โปรเจคจับเมมไปเป็นสก๊อยเหรอวะ
บอร์ดสำหรับพูดคุยเรื่องดนตรีหรือวงดนตรี
โปรเจคจับเมมไปเป็นสก๊อยเหรอวะ
แต่งเพลงมีซิกเนเจอร์ดีจริงๆ พอไม่เอาครูเพลงมาก็ใส่ความพังสุดๆเลย
ท่อนเริ่มมันก็โอเคนะ เสียง อรธ กับ พข ค่อนข้างดีเลย แต่พอเข้าช่วงก่อนท่อนฮุค คือไม่ไหวเลย โดยเฉพาะท่อนฮุคฟังแย่ขึ้นไปอีก คิดได้ไง ท่อนฮุก ร้องซ้ำอยู่ท่อนเดียวแบบนั้นน่ะ
แฟนๆเนินฟ้ามีเรื่องให้ copium ไม่เว้นวัน คาเกยาม่าไม่ร่วมคอน,เด็กรุ่น4เจ็บเข่าเข้าร่วมคอนไม่ได้ ล่าสุดมีงานชมดอกไม้มาจัดข้างๆอีเวนท์คอนอีก คนจะแน่นขนาดไหนวะนั่น
ดูนาจังกันครับ
https://youtu.be/9gJ8p4WomNY
Last posted
Total of 251 posts
โวคอลเจน 3 ง่อยทุกตึกจริงๆ แต่เจน 4 ชีมีแต่วงร้องเทพๆ ถือว่าพัฒนาขึ้นทุกตึกว่ะทั้งอิศรี เอ็นพลิก เบม่อน ที่มีด้อยพัฒนาก็เห็นจะมีแต่รถเครื่องว่ะ ไม่รู้จะเดวงใหม่เจนนี้ได้อีกรึเปล่าตึกชมพูมันกำลังจะแตกแล้ว
เอาว่ะ โอกาสทองของรถเครื่องมาถึงแล้ว แต่รู้สึกว่าเค้าจะไม่เอาเค้ารู้จักแต่หัวนม ใครก็แทนไม่ได้ เหี้ยเอ๊ย
https://youtu.be/QI-zICCI9v8
ชุดดีกว่าเพลงอีก งง ป้าชิชูเลือกเพลงแบบนี้เหรอ แต่ชาร์ตใช้ได้เลยนะ คนซัพคนสนใจป้าแกมีพอตัว ส่นเพลงรอบเดียวพอคร๊
ตามนั้น อย่าสำคัญตัวผิด
https://twitter.com/nonglaypeach/status/1641761197501579265?s=46&t=-D9O2grrpH0wq15ILEX8bQ
จุดประสงค์ในการนำเอาตัวเพาเวอร์ คอนดิชั่นเนอร์มาใช้ในซิสเต็มก็เพื่อช่วยขจัดขยะที่เข้ามารบกวนระบบไฟของซิสเต็ม ซึ่งผลลัพธ์ของมันจะส่งผลกับเสียง 2-3 ด้านขึ้นอยู่กับการออกแบบ อย่างแรกสุดคือ “ความสะอาดของพื้นเสียง” เนื่องจากพื้นฐานหลักของอุปกรณ์เพาเวอร์ คอนดิชั่นเนอร์ก็คือ “วงจรฟิลเตอร์” ที่ช่วยกรองสัญญาณรบกวนและคลื่นรบกวนประเภท EMI, RFI รวมถึง Vibration รูปแบบต่างๆ ซึ่งหากออกแบบวงจรฟิลเตอร์ได้ดี สิ่งที่ถูกกรองทิ้งไปก็จะเป็นคลื่นรบกวนต่างๆ แต่ถ้าออกแบบมาไม่ดีพอ วงจรฟิลเตอร์ที่ใช้กรองจะตัดเอาความถี่เสียงบางความถี่ออกไปด้วย ซึ่งเราสามารถรับรู้ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ตัวเพาเวอร์ คอนดิชั่นเนอร์ในซิสเต็มได้ 2 ทาง คือจากการฟัง “รายละเอียดของเสียงดนตรี” ด้วยหู และใช้ความรู้สึกสัมผัสกับ “แอมเบี้ยนต์” ที่อยู่นอกเหนือระดับการได้ยิน
Post shortened. See full post.
