Fanboi Channel

>>>/lounge/68/ วันศุกร์ที่หนึ่ง
>>>/lounge/216/ วันศุกร์ที่สอง
>>>/lounge/286/ วันศุกร์ที่สาม
>>>/lounge/408/ วันศุกร์ที่สี่
>>>/lounge/765/ วันศุกร์ที่ห้า
>>>/lifestyle/1530/ วันศุกร์ที่หก
>>>/lifestyle/2284/ วันศุกร์ที่เจ็ด
>>>/lifestyle/3353/ วันศุกร์ที่แปด
>>>/lifestyle/5047/ วันศุกร์ที่เก้า
>>>/lifestyle/6139/ วันศุกร์ที่สิบ
>>>/lifestyle/6603/ วันศุกร์ที่สิบเอ็ด
>>>/lifestyle/7075/ วันศุกร์ที่สิบสอง

ศุกร์13พอดีเลย

ทำไมไม่ 12A โถ่.. เสียจัย

>>2 เออว่ะ วันนี้ศุกร์ 13 แม่นๆ
แก่แล้วแต่อยากหางานใหม่มันจะได้ป่ะวะ 555

เบื่อว่ะทำงานซ้ำๆเดิมๆเหมือนโรงงานเลยแสส

>>4 กูเพิ่งได้เปลี่ยนงานตอนอายุ 33 ถือว่าแก่ยัง

>>6 กูไปสัมพาดมา พี่ที่สัมพาดกูเค้าบอกว่าวิดวะ30นิดๆ ย้ายงานมาขอทำ Junior เยอะนะ เปลี่ยนสายงานแต่เงินเดือนลดไปเยอะอะแหละ

ถามไรหน่อย บ.ญี่ปุ่นช่วงธันวานี่ยุ่งหรือว่างวะ ไปสัมพาดมาโทรไปหา HR เพื่อเช็ค ไม่อยู่ตลอดเลย

>>7 กุ บ.ไทยนะ ที่นี่เหมือนผลัดกันหยุดอ่ะ รีบใช้วันลาให้หมดกัน ไม่ค่อยมีกะใจจะทำงานกันแล้ว ช่วงสองอาทิตย์ท้ายปีนี่คนอยู่ก็เก็บงานไป แต่ห้ามขึ้นงานใหม่ๆ แล้ว ไม่มีคนอยู่ทำ

คนตั้งมู้แม่งเมินสิบสองเอของกู ไม่รับฟังความคิดเพื่อนร่วมงานเหรอวะ บ.ไม่ก้าวหน้าเพราะคนแบบมึงนี่แหล่ะ!

>>7 วัย 30 นิดๆเป็นช่วงที่ชีวิตมั่นคงประมาณนึงแล้ว รู้แล้วว่ารายได้มีเท่าไรจะพอใช้ ถ้าไม่มีภาระหลายคนก็จะลองก้าวออกจากกรอบไปลองสายงานใหม่ๆแบบนี้แหล่ะ กูก็เล็งๆอยู่

>>9 คุณคิดว่าคุณเป็นใครกันถึงจะมาใส่กิมมิคในชื่อกระทู้ ชื่อกระทู้แห้งๆไม่มีกิมมิคนี่เป็นวัฒนธรรมของบริษัทเราที่มีมาอย่างยาวนานยาวนาน
การที่คุณกล้าเสนอความคิดอะไรแบบนี้แล้วไม่มีใครพูดอะไรแค่เมินเฉยๆคุณก็ควรจะรู้ตัวได้แล้วนะ!

>>9 >>10 พวกนาย roleplay ห้องประชุมโรงงานหรอครับ

มีใครทำงานวิศวะไหมอะ เเรกๆมันต้องทำอะไรบ้าง ปล.กูเพิ่งจบวิศวะไฟฟ้า
เกรดกาก รู้สึกตัวเองไม่เก่งเลยไม่มั่นใจในตัวเองชิบ ถ้าถามว่าชอบอะไรกูยังไม่รู้ตัวเองเลย เเต่ที่เเน่ๆเรียนจบมาเป็นวิศวกาก
ว่าจะเริ่มหางานปีหน้าละ เเล้วถ้ามีใครทำหรือเบนเข็มไปสายอื่นเล่าให้ฟังหน่อย จบมามันไปทำอะไรได้บ้างอะ

ธุรการ ธนาคาร การเงิน บัญชี อื่นๆ สมัครงานอะไรได้บ้างอะ

ขอให้มนุษย์เงินเดือนที่เข้ามู้นี้ในวันนี้ทุกคนมีอันเป็นได้โบนัส 13 เดือน

>>7 ยุ่ง เพราะเดือนนี้วันหยุดเยอะ ปาร์ตี้ก็เยอะ งานก็เยอะ

>>13 สาธุ อ่าวกุเพิ่งเริ่มงาน ไม่ได้โบนัสอยู่แล้วนี่หว่า โถ่
>>12 ยังไงก็ลองหางานวิศวะก่อนเถอะ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยว่ากันอีกที จบมาได้ก็คือมีซัมติงแล้ว มึงอาจจะไปเจอแพชชั่นตอนได้ทำงานแล้วก็ได้นะ

>>13 กูไม่มีโบนัส...

>>12 เห็นด้วยกับ >>15 เรามีรุ่นพี่ที่รู้จักคนนึงจบวิศวะเกษตรมาเกรด 2 มั้ง ไปสมัคร 30 กว่าที่ ไม่ได้งานซักที่ จนเขาไปสมัคร บ.นอก แล้วได้งาน จากที่ฟังเขาเล่าคือบ.นอกหลายที่มันไม่ได้สนเกรดขนาดนั้น สัมภาษณ์ผ่าน ภาษาอังกฤษได้ก็ได้งาน ต่อทำให้ไม่ได้เก่ง แต่มันจะมีช่วงทดลองงาน 3 เดือน ก็ไปฝึกเอาช่วงนั้นได้ ถ้าตั้งใจยังไงก็ทำได้ เพราะมีพื้นฐานที่เรียนมาแล้ว ดีกว่าไปทำอย่างอ่านที่ไม่มีพื้นฐานนะ

อึดอัดว่ะ จะทำไงดีไม่อยากแต่งตัวปีใหม่ที่บริษัท เค้าจะมีประกวดชุดไรงี้ เค้าบังคับอะ คือกูไม่ชอบอะไรแบบนี้อะ กูขี้อาย คนอื่นดูตื่นเต้นดูจัดเต็มซื้อชุดซื้อพร้อพ ข้าวไม่แดกกลัวใส่ชุดไม่ได้ กูทำไงดีวะทำตัวไม่ถูก

>>17 หมายถึงว่าทำต่างประเทศหรือทำในไทยอ่ะ ถ้าในต่างประเทศเค้าดูเกรดอยู่แล้ว หรืออาจจะไม่เคร่งมากถ้ามาจากยูทอป ไม่อย่างงั้นคนไม่แย่งกันเข้า mit caltech ตั่งต่างหรอก

>>19 กูว่าหมายถึงบริษัทในไทยแต่สัญชาติอื่น
เพื่อนกูจบเกษตรมาเหมือนกันแต่เป็นบริหาร เกรดสองต้นๆเรียนสี่ปีครึ่ง ยื่นบริษัทญี่ปุ่นเงียบกริบจนไปได้งานของบริษัทไทยที่แรกแล้วก็ย้ายไปเรื่อยๆ ได้ทำบริษัทเยอรมันบ้างฝรั่งเศษบ้าง มีแค่บริษัทญี่ปุ่นที่ไม่เรียกเลยจนถึงทุกวันนี้

>>18 มึงขี้กังวลไปป่าวใส่ๆไปเถอะน่าา

>>21 ยังเด็กมั้ง สงสัยเพิ่งจบใหม่ เลยคิดมากกับเรื่องขี้ปะติ๋วแบบนี้ แก่ตัวไปเดี๋ยวก็รู้เองแหละว่าอะไรควรเก็บมาใส่ใจ อะไรไม่ควรเก็บมาคิดให้รกสมอง

พรุ่งนี้วันจันทร์อีกแล้วสาด

สัตวแพทย์​จบใหม่หางานยากมั้ยวะ

>>12 บ.เก่ากุวิศวะหลายคน เดี๋ยวอธิบายให้ฟัง

บเก่าเป็นบริษัทเซอวิสเมนเทแน้นระบบแอร์ เครื่องปรับอากาศ คูลลิ่งทาวเวอร์ ระบบบำบัดน้ำ

วิศวะ ติดตามญี่ปุ่นไปดูว่า โรงงานลูกค้าแม่งเจอปัญหาอะไร ถ่ายรูปๆ กลับออคฟิศ ประชุมหาแนวทางการซ่อม หาผู้รับเหมา
เอาราคาผู้รับเหมาไปยื่นให้คนทำใบเสนอราคา รอดูว่าได้งานไม่ได้งาน

ได้งานก็ไปซ่อมให้เขา ไปคุมงานอะว่าง่ายๆ เสร็จแล้วก็กลับมาทำรีพอร์ตว่ามึงซ่อมอะไรไป เจอปัญหาอะไรระหว่างซ่อม ใส่อะไรใหม่ให้เขา รับประกันแบบไหน ทำรีพอร์ตเสร็จยื่นให้ล่าม(งานเก่ากุเนี่ย กุเปนล่ามน่ะ) แล้วก็ตามญี่ปุ่นไปส่งรูปเล่มพร้อมรอรับคำถามในวันนั้น
จบงาน ผ่านไปสักพักมึงโทรไปถามฟิ้ดแบ้กด้วย เป็นยังไง

ไม่ได้งาน เงียบ บมึงอดแดก เสียค่าเดินทางกับวันนั้นเหนื่อยฟรี

>>12 กูก็ไม่เข้าใจเรื่องวิดวะไฟฟ้าหรอกนะ แต่พึ่งทำงานใช่ไหม ไม่มีใครจับมึงโยนเข้าไปกลางสงครามหรอกถ้าไม่เหี้ยจริง ช่วงทดลองงานนั้นแหละคือคลูดาว ศึกษางานเกี่ยวกับบริษัทเยอะ ๆ เดี๋ยวก็โปรเองมั่ง หลัก ๆ แม่งก็ทำรีพอร์ตกับสั่งงานละ ที่เหลือสายเทคทำ เทคแม่งเก่งกว่าวิดวะบางคนอีก
แต่ตัดสินใจงานไม่ได้ ตรงนั้นมึงต้องตอนสินใจให้ เขาจ้างมึงแพงกว่าเทคเพราะงี้ละ
สิ่งที่มึงทำก็ศึกษาให้รู้ลึกว่า ตรงนี้ทำได้ ตรงนี้ห้ามทำ ตรงนี้ทำแล้วมีปัญหา ขายงานให้เป็นด้วยยิ่งดี

>>12 วิศวะไฟฟ้าอย่างมึงนี่จบจากของพระบิดาไหมวะ? หรือว่าจบ8เกียร์วะ?

เมื่อไหร่จะวันศุกร์วะ

ระหว่างรายได้ปีละสามล้านแต่แทบไม่มีเวลานอน สภาพจิตพังหน่อยๆ กับรายได้ปีละล้านแต่สบายๆ เวลาเหลือ อยากนอนก็ได้นอน มีเวลาไปเที่ยวไปดูหนัง อันไหนดีกว่าวะ คือตอนนี้กูเป็นฟรีแลนซ์ ชีวิตเป็นอย่างหลัง แต่เห็นเพื่อนรอบตัวที่ทำงานประจำดูเครียดกันมากก็สงสัยว่าตัวเองชิลไปรึเปล่า ควรหางานทำเพิ่มดีมั้ยวะ แต่รายได้ไม่มีปัญหานะ แค่ทำเยอะขึ้นก็มีเงินใช้เยอะขึ้น

>>29 เงินซื้อสุขภาพไม่ได้

>>29 ไม่มีใครรู้หรอกนะ อนาคตเปนไง

แต่หาเงินใช้อย่างไม่ลำบากนัก กับตอนบั้นปลายชิวๆกับเงินจำนวนหนึ่ง
กับ หาเงินใช้อย่างสบายใจแต่เสี่ยงร่างพังตอนหลัง เอาเงินที่มึงมีเยอะๆไปรักษาตัวเอง

กุว่าอย่างแรกน่าจะดีกว่านะ ถ้ามึงไม่ฟุ่มเฟือยอะนะ (แต่ปีละล้านก็เงินเดือน เดือนละเกือบแสน กุว่ามันพอให้ฟุ่มเฟือยได้จำนวนหนึ่งนะเว้ย)

อยู่กทมเห็นรถราคาห้าล้านอัพวิ่งกันขวักไขว่ ลองคิดดูถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนเนี่ย ให้เงินเดือนๆละแสนแสนกว่ายังไม่มีปัญญาซื้อเลยถ้าไม่บ้าเอาเงินทั้งชีวิตมาซื้อรถ สมมติชีวิตนี้อยากขับอะไรที่ไม่น่าเบื่อราคาแตะสิบล้าน ก็คงต้องมีเงินเยอะกว่าสิบล้านมากถึงจะกล้าซื้อจริงไหม ต่อให้เก็บเงินได้เดือนละแสนยังไม่ได้เลย บางทีก็สงสัยว่าต้องออกจากcomfort zoneไปทำธุรกิจอะไรรึเปล่า แต่ทุกวันนี้ชีวิตก็มีความสุขดี อนาคตก็คงใช้เวลาหกปีผ่อนรถ ยี่สิบปีผ่อนคอนโด รถอย่างมากก็mb bmตัวล่างๆ คอนโดแคบๆในเมือง แต่ผ่อนไปครึ่งชีวิต พอคิดแบบนี้ก็เซ็งๆอยู่นะว่าชีวิตนี้มาได้แค่นี้เหรอ

ขอบ่นอีกนิด ทำไมภาษีรถไทยมันแพงสัสหมาขนาดนี้วะ แพงกว่าประเทศอื่นเป็นเท่าๆตัว ลองพิมพ์ชื่อรุ่นหาเลยus price ยิ่งถ้ารถยุโรปนี่แพงกว่าสามเท่า ขนาดรถยุ่นประกอบในประเทศขายคนไทยเองยังขายแพงกว่าที่ส่งไปขายประเทศอื่นอีก แล้วรายได้ประชากรยังเสือกน้อยกว่าเขาไม่ติดฝุ่น แต่คนไทยก็ยอมซื้อเพราะของมันต้องมีไง แต่เป็นหนี้หัวโตจ่ายดอกผ่อนกันยาวๆ แล้วก็ซื้อได้แต่รถกระป๋องญี่ปุ่นถูกๆนั่นแหละไม่ได้ขับรถสมรรถนะดีๆกับเขาหรอก

>>29 มะเร็งแดก ไม่ก็หลับไม่ตื่นอะ มีสองอย่าง คนเป็นมะเร็งตอนที่โดนบอกว่าจะอยู่ได้อีกกี่เดือนๆนี่แม่งเหี้ยสัดๆเลยนะ

>>33 mindset คนไทยมันบิดเบี้ยวอะ รถแพงแต่ก็ต้องซื้อ ของมันต้องมี

กูไม่มีรถเพราะทำงานตามที่ใกล้รถไฟฟ้าเอา เลยกลายเป็นอายุจะ 30 แล้วยังขับรถไม่เป็นเลย

>>36 รถไฟฟ้าไอ้พวกเจ๊กสวะชอบไอไม่ปิดปาก เชื้อโรคแม่งก็วนเวียนอยู่ในนั้นเพราะเป็นระบบปิด
ขึ้นรถไฟฟ้าทุกวันมันก็ค่อนข้างการันตีว่าเรามีโอกาสรับเชื้อวัณโรคป่าววะ

>>36 ขับเป็นก็ดี เช่น กรณีฉุกเฉินรีบพาคนเจ็บไปส่งโรงบาลงี้
แต่ถ้าอยู่ตัวเมืองไม่ค่อยได้ใช้หรอก อีกอย่างท้องถนนบ้านเราแม่งนักเลงเยอะ แค่กล้องไม่น่าพอหวะ

เสริมนิดไม่ขับนานๆบางที่ลืมบ้าง ไม่รอบคอบเกิดอุบัติเหตุได้

>>33 กูก็ขับรถกระป๋องญี่ปุ่น แต่ไม่สนสมรรถนะหอกอะไรหรอก กทม.แม่งรถติดจะตายห่า รถคันละสิบล้านหรือห้าแสนแบบกูแม่งก็ได้วิ่งแค่ 20-60 กม/ชม ไม่ต่างกัน =_=" ถ้ารวยเงินเหลือๆ ก็ซื้อไปเถอะ แต่ถ้าเงินไม่เหลือ มันก็ไม่ใช่ของมันต้องมีอะไรขนาดนั้น ยกเว้นพวกเที่ยวดึกซิ่งกลางคืนถนนโล่งๆ อันนี้ถึงน่าขับรถที่มันปลอดภัย เพราะคนไทยขับรถทั้งเหี้ยทั้งเลว เวลาชนแรงๆ รถแพงๆ แม่งเซฟชีวิตได้เยอะ แต่ถ้าใช้ชีวิตแบบกู เช้าไปทำงาน เย็นกลับบ้าน เสาร์อาทิตย์ไปแค่ห้าง เจอแต่รถติดตลอดชีวิต ชีวิตไม่เคยได้เห็นเลขหน้าปัทม์เกินเลข 60 แบบกู รถเหี้ยอะไรแม่งก็เหมือนกัน เน้นกว้างขวางนั่งสบายพอ

มีหัวหน้าบ้างานจัดๆและทุกอย่างต้องเป๊ะเพอร์เฟค แกต้องการให้ลูกน้องทุกคนเป็นอย่างแกในเรื่องบ้างานนี่ล่ะ ลูกน้องจะลางานทีไร หัวหน้ากูชอบยกเรื่องตอนแม่เขาตายแล้วเขาก็ไม่ได้ลาไปรับศพจากโรงบาลขึ้นมาพูดทุกที แถมยังบอกอีกว่าไม่มีเราก็เขาเผากันได้ กูควรคิดยังไงกับเขาดีวะ

>>41 พี่ไม่ได้ทำแล้วยังจะกีดกันคนอื่นเหมือนที่พี่เคยโดนอีกเหรอคะ นกไม่คิดเลยว่าพี่ตาจะเป็นคนแบบนี้

>>41 เขาก็คงอยากให้งานของทีมเขาออกมาดีนั่นแหละ ส่วนเรื่องลามึงก็ไม่ต้องไปสนใจ คือถ้ามึงจะลา มึงก็ลาไปเลย มันสิทธิของมึง

อีก5วันเงินเดือนออก กูต้องรอดว้อย
โบนัสไม่มี รอลุ้นอีกทีแต๊ะเอีย TT

>>41 เค้าอยากจะบ้างานไม่ลาไม่สนอย่างอื่นมันเป็นเรื่องของเค้า แต่การลางานมันเป็นสิทธิของเรา
ถ้าเค้าแค่บ่นๆก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามึงคิดว่ามึงทำงานได้ดีแล้วแต่โดนประเมินต่ำเพราะเรื่องลานี่ไม่โอเค

>>41 กูว่าหัวหน้ามึงเขายังฝังใจกับเรื่องนี้อยู่ ลึกๆ แล้วเขารู้สึกผิด แต่เอาเรื่องงานมาอ้างเพื่อปกป้องตัวเอง ทุกครั้งที่มีเรื่องสะกิดใจเขาแผลนี้ก็จะกลับมาเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะยอมรับแล้วปล่อยวางได้ เห็นใจเขานะ

