Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 9th quotes

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:.uKFVVDrLy

มู้เก่า
https://fanboi.ch/lounge/1161 โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
https://fanboi.ch/lounge/2603/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 2nd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3016/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 3rd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3530/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 4th quotes
https://fanboi.ch/lounge/4357/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 5th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5233/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 6th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5838/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 7th quotes
https://fanboi.ch/lounge/6311/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 8th quotes

2 Nameless Fanboi Posted ID:mu7TkqmbVc

เจิม
#มิตรสหายหัวโล้นท่านหนึ่ง​

3 Nameless Fanboi Posted ID:d9d8tsbgko

อาร์เธอ มิลเลอร์ ยอดนักเขียน และเอเลีย คาซาน ยอดผู้กำกับ เป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อน จนกระทั่งคาซานไปเป็นพยานใน "ศาลล่าแม่มด" ขององค์กรต่อต้านคอมมิวนิสต์ -- ชื่อเต็มๆ คือคณะกรรมการสืบสวนพฤติกรรมอันไม่เหมาะกับอเมริกันชน -- และกล่าวป้ายสีนักทำหนังคนอื่นๆ ในฮอลลีวูด

มิลเลอร์ส่งบทละคร The Crucible ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการล่าแม่มดในศตวรรษที่ 17 ให้คาซานอ่าน พออ่านจบผู้กำกับเขียนถึงเพื่อนสนิทว่า

"ละครเรื่องนี้วิเศษมาก ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่คุณจะให้ผมกำกับมัน"

มิลเลอร์เขียนตอบอีกฝ่าย

"เปล่า กูไม่ได้จะให้มึงกำกับ กูส่งให้มึงอ่าน เพื่อให้มึงสำเหนียกว่ากูเกลียดการกระทำของมึงขนาดไหน"

มิตรภาพและความขัดแย้งระหว่างมิลเลอร์และคาซาน ไม่ได้หยุดอยู่แค่ The Crucible หนึ่งปีให้หลังคาซานก็มีผลงานกำกับภาพยนตร์ชิ้นเอกของตัวเอง

On the Waterfront ภาพยนตร์รางวัลออสการ์ นำแสดงโดยมาลอน แบรนโด
On the Waterfront พูดถึงการต่อสู้ แย่งชิงพื้นที่ทำมาหากินของเหล่ามาเฟียท่าเรือ จุดไคลแมกซ์สำคัญคือฉากที่แบรนโดให้การต่อตำรวจ ปรักปรำเพื่อนของเขาที่เกี่ยวพันกับคดีฆาตกรรม
On the Waterfront ถูกมองว่าเป็นหนัง "แก้ต่าง" ของคาซาน ทำไมตัวเขาถึงให้การกล่าวหาเพื่อนๆ ในฮอลลีวูด ที่อาจเป็นคอมมิวนิสต์

ความซับซ้อนพัวพันคือ On the Waterfront ถูกดัดแปลงมาจาก The Hook บทภาพยนตร์ของอาร์เธอ มิลเลอร์เอง ปี 1951 มิลเลอร์เคยนำเสนอบทภาพยนตร์เรื่องนี้ต่อสตูดิโอ แต่ผู้บริหารขอให้เขาแก้ไขบท เปลี่ยนผู้ร้ายมาเฟียในเรื่องเป็นคอมมิวนิสต์ ซึ่งเจ้าตัวไม่ยอมทำ
สามปีผ่านไป คาซานเอาบทละครเก่าของมิลเลอร์มาปัดฝุ่น ดัดแปลง สร้างเป็นภาพยนตร์แก้ต่างพฤติกรรมตัวเอง พฤติกรรมที่เพื่อนเก่าของเขาแสนจะชิงชัง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง​

4 Nameless Fanboi Posted ID:.uKFVVDrLy

การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องของคนสามกลุ่ม .. คนหัวสมัยใหม่ที่ต้องการท้าทายทุกสิ่ง , คนที่เก็บความเจ็บช้ำน้ำใจมาสิบกว่าปี และคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนสองกลุ่มแรกเสมอ

.

พวกเขาจะโหวตเลือกสิ่งที่พวกเขาเชื่อ
คนกลุ่มแรกเชื่อในการเปลี่ยนแปลง
คนกลุ่มที่สองเชื่อในพลังของคนที่จะเอาคืนเสียที
คนกลุ่มที่สามเชื่อในทุกสิ่งที่ชี้ว่าฉันดีกว่าคนอื่น

.

ปีนี้ 2562
คนที่เคยทันสมัยกลายเป็นคนที่ต้องวิ่งตามโลก
คนที่ตกโลกก็พยายามหยุดทุกสิ่งไม่ให้หมุนต่อไป
ความคิดไม่ตรงกันไม่ใช่ความขัดแย้ง
การทำงานที่แตกต่างกันไม่ใช่ความขัดแย้ง
ความพยายามหยุดคนอื่นด้วยสารพัดวิธีซับซ้อนซ่อนเงื่อนหรือด้วยกลไกที่ไม่ยุติธรรมต่างหากที่สร้างความขัดแย้งขึ้นมาทุกครั้ง

5 Nameless Fanboi Posted ID:Iu4z19+JPY

>>4
จูนิเบียว สาดโคลน ดิสเครดิต หาสาระไม่ได้

6 Nameless Fanboi Posted ID:JqpVKSWNmW

แก๊งวัยรุ่นค้ายาคายข้อมูลลับหมดเปลือกหลังแพ้วินนิ่งตำรวจ 0-9

จิตวิทยาคือสิ่งสำคัญในการเค้นความจริงจากผู้ต้องหา หลายครั้งที่เราจะได้เห็นการเค้นความจริงในรูปแบบของความรุนแรงและชิงไหวชิงพริบ ทว่าในปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนไปแล้วและเจ้าหน้าที่ตำรวจยุคใหม่ก็ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น

ชุดปราบปรามยาเสพติด สำโรงเหนือ จับกุมเยาวชนค้ายาบ้า พร้อมของกลางจำนวนหนึ่ง ขณะนำมาส่งภายในซอยหมู่บ้านเฟื่องฟ้า ถ.เทพารักษ์ ซึ่งหลังจากจับตัวได้ทางเจ้าหน้าที่ต้องการจะขอข้อมูลเพิ่มจากผู้ต้องหาเพื่อนำมาขยายผลจับผู้บงการรายใหญ่

ในช่วงแรกนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่โดนจับไม่ค่อยให้ความร่วมมือมากนักและได้ข้อมูลน้อยมาก จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้จัดการเลี้ยงผัดไทยและต่อเครื่องเล่น เพลย์สเตชั่น 4 และเปิดเกม PES 2019 ภาคล่าสุดของเกม Pro Evolution Soccer หรือที่คนไทยรู้จักกันดีกับชื่อที่ใช้ในอดีตของเกมนี้อย่าง "Winning Eleven" และดวลกับผู้ต้องหาเพื่อลดความกดดันและทำให้ได้รับความร่วมมือมากขึ้น

สถานการณ์เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งผลการเเข่งขันคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ (ผู้กอง) ที่เลือกใช้ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้าน (โรงพัก) เอาชนะ น้องผู้ต้องหาที่เป็นผู้มาเยือนและใช้ทีม บาร์เซโลน่า ไป 9-0 และหลังการเเข่งขันจบลง ทางตำรวจก็ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากขึ้นเพราะผู้ต้องหาให้ความร่วมมือในการสอบสวนเป็นอย่างดี

ปัจจุบันเกม PES2019 เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย หลังจากที่ตัวเกมนั้นได้ลิขสิทธิ์ไทยลีกไปใช้งาน โดยล่าสุดมีการนำตัวแทนของแต่ละสโมสรในลีกของประเทศไทยตั้งทีมเเละเข้ามาแข่งขัน PES ในชื่อรายการ Thai E-League Pro อีกด้วย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง​

7 Nameless Fanboi Posted ID:BKEOpepm46

อนึ่ง การเป็นกะหรี่นั้น เป็นแล้วเป็นเลย เลิกไม่ได้ แม้ขายเพียงครั้งเดียวแต่ความเป็นกะหรี่นั้นก็จะติดตัวน้องไปจนวันตาย พึงคิดให้ดีก่อนผันตัวเป็นกะหรี่ มิเช่นนั้นแล้วจะหาว่าแอดมินไม่เตือน คนเรามีมือมีเท้า ไม่ได้พิการ ไม่ได้แขนขาดขาด้วน เกิดมามีศักดิ์ศรี อย่าเอาไปขายทิ้งแล้วตอแหลว่าจำเป็น.

8 Nameless Fanboi Posted ID:SMEy2Om5JV

>>7 คล้ายๆกะอีกอย่าง เป็นแล้วเลิกไม่ได้

9 Nameless Fanboi Posted ID:BKEOpepm46

อาจารย์มหาลัยคุยกันครับ นี่คือเรื่องจริง .....

มันเป็นมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ราก ตั้งแต่ฐาน .... แล้วการแก้ปัญหาง่ายๆ อย่างการแก้ปลายน้ำ ทุกคนเรียนจบ ก็ไม่มีปัญหาแล้ว นี่ไง เราสามารถผลิตบัณฑิตได้เท่านั้นเท่านี้ต่อปี จบได้หมด 100%

ซึ่งจริงๆ แล้ว ระบบการศึกษาภาคบังคับ ประถม มัธยม ของเราก็ผ่านกระบวนการแบบนี้มาก่อน เช่นเดียวกับมหาลัย ....

ตั้งแต่ไม่ให้เรียนซ้ำชั้น ไปจนถึงการบังคับให้ปล่อยเกรด (ทางอ้อม) ประกอบเข้าไปความต้องการและแรงกดดันจากครอบครัว ผู้ปกครอง ฯลฯ

ผมต้องสอนการศึกษาพื้นฐานให้กับนักศึกษาปริญญาตรีเยอะมาก จนถึงตอนนี้ผมก็ยังต้องสอนให้คนที่เรียนจบแล้ว ทำงานแล้ว อยู่เยอะ (แต่นั่นแหละ หลายคนก็ไม่อยากถูกสอนหรอก ไม่ยอมรับว่าตัวเองทำเรื่องพวกนี้ไม่ได้ มีอีโก้จากใบปริญญาและตำแหน่งหน้าที่การงานเยอะแยะไปหมดแล้ว)

แล้วปัญหามันก็ต่อยอดไประดับ ป.โท ป.เอก เยอะเลย แต่ไม่ขอพูดถึงละกันเนอะ .....

ถ้าดูกันที่ "ตัวเลข" .... ทุกอย่างก็ไม่น่ามีปัญหาเลยนะ

เด็กเข้าเรียนเท่าไหร่ สอบผ่านหมด คะแนนก็ไม่ใช่น้อย คะแนนประเมินสถานศึกษาก็ดี .งงง ปริมาณคนเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาก็สูง แถมเข้าเท่าไหร่ก็เรียนจบหมด ....... หลักสูตรทุกอย่างก็มีคุณภาพ คะแนนประกันคุณภาพสูงทุกที่ ...... คนเรียนก็แฮปปี้ ครอบครัวก็แฮปปี้ ......

ทุกอย่างดูดีหมดเลย .....

แต่นั่นแหละ อะไรก็ตามที่มัน too good to be true .... เราก็รู้กันอยู่ว่ามันหมายถึงอะไร

10 Nameless Fanboi Posted ID:BKEOpepm46

โดนไปซะอีดอก ห้าวนัก
เอาไปก่อนขำๆ 4ข้อหา

-ร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการโดยใช้กำลังประทุษร้าย
-ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
-ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย
และ
-ร่วมกันทำให้ให้เสียทรัพย์

ส่วน คดีทำอนาจาร ลวนลามเด็กผญ.มึงรอแพรพ รอน้องผญ.มันสอบเสร็จ เค้าจะให้ผู้ปกครองพามาดำเนินคดีมึงอีก 1 เป็น 5คดี

อ้ออออ ลืมๆๆๆ บอกข่าวดีเรื่องเงินๆทองๆ พวกมึงไป
ทางกระทรวงศึกษา และคณะกรรมการสอบ GAT PAT เค้ากำลังคุยกันอยู่เรื่องให้พวกมึงชดใช้

ค่าเสียหายทั้งหมดที่พังการสอบเดิม
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการจัดสอบใหม่
ค่าชดใช้ทรัพย์สินในโรงเรียน ที่เสียหาย
ค่ารักษาพยาบาล ค่าทำขวัญ ครูนักเรียนทุกคนที่ มีผลกระทบ ทั้งกายใจ

และทางผู้ปกครองแต่ละราย อาจจะมีฟ้องเรียกค่าเสียหายมึงเพิ่มอีกนะ

ยังห้าวอยู่มั้ย อีดอก !!!

11 Nameless Fanboi Posted ID:U5HDQLqhdR

>>7 ขอบคุณเม้นนี้มากๆครับ ผมเกือบจะไปขายตูดเปย์กาชาแล้ว พอได้อ่านเม้นนี้ปุ๊ปตาสว่างเลย

12 Nameless Fanboi Posted ID:BKEOpepm46

เจอข้อความนี้แชร์กันอยู่ ดีเฟนด์ให้กลุ่มงานบวชที่บุกโรงเรียน ผมก็อึ้งเพราะเคยนึกว่าตัวเองซ้ายมากแล้ว ยังไม่สามารถมองแบบนี้ได้ เลยเอามาแชร์ให้ดูอีกมุมมองนึง ไม่รู้ว่าจะเห็นด้วยกันมากน้อยแค่ไหน?

ข้อ 1-3 คืออธิบายว่าค่านิยมลำดับความสำคัญต่างกัน งานบวช (ของพวกตัวเอง) สำคัญกว่าสอบ (ของคนอื่น) จริงๆผมว่าไม่ใช่ตรงค่านิยมมั้ง มันสำคัญตรง "ของพวกตัวเอง" มากกว่า ถ้านักเรียนเป็นญาติเขา เขาก็คงมองกลับกัน แล้วโกรธคนที่ไปทำร้ายนักเรียนมากกว่า

ข้อ 3 บ่นถึงความไม่เป็นธรรมในระบบการศึกษาด้วย ประมาณเด็กที่สอบนั้นได้โอกาสมากกว่ากลุ่มงานบวช เหมือนมองว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างชนชั้นหรือเปล่า (Appeal to poverty) จริงๆผมนึกว่าเขาแค่โกรธที่โดนห้ามใช้เสียงนะ เสียหน้าด้วย อดฉลอง(กินเหล้า)ต่อด้วย

ข้อ 4 บอกว่าการใช้ความรุนแรงละเมิดกฎหมายเป็นเรื่องปกติ ความผิดอยู่ที่โครงสร้าง สังคมเราปล่อยมาจนเป็นแบบนี้เอง อันเนี้ยทำให้แปลกใจ เพราะแม้เราพยายามจะไม่ตัดสินคนดีเลว แต่เราก็ต้องตัดสินพฤติกรรมนี้ของพวกเขาว่าผิดทั้งจริยธรรมและกฎหมายอยู่ดี

ข้อ 5 บอกว่าทั้งผู้ใช้ความรุนแรงและผู้ได้รับความรุนแรงต่างก็เป็นเหยื่อ ไม่ต้องแยกแยะก็ได้ ซึ่งปกติเราจะบอกว่าทั้งสองฝั่งเป็นเหยื่อเพื่อจะสามารถทำความเข้าใจทั้งสองฝั่ง ไม่ได้บอกว่าให้มองทั้งคู่เท่ากันนะ ยังไงก็ต้องดีลกับทั้งสองฝั่งต่างกัน เหยื่อก็ต้องได้รับการเยียวยา (หลายคนจะได้ PTSD แถมไปด้วย) ส่วนผู้ใช้ความรุนแรงก็ต้องติดคุกไป

สรุป
ผมรู้สึกเหมือนคนเขียนจะพยายามวิจารณ์รัฐและสังคมไทย โดยใช้คำฝั่งซ้ายเยอะๆ เพื่อให้น่าสนใจเฉยๆ แต่มันขัดๆ เพราะจริงๆซ้ายจะแอนตี้ความรุนแรง เชื่อมั่นว่าใช้กฎหมายดีกว่าจะตัดสินความขัดแย้งด้วยความรุนแรง ตาต่อตาฟันต่อฟันอย่างที่นิยมกันในวัฒนธรรมเรา

และผมว่ากลุ่มงานบวชก็แค่โกรธที่ถูกห้าม ไม่ได้เกี่ยวกับชนชั้น ถ้าเปลี่ยนเป็นปาร์ตี้ผู้มีอิทธิพลถูกห้าม ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันเหมือนกัน มันเป็นปัญหาวัฒนธรรมที่ #หน้าสำคัญกว่าชีวิตคน คนไทยเราเอาแต่ใจมาก ใครขัดใจก็โกรธมาก คนที่เชื่อในการแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ก็จะใช้ความรุนแรงทันที อย่างที่เห็นกันทุกวัน

โครงสร้างสังคมไทยมีปัญหาหนักมากจริงๆ การเลื่อนขั้นทางสังคมเป็นไปได้ยาก แต่นั่นไม่ได้แปลว่าคนใช้ความรุนแรงกับเหยื่อจะเท่ากันนะ มันแปลว่าสังคมควรจะแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างไปด้วยต่างหาก

https://scontent.fbkk6-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/53238318_1316579388482378_6837742420910669824_n.png?_nc_cat=100&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.fna&oh=02aac2a55bf661f1a331bfa710c68aed&oe=5CE53D42

13 Nameless Fanboi Posted ID:1xyYH2q5pg

ไปถ่ายงานมาวันก่อนเจอเด็กพร๊อพคนนึงเท่มาก ชื่อไบรอัน เป็นลูกครึ่งชาวกาน่า อายุ17 พ่อทิ้งไปตั้งแต่เกิด แม่ได้สามีฝรั่งเลยทิ้งไปตอนอายุ 12 สู้ชีวิตตัวคนเดียวมาตลอด ถูกมั่งผิดมั่ง นอกเหนือจากอาชีพเด็กพร๊อพแล้วไบรอัน เป็นครูสอนเต้นที่ป้อมพระสุเมรุ และไปสอนเด็กเต้นตามสถานพินิจ ไบรอันเล่าว่าเค้าไม่มีเวลาท้อ เพราะแค่จะกินอะไรยังไม่มีเวลาคิดเลย ผมกลับมาเปิดเฟสเจอคนที่ชีวิตดีอยู่แล้วเพ้อ ตัดพ้อชีวิต โทษชะตา ด่าเจ้านาย บ่นนั่นนี่ ผมกลับไปโทรหาไบรอัน ให้มาเป็นนายแบบให้งานผมหน่อย นี่แหละนายแบบผม ไม่มีอะไรทำให้ผมอยากถ่ายรูปได้เท่ากับคนที่มีรอยแผลเป็นในชีวิต นี่แหละภาพถ่ายของผม

14 Nameless Fanboi Posted ID:aYZGGfZKaz

>>12 ประมาณLibtardอเมริกาที่บอกว่าคนดำตั้งแก๊ง ปล้น ฆ่า ค้ายา เพราะคนขาวผู้ชั่วร้ายกดขี่ไว้เลยต้องหาทางออกแบบนี้

มีมาไทยแล้วเหรอวะ อีกหน่อยคงมีsocialist/คอมมี่นั่งเต็มสตาร์บัคไทยแน่ๆ

15 Nameless Fanboi Posted ID:Qs.MvPmUJs

ผมเคยตั้งข้อสังเกต และเล่าให้คนใกล้ชิดฟัง
แต่ไม่เคยโพสต์ในที่สาธารณะ

ว่า...

.

ความประหลาดอย่างนึงของประเทศไทยคือ

ในสมัยก่อนนั้น
เด็กที่เรียนเก่งได้คะแนนดี
ส่วนใหญ่..มักจะไปเรียนหมอ
หรือ เรียนวิศวะกันเกือบหมด

นั่นเป็นสาเหตุให้ประเทศไทย มีหมอเก่งมาก
และพร้อมที่จะเป็นฮับด้านการแพทย์

ไม่งั้นก็ ไม่ทำอาชีพหมอเลย
ไปทำอย่างอื่นก็มาก เช่น
เจ้าของอิตาเลียนไทย เจ้าของบางกอกแอร์เวย์ ก็เป็นหมอ

หรือผู้บริหารเก่งๆหลายคนในประเทศ
มักจบวิศวะ แล้วมาต่อ MBA

เพราะระบบ สังคม มีส่วนยัดเยียดให้
เด็กเก่งๆเกือบทั้งหมดของประเทศ
ไปเรียน 2 คณะนี้ โดยไม่สนว่าจะชอบหรือไม่

ซึ่งเหตุผลอย่างหนึ่งก็คือ

สองอาชีพนี้มีรายได้สูง
สามารถสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
ซึ่งจำเป็นมากในประเทศที่ สวัสดิการไม่ดีนัก

..
.

แต่ในขณะเดียวกันในสมัยก่อนนั้น
มักมีคำพูดกึ่งเล่นกึ่งจริงว่า

“เกเรมาก ไม่ตั้งใจเรียน เดี๋ยวได้ไปเป็นครู”

ซึ่งมีความจริงบางส่วน เพราะในสมัยก่อนนั้น
คะแนนในการสอบเข้าคุรุศาสตร์ ค่อนข้างต่ำ
หากเทียบกับคณะอื่นๆ โดยเฉพาะหมอ หรือ วิศวะ

ซึ่งเหตุผลก็น่าจะมาจาก รายได้ และค่าตอบแทนต่างๆ
ในการเป็นครู ที่น้อย จนมีผลให้
ไม่สามารถดึงดูดหรือรักษาบุคลากรคุณภาพไว้ได้

ซึ่งมันน่าตลกมากสำหรับผม
เพราะครูนั้นสำคัญมาก และควรเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีรายได้สูงสุด

เพราะต้องสอนให้คนรู้จักคิด
เข้าใจเรื่องต่างๆได้อย่างท่องแท้

.

ซึ่งหลังๆ เริ่มดีขึ้น
เพราะมีความพยายามในการปฏิรูปครู
มีโครงการครู 5 ปี มีการเพิ่มค่าตอบแทนให้อาชีพนี้

ทำให้ระยะหลังๆ คะแนนสอบเข้าคุรุศาสตร์มีคะแนนสูงขึ้น

และบางปีใน 5 อันดับแรก
ของคณะที่คนแย่งกันเข้ามากที่สุด
มีคุรุศาสตร์อยู่หลายอันดับ อย่างในปี 59
ที่คุรุศาสตร์เป็นอันดับ 1 และ 5

..
.

แต่

ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย
คือหนึ่งอาชีพ ที่ยากกว่าครู....” พระ “

เพราะ “พระ” ต้องสอนให้คนเข้าใจเรื่องจิตวิญญาณ
ซึ่งซับซ้อน ละเอียดอ่อน ยากจะเข้าถึงกว่าความรู้ทั่วไป

แต่กลับกลายเป็นว่าพระจำนวนไม่น้อย
กลายเป็นคนที่ไม่รู้จะทำมาหากินอะไร จึงมาบวช

ซึ่งพวกเขาก็ตีความศาสนาพุทธ
ตามมุมมอง ความเคยชิน และความรู้ที่พวกเขามี

จึงไม่แปลกที่จะเห็นศาสนาพุทธ ผสมพราหม ผสานผี
เต็มไปด้วยพิธีกรรม วัตถุมงคล ใบ้หวย ให้รวยง่ายๆ
ไม่ค่อยช่วยขัดเกลาจิตวิญญาณ
อันเป็นแก่นแท้ของศาสนาเท่าไหร่

ทั้งที่จะว่าไป พระ เป็นอาชีพ ที่มีค่าตอบแทนไม่น้อย

...
..
.

จริงๆอธิบายมายืดยาว คือกลัวจะเข้าใจผิด
เพราะเวลาผมพูดกับคนใกล้ชิด

ผมมักพูดแค่.....

“ประเทศนี้แม่งแปลก
เอาคนที่ไม่ค่อยเก่ง มาเรียนครู
ทั้งๆที่จริงๆควรจะเก่งมาก
เพราะต้องสอนคนอื่นให้เก่ง

และเอาคนที่ไม่มีปัญญาทำห่าอะไร
มาเป็นพระ ที่สอนเรื่องที่ยากกว่า
อย่างจิตวิญญาณ ให้คนเป็นคนดี
ทั้งที่ตัวเองยังอาจจะเอาดีไม่ได้ด้วยซ้ำ”

มันกลับหัวกลับหางสิ้นดี

...
..
.

ปล.

แนวคิดนี้ของผม มีความเอามัน ใส่อารมณ์ขันแบบเหน็บแนม และ Hyper-Generalization สูง

แต่ถ้ามองผ่านไปได้
มันก็พอสะท้อนให้เห็นอะไรบางอย่างในสังคม

16 Nameless Fanboi Posted ID:Qs.MvPmUJs

ผมจะเล่าเรื่องหลังจากเหตุกาณ์ในภาพนี้ให้ฟัง ว่ามันพลิกกลับให้น่าตื่นเต้นได้ยังไง

หลังจากชูป้ายนี้ ก็เกิดการดีเบตกันได้มันส์พอดูเลย จนสมแล้วจริงๆ ที่ผมพูดได้ว่า ”ปชป. แม่งเกิดมาเพื่อเป็นฝ่ายค้านจริงๆ “ คือชนิดที่ว่า ค้านได้เก่งเหี้ยๆ แต่มีชั้นเชิง(อันนี้ตูชม) คือหลังจากตรงนี้จะมีพิธีกรจากกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไทออกมาถามว่าทำไมถึงแย้ง ศุภชัย แกเลยถามกลับประมาณว่าเขาไม่เคลียร์ในคำถามว่ามันเป็นการยกเลิกชุด นร. รึเปล่า ถ้าใช่มันจะขัดกับความสมัครใจของ นร. เองรึเปล่า เพราะคนที่เต็มใจใส่เขาไม่ได้มีปัญหากับชุด นร. เขาเลยถามต่อทุกคนว่า “แล้วพวกคุณล่ะรู้สึกยังไงเวลาเห็นเด็กใส่ชุด นร. ?” แล้วก็มีคนหน้าเวทีตะโกนบอกมาว่า “รู้สึกสงสาร” “...เพราะถูกบังคับแต่ง”ศุภชัย เลยขอเชิญ นร. ที่อยู่ในงานออกมาบอกความรู้สึกว่ารู้สึกยังไง

ศุภชัย :น้อง นร. ที่มางานนี้ทำไมถึงใส่ชุด นร. มา มีใครบังคับไหม?
นร. :ไม่มีครับ ใส่มาเอง
ศุภชัย :แล้วใส่ชุด นร. ทำไมทั้งที่เป็นวันหยุด
นร. :ก็รู้สึกแค่ว่ามันดูเรียบร้อยดี
ศุภชัย :แล้วรู้สึกว่าตัวเองน่าสงสารไหม
นร. :ไม่ครับ
คนถามก็ได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ เหมือนกับโดนตบหน้าว่าอย่าเอามุมมองตนเองมาคิดแทนเด็ก

นาทีนั้นผมบอกเลยว่าสุดจริง ไม่คิดว่าฝ่ายค้านคนเดียวกลางวงจะโต้กลับได้เด็ดขนาดนี้ เอาจริงๆ ผมว่าถ้า ปชป. ชูป้ายเห็นด้วยมันก็คงจบแบบเฉยๆ ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่พอมีฝ่ายค้านขึ้นมาปุ๊บ เวทีก็เริ่มแตกประเด็นย่อยขึ้นไปอีก ซึ่งมันจะมีคำตอบมากกว่าหนึ่งหรือสอง ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยวิธีการค้านแบบนักการเมือง กับวิธีค้านแบบแอคทิวิสต์ มันเป็นยังไง

Edit : อันนี้ผมขอตัวแก้ไขข้อความใหม่นินึง ไปฟังมาใหม่ล่ะว่าคนที่พูดว่า”รู้สึกสงสาร” จะไม่ได้มาจากตัวพิธีกร แต่มาจากคนตรงหน้าเวทีเอง ส่วที่เหลือก็ตามนั้นแหล่ะ

ตรงนี้ผมฟังผิดเอง ขอโทษด้วย

17 Nameless Fanboi Posted ID:C3YOJpbUzs

ปั๊ดโธ่เอ๊ย!!!! เอาอีกแล้วครับ คนรุ่นใหม่ในกะลาแลนด์คิดได้แค่นี้แล้วเมื่อไรกัญชาจะเสรีและเป็นทางเลือกของการรักษาโรค / ตลาดเบียร์จะไม่ถูกผูกขาดโดยเจ้าใหญ่ไม่กี่เจ้า / คร้าฟท์เบียรไทยจะปลดล๊อคพันธนาการจากกฎหมายอันคร่ำครึ / นักกีฬาอีสปอร์ตไทยจะได้ไปแสดงความสามารถในเวทีโลกมากขึ้น / และ Uber จะได้ยกระดับอุตสาหกรรมคมนาคมขนส่งไทย เสียทีอ่ะครับเฮ่อออ
http://ruangjringwannee.net/archives/8760

18 Nameless Fanboi Posted ID:SMEy2Om5JV

>>17 เห็นความชั่วร้ายของระบอบทักษิณหรือยังครับ

19 Nameless Fanboi Posted ID:C3YOJpbUzs

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคการเมืองที่เสนอนโยบายพวกตัดงบ ลดงบทหาร เลิกเกณฑ์ทหาร ฯลฯ นี่สงสัยเอาพวกเด็กรัฐศาสตร์ปี 1 ปี 2 มาคิดนโยบายให้อ่ะครับ นโยบายเบสิคพื้นๆ แบบนี้

ซึ่งพรรคสนุ้กเกอร์ไทยเรานั้นจะมีนโยบาย OGOS (One General One Snooker) "1 นายพลเกษียณ 1 โต๊ะสนุ้กเกอร์" พวกท่านจะไม่ได้รับบำนาญจากรัฐบาลใดๆ ทั้งสิ้น แต่สามารถเปิดโต๊ะสนุ้กเกอร์ที่มีคาสิโนพ่วงด้วยอย่างเสรีอ่ะครับ เผลอๆ นายพลทั้งหลายจะเออรี่รีไทร์ออกมาทั้ง 4 เหล่าทัพเลย มาสนองนโยบายตัวเนร้

#ปี2575กาพรรคสนุ้กเกอร์ไทยเบอร์147
#ตบประเทศไทยหมดโต๊ะกับพรรคสนุ้กเกอร์ไทย

20 Nameless Fanboi Posted ID:QITtijg9Zh

จากบทความเรื่อง Rich People Literally See the World Differently ของ Drake Baer อธิบายว่า “social class cultures” มีผลต่อ “social attention” ของคนแต่ละคน จากการศึกษาของนักวิชาการหลายท่านพบว่าคนจนมีความใส่ใจความรู้สึกความคิดความเป็นอยู่ของคนรอบข้างมากกว่าคนรวย เนื่องจากคนจนเติบโตมาจากสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายและไม่ปลอดภัย พวกเขาจึงจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยคนรอบข้างเพื่อช่วยเหลือให้เขารอดพ้นจากอัตรายต่าง ๆ ที่พวกเขาเผชิญ ด้วยเหตุนี้ทำให้คนรอบข้างพวกเขามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาเป็นอย่างมากหรือกล่าวได้ว่าคนจนมีความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาอาศัยคนรอบข้างมากกว่าคนรวย ในขณะที่คนรวยส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับเป้าหมายและความต้องการของตัวเองเป็นหลัก เนื่องจากเขามีอำนาจและอยู่ในชนชั้นที่สูงจึงไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่น ทำให้ความใส่ใจในความรู้สึกของผู้อื่นมีไม่มากเท่ากับกลุ่มคนที่ต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่น ด้วยเหตุนี้เองทำให้มุมมองการมองโลกระหว่าง ‘คนจน’ กับ ‘คนรวย’ แตกต่างกัน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

21 Nameless Fanboi Posted ID:SqfgQgwwln

ไม่รู้ใครต้นฉบับ แต่ก็พอได้ข้อคิดครับ

เรื่องดราม่า วงการเกษตรไทย​ (พี่ในกลุ่ม1ไร่พอเพียงได้กล่าวไว้)​

คนรุ่นใหม่ๆมีเยอะครับ ที่คิดเรื่องการออกจากงานประจำมาทำเกษตร

ข้อควรจำ (เตือนด้วยความหวังดีนะจ๊ะ)
1) อย่าเอาภาพในเพจต่างๆมาหลอกตัวเอง เพราะคุณไม่รู้ว่า... ที่เขาได้เงินแสนเงินล้านจากการทำเกษตรในที่แปลงนิดเดียว เขาบอกไหมว่าต้นทุนเท่าไหร่? ทำมากี่ปี? เจ๊งมากี่รอบ? แล้วไอ้แสนหรือล้านน่ะใช้เวลากี่วัน ?

2) เพื่อนที่เขาเอามาโชว์ว่า... สบายใจ และประสบความสำเร็จน่ะ เขามีที่กี่ไร่? ผมเห็นส่วนใหญ่มีคนละเกินสิบไร่ทั้งนั้น ถ้าเป็นลูกจ้างกินเงินเดือน แล้วมีที่ขนาดนั้น ก็ไม่ต้องเป็นลูกจ้างแล้วครับ เป็นผม...ผมก็ไม่เป็น

3) คนที่ทำผลผลิตออกมาให้เห็นตามสื่อ ไม่ว่าจะโชว์ต้น หรือลูกอะไรก็แล้วแต่ สังเกตุดีๆมีอายุแล้ว คนรุ่นนี้มีเงินบำเหน็จบำนาณ หรือไม่ก็เอาเงินเออรี่รีไทน์มาทำ ซึ่งเงินจำนวนนั้นคนกินเงินเดือน 1-2 หมื่น อย่าไปคิดให้ปวดหัว

4) สมมุติว่า... ทำงานเก็บเงินซื้อที่ได้แปลงนึงเท่าแมวดิ้นตาย อย่าคิดทำเป็นอาชีพ ลองทำลองปลูกนู่นปลูกนี่ เอาให้มีกินในครอบครัวให้ได้ก่อน ค่อยคิดการใหญ่

5) คนมีหนี้อย่ามาทำการเกษตรครับ ดอกเบี้ยที่มันเพิ่มพูน กับเงินลงทุนมันไม่ทันกันแน่นอน บวกลบคูณหาญดีๆก่อนจะอดตาย

6) หากคุณทนทำงานประจำไม่ได้ คุณก็ทนกับการการเกษตรไม่ได้เช่นกัน ในที่ทำงาน คุณอาจต้องเจอกับความกดดัน เช่น เรื่องผลงาน อาจจะมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน ลูกน้อง ลูกค้า ดังนั้น ถ้าคุณมาทำเกษตร ก็ต้องทำใจ และเตรียมรับแรงกดดัน จากหลายๆสิ่งรอบตัวคุณ เช่น เรื่องรายได้-รายจ่าย เรื่องผลผลิต เรื่องโรคและแมลงศัตรูพืช เรื่องราคาผลผลิต ทั้งจากคนในครอบครัว คนข้างบ้าน คนงาน รวมทั้งใจคุณเอง
(ทำเกษตรต้องอดทน > ทำงานประจำ)

7) ทำงานประจำไม่มีอิสระ ออกมาทำการเกษตรสิอิสระเพียบ แนะนำผูกเปลนอนเลยครับ กลางสวนนั่นแหละเพราะถ้าคุณมีลูกจ้างก็ให้ลูกจ้างทำไป แต่ถ้าคุณไม่มี คุณจะเหมือนติดคุกกับวังวนตื่นตี 4 - ตี 5 แล้วหลับเที่ยงคืน

8) มีทุนสำรองขนาดไหน? คนที่เอาเรื่องเขามาลงในเพจในสื่อต่างๆ ไม่มีใครเลยสักคนที่เริ่มต้นจาก 0 (ศูนย์) ครับ อาจจะบ้านรวยพ่อแม่มีใว้ให้นานแล้ว ตัวเองทำตามฝัน ออกไปหางานทำเบื่อ หรือได้รับมรดก จึงออกมาทำอะไรในที่ดิน ที่ขาดจำนอง หรือมีทุนเก่าเอามาใช้จ่ายได้ ลูกจ้างที่คิดจะออกจากงานล่ะ บ้านรวยมั้ย? มีเงินกินยามผลผลิตไม่ออกมั้ย?

9) การทำเกษตรไม่ใช่เมล็ดหญ้า ที่ไม่ต้องดูแลมันก็งอกงาม ทำการเกษตรต้องดูแลเอาใจใส่ ต้องมีความรู้(อันนี้สำคัญ)ด้วยว่า มันต้องทำไง 1,2,3,4 ตามขั้นตอน ไม่ใช่ออกงานมาแล้วงงว่า... จะทำอะไรยังไงดี คำแนะนำง่ายๆ กลับไปทำงานเหมือนเดิมไม่ต้องคิด

10) ข้อนี้สำคัญ เราควรทำการเกษตรเพื่อเอาเงิน อย่าเอาเงินไปทำการเกษตร สิ่งที่เราลงทุนลงแรงไปต้องได้เงินกลับมา อย่าเอาแค่สบายใจที่ได้เห็นผลผลิต เพราะถ้าคิดแบบนั้น แนะนำให้อยู่บ้าน ปลูกมะม่วงต้นนึง พอออกลูกมาพวงนึง ก็ถิอว่าสำเร็จแล้ว

หมายเหตุ :
- อีกเรื่องที่ขอเตือนไว้ ใครที่ไปโพสท์ถามความเห็นของคนอื่นตามกลุ่มต่างๆ ว่า...ควรทำอะไร ปลูกอะไรดี เวลามีคนมาเมนท์ มาให้กำลังใจ มาแนะนำให้ทำนู่นนี่นั่น รบกวนสักนิด กรุณาเข้าไปดูที่หน้าโปรไฟล์ของ ไอ้คนที่มาเมนท์สักนิด เพราะส่วนใหญ่ที่เจอมา มีแต่ข้าราชการ พนง,ประจำทั้งนั้น ที่เมนท์เสนอแนะ เมนท์ให้กำลังใจ ผักยังปลูกกินเองไม่ได้ ไม่รู้เอาห่าอะไรไปแนะนำ

*** การจะออกจากงานมาทำเกษตร คุณต้องมีที่ดิน ทุนสำรอง(มากพอ) ต้องมีความรู้เรื่องพืชที่จะปลูก และต้องรู้จักตลาด ถ้าที่ผมบอกมา คุณยังไม่มี แนะนำให้ทำงานไปเหมือนเดิม ***

ทำเกษตรในชีวิตจริง ไม่ใช่ไปวิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ (วางถุงกาวก่อนทำเกษตร)

อ่านสักนิดนะครับ โปรดทราบว่าเป็นห่วง

กลุ่มปิดแชร์ไม่ได้ แต่ถ้าโดนใจ ก็อปเอาไปโพสท์หน้าเฟสตัวเองได้ครับ ไม่หวง

อ่าน คิด พิจารณา

22 Nameless Fanboi Posted ID:SqfgQgwwln

มีน้องคนหนึ่งในบริษัทผม มี fault logic ที่ว่า "คนหล่อ เจ้าชู้ คนไม่หล่อ ไม่เจ้าชู้" .... เคยเถียงกันประเด็นนี้กับหลายคนในบริษัทผมด้วยนะ

จริงๆ มันมาจาก stereotype หลายต่อหลายอย่าง อาจจะมาจากสิ่งที่เขาเห็น อาจจะมาจากสิ่งที่เขาได้ยิน

จริงๆ แล้วเรื่องพวกนี้มันไม่ได้ขึ้นกับหน้าตาเลยสักนิด คนหล่อเจ้าชู้ก็ได้ ไม่เจ้าชู้ก็ได้ เช่นเดียวกับคนไม่หล่อ มันไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย

ที่พีคในพีค คือ น้องเขาสับสนระหว่าง "เจ้าชู้" กับ "มีชู้" อีกตะหาก .... (คือถามว่า "ถ้าคนที่มีแฟนสองคน หรือแต่งงาน แล้วมีเมียน้อย .... อยู่ดีๆ เลิกไปคนนึง ... ถ้าแต่งงานแล้วก็หย่า ไม่ก็เลิกกับเมียน้อย .... เหลือคนเดียว แบบนี้เรียกเจ้าชู้มั้ย" ... น้องตอบว่า "ไม่เรียก เพราะมันมีคนเดียวแล้วไง" ... คือสับสนระหว่าง "นิสัย/สันดาน" กับ "สถานะ" อีก)

เรื่อง logic พื้นฐานนี่ต้องสอนกันดีๆ ครับ

1. อย่าให้เอา anything มา confirm anything ..... ให้วาด set diagram ง่ายๆ จะช่วยได้เยอะครับ (ดูว่าอะไรเป็น subset ของอะไรไหม) ..... ถ้าที่น้องคิดมามันถูก มันต้องเป็นรูปของ subset (ซึ่งรวมกรณีเป็น set เดียวกัน) .... แล้วลองหา counter example ดู ... จะเห็นเลยว่ามันมีกรณีที่ผิดอยู่รอบตัวเลย .... (พิสูจน์โดย counter example น่ะแหละ .... สมมติว่ามันถูก แล้วหาตัวอย่างค้านให้มันผิด)

ตรงนี้มันจะไล่ไปหา logical statement ของ ถ้า-แล้ว (p -> q) ที่เคยเรียนกันมาได้ง่ายๆ ครับ

2. อย่าให้ตีสองประเด็นที่ต่างกัน (เช่นประเด็นนิสัย และสถานะ) เป็นเรื่องเดียวกัน .... เพียงเพราะมันมีคำเชื่อมที่เหมือนกัน หรือเอื้อให้คิดว่าเป็นอย่างเดียวกัน .... ผมชอบ model ตรงนี้โดยการใช้ "bit" ครับ คือเป็น flag 0, 1 (false, true) ง่ายๆ น่ะแหละ .... (สำหรับคนที่ไม่ทราบ bit คือ หน่วยที่เล็กที่สุดของ information ครับ) ... เพราะว่า 1 bit มันจะ represent ข้อมูลได้แค่อย่างเดียว แล้วเอาไปประกอบกับข้อ 1 ..... จะช่วยได้เยอะครับ

นอกจาก "เจ้าชู้ กับ มีชู้" แล้วยังมี "ใจร้อน กับ อารมณ์ร้อน" ที่ผมเคยพูดถึงไปด้วยนะครับ คิดง่ายๆ ได้ด้วยการมองเป็น 2 bit ครับ (และมีอีกหลายอย่างมาก)

รู้หรือยังคิดว่าเราเรียน math กันไปทำไม :P

เรียนอะไรมา ก็เอาไปใช้กันบ้างครับ เราเรียนกันมาแล้วทั้งนั้น อย่าคิดว่าไม่เห็นเกี่ยวกันเลย ใช้ไม่ได้หรอก (ทีงี้ ดันคิดว่าไม่เกี่ยวหรอก #ยิ้มอ่อน)

ป.ล. ที่ผมแชร์อันนี้ ไม่ได้แปลว่าผมคิดว่า คนหล่อไม่เจ้าชู้ทุกคนนะครับ มันมีทั้งสองอย่างแหละครับ

ป.ล. (2) น้องเคยถามผมด้วย ว่า "พี่เดฟเจ้าชู้มั้ย" .... ตอนนั้นก็งงว่าถามทำไม .... เพราะไม่เข้าใจ model ในหัวน้อง .... ตอนนี้เข้าใจล่ะ .... เออ อย่างน้อยน้องก็เห็นเราหล่อ (จาก logic ของน้องนะ 5555+)

ป.ล. (3) น้องๆ สาวๆ ในออฟฟิศบอกว่า "แท็กเลยพี่" และเจ้าตัวบอกว่าไม่มีปัญหา ดังนั้นขอแท็กน้องคนที่ว่านะครับ ***

23 Nameless Fanboi Posted ID:tKD.GlkXvH

ณ สนามกอล์ฟ แห่งหนึ่ง...เสี่ยกำลังคุยกับมือปืน ผู้ได้ชื่อว่ายิงปืนแม่นที่สุดในโลก
เสี่ย : อั๋วได้ยินว่าลื้อแม่นที่สุดและทำงานไม่เคยพลาด วันนี้อั๋วเลยจ้างลื้อมาเพื่อยิงคน 2 คน ด้วยกระสุน 2 นัด ลื้อทำได้มั้ย?
มือปืน : เสี่ยจะให้ยิงใคร ที่ไหน?
เสี่ย : ลื้อ เห็นตึกที่อยู่ตรงข้ามสนามกอล์ฟนี้มั้ย นั่นแหละบริษัทอั๊ว วันนี้อั๊วได้ข่าวมาว่านังเมียชั่วของอั๊วจะเอาข้อมูลลับของบริษัทไปขายให้ กับ "อาตง" คู่แข่งคนสำคัญของอั๊ว ที่ชั้นบนสุดของตึกนั่น
มือปืน : ครับ (พร้อมหันหน้าไปมองที่ชั้นบนสุดของตึก)
เสี่ย : สำหรับ นังเมียชั่ว เอ็งใช้กระสุน 1 นัด ยิงตัดลิ้นของมันซะ อย่าให้มันได้พูดคุยกับใครอีก นี่แหละผลของการเอาความลับ ของอั๊วไปขาย ส่วนกระสุนอีกนัดให้เอ็งยิงไปที่ไอ้จู๋ของ "อาตง" ให้มันสูญพันธุ์ มันจะได้ไม่มีลูกหลานมาเป็นเสี้ยนหนามอั๊วอีกต่อไป 5555+
มือปืน : ครับ (พร้อมหันกระบอกปืนไรเฟิลเล็งไปที่ยอดตึก)
.
ปั้ง!!!
.
เสี่ย : 555+ ดีๆๆ ว่าแต่เอ็งยิงตัดลิ้นเมียข้าก่อน หรือ ตัดไอ้จู๋ของ "อาตง" ก่อนล่ะ?
มือปืน : ผมทำทั้ง 2 อย่างแล้ว ด้วยกระสุนเพียงนัดเดียว!

