สวัสดี
Last posted
Total of 1000 posts
สวัสดี
ตำหนักที่ 1 ---> https://fanboi.ch/literature/4172/
ตำหนักที่ 2 ---> https://fanboi.ch/literature/4500/
____________________________________________________
.
*** Doc***
.
หอตำราโม่งจีน(เก๊) Ver. beta ไม่พอใจก็ไปแต่งเองสิ >> https://drive.google.com/open?id=1P5itSLfxuYZrmvEnHBfXWZBMmCR0QJJvds8Pdg45BMM
>> รวมลิสต์นิยายเซิ่นเจิ้นที่เพื่อนโม่งร่วมสับ/ความเห็นหลังอ่าน/ความเห็นเกี่ยวกับสำนวนภาษาในการแต่ง/พล็อตเรื่องแรงบันดาลใจ สามารถเพิ่มเติมความคิดเห็นได้เรื่อยๆ
กูเพิ่งสังเกตว่าไม่ได้อัพหอตำรากันเลยว่ะ
นั่งเกี้ยวตอดคมสันต์เข้าตำหนักอย่างเอื่อยๆ
แบกเกี้ยวมาเข้าตำหนัก
ไม่ว่างอัพเบยเมิง งานรุมเร้า
แต่เข้ามาอ่านเรื่อยๆนะ
กุเจิมแบบมู้อื่นได้มั้ย กุเจอนิยายเสินเจิ้นเรื่องนึงข้อมูลแน่นชิบ เรียกเสินเจิ้นได้มั้ย
เดินเข้ามาสวยๆ ต้มน้ำชาแจก
ใครก็ได้เอาลิ้งก์ที่ทำสารบัญสับมาแปบด้วยสิวะ
ช่วยแล้วนะ
อวย+สับนิยาย ทั้งห้องลิตและห้องเว็บโนเวลที่ดอยมาจากเพื่อนโม่งอีกที
Ice Queen >>>/literature/4172/280/
กลนาง >>>/literature/4172/456/
นางหงส์ >>>/literature/4172/280/465
พระสนมย่มวัง >>>/literature/4172/280/465-466/
จินเสวี่ยนหวาง >>>/literature/4172/471/
จอมทัพคู่บัลลังก์ >>>/literature/4172/472/
ซุปตาร์ข้ามภพ >>>/literature/4172/488/
เจิ้งฝูสือ จอมนางตำหนักเย็น >>>/webnovel/4265/875/ และ >>>/literature/4172/873/
ชิงบัลลังก์นางหลงยุค >>>/webnovel/4265/906/
ไลฟ์สไตล์เจ้าหญิงอัปลักษณ์ ( รอบแรก ) >>>/webnovel/4265/915/
หนึ่งใจพยัคฆ์ >>>/literature/4172/808/
ฮองเฮาเจ้าเสน่ห์ ฮ้องเต้เจ้าสำราญ >>>/literature/4172/809/
เกี้ยวรักข้ามภพ >>>/literature/4172/814/
ฮูหยินได้โปรดอย่าลวนลามข้า! >>>/literature/4172/822/
เสี่ยวตี้,จงมาเป็นฮองเฮาของข้าเถอะ! 《小弟,来当我皇后吧!》 >>>/literature/4172/825/
กินเด็ก [หุบปากซะ ข้าไม่ใช่มารดาเจ้า!] >>>/literature/4172/837/
เฟยหลิง >>>/literature/4172/853/
พญาอินทรีย์แห่งวังหลวง (故宫的老鹰) >>>/literature/4172/854/
ไป๋อิง นางมารวังหลัง >>>/literature/4172/855/
วาสนาชะตารัก >>>/literature/4172/862/
ชายาจารชน(เรื่องเก่าคือท่านอ๋อง ข้าสตรีมิได้มีดีแค่อุ่นเตียง) เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามปากกาใหม่กลับมาอัพเหมือนเดิมหลังจากหายไปชุบตัวมา >>>/literature/4172/863/
จินหวังเฟย >>>/literature/4172/864/
เล่ห์หงส์เหลี่ยมมังกร >>>/literature/4172/874/
หงส์พิทักษ์บัลลังก์ >>>/literature/4172/875/
หงส์เกี้ยวมังกร >>>/literature/4172/876/
ลิขิตรักอลวน เทพสวรรค์อลเวง >>>/literature/4172/877/
เพื่อนโม่งขี้เกียจสับทีละน้อย เหมามาทีละเข่ง
**** หมวดที่ 1 : คำโปรยบอกว่านางเอกเป็นพวกสวะ/ขยะ/ไร้ค่า/ไร้ประโยชน์/ไร้พรสวรรค์ ของท็อป 1-100 วันที่ 25 ก.ย. 60 ****
เฟยหลิง >>>/literature/4172/910/
หลินซูเหยา >>>/literature/4172/910/ และ >>>/literature/4172/915/
ลี่ลี่ จอมฉ้อฉลน้อย >>>/literature/4172/910/
จินเหมย >>>/literature/4172/911/
พระชายารั่วซี >>>/literature/4172/911/
จอมใจอ๋องปีศาจ
>>>/literature/4172/911/
****** หมวดที่ 2 : ชื่อเรื่องไม่เกิน 4 พยางค์ ของท็อป 1-100 วันที่ 26 ก.ย. 60 *****
บุปผาลวงภพ >>>/literature/4172/951-953/
ว่านฮองเฮา >>>/literature/4172/966/
ซูฟางเซียน >>>/literature/4172/966/
หวน >>>/literature/4172/966/
เหอซือเมี่ยว >>>/literature/4172/992/
เฟิ่งหวง >>>/literature/4172/992/
จอมใจนางหงส์ >>>/literature/4172/993/
ชายามังกร >>>/literature/4172/999/
เอาไปเท่านี้ก่อน ก๊อปมาจากด้านบนกระทู้เก่า
มู้รันโคตรเร็ว
เออ เห็นมีคนพูดถึงกั๊บแก้ตามหาโซโหที่ตำหนักก่อน ไปอ่านงานของเค้ามา สำนวนภาษาธรรมดา แต่เนื้อเรื่องแปลกใหม่ เป็นวงศ์วานตัวละครในสามก๊กมาเกิดใหม่ในไทย (แบบนี้เรียกเสิ่นเจิ้นป่าวหว่า) nc บ่อยเหมือนกัน สะท้อนหลักธรรมชาติ กิน ขี้ อี้ นอน
แต่เนื้อหาพูดถึงเรื่องธุรกิจการทำงานเยอะอยู่นะ อ่านๆ ไปก็สนุกดี
>>18 คนไทยแต่ง เขาศึกษาข้อมูลก่อนแต่ง ใช้ได้เลย แต่กูไม่ได้อ่านนะ พอดียังไม่มีเวลาอ่านจริงจัง ตอนนี้ตามอยู่แค่สองเรื่อง เนื้อเรื่องมันหนักแล้วตัวละครเยอะ กูเลยรอให้จบเป็นเรื่องๆไปก่อน คำว่าเสิ่นเจิ้นดูเหมือนโม่งจะใช้กับนิยายจีนคนไทยแต่งทุกเรื่อง แล้วจะน้ำดีน้ำเสียก็ต่อท้ายไปเอง ส่วนใหญ่จะน้ำเสีย แต่น้ำดีก็เห็นมีชมๆกันอยู่ กูก็ตามอ่านไปกับเขานี่แระ
หยกเผาใจนี่สนุกมะ วันนี้กูไปเปิดอ่าน สิ้นเยื่อใย มาได้ 4-5 ตอน เอ่อ กูอ่านไม่รอดว่ะ
นี่โม่งที่เขียนเฝิงมี่หรง จอมนางตำหนักเย็นเองนะจะมาบอกว่าล่าสุดตัดสินใจลบนิยายทุกเรื่องออกไปแต่งจบแล้วค่อยมาทยอยลงดีกว่า ลงแบบบทต่อบทแล้วมันไม่เวิร์คเพราะแต่งช้าลงช้า
Ky อันนี้นอกเรื่องนิด ตั้งแต่เห็นไอดีตั๊บแกในเด็กดอยก็มักจะเป็นกระทู้อุดมดราม่า และเจ้แกก็จะตอบอะไรวกวนรำพันไม่รู้ ล่าสุด https://www.dek-d.com/board/view/3804605/
กูไม่ชอบที่เขาตอบใน คห.4 เลยว่ะ
เขาถึงว่ากันว่ารู้จักแค่งานเขียนอย่าได้รู้จักคนเขียน เพราะอาจจะทำให้เสพงานไม่ได้อีกต่อไป
ด่าควายก็สงสารควาย
>>36 ตามไปอ่านมาละ เหวี่ยงน่าดู คนเชียร์โดนด่าให้หุบปากซะงั้น
ว่าแต่มีใครอ่าน หนึ่งชาติผูกพัน บุหงาลวงรัก ป่าววะ
เมื่อวานอ่านแล้วน่าสนใจ เป็นเรื่องของปีศาจดอกไม้ นักพรต และมนุษย์ที่มีพลังพิเศษ
เปิดเรื่องมาก็ไล่ล่ากันจนร่วมทางไปกำจัดปีศาจ เนื้อเรื่องไม่ซ้ำใครดี
สิ้นเยื่อใย เริ่มเบื่อแล้วเหมือนกัน ไม่ถึงไหนซะที แต่ก็ถือว่าเขียนดีกว่าอีกหลายๆ เรื่อง
>>36 กูตามเข้าไปดูแบบไม่รู้อะไร แค่อยากเสพมาม่า ไม่นึกว่าจะเป็นล็อกอินนี้ คือกูไม่รู้จักเค้าเป็นการส่วนตัว+เพิ่งรู้ในมู้นี่แหละว่าเค้าเขียนนิยายด้วย
แต่กูคิดถึงสมัยเค้าเล่นพันทิปว่ะ ช่วงนั้นกูบ้าสามก๊กอยู่ ชอบเห็นเค้าไปตอบมู้สามก๊กละก็รู้สึกว่าเค้าฮาดี
จนเค้าไปมีเรื่องทะเลาะกับน้องคนนึงในกลุ่มสามก๊กนี่แหละ แบบน้องคนนั้นเค้าไปคุยกับรุ่นพี่ที่เป็นหมอเรื่องสาเหตุของตลค.นึงที่กระอักเลือดตายว่ามันสามารถอธิบายทางการแพทย์ได้มั้ย แล้วน้องเค้าก็เอาข้อสันนิษฐานมาเล่า ละเจ๊คนนี้แกก็บอกว่าน้องก็อปกระทู้พันทิปที่เคยมีคนตั้งข้อสันนิษฐานเหมือนกันแบบนี้มา น้องเค้าก็ยืนยันว่าไม่ได้ลอกกระทู้ เจ๊แกก็ยังหาว่าน้องลอกกระทู้ เถียงกันไปกันมาสุดท้ายเจ๊แกงอนมั้ง เลยบอกว่าจะไม่อยู่กลุ่มนี้ละ ไรเงี้ย
พอมาเห็นมู้นี้ของมึงกูเลยคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา กูว่าเหมือนเจ๊แกยึดติดความคิดของตัวเองเกินไปอะ อย่างในมู้คห.4เค้าก็พูดดีๆ ให้คำแนะนำเท่าที่เค้ารู้ แต่เจ๊แกยังไปแดกดันให้คห.4จ่ายค่าทนายให้อีก=*=
ปล. กูขอโทษที่ใช้พื้นที่มู้นี้มาเม้าท์คนนะ แต่เห็นล็อกอินกั๊บแกละคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเลย....
>>43 เคยเห็นในพันทิปเหมือนกัน เพิ่งรู้ว่ามาเขียนนิยาย แต่เรื่องที่เขียนเกี่ยวกับสามก๊กเรื่อง หวนคืน ไรเนี่ย อ่านแล้วแปลกๆ
คนล้านนาเชิญดวงวิญญาณคนในสามก๊กมาเนี่ยนะ น่าจะเชิญดวงพระวิญญาณของเจ้าผู้ครองนครที่ทางนั้นนับถือมามากกว่ามั้ย มาเชิญอะไรสามก๊ก
แต่ก็เข้าใจอะนะว่าเพื่อนำเข้าสู่นิยาย
พยายามอย่าให้เข้าข่ายนินทาบุคคล เดี๋ยวมู้จะเลยเถิดไปสาวไส้คนโน้นคนนี้ ดึงกลับมาที่นิยายว่ะ มู้เสิ่นเจิ้นมาได้ถึงตำหนักที่สามเพราะไม่นิยมมาม่า ต้องร่วมกันรักษาแก้มตอดคมสันต์อันเป็นระเบียบตำหนักไว้
รักษาแก้มตอดคมสันต์อันเป็นระเบียบตำหนักไว้... 55555555555555555//ขอโทษอ่านกี่ทีก็ขำอ่ะโม่ง
สรุปก็คือ 1เป็นนักหัดเขียน 2ยังไม่มีผลงานตีพิมพ์เป็นชิ้นเป็นอัน 3เมื่อก่อนเคยเป็นติ่งสามก๊ก ใช่มะ นี่กูต้องอยากรู้จักด้วยเหรอวะเนี่ย กูก็นึกว่าเป็นนักเขียนเสิ่นเจิ้นสนพ.ไหนซะอีก
พอพวกมึงพูดถึงกันกูก็ลองตามไปอ่านนิยายเค้าดู เรื่อง "หวนคืนสู่แผ่นดิน"
คำโปรยหน้าแรก เมื่อบุคคลในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊กกลับชาติมาเกิดใหม่ในยุคปัจจุบัน ท่านผู้นำสุดโหดโคตรอำมหิตกับกุนซือมือขวาเจ้าของกลยุทธ์ทมิฬได้มาเจอกันอีกครั้ง แต่...นางเอกดันกลายเป็นสาวน้อยบ้องแบ๊วที่ซ่อนความฉลาดเฉียบคมและร้ายกาจไว้ภายในใบหน้าใสซื่อ เจ้านายอย่างโจโฉจะทำยังไงกับเลขาสุดน่ารักคนนี้ดี
วาป https://my.dek-d.com/Guojia/writer/view.php?id=1701509
เนื้อเรื่องเปิดมาก็ไม่มีอะไรน่าสนใจมาก ไม่ดึงดูดให้อยากทำความรู้จักตัวละคร สถานการณ์ก็ง่ายๆ คนเดินเข้าบริษัทมีปากหอยปากปูนินทา อ่านไปจบจบบทที่สาม ไม่รู้สึกถึงความจีนหรือความเป็นสามก๊กอะไรเลยที่ทำให้เชื่อว่าตัวละครเป็นถึงโจโฉกลับชาติมาเกิด ความฉลาดที่พยายามนำเสนอยังอยู่ในเกณฑ์ธรรมดา ค่อนไปทางจริตแจ่มใส(ที่ไม่ใช่มากกว่ารักและนิยายรักผู้ใหญ่) อ่านไปเจอสำนวนเกี่ยวกับสามก๊กชัดๆ อยู่อันนึง คือ พูดถึงโจโฉโจโฉก็มา อีของแบบนี้ไม่ต้องเป็นติ่งสามก๊กก็รู้จัก