ขอเล่าเพิ่ม อาจจะนอกเรื่องนิด มโนเยอะหน่อย แต่ตอนแม่กูตายอ่ะ ขนาดว่ากูไปทันวาระสุดท้ายเขา เดินทางไปกับเขาจนถึงวัด แต่ในหัวกูก็มีแต่คำว่าทำไม และคำว่า ถ้า เต็มไปหมด ถ้ากูอย่างนั้น ถ้ากูทำแบบนี้ เรื่องมันคงไม่เป็นแบบนี้ แต่กูก็ดิ่งไปให้สุดแล้วลุกขึ้นมาได้แล้ว ในขณะเดียวกัน หัวหน้ามึงก็อาจจะมีคำถามว่า "ถ้าเราลางานไปรับแม่" -> "แต่เราต้องอยู่ทำงานสำคัญนะ" คำถามนี้ของเขาจริงๆ แล้วตัวเขาเองอาจยังคิดว่ามันไม่เคลียร์ เขาเลยยังติดอยู่กับมันมาจนตอนนี้อ่ะ

>>45 กู+1ว่าเขาฝังใจเรื่องแม่ ไม่ว่าจะแบบไหนก็ตาม เมิงไม่ควรทำตามเขาว่ะ งานศพแม่งคือครั้งสุดท้ายอ่ะ ถือว่าไปส่ง วันเผาไม่ว่างไปวันอื่นก็ได้ โผล่ไปสักครั้ง
ถ้าไม่ได้ไปสักครั้งเลยกูว่าคสพเขากับแม่มีปัญหาแล้ว แบบที่เขาเรียกว่าตายก็ไม่เผาผีอ่ะ จะเอามายกตัวเองเป็นพนงตัวอย่างก็ไม่ใช่ละ เมิงไม่อยากไปอยู่แล้วไอ้สัส

ยุค boomer กูยังเข้าใจนะวีธี motivate ลูกน้องแบบนี้
มาสมัยนี้แล้วแม่งโคตร out ว่ะ

โม่งได้ขึ้นเงินเดือนกันกี่ % มั่ง ของกูปีนี้ได้เยอะหน่อย 9% ไม่มีโบนัส คงให้ถัวกับปีที่แล้วที่ได้น้อยหน่อย ได้ 4%

กูทำงานสายออกแบบเวลาทำงานกูทำเต็มที่ลูกค้าชมบ่อยแต่กูชอบมาสาย​ เรื่องแบบนี้มันหักลบกันได้มั้ยวะหัวหน้ากูชอบเล็งหัวกูเรื่องนี้

>>50 หักล้างกันไม่ได้ แต่เรื่องเวลาเข้าออกงานบางบริษัทไม่สนบางบริษัทสน บ.ที่สนเรื่องนี้ คนที่สน(ซึ่งโดยมากคือ HR) เขาไม่ได้ห่วงหรอกว่าผลงานมึงจะเป็นยังไง แต่การที่มีคนแหกกฎระเบียบลอยหน้าลอยตาอยู่จะทำให้กฎเขาไม่ขลัง เป็นเยี่ยงอย่างได้ มึงมาสายแล้วไม่เสียงานก็จริง แต่คนถัดจากมึงอาจจะมาสายแล้วเสียงานก็ได้ ถ้าเอชอาร์ไปเตือนไอ้คนนั้นเรื่องมาสาย มันก็ซัดทอดได้ว่าทำไมทีมึงยังมาสายได้เลย มันเสียการปกครองน่ะ /ตอนนี้กูเปลี่ยนมาอยู่ บ.ที่เน้นผลงานไม่เน้นเวลาเข้างานแล้ว บายใจ ทุกคนรู้หน้าที่ตัวเองดี

>>50 เสริม ตอนกูอยู่บ.เดิมกูก็มีปัญหาเรื่องมาสายเหมือนกัน แต่กูเป็นดีไซน์เนอร์ตัวหลักเลยเอาออกไม่ง่ายหรอก แต่กูก็รู้สึกไม่ดีนะที่กลายเป็นตัวปัญหาให้หัวหน้าต้องคอยไปรับหน้ากับเอชอาร์เพื่อคุ้มหัวกูอยู่ เวลาเอชอาร์มาอ้อมแอ้มเรื่องมาสายกับกูกูก็ไม่สบายใจหรอก แต่ก็นะ สายอยู่ดี /กลายเป็นว่าพอเปลี่ยนมาอยู่ บ.ที่ไม่ฟิกเวลาเข้าออกกูเสือกมาเช้าตลอดเลยว่ะ 555 แม่งพิสูจน์ได้อ่ะว่าที่กูสายก่อนหน้านี้เพราะปัญหาทางจิตว่ะแม่ง เกลียดบ.ซะจนไม่อยากลุกขึ้นมาทำงาน (แต่พอมาแล้วกูก็ทำเต็มที่ทุกงานนะ แล้วก็กลับมาเครียดเอง วนไป ตอนนี้หายละเพราะเปลี่ยน บ.)

เพื่อนกูมันลาออกไปล่าอำพันทะเล ลงรูปในเฟสดูโคตรมีความสุขเลย

มีแพลนจะไปตปทเดือนหน้าๆ ซื้อตั๋วแล้วบอกหัวหน้าแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร ทีนี้หัวหน้าไปคุยงานกับฝ่ายอื่นมา แล้วนัดวันทำงานนอกสถานที่เป็นวันที่กูไปตปท.พอดี กูยังไม่กล้าบอกหัวหน้าเลยฮือ

>>54 เคลียร์กับหัวหน้าอีกทีแกลืมป่ะ

>>55 ใช่ แกลืม รู้สึกผิดเลย ช่วงนี้กูลาเยอะด้วย

เบื่อโว้ย ถ้าแม่งรู้ว่าไม่ได้หยุดปีใหม่ซักปีกูไม่เรียนสายนี้หรอก

>>57 สายไรวะ เกี่ยวกับการได้หยุดไม่ได้หยุดด้วยหรอ

>>57 หมอปะ? ใช้ทุนอยู่ไรงี้ จะว่าไปก็มีหลายสายนะที่น่าจะไม่ได้หยุดปีใหม่ เช่น ตำรวจ หมอ ฯลฯ

กูมีวันลา กูไม่สน กูเคลียร์งาน แล้วลาตั้งแต่ 20 ธค กูไปทำงานอีกที 6 เลย แรกๆก็ไม่กล้านะ แต่กูว่าทั้งปีกูไม่ป่วยไม่ลาไม่สาย ขอสักทีปลายปีเหอะ ตอนนี้อยู่บ้าน กะจะนั่งกินหนมดูหนังให้อ้วนไปวันๆจนวันที่หกเลย 5555

>>60 ลา หรือ ลาออก

บ.ที่เขียนว่าต้องมีประสบการณ์1-xxปีขึ้นไปนี่ ผมส่งresumeได้ไหม จากเด็กกำลังจะหางาน

>>62 ส่งได้แต่เค้าจะเรียกไม้อีกเรื่อง

>>62 งานเดี๋ยวนี้แทบจะทุกงานรับคนมีประสบการ์ณทั้งนั้นส่งๆไปก่อนไม่มีอะไรเสียหาย แต่โน้ตใน CV ไปให้เห็นชัดๆละว่าไม่มีปสก. ไม่งั้นอาจจะเสียเวลาคุยโดยเปล่าประโยชน์

วันก่อนเพิ่งไปอ่านเจอจากไหนซักที่ ทวิตมั้ง ว่าบาง บ.จริงๆ ไม่ได้ต้องการประสบการณ์อะไรเกี่ยวกับเนื้องานหรอก แต่เข็ดขยาดกับเด็กจบใหม่ที่ไม่มีความรับผิดชอบ เบี้ยวนัดสัมภาษณ์ เมล์สมัครงานไม่สุภาพ มาทำวันสองวันหายไปซะเฉยๆ อะไรแบบนั้น มันเสียเวลา เลยขอคนมีประสบการณ์เพื่อให้แน่ใจว่าเคยผ่านงานอื่นมาแล้วจะสามารถสกรีนเด็กพวกนั้นออกไปได้

เออ มีโม่่งคนไหนทำงานกะเด็กมั่งวะ แล้วปกติ เรียก พ่อ-แม่ของเด็กว่ายังไง
แบบกูอายุ 33 แต่พ่อแม่เด็กบางทีก็อ่อนกว่ากู

>>66 ก็เรียกว่าคุณพ่อคุณแม่ไปเลย

>>66 เรียกว่าคุณพ่อ-แม่ไปเลย ว่าแต่มึงอายุแค่33 ทำไมมีพ่อแม่เด็กกว่านี้วะ? ทำงานประเภทอะไรแม่งคลุกคลีกับครอบครัววัยใสชิบหายเลย

>>68 กูก็ 33 ก็มีเพื่อนบางคนที่ลูกเข้าอนุบาลแล้วนะ

ใครทำบริษัทญี่ปุ่น หัวหน้าพวกมึงกลับบ้านกันยังวะ

>>66 แฟนกุก็ครู ก็เรียกคุณพ่อคุณแม่ ไม่ก็คุณผู้ปกครองไปเลยนะ ขนาดตอนเอามาคุยกับกุก็เรียก คุณแม่น้องฟีฟ่าบอกว่า... (นามสมมติ)

>>70 ทำงานวันนี้วันสุดท้าย เปิดอีกที 6 นายกลับญปมั้ยไม่รู้ไม่ได้สนใจ

สวัสดีมนุษย์รีมัง ปีนี้เป็นไงกันบ้าง ของเรา look back เรื่องแรกเรื่องเงิน ปีนี้รายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนแค่ 40k แต่ใช้เงินมากกว่าปีที่แล้ว 130k ดูจากที่ลงรายรับรายจ่ายมาตลอดปี หลักๆ 2 หมวดที่เพิ่มกระฉูดคือหมวดพ่อแม่กับค่าใช้จ่ายเรื่องรถ/เดินทาง มีรถแล้วค่าใช้จ่ายบานจริงๆ (ประกัน น้ำมัน เช็คระยะ) แล้วก็ปีนี้มีพาพ่อแม่ไปเที่ยว ตปท. นอกนั้นก็ฟุ่มเฟือยกว่าปีนี้แล้ว เข้าคลินิกทำหน้าบ่อยกว่าปีที่แล้ว ... เรื่องงาน ยังทำงานที่เดิมและรู้สึกว่ายังอยู่ได้ตามอัตภาพ ปีหน้ามีการเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวรออยู่แต่ก็จะพยายามลองสู้ดูซักตั้ง ไหวไม่ไหวค่อยว่ากัน

วันนี้กุก็ยังมาทำงาน ..ถนนโล่งดีนะ

กุต้องทำงานวันที่1 2 ว่ะ โคตรเศร้า

เห็นเพื่อนๆลงรูปกลับบ้านฉลองปีใหม่กันละเศร้าว่ะ

>>76 สู้ๆ มึง เดี๋ยววันที่สองกุกลับไปทำงานเป็นเพื่อน กูไม่ได้ออกไปไหน วนไปมาใน กทม. ก็รู้สึกเห็นใจคนที่ต้องทำงานอยู่นะ พวกพนักงานร้านอาหารในห้างนี่เป็นการทำงานวันหยุดที่หนักกว่าปกติอีก เพราะร้านนอกห้างปิดกันหมด คนก็เข้าไปอัดกันในห้าง

กูเคยทำงานช่วงปีใหม่ ได้เป็นเรตโอทีเต็มวัน มีเงินกินใช้สบาย ค่อยลากลับบ้านหรือไปเที่ยวช่วงอื่นที่คนน้อยๆ ไม่ต้องแย่งกันกินกันใช้ ถ้าไม่ปรุงแต่งจิตใจให้มองลบไปเอง มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นซะหน่อย วัยทำงานแล้วนะ ไม่ใช่วัยจะมาอินกับเทศกาลแบบเด็กๆ ซะหน่อย

วันนี้ผมก็ทำงานว่ะ แต่ได้สองแรง ก็โอเค๊ >>78 พาผมปลง สาธุ99

เพิ่งเริ่มงานใหม่ได้เดือนเดียว แต่อยากลาออกแล้วว่ะ คืองานที่ทำมันผิดข้อตกลงที่คุยไว้ตอนสัมภาษณ์ ทีแรกเหมือนจะให้กูช่วยดูแลงานทางเอกสาร ข้อกฎหมายบางข้อและงานติดต่อราชการ กลายเป็นต้องทำทุกอย่างในโปรเจคทั้งหมดแล้วไม่สามารถมีใครช่วยได้ นอกจากนั้นยังมีเจ้านายหลายคน เป็นงานระบบกงสีครอบครัวบริหาร แต่ละคนก็เรียกร้องจะเอานั่นเอานี่ทำให้โปรเจคเปลี่ยนไปมาตามความต้องการของคนนั้นคนนี้ ceo ที่ใหญ่สุดเลยไม่ค่อยปลื้มกูเท่าไหร่เพราะเขาบอกกูว่ากูทำงานช้ามาก มาทำงานได้เดือนนึงแล้วยังไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจากคุณเลย กูก็บอกเขาไปว่าเพราะแต่ละคนจะให้กูแก้ตามที่เขาบอก ถ้าอยากให้งานเดินหน้าควรจะเคาะข้อสรุปที่ทุกคนพอใจออกมาแล้วหยุดเพิ่มออฟชั่นนี่นั่นได้แล้ว เขาก็บอกว่าผมจ้างคุณมาก็ต้องทำให้ได้สิ พ้นปีใหม่เลยไม่อยากไปทำงานละว่ะ แต่ยังหางานใหม่ไม่ได้เลยยังไม่รู้จะเอาไงดี กูไม่ชอบความไม่เป็นระบบและกลับคำไปมาไม่มีจุดยืนเลย นึกอยากเปลี่ยนใจก็โละทิ้งของเก่าดื้อๆ แต่มันเสียเวลาในการทำนะเว้ย

เฮ่ย กูได้เลิกงานตะกี้ว่ะ นึกว่าจต้องทำงานข้ามปีซะแล้ว วะฮ่าๆๆๆ

>>80 ถ้ามึงพอมีเงินเก็บบ้างก็ออกสิ อยู่ที่แบบนี้ยังไงก็ต้องหางานใไม่อยู่ดี

>>73 ของกูเรียกว่าเป็นปีที่ดีไม่ได้เท่าไหร่มั้ง เหมือนรู้ตัวอีกทีก็หมดปีแล้ว
การงานมันก็เหมือนตันๆ หลายๆอย่างที่เคยดีตอนเข้ามาแรกๆมันก็ค่อยๆแย่ลง
อยากเปลี่ยนงานแต่ลองร่อนๆเรซูเม่ไปแล้วไม่ค่อยมีที่ๆเรียกเท่าไหร่ ที่ๆไปสัมก็ดูแย่กว่าที่เดิมซะเยอะ
เลยอยู่ที่นี่ต่อไปก่อน แต่ก็จะพยายามหาช่องทางไปเรื่อยๆ

เรื่องเงินปีนี้รู้สึกว่าเสียเงินไปกับเรื่องไร้สาระเยอะมาก แต่สุดท้ายเก็บเงินได้มากกว่าปีที่แล้ว
แต่ก่อนกูมีงานอดิเรกชอบไปหาของอร่อยๆกิน+กินเหล้าคนเดียว แต่อ้วนขึ้นเยอะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
เลยต้องลดอะไรพวกนี้ไป ไปๆมาๆก็ชินกับการกินอะไรเบาๆเป็นข้าวเย็นเลยประหยัดเงินตรงนี้ไปเยอะ
แต่พอแบบนี้กลายเป็นว่างๆมาลองเล่นเกมมือถือ --> ติดเกม --> เปย์ หมดไปเยอะอยู่
นึกๆดูก็แอบเสียดายนะ ปีหน้าคงต้องหางานอดิเรกอย่างอื่นที่ไม่เปลืองเงินมากเกินไป และไม่เสียสุขภาพดู

สุดท้ายปลายปีเก็บเงินได้ประมาณนึง แล้วคอมเก่าก็ใกล้ลาโลกแล้ว เลยเอาไปซื้อคอมใหม่
แล้วโชคดีมีโปรผ่อน 0% 10 เดือน เลยอัพไปซื้อรุ่นที่แพงขึ้นมาหน่อยได้ สงสัยจะได้เปลี่ยนมาติดเกม PC แทน

>>83 ชีวิตมันต้องมีเอนเตอร์เทนบ้าง ถ้าสุดท้ายมีเงินเก็บกูก็ว่าไม่เสียหายนะ เล่นๆ ไปเหอะ

>>80 ปัญหาหนักอกหนักใจว่ะ กูว่าแม่งทำงานไร้นะบบมาแต่ต้นแล้วเจอปัญหาเนี่ยแหละ แม่งเลยหวังว่าจะจ่ายเงินจ้างคนทีามาแก้ปัญหาตรงนี้ได้
ซึ่งจริงๆแล้วปัญหาอยู่ที่วิธีการทำงานของพวกแม่งน่ะแหละ โจทย์คือพวกแม่งมีการทำงานแบบนี้ มึงจะหาวิธีแก้ที่ยังทำให้พวกมันทำงานกันแบบเดิม แต่ระบบลื่นไหลได้รึเปล่า หรือต้องเปลี่ยนโครงสร้างระบบใหม่ทั้งหมด นั่นอยู่ที่มึงเลือก

กูเข้าใจว่าบริษัทนี้แม่งคงไม่ได้เข้าใจว่าปัญหาเกิดจากอะไร มันยังไม่รู้เลยมั้งว่าพวกมันมีปัญหา เลยคืดแค่จะให้มึงเข้ามาแล้วทำให้มันลื่นไหลแค่นั้น ไม่ได้ให้มึงเข้ามาแก้เพราะไม่รู้ว่าระบบตัวเองมีปัญหาอ่ะ คิดแค่จะหาคนมาช่วยเฉยๆ เลยคาดหวังว่ามึงต้องทำได้

พรุ่งนี้ทำงานแล้วสัสเอ้ย

https://www.facebook.com/351793158524340/posts/991855951184721/

>>82 เงินเก็บน่ะมี แต่กูก็ไม่อยากให้มันลดมากไปกว่านี้ละอะ กูตกงานมาสามเดือนแล้วเพิ่งได้งานเดือนเดียวเอง

>>85 กูเคยพยายามลองเสนอแล้ว แต่ได้คำตอบกลับมาว่าที่นี่เขาก็ทำงานกันแบบนี้มานานไม่เห็นมีปัญหาอะไร กลายเป็นว่ากูกลายเป็นคนเหี้ยที่ทำให้เขาวุ่นวายกันอีก

>>88 ฟังดูเหมือนเค้ารับมึงเข้ามาเป็นแพะเลยว่ะ กูว่าหางานใหม่เถอะ แต่ถ้าขัดสนเงินก็อย่าเพิ่งออก ทำไปหางานใหม่ไป

>>84 เสียเงินกับอะไรเพื่อความบันเทิงเฉยๆไม่เท่าไหร่หรอก แต่กูรู้สึกว่าไม่ค่อยอยากเสียเงินไปกับโมเดลธุรกิจที่กูไม่ค่อยชอบน่ะ
อย่างเสียเงินไปกินอาหารอร่อยๆ กินเหล้า ซื้อคอม ซื้อมือถือ ซื้อเกมขายขาด พวกนี้กูโอเค ถือว่าเราเสียเงินซื้อของ
แต่เปย์เกม pay to win โดยเฉพาะพวกกาชานี่มันเหมือนการพนัน เริ่มจากคิดว่าจะเปย์ครั้งเดียว แล้วก็เบรคไม่อยู่นี่แหละ
เกมแบบนี้มันเหมือนต้องมาคอยสนใจมันตลอดด้วย ไม่ได้เหมือนพวกเกมขายขาดที่อยากเล่นเมื่อไหร่ก็เล่น
ช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมาเหมือนชีวิตไม่ค่อยมีอะไรนอกจากเกมๆนี้เลยจริงๆ หายใจเข้าหายใจออกเป็นเกมๆนี้ตลอด ดูดเงินไม่พอยังดูดเวลาอีก
เลยคิดว่าปีใหม่นี้คงต้องหางานอดิเรกอย่างอื่นมาแทนไอ้นี่แล้วจริงๆ

>>90 อ่อ เออจริง กูละไม่ถูกกับสายกาชาจริงๆ เกมมือถือหรือออนไลน์นี้สายฟรีตลอด เป็นสายเกมออฟไลน์เล่นคนเดียวดองเต็มสตีม

>>88 มันหลอกเมิงมาวางงานเปล่า ระวังมันรีดความรู้หมดแล้วบีบออกนะ

หัวหน้ายังพักร้อนอยู่ กูมาทำงานแต่ไม่มีงานอะไรให้ทำว่ะ รูดหน้าฟีดเฟสบุ๊คจนเบื่อ จะหลับคาแก้วกาแฟแล้วเนี่ย

จริงๆ งานว่างมันก็ดี แต่ มาทำงานหลังปีใหม่นี่ รู้สึกว่างจังว้าเป็นพิเศษ
แอบดูหนังในที่ทำงานแม่งเลยดีมั้ย 555 ไหนๆ ก็มีไม่กี่คน ...