24 Nameless Fanboi Posted ID:ka5T6Qk78x

แนวทางอู๋ม๋งต๊ะเรานั้นจะไม่มีโพสต์โชว์เกรี้ยวกราดด่าว่าอาชญากรในทุกรูปแบบนะครับ เผื่อการโพสต์โชว์เกรี้ยวกราดของเรานั้นอาจจะไปกระตุ้นต่อมฟิวส์ขาดของพวกพี่ๆ อาชญากร แหกคุกมาตามหาเราถึงบ้านก็จะซวยเอา - -"

#ชายผู้ละแล้วซึ่งอารมณ์เกรี้ยวกราดต่อผู้ที่แข็งแรงกว่า
#โปรดละเว้นการใช้อารมณ์ในการกระตุ้นกระบวนการยุติธรรม

25 Nameless Fanboi Posted ID:ddFh9KWjcy

เห็นเคสวัยรุ่นงานบวช บุกกระทืบนักเรียนที่สอบ GAT-PAT อยู่ในมัธยมวัดสิงห์ จนมีคนร้องเรียกให้พี่วัน อยู่บำรุงไปช่วยจัดการ แล้วคิดถึง อ.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ (ทุกวันนี้แกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ)

(หลังจากฟังเรื่องซ้ายๆแบบ อ.เกษียร เตชะพิระ มาเยอะแล้ว) เราคุ้นเคยการมองการเมืองแบบอุดมการณ์เป็นแว่นอธิบายการเมือง แต่ อ.นครินทร์ จะเน้นใช้สภาพที่แกเชื่อว่าเป็นอำนาจที่แท้จริงนำ แล้วเข้าใจการเมืองที่เป็นอยู่แบบนั้น

อ.นครินทร์ เสนอว่าประวัติศาสตร์การเมืองแบบผู้แทนไทยเนี่ยเป็นเรื่องของผู้แข็งแกร่ง

กล่าวคือ มันเป็นการนำผู้มีอิธิพลท้องถิ่นเข้ามาอยู่ในระบบ

ตัวอย่างเช่นคุณเป็นกำนัน เป็นนายหัว เป็นพ่อเลี้ยง เป็นนายฮ้อย อะไรสักอย่าง คุณทำไร่ ทำประมงค์ ทำสวนขนาดใหญ่ๆ มีลูกน้องเป็นร้อยเป็นพัน มีปืน ต้องปกครองคน ในสมัยก่อนนี่คือคุณเป็นผู้มีอิธิพลท้องถิ่น

แต่ก่อนอำนาจรัฐมันอยู่แค่ในเมือง ในพระนคร นอกออกไป ก็เป็นผู้มีอิธิพลพวกนี้ที่ปกครองพื้นที่ ใช้กฎนักเลงก่อน ค่อยใช้กฎหมาย เพราะกฎหมายฟังก์ชั่นยากอยู่ไกล ความสงบเรียบร้อยของพื้นที่เลยอยู่ในกฎนักเลง

ย้อนกลับไปช่วง 2500 เมื่องบอเมริกามันลงมาทำให้ไทยเป็นฐานในสงครามเย็น มีถนน มีอุตสาหกรรม มีไร่อ้อย มีประมงค์ มีอุตสาหกรรมยางพารา มีธุรกิจค้าขายกับฐานทัพอเมริกา คนกลุ่มหนึ่งที่ได้ประโยชน์ตรงนี้ก็รวยขึ้น ขยายขึ้น มีลูกน้องมากขึ้น กลายเป็นผู้มีอิธิพลท้องถิ่น กฎนักเลงก็ทับซ้อนกับกฎหมายในบางพื้นที่

หลังสงครามเย็น เมื่อมีรัฐธรรมนูญกระจายอำนาจ มันก็เปิดที่ทางให้พวกนี้เปลี่ยนจากมีอิธิพลนอกกฎหมาย มาอยู่ในกฎหมาย

สำหรับ อ.นครินทร์ มองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ คือทำให้อำนาจที่มีอยู่โดยแท้จริง ได้รับการรับรองและมีช่องทางตามกฎหมาย กฎหมายควรจะเขียนตามสภาพอำนาจที่มีอยู่จริงก็ถูกแล้ว

แล้วความเป็นตัวแทนของพื้นที่คืออะไร มันคือการ "ใจถึง พึ่งได้" "มีปัญหาเคลียร์ได้" "ใครเดือดร้อนช่วยได้" เป็นความสัมพันธ์แบบ "ลูกพี่" ของคนไทย คือดูแลน้องได้

ซึ่งความสัมพันธ์แบบนี้มันดั่งเดิม และจำเป็นในสมัยเดิม ที่แบบไม่มีไฟฟ้า โจรผู้รายชุดชุม ป่วยมาไม่รู้จะไปหาหมอยังไง ติดหนี้จะตั้งตัวไม่รู้จะทำยังไง มาใหม่ต้องไปฝากตัวกับใคร

พอทุกวันนี้ระบบรัฐมันดีขึ้น มีความเป็นชนชั้นกลางขึ้น น้ำไหล ไฟสว่างแล้ว การเมืองแบบนโยบายจึงมีบทบาทมากขึ้น และจนถึงทุกวันนี้ที่การเมืองแบบอุดมการณ์ถูกพูดถึงกันมาก ไม่รู้ว่าการเมืองแบบ "ลูกพี่" จะยังมีพลังขนาดไหน

เหตุการณ์วัยรุ่นงานบวชบุกโรงเรียนมันแสดงให้เห็นสภาวะนิติรัฐล้มเหลว รัฐคุ้มกันประชาชนไม่ได้ สัมผัสถึงความรู้สึกย้อนกลับไปถึงความไม่ปลอดภัยของยุค 2500 คนก็เลยเรียกร้องหาผู้เข้มแข็งมาใช้กฎนักเลง

ถ้านิติรัฐมันเดินหน้าได้ คนจะบอกว่า "ตำรวจไปจัดการมันหน่อย" แต่เหตุการณ์นี้ คนไม่คิดถึงตำรวจก่อนอ่ะ ไปคิดถึง วัน อยู่บำรุง ใจถึงพึ่งได้ เพราะไม่เชื่อว่าตำรวจจะทำอะไรได้

ที่จริงในยุคสมัยที่ทุกคนพูดถึงนโยบายก้าวหน้า ถึงเสรีภาพ มันยังมีฐานเสียงหนึ่งที่ต้องการความขวา ต้องการระเบียบ ต้องการความปลอดภัย

เชื่อผมป่ะว่าถ้าพรุ่งนี้มีคน (สมมุติว่าเสรีพิสุทธิ์) ประกาศว่า จะทำสงครามยาเสพติด อนุญาตให้ตำรวจเอากระสุนยางไล่ยิงแกงค์แข่งรถได้ผมว่าได้คะแนนเสียงมา (เอ้าผม Tag ด้วยเผื่อทำจริง พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส )

เพราะทุกวันนี้สภาวะนิติรัฐมันล้มเหลวมาก ผมก็ไม่เข้าใจว่าเราอยู่ในรัฐบาลที่มี ม.44 แต่ทำไมยาบ้าถึงระบาด วัยรุ่นถล่มโลกเรียนได้แบบนี้

สังคมเราต้องการระเบียบ (order) ในระบบนิติรัฐกลับมา ถึงจะพูดกันในฟากเรื่องเสรีภาพแล้ว ผมว่าตรงนี้ก็เป็นเหรียญอีกด้านที่สำคัญสำหรับระบบประชาธิปไตย รัฐประชาธิปไตยต้องครบถ้วยทั้งเสรีภาพส่วนบุคคล และนิติรัฐที่จะปกป้องเสรีภาพของทุกคนนั้น ต้องเอาตำรวจที่ฟังก์ชั่นกลับมา และความเชื่อมั่นในตำรวจกลับมา

ก็ฝากพรรคการเมืองต่างๆพิจารณาด้วยเหมือนกันครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

26 Nameless Fanboi Posted ID:tKD.GlkXvH

มีแต่คนถามว่าทำไมตัดสินใจย้ายมาอยู่เมกา

มีเหตุผลหลายอย่าง แต่เหตุผลหลัก ๆ คือ "รู้สึกมีความทุกข์ทุกวันตอนอยู่เมืองไทย"

เดินออกไปข้างนอกแล้วเจอแต่ความอึดอัด พาจิตใจให้แย่ลงไปทุกวินาที ไม่เกี่ยวกับความรักครั้งเก่าก่อน แต่เป็นสภาพแวดล้อมและผู้คนล้วน ๆ

บ้านเมืองไทยกำลังผุพังจากแกนกลาง ความยากจนและ Gap ของฐานะกำลังสร้างสังคมของยุคถัดไปแบบที่ไม่ต้องอธิบายมาก ให้ดูนักเลงที่ลุยวัดสิงห์ นั่นแหละตัวอย่าง คนที่มีลูกแบบไม่มีคุณภาพไม่มีความรู้พอจะคุมกำเนิด ส่วนคนที่ลูกมีคุณภาพก็คุมกำเนิดจนถึงขั้นไม่มีลูกเลย

ให้ลองจินตนาการถึงยุคถัดไปดูว่ารุ่นลูกเราจะเจออะไร

ในขณะเดียวกันคนยุคเก่าก็พึ่งพาไม่ได้ ไม่เคยร่วมมือกัน มีแต่จะทำร้ายกันเอง ทิ้งแต่ภาระไว้เบื้องหลัง ให้คนรุ่นใหม่แบกรับ

วันที่ตัดสินใจหยุดผลักดันสิ่งต่าง ๆ ในไทยแล้วย้ายออกมาคือวันที่เห็นแล้วว่า "มันเกินเยียวยาแล้ว" คงไม่มีอะไรพลิกกลับได้อีก กฎของแนวโน้มทำงานตามกลไกของมันแล้ว

ตลอดชีวิตที่อยู่ไทยคิดไว้ตลอดว่าไม่อยากมีลูกเพราะสงสารลูกที่จะต้องโตมาในสังคมแบบยุคถัดไป แต่พอมาอยู่เมกากลับอยากมีแฮะ (เอ๊ะ แต่ต้องมีอะไรก่อนมีลูกนะ จำไม่ได้)

สุดท้ายวันนึงก็คงต้องกลับไทยไปดูแลครอบครัว มานั่งคิดดู คงไม่สุขเท่าไหร่ ตอนนี้ได้แต่เตรียมความพร้อมว่าอย่างน้อยวันนั้นจะต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ไทยอย่างไม่มีความทุกข์ให้ได้ ... คือต้องรวยสินะ

คงไม่มีวันนั้น ...

จะย้ายมาอยู่เมกายาว ... แม่งก็มีทรัมป์อีก 😒

27 Nameless Fanboi Posted ID:tKD.GlkXvH

มีแต่คนถามว่าทำไมตัดสินใจย้ายมาอยู่เมกา

มีเหตุผลหลายอย่าง แต่เหตุผลหลัก ๆ คือ "รู้สึกมีความทุกข์ทุกวันตอนอยู่เมืองไทย"

เดินออกไปข้างนอกแล้วเจอแต่ความอึดอัด พาจิตใจให้แย่ลงไปทุกวินาที ไม่เกี่ยวกับความรักครั้งเก่าก่อน แต่เป็นสภาพแวดล้อมและผู้คนล้วน ๆ

บ้านเมืองไทยกำลังผุพังจากแกนกลาง ความยากจนและ Gap ของฐานะกำลังสร้างสังคมของยุคถัดไปแบบที่ไม่ต้องอธิบายมาก ให้ดูนักเลงที่ลุยวัดสิงห์ นั่นแหละตัวอย่าง คนที่มีลูกแบบไม่มีคุณภาพไม่มีความรู้พอจะคุมกำเนิด ส่วนคนที่ลูกมีคุณภาพก็คุมกำเนิดจนถึงขั้นไม่มีลูกเลย

ให้ลองจินตนาการถึงยุคถัดไปดูว่ารุ่นลูกเราจะเจออะไร

ในขณะเดียวกันคนยุคเก่าก็พึ่งพาไม่ได้ ไม่เคยร่วมมือกัน มีแต่จะทำร้ายกันเอง ทิ้งแต่ภาระไว้เบื้องหลัง ให้คนรุ่นใหม่แบกรับ

วันที่ตัดสินใจหยุดผลักดันสิ่งต่าง ๆ ในไทยแล้วย้ายออกมาคือวันที่เห็นแล้วว่า "มันเกินเยียวยาแล้ว" คงไม่มีอะไรพลิกกลับได้อีก กฎของแนวโน้มทำงานตามกลไกของมันแล้ว

ตลอดชีวิตที่อยู่ไทยคิดไว้ตลอดว่าไม่อยากมีลูกเพราะสงสารลูกที่จะต้องโตมาในสังคมแบบยุคถัดไป แต่พอมาอยู่เมกากลับอยากมีแฮะ (เอ๊ะ แต่ต้องมีอะไรก่อนมีลูกนะ จำไม่ได้)

สุดท้ายวันนึงก็คงต้องกลับไทยไปดูแลครอบครัว มานั่งคิดดู คงไม่สุขเท่าไหร่ ตอนนี้ได้แต่เตรียมความพร้อมว่าอย่างน้อยวันนั้นจะต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ไทยอย่างไม่มีความทุกข์ให้ได้ ... คือต้องรวยสินะ

คงไม่มีวันนั้น ...

จะย้ายมาอยู่เมกายาว ... แม่งก็มีทรัมป์อีก 😒

28 Nameless Fanboi Posted ID:vPVs026wdH

ปกป้องครอบครัวจากศาสนา

สังเกตและคิดเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว เกี่ยวกับว่า โดยรวม สังคมได้ประโยชน์จากสิ่งที่เรียกว่าศาสนา(ไม่ใช่แค่คำสอนนะในที่นี้รวมไปถึงองค์กร ศาสนิก และกิจกรรมต่างๆด้วย) มากกว่าเสียประโยชน์รึเปล่า

ถ้ามองแบบเป็นกลางเลย วิธีมองแบบเป็นกลางเลยที่คุณจะทำได้คือ มองตัวเองเหมือนไปอยู่ท่ามกลางผู้คนในศาสนาอื่น เช่น ถ้าเป็น พุทธก็ตั้งสมมุติฐานว่า ถ้าไปอยู่ในดงคริสต์แบบเข้มข้น หรือดงอิสลาม แล้วสังคมรอบข้างที่คุณไปอยู่รู้ว่าคุณเป็นพุทธจะเกิดอะไรขึ้น หรือในทางกลับกัน ถ้าเป็นคริสต์ก็คิดว่าไปอยู่ในดงพุทธหรือดงอิสลาม อิสลามก็ไปอยู่ในดงคริสต์หรือพุทธ แล้วมอง สังเกต สังเกตผลโดยรวม วิธีนี้อาจจะมองแบบใกล้เคียงความเป็นกลางออกมาได้

คราวนี้คุณมีลูก บรรดานักชวนต่างศาสนาต่างๆก็พากันชักชวนให้ "เข้ารีต" ความเชื่อนั้น ถึงจุดนี้คุณน่าจะอึดอัดใจ อาจด้วยมุมมองว่าศาสนาอื่นนั้น หลอกลวง หรือ แม้แต่แย่ ถึงตอนนี้คุณอาจจะลิสต์มาได้ยาวเป็นหน้ากระดาษว่าทำไมไม่ควรไปนับถือศาสนาอื่น นั่นล่ะข้อเสียศาสนาอื่น และเช่นกัน คนอื่นเขาก็ลิสต์ของศาสนาคุณที่คุณมองข้ามได้

เมื่อเอาตรงข้อเสียมาทาบกัน อาจจะต้องประหลาดใจ ข้อเสียราว 80% อาจจะตรงกัน ซึ่งมันก็มีหลายอย่างที่สังคมต้องเสียประโยชน์ให้ศาสนา เช่น "การทำร้ายสังคมโดยอ้างชุดความดีของศาสนา" ตรงๆเลยคือฆ่าคนเห็นต่าง หรือทำร้ายร่างกาย

ข้อเสียหลักๆของมันอีกคือทำให้คนงมงาย แยกเรื่องจริงจากเรื่องเหลวไหลหรือความเกี่ยวโยงกันของสาเหตุกับผลลัพท์ไม่ได้ แบบชัดๆเลยก็เช่น เรื่องผู้หญิงถูกสร้างจากซี่โครงผู้ชาย, พระเจ้าปั้นผู้ชายจากดิน, จากน้ำ, ตาแก่อาหรับขี่ม้าเหาะได้, ตาแก่อาหรับเอาดาบตัดดวงจันทร์เป็นสองซีก, เด็กดินเดียเกิดมาเดินได้7ก้าว, ปาฏิหารย์กะลาลอยทวนน้ำ, พระเหาะไปเก็บบาตรบนยอดเสา, เหาะขึ้นสวรรค์ลงนรก

หรือเรื่องเหลวไหลแบบคลุมเครือกว่านั้นเช่น เชื่อเรื่อง บุญ กรรม ชาตินี้ชาติหน้า สวรรค์ นรก พระเจ้า เทวดา ผี แบบนี้ เจ้าการเชื่อเรื่องบุญกรรมนี่มีข้อเสียมาก พวกขี้แพ้มักใช้เป็นข้ออ้างเช่น ชาติก่อนทำบุญมาน้อยอะไรแบบนี้ หรือให้องค์กรศาสนาแสวงประโยชน์ได้ เช่น เอาปลานักล่าต่างถิ่นปล่อยไปทำลายระบบนิเวศน์ในแหล่งน้ำแล้วได้บุญ หรือ เผากระดาษเคลือบตะกั่วทำลายสิ่งแวดล้อมแล้วบรรพบุรุษที่ตายไปแล้วจะได้บุญจะสุขสบาย เรื่องไร้สาระทั้งนั้น

ล่าสุดก็เห็นศาสนิกก็อ้างความเชื่อบุกโรงเรียน ไปตีเด็กที่กำลังสอบอยู่ พวกศาสนิกนี่สร้างปัญหามาก ปัญหาเล็กๆอย่างบุกโรงเรียน ปิดเมืองเดิน หรือ ปัญหาใหญ่ๆอย่างสงครามครูเสด,จีฮัดหรือสงครามชาวพุทธ ตามด้วยวาทกรรมเท็จว่า "ศาสนาไม่ผิด คนผิด" ระยำจริงๆ สงครามที่อ้างเนื้อหาในคัมภีร์(คำสอน) โดยองค์กรและผู้นำศาสนา ให้ศาสนิกไปฆ่าคนกลุ่มอื่น(ครบหมด ทั้งคำสอน คนสอน และผู้นับถือ คือ เน่าทั้งองค์รวม)

ศาสนาไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อสังคม มันถูกออกแบบมาให้คนกลุ่มเล็กๆแสวงประโยชน์และชักจูงคนอื่นไปทำงานสกปรกให้ตนหรือสร้างอำนาจทางการเมืองมากกว่า เป็นการโกหกที่ผู้ถูกหลอกไม่ต้องการจะมองออก(เช่น อาจเพราะกลัวบาปจึงไม่กล้าแม้แต่จะคิด หรือเพราะกลัวเสียหน้าที่เชื่อเรื่องเหลวไหลมาตลอด หรือเสียดายกิจกรรมเหลวไหลที่ทำลงไป หรืออายไม่อยากยอมรับว่าตัวเองโดนหลอก หรืออาจแค่...โง่)

แล้วมีวิธีไหนในการปกป้องตัวเองและครอบครัวจากศาสนามั่ง?

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

29 Nameless Fanboi Posted ID:f3mjQpyBY7

>>27 ควย inequality gap เมกาเยอะชิบหาย ถ้ามึงย้ายไปสแกนดิเนเวียก็อีกเรื่อง ไปเมกาแล้วเสือกกระแนะกระแหนทำตัว humble brag บอกว่าไทย gap เยอะ
ขำหวะสัส
ปล. กูไม่ได้ด่าคนก็อปมาแปะที่นี่นะกูด่าเจ้าของข้อความนี้ 5555

30 Nameless Fanboi Posted ID:7URw1yZlIN

ถ้าเอาไปทำหนังนี่ ระดับเรื่องโม้คแบล็คเมาเท่นเลยอ่ะครับ สำหรับชีวิตบุรุษตัวเนร้ https://www.thairath.co.th/content/1505823

31 Nameless Fanboi Posted ID:zkotJcP2CU

>>29 จริง ป่วยขึ้นมามันหนาวแน่ ประเทศเรารักษาถูกเข้าถึงได้กว่าเยอะมาก

32 Nameless Fanboi Posted ID:MhNh4ks6MA

>> ระดับหนูเนย โปรแกรมเมอร์เซเลป เงินไม่ขาดมือหรอก

33 Nameless Fanboi Posted ID:EdBJpYKPdg

>>25 ไทยแลนด์เป็น Fail State ในทางความรู้สึกของคน เพราะมองว่าระบบราชการพึ่งพาไม่ได้ เลยต้องไปหาสิ่งอื่น ไม่ว่านักเลง สื่อ เพจดาร์ค เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม

>>26 >>27 จะว่าโม้ก็ได้ เคยมีเสียงร่ำลือมาเป็นระยะๆ นะว่าคนอเมริกันอิจฉาคนไทยที่มี 30 บาท

34 Nameless Fanboi Posted ID:XO3VyB.hh.

"ไอ้เรื่องงานบวช VS การสอบที่วัดสิงห์เนี่ย เราต้องเข้าใจมันอย่างคู่ขนานกับเคส คอนโด VS ระฆังวัด ที่เกิดขึ้นปีที่แล้ว (หรือก่อนนั้นวะ แต่เอาเหอะ)

คือเคสแรกคนเข้าข้างการสอบชัดเจน ส่วนเคสหลังคนเข้าข้างวัดชัดเจน

ซึ่งแบบนี้ฝรั่งแม่งเข้าใจไม่ได้ เพราะแม่งคือปัญหาเดียวกันคือการใช้เสียงดังในพื้นที่สาธารณะ คนผิดน่าจะเป็น "ฝ่ายที่ใช้เสียงดัง" ทั้งสองเคส แต่ของไทยมัน "แล้วแต่"

อย่างไรก็ดี แม้ว่าฝรั่งจะไม่เข้าใจ แต่เราคนไทยแม่งเก็ทได้ไม่ยาก เพราะเคสระฆังวัด คนใช้เสียงดังคือ "พระ" แต่เคสสอบคนใช้เสียงดังคือ "ชาวบ้านทั่วไป"

เข้าใจในบริบทสังคมไทยคือ คนแม่งไม่เท่ากัน การกระทำแบบเดียวกัน คนนึงทำอาจจะผิด อีกคนทำอาจไม่ผิดก็ได้

ผมว่ามันต้องมองแบบนี้ถึงจะเห็นปัญหาพื้นฐานของ "กรณีทำนองนี้" ซึ่งแม่งเกิดขึ้นตลอด

ในสังคมที่คนไม่เท่ากัน คำถามที่ต้องถามก่อนว่าคุณมีสิทธิ์ทำอะไรมั้ย? คือ คุณเป็นใคร?"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

35 Nameless Fanboi Posted ID:D6wwLwFTDH

>>34 ที่ตะวันออกกลางจะมีฝรั่งคอนโดบ่นเรื่องรำคาญเสียงเรียกละหมาดมั้ยคับ

36 Nameless Fanboi Posted ID:6/PxHqj4GF

>>33 ไม่ต้องไทยหรอก แคนาดาก็ฟรี

37 Nameless Fanboi Posted ID:EdBJpYKPdg

>>34 ถ้าตัดเรื่องเลวๆ ประเภทเขาขอให้ลดเสียงแล้วกลับบุกเข้าไปทำร้ายร่างกาย ไปพังการสอบ ต้องยอมรับว่ามันมีมิติทางชนชั้นซ่อนอยู่จริงๆ

สมัยสิบกว่าปีก่อนในเว็บบอร์ดบางแห่ง มีคนบ่นว่าไม่อยากมีวัฒนธรรมร่วมกับแว้น - สก๊อย ถึงกับต้องปรับตัวหนี เช่น ตอนแรกๆ ฟังเพลง linkin park , clash , bodyslam , retrospect ใส่กางเกงยีนส์ลีวายส์ รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ตส์ พอต่อมาเห็นพวกแว้นมานิยมบ้างต้องไปฟังเพลง ไปแต่งตัวแนวอื่นทันที เพราะไม่อยากถูกนับรวมว่าเป็นแว้นด้วย

ยุคนั้นประเด็นชนชั้นยังไม่ก่อดราม่ามากเท่าวันนี้ ยังไม่มี Facebook ที่ทำให้เกิดเพจที่ประดิษฐ์คำ "ตลาดล่าง" อันหมายถึงรสนิยม ค่านิยมการใช้ชีวิตของคนกลุ่มหนึ่ง เช่น ต้องเปิดเพลงดังๆ เวลามีเทศกาล ควบคู่ไปกับการเต้นแร้งเต้นกาแบบหลุดโลก รถยนต์แต่งเครื่องเสียงพร้อมเปิดเพลง Remix ฉิ่งฉาบทัวร์สามช่าโจ๊ะๆ หรือมอเตอร์ไซค์แต่งแบบถอดนั่นเอานี่ออกพร้อมบิด 1/4 ไมล์ ซึ่งแม้จะไม่ละเมิดขนบสังคม เช่น ไม่เปิดเสียงดังในเวลาดึกๆ , ไม่ได้ซิ่งบนถนนหลวง แต่ก็ถูกมองเป็นรสนิยมที่ไม่เข้าท่าอยู่ดี

ปลาลิง.ว่าแต่แฟชั่นแนว Mexican Gangster (เสื้อยืดขาว กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ มีรอยสักเต็ม) ในตะวันตกเขามองว่าตลาดล่างเหมือนแฟชั่นแนวแว้นไทยหรือเปล่า?

38 Nameless Fanboi Posted ID:HM7zHiX6El

ฟ้อนต์ชลบุรีฮิตติดลมบนมากๆ อยากให้น้องๆ ออกแบบฟ้อนต์กาฬสินธุ์มาสู้บ้างอ่ะครับ ออกแบบให้เห็นแล้วรู้สึกอยากกินข้าวเหนียวไรทำนองเนร้

#ช่วงไอเดียครีเอด์ทีฟคอมม่อนกับพี่โจว

39 Nameless Fanboi Posted ID:wmsT77flxT

#จ่ามีคาถาแยกเงาพันร่าง
..
อันนี้เป็นสมมติฐานของผมเองนานแล้วว่า เพจจ่ามีแอดมินคอยลงข่าวหลายคน ไม่ใช่จ่าคนเดียว โดนเฉพาะการลงลิงค์ข่าว (ลงแบบได้ตังค์นะครับ ใครคิดว่าลงลิงค์ข่าวในเพจจ่าลงฟรี ๆ ไปคิดใหม่เด้อ เขาทำคอนแท็คเป็นเรื่องเป็นราวกันนาจา ถถถถ) ที่อาจจะให้แอดมินคนอื่นสวมรอยลงไปเลย เพราะเป็นโพสต์ง่าย ๆ แค่พาดหัวให้ดราม่า ๆ แบบจ่าก็พอ คนเข้ามาดราม่า ยอดคนดูในเว็บเพิ่ม จ่ารับเงินแบ่งลูกน้อง จบ.
.
ถามว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น หากยังจำกันได้เรื่องนี้เป็นตำนานเลย สมัยจ่าเปิดเพจแรก ๆ มี แอดมินสองคนคือจ่ากับหัวหน้ายาม (หรืออาจมากกว่านั้น เพราะตอนนั้นเฟสบุ๊คยังไม่เปิดให้เห็นข้อมูลส่วนนี้) ตอนนั้นจ่าแกประกาศเลยว่าเพจแกจะไม่รับเงินค่าโฆษณาเด็ดขาด เพราะแกต้องเป็นกลาง เวลาด่าจะได้ด่าได้เต็มที่ คนก็ปลื้มกันเป็นแถว จ่าแมร่งของจริง จ่าแมร่งคนจริง ถถถถ ดูตอนนี้เถอะรับเงิน ลงโฆษณายิ่งกว่าเพจที่ตัวเองเคยไปแซะเขาไว้ในอดีต
.
โดยเฉพาะเรื่องหนังนี่แหละ ที่แกเคยไปแซะเพจอวยฯ ว่ารับเงินมาโฆษณา และก็ยกยอตัวเองว่า จะไม่มีวันทำแบบนั้นเด็ดขาด สุดท้ายเผลอแป๊บเดียวแกไปรับเงินโฆษณาหนัง "อวสานโลกสวย" หาว่าไปดูมาแล้วหนังดีอย่างโน้นอย่างนี้ โพสต์อวยเวอร์วัง หลายโพสต์ติดกัน จนคนเอะใจ สุดท้ายคนจับได้ว่าแกไม่ได้ไปดูเลยด้วยซ้ำ คนที่ไปดูคือหัวหน้ายาม แต่ตอนโพสต์ก็บอกว่า จ่าไปดูมาอย่างโน้นอย่างนี้
.
คนก็ออกมาถล่มว่า ไหนว่าจะไม่รับเงินไงละ เมื่อจนมุมแกงัดไม้ตายออกมาเฉยเลยว่า อั๊วะม่ายล่ายรับเงินมา แต่เป็นหัวหน้ายามต่างหากล่าววว แกไม่ได้สักบาทเลย หัวหน้ายามเอาไปหมด อะไรประมาณนั้น คนก็รุมด่าหัวหน้ายาม เป็นตำนานเพื่อนรักหักหลังเพื่อนจนมาถึงทุกวันนี้ แล้วหัวหน้ายามก็ออกจากการเป็นแอดมินเพจดราม่า (อันนี้กูรู้มาจากวงใน)
.
หลังจากแยกวงกับเพื่อน ผมก็เริ่มสังเกตุว่า จ่ายังใช้มุกเดิมอยู่เลยเวลารีวิวหนัง โดยเฉพาะช่วงหลายปีมานี้จ่ารับงานรีวิวหนัง ทั้งจาก netflix และเมเจอร์ และเอาจริง ๆ นี่ไม่ใช่งานถนัดแกหรอก หนังบางเรื่องแกยังไม่ได้ดูเลยด้วยซ้ำ แต่ออกมารีวิวเป็นคุ้งเป็นแคว แถมสำนวนยังขัด ๆ กัน ยังกะมีคนเขียนให้ ล่าสุดที่โป๊ะแตกคือเรื่อง sex education นั่นแหละ ที่ตกลงดูหรือไม่ดูกันแน่ 555
.
โชคดีที่เดียวนี้เฟสบุ๊คเปิดเผยให้เราเห็นว่า เพจนี้มีคนดูแลกี่คน และอยู่ประเทศไหนบ้าง เช่น ถ้าพวกมึงไปดูเพจหมอแล๊บแพนด้า พวกมึงอาจร้องเย็ดแหม๋ เพจหมอแล๊บมีแอดมินถึง 63 คนเลยนะโว้ย ส่วนเพจจ่ามีแอดมินเพจอยู่ 5 คน
.
เวลาเราเสพเพจเราเห็นแค่ปลายสุดของภูเขาน้ำแข็งนะ ที่เราไม่เห็นอีกมาก เราไม่เห็นบริษัทเอเจนซี่ที่ทำงานเบื้องหลังเพจเหล่านี้ ที่ต้องวิ่งเต้นรับงานโฆษณามาให้บรรดาเพจเหล่านี้ เราไม่เห็นว่า เอเจนซี่แต่ละคนมีเพจที่ต้องดูแลกี่เพจ ต้องแบ่งงานกัน ต้องทำงานเป็นทีมในการปล่อยโฆษณาแต่ละตัว เพจไหนลงก่อน เพจไหนลงทีหลัง
บางทีที่พวกเราเห็นว่าเพจบางเพจไม่ถูกกัน เบื้องหลังคือเอเจนซี่คนเดียวกันไปอีก
.
เราไม่เห็นว่าเพจพวกนี้ต้องจำกัดตัวเองขนาดไหน ในการพูดหรือเขียนอะไรลงไป เพราะทุกอย่างคือเงินทั้งนั้น ลูกเพจยิ่งด่ากัน พวกเอเจนซี่ยิ่งชอบ การเข้าถึงเพจยิ่งดี เอาไปต่อยอดขอเพิ่มค่าจ้างได้อีกเยอะ ไอ้ประเภทพ่อจ๋าแม่จ๋าที่พวกมึงเห็นนะ รับเละนาจา
.
เราไม่เห็นเครือข่ายเบื้องหลัง เพจแต่ละเพจไม่ได้อยู่แบบโดด ๆ นะ มันมีเครือข่าย ทั้งเครือข่ายแบบเพื่อน หรืออื่น ๆ แต่สุดท้ายเครือข่ายพวกนี้มันคือเครือข่ายผลประโยชน์มหาศาลระดับร้อยล้านเลยนะครับ
.
เราไม่แปลกใจหรอกที่เวลาเพจในเครือข่ายเดียวทำผิด เพจอื่นๆ จะนิ่งเฉย ไม่มาด่ากัน แต่ถ้าคิดจะเล่นเพจอื่น พวกเขาก็พร้อมจับมือกันถล่มให้ราบคาบ บางที บางเพจเกลียดขี้หน้ากันจะตาย แต่ไม่ด่ากัน เพราะเอเจนซี่ขอ ลูกค้าขอ ก็ต้องเป็นไบ้ แบะ ๆ กันต่อไป
.
คือในมุมมองผม มันไม่ใช่เรื่องผิดหรอกครับที่เพจจะมีแอดมินหลายคน มันเป็นเรื่องการจัดการธุรกิจ และเราคงไปเรียกร้องอะไรจากพวกเขาไม่ได้หรอก แม้ในความเป็นจริง เขาควรจะบอกว่าแอดมินคนไหนเป็นคนโพสต์ ใครเป็นคนเขียนคอนเทนต์นั้น ไม่ใช่พออะไรไม่ดีก็โยนให้คนอื่นหมด
.
สิ่งที่น่ากลัวคือ เพื่อเพจต่าง ๆ เหล่านี้ถูกควบคุมจัดการด้วยเครือข่ายผลประโยชน์ ถ้าเป็นพวกกันก็ปกป้อง เฉยนิ่ง ถ้าเป็นพวกอื่นก็ด่าเต็มที่ตรวจสอบเต็มที่ เอาให้ตาย นี่ต่างหากที่น่ากลัว เพราะมันจะกลายเป็นเครือข่ายอำนาจสื่อใหม่ และส่งผลต่อข้อมูลที่เราจะได้รับ พอเราเห็นว่าโหเพจใหญ่ ๆ หมอแล๊บ จ่า หมอเจษ ลงข่าวพวกนี้หมดเลย พูดไปในทางเดียวกันหมดเลย มันก็สามารถสร้างผลกระทบได้ในวงกว้าง
.
คนที่พอรู้ก็สบายไป แต่คนไหนไม่รู้ก็เฮโลตามกันไป
.

40 Nameless Fanboi Posted ID:QrVfd+DVJs

>>39 มีอิทธิพลเท่าสื่อหลัก (วิทยุ โทรทัศน์ นสพ. เว็บข่าวที่มีสำนักองค์กรชัดเจน) เผลอๆ ยิ่งกว่า แถมมีรายได้จากโฆษณา แต่บอกตัวเองไม่ใช่สื่อ ไม่ต้องใช้มาตรฐานเดียวกับสื่อหลัก

การแข่งขันโคตรเป็นธรรมชิบหาย

41 Nameless Fanboi Posted ID:jNMKpQhRzc

>>40 +100

42 Nameless Fanboi Posted ID:yQqH1zMkyU

missionUuid

43 Nameless Fanboi Posted ID:yQqH1zMkyU

🔴โลกหมุนไวเกินกว่าที่คุณคิด…ถ้าไม่รีบปรับตัว…เดือดร้อนหนักแน่ๆ

✔เมื่อก่อน โลกเปลี่ยนทุก 10 ปี……ขณะนี้ โลกเปลี่ยนทุก 1 ปี

✔~ ข้อมูล ความรู้ใหม่ๆ ทุกสาขาวิชาชีพเกิดใหม่ทุกสัปดาห์

✔~ แอปพลิเคชั่น ออกมาวันละหลายร้อยแอปพลิเคชั่น

✔~ ในช่วงชีวิต 20 ปีที่ผ่านมา…เราเห็นวิวัฒนาการมากมายในโลก

✔~ เด็กยุคใหม่…ไม่จบ ป.ตรี ขายของออนไลน์…สร้างรายได้หลักล้าน…ภายในไม่กี่เดือน

✔~ ป.โท จบมามีรายได้เดือนละเพียง 3 หมื่น

✔~ กรอบความรู้…ความคิดเก่าเมื่อ 20 ปีก่อน …แทบจะทำอะไรกับโลกยุคใหม่ไม่ได้เลย !!

✔~ ก๋วยเตี๋ยวเมื่อก่อน 10 บาท ทองคำ 400 บาท…ตอนนี้ก๋วยเตี๋ยว 40 บาท ทองคำ 20,000 บาท

✔~ เงินฝาก จากดอกร้อยละ 8 คนเลยขยันฝากเงินเก็บดอกกิน
แต่...ตอนนี้ฝากธนาคาร ได้ดอกเพียงร้อยละ 1

✔~ อาชีพมากมาย…หลายอาชีพตกงาน ……นับไม่ถ้วน

✔~ พนักงานแบงก์ ถูกแทนที่ด้วย internet banking…ธนาคารต่างๆทยอยปิดสาขา

✔~ พนักงานทางด่วน ถูกแทนที่ด้วย easy pass

✔~ รปภ.ถูกแทนที่ด้วย ระบบป้องกันภัย อัตโนมัติ

✔~ นักข่าว…
นักนิเทศน์
สื่อต่างๆ …
ถูกแทนที่ด้วย Facebook live, YouTube IG ฯลฯ

✔~ การสร้างตึก สร้างสิ่งของ ใช้ 3D printing …การออกแบบจะอยู่ในคอม ทั้งหมด

✔~ โลตัส และ พนักงานขายตามห้างฯ ให้พนักงานออก นับไม่ถ้วน
ตอนนี้เราจ่ายบัตรเครดิตได้เอง …กดที่คอมได้เองแล้ว

✔~ Toys Rus บริษัทของเล่นระดับโลก อยู่มานาน ที่อเมริกา …เป็นหนี้สิน แสนล้าน ปิดสาขา เกือบ 200 แห่งทั่วโลก

✔~ บริษัททิชชู่ Kleenex ที่นุ่มๆ …ให้พนักงานออก 5,000 ตำแหน่ง

✔~เฟสบุ๊ค ปรับ algorythm ทีเดียว…คนขายออนไลน์ สะเทือนทั้งโลก

✔~ บริษัทให้เช่า-ขับ แท็กซี่ เปิดมา 20-30 ปี วินมอไซค์……เจอ grab แอปเดียว สะเทือนวงการ

✔~ CP ปรับตัว disrupt ตัวเองก่อนที่คนอื่นจะมา disrupt …สร้างโรงเรียนปัญญาภิวัฒน์… จัดงบพัฒนาผู้นำ…
✔ฝึกคนให้เป็นผู้ประกอบการ มากกว่าลูกจ้างป้อนตลาด …อนาคตทรัพยากรมนุษย์ มีค่ามากกว่าที่ดิน

✔~ "อายุมากขึ้น 1 ปี สมองต้องลดลง 1 ปี ต้องคิดใหม่ตลอดเวลา"

✔~ เดี๋ยวนี้ สว. ทุกคนที่ตื่นตัว ……
ต้องถามหลานว่า มีอะไรใหม่ๆมาอัพเดทให้ปู่/ตา ฟังบ้าง

✔~ กระเพราไก่ไข่ดาว…สำเร็จรูป …จะถูกกว่าแม่ค้าขายข้างทาง…อีกทั้งได้มาตรฐานกว่า…รสชาติคงที่ …ไม่มีอารมณ์แม่ค้ามาเกี่ยว

✔~ บริษัทใหญ่ๆ เอาคนออก
โดยดูว่าเรา …
เป็น cost
หรือเป็น talent…
ถ้าเป็น cost …โดนโละทิ้ง…อย่างไม่ต้องสงสัย…
แต่ถ้าเป็นtalent ยังพอคุยกันได้

✔~ การพัฒนาตัวเองตลอดเวลา…
จึงเป็นสิ่งสำคัญ

✔~ เกษตรกร ปลูกยางพารา มา 5 ปี กรีดยาง อัดยางโลละ 40 บาท
ต่างชาติซื้อไป คืนเดียว เปลี่ยนเป็นถุงมือยาง… มาขายคนไทย คู่ละ 200 บาทยางรถยนต์เส้นละ 3,000 บาท

✔ ~หุ่นยนต์แพทย์ …ทำข้อสอบเก่งกว่าแพทย์ผู้ชำนาญการ…บันทึกเคสคนไข้กว่า 2 ล้านเคสใน ระบบตรวจโรคได้แม่นยำ…ไม่มีอารมณ์ขึ้นลงมาเกี่ยวข้อง…… รพ.เอกชน เริ่มเอา robot มาช่วยผ่าตัดแล้ว…
ได้ผลดีกว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

✔~ ชนชั้นกลาง และ ชั้นล่าง ต่อไปจะถูกแทนที่ด้วย หุ่นยนต์ และ คอมพิวเตอร์ทั้งหมด
~ ชนชั้นบน ก็มิใช่จะรอด…จะถูกแทนที่ด้วย AI
✔~ หุ่นยนต์รุ่นใหม่ ทั้งสวย หอม นุ่ม และหล่อสมาร์ท จะมาทำงาน 24 ชม ไม่มีเหนื่อย ไม่มีบ่น บริการเต็มที่
⭕~ AI เทรดหุ้น ประมวลผล เก่งกว่าคน ไม่มีอารมณ์ มาเกี่ยวข้องเช่นเดียวกัน

✔~ McKinsey บริษัท consult ระดับโลก คาดว่าในปี 2030 (อีกประมาณ 12 ปี) แรงงานคน…จะตกงานประมาณ 800 ล้านตำแหน่ง ทั่วโลก

✔~ ลูกหลานเรา และ ตัวเราเอง …
จะยืนอยู่ตรงไหน ?ถ้าเราไม่ปรับตัว ในโลกยุคนี้ !
✔~ เราจะมีอะไร…เป็นหลักประกัน ว่าชีวิตเราจะสบายไปตลอด …ไม่เกิดวิกฤติ……ปีนี้อาจจะยังสบายดีอยู่…
แต่ อีก 10 ปีข้างหน้า…
โอกาสแย่…
ความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก…
ย่อมเกิดขึ้นแน่นอน…
ถ้าไม่เริ่มปรับตัว…
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอนาคตที่มีความไม่แน่นอน…แต่ มีความเปลี่ยนแปลงสูง และเร็วมาก…
ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย

วันนี้ (!)
คุณเตรียมความพร้อมรับมือ จัดการกับสถานการณ์ที่ว่านี้อย่างไร ?