ไม่ต้องพูดถึงวุฒิการศึกษาเมื่อเทียบกับโปรไฟล์ที่อวดว่าเก่งอย่างงั้นย่างงี้ของตัวละคร เอาแค่คาแรคเตอร์พระเอกที่บอกว่าเป็นโจโฉกลับชาติมาเกิด...ทำไมมันดูมุ้งมิ้งจังวะ ไดอาล็อกประเภท "กิ๊กเป็นคนยุติธรรม พิจารณาคนตามความสามารถ ผมคิดว่ากิ๊กมีเหตุผลในการทำแบบนี้ ผมไม่ถามเพราะไม่อยากเสียเวลากับเรื่องไร้สาระและคนไร้ค่า ผมให้อำนาจกิ๊กในการรับคนเข้าทำงาน ทำโทษ ย้ายแผนก และตัดเงินเดือน หรือไล่ออกครับ เพราะฉะนั้นกิ๊กมีสิทธิ์ทำโดยไม่ต้องรอคำสั่งจากผม ถ้าให้ผมต้องดูแลทุกอย่างผมจะมีเลขาไว้ทำไมล่ะครับ อ้อ ไหนๆ คุณก็จะออกแล้ว คงไม่จำเป็นต้องปฐมนิเทศต่อ เชิญครับ" เนี่ย ทำกูกลอกตาเป็นรูปโจโฉเวอร์ชั่นไว้หนวดเลยนะมึง ไดอาล็อคเหี้ยอะไรยืดยาวยิ่งกว่าบิลค่าหนังสือกูอีก! แล้วอีกิ๊กนี่อภิสิทธิ์เยอะจัง แบบนี้ไม่ใช่เลขาแล้ว มึงเอามันมาเป็น ceo แทนเถอะ ceo ห่าอะไรดูไม่มีมาดไร้สิ้นออร่า แถมยังพูดจาไม่มีชั้นเชิงไร้วาทะศิลป์ขนาดนี้
มันแย่ที่มาบอกว่าเป็นโจโฉกลับชาติมาเกิด กูติ่งสามก๊กที่ปลื้มการบริหารงานของโจโฉมากเว้ย กูรับไม่ได้
แค่เอาสำนวนภาษิตบางอย่างกับเพลงที่มีคนแปลไว้แล้วมาใส่มันไม่ได้ทำให้ดูสมจริงได้
ดังที่บ่นๆ ไปข้างบน นิยายเรื่องนี้น่าจะสมเหตุสมผลขึ้นถ้าปรับเรื่องตัวละครที่มันดูไม่น่าเชื่อถือว่าจะเป็นอย่างที่บอกไว้
เอ้อ ไปอ่านต่อจนจบบทที่ 5 "เจิ้งหวนแห่งวงการดนตรี" กูพูดได้เต็มปากละ จริตแจ่มใสสัส! ถ้าตัดเรื่องที่โม้ว่าแต่ละคนในเรื่องเป็นพวกจากยุคสามก๊กกลับชาติมาเกิดมันก็จะกลายเป็นนิยายแจ่มใสเล่มน้อยๆ ทันที มันก็ไม่ได้แย่อะไรมากมาย อยู่ในขั้นที่อยู่ในขั้นพออ่านได้ แต่ด้วยความที่อ่านไปแล้วพล็อตดูไม่มีอะไร(หรืออาจมีแต่จนจบบทที่ 5 ก็ยังไม่ปรากฏ)แถมตัวละครยังไม่ดึงดูด มันทำให้ไม่อยากจะติดตามอ่านต่อน่ะ
เห็นว่านี่เป็นเวอร์ชั่นรีไรท์แล้วซะด้วย
เอาเป็นว่าเรื่องนี้อ่านต่อไม่ไหว ข้าน้อยขออำลาที่บทที่ 6 ใครจะรับไม้ต่อก็เอาเลย
กูก็ติ่งสามก๊ก จริตแจ่มใสกูก็อ่านได้ แต่ไม่อ่านเรื่องที่ปนกันมั่วๆแบบบอกว่าจะเป็นสงครามนะ แต่พออ่านแล้วแม่งแจ่มใสหึ่ง หรือบอกว่าจะดาร์คแต่ไม่มีอะไรนอกจากพระเอกเกรียน นางเอกซู หรือบอกว่าพระนางฉลาดแต่แก้ปัญหาโคตรกระจอก สรุปว่ากูชอบนิยายสมจริง นอกนั้นจะฮาหรือจะปวดตับก็รับได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความจริงว่ะ
>>48 มึงสับแล้วเอาไปลงบอกเขาได้นะกูว่า เพราะมึงก็สับมีเหตุผลดี
กูโม่ง 48 นะ
ไม่แปะดีกว่าอะมึง อยากให้เค้าพัฒนาตัวเองก็อยากนะเว้ย แต่ถ้ากูเอาไปบอกทั้งๆ ที่เค้าไม่ได้อยากฟัง เดี๋ยวกลายเป็นทำเค้าจิตตกไปอี๊ก เราคุยกันในฐานะคนอ่าน ถ้าเค้าอยากรู้ฟีดแบคนิยายเดี๋ยวก็เซิจจนเจอจนได้แหละ แต่ถ้าเค้าไม่อยากรู้ก็แปลว่าเค้าพอใจแบบนั้นแล้วว่ะ
กูอึ้งตั้งแต่ "หุบปาก" แล้ว คือนข.ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ดีกว่านี้หน่อยเหรอวะ เรื่องอื่นกูไม่รู้นะแต่เรื่องทัศนคติ EQ สำหรับกูไม่ให้ผ่านอ่ะ พาลจะไม่อ่านงานเขาไปด้วย นั่นแหละ
ใครก็ได้ สับเรื่องนี้ให้กูที ถถถถุ
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1708786&chapter=21
อยากให้ตั๊บแกนั่นมีแซ่เป็นตามหาโซโหว่ะ 55
เพื่อนโม่งคิดว่าไงกับเรื่องนี้ กูเพิ่งอ่านตอนแรก
http://writer.dek-d.com/ninghua29/writer/viewlongc.php?id=1712360&chapter=2
กูขอถามเป็นความรู้ กูตามไปอ่านนิยายที่ 70 แปะมา มันมีคำว่ากล่อง สมัยนั้นมันมีกล่องที่แมวจะเข้าไปซ่อนได้ด้วยเหรอวะ และเรียกว่ากล่องเลยเหรอ
เห็นพูดถึงเรื่องโลหิตนางกันเยอะ กูเพิ่งไปอ่านมาถึงตอนล่าสุด มา กูจะรีวิวคร่าวๆ
ตอนเจอบทแรก นางเอกท้อง บอกว่าที่สามีซึ่งเป็นอ๋อง แต่ปรากฏว่าอ๋องไรนี่ต้องแต่งงานกับหญิงอื่นเพื่อคานอำนาจตามคำสั่งแม่ เลยแตกหักกัน
กูก็ว่า เออ มาและ แนวดราม่า อ่านต่อไปเรื่อยๆ สรุป หลังจากนั้นนางเอกก็โดนฆ่าตาย แท้งทั้งลูก แต่มันมีเรื่องมาให้ย้ายวิญญาณนางไปเข้าร่างเด็กทารกที่ตายแรกเกิด ซึ่งเป็นเจ้าหญิงแคว้นหนึ่ง
ปรากฎว่าแคว้นที่ว่า แม่งเป็นแคว้นที่ควบคุมแคว้นที่อีอ๋องนั่นอยู่ หรือพูดง่ายๆ แคว้นอีอ๋องผัวเก่า คือแคว้นที่เป็นเมืองขึ้นของแคว้นนางเอกปัจจุบัน
20 ปีต่อมา นางก็โตแล้วก็กลับไปที่แคว้นอีอ๋องเพื่อแก้แค้นตามระเบียบ
แต่มีข้อแม้อยู่ว่านางไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้เด็ดขาด ไม่งั้นดวงวิญญาณจะแตกสลาย
อ่านถึงตรงนี้ปุ้ป กูตกลงใจติดตามเลย อยากรู้ว่านางจะแก้แค้นยังไงถ้าฆ่าคนไม่ได้
ฉากเปิดตัวนางเอก น่าสนใจ นางเป็นตัวละครที่กูไม่เคยเจอมาก่อนในนิยายแนวเดียวกันนี้ ออกจะจิต ๆ ได้ใจกูมาก
ผ่านไปเกือบยี่สิบตอน นางฆ่าไปคนหนึ่งจริงๆ โดยไม่ได้ลงมือเอง
จนตอนล่าสุด ไปแล้วอีกราย นางมือเปื้อนเลือด แต่ก็ไม่ได้ลงมืออีกเหมือนกัน
กูจะไม่รีวิวบทอื่นๆ เพราะน่าจะสปอยล์
บอกได้คำเดียว สุดยอดว่ะ
ทั้งพล็อต ทั้งโครงเรื่อง ทั้งการเรียงลำดับเหตุการณ์ ทั้งคาร์แรกเตอร์ตัวละครที่มีเสน่ห์
การดึงอารมณ์คนอ่าน การเดินเรื่องแบบคาดเดาไม่ได้ ลุ้นแม่งทุกตอน
นางเอกแม่งไม่มีการตุกติกหรือหลุดคาแรกเตอร์เลย
เสียดายอยู่อย่างเดียวอย่างที่พวกมึงว่า ภาษามันไม่ค่อยจีน แต่บรรยายดีมาก
ถ้าว่าง กูว่าจะสับให้ละเอียดกว่านี้หน่อย แต่คือกูชอบมาก เป็นนิยายติดท็อปที่ดีจนน่าแปลกใจ
ทอล์คของไรท์กูก็อ่านทุกตอน กูว่าเขาก็พูดตรงดี เป็นกันเองกับคนอ่านดีนี่หว่า แต่อันนี้กูไม่ค่อยสนเท่าไหร่ สำหรับกู นิยายสนุกเป็นพอ
กูแนะนำให้พวกมึงอ่านเรื่องนี้
ฟีลที่มึงเล่านี่
แม่ง ผลาญ กะ บุปผาสีชาติ ชัดๆ (นางเอกเรื่องนี้ก็แท้ง)
ยังไม่รวมเว่ยหยาง ฉู่ และบลาๆ แนวแก้แค้น ทั้งมวล
มีโม่งพูดถึงเรื่องผลาญ เลยทำให้กูนึกถึงอะไรอย่างนึง ไม่รู้เป็นไร พอมีคนพูดถึงผลาญ คนจะแขวะว่า "ผลาญแม่ทุกสถาบัน"
คือ...มึง เสิ้นเจิ้นบางเรื่องมันก็ได้แรงบันดาลใจอันแรงกล้ามาจากผลาญจริงๆ โว้ย มาเป็นฉากๆ ชื่อๆ เลยอะมึง กูนี่เคืองแรง ต้องติงว่าก๊อบเรื่องอื่นเหรอวะถึงจะไม่เบะปากใส่ มันไม่เกี่ยวดิว่านิยายมันมีดราม่าอะไรจากสนพ.ไหนกับใคร ลอกก็คือลอก
เฮ้อ!
มึงต้องแยกก่อนอ่ะ
ผลาญทุกสถาบัน มาจากการแขวะว่า นิยายจีน แปล ที่ว่างขายที่หลังผลาญจะถูกกล่าวหาว่าหลอกผลาญ ทั้งๆที่มีวางขายในจีนก่อนหน้าผลาญอีก เขาเลยแซวพวกนี้ว่า ใดใดในโลกล้วนเกิดจากผลาญ
ส่วนเส้้นเจิ้น ด้วยอิทธิพล ที่นิยายเรื่องผลาญ ที่วางในไทย เจ้าแรก ทำให้มีแนวนี้ออกมา ตาม แต่ในขณะเดียวกันอย่าลืมนิยายแปลใน เด็กดี แนวนี้อีก ทั้งเว่ยหยางละอีกมากมาย มาด้วย ส่วนใหญ่ กลิ่นเผาจะแรงสุด
นิยายที่เสิ่นเจิ้นเอามาเป็นแรงบันดาลใจกันบ่อยๆกูแนะนำให้อ่านไว้เบิกเนตรก็มีเผา หมอหญิง ว่าด้วยฯ นี่แหละ ยิ่งตามท้อปเท็นนี่จิ้มมั่วๆยังเจอเลย
อันนี้พูดถึงความถี่ที่เจอนะ ไม่สนดราม่าสนพหรือกะปิน้ำปลา
ย้อนอดีตมาแก้แค้น // อ่านเผา บุปผาสีชาด
ย้อนอดีตมาแล้วมีลูกติดท้อง ผัวไล่ออกจากบ้าน// อ่านหมอหญิง
ย้อนอดีตมาซู มาสืบคดี อ่านชุดเพชร
ย้อนอดีตมาเป็น สนมเป็นคุณนาย อ่านว่าด้วยอาชีพนางนม
วิญญาณหลุดเข้าร่างสัตว์ อ่าน โฮ่งเต้
เทพเซียนชีวิตรันทด อ่านป่าท้อ
ฝึกยุทธ์โคตรซูมีสัตว์วิเศษ อ่านฉายา
ฝึกวิชาหลังรักอาจารย์ อ่านตำนานรักเหนือภพ
หายหัวไปทำงานแวบเดียว กลับมาอีกที ตอบเพียบเลยนะมึง
เรื่องแนวเรื่อง กูก็บอกพวกมึงแล้วว่ามันมาแนวเดียวกัน ดราม่า แท้ง กลับไปแก้แค้น
ที่กูว่าไม่เหมือนนี่คืออีนางเอกอย่างเดียว
แล้วก็ไม่เหมือนคือ แตกต่างจากนิยายเด็กดีเรื่องอื่น ๆ เว้ย ถถถถถถถ
ปล. พล็อตเสิ่นเจิ้นนี่ไปไหนไกลกันไม่รอดหรอก
>>75 มึงพูดว่าแนะนำให้อ่าน กูก็เลยไปอ่าน แค่บทแรกกูก็ปิดแล้ว มึงบอกว่าภาษาเขาดี กูขอบอกว่าต้องเติมคำว่า ภาษาดีกว่ามาตรฐานเด็กดีในปัจจุบันเท่านั้น แต่ไม่สามารถใช้คำว่าภาษาดีในระดับที่นิยายควรจะเป็น เพราะคนเขียนใช้ภาษาฟุ่มเฟือยน่าเบื่อมาก บรรยายบทแรกพระเอกนางเอกนั่งอยู่บนภูเขาหรือทะเลหรืออะไรกูจำไม่ได้แล้ว อ่านแค่ห้านาทีก็ลืมเลย เพราะมันไม่จับใจ มันเป็นการบรรยายที่ฟุ้งเฟ้อ หน้าตานางเอก หน้าตาพระเอก ถ้าคนเขียนใส่ความงามความหล่อเข้ามามากมันเป็นการยัดเยียด การเขียนที่พยายามให้สละสลวยโดยที่คนเขียนไม่มีฝีมือพอ มันคืองานเขียนที่ฟุ้ง เวอร์วัง โดยไม่มีอะไรจับใจเลย ตาสีดำขลับ ส่องประกายวิบวับราวไข่มุก ใครลองคิดตามหน่อยสิวะ ตาสีดำขลับแต่เทียบกับไข่มุก ไข่มุกในนิยายจีนเขาใช้เทียบกับฟัน ฟันขาวราวไข่มุก ถ้าจะบอกว่าเทียบเฉพาะแสงที่ส่องออกมา ก็ต้องนึกด้วยว่าไข่มุกไม่ได้ส่องแสงเหมือนดาวที่ดูระยิบระยับ แต่มันมีแสงนวลๆ นิดเดียว เกือบจะด้านด้วยซ้ำ นิยายจีนมาตรฐานจึงเทียบไข่มุกกับฟันนางเอก เทียบผิวกับหยกเพราะมันเรียบลื่น เทียบตากับดาว เพราะมันสุกใส
บางคนอยากเขียนอะไรให้แตกต่าง อยากเขียนให้ดูว่าตัวเองภาษาดี แต่ถ้ามือไม่ถึง ก็จะมีคนอ่านที่รู้สึกแบบกู อ่านแค่บรรยายบทแรกมันบอกอะไรได้มากว่ะ เพราะบทแรกคือบทที่นักเขียนต้องอ่านแล้วอ่านอีกและแก้แล้วแก้อีก มันบอกได้เลยว่าฝีมือทางภาษาเป็นไง กูไม่ได้คิดจะตินักเขียน เพราะเขาอาจจะเขียนเรื่องแรก ยังมีเวลาแก้ไขศึกษาอีกเยอะ แต่กูมาเขียนตรงนี้เพื่อให้มึงรู้ในฐานะนักอ่านว่า นิยายเรื่องนี้ไม่ได้มีการบรรยายดีอย่างที่มึงว่ามา ส่วนเนื้อเรื่องเป็นไง ดีไหม กูไม่พูดถึง เพราะกูอ่านแค่บทแรก ใครคิดว่ากูมาตรฐานสูงไปก็ไปอ่านบทแรกได้เลย ฉากนั่งดูดวงแสงสีเหลืองแกมส้มที่กำลังลดตัวเข้าหามหาสมุทร นี่กูพิมพ์ตามที่เขาเขียนเลย ใครซาบซึ้งรู้สึกว่าบรรยายดีน้ำตาไหลก็มาบอกกูได้ กูรับฟังว่ะ ส่วนเนื้อเรื่องไม่ต้องพูดถึงนะ กูไม่ได้อ่าน ไม่ขอแย้ง จะคล้ายกับคนอื่นหรือไม่คล้าย ไม่เกี่ยวกับกู
>>89 กูอ่านที่มึงว่ามาแล้วนั่งขำตอนฉากพระอาทิตย์ลดตัวเข้ามหาสมุทรว่ะ ถถถถถถถ
กูก็พูดเกินไป นั่นแหละ ที่มึงว่ามาอ่ะถูกหมดเลย มาตรฐานแค่ดีกว่าเด็กดีทั่วไปจริงๆ