เห้ย มีใครเปิด 6 บ้าง

https://i.imgur.com/CV5eUR5.jpg

>>95 กุ

>>95 กูไม่ จริงๆกูอยากลา 2-3 ด้วย แต่ปีนี้เสือกติดงานด่วนลาไม่ได้ เซ็งชิบหาย

>>95 กู และลูกค้ากู และซัพพลายเออร์กู ทั้งหมดในห่วงโซ่วงการกู เปิด 6 หมด

ถามรี่แมน กุมองป.โทไว้สองที่ มีเรียนเสาทิด / เรียนวันธรรมดา 6 โมง- 3 ทุ่ม + เสาทิด เต็มวันอีก
ถ้าเรียนแบบที่ 2 จะกระอักเลือดไหม อยากรู้ว่ามีคนผ่านมาได้ไหม
อนึ่ง กุว่างงาน ถ้าเรียนโทแล้วน่าจะหางานไม่เต็มเวลาทำพอได้ แต่6 โมงไม่แน่ใจว่าวิ่งควายทันป้ะนะ

>>100 เพื่อนกูหลายคนที่เรียนโทวันธรรมดาใช้วิธีขอออกเร็ว แล้วอยู่ดึกชดเชยวันที่ไม่มีเรียนแทน
ต้องลองถามหัวหน้ามึงว่าเค้าโอเคมั้ย

>>100 เพื่อนกูทนทำงานที่เดิมที่เสียสุขภาพจิต ก็เพราะเขายอมให้ออกงานเร็วไปเรียนนี่แหละ แต่กูว่าหาที่ใหม่ที่ตกลงเรื่องยืดหยุ่นเวลาได้จะดีกว่า

>>100 เรียนโท......... สาขาไรวะ? ถ้าไม่ใช่นิติ รัฐศาสตร์ เก็บเิงนให้เยอะกว่านี้แล้วไปมองหาวุฒิออนไลน์ตามCoursera จะคิดว่าไงวะ?

>>103 น่าสนใจ https://www.mangozero.com/thai-online-master-degree/

เมิงเคยได้ยินไหมที่เข้าบอกว่าเรียนโทในไทยอย่าไปเรียนเลยเสียเวลา จากใจคนจบปอโทในไทยอย่างกู คำนี้โคตรจริง
หลักสูตรพวก mba ต่างๆเรียนไปมันก็ซ้ำๆ แทบไม่ได้เอาไปใช้ทำงานจริงๆ สิ่งที่ได้มากูบอกเลยคือเพื่อน อาจารย์ สังคม และถ้าเมิงไปเรียนคอร์สออนไลน์ สิ่งต่างๆเหล่านี้จะหายไป
สละเวลาหน่อยเถอะ ของมันเสียเงินไม่ใช่น้อย

>>105 ส่วนมากเรียนเพื่อหาเมีย

>>105 อยู่ที่ว่ามึงเรียนอะไร มีประโยชน์กับงานไหม พวกหลักสูตรจ่ายครบจบแน่ มึงอย่าไปนับมันไม่มีประโยชน์คนจ้างเค้าก็รู้ ไม่นับเป็นความก้าวหน้าให้

โม่งในนี้มีใครทำงานบัญชีบ้างวะ
กูมาเรียนต่อเสาร์-อาทิตย์จนใกล้จบบัญชีละ อยากรู้ว่าจะเอาไปต่อยอดกับวุฒิเดิมยังไงดี
ก่อนมาเรียนบัญชี กูจบนิติฯ มาอะ

>>105 ถ้าเป็นงี้จริงนี่มึงจะสื่อว่าเรียนเพื่อเอาคอนเนคชั่นที่ไหนมันดีบ้าง คุ้มค่าแก่การเสียเงินบ้าง มาดูตรงจุดนั้นดีกว่าไรงี้เหรอวะ?

ตำแหน่งงานที่กูทำนี่แม่งจะครบปีแล้ว บอกกูว่าไม่เหมาะสมกับงาน​ นี่คือกูต้องรู้สึกยังไงวะกูถามเพื่อนร่วมงานกูก็บอกว่า​โอเคหมดอย่าไปฟังนายใหญ่มาก​บอกตรงกูนอยด์มากทั้งๆที่กูเต็มที่กับงานทุกชิ้น

>>110 เขาไม่ได้ขยายความหรอว่าไม่เหมาะยังไง ถ้าพูดลอยๆ ก็ช่างขี้ปากไปเถอะ จริงๆ ไม่ใช่ไม่เหมาะกับงาน แต่ไม่เหมาะกับนายมากกว่ามั้ง

>>108 ทำงานไรอยู่ ถ้าจะไปสูงๆทั้งสองสายมันต้องใช้เซอร์ทั้งคู่

>>111 แบบกูต้องไปทำงานแผนกอื่นหรือลาออกไปเลยงี้นะ?

>>113 มันก็ไม่ขนาดนั้น ถ้างานไม่เสียก็แค่อย่าไปสนใจปากนาย ก็แค่นั้น

เคยโดนไล่ออกหรือบีบออกแล้วได้งานใหม่เงินเดือนดีกว่าเดิมกันไหม

>>115 อยากเจอโมเม้นแบบนี้จัง

>>115 กูโดน heah huntไปแล้วเสือกไม่ให้กูผ่านโปร ยังดีที่หัวหน้ายังช่วยแทนที่ให้ออกแล้วจ่ายชดเชยเป็นเซ็นลาออกล่วงหน้า 1 เดือนแล้วไม่ต้องมาทำงานแล้ว กูเลยมีเวลาหางานอีก 1 เดือน ได้ที่ใหม่ เงินดีขึ้น คัลเจอร์ดีขึ้น เดินทางสะดวกขึ้น งานสบายขึ้น สรุปแม่งดีขึ้นทุกอย่าง

>>117 เอ่อลืม แค่แย่อย่างเดียวคือไอ้ 1 เดือนนั่นแม่งโคตรเครียด เหมือนมีระเบิดนับถอยหลังแปะหลังมึงอยู่ตลอด

>>118 เขาให้เหตุผลที่ไม่ผ่านโปรว่ายังไงวะ ปกติถ้ายังไม่ผ่านโปรให้ออกไม่ต้องเสียค่าชดเชยนี่นา การที่หัวหน้าให้ฟรี 1 เดือนนี่แปลว่ามึงมีความดีความชอบอยู่นะ ทำไมไม่ให้ผ่าน งง

เวลาจะลาออกนี่เพื่อนโม่งมีเหตุผลอะไรในการตัดสินใจกันบ้างอะ ตอนนี้กูจบมาทำงานได้ 7-8เดือน รู้สึกอยู่ไปก็หาทางก้าวหน้าไม่ได้ แล้วเหมือนบ.จะตุกติกเรื่องเงินด้วย เลยรู้สึกไม่อยากอยู่แล้ว แต่เศรษฐกิจช่วงนี้มันก็ไม่ค่อยดี กูกดสมัครงานที่อื่นไปหลายที่แต่ยังไร้วี่แวว ก็เลยหวั่นใจว่าออกไปแล้วจะหางานใหม่ได้มั้ย ใจจริงอยากกลับไปอยู่บ้านอ่านหนังสือสอบราชการให้เต็มที่ดูละไปตระเวนสอบ แต่ก็กังวลไปหมด ตอนนี้เลยคิดได้อยู่สองทางคือทนอยู่ให้ครบปีเอาประสบการณ์ค่อยออกรึออกเลยละกลับบ้านค่อยหางานใหม่เอา ลองคุยกับที่บ้านแล้ว เขาก็บอกว่าถ้าอยู่แล้วไม่มีความสุขก็ออกมา เขาไม่ว่าอะไร แต่กูก็กังวลอยู่ดีว่ายังไงเขาก็คงถือสาอยู่ลึกๆในใจ เลยลังเลว่าควรทนต่อไปรึออกมาหาทางอื่นดี เครียดจนนอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว เฮ้อ

>>115 บีบออกยังไงอะ เล่าให้ฟังหน่อย ตอนนี้สงสัยมากว่าตัวเองกำลังโดนบีบออกแต่เสือกหน้าด้านไม่รู้ตัว หรือว่าเป็นสายมโนขี้คิดมากไปเอง...

>>119 ปกติถ้าทำงานไม่ถึง 120 วันเลิกจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย แต่ในกรณีที่บอกล่วงหน้าน้อยกว่า 1 รอบเงินเดือน ต้องจ่ายค่าตกใจเป็นจำนวน 1 รอบเงินเดือน ดังนั้นที่หัวหน้าให้เซ็นลาออกเอง แต่ให้ฟรีไปเลยไม่ต้องมาทำงาน 1 เดือนนั้นก็มีค่าเท่ากันนั้นแหละ ไม่น่าจะมีความดีความชอบอะไรหรอก แค่เปลี่ยน wording แต่ story เดิมล้วนๆ

>>122 มันมีค่าเวลามึงหางาน ว่างงานกะมีงานอยู่แล้วนี่คนละเรื่องเลย

>>122 อ่อ งี๊นี่เอง

ถามหน่อยครับพี่ๆโปรแกรมเมอร์ คือตอนนี้ผมต้องหางานได้แล้ว แต่แถวบ้านไม่มี บ ไหนอยากได้ คนไม่มีประสปการณ์
พอดีว่ามีงาน IT Support อยู่แต่ถ้าผมไปทางนั้น เท่ากับว่าประสปการณ์ การเป็นโปรแกรมเมอร์ผมเท่ากับ 0 แน่นอน
ผมหางานโปรแกรมเมอร์ต่อไปหรือไปสู่การเป็น IT Support ดีครับ

>>125 อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ก็หางานโปรแกรมเมอร์สิ ใช้ภาษาไรเขียนไรอยู่อ่ะ อยากได้แค่แถวบ้านหรอ นี่ ตจว.หรือ กทม.

>>126 ครับอยู่กทมครับ แถวคลองสาน
php c# javascripts
frontend : html CSS bootstrap
ผมใช้ unity ได้นะครับ
ถ้าเรื่องผลงานผมก็เอาลงเว็ปพอมีบ้างแต่ไม่ได้หวือหวาอะไร
ที่อยากทำแถวบ้านเพราะเวลาเดินทางแล้วมันเหนื่อยคิดอะไรไม่ออกอยากจะหลับอย่างเดียวอะครับ
เลยไม่อยากไปรบกวนที่ทำงานไกลๆ

เพื่มเติ่ม ผมเขียน lua ได้นิดหน่อยนะครับ เคยเขียนอยู่

>>127 เป็นเราเชียร์ให้ลองหางานโปรแกรมเมอร์แบบห่างบ้านออกมาหน่อยนะ ลองก่อน ถ้ามันเดินทางลำบากไม่ไหวจริงๆ ตอนนั้นก็ค่อยออกมา แต่คือออกมาแบบมีประสบการณ์งานบ้างแล้วไง ถึงตอนนั้นช่องทางงานน่าจะกว้างขึ้นบ้างแล้ว หรือจริงๆ การเดินทางมันอาจจะไม่ลำบากมากอย่างที่คิดก็ได้

กูเด็กจบใหม่เพิ่งทำงานได้6เดือน กำลังจะออกสิ้นเดือนนี้ กูอยากรู้ว่าถ้ากูไม่ทำงานที่หัวหน้าสั่ง(งานของหัวหน้าเอง) ทำแต่งานกูเอง(เคลียร์งานเดิมเพราะจะออก) ได้ป่าววะ แล้วถ้ามีกรณีกูมีเรื่องเกี่ยวกับงานไปบอกเขา เตือนเขาแล้ว แต่เขาเฉย ไม่ทำ กูเลยไม่ทำ ต่อมาเกิดปัญหา หัวหน้าใหญ่กว่าเลยลงมาว่า เขาก็โดนไป อยากรู้ว่าสังคมทำงานกูทำแบบนี้ได้ไหม

เพื่อนโม่งกุทำไงดีวะ ตอนนี้กุไปสมัครงานรัวๆเลยแล้วตอนนี้มีที่นึงรับกุแล้ว(ทำงานไกลบ้านต้องอยู่หอ) แต่เป็นงานในสายงานที่เรียนมา

แล้วแม่งมีอีกที่โทรมาบอกไปสัมด้วย เงินเดือนสูงกว่าทำงานใกล้บ้านมาหน่อย แต่จะโดนค่าเดินทางแต่เป็นงานที่ไม่ใช่สายกุแล้วเป็นงานคล้ายๆกับงานปัจจุบันที่กุทำแล้วอยากออกมากๆ กุควรทำไงดีวะ

>>131 อันนี้มึงต้องตอบตัวเองว่ามึงโฟกัสอะไร เงินหรืองาน
หนึ่ง งานไกลบ้าน ตรงสาย เงินน้อย คชจ.เยอะ > งาน
สอง งานใกล้บ้าน เงินดี เสียค่าเดินทาง > เงิน

เอาจริงมันเกี่ยวข้องกันหมด ถ้าจากที่กูมองงานใกล้บ้าน ขืนมึงไปทำจะไม่อยากลาออกเหรอวะ ตอนนี้มึงยังจะลาออกแต่ได้เงินมากไง งานไกล เริ่มงานสายที่เรียนมาแต่ก็ไม่เคยทำอยู่ดี (ยกเว้นเนื้องานใกล้เคียงงานปัจจุบันมาก) จะชอบงานไหม ขืนทำไมชอบทำไง เรื่องเงินมีพอที่จะรับผิดชอบคชจไปอยู่หอไหวไหม และสรุปอีกอย่างมึงต้องไปสัมงานใกล้บ้านให้ติดก่อนแล้วมาคิดอีกทีก็ยังไม่สายนะ

>>132 กุ 131 นะ คืองานที่ตรงสายที่เรียนเนี้ยกุเคยฝึกงานมาก่อนกุรู้ระบบภายในแล้วพอกุมาทำข้างนอกสายจ๋าๆ(อันใกล้บ้าน)เลยกุก็รู้เลยว่า ยังไงก็ต้องกลับมาทำตรงนี้ว่ะ เพราะมันมีงานอื่นๆที่แม่งเปิดรับกันภายในไม่ค่อยบอกข้างนอก สมมุติกุว่างานใหม่เนี้ยมันไม่รอดละอย่างน้อยเดินๆหาในบริเวณนั้นได้ แต่ขอบใจมากกุจะลองไปสัมที่นั้นดู

ใครมีเพื่อนร่วมงานที่ทำตัวเหี้ยๆตอนหุ้นตกบ้างวะ แม่งกวนตีนสัสๆ

ปกตินี่ถ้าrequirement ของบริษัทนี่ที่ต้องตรงตามคุณสมบัติ ถ้าไม่ตรงจะสมัครได้ไหม เเล้วมีอันไหนที่ควรจะตรง
ยกตัวอย่างเช่น วิศวกร อายุ22-25ปี เเล้วหลายบ.เขียนว่าต้องมีประสบการณ์1ปีขึ้นไป บลาๆ ไม่เขียนว่ายินดีรับนักศึกษาจบใหม่ เเบบนี้=สมัครได้ใช่ไหมต่อให้ไม่มีประสบการณ์ ทำตามที่requirementต้องการไม่เป็น เหมือนเคยได้ยินว่า สมัครๆไปเถอะ ถ้าเขานัดก็ไปลองสัมดูได้รึเปล่า

เเต่มีอีกข้อคือ หลายๆบ.เขียนว่าต้องมีใบขับขี่/ขับรถยนต์เป็น คำถามคือ ถ้าบ.ไหนมีข้อนี้ กูต้องเบรกเลยปะพี่โม่ง ถ้าไม่มีขับไม่เป็นก็อย่าสมัครรึเปล่าเพราะที่เขียนไว้เเบบนี้คือต้องเดินทางอะไรงี้ด้วยใช่ไหม

>>135 ถูก ถ้าบอกว่าต้องการปสก.แต่ตำแหน่งไม่เฉพาะทางมากก็ลองสมัครดู ถ้าสนใจก็เรียกเองแหละ ส่วนถ้าระบุว่าต้องมีใบขับขี่นี่คืองานต้องใช้รถเดินทางจริงๆ ถ้ามึงขับไม่เป็นก็อย่าสมัคร แต่ถ้าขับเป็นแต่ไม่มีใบขับขี่ก็ลองสมัครดูแล้วบอกว่าจะรีบไปทำทีหลัง ถ้าเค้าจะเอาก็รับเองแหละ

กูทำงานร้านอาหารตอนนี้ผู้จัดการเริ่มเปรยๆเรื่องจะลดจำนวนพนักงานแล้ว ใจกูแม่งมีความรู้สึกว่าจะโดนเด้งเลยว่ะ คือกูไม่กลัวเรื่องงานนะ กูว่า performance กูไม่มีปัญหาอ่ะ แต่คือกูไม่เก่งเรื่องเข้าสังคม ล่ะพี่เขาพูดทำนองว่าไม่บังคับใครออก แต่แบบแม่งปักธงมาแล้วว่าต้องลดจำนวนพนักงาน ต่อให้ไม่บังคับออก แม่งก็เหมือนอยู่ใน hunger games อ่ะว่าใครจะรอด เฮ้อ มึงว่ากูทำไงดีวะควรหางานใหม่รอเลยมั้ย แต่กูก็ไม่อยากออกอ่ะ ที่นี่แม่งใกล้บ้านแถมเงินดีอีก

