ตำหนักที่ 1 ---> https://fanboi.ch/literature/4172/
ตำหนักที่ 2 ---> https://fanboi.ch/literature/4500/
ตำหนักที่ 3 ---> https://fanboi.ch/literature/4668/
Last posted
Total of 1000 posts
ตำหนักที่ 1 ---> https://fanboi.ch/literature/4172/
ตำหนักที่ 2 ---> https://fanboi.ch/literature/4500/
ตำหนักที่ 3 ---> https://fanboi.ch/literature/4668/
โทษที กูลืมนึกชื่อใหม่๕๕๕๕
เนียนโฆษณา! ถถถ
คิดถึงตำหนักเราจัง เถียงเรื่องเล่าลือกันแป๊บ ๆ ก็ขึ้นตำหนักใหม่ละ
ในฐานะที่กูเปิดประเด็นเรื่องนี้ กูขอชื่นชมโม่งที่โทรถามราชบัณฑิตจากใจจริง มึงแม่ง ความหวังของมวลมนุษยชาติแท้ ๆ เลย
รู้สึกอยากสับนิยายแต่ก็ขี้เกียจจัง 55555555555555
แค่ร่ำลือ เล่าลือก็กินไปครึ่งมู้ละ ไม่ได้สับเบย
ตกลงใช้ได้ทั้งร่ำลือและเล่าลือ โปรดปักธง ปุกาด ๆ ๆ ใช้ได้ทั้งร่ำลือและเล่าลือ แต่ต้องใช้ให้ถูกบริบทด้วยนะสหายโม่ง
ป.ล. โม่งโทรศัพท์ช่วยโทรถามราชบัณฑิตด้วยว่า ตอดคมสันต์ใช้ได้มั้ย เพราะอาจจะมาจากการผสมคำ ตอด+คม+สันต์ แปลว่าตอดแล้วดูคมคายดีและสุขสันต์หรรษาด้วย
โม่งเพื่อนรัก กูไปเจอของดีมาอีกแล้ว มึงบอกกูทีว่าอ่านแล้วมึงไม่ได้คิดถึงป่าท้อ T-T
http://www.tunwalai.com/story/209661/ป๋ายเจิน-สาปรักจิ้งจอกพันปีnc-18
ใครกล้าถามตอดคมสันต์กูจะนับเป็นศิษย์พี่
ทำไมนิยายจีนคนไทยแต่งถึงราคาแพงจัง ต้นทุนเขาสูงขนาดนั้น ลิขสิทธ์นิยายไทยอะเขาคิดไงเหรอ ทำไมเขาตั้งราคาสูงพอๆกับแปลจีน
กูคือเบอร์ไรวะจำไม่ได้ ที่คุยเรื่องร่ำลือ เล่าลือ
แต่ก็งงๆ กับคำตอบของราชบัณฑิตนะ แบบนี้เราเอาคำที่มีอยู่ในพจนานุกรมมาประสมเองก็ถือว่าถูกใช่มะ
ส่วน จบชีวิต ที่ว่าเป็นประโยค กราบขออภัย เกิดสับสนกับการที่ประโยคภาษาไทยสามารถละประธานได้
แต่กริยา+กรรม มันก็ไม่ใช่คำศัพท์ เรียกว่า กริยาวลี ใช่รึเปล่า ซึ่งตรงนี้ก็ถูกอย่างที่ราชบัณฑิตว่าไม่สามารถเอาทุกคำมาใส่พจนานุกรม
อย่างพจนานุกรมอังกฤษจะเก็บคำหลักไว้ นาม กริยา คุณศัพท์ วิเศษณ์ แล้วก็เพิ่มเติมคำประกอบหรือสำนวน มีตัวอย่างคำตัวอย่างประโยค
ใจจริงอยากให้พจนานุกรมเราทำแบบของฝรั่งนะ ละเอียดดี
โม่ง มีใครสับ จื่ooิj...อย่านอนเอา ไปยัง กูแค่เห็นคำโปรยก็มุมปากกระตุก รู้สึกคันไม้คันมืออย่างยิ่ง
>>13 มึงจะต้องงงทำไมกับคำตอบราชบัณฑิต ปกติคนเราก็ใช้คำแต่ละคำผสมมาเป็นประโยคหรือเป็นวลีอยู่แล้วในการสนทนา แล้วแต่ว่าใครมีความสามารถทางภาษามากน้อย คนมีน้อยก็ใช้เลียนแบบคนอื่นโดยไม่สร้างใหม่ คนมีมากก็สร้างวลีสวย ๆ ได้เอง แต่ไม่ได้แปลว่าสร้างขึ้นใหม่โดยไม่มีความถูกต้อง กูเคยอ่านรงค์ วงษ์สวรรค์บอกว่าเขาเขียนคำว่ากระท่อมโย้เซ แล้วโดนบอกอแก้ให้เป็นโย้เย้หรือไงเนี่ย เขาไม่ยอม เพราะทั้งโย้ทั้งเซมันมีความหมาย เขาเอามันมารวมกัน กูมองว่าเขาพูดถูก ถ้ามีความสามารถทางภาษาก็สามารถจำคำมารวมกันเองได้ แต่ทีนี้คนอ่านและบอกอจะยอมรับคำของมึงหรือเปล่าเท่านั้น กูไม่ได้ร่วมถกเรื่องคำว่าร่ำลือ เพราะกูอ่านแต่แรกก็เห็นแล้วว่าเป็นสองคำที่มีความหมายในตัวเอง พอดีช่วงนั้นสอบเลยขี้เกียจเขียน เพราะเขียนแล้วต้องตามมาตอบยาว ต้องขอบคุณโม่งที่โทรไปถามราชบัณฑิต คำที่ไม่ได้ใส่ในราชบัณฑิตยังมีอีกเยอะนะ ในเว็บเขาก็เขียนไปว่าให้เสนอได้ พอก่อนกูต้องไปกินข้าว คิดถึงการสับนิยายของโม่งตอดว่ะ เมื่อไหร่จะมา
>>6 ถามราชบัณฑิตไปทางอีเมลว่า ตกลงควรใช้คำว่า สมคำร่ำลือ หรือ สมคำเล่าลือ
ราชบัณฑิตตอบมาแบบนี้ว่ะ
ควรเขียนเป็น ร่ำลือ คำว่า ร่ำ มีความหมายว่า พูดซ้ำๆ , พร่ำ
(เวลาโทรถามราชบัณฑิต ส่วนใหญ่เขาตอบดีนะ เขามีเจ้าหน้าที่ไว้ตอบคำถามด้านนี้อยู่แล้วในวันเวลาราชการ
ในหน้าเว็บเขาตรงพวกเบอร์ติดต่อภายใน เขายังมีโชว์เบอร์ของที่จะ สอบถามศัพท์ ด้านภาษาไทย ไว้เลย
เพียงแต่ตอนโทร ทำใจนิด โทรติดยากมาก แต่ถ้าโทรติดแล้ว เขาคุยดี อารมณ์เหมือนคุยกับครูภาษาไทยตอนเด็กเลย)
เกรงใจเพื่อนโม่งจริงๆ ว่ะ ลากยาวมาก ประเด็นร่ำลือ ล่ำลือ กินพื้นที่ทู้จริงๆ
ป.ล. ตอดคมสันต์ อยากถามมั้ย เดี๋ยวถามให้ ฮ่าๆ ๆ
กราบขอเพื่อนโม่งพอเรื่องร่ำลือเล่าลืออะไรก็ตามที หยุดเถิด
ปอลู ใครเจอเสิ่นเจิ้นลอกเสิ่นเจิ้นก็มาแบ่งปันกันบ้าง เผื่อจะช่วยกันสอดส่อง
สับนิยายดีกว่าว่ะ ใครมีเสิ่นเจิ้นยาวไม่เกินยี่สิบตอน เอามาลงเลย ติดท็อปไม่ติดท็อปได้หมด เดี๋ยวกูเลือกเฉาะเรื่องนึง ที่เหลือรอโม่งตอด
ห้องนี้มีกฎว่าเวลาพูดถึงนิยายเรื่องไหน ห้ามเขียนชื่อตรงๆ ป่าววะ เห็นหลายคนพิมพ์แบบไม่ตรงเป๊ะ
ไม่ใช่อะไร กลัวทำผิดกฎ
กูอ่าน เพียง love สลัก heart มาแล้ว ตอนแรกกะว่าจะอ่านซักสามตอน แต่พออ่านบทนำได้ไม่ถึงครึ่งกูก็เลื่อนลงดูแล้วว่าใกล้จบหรือยัง สรุปว่าอ่านบทนำบทเดียวจอด
อันแรกเลยกูต้องบอกว่าถ้าใครอ่านจีนแปลหรืออ่านภาษาจีนได้ และไม่ชอบเสิ่นเจิ้นที่เขียนไม่จีน ขอให้ผ่านนิยายเรื่องนี้ไปได้เลย ไม่เชื่อไปอ่านดูเอง นี่คือคำตัดสินของกูคนเดียว (กูอ่านจีนแปลเป็นหลัก อ่านเสิ่นเจิ้นเฉพาะงานที่มีกลิ่นจีน)
ประโยคบรรยายไม่จีนเลย แล้วถ้าจะดูแบบไทย ตัดอคติในเรื่องจีนไม่จีนออกไป ประโยคไทยก็ไม่สละสลวย กูไม่ขอติเรื่องเว้นวรรค นักเขียนอาจจะพิมพ์ในไหนก็แล้วแต่ที่เว้นวรรคยาก หรือรีบลง ไม่ได้ตรวจอะไรก็แล้วแต่เหตุผลเขา แต่กูขอติการใช้ประโยคยาวเป็นพืดที่ทำให้ความน่าอ่านลดลงไปครึ่งนึง แล้วเขียนแบบนี้ในทุกอารมณ์ ทุกตัวละครที่ออกมา ใช้การบรรยายแบบเดียวกันหมด มันเป็นการเล่าเรื่องที่แบนมาก เพราะจริง ๆ แล้วตัวละครแต่ละตัวมันมีบุคลิกของมัน มุมมองของมันต้องมีลักษณะต่างกัน ความคิดของมัน ท่วงท่าของมัน พวกมึงคงเข้าใจ เขาเปิดบทนำมาด้วยตัวพระเอกกับนางเอก นางเอกโดนนินทาเรื่องเป็นใบ้แต่จะได้แต่งกับผู้ชายดีและหล่อ ส่วนพระเอกก็เปิดตัวด้วยการถอดเสื้อรำกระบี่ แต่อ่านแล้วไม่ได้รู้สึกว่ามันเหี้ยมหาญอะไรอย่างที่พยายามจะบอก เพราะประโยคมันเย่ินเย้อยืดยาด และมีการใช้คำผิดความหมายด้วย
ยกตัวอย่าง ใบหน้าได้รูปและดวงตาที่เฉี่ยวขึ้นเล็กน้อย (เฉี่ยวขึ้นเล็กน้อยคืออะไร เฉี่ยวแปลว่าทันสมัย เช่น แต่งตัวเฉี่ยว เปรี้ยว ดวงตาทันสมัยขึ้นเล็กน้อยคืออะไร ไหนใครบอกหน่อย ควรใช้ว่าดวงตาเฉียงขึ้น ง่ายแค่นี้เองแต่คนเขียนไม่รู้) ตัวอย่างที่สอง เริ่มสงสารว่าที่ลูกสะใภ้ขึ้นมาเนือง ๆ (สงสารเนือง ๆ เป็นยังไงเหรอวะ เนือง ๆ หมายถึงทำบ่อย ๆ มันไม่เข้ากับประโยค ถ้าสงสารบ่อย ๆ ก็ไม่ต้องมีคำว่าเริ่ม หรือถ้าจะแปลว่ามาก อย่างที่ใช้กันว่าเนืองนอง มันก็ไม่เข้าอีกอยู่ดี นี่กูพยายามหาคำแปลมาช่วยแล้ว) อยากบอกนักเขียนทุกคนว่าถ้ามึงไม่แม่นคำก็จงเปิดพจนานุกรมซะหน่อย
นิยายแบบนี้ในสายตากู คือนิยายที่อ่านข้าม ๆ เอาเนื้อเรื่องพอได้ อ่านเอาอรรถรสด้านภาษาสำหรับกูแล้ว ไม่ผ่าน อ่านแล้วง่วง ขนาดคิดว่าเราต้องเปิดใจอ่านซักสามบท กูยังไม่ไหวเลยว่ะ ได้แค่บทนำก็ปวดตับแล้ว
อ้อ ข้อดีคือไม่ค่อยมีคำพิมพ์ผิด กูเห็นคำเดียวคือบุตรตรี ที่เหลือให้โม่งอื่นมาออกความเห็นบ้างดีกว่า เชื่อกูคนเดียวเดี๋ยวว่าลำเอียง
เรื่องนางเอกเอาแต่นอนที่ติดท็อปเหมือนกัน กูลองไปแง้มดู มันไม่มีอะไรเพราะเนื้อเรื่องเดิม ๆ แทบไม่เพิ่มเติมอะไรเลย นางเอกไปเกิดใหม่ในร่างนางร้าย แล้วก็พยายามทำตัวให้แตกต่างจากนิยายที่อ่านมา คุณหนูเรย์กะมาเก็บค่าลิขสิทธิ์ได้ว่ะ แบบเดียวกัน แต่คนเขียนบอกว่าเพิ่งเขียนเรื่องแรกอย่าว่ากัน ก็เอาตามนั้น เพิ่งเขียนเรื่องแรกก็เลยเขียนตามเรื่องอื่น ง่ายดี คนอ่านเยอะด้วย ติดท็อปด้วย ลั้นลา ๆ ๆ
>>28 คารวะโม่งเฉาะช่วยตอดคมสันต์ อยากให้ช่วยเฉาะนิยายกูแต่กูก็ใจบางเกินไป มึงเฉาะละเอียดมาก อ่านแล้วได้ความรู้ตลอด มึงลองยกตัวอย่างเสิ่นเจิ้นที่อ่านแล้วพอจะได้กลิ่นบรรยายแบบจีนหน่อยได้ไหมอะ กูจะได้ตามไปดูเผื่อจะเอามาเป็นเยี่ยงอย่าง
มันมีเสิ่นเจิ้นเรื่องหนึ่ง อะไรเกียจคร้านสักอย่าง กูอ่านคำโปรยกับหน้าแรกผ่าน ๆ แล้วก็นึกถึงเรื่องซ่อนรักวิวาห์ลวง นางเอกขี้เกียจทำนองนี้แหละ
เจอทั้งเสิ่นเจิ้นคล้ายจีนแปล แล้วก็เจอทั้งเสิ่นเจิ้นคล้ายเสิ่นเจิ้นด้วยกันเอง ร้องว้าวหนักมาก
>>28 กูเจอคำว่าคู่หมั้นสาว ก็ไท๊ไทยล่ะ กูไม่ค่อยชอบอ่านนิยายจีนที่ใช้คำว่าสาวกับหนุ่มต่อประโชค ยกเว้นคำว่า ชายหนุ่ม หญิงสาว ถ้าเจอคำแบบ แม่ทัพหนุ่ม ไรพวกนี้ จะไม่ค่อยชอบ มันไท๊ไทย กูพยายามจะอ่านอยู่นะของนักเขียนคนนี้ กูอ่านจากคอมเม้นต์เห็นมีแต่คนว่าละมุน คือกูอยากรู้ว่าดำเนินเรื่องแบบไหนเหรอถึงได้ทำให้คนอ่านรู้สึกว่าละมุน อีกอย่างหนึ่งในเรื่องนี้ที่บ่งบอกความเป็นไทย คือนิสัยจะเอาชนะของพระเอก พอนางเอกทำท่าจะถอนหมั้น ฮีก็ไม่ยอมจ้า จะแต่งให้ได้ คือเอาตามหลักความจริงนิสัยแบบชายจีนโบราณ อย่างที่พระเอกเคยคิดในเรื่องหน้าตาทางหน้าที่การงาน การมีภรรยาเป็นใบ้จะทำให้เขาเสื่อมเสีย การที่เจอนางเอกปฏิเสธควรจะดีใจด้วยซ้ำ อย่างมากในใจแค่รู้สึกแปลก ๆ ในความที่นางเอกไม่เหมือนหญิงอื่น และปล่อยผ่าน แต่เพราะสองคนนี้คือพระเอกนางเอกไง เลยต้องดำเนินเรื่องให้ยินยอม
กูช่วงนี้ไม่มีอะไรอ่านอย่างแรงเลยโฉบไปอ่านนิยายจีนโดยนักอ่านไทยมาหลายเรื่องอยู่ จากที่กูเห็นมีนิยายข้ามภพย้อนเวลาเกิดเป็นคุณหนู นางร้าย ตัวประกอบ90% ดังนั้นเรื่องไหนมีพล๊อตต่างไปกูจะยอมอ่านหลายบทหน่อย ถือว่ามีความพยายามดี ถ้าจากท้อปในเด็กดีกูว่า กู่มี่เอิน ทำได้ดี แม้ว่าบางช่วงจะซูเกินและยัดข้อมูลที่ไปรีเสิชมาล้นไปหน่อย แต่ดีกว่าไม่ทำรีเสิชแหละวะ โดยรวมเนื้อเรื่องน่าติดตาม ภาษาไม่ติดขัด แต่กูไม่กล้าสับมาก บางทีกูก็มัวตามเนื้อเรื่อง สำนวนถ้าไม่ไทยจ๋าเกินกูก็ผ่านๆไป
นางเอกจื่ออิงเอาแต่นอน กูว่าน่าเบื่อมาก นางเอกตามอาจารย์ไปเรียนตั้งแต่5ขวบ ยังไม่สิบขวบก็เรียนได้แทบทุกอย่าง เป็นหมอด้วยโว้ย กูเบื่อนางเอกซูที่ย้อนเวลาไปมากๆ บางทีก็พยายามบอกว่าจบสูงมาก ฉลาดมาก ย้อนเวลามาเลยซู อยากจะเขียนเรื่องให้นางเอกอยู่กรุงเทพวันๆเอาแต่เล่นเกมส์ปลูกผัก ย้อนเวลาไปแล้วทำเหี้ยอะไรก็ไม่ได้มั่งจัง
>>30 เสิ่นเจิ้นกลิ่นจีนที่กูว่าใช้ได้คือจินเสวี่ยนหวาง รูปประโยควางได้เหมือนแปลจีน อีกคนคือคนเขียนบันทึกมหาดเล็ก คนนี้กูไม่รู้ว่าเขารู้ภาษาจีนหรือเปล่า แต่เขียนเหมือนแปลจีน แล้วก็คนเขียนกู่มี่เอิน เรียงประโยคได้ดีแบบจีน ๆ เหมือนกัน คือถ้ามึงรู้ภาษาจีน มึงจะรู้ว่ารูปประโยคมันไม่เหมือนไทย มันจะไม่มีประโยคแบบร่างบางเดินเยื้องกรายเข้ามาหยุดมองดอกโบตั๋นซึ่งท่านแม่เรือนเล็กได้ปลูกไว้ตั้งแต่ปีกลายจนบัดนี้ออกดอกเบ่งบาน อะไรแบบเนี้ย มันไม่ใช่จีน ถ้ามึงอยากรู้ว่าจีนมันเขียนประโยคยังไง มึงลองหาบทกวีจีนดัง ๆ มาอ่านแล้วมึงจะเห็น มันจะเน้นการใช้คำสวยแต่สั้น ไม่ได้ยืดเยื้อ ถ้าแปลเป็นไทยจะห้วน
>>33 เรื่องที่มันผิดธรรมเนียมกูไม่ค่อยอยากติ ตีซะว่ามันเป็นนิยายแบบยกจินตนาการเหนือธรรมเนียม แบบคุณหนูวิ่งแร่ออกนอกบ้านไปหมั้นกับคุณชายบนร้านเหล้า ไรเงี้ย มันเป็นนิยายที่ไม่อิงความจริง แต่เอาฮา เอามัน เอาฟิน มันก็ทำได้ไง แต่ในเรื่องความคิดพระเอก กูเห็นด้วย มันไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจีนเลย เอางี้ แค่เป็นใบ้ อีกฝ่ายก็ถอนหมั้นได้แล้ว เพราะเขาก็ต้องกลัวว่าจะได้ลูกออกมาเหมือนแม่ คนใหญ่คนโตที่ไหนเขาจะมาหมั้นคนพิการให้ลูกชายลูกสาว นอกจากมันจะมีเหตุผลอื่นนะ กูอ่านแค่บทนำ เลยว่าไม่ได้เต็มปาก
>>34 เรื่องที่มีพล็อทใช้ได้สำหรับคนอ่านจีนแปล ถ้าไม่เน้นรัก กูคิดว่ากู่มี่เอินกับบันทึกมหาดเล็กใช้ได้ทั้งคู่ แต่กูไม่ค่อยชอบบรรยายสรรพนามบุรุษที่หนึ่ง เห็นคนเขียนบันทึกแต่งอีกเรื่องบรรยายสรรพนามที่หนึ่งเหมือนกัน กูเลยดองไว้ก่อน
>>36 ไม่เน้นรักนี่หายากมาก เดี๋ยวกูไปตามบันทึกมหาดเล็กมาอ่านก่อน กูไม่ชอบสรรพนามที่หนึ่งเหมือนกัน จนป่านนี้กูยังดองลำนำทะเลทรายอยู่เลย ด้วยความที่ดูละครเพราะท่านหูเก้าและแม่ทัพเอ็ดดี้เผิงไปแล้ว เจอบทบรรยายนางเอกข้านู่นข้านี่เลยไม่ผ่านเล่ม1สักที55
พอมึงอธิบายเรื่องสำนวนภาษาจีนมันต่างกับไทยยังไงกูเลยเข้าใจขึ้นเลย กูไม่รู้ภาษาจีนแต่ติดอ่านจีนแปลมาตั้งแต่เด็กเพราะชอบสำนวนภาษากลภนมาก เวลาจะอ่านเสิ่นเจิ้นกูเปิดใจมากๆเพราะรู้ว่าอ่านเอามโนเอาฮาไป แต่กูว่าถ้านักเขียนแนวนี้เน้นเขียนสนองนี้ดตัวเองไปเรื่อยๆไม่คิดจะก้าวหน้าไปกว่านี้ก็น่าเสียดายแทน เพราะแนวจีนแปลดีๆมันมีมาให้เปรียบเทียบตลอด คนอ่านอ่านเยอะๆเข้าก็จะถึงวันที่ทนอ่านเสิ่นเจิ้นกลวงๆไม่รอดเอง กูมองโลกสวยไปมั้ย
เพื่อนโม่ง กูซื้อหนังสือคลังคำตามมึงแนะนำแล้ว
หูยยยสะใจคุ้มค่ามาก
มีเรื่องไหนในท็อปยังไม่โดนสับบ้างวะ เฉาะให้ชมเป็นบุญตาที
>>28 >>33 คิดเหมือนกัน กูเจอ "ตาเฉี่ยว" เข้าไปกูสะดุดหัวทิ่มเลย แต่อ่านต่อไปเพราะชอบตัวละครที่ร่างกายไม่สมบูรณ์ บอกตรงๆ เรื่องนี้ดำเนินเรื่องโคตรไทย ตัวละครคิดและทำแบบไทยทุกอย่าง อย่างที่มึงว่าเลยว่าบุคลิกพระเอกนี่คือพระเอกนิยายไทยชัดๆ กูอ่านเหตุผลที่มันทู่ซี้หมั้นกะนางเอกต่อไปแล้วปวดกบาลมาก แต่เรื่องนี้อ่านเพราะเห็นคนเขียนเค้าไปแปะในวดด.มั้ง เห็นเรื่องย่อนางเอกเป็นใบ้กูเลยสนใจ นี่กูเลิกอ่านไปนานละ ตั้งแต่นางเอกพูดได้กูก็ไม่รู้จะอ่านนิยายไทยใส่ชุดจีนนี่ต่อไปทำไม
แล้วกูก็ไม่คิดว่าแบบนี้เรียกละมุน เขียนเป็นนิยายไทยยังไม่รู้สึกว่าน่าอ่านเลย นี่เขียนเป็นจีนที่ความรู้และความคิดของคนเขียนไม่จีนมันเลยออกมาแบบนี้
พวกมึง กูเห็นเรื่องนี้ขึ้นท็อปนานมากละ แต่ไม่มีคนสับ มีใครอ่านบ้างวะ เป็นไงมั่ง เรื่องคู่ขย้ำบัลลังก์ กูว่าชื่อเรื่องแปลกดี
>>47 คนนี้เขียนดี โม่งเฉาะขอตบมือให้ ใครที่ร้องว่าเขียนยังไงก็ไม่จีน เขียนยังไงก็โดนติ ไปดูคนนี้ได้ เขาไม่ได้เขียนจนกลายเป็นจีนแปล แต่เขาใส่ความเป็นจีนเป็นไทยได้พอเหมาะ พอดีนางเอกเป็นไทยด้วย ชื่อดุสิตา การบรรยายในมุมมองของดุสิตาจึงเป็นไทยบ้าง แต่ก็ไม่ผิดเพราะตัวละครเป็นไทย แต่ส่วนที่เป็นตัวละครจีนพูด เขาก็ทำได้ดี มีการแทรกความคิดแบบจีนในตัวละครจีน การบรรยายโดยทั่วไปจัดว่าดี ถ้าจะมีประโยคยืดเยื้อนิดหน่อย ก็เป็นประโยคที่เชื่อว่าจะถูกแก้ไขในการรีไรต์ก่อนพิมพ์ เพราะกูมองว่าเขาตรวจเองอยู่แล้วระหว่างที่เขาแต่ง แต่ของอย่างนี้มันต้องมีหลงตาบ้างอยู่แล้ว กูอวยคนนี้ในแง่การเขียนงาน เนื้อเรื่องกูไม่ขอพูดถึงเพราะจะพูดได้ก็ต้องอ่านงานเขาให้จบอย่างละเอียด ถ้าใครบอกว่าเรื่องนี้เริ่มต้นไม่ได้แปลกอะไร ตายแล้วเข้าร่างใหม่ กูก็อยากจะบอกว่านิยายที่เริ่มต้นด้วยการตายแล้วเข้าร่างใหม่มันไม่ได้ผิด แต่มันจะดูตลกถ้ามึงไม่มีลูกเล่นใหม่เลย เหมือนคนอื่นเป๊ะราวกับเทโจ๊กคนอร์ตามด้วยน้ำเปล่าหนึ่งซองครึ่ง แต่งานของเขาคนนี้มีลูกเล่น ความคิดของนางเอกทำให้นิยายชวนอ่านขึ้นเป็นกอง ถ้าใครคิดว่ากูอวยคนซ้ำๆ ก็ลองไปอ่านเรื่องที่กูอวยบ้างนะ กูยุติธรรมในการติชม ถ้ามีงานดีมาให้เฉาะกูก็ชม ในเมื่อยังไม่ค่อยมีมา กูก็ต้องชมเรื่องเดิมเป็นธรรมดา
ถามอีกรอบ มีคนอ่านผ้าแพรสามศอกบ้างหรือยัง คิดว่าเป็นไงบ้าง กำลังตามหารีวิวอยู่ไม่เจอสักที่แต่ซื้อมานั่งอ่านแล้ว อ่านถึงบทที่สิบแปดแล้วแต่ยังไม่ขอรีวิวอีกรอบตอนนี้นะเดี๋ยวอ่านจบจะมาบอกว่ารู้สึกยังไง
>>51 ก็ดีแล้วไง โม่งไม่ควรมานั่งแยกว่าใครเป็นใคร ไม่ต้องมาตั้งชื่อโม่งนู่นนี่ด้วยซ้ำ ไม่งั้นจะมาเล่นโม่งทำไม แต่ที่ต้องมีโม่งตอดโม่งเฉาะ เพื่อให้จำได้ว่าโม่งตอดมันจะสับแบบนี้นะ โม่งเฉาะสับแบบนี้นะ โม่งอื่นก็มีข้อมูลว่าโม่งสองตัวนี้สับเฉาะแบบนี้ นอกเวลาสับ ๆ เฉาะ ๆ ก็ไม่ควรจะมาใส่ชื่อ
มีเรื่องใหม่ๆนะเช่น อนุตัวร้าย คนเขียนบอกว่าที่จริงคือ อนุของตัวร้าย อ่าวว แล้วทำไมไม่แก้เสียละจ้ะ
พล๊อตมีมุมใหม่คือ ให้พระเอกคือตัวร้ายของเรื่อง นางเอกเป็นหนูน้อยมัธยมปลายที่อินนิยายแล้วหวีดตัวร้ายเอามากๆ
แต่อ่านมาหลายบทพระเอกไม่ใช่ตัวร้ายนะ น่าจะเรียกว่าพระรองมากกว่า
หลุดมาในนิยายเพราะตัวร้ายผู้นี้ถูกฆ่า นางเศร้ามากเลยอธิษฐานอยากไปยืนเคียงข้างปลอบใจ อะให้คะแนนนิดนึงที่ไม่ได้ตายมาเกิดใหม่
นางตื่นมาในบทอนุภรรยาของตัวร้ายที่นางหวีด ที่ในหนังสือแทบไม่กล่าวถึง ตามบทตัวร้ายก็ย่อมไม่สนอนุภรรยาผู้นี้เท่าไหร่ เพราะกำลังไปถูกใจนางเอกของเรื่อง อนุก็ตั้งใจว่าจะต้องเปลี่ยนจุดจบของตัวร้ายไม่ให้ตายอย่างไร้ความหมายตามนิยาย
เรื่องดำเนินไปตามครรลอง ที่เราจะค้นพบว่านางเอกนิยายที่จริงไม่ได้ดีงามตามท้องเรื่องเท่าไหร่ นางอิจฉาก็จะกลายเป็นคนที่อนุภรรยา เห็นใจแล้วจะช่วยให้นางมีจุดจบที่ดีกว่านี้ คล้ายๆพล๊อตเกิดไปเป็นตัวประกอบทั้งหลาย
คำผิดเรื่องนี้มีไม่น้อย ทั้งพิมพ์ผิดในมือถือและใช้ผิด เช่น พลาง เป็น พราง คำภาษาพูดอย่าง ท่านตานาง ที่ควรเป็นท่านตาของนาง
หรือในความคิดย้อนไปปัจจุบัน แต่ศัพท์ที่ใช้กลายเป็นโบราณหมด เช่นคิดถึงคุณตา แต่เรียกท่านตา เรื่องนี้transitionของสำนวนปัจจุบันกับโลกอดีตมันกระโดดไวไป แต่มันก็เป็นปัญหาเดิมๆของเสิ่นเจิ้นแหละนะ กูรู้สึกว่า พอเป็นบทบรรยายความคิดนางเอกจากยุคปัจจุบันภาษามันก็ควรต่างจากคำบรรยายจากคนเขียน หรือ มุมความคิดของตัวละครอดีต ใช้เธอบ้างก็ได้ รึการเข้าโหมดจีนไปเลยมันดีกว่าลื่นกว่าวะ อันนี้กูก็ออกความเห็นในมุมคนอ่านที่ยังติดลอจิกอยู่ดี
แต่โดยรวมกูก็ว่าสนุกบันเทิงดีนะเรื่องนี้ ตัวละครมีพัฒนาการที่ค่อนข้างสมเหตุสมผลของแนวนี้(คือความสมเหตุสมผลบนบรรทัดฐานของแนวรักกุ๊กกิ๊กอะนะ) คาร์ของพระเอกก็น่ารักน่าหวีด แต่ไม่เห็นความร้ายตรงไหนเลย
กูละสะดุดตอนบทได้กันก็ตัดฉับไม่เน้นเอาสะเลย คือไม่เขียนNCก็ดีนะ กูเบื่อ แต่มันก็ต้องมีรายละเอียดด้านอารมณ์งามๆมาแทนด้วย คือคาร์นางเอกที่เป็นติ่งหวีดพระเอกอยู่แต่เดิมจะโดนตั้มทั้งที คิดแค่ว่า อย่างไรนางก็เป็นอนุของเขาอยู่แล้ว แหมะ นี่มันหมอหญิงมาเองเลยนี่
>>53 พล็อทเกิดเป็นนางร้ายส่วนใหญ่ก็เขียนจนกลายเป็นนางดีทั้งนั้น อันนี้กูไม่ตินะ เพราะคนเรามองในมุมมองตัวเองก็ต้องคิดว่าตัวเองทำดี แต่ถ้าเขียนให้มันฮาได้มันก็จะดีกว่าไง ดีกว่าอยู่ ๆ ก็กลายเป็นคนดีขึ้นมาเฉย ๆ แล้วนางเอกดันกลายเป็นคนร้ายไปซะ ส่วนเรื่องที่มึงไปอ่านมา กูไม่รอดบทแรกเช่นเคย เพิ่งย่อหน้าเดียวก็เจอ เสียงที่เบาราวกับลมแว่วออกมาจากปากหนาของชายหนุ่มพร้อมกับร่างที่ไร้วิญญาณกำลังล้มลงแววตาสีน้ำตาลอ่อนปิดลงช้า ๆ
แววตาของกูปิดลงพร้อมกับแววตาของพระเอก เอ๊ย ผู้ร้ายในเรื่อง แต่ใครไม่ต้องมาถามกูนะว่าแววตาปิดลงยังไง เพราะกูก็ไม่อาจจะอธิบายได้ คนเขียนยังไม่รู้จักเลยว่าแววตากับดวงตาต่างกันยังไง คงจะยังเด็กมาก อายุคงไม่เกินนางเอกในเรื่อง แต่ถ้าเกินแล้วก็ถามใจเธอดูนะจ๊ะว่าเกิดอะไรขึ้นกับภาษาไทยของเธอ
พูดเรื่องบทบรรยายนะ กูหมายถึงรวม ๆ ไม่ได้หมายถึงนิยายเรื่องนี้ พวกที่ใช้บทบรรยายติดขัด เป็นเพราะไม่เข้าใจคำว่ามุมมองของตัวละคร พวกนี้แยกได้แค่เวลาตัวละครพูด แต่พอถึงบทบรรยายซึ่งมองผ่านมุมมองตัวละคร ดันใช้มุมมองแบบเดียวกันหมด พระเอกมองฟ้า ฟ้าก็เรืองรองดังทองทาแบบนั้น นางเอกมองฟ้า ฟ้าก็เรืองรองดังทองทาแบบเดียวกัน มันไม่ใช่ไง คนเรามองไปทางเดียวกัน แต่ด้วยนิสัยที่แตกต่าง มึงจะมองไม่เหมือนกันหรอก ไหนยังจะมีบริบทอื่น การมองกันเองระหว่างตัวละคร มุมมองมันต้องต่าง ความคิดก็ต้องต่างด้วยข้อจำกัดทางเพศ การศึกษา อายุ อาชีพ ตรงนี้นักเขียนมือสมัครเล่นทำไม่ค่อยได้ แต่กูไม่ว่าอะไรนะ นักเขียนเด็กดีเป็นมือสมัครเล่นทั้งนั้น มืออาชีพมีไม่กี่คน ที่พูดเนี่ยไม่ใช่จะด่า แต่จะบอกให้รู้ว่าคนเขียนบางคนอ่อนตรงไหน ควรปรับปรุงตรงไหน คนอื่นเขาถึงจะยกย่องงานของมึง ไม่ต้องไปนั่งร้องไห้ขี้มูกโป่ง แต่หัดปรับปรุงงานจะดีกว่าจ้า
กูมองว่า นักเขียนเด็กดีเด็กน่อยทั้งหลายถ้าเริ่มหัดเขียนจากยุคที่ฮิตเสิ่นเจิ้นกูว่าในอนาคต มันน่าจะช่วยให้พัฒนาได้เร็วขึ้น ถ้ามันทำให้ได้อ่านสำนวนสวยๆมากขึ้นได้อ่านบทกวีงามๆผ่านตาบ้าง ยังไงทุกคนก็จะต้องค้นคว้าหาของแนวนี้มาใส่หัวบ้างไม่มากก็น้อย กูถือว่าจุดเริ่มต้นสายจีนมีคลังสมบัติให้ค้นหาได้มากถ้าคิดจะขุดหา กูเทียบกับยุคที่เด็กเขียนอิโมติคอนกันจนพัฒนาเป็นนิสัยที่ไม่สามารถบรรยายความคิดออกมาเป็นภาษาได้ จนทำให้เกิดนิยายที่อ่านไม่ไหวจะเคลียร์ เพราะคลังอาวุธมาจากมโนล้วนๆ
ขยันสับขยันเฉาะกันจังงงง กูว่างแล้ว เดี๋ยวกูมาตอดบ้าง
มึงกูถามไรหน่อย พวกที่ซื้อหนังสือชะตาพ่ายนางร้ายข้ามภพอะ ตะกี้กูไปอ่านตอนล่าสุดที่เพิ่งอัพในdd มา ญาติไทเฮาชื่อเหว่ยซู๊ด จริงหรอวะ คือนี่ชื่อคน?
อ่านเรื่องคุณชายอะไรซักอย่าง พระเอกเป็นคนมีปมด้อยก็เลยเป็นแบดบอย แล้วดันทะลุมิติไปยุคจีนโบราณ
นานๆ จะมีเรื่องพระเอกทะลุมิติในเสิ่นเจิ้น
ภาษาเขียนก็โอเคดีนะ หรือเพราะกูเป็นพวกอ่านเอาเรื่องก็ไม่รู้แฮะ ไม่ได้เน้นภาษาเท่าไหร่ ขอแค่ไม่สะดุดมากก็พอใจแล้ว
ตอนนี้ตามกูมี่เอิน ซื่อจื่อ ภรรยาทรราช คุณชาย แล้วก็เรื่องของคนเขียนลำนำขนนก (บันทึกลับมหาดเล็กกับคุณหนูใหญ่)
เรื่องราวน่าสนใจดี
แม่หนูกระต่ายแซ่จางเบาสุดแล้วของนักเขียนคนนี้ ตามมาตั้งแต่ลำนำขนนก 706 อ่านซ้ำวนเรื่องละหลายรอบแล้วเวลาไม่มีเรื่องไหนอ่าน
มาสปอยล์ แพรขาวสามศอก
.
.
.
.
.
เนื้อหาเหมือนกับตัวอย่างในเด็กดีสี่สิบกว่าบทส่วนที่เหลือเอ่ยถึงความโปรดปรานพิชชีเกินหน้าสนมนางอื่นทั้งไทเฮาและฮ่องเต้ เลื่อนตำแหน่งให้แบบก้าวกระโดดมาก จากไฉเหริน > หวั่นอี๋ > เจาหรง จนได้เป็น ฮองเฮา ส่วนสนมที่ถูกปลดหรือลดตำแหน่งก็ลดแบบลดฮวบไปเลยเหมือนกัน ท้ายที่สุดวังหลังเหลือแค่พิชชีคนเดียว สนมอื่นโดนปลดหมดแถมตอนอยู่อีฮ่องเต้บ้ายังไม่ค่อยแยแสอีก ทำงานหนักไปวังหลังแค่เดือนละสองครั้ง มีฮ่องเต้ที่ไหนเป็นแบบนี้บ้างเนี่ยไม่ห่วงเรื่องผู้สืบทอดราชบัลลังก์สักนิด ถ้าพิชชีมีลูกไม่ได้อีกคนนี่สงสัยต้องเอาหลานหรือพี่น้องมาสืบต่อราชบัลลังก์ซะแล้วมั้งเนี่ย สงสัยตอนบ้างานอีต่านี่คงลืมคำสอนขงจื่อที่ว่าอกตัญญูสามไร้ทายาทร้ายแรงสุดไปล่ะมั้ง ดีที่ยังมีโอรสธิดากับพิชชีคู่หนึ่งลบล้างอกตัญญูสามไปได้ในที่สุด
.
.
.
.
.
จบสปอยล์
>> ข้ามภพมาเป็นหรงลี่เหม่ย <<
โดย ManutsanunPm
https://writer.dek-d.com/ManutsanunPm/story/view.php?id=1730744
กูว่าชื่อเรื่องธรรมดาอะ ข้ามภพมาเป็นโม่งห้องเสิ่นเจิ้น งี้มะ
อ้อ กูขอขำหน้าข้อมูลเบื้องต้นหน่อย เจอ “เงียบครึม” เข้าไปนี่ 5555555555
มากันที่ตอนแรกก็เจอคำผิด ใช้คำฟุ่มเฟือย แถมยังสลับ POV ตอนแรกใช้บุรุษหนึ่งอยู่ดี ๆ ก็มาเล่าแบบบุรุษสาม แล้วกลับเป็นบุรุษหนึ่งเฉย พี่ว่าน้องต้องตกลงกับตัวเองนะคะ
กูว่าประโยคสนทนามันทื่อ ๆ ไม่เป็นธรรมชาติว่ะ
“คุณตำรวจคะ เมื่อไปถึงสน. ฯลฯ” คือมันน่าจะใช้แบบ “ถึงสน.เมื่อไร ฯลฯ” อะไรแบบนี้จะดูลื่นไหลกว่าปะ ยังมีแบบ “ได้โปรดให้ร่าดูเถอะนะคะ มันเป็นครั้งสุดท้าย... ฯลฯ” “แต่ขอเพียงข้อเดียว” ทั้งที่มันเป็นคำพูดในยุคปัจจุบันแท้ ๆ
เว้นวรรคพลาด บรรยายแบบย่อยง่าย ในสายตากูคือไม่ได้สละสลวยดีเด่อะไร ออกจะธรรมดาจนขาดเสน่ห์ แล้วก็คนเขียนไม่สามารถทำให้คนอ่านอินไปกับตัวละครได้เลย บรรยายอยู่นั่นว่าร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะแม่ถูกฆาตกรรม บรรยายแค่นั้นแหละ ร้องวนไปวนมา
คือนี่หัวอกลูกสาวทั้งที เจาะลึกกว่านี้ บีบให้อินกว่านี้ได้มะ ในนางเอกคิดย้อนอดีต, หาคำมาอุปมา ฯลฯ อะไรก็ได้ที่แสดงชั้นเชิงมากกว่านี้ นี่ธรรมดาจนน่าเบื่อค่อนไปทางน่ารำคาญ
หรืออารมณ์โกรธของคนที่ปะทะฝีปากในตอนท้าย ๆ ของตอนก็นิ่งมาก น่าเบื่อมาก เหมือนดูหนังสักเรื่องที่นักแสดงเล่นเป็นธรรมชาติอะ คือเล่นเป็นหิน เป็นต้นไม้ เฮ้อ...
ยกตัวอย่างพวกบทบรรยาย
“เสียงแม่รินทร์ที่พูดออกมาอย่างแผ่วเบาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม” what!?