ถ้ามึงมองผ่านการใช้ภาษาในบทแรกๆ ได้ กูว่าภาษาเขาในบทต่อๆ มาดีขึ้นเยอะมาก
กูเห็นหลายเรื่องละใช้ไข่มุกวาววับแทนลูกตาไรนี่ 55555555 ไม่รู้ไปจำกันมาจากไหน
เห็นด้วยกับมึงเรื่องบทแรกนะ หมายถึงไอบทแรกบอกอะไรได้เยอะนี่ แต่กูว่าตัดสินนิยายเรื่องนึงจากบทแรกมันไม่มากไปหน่อยเหรอมึง ยิ่งของนักหัดเขียนอีก มันอาจจะพัฒนาไปเรื่อยๆ ก็ได้นะเว้ย อันนี้คือในความคิดกู
>>90 มันตรงข้ามกับคำว่า "บรรยายดี" ที่เพื่อนโม่งข้างบนแนะนำไง เพราะกูจะไปอ่านทุกเรื่องที่ได้ยินใครบอกว่าบรรยายดี กูชอบนิยายบรรยายดี ไม่มีคำผิด เพราะกูมองว่าใส่ใจและมีฝีมือ ส่วนนักเขียนที่ตรงกันข้าม กูก็ไม่ได้ด่า ไม่เคยเอาเรื่องของใครมาวิจารณ์ เพราะกูไม่รู้ว่าคนเขียนอาจจะเป็นเด็กมอต้นก็ได้ อย่างดีกูก็ขำๆไปด้วย ล้อมั่งไรมั่ง แต่ไม่เคยด่า ข้างบนที่เขียนยาวเพื่อจะบอกว่านิยายเรื่องนั้นมันตรงกันข้ามกับคำว่าบรรยายดี อย่างที่มึงยกมา แค่คำว่าชั่วครู่ๆ มันก็ตลกแล้ว แต่กูคิดว่าพิมพ์ผิดนะ ใส่ไม้ยมกจนชินมือ เลยเผลอใส่ไป แล้วทุกประโยคที่มึงยกมานี่แหละที่กูว่าเยอะ เวิ่นเว้อ มันไม่จับใจให้เกิดความรู้สึกว่าสวยงามน่าเศร้าอะไรเลย ตอนล่างลงมาที่พระเอกนึกย้อนความหลังที่นอนกันอยู่ก็บรรยายความงามซ้ำเข้าไปอีก
>>91 ดีใจที่มึงเข้าใจนะ แต่ว่ากูไม่ได้ตัดสินนิยายเขาจากบทแรกไง กูเขียนบอกแล้วว่าส่วนเนื้อเรื่องกูไม่พูดถึง มันอาจจะสนุกมากอย่างที่มึงว่ามาก็เป็นได้ จริงมะ กูแค่พูดถึงการบรรยายบทแรกที่กูว่าเวิ่นเว้อเวอร์วังแต่ไม่ให้ความรู้สึกอะไรเลย เหมือนเอาเพชรมาห้อยคอจนคอหักนั่นแหละว่ะ มันไม่พอเหมาะพอดี พยายามจะให้สวย แต่ใส่เยอะไป ในเมื่อกูอ่านแค่บทแรกแล้วปิด กูจึงไม่ถือว่าเป็นคำวิจารณ์นิยายทั้งเรื่อง ซึ่งกูก็เขียนชัดเจนแล้ว แต่ทีนี้จะให้กูอ่านบทที่สองได้ บทแรกมันก็ต้องประทับใจด้วยมั้ย ถ้ากูแค่ไม่ชอบเนื้อเรื่อง แต่บทบรรยายดี กูถึงจะอ่านบทต่อไปเพื่อพิสูจน์ว่ามันดีจริงหรือเปล่า นี่บทบรรยายไม่ได้ถูกใจกูแล้วตั้งแต่อ่านย่อหน้าแรก กูจึงทนอ่านไม่ได้ แต่ก็อ่านจนจบบทนะ เพื่อให้ได้ชื่อว่ากูมาพูดถึงบทแรกจริงๆ
พวกมึงอย่าฆ่ากู! ถถถถถถถถ
แหม แต่ละคนนี่ล่ะก็ กูก็อยากมาแนะนำนิยายบ้าง ไรบ้าง นิยายที่พวกมึงแนะนำมากูก็ไปอ่านหมด พอมาแนะนำ จบเห่เลยกู
ภาษาเขาดีทั่วไปกว่าเด็กดี แค่นั้นแหละที่กูหมายถึง
พวกมึง กูขอเหอะ ลองอ่านไปสักหลายๆ ตอนก่อนหน่อยดีมั้ย ถถถถถถถถถ นี่แม่งจบกันที่บทแรกหมด heart ชินชาเอย ภรรยากระโดดกำแพงเอย ยังมีคนให้โอกาสอ่านต่อกันเลย กูรู้ว่ากูลองอ่านสองเรื่องนั้น ถึงเอาตรงๆ กูจะมองว่า....สุดยอด
>>93 กูรู้ และกูนับถือมึงด้วย เอาจริงๆ
แต่กูว่าที่กูอ่านๆ มาน่าจะจริงว่ะ เคยมีเพื่อนโม่งหลายๆ คนอ่านของ นข คนนี้ แล้วจบกันที่บทแรกกันหมด แม่งอาถรรพ์บทแรกป่าววะ ถถถถถถ
คือกูเป็นพวกมาตรฐานไม่สูงมาก ให้โอกาส นข ไป อันนี้ดีหลังๆ ก็ถือว่าโชคดี ถ้ากูอ่านไปสิบตอนแล้วไม่พัฒนากูก็มีเท
>>94 อย่าคิดมาก มึงจงแนะนำนิยายต่อไป อย่าเสียเซลฟ์ มึงก็ยอมรับนี่หว่าว่านิยายเขามีข้อบกพร่องอย่างที่ว่าจริงๆ มึงชอบมึงก็แนะนำ บางคนเขาแนะนำเรื่องอื่นมาว่าดี คนอื่นก็ติ เป็นธรรมดาว่ะเวลาคุยกัน นิยายจีนแปลคนแต่งเก่งๆ ยังโดนเบรคเลย เล่มนั้นสนุก เล่มนี้ทิ้ง เล่มนี้ขายต่อ มันเป็นรสนิยม ว่ากันไม่ได้ แต่ถ้าจะให้อ่านหลายตอนสำหรับกู คงไม่ใช่นะ คนอื่นอาจจะโอเค ลองดูเพื่อนโม่งรายอื่นแล้วกันว่ะ อาจจะมีคนที่ชอบเหมือนมึง ให้โอกาสนักเขียนเหมือนมึง ของกูชอบนิยายที่ภาษาดีจริงๆเท่านั้นว่ะ เพราะกูขำง่าย ถ้าเขียนภาษามันไม่ใช่แล้วกูขำทันที เลยหมดอารมณ์อ่าน หวังว่าจะเข้าจัยย์
>>94 เพื่อความยุติธรรมกูจึงไปอ่านมาอีกบท เลือกบทสุดท้ายเลย กำลังปักมีดฆ่ากัน กูคิดว่ากูเข้าใจแล้ว ปัญหาของนักเขียนคนนี้คืออะไร ปัญหาคือเขาพยายามใส่คำคุณศัพท์เพิ่มในทุกๆสิ่งที่บรรยาย แล้วบังเอิญดันใส่เข้าไปแทบทุกประโยค ทำให้ฉากที่ควรจะเร็วกลับช้า ฉากที่ควรจะช้ากลับอืดอาด ตรงนี้แหละที่กูว่าเวิ่นเว้อไปหมด กูยกตัวอย่างนะ แค่ไม่กี่ย่อหน้าเท่านั้น กูก็เจอแบบนี้จนอ่านไม่เข้าใจ กูต้องอ่านสองครั้งเพื่อให้รู้ว่า ใครกำลังทำอะไรอยู่
เจ้าของเสียงห้าวนั้นเดินเข้ามาใกล้พระนางอย่างรวดเร็ว (เติมห้าวลงไปอธิบายเสียง ซึ่งไม่จำเป็นเลย เพราะเสียงมันกล่าวกับพระนางคนเดียวอยู่แล้ว ไม่ต้องแยกว่าห้าวหรือไม่ห้าว)
ทันทีที่มือหนึ่งของเขาแตะไหล่พระนาง พระกรข้างขวาของกุ้ยเหนียงไทเฮาก็พุ่งไปทางที่บุรุษผู้นั้นยืนอยู่ทันที (มีคำว่าทันทีทั้งประโยคแรกประโยคหลัง กิริยาที่ควรจะทำอย่างเร็วระหว่างสองฝ่ายกลายเป็นช้า เพราะมือแตะไหล่ก็ต้องบรรยายว่ามือหนึ่ง แตะไหล่ใครก็ต้องบอกอีก ทั้งที่ประโยคถัดมาก็บรรยายแล้วว่าเป็นกุ้ยเหนียงไทเฮา แถมยังบอกด้วยว่าพระกรข้างไหน ประโยคนี้ตัดให้กระชับได้ไม่ยาก แต่เขาไม่ทำ)
สองพระเนตรเห็นชัดเจนว่าบุรุษที่ทรงลงมือทำร้ายอย่างไม่ตั้งพระทัยเป็นผู้ใด (เวลาจะมองก็ต้องใช้สองตาอยู่แล้ว ตาไม่ได้บอด แต่เขาต้องบรรยายว่าสองพระเนตร ใช้คำว่าทรง ในการบรรยายความรู้สึกตัวเอง ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ และจะมีคำว่าทรงอย่างนี้ไปตลอดในทุกประโยคที่เจ้านายมีมูฟเมนต์ ในอีกสองย่อหน้าถัดมายังจะมีสายอัสสุชลไหลออกจากสองพระเนตรแดงก่ำอีกด้วย)
เนี่ยว่ะ บทสุดท้ายที่เขาเขียน มันก็ยังมีการสอดใส่คำฟุ้งเฟ้อเข้ามา แม้แต่ในการบรรยายฉากที่ควรจะเร็วอย่างที่กูบอก เพราะมันเกิดขึ้นรวดเร็วชนิดที่ไท่ฌอาไม่ตั้งพระทัย กูถึงบอกว่าปัญหาของเขาคือการบรรยายแท้ๆ เลยทีเดียว ซึ่งจะให้คนอื่นข้ามการบรรยายไปตั้งใจอ่านที่เนื้อเรื่อง มันก็ยากว่ะ เพราะคนอ่านต้องมาย่อยอีกรอบ แต่เขามีคนอ่านเยอะ ก็แปลว่ามีคนชอบเยอะแยะเหมือนมึง ไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจ โม่งเป็นแค่คนกลุ่มน้อยเท่านั้น
เอาจริงๆ ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากกับนิยายเสิ่นเจิ้นนะ
ขอแค่เขียนให้อ่านได้เหมือนนิยายทั่วไป ไม่ชอบแนวบรรยายความคิดนางเอกเยอะๆ เช่น [นางเอกฟื้นขึ้นมาบนเตียง เห็นสาวใช้ร้องไห้] บรรยายความคิดในใจของนางเอก --
ที่นี่มันที่ไหนเนี่ย ทำไมชั้นมาอยู่ที่นี่ได้ แล้วยายคนนี้จะร้องอะไรกันหนักกันหนา
--
รู้สึกเหมือนอ่านบันทึกเด็กน้อย
ขอพล็อตและการดำเนินเรื่องที่น่าสนใจ ใครจะมีแรงบันดาลใจจากไหนก็เอาเถอะ อย่าลอกมาละกัน อย่างเรื่องที่ว่าเหมือนหมอหญิง เรื่องชะตาเกี้ยวรัก (ใช่มั้ย)
อ่านดูแล้วก็คล้ายๆ อยู่บ้างตอนต้น แต่รายละเอียดข้างในแตกต่าง อันนี้กูโอเคนะ
ขอคำผิดน้อยๆ หน่อย วันก่อนอ่านเรื่องนึงเจอ ทายาด ซ้ำแล้วซ้ำอีก อะ ไม่เป็นไร ผิดกันได้
ปรองร้าย... มือคงจะลื่น
ค่ารับใช้... ฟางเส้นสุดท้าย ลาก่อน เลิกอ่าน
กูขอแนะนำอีกเรื่องแก้ตัว ชื่อเรื่องขอไม่แปะ
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1708786
รับรองไม่ผิดหวัง
ดีใจที่วันนี้คึกคักเป็นพิเศษ ไว้มาสับกันอีกเยอะ ๆ นะเพื่อนโม่ง
>>113 สหายโม่ง ถ้าหากมึงยังพอมีเวลา กูก็ขอรบกวนหน่อยนะ
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1724291&chapter=1
กูลงทุนไปเปิดคลังเลย เพื่อนโม่งทั้งหลายใครใคร่สับยังไงเชิญนะ กูขอไปกินยาบำรุงแป็บ
กุของชื่อโฮ่งเต้แบบเต็มได้มั้ยมึง
ใครมีไรในคลังแนะนำให้กุได้นะ ช่วงนี้กุรู้สึกว่างฟุ้งซ่าน เอาได้ทุกแนว
>>120 กูก็ไปค้นๆ ในหน้าอัพเดทมาตะกี้ เจอเรื่องนี้ https://writer.dek-d.com/ppanida/story/view.php?id=1607888 ภาษาโอเค แต่ก็จะเรื่อยๆ หน่อย
นอกเรี่องหน่อยสิโม่งยังมีกระทู้พูดคุยเรื่องซีรัส์จีนอยู่ไหมอ่ะ
ชะตาเกี้ยวรักจบแล้วนะเห็นบอกว่ากำลังจะได้ออกรูปเล่มกับสถาพร มีเรื่องใหม่ด้วยเดี๋ยวลองติดตามดูเพราะเห็นน่าว่าสนใจดี
สำหรับคนไม่เคยอ่านยอดหยิ๋งหมอยเทวดา
นางเอก มาเข้าร่าง เมียหลวง ที่ฆ่าตัวตายในวันแต่งเมียน้อยเข้าบ้านของพระเอก
พระเอกไล่ไปอยู่บ้านบรรพบุรุษ นางเอกยังงงๆไม่รู้เรื่อง สุดท้ายก็มารู้ว่าตัวเองท้อง
เลี้ยงลูกและเลี้ยงดูตัวเองด้วยการเป็นหมอยาและสมุนไพรด้วยลำแข้งตัวเอง
ร่างกายไม่ค่อยดีเพราะคลอดลูกยากตกลูก ชีวิตจะตายแหล่มิตายแหล่
พระเอก ตอนแรกตั้งใจจะมาหย่า แต่พอมาเจอเมียเปื่อย เลยเลื่อนไปเรื่อยๆ
นางเอกไม่กล้าบอกผัวว่ามีลูก เพราะกลัว ผัวเลี้ยงไม่ดี เมียน้อยผัวจะรังแก
ไปๆมาๆ พอเห็นเมียนิสัยเปลี่ยนไป ก็ หันกลับมา มองเมียใหม่รักเมีย มากขึ้น
แต่อีแม่ผัวครอบครัวพระเอกไม่เอา พยายามหาทางจัดการ แต่นางเอก ด้วยความเป็นหมอที่เทพมากเลยมีคนคอยช่วยเหลือ ประมาณนั้น
หลักๆที่บอก ว่าแรงบัลดาลใจหมอหยิงเข้มๆคือ
ย้อนอดีต เข้าร่างคนท้อง ไม่แคร์ไม่ง้อฝั่งผัวหาเลี้ยงตัวเองได้
จู่ๆ ผัวก็มาเจอ พบกับนิสัยใหม่ หลงรัก กลับมาง้องอนอีกครั้ง
>>127 กูไปอ่านมาเรียบร้อยสองรอบ ภาษาของมึงดี การบรรยาย ถ้ามึงลงต่อกูก็อ่านต่อ เรื่องของมึงน่าสนใจด้วย แต่กูห่วงว่าคนจะอ่านของมึงหรือเปล่า เพราะบทแรกของมึงไม่ได้ตรงกับความนิยมในเด็กด๋อย ยังไม่เห็นมีหญิงๆชายๆจับนมจับมังกรชุ่มฉ่ำกันว่างั้น
ถ้าจะมีอะไรให้แนะ กูแนะด้วยความห่วงเพราะกลัวมึงเลิกเขียน มึงให้ข้อมูลเยอะช่วงที่เขียนว่าปีเฉิงเต๋อไหนทำอะไร เป็นการประกาศความเก่งของอวี๋เฟิง แต่ว่าคนอ่านทั่วไปจะขี้เกียจอ่าน คนอ่านอย่างกูไม่ต้องห่วง ถ้าภาษาดี กูอ่าน แต่คนอื่นแม่งจะเท มึงต้องทำตรงนี้ให้กระชับ ตัดบางส่วนออกไปบ้าง เน้นเข้าไปร่างคุณหนูนั่นไวๆ นิดนึง แล้วอีกอย่างก็คือเครื่องหมาย '...' แบบเนี้ย มึงใส่ครั้งแรกก็พอ หนที่สองคำเดิม ไม่ควรใส่แล้วเพราะมันรู้กันแล้ว คำว่าอสูรคือคำที่กูเห็นมึงใส่ '...' อยู่ตลอด กูเข้าใจดีว่ามึงจะให้ดูว่ามันไม่ใช่อสูร มันมีอะไรบางอย่าง แต่ว่าถ้าใส่ตลอดมันจะดูไม่พิเศษ