44 Nameless Fanboi Posted ID:REUN5vvYxv

>>43
"ถ้าในบทความออนไลน์มีการใช้อีโมติคอนพร่ำเพรื่อ เดาไว้ได้เลยว่าไม่มีสาระอะไร"
-มหาตมะ คานธี

45 Nameless Fanboi Posted ID:7qC0g7+uLT

เนื่องจากพรรคสนุ้กเกอร์ไทยเราเห็นว่าสังคมไทยเราการเข้าสู่สังคมสูงวัยเป็นเรื่องสำคัญกว่าเรื่องนำคนรุ่นใหม่เข้าสู่การเมือง (เป็นคนรุ่นใหม่เฉยๆ คุณภาพมีไม่มีไม่รู้ แต่วุฒิภาวะทางอารมณ์นี่เห็นมีปัญหากันมากๆ)

เราจึงจะเสนอ 'นโยบายเปิดเสรีนาโนคาสิโน' โดยให้ผู้สูงอายุ (เกิน 60 ปี) 4 คน สามารถรวมตัวกันเล่นการพนันได้โดยไม่ผิดกฎหมาย (ห้ามขาดห้ามเกิน 4 คน) ได้ในทุกสถานที่

ทั้งนี้ก่อนจะร่างนโยบายนี้จริงจัง อาจจะต้องลงไปดูงานที่ชุมชนเข้มแข็งอย่างชุมชนเตาปูนก่อนอ่ะครับ

46 Nameless Fanboi Posted ID:HNo56GHOSI

>>27 ย้ายไปต่างประเทศแล้วดีเสมอไปหรือ? เอาสถิติ​มาให้ชมกันค่ะ

สัดส่วน​ประชากรไทย​ที่อาศัยอยู่ใน​สหรัฐอเมริกา​ที่​มี​สถานะ​ยากจน​ในเกณฑ์​ต่ำกว่า​เส้นแบ่งความยากจนใน​ปี​ พ. ศ​ 2558 (ข้อมูล​จาก​ Pew Research Centre)

คนไทย​ที่​เกิด​ใน​สหรัฐอเมริกา​และอยู่​ใน​สถานะ​ยากจน​

16.2% ของประชากร​ไทย​ใน​สหรัฐอเมริกา

คนไทย​ที่​เกิด​นอก​สหรัฐอเมริกา​และ​อยู่​ใน​สถานะ​ยาก​จน

16.8% ของประชากร​ไทย​ใน​สหรัฐอเมริกา

สัดส่วน​ของประชากร​ไทย​ใน​ประเทศไทย​ที่​อยู่​ต่ำ​กว่า​เส้นแบ่งความยากจนในปี​ พ. ศ​ 2559: 8.6%

47 Nameless Fanboi Posted ID:T9mzvRrV9H

profile ดูดี ดูรวย แต่เบี้ยวค่าที่ ยกบูทหนี เพื่อนๆเซลและออร์จำหน้าไว้นะคะ ใช้วิธีหลอกส่งสลิปปลอมเพื่อโกหกว่าจ่ายเงินแล้ว แล้วขนของหนีค่ะ

48 Nameless Fanboi Posted ID:zXyc8p27vI

ในปัจจุบัน ผมยังคงเชื่อในเรื่องของวรรณะ และฐานะ .... แต่ไม่ใช่วรรณะของชนชั้นตามกำเนิด หรือฐานะตามสถานะการเงินหรือการศึกษา

"วรรณะ" เดียวที่มี ก็คือ วรรณะทางความคิด

"ฐานะ" เดียวที่มี ก็คือ ฐานะทางความคิด

แอสการ์ดไม่ใช่สถานที่ แต่คือผู้คน .... และสิ่งที่ define ผู้คนได้ดีที่สุด ก็คือความคิดของคนเหล่านั้นนั่นแหละ

49 Nameless Fanboi Posted ID:VD+EmL.17+

>>48
แต่ถ้าจะไปเที่ยว ผมขอเลือกทริปไม่ประหยัดเกินไปจะได้ไม่ต้องสุงสิงกับตลาดล่าง

และบ้านโครงการ 10 ล้านขึ้นไปนะครับ

ผมไม่ได้ดูถูกพวกเขานะ แค่ต้องปกป้องตัวเองและคนในครอบครัว

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

50 Nameless Fanboi Posted ID:oIQTtGZaKY

>>46 ตัวเลข 8% นี่จากไหนวะ
http://www.worldometers.info/world-population/thailand-population/ Thailand Population (LIVE) 69,264,724
บัตรคนจน 11.4 M
11.4/69.2 = 16% เลยนะ

51 Nameless Fanboi Posted ID:LCbvETYh.O

>>50 เส้นแบ่งความยากจนมันคนละเรื่องกับบัตรคนจน ของไทยที่บัตรนี้มีเยอะเพราะคนอยู่นอกระบบภาษีดันเยอะ ดูอย่างข่าวคนรวยมีบัตรนี้สิ แม่งจนที่ไหน แค่ไม่มีข้อมูลในระบบแค่นั้นละ

52 Nameless Fanboi Posted ID:Pkz6cCLYaW

>>51 เอาจริงๆ กูสงสัยว่าเส้นแบ่งความยากจนนี่วัดคนจนได้จริงป่าววะ คือถ้ายึดเส้นนี้ (สภาพัฒน์บอกคนมีรายได้เดือนละไม่เกิน 3,000 บาทมั้ง) ประเทศไทยไม่มีคนจนเลยนะมึง แต่ถ้าเอาตามค่าครองชีพกับรายได้ ก็ตามที่มีคนลงทะเเบียนคนจนนั่นละ ตัดพวกเนียนออกกูว่าก็ยังหลายล้าน

53 Nameless Fanboi Posted ID:oIQTtGZaKY

>>52 ตามนั้น
ถ้าจะให้ท้วงต่อ ที่ >>46 เอามาเทียบกัน ของเมกากับไทยมันใช้เกณท์ที่เอามาเทียบเคียงกันได้รึเปล่า สมมติของไทยเกณท์คือไม่พอกินในแต่ละวัน ของเมกาเกณท์คือพอกินแต่คุณภาพชีวิตต่ำ แบบนี้จะเอาตัวเลขมาเทียบกันดื้อๆได้เหรอ ถ้าจะเอามาเทียบมันต้องใช้ตัวเลขจากการวัดของเจ้าเดียวกันดิวะ ซึ่งมันก็คงมี(ซึ่งกูไม่อยากรู้ เลยไม่หา) แต่ทำไม >>46 ถึงใช้จากคนละแหล่งมาเทียบกันล่ะ
moreover ถ้าเหตุผลของ >>46 คือเพื่อแซะ >>27 ล่ะก็ คนแบบ >>27 ไม่ใช่คนที่จะอยู่ในเกณท์ยากจนอยู่แล้วอะนะ น่าจะถึงครึ่งบนด้วยซ้ำ แล้วเจตนาของ >>46 คืออะไรกันแน่

54 Nameless Fanboi Posted ID:LCbvETYh.O

>>52 วัดไม่ได้จริงหรอก แต่ก็ดูเป็นตัวเลขคร่าวๆ เทียบกับประเทศอื่นได้ ส่วนบัตรคนจนก็อย่างที่บอก คนนอกระบบไทยมันเยอะเกิน ตั้ง 50% แนะ ตัดครึ่งนึงก็เท่ากับตัวเลข 8% พอดี

55 Nameless Fanboi Posted ID:LCbvETYh.O

>>53 https://th.m.wikipedia.org/wiki/เส้นแบ่งความยากจน

มันใช้ตัวเลขคนละตัวกันอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ

56 Nameless Fanboi Posted ID:N9hsggNsox

กูว่าปัญหาหนักสุดที่ทำให้คน้านเราจนมันไม่ใช่เรื่องหารายได้ไม่เป็นนะแต่ปัญหาน่าจะอยู่ที่การใช้จ่ายอย่างสร้างสรรค์ไม่เป็นมากกว่า อันนี้ไม่ต้องไปดูคนจนหรอกแค่พวกชั้นกลางก็ใช้จ่ายเกินตัวไปกับเรื่องไร้สาระกันเยอะแล้ว

57 Nameless Fanboi Posted ID:zXyc8p27vI

เคยเชื่อว่าการจะแก้ไขปัญหาใด ๆ การอยากให้สังคมเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มจากตัวเรา

แต่วันเวลาผ่านไปก็ได้เรียนรู้ว่ามันไม่จริง

เกิดมาไม่เคยฝ่าไฟแดง แต่ทุกวันนี้คนก็ยังฝ่าไฟแดงเป็นว่าเล่น

ไม่ได้สนับสนุนร้านบนทางเท้านานแล้ว แต่ร้านบนทางเท้าก็ยังอยู่ได้ขายดิบขายดี

สุดท้ายถ้าขาดแรงผลักดันระดับมาโคร ปัญหาก็ไม่มีทางได้รับการแก้ไข ต่อให้เราทำดียังไงก็ไม่ช่วย

ประโยคว่าเริ่มต้นจากตัวเราจะจริงก็ต่อเมื่อปัญหานั้นมีผู้เกี่ยวข้องอยู่ไม่เยอะ เช่น ปัญหาในบริษัท แต่ถ้าเป็นปัญหาวงกว้างในระดับสังคม การที่คนทำดีเป็นคน ๆ ไปนั้นไม่ช่วยเลย

ที่ผ่านมาเคยมีส่วนแก้ปัญหาใหญ่ได้เรื่องนึงคือ การทำให้คนคิดว่าการใช้โปรแกรมแครกเป็นเรื่องผิด ซึ่งสุดท้ายก็เกิดจากความร่วมมือของ Thought Leader ซึ่งคุมสื่อดิจิตอลไว้ก็เลยทำให้เกิดขึ้นได้

พาวเวอร์ของคนมีอำนาจนั้นสำคัญกว่ามาก เป็นตัวกำหนดเลยว่าจะสำเร็จหรือพัง

แต่การเริ่มต้นจากตัวเราก็ควรทำอยู่ดี ไม่ใช่เพื่อเหตุผลอื่นใด แค่เราเป็นคนดีขึ้น ชีวิตสุขขึ้น นั่นก็ดีมากแล้ว

58 Nameless Fanboi Posted ID:CWCD/N+lPW

ผลการดีเบต
อพิสิด - เหล้าแม่โขงเก่าๆขวดกั๊ก
ทนาทอน - สก๊อตวิสกี้ เหล้านอกร้อนแรง
จาตุรน - บรั่นดีรสนุ่มละมุนลิ้น
มิ่งขวัญ - เบียร์ไทย สัมผัสได้ทุกชนชั้น
เสรีพิสุด - บุหรี่ ยาเส้น
อนุทิน - กัญชา
ไพบูน - กาว เมาเละเทะเลยนะมึงไอ่สัสสสส

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

59 Nameless Fanboi Posted ID:zNPYzdWJlQ

>>58 วลีจากลูกเพจดราม่า

60 Nameless Fanboi Posted ID:zXyc8p27vI

เฉพาะเดือนนี้ค่าใช้จ่าย 400,000+
ยิ่งจ่ายมากขึ้น ก็แปลว่า เราเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ ละ

61 Nameless Fanboi Posted ID:zXyc8p27vI

สินค้าที่ถูกมองเป็นหวยมากกว่าชาเขียว พอถึงวันที่ต้องมองเป็นชาเขียวกลับขายไม่ออก ตอนออกเป็นอิชิตันก็ดูเหมือนลอกยี่ห้อเก่าโออิชิ พอออกเย็นเย็นก็เลยโดนสวนกลับด้วยจับใจและด้วยราคาที่ถูกกว่า พอซื้อไบเล่ก็ทำรสชาติไม่อร่อยเหมือนสูตรเดิม พอทำเพจเฟซบุ๊คก็มีตันตัวปลอมหลอกเงินชาวบ้าน

62 Nameless Fanboi Posted ID:zXyc8p27vI

เคยสงสัยว่าตอบจบของไซอิ๋วคืออะไร เพราะสารภาพตามตรงว่าไม่เคยอ่านจริงๆจังสักที เคยฟังแต่เค้าเล่ามากับดูละครช่อง 3 รู้แต่ว่าเป็นนิยายที่แต่งขึ้นโดยยืมท่านเสวียนจ้าง ที่ไปอัญเชิญพระไตรปิฎกที่อินเดีย แต่แต่งให้มีอภินิหารอ่านสนุก ก็เท่านั้น ....

วันนี้เลยนั่ง google ดู กลายเป็นนั่งอ่านไป 4-5 ชั่วโมง แล้วก็ไปเจอที่เค้าเฉลยว่า ทำไมไซอิ๋วคือนิยายที่ทรงอิทธิพลของจีน ไม่ใช่แค่มันแฟนตาซีเท่านั้น แต่ไซอิ๋วคือการกางพระไตรปิฎกออกมาแล้วเขียนใหม่ในมุมนิทาน

รู้แค่ว่าพระถังคือศรัทธา จะไปชมพูทวีป ต้องมีศรัทธาก่อน พกจิตไปด้วยซึ่งจิตคนเรา ประกอบด้วย โทสะ - หงอคง โกรธ , โลภะ - ตือโป๊ยก่าย โลภ , โมหะ - ซัวเจ๋ง ความไม่รู้

ก็แค่นั้น จน Google เจอที่เค้าอธิบายแต่ละบทแบบละเอียด ทึ่งเลยในความสามารถของคนแต่ง

หงอคงแปลงกายได้ เหาะเหิน เดินอากาศได้ ทำอะไรก็ได้ เพราะหงอคง คือจิตคนเรา ที่เป็นลิง ไม่อยู่นิ่ง คิดไปเรื่อย แค่คุมให้ตามลมหายใจยังยากเลย ดังนั้น ถ้าเราคุมหงอคงได้ .... การไปชมพูทวีปจะง่ายขึ้น ... เป็นต้น
และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราโกรธ - โทสะ เราจะเหมือนหงอคง แผลงฤทธิ์ พังพินาศ ราบเป็นหน้ากลอง

แต่หงอคงแพ้อะไร ? โดนขังไว้ที่อะไร ? ใช่แล้ว แพ้ฝ่ามือยูไล โดนขังไว้ที่เขา 5 นิ้ว

ฝ่ามือยูไล และเขา 5 นิ้ว แทน ขันธ์ 5
ต่อให้จิตแน่แค่ไหนสุดท้ายก็ไม่พ้นขันธ์ 5
ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ

นอกจากนี้หงอคงยังมีกระบองวิเศษจัดการปีศาจได้ตลอด กระบองนั้นแทนปัญญา แต่ทว่า มีจิต กับปัญญา แค่นั้นมักเกิดปัญหา พระยูไลจึงประทานมงคล มารัดหัวไว้ ให้พระถังคอยดูแล มงคลนั้นก็แทน "สติ" ซึ่งมงคลเป็นรัดเกล้า 3 ห่วงคล้องกัน แทนไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา

ปีศาจแต่ละตัว แทนกิเลสที่เราต้องค่อยกำจัดออกไป

ตอนเจอกันครั้งแรกเห้งเจียบอกพระถังว่า
จะไปชมพูทวีปผมพา อาจารย์ตีลังกาไปได้ 7 ทีถึง
มามัวเสียเวลาเดินทำไมกัน ไม่เข้าใจ พระถังบอกว่าไม่ได้ต้องเดินไป

ปริศนาธรรมข้อนี้บอกว่า จิต+ปัญหา ฟังเค้าเล่า ฟังเค้าบอก คิดเอาเองก็บอกง่าย แปบเดียวก็ไปถึงนิพพานละ
เช่น เนี่ยคนเล่าให้ฟังอริยสัจ 4 ทางดับทุกข์ ฟังเข้าใจละ แต่จริงๆ แล้วไม่เข้าใจ ธรรมมะต้องลงมือปฎิบัติ เหมือนหงอคงบอกตีลังกาไป 7 ที มันไปไม่ถึง ต้องค่อยๆ เดินไป ศึกษาไป ปฎิบัติไป ถึงจะถึง

โป๊ยก่าย คือศีล 8 , ซัวเจ๊ง คือสมาธิ

ศรัทธา + ปัญญา + ศีล + สมาธิ จึงจะพ้นทุกข์

แต่บางครั้งปีศาจบางตัวก็เก่งเหลือเกิน
ต้องไปตามเจ้าแม่กวนอิมมาช่วย
เจ้าแม่กวนอิม คือ เมตตา

ปัญญา + เมตตา จะกลายเป็นสัมมาทิฏฐิ ธรรมชั้นสูงซึ่งปราบกิเลสได้เสมอ แต่เจ้าแม่กวนอิม มักให้เห้งเจียลองสู้จนหมดแรงก่อน ถึงมาช่วย เหมือนหากมีกิเลสควรให้ปัญญาลองขจัดดูก่อน เกินกำลังแล้วจึงให้เมตตาปล่อยวาง

ถ้าเกินกำลังเมตตา เจ้าแม่กวนอิมช่วยไม่ไหว
คนสุดท้ายที่มักมาช่วย คือ พระยูไล

พระยูไล แทน พระอริยสงฆ์ ท้ายที่สุดถ้าปฎิบัติไม่ไหวก็ถามผู้รู้เอา .... จบแน่นอน

ลำดับปีศาจแต่ละตัวในเรื่องก็เจ๋งมาก
เช่นเมื่อเริ่มเดินทาง ก็พบโจรทั้งหก ขัดขวางไม่ให้ไป
สุดท้ายเห้งเจียเลยเอากระบองตีจนตาย

โจรทั้งหกคือ อายตนะ 6 คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และอารมณ์ ต้องเอา ปัญญา (ตะบอง) ฟาดให้ตายก่อนถึงเริ่มออกเดินทางได้

แล้วก็เจอปีศาจไปเรื่อยๆ อ่านยังไม่จบ ท่าทางอีกหลายวัน

อ้อ แต่แอบโกงมาละ เปิดดูตอนจบ
สรุป ศรัทธา + ปัญญา + ศีล + สมาธิ เดินทาง
กำจัดกิเลสไปจนถึงชมพูทวีป แล้วได้อะไร

ตอนจบพระถังและคณะ มาถึงแม่น้ำแห่งหนึ่ง
สายน้ำเชี่ยวกรากมาก ไม่รู้จะข้ามไปยังไง
จนเจอเรือไร้ท้องเรือจอดอยู่ พระถังกังวลมาก
เรือไม่มีท้องเรือจะพาข้ามฟากยังไง

แต่สุดท้ายก็ยอมใช้เรือข้ามไป
แม่น้ำเชี่ยวกรากแทนกองกิเลส
เรือนั้นแทน สุญญตา ความไม่ยึดมั่นถือมั่น

เมื่อข้ามมาแล้วก็ถึงชมพูทวีป
และได้คัมภีร์มา เป็นหนังสือเปล่าหนึ่งเล่ม
แทนธรรมมะ ซึ่งคือความว่างเปล่า ...นิพพาน

แต่สุดท้ายเห้งเจียขอให้มีอะไรกลับไปจีนหน่อย
เพราะคนธรรมดาคงไม่เข้าใจ
เลยได้คัมภีร์มาอีกเล่มนึง เต็มไปด้วยอักษร
บันทึกการเดินทาง เรียกว่า พระไตรปิฎก ... จบ

อ่านแล้วคารวะคนแต่งเลย .... โห เก่งจัง

ปล. เข้าใจว่ามีหนังสือแปลที่ละบททีละตัวละคร ชื่อ "เดินทางไกลไปกับไซอิ๋ว" ว่าแล้วต้องไปหามาอ่านก่อน

ถามว่าถ้าพุทธ มีไซอิ๋ว แล้วคริสต์ละมีไหม

ว่ากันว่าของศาสนาคริสต์ คือ นาเนียร์
ใช่แล้วที่ทำเป็นหนัง มี 7 เล่มแทนบาป 7 ประการ

63 Nameless Fanboi Posted ID:CWCD/N+lPW

>>62 คหสต. นาร์เนียไม่ได้ลึกอะไรขนาดนั้น เพราะตั้งใจให้เป็นนิทานเด็ก
อ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นนิทานใส่อคติเรื่องศาสนาและการเมืองของคนเขียนมากกว่า
และ 7 เล่มนี่กูว่าไม่ได้เกี่ยวกับบาป 7 ประการด้วย

64 Nameless Fanboi Posted ID:zXyc8p27vI

My annual review was Monday. I was given a raise that was a single penny over inflation, and asked to sign a non-compete for a job that almost anybody can do.

I turned in my notice Monday.

My direct manager, who was a close friend was personally offended. She thinks I should have stayed around and worked twice as hard to prove to upper management I was "worth more."

65 Nameless Fanboi Posted ID:FxOXpp/HgC

"งงใจพวกปกป้องพรบ.ไซเบอร์มากเลย
ทุกวันนี้มึงยังด่าเรื่องตำรวจจับแพะ ยัดยา ทหารมาเฟียเบ่ง ข้าราชการข่ม
เนี่ย เอาแค่ตามปกติ มึงก็ไม่ได้เชื่อมั่นในตัวตนหรือดุลยพินิจเจ้าหน้าที่รัฐกันสักนิด สัมผัสกันได้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แล้วพรบ.ที่ออกมามันไปเพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่รัฐ abuse ได้ ก็เสือกออกมาปกป้องกันรัวๆ
ควยจริงๆ นี่แดกข้าวเป็นอาหารกันจริงๆรึเปล่าวะ"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

66 Nameless Fanboi Posted ID:PS2dwOWYx4

>>65 สลิ่มมันโง่แล้วโง่เลยหวะ พูดไงก็กู่พวกมันไม่กลับ

67 Nameless Fanboi Posted ID:0HC7BhFK28

การศึกษาของสแตนฟอร์ด

ผมเพิ่งรู้ว่า อธิการบดีคนใหม่ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดนั้น ไม่เคยเรียนหนังสือที่อเมริกามาก่อน (เดิมท่านเป็นชาวแคนาดา เรียนจบตรีที่แคนาดา และเอกที่อังกฤษ แล้วจึงค่อยย้ายมาสหรัฐฯ)

เมื่อวาน ที่มหาวิทยาลัยมีการจัดงานเสวนากับท่าน เกี่ยวกับประสบการณ์และวิสัยทัศน์เรื่องการศึกษา ผมฟังแล้วก็ได้กลับมาคิดทบทวนหลายอย่าง

มีคนถามท่านว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ท่านอยากได้ข้อคิดอะไรก่อนที่ท่านจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย

ท่านตอบว่า อยากให้มีคนบอกท่านว่า #คนเราไม่จำเป็นต้องวางแผนชีวิตทั้งชีวิตในวันแรกที่เข้ามหาวิทยาลัย นอกจากไม่จำเป็นแล้ว ยังเป็นไปไม่ได้ด้วย เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า โอกาสใดจะเข้ามาเมื่อไร และตัวเราเองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง

สแตนฟอร์ดดูเหมือนจะเป็นมหาวิทยาลัยที่ยืดหยุ่นที่สุด เด็ก ป.ตรีที่นี่เข้าเรียนวันแรกโดยยังไม่ต้องเลือกคณะ แต่ละคนค่อยๆ มาทดลองวิชาและเรียนรู้ว่าตัวเองชอบและสนใจอะไรในช่วงสองปีแรก จากนั้นจึงค่อยเลือกว่าฉันจะจบคณะไหน

ตัวท่านเองเรียนฟิสิกส์ตอน ป.ตรีที่แมคกิล ประเทศแคนาดา และได้ทุนไปเรียนตรีอีกใบที่ออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ซึ่งท่านเลือกเรียนปรัชญาและสรีรวิทยา จากนั้นจึงเรียนต่อ ป.เอก ด้านสรีรวิทยาที่ยูซีแอล แล้วจึงมาทำวิจัยด้านสมองที่สหรัฐฯ จนเป็นนักวิจัยด้านสมองที่มีชื่อเสียง เคยได้รับแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์ที่สแตนฟอร์ดอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วจึงย้ายไปบริหารบริษัทไบโอเทคขนาดใหญ่ ก่อนจะกลับมารับตำแหน่งอธิการบดี

นึกย้อนถึงวัยเด็ก ท่านบอกว่า ตัวท่านโชคดีสองเรื่อง หนึ่งคือ #ท่านได้รับการศึกษาที่กว้าง ไม่ใช่แคบอยู่เฉพาะศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่ง

วิชาที่กลับให้ประโยชน์มากที่สุดกับท่านคือ วิชาปรัชญา เพราะเป็นวิชาที่ค่อนข้างแตกต่างจากวิทยาศาสตร์ (ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญหลักของท่าน) เพราะในวิทยาศาสตร์ จะมีข้อมูลและข้อเท็จจริงชัดเจน แต่ปรัชญาเป็นเรื่องของการให้เหตุผลล้วนๆ ซึ่งช่วยฝึกวิธีคิดในเรื่องต่างๆของท่าน

สแตนฟอร์ดจึงให้ความสำคัญกับการศึกษาที่กว้าง, เมื่อวันก่อน เพื่อน ป.เอกของผมเพิ่งบอกว่า ไม่น่าจะมีมหาวิทยาลัยไหนอีกแล้วมั๊ง ที่การไปลงเรียนและทำวิจัยข้ามคณะง่ายเท่ากับที่สแตนฟอร์ด

ความโชคดีอีกเรื่องหนึ่งของท่าน คือสมัยที่ท่านเรียนมหาวิทยาลัย ท่านได้เจอ #ครูดีที่ช่วยแนะแนว แนะนำท่านว่า วิชาไหนน่าสนใจ ทุนการศึกษาไหนอาจเปลี่ยนชีวิตท่านได้ ฯลฯ

ท่านบอกว่า ในเรื่องนี้ นักเรียนของสแตนฟอร์ดจะต้องไม่ขึ้นกับโชคชะตาอย่างท่าน สแตนฟอร์ดจัดให้มีระบบครบวงจรที่จะแนะแนวและช่วยเหลือนักเรียน ตั้งแต่เรื่องการเลือกวิชา ทุนการศึกษา การเขียน การนำเสนองาน การหางาน การสร้างสรรค์ธุรกิจ ฯลฯ เด็กอยากทำอะไร อยากพัฒนาตนเองด้านไหน เรามีระบบพร้อมที่จะซัพพอร์ตเด็ก

มีคนถามท่านว่า เมื่อท่านเรียนจบ ทำไมท่านจึงเลือกมาทำวิจัยและทำงานในสหรัฐฯ? (ตอนนี้ท่านได้สัญชาติสหรัฐฯ แล้ว)

ตอนจบ ป.เอก ท่านได้ offer งานทั้งที่ลอนดอนและสหรัฐฯ แต่ท่านเลือกมาที่สหรัฐฯ ความคิดแรกก็แค่อยากทดลองของใหม่ๆ เพราะท่านไม่เคยอยู่ที่สหรัฐฯ มาก่อนเลย

แต่พอมาทำวิจัยและทำงานที่นี่ ท่านก็ติดใจ เพราะรู้สึกได้ถึง #พลังบวก พลังความเป็นไปได้ พลังความมั่นใจของคนที่นี่ และสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้คนใช้ศักยภาพของตนให้เต็มที่ ทุนวิจัยก็มีมาก และไม่ติดกฎระเบียบหยุมหยิม

ท่านบอกว่า ถ้าเป็นที่อื่น เวลาจะทำอะไรใหม่หรือบุกเบิกแนวทางใหม่สักอย่าง จะถูกตั้งคำถามมาก คุณทำอย่างนี้ได้ด้วยหรอ? นี่มันแหวกแนวเกินไป? แต่ถ้าเป็นวัฒนธรรมวิชาการของสหรัฐฯ กลับจะได้ยินว่า เฮ้ย น่าสนใจดี! ลองดูสิ! ถ้าล้มเหลวก็ไม่เป็นไร ก็เริ่มต้นและลองกันใหม่

เมื่อกลับไทยครั้งที่แล้ว ผมเจอน้องคนหนึ่งเพิ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ไทยแห่งหนึ่งได้ พูดคุยกัน เหมือนว่าน้องเขาจะเห็นภาพชีวิตข้างหน้าทั้งชีวิตเรียบร้อยแล้ว ("มีอะไรต้องคิดอีกล่ะครับ สอบเข้าคณะนี้ ก็ประกอบอาชีพนี้") พอคุยเรื่องการเลือกวิชา น้องเขาก็ดูเลือกได้ค่อนข้างจำกัดมาก ในเรื่องทัศนคติ น้องเขาดูเหมือนจะเตรียมไปรับถ่ายทอด "ความรู้" แต่เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่เตรียมไปฝึก "วิธีคิด" "วิธีถาม" หรือเอาความรู้ที่ได้มาเป็นฐานคิดเปิดเส้นทางอะไรใหม่ๆ

คนมักรู้กันว่า ตัว ม.สแตนฟอร์ดมีเงินเยอะมากเหลือเกิน เพราะเศรษฐีฝรั่งชอบบริจาคเงินให้กับมหาวิทยาลัย แต่ผมว่าสิ่งที่ทำให้มหาวิทยาลัยยิ่งใหญ่ คือ ทัศนคติต่อการศึกษามากกว่า

สาระของ "การศึกษา" คืออะไรครับ? คือการจำกัดกรอบ หรือการเปิดกะลา?, คือการจำสิ่งที่ถูก หรือพร้อมลองผิดลองถูกเพื่อสร้างสรรค์?, คือการตั้งไมค์กับกระดานให้พร้อม หรือการสร้างสภาพแวดล้อมให้นิสิตมีโอกาสพร้อมที่จะพัฒนาตนเองเต็มที่ตามศักยภาพที่เขาจะเป็นได้?

68 Nameless Fanboi Posted ID:0HC7BhFK28

จากภาพกรรมาธิการศูนย์ไซเบอร์ 5 คนที่แถลงข่าว ชาวเน็ตเอาภาพ 5 คนนี้มาล้ออย่างเมามันส์ ว่าลุคแบบนี้ ไม่น่ารู้เรื่องเน็ตหรือคอมหรอก ใช้เน็ตใช้คอมไม่เป็นหรอก ฯลฯ

ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ ฉันสรุปได้เลยว่า "การแต่งกายด้วยชุดไทย การไว้ทรงผมแบบไทย การมีหน้าแบบไทย การมีสีผิวแบบไทย และอายุที่เกิน 40" ทำให้ประชาชนไม่เชื่อว่าคนเหล่านี้จะมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์

เหมือนเป็นภาพลักษณ์ที่ฝังรากลึกในสมองคนไทยแล้วว่ะ ว่าความเป็นไทย หน้าตาแบบไทยๆ คือความโง่ ไม่ทันสมัย ล้าหลัง ไม่มีความรู้ ยิ่งบวกกับอายุที่เกิน 40 ยิ่งทำให้เชื่อไปกันใหญ่ว่าต้องไม่มีความรู้เรื่องคอมแน่ๆ

โดยที่ไม่มีใครคิดที่จะไปดูโปรไฟล์ของ 5 คนนี้เลย...

69 Nameless Fanboi Posted ID:.VBj5OpuzZ

"เดียร์ไม่ได้ทำเพื่อประชาชน เดียร์ทำเพื่อช่วยคดีผัว "
มิตรสหายท่านหนึ่งในยูทูป

70 Nameless Fanboi Posted ID:OWzddLHARs

>>67 Eng กับ US มีดรามาประมาณนี้ละ คน Eng มักบอกว่าคน US ไม่มีระเบียบแบบแผน ส่วนคน US ก็ว่าคน Eng อนุรักษ์นิยม

>>68 keyword น่าจะเป็นเรื่องอายุเป็นหลัก คือภาพจำของคนไทยส่วนใหญ่มักคิดว่าคนอายุ 40+ ไม่มีความรู้ด้าน IT อย่างลึกซึ้ง ยิ่ง 50+ ยิ่งแล้วใหญ่

71 Nameless Fanboi Posted ID:6IjuxUFWju

>>68 กูยังไม่ได้ตามข่าว ไม่รู้หรอกว่าไอ้ 5 คนที่ว่านี่โปรไฟล์เป็นไงหรือจบอะไรมา แต่เรื่องของ IT ไม่ใช่แค่มีโปรไฟล์ดีแล้วจบ เดี๋ยวนี้เรื่องในวงการนี้แม่งอัพเดตกันแทบจะวันต่อวัน เพราะงั้นคนที่เก่งในวงการนี้ คือคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับมันตลอด ติดตามอัพเดตข้อมูลใหม่ๆตลอด แน่นอนเสื้อผ้าทรงผมอายุหรือความเป็นไอ้ไทยมันไม่เกี่ยว แต่ถ้าจะยึดติดอยู่แต่โปรไฟล์อย่างเดียวก็ไม่แปลกที่จะโดนคนมองว่าโง่ล้าสมัยไร้ความรู้

72 Nameless Fanboi Posted ID:uIB+zENdS7

พวกเกิน 40-50 แต่เก่งไอที
/มองบิลเกต

73 Nameless Fanboi Posted ID:NIUvWREIB/

>>71 แล้วรู้ได้ไงว่าไม่อัพเดท มึงตัดสินจากอะไร

74 Nameless Fanboi Posted ID:6IjuxUFWju

>>73 มึงอ่านยังไงของมึงวะ กูยังไม่ได้ตัดสินเหี้ยอะไรเหอะ กูบอกไปตั้งแต่ประโยคแรกด้วยซ้ำว่ากูไม่ได้ตามข่าว ไม่รู้จักไอ้ 5 คนนั้น กูบอกแค่ว่าจะดูคนทำงานด้านนี้อย่าเอาแต่ยึดติดกับแค่โปรไฟล์

75 Nameless Fanboi Posted ID:bwV42KlJvD

เมื่อ10กว่าปีก่อน ผมทำงานอยู่แถวสหรัตนคร อยุทธยามีรุ่นพี่คนหนึ่งเงินเดือน15,000บาทไม่รวมโอที มีโอที2ทุ่มทุกวันตกๆเดือนละ2หมื่นกว่า ผมเห็นแกซื้อมาม่า1ห่อข้าวเหนียว10บาท ตอนพักเที่ยงแกจะขยำมาม่าใส่เครื่องปรุง แล้วเอาข้าวเหนียวมาจิ้ม กินเสร็จแกก็เก็บมาม่าส่วนที่เหลือเก็บไว้ พอพักเบรค5โมงเย็น แกก็เอามาม่ากับข้าวที่เหลือมากินต่อ แกทำอย่างนี้ทุกวัน ผมก็อดสงสัยไม่ได้ จึงถามแกไปตรงๆ พี่ทำไมไม่กินอาหารดีๆ เงินเดือนก็สูง แล้วเงินพี่จะเอาไปไว้ใหน พี่เขาบอกเก็บไว้ ผมนี่น้ำตาไหลพราก แสดงว่าทางบ้านพี่เขาต้องยากจน พี่เขาถึงเก็บเงินส่งบ้าน และลูกเมีย ผมยอมรับพี่เขาจริงๆ ผมก็เลยถามต่อไปอีกว่า พี่จะเก็บเงินไว้ทำอะไร ทำไมไม่หาความสุขใส่ตัว แต่คำตอบพี่เขา ทำไห้ผมร้องไห้เป็นครั้งที่2 พี่เขาบอก เก็บเงินไว้ดูดม้า #ก็อบมา

76 Nameless Fanboi Posted ID:Ys2gWnvGWQ

มีอยู่​ 2 ข้อที่เวลาเราไปเยี่ยมคนป่วยแล้วไม่ควรพูด
โดยเฉพาะคนที่ป่วยหนักหรือเป็นโรคระยะยาว
ตัวผมเองนั้นป่วยเป็นโรคร้ายแรงถึงชีวิต
ทั้งจากส่วนตัว​ และที่ได้พูดคุยกับผู้ป่วยท่านอื่นๆ
สรุปได้ว่ามีอยู่​ 2 ข้อความที่คนป่วยได้ฟังแล้ว
จะแอบมองบนอยู่ในใจนะครับ

1. "เดี๋ยวก็หายแล้ว"
ข้อความนี้บั่นทอนความรู้สึกได้ดีมาก
รวมถึงสามารถทำให้คนป่วยที่อารมณ์ดีๆอยู่
รู้สึกเซ็งขึ้นมาได้ในบัดดล

2. "สู้​ สู้"
คำนี้คือแบบว่า​ ...
ไม่บอกดีกว่าครับ​ เดี๋ยวโดนด่าแรง​ 555
แต่เอาเป็นว่าคำนี้​ เอาไว้พูดให้กำลังใจ
กับคนที่กำลังวิ่งตามรถเมล​์ให้ทันดีกว่าครับ
ไม่เหมาะเอามาพูดกับผู้ป่วย

บางคนอาจจะเถียงว่า
เคยถามคนป่วยคนอื่นแล้ว
เค้าบอกไม่เห็นจะเป็นไรเลย

ใช่ครับ​ เขาต้องตอบอย่างนั้นอยู่แล้ว
ตัวผมเองก็ตอบอย่างนั้นเช่นกัน

แต่ให้ลองสังเกตุสีหน้า
และอากัปกิริยาของเขาดูนะครับ
ว่าพูดไปแล้ว​ คนป่วยเค้าชะงัก
หยุดคิดอะไรนิดนึง
แล้วต่อด้วยยิ้มเจื่อนๆ
หรือพยักหน้าเออออตาม
แทนที่จะอารมณ์ดีสดใสขึ้นมาจริงหรือเปล่า
😅😅😅

อันนี้เป็นประสบการณ์จากคนป่วยหนักหลายๆคน
เล่าสู่คนที่ไม่เคยป่วยหนักๆให้ฟังกันนะครับ

77 Nameless Fanboi Posted ID:b38zu2QMI2

>>76 ได้ งั้นต่อไปจะไม่ไปเยี่ยมแล้ว

78 Nameless Fanboi Posted ID:BD8wDrbw6X

>>76 ไอ้มิตรสหายนี่ กูก็รออ่านอยู่นึกว่าจะมีบอกต่อว่าควรพูดยังไงถึงจะดี เสือกตัดจบซะงั้น หรือจะให้ถามตรงๆเลยว่าชีวิตมึงเหลือกี่เดือนวะดี

79 Nameless Fanboi Posted ID:wuLvTTRWz.

>>78 สงสัยต้องถามว่ายังอยากทำอะไรก่อนตายไหมไม่ก็เมื่อไหร่ตายวะมั้ง

80 Nameless Fanboi Posted ID:wW21pnN98D

>>79 ตายโดยสมัครใจไปเมื่อวานนี้เอง https//www.pptvhd36.com/news/99240

81 Nameless Fanboi Posted ID:wW21pnN98D

>>80 แก้ลิ้งค์ https://www.pptvhd36.com/news/99240

82 Nameless Fanboi Posted ID:ErupMyetvk

แนวทางอุดมการณ์ของผมคือ Christian democracy ครับ

ผมเชื่อว่า ประชาธิปไตยกับสิทธิมนุษยชนสมัยใหม่มันเป็นผลผลิตของวัฒนธรรมคริสเตียนยุโรป

แนวคิดนี้มันผ่านการวิวัฒนาการควบคู่กับศาสนาคริสต์มาตลอดประวัติศาสตร์ยุโรป

ทั้งสองเป็นเหรียญเดียวกันแต่คนละด้าน

คุณคิดว่าจอร์ช วอร์ชิงตัน เอาอะไรมาอ้างสิทธิ์ประกาศอิสระภาพ?

วิลเลี่ยม เวอเบอร์ฟอร์ท เอาอะไรมาอ้างสิทธิ์ทาส?

มาร์ตินลูเธอร์ คิงส์ จูเนียร์ เอาอะไรมาอ้างสิทธิ์คนผิวสี?

ดังนั้น เมื่อคุณไปพยายามอธิบายให้คนไทยยอมรับว่า "คนเราเท่ากันหมด ไม่ว่าฐานะ หรือการศึกษาใด ทุกคนควรจะได้สิทธิ์เท่ากันหมด" กับ "มนุษย์เราไม่ว่าจะทำผิดขนาดไหนก็ไม่ควรถูกประหารอย่างทารุณ เพราะเขามีสิทธิมนุษยชน" แม่งยากชิบหายครับ ลองดูได้

แต่ถ้าคุณไปโบสถ์แล้วบอกว่า "พระเจ้าสร้างคนมาเท่ากัน พระคำภีร์บอกแบบนั้น" กับ "พระคริสต์บอกว่าอย่าได้ตาต่อตาฟันต่อฟัน แต่จงยกโทษให้ศัตรู แล้วให้การแก้แค้นเป็นหน้าที่ของพระเจ้า เราเกลียดความบาปแต่ปรารถนาจะช่วยให้คนบาปกลับใจ" คนก็จะตอบกลับว่า "อาเมน"

การพูดเรื่องความเชื่อคริสเตียนทุกวันนี้คือการพูดเรื่องสิทธิมนุษยชนโดยอ้างพระเจ้า

การพูดเรื่องสิทธิมนุษยชนทุกวันนี้ก็เป็นการพูดเรื่องคำสอนของคริสเตียนโดยไม่พูดถึงพระเจ้า นั่นแหละครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

83 Nameless Fanboi Posted ID:8xZwJP++Sr

>>82 Inquisitor is waiting for you.