“โดยเฉพาะเธอที่ประโยคสุดท้ายของแม่รินทร์นั้นดังก้องอยู่ในหัว วนซ้ำไปซ้ำมา ด้วยอาการเหม่อลอย” กูขอร้อง what!? อีกรอบ 555555555
“เธอเข้าทำงานที่บริษัทแห่งนี้” อันนี้ยกมาเพียว ๆ คงไม่เห็นอะไร แต่คือเนื้อความก่อนหน้าคือไม่มีบอกเลยว่าบริษัทอะไร อยู่ ๆ ก็ “บริษัทแห่งนี้”
มากันที่ความสมเหตุสมผล
นางเอกแม่ถูกฆาตกรรม คนร้ายอัดคลิปไว้ นางเอกขอดูคลิป ตำรวจให้ดู
1. ทำไมคนร้ายอัดคลิป เพื่อประโยชน์อะไร มันไม่ใช่ข่มขืนที่จะเอาไว้ใช้แบล็กเมล์ได้อะ
2. คนร้ายทิ้งคลิปไว้และตำรวจได้ไป คือไร แล้วจะถ่ายทำไมอะ เพื่อไร งง
3. ตำรวจให้นางเอกดูคลิป อันนี้กูไม่รู้กระบวนการทางกฎหมาย แต่แม่ถูกฆาตกรรม ลูกสาวขอดูของกลาง? มันได้ปะ เออ ไม่รู้ อีกอย่างคือตอนนั้นยังสืบคนร้ายไม่ได้เลยอะ ตำรวจจะไว้ใจนังลูกสาวได้เหรอ งง
เอาเป็นว่าถ้ามีคำอธิบายสมเหตุสมผลมารองรับก็แล้วไป เพราะกูอ่านแค่ตอนแรก
ความสมเหตุสมผลประเด็นที่สอง คือหลังจากจับคนร้ายได้ก็สรุปว่านี่เป็นคดีฆาตกรรมธรรมดา แค่แม่นางเอกผ่านไปแถวย่านคนชั่ว พวกมันเลยจับมัด กรีดแขนกรีดขา
เกินกว่าเหตุไปมากจ้ะ
จากที่กูดูและอ่านแนวอาชญากรรมมาบ้าง ทำขนาดนี้ฆาตกรคงโรคจิตหรือมีเป้าหมายในใจแล้วมั้ย ถ้าต้องการฆ่าปิดปากเฉย ๆ ก็แทงแค่จึ้กสองจึ้กก็จบแล้ว นี่อะไร ทั้งเล่นใหญ่ ทั้งถ่ายคลิป แล้วยังโง่ทิ้งคลิปให้ตำรวจตามเจออีก บ้าบอ
สมเหตุสมผลประเด็นที่สาม นางเอกใช้เวลาแปดปีฝึกมวยไทย มวยจีน ปืน มีด เทควันโด เป็นแชมป์ธนูระดับจังหวัด อิดอก เกินเบอร์สุด 555555555555
คือแต่ละวิชาไม่ใช่ง่าย ๆ อะ กว่าจะฝึก กว่าจะเก่งขึ้นไปทีละขั้น ๆ มันก็ต้องใช้เวลาหลายปี นี่คุณนางเอกเขาเหมาไปหลายทักษะมากค่ะ แถมระหว่างนี้ก็ไปพบจิตแพทย์ แล้วก็เรียนมหาลัยไปด้วย อืม
สมเหตุสมผลประเด็นสี่ เคาะประตูห้องเจ้านาย บอกว่ารีบ ไม่รอเสียงอนุญาตก็เปิดประตูเข้ามาเลย หนูเป็นผู้ช่วยเลขาถูกมะ พี่ว่าหนูไม่รู้มารยาทเลยอะค่ะ
คำผิด
“ระแวก”
“โกรธเคื่อง”
คนเขียนสับสนระหว่าง “กับ” และ “กลับ”
“หน่ะ”
“ค่อม”
“สะ”
“พรวดพลาด”
สรุป ภาษาธรรมดามาก นิ่งมาก น่าเบื่อ บทพูดไม่เป็นธรรมชาติ คำผิดเยอะ อยากจับมาเรียนภาษาไทยใหม่ ความสมเหตุสมผลพินาศมาก
ไม่น่าสนใจเลยจ้า
ตอดโดย โม่งตอดแตดคมสันต์
>>73 กูเกลียดความตอดแตดคมสันต์ของมึงมาก นิยายเรื่องที่มึงสับเป็นนิยายที่มีคุณสมบัติในการติดท็อปครบทุกประการ หนึ่ง-สลับ POV สอง-นางเอกซู สาม-คนร้ายโง่ สี่-เงียบครึม ห้า-เสียงแม่รินทร์ที่พูดออกมาอย่างแผ่วเบาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เป็นไง ครบเลย รีบปรบมือกราวรัวววว
ตกลงตอนนี้เรื่องติดท็อปที่โม่งชมมีเรื่องไหนบ้างวะ เดี๋ยวคนเค้าจะว่าเราตอดอย่างเดียว
เห็นโม่งตอดสับกูเลยเฉาะแถม ไปเจอติดท็อปลำดับสุดท้ายมีแค่ห้าตอน ชื่อเรื่อง flower เร้นลับ ว้าว คิดว่ามันต้องดีแน่เลย เพิ่งเขียนก็ติดท็อปแล้ว บทแรกมีการแนะนำลำดับตำแหน่ง กูกำลังนึกดีใจ นี่คงเป็นเสิ่นเจิ้นทำการบ้าน พอเปิดมาอ่านบทแรก ชื่อตอนสตรีผู้ถูกถอดถอน สองประโยคแรกรู้สึกเอิ่ม ๆ นิด ๆ แต่พอประโยคที่สาม ผู้คนต่างเดินควักไขว่ตามรายทางท้องถนน อ่านแค่นี้รู้สึกถึงความสกปรกโสโครกของชาวเมืองผู้เป็นชาย ถึงกับเดินควักไข่กันทีเดียว ไม่เป็นไร เราต้องอ่านต่อ เขาแค่พิมพ์ผิดเล็กน้อย อย่ามา ๆ ๆ พออ่านมาอีกย่อหน้านึง เปิดตัวหวงโฮ่วกำลังเจ็บแผล เจอประโยคนี้เข้าไป เครื่องหน้าของแม่แห่งแผ่นดินขยับเคลื่อน กูรู้สึกว่ากำลังอ่าน I, robot เวอร์ชั่นจีน พอมาเจอประโยค ตำหนักนี้คือตำหนังเต้าเต๋อ ก็เลยคิดว่าบ๊ะบายดีกว่า
จบการตำหนังอย่างสั้น ๆ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่านดอกไม้เร้นลับของหวงโฮ่วหน้าขยับเคลื่อน ขอความกรุณาอย่าควักไขว่เล่น
>>69 ยงเจิ้งมีโอรสเยอะอยู่นะแต่อายุยืนน้อยคน ธิดาแท้ ๆ อายุยืนแค่นางเดียว แต่ก็ไม่ยืนเท่าไรนักแค่ราว ๆ ยี่สิบกว่าปีเอง ( โอรสธิดาส่วนใหญ่สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยงเจิ้งยังเป็นยงชินหวังอิ้นเจิน ) ส่วนธิดาบุญธรรมนั้นอายุยืนถึงสองนางจากสามนาง
>>72 ไม่ค่อยมีประเด็นอะไรจริง ๆ แหละ เดาง่ายมากว่าเดี๋ยวพิชชีก็แก้ปัญหาได้
อยากรู้จะย้อนอดีตกลับไปยังไงให้ไม่ซ้ำซากอ่ะ
แบบย้อนไปเก่งก็ซ้ำซาก ย้อนไปขี้เกียจก็ซ้ำซาก ย้อนไปลำบากก็มีละ ย้อนไปเป็นตัวประกอบก็มี ย้อนไปเป็นแมวก็มี
ย้อนไปเป็นอะไรดี
ย้อนไปเป็นกบฏบ้างจะได้ไม่ซ้ำใคร
ตอนนี้ย้อนเวลามันเฝือมาก เลิกย้อนกันสักพักน่าจะดีกว่า ตอนนี้ต่อให้ย้อนด้วยไอเดียใหม่ไม่ซ้ำ มันก็ช้ำไปหมดแล้วอยู่ดี
เอาจริงพล๊อตย้อนเวลานี่ ส่วนใหญ่คือมึงไม่ต้องย้อนกันก้อได้นะ ย้อนไม่ย้อนไม่เห็นจะต่างกันการย้อนไม่ได้ส่งผลกับเนื้อเรื่องเลย แบบย้อนกลับไปกินๆนอนผัวรักผัวหลงนี่ ไม่ย้อนก้อได้ป่าววะ รึจะย้อนเวลาเพราะนักเขียนไม่อยากไปสวมคาร์วิธีคิดแบบคนโบราณเหรอไง
>>73 ขอบคุณที่ตอด เรื่องนี้ก็บายเหมือนกัน อ่านแค่บทสองบท ไปดีกว่า
>>75 ขอบคุณที่เฉาะ ฮาก๊ากตรงควักไขว่
>>82 เห็นด้วย บางเรื่องนี่ไม่รู้จะย้อนเวลามาเพื่ออะไร ไม่ต้องย้อนก็ได้
ถ้าต้องการให้เป็นคนที่คิดไม่เหมือนใคร ก็เป็นคนยุคนั้นที่มีมุมมองแตกต่างจากคนอื่นก็ได้มะ
เพราะมันก็ไม่ได้คิดต่างจนเว่อร์อะไรนักหนา
แต่บางเรื่องก็ย้อนมาแบบเทพมาก เขียนแบบระหัดวิดน้ำ ปืนสั้นปืนยาว อาวุธต่างๆ ได้ ทั้งที่ตอนอยู่ยุคปัจจุบันก็เป็นคนธรรมดา
บางเรื่องย้อนมาเจอคนที่ย้อนมาเหมือนกัน แถมบางคนเคยเป็นเพื่อนหรือแฟนกันมาก่อนด้วย
อ่านแล้วรู้สึกว่าการย้อนเวลาทะลุมิตินี่มันง่ายดีวุ้ย
แต่ที่เจอแทบทุกเรื่องที่มีการทะลุมิติคือ นางเอกจะพบว่าตัวเองมาอยู่ในยุคสมัยอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีในประวัติศาสตร์ คงจะเป็นโลกคู่ขนาน
ก็ง่ายดีเนาะ ไม่ต้องค้นคว้าข้อมูลอะไร
(แต่ก็ชื่นชมที่นางเอกเก่งประวัติศาสตร์จีนมากพอที่จะรู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในยุคไหนเลย)
กุว่าจะแต่งย้อนเวลาไปเป็นผัวชาวบ้านแทน เมียเป็นสิบแทน บริหารไม่ถูก แม่มมีไปเป็นเมียชาวบ้าน แต่วิญญาณข้างในเป็นผุ้หญิง
หากเจอพยายามติกูเบาๆ นะกูใจบาง
กูไม่มีปัญหากับการย้อนเวลา กูคิดว่าเทรนด์นี้จะยังอยู่อีกนาน นิยายจีนกับนิยายญี่ปุ่นก็ยังย้อนเวลากันอยู่เลย ยังมีเรื่องดัง ๆ อีกเยอะ แต่มันจะย้อนหลากหลายกว่าเสิ่นเจิ้น แบบเป็นจอมยุทธเฒ่าย้อนไปเป็นเด็กหนุ่มไรเงี้ย แต่ของเสิ่นเจิ้นจะมีเรื่องรักเป็นหลัก เลยย้อนไปเป็นเมียอ๋องเมียแม่ทัพกันหมด แต่กูก็ไม่ว่านะถ้าจะย้อนไปเป็นเมีย ขอแค่อย่าให้รูปแบบการย้อนมันเหมือนเดิมเป๊ะได้ปะ แบบบทนำต้องเกริ่นถึงชีวิตก่อนย้อน แล้วก็ตัดมามีท่านแม่หรือคนใช้มากอดขา นางเอกตื่นมางงมาก ใครกันนี่ อุ๊ย ทำไมฉันสวย มีคู่หมั้นหนุ่มรออยู่ ไม่ถูกกัน มีเมียอยู่แล้ว หรือไม่ก็ย้อนมาเป็นชายาที่ผัวไม่รัก เขียนเหมือนกันแทบจะย่อหน้าต่อย่อหน้าเลย มึงไม่ต้องย้อนเหมือนกันขนาดน้านน หัดใส่ลูกเล่นอย่างอื่นมั่งกะได้
มีเรื่องไหนมั้ยที่ย้อนแล้วพยายามหลอกถามข้อมูลมาแบบเนียนๆ
ไม่ใช่ตื่นมาตกตะลึงซักพักก็มีความรู้พุ่งเข้ามาในหัวจนรู้ทุกสิ่ง หรือสั่งให้คนใช้เล่ามาให้หมดโดยอ้างว่าความจำเสื่อม
ถ้าหัวกระแทกแล้วความจำเสื่อมก็ยังโอเคนะ แต่บางเรื่องจมน้ำแล้วความจำเสื่อม นอนป่วยแล้วความจำเสื่อม มันแปลกๆ
กูจะแต่งสมาคมลับผู้ย้อนเวลาข้ามมิติแห่งเมืองฉางอัน
ท่านประมุขส่งสายสืบไปทั่วสารทิศเพื่อค้นหาสมาชิกย้อนเวลา เพราะแม่งย้อนกันมาเยอะมาก ใครความจำเสื่อม
ใครนิสัยเปลี่ยน พาไปขายบัตรสมาชิกให้หมด555
มีสถานศึกษาให้ปรับตัว หลังจบการชุบตัวจะหักเงินค่าสมาชิกปีละหลายตังค์
>>89 ไม่แกล้งตีเนียนไม่ได้เว้ย ไม่งั้นกระโตกกระตากขึ้นมาคงโดนน้องหรงฆ่าตาย หุหุ/กลับตำหนักจีนละ
นึกถึงเเรื่องลวงเล่ห์มังกร กูอ่านเรื่องนี้ตอนที่ลงในดด ตอนนั้นยังไม่ได้เข้าสู่จีนเต็มตัว นางย้อนจีนมาแบบมึนๆ พูดจีนได้แบบงงๆ ก็แล้วไปเถอะ พอได้กลับไปอ่านอีกรอบ ภาษาลิเกมาก ลูกของอ๋องสาม เรียกองค์ญ องค์ชาย ทำลายความชอบกูตอนนั้นไม่เหลืออะไรเลย
เดี๋ยวกูแต่งนางเอกทะลุมิติมาเป็นขอทานดีกว่า กร๊ากกกกก
กูจะแต่งให้ทั้งเรื่องแม่งมีฮ่องเต้องค์เดียวที่เป็นคนยุคโบ ส่วนวังหลังแม่งนางสนมทะลุมิติกันมาล้วนๆสามพันนางมีทั้ง
สนมกินและนอน
สนมเจ้าคิดเจ้าแค้นไม่รู้ชาติที่แล้วเจออะไรมา
สนมกายเป็นสาวใจเป็นผู้บ่าว
สนมขายเครื่องประทินผิวสายเกาหลี
สนมหมอหญิงรักษาทุกโรค
สนมนักสืบชาติที่แล้วเป็นตำรวจ
โอย พอละกูเหนื่อย
แต่งแล้วเอามาแปะเลย กูจะเฉาะให้สาแก่ใจอิช้อย
กูจะเพิ่ม สนมโม่งเฉาะ สนมโม่งสับ สนมโม่งตอด ลงไปด้วยกลัวไม่ครบสามพันนาง🤣🤣😂😂🤣
พวกมึงไม่ต้องรออ่านกันหรอกนะ ท่าทางกูคงต้องรีเสิขนานกว่าจะอ่านนิยายท้อปทั้งหลายหมดกูอาจใช้แพรขาวคลุมโปงตายไปก่อน
>> เทพธิดาสะบั้นด้ายดำ - เหมยฮวาเสี่ยวเซียน <<
โดย karnsirorut
https://writer.dek-d.com/karnsirorut/story/view.php?id=1584212
เห็นโปรโมตในวดด.ซึ่งงงง กูมีปัญหากับการใช้ภาษาของเขา โม่งตอดจะพาพี่ ๆ ไปชมดูนะคะ
เริ่มที่คำโปรยค่ะ
“เสี่ยวเซียนเป็นเทพธิดาอัปลักษณ์ทำหน้าที่สะบั้นด้ายดำ หามีใดเกี่ยวพันกับชายาที่ท่านทำหายไปไม่ เพ้ย! มิแน่ นางอาจตกอยู่ในพงหญ้าก็เป็นได้! ขออย่าหลอกอย่าหลอนเสี่ยวเซียนอีกเลย! ไท่จื่อบัดซบ!”
1. “หามีใด” คืออะไรอะ 5555555 “หามีสิ่งใด” ไรงี้จะดีกว่าปะ
2. “มิแน่” ก็เข้าใจว่ามีความคิดว่า “ไม่” ถ้าอยากให้โบราณจะใช้ “มิ” แต่ไม่ได้หมายความว่า “มิ” จะแทน “ไม่” ได้ในทุกคำรึเปล่าอะ ออกมามันเลยแปลก
ถ้าจำไม่ผิด เฟยหลิง ก็เคยโดนคนอ่านติว่าใช้ “มิ” มากเกินไป กูว่านักเขียนควรระวัง อยากใช้คำให้ดูโบราณ แต่ไม่ต้องพยายามมากขนาดนี้ มันตลก
3. อัศเจรีย์จะพุ่งกระแทกหน้ากูอยู่แล้ว ใส่แค่ในคำอุทานก็พอ แล้วเลือกตัดออกในประโยคคำพูดยาว ๆ บ้างก็ได้
4. “ขออย่าหลอกอย่าหลอน” กลิ่นไทยละเกิลลล์
อะ ต่อที่หน้าข้อมูลเบื้องต้น
“สรรพยางใจ” อิดอก บันเทิงมากสำหรับคำนี้ มีโม่งคนไหนสนใจชื่อนี้บ้าง หื้ม เพื่อนโม่งสรรพยางใจ 555555555 คือยังไงอะ เอาไว้คู่กับ สรรพางค์กาย เหรอ แต่คือ สรรพยาง ไม่มีในพจนานุกรม สรรพางค์ใจ ก็ไม่น่าจะมีใช้ปะ ฮือ
“โดนเหยียดหยามจากเทพเซียนอื่น ๆ นางจึงหลีกหนี...หาได้ไม่”
“สมควรตาย! หาได้ไม่ จวินเกอไม่สมควรตาย”
เป็นไรอะ ติดใจอะไรกับ “หาได้ไม่” ใช้อยู่นั่น ละใช้ไม่เป็นอีก ตลก “โดนเหยียดหยามจากเทพเซียนอื่น ๆ นางจึงหลีกหนี” นี่เนื้อความมันคล้อยตามกัน แล้วไปใส่ “หาได้ไม่” เพื่ออะไรให้มันพลิกมาเป็นขัดแย้งกันอะ ก็บอกไปเลยดิว่า “นางไม่อาจหลีกหนี” “นางหาหลีกหนีไปได้ไม่” ไรงี้
ไอ้ตรงจวินเกอสมควรตายก็เหมือนกัน จะสื่ออะไร งง
นี่ขนาดยังไม่อ่านเนื้อหาเลยนะ ซึ่งจากแค่ตอนแรกที่อ่าน ในความเป็นภาษาจีนโบราณ กูว่าพอใช้ได้ หมายถึงเขาคงอ่านจีนแปลมาประมาณหนึ่งแล้ว แต่! แต่เขาพยายามเกินไป อยากให้โบราณ อยากให้จีนจนไม่แคร์อะไรทั้งนั้น บางคำเลยเป็นคำผิดแบบคิดขึ้นเอง บางคำก็ใช้ผิด
โดยรวมแล้ว เรื่องนี้เป็นเคสที่ดีสำหรับนิยายที่มีความพยายามมากจนมันพัง
ตอดโดย โม่งตอดหน่อแตดคมสันต์สรรพยางใจเงียบครึมควักไขว่
ป.ล. ทีมสนมสามพันคนของพวกมึงน่าสนดีนะ กูขอมีชู้เป็นชินอ๋อง ละตอนจบหนีตามกันไป สุดท้ายทะลุมิติมาในโลกยุคปัจจุบัน ดีลลลลล
>>105 ...หาได้มีสิ่งใดที่เกี่ยวพันกับชายาที่ท่านทำหายไปไม่!
เปลี่ยน มิแน่ เป็น บางที ?
“โดนเหยียดหยามจากเทพเซียนอื่น ๆ นางจึงมิอาจ ไม่หลบหนีได้ไม่
“สมควรตาย! หาได้ไม่ จวินเกอไม่สมควรตาย” อะไรวะ จวินเกอหาได้สมควรตายไม่ ?
เข้าว่าอยากเรียงปยแบจีนนะ แต่ถ้าเรียบไม่เป็นมันจะตลก
>>105 ช่วย ๆ ๆ เห็นด้วยที่มึงว่าพยายามเกินไปจนพัง ดูเผิน ๆ เกือบจะดีแล้วเชียว แต่พออ่านละเอียดแล้วมันเกิน
ประโยคที่ไม่สมบูรณ์ก็มีให้เห็นบ่อย ไม่รู้จงใจหรือเผอเรอ อย่างเช่น จวินเกอส่งสายตาทางเราทั้งสามบ้าง เราสามคนสายตาอึกอัก (ควรเป็น ส่งสายตามาทางเรา, เราสามคนท่าทีอึกอัก ท่าทางอึกอัก มองตากันอย่างอึกอัก หลบตาอย่างอึกอัก อะไรก็ว่าไป แต่สายตาอึกอักเนี่ยมันไม่มี เพราะอึกอักเป็นอาการแบบพูดไม่ออก ได้แต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไหนใครลองทำสายตาอึกอักดูสิ ทำได้ที่ไหน เอาแค่สายตานะ ไม่ต้องใช้ท่าทางอย่างอื่น แล้วให้คนอื่นทายว่ามึงกำลังอยู่ในอารมณ์ใด ถ้ามีคนตอบว่า อ๋อ มึงกำลังมีสายตาอึกอัก กูจะกราบ)
อ้อ นักเขียนเขาออกตัวไว้แล้วว่าเขียนนิยายไทยไม่ออกเลยมาเขียนจีน ไม่ได้ค้นคว้า เพราะฉะนั้นกูจะถือว่างานเขาอยู่ในโหมดแต่งเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน ซึ่งใครก็ตามที่เข้าโหมดนี้ กูจะให้คะแนนเต็มสิบหมด ถือเป็นคะแนนทักษะพิสัย แต่ถ้าวันใดกลายเป็นหนังสือตีพิมพ์ จะต้องหลุดจากโหมดแต่งเล่นทันที
ทุกวันนี้เค้าก็แต่งหมวดเพลิดเพลินกันนะมึง ปิดรีไรท์ตอดเล็กน้อย ขายอีบุ้คขายสนพเล่นๅก็เพลินดี
กูว่าจะไปหานิยายท็อป 20 มาเฉาะไม่ให้ห้องเงียบ ทำไมนิยายที่มีแค่สองตอนอย่างแมวข้าใครอย่าแตะถึงติดท็อปวะ ไม่เข้าใจ แค่แจ้งข่าว ยอดวิวไม่ได้สูงอะไรเลย งงว่ะ หรือเขามีระบบจ่ายเงินโฆษณา
เพื่อนโม่งที่แนะนำคนเขียนคุณหนูใหญ่แต่งงาน บันทึกมหาดเล็ก กูขอบคุณมาก กูชอบมากกกกก ตอนนี้กูไล่ตามอ่านเรื่องอื่นๆตาแฉะเลย
กูน่าจะรีไรท์บ่อยๆบ้าง เผื่อติดท็อป แม่ง หมูนี้ใครๆก็พากันรีไรท์กันหมด ไม่ก็แจ้งข่าวบ่อยๆ มึงพิมพ์กันล่างตอนก็ได้
เหมือนเป็นเสต็ปนิยายติดท็อป...
ไป๋อวี๋หนิง ควรค่าแก่การเสียตังค์มั้ยวะะ
ซื้อนาjs้ายสายชิa มา อ่านไปได้ครึ่งเล่มละคือชิลสมชื่อเรื่อง คือนึกว่าตัวละครจะแค่ชิล แต่นี่เนื้อเรื่องก็ยังชิล
จริงๆ ชอบสนพ.นี้นะ เดี๋ยวไว้ว่างจะอ่านองค์หญิงแมวให้ได้สักที
มีใครอ่าน เหนือลิขิตรัก ปะ ผูกเรื่องดูน่าสนใจดี ภาษาโอเค แต่ไม่ค่อยเข้าใจนางเอก หนีการตามล่าแต่ยังคงสวมกระพรวนข้อเท้า
ไว้บอกตำแหน่งตัวเอง?
เงียบจุง ไม่มีใครสับนิยายเลยเหรอ
กูอ่านมาหลายเรื่องละ คำว่าจวนนี่มันควรเป็นจวนแม่ทัพทั้งจวน แล้วหน่วยย่อยลงไปเรียกว่า เรือนต่างๆ เรือนคุณหนู เรือนแม่ เรือนลูกอะไรก็ว่าไป คนเขียนกลับ เรียกเรือนพวกนี้ว่าจวนด้วย มีจวนรับรองแขกในจวนแม่ทัพอีกทีด้วยงี้ อันนี้กูว่ามันเป็นการใช้ภาษาไทยผิดอย่างแรง
เสิ่นเจิ้นแนวไหนคนอ่านน้อยวะ การเมืองงี้มะ
กูว่าคนอ่านไม่ได้น้อยหรอก หาคนเขียนน้อยมากกว่า ดูกูมี่เอินคนอ่านเยอะอยู่นะ ก็ไม่ได้หวานแหววอะไร พอมีที่แตกต่างคนก็อยากอ่าน กูเองมาอ่านคนไทยเขียนก็เพื่อความบันเทิงล้วนๆ แนวมันก็เดิมๆแหละ แค่เปลี่ยนเซตติ้ง พอคนเขียนหลบเลี่ยงไม่ทำการบ้าน แนวนี้มันก็ยิ่งโชว์แผลกันเยอะ นอกจากความอ่อนทางสำนวนภาษาแล้ว การรีเสิร์ชจากเสิ่นเจิ้นด้วยกันเอง หรือ เอาผิวๆของเล่มฝอย อ่านประวัติศาสตร์ที่ย่อยมากๆมาแล้ว มันก็ต้องรอเวลาซึมซับย่อยมาใช้ หวังว่าแนวนี้จะฮิตนานพอที่จะให้คนเขียนพัฒนาตัวทันเวลา
131 เอง นึกง่ายๆว่าในไทย เราจะคุ้นกับจวนผู้ว่าราชการจังหวัด แปลนบ้านจีน จะมีเรือนหลักอยู่ในสุด ตรงกลางเรือนหลักมีโถงที่ไว้รับแขก แบบในหนังจีน ปีกข้างหนึ่งเป็นห้องหนังสือ อีกข้างเป็นห้องนอน จากเรือนหลักแยกเป็นหอหรือเรือนปีกซ้ายขวา ล้อมพื้นที่ตรงกลางไว้ เรือนคนรับใช้อยู่ตรงรั้วกำแพง แยกส่วนจากเจ้านาย ถ้าเป็นจวนข้าราชการ หรือบ้านคหบดีใหญ่ พื้นที่มักจะใหญ่เป็นหมู่ตึกย่อยแยกยูนิตกันได้อีก ยังจะต้องมีเรือนคนที่ทำงานติดตามรับใช้ เรือนครัว
แล้วถ้าบ้านคนธรรมดาที่ไม่ใช่ขุนนางใหญ่ จะเรียกว่าอะไรดี บ้านตระกูลxx บ้านคหบดีxx ก็น่าจะไม่ผิดนะ
จะว่าไปแปลนเรือนไทยก็คล้ายกัน แยกห้องหับคล้ายๆกัน ขนาดย่อมเยากว่า แล้วเชื่อมด้วยชานตรงกลาง เพียงแต่เรายกใต้ถุนหนีน้ำหลากแถมมา
>>141 คฤหาสน์เผิงอวี๋เยี่ยน ก็ฟังจีนนะ บ้านกูเอง
แต่คฤหาสน์ มันให้ความรู้สึกยุคโคโลเนียลละ นึกถึง แมนชั่น สถาปัตยกรรมที่ได้อิทธิพลผสม
อันนี้ขอผู้รู้ภาษาไทยมาช่วยขยายรากคำ
บ้านคหบดีตระกูลเผิง หมู่ตึกตระกูลเผิง คำว่าตระกูลนี่ช่วยได้มั้ย
บ้านท่านเศรษฐีเผิง เรือนท่านเผิง อาจยังฟังดูไทย
แต่จวนมันผิดความหมายเลย โดยเฉพาะในกรณีที่เราเรียกเรือนย่อยในหมู่ตึกในรั้วเดียวกัน เราไม่เรียกจวน
จวนมันคือหมู่เรือนทั้งหมด ซึ่งเป็นลักษณะวางตามแบบแผนของมัน และเจ้าของจวนต้องเป็นขุนนางระดับสูง
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
จวน ๑ น. ที่อยู่ของเจ้าเมือง, บ้านที่ทางราชการจัดให้เป็นที่อยู่ของผู้ว่าราชการจังหวัด เรียกว่า จวนผู้ว่าราชการจังหวัด.
คฤหาสน์ (คะรึหาด) น. เรือน, โดยมากหมายถึงเรือนขนาดใหญ่และสง่าผ่าเผย.
"สถานที่ที่ฮ่องเต้ประทับอยู่เรียกว่า พระราชวัง (กงเตี้ยน), สถานที่ที่บรรดาเชื้อพระวงศ์พำนักอยู่เรียกว่า วัง หรือ ทำเนียบ (ฝู่), สถานที่ที่บรรดาขุนนางอยู่เรียกว่า คฤหาสน์ หรือ จวน (ไจ๋ตี้กงก่วน) สำหรับประชาชนธรรมดาแล้วเรียกว่า บ้าน (เจีย)"
จากหนังสือพลิกม่านไม้ไผ่ พิมพ์ครั้งที่ 1 เดือนก.พ.2549 น.34 ผิดถูกไม่รู้กูยกของเขามาเฉย ๆ
เพื่อนโม่ง จำกลยุทธ์รอดตายในหวางฝู่ได้หรือไม่ ที่เคยพูดถึงกันในตำหนักเก่า ๆ ซึ่งกูก็จำไม่ได้แล้วว่าตั้งแต่ยังปนในตำหนักจีนหรือแยกมาเป็นตำหนักนี้ เอาเป็นว่าตอนนี้นักเขียนเห็นความเห็นของพวกเราแล้ว เขาชี้แจงมาอย่างนี้ https://writer.dek-d.com/pachth/writer/viewlongc.php?id=1601751&chapter=30
อ่านละสงสารคนเขียน ดูปวดใจอยู่
ky wsะชายาผู้เกียจคs้าuนี่จะตีพิมพ์กับบางเลิฟเหรอวะ เห็นบก.ไปอวยอยู่ในกลุ่มผ.
ทำไมนิยายสนพ.คำต่อคำส่วนใหญ่ตอนจบไม่กินใจเลยวะ กูอ่านเสิ่นเจิ้นของสนพ.นี้แล้ว ส่วนใหญ่ต้นกับกลางๆจะสนุกอยู่แต่พอตอนจบรู้สึกแบบไม่แย่แต่ก็ไม่ดี คือไรวะ งง เสิ่นเจิ้นหลายเรื่องที่ไม่ใช่สนพ.นี้ตอนจบก็แปลกซะเยอะ คือหาวิธีลงไม่เจอหรือยังไง กูอ่านแล้วก็เบลอๆตอนจบ รู้สึกแบบ จะจบแบบนี้เหรอบ่อยมาก
>>150 กูจำไม่ได้ว่ามีใครไปว่าเขาแบบนั้น กูไม่ได้อ่านเรื่องของเขา แต่เคยได้ยินชื่อ เหมือนจะมีคนชมในโม่งนะ แปลว่าดังดีใช้ได้เลย แต่คนติกูนึกไม่ออก ถ้าคนเขียนมาอ่านอีก ขอให้คิดไว้เลยว่าบอร์ดแบบโม่งมันปิดชื่อ เกรียนงี่เง่าก็เข้ามาเขียนได้ แต่โม่งที่ติชมนิยายจริงจังมักจะมีเหตุผล ให้อ่านดูถ้าโม่งเขียนยาว ๆ มักจะมีความรู้พอสมควร ถ้ามาแค่ด่าเสีย ๆ หาย ๆ มีคำหยาบส่อสันดานคนเขียน ก็จงอย่าไปสนใจ มันมีอย่างนี้ทุกที่ จงมีกำลังใจเขียนงานของเทอว์ต่อไป ในโม่งเองก็รู้แหละว่าเม้นท์ไหนห่วย ด่าเอามัน ส่วนใหญ่ก็จะไม่ฟีด ปล่อยลอย ๆ ไปอย่างนั้น
>>151 เสิ่นเจิ้นส่วนใหญ่เป็นงานเขียนหน้าใหม่ แรงบันดาลใจดี ตอนแรกเลยสนุก แต่ตอนจบทำไม่เป็น บางคนตัดจบดื้อ ๆ แบบว่าหมดแรงแล้ว จบดีกว่า ถถถถถถ
กูก็เป็นหนึ่งในนักเขียนที่เจอที่นี่เพราะเซิทหาชื่อเรื่องตัวเอง และเรื่องของกูก็ถูกวิจารณ์แบบเสียหาย ถึงขั้นเกลียดและเหยียดมาจนถึงตัวผู้เขียนซึ่งก็คือกู ถามว่ากูใส่ใจไหม ใส่ใจ กูเสียใจไหม กูเสียใจ แต่เพราะกูเขียนมาด้วยความทุ่มเทและรักในทุกตัวละครที่รังสรรค์ กูเลยปล่อยผ่านความคิดเห็นพวกนั้น เพราะกูอ่านของเขาแล้ว เหมือนเขาไม่เคยอ่านเรื่องของกู ถึงอ่านก็คงผ่าน ๆ เน้นวิจารณ์แบบสะใจหาพวก ถ้าใครไม่ชอบเหมือนกันก็จะมารุมกันว่านิยายของกู กูไม่ได้บอกว่านิยายของกูดี แต่กูมีความรักและใส่ใจที่จะแต่งต่อไปจนจบมาก เวลาวิจารณ์หรือด่า ขอให้ตรงกับเนื้อหาในเรื่องด้วย ไม่ใช่สักแต่จะด่าเอามัน ตอนนี้กูปล่อยเบลอแล้ว มีคนรักย่อมมีคนเกลียด คนรักและคนรอที่จะอ่านนิยายกูก็ไม่น้อย กูโดนคนอ่านเตือนหลายครั้ง ว่าจะสนใจทำไมแค่คนเพียงไม่กี่คน ดูสิมีคนรออยู่เท่าไร ไม่ใช่ว่ากูติไม่ได้ กูฟังและปรับปรุง แต่ถ้ามันไม่ใช่ กูจะออกมาชี้แจง และพอกูออกมาชี้แจง คนบางพวกก็จะหาว่ากูอีโก้สูง? กูงงในงง คุณไม่อีโก้สูงเหรอคะ มีคนคิดต่างหรือเฉยเมยต่อคำของคุณ ก็ว่าอีโก้สูง บางทีเนื้อเรื่องไม่เป็นไปตามที่คุณคิด ว่าออกทะเลทั้งที่กูคิดพล็อตตั้งแต่ต้นจนจบเชื่อมโยงกันหมด บางทีคนเขียนก็ไม่เข้าใจคนอ่านค่ะ ว่าต้องการอะไร ต้องการอ่านนิยายที่คนเขียนรังสรรค์ หรือต้องการอ่านนิยายตามที่ใจคุณคิด
วันหลังกูจะมาขอคำแนะนำใหม่
>>154 กูอยากจะบอกอย่างนะว่า คำว่าสนใจทำไมแค่คนไม่กี่คนเนี่ย เป็นคำที่อาจจะให้กำลังใจมึงได้ แต่ก็ฆ่ามึงได้เหมือนกัน รักจะเขียนนิยาย มึงต้องแยกให้ออกว่าคนที่เขาติมึงเขาติเอามันหรือติเพื่อก่อ ถ้าแยกสองตัวนี้ไม่ออกก็ใช้ชีวิตยาก คำชมน่ะใคร ๆ ก็อยากได้ว่ะ แต่ถ้าเป็นคนสร้างผลงาน ต้องหัดพิจารณาคำติด้วย ถ้ามีคนติมึงเหมือน ๆ กันหลายคนในจุดเดียวกัน มึงต้องกลับไปมองงานของมึงแล้ว แต่ถ้ามันติแบบด่ามึงเสีย ๆ หาย ๆ ด่าแค่ตัวมึงเอามัน มึงก็รู้แล้วว่ามันไม่มีราคา ดูให้ดีว่าเขาติงานหรือติตัวมึงแบบสนุกปาก อย่าใช้คำว่าคนไม่กี่คนมาปลอบใจตัวเอง คนอ่านเป็นแสนก็ใช่ว่างานมึงจะต้องดี คนอ่านเป็นร้อยก็ใช่ว่างานมึงจะต้องแย่ คนติเพียงคนเดียว คนชมเป็นหมื่น ก็ใช่ว่าคนติจะมีคติ คิดให้ดี
>>154 กูเข้าใจนะและสนับสนุนมึงถ้ามึงมีจุดยืนที่ดีอยู่แล้ว กูงงว่าคนอื่นอ่านไม่เคลียร์หรือมึงเขียนไม่เคลียร์วะ แต่กูอ่านกูก็เข้าใจนะ
มึงใส่ใจคำวิจารณ์ แต่บางคนวิจารณ์เหมือนไม่ได้ไปอ่านเรื่องมึงแบบนี้มึงเลยปล่อยผ่าน มันถูกแล้วไม่ใช่หรือวะ
มึงบ่นว่าถ้าจะวิจารณ์เรื่องไหนก็ให้ตรงกับเรื่องด้วย กูเข้าใจนะว่ามึงอยากบอกคนที่วิจารณ์งานคนอื่นหรืออยากด่าก็อยากให้ใส่ใจอ่านก่อนด้วยค่อยมาติหรือมาด่า
กูว่ามึงเขียนมาแยกแยะดีแล้วเพียงแต่ต้องอ่านละเอียดสักหน่อย มึงไม่ได้เคืองคนติงานแค่เคืองว่าคนที่ติอย่าสักแต่อยากติ อ่านด้วยค่อยมาติ
ส่วนบางคนติเพราะอยากให้เรื่องเป็นอย่างที่ใจตัวเองอยากให้เป็น พอมึงไม่เห็นด้วยเพราะแนวทางมันไม่ใช่แล้วหาว่ามึงไม่ฟังบ้างอีโก้สูงบ้าง พวกนี้ไร้สาระไม่ต้องเอามาใส่ใจ ชี้แจงแล้วไม่ฟังก็ไม่ต้องไปตอบโต้ มีแต่เสียกับเสีย
จิ่นเสวี่ยนหวาง นี่เค้าจะยังมาต่อมะ
>>153 อาจจะเป็นกูก็ได้ เพราะกูบอกว่าเรื่องน่ะเหมือนเมียคุนนะทำ แต่เป็นเว่อร์ชั่นรุ่ยอ๋อง
แต่กูเขียนแค่นั้น ไม่ได้ด่าอะไรเสียๆหายๆเลย
ถ้าทำใครเสียใจไปก็ขอโทษด้วยละกัน
ตอนนั้นกูอ่านแค่ตอนแรกๆ แต่หลังๆเรื่องมันน่าสนใจมากขึ้น อนุแต่ละคนก็มีฤทธิ์ใช้ได้
กูว่ายังน่าติดตามอยู่
นำเสนอ ปาฏิหาริย์หัวใจลิขิตรัก
บังเอิญอ่านเจอ แต่สับไม่เก่ง ฝากเพื่อนโม่งช่วยสับหน่อย
>>168 ของมึงเองหรือเปล่าถามจริง ๆ
เปิดไปเห็นคนอ่านน้อยมาก ปกตินิยายแนวนี้เขียนมาสี่สิบตอน ยอดวิวอย่างน้อยต้องไปถึงหมื่น แต่อันนี้ได้สามพันเอง คนเม้นท์ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ กูเข้าไปดูยังไม่ถึงยี่สิบเม้นท์เลย ชมคนเขียนก่อนว่ามีความตั้งใจดีมาก กูขอปรบมือให้
เท่าที่กูอ่านบทแรก นิยายไม่ได้แย่ เวลาเขียนบทสนทนาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากนิยายติดท็อป กูหมายถึงว่ามันน่าจะได้รับความสนใจมากกว่านี้ แต่สิ่งที่ทำร้ายนิยายคือคำโปรยหน้าแรกกับบทแรกสุด คำโปรยแทนที่จะบอกว่านิยายเกี่ยวกับอะไร กลับบอกแค่ว่าตัวเองมีเวลาว่างเลยเขียนเล่นแล้วก็เขียนไม่ถึง (มันไม่ดึงดูดคนอ่าน ส่วนใหญ่ถ้าจะเขียนออกตัวว่ายังเขียนไม่เก่ง ไม่ได้คาดหวังมาก ต้องเขียนไว้ตอนท้ายหลังจากที่แนะนำนิยายแล้ว)
บทแรกสุดรวมบทนำเอาไว้กับตัวนิยาย ทำให้คนมาอ่านบทแรกแล้วขอลาไปเยอะอยู่ ปกติถ้านิยายอยู่ในระดับที่ดึงดูดให้คนลองอ่าน สามสี่บทแรกจะมีจำนวนคนอ่านใกล้ ๆ กัน หลังจากนั้นคนอ่านจึงตัดสินว่าจะอ่านต่อหรือจะผ่าน ไม่เอาดีกว่า ไม่ใช่แนวทางที่ชอบ แต่ถ้าบทแรกกับบทที่สองลดฮวบเกือบครึ่ง แปลว่าบทแรกไม่ดึงดูดพอ ทั้งที่บทที่สองสามสี่มันอาจจะดีก็ได้
บทแรกแย่กว่าที่มันเป็นเพราะช่วงนำเรื่อง (บทนำช่วงเทพ) เขียนได้น่าเบื่อ (ขออภัยที่ใช้คำนี้) คนเขียนเริ่มต้นด้วย ทะเลสาบแห่งหนึ่งแฝงเร้นอยู่ท่ามกลางทิวเขาที่แสนงดงาม องค์มหาเทพเผอิญผ่านมาพบเข้ารู้สึกพึงพอใจไม่น้อย ประโยคยาว ๆ แบบนี้และบรรยายติดต่อกันไปสี่ย่อหน้าทำให้ความน่าสนใจลดลง ถ้าลองนึกถึงสำนวนนิยายแปลจีน มันจะเริ่มต้นว่า ทิวเขางามตระการ หรือ ทิวเขาลดหลั่นซับซ้อน ใจกลางมีทะเลสาบซุกซ่อน อะไรก็ว่าไป จังหวะของนิยายจีนเวลาบรรยายจะเป็นจังหวะสั้น ๆ แบบที่เสิ่นเจิ้นไทยนิยมเอามาใช้ เช่น ยามจื้อ ทะเลเงียบสงบ ทำนองนี้ ถ้าจะบรรยายยาว ๆ แบบที่คนเขียนทำ จะต้องบรรยายให้มันน่าตื่นเต้นมากกว่าที่เป็นอยู่ ลองอ่านดูสิ ทะเลสาบแห่งหนึ่งแฝงเร้นอยู่ท่ามกลางทิวเขาที่แสนงดงาม มันเป็นการบรรยายพื้น ๆ ที่ไม่เห็นภาพอะไรเลย ทะเลสาบสีอะไร ใสมั้ย มีหมอกลอยมั้ย มืด สว่าง ทิวเขาที่แสนงดงาม นึกภาพได้มั้ย งดงามแบบไหนหว่า ต้นไม้เขียวไปหมด หรือเป็นภูเขาหัวล้าน มีดอกไม้มั้ย กูไม่ได้หมายถึงให้บรรยายให้หมด แต่ถ้าจะเขียนแค่ทิวเขาแสนงดงาม มันไม่ได้ช่วยให้คนอ่านรู้สึกอะไร นอกจากจะอ่านผ่านไปแล้วลืม
เฉาะแค่นี้นะ บทอื่น ๆ เป็นบทสนทนามากขึ้น น่าจะดึงดูดคนอ่านมากขึ้น แต่เพราะบทนำกับคำโปรยเป็นแบบนั้น ทำให้คนอ่านน้อยกว่าที่ควรจะเป็นไปหนึ่งเท่าเลย เป็นกำลังใจให้ ชื่นชมคนมีความพยายามและรักในนิยายของตัวแม้จะมีคนอ่านน้อยว่ะ กราบด้วยใจจริง
>>169 กูเป็นคนอ่านอย่างเดียวเลยจริงๆ พอดีบังเอิญอ่านเจอเรื่องนี้ก็ว่าเรื่องมันโอเคนิหว่า ภาษาใช้ได้ แต่ทำไมคนอ่านน้อยจัง หรือเรามองอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน
แต่จริงอย่างที่เฉาะมา ช่วงนำเรื่องออกจะยืดยาด แต่พอเข้าเรื่องแล้วก็ดีขึ้น
นับถือคนเขียน คนอ่านน้อย เมนต์ยิ่งกว่าน้อย พลอยทำให้ไม่กล้าเมนต์ไปด้วย
>>150
กูเป็นคนนึงที่อ่านกลยุทธ์รอดตายในหวางฝู่
เห็นที่นักเขียนปวดใจเหมือนกันแต่ตามไปลองหาก็หาไม่เจอที่คนว่าอีโก้สูง
เรื่องนี้อ่านเพราะชอบว่าด้วยอาชีพนางสนมเลยหาทุกอย่างที่เป็นคู่มือมาอ่าน
คู่มือนางกำนัลอันดับหนึ่ง
วันว่างของนางสนม
กลยุทธ์รอดตายในหวางฝู่
คือหาเรื่องแต่งเสิ่นเจิ้นที่ได้แรงบันดาลใจมาอ่านต่อยอดนั่นเอง
ทุกเรื่องก็สนุกกันไปคนละแบบ
อยากบอกนักเขียนกลยุทธ์..เผื่อมาอ่านเจอว่า...(ถ้าไม่อยากรู้หรือกลัวน้อยใจ ขอให้ข้ามเลยอย่าอ่าน....แต่แบบจากใจคนอ่านนะ ด้วยความจริงใจ)
.