ตอนที่กล่าวถึงตำนานเล่าขานหลายรูปแบบเหมือนกัน ต้องกระชับกว่านี้อีก และระวังอย่าให้วกวน กูอ่านเข้าใจนะ แต่กูแค่ห่วงว่าคนอื่นจะเทของมึง อยากให้มีคนอ่านเยอะๆ ว่ะ และกูรออ่านต่อด้วย แต่มึงไม่ต้องรีบหรอก
Ky หน่อยนะพวกมึง คือกูอยากบ่น วันนี้เห็นสหายโม่งพูดถึงเรื่องโลหิตนางก็เลยกดเฟบไว้ก่อนว่าว่างๆ ค่อยอ่าน และวันนี้คนแต่งอัพไป 3 ตอน (ประกาศ/ตอนพิเศษ/ถามหานักอ่าน) เนื้อเรื่องจริงมีแค่ตอนเดียว ที่เหลืออีก 2 คือประกาศ กับพูดคุย
กูสงสัย เค้าทำแบบนี้เพื่อให้เหมือนอัพตอนใหม่จะได้อยู่หน้าแรกใช่มั้ยวะ แบบนี้ต่างอะไรกับพวกอัพหลอกที่ดันนิยายคนอื่นร่วงไปหน้าท้ายๆ เจอแบบนี้เลยอันเฟบแม่งไม่อ่งไม่อ่านมันละ หัวร้อน
พล็อทนิยายแบบยอดหญิงหมุยเทวดาเนี่ยมีในนิยายไทยเพียบ หิ้วท้องออกไปแล้วตอนหลังผัวกลับมาง้อ แต่ว่าถ้าเขียนโดยไม่ได้ลอกกัน ยังไงมันก็ไปคนละแนวว่ะ ซ้ำแค่ท้อง ผัวทิ้ง ผัวง้อ ถ้ากูเป็นคนเขียนนิยายพล็อทนี้ แบบกูอยากเขียน กูก็จะเขียน ถ้าไม่ลอกแล้วไม่ต้องกลัวคนอื่นจะว่าเหมือน แต่พวกที่มันดีดดิ้นจะเป็นจะตายนี่ก็เพราะมันลอกนั่นแร้ ถ้าไม่ลอกจะลบทำไม
ถ้าแนวจีนเสิ้นเจิ้น กูนึกถึงหมอหญิงมาก เพราะ เขียนทีหลัง ใน ช่วงมีกระแสหมอหญิง จะบอกว่าคิดพล๊อตออกมาเอง แค่อ่านเทียบกันก็รู้ ว่ากลิ่นมันคลุ้ง แค่ไหน บอกว่าเหมือไม่ใช่ไม่อ่าน แต่เพราะอ่านเลยบอกว่าเหมือน -_-
ใครเคยอ่านนี่มั่งวะ
ชายาสองตำหนัก
https://my.dek-d.com/gil_mirath/writer/view.php?id=1542561
เรื่องนี้พวกมึงว่าเป็นไง
http://writer.dek-d.com/pingypop/writer/view.php?id=1699521
>>142 เท่าที่กูไล่อ่าน ดราม่ามันก็เกิดจากตัวนักเขียนเองนี่หว่า เหมือนพยายามยัดเยียดความคิดของตัวเองใส่หัวนักอ่านว่าทำไมตัวละครตัวนี้ตัวนั้นถึงได้ทำแบบนี้แบบนั้น คือความสุนทรีย์ของการเสพนิยายอย่างนึงคือการที่คนอ่านได้จินตนาการตามความคิดของตนไม่ใช่เหรอวะ คนอ่านตีความไปยังไงมันก็เป็นปัจเจกของแต่ละคน ไม่ใช่พอมีคนคอมเมนต์ไม่เห็นด้วยถึงการกระทำของตัวละครแล้วนักเขียนต้องมาพยายามแก้ต่างให้ตัวละครนั้นๆ แล้วดราม่าอธิบายยืดยาว เห็นละแบบ เอาที่คนเขียนสบายใจเลย แต่การอันเฟบของกูก็คือเอาที่กูสบายใจเหมือนกัน
>>147 เออ กูเข้าใจมึง อันๆ ไปเหอะ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
ในความคิดกู ดราม่ามันเกิดจากตัวทั้งคู่ะว่ะ ทั้งนักอ่านนักเขียน แต่เอาจริงๆ นะมึง กูว่านักเขียนไม่น่าไปใส่ใจเม้นนักอ่านเรื่องนู่นนี่ อยากเขียนไร แม่งเขียนๆ ไปเถอะ เขียนให้ถูกใจทุกคนมันได้ที่ไหน
>>146 ถถถถถถถถ attention hoe อย่างเดียวก็ได้มึง ไม่ต้องรวมสามคำมาขนาดนั้น
เดี๋ยวนี้เค้าฮิตคนท้องกันเหรอวะ ดูท็อปมีแต่เรื่องท้องๆ
มองดูกูคนอ่านท้องเหมือนกัน ท้องไขมันมาหลายพันปี ไม่คลอดซักที
รีพอร์ตสิเมิง อัพหลอก ประกาศแสปม
>>154 โลหิตนางนี่ใช่เรื่องที่กูอ่านเมื่อวานที่เพื่อนโม่งมาบอกว่าบรรยายดีหรือเปล่าวะ ที่ดวงแสงสีส้มตกมหาสมุทรแล้วสองพระเนตรแดงเรื่อมีพระอัสสุชลไหล กูขอโต้ดนะขี้เกียจคุ้ยอ่านเลยถามเอา ตาลายอยู่ว่ะ ต้องการแต่ความบันเทิง หิวด้วยรอกินหมูเต๊ะ ใครก็ได้ช่วยกันทำให้ขำที
>>159 อย่าเพิ่งด่ากูนะกูใจบาง กูขอออกความเห็นหน่อย คือกูไม่รู้ว่ามันแจ้งเตือนหรือไม่แจ้งเตือนยังไงเพราะกูไม่ได้เฟบอ่ะนะ แต่กูเห็นเรื่องนี้ขึ้นหน้าแรกๆ จริง วันก่อนหน้านี้เป็นไงไม่รู้อัพจริงอัพหลอกอะไรยังไง แต่ช่วงสองวันที่สหายโม่งคุยกันในนี้กูก็เลยไปส่องดู มันก็เป็นไปตามที่ >>134 กับ >>154 เขาพูดอ่ะมึง มันคล้ายว่าเขาพยายามรักษาพื้นที่ให้อยู่หน้าแรกๆ จริงๆ อ่ะ ซึ่งถ้าเขาตั้งใจทำแบบนี้มันก็ดูจะเอาเปรียบ นข คนอื่นที่อัพเนื้อเรื่องตามปกติน่ะ
>>161 เขาย้ายเนื้อหาเกือบสี่สิบกว่าตอนรวมกันจนเหลือแค่สิบกว่าตอน แต่ละตอนมันเกินสามพันคำอยู่แล้วมึง
แล้วเวลาที่เราเพิ่มเนื้อหาในนิยาย ไม่ว่าจะตอนเก่าตอนใหม่ ถ้าเกินสามพันคำ มันก็ได้ขึ้นหน้าแรกอยู่แล้ว
กูเห็นเขาย้ายตอนแค่วันเดียว การรวมตอน มันเลี่ยงที่จะขึ้นหน้าแรกไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งหลายตอนอีก กูก็เคยทำ กูรู้ดี ไม่ได้มีเจตนาอัพหลอกเหี้ยไรเลย แต่เลี่ยงกฏของระบบไม่ได้
เดี๋ยวนี้เค้ามีระบบกระดิ่งไม่ใช่เหรอมึง ถ้านักเขียนไม่กดให้แจ้งเตือน มันก็จะไม่แจ้งเตือนอัพเดทนะ แต่กูไม่ได้แต่งนิยาย ยังไม่เคยลอง เลยไม่รู้ว่าถ้าไม่กดกระดิ่ง นอกจากจะไม่แจ้งเตือนไปหาคนแอดเฟบแล้ว มันจะยังไม่ขึ้นไปอยู่ในหน้าแรกด้วยหรือไม่
มีใครตื่นอยู่มั่งวะ กูเหงา
ส่วนใหญ่มาฝอยกันที่ห้องนี้เรอะ ให้เซินเจิ้นใน webnovel นี่ร้างได้อีก
ห้องในlit ห้องนี้ เอาไว้คุยเรื่องนิยาย
ส่วนห้องนักเขียนก็เอาไว้คุยเรื่องการเขียน/เอาไว้บ่น
ไม่มีใครคุยนิยายต่อเหรอวะ กูมานั่งร่างบางรอคุยยู้
/ลากเก้าอี้มานั่ง ใบหน้าตอดคมสัน
เงียบกันจัง /นั่งปูเสื่อ
เมื่อกี้แวะไปอ่านเกี้ยวรักไรซักอย่างมา อื้ออออกลิ่นหมออออ หม้อหมออออ
แต่ก็สนุกดี กูชอบคำบรรยาย มันอ่านง่ายเข้าใจง่ายดี เห็นภาพชัด
ว่าแล้วก็ปูเสื่อถัดไป กุพึ่งซื้อนิยายจีนของชลันตีมาทั้งสี่เรื่องเลย ยังไม่ได้อ่านเลย ถถถถ
เพื่อนโม่ง มีใครเคยอ่าน เสี่ยวหวางเฟย หนึ่งดวงใจสามชาติภพบ้าง กูไปส่องรีวิวมีแต่คนบอกว่าสนุก กะจะไปลองหามาอ่าน
สิ่งเดียวเวลาอ่านนิยายแล้วทำให้อ่านไม่รอดสำหรับกูคือนิสัยนางเอก ถ้านิสัยไม่ผ่านต่อให้พล็อตดีอ่านไปก็เบะปากไป อึดอัดใจเปล่า ๆ สรุป เสี่ยวหวาง...กูอ่านไม่รอด เพราะอคติกลิ่นอายด้วย นิสัยนางเอกด้วย ไม่ใช่เรื่องพลังยุทธ์สัตว์อสูรนะที่อคติ เพราะนิยายในเน็ตของจีนแนวนี้มีเยอะกูเข้าใจ แต่กลิ่นอายแบบนิยายของถังชีกงจื่อนี่หึ่งเลย
มึงกุสงสัยสมัยก่อนนี่เขานิยมเลี้ยงหมาแมะ เห็นเรื่องไหนๆมีแต่แมว
อ๋องทาสแมวงี้ มีทาสหมาไหม
>>186 ช่าย คิดเหมือนกัน
>>187 เออ เสี่ยวฯ กูก็เลิกอ่านเพราะนิสัยนางเอก กูแค่อ่านตัวอย่างตัดสินใจว่าจะซื้อมั้ย ละตอนที่เจอพระเอกครั้งแรก ๆ ทักพระเอกว่าพี่ชาย แล้วทำท่าทางเหมือนจะกระโดกกระเดกมั้ง ถ้าจำไม่ผิด? กูกดหยุดเลย เดานิสัยนางเอกได้ราง ๆ และคิดว่าไม่ใช่แบบที่กูชอบแน่นอน
>>188 อ่อ ปกสนพ.นี้ที่กูสังเกตมันไม่ค่อยมีแบบวาดนะ กูก็เรียกไม่ถูก ไม่รู้กราฟิกหรืออะไร
>>191 กูเกลียดความแอ๊บแบ๊วไร้เดียงสานางยังไงบอกไม่ถูก คือมีชีวิตมาหลายชาติภพนะ ถึงคนเขียนจะบอกว่านิสัยคนเราเปลี่ยนผันไปตามกาลเวลา แต่การผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายปีหลายชาติ แถมยังมีความทรงจำบางส่วน? ไม่ควรจะอย่างนี้ไหม คือกูไม่อินกับคำอธิบายของนักเขียน เป็นการยัดเยียดความซื่อบื้อไร้เดียงสา ตอนเจอพระเอกเจือกเล่านู่นนี่นั่นให้ฟังจนหมด? กูปล่อยเบลอทันที ตามไม่ทันความคิดนางเอก+นักเขียน เหมือนนางรู้อยู่แล้วว่านี่พระเอกนะ เล่าให้มันฟังไปสิ อีกหน่อยพอมันระลึกชาติได้มันจะได้คิดว่าทำอะไรตัวเองไว้บ้าง คือมันไม่เนียนสำหรับการเฉลยปมที่นางเอกคิดกับพระเอกอะ มันดูจงใจเกินไป
ยอดพธูคู่แผ่นดินไหวไหมโม่ง กุสนใจอ่านมาก แต่อ่านสองตอนน่ามคานพระเอก มันจะพัฒนาขึ้นไหม
เมื่อวานอ่านเจอ
พุทธา (พุทรา) -- ถ้าเขียน พุดซา ยังพอเข้าใจว่าเขียนตามเสียงอ่าน แต่พุทธานี่มายังไง ภาษาท้องถิ่นเค้ามีเรียก พุด-ทา รึเปล่า
เอวกระสอบ (เอวสอบ) -- สงสัยคนเขียนคงจะนึกว่าเอวสอบเป็นการทอนคำ แบบ กระโดด --> โดด
พอเป็นภาษาเขียนเลยต้องใช้ เอวกระสอบ -_-' พระเอกจะหล่อมั้ยเนี่ย เอวกระสอบ
จริงๆเขาอาจจะเล่นคำก็ได้นะ......ก็เชี่ยแล้ว
เค้าคิดว่าเอวสอบ ย่อยมาจากเอวกระสอบเปล่า
เมื่อวานกูไปอ่านนิยายเรื่องนึงมา เพิ่งจบภาคแรก เหมือนหลงหมวดว่ะ เรื่องออกเกมออนไลน์+รักแฟนตาซี ที่มีธีมจีนโบราณ
คล้ายเรื่องเว่ยเว่ย เขาบรรยายเรียบๆ แต่สนุกดี แต่กูอ่านไป 3 ตอนเหมือนได้กลิ่นซูๆ ในนี้มีใครทนอ่านจนจบได้บ้างวะ
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1668668
เอาแล้ว https://writer.dek-d.com/leenuwongphun/story/view.php?id=1722789
รัชทายาทเสิ้นเจิ้น เตรียมตัวไว้เลย
กูมีความอยากที่จะเขียนแนวนี้มาก
แต่พอส่องเว็บสแกน ทำให้กูเลิกความตั้งใจ
จะแปล จะเสิ่นเจิ้น จะทำมือ โดนกันรัวๆ ออกใหม่ผ่านไม่กี่วันโดนหมด
พระสนมขย่มวัง อลวนกลสลับร่าง พบชายาในสวนผัก นางใน
กลายเป็นสายที่ถูกจ้องสแกนมากที่สุดไปแล้ว
>>205 กลิ่นเวยเวยมาก เหมือนเอาเนื้อหามาดัดแปลงบอกไม่ถูก แค่ตอนแรกนะที่กูอ่านอะ
.
.
.
.
.
เริ่มเรื่องเวยเวยโดนขอหย่า > เสิ่นเจิ้นโดนขอแต่งงาน
เวยเวยถูกหาว่าเป็นเป็นชายแต่อวาตาร์เป็นหญิง > เสิ่นเจิ้นหลอกผู้ที่มาขอแต่งงานว่าตัวเองเป็นชายแต่ใช้อวาตาร์ผู้หญิง
เรื่องไม่รับไอเท็ม ไม่ขอพูดถึง เพราะเกมออนไลน์มันเป็นงี้ มีให้ไอเท็มกัน แต่ทั้งสองเรื่องมีเล่นประเด็นนี้เหมือนกัน
ชื่อเรื่อง ท่องนภาแห่งห้วงฝัน (ชื่อเดิมของเสิ่นเจิ้น+ชื่อในเกม) คล้ายกับชื่อที่คนแปลลงเน็ตเคยตั้งไว้ของเรื่องเวยเวย "นทีแห่งความฝัน"
.
.
.
.
.
พอแค่นี้ขี้เกียจอ่านต่อ
แรงบันดาลใจกลิ่นเข้มข้น
ข่าว #เน็ตซีรีส์จีน
เรื่อง《#我在大理寺当宠物》
กำลังจะเริ่มถ่ายทำในเดือนธันวาคนนี้
เป็นเรื่องราวของหรูเสี่ยวหลันที่ข้ามเวลาไปอดีตแต่วิญญาณดันไปเข้าร่างแมว! แล้วความรักและการผจญภัยในชีวิตใหม่ของเธอก็เริ่มขึ้น
คนรักแมวมารอดูกันเถอะ!!!
