Fanboi Channel

มู้เก่า
https://fanboi.ch/lounge/1161 โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
https://fanboi.ch/lounge/2603/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 2nd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3016/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 3rd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3530/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 4th quotes
https://fanboi.ch/lounge/4357/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 5th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5233/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 6th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5838/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 7th quotes

https://bigthink.com/paul-ratner/is-there-evidence-that-magic-mushrooms-played-a-role-in-human-evolution

“นี่มัน hominid หรือ rock star มาครบทั้ง drug ทั้ง sex

นักชาติพันธุ์พฤกศาสตร์ (Ethnobotanist) เสนอว่า เห็ดเมา/เห็ดขี้ควาย และ “สวิงกิ้ง” เป็นปัจจัยสำคัญในวิวัฒนาการของ homo sapien โดยแบ่งได้เป็น 3 ขั้น

1. 4-5 หมื่นปีก่อน มนุษย์ออกจากแอฟริกาเพราะอาหารหมด หันไปติดตามล่าฝูงวัวควายข้ามทวีปแทน ตอนล่าอยู่ก็พบว่า “ขี้” ของสัตว์พวกนี้กินได้ ซึ่งวัตถุดิบหนึ่งชนิดในนั้นคือ เห็ดเมา พอกินเข้าไปบ่อย ฤทธิ์ในระดับอ่อนของเห็ดทำให้สมองส่วนการมองเห็นดีขึ้น ล่าสัตว์ได้ดีขึ้นกว่าสัตว์นักล่าในยุคร่วมสมัย

2. 1-2 หมื่นปีก่อน มนุษย์กินเห็ดปริมาณมากขึ้น ทำให้มนุษย์ “คึก” หรือมีความสามารถ reproductive สูงขึ้น featuring กันไปมาหลายคน ตรงนี้สำคัญ เพราะทำให้ไม่สามารถนับได้ว่าลูกที่เกิดใหม่เป็นลูกใคร เปลี่ยนสำนึกการมองมนุษย์คนหนึ่งจากฐานะทรัพย์สินของพ่อแม่ เป็นมนุษย์ที่เป็นตัวของเขาเอง อาจเรียกได้ว่าความคิดเชิงนามธรรมที่เรียกว่า “ชุมชน” เกิดขึ้นในช่วงนี้ ควบคู่กันไปกับสมองส่วน consciousness

3. ในเวลาไล่เลี่ยกับขั้นที่ 2 ฤทธิ์จากเห็ดในปริมาณสูง ทำให้สมองส่วนที่ควบคุมการออกเสียงพัฒนาขึ้น นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิด “ภาษา” ที่เป็นกลไกสำคัญของวิวัฒนาการของมนุษย์

แน่นอนมีนักวิชาการหลายคนไม่เชื่อสมมุติฐานนี้ บอกว่าเป็น “story” มากกว่า “explaination” แต่ระยะหลังมีหลักฐานทางโบราณคดีเริ่มสนับสนุนสมมุติฐานนี้มากขึ้น เช่น ภาพวาดเห็ดบนผนังถ้ำ การพบสปอร์ของเห็ดในฟันของมนุษย์โบราณอายุ 1.8 หมื่นปี เป็นต้น”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

พี่ว่าทุกอย่างมันมีแผนมาก่อนอยู่แล้ว สถานการณ์เนี่ยเขามองอยู่แล้วว่ายังไง การปฏิวัติมันก็จะเกิดขึ้น
ตั้งแต่วันที่คุณยิ่งลักษณ์ขึ้นมาเป็นนายกฯแล้ว มีนักข่าวถามคุณยิ่งลักษณ์เลยว่ากลัวจะจบเหมือนพี่ชายมั้ย
คือทุกคนมองว่าปลายทางเนี่ยมันเสี่ยงต่อการรัฐประหาร
รัฐบาลยุคนั้นขึ้นมาท่ามกลางกองทัพที่คุมกำลังเนียไม่ใช่คนของคุณเลย"

>>2 ตาลุงTerace McKennaที่คิดทฤษฏีนี้ เชื่อในคัมภีย์อี้จิง,เชื่อปฏิทินมายา,เชื่อว่าการเมายาคือการเดินทางข้ามมิติ และเชื่อว่าเห็ดเมาคือสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากต่างดาว

สรุปก็แค่ตาลุงขี้เมายามโน

>>4 แต่เรื่องเห็ด/อาหารส่งผลต่อสมองได้รับการยอมรับระดับนึงนะ นักวิชาการบางสายเชื่อการที่มนุษย์กินปลามีส่วนต่อพัฒนาการของสมอง การหาทางจับปลาก็ทำให้มนุษย์รู้จักคิดสร้างอุปกรณ์จับปลาแบบต่างๆ แต่ก็มีคนที่เชื่อว่ามนุษย์ยุคก่อนกินกันเอง โดยเฉพาะสมอง ทำให้สมองมนุษย์พัฒนาไปมากเหมือนกัน

#ช่วงพี่โจวแชตลามกกับสาวๆ

พี่โจว: เอ๊ะน้องจะมีเนื้อเยอะตรงไหนเป็นพิเศษไหมอ่ะครับ

สาวๆ: ตรงส้นตีนค่ะพี่โจว

พี่โจว: ครับ

#ฉากหนัง พระร้องไห้แสดงว่าพระมีกิเลส ทำให้ศาสนามัวหมอง
#ฉากชีวิตจริง พระรับยศศักดิ์เพื่อเป็นกำลังใจสู่ความหลุดพ้น ทำให้ศาสนาเจริญ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

“ถึงวัยนี้เราต้องเลิกคิดแล้วนะว่าตกหลุมรักก่อนแพ้หรือเผยความรู้สึกแล้วจะเสียฟอร์ม เราชอบเขา เธอโสด ฉันโสด เราไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าเขาเผยความรู้สึกแล้วเขาไม่ชอบ เขาไม่ได้คิดแบบนั้นก็ถอยออกมา แต่ต้องไม่รู้สึกแย่กับตัวเอง ต้องไม่รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า เราไม่ได้ทำอะไรผิดนะเว้ยเธอ

ฉันว่าต้องแฟร์พอที่ยอมรับว่าเราไม่ได้เป็นที่ต้องการของทุกคน แฟร์พอที่จะยอมรับว่าเราจะไม่ได้ทุกอย่างที่เราอยากได้ แฟร์พอที่จะยอมรับการตัดสินใจของอีกฝ่าย แต่ไม่ได้แปลว่าเราไม่มีคุณค่า พอถึงจุดหนึ่งเราต้องจับสัญญาณได้ว่าที่เป็นอยู่นี้ He’s not that into you ว่ะ เขาไม่ได้ชอบเรา คือถ้าเราต้องไม่หลอกตัวเองและดันทุรังว่าเขาชอบฉัน เขาชอบฉัน แต่ถ้าสัมผัสได้ว่า He’s not that into you เราก็ออกมา แต่ออกมาด้วยความรู้สึกว่าไม่มีใครผิด เขาไม่ชอบเราเขาก็ไม่ผิด เราชอบเขาข้างเดียวเราก็ไม่หมานะ ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง ไม่มีอะไรต้องดราม่า แยกย้าย ใช้ชีวิตต่อไปสวยๆ

ฉันว่ามาถึงวัยสามสิบกว่ากันแล้ว ไม่ต้องไปแอบชอบ ไปแอบเดาความรู้สึกกันแล้ว เปิดเผยไปเลย ชัดเจนกับชีวิตว่าต้องการอะไร คิดอะไรพูด! ต้องการอะไรบอก! ถ้าจะชอบก็ชัดเจน จะไม่ชอบก็ต้องชัดเจน ไม่ต้องมาเล่นเกมเดาใจกัน เปิดเผยแล้วเขาชอบเราว่ะก็ได้รู้ว่าจะทำไงต่อ เปิดเผยแล้วเขาไม่ชอบเราก็จะได้ไปทางอื่น

ถ้าเราชัดเจน อีกฝ่ายเขาก็จะชัดเจนกับเรา เอาไงว่ามา! ไม่เสียเวลา ถ้าเราไม่พูด ไม่สื่อสาร ไม่ชัดเจน อีกฝ่ายเขาจะรู้ไหมว่าเราต้องการอะไร เรื่องนี้มันใช้ได้กับทุกเรื่องในชีวิตไม่ใช่แค่ความรักนะ ชีวิตมันต้องชัดเจน อย่ามัวเสียเวลากับความคลุมเครือ เสียเวลา

เธอเป็นไหม คนบางคนเวลาไม่ต้องรักใครแม่งโคตรมีเสน่ห์เลย เพราะเป็นตัวเอง สดใส มีชีวิตชีวา ไม่ต้องพะวงอะไร แต่พอมีความรักปุ๊บ เสน่ห์หายไปเลย เพราะกลายเป็นคนคิดมาก ขี้งอน ขี้น้อยใจ กลายเป็นคนคาดหวัง

ความคาดหวังนี่แหละที่ทำให้เสน่ห์ของคนหายไปเลยเพราะจะไม่เป็นตัวของตัวเอง จดจ่ออยู่ตลอดคนเวลาว่าเขาจะเป็นยังไง เขาจะชอบไหม เขาไม่ตอบไลน์ก็เครียด นอนก็ไม่หลับ คิดมากอีก ความคาดหวังนี่ทำคนพังมาเยอะแล้ว มีความคาดหวังปุ๊บกลายเป็นคนไม่มีเสน่ห์ไปแล้ว ความรู้สึกว่าเธอไม่ใช่คนแบบที่ฉันเคยตกหลุมรักแล้วมันเกิดก็เพราะความคาดหวังมันไปเปลี่ยนตัวเราให้กลายเป็นคนไม่น่ารักไปแล้วนั่นแหละ แล้วถามว่าเป็นคนแบบนี้แล้วชอบตัวเองไหมก็ไม่ชอบ ถ้าไม่ชอบก็อย่าเป็น อย่าคาดหวัง มันเจ็บ”

จากบทสนทนาที่ร้าน Brothers กับแมน Chatree Man Chokmongkolsatian —- ฉันควรจะต้องแบ่งค่าต้นฉบับให้เธอแล้วนะ ฮ่าๆ

หลายครั้งแล้วโพสนี้แต่...ยิ่งวันยิ่งเยอะคนที่ไม่เข้าใจ อ้างว่าที่นี้จะยืดดหลักญีฮาดไม่ได้เพราะสยามไม่ได้ห้ามละหมาด
ขออ่านบทนี้ให้เข้าใจ
#มันไม่เกียวละหมาดคับ

بسم الله الرحمن الرحيم
อิสลามแบ่งกาเฟร์ออกเป็น 3 ประเภคขอให้ชาวปาตานีจงรับรู้ด้วย อิสลามแบ่งกาเฟร์ออกเป็น 3 ประเภทคือ
1.กาเฟร์หัรบีย์ الكافر الحربي، คือ คนต่างศาสนา ที่เป็นคู่สงครามศาสนากับมุสลิม
2.กาเฟร์ซิมมีย์ والكافر الذمي، คือ ตนต่างศาสนาที่อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐอิสลาม ซึ่งรัฐจะต้องดูแล พวกเขาด้วยความยุติธรรม และพวกเขาก็ต้องจ่ายภาษีหัว (ญิซยะฮ)แก่รัฐอิสลาม
3.กาเฟรมุอาฮัด والكافر المعاهَد คือ คนต่างศาสนา ที่ทำสัญญา ไม่รุกรานต่อกัน ไม่ละเมิดซึ่งกันและกัน
แล้วกาเฟร์ไทยสยามล่ะเป็นกาเฟร์กลุ่มไหน ข้อ 2-3 ตัดได้เลยคับเพราะปาตานีไม่เคยปกครองสยามหรือทำสัญญา ไม่รุกรานต่อกัน เหลือข้อ 1 คือกาเฟรหัรบีย์ الكافر الحربي، คือ คนต่างศาสนา ที่เป็นคู่สงครามศาสนากับมุสลิม หรือต้องทำการญีฮาด เพราะสยามหรือไทย เป็นผู้รุกราน รัฐปาตานีซึ่งรัฐปาตานีในสมัยนั้นปกครองโดยคนเชื้อสายมลายูและได้ปกครองรัฐโดยลักอิสลามประชาชนเกือบทั้งรัฐนับถือศาสนาอิสลาม จนสยามได้มารุกรานรัฐปาตานีและได้เปลียนการปกครองจากหลักการอิสลาม มาเป็นระบอบสยาม ส่วนประวัตความป็นมาของการรุกรานรัฐปาตานีโดยรัฐสยาม เราไม่ขอพูดถึงตรงนี้น่ะคับเพราะมั่นยาว เอาเป็นว่ารัฐสยามเป็นรุกรานรัฐปาตานีจริง คนเรียนประวัติศาสตร์รู้ดีแม้แต่ประวัติศาสตร์สยามเองก่อบอกว่าสยามเคยไปตีเมืองปาตานีและได้เอาเมืองปาตานีเป็นเมืองขึ้น แม้ว่ารัฐปาตานีจะแพ้สยามในตอนนั้นแต่ใช้ว่าเราจะยอมแพ้รัฐสยามไปตลอกกาล อันนี้ทางการไทยรู้ดีคับว่าการต่อต้านรัฐสยามมีมาตอลด เพียงแต่รูปแบบอาจจะเปลียนไปตามแต่ละสมัย ความรุ่นแรงมีขึ้นมีลงตามผู้นำแต่ละสมัย เราอยากถามคนที่ว่าเราบิดเบื่อนคำสอนศาสนาเราบิดเบือนตรงไหนหรือคับ ในเมือสยามคือกาเฟร์ฮาร์บีย์ชัดเจนอย่างนี้คุณๆยั้งจะสันติอีกหรอคับ คุณบอกว่าอิสลามคือศาสนาแห่งความสันติใครฆ่าคนคนนั้นไม่ใช้อิสลาม งัน นบี นบีมูฮัมหมัด ละคับ ท่านเองก่อทำสงครามญีฮาดตั้งหกครั้ง คือ สงครามบะดัร (พ.ศ. 1167) สงครามอุฮุด (พ.ศ. 1168) สงครามคอนดัก (พ.ศ. 1170) สงครามบนูกูรอยเซาะห์ (พ.ศ. 1170) การทำสนธิสัญญาอัล อุดัยบิยะห์ (พ.ศ. 1171) และสงครามตะบูก (พ.ศ. 1173) เวลาคุนจะยก อัลกุรอ่าน หรือ ฮาดิษ กรุณา ยกไห้ถูกที่ถูกเวลาด้วยน่ะคับ เช่น ฮาดิษ เกียวกับ กาเฟร์ฮาร์บีย์ คุนไปใช้กับกาเฟร์ซิมมีย์ มันไม่ถูกที่อะคับ หรือ คุนจะบอกสยามรุกรานปาตานีนานแล้วตั้งสองร้อยกว่าปีแล้วน่ะ ผมก่อจะบอกคุนว่า ฮูกมญีฮาดไม่ใช่ มาม่ารสหมูสับน่ะคับจะได้หมดอายุ ฮูกมญีฮาดในดินแดนปาตานีจะถูกยกเลิกก็ตอนเมือใด้รัฐอิสลามคืนมาเท่านั้น หรือคุนจะยอมรับว่าดินแดนปาตานีเป็นดินแดนญีฮาด แต่คุนไม่ยอมรับวิธีการญีฮาดของยาวชนปาตานี งั้นทำไมคุนไม่มาเป็นครูฝึกสะเองละคับจะได้บอกการญีฮาดในแบบของคุนไม่ใช้ด่าในเฟสแบบนี้ เพราะฮูกมญีฮาดไม่ได้เจาะจงคนใดคนหนึงหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึง แต่ฮูกมนี้ได้ถูกกำหนดไห้ทุกคนไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงต้องทำญีฮาด ถ้าไม่ทำบาปมหาน ถ้าต่อต้าน มูนาเฟ็ก

จากกลุ่มกอบกู้เอกราชปาตานีดารุสลาม!
السلام عليكم ورحمةالله وبركاته

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

อาแปะ กินกาเฟรป่ะ

>>9 ชอบมากที่แม่งใช้ พ.ศ. กำกับปี

>>9 อ่านงี้แล้วรูู้สึก ก็มีแต่ต้องฆ่าทิ้งนะเนี่ยเพราะทางนั้นยังไงก็ไม่ยอมเลิกรา

>>9 ใช้ พ.ศ. กำกับปีทำเหี้ยไร มีหีเลาะศักราชละเสือกไม่ใช้ นี่แม่งกลุ่มกอบกู้อิสลามเก๊ชัดๆ

>>9 ถ้าแยกจริงๆ เศรษฐกิจมันจะทำยังไงวะ เอาอะไรส่งออก เอาเงินไหนซื้อนำเข้า

>>14 ให้โค๊ดสตาร์เป็นผู้นำทางเศรษฐกิจแทนสิครับ รัฐปาตานีจะรุ่งเรืองทางด้านการขายกาแฟกับอาแปะแน่ๆครับ

ให้แม่งแยกไปเลย แล้วทำรั้วกั้นไม่ต้องไปมาหาสู่กัน ให้แม่งเน่าตายในนั้นแหละ

>>16 รัฐไทยแบ่งแยกมิได้ครับ ไม่งั้นพวกกูจะเอาอะไรมาแดกละครับ หรอยงบรักษาความสงบง่ายจะตายตรวจสอบก็ไม่ได้ด้วย

>>14 คงไปขอรวมกับมาเลแหละ แต่เรื่องแยกตัวนี่ยังไงก็คงเป็นไปไม่ได้ คือที่การก่อการร้ายมันยังอยู่ได้เนี่ยเพราะยุทธวิธีกองโจร ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร กลางวันเป็นนายบ้านกลางคืนเป็นมือระเบิด ถ้าแม่งเกิดโง่จัดตั้งกองบัญชาการ ทำห่าอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราว ก็นับถอยหลังรอกองทัพไทยเปิดหน้าถล่มได้เลย

>>9 ต้นทางกินมาม่าหมูสับด้วยหรอ?

ศาสนาอิสลามแม่งกลัวโดนกลืนชาติจะตายไม่งั้นจะมีกฏ จะมีเมียอิสลามต้องเปลี่ยนศาสนาเรอะ ไอ้ศาสนาโลลิค่อน !!!

เปิดทีวีให้ย่าดู ย่าตะโกนด่าทีวีเป็นไรเสียงไม่ชัด..
วิ่งมาดู เจอมดดำอ่านข่าว - -"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

รายงานผลการทดสอบเผื่อเป็นประโยชน์:

ติดตั้ง Wordpress เปล่าๆไว้ที่ Hosting 2 แบบ ระยะเวลาราวๆ 6 เดือน กดตั้งให้อัปเดทเวอร์ชั่น​ตัวเองแบบอัตโนมัติ

แบบแรก Shared hosting: ตอนนี้เว็บโดนเจาะทะลุเรียบร้อย ตัวอักษรกับลิ้งก์อะไรไม่รู้ถูกฝังเข้าไปในทุกหน้า

แบบสอง Managed Wordpress hosting: ตอนนี้นิ่งมาก Wordpress เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ทำงานได้ปกติ

ที่ทดสอบเพราะเว็บดั้งเดิมที่เคยใช้โดนเจาะทุกปี จนต้องซมซานไปขึ้น Funnel ใหม่ๆด้วย ClickFunnels ทั้งหมด เลยอยากรู้ว่า Managed Wordpress hosting มันเอาอยู่​จริงไหม เพราะมีบางงานต้องขึ้นด้วย Wordpress อยู่

สรุป: ย้ายงานบน Wordpress ทุกอย่างเข้า Managed Wordpress hosting ให้หมดภายในสิ้นปีนี้ :D

ปล. WP Engine, Kinsta, Siteground รอดหมด

เครื่องบิน Airbus 380 ลำหนึ่งกำลังทำการบินเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก โดยบินที่ระดับความสูง 30,000 ฟุตด้วยความเร็วคงที่ 800 กม/ชม
มีเครื่องบินรบแบบยูโรไฟท์เตอร์ที่บินมาด้วยความเร็วสองเท่าเสียง ปรากฏขึ้นสองลำ
จากนั้นนักบินเครื่องยูโรไฟเตอร์ได้ส่งวิทยุทักทายนักบินของเครื่องบินโดยสารว่า "เครื่องบินแอร์บัสคงเป็นเครื่องบินที่น่าเบื่อใช่ไหม? ลองดูนี่สิ"

นักบินเครื่องยูโรไฟเตอร์ได้ม้วนเครื่องบินเจ็ทของเขาออกจากเครื่องแอร์บัสแล้วทำการเร่งความเร็วจนทะลุกำแพงเสียง จากนั้นทำ Loop ด้วยการบินไต่ระดับหาความสูงแบบฉับพลัน ก่อนที่จะดำดิ่งเครื่องบินลงไปที่ระดับน้ำทะเล
บินคู่ขนานกับเครื่องแอร์บัสอีกครั้ง ก่อนที่จะวิทยุถามนักบินแอร์บัสว่า "เป็นอย่างไรบ้าง?"

นักบินโบอิ้งตอบ: "น่าประทับใจมาก แต่ตอนนี้ขอให้ดูนี้!"

นักบินเครื่องยูโรไฟเตอร์บินดูเครื่องแอร์บัส แต่ก้อไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้น เครื่องแอร์บัสมันยังคงบินตรง บินระดับ ไปด้วยความเร็วคงที่ เหมือนเดิม หลังจากผ่านไปห้านาที

นักบินแอร์บัสได้สอบถามนักบินยูโรไฟเตอร์ทางวิทยุ "เห็นอะไรไหม นักบินรบ?"

นักบินเครื่องยูโรไฟเตอร์วิทยุตอบแบบงง ๆ ปน สับสน: "นั่นคุณทำอะไร?หนะ."
นักบินแอร์บัสตอบพร้อมเสียงหัวเราะหัวเราะว่า "ผมลุกขึ้นยืดแข้งยืดขาของผม โดยเดินไปที่ด้านหลังของเครื่องบิน จากนั้นก้อไปเข้าห้องน้ำมา เสร็จแล้วออกมานั่งดื่มกาแฟและทานขนมเค้กอบเชยและก้อนั่งจีบ
แอร์โฮสเตส
บทสรุปของเรื่องราวนี้คือ:
เมื่อคุณอายุยังน้อยความเร็วและความตื่นเต้นดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ดีมากกับชีวิต
แต่เมื่อคุณอายุมากขึ้นและฉลาดขึ้น ความสะดวกสบายและความสุข กาย สบายใจ เป็นสิ่งที่ดีกว่ามาก
นี่เรียกว่า S.O.S .: Slower (ช้าลง), Older (แก่ขึ้น) , Smarter (ฉลาดขึ้น)

#ที่มา จาก ฟอร์เวิร์ดไลน์ ของเพื่อน
#เรื่องจริงชีวิตมนุษย์
#ยิ่งโตยิ่งคิดเยอะขึ้น

เนื่องจากพรรคสนุ้กเกอร์ไทยเรายังไม่ลงรับเลือกตั้งที่จะถึงนี้ แต่พี่โจวว่าจะเคาะกิจกรรม "ไปให้ไกลกว่านโยบายพรรคการเมือง" เพราะคิดว่าพรรคการเมืองที่เลือกเข้าไปนั้นไม่สามารถทำนโยบายของตนเองได้จริงเพราะมี รธน.2560 กับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ล๊อกไว้

กิจกรรม "ไปให้ไกลกว่านโยบายพรรคการเมือง" นั้น ก็คือในช่วงการเลือกตั้งขอให้น้องๆ เลือกนักการเมืองที่หน้าตาบักเสี่ยวมากที่สุดที่ลงเขตเลือกตั้งของน้องๆ อ่ะครับ แล้วเราเอามาโหวตกันในเพจอีกทีว่าใครจะได้เป็นนักการเมืองขวัญใจชาวบักเสี่ยว

เน้นเอาตัวฮาเข้าสภาครับ เพราะคุณภาพกับอุดมการณ์มันปรุงแต่งเสแสร้งกันได้

ชนชั้นกลางที่เคยต่อว่าเรื่อง การเอารถไฟไปขนผัก เป็นเพราะเขามีอคติ และไม่เข้าใจว่า พืชผลทางการเกษตร ถ้าบริหารจัดการดีๆ จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงมาก
.
ส่วนหนึ่งที่เขาคิดอย่างนั้น ก็เพราะว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่กดเกษตรกรมาโดยตลอด ให้นายทุนได้กำไรเยอะ ให้ชนชั้นกลางได้กินของถูก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

จากที่กุตลก มันไม่ตลกแล้ว เมื่อวานน้องวันนี้เพื่อนรักกุ😡 จะหยอดยากันทำเหี้ยอะไร สงสารผญไหม ถ้ามันไม่โทรหากุคนแรกจะเกิดอะไรขึ้น ร้องร้อน จะแก้ผ้า อ้วก กอดขาไม่ได้สติไม่รู้ด้วยว่าอยู่ไหน ไอ้สัสอย่าให้กูรู้ว่าใครทำ ไม่ต้องนอนมันแล้วไอ้เหี้ย!!!!!!

คนไทย “มีความหวัง” ในชีวิตที่เป็นอยู่ขณะนี้จริงหรือ? ประเด็นนี้เคยมีการสำรวจความคิดเห็นของคนไทยโดยถามว่า “ทำอย่างไรท่านถึงจะรวย?” เชื่อหรือไม่ “ร้อยละ 76 ตอบว่าต้องเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย และรองลงมาร้อยละ 11 ตอบว่าต้องถูกหวยรางวัลที่ 1”มีเพียงร้อยละ 8 ที่ตอบว่าขยันทำงานและเก็บออม“สะท้อนความหวังที่เลือนราง” เนื่องจากในความเป็นจริงของสังคมไทย ลำพังการเลื่อนจากชนชั้นล่างเป็นชนชั้นกลางว่ายากแล้ว การเลื่อนจากชนชั้นกลางเป็นชนชั้นสูงนั้นยากกว่าจนแทบเป็นไปไม่ได้

ดังนั้นการทำบุญก็คือการลงทุนในอนาคต เป็นสัญญาที่มีการส่งมอบแต่เป็นการส่งมอบในชาติหน้า ทำไมชาติหน้าถึงสำคัญ? เพราะเขาไม่มีความหวังมากนักในชาตินี้ ฉะนั้นการที่เขาทำบุญเยอะๆ แล้วหวังว่าชาติหน้าจะดีกว่านี้เขาสมเหตุสมผลแล้ว ท่านลองนึกภาพว่าต้องทำงานหนักแค่ไหนเพื่อเลื่อนชนชั้น ท่านขอใช้ชีวิตแบบนี้แล้วทำบุญหวังชาติหน้ามีโอกาสมากกว่า

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>27 กูลองหาข่าวแล้วไม่เจอโพลนี้แฮะ ไม่รู้มโนขึ้นมารึเปล่า

ผมพูดกับน้องๆ ในทีมเสมอ ว่า the first is unnecessary, the last is everything.

เราไม่จำเป็นต้องรีบเพื่อเป็นคนแรก แต่ต้องพยายามเพื่ออยู่เป็นคนสุดท้าย

ในยุคแห่งความรีบเร่ง หลายคนให้ความสำคัญกับความเร็ว ออกก่อนได้เปรียบ โดยไม่ใส่ใจเรื่องของ timing และ quality

Bill Gross เคยบอกว่า market timing คือปัจจัยสำคัญที่สุดของ startup ที่ประสบความสำเร็จ

Creative ออก hard disk music player เครื่องแรกของโลก ชื่อ Nomad Jukebox ก่อน Apple ออก iPod 18 เดือน ทุกวันนี้มีใครจำ Nomad Jukebox ได้บ้าง..?