ถามหน่อยเพื่อนโม่ง พวกมึงทนนาย ปสด กันได้ขนาดไหนวะ กูต้องตามงานที่ outsouce เจ้านึงแม่งดองงานมาเป็นชาติ และกูไม่ใช่ผู้ดูแลเรื่องนี้แต่แรก(คล้ายๆกับโดนโยนขี้มาเพราะไม่มีใครอยากทำเลย) กูทำให้นายกูทุกอย่างแล้วนะ ทั้งโทรตามเมล์ตาม ทำอย่างนี้มาเกือบเดือนแม่งไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่กูทำเลย มีบ่นด้วยว่ากูทำงานไม่เป๊ะอีก ทั้งๆที่กูเมล์ไปแม่งเมล์ 5 ครั้งฝ่ายโน้นจะตอบสักครั้ง โทรไปก็รับบ้างไม่รับบ้าง (รับโทรศัพท์ก็ตอบปัดๆ หรือพอรับปากว่าจะทำอะไรให้แม่งเบี้ยวอีก)

กูคิดอยู่ว่าถ้าแม่งมา ปสด กับกูอีกกูจะไม่ทนแล้วเบื่อ เสียสุขภาพจิตสัดๆ ช่วงปิดปีใหม่ที่ผ่านมาแดกเหล้า แม่งรถกร่อยไปเลย

>>138 ปัญหาเมิงไม่ใช่นายนี่ มันเริ่มจากoutsourceดองงานเปล่าวะ พอoutsourceดองงานนายเมิงก็โทษว่าเมิงทำช้า ต้องหาทางแก้ที่ outsource เมิงแหละ

กูเคยเจอคล้ายๆเมิงนะ ต้องตามงานเอกสารจากลูกค้าไปยื่นกับกรม พอลูกค้าส่งให้กูช้า กูก็ยื่นเอกสารช้า(ต้องยื่นภายใน1เดือน ลูกค้าไม่เคยส่งให้ทันเลย โดนด่า/ปรับตลอด ขู่แล้วด่าแล้วก็ไม่ดีขึ้น) แม่งก็มีปัญหาอีกโดนกรมด่า หลังๆกูลักไก่เมคเอกสารเอาแม่ง ชีวิตดีขึ้น ไม่ต้องทะเลาะกับลูกค้า กรม นายกูก็ดีใจกูทำงานเร็ว แต่รู้สึกชนักติดหลังตลอด เลยลาออกดีกว่า

>>139 ขอบคุณที่ตอบนะเพื่อนโม่ง

ทุกครั้งที่เมล์ไป กู cc ถึงนายกูตลอดนะ และมันก็ไม่ตอบเมล์ นายกูควรจะเข้าใจจุดนี้นะ แต่นี่แม่งเอาแต่บอกว่าให้กูตามให้ได้ทั้งๆที่กูเมล์+โทรศัพท์ไปเกินกว่า 20 ครั้งแล้ว ซึ่งกูว่ามันไม่แฟร์กับกู

ยื่นใบลาออกไปเมื่อวาน ให้เหตุผลไปว่าจะกลับบ้าน วันนี้ถามhrเรื่องใบผ่านงาน นางบอกให้ถามหัวหน้า พอกูถามหัวหน้า หน.ก็ถามกลับว่าจะกลับบ้านไม่ใช่เหรอ กูเลยตอบว่าขอเก็บไว้ไม่ได้เหรอ หน.ก็บอกไม่แน่ใจว่าเขา(เจ้านาย/จข.รง.)จะให้มั้ย คืออะไรวะ บ.มีสิทธิ์ไม่ให้ใบผ่านงานด้วยเหรอ กูไปหาข้อมูลมา กฎหมายบอกนายจ้างต้องให้เสมอแม้ลูกจ้างจะไม่ได้ขอนี่ กูงึดหลาย

>>141 ต้องให้ ไปงัดได้เลย

เดี๋ยวนี้งานมันหายากจริงหรือกูคิดไปเองวะ ยื่นไปเป็นสิบที่ไม่มีติดต่อกลับมาซักที่

กูออกจากงานตอนนี้เป็นนี้ทมาสองปีแล้วเศร้าสัส

>>141 ใบผ่านงานคือไรอ่ะ ทำไมกุเปลี่ยนงานตั้งหลายครั้งไม่เคยได้เลยวะ เฉพาะสายงานไหนหรือเปล่า?

กุคิดไปเองมั้ย ในขณะที่คนบอกกันว่าช่วงนี้หางานยาก แต่ใน LinkedIn นี่คึกคักกันใหญ่เลย เฮดฮันเตอร์แอดรัวๆ แต่คือกุเพิ่งเปลี่ยนงานยังไม่ผ่านโปรที ยังไม่เลิกเห่องานที่กำลังทำอยู่เลย (แต่ถ้าที่ใหม่สู้ราคากุก็ไปอยู่ดี 555)

คนที่หางานกันยากๆ นี่เรียนสายไหนกันมานิ สายกราฟฟิคกูนี่ต้องการเยอะมาก แต่ใช้งานหนักเงินน้อยชิบหาย

>>146 สายงานของกูก็มีเรื่อยๆ แต่หลายที่ไม่ตรงใจก็เลยไม่ยื่น ดังนั้นตอนนี้เงียบกริบเลย รอลุ้นเดือนมค กพ
ช่วงนี้ตลาดคึกคักหรอ ไม่รู้ว่างานเฉพาะสายหรือเปล่า สายงานเพื่อนกูออกมาเตะฝุ่นครึ่งปีละ กูเเพลนลาออกต้นปีโดนเลื่อนไปจนกว่าจะหางานได้ก่อน กลัวว่างงานเเล้วโดนกดจากที่ใหม่ว่ะ เมื่อไรจะได้งานใหม่วะ เบื่อที่เก่าสุดๆ

>>139 กูเบื่อการทวงงานมากเลยว่ะ ทำงานกับคนกากๆ นี่มันน่าเบื่อชิบหาย ทวงแล้วทวงอีกอย่างกะเป็นเจ้าหนี้ อย่างกูดีลกับซัพพลายเออร์หลายเจ้าใช่มะ เห็นความแตกต่างชัดเลย อย่างเจ้าใหญ่ยักษ์มีมาตรฐาน ส่งเมลไปแจ้งร้องขอเอกสารทีเดียวคือจบ ถึงเวลาเค้าก็ส่งกลับมาให้ตามดิวหรือก่อนดิว หรือถ้าเค้ามีปัญหาติดขัดอะไรก็จะแจ้งกลับมาแต่เนิ่นๆ ส่วนพวกเจ้าเล็กๆ กากๆ ด้อยคุณภาพ ส่งเมลอย่างเดียวไม่ได้แม่งต้องโทรไปบอกด้วย กูก็โทรไปบอกแล้วนะ เออออกับกูแล้วนะ ก่อนดิวกูก็ยังต้องคอยส่งเมลไป remind เรื่อยๆ แต่ถึงจะทำขนาดนั้น...พอถึงดิวก็ยังหายจ้อยทุกครั้งจ้า พอกูโทรไปทวง บางทีก็บอกหน้าตาเฉยว่าไม่เห็นรู้เรื่องเลย ไม่เห็นได้เมลเลย (อีดอก แล้ววันนั้นกูโทรคุยกับร่างทรงมึงรึไง) บางทีเสือกบอกว่าอ๋อ เห็นเมลแล้วล่ะ แต่ติดอันนั้นอันนี้ (อีดอก มีปัญหาแล้วทำไมไม่แจ้งกลับมาวะ ถ้าไม่ถึงดิว ถ้ากูไม่โทรไป มึงก็ไม่คิดจะ action ห่าอะไรเลยสินะ) บางประเภทนี่สายตอแหลจ้า โทรไปทวงบอกว่ากำลังจะส่งพอดีเลยเนี่ย พอวางสาย นั่งรีเฟรชเมลไปเหอะ ไม่มา โทรไปอีกทีอีดอกกลับบ้านไปแล้วจ้า -*- หอยหลอดมาก กูชอบการทำงาน ชอบงานตัวเองนะ ยกเว้นเรื่องเดียวคือเรื่องนี้นี่แหละ เบื่อสัส

พวกมึง กูมีเรื่องจะปรึกษา กูแจ้งที่ทำงานปากเปล่าและมีอีเมลว่าจะออกจากงานช่วงต้นเดือนธันวา และจะมีผลต้นเดือนมกรา หัวหน้าให้อยู่ต่อถึงสิ้นเดือนมกรา มีการยื่นเอกสารหัวหน้าเซ็นรับรู้ว่าจะออกสิ้นเดือนมกรา ในสัญญาเข้าทำงานมีบอกว่าถ้าจะออกต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน ณ วันนี้ กูมาที่ทำงานเพื่อแจ้งว่ากูต้องการทำงานวันนี้เป็นวันสุดท้าย (เกิน30วันตามสัญญาแล้ว) งานที่ทำอยู่ถ้ากูออกไปมีคนทำแทนได้ แต่คนทำจะเหนื่อยมากและอาจทำไม่ทัน กูสามารถแจ้งเขาวันนี้และวันจันทร์กูไม่ไปทำงานเลยได้ปะวะ

>>150 แจ้งเลย ลองคุยกันดูก่อน เขาอาจเข้าใจว่ามึงจะอยู่จนถึงสิ้นเดือน คงต้องต่อรองกันหน่อย

ถ้าอยู่ๆโดนย้ายไปตำแหน่งที่ไม่ตรงสายงาน สามารถลาออกโดยร้องเรียนเรื่องค่าชดเชยได้เปล่าวะ
เห็นทู้พันทิปทำโภชนาโดนย้ายไปเป็นเซล

ถามคนที่เป็นพวก editor ตัดต่อวีดีโอหน่อย ปกติใช้เวลาทำนานเท่าไรต่อ 1 คลิปวะ
ทำตั้งแต่เขียนบท ทำสตอรี่บอร์ด ถ่ายทำยันตัดต่อจนจบโปรเสส ใช้เวลา 1-2 วันนี่ทำช้าไปมั้ยวะ

>>153 สำหรับกู(มือสมัครเล่น)คิดว่าเร็วมาก งานด่วนขนาดนี้ยังจะต้องทำสตอรี่บอร์ดอีกหรอ

>>154 ก็แค่วาดๆเป็นไกด์อ่ะ ไม่งั้นถ่ายทำไม่ถูก กูทำคนเดียวหมดเลย แต่เหมือนคนอื่นจะคิดว่าช้า(คนที่ไม่ได้อยู่ในสายงาน) แต่กูไม่รู้จะทำไงให้เร็วกว่านี้ละ เลยอยากรู้ว่ากูช้าหรือลูกค้าไม่เข้าใจ

กูโปรแกรมเมอร์ ปวส กูเรียกไป 17000 สายเว็บ
งานโครตง่ายแค่ทำหน้าฟอม เค้าใช้แค่ bootstrap เขียน
แต่เค้าบอกมันมีหลายเว้บที่ต้องเขียน
ไม่ต้องออกแบบด้วย แค่ทำตามที่ฝ่ายออกแบบวาดมา
มึงว่ากูเรียกน้อยไปหรือ กำลังดีวะ

ลูกพี่โม่ง กูสงสัยหน่อยว่ะ คือกูยังไม่เคยทำงานนะ ทีนี้กูก็อายุ23ละสมัครงานไปก็หลายๆบ. เลือกเน้นใกล้บ้านบ้าง ก็ยังไม่มีที่ไหนเรียก เฉยๆอยู่

ทีนี้กูมักได้เมล์เชิญชวนไปสัมภาษณ์งานอะ เเต่หลายๆบ.คือกูเข้าไปดูพวกงบการเงิน ส่วนใหญ่กำไรลดลงกันทั้งนั้น คำถามคือกูต้องสนใจพวกข้อมูลในเว็บนี้ไหม อย่างบ.ที่กำไรเพิ่ม เเล้วเปิดรับสมัครก็พอจะเข้าใจได้อยู่ว่าบ.อยากจ้างคนเพิ่มล่ะมั้งเพราะทำเงินได้

เเต่ไอบางบ.ที่กำไรลดลง 30 40เปอ อันนี้คืออะไรวะ เพราะเริ่มขาดทุนเลยมาหาจ้างเด็กใหม่รึเปล่า มันทำให้กูกลัวๆนิดหน่อย เลยอยากจะมาสอบถามว่าพวกข้อมูลการเงินนี่กูควรดูไว้บ้างมั้ย บ่งบอกว่าบ.มันจะมั่นคงรึเปล่าด้วยไหม หรือไม่ต้องสนใจ ถ้าไปสัมเเล้วเขาเอาก็ทำ

เเล้วพวกข้อมูลอื่นสามารถดูเสริมได้ไหม งบจดทะเบียน,สินทรัพย์รวม อื่นๆ

>>158 ควรดู แต่บางที่แม่งก็จงใจทำงบให้กำไรลดหรือขาดทุนเพื่อเลี่ยงภาษี เอาเป็นว่าดูแล้วต้องพิจารณาอีกที แต่ดูไว้ไม่เสียหาย มีข้อมูลมากไว้ก่อนดีอยู่แล้ว แต่ต้องดูหลายอย่างประกอบกันแล้วใช้วิจารณญาณด้วย

เเล้วพอจะเเนะนำหน่อยได้ปะพี่โม่ง ว่าต้องดูยังไง ค่อนข้างงงเรื่องกำไร ทรัพย์สินรวม
หลักๆดูเเค่กำไรพอปะ หรือว่าดูอะไรบ้าง

>>160 ส่วนมากกูดูงบจดทะเบียน ยอดขาย(รายได้) กูไม่ค่อยชอบทำงานบ.เล็กๆ น่ะ พวกสายป่านสั้นอันตราย ยกเว้นบ.ที่เล็กเพราะแค่แยกออกมาจากบ.แม่ใหญ่ยักษ์ อันนี้ไม่ค่อยน่าห่วง แล้วก็ดูลักษณะธุรกิจว่าเป็นธุรกิจที่ดูมีอนาคตหรือธุรกิจตะวันตกดิน

>>160 กำไรส่วนมากกูกลับไม่ค่อยดูนะ ดูเงินหมุนเวียนมากกว่า อย่างที่บอกกำไรบางบ.ก็เมคให้มันต่ำๆ เพื่อลดภาษี แต่ก็ดูบ้างเป็น reference

>>159 +1 พวกขาดทุนหนักๆที่ทำเพื่อเลี่ยงภาษีก็มีเยอะ ที่เก่ากูทำขาดทุนหนักๆเพื่อไปขอคืนภาษีทุกปี ตอนกูเข้ากูไม่ได้ดูเข้าไปถึงเจอสรรพากรตรวจเรียกเอกสารนั่งคุ้ยกันหัวฟู โดนด่าหน้าชาทุกวัน สรรพากรเขารู้อ่ะว่าธุรกิจแบบไหนเมิงไม่ควรขาดทุน ที่ขาดทุนเพราะเมิงจงใจเลี่ยงภาษี คุ้ยเอกสารเสร็จก็โดนปรับอยู่ดี เคยขอคืนไปกี่ปี ปีละเท่าไหรมันปรับคืนหมด สุดท้ายที่เลี่ยงๆมาทั้งหมดคือเหนื่อยฟรี
ที่บอกได้ก็ไซส์บริษัทคร่าวๆมั้ง จำนวนคนทำงาน
ส่วนเรื่องงบคือสันดานพวกผบหระดับสูง บริษัทที่ตัวแดงอาจแปลได้ทั้ง -ผบหเลว/ขาดทุนจริงๆ
ซึ่งบริษัทที่ผบหเลวก็ไม่ได้หมายความว่าข้างในจะแย่อ่ะ คนข้างในเขาก็ทำงานตามปกติ ผลประกอบการมันคือคนที่มีอำนาจตัดสินใจคนท้ายๆ ซึ่งบริษัทนึงมีไม่กี่คนหรอก

ไปสัมมาละเขาถามว่าบริษัทจะได้อะไรจากคุณนี่ควรตอบยังไงอะพี่ๆโม่ง

>>164 ของกูไม่เจอคำถามนี้นะ อันที่จริงคำถามน่าจะจบตั้งแต่เอา Portfolio ให้ดูล่ะ ฝั่งคนจ้างก็ประเมินความสามารถคร่าวๆ ได้แล้ว ที่ผ่านมามีแต่บริษัทที่จ้างจะถามเรื่องสวัสดิการที่เก่ามากกว่า

>>164 กูเคยโดน ตอนนั้นตอบว่าถ้าจ้างกู กูสัญญาจะทำงานให้ดีที่สุด ใช้ความรู้ที่มีให้เป็นปยกับบริษัทและจะตั้งใจเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อพัฒนาตัวเองไรงี้ว่ะ คือเฟคและท่องมาแน่นวล ได้ผ่านรอบแรกนะ แต่รอบสองกูไม่ได้ไปสัม

>>164 ได้งานคุณภาพตามเงินเดือน

>>164 ดีใจชิบหายที่ทำงานมา 10 ปีเปลี่ยนงานมาก็หลายที่ไม่เคยเจอคำถามหัวควยนี่เลย คำถามที่ได้มาแค่คำตอบตอแหล ถามทำหอกอะไรกันก็ไม่รู้ useless สัสๆ

ถามมางี้กูกาบริษัททิ้งได้เลย HR ตั้ง flag ไม่เอากูแล้วละ

เพื่อนโม่งทำไงดีวะ กุจองหอพักแถวที่ทำงานไปละแต่แม่งกุรู้สึกว่าแม่งแพงเกินไป
เค้าเอาไปแค่ค่าจอง1000นึงถ้ากุโทรไปแคนเซิลจะโดนไรเพิ่มปะวะ(โดยทั่วไปๆ)

>>170 ไม่โดนนะ แต่ไม่คืนค่าจองเเน่นอน ส่วนใหญ่เป็นงี้

>>168 ขนาดนั้นเลยหรอวะ กูก็เคยเจอคำถามนี้นะ ก็แค่ตอบไปประมาณว่า ผมเชื่อว่าผมมีสกิลเพียงพอ ความสามารถของผมผลิตผลงานให้บริษัทได้แน่นอนครับ แค่นั้น แล้วก็ไม่ได้รู้สึกเฟคอะไรนะ ก็กูมาทำงานแลกเงินอ่ะ สกิลทุกอย่างในรีซูเม่กูก็ทำได้หมดจริงๆ แต่คือสายเทคมันวัดง่ายด้วยแหละมั้ง แค่ทำเทสก็รู้แล้ว แต่เหมือนมันเป็นแพทเทิลคำถามสมัครงานเฉยๆ อ่ะ

>>170 เลือกหอที่มีร้าน นกป ในตัว

สัดงานค้างปีที่แล้ว ตีกะงานปีนี้

>>172 มึงก็พูดเองว่าสกิลมันเทสได้ แล้วจะถามทำหอกอะไร โง่เง่าไม่ต่างกับไปถามนักการเมืองตอนหาเสียงว่าถ้าได้เป็นส.ส.จะทำอะไรให้ประเทศชาติบ้าง ยกเว้นว่ารับสมัครนักตอแหลยกหางตัวเอง 1 ตำแหน่ง เออ อันนี้จะไม่ว่าซักคำ

>>175 กู>>166 เห็นด้วยบางส่วนนะ มันเป็นคำถามที่ถามไปก็รู้อ่ะว่าคนตอบจะตอแหลแต่ก็ต้องตอบว่ะ คือไปของานเขาอ่ะ ไม่ได้อยู่ในสถานะที่พอได้ยินคำถามนี้แล้วจะลุกขึ้นสะบัดบ็อบใส่
พวกนี้เป็นคำถามโง่ๆ แต่เตรียมเผื่อไว้ก็ดี มีโอกาสโดนกันเยอะเหมือนกัน
สำหรับกู กูเกลียดที่ถามถึงอนาคตอีก10ปี หรือเป้าหมายชีวิตมากกว่าอีก คือกูแค่อยากอยู่ในที่สิ่งแวดล้อมดีๆงานดีๆเพื่อนดีๆ แต่พอตอบแล้วแม่งดูเป็นคนกากๆไม่มีแรงจูงใจในชีวิต