.
.
.
.
*มันสนุกนะ เพราะพล็อตมันแปลกไป พระเอกแม่งณ.ตอนนี้ไม่มีดีสักอย่าง นอกจากรวยและเป็นเชื้อพระวงศ์
*แต่..มันช้ามากเลยอ่านไม่ค่อยต่อเนื่อง
*นางเอกในนิยายเหมือนจะมีอีโก้นะ แบบได้ข้อมูลที่พระเอกยอมให้ ก็ยังไม่พอใจ ก็ไม่รู้ว่านางจะเอาไปเพื่ออะไร ต้องการอะไร นักเขียนอาจมีธงในใจแต่ลืมบอกคนอ่าน หรือเราเจอแล้วลืมไปแล้ว555
*อยากให้เขียนให้นางเอกน่ารักกว่านี้อีกหน่อย มองในมุมพระเอกนี่ นางเอกก็แทบไม่มีไรดีเลย นอกจากครอบครัว ไหนๆก็เป็นคนอื่นมาแล้ว ขอเสน่ห์อีกนิดเถอะ เช่นไม่สวยแต่แซ่บ เข้าอกเข้าใจ คอยเอาใจช่วยออกนอกหน้า ฉลาดมากแก้ปัญหาให้พระเอกได้แต่ทำเนียนแบบไม่ตั้งใจอะไรแบบนี้ หรือเพราะไม่รักพระเอกเลยสนับสนุนให้มีเมียเยอะๆที่ถูกใจ ทำเอาพระเอกงงไป เพราะตอนนี้ถ้าเราเป็นพระเอก จะรำนางเอกมาก เยอะเกิน (โอ๋ๆอย่าน้อยใจนะ)
.
.
.
.
.
>>171
.
.
.
.
.
เหมือนต่างคนต่างไม่มีอะไรดีเลยว่ะ
พระเอกดีแค่เป็นอ๋องที่รวยมากๆ แต่นิสัยห่วย
นางเอกฉลาดมาก ตระกูลดี ที่จริงอาจจะนิสัยดีก็ได้ แต่เจอผัวแบบนี้เหมือนโดนฉุดลง คือเหวี่ยงมา ส่วนใหญ่ก็อยากเหวี่ยงตอบอ่ะ
ตอนนี้ก็คือแบบนางเอกรู้ทันว่าตั้งใจทำดี จะได้ใช้ตระกูลชีเป็นแบ็ค แต่ชีไม่โอ ก็พยายามโชว์พาว์ในฐานะชายาว่าทำอะไรได้มั่ง เหมือนจะหยั่งเชิงว่าขีดจำกัดอยู่ตรงไหน
ส่วนเรื่องอนุ ชีดูเหมือนจะไม่สนหรอกว่าจะไปหาใคร ถ้าอนุคนอื่นไม่เลื่อยขา หรือมาหาเรื่อง
แต่ประเด็นมันหลักคือรอดตายป่ะ ใช้ชีวิตอยู่ในฐานะชายาให้รอด ดึงอำนาจที่ตัวเองควรมีในฐานะเมียเอกมาไว้ในมือโดยไม่โดนปั๋วเฉดหัวทิ้งก่อน
ยิ่งมาเจอพระเอกนิสัยแบบนี้ กูว่าต่อให้อยู่ในฐานะชายา เจอกันทุกวันยังไงก็รักไม่ลง
แล้วนิสัยชีไม่ได้น่ารักนุ่มนิ่มเข้าอกเข้าใจปั๋วทุกอย่างแบบผู้หญิงสมัยก่อนด้วย พระเอกคงไม่รักอยู่ดี
แต่กูก็สนใจนะว่านิยายจะดำเนินไปทางไหนต่อ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างคู่นี้มันน่าเล่นดี
.
.
.
.
.
>>171 >>172 กูว่ามันไม่มีเสน่ห์ถูกใจเราก็ดีไปอย่างนะ แปลกดี กูอ่านเรื่องนี้ไปสิบกว่าตอนแล้วพักก่อน ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่พอดีติดอ่านเรื่องของอีกคนมากกว่า เลยเฟ้บรอไว้ โชคดีที่รอเพราะช่วงนี้เขาแต่งช้าด้วย กูว่าคนแต่งเขาเริ่มเรื่องดี ตั้งชื่อน่าสนใจ ภาษาก็ดี เท่าที่กูเห็นก็คำผิดน้อย ชอบนิยายที่คนเขียนรักษาคุณภาพว่ะ นางเอกที่กูขัดใจที่สุดไม่ใช่ของเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่โม่งชมกันเยอะ เรื่องสาวจอมคลั่ง อันนั้นอ่านแล้วตับพังเลย แต่พอทน ๆ อ่านไปแล้วสนุกว่ะ นางเอกแม่งไม่มีอะไรดีตั้งแต่ต้นจนจบ
>>173 แต่ช่วงแรกๆ ฮาก๊ากเลยนะ มีการตีลังกาโชวพาวด้วย แต่คิดว่านางเป็นคนอ่อนโยนนะ พื้นฐานจิตใจดี ดูจากตอนที่เลี้ยงเด็กกับตอนห่วงคนแก่ เพียงแต่ด้วยการเลี้ยงดูเลยทำให้หลงตัวเองแบบผิดๆ ซึ่งมันจะออกแนวฮามากกว่าน่าหมั่นไส้
เป็นนางเอกที่ใกล้เคียงผู้หญิงทั่วไป ไม่ได้สวย ไม่ได้หุ่นดี ไม่ได้ฉลาด มีข้อเสียมากมาย แต่ข้อดีก็คือเป็นคนดี มีน้ำใจ
>>174 ตอนแรกยอมรับเลยว่ากูเทนางเอก พระเอกแม่งปล่อยนางเอกตามยถากรรมอีก ทนอ่านไปแบบขัดใจ แต่คนอื่นว่าสนุก อ่านเม้นท์ก็บอกว่าสนุก กูก็ว่าสนุกนะแต่ไม่ชอบพระเอกนางเอก กูก็เลยไปทุ่มใจให้หลิงจี เจอมุดมิติหนแรกได้เป็นองค์หญิง โคตรฮา ทีนี้อ่านแล้วติดเลย พออ่านซ้ำถึงได้เห็นว่านางเอกก็เป็นคนดี แต่คนเขียนนำเสนอซะ แม่งเอ๊ย ไม่สงสารคนอ่านตับอ่อนอย่างกูเลย
กูว่าสาวคลั่งมีความคาร์แบบchick lit กูชอบเรื่องนี้แต่รำคาญนางเอกมากเพราะกูหนีชิคลิทมา แต่โครงเรื่องแม่งดีอะ ตอนจบนี่กูตบมือ นิยายไทยมักจะเริ่มปมไว้ดีน่าติดตามแต่พอถึงแก้ปมคลี่คลายส่วนใหญ่จะเจ๊ง บางทีกูก็รู้สึกว่าหรือนิสัยชนชาติพวกเรามันพวกแก้ปัญหาไม่เก่ง ใช้อารมณ์ก็พอ คือไม่ได้ด่านะ กำลังคิดว่าเป็นนิสัยร่วมของชนชาติ
>>179 แปะมือมึงในเรื่องเกลียดนางเอกพระเอกของคนนี้ แต่กูยอมรับว่าเนื้อเรื่องเขาดีมาก มันทำให้กูทนอ่านจนชอบ ตอนแรกโคตรเกลียดลี่เหยา แต่ตอนหลังก็เชียร์นาง เพราะไอ้พระเอกแม่งเล่นตัวชิบหาย กูอยากให้เพื่อนเป็นพระเอกแทนเลย
>>182 กูยอมเขาตรงโครงเรื่องนี่แหละว่ะ แต่อ่านบันทึกมหาดกูชอบนะ ชอบบรรยายเรื่อย ๆ แล้วจบมีเหตุผลหมดทุกเรื่องเท่าที่กูอ่าน ลำนำ สาวคลั่ง อ่านแค่นี้ว่ะแต่รู้สึกเหมือนอ่านหลายเรื่อง ถถถถ บันทึกมหาดแม่งกว่าจะได้กัน กูรอนางเอกโตจนเพลีย ยอมรับว่าเขาเฉลยปมดี ไม่หลุดคาร์
ในโม่งนี่แฟนคลับนักเขียนคนนี้เยอะใช้ได้เลยว่ะ ไม่มีใครอ่านแนวแมรี่ซูกันละเรอะ
>>184 กูอ่านได้นะแมรี่ซู ขอให้ซูแท้ ๆ เลย แต่ไม่ชอบซูแบบที่คนเขียนเปลี่ยนใจกะทันหัน เหมือนกลัวว่าเรื่องของตัวเองจะถูกมองว่าไม่มีอะไรแล้วมาออกตัวว่าจะดาร์ค จะดราม่า แล้วคาร์เปลี่ยนไปเลยจากทีแรกแสบ ๆ คัน ๆ ซู ๆ แบบบทจะโดนทำร้ายก็ง่ายปานนั้น กูจะทิ้งเลย มึงจะเขียนซูก็ซูให้สุดไปเลย อ่านแล้วไม่คิดมากดี แบบบางคนพอโดนคนอ่านด่าว่าไม่มีอะไรก็รีบเปลี่ยน เบื่อมากว่ะแบบนั้น
คุณหนูใหญ่แต่งงานแล้วดูเหมือนคนเขียนจะลองปรับลงมาให้คอมอดี้ย่อยง่ายขึ้น สไตล์ของนักเขียนคนนี้คือให้เราเพลินๆก่อนและสงสัยคาร์ของตัวละคร ว่าตกลงพวกมึงเป็นอะไรกันมากมั้ย แล้วค่อยๆเฉลยให้ลอจิคที่ดูจะยอมรับได้ แล้วเรื่องก็ค่อยๆเข้มข้นขึ้น คอนฟลิคมา แต่ต้องอ่านไปพักนึงถึงจะเห็นว่าเรื่องจะไปทางไหน คือปูโครงแบบนี้ในออนไลน์ต้องล่อซื้อเก่งๆนะ กูว่าอย่างสาวคลั่งล่อซื้อด้วยนิสัยนางเอกที่ดูจะแมสหน่อย แต่พอคนอ่านแล้วเรื่องเผยมาก็ต้องทำให้คนอ่านต่อให้ได้ คุณหนูใหญ่คุมโทนเนียนขึ้นนะกูว่า
ตอนนี้กูรออีกเรื่อง ชื่อไม่น่าสนใจแต่อ่าน2-3บทละท่าทางจะดี โฉมงามกับอสูร นางเอกเป็นคุแก่ บ้าอ่านหนังสือ ผมหยิกตัวอ้วน เป็นหนึ่งในตัวประหลาดของเมือง พระเอกเป็นอ๋องเจ้าเมืองซ่อนตัวอยู่บนวังภูเขาไม่สุงสิงชาวบ้าน
ท่านอ๋องยังไม่โผล่เป็นทางการ
>>187 กูว่าจะไม่อ่านคุณหนูใหญ่ของเขาแล้วนะ เพราะกูอ่านมหาดเล็กแล้วไม่จบซะที กูก็รอให้นางเอกแม่งได้มีลูกมีเต้า แบบอยากอ่านให้สุด รอนานเกินเลยไปอ่านคุณหนูใหญ่ฆ่าเวลา แม่งเสือกฮา ทีนี้เลยอ่านคุณหนูใหญ่ยาวเลย แต่กูชอบสาวคลั่งมากกว่า เนื้อเรื่องเข้มข้นกว่า ต้องไปหาอ่านราชวงศ์เหว่ยเหนือเลย แต่กูไม่ชอบคาร์พระเอกนางเอกสาวคลั่ง อยากจะสลับคาร์ลำนำขนนกมาไว้เรื่องสาวคลั่งแทน แต่คนเม้นท์คนอื่นก็เห็นเขาชอบคาร์สาวคลั่งกัน กูเลยไม่บ่น
>>190 คนละนักเขียน ขอโทษทีกูไม่ได้Ly
>>189 คนเขียนค้นข้อมูลปวศดี อ่านแล้วสนุก พอคุณหนูใหญ่เห็นชัดเลยว่ากำลังพยายามหาความลงตัวของปวศกับเรื่องบันเทิง เลือกยุคหวงกุ้ยเฟยพี่เลี้ยงฮ่องเต้ที่คนค่อนข้างคุ้นเคย เพิ่มความหื่นของพระเอก มีตัวอิจฉาตามสมัยนิยม สำนวนก็พอดีๆลื่นไหลกระชับดี ดำเนินเรื่องไวกว่าเดิม ถึงกูจะรู้สึกว่ามันเบากว่าเดิมเยอะ แต่กูว่ามันกลมกล่อมขึ้น
คงเพราะตัวเอกเรื่องคุณหนูใหญ่ไม่น่าอึดอัดตับไตมากเท่าเรื่องก่อนๆ สาวคลั่งนี่ไม่น่ารักเพราะคาร์เว่อร์ล้นๆไป หรือพอโยกคาร์แบบนี้มาใส่ตัวละครพระเอก เราเลยโอเคฟระ จิตใต้สำนึกคนอ่านสาวๆรับได้55555
กูถามหน่อย คอมเม้นต์หลักร้อยของ บันทึกมหาดเล็ก สาวจอมคลั่ง
นี่คือถือว่าดังแล้วใช่ป่ะ ถ้าเทียบนิยายเสินเจิ้นอ่ะ
(กูไม่ได้ว่าไรนะ 555555 กูแค่มาจากสายฟิค สายนั้นจะคอมเม้นต์ถล่มทลายหน่อยๆอ่ะ)
หวงกุ้ยเฟยในคุณหนูใหญ่นี่ในประวัติศาสตร์คือใครอ่ะ
>>196 สาวจอมคลั่งกับบันทึกมหาดเล็กนี่ถือว่าไม่ดังเลยว่ะในสายเสิ่นเจิ้น พวกดัง ๆ ยอดวิวเป็นแสนเป็นล้าน แต่ถ้าเทียบแค่ยอดเม้นท์ถือว่าได้เม้นท์เยอะมากสำหรับนิยายที่ไม่ดัง ยอดเฟ้บน้อยแต่ได้เม้นท์จากคนอ่าน มึงไปดูเรื่องติดท็อปนิยายหมวดนี้ ยอดเฟ้บเป็นหมื่น เม้นต์เป็นพันเท่านั้น เว้นแค่บางเรื่องที่ยอดเม้นท์ถล่มทลาย ที่โม่งอวยไม่ใช่เพราะนิยายสองเรื่องนี้ดัง แต่เพราะมันแต่งดีถูกจริตหลายคน โม่งบางคนก็ไม่อ่านนะ แต่ก็รู้ว่ามันดี แค่ไม่ใช่นิยายที่ชอบ
>>198 กูคนหนึ่งแหละที่ไม่ได้อ่าน แต่ในสายตากู ตั้งแต่กูตอดนิยายมา กูประทับใจบันทึกมหาดเล็กที่สุด อวยล้วน ๆ ไปเร้ย
ถ้าจะพูดทั้งในแง่คนเขียน คนอ่าน คนตอด และจริตของกูเอง กูชอบแนวซู ชอบแนวชิงบัลลังก์ การเมือง ซึ่งงงง ในหมู่เสิ่นเจิ้นนั้นหาอ่านยาก
Ky มีโม่งคนหนึ่งมาบอกว่าเสิร์ชเจอนิยายในโม่ง นิยายโดนติว่าภาษาไม่จีน แต่ตัวเองหาข้อมูลแน่น ไรทำนองนี้มะถ้าจำไม่ผิด เอาเป็นว่ากูพอเดาออกว่าเป็นเรื่องอะไรละ ถ้าใช่เรื่องที่กูคิดและกำลังจะขายในเร็ว ๆ นี้ อืม กูกำลังจะซื้อและถ้ากูอ่านจบอาจจะมาตอดในนี้
แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นก็ช่างมันเถอะ กูแค่จะบอกว่า การที่มึงยึดความคิดมึงว่าดี มึงพอใจ อะ มันก็ได้อยู่ มึงจะด่าโม่งที่วิจารณ์นิยาย มันก็สิทธิ์ของมึงด้วย
อนึ่ง ถ้ามึงพอใจแล้วกับการใช้ภาษาแบบนี้ ดำเนินเรื่องแบบนี้ โม่งก็ทำอะไรมึงไม่ได้ โม่งก็แค่วิจารณ์ไปตามความรู้สึก มึงไม่อยากรับรู้ก็แล้วแต่เลย พวกกูก็แค่คนอ่าน แค่อีกมุมมองหนึ่ง ไม่ต้องสนใจก็ได้
แต่ในเมื่ออุตส่าห์หาข้อมูลแล้ว เขียนนิยายจีน ชื่อตัวละครก็จีนแล้ว ลองปรับสำนวนภาษานิด ๆ ให้ออกเป็นจีนบ้างกูว่ามันก็พอทำได้นะ อย่างน้อยมันก็ทำให้ได้กลิ่นความเป็นจีนมาในระดับหนึ่ง
ป.ล.กูจำที่คุย ๆ กันมาในโม่งได้แค่นี้ ถ้าเข้าใจความต้องการและความคิดมึงผิดพลาดไปก็ขอพระอภัยมณีด้วย
ป.ล.2 กู่มี่เอินได้ตีพิมพ์กับเจ้าหญิงใช่มะ เห็นมาแวบ ๆ คงเป็นเสิ่นเจิ้นหาข้อมูล+ติดท็อป+โม่งอ่านเรื่องเดียวเลยปะที่เข้าข่ายนี้ 555555555
>>199 จินเสวี่ยนหวางน่าจะเป็นอีกเรื่องหรือเปล่าวะที่ติดท็อปและโม่งอ่าน แต่มันดองไปแล้ว กูจำไม่ได้นะว่าเคยติดท็อปมั้ย ใครจำได้ก็แก้ไขด้วย
กูว่าโม่งอ่านนิยายหลากหลายนะ รวมทั้งเรื่องที่โม่งด่าสำนวนภาษาและความไม่จีน แต่โม่งที่อ่านก็รู้ว่าแม่งสำนวนไม่ดี อ่านเอาเนื้อเรื่อง มึงพูดถึงแนวซูชิงบัลลังก์ กูนึกถึงลำนำขนนกของคนเขียนบันทึกมหาดเล็ก แต่กูไม่ชอบความจิตของพระเอกนางเอก ตัวละครน่ารักกูไม่เถียง แต่มีความจิตเยอะมาก คิดมาก บอกตรง ๆ กูอ่านเหนื่อย กูเพิ่งนึกได้ตอนพิมพ์ว่าคนเขียนคนนี้ตัวประกอบทุกตัวแม่งดีหมด แต่ตัวเอกแม่งมีปมหมดเลย ทำให้ซูก็ซูไม่สุด
ตอนนี้ติดท็อปมีประมุขเลี้ยงต้อย ใครสับไปยังวะ กูเพิ่งไปอ่านหน้าแรก ยังไม่ได้ดูเนื้อใน รอคนอื่นอ่านแล้วมาบอก
>>197
ตัวจริงคือนี่http://www.gypzyworld.com/article/view/344
>>203 แปะมือ กูยอมรับว่าเขาเขียนตัวละครเก่ง พล็อทดีงาม ไม่หลุดคาร์ แต่ว่าเอาคาร์แบบที่เขาเขียนตัวประกอบมาเป็นตัวเอกมั่งก็จะดีนะ ก็เข้าใจแหละว่าตัวละครของเขากลม ทุกคนเทาหมด แต่บางทีเราก็อยากให้มันมีมุมน่ารักนาน ๆ หน่อย นี่แบบอะไรวะ กะลังยิ้ม ๆ อยู่ดี ๆ กลายเป็นปวดใจอีกแล้ว พวกตัวโกงอะไรของเขาก็เหมือนกัน กูเพิ่งด่าไปตะกี้ อ้าว แม่งมีดราม่าตัวโกงโคตรดี นิสัยซุกซ่อนไว้ น่ารักน่าสงสาร แบบอยากบอกว่าให้ตัวละครแบนบ้างก็ได้นะ กูอ่านแล้วปวดใจ บางทีไม่กล้าด่าตัวโกงว่ะ รู้ว่าตอนต่อไปแม่งจะต้องมีดี เป็นงี้ทุกเรื่องเลยนะกูว่า
>>208
.
.
.
.
.
.
.
ยิ่งภาคพิเศษตอนจ้งหวามาเจอนางเอกในยุคปัจจุบันนี่ กูยิ่งช้ำอ่ะ ชีวิตพ่อแม่ลูกที่ทำกูช้ำใจเหลือเกิน
จ้งหวาน่าสงสาร ลูกก็น่าสงสาร ฮืออออออออ
เรื่องนี้แม่งเหมือนไม่มีพระเอกอ่ะ เพราะสุดท้ายพอกลับมาอยู่ยุคปัจจุบันนางเอกแม่งลบความทรงจำเลย กูอยากอ่านฉากหวานๆไร้กังวลของพระเอกนางเอกมั่ง
ขก.สับนิยาย เอาข่าวคราวไปก่อนละกัน
*เสิ่นเจิ้นที่จะออกใหม่/ออกใหม่ช่วงนี้*
เจ้าหญิง
- คิมหันต์อวลรัก
- ชะตาเกี้ยวรัก
wordต่อword
- ชะตาdreamมั่นlove
แสงแห่งรัก
- ชายาเสือ
ป.ล. สถาลด 35% อยู่นะแจ๊ะแต่เธอไม่รู้บ้างเลย ใครอยากสอยอยากเสี่ยงก็ให้คุกกี้ทำนายกัน
ป.ล.2 ถ้าจะสปอยล์ก็จุดบนห้า จุดล่างห้าให้เหมือนตำหนักจีนไปเลยมะ
ป.ล.3 นี่มันตำหนัก fc คนเขียนบันทึกมหาดเล็กใช่หรือไม่ 555555555
สำนักพิมพ์ คตค.กับเจ้าหญิง มึงชอบอ่านเสิ่นเจิ้นของที่ไหนมากกว่ากัน ส่วนตัวกูชอบของคตค. เพราะน่าปกสวยล้วนๆ
กูกดซื้อนิยายเสินเจิ้นผิด ไปซื้อใส่เรื่องเหี้ยไรไม่รู้ชื่อเสือกคล้ายเรื่องที่กูเล็ง มาอีกละแนวพระเอกแต่งนางเอกเข้าและอนุมาตบ
แนวฮิตเหรอวะ
เสือกตั้งชื่อคล้ายเรื่องกูเล็งอีกกูเลยสับสนชั่วขณะ
ฮือ อย่าซื้อแบบกูนะ
>>188
กูไปอ่านมาละ โฉมงามกับอสูร
พล็อตน่าสนใจนะ เอามาจากนิทาน แต่ตอนแรกๆยังเนือยๆอยู่
น่าจะเอาพีคๆมาไว้บทแรกจะได้ชวนติดตาม เช่นเปิดตัวพระเอกหรือเปิดตัวนางเอกให้แบบเอ๊ะ โห แม่ง นี่มัน ไรแบบเนี้ย
คือ4บทแรกอาจรีไรท์เหลือบทเดียวได้เลย
กูเป็นกำลังใจให้คนเขียนละกัน สู้สู้
ประมุขเลี้ยงต้อย ตอนนี้กูว่านางเอกกำลังจะหลุดคาร์ลละ
.
.
.
.
.
เริ่มๆกูว่าสนุกดี มีความบังเอิญที่ผลักให้เรื่องไปกันใหญ่ เช่น คุณพระรองเข้าใจผิดว่าประมุขทารุณกรรมเด็กน้อย หรือความขัดกันของประมุขที่หวังจะเสี้ยมสอนเด็กน้อยให้กลายเป็นใจมารแต่ท่าจะไม่สำเร็จ แต่ตอนนี้แม่งกลายเป็นเผาไปแล้ว อีเด็กน้อยดันอยากเอาคืนตาต่อตาฟันต่อฟัน กูเลยรอว่ามันจะออกทะเลมั้ย
ทำไมนิยายเสินเจิ้นไทยแพงกว่าแปลจีนวะแม่งเหมือนตั้งราคาตามใจชอบกันชิบหาย แบบคิดว่าฮิตจะเรียกเท่าไหร่ก็ได้ หูย เกือบห้าร้อยต่อเล่ม กลัวซื้อแล้วไม่คุ้มที่จ่ายชิบหาย
>>219 กูว่านิยายเสิ่นเจิ้นไทยมีแบบนี้เยอะ ตอนแรกดี ตอนหลังออกทะเล แต่กูก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ ส่วนใหญ่ก็หัดเขียนกันอยู่ มันเลยคุมโทนยังไม่เก่ง หลุดคาร์นี่กูว่าประจำเลยนะ เรื่องประมุขมารนี่กูว่าเริ่มต้นดี ขำ ๆ แต่หลัง ๆ อาจจะหมดมุกมั้ง
>>220 จำนวนพิมพ์น้อย คนซื้อน้อย พิมพ์ทีก็ต้องให้ได้คุ้มค่าแรง จะได้พอยาไส้ ถ้าชอบมากก็ซื้อ ถ้าไม่แน่ใจก็อย่าอุดหนุน แค่นั้นว่ะ
เมพ ถ้าจำไม่ผิด จะมีหัก%ของแอปเปิล 30% เสร็จแล้วก็หักส่วนแบ่งของเมพอีก 20%
ถ้าคนเขียนจริงจังก็จะมีพวกค่าพิสูจน์อักษร, ออกแบบปก ภาพประกอบ
และค่าแรงของตัวเอง
>>222 อย่างที่ 223 ว่า ถ้าคนเขียนทำจริงจัง ค่าใช้จ่ายเยอะมาก แล้วเขาต้องออกก่อนทั้งนั้น ไม่มีทางรู้เลยว่าจะขายได้มั้ย เกิดจ้างคนวาดปก จ้างพิสูจน์อักษร จ้างทำรูปเล่ม ตีซะว่าจ้างถูกมากเลย ยังต้องจ่ายแล้วซักห้าพัน เงินออกไปละ จะให้มาตั้งราคาขายเล่มละร้อย ไหนจะค่าแรงตัวเขาเอง ต้องกินต้องใช้ อย่าคิดว่าทำเป็นเล่มแล้วคุ้มกว่า ได้จับต้อง เพราะทำเป็นเล่มมักจะมีสนพมาพิมพ์ให้ ออกเงินให้ ไปดูนักเขียนทำมือที่มีคนซื้อน้อย ๆ สิ ค่าหนังสือมันก็จะแพง
>>171 กูไปอ่านคู่มือนางกำนัลมา ตอนแรกๆก็โอนะมึง นางเอกเป็นสาวใช้คู่กายคุณหนู แล้วทีนี้พอคุณหนูเข้าวัง นางเอกก็ได้เป็นนางกำนัลคนสนิท พอมาถึงช่วงคุณหนูเข้าวังนี่แหละมึง ด้วยความที่คุณหนูใสๆอ่ะ นางเอกเลยต้องวางกลยุทธ์อะไรตั่งต่างให้ เช่น
-กลิ่นในตำหนักให้ใช้สมุนไพรแทนพวกน้ำอบ ฮ่องเต้จะได้สดชื่น
-ฉากเอาใบชาเก่าชงให้ฮ่องเต้กิน(ชาใหม่เอาไปผสมน้ำอาบแล้ว) ฮ่องเต้จะได้รู้ว่าพระสนมโดนเมียอื่นๆของฮีแกล้ง
-ฉากให้พระสนมเล่นว่าว แล้วฮ่องเต้ผ่านมาเจอพอดี แก้มแดงระเรื่อเพราะออกแรง ผมหลุดรุ่ยเล็กน้อยดูเป็นเด็กสาว
อิเหี้ยนนน ชัดเลย! กูคิดว่าอ่านว่าด้วยอาชีพฯอยู่ ฮือออ กูเจอแบบนี้กูเลยเลิกอ่าน รับมะได้ ว่าด้วยฯคือนิยายในดวงใจกูTT กูอ่านไปตั้ง20ตอนละด้วย เสียดายเวลามากก เลยมาเตือนเผื่อใครกำลังจะอ่าน จะได้ไม่เซ็งหมือนกู แต่ถ้าใครไม่ซีก็มปร ขอให้มึงสนุก
ปล.พระเอกก็คืออิตาฮ่องเต้อ่ะแหละ ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้บาดเจ็บนางเอกมาเจอเลยได้รักษาให้ เย็บแผลตั่งต่าง ฮ่องเต้เลยสนใจ+ให้คนไปสืบเรื่องนางเอก (นี่มันพล็อตsimpleของเสิ่นเจิ้น555) กูเดาว่าที่รับคุณหนูเข้าวังก็เพราะนางเอก ให้อยู่ตำหนักใกล้สุดด้วย แต่คนเขียนเขาบอกฮ่องเต้เอ็นดูเฉยๆ ยังไม่ได้ชอบ เพราะนางเอกเพิ่ง12-13
ปล.อีกที คนเขียนเขาจะมาเห็นเม้นกูมั้ยเนี่ย กูกลัวโดนด่า+ไม่อยากทำร้ายจิตใจ แต่กูพิมซอฟสุดละนะ
>>225 เออลืมๆ ขอเพิ่มอีกฉาก คัดเลือกพระสนมเข้าวังใหม่ มีคนนึงสวยมากเว่อออ สวยกว่าสนมทุกคนจนต้องมองจิก ฮ่องเต้ถึงกับมือกระตุก(?) กูนึกถึงเชี่ยนอะไรสักอย่างนี่แหละในว่าด้วยฯ สวยมาก สวยจนกลบรัศมีซูกุ้ยเฟยที่สวยที่สุดในวัง สนมทุกคนมองแรง แต่ว่าด้วยฯนี่ฮ่องเต้แค่มองค้างนานสุด ไม่ได้มือกระตุก5555 กูขำ5555554
>>227 กูเห็นคนพิมพ์ผิดกันเยอะมาก ที่มาแม่งมาจากไหนวะ คำวิบัติอื่นๆกูเข้าใจว่าพิมพ์เร็ว(พวกพิมพ์สัมผัสไม่เป็น) หรือเพื่อเสียง
แต่ ต่างๆ นี่มันแค่ไม้ยมกเองปะวะ แล้วมีคนออกเสียงงั้นจริงดิ
เคยเจอทวิตถามว่า"ต้องเขียน ตั่งต่าง หรือ ต่างๆ ค่ะ?" ละกูหงิด บ่นนอกเรื่องขออภัย
ตั่งต่าง สำหรับกูใช้พิมพ์เพื่อให้อารมณ์ไม่จริงจัง เหมือนเม้าท์กับเพื่อน ส่วนคนอื่นคิดไงกูไม่รู้ว่ะ
แมวของข้า ตีพิมพ์กับสนพ.รักละมุน สองเล่มจบ นักเขียนแง้มราคามาแล้วว่าประมาณ700-800 กูนี่ร้องเชี่ย ปลูกไตไม่ทันแล้วจ้าาาา เรื่องนี้เพื่อนโม่งคิดว่าไง
กไม่เคยซื้อหยังสือรีบออกเลยเคยโง่ซื้อ ถัดมาอีกปีเมื่อราคาลงฮวบๆ เลย ต้องใจเย็น
>>225
กู171
ขำแรง กูก็บอกแล้วว่าตามอ่านนิยายที่....ได้แรงบันดาลใจ...จากว่าด้วยอาชีพนางสนมอยู่ ดังนั้นกูไม่มายด์อ้ะ
และจะบอกว่ามันไม่ใช่มาจากเรื่องเดียว มันยำมาจากหลายเรื่อง ถ้าจำได้ก็จะอ่านไปขำไป ถ้าเลียนแบบแต่ถูกที่ถูกทาง บิดนิดเพิ่มหน่อย กูก็โออ้ะ
(เคยมีคนบอกกูว่า เห็นใครทำอะไรเก่งเราก็เลียนแบบ อย่าไปอาย555 ขอแค่ไม่ลอกมาทั้งดุ้นก็พอแล้ว)
ตั่งต่าง.. น่ารักดี
>>238 กูเคยบอกไปว่าโม่งในนี้อ่านหลายเรื่อง เรื่องที่ด่าก็นิยมอ่านกัน ติดท็อปที่โดนตอดโดนเฉาะโม่งก็อ่าน โม่งมีหลายรสนิยม เห็นข้างบนแปะนิยายที่มีคนอ่านนิดเดียว เม้นท์แค่สิบกว่าเม้นท์โม่งยังอ่าน ก็ดีนะหลากหลาย กูเองไม่อ่านเลยถ้าภาษาไม่ดีกับมีกลิ่นนิยายอื่น ของกูภาษามาก่อนเนื้อเรื่อง เนื้อดีแค่ไหนแต่ภาษาวิบัติพิมพ์ผิดเยอะใช้ภาษาผิดรูปแบบ บรรยายเยิ่นเย้อเว่อร์วัง ดวงตะวันส่องแสงสว่างไสวกระทบพื้นดินเข้ามายังดวงตาคู่งามที่กำลังชมดวงตะวันอันอบอุ่นยามเช้า อะไรแบบเนี้ย บ๊ายบายจ้ะ
อย่าทะเลาะกันนน
ตั่งต่าง ถ้าจำไม่ผิดมันมาจากเพจน้อง กูก็ชอบใช้
>>225 กูก็อ่านว่าด้วยฯ แต่เสือกจำฉากเปลี่ยนชาไม่ได้ แต่ที่จำได้คือมีเสิ่นเจิ้นใช้มุกนี้ด้วย ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แพรขาวสามศอกปะวะ
>>230 เห็นราคาละตาเหลือกเลยกู สูงไปมากจริง ๆ
Ky ในวังดดมีคนโพสต์ถามเสิ่นเจิ้นสี่เรื่อง หญิงสาวเฝ้าสุสาน เสี่ยวมาวมาว จอมนางเคียงฯ เสี่ยวหวางฯ
คือถ้าเรียงตามยอดวิว เมนต์ เฟบ ในเด็กdนี่จอมนางเคียงฯ มาวินสุดใช่มะ ครองท็อปหนึ่งนานสัส แต่คนในวังดดส่วนใหญ่โหวตหญิงสาวเฝ้าสุสาน และบางส่วนจัดให้จอมนางเคียงสนุกน้อยสุด
ปุจฉา จากที่ดิฉันเล่ามา สามารถบอกอะไรได้บ้างคะ (10 คะแนน)
>>243 คนตัวเล็กตัวโตนี่มันสำนวนทมยันตี ป้าทมแกใช้ได้ตรงบริบท ใช้แล้วดูน่าเอ็นดู คนอื่นเอามาใช้ตามจนเกร่อ ถ้าใช้ให้มันถูกที่ถูกทางมันก็ดูดีว่ะ แต่นี่ใช้แม่งทุกประโยค ถ้ากล่าวถึงนางเอกก็ตัวเล็ก มือบาง เอวบาง ร่างบาง ร่างน้อย ริมฝีปากก็บาง ห่าอะไรบางหมด นางเอกจะทำอะไรจะต้องบรรยายด้วยร่างบางทุกประโยค ร่างบางหันไปมอง ร่างบางเดินไปเปิดหน้าต่าง บางทีร่างบางร่างเล็กยังถอนใจได้ด้วยโว้ย แต่ที่ตลกที่สุดจนกูสะอื้นคือ พอนางเอกกลายเป็นร่างบาง พระเอกแม่งเลยต้องกลายเป็นร่างหนา ร่างหนายังไม่พอ ปากหนาอีก (กูนึกถึงเจชนาธิป) กูเพิ่งอ่านติดท็อปบทแรกอันนึงที่พระเอกใช้ปากหนาจูบปากบางของนางเอก ปิดเลยว่ะ หมดจินตนาการทันที ปากของพระเอกนางเอกมันเป็นแบบธรรมดามั่งก็ได้นะ คนเราร่างไม่ต้องบางก็ได้ ยัดเยียดร่างบางร่างหนามาทุกประโยคอย่างกับพระเอกแม่งต้องเล่นกล้ามทุกคน กูรับไม่ได้
พูดถึงร่างบาง กูอยากให้นางเอกสูงกันบ้างแม่ง บรรยายตัวบางไปหมด ตัวเล็กกว่าพระเอก ผู้หญิงสูงก็มีนะเว้ย อย่างกูนี้(ร้องไห้)
กูสำรวจนิยายติดท็อป มีเรื่องที่ใช้ชื่อชายาอยู่สามเรื่อง ต่อไปกูจะใช้คำว่าเมียแทนชายา เพื่อความเป็นโม่งอันสมบูรณ์แบบ
เรื่องแรก เมียก้นครัว โปรยไว้ว่านางเอกเก่งทำอาหาร เป็นลูกบุญธรรมของหมอหลวง ต้องแต่งกับอนุชาฮ่องเต้ พระเอกต้องการเพียงนางคนเดียว เปิดมาบทแรกนางเอกยังเด็ก ถูกพ่อเอาไปทิ้ง แค่บรรยายย่อหน้าแรกก็เริ่มด้วยการใช้ภาษาที่ไม่ถูกต้อง >>นายท่านฉีพลันก้าวอาด ๆ เข้าไปในเรือนบุตรสาวคนเล็ก และอุ้มนางไปทั้งที่ยังอยู่ในนิทรา<< คำว่าก้าวอาด ๆ มันต้องเป็นลักษณะเดินแบบสง่า เดินแบบอวด ๆ หยิ่ง ๆ เดินอย่างมั่นใจ แต่นี่พ่อกำลังจะเอาลูกไปทิ้ง เดินอย่างสง่าผ่าเผยเข้าไปอุ้มลูก มันไม่ให้ความรู้สึกที่เหมาะกับอารมณ์เวลานั้น ทีนี้พอเอาลูกไปทิ้งแล้ว ผ่านมาแป๊บนึงก็มีคนมาพบ แถมคนมาพบดันรู้อีกด้วยนะว่านางเอกถูกทิ้งเพราะสาเหตุอันใด ตรงนี้กูพยายามคิดช่วยเหลือคนเขียนว่านางเอกคงโตพอรู้ความว่าทำไมตัวเองโดนทิ้ง นางเลยอธิบายให้คนที่มาพบรู้เรื่องได้ (คนที่มาพบคือพ่อบุญธรรมในอนาคต) แต่พออ่านผ่านมาอีกสองย่อหน้า เขาดันบรรยายว่า เมื่อนางโตพอรู้ความแล้ว พ่อบุญธรรมจึงเล่าเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีตให้นางได้รู้ อ้าว งี้ก็แปลว่านางเอกจำไม่ได้ เพราะมาโตรู้ความทีหลัง ตอนถูกทิ้งยังเล็กมาก ยังไม่รู้ความ แม่งขาดเหตุผลตั้งแต่บทแรกเลยทีเดียว ถ้าเอาแค่เรื่องภาษา ภาษาคนนี้จัดว่าพอใช้ แต่จากการขาดเหตุผลที่ว่า กูจึงพอเดาได้ว่าเรื่องต่อ ๆ ไปก็คงจะไม่ค่อยมีเหตุผลอะไรมารองรับนัก ดูแนวก็คงจะเป็นนิยายที่ไม่ได้แปลกใหม่อะไร นางเอกคงจะเป็นแดจังกึมฉบับผัวรักผัวหลง ไม่แน่ต่อไปอาจจะเป็นหมอหญิงเข้าไปอีก เพราะพ่อบุญธรรมเป็นหมอหลวง ใครตามไปอ่านแล้วเห็นว่ามีอะไรเพิ่มเติมก็ว่ามา
เรื่องที่สอง เมียเสวียนอู่ คำโปรยบอกว่านางเอกโดนอุ้มสมมาเป็นเชลยบำเรอกาม ลงเอกสารอ้างอิงเพื่อบอกว่าเป็นนิยายที่ไม่ได้เขียนมั่ว มีการศึกษาวัฒนธรรมระดับนึง ทีนี้มาดูบทบรรยายเริ่มต้น มีการใช้คำที่เขาคงเห็นว่าสละสลวย เรียงประโยคได้โอเคไม่ผิด แต่มันมีกลิ่นจากการบรรยายเรื่องอื่นที่กูเคยอ่าน อ่านไปสามย่อหน้าแรกรู้สึกได้เลยว่าบทบรรยายทิวทัศน์ของคนเขียนไม่มีอินเนอร์ แค่พยายามใส่คำเข้ามา แต่บทพูดถือว่าใช้ได้ เป็นลิเกมากกว่านิยายจีน แต่อันนี้กูไม่ติ กูถือว่าเป็นคนไทยแต่ง อนุญาตให้มีกลิ่นลิเก เพียงแต่กูก็จะขำหน่อย ๆ อีกอย่างนึงเขายังใช้คำไม่ถูกต้องอยู่บ้าง น่าเสียดายเหมือนกันเพราะมีความพยายามในการเขียน แต่ความรู้ด้านคำยังไม่ดีพอ เช่น >>ราชวังอันสง่างาม<< วังเป็นสถานที่ สง่างามไม่ได้ สง่างามใช้กับคน หรืออย่างเช่น >>ดวงตาคมกริบเปล่งประกายเจิดจ้าใต้คิ้วดำเข้มดูสูงสง่า<< ประโยคนี้จะบอกว่าอะไรสูงสง่า คิ้วคนเหรอวะ คิ้วสูงสง่า แข่งกับแก้มตอดคมสันต์ของเมียกำแพงหรือไง เนี่ยว่ะ เรื่องเล็กน้อยที่ทำให้รู้ว่าคนเขียนเข้าใจคำหรือสักแต่ว่าใส่ ๆ เข้ามา ก็หวังว่าต่อไปเขาจะปรับปรุงการบรรยาย
เรื่องที่สาม เมียเลือดเย็น เรื่องนี้มีระดับมนตรา ปราณธาตุ การปรุงโอสถ ผู้แต่งเพิ่งหัดเขียน บอกไว้หน้าเรื่องว่าผิดพลาดบอกได้ อ่านจากเนื้อใน พวกมึงจะเชื่อมั้ยว่าคนนี้บรรยายได้ดีกว่าสองคนแรก ประโยคที่บรรยายไม่ได้พยายามทำให้สละสลวย เขียนไปเลยโป้ง ๆ ๆ มีความขาดเกินในแต่ละประโยคอยู่บ้าง แต่เป็นระดับที่สามารถขัดเกลาได้สบาย เหมือนมึงทำแป้งพิซซ่าเองแล้วมึงโปะลงไปบนถาด มึงไม่ได้ทำกลมสวย แต่ยังตัดขอบตกแต่งได้ มึงทำรสชาติดีแล้วในแต่ละประโยคที่เขียนลงมา ไม่เวิ่นเว้อ ไม่เยิ่นเย้อ ถึงเนื้อเรื่องอาจจะดูไม่ใหม่อะไรเลย ตายแล้วเข้าร่างคุณหนู แต่กูบอกได้เลยว่าในสามเรื่องเมีย ๆ ที่กูยกมาคืนนี้ ของคนนี้ใช้ภาษาได้ดีที่สุด กูเปิดหาว่าเขาจะบรรยายสถานที่อะไรยังไง พอดีเจอในตอนที่สามเลย เขาเขียนว่า >>ยามนี้พระอาทิตย์เริ่มที่จะลาลับขอบฟ้าแล้ว ท้องนภาอันกว้างใหญ่แปรเปลี่ยนเป็นสีส้มให้ความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก<< เขียนแค่เนี้ย พวกมึงเห็นมั้ยว่าประโยคไม่สวย ไม่ได้มีอะไรแปลก แต่มันลงตัวพอดี เวลาจะแก้ก็แค่หาวรรคตอนใหม่ ตัดคำนิดหน่อย เช่น พระอาทิตย์เริ่มลาลับขอบฟ้า ท้องนภาแปรเปลี่ยนเป็นสีส้ม ให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก การเขียนแบบนี้ดีกว่าการบรรยายของเรื่องที่สองที่พยายามจะทำให้สวย
จบการเฉาะเล็ก ๆ สำหรับคืนนี้ ขอลาไปนอนก่อน
เพิ่ลม่ง มีใครสับอวี้หลันแล้วมั่ง กูเห็นมีคนเริ่มเอามาขายมือสองละ ถ้าดีอาจจะซื้อ
>>237
กูขอโทษ555
ไม่ได้เป็นนักเขียน สบายใจยังคะมึง
คนพูดคือเจ้านายเก่า พูดเรื่องการทำงาน จริงๆคือนายไปดูร้านคู่แข่งมา มาเล่าแล้วบอกว่า อะไรที่คู่แข่งทำแล้วดี เราก็ทำตาม 555 ตอนนั้นรู้สึกประทับใจ ว่าคนเราไม่ควรมีอีโก้ ควรมุ่งผลสำเร็จมากกว่า
ในแง่งานเขียน จะเห็นได้ว่ามันก็หนีไม่พ้น บางพล็อตมันฮิต มันก็จะฮิตไปสักพัก กูเองถ้ายังไม่เบื่อก็อ่านได้เรื่อยๆ เบื่อเมื่อไรก็เท
ตามนั้นค่ะมึง
>>256 เห็นด้วย ทำตามได้ แต่ทำให้ดีกว่าและให้เหมาะกับเราถึงจะเวิร์ก เรียกว่าได้แรงบันดาลใจหรือนำมาปรับใช้
แต่สำหรับงานศิลปะ พอทำตามแล้วต้องฉีก ไม่งั้นจะกลายเป็นลอก ถึงรายละเอียดต่างแต่ถ้าภาพรวมเหมือน คนเค้าก็มองว่าลอกอยู่ดี
เช่น เราปั้นรูปคนนั่งก้มหน้าเท้าคางไขว่ห้าง คนที่ไม่รู้ก็อาจจะเฉยๆ แต่คนที่รู้อาจจะว่า เฮ้ย ลอก The Thinker
เราอาจจะเถียงว่าไม่ได้ลอก เพราะของจริงไม่ได้ไขว่ห้าง และของเราเท้าคางมือซ้าย
แต่คือภาพรวมมันเหมือนไง
ถ้าเราเอาแค่พล็อตคนใช้ความคิด แล้วเราปั้นรูปผู้หญิงเอนหลังพิงเก้าอี้เงยหน้าสายตามองไปไกล ในมือถือหนังสือ
แบบนี้ใครจะมาว่าลอก The Thinker ก็บ้าแล้ว
สรุปว่าพล็อตเหมือนได้ แต่รายละเอียดนอกนั้นถ้าเรายังตามรอยแรงบันดาลใจของเราไปเป็นส่วนใหญ่ ก็ต้องทำใจถ้าจะมีคนว่าเราลอก
>>258 พูดกันตามตรง ตูไม่ค่อยคิดว่ามันจะมีงานอะไรไม่ตั้งใจแล้วมันไปเหมือนกันได้ว่ะ โดยเฉพาะเรื่องการกระทำในนิยายเนี่ย ลองนึกถึงเพื่อนที่นิสัยเหมือนกัน ชอบอะไรเหมือนกันสุดๆดิ เวลาเจอบางเรื่องหรือคิดอะไร ก็ใช่ว่าจะคิดเหมือนกัน มีลำดับความคิดเป็นแบบเดียวกันเป๊ะๆนะมึง หรือขนาดคนเรา โตมาในสภาพแวดล้อมใกล้กัน ความคิดบางอย่างยังต่างกันเลย สำมะหาอะไรกับตัวละครที่ชาติกำเนิด ภาวะแวดล้อม และอีกมากมายไม่เหมือนกัน จะมีการกระทำหรือการตอบโต้แบบเดียวกันได้
เพราะแบบนี้มั้ง กูเลยอ่านเสิ่นเจิ้นรอดยากจริงๆ เหมือนหลายเรื่องแค่หยิบๆเอาฉากที่อยากโชว์เทพตัวเอกมาเขียนๆ แล้วดันให้มันมีฉากนั้นให้ได้ ไม่ได้นึกถึงตรรกะหรือสำนึกคนปกติเอาเลย
>>260 ก็จริงอยู่ ถ้ามีคำพูดและการกระทำเหมือนกันหลายๆ เหตุการณ์นี่น่าสงสัยแระ
แต่สำหรับพล็อตหรือเหตุการณ์ทั่วไปในนิยายเนี่ย ก็เข้าใจนะว่าบางทีเราอาจจะคิดเองเขียนเอง แต่ดันไปคล้ายฉากในเรื่องอื่นๆ ได้
อาจจะเพราะคนเขียนเคยอ่านมาแล้วประทับใจ เลยอยากให้มีในนิยายของตัวเองบ้าง เช่น ฉากพระเอกนางเอกตกเหว
หรือบางทีมันก็เป็นตุเป็นตะไปเอง เช่น นางเอกเปิดประตูไปเจอพระเอกทับบนตัวสาวใช้เลยเข้าใจผิดว่ามีอะไรกัน
นางเอกเสียใจวิ่งหนีไปโดนรถม้าชน พระรองลงจากรถม้าพาไปรักษา
นางเอกฟื้นมาความจำเสื่อม กลายเป็นสาวใช้พระรอง แล้วก็รักกับพระรอง อะไรงี้
ใครบอกได้ว่าลอกเรื่องไหนมา
คำตอบคือ คิดเองตะกี้นี้ แต่มันอาจจะไปมีส่วนคล้ายเรื่องไหนก็ไม่รู้
อาจจะผสมผสานจากนิยายไทยหลายๆ เรื่องที่เคยอ่านมาก็ได้
ประสบการณ์ที่เคยอ่านมันนำทางความคิดเราไปแบบนั้น
ถึงได้บอกว่าพล็อตเหมือนน่ะไม่แปลก แต่เราต้องแตกต่าง แต่งเติมอะไรของเราเข้าไปเอง
ถ้าไม่ได้ลอกนะ ไม่มีทางเหมือนว่ะ ต่อให้มีโครงเหมือน พระเอกขี่ม้าตกเขาเหมือนกัน การบรรยายกับอารมณ์ตัวละครก็ไม่เหมือน ที่มันเหมือน ๆ ทุกวันนี้ก็เพราะลอก พวกที่โดนด่าว่าลอกเพราะมันมีจังหวะเดินเรื่องแบบเดียวกันเด๊ะ กลิ่นหึ่ง ต่อให้เปลี่ยนชื่อแซ่เปลี่ยนอะไรมากมาย ลอกก็คือลอก
สงสัยจังว่าทำไมนางเอกจะต้องจมูกโด่งปลายเชิดรั้นแสดงว่าเป็นคนเอาแต่ใจกันแทบทุกเรื่อง
คนปลายจมูกไม่เชิดนี่ไม่เอาแต่ใจเหรอ
กู 264
คือไม่เข้าใจว่าทำไมต้องบรรยายให้นางเอกเป็นแบบนั้นแทบทุกเรื่อง มันเป็นไทป์นางเอกใช่มะ จมูกโด่งเชิดรั้นเอาแต่ใจ
อ่านเจอจนเบื่อบทบรรยายแนวๆ นี้
ตัวอย่าง
ปลายจมูกโด่งที่เชิดปลายเล็กน้อยบ่งบอกถึงความดื้อรั้นเอาแต่ใจของเจ้าตัว
เนื้อเรื่องก็เหมือนกันอยู่แล้ว จมูกก็ต้องเชิดเหมือนกันด้วยสิวะ แต่ถ้านึกภาพดี ๆ มันจะเหมือนจมูกหมูหรือเปล่าวะ เชิดรั้นเห็นรูจมูก หวาดเสียวว่ะ
โม่งคนไหนถามรีวิวบุปผาอวี้หลันวะ นี่ในกลุ่มผ. กูก็อปมาแปะ
>>
บุปผาอวี้หลัน..สวรรค์โปรยมาถามข้าก่อนไหม
จัดพิมพ์/จัดจำหน่าย/ผู้เขียน : Kinkmj
จำนวนหน้า : 469 หน้า
คำโปรย : ปัญหาหลักๆ ของ "หย่งเจิ้ง" นั้นก็คือ เขาต้องการแต่เงิน ไม่ต้องการสตรี ยิ่งเป็นหญิงเกือบแก่ไร้หัวนอนปลายเท้า สวมชุดประหลาดไร้ยางอายนั่นก็ยิ่งแล้วใหญ่...