// ทำไมกูนึกถึงนิยายเสิ้นเจิ้นบางเรื่อง
>>214 >>215 นิยายพิมพ์ตั้งแต่ปี 2016
ละครจะสร้างเดือนธันวาคมนี้ 2017 จำนวน 30 ตอน
Link https://www.miaobige.com/read/12280/ นิยาย สำหรับคนดำน้ำ
ใครก็ได้ช่วยแนะนำนิยายเสิ่นเจิ้นที่ควรค่าแก่การอ่านหน่อยดิวะ เอาดีๆ มาเลย ที่ตีพิมพ์แล้วเท่านั้น
>>218 ไม่น่าจะมีนะเพราะเพิ่งพิมพ์ขายที่จีนปีที่แล้วนี่นา
เป็นพวกบ้าซีรีส์จีนวันนี้เพิ่งเจอนิยายเปิดใหม่ถูกใจเรื่องหนึ่งเพราะใช้รูปนักแสดง ( คู่รอง ) ที่ชอบเลยเมนท์เป็นกำลังใจให้ เรื่องนี้เลือกรูปประกอบได้ถูกใจมาก นอกจากดูคำโปรยและเนื้อหาบทแรก ๆ แล้วมีใครเลือกอ่านแบบนี้บ้างไหม พิมพ์ไปก็นั่งขำตัวเองไปเพราะไม่คิดว่าจะกลายมาเป็นคนเลือกนิยายจากรูปประกอบดาราได้เหมือนกัน แต่ก่อนเลือกอ่านจากคำโปรยกับเนื้อหาบทแรก ๆ
http://writer.dek-d.com/noname1329/writer/view.php?id=1573082
ฝากสับ ไม่ใช่นิยายกู กูอ่านแล้วรู้สึกเฉยๆกับตอนหลังๆ
ยอดเฟบนี่แม่งเชื่อคุณภาพไม่ได้ ดูนิยายกุไม่ได้ลงซักตอนเสือกมีคนเฟบแล้ว คนอ่านมึงรีบกันชิบหาย 222 หรือพวกมึงรอสับกุกันอยู่ ถถถถ
>>221 ลองอ่านไปสามสี่บท เพราะอ่านบทแรกกูไม่รู้สึกว่ามันสนุกอะไรเลย แต่เห็นคนเฟ้บเยอะเลยอยากรู้ว่าเขาสนุกกันตรงไหน กูคิดว่าเขาคงเก่งในการลำดับเรื่อง เล่าได้เรื่อยๆเหมือนเล่านิทาน แต่ภาษาเขาไม่ดี ผิดเยอะ ทั้งพิมพ์ผิดและใช้ผิดความหมาย แต่พอดีเรื่องตรงจริตนักอ่าน เท่าที่กูเห็นนิยายหลายเรื่อง คนอ่านส่วนใหญ่ชอบให้เล่าตรงๆ บอกให้หมดทุกอย่าง เล่ามาเลยทื่อๆเนี่ยชอบกันมาก ถ้ามีปัญหาต้องแก้แบบยากๆคนอ่านจะลืม ถ้าซับซ้อนมากก็จะงง เพราะฉะนั้นเวลาคนเขียนมันเขียนว่านางเอกฉลาด ปัญหาที่แก้มันก็จะกระจอกมากๆ เพราะคนเขียนเขียนได้แค่นั้น คนอ่านก็รู้สึกว่าเทพแล้ว ส่วนใหญ่ยิ่งยอดเฟ้บยอดวิวเยอะ คุณภาพมักจะต่ำตม คนอ่านชอบอะไรที่ไม่ต้องคิดเลย โม่งบางตัวก็เป็น ที่เห็นด่าๆในโม่งก็มีโม่งไปอ่านกันเพียบ แต่นิยายที่ดีแล้วยอดเฟ้บยอดวิวเยอะก็มีนะ แต่นานน้านจะมีทีว่ะ นานจนกูลืมไปแระ
https://writer.dek-d.com/aomjai/story/view.php?id=1695325 ฝากสับหน่อย ไม่ใช่ของกูนะแค่ตามอ่านอยู่ เป็นแฟนฟิคเสิ่นเจิ้นสายC เซตติ้งธีมจีนผสมแฟนต้านิดๆมั้ง อันนี้กูลองสับของเขานะ คำผิดมีประปราย ภาษายังก่ำกึ่งมีหลุดบ้าง ประโยคยังมีขาดๆเกินๆ ภาษาที่ใช้บรรยายไม่จัดว่าสวยแต่อยู่ระดับอ่านได้ ใช้คำซ้ำบ่อยไปในประโยคร่วมหรือใกล้เคียง ส่วนตัวจัดอยู่ในหมวดอ่านได้เรื่อยๆ
>>230 กูว่าจำนวนประชากรมีส่วน จีนตลาดใหญ่กว่ากลุ่มคนอ่านก็น่าจะมีความนิยมหลากหลายกว่า งานจีนแท้ถ้าอ่านพวกที่เอามาแปลๆ ในเน็ตกูก็ว่าพล็อตโคตรซู วนไปวนมาเพิ่มขั้นตบเกรียนไม่น่าจะน้อยได้เลย หางานซับซ้อนแทบจะไม่เจอ ที่เอามานี่คงเลือกกันมาพอสมควรแล้ว ส่วนใหญ่ก็เลือกเอาเล่มไม่เยอะมากเกินไป ถ้ามากจริงมันต้องดีจริงขนาดคนอ่านติดงอมแงมแบบที่เห็นหลายเรื่อง ดังนั้นกูขออนุมานว่าทั้งคนอ่านคนเขียนมันก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่คนเขียนเขามีจำนวนมากกว่า งานคุณภาพที่ออกมาก็เยอะกว่า แล้วคนประเทศเขาเยอะ ถ้างานเขียนโดดเด่นหรือใช้ได้สักหน่อยมีโอกาสเขียนงานเลี้ยงชีพกันได้ คนที่ทุ่มเทให้งานได้น่าจะมีมากกว่าประเทศเรา
ส่วนความเห็นที่ว่านักอ่านไทยมักบอกว่าอ่านยาก สู้เสิ่นเจิ้นไม่ได้นี่กูคิดว่าส่วนน้อยนะ กูอนุมานจากกลุ่มคนซื้อหนังสือจริงๆ นิยายแปลจีนแท้ๆ ที่เอามายังไงก็มากกว่าเสิ่นเจิ้น แต่กูเห็นต่างนิดหน่อยส่วนที่งานเขียนเขาหลายๆ เรื่องก็ไม่ได้ย่อยยาก แต่รูปแบบสำนวนภาษางานจีนแท้กับเสิ่นเจิ้นมันค่อนข้างต่างกัน เสิ่นเจิ้นที่สำนวนคล้ายจีนมากก็พอมีแต่นานๆ กูจะเจอสักที ที่เจอส่วนใหญ่เป็นงานไทยที่ทำฉากหลังจีนหน่อยมากกว่า อีกอย่างคืองานเขียนจีนหลายเรื่องกูรู้สึกเข้าถึงอารมณ์กว่า อาจจะพราะคนแปลด้วยส่วนหนึ่ง แต่ถ้าเขียนในสำนวนแบบเดียวกันงานเสิ่นเจิ้นหลายเรื่องที่เคยผ่านตาภาษาจะชวนง่วงน้ำเยอะน่าเบื่อแทนจนกูอ่านข้ามๆ ในขณะที่งานจีนส่วนใหญ่ที่อ่านส่วนบรรยายกลับดูน่าสนใจกว่า
>>231 +1 ใช่ ประเทศใหญ่มีคนฉลาดเยอะ คนโง่เยอะ แล้วมันก็มีปริมาณเยอะกว่าเรา งานยากจึงมีคนอ่านพอที่จะขายได้ งานจีนแท้มีทั้งงานซับซ้อนอ่านยากและงานงี่เง่า แต่ทั้งสองตลาดของมันมีคนอ่าน แต่งานของไทยเรามีคนอ่านงานยากน้อย คนอ่านงานไม่เอาไหนมีเยอะกว่า ทุกอย่างมันมาจากระดับของคนว่ะ คนไทยเยอะเลยที่เจองานอ่านยากแล้วหนี กูไม่ได้บอกว่าคนไทยฉลาดน้อยกว่าในแง่ปริมาณสมอง แต่กูพูดถึงจำนวน ประเทศพัฒนาแล้วก็มีงานเขียนทุเรศ แต่คนอ่านงานเขียนดีที่อาจจะอ่านยากก็มีมากพอ มันเลยผลิตงานทั้งดีและห่วยออกมาได้สมดุลกัน
ถ้าเอาแต่เฉพาะงานในวดด ยังไงงานห่วยมันก็เยอะกว่าและถูกเสพมากกว่า ใครจะแย้งก็ไปดูนิยายติดท็อป ขายฉากเยมีคนขอหลังไมค์เพียบ ขายเรื่องเมียหลวงเมียน้อยขึ้นท็อปได้ภายในสิบห้าตอน ขายพระเอกซาตานตบเมียกลิ้งเป็นขนุนก็มีโอกาสติดท็อปไม่ยาก นี่คือประเทศไทยส่วนนึงว่ะ ไม่ต้องด่าละคร เพราะคนไทยอยากเสพเรื่องพรรค์นี้มากมาย ยิ่งต่ำตมยิ่งชอบ แล้วยิ่งอ่านบ่อยๆก็จะยิ่งติด กูพนันได้ บางคนเปิดอ่านนิยายรอแต่ฉากฟิน ไม่อ่านเนื้อเรื่องอื่น กูเห็นในนิยายที่กูเข้าไปอ่าน บางเรื่องเขาเขียนบอกชัดเจนตั้งแต่บทแรก คนอ่านยังถามเลย เพราะมัวแต่อ่านเฉพาะฉากฟิน รายละเอียดอื่นไม่ได้เสพ ทีนี้ก็จะมีคนมาบอกว่าชีวิตจริงเครียดพอแล้วไม่อยากอ่านอะไรยาก มันก็วนกลับไปที่คุณภาพคนต่อไป เพราะถ้าใช้หลักการว่าชีวิตจริงเครียดพอแล้วไม่อยากอ่านอะไรยาก โลกนี้ก็จะไม่มีประเทศพัฒนาแล้ว
>>234 มึงก็ไม่ต้องไปสนใจ คนอ่านน้อยก็เป็นธรรมดา อยากให้มีคนอ่านเยอะต้องเขียนถึงมังกรลื่นๆถูไถๆ แหกแข้งแหกขาแค่ไหนอธิบายชัดๆ คนอ่านเข้ามาเพียบตั้งแต่บทแรก พระเอกต้องโหดแบบพานางเอกไปตบตีก่อนแล้วค่อยง้อ ยิ่งทำท้องยิ่งเข้าสูตรที่มึงจะได้ขึ้นท็อปไว ถ้ารู้ว่าเขียนไม่ได้ก็ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก มันมีนิยายแบบนั้นมากเกินไปแล้ว อย่าอยากดังลมๆแล้งๆเลยว่ะ ติดท็อปเพราะเรื่องซู ติดท็อปเพราะเรื่องเย พ้นจากนั้นแล้วก็ไม่มีใครจำได้
กูเป็นอีกหนึ่งคนที่อ่านนิยายติดท็อปหลายเรื่องแล้วต้องผิดหวัง ไม่อินไม่อะไรทั้งนั้น เพราะมันไม่เรียลไง กูไม่เข้าใจความคิดคนส่วนใหญ่ที่ชอบอะ อย่างเช่นผัวเมียตีกัน เมียหลวง เมียน้อย อิจฉาริษยา ขายncบ้างแหละ คืออ่านแล้วอยากล้วงคอ พูดแล้วกูก็เพลียใจ เฮ้อออ
บางเรื่องกูอ่านได้นะ แต่ก็แค่อ่านว่ะ มันไม่มีเรื่องอะไรให้อยากตาม ไม่เหมือนนิยายแปลที่เค้าคัดพวกพล็อตดีๆ มา กูชอบนิยายที่ดูมีอะไรๆ ว่ะ ไม่ใช่แค่แย่งผัวแย่งเมียแก้แค้นเอาสะใจ
อย่างหมอเทวดา เนื้อหาหลักคือแย่งชิงท่านแม่ทัพ กลับเป็นเมียเอกที่สมบูรณ์
อย่างฉู่หวังเฟย ท่านอ๋องเฉิน อ๋องฉู่ แย่งชิงนางเอก เรื่องชิงบัลลงก์เป็นเรื่องเล็กไปเลย
อย่างผลาญ ก็เรื่องผัวๆเมียๆ
สรุป มองเข้าไปในพล็อตหลักจริงๆ ก็วนเวียนเรื่องผัวเมียแย่งชิงความรักกันเป็นหลัก
>>239 ใช่มึง แต่มันมีมากกว่าความรักกับแย่งผัวแย่งเมียแก้แค้นกัน อย่างหมอหญิงกับฉู่ หรือพราวพร่าง ก็มีเรื่องการแย่งชิงอำนาจ มีราชสำนักการเมืองนี่นั่นเข้ามา
ที่จริงก็มีของนขเซิจเจิ้นที่กูชอบ มีคนเคยสับไว้ในตำหนักก่อนกูเลยลองเปิดใจอ่านดู แต่เรียกว่าสับได้ไหมไม่รู้ว่ะ ไม่ได้โดนด่าอย่างเรื่องอื่น
ล่าสุดมีผ่าศพด้วย แต่ไม่รู้ข้อมูลเค้าถูกต้องแค่ไหนนะ
>>242 มากตามจำนวนเล่มไง แต่เสิ้นเจิ้นส่วนใหญ่แค่ 1 เล่มจบ หรือ 2 เล่มไม่เกิน
พอเปรียบขนาดความยาวแล้ว
ยังไงของเรา ก็ถูกกำหนดเนื้อเรื่องให้สั้นกระชับอยู่แล้วนะเพื่อนโม่ง เล่มเดียวจบ
สนพ.ไม่เสี่ยงออกเป็นซีรี่ย์ยาวหลายเล่มไง
แต่พล็อตหลักของเรื่องแนวๆนี้ ก็แย่งผัวชิงเมีย วนเวียนหลักๆ อยู่เท่านี้
>>242 เห็นด้วย พล็อตใหญ่มันซ้ำๆ กันแหละ อยู่ที่ว่าใครจะขยายรายละเอียดออกไปยังไง รวมถึงใส่พล็อตรองอะไรเข้าไปแล้วมันกลมกลืนแค่ไหน จะผูกเรื่องยังไงให้น่าสนใจ ดำเนินเรื่องได้ลื่นไหลเปลี่ยนฉากไม่สะดุด แล้วก็มีเรื่องความสมเหตุสมผลต่างๆ
สรุปว่านอกจากจินตนาการแล้วต้องมีความรู้ด้วย รู้ว่านิยายที่ดีเป็นยังไง การเขียนที่ดีเป็นยังไง ภาษาที่ดีเป็นยังไง ความสมจริง ไม่ว่าจะฉาก เสื้อผ้าหน้าผม วัสดุเครื่องใช้ การดำเนินชีวิตตามยุคสมัย
นักเขียนที่ดีต้องทำการบ้านเยอะเลย
ในขณะที่เสิ่นเจิ้นส่วนใหญ่เหมือนเขียนเล่นๆ ใช้จินตนาการนำ อยากเขียนอะไรก็เขียนไป อยากใช้ภาษายังไงก็ใช้ สร้างสรรค์คำใหม่นำเทรนด์ (อ่านเรื่องนึงเจอ นางพร่องปากเล็กน้อย คือไรวะ พร่องปาก เกิดมาเพิ่งเคยเจอ นึกไม่ออกด้วยว่าลักษณะมันควรจะเป็นยังไง)
สรุปว่าเน้น (ตัวเอง) ฟินเป็นหลัก ซึ่งมันก็ไม่ผิดหรอก ใครใช้ให้ไปอ่านงานเขียนของเค้าล่ะ
เอาเป็นว่าไม่ถูกจริตก็ปิดไป
ถ้าหวังดีไปแนะนำหรือวิจารณ์อะไรก็ต้องทำใจว่าอาจจะโดนนักเขียนหรือแฟนคลับด่ากลับมา
เรื่องคำผิด คำสะดุด ต้องดูมุมมองเพื่อนโม่งแต่ละคน ว่าหวังอะไรกับการอ่านนิยายเว็บ
ซึ่งมันคือการเร็วและการลงต่อเนื่องนั่นเอง
ต้องรู้ระบบท็อปของเว็บก่อนว่า อันดันท็อปคือยอดวิวรายวัน คนแต่งส่วนใหญ่จะพยายามลงให้เร็วต่อเนื่อง มากกว่าจะรีไรท์ตอนที่ลงในเว็ป
เพราะเรื่องแย่งชิงอันดับยอดวิว ส่วนใหญ่เรื่องคำผิดจะรอเมื่อเขียนจบเรื่อง ก็จะทำการรีไรท์กันใหม่จริงๆนั่นแหละ
บางเรื่องโชคดีหน่อยได้ตีพิมพ์ ก็จะมีบรรณาธิการตรวจแก้คำผิดกับขัดเกาสำนวนอีกครั้ง ก่อนเป็นรูปเล่ม
ถ้าต้องการสมบูรณ์แบบจริงๆ คงต้องรอเป็นรูปเล่ม
ปล. กูเข้าใจเรื่องพวกนี้อยู่บาง คนอ่านบางคนก็ต้องการอะไรที่เพอร์เฟค แต่นิยายลงเว็บมันคือความเร็วในการเขียนต่อเนื่อง
ปกติยังไม่ผ่านการตรวจสอบรีไรท์อะไร
>>252 พูดถึง บก.ป ณ สนพ.แห่งหนึ่ง กูก็ยังอุตส่าห์ไปส่องนิยายจีนเสิ่นเจิ้นของเขา เห็นมีคนไปคอมเม้นท์ว่าโปรยก็เจอคำผิด 555 ว่าแต่ที่เขาบอกว่ามีทั้งเวอร์ชั่นทะเลทราย นี่คืออะไรวะ เอานิยายเก่ามาเปลี่ยนฉากให้เป็นจีน เปลี่ยนตัวละครให้เป็นจีน หรือว่าแบบไหน แบบนี้ก็ได้เหรอ
>>252 กูเป็นนักเขียนนะ อยู่อีกแนวหนึ่ง ไม่ใช่แนวจีนโบราณ นิยายที่แต่งก็เคยได้ท็อปทุกอันดับมาเหมือนกัน หลายหมวด
เรื่องคำผิด คือความใส่ใจของนข. จริงๆนั่นแหละ
แต่กูอาจจะเป็นคนที่ค่อนข้างมองในเชิงบวกกับนข. ที่พยายามแต่งมากสักหน่อย
เพราะกูอาจมองข้ามไปที่จุดสุดท้าย คือเรื่องตีพิมพ์ ทำมือขาย ออกอีบุ๊ค ซึ่งกรณีนั้นจะต้องทำการรีไรท์ทั้งเรื่องใหม่เพื่อตรวจสอบ ก่อนที่จะมีทางบรรณาธิการมาขัดเกาและตรวจสอบอีกทีนั่นแหละ
ก็คงประมาณ
เขียนด้วยจุดประสงค์ลงเว็บ เน้นเร็วและต้องเขียนต่อเนื่องไม่หยุด ไม่งั้นเจอสมองตันในเรื่องนั้นๆที่เขียนแน่ ถ้าห่วงอะไรมากไป
แต่ถ้าจะตีพิมพ์ อันนั้นต้องเอามาตรวจสอบให้ละเอียด และตัดทอนหรือเสริมอะไรที่ตกหล่น ก่อนส่งให้บก.
นี่คือแนวทางที่กูเขียนจบมาหลายสิบเรื่อง
อ่านจากที่พูดกันมากูยิ่งซูฮกพวกที่แทบไม่หลุดเขียนคำผิดให้เห็น มองอีกแง่หนึ่งมันคือความใส่ใจ
กูว่านักเขียนเกือบทุกคนที่เขียนลงเด็กดีในตอนนี้ก็อยากมีผลงานตีพิมพ์ทั้งนั้นแหละ ยิ่งลงไว ยิ่งดัง ยิ่งมีคนสนใจ ส่วนเรื่องสำนวนภาษากูว่าไม่ค่อยใส่ใจกันเพราะคิดว่าถ้าพล็อตผ่านแล้วทางสำนักพิมพ์คงช่วยเกลาทั้งหมด แต่อย่าลืมว่ามันจะติดตัวนักเขียนจนเป็นนิสัย เขียนแบบชุ่ยๆ ไป ไม่ตรวจทาน กูคนนึงล่ะไม่อ่านเรื่องที่นักเขียนทำแบบนี้ คนพวกนั้นเสียเวลาเรียนภาษาไทยมาตั้งแต่ประถมทำไม ทั้งๆ ที่นักเขียนที่ใช้ภาษาไทยกากๆ ยังผงาดตีพิมพ์หนังสือได้ โทษทีกูอินจัด เจอแต่พวกคำชมไม่ว่าคำตินี่เรียกติ่งตัวเองมาประจาน ไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่นักอ่านบางคนถึงเหมารวมว่านิยายเสิ่นเจิ้นส่วนใหญ่มีแต่พล็อตลอกมา เติมน้ำพริกกะปิน้ำปลาไม่ควรค่าแก่การซื้อหา
>>248 จากข้อมูลที่บอกมา เหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ไม่เข้าใจว่ะ ลงเร็วแล้วรู้ได้ไงว่าจะมีคนดู มันเกี่ยวกันเหรอ
ประเภทพิมพ์สดจากมือถืองี้ ทำไมต้องทำแบบนั้น ลงได้เร็วขึ้น 1-2 ชั่วโมงนี่มันมีผลขนาดนั้นเลยเหรอ
นี่ถามจริงๆ นะ ไม่ได้แดกดัน เป็นคนอ่านอย่างเดียวก็เลยไม่รู้เรื่องระบบ
เขียนเสร็จแล้วอ่านทวนอีกที อย่างน้อยเช็คตัวสะกด มันไม่น่าเสียเวลามากนะ
เรื่องการเรียบเรียงใหม่นั่นอีกเรื่องนะ แต่กะอีแค่สะกดคำ คนจะเป็นนักเขียนนี่ภาษาไทยห่วยขนาดนั้น แล้วอ้างว่าต้องรีบลง?