หลังจากลองฟังผ่านไปแล้ว สิ่งแรกที่ผมขอสรุปก่อนเลยเพราะมันชัดเจนมากคือ สายไฟเอซีของ Clef Audio ทั้งสามเส้นนี้ให้เสียงที่ “ดีกว่าสายแถม” มาก.! หลังจากฟังสายแถมเสร็จ ถอดออกแล้วเสียบสายไฟ The PowerCable ลงไปแทนแล้วฟังเพลงเดิมซ้ำ แทบจะไม่ต้องเปลี่ยนกลับไปฟังสายแถมเลย เพราะความแตกต่างมันเด่นชัดมาก แม้แต่สายรุ่นเล็กสุดคือ The PowerCable ‘ONE’ ก็ยังฟังออกชัดว่าทุกเสียงที่อยู่ในเพลงที่ฟังมันมีมวลที่เข้มข้นมากขึ้น แต่ละเสียงมันมีรูปทรงที่ครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น คือตอนฟังผ่านสายแถม ผมก็ได้ยินว่าในเพลงที่ฟังมันมีเสียงของอะไรอยู่ในเพลงเหล่านั้นบ้าง แต่หลังจากเปลี่ยนเอาสายไฟ The PowerCable ลงไปแทนสายแถมแล้ว จะรู้ได้เลยว่า แต่ละเสียงที่เคยได้ยินจากสายแถมมันโผล่พ้นอากาศขึ้นมาแค่ “บางส่วน” เท่านั้น ซึ่งก็คือ “อิมแพ็ค” หรือหัวเสียงที่เป็นสัมผัสแรกของเสียงนั้นๆ ที่โผล่จากอากาศขึ้นมาให้ได้ยิน ในขณะที่รายละเอียดที่เป็นส่วนของ “บอดี้” ของแต่ละเสียงจะออกมาแค่จางๆ ไม่เข้มและไม่เป็นทรง ซึ่งรายละเอียดในส่วนที่เป็น “บอดี้” ของแต่ละเสียงนั้นก็คือฮาร์มอนิกของแต่ละเสียงที่มีความสำคัญมาก เพราะฮาร์มอนิกเหล่านี้แหละที่ทำให้เรารู้ว่า เสียงแต่ละเสียงที่อยู่ในเวทีเสียงที่เราฟังอยู่นั้นเป็นเสียงของเครื่องดนตรีประเภทไหนบ้าง
จากประสบการณ์ที่เคยลองสายไฟเอซีมา ผมพบว่า เมื่อเราเปลี่ยนสายไฟเอซีที่ทำขึ้นมาพิเศษเหล่านี้เข้าไปในซิสเต็มแทนสายไฟแถมที่มากับเครื่อง จะปรากฏผลลัพธ์ออกมาอย่างหนึ่งที่คล้ายๆ กัน นั่นคือ เสียงทั้งหมดจะฟังดูมี “พลังอัดฉีด” มากขึ้น เป็นแบบนี้เหมือนกันหมด จนกลายเป็นคุณสมบัติหลักๆ ของสายไฟเอซีอัพเกรดไปเลยว่า ถ้าเป็นสายไฟเอซีที่ดี เมื่อเสียบเข้าไปในซิสเต็มแล้วจะต้องทำให้ได้เสียงที่มีพลังอัดฉีดเพิ่มมากขึ้น.. บางเส้นนั้นไปไกลถึงขนาดที่ผู้ใช้กล้าพูดเลยว่า “เหมือนเปลี่ยนแอมป์ใหม่!“
ลองจินตนาการดูว่า คนออกแบบแอมปลิฟายและอุปกรณ์เครื่องเสียงทุกชนิดที่ใช้กระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงวงจร พวกเขาจะนึกถึง “กระแสไฟฟ้า” แบบไหนที่เครื่องเสียงที่เขาออกแบบต้องการ.? กระแสไฟฟ้าที่มีคลื่นขยะรบกวน.? หรือกระแสไฟฟ้าที่มีความสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากความผิดเพี้ยนใดๆ เข้ามาปะปน.? ในความเป็นจริงแล้ว คงจะไม่มีนักออกแบบเครื่องเสียงคนไหนที่ตั้งใจออกแบบอุปกรณ์เครื่องเสียงของตนให้ทำงานได้ดีกับกระแสไฟฟ้าที่มีคลื่นรบกวนเป็นแน่ ดังนั้น การทำให้กระแสไฟฟ้าที่ส่งไปเลี้ยงอุปกรณ์เครื่องเสียงมีความสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากคลื่นขยะรบกวน จึงเป็น “หน้าที่” ของคนใช้อุปกรณ์เครื่องเสียงที่เป็นเจ้าของอุปกรณ์เครื่องเสียงนั้นๆ ที่จะต้องจัดการกันเอาเอง “ถ้า” ต้องการให้อุปกรณ์เครื่องเสียงที่ใช้อยู่ สามารถทำงานได้อย่างเต็มสมรรถนะที่มันถูกออกแบบขึ้นมา