ปัญหาหลักหนึ่งเดียวของ "หยก" นั้นก็คือ ที่นี่ไม่มีทีวีดู แย่ที่สุดเลย...
เริ่มเรื่อง คุณสมบัติพ่อพระเอก เพอร์ฟอร์มมาก เป็นผู้ได้รับความรักจากเทพเซียน เป็นพ่อค้าผู้แสนตระหนี่อันเลื่องชื่อ มีกิจการมากมายหลายประเภท ที่โดดเด่นสุดเห็นจะเป็น ร้านจำหน่ายอุปกรณ์วิเศษ อาทิ เช่น ไม้เท้าวิเศษ ทำจากสนพันปี และแถมคาถาให้ท่อง ซาละเปาแปลภาษา ราคาลูกละ 3 ตำลึง...(อันนี้น่าสนุก เหมือนจะล้อเลียนวรรณกรรมโด่งดัง แต่เสียดายไม่เอามาเล่นต่อ..)และ แหวนหยกทิวาราตรี อันเป็นเหตุที่พาแม่นางเอกข้ามมิติมาได้
นางเอกแสนเปิ่น เซ่อซ่า หลุดเข้ามาในมิติด้วยสภาพทุลักทุเล เริ่มจากปลายผมเจ้ากรรมเข้าไปติดในพัดลม เส้นผมพันกันยุ่งเหยิงดึงยังไงก็ไม่ออก ก็เข้าใจว่าต้องให้ผมตรงก่อนถึงจะดึงออก ไปหยิบที่หนีบผมมา ตั้งใจจะหนีบผม แต่ผมกลับไปอยู่ในฝาครอบพัดลม ทุลักทุเลหนีบผม ปลายเครื่องหนีบผมก็มาจี้คอเป็นรอยไหม้แดง จนทนไม่ไหว จึงอุ้มทั้งพัดลมวิ่งจะมาหาแม่ให้ช่วย แล้วก็มาตกบันได โผล่มาจ๊ะเอ๋กะพ่อพระเอกอีกมิติซะอย่างงั้น..เฮ้อ...สภาพน้อออ..
เมื่อแม่นางเอกมาถึง ก็เพียรพยายามหาทางกลับ โดยความหวังมีอยู่ที่"พี่หย่งเจิ้ง" ส่วนพ่อพระเอก พอโหรหลวงมาบอกว่า แม่นางที่ข้ามภพมานั้น มีชะตาส่งเสริมกันให้พามาอยู่ใกล้ตัว จึงจำทนรับ "แม่นางหลิน" มาร่วมชะตากรรม
เรื่องราวก็เป็นแนวกุ๊กกิ๊กเบาสมอง ไม่มีจองล้างจองผลาญอะไรทั้งนั้น ไม่มีแมรี่ซู มีแต่เบาสมอง อ่อนปัญญา เปิ่น ซื่อ ของแม่นางเอก (แต่ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบนึงนะค่ะ)ไม่มีความลุ่มลึกในตัวละคร แต่ช่างมันเถอะ คิดว่าอ่านเอาสนุก
พ่อพระเอกน่ารักทีเดียวเชียวล่ะ เสียดายที่โครงเรื่องดีทีเดียว แต่คนเขียนทิ้งไปเยอะ เนื้อเรื่องเลยดูเหมือนจะเบาหวิว
มีมุขให้ขำขันประปราย แต่มันก็ฝืดๆไปบ้าง สำนวนไม่ลื่นไหล มีคำผิดอยู่เล็กๆน้อยๆ
ไม่ควรคาดหวังใดๆทั้งสิ้นค่ะ อ่านได้เรื่อยๆเฉื่อยๆ เดาเรื่องได้
อ่านจบได้ในคืนเดียว คหสต.รู้สึก เฉยๆค่ะ แค่อ่านเอาเรื่อง พลาดเพราะคำโปรยค่ะ คงจะขายไม่เก็บ
<<
อันนี้มั้ง 鄘 Yōng
วันก่อนอ่านเรื่องอะไรจำชื่อไม่ได้ ยอดเฟ้บพันนึง ยอดคนอ่านพันสอง
แปลว่าคนอ่านแล้วเฟ้บเลยเยอะมากใช่มั้ย เก่งว่ะ
มึง มีใครอ่านชะตา dream มั่น love จนจบแล้วบ้างอะ คือกูสงสัย
มันมีคนบอกว่าหวานละมุน น่ารัก กูอยากรู้ว่ามันละมุนยังไงบ้าง กูเพิ่งอ่านแค่ตอนแรกนิด ๆ
แล้วก็มีคนบอกว่าอ่านสบาย ๆ ไม่มีดราม่า อาจจะเพราะว่ากูเขียนเรื่องที่มันมีดราม่าปน กูเลยสงสัยว่า นิยายแบบละมุน สบาย ไม่มีดราม่า มันสนุกยังไงบ้าง ในหัวกูพอคิดตามแล้วก็คิดว่ามันฟังแล้วดูน่าเบื่ออะ ใครอ่านจบแล้วช่วยไขข้อข้องใจให้กูที ขอบพระคุณ
ky
คนอ่านที่บ่นๆ ย้ำๆ ตลอดว่านิยายเรื่องนี้แม่งไม่สนุก ไม่น่าติดตาม นางเอกโง่น่ารำคาญ น่าเบื่อ ตายๆ ไปซะ ไม่ตามอ่านแล้ว อ่านแล้วท้อแท้ ฯลฯ
แต่แม่มโผล่มาเม้นตอนใหม่ทุกครั้งที่คนเขียนอัพ วนลูปด่าซ้ำ
เขาต้องการอะไรจากคนเขียนวะ
>>284
กูอ่าน
พล็อตเรื่องนี้เป็นรักโรแมนติก พระเอกนางเอกแต่งก่อนรักทีหลัง คิดว่าจุดเด่นอยู่ที่พล็อตที่ไม่ซ้ำซาก เอาความคิดคนสมัยใหม่ไปใส่ให้ตัวละครจีนโบราณ มันก็รู้สึกแปลกใหม่ดี
อ่านได้เรื่อยๆ ไม่สะดุด กุ๊กๆกิ๊กๆ คนเขียนเข้าใจเขียน แต่ละฉากมันจะมีมุมน่ารักๆไม่ซ้ำซาก
ก็อ่านเพลินๆ ไม่หวือหวา ไม่ดราม่าแรง เรื่องนี้ดีตรงไม่ค่อยมีไรให้รู้สึกขัดๆหรือจับผิดได้
ชีวิตจริงมันดราม่าพออยู่แล้ว อ่านนิยายก็เหมือนเข้าไปพักผ่อนในนิยาย ในอีกโลก
รสนิยมแต่ละคนต่างกัน อ่านเรื่องเบาๆก็เหมือนนั่งจิบน้ำะพร้าวชิวๆริมทะเล แต่บางคนก็อาจชอบอ่านบู๊ล้างผลาญเหมือนเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ บางคนก็อ่านแซ่บๆอีโรติกชอบเที่ยวผับเที่ยวบาร์
ประมาณนี้อ้ะ
กูไปอ่านคุณหนูใหญ่ตระกูลจางแต่งงานตามโม่งเม้นท์บน สงสัยว่าติดท็อป 100 ได้ไงวะ มีคนเฟ้บแค่พันกว่า แต่เรื่องตลกดีนะ ขอบคุณเพื่อนโม่งที่มาบอก
พวกมึง ปีศาจกับมารแตกต่างกันยังไง กูเคยเห็นในนิยายจีนบ้างเรื่อง ปีศาจนี่คือพวกที่แปลงร่างได้ใช่มั้ย เช่น ปีศาจจิ้งจอก ปีศาจเต่า อะไรพวกนี้
ปีศาจ พวกไม่ใช่มนุษย์มาก่อน จะแปลงร่างหรือไม่แปลงก็ได้ คนจะมองเป็นสัตว์ประหลาด
มาร เป็นพวกไหนมาก่อนก็ได้ เพราะมันเป็นส่วนด้านมืดของจิตใจ
แบบพวกที่อำมหิต เลือดเย็น ฆ่าคน ละโมบ หลงในอำนาจ บราบรา
เกิดมารในจิตในนั่นเอง
เจอเรื่อง ซีซือบรรณาการ
เปิดเรื่องมาพระเอกเป็นท่านอ๋องบังเอิญผ่านมาช่วยนางเอกก่อนจะโดนข่มขืน แล้วก็พากลับค่ายทหาร ขอค่าตอบแทนที่ช่วยนางเอกไว้ด้วยการปล้ำนางเอก (?)
นางเอกอยู่ว่างๆ ก็ไปช่วยทำอาหาร ปะชุนเสื้อผ้า
ตอบแทนพระเอกต่ออีกสองสามคืน พระเอกก็พามาส่งบ้าน บ้านนางเอกเช่าที่ของโรงเตี๊ยมขายซาลาเปา พระเอกออกเงินซื้อร้านให้นางเอกแล้วก็จากไป
กลิ่นเต้าหู้หึ่งมาก แค่คนเขียนยืนยันว่าไม่ได้ก็อป แค่พล็อตคล้ายตรงพระเอกดิบเถื่อนแสนซึนมาตกหลุมรักสาวน้อยบริสุทธิ์
พูดจริงๆ ที่ต่างก็คือเรื่องนี้พระเอกนุ่มนวลกว่าแค่นั้น นอกนั้นสเต็ปคล้ายมาก
ก็หวังว่าบทต่อๆ ไปมันจะต่างจริงๆ อะนะ
เด้าหู้ มันพาฝันเหรอวะ กูอ่านแล้วกูมึนตรรกะพระเอกนางเอกชิบ
>>296 กูนึกว่าเต้าหู้ กลิ่นหึ่งที่แท้ทรู ปรับเปลี่ยนนิดหน่อย เอาเถอะแรงกะดานใจสามารถมีกันได้ทุกคน ดูอย่างร้านอาหารลอกข้อสอบสิ ขนาดที่ยุ่นจดลิขสิทธิ์แล้วพี่ไทยังทำกันได้เลย ไม่ผิดจนกว่าจะถูกฟ้องร้องอย่างจริงจัง ส่วนนิยายเรื่องนี้ก็ไม่ผิดขะ คนเขียนมีความสามารถดึงนักอ่านแค่ไหน เต้าหู้มี 3 เล่มจบ นิยายเรื่องนี้ยังกระดานใจต่อไปได้อีกยาว
>>297 มันก็ไม่พาฝันนะ ออกจะเหมือนชีวิตจริงที่ผู้หญิงอาจต้องไปเจอควายเผือกผู้ดิบเถื่อน ทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่เข้าใจความรู้สึกของผู้หญิง
และความรักกับการแต่งงานก็อาจไม่ได้ไปด้วยกัน พบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่นอะไรประมาณนั้น ก็ใช้ชีวิตแบบทำใจรับสภาพกันไป
(แต่สมัยนี้คงไม่ต้องสนใจใดๆ หย่าโลด)
มึงกูย้ายมาถามตำหนักนี้หน่อย ตำหนักนู่นไม่มีใครตอบกู ฮืออออ. กอดเข่าร้องไห้
หกภพภูมินี่มันเรียงยังไงหรอ
> เทพ เซียน มนุษย์ ปีศาจ อสูร วิญญาณ
หรือ
>เทพ เซียน มนุษย์ ปีศาจ มาร วิญญาณ
>>302 กูว่า มารน่าจะมีศักดิ์ศรีเหนือพวกปีศาจนะ
ความจริงเคยอ่านพวกภพภูมิความเชื่อ แต่ละภพมันก็เป็นภพของมัน
อย่าง มนุษย์ ปีศาจ วิญญาณ เหมือนมิติเลื่อมล้ำกันอยู่
ส่วน เทพ เซียน ค่อยเป็น สายลำดับพลังชั้นฟ้า
ตรงกลางก็คือมนุษย์
พญามาร ก็คุมโลกมืด คุม ปีศาจ และวิญญาณ
ผังประมาณนี้รึเปล่า ตามที่กูเข้าใจ จากการอ่านนิยายประโลมโลกนะ 555
เทพ > เซียน > มนุษย์ ~ วิญญาณ < ปีศาจ < มาร
เพิ่งได้อ่านจอมทัพคู่บัลลังก์ กูไปอยู่ที่ไหนมาวะ ตกใจที่ตอนเยอะชิบหาย ดองไว้นานเกิน 555555 แต่ช่วงนี้เขาอัพถี่มาก ใครก็ได้มาสครีมกับกูหน่อย เรือมา ฮือออแล้วเรือก็ไป เถี่ยของกู๊
>>309 เถี่ยผู้ถูกทิ้ง ถถถถถถถถถ
กูฮาตอนเถี่ยจับโดนหน้าอกนางเอกแล้วบอกว่า แผลอักเสบจนบวมอ่ะ กูแบบ อีเถี่ยเอ้ยยยยยยย
เถี่ยนางน่าสงสารนะมึง กว่าจะรู็ว่านางเอกเป็นหญิงก็หลังคนอื่น แถมพอรู็ก็โดนทิ้งเฉย
เรื่องนี้ผู้อีกสองคนนอกจากเถี่ยดูหลงนางเอกง่ายไปหน่อย กูเซ็งตรงนี้อย่างเดียว
>>310 เออใช่มะมึงงง กูแบบบ โธ่ เถี่ยเอ๊ยยยย ใจคอมึงจะเด๋อได้เบอร์นี้เลยเหรอวะ ตลก55555 แบบสงสารที่ยังไงก็โดนทิ้งมากมึง
อีผู้สองคนนั้นคือมู่กับไอ้ท่านชายทะเลทรายหื่น ๆนั่นปะ คนแรกกูว่ามันแค่สนใจฟงอวิ๋นเฉยๆมั้ง ส่วนคนหลังกูว่าแค่หื่นมากกว่า มีแต่เถี่ยที่ดูรักใส ๆ เห้อมมมมม
>>312 เออกูก็รู้สึกว่าคุ้น ๆ ฟงอวิ๋นขี่พายุทะลุฟ้านี่เอง ชื่อแอบสิ้นคิดจริงจัง
เออฟงอวิ๋นนี่แบบ พอๆกับรั่วซี เหอะๆ อ่านแล้วชะงักตลอด
มีใครอ่านวาสนาชะตารักของกิ่งฉัตรบ้าง
กูแบบ ไม่รู้ว่าหลังๆกุอ่านนิยายวายมากไปป่าวนะ แต่คือเนื้อเรื่องแรกๆแม่งโคดเลยอ่ะ
ky ไหนๆ กูถามที่ห้องนักเขียนเสิ่นเจิ้นละ กูขอถามนี่หน่อย คือกูอยากรู้อ่ะ ว่าเทรนนิยายเสิ่นเจิ้น หรือนิยายจีนแปลก็เหอะ มันจะอยู่อีกนานมั้ย กูมีพล็อตที่อยากเขียน แต่เรื่องเก่ากูยังเขียนไม่จบ กูยังอยากเขียนต่ออยู่ แต่ก็อยากดูตลาดด้วย ในมุมมองคนอ่าน คิดว่ายังไงอ่ะ
อ้อ ขอพูดเรื่องย้อนเวลาหน่อย สำหรับกูย้อนเวลาเนี่ยกูชอบเขียนชอบอ่าน เพราะกูอยากรู้ว่ามุมมองเรื่องเดียวกันของคนสองยุคจะเป็นยังไง แล้ววิธีการแก้ปัญหาเป็นยังไง อย่างทวิภพ กูชอบพอยน์หนึ่งของเรื่องคือการที่นางเอกมันมองคนสมัยก่อน (หมายถึงตอนแรกๆ นะ) ว่าไม่ได้เรื่อง ทำไมปล่อยให้ไทยเสียดินแดนอะไรงี้ กูอยากรู้ หรือเป็นแบบ what if ก็ได้ ว่าแล้วถ้าลองเปลี่ยนวิธีคิดล่ะ มันจะเป็นยังไง กูอยากเขียนย้อนเวลาประมาณนี้แหละ ลองมองอีกมุม แล้วทำยังไงมันถึงกลายเป็นจุดจบแบบประวัติศาสตร์นั้นได้ ทำนองนั้น ย้อนเวลาเสิ่นเจิ้นก็เขียนนะ ใช้แนวคิดประมาณนี้แหละ นางเอกที่แนวคิดสมัยใหม่ แต่ไปเจอกับธรรมเนียมแบบเก่า อ้อ ของกูย้อนเป็นเมียเหมือนกัน แต่เป็นเมียจากต่างแดนที่เป็นสปายของอีกดินแดนหนึ่ง เอ๊ะ...กูยาวมาเรื่องนิยายกูได้ไง
เออ สรุปคืออยากแลกเปลี่ยนความเห็นแหละ 555
ใครมีนิยายน่าอ่านแนะนำกูบ้างจ๊ะ ทำไมพักนี้ไม่ค่อยมีนิยายเสิ่นเจิ้นหนุกๆเลย
อยากได้แบบหญิงสาวเฝ้าสุสาน คือพลอตดี ผูกปมแก้ปมได้ดี หรือใช้ภาษา สำนวนลื่นๆแบบเสี่ยวหวางเฟยอะ
>>316 กูว่ายังอยู่อีกพักใหญ่มึงเขียนไปเถอะ เพียงแต่กูขอเตือนว่า แนวย้อนเวลากำลังจะหมดอายุแล้ว มึงหาแนวใหม่แล้วเขียนเลย มึงจะได้ทันกลุ่มเวฟแรกที่เขาจะปล่อยมาแทนแนวย้อนเวลา มึงเขียนแนวพีเรียดธรรมดาๆก็ได้ กูอยากอ่าน หรือจะเขียนแนวปัจจุบันแต่ฉากในไทเป ในเซี่ยงไฮ้ก็ไม่โกรธ
ทำไมคนเขียนเลือกเขียนแนวรักโบราณกันในจีนแต่แรก กูว่ายุทธภพมันเต็มไปด้วยตัวประหลาด ดังนั้นมันมีพื้นที่ให้สร้างตัวละครได้มากมาย มึงอยากเอาความคิดปัจจุบันที่แปลกแยกในเวลาอดีตใส่ในตัวละคร มึงก็ทำได้ด้วยจริตของยุทธภพ กูฝึกวิชากูเลยมีนิสัยตามสายวิชาที่กูฝึก หรือ อาจารย์ของกูเป็นคนเร้นกายดังนั้นกูไม่ชอบคุยกับใครและไม่สนใจกฎหยุมหยิมของโลกภายนอก พอกูลงเขามากูก็เลยแปลกประหลาดกว่าชาวบ้านเพราะกูไม่เคยถูกสอน แต่ใครก็ทำอะไรกูไม่ได้นะ เพราะกูมีพลังฝีมือ กูกร่างได้ กูหนีไว เห็นปะ มันไม่ต้องย้อนอดีตอย่างเดียวหรอก
อ่านเซินเจิ้นใน ดด แล้วรำคาญคำว่า "มิ" จริงๆ มิใช่ มิมี มิๆๆๆๆๆๆๆ บางประโยคมี มิ เป็นสิบ ไอ้คำว่า มิ เนี่ยมันจำเป็นจริงๆ เหรอ อ่านแล้วรำเป็นบ้า
>>316 กูเคยตอบห้องนักเขียนไปและ กูก็คิดว่าเขียนเลย ถ้ามึงมัวแต่คิดนู่นคิดนี้มึงจะไม่ได้เขียน อันนี้กูพูดจริงๆ ไม่ว่าแนวไหนก็ตาม มึงมีพลอตมีมู้ดแล้วให้รีบเขียน จริงๆตัวมึงเองสำคัญกว่ากระแสอีก
แต่กูคิดว่าอีแนวจีนโบราณยังอยู่ได้อีกยาวๆ มันก็อยู่มาตลอดและจะอยู่ไปตลอด แต่กูว่าช่วงพีคจะยังพีคไปอีกพักนึงแหละ
ถ้ามึงอยากเขียนแนวย้อนเวลาก็รีบเขียน อย่ามัวร่ำไรค่ะ
>>310 จริง เชียร์พี่เถี่ยมาก หวังว่าจะได้กลับมาเจอกัน
อีกสองคนนั่นไม่ไหว โดยเฉพาะอิชีคทะเลทราย มันจะกลายเป็นนิยายรักพาฝันทั่วไปประเภทพระเอกรู้จักนางเอกไม่นานก็อยากได้มาเป็นของตัว
แถมเทิดทูนหนักจะให้มงกุฎ
>>319 แนะนำ จอมทัพคู่บัลลังก์ มู่กั๋ว ภรรยาทรราช ซื่อจื่อ คู่มือนางกำนัล กลยุทธ์รอดตาย กู่มี่เอิน บันทึกลับมหาดเล็ก บริษัทช่วยเหลือเทพ (เอ๊ะ เรื่องนี้แปลหรือแต่ง)
พวกนี้เรื่องไม่มีปมไรมาก - โรงเตี๊ยมร้อยลี้ ฮูหยินตัวปลอม ฮูหยินของปีศาจ
แนวฮา - คุณหนูใหญ่ ตื๊อรักวังหลวง
กุอ่านเยอะจัง เหมือนวันๆ ไม่มีอะไรทำ
คนนี้อีกละ https://www.dek-d.com/board/view/3824959/
มีใครจำได้บ้างวะ คนเขียนเมียอ๋องสามกับอะไรอีกเรื่อง ที่ชอบตั้งกระทู้อวดนิยายตัวเองว่าติดท็อปบ่อยๆอ่ะ จะอวดอะไรนักหนาวะ รำคาญ
>>329 อย่าไปรำคาญไรนักหนาเลย มันก็แค่คนไม่คิดอะไรมาก ดูการใส่ชื่อหัวกระทู้ก็รู้แล้ว คนคิดเยอะจะไม่ใส่แบบนี้ เพราะมันดูโอ้อวด แต่คน ๆ นี้คงไม่ค่อยคิดมาก ก็ดูนิยายเขาสิ มันไม่มีอะไรเลย แต่คนอ่านเยอะเป็นธรรมดา เพราะคนที่ชอบแบบนี้มีเยอะ ก็แค่นั้นว่ะ ปล่อยให้เค้าอวดของเค้าไปเถอะ
>>332 เขียนนิยายชิว ๆ สนุก ๆ ก็ได้ตีพิมพ์
เราเขียนนิยาย xxx แปบเดียวก็ขึ้น top มีสนพ.มาติดต่อ แต่เรายังเขียนไม่จบเลยไม่สนใจ
ต่อมาเขียนจะจบแล้วก็มี สนพ.มาติดต่ออีก เลยลองส่งดูเล่น ๆ สัปดาห์เดียว (มั้ง) ก็ผ่านพิจารณา สนพ. บอกให้แปะได้เลยว่าผ่านพิจารณาตีพิมพ์กับสถาพรแล้ว
ไหนคนอื่นบอกว่ารอพิจารณาตีพิมพ์กับหกเดือนหนึ่งปี นี่เราไม่ถึงสามเดือน (มั้ง) หนังสือก็จะวางขายแล้วจ้า (จากนั้นระบุไทม์ไลน์ว่ามันเร็วจริงๆ นะตัว)
พิมพ์หนังสือไม่เห็นยาก ก็แค่ทำอะไรที่ใจรัก ก่อนลงเราจะอ่านทวนก่อนหนึ่งรอบ ถ้าเราไม่สนุกก็ลบเขียนใหม่
มาพูดเป็นกำลังใจให้ทุกคนจ้า
คห.1 อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นมาเลยคับ
ประมาณนี้ค่ะ เพิ่งอ่าน 2 ชม.ที่แล้วเลยจำได้เยอะหน่อย
>>333
เพิ่มเติมให้
เค้าเริ่มเขียนเพราะอ่านของคนอื่นแล้วไม่โดนใจ เขียนเองซะเลย แล้วตอนแรกไม่ได้คิดจะตีพิมพ์ เขียนสนุกๆ ให้อ่านกันฟรีๆ
แต่พอเขียนๆ ไปเรื่องที่สาม เขียนใกล้จบแล้ว พอดีมีสนพ.ติดต่อมา ก็เลยลองส่งเรื่องย่อให้ดู ปรากฏว่าสนพ.โอเค ก็ตกลงสัญญากันแล้วก็เตรียมพิมพ์
มองในแง่ดีคือโพสต์ให้กำลังใจนักเขียนด้วยกัน ว่าทำงานที่รักที่ชอบแล้วมันก็จะดีเอง เทคนิคคือเขียนแล้วอ่านดู ถ้าตัวเองยังอ่านไม่สนุก คนอื่นจะสนุกได้ไง ก็ลบเขียนใหม่ซะ
แต่ที่พิมพ์ได้เร็วคงเพราะเค้าเขียนใกล้จบแล้วด้วยรึเปล่า พอสนพ.ติดต่อมาก็เลยพร้อม
ป.ล. กุไม่ใช่นักเขียนและไม่รู้จักใครซักคน
>>338 กูว่าเค้าคิดแค่นั้นแหละ แต่เค้าใช้ภาษาไม่เป็น เลยดูเป็นมั่นหน้ามั่นโหนก แต่เค้าลบทำไมวะ หรือมาอ่านโม่งแล้วลบ ถ้ามาอ่านโม่งก็อยากบอกว่านิยายมีคนอ่านเยอะไม่ได้แปลว่ามันดีแล้ว ตีพิมพ์ก็ใช่ว่ามันดีแล้ว มันก็ต้องมีคนด่าหรือคนขำบ้าง ถ้างานดีจริง คนจะไม่แตะหรอก ถ้ารักงานเขียนก็พยายามพัฒนาขึ้นไปอีก เท่าที่เคยอ่าน ภาษายังไม่ดี ลองเปิดอ่านบทที่เห็นคนชมว่าตลก มันไม่ตลกเลย มันเป็นความพยายามตลก ไม่เป็นธรรมชาติ นี่คือความคิดเห็นจากคนอ่านหนังสือจริงจังทั้งงานจีนแท้จีนแปลจีนเสิ่นเจิ้นและงานอื่น ๆ ทั่วราชอาณาจักร ดีใจด้วยที่ได้ตีพิมพ์ ขอให้ขายดี แต่อยากให้พัฒนานะ เวลาคนเขาด่าแรง ๆ น่ะลองดูว่าเขาด่าอะไร จุดไหน
>>340 นานมาแล้ว กูก็เคยเขียนเรื่องแรกแล้วติดท๊อป เขียนจบส่งพิจารณาตีพิมพ์ทางเมล
บก.ตอบรับต้นฉบับหลังจากกุส่งเมลไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
กูยังไม่มั่นหน้ามั่นโหนก ตั้งทู้อวดอะไรขนาดนี้
คิดอีกที นางคงภูมิใจอยู่ในจักรวาลเล็กๆของนาง กูก็ยินดีด้วยสำหรับก้าวสำคัญของชีวิต บางทีการพรีเซ้นต์ตัวเองแรงๆ อาจจะตอบโจทย์การบุกตลาดก็เป็นได้
อวดไม่ดี ดีไม่อวด เคยได้ยินบ้างมั้ยหนอ
>>341 มึงอย่ารู้เลยว่ากูเป็นใคร
กูยังเล่าไม่หมด
พอบก.ส่งเมลขอพิมพ์งานปุบ ตอนเย็นเขาก็โทรตามมา กูงี้มือสั่นไปหมด ดีใจเหี้ยๆ
เขาบอกว่า
"ขออภัยอย่างสูงด้วยนะครับคุณXXX ทางเราต้องยกเลิกผลการพิจารณาทั้งหมด
กูถามว่าทำไม
"ปิดสนพ.ครับ"
เจ๊งครับ ไม่มีเงินจ่ายค่าเขียนให้นักเขียนเก่าด้วยซ้ำ
ไอ้เชรี่ยยย ตอนแรกดีใจงานผ่าน ตอนนี้ดีใจที่กูไม่โพทะนาอวด ไม่งั้นกูเน่าเหี้ยๆ
สึส
>>341 มึงนี่แหละนักเขียน เพราะมึงมีมุก เล่นมุกเป็น ยิงมุกถูกเวลา กูเชื่อว่าพล็อทนิยายของมึงดีกว่านิยายติดท็อปเรื่องอื่น อย่างที่มึงบอกน่ะ อวดไม่ดี ดีไม่อวด ความฉลาดกับสำนวนภาษามันฉายออกมาได้จากสิ่งที่มึงเล่า ส่วนนักเขียนเจ้านั้นที่เขาอวด กูเห็นชัดเลยว่าเขาไม่เข้าใจการใช้ภาษา ถ้าเขามาเขียนธรรมดาว่า ดีใจจังค่ะได้ตีพิมพ์แล้ว หรือ ไม่คาดฝันเลยว่าจะได้ตีพิมพ์ มันจะดีกว่าการที่มาบอกว่า เขียนเล่น ๆ แล้วได้ตีพิมพ์ แล้ววิธีการที่เขาสอนคนอื่นน่ะมันไม่ได้มีอะไรที่เป็นเคล็ดสุดยอด กูเลยมองว่าเขาเป็นแค่คนคิดง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน นิยายก็ไม่ซับซ้อน ตลกแบบไม่ซับซ้อน และไม่ขำด้วย แต่พอดีคนที่ชอบอ่านแบบนั้นมีเยอะ เหมือนที่โม่งแซวกันเรื่องตอดคมสันต์แล้วมันติดท็อป แถมตีพิมพ์ด้วยมั้ง จำไม่ได้แล้ว
นักอ่านไทยชอบอะไรที่มันเบาหวิวอยู่แล้ว
แนวที่ขายได้ ไม่บันเทิง ก็เน้นผัวเมียอีโรติก
แนววางแผนอะไรที่มันซับซ้อน หรือยากเกินว่าเข้าใจ มันเป็นกลุ่มลูกค้าเล็กๆ
ยิ่งเกิดจากนิยายบนเว็บ อะไรๆมันต้องง่ายๆไว้ก่อน สมัยนี้
คุณหนูใหญ่ตระกูลจางฯในเด็กดีโครตสนุก ตลกมาก แหวกมาก จะขำไปไหนนี่
นี่ชอบอะไรแบบนี้ ไม่ชอบดราม่า
(เล่าสู่กันฟัง)
>>353
แต่นักเขียนคนนี้บางเรื่องนักเขียนสนุกเกินไป ล้อเล่นกับความรู้สึกคนอ่านเกินไป พล็อตเอาแต่ใจตัวเองเกินไป อ่านแล้วปวดตับ (เรือนผีหลอกกับสะพานสีดา ทั้งที่ทั้งเรื่องนิยายเกือบดีงาม แต่การฉีกแนวพล็อตตอนท้ายๆนั้น....เอ่อ...เอาเป็นว่ากูยังไม่เปิดกว้างทางความคิดพอ)
ชอบนิยายจีน ข้อมูลแน่น อ่านเพลิน แต่กูกลัวใจนักเขียนที่สุด กลัวหักมุมจนมุมหัก
อยากให้นักเขียนตั้งชื่อตัวละครดีๆ หน่อยว่ะ ใครไม่เป็นกูเป็น คือมึงหาความรู้มั่งก็ได้ เรื่องแซ่ บางแซ่ที่กูเห็นคือไม่มีจริง เหมือนสักแต่จะตั้ง ชื่อไม่มีความหมายบ้าง ชื่อซ้ำๆ บ้าง พวกดอกไม้ มังกร สวย บลาๆ
ปล. อันนี้กูถาม ทำไมกูเจอเสิ่นเจิ้นเขียน เย่ว บ่อยจังวะ มันไม่ใช่ เยว่ ไม่ก็ เยวี่ย เรอะ อีกอันกูเจอ เย่ว์ แต่เคยไปค้นราชบัณฑิตเหมือนจะใช้แบบนี้
>>357 ในฐานะคนอ่านที่ไม่รู้ภาษาจีน อยากให้ใช้ เยี่ย เยวี่ย เย่ว์ มากกว่า เพราะเห็น เยว่ ทีไร อ่าน เย่ว ทุกที
หรือไม่คนเขียนก็ตั้งชื่อแซ่อะไรอื่นที่มันไม่ใช่ตัวนี้ก็ได้นะ รู้สึกเป็นปัญหา
ky มีเรื่องนึงที่ชอบมาก แต่คนเขียนเหมือนจะเทไปแล้วรึเปล่า สลับร่างรัก ประมุขพรรคเจ้าเสน่ห์
ตอนแรกๆ อ่านเหมือนไม่มีอะไร อ่านๆ ไปดราม่าช่างซับซ้อน ลงเรือไม่ถูกกันเลยทีเดียว
ใครรู้จักคนเขียนไปตามมาต่อทีเถอะ
เผื่อใครอยากได้แอปชื่อแอป the CJKI chinese names Dict ไม่ฟรี...209บาทหรือ290
มีพินอินให้ด้วย
>>357 มึงต้องไปเขียนบอกใน วนว ห้องนักเขียนเสิ่นเจิ้น ห้องนี้มันห้องนักอ่าน แต่มึงไม่ต้องห่วง นักเขียนเสิ่นเจิ้นที่ไม่สนหมีสนแหมดมันก็จะใช้ของมันตามใจต่อไป มึงไปดูคำโปรยแต่ละคน เรื่องนี้หัดเขียน เรื่องนี้เขียนไม่อิงความจริง เรื่องนี้เขียนยามว่าง เรื่องนี้เขียนเล่นๆ (แต่ได้ตีพิมพ์) เรื่องนี้เพิ่งเขียนเป็นเรื่องแรก แล้วบางคนลงท้ายว่าไม่ชอบก็ปิด มึงไปบอกความจริงว่าเขียนผิดเขียนไม่ดีอะไรเงี้ยไม่ได้เด็ดขาด เพราะคนอีกเจ็ดแสนอ่านของเค้าอยู่ เค้าก็จะงอนไม่เขียนต่อ คนอ่านเจ็ดแสนก็จะมารุมด่ามึง กูน่ะไม่ขอไรมาก ขอให้มันเขียนภาษาไทยให้ถูกก่อนก็พอ อย่าเพิ่งไปขอให้มันหัดเรียนรู้จักแซ่ที่ถูกต้องเลยว่ะ
>>361 ขอบใจ ก็โอเคนะ เพราะรักพี่เสียดายน้องอยู่เหมือนกัน แต่ไม่รู้จะมาเขียนต่อเมื่อไหร่ เหมือนจิ่นเสวียนหวาง ปีละครั้งสองครั้ง
>>362 เคยอ่านเมนต์ของบางเรื่องแล้วสงสารคนเขียน คือมีแต่กองอวย ใครไปติก็จะโดนแฟนคลับตอบโต้แทน
เช่น อย่าเอาเรื่องจริงมาคิด นี่มันนิยาย (อ้าว แล้วไม่บอกแต่แรกว่าเป็นแฟนตาซี) / เค้าเขียนให้อ่านฟรีๆ ก็ดีเท่าไหร่แล้ว (กราบสามที)
นักเขียนจะไม่ได้พัฒนาเลยนะถ้าไม่เอาคำติมาพิจารณาปรับปรุงงานของตัวเอง
คนเขียนกับคนอ่านเยอะเลยที่ไม่เข้าใจคำว่าตรงไหนควรจริง ตรงไหนควรเสริมจินตนาการ อย่างถ้าพระเอกเก่งกาจเหาะทีถึงต้นมะพร้าว มีระดับพลังปราณม่วงเขียวเหลืองขาวอะไรก็ว่าไป อย่างนี้มันทำได้ เพราะมันเป็นจินตนาการที่ถูกกำหนดไว้แล้ว แต่ถ้ากำหนดไว้ว่าพลังปราณต้องฝึกจากขาวเหลืองม่วงเขียว ระดับต่างกันแบบนี้ แต่พระเอกนางเอกแม่งเสือกเก่งผิดจากระดับขึ้นมาเฉย ๆ อย่างนี้คือผิดพลาด ไม่มีเหตุผล หรือถ้าเป็นนิยายแบบแย่งผัวเมียกันในวังหลวง เปิดฉากมานางเอกลูกขุนนางเข้าไปด่าไทเฮา อย่างนี้ก็ทุเรศเกิน เพราะปกติคนธรรมดาแม้แต่จะพูดต่อหน้าเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงยังต้องรอให้เขาอนุญาตก่อน ถ้ามึงจะทำให้เป็นเรื่องขำ ก็ต้องอยู่ในบริบทเดียวกันหมด คือบ้าขนาดเดียวกันหมด แต่ส่วนใหญ่ที่โดนด่าเพราะแม่งเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่ก็นะ รับไม่ได้ มันก็ไม่พัฒนา ใครติหน่อยก็งอนไม่เขียนต่อ แต่เขียนบรรยายความรู้สึกซะยาว เสียใจ รันทด นี่มึงเรียนหนังสือมาไม่เคยโดนครูด่าเลยเหรอวะ โตมาสิบกว่าปีมึงไม่เคยโดนพ่อแม่ด่า ติ สอน ไม่มีเลยเหรอไง มึงอยู่ในโลกกว้างตัวคนเดียวเลย ลอยลงมาจากฟ้าไม่เคยถูกวิจารณ์เลยงั้นซิ คือกูไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมถึงโดนติไม่ได้
พูดถึงสมจริง กูเป็นคนเขียนที่โดนด้านตรงข้ามเลยว่ะ แนวเรื่องกูมันเน้นบางจุดที่เรียล กูก็ยึดตามประวัติศาสตร์ว่าเขาทำไรกันมั่ง กูก็เอางั้น ปรากฏมีคนอ่านบอกว่ามันเรียลเกิน หดหู่เกิน นิยายไม่ใช่ประวัติศาสตร์ เพลาๆ บ้างก็ได้ กูนี่ถึงกับลุกขึ้นยืน 5555555555
>>368 มากอดกันตรงนี้
>>367 "เขียนเล่น ๆ แต่ได้ตีพิมพ์" แม่งจะมาวินแซงคำว่า "แก้มตอดคมสันต์" ใช่หรือเปล่าคะคุณกิตติ
KY เสิ่นเจิ้นที่กำลังจะออก/ออกช่วงนี้
สนพ. love เลย
- เสี่ยวตี้จงมาเป็นฮองเฮาของข้าเถอะ!