เซอร์ไอแซค นิวตัน เป็นคนคิดค้นแคลคูลัสคนแรกก่อน กอดฟรีด วิลเฮล์ม ไลป์นิช แต่เพราะสมการที่เค้าคิดมันยากและซับซ้อนเกินไปสุดท้ายไม่มีใครใช้ แคลคูลัสบนโลกทุกวันนี้ จึงเป็นแคลคูลัสของไลบ์นิช ที่เข้าใจง่ายกว่า

“Try to be the first in mind, not the first in market.” เป็นคำกล่าวจาก Al Ries กูรูการตลาดระดับโลก

นี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่ Ava ไม่ได้พัฒนานวัตกรรมใดๆ เกี่ยวกับ cyptocurrency ทั้งที่ปี 2017 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ถนนทุกสายมุ่งสู่ crypto.. รวมถึงบาง feature ของ Ava ที่ผมเคยถึงกับขนาดทะเลาะกับคนในทีม เพราะผมไม่ยอมให้ launch แม้ product จะพร้อมแล้ว (เช่น chatbot ที่เราทำได้ตั้งแต่สามปีที่แล้ว แต่ผมเลือกรอจนกว่านวัตกรรมมันจะพัฒนาได้ถึงจุดที่จะมีประโยชน์กับผู้ใช้อย่างแท้จริง) ผมเชื่อว่าทุกอย่างมีเวลาของมัน

มีคนชอบกับมีคนจีบมันคนละเรื่องกันนะ ถ้าอยากให้มีคนมาจีบเนี่ย มึงก็ต้องสวยตามพิมพ์นิยมก่อน แต่ถ้าพูดถึงคนชอบ เขาอาจจะไม่ได้เข้ามาทำความรู้จักเพราะสวยอะ อาจจะเป็นคนรู้จักกันอยู่แล้วที่ถูกใจนิสัยมึงเงี้ย

>>29
1. วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์คือการต่อยอดจากอดีต Standing on the shoulders of giants การที่มาบอกว่าสมการของคนหนึ่งเป็นที่จดจำเพราะของคนที่ public คนแรกมันใช้ยากเนี่ยมัน.....
2. ย่อหน้าสุดท้ายทำลายคุณค่าของสิ่งที่พูดมาทั้งหมด พูดเหมือนมั่นใจมากว่าผลิตภัณท์ของบ.ตัวเองจะอยู่ยั่งยืนนานไปอีกนับ 10 ปี ผู้ชนะคือผู้เล่าประวัติศาสตร์ ส่วนคนที่ยังไม่ชนะแต่พูดมากก็เป็นได้แค่ไลฟ์โค้ช มิตรสหายท่านนี้แม่งพูดเอาเท่ชิบหาย

มีทฤษฎีบทท่ีสำคัญท่ีเรียกว่า ทฤษฎีบทโครงสร้างโปรแกรม หรือ The Structured Program Theorem ท่ีบอกว่า ไม่ว่าระบบจะซับซ้อนขนาดไหนก็ตาม ย่อมสามารถเขียนให้อยู่ในรูปของโครงสร้าง 3 แบบ ได้เสมอ หรือ พูดอีกอย่างว่า รู้เพียง 3 โครงสร้าง ก็เพียงพอในการในการเขียนโค้ดได้ทุกรูปแบบ

โครงสร้าง 3 แบบที่ว่านี้เป็นยังไง ลองอ่านได้จากบทความนี้ครับ

https://paperpeer.com/account/kookiatsuetrong/The Structured Program Theorem.pdf

ธเนศเป็นไง บล็อกเกอร์เจ๊กตายรีบนักวิชาการเลียไข่เจ๊กตายเกลื่อน ต้นมีร้องบอกเจ๊กหมาไม่เกี่ยวกับรัฐบาลจีน ไหง เจ๊กหมาหักหน้าเจ๊กโง่ไทยแบบนี้ 5555+ บอกแล้วสกิวคำนวนอนาคตไทยแท้เหนือกว่าพวกเจ๊กสายตาสั้นเยอะ 55555+
เงิบทั้งก๊กไหมล่ะ ธเนศ 55555+ เงิบซ้ำซากสาวกตาบอด เจ๊กสายตาสั้นสาวกตาบอด
https://voicetv.co.th/read/SyE_6ScCQ?fbclid=IwAR2G7yhTQ-m-VwM23dAIEZzP0uTPuVolNnv40_ikimp_hnxJiovQ3n1UusI

>>33 แจ๊คหม่า เล่นการเมืองอิงแอบเผด็จการทหาร

ลิเบอออรัลว่าไงครับ

การเมืองเป็นเรื่องของความหมั่นไส้ง่ายๆ ด้วย ใครพูดเรื่องโครงสร้างทางสังคมพูดเรื่องประชาธิปไตยเยอะๆ บางทีคนธรรมดาอาจจะมองว่าเราหัวสูงอ่ะครับ

เรื่องนี้แก้ง่ายๆ คือเราต้องอาสาสมัครดูดส้วมให้ชาวบ้านไรแบบเนร้ จะดูยิ่งกว่าติดดินอีกอ่ะครับ

https://www.bloomberg.com/news/articles/2018-11-26/urgent-ap-exclusive-first-gene-edited-babies-claimed-in-china

ทารกที่เกิดจากการตัดต่อพันธุกรรมรายแรกของโลก

สรุปข่าว:
- ที่จีนมีทารกแฝด ที่เกิดจากเอมบริโอที่ได้รับการตัดต่อพันธุกรรม
- สิ่งที่ตัดทิ้งไป ไม่ได้เป็นโรคทางพันธุกรรม
- สิ่งที่ตัดทิ้ง คือยีนที่มีชื่อว่า CCR5 ซึ่งผลิตโปรตีนที่ผิวเซลล์ ที่ทำให้เชื้อ HIV เข้าไปข้างในได้
- เด็กสองคนนี้ไม่มีไอ้ตัวนี้ (คนนึงมีอันนึง ไม่มีอันนึง) หมายความว่าสองคนนี้จะทนโรคเอดส์ได้

ซึ่งนับว่าเป็นก้าวใหญ่เหี้ยๆ ทั้งในทางวิทยาศาสตร์ และในทาง ethics

*****จบสรุปเท่านี้ ต่อจากนี้จะเป็นโหมดบ่น*****

คำถามก็คือ การทดลองนี้มัน ethical หรือไม่? แล้วเราควรจะทำกันไหม? มาลองดูเหตุผลกัน

For:
- เป็นก้าวแรกของการตัดต่อพันธุกรรมในมนุษย์
- เป็นตัวอย่าง ที่จะทำให้เกิดการตัดต่ออื่นอีกในอนาคต
- สามารถป้องกันโรคร้ายอย่างโรคเอดส์ได้
- พ่อแม่ที่เข้าร่วมการทดลองนี้ เป็นพ่อแม่ที่เป็นเอดส์อยู่แล้ว ดังนั้นการที่มีลูกทนโรคเอดส์ จึงสามารถช่วยครอบครัวนี้ได้เป็นอย่างมาก
- ผู้เข้าร่วมการทดลองสมัครใจเข้ามาเอง
- ซึ่งคนที่ไม่มียีน CCR5 โดย mutation ตามธรรมชาตินี้ก็มี แต่มีอยู่ในปริมาณที่น้อยมาก ไม่ถึง 1% (homozygote frequency of 1%)

Against:
- เป็นก้าวแรกของการตัดต่อพันธุกรรมในมนุษย์
- เป็นตัวอย่าง ที่จะทำให้เกิดการตัดต่ออื่นอีกในอนาคต
- โรคเอดส์ เป็นโรคที่ปัจจุบันก็รักษาได้อยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มความเสี่ยง
- ถึงแม้ว่าพ่อแม่จะสมัครใจ แต่เราไม่สามารถทราบได้ว่าทารกจะสมัครใจหรือไม่
- การที่ไม่มียีน CCR5 สามารถเพิ่มความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสอื่นๆ ได้ เช่น West Nile หรือไข้หวัดใหญ่

ถ้าเราเปรียบเทียบการตัดต่อพันธุกรรมเหมือนกับการ edit code อะไรสักอย่าง ถ้าเราแก้โค้ดได้ดี มันก็ดีไป แต่ถ้าเราเผลอใส่บั๊กลงไป บางทีมันก็อาจจะทำให้โปรแกรมที่มันควรจะใช้ได้ดีอยู่แล้ว เกิดพังขึ้นมา ซ้ำร้าย การตัดต่อนี้ไม่เหมือนกับการรักษาโรคทางพันธุกรรมในผู้ใหญ่ ที่เราแค่ตัดต่อในเซลล์ร่างกาย แต่นี่เป็นการตัดต่อพันธุกรรมทั้งเอมบริโอของมนุษย์ นั่นหมายความว่าอะไรก็ตามที่เราแก้ลงไป มันจะสามารถส่งต่อไปยังลูกหลานได้ และอีกหน่อยเราอาจจะมีประชากรมนุษย์ ที่ติดบั๊กที่ได้มาจากที่เคยมีคนแก้เอาไว้เมื่อหลายพันปีที่แล้ว

แต่ในขณะเดียวกัน คนที่ขาดยีนตัว CCR5 นี้ก็มีอยู่แล้วในธรรมชาติ แต่ว่าโรคเอดส์เป็นโรคที่ใหม่มากๆ จน natural selection ยังไม่มีโอกาสได้ทำงาน จึงมี frequency ที่น้อยมาก ถ้าเราปล่อยให้ natural selection ทำงาน และปล่อยให้โรคเอดส์ฆ่าคนไปเรื่อยๆ ต้องใช้เวลาถึงกว่า 2,000 ปี กว่า gene frequency นี้จะเพิ่มมาเป็น 10% (ซึ่งถ้าเราไม่ปล่อยให้ natural selection ทำงาน อย่างที่เราคอยรักษาผู้ป่วยด้วยยากันอยู่ทุกวันนี้ จะต้องใช้เวลาถึงกว่า 127,500 ปี) ดังนั้นเราจึงอาจจะบอกได้ว่าการตัดต่อพันธุกรรมเป็นทางออกเดียวของมนุษย์ ที่จะคอยอัพเดตพันธุกรรมของเราไม่ให้ต้องคอยง่อย และพึ่งการแพทย์เข้ามาแก้ไขทุกครั้ง เช่นเดียวกับหมา French Bulldog ที่ไม่สามารถขี่กันและคลอดลูกได้เองตามธรรมชาติ ต้องคอยให้สัตวแพทย์มาคอยฝืน natural selection และผสมเทียมกับ c-section ให้ทุกครั้ง

แต่นี่ไม่เหมือนกับแค่การ GMO ผลผลิตทางการเกษตร เพราะว่าผลผลิตทางการเกษตรเราสามารถพยายามป้องกันการปนเปื้อน หรือหยุดการแพร่พันธุ์ได้ เมื่อเราพบผลร้ายที่ตามมา (แน่นอนว่าการปนเปื้อนกับ wild type ก็สามารถเกิดขึ้นได้อยู่ดี) แต่ว่านี่คือมนุษย์ และเราไม่สามารถบอกไอ้เด็กแฝดสองคนนี้ให้ "ห้ามสืบพันธุ์" ได้ ดังนั้นอะไรที่เราแก้ไปแล้ว เราจะเอากลับคืนมาไม่ได้อีก การจะศึกษาผลข้างเคียงนั้นอาจจะใช้เวลาหลายชั่วอายุคน กว่าเราจะเจอว่าการตัดต่อยีนนี้นั้นจริงๆ แล้วฉิบหายมากๆ ยีนนี้ก็อาจจะแพร่พันธุ์ไปครึ่งโลกแล้วก็ได้

ใครยังนึกภาพไม่ออก ลองคิดแบบนี้ดูครับ

สมมติว่าพรุ่งนี้ Windows เปลี่ยนเป็น open source ใครๆ ก็สามารถเข้าไปแก้บั๊ก เติมโค้ดตัวเองได้ แล้วทีนี้มีอีกฟีเจอร์นึง นั่นก็คือ automatic update ทุกๆ โค้ดที่มีคนเติมเข้าไป สุดท้ายแล้วจะไปอยู่ในทุกๆ เครื่องบนโลกนี้หมด ไม่ว่าใครจะเป็นคนเขียน หรือเขียนไว้มีบั๊กแค่ไหน ก็อารมณ์คล้ายๆ กันนี่แหล่ะ

อยากทราบว่า แต่ละคนคิดว่าการทดลองนี้ สมควรที่จะทำหรือไม่? และมัน ethical เพียงใด?

"Your scientists were so preoccupied with whether or not they could, they didn’t stop to think if they should."
- Ian Malcolm, Jurassic Park

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ไปดูกลุ่มคนด้อยคุณภาพดูสด nasa ส่งยานสำรวจดาวอังคาร คำถามคนกลุ่มอ่อนด้อยคุณภาพเป็นคนกลุ่มไหน ^^ บอกใบ้ให้ พวกลังเกลียดความเป็นไทยพวกอวดฉลากด่ารัฐไม่สนความจริง พวกคลั่งสีจิ้นผิงโง่ 55555+ ไหนวะ ยานอวกาศสีจิ้นผิงบนดาวอังคาร ไหนเจ๊กบอกคนจีนไปไวมากทุกด้านไงเล่า ทำไม จีนเตรียมส่งยานสำรวจ 'ดาวอังคาร' ในปี 2020 5555+ ไวอะไรของพวกเจ๊กโง่วะช้าเหี้ยๆ คนอเมริกันไปถึงดวงอาทิตย์แล้วไอ้พวกเจ๊กโง่
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2355431877817720&set=gm.10156563785420865&type=3&theater&ifg=1

อย่าตกใจไปครับแจ๊คหม่าเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มาตั้งนานแล้ว ทุกความสำเร็จย่อมมีเบื้องหลังบางอย่างที่ไม่สะดวกจะพูด
.
[1] ก่อนก่อตั้งอาลีบาบาที่ซีหู ซูโจว พี่หม่าก็ใช้เส้นสายจากนักหนังสือพิมพ์เพื่อเข้าไปประมูลงาน วางระบบอินเตอร์เนตให้กระทรวงศึกษาของจีนที่ปักกิ่ง พองานเสร็จแกก็เข้าใจว่าการเป็นสมาชิกพรรคมันดึงดูดงานและทรัพยากรมากมายขนาดไหน ความสัมพันธ์รูปแบบนี้ทำให้หม่าและอาลีบาบาได้รับประโยชน์จากพรรคคอมมิวนิสต์มากมาย งานส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับระบบเนตเวิร์ค
.
[2] ระบบรับสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนมักจะพิจารณาให้เป็นพิเศษในกรณีคนที่ประสบความสำเร็จทางชีวิต เศรษฐกิจ อยู่แล้ว ดึงคนเก่งมาเป็นสมาชิก ดีตรงไหน ตรงที่เวลาสื่อสารนโยบายทางการเมืองมันสามารถนำไปปฏิบัติได้เลย ผ่านการใช้นโยบายของบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้
.
[3] ตัวอย่างเช่นนโยบายสังคมไร้เงินสด เกิดขึ้นเพราะประเทศจีนมีแบงค์ปลอมระบาดมากและพรรคปวดหัวกับการตามล้างตามเช็ดกิจการผลิตเงินเถื่อน ทันทีที่อาลีบาบาเสนอระบบอาลีเพย์ รัฐบาลแทบจะพุ่งเข้าสนับสนุนทันที เพราะอาลีบาบาขณะนั้นมีสมาชิกกว่าหมื่นรายที่เป็นบริษัท และอีกเป็นล้านรายบุคคล มันช่วยสนับสนุนสังคมโดยรวมด้วย และแก้ปัญหาสังคมไปในตัว
.
[4] ถือเป็นปกติอยู่แล้ว คนจีนหลายคนที่เป็นยอดคน นักพัฒนา จะได้เป็นสมาชิกพรรค เพื่อนผมเป็นทหารเรือจีน บอกว่า สมาชิกพรรคไม่ใช่จะเป็นกันง่ายๆ จะมีสองระบบใหญ่ๆในการสรรหาคือระบบสอบปกติกับระบบแนะนำ ในการแนะนำนั้น ต้องมีคนในพรรคแนะนำต่อคณะกรรมการสรรหา ว่าคุณเจ๋งจริงยังไง โดนเด่นด้านไหน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของ มาเฟียท้องถิ่น นักพัฒนา นักธุรกิจ พวกที่ดึงมวลชนได้ จะได้เป็นกันเยอะ
.
[5] แล้วไม่ใช่ว่าแค่มีคนแนะนำแล้วจะไปเป็นสมาชิกได้เลยนะครับ เพื่อนคนจีนผมบอกว่า คุณต้องแสดงผลงานและความสามารถตามที่ได้แนะนำไว้ ต้องทำจริงให้ได้ เช่น คุณถูกแคนดิเดทว่าจะเปลี่ยนทะเลทรายเป็นป่าได้ในสิบปี ไหนผลสำเร็จ ไหนงาน ผลงานต้องมีทันที ไม่ใช่มาบอกว่าขอเวลากับอำนาจให้ผม ผมจะทำ งี้ใบสมัครคุณจะถูกตีตก
.
[6] สถานภาพพิเศษของการเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ปูทางไปสู่ถนนการเมือง สู่อำนาจอันหอมหวาน ใครก็อยากเป็น นักการเมืองอำนาจใหญ่ๆทุกระดับล้วนเป็นสมาชิกพรรค หากไม่ผ่านตรงนี้ก่อนก็ไม่ได้
.

เหล่ากานมาเป็นสมาชิคพรรคคอมรึเปล่าครับ

>>38
เจ๋งว่ะ เหมือนสมัยโจโฉเลย

มิน่าแม่งประเทศรวยเอาๆ

>>38 แม่งยังกะสมัยราชวงศ์ จะรับราชการถ้าไม่สอบจอหงวนก็ต้องมีชื่อเสียงมากๆ แล้วราชสำนักจะส่งเทียบเชิญ

>>41 คล้ายๆกับสุมาอี้ไหมวะ? ที่แม่งร่ำรวยด้วย มีอิทธิพลทางการค้าสูงเป็นทุนเดิมแต่ต้องเข้าร่วมกับโจโฉเพราะแม่งโดนขู่ฆ่า แต่ต้องขำกับเหมาเพราะเหมาแม่งเคยพูดถึงคอมมี่ในอุดมคติไว้ว่า คอมมิวนิสต์คือประชาธิปไตยอย่างนึง สรุปละแม่งก็กลายๆ คือ ประเทศไม่ได้สืบทอดด้วยระบบสายเลือดแบบเมื่อก่อน แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถของคนแต่ละคนด้วย ถึงงั้นก็เหอะ เวลาบริหารละเจ๊งก็เกิดขึ้นได้ทั้งสองระบอบนั่นแหละ

เป็นข่าวแล้ว ก็พูด public ได้

ที่เคยพูดนอกห้อง FEGO กับ กับอีกที่ตอนไปงานสมาคมนักข่าวฯ คือ Social Scoring ตอน Initiative เริ่มต้น Karma Project สำหรับเอาไว้สะสมคะแนนพฤติกรรมดี และไม่ดี ที่สุดโหดมาก

ทำดีหนนึงสูงสุดได้ 0.01 (บริจาคเงิน และ เวลา ไปซ่อมถนนสาธารณะด้วยตัวเอง ถ้าให้เงินอย่างเดียวได้ 0.0001) ...แต่... ทำไม่ดีหนนึง หดไป 1.0

ใช้ระบบ Social Report ไม่นับ score ซ้ำ ... มีเจ้าหน้าที่ หรือ ระบบ CCTV รีเช็ค

อนาคตคนจะเก่งมากขึ้น แต่การเลือกผู้นำในอนาคต คะแนน Karma จะมีน้ำหนักสูงสุด

ท้ายที่สุด ประเทศที่ใช้ระบบที่ว่า จะถูกปกครองโดยคนเก่งและดี เป็นแผน ยุทธศาสตร์ 2050

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ไม่ใช่สมาชิคพรรค หรือไม่เข้าข้างพรรคไม่มีทางรวยในจีน โดนยัดข้อหาแล้วยึดทรัพท์หมด

>>44 มันไม่ได้เถื่อนขนาดนั้น ไม่เข้าข้างได้ แต่ห้ามขัดขืนโจ่งแจ้ง พรรคถือเรื่องภาพลักษณ์มาก แล้วก็ไม่ได้ยึดทรัพย์บ่อย แต่ก็ขูดรีดตามปกติ และจีนก็ขูดรีดอย่างเป็นระบบ แทบจะลอกระบบนายอำเภอจีนสมัยก่อนมาเลย คือเงินเดือนน้อย แต่อยู่ได้ด้วยการเก็บส่วย

ระบบเศรษฐกิจการเมืองจีนมีรัฐวิสาหกิจจำนวนมาก ทั้งขอส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น พกวนี้คือรากฐานของพรรค และเป็นรางวัล แบบเดียวกับการไปนั่งบอร์ดของไทยนั่นละ ทุกบ.ใหญ่ๆ ของจีนจะมีเจ้าหน้าที่พรรคไปนั่งเป็นบอร์ดเพื่อ "ประสานงาน" อยู่ เป็นแหล่งรายได้ชั้นดีมากๆ

ข่าวแจ็คหม่า สังกัดพรรค
น่าจะมีเพื่อกลบไอ้ข่าวฟ่านปิงปิงหนีภาษี แล้วคิวต่อไปเป็นแจ็คหม่า

>>46 กลบยังไง ข่าวฟ่านปิงปิงจบไปตั้งนานละ คนที่ได้เป็นสมาขิกพรรคกิติมาศักดิ์ครั้งนี้ก็มีร่วม 100 คน ประธานบ.ใหญ่ๆ ได้กันหลายคน พวกที่บอกว่าแจ็ค หม่าจะโดนนี่โคตรไร้สาระ ขานี้เลียพรรคชิบหาย มีเส้นสายกับสีมาตลอด โดนก็แปลกแล้ว

เจ๊กนักวิชาการแม่มเอาอีกแล้วอ้างฝรั่งด่าคนไทยฝรั่งด่าเหี้ยไรกูเห็นแต่เจ๊กนักวิชาการเหมาควยเขียนด่าคนไทย สรุป คนไทยแย่ทุก อย่างประเทศรอดได้เพราะโชกดีมีทรัพยากรบ้าบอสมองเจ๊กเหมาควยๆ ธเนศพวกเจ๊กบ้าไปแล้วพวกมันบ้าไปแล้ว 5555+หากฝรั่งบันทึกจริงกูขอดูต้นฉบับจดหมายเหตุภาษาอังกฤษทีเถอะสัส อย่าอ้างอิงอะไรรอยแบบนี้ใครก็รู้ฝรั่งมันเก็บเอกสารดีชิบหายกูเชื่อหากฝรั่งบันทึกจริงมันเก็บไว้แน่นอน เอามาดูเจ๊กอย่ามั่วดิกูฮา
https://www.silpa-mag.com/club/article_17212?fbclid=IwAR3SGAvfgZ_Z4mp_UEtk5K4EFqe_bxiwuiQNqS7ZxwLag9Z46HFZmYKvCp4

>>48 ลาลูแบร์แกก็บรรยายแนวๆ นี้แหละ ชาวสยามเป็นพวกรักสบาย

(แต่อาจจะมองด้วยมุมแบบฝรั่งก็ได้ คือแผ่นดินสยามอุดมสมบูรณ์ไง เลยไม่ต้องทะเยอทะยานมุ่งแสวงหาและครอบครองอย่างชาวตะวันตก)

คนอาจจะหาว่าทรัมป์บ้าที่เอาจริงจังเรื่องกำแพงภาษี จากที่ GM ต้องปลด พนง.ออกหมื่นกว่าตำแหน่ง เพราะต้องการลดต้นทุนการผลิต เพราะวัตถุดิบจากจีนถูกกำแพงภาษี ทำให้ราคาต้นทุนสูงขึ้น

ทรัมป์ไม่ได้บ้าที่ทำไป แต่ทรัมป์จำเป็นต้องเรียกเม็ดเงินที่ขาดดุลกลับ ไม่งั้นก็ไม่มีเงินมาจ่ายดอกเบี้ยให้กับหนี้สาธารณะ ซึ่งถ้า roll over หนี้ตรงนี้ไม่ได้ อเมริกาอาจจะต้องเผชิญสภาวะรัฐล้มเหลวได้ และนั่นอาจจะเป็นหายนะที่ใหญ่กว่าคนตกงานหมื่นกว่าตำแหน่งหลายเท่านัก

เกมนี้รู้ตั้งแต่ต้นว่ายังไงก็ต้องยอมหักกิ่งให้ต้นรอด บางทีทรัมป์แม่งอาจจะเป็นคนที่ปากร้ายและแอสโฮลในหลายๆเรื่อง แต่เค้าเป็นคนที่ทำเพื่ออเมริกาสุดๆเหมือนกัน

แฉ!!! ค่ายธรรมะที่.....มาก แทบไม่มีอะไรธรรมะ โรงเรียนบังคับเข้า ทำเพื่อนเราต้องพบจิตแพทย์ปัจจุบันยังรักษาไม่หาย

สวัสดีค่ะ กระทู้แรก ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ
อยากให้ลงอ่านให้จบ จะรู้เลยว่านี่เป็นค่ายที่เซอไพรซ์สุดๆไปเลยค่ะ
เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ที่ รร ประจำจังหวัดตอนต้นๆของภาคใต้ เท่าที่จำความได้ เราเข้าค่ายนี้ตอนม.4ค่ะ ปัจจุบันจขกท.ปี2แล้วนะคะ โรงเรียนบังคับเด็กม.4ใหม่เข้าทุกคน!! เค้าขู่ว่าถ้าไม่เข้าก็จะไม่ให้ผ่าน แล้วใบขออณุญาติก็เป็นค่ายธรรมะค่ะ เราดีใจมากวันแรกที่ได้มาเข้าได้มาเจอเพื่อนใหม่
ตอนแรกๆก็รับน้องของโรงเรียนปกติ อ้อ ค่ายธรรมะนี้จัดที่โรงเรียนนะคะ หลังจากนั้นมีพระมาเราจำความได้ว่า เขาบกว่าเป็นพระของวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุราษ ตอนแรกคือเค้าได้ยึด ธงโรงเรียนไปค่ะ แล้วให้เด็กๆทำยังไงก็ได้ให้เอาธงคืนมาา ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ค่ะ เค้าชอบเปิดคลิปหรือพูดด่าแรงๆที่ทำให้เด็กต้องร้องไห้ จำได้ว่าตอนนั้นร้องไห้หนักมากกกกก ตอนกินข้าวก็เปิดคลิปเชือดสัตว์ที่มีเลือดเยอะให้ดู แล้วก็กินไม่ลงใช่มั้ยคะ พอทีนี้ข้าวเหลือก็เอามารวมใส่หม้อ บอกว่าต้องรับผิดชอบ แล้วจำได้ว่าให้เอาครูที่นั่งอยู่แถวนั้นมากิน ก็ร้องไห้กันหมดค่ะทั้งครูทั้งเด็ก ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำแล้วมันจะทำให้เราเข้าใจธรรมะจริงๆหรอ เพราะว่าคลิปที่พระอาจาย์เปิดให้ดู เป็นคลิปที่น่ากลัวแทบจะอ้วก ยังมีวางรองเท้าไม่เป็นระเบียบ ให้รุ่นพี่ี่เป็นพี่เลี้ยง เอารองเท้าห้อยเชือกมาแขวนคอ ใช่ค่ะแขวนคอ คนละ10คู่ได้นะคะ แล้วเสต็ปเดิมค่ะ

ทุกคนในนั้นร้องไห้ มีแบบว่าพระอาจารย์ เอิ่มมม เล่นละครจะหนีกลับวัด555555เพราะว่าก่อนหน้านี้จัดกับพี่ ม.6 ล้วพี่เล่าให้ฟัง ทำเหมือนเดิมเป้ะเลยค่ะ เด็กๆต้องไปนั่งขวางรถ ช่วยกันไหว้พระอาจาย์บอกให้ลงมา กลับเข้าไปในค่าย เอามาเล่าเหมือนตลก แต่ตอนนั้นคือทุกคนกลัว +ร้องไห้ไปนั่งขวางถนนยกมือกราบไหว้พระอาจาย์ ความพีคคือ คืนนั้นเค้าให้ธรรมพิธีสาบนตนว่าใครยุ่งกับยาเสพติดขอให้เสียชีวิตต พร้อมกับเปิดคลิปบอกว่านี่คือเด็กที่เคยร่วมพิธีสาบานตนของพรอาจารย์แล้วตาย โดนรถชนตายบ้าง อุบัติเหตุบ้างกลัวมากค่ะตอนนั้น แล้วให้ยืนสาบานจนตี 5 ! ตี5จิงๆ เด็กม.4ตอนนั้นไม่เคยนอนดึกขนาดนั้น ทรมานมากกกกก เพื่อนที่ยืนข้างเราก็เป็นลมกันทีละคนอีกวันบังคับให้ตื่น 7 โมงเช้า ขู่เหมอนเดิม เด็ก 16 นอน2 ชมกว่าๆ ล้มป่วยกันยกค่าย จนเราไปดูตรงที่ทำพยาบาลของพี่เลี้ยง ไม่มีที่ให้เรานอน ก็ต้องจำใจกลับมาในอาคารเหมือนเดิม

เหมือนเค้ากดดันเยอะมาก 3 วันร้องไห้จะเป็นจะตายทุกครั้ง ร้องไห้จนเราฉุกคิดว่า เอ้ะกูจะประสาทกินแล้วอะ ไม่อยากอยู่เลยขอมาเข้าห้องน้ำ ความพึคมันอยู่ตรงที่ คืนนึงเค้าให้เด็กสารภาพว่าใครเคยลองยาเสพติดให้ลุกออกมาไม่งั้นไม่ให้นอน เด็กก็ลุกกันเยอะนะคะ จนผ่านไปหลายชั่วโมงเค้าบอกเค้าไม่เชื่อ มีอีกๆ จนครั้งนี้เด็กเริ่มด่ากันเองละเพราะง่วง ว่าใครเคยก็ลุกๆ ลุกดิประมาณนี้ จนหลังๆคนทนไม่ได้ลุกกันหมดเลยค่ะ นอนเช้าเหมือนกัน เพื่อนเราคนนึง เค้าเริ่มมีอาการแปลกๆเค้าปวดหัวมาก ร้องไห้ไม่หยุด แล้วเริ่มเดินเพ้อเลยนะคะ เค้าร้องไห้จนเราบอกว่า พอได้แล้ว ให้พ่อแม่มารับกลับ แล้วพ่อแม่เพื่อนก็มารับกลับไปค่ะ เดี๋ยวเป็นยังไงมาดูต่อนะคะ กลับมาที่ค่ายค่ะ

(มีต่อ)

(ต่อจากเม้นบน)

มีล้างจานไม่สะอาดก็ให้พี่เลี้ยงที่เป็นรุ่นพี่ เอาปากคาบจานไว้ด้วย แล้วก็วันท้ายๆ เราจำไม่ได้แล้วว่าเค้าขู่ว่าอะไร แล้วเค้าเปิดคลืป ที่เป็นค่ายของเค้าที่จังหวัดอื่น เค้าเป็นคนเอาไม้อันใหญ่ๆ แบบเหมือนครกอันยักษ์ๆเลยอะคะ เท่าเสาเลย ฟาดเด็ก แล้วคือสถาพในคลิปตอนฟาดเสร็จ โอ้โห เสต็ปเดิมค่ะเราตกใจ+สงสาร รร ในคลิปมากไม่รู้โรงเรียนอะไร ทุกวันนี้เรายังจำภาพคลิปนั้นได้ คือเพื่อนเค้าต้องมาแบกเด็กที่โดนฟาดคนนั้นออก เค้าขู่ว่าจะทำกับพวกพี่เลี้ยงด้วย หลังจบค่าย เรากลับบ้านร้องไห้ 1 วันเต็ม เพราะรู้สึกจิตตก แล้วก็นอนวันนึงเลยค่ะ5555 ดีที่ครอบครัวตอนนั้นพาไปเที่ยวนู่นนี่เลยกลับมา แต่เพื่อนเราค่ะ เค้ากลับมีอาการแปลกๆ ระแวงทุกอย่าง กลัวทุกอย่าง ร้องไห้ไม่หยุด แล้วก็เริ่มพูดแปลกๆ ตอนแรกครอบครัวเพื่อนนึกว่ไม่ได้เป็นอะไร แต่หลังๆอาการเค้าเริ่มหนักขึ้น หนักขึ้น จนต้องเข้าพบจิตแพทย์ และต้องดรอปเรียน 1ปี และตอนนี้ยังรักษาเรื่อยๆนะคะ
-คุณครูที่เชิญพระอาจารย์ให้มาเข้าค่ายนี้เป็นคุณครูฝ่ายปกครอง ที่ค่อนข้างเอิ่ม.. เขาบอกว่าเขาเคยเข้าและชอบค่ายนี้มาก(ไม่แปลกใจ)
-หลังจากเพื่อนเข้าพบจิตแพทย์พวกเพื่อนๆไม่นิ่งเฉยนะคะ ไปบอกอาจารย์หลายท่าน และตอนนี้โรงเรียนได้เปลี่ยนเป็นค่ายธรรมะเต็มตัว ที่พาไปนั่งสมาธิที่วัด อะไรประมาณนี้
-หลังจากไปบอกอาจารณ์ว่าต้องพบจิตแพทย์ คุณครูท่านนั้นที่เชิญพระอาจารย์มา เขาบอกว่าเพื่อนเรา โดน ผี เข้า เพราะทำอะไรไม่ดีไว้ในค่าย โอ้โหหหหหห โกรธมากค่ะ โกรธมากจนทุกวันนี้ เพื่อนเป็นแค่ตุ๊ดเด็กตั้งใจเรียนคนนึง เค้าพูดแบบไม่ให้เกียรติเลย แล้ว....นี่คือคนที่มีวุฒิภาวะจริงๆหรอ มีลือกันในพวกครู ฟังไม่ผิดนะคะ กลุ่มคุณครูนี่แหละ ว่า เพื่อนเราอ้วกเป็นอะไรไม่รู้สีดำๆ น่าจะโดนของ เอิ่ม... ไปใหญ่มากค่ะ
บอกเลยนะคะ ถ้าตอนนั้นโซเชียลกำลังบูม เรื่องนี้จะเป็นอะไรที่เราไม่ยอมแน่ๆ วันนี้ที่มาเขียนกระทู้เพราะได้กลับไปคุยกับเพื่อนคนนั้น และรู้สึกสงสารเค้ามาก ไม่น่ามาเจออะไรแบบนี้ ถ้าตอนนั้นมันไม่มาเข้าค่ายนี่ อาจมีอนาคตที่ดีกว่านี้ซะอีก
-----ทุกเรื่องที่กล่าวมาเป็นเรื่องจริง อาจจะมีดีเทลเยอะกว่านี้อีกค่ะ แต่จำไม่ได้แล้วเรื่องเกิดขึ้นนานมาก
----ผิดพลาดอะไรขออภัยด้วยนะคะ
---ปล.จบค่ายคนที่เป็นพี่เลี้ยงเข้าโรงบาลให้น้ำเกลือหลายคนเลยค่ะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>50
คนบ้าที่ไหนจะพลิกฟื้นจากอับจนกลับมาร่ำรวยได้