อยากให้ระบบมันเช็คเวลาอ่านได้จริงๆ เช่น ถ้าอ่านมากกว่า 5 นาทีถึงจะนับยอด
เพราะบางทีแค่ลองเปิดเข้าไปดูเจอสะกดผิดเยอะๆ ก็ปิดละ แบบนี้มันไม่ควรได้ยอดวิวเลย
กูสงสัยที่อ้างว่าพิมพ์มือถือมากว่าเป็นข้ออ้างหรือพิมพ์มือถือจริง ๆ กูนะอ่านโม่ง อ่านนิยายในมือถือ แต่พอจะพิมพ์เม้นท์บางทีกูยังรอกลับบ้านเปิดคอมพิมพ์เลย หรือบางทีนอนกลิ้งบนเตียงยังลุกขึ้นมาเปิดคอมต่อเน็ตเสียเวลาหลายนาทีค่อยพิมพ์ นอกจากจะเม้นท์แค่ประโยคสั้น ๆ หรือเม้นที่อยากตอบเร็วจริง ๆ ถึงจะพิมพ์มือถือ พิมพ์ยากว่ะ
>>258 สมัยนี้ต้องยอมรับว่า การวางแผนลงนิยายมีอะไรมากกว่าลงโดยไม่สนใจอะไรเลย
ไม่งั้นจะมีคนเขียนบางคนพยายามอัพหลอกนิยาย เช้า-เย็น ไปเพื่อทำไม? ใช่ไหม
การลงเร็วเมื่อเรื่องติดระดับท็อปในหมวดแล้ว
มันจะเกิดความต่อเนื่องของแฟนคลับและยอดวิิวเข้ามากกว่าปกติหลายเท่าตัว
เพราะเหมือนเป็นการโฆษณาในตัว เพราะคนอ่านที่เปิดเว็บ จะเห็นชื่อเรื่องนั้นๆก่อนเลย ทำให้สนใจกดเข้าไปดูไงล่ะ
ถ้าช่วงชิงในช่วงต้นๆได้แล้ว เรื่องนั้นๆ มักจะวนเวียนติดอันดับไปจนกว่าจะจบเลยทีเดียว
ปกติวัดกันไม่เกิน 10-15 ตอนก็พอรู้แล้วล่ะ ว่าจะเบียดขึ้นไปได้หรือไม่
สมัยนี้ฝีมือการเขียน เทคนิคสำนวนเนื้อเรื่อง ฐานแฟนคลับ กลยุทธในการทำไงให้เรื่องที่เขียนโดดเด่น มันต้องวางแผนอยู่บ้าง
ที่ง่ายสุด เขียนไว้ก่อนสักสิบตอน แบ่งลงทุกวันตอนหนึ่งสัก 3 วัน ติดต่อกันได้หนึ่งเดือนแล้ว
คนอ่านจะสังเกตเห็นได้เร็วและรับรู้เองว่า เรื่องนี้มีให้อ่านทุกวัน ก็จะทดลองเข้ามาอ่านมากกว่า เรื่องที่ สัปดาห์ลงครั้งหรือหนึ่งเดือนลงกัน
แบบนั้นไม่ให้บรรยากาศชวนติดตามหรอก คนอ่านจะคิดว่ามีโอกาสดองสูง จึงไม่สนใจเข้ามาไง
วิธีนี้เป็นปกติ เป็นเทคนิคแบบเบสิคสุดๆ
>>258 กูไม่ใช่ 248 นะแต่ขอมาตอบให้แทน
การตรวจทานอาจใช้เวลาชั่วโมงเดียว แต่ถ้าคนเขียนตรวจต้นฉบับแล้วจะทำให้ความเร็วในการเขียนเรื่องตกลงแน่นอน อาจจะตกลงได้มากถึง 5 เท่า 10 เท่าก็เป็นไปได้ จากเขียนได้วันละตอนกลายเป็น 5 วันตอน กูพูดจริงๆ เพราะกูก็เคยเป็น แล้วส่วนใหญ่พวกที่ใช้เวลาตรวจจริงๆ จะเขียนต่อเนื่องไม่ค่อยได้เพราะมันจะมีความกังวลในการคิดหลายอย่าง ประโยคบางประโยคมันอาจจะใช้เวลาคิดสักสามชั่วโมงเพื่อหาประโยคที่ดีกว่ามาใส่ ประโยคเดียวมึงจะเสียเวลาชีวิตมาก การตรวจมันไม่ใช่แค่คำถูกผิด แต่เป็นภาพรวมและอะไรอีกหลายๆ อย่างเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์มันเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา ถ้าคนเขียนอ่านแล้วมันไม่ค่อยอยากแก้คำผิดอย่างเดียวหรอก มันอยากแก้ทั้งหมดนั่นแหละ เพราะงั้นการอ่านทวนจริงๆ วันไม่ได้ทำให้เสียเวลาแค่ชั่วโมงสองชั่วโมง แต่เสียเวลาหลายวัน วิธีที่เร็วที่สุดคือเขียนให้จบแล้วแก้ทีเดียว ถ้าเขียนไปแก้ไปกูเคยเขียนดูแล้ว จากใช้เวลาสองเดือนกลายเป็นแปดเดือนในจำนวนต้นฉบับที่ใกล้เคียงกัน จากที่ลงต่อเนื่องได้ก็กลายเป็นอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง สองครั้งคือหรูแล้ว
ส่วนลงเร็วๆ มีผลให้คนอ่านมากกว่าไหม ก็ต้องตอบว่ามี มีแน่นอน นิยายติดท็อปส่วนใหญ่มันมีแต่พวกลงต่อเนื่องกันทั้งนั้นแหละ เร็วในที่นี้คือ 1 วันตอนนะ อันนี้เร็วมากละ พวกมึงอ่านแล้วเจอคำผิดปิดเลยก็จริง แต่กูว่าตัวเลขมันไม่โกหก คนอ่านส่วนใหญ่จริงๆ มันอาจจะแค่ติดใจแต่ไม่ไ้สนใจมากนักหรอกไม่งั้นมันจะติดท็อปกันได้ไงถ้าคนเจอแล้วเลิกอ่านไปเลย ส่วนที่คนเขียนหลายๆ คนมันไม่อยากแก้ก็อย่างที่เขียนไปก่อนหน้านี้ ความเร็วมันช้าลงไม่ใช่แค่ชั่วโมงสองชั่วโมง แต่เสียเวลาเป็นทั้งวันหรือหลายๆ วัน บางคนก็อาจมีเวลาตรวจไม่มากต้องทำงานหรือมีเรียน ใช้เวลาเดินทางทั้งวัน วิธีที่ดีที่สุดคือคนเขียนจำคำศัพท์ที่ถูกให้ได้แล้วเขียนไปรวดเดียว ใครใส่ใจมึงก็จะเห็นพัฒนาในบทต่อๆ ไป แต่อาจไม่เห็นเขากลับไปแก้บทเก่าหรอกเพราะทันทีที่เริ่มกลับไปแก้ เรื่องนั้นอาจจะหยุดเขียนไปอีกสักสามเดือนเลยก็ได้ มึงลองหานิยายเก่าๆ ที่ขึ้นว่าจะรีไรต์ระหว่างทางดูก็ได้ หลายๆ เรื่องน่าจะหยุดเขียนไปนานเลย
ขอเป็นกำลังใจให้นักเขียนดีๆ อีกหลายคนที่ไม่เน้นทำยอด เรื่องไหนที่ตามก็จะตามตลอดนะ จะอัพอาทิตย์ละครั้งหรือสองอาทิตย์ครั้งก็ยังตามอยู่
(แต่ถ้าทิ้งไปซักเดือนนี่ก็โบกมือลาเหมือนกัน ไว้เห็นอัพใหม่ค่อยมาต่อใหม่)
คิดไปแล้วกูนี่คงเพิ่มยอดวิวให้หลายเรื่อง อ่านจากแอพแบบไม่ได้ล็อกอินก็เลยไม่มีแจ้งอัพเดท
(พยายามสมัครสมาชิกแต่ไม่ได้ซักที เหมือนสำเร็จ แต่ล็อกอินไม่ได้ เข้าใหม่บอกชื่อซ้ำ อะไรของมันไม่รู้ ไม่ล็อกก็ได้วะ)
เรื่องไหนบุ๊กมาร์กไว้ก็จะคอยกดเข้าไปดูว่ามีตอนใหม่รึยัง
ขอชื่อนิยายลงเว็บที่ไม่มีคำผิดหรือมีน้อยมากให้สักเรื่อง กูจะอ่านและรีวิวให้อย่างใส่ใจ
คนไหนที่บอกว่าแก้คำผิดแล้วเสียเวลามาก สมองไม่แล่น เขียนไม่ออกอีกเลย กูขอบอกไว้นะว่า เพราะมึงอ่อนภาษาไทย คนธรรมดาเลื่อนสายตาไล่ๆเอาหน่อยก็เห็นแล้วว่าเขียนผิด กูไม่นับคำผิด (พลาด) ที่อาจจะหลงตา ประเภท ฮูหยินนเดินออกไปดูบุตรี เพราะกูเข้าใจว่าบางกรณีคนเขียนมองไม่เห็นด้วยตัวเอง แต่คำผิดแบบที่ไม้เอกไม้โทผิด สระผิด สอเสือศอศาลาผิด ราชาศัพท์ผิด สำนวนผิด จะเขียนว่านางเอกเป็นคนละเอียด ดันไปเขียนว่านางเอกเป็นคนละมุน อะไรแบบนี้ กูบอกเลยว่าอ่อนเกินกว่าจะมาเป็นนักเขียน ถ้าอายุน้อยพอให้อภัย แต่ถ้าเกินสิบแปดมันก็ไม่ใช่แล้วไง มันเป็นวัยมหาลัย มึงก็ต้องใช้ภาษาไทยได้ถูกต้องสมบูรณ์แล้ว การหาคำถูกก็ไม่ได้ยากอะไรเลย ราชบัณฑิตออนไลน์มีมาเป็นชาติแล้วว่ะ มีแต่คนรุ่นยายกูเท่านั้นแระที่ไม่รู้ พ่อกะแม่กูยังรู้เลยว่าอยู่เว็บไหน วิกิก็ใช้เป็น หาเป็น ใครที่มาแก้ตัวว่าต้องเน้นลงเร็วเลยไม่มีเวลาตรวจคำผิด บ้านกูเรียกว่าชุ่ย จะมาบอกว่าเขียนให้อ่านฟรีเลยไม่ต้องสนใจ เน้นเร็วเพื่อหวังให้ตีพิมพ์ มึงรู้ปะว่ามึงก็จะไม่ได้เจอบรรณาธิการดีๆ เจอแต่พวกทุเรศๆที่มันเอางานชุ่ยแต่ดันมีคนอ่านของมึงไปทำเงิน ทำได้ไม่ได้ก็ไม่รู้ แต่มันไม่สนใจมึงหรอก เดี๋ยวมันก็มาหาคนใหม่ที่พิมพ์ผิดชุ่ยๆแต่ยอดวิวดีไปออกเล่มต่อ จำไว้เลยว่ามึงทำงานชุ่ย คนที่เห็นว่าผลงานมึงควรค่าแก่การออกเล่มก็คือคนชุ่ย คนอ่านมึงก็คือคนชุ่ยๆเหมือนกัน ไปสังเกตสิว่าเม้นของมึงก็จะมีแต่ เราเอาองค์ชายรองอ่อ ฟินนนอ่ออ เกลียดดดดอีเสี่ยวจวง ไรท์ขาขออีกตอน รอออออ มะไหร่อ๋องแปดออกมาอีกคะไรท์ ไรท์อย่าไปสนใจคนตินะค่ะ มันอิจฉาคะ มารไม่มีบารมีไม่เกิดคะ แล้วมึงก็เก็บไปฟินของมึงว่ายอดวิวเป็นแสน แล้วก็เพาะนิสัยชุ่ยของมึงต่อไป ถามจริงไม่อายเหรอวะเวลามีคำผิดในนิยายแบบทุเรศมากๆ กูย้ำอีกทีนะ คำพลาด พิมพ์พลาด หรือคำยาก คำที่อาจสะกดผิดได้ กูไม่ว่าอะไรเลย แต่คำผิดที่ไม่น่าผิด ประเภท องษ์เอวออรชร เทพพจ้าวกูปลี น้ำตาไหลปลี่ ทวยราชแส่ซ้อง หงมู๋มู๋น้ำตาปลิ่ม อะไรอย่างนี้ ถ้ามึงไม่รู้คำถูกแล้วมึงเลยวัยมอต้นมาแล้ว กูไม่ให้อภัยว่ะ ใครจะว่ากูเยอะก็ว่าไปเลย มึงว่ากูเยอะ กูก็ว่ามึงชุ่ย ไม่มีคุณภาพพอจะเป็นนักเขียน
อยากแนะนำเพื่อนโม่งไปดูการเรียนการสอนของระบบเราก่อนนะว่าเกิดอะไรขึ้น
สมัยนี้ถึงเกิดภาษาวิบัติมากขึ้น
การผันวรรณยุกต์ ไม่มีอีกแล้ว ใช้การจำคำก็ใช้เป็นคำๆ
เคยเห็นผลการสอบภาษาไทยของคนรุ่นใหญ่ๆไหม คะแนนตกลงทุกปี
ไม่เข้าใจว่าทำไมนักเรียนไทยเรียนหนักมากเป็นอันดับต้นๆในโลก แต่ผลสอบแย่ตกต่ำลงเรื่อยๆ
หลักสูตรเปลี่ยนไปเอาอะไรก็ไม่รู้...