สนพ.word ต่อ word
- เจาะเวลามาเป็นมือปราบ ภาค 2 เล่ม 1
สนพ.บาง love
- หงส์พิทักษ์บัลลังก์
ป.ล. พวกมึงรอเรื่องอะไรออกเล่มกันบ้างวะ กูนี่รอซุปตาร์ข้ามภพอยู่ เมื่อไรจะออกกกกก
>>369 เรื่องเสี่ยวตี้กูลองไปอ่านดู เขาเรียบเรียงได้ดีใช้ได้ เห็นเขียนว่ายังไม่ได้รีไรต์ ถ้ารีไรต์แล้วคงจะดีขึ้น (หวังว่า)
ที่ไม่ค่อยดีคือมีประโยควกวนเยอะ แบบอธิบายซ้อนไปซ้อนมา แต่อันนี้ก็ต้องไปดูในการรีไรต์ เขาควรจะรีไรต์ให้เห็นตัวอย่างซักสามสี่บทแรก ถ้ายังเหมือนแบบเดิม กูว่ายังไม่น่าเปย์
อีกอย่างคือถ้าเป็นคนอ่านนิยายจีนที่ชอบสำนวนออกจีน เรื่องนี้ไม่ใช่ กลิ่นอายไทยปกติ ถ้าเติมคำว่าจ๊ะจ๋าท้ายประโยคกับเปลี่ยนชื่อตัวละครก็จะกลายเป็นนิยายไทยรักกันหวานชื่นทั่วไป เปลี่ยนชื่อเป็น อีแมะเอ๋ย มารักไอ้บังดีกว่า ได้เลย
ช่วงนี้รู้สึกนิยายจีนเสิ่นเจิ้นในเด็กดี มีแต่สนุกๆทั้งนั้น ทั้งคุณหนูใหญ่ฯที่เพิ่งจบไป ชายาขี้เกียจ คู่มือนางกำนัลฯ ชายาก้นครัว ตื้อรักวังหลวง
ถ้าตัดความไม่สมจริงทางภาษาและวัฒนธรรมออกไป (เพราะกูก็ไม่รู้จริงเหมือนกันเลยไม่สะดุด) รู้สึกว่านักเขียนไทยเก่งมาก หรือคนไทยจะเก่งเรื่องเลียนแบบจริงๆ?
ขอแสดงความนับถือมาณ.ที่นี้
ใครไม่อ่านเพราะคิดว่าเสิ่นเจิ้นนี่พลาดของดี
อีกเรื่องที่ชอบมากคือซื่อจื่อฯ อ่านตามเพื่อนโม่งแนะนำนี่แหล่ะ
วันนี้โหมดอวย
อวยกันไปยาวๆ
กูอ่านนิยายจบจะถามตัวเองว่าได้ไรจากนิยายนี้บ้าง
ถ้ามันดราม่ารันทดมากแต่ตัวละครแม่งสู้ชีวิตสุดๆ ไม่ยอมแพ้ ทำให้คนอ่านรู้สึกว่านี่สิ ต้องแบบนี้ ก็โอ
แต่ถ้ารันทดจนหยดสุดท้ายไม่มีไรดีเลย ก็จะรำพึงเบาๆว่ากูมาทำอะไรตรงนี้ น่าจะไปอ่านหน้าข่าวแทนป่ะไม่เสียเวลาด้วย
แต่เรื่องคุณหนูใหญ่นี้บันเทิงมาก สาระก็มีแม้จะน้อย ชอบจริงๆ
เหยดๆๆๆกูไปตามคุณหนูใหญ่แปป ตอนแรกคือค้างไว้ตรงกลางๆ
ว่าแต่คนเขียนมีอายุแล้วเหรอ ถึงเรียกว่าอาวุโน
ส่งรีวิวจ๊ะ
เมียจอมทัพเคียงจัยเฉิงอ๋0ง by เจี่ยเจีe สนพ.แสงแห่งรัก
กูพลาดจากอิลีลี่จอมฉ้อมาแล้ว กูยังพลาดซ้ำ
ชื่อเรื่องยาวดี เมียจอมทัพ-เคียงจัย-เฉิงอ๋oง
กูแอบงงชื่อ เมียของจอมทัพ เคียงจัยอ๋อง
กูตีความว่า นางเอกมีผัวสองคนอ่อ?
ตื่นเต้นๆ แต่พออ่านปกหลัง ก็เลยอ๋อ นางเอกเป็นรองแม่ทัพ = เมียจอมทัพ เก็ตนะ
นางเอกชื่อหลันหลัน เจ้าแม่เงินกู้แห่งเกาะฮ่องกง
เปิดตัวด้วยการโทรจิกลูกหนี้ & พ่อบุญธรรม 'วัยกลางคน' เป็นนักฆ่า ทำงานใต้ดิน นางเอกรวยมั่กๆเลยอยากให้พ่อวางมือ พ่อไม่อยากวาง พ่อลูกเลยจิกกันพองาม แล้วนางเอกก็ขึ้นฮ.ไปทวงหนี้ ชักปืนยิงขู่ บลาๆ นางโดนยิงตาย วิญญาณลงนรก จะได้ไปเกิดแระ แต่เกิดความวุ่นวายเลยตกลงไปในบ่ออะไรไม่รู้ ยมบาลก็ปลงง่ายๆว่า เออ เป็นชะตาของมึงเอง เออ ง่ายดี
นางเอกลืมตาพรึ่บ ตื่นมางงเพราะเจอแม่ทัพศัตรูทิ่มพุง นางกำลังจะโดนฆ่า นางสกิลเมพ ฮึดคว้าทวนทิ่มกลับ เย้ๆ ชนะ แต่บาดเจ็บหนัก
ระหว่างรักษา เจ้าของร่างเขียนไดอารี่ไว้ด้วย นางเอกเลยอ่านแล้วเข้าใจทุกเรื่องในบัดดล ปลอมตัวได้เนียนๆ
พี่ชายของนางเอกเป็นแม่ทัพ นางเอกเป็นรอง เดินทางกลับบ้านแบบแชมเปี้ยน พ่อเป็นอดีตแม่ทัพ เกษียณตัวมาค้าขาย? แม่ของนางกะพี่ชายเป็นฮูหยินใหญ่
มีแม่รอง แม่สาม พร้อมด้วยน้องขี้อิจฉาสองคนรอต้อนรับที่บ้าน ฉะฝีปากกันเบาๆนิดหน่อย จากนั้นพระเอกก็มาที่บ้านในฐานะเพื่อนพี่ชาย ไปมาหาสู่กันอยู่แล้ว นิสัยพระเอกก็เดิมๆ เย็นชา ปากร้ายใจดี
ต่อมู้หน้า กูเหนื่อย
>>374 นักเขียนเสิ่นเจิ้นเขียนได้น่าสนใจหลายคนนะ บางคนอาจจะมีไทยๆ ไปบ้าง แต่ถ้าดูแค่เนื้อเรื่องก็สนุกอยู่
ถ้าพูดถึงคนเขียนคุณหนูใหญ่ เรื่องจีนของเค้าพล็อตแตกต่างกันไปเลย อาจจะมีย้อนเวลามาเหมือนกัน แต่โครงเรื่องไม่เหมือนกัน (ลำนำขนนก vs สาวคลั่ง)
ที่ชอบมากคือเป็นนิยายที่อิงเรื่องราวหรือบุคคลในปวศ.ด้วย นี่รอเค้าเขียนจักรพรรดินีสองบัลลังก์ต่อ
แต่ในบรรดาเรื่องที่จบแล้ว ประทับใจลำนำขนนกมากสุด อาจเพราะเรื่องยาวด้วย เลยมีตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆ ที่น่าประทับใจเยอะ
ต่อ เคียงจัยเฉิงอ๋0ง
กูรำคาญมากที่นางเอกรำพึงรำพันตลอดเวลาว่า
-เล่นกะใครไม่เล่น มาเล่นกะซือเจ๊
-เดี๋ยวก็รู้ฤทธิ์เดชซือเจ๊
-อย่าริหาเรื่อง ซือเจ๊ขอเตือน
-คิดจะงัดข้อกะซือเจ๊ ซือเจ๊จัดให้
ซือเจ๊ๆๆๆๆๆๆ เจ้าแม่เงินกู้ๆๆๆๆ
คนเขียนบรรยายว่านางเอกเก่งกาจ มีไหวพริบ วาจาคมกริบ บรรยายความซูมากมายร้อยแปด แต่มันแป้กเพราะบทสนทนา อย่างฉากปะทะกับน้องสาวเบาๆครั้งแรก
น้องมันขี้อิจฉานั่นแหละ เลยแขวะนิดๆ นางเอกก็ทำไง ฉะกลับ วาจาคมมั้ย ก็ไม่นะ เพราะจะวนลูปซ้ำๆในฉากต่อๆไป เช่นฉากกินข้าวเช้า น้องสาวมันแขวะที่นางเอกมาช้าสุดว่า "ให้รอท่านรองแม่ทัพแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก"
นางเอกขึ้น ตอบกลับไปว่า "เจ้าหมายความว่าพี่มีตำแหน่งใหญ่ แต่ไม่ให้ความเคารพท่านพ่อซึ่งเป็นอดีตจอมทัพใช่มะ"
อีห่าา เหมือนคนประสาทแดก มึงก็รู้ตัวนิว่าทำอะไรผิด กูเพลีย
กูเพลียเรื่องใช้คำ เจี่ยเจีย จื้อจึ เหล่าเหนียง เปิ่นหวาง
เจี่ยเจีย โผล่มาให้รู้ว่ามีคำนี้บนโลก จากนั้นก็ใช้ พี่รอง แต่จื้อจึนี่สิ ใช้เรียกหลานชาย จื้อจึจอมซน
กูรำคาญว่าใส่มาเพื่ออะไร บวกกับซือเจ๊อย่างนั้นซือเจ๊อย่างนี้ กูพอ จบ ปิด
สรุป ใครสายซู กูมอบเรื่องนี้ให้มึงค่ะ
>>383
สาวคลั่งกูอ่านแล้ว อ่าน2จังหวะ
รอบแรกอ่านไม่ไหว ทนนางเอกไม่ได้ หยุดอ่านทำใจก่อน รอบ2อ่านโลด สนุกดี ชินกับคาร์นางแล้วไง
ลำนำขนนก กูไม่น่าอ่านสปอยล์เลย เลยหมดกำลังใจอ่านต่อ เลยยังค้างอยู่ ตอนแรกๆอ่านลื่นปรื๊ดๆ
กูชอบนักเขียนคนนี้ตรงเขาหาข้อมูลจริงจังดี แต่ความขี้เล่นของคนเขียนเลยทำให้ไม่กล้าเชื่ออะไรในนิยายมากเพราะมีจริงกับแต่งปนๆกัน จะไปค้นว่าไหนจริงไหนแต่งกูก็เหนื่อยเกินไป คนเขียนเก่งเกิน ปนกันซะเนียนเชียว
ชอบอีกอย่างคือไม่มีอะไรที่เป็นไปอย่างที่เราเดา มันจะtwistไปมา หักไปหักมาตลอด แล้วคำพูดที่ใช้ก็แบบฉลาดจริงๆไม่ได้แบบอะไรที่นิยายอื่นเขาก็พูดกัน
เข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนโม่งถึงอวยคนเขียนคนนี้กันจัง กูขอร่วมด้วยช่วยอวย
กูตามไปอ่านคุณหนูแล้วสำนวนไทยมาก ศัพท์จีนก็ออกเสียงผิด เรื่องนี้ยังไม่ผ่านสำหรับกูว่ะ
>>394 กูไม่ได้ทำดีหรอก แต่ถ้ากูเห็นว่าผิด กูก็จะลองบอก กูอยากดูว่านักเขียนจะทำไงเวลามีคนบอก เพราะส่วนมากจะรำคาญ แต่เขาไม่รำคาญ แถมตอบด้วย กูเลยคิดว่าถ้าเจอผิดจริงมึงก็น่าจะเขียน ดีกว่ามึงขี้เกียจเขียนในนั้น แต่มาเขียนบอกที่นี่ คนอื่นก็ไม่ได้รู้ว่าเขาเขียนผิดจริงปะ
>>396 เฮ้ยกูไม่ได้บังคับมึงหรือเอาเรื่องมึงเลยนะ กูแค่อยากรู้ว่าเขาเขียนอะไรผิด เพราะกูนึกว่าเขาค้นข้อมูลดีไง กูก็แค่อยากรู้ กูไม่ได้ว่ามึงเลยว่ะ อย่าเข้าใจผิด มึงไม่อยากเขียนก็ไม่ได้ว่า กูแค่บอกว่า ถ้าผิดแล้วไม่มีใครบอก คนอื่น (อย่างกู) ก็เลยอดรู้ไปด้วย แค่นั้นว่ะ
>>399 แล้วบอกเขาหาข้อมูลดี บทแรกกูก็ไม่ให้ผ่านแล้ว
ราชวงศ์หมิง ช่วงแรกเมืองหลวงคือ หนานจิง หรือที่คนไทยเรียกว่านานกิง
ต่อมามีการย้ายเมืองหลวงไป เป่ยผิง ซึ่งในยุคหลังเรียกกันว่าเป่ยจิง หรือปักกิ่ง
ในนิยายควรใช้ เป่ยผิง แต่ดันเขียนว่า เปยจิง (ตกไม้เอกไปอีก ภาษาจีนนี่วรรณยุกต์มีความสำคัญ เพราะเป่ยตัวนี้แปลว่า ทิศเหนือ แต่เปยนี่ไม่รู้แปลว่าอะไร)
กูไปเจอกระทู้ในบอร์ดขอข้อมูลนิยายจีนแบบหว่านแห ทั้งพวกราชวงศ์ การแต่งกาย ฯลฯ
เฮ้อ จะแต่งตามกระแสมึงก็ลองหาข้อมูลดูเองก่อนไหมล่ะ ถามกว้างขนาดนั้นใครจะไปชี้ทางได้ถูกวะ
>>405 เออกูไม่อยากให้มึงไปอ่านหรอก มึงไม่ชอบ ใครจะไปบังคับให้มึงอ่าน แต่กูก็แปลกใจนะ ถ้ามึงว่าผิด แล้วถ้าเค้ามีคำตอบมา อาจจะยอมรับว่าตัวเองผิด หรืออาจจะเถียงก็ได้ กูก็ยังไม่รู้เพราะเขายังไม่อ่าน แต่มึงมาบอกว่าไม่อยากรู้เลย มันก็ตลกในความคิดกูอะนะ อย่าโกรธกูนะ กูแค่พูดว่ากูคิดไง คือแบบมาบอกคนอื่นว่า เนี่ย ๆ ๆ คนเนี้ยเขียนผิดว่ะ แต่ไม่อยากฟังว่ะว่าเค้าจะตอบไง ไม่สนใจ แล้วถ้าเค้าตอบ สมมุติเขาตอบถูก มึงผิด มึงก็ไม่อยากรู้เหรอว่าผิดยังไง กูแค่แปลกใจอะนะ อย่าโมโหกูเลย
>>406 กูก็ตลกมึงเหมือนกัน เที่ยวบอกว่าเขาค้นข้อมูลมาดี ทั้งที่มึงเองก็ไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก
กูเข้าไปอ่านนิยาย ถ้าชอบก็ชอบ ไม่ชอบก็ไม่ชอบ เรื่องที่กูไม่ชอบกูจะกดเข้าไปอ่านซ้ำๆ เพื่ออะไร
เขาผิดก็ดี กูผิดก็ดี กูไม่เดือดร้อน เพราะไม่ใช่นิยายกู ทำไมกูต้องรอคำตอบจากเขาในเมื่อกูไม่ได้ถาม
>>407 ตามแต่ใจมึงเลย เพราะกูไม่รู้ กูถึงถาม มึงรู้มากแล้ว มึงเลยไม่ต้องถาม ก็ถูกแล้วไง กูแค่สงสัยว่าคนที่เค้ารู้มากแล้วอย่างมึง ทำไมว่าคนอื่นแต่ไม่อยากได้คำตอบ มึงจะคิดว่ากูตลกก็ไม่เป็นไร กูรับได้ กูโง่ไม่รู้ภาษาจีน กูเลยถาม เพราะคนอื่นในนี้ก็เขียนบอกว่าเค้าค้นข้อมูลดี ไม่ใช่กูคนเดียว กูเชื่อเขา มึงมาบอกว่าเขาผิด กูก็อยากรู้ว่าผิดจริงปะ มึงไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องมาต่อคำกับกู เพราะกูเขียนให้คนอื่นในโม่งอ่านว่ะ โดยที่มึงมาเป็นคนเริ่มแค่นั้นเอง
>>408 มันต้องตามใจกูอยู่แล้ว ไม่งั้นกูต้องตามใจมึงเหรอ
มึงตลกกูได้ พอกูตลกมึงกลับมึงก็ประชด
กูไม่ได้มาอวดว่ารู้มากหรอก กูตามไปอ่านนิยายเพราะมีคนบอกว่าดี พอมันไม่ดีอย่างที่กูหวังไว้ มันมีจุดผิด กูก็ไม่ได้เอามาขยายอะไร มีแต่มึงนี่แหละเซ้าซี้ให้กูบอก แล้วมาแดกดันรู้มากรู้น้อย
มึงบอกว่ามึงเขียนให้โม่งคนอื่นอ่าน แล้วมึงจิ้มมาที่เลขกูทำไม?
อย่าเพิ่งตีกัน
กูคนนึงละที่ไม่เคยสนใจอ่านเรื่องที่พวกมึงบางคนกรี๊ดกร๊าดกัน
กูถูกจริตกะเรื่องที่พวกมึงด่าๆอ่ะ 55555555
>>409 ขอโทษที่ไปจิ้มเลขมึง กูไม่ได้ว่ามึงเลยจริง ๆ กูอาจจะใช้ภาษาไม่เก่งนะ เขียนไม่สละสลวย กูไม่ใช่นักเขียนนักวิจารณ์ ก็อย่าหัวเสียกับกูเลย กูแค่อยากให้นักเขียนตอบ ๆ ออกมาถ้าตัวเองผิดน่ะ แค่นั้นเลย แล้วที่กูบอกว่าเขียนให้โม่งคนอื่นอ่านแต่จิ้มเลขมึง ก็เพราะเพื่อให้กลับไปที่ต้นเรื่องด้วยแค่นั้นว่ะ เหมือนบางทีมาจิ้มเลขเพื่อให้คนรู้ว่าต้นเรื่องอยู่ไหน ตอบต่อจากไหน ไม่ได้คิดอะไรกับมึงเลยนะ เอาเป็นว่ากูขอโทษว่ะ กูรอคำตอบของนักเขียนคนเดียว กูคนเดียวนะ ย้ำว่ากูคนเดียว ไม่ได้ประชดเลยว่ะ พูดตามตรงเลย
กุว่ามันก็ปกตินะ ที่แบบไม่อยากจะไปยุ่งอะไรก็แค่มาบอกว่ามันมีผิดนะ ไม่ใช่ถูกหมดตามที่ชม ๆ กันแค่นั้นแหละ แต่ก็ไม่ได้อยากจะไปตามเรื่องเพราะเลิกสนใจจะอ่านแล้ว ส่วนอีกคนก็อยากจะรู้คำตอบว่าผิดตรงไหนเพราะคาใจอยากจะรู้ พวกเมิงก็คุยกันดี ๆ อย่าทะเลาะกันกับอิแค่คำผิด
มึงตีอะไรกันอีกละ นี่ในชีวิตจริงเป็นคนเงียบเรียบร้อยไม่สู้คนกันใช่ไหม
กูเป็นหนึ่งคนที่อ่านแล้วไม่ต้องจริตเห็นผิดแล้วไม่บอกไม่วิจารณ์ว่ะ(แนวกูชอบต้องสำนวนแบบแปลจีนของส้มส้มทุกวันนี้) ไม่เฉพาะกับเรื่องนี้เรื่องอื่นก็ด้วย นิยายของนักเขียนคนอื่นก็ด้วย แต่อาจจะมีไปบ่นกับเพื่อนบ้าง กูชื่นชมคนที่คอยไปบอกนักเขียนเค้านะ เพราะกูนี่ไม่ใส่ใจเลย กูถือว่าไม่ใช่ธุระของกูที่จะต้องไปเสี่ยงต่อการโดนแฟนคลับใครด่า ยิ่งนิยายเรื่องไหนกองอวยเยอะ กูไม่ยุ่งเลย
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เห็นโม่งสองคนนี้คุยกันสองคนยาวเหยียด กูขอถือโอกาสถามหน่อยได้มะ คาใจว่ะ ตกลงโม่งที่อวยชมงานเขียนของนักเขียนคนนี้บ่อยๆ นี่มีกี่คน นี่มันเห็นบ่อยมากเลยมึง นี่ตำหนักที่สี่แล้ว โม่งอวยนักเขียนมหาดเล็กก็ยังตามติดอยู่อีก ตอนนี้ก็มีโม่งที่บอกว่าเห็นเขาบอกว่าดีไปอ่านแล้วชอบมาเถียงกับโม่งที่ติยาวเหยียด ไม่มีนิยายนักเขียนคนไหนแล้วมั้งที่ตำหนักเราจะมีโม่งในตำหนักคอยพูดถึงขนาดนี้
มึงนักเขียนมาชี้ แจ้งคำแล้วอ่านซะนะ ไม่ต้องมาทะเลาะกันเรื่องหยุมหยิม
วาปมา ชี้แจงไว้ที่ไหน
>>414
กูเองที่มาอวยคุณหนูใหญ่ตอนแรกๆ และบอกว่าคนเขียนค้นข้อมูลมาดี
กูเพิ่งอ่านจบ สัก2ตอนก่อนจบรู้สึกว่ามันสนุกมากอยากจะกรี๊ดแต่ไม่อยากเข้าเด็กดี เลยมาชมที่นี่
เรื่องชื่อจีนขนาดกูเคยเรียนจีนมาบ้าง(แต่ไปไม่รอด) เวลาอ่านชื่อเฉพาะจีนกูก็จะอ่านข้ามๆ จำคร่าวๆว่านี่ตัวอะไรแต่ไม่ได้ออกเสียง เลยไม่รู้ว่าผิดไหม พินอินกูก็อ่านไม่ค่อยออกมึง (สมควรเลิกเรียนจริงๆ)
แต่กูจำได้ว่าคนเขียนเคยบอกว่าบางทีไม่แน่ใจการออกเสียงก็จะไปถามผู้รู้ กูยังคิดว่าโครตพยายาม
วันนี้เพิ่งมาดูเห็นคุยกันยาว กูก็ดีใจนะ55 คนเขียนก็คงดีใจ อย่างน้อยคงมีนักอ่านเงาไปตามอ่านอีกหลายคน
อยากบอกว่ากูรู้สึกว่าคนเขียนหรือคนที่รู้จักคนเขียนก็อาจแวะมาอ่านบ้างเวลาใครเขียนถึงนิยายคงเข้าหูคนเขียนอย่างเร็ว
ไปอ่านที่นักเขียนตอบแล้ว ตอบละเอียดมาก ถ้าใครชอบนักเขียนที่รับฟังก็คงยิ่งปลื้ม
แค่มาบอกแหล่ะ แต่กูไม่ใช่คนที่มาอวยแรกๆนะ เพราะกูเพิ่งเข้ามาตำหนักที่แล้วเอง มาตามหานิยายฟรีอ่าน
กูสรุปให้ เมืองหลวงที่คนเขียนคุณหนูใหญ่เขียนในนิยายคือเป่ยจิงถูกแล้ว ไม่ใช่เป่ยผิง เรื่องอื่นอ่านเองเว้ยมันยาว กูขี้เกียจย่อ
กูมองอย่างเป็นกลางนะ โม่งไหนจะชมนิยาย โม่งไหนจะด่านิยาย ก็ปล่อยให้ทำไปเถอะ จะไปบอกว่าชมมากไม่ได้ ด่ามากไม่ได้ มันก็ผิดไปจากวิสัยบอรด์โม่งที่ปล่อยให้พูดกันไปโดยไม่มีชื่อ ไม่ให้ยึดติด ไม่ให้ใครมีความสำคัญเหนือกว่าคนอื่น ถ้าใครรำคาญการอวยก็แสดงความรำคาญออกมาให้เห็น ใครชมก็ชมตามใจที่มึงอยากชม อย่าให้มีกฎเกณฑ์มาปิดกั้นกันนักเลยว่ะ ที่คนชมมากก็อาจจะเป็นแค่คนสี่ห้าคนก็ได้ ที่คนด่าก็อาจจะเป็นแค่สี่ห้าคนอีกเหมือนกัน อย่างนี้อีกหน่อยกูอยากชมกู่มี่เอิน กูก็จะไม่กล้าพูดแล้ว หรือกูอยากชมนิยายที่คนอื่นด่า กูก็ไม่กล้าพูดอีก ยิ่งถ้ากูไม่ได้ไล่อ่านตั้งแต่ความเห็นแรกจนถึงปัจจุบัน กูคงจะเกร็งแทบเยี่ยวเล็ด จะชมใครที จะด่าใครที เดี๋ยวโม่งอื่นจะบอกให้ไปชมที่อื่น ด่าที่อื่น ปล่อยให้มันเป็นสิทธิ์ของแต่ละคนเถอะว่ะ เว้นอย่างเดียว อย่าฟีดโทรล
กูคือ 414
กูยังไม่ถึงขั้นรำคาญ แต่เริ่มรู้สึกอย่างที่บอกก็เลยถาม ถ้าเป็นการเปิดประเด็นที่ไม่สมควรก็ขอโทษด้วยนะ
>>424 กูมองว่าบอร์ดโม่งแม่งเปิดให้ไม่มีตัวตนเพราะจะได้ไม่มีมาเฟีย ก็ยังเห็นคนแม่งตั้งชื่อกัน โม่งนั้นโม่งนี้ อันนี้กูยกเว้นโม่งสับนิยายนะ เพราะมันก็จะได้เห็นว่าลีลาสับของมันเป็นแนวไหน แต่มันก็ไม่ได้มีอิทธิพลอะไร อย่างมากโม่งก็แห่ตามไปด่าไปอวยแค่ประมาณนึง สิบตัวจะถึงมั้ย โม่งเสิ่นเจิ้นไม่ได้มีเยอะ อย่าสำคัญผิดในตัวเองกัน เพราะไม่งั้นอีนิยายคุณหนูใหญ่คุณหนูเล็กนี่แม่งคงจะติดท็อปเท็นไปแล้ว พูดถึงกันบ่อย นิยายที่โม่งด่ามีกระแสมากกว่านิยายที่โม่งชมหลายเท่า กูถึงว่าอย่าทักท้วงอะไรกันมากนักเลยถ้ามันไม่ได้ทำผิดกติกา จะรำคาญอะไรกันนักหนาวะถามหน่อย มึงมีสังคมปิดของมึงที่คนอื่นแสดงความเห็นต่างไม่ได้กันหรือไง มันจะชมนิยายจนตูดเปียกหรือมันจะด่าจนตูดถลอกก็เรื่องของมันปะ ถ้ามันไม่ได้ทำผิดระเบียบเว็บ คือถ้าใครบอกว่ารำคาญคนนั้นคนนี้แสดงความเห็น เบื่อ อยากให้ไปพูดที่อื่น มึงก็ต้องย้อนไปดูกติกาด้วยว่ามันไม่ผิด ถ้ารำคาญนะ วิธีที่ดีคือมึงไม่ต่อความ มึงพูดเรื่องที่มึงสนใจไปเลย โม่งอื่นก็จะได้เบนความสนใจไปเอง ยิ่งไปต่อความ ไปบอกให้มันทำโง้นงี้ มันก็ต้องมีคนมาพูดเรื่องเดิมซ้ำไปอีก บรรยากาศห้องก็น่าเบื่อไปเลย ห้องจีนแปลมันยังพูดกันได้ทุกเรื่อง มีทุกแนว ใครจะอวยใครจะติ่งใครแม่งก็แสดงออกได้ พ้นกระแสมันก็หายไปเอง ตอนนี้ใครยังจะพูดถึงป่าท้ออีกมะ ไม่มีแล้ว มันก็เป็นช่วง ๆ ไป มาถึงยุคหงส์ขังรักมั่งเพราะมันกำลังเป็นซีรีย์ เดี๋ยวก็จะพูดถึงคนอื่นต่อแล้ว ตำหนักยิ่งมีคนน้อย ๆ อยู่ยังจะไม่ให้พูดเรื่องนิยายกันอีกเหรอวะ อู๊ย กูเกร็งว่ะ
>>419
55 งงเนอะ
ตอนแรกคือกูบอกว่ากูเป็นคนที่เข้ามาอวยว่าคุณหนูใหญ่สนุก เป็นคนเปิดประเด็น แล้วมีโม่งไปอ่านบอกไม่ชอบ กูไม่แปลกใจเพราะเพื่อนกูก็บอกกูรสนิยมแปลกๆ
ตอนท้ายเพราะโม่ง414มาบอกว่านักเขียนคนนี้คนอวยเยอะ กูก็จะบอกว่ากูเปล่าเป็นคนที่อวยนักเขียนตอนแรกๆ กูเพิ่งมาอวยตอนหลัง
ตกคำว่านักเขียน ขออำภัย
จบลงด้วยดีแล้ว ทีหลังอย่าไล่กันนะ มาคุยมาอวยมาด่านิยายกันเหมือนเดิม อย่าหัวร้อนกันง่าย เด๋วคนอื่นเค้าจะว่าห้องนี้ด่าเป็นอย่างเดียว ห้ามอวยนักเขียน อวยแล้วคนรำคาญ เค้ายิ่งว่าโม่งไม่มีราคากันอยู่ สักแต่ด่าคนอื่น นิยายที่ได้รับคำชมมันมีหลายเรื่อง แต่ส่วนใหญ่มันดองไปแล้ว พอดีมีเรื่องไม่ดองเลยโดนชมเยอะ เรื่องที่ว่าโดนด่าความจริงกูมองว่าโดนแซะเอาฮามากกว่า อย่างแพรขาว ตอดคมสันต์ ก็เห็นดังดี รุ่งดี ขายแล้วมั้งทั้งสองเรื่อง ใครโดนโม่งด่าก็ถือว่านิยายมึงประสบความสำเร็จละกัน เพราะติดตลาด ใครโดนโม่งชมก็ดีใจเถอะ เพราะโม่งปากจัดแต่ยังจะชมมึง
กูมาไม่ทันดราม่าอีกละ
ถ้ากูพูดไปจะกลายเป็นกูไม่จบไหมเนี่ย >>425 เห็นมึงพาดพิงตำหนักจีน ทางนั้นก็มีบ่นมีแซวเรื่องม้าเรื่องโทเป็นพักๆ ไหมมึง ก็ยังอยู่กันได้ กูเข้าใจที่มึงไม่อยากให้บรรยากาศในห้องนี้เสีย แต่การติดใจสงสัยมันก็เป็นเรื่องปกติว่ะ บางเรื่องมันก็ไม่ได้ใหญ่โตขนาดนั้นหรอกมึง นี่ขนาดมีคนหัวร้อน บรรยากาศแม่มยังน่ารักมุ้งมิ้ง กูเข้าใจแล้วทำไมกูถึงชอบห้องนี้
กุมาทีหลังไม่รู้เรื่องม่า กุนี่คือเรื่องไหนโม่งอวยว่าดีไม่มีข้อผิด สนุก หวีทมาก เรื่องนั้นกุเห็นนอกจากจะไม่เป็นที่นิยมแล้วยังไม่มีโอกาสตีพิมพ์
เรื่องไหนโม่งด่า ยิ่งด่ายิ่งเละ ยิ่งเสีย ดันมีสนพ.ติดต่อ ยิ่งขายดี ลงmeb ไป วันเดียวติด best seller เล่มไม่รู้ แต่เออกุงง
เรื่องที่มึงบอกห่วยแตกกันเยอะๆ นั่นแหละ ด่าเละไม่มีชิ้นดีกันทั้งหลายนั่นแหละที่ดันขายได้
สิ่งที่เขามีแรงดึงดูด และทำให้คนอิน อยากอ่านต่อ แต่เนื้อหาบางอย่าง ห่วยบรรลัย กูก็ไม่เถียง
แต่เรื่องที่พวกมึงบอกว่าดี ดีอย่างเดียว กุอ่านไล่มายังไม่เคยเห็นด่าเนี่ย กุขอเป็นคนนึงที่พูดตรงๆว่า กุไปตามเพราะพวกมึงอวย
อ่านแล้ว กุชี้ให้เห็นว่า ข้อเสียก็มีว่ะ คือขาดความดึงดูด (เรื่องที่กูอ่านคือร้อยกว่าตอนแถมจบแล้วไม่ลบด้วย แต่กูแข็งใจอ่านได้แค่50 ตอน...ผลสุดท้ายคือกูทิ้งอ่ะ อ่านไม่จบด้วย ไปต่อไม่ไหว มันขาดแรงดึงดูด เสียเวลาอ่าน
ถ้าใครถามกูก็จะตอบว่า เหมือนกินน้ำเปล่าอ่ะ เออดี...กินดับกระหาย...เออ แล้วก็พูดอย่างอื่นต่อไม่ได้ นอกจากคำว่า เออก็ดี...นึกออกมั้ย ไม่แย่แต่ก็ไม่เด่น ไม่น่าดึงดูด กูก็ตอบให้ไม่ได้เหมือนกันว่ามันพลาดจุดไหน
เนื้อเรื่องมันก็...ดีนะ แปลกใหม่ดี
ตัวละครมันก็...ดีนะ ก็เข้าคาแร็คเตอร์ดี
ภาษา...มันก็ดีนะ ถึงจะเยิ่นเย้อบ้างแต่ก็น้อยมาก ภาษาค่อนข้างดีเลย
อะไรมันก็ดีนะ...คือพูดอย่างอื่นไม่ออกเลย อ่ะ ความรู้สึกประมาณนี้
เหมือนกูนั่งอ่านความบรรยายแบบ ด้านหน้ามีภูเขา แม่น้ำ น้ำตก พระอาทิตย์ ไรงี้แต่สิ่งที่ขาดจริงๆ คือ เสน่ห์และแรงดึงดูดให้อยากอ่านต่อ
กูพลาดตรงไหนวะ กูก็ตอบไม่ได้ (กูอ่านตามที่โม่งว่าดี เกือบทุกเรื่อง)
กูไม่ใช่นักวิจารณ์ กูให้ความเห็นตามความรู้สึกกู
เรื่องที่พวกมึงว่าดีๆ หลายๆ เรื่องที่พวกมึงบอกแทบไม่ค่อยเห็นข้อเสียแต่ก็ไม่ดัง คนอ่านก็ไม่เยอะ คนเม้นยิ่งน้อย แต่อันนี้คือสิ่งที่กูค้นเจอก็อย่างที่บอกแหละว่าทำไมนิยายที่พวกมึงว่าดีถึงไม่เป็นที่นิยม
ปล.กูไม่ได้อคติอะไร เพราะกูอ่านหนังสือมาทุกแนวจริงๆ ตั้งแต่แนวผู้ชาย สยาม แนวเกมออนไลน์ แฟนตาซี ฝรั่งแฮรี่พอตเตอร์ มิสเตอร์เกรย์ ยันนิทานอิสป แนวผู้หญิง ส้มส้ม จงหยวน กล้วน ยันแนวแตมเบอรี่ ยันวาย ชีคทะเลทราย โรมานต์ ทั้งเล่มแล้วก็ออนไลน์ (ขาดแค่แนวผีกับสยองขวัญที่ไม่อ่าน) กูอ่านมาเยอะจริงๆ หนังสือวิชาการกูก็อ่านเพียบมาก
แต่กูเห็นแม่งชอบเถียงว่า ที่คนอ่านไม่เยอะเพราะคนไทยส่วนใหญ่แบบชอบแนวตบตี ตบจูบ แนวแย่งผัวแย่งเมียเลยขายดี นิยายดีดีเลยขายไม่ออกเพราะคนไม่นิยม
แต่ที่กูไปอ่านที่มึงว่าดีดีแล้ว กูเลยอยากแย้งว่า ไม่ใช่ว้อย นิยายดีมันก็ขายของมันได้(ถึงจะน้อยกว่าแนวรักๆ ใคร่ๆก็เถอะ) แต่เรื่องที่พวกมึงว่าเนี่ยคือ มันดีก็ไม่ขนาดนั้น วิชาการก็ไม่ใช่ สนุกก็ไม่ใช่ แต่ขาดชัวร์ๆ เลยคือ เรื่องมันขาดเสน่ห์
มันใช้ได้แค่คำพูดว่า เออดี...