>>48 มึงเอาชื่อไปเซิร์จในห้องสมุดก็เจอบันทึกแล้วมั้ย ถ้าไม่อยากโง่เหมือนในบันทึกก็ไปหาอ่าน ไม่ใช่รอคนอื่นมาป้อน

>>48 อย่าแปลกใจทำไมโดนหลอกง่าย

สิ่งหนึ่งที่จะเกิดจากระบบนี้คือ value ที่ไม่ได้มาจากเงินทอง
เป็น social value ที่ฝั่งตะวันตกพยายามอยากสร้างมานาน (แต่ก็ยังทำเป็นรูปเป็นร่างไม่ได้)

คุณรับผิดชอบต่อสังคมแล้วจะได้อะไร, มีวินัยแล้วจะได้อะไร, รางวัลอาจจะมาในรูปแบบส่วนลดพิเศษ หรือสิทธิพิเศษต่างๆ ในการใช้บริการสาธารณะ

ในทางกลับกัน หากใครเคยอ่าน 1984 ก็จะรู้สึกว่าโลกของ Big Brother มันใกล้เข้ามาทุกที

>>50 แม่งอ่านคอมเม้นต์ในทวีตCNNด่าทรัมป์ราวกับจะทำประเทศล่ม

สำหรับการประกวด Mr Gay World Thailand รอบตอบคำถาม เอาจริงๆ จะตอบผิดตอบถูกมันไม่สำคัญ เท่ากับการตอบอย่างมั่นใจ เสียงชัดถ้อยชัดคำ หนักแน่น ไม่แบบว่า "เอ่อ.. อ่า.. แบบว่า.. เอ่อ..." เสียงอ่อยๆ เหนียมๆ

และไม่เอาแบบพวกนางงามเดินสาย เทพีสงกรานต์ ประกวดนางนพมาศ เทพบุตรสลุงหลวง ซึ่งพวกนี้จะมี "โครงสร้างคำตอบที่ถูกตั้งโปรแกรมมาแล้ว"

เช่น ถ้าถูกถามว่า "คิดอย่างไรกับนิตยสารนู้ดเกย์" นางงามเดินสายคงตอบว่า "เป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะชาติเรามีวัฒนธรรมอันดีงาม คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกเป็นคนดีได้ ขอบคุณค่ะ" ถ้าตอบแบบนี้ ฉันให้ตุ๊บเลย

แต่คนชนะปีนี้ ตอบทำนองว่า "ไม่ใช่เรื่องผิด ไม่ควรห้าม เป็นเสรีภาพที่เขาจะถ่าย เพราะในต่างประเทศมันคือธุรกิจอย่างหนึ่ง เป็นความบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่ดู แต่เราควรจำกัดอายุ ควบคุมไม่ให้เด็กและเยาวชนดูต่างหาก" เห็นมะ ไม่ตอบแบบพวกนางงามเดินสาย ตอบแบบหัวก้าวหน้า

หรือคำถามอย่าง "คุณคิดอย่างไรที่มีคนบอกว่าซีรี่ส์เกย์ ทำให้เด็กอยากเป็นเกย์" พวกนางงามเดินสายก็คงตอบว่า "ซีรี่ส์เกย์ไม่น่าจะทำให้เด็กอยากเป็นเกย์ แต่แนะนำให้พ่อแม่คอยอธิบายสิ่งที่ลูกๆดู ระฆังดังเพราะคนตี คนดีเพราะมีคุณธรรม ขอบคุณค่ะ" ถ้าตอบแบบนี้ ฉันเฉยๆ

ซึ่งคำถามนี้ ฉันเคยได้ยินนักสิทธิเพื่อชาวเกย์พูดออกทีวีนะ เค้าตอบว่า "เกย์ไม่ใช่อาชญากร เกย์ไม่ใช่คนเลว ถ้าเด็กดูซีรี่ส์เกย์ แล้วอยากลองมีแฟนเป็นผู้ชาย มันก็ไม่ใช่เรื่องผิด เป็นสิทธิเสรีภาพในการตัดสินใจของเด็กคนนั้น เหมือนเด็กดูละคร เห็นพระเอกเป็นหมอ แล้วอยากเป็นหมอเหมือนพระเอก มันก็เป็นสิทธิของเด็ก" ซึ่งเป็นคำตอบที่โอเคนะ

>>58 หัวก้าวหน้า Great All

เมื่อวานนี้มีข่าวใหญ่ว่าทีมวิจัยจากจีนได้พันธุวิศวกรรมเด็กทารกสำเร็จ เดี๋ยววันนี้แอดมินจะสรุปประเด็นหลักๆให้ฟัง

1. ถาม: เรื่องนี้ใหม่ยังไง?
ตอบ: นักวิจัยจากหลายแล็บทั่วโลกได้ทดลองปรับแต่งพันธุกรรมเซลล์มนุษย์มานานแล้ว แต่ที่ผ่านมาทำในแค่เซลล์เพาะเลี้ยงซึ่งไม่สามารถพัฒนาเป็นตัวอ่อนมนุษย์ หรืออย่างมากก็ทำในตัวอ่อนที่ผิดปกติเกินกว่าจะโตมาเป็นทารกได้ ทั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลทั้งทางจริยธรรม, ข้อห้ามทางกฏหมาย และความยากทางเทคนิกเช่นการทำให้เซลล์ทุกเซลล์ในตัวอ่อนได้รับการปรับแก้อย่างทั่วถึง ตลอดจนผลข้างเคียงจากการปรับแต่งดีเอ็นเอพลาดเป้า ดังนั้นถ้างานนี้เป็นจริงก็จะเป็นครั้งแรกของโลกที่เราได้ให้กำเนิดมนุษยปรับแต่งพันธุกรรม

2. ถาม: วิศวกรรมอะไร? ยังไง?
ตอบ: งานนี้ทีมวิจัยใช้เทคโนโลยีCRISPR/Cas (อ่านเพิ่มเติมที่: https://www.facebook.com/biologybeyondnature/photos/a.680275942134989.1073741828.675718615924055/881894751973106/?type=3&theater ) เทคนิกปรับแก้จีโนมยอดนิยมที่ทั้งง่าย ไว ถูก และประสิทธิภาพสูงกว่าเทคนิกก่อนหน้านี้เป็นร้อยเป็นพันเท่า เป้าหมายในการปรับแก้คือยีนที่ชื่อว่า CCR5 ทำหน้าที่สังเคราะห์โปรตีนชนิดหนึ่งที่ผิวเซลล์เม็ดเลือดขาว โปรตีนนี้เป็นประตูทางเข้าที่ไวรัสHIVใช้จู่โจมเซลล์ คนไหนที่ยีนนี้เสียไปก็จะทนทานต่อการติดเชื้อ HIV ทีมวิจัยใช้ CRISPR/Cas ทำลายยีนนี้ระหว่างการผสมเด็กหลอดแก้ว (IVF) เพื่อสร้างทารกที่ทนต่อ HIV

3. ถาม: ใครเป็นคนทำ?
ตอบ: ทีมวิจัยนี้มาจาก Southern University of Science and Technology (SUST) ที่เมืองเชินเจิ้น ประเทศจีน นำทีมโดย Jiankui He ( http://www.sustc-genome.org.cn/index.html ) นักวิจัยหนุ่มชาวจีนดีกรีอเมริกันอายุน่าจะแค่สามสิบต้นๆ He จบป.เอกจากมหาวิทยาลัย Rice และเคยไปนักวิจัยหลังป.เอก (postdoc) ก้นกุฏิของ Stephen Quake แห่งมหาวิทยาลัย Stanford ( https://en.wikipedia.org/wiki/Stephen_Quake ) นอกเหนือจากงานพันธุวิศวกรรมเซลล์มนุษย์แล้ว He ยังเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกเทคโนโลยีการอ่านลำดับเบสจากดีเอ็นเอโมเลกุลเดี่ยว (single molecule sequencing) และได้ร่วมก่อตั้งบริษัท Direct Genomics จากเทคโนโลยีนี้

4. ถาม: ทำไปถึงไหนแล้ว?
ตอบ: จากข้อมูลบนฐานข้อมูลการทดลองทางคลินิก(Clinical Trials) ของจีน ( http://www.chictr.org.cn/showprojen.aspx?proj=32758 ) ระบุว่าโครงการนี้ผ่านกรรมการจริยธรรมตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว (2017) มีข้อมูลวิเคราะห์พันธุกรรมของตัวอ่อนถึงระยะเวลาอย่างน้อยหกเดือน (24 สัปดาห์) ในครรภ์ นอกจากนี้หัวหน้าทีมวิจัยยังได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวและปล่อยยูทูปวิดีโอ ( https://www.youtube.com/watch?v=th0vnOmFltc ) เคลมว่าสามีภรรยาคู่หนึ่งที่เข้าร่วมโครงการวิจัยนี้ได้ให้กำเนิดฝาแฝดเพศหญิงชื่อ “ลูลู่” กับ “นาน่า” อย่างไรก็ตามงานนี้ยังไม่มีผลงานตีพิมพ์ออกมาเต็มๆในวารสารวิชาการที่ผ่านการกลั่นกรองจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก ดังนั้นเราก็อย่าเพิ่งปักใจเชื่อทุกอย่างในข่าว

5. ถาม: งานนี้ถูกกฏหมายไหม?
ตอบ: การวิศวกรรมตัวอ่อนมนุษย์ถึงขั้นปลูกถ่ายให้ตั้งครรภ์ยังเป็นเรื่องผิดกฏหมายในยุโรปและสหรัฐ แม้แต่ประเทศจีนเองก็มีข้อแนะนำ(guideline)ห้ามคลินิกเด็กหลอดแก้วทำอะไรแบบนี้ สำหรับเคสงานวิจัยในข่าวยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษหรือว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อแนะนำ (ซึ่งอาจจะไม่ได้มีผลทางกฏหมายจริงๆ) ล่าสุดนักวิจัยจีนกว่าร้อยคนได้ออกมาแถลงการณ์ประท้วง ส่วนทางมหาลัยเองก็ปฏิเสธไม่รู้เห็นกับงานวิจัยชิ้นนี้และให้เรียกทีมวิจัยมาสอบสวนโดยด่วน ( https://www.technologyreview.com/s/612466/the-chinese-scientist-who-claims-he-made-crispr-babies-has-been-suspended-without-pay/ )

(ต่อเม้นล่าง)

(ต่อจาก >>60 )

6. ถาม: ภาคประชาชนมีความเห็นอย่างไร?
ตอบ: ผลโพลสำรวจความเห็นจากชาวจีนสี่พันกว่าคนพบว่ากว่า 60% ยินดีจะให้มีการปรับแต่งพันธุกรรมเด็กทารกเพื่อการป้องกันหรือรักษาโรค ในอเมริกา ผลการสำรวจความเห็นประชาชนกว่าสองพันห้าร้อยคนเมื่อต้นปีนี้ (2018) พบว่ากว่า 70% เห็นด้วยที่จะใช้การปรับแต่พันธุกรรมรักษาโรคเด็ก 60% เห็นด้วยที่จะใช้ลดความเสี่ยงการเกิดโรค แต่มีเพียง 19% ที่เห็นว่าการออกแบบเด็กให้ฉลาดขึ้นเป็นเรื่องเหมาะสม

7. ถาม: อะไรคือประเด็นถกเถียงหลักๆเชิงศีลธรรม?
ตอบ: แทบทุกคนเห็นตรงกันว่าการพันธุวิศวกรรมทารกเพื่อการรักษา (treatment)เป็นเรื่องควรทำ ส่วนพันธุวิศวกรรมเพื่อเสริมสมรรถนะ (enhancement) เป็นเรื่องไม่ควรทำ ปัญหาคือหลายๆครั้งเราอยู่ในโซนสีเทาๆระหว่าง treatment VS enhancement อย่างกรณีในข่าวนี้การวิศวกรรมให้ได้มนุษย์ต้านHIVก็ยังไม่ถือเป็น treatment ซะทีเดียวเพราะไม่ได้ทำให้โรคอะไรหายไปจากเด็ก แต่ลดโอกาสการติดโรคกับเด็กในอนาคต ...คิดๆไปแล้วก็ถือว่าเป็น enhancement อย่างนึงเหมือนกัน ถ้าเคสนี้ทำได้เราควรป้องกันโรคอื่นด้วยได้ไหม เช่น โรคหวัด โรคภูมิแพ้ โรคอ้วน โรคสมาธิสั้น ฯลฯ? ถ้าเรามองว่าเด็กที่มีโอกาสโตมาแล้วเตี้ยแคระแกร็นควรได้รับการแก้ไขยีน งั้นเด็กที่ค่อนข้างเตี้ยเฉยๆหละ?

เราจะเอาอะไรมาเป็นเส้นแบ่งว่าความผิดปกติขนาดไหนจึงจัดว่าเป็น “โรคที่ควรได้รับการรักษา” และแบบไหนคือ “ความเสียเปรียบนิดๆหน่อยๆตามธรรมชาติ” ที่ควรต้องยอมรับสภาพ?

ถ้าเรารู้ว่าคนหน้าตาดี ตัวสูง กล้ามใหญ่ หัวไว ฯลฯ จะมีโอกาสในชีวิตเยอะกว่า งั้นเรามีสิทธิอะไรไป “ห้าม” ไม่ให้เด็กคนนึงได้รับโอกาสนั้น ...ถ้าเทคโนโลยีจะเนรมิตให้เค้าได้และพ่อแม่ของเขามีกำลังทรัพย์จะจ่าย?

แน่นอนว่าการเปิดให้ทุกคนปรับแต่งจีโนมอย่างอิสระจะนำมาซึ่งความเหลื่อมล้ำอย่างมหาศาล เพราะต่อไปนี้มรดกที่คนร่ำรวยส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นจะไม่ใช่แค่ที่ดิน ธุรกิจ หรือเงินในบัญชี แต่จะเป็น "สุดยอดยีนปรับแต่ง" ที่จะสืบทอดไปชั่วลูกชั่วหลาน โลกอนาคตจะมีเผ่าที่โคตรรวย โครตสวย โครตเก่ง แล้วก็เผ่าที่ไม่มีอะไรเลยเป็นเบี้ยล่างตลอดกาล

หรือมองในมุมกลับ การปรับแต่งจีโนมจะควรเป็นสิทธิพื้นฐานของทุกคนเลยด้วยซ้ำไหม? เหมือนกับการรักษาพยาบาล การได้วัคซีน การอ่านออกเขียนได้? วันหนึ่งในอนาคตพ่อแม่คนไหนที่ “เลือก” ไม่ปรับแก้จีโนมลูกให้ดีตามมาตรฐานแต่กลับปล่อยมันตามมีตามเกิดอาจจะต้องรับโทษตามกฏหมาย ถูกประณามหยามเหยียด แบบเดียวกับพ่อแม่ที่ไม่พาลูกไปฉีดวัคซีนหรือเรียนหนังสือ?

เรื่องพวกนี้เราถกเถียงกันได้ไม่รู้จบ แต่เวลาที่ต้องตัดสินใจว่าจะเอายังไงแน่มันใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้ว!

Reference:
https://www.bloomberg.com/news/articles/2018-11-26/urgent-ap-exclusive-first-gene-edited-babies-claimed-in-china
https://www.technologyreview.com/s/612458/exclusive-chinese-scientists-are-creating-crispr-babies/

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ในขณะที่ต้นแบบเจ๊กโอตะจิตคุงเป็นโรกไคร่เด็ก เจ๊กหม่าโดนสีจิ้นผิงเปิดตัวเข้าวงการการเมืองเต็มตัว ต้นแบบไทยแท้ Elon ก็กำลังพยายามอย่างหนักจะยึดดาวอังคาร มัสบอก Neuralink จะทำให้ทุกคนสามารถเข้าใจข้อมูลได้เทียบเท่าอัจฉริยะ ธเนศรู้หรือไม่ทีมที่มัสสร้างขึ้นเพื่อไปดาวอังคาร ทำงานหนักที่สุดในโลก สิ่งที่น่าสนใจ มัส รู้ว่าเค้าต้องทำอะไรหนักแค่ไหนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในสิ่งที่ไม่มีใครทำได้ วิธีคิดแบบมัสจะถูกสอนในอนาคตแน่นอน ธเนศ ในขณะเจ๊กเป็นโรกซึ่มเด่าเป็นโรกไคร่เด็กมีอาการเบิร์นเอาต์ ซินโดรมเพียงเพราะงานอันน้อยนิจที่พวกมันทำโคตรฮา เด็กไทยแท้ก็พยายามอย่างหนักทำให้ประเทศเดินต่อไปได้โดยไม่ทิ้งใครและไม่ทำให้ใครต้องออกมาตายข้างถนน ความยิ่งใหญ่พวกเราและพวกนายต่างกันเยอะว่ะธเนศ
555555+ คงเพราะต้นแบบเรามันต่างกันด้วยมั้ง
https://www.theguardian.com/technology/2018/nov/25/elon-musk-move-mars-chance-of-death

ใครอ่าน >>62 รู้เรื่องมั่ง?

หรือเราโง่คนเดัยว?

ชาวจีนหลายล้านจองตั๋วรถไฟ-เครื่องบินไม่ได้ เหตุ 'คะแนนความประพฤติ' ต่ำ

รัฐบาลจีนมีการจำกัดเสรีภาพรูปแบบใหม่ด้วยการให้ประชาชนมี "เครดิตทางสังคม" เสมือนคะแนนความประพฤติ คนที่มีน้อยก็จองตั๋วโดยสารเครื่องบินหรือรถไฟไม่ได้ มีแผนใช้เป็นทางการอีก 2 ปีหน้า แต่มีทดลองใช้แล้วบางเมือง รัฐบาลกำหนดเกณฑ์ตัดสินแต่ก็ยังกำกวม ซื้อวิดีโอเกมมากไปก็ยังเข้าข่าย แถมยังโดนประจานต่อสาธารณะ

https://prachatai.com/journal/2018/11/79814

>>64
แม่งยังกะระบบซีบิล

>>64 ระบบนี้พี่น้องพันทิปชอบแน่ๆ หลังจากที่รำคาญใจกับพวกตลาดล่างร่วมชาติมานาน จะได้มีระบบดัดสันดานพวกตลาดล่างให้ดีขึ้นไม่ก็ตายๆ ไปซะ

>>64 เพจข่าวฝรั่งซักเพจลงข่าวนี้เมื่อระยะนึงที่ผ่านมา มีเจ๊กเข้ามาดิ้นเบรคแดนซ์กันใหญ่เลยว่าไม่มี๊ไม่มี พวกGwei Loมันใส่ร้ายจีน พวกwhite devilโกหกเพราะอิจฉาไชน่านัมบาวาน

ก็สมแล้วที่โดนเฮียหมีพูพ์เอากะลาครอบได้ง่ายๆ

>>64 ว่ากันตามตรงมันก็เหมาะกับ จีน ดีนะ เนื่องจากพฤติกรรมคนในชาติแม่งทรามมาก

กูรอดูสงครามกลางเมือง อยากให้จีนแตกหวะ

>>69
กูว่าไทยแตกก่อนหว่ะ เศรฐกิจดีใครจะปกครองระบบไหนก็ได้

นายยกไทยแท้เราก็กำลังทำงานของตัวเองอย่างเต็มความสามารถที่ท่านมีเช่นเดียวกัน ธเนศ ส่วนพวกเจ๊กทำไร บ้าน้ำลายไง 555+ ธเนศทำไร รอวันตายแบบชิวๆ กันไปใช่เปล่า เจ๊กไทยร้องงานหนักเป็นโรกเต็ม facebook จนต้องจัดตั้ง เด็กออกมาร้องเพลงเพื่อส่องใต้กระโปงรอวันตาย ไทยแท้ทุกอายุก็ทำงานพัฒนาตัวเองอย่างหนักตามวิถีไทยแท้เพื่อทำให้ลูกหลานพวกเค้าได้มีอนาคตต่อไป โดยมีเจ๊กกบฏ ตามเกาะสร้างปัญหาล่ำไป 5555555+ ค่าของคนทำงานอยู่ที่ผลของงาน แล้วค่านิยมเจ๊กโอตะจิตคุงเป็นโรกไคร่เด็กมีอาการป่วยทางอารมย์ คืออะไร ตอบ ใต่กระโปงเด็กไอดอนไงเล่า บ้าบอวงการคนป่วยจัดเด็กมาส่องใต้กระโปงเพื่อรักษาอาการป่วยจิตๆ โคตรบ้าบอคอแตก เจ๊กอยากเป็นยุ่น ไม่มีแก่นไล้ราก
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/videos/185844965694730/

>>71 ใต้ตีนตัวใหม่เหรอมึง เห็นโชว์โง่มา 2-3 วัน แล้ว อันนี้เอาไว้แชร์ quote โว้ย ไปหาในกระทู้ข่าวนู่น

>>72 *ไปเห่า

https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1242658

ผิดแล้วไม่ยอมรับผิด ตัวท่านเองเป็นพระนักเทศน์ คำพูดของท่านมีผลต่อผู้เลื่อมใสศรัทธา ที่มีจำนวนไม่น้อย จึงต้องคิดให้ดีๆ ก่อนที่จะพูดหรือเขียนอะไรออกมา จุดขายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท่าน คือชอบประดิษฐ์คิดค้นถ้อยคำแปลกๆ ใหม่ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจของคนฟังคนอ่าน เหมือน ศ.นพ.ประเวศ วะสี ที่เวลาพูดจาแต่ละที คนฟังจะสตั๊นไป 3-5 วิ หรือนานกว่านั้น หากยังไม่เก็ต

แต่พอตัวเองพูดพลาด ก็น่าจะยอมรับว่าพลาด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ของคนที่ชอบเล่นวาทะโวหาร แต่กลับไม่ยอมรับ แล้วยังโยนความผิดไปให้คนอื่น ก็ตัวเองเป็นคนพูด (เขียน) ประโยคนี้ "จะพูดว่าฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคนก็ได้" ซึ่งเป็นประโยคที่ผิดพลาดอย่างรุนแรง ไม่ว่าบริบทรอบข้างจะเป็นอย่างไร

หรือต่อให้พิจารณาบริบทรอบข้างด้วยก็ตาม การที่คนคนหนึ่ง เขาอยู่เฉยๆ ฆ่าเวลาของเขาเอง ซึ่งอาจจะเป็นเพียงการพักเหนื่อยชั่วคราว หรือต่อให้มีนิสัยเกียจคร้าน มันก็เป็นเรื่องของเขา และจะบาปกว่าการฆ่าคนได้ยังไง ? ถ้าบาปกว่า ทำไมพระพุทธเจ้าไม่บัญญัติเอาไว้ในศีล 5 ?

บอกว่าหมายความถึงการใช้เวลาให้เกิดคุณค่า ก็ต้องไปพูดเรื่องคุณค่าของเวลา ไม่ใช่เรื่องบาป ทำให้คนฟังคนอ่านเข้าใจผิด จนเกิดมิจฉาทิฐิ ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นเพราะท่านชอบใช้ถ้อยคำแปลกๆ เพื่อเรียกความสนใจ ก็แค่นั้นเอง

แล้วข้อความ “อร่อยจนลืมกลับวัด” พร้อมลายเซ็น กับวาดรูปตัวปลาด้วย นี่ก็เป็นความผิดของสื่อด้วยมั้ย ? เป็นนักบวชมีหน้าที่ช่วยโฆษณาให้ร้านอาหาร ? แถมยังเป็นการโฆษณาเกี่ยวกับกิเลสในรสสัมผัส แล้วไอ่รูปตัวปลาที่วาดเนี่ย คือจะโฆษณาว่าปลาร้านเขาอร่อย คนจะได้สั่งมากินเยอะๆ ทำให้ปลาถูกฆ่าตายมากขึ้น ? หรือว่าวันนั้นกินปลาเข้าไปด้วย และเกิดติดใจในรสชาติ ?

ยังไม่หมด ยังมี "อย่างมงายในวิทยาศาสตร์" "คนสมัยโบราณ เหาะเหินเดินอากาศได้" ประโยคแบบนี้ พูดออกมาได้ยังไง ? ถ้าพูดกับตัวเองคนเดียว ก็ไม่เป็นไร แต่นี่พูดให้คนจำนวนมากฟัง น่าจะคิดก่อนพูด

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ไม่เข้าใจว่าจะหาทางรักษาเอดส์ให้ยุ่งยากและเสียเงินทองไปทำไม เอาง่ายๆ ก็แค่จับคนทุกคนมาตรวจหาเชื้อ hiv ถ้าเจอก็ฆ่าทิ้ง ถ้าทำอย่างเป็นระบบและจริงจัง ไม่เกิน 5 ปีโรตเอดส์ก็จะหมดไปจากมนุษย์​

>>75 งี้มึงก็ไม่ได้เกิดแล้ว แม่มึงโดนจับฆ่าไปก่อนมึงเกิด

>>75 ครับท่านผู้นำ มาถึงที่นี่เลยนะครับ

>>75 HIV นะโว้ยไม่ใช้กาฬโรค มันไม่ได้ติดกันง่ายขนาดนั้น (นอกจากพวกสำส่อน)

อาจารย์ธงทองแดงเคาะมาแล้วนะครับ เห็นหลายพรรคเปิดตัวคนรุ่นใหม่ พรรคสนุ้กเกอร์ไทยเราอาจจะไปเปิดรับ “นิวเดนสนุ้กเกอร์ไทย” ว่าจะตั้งโต๊ะรับสมัครที่หน้าสถานพินิจฯ เลย ส่วนพวกที่หลบหนีการจับกุมหลบหนีหมายจับอยู่จะยิ่งได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ สามารถไปสมัครได้ที่สาขาพรรคคลองเตยกับเตาปูนของพรรคเราได้

แน่นอนว่ากลุ่มนิวเดนนี่ถ้าน้องๆ อยากได้อัลไลรุ่นพี่ในพรรคยอมให้โลดครับ ผู้อาวุโสในพรรคกุมไข่ก้มหัวให้ครับๆ อย่างเดว - -“

#พรรคสนุ้กเกอร์ไทยพรรคการเมืองของคนใต้ถุนสังคม
#นิวเดนสนุ้กเกอร์ไทย
#โปลิตบูโรรึจะสู้นิวเดน

>>64 เคยคิดเรื่องนึงคือ ถ้าพลเมืองมารยาททรามพวกนี้เจอกดดันรอบข้างมากๆเข้า ทั้งแกล้งทำให้เน็ตห่วย ลูกหลานเรียนไม่ได้ น้ำไฟเปิดไม่ติด มันไม่อัพเกรดเป็นโจรกันหรอกเหรอ เจ๊กแม่งระบบรักษาความปลอดภัยจะเข้มงวดขนาดไหนเชียว ถ้ามันอยู่เมืองเจริญๆยากก็หนีไปเมืองด้อยพัฒนาก่อเหตุได้สารพัดอีก สรุปคือเหมือนสร้างแหล่งเสื่อมโทรมในประเทศเพิ่มมาอีกดง

>>80 เมืองจีนไม่แคร์อยู่แล้วที่จะสังหารพลเมืองทิ้ง คนแม่งพันกว่าล้าน อยากลดประชากรจะตายห่า สถิติการประหารชีวิตจีนที่สูงสุดในโลกนะ เฉลี่ยพันศพต่อปีอะ

กูว่าระบบ Social Credit นี่แม่งเป็นที่สุดแล้วของการสร้างพลเมืองสุดแกร่งและเก่ง คือคนไม่ถึงเกณฑ์จะถูกบีบให้ตายไปด้วยกฎหมายอื่นๆ (กระจอกเกินจะสู้ในระบบ ถูกคัดออกไปเป็นโจรแล้วก็ถูกปราบอย่างหมาข้างถนน) พอถึงวันหนึ่งก็จะเหลือแต่คนเก่งๆ ในขณะที่ประเทศอื่นๆ มีเสรีภาพ คนส่วนใหญ่รักสบายจนอ่อนแอ แถมยังยึดหลักไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง คนอ่อนแอเลยเป็นภาระ

สุดท้ายจีนจึงครองโลกได้เพราะแบบนี้

>>81 มองโลกแคบไปนะ ที่ทุกวันนี้คนรวยยังรวยเอาๆเพราะมีคนจนเป็นฐานให้เหยียบนะ จีนมันลดอัตราเกิดประชากรไม่ใช่ลดประชากร แรงงานคนก็เป็นทรัพยากรประเภทนึง ที่จีนเจริญเอาๆ เพราะคนมันเยอะแล้วตลาดใหญ่หรอกต่างชาติเลยมาลงทุนไม่ได้เกี่ยวกับคุณภาพคนเลย แล้วที่ประหารส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่คดีอาชญกรรมแต่เป็นคดีการเมือง บ่งบอกให้เห็นถึงความเหี้ยของรัฐบาล ไม่ใช่ความเด็ดขาดหรือจัดการเก่ง

>>82 แต่มันก็ต้องควบคุม ถ้าไม่ลดประชากรเลย ต่อไปก็จะมีแต่คนแก่ กูเห็นว่าจีนทำ 2 อย่าง คือใช้ระบบไอ้ที่ว่านี่สร้างคนให้มีคุณภาพที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนพวกด้อยคุณภาพก็กำจัดทิ้งซะ

อย่างเมืองไทย เรามีประชากรระดับล่างที่สร้าง GDP ได้ต่ำมากกว่า 10 ล้านคน (หลักๆ คือภาคเกษตร) พวกนี้ถ้ามองแบบตัดมนุษยธรรมออกนี่แม่งเป็นภาระโคตรๆ เลยนะ งบประมาณเจียดไปอุดหนุนทุกปี พักหนี้เรื่อยๆ แถมไปบังคับปรับเปลี่ยนอะไรก็ไม่ได้ อ้างสารพัด และบังคับจริงๆ ก็ไม่ได้ด้วยเพราะบ้านเราใจดี ก็อุ้มไปเรื่อยๆ นี่ละ ทีนี้คนไม่มีเงินฟู่ฟ่า มันจะไปซื้อของบ่อยๆ ทำกำไรให้คนรวยได้ไง แต่ถ้ามีการอัพเกรดให้พลเมืองส่วนใหญ่ทำการผลิตได้มากในมูลค่าสูง อันนี้แหละคนรวยจะรวยขึ้นด้วยเพราะยังไงพวกนี้ก็ต้องเอาเงินมาซื้อของหรูๆ แพงๆ แถมได้กำจัดพวกด้อยคุณภาพทิ้ง ไม่ต้องเปลืองงบหลวงเลี้ยงดู

คนชั้นกลางในจีนกะลังโตขึ้นเรื่อยๆ วัฒนธรรมตะวันตกเข้าถึงได้มากขึ้น ดูยังไงพรรคคอมจีนก็ไม่น่าได้จบสวย