84 Nameless Fanboi Posted ID:zX07CjMmRT

>>82 มิตรสหายท่านนี้ เหมือนชอบศึกษาหาข้อมูลอะไรมาลงเพจเยอะนะ แต่ error inform บ่อยเชี่ยๆ ลูกเพจก็ไม่ค่อยมีใครขัด ไม่เข้าใจเหมือนกัน

85 Nameless Fanboi Posted ID:wtx08Z9Hld

>>84 เพจไหนเหรอ

86 Nameless Fanboi Posted ID:zX07CjMmRT

>>85 เจ้าของเพจมีผลงานไรต์โนเวล ที่คนญี่ปุ่นชม แต่ไม่มีแปลญี่ปุ่น ไม่เคยขายในญี่ปุ่น และคนที่ชมก็ไม่เคยอ่าน เพราะเขาชมปกไม่ได้ชมหนังสือ น่าจะมีเจ้าเดียวนะ

87 Nameless Fanboi Posted ID:7OU+L4V+2B

>>86 อ้อ ตานี่เอง บางทีข้อมูลมันไม่ได้ผิดหรอก แต่จับมาเฉพาะที่เข้าข้างตัวเองแล้วตีความเข้าข้างตัวเองตลอด อ่านเอาขำๆ ได้ สมกับเป็นนักแต่งนิยายดี

88 Nameless Fanboi Posted ID:SQ8nR.xmFY

กำลังรอดูว่า LN หะริดกับภาณุ (ในไวมาร์เยอรมัน) ของใครจะสนุกกว่ากัน

89 Nameless Fanboi Posted ID:Ys2gWnvGWQ

#ลาออกจากราชการ งานที่ใครๆก็บอกมั่นคง

ถ้าไปเจอผู้ใหญ่หลายๆคน ก็จะชื่นชมกับเราที่ได้เข้ารับราชการ ได้มีงานที่มั่นคง มีหน้ามีตา มีตำแหน่ง เลี้ยงดูครอบครัว เลี้ยงดูตัวเองได้ในชีวิตบั้นปลาย แต่เด็กๆยุคใหม่ คงมีคำถามในใจว่า “จริงหรอ?” เราจะอยู่ได้ยังไงกับเงินเดือนที่ไม่สมดุลกับภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ? ในโลกที่หมุนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ ทำให้เด็กรุ่นใหม่มีความคิดที่ไกลและเก่งมากขึ้นกว่าเดิม อย่างเช่น “ผู้กองเบนซ์”

“ผู้กองเบนซ์” (ร.ต.อ.สี่ทิศ อ่ำถนอม) คุณพ่อรับราชการทหาร ลาออกมาทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และปั๊มน้ำมันกับครอบครัว จนสุดท้ายธุรกิจมีปัญหา ทำให้เปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่เคยอยู่สบาย ต้องเปลี่ยนโรงเรียนและพ่อแม่ก็ต้องแยกกันไปหารายได้ เด็กชายเบนซ์ มีความฝันเหมือนเด็กผู้ชายคนอื่น คือ อยากใส่เครื่องแบบรับราชการ ได้งานที่มั่นคง จึงพยายามและตั้งใจ จนสุดท้ายก็คว้าความฝันมาได้ ต่อมาพ่อเสีย แม่ก็ไม่มีรายได้ น้องชายยังเรียนไม่จบ แถมยังเป็นหนี้ธนาคารอีกเกือบ 2 ล้าน ทำให้ต้องมองหาวิธีสร้างรายได้อยู่เสมอ แต่ก็ติดที่ว่า เป็นตำรวจ โดยเฉพาะ ตชด.ใต้ มันไม่มีเวลาว่างพอที่จะแอบไปทำธุรกิจได้เลย จึงกะล๊อกก๊อกแก๊กอยู่กับเบี้ยเลี้ยงลุ่มๆดอนๆ เงินเพิ่มค่าสู้รบ เงินเสี่ยงภัย นู่นนี่นั่นมาตลอด เรียกว่าแต่ละเดือนนี่ชักหน้าไม่ถึงหลัง นอกจากหนี้ในระบบแล้ว ยังมีหนี้นอกระบบอีกบานเบอะ จึงพยายามใฝ่หาความรู้และพัฒนาตนเอง จนกระทั่งมาพบกับโอกาสในการสร้างรายได้ด้วยสติ๊กเกอร์ไลน์ และมันก็ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล เขาสามารถสร้างรายได้จาก”หนึ่งหมื่นกลายเป็นหนึ่งล้านต่อเดือน” สุดท้ายก็ตัดสินใจลาออกจากราชการ เพื่อมาทำธุรกิจเต็มตัว

ปัจจุบันได้ผันตัวเองมาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำ Personal Branding, Facebook Live และ Facebook Marketing เป็นวิทยากรบรรยายให้ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงวิทยากรในสัมมนาทางธุรกิจต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น เวียดนาม และลาวด้วย

90 Nameless Fanboi Posted ID:urocqYKuEe

>>88 ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้ตรอมตรมก็ดีอยู่นะ แต่มันเป็นรวมเรื่องสั้น ส่วนคดีดาบลาวยาวแดงอ่านแล้วง่วง

91 Nameless Fanboi Posted ID:40RJIQId5X

จริงๆ กูก็อยากทำได้เหมือนหลายคนใน Facebook ที่แม่งโพสต์แต่เรื่องดีๆ โพสต์ชมคนนั้นว่าดี คนนี้ว่าดี คนโน้นเก่ง คนนั้นน่าชื่นชม อุ้ย สถานที่นั้นดี อุ้ย สิ่งโน้นยอดไปเลย อุ้ย โครงการนี้ดีงามมาก
ไม่ว่าสังคมประเทศนี้จะมีเรื่องเหี้ยห่า ระยำ อับปรีย์ จัญไร ชั่วช้ามากมายแค่ไหน ก็จะไม่โพสต์ถึงเลย แบบว่า ไม่เอาเรื่องไม่ดีไม่งามเทาๆดำๆในสังคมมาบ่นด่าวิจารณ์ลงใน Facebook เด็ดขาด ฉันจะให้พื้นที่ของฉันเป็นสีขาว สีชมพู สีรุ้ง เท่านั้น
ซึ่งยังไงๆกูก็ทำแบบเค้าไม่ได้ อีเหี้ย! เค้าทำได้ไงวะ แล้วทำไมกูทำไม่ได้อย่างเขา
33

92 Nameless Fanboi Posted ID:p6yB89mvIH

>>82
"ประชาธิปไตยกับสิทธิมนุษยชนสมัยใหม่มันเป็นผลผลิตของวัฒนธรรมคริสเตียนยุโรป"
ประชาธิปไตยเกิดในกรีซ ศาสนาของกรีซคือศาสนาหลายพระเจ้าหรือก็คือPaganที่คริสเตียนเกลียดยิ่งกว่าอะไร

สิทธิมนุษยชนเกิดจากยุคEnlightenmentที่นักคิดประกาศแนวคิดเรื่องNatural Lawsขึ้นมาเพื่อต่อต้านแนวคิดDivine Rights of King(แนวคิดที่ถูกหนุนด้วยคริสเตียน) จนกระทั่งสิทธิมนุษยชนมาเป็นตัวเป็นตนในหนังสือRights of Man (1791)โดยโทมัส เพนท์ ซึ่งเพนท์เป็นหนึ่งในFounding Fatherของอเมริกา เป็นคนที่ต่อต้านการใช้ศาสนาคู่กับรัฐ(ตรงนี้Founding Fatherทุกคนเห็นพ้องต้องกันหมด)

อนึ่ง God ในความหมายของFounding Fathersที่มีอยู่ในDeclaration of Independence(ที่เขียนส่วนใหญ่โดยโทมัส เจฟเฟอสัน จอร์จแค่ประกาศเฉยๆ) เป็นพระเจ้าแบบDeism ก็คือพระเจ้าแบบที่สร้างจักรวาลเสร็จแล้วก็ช่างหัวมัน ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ซึ่งไม่ใช่พระเจ้าของคริสเตียนmainstream พระเจ้าของคริสเตียนเมนสตรีมคือพระเจ้าแบบOmni(รู้ทุกอย่าง ทำได้ทุกอย่าง อยู่ทุกที่ และขี้เสือก)

อสอง คำว่า "In God We Trust" บนเงินอเมริกันมีในสมัยไอเซนฮาวเออร์ ทำแบบนั้นเพื่อที่สร้างความแตกต่างจากพวกคอมมูนิสต์(คอมมูนิสต์เป็นเอทีส) ไม่ได้มีมาตั้งแต่ต้น

William Wilberforce (ไม่ใช่'เวอเบอร์ฟอร์ท' กูงงตั้งนานว่าใคร) กับ MLK อ้างพระเจ้าจริง ไม่เถียง

แต่อย่างอื่นผิดหมด

พิมพ์มาซะยาว ใครรู้จักมิตรสหายขี้เบียวมั่วข้อมูลท่านนี้ช่วยแคปไปส่งหน่อย อยากดูว่าจะแถยังไง

-โม่งสหายท่านนึง

93 Nameless Fanboi Posted ID:iUkV9iHcOC

>>92 ไม่กล้าอ่ะครับ กลัวโดนแบน

94 Nameless Fanboi Posted ID:40RJIQId5X

อ่านในเพจต่างๆหลายสิบเพจ มีหลายคนด่าว่า "ทำไมรัฐบาลต้องช่วยหนังไทย" "ทำไมคนทำหนังต้องเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือ" คืออย่างงี้ ฉันจะอธิบายให้ฟังนะ

รัฐบาลประเทศพัฒนาแล้วทุกประเทศ เค้าช่วยสนับสนุนหนังประเทศเค้าเองทั้งนั้น ทั้งอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส อังกฤษ ฯลฯ ทั้งช่วยเหลือทุนสร้าง ช่วยโปรโมทประชาสัมพันธ์ ช่วยนำหนังออกขายทั้งในและต่างประเทศ ช่วยกวาดล้างการละเมิดลิขสิทธิ์ ช่วยหาโรงฉายหนังดีๆให้ ฯลฯ

เพราะรัฐบาลเขามองว่าภาพยนตร์คือ "สินค้าพาณิชย์ศิลป์" สามารถสร้างเม็ดเงินเป็นหมื่นล้านหมุนเวียนในประเทศได้

ในเมื่อรัฐบาลไทย กระทรวงพาณิชย์ไทย สนับสนุนงานพาณิชย์ศิลป์ เช่น งานจิตรกรรม งานประติกรรม งานแกะสลัก งานทอผ้า งานเครื่องทอง ฯลฯ ส่งออกขายทั่วโลก แล้วทำไมถึงไม่สนับสนุนหนังไทย ซึ่งเป็นงานพาณิชย์ศิลป์เหมือนกันล่ะ?

ทีนี้ เห็นมีหลายคนด่าว่า "หนังไทยห่วยทุกเรื่อง รัฐบาลไม่ควรช่วยเหลือ" "ทำหนังไทยห่วยเอง ทำไมต้องให้รัฐบาลช่วยวะ"

ต้องถามกลับว่า คนที่ด่าเนี่ย ดูหนังไทยครบทุกเรื่องหรือยัง รู้ไหมว่า มีหนังไทยเข้าฉายปีละ 50 - 70 เรื่อง หากนับตั้งแต่ปี 2550 - 2561 มีหนังไทยรวมกว่า 600 เรื่อง คุณดูหมดทั้ง 600 เรื่องแล้วเหรอ ถึงฟันธงว่าหนังไทยห่วยทุกเรื่อง

ฉันอยากจะบอกว่า ใน 600 เรื่องนี้ มีหนังไทยที่ได้คะแนนสูงถึง 3ดาว 4ดาว กว่าครึ่งนะ ถ้าเทียบอัตราส่วนหนังดีๆ เรามีมากพอๆกับหนังอเมริกา ทั้งๆที่เราใช้ทุนสร้างน้อยมาก ตามงบของประเทศยากจน

ถามกลับคนที่ด่าหนังไทยว่า ในบรรดาหนังดีๆกว่า 300 เรื่อง ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา พวกคุณรู้จักหนังเหล่านี้ถึง 100 เรื่องไหม แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยินชื่อหนังดีๆเหล่านี้

เพราะหนังไทยดีๆกว่า 300 เรื่อง "ไม่มีงบโปรโมทหนัง และไม่มีโรงฉายไง" คนไทยส่วนใหญ่ถึงไม่รู้จักและไม่เคยดูหนังเหล่านี้ แล้วด่าเหมารวมว่าหนังไทยห่วยทุกเรื่อง

นั่นแหละคือสิ่งที่คนทำหนังต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ คือ การนำหนังดีๆจากค่ายเล็กๆออกสู่สายตาคนทั้งในและต่างประเทศ ส่งออกไปทั่วโลก และส่งเสริมงบประมาณให้ค่ายหนังที่ผลิตหนังดีๆ ค่ายหนังที่กล้าสร้างหนังที่มีความหลากหลายด้านเนื้อหา

ขนาดเกษตรกรรายย่อยปลูกพืชแล้วเจ๊ง รัฐบาลยังเข้ามาช่วยเหลือ หาทุน หาช่องทางการตลาดให้ แล้วทำไมผู้หนังรายย่อย ที่สร้างหนังดีๆ รัฐถึงไม่ให้ความช่วยเหลือล่ะ

ข้อนี้สำคัญ ประเทศอื่นๆเค้าเอาภาพยนตร์ไปอยู่ในการดูแลของ "กระทรวงพาณิชย์" วงการหนังประเทศเขาจึงได้รับการช่วยเหลือด้านการค้าขายอย่างเต็มที่
แต่ปัญหาของไทยคือ ดันเอาภาพยนตร์ไทยไปอยู่ในการดูแลของ "กระทรวงวัฒนธรรม" ซึ่งไม่ได้ทำหน้าที่ส่งเสริมด้านการค้าขาย ก็เลยไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกวิธี

จบ

95 Nameless Fanboi Posted ID:QmOb64PVnT

คิดวิธีแก้ไขปัญหามุสลิมขึ้นมาได้

1. เราต้องตีความเรื่องสิทธิของนักบวชใหม่ ในศาสนาอิสลาม คนทุกคนคือนักบวช ไม่มีแบ่งเป็นพระ เป็นคุณพ่อเหมือนศาสนาพุทธ คริสต์ และในเมื่อนักบวชพุทธ คริสต์ ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง นักบวชอิสลามก็ไม่ควรมีสิทธิเลือกตั้งด้วย ดังนั้นมุสลิมจึงไม่ควรมีสิทธิเลือกตั้ง

2. นักบวชนั้นไม่สามารถเป็นข้าราชการได้ ดังนั้นตามเหตุผลในข้อ 1 มุสลิมจึงไม่สามารถเป็นข้าราชการได้ ต่อจากนั้นสมควรเพิ่มเติมข้อความในหมวดความผิดร้ายแรงของวินัยข้าราชการว่า "ห้ามกระทำการอันเอื้อไปสู่การเผยแผ่ศาสนาในเวลาราชการ" ดังนั้น หากข้าราชการมุสลิม (ที่เป็นอยู่ก่อนกฎหมายนี้ใช้บังคับ) ทำการละหมาดหรือกล่าวดุอาห์ในที่ทำงาน จะถือว่าผิดวินัยร้ายแรงและต้องถูกไล่ออกจากราชการโดยไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญ

3. ทำการเก็บภาษีนักบวชในอัตราที่สูง และด้วยเหตุผลในข้อ 1 ทำให้มุสลิมทุกคนต้องเสียภาษีเพิ่มเติมจากภาษีเงินได้ที่เสียอยู่

4. เก็บภาษีศาสนกิจในสถานประกอบการเอกชน หมายความว่า หากหน่วยงานเอกชนใดเอาเรื่องศาสนามาเกี่ยวข้องกับที่ทำงาน เช่นว่าจัดงานบุญประจำปีบริษัท เอาพระมาเจิมประตู ก็ต้องจ่ายภาษีให้กับรัฐด้วย และในเมื่อมุสลิมถือเป็นนักบวชตามข้อ 1 หากบริษัทไหนรับมุสลิมเข้าทำงาน ก็จะต้องเสียภาษีเพิ่มเติมให้แก่รัฐ คูณด้วยจำนวนวันที่มุสลิมมาทำงานที่บริษัทในรอบปีภาษี

5. ห้ามนำนักบวชเข้ามาสอนหนังสือในโรงเรียนที่ได้รับการรับรองหลักสูตรจากรัฐ คือ สามารถสอนวิชาศาสนาได้ แต่ห้ามนำพระเข้ามาสอน ในกรณีของมุสลิมนั้นให้ยึดตามข้อ 1 คือมุสลิมทุกคนเป็นนักบวช เพราะฉะนั้นมุสลิมจึงไม่มีสิทธิเป็นครู ไม่ว่าจะเป็นวิชาใดก็ตาม นี่จะทำให้โรงเรียนสอนศาสนาต้องปิดไปโดยปริยาย

6. ทุกศาสนสถานต้องมีคณะกรรมการไม่น้อยกว่า 7 คนเพื่อดำเนินกิจการต่าง ๆ โดยคุณสมบัติของกรรมการนั้นคือต้องไม่เป็นนักบวช ด้วยเหตุผลข้อ 1 มุสลิมจึงไม่สามารถเป็นคณะกรรมการสุเหร่าได้ และสุเหร่าทุกแห่งจะต้องปิดตัวลงเนื่องจากขัดกับข้อกำหนดของกฎหมาย เว้นแต่จะให้คนต่างศาสนิกมาเป็นคณะกรรมการสุเหร่า

7. ห้ามนักบวชเข้าเรียนในสถาบันระดับอุดมศึกษาของรัฐและสถาบันระดับอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ

อันนี้คือมาตรการขั้นต้น สำหรับมาตรการขั้นกลางและขั้นสุดท้ายนั้นจะแจ้งให้ทราบต่อไป หากเห็นด้วยก็ฝากแชร์ไปให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้ทราบด้วยนะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

96 Nameless Fanboi Posted ID:qPiyC06GL4

>>95 เอาข้อ 5 กับ 7 นี่ก็เตรียมวอร์กับกิลด์ Monk ได้เลย

ข้อ 5 นี่ไปดูตามโรงเรียน พระสงฆ์ทั้งนั้นที่สอนพุทธศาสนา ส่วนข้อ 7 มหาลัยสงฆ์เดี๋ยวนี้เปิดวิชาสังคมศาสตร์ทางโลกกันหมดละ

97 Nameless Fanboi Posted ID:83Ubu6nTLo

>>94 แต่ไอ้ต้นเรื่องนะกระทรวงวัฒนธรรมเขาช่วยเหลือทุกอย่าง ตั้งแต่ออกเงิน พาไปหานายทุนที่ต่างประเทศ แล้วก็ไปหาช่องทางฉายต่างประเทศด้วยนะ แต่ผกก.ดันไปบอกว่ารัฐไม่ช่วยเหลือ จนโดนคนให้เงินตบหน้าแหกบนเวทีนั่นละ

98 Nameless Fanboi Posted ID:QmOb64PVnT

>>96 มีพระสอนในโรงเรียนจริง แต่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอาพระมาสอน เอามาสอนทำไม ครูสังคมมึงขี้เกียจรึ ถ้าอยากให้ซึมซับมากก็เอาไปเข้าค่ายธรรมะ หรือไม่ก็ไปเรียนที่วัดก็ได้ ส่วนมหาลัยสงฆ์ ก็เปลี่ยนให้เป็นมหาลัยเอกชนไป โดยให้ฆราวาสดูแล ไม่เห็นจะยากอะไร

99 Nameless Fanboi Posted ID:6o+Y4hPRUQ

>>95 ออกนโยบายสุดโต่งแบบนี้มาพวกมุซซี่ลงใต้ดินแฝงตัวเงียบๆกลายเป็นโคตรเครือข่ายกองโจร ไม่ก็คลั่งก่อจลาจลขึ้นมา จะยิ่งชิบหายกว่าเดิมนะ

100 Nameless Fanboi Posted ID:5uh4wnZ4Zo

>>98 เขาเน้นให้พระเรียนวิชาทางโลก เพราะไม่มีใครรู้หรอกว่าจะบวชได้ตลอดชีวิตไหม ถ้าเบื่อๆ แล้ว อยู่ไม่ไหว สึกออกไปก็ยังมีวิชาติดตัวไปประกอบอาชีพได้ ก็เหมือนโรงเรียนทหารละ เดี๋ยวนี้นายร้อยเหล่าต่างๆ เขาปรับหลักสูตรอิงคณะวิศวะ - วิทยาของ ม.ปกติ หมดละ เพราะถ้าวันนึงรู้สึกว่าทหารไม่ใช่อาชีพที่ตัวเองชอบ จะได้ลาออกไปทำอย่างอื่นได้ ไม่ต้องทนอยู่แล้วก็เป็นนายพลแก่ๆ ให้เด็กมันด่าเล่นแบบตอนนี้

101 Nameless Fanboi Posted ID:aQLsgjk32V

https://thaipublica.org/2019/02/econoarchaeology9/

ภาษาไทยค่ะ ยาวหน่อยมีข้อมูลเกี่ยวกับเมืองโบราณศรีเทพด้วย

#savesithep เพิ่มเติมนะคะเรื่องการขุดเจาะน้ำมันที่ศรีเทพ สิ่งที่น่าสังเกตมากที่สุดก็คือการที่การจัดฟังความเห็นและทำแผน EIA เกิดขึ้นระหว่างช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการเลือกตั้ง เป็นตัวอย่างที่ดีของกลุ่มบริษัททุนยักษ์ใหญ่อาศัยความวุ่นวายผ่านเรื่องออกมา อย่างมากก็มีเสียงค้านจากชุมชน หอการค้าภายใน ไม่ได้เป็นกระแสอะไรมากมายที่จะทำให้โดนกดดันให้ดูว่าโบราณสถานดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ใด ไม่พูดเรื่องสถานะของเขาคลังนอกในฐานะโบราณสถานนะคะ แต่เอาเรื่องนี้ก่อนเลย

1) หลุม STN-2 ใกล้หมู่บ้านแทบจะประชิด ถามว่าน้ำบาดาลเสียมั้ยคะที่จะขุดเนี่ย อำเภอศรีเทพมีประชากร 8,703 คน ตำบลศรีเทพซึ่งคือตำบลที่จะเสนอให้มีการขุดเจาะแม้ไม่มีข้อมูลสถิติถามว่าคนที่จะได้รับผลกระทบจากการที่ไปขุดน้ำมันหลังหมู่บ้านเค้าทำอย่างไร แรงสะเทือนไม่ได้มาแต่จากกิจกรรมการขุดเจาะแต่มีเรื่องการขนส่งด้วยบ้านของชาวบ้านจะไม่พังหรือ?

2) บริษัทมีความพยายามมาทาบๆเคียงๆที่อุทยานศรีเทพนานแล้วแม้กระทั่งเข้ารวมงานบูชาเจ้าพ่อศรีเทพ แต่อยู่ๆก็มาจัดฟังความเห็นตอนนี้ มีเหรอคะจะไม่รู้ว่ากรมศิลป์และชาวบ้านจะค้าน มีเหรอจะไม่รู้ว่าจะมีการยื่นแผนยูเนสโก้ แล้วอะไรทำให้เอกสารข้อมูลในการฟังความเห็นมีคำว่า "โบราณคดี" อยู่แค่สองจุด? เป็นเพราะบริษัทรู้ว่าการประเมิน EIA เรื่องมรดกทางวัฒนธรรมไม่ใช่เกณฑ์ใหญ่ยังไงถ้าเอาการประเมินแค่สิ่งแวดล้อมตามแผนทำกันมาก็ผ่านได้ตามแบบที่เคยทำมา แล้วที่สำคัญกรมศิลปากรไม่มีอำนาจเรื่องนี้

3) ต่อให้ต้องย้ายหลุมก็คุ้มเพราะถ้าไม่ผ่านบริษัทก็แค่เสนอย้ายที่ขยับออกมาจากเขาคลังนอก แล้วเมืองศรีเทพหล่ะ? บริเวณเมืองโบราณรอบๆเต็มไปด้วยบ่อน้ำโบราณและโบราณสถาน โบราณสถานย่อยเหล่านี้จะรอดหรือไหนจะบ้านชาวบ้านอีก ทัศนียภาพในการยื่นแผนยูเนสโก้ก็เสีย

4) เขาคลังนอกมีลักษณะในการเป็นพื้นที่ศาสนสถานด้วย เรื่องนี้ไม่อยากพูดมากแต่ถ้าให้เปรียบก็เหมือนไปขุดบ่อน้ำมันหน้าวัดพระศรีสรรเพชรญ์ดีๆนี่เอง เพราะนอกจากจะเป็นโบราณสถานแล้ว เขาคลังนอกยังเป็นสถานที่สักการะของชาวพุทธในพื้นที่ เป็นมาพันกว่าปีแล้วและยังคงเป็นต่อไป

เกมส์นี้จะให้เงียบไม่ได้ค่ะ เพราะข่าวไม่สนใจ นักการเมืองมัวแต่เถียงกัน อิทธิพลท้องถิ่นกับบริษัทก็จะทำอะไรแบบนี้ได้ อย่าให้ กผ อนุมัติแผนเด็ดขาดแล้วที่สำคัญ ต้องตีวงล้อม 5 กิโลรอบศรีเทพไปเลย เพราะในการประเมิน EIA ก็ใช้หลักระยะเดียวกันประเมินเขจผลกระทบ ต้องไม่ให้มาขุดเจาะในพื้นที่รอบโบราณสถานโดยเฉพาะให้เขตพื้นที่คาบเกี่ยวที่อาจจะส่งผลกระทบในวงกว้างได้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

102 Nameless Fanboi Posted ID:40RJIQId5X

วันนี้นั่งฟังพ่อค้าร้านข้างทางที่มาตั้งร้านบนฟุตบาทจัลกลุ่มคุยกัน

เรื่องมีอยู่ว่า มีคนไปร้องเรียน (เราเปล่านะ) ว่าร้านข้างทางมาตั้งร้านล้ำหรือแม้กระทั่่งตั้งมันบนฟุตบาทเลย ทำให้ไม่มีทางเดิน และร้านพวกนี้มักจะเอาขยะไปวางกองกันไว้หน้าปากซอย แทนที่จะเก็บรอรถขยะผ่านมารับ

พ่อค้าร้านหนึ่ง: เค้าร้องเรียนอะไร ขายบนฟุตบาท?

พ่อค้าหัวร้อน: กูขายของกูบนฟุตบาทแบบนี้มาตั้งสามสิบปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหา มันเป็นใครวะ

พ่อค้าร้านหนึ่ง: แต่ตั้งล้ำฟุตบาทมันก็ผิดกฎหมายจริง ๆ นะ

พ่อค้าหัวร้อน: ไอ้พวกคนรวยขับเบนซ์ท้ายซอยพวกนี้นี่แหละที่ร้องเรียน ชอบบีบแตรหาว่าขวางถนน.. เดี๋ยวก่อน กูจะไปออกรถเก่า ๆ ทำประกันชั้นหนึ่งแล้วมาขับรถชนมันแม่งเลย ตำรวจไม่จับอยู่แล้ว
.
.
.
.
คนแบบนี้นี่น่ารังเกียจ ตัวเองทำผิดกฎหมายมาสามสิบปี เอาเปรียบสังคมมาสามสิบปี ยังจะมีหน้ามาทำกร่างอีก ไม่ต้องไปโทษรัฐบาล โทษตำรวจ โทษคนอื่น ๆ หรอก ส่องกระจกดูตัวเองบ้างว่าตัวเองมีส่วนรั้งความเจริญของชาติมากแค่ไหน

103 Nameless Fanboi Posted ID:b1ymR0RQWU

>>102 อ่านแล้วซึ้ง ลุงตู่อยู่ต่อนะ

104 Nameless Fanboi Posted ID:5uh4wnZ4Zo

สงครามชนชั้นเลย

105 Nameless Fanboi Posted ID:IjCmV+keCH

ผมสังเกตมาซักพักหละว่าบริษัทของอีลอน ขึ้นชื่อเรื่องดูแลพนักงานไม่ดี กดดัน ดูถูก สารพัด เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
สตีฟจ๊อบ ก็อีกคนที่ดูแลไม่ดี แต่สตีฟจ๊อบพร้อมจะจ่ายเงินเสมอ
เทียบกับทรัมป์ ทรัมป์บอกพนักงานที่เป็นมะเร็งว่า ค่ารักษาทั้งหมด ที่เบิกไม่ได้ ให้เอามาตั้งบนโต๊ะผม ทั้งๆ ที่บริษัทกำลังขาดทุน

ผมว่าบริษัทขออีลอนด์ ควรจะโดนตรวจสอบเรื่องธรรมาภิบาล

106 Nameless Fanboi Posted ID:IjCmV+keCH

ถือว่าตัดขาดกันอย่างเป็นทางการในความตอแหล เอาดีเข้าตัว ใครงงอะไรกูมีหลักฐานหมดอะ รู้แค่ไม่พูดแต่มีคนมาบอก ดูความตอแหลของคนมันสนุกกว่าเยอะ กูไม่เคยไม่ชอบใครโดยที่ไม่มีเหตุผลอยู่แล้ว เรื่องนี้มันเกิดจากที่คน 3 คนเป็นเพื่อนกัน แล้วมีอีดอกตัวนึไปป่าวประกาศเอาดีเข้าตัว เอาเรื่องเสียๆหายๆของเพื่อนไปป่าวประกาศให้คนนอกรับรู้ ซึ้งตอนนี้กูไม่รู้แล้วว่ามีใครรู้เรื่องนี้เท่าไหร่บ้าง ซึ้งคำว่าเพื่อนสนิทมันไม่ควรทำสันดารแบบนี้ คนเราควรมีจิตสำนึกป่ะวะ
ขนาดตอนเคลียกันกูถามว่ากูเคยทำอะไรให้มึงไม่พอใจหรอ? มึงถึงเอากูไปนินทาแบบนี้แล้วเอาดีเข้าตัวแบบนี้ ซึ้งแม่งก็ตอบเหี้ยไรมาไม่รู้ ซึ้งอยู่กัน 5-6 คนยังฟังไม่รู้เรื่องเลย แล้วงงว่าเอาคนอื่นเข้ามายุ่งเรื่องนี้ทำไม ไปยุยงให้คนอื่นเค้าทะเลาะกัน มันควรเคลียให้จบแค่ 3 คนซึ้งคนอื่นบอกเคลียจบแล้ว แต่คำตอบที่กูได้กูยัวจำใจความไม่ได้เลย นี้คือคำว่าเคลียแล้วหรอวะ พอใีปัญหา บอกว่าตั้งแต่หนู 3 คนเข้ามามีปัญหาไม่หยึด ซึ้งมาเคลียจริงๆ มีคลี่คลายปัญหา มันมาจากใครอะ ใครเป็นครเริ่มนำคนอื่นเข้ามา
แล้วอันนี้คือเรื่องส่วนตัวกูกับอีดอกนั้น คือทำกับคนอื่นกูจะไม่ว่า แต่นี้มายุ่งกับคนของกู เช่น ตอนขับไปซื้อของ กอดเอว คันจมูก แต่มือยังว่าง แล้วมึงไม่เอามือเกาอะ มือเป็นง๊อยหรออีดอก//ตอนแจกไพ่ ชอบใส่เสื้อคอกว้าง ผัวกูก็เห็นหัวนมฟรีไปจ้า
//ไม่ใส่ซับใน และชอบโชว์หีให้คนอื่นดูไปทั่ว ซึ่งรุ่นพี่ผชจะเตือนก็กลัวน้องจะอาย แต่มารยาทผญอะ มึงไม่มีบ้างหรอ?
//เวลานอนกัน4คนเพราะตอนนั้นเมา ซึ่งกูนอนข้างพี่นน
แต่มันก็เอาปากกระซิบร้องเพลงข้างหูผัวกูู?
//แล้วตอนนั้นพี่นนดูไลสดอยุ่ แล้วอยู่ๆแม่งก็ยื่นหน้าไปใกล้ๆหน้าแฟนกูถามว่า พี่นนคะ แล้วหนูไม่สวยหรอ //พอเวลามาหอ มันเป็นเมน กูก็ให้เพื่อนยืมกางเกง อีนัสก็ให้ยืม พอยืมไปคนเราคสรซักคืนเว้ย ผ่านไป2อาทิตย์มั้ง เอาแบบที่เลาะคราบมาคืนอะ แล้วพวกกูต้อซัก? ซึ้งมันคือของ มึงคือผญซกมก ลองเสื้อผ้าแล้วกูต้องตามเก็บตลอด//แล้วล่าสุดตอนรุชน แต่ทุกคนไม่เป็นอะไร แนู่ๆก็พูดว่า ขอนอนบ้านพี่นนท์ได้ไหมคะ เพราะยังไม่อยากกลับบ้าน อ่อ ทำกับผัวเพื่อนงี้ก็ได้อ่อ เสียความรู้สึกสัสๆ เรื่องอื่นต้องใช้เวลา เรื่องนี้คงไม่มีใครยอม กูถือว่ากูใจเย็นมามากพอแล้วนะ ♦แล้วเรื่องนี้ขอเคลียแค่ 3 คน♦อีดอกนั้นจะไปขอวามสงสารกับใครก็ช่าง ใครจะช่วยมันก็เชิญ ซึ้งมึงทำกับกูขนาดนี้กูไม่ยอมจบง่ายๆแน่ นี้แค่โพสสันดานเบาๆ ยังมีอีกเยอะ รูปก็มีนะ แต่แค่นี้ก็สมเพชมากพอแล้ว
**ใครเพื่อนรักมันก็ฝากบอกด้วยนะคะ พอดีโดนบล็อคเฟสอะงง555555555555555555

107 Nameless Fanboi Posted ID:sh2/4rK.2f

>>102 ไม่รมแก๊สไม่ได้แล้วครับ

108 Nameless Fanboi Posted ID:dL.z3pmMk8

>>105 ใช่ ไลออน มัส ที่เป็นเจ้าของค่ายรถ เทสเด้อป่าวอะครับ

109 Nameless Fanboi Posted ID:fkK80YEjex

>>108 ลีออนที่ไล่ยิงซอมบี้ต่างหาก

110 Nameless Fanboi Posted ID:oP/MVbbiuk

ความพินาศวันนี้:
เพื่อนส่งลิงก์มาให้ กดดูตอนเมียอยู่ข้างๆ ปรากฏว่าเป็นคลิปลีน่าจังครางกระเส่าเป็นชื่อประยุทธ์ แน่นอนเปิดเสียงเต็มหลอด

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

111 Nameless Fanboi Posted ID:rIhkBRJK2s

>>110 ถ้าควยมึงแข็งก็ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งอันหาที่สุดมิได้ที่ใจมึงชมชอบเหี้ย

112 Nameless Fanboi Posted ID:SC.apCegT7

>>92 มันก็เขียนอยู่นะว่าสมัยใหม่
ประชาธิปไตยกรีกมันโหวตได้ทุกคนเหรอวะ
Natural law กับ divine right มันก็คริสเตียนทั้งคู่ ลองไปอ่านนิยาม natural law ดูก็ได้

113 Nameless Fanboi Posted ID:yY9YNS6G1N

>>112 ประชาธิปไตยยุคใหม่แรกๆก็ไม่ได้โหวตได้ทุกคนนะ

114 Nameless Fanboi Posted ID:d6clVtXRJ/

>>112 Natural law เก่ากว่าคริสเตียนมากนะ แทบจะมีมาพร้อมๆ กับศาสนาของมนุษย์เลย แต่ในตะวันตกมันมีจุดเริ่มต้นมาจากสมียกรีกโน่น

115 Nameless Fanboi Posted ID:SC.apCegT7

>>113 จะเอาใหม่แค่ไหนล่ะ ? กุเข้าใจว่าต้นทางมันหมายถึงในปัจจุบันนะ
>>114 ใช้คำผิดไป หมายถึงมันเป็น element ที่อยู่ในคริสทั้งคู่ ไม่ใช่ของคริสต์ ไอ้ divine right นี่มันก็มีทั้งโลก จีนไทยก็มี

116 Nameless Fanboi Posted ID:kXY8SkhcMv

เรื่องที่ตลกร้ายมากคือคำว่า 'การุณยฆาต' มันดันเป็นคำที่มีความสวยงามและมีความกวีมากๆ

117 Nameless Fanboi Posted ID:4ZPFvOhQ7h

>>115 ยุคปัจจุบันมีพื้นฐายจากวัฒนธรรมแองโกล ซึ่งก็ไม่ได้โหวตทุกคนอยู่ดี

กูไม่เก็ตว่ามึงต้องการสื่ออะไรเรื่อง Natural law

118 Nameless Fanboi Posted ID:sa5Xnb1hkF

ประโยชน์อย่างเดียวของข้อความข้างต้นของนักเขียนเบียวก็คือทำให้โม่งแลกเปลี่ยนความรู้กันนี่แหละ บทความตัวต้นแม่งไม่มีสาระเหี้ยอะไรเลย อ่านไปจนถึงท่อนที่มันimpliesว่าจอร์จวอชิงตันเขียนคำอิสรภาพกูก็หยุดอ่านแล้ว แม่งคิดว่าคนเขียนกับคนประกาศคือคนเดียวกัน

119 Nameless Fanboi Posted ID:n.m7bSQewS

กูว่ามันเพี้ยนหลักๆเพราะเรื่องศาสนาเนี่ยแหละ

120 Nameless Fanboi Posted ID:ROJ8DzKoct

ศาสนาคือตัวถ่วงความเจริญของมนุษย์
ในโลกยุคปัจจุบัน ศาสนานั้นไม่มีประโยชน์อันใดต่อมนุษยชาติเลย

121 Nameless Fanboi Posted ID:Vm37p0LqBS

พวกตลาดล่าง

122 Nameless Fanboi Posted ID:13fwaamy9t

มีคำถามเยอะนะ สำหรับ เอฮิเร ในร้านญี่ปุ่น คือกระเบนแบบไหน
อธิบายง่ายๆว่า ตระกูลปลากระดูกอ่อนวงศ์กระเบนฉลาม
มันเรียก エイเอย์ เกือบทั้งหมด มีบางตัวที่ใกล้ๆกันอย่าง โรนิน โรนัน เรียก ザメซาเมะ แบบฉลาม

ดังนั้น ไอ้ エイヒレ มาจากตัวไหน ก็บอกตรงๆว่า บอกไม่ได้ แต่ที่แน่ๆคือ ได้ตัวไหนมามันก็แปรรูป ดังนั้นจะเป็นตัวกระเบนนก トビエイโทบิเอย์ หรือ ตัวลายจุด マダラトビエイมาดาระโทบิเอย์ กูก็ไม่รู้

แล้วถ้าคิดว่า ญป มีจรรยาบรรณไม่แดกสัตว์อนุรักษ์เหรอ อยากจะขำให้ฟันหัก มันล่า วาฬ โลมา ปูมะพร้าว ทูน่า ฯลฯ โดยไม่สน CITES ไม่สนหีสนแตด มันจะสนกะแค่กระเบนเหรอวะ

ถ้าจะไม่กินก็ไม่ต้องเลือกนะครับ เลิกทั้งวงศ์
แต่ถ้าคิดแค่ว่าจะเลี่ยงมันได้ยังไง ผมก็ขำฉิบหายแล้ว ปลาแปรรูปทั้งประเทศแม่งก็พวกนี้ทั้งนั้น

แล้วไม่ต้องเถียงว่า คนจะกินเยอะขึ้นเพราะรายการนะ
กูพูดด้วยฐานะพ่อครัว แม่งไม่ได้อร่อย และทำไม่ได้ง่าย
ไม่ต้องกังวลแม่งหรอก เลิกเห่อแม่งก็หายไปเอง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

123 Nameless Fanboi Posted ID:pR0SaKjHex

เคสพ่อตาสวนทุเรียน นี่ควรได้รับการบรรจุลงตำรา Marketing และ Advertisement มากๆ ......

นี่มัน masterstroke ระดับโลกชัดๆ

124 Nameless Fanboi Posted ID:vtfkk.YSDH

>>122 ไม่มีคนด่ายุ่น เพราะตัวปั่นหลักเป็นคุอ้วนขาเบียดเบาหวานครับ เพราะงั้นพี่ๆยุ่นเชิญเปิปต่อไป ไม่โดนด่าจากคนแถวนี้แน่นอน

125 Nameless Fanboi Posted ID:8KUgN/3Yh1

แล้วมันอร่อยมั้ยอยากแดก

126 Nameless Fanboi Posted ID:ROJ8DzKoct

แดกๆ ไปเหอะ คิดไรมากมาย ปัญญาอ่อน

127 Nameless Fanboi Posted ID:MqhaK+m5qf

สมัย10ปีที่แล้ว ร้านข้าวแกงที่กูกินประจำ มาผัดกระเบนมาบ่อยๆ เนื้อมันเหมือนมีกระดูกอ่อนด้วย

128 Nameless Fanboi Posted ID:eJvqXjE1NN

>>123 เอาเข้าจริง กูว่านี่มันก้ำกึ่งจะเป็นหลอกลวงอยู่แล้ว พูดว่าเป็น Maketing ไม่ได้หรอก

129 Nameless Fanboi Posted ID:5Q8+D+ggeR

>>125 เคยแดกครั้งเดียว ไม่รู้ว่าทำไม่อร่อยหรือกูไม่ถูกโรคกับกระเบน เนื้อแม่งออกแนวกระดูกอ่อนแล้วเป็นริ้วๆ เส้นๆอ่ะ แดกแล้วรู้สึกเหมือนจะอ๊วก แต่ก็ต้องฝืนแดก

130 Nameless Fanboi Posted ID:Pt55GzUk0L

I'm an entrepreneur, investor, and technology enthusiast.

I started my career at the age of 15 working in a factory.

12 hours a day, 6 days a week. Earned a cool $2/day.

I had no contacts or resources, but I was determined to improve my life. I realized education and the right training was the only way for me to achieve my goals.

Somehow I managed to acquire modest education.

From there I went on to become a technical leader and CTO in multiple startups.

All this happened because of education and training. So I am very passionate about learning and sharing knowledge.

I like startups, business ideas, and high-tech anything. I love to work on hard problems and get my hands dirty with cutting edge technologies.

I favor pragmatic solutions over complex ones.

I favor scrappiness over lavishness.

I favor fast execution over endless deliberation.

I favor serving the CUSTOMER over my own desires to build something cool.

I favor bending the rules (without breaking them) over abiding by them.

I believe in the resiliency and adaptability of the human race, and I know we can overcome any challenge if we work together.

Currently, I am the principal consultant, architect and CTO of a software consulting company TetraNoodle Technologies based in Vancouver, Canada.

We work with various startup founders and help them bootstrap their dreams and bring innovative products to market quickly and efficiently.

We also train engineers on cutting edge technologies.

131 Nameless Fanboi Posted ID:AWuO2r/swn

#เตือนภัย เกมการ์ด Pokemon TCG

วันนี้แวะเซเว่นที่พุทธมณฑลสาย 4 กะจะเปิดซองซักหน่อย ปรากฎว่ากล่อง A มีคนเปิดไปแล้ว 6 ซอง ในกล่องเหลืออยู่ 54 ซอง

ขอบอกก่อนว่าเกมนี้จะมีการ์ดหลายระดับ ซึ่งระดับที่ขายต่อได้กำไรจะมี RR < SR < HR ในกล่อง 60 ซอง จะมีซองที่มีการ์ดมีราคาประมาณ 8-9 ซอง จะมีซองที่เป็น RR 6-7 ซอง และซองที่เป็น SR หรือ HR รวมกัน 2 ซอง ซึ่งการ์ด SR หรือ HR บางใบสามารถขายต่อได้ในหลักพันบาท (ถ้าใบพีคๆ ขายกัน 2500+) ส่วน RR ส่วนมากจะอยู่ที่ 50-300 บาท และการ์ด 1 ซอง ราคา 49 บาท

วันนี้เราก็เปิดไปเรื่อย กะว่าได้ RR SR ซักนิดก็พอใจ ปรากฎว่าเปิดไป 20 ซอง ไม่เจออะไรเลย ก็คิดว่าเราดวงไม่ดี อย่างมากก็เหมายกกล่องไป ยังไงก็น่าจะได้การ์ด SR ซักใบ แต่เปิดไปเรื่อยๆก็ไม่เจอเลย สรุปเราเจอแค่ RR 3 ใบ จาก 54 ซอง ตอนแรกก็คิดว่าถ้าคนที่เปิดก่อนเราดวงดีขนาดนั้นเราก็ยอมอ่ะ แต่ตอนก่อนกลับพนักงานเซเว่นมาบอกเราว่า ก่อนหน้านี้มีผู้ชายคนนึงมากับแฟน แล้วก็เลือกซองไปเขย่าๆ ลูบๆ จากนั้นก็นำตาชั่งอันเล็กที่เตรียมมาวางบนเคาน์เตอร์แล้วชั่งซองการ์ด ทำอย่างนี้ทุกซอง แล้วยังถามพนักงานอีกว่าแถวนี้มีสาขาไหนอีกที่มีโปเกมอนขาย ซึ่งก่อนหน้านี้เราแวะเซเว่นสาขาอื่นก็มีคนซื้อไป 4-6 ซอง เกือบทุกเซเว่น แล้วยังย้ำพนักงานว่าถ้ามีกล่องมาใหม่แบบเต็มๆให้บอกเค้า เค้าจะมาซื้ออีก

สำหรับเรารู้สึกว่าเงิน 2,646 บาท ที่เสียไปในวันนี้คือค่าโง่ โง่ที่ไม่คิดว่าจะมีคนตุกติกกับซองการ์ดทั้งหมดในกล่อง โง่ที่เข้าใจว่ามันเป็นการเปิดซอง ลุ้นๆ หาการ์ด วัดดวงไป ดวงดีก็ได้ แต่มันไม่ใช่อ่ะ มันมีคนเอาช่องโหว่ของบริษัทที่ผลิตการ์ดมาแสวงหากำไรด้วยความเห็นแก่ตัวสุดๆ

ขอเตือนทุกคนที่จะไปหยิบซองการ์ดในเซเว่นหรือร้านขายการ์ดร้านอื่นๆให้ระวัง การ์ดที่เราต้องการอาจจะมีคนใช้วิธีสกปรกเอาไปหมดแล้วก็ได้ สำหรับตัวเราเองก็จะไม่ซื้อเป็นซองอีกต่อไป ถ้าซื้อต้องซื้อยกกล่องเต็มๆแบบยังไม่แกะเท่านั้น

ขอฝากถึงคนที่ทำแบบนี้ การหากำไรด้วยวิธีสกปรกจากคนที่ชอบเล่นเกมตาใสๆ ไม่รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้ มันไม่ทำให้ในชีวิตนี้คุณรวยขึ้นมาหรอก เงินที่ได้จากคำสาปแช่งของคนอื่นมันร้อนและจะหมดไปอย่างไว จำเอาไว้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

132 Nameless Fanboi Posted ID:sdYoZanJb2

พี่โจวรับประกันเลยว่ามีคนมากมายที่อยากออกไปเรียกร้องความยุติธรรมให้พรรคไทยรักษาชาติ..ถ้าสามร้อยห้าร้อยตกถึงมือพวกเขาบ้างอ่ะครับ ..

