสุดท้ายแม่งทำห่าไรไม่เป็นเลย กระจอกชิบหาย แล้วบอกเก่งกว่ารุ่นกุ ถุยยยย คนเก่งจริงเขาไม่มาบอกหรอกว่าเก่งกว่าอย่างโน้นอย่างนี้ เขาให้ผลงานมันพิสูจน์
เป็นดีเจเปิดเพลงตามplaylist แบบมีcontrol
กับ อัดเพลงต่างกันมากไหมวะ
>>395 ต่างกันมากๆ คนละเรื่อง DJ มันคือการเปิดเพลง เอาท่อนเพลงมายำรวมกันเป็น Remix มันคือการเอาสิ่งที่มีอยู่แล้ว แค่เอามาตัดแปะรวมกันจนกลายเป็นงานใหม่ แต่อัดเพลงทำเพลง มันคือการทำทุกอย่างใหม่ตั้งแต่ 0 จากแค่กระดาษกับปากกาแท่งนึง สู่เพลงเพลงนึงที่ออกมาสมบูรณ์ มึงก็คิดเอาแล้วกันว่ามันต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้างกว่าที่มันจะไปถึง Final
polyrhythm สำคัญมากไหมถ้าจะฝึกทำเพลง
กูแชร์ทริคสำหรับคนหัดเล่นกีตาร์แล้วกัน มือใหม่หลายคนกูเห็นพลาดเยอะมาก หลักๆ เลยก่อนอื่น มึงต้องใช้มือเล่น ใช้มือซ้ายจับคอร์ด มือขวาเกาขึ้นๆ ลงๆ
ถ้ากูจะแชร์ทริคการมิกซ์เพลงกันพวกมึงจะสนใจกันป่าววะ
เพลงนี้ใช้กลองของไรใครฟังออกบ้างอะ ชอบมากโครตโป๊ะเลย
https://www.youtube.com/watch?v=yAXOsFNDg9Y&list=RDyAXOsFNDg9Y&start_radio=1
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.