เรื่องคำผิด คนสมัยก่อนอาจถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่คนอ่านสมัยนี้อารมณ์แบบมือถือ คือต้องรวดเร็ว
ก็นะ มันแล้วแต่มุมมอง ในเรื่องคำผิด และการจัดการรับผิดชอบในเรื่องที่ตัวเองเขียน
สมันนี้การแข่งขันที่สูงมาก แทบหาคนเขียนที่มีภาษาละเมียดละไมแบบก่อนยากแล้วจริงๆ
แต่ภาษาสลวยมากไปคนอ่านก็ว่ายืดยาน เป็นพระเจ้าเหาอีก
แต่สุดท้ายจริงๆ มุมมองที่น่าด่าที่สุดคือการออกเป็นรูปเล่มแล้วยังมีคำผิดอีกบานนั่นแหละ กูยังให้มุมมองว่า งานที่อ่านฟรีก็เหมือนการทดสอบ ทดลองของนข.นั้นๆ
จะไปด่าจริงก็เมื่อเสียเงินจ่ายซื้อเป็นรูปเล่มแล้วนั่นแหละ
ปล.กูกดมือถืออย่างเร็ว มีคำผิดเล็กน้อย ต้องขออภัย
โหลดตัวอย่างบางเล่ม โดยเฉพาะที่ทำมือ อีบุ๊กที่ทำเอง กูนี่แทบกุมขมับ เชี่ยยยย แม่งแบบนี้ก็กล้าขายเหรอวะ แค่คำง่าย ๆ ยังผิด เว้นวรรคดี ๆ ยังไม่เป็น ไม่อายวุฒิการศึกษาตัวเองเหรอ กูเห็นหนังสือที่ถือก็รู้คุณภาพอ่านเลยว่ะ หรือว่าคนอ่านก็ไม่รู้คำไหนผิดคำไหนถูกพอ ๆ กัน
สทศ.เผยคะแนนสอบโอเน็ตเด็กป.6,ม.3 เฉลี่ยทั่วประเทศต่ำกว่า 50 ทุกวิชา
http://www.thaitribune.org/contents/detail/305?content_id=26855&rand=1490612561
เห็นแล้ว คิดว่าคนรุ่นใหม่จะเป็นยังไงวะ เพื่อนโม่ง
รากฐานประเทศเรา คะแนนสอบต่ำตมลงเรื่อยๆ แล้วจะคาดหวังว่าไงดี
>>271 การเรียนการสอนที่มึงว่าอาจจะมีผล กูมาจากยุคจำคำ พ่อกะแม่กูยังโมโหและพูดอยู่ทุกวันนี้เลยว่ากูเรียนมาผิด แล้วก็บ่นเหมือนที่มึงพูดเป๊ะเลย แต่กูมาคิดดูนะ คนยุคก่อนก็พิมพ์ผิดเขียนผิดเหมือนกัน กูเห็นป้ากูพิมพ์ก็ใช้ไม้เอกไม้โทผิดประจำ แต่ยุคก่อนไม่มีเน็ทไง เลยไม่ได้เห็นว่าใครใช้ถูกไม่ถูก แต่ที่เราพูดกันอยู่นี้คือนักเขียนไงมึง คำว่านักเขียนมันตรงตัวว่ามึงใช้ความสามารถในการเขียนเป็นหลัก เหมือนกูอยากเรียนวิศวะแต่กูไม่เก่งฟิสิกข์ กูก็ต้องเรียนพิเศษสามปีสี่ปีแทบรากเลือด เพราะกูอยากไง ถ้าใครบอกว่าอยากเป็นนักเขียน ก็ต้องใช้เวลากับการเรียนภาษาให้มากขึ้น อย่าอ้างยุคว่ะว่ายุคก่อนดีกว่า เรียนภาษาไทยแบบยุคก่อนแล้วภาษาจะเจ๋งกว่า กูว่ามันอาจมีส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด กูขอใช้คำว่าใส่ใจ ถ้ามึงรักการเขียน มึงก็ต้องใส่ใจกับสิ่งที่มึงใช้ทำอาชีพ ถ้ามึงบอกว่าเขียนสมัครเล่นเอาสนุก มึงก็ต้องมีความรักภาษาก่อนมะ เพราะมึงมาทางงานเขียน งานเขียนยุคก่อนที่มีคุณภาพเพราะคนไม่มีคุณภาพแม่งเกิดไม่ได้ไง ไม่มีเน็ทให้ลง อย่าเปรียบเทียบวิธีการเรียนการสอนของคนยุคเก่ากับใหม่เพื่อมาช่วยผ่อนปรนให้คนที่อยากเป็นนักเขียนเลยว่ะ มันคนละเรื่องกัน ใครอยากเป็นอะไร มีความฝันอะไร ก็ต้องเริ่มจากทำตัวเองให้มีคุณภาพในด้านนั้นก่อน ถามจริงๆว่าคนที่คิดว่านักเขียนเขียนคำผิดไม่เป็นไรเนี่ย มึงคิดว่าคนเราไม่ต้องเคารพในสิ่งที่ทำเหรอวะ มึงไม่ต้องทำเลิศเลอเพอร์เฟ็คท์หรอก ไม่มีใครว่าถ้ามึงมีคำผิดบ้าง ที่เขาว่ากันนี่คือประเด็นคำง่ายๆแต่ผิดอย่างน่าทุเรศ คำใช้บ่อยแต่ดันเขียนผิด แล้วยังมาอ้างว่าถ้าตรวจแล้วสมองตันทันที ต้องรีบลง อ้าว มึงก็เขียนไปเลยให้จบสิ ในเมื่อมึงเขียนได้เร็วปานนั้นแล้ว สองมึงไหลลื่น มึงก็ว่าไปเลยสิร้อยตอน แล้วตอนจะลงมึงก็ค่อยตรวจ แค่นั้นเองว่ะ คนอ้างรู้อยู่แก่ใจว่ามึงรีบลงเพราะอะไร มึงแข่งกับอะไรอยู่ อยากติดท็อปวดด มึงไม่แข่งด้านคุณภาพก็ไม่มีใครว่า เพราะรู้กันอยู่ว่ามันเป็นเว็บมือสมัครเล่น แต่มึงไม่แข่งด้านคุณภาพแล้วยังรีบเอาของห่วยไปวาง อันนี้มันส่อที่นิสัย
กูเห็นด้วยว่าคุณภาพนิยายไทยมันห่วยมาก กูหมายถึงนิยายทุกหมวดเลย ลองเปรียบเทียบนิยายรักสมัยก่อนกับสมัยนี้สิ สมัยนี้มีทั้งท้องแล้วหนีผัว วันไนส์คืนเดียวแล้วรักกัน ไม่ได้คบกันแต่ห้ามเธอไปคบใคร นิยายรักสมัยนี้หาความรู้สึกรักจากนิยายแทบไม่ได้เลย กูว่ามันมีเหตุผลมาจากตัวนข.ที่ไม่ได้เขียนเพราะใจรักรึเปล่า สมัยนี้อย่างนิยายจีนแค่เขียนง่อยๆไปก็ได้ตีพิมพ์เฉย ได้งาน ได้เงิน ฉากคัทเยอะ มีคนชอบ งานก็อปก็ตีพิมพ์หมด จนกูเริ่มเฟลว่างานเขียนมันตกต่ำได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ
กูมองอย่างเข้าใจไง ว่ายุคสมัยมันเป็นยังไง การศึกษาเป็นยังไง การแข่งขันเป็นยังไง
กูไม่ใช่พวกเพอร์เฟคชั่นนิสต์ คือกูมองว่านข. ก็คนธรรมดา
จำเป็นจะต้องเลิศเลอสมบูรณ์แบบด้วยหรือ... และเข้าใจจุดประสงค์หลักในการเขียนนิยายลงเว็บของพวกมือใหม่ มือสมัครเล่น ใช้เวลาว่างมาเขียนในแต่ละวัน
ถ้าระดับคนเขียนมีรายได้หลักมาจากงานอย่างเดียว อันนี้ต้องพิจารณาตัวเองมากหน่อย
แต่ ถ้าระดับคนเขียนที่เกิดอยากเขียน และงานเขียนไม่สามารถเป็นอาชีพหลัก นอกจากเป็นส่วนเติมเต็มบางอย่างในอารมณ์ที่อยากเขียนแค่นั่นล่ะ
บางคนโชคดี สนพ.มองเห็น ได้เงินตีพิมพ์ ระดับนั้นย่อมมีการปรับปรุงรีไรท์มากอยู่แล้วใช่ไหม
สรุป กูถึงบอกว่าอยู่ที่มุมมองไง กูมองแบบนี่ มึงมองอีกแบบ มันไม่ได้ทางเหมือนกันได้หรอกนะ
กูพูดถึงภาษาที่เป็นมาตรฐาน คำผิดที่ไม่ควรเกิด และการแก้ตัวที่ว่าถ้าแก้คำผิดแล้วสมองตัน นั่นคือประเด็นที่กูพูด ส่วนที่ว่าจะเป็นอาชีพหลักอาชีพรอง จะเป็นคนธรรมดาหรือเพอร์เฟ็คชันนิสต์ กูไม่ได้พูดถึงเลย กูแค่พูดว่าอยากจะเป็นนักเขียน อยากจะเอางานมาให้คนอ่าน แต่ดันปล่อยคำผิดง่ายๆออกมาโชว์ภูมิ ไม่อายตัวเองหรือไง แล้วคนที่บอกว่าแก้คำผิดไม่ได้ ทุกอย่างจะสะดุดหมด สมองตันสมองตื้อทันที ตลกไปหน่อยมะ กะอีแค่อ่านลวกๆซักสิบห้านาที สมองมึงตันเลยเหรอ นี่ไงที่กูบอกว่าอ่อนภาษา
ประเด็นอื่นที่ว่าตลาดชอบไม่ชอบ ตีพิมพ์แล้วมีคนช่วยแก้ไม่แก้ ขายได้ไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องที่กูเขียนถึงเลย
กูเข้าใจที่มึงสื่อนะ ว่ามึงมองอย่างไง ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ดี
แต่กูมองอีกอย่างหนึ่งไง คือกูมีประสบการณ์ในการเขียนอยู่บ้าง มีอะไรที่เข้าใจคนเขียนมือใหม่อยู่บ้าง เข้าใจกลไกตลาดอยู่บ้าง เข้าใจการทำงานของสนพ.อยู่บ้าง
กูจึงมองในอีกแบบหนึ่ง ต่างคนต่างมุมมอง ต่างคนต่างวิจารณ์ แต่ปัญหาอะไรแบบนี้ กูยังมองว่ามีไปอีกนานนั่นแหละ
เราเป็นนักเขียนที่ไม่ได้เรียนภาษามาโดยตรง แต่เราไม่เคยเขียนชุ่ยๆ แล้วอัปนิยายลงเว็บ ยกเว้นว่าคำผิดจะหลุดหูหลุดตาเราไป ที่ใช้ภาษาไทยถูกต้องทุกวันนี้เป็นเพราะศึกษาเองล้วนๆ จะโทษระบบการศึกษาอย่างเดียวก็ไม่ได้ ถ้าคนมันไม่ใส่ใจจะสอนดีขนาดไหนมันก็ไม่จำหรอกนะ จากใจคนที่ไม่เคยเรียนพิเศษภาษาไทยตอนมัธยมเลย
คำง่ายๆ ที่ไม่ควรผิดถ้าไม่จิ้มพลาดเราก็ไม่ผิด แต่พอมาเจอนิยายประเภทคำผิดบานตะไทเราจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างในค่านิยมคนไทย ปกติแล้วภาษาไทยคำไหนเราไม่แน่ใจเราจะเปิดกูเกิ้ลเลยอันดับแรก เพราะมันหาง่ายที่สุดแล้ว มีเน็ตอัปนิยายได้ก็ต้องตรวตทานได้ ใครที่บอกรีบอัปเพราะไม่งั้นจะช้าเราขอเถียงเลย เราใช้เวลาในการตรวจครั้งแรก 15 นาที มารีเช็คอีกรอบประมาณ 15 นาที นั่นคือเช็คคำผิดเฉยๆ ส่วนสำนวนที่ว่ามาสามารถปรับแก้ทีหลังได้ การอัปนิยายในแต่ละตอน สำนวนมันไม่คงที่อยู่แล้ว สุดท้ายก็ต้องมาตรวจใหม่จริงๆ แต่คนที่แก้แล้วแก้อีกจนออกทะเล เราคิดว่าเพราะไม่ได้แก้คำผิดเฉยๆ ไง
นักเขียนก็สะท้อนคนอ่านนะ
คิดดูว่าอยากให้คนอ่านเราเป็นแบบไหน คุณอยากได้คนอ่านแบบไหน งานเขียนของเรามันช่วยไบแอสคนอ่านเราได้ อีกอย่างเราเองมีเด็กมาอ่านด้วย ได้รับรู้ผลสะท้อนก็ตอนน้องนักอ่าน inbox มาคุยนั่นแหละว่าผลของงานเขียนของเราให้อะไรกับเขาได้บ้างอะนะ คนอ่านฟินๆ มันก็มี แต่อย่าลืมว่าบางคนก็ไม่ได้สักแต่ว่าอ่านเอาฟิน อยากเป็นนักเขียนแบบไหนเราเลือกที่จะเป็นได้ และภาพนั้นจะติดตัวติดนามปากกาเราไปตลอดนั่นแหละ
>>269 >>276 >>280 นี่หมายถึงกู >>264 สินะ
มีคนถามสาเหตุว่าทำไมนักเขียนชอบลงเร็ว การตรวจมันไม่เสียเวลามากจริงหรือ ตาม >>258 กูก็ตอบมุมมองกูไปตามนั้น มึงจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ หรือมึงไม่สนใจประเด็นที่เขาถามเลยก็แล้วแต่พวกมึงนะ แต่นั่นเป็นประเด็นที่กูเขียนถึงว่าทำไมการตรวจงานมันไม่ใช่แค่การอ่านลวกๆ สิบห้านาที กูตอบแทนพวกคนที่ตั้งใจลงชิงอันดับแต่แรกอยู่แล้วว่าทำไมมันมีคำผิดหลุดมาเยอะ ถ้าเยอะจริงผิิดหนักๆ อันนั้นมันเพราะตัวคนแล้วกูไม่เถียง กูว่ามันตรวจก็ผิดเหมือนเดิมแหละเพราะไม่รู้ว่ามันผิด พวกที่รู้อยู่แล้วเวลาลงส่วนใหญ่จะเป็นตัวหาย ตัวซ้ำเพราะพิมพ์ซ้ำ กดเกิน
ส่วนเรื่องสมองตันนี่กูต้องอธิบายอีกครั้งนะ กูไม่รู้ว่ามึงเคยเขียนงานหรือเปล่า ถ้าเขียนมึงเขียนเสร็จแล้วมึงตรวจไหม เวลาตรวจนี่กูถามจริงนะไม่ได้แดกดัน มึงตรวจแล้วมึงอยากแก้แค่คำผิดหรือ มึงเจอประโยคที่คิดว่ามันไม่เข้ากับบริบทหรือบางทีมันเรียบเรียงได้ดีกว่านี้มึงหยุดแก้ไหม กูเขียนงานมาหรือเคยอ่านมาคนที่ขึ้นว่ากำลังแก้ไขส่วนใหญ่กูไม่เคยเจอพวกแก้แค่คำผิดเลย มันแก้หมด บางทีแก้ไปถึงเนื้อเรื่องด้วย ดังนั้นการตรวจงานสำหรับคนเขียนมันไม่ใช่แค่การแก้ไขคำผิดให้ถูก คนที่ตั้งใจจะแก้แค่คำผิดให้ถูกกูว่าประหลาดมาก หายากมาก กูไม่เคยเจอมาก่อน เจอแต่คนแบบที่ถ้าได้เริ่มอ่านแล้วจะอยากแก้จุกจิก ดังนั้นมันไม่ใช่ชั่วโมงสองชั่วโมงหรือแค่สิบห้านาทีแน่นอน กูเขียนไปแล้วบางประโยคต้องกลั่นสักสามชั่วโมงค่อยพอใจก็มี มึงงงตรงไหนไหมว่าทำไมถ้าคนตรวจงานแล้วจะช้า นี่กูตอบในประเด็นของ >>258 นะ แต่กูกลัวมึงไม่เข้าใจที่กูสื่อสาร คิดว่านักเขียนตรวจงานสิบห้านาทีไม่ได้หรือ กูอยากสื่อสารว่าเวลาตรวจคนเขียนจริงๆ มันไม่ได้ใช้เวลาแค่นั้นหรอก พวกที่ตั้งใจชิงอันดับจริงจังเลยรอตรวจกันทีเดียวมากกว่าเพราะส่วนใหญ่วัตถุประสงค์มันเป็นเรื่องโอกาสตีพิมพ์แต่แรกอยู่แล้ว มึงจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ แต่อันดับมันมีผลต่อยอดขายแน่ๆ ถ้าไม่แล้วพวกสำนักพิมพ์ทั้งหลายจะสนใจงานติดอับดับกันทำไม ส่วนมึงอยากสนับสนุนคนที่ทำงานละเอียดก็ดีแล้ว ขอให้ทำต่อไป ข้อนี้กูก็เห็นดีด้วย
สุดท้าย มหาวิทยาลัย ไม่ใช่ มหาลัย
แหละ ไม่ใช่ แระ
เน็ต ไม่ใช่ เน็ท
ฟิสิกส์ ไม่ใช่ ฟิสิกข์
เพอร์เฟกต์ ไม่ใช่ เพอร์เฟ็คท์หรือเพอร์เฟ็ค
เผื่อว่าเป็นคำที่พวกมึงไม่ชินนะเพราะบางคนก็ไม่ได้ใช้บ่อย ตัว t ภาษาอังกฤษเวลาเป็นตัวสะกดในภาษาไทยให้ใช้ ต เต่า
>>281 กูเข้าใจที่มึงพูด แต่กูไม่อยากให้คนเขียนมาอ้างว่าตัวเองเป็นเด็กยุคใหม่แล้วเขียนผิด ระบบเรียนภาษาไทยแบบใหม่แย่หรือไม่แย่กูบอกไม่ได้ กูไม่รู้ว่าแบบเก่าเป็นไง กูคิดว่าน่าเบื่อถ้ามานั่งท่อง ก กา ก่า ก้า แต่มันอาจจะดีก็ได้ไง กูจึงไม่เถียง กูเรียนมาแบบ เอ กอ อา อ่านว่าเกา พ่อกะแม่กูบอกว่าต้องอ่าน กอ เอา เกา สำหรับกูมันเหมือนเอาตัวหลังมาขึ้นตัวหน้า แต่คนรุ่นเก่าคงคิดว่าใช่ กูก็ไม่รู้ว่าดียังไง แต่คนเรียนมาแบบกูแล้วสะกดถูกต้องหมดก็มีมากมาย พวกเด็กห้องวิทย์สะกดภาษาเก่งๆเยอะแยะ ไม่ต้องเป็นเด็กห้องภาษาก็ได้ กูถึงเน้นคำว่าใส่ใจ มีใจรักในงานที่ทำ