มันกลางชิบหาย ถ้าเป็นคนแม่งก็หน้าตาธรรมดา ทำงานก็ธรรมดา ฝีมือก็ธรรมดาจนหัวหน้าไม่ยอมเลื่อนขั้นแต่ก็ไม่แย่จนให้ออก งี้มากกว่า
ความเห็นส่วนตัวของโม่งคนหนึ่ง
>>433 สิ่งที่มึงพูดมาเนี่ย เค้าเรียกว่าความชอบว่ะ ส่วนที่เขาด่าคนไทยว่าชอบนิยายตบตี มันก็เป็นความจริง เพราะนิยายแบบนั้นขายได้เยอะไง แล้วที่ว่าขายดีขายเยอะในกลุ่มนิยายรัก มันก็เพราะคนไทยชอบ ไปดูที่ติดท็อปนิยายแต่ละที่ มันก็จะมีพวกนิยายรักแบบโหดเถื่อนตบตีผัวน้อยผัวหลวงเยอะแยะ ทำให้เขาประเมินกันออกมายังงั้น แต่ที่จะบอกว่านิยายเรื่องไหนมีเสน่ห์ ขาดเสน่ห์ มันคือรสนิยมว่ะ คนอื่นอ่านป่าท้อแล้วหวีดแรง กูอ่านแล้วเฉย ไม่ได้แปลว่าป่าท้อขาดเสน่ห์ เพราะกูก็ซื้อของกูกูทุกเล่ม หงส์ขังรัก คนหวีดหรงจื่อ กูก็เฉย ๆ เรื่องเว่ยเว่ยบางคนบอกแม่งไม่มีไรเลย นิยายมีแต่เล่นเกมแล้วก็จีบกันง่าย ๆ บางคนไม่อ่านเลย บอกว่าขาดเสน่ห์ แต่กูอ่านแล้วก็ว่าเพลินดี มันแล้วแต่ความชอบ เรื่องที่มึงว่าดี คนอื่นก็อาจจะว่าไม่มีเสน่ห์ เรื่องที่กูว่าดี เพื่อนกูก็ว่าจืด บางคนกลับบอกว่าแรง ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความเห็นว่ะ รวมทั้งมึงและกู เรื่องคุณหนูใหญ่ที่มีประเด็น กูอ่านแล้วก็ว่าดี เรื่องอื่นของเค้ากูชอบมากกว่า กูว่าตัวละครน่าติดตาม เนื้อเรื่องหนักไปมั่ง ยืดไปมั่ง แต่กูว่ามีเสน่ห์ เห็นมะ มันก็แค่ความเห็นคนอ่าน บางเรื่องที่เขาว่าห่วยบรรลัย กูอ่านแล้วก็ขำดีก็มี แต่ถ้าคำผิดเพียบ ธรรมเนียมผิดเพียบ คนก็ต้องด่าเป็นธรรมดาว่ะ ความชอบคนแม่งไม่เหมือนกัน กูว่าให้เจ้าของเรื่องมาเต้นเองดีกว่า ทำไมคนอ่านต้องมานั่งทับถมกันด้วย กูหมายถึงคนอ่านที่ทำนิสัยแบบนั้นนะ ไม่ใช่ว่ามึง
กูคิดแบบ >>433 แหละ งานที่คนชมหลายเรื่องในนี้ทำไมคนอ่านน้อย มันก็ดีหลายอย่างแต่ไม่สนุก ไม่น่าติดตาม คนส่วนใหญ่เลยไม่อ่าน แต่ไม่ใช่ว่าทุกเรื่องเขียนมาจะเป็นแบบนั้นหมด บางเรื่องก็สนุก เรื่องไหนสนุกคนอ่านก็เยอะ
แล้วกูก็เห็นด้วยว่าคนอ่านนิยายไม่ใช่เพราะมันเป็นแนวตบตีเลยอ่าน แต่คนเขียนแนวตบตีมันเขียนสนุกคนเลยอ่าน ถ้าเขียนตบตีแต่ไม่สนุกคนก็ไม่อ่านเหมือนกัน
ดังนั้นกูว่าถ้าไม่ได้เขียนแนวตบตีคนเลยไม่อ่านกูว่าไม่ใช่ กูว่าคนเขียนยังเขียนให้คนส่วนใหญ่อ่านแล้วสนุก อยากติดตามต่อไม่ได้ ตัวนักเขียนถ้าอยากให้คนอ่านมากขึ้นก็ต้องปรับปรุงนิยายตัวเองให้สนุกดึงดูดคนมากพอ กูไม่อยากให้ยึดว่าเพราะเป็นนิยายดีเลยขายไม่ออก ไม่มีคนอ่าน ควรคิดว่ามันยังขาด ยังต้องปรับปรุงในส่วนความสนุกน่าติดตาม
ใครยังอ่านประมุขมารอยู่อีกมั้ยวะ สปอยล์ให้นิดได้มะ
>>436 สิ่งที่พวกมึงพูดมาตรงใจกูมาก
เอาเป็นว่าไหนๆ ก็พูดแล้ว ขอแนะนำเป็นรวมๆ ไม่ชี้ไปที่เรื่องไหนของใครนะ ว่าสำนวนวิธีการเล่ากับจังหวะจะโคนมันสำคัญมาก มันคือสิ่งที่จะทำให้อินหรือไม่อิน
แล้วก็นักเขียนที่อยากแนะนำผลงาน ไม่ต้องเขินนะ แปะมาตรงๆ ได้เลย กูกำลังว่าง หานิยายอ่าน
>>436 กูไม่อยากให้ยึดว่าเพราะเป็นนิยายดีเลยขายไม่ออก ไม่มีคนอ่าน ควรคิดว่ามันยังขาด ยังต้องปรับปรุงในส่วนความสนุกน่าติดตาม
totally agree
นิยายดีหลายเรื่องไม่มีตบตี ได้ตีพิมพ์ และก็มีคนอ่าน คนอ่านนิยายดีก็ซื้อนิยายดีกันแหละ
แต่ถ้าไม่สามารถเข้าไปอยู่ในฐานคนอ่านนิยายดี หรือฐานคนอ่านนิยายสนุก หรือฐานคนอ่านไหนๆ ได้เลยสักกลุ่ม มีคนหรอมแหรม ก็ควรพิจารณาปรับปรุงตัวเอง ไม่ใช่อ้างแค่ว่า เป็นนิยายดีคนอ่านเลยไม่ค่อยมีแบบนิยายตบตี
ถ้าไม่งั้นก็จะไม่พัฒนาตัวเอง
KY กูเจอเสินเจิ้นเรื่องนึง ตีพิมพ์แล้วกับสนพ แล้วก็ขายอีบุ้คด้วย
แต่ว่าตอนพิเศษในที่ตีพิิมพ์กับสนพกับที่ตีพิมพ์อีบุ้คเป็นคนละตอนกัน (แต่ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก)
มันเป็นการตลาดที่ทำให้ซื้อทั้งสองแบบใช่มะ 5555
มันเป็นข้อตกลงกับ สนพ. กูเป็นนักเขียนที่ออกกับ สนพ.ที่มีข้อตกลงแบบนี้ คือเขาออกให้แค่เล่ม ไม่ได้ออกอีบุคให้ด้วย ถ้านักเขียนอยากขายอีกบุคเอง ขอให้ตอนพิเศษไม่เหมือนกันกับในเล่ม และกว่าจะขายอีกบุคนั้นได้ ต้องให้หนังสือออกวางขายไปแล้วครึ่งปี
KY ค่ะ ทำไมชื่อ มี่อิง มันถึงฮิตจังวะ มันแปลว่าไรเหรอ กูแบบเจอในเสินเจิ้นเรื่องใหญ่ๆมาสองเรื่องละเป็นนางเอกทั้งคู่
>>445 กูเกิ้ล มันบอกชื่อฮิต
เรื่องกูก็หลง เพราะกูชอบมังกร และพระเอกมันเป็นมังกร
ส่วนตัวปลากรอบ ลงท้ายฮัว ฮวา เพราะกูขี้เกียจ กว๊ากกกกกกกก เวลานึกไม่ออกก็คิดเอ อีดอกนี่จะออกบทไหนดีว้า
อ้อ มึงลืเหม่ย เหม่ยเหมย เหม่ยนั้น เหม่ยนี่ เหม่ยอิง
กูเพิ่งแขวะนิยายตัวเองไป...วาย...
>>445 https://writer.dek-d.com/nanapie/story/viewlongc.php?id=969355&chapter=27
จากดด. ดอกไม้แสนลึกลับ...
เพื่อนโม่ง กูเขียนนิยาย เพิ่งลงตอนใหม่ละโดนทักท้วงมาว่า เวลาฉากทำอาหาร นิยายจีนเขาใช้ควงกระบวยกันไม่มีตะหลิว คือกูเข้าใจกูเห็นภาพ แต่เวลาเขียนออกมาว่าควงกระบวย สำนวนมันจะไม่ตลกเหรอวะ อันนี้กูอยากถามความคิดเห็น ว่ากูจะเอาอย่างไงดี ระหว่างตะหลิวกับกระบวยเนี้ย กูต่อสู้กับตัวเองหนักมาก
>>454 กระบวยก็เป็นที่เข้าใจกันนะ ไม่ตลกหรอก
>>454 เอางี้ดีกว่า ใครที่บอกมึงว่าไม่มี ผู้รู้เยอะเกิน แต่รู้จริงหรือเปล่า มึงเอาคำนี้ไป search นะ 古代铜锅铲 มึงจะเห็นของโบราณของจีนที่ผู้รู้บอกมีงว่าไม่มี ถ้านิยายมึงอยู่ในยุคที่จีนตีเหล็กได้แล้ว ตะหลิวเหล็กมีแน่นอน ถ้านิยายมึงอยู่ยุคเก่ากว่านั้น มันก็อาจจะใช้ไม้ไผ่ กระดองเต่า กระดูกสัตว์มาใช้ทำตะหลิว ถ้าเห็นแบบนั้นแล้วยังเรียกว่ากระบวย กูก็จนใจกับผู้รู้ว่ะ
พวกยุคราชวงศ์ต่างๆตีเหล็กทำอุปกรณ์ต่างๆ แล้วนะมึง (กูอ่านจากในการ์ตูนประวัติศาสตร์จีน) ยกเว้นนิยายมึงอยู่ยุคหินเก่า ใช้หินมัดปลายไม้ทิ่มกันอยู่55
>>460 ไม่ต้องขอบคุณ กูยินดี กูไม่เขียนนิยาย แต่อ่านทั้งเสิ่นเจิ้นและจีนแปล จีนไม่แปลก็อ่าน กูเห็นผู้รู้จงใจด่าเสิ่นเจิ้นกันเยอะ เสิ่นเจิ้นเขียนอะไรแม่งผิดไปหมด ทั้งที่จีนแปลจีนแท้มันก็เขียนนิยายผิดข้อมูล เอามันไม่ผิดเสิ่นเจิ้น แต่ถ้าเป็นคนจีนเขียน คนไทยบางคนจะเชื่อทุกอย่าง พอเป็นเสิ่นเจิ้นจะบอกว่าผิดโน่นผิดนี่ นักเขียนจีนเยอะแยะว่ะที่เอาวัฒนธรรมยุคชิงไปใส่ยุคหมิง แต่มันอ้างว่าเขียนนิยายเลยทำได้ แต่ถ้านักเขียนเสิ่นเจิ้นทำ มึงโดนผู้รู้ด่าไม่ต้องเกิดเลยว่ะ กูเห็นใจมึงฝุด ๆ
อาวุธยังสร้างกันได้ นับประสาอะไรกับตะหลิว ตอกหน้าผู้รู้ไปจะ
แต่สงสัยว่าสมัยก่อนเค้านิยมใช้อะไร ถ้าดูจากลักษณะอาหาร ก็น่าจะใช้กระบวยเป็นหลักรึเปล่า
ถ้าทำอะไรกับกระทะแบนๆ ถึงจะใช้ตะหลิว
ใช้มือไปเลยค่ะมึง ฝ่ามืออรหันต์คั่วเกาลัดมือเปล่า
>>462
เรื่องสิทธิของนักเขียนที่สามารถใช้จินตนาการเพิ่มเติมจากเรื่องจริง...
กูไปอ่านเจอในเวปเรือนไทย คุณเทาชมพู(กูคิดว่าเป็นนักเขียนใหญ่ท่านนึงแต่ไม่แน่ใจ)ตามนี้
.....
ศิลปะสาขาต่างๆนั้นเป็นงานสร้างสรรค์ที่ผู้สร้างงานมีสิทธิพิเศษอย่างหนึ่ง ที่คนในอาชีพอื่นไม่น่าจะมี คือมีสิทธิ์ที่จะสร้าง เปลี่ยนแปลง ดัดแปลง เพิ่มเติม ปฏิเสธ บิดผัน ข้อเท็จจริงต่างๆในโลก เอาไว้ในผลงานของตัวเองได้ ถ้าเป็นงานวรรณกรรม สิทธินี้เรียกว่า poetic license ถ้าเป็นศิลปะโดยรวม เรียกว่า Artistic license
license ที่ว่านี้ประยุกต์ใช้ได้กว้างขวางมาก แทบว่าจะยกตัวอย่างได้ครอบจักรวาล ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นครูสอนภาษา ก็ต้องสอนให้นักเรียนเขียนอ่านได้ถูกต้องตามหลักภาษา เขียนผิดก็หักคะแนนไป
แต่ข้อนี้ คุณครูเอาไปใช้กับกวีไม่ได้ กวีอาจสร้างภาษาหรือคำขึ้นมาใหม่ได้ตามความคิดของเขา ด้วยเหตุผลของเขา เหมือนสุนทรภู่ใช้คำว่า " เจ้ากรมยมราช" เพื่อให้มีสัมผัสใน ทั้งๆเจ้าพระยายมราช ตำแหน่งท่านคือเสนาบดี สูงกว่าเจ้ากรมเป็นไหนๆ แต่สุนทรภู่ก็ได้รับการยกเว้น ไม่ถือว่าผิด ด้วยสิทธิดังกล่าว......
กูก็เพิ่งรู้ค่ะ
ผิดดิ ผิดในเชิงข้อมูล แต่เป็นการผิดที่จงใจผิดคือดิ้นเพื่อให้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์
วรรณกรรมไทยมีทำแบบนี้เยอะเลย
คนละเคสกับมั่วยุคมั่ววัฒนธรรมนะกูว่าอันนั้นผิดเพราะไม่ทำการบ้าน แต่นขจีนก็มั่วกันเยอะเหมือนกัน
ขอแทรกมารีวิวนิยายหน่อย กูอ่านบุปผาอวี้หลัน สวรรค์โปรยมาถามข้าก่อนไหม จบละ เรียบเรื่อยมาก มุกในเรื่องไม่ตลกสำหรับกูเลยอะ แป้กมาก รู้สึกว่าเนื้อหาไม่มีอะไรเลยทั้งๆ ที่เล่มอย่างหนา แต่นักเขียนเขาบอกว่าเป็นครั้งแรก กูก็ไม่อยากว่าอะไรมาก แต่ผิดหวังอะ ปกโคตรสวยของแถมโคตรดี เฮ้อ...
>>469 รีวิวยาวกว่านั้นนิดได้ป่าววะ ถามเฉย ๆ นะไม่ได้บังคับให้ทำ แบบมีตัวอย่างว่าอันไหนแป้ก กูตามไปดูหน้าปกมา จัดว่าสวยเลย เขาลงทุนจ้างคนวาดใช่มะ กูลองอ่านบทแรก รู้สึกประโยคยืดยาดไป ซ้อนคำบรรยายจนต้องอ่านซ้ำสองรอบให้เข้าใจ ถ้าปรับปรุงตรงนี้ได้ก็คงจะดีนะ เผื่อนักเขียนมาอ่านเจอ ให้กำลังใจนะ จะได้มีงานดี ๆ ออกมา
>>469
กูตามไปอ่านในเด็กดีเลย
ตอนแรกอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะเหมือนคนเขียนจะไม่ถนัดแนวนี้ และพยายามเขียนใช้สำนวนโบราณศัพท์ยากๆให้อลังแต่อาจใช้ศัพท์ผิดหรือเรีนงประโยคผิดบ้าง เลยอ่านไม่ลื่น อ่านยากไม่ค่อยเข้าใจ ถ้ามีคนช่วยอ่านแบบalpha หรือbeta readerก็คงจะดี(แบบนักแปลนักเขียนบางคนจะมีคนช่วยดูหรือให้นักอ่านในเวปช่วยฟีดแบ็ค)
นอกนั้นบทที่2 อ่านถึง12 ก็สนุกดี มุกมึนๆแบบนี้กูชอบ ทางกู (อะไรมีสาระกูไม่อ่าน55)
ขอบใจมึงที่มารีวิว ทำให้กูมีนิยายอ่านเพิ่มอีกเรื่อง
>>472 ไม่เป็นไร ด้วยความยินดี ถ้าจะซื้อกูแนะนำให้เอาเล่มพิเศษมินิบุ๊คด้วยนะ อ่านเล่มหลักจบแล้วกูลืมอ่าน พอได้ลองก็เออ มินิบุ๊คสนุกดี น่ารัก
แต่สำหรับเนื้อเรื่องหลักบางทีกูว่ามันไปได้ไกลกว่านี้อะ มันต่อยอดได้ มันขยี้มุกต่อได้เลยแอบเสียดาย สำหรับกูมันเลยไม่สุดสักทาง มุกตลกก็แค่หึๆ จะฟินคู่พระนางก็ไม่สุด สำนวนเขียนกูว่าคนอ่านนิยายจีนมาเยอะอ่านแวบแรกน่าจะรู้สึกว่ามันทะแม่งๆ ไม่ไหลลื่น บางประโยคก็สั้นห้วนไม่ก็ยาวเกินไปในบางบริบท ฉากที่บิ้วอารมณ์ได้มากกว่านี้ก็ดันตัดฉับไปฉากอื่นแบบดื้อๆ เฉยเลย ถ้าแต่งเพิ่มอีกนิดน่าจะสนุกและกลมกล่อมกำลังดีแท้ๆ กูไม่ชอบคำบรรยายแบบพระเอกเป็นอินทรีย์ด้วยแหละ จะว่าไงดี...โดยรวมแล้วไม่ค่อยประทับใจอะ แต่กูตามซื้องานนักเขียนคนนี้เรื่อยๆ นะ ชอบการหาคนมาวาดปกนิยายกับของแถมและพรีเมี่ยมต่างๆ นานาที่ทำโคตรดี บ่นผิดหวังแต่ก็ยังซื้อ ทาสการตลาดมากเลยกู5555
>>475
ใช่เหมือนรีบๆเขียน รีบๆพิมพ์ รีบๆขาย
ถ้านักเขียนลองทิ้งไว้สักพักแล้วกลับมาลองอ่านใหม่รีไรท์ใหม่ หลายๆจุดน่าจะขยี้ได้มากกว่านี้จริงๆ นี่บางตอนมันก็ดูเนือยๆหน่อย กูชอบให้แต่ละตอนมีอะไรที่แบบพีคเล็กๆก่อนจะไปพีคใหญ่ๆท้ายเรื่อง
แต่รวมๆก็รู้สึกน่ารักดี กูรับได้มุกมึนๆแบบนี้ อ่านแล้วอารมณ์ดี
ราคาแรงจริงๆ คงทำขายแฟนๆขาประจำ พิมพ์น้อยเลยแพง
Ky มีใครได้อ่านเรื่ององค์หญิงไท่ผิง สนพ แสงดาว ป่ะ เห็นที่ร้านหนังสือ เล่มอย่างหนา ราคาสูงประมาณนึง โดยส่วนตัวคิดว่าปกเรียบไปนิด ยังไม่ได้ซื้อนะแค่พลิกผ่านๆ แล้วสนใจ
มาแนะนำ หลานสาวกุนซือมาร พล็อตน่าสนใจดี มีกำลังภายใน กลับมาเกิดใหม่ ยังไม่ (รู้ว่าเป็น) แฟนตาซี (มั้ย) เป็นนิยายสโลว์ไลฟ์เลยอาจไม่ถูกใจกลุ่มรุกรับรวดเร็วเทพในหนึ่งนาทีหรือสายแก้แค้นแรงอาฆาต เข้ากลุ่มโลลินิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว สกิลแม่บ้าน lvMax กับมีโคแก่โปรไฟล์ดีจ้องงาบ
แต่มีข้อเสียเรื่องคำผิดและสำนวนแปลกๆ อ่านบางช่วงถึงอ่านช้าๆ ทีละประโยคก็ยังงง (มาก) เนื้อหาในแต่ละตอนยังมีกักเรื่องที่มาที่ไปพลังของนางเอกหรือพื้นหลังอยู่นิดหน่อย ก็ค่อยๆ แพล่มมาทีละตอนๆ ไม่ได้ยัดข้อมูลมาให้ในห่าเดียว
สรุป อ่านสบายๆ ไม่คิดมากพอไหว แก้เบื่อๆ เซ็งๆ หรือคนที่อยากเปลี่ยนแนวได้ ปัจจุบันลงไปเกือบ 10 ตอนได้ ไม่ได้ลงทุกวันแต่ก็ยังสม่ำเสมออยู่ ทำใจได้ว่าช่วงกลางเรื่องคนเขียนอาจมีหายยาวเนื่องจากเป็นนศ.
ช่วงนี้นิยายออกกันรัว ๆ เลยว่ะ
>>477 คนแต่งเรื่องนี้เค้าแต่งไว้นานยังอ่ะ คือกูเคยอ่านหนังสือในห้องสมุด ชื่อนี้เหมือนกัน แต่มันเป็นหนังสือเก่าแล้วนะ ไม่รู้ใช่เรื่องเดียวกันรึเปล่า
เอาเท่าที่กูจำได้ เรื่องมันก็เล่าตั้งแต่องค์หญิงไท่ผิงเด็กจนถึงตอนตาย ในเรื่ององค์หญิงเป็นหญิงรูปงาม มีเรื่องเชิงชู้สาวกับชายหลายคน มีพูดๆถึงบูเช็กเทียนด้วยเพราะองค์หญิงหน้าตา+นิสัยเหมือนแม่
กูว่าก็หนุกดีอะ ตอนนั้นกูอ่านแบบไม่คิดไรด้วยมั้ง แต่เนื้อเรื่อง+การลำดับเรื่องมันก็ต่างจากนิยายจีนสมัยนี้อยู่พอควร คือมันไม่ค่อยหวือหวา แต่ตอนกูอ่านกูก็รู้สึกยันเทิงดี
เมื่อวานลองหาอ่านเรื่องที่เพิ่งอัปเดต แล้วก็เจอ เพรียงพร่ำ กับ แกร่งขลาม....
ความอยากอ่านลดฮวบๆ
จริงๆ นับถือนักเขียนนะ ต้องใช้ใจรักและความเพียร แต่ก็ต้องศึกษาหาความรู้ด้วยมั้ยอะ
สะกดผิดเป็น หงษ์ บัลลังค์ อุทธยาน อาวุธโส ไรงี้ยังพอเข้าใจว่าอาจจะเคยเห็นคำผิดๆ หรือสะกดเอาเองตามเสียงที่ได้ยิน
แต่เพรียงพร่ำกับแกร่งขลามนี้ท่านได้แต่ใดมา
เพรียงพร่ำกับแกร่งขลามคืออะไรวะ นึกออกแต่เกรงขาม เดาได้แค่นี้แหละ 555
มึง กูเคยเห็นคนลาวแต่งนิยายลงเด็กดีมาแล้วนะ คำผิดก็จะเยอะๆ แบบนี้แหละ อาจจะไม่ใช่คนไทยจริงๆ ก็ได้
คำผิดหลุดโลกถ้าเจอกูปิดเลย ให้คนบอกว่าอ่านสนุกยอดเฟ้บเยอะก็ช่าง
ที่กูปิดแน่คือเรื่องที่โปรยว่ายังคิดคำโปรยไม่ออก แล้วมึงจะคิดนิยายทั้งเรื่องออก
ช่วงนี้ใครเบื่อๆ กูแนะนำ ไถเฟิง ตลกดี ข้ามไปอ่านตอนทะลุมิติมาเข้าร่างเด็กขอทานเลยก็ได้
>>497 กูก็ได้มาจากในห้องนี้แหละ คุ้นๆ ว่าเคยมีคนพูดถึง
เรื่องนี้คุมโทนค่อนข้างดี มีหลุดภาษาสมัยใหม่ไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วโอเคเลย คำผิดเห็นบ้างเล็กน้อย
แต่เรื่องมันขำดี ไม่ได้ขำแบบเมากาวนะ ขำกับความเพี้ยน
ถ้าใครอ่านแค่บทสองบทแรกก่อนมาเข้าร่างอาจจะปิดไปเลยด้วยความหมั่นไส้นางเอกหรือรับไม่ได้กับพฤติกรรม กูเลยแนะนำว่าไปเริ่มตอนเข้าร่างดีกว่า
มีนิยายเรื่องไหนมั้ยที่นางเอกตัวใหญ่หน่อย ไม่ใช่ใหญ่แบบนักมวยปล้ำนะ เอาแค่ตัวสูงกว่าหญิงสาวทั่วไป
กูเบื่อนิยายที่พระเอกดึงทีเดียวนางเอกก็ปลิวมานั่งตัก เบื่อพวกนางเอกตัวเล็กๆ สูงไม่เกิน 165 ไรงี้
เป็นความอิจ
มึง มีใครอ่านบุปผาเลี่ยมเพชรไหม กูอยากได้สปอย เห็นออกเล่ม 2 แต่คนเขียนบอกว่ามี 3 เล่ม
เยอะไปไหน
แต่ดูในเด็กดี 70 กว่าตอน เลยกำลังตัดสินใจว่าซื้ออ่านดีไหมวะ
ใครอ่านแล้วบ้าง ขอสปอยหน่อย
กูนึกว่ามันชื่อบุปผาเหลี่ยมเพชรแล้วพิมพ์ผิด เคยไปอ่านบทแรก เจอควันบุหรี่โขมงเหมือนหมอกลง เลยปิดออกมาเงียบ ๆ นี่เพิ่งรู้ว่ามันชื่อเลี่ยมเพชรจริง ๆ คนเขียนคงคิดว่าเอาเพชรมาหลอมได้เหมือนทองมั้ง
กูเจอเรื่องนึง กลิ่นอายมาเต็มมาก
อ๋องตัวร้ายที่มีสนมชายเป็นฝูง ชื่อเรื่องก็คล้ายๆกับอีกเรื่อง
นายหญิง ข้าไม่อยากเป็นปั๋วท่าน
นางอาจจะหมายถึงบุปผาที่เลี่ยมเพชรได้รึเปล่า แบบเหยย แข็งแกร่งมากเว่อเบอร์นี้
ละกุเป็นไรทำไมต้องพยายามทำความเข้าใจชื่อเรื่องนาง 555555555555
ไปไล่อ่านนิยายหมวดอดีตปัจจุบันอนาคตที่ติดท็อป มีเรื่องถูกจริต (สำนวนดี เนื้อเรื่องสนุก) ไม่กี่เรื่อง
บางเรื่องแค่ภาษาก็ไม่ไหวละ ทำไมติดท็อปวะ หรือต้องใช้สกิลขั้นสูงในการมองข้ามภาษาเพื่อซึมซับเนื้อหา
แต่กูไม่ไหวจริงๆ เปิดเจอ เนี้ย แระ หรอ หล่ะ ก็ต้องปิดแล้ว T T
มีใครอ่านเรื่องจิ่นเสวี่ยหวางเฟยบ้างมั้ยนักเขียนเลิกเขียนแล้วหรือคะ
สรุปไม่ควรเก็บใช่มะ เห็นแม่งยาวโคตรๆ กลัวเสียเวลา มีใครสปอยได้แมะ
>>512 ในหมู่ท็อปนะเท่าที่ดูไปสามหน้าเมื่อวาน -- มู่กั๋ว / กลยุทธ์รอดตาย
ส่วนที่อยู่ท็อปรึเปล่าจำไม่ได้ ซื่อจื่อ / ภรรยาทรราช / บันทึกลับ / คู่มือนางกำนัล / จอมทัพคู่บัลลังก์ / กู่มี่เอิน
อื่นๆ ฮูหยินของปีศาจ / เหนือลิขิตรัก / เรื่องเล่า เฒ่าจันทรา / บุปผาร่วงหล่น / บันทึกพลิกฟ้า / ไถเฟิง / ยอดพธู / เสน่หานวลนาง / จารนาง
และอีกหลายเรื่อง นี่เปิดแอพดูชื่อนิยาย เฟ้บไว้เพียบ
บางคนไปอ่านตามอาจจะบอกว่าไม่เห็นดีเลย บรรยายเยิ่นเย้อ สะดุด ข้ามไปข้ามมา เรื่องไม่สมเหตุสมผล ฯลฯ
แต่กูเป็นคนมาตรฐานต่ำไง เอาแค่สะกดผิดน้อย ไม่ใช้ภาษาพูดสมัยใหม่ เนื้อหาพอจะเป็นเหตุเป็นผล (ไอ้ประเภทเพิ่งฟื้นขึ้นมาแล้วแว้ดๆ ใส่สาวใช้ อันนี้ก็ปิดเลย) แค่นี้ก็เฟ้บแล้ว
>>516 ภรรยาทรราชนี่กูชอบที่เขาบรรยายไปเรื่อย ๆ มันอ่านง่ายดี กูไม่ชอบเนื้อเรื่องแต่ชอบที่เขาบรรยายแบบนี้ มีคำผิดคำเกินเยอะเหมือนกัน แต่โดยรวมกูว่าไม่แย่ แล้วกูชอบคำโปรยด้วย มันดูตลกแบบมึน ๆ แต่ที่ไม่ชอบคือเอารูปคนอื่นมาใส่เพียบ อันนี้ไม่ชอบนิยายทุกเรื่องที่ทำแบบนี้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ เวลาเจอใครทำแบบนี้จะรู้สึกน่าอ่านน้อยลงไปทันที อยากบอกว่าบางคนไม่ลงรูปเลยก็มีนะ แล้วยอดคนอ่านก็เข้าดี ดีกว่าเอารูปคนอื่นมาลงน่ะ
>>517 หมายถึงรูปประกอบที่ออกแนวจีนๆ ใช่มะ บางเรื่องก็หารูปมาสวยดีนะ แต่ถ้าให้เครดิตไว้ด้วยน่าจะดี น้อยเรื่องที่จะมีเครดิต
เออ พูดถึงคำโปรย กูดูก่อนเลย เรื่องไหนโปรยมาแบบภาษาวัยรุ่นจะไม่กดอ่านเลย มันพอเดาๆ ได้ถึงภาษาในเรื่อง แต่ก็ดีนะ บ่งบอกแนวชัดเจน ไม่เสียเวลาคนอ่าน
>>519 ก็ชมเฉยๆ นะว่ารูปสวย
ลองหารูปดูหลายๆ เว็บเค้าอนุญาตให้ใช้นะ คงเพราะรู้ว่าถ้าเอาขึ้นเน็ตแล้วมันห้ามยาก หรือไม่ก็ขี้เกียจรับเมลรับข้อความขออนุญาตใช้
You can also use them but not for commercial use.
แต่พูดถึงเรื่องนี้แล้วสงสัยว่าเอามาใช้ในเว็บเด็กดี เปิดให้อ่านฟรี มันจะถือว่า commercial use ป่าวหว่า ถ้ามองว่าเว็บก็มีรายได้จากโฆษณา ถึงแม้เจ้าของนิยายจะไม่ได้เอารูปไปลงหนังสือหรืออีบุ๊คขาย
ที่เขาพูดกันว่าไม่ควรเอารูปมาคงไม่ได้หมายถึงรูปที่อนุญาตให้ใช้หรอกนะ แต่เขาหมายถึงรูปที่เที่ยวไปหยิบมาใช้โดยไม่ขออนุญาต จะหาเจ้าของได้หรือไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ของตัวเอง ไม่ได้จ่ายเงินซื้อ มันก็ไม่ได้ แค่นั้นเอง ไม่น่าเข้าใจยาก ของไม่ใช่ของมึง อย่าอ้างมากความ
เคยเจอแบบเอารูปหน้าปกนิยายฉบับจีนมาใช้ แต่จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องไหน
>>525 ส่วนมากที่ให้ใช้ได้คือแค่ใช้เป็นรูปดิส รูปเฮด รูปหน้าจอมือถือ อะไรแบบนั้น คือใช้ personal use จริงๆ อยากรู้ก็ถามนักวาดเอง ทุกคนไม่ได้มีเกณฑ์เหมือนกัน ไม่ใช่นักวาดคนนึงบอกว่าใช้ได้เลยก็เหมาว่านักวาดทุกคนโอเค
ส่วนรูปพินเทอเรสให้ตีไว้เลยว่าใช้ไม่ได้ เพราะมันเป็นแค่เว็บเก็บรูป ไม่ต่างอะไรกับกูเกิ้ลเลย ถ้าจะใช้ก็หาเครดิตนักวาดให้เจอ ติดต่อไปหาเค้าว่าใช้งานแบบนี้ได้ไหม ถ้าได้ก็เอามาใช้ ให้เครดิตนักวาด แปะหลักฐานด้วยก็ดีว่าได้รับคำอนุญาตจากนักวาดแล้ว ยุ่งยากใช่ไหม แต่มึงต้องทำ ไม่งั้นก็ไม่ต้องใช้ แค่นั้นแหละ นิยายดีๆ ไม่ต้องมีรูปประกอบก็ได้มั้งถ้ามีความสามารถพอจะอธิบายจนเห็นภาพตัวละครได้ชัด
>>525 เว็บเด็กดอยมีโฆษณาซัพพอร์ทอยู่ ภาพอะไรก็ตามที่เขาบอกว่าให้ใช้เฉพาะ noncommercial จึงนำมาใช้ในเด็กดอยไม่ได้เลย แต่สิ่งที่เป็นอยู่มันช่างต่างกัน ไอ้ความไม่รู้กฎหมายกับความไม่อยากรู้กฎหมาย หรือรู้กฎหมายแต่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเนี่ยมันทำลายความสร้างสรรค์ในสังคมไปหมดแล้ว กูไม่ได้ว่ามึงนะ กูพูดโดยทั่ว ๆ ไป เล่นเอารูปคนอื่นมาใช้กันเกร่อหมด แล้วก็อ้างว่านี่เด็ก นี่ไม่เคยรู้มาก่อน นี่เห็นคนอื่นทำได้ ทั้งที่มันก็มีคดีฟ้องร้อง มีดราม่าลงเว็บเยอะแยะไปหมด แต่ก็ยังทำ
อย่างบางคนที่บอกว่าหาเจ้าของไม่ได้แล้ว ลองคิดว่ามึงแต่งนิยายเล่น ๆ ทิ้งไว้เมื่อห้าปีก่อน มึงลืมไปแล้ว แล้วอยู่ ๆ มีใครไม่รู้เอาของมึงไปพิมพ์ขาย อ้างว่าหาเจ้าของไม่ได้เลย อินบ๊อกซ์ไปก็ไม่ตอบ มันก็ทำนองนั้นอะ มึงจะคิดยังไง นักวาดก็เหมือนกัน ถ้าวาดแล้วไม่มีรายได้เพราะคนก๊อปไปใช้ฟรีหมดโดยไม่ขอ แล้วก็ขู่ว่าไปฟ้องเอาเอง บางคนก็บอกว่าแหมโง่เองไม่ป้องกันตัว มันก็ทำนองคนโดนข่มขืนแต่โดนด่าว่านุ่งสั้นนั่นแหละว่ะ คนทำผิดแม่งแถ หน้าไม่อาย แต่คนที่โดนกระทำต้องมานั่งหาทางป้องกันเอง
ky มีโม่งคนไหนอ่าน คุณชาย...ข้าตระหนกจนผมแทบร่วงแล้ว บ้างมั้ยวะ (ตีพิมพ์กับสนพ.คำต่อคำแล้ว จะออกงานหนังสือมีนา-เมษานี้) กูว่าบุคลิกนางเอกแม่งเเหวกดี ชวนให้นึกถึงเฟริน เดอเบอโรว์ หัวขโมยแห่งบารามอสแปลกๆ
Ky ใน Ky คือนี่เป็นโม่งมือใหม่ ผิดพลาดยังไงขอโทษด้วยนะ #กราบ
.
คือว่าตอนนี้กำลังมีแพลนจะทลายกองดอง เลยมาถามว่าเอากองไหนก่อนดี
1) อาเจ๋อ
2)บันทึกปิ่น
3)หยกยอดปิ่น
4)จิ่วลู่ พวกที่พิมพ์กะแจ่ม
โม่งเก่งจีนอยู่แถวนี้ไหม yin นี่อ่านว่า อิน หรือ ยิน กูดูซีรีย์ที่นางเอกชื่อ อินยี่ฮวา ฟังออกเสียงคืออิน หรือกูหูเผื่อน 陰麗華
หาสับ กลนาง ไม่เจอ สับให้ทที
ปิ่นสื่อรักนี่นิยายวายหรือนอลมอลอะ
เพื่อนโม่ง ไอชะตาเกี้ยวรักนี่หนุก+คุ้มตังค์ไหมอะ อ่านตัวอย่างตอนต้น ๆ ก็น่ารักดี แต่กลัวซื้อมาละผิดหวัง555
ปล ช่วงนี้มีเสิ่นเจิ้นเรื่องไหนน่าสนใจมั่งวะ ห่างหายจากนิยายไปนาน นิยายจีนก็ดั้ย
ในนิยายหลายๆ เรื่อง ช่วงที่นางเอกเพิ่งทะลุมิติมา สอบถาม (หรือหลอกถาม) สาวใช้หรือคนรอบข้างมักจะพบว่าตัวเองมาอยู่ในยุคที่ไม่มีในประวัติศาสตร์
อ่านแล้ว เอ่อ ประวัติศาสตร์จีนยาวนานเป็นพันปี นางเอกโคตรเก่งที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในยุคไหนเลย
การที่เราจะรู้ว่าอะไรไม่ใช่ ก็ต้องรู้ก่อนว่าอะไรใช่ ถูกมะ
แสดงว่านางเอกท่องจำยุคสมัยและราชวงศ์ของจีนได้หมด
ก็ซูไปอีกแบบ
>>543 จริงๆกูว่าเด็กเตรียมเอนท์ก็จำราชวงศ์ได้หมดนะ ราชวงศ์ง่ายๆสั้นๆเรื่องเยอะๆเผลอๆก็อาจจะจำรัชสมัยได้หมดเหมือนกัน เช่น สมัยถัง
ละนึกถึงตัวเอง ถ้าสมมติกูย้อนไปสมัยอยุธยา ที่คนที่ครองบัลลังก์อยู่กูไม่คุ้นชื่อ(แบบไม่เคยได้ยินมาก่อนได้ชีวิต) ไม่ใช่ราชวงศ์อะไรเลยที่กูเคยเรียนมา กูก็คงสงสัยว่า เอ้ะะ กูมาอยู่ไหนฟระ
เอ่อ กูคือ 544 เอง
กูหมายถึงแบบถ้าเราย้อนไปงี้ เป็นราชวงศ์อะไรก็ไม่รู้ที่กูไม่คุ้น(ซึ่งราชวงศ์ก็คงรู้กันมั้ง) คิงเป็นใครก็ไม่รู้ที่กูไม่เคยได้ยินชื่อ กูก็คงคิดว่าแม่งไม่ใช่ไง
สำหรับคนที่ให้ทายไม่แน่ใจ ใครคือศรีสุรยวงศ์ คิดว่าคนนี้ไม่ใช่แล้วกัน
ที่ยกมากูมั่นใจสามคนแรก พระเจ้าทองลันกับพระราเมศวร เพราะว่าเค้าติดกันครองราชย์อาทิตย์เดียวแล้วก็พระราเมศวรขึ้นมาเลย แบบว่าสั้นสุด 7 วัน กูจำคนนี้ได้เพราะเหมือนชอบออกสอบอ่ะ ใครครองราชย์สั้นสุดงี้
แล้วก็พระรัษฎาธิราชอยู่ในสุริโยไทใช่ป่ะ น่าจะออกมาหลังฉากไข้ทรพิษบนใบตอง (จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรอ่ะคนนี้)
เอาเป็นว่ากูคิดว่าถ้ากูอยู่มอปลายอยู่ กูจำได้ละกัน 55555555 (มั่นเวอร์)
>>546 สมเด็จพระศรีสุริยวงศ์ แม่นป่ะ ?
จำได้เพราะนี่เป็นยศในยุครัตนโกสินทร์นี่เองล่ะ เคยถกกันในคลาสว่าเป็นการอวยยศที่สุดๆในแง่หนึ่งมาก เพราะความหมายของคำว่าสุริยวงศ์ แต่คนได้ยศไม่ถือเป็นเชื้อพระวงศ์เสียทีเดียวไง
แต่การทักของมึงทำให้กูเกิดความรำลึกได้อีกอย่าง ว่านามในพระสุพรรณบัฎเอย ชื่อที่จารึกเอย มักจะต่างกับชื่อเล่นที่ประชาชนนิยมเรียกกัน บางทีบางยุคบางสมัย เขาอาจจะเรียกกันด้วยชื่อบางอย่างแทนรหัสโค้ดเหมือนโม่งเม้าท์อักษรย่อไรงี้กัน
ถ้านางเอกไปเจอเหตุการณ์แบบนั้น เจอว่าชื่อคิงไม่ใช่ชื่อคุ้นสักกะติ๊ด แถวที่อยู่ก็ไม่คุ้น (เพราะเมื่อก่อนอาจไม่ได้ชื่อนี้) แล้วแม่มมาค้นพบทีหลังตอนไปเจอชนชั้นสูงว่าชื่อที่เป็นทางการคือชื่อที่ตัวเองเรียนมาในประวัติศาสตร์ ตัวเองย้อนมาอดีตที่รู้จักนี่คงอยากร้องไห้นะ
และกูเชื่อว่าโอกาสอย่างนี้มีสูงด้วย ใครเขียนให้กูอ่านที
เออ คงเพราะกูจบแล้ว เลยรู้สึกว่ามันยากกระมัง ขนาดมาไล่สมัยอยุธยา ราชวงศ์อู่ทอง ยังไม่สามารถระบุชื่อพระเจ้าแผ่นดินได้ครบเลย
ที่ >>546 ถามมา ขอสารภาพว่าคุ้นทุกชื่อที่มีคำว่า ศรี ราชา ราช เพราะชื่อกษัตริย์ไทยจะมีคำคล้ายๆ กัน แต่ก็แค่คุ้นนะ มีจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ อยู่ยุคไหนก็ไม่รู้
เลยนึกถึงว่านางเอกทะลุมิติทำไมเก่งจังวะ ประวัติศาสตร์จีนนานกว่าไทยอีก ยังจำชื่อราชวงศ์ชื่อฮ่องเต้ได้
กูท่องได้แค่ ชาง โจว จิ๋น ฮั่น สุย ถัง ซ้อง หงวน หมิง ชิง แต่จริงๆ ระหว่างนั้นยังมีช่วงย่อยๆ อีก ประเภทเป็นฮ่องเต้ได้สมัยเดียวก็ถูกโค่น
ยังมีจิ้นตกจิ้นออก ราชวงศ์เหนือใต้ ยุคห้าราชวงศ์สิบอาณาจักรอีก
เออ ถ้านางเอกบอกว่าฟังแล้วไม่คุ้นชื่อ ไม่แน่ใจว่ามีในประวัติศาสตร์รึเปล่า กูว่ามันค่อยน่าเชื่อหน่อย
(ถ้าตั้งเอาเองทั้งชื่อสมัยชื่อฮ่องเต้ มันคงไม่บังเอิญไปพ้องกับประวัติศาสตร์ของจริงเป๊ะๆ ละมั้ง)
แต่ถ้าจะฟันธงว่าไม่มี ไม่ได้อยู่ในยุคไหนเลยก็น่าปูพื้นมาว่านางเอกเรียนประวัติศาสตร์มา
หรือสนใจประวัติศาสตร์จีนมากหรือเคยสอบได้คะแนนเต็ม อะไรแบบนี้ยังพอสมเหตุสมผล
ฮัลโหลววววววววววว มีใครยังเหลือรอดบ้างจ๊ะ คิสถึงงงงงง
มาละค่ะซิสส์
กูเหงาเลยไม่มีที่สิง
แต่งานที่ทำค้างไว้ทำเสร็จฉลุยเร็วกว่ากำหนดเพราะไม่ต้องวอกแวกมาคุยกับพวกมึง
แต่กูคิดถึงพวกมึง มิสยูวๆๆๆ
เข้าได้ละเหรอ กรีดร้อง!!! ที่ผ่านมาชีวิตเงียบเหงาสุด กลับมากันได้แล้วเพื่อนโม่ง กูคิดถึง
ช่วงนี้มีเสิ่นเจิ้นออกใหม่เยอะมาก มีใครได้อ่านเรื่องอะไรแล้วบ้าง แวะมารีวิวกันได้นะพวกมุง ๆ
ว่าแต่ช่วงนี้ในเด็กดีมีอะไรพอใช้ได้บ้างวะ
เฮ้ย ท็อปหมวดกับท็อปรวมเรื่องหงส์ตัวฬ้ายฯ นั่นมันยังไงกันวะ คนเฟบตั้งเยอะ ตอนก็เยอะ ทำไมไม่มีสักเมนต์เลยอะ เป็นไปได้เหรอ งง
ทำไมห้องนี้เงียบจังวะ /ปัดฝุ่นรอ
กูช่วยปัดฝุ่น ช่วงนี้มีเรื่องอะไรสนุกๆบ้างไหมวะ พวกติดท็อปเกือบทุกเรื่องทำกูเพลียจนไปหาแนวอื่นอ่านแล้วเนี่ย
พวกมึงๆ กูเพิ่งไปเจอเรื่องหนึ่งมาเว้ย ตราบชั่วฟ้าดินสลาย กูชอบอ่ะ ภาษาคนเขียนค่อนข้างดีเลย เนื้อเรื่องค่อนข้างแปลกด้วย นิยายไม่ติดท๊อปกูค้นๆ เอาจากการอัพล่าสุด เปิดผ่านๆ แล้วดันติดว่ะ...