น่าจะพอได้แล้วสำหรับการเมืองที่ใช้ความโกรธแค้นเป็นต้นทุน (ความแค้นหลังความสูญเสียจากการชุมนุมเพิ่มอุณหภูมิให้บ้านเมืองจนถึงจุดลุกไหม้เมื่อหลายปีก่อน) ต้นทุนนี้มันเริ่มจางหายไปตามวันเวลา

ถึงเวลาต้องควักปัจจัยอีกครั้งแล้ว อย่าดูถูกประชาชนว่าเขาจะบุกฮือเพราะอารมดราม่าอย่างเดียว บ้านเขาต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อ ไหนจะค่าเทอมลูกอีก พี่โจวฝากไปถึงนักโทษชายหนีคดีท่านหนึ่งไว้ด้วยอ่ะครับ

#ช่วงกรุณาเติมเงินให้มวลชน

133 Nameless Fanboi Posted ID:CNgNxNgtmi

>>131 แค่เห็นคำว่าการ์ดเกม กลิ่นเหม็นเปรี้ยวก็โชยมาแล้วครับ

134 Nameless Fanboi Posted ID:zahdp5XKx3

Fun fact: the minister of finance for france during the treaty of versaille was flamed by other world leaders as "perhaps the only jew that couldnt count"

135 Nameless Fanboi Posted ID:M0t+vaVsOk

>>131 โชคดีที่ผมไม่เจอปัญหานี้ เพราะเล่นแต่เกมกาชาบนมือถืออ่ะครับ

136 Nameless Fanboi Posted ID:VKIxRzWk9R

พวกชาร์จให้กันด้วย wireless นี่ไร้สาระทุกรุ่น แค่กิมมิก หลอกคนอ่อนๆ
ถ้ารู้ว่า loss เท่าไหร่ ร้อนเท่าไหร่ อยากรู้ว่าจะใช้กันอยู่ไหม
แบรนด์พวกนี้ก็ถนัดแต่ทำกิมมิกพวกนี้ออกมา แล้วคนอ่อนๆก็นึกว่านวัตกรรม ด่าเจ้าที่ไม่ทำว่าไม่มีนวัตกรรมอีก ถถถ

ไปหงายแท่น qi ทั่วๆไปดู เข้ากี่วัตต์ ออกกี่วัตต์ เครื่องได้ไปจริงกี่วัตต์ ที่เหลือก็ loss/heat
ใช้โทรศัพท์เครื่องนึงไม่ได้ 30 นาที แถมแบต A ลดไป 30% เครื่อง B ได้แบตมา 10% คุ้ม? สะดวก? ตรงไหน?
อ้อ... อาจจะสะดวกในสายตาพวกข้างบนๆก็ได้นะ
ส่วนเรื่องฉุกเฉินนี่ออกทะเลไปไกล เอาเครื่องเพื่อนมาโทรเลยดีกว่าไหม ไม่ใช่ไปดูดคนอื่นผ่านวิธีนี้
ทำแบตเขาลดไปเกือบครึ่ง แล้วเราได้มาแค่ 10กว่า% เพื่ออออ..... logic ก็ไม่ได้ซับซ้อนนะ
พวกแชร์แบตที่ใช้สายอย่าง iPad-iPhone หรือใช้พวก powerbank ดีๆหน่อย loss ไม่เกิน 5-10%
ไม่ใช่ loss ทิ้งไปเกินครึ่งแบบพวกนี้จริงๆมีประเด็นอีกหลายอย่าง แต่เอาแค่นี้ก่อน เถียงกับคนที่ไม่เข้าใจ ทำไงเค้าก็ไม่เข้าใจ

สถานการณ์นี้คือสร้างสรรค์ที่สุดแล้ว? อันนี้คือโลกกว้างที่สุดแล้ว? มีใครส่งสถานการณ์ไหนมาแข่งอีกไหม?
พกสิ สายชาร์จน่ะ นน.10-20g เส้นละร้อย ติดกระเป๋าไว้ ในเมืองหาที่เสียบง่ายจะตาย
ถ้าไม่ได้อยู่ป่าเขา เจริญขนาดมีคาเฟ่ให้นั่งแบบข้างบน ค่าเฟ่ไหนไม่มีปลั๊ก? เสียบปล๊กสิ 5 นาทีพอ ได้มา 10% แน่ๆ
เพื่อนคุณไม่ต้องนั่งเสียเวลามานั่งมองหน้ากับคุณอีกตั้ง 20 นาที แถมแบตเพื่อนคุณจาก 40% เหลือ 10% กลายเป็นเศร้าพอกัน
ถ้าไม่พกสาย ก็ไม่ได้น่าห่วง เพราะตอนนี้ port ทั้งโลกมีแค่ 3 แบบหลักๆ เดินถามหาได้ทั่วไปตามคนเดินถนน ห้าง ร้าน ค่าเฟ่
ยามดึกก็หาป้อมรปภ.(อันนี้ของจริง เพราะ รปภ.ทุกคนต้องมีสายชาร์จ item สำคัญของเขาเลยล่ะ)
ถ้ามันฉุกเฉินจริง แค่ 5 นาที ใครจะไม่ให้ใช้ อ้อ ถ้าอยู่ป่าเขา การที่แบตอีกคนหายทิ้งไป 20% นี่หายนะกว่าอีกนะ
ตามที่คุณบอก โลกคุณอาจจะกว้างและสร้างสรรค์กว่าผม แต่เห็นได้ค่อนข้างชัด ว่าคุณคิดไม่เกิน 1-2 ชั้น
เพราะเขาเห็นคนแบบนี้เยอะแหละ ถึงทำกิมมิกพวกนี้ออกมา

137 Nameless Fanboi Posted ID:TNUQPVKAum

A: ถึงแม้ผมไม่เห็นด้วยกับพรรคไทยรักษาชาติ ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรคไทยรักษาชาติ ผมยังไม่เห็นด้วยกับคุณทักษิณ และไม่เห็นด้วยกับพลเอกประยุทธ์ด้วยอ่ะครับ

B: ครับ เดี๋ยวคนไข้กินยาเสร็จ สักบ่ายสองเราลองไปช๊อตไฟฟ้ากันนะครับ

A: ได้ครับ ได้ครับ

#อีกหนึ่งปลายทางของฮาร์ดคอร์การเมืองไทย

138 Nameless Fanboi Posted ID:pTlkAmhw+Z

สัญลักษณ ์สามเหลี่ยม กลับหัว สีส้ม ของพรรคอนาคตใหม่ มีนัยยะแน่นอนครับ

จุดสูงสุด ของสามเหลี่ยม ถูกพลิกให้คว่ำลง แล้วให้ ฐานราก ของสามเหลี่ยมถูกชูให้อยู่ด้านบน ???

และถ้าจำไม่ผิด วันสวรรคตของในหลวง ร.๙ คือวันพฤหัสบดี ซึ่งมี สีส้ม ซะด้วยครับ ???

จากการนี้ผมจึงสันนิษฐานได้เลยว่า นายธนาธร กำลังคิดการใหญ่บางอย่าง ซึ่งซ่อนเร้นอยู่แน่นอนครับ

139 Nameless Fanboi Posted ID:139auOJzmx

>>138 แค่ไปลอกโลโก้เวบ 18+ มาไม่ใช่เรอะ

140 Nameless Fanboi Posted ID:DE3Ein8bIE

>>138 ยิ่งกว่านั้น สามเหลี่ยมคือสัญลักษณ์ของอิลลูมินาติด้วยนะครับ โอ้โหชัดเลย

141 Nameless Fanboi Posted ID:kx16VtN9Q3

>>139 ฮะ ไม่ใช่ลอกฟิตเนสเจ้าหนึ่งหรอวะ

142 Nameless Fanboi Posted ID:7KTawlbbkB

ภาษา(ไทย)วันละนิด วันนี้ขอนำเสนอ "ภาษาเป็นสิ่งที่ปรับเปลี่ยนได้ตามยุคสมัย"

ไม่เห็นด้วยอย่างแรงกับการที่บอกว่าให้เลิกใช้ อาทิเช่น ถึงจะรู้ว่าไม่ถูกตามความหมายก็ตาม แต่ความหมายใครหละที่นิยาม ? ก็คนที่ใช้สื่อสารไง

ถ้าสุดท้ายทุกคนเห็นพ้องตรงไปในทางเดียวกัน ความหมายของคำนั้นก็เปลี่ยนไปได้ตามที่สังคมยอมรับ

อาทิเช่น ก็เช่นกัน เฝ้าดูคำนี้มานานว่าจะเปลี่ยนไปในทางไหน จนตอนนี้ต้องยอมรับกันได้แล้วว่า "อาทิเช่น" เป็นคำใหม่ที่ทำให้คำว่า "เช่น" ดูเป็นทางการขึ้น และควรเลิกยึดติดกับความหมายของคำว่าอาทิในอดีตได้แล้ว

ตอนสมัยสิบกว่าปีที่แล้วตอนเคยช่วยทำงานสื่อ คำว่า "นวัตกรรมใหม่" เป็นคำที่ผิดเช่นกัน เพราะเป็นการใช้คำซ้ำซ้อน นวัตกรรมแปลว่าของใหม่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีคำว่าใหม่เข้าไปเพิ่มอีก แต่สุดท้ายตอนนี้สื่อหลักทุกช่องก็ใช้คำนี้กันหมดแล้ว ไม่ถือว่าผิดอะไร

"เพราะภาษามันปรับเปลี่ยนได้" ครับ

ยกเว้นนะค่ะ อันนั้นเปลี่ยนไม่ได้ ... นะค่ะพ่องงงง

#วิศวกรสายภาษา

143 Nameless Fanboi Posted ID:KDmfMeZ7N5

>>138 คิดการใหญ่อะไรวะ
ถ้ามึงคิดว่ามันจะตั้งตัวขึ้นเป็นเผ่ามังกรฟ้าซะเอง มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ไม่มีใครทำได้หรอก
แต่ถ้าคิดแค่จะล้างระบอบเผ่ามังกรฟ้าออกไป ก็อาจจะเป็นไปได้

144 Nameless Fanboi Posted ID:kvkZFbLk1F

A: ผมทำงานด้านการเมืองอยู่

B: โอ่...คุณเป็นทีมนโยบายด้านรัฐสวัสดิการของพรรคการเมืองรึเปล่าอ่ะครับ คนรุ่นใหม่หน่วยก้านแบบคุณ

A: ป่าวครับ ป่าวครับ ผมเดินถือฝาเข่งตามพี่เปี๊ยกหาเสียงอ่ะครับ

#ปีปรัมมูย

145 Nameless Fanboi Posted ID:43oJ4KJw73

ส่วนตัวก็ยังยืนยันว่านโยบายรัฐที่หาเสียงๆ กัน ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการออกฎหมายที่จะทำให้เราเดินหน้าได้ในระดับโลกจากการเปิดช่องทางใหม่ๆ ในระดับประเทศ แต่ทีมเดียวที่พอดูว่ามีทีมกฎหมายทำเรื่องนี้ก็ไม่มีทางมีเสียงเยอะมากพอในการทำอะไรอยู่ดี .. ส่วนตัวเลยยังชมว่าลุงตู่เนี่ยผลงานเยอะกว่าชาวบ้านเยอะแล้ว ...

146 Nameless Fanboi Posted ID:FG8hEXy0Z/

เห็นกระทู้นี้ขึ้นกระทู้แนะนำใน pantip มาหลายวันแล้ว คือ กูก็เห็นด้วยกับลุงสปีลเบิร์กนะ ว่าหนังที่เข้าชิงออสก้าร์ควรเป็นหนังฉายโรงเป็นหลัก ไม่ใช่หนังฉายจอคอมจอมือถือ

อีดอก Netflix ทำตัวเป็นศรีธนนชัย เอาหนังฉายในเว็บตัวเองเป็นหลัก แล้วฉายโรงขำๆพอเป็นพิธี ไม่กี่โรง ไม่กี่รอบ ไม่กี่วัน เพื่อให้หนังชิงออสก้าร์ได้

คือเมืองนอก มันมีงานแจกรางวัลสำหรับหนังทีวีโดยเฉพาะ ทำไมมึงไม่ส่งไปประกวดงานนี้ล่ะ มึงกะเอาเครดิตออสก้าร์มาล่อคนสมัคร Netflix ใช่ป่ะล่ะ

แบบงี้พวกหนังที่ทำฉายทีวีตอนเดียวจบ ก็ชิงออสก้าร์ได้หมดน่ะสิ หรือจะเทียบกับของไทยก็ได้ เมื่อก่อนช่อง3 มีรายการ "หนังดังสุดสัปดาห์" ที่สร้างหนังเพื่อฉายทางทีวีช่อง3 โดยเฉพาะน่ะ แบบนี้หนังพวกนี้ก็เข้าชิงงานสุพรรณหงส์ได้น่ะสิ แค่เอาหนังทีวีไปขอฉายโรง house ขำๆวันละรอบ สัก 7 วัน ไม่ต้องมีคนดูเลยก็ได้ ก็ตรงกติกาแล้ว?

ที่เหี้ยกว่าคือ คอมเม้นในกระทู้ Pantip นี้ มีหลายคนแม่งตีโจทย์ที่สปีลเบิร์กพูดไม่แตก เถียงกลับว่า "หนังดี ไม่ว่าจะฉายทางไหน ก็ควรได้ชิงออสก้าร์"
ที่ซุปเปอร์เหี้ยกว่านั้นคือ ด่าสปีลเบิร์กว่า "อิจฉาที่หนังตัวเองไม่ได้ชิงออสก้าร์ล่ะสิ" โอ้โห ช่างกล้าพิมพ์ลงไปเนอะ ควายสัส

147 Nameless Fanboi Posted ID:/A9F6jhQWR

>>145 ถถถ ในหัวมิตรสหายท่านนี้มีแต่กฏหมาย น่าสงสารชิบหาย นี่ละน้าโง่จนกู่ไม่กลับละ

148 Nameless Fanboi Posted ID:5oNY0C8sDg

อยากได้ระบบแบบ Lazada ตอนนี้ต้องตั้งงบไว้ที่ 450 ล้านบาท ระยะเวลาพัฒนา 8 เดือน อันนี้ขอ BOI สนับสนุนได้ มองเป็น CAPEX

ส่วนค่าใช้จ่าย OPEX ตั้งไว้ที่ 252 ล้านบาท ในปีแรกครับ

คุณจะได้ระบบแบบนี้เป๊ะๆ

ส่วนทีมงานตำแหน่งอื่นๆ และต้นทุนอิ่นๆ กันงบเอาไว้เลยครับ แต่ถ้าตาม org chart ก็เดือนละ 20-24 ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งออฟฟิศครับ

ถามมาเยอะตอบตรงนี้ทีเดียวนะครับ

งบล้าน หรือ สิบล้าน ผมไม่รู้จะทำให้ยังไงนะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

149 Nameless Fanboi Posted ID:RrK+wusJ.m

คนสูบกัญชาไม่ใช่คนที่จะไม่มีทางประสบความสำเร็จ และ คนที่ไม่สูบกัญชาใช่ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป เพราะคนทั้งสองแบบยังไงก็คือ..คนเท่ากัญ

อย่าเอาการใช้กัญชามาตัดสินชี้นิ้วว่าเขาเป็นคนไม่ดี ไม่เอาการเอางาน เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ ว่ายังมีอาชีพอื่นอีกหลากหลายในสังคมที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ที่มีชื่อเสียง มีความสุขในการดำเนินชีวิตโดยใช้กัญชาจนเป็นเรื่องปกติ แค่เขาเหล่านั้นไม่ได้บอกคุณให้รู้..

อยากให้สังคมไทยเรายกระดับความคิด สติปัญญา และเปิดใจให้กว้างมากขึ้น #คนเท่ากัญ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

150 Nameless Fanboi Posted ID:rGi9VOJaaI

>>149 เบื่อติ่งกัญชาเอาจริงๆ กูสนับสนุนให้ถูกกฏหมายนะ แต่ติ่งกัญชาแม่งคิดว่ากัญชาคือเทพเจ้าจากสวรรค์ มีแต่ข้อดีไม่มีข้อเสีย พอมีคนเอาประสบการณ์ส่วนตัวมาบอกว่าข้อเสียจากกัญชาเป็นยังไงติ่งกัญชาก็จะเข้ามาดิ้นว่าไม่จริง ไม่จริง ไม่จริง เอาเปเปอร์มา
พอคนแปะเปเปอร์ที่ระบุโทษของกัญชาติ่งมันก็ดิ้นอีกว่าไม่ยอมรับ เพราะเปเปอร์อันนี้ต้องได้เงินจากบริษัทยายักษ์ใหญ่มาดิสเครดิตกัญชาแน่นอนนน

151 Nameless Fanboi Posted ID:78Y3GZPspa

ล่าสุดลูกชายของชามีมา เบกัม หรือเจ้าสาว ISIS ที่คลอดขณะอยู่ในค่ายลี้ภัยของเคิร์ดนั้นได้ตายลงจากการเจ็บป่วยหลังจากเกิดมาเพียงไม่กี่วัน การตายนี้ทำให้องค์กรสิทธิมนุษยชนและหลายฝ่ายประณามเคิร์ดว่าดูแลไม่ดี และประณามอังกฤษที่ถอดสัญชาติของเบกัม ทำให้เด็กบริสุทธิ์ต้องตาย

เบกัมเป็นชาวอังกฤษที่อพยพมาสวามิภักดิ์ ISIS ตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เธอเป็นกลุ่มหัวรุนแรงที่มายอมแพ้กับเคิร์ดเป็นพวกท้ายๆ เมื่อมันชัดเจนแล้วว่ารัฐ ISIS จะต้องล่มสลาย

แม้ยอมแพ้แล้วเธอก็ยังให้สัมภาษณ์บอกว่าการก่อการร้ายฆ่าคนบริสุทธิ์ของ ISIS นั้นยุติธรรมดี เพราะทัพพันธมิตรก็มาฆ่าคนบริสุทธิ์ฝั่ง ISIS เช่นกัน อย่างไรก็ตามตอนนี้เธออยากกลับอังกฤษไปอยู่กับลูก (เกิดกับนักรบ ISIS) อย่างสงบ

ในสงครามนี้แม้ทัพเคิร์ดจะรบชนะ แต่มีปัญหาต้องรับผิดชอบประชาชนฮาร์ดคอร์ของ ISIS จำนวนหลายหมื่นคนที่แตกหนีมาสวามิภักดิ์ ส่วนใหญ่เป็นเด็กกับผู้หญิง เคิร์ดเห็นพวกนี้ยอมแพ้แล้วก็ไม่อยากฆ่า ขณะเดียวกันก็ไม่อยากเลี้ยงไว้ เพราะสิ้นเปลืองและมีอันตราย อย่างน้อยจึงพยายามผลักดันพวกที่มีพื้นเพเป็นต่างชาติให้กลับประเทศตน

อย่างไรก็ตามอังกฤษไม่ยอมรับเบกัมกลับเพราะรังเกียจว่าหัวรุนแรง จึงทำการถอนสัญชาติ สิ่งนี้ทำให้เบกัมเคว้งคว้างหาที่ไปมิได้ จนคลอดลูกในค่ายลี้ภัย และลูกป่วยตายเพราะเจ็บป่วยขาดยา ส่งตัวไปโรงพยาบาลไม่ทัน

องค์กรสิทธิมนุษยชนประณามว่าสภาพในค่ายลี้ภัยของเคิร์ดไม่ดี ทำให้เด็กบริสุทธิ์ต้องตาย เคิร์ดบอกว่า สาส เมื่อสี่ปีก่อนพวกตูยังเป็นชาวเขาชนกลุ่มน้อยวิ่งหนีปืน ISIS อยู่เลย ตอนนี้พวกตูรบแลกชีวิตพึ่งตั้งรัฐมาได้ไม่นาน อยู่ในภาวะสงคราม ยา อาหารมีน้อย ต้องเอาไปเลี้ยงคนของตัวเองก่อน นี่พวก ISIS มีมาหลายหมื่น (ตอนนี้ 5.5 หมื่น) และยังเพิ่มขึ้นทุกวัน จะจัดการประมาณความช่วยเหลือก็ลำบาก นานาชาติก็ไม่ค่อยช่วย

พวกตูเองก็ไม่ใช่ไม่มีความแค้นต่อ ISIS พวกมันเคยมาฆ่าล้างชาวยาซิดีที่เป็นเคิร์ดกลุ่มนึง จับผู้หญิงกับเด็กไปเป็นทาส ข่มขืนแม้กระทั่งเด็กสิบขวบ

นี่แค่ไม่ฆ่า แต่เลี้ยงไว้ พยายามหาที่ลงให้ก็บุญแค่ไหนแล้วโว้ย!

อย่างไรก็ตามเด็กนั้นไม่มีความผิด การตายของเขาเป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่ง

ถ้าคุณเป็นทัพเคิร์ด คุณจะตอบรับเรื่องนี้อย่างไร?

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

152 Nameless Fanboi Posted ID:eStWThzaWt

เฟมินิสต์ไทย มีมาเป็นสิบปี ยังไม่ผลักยกเลิกกฏหมายสินสอด (ตาม กม ไทย ฝ่ายชายเสียเปรียบเต็มตีนเลยนะหลายคนไม่รู้) คือ เอาจริงๆองค์กรห่านี่ทั้งไทย ทั้งเทศ ณ ปัจจุบัน แมร่งเหมือนพรรค ปชป อะ กลายเป็นการเมืองด้านเพศ

153 Nameless Fanboi Posted ID:ODcrXMCuUv

เล่าเรื่องขำๆ

เฟติซเป็นเรื่องที่complex ส่วนตัวหลืบเป็นคนที่ชอบฝึกวาดหลายอย่าง โลลิ สาวน้อย สาววัยทีน สาวเจ๊ เเทรป ฟุตะ ซึ่งการชอบหลายๆอย่างมันก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน เเต่ทว่า ลูกค้าบางกลุ่มเขาไม่ได้รู้สึกเเบบนั้น บางคนคิดว่าพวกวาดโลลิก็เป็นพวกเปโด หรือ พวกวาดเเทรปก็เป็นพวกเกย์ หรือพวกวาดเฟอรี่ ก็เป็นพวกชอบabuseอะนิมอล

ซึ่งตอนเมื่อก่อนหลืบก็ชอบวาดฟุตะหลักเติมเห็ดโง่ๆเนี่ยเเหละ มีฐานเเฟนจากข้างนอกมาเยอะเลย เเต่พอหลังๆไอเราขี้เกียจวาดเห็ดบ้าง อยากวาดnormal กลุ่มนั้นก็หายไป ทีนี้มันก็มีกลุ่มฐานnormalเข้ามาเเทน พอเราวาดไปซักพัก เเล้วอยู่ๆอยากวาดเเทรปมั่ง กลุ่มฐานnormalก็ไม่ค่อยชอบ ก็วนหายไปอีก

หลืบก็ได้เรียนรู้หลายๆอย่าง คือ นักวาดเนี่ยส่วนใหญ่เเต่ละคนก็จะมีจุดขายของตัวเอง บางคนก็วาดโลลิล้วนๆไปเลย วาดเจ๊ล้วนๆไปเลย นานๆทีมาวาดอย่างอื่นบ้างอะไรเเบบนี้ เเบบนี้มันทำให้จดจำได้ง่ายมากกว่า เเต่หลืบไม่ใช่ประเภทนั้น วันๆคืนดีอยากมาวาด กันดั้ม เอวา เเทรป มาชินก้าเเสร็ด เจ๊ โลลิ etc. อารมณ์ไม่คงที่เอามากๆ พอมาย้อนดูมันก็ดูเป็นการยากว่าไอนี่ชอบวาดอะไร

จนหลืบก็เคยคิดว่าบางอย่างเราก็ต้องเน้นให้คนจำได้ ว่าเราชอบอะไร ชอบวาดอะไร หลืบก็เคยมีเเผนว่าเเยกaccountซะบ้างเหมือนกัน ใครใคร่เสพอันไหนก็ไปอันนั้น ปลาทองก็คิดจะทำสองอัน เเยกๆกันไปเลย เเต่ความเหนื่อยมันก็จะเพิ่มขึ้นx2 ประกอบกับเวลาที่น้อยนิด อยากทำนู่นนี่เต็มไปหมด

พออายุเริ่มมากก็เริ่มเข้าใจว่าเวลามันสำคัญเหมือนกัน เวลามีค่ามากจนเราสามารถเอาไปทำอะไรได้หลายอย่าง

ก็อยากบอกเพื่อนๆอย่ามัวนั่งกด granblue fantasy ตีกิลวอ หมุนกาชา เวลามีมากกว่าที่คุณคิด

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

154 Nameless Fanboi Posted ID:BKEiE5S+cW

"จำลองอาบน้ำ 5 ขัน ส่วนธนาธรอาบน้ำไม่ใช้สบู่และแชมพู เรียกได้ว่าสูสีครับ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

"ส่วนประยุทธ์ประกาศเป็นโอตะโอตู่ แม่งไม่อาบน้ำแน่นอน"
#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

155 Nameless Fanboi Posted ID:yDMwnYZDGX

💥คนมีรถยนต์ ไม่มีถือว่าพลาด!! - บอกเลยเหมือนได้รถใหม่

📮กล่องเพิ่มความแรงรุ่นใหม่ล่าสุด SUPER OBD2

📮เหยียบสนุก เบาเท้า เร่งแซงหายห่วง ประหยัดน้ำมัน สุดยอด

💈 ราคาสุดคุ้ม กล่อง Power Prog ราคา 590 บ.(จากปกติ 850บ.)

💥โปรแรง ซื้อ2(เลือกสีได้) ลดเหลือเพียง 990บ. (ด่วน ก่อนหมดโปร)

❤กล่องสีแดงสำหรับเครื่องดีเซล 💛กล่องสีเหลืองสำหรับเครื่องเบนซิน

-------------------------------------------------------------

✅รอบเครื่องมาเร็วขึ้น ออกตัวดีกว่าเดิม แซงมัน เหมือนซื้อรถใหม่

✅ประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่า 20%

✅ รถตั้งแต่ปี 2000 ขึ้นไป สามารถติดตั้งได้ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ

✅ใช้ได้ทั้ง รถเบนซิน และ ดีเซล และรถติดแก็ส NGV LPG

✅ไม่มีผลเสียกับเครื่องยนต์และระบบไฟ ประกันศูนย์ไม่ขาด

🚀 ไม่มีผลเสียต่อECU รถ เมื่อถอดออกคืนค่าเดิมทุกอย่าง

✅คันเร่งตอบเสนอดีขึ้น เหยียบเบาขึ้น ติดเท้า

✅ต่อเกียร์ไหลลื่น ขับขี่คล่องตัว ความเร็วต้นดี กลางเร่งขึ้น ปลายไหลลื่น

✅รถแต่งใช้ได้ รถบ้าน รถเดิมๆเห็นผลชัดเจน จนร้องว้าว!

✅ติดตั้งง่ายไม่ต้องเดินไฟ ใช้เวลาไม่เกิน1นาที ผู้หญิงก็ทำได้

🔰ของแท้ 💯 รับประกัน1ปี
_________________________________________

📮ฟรีค่าจัดส่ง+มีเก็บเงินปลายทาง
_________________________________________

🔥สนใจ พิมพ์ชื่อที่อยู่ เบอร์โทรจัดส่ง ใต้โพสได้เลย
ส่งจริงทุกวัน ได้รับของ 100%

156 Nameless Fanboi Posted ID:yyT5a7Xhgs

>>155
ชื่อ Sirn Prajarong
ที่อยู่ fanboi.ch

157 Nameless Fanboi Posted ID:Ow8un2daG+

British people complaining people stole their anthem even though it was originally French.
HON HON HON HON

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

158 Nameless Fanboi Posted ID:JyF4AXz.at

เฟมินิสต์ มีหลายประเภท บางครั้ง เฟมินิสต์ยังรำคาญกันเอง ยังไม่ถูกกันเอง ไม่ใช่แค่ ต่อต้านดาราอวยกระหรี่ ที่เห็นได้ชัด เฟมินิสต์บางพวกต่อต้านการแต่งตัว สั้น วาบหวิว โชว์เนื้อหนัง เพราะเป็น sex object ในขณะที่เฟมินิสต์บางพวก บอกว่า นี้ร่างกายกู ยุ่งไรด้วย ว ตราบใดที่มันยังถูกกาลเทศะ ก็ไม่ผิด ที่ต้องมาเรียบร้อยเป็นชี สิสนับสนุนแนวคิดผู้ชายเป็นใหญ่ เป็นเจ้าของร่างกายผู้หญิง ห้ามโชว์เนื้อหนัง พูดมาตั้งยาว สรุปว่า สิ่งใดเกี่ยวกับผู้หญิง สิ่งนั้นเข้าใจยาก ไม่ต้องพยายามเข้าใจหรอก ผู้หญิงด้วยกันยังไม่เข้าใจเลย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

159 Nameless Fanboi Posted ID:CSE8bNYg.6

จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าสังคมโซเชียลของเราตอนนี้ช่าง ignorant กันเหลือเกิน ยิ่งพูดกลายเป็นเหมือนยิ่งยุ ทั้งเพจชื่อดังรวมถึงบรรดาลูกเพจด้วย ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าของสังคมไทย

แต่จะบอกอะไรให้อย่างนึง..
ถ้าเรามัวแต่ไปสนใจตัวเลขยอดreach หรือยอดไลค์..
เราเองนั้นแหละที่จะเป็นฝ่ายสูญเสียความรักไป..
โอเคว่าคุณอาจจะชนะบริษัทคู่แข่งของคุณทุกบริษัทจากการนับยอดไลค์..
แต่ว่าคุณเคยนับไหมว่ามีคนรักคุณกี่คนบ้าง..
สิ่งที่คุณไม่เคยชนะพวกเขาเลยคือความรัก❤️
คุณมีคือตัวเลขมากมายอยู่ในมือแต่คุณควรจะเรียนรู้วิธีที่ใช้มันอย่างถูกวิธี

การหากินบนความทุกข์ของคนอื่นแบบนี้มันไม่น่ารักเลย คุณจะโปรโมทจะไรตอนไหนกี่โมงก็ได้ แต่คุณจะโปรโมทเพื่อหวังกระแสให้ทุกคนมารุมทำร้ายคนๆนึงด้วยคำพูดตอนตี1 ไม่ได้ โอเคคุณอาจจะทำหน้าที่ของคุณอย่างเต็มที่แล้วเข้านอนอย่างสบายใจ แต่คนที่ตกเป็นเหยื่อ คุณรู้ไหมว่าเขาต้องนอนร้องไห้ เพราะต้องเห็นคนที่รักเขาเป็นทุกข์ใจจากการกระทำของคุณ

การเอาใจเขามาใส่ใจเรามันไม่ใช่เรื่องยากเลย ถ้าคุณเรียนรู้ที่จะทำมันตั้งแต่แรกคงไม่มีคนเทคุณเยอะขนาดนี้ แต่ก็จะเป็นกำลังใจให้นะคะ เพราะเชื่อว่าการให้โอกาสเป็นสิ่งที่สำคัญในการอยู่ร่วมกันในสังคม💕 แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกคงจะต้องจริงจังมากขึ้น รวมถึงคนที่คอมเมนต์เข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยค่ะ

ต่อจากนี้คุณไข่จะขอต่อสู้เพื่อสิทธิความเป็นมนุษย์ของตัวเองบ้าง มันหลายครั้งแล้วและอดทนมานานมากๆ คุณไข่ไม่เคยทำร้ายใครก่อน😌🍃

160 Nameless Fanboi Posted ID:OtHpxieizd

Facebook เป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้ระบอบประชาธิปไตยชิบหาย เพราะ Facebook มันจะเอาแต่เรื่องที่เราชอบ มาโผล่ที่หน้าเฟสของเราบ่อยๆ รวมทั้ง มันจะให้เราเห็นคนที่มีแนวคิดเดียวกับเรา บ่อยกว่าคนที่คิดตรงข้ามกับเรา

ดังนั้น คนชอบพรรคใด มันก็จะเอาแต่สิ่งที่คนโพสต์เรื่องดีๆของพรรคนี้ ขึ้นมาให้อ่านบ่อยๆ ส่วนเรื่องที่มีคนด่า จะไม่ค่อยขึ้นให้เห็น
กลับกัน คนเกลียดพรรคไหน มันก็จะเอาแต่เรื่องที่มีคนด่าพรรคนี้ ขึ้นมาให้อ่านบ่อยๆ ส่วนเรื่องที่มีคนชม จะไม่ค่อยขึ้นให้เห็น

มันกลายเป็นว่า Facebook ทำให้คนติดอยู่ในกะลาหนักกว่าเดิม รู้เรื่องรอบด้านน้อยกว่าเดิม "โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยขวนขวายหาข่าวสารเอง แต่รอให้ข่าวสารมาเสิร์ฟตรงหน้าเอง"

161 Nameless Fanboi Posted ID:TDHsrEUTd.

“สมัยก่อนเรายังไม่มีคอนเซปต์เรื่อง “องค์กรอิสระ” หน่วยงานที่รับหน้าที่จัดการเลือกตั้งก็คือ กระทรวงมหาดไทย

เป็นที่รู้กันดีในสมัยนั้นว่าตำแหน่ง รมต.มหาดไทย นั้นแย่งกันฝุ่นตลบ จัดเป็นกระทรวง “เกรดเอ” ที่พรรครัฐบาลใหญ่ที่สุดจะต้องถือครองไว้ เพราะมหาดไทยนั้นคุมทั้งตำรวจ นายอำเภอ ผู้ว่า ฯลฯ

ก็ไม่รู้ทำไม ในสมัยนั้นใครคุม มหาดไทย มักจะชนะเลือกตั้งได้บ่อยๆ หน่วยเลือกตั้งก็มีไฟดับบ้าง มียกหีบหนี (ห้ามผวน) บ้าง มีไข้โป้งบ้าง ฯลฯ

จากนั้นเราจึงมีคอนเซปต์ “องค์กรอิสระ”

ซึ่งจากชื่อก็บอกชัดอยู่แล้วว่าอิสระจากอำนาจรัฐบาลนั่นแหละ

แล้วเราก็เลยมีองค์กร กกต ถือกำเนิดขึ้น ได้งบประมาณของตัวเอง เป็น “อิสระ”

สมัยแรกๆ กกต นี่คือองค์กรที่มีเกียรติมาก (เมื่อเทียบกับมหาดไทย) อัพเกรดการเลือกตั้งของไทยให้โปร่งใส มีกฎกติกาชัดเจน หีบไม่หาย ไฟไม่ดับ

แต่แล้วเมื่อกาลเวลาผ่านไป ดูเหมือนการเลือกตั้งไทยจะเป็นขาลงเรื่อยๆ

สมัยก่อน จำได้ว่าแค่หันคูหาผิดทาง ก็ผิดแล้ว

มาวันนี้เอากล่องกระดาษมาใช้แทนคูหาได้สบายๆ ไม่มีอะไรผิด

อ้อ ... และแน่นอนว่าเลี้ยงโต๊ะจีนไม่ผิด

มาจนถึงตอนนี้ ก็ไม่แน่ใจละว่าเราเหมือนหรือต่างจากสมัยมหาดไทยแค่ไหน

องค์กร “อิสระ” นี่อิสระจริงไหม แล้วอิสระจากอะไรกันแน่

อิสระจากอำนาจรัฐบาล ตามนิยามเดิม

หรือจริงๆคือเป็น องค์กรอิสระจากประชาชน”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

162 Nameless Fanboi Posted ID:Ytqy+RW11L

ท็อปฟอร์มสัสๆ

1. กกต ไปสอบสวน ทษช. กรณีช่วยพรรคอื่นหาเสียง

2. ตาไพบูลย์มาให้สัมภาษณ์แนวว่า ถ้า พปชร. ได้ 126 สส. แต่ไม่มีใครอยากร่วมรัฐบาล ถึงตั้ง รบ. ไม่ได้ ลุงก็เป็นนายกอำนาจเต็ม +ม44 ต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะตั้งได้

3. ประวิตรบอก สว.ตั้งมา ต้องคุมได้

สันขวานอะ

163 Nameless Fanboi Posted ID:vWxcfBXTxU

>>160 เพราะงี้เลยต้องไปวอร์แดนศัตรูบ่อยๆ เพิ่มความเข้มแข็ง

164 Nameless Fanboi Posted ID:HOnCNoQjlM

"โอมากาเสะที่นี่คนอีสานทั้งร้าน เชฟใหญ่เป็นคนร้อยเอ็ด เชฟบอกว่า คนทำงานร้านอาหารญี่ปุ่นกว่า 90% น่าจะเป็นคนอีสาน
.
เชฟบอกว่า เชฟอาหารญี่ปุ่นที่เป็นคนไทยคนแรกเป็นคนอุบลฯ สมัยที่ฟูจิมีแค่ 5-6 ร้าน ด้วยเน็ตเวิร์คของคนอีสานเลยชวน ๆ ตาม ๆ กันมาทำร้านอาหารญี่ปุ่น
.
เป็นการย้ำเตือนว่า ถ้าจู่ๆ วันนึงคนอีสานหยุดทำงานขึ้นมา ชีวิตตามปกติของชาวกรุงเทพฯ ชะงักงัน อยู่ไม่ได้แน่นนอน @ 海味 Umi"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

165 Nameless Fanboi Posted ID:c6KYg0j395

>>164 แย่ละ กุแดกโอมากาเสะทุกมื้อ สงสัยต้องเปลี่ยนบินไปแดกที่ญี่ปุ่นแทน ลำบากจัง

166 Nameless Fanboi Posted ID:SHXochhew6

จะพูดเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้ายล่ะครับ

ผมยังยืนยันว่านี่เป็นเรื่องของสิทธิผู้บริโภคล้วนๆ ที่รัฐไม่ควรมาเสือก

- เบียร์นอนแอลมีขายในไทยตั้งนานแล้ว ทำไมถึงพึ่งมามีปัญหา กลายเป็นข่าว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ขายกันมาหลายปีไม่มีข่าวอะไร

- เพราะเสือกเป็น ไฮเนเก้น ที่เอาเข้ามา ถ้าเป็นยี่ห้ออื่นจะไม่มีใครออกมาประสาทแดกเลย

- เพราะไฮเนเก้น เสือกเป็นแบรนด์ที่คนส่วนใหญ่ รู้จัก จำได้

- เลยมีพวกประสาทแดก บอกว่าการที่มึงเอาเบียร์นอนแอลมาขาย เพราะมึงอยากโฆษณาทางอ้อมถึงเบียร์ปกติ

- ซึ่งสามารถตอบได้ 2 อย่าง อย่างแรกคือ เพราะประเทศนี้เสือกมี พรบ ห้ามโฆษณา ซึ่งเป็น พรบ ส้นตีน กฏหมายควายๆ ว่ากันตามหลักทุนนิยมเสรี การทำธุรกิจก็ต้องมีโฆษณาสิวะ นี่มึงไปห้ามเขาโฆษณาไง เขาเลยต้องทำแบบนี้ สิงห์แม่งถึงทำโซดา ช้างเลยทำน้ำแร่ เพราะมันโฆษณาได้

- เพราะเราเสือกมีกฏหมายดัดจริต มันเลยทำให้ทุกอย่างไม่เป็นไปตามหลักการที่ควรจะเป็น

- อย่างที่สองคือ รัฐมีสิทธิ์มาเสือกอะไร จะมาคิดแทนทำไม ผู้บริโภคไม่ได้โง่ เขามีสิทธิ์ในการตัดสินใจซื้อแดก หรืออยากจะเรียกว่าอะไรก็ได้ ทำไมต้องมาห้ามกูคิด ห้ามกูตัดสินใจ

- นี่เป็นเรื่องของสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์เลย ตั้งแต่สิทธิในการตัดสินใจ สิทธิในการเลือกจะแดกอะไรก็ได้ สิทธิในการประมวลผล แดกแล้วจะชอบไม่ชอบ หรือจะเรียกเหี้ยอะไรก็ตาม

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

167 Nameless Fanboi Posted ID:QvHbRCvXr4

>>166 แดกแล้วอย่าเสือกขับรถด้วยสิวะ
#มิตรสหายอุบัติเหตุทางท้องถนนท่านหนึ่ง

168 Nameless Fanboi Posted ID:guQ5JSSUxa

“จากใจของเด็กนักเรียนที่เคยถูกครูเรียกว่า "ลูกไอ้ทักษิณ" ถึงความล้มเหลวของระบบการศึกษา
.
ตอนเรียน ม.ปลายเราเป็นเด็กคนนึงที่สนใจเรื่องของการเมือง เพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวและควรมองข้าม ศึกษาข้อมูลต่างๆ วิเคราะห์ ด้วยเหตุและผล เพื่อนถามอะไรก็ตอบไปตามความคิดเห็น ตรงข้อมูลกับเพื่อนบ้าง ขัดแย้งกันบ้าง ตอนนั้นไม่เคยคิดว่าความคิดตัวเองนั้นถูกเสมอ เรายอมฟังสิ่งที่เพื่อนพยายามอธิบาย ช่วงปี 52-54 มีเหตุการณ์หลายๆอย่างเกิดขึ้น กลุ่มผู้ชุมนุมในขณะนั้นล้มตาย เป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าที่สุด ยังจำได้ดีกับคำว่า "ผมเสียใจ แต่ไม่ขอโทษ"
.
สิ่งที่น่าเจ็บใจที่สุดคือ ครูสังคมคนนึง ทำการสอนๆอยู่สักพัก อยู่ดีๆ ถามขึ้นมาว่า "ในห้องนี้ใครเป็นเสื้อแดงบ้าง" ด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบเพื่อนๆในห้องหลายคนชี้มาที่ตัวเรา ครูสังคมเดินปรี่มาราวกับเราเปนภัยคุกคามของชาติ พร้อมกล่าวว่า "เธอเป็นไอ้พวกเผาบ้านเผาเมืองหรอ" เพื่อนๆในห้องพร้อมหัวเราะกันเปนเสียงเดียว ในใจทั้งโกรธและเสียใจ อยากจะไปให้พ้นๆจากตรงนี้ซะ เราโกรธจนหูอื้อไปพักนึง ได้ยินแต่เสียงครูที่พูดว่า ไอ้ทักษิณมันโกง มันล้มเจ้า คิดว่าไม่ไหวแล้วเลยถามกลับไปว่า โกงอะไรครับ คดีอะไร โกงยังไง
ราวกับปิดสวิทช์ เสียงหัวเราะเสียงดังต่างๆก็เบาลง คุณครูเงียบไปชั่วครู่และเรามองด้วยความสงสัยปนกวนตีน คุณครูตอบไม่ได้ ตอบได้แค่ว่า "มันโกงเยอะ มันโกงไปเป็นแสนล้านบาท เธอจะไปรู้อะไร" คืองงไปเลย ว่าคนแบบนี้หรอที่กำลังสอนเราอยู่ แล้วเพื่อนๆอีก มึงอยู่ ม5 กันแล้วนะเว้ย คือตอนนั้นแค่เห็นต่าง ก็กลายเป็นลูกทักษิณแล้ว กลายเป็นคนล้มเจ้าแล้ว ได้หรอ !?!!
.
ตลอดเทอมที่เรียนกับครูคนนี้ไม่เคยมีความสุขเลย ทุกครั้งที่ครูเรียกก็จะเรียกว่า "ลูกไอ้ทักษิณ" คือเราต้อง ชินหรอ แล้วทานโทษนะ ถามอะไรที่เป็นข้อเท็จจริงก็ตอบไม่ได้สักอย่าง ตอบกลับแต่ "ไอ้ทักษิณโกง ล้มเจ้า ขายชาติ ไม่มีแผ่นดินจะอยู่" สามประโยคนี้สอดแทรกอยู่ในทุกเนื้อหาของการสอน น่าแปลกใจที่วิชาสังคมมีเนื้อหามากมาย อย่าง เศรษฐศาสตร์ ศาสนา หน้าที่พลเมือง แต่ทุกเนื้อหาสาระคุณครูสามารถสอดแทรกทุกอย่างเกี่ยวกับคุณทักษิณได้อย่างแนบเนียน เพื่อนๆตอนนั้นก็เฮ หัวเราะคิกคัก ดีใจ ไม่รู้ตัวเองว่า ถูกกรอกหูด้วย Hate speech และสร้างตัวตนของเราให้กลายเปนเสมือนแกะดำในห้อง
.
ร่ายมาซะยืดยาวทั้งหมดนี้แค่อยากจะฝากถึงคุณครูรุ่นใหม่ เลิกเถอะกับการปลูกฝังแนวคิดของตนเองให้กับเด็กๆ อย่าทำสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับเรา
.
ไม่เคยโกรธเพื่อนเลย ตอนนี้หลายๆคนคงรู้ตัวบ้างแล้วว่าตัวเองก็มีความคิดเป็นของตัวเอง คงรู้แล้วว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย
.
จนถึงตอนนี้
ทักษิณออกจากประเทศเราไปแล้วกว่า 13 ปี
แต่ความคิดปลุกผีทักษิณมาด่าให้คนเกลียดยังคงได้ผลเสมอ
หยุดเถอะวาทกรรม #ไม่เลือกเราเขามาแน่
เชื่อว่า First voter มีความคิดเป็นขิงตัวเอง
24 มีนานี้ ออกมาเถอะ ในโลกของประชาธิปไตย ทุกคนต่างก็มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน มาสร้างอนาคตไปด้วยกัน เพื่อตัวเองและคนรุ่นใหม่ในอนาคต
.
รัก และคิดถึงครูเสมอ
ลูกไอทักษิณ”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

169 Nameless Fanboi Posted ID:9Uao0pYqfW

>>166 เราดันปล่อยให้บางองค์กรมีอำนาจในการสื่อสารอยู่ฝ่ายเดียวไง ตอนนี้ทำงานครอบจักรวาลไปแล้ว รัฐก็ไม่กล้าแตะด้วยเพราะฐานมวลชนเยอะมาก

>>167 กูจะดีใจมากถ้าเงินทุกบาทที่เก็บจากภาษีเหล้า เอาไปพัฒนาระบบตรวจจับคนเมาขับรถ รวมถึงพฤติกรรมขับขี่อันตรายต่างๆ แต่ไม่ใช่เอาไปสร้างกระแสทำให้คนดื่มทุกคนเป็นคนเลวคนโง่

#มิตรสหายไม่แดกเหล้าแต่เห็นใจคนแดกท่านหนึ่ง

170 Nameless Fanboi Posted ID:jEfJ3UZ7Ca

>>168 สลิ่ม=ประหาร

171 Nameless Fanboi Posted ID:wmE10Wpxjy

ชายผู้เลือกลุงตู่แบบฉัน
แม้จะมีคนบอกว่าโง่
แต่ฉันก็รู้ตัวเองดีว่า
ฉันนั้นยังไม่ค่อยฉลาดนัก
อีกด้วยอ่ะครับ . .

