เอาล่ะ ผมเลิกกวนตีนและเขียนอะไรจริงจังสักครั้ง
หลังสงกรานต์ปี 59 หลังจากที่ผมโดนทหารถือ M16 มาหน้าบ้าน แล้วจับผมใส่รถ คลุมถุงดำเข้าค่ายทหาร
ผมโดนเอาไปนั่งอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่ง มีเจ้าหน้าที่สามชุด เวียนกันสอบสวน
เอารูปคนนั้นคนนี้มาให้ดู ถามว่ารู้จักมั้ย แล้วก็ถามอะไรที่แบบ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเทคนิคถามแรงๆเยอะๆ ก่อนให้กลัวหรือเปล่า
แต่จริงๆ เนื้อหาการถามผมคือ "อาวุธสงครามอยู่ที่ไหน กองกำลังที่มึงฝึกอยู่ที่ลาวมีเท่าไหร่"
"มึงส่งเงินให้นักศึกษายังไง ใครเป็นคนสั่งการ"
เอาภาพเพื่อนที่หน้าโหดๆในเฟสมาถามว่า "คนนี้ใคร มือปืนมึงหรือเปล่า" เอาแชทที่พวกผมนัดกันย่างหมูกระทะที่บ้านมาเปิดถามว่าเตรียมของนี้หมายถึงอะไร
เอาเฟรนด์ในเฟส ซึ่งจริงๆมันเป็นเพื่อนมัธยมของผม ที่แม่งไม่ได้คุยกันมาหลายปี ตอนนี้ไปเป็นโปรแกรมเมอร์ มาถามว่า "นี่แฮ็คเกอร์สังกัดพวกมึงใช่มั้ย"
แล้วก็มีรูปคนนู้นคนนี้เต็มไปหมด จากเฟรนด์ลิสม์ผม ภาพทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ที่เป็นเพื่อนในเฟรนด์ลิสม์ผม มาหมดทุกคน
บางคนผมพึ่งรู้ด้วยซ้ำว่ามันทำมาหากินอะไร เกี่ยวกับหน่วยราชการยังไง
แล้วแบบ ผมจบรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เพื่อนของเพื่อนผมในเฟรนด์ มันก็ต้องโยงไปถึงโรม จ่านิว พวกดาวดิน มีหน้าห้องกระทรวงนั้นนี้ จนถึงพวกลูกหลานนักการเมืองได้ปะวะ
ผมโมโหชิบหาย คือแต่ละคนเนี่ย เข้าใจมั้ยว่าแชทคืออะไร เฟรนด์ลิสต์คืออะไร ผมมีเฟรนด์ในเฟสนี้ ผมอาจจะไม่รู้จักมันก็ได้เว้ย แค่มันแอดมาผมกดรับ
แล้วที่ผมโกรธอีกอย่างคือแกหาว่าผมเป็นคอมมิวนิสต์ คือผมนี่โคตรจะทุนนิยม การหาว่าผมเป็นคอมมิวนิสต์นี่คือไม่เข้าใจอะไรเลย
บอกตามตรงว่า วันนั้นพี่แกพูดอะไรมา ผมคิดว่าล้อเล่น นึกว่าด่าไปเรื่อยเปื่อย คือนึกว่าเป็นเทคนิคแบบเอาหนักๆ ขู่ๆ ไว้ก่อน เผื่อผมมีข้อมูลแล้วหลุดที่เบากว่า
แต่สัส แม่งเชื่อจริง ฟ้องจริง
สิ่งที่อยากจะเล่าคือ มีเจ้าหน้าทีแก่ๆคนหนึ่ง ที่น่าจะรับบทโหดมา แกไม่ยอมบอกว่าอยู่หน่วยไหน แต่แกด่าผมชิบหาย จนผมโมโห
มันมีประโยคหนึ่งที่ผมจำได้ดีคือ "มึงคิดว่ากูโง่เหรอ คิดว่ากูเนี่ยแก่จะลงโลงแล้วใช่มั้ยล่ะ? อีกไม่นานกูก็จะตายแล้ว?"