ทุกวันนี้ที่พรรคยังอยู่ได้ก็เพราะแจกเงิน แจกของให้คนด้วยโปรแกรมต่างๆ ถ้าวันนึงแจกไม่ไหว(เพราะชั้นกลางเยอะขึ้น)จะอยู่ยังไง

>>83 เอาจริงๆสินค้า everyday need ที่ฐานลูกค้าเป็นรากหญ้ามันขายได้กำไรดีกว่าสินค้า luxury ไง ดู cp ก็ได้รวยเอารวยเอา
ถ้าดูเศรษฐกิจระดับประเทศมันดูแค่ gdp อย่างเดียวไม่ได้นะมึง ถ้าคิดงี้อาชีพสายบริการ หรืออาชีพสายสังคมที่ไม่มีผลผลิตทางเศรษฐกิจ แม่งภาระหมดเลยนะงั้น

>>82 กูไม่ได้มองโลกแคบแต่ว่ามันไม่รอบคอบ อย่าลืมนะมึง จีนใหญ่โตมาก ระบบsecurityห่าไรของมันใช้ได้แค่เมืองใหญ่ๆ มณฑลยักษ์ๆแบบ เซี่ยงไฮ้ ปั่กกิ่ง หรือที่ดินใหญ่ๆแต่ประชากรน้อยๆอย่างเหยหลงเจียงยังพอได้ มันสามารถตีกรอบคนในตัวเมืองให้อยู่เป็นระเบียบ เอามาใช้ก็ควรสอนให้รู้จักระเบียบในการใชัชีวิตในเมือง ใครทำไม่ได้ควรไปอยู่ ตจว. เอามาใช้ทั้งประเทศคือไม่ควร ลองคิดถึงมณฑลอื่นๆด้อยความเจริญสิ เอาระบบแบบนี้มาไม่ได้ช่วยห่าไร เผลอๆคนเค้ามองว่าแม่งกลั่นแกล้งคนในพื้นที่ตรงนั้นอีก ใช้นโยบายแบบนี้เหมาะกับชาติที่รัฐบาลเก่งจริงๆและประเทศเล็กมากๆแบบสิงคโปร์เพื่อจัดระเบียบให้วุ่นวายน้อยลง เท่าที่กูอ่านๆเนื้อหาข่าวมาละนะ ถ้าเล่นถึงขั้นรุกรานปัจจัย4กับเรื่องเบสิกๆอย่างการศึกษาแล้วลามปามยันลูกหลานด้วยใครๆก็อยู่ไม่ได้หรอก แล้วคนเก่งจริงๆจะกลายเป็นคนส่วนน้อยเพราะตามธรรมชาติแล้วของดีๆแม่งมีแค่นิดเดียว ที่เหลือแม่งก็ไม่ต่างกับโดนรังแกไง แล้วมีคนบอกว่าชาติไทยควรเอามาใช้บ้างนี่บอกเลยว่าคิดผิดชิบหาย เพราะแค่เรื่องอาชญากรรมทั่วๆไปตำรวจยังเมิน นับประสาอะไรกับเอาระบบนี้มาใช้วะ? มันส่งเสริมให้คนเป็นอนาธิปไตยมากขึ้นกว่าเดิมอีก

>>86 อ้าว ชี้ผิดโทษๆ >>83

>>86 กูเห็นว่าเป็นการควบคุมพวกสิทธิการเดินทาง ยังไม่ถึงขั้นปัจจัย 4 นะ บีบเกินไปคนก็ต่อต้านเป็นธรรมดา ส่วนเอามาใช้กับไทยคงยาก เพราะบ้านเรา Internet ยังเสรี รัฐไม่ได้คุมแบบเบ็ดเสร็จอย่างจีน แถมยังไม่เป็นสังคมไร้เงินสดด้วย จีนนี่แม่งใช้ qr code กันเกลื่อนละ

น่าสนใจว่าสุดท้ายจะจบแบบไซโคพาสไหม

>>89 อย่าเอาสมองตู่ สมองไดโนเสาร์มาใช้ก็พอ

"ตอนวัยรุ่น ที่เริ่มสนใจทำงานทางสังคมผมโตมากับการ training และแคมเปญที่พร่ำสอนประมาณว่า "พลังคนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงสังคม" ก็ดันหลงไปเชื่อเขาอยู่พักนึง เลยทำงานกันแบบสู้ยิบตา อยากเห็นสังคมดีขึ้น

ปรากฏว่า สังคมยังไม่เปลี่ยน ผ่านมาสิบกว่าปี เห็นมีแต่ถอยหลัง

ซ้ำร้าย ระหว่างทางสิบกว่าปีที่ผ่านมา ยังต้องทนเห็นเพื่อนร่วมรุ่น เพื่อนร่วมอุดมการณ์ค่อยๆ ถอดใจจากสนามการต่อสู้ไปทีละคน บ้างก็หมดหวัง บ้างก็ท้อถอย บ้างก็ยังไม่หมดหวังแต่ชีวิตมีภารกิจอย่างอื่นให้ต้องไปเดินตามมากมาย

ถ้าเราเจอเป้าที่หมายมั่นว่า เมื่อรวมพลังกันเข้าตีทีเดียวพร้อมกันแล้วสังคมจะเปลี่ยนทันทีเลย ก็น่าจะปลูกฝังคนรุ่นใหม่กันต่อไปให้ใจกล้าลุกขึ้นพุ่งไปหาเป้า แต่ถ้าเป้าหมายแบบนั้นมันไม่มีอยู่ ก็น่าจะเลิกสอนกันแบบนี้ได้แล้ว เพราะยิ่งทำแบบหวังสร้างความเปลี่ยนแปลงก็ยิ่งแรงหมดเร็ว

ในทางตรงกันข้าม เราน่าจะหาวิธีสอนคนรุ่นใหม่ให้มองเห็นถึงความเป็นจริงเรื่องปัญหาสังคมที่เกิดจากการกดทับทางโครงสร้างดีกว่า ให้มองเห็นว่า ขณะที่คนกลุ่มหนึ่งพยายามจะเปลี่ยนสังคมไปทางหนึ่ง ก็มีอำนาจอีกบางอย่างมาดึงรั้งไปอีกทางหนึ่ง อย่างไร และเพื่ออะไร เพื่อให้เติบโตขึ้นมาอย่างมีวุฒิภาวะ มองโลกตามความเป็นจริง จัดสรรกำลังตัวเองและกำลังงานได้เหมาะสมกับสภาพปัญหาที่มีอยู่ ไม่ต้องแบกอาการเกรียนหัวร้อนไว้ตอนอายุน้อยกันทุกคน ก่อนจะมาปลงตกเอาตอนอายุมากเข้า"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>91 ไอ้โง่ มึงก็แค่ช่วยลดภาษีให้คนรวย รับใช้แหล่งฟอกเงิน สร้างชื่อเสียงให้หัวคะแนน เลิกได้แล้วไอ้สัส

เรื่องจีนนี่น่าสนใจจริงๆว่ะ แตกมู่เลยดีไหม

กระทู้จีน โม่งจอมยุทธเจ๊ก เสือกแดนมังกร

>>93 +1ดีกุว่าน่าจะยาวเรื่องนี้

Food for thought:
If you go to jail for tax evasion, you’re living off of taxes for not paying taxes.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>94 กูว่าแค่เท่าที่คุยยังถกในมู้ feed ข่าวได้นะ

พี่ครับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

http://www.aljazeera.com/programmes/witness/2018/11/thousand-girls-afghan-woman-fight-rape-181121194856288.html

A Thousand Girls Like Me: An Afghan Woman's Fight Against Rape

ทุกครั้งที่ข่มขืนเสร็จ พ่อจะนั่งแถวหน้าสุดเพื่อทำละหมาดในมัสยิด มือถือลูกประคำ ปากท่องบ่นถึง “พระเจ้า” ทุกคำ ไม่มีใครเชื่อว่าคนที่ดีงามเช่นนี้ จะข่มขืนลูกตัวเองได้นานถึง 13 ปี ท้องและแท้งมานับไม่ถ้วน Khatera สาวชาวอัฟกัน บอกในสารคดี เธอเอาเรื่องนี้ไปบอกกับผู้นำทางศาสนาถึง 14 คน ไม่มีใครเชื่อเธอเลย จนกระทั่งคนที่ 15 แต่บอกให้เธอไปร้องเรียนกับสื่อถึงจะได้ผล

ลูกคนแรกที่คลอดออกมาตอนที่เธอยังเป็นเด็ก พ่อเอาไปทิ้งให้ตายในทะเลทราย ต่อมาตั้งท้องกับพ่ออีกอย่างน้อยสี่ครั้ง และคลอดลูกสาวออกมา ขณะที่เป็นข่าว ตั้งท้องครั้งที่หกกับพ่อตัวเอง พิธีกรชายถามระหว่างออกรายการโทรทัศน์ว่า ทำไมปล่อยเรื่องไว้ตั้งนานหลายปี ถึงค่อยมาร้องเรียน เธอบอกว่าพ่อไม่เคยให้ไปนอกบ้านเลย โรงเรียนก็ไม่ให้ไป คนที่ครอบครัวรวมทั้งแม่รู้เรื่องนี้ดี แต่ถูกพ่อซ้อมทุบตี บังคับไม่ให้บอกใคร

Khatera บอกว่า หลังร้องเรียนเรื่องนี้ มีทั้งคนชมว่ากล้าหาญ และด่าว่าสร้างความอับอายขายขี้หน้าให้กับครอบครัวตัวเอง “เอาผ้าสกปรกมาซักต่อหน้าชาวบ้านเขาทำไม” บางคนว่าเธอย่างนั้น แต่ที่เธอทำแบบนี้ เพราะคิดถึงลูกสาวของตัวเอง ว่าอาจต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกันกับแม่ ลูกตัวเองบางครั้งเรียกเธอว่า “พี่” บางครั้งเรียกว่า “แม่” เป็นความสัมพันธ์ที่สับสนพิลึกกึกกือ

ก่อนหน้านี้ พ่อเคยตบแม่จนแท้งลูกถึงสองครั้ง แม่บอกว่า เวลาโมโห พ่อเหมือนหมีตัวใหญ่ที่เข้ามาตะปบเหยื่อ ตบจนฟันแม่หักไปหลายซี่ พ่อข่มขืนลูกต่อหน้าเมียของตัวเอง เมื่อเมียไปห้าม ก็ถูกตบ แม่ไปแจ้งเรื่องนี้กับผู้นำทางศาสนา ได้รับคำชี้แนะว่าให้ตื่นมาสวดมนต์ (ตอนลูกถูกพ่อข่มขืน) แม่บอกว่าสวดแล้ว แต่ยังทำใจไม่ได้

ส่วนกระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างล่าช้า แม้จะตรวจเลือดพบว่าลูกสาวเธอเกิดจากพ่อของตัวเอง แต่การไต่สวนยังไม่เริ่มขึ้น พอเริ่มการไต่สวนมูลฟ้อง ศาลบอกว่าเธอโกหก และห้ามไม่ให้เธอทำแท้ง เพื่อเก็บลูกไว้เป็น “หลักฐาน” ในการพิจารณาคดี และศาลจะพยายามซัก ถ้าได้ความว่าไม่มีการชัดขืน แสดงว่ามีความยินยอม (consent) ก็จะยกฟ้องผู้ชาย หรือไม่ก็เอาผิดกับผู้หญิงฐานมีเซ็กซ์อย่างผิดกฎหมายกับพ่อของตัวเอง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>98 อัลเลาะกำหนดไว้แล้วครับ โทษใครไม่ได้

ถ้าคนเราใช้พลังงานในการหวังดี และยุ่งเรื่องตัวเอง เหมือนกับที่ หวังดีกับคนอื่น และ ยุ่งเรื่องของคนอื่น
.
.
.
โลกคงจะดีขึ้นเยอะเลย
.
.
.
ป.ล.
เป็นประโยคสุภาพของ ไอสัสมีเวลาเสือกเรื่องชาวบ้าน
ชีวิตมึงดียัง ถ้ายังเอาเวลาไปเสือกชีวิตตัวเองโน่น

ชีวิตนี้รู้จักคนเก่ง ๆ ที่สามารถทำระบบเว็บที่รองรับคนหลักแสนคนได้อย่างง่ายดายเยอะพอสมควร แต่เว็บที่สำคัญต่ออนาคตชาติอย่าง TCAS ก็ยังคงล่มอยู่ เพราะคนที่ประมูลได้ไม่มีความสามารถเพียงพอ

เพื่อความแฟร์​ ความจริงอาจจะเพราะเงินที่ประมูลไม่เยอะพอที่จะทำระบบดี ๆ แต่อย่างไรก็ตาม มันมี Requirement ที่กำหนดไว้เรียบร้อยที่ต้องทำตามนั้นให้ได้ และคนที่ยื่นประมูลก็เป็นคนบอกเองว่าใช้เงินแค่นั้นพอก็ทำตาม Requirement ได้แล้ว

คราวนี้คงต้องเปิด Requirement มาดูทีละข้อละ หากทำตามที่กำหนดไม่ได้แล้วดันไม่มีการปรับ ก็อย่าหวังว่าทุกอย่างจะพัฒนาขึ้นเลยครับ เพราะสังคมจะไม่มีทางหาราคาที่เหมาะสมได้ สุดท้ายก็ทำได้แค่ใครทำถูกสุด(แต่ห่วย)ได้ไป คนเก่ง ๆ เค้าไม่มาทำอะไรแบบนี้ให้หรอก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

ไม่จริงอ่ะ ไม่ถึงร้อยปีอายุเฉลี่ยคนไทยยังต่ำกว่า 40 อยู่เลย คนสมัยก่อนตายไวจะตาย ห่างไกลโรคอะไรล่ะ

>>101 code_Starทำได้

>>103 ต้องการเรียนเพื่อเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นต้องติดต่อทางไหนครับ

>>104 ถ้ายังต้องมาถามแสดงว่าไม่สมควรได้เรียน เสียใจด้วย

"BTSราคามาละครับ
บ่นไปงั้นแหละครับ
ขับรถไม่เปน
.
ตอนเหนแผนที่รถไฟในเมืองตอนแรกคิดว่าเห้ยแม่งขยายไปหลายที่เพิ่มมาขึ้นเว้ยน่าจะสะดวกขึ้นมั้งเวลาเดินทางในอนาคต มีการเชื่อมต่อในหลายๆจุดๆดูเหมือนเปนระบบ
.
แต่ก็เหนราคาแต่ละครั้งแล้วแบบแพงขนาดนี้ใครมันจะขึ้นวะ
เสียดายเหมือนกันที่ MRTเคยทำบัตร อันลิมิเตด ต่อเดือน (จำราคาไม่ได้ว่ามันเท่าไหร่) แต่ตอนนี้ยกเลิกไปแล้ว
โคตรเสียดายเลย เหมือนมันมาก่อนเวลาจริงๆตอนนั้น เพราะเราคิดว่าถ้าแม่งอันลิมิตแล้ววิ่งได้ครอบคลุมทุกสายบนแผนที่ นี่แม่งคงจะเวิค น่าดู แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นราคาบัตรอันลลิมิตเตดแม่งควรสมเหตุสมผลหน่อย
ตอนอยู่ นย ถ้าจำไม่ผิดบัตรไม่จำกัดเที่ยวต่อเดือนราคาอยู่ที่$112 เราทำงานวันสองวัน เราก็มีเงินจ่ายค่าเดินทางทั้งเดือนแล้ว แล้วแม่งก็นั่งได้ทุกอย่าง รถไฟ รถบัส กระเช้า เรือข้ามเกาะ
โอเคไม่รู้เรานั่งคุ้มไหมแต่ละเดือนอะ แต่เราว่ามันสะดวกในการเดินทางมากเวลาต้องต่อสถานีและเปลี่ยนสาย โอเครถไฟ นย แม่งก็เสียก็ดีเลย์บ่อย แต่รถมันวิ่ง24ชมไง แล้วแม่งมีปัญหาแม่งเชคได้ออนไลนด้วย
การเติมเงินจ่ายเงินแม่งก็สะดวกพร้อมอำนวยการใช้เงินเราแบบทุกมิติ เพื่อให้เงินออกจากกระเป๋าเรา
ซึ่งบีทีเอส แม่งเปิดมาเกือบ20ปี แต่ระบบซื้อตั๋วแม่งยังเหมือนเดิม คำว่า ห่วย ยังนิยามไม่พอ เวลาบอกชาวต่างชาติที่ นี่แม่งอธิบายยากมาก แม่งซับซ้อนมากวิธีการซื้อแม่งเนี่ย กว่าจะได้เข้าสถานี
.
ตอนสายสีม่วง ทำโปรที่จะให้คนขึ้นเยอะช่วงนึง (ช่วงกยปี59ปรับราคาเปน14-29บาท จาก14-42บาท) พอคนขึ้นเยอะปุปแม่งกลับมาขึ้นราคา ซึ่งโคตรน่าเสียดายเลย
.
กับอีกส่วนคือ ทำไมไม่ทำ สายexpressด้วยเลย พวกสายต่างๆที่พึ่งสร้าง เพราะท้ายสุด รถไฟที่มันวิ่งแต่local เวลาไปไกลๆ แม่งไม่ได้ทำเวลาไรเท่าไหร่เลยนะ แม่งก็ผลักให้เราไปใช้รถส่วนตัวเหมือนเดิม
.
ทุกวันนี้ นั่งรถไฟไปสวนจตุจักร เลือกนั่งรถเมล์ แทนเพราะขึ้นทางด่วนแล้วถึงเลยภายใน30นาที แต่ถ้านั่งรถไฟฟ้าแม่งเกือบ1ชม
.
นี่เหรอระบบขนส่งที่หวังจะให้เปนระบบหลักของ กทม
.
โอเคเดี๋ยวนี้รถเมลอาจจะมีแอปvia bus แม่งก้อช่วยได้ประมานนึง
แต่รถเมลแม่งไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ และสะดวกกับคนทุกวัยอะ
แล้วแม่งกะเวลายากสัสๆ ถึงแม้จะมีแอปโชว์จีพีเอสโชว์รถที่เราจะนั่งก็ตาม ในแง่ที่ว่ารถแม่งต้องมาติดบนถนนอีก เพราะขับรถเดินทางเองมันสะดวกกว่า
.
ความหวังจะเหนระบบขนส่งประเทศดีขึ้นกับคนทุกกลุ่มในสังคม แม่งแทบริบรี่ นี่ยังไม่คิดถึงจังหวัดอื่นๆเลยนะ"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>106 BTS สายใหม่มี 30-40 สถานี ราคาเต็มก็สมเหตุสมผลอยู่ ส่วน Express นี่มันรถไฟฟ้านะ รางมีแค่ 2 ราง จะทำ Express ยังไง ตัวเสา+สถานีไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทำแบบนั้น พวก ARL กะสายสีแดงทำได้เพราะตอม่อเป็น 2 เสา ไม่ได้เสาเดี่ยวแบบ BTS โครงสร้างมันเป็นไปไม่ได้แต่แรกละ

ราคานี่ยังไงมันก็เอกชน ถึงจะอั้นยังไงก็ต้องให้ได้กำไรระดับหนึ่ง BTS ทุกวันนี้ก็เดินรถไม่ได้กำไร มาจากค่าโฆษนาซะส่วนใหญ่ ถ้าให้มันลดกว่านี้คงยาก หรือถ้ายอมขาดทุนแล้ว Subsudized คนก็บ่นอีกว่าเอางบมาลงแต่กทม. ถ้าไม่ Subsudized พอขาดทุนก็ด่าว่าโง่บริหารไม่เป็น พอได้กำไรก็บอกขูดรีดประชาชน คนไทยด่าได้ทุกเรื่องอยู่ละ

ยังไงทำอะไรก็ต้องมีคนด่า ดังนั้นเลือกทางที่โดนด่าแล้วอยู่ได้นั่นละคือคำตอบที่ถูกที่สุดแล้วในประเทศนี้

จะ express ได้ต้องมีหลายรางให้รถมันวิ่งแซงกันได้ใช่มะ?

>>108 นึกถึงถนน มีเลนเดียวจะแซงกันยังไง

ปี2018 นี้ มีที่ไหนปรับลดพนักงานบ้าง มาดูกัน!!

-สปริงนิวส์ ระส่ำ! ปลดพนักงาน 80 คน ขายเวลารายการข่าวให้ ทีวีไดเร็ก

-ปิดตำนาน 14 ปี Money Channel ยุติออกอากาศ 1 ม.ค. 2562

-‘นิวทีวี’ ปลดพนง.ฝ่ายข่าว 37 คน ปรับโครงสร้างองค์กร-มุ่งสู่ช่องสารคดี เต็มรูปแบบ

-ช่อง 3 ปลดพนักงานเกือบร้อยคน!!

-วอยซ์ทีวี ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 127 คน ปรับโครงสร้าง-เน้นออนไลน์

-ธนาคารไทยพาณิชย์ปรับทัพใหญ่ ตั้งเป้า 3 ปี ลดพนักงานแบงก์ลง 12,000 คน เกือบครึ่งหนึ่ง

และอีกหลายบริษัท ที่เริ่มสอบถามความสมัครใจของพนักงานในการให้ออกจากงานเร็วกว่าปกติ !!

สำหรับต่างประเทศ ก็มีปลดพนักงานเยอะแยะมากมายย!!

- คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าคประกาศปลดพนักงาน 5,000 คน ขายโรงงาน 10 แห่ง หวังลดรายจ่าย หลังยอดขายซบ

- คาร์ฟูร์ประกาศปลดพนักงาน 2,400 คน หวังลดรายจ่าย ขณะหันลงทุนตลาดออนไลน์

- เอาแล้ว!! Toshiba ที่ญี่ปุ่นสั่งปลดพนักงาน 7,000 ราย แถมปรับแผนธุรกิจเพียบ

- บริษัท อิเกีย กรุ๊ป เล็งปลดพนักงาน 7,500 คนทั่วโลก

- GM ประกาศปิดโรงงานในสหรัฐ,แคนาดา ขณะปลดพนักงานกว่า 14,000 คน

- สะเทือนวงการโทรคมนาคมสิงคโปร์ เมื่อ StarHub ปลดพนักงาน 300 คนเพื่อ Transform ธุรกิจใหม่

- Qualcomm งางแผนปลดพนักงาน! รอบแรกกว่า 1,200 คน

- Microsoft ตะเพิดคนออกอีกครั้ง คราวนี้หลายร้อยตำแหน่ง หวยลงกลุ่มด้าน 3D

-“จีเอ็ม” ปลดพนักงานกว่า 1 พันคน เหตุดีมานด์รถเก๋งลดฮวบ

- HTC ปลดพนักงานในไต้หวัน 1,500 คน พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจอีกครั้ง

-ไม่ได้ปลดชุดใหญ่ dtac รับมีแผนลดพนักงานเหลือ 4,000 คนในปี 2563 แต่รับเพิ่มฝ่ายดิจิทัล 200 คน

-Tesla เตรียมลอยแพพนักงานกว่า 4,000 ชีวิต Musk เผยบางคนจ้องทำลายบริษัท

-“Fujifilm” และ “Xerox” ปลดพนักงาน 1 หมื่นคน เหตุตลาดเครื่องถ่ายเอกสารซบเซาในยุคดิจิทัล

-ตายสนิท! Telltale ทำการปลดพนักงานอีกครั้ง เตรียมยกเกมให้ค่ายอื่นพัฒนาต่อ

-'แอมะซอน' สั่งปลดพนักงานหลายร้อยก่อนรับคนเพิ่มครั้งใหญ่

-ดอยซ์แบงก์เตรียมปลดพนักงานจำนวนมาก หลังเผยผลประกอบการซบเซา

ไม่ได้มีเพียงเท่านี้นะคะ ยังมีบริษัทอีกมากมายที่กำลังทยอยปรับลดพนักงาน เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย เนื่องจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการทำธุรกิจยุคดิจิตอล ส่งผลกระทบต่อชีวิตพนักงานอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ ถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องพัฒนาคุณภาพ และทักษะการทำงานต่างๆที่ดิจิตอล หรือเทคโนโลยีไม่มีวันทำแทนได้!!

Good Luck
Admin Sunday

** รวบรวมข้อมูลดังกล่าวจาก internet

>>110 คนตกงาน ศก.ไม่ดี เพราะรัฐประหารไม่ได้มาจากการเลือกตั้งคับ

>>111 ไม่ต้องห่วงครับ ใกล้เลือกตั้งแล้ว คสช.แจกตังรัวๆ เห็นมั้ยเพราะเลือกตั้ง เลยมีการแจกตัง

คำว่า "พื้นฐาน" นี่ ถ้าไม่แยกแยะให้ดีก็แย่นะ .... "ความรู้พื้นฐาน" กับ "สกิลพื้นฐาน" นี่ต่างกันเยอะเลย

"Fundamental Knowledges" กับ "Basic Skills"

ส่วนมากที่ผมเจอ ก็คือคนคิดว่ามันคือตัวหลังทั้งหมด ทำแบบฝึกหัดง่ายๆ ได้ ก็คิดว่าเข้าใจเรื่องพื้นฐานหมดแล้ว .... ทั้งที่จริงๆ แล้วอธิบายอะไรไม่ได้เลย ความรู้พื้นฐานแทบจะเป็นศูนย์ ....

บวกเลขลบเลขได้ ไม่ได้แปลว่าเข้าใจจำนวน เส้นจำนวน อะไรงี้เป็นต้น ....

เราสนใจกันแต่ "ทำได้" มากเกินไป ดูที่ผลอย่างเดียวเลยว่าทำได้ผลลัพธ์หรือไม่ .... ตอนที่โจทย์มันง่ายๆ ก็ไม่ต่างกันหรอกนะ ระหว่างการมีสกิลโดยที่มีหรือไม่มีความรู้พื้นฐานเนี่ย ..... แต่พอมันยากขึ้นหน่อยเดียว นี่จะเริ่มต่างกันเยอะ

ถ้าโจทย์ยากพอ พวกที่ไม่มีความรู้พื้นฐาน หรือมีแต่ไม่ดีพอ ทำยังไงก็เละ .... ก็จะเอาสกิลแก้แบบปะผุทำแบบปะผุกันไปเป็นจุดๆ นั่นแหละ ....

Fundamental Knowledges มักจะลึกซึ้งและละเอียดอ่อน .... หลายคนก็ไม่สนใจ จะรู้ไปทำไม รู้ไปก็ไม่เห็นจะแตกต่างกันตรงไหนเลย ....

ไม่ผิดครับ ถ้าโจทย์มันง่ายพอ .....

พื้นฐานความรู้เราไม่ดีพอที่จะแยกเรื่องความรู้พื้นฐานออกจากการมีสกิลพื้นฐาน .... กระมัง

โพสก่อนพูดเรื่องคอมมิวนิสต์ เปรียบเทียบกับทุนนิยม มีคนเข้าใจผิดบอกว่าผมไม่ควรเอาระบอบการปกครองมาเปรียบเทียบกับระบบเศรษฐกิจ

อันที่จริงแล้วคำว่าคอมมิวนิสต์ถูกใช้เป็นนิยามของระบบเศรษฐกิจด้วย ซึ่ง communist economic system มีอีกชื่อหนึ่งว่า command system มีพื้นฐานจากแนวคิดของลัทธิมาร์กซ

สาเหตุที่เอาคำว่าคอมมิวนิสต์ซึ่งเคยมีความหมายในด้านการปกครองมาใช้ในด้านเศรษฐศาสตร์ก็เพราะว่า ประเทศที่บริหารด้วยระบอบคอมมิวนิสต์มักนิยมเอาแนวคิดของมาร์กซมาใช้จัดการเศรษฐกิจของประเทศ จนคำว่าคอมมิวนิสต์ถูกใช้ครอบคลุมไปถึงระบบเศรษฐกิจในที่สุด

และถ้าพูดถึงนิยามที่แท้จริงแล้วระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ก็มีความแตกต่างจากระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมพอสมควร ซึ่งนิยามนี้ในแต่ละตำราหรือนักเศรษฐศาสตร์แต่ละคนก็ให้คำนิยามแตกต่างกันไปมากบ้างน้อยบ้าง

แค่จะย้ำให้เข้าใจครับว่าการเปรียบเทียบคอมมิวนิสต์กับทุนนิยมไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ได้เป็นการเปรียบเทียบระบอบการปกครองกับระบบเศรษฐกิจแต่อย่างใด

คอมเม้นต์แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ผมยินดี แต่ถ้าโผล่มาด่ากันเลยโดยข้อเท็จจริงไม่ถูกต้องอันนี้ผมคิดว่าไม่โอเคเท่าไหร่

Art Kraiwin ขออนุญาตแท็กนะครับ พอดีมีประเด็นในโพสที่อาร์ตแชร์ 😊

ลูกค้าไลน์มาคุยกับเรา ถามรายละเอียดสินค้าต่างๆ และตกลงสั่งซื้อ ได้ขอเลขบช. เราไป (ยอดโอน 14,000.- ) ผ่านไปครึ่งชม. ส่งข้อความมาบอกเราว่าขอโทษนะซื้อกับอีกร้านไปแล้ว แถมยังส่งสลิปมาให้ดูอีกต่างหาก 555555

#สุดยอดเลย

#เรื่องแบบนี้เจอกับตัวแล้วรู้เลยว่าขึ้นแค่ไหน

ตอนงานเปิด TeC Open house แขกร่วมงานก็อธิบายเรื่อง เกาเข่า ว่าแค่ตอนเช้าๆเข้าแถวยืนรอใช้ห้องสมุดกันหนาแน่นมาก

หัวใจหลักๆของการเข้าห้องสมุดไม่ได้แค่บังคับตัวเองให้ตั้งใจอ่านตำราเพียงอย่างเดียว แต่เอาไว้เพื่อสังเกตุคนรอบตัวที่จะไปช่วงชิงที่นั่งเรียนมหาวิทยาลัยดีๆ หรือตำแหน่งงานดีๆ กับเราว่าเค้าอ่านอะไรอยู่ อ่านไปได้แค่ไหนแล้ว

จีนช่วงหลังไม่ 4-5 ปีมานี้เริ่มเหมือนยุโรปแล้ว คือพอเข้าระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจะเริ่มหารายได้เสริม เลี้ยงตังเองมากขึ้น จ่ายค่าเช่าห้องเอง ค่าเทอม ค่าอาหาร ค่าจิปาถะเอง ลดการขอเงินทางบ้าน และเมื่อเริ่มทำงานก็จะมีส่วนมากที่ต้องโอนเงินกลับไปยังครอบครัว เพื่อระดมทุนซื้อที่ดิน หรือบ้าน ร่วมกับญาติพี่น้องคนอื่นๆ เพื่อใช้สำหรับอยู่อาศัยยามเกษียณ

ทำไม TV digital ไทยที่ขาดทุนกันระนาวไม่ฉายส่งไปประเทศเพื่อนบ้านอ่ะ

>>114 ถูกเกือบหมด เว้นตรงที่มันใช้เป็นนิยามระบบเศรษฐกิจก่อนระบบการปกครอง อยากให้เจ้าของ quote ย้อนไปดูปีที่มีการเอาคอมมิวนิสมาใช้ในการปกครอง กับปีที่มาร์กเขียน communist manifesto