#อยากจะลงเรียนใหม่เพื่อเอาเกรดเฉลี่ยไปจีบเทอจัง
#ด้วนรักฟ้า
#IOก็มีหัวใจ
#ความเวิ่ลเว้อของคลประหยัดไอคิว

172 Nameless Fanboi Posted ID:7EyjH81Dr4

ประเทศไทยมันประเทศมารยาททางลัด

1. อำนาจจก็ต้องทางลัด แบบบังคับ จี้ๆๆๆ แล้วพอมันเสร็จเร็วถูกใจ คนไทยก็จะเหลิง ติดอำนาจลัดจนเคยตัว คิดว่าสบาย ไม่คิดถึงผลกระทบทางตรงและทางอ้อมในอนาคต

2. อยากได้อะไรก็ใช้ น้ำใจทางลัด ไม่ได้ดั่งใจก็ คนไทยรึเปล่า ข้าอาวุโสกว่านะ ฯลฯ อะไรแบบนี้ มันไม่ควรใช่ นี่ไม่ใช่มารยาทดี นี่คือมารยาทสถุลทรามถ่อย ที่เรียกว่า หน้าด้าน ในภาษาชาวบ้าน

3. ปกป้องทางลัด พอเขาวิจารณ์อะไรนิดหน่อยทำมาปกป้องชาติ ชี้หน้าคนวิจารณ์ว่าชังชาติบ้าง ไม่รักชาติบ้าง เห้ย คือถ้ามันเป็นอย่างข้อหนึ่งข้อสองมันเรียกว่าจิตสำนึกต่ำนะครับ แต่ปกป้องกันแบบเป็นบ้าเป็นหลัง กลับกันคนด่าคนอื่นว่าชังชาติเนี่ย ชอบระเบียบแบบฝรั่งมากๆ ชมไม่ขาดปาก แต่พอคนไทยที่คิดได้และวิจารณ์คนที่แม่งไม่ทำระเบียบสากลในไทย ก็ทะลึ่งไปด่าเขาว่าไม่รักชาติ ขาก ทุ้ย จะอ้วก อีดอก

4. ความดีทางลัด ใครมีบุญคุณมากกว่า ถูกทุกเรื่องทันทีแบบอัตโนมัติ นิรโทษกรรม set zero ให้เขาง่ายๆ เลย เช่นญาติผู้ใหญ่ ทำทุกอย่างถูกหมด ไม่งั้นบาป นรกกินกบาล บลาๆๆๆ นิทานลิงหลอกเจ้าว่ะ

5. ควบคุมทางลัด สอนมาทุกอย่างให้เป็นแบบเดียวกัน ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นตามแบบบลอคนู้นนั้นนี้นี่ดีมาก พอมีคนบอกว่านี่มันแค่อุปกรณ์รับคำสั่งไม่ใช่มนุษย์ ก็ไปชี้หน้าด่าว่าเขาไม่รักชาติอีก เลวทราม ต้องถูกกำจัด เจริญชิบหาย

6. เอาตัวรอดทางลัด ไม่คิดจะช่วยอะไร พอรู้ว่าตัวเองพลาดอะไรไปก็ทำเป็นลงรูปเค้ก รูปแฟน รูปกาแฟ กระท่อม บ้านลอฟท์ ดอกไม้ แหวนแต่งงาน ดินเนอร์สุดโรแมนทิค แล้วก็บอกว่า ไม่ยุ่งแล้วจ้า ทั้งที่แต่ก่อนยิ่งกว่าคลั่ง คลั่ง คลั่ง จนแบบ เห็นคนอื่นที่ไม่เหมือนตัวเป็นแค่ยุงแค่แมงเม่าที่เอายาฆ่าแมลงฉีดได้ทันที

จริงๆ มีเยอะกว่านี้แต่แค่นี้ก็โหดร้ายแล้ว มากพอที่จะถูกเสียบประจานได้จากผู้ใหญ่ คนรักชาติ คนที่แม่งเข้าตัวแล้วนั่นแหละ หรือน้อยที่สุดก็ไปเหน็บแนมในคอมเมนท์ที่อื่น ด่าในทวิทเทอร์ โพสท์แซะในหน้าวอลล์แล้วตั้งค่าการมองเห็นเฉพาะพวกตัวเองหรือพวกที่คิดว่าเข้ามาอ่านแล้วจะมุ่งหน้ามากระทืบเรา ถามว่ากลัวมั้ย กลัวบ้าง แต่มันก็พิสูจน์ว่า คนไทยแม่งจับต้องไม่ได้ ศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่าง ทุกสิ่งขึ้นกิ้ง ปรับเปลี่ยน วิจารณ์ ติติง ให้คำแนะนำเพื่อพัฒนา (จิต [ใต้] สำนึก) ไม่ได้เลย อยากอยู่แบบเดิม แยกไม่ออกว่าอะไรคือ classic อะไรคือ obsolete อะไรที่ต้อง preserve อะไรที่ควร taxidermy

เนี่ย

173 Nameless Fanboi Posted ID:.oaT//s1RG

1. ตอนตั้งพรรค แกนนำทั้งหลายยังเป็นรัฐมนตรี ไม่ลาออกจากตำแหน่ง
2. ตอนจัดงานเปิดตัวยิ่งใหญ่ที่เมืองทอง เอาเงินมาจากไหน? เอาเวลาที่ไหนทำงาน? พรรคอื่นยังอยู่ใต้ประกาศ คสช. ห้ามทำกิจกรรม
3. ตอนตั้งพรรค ใช้วิธีดูด ส.ส. ที่เป็นเจ้าพ่อท้องถิ่น นักการเมืองหน้าเก่า มาจากพรรคอื่น คนที่เคยด่าเขาไว้ทั้งหลายเอามาเข้าพรรคหมด แรมโบ้อีสาน, ลูกบุญทรง, สมศักดิ์, สุริยะ, บ้านคุณปลื้ม ชลบุรี
4. จัดโต๊ะจีน โต๊ะละสามล้าน เก้าอี้ตัวละสามแสน มีนักการเมืองพรรคอื่นไปร่วมนั่งยิ้มแฉ่งเฉย มีชื่อโต๊ะเป็นหน่วยงานราชการ คิงพาวเวอร์จัดไป 6 โต๊ะ 18 ล้าน ทั้งที่กฎหมายเลือกตั้งห้ามรับเงินจากหน่วยงานรัฐ ห้ามรับเงินบริจาคจากคนเดียวเกิน 5 ล้าน กกต. สอบแล้วบอกไม่ผิด เพราะไม่ได้รับเงินต่างชาติ
5. ตั้งชื่อพรรคพ้องกับนโยบายรัฐ ช่วงท้ายอยู่ดีดีโครงการชื่อเหมือนพรรคไล่แจกเงิน ก่อนหน้านี้ห้าปีไม่เคยทำ
6. กำหนดวันเลือกตั้งจะเป็นวันไหนไม่มีใครรู้เพราะรอ คสช. บอก จริงๆยังไม่รู้เลยว่าจะได้เลือกตั้งกันหรือเปล่า แต่พอประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งอีก 2 ชั่วโมงมึงขึ้นป้ายหาเสียงได้เลย คือ มึงสั่งทำไว้เมื่อไร? แล้วมึงรู้ได้ยังไง?
7. ตอนระเบียบ กกต. เรื่องการหาเสียงยังไม่ออกมา แน่นอนว่าพรรคอื่นก็กลัวไม่กล้าขยับตัวเดี๋ยวถูกหาว่า ทำผิด พรรคนี้ไม่เป็นไรติดป้ายนำไปก่อนเพื่อน สักพัก กกต. ออกระเบียบมาจำกัดจำนวนป้าย แถมบอกป้ายที่ติดไปก่อนหน้านั้นไม่เอามานับด้วย ใครจะไปรู้?? ก็มึงรู้อยู่คนเดียว
8. เขียนกติกาเองบังคับพรรคอื่นต้องหาสมาชิกจำนวนมหาศาล ทุกคนลำบากกันหมด แล้วมีคนถ่ายคลิปว่า พรรคนี้บังคับสมัครสมาชิกพรรคพร้อมบัตรคนจน แน่นอนว่า เรื่องก็เงียบ
9. แกนนำลงสมัครไม่ได้สักคน อุตตม, กอปรศักดิ์, สนธิรัตน์, สมคิด เพราะรัฐธรรมนูญที่ตัวเองเขียนมาเองบอกว่าต้องลาออกภายใน 90 วันหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้จึงจะลงสมัครได้ ตัวเองไม่ลาออกไม่ได้ลงสมัครก็จริง แต่เป็นแกนนำชัดเจนขึ้นเวทีปราศรัยปาวๆ ไม่กะเป็น ส.ส. ก็ได้ รอขอเป็นรัฐมนตรี พูดง่ายๆว่า เลี่ยงกฎหมายที่ตัวเองเขียนมาเองเพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน แล้วยังจะพูดได้ว่าเป็นพรรคสุจริตไหม?
10. ทำเป็นแห่ขันมากเทียบเชิญพลเอกประยุทธ์ แล้วไอ้นี่ก็เล่นตัว ทำเป็นขอคิดก่อนรอจนวันสุดท้าย เล่นละครท่องบทมาแข็งๆ ว่าพรรคพลังประชารัฐไม่เกี่ยวอะไรกับคสช. ดูถูกว่า ประชาชนโง่ ไม่รู้หวังให้ใครหลงเชื่อ?
11. ผู้สมัครว่าที่นายกรัฐมนตรี ไม่ลาออกจากตำแหน่งปัจจุบัน ไม่ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้า คสช. ถืออำนาจมาตรา 44 อยู่ระหว่างเลือกตั้งจะสั่งอะไรก็ได้ แล้วให้ผู้ตรวจการแผ่นดินที่ตั้งมาเองวินิจฉัยว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ
12. หนึ่งเดือนก่อนเลือกตั้ง เพจพรรคมีคนไลค์สองพันกว่า ทวิตเตอร์สามร้อย ชัดเจนแล้วว่าไม่แคร์ฐานเสียงคนเล่นอินเตอร์เน็ต หวังพึ่งฐานเสียงเจ้าพ่อที่ดูดมาก็พอ สองสัปดาห์สุดท้ายพยายามมาเล่นบ้าง โดนด่าก็สมน้ำหน้าไป
13. ตอนแรกยอมขึ้นเวทีดีเบตตีหน้าซื่อ พูดจาสวยหรูเหมือนไม่ได้ทำอะไรมาเลยก่อนหน้านี้ ลอยตัวออกจากปัญหาของ คสช. แล้วส่งไพบูลย์ออกหน้าไปบู๊แล้วตายแทน อุตตม นั่งยิ้มแฉ่งลอยตัว ตอนหลังเหตุผลสู้ใครเค้าไม่ได้ ไปที่ไหนก็ตกเป็นเป้าโจมตีเลยปฏิเสธเวทีดีเบตทั่วประเทศ อีกนัยยะหนึ่งคือ ไม่แคร์ที่จะชี้แจงเหตุผลอะไรต่อสาธารณะแล้ว ก็มันไม่มีเหตุผลอะไรจะไปชี้แจงนั่นแหละ
14. ตอนเข้ามาอยู่ในอำนาจนั่งด่านโยบายฝ่ายทักษิณ แต่เอาจริงก็รู้ว่า คนมันชอบ พอถึงเวลาประกาศนโยบายของตัวเองปรากฏว่า ลอกนโยบายที่เคยด่าของเค้ามาหมดเลย แถมเพิ่มไปหนักกว่าเขาอีกต่างหาก ไม่อายฟ้าดินว่า ตัวเองเคยพูดอะไรไว้
15. ลงสนามเลือกตั้งเองโดยที่เป็นคนเขียนกติกามาเผื่อให้ตัวเองได้เปรียบ ไม่พอ แต่งตั้งส.ว. 250 คนมาด้วยตัวเอง เลือกคนมาเป็น กกต. เป็นศาลรัฐธรรมนูญ เป็นองค์กรอิสระทั้งหลายเอง แล้วยังกล้าพูดว่าจะพาประเทศไปข้างหน้าสู่ความปรองดอง ใครเค้าจะไปอยากปรองดองด้วย
พูดตรงๆ แค่พยายามเก็บข้อมูลแล้วเขียนด่ายังเหนื่อยเลยทำไม่ทัน ใครคิดอะไรได้ช่วยเติมหน่อย พยายามไล่เรียงข้อกฏหมายและข้อเท็จจริง จนเริ่มรู้สึกว่า ขี้เกียจจะพูดเหตุผลกับคนหน้าด้านที่จะเอาทุกอย่างให้ได้ ขอรวมๆ แล้วด่ามันแบบนี้แหละ
ตอน คสช. เข้าสู่อำนาจออกประกาศคำสั่งอะไรก็ได้ ยังเห็นว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของสายธารความขัดแย้งทางการเมือง ยังไม่รู้สึกเกลียดมันมากขนาดนี้ นี่เรามาถึงสนามเลือกตั้งที่มีผู้เล่นนิสัยแบบนี้อยู่เป็นตัวเลือกได้ยังไง?
แถมยังน่าแปลกใจที่ยังมีคนจะเลือกอีก...

174 Nameless Fanboi Posted ID:dvUa7gysD1

>>172 มันคือ Mindset ของคนประเทศนี้ ทำกันทุกฝ่าย เพราะเราไม่เชื่อในเหตุผล เราเชื่อในอำนาจ

ไม่งั้นคงไม่เกิดปรากฏการณ์ 8-2-62 ซึ่งปฏิกิริยาคนที่เห็นด้วยนี่ไม่ได้ต่างจากอีกฝ่ายในเหตุการณ์ 22-5-57 เลย คือใข้อำนาจเหนือกว่าเกทับปิดปากอีกฝ่าย หรือถ้าใกล้ตัวหน่อยไม่การเมือง เวลามีเรื่อง คนบ้านเราก็ชอบไปหาผู้ใหญ่มาเคลียร์ อีกฝ่ายก็จะไปหาผู้ที่ใหญ่กว่ามาเกทับ ก็แบบนี้ละ

175 Nameless Fanboi Posted ID:cv8praoJ2I

บทอธิษฐานสำหรับการเลือกตั้ง

พระผู้เป็นเจ้า

ข้าพระองค์ทั้งหลายขอขอบพระคุณสำหรับสิทธิ์และความรับผิดชอบในการอยู่ในสังคมประชาธิปไตย

โปรดประทานสติปัญญาแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายเพื่อที่จะทำหน้าที่ของตนในช่วงเวลาของการเลือกตั้ง

โปรดปกปักษ์เราจากบาปแห่งความสิ้นหวังและความเกลียดชัง โปรดป้องกันเราจากสิ่งลวงหลอกและภาพฝันอันเกินจริงทั้งหลาย

แต่โปรดเสริมกำลังของข้าพระองค์ทั้งหลายเพื่อสร้างการเมืองให้เป็นงานที่จะถวายเกียรติแด่พระองค์ด้วยการรับใช้สาธรณะประโยชน์ของทุกคน

ข้าพระองค์ทั้งหลายอธิษฐานในนามของพระเยซูคริสต์ พระผู้ช่วยให้รอดของเรา

อาเมน
.
.
.
บทอธิษฐานกลุ่ม

ผู้ประกอบพิธีกล่าว : พระผู้เป็นเจ้าของทุกห่วงเวลาและสถานที่ พระผู้เป็นเจ้าแห่งความสัตย์จริง ข้าพระองค์ทั้งหลาย มาร่วมกันทีนี่เพื่ออธิษฐานขอสติปัญญาในการเลือกตั้งที่จะมาถึง

ให้เราขอบพระคุณพระผู้เป็นเจ้าพร้อมกัน

สำหรับผืนแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายของผู้คนในแผ่นดิน

ที่ประชุมกล่าว : ขอบพระคุณพระเจ้า
.
.
ผู้ประกอบพิธีกล่าว : สำหรับทุกผู้ที่ทำงานเพื่อสันติภาพและความยุติธรรมบนผืนแผ่นดินนี้

ที่ประชุมกล่าว : ขอบพระคุณพระเจ้า
.
.
ผู้ประกอบพิธีกล่าว : สำหรับผู้นำผู้รับใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์

ที่ประชุมกล่าว : ขอบพระคุณพระเจ้า
.
.
ผู้ประกอบพิธีกล่าว : สำหรับประชาธิปไตยอันแข็งแกร่ง และเสรีภาพที่จะมีส่วนร่วมในงานสาธารณะ

ที่ประชุมกล่าว : ขอบพระคุณพระเจ้า
.
.
ผู้ประกอบพิธีกล่าว : สำหรับการตรวจสอบโดยสื่อมวลชน และการอภิปรายอย่างเปิดกว้าง

ที่ประชุมกล่าว : ขอบพระคุณพระเจ้า
.
.
ผู้ประกอบพิธีกล่าว : ให้เราอธิษฐานกับพระผู้เป็นเจ้าพร้อมกัน

พระผู้เป็นเจ้าโปรดอวยพระพรแด่ผู้ที่ทำงานในการจัดการเลือกตั้ง ให้พวกเขาทำงานได้อย่างยุติธรรม อยู่ในความซื่อสัตย์ และความจริง ข้าแต่พระเจ้าโปรดเมตตาเถิด

ที่ประชุมกล่าว : โปรดฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ทั้งหลาย
.
.
ผู้ประกอบพิธีกล่าว : โปรดเทสติปัญญาจากพระองค์ลงมา ให้กับผู้วางนโยบายทุกคน เพื่อคำสัญญาของพวกเขาจะได้รับใช้ในสิ่งที่ผู้คนต้องการ และแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ข้าแต่พระเจ้าโปรดเมตตาเถิด

ที่ประชุมกล่าว : โปรดฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ทั้งหลาย
.
.
ผู้ประกอบพิธีกล่าว : โปรดให้ความสัตย์ซื่อมั่นคงแก่ผู้นำพรรคการเมืองทั้งหลาย ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี และผู้รณรงค์หาเสียง และรักษาพวกเขาไว้ให้ห่างจากการลวงหลอกและคอรัปชั่น ข้าแต่พระเจ้าโปรดเมตตาเถิด

ที่ประชุมกล่าว : โปรดฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ทั้งหลาย
.
.
ผู้ประกอบพิธีกล่าว : โปรดนำสื่อต่างๆ ให้เสนอข้อมูลอย่างถูกต้อง เพื่อที่เราจะ ฟัง พูด และตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล ข้าแต่พระเจ้าโปรดเมตตาเถิด

ที่ประชุมกล่าว : โปรดฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ทั้งหลาย
.
.
ผู้ประกอบพิธีกล่าว : พระผู้เป็นเจ้าของทุกห่วงเวลาและสถานที่ พระผู้เป็นเจ้าผู้อยู่เหนือความเข้าใจ ข้าพระองค์ทั้งหลายอธิษฐานขอสติปัญญาในการเลือกตั้งที่จะมาถึง

โปรดประทานรัฐสภาที่จะทำงานเพื่อความต้องการของอาณาจักรของพระองค์

เพื่อสันติภาพ ความเมจตา ความจริง ความยุติธรรม จะปกคลุมอยู่ท่ามกลางพวกเรา และให้พระพรมีแด่ประชาชนไทยทุกคน

พระบิดาผู้ทรงเมตตา

ที่ประชุมกล่าว : โปรดรับคำวิงวอนเหล่านี้ โดยเห็นแก่พระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์ พระผู้ไถ่ของข้าพระองค์ทั้งหลาย

อาเมน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

176 Nameless Fanboi Posted ID:Ne7P83dzX9

In heaven

Allah: My believers, what did sent you here?
40 spirits: Inshallah, gunmen shot us to death.
Allah: How cruel. What did you do before the firing?
40 spirits: We were praying in Christ Church.
Allah: GO TO THE HELL YOU BASTARDS!

177 Nameless Fanboi Posted ID:VVve/.p22+

ขอพระเจ้าคุ้มครองประเทศไทยด้วย

178 Nameless Fanboi Posted ID:3fJI/dwBNY

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ น่าเสียดายมากตายไปทั้งๆที่ยังไม่ได้ลิ้มรสความอร่อยของเบค่อน
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

179 Nameless Fanboi Posted ID:i0XumjWpFf

>>178 มึงนึกภาพเบค่อนเป็นท่อนๆ ใหญ่​ๆ แล้วเอามาสไลด์​เป็นชิ้นหนาๆ ย่างกิน

180 Nameless Fanboi Posted ID:aeJgWffkod

เหนื่อยมั้ยเจ็ด กูถามจริง เพราะกูสงสารมึงเหลือเกิน อยากทำเพจให้ดัง แต่ไม่มีปัญญาทำเพจให้ดังเหมือนจ่าเหมือนเจี๊ยบ ไม่มีไอเดียดีๆทำคอนเทนต์ได้เหมือน Lowcoscosplay หรือ เรนทหารม้าโยโกฮาม่า เลยต้องมาทำคอนเทนต์ด่าผู้หญิง เกาะชายกระโปรงผู้หญิงไปวันๆ ทำเพจให้คนมาเกลียดมึงมากกว่าชอบมึง และ ไอ้พวกมาเย้วๆกับมึง วันที่มึงโดนลากเข้าคุก มันก็คงหายหัวกันหมด ไม่มีใครมาปกป้องมึงหรอก หึหึ

181 Nameless Fanboi Posted ID:D/SFl2+vVl

>>158 ขอเสริมว่ะ ว่าผู้หญิงโดยเฉพาะวัยรุ่นยุคนี้มีแนวคิดแบบนี้จริงๆเรื่องการแต่งกาย พอดีพึ่งอ่านผู้หญิงที่เขา Tweet เรื่องแบบนี้เลย
คือน่าจะอายุเริ่มเข้าวัยรุ่นมาโพสต์บ่นว่าไม่พอใจที่ทำไมตอนเด็กๆ แต่งตัวชุดแบบไม่ค่อยเรียบร้อยเวลาอยู่บ้าน
ประมาณพวกชุดกระโปรงยาว กระโปรงสั้น หรือพวกชุด คอ กว้างๆ หลวมๆ ก้มแล้วมองเห็นอก ไม่ก็พวกชุดแบบเสื้อกล้ามเด็ก ผ่าข้าง
ไม่ก็ชุดที่มันรัดๆตัวเห็นทรวดทรง อะไรประมาณนี้

แล้วพอมีญาติๆมาเยี่ยมบ้านโดยเฉพาะถ้าเป็นผู้ชายจะโดนไล่ให้ไปแต่งตัวให้มิดชิด เปลี่ยนไปใส่เสื้อยืดมิดชิด ใส่กางเกงยีนส์ Tweet เธอ
ก็จะบ่นประมาณว่า ทำไมต้องมาเลือกปฎิบัติกับเด็กผู้หญิงอย่างนี้ นี่ชีวิตเธอ เธอจะแต่งอะไรแบบไหนที่บ้านก็ได้เปล่า แล้วก็บ่น พ่อ กับ แม่
ตัวเองว่าเป็นการแสดงการกีดกันสิทธิผู้หญิง ตั้งแต่เด็ก พอมียกประเด็นเรื่อง พ่อ แม่ กังวลว่าจะโดนคุกคามหรือลวนลามทางเพศเพราะเหมือนแต่ง
ตัวยั่วยวนพวกญาติๆผู้ชาย และมันอันตรายเธอก็แสดงออกแนวว่า ไอ้ผู้ชายพวกนี้นะ น่ารังเกียจ มีความคิดทางเพศ กับเด็กๆแบบนี้
มันต้องให้ผู้ชายพวกนี้สิที่เป็นคนแก้ไขไม่ใช่มาบังคับที่ตัวเด็กผู้หญิงที่ถูกไล่ให้ไปแต่งตัวมิดชิดแทน

แล้ว Tweet คุณเธอ ก็มีสาวๆอายุพอๆกันมา Retweet มา Like มาเล่าประสบการณ์แนวๆเดียวกันเพียบเลยว่า เนี่ย ตอนเด็กๆ
ก็โดนบังคับแบบนี้ เหมือนกันแล้วก็ยอมๆทำตามไป แบบไม่รู้เหตุผล แล้วพอโตมา
แล้วรู้ว่าเป็นการป้องกันโดนลวนลามก็รู้สึกไม่พอใจเหมือนเจ้าของ Tweet เลย

กุอ่านแล้วก็รู้สึกว่ามันขัดกับความคิดในบ้านเราจริงๆว่ะ อันนี้เดาว่าน่าจะเป็นเด็กวัยรุ่นฝรั่งตะวันตกนะเพราะ Tweet ภาษาอังกฤษ
ก็ไม่รู้ว่าเด็กๆฝั่ง Asia โซนเราเขาก็จะมีแนวคิดแบบนี้เหมือนกันไหม

182 Nameless Fanboi Posted ID:aeJgWffkod

คิดว่าเป็นเรื่องปกติเหรอ ที่วันหวยออกทีไร "คนครึ่งประเทศ" ต้องมานั่งใจจดใจจ่อลุ้นเยี่ยวเหนียวว่าจะถูกหวยไหม ในเฟสก็พูดแต่เรื่องหวย หวย และหวย ราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่เดียวที่จะช่วยให้ประชาชนลืมตาอ้าปาก ใช้ชีวิตรอดในประเทศนี้ได้ พวกเธออาจมองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ฉันมองว่า มันคือความผิดปกติของประเทศนี้ ที่ถูกทำให้มองเป็นเรื่องปกติ

183 Nameless Fanboi Posted ID:9mwRduf53s

>>181 ประเด็นเรื่องการแต่งตัวนี่ดราม่ามากนะในบ้านเรา เดี๋ยวนี้มีการรณรงค์ ผญ จะแต่งตัวแบบไหนก็ไม่ สังคมไม่มีสิทธิ์เอาไปเป็นข้อเตือนให้ระวังจากพวกคุกคามทางเพศ ซึ่งอันนี้กูเข้าใจที่จะสื่อนะ กลัวว่าจะเหมือนซ้ำเติมเหยื่อ แต่อีกด้านหนึ่งกูว่าการแต่งตัวมันก็มีส่วนจริงๆ กรณีผู้ก่อเหตุเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คนรู้จัก คือแบบมึงจะไปหวังให้พวกหื่นมันเข้าใจคงไม่ได้อะ ด้านหนึ่งลดความเสี่ยงได้กูก็ว่าจำเป็นแล้ว

184 Nameless Fanboi Posted ID:Nhci1XEwzN

🔴#รวมสุดยอดข้อคิดจากหนังสือ
:: ขาย 100 คน ซื้อ 99 คน

🎯1.วิธีคิดเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิตของนักขาย
ขายในสิ่งที่ตนเองเชื่อว่าดีเเละมั่นใจในสินค้า
***#ในความเป็นจริงนั้น #ไม่มีสินค้าใดที่ปราศจากข้อบกพร่องเลย #หากเรายอมรับความจริงข้อนี้ได้ #หากเราสามารถมองเห็นคุณค่าอันเป็นจุดเด่น #ที่ไกลเกินกว่าข้อบกพร่องของสินค้าจากใจจริงได้เมื่อไหร่ #สินค้านั้นจะกลายเป็นสินค้ายอดนิยม

🎯2.ชีวิตเปรียบเสมือน "เสียงสะท้อนกลับ" ถ้าเราทำให้ผู้อื่นมีความสุข ผลลัพธิ์คือเราจะมีความสุข เเละถ้าเราปฏิบัติต่ออีกฝ่ายด้วยใจเเละความสุภาพ อีกฝ่ายก็จะปฏิบัติต่อเราเช่นเดียวกัน นี่เป็นเรื่องธรรมดา เเต่เป็นความจริงอันสากลเเละนิรันดร

🎯3.เป็นเรื่องยากที่จะเอ่ยคำว่า "ไม่" กับพนักงานขายที่ทำให้รู้สึกดี

🎯4.สิ่งสำคัญกว่าการรุกเป็น 100 เท่า คือ การ เตรียมพร้อม

🎯5.ทุกคนโหยหา "ความรู้สึกเป็นคนสำคัญ"
ไม่ว่าจะเรื่องไหน ก็ควรให้ความสนใจกับอีกฝ่าย ถามในเรื่องที่เขาภาคภูมิใจ เพราะมันเป็นการเเสดงถึงความใส่ใจต่อกันในฐานะมนุษย์

🎯6.เทคนิคจิตวิทยาที่ใช้ในงานขาย
"การทวนคำพูด" นอกจากจะเเสดงถึงความใส่ใจ สนใจรับฟัง ยังเเสดงถึงความเป็นพวกเดียวกัน เห็นด้วยกับความคิด เเละกระตุ้นให้อีกฝ่ายกล้าที่จะเปิดใจ เปิดเผยข้อมูลมากยิ่งขึ้น

🎯7. ถ้าอยากให้ลูกค้าสนใจสินค้า ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความจำเป็นของสินค้านั้นด้วยตัวเองก่อน

🎯8.นักขายที่ดีจะไม่อธิบายสินค้ายืดยาว

🎯9.ห้ามพูดว่าสนใจไหม เด็ดขาด! 😎

🎯10.ถ้ารู้เเก่นของจิตวิทยาเเล้ว ไม่เพียงเเค่จะทำให้เราเป็นมิตรกับอีกฝ่ายง่ายดายเท่านั้น เเต่ยังสามารถควบคุมอีกฝ่ายได้ดังใจนึกอีกด้วย

🎯11. หากความสัมพันธ์กับผู้อื่นราบรื่น เราจะรู้สึกพึงพอใจกับชีวิต

185 Nameless Fanboi Posted ID:lYKImRp4AA

>>182 หวยไทยแม่งน่าตื่นเต้นกว่าจริง หวยยุโรปโคตรจืด ไม่เร้าอารมร์เท่าหวยไทยหวะ 55555

186 Nameless Fanboi Posted ID:dGPD.huxSL

แสงกระสือ กระแสดีมาก แต่รายได้ 3 วัน แค่ 9 ล้านหน่อยๆ ซึ่งความจริงควรได้ 20 ล้านแล้วด้วยซ้ำ เพราะโรงหนังเทโรงเทรอบให้กัปตันมาเวลหมด
ทีนี้เห็นหรือยังล่ะ ว่าสิ่งที่คนทำหนังไทยต้องการให้รัฐช่วยเหลือคืออะไร ก็คือ ช่วยจัดการกับ "การผูกขาดธุรกิจโรงหนัง" ที่กุมอำนาจกันอยู่แค่สองเครือไง
แบบว่า หนังดีแค่ไหน ถ้ากูไม่อยากฉายให้ดู ประชาชนอย่างพวกมึงก็ไม่ต้องดู มีไรป่ะ หรือ หนังเรื่องไหนกูลงหุ้นส่วนสร้างด้วย ต่อให้หนังเหี้ยแค่ไหน กูก็จะให้โรงเยอะๆ บังคับประชาชนอย่างพวกมึงดู ฮ่า ฮ่า
ไม่ค่อยมีที่ไหนในโลกหรอก ที่ปล่อยให้โรงหนังกำหนดรอบฉายตามอำเภอใจแบบนี้ นอกจากประเทศด้อยพัฒนา

187 Nameless Fanboi Posted ID:dGPD.huxSL

เลือกเพื่อไทยดีกว่า รักทักษิณ มีวันนี้ก็เพราะสมัยทักษิณ ทำมาหาแดกโง่ๆก็ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ

188 Nameless Fanboi Posted ID:dGPD.huxSL

สมมุติขำๆนะ ถ้าผลเลือกตั้งออกมา ลุงตู่เสือกชนะจริงๆ คือชนะเพราะมีคนโหวตให้จริงๆนะ ไม่ได้โกง คิดว่าชาวเน็ตจะเชื่อผลการเลือกตั้งกันไหมวะ ว่าไม่ได้โกงจริงๆ

คือ ผลโหวตใน Facebook ในโลกเสมือนจริง ของ "ชาวเน็ต" เนี่ยจะไม่เอาลุงกัน
แต่ถ้าสมมุติว่า "ประชาชนในโลกจริง" ชาวบ้านทั่วไป ลุงๆป้าๆ ที่ไม่ได้เล่นเน็ตประจำ ซึ่งเป็นพลังเงียบจำนวนมหาศาล ดันเลือกลุงกัน ทำให้ลุงชนะขึ้นมา

ปัญหาคือ คิดว่าชาวเน็ตจะเชื่อผลโหวตนี้กันไหมวะ

189 Nameless Fanboi Posted ID:zM8r8IjQ0g

>>188
คนเราจะเห็นในสิ่งที่ตัวเองเชื่อเสมอ
ยิ่งระบบFacebook เป็นแบบกะลาครอบด้วย
กูก็เลือกลุง แต่จะเข้าเพขอวย อคม รึไงวะ?

190 Nameless Fanboi Posted ID:Nbg5wZ7DHI

>>188 ประเด็นคือมึงพิสูจน์ได้ไหมล่ะว่าพลังเงียบโหวตให้ลุงจริงๆ เพราะผลโพลมันก็ไม่ได้มีแค่ในโลกเสมือนแต่ก็มีพวกที่เขาไปทำสัมภาษณ์เป็นหลักฐานที่เป็นรูปธรรม (คลิป) ออกมาซึ่งก็ไม่ได้ไปในทางที่จะสนับสนุนประยุทธ์ต่อกัน

ถ้าประยุทธ์ชนะแล้วมึงพิสูจน์ไม่ได้แล้วจะมาสรุปเอาเองว่าเออที่มันแม่งชนะเนี่ย เพราะว่าพลังเงียบนะ พวกมึงยอมรับกันไปเถอะ อันนี้มันก็ไม่ใช่

191 Nameless Fanboi Posted ID:rUhr6ytMNN

>>189 แต่เพจหนุนลุงโพลก็แพ้นะครับ

192 Nameless Fanboi Posted ID:54tgn0HEM0

>>187 >>188 กระทู้มิตรสหายท่านหนึ่งคือให้ quote ข้อความชาวบ้านมาลงเว้ย หรือจะถกต่อจากที่ quote มานิดหน่อยก็โอเค แต่ไม่ใช่ให้มาคุยเรื่องเหี้ยอะไรก็ได้ที่อยากคุย กระทู้อื่นที่ใช้คุยก็มีอยู่แล้ว

193 Nameless Fanboi Posted ID:9.hUqoia1V

>>190
บ้านกูเลือกลุงกันหมดทั้งบ้าน
รวมญาติกูด้วยก็สิบกว่าเสียงละ
ทำงานด้านสุขภาพ + ราชการ
จำเป็นต้องสำภาษณ์ลงเน็ตไหม?

194 Nameless Fanboi Posted ID:hvrbezI.y0

>>193 ก็คือมึงจะบอกว่าลุงจะชนะก็ไม่แปลกเพราะบ้านมึงเลือก? อันนี้คือข้อพิสูจน์มึงเหรอวะ บ้านมึงแม่งยิ่งใหญ่ดีว่ะ

195 Nameless Fanboi Posted ID:9.hUqoia1V

>>194
มึงก็เอาตัวอย่างที่สัมภาษณ์มาวัดกำลังคนทั้งประเทศเหมือนกัน
ไม่ Live สด 48 ล้านคนเลยล่ะวะ?

196 Nameless Fanboi Posted ID:GEn8n8cHBd

>>195 กูเอาหลายๆอันมาวัดแล้วเฉลี่ยๆจากสายตากู ไม่ได้วัดแค่บ้านตัวเองบ้านเดียวแบบมึง พูดเหี้ยไรให้มันเป็นไปได้หน่อย ไลฟ์สดห่าไร 48 ล้านคน

197 Nameless Fanboi Posted ID:9.hUqoia1V

ปี 59 โพลเมกา ฮิลลาลี่ชนะทรัมป์แทบทุกโพล เลือกตั้งจริงหักปากกาเซียนเป็นแถบๆ

สำนักข่าวต่างประเทศ รวมทั้งซีเอ็นเอ็น และบีบีซี รายงานผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016 ที่ดำเนินไปด้วยความตื่นเต้นสุดระทึกว่า ในที่สุด ได้เกิดการพลิกล็อกมโหฬาร ชนิดหักปากกา ‘โพล’ แทบทุกสำนักที่สำรวจความนิยมของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี มาโดยตลอด เมื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีจากรัฐนิวยอร์ก วัย 70 ปี ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง

198 Nameless Fanboi Posted ID:GEn8n8cHBd

>>197 อันนี้คือข้อพิสูจน์มึงว่าพลังเงียบจะโหวตให้ลุง?

199 Nameless Fanboi Posted ID:9.hUqoia1V

>>198
มึงตั้งธงไว้ยังไงล่ะ?
หรือจะบอกว่าคนที่ได้บัตรร้านประชารัฐจะไม่เลือกลุงแน่นอน?

200 Nameless Fanboi Posted ID:GEn8n8cHBd

>>199 กูไม่ได้ปักธง เหมือนกับที่กูไม่ได้ปักธงว่าคนได้บัตรจะโหวตให้ลุงแน่นอน หรือมึงปักแบบนั้น?