กู่มี่ กูรอทุกเล่มให้จบก่อน
ตอนนี้อ่านคุณหนูใหญ่ตระกูลจางแต่งงานแล้ว +ฝ่าบาทหม่อมฉันเป็นนกฮูก กำลังสนุก
เคยอ่านอินซื่อก็โอเค พวกนี้ไม่ค่อยเห็นติดท็อป
กุหลาบพิษสีเงิน อะเฮิ่ม คนละหมวดแต่ก็ลองดูสำหรับใครที่สนใจ
>>570 มีเยอะ เพราะนางเล่าตั้งแต่เด็ก พี่น้อง 5 หรือ 4 คนนี่แหละ กูไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้ตามอ่าน แต่เคยอ่านมาคร่าวๆ คือแต่ละคนจะมีสตอรี่เพื่อไปเทพทรูในภายหน้าและก็ส่งเสริมพี่สาวให้เป็นต้าเจี่ยผู้ยิ่งใหญ่ยังไงล่ะ เรื่องราวจะเป็นการกระเสือกกระสนเอาตัวรอด โดยที่พี่สาวซึ่งโตสุด (นางเอก) เลี้ยงดูน้องๆ ให้มีชีวิตรอดไปพร้อมตัวเอง โดยแอบแฝงความเทพทรูและความโชคดี แต่ก็ถือว่าดำเนินเรื่องได้น่าสนใจให้แบบลุ้นตาม ข้อมูลที่หามาบางทีก็ใส่เยอะจนเหมือนสารคดี แต่ถ้าคนชอบก็อ่านเอาความรู้ไป เรื่องนี้สำหรับกูคือเฉยๆ เพราะเคยอ่านจังแม่ทัพไปไถนามาก่อน แนวมันซ้ำ เช่นการทำถ่าน หาของกินในป่า+แม่น้ำ
>>573 กูมี่เอินออกได้ถึงห้าเล่ม กูว่าเก่งว่ะ เพราะไม่ใช่นิยายเน้นรัก เท่าที่กูเคยลองอ่าน มันก็สนุกน่ารักดีแบบเรื่อย ๆ กูชอบแม่ทัพไถนามากกว่า อาจจะเป็นเพราะมันมาก่อนมั้ง ถ้าไม่เคยอ่านแม่ทัพไถนาก็อาจจะชอบกูมี่เอินมากกว่านี้ แต่สำหรับกูก็ถือว่ามันเป็นนิยายดีเรื่องนึงว่ะ ฉีกความจำเจ ยิ่งเห็นนิยายหมวดอดีตท็อป ๆ ช่วงนี้แล้วยิ่งน้ำตาไหล
ตอนนี้กูยังหาอ่านแม่ทัพไถนาได้อยู่มั้ยมึง
https://writer.dek-d.com/lavender_blue/story/view.php?id=1772222
กูเห็นชื่อเรื่องแล้วแทบเบรกหัวทิ่ม โม่งคนไหนไปเขียนไว้รึเปล่าวะ 5555555555555555
เพื่อนโม่งใครเคยอ่านเรื่อง ท่านxญิงใunsะจn บ้าง พอดีวันก่อนกูไถเฟซ เห็นในเพจสนพ. คตค โปรโมท อ่านคำโปรยแล้วทวิภพผุดขึ้นมาในความคิดกูเลย อยากรู้ว่ามันเหมือนมั้ยวะ
>>581 เคยอ่าน คนเขียนคนเดียวกับเรื่องนางร้ายสายชิลอ่ะ คนเขียนเค้าก็ได้แรงบันดาลใจมาจากทวิภพนั่นแหละแต่มันก็มีความต่าง เนื้อเรื่องออกแนวเรื่อยๆ สุขนิยม อ่านแล้วเฉยๆ แก้เบื่อได้ ภาษาก็ดีกว่าท็อปเรื่องอื่น คนเขียนเค้าบอกไว้ว่าอยากเขียนเรื่องที่มันสบายๆ แก้เครียด ก็ตามนั้น
หญิงสาวเฝ้าสุสานคือความภูมิใจของเสิ่นเจิ้นไทยสินะ จนตอนนี้กูยังไม่เห็นเรื่องไหนคนชมมากเท่าเรื่องนี้เลยว่ะ
คู่ขย้ำบัลลังก์สนุกป่าววะ คือกูเจอตอนแรกแล้วเบรกไม่ซื้อเลย ยมทูตไทยจีนบ้าบอ ปัญญาอ่อน ไม่น่าใส่มาเลยว่ะ ถ้าสนุกนะเสียดาย
หยกผลาญใจ สนุกมั้ยอะ
ทำไมตำหนักนี้เงียบจังวะ
กูมีเรื่องจะถาม เนื่องจากไปถามตำหนักจีนแท้มาแล้วไม่ได้เรื่องที่ถูกใจเท่าไร เลยแวะมาถามที่นี่แทน
ใครก็ได้ช่วยแนะนำเรื่องที่มันเป็นแนวตลกๆ หรือกวนๆ ให้ที ที่อ่านแล้วมีขำอ่ะ ปกติกูไม่ได้อ่านเสิ่นเจิ้น แต่ช่วงนี้จีนแท้มันมีแต่ม่า เลยอยากพักตับบ้าง ถ้าได้ประมาณนิยายรักอลเวงหรือแม่ทัพออนท็อปงี้จะดีมาก ขอบคุณ
ตรงไหนมีสปอยล์หงสาประกาศิตบ้าง ขอวาร์ปหน่อยเพื่อนโม่ง แล้วภาคแรกนี่คือจบยังไง มีเรื่องค้างคาไหม
กูจัจองตี้ฮองเฮา ว่าน่าสนดีมีใครแนะนำได้ไหม
>>598 กูตามไปอ่านตยมา ชื่อเรื่องแม่งไม่ชวนอ่านเลย แต่ภาษาลื่นไหลดี อ่านไม่หงุดหงิด สนุกเลยละ เหมือนรวมฮิตพล้อตคุ้นๆที่ลงตัว เช่นคุณชายสามแต่งสีจัดๆ ตามสไตล์ตัวรองที่เด่นๆเพี้ยนๆ
ชายสี่หมี่เกี๊ยว พระเอกก็น่าหวีด แต่มาเขียนมุมฝั่งพระเอกกูเบื่ออ่านเรื่องซ้ำย้อนมุมมองมาก แล้วมันทำลายความลึกลับของพระเอกในใจกู55 ถึงไม่ชอบตรงนี้แต่เขาเขียนดีนะคลายปมที่คนอ่านก็แอบเดาได้แหละ ในเล่มจะมีมุมมองชายสี่อีกมั้ย
ทำไมเงียบงี้วะ เพื่อนโม่งช่วงนี้มีนิยายเรื่องไหนแนะนำมะ อยากอ่าน
>>569 กูไปอ่านตามคำแนะนำมึงมาแล้ว...กูชอบนะ
>>571 มันเป็นเรื่องที่พระเอกหน้าสวยเว้ย และแต่งงานกับนางเอกแล้ว มีลูกด้วยกันสองคน ครอบครัวรักกันดี เรื่องนี้พระเอกนางเอกเหมือนตัวประกอบที่เป็นตัวเด่น เพราะคนเด่นและน่าจะเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องจริงๆ คือแม่ท่านหญิงโฉมงามนั่น ซึ่งกูคาดว่านางอาจจะย้อนเวลามา แล้วก็มีทั้งฮ่องเต้ทั้งองค์ชายมาหลงรักนาง มันก็เป็นพล็อตที่ไม่ค่อยเห็นอ่ะนะเพราะคนเด่นคนสวยไม่ใช่นางเอกแต่เป็นท่านหญิงกับสามีนาง นางเอกไม่ซูนางทำเป็นแค่ขายชามั้ง ส่วนพระเอกคนนี้น่าจะซูและเป็นคนสวยหลงเมีย ภาษาดีเลยล่ะสำหรับกู คาดว่าคนเขียนน่าจะหาข้อมูลมาในระดับหนึ่งเลย อย่างตอนชงชาด้วยแก้วหยกที่บอกว่าใช้ได้ครั้งเดียวนั่น มีคำผิดบ้าง แต่คนเขียนอัพช้า
กูก็พยายามจะหานิยายมาแนะนำนะ แต่เรื่องที่พอใช้ได้จนถึงเรื่องที่จัดว่าดีก็ถูกแนะนำไปหมดแล้ว คุ้ยหาตามตำหนักเก่าพอได้อยู่ ตะกี้กูลองไปหาเรื่องใหม่จากพวกติดท็อป เปิดมาเรื่องแรกก็เจอแบบข้างล่าง ใครอยากรู้ว่าเรื่องอะไรไปหาอ่านเอง กูไม่ลงชื่อ
คนเขียนออกตัวว่าเพิ่งหัดเขียน ก็ต้องมีข้อผิดพลาดบ้างตามประสามนุษย์ ขอร้องอย่าทำลายกำลังใจเพียงแค่แตกต่างทางความคิด
ตะ...ตะ...แต่
บทแรก >>> "คุณหนู หนีไป อั๊ก ๆ"
บทที่สอง>>> มีคำเตือนว่าระดับความรุนแรงค่อนข้างมาก พออ่านลงไปก็เจอ แคว๊ก!! แคว๊ก!! แคว๊ก!! (เสียงเสื้อผ้านางเอกขาด โดนข่มขืน)
ด้วยความเห็นใจมือใหม่หัดเขียน กูจะไม่ตัดสินจากซาวด์เอฟเฟคสองบทแรก เลยข้ามไปอ่านบทล่าสุดเลยดีกว่า
บทที่สามสิบแปด>>> "เจ้ามันต่ำช้า! เจ้าฆ่าพี่ชาย.....ฟิ้ว!" ตามมาด้วย "อ๊ากกกกกกกๆ อ๊ากกกกกกกกกกกๆ" (เสียงร้องของชายหกคนที่โดนลงโทษ)
กูจะไม่ทำลายกำลังใจคนเขียน เพราะกูเป็นคนขี้วงวาร แต่ว่าน้องเอ๊ย ซาวด์เอฟเฟคไม่ใช่คำตอบของเหตุการณ์ตื่นเต้นเสมอไป
สรุป>> ไม่มีเรื่องใหม่มาแนะนำว่ะ
กูไม่ค่อยกล้าต่อว่านิยายที่คนเขียนใจบางอะนะ เว้นแต่ว่ามีชื่อสำนักพิมพ์ดังมาแปะอยู่หลังชื่อนิยายแล้ว กูก็จะขอต่อว่าบ้าง แต่ว่ากูเปิดอ่านเรื่องท็อปเรียงกันมา ทุกเรื่องออกตัวหมดเลยว่าเพิ่งหัดเขียนหรือเขียนเล่น ๆ ไม่คิดไรมาก ไม่ชอบก็กดปิด ทุกคนใจบางกันหมดเลย จนกูชักสงสัยว่า ถ้ามีคนไปบอกว่าน้อง ๆ ซาวด์เอฟเฟคของน้องทำลายซีนอารมณ์ของเรื่อง พี่อ่านเจอ "แคว๊กๆ" พี่นึกว่าเป็ดบินมาช่วยนางเอกพอดี น้องน่าจะสะกดไม้เอกไม้โทให้มันถูกนะ อักษรต่ำไม่ใช้ไม้ตรี ถ้ากูไปบอกงี้ เขาก็จะว่ากูไปทำลายกำลังใจ เดี๋ยวจะเลิกเขียน น้ำตาตกในมากมาย กูแปลกใจว่าคนเหล่านี้ไม่ได้ผ่านโรงเรียนมาหรือไงวะ ไม่ใช่จะบอกว่าเรียนมาไม่ดีนะ แต่จะบอกว่าไม่เคยโดนครูดุเหรอวะ เกิดมาไม่เคยโดนติเพื่อก่อเลยเหรอ ทำไมใจบาง ต้องเขียนป้องกันตัวเองมากมาย แล้วชาตินี้มึงจะพัฒนาภาษาไทยได้ไง กูไม่พูดถึงพัฒนาความเป็นนักเขียนหรอกนะ เพราะบางคนเขียนเป็นงานอดิเรกช่วงปิดเทอม แต่ว่าใจคอมึงจะออกตัวห้ามคนติแบบนี้ในทุกสิ่งที่มึงทำเลยเหรอ มึงอายุน้อยกว่าเจ็ดขวบกันเหรอ ถึงนึกว่าเพิ่งทำครั้งแรกแล้วห้ามติ งี้มึงจะเรียนรู้กันได้ไงวะ
ลอปอ กูไม่เคยติใครแรงนะ กูเป็นคนใจดีชิบหาย แต่กูก็ยังกลัวการติเพื่อก่อในนิยายเด็กดีอยู่ดีว่ะ
>>609 เห็นด้วยมาก นข.บางคนติไม่ได้เลยโกรธปึงปังเป็นวรรคเป็นเวร โดนติเรื่องภาษาที่ใช้หรือพิมพ์ผิดสะกดผิดอะไรก็ดราม่าได้หมด แล้วอย่างนี้จะพัฒนาตัวเองไปต่อได้ยังไง เจออย่างนี้ในเด็กดีสามสี่เรื่องหลังๆเลยไม่ได้เข้าไปอ่านอีกเลย ขัดใจภาษาวัยรุ่น
ปอลอ กูแทบไม่เคยเม้นติใครหรอกนะ เพราะมักจะเห็นมีคนช่วยเม้นติชมอยู่แล้วในเรื่องที่กูก็คิดว่านข.น่าจะปรับเปลี่ยน แต่เจอคำตอบนข.หลายๆคนแล้วก็เลิกอ่านดีกว่า เพราะคิดว่านข.คงไม่สามารถพัฒนาตัวเองไปได้มากกว่านั้นละ
>603 กูว่าที่อ่านได้แบบน่ารักๆเพลินๆก็เสน่หานวลนางว่ะ ถึงเรื่องก่อนนางเอกนางจะเทพทรูแมรี่ซูเกินก็เถอะ
มีนิยายมาแนะนำ อิเวร บุปผาเหนือมังกร คำผิดเยอะชิบหายตายหอง เยอะเหมือนคนเขียนไม่เคยใส่ใจภาษาไทยมาก่อน ผิดตั้งแต่คำโปรย หน้าข้อมูลเบื้องต้น ยันเนื้อหา กูแวะเข้าไปอ่านแค่บทแรก ถ้าเว้นวรรคถี่ชิบหายแล้ว คำผิดมีถี่ชิบหายยิ่งกว่า ผิดตั้งแต่คำง่าย ๆ ความเอาใจใส่เป็นศูนย์
กูหงุดหงิด ติดท็อปได้ไง คนอ่านทนอ่านได้ไง เห็นคำผิดแล้วอยากจับคนเขียนมาเรียนภาษาไทยใหม่(แต่กูไม่สอน!) สัส
กูอ่านชะตาพ่าย นางร้าย พลอตน่าสนใจดี เล่มแรกน่าสนใจอยุ่เล่ม 2 ที่เปิดผ่านๆ มันจะเริ่มกลับมาน่าสนใจอีกทีตอนไหน
กูอ่านไม่เกต ว่า จู่ๆ ทำไมนางจะร้าย นางจะส่งเสริมให้คู่นั้นรักกัน ทำไมไทเฮาถึงไม่ชอบพนะเอก มีเยอะที่สงสัย
>>612 มึงใจเย็นๆ นะ กูไปดูมาแล้วหงุดหงิดเหมือนกัน โอ๊ยยยยผิดตั้งแต่คำโปรยยันเนื้อหา
การติดท็อปดด. ไม่ได้การรันตีความสนุก ทุกวันนี้กูเลือกค้นจากการอัพล่าสุดแล้วไล่ๆ อ่าน คนเขียนดีทำการบ้านมีเยอะ แต่อาจไม่ใช่แนวนิยม เรื่องบุปปานี่ก็อัพทุกวันไง คนเปิดเยอะ ติดท็อปง่าย
นิยายที่กูชอบอ่านทำไมคนเขียนแมร่งไม่ค่อยอัพวะ กูล่ะเศร้ากว่าจะเรื่องที่ถูกใจก็ต้องรออีก แมร่ง
>>612 มึงไปว่าซะขนาดนี้ เดี๋ยวคนเขียนน้อยใจปิดเรื่องไป คนก็จะว่าโม่งใจแคบใจบาปหยาบช้า ไม่เปิดรับสิ่งใหม่ ถถถถถ
นิยายติดท็อปบางรุ่นก็โอ เป็นพวกคนเขียนที่เขียนมานานแล้วและมีคนติดตามเป็นฐาน แต่บางรุ่นก็อย่างที่เห็น รุ่นปัจจุบันนี้ต่ำกว่ามาตรฐานชนิดที่ว่าน่าตกใจ กูไปย้อนดูท็อปมาอีกที เรื่องบุปผาควักไข่ของโม่งมีสนพ.คว้าไปตีพิมพ์แล้ว เห็นมะ ควักไข่จนมีคนซื้อ แล้วจะพิมพ์ให้มันถูกทำไมวะ พิมพ์ผิดเข้าตากรรมการมากกว่า กูล้อเล่นอะนะ เด๋วมาอ่านแล้วน้อยใจชอกช้ำกูจะบาปหนา อย่าคิดมาก ขอให้ขายดี แต่ช่วยพัฒนาด้านภาษาไทยก็จะดีต่อตัวมึงเอง เวลาคนอ่านที่มีคุนตะพาบไปอ่านจะได้ไม่สะดุด แล้วจะได้เอามาอวยในนี้
กูก็ด้วยเรื่องที่กูอ่านคนเขียนอัพน้อยและช้าเลยยากแหละมึงที่จะเข้าท้อป จะไปสู้คนที่เขียนรัวๆไม่ดูสี่ดูแปดไม่ทานคำผิด เขียนอัพได้เสมอทุกวันได้ยังไง
กูเคยอ่าน นขบ่นว่าเวลาจะได้ตีพิมพ์ โดนสั่งแก้มากมาย บางทีแทบจะทั้งเรื่อง บางทีเปลี่ยนบางส่วนของเรื่องด้วย เงินก็ได้น้อย
สู้ทำอีบุ้คเองดีกว่า ตั้งสนพเองก็ได้ รีไรท์ตามที่ตัวเองเห็นสมควร
ฝั่งคนอ่านอย่างกูก็อดด่า สนพไม่ได้ว่าทำไมไม่คัดงานดีๆ หรือ ช่วยปรับตคุณภาพให้สมมาตรฐาน
กูว่านิยายออนไลน์ประกอบด้วยนักเขียนมือใหม่เยอะ แต่นักเขียนที่อยากพัฒนาตัวเองอย่างจริงจังมีน้อย ส่วนใหญ่อยากเขียนก่อนให้ได้คนอ่านเยอะๆ เขียนตามๆเค้าไปก็ไม่น้อย เขียนกากๆผิดๆก็มีคนอ่านเยอะแยะ เวลาใครติก็บอกใจบาง
กูว่ามันคือวิกฤตการอ่านเขียนแห่งชาติ ถ้าสนพมืออาชีพไม่เข้มแข็งมีจุดยืน คนอ่านก็จะอ่านของคุณภาพต่ำไปเรื่อยจนเคยชิน และคิดว่านี่คือโอเคแล้ว คนอ่านรุ่นใหม่ๆที่อยากขยับมาเขียนนิยายก็จะเริ่มที่มาตรฐานแบบนี้
>>619 กูจะเหลาให้ฟัง ถ้างานดีมีคนตามจริง เงินที่ได้จากสำนักพิมพ์กับทำเองต่างกันเยอะมาก คนเขียนมือเก่าที่เขียนมาสักหน่อยอาจจะพอประเมินได้เลยหันไปทำเองกันมากกว่า ที่สำคัญคือเงินค่าต้นฉบับบางที่มันไม่รู้จะได้เมื่อไหร่ ไม่รู้แก้งานแล้วคนตรวจจะตรวจทันไหม แก้แล้วจะออกมาดีไหม สำนักพิมพ์เองก็เอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้งเหมือนกัน แล้วบางทีก็คิดผิด แบบเก่าของคนเขียนสนุกกว่าอยู่แล้ว แก้ไปแก้มาออกหนังสือไม่ทันงาน บางทีอาจจะได้เงินช้ากว่าเดิมเพิ่มไปอีก 6 เดือน 1 ปี คนเขียนอยากจะรอไหมก็ไม่
คนเขียนมือดีสมัยก่อนเลิกเขียนไปเยอะเพราะระบบสำนักพิมพ์แบบนี้แหละที่ทำให้คนเขียนอยู่ไม่ได้ ส่งไปแล้วเปลี่ยนสำนักพิมพ์ก็อาจโดนแบนบอกเป็นมารยาท ส่งพิจารณา 3 เดือน ผ่านแล้วยังต้องรอแก้งานกันไม่รู้กี่เดือน แทนที่จะเอาเวลาไปเขียนเรื่องใหม่ต้องเอามาแก้งาน เงินที่ได้ก็ไม่ได้มากอะไร สู้ทำเองไม่ได้ สมัยนี้หลายคนที่ทำเองเขาจ้างพิสูจน์อักษรมาช่วยกันเยอะแล้ว ลองเปิดเล่มทำมือของบางคนดูมีชื่อคนพิสูจน์อักษรด้วย มาตรฐานบางทีก็ไม่ได้แตกต่างจากสำนักพิมพ์มากเพราะพิสูจน์อักษรบางคนก็คนจากสำนักพิมพ์นั่นแหละ หนังสืออาจจะแพงกว่าเพราะทุนสูง แต่ทำแบบนี้ไม่ต้องไปเสียเวลาแก้งานสามเดือนหกเดือน ไม่ต้องไปรอพิจารณา เอาเวลาไปเขียนไปวางโครงเรื่องใหม่ได้ทันที
ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องคำผิด กูว่าจริงๆ ควรจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างพิสูจน์อักษรกับคนเขียน นักเขียนมือใหม่หลายคนมีปัญหาเรื่องภาษา แต่ให้เขาไปแก้เองจนหมดเล่ม เปิดดูทีละคำว่าคำไหนผิดคำไหนถูกมันเสียเวลาเยอะมากแล้วจะมีพิสูจน์อักษรไปทำไม การทำงานตรงนี้พิสูจน์ตรวจแล้วเห็นคำไหนผิดบ่อยก็ส่งกลับไปแจ้งคนเขียน งานคราวหน้ารู้แล้วก็ผิดน้อยลงแล้ว หรือคนไหนถูกจองตีพิมพ์ พิสูจน์ก็ตรวจต้นฉบับในเว็บก่อนเลยก็ได้ ส่งคำที่ผิดบ่อยไปบอกนักเขียน มือใหม่มีประสบการณ์มากเข้าก็ดีขึ้นเองไม่ใช่รอให้เขารู้เองแบบนั้นเสียเวลาฉิบหาย งานสำนักพิมพ์ต้องช่วยกัน ถ้าให้อะไรๆ ก็คนเขียนจัดการ เขาไม่ออกไปทำเองก็แปลกแล้ว
สำนักพิมพ์ที่มีทุนพอจะซื้องานเขียนสร้างสรรค์ดี ๆ ไปตีพิมพ์ได้คือสำนักพิมพ์ใหญ่ที่มีเงินหนา มีหนังสือที่ขายได้มากมายในมือ แต่สำนักพิมพ์ประเภทนี้จะมาช่วยอุ้มหนังสือทุกประเภทมันก็ไม่ไหว ต้นทุนทำหนังสือบ้านเราพอ ๆ กับของฝรั่ง เพราะเราต้องสั่งกระดาษของเขา เครื่องจักรก็ของเขา แต่พอทำออกมาแล้วต้องตั้งราคาถูกกว่าเขาสามเท่าเป็นอย่างน้อย ยิ่งถ้าไปทุ่มกับปก นักวาดมีฝีมือ ก็ยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ คนไทยที่มีกำลังซื้อหนังสือมีอยู่จึ๋งเดียวถ้าเทียบกับคนทั้งประเทศ ดูสิสมัยนี้เหลือพิมพ์แค่ห้าร้อยเล่มก็ยังมี จากสามสี่ปีที่แล้วที่ว่าพิมพ์น้อยสุดก็พันเล่ม
งานเขียนจากพวกมือใหม่ความจริงจะให้ดีควรมีมืออาชีพช่วยรีไรต์ให้ แต่ทีนี้ตัวเงินมันน้อยไง เขียนเองทำขายเองแล้วยังต้องจ้างคนมารีไรต์ ถ้าคนรีไรต์เก่งจริง ๆ เขาก็คงไม่คิดแค่สี่ห้าพันหรอก เพราะงานมันหนักเกือบเท่าเขียนเอง ไหนจะต้องรีไรต์ให้เป็นภาษาของผู้เขียนอีกด้วย สรุปว่างานหนังสือไทยมันตกต่ำลงไปเรื่อย ๆ ก็เพราะตัวเงินนี่แหละว่ะ งานทำมือที่ทำออกมาได้ดีจริงมีน้อยมาก งานทำมือที่ได้เงินง่ายคือเล่นกับกระแส อันไหนกระแสดีก็ต้องรีบเขียนรีบขาย สำนักพิมพ์หลายแห่งก็มาเล่นกับกระแสเหมือนกัน ที่โม่งด่า ๆ กันว่างานห่วยเอาไปพิมพ์ได้ไง นั่นแหละสำนักพิมพ์ต้องการกระแส พิมพ์แค่พันเล่ม ได้เงินไว ๆ แล้วถ้าฟลุคมีคนซื้อเยอะก็สบาย ถ้าไม่ฟลุกก็ไม่เจ็บตัวมาก เพราะมีกระแสอยู่แล้ว อาจจะพอได้ทุน บางทีคนเขียนอยากตีพิมพ์มาก เขาให้เซ็นสัญญาแบบไหนก็ยอม ประเภทให้เงินตามจำนวนเล่มที่ขายได้ รับเงินทีละไม่กี่พัน สำนักพิมพ์ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องทุ่มเงินให้นักเขียนทันทีที่พิมพ์เสร็จ
กูว่างานขายตามเว็บแบบที่เด็กดอยทำเนี่ยดีที่สุดแล้วสำหรับหน้าใหม่ที่อยากได้เงินค่าขนม ถ้ามีคนอ่านเยอะก็ไปขายเมบ แต่โอกาสพัฒนาตัวเองมันจะยากเพราะไม่มีมือาชีพมาแนะนำให้ ไม่มีบรรณาธิการ นอกจากจะกล้าลงทุนจ้างบรรณาธิการมาช่วย ช่วงแรกอาจจะไม่ได้กำไรเลยเพราะเอาไปจ่ายให้บรรณาธิการหมด แต่มันคือความรู้ไง ต่อไปถ้าเก่งขึ้นก็ไม่ต้องมีบรรณาธิการช่วยแล้ว
งานหนังสือที่ผ่านมา เห็นนักเขียนดังๆทำบู้ทขายเองแล้ว สนพ.คงหนาวเหมือนกัน
>>623 สนพ ทั้งหลายจะได้ปรับปรุง เพิ่มส่วนแบ่งให้นักเขียนมากขึ้นและพยายาม "คง" เนื้อหาเดิมของนักเขียนเดิมไว้ กูว่าเหตุผลส่วนนึงที่นักเขียนหันไปทำมือเองคือสนพ ปรับให้เปลี่ยนเนื้อหานี่ละ ถ้าไม่เกินจะทน ก็น่าจะปล่อยผ่านได้ ไม่งั้นถ้ารีไรท์ตามสนพ บอกเนื้อหามันก็ไม่ออริจินอลสิ ที่สำคัญกูคิดเนื้อหามาหลายปี อยู่ๆ บอกให้เปลี่ยน ให้กูเขียนใหม่เลยง่ายกว่าป่ะ บางทีมันเป็นจุดสำคัญของเรื่องด้วย เปลี่ยนทีแทบจะรื้อเรื่องทิ้ง
>>623 ไม่ใช่แค่สำนักพิมพ์หนาว แต่นักเขียนที่ขายเองก็หนาวเหมือนกัน เพราะงานหนังสือมันต้องลงทุนลงแรงก่อนเป็นสามสี่เดือนกว่าจะได้ซักเล่ม แล้วที่เขียนออกมาก็ใช่ว่าจะขายดีขายหมดเร็วทุกเล่ม นักเขียนดังมีฐานหนังสือที่พิมพ์ซ้ำ พอจะกินเปล่าได้อยู่ แต่ก็ต้องผลิตงานใหม่เหมือนกัน ถ้าลงมาทำธุรกิจเองแล้วเวลาเขียนหนังสือก็มีน้อยลง นักเขียนเยอะเลยที่ไม่เข้าใจงานพิมพ์ ต้องมานั่งศึกษา ทำเสร็จแล้วต้องโปรโมตเอง ไม่มีสำนักพิมพ์ทำให้เหมือนแต่ก่อน แล้วต้องรับหน้าเองเต็ม ๆ เวลามีข้อติ ปกไม่สวย กระดาษไม่ดี กาวไม่ดี เล่มโน้นสวยกว่า ถ้าขายออนไลน์ก็ต้องห่อ ต้องส่ง ต้องขนไปไปรษณีย์ ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาทั้งนั้น
อ่าสหญิงสาวเฝ้าสุสาน สนุกดี เสียดาย เดาเรื่องง่ายไปหน่อย
ไม่รู้กูคิดไปเองเปล่านะ นิยายท็อปบางเรื่องตอนอยู่ในเด็กดีนี่ดังชิบหาย แต่พอออกเล่ม กระแสในกลุ่มที่เขาคุยกันแม่งมีแบบพล็อตยืดบ้าง ไม่สนุกบ้าง หรือไม่ก็บางเรื่องคือกระแสเงียบไปเลย เช่น เมียกระโดดกำแพง(ที่พวกเราตอดๆ กัน)
แต่ท็อปบางเรื่องก็ดังตลอดแหละ อย่างพวกจอมนางเคียงฯ เสี่ยวมาวมาว อะไรพวกนั้น
นี่พูดเฉพาะแค่ที่ติดท็อปนะ ถ้าเรื่องที่ไม่ติดท็อปแต่กระแสเล่มดีและแรงชิบหายกูว่าหญิงสาวเฝ้าสุสานว่ะ
ตอนนี้ในดด.มีเรื่องไหนที่พออ่านได้บ้างแบบไม่เสียอารมณ์กับคำผิดหรือเสียงเอฟเฟกต์เป็ดร้อง
ไม่ได้เข้านานเลยหลังจากปิดซ่อม ดีใจที่กลับมาเจอกัน
>>593 เรื่องตลกตอนนี้แนะนำ "ไถเฟิง", "ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นนกฮูก" (คนเขียนลำนำขนนก+บันทึกลับมหาดเล็ก), "คู่มือการใช้ชีวิตข้ามภพ" ไม่ถึงกับก๊าก แต่ก็ตลกๆ ดี (คนเขียนคู่มือนางกำนัล), "สามชาติสามภพ อภินิหารลูกแก้วมังกร" เรื่องนี้ประชดประชันสุดฤทธิ์ อย่างฮา (คนเขียนเรื่องหญิงดาว)
>>609 ฮาก๊ากเลย เป็ดมาช่วย ซาวด์เอ็ฟเฟ็กต์เยอะดี
>>617 กูแปลกใจเรื่องคู่มือนางกำนัล ไม่ยักมีสนพ.มาติดต่อไปพิมพ์ กูว่าเค้าเขียนดีนะ
ตอนนี้ที่ติดตามอยู่
อันดับ 1 ในดวงใจยกให้ ซื่อจื่อ ใครจะอ่านรีบๆ อ่าน เค้าจะปิดตอนแล้ว
ภาษาดี เรื่องราวสนุกชวนลุ้น คาดไม่ถึง มีแทรกมุกตลกเป็นระยะ และที่น่าแปลกคือเป็นนิยายที่แทบไม่มีเลิฟซีนเลย
อื่นๆ
มู่กั๋ว จะปิดตอนแล้วเหมือนกัน, จารนางในหมื่นพันดารา ภาษาดี เนื้อเรื่องอาจจะมีงงๆ บ้าง แต่ก็โอเคอยู่, หย่งเหิง, เหนือลิขิตรัก, พี่ใหญ่...ข้าไม่ชอบคนผู้นี้, หงส์สะบัดปีก, หนึ่งข้า หนึ่งอ๋อง, ลือเล่ห์นำรัก, หยุนซิงเย่, ชายาบัญชารัก (เรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก เน้นความหวานฟินของพระเอกนางเอกที่โตมาด้วยกัน อ่านแล้วก็อิจฉา)
ไว้เจอไรแล้วจะมาแนะนำใหม่
>>630 ไม่ทันซะแล้ว กูรีบเปิดไปอ่านซื่อจื่อ แต่เขาปิดตอนแล้ว ภาษาดี๊ดีแบบนี้ไม่เคยติดท็อป ขอให้ขายดิบขายดีแล้วกันว่ะ นิยายเรื่องอื่นที่มึงบอกมา กูเคยอ่านเกือบหมดเลย แต่บางเรื่องหยุดไปแพร้บเพราะเยอะเกิน เดี๋ยวค่อย ๆ ไปเก็บให้หมด
จารนางในหมื่นพันดารา ยังไม่เคยเห็น ต้องไปลองอ่านซะหน่อย นิยายพวกนี้ที่มึงว่ามาควรติดท็อปแทบทั้งนั้นนะกูว่า ถ้าการติดท็อปมันมีข้อแม้ว่าต้องใช้ภาษาที่ดีและถูกต้องอะนะ
เอ่อ กูทำผิดกฎไรอะ ทำไมถูกลบข้อความ แนะนำนิยายไม่ได้เหรอ
ง่ะ กูคือ 630 ตะกี้รีเฟรชแล้วไม่ขึ้น นึกว่าโดนลบ ขออภัย
>>602 ยังอยู่มั้ยวะโม่ง ไปซื้อสองเล่มมาอ่านจบยัง 55555 นี่ไม่ได้ตามมู้นี้เท่าไหร่ ซอรี่ จริงๆ กูอ่านนานแล้ว จำไม่ได้ว่ายังมีมุมมองคุณชายสี่อีกมั้ย แต่ลางๆ จำได้ว่าอาจจะมีตอนบทท้ายๆ มีมุมมองรัชทายาท สั้นๆ นอกนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นนางเอก จริงๆ กูว่าถ้าไม่ชอบก็อ่านข้ามได้ อย่างตัวอดีตชาติที่เป็นแม่ทัพปีศาจ กระต่าย กระรอกซัมติง กูพลิกผ่านเลย รู้สึกไม่จำเป็นกับพล็อตมากเท่าไหร่ และขัดกับอารมณ์-โฟลว์ของการดำเนินเรื่องในภพชาตินี้มาก
แนะนำอีกเรื่องนึงใน ดด. ที่อ่านเพลินๆ เรื่องข้าข้ามมิติมาเป็นตัวประกอบ ภาษาโอเค เนื้อเรื่องดีกว่าพวกท็อปๆ เยอะเลย
>>631 แปลกใจเช่นกัน ภาษาดี เรื่องสนุก ทำไมคนอ่านน้อย หรือเพราะเป็นเรื่องที่นางเอกมาเข้าร่างผู้ชาย หรือเพราะไม่มีเลิฟซีนวะ แต่เค้าเขียนสนุกนะ
ไปหาตราบชั่วฟ้าดินสลายที่มีโม่งแนะนำ แต่ดันไปเจออีกเรื่อง ตราบที่ดอกเหมยยังเบ่งบาน เฮ้ย งานดีนะ ภาษาดีเลยแหละ
เขียนค่อนข้างละเอียด อ่านแล้วนึกภาพตามได้ แต่คนที่ชอบการเดินเรื่องฉับไวอาจจะไม่ชอบตรงนี้
แต่บางช่วงก็เหมือนอ่านนิยายแปลจีนสไตล์ฝรั่ง ซึ่งตรงนี้กูอาจคิดไปเอง ไม่ใช่ในแง่ไม่ดีนะ ประมาณว่าเป็นลักษณะการคิดหรือการบรรยายที่ไม่ค่อยเจอในนิยายจีน
>>636 ตราบดอกเหมย กูตามไปอ่านแล้ว ภาษายังไม่เข้าที่ แต่นับถือคนเขียนที่มีความพยายามปรับปรุง มองออกเลยว่าเขาค่อย ๆ แก้ ตั้งใจทำงาน เขาเขียนในหน้าแรกว่าเพิ่งหัดเขียน กำลังแก้ไขให้ดีขึ้น แล้วก็ไปเรียนวิธีทับศัพท์จีน ตรงนี้กูขอตบมือให้อย่างแรง คนเราเขียนยังไม่ดีเรื่องแรก เรื่องต่อไปจะต้องดีขึ้นถ้าพัฒนาตัวเอง กูเห็นเขาเขียนจบไปแล้วตั้งหกสิบบท มียอดคนติดตามเยอะใช้ได้ แต่คนเม้นท์น้อยไปนิด คงเป็นเพราะเล่าเรื่องเรื่อย ๆ หรือเปล่า แต่ตรงนี้ไม่ต้องใส่ใจหรอก คนอ่านเด็กดีส่วนใหญ่ชอบเรื่องเร็ว ๆ ซู ๆ มาตรฐานงานต่ำ งานควักไข่ควักนมเลยขึ้นท็อปเร็ว
สวัสดี สวีดัด กูตามอ่านคำวิจารณ์ของนิยายกูมาตั้งแต่เรื่องแรกจนตอนนี้เรื่องที่สองวางแผงมาสักพักแล้ว
ขอบอกว่าอ่านแล้วหงอยแดกจ้า 55555 อันนี้คือฟีลลิ่งล้วนๆ
แต่แม่งโคตรมีประโยชน์ คือกูเสียใจแต่กูต้องรับฟัง แว๊บแรกกูอารมณ์แบบปกป้องตัวเองอ่ะ ไม่อยากscroll down ชิทททท กูหวั่นไหว กูแต่งห่วย ฮือ สักพักสงบลงกูเลยตั้งใจอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น กรอกหัวตัวเองว่าถ้ากูเอาแต่ปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไร ยังไงก็มีแฟนๆ ที่ชอบงานกู กับแค่คนในโม่งกูไม่ต้องแคร์มันก็พอได้อยู่หรอก แต่กูเป็นพวกsensitiveที่ชอบเอาชนะ ไม่ได้หมายถึงไปเอาชนะคนอื่นนะ หมายถึงเอาชนะตัวเอง ทำให้ดี ให้สำเร็จให้ได้ ไม่งั้นกูตายตาไม่หลับแน่นอน บางความเห็นกูตบมือให้เลย คือติแล้วกูเอามาปรับได้ แก้ไขได้ กูขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
เรื่องสำนวนนี่กูฉับฉน (ขออนุญาตใช้การเขียนผิดเพื่อออกเสียงให้ได้ฟีล) คือมีคนชมว่าสำนวนกูดี อ่านแล้วจีน เหมือนอ่านมกร. (กูพิมพ์ตามนักอ่านวิจารณ์นะ ไม่ได้อวยตัวเอง กูสาบาน T^T คำชมเล่นกูซะยืดไปสามวันเจ็ดวัน) แต่ในเมื่อบอกจุดเจาะจงลงมาว่ากูไม่แม่นเรื่องความหมายศัพท์กูก็จะพัฒนาและละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น เรื่องเว้นวรรคกูกราบขออภัยจริงๆ กูก็อปจากneo office มาลงแล้วแม่งทะเลาะกับเด็กดีตลอด ไอ้ที่ต้องเว้นดันติดเป็นพืด ไอ้ที่ไม่ต้องเว้นดันเว้นเป็นช่วงๆ พับผ่าเถอะ บางทีกูหมดแรงนั่งเคาะใหม่ กูเลยลงไปเลยเพราะคิดว่าตอนตีพิมพ์มันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว (คำว่ามักง่ายลอยมาแปะหน้าผาก)
ด้านคาแร็กเตอร์ตัวละคร ด้วยกูอาจยังติดสไตล์น้ำเน่าเห็นเงาจันทร์อยู่ทำให้มันไม่โอเค กูจะแก้ไขให้ได้เพราะกูไม่ชอบนิยายที่อ้างเวลาตัวละครคิดหรือตัดสินใจไม่สมจริงว่าเป็นแค่นิยายจะเอาอะไรมากเหมือนกัน คือไม่ได้หมายถึงไม่ชอบแฟนตาซีไรงี้นะ หมายถึงว่ามันต้องเรียลในเหตุการณ์หรือกรอบของเรื่องประมาณนั้น
ประการที่สอง กูฝากเฉาะเรื่องนี้หน่อย คือถ้ามันยังไม่ถือว่าพัฒนากว่าเรื่องก่อนๆ ในแง่ของสำนวน กูจะได้ทำอะไรสักอย่างกับตัวเอง จะรีไรต์อะไรก็ว่ากันไป https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1762966
// มาถึงตรงนี้รู้เลยสินะกูเป็นใคร แง้ แต่กูต้องการความตรงไปตรงมา กูไม่อยากย่ำอยู่กับที่ กูปวดใจเวลาคนเขาไม่รีวิวนิยายกูแต่รีวิวของคนอื่นทั้งที่ออกใกล้ๆ กัน (ขี้อิจฉา!) พิมพ์มายาวเหยียด เออ กูแม่งทะเยอทะยานหวะ 555555 ขอบคุณมาก
เรื่องที่ให้ลิ้งค์ไปใครเฉาะก็ได้นะ กูลงไปห้าตอน มันยังบอกทิศทางเรื่องไม่ได้แต่กูอยากให้ช่วยเฉาะสำนวนเพราะมันเป็นปัญหาหลักของเสิ่นเจิ้น
>>639 กูยังไม่กดลิงค์นิยายมึง ไม่รู้ว่ามึงเขียนนิยายเป็นยังไง แต่กูอ่านนิยายทั้งไทย จีน (ภาษาจีน) จีนแปลไทย ฝรั่ง กูขอบอกในฐานะคนที่อ่านภาษาจีนได้ ถ้ามึงโดนติสำนวนว่าไม่จีน ดูไท้ยไทย แต่ไม่ได้โดนติเรื่องใช้ภาษาไทยผิดความหมาย มึงจงเชิดใส่เลย เพราะแม้แต่งานจีนเอง ก็ไม่จำเป็นต้องแปลออกมาให้มันจีน มันขึ้นอยู่กับคนแปลว่าอยากให้ออกมาเป็นไทยแค่ไหน คนที่มักติงานเขียนของนักเขียนไทยว่าไม่จีน เป็นเพราะติดสำนวนจีน แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าคนอ่านอีกเป็นจำนวนมาก ต้องการอ่านสำนวนที่เข้าใจง่ายในภาษาไทย เพราะฉะนั้น เรื่องสำนวนจะไท้ยไทยหรือจี๊นจีนจึงเป็นความชอบ ความนิยม ไม่ใช่เรื่องที่มึงต้องใส่ใจ
ข้อสอง มึงพิมพ์มาลงแล้วเว้นวรรคไม่ตรง เคาะยาก เหนื่อย ปวดหมอง มึงก็หาโปรแกรมใหม่ที่มันเข้ากับกับเด็กดีได้สิวะ เท่านี้ชีวิตมึงก็จะมีความสุข ไม่ต้องอับอายใครว่ามึงเว้นวรรคไม่เป็น ในเมื่อมึงบอกว่าเขียนจนวางแผงมาสองเรื่องแล้ว มึงก็มีความรู้นี่ว่าการจัดหน้าที่สวยงามช่วยทำให้คนเกิดความประทับใจได้ยังไง แม้มันจะเป็นนิยายเว็บ เพราะมันทำให้มึงดูเป็นคนใส่ใจ๊ใส่ใจ ใคร ๆ ก็รัก ถถถถถถ
ช้อสาม สไตล์น้ำเน่าเห็นเงาจันทร์ กูไม่เห็นว่ามีอะไรผิด เพราะนิยายจีนประเภทดอกบัวรักชาติปางก่อน ม่านประเพณีศรีต้าหมิง อะไรเทือกนี้มันก็เน้าเน่า ก็เห็นดูกันจนจอแตก ถ้านิยายมึงมีคนอ่านพอเพียงอย่างที่มึงต้องการ มึงก็อย่าได้แคร์ มึงทำงานด้านนี้ มึงรู้นี่ว่าความต้องการคนเรามันหลากหลาย ทำงานสนองนี้ดคนกลุ่มนึงได้ แต่สนองคนอีกกลุ่มไม่ได้ เรื่องธรรมดา ญาญ่าสวยกว่ากูกว่ามึงแน่นอนก็ยังโดนด่าว่าดำ
ประการที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ขี้เกียจนับ ถ้ามึงอยากได้ใจคนอ่านนิยายจีนแปล หรืออยากเข้าถึงวัฒนธรรมจีน มึงก็อ่านวรรณกรรมจีนให้มากขึ้นอีก ถ้าอ่านภาษาจีนไม่ออก ลองอ่านงานแปลของหลินโหม่ว กูไม่ได้บอกว่างานเขาดีกว่าคนอื่น แต่งานเขาแปลแล้วมันมีกลิ่นภาษาจีนเยอะ ซึ่งกูไม่ได้บอกว่าควรเป็นอย่านั้น สำหรับกู มันยังไม่ดี มันทะแม่งเมื่อกลายเป็นไทย แต่กูอ่านภาษาจีนออก กูเลยรู้ว่าเขาแปลมายังไง แต่หลายคนอ่านไม่ได้ก็มี บอกว่าอ่านไม่รู้เรื่อง เหนื่อย ปวดหัว ถ้ามึงศึกษาจากงานเขา มึงจะเข้าใจจังหวะภาษาจีนมากขึ้น โดยที่มึงไม่ต้องไปทำตาม กูไม่แนะนำ เพราะมันเป็นภาษาที่ถอดความโดยคงความเป็นจีนไว้มาก จนถึงมากเกินไป
ประการแถม คนจีนชอบพูดสำบัดสำนวนตลอดเวลา เปรียบเทียมคำคมโน่นนี่ การนำเสนอนิยายจึงต้องมีสิ่งนี้แทรกเรื่อย ๆ แบบไม่ดูยัดเยียด แต่เป็นภาษาปากในชีวิตประจำวัน คนจีนชอบประชด กระแนะกระแหน แบบเดียวกับคนไทย แต่ด้วยวัฒนธรรมที่ต่าง จึงมีเรื่องด่าคนละเรื่อง ถ้ามึงศึกษาตรงนี้เพิ่ม มึงก็จะเห็นเองแหละ
ไว้ว่างแล้วกูจะไปเฉาะสำนวนนะ ตอนนี้ขอบึ่งมอไซไปซื้อของกินก่อน
>>639 มาให้กำลังใจและคำแนะนำเล็กน้อย
เรื่องที่เขียนๆ มาถือเป็นเสิ่นเจิ้นระดับดีนะ คือดีกว่าอีกหลายร้อยเรื่องในเว็บ
ภาษาโดยรวมดี การดำเนินเรื่องลื่นไหล เนื้อหาอ่านได้ฟินๆ เพลินๆ แนวมกร. ชอบเรื่องพี่ใหญ่
กลับไปอ่านที่โม่งเฉาะ เออ เค้าพูดถูกเรื่องการใช้คำผิดความหมาย
จะแนะนำให้เปิดพจนานุกรมมันคงลำบากเนาะ เพราะคนเขียนก็ไม่รู้ว่าคำไหนไม่ถูก จะเปิดเช็คทุกคำก็ไม่ไหว
เอาเป็นว่าคำไหนที่รู้สึกไม่แน่ใจก็ลองเช็คพจฯ ดูหน่อยละกัน อย่าลังเลแล้วฟันธงเองโดยไม่ค้น
แต่อย่างนึงนะ ถ้าอ่านหนังสือดีๆ มาเยอะ มันจะสะดุดได้เลย จะรู้สึกว่าคำนี้ในประโยคนี้มันแปลกๆ
นักเขียนอาจต้องไปเพิ่มทักษะด้วยการอ่านนิยายไทย
ส่วนสำนวนจีนๆ ก็คงต้องไปซึมซับจากนิยายจีน
>>639 ยินดีด้วยที่นิยายวางแผงถึงสองเรื่อง ขอให้ขายดิบขายดี และมีเรื่องต่อๆ ไป
ขอชื่นชมที่เอาคำติไปพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น ไม่จมอยู่กับที่
กดเข้าไปดูที่เอาลิงค์มาลงไว้แล้ว แต่ยังไม่มีเวลา ว่างๆ จะเข้าไปลองอ่าน แล้วจะกลับมาวิจารณ์ให้นะจ๊ะ
อันนี้นอกเรื่อง เลื่อนๆ ดู กูเคยอ่านแค่เรื่องเดียวคือชะตาฝันมั่นรักเองว่ะ แต่ไม่วิจารณ์ละกันเพราะไม่ใช่เรื่องที่มึงต้องการให้วิจารณ์ จบ.