>>117 เพราะนอกจาก 3 กับ 7 ช่องอื่นแบรนด์ยังไม่แกร่งพอจะไปเพื่อนบ้านไง

ตอนแม่งเริ่มขายช่อง TV digital ต่างประเทศตอนนั้นกระแส cut the cord โคตรแรง ไม่รู้ทำไมไม่มีใครทัก เจ๊งระนาวดิ

>>117 >>119 >>120 อย่าเปิดประเด็นชวนคุยในมู้นี้ดิวะ มู้นี้ไว้แปะ quote และชวนคุยต่อจาก quote อยากชวนคุยไม่มู้ feed ข่าวไม่ก็ขี้สงสัยก็ได้

การถกเถียง "เพื่อเอาชนะ" เรื่องอนาคตศึกษาเป็นเรื่องที่ผมคิดว่าเสียเวลาเปล่า

มันเหมือนกับการมานั่งเถียงกันว่า สงกรานต์ปีหน้าฝนจะตกไหม
เถียงให้ตายยังไง ก็ไม่ได้คำตอบ และไม่มีทางหาผู้ชนะได้ในวันนี้

การ debate เรื่องอนาคตที่มีประโยชน์จึงควรจะเป็นการเปิดใจรับฟัง และชั่งน้ำหนักความเป็นไปได้เอาไว้ในใจ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สุดท้ายเอาชนะกันไปไม่มีประโยชน์หรอกครับ

เช่น คริปโตจะเกิดไหม, รถอัตโนมัติจะทำลายเศรษฐกิจโลกจริงหรือเปล่า, ทุนนิยมจะพังไหม, UBI จะทำได้จริงหรือ, AI จะทำให้คนส่วนใหญ่ตกงานจริงหรือเปล่า ฯลฯ

ผมเองพูดเรื่องเหล่านี้ ก็เป็นการแชร์มุมมองส่วนตัว โดยอิงจากพัฒนาการของอารยธรรมมนุษย์จากอดีตถึงปัจจุบัน แม้จะค่อนข้างมั่นใจหลายเรื่องที่ตัวเองคาดการณ์ แต่ก็ไม่เคยฟันธงให้ทุกคนเชื่อ สำหรับคนที่เป็นนักอนาคตวิทยา สิ่งที่ทำได้ก็คือ อธิบายเหตุและผลที่เกี่ยวโยงจากอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต และบอกได้เพียงแค่ความน่าจะเป็นในมุมมองตัวเองเท่านั้น เพราะปัจจัยต่างๆ ที่จะสร้างอนาคตนั้นประกอบไปด้วยตัวแปรมากมายที่เราเองไม่มีทางเข้าใจทุกตัวแปรที่มีผลกับโลกนี้ได้

การไม่ฟันธง และแลกเปลี่ยนเชิงสร้างสรรค์ จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด

เสือ-หมา-ควาย

ถ้าใช้ เสือ ทำงาน
ต้องให้เขามีพื้นที่
แล้วปล่อยไปล่าเหยื่อมาให้
ไม่ต้องบังคับ
ไม่ต้องกำหนดวิธี
เพราะพวกเขาคือนักล่า

ถ้าใช้ ควาย ทำงาน
ต้องให้หญ้าเขาให้พอ
ต้องบังคับแล้วใช้ไถนา
พวกเขาอืด แต่ต้องจูง

ถ้าใช้ หมา ทำงาน
ต้องให้อาหาร
ให้ความสนิทสนม
ให้เห่าและเฝ้าบ้าน
พวกเขา ภักดี ประจบ
และจับผิดเก่ง

คนไม่เข้าใจ
จะใช้เสือเยี่ยงควาย
จะใช้ควายเยี่ยงหมา
จะใช้หมาเยี่ยงเสือ

เสือไม่เลียปากนาย
ไม่ประจบ และไม่ไถนา

ควายไม่เฝ้าบ้าน
ไม่ล่าเหยื่อ และไม่ประจบ

หมาไม่ไถนา ไม่ล่าเหยื่อ
แต่ชอบเลียปากนาย

เสือส่วนมากเมื่อเติบโต
มักจะเป็นนายคน
หรือเจ้าของกิจการ
เพราะเป็นความของตัวเองสูง

ควายส่วนมากไม่เติบโต
เพราะไม่คิดนอกกรอบ
และไม่สร้างสรรค์
และมักจะถูกหมาดูหมิ่น
และหลอกใช้

หมาส่วนมากเติบโตในองค์กร
แต่ไม่สามารถ
สร้างอาณาจักร
ของตัวเองได้
ต้องพึ่งเสือและควาย
ในการเติบโต

เสือที่ฉลาด
และมองการไกล
จะเอาควายไปด้วย
แต่ถ้าเป็นเสือบ้าอำนาจ
มักจะเอาหมาไปด้วย

#ชอบ เอาไว้เตือนตัวเอง
และเอาไปปรับใช้ เราจะเป็นอะไรดี😊😊😊😊

>>123 เสือมีไว้ล่าเหยื่อ = X
เสือมีไว้โชวน์ในสวนสัตว์ = O
หมาตะหากเอาไว้ล่าเหยื่อ

>>123 น่าสนใจมากท่านนักปราชญ์ ไหนลองแปลงบทความเป็น เสือก-มาก-ควย ให้อ่านหน่อย

ผมจะขอยืนยันว่า ผมรักภรรยาของผม และความรู้สึกของผมก็แท้จริงที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนนึงจะมีให้ได้ พวกเราอยู่กันด้วยความจริงใจต่อกัน ไม่มีอะไรปิดบังกัน

เราคุยได้ทุกเรื่องทุกโมเมนต์สุขทุกข์ดีร้ายที่ผ่านที่เจอมาในชีวิต แชร์ได้ทั้งหมดทั้งสิ้นมั้งปวง ไม่ต้องกังวลไม่ต้องกลัวว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้จะทำให้เขารักเราน้อยลงมั้ยรังเกียจเรามั้ย ยอมรับในตัวตนของกัน ยอมรับความเป็นมนุษย์ของกันและกัน และต่างคนต่างรักตัวตนทั้งตัวของอีกฝั่งอย่างเต็มที่ทั้งด้านดีด้านเสีย พร้อมจะร่วมทางไปด้วยกันไม่ว่ายามสุขยามทุกข์

ผมมีความสุขมากกับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นนี้

ทรัพย์สินเงินทองเราก็อยู่กันในแบบของเรา มีเท่าไหร่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องประกาศให้ใครรับรู้แต่อย่างใด จุดสำคัญจริงๆ คือเรามีเท่าที่พอที่จะใช้ชีวิตไม่ขัดสน มีในระดับที่มากพอที่จะอยู่กันได้แบบไม่ทำให้ใครต้องมาเดือดร้อนรับภาระของเรา นั่นคือเกินพอ นั่นคือสิ่งสำคัญ

คนอื่นใครจะมีเยอะก็เรื่องของเขา มีน้อยก็เรื่องของเขา เรามีพอที่เราใช้ชีวิตคุณภาพได้ และไม่ทำให้ใครต้องมาเดือดร้อนกับความไม่มีของเรา

ที่เหลือเราให้ความสำคัญกับคุณธรรมอย่างสัจจะ ความรับผิดชอบ 9ล9 มากกว่า ผมมองว่าในฐานะมนุษย์สิ่งเหล่านี้สำคัญกว่าเงินตรา

ตลอดชีวิตของครอบครัวเล็กๆ ของเรา คุณธรรมเหล่านี้เป็นเกราะป้องกันที่มีพลังกว่าเงินตรามากมาย ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ มีทั้งคนเอ็นดูและให้ความนับถือเสมอ ผมไม่คิดว่าจะมีใครมานับถือผมเพราะผมมีทรัพย์ แต่เขานับถือเพราะบางสิ่งบางอย่างที่เหนือไปกว่านั้น

ผมชอบในสิ่งที่เป็นอยู่ทั้งหมดที่ว่ามาข้างต้นนี้ และก็จะสร้างครอบครัวกันไปแบบนี้ กับภรรยาของผมครับ

พี่โจวได้เคาะ 3 สถานที่อันเป็นดินแดนเมกกะที่ลัทธิอู๋ม๋งต๊ะเราต้องไปจาริกแสวงบุญให้ได้สักครั้งในชีวิตไว้ดังเนร้

1.โรงทานพี่เชฐษ์ สไมลบัฟฯ
2. ตำบลเสือเฒ่า อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม (บ้านเกิดของคนที่พี่โจวแอบรัก)
และ 3.องค์การบริหารส่วนตำบลนาซ่าว อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย

น้องๆ จดใส่สมุดบันทึกไว้ได้เลยนะครับสำหรับ 3 ตัวเนร้

https://www.facebook.com/SexyBNK48/photos/a.507464396415762/509649339530601/?type=3&theater
หตุเกิน ณ สถานที่ ที่เลียกว่าตู้ปลา BNK 48 หากสงใส่ google ตู้ปลา bnk48 อยู่ไหน เข้าเรื่อง เล่าโอตะจิตคุงเจ๊กเมืองอยากเป็นยุ่นรุมร้องตะโกนสุดเสียงร้องบอกให้เด็กลดเสื้อลง ธเนศเคยไปดูนักร้องหญิงแล้วร้องบอกให้รักร้องหญิงจัดการกับเสื้อผ้าหรือถอดหรือเปล่าแน่นอนไม่ทำแน่ กลุ่มคนที่จะร้องบอกให้ผู้หญิงถอดคือกลุ่มคนเที่ยวสถานบริการ 20 + มีการเต้นโชว์แรกเงินเท่านั้นที่เค้าทำกัน และเค้าไม่ทำกับเด็กนะครับ ธเนศ เชื่อหรือยังพวกโอตะจิตคุงเจ๊กอยากเป็นยุ่นแม่มมีปัญหาจริง

แนะนำเข้าไปอ่านคอมเม้นโพสนี้จะเข้าใจพวกโอตะจิตคุงอยากเป้นยุ่นเพิ่มมากขึ้นเยอะ

Oh, i see chinks have arrived already
*AHEM*
动态网自由门 天安門 天安门 法輪功 李洪志 Free Tibet 六四天安門事件 The Tiananmen Square protests of 1989 天安門大屠殺 The Tiananmen Square Massacre 反右派鬥爭 The Anti-Rightist Struggle 大躍進政策 The Great Leap Forward 文化大革命 The Great Proletarian Cultural Revolution 人權 Human Rights 民運 Democratization 自由 Freedom 獨立 Independence 多黨制 Multi-party system 台灣 臺灣 Taiwan Formosa 中華民國 Republic of China 西藏 土伯特 唐古特 Tibet 達賴喇嘛 Dalai Lama 法輪功 Falun Dafa 新疆維吾爾自治區 The Xinjiang Uyghur Autonomous Region 諾貝爾和平獎 Nobel Peace Prize 劉暁波 Liu Xiaobo 民主 言論 思想 反共 反革命 抗議 運動 騷亂 暴亂 騷擾 擾亂 抗暴 平反 維權 示威游行 李洪志 法輪大法 大法弟子 強制斷種 強制堕胎 民族淨化 人體實驗 肅清 胡耀邦 趙紫陽 魏京生 王丹 還政於民 和平演變 激流中國 北京之春 大紀元時報 九評論共産黨 獨裁 專制 壓制 統一 監視 鎮壓 迫害 侵略 掠奪 破壞 拷問 屠殺 活摘器官 誘拐 買賣人口 遊進 走私 毒品 賣淫 春畫 賭博 六合彩 天安門 天安门 法輪功 李洪志 Free Tibet 劉曉波动态网自由门
*dabs*

>>129 มาจากดราม่าโดต้า2เมื่อเร็วๆนี้ป่ะวะ

พิธีแต่งงานในจีนไม่ได้เป็นแค่งานแต่ง แต่คือช่องทางไหลออกของเงินนับแสนที่ฝ่ายชายจำต้องจ่าย รัฐบาลจีนจึงประกาศยุติการแต่งงานราคาแพง โดยขอให้ย้อนระลึกถึงคุณค่าที่แท้จริงของงานแต่งงาน
.

หลังจากการควบคุมประชากรด้วยนโยบายลูกคนเดียวมานานหลายสิบปี ทำให้ปัจจุบันจีนมีประชากรชายมากกว่าหญิงถึง 30 ล้านคน ซึ่งจำนวนที่ไม่สมดุลนี้นำมาสู่การเพิ่มขึ้นอย่างที่เรียกได้ว่าพุ่งทะยานของสินสอดและค่าจัดงานแต่งงาน โดยปัจจุบันสินสอดของเจ้าสาวในแถบชนบทของจีนมากกว่ารายได้ตลอดทั้งปีของฝ่ายเจ้าบ่าว เท่านั้นยังไม่พอ ฝ่ายเจ้าสาวยังสามารถเรียกร้องทรัพย์สินอื่นๆ สำหรับสินสอดอย่างเครื่องเพชร รถยนต์ หรือบ้านได้อีกด้วย
.

เพราะการพุ่งทะยานที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดของค่าใช้จ่ายในพิธีแต่งงาน ทำให้รัฐบาลจีนตัดสินใจออกมาตรการยุติการแต่งงานราคาแพงในประเทศ ครอบคลุมทั้งงานแต่งงานหรูหราและสินสอดราคาแพง โดยรัฐบาลเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการแต่งงานด้วยเหตุผลว่า งานแต่งงานควรสะท้อนค่านิยมและวัตถุประสงค์ที่งดงามที่เคยมีมาในประเทศ และการเพิ่มขึ้นของความฟุ่มเฟือยในงานแต่งคือ การอาละวาดของลัทธิบูชาเงิน
.

เป้าหมายของการปฏิรูปงานแต่งงานครั้งนี้ มุ่งเป้าไปยังพื้นที่แถบชนบทของจีน ซึ่งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของค่าใช้จ่ายในพิธีแต่งงาน ตัวอย่างเช่น ในหมู่บ้านเกษตรกรรม Da'anliu จังหวัด Hubei ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่มีรายได้ประมาณ 20,000 หยวนต่อปี มีสินสอดเฉลี่ยของหญิงสาวในหมู่บ้านมากกว่า 200,000 หยวน ก่อนที่ทางรัฐบาลจะออกกฎห้ามสินสอดมากกว่า 20,000 หยวน มิฉะนั้นจะเข้าข่ายค้ามนุษย์
.

นอกจากนั้น ถ้าหากว่าทั้งครอบครัวของบ่าวสาวมีสถานะทางสังคมที่พิเศษ สินสอดก็อาจจะมีความพิเศษมากยิ่งขึ้นไปอีก อาทิ ในมณฑลซานตงมีบางครอบครัวต้องใช้ชุดต่างหูทองและสร้อยทองมูลค่า 150,050 หยวน พร้อมทั้งมอบแบงค์ 5 หยวน 10,000 ใบและแบงค์ 100 หยวน 1,000 ฉบับ และทรัพย์สินเพิ่มเติมอื่นๆ เพื่อเป็นสินสอดให้แก่เจ้าสาว
.

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของแต่ละมณฑลได้มีความพยายามที่จะควบคุมสินสอดและค่าจัดงานแต่งงาน โดนในปีนี้เขต Huzhu ในจังหวัดชิงไห่ จำกัดวงเงินสูงสุดของสินสอดให้ไม่เกิน 60,000 หยวน จากที่ปกติสินสอดในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ที่ 100,000 หยวน เช่นเดียวกับมณฑลเหอหนานได้ออกข้อบังคับให้งานแต่ง 1 งาน ต้องมีจำนวนแขกไม่เกิน 10 โต๊ะหรือ 200 คน และมูลค่าของขวัญแต่งงานไม่เกิน 60,000 หยวน และไม่อนุญาตให้มอบบ้านหรือรถเป็นของขวัญ
.

ที่ผ่านมามีกรณีข่าวดังที่เกิดจากผลกระทบของสินสอดราคาแพงแล้ว อย่างกรณีที่ชายหนุ่มต้องการแต่งงานกับแฟนสาวที่กำลังตั้งครรภ์ แต่ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าสินสอดได้เพียงพอ ทำให้ฝ่ายพ่อของแฟนสาวไม่อนุญาตให้มีการแต่งงานเกิดขึ้นและบังคับให้ลูกสาวทำแท้ง ซึ่งแม้กรณีดังกล่าวจะไม่สามารถพิสูจน์ได้จริง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงผลอันร้ายแรงที่อาจจะเกิดจากการเรียกร้องสินสอดมูลค่ามหาศาล ยิ่งไปกว่านั้นหลากหลายความคิดเห็นในโซเชียลมีเดียของจีนยังคงสนับสนุนพ่อของแฟนสาวในเชิงว่าทำถูกต้องแล้วอีกด้วย
.

อีกทั้งมาตรการนี้ยังส่งผลให้หญิงสาวจากชนบทตัดสินใจเดินทางไปทำงานในเมือง เพื่อตามหาผู้ชายที่สามารถให้ ‘สิ่งที่ดีกว่า’ กับพวกเธอได้ และทำให้ผู้ชายในชนบทกลายเป็นกลุ่มชนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างห่อเหี่ยวและไร้โอกาสที่จะมีภรรยาและบุตร ด้านนักวิจัยที่ศึกษากรณีนี้กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงประเพณีงานแต่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทเป็นเรื่องยาก โดยแนะนำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเลือกสนับสนุนงานแต่งงานในกลุ่มที่เลือกจัดงานอย่างทรงคุณค่าและมีความหมาย
.

ที่มา
https://www.theguardian.com/world/2018/dec/03/china-calls-for-end-to-expensive-vulgar-wedding-gifts-ban
https://www.bbc.com/news/blogs-trending-35727057
.

ที่มาภาพ: AFP

เวลาคนโพสต์ภาพผู้ชายใส่กางเกงว่ายน้ำเป้าตุงๆ แล้วมีคนกดรีพอร์ต อี Facebook มันจะลงโทษบล็อคและแบนคนโพสต์
วันก่อน ฉันเห็นคนโพสต์ภาพผู้ชายนอนแก้ผ้า เห็นควยเต็มๆ ควยจริงๆ ควยแข็งๆ ตั้งโด่เลยนะ ฉันลองกดรีพอร์ตบ้าง ปรากฏว่า อี Facebook ตอบกลับมาว่า ภาพนี้ไม่ผิดกฏของ Facebook
สิ่งที่ฉันสังเกตเห็นก็คือ มันเป็นควยคนผิวดำ ควยมันจะดำๆ ไม่ใช่สีเนื้อ สีน้ำตาลอ่อน สีชมพู หรือ ไม่ใช่สีควยปกตินั่นแหละ อีระบบของ Facebook จึงตีความว่า "นั่นไม่ใช่ควย"

วงจรการพัฒนาแอพแบบรีบเร่งเอาให้ขึ้นได้ไปก่อนจนเคยชิน งานเร่งมีได้แต่อย่าเป็นกิจวัตรจนเป็นความเคยชิน ใครคิดว่าเรื่องเล่นๆ อ่านดูกัน มันปัญหาระดับชาติเลยนะ

โค้ดที่ไม่มีระเบียบ ดูยาก อ่านยาก ก็จะทดสอบยาก

เมื่อทดสอบยาก เมื่อเจอปัญหา ก็จะแก้ไขได้ยาก

เมื่อแก้ไขได้ยาก โค้ดก็จะเริ่มไม่เป็นระเบียบ

เมื่อโค้ดไม่เป็นระเบียบ เมื่อพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ มันก็จะซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาเยอะขึ้นเรื่อยๆ แก้ยากขึ้นเรื่อยๆ

เราจะเสียเวลาอ่านโค้ดเก่ามากกว่าเขียนโค้ดและออกฟีเจอร์ใหม่ๆ แก้ปัญหาเก่าๆจนเราเบื่อและลาออกไป

เมื่อคนใหม่มา ก็จะสร้างความซับซ้อนๆขึ้นไปเรื่อยๆและลาออกไปอีก

สุดท้ายคนที่ไม่เคยเจอโค้ดที่สวยๆ อ่านง่ายๆ แก้ง่ายๆ
ก็จะไม่อยากเป็นโปรแกรมเมอร์​มากขึ้นเรื่อยๆ

โปรแกรมเมอร์ในประเทศก็จะหายากขึ้นเรื่อยๆ

ประเทศก็จะแข่งกันกับคนอื่นด้านเทคโนโลยีไม่ได้ ก็แค่นั้นแหละ (แต่ทุกวงการก็ใช้นะ ขำทั้งน้ำตา T_T)

มาแชร์โค้ดสวยๆและหัดเขียนกันเยอะๆเถอะ เพื่อประโยชน์ของทุกคน ดูโค้ดเทพๆหลายคนก็สวยงามอ่านง่ายกว่าของฝรั่งอีก ส่วนของตัวเองก็มี pattern ที่ใช้ประจำอยู่ทั้ง .NET, JS ที่เก่าเขาก็ใช้จนเป็น Legacy ละ เด็กที่มาสัมภาษณ์หลายคนก็ไม่รู้ว่าใช้ของตรูอยู่ เดี๋ยวไป go ก็คงเขียนแนวที่ตัวเองชอบเหมือนเดิมบ้างปรับตามเทพๆบ้าง

เน้นระเบียบ อ่านง่าย เข้าใจง่าย ส่วน performance ไว้ทีหลัง ภาษาไรก็ Scale ได้ ถ้า Scale เป็น

ถ้าอยาก สเกลเป็น อย่าแค่เขียนภาษาใดมานานหลายสิบปี แต่ไม่มีเทคนิคอะไรเลย ไม่รู้ Fundamental อะไรเลย OOP, Design Pattern, Clean Code, Functional, DDD, Mirco Service,DevOps, Enterprise Architecture, Business Domain ทำสายนี้มันลำบาก ต้องอ่านศึกษาและทดลองเยอะ และยังต้องเจอความกดดันจากคนที่ไม่เข้าใจมันอีกเยอะ

การที่ยังมีผู้บริหารระดับสูงหลายคนยังต้องเขียนโค้ดอยู่ แสดงว่าเรามีคนเขียนโค้ดได้ไม่มากพอ

A: ผมละเบื่อการนำเอาชาตินิยมดักดานงี่เง่าในกะลามาโฆษณาให้คนไทยไปใช้บริการของไปรษณีย์ไทยเหลือเกิน ฐฐฐฐฐฐฐฐฐ พวกนี้คงไม่เคยอ่าน Imagined Communities ของอาจารย์เบญ แอนเดอร์สัน ว่าแต่ว่าคุณใช้บริการขนส่งของเจ้าไหนอ่ะครับ

B: โผระจ๊าผุ้พายี่เซโขอี่ทีอ่ะเค่อะ (ผมรับจ้างผู้พันยี่เซขนอีกทีอ่ะครับ)

________
หมายเหตุ 1:
การเหยียดชนชาติในประเทศไทยนั้นมีประวัติมาอย่างยาวนาน และข้อเขียนชิ้นนี้พยายามกระตุ้นให้คนตระหนักรู้ถึงปัญหานี้ด้วยกลวิธีทางภาษา ที่จะพยายามสื่อถึงการอยู่ร่วมกันโดยการใช้บทสนทนาที่แม้จะมีความ 'แตกต่าง' แต่เราสามารถ 'อยู่ร่วมกัน' ได้
STOP Racism NOW

หมายเหตุ 2:
พี่โจวขอร่วมสนับสนุนการทำงานของ พล.ต.ท. ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. ในการปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนไทยไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดที่ถือว่าเป็นการทำลายอนาคตของชาติมา ณ ที่เนร้ อ่ะครับ /\

ความสุข
เมื่อก่อนเข้าใจว่า การทำอะไรแล้วสำเร็จ วิ่งตามเงินอยากได้เงินเยอะๆ อยากมีแฟนสวยๆ หรือความสำเร็จอะไรสักอย่าง เราจะคิดว่าได้ในสิ่งที่ต้องการคือความสุขที่สุด แต่นั่นคือความสุขปลอมๆ ถ้าเราเสพติดความสุขคือความสำเร็จอะไรพวกนั้น เราก็จะวิ่งตามอะไรแบบนั้นไปตลอดชีวิต

แต่จริงๆแล้วความสุขที่แท้จริงคืออะไรรู้ป่ะ คือการไม่มีเรื่องราวอะไรในหัวให้รกสมอง ไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ร้อนอะไรทั้งนั้น ตื่นมา กินข้าว ออกไปปั่นจักรยานเที่ยว ไม่มีแผน ไม่ต้องกังวลเรื่องอดีตหรืออนาคต นั่นแหละคือความสุข ความสุขในปัจจุบัน

>>131 ลอกไทยมาเหรอ

>>132 ทำไมกุฮา5555

ได้นั่งเมล์ไทยหลังจากไม่ได้นั่งมาน้านนาน
เลิกนั่งตอนราคา 3.50 (รถไฟฟ้ากับขับรถเอา)
ปัจจุบันราคา 6.50 สภาพเดิมๆเพิ่มเติมตรงมีจอหลังคนขับ
#มิตรสหายเข้ากรุงท่านหนึ่ง

>>81

ระบบนี้จะมนุษย์สายพันธุ์จีนจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก

ปกติแล้วคนเรามักจะชอบทำอะไรตามใจตนเองด้วยข้ออ้างต่างๆ นานา เพราะธรรมชาติของคนเรานั้นชอบความสบายซึ่งหน้า ดังนั้นแม้จะรู้ว่าการเคี่ยวกรำตนเองอย่างหนักจะนำมาซึ่งความแข็งแกร่งและมั่งคั่งในระยะยาวแต่คนส่วนใหญ่ก็จะไม่ทำกันเพราะเห็นว่ามันเหนื่อยยาก หากมองในแง่เศรษฐศาสตร์แล้ว การมีทรัพยากรมนุษย์ที่ไม่แข็งแกร่งมันก็คือภาระสังคม รัฐต้องนำงบประมาณไปเลี้ยงดูแบบสูญไปเปล่าๆ

การที่จีนใช้ระบบ Social Credit เท่ากับกระตุ้นให้คนจีนทุกคนไม่ว่าจะอายุ เพศ หรือวัยใดต้องพัฒนาตนเองตลอดเวลา ประกอบกับมาตรการอื่นๆ อย่างการติดกล้องในห้องเรียนดูว่าใครแอบหลับในเวลาเรียน จะทำให้คนจีนถูกเคี่ยวกรำอย่างหนักนับแต่ลืมตาดูโลก และเมื่อคนกลุ่มนี้ไปแข่งขันกับชนชาติอื่น โอกาสที่จะเป็นผู้พิชิต ผู้กำชัยเหนือชาติอื่นๆ ก็จะสูงมาก เพราะชาติอื่นๆ ส่วนใหญ่ไม่มีใครกล้าทำเช่นนี้ ในทางกลับกันมีแต่จะส่งเสริมว่ารัฐไม่ควรเข้าไปจัดระเบียบชีวิตของปัจเจกชนอย่างเบ็ดเสร็จเพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิ ตรงกันข้ามควรทำให้มนุษย์แต่ละคนได้ใช้ชีวิตตามใจปรารถนา มีความเครียดให้น้อยที่สุดตราบเท่าที่ไม่ไปละเมิดผู้อื่น

ซึ่งผลก็คือมนุษย์สายพันธุ์ชาติอื่นมีแต่จะอ่อนแอและเป็นภาระของรัฐหรือสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ

( ในประเทศอื่นๆ ไม่ว่ายุโรป อเมริกา และเมืองไทยของเรา กลุ่มคนระดับล่างจำนวนไม่น้อยถูกมองว่าไม่ยอมพัฒนาตัวเอง อ้างโน่นอ้างนี่ เช่น เมืองไทยที่ภาคเกษตรมีคนเยอะถึง 10 ล้านคน แต่ GDP ต่ำมากแค่ร้อยละ 10 แต่รัฐต้องใช้งบอุดหนุนราคาผลผลิตทุกปี และมักมีเหตุผลที่พูดกันประจำว่าคนกลุ่มนี้พัฒนายากมากเพราะอายุเฉลี่ย 45+ และการศึกษาไม่เกิน ม.3 การจะให้หันไปทำเกษตร 4.0 จึงแทบเป็นไปไม่ได้ ถ้ามองมุมนี้งบของรัฐไทยถือว่าสูญเปล่า แต่ถ้าเมืองจีนใช้ระบบ Social Credit จะอ้างอะไรก็ไม่ได้ ถ้าไม่พัฒนาก็ถูกบีบขับให้ตายไป มันก็เหมือนถูกดัดนิสัยให้ต้องเปลี่ยนโดยปริยาย )

สงสัยความฝันของฮ่องเต้สี ที่อยากเห็นชาวฮั่นกลับมาภูมิใจในสถานะ "จงหยวน" ( ดินแดนศูนย์กลางโลก ) คงไม่ไกลเกินเอื้อมเสียแล้ว

ปล.ผมไม่ได้โปรจีนนะ และภาวนาอย่าให้มีใครเอาระบบนี้มาใช้ในเมืองไทยเลย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

อ่านข่าวก่อนปะว่ะ เขาแค่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวอยู่ที่ไหนกันแน่ แต่ไม่ใช่เพราะเขาหายไป แต่ไม่มีคนยอมคอนเฟริม ที่เขาต้องเก็บตัวเพราะการทดลองของเขาละเมิดกฎของนักวิทยาศาสตร์ที่ไปตัดต่อ DNA และเขาจะต้องถูกสอบสวน

แต่ถ้าเขาเกิดหายตัวขึ้นมาจริงๆ เรื่องที่ว่า HIV เป็นโรคที่ถูกตั้งใจเลี้ยงไว้เพราะเป็นแล้วไม่ได้ตายทันที ก็ดูจะแน่นขึ้นมาอีก เพราะต้องกินยาตลอดชีวิต เป็นรายได้ของบริษัทยาใหญ่ๆ

อย่างตอนไฟท์ MH17 ก็มีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังไปร่วมงามเอดส์โลก แล้วบอกว่าจะมาประกาศสิ่งที่ค้นพบครั้งสำคัญในงาน แต่ไฟท์นี้โดนยิงตก หาคนทำไม่ได้ น่าคิดๆ

แล้วเคสในข่าว ตอนแรกผมก็คิดว่า อ้อเรื่องเอดส์มีคนบงการคงไม่จริงมั้ง ถ้าคนนี้จะทำวิจัยจนประสบความสำเร็จ แต่ปรากฎว่าเจ้าตัวออกมาบอกว่า ตัวเองทำแบบลับๆ ใช้ทุนตัวเองแล้วก็ทุนตอนทำแล็บ ผมก็อ้อหรือเพราะงี้ว่ะงานวิจัยมันเลยรอดมาได้ มาติดตามกันครับว่ามันจะเป็นยังไง

ยิ่งออกกำลังกาย ยิ่งเพิ่มอนุมูลอิสระ ทำให้แก่ไว

แต่ไม่ออกกำลังกายก็อ้วนอีก

>>140 เกลียดพวกทฤษฎี​สมคบคิดแบบนี้ แม่งไม่ได้เข้าใจเรื่องเชื้อ hiv สักนิด ว่าทำไมถึงกำจัดออกจากร่างกายของผู้ป่วยไม่ได้ และไอ้การทดลองนี้แม่งก็ไม่ได้เกี่ยวห่าอะไรกับการรักษาโรคเอดส์ให้คนทั่วไป มันคือการตัดต่อพันธุกรรมมนุษย์​ที่ผิดจริยธรรม​ และอาจส่งผลลบให้กับมนุษยชาติในอนาคต