201 Nameless Fanboi Posted ID:TfEYtA+Xmu

นึกถึงนี่เลยว่ะ เดี๋ยวเจอสภาจริงที่สั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้จะอยากกลับไปเลี้ยงหลานแทบไม่ทัน
https://youtu.be/z3CMyB9C3ts

202 Nameless Fanboi Posted ID:rUhr6ytMNN

คนมันก็คงจะเชื่ออยู่หรอกว่ามึงไม่โกง ถ้ามึงไม่ได้ตั้ง กกต เอง เลือก สว มาเลือกตัวเอง ใช้ ม44 แบ่งเขตเลือกตั้งตามใจตัวเอง เลือกกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติที่จะชี้เป็นชี้ตายสภาที่มึงไม่ชนะได้ เอาเงินภาษีไปหาเสียงในโครงการที่มึงเอาไปตั้งเป็นชื่อพรรค

203 Nameless Fanboi Posted ID:dGPD.huxSL

เรื่องแอดมินเพจลวนลามมาอีกเพจละครับ...
(เคสเมื่อเช้าเขาไปเคลียร์กันละนะ) คราวนี้ลองอ่านกันดู อืมม์... ทำไมต้องเป็นคนที่เคยเจออีกละเนี่ย... =..="

👉 อยากเตือนให้เป็นอุทาหรณ์ จากเหตุการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างแอดมินกับลูกเพจ ว่า อย่าไปไหนมาไหนกับแอดมินเพจ ถ้ายังไม่สนิท หรือเชื่อใจ

เรื่องมีอยู่ว่า หนูเป็นลูกเพจอยู่เพจนึง เป็นเพจตลก ก็ติดตามเพจกันปกติ ไปคอมเมนท์ตามประสาลูกเพจ แต่อยู่ๆแอดมินก็มาตอบคอมเมนท์ เราก็ดีใจแอดมินตอบเพจ โต้ตอบกันใต้คอมเมนท์ ซักพักนึง แอดมินคนดังกล่าวก็แอดเพื่อนมา เราตกใจมาก เพราะเห็นหน้าเฟสบุ๊คบอกเป็นแอดมินเพจ เราเลยลองกดรับเป็นเพื่อน

พอรับแอดมินเพจก็ทักมาทันที บอกว่าเราสวย ชอบเรา อยากเจอเรา พอดีมีงานออกบูท ด้วยความที่ชื่นชอบเพจนั่นมากเลยตอบตกลงว่าจะไปเจอที่งานออกบูทของเพจนั่น พอเจอเราก็คุยกันปกติ คุยกันสนุกสนาน พอจะกลับเขาก็อาสาพากลับบ้าน ไอเราก็หลวมตัวกลับไปกับเขา อาทิตย์ต่อมาแอดมินคนเดิมก็ชวนเราไปเที่ยวอีก คราวนี้ไปเที่ยวที่ไกลกว่าเดิม เป็นที่ที่เราไม่เคยไป เราก็ออกปากตกลง เพราะเชื่อใจ

ถึงเวลาก็ไปเดินเที่ยวตามปกติ คราวนี้เขาก็บอกจะไปส่งอีก เราก็ตกลงแต่วันนี้ เราเริ่มมีท่าทีแปลกๆ ขึ้นรถนั่งอยู่นาน แต่ไม่ยอมออกรถ เราก็สงสัยเลยถาม “ทำไมไม่ไปล่ะคะ” เขาบอก”ขอทำธุระแปบนึง” เราก็งงทำอะไร ทันใดนั่น แอดมินคนนั้นก็เริ่มมาหอมแก้ม กอด เราตกใจมาก ถามทำอะไร เขาตอบ “ก็คิดถึง ขอหอมหน่อยไม่ได้เหรอ” เราก็เงียบไปจนมาถึงบ้าน เราลงจากรถและไม่พูดอะไร

อาทิตย์ต่อมา เขาก็ชวนอีกบอกจะไม่ทำอะไรแล้ว เราเลยตกลงยอมไปด้วยอีกครั้ง เหตุการณ์เกิดขึ้นเหมือนเดิม แต่หนักกว่าเดิม คือเขาพยายามจะเอามือมาจับหน้าอก เราโวยวายบอก “ทำไมทำแบบนี้” เขาบอก “ก็คิดถึง พี่มีน้องคนเดียว พี่ก็อยากจะทำ น้องยอมพี่ไม่ใช่เหรอ” ได้ยินแบบนี้ เราทนไม่ไหว บอกให้รีบไปส่งที่บ้าน

ถึงบ้าน เขาก็พยายามจะโทรหา บอกขอโทษจะไม่ทำอีก หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้คุยกัน ผ่านไป2อาทิตย์ แอดมินคนนั้นกลับมา โทรมาหา บอก”มาเจอกันเถอะนะ จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนสำนึกผิด เราใจอ่อนและก็ยอมไปเจอกับเขา

ก็ไปเที่ยวปกติ แต่ขากลับ เขาบอกอยากไปนั่งพักซักที เราก็นึกว่าจะเป็นร้านกาแฟ หรือร้านอาหาร ขับรถมาได้ซักพักรู้ตัวอีกที ก็อยู่หน้าโรงแรม(พอดีตอนนั้นเหม่อเลยไม่ได้สนใจทาง) พอเห็นว่าเป็นโรงแรม เราพยายามจะหนี แต่หนีไม่พ้น เราถูกแอดมินคนนั้น ฉุดเราเข้าห้อง หลังจากนั้นก็พยายามจะข่มขืนเรา วิ่งหนีทั่วห้อง เขาจะถอดเสื้อ กางเกง เหลือแต่ยกทรง เขาล็อกแขน พยายามดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่หลุด ความแรงผู้ชายผู้หญิงอย่างเราสู้ไม่ไหวอยู่แล้ว เขาพูดกับเราว่า”พี่ขอนะ” หลังจากนั้น เขาก็พยายามที่จะเอาไอนั่นมาใส่ เราดิ้นๆๆ จนหลุดออกมาได้ เราหนีเข้าห้องน้ำแล้วรีบใส่เสื้อผ้า และหาจังหวะ หนีออกมาได้ พอเห็นเราหนีออกมาเขาพยายามขับรถตาม พอดีปากซอยโรงแรมเป็นบั๊มน้ำมัน เลยหนีเขาไปหลบ รอโอกาศที่เขาขับรถออกไป แล้วก็กลับบ้าน เขาพยายามที่จะติดต่อ โทรหาและพูดประโยคเดิมๆว่า “พี่ขอโทษ ที่จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว พี่สัญญา” ครั้งนี้เราบอกว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่จะเชื่อใจแล้ว จึงทำการบล็อกเขาออกทุกช่องทาง ไม่อยากจะเจอ จะคุยด้วยอีกต่อไป จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้รู้ว่า ไม่ควรไปไหนมาไหนกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกัน แม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นแอดมินเพจจากเพจดังก็ตาม👈

พออ่านจบก็เข้าใจนะ ว่าเวลาแอดมินเพจทำอะไรแบบนี้มันมีทั้งเคส ไหวตัวทันและไหวตัวไม่ทัน หรือบางทียอมใจอ่อนเผลอใจให้ บางคนรอดไปได้ก็โอเค เขาก็หาคนใหม่คนที่โดนแล้วอึดอัดเจอที่ระบายไปเล่าได้ก็โอเค แต่หลาย ๆ เคสเกิดจากความไว้ใจจนพลาดไป สุดท้ายก็ทำอะไรกลับไม่ได้เพราะเข้าข่ายสมยอมจนต้องเก็บเรื่องเอาไว้...

ดังนั้นถ้าไม่อยากพลาด ก็ระวังไว้ละกันครับผม...

204 Nameless Fanboi Posted ID:B+lPK.MUhi

เราจะทำการโกงเลือกตั้งให้ดีที่สุด​
เพื่อไม่ให้นักการเมืองกลับมาโกงได้อีก​
เชื่อใจ​ กกต.​ ที่​ คสช.​ สรรหามา เถอะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

205 Nameless Fanboi Posted ID:GC+g5Fc.DD

ที่คุณธนาธรระบุทั้งหมดนั้น เป็นเรื่องที่ดีมาก และสมควรชื่นชม แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่

เพราะนักการเมืองหลายคนเขาก็ทำ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบ blind trust หรือ private fund ต่างก็สามารถระบุเจตจำนงในสัญญาบริการได้ทั้งหมด

เราก็เคยบริหาร private fund ให้อดีตรัฐมนตรีบางท่าน ซึ่งปัจจุบันกำลังลงเลือกตั้งในยุคนี้ สัญญาจัดการ private fund ก็ไม่ต่างจากที่คุณธนาธรระบุ นอกจากนี้ ยังครอบคลุมไปถึงหุ้นบริษัทนอกตลาดอีกด้วย โดยที่ในระหว่างบริหาร private funds เหล่านี้ รัฐมนตรีและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องก็มิได้เข้ามาบงการหรือยุ่งเกี่ยวอะไรเลย

คุณธนาธรทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพียงแต่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เพราะมีนักการเมืองและรัฐมนตรีหลายคนเขาทำกันอยู่แล้ว ถึงจะไม่ได้ทำในรูปแบบ blind trust แต่เนื้อหามิได้ต่างกันและบางท่านก็ทำเข้มงวดกว่า
.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

206 Nameless Fanboi Posted ID:qh9epQZclY

แสงกระสือ หนังดี ลงทุน 40 ล้าน แต่คนไทยไม่ดู รายได้ 4 วัน จึงได้เงินแค่ 14 ล้าน

ส่วนหนังเหี้ยๆ ลงทุนแค่ 4 ล้าน เอาตลกคาเฟ่มาด่าพ่อล่อแม่ คนไทยแห่ดู รายได้ 4 วัน ทะลุ 40 ล้านกัน

แล้วคนไทยก็ชอบด่าคนทำหนังไทยว่า "ถ้าอยากให้หนังไทยได้เงินเยอะๆ ก็ทำหนังดีๆสิ" ก็นี่ไง ทำหนังดีๆให้แล้วนี่ไง แต่คนไทยก็ไม่ดู จริงมะ?

207 Nameless Fanboi Posted ID:QV++BD1/gZ

>>205 ยุ่งได้แต่ไม่ยุ่ง (เพราะกลัวทำเจ๊งหรืออะไรก็ว่ากันไป) กับสัญญาว่าจะไม่ยุ่งนี่ไม่ต่างกันเหรอ

208 Nameless Fanboi Posted ID:GC+g5Fc.DD

>>207 จากการค้นข้อมูลรมต.ของไทยที่เคยใช้วิธี Blind trust มีทั้งหมด 15 คน คือ

1. คุณสาวิตต์ โพธิวิหค รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยุคชวน
2. นายธานินทร์ นิมมานเหมินท์ รมต.คลัง ยุคชวน
3. นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร รมต.ช่วยพาณิชย์ ยุคชวน
4. นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมต.มหาดไทย ยุคมาร์ค
5. นายวีระชัย วีระเมธีกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยุคมาร์ค
6. น.พ.พฤติชัย ดำรงรัตน์ รมต.ช่วยคลัง ยุคมาร์ค
7. นายอลงกรณ์ พลบุตร รมต.ช่วยพาณิชย์ ยุคมาร์ค
8. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมต.วิทยาศาสตร์ ยุคมาร์ค
9. นายกรณ์ จาติกวณิช รมต.คลัง ยุคมาร์ค
10. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายก ยุคปู
11. นายประดิษฐ สินธวณรงค์ รมต.สาสุข ยุคปู
12. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายก ยุคปู
13. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมต.ช่วยพาณิชย์ ยุคลุงตู่
14. นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมต.พลังงาน ยุคลุงตู่
15. ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายก ยุคลุงตู่

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

แต่ทั่นธนาธรเป็นคนแรกนะ...
คนแรกที่ได้รับการบูชาหน้ามืดระดับติ่ง
ทุกสิ่งที่เกิดมาก่อนไม่นับเป็นประวัติศาตร์
ประวัติศาสตร์เริ่มที่ท่านธนาธร

#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

209 Nameless Fanboi Posted ID:QV++BD1/gZ

>>208 รัฐมนตรีต้องโอนหุ้นที่เกินกำหนดให้นิติบุคคลอื่นไปดูแลแทนทุกคน
ไอที่ไล่มามันทำตาม กม. ให้กองไปดูแลเฉยๆ สิทธิ์ออกเสียงในหุ้นก็ยังมีอยู่

"มาตรา ๕ ในกรณีที่รัฐมนตรีประสงค์จะได้รับประโยชน์จากการเป็นหุ้นส่วนหรือผู้
ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทในส่วนที่เกินกว่าจํานวนที่กําหนดไว้ในมาตรา ๔ ให้รัฐมนตรี
ดําเนินการดังต่อไปนี้
(๑) แจ้งเป็นหนังสือให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีและ
(๒) โอนหุ้นส่วนหรือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นให้นิติบุคคลภายในเก้าสิบวัน
นับแต่วันที่ได้แจ้งให้ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบ และเมื่อได้
ดําเนินการโอนหุ้นส่วนหรือหุ้นให้กับนิติบุคคลใดแล้ว ให้รัฐมนตรีแจ้งเป็นหนังสือให้ประธานกรรมการ
ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบภายในสิบวันนับแต่วันที่ได้โอนหุ้นส่วนหรือหุ้นนั้น"
http://web.krisdika.go.th/data/law/law2/�106/�106-20-2543-a0001.pdf

แต่ blind trust คือมึงจะทำอะไรกับทรัพย์สินตัวเองไม่ได้เลย กองทุนก็ไม่รู้ว่าบริหารทรัพย์สินใคร
ไอตี๋นี่ยังไม่รู้ว่าจะได้เข้าสภาไหมยังทำถึงขนาดนี้กูว่าควรชมให้มากๆ ด้วยซ้ำ ลดอคติลงหน่อยก็ดีนะ
https://www.prachachat.net/politics/news-303388

210 Nameless Fanboi Posted ID:GC+g5Fc.DD

>>209 ใครด่ามัน กูแซะสาวกที่ทำราวกับว่า TJ ทำแบบนี้เป็นคนแรกเท่านั้นละ แล้วรายชื่อใน >>208 ก็เป็น Blind trust แบบ TJ นะ ดันบอกว่ามีสิทธิออกเสียงในหุ้นซะงั้น มึงมึนเหรอ

แล้ว TJ ได้เข้าสภาแน่นอนอยู่แล้ว มึงคิดไงว่ามันไม่ได้งะ บางคนบอกมีสิทธิได้นายกเพราะคนค้นหามากสุดในเน็ตด้วยซ้ำ

211 Nameless Fanboi Posted ID:QV++BD1/gZ

>>210 อันนั้นมัน Private fund ให้กองทุนบริหาร ซึ่งก็ทำตามกม.ไง แต่ Blind trust มันจะเข้มไปอีกระดับนึง

212 Nameless Fanboi Posted ID:PPJEZzYU+T

ข้างบนจั่วหัวว่าธนาธรทำเรื่องดีแล้ว ควรชื่นชม บรรทัดแรกเลย

แต่ติ่งส้มก็ยังเข้ามาแง่งๆ ขู่ฟอดๆ ประชดประชัด มีพูดถึงป้อมกะยุทธ์เหมือนจะimplyว่าเจ้าของโพสต์เป็นพวกเผ็ดกลาง

แบบนี้คนเขาเลยหมั่นไส้พรรคมึงไง ติ่งเอ๋ย เขาก็บอกอยู่ว่าเป็นเรื่องดี แต่แค่แย้งที่ป่าวประกาศว่าทำคนแรก

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=10217320969003461&id=1450051196

213 Nameless Fanboi Posted ID:QV++BD1/gZ

>>210
Private Fund แปลว่ากองทุนส่วนบุคคล ส่วน Blind Trust เป็นรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงลงไปอีกของ Private Fund ค่ะ คือห้ามเจ้าของทรัพย์สินโทรสั่งการซื้อหรือขายหุ้น หรือจัดการใดๆ กับทรัพย์สินเด็ดขาด จนกว่าจะพ้นกำหนดเวลาในสัญญา

ถ้าเป็น Private Fund ธรรมดา เรายังมีอำนาจสมบูรณ์ ผู้จัดการกองทุนเป็นเหมือนผู้ช่วยเราเฉยๆ แต่ถ้าเป็น Blind Trust เรามอบอำนาจในการจัดการทรัพย์สินให้ผู้จัดการ Trust ไปด้วย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

มีคนอธิบายไว้ละ
เท่าที่ดูรายละเอียดจากอันนี้ https://www.isranews.org/isranews/74785-report02_74785.html ก็ยังไม่ถึงขั้น Blind Trust นะ
แต่เงื่อนไขเขาไม่ได้เปิดเผย ใน 15 คนนี้อาจจะมีคนทำคล้ายๆกันก็ได้มั้ง

214 Nameless Fanboi Posted ID:GC+g5Fc.DD

>>211 ใน >>208 วรรคแรกก็บอกนะว่า Blind trust ในลิงค์อิสราที่มึงเอามาก็บอกว่าเป็น Blind trust มึงตกภาษาไทยเหรอ กรือโลกนี้มี TJ คนเดียวที่ทำ Blind trust ได้

มึงใช่ติ่ง Hyperloop ก่อนหน้านี้มั้ย ถ้าใช่กูได้ไม่คุย เสียเวลาชีวิตชิปหาย

215 Nameless Fanboi Posted ID:QV++BD1/gZ

มีคนติงมาว่าผมไม่ใช่คนแรกที่ทำแบบนี้ แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำไปไกลกว่าหลายท่าน เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ทางการเมือง ก็คือ 1.*Blind ทำให้สั่งไม่ได้ มองไม่เห็น* 2.จะไม่ลงทุนในหุ้นไทย 3.ไม่เอาคืนจนกว่าจะครบ 3 ปี หลังพ้นตำแหน่ง

ถ้าไม่จริงก็ขอขอดูรายละเอียดแต่ละท่านด้วย
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

216 Nameless Fanboi Posted ID:QV++BD1/gZ

>>214 กูว่ากูอธิบายชัดแล้วนะ
กฏหมายตอนนี้ยังไม่ครอบคลุมไปถึง Blind trust และไม่ได้บังคับให้ทำ Blind trust ไอที่ รมต. ทำมัน Private Fund โว้ย
ถ้ายังแยก Blind trust กับ Private Fun ไม่ออกก็เรื่องของมึงจ้า

217 Nameless Fanboi Posted ID:3UDBZKd22.

>>213 blind trust ไม่ต้องกำหนดระยะเวลาก็ได้นะ ขึ้นกับสัญญา อยากเลิกเมื่อไหร่ก็ได้

218 Nameless Fanboi Posted ID:GC+g5Fc.DD

>>216 ในเมื่อไม่เห็นสัญญาแล้วมึงรู้ได้ไงว่าเป็น Private มโนเอาเองเหรอ ข่าวอิสราก็บอกอยู่ว่าเป็น Blind trust เอาเถอะ นอกจากทักกี้ซื้อจักรวาล TJ ก็เป็นคนแรกของจักรวาลด้วย เก่งกันจริงๆ

219 Nameless Fanboi Posted ID:iTGHeW0PQ1

พวกมึงไปคุยกันในมู้การเมืองสิโว้ย

220 Nameless Fanboi Posted ID:QV++BD1/gZ

>>218 แล้วในเมื่อไม่เปิดเผยสัญญาแล้วอิศรารู้ได้ยังไงว่าเป็น Blind trust ล่ะหืม?
แล้วในเมื่อกฎหมายกำหนดแค่ "โอนหุ้นส่วนหรือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นให้นิติบุคคล" แล้วทำไมถึงอนุมานว่า 15 คนนี้ทำ Blind trust ล่ะ?
logic พื้นๆ หวังว่าจะเข้าใจนะ

221 Nameless Fanboi Posted ID:UHp8R8psLu

ทหารยึดอำนาจไม่ใช่เพื่อเอาชนะทักษิณ ที่เค้ายึดเพราะเค้าต้องการหยุดคนโกงชาติ รักษาผลประโยชน์ชาติ คืนความสงบสู่บ้านเมือง ใครจะชนะเลือกตั้งก็ตาม ขอเพียงอย่าสร้างเงื่อนไขเลวๆเหมือนที่ผ่านมา ทหารเค้าก็ไม่ยึดอำนาจหรอก ถามว่าถ้าทหารไม่ยึดอำนาจ แล้วปล่อยให้คนไทยฆ่ากันเอง โดนนักการเมืองโกงบ้านเมืองไป แล้วบอกว่าปล่อยให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ลืมไปหรือเปล่าครับ บ้านเราปกครองด้วยระบอบอะไร? ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คนไทยน่าจะเรียนรู้ระบอบการปกครองของบ้านเมืองตัวเองก่อนไปเลือกตั้งนะครับ นักการเมืองอย่าสร้างเงื่อนไขให้ประเทศฉิบหายอีกก็แล้วกัน ต่อไปคงไม่ได้เลือกตั้งอีกแน่นอน นี่ก็ปล่อยให้มีการเลือกตั้งตามปกติ ถ้ามีโคตรโกงและพาคนไปสู่ความแตกแยกอีก ผมว่าต่อไปไม่ต้องมีการเลือกตั้งไปนานๆเลยครับดัดสันดานกันบ้าง

222 Nameless Fanboi Posted ID:jkzUefJbgF

Media smear 101:
- Use angry photo
- Introduce person with pejorative i.e. “far right”
- Immediately follow with “critics say”
- Tie person to negative events
- Interview haters
- Quote crazy “followers”
- Never quote work directly
- Bury any reasoned responses at the end
PROFIT

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

223 Nameless Fanboi Posted ID:UHp8R8psLu

5 ปีก็ยังน้อยนัก
สัก 10 ปีก็ยังไม่พอ
20 ปีไปเลยครับลุงตู่
ผมให้อยู่ต่อ..

224 Nameless Fanboi Posted ID:nalfy61iGi

>>220 มึงรู้มั้ยว่า Blind trust นี่ต้องแจ้งกลต.นะ และกลต.เคยพูดเรื่องนี้มานานแล้ว ถ้าจะเช็คก็เช็คได้ แต่เขาคงเอามาให้มึงดูหรอก

https://www.ryt9.com/s/iq02/504650

225 Nameless Fanboi Posted ID:hgSceoehIC

>>224 นิยาม Blind trust ใน MOU กับข่าวนี้และอิศราไม่ตรงกันน่ะ
กรณ์ยังบอกเลยว่า “Blind Trust” ยังไม่มีจริงในประเทศไทย เพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับ
https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=10157168334459740&id=71254499739
แต่น่าเสียดายนะ ข้อ 1 กับ 4 จงใจดิสเครดิตเขาแถมตอนท้ายยังโยงไปแซะทักษิณอีก ไม่น่าเลย

226 Nameless Fanboi Posted ID:/Fn+tM3GpW

>>225 โทษนะ มึงแย้งว่าไม่มี blind trust ด้วยการบอกว่าไม่มี blind trust ในไทย งั้นของธนาธรก็ไม่ใช่ blind trust ไปด้วยสิ ขอบคุณที่บอก

227 Nameless Fanboi Posted ID:hgSceoehIC

>>226 ถ้าตามกฎหมายก็ใช่นะ ที่มันทำคือ blind trust ตามคอนเซปของต่างชาติเขา
แต่แทนที่จะมากระแหนะกระแหน​ว่าแบบนี้ไม่ใช่ blind trust อะดิ มาส่งเสริมให้นักการเมืองทำตามหรือผลักดันให้กฎหมายรองรับไม่ดีกว่าเหรอ?

228 Nameless Fanboi Posted ID:eXvurYXA7y

>>226 เป็นโดยพฤติกรรม ใช้ mou สวม
จริงๆเคลมเป็นคนแรกที่ทำก็ได้ เพราะมันเป็นคนแรกที่ทำ mou ต่อสาธารณะจริงๆ

สำนักข่าวเริ่มต้นก็บอกถูกนะ จู่ๆมีดราม่าคนแรกคนสองอะไรไม่รู้ ปัญญาอ่อนชิบหาย ไปไกลกว่าที่เคยมีมาขนาดนี้ยังหาเรื่องด่ามันได้

229 Nameless Fanboi Posted ID:/Fn+tM3GpW

>>227 ตอนแรกมึงแย้งเองนะว่าของธนาธรเป็นคนอื่นไม่เป็น

>>228 กูว่าคนเหม็นเพราะสาวกเยอะนะ พอเอาเรื่องนี้อวดคนก็ออกมาแย้ง อารมณ์ติ่งกะฮีตเตอร์ในห้องหนังอะ อวยมาก/ด่ามากไปคนก็อยากเห็นตรงข้าม

230 Nameless Fanboi Posted ID:hgSceoehIC

>>229 Hater gonna hate. คนไม่ใช่ทำอะไรก็หาเรื่องมาด่าได้ตลอดแหละ ไปลองดูห้องการเมืองเวป gconhub ได้

231 Nameless Fanboi Posted ID:UHp8R8psLu

ยิ่งมองไม่เห็น ยิ่งตรวจสอบไม่ได้

จากการแถลงข่าวเรื่อง ‘blind trust’ ของคุณธนาธร ทำให้มีสื่อบางรายได้ทักท้วง สรุปความได้ว่า การอ้างว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีการทำเช่นนี้ เป็นการอ้างไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เคยมีนักการเมืองอีกหลายท่าน รวมทั้งผมด้วย เคยทำเช่นนี้มาก่อนแล้ว..

ผมขอชี้แจงตามนี้ว่า

1. “Blind Trust” ยังไม่มีจริงในประเทศไทย เพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับ เพราะฉะนั้นที่คุณธนาธรลงนามไปนั้น ไม่ใช่ blind trust และไม่มีใครเคยทำได้มาก่อน

2. คุณธนาธรได้โอนทรัพย์สินให้สถาบันการเงินดูแล อันนี้หลายคนน่าจะเคยทำเหมือนกัน ผมก็เคยและวันนี้ก็ยังมีอยู่ โดยที่ผมก็ได้ลงนามสัญญาให้เขาบริหารโดยอิสระเช่นเดียวกัน

3. ผมเองเคยมี Trust อยู่ที่ต่างประเทศ และรายงานรายละเอียดทั้งหมดกับ ปปช. ตามกฎหมายว่าด้วยเรื่องการรายงานบัญชีทรัพย์สิน

4. แต่หลายปีมาแล้วผมได้ตัดสินใจทำสวนทางกับที่คุณธนาธรพยายามที่จะทำ คือผมยกเลิก Trust ที่มีอยู่ เพราะผมคิดว่าความโปร่งใสสำคัญกว่า ผมคิดว่าประเด็นที่น่ากังวลที่สุดในสิ่งที่คุณธนาธรได้ประกาศวันนี้ ไม่ใช่ว่าท่านเป็นคนแรกหรือไม่ แต่ที่ท่านบอกว่าทรัพย์สินที่ท่านโอนไปนี้จะ ‘มองไม่เห็น’ เพราะเมื่อทุกคนบอดสนิทกับข้อเท็จจริงว่าท่านมีทรัพย์สินอะไรบ้าง การตรวจสอบเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนจะเกิดขึ้นไม่ได้

จริงๆแล้ววิธีที่ชัดเจนที่สุดที่จะปลดปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนคือการขายขาด (แต่อย่าขายให้ nominee กันอีกนะครับ)

แต่หากไม่ขาย ผมว่าที่ดีที่สุดคือเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะว่าเรามีทรัพย์สินอะไรบ้าง เพื่อให้มีการตรวจสอบได้ และที่ไม่ควรคือการโอนเข้าไปในที่ๆ ‘มองไม่เห็น’
.
.
.
.
ลิงค์เต็มของสำนักข่าวอิศรา https://www.isranews.org/isranews/74785-report01-74785.html

#เลือกตั้ง62 #ประชาธิปัตย์
#ทีมกรณ์ #แก้จนสร้างคนสร้างชาติ

ผลิตโดย นายกรณ์ จาติกวณิช
พรรคประชาธิปัตย์ 67 ถ.เศรษฐศิริ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
จำนวน 1 ชุด ตามวันเวลาที่ปรากฏที่ส่งมาในครั้งนี้

232 Nameless Fanboi Posted ID:/Fn+tM3GpW

>>230 ตอนแรกคนไม่ได้เกลียดพรรคส้มเยอะนะ ตอนนี้กระแสแรงพอตัว คิดว่าเพราะไร

233 Nameless Fanboi Posted ID:hgSceoehIC

ไม่คิดจะเขียนเรื่องนี้อีกแล้วนะคะ แต่พอดีได้คำถามหลังไมค์มารัวๆ หลายอัน เลยคิดว่าตอบทีเดียวเป็นสาธารณะดีกว่า ก่อนจะมีมาอีก 55

ความเห็นต่อโพสของคุณกรณ์ (ดูได้ในเพจ KornChatikavanijDP) ต่อกรณี blind trust คุณธนาธร

1. ในฐานะนักการเงิน คุณกรณ์ย่อมเข้าใจดีว่า blind trust คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ทำงานแบบไหนในต่างประเทศ การนำคำว่า "มองไม่เห็น" มาเล่น บิดคำให้กลายเป็นเท่ากับหมายความว่า "ตรวจสอบไม่ได้" จึงไม่ถูกต้อง เพราะ blind ในคำว่า blind trust ไม่ใช่แปลว่าตรวจสอบไม่ได้ คำว่า "มองไม่เห็น" แปลตรงตัวว่า เจ้าของทรัพย์สินไม่มีสิทธิมองเห็นหรือบงการการจัดการทรัพย์สินใดๆ เท่านั้น

2. ไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ blind trust ก็จริง แต่คุณธนาธรก็ได้แสดงความประสงค์ชัดเจนแล้วใน MOU ซึ่งเปิดเผยต่อสาธารณะว่า จะสร้างเงื่อนไขแบบ blind trust ขึ้นมาในสัญญาบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคล

3. blind trust ที่คุณธนาธรตั้งในครั้งนี้ เป็นการทำสัญญากับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนสัญชาติไทย อยู่ในรูปกองทุนส่วนบุคคล (private fund) ในเมืองไทย ซึ่งต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ทุกประการ ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ไม่ใช่ trust ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ (แบบที่คุณกรณ์โพสว่าเคยทำ) และในเมื่อคุณธนาธรยังคงเป็นเจ้าของทรัพย์สิน (กองทุนเพียงแต่รับมอบอำนาจในการจัดการมา) จึงยังต้องรายงานทรัพย์สินถ้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามกฎระเบียบของ ปปช. (เหมือนกับที่รัฐมนตรีคนก่อนๆ ที่โอนทรัพย์สินให้กองทุนส่วนบุคคลจัดการ มีหน้าที่ต้องทำเช่นเดียวกัน -- แต่ย้ำอีกทีว่า ไม่มีข้อมูลค่ะว่ากองทุนเหล่านั้นอันไหนเข้าข่าย blind trust บ้าง)

4. การรายงานทรัพย์สินใน trust นี้ ต่อ ก.ล.ต. และ ปปช. (ซึ่งเป็นหน้าที่ของ trustee หรือผู้ดูแล trust) จะต้องละเอียดแค่ไหน อย่างไร เป็นเรื่องที่เจ้าของโพสนี้ไม่แน่ใจ (เพราะกฎหมาย blind trust ตรงๆ ยังไม่มีนั่นแหละ) แต่ในหลักการ การจัดตั้งโครงสร้างแบบนี้ถือว่าเป็นการวางมาตรการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนแล้ว ดังนั้นถ้าจะต้องเปิดเผย อย่างมากก็ควรเปิดเผยทรัพย์สินเดิม (ณ ตอนที่สร้าง trust นั้นขึ้นมา เพราะถือว่ามีโอกาสเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนกับทรัพย์สินเดิม เพราะเจ้าของรู้ว่ามีอะไรบ้าง) และยอดรวมของมูลค่าทรัพย์สินใน trust ตามกำหนดการยื่นของ ปปช. เท่านั้น (เราอยากรู้รายละเอียดทรัพย์สินก็เพราะเจ้าของทรัพย์สินมีอำนาจจัดการ สุ่มเสี่ยงว่าจะเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน ถ้าเขาโอนอำนาจการจัดการไปแล้ว เราก็ไม่ต้องรู้ละเอียดขนาดนั้นก็ได้)

5. ดังนั้นคำพูดของคุณกรณ์ที่ดูจะชี้นำว่า "มองไม่เห็น" = "ตรวจสอบไม่ได้" จึงไม่เป็นความจริง พูดไม่ครบ และทำให้คนเข้าใจผิดได้ค่ะ

เสริมอีกนิดว่า คุณธนาธรเป็นนักการเมืองคนแรกที่รู้จัก ที่ 1) ประกาศว่าจะจัดตั้ง blind trust ก่อนรู้ผลการเลือกตั้ง 2) เปิดเผย MOU ต่อสาธารณะ 3) ในสัญญาจะกำหนดข้อบังคับว่า trustee จะต้องไม่ซื้อหุ้นไทย และ 4) ไม่รับโอนทรัพย์สินคืนจนกว่าจะพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองไปแล้ว 3 ปี -- ทั้งสี่ข้อนี้เป็นมาตรฐานสูงที่ไม่เคยเห็นนักการเมืองคนไหนทำมาก่อนค่ะ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

234 Nameless Fanboi Posted ID:xuyqkLQfv+

Being a SUCCESSFUL scientist requires yet a third set of skills, involving publishing and departmental politics.
#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

235 Nameless Fanboi Posted ID:hgSceoehIC

กรณ์เริ่มลบเม้นในโพสต์นี้แล้วว่ะ 5555
https://facebook.com/story.php?story_fbid=10157168334459740&id=71254499739

236 Nameless Fanboi Posted ID:ZSBPn/Ba6U

>>234 sad truth...

237 Nameless Fanboi Posted ID:+gPW0/2mw1

สุเทพนี้

เอาคนไปปิดธนาคารไม่ให้จ่ายเงินให้ชาวนา จนชาวนาผูกคอตาย

แล้วด่าว่าเป็นความผิดคนอื่นชาวนาถึงไม่ได้เงินหน้าตาเฉย เอาเรื่องชาวนาตายมาด่าคนอื่นได้หน้าตาเฉย

เดินเรี่ยไรเงิน อ้างว่าจะ"ช่วยคดี"ชาวนา เงินเข้าทนาย แต่พูดอ้างว่าเอาไปให้ชาวนาที่ฆ่าตัวตายหน้าตาเฉย จริงๆเงินม็อบมันไปไหนยังไม่รู้เลย

เห็นชีวิตคนที่ตายเพราะตัวเองเป็นอะไร เห็นคนที่นั่งฟังเชื่อมันจ่ายเงินให้มันเป็นอะไร

ปั่นคนจนสูญเสียรวมทั้งหมดไปเท่าไหร่ ผ่านไป 5 ปี สุดท้ายได้อะไรวะ?

ฟังเวทีพรรคอื่นพรรคนี้แล้วมาฟังสุเทพ แล้วรู้สึกว่ามันเหี้ยมาก พอคิดว่า 5 ปีก่อนมีพวกห่านี่พูดแล้วมีคนไปนั่งฟัง ก็รู้สึกดีขึ้นหน่อยว่าประเทศไทยมาไกล

รอดูตอนจบว่าจะจบยังไง

238 Nameless Fanboi Posted ID:SKzyG5J/qC

สรุปว่า blind trust ของ TJ คือนิยามขึ้นเองเพื่อโฆษณาเหมือนกับ retina display เงี้ยเหรอ?

239 Nameless Fanboi Posted ID:b5i9hoIYKR

เพื่อนๆ ที่ออกกตัวให้ TJ นี่เครือข่าย elite ใหม่ ทั้งนั้น

240 Nameless Fanboi Posted ID:ytQebewarg

ฆ่าตัวตายแล้วตกนรกหรือไม่ จะได้ไปสวรรค์หรือเปล่า?

ในทางศาสนาคริสต์ จริงๆเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนมาก และไม่ค่อยอยากจะมีคนพูดกัน

เพราะมันยืนอยู่บนทางอันตรายสองแพร่ง ระหว่างลัทธิชวนคนไปฆ่าตัวตาย กับการทำร้ายคนอื่นซึ่งผิดเป้าหมายที่พระเจ้าอยากให้เราทำ

ดังนั้นในประเด็กนี้ เราต้องพูดถึงมันอย่างระมัดระวังมากๆ อยากให้อ่านจนจบและค่อยๆพิจารณาดู

เอาจริงๆ ในไบเบิลนั้น มีคนฆ่าตัวตายอยู่หลายคน ไม่มีใครในนั้นเลยที่ถูกประนามไว้ในไบเบิลว่าจะตกนรก

ยกตัวอย่างเช่นยูดาสที่รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำกับพระเยซูจึงฆ่าตัวตาย

แซมสัน ถูกข้าศึกจับได้ และเอามาประจานในหมู่ศัตรู จึงอธิษฐานของกำลังเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อทำลายเสาของอาคารจะได้ตกตายไปพร้อมศัตรู

กษัตริย์ซาอูลที่ถูกตีเมืองแตกจึงฆ่าตัวตายก่อนจะตกเป็นชเลยของศัตรู

อาบีเมเลคนับรบที่ถูกทุ่มหินลงมาจากค่ายจนกะโหลกแตก จึงขอให้ลูกน้องฆ่าเขาเสีย

อาหิโธเฟลที่ปรึกษาของกษัตริย์ที่ให้คำแนะนำแล้วไม่มีใครทำตาม เลยเสียใจกลับบ้านเกิดฆ่าตัวตาย

เรารู้ว่าทั้งหมดนั้นไม่ใช่ตัวอย่างที่ดี แต่ผู้คนเหล่านั้นก็ฆ่าตัวตายด้วยเหตุของสถานการณ์ต่างๆ เราต่างรู้ว่าเรื่องเลวร้ายทั้งหมดบนโลกนี้ก็เป็นผลของบาปในตัวมนุษย์ ทั้งการต่อสู้กัน การตัดสินใจที่ผิดพลาดนำไปสู้ความเศร้า แต่พระเจ้าได้ประนามผู้ที่ตัดสินใจเช่นนั้นหรือไม่? หรือมองว่ามันเกิดจากความผิดพลาดไม่สมบูรณ์ในตัวมนุษย์เอง? และเราควรจะจัดการกับมันอย่างไร?

ในโบถส์ยุคต้น มีกลุ่มความเชื่อหนึ่งที่เชื่อว่าการฆ่าตัวตายถือเป็นมรณะสักขี มีพิธีกรรมอธิษฐาน และทรมาณตัวเอง จนถึงตาย (ไม่ต่างจากความคิดของพระญี่ปุ่นสายหนึ่งแนวนั่งสมาธิฝั่งตัวเองเท่าไหร่) - ต่อมาคณะความเชื่อนี้ถูกคริสจักรโรมันคาทอลิกประกาศให้เป็นพวกนอกรีด และถูกกวาดล้างจนล่มสลายไป

ไม่มีใครอยากให้ผู้อื่นตาย ความตายก่อนถึงโอกาสอันควร เป็นความเศร้า

เซนต์โทมัส อไควนัส ได้ใช้แนวคิดของเพลโต ซึ่งนำเข้ามาบอกได้ว่าฆ่าตัวเองก็เท่ากับฆ่าคนอื่น ซึ่งผิดหลักห้ามฆ่าคนของบัญญัติสิบประการที่โมเสทได้รับ สำหรับเซนต์โทมัส อไควนัสชีวิตทั้งหมดเป็นของพระเจ้า แม้ตัวเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำลายมัน

ด้วยสายบัญชาการอันทรงอำนาจของคริสตจักรโรมันคาทอลิก ทางวาติกันจึงสามารถประกาศได้ว่าการฆ่าตัวตายเป็นการกระทำร้ายแรง พวกเขาพยามใช้กฎหมายป้องกันการฆ่าตัวตายด้วย ผู้ที่ฆ่าตัวตายจะถูกบัพพาชนียกรรม คือตัดออกจากโบถส์ จะไม่ได้รับการฝังศพในสุสาน สร้างความอับอายเดือดร้อนให้ตระกูล และในความเชื่อของชาวยุโรปในสมัยนั้นคือจะไม่ได้ไปสู่สุขติ

แต่ความจริงแล้วเป็นอย่างไร? ตามหลักศาสนาแล้วคนที่ฆ่าตัวตายจะได้ไปสวรรค์หรือไม่?

ผมอ่านบทความของปาสเตอร์ฝ่ายโปรแตสแตนท์ของอเมริกันคนหนึ่ง แกตอบว่า "พูดจริงๆ ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนถาม ถ้าพ่อกับแม่ของคนที่พึ่งฆ่าตัวตายถาม ผมจะตอบว่า "ได้สิ พระคุณของพระคริสต์จะต้องอภัยให้เขาแน่นอน" แต่ถ้าคนที่ถามเป็นคนที่กำลังคิดจะฆ่าตัวตาย ผมจะตอบว่า "การฆ่าตัวตายเป็นบาปมหันต์ สิ่งที่รอเธออยู่นั้นเศร้ากว่าที่เป็นอยู่เสียอีก" เพราะผมรู้ว่าถ้าผมบอกว่า "ได้สิ" วันรุ่งขึ้นผมจะต้องจัดงานศพให้เขา"

(มีต่อ)

241 Nameless Fanboi Posted ID:ytQebewarg

(ต่อจาก >>240 )

สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าคนที่ฆ่าตัวตายจะได้ไปสวรรค์มั้ย เราไม่รู้หรอก การตัดสินเป็นหน้าที่ของพระเจ้า ไม่ใช่ของเรา สิ่งสำคัญคือเราควรจะทำอย่างไรกับคนที่อยากจะฆ่าตัวตาย เรื่องนี้ต่างหากที่บอกไว้อย่างชัดเจนหลายต่อหลายครั้ง

ก่อนสมัยของพระคริสต์ ชาวอิสราเอลเคยทอดทิ้งพระเจ้าไป และใช้ชีวิตอย่างเหลวแหลก ในเวลานั้น ผู้เผยวัจนะ เอลียาห์ เป็นคนที่สุดท้ายที่ยังเชื่อพระเจ้าอยู่

แต่ภารงานที่เอลียาห์ได้รับนั้นหนักหนาเกินไป เขาเป็นมนุษย์ที่ต่อสู้กับรัฐทั้งรัฐด้วยตัวคนเดียว เอลียาห์ถูกนักบวชของบาอัลใส่ร้ายว่าเป็นผู้ที่ทำให้ฝนไม่ตกเพราะลบหลู่บาอัล เขาถูกตามล่าจากผู้คนทั้งประเทศ

วันหนึ่งเอลียาห์ตัดสินใจเข้ามอบตัวกับกษัตริย์ และท้าทายเหล่านักบวชของบาอัล ว่าถ้าบาอัลกินเครื่องบูชาได้จริง ให้ประหารเอลียาห์ได้เลย

เอลียาห์ชนะเดิมพัน หลังจากนั้นไม่นานฝนก็ตก เขาพิสูจน์ให้กษัตริย์เห็นว่าการลบหลู่บาอัลไม่ใช่สาเหตุของการที่ฝนไม่ตก และพิสูจน์ว่าบาอัลไม่มีได้มีฤทธิ์ คิดว่ากษัตริย์จะเชื่อเอลียาห์หรือไม่?

คำตอบคือ ไม่

เพราะราชีนีเป็นหัวหน้านักบวชของบาอัล เป็นคนทรง เมื่อราชีนีรู้เรื่องก็โกรธมาก และจะให้คนสังหารเอลียาห์เสีย

เอลียาห์รู้เรื่องก็กลัวมาก รีบหนีออกจากเมือง หัวซุกหัวซุน เข้าสู่ถิ่นกันดาล รอนแรมอยู่หลายวัน และทรุดลงที่ต้นซากในทะเลทรายต้นหนึ่ง

เอลียาห์รู้สึกว่าเขารับกับเรื่องนี้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ทุกสิ่งที่ทำมาล้วนไม่มีค่า เขาอยากจะตาย และอธิษฐานกับพระเจ้าให้เขาตายเถิด เขาอธิษฐานอยู่อย่างนั้นจนหลับไป

พระเจ้าทำอย่างไรกับคำอธิษฐานของเอลียาห์?

พระองค์ทรงพิโรจ ส่งสายฟ้าฟาดตวาดว่า "การฆ่าตัวตายเป็นบาป เจ้าจะต้องตกนรก" หรือไม่?

หรือพระเจ้าบอกว่า "เจ้าไม่เข้าใจ ทุกสิ่งที่เกิดแก่เจ้าเป็นความประสงค์ของเรา จงยอมรับเสีย"?