ผมได้ยินแล้วหายโกรธเลย
เพราะตอนนั้นผมเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเขาถึงทำแบบนั้น
เพราะพวกเขากลัว
ย้ำอีกทีว่า เพราะพวกเขากลัว
เพราะพวกเขามีชุดความดีแบบหนึ่ง ซึ่งพวกเขาใช้เวลาทั้งชีวิต 40-50 ปี ต่อสู้เพื่อสร้างมัน ต่อสู้เพื่อปกป้องมันมาตลอด
ผมนึกได้ว่า เออ คนที่นั่งอยู่ตรงหน้านี่ เพื่อนเขาคงเคยไปแฝงตัวในหมู่คอมมิวนิสต์ แล้วโดนจับไปฆ่าจริงๆ
เคยเจอพวกคอมมิวนิสต์ขนอาวุธจากโซเวียต ส่งผ่านลาว มาแถวๆ ขอนแก่น กาฬสินธ์จริงๆ แล้วเขายังใช้ชีวิตอยู่ในชุดความคิดนั้น
แล้วจู่ๆโลกมันก็เปลี่ยนแบบกลับหัวกลับหาง
ชุดความดีทั้งหมดที่เขามีถูกบอกว่ามันผิด
เขาไม่มีทางออก ไม่รู้จะไปไหน
วิธีแก้ปัญหาของเขาคือ การทำแบบเดิมที่มันเคยเวิร์ค คือไปหาคอมมิวนิสต์มาสอบสวน
เขาพยายามเค้นเอาให้ได้ว่า ผมเนี่ยสั่งทำภาพการ์ตูนล้อรัฐบาล ผมเนี่ยมีเครือข่ายมากมาย "ถ้ามึงไม่สั่ง ถ้าไม่มีคนจ่ายเงิน แล้วภาพด่ารัฐบาลมันมาจากไหน"
คือแบบ... ผมอยากรู้มากว่า รัฐบาลทหารเนี่ย มันโดนเอเจนซี่หลอกเอาค่าทำภาพเชียร์รัฐบาลไปภาพละเท่าไหร่ งบเพจละล้านหรือเปล่า
จากนั้นผมพยายามนะ พยายามอธิบายว่า เนี่ยนะ พวกการ์ตูนต่างๆนี่ ใครมันก็ทำได้ แค่เขามีความคิด มีไอเดีย เขาก็ทำออกมาตามความคิดเขา คนชอบมันก็แชร์ไปเอง
เจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจจริงๆ คือไม่เข้าใจเลย
เขาเชื่อมากว่ามันต้องมีเสธสักคน ใครสอนมึง ทหารนอกราชการเหรอ หรือว่าพัลลพ หรือคนนั้น คนนี้ ซึ่งผมไม่รู้จักชื่อสักคน
เขาคิดว่ายังไงก็ต้องมีคนวางแผน มีคนเขียนบท มีคนวาด มีเครือข่ายกระจายคอนเทนท์ และทั้งหมดต้องใช้เงิน
การชุมนุมคัดค้านรัฐประหารหรือประชามติก็เช่นกัน เขาคิดว่าต้องมีโครงสร้างเช่นนั้น
ดังนั้นหน่วยความมั่นคงจึงเป็นเหมือนการมองหา ศูนย์กลางของมหาสมุทร ซึ่งมันไม่มีไง น้ำมันแค่ไหลมารวมกัน
แล้วแม่งพูดกันไม่รู้เรื่อง ผมพยายามอธิบายแบบนี้แหละ แม่งก็ตวาด บอกว่าผมพูดนอกเรื่อง มึงสารภาพมาว่ามึงจ่ายเงินยังไง
เอ้าสัส!
ผมสารภาพว่า หนึ่งวันในค่ายทหาร ผมเศร้ามากกว่ากลัว
คือเหมือนไปพยายามสอนคนแก่เล่นไอแพท
ทุกอย่างมันเกือบจะดี จนเจ้าหน้าที่บอกว่า "นี่ มึงสารภาพมาเถอะ นายกูโกรธแล้ว ถ้ามึงยังปากแข็งแบบนี้นะ นายกูบอกให้หาอะไรที่ยัดมึงได้ ให้ฟ้องเลย"
ผมนึกว่าขู่ไปงั้นล่ะ แม่งไม่มีหรอก
(มีต่อ)