>>175 นี่ไงมันวัดอีโก้ได้ ถ้าสมมติตอบมา(ถึงจะสุภาพ)ว่า "ผมไม่คิดว่าคำถามนี้จะบอกข้อเท็จจริงอะไรได้ครับ" เป็นกูเป็นคนสัมภาษณ์ก็อืมๆ พยักหน้า เข้าใจนะ แต่กาชื่อทิ้งเลย ความคิดมึงไม่ได้ผิดอะไร แต่การรับคนหัวแข็งมามันทำงานด้วยลำบากว่ะ

>>176 คำถามอนาคตนี่กูว่าน่าจะถามเผื่อคิดว่าจะอยู่กับบริษัทไปยาวๆ มั้ย บางคนมันแพลนว่าอยู่แค่ซักปีสองปีไปเรียนต่อก็มี บางคนแพลนจะเปิดบริษัทเอง จะกลับบ้านไปช่วยธุรกิจครอบครัวไรงี๊ ทางนี้ก็คงต้องคำนวณแล้วว่าน่าจะซักกี่ปี หรืออาจจะชอบคำตอบแบบไม่มีแพลนจะได้อยู่ยาวๆ ก็ไม่รู้นะ

โดนถามแบบนี้ กูจะตอบไปว่า อนาคตจะไปเป็นนักปิดการขายครับ

พวกถามคำถามมาแบบ canned นี่กูกาหัวหมด แม่งไม่เอากูก็กูไม่เอามัน

>>177 กูตอบแบบไม่มีแพลนเป็นพิเศษ แค่อยากอยู่ในที่สภาพแวดล้อมดีๆเพื่อนร่วมงานดีๆ แต่ตกหมดเลยว่ะ ไม่รู้ตกเพราะเจอคำถามนี้หรือคำถามอื่น

เพื่อนกูที่เป็น job hopper มันจะตอบแนวว่าอยากเป็น xxx manager อยากมีเงินเดือน xxxxx บาท จะเอาไปเลี้ยงแม่(พ่อแม่หย่ากัน) ส่วนมากก็ผ่านสัมมาได้
กูก็งงๆ ว่าตอบแบบไหนถึงจะดีกันแน่ การบอกเงินเดือน/ตำแหน่งคาดหวังในอนาคตนี่มันดีจริงหรอวะ

>>180 กูตอบแบบอยากจะทำงานนี้ ต่อไปจะได้ขึ้นตำแหน่งนั้นเพื่อจะได้เรียนรู้งานมากขึ้น และทำอะไรได้มากขึ้น เก่งขึ้นอ่ะ คือตอบแบบมีแรงจูงใจในการทำงาน มีความตั้งใจ มันบอกเค้าได้ว่าเรามีความตั้งใจและจะไม่เช้าชามเย็นชาม กูก็ผ่านตลอดอ่ะ

>>177 เหมือนวัฒนธรรมคนไทยกับฝรั่งมันต่างกันแฮะ กูไปอ่านฝรั่งเค้าบอกเจอถามว่าคุณมีข้อเสียอะไรให้ตอบว่าเป็นคนหัวแข็ง
มันแสดงว่าเราเป็นคนมุ่งมั่น จริงจัง กล้าทำในสิ่งที่ถูก อะไรงี้

>>182 เบื่อระบบ ตอแหล แบบนี้ชิบหาย

>>182 กุว่าหัวแข็งในการตัดสินใจเรื่องงาน กล้าคัดค้านให้คนอื่นได้มองมุมที่ต่าง กับหัวแข็งในการไม่ให้ความร่วมมือ ก็ต่างกันนะ

มีใครสายกราฟิกหรือโมชั่นมั่งปะ นี่พึ่งจบทำงานได้ประมาณ3เดือน ตอนสมัครเค้าบอกให้ทำโมชั่นได้นิดหน่อยใช้aeพื้นฐานไม่ยาก กราฟิกมี4คนไปๆมากูได้ทำโมชั่นคนเดียวทั้งคิดทั้งทำ ละอยากได้แบบยากๆทำก็ใช้เวลา งานอื่นไม่ทันโยนมาหากูอีก ถ่ายรูปวิดีโอก็ให้กูเป็นคนทำ พี่ๆคนอื่นตำแหน่งเดียวกันคือทำแค่หน้าที่ตัวเอง คุณสมบัติตอนรับสมัครก็แบบเดียวกัน กูได้ทำตั้งหลายอย่าง เบื่อมากๆเบื่อทุกวันอยากลาออกทุกวัน เงินเดือน15000 พี่เค้าแม่งเกือบ25000 ออกดีไหมอะ หรือจะทนๆทำ คิดว่าที่อื่นก็คงไม่ต่างกันTT

>>185 สายนี้มึงทำใจเลยสภาพนี้ทุกบ. ทางเดียวที่จะสบายคืออยู่นานเป็นซีเนียร์แล้วเอางานไปลงให้คนใหม่ทำแบบที่มึงโดนน่ะแหละ

เออ เคยเห็นอยู่ กราฟิก คุณสมบัติ ทำกราฟิกและโมชั่นได้ อิบ้า แค่งานกราฟิกธรรมดาก็สเกลกว้างแค่ไหนละ ยังให้ทำโมชันได้อีก แต่เงินเดือนเท่าเดิม

สาย IT ก็เจอปัญหาคล้ายๆกันนะ แต่เลี่ยงได้ถ้าไปอยู่บริษัทใหญ่ๆที่ลงทุนด้านนี้จริงจังหรือบริษัทที่เป็นด้าน IT โดยเฉพาะ
เค้าจะพอรู้ว่างานบางเรื่องมันเฉพาะทาง จะเอาคนเดียวทำแม่งทุกอย่างไม่ได้ ไม่รู้สายกราฟิคทำแบบนี้เหมือนกันได้มั้ย

กุถามหน่อยวันที่ 11 กุยื่นมาลาออกไปแล้ว บริษัทกุเค้าตัดยอดวันที่25แล้วจ่ายสิ้นเดือน ตอนนี้ 15 ละ
เค้าจะยังคิดตังค์กุไหมวะหรือว่าเค้าคิดแค่ถึงตอน 11 กุกลัวว่าแม่งเป็นแบบที่กุยื่นวันไหนแล้วทำงานฟรีมายาวๆ

ต่อ >>189 ในใบลาออกมันมีเขียนปฎิบัติงานได้ถึงวันที่เท่าไหร่กุเขียน 25 ไปเพราะคิดว่าถ้าจะออกก็ทำๆให้ครบไปดีกว่า

ตอนปี 4 เทอมสุดท้าย มหาลัยจัดอบรมเรื่องการสัมภาษณ์งาน พี่ที่มาบรรยายแนะนำอยู่เรื่องหนึ่งว่าตอนไปสัมภาษณ์ห้ามใส่ชุดนักศึกษาเพราะจะดูไม่มืออาชีพ แต่พอกูมาทำงานจริงๆทุกวันนี้กูก็เห็นเพื่อนร่วมงานผู้ชายรอบตัวกูใส่เสื้อเชิ้ตขาวกันเยอะเหมือนกัน คือเสื้อเชิร์ตขาว แบบเรียบๆ ดูผ่านๆเหมือนเสื้อนักศึกษา แต่ไม่ได้ใส่แบบนี้ทุกวันนะ บางวันก็ใส่เสื้อเชิร์ตสีสุภาพ แต่เสื้อเชิร์ตขาวนี่ยังมีเห็นบ่อย

>>191 ก็ดูผ่านๆ เหมือนชุดนักศึกษา แต่ไม่ใช่ชุดนักศึกษาไง ไม่เห็นเป็นไรเลย เชิ้ตขาวมันเรียบร้อยสุภาพเป็นสากลอยู่แล้ว แค่บังเอิญมันดันไปคล้ายชุดนศ.ไทยเท่านั้นเอง แต่ถ้าใส่ชุดนศ.มาเลย เข็มขัดมหาลัย กระดุมมหาลัย ไทค์มหาลัย แบบนี้แหละที่ไม่โอ ดูไม่โต

>>185 หางานใหม่ได้แล้วค่อยออก ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกบ. เก็บสะสมพอร์ทเจ๋งๆ ไว้แล้วทางเลือกมึงจะกว้างขึ้น สายนี้วัดฝีมือกันง่ายจากพอร์ต ถ้างานดียังไงมึงก็มีทางไปต่อได้

>>189 ปกติเขาก็คำนวณตามวันที่ทำงานจริงกันนะ เกินไปกี่วันก็เอาเงินเดือนมาหารวันทำงานแล้วจ่ายไปตามนั้น แต่มึงจะทำจนวันที่ 25 ก็สะดวกดี

>>191 เห็นด้วยว่าเรียนจบแล้วก็ไม่ควรใส่ชุด นศ.แล้ว เว้นไว้ให้เด็กฝึกงานเวลามาออฟฟิศวันแรกก็พอ แต่เชิตขาวเฉยๆ มันก็ไม่ใช่ชุด นศ.อ่ะนะ

นัดกันไว้ว่าจะส่งงาน แล้วก็ขอชั่วโมงนึง ขอครึ่งชั่วโมง ขออีกชั่วโมง
อิช้างลากกกกกกกกก ธุระปะปังกูก็มีหน่าเว้ยยย จะไม่ส่งไม่เสร็จ อะไรก็บอกกูเถ้ออออออะะ เจ้านายกูก็โอ๋จัง อิเจ้าเนี้ย
เบื่อทั้งคู่ค้ากากหมา ทั้งเจ้านายจอมเลียกูจริงจริ๊๊๊๊งงง

โม่งพวกมึงจะด่ากูก็ได้นะ แต่กูอยากถามจริงจังหน่อย
มีงานอะไรที่แม่งไม่ต้องตื่นเช้ามั่งวะ!? เอาประมาณเข้างานซัก 10 โมงงี้
คือทุกวันนี้แม่งทรมานกับการตื่นเช้ามากเลย ต้องแหกขี้ตาตั้งแต่ตี 5 มาเตรียมตัว ออกจากบ้าน 6 โมงเพื่อนั่งรถไปให้ทันเข้างานก่อน 8 โมงเช้าเนี่ย
เดิมทีกูก็เป็นพวกหลับยากชิบหาย ทุกวันนี้นอนวันละไม่ถึง 6 ชั่วโมง จนต้องแอบไปนอนหลังข้าวเที่ยงทุกวันเลย

>>195 งานใกล้บ้านไง

>>195 งานในกทมบางที่เข้าเก้าโมง​ หรืองานเป็นกะกลางคืน

>>195 บริษัท IT ฝรั่งส่วนมากที่มาเปิดในไทยมันก็ไม่ fix เวลานะ บางที่มึงจะเข้างานกี่โมงก็ได้ขอให้ทำครบ 8 ชั่วโมงเป็นพอ
แถมบางที่ก็ขอให้ผ่านโปรก่อนก็ทำงานที่บ้านได้ด้วย ไม่ต้องเข้า office แต่งานต้องเสร็จตามกำหนด

>>197 มีพวก support center ที่มาเปิดในไทยแล้วดูให้ประเทศอื่น

>>195 ต้องรู้ก่อนว่าหางานประมาณไหนอ่ะ เพราะจริงๆ บ.ที่เข้างานเก้าโมงสิบโมงก็เยอะอยู่นะ ของกุสายเทค ตามเวลาแล้วเข้างานเก้าครึ่ง แต่ flexible มีประชุมตอนไหนก็ค่อยมาให้ทันเข้าประชุมอ่ะ

>>195 งานพวกหน้าร้านในห้าง

เคแต๊งมากเพื่อนโม่ง
ถ้ามันยังมีงานเข้าสายได้แบบนี้ กูจะได้ตัดสินใจลาออกได้ซะที ทำงาน บ.นี้มา 2 ปี เสียสุขภาพจิตชิบหาย

>>202 กูมาดับฝัน งานสาย tech อย่างพวกในเม้น >>198 >>200 เนี่ยถ้าไม่มีความสามารถเฉพาะทางและเก่งในระดับนึง เลือกไม่ได้หรอกนะ และงานอย่างของ >>197 >>199 >>201 เนี่ยคือเข้าสายและเลิกค่ำ ถ้าปัญหาของมึงคือนอนน้อย มึงอาจจะเสียเวลากับการเดินทางไปเยอะ แนวทางของ >>196 เหมาะกับมึงมากกว่า
ไม่ก็ไปหาหมอแก้ปัญหาเรื่องนอนซะ

มึง พวกแท่นขุดน้ำมันกลางทะเลนี่เค้ารับกราฟฟิกมั้ยวะ
พี่ที่บ.กุเล่าให้ฟังว่ามันมี กุอยากรู้ว่าจ้อจี้รึเปล่า แต่เสิร์จหาเองก็ไม่เห็นว่าเคยมีอ่ะ

กุเอง กราฟฟิกที่ทำโมชั่นด้วย และกำลังจะโดนให้ทำUIเพิ่ม

>>195 กุสาย tech ทุกวันนี้เข้าหลัง 10 ตลอด

>>204 ถึงมีมึงไม่ได้ทำงานที่แท่นนะ ประจำ office บนบก พอไม่มีงานกราฟฟิกเข้า มีโอกาสสูงจะเป็นเบ้ประจำ office แทนล่ะมั้ง

บ.กูให้เข้างาน8-10 แต่กูเข้า11ตลอด มีพี่บางคนเข้าบ่ายเลยก็มี

ปล. กูdev

ขอถามหน่อย มีโม่งคนไหนทำกับบ.จีนบ้าง ล่าสุดโทรให้ไปให้สัมภาษณ์ ยังลังเลอยู่ เพราะพึ่งเปิดไม่ถึงปี มีแผนขยายบริษัทอีก งานที่จะไปเริ่มคือบุกเบิกใหม่หมดเลยเพราะไม่มีคนทำมาก่อน เพราะจากที่ฟังระบบไม่ค่อยซัพพอร์ตงานสายกูเลย จริงๆไม่ได้แคร์ว่าบ.ชาติไหน แต่คนรู้จักขู่มาเยอะ โอ๊ยลังเล

อยู่กทม ถ้าเงินเดือนประมาณ13k ไม่มีภาระเรื่องบ้าน รถ หนี้อะไร แค่จ่ายค่าน้ำไฟ เน็ต ให้เงินแม่สัก2พันคิดว่าไหวไหมวะ เรื่องค่ากินคิดว่าจะทำข้าวไปกินเองตอนกลางวัน

>>208 จ่ายหนักงานเหนื่อย คือคำจำกัดความพวกบ.จีน

>>209 ไหวกูทำอยู่ แต่มึงก้จะเหลือเก็บน้อยหน่อยนะ

>>211 เรื่องเงินเก็บนี่กุยังไม่ค่อยคิดอ่ะ ไม่ค่อยอยากได้อะไร ไปกินเลี้ยงอะไรก็ไม่ค่อยไปอยู่ละเที่ยวด้วย ชอบอยู่แต่บ้าน คิดว่าแค่ให้เงินแม่ใช้ กับมีเน็ตมีคอมก็พอละชีวิตกุ อนาคตไม่คิดจะมีครอบครัวอยู่แล้ว

>>212 พอนะถ้าไม่กินเหล้าไม่เที่ยวกลางคืน ของกูตอนเริ่มงานแรกก็เท่านี้แหละ มีเหลือหักเข้ากองทุนชิลๆเดือนละนิดๆหน่อยๆด้วย แต่กูแนะนำว่าใช้ๆไปเถอะ ซื้อมือถือ เสื้อผ้า รองเท้า คสอ ค่อยไปเริ่มเก็บปีหน้าๆ

"มีใครรู้สึกเหมือนผมไหมว่า คลิปเสียงลับ มันเร็วขึ้น"
"เช้านี้ผมเปิดฟัง รู้สึกว่า คลิปเสียงลับมันเร็วกว่าเดิม"
https://youtu.be/N7gxXIQJLbI

>>208 เคยทำงานบริษัทเจ้าของคนจีน ถ้าบริษัทตั้งในไทยทำก็เหมือนที่อื่นนั่นล่ะ แต่แนะนำว่าทำน่ะทำได้แค่ครบปีให้หาที่ใหม่ได้เลย เพราะบริษัทคนจีนเงินเดือนขึ้นยาก บางที่ทำ 4-5 ปีมันก็จ่ายเท่าเดิม

>>209 เวลาทำงานแรกๆ เงินเดือนน้อยมันจะเดือนชนเดือนเอา ถ้าไม่ทำบัญชี อาจจะลองแยกส่วนคร่าวๆ ประมาณนี้ก่อน เวลาคิดอย่าลืมส่วนหักประกันสังคมด้วยนะ
1. ค่ารถ ค่าที่ให้ที่บ้าน
2. กันเป็นเงินเก็บแยกมาส่วนนึง (เอาไว้ซื้อ เสื้อผ้า มือถือ รองเท้า ฯลฯ)
3. ค่ากินต่อมื้อเอามาหารค่ากินแต่ละวัน
4. เงินเหลือก็หยอดแยกไว้อีกกอง ส่วนนี้เอาไว้โปะส่วนเสาร์อาทิตย์เวลาอยากกินอะไรดีๆ หน่อย
ปล. ทำงานถ้าเติบโตน้อยกว่า 15% ต่อปีพอได้ประสบการณ์ อย่าลืมหาที่ใหม่ด้วยล่ะ เพราะถ้าออกตัวช้าพออายุมากมันเหตุให้ทยอยเสียเงินมากกว่าเก่าโดยอัตโนมัติ

>>209 ค่าน้ำ ไฟ เน็ต กูขีดให้5,000บาท พอป่าว
ส่วนอาหารกินวันละ100พอ ไหวไหม เดือนนึงตก3,000
เหลืออีก5,000 ตามใจมึง

>>216 น้ำไฟเน็ตกูแค่ไม่เกินพันห้าเอง (ก็อยู่คนเดียวอ่ะนะ) เทียบกันแล้วพอ >>209 ไม่ต้องมีค่าเช่าที่พักนี่สบายกว่ากันมากเลยแฮะ เป็นกูหมื่นสามน่าจะไม่ไหว อย่าลืมคำนวณค่าเดินทางไปทำงานด้วย

>>217 งานอะไร?

ปรึกษาที คิดอยากลาออกจากที่ทำงานที่แรกนี้ (กลางเดือนหน้าครบ 2 ปีครึ่ง) แต่ยังไม่ได้หาที่ใหม่ งานที่เป็น Proj. Eng อยากทราบความเห็นว่า
1. ออกก่อนได้ที่ใหม่ จะดีไหม? เพราะอยากมาพัฒนาทักษะต่าง ๆ ของตนก่อนเข้าทำงานที่ใหม่ ตอนนี้รู้สึกไม่ค่อยมีเวลา
2. หาที่ใหม่ให้ได้ก่อนแล้วค่อยออก? ที่ใหม่จะได้ไม่ค่อยกดเรื่องเงิน และที่เก่าจะไม่ค่อยถามเรื่องสาเหตุ พร้อมทางแก้ (รั้งหน่อย ๆ)
3. ถ้ารู้ว่าเราใกล้จะออก จะโดนอัดงานเพิ่มเลยไหม?
4. อยู่มา 2 ปี ถือว่านานไหมสำหรับที่แรก?