ควย อยากเห็นหน้าเจ้าของสเตตัสนี้จริงๆ

>>139 ควาย สมองสวะวุธ

อาจมีใครบางคนกำลังจงใจดักข้อมูลเราอยู่ในระดับประเทศ
.
มีคนกระซิบมาถามเรื่องกรณีเว็บ Human Right Watch ถูก Block เป็น URL ได้ทั้ง ๆ ที่เป็น https ตามข่าวนี้ https://www.blognone.com/node/106748
.
โดยรายละเอียดก็คือ
.
- https://www.hrw.org/asia เข้าได้
- https://www.hrw.org/asia/thailand เข้าไม่ได้
.
ปูพื้นสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานด้านเทคนิค การเข้าเว็บผ่าน https ก็เหมือนก้บการส่งจดหมายจ่าหน้าซองถึงปลายทางโดยระบุเป็น "ที่อยู่" เท่านั้น ส่วนส่งถึงใคร เนื้อหาเป็นยังไง ระหว่างทางจะอ่านไม่รู้เรื่องเลย บุรุษไปรษณีย์ถึงจะแอบอ่านก็อ่านไม่ออก จะมีแค่คนที่อยู่ปลายทางเท่านั้นที่สามารถอ่านออก เป็นตัวอักษรวิเศษว่างั้น มีคนอ่านออกคนเดียวในโลก
.
ดังนั้นในกรณีที่เราเข้าเว็บ hrw.org ก็คือการระบุที่อยู่ ระหว่างทางก็จะเห็นแค่เราจะติดต่อไปที่ hrw.org เท่านั้นนะ *ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเข้า /asia หรือ /asia/thailand* เพราะนั่นไม่ได้อยู่บนหน้าซอง แต่เป็นเนื้อหาที่อยู่ในซอง
.
จึงเกิดเป็นประเด็นว่า แล้วทำไมเว็บ hrw.org ถึงถูก Block เป็น URL ได้ทั้ง ๆ ที่เป็น https ? เพราะระหว่างทางไม่มีใครควรรู้เลยว่าเราเรียกไปที่ /asia หรือ /asia/thailand มันก็ไม่ควรมีใคร Block ได้สิ
.
หลังจากไปนั่งเช็คอะไรนิดหน่อยก็พบว่าปรากฎว่าจดหมายมันไม่ได้ส่งไปถึง hrw.org โดยตรง แต่จะมีคอมพิวเตอร์เครื่องนึงในไทยที่ทำหน้าที่ Cache เนื้อหาเพื่อให้คนไทยเข้าถึงเว็บได้เร็วขึ้น หรือที่เราเรียกว่า CDN เป็นตัวที่รับจดหมายแทน
.
แทนที่ hrw.org จะเป็นคนที่สามารถอ่านจดหมายได้ กลับกลายเป็นว่าคอมพ์เครื่องนั้นเป็นคนที่สามารถอ่านได้แทน พออ่านเสร็จก็ค่อยส่งจดหมายที่ "ใครก็อ่านได้" (ไม่มีการเข้ารหัสใด ๆ) ไปหา hrw.org อีกทีนึง
.
(ทางเทคนิคคือ SSL เป็นของ CDN ชื่อ CDNetworks ซึ่งมี Edge Server อยู่ที่ไทยจุดนึง)
.
ซึ่งระหว่างทางจาก CDN ไปถึง hrw.org ก็มีการส่งจดหมายต่อกันไปเรื่อย ๆ ผ่านคอมพิวเตอร์หรือเร้าเตอร์อีกเป็นสิบเครื่อง และทุกเครื่องเหล่านั้นก็สามารถอ่านข้อมูลที่เราส่งไปทั้งหมด (ในที่นี้ก็คือรู้หมดว่าเราเรียกไปที่ /asia หรือ /asia/thailand)
.
ในแง่ Security ก็เป็น Concern ที่แอบใหญ่อยู่นิดนึงนะ กรณีนี้อาจจะแค่เป็นข้อมูลไร้สาระอย่างแค่ URL แต่ขอให้ลองคิดว่าถ้าเรา Login เข้าเว็บ เครื่องระหว่างทางพวกนั้นก็สามารถอ่าน Password เราได้หมดเลยนะ ทุกคนในสายงานนี้เลยผลักดันให้เว็บเป็น https ให้หมด ไม่งั้นอันตรายมาก (ก็น่าเศร้านิดนึงที่เว็บ hrw ไม่ยอมติดตั้ง https แบบจริงจัง แต่ไปใช้ของ CDN แทน)
.
หลังจากวิเคราะห์ออกมาแล้วก็ชัดเจนแล้วหละว่าคนที่ Block นั้นอยู่ระหว่าง CDN และ Server ของ hrw.org
.
กรณีที่ดีที่สุดคือ CDN เป็นคน Block เองเลย คือไม่ส่งต่อตั้งแต่ CDN เลย ที่บอกว่าดีเพราะงานนี้ข้อมูลไม่โดนดักระหว่างทาง แต่ Configuration ก็จะดูแปลก ๆ เพราะมันดูเฉพาะเจาะจงเกินไปว่า Block เฉพาะ Edge Server ของประเทศไทยเท่านั้น ยังไม่ได้ศึกษาลงลึก แต่ในใจเราคิดว่าตัวเลือกนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะคนจะทำได้ต้องมีสิทธิ์ในการ Block ตรงนี้ ซึ่งก็มีแค่ Human Right Watch กับ CDNetworks เท่านั้น ดูแล้วไม่น่าจะทำให้
.
ก็เลยไปตกอีกกรณีนึงคือ "ระหว่างทางจาก CDN ที่ตั้งในไทยออกไปยัง Server hrw.org มีคนดักข้อมูลอยู่" และก็ Block ที่จุดนั้น
.
ต้องอธิบายมั้ยว่าทำไมเลวร้าย ... สรุปสั้น ๆ ง่าย ๆ ... มีคนจงใจดักข้อมูลเราอยู่นะ หาก Server ปลายทางไม่สนับสนุน https ทุกอย่างที่วิ่งผ่าน CDN รายนี้ก็จะถูกดักทั้งหมด
.
แล้วที่น่ากังวลกว่าคือ "ใครเป็นคนทำ ?"
.
ซึ่งถ้าทำจริงก็เป็นการลงทุนที่ไม่น้อยนะ เพราะต้องดัก Traffic จำนวนมากแล้วทำให้เนตไม่ช้า อารมณ์คล้าย Single Gateway ที่เรา ๆ เคยถกกัน แต่นี่ยังไม่ถึงกับ Single เพราะเป็นแค่ Gateway นึงที่ต่อกับ CDN เจ้านี้อีกที (ความจริงมันไม่ได้ตรงไปตรงมา มีดีเทลอีกแต่ไม่ลงละกัน)
.
ถ้าเป็นกรณีนี้ความจริงมันแก้ไขได้ง่ายมาก แต่ฝั่ง Server ต้องสนับสนุน https แล้วทุกอย่างจะดีเอง ระหว่างทางก็ไม่มีใครดักได้ละ
.
ใครกังวลเรื่องเกม OMG ขโมยข้อมูลไปช่วงก่อนหน้านี้ บอกเลยว่าเรื่องนี้น่ากังวลกว่าเยอะ ...
.
จบ

http://www.thansettakij.com/content/353663

แม้จะมาจากปากของคนในรัฐที่นำเสนออะไรมั่วซั่วมาตลอดหลายปี
แม้อาจจะแค่เกาะกระแสที่กำลังเริ่มบูมของพืชชนิดนี้
แต่โกโก้ คือพืชที่ดูเข้าท่าที่สุด ตั้งแต่เคยมีการเสนอให้เกษตรกรปลูก

ผมเองเคยบ่นและตั้งคำถามมาเกือบ 20 ปีแล้วว่า ทำไมไม่เคยมีการปลูกโกโก้
ให้เป็นเรื่องเป็นราวในประเทศไทย ทั้งที่ภูมิอากาศของเรามีความเหมาะสมในหลายๆพื้นที่ ทั้งที่คนทานช็อคโกแล็ต ต้องควักกระเป๋ากันหลักร้อย เพื่อซื้อช็อคโกแล็ตกันบาร์ละเป็นร้อยกว่าสองร้อยบาท ... ความต้องการของตลาดยังมีอยู่อีกมาก และต่อให้ราคาตกลงบ้าง ก็ยังถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับสิ่งที่เกษตรกรปลูกกันอยู่ ซึ่งขายกันในราคาเลขตัวเดียวทั้งสิ้น

แต่ !!! ..... แต่ ..... แต่ในแง่ของเศรษฐกิจและการเมืองแล้ว
ปัญหาของเกษตรกรไทย มันเป็นเรื่องแค่ 'ปลูกอะไร' จริงหรือ ???
ถ้าเกษตรกรเลือกปลูกพืชได้ถูกตัว ปัญหาก็จะหายไปจริงหรือ ???
.... ดูจากปัญหาเรื่องข้าว ... ตอนนี้ราคาข้าวหอมมะลิเกรดดีพุ่งขึ้นไปเกือบ
ตันละ 2 หมื่น !!! .... แล้วถามว่า ชาวนาขายข้าวได้เกวียนละเท่าไหร ???
ชาวนาร่ำรวยกว่าเดิมจริงหรือไม่ ????

อุตสาหกรรมการเกษตรในประเทศไทย มีโครงสร้างที่บิดเบี้ยว Corrupted อันเป็นผลพวงมาจาก การที่รัฐไทย ไม่ได้มีความจริงใจที่จะทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้จริง ... สิ่งที่ชนชั้นปกครองต้องการนั้น มีเพียงแค่ ทำให้เกษตรกรอยู่ได้แบบปริ่มๆน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดการลุกฮือ กระด้างกระเดื่อง และสร้างปัญหา
แต่ไม่ได้ต้องการให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากและมีอำนาจทางเศรษฐกิจสูงขึ้น เพราะนั่นจะนำมาซึ่งอำนาจต่อรองทางการเมืองที่สูงขึ้น และเป็นภัยคุกคามกับทุนใหญ่ ซึ่งสนิทแนบแน่นอยู่กับรัฐไทยแบบแยกกันไม่ออก ... เปรียบเสมือนการเติมโตอย่างมหาศาลของ SME ในช่วงก่อน 11 ปีที่สูญเปล่าที่ผ่านมา จนต้องมีการตัดตอน และทุบให้ตายให้หมด ด้วยการรวมหัวกันของเหล่าทุนผูกขาด ซึ่งสะสมทุนไว้มากกว่า แต่เทอะทะและล้าหลังกว่าจนสู้ SME ในตลาดเสรีไม่ได้ ... ใครมีญาติอยู่ในกลุ่มที่ปรึกษาเจ้าสัว ก็ลองไปถามกันดูแล้วกันว่าในที่รโหฐาน พวกเค้าคุยกันว่าอย่างไรบ้าง เค้ามอง SME อย่างไร มองเกษตรกรอย่างไร ???

ที่ผ่านมา การส่งเสริมการเกษตรในประเทศไทย ทำกันอย่างกระท่อนกระแท่น สักแต่ทำ แต่ไม่เคยมีการบูรณาการอย่างเป็นระบบ เช่นจัดหาแหล่งเงินทุน จัดหาที่ดิน จัดการเรื่องการตลาดให้ ... อย่างประเทศที่เค้าเจริญแล้วทำ เพราะในประเทศเหล่านั้น เค้ามองเห็นสินค้าเกษตรเหล่านั้นเป็นเรื่องของยุทธศาสตร์ของประเทศ ... แต่การส่งเสริมการเกษตรในประเทศไทยนั้น ตราบใดที่กฎหมายเรื่อง สัญญาที่ไม่เป็นธรรมในเกษตรพันธะสัญญายังไม่เกิด กฎหมายป้องปรามการทุ่มตลาดและการผูกขาดไม่เคยมีใช้ การเข้าไปร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์สำเร็จให้เกษตรกรยังไม่มี (ซึ่งแก้ได้ด้วยการกระจายอำนาจ และ ให้แต่ละจังหวัดบริหารงบประมาณตัวเองซะ) ... การส่งเสริมพืชใหม่ให้ปลูก ก็แค่การใช้แรงงานเกษตรกรเป็นทาสติดที่ดิน เพื่อสร้างความร่ำรวยให้กับทุนขนาดใหญ่และทุนขนาดกลางต่อไปเรื่อยๆนั่นเอง

ความต้องการของตลาดสูง ราคาสูง ต้องถามว่ามันสูงที่จุดไหน ... เราเห็นมาแล้วว่า อุตสาหกรรมโคนมของเราแทบล่มสลาย เกษตรกรเคยเอานมมาเทล้างถนนประท้วง เพราะขายไม่ได้ ทั้งๆที่เราผลิตนมได้น้อยกว่าความต้องการบริโภคอย่างมหาศาล และแต่ละปี ยังนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องเช่น ชีส ครีม ฯลฯ อีกมหาศาล

โกโก้ เป็นสิ่งที่พัฒนาต่อจนเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จไม่ยากเย็นเลยด้วยซ้ำ และไม่ได้ลงทุนมากมายอะไร ... ผมไม่หวังอะไรจากรัฐไทย แต่หวังจากคนรุ่นใหม่ๆ ที่มีความรู้ ที่มีโอกาสและช่องทางมากกว่า หวังเห็นคนเหล่านั้นกลับไปทำอะไรดีๆให้กับบ้านเกิดของตัวเอง แถมเป็นการทำสิ่งดีที่ไม่ต้องไส้แห้ง เพราะสามารถร่ำรวยได้มหาศาลเลยทีเดียว ... ก็แค่เผื่อแผ่ให้ผลประโยชน์และเม็ดเงินกำไร ได้ตกถึงเกษตรกร อย่างเป็นธรรมและมีน้ำใจต่อกัน ไม่ซ้ำเติมชีวิตที่ลำบากของพวกเขาให้ลำบากต่อไป ... หวังเห็นการรวมตัวกันของผู้ปลูกและผู้แปรรูปขนาดย่อมของแต่ละพื้นที่ เพื่องัดข้อและบอกให้ทุนใหญ่ๆได้ยินเสียง และนึกขึ้นได้บ้างว่า ... ประเทศนี้ ไม่ได้เป็นของพวกเขาแต่เพียงฝ่ายเดียว

ปล. ใครสนใจธุรกิจนี้ และอยากเห็นเกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ ต้องการคำปรึกษา ยินดีช่วยเท่าที่ช่วยได้ครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>146 แค่เอาแรงงานภาคการเกษตรออกไปได้ซักครึ่งนึงปัญหาก็หมดแล้ว ตัวหารเยอะไป ทำไงก็ไม่รวย ประเทศอุตสาหกรรมมีแรงงานส่วนนี้แค่ 5% ไทยมี 30% คิดดูว่าถ้ารายได้มากขึ้น 6 เท่า เกษตรกรก็รวยได้สบายๆ

อีกเรื่อง ต้องกำจัดพวกเข่าที่ดินออกไป ให้เจ้าของที่ดินทำกินเอง ไม่งั้นทำให้ตายก็ไม่รวย เพราะมีต้นทุนที่ไม่จำเป็นอย่างค่าเช่าที่อีก

>>147 ข่าวร้ายคือแรงงานภาคเกษตรแม่งอายุเฉลี่ยเกินเลข 4 ว่ะ จบก็ไม่เกิน ม.3 เอาออกไม่ได้อีก ส่วนคนรุ่นใหม่เขาออกไปอยู่อุตไม่ก็บริการนานละ คงต้องอุ้มไปพักใหญ่ ไม่ก็ทำแบบที่โม่งเกรียนๆ แถวนี้ชอบยุจังคือจับรมแก๊สให้หมด

>>145 เห็นรณรงค์เยอะมาก แต่เวบ บ.เทคโนโลยีหลายเวบก็ยังไม่เปลี่ยนเป็น https ซักที

เงินเดือนก็เอาไปหมด..พอถึงวันสำคัญก็บ่นไม่มีเซอไพส์เลย...พอกรุเซอร์ไฟส์ก็ว่าเอาตังค์มาจากไหนงุบงิบเหรอ..เฮ้อ...

หม่อมถนัดศรีในวัยเก้าสิบกว่า

เริ่มเป็นไม้ ใกล้ฝั่ง ต้องนั่งคิด
เหลือชีวิต ยาวนาน สักปานไหน
เมื่อหมดกรรม จำพราก จากโลกไป
จะมีใคร ชื่นชม สมบัติเรา
ถึงมีบุตร สุดรัก ก็ยากพึ่ง
สักวันหนึ่ง ก็รักตัว ครอบครัวเขา
พ่ออุตส่าห์ หาให้ คงไม่เอา
ล้วนของเก่า เกินวัย ไม่อยากรับ
มองโถถ้วย สวยสี ที่เคยคุ้น
เริ่มหมดเงา ขาวขุ่น เพราะฝุ่นจับ
หนังสือเก่า เบียดเสียด ขี้เกียจนับ
วางสุมทับ อับชื้น เริ่มขึ้นรา
ค้นปืนผา หน้าไม้ จากใต้ตู้
ยังดีอยู่ ของเก่า เรารักษา
รูปภาพเก่า นานนม สะสมมา
ทั้งเงินตรา เก่าใหม่ มิใช่น้อย
หีบเสื้อผ้า แต่ก่อน ตั้งซ้อนทับ
ถูกเก็บพับ ห่างงาน การใช้สอย
เสื้อกันหนาว กรำงาน ผ่านดงดอย
มีร่องรอย เลาะลุย คุ้ยหิมะ
นึกถึงวัน ข้างหน้า ถ้าเราสิ้น
อาจจมดิน เน่าเหม็น เป็นขยะ
ห่วงพระเครื่อง ใส่กล่อง เต็มห้องพระ
เป็นภาระ ของใคร ยังไม่รู้
เริ่มแจ้งชัด สัจธรรม อันล้ำค่า
เราเกิดมา มือเท้า เปล่าทั้งคู่
หลงไขว่คว้า มาครอง เป็นของกู
กองสุมอยู่ เปล่าเปล่า ตอนเราตาย
🍋นี่คือสัจธรรม🍋🌷

เดินมาทำงานเห็นกองถ่าย เลยนึกถึงสมัยวัยรุ่น เคยไปทำเบื้องหลัง และเป็นตัวประกอบวันละ 300 แล้วก็ขำ ที่ไม่ทำวงการนี้ต่อ เพราะมันเป็นวงการที่เละทะ เหม็นเน่ามาก ทนไม่ไหว ไม่อยากแฉเลย
....
....
....
....

วันๆใช้ชีวิตอยู่กับ “กองถ่าย”
ไม่รู้ทนกันได้ยังงัย ไม่เข้

"แคปมาครับ Global Wealth Report 2018 ของ Credit Suisse

คือบางคนอาจไปไฮไลต์ "ความเลื่อมล้ำที่สุดในโลก" ของไทย

ซึ่งก็ไม่มีอะไรผิด เพราะ ไม่ว่าจะเป็น 1% บนแม่งมีทรัพยากร 66.9% หรือ 10% บนแม่งมีทรัพยากร 85.7% แม่งก็ถือว่าอันดับ 1 ของโลกทั้งนั้น

แต่ที่ผมอยากจะเน้นคือ ไอ้ประเทศที่แม่งว่าๆ กันว่าไม่เหลื่อมล้ำอะไรแบบสวีเดนเนี่ย คน 10% บนแม่งมีทรัพยากร 74.9 ของประเทศนะครับ คือ 3 ใน 4 ของทรัพยากรทั้งประเทศแม่งอยู่กับคนรวย นี่ขนาดในสวีเดนนะ

โอเค สวีเดนไม่ได้ดีที่สุด แต่ดูรวมๆ แม่งไม่มีประเทศไหนครับที่คนรวยสุด 10% แม่งมีทรัพยากรต่ำกว่าครึ่งของประเทศ และนี่ไม่เยอะก็เหี้ยละครับ

ซึ่งถ้ามองแบบนี้ ความเหลื่อมล้ำแม่งเป็นเรื่องปกติ

อย่างไรก็ดี ผมอยากให้สังเกตต่อว่า ถ้าไทยจะมีความ Unique น่าจะเป็นเรื่องของการแบ่งทรัพยากรของคนรวยเหี้ยๆ (1%) กับคนรวย (9% ถัดมา)

คือแม่งเห็นชัดๆ เลยว่า ไทยนี่แม่ง คนรวยเหี้ยๆ แม่งมีทรัพยากรมากกว่า คนรวยมากกว่า 3 เท่า ซึ่งเยอะกว่าที่อื่นแน่ๆ (คือคนรวยเหี้ยๆ 1% บนแม่งมีอยู่ในมือ 66% ของทรัพยากรทั้งหมด ในขณะที่คนรวย 9% ถัดมา แม่งมีทรัพยากรไม่ถึง 20% ของทรัพยากรทั้งหมด)

อันนี้ถ้าวิเคราะห์สะท้อนการเมืองในหมู่คนรวย (ยังไม่ต้องไปพูดถึง 90% ที่เหลือของไทย ที่มีทรัพยากรไม่ถึง 15%) ประเด็นน่าสนใจคือ ไอ้สัส ทำไม 9% แม่งไม่โวยวาย? คือ 1% แม่งแดกเยอะไปเยอะเหี้ยๆ เยอะกว่าที่อื่น

คำตอบก็อาจเป็นว่ามันมีการผูกอำนาจบางอย่างให้ 9% แม่งเป็นพวกเดียวกับ 1% ทั้งๆ ที่จริงๆ แม่งเป็นพวกเสียเปรียบจาก 1%

ดังนั้นการเมืองไทยแม่งเลยไม่ใช่เรื่องของ 99% VS 1% แล้ว 99% มันชนะได้ เพราะ 1% แม่งมีทรัพยากรไม่ถึงครึ่ง (นอกจากไทยก็มีอินเดียกับรัสเซียนี่แหละที่ 1% มีทรัพยากรถึงครึ่ว)

แต่ไทยแม่งเป็นเรื่องของ 90% VS 10% ซึ่ง 1% บนที่ครองทรัพยากรเกินครึ่ง ประสานประโยชน์กับ 9% ถัดมา รวมทรัพยากรกันไล่กระทืบ 90% ที่เหลือ และไอ้ 90% ที่เหลือแม่งมีทรัพยากรแค่ 15% ห่า แม่งจะเอาอะไรไปสู้

ดูรายงานตัวเต็มได้ที่ https://publications.credit-suisse.com/tasks/render/file/index.cfm?fileid=777FDF0E-E060-F608-52DAF97E062CC35B "

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>153 ของไทยเป็นเลขปี 06 แต่ของประเทศอื่นใหม่กว่านั้นมาก เวลาเอามาเทียยมันยอกยา่าไทยเพิ่มหรือลดเมื่อเทียบกีบประเทศอื่นในรายงานนี้ แต่ตัวเลข WB ไทยดีขึ้นมากนะ

...เมื่อ 13 ปีที่แล้วเธอคือตัวแทนของคนไทยเข้าร่วมการประกวด Miss Universe 2005 ที่เมืองไทยเป็นเจ้าภาพ...

...วันพรุ่งนี้ (6 ธ.ค.) กัปตันน้อด ชนันภรณ์ รสจันทน์ อดีต Miss Thailand Universe จะทำหน้าที่เป็นผู้ขับเครื่องบินแอร์บัส 320 ของสายการบิน Air Asia เที่ยวบินที่ FD3213 พาผู้เข้าประกวดในปีนี้ พร้อมทั้งเดมี่ ลี เนลส์ ปีเตอร์ นางงามจักรวาลคนล่าสุดจากสนามบินดอนเมือง เวลา 07.25 น ไปที่จังหวัดกระบี่ด้วยตัวของเธอเอง

นี่คือเกียรติประวัติที่ยิ่งใหญ่มาก ของผู้หญิงเก่งคนหนึ่งที่เรารักเธอเสมอมา... ชนันภรณ์ รสจันทน์

#MissUniverse #MissUniverseThailand #MissUniverse2018 #AirAsia #ThaiAirAsia

“ท้าพิสูจน์ให้ไปตู้เอทีเอ็ม หากมีคนยืนอยู่ข้างหน้า ให้พยายามหยิบสลิปที่ทิ้งไว้ขึ้นมา มั่นใจว่าแต่ละคนมีเงินเหลือในบัญชีไม่เกิน 4,000 บาท” และนี่คือความจริงในประเทศไทยว่า คนไทยมีเงินในบัญชีเฉลี่ยแค่ 5,000 บาท/คน

>>156 เพราะคนที่เกิน 1.cashless 3.เลือกไม่ปริ๊นต์สลิป 2.รวยพอที่จะไม่ต้องมากดเอง

>>156 ตัวเองจนแล้วคิดว่าคนอื่นต้องจนเหมือนกัน อสกข.

เปิดเพจนี้มาก็น่าจะ 6-7 ปีแล้ว ด้วยเหตุผลเดียวในตอนนั้นเลยคืออยากเห็นตัวเลือกใหม่ๆในตลาดเบียร์เมืองไทย (เลยเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเพจนี้จึงเน้นคราฟต์เบียร์เยอะหน่อย)
.

ถ้าเปรียบเพจนี้เป็นโรงหนัง ก็คงเป็นโรงแบบ house rca ฉายหนังนอกกระแส ฉายหนังอาร์ต เพราะผมเชื่อว่ามันต้องมีคนชอบเบียร์ทางเลือกเหมือนกันกับผมบ้างล่ะวะ เอาวะ ใครแม่งจะทนแดกแต่ลาเกอร์จืดๆที่ครองประเทศนี้มาหลายทศวรรษไปได้ตลอด
.

แต่ผมไม่เคยรังเกียจเบียร์แมสหรือพวกเบียร์แอดจั้งค์ลาเกอร์ใดๆเลย ทุกวันนี้ผมก็ยังดื่มลีโอ สิงห์ ช้าง ไทเกอร์ และอีกหลายยี่ห้อแบบที่คนค่อนประเทศนี้ดื่ม ใส่น้ำแข็งในลาเกอร์ราคาถูก ท่ามกลางอากาศร้อนๆ มันดีจะตาย
.

ผมเชื่ออีกว่าผู้บริโภคในยุคนี้ไม่ได้โง่ เราใช้การตลาดแบบเดิมๆกรอกหูกรอกตาเขาอีกไม่ได้แล้ว ผู้บริโภคยุคนี้มีข้อมูลใหม่ๆไว้อัพเดตเสมอๆ ผมจึงไม่เคยเชื่อในการโฆษณาแบบเดิมๆเลย ไอ้พวกคิดคำติดแฮชแทค คำสำเร็จรูปตามที่ copywriter คิดมามันจึงดูตลกมากๆในสายตาผม แถมยังเป็นการดูถูกผู้บริโภคยุคนี้อีก
.

ทั้งคำคมบ้าบอไร้สาระ อวยสินค้ากันแบบไม่มีข้อเท็จจริงอะไรเลย บางเพจก็หนักเลย นอกจากไม่มีสาระแล้วยังพูดข้อมูลผิดๆส่งต่อกันไป อะไรแบบนี้จะไม่มีในเพจนี้เด็ดขาด เพจนี้จะพยายามหาข้อมูลที่ถูกต้องมานำเสนอเท่านั้น อันนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผมมาตลอด 7 ปีที่เปิดเพจนี้มา
.

ดังนั้นอะไรที่ไม่ดี ผมก็จะบอกว่ามันไม่ดี อะไรที่มันดี ผมก็บอกว่าดี อะไรที่มันเป็นกลเม็ดทางการตลาดแบบซ้ำๆเดิมๆ ไม่มีอะไรใหม่ ผมก็บอกไปตรงๆว่ามันน่าเบื่อ
.

ที่ผมชอบแซะเบียร์แมส จิกกัดเล็กๆน้อยๆ ก็ไม่ได้มีเจตนาด้านลบอะไร ไม่เคยคิดจะด่ากันให้ถึงตาย แต่เป็นการแซะแบบสนุกสนาน ผสมกับความเซ็งๆบนข้อเท็จจริงที่ว่า ตลาดเบียร์แมสเมืองไทย แม่งโคตรน่าเบื่อ ทุกวันนี้ผมจิกกัดความซ้ำๆซากๆของตลาดเบียร์แมส ผมก็เขียนด้วยอารมณ์เซ็งไปขำไปล้วนๆ
.

เพจนี้ไม่ได้เป็นเครื่องมือทางการตลาดของใครทั้งนั้น เพจนี้ไม่เคยอวยใครไส้แตก เพจนี้ไม่มีคำคม ไม่มีกลอน ไม่มีแฮชแทคใดๆ มีให้ก็แต่ความจริงเท่านัั้น

.

และไม่ว่าจะเป็นเบียร์แบบไหน จะเจ้าใหญ่เจ้าเล็ก ถ้าเบียร์คุณดีจริงน่าสนใจจริง ผมยินดีมอบพื้นที่ให้ แล้วพูดถึงมันด้วยความใส่ใจถึงที่สุด
.

บ่นมายืดยาวขนาดนี้ ไม่ได้เป็นอะไรนะครับ แค่เซ็งๆกับเบียร์แมสในไทย แม่งวนเวียนกันอยู่แค่นี้จริงๆ เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนแพคเกจ เปลี่ยนสี เปลี่ยนขนาด วนไปวนมา อยากให้พวกเราส่งเสียงดังๆว่ามีผู้บริโภคอีกกลุ่มนึง เบื่ออะไรแบบนี้มากแล้วโว้ยย 5555

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

"how many chromosomes do you have?"