>>640 โอย ม่านประเพณีศรีต้าหมิง ชอบบบบบ ขอบคุณมาก เอาเรื่องเว้นวรรคก่อน กูจัดย่อหน้าเรียบร้อยนะ มีแต่เรื่องเว้นวรรคที่ชั่วร้าย คือใช้macแต่มันไม่ได้ให้เวิร์ดมา มันมีแต่โปรแกรมที่ติดมากับเครื่องหนะ ตอนนี้ก็กำลังจะไปอัพเครื่อง เดี๋ยวจะสอยพี่เวิร์ดมาลงนะ ชีวิตจะได้ดี๊ดีและไม่มีปัญหากับเด็กดี ขอบคุณสำหรับคำแนะนำในย่อหน้าแรกมาก ได้กำลังใจ คือจะว่าไงดี เหมือนเออ ได้สติ...กูต้องปรับปรุงแต่ต้องเข้าใจในจุดนี้ไม่งั้นกูอาจถูกครอบงำหมกมุ่นกับเรื่องสำนวนจีนสำนวนไทยจนนิยายไม่ไปถึงไหน
กูอ่านนิยายจีนแปลมานานพอสมควร แต่อาจติดสำนวนไทยแบบที่คนเขาว่ากันก็คงเพราะมันเป็นสำนวนตัวกูเองนี่แหละ (อันนี้ไม่ได้จะกวนคนอื่นที่วิจารณ์นะ) แต่เหมือนนิยายแปลที่อ่านคนเขียนคือคนจีน กูอาจสำบัดสำนวนได้ยังไม่เท่าเจ้าของภาษา จะพยายามต่อไป ขอบคุณมากที่เสียสละมาพิมพ์ ขับมอไซดีๆ อย่าลืมใส่หมวก
ปล. ญาญ่าสวยกว่ากูก็ได้ กูคนละสไตล์ กูว่ากูคล้ายคิมเบอลี่
>>641 ขอบคุณมาก สะดุดประโยคนี้ 'ถ้าอ่านหนังสือดีๆ มาเยอะ มันจะสะดุดได้เลย' เพิ่งสำนึกได้ว่าช่วงหลังมาตะบี้ตะบันอ่านแนวจีนทั้งแท้ทั้งเทียมอย่างเดียวเลย ลืมนักเขียนฝีมือดีๆ ไปเยอะ ไม่ได้การ ต้องรีบไปขุดรุ่นเดอะที่เคารพมาอ่านแล้ว ต่อจากนี้คงระวังเรื่องการใช้คำผิดความหมายมากขึ้น
>>642 ขอบคุณมาก ที่ตั้งใจพัฒนาก็เพราะกลัววันหนึ่งถ้าไม่ดีขึ้นจะไม่มีใครอ่านอีก (ทำหน้าเศร้าน้ำตาปริ่ม) ถ้าว่างเมื่อไหร่ก็อัญเชิญ เรื่องที่ให้ลิ้งค์ไว้วิจารณ์จัดเต็มได้เลยนะ
>>643 อาจยังไม่หวือหวาพอให้คนเอามารีวิว ไม่เป็นไรๆ พยายามต่อไป ขอบคุณมาก
ใครอ่านลิ้งค์ที่ให้ไว้แล้วมาสับ เฉาะ ปอก เจาะ ทุบ อะไรได้ตามสบาย เดี๋ยวจะกลับมาอ่าน ขอบพระคุณอีกครั้ง
กูเคยอ่านเพียงรักสลักใจของมึง ซึ่งกูถือว่าสำนวนดี ภาษาลื่นไหล ไม่มีอะไรให้รำคาญ
แต่ช่วงกลางค่อนมาปลายเรื่องกูว่ามันติดจะขายฟินมากไป เรื่องมันไม่ไปไหนกูเลยมีความเบื่อๆ กูว่าความฟินกระชับๆก็ทำได้ ที่สำคัญมันน่าจะทำให้เรื่องไปข้างหน้า ผ่อนบ้างแต่มากๆไปมันเฝือ และเบาบางแต่นี่เป็นรสนิยมส่วนตัวของกูผู้ชาด้านกับความฟินไปแล้ว แค่เป็นหนึ่งความเห็นละกัน
เรื่องนี้กูอ่านไปตอนนึง กูยังไม่เจออะไรให้สับมาก สำนวนก็ได้มาตรฐานงานสร้างปกติของมึง ซึ่งกูว่าดี โอ้ยย พอโม่งมึงแตกกูพิมพ์มึงกูแล้วกระดากนิ้ว
เอาเป็นว่า เรื่องน่าติดตาม กูขอให้มึงกำพล๊อตให้แน่น อย่าเผลอไหลผ่อนอารมณ์นานไป เพราะปูconflict ส่อไปทางเข้มจ้นกว่าเรื่องเดิม กูเอาใจช่วย เดี๋ยวกูจะไปอ่านต่อ
>>639 ขอโทษด้วย เราไม่นิยมอ่านนิยายใน net แต่เห็นวางแผงเป็นเล่มตั้ง 2 เล่ม....บอกตามตรงปกติ ไม่อ่านนิยายเสินเจิ้น (ความจริงคืออ่านแหละ แต่ไม่รอด ยังไม่เคยเจอที่ถูกใจ....ลองหลายเล่มละ แต่อ่านจบและชื่นชมแค่เรื่องเดียว ) แต่ แต่ พอเห็นนักเขียนที่ต้องการคอมเม้นท์จริงใจ จากนักอ่าน ....บอกเลยว่าอยากหนับหนุน เผื่อว่าจะได้ช่วยเป็นกระดาษทราย ช่วยขัด ตัด แต่ง ได้มีเพชรเม็ดงาม มาให้เราได้เสียตังค์ (อย่างสุขใจ) ^ ^
ไว้เร็ว ๆ นี้จะหามาอ่านนะ แต่คงไม่รีวิวใน โม่ง เพราะมีพื้นที่ส่วนตัวใน blog ไว้รีวิวหนังสืออยู่ละ
>>645 นี่ก็รู้สึกกระดากเหมือนกัน มีน้องที่สนิทเตือนว่า พี่เล่นกูมึงเลยเหรอคะ ทำไมไม่แทนตัวว่าเราก็พอ โม่งแตกนักอ่านเขารู้แล้วสงสารเขา 55555 บอกน้องไม่ทันแล้วววว พี่เผลอเผยดาร์กไซด์ไปแล้ว (ขำๆ ไม่ได้ดาร์กอะไรหรอก) เรื่องนี้จะกำพล็อตให้แน่น ฉีกกฎตัวเองที่ปกติชอบแต่งแบบมีราชวงศ์อ้างอิง อันนี้สมมุติเองใหม่เลยทีเดียว คงต้องค่อยๆ ถีบเรือเป็ดไปแบบช้าๆ แจวรัวๆ แบบเรื่องอื่นไม่ได้ มาฟังคำวิจารณ์ในนี้แม้ตอนแรกแอบจุกแต่จะเอาไปปรับปรุงเรื่องที่กำลังจะลงมือเขียนได้ ดีๆ ขอบคุณมาก ได้อีกจุดละ ต้องผ่อนหนักผ่อนเบาพวกซีนฟินๆ ไม่ให้เฝือเกินไป
>>646 ถ้ารีวิวเสร็จแล้วหรือมีความคิดเห็นอยากติชมอะไร รบกวนช่วยหาทางสะกิดบอกเราด้วยนะคะ จะส่งข้อความลับในเด็กดีหรืออินบ็อกซ์เพจก็ได้ เราอยากฟัง ขอบพระคุณมากเลย
คือนี่แอบเกร็ง พูดมึงกูแต่กับเพื่อนที่สนิทจริงๆ 555555 ใครทราบแล้วว่าเราเป็นใครอย่าเพิ่งตกใจนะ ฮืออออ
>>639 กูคือโม่งเฉาะผู้ใจดี ความจริงในโม่งมันไม่ควรมีชื่อ แต่เวลาเฉาะกูจะใส่ไว้ เพราะคนตามอ่านจะได้รู้ว่าโม่งเฉาะเน้นแบบไหน ใครไม่ชอบนิยายสไตล์เดียวกับกูจะได้ไม่หลงไปอ่าน รู้สึกว่าโม่งตอดมันก็จะใจดีเหมือนกัน แต่เดี๋ยวนี้ไม่เห็นมา
กูข้ามพวกคำโปรยกับการตกแต่งไปเลยนะ เพราะมึงเป็นนักเขียนแล้ว มีผลงานแล้ว มึงรู้ดีว่าควรทำยังไง แล้วมึงก็เป็นคนเปิดใจมากด้วย กล้าเข้ามาขอคำแนะนำจากคนกลุ่มน้อย
มาที่บทนำ กูข้ามเรื่องสำนวน เพราะมึงมีสำนวนเป็นของตัวเองแล้ว และมันไม่ใช่สำนวนที่ต้องติ แต่แน่นอนว่ามันคือสำนวนที่ค่อนข้างไทย รวมทั้งบทสนทนาด้วย แต่กูย้ำอีกทีว่าไม่ใช่ข้อเสีย ถ้ากลุ่มคนอ่านของมึงชอบก็คือใช้ได้ แต่คนชอบงานจีนที่มีกลิ่นอายจีนก็จะเบ้ปากรัว ๆ สิ่งที่กูคิดว่ามึงทำดีได้มากกว่านี้คือ เลิกเขียนประโยคยาว ๆ ติดกันเป็นพืด อย่างเช่น
“จางเยี่ย...” เด็กหญิงหลังโต๊ะหนังสือตัวเตี้ยพึมพำชื่อของเด็กรับใช้ข้างกายคนใหม่ก่อนพยักหน้า “ใช้ชื่อเดิมนั่นละ...”
ประโยคแบบนี้อ่านรู้เรื่องมั้ย อ่านรู้เรื่อง แต่มันมีคำขยายรุงรังมากมายเกินจำเป็น ใช้แค่ “จางเยี่ย...” เด็กหญิงพึมพำก่อนจะพยักหน้า “ใช้ชื่อเดิมนั่นละ...” แค่นี้ก็พอแล้ว เพราะจากประโยคของมึงบรรทัดนี้ คนอ่านรู้อยู่แล้วว่าเด็กหญิงพึมพำอะไร ไม่จำเป็นต้องขยายความเลยว่าพึมพำชื่อเด็กรับใช้ข้างกายคนใหม่ แล้วถ้ามึงอยากให้รู้ว่าเด็กหญิงอยู่หลังโต๊ะหนังสือตัวเตี้ย มึงควรอธิบายไว้ก่อน หรืออธิบายออกมาทีละนิด ไม่ใช่มาใส่ในประโยคคำพูดที่ต้องการความต่อเนื่อง ทำให้ไม่เห็นความสำคัญว่าประโยคนี้ต้องการอะไร คนอ่านลืมไปหมดแล้ว เจอประโยคแบบนี้แล้วอ่านเหนื่อย และทำให้คนข้ามสิ่งที่มึงเขียนไปด้วย เพราะมันเยอะเกิน
มึงมีประโยคแบบนี้เต็มไปหมด เหมือนมึงติดว่าต้องขยายความ ยกตัวอย่างเพิ่มอีกเช่น
ชายวัยห้าสิบปีเศษท่าทางกระฉับกระเฉงทำความเคารพคุณหนูใหญ่ของตนก่อนชำเลืองมองไปยังเด็กชายเนื้อตัวมอมแมมซึ่งนั่งอยู่ที่พื้น
จูหรงเยี่ยซึ่งตามมาสมทบกับเจ้านายของตนและบ่าวไพร่คนอื่นแล้วลอบมองสตรีในชุดสีน้ำเงินเข้มท่าทางกระวนกระวายก้าวมาทางนี้
อย่างที่กูบอก อ่านรู้เรื่องมั้ย อ่านรู้เรื่อง แต่มันรุงรัง มันไม่เน้นความสำคัญในประโยคนั้น ทำให้งานเยิ่นเย้อเกิน
ยาวแล้ว กูไม่อยากเขียนยาวเกินไป เรื่องสำคัญที่กูอยากบอกมึงอีกอย่างคือแนวคิดของคนจีนโบราณ คนจีนโบราณมีเรื่องของชนชั้นเหมือนคนไทยโบราณ มึงเริ่มต้นด้วยการที่พระเอกมากับขบวนค้าทาส แต่ใช้การค้าแพรพรรณขนสัตว์บังหน้า ความจริงแล้วการค้าทาสยุคโบราณมันไม่ต้องปกปิด นอกจากมึงไปกวาดต้อนคนในปกครองของคนอื่นมาขาย ชนชั้นทาสมีค่าเท่าหมูหรือวัวควาย การค้าแพรพรรณต่างหากที่อาจจะต้องปกปิด เพราะราชสำนักหลายยุคผูกขาดสินค้าประเภทนี้ แต่นิยายมึงสร้างอาณาจักรขึ้นมาใหม่ กูถือว่าผ่าน เพราะมึงจะเซ็ตติ้งให้อะไรสำคัญกว่าย่อมได้หมด กูเพียงแต่บอกไว้ในแง่ความเป็นจีน
อีกกรณี ตอนคุณหนูมาซื้อทาส สั่งให้เอาน้ำให้ทาสกิน แล้วพ่อค้าคิดว่า ผู้ดีชอบแสดงน้ำใจพร่ำเพรื่อ ตรงนี้ก็เป็นหลักการคิดแบบไทยปัจจุบัน เพราะจีนโบราณมีชนชั้นชัดเจนอย่างที่กูบอก ทาสมีค่าเท่าหมูหมา ผู้ดีหรือคนรวยจะไม่แสดงน้ำใจพร่ำเพรื่อต่อทาสจนถึงขนาดพ่อค้าเก็บมาคิด เพราะถ้าใครทำแบบนั้นจะดูประหลาด หรือไม่ก็จะถูกยกย่องเป็นตำนาน คนส่วนใหญ่ไม่ทำ วิธีคิดของคนโบราณกับคนปัจจุบันต่างกัน มึงเอาน้ำใจในปัจจุบันไปใช้กับคนโบราณ มันก็จะไม่ใช่ รวมทั้งกรณีคุณหนูมาเลือกซื้อทาสเองด้วย มันเป็นไปไม่ได้เลย แต่เรื่องแบบนี้มึงจะมองข้ามไปก็ได้ มึงสามารถใช้จินตนาการให้เหนือความจริงได้ กูแค่บอกให้ฟังเฉย ๆ [พอดีกูนึกถึงเรื่อง Roots ที่เป็นซีรีย์ทาสคนดำ นั่นแหละ แนวคิดโบราณเป็นแบบนั้นทุกชาติ เจ้านายอาจจะรักทาสชิบหาย ไปไหนไปด้วยกัน แต่ถ้าทาสทำผิดหรือทำให้ไม่พอใจขึ้นมา เจ้านายสามารถตีทาสหรือทำทารุณโดยไม่รู้สึกอะไร เพราะค่าของคนมันไม่เท่ากัน มึงต้องนึกถึงจุดนี้ด้วยถ้าต้องการให้สมจริงแบบโบราณ แต่มึงไม่จำเป็นต้องแก้นะ กูบอกแล้ว]
พอดีกว่า เอาไว้คนอื่นมาเฉาะมาสับมั่ง อ้อ "ฟูเหริน" ต้องเขียนแบบนี้ ไม่ใช่ฟู่เหริน (จริง ๆ ต้องอ่านฟู้เหริน แต่มึงสะกด "ฟูเหริน" ก็ใช้ได้ เพราะราชบัณฑิตวางหลักให้ใช้แบบนั้น)
กูแค่อยากบอกว่า ในบอร์ดนี้มีกระทู้แชร์เทคนิคนักเขียน และในบอร์ดwebnovel มีกระทู้นักเขียนนิยายเสิ่นเจิ้น
>>648 ขอบพระคุณเป็นอย่างมาก เรื่องทาสนี่เบิกเนตรกูมาก อันนี้คุยกันเฉยๆ นะ กูว่ากูเก็ตประโยคนี้ 'เจ้านายอาจจะรักทาสชิบหาย ไปไหนไปด้วยกัน แต่ถ้าทาสทำผิดหรือทำให้ไม่พอใจขึ้นมา เจ้านายสามารถตีทาสหรือทำทารุณโดยไม่รู้สึกอะไร' เหมือนกับที่เคยอ่านนิยายหรือดูหนังบางเรื่องมา คือแม่งดูโคตรเมตตาทาสหรือบ่าวตัวเองแต่บทไม่ถูกใจขึ้นมา...เช่น ท่านอ๋องคนหนึ่งมีคนสนิท คนสนิทนี้ติดตามมาตั้งแต่เด็กรู้ใจกันสุดชีวิต อยู่มาวันหนึ่งพระเอกเจอนางเอกแล้วคนสนิทเกิดทำอะไรบางอย่างพลาดซึ่งมีผลกระทบไปถึงนางเอก น้ำใจและความเมตตาจะอันตธารไปอย่างรวดเร็วเพราะพระเอกจะดีร้ายก็มองนางเอกสำคัญกว่า ดังนั้นไอ้คนสนิท เอ็งโดนนนนน!!!
อันนี้กูเข้าใจนะ เหมือนที่อ่านนิยายจีนบางครั้งตัวเอกชอบโอ๋และเข้าข้างทาสหรือคนใช้ตัวเองมากๆ มันก็คือการใช้จิตใจของคนสมัยนี้แต่ง ไม่ว่าจะจีนหรือไทย แบบเหมือนสงสารเมตตาตัวละครที่ด้อยฐานะกว่างี้ ที่กูสรุป นิยายจีนโบราณบางเรื่องมันก็คือความคิดของคนปัจจุบันที่เซ็ตติ้งโบราณ บางเรื่องแม่งน้ำเน่า แต่ก็แล้วไง น้ำเน่าไม่มีอะไรเสียหาย แค่สิ่งที่กูต้องจับให้ได้คือเรื่องไหนสามารถดึงเอามุมมอง บรรทัดฐานการตัดสินใจ และreactionของคนสมัยก่อนได้กลมกล่อมที่สุด ซึ่งกูพลาดตรงนี้ กูอาจใส่หลักสามเชื่อฟัง ใส่พิชัยสงคราม ใส่ประเพณีนู่นนี่นั่น แต่ก็แม่งเหมือนคนทำเค้กที่คิดว่าเค้กอร่อยแน่เพราะกูใส่ไข่ตามสูตร แต่กูดันไม่ใส่ใจจะร่อนแป้งให้ละเอียด ไม่เลือกนมยี่ห้อดีๆ ออกมามันกินได้ แต่มันไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น กูจะไปปรับปรุงให้ดีเรื่องมุมมองพวกนี้
เรื่องภาษา อันนี้เล่มแรกกูโดนบก.เตือนว่าใช้คำซ้ำหนักมาก โดยเฉพาะคำว่า ที่ ซึ่งกูเปิดนิยายแปลของหลายๆ ค่ายมาอ่าน เออ เว้ย เขาใช้แต่ไม่เยอะขนาดกูจริงๆ ทำไมกูต้องติด'ที่'อะไรขนาดนี้ แล้วพอมึงบอกว่าเนี่ย กูชอบดับเบิ้ลขยายความประโยคจนมันยาวเหยียดเป็นพืด ระฆังในหัวกูสั่นเลย มันก็คือสาเหตุหนึ่งที่กูชอบใช้คำว่า'ที่' (ไม่นับคำเชื่อมอื่นๆ อีก) เพราะกูต้องวนมาขยายไปขยายมา กูคิดว่ามันคือการทำให้คนอ่านเห็นภาพ แต่ก็นั่นหละ ใช้บ้างไม่เสียหาย ใช้เยอะๆ มันเฝือและยืดยาว กูจะแก้ไขความเยอะของตัวเอง 55555 เรื่องฟูเหรินเดี๋ยวกูรีไรต์ใหม่แล้วแก้
เรื่องสำนวน อันนี้กูจะพยายามให้มันสมดุล คือแน่นอนแม่งต้องมีหลุดไทยบ้างอะกูพนัน T-T แต่กูรู้ว่ากูทำได้ดีกว่านี้ เหมือนเวลากูอ่านวายจีนกับวายตะวันตกแล้วกูแยกได้ มันมีกลิ่นอายของมันเอง กูบอกเลยว่าเรื่องต่อไปที่จะส่งสนพ.อาจจะยังคงมีสำนวนติดไทยอยู่เพราะกูดันมาเจอโม่งเฉาะช้าไป ฮืออออ แต่ก็ยังดี กูกำลังลงมือเริ่มเรื่องใหม่ เอาไปแก้ได้ทัน ขอบคุณมาก
>>649 เข้าใจๆ 555555 ตอนแรกกระดากเหมือนกัน เดี๋ยวคนต้องรู้ว่าเราเป็นใคร แต่ปกติภาพลักษณ์ก็ไม่มีอยู่แล้วเลยไปปล่อยกับสายลม แง้
>>652 https://fanboi.ch/webnovel/5295/recent/ แหล่งรวมนักเขียนนิยายเสิ่นเจิ้น
ไม่งั้นก็กดตรงขีดสามชั้นด้านบนสุดอะ ตรงแถบแดงๆ
มันจะโชว์กระทู้หัวข้อต่างๆ เข้าไปที่ Literature แล้วก็เลือกเข้าไปตามสบาย
กูว่ารวมๆแล้ว ห้องนึงมุมคนอ่าน ทั้งเฉาะทั้งสับทั้งโวยได้ถึงใจกว่าเมนท์ที่อื่นเพราะไม่มีดราม่าตามมาเท่ามึงไปเมนท์ในบอร์ดนิยาย แต่กูพบว่าที่นี่ด่าอย่างจริงใจ ชมอย่างเชื่อถือได้มาก นักเขียนต้องหุ้มเกราะให้พร้อมแล้วเข้ามาจะได้ประโยชน์กลับไป อีกห้องคือมุมคนเขียนที่ปรึกษาหาทางพัฒนาตัวเอง ซึ่งต่อให้กูด่างานเสินเจิ้นบ่อยๆ แต่ห้องนี้ก็ทำให้กูชื่นชมคนที่ไม่รู้แต่ไม่ได้มั่วไปก่อน ยังพยายามที่จะหาวิธีการปรับปรุง กล้ามาถาม ซึ่งมีโม่งใจดีไปตอบให้เยอะแยะ แหม่ โม่งลิทนี่ดีจริงๆ ฮิๆ
>>648 โม่งเฉาะมึงคิดถึงกูหรา
ส่วนเรื่องตะวันกล้าฯ >>639 กูเห็นด้วยกับโม่งเฉาะ ขอเสริมนิดนึง เอาแค่บทนำพอนะ
- คำว่า "มิ" ถึงแม้จะมีความหมายว่า "ไม่" และทำให้บรรยากาศดูโบราณขึ้น แต่การใช้ติด ๆ กันมันดูขัดตาพิกล จะเปลี่ยนไปใช้ทั้ง "มิ" และ "ไม่" ในเวลาเดียวกันมันก็กระไรอยู่ แล้วแต่นักเขียนแล้วกันว่าจะคิดยังไง
- คำว่า "หาก" จริง ๆ ตามพจนานุกรมไม่ได้มีความหมายว่า "แต่" เลย [(๑) ก. โบราณใช้เป็นกริยาช่วยหมายความว่า พึง, ควร, เช่น “อันไตรโลกย์หากบูชา” = อันไตรโลกย์พึงบูชา. (๒) ว. จาก, แยกออกไปอีกส่วนหนึ่ง, เช่น ออกหาก ต่างหาก. (๓) สัน. ถ้า, แม้, เช่น หากเธอมาฉันก็จะรอ (๔) สัน. เผอิญ เช่น หากอักนิฏฐ์พรหมฉ้วย พี่ไว้จึงคง (ตำนานเรื่องศรีปราชญ์), หากเดชพระจอมจุมพลป้องบไภยันต์ (บุณโณวาท)]
แล้วกูก็ยังไม่เคยพบในหนังสือหลักภาษาไทยว่ามีการใช้คำว่า "หาก" เป็นคำสันธาน/คำเชื่อมความขัดแย้ง (ถ้าใครเจอรบกวนบอกบุญ) งงนิดหนึ่ง เพราะนักเขียนส่วนใหญ่ก็ชอบใช้คำว่า "หาก" แทนคำว่า "แต่" มันคงฟังดูโบราณขึ้นมั้ง แล้วก็น่าแปลกด้วยที่คนส่วนใหญ่อ่านแล้วก็เข้าใจว่า "หาก" สามารถมีความหมายเป็น "แต่" ได้ แปลกดี
- "เสียงใสนั่นติดแหบเล็ก ๆ ก่อนจูหรงเยี่ยวัยสิบเอ็ดปีได้ยินเสียงร้องห้ามปรามวี้ดว้ายของสตรีจนอื้ออึง" ตรงนี้ต้องอ่านซ้ำอยู่หลายรอบว่าใจความของประโยคนี้คืออะไร เหมือนที่โม่งเฉาะว่านั่นแหละ ตัดคำขยายออกหน่อย ย้ายเรื่องการบรรยายอายุของจูหรงเยี่ยไปไว้ที่อื่นก็น่าจะทำได้
- "เมื่อลืมตาขึ้นมองก็พบดวงตาคู่คมซึ่งกำลังจ้องมองมา" นี่คือตัวอย่างของประโยคที่ควรตัดคำว่า "ซึ่ง" ทิ้ง ถ้าเหลือแค่ "เมื่อลืมตาขึ้นก็พบดวงตาคู่คมกำลังจ้องมองมา" แค่นี้ใจความก็ยังเท่าเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แถมยังกระชับกว่าประโยคเดิมอยู่หน่อยหนึ่ง
- "เนิ่นนานดั่งชั่วกัปชั่วกัลป์" เอาตามตรงนี่เป็นคำเปรียบเทียบตามปกติของไทยเลย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจีนเขาเชื่อเรื่องกัปกัลป์มั้ย แล้วคำเปรียบเทียบความนานของจีนแบบนี้เขาใช้กันมั้ย คิดว่าบางทีอาจลองหาสำนวนจีนที่ใช้เปรียบเรื่องระยะเวลานาน ๆ มาใช้ น่าจะให้ความเป็นจีนได้มากกว่า
- ส่วนตัวแล้วกูชอบย่อหน้าสุดท้าย ตรง "หลายสิบปีจากนี้ผู้คนเล่าขานฯ" เป็นพิเศษ
ป.ล. อักษรต่ำไม่สามารถใช้กับไม้ตรีได้ เพราะมันไม่สามารถอ่านออกเสียงได้ เช่น วี๊ด ต้องใช้ว่า "วี้ด", มั๊ย ต้องใช้ว่า "มั้ย" << ในกรณีภาษาพูดน่ะนะ
>>657 กูคิดถึงเวลามึงตอดแล้วขำดี กูจะได้ตามไปอ่าน
คนเขียนนิยายตะวันกล้าฯกูมองว่าพัฒนาได้มาก ไม่ใช่พัฒนาได้เพราะมาถามโม่ง เพราะโม่งแม่งก็มีโม่งดีโม่งเลว โม่งด่าเอามันไม่สร้างสรรค์ก็เยอะ ด่าไม่มีเหตุผล ด่าผิด ๆ ถูก ๆ ก็เห็นออกบ่อย แต่ที่จะไม่มีคือโม่งประจบ โม่งเลีย ส่วนใหญ่นิยายที่โม่งชมมักจะดีจริง แต่สนุกหรือไม่สนุกถูกใจคนก็เป็นอีกเรื่อง
คำว่า "มิ" ที่โม่งตอดพูดถึง มันมาจากการที่รูปประโยคจีนมีปฏิเสธซ้อนปฏิเสธ เช่น "มิอาจไม่กระทำ" คนแปลจีนยุคนั้นเลยใช้คำว่า "มิ" เพื่อไม่ให้มีคำว่า "ไม่" ซ้ำกันในประโยคเดียว คำว่า มิทราบ มิควร มิกล้า มิบังอาจ จึงพลอยพบบ่อยในนิยายจีน แต่ของไทยโบราณเองก็ใช้เหมือนกัน เช่น มิได้รังเกียจเดียดฉันท์ กูเห็นด้วยกับโม่งตอดว่า มีได้ แต่ให้ระวัง อย่าใช้จนเฝือ นิยายจีนแปลยุคใหม่ลดคำเหล่านี้ลง บางคนบอกว่าฟังดูไม่โบราณ แต่กูมองว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงมิติใหม่ อีกหน่อยคำว่า "ข้า เจ้า" อาจจะกลายเป็น "กระผม คุณ" แม้แต่นิยายยุคราชวงศ์ถังก็เป็นได้ เพราะความโบราณของภาษามันจะขยับไปเรื่อย ๆ
>>659 มึงไปเอามาจากไหนนนนน กูก็ว่าทำไมนิยายที่อ่านปีหลังๆมานี่คนใช่คำว่าหากแทนคำว่าแต่กันเยอะจัง หากนู่นหากนี่ แต่ไม่เห็นมีเงื่อนไขมีผลของเงื่อนไขเลย สรุปคือมีหลายคนคิดว่า หาก = but นี่เอง ตายๆๆๆๆ ภาษาไทย แถมบางทีใช้แต่ในเนื้อความที่มันไม่ขัดแย้งกันไปอี๊กกก สิ้นหวังแล้ว orz
>>657 ขอบพระคุณมากที่ไปอ่านและมาบอก ฟีลตอนเขียนแล้วอ่านทวน กับฟีลเขียนทิ้งไว้แล้วกลับไปอ่านอีกครั้งมันต่างกันจริงๆ อย่างประโยค "เมื่อลืมตาขึ้นมองก็พบดวงตาคู่คมซึ่งกำลังจ้องมองมา" คือกูอ่านถึงแค่นี้กูรู้เลยว่ามึงจะบอกให้กูตัดอะไร 5555 แล้วทำไมตอนอ่านทวนเอง ณ เวลานั้นมันลื่นไปได้ก็ไม่รู้ เดี๋ยวไปจัดการต้องกลับไปสแกนกรรมเรื่องนี้อีกรอบ
เรื่อง 'หาก' เป็นอย่างที่ว่ามาจริง เรื่องมันเป็นมางี้...เมื่อก่อนจะใช้คำว่า แต่ แต่ แต่ และ แต่ นานๆ ไปรู้สึกมันซ้ำ บางครั้งparaphraseให้มันเป็นประโยคขัดแย้งในตัวแล้วก็ยังไม่โอ คราวนี้อ่านนิยายไปเรื่อยๆ พบว่ามีการใช้'หาก'เพื่อเป็นตัวทำให้กลายเป็นประโยคขัดเหมือน but จึงนำมาใช้กัน ซึ่งกูรับมาด้วยอีกคน(เหงื่อตก) ถ้าไม่นับในบทนำของตะวันกล้าหรือบางครั้งที่หยิบมาใส่แทนแต่ กูคุ้นเคยกับการใช้'หาก'แทน'ถ้า'
สำหรับย่อหน้าสุดท้าย แต้งกิ้วหลายๆ
>>658 ขอบคุณมาก กูมาเก็บเกี่ยวเอาคำวิจารณ์ไปสแกนความผิดของตัวเองแล้วแก้อีกครั้ง
กุเพิ่งรู้เนี่ยแหละว่ามีคนใช้หากแทนแต่ด้วย นี่คือกุรอดใช่ไหมที่อ่าน ๆ มาแล้วไม่เคยเจอ
กูว่า
กูยังพิมพ์ไม่จบมือลั่น
กูว่าต่อนะ คนเขียนทานเองยังไม่พอ มึงควรหาคนอ่านให้มึงอีกชั้น เพราะเขียนเองมันก็ไหลออกมาตามธรรมชาติและสไตล์ตัวเอง มันสแกนกรรมไม่รอบหรอก ให้คนอื่นอ่านทาน แล้วค่อยมาพิจารณาว่าควรปรับไม่ปรับตรงไหน สนพถึงมี บก และพิสูจน์อักษร เอ้ะ เดี๋ยวนี้ยังมีอยู่มั้ย
>>665 สำนักพิมพ์ที่ทำงานได้มาตรฐาน มีบรรณาธิการและมีพิสูจน์อักษร แค่บรรณาธิการคนเดียวถ้าเก่งจริงก็สามารถเรียบเรียงให้ใหม่ได้ด้วย ช่วยแก้ให้ได้ บรรณาธิการบางคนอาจไม่ถนัดช่วยแก้ แต่รู้ว่างานดีหรือไม่ดี แนะนำได้ ถ้านักเขียนใหม่ได้บรรณาธิการอย่างแรกจะโชคดีมาก
สแกนกรรมให้ได้ผล ต้องทิ้งงานไว้ระยะนึงเลยแล้วมาอ่านใหม่ ไม่รีบส่งสำนักพิมพ์ แต่เขียนเรื่องใหม่ไปก่อน แล้วค่อยย้อนมาอ่านเรื่องเก่า จะเห็นเองเลยว่าฝีมือเราตอนนั้นยังไม่ดี เพราะคนเรามันเก่งขึ้นในทุกวัน ถ้าเขียนทุกวัน อ่านทุกวัน ทักษะจะดีขึ้น กลับไปแก้งานตัวเองได้ นักเขียนที่ไม่จำเป็นต้องรีบส่งรีบเอาเงิน ถ้าทำแบบนี้ได้ รอไประยะนึงแล้วกลับไปอ่านแล้วแก้ไข งานมึงจะพัฒนามากเลย
>>665 >>666 สำนักพิมพ์มีคนไม่พอต้องมีเวลาให้ด้วย บางทีให้เวลาพิสูจน์อักษรทำงานน้อย วันสองวันงี้ตรวจทานต้นฉบับก็หลุดกันประจำ แต่ถ้าหลุดมาน้อยๆ ก็รับได้อยู่
ส่วนบรรณาธิการนี่เห็นต่างหน่อย นักเขียนใหม่ถ้ามีแบบบอกได้ว่างานดีหรือไม่ดีแนะนำให้น่าจะดีกว่า นักเขียนที่เริ่มขายแล้วกับยังไม่ขายกรอบความคิดต่างกันอยู่ คนขายแล้วจะเริ่มคิดถึงยอดขายกันมากขึ้น มองหาปัญหาว่าเกิดจากอะไรตรงไหน มองความต้องการนักอ่านมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่ไปมองพวกคอมเมนต์ในนิยายอะไรแบบนั้นหรอกนะ แต่ถ้าคนขายแล้วเขาจะเริ่มจับได้เอง ส่วนคนยังไม่ขายก็จะออกแนวเขียนแบบที่อยากเขียน ที่คิดว่ามันดี แต่จะให้ผ่านสำนักพิมพ์มันต้องดูว่างานมันขายด้วยหรือเปล่า ส่วนการเรียบเรียงบรรณาธิการแต่ละคนก็มีแนวทางทำงานของตัวเอง บางคนไม่เหมาะกับนิยายแนวหนึ่ง จากงานที่สนุกกระชับเปลี่ยนเป็นเนิบช้าน่าเบื่อแทนก็มี อันนี้กูว่าดวงด้วยอย่าไปคิดว่างานสำนักพิมพ์ทำแล้วออกมาดีหมด คนเขียนต้องลองทวนเองบางทีนักเขียนหน้าใหม่ทวนแล้วก็สงสัยตัวเองว่าตัวเองผิดหรือเปล่า อันนี้ต้องลองพยายามตัดอคติออกแล้วอ่านอย่างเป็นนักอ่านดู
แต่ถ้าใช้เวลากับงานเขียนมาก แนะนำว่าอย่าคิดไปเป็นนักเขียนอาชีพ เขียนเป็นจ็อบรองเป็นงานอดิเรกก็พอ เพราะเงินจะหมุนไม่ทันนะ
>>667 เห็นด้วยเรื่องบรรณาธิการ บางคนจะพิจารณาเนื้อเรื่องทั้งหมดและแนะนำจุดบกพร่องหรือจุดที่ควรจะเสริม แต่บางคนก็ดูแค่เรื่องภาษา พวกการใช้คำถูกความหมายรึเปล่า ไรงี้
เคยได้ยินเรื่องของคนนึง ไปเสนอหลายสนพ. มีแห่งนึงพร้อมจะตีพิมพ์มาก แต่อีกแห่งนึงบก.วิจารณ์ซะนักเขียนเสียเซลฟ์ คือต้องรื้อเขียนใหม่หมด ไม่รู้ป่านนี้เขียนใหม่หรือว่าเลิกเขียนไปแล้ว
ก็แล้วแต่จะพิจารณากันอะนะ เห็นบางคนก็ไม่ง้อสนพ. ทำอีบุ๊คขายเอง
ว่าแต่ใครช่วยยกตัวอย่างประโยคที่ใช้คำว่า หาก ในความหมายว่า แต่ มาหน่อยได้มะ นึกไม่ออก
>>669
>>670
อืม กูคิดออกที่เคยเจอมารูปประโยคประมาณนี้
บีหนึ่งมองเห็นโกโก้ครั้นช์วางอยู่บนโต๊ะ หากไม่สามารถเอื้อมไปหยิบได้เพราะตัวเตี้ยเกินไป (โปรดอย่าสนใจบีหนึ่งกับโกโก้ครั้นช์)
หรือ บีสองมองหน้าพี่ชายด้วยความเย้ยหยัน หากในใจลึกๆ ยังคงแอบเวทนาเขา ซึ่งในกรณีนี้ 'หาก' คือ 'แต่' เพราะถ้าหากคนเขียนทราบว่า 'หาก' มีความหมายว่า 'ถ้า' จะไม่เขียนออกมาในรูปแบบนี้ เพราะมันจะกลายเป็น...บีสองมองหน้าพี่ชายด้วยความเย้ยหยัน ถ้าในใจลึกๆ ยังคงแอบเวทนาเขา
ซึ่งมันไม่เมคเซ้นส์
คำว่า หากแต่ว่า มันมีปะวะ
เรื่อง หาก กับ แต่ นี่ถกกันได้ข้ามวันเลยนะ 55555
สองกระทู้นี้น่าสนใจ https://pantip.com/topic/31711374 กับ https://pantip.com/topic/33704511
คือ "หาก" นี่นอกจากจะมีความหมาย "ถ้า" "แต่" (ตามที่เราคุย ๆ กัน) ในกระทู้สองยังใช้ในความหมาย "และ" อีกด้วยว่ะ ซึ่งกูเจอมาหมดเลย บางทีอาจจะใช้มาแล้วด้วยซ้ำมั้ง
ตอนนี้กูยังไม่เคยอ่านบทความหรืออ่านใครพูดถึงเรื่องนี้นะ แต่ถ้าไม่ลืมจะถามผู้รู้ละมาบอก
เออ อีกคำหนึ่ง "กระนั้น" [ว. นั้น, ดังนั้น, อย่างนั้น.] ก็เจอว่าใช้ในความหมาย "แต่" เหมือนกันนะ เช่น เขาหิวมาก กระนั้นเขากลับขี้เกียจลุกไปหาอะไรกิน
ซึ่งถ้ามองแบบเคร่ง ๆ ก็น่าจะเป็นการใช้คำผิดความหมาย หรือถ้ามองแบบอะลุ่มอล่วยมันก็จะเหมือนเป็นวิวัฒนาการของภาษา ที่ภาษามีการเปลี่ยนแปลงความหมายหรือเกิดความหมายใหม่ขึ้นมาอะ หรือไม่ก็อาจต้องมองความหมายตามบริบท กูก็ไม่ชัวร์
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.