>>219

1-2. จริงๆไม่ค่อยแนะนำให้รีบออกก่อน ขึ้นอยู่กับว่ามึงอยากมีเวลาว่างเท่าไหร่ด้วย
เป็นไปได้ลองคุยกับที่ใหม่ดูดีกว่าว่าเค้ามีงานด่วนรึเปล่า ถ้าไม่ด่วนก็ขอร่นวันเริ่มงานออกไป
ถ้ารีบชิงลาออกก่อนที่ใหม่เค้าจะมองแปลกๆว่ามึงมีปัญหากับที่เก่ารึเปล่าถึงออก มีข้ออ้างกดเงินอย่างที่มึงว่า
ศก. ไม่ค่อยดีด้วย เกิดรีบออกก่อนแล้วหางานใหม่ไม่ได้ซักทีก็ซวยอีก

3. ปกติต้องลดงานมึงนะ เพราะต้อง transfer งานที่ทำค้างอยู่ให้คนอื่นทำต่อ
ถ้าอัดเพิ่มคือเจอหัวหน้าประเภทงี่เง่าอยากแก้แค้นหรือไม่รู้จักคิด อันนี้คือซวย
อาจจะยกเว้นว่างานที่มึงทำมันเป็นอะไรที่เป็น skill พิเศษจริงๆ คนอื่นทำแทนไม่ได้
เค้าก็อาจจะยัดเพิ่มเอาให้คุ้มก่อนมึงไป เพราะไม่รู้จะมีคนแทนได้เมื่อไหร่

4. อันนี้น่าจะแล้วแต่สายงานกับมุมมองคน แต่สำหรับกูกูว่าก็นานพอควร จะออกก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร

>>219 หางานใหม่ให้ได้ก่อนค่อยออก

>>219 หางานใหม่ให้ได้ก่อนนะ 2 ปีก็นานอยู่ ของกูปีครึ่ง เตรียมบินเเล้ว เลือกๆอยู่

แล้วแต่อายุ โปรไฟล์ ความเรื่องมากของตัวเองด้วยแหละ
ช่วงอายุ 23-28 กูออกก่อนได้งานใหม่ตลอด เพราะมั่นใจในโพรไฟล์และความสามารถของตัวเอง
ไม่มีภาระ อยากพัก แต่สุดท้ายก็ดันได้งานใหม่เร็วตลอด กลายเป็นว่าไม่ได้พักสมใจ
แต่ตอนนี้อายุ 29+ บอกเลยว่าไม่เปรี้ยวแบบนั้นแล้ว เพราะอายุเยอะงานเริ่มหายาก
ตัวเราเองก็เริ่มเรื่องมากมากขึ้นด้วย ข้อจำกัดในชีวิตเริ่มเยอะ ประกอบกับมีภาระผ่อนบ้านผ่อนรถ

อายุเยอะเปลี่ยนงานยากจริง ปสก. ต้องตรงสาย ไม่ตรงก็ต้องเริ่มใหม่ บางที่ไม่เอาเลย อายุมาขอเริ่มใหม่เนี่ย

ช่วงนี้งงานมันซึมๆ เพราะคนรอหลังตรุษจีนปะวะ ดูเงียบๆหวะ

ระหว่างปัจจุบัน บ.ใหญ่ มั่นคงสวัสดิการดี อยู่ได้เรื่อยๆ กับ
บ.ใหม่ที่มาซื้อตัว เล็กกว่าที่ปัจจุบัน(แต่ก็เปิดมากว่ายี่สิบปีแล้ว) ออฟเฟอร์เงินเดือนสูงกว่า สวัสดิการไม่น่าดีเท่าที่เดิม
เพื่อนโม่งว่าเลือกแบบไหน

>>226 ดูหลายอย่าง ถ้าเน้นเงินก็ไปที่ใหม่ เเต่เน้นความมั่นคงก็ที่เก่า แต่ทั้งนี้ทุกอย่างไม่มีไรเเน่นอน เพราะปัจจัยต่างๆ ภาระงาน ตน.หน้าที่มีโอกาสโตไหม สังคม เพื่อนร่วมงาน ทุกอย่างเป็นเกณฑ์ตัดสินหมด

รู้สึกเครียดกับตัวเอง ไม่รู้ตัดสินใจถูกรึเปล่า อาทิตย์ก่อนได้รับ job offer มาแต่ปฏิเสธไปเพราะหนึ่งคิดว่ามันไม่ใช่ตำแหน่งที่อยากทำ ถ้าทำก็คงอยู่ไม่นาน รู้สึกว่าเป็นงานที่ไม่ค่อยมีโอกาสเติบโตทางอาชีพอ่ะ กับสอง รอผลสัมจากอีกที่อยู่ ซึ่งก็ดูริบหรี่เหลือเกิน ต้องกลายเป็นคนว่างงานต่ออีกแล้วสิกู

เพื่อนโม่งกุถามหน่อยดิว่ะ พวกมึงรู้สึกไงว่ะเมื่อส่งอีเมลไปแล้วเขาไม่ตอบกลับมาสักทีว่ะ Reminder ไปหลายรอบ โทรก็หลายรอบ พอพวกรับโทรศัพท์ก็วีนใส่พวกมึงจะทำยังไงกับคนแบบนี้ว่ะ

>>229 ฟ้องหัวหน้าแม่ง

>>229 ฟ้องหัวหน้าไว้ก่อน ให้เขารับรู้ไว้

>>229 ลูกค้า?

>>220 >>221 >>222 ขอบคุณมากเลย

>>229 รู้สึกชิน ปลง
ตรงกันข้าม คนไหนส่งเมลไปแล้วมี response หรือตอบกลับตามดิวโดยไม่ต้องทวง ไม่ต้องตาม ไม่เลท กูนี่แทบจะไปแก้บนวัดคำชะโนด อีห่า SSR สัสๆ กูล่ะปลงกับบุคลากรบริษัทตัวเองชะมัด

กูเบื่อระบบงานพวกพูดดีๆแต่งานไม่ขยับว่ะ​ กูเป็นสายเงียบทำแต่งานหาว่ากูว่าง​ แต่พอเจอพวกพูดประจบทำวานได้เยอะผมทำได้ๆถึงเวลาส่งก็ไม่เสร็จลอยตัวเจ้านายก็ไม่ว่าไร​ นี่มันเหี้ยไรเนี้ย

มีใครทำงานกับพวกเอาท์ซอสมะ มันเป็นอย่างไง อายุ 35 อยากขยับไปทำ DEV บ้าง

แต่ก็นะสายงานนี้ 35 แล้วคงไม่น่ามีใครเอา แต่อยู่ที่เดิมก็ได้แค่ หมื่นนิด ๆ ไม่ขยับมานานแล้ว

ปล. งานเดิมเป็นไอทีซับพอร์ตโง่ ๆ คุมระบบในสำนักงานอย่างเดียว ก็ซ่อมคอม ซ่อมปริ้นเตอร์ไปเรื่อย

>>236 จะเป็น dev สายไหนอ่ะ อย่าเพิ่งหมดหวัง กุ 33 เพิ่งเปลี่ยนงานจาก Graphic Designer เป็น Front-end dev ส่วนเรื่องเอ้าท์ซอสนี่ไม่รู้ว่ะ กุเปลี่ยนมาเป็นสายนี้ก็หวังว่าจะทำงานแบบรีโมตได้ในซักวัน อยากกลับไปทำงานที่บ้าน ตจว.

>>238 อันนี้กูถามหน่อย โปรแกรมเมอร์อายุเยอะแต่ ปสก ไม่ค่อยมีนี่แม่งโดนเขี่ยออกเหมือนกับสายงานอื่นไหมวะ? หรือเช่น พวกจบมาใหม่ๆแต่อายุเยอะๆแล้วไรงี้อ่ะ

>>236 ตำแหน่งนี้อายุเท่าไหร่ก็เป็นได้

>>239 กุไม่แน่ใจนะ เพราะระหว่างทางกุก็หัดก็ศึกษาด้วยตัวเองมาตลอด ไม่ได้จบสายตรง แต่ก็ทำงานได้รับจ๊อบฟรีแลนซ์มานานพอสมควร ก่อนจะมาสมัครประจำแบบเปลี่ยนสายงานก็หวั่นๆ นี่แหละเพราะวุฒิไม่ตรง แต่เขาก็รับนะ หางานไม่นานด้วย คงเพราะพอร์ตที่มีแหละ เรื่องเขี่ยออกนี่ไม่รู้เพราะเพิ่งอยู่มาแค่สามเดือนเอง แต่เดือนก็มี บ.อื่นมาจีบอยู่เหมือนกันนะ(แต่มันไวไป๊ กุเพิ่งผ่านโปรยังไม่อยากออก) กูว่าถ้าพอร์ตดียังไงก็ยังหางานได้เรื่อยๆ สายนี้มันวัดฝีมือกันง่าย อายุไม่น่าใช่ประเด็น แต่ก็ต้องยอมรับว่าต้องพัฒนาตัวเองแข่งกับเด็กให้ทันอยู่ตลอดนะ

>>238 ยังไม่รู้เลยวะ หัดเขียน java กับ python อยู่ อยากขยับไปเป็น dev เพราะโดนงาน แบบ
กูเรียกงานอะไรดี งานผลแอปเปิ้ลแล้วกัน เทียบแบบนี้เพราะโดนสั่งแบบเฮ้ยมึงเรียนคอมมา(จบแค่ปวส บ้านไม่ส่งเรียนต่อ)
มึงทำเว็บนู่น โปรแกรมนี้ให้หน่อย กูจะไปนำเสนอเขา ตามประสาแบบของเจ้านายประเภทจะเอาอะนะ แล้วกุต้องไปหาต้นกล้ามาปลูก หาความรู้
จนกว่าจะทำงานพวกนี้ให้สำเร็จได้ ลองก็อปโค้ดจาก สแตกโอเวอร์โฟว Github มารันบ้าง แล้วมามั่ว ๆ เป็นงานขายผ้าเอาหน้ารอดได้
ไปวัน ๆ ตังสักแดงก็ไม่ได้(นอกจากเงินเดือน) ค่าหนังสือเขียนโปรแกรมที่ซื้อมาอ่านยังไม่ให้เลย เลยคิดว่าจะลองไปสมัครเป็น Dev ดู
ถ้าพอมีความรู้ แต่นั้นแหละ ความรู้พวกนี้มีเปล่ากูยังสงสัยตัวเองเลย อายุปูนนี้แล้วด้วย

>>242 ลองทำเป็นพอร์ทดู กุก็เริ่มจากอ่านโค๊ดชาวบ้านละเอามาโมเหมือนกันนี่แหละ พอเริ่มเข้าใจก็เริ่มที่จะเขียนเองตามความต้องการตัวเองได้ งานเว็บขนาดเล็กทั่วๆ ไปที่กุรับจ๊อบมันไม่ค่อยมีโจทย์อะไรพิศดารก็เที่ยวไปหาโปรเจ็คอื่นๆ ทำ ก็เพื่อเรียนรู้

กูเป็น dev อยู่แต่เรียนมาตรงสาย เรื่องอายุกับจบตรงสายมีผลกับเค้าจะรับไม่รับมั้ย กูว่ามันขึ้นอยู่กับทัศนคติของนายจ้าง / HR แต่ละบริษัทด้วยน่ะ
เคยเจอทั้งไม่ซีเรียสอะไรเลย ทำงานได้ คุยรู้เรื่อง มีความรับผิดชอบ ก็โอเคแล้ว
พวกบ้าสถาบันจัดๆที่อย่าว่าแต่ไม่ตรงสาย ไม่ใช่ ม. ดังๆก็ไม่เอาแล้ว
พวกอยากรับแต่เด็กเพราะคิดว่าจะได้สั่งได้ (แต่เสือกไม่ดูว่าทำงานได้มั้ย)
ส่วนเรื่องอายุมากมีเรื่องควรระวังคือบางที่เค้าเห็นมีอายุจะมีความคาดหวังสูงกว่าเด็กๆ ถึงประสบการณ์ทำงานสายนี้จะไม่เยอะก็ตาม
ถ้ามึงเข้าไปแล้วทำได้ไม่ดีเท่าที่เค้าหวังก็อาจจะมีประเด็นได้

dev ถ้ามึงมีพอร์ทเข้าท่าๆ หน่อยไม่กาก ถ้าเป็นบริษัทสาย software หรือพวกทำสื่อโฆษณา เค้าไม่สนกันหรอกว่าจะตรงสาย อายุยังไง ตราบใดที่มึงคุ้มค่าที่จะจ้างแล้วปิดงานตรงเวลาได้ มันก็จบแค่นั้น

มันเป็นอะไรไม่คุ้มค่าถ้ารับสายตรง พวกนิวบี้ไม่มีประสบการณ์ อายุน้อย มาทำงานแล้วปิดงานไม่ได้ เพราะมันไม่ได้กำไร นอกจากจะรับมาทำงานรูทีน แต่งานรูทีนถ้าทำบนคอม แยกส่วนมาทำ automation ก็ประหยัดคนไปได้มากมายอยู่แล้ว ก็ไม่รู้จะรับมาเยอะทำไมเหมือนกัน

กูเข้าใจความสำคัญของการมีซีเนียร์ก็วันนี้แหละวะ
กูเป็นนิวบี้ที่ต้องมาเริ่มงานเองทั้งหมด ไม่คนให้คำปรึกษา ไม่มีใครสอนงาน แต่งานก็ดันมีแรงกดดันสูง จนทำงานมาเป็นปียังไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วระบบที่ดีของสายมันต้องทำไรบ้าง รู้ไรบ้าง รู้สึกเหมือนทุกวันนี้แม่งก็แค่เอาตัวรอดไปวันๆอ่ะ
เศร้า จะให้เก่งกว่านี้คงยาก อย่างน้อยถ้ามีใครสอนงานหรือบอกว่าต้องทำไรบ้างก็ดี กูก็ไม่ได้จบตรงสายด้วย

ช่วยกูด้วย ระหว่าง
- บ.เล็ก มีพนง.ไม่กี่คน แต่ระบบไม่ค่อยถูกใจกูเท่าไหร่ ได้ทำงานหลากหลาย แต่คนที่ทำงานด้วยโอเค

กับ
- บ.ใหญ่ พนง.หลายร้อยคนแหละ มีเทรนนิ่ง เปนระบบดี แต่สภาพภายในไม่รู้ว่ะ

ทั้งสองอันงานสายเดียวกัน เป็นพวกมึงเลือกอันไหนกันวะ

>>247 เพิ่มอีกนิด บ.แรกทำโปรเจคของตัวเอง แต่บ.ที่สองออกแนวเอเจนซี่แล้วรับงานมาทำอ่ะ

เหนื่อยว้อย เวลาวางแผนงานอะไรไปให้คนในทีมทำตาม แต่พวกแม่งเสือกทำงานไม่ละเอียด เด๋วทำอันนั้นเด๋วไม่ทำอันนี้ ทำได้ไม่ได้ก็ไม่แจ้ง ทำเสร็จปุ๊บไม่มีให้ดูก่อนเอาส่งขึ้นเป็นของจริงไปเลย พอออกมาผิดพลาดทีกูนี่โดนตลอด กลายเป็นกูไม่ละเอียดโง้นงี้ จะให้กูพูดโพล่งออกไปว่ากูทำแล้วแต่คนอื่นไม่รู้ทำไมไม่ทำตาม แม่งก็เสียอีก

แล้วงานกูแม่งก็เสือกเยอะเหี้ยๆ ไม่มีเวลาลงไปจี้ ก็หวังว่าแบบ เออ เสร็จไรมาก็เอามาเมคชัวร์กันก่อน ทำไม่ได้ก็บอก ยังไม่ทำก็พูดสิ มันควรอัปเดทกูบ้างมั้ย นี่กูไม่รู้เหี้ยไรเลย บอกอย่างทำอีกอย่างแล้วมาเจอเซอไพรซ์ตลอด จะให้พูดแก้ตัวยังไงวะ ถ้ากูพูดก็เหมือนโยนขี้ให้คนอื่นอีก แม่งก็จะทำงานลำบากอีก แต่ถ้าไม่พูดไรบ้าง กูก็งี้อ่ะ โดนมองว่าไม่เก่งทั้งๆที่แม่งไม่ใช่ความผิดกูซักอย่าง

ก็เข้าใจแหละว่ากูไม่ใช่หัวหน้าทีม แต่กูเป็นคนจัดการตารางไง กูเป็นคนแอดไซน์ว่าใครต้องทำไร มีรายละเอียดอะไร แล้วพอทำไม่ตรงกับที่กูแอดให้ แล้วผลมันออกมาไม่ดี กูสมควรถูกด่ามั้ยวะ หรือไอแบบผิดพลาดในจุดเล็กน้อยแต่เสือกผิดพลาดเพียบ คนทำยังไม่รู้เลยว่าผิด ขอทีนะ บางทีเช็ครายละเอียดงานหน่อยก็ดีนะ งานก็ไม่เอามาให้กูตรวจแล้วจะรู้กันมั้ยว่ามันผิดแผนยังไง เหนื่อยเว้ย ทำไมทุกอย่างแม่งกลายเป็นความผิดกูไปได้

พวกระดับสูงๆแม่งไม่ได้รู้หรอกว่าจริงๆแล้วกูให้ใครทำไรบ้าง เค้าก็มารับรู้จากผลลัพธ์กันอย่างเดียว คิดว่ากูเป็นคนวางงานห่าเหวนี่จนมันเหี้ย ทั้งๆที่ความจริงคนอื่นไม่ทำตามที่กูสั่ง นี่อยากตารางมาโชว์มาก อย่างน้อยถ้ารู้ก่อนจะได้จัดการหาคำพูดได้ นี่ไม่ เจอเซอไพร์แล้วกูจะไปต่อไงวะ

>>248 งานเพื่อนดีแค่ไหนวันดีคืนดีมั้นก็เหี้ยได้ คนใหม่เข้ามาคนเก่าออกไป ใครจะรู้
กูสนเงิน กับการก้าวหน้ามากกว่า

>>247 เลือกอันที่เงินดีกว่า

>>249 คนที่ไม่ทำตามนี่ลูกน้อง หรือต่างแผนก หรือยังไง รีพอร์ตคนที่สูงกว่าไม่ได้หรอ

>>251 +1

>>250 >>251 >>253 ขอบคุณพวกมึงนะ กูตัดสินใจได้ละ

กุออกงานมาละแต่งานใหม่กุเริ่มมีนา แล้วที่บ้านบังคับกุให้ทำที่เก่าไปก่อนแต่ประเด็นคือ กุจะไปบอกเค้าจริงๆหรอวะว่าขออยู่ต่อเพราะงานมันเริ่มเดือนหน้า เหมือนกุขั้นเวลาไปเฉยๆอะ คือกุอยากกลับมาชาร์จแบตก่อนเพราะงานที่พึ่งออกมามันค่อนข้างเหี้ยอยู่ เหมือนเค้าไม่อยากให้กุพักเดือนนึงอะ เรื่องเงินเนี้ยกุไม่ซีอยู่ละเพราะกุมีเงินเก็บเอาไว้ใช้อยู่แล้วแถมอยู่บ้านอีกค่าใช้จ่ายมันน้อยอยู่ละ

