>>405 มึงกำลังสับสน ระหว่างความคิดตามใจตัวเองกับตามใจที่บ้าน วิธีที่ดีที่สุดของมึงไม่มีใครให้คำตอบได้ เพราะขึ้นอยู่กับตัวมึงเองว่าเป็นคนแบบไหน มึงเป็นคนสู้ชีวิต กัดก้อนเกลือกินได้ หรือมึงเป็นคนรักสบาย ถ้าเป็นแบบแรก มึงออกไปเป็นนักเขียนเต็มตัวได้เลย ไม่ว่ามึงจะขายงานได้ ขายงานไม่ได้ มึงก็คงพร้อมอยู่แล้ว เพราะงานเขียนต่อให้มึงดังก็ใช่ว่าจะมีคนพร้อมซื้องานมึงเสมอ ตอนนี้สมมุติมึงอาจจะชอบเขียนงานตามแนวตลาด ขายง่าย ทำซีรีส์ได้ แต่อีกห้าปีข้างหน้ามึงอาจจะอยากเขียนงานหนักๆ ชีวิตสู้กลับ งานที่มีความลึก ซึ่งมันจะขายยากขึ้น ว่ากันไปแล้วนักเขียนที่พออยู่ได้ในปัจจุบันแบบไม่ต้องประหยัด ควรมีงานเขียนอย่างน้อยสามเรื่องต่อปี
มีงดูพวกนักเขียนซีไรต์ บางคนยังต้องขายของควบคู่ไป ไม่งั้นอยู่ไม่ได้ เพราะงานดีๆ ไม่ใช่จะขายกันง่ายๆ และมึงยังต้องใช้เวลาทำรีเซิร์ชอีก แต่ทีนี้ถ้ามึงคิดว่าจะเขียนงานตลาดตลอดไป เพราะมึงชอบ อันนี้ก็เป็นทางเลือกที่ทำให้มึงอยู่ได้สบาย และไม่ต้องแคร์ใครจะว่า ขอแค่มึงพอใจ
เรื่องคนในครอบครัวมึง ปกติว่ะ เขาก็แค่อยากเห็นมึงมีอนาคตที่ดีแบบที่เขาคิด ตอนนี้มึงยังไม่แต่งงาน ชีวิตมึงยังง่ายอยู่ ถ้ามึงแต่งงาน มีลูก มึงจะเอาเวลาที่ไหนมานั่งปั่นนิยายปีละสามสี่เรื่อง เขียนนิยายมันต้องใช้พลังเยอะ มึงจะมานั่งงมเขียนอย่างเดียวโดยไม่สนใจครอบครัวก็ไม่ได้ แต่ถ้ามึงโชคดี ผัวหรือเมียมึงพร้อมเปย์ เข้าใจมึง สนับสนุนให้มึงเขียนนิยาย มึงก็อยู่ได้ นี่แหละที่กูว่าไม่มีใครให้คำตอบมึงได้ เพราะแต่ละคนมีรายละเอียดแยกย่อย กูเป็นนักเขียนที่มีเงินแบ็คอัพจากที่บ้าน ถ้าไม่มี กูอยู่ไม่ได้ เพราะบางปีก็ได้เงินเยอะ บางปีพักสมองทำแค่นิดหน่อย แต่มีเงินประจำจากกงสี ก็เลยไม่เดือดร้อน กูเห็นนักเขียนอาชีพรอบข้างล้วนแต่เหนื่อย เครียด บางปีได้เยอะขายดีพิมพ์สองสามรอบก็สบายไป บางปีตันไม่มีผลงาน เงินเก็บแม่งก็ร่อยหรอ เพราะฉะนั้นมึงคิดให้ดี พื้นฐานครอบครัวมึงเป็นยังไง เขาพร้อมซัพพอร์ตเงินให้มึงมั้ย ถ้าเขาไม่พร้อม ไม่สนับสนุนมึง มึงต้องพึ่งตัวเอง มึงก็ต้องมองในแง่ความเป็นจริงให้มากเข้าไว้