"more than you, you fucking asshole"

เกิดอะไรขึ้นกับเด็กยุคนี้?
.
เหตุการณ์ที่เจอเวลามาสมัครงาน
.
#ตอนเมล์มาสมัครงาน
(1) พิมพ์ชื่อ “สมัครงาน” และ cc หลายบริษัท (ช็อคแปป)
(2) น้อง “fwd” resume การสมัครงาน แบบเอ่อ ให้พี่รู้เลยว่าน้องสมัครหว่านๆ และไม่ได้ตั้งใจสมัครบริษัทไหนเป็นพิเศษ
(3) ส่งอีเมลแบบจ่อหัว “สมัครงาน” แล้วทางบริษัทจะทราบมั้ยคะว่าตำแหน่งไหน...แนวแบบต้องเปิดไฟล์หรือดูชื่อไฟล์ถึงจะรู้เอง
(4) แนบไฟล์ประวัติ Zip file บริษัทเปิดแล้ว error แล้วเค้าจะเรียกน้องสัมภาษณ์มั้ย
(5) ส่งมาว่าสมัครงาน น้องจะไม่ เรียนใครหรือ dear ใครหน่อยหรอคะ เค้าจะได้รู้ว่าต้องสื่อสารกับตำแหน่งไหนและใคร
(6) แนบไฟล์ผลงานมา “คร่าวๆ” แปลว่า ถ้าน้องทำงานกับพี่ก็จะ ร่างๆ คร่าวๆ ใช่มั้ยคะ กลัวเลย เลยไม่กล้าเรียกสัมภาษณ์
.
#ตอนตอบการสัมภาษณ์
(1) บอกว่าอยากทำงานบริษัทนี้ แต่ไม่รู้ว่า”บริษัททำอะไรบ้าง หรือตอบ Core Business ได้อย่างฉะฉาน?
(2) วางกระเป๋าหลุยส์บังหน้าผู้ให้สัมภาษณ์...สมัครตำแหน่งเงินเดือน 25,000 บาท พี่รู้ว่าน้องมีสตางค์ แต่ถ้าน้องไปพบลูกค้าพี่ แล้ววางกระเป๋าหลุยส์บังหน้าเค้าขณะพรีเซ้นต์ เค้าอาจไม่ซื้อ services พี่
(3) โทรมาขอเลื่อนวัน ส่วนใหญ่จะไม่ให้โอกาสที่สอง เพราะไม่ให้ความสำคัญตั้งแต่ day 1 แปลว่ามาทำงานบริษัทก็จะไม่ให้ความสำคัญกับงาน
(4) โทรมาถามทางบริษัท (น้องคะ google มี แปลว่าน้องไม่แสวงหาก่อนที่จะทำอะไร)
(5) แต่งตัวแบบอยู่บ้านมาสัมภาษณ์ คือ น้องไม่ต้องแฟชั่นโชว์ค่ะ แต่น้องต้อง represent บริษัทเวลาเจอลูกค้า การแต่งตัวชิวๆอาจจะไม่ใช่ตั้งแต่ job description
(6) น้องบอกชอบคนสัมภาษณ์ ชื่นชมมากแบบไปกูเกิลชื่อคนสัมภาษณ์มาแล้ว แต่เรียกชื่อจริงคนให้สัมภาษณ์ผิด (2 หน...) ในทางบุคคลไม่คิดติดใจอะไรก็จริง ผู้ให้สัมภาษณ์ชอบน้องมาก แต่ถ้าไปเรียกชื่อลูกค้าผิด ลูกค้านอยด์ มันจะทำให้บริษัทเสียหายได้ คือ แสดงถึงความไม่รอบคอบ ถ้าในงานไม่ต้องการความรอบคอบ ผู้ให้สัมภาษณ์ควรจะให้น้องผ่าน
.
.
นี่แค่น้ำจิ้มนะคะ
.
การ screen คนเพื่อเรียกสัมภาษณ์ เดี๋ยวนี้เค้าดูกันตั้งแต่ส่ง application/resume/cv เลย ว่า manner /etiquette น้องเป็นยังไง และอย่าแปลกใจถ้าน้องไม่ถูกเรียก ไม่ใช่บริษัทมันไม่เห็นความดีของน้อง แต่เป็นเพราะน้องไม่พยายามหาวิธีเข้าใจว่าน้องต้อง”ปรับปรุง”อะไรเพื่อให้บริษัทต้องการต่างหาก
.
สถาบัน สอนวิชามากมาย แต่ไม่สอนวิธีสมัครงานให้ฉลาด หรือ สอบสัมภาษณ์ให้ผ่าน (บางที่อาจมีสอนประปราย ดีใจกับน้องๆด้วย) หรือ บางที่ก็ไม่มีหรอก สอนทำงานอย่างไรให้เรียกว่า “ทำงานเป็น และเจ้านายชม”หรือ “ทำตัวให้เป็นที่ต้องการของตลาด”
.
ตอนทีมพี่อายุเท่าน้อง ทีมพี่แค่ผ่านมาก่อน ผิดมาก่อน ถูกก่อน เลยอยากช่วยน้อง ไกด์น้อง แบบที่พี่ไม่เคยถูกไกด์
.
#หากคุณคือน้องน้อย
ถ้าคุณคือ “คนที่อยากให้บริษัทเลือก” และอยากเป็นที่ต้องการของตลาด พี่มั่นใจว่า ทีมเราสามารถปั้นให้ น้อง”สามารถเลือก”บริษัทได้ แถมมี skill digital และ”ทำงานเป็น”
.
Project The Work by TeC เป็น start up ที่ขอ disrupt “painpoint” ในการสร้างกองทัพเด็กสู้งาน เป็นงาน และพร้อมเข้าทำงานในยุคดิจิทัล มี e-Business, e-commerce และ Digital mindset
.
เราจะเปิดสอน
- Digital marketing career
- e-Commerce career
- Graphic For Online marketing career
- social media content & content creator career
- app & web programmer career
- super multi-tasking (แนวๆ Management trainee ที่เข้าใจ e-Business เติบโตเป็น Head/manager)
.
เรากำลังตั้งครรภ์กันอยู่ คลอดเดือนกุมภาพันธุ์ 62 ใครอยากสมัคร ทิ้งเมลไว้ ใน comment ค่ะ! สำหรับ Students ปี 4 และ First jobbers อายุไม่เกิน 25 ปี
.
#หากคุณเป็นบริษัท
ในอีก way นึง ถ้าคุณเป็นบริษัท ที่เบื่อกำกับหาเด็กที่”เป็นงาน” และอยากได้เด็ก”เป็นงาน” เข้าทำงานและเครื่องสตาร์สติดเลย เป็นหมด ทั้ง word,excel,ppt, computer literacy ยัน internet savvy และ leadership + problem solving + think beyond just assignment ก็ขอให้ทิ้งเมลไว้ เราจะเชิญมาเป็นบริษัทที่มีสิทธิ์คัดเด็กเก่งไปทำงาน มีนาคม 2562 (คณะกรรมการ The Work ขอสงวนสิทธิ์ในเงื่อนไข)
.
#หากคุณคือมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษา
อยากส่งเด็กเข้า Project หลังไมค์ได้เลยค่ะ
.
และจะมีเปิดตัวคณะกรรมการ The Work ที่แซ่บ และจะเขย่าวงการ #พบกับเราเร็วๆนี้ เปิดตัวเดือน มกราคม 2562
.
เรา”ตั้งใจ”สร้างโอกาส ให้เด็กมีงานทำมากขึ้น เพราะสถิติการตกงานของเด็ก ทำเราใจตกตาตุ่ม อกสั่นขวัญหาย
.
เรา”จะไม่เก็บเงิน”แม้แต่บาทเดียวกับเด็ก
.
เราจะเก็บเงินกับ sponsor (55555)
อยากดังก็มาบู๊กับเรา #TheWorkByTeC เร็วๆนี้ค่ะ 😉
.
ปล.เอาตัวอย่างสมัครงานที่พบเจอมาโชว์ เด๋วจะหาว่าไม่มีหลักฐาน

>>161 คือไหนๆพี่ก็บ่นมายาวขนาดนี้ผมขออย่างได้ไหมเวลาจะรับหรือไม่รับคน โปรดช่วยส่งคำตอบมาด้วย
มันจะอะไรนักหนาวะกับการส่งคำตอบอะ รับหรือไม่รับก็ส่งจดหมายมาบอกกูหรือเมลมาก็ได้ ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์หน่อย
ถ้าให้ดีก็ทำกำหนดการไว้เลย ว่าจะส่งคำตอบภายในเดือนหรืออาทิตย์นี้ หัดมีความรับผิดชอบกับคนที่มาสมัครซะบ้าง
#หัดใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ #มีความรับผิดชอบบ้าง #แม่งชอบปล่อยให้รอโรคจิตหรอหวะ

Because you weren‘t yourself anymore. Just a mirror of herself, a dog, not wanting to upset her or be against her opinion.

>>161 อ่านแล้วรู้สึกโคตร cringe ถึงกูจะไม่ได้ทำตัวแบบเด็กที่บ่นใน quote ก็เถอะ
ถ้ารู้ว่าบริษัทไหน HR กระแดะขนาดนี้กูคงไม่สมัครเหมือนกัน

ทำความเข้าใจข้อมูลผิดๆ เรื่อง #ไทยมีความเหลื่อมล้ำอันดับหนึ่งของโลก กันครับ
--------------------

- ประเด็นมันเริ่มจากการที่คุณบรรยง พงษ์พานิช อยากจะพูดถึงเรื่องความเหลื่อมล้ำ แล้วแกก็เอาข้อมูลชุดหนึ่งจาก Credit Suisse (ฉบับที่ทำงานได้หยาบมากๆ) มาพูดถึง

- โดยที่ตัวแกเองก็รู้อยู่แล้วว่าข้อมูล มันไม่ตรงหรอก เพราะระดับแก มีหรือจะไม่รู้ แกยังบอกเองเลยว่าตัวเลขเงินในตลาดการเงินของไทยมีตั้ง 40 ล้านล้าน แต่ Credit บอกมีแค่ 16.5 ล้านล้านเอง ซึ่งแค่นี้ก็เห็นแล้วว่า Credit Suisse มั่ว

- แต่ประเด็นคือ แกต้องการเอามาจั่วหัวให้ดูแรงและเรียกความสนใจ (แม้แกจะรู้ว่ามันมั่ว) จากนั้นแกจึงค่อยโพสท์อารมณ์ประมาณว่า "ข้อมูลอาจจะไม่ถูกต้อง แต่ช่างมันเถอะ เราจะมาพูดถึงความเหลื่อมล้ำที่ต้องแก้ไขกันดีกว่า"

https://www.facebook.com/banyong.pongpanich/posts/1002402713296361
..........................

- คือถ้าทำใจเป็นกลางๆ ผมก็พอเข้าใจเจตนาของแกนะ ว่าเอาเรื่องนี้มาจั่วหัว เพราะอยากให้มีคนสนใจ ให้มันดูแรง แต่ประเด็นคือ มันทำให้คนจำนวนมากเข้าใจผิด โดยเฉพาะในยุคโซเซียล ที่ผู้คนไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจทันเท่ากับความรวดเร็วของข่าวหรือเรื่องที่พูดต่อๆ กันไป

- จน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ต้องออกมาชี้แจงกันไปเมื่อเช้าตอน 10 โมง

https://www.facebook.com/NesdbPr/videos/2476566162359587/

- ซึ่งผมจะมาพูดให้ฟังอีกทีแบบง่ายๆ ภาษาชาวบ้าน และจะมีการอธิบายเลยว่าข้อมูลชุดนี้ของ Credit Suisse "ห่วยแตก" อย่างไร ? ขอโทษที่ต้องใช้คำรุนแรง แต่เชื่อเถอะว่าเมื่อคุณอ่านจบ คุณจะพูดคำเดียวกับที่ผมพูด แน่นอนครับ หุหุ

----------------------
ข้อมูลแบบกะๆ เอา
----------------------

- ข้อมูลดังกล่าวมาจาก Credit Suisse ซึ่งเป็นสถาบันการเงิน "เอกชน" รายหนึ่งในสวิสเซอร์แลนด์ โดยการรายงาน Credit Suisse ฉบับนี้เป็นการทำรายงานที่ขาดข้อมูลสำคัญและข้อมูลเป็นคาดคะเนแบบหยาบๆ

- เนื่องจาก Credit Suisse ใช้วิธีการวัด #การถือครองทรัพย์สิน ไม่ใช่วัดจากรายได้ ซึ่งการถือครองทรัพย์สินนั้น "วัดยากมาก" และมีไม่กี่ประเทศในโลกที่จะได้ข้อมูลนี้อย่างละเอียดและเที่ยงตรง

(ส่วนใหญ่คือ ประเทศรัฐสวัสดิการ ที่มีระบบฐานภาษีดี ที่คนไม่สามารถหลบเลี่ยงภาษีใดๆ ได้ เพราะรัฐมีข้อมูลหมดว่าใครถือครองทรัพย์สินอะไรไว้บ้าง)

- Credit Suisse ยอมรับในรายงานว่า ข้อมูลที่เขามีละเอียดจริงๆ พอจะวิเคราะห์ได้ มีแค่ 28 ประเทศ จาก 206 ประเทศ หรือแค่ 13.6% ส่วนที่ข้อมูลมีไม่ครบและขาดๆ ก็มีประมาณ 24 ประเทศ หรือ 11.6% ส่วนที่เหลืออีก 154 ประเทศหรือ 74.7% นั้นไม่มีข้อมูล หรือมีอยู่ในระดับที่แย่มาก

- ซึ่งจริงๆ แล้วการวิเคราะห์ข้อมูลพวกนี้ แค่ข้อมูลไม่ครบถ้วนก็ทำไม่ได้แล้วครับ พูดง่ายๆ เลยคือ Credit Suisse มีข้อมูลจริงแค่ 28 ประเทศจาก 206 ประเทศทั่วโลกเท่านั้น ที่เหลืออีก 24 ประเทศคือ #กะเอา ทั้งสิ้น!!

*** เพราะจริงๆ สถาบันนี้เขาไม่ได้สนประเทศอื่นเท่าไร ที่เขาทำก็แค่จัดดูในประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อประเมินด้านการเงินในการทำธุรกรรมเท่านั้น (ก็ตามสไตล์บริษัทเอกชนน่ะครับ)

https://publications.credit-suisse.com/tasks/render/file/index.cfm?fileid=777FDF0E-E060-F608-52DAF97E062CC35B&fbclid=IwAR2KCmNcpuP6kXm2XRfVr72crbqoWZzn2Yg0i4z6ocaIiET1ktf8d_uqNF8

----------------------
ข้อมูลเก่าตั้งแต่ปี 2006/2549
----------------------

- เนื่องจากไม่มีข้อมูลประเทศส่วนใหญ่ในโลกนี้ และไม่ได้สนใจเท่าไร แต่แค่จะเอามายัดใส่ให้มันดูครบๆ Credit Suisse ก็เอาข้อมูลเก่าของ ประเทศไทยที่ IMF รวบรวมและเผยแพร่ตั้งแต่ปี 2006/2549 (และข้อมูลนี้ก็เก็บก่อนหน้านั้นสักพักด้วย)

- ข้อมูลชุดดังกล่าวมีความผิดพลาดหลายประการ เช่น การบอกว่าไทยมีทรัพย์สินรวมแค่ 505 พันล้านดอลล่าร์ หรือแค่ 16.5 ล้านล้านบาท ทั้งที่ในความจริง แค่มูลค่าตลาดการเงินก็ 40 ล้านล้านแล้ว ไม่รวมพวกอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในธนาคารด้วย

(แต่อย่างว่าครับ ใครเขาจะสน เขาแค่เอาไปใส่ให้มันครบๆ ในรายงานเท่านั้นเอง)

----------------------
80% ไม่มีข้อมูล 13% ข้อมูลไม่ครบ
----------------------

- ข้อมูลของประเทศส่วนใหญ่กว่า 80% จากรายงานฉบับนี้ของ Credit Suisse เป็นการกะเอาอย่างชัดเจน บางอันก็ไม่มีข้อมูล ผังที่แสดงความสมบูรณ์ของข้อมูลในหน้า 19-22 ก็ระบุว่า กว่าร้อยละ 80 อยู่ในสภาพแย่ (poor) และแย่มาก (very poor)

เอาจริงๆ ผมก็สงสัยว่ารายงานฉบับนี้ทำออกมาได้อย่างไรกัน ?

- และจริงๆ มันไม่ใช่ 80% ด้วย เพราะไอ้กลุ่มข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์มันก็คือมั่วๆ เอาเหมือนกัน แต่มั่วบ้างจริงบ้างบางส่วนแค่นั้นเอง สุดท้ายข้อมูลที่ใช้ได้จริงมีแค่ 13.6% ของประเทศทั่วโลก ที่เหลือก็มั่วเอาทั้งนั้น

----------------------
ข้อมูลที่ไม่ตรงกับเอกสาร
----------------------

- ในขณะที่ข้อมูลการถือครองทรัพย์สินของประเทศไทยนั้น "ไม่มี" และแบงก์ชาติก็ไม่ได้ทำไว้ (ไม่มีใครยอมบอกข้อมูลทรัพย์สินที่แท้จริงหรอกครับ ขนาดให้แสดงบัญชีทรัพย์สิน มันยังปกปิดกันเลย ตั้งแต่รากหญ้าไปจนถึงระดับสูงก็เหมือนๆ กัน)

แล้ว Credit Suisse ไป "เสกข้อมูล" มาจากไหน?

- เขาระบุว่าเขาอ้างจากโพลสำรวจในเอกสารรายงาน ที่ชื่อ The Wealth and Debt of Thai Households: Risk Management and Financial Access

- หรือในชื่อภาษาไทยว่า "ความมั่งคั่งและหนี้สินครัวเรือนไทย: การบริหารความเสี่ยงและการเข้าถึงบริการทางการเงิน" โดย ดร.เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลกประจำประเทศไทย (ซึ่งตอนนั้นทำงานในแบงก์ชาติ) และทีมงาน

*** ที่ตลกคือ เอกสารชุดนั้นไม่ได้มีระบุเรื่องระดับการถือครองทรัพย์สินของคนในประเทศ เพราะในเอกสารเน้นการอธิบายเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ และ เงินเดือนโดยเฉลี่ยของผู้ต้องการกู้ซื้อบ้าน

(โดยทำเป็นแบบสอบถามที่ถามถึงทรัพย์สินและหนี้สินของครัวเรือนประมาณหมื่นกว่าคนจากทั้งประเทศ)

http://econ.tu.ac.th/archan/rangsun/ec 460/ec 460 readings/เอกสารและสิ่งตีพิมพ์ธนาคารแห่งประเทศไทย/Discussion Paper/2007/Wealth and Debt of Thai Households.pdf?fbclid=IwAR1lJOWrODdWGPUK59bWVNY3YMf1vJudvL-WsNRAE82sWlSJN9-LOyPJDUk

*** ซึ่งผมก็งง ว่าแล้วที่ Credit Suisse มันอ้าง มันเอาตัวเองหรือข้อมูลมาจากไหน... อ้างเอกสารประกอบ แต่เอกสารไม่มีข้อมูลดังกล่าวที่อ้างมา -_-"

----------------------
อ้างเอกสารที่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย
----------------------

- ข้อมูลอีกชุดที่ Credit Suisse อ้างถึงประเทศไทยก็คือ หน้า 11 ที่ชี้แจงว่าข้อมูล "การถือครองอสังหาริมทรัพย์" เอามาจากไหน ปรากฎว่าอันนี้หนักกว่าอันที่แล้วอีก!!

- คือ Credit Suisse ไม่มีข้อมูลประเทศไทย (n.a.) / not available แต่ดันใส่เอกสาร IMF : Household Credit Growth In Emerging Market Countries 2006 บทที่ 2 มา

- ทั้งที่จริงๆ เอกสาร IMF ดังกล่าวไม่มีข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับประเทศไทยเลย เอกสารบทนี้ชื่อ THE INFLUENCE OF CREDIT DERIVATIVE AND STRUCTURED CREDIT MARKETS ON FINANCIAL STABILITY

- ซึ่งพูดถึงสถานการณ์การปล่อยสินเชื่อในเศรษฐกิจโลก การบริหารจัดการความเสี่ยงจากการปล่อยสินเชื่อ ธุรกิจประกันภัย บลาๆๆ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่า Credit Suisse ใส่ลิ้งนี้มาว่าเป็นข้อมูลประเทศไทยได้อย่างไร ไม่มีข้อมูลของประเทศไหนเลย!!!

https://www.imf.org/en/Publications/GFSR/Issues/2016/12/31/Market-Developments-and-Issues?fbclid=IwAR3OJZs3oZW6BQmrPyFxDv-vAGD3R7yBGBoRrAhl15GoQGkETyd4FPMDAfc

- นี่ผมงงว่าสถาบันการเงินชื่อดัง เขาทำรายงานกันแบบนี้จริงๆ เหรอ? ยังกะรายงานของมหาวิทยาลัยห้องแถวก็ไม่ปาน...

---------------------
มาตรฐานที่ไม่สมเหตุผล
----------------------

- ข้อมูลของ Credit Suisse ที่เป็นปัญหาถกเถียงกันจนเป็นข่าวคือ หน้า 157 ซึ่ง ใช้วิธีการหาค่าความเหลื่อมล้ำ ด้วยการแบ่งจำนวนประชากร เป็น 4 กลุ่มคือ

1. กลุ่มมีทรัพย์สินต่ำกว่า 1 หมื่นเหรียญ หรือ 3.5 แสนบาท
2. กลุ่มมีทรัพย์สินระหว่าง 1 หมื่นถึง 1 แสนเหรียญ หรือ 3.5 แสนถึง 3.5 ล้านบาท
3. กลุ่มมีทรัพย์สินระหว่าง 1 แสนเเหรียญถึง 1 ล้านเหรียญ หรือ 3.5 ล้านบาทถึง 35 ล้านบาท
4. กลุ่มมีทรัพย์มากกว่า 1 ล้านเหรียญหรือ 35 ล้านบาทขึ้นไป

- โดย Credit Suisse ทำการแบ่งกลุ่มประชากรที่มีรายได้ลงไปใน 4 กลุ่มนี้อ้างว่าคนที่มีทรัพย์สินต่ำกว่า 3.5 แสนบาทนั้นมีอยู่ราว 48.2 ล้านคน มี 3.5 แสนถึง 3.5 ล้านบาทอยู่ 3.9 ล้านคน มีทรัพย์สิน 3.5 ล้านถึง 35 ล้านอยุ่ที่ 3.77 แสนคน และมีทรัพย์สินตั้งแต่ 35 ล้านบาทประมาณ 4 หมื่นคน

(รวมมีผู้ใหญ่วัยทำงาน 52.6 ล้านคน)

- เรื่องที่ว่าประเทศไทยเราไม่มีการจัดเก็บข้อมูล การถือครองทรัพย์สินอย่างแท้จริง (ถ้ามีรัฐคงไม่ต้องพยายามมาทำฐานข้อมูลการจัดเก็บภาษีกันตาเหลือกแบบนี้หรอก) และแหล่งข้อมูลที่ Credit Suisse อ้างก็ไม่มีระบุถึง ผมพูดไปแล้ว ซึ่งเพียงแค่นั้นก็น่าจะจบและเคลียร์แล้วนะครับ

- แต่ที่เป็นปัญหาเข้าไปอีกต่อก็คือ #ความไร้มาตรฐาน ของการใช้ข้อมูล (ไม่ว่าจะข้อมูลจริงหรือข้อมูลที่นั่งเทียนมาเอง)

- เพราะวิธีคิดของ Credit Suisse มีปัญหาตรงการเอาฐานที่ตัวเองแบ่ง 4 กลุ่มมาหารแล้วดูว่า กลุ่มไหนที่ถือครองทรัพย์สินมากน้อยแค่ไหน แล้วสัดส่วนต่างกันแค่ไหน แล้วจึงทำออกมาเป็นค่าความเหลื่อมล้ำ GINI Index
.............................

- สมมุตผมเป็นเศรษฐีในประเทศลาว แต่ผมมาอยู่เมืองไทย ผมอาจเป็นแค่ชนชั้นกลางบน หรือผมเป็นชนชั้นกลางในไทย ไปอยู่ในพม่าหรือลาว ผมอาจเป็นชนชั้นกลางบนหรือเศรษฐีก็ได้ เพราะค่าเงินและค่าครองชีพในแต่ละประเทศมันไม่เท่ากัน

- Credit Suisse ใช้การแบ่งช่วงของทรัพย์สินตามกำลังทรัพย์ของประเทศพัฒนาแล้วมาเป็นเกณฑ์ แน่นอนว่าประเทศกำลังพัฒนา ย่อมทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศกำลังพัฒนา ตกอยู่ข่ายยากจน (ต่ำกว่า 3.5 แสนบาท) แม้ว่าตามจริง เขาอาจจะอยู่จัดอยู่ในระดับชนชั้นกลางในประเทศนั้นก็ตาม!!!

- อีกประการก็คือ ถ้าประเทศไหนเกิดมีเศรษฐีเยอะๆ ต่อให้คนจนเยอะ ค่าเฉลี่ยของเศรษฐีหรือคนรายได้สูงกับคนจน มันก็ทำให้ค่าความเหลื่อมล้ำลดลงอยู่ดี

แม้ว่าความเป็นจริงแล้วมันจะเหลื่อมล้ำไม่ต่างจากเดิมก็ตาม...
.............................

- หมายเหตุ: จริงๆ ผมอยากพูดต่อไปอีกเรื่องคือ ปัญหาที่ประเทศไทยติดกับดักรายได้ปานกลาง เพราะเรามีชนชั้นกลางน้อย และผู้ประกอบการเราค่อนข้างไร้ประสิทธิภาพ ทำอะไรๆ ก็เจ๊ง บริหารไม่เป็นแต่อยากให้เงินมาบริหาร ตามหนังสือรวยทางลัด และอื่นๆ

- ในขณะที่บริษัทที่เขามีมาตรฐานที่ดี มีการบริหารที่รัดกุม และพัฒนาตัวตลอด เขาก็เจริญขึ้น แบบนี้ควรจะโทษว่าเพราะรัฐ เพราะกฎหมาย หรือเพราะความไร้ศักยภาพของผู้ประกอบการในประเทศ ที่ทุกอย่างมันสบาย และไม่เคยต้องแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนอีกหลายประเทศดีละครับ ???

แต่เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลัง เพราะเป็นอีกเรื่องใหญ่ที่เดี๋ยวมาว่ากันครับ

---------------------
ข้อมูลของ World Bank
----------------------

- ในขณะที่สถาบันการเงินระหว่างประเทศที่นานาชาติยอมรับ และมีข้อมูลครบถ้วนในการประเมินอย่าง ธนาคารโลก หรือ World Bank นั้นระบุค่า GINI Index ซึ่งบอกถึงความเหลื่อมล้ำทางรายได้

- ประเทศไทยมีค่าอยู่ที่ 38 (สหรัฐอเมริกามีอยู่ที่ 41 หรือแย่กว่าไทย) ส่วนประเทศที่ถูกระบุว่าเหลื่อมล้ำมากที่สุดคือ แอฟริกาใต้ ค่า GINI อยู่ทึ่ 63 และรองๆ มาจากแอฟริกาใต้ ส่วนใหญ่ก็คือ ประเทศในทวีปแอฟริกาและละตินอเมริกาทั้งสิ้น เช่น

- Namibia
- Botswana
- Zambia
- Central African Republic
- Lesotho
- Swaziland
- Brazil
- Colombia
- Panama
- Guinea-Bissau
- Rwanda

ส่วนประเทศต่างๆ โดยทั่วไปค่า GINI จะอยู่ที่ 25-50 ซึ่งจะยังถือว่าโอเคสำหรับประเทศทุนนิยมทั้งหลาย

https://www.npr.org/sections/goatsandsoda/2018/04/02/598864666/the-country-with-the-worlds-worst-inequality-is?utm_campaign=storyshare&utm_source=facebook.com&utm_medium=social&fbclid=IwAR3aYzhZ74zLN-gXaRG3kW0lTwe-10mV_8kPOBda5Z3rNDeT0hfJhUBUBus

หมายเหตุ: ในข้อมูลไม่มีเกาหลีเหนือ ถ้ามีเกาหลีเหนืออาจเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำน้อยที่สุดในโลก อันเป็นอุดมคติของชาวสังคมนิยมก็ได้นะครับ 😃

(และถ้าเยอรมันตะวันออก โซเวียต และประเทศคอมมิวนิสท์แท้ อื่นๆ ยังอยู่ คงจะเป็นประเทศในฝัน เพราะมีความเหลื่อมล้ำน้อยกว่าประเทศทุนนิยมแน่ๆ ป.ล. จีนไม่ใช่คอมมิวนิสท์นะครับ มันแค่ใช้ชื่อเฉยๆ แต่จีนปัจจุบัน ห่างไกลจากคอมมิวนิสท์เยอะมากแล้ว)

----------------------
ค่า GINI ใช้ดูโดยประมาณ
----------------------

- เราต้องเข้าใจก่อนว่าค่าดังกล่าวนี้ วัดโดยการประมาณจากรายได้และรายจ่าย ซึ่งไม่ได้แปลว่ามันจะสะท้อน #ความอยู่ดีกินดีของคนในประเทศได้ในทุกมิติ

- อย่างประเทศยูเครน (26) ที่มีค่าความเหลื่อมล้ำน้อยที่สุด กลับเป็นประเทศกำลังพัฒนา ที่การเมืองในประเทศตีกันเละเทะเลย แถมความเป็นอยู่ของประชากรไม่ได้ดีกว่าไทยแน่นอน

(จนคนรัฐไครเมียและรัฐฝั่งตะวันออก ยังขอแยกตัวไปรวมกับสหพันธรัฐรัสเซียที่มีรายได้สูงกว่าและการเมืองนิ่งกว่าแทน)

- หรืออย่างโคโซโว (27) หรือ คาซัคสถาน (27) ก็มีความเหลื่อมล้ำน้อยกว่าประเทศยุโรปทุกประเทศ หรือ อิรัค (30) และคีกีซสถาน (29) ที่มีค่าความเหลื่อมล้ำ น้อยกว่าเยอรมัน (31) และญี่ปุ่น (32)

ก็ไม่ได้แปลว่าคุณภาพชีวิตของคนในประเทศเหล่านั้นจะดีกว่าประเทศที่มีค่าความเหลื่อมล้ำสูงกว่าเท่าไรนัก เพราะค่า GINI นั้นมันเป็นการประมาณการกว้างๆ จากรายได้ เป็นข้อมูลสถิติ ซึ่งมันกว้างมาก

- ข้อมูลพวกนี้เวลาดูต้องดูเป็น ช่วงระยะ (range) เช่นถ้ามันสูงมากๆ แบบพวกแอฟริกา ที่อยู่ที่ 60+ อันนี้ก็ถือว่าแย่ ถ้าอยู่ระดับ 25-30 ก็อาจจะดี และ 31-50 ก็ปานกลาง เป็นต้น

- แต่สุดท้ายแล้วมันก็ต้องดูภาพรวมอื่นๆ ประกอบด้วย เช่นอัตราการว่างงาน การมีอยู่มีกิน ความยากลำบากในการเข้าถึงบริการของรัฐ โดยเฉพาะการศึกษาและสาธารณะ ฯลฯ อีกมาก

----------------------
แนวโน้มความเหลื่อมล้ำในไทย
----------------------

- ถ้าดูจากความเหลื่อมล้ำของประเทศไทย ที่จัดเก็บโดยธนาคารโลก จะเห็นว่าตั้งแต่ปี 2006 ที่รายงานนั้นระบุมา ค่าความเหลื่อมล้ำของไทยดีขึ้นเรื่อยๆ จาก 42 ในปี 2006 ลดลงมาเหลืออยู่ที่ 36 ในปี 2015

- ซึ่งทำให้เห็นแนวโน้มในการกระจายรายได้ที่ดีขึ้นในระดับหนึ่ง ซึ่งก็ต้องทำต่อไปเรื่อยๆ นะครับ

https://data.worldbank.org/indicator/SI.POV.GINI?end=2016&fbclid=IwAR2rU3oi2fVYM2jT0pkxfSTUaPFunnf2aBKp8ZngLSoVBGwkuBSXHy6tYaU&locations=TH-MY-VN-ID&start=2004

----------------------
สรุป
----------------------

- ความเหลื่อมล้ำมีทุกประเทศแหละครับ ไม่มีประเทศไหนไม่มีหรอก ยิ่งเป็นประเทศทุนนิยม ไม่ใช่คอมมิวนิสท์แท้ๆ ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของกิจการและทรัพย์สินทั้งหมด

- เพียงแต่มีมากมีน้อย ก็ต้องพิจารณากันไปเป็นช่วงๆ และถ้าเป็นไปได้ก็ควรพัฒนาให้ช่องว่างความเหลื่อมล้ำน้อยลงเรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันค่าความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ก็ไม่สามารถจะบอกทุกอย่างได้

(หรือถ้าใครคิดว่าค่านี้น้อยแล้วดี แนะนำให้ออกไปอยู่ ยูเครน อิรัก ปากีสถาน คาซัคสถาน ดูสัก 5 ปีนะครับ แล้วค่อยกลับมาบอกว่าเป็นอย่างไร หุหุ)

- แต่ที่แน่ๆ คือ ค่าความเหลื่อมล้ำที่จัดโดยองค์กรระหว่างประเทศ อย่าง UN และ World Bank นั้นประเทศไทย ไม่ได้มีปัญหาหนักในเรื่องความเหลื่อมล้ำแน่นอนครับ คะแนนก็อยู่ระดับกลางๆ คือ 35-38 ซึ่งทำให้อยู่ในระดับที่ 40 กว่าจาก 196-206 ประเทศทั่วโลก

ไม่ใช่อันดับ 1 ของโลกอย่างที่เข้าใจผิดๆ กันไป!!!