>>255 ครอบครัวไม่ใช่เจ้าของชีวิตมึง ทำที่มึงต้องการเถอะยิ่งเรื่องงานนี่ตัดสินใจเองเลย กูเคยฉิบหายเรื่องงานกับครอบครัวอยากให้ทำแบบโน้น แบบนี้มาแล้ว

>>256 กูด้วยสัส
เชื่อตัวเองดีกว่า พลาดมาจะได้โทษตัวเอง

ออกจากงานตอนนี้ 70% ไปไม่รอดหรอกนะครับ ดู gdp โลกด้วย

หาทางย้ายไปทำงานต่างประเทศ

พี่ๆห้องนี้ใช้เวลาเดินทางไปทำงานกันกี่นาที-ชม.ครับ
ตอนนี้ผมลังเลอยู่คือได้งานที่ใหม่เงิน22k ติดตรงเวลาเดินทางขับมอไซใช้เวลา45นาที
ส่วนที่เก่าได้18kใช้เวลาเดินทาง15นาที

>>260 มันไม่ได้มีเเค่เรื่องเงินนะที่ต้องคิด ถ้าย้ายไปที่ใหม่ก็ต้องลุ้นว่าดีหรือห่วยกว่าเก่า คิดดีๆนะ เเล้วก็เรื่องตารางการนอนการตื่น เดินทาง45นาทีเเม่งเหนื่อยนะมึง

ยื่นใบลาออกไปต้นเดือน หัวหน้าขอให้อยู่ทำจนวีคแรกเดือนหน้า แต่กูไม่อยากไปทำต่ออีกแล้วจริงๆ งานที่กูทำก็ออกแนวทำตามออเดอร์ให้จบเป็นรายวันไปงี้ เพราะงั้นไม่มีปัญหาเรื่องงานค้างรึอะไรอยู่แล้ว อยากรู้ว่าถ้าไม่ไปทำงานจนครบเวลาตามตกลงตอนเซ็นใบลาออกจะเป็นอะไรไหมวะ เขาจะถือว่ากูขาดงานละจากลาออกเปลี่ยนเป็นไล่ออกไรงี้ปะ

ทำงานได้อาทิตย์นึงละ ยังไม่ชิบกับงาน+พี่ๆในออฟฟิศสักที เฮ้อ

ชินสิวะ

>>260 ออกบ้านก่อนเวลางาน 2 ชั่วโมง (รถยนต์) เดินทางจริง 1 ชั่วโมง 15 นาทีแต่ออกช้ากว่านี้ไม่ได้เพราะรถจะติดและอาจไปสาย แต่ไม่รู้สึกเหนื่อยนะ เฉยๆ ชินละมั้ง ยังไม่เคยไปทำงานสายเลย

>>265 ถ้างั้นก็ลุยเลย ขอให้เพื่อนร่วมงานไม่เเย่กว่าเก่านะ

>>260 สิบห้านาทีรถเมล์เก้าป้าย ถ้าวันไหนตื่นสายนั่งวินได้ 40 บาท เลือกมาอยู่ที่นี่เพราะใกล้ที่ทำงานเลยยอมเสียค่าเช่าแพงแลกกับเวลาเดินทาง แต่ก็ยังไม่วายใช้เวลาขากลับครึ่ง-หนึ่งขั่วโมงเพราะรถเมล์แม่งไม่มาซักที อย่างเซ็ง จะดาวน์มอไซค์ก็ดูจะไม่คุ้ม ใกล้นิดเดียว ละที่พักแพงอีกไม่อยากไปทบรายจ่ายมาก ได้แต่ยืนรอรถเมล์หน้าเมือกไป

กูครึ่งชม. mrt

>>260
ตื่นเช้ามากๆ ไม่มีอะไรทำก็เดินไปทำงานประมาณ 1.5 โล 0 บาท กรณีเดินไปต้องเผื่อเวลาซัก 45 นาที
สายหน่อยนั่งรถเมย์หรือเดินไปหน่อยเพื่อขึ้น BTS แต่รวมแล้ว 30 บาท ข้อดีซื้อของกินบนสถานีได้ ใช้เวลาเดินทาง 20 นาที
สายมากนั่งวิน 50 บาท อันนี้ใช้เวลา 15 นาที

คิดว่าใช้เวลา 45 นาทีมอไซค์ ถือว่าไกลอยู่นะ แต่ถ้าที่เก่าเงินไม่ขึ้น ก็เอาเถอะ ยอมเหนื่อยหน่อยจะได้ก้าวหน้าไวๆ ครบปีแล้วค่อยว่ากันใหม่

>>262 การลาออกแจ้งปากเปล่า หรือจะส่งอีเมล์ ถือว่าสัญญาสมบูรณ์แล้ว หัวหน้าเซ็นต์ไม่เซ็นไม่มีผล ออกไปแล้วค่อยติดต่อบัญชีเรื่องยื่นภาษีทีหลัง หรือต่อประกันสังคม ก็ว่ากันไป

ขอให้อยู่ทำจนวีคแรกเดือนหน้า = ใจดีกับเค้าแต่มึงจะเป็นควายเอา รู้ทั้งรู้ ที่ใหม่ถ้าวันไม่ครบเดือน hr เขี้ยวๆ มันจะคิดเป็นรายวันให้

สมมุติเงินเดือน 2 หมื่น ถ้าทำงานไม่ครบเดือนหายไป 1 อาทิตย์ เงินที่เดือนของเดือนนั้นจะไม่ใช่ 15000 นะ จะเหลือหมื่นเดียว

คนที่สั่งงานด่วนตอนเย็นวันศุกร์(แถมเนื้อหาที่จะให้ทำจะส่งมาคืนนี้) แล้วบอกต้องส่งก่อนเที่ยงพรุ่งนี้ เขาจะรู้สึกอะไรบ้างมั้ยวะ ทั้งๆ ที่ บ.หยุดเสาร์ แน่นอนว่าต้องทำงานในวันหยุดมาจากที่บ้าน คือ ทำไมพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติว่ายังไงกูก็ต้องทำให้ได้วะ เชี่ยเอ้ยเสาร์อาทิตย์นี้กูสอบด้วย

>>271 เหมือนกูอะ มีเจ้านายประสาทแดกที่ชอบเร่งงานตลอดเวลา กำหนดการหนึ่งอาทิตย์เสร็จก็อยากเร่งให้สามวันเสร็จ เร่งไปก็ไม่ได้เอาไปทำห่าอะไรหรอก เอาไปดองไว้ให้อุ่นใจว่าลูกน้องมีงานส่ง วันนี้ก็สั่งงานตอนเช้าจะเอาบ่าย พอเที่ยงมายืนรอแล้ว กูจะไปกินข้าวก็ไม่ให้ไป บอกว่ายังไม่เสร็จก็ด่ากูว่าช้า ไม่ตั้งใจทำงานล่ะสิท่า จะให้ไอทีมาดูการใช้คอมกูว่ากูแอบเข้าเว็บอะไรบ้างระหว่างวันงาน ยืนด่ากูไปครึ่งชั่วโมงจนกูบอกว่ายังไม่ได้กินข้าว มันบอกไม่ต้องลงไปหรอกคนเยอะ สั่งแกรบมากินเอา ตอนอยู่ที่โต๊ะจะได้ทำงานให้ผมด้วย หัวควยจริงๆ ตอนแม่งมายืนทวงงานกูอยากเดินไปเขียนใบลาออกมาก แล้วบอกว่าถ้าคิดว่าช้าก็เชิญมึงทำเองไปเลยสัส ที่ยังทำอยู่เพราะแม่งใกล้บ้านกับยังหางานใหม่ไม่ได้นี่ล่ะ ถ้าหางานใหม่ได้กูแจ้งล่วงหน้าแค่สิบห้าวันแล้วกูจะไม่มาอีกเลย ห่าลาก

>>271 แล้วแต่วัฒนธรรมองค์กร แล้วแต่ mindset สำหรับบางองค์กร/บางคน คนแบบนี้นอกจากจะไม่รู้สึกผิด ยังรู้สึกว่าภูมิใจว่าตัวเองขยัน ทุ่มเท เป็นบุคลากรอันทรงคุณค่าขององค์กร ส่วนพวกไม่ทำงานถวายหัวแบบตัวเองคือเห่ย ไม่ทุ่มเท เหลาะแหละ รักสบาย .... มันเป็นเรื่องของ mindset น่ะ จะไม่บอกว่าใครถูกหรือผิด แต่ตัวกูชอบจะเอาตัวเองไปอยู่ในที่ที่คนมี mindset ไม่ต่างกันมาก ไม่งั้นอยู่ไม่ได้ว่ะ อยู่ไปก็อึดอัดไม่มีความสุข สำหรับองค์กรกู นายกู จะมีกรณีบ้างนานๆ ที (ไม่เกินปีละ 2-3 ครั้ง) เวลามัน urgent จริงๆ อันนี้เข้าใจได้ นอกนั้นไม่เคยมายุ่งกับกูวันหยุดหรือหลังเลิกงานเลย บางทีแกคิดอะไรออกแกก็เรียกไปคุยเลยนะ แกกลัวลืม แต่คุยเสร็จแกก็บอกว่าอาทิตย์หน้าค่อยทำ พรุ่งนี้ค่อยทำ งานที่กูทำอยู่ตอนนี้เรียกได้ว่า work life balance ดีที่สุดในชีวิต วันหยุด เลิกงาน คือ shutdown เรื่องงาน 100%

>>271 หัวหน้าบางคนเห็นลูกน้องเป็นทาสสั่งอะไรมาก็ทำให้ได้ ถึงมันอาจจะดูไม่แฟร์กับมึง แต่เรื่องแบบนี้ในที่ทำงานมัน common มากๆละ ถ้านานๆเจอกันทีก็ถือว่าช่วยๆกันไป แต่ถ้าแม่งมาบ่อยๆนี่ก็เตรียมที่ใหม่ดีกว่า

>>271-272 อีกหนึ่งเหตุผลที่กูว่าสมควรมีพื้นที่ให้ออกมาประจานชื่อสถานที่ทำงานและmindsetของที่นั้นๆหว่ะ ในเมื่อแม่งกล้าเอาอำนาจมาเอารัดเอาเปรียบคนอื่นได้ คนทำงานก็สมควรประจานได้ ห่า ยิ่งถ้าแบบสายงานที่มองลูกค้าเป็นพระเจ้าและมองหัวหน้าเท่าเทียมอีกนี่คือเป็นสถานที่ทำงานเหี้ยๆอันน่าประจานสุดๆถึงแม่งส่วนมากจะบอกว่าไม่ได้ไม่ควรประจานเพราะมันคือเรื่องส่วนตัวระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างก็ตามทีเถอะ ทีผู้บริโภคกับผู้ผลิตสินค้า/บริการละมีพื้นที่ให้รีวิวได้ แต่กับแบบนี้มีละเสือกผิดผีซะงั้น

กูสังเกตว่าบางทีคนที่โดนหัวหน้าเอาเปรียบ อาจจะเพราะบุคลิคส่วนตัวด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นพวกพูดจาไม่ฉะฉาน ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ปฏิเสธคนไม่เป็น
บางคนคิดว่ายอมๆไปจะก้าวหน้าในการงาน แต่จากประสบการณ์กูไม่เห็นมันจะก้าวหน้าซักเท่าไหร่ ก็เห็นก็ก้าวไปพร้อมๆกับกู ส่วนใหญ่ทนไม่ไหวก็ออกไปก่อน ที่เป็นพวกไม่ยอมโดนใช้เป็นทาส
ตอนเข้ามาใหม่ๆ มันก็เคยจะทำกูเหมือนเพื่อนร่วมงานกู แต่เพียงแค่กูไม่ยอมเสียเปรียบ กูไม่ยอมให้มันขโมยผลงานกูไปอ้างระดับผู้บริหาร(กูหวงงาน ถ้าอันไหนกูทำกูจะขอพรีเซ็นต์กับนายเอง) แต่ก็ไม่ก้าวร้าวกับมันเกินไป (ไม่เคยทะเลาะกับหัวหน้า คุยเล่นกันได้ปกติ) ปรับตัวให้เข้ากับคน รู้จักเอาตัวรอด แค่นี้ก็มีความสุขในที่ทำงานได้แล้ว

>>276 เออว่ะ เพราะกูยอมสินะ แบบถึงจะนอยแต่กูก็ทำให้เขาอยู่ดี กูอาจจะเป็นฝ่ายสปอยล์เขาเองก็ได้ ครั้งอื่นกูว่างๆ กูก็เต็มใจทำให้แหละ แค่ว่าครั้งนี้กูมีธุระอื่นแต่ก็ต้องทำให้เลยกลายเป็นเรื่องขัดใจขึ้นมา เพราะกูนี่เอง

>>275 เหมือนจะเคยเห็นของฝรั่งนะลืมไปแล้วว่าเว็บไหน มีแบบสอบถามเรตเงินเดือนของแต่ละบริษัทละมีรีวิวด้วย ไม่รู้เชื่อถือได้แค่ไหนเหมือนกันนะเพราะแบบสอบถามมันไม่ได้ระบุตัวตนอ่ะ

>>276 ขอเสริมว่าที่ความเห็นนี้พูดมานั้น จะทำได้สำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับนายด้วย ถ้าเจอนายที่เหี้ยมากๆๆๆๆๆๆๆๆ มึงจะพบว่าไม่มีวิธีไหนจะเอาตัวรอดได้เลยนอกจากลาออก แต่ถ้าเจอนายปกติ อันนี้เห็นด้วยว่าอยู่ที่เราทำตัวเองละ เพราะงั้นคนฉลาดเค้าจะรู้ว่าควรอยู่ต่อหรือควรไป บางปัญหาแก้ได้ บางปัญหาปลงได้ แต่บางปัญหาควรถอยแล้วไปหาที่ใหม่ดีกว่า วิธีสังเกตคือถ้ามึงไปอยู่ที่ไหนชีวิตก็บัดซบ แสดงว่าไม่ใช่ละ ปัญหาอยู่ที่ตัวเองละ เหมือนบางคนอะ มีแฟนกี่คนเหี้ยทุกคน แสดงว่าปัญหาอยู่ที่การเลือกคนและการปฏิบัติตัวของตัวเองให้คนมาเอาเปรียบมึงละ แต่ถ้ามึงฉลาด มึงจะรู้วิธีดูคน/ดูบริษัทเบื้องต้น และพอเข้าไปทำงาน มึงจะรู้แล้วว่าที่นี่ควรอยู่ต่อหรือควรถอยออกมาให้ไวที่สุด

มีใครเคยเข้า บ. ใหม่แต่กลับมีหน้าที่ความรับผิดชอบสูงๆบ้างไหมวะ กูเพิ่งมาทำที่ใหม่ 3เดือน บางเรื่องแทนที่นายกูจะให้ manager ทำเสือกมาให้กูทำแทน เหตุผลหลักๆหน้าจะเป็นเพราะนายกูเป็นคนญี่ปุ่น และกูก็ได้ภาษาญี่ปุ่น สั่งงานกูคงง่ายกว่า ผลคืองานกูเยอะชิบหาย 80 % ของงานที่กูทำหลังๆนี่ไม่ใช่หน้าที่หลักตามตำแหน่งกูด้วย ล่าสุดกูอยู่หน้างาน ตปท แต่นายกูตอบเมล์ลูกค้าไปว่า รอให้กูกลับมาก่อนจะทำงานที่ถูก request ให้ กูนี่แบบ ไอ้เหี้ยเมเนเจอร์นั่งหัวโด่อยู่ไม่ไปใช้เขาวะจริงๆมันควรจะเป็นงานเขาด้วยซ้ำ

>>279 คุณมีความสำคัญกับเขา รักเขามากๆนะ ลองหาเวลาไป hang out กับเขาบ้าง คุยกันไประบายกันไป

>>279 กูว่าคนที่ควรจะกลัวคือไอ้เมเนเจอร์คนนั้นแหละ เงาหัวไม่มีแล้ว

>>281 ไม่เสมอไปนะแกร บางที่ก็มีเมเนเจอร์เอาไว้เกร๋ๆ ทำไมไม่รู้จ้า งานก็ทำไม่เป็น ความเป็นผู้นำก็ไม่มี ตัดสินใจอะไรก็ไม่เฉียบ แต่ก็เห็นอยู่ดีมีสุขมีเงาหัวสบายดีเงินเดือนเยอะนะแกร คนที่จะตายเอาแบกเกินหน้าที่คือคนในทีมนี่แหละ นี่เอาจริงๆ นะยังคิดไม่ออกเลยว่าถ้าทีมไม่มีเมเนเจอร์คนไทยจะมีความลำบากเดือดร้อนอะไรบ้าง เพราะว่าปกติมีนายญี่ปุ่นเป็นผู้นำอยู่ คอยตัดสินใจ แก้ไขปัญหาให้ ประสานกับ HQ ให้ ส่วนเรื่องงานก็มีคนในทีมทำงานอยู่ ส่วนเมเนเจอร์นั้นนน ทำอะไรบ้างว้า นึกไม่ออกเลยจร้าาา

ใครลางานทั้งเดือนบ้าง กลัวโครน่าจัง

>>283 มึงทำในจีนเหรอ พวกเจ้าเจ๊กไม่น่ายอมนะ ตั้งเดือนนึง

กูทำงานเหนื่อยอยู่คนเดียว มีแต่คนเห็นใจแต่ไม่มีใครช่วยไร คนในทีมก็ทิ้งงานปล่อยกูลุยคนเดียว
จะแบนกูหรือไง แต่ช่างเหอะ ถ้าวันนึงกูมีงานใหม่เรียก กูจะจำไว้ว่าไม่จำเป็นต้องสงสารใครเลย เพราะทุกคนทำเหมือนจะช่วยแต่ก็ทิ้งกู

มีใครเคยสัมภาษณ์งานครั้งเเรกเเล้วได้งานเลยไหม กูจะไปสัมภาษณ์วันพุธนี้ละตื่นเต้นจัง

>>286 สู้ๆ ถ้าเค้าเจอคนที่ดีกว่าเค้าก็ไม่เอามึงหรอก

>>286 ตอนกูจบใหม่ กูสัมภาษณ์กี่งานได้ทุกงาน กูต้องมาเลือกว่าจะเอาอันไหน เทอันไหน แต่มึงไม่ต้องอิจ ไม่ต้องคิดว่ากูขิง เพราะตอนนี้กูหางานยากสัสๆ #ล้องห้าย

>>286 ตำแหน่งกูมันหาคนทำยาก สัมแล้วก็ได้เลย
แต่ก็ร่อนใบสมัครไปหลายที่มาก มีเรียกแค่ 2 ที่

>>270 กู 262 นะ คือกูไม่ใช่แค่ไม่อยากทำตอนต้นเดือนหน้าแต่กูอยากหยุดตั้งแต่ก่อนสิ้นเดือนนี้เลยอะ เลยสงสัยว่าหยุดงานก่อนสิ้นเดือนละจะมีปัญหาเรื่องเงินเดือนมั้ย แบบเขาจะไม่จ่ายเงินเดือนนี้เพราะผิดข้อตกลงรึเปล่างี้ ละถ้าจำไม่ผิดในสัญญาก็เหมือนมีบอกอยู่ว่าอาจจะโดนริบเงินประกันโรงงาน ซึ่งเงินที่เขาหักไปรวมๆละมันก็ไม่น้อยแต่กูก็ไม่ได้เสียดายขนาดนั้น แล้วก็กูยังไม่มีงานใหม่หรอก จะกลับบ้านไปพักใจตั้งสติก่อน พอดีอาทิตย์ก่อนกูไม่สบายละไปหาหมอ หมอสันนิษฐานว่าอาจเป็นไทรอยด์เป็นพิษ เลยอยากรีบกลับไปตรวจแถวบ้านดีกว่า อย่างน้อยก็ใกล้ครอบครัว อุ่นใจกว่าอยู่ลำพัง