ไม่เลย หลังจากที่เอลียาห์อธิษฐานเช่นนั้น ทูตสวรรค์ก็ปรากฎแก่เอลียาห์ พร้อมกับน้ำและขนมปัง

ทูตสวรรค์แตะตัวของเอลียาห์และบอกว่ากินเถิด

เอลียาห์ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะตื่นเต้น ตกใจ หรือแม้แต่กล่าวขอบคุณ เขานอนขนมปังอาหารกับน้ำนั้น และหลับไปอีก

เมื่อรู้สึกตัวอีกทีเอลียาห์ก็ยังพบทูตสวรรค์อยู่ พร้อมกับอาหารและน้ำ บทูตสวรรค์อกเอลียาห์ว่า "จงลุกขึ้นรับประทานอาหารเถิด เพราะการเดินทางนี้เกินกำลังของท่าน"

เอลียาห์ลุกขึ้นและกินอาหาร ด้วยกำลังจากอาหารนั้น เขาก็เดินทางสี่สิบวันสี่สิบคืนถึงภูเขาเฮโรป และพบถ้ำแห่งหนึ่งที่จะหลบภัยได้

เมื่อเอลียาห์อยู่ในสภาพนั้น พระเจ้าไม่ได้ แก้ปัญหาให้เอลียาห์ ไม่ได้ส่งทูตสวรรค์มาพาเขาบินไปยังเฮโรป ไม่ได้บอกว่าเจ้าจงทำ หนึ่ง สอง สาม สี่ นี่ ไม่ได้กล่าวตำหนิ

สิ่งที่พระองค์คำคือส่งทูตของพระองค์มา พร้อมอาหารและน้ำ แตะที่ตัวเขา อยู่กับเขา และบอกว่า “ข้ารู้ว่าการเดินทางนี้เกินกำลังของท่าน”

ทูตสวรรค์ไม่ได้สั่งสอนอะไรเลยสักคำ แต่สิ่งที่ทูตสวรรค์ทำ ทำให้เอลียาห์รู้ว่าพระเจ้าเป็นห่วงเขา พระเจ้ารักเขา และดูแลเขา ด้วยสิ่งนี้ทำให้เอลียาห์ลุกขึ้น และเดินต่อไปได้

เอลียาห์ยังต้องเดินในถิ่นกันดาลต่อไปถึง สี่สิบวันสี่สิบคืน เขาจึงพบกับสถานที่ที่เพียงพอที่จะหลบให้พ้นจากภัยอันตราย แต่อลียาห์ “มีกำลัง” พอที่จะทำได้ รวมถึงภารกิจของเขาหลังจากนี้ด้วย

แล้วถ้าอย่างนั้น เราควรจะทำอย่างไรกับคนที่อยากตาย และล้มลงเหมือนเอลียาห์

เราควรหรือไม่ที่จะทำแบบที่พระเจ้าให้ทูตสวรรค์ทำ

ตอนที่พระเยซู อยู่ในทะเลทราย มารปรากฎตัว และบอกกับพระองค์ว่า “เจ้าเป็นลูกพระเจ้าก็บอกให้พระเจ้าช่วยเจ้าสิ เสกหินนี้ให้เป็นขนมปังสิ” เราควรทำแบบนั้นมั้ย

สำหรับคนที่กำลังล้มลง เราเป็นมาร หรือเป็นทูตสวรรค์ที่พระเจ้าส่งมา

#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

242 Nameless Fanboi Posted ID:udNe.o2/sp

เห็นคุณกรณ์บอกว่าคุณเคยทำมาก่อน ผมรบกวนถามให้แน่ใจว่า trust ที่คุณเคยทำ นั้น
1. คุณเห็นสามารถมองเห็นผลกำไรขาดทุนในระหว่างที่คุณฝากทรัพย์สินไว้กับกองทุนหรือไม่
2. คุณทราบหรือไม่ว่า trustee เป็นใคร ใครคือผู้บริหารทรัพย์สินของคุณ
3. คุณทราบหรือไม่ว่าผู้บริหารทรัพย์สินลงทุนในทรัพย์สินใดบ้าง
ผมคิดว่ามีสองประเด็นที่ เพราะเท่าที่ผมเข้าใจ ที่คุณธนาธรจะเอาทรัพย์สินเข้า blind trust ไม่สามารถทราบได้ว่าลงทุนอะไรบ้าง ไม่ทราบว่าใครบริหาร ไม่ทราบว่าผลประกอบการเป็นอย่างไร ยังไม่มีคนทำ ที่คุณกรณ์และคนอื่นๆทำน่าจะเป็นแค่ trust เฉยๆ เพราะฉะนั้นน่าจะต้องยอมรับกันก่อนว่า คุณธราธรเป็นคนแรกที่จะทำแบบนี้จริงๆ
สองคือ blind trust ดีหรือไม่ มองไม่เห็นจะตรวจสอบอย่างไร อันนี้ผมว่าเป็นอีกประเด็นนึงที่สามารถถกกันได้ จะมีทางออกอย่างไรให้โปร่งใส
แต่ขั้นแรกที่ผ่านการแชร์ออกไป ข่าวหลายๆกระแสพูดว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ คุณกรณ์กับอีก 15 คนก็เคยทำมาแล้ว
อันนี้จะดีมากถ้าคุณกรณ์เคลียร์ให้ชัดเจนครับ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

1. เห็นครับ 2. ทราบครับ 3. ทราบครับ แต่พอเป็น Trust ผมก็สั่งเขาไม่ได้ทั้งหมด และสุดท้ายที่ผมยกเลิก Trust ก็อย่างที่ชี้แจงในโพสต์ คือผมมองว่ามันเป็นการโอนความเป็นเจ้าของออกไปโดยที่ผู้ได้รับประโยชน์ยังเป็นผมอยู่ (beneficially) ซึ่งผมมองว่ามันไม่โปร่งใสเท่าให้ปรากฎเป็นชื่อผมโดยตรง ต้องรับผิดชอบโดยตรง
ส่วนหุ้นในไทยที่ถืออยู่ ผมขายหมดตอนรับตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง เพื่อให้ไม่ต้องมีปัญหาใดๆเรื่อง conflict of interest
#มิตรสหายท่านสอง

ขอบคุณที่สละเวลามาตอบนะครับ
นั่นหมายความว่า สิ่งที่ข่าวเขียนว่าคุณกรณ์เองก็ใช้ blind trust มาก่อน คือเป็นข้อมูลที่ผิดพลาดใช้ไหมครับ
ส่วนเรื่องที่มุมมองว่าอันไหนโปร่งใสกว่ากันอันนี้ผมเห็นด้วยในส่วนนึงนะครับ ผมคิดว่าถ้าจะทำ blind trust จริงๆ ควรมีกฏหมายถึงการบริหารจัดการ blind trust และความโปร่งใส ใครมีสิทธ์ที่จะเห็นบ้าง ออกมาก่อน
ปล. ผมแนบข่าวมาให้ในนี้ด้วยครับ
https://www.isranews.org/isranews/74785-report02_74785.html
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ใช่ครับ ผมโพสต์ไว้แต่แรกว่าไม่เคยมีใครทำ blind trust ได้มาก่อนแต่แรก อยากให้มีกฎหมายรองรับเหมือนกันครับ แต่ในกรณีนักการเมืองต้องหมายความว่ามีการโอนอำนาจการจัดการ แต่ต่องไใ่หมายความว่าโอนแล้วมองไม่เห็นว่ามีอะไรบ้าง
#มิตรสหายท่านสอง

ผมท้วงติงในประเด็นที่คุณธนาธรบอกว่าทรัพย์สินทั้งหมดจะมองไม่เห็นครับ ซึ่งทำให้ตรวจสอบยาก ส่วนเรื่องการโอนหุ้นให้กองทุนดูแลถือเป็นเรื่องปกติ
#มิตรสหายท่านสอง

หัวข้อถูกแล้วครับ คือถ้ามองไม่เห็นก็จะตรวจสอบไม่ได้จริง
#มิตรสหายท่านสอง

จนป่านนี้กรณ์ยังไม่เข้าใจอีกเหรอที่มองไม่เห็นน่ะเจ้าตัว MOU ข้อ 2.3 ก็บอกอยู่ตรวจสอบได้ตามกฎหมายเหมือน Private fund ทั่วไป
Surreal เหี้ยๆ
#กูเอง

243 Nameless Fanboi Posted ID:gI3my13q5K

ถ้าคนกราดยิงในฮอลแลนด์เป็นคนขาวทั้งสื่อทั้งอิจ่าประโคมข่าวทั้งวันไปแล้ว
แต่นี่เป็นแขกตุรกีทำ เงียบกริบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โคตรน่าสมเพช

244 Nameless Fanboi Posted ID:CcRFys6Mj+

>>235 กูโพสสุภาพๆว่าที่คุณกรณ์ทำมาก่อนแล้วคือทำระดับเดียวกับธนาธรเลยเหรอครับ
โดนลบและบล็อคหว่ะ 55555555555555555555

245 Nameless Fanboi Posted ID:CKIOe3AYUx

วิ่งนี่บาดเจ็บและเจ็บอยู่บ่อยๆนะ เหนื่อย ล้า อย่างไรก็ตาม สำหรับผมวิ่งแล้วเจ็บดีกว่า ไม่วิ่งและกินยามื้อละ 10 เม็ดเยอะมาก ส่วนตัวไม่ค่อยเห็นด้วยกับการทำงานจนป่วย เป็นโรคยอดนิยม อย่าง เก๊าท์ ความดัน เบาหวาน หัวใจ เพราะผมเองก็เคย เป็นแบบนั้น ผมรู้สึกแปลกทุกครั้งที่เห็นคนทำงานหนัก กินยาเยอะไปแล้วเอามาโชว์บอกว่า ทุ่มเท อันนี้ผมว่าเยอะไป ... ออกกำลังกายกันครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

246 Nameless Fanboi Posted ID:xpqdj8vXom

Business Model ของธุรกิจสื่อที่จัดงานมอบรางวัลให้องค์กรต่างๆ คืออะไรเหรอครับ? คือได้กำไรยังไงจากการจัดงานมอบรางวัลพวกนี้ และคิด KPI กันยังไงครับ?

ไม่นับกรณีที่รางวัลซื้อได้นะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ไม่แปลกหรอกครับ พี่ลองนึกภาพมีคนจัดงานมอบรางวัลบริษัทก่อสร้างดีเด่น แล้ว SCG เป็นสปอนเซอร์ดู
ต่อให้ SCG ไม่ได้รางวัลอะไรแต่ ชื่อกับ product ของ SCG ก็จะได้ brand awareness จากบริษัทก่อสร้างระดับชั้นนำทั้งหมดที่เชิญมาในงานหรือติดตามงานอยู่ด้วย งานแบบนี้เหมือน networking party ของกลุ่มที่คัดมาแล้วอ่ะครับ

#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

เคยเจอเจ้านึงในสิงคโปร์
1. ทำโปรดักส์ SaaS ขึ้นมาตัวนึง
2. ทำองค์กรแจกรางวัลให้บริษัทในข้อ 1
3. ทำเว็บข่าวว่าองค์กร 2 แจกรางวัลให้บริษัท 1
1, 2, 3 มีกรรมการบริษัทคนเดียวกัน

จริงๆมี 4. ทำบล็อกรีวิวโปรดักส์ให้ 1 เป็น the best ด้วย

#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

นึกถึงห้องซ้อมดนตรีที่สามย่าน ได้รับรางวัลห้องซ้อมดนตรีดีเด่นโดยวง Paradox
เจ้าของห้องซ้อมคือพี่ต้า Paradox

#มิตรสหายอีกท่านหนึ่ง

247 Nameless Fanboi Posted ID:N9bADMYR3Z

ข้อสังเกตเรื่องสวัสดิการจากมุมมองของผม บางองค์กรสวัสดิการดีจนคนไม่อยากไปไหน มีอีกด้านที่น่าสนใจจากมุมมองของผม
เมื่อสวัสดิการดีมากคนจะรู้สึกเสียดายไม่อยากออกเพราะรักสวัสดิการขององค์กร อย่างไรก็ตามความต้องการเรื่องรายได้มันต้องเพิ่มแบบก้าวกระโดด ซึ่งองค์กรใหญ่ทำแบบนั้นไม่ได้ ... ทำไงดี หนึ่งในทางออกคือ ไปทำอาชีพเสริมที่ไม่เกี่ยวกับงานหลักตัวเอง เช่นไปขายของ เพื่อเพิ่มรายได้ที่มันเพิ่มตามไม่ได้จากองค์กร ...ผล รายได้ดี และได้อยู่ในองค์กรที่สวัสดิการดี สบาย ไม่ต้องพัฒนาอะไรมากละ เราเรียกสิ่งนี้ว่า รักองค์กร ... บางคนยอมจำกัดความเก่งของตัวเองให้เท่ากรอบที่องค์กรกำหนด เพียงเพราะเราเสียดายสวัสดิการ .... ข้อสังเกตนี้ไม่ได้ถูกทั้งหมดเป็นแค่สิ่งที่ผมสังเกต

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

248 Nameless Fanboi Posted ID:hdMVW.XllU

เรียนคุณโต ผมเคยคิดข้ามชอทไปเลยว่า ใครก็ตามที่อยาก"อาสา"มาทำงานการเมือง(ไม่ใช่เล่นการเมือง และเป็นพรรคหัวหน้าตั้ง) ควรมีเพดานจำกัดความร่ำรวย สมมุติเอาที่ ๕๐๐ ล้าน ใครมีเกินจากนี้ถือว่าตกคุณสมบัติที่จะมาอาสาทำงานการเมือง ส่วนใครที่มีเกินจากนี้แต่รักชาติจนสุดใจขาดดิ้นลงไปชักดิ้นชักงอชนิดที่พลีชีพเพื่อชาติได้ ก็ให้เอาส่วนที่เกินนั้นยกให้หลวงไปผ่านกรวงการคลัง ยกให้ขาดนะครับไม่มีการคืนแม้แต่บาทเดียว (จะได้พิสูจน์ว่ารักชาติจริงยิ่งกว่าเงินในเซฟ)ใครไม่พร้อมก็อย่าเข้ามา คุณรวยก็เรื่องของคุณแต่การเมืองไม่ควรมีใครที่มีอิทธิพลเหนือกว่าใครจนไปบิดเบือนนโยบายการบริหารราชการแผ่นดินได้
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ควย
#กู

249 Nameless Fanboi Posted ID:sxvs.PXHIu

= ข้อสอบคณิตศาสตร์แบบไทยๆ .. สร้างชาติ หรือทำลายชาติ? =

เมื่อประมาณปีที่แล้ว ผมได้มีโอกาสหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถิติการสอบ PAT1 (Professional Aptitude Test 1 : Mathematics) ของเด็กไทยเพื่อนำไปวิเคราะห์ให้เด็กๆนักเรียนแถวบ้านได้เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย หลังจากการนำข้อมูลที่ประกาศโดย สทศ. มาคำนวณเล็กๆน้อยๆ ภายใต้สมมติฐานที่ว่าการแจกแจงคะแนนของเด็กจำนวนมากนี้ มีการแจกแจงใกล้เคียงกับการแจกแจงแบบปกติ(Normal Distribution) ผมได้พบสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ คือ

"เด็กไทยที่ทำคะแนนสอบได้ต่ำกว่าครึ่งหนึ่ง คือต่ำกว่า 150 จาก 300 คะแนน มีพื้นที่ใต้โค้งปกติมาตรฐานเป็น 0.999988" ... !!!!
(สถิติ PAT1 ปี 2560 : ค่าเฉลี่ยประชากรของคะแนนอยู่ที่ 42.82 คะแนน และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของประชากรมีค่า 25.34 คะแนน )

มันแปลว่าอะไรครับ มันแปลว่า เด็กไทยที่ทำคะแนนวิชาคณิตศาสตร์ PAT1 ได้เกิน 150 คะแนนนั้น คิดเป็นประมาณแค่ 0.0012% ของทั้งหมด ...

ซึ่งผลสถิตินี้แสดงความหมายสื่อออกไปได้ 2 ทาง คือ ครูสอนคณิตศาสตร์ในประเทศไทยทั้งหมดสอนได้ห่วยแตกมาก ... หรือ ข้อสอบที่ใช้ทดสอบนั้น มีความยากจนไม่สามารถวัดอะไรได้เลย

จากการที่ได้พูดคุยกับ อ.แดง (อ.ประสพ ธงธวัช) อดีตอาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีผู้เกษียณอายุราชการแล้ว และมีความเชี่ยวชาญในศาสตร์ของฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ที่ใช้จริงๆในระดับวิศวกรรมศาสตร์ ท่านได้กล่าวถึงว่าคณิตศาสตร์แบบนี้ว่า เป็นคณิตศาสตร์ทำลายชาติ หรือที่ท่านชอบใช้คำเรียกสั้นๆ(แบบที่คนส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจท่าน) ว่าเป็น "ทริคแมท" (Trick Math) ซึ่งโดยส่วนตัวหลังจากได้พูดคุยกับท่านเป็นการส่วนตัวหลายครั้ง ยิ่งเห็นด้วยกับความคิดของท่าน

- "ทริคแมท" ของอ.แดงหมายถึงอะไร -

หมายถึง ข้อสอบคณิตศาสตร์ที่เอาเนื้อหาคณิตศาสตร์ต่างๆ มายำเพิ่มความยากโดยการวกไปวนมาแบบที่จะไม่มีทางเจอได้จริงในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน (แม้กระทั่งในฟิสิกส์ระดับสูงก็ตาม) เป็นเหมือนของเล่นสนุกๆของคนเก่งคณิตศาสตร์จะมานั่งแก้กัน คนที่เชี่ยวชาญ ที่ฝึกฝนมาอย่างดีหรือผ่านโจทย์มามากๆเท่านั้น ที่จะสามารถทำมันได้เพราะมองหรือจัดรูปออกด้วยประสบการณ์ที่เชี่ยวกรำ...

แล้วมันไม่ดีอย่างไร .... ผมได้ข้อสรุป(ในความเห็นของตนเอง)ว่ามันไม่ดีตรงที่ มันไม่ควรนำมาใช้ออกเป็นข้อสอบเพื่อวัดผลเด็กเข้ามหาวิทยาลัย เพราะข้อสอบประเภทนี้มีอำนาจการจำแนกต่ำ คือไม่สามารถจำแนกเด็กที่เก่งมาก เก่ง ปานกลาง ค่อนข้างอ่อน และอ่อนมาก ออกจากกันได้เลย ดูจากสถิติก็จะเห็นได้ชัดว่า สามารถจำแนกได้แค่ "มหาเทพ" กับ "คนปกติ" ออกจากกันเท่านั้น ... ผลที่ได้จึงทำให้เด็กไทยไม่สามารถใช้เพียงความรู้ที่เรียนในห้องเรียนเท่านั้นในการแก้ปัญหาและสอบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย เป็นการลดคุณค่าของบทบาทการเรียนในห้องเรียน แต่ไปเพิ่มมูลค่าให้กับการติวนอกห้องเรียนมากขึ้น หรือไม่ก็ท้อไปเลยเพราะรู้สึกว่าเรียนให้ตายแค่ไหนก็ทำไม่ได้อยู่ดี...

ผมเชื่อว่า การศึกษาคณิตศาสตร์ไทย จะช่วยสร้างชาติได้ก็ต่อเมื่อข้อสอบนั้นมีความยากในระดับที่พอเหมาะพอดี สามารถจำแนกเด็กออกจากกันได้ (เช่นข้อสอบ SAT ของต่างประเทศ คณิตศาสตร์ไม่ได้ซับซ้อน แต่เขาก็สร้างคนเก่งๆออกมาได้มากมาย) และนั่นจึงจะนำไปสู่ความเป็น คณิตศาสตร์สร้างชาติได้อย่างแท้จริงครับ

การใช้ทริคแมทในการทดสอบ เปรียบเหมือนให้คนเรียนขับรถปกติ แล้วไปสอบใบขับขี่โดยให้ไปขึ้นรถ F1 แข่งกันในสนามแข่งรถนั่นแหละครับ ... ถ้าเปรียบง่ายๆ

#คาดหวังว่าวันหนึ่งเด็กไทยจะเลิกกลัวเลข #เมื่อเราเลิกทำให้ทริคแมทเป็นสิ่งที่จำเป็น #เพราะมันไม่ได้จำเป็นต่อการดำรงชีวิตจริง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

250 Nameless Fanboi Posted ID:GWP+nhGHrA

>>249 นี่ก็เหมือนทฤษฎีสมคบคิดนะ ว่ามีคนต้องการให้ระบบที่เอื้อต่อการกวดวิชายังดำรงอยู่ เลยต้องออกข้อสอบยากๆ เกินตำราหลักเข้าไว้ เรื่องนี้พูดกันมาเป็นสิบๆ ปีละ แต่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนแก้ได้จริงๆ

251 Nameless Fanboi Posted ID:o7TgcBz5bC

>>250 กูก็ว่า ถ้าระดับโรงเรียนมีครูคณิตหัวควยออกโจทย์ยากๆให้เด็กสอบไม่ผ่านเพื่อจะบังคับทางอ้อมให้เด็กไปเรียนพิเศษกับตัวเอง ทำไมระดับชาติจะมีบ้างไม่ได้

252 Nameless Fanboi Posted ID:w4xRmBMgWu

>>250 กวดวิชาก็ไม่ผ่านสัด
ข้อสอบแบบเล่มเหลืองตอ.โคตรโรคจิต

253 Nameless Fanboi Posted ID:nwnBUEM4sF

แนวคิดของคนเล่นหมากรุกบางคนกับแนวคิดผมเกี่ยวกับโชงิ
คนที่ 1 : เกิดที่ไทยแล้วจะไปเล่นหมากรุกของประเทศอื่นทำไม
คนที่ 2 : เห็นแค่ตัวหมากก็ปวดกบาลแล้ว ไปเล่นอย่างอื่นดีกว่า
คนที่ 3 : หาคนเล่นด้วยยาก ไม่รู้จะเล่นไปเพื่ออะไร
แอนเดรีย : ในบ้านเราคนเล่นกันน้อย งี้ก็เป็นโอกาสของเราน่ะสิ!!

254 Nameless Fanboi Posted ID:THEs.LzgPr

เราเก่งเลข พูดตามตรงไม่เข้าใจหัวอกคนที่ทำยังไงก็เรียนเลขไม่รู้เรื่องเลย (เราเป็นประเภทที่คิดว่าถ้าตั้งใจจริงมันต้องเข้าใจซิ) //ไม่เคยเรียนพิเศษ เลขก็สี่ตลอดนะจ๊ะ ที่ร่วง ๆ จะเป็นพวกวิชาท่องจำทั้งหลายมากกว่า...
ความวกวนของโจทย์ที่ไม่เห็นในชีวิตจริง (เช่นพวกรถไฟถึงกี่โมงที่ความจริงไม่จำเป็นเลย) มันมีไว้เพื่อฝึก "การคิดเชิงตรรกะ" ไม่ได้มีไว้เพื่อ "ใช้ในชีวิตประจำวัน" หมายถึงมันฝึกให้เราคิดอย่างมีเหตุผลเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งถ้าใครทำตรงนี้ไม่เป็นจะไม่มีทางประสบความสำเร็จในวิชาเลขได้เลย

แต่ว่าตัวเลขค่าเฉลี่ยนี่มันหลอกตานะ มันจะมีคนประเภทที่สอบติดอย่างอื่นแล้วก็เลยเข้าไปขำ ๆ ส่งกระดาษเปล่าเล่น ๆ คอยฉุดมีนอยู่

255 Nameless Fanboi Posted ID:Toaoyt1/0B

ส่งเงินให้พี่ที่ไทย 10,000 บาท เงียบไป 2 วัน ...เงินไม่ถึง

วันนี้มีเมลล์จาก Paypal มาบอก

ตอนส่งเงิน ที่ช่อง Message คุณพิมพ์ว่า "10,000 baht naja"

naja คือใคร? อะไรยังไง? ไอดีคุณจะถูกระงับ เพราะเราคิดว่าคุณอาจจะถูกแฮ๊ก การ Transaction ครั้งนี้มันไม่ CLEAR!! ให้คุณส่งคำอธิบายมายัง Paypal ด้วยว่า

naja คืออะไร? อธิบาย และบอกจุดประสงค์ในการโอนครั้งนี้ ไม่งั๊นพี่โมโฮ่💢 พี่ไม่เข๊าจั้ย!? พี่ด๊อนโตะอันด้าสุแตนโดะ!!

🔹🔹🔹🔹🔹🔹🔹🔹🔹🔹🔹🔹🔹🔹

/ยื่นเก้าอี้ให้

"นั่งลงก่อนสิพ่อหนุ่ม ทำตัวตามสบายนะ ผมจะเล่าให้พี่ฟัง ถึงเรื่องราวของ...naja"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

256 Nameless Fanboi Posted ID:AD6udD8KIh

เรียนที่ SIRNSTAR แล้วต้องพร้อมไปทำงานได้ทันทีครับ วันนี้เรียน Unit Testing ด้วย JUnit รวมถึงการทดสอบแบบ White Box และ Black Box Testing ทดสอบกับระบบจริงของ LeetCode ซึ่งกำลังนิยมใช้ในสหรัฐ เรียนที่นี่ไม่ต้องมีพื้นฐาน หรือ ประสบการณ์ทำงาน หรือ วุฒิการศึกษาอะไรทั้งสิ้นครับ มาแล้วจะได้เจอคนที่ยังไม่จบปริญญาตรี แต่ได้เงินเดือน 30,000 บาท หรือคนที่มีวุฒิมัธยมแต่เขียนโค้ดให้บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของไทย มาดูตัวเป็นๆได้ตลอดเวลาครับ

เรียนที่ SIRNSTAR เรียนวันละเรื่อง ไม่สับสน เรียนตั้งแต่พื้นฐาน Java จนถึง Cloud สร้าง Database ทำ Web ใช้ Framework เหมือนกับธุรกิจจริงได้แก่ Spring MVC, Spring Boot, Hibernate และ Bootstrap มาเรียนซ้ำได้ฟรีจนกว่าจะได้งานประจำเงินเดือนสูง ไม่มีประสบการณ์เงินเดือน 30,000 บาท ถ้าสอบ TOEFL ได้เกิน 100 คะแนน เงินเดือนเริ่มต้นที่ 40,000 บาท

ดูคอร์สเรียนและค่าสมัครได้ที่นี่ครับ https://sirn star.work/register

257 Nameless Fanboi Posted ID:HhyIN.gCFI

>>254 r/iamverysmart

258 Nameless Fanboi Posted ID:ziD73dvAFR

>>254 เหมือนมึงไม่เข้าใจประเด็นของ quote อ่ะ

259 Nameless Fanboi Posted ID:iFzx5fvseI

ยิ่งเห็น "ลุง" ตอนนี้ ก็ยิ่งคิดถึง "Gap" ในตอนนั้น
.
Gap คือ (อดีต)แบรนด์เสื้อผ้าวัยรุ่นชื่อดังจากอเมริกัน ที่เริ่มต้นเมื่อปี 1969 หรือราว 50 ปีก่อน โดยปั้นแบรนด์ตัวเองไว้ว่าที่มาของชื่อนี้มาจากคำว่า "gap" ที่แปลว่าช่องว่าง,ความแตกต่าง เอาเท่ๆ หน่อยก็คือ ‘วัฒนธรรม gap’ ที่เป็นช่วงวัยระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ (วัยรุ่น) นั่นเอง
.
โดยโลโก้ของ Gap ที่ติดตาลูกค้าที่สุดก็คงจะเป็นโลโก้ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1986 โดยเป็นคำว่า "GAP" แบบฟอนต์ขาวอักษรตัวใหญ่ทั้งหมดละม้ายคล้ายฟอนต์ชื่อ Spire ที่ออกแบบโดย Sol Hess มาตั้งแต่ปี 1937 วางบนกรอบเรียบๆ สีน้ำเงินแต่ติดตา
.
โลโก้ตัวนี้ใช้มาทั้งสิ้น 24 ปี ติดหูติดตาลูกค้าชาว Gap ไปหมดแล้ว แต่แล้ววันดีคืนดีในวันที่ 4 ตุลาคมปี 2010 ทาง Gap ก็อยากรีแบรนด์ดิ้งให้ตัวเองทันสมัยขึ้น จึงได้เปิดตัวโลโก้ใหม่โดยใช้ฟอนต์ Helvetica และลดขนาดกรอบน้ำเงินใหญ่เบิ้มให้เหลือแค่มุมขวาบนตัว p ตัวเล็ก แถมไล่เฉดโทนสีนิดๆ เพราะคิดว่าคงดูสวยดีเหมือนไอคอนแอพลิเคชัน
.
ผลคือความ "ฉิบหาย" อย่างแท้จริง...เพราะแบรนด์ใหญ่หลายแบรนด์ล้วนใช้ Helvetica ทำโลโก้มานานมากแล้ว ทั้งสายการบิน Lufthansa, Microsoft, Panasonic, Toyota, Jeep, Kawasaki, Scotch (และ 3M) ทั้งหมดนี้โลโก้เป็นฟอนต์ Helvetica เพราะ Helvetica เป็นฟอนต์ที่มีมาตั้งแต่ปี 1957 แบรนด์ช่วงยุค 60'-80' เลยใช้ฟอนต์นี้เยอะมาก เพราะอยากให้ดูทันสมัย (ในตอนนั้น)
.
โลโก้ใหม่ของ Gap ที่ดูพยายามจะทันสมัยจึงสร้างความบรรลัยภายในอาทิตย์เดียว เพราะกระแสลบหนักมากและเป็นการทิ้งตัวตนที่มีมายาวนานแบบพยายามฉีกเกินเหตุ ทำให้โลโก้ใหม่มีอายุสั้นมาก คือใช้ไปไม่ถึงสัปดาห์ Gap ก็ตัดสินใจกลับไปใช้โลโก้เดิม แล้วก็ใช้จนถึงปัจจุบันนี้ (แต่โลโก้ที่เราเห็นทุกวันนี้คือเวอร์ชั่น 2016 นะ เพราะจริงๆ มีการปรับระยะห่างระหว่าง Font จากตัวเก่านิดนึง)
.
ความฉิบหายของ 1 สัปดาห์นั้นถึงขั้นทำให้ Marka Hansen ผู้บริหาร Gap ภาคพื้นอเมริกาเหนือ ที่ดูแลการเปลี่ยนโลโก้ในครั้งนั้น ต้องลาออกจาก Gap เมื่อปี 2011 เลยทีเดียว (แต่เธอไปทำธุรกิจอื่นในเครือต่อ ไม่ได้ออกไปขายเต้าฮวยแต่อย่างใด และปัจจุบันเหมือนจะยังอยู่ในฐานะผู้บริหารฝ่ายอาวุโสด้วยวัย 65 ปี)
.
โดยที่ Gap ทำตอนนั้นคือทำลายจุดแข็งตัวเองเพราะอยากจะเอาใจวัยรุ่น โดยที่ไม่รู้เลยว่าจริงๆ แล้ววัยรุ่นยุคนั้น (2010) กับวัยรุ่นยุคโน้น (1969) นั้นแทบจะเหมือนคนละเผ่าพันธุ์กันเลยก็ว่าได้มั้ง เพราะงั้นอะไรที่ cool ในยุคนั้น อาจจะดูใกล้สูญพันธุ์ในยุคนี้เลยก็เป็นได้
.
แถมเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะไม่กี่ปีต่อมา Gap ต้องปิดสโตร์ถึง 175 สาขาในภูมิภาคอเมริกาเหนือ เพราะไหนจะโดน Zara, H&M ถล่มยับแล้ว ยังโดนการขายแบบออนไลน์ซ้ำเติมอีก และเสื้อผ้าในร้านก็ไม่มีความ minimal ที่ถูกใจวัยรุ่นให้กดไลค์ในยุคนี้
.
แต่โชคยังดีที่ Gap มายืนในจุดที่ตัวเองยังยืนได้แข็งแรงและให้แบรนด์ลูกในเครืออย่าง Banana Republic หรือ Old Navy ทำตลาดตรงนี้แทน (แถมทำยอดขายถล่มทลายมาก เพราะ Old Navy ทำยอดขายได้เกือบเท่าตัวของ Gap ในปีที่ผ่านมา หรือรวมแล้วกว่า 1.18 พันล้าน$)
.
เรียกว่า Gap ปล่อยให้ลูกหลานทำงานทำการของตัวเองไป ส่วนตัวเองก็ไม่ไปฝืนเปลี่ยนลุคให้ดูเสร่อ ซึ่งคือสิ่งที่ถูกที่ควรของแบรนด์รุ่นลุงอย่าง Gap
.
พูดถึง "ลุง" ลุงแถวๆ นี้ก็เช่นกัน เพราะการรีแบรนด์ดิ้งของลุงช่วงท้ายวงจรชีวิต คือความพังระดับแบรนด์ดิ้งที่ดันเลือกทิ้งจุดแข็งตัวเองตลอด 4 ปี จากลุงดุๆ เข้มๆ ด่านักการเมืองโกงกิน
.
กลายมาเป็นลุงลุคใสๆ โอปป้าลุงใส่เชิ๊ตท่ามกลางไฟสตูฯ เหมือนนักการเมืองที่ลุงเคยด่า แล้วทำตอนไหนไม่ทำมาทำในช่วงท้ายของอายุขัย เหมือนยุงลายที่กินเลือดตลอดแล้วหันมากินน้ำต้มผักรักษ์โลก ทำให้นอกจากจะโคตรไม่ธรรมชาติและขัดกฏวิวัฒนาการแล้ว ยังทำให้แฟนลุงหลายคนถึงกับตาสว่างเลยว่าลุงแกเฟครึเปล่า?
.
แต่งานนี้โทษลุงทั้งหมดคงไม่ได้ ต้องโทษนักสื่อสารการตลาดของลุงที่ลุงเลือกใช้ในบั้นปลายก่อนการเลือกตั้งมากกว่า ว่าทำไมถึงเลือกทำอะไรแบบนี้ในช่วงเวลาแค่ไม่ถึงเดือน นี่โชคดีนะที่เป็นลุง ถ้าเป็นที่เกาหลีเหนือนะ ป่านนี้พวกแกได้เปลี่ยนจากฝ่าย PR ไปทำงานในเหมืองแร่แทนแล้วแน่นอน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

260 Nameless Fanboi Posted ID:Jb7Im+CYx+

>>259 โคตรจริง จุดขายของลุงแกคือความขึงขัง พูดจาดุๆ แรงๆ มันเข้ากับ concept "ผู้อาสาทำให้บ้านเมืองสงบ" มากกว่าสไตล์โอปป้าแบบที่พยายามทำ

อย่าว่าแต่คนไม่ชอบลุงจะยิ่งสมเพช คนที่ชอบลุงกูก็เห็นส่ายหัวไม่น้อยเพราะมันไม่ใช่

261 Nameless Fanboi Posted ID:No6Zr10jDT

>>258 เจ้าของ quote มันพูดทำนองกดหัวคนที่ไม่เข้าใจคณิตด้วยหวะ อีกอย่างถ้าอ่านดีๆ แม่ง humble brag ชัดๆ จะอวดทำก๋วยเตี๋วอะไรว่าได้เกรดสี่ถ้าอยากแค่สื่อสารประเด็นที่ว่า

บอกตามตรงว่าประเทศไทยแม่งไม่ได้สอนให้เด็ก รวมทั้งตัวครูให้ ตระหนักถึงความแตกต่างในความสามารถในการเรียน และรูปแบบการเรียนของแต่ละคน มันถึงมี quote ที่มัน ignorant ขนาดนี้ออกมาได้

กูมีเพื่อนตปท เป็น dyslexic (อารมณ์ประมาณว่ามีความลำบากในการทำความเข้าใจภาษาเขียน) กูก็เลยเห็นว่าต่างประเทศเขามีการหันมามองอะไรแบบนี้แล้วยังเริ่มมีการเปลี่ยน mindset ของคนในสังคมให้เข้าใจมากขึ้น

262 Nameless Fanboi Posted ID:Qp3vfTNIl3

>>261 เอเชียยังเป็นแบบนี้หมดละมั้ง จะว่าไปไม่เคยได้ยินข่าวโลกตะวันตกบ้าสอบบ้ากวดวิชาเหมือนฝั่งนี้นะ

263 Nameless Fanboi Posted ID:1WgjHlRDZi

>>262 ไปดูเมกา ระบบการศึกษาที่นั่นโหดเหี้ยไม่แพ้เอเชียหรอก แต่ถ้ามึงมีเงินบริจาคซัก 20 ล้านก็เข้า MIT ได้ ตอนนี้กำลังเป็นข่าวดังเลย

264 Nameless Fanboi Posted ID:FDgJtrOJYQ

>>263
ระบบมหาลัยของอเมริกา โดยเฉพาะพวกไอวี่ลีก ไม่ใช่แค่เรียนเก่งแล้วจะเข้าได้ เขาดูอย่างอื่นด้วย ถ้าไม่มีจดหมายแนะนำจากโรงเรียนหรือศิษย์เก่า เขาไม่ดูใบสมัครเลยด้วยซ้ำ

ถ้าโคตรเง่าวงตระกูลบริจาคเงินให้มหาลัยมาแต่ไหนแต่ไรก็จะเข้าได้ง่ายหน่อย

265 Nameless Fanboi Posted ID:oa7G0LBUhc

ควย
# มิตรสหายท่านหนึ่ง

266 Nameless Fanboi Posted ID:EDGCL/VRln

เป็นมาหลายอย่าง
สรุปสิ่งที่ได้ “ซึมซับ” และมองเห็นซ้ำๆมาหลายปี
.
1. "ความรู้มีวันหมดอายุ"
- หลายคนคิดว่าความรู้ที่ร่ำเรียนมาสามารถสะสมไปได้เรื่อยๆ ไม่มีวันหมดอายุ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ความรู้มีวันหมดอายุ!
.
- ยิ่งในยุคนี้ความรู้ในตำราอาจจะเก่าไปแล้วก็ได้ ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ ตำราเทคนิคการค้าขายต่างๆ บอกให้ทำแบบนี้แต่พอมายุคนี้แล้ว เทคนิคเหล่านั้นอาจจะใช้ไม่ได้ผลแล้วก็ได้ อย่าเชื่อในสิ่งที่รู้มากนัก ขอให้ลองทำและเปิดรับความรู้ใหม่ๆบ้าง จะได้รู้ว่าความรู้อันไหนหมดอายุแล้ว
.
2. เอาจริงๆแล้วคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนว่า "คุณเก่งขนาดไหน"
เขาสนแค่ว่าคุณหาเงินได้เท่าไร และสกิลของคุณจะมีส่วนช่วยพวกเขา(บริษัท,ลูกค้า)เรื่องงานได้ยังไงได้บ้าง
.
- หลากคนชอบอวดว่าตัวเองทำโน่นนี้นั้นได้ หารู้ไม่ว่าสิ่งเหล่านี้ ไม่มีใครสนใจเท่าไร ต้องพูดว่า เคยทำอันนี้มาแล้ว ทำอันนั้นมาแล้ว คุณจะน่าสนใจขึ้นเยอะ ไม่ใช่แค่พูดว่าทำได้ ต้องลงมือทำมาแล้ว
.
-เราอยู่ในโลกที่ทุกอย่างเชื่อมกันหมด วันนี้คุณเก่ง พรุ่งนี้ก็มีอีกคนที่เก่งกว่าคุณ เหนือกว่ายังมีฟ้า เก่งขนาดไหนก็ยังไม่คนเก่งกว่า
.
- จงเป็นคนที่นำความเก่งของตัวเองมาแปลงให้เป็นผลงานให้ได้ สุดท้ายแล้วเราต่างรู้ดี เราทำเพื่อเงินเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น อย่ามัวมานั่งยึดติดกับเรื่องฉันเก่ง แล้วใครเก่งกว่าเลย เอาเวลาไปนั่งโฟกัสเรื่องการหารายได้เพิ่มดีกว่า

3. "คนที่มีรายได้สูงหลายคนล้วนเป็นคนเก่ง แต่คนเก่งบางคนทุกก็ไม่ได้มีรายได้สู เพราะมีนิสัยบางอย่างในตัวมาขัดขวางหนทางที่จะเติบโต"
.
- คนรายได้สูงหลายคน ล้วนเป็นคนเก่ง อันนี้คุณอาจจะรู้แล้ว แต่สิ่งที่ผมรู้สึกได้คือ คุณที่เก่งบางคนมีสกิลดีมาก แต่รายได้ก็ไม่ได้เยอะตาม เพราะมีนิสัยที่แย่ อีโก้สูง หรืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งพวกนี้ผมคิดว่ามันคือการขัดขวางความเก่งของตัวเค้าเองให้ไปไหนไม่ได้ไกลเท่าไร
.
- คนเก่งที่ไม่รวย เพราะมีทักษะที่ไม่เพียงพอ ในโลกของการทำเงินหรือการทำรายได้ให้ได้สูงๆ มันไม่ใช่แค่ว่าคุณเก่งแล้วคุณจะสำเร็จ
.
- อยากเป็นคนมีรายได้สูง มันต้องมีสกิลการเข้าหาคน ลูกล่อ ลูกชน การวางตัว ทัศนคติแนวคิด ความอดทน การใช้คน การบริหาร ฯลฯ ประเด็นก็คือ อย่ามองว่าคุณเก่งขนาดไหน ให้มองว่าในทางที่คุณกำลังเดินไป "คุณยังขาดอะไร" จะดีกว่า
.
4 "ตำแหน่ง บางครั้งก็เป็นกับดัก"
.
- ทำงานให้ดูผลตอบแทน และสิ่งที่ได้ ไม่ใช่ดูจากป้ายว่าคำนำหน้าชื่อของตัวเองเขียนไว้ว่าอะไร
.
- ตำแหน่งเป็นเพียงแค่ชื่อไม่ได้บ่งบอกว่ารายได้คุณจะเยอะตาม ลองดูให้ดีบริษัทเล็กๆ กับบริษัทใหญ่ๆ ชื่อตำแหน่งเดียวกัน แต่ผลตอบแทนจะต่างกันมาก อย่าไปยึดติดมาก มองว่าตัวเองได้อะไรบ้างจะดีกว่า
.
- ตำแหน่งถูกสร้างมาเพื่อแบ่งแยกการทำงาน และในบางครั้งมันก็เป็นส่วนช่วยให้คนเสียดายถ้าต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงย้ายไปอยู่บริษัทอื่นๆ
.
- คิดแบบเจ้าของธุรกิจต้องไม่สนเลยว่าตัวเองตำแหน่งอะไร ให้สนว่าจะพาร้านค้า หรือบริษัทให้รอดในปีนี้ยังไงดีกว่า
.
5. "ทำงานทั้งทีอย่ามองแค่เงิน ผลตอบแทนอาจจะมาได้หลายรูปแบบ " เงิน,ความรู้ , คอนเนคชั่น " ล้วนเป็นผลตอบแทนทั้งนั้น
.
6.ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือเจ้าของธุรกิจ ล้วนต้องศึกษา "การลงทุน" ทั้งนั้น
.
7. การออมเงินเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเจอสัญญาณในการลงทุนที่ดีและเป็นไปได้ ลองเสี่ยงดูบ้าง เพราะนั้นอาจจะทำให้คุณได้เงินออมเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในระยะเวลาที่เร็วกว่า
.
8.ตอนเป็นมนุษย์เงินเดือน ต้องอยู่ในกรอบที่บริษัทวางไว้ แต่พอมาเป็นเจ้าของธุรกิจ นั้นหมายถึง คุณต้องเริ่มต้นสร้างกรอบเหล่านั้นในแบบของตัวเอง ไม่มีการทำงานไหนที่ไม่มีกรอบกำหนด แต่จะเล็กหรือใหญ่ ตึงหรือหย่อน ก็อีกเรื่องนึง
.
9. เหนื่อย คือคำที่ ทุกอาชีพ ทุกตำแหน่ง ทุกสถานะมี ทำใจให้คุ้นชินและดูไปที่ผลตอบแทน ว่าเราเหนื่อยด้วยผลตอบแทนเท่าไร
.
10. ความสมบูรณ์แบบไม่มีอยู่จริง มนุษย์เรามักต้องการอะไรใหม่ๆเสมอมาเติมเต็ม ไม่ว่าจะหาเงินได้เท่าไร อยู่ในตำแหน่งไหน ถ้าคุณรู็ข้อนี้แล้วคุณจะรู้ได้ว่า มองหาความสุขระหว่างทางไปด้วยดีกว่า อย่ากำหนดแค่ต้องปลายทางเท่านั้นถึงจะมีความสุขได้
.
--------------
PM Shane.

267 Nameless Fanboi Posted ID:+yeAB8ZPqg

>>262 ไอวี่ลีกเข้ายากกว่า ม เอเชียอีก อย่างแรกเลย เงินต้องมาก่อน ค่าเทอมนี่อย่างโหด คนจนหมดสิทธิ ถัดมาแม่งมีโควต้าเชื้อชาติ คนเชื้อชาติเอเชียเจอเกณฑ์สอบที่โหดหินที่สุด เชื้อชาติอื่นๆสอบง่ายกว่ามาก

268 Nameless Fanboi Posted ID:7LUuIwt//G

御前圣
泰国只有两个方面可傲世中国:1.人妖,2.足球。
ประเทศไทยมีเพียงสองด้านเท่านั้นที่น่าภาคภูมิใจเหนือประเทศจีน: 1. กะเทย 2.ฟุตบอล。

#มิตรสหายบอลจีนท่านหนึ่ง หลังโดนไทยอัดไป 1-0

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.