เราจะเริ่มเห็นข่าวว่าช่วงนี้มีหลายบริษัทประกาศปรับลดพนักงานลงในหลายอุตสาหกรรม นี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นของความน่ากลัวของโลกยุคใหม่ ยุคที่คนรวยกำลังจะอัปเกรดตัวเองเป็นพระเจ้า ในขณะที่คนส่วนใหญ่จะกลายเป็นคนที่ไม่มีคุณค่าอะไรต่อเศรษฐกิจโลกเลย ยังไง? ในยุคนี้ที่ AI ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด หุ่นยนต์ เริ่มทำงานแทนคนได้ในหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น พอหุ่นยนต์ทำงานแทนคนได้เขาจะจ้างคนไปทำไมละ เพราะหุ่นยนต์ทำงานได้ดีกว่า, เร็วกว่า, เยอะกว่า ต้นทุนถูกกว่าแถมไม่เรื่องมาก คนชั้นแรงงานก็ไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไปกลายเป็นคนที่ไม่มีคุณค่าต่อเศรษฐกิจ ในความหมายก็คือคนเหล่านั้นเขาจะเอาคุณค่าอะไรไปแลกเงินมาใช้ในการดำเนินชีวิต? คนจำนวนมากไม่มีเงิน อาชญากรรมจะเพิ่มขึ้นไหม? เมื่อถึงจุดนั้นเมื่อไหร่เตรียมรับมือกลียุคได้เลย จากแนวทางโลกแบบนี้เราควรมองย้อนดูตัวเองได้แล้วว่าทุกวันนี้เรามีคุณค่าอะไรในเศรษฐกิจ เราจะพัฒนาตัวเองให้มีคุณค่าปรับตัวให้อยู่รอดในโลกยุคใหม่ได้อย่างไร การใช้ชีวิตไปวันๆไม่หมั่นขยันหาความรู้ใหม่ๆในแนวกว้างและลึก ก็เหมือนกำลังนับถอยหลังสู่ภัยพิบัติ

>>169 ปรับตัวเพื่อรับเศษกระดูกจากพระเจ้า แล้วก็เหยียบหัวคนชั้นล่างอีกที???
อย่าไปคิดไรมาก เป็นชนชั้นกลางซักวันก็ต้องโดนจี้ โดนแทงตายอยู่ดี ถ้าไม่มีปัญญาซื้อบ้านย่านที่ปลอดภัย อาจจะหลังจะ100ล้านก็ได้นะ ยุคนั้น

ขออธิบายได้ไหม ในฐานะหมอหน้าใสก็ได้

ปกติในอเมริกานี่ เด็กส่วนใหญ่ 70 เปอรเซนต์เกิดมาปุ๊บ Day1 นี่ก็จะได้รับการเข็นไปขริบจู๋เลยครับ เพื่อเหตุผลว่าช่วยในการดูแลความสะอาดและดูแลสุขอนามัยได้ดีขึ้น มีข้อดีมากมายที่ปัจจุบันทางการแพทย์เค้ายืนยันครับ เช่นลดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ลดการเกิดมะเร็งจู๋

แต่ทีนี้ปีๆนึง ก็มีหนังพวกเนี้ยเอาไปทิ้งปีละเป็นล้านๆ ชิ้นเลย ก็เลยมีนักวิทยาศาสตร์หัวใสเค้าเอาไปแปรรูปทำเป็น stem cell เนื่องจากพบว่าในหนังหุ้มพวกเนี้ย มันมีเซลล์พวก fibroblast พวกคอลลาเจน อีลาสตินต่างๆเยอะ (มันถึงยืดได้ไง สังเกตุไหมว่าโตแค่ไหนมันก็ยังยืดไปถึง) และเนื่องจากเอามาจากเด็กแรกเกิดมันก็ยิ่งสะอาดและมีความบริสุทธ์มาก เค้าก็เลยเอาไปสกัดเอามาทำเป็น serum แล้วมาผสมเป็นเครื่องสำอางค์เอามาฉีดหน้าทาหน้า เพื่อที่ทำให้ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น และเพิ่มความเต่งตึงจากพวก fibroblast ,อีลาสติน,คอลลาเจนบริสุทธ์นี่แหละครับ

ถามว่ามีคนใช้ไหม ปังไหม หรือเป็นแค่ข่าวเอาฮา จริงๆ ก็คือตอนนี้เป็นเทรนด์ดาราฮอลลีวูดนิยมกันมากเลยหละครับ อย่างซานดรา บูลล็อค, โอปราห์ วินฟรีย์ นี่ก็ทำ แถมประทับใจเอามาพูดในรายการเธออีกต่างหาก หรือเคท เบลนแชต ที่เล่นบทเฮร่า ในธอร์ ก็ใช้ มันเลยเป็นกระแสขึ้นมาครับ ลองหาคำว่า penis facial ดูนะ (กรุณาเรียกทับศัพท์ ห้ามแปลย้อนหลัง)​ ซึ่ง FDA อเมริกาเค้าก็รับรองด้วยนะว่าได้ผล (คือจริงๆ FDA เค้ารับรองแค่ว่าสารพวก EGF serum ที่สกัดมาจากพวก fibroblast เนี่ย มันสามารถซึมผ่านเข้าผิวได้นะ ถ้าใช้กรรมวิธีที่ถูกต้อง แค่นั้น)​

แต่อันนี้มันก็คือความเชื่อของคนเฉพาะกลุ่มนะครับ หาการทดลองเปรียบเทียบลำบาก เหมือนพวกเอาทองคำเปลวมาแปะหน้า เอารกแกะมาทานั่นแหละ ดังนั้น อย. เค้าถึงต้องออกมาเตือนก่อนครับ ว่าใจเย็นๆ อย่าพึ่งรีบไปถลกหนังใครมาแนบหน้านะ เพราะครีมหรือยาที่ใช้หนังหุ้มจริงๆหนะ มันกระปุกเป็นหมื่นและต้องผ่านกรรมวิธีสกัดฆ่าเชื้อมากมาย แต่เดี๋ยวแม่ค้าหัวใสบ้านเราไปซื้อครีมตลาดนัดแล้วมากวนเอง ถูขี้ไคลผสมหนังกำพร้าตรงไหนไม่รู้ลงไปหน่อย แล้วจะเอามาอ้างสรรพคุณแบบครีมเมืองนอกเค้า

#ต่อไปเวลาไปด่าใครว่าหน้าหัวจวยระวังเจ้าตัวเค้าสะดุ้งนะครับว่ารู้ได้ไง
#เค้าใช้หนังเด็กแรกเกิดนะครับส่วนหนังผู้ใหญ่นี่เอาไปเผาอย่างเดียวครับ
#เอาเซลล์หนังตรงนั้นมาฉีดตาต่อไปขยี้ตาทีนี่ตาจะพองขึ้นเปล่าไม่รู้

กูสงสัยพวกมึงไปเอาโพสยาวๆพวกนี้มาจากไหนกันวะ โพสเหมือนจะมีสาระแต่แม่งสาระแบบปลอมๆ ไม่งั้นก็ขวาจัดทั้งนั้น

>>172 อันไหนที่สาระปลอม ๆ ชี้ที

วิเคราะห์ตัวท๊อปจริงจัง

นี่คือบทสรุป 19 ข้อ

1. ตัวท๊อปหลายคน มักจะใช้ชื่อในไลน์แบบสั้น แบบตัวอักษรเดียว หรือ จุดเดียว หรือ อะไรก็ตาม แบบว่าอยากหลบซ่อนตัว แต่ก็หายไปไม่ได้ เพราะว่าอยากได้เงิน
.

2. ตัวท๊อปหลายคน พอเริ่มเปิดงานแรก บางทีมักจะรูปหมาแมว ตอนแรกกูไม่เอะใจอะไร แต่หลังๆเริ่มชัดล่ะ พวกนี้มักจะมีแต่เพื่อนเที่ยว เพื่อนยืมเงิน ไม่มีเพื่อนที่แท้จริง ก็เลยมีสัตว์เลี้ยงไว้ และพอไม่รู้จะตั้งภาพเป็นอะไร เพื่อหลบซ่อนตัว ก็มักจะใช้หมาแมว
.

3. ตัวท๊อปหลายคนมักจะมีพฤติกรรมปิด private facebook มากๆ หรือ อยู่ๆก็หายตัวไปจาก facebook เลย ไปสิงอยู่ IG เพราะว่า facebook มันง่ายต่อการ track ประวัติทั้งหมดออกมา
.

4. ตัวท๊อปหลายคน ต้องไปเจาะสะดือ เพราะว่าการเปลือยกายกับชายหื่นแปลกหน้า มันจะต้องหาอะไรมาป้องกันสักนิด เพื่อป้องกัน personal space บางอาจจะเจาะสะดือ บางคนอาจจะสัก เพราะไม่มีใครอยากโดนเด้าจากคนไม่รู้จักหรอก มันอาจจะเป็นการช่วยทางใจ
.

5. ตัวท๊อปหลายคน มีปัญหาเรื่องวินัยทางการเงิน หาเงินได้เท่าไหร่ก็ไม่พอ ตอนแรกๆ อาจจะทำเพราะจำเป็น อาจจะไม่ตั้งใจมาก แต่แบบว่า เกิดมาหน้าตาดี มีโมเดลลิ่งตามจีบอยู่เนืองๆ แล้วจะเกิดจังหวะแบบว่า พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก มีปัญหาเรื่องเงิน แล้วอยู่ๆ ก็ปิ๊งว่า ทำสักครั้ง แล้วเอาเงินมาแก้ปัญหา
.

6. ทีนี้ พอมีครั้งแรก ก็มีครั้งที่สอง และมีครั้งต่อๆไป เพราะการรับงานพริตตี้จริงๆ เงินได้น้อยมาก โดนหักเยอะมาก หรือจะทำงานอื่นๆ ก็สู้รับงานแบบนี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ยืนทั้งวันได้ 2,000 นอนให้พี่หมีกระเด้า 2 ชม. ได้หลายหมื่น คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม
.

7. ตัวท๊อปจะมีพฤติกรรมใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย เพราะเงินที่ได้มา แลกมากับศักดิ์ศรีของตัวเอง เลยจะต้องเอาเงินไปเปย์กับการกิน การเดินทาง มีรถ มีคอนโดหรู เพื่อพยายามปกปิดตัวเองแบบโง่ๆ
.

8. ตัวท๊อปจะมีพฤติกรรมขี้อวดทาง social เพราะว่า ภายในจิตใจอันมืดมิดของตัวท๊อป มันหมดคุณค่าในตัวเองแล้ว มันเลยจะต้องสร้างเกราะกำบัง ไว้ป้องกันคุณค่าในตัวเองแบบผิดๆ
.

9. พี่หมีพิมพ์สดนะ ถถถถถ อาจจะเรียบเรียงไม่ถูกต้องนัก หรือตกหล่นอะไรไป ตอนนี้กำลังบรรลุสัจธรรมอยู่ หลังจากตอนเช้า ซัดไปอีก 2-0
.

10. ตัวท๊อปจะพยายามหาผู้ชายที่รักจริง (มีหลายคน แต่ไม่ทุกคน) จะพยายามไม่จับลูกค้า เพราะรู้อยู่ทั้งรู้ ว่ามันเป็นแค่ตัวท๊อป เพราะฉะนั้น บางทีก็พยายามเอาเงินเปย์ เพื่้อรักษาความรักของตัวท๊อปนั้นเอง หาความมั่นคงทางจิตใจ
.

11. ตัวท๊อปที่เริ่มตกต่ำมากๆ จะเริ่มไปศัลยกรรมรัวๆ เริ่มทำหน้าอก บางคนตีบวกติด ก็อาจจะรักษาระดับงานได้ แต่อย่างว่า วงการนี้ ลูกค้าคุณภาพมีจำกัด มันจะไม่ชอบซ้ำด้วย cycle นึงอาจจะไม่นานมาก ที่นักเย็ดมันเย็ดวนกันไปจนครบแล้ว ทำให้ตัวท๊อปขาดงาน
.

12. ทีนี้ มันต้องเริ่มลดตัวเองไปรับงานอื่นๆ เช่น งานเกี่ยวกับยาเสพติด หนมเค น้ำแข็ง และอื่นๆ เป็นต้น เพื่อให้ได้งาน ในขณะที่รายจ่ายยังเท่าเดิม หรือ อาจจะมากกว่าเดิม ทีนี้มันจะเริ่มโทรมอย่างรวดเร็ว
.

13. พอหมดรอบ หางานไม่ได้จริงๆ มันก็จะลดราคาลงไปเรื่อยๆ จนเข้าไปแตะเพดานราคาของ อ่าง และ นกป มันก็จะลดตัวเองลงไปเป็นเด็กอ่าง นกป ก่อนที่จะเลิกค้าแข้งในวงการนี้
.

14. บางคนอาจจะเสี่ยงดวงไปค้าแข้งต่างประเทศ โดยประเทศที่นิยมไป ก็มักจะใกล้ๆบ้านเรา ไปกันเป็นรอบๆ สัปดาห์นึงส่งกันไปเป็นร้อยๆคน เป็นการส่งออกบริการที่นำเงินเข้าประเทศไทยได้เยอะมาก
.

15. ที่เล่ามา เล่ามาโดยย่อๆ แต่ละเรื่องเป็นประสบกามจริงของพี่หมีทั้งนั้น
.

16. ตัวท๊อปหลายคนสมองกลวง มีวิธีการคิดที่ผิดพลาด จริงๆแล้วมันคือ มนุษย์เลเวล 1 ที่บังเอิญเกิดมาสวยน่าเด้า มันก็เลยมีโอกาสทางธุรกิจในเส้นทางนี้ พอมันสวย มันหุ่นดี ทำอะไรก็ง่ายไปหมด จุดแข็งนี้เลยกลายเป็นจุดอ่อน ทำให้มันไม่อดทนอะไร มีแต่คนเอาใจ จนมันบ่มเพาะอุปนิสัยนี้ออกมา ทำให้สมองไม่พัฒนา แต่ต้องให้เครดิตบางคน ถึงจะคิดไม่ได้ แต่มีวินัยในการออกกำลังกายให้ตัวเองหุ่นดี หรือ ควบคุมอาหารได้อย่างดีเยี่ยม
.

17. ตัวท๊อป ก็คือ ตัวท๊อป พวกมึงกระเด้าได้ แต่อย่าเอาทำเมีย หรือ อย่าเอามาพัฒนาให้มันเป็นเมีย มันมีเคสผิดพลาดในวงการนี้มาเยอะ หน้าตาดีสัสๆ หุ่นดีเหี้ยๆ ก็เลยใจอ่อน พยายามดึงออกมาจากวงการ พยายามจะพัฒนา พยายามจะช่วยเหลือ พวกมึงต้องอย่าลืมนิยามของตัวท๊อป หน้าตา นม หุ่น มันเป็นเพียงเปลือกนอก เนื้อแท้ของมัน ก็คือ กระหรี่
.

18. กฎเหล็กของพวกมึง ต้องอย่ามีใจให้ตัวท๊อป แต่แสร้งมีได้ เพื่อที่มึงจะได้ทำเควสนักเย็ดแบบชาวเรือบางคน
.

19. ยยม ยยอ้

โฟสความเหลื้อมล้ำแม่งโยงมั่ว ชิบหาย พอแก้ตัวเรื่องประเทศไม่ได้มีความเหลื้อมล้ำไม่ได้(ได้แค่เรื่องอันดับ1) ก็บอกประเทศนู่นประเทศนี้ที่ความเหลื้อมล้ำน้อย ยังมีปัญหาเรื่องอื่นๆ มันคนละประเด็นปะวะ เก่งจังเรื่องเอาเรื่องมาโยงกัน โดยเฉพาะการที่ไม่เกี่ยวข้องกัน

***บทความยาว อยากสร้างความเข้าใจ***

เมื่อเร็วๆนี้มีหลายคลิปที่ถูกเผยแพร่ผ่านหลายสื่อมาก เป็นแสงไฟแว้บๆพร้อมภาพหญิงที่มีหัวกับไส้ ไฟแดงแว้บๆ แล้วบอกว่าเป็น "กระสือ"

หลายคนคงจินตนาการกระสือคือผีที่มีหัวกับไส้มีไฟกระพริบลอยไปลอยมา กินของเน่าเสีย ใช่มั้ยครับ

ทว่าความเป็นจริงแล้ว เรื่องนี้เป็นเพียง "จินตนาการของผู้วาดการ์ตูน"ครับ

นามกรของผู้ว่าท่านนี้ชื่อ "ทวี วิษณุกร" หรือ "ทวี เย็นฉ่ำ" นักเขียนฝีมือดีจากนครสวรรค์ จากเรื่องที่มีชื่อว่า "กระสือสาว" ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือการตูน "หนูจ๋า" (ปัจจุบันไม่แน่ใจว่ายังมีอยู่อีกหรือไม่) ในปีพุทธศักราช 2511 เท่านั้นเอง

ซึ่งเรื่องนี้ได้รับจินตนาการจากเรื่องเล่าสมัยรุ่นพ่อเกี่ยวกับทหารเขมรที่ฆ่าภรรยาเพราะคิดว่าเป็นผีกระสือ รวมกับจินตนาการผสมรวมกับประสบการณ์วัยเด็กจนได้เรื่อง"กระสือสาว"ตีพิมพ์ออกมา เป็นระยะเวลากว่า 5 ปี

การ์ตูน(หรือนิยายภาพ) เรื่องนี้ได้รับความนิยมสูงมาก จนกระทั่งมีผู้จัดภาพยนตร์นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อเรื่องเดียวกันนี้ โดยบริษัทศรีสยามโปรดักชั่น ซึ่งมี สมบัติ เมทะนี และพิสมัย วิไลศักดิ์ เป็นผู้แสดงนำ จากนั้นได้รับการรีเมคผ่านละครจอแก้วหลายเวอร์ชั่น

ส่วนกระสือที่แท้จริงนั้น จากคำบอกเล่าของหลายฝ่ายบอกว่า "เป็นเพียงดวงไฟ" บ้าง "มีหน้าแทรกในดวงไฟสีเขียว" บ้าง แต่แท้จริงแล้วตำนานก็คือตำนานมีเรื่องเล่าแตกต่างกันหลายรูปแบบกันไป

สิ่งที่น่าสนใจคือคุณทวี วิษณุกร มีหลายเส้นสยองเป็นเอกลักษณ์ หาเปรียบได้ยาก ปัจจุบันด้วยปัญหาสุขภาพทำให้เลิกเขียนภาพมานานหลายปีแล้ว แต่ยังมีผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนของคุณทวี วิษณุกร สร้างเพจและเผยแพร่ผลงานของท่านอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทายาทที่ร่วมมาฟื้นชีวิตชีวาผลงานของคุณทวี วิษณุกร อีกครั้งทั้ง "กระสือสาว" "นางตานี" และ "ลูกสาวผี"

ใครที่สนใจผลงานของท่านติดตามได้ที่แฟนเพจ ทวี วิษณุกร แฟนคลับ (https://www.facebook.com/taweewitsanukorn/) ได้เลยครับ

หวังว่าบทความนี้จะคลายความสงสัยของท่านๆไม่มากก็น้อยนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก -

http://taweewitsanukorn.blogspot.com/2017/05/blog-post.html

หากสนใจดูคลิปของท่านดูได้ที่นี่เลยครับ (ส่วนหนึ่งของบทความก็เขียนจากคลิปนี้ครับ)

https://www.youtube.com/watch?v=8ERNaPlg8Oo

ป.ล.แชร์ได้เลยครับอยากไปให้ถึงหูมนุษย์เลเวล 0

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

>>175 ไม่มีใครแก้ตัวว่าไทยไม่มีความเหลื่อมล้ำนะ แค่มันไม่ใช่ที่ 1 แบบที่ใส่ไฟแค่นั้น มีคนบอกว่าไทยไม่เหลื่อมล้ำด้วยเหรอ

>>177 ก็ไม่มีไง ต้นโพสก็แก้ตัวเรื่องนี้ไม่ได้ไง เลยยกตัวอย่างประเทศอื่น ว่าเห้ยประเทศคนอื่นเขาก็มีความเหลื้อมล้ำไง เห็นมั้ย USA ก็เหลื้อมล้ำ กุเลยบ่น คนอ่านอ่านแล้วสบายใจดี

>>178 ก็มันไม่ได้แก้เรื่องนั้นไม่ใช่เหรอ มันแค่แย้งว่าข้อมูลมันผิดยังไง

ส่วนความเหลื่อมล้ำถ้ายังอยู่ในโลกทุนนิยมยังไงก็ต้องมี คนมันจะได้อยากรวย อย่างเมกา GINI แย่กว่าไทยอีก สิงคโปร์ GINI ก็แย่ แต่ถามว่าดีกว่าไทยมั้ย ก็ดีกว่าแน่ ไม่มีใครเถียงหรอกมั้ง

แต่กูว่ามึงจับประเด็นผิดนะ มันแค่บอกว่าค่า GINI วัดไม่ได้ว่าประเทศเจริญ อย่างอิรักคนก็จนเท่ากัน ค่า GINI เลยสูง มันต้องเอาตัวเลขอื่นมาดูด้วย หรือมึงคิดว่าอิรักเจริญกว่าไทยละ

มันมีไอ้นี่ด้วยนะ ความยากง่ายในการอัพเกรดชนชั้น สแกนดิเนเวียนี่ง่ายสุดอีกตามเคย

ข่าวนี้แสดงระดับประชากรไทยได้ชัดว่านอกจากจนแล้วยังโง่อีก ใครอธิบายไรก็ไม่ฟัง ใช้ความรู้สึกอย่างเดียว รุ่นนี้ตายหมดรุ่นหน้าก็คงเป็นแบบนี้เหมือนเดิม

เลือกตั้งคราวนี้ ประชาชนต้องตื่นตัวมากกว่าครั้งอื่น ๆ ที่ผ่านมา เพราะมีการปรับกฏ กติกา ที่เกี่ยวข้องกับประชาชนค่อนข้างเยอะ มาอธิบายให้ง่าย ๆ ดังนี้

- เขตเลือกตั้งคนละเขตคนละเบอร์ : ถ้าตามทะเบียนบ้านเราอยู่เขตเลือกตั้งไหน เราต้องดูเบอร์ของผู้สมัครเขตเลือกตั้งนั้น ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ดี ๆ เพราะในบัตรเลือกตั้งมีแนวโน้มสูงที่จะไม่มีชื่อพรรค (และอาจจะไม่มีชื่่อผู้สมัครเลยก็ได้) อาจจะมีแต่เบอร์ ประชาชนต้องติดตามข้อมูลข่าวสารให้ดี ๆ ไม่งั้นอาจกาผิดเบอร์ได้โดยไม่รู้ตัว

- พอมันเป็นเขตเลือกตั้งคนละเบอร์ ก็เป็นความท้าทายของ กกต. ที่จะต้องระบุในบัตรให้ชัดเจนว่า บัตรเลือกตั้งนี้ลงคะแนนในเขตไหน เพราะเมื่อคนละเขตคนละเบอร์แล้ว ก็ต้องมีวิธีการนับคะแนนเลือกตั้ง 350 แบบ ซึ่งอาจส่งผลต่อหลัก secret ballot เวลาออกเสียงนอกจังหวัดหรือนอกประเทศที่คนน้อย ๆ ได้ (เพราะมันต้องแยกกอง ยิ่งนอกประเทศอาจจะมีแค่คนเดียวที่มาจากเขตเลือกตั้งนี้ก็ได้)

- ระบบสัดส่วนผสมแบบใช้บัตรใบเดียว (ในไทยตั้งชื่อว่าจัดสรรปันส่วนผสม) อันนี้คนอธิบายมากแล้ว แต่ง่าย ๆ ก็คือว่า ประชาชนออกเสียง 1 คะแนนให้ผู้สมัครเขต แต่เอาคะแนนรวมของผู้สมัครเขตที่สังกัดพรรคการเมืองนั้นทั่วประเทศมาคิดเป็นร้อยละของที่นั่งที่พึงได้ ขาดเหลือเท่าไหร่เอาผู้สมัครบัญชีรายชื่อไปเพิ่มเติมเท่านั้น

- จากระบบเลือกตั้งดังกล่าว ทำให้ประชาชนต้องประเมินดี ๆ ว่าเขตนี้ควรเลือกพรรคใด เพราะหลายกลุ่มการเมือง (faction) มีการใช้กลยุทธ์ "แตกแบ๊งพันเป็นแบ๊งร้อย" เพื่อให้ได้ที่นั่งพึงประเมินรวมแล้วมากกว่าพรรคเดียว ประชาชนต้องดูดี ๆ ว่าเลือกพรรคนี้ในเขตเราแล้วใครได้ประโยชน์ อยากให้กลุ่มสุเทพได้ต้องเลือกพรรคไหน อยากให้ประยุทธ์เป็นนายกต่อต้องเลือกพรรคไหนในเขตเรา ฯลฯ ต่างจากเดิมแน่นอนที่อยากให้ใครได้ที่นั่งในสภาเยอะสุด ก็กาพรรคนั้น ต่อจากนี้ภายใต้ระบบเลือกตั้งนี้อาจไม่ใช่อีกต่อไป

- ซึ่งไอ่เขตเลือกตั้งคนละเขตคนละเบอร์ เอาเข้าจริง ๆ น่าจะมีเจตนาให้เกิดความไม่เข้มแข็งของพรรคการเมือง เน้นที่ตัวบุคคลผู้สมัครเขตมากขึ้น แต่ก็ลักลั่นกับระบบสัดส่วนผสมแบบใช้บัตรใบเดียวที่เอาคะแนนของผู้สมัครเขตมาคิดที่นั่งที่พึงได้ของพรรคการเมือง เพราะผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อต้องอาศัยคะแนนของผู้สมัครเขต (สรุปคือไม่แฟร์กับผู้สมัครบัญชีรายชื่ออย่างมาก จะหาเสียงของตัวเองก็ยากเพราะคนละเขตคนละเบอร์)

- เรื่องเขตเลือกตั้งเองก็สำคัญ คราวนี้มีการปรับเขตเลือกตั้ง (อีกแล้ว) จากปี 54, 57 ต้องดูให้ดีว่าตนสังกัดอยู่เขตอะไรกันแน่ บางจังหวัดแบ่งเขตคล้าย gerrymandering เช่น นครราชสีมา ต้องดูดี ๆ ว่าตนอยู่เขตอะไร

- เรื่องวุฒิสภามีส่วนร่วมในการเลือกนายก : วุฒิสภามาจาก คสช. แต่งตั้ง 244+6 คนทหาร รวมเป็น 250 มีส่วนร่วมในการเลือกนายก อันนี้อาจต้องรอดูกระแสและท่าทีว่าคนกลุ่มนี้จะสนับสนุนใคร อาจเป็นพลเอกประยุทธ์หรือท่านอื่นก็ได้ (ความไม่แน่นอนมันก็มี) ประเด็นนี้ อ.ประจักษ์เองก็บอกว่าไม่ควรไปคาดการณ์ล่วงหน้าว่าคนกลุ่มนี้จะเลือกพลเอกประยุทธ์ อาจเลือกท่านอื่น อะไรเช่นนี้ก็ได้

- สุดท้าย วันที่ 4 ม.ค. กกต. จะออกประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง จำนวน ส.ส. แต่ละจังหวัด และเขตเลือกตั้งแบบเป็นทางการ ต้องติดตามกันตอนนั้นอีกครั้ง และมันเป็นวันเกิดเราด้วย (บอกไว้สำหรับคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ 555 ขอบคุณมากค่า) :p

ถ้ารักนายกทักษิณ รักพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่รอแบบมือขอ 300 500 แล้วไปกาโลโก้พรรคง่ายๆ ในคูหาเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะครับ ต้องหมั่นฝึกฝนตัวเอง อ่านหนังสือหนังหา เทียบตัวเลขหมายเลขกับผู้สมัครกับพรรคการเมืองในเขตเลือกตั้งของเราให้ถูกต้อง

หัวคะแนนก็ไม่ใช่แค่จะแจกเงินอย่างเดียวแล้ว ต้องช่วยติวการบ้าน ติวเรื่องภาษาไทยกันหน่อย อาจรับนักศึกษาจบเอกภาษาไทยมาเป็นหัวคะแนน พัฒนาศักยภาพขึ้นทุกฝ่ายอ่ะครับ สู่ประเทศไทย 4.0 ที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ท้ายสุดเนร้พี่โจวกราบขอบคุณ พณ ท่านนายกพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้วางนโยบายประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพื่อเพิ่มคุณภาพให้ประชากรของประเทศมา ณ ที่เนร้ /\

#รากหญ้าต้องพัฒนาตนเองไม่ใช่รอกาแต่โลโก้พรรคการเมือง
#ช่วงการเพิ่มความเงางามให้กับท้อปบู้ทอย่างแท้จริม

>>183 ทักษินแก่เกินยังเงี่ยนอยากได้อีกเหรอ

สิ่งที่คุณคาดหวังใน Bitcoin Thai Club
- ขุดยังไงให้ได้กำไรมากสุด
- เหรียญตัวไหนเป็นอย่างไร
- วิธีรับมือ ๆลๆ

สิ่งที่คุณเจอใน Bitcoin Thai Club
- เจ้ามันลากขึ้นลากลง วงการนี้มีปลาวาฬใหญ่
- คุณสู้เขาไม่ได้หรอก เจ้าเขาเหนือกว่า
- เจ้า เจ้า เจ้า เจ้า เจ้า

พ่อมึงเป็นสมศักดิ์เจียมเหรอ
#มิตร

>>185 พูดแบบนี้แสดงว่าไม่รู้จักBogdanoff

อีแอพ ZEPETO นี่ใช้วัดระดับ "การยอมรับในตัวเอง หรือ ความภูมิใจในตัวเอง" ได้เหมือนกันนะ เช่น
คนหน้าตาไม่ดีที่กล้าสร้างร่างอวตารตัวเองออกมาเหมือนตัวจริง ต้องถือว่าน่ายกย่องนะ
กับคนหน้าตาไม่ดี แต่สร้างร่างอวตารตัวเองซะหล่อน่ารัก จนคนเห็นแล้วสงสัยว่า "มึงสร้างร่างอวตารของใครวะ"