>>290 ลองคุยกับหัวหน้าหรือเอชอาร์ดูก่อน เรื่องแบบนี้ตกลงกันได้

ปกติไปสัมภาษณ์งานเเต่บ.ไม่ค่อยเเย้บถามเเนวเรื่องลึกๆ หรือสิ่งที่เรียนมา
เเบบนี้ส่วนใหญ่เเห้วใช่ไหมวะ ไปสัมมา2-3ที่ ถามเเต่เเนวเเบบครอบครัวทำอะไร บ้านอยู่ไหน ส่วนใหญ่ก็สัมประมาณเเค่ 30นาที-1ชั่วโมง (จบใหม่)
เเล้วผลก็ไม่เเจ้งด้วยนะ สงสัยหาที่สัมวนไป

>>292 แล้วแต่ที่กับคนสัมอ่ะ กูเคยสัมแบบถามเรื่องานเยอะๆสุดท้ายไม่รับ
มาได้งานที่ๆนึงที่ถามแค่ผิวๆกับชวนคุยเล่นๆแล้วเค้าก็รับแบบงงๆ แต่มันเป็นสัญญาจ้างอ่ะนะเลยอาจจะรับง่ายกว่างานประจำ

>>292 หลายปัจจัย ขึ้นอยู่กับสัมงานอะไรด้วย งานบางอย่างไม่ต้องเน้นประสบการ์ณเยอะ ความรู้พื้นฐานมีก็พอที่เหลือค่อยมาสอนเพิ่มเอา
พวกนี้จะเน้นถูกใจ เจอหน้าโงวเฮ้งเข้ากันได้ บ้านอยู่ไม่ไกลที่ทำงานงานมาก ให้รู้มันมาทำงานได้ทุกวันโดยไม่ท้อก็พอ

>>294 จริง อย่างตอนกูได้งาน ตอนสัมฯ ไม่ถามเรื่องงานเรื่องเรียนเลย เขาถามโน่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย
ดู attitude ดู mindset ดู logic เรา ส่วนเรื่องงานนี่เข้ามาต้องเรียนรู้กันใหม่หมด เพราะมันเฉพาะทางสัสๆ

มิตรแท้ในที่ทำงานนี่มีอยู่จริงไหมวะ

>>296 ไม่มี

.........คิดแบบนี้จะปลอดภัยกับตัวเองที่สุด

>>296 แผนกกูเป็นมิตรกันมากนะ เพราะตัวงานมันไม่ต้องแข่งกันด้วย เวลาทำงานคือช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาก

กูไม่เข้าใจที่ทีมเดียวกันเเข่งกันทำงาน คงเพราะกูทำงานคนเดียวมั้ง

พวกคนทำงานที่แม่งสื่อสารกับคนอื่นไม่รู้เรื่องนี่มันเป็นเหี้ยไรนักวะ แม่งพูดไม่รุ้เรื่องอ่ะ ปวดกบาล

>>300 เจอจนชินว่ะเจอตั้งกะ
- สั่งอะไรไม่รู้เรื่องชอบพูดเหมือนกูรู้เรื่องมาก่อนแล้ว
- ถามคำตอบคำ เจอแล้วหงุดหงิดสุด ไม่อธิบายงาน ถามก็ตอบแบบกั๊กๆ ตอบมาคำสองคำ กลัวกูทำงานเป็นมั้ง
- ลากออกทะเลแล้วเสือกไม่กลับเข้าฝั่งด้วยนะ คุยขอข้อมูลงานพี่ลากออกไปเรื่องเล่นแบตบลาๆๆ ไทป์นี้เสียเวลาคุย จาก 5 นาทีเป็น 30 นาที++
- ถามเรื่องงานแล้วไม่ได้คำตอบ ตอบแถไปเรื่องอื่นตลอดเว ถามว่างานได้เมื่อไหร่ พี่แกจะอธิบายยืดยาวถึงความยากลำบากในการทำงานของแก การติดต่องาน อุปสรรคในชีวิต หาเงินส่งลูกเรียน ฯลฯ แต่ไม่บอกว่าได้เมื่อไหร่ พอกูย้ำแกจะตอบว่าก็นี่ไงพี่อธิบายไปแล้วทำไมเราไม่เข้าใจ ??? อัลไลวะ

>>301 ไอ้พวกถามคำตอบคำแม่งน่ารำคาญสัสสส กูเคยเจอคนสอนงานแบบนี้ ตอนเรียนงานแม่งระแวงชิบหาย มันสอนงานจบบ้างไม่จบบ้างต้องรอให้คนจากแผนกอื่นมาด่ากูก่อนว่าทำไมทำไม่เสร็จถึงรู้ว่างานมันมีสเต็ปต่ออีก เวลาไปถามงานก็อมๆงำๆ บางทีมีคนเดินมาสั่งงานกูจะหันไปถามว่าทำยังไงแม่งเดินหนีไปเลย จังหวะพอดีมากกก หลายครั้งด้วยไม่ใช่ครั้งเดียว
พวกนี้กูว่าบางทีมันไม่ได้สื่อสารไม่รู้เรื่องอ่ะ แต่มันมีปัญหา/ปมอะไรกับกูแน่ๆ รำคาญสัส

ตำแหน่งกูมีทำอยู่คนเดียว
ไปสมัครงานใหม่ลาป่วยลากิจ หรือบอกเค้าตรงๆว่าไปสอบดีวะ กลัวไม่ติดละเค้ารู้ตัวว่ากูอยากออกอะ กลัวโดนข่มอีก
แต่ก็อยากให้เค้ากระตือรือร้นหาคนมาเพิ่มแทนคนที่ลาออกไปซักทีว่ะ กูจะตายห่านอยู่ละยังไม่สนใจกู แถมมาด่าอีกว่าทำงานไม่ได้เรื่อง ค๊วย
กลัวเค้าหาคนมาแทนไม่ทันใน1เดือน กว่าจะสอนเทรนด์งานไรอีก คงฝากพี่ๆที่เคยมาช่วยงานจำๆไปฝากคนใหม่ละกัน
แต่กลัวว่าเหลือกูคนเดียวละเค้าจะไม่ให้ออกว่ะ
แม่งไม่รีบหาคนมาช่วยกูซักที เห็นทำไหวก็ให้ทำอยู่นั่นแหละ ควยๆๆ

พวกมึงว่าการที่คนเราพัฒนาตัวเองได้แบบช้ามากๆมันเพราะอะไรวะ แบบผ่านมาเป็นปีก็พัฒนาขึ้นแต่ยังไม่อยู่ในระดับเพอเฟก โปรเฟสชั่นนอล มีเรื่องให้ติเต็มไปหมด
การที่ทำงานแบบมัลติ task มันมีผลต่อการพัฒนาตัวเองด้วยมั้ย แบบไม่ได้โฟกัส ทำมันทุกเรื่อง ต้องเรียนรู้ทุกเรื่อง ต่างศาสตร์ต่างสาย ไรแบบนี้ หรือว่าไอ้คนนั้นมันกากเอง

>>304 ใครๆก็ต้อง multi task ทั้งนั้นแหละ กูยังทำได้มึงก็ต้องทำได้ มึงมันกากเอง อยากให้ตอบงี้ใช่มั้ย

สถานการณ์ ไวรัส จะส่งผลต่อตลาดงานแค่ไหนวะ กูอยากเปลี่ยนงาน

>>305 อยากได้คำตอบจริงๆอ่ะ

คนบางคน แม่งเรียนรู้ช้า ไม่ก็แม่งทุ่มความพยายามผิดจุด ส่วน multitask นี่ แล้วแต่คน แต่ยิ่งเก่ง ปัญหาด้านนี้จะน้อย

>>304 มีผลจริงๆ คุณลองทำเรื่องเดียวทุกวันซ้ำๆสักครึ่งปีสิ

Follow One Cause Until it Success (FOCUS)

>>307 กูเคยทำงานที่โคตร multitask ต้องเขียนบันทึกทุกวันว่าตอนนี้ตอนนั้นเวลานี้ต้องทำไร งานโคตรไม่เป็นระบบ ส่งผลต่อความเครียด อารมณ์ความรู้สึก สมาธิริ่มสั้น ความจำเริ่มแย่ น้ำหนักขึ้นเพราะเครียดแล้วกินหนัก กลับถึงห้องสลบไม่ได้ออกกำลัง ชีวิตพังลงเรื่อยๆ ประสิทธิภาพลดลงมากๆ ออกมาได้โคตรโล่ง
Multi task เหมาะกับคนไม่ต้องทำเองมั้ง แบบพวกหัวหน้าอะ ใช้ให้ลูกน้องไปทำงาน
ไม่ก็งานที่มีตารางแน่นอน

พวกทำงานยิบย่อยหลายเยอะในตำแหน่งเดียว เท่าที่กูเคยเจอมันชอบลืมยิบ ลืมย่อยในบางที ต่างกับพวกทำหน้าที่เดียวที่สำคัญๆที่แทบจะไม่พลาดเลย
กูหมายถึงพวกดูหลายอย่างในเวลาเดียวอย่าง แบบทำงานนึงอีกงานมาแทรกก็ต้อง handle ให้ได้ งานเก่าก็ต้องไม่ทิ้งด้วย ไม่ใช่แบบงาน 1 2 3 ต่อคิวไปเรื่อยๆ มาก่อนได้ก่อน มาหลังได้หลัง

>>307 กูเคยทำงานที่โคตร multitask ต้องเขียนบันทึกทุกวันว่าตอนนี้ตอนนั้นเวลานี้ต้องทำไร งานโคตรไม่เป็นระบบ ส่งผลต่อความเครียด อารมณ์ความรู้สึก สมาธิริ่มสั้น ความจำเริ่มแย่ น้ำหนักขึ้นเพราะเครียดแล้วกินหนัก กลับถึงห้องสลบไม่ได้ออกกำลัง ชีวิตพังลงเรื่อยๆ ประสิทธิภาพลดลงมากๆ ออกมาได้โคตรโล่ง
Multi task เหมาะกับคนไม่ต้องทำเองมั้ง แบบพวกหัวหน้าอะ ใช้ให้ลูกน้องไปทำงาน
ไม่ก็งานที่

ความสามารถทุกคนมันไม่ถึงอ่ะ พวกทำได้นี่สิทธิไปถึงเมเนเจอร์อยู่แล้ว

>>313 +1 แม่งเครียดหนัก กูเคยทำแบบเมิง นอกจาก multi tasking แล้วยังมี kpi ที่แม่งทำไม่ได้อีก คือวันเส้นตายของกู กูเพิ่งได้ใบงานเอง ยังไงก็ตก kpi อ่ะ พอไปถามแม่งบอกไม่เป็นไรพี่ไม่ซีเรียส ทำไม่ได้ก็ลงไปตามจริง
ทนอยู่สองปี เวลาไปทำงานก็แวะอ้วกบนบีทีเอสทุกวัน จนหลอนตัวเองทุกเช้า สุดท้ายก็ตัดใจลาออก

พี่ๆครับ เงินเดือนหมื่นนึง โอนมา9700นี่ปกติมัยครับ

>>316 หักประกันสังคมไง

วันนี้มันศุกร์ที่ 31 ศุกร์ที่ 13 ตรงไหนวะ เหมือนมุงเมากาว

>>317 ไม่บอกกูก่อนเนี่ยนะ

สมัครงานไปหลาย ๆ ที่ก่อน แต่ภาษาอังกฤษยังไม่แข็งดีไหม? โทอิคก็หมดอายุอีก ยังไม่ไปสอบใหม่เลย

>>319 ตามกฏหมายมันต้องหักอยู่แล้ว

>>321 หักเพื่อ ไม่ให้เงินเดือน๑๐,๓๐๐เเถมค่าประกันสังคมไปเลยล่ะ

>>322 ไม่หักก็ผิดกฏหมายดิ
นายจ้างเองก็ต้องจ่ายสมบทนะ 300 บาท
ไปขูดหินปูน ถอนฟันคุด เบิกได้ปีละ 900 บาท
เกษียณมีบำเหน็จ บำนาญ (หาอ่านเงื่อนไขเอานะ)
รักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลได้

>>322 นี่โง่จริงหรือแกล้งโง่?

>>324 เออ ขอโทษ กูผิดเอง เพิ่งย้อนไปอ่านความเห็นเก่าๆ เข้าใจแล้วว่าโง่จริงไม่ได้แกล้ง เจ้านายมึงคงเหมือนกูแหละ ไม่รู้ว่ามึงโง่จริง ไม่รู้ว่ามีลูกน้องคาดหวังให้ต้องมาสาธยายกฏหมายแรงงานข้อที่โคตรจะพื้นฐานสุดๆ ให้ฟังด้วย

โดนภาษีปีละสี่หมื่น แงงงง

>>324 >>325 ใจเย็น ๆ นะพวกนาย เห็นใจกันบ้าง อยู่ในปี 2020 แล้วข้าวของแพงขนาดนี้ได้เงินเดือนแค่หมื่นเดียว ก็ต้องหัวเสียเป็นธรรมดา
แล้วถ้าเค้าได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ดีหน่อย เค้าคงไม่ได้เงินเดือนแค่หมื่นเดียวหรอกนะ ถือว่าเมตตาโม่งน้อย ๆ เค้าบ้าง

ฆ่าตัวตายไปเเล้ว

>>328 ใครฆ่าตัวตายเหรอ

บริษัทไม่ได้บอกว่าผ่านโปร ไม่ได้ให้เซ็นเหี้ยไรเลย เซ็นแต่ตอนรับเข้าบอกทดลองงานสามเดือนแล้วจะมีสวัสดิการให้ นี่เกินสามเดือนละเงินเดือนออกหักเงินเท่ากันมาสองเดือน เหมือนจะเป็นประกันสังคม แต่เค้าไม่ได้ทำให้กูอะ ทำไงดีวะ คนเข้ามาพร้อมกันก็โดนเหมือนกัน

>>330 ถามเลย

ผ่านโปรกุก็ไม่ได้เซ็น

>>330 รู้ได้ไงว่าไม่ได้ส่งเข้าประกันสังคม ลองตรวจสอบผ่านเว็บหรือแอปของประกันสังคมหรือยัง

>>331 เคใจมาก
>>332 คือตอนรับมา สัญญาทดลองงานเขียนซะดิบดี ออกก่อนครบไม่ได้เงินไม่มีสิทธิ์เรียกร้องไรงี้ด้วย นี่ก้ไม่แจ้งว่าผ่านไม่ไม่ผ่าน แต่หักเงิน เหมือนจะประกันสังคมกุเลยงง

>>333 เชคแล้วดูในเวบอะแหละ

>>335 ไปปรึกษากับนิติกรที่ศาลแรงงานได้เลยนะ

เริ่มงานที่ใหม่ได้สองเดือน แต่กูต้องหอบงานกลับมาทำที่บ้านทุกวันเลยว่ะ นั่งหน้าคอมจนตาล้าไปหมดแล้ว วันหยุดก็ไม่ได้ไปไหนต้องทำแต่งาน อาการออฟฟิศซินโดรมก็กลับมา ปวดหลัง ไหล่ ข้อมือ เงินมันดีมากนะ แต่เหมือนทำงานเพื่อเอาเงินมารักษาตัวยังไงไม่รู้สิ แต่ปริมาณงานคือกูต้องทำคนเดียวทุกอย่างแล้วไม่สามารถให้ใครในออฟฟิศช่วยได้ เพราะมันเป็นงานเฉพาะทางมาก หัวหน้าที่เขารับกูมาก็ไม่มีความรู้เรื่องนี้ กูเคยแย็บๆถามว่าไม่รับคนเพิ่มเหรอ เขาก็ตอบว่ากูเป็นเหมือนตัวทดลองว่าแผนกนี้ควรเปิดรึเปล่า จะไปรอดมั้ย เลยไม่มีงบมาจ้างคนเพิ่มแล้ว

กูไม่ได้เกลียดงานนี้นะ แต่ให้ทำงานหนักแล้วทุกงานคือเร่ง พอทำไปแล้วก็จะมีงานมาแทรกๆๆๆตลอด งานที่กูรันคิวไว้ว่าจะทำอะไรก่อนหลังก็รวนหมด กูจัดตารางงานของตัวเองไว้หมดแล้วนะ แต่ก็จะมีงานนั่นนี่โน่นมาแทรกตลอด พอกูทำงานด่วนให้ ก็จะเจองานใหม่เร่งกว่าแบบขอภายในสองชั่วโมงนะ แต่งานเก่าก็จะเอา แล้วกูยังทำไม่เสร็จก็จะโดนด่า กูนี่ไม่รู้จะทำอะไรก่อนแล้ว งงไปหมด แถมยังต้องรบตบตีกับการเมืองภายในบริษัทอีก กูอยากลาออกนะ แต่งานที่ได้เงินขนาดนี้ก็ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ แถมเศรษฐกิจแบบนี้ไม่ควรตกงานอีก กลุ้มใจว่ะ

โม่งแต่ละคนมีวิธีหา Skill หาความถนัดของตัวเองยังไงบ้างอะ กูอยู่ออฟฟิตทำงานจับฉ่ายมาตลอด คิดจะหางานใหม่แต่ไม่รู้ว่าจะใส่ Skill อะไรลงไปในรีซูเม่ได้มั่งวะ กลัวเหมือนตอนจบใหม่ๆ ใส่ไปเยอะพอเขาถามแล้วคือไม่รู้จริง

>>338 อย่าใส่ ว่างไว้ เชื่อกูนะ

>>338 ถ้านึกไม่ออกง่ายสุดให้มึงไปดูว่างานที่สมัครเค้าต้องการคนมี skill อะไรบ้าง แล้วใส่ skill ที่มึงมีแล้วมันตรงกับที่เค้าอยากได้เอา

>>340 งาน = ได้
กี่เดือน = ...

อะไรวะ กุงง แล้วงานที่พวกมึงสมัครมันไม่ได้ใช้สกิลที่ต้องมีหรอ? น่ากลัวนะถ้ามึงไม่มีสกิลอะไรเลยแล้วใครจะมาทำงานแทนมึงเมื่อไหร่ก็ได้

>>338 ใส่ที่เวลาเค้าถามกลับมาแล้วมึงอธิบายได้ ใส่ไปให้หมด

>>342 งานแอดมินมั้ง เหมือนของกู พวกทำเอกสาร ประสานงาน มันไม่มีสกิลอะไรพิเศษ
ตอนนี้กู30แม่งโคตรตัน จะหางานทียากชิบหาย สายนี้ต้องแพลนชีวิตดีๆเลยว่ะ

>>344 พวกใช้โปรแกรมตระกูลออฟฟิศ หรือภาษาอังกฤษ พิมพ์ไว ใช้อุปกรณ์สำนักงานต่างๆ ประสานงาน อะไรแบบนี้ก็น่าจะมีนะ

อยากมีเพื่อนวัยทำงานที่แบบ ทำโปรเจ็คอะไรร่วมกันได้ว่ะ ไม่ต้องถึงกับทำธุรกิจร่วมกันหรือก่อตั้งสตาร์ทอัพก็ได้ แบบ แค่อยากมีทีมอ่ะ เหงา