โม่งเบียวออดิโอฟาย ไม่เหนื่อยเหรอวะ copy บทความคนอื่นมาลงแล้วrole play เหมือนตัวเองเขียนเอง พอมีคนแย้ง ก็ไม่ตอบ สแปมบทความรัวๆ
เอาเป็นว่ามันคือวิทยาศาสตร์วัดค่าได้หมด อุปกรณ์ยุคนี้เยอะแยะ จะวัดคลื่นไฟฟ้าใช้ scopeจับ จะวัดเสียงเขาก็มี Audio Analyzer ขาย(แต่แพงหน่อย) คนทำงานเพลงหรือทำเครื่องมือจริงๆ เขาใช้เครื่องมือวัดหมดแล้ว ยกเว้นพวกเน้นขาย snake oil ที่จะโม้บรรยายสรรพคุณ แต่ไม่มีกราฟ ไม่มีการวัดค่าใดๆเลยว่าที่โม้น่ะจริงไหม
ไม่ต้องใช้buzz word แต่ keyword หลักของการวัดคุณภาพอุปกรณ์ในทางวิทย์ เขามี SNR,Distortion,noise floor พวกนี้วัดค่าได้หมด ไม่เห็นเคยยกมาพูดกันว่า อุปกรณ์กรองนู่นกรองนี่ ทำแล้วดีแค่ไหน ช่วยได้แค่ไหน ลดnoise ได้กี่db ฯลฯ นอกจากคำพูดบรรยายหลอกขายของ
Post shortened. See full post.
>>827 อันนี้ทำนายอนาคตอันใกล้ไว้เลยหรอ มึงก็นะดักอย่างนี้แล้วมันจะไปทางไหนต่อ
>>833 กูขำวะ 5555555 มึงก็ให้มันถามไปเถอะ เพราะมันก็ไม่รู้จะเบี่ยงไปทางไหนต่อละ จะเอาอะไรกับสาววายชิปชชแต่มาถามว่าเป็นมั้ย หัวคิดไม่พ้นเรื่องเหยียดเพศนะแต่เสือกชิป มันจะหยุดถามก็ตอนสิบมันมีลูกมีเมียนั่นแหละ
Ky คอนฝันนี่ขายความสามารถหรือขายเซอร์วิสคู่ชิป ติ่งมาหลายปีมีวงนี้แหละที่หนักสุด วงแก่ที่ค่ายขายชิปในคอนยังไม่มีอะไรแบบนี้เลย
มันปล่อยงานชนกันจนเปลี่ยนดิสกลับไปกลับมา ถ้ายุ่งยากขนาดนั้นทำไมไม่เปิดแอคแยกให้ยูนิต3คนไปเลยวะ ไหนๆก็เป็นยูนิตฟิกละ ทามมิ่งแย่มากจริงๆทุกอย่างดูรีบไปหมด
งาน ge ครั้งหน้าขอเป็นคู่ นนน นะคะ
ชาวทวิต
เด็กดื้อ มายัง จีซูหลบไป
ปิดแพรกิ
https://imgur.com/WTVKkMs
ภรรยาผมเองครับ
https://imgur.com/5AiMM7I
อยากได้รูปจากพรี่ ๆ ตากล้องจังเลยครับ แต่ละคนแทบเอาเลนส์แยงเข้าไปในกระโปรง
ไม่มีเรื่องให้เสือก
รอบที่แล้วเริ่มอตกมู้เฉพาะกันเยอะ
เสิน ยุบมู้ไอดอลให้เหลือคุยในมู้เดียวอยู่
แอ๊วก็อีสานไม่ใช่เหรอวะ ทำไมไม่ได้อยู่ยูนิตนี้
อะไรที่ อล ยังสู้โนะไม่ได้พี่เจ๋_ถึงยังไมมูฟออน
ปิดให้ พาขวัญ
ปิดให้ พาขวัญ
>>988 น่าจะประมาณเรื่องนี้ นิยายขายดีมาก
https://pbs.twimg.com/media/FhC-78AVQAAheUk?format=jpg&name=large
ปสก รอครบปีเข้า ygmm
ปิดให้ จจ วงมิ้น
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.