>>282 ถ้าไม่กลัวโม่งแตกก็เอานิยายมึงมาโฆษณาเลยนะ แอบมาลงวันหลังก็ได้ กูชอบคนใส่ใจงานเขียน ถ้าถูกใจเนื้อเรื่องก็จะอ่าน วันนี้อารมณ์ดีวิชาแรกคะแนนท็อป ส่งไลน์บอกคนรัวๆ ไม่อยากทำอย่างอื่นเลย ไม่ได้สัมผัสอารมณ์นี้มานานละ
>>285 ถ้ามึงถาม กูก็จะตอบให้
กูนี่แหละที่เขียนแก้คำผิด แม่งลงทีนึง ตรวจทานซ้ำๆ เพื่อแก้คำผิดล้วนๆ และนิยายกูยังวนเวียนอยู่ในท็อปสูง ๆ ไม่หลุดสักที
คือกูอยากบอกมึงว่ามันมีเว้ยคนที่ใส่ใจเนื่อเรื่องก่อนลง สมมติว่าวันนึงกูอัพ 3 ตอน
ระยะเวลาในการลง 3 ตอนนั่นก็ห่างพอสมควรอยู่แล้ว ตรวจเช็คคำผิดใช้เวลา 15 นาทีนี่ไม่เป็นปัญหาไรสำหรับกูเลย
หารแก้ในเรื่องของสำนวน กูจะแก้หลังจากลงตอนใหม่แล้ว ของกู เอาจริงๆ กูไม่ค่อยมีอะไรต้องแก้มาก เพราะเนื้อหาที่กูลง ส่วนมากกูจะพิมพ์ตั้งไว้ก่อนลงวันนึง
ถ้าด้นสด กูก็จะอ่านทวนอย่างน้อยรอบนึงเหอะ
แล้วกูก็เขียนนิยาย อัพนิยาย แก้นิยายในโทรศัพท์ล้วนๆ ไม่มีอย่างอื่น
กูรับไม่ได้กับพวกชุ่ยแล้วใช้ข้ออ้างแบบนี้จริงๆ
>>285 มึงจะแก้คำผิดให้กูก็ได้ กูยินดี เพราะนี่กูแชทอยู่ ไม่ได้พิมพ์งานในฐานะนักเขียน (ซึ่งกูก็ไม่ได้เป็น) แล้วมันก็บ่งบอกด้วยว่ากูไม่ใช่เพอร์เฟกต์ชันนิสต์ (ช่วยตรวจด้วยว่ากูเขียนถูกมะ) กูจึงไม่เคยบอกเลยว่านักเขียน (โดยเฉพาะในวดด) ต้องทำงานให้เพอร์เฟกต์ แต่กูยืนยันว่าการแก้คำผิดที่เป็นคำธรรมดาควรเกิดขึ้นก่อนนำงานลง
กูไม่เขียนนิยาย แต่ถ้าทำรายงานที่ต้องเขียน กูก็แก้คำผิดไปก่อนส่ง ถ้าจะเรียบเรียงดีๆทีหลังก็มาเรียบเรียงต่างหาก ถ้าจะเอาเร็วก็แค่แก้คำผิด นักเขียนที่บอกว่าแก้แล้วต้องแก้เยอะ แก้แล้วยุ่งยาก แก้แล้วใช้เวลานาน นั่นมันวิธีการทำงานของมึง มึงทำให้ดีไม่ได้ มึงก็ต้องโดนคน (อย่างกู) เบะปากใส่รัวๆ แต่มึงจะไม่สนใจก็ไม่เป็นไรนี่หว่า เพราะคนอ่านของมึงอาจจะเยอะ มึงก็ชื่นชมตรงนั้นไป ส่วนกูจะเบ้หน้าใส่ กูก็เบ้หน้าอยู่หน้าจอ มึงไม่อยากเปลี่ยนแปลงก็เรื่องของมึง มึงแวะมาช่วยเขียนคำผิดของกูให้กูรู้ กูดีใจนะที่มึงช่วยแก้แล้วสมองไม่ตัน มึงตอบได้เร็วและยาวดีด้วย มึงคงไม่ได้รวมอยู่ในกลุ่มแก้คำผิดแล้วสมองตันแน่ๆว่ะ กูดีใจจีย์จีย์
>>289 ถ้ากูแท็กผิดต้องขอโทษ เพราะกูขี้เกียจย้อนดู เม้นเยอะ เอาเป็นว่า อันไหนเขียนถึงมึงก็ใช่ อันไหนเขียนถึงคนอื่นแต่แท็กมึง มึงก็มองข้ามแระกัน กูขอพิมพ์ภาษาแชทนะ แต่ถ้าจะมีใครมาช่วยแก้ให้ กูยินดีมาก (จากใจจริงไม่ได้ประชด) แต่กูจะไม่พิมพ์ให้ถูกหมดหรอก ก็กูไม่ใช่นักเขียนที่กะลังเขียนงานแล้วรีบลงงานนี่หว่า กูแชทอยู่อ่อ
ไม่ได้เป็นนักเขียน แต่เป็นคนเอานิยายเขามาแปลไทย (จะเรียกนักแปลก็ยังกระดากปากเอง) ก่อนลงกูยังต้องอ่านเกลาแก้คำผิดเป็นสิบๆรอบจนแทบจะจำบทในเรื่องได้เลย เรื่องนี้มันที่ความใส่ใจของคนจริงๆ และกูก็คิดว่าถ้าริเป็นนักเขียน(จะนิยายหรือแค่บทความก็ตาม)ควรมีความใส่ใจในการใช้คำใช้ภาษา เพราะมันคือผลงานของคนเขียน งานเขียนคือการใช้ภาษาสื่อสารกับคนอ่าน จะมาโยนว่าให้ได้ตีพิมพ์ค่อยแก้มันก็ปัดสวะไปหน่อย
>>286 ขอบคุณที่คิดถึงกัน ไม่ใช่สิ ก็อาจจะเป็นเฉพาะกูก็ได้ เวลาตรวจคำผิดมักเป็นจุดเริ่มต้นการแก้ไขอย่างอื่น อ่านแล้วหงุดหงิดอยากแก้นั่นนี่ไปหมด กวาดตาเจอคำซ้ำคำเชื่อมก็อยากแก้ใหม่ กวาดไปอีกนิดเห็นคำซ้ำคำเชื่อมที่ตัดไปเมื่อครู่ทำให้ภาพรวมของประโยคมันสะดุด จากนั้นก็เริ่มรู้สึกว่าเหี้ยแล้ว หยุดก่อน แก้ใหม่หมด
แต่กูยืนยันว่าถ้ามึงเจอนิยายคำผิดซ้ำกันหรือเขียนผิดเยอะ มันอาจจะไม่รู้จริงๆ มึงให้มันตรวจสามชั่วโมงก็อาจจะไม่เปลี่ยนเพราะมันไม่รู้ว่าผิดตรงไหน ตรงนี้ต้องมีคนคอยทักให้แก้ไขเรื่อยๆ แล้วจะดีขึ้น
>>288 มึงทำดีแล้ว ขอให้ทำเป็นแบบอย่างต่อไปนะ
>>288 >>294 พวกมึงเป็นคนที่กูนับถือ ถามหน่อยว่าพวกมึงเป็นคนแก่อายุเกินยี่สิบห้ามะ นี่กูถามเอาความรู้เลยนะ เพราะกูยังสงสัยว่ามีแต่คนอายุมากเรียนมาแบบเดิมเท่านั้นเหรอที่ใส่ใจภาษา ทำไมคนชอบว่าแต่เด็กยุคใหม่วะ กูเบื่อคำนี้ว่ะ อย่างที่กูบอกอะ ป้ากูจะห้าสิบแล้วมั้งยังพิมพ์ผิดแบบไม่รู้เลยอะ ผิดไม้เอกไม้โทไม้ตรีประจำ แต่กูไม่ได้เอาป้ากูมาอ้างนะ แค่ยกตัวอย่างว่ามีคนแบบนั้นที่แก่แล้วแต่ภาษาห่วย สำหรับกู กูแค่คิดว่าจะแก่จะเด็กถ้าไม่ใส่ใจ ภาษาแม่งก็ห่วยได้เหมือนกัน
>>291 ไม่เป็นไรนะช่วยๆ กัน กูก็มีคนมาบอกค่อยรู้อีกทีว่าตัว t เวลาเป็นตัวสะกดในภาษาไทยให้ใช้ ต เต่า
ส่วนที่กูตอบว่าทำไมคนไม่กลับไปตรวจคำผิดซ้ำน่ะกูตอบของ 258 นะว่ากระบวนการคิดมีโอกาสที่จะเป็นแบบกู คือถ้าได้เริ่มแก้แล้วจะแก้นาน กูไม่คิดว่าคนแก้งานใช้เวลานานจะเป็นคนสมองตันนะแต่เป็นพวกเวลาอ่านงานตัวเองแล้วหงุดหงิดจนอยากแก้เยอะมากกว่ากูก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าคนแก้งานนานมันไปเกี่ยวอะไรกับสมองตัน เวลาตันมันจะตันเอง ไม่ต้องตรวจคำผิดก็ตันได้ นี่มึงเข้าใจที่กูสื่อไหม ถ้ายังไม่เข้าใจกูขอกินข้าวแล้วจะมาเรยบเรียงใหม่อีกรอบนะ
>>268 ขอเสนอ บันทึกลับมหาดเล็ก.... จำชื่อไม่ได้แน่ชัด แห่งเฉินเฉา หรือไรนี่แหละ คำผิดแทบไม่เจอเลย
ของชลันตีก็โอเคนะ เคยเจอผิดแต่ก็น้อยกว่าเรื่องอื่นหลายเท่า จริงๆ มีอีกหลายเรื่องแหละที่นักเขียนไม่ค่อยมีคำผิด แต่จำไม่ได้
ว่าแต่ที่ถกๆ กันมานี่คือประเด็นการสะกดนะ ไม่ได้หมายความว่าสะกดถูกหมดแต่เนื้อเรื่องบัดซบเราจะให้อภัย ฮ่าๆ
เคยคิดว่าคนที่อยากเป็นนักเขียนน่าจะเป็นนักอ่านมาก่อน และคนที่อ่านเยอะ เขาก็ซึมซับศัพท์ที่ถูกต้องไปเอง
แต่ปรากฏการณ์ในเว็บดดทำให้รู้ว่าไม่จริงเสมอไป บางคนอาจไม่ได้เป็นนักอ่าน หรืออ่านแต่นิยายตามเว็บหรืออื่นๆ เลยอยากเขียนบ้าง
ด้วยความที่อ่านแต่งานด้อยคุณภาพ รวมถึงพื้นฐานภาษาไม่ค่อยดี
และอาจจะบวกกับการไร้ "ความใส่ใจ" ของนักเขียน กับความต้องการรีบลงนิยายจะได้เพิ่มยอดวิวอย่างที่มีเพื่อนโม่งมาอธิบาย
มันก็เลยมีอะไรประหลาดๆ เยอะแยะ
เคยเจอนักเขียนใช้คำว่า ทะแหลทะไหล อยากจะถามว่าเคยเห็นคำนี้ปรากฏในหนังสือเล่มไหนบ้างมั้ย
ถ้าไม่เคย เอาความมั่นใจจากไหนว่าสะกดแบบนี้
แล้วมันก็วนมาที่คำตอบเดิมว่ารีบเขียน
>>300 กูเข้าใจดีย์มั่ก แล้วกูก็ไม่แย้งมึงเรื่องต้องใช้เวลานานถ้าจะแก้งานจริงจัง คนอ่านงานแล้วหงุดหงิดอยากแก้เยอะก็แปลว่าใส่ใจในงานด้วย ส่วนคนที่บอกว่าแก้งานเสียเวลา สมองตัน ทำให้งานช้า กูก็บอกคนพวกนั้นว่างั้นเขียนก่อนให้จบเลยดีมะ ในเมื่อสมองแล่นไวเขียนได้เร็ว พอเขียนจบแล้วก็มานั่งแก้ เอาลงแบบสวยๆ เพราะตรงนี้หมายถึงความใส่ใจที่ได้ทำงานที่ตัวเองรัก
สรุปบรรทัดเดียวดีกว่า กูไม่ให้ค่าคนเขียนงานที่อ่อนภาษาแล้วไม่ยอมเรียนรู้ คิดแต่ว่าเผื่อได้ตีพิมพ์แล้วพิสูจน์อักษรจะแก้ให้ รวมทั้งพวกที่ยกแม่น้ำคงคามาอ้างว่าแก้คำผิดไม่ได้ สมองตัน เขียนต่อได้ช้า ไม่ทันลง (ไปแข่งยอดกับคนอื่น) อ้าวเลยบรรทัดแล้วนี่หว่า ถถถถ
ชะตาพ่ายเลื่อนส่ง...ทะที่กูพรีไปล่ะ ฮือ
พูดถึงพิมพ์ผิด คำไหนไม่แน่ใจกูเปิดกูเกิ้ลเลยนะ อินเตอร์เนตเข้าถึง กูต้องให้แน่ใจอ่ะถึงจะทำไรซักอย่าง นิยายกุช้าเพราะกุเช็คแล้วเช็คอีก คำจีนต้องต้องให้ไปทางเดี๋ยวกันให้หมด บทนำกูปาไปห้าหน้าเอสี่ กูต้องมานั่งเบิ่งตาหาคำผิดอีก สำนวนไรทะแม่งๆ คำไหนอ่านแล้วสะดุดกูจะเปลี่ยนทันที คือกูอ่านของตัวเองอย่างน้อยสามรอบแหละ
ถ้าไอเดียแล่นรีบพิมพ์ ใช่ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องรีบเผยแพร่ มาเช็คหน่อยก็ได้
ปล.กูเป็นนักเขียนที่ผ่านช่วงจูนิเบียว(บารามอส) แล้วก็ยุคเพิ่ลๆ รักกัลๆ คิดถุง มาจนถึงปัจจุบันยี่สิบกว่าละ ต้องเนี้ยบ เดี๋ยวโดนด่าแก่เปล่าไม่รู้จักเหี้ยไรเลย ส่วนที่กุพิมพในโม่งมันวิบัติรีบพิมพ์ก่อนประเด็นหาย
/เอามือทา-บอก
กูดีใจที่วันนี้คึกคักเป็นพิเศษ และดีใจยิ่งกว่าที่ทุกคนใส่ใจกับการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง มันทำให้กูรู้สึกว่าในสังคมที่มีแต่คนใช้คำผิดแบบนี้ กูยังพอมีหวังกับคนอย่างเพื่อนโม่ง
นอกเรื่องแป๊บ เพื่อนโม่งคนนั้นที่บอกว่านิยายตัวเองไม่โดนด่าอะ กูนึกออกแค่เรื่องเดียว ไม่รู้ว่าใช่คนเขียนบันทึกมหาดเล็กฯ มั้ย แต่อยากบอกว่า ตั้งแต่สับนิยายมาทั้งสองห้องจนถึงตอนนี้ เรื่องนี้ก็ยังคงเป็นนิยายที่คนสับอย่างกูประทับใจมาก
อ้อ แต่ถ้าวนอยู่แถวท็อปและกูพอใจอีกเรื่องคือชะตาฝันมั่นรัก ยังไม่ได้อ่านละเอียด อ่านแค่ผ่าน ๆ แต่รู้สึกโอเคในระดับหนึ่ง และถ้าออกเล่มก็คิดว่าคงเปย์ ขอทดลองอ่านอีกสักครั้งสองครั้งก่อน
วกกลับเข้าเรื่อง
ในฐานะนักอ่าน กูชื่นชมนักเขียนทุกคนที่ใส่ใจเรื่องคำผิด มันไม่ใช่สะท้อนแค่ความอยากเขียนหรือแค่อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่มันยังสะท้อนว่าคุณแคร์เรื่อง แคร์คนอ่านมากแค่ไหน ขอบคุณนะ
ในฐานะนักเขียน กูก็พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะไม่ให้มีคำผิด ตรวจซ้ำ ๆ อัปนาน ๆ ครั้ง มันก็ยังมีคนอ่าน ดังนั้นการอ้างนู่นอ้างนี่สำหรับกูเลยฟังไม่ค่อยขึ้น
และในฐานะคนเรียนทางสายนี้ บอกตรง ๆ ว่าทุกวันนี้กูหนักใจกับคำผิดมากจริง ๆ
ป.ล. ขอแนะนำหน่อยนะ สำหรับใครที่จะตรวจสอบคำผิด อย่าเปิดกูเกิลแล้วพิมพ์หาเลย มันไม่ชัวร์อะ เข้าเว็บราชบัณฑิตดีกว่า เดี๋ยวนี้มีแอปด้วย หรือไม่ก็ซื้อเป็นเล่มมาเปิด คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม!
พวกคำทับศัพท์ก็อยากให้หาอ่าน แล้วคือจะได้รู้ว่าตัวอักษรไหนพอเป็นตัวสะกด ตัวการันต์ใช้เป็นอะไร
อย่าง t = ต เช่น แชต (ไม่ใช่ แชท)
k, ck = ก เช่น เช็ก, เฟซบุ๊ก
p = ป เช่น อัปเดต
ป.ล.2 โม่งแตกยัง เอ้อ ช่างเถอะ 555555555
>>305 ไม่ใช่แน่ๆ นิยายเราไม่น่าใช่แนวของโม่งสับ อีกอย่างเรามีสไตล์งานเขียนของตัวเอง คนชอบก็จะชอบเลย คนไม่ชอบก็จะไม่อ่านเลย คนที่ตามก็จะตามเปย์ด้วยประมาณนั้น อีกอย่างเราเขียนมาได้ปีนิดๆ
แล้ว ไม่น่าเรียกว่าหน้าใหม่ละมั้ง
ปล.กลับไปอ่านงานแรกของตัวเองที่ตีพิมพ์ก็อยากทึ้งหัวตัวเองเหมือนกัน นั่นทำให้ยิ่งต้องใส่ใจงานเขียนเพิ่มไปอีกนั่นแหละ 555
>>298 กูเห็นด้วยนะพวกตั้งใจเอาอันดับหลานคนเร่งลงงานเพื่อจะเอายอด แต่ตรวจงานก่อนแบบ >>288 ก็พอมีอยู่
>>302 เข้าใจก็ดีแล้ว
>>304 บางคำก็ผิดนะ เป็นคำผิดที่คนใช้ซ้ำกันบ่อยๆ จนมันขึ้นหน้าแรกในการค้นหา บางทีต้องให้พิสูจน์อักษรมาบอกอีกที ถ้าจบตรงสายมาจะดีหน่อยเพราะไม่ได้อาศัยการจำแบบความคุ้นเคยแต่เป็นการศึกษาในหลักวิชาการ เคยได้ยินว่านักเขียนหลายคนก็เถียงกับพิสูจน์อักษรบ่อยเพราะไปคุ้นแบบที่ใช้กันมาผิดๆ แต่มึงทำงานแบบนั้นดีแล้ว สู้ๆ นะ
>>296 มึงใช้คำได้เจ็บปวดมาก "พวกมึงเป็นคนแก่อายุเกินยี่สิบห้ามะ" เกิน 25 เรียกคนแก่แล้วเหรอวะ
เห็นด้วยว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับอายุมากหรือน้อย อยู่ที่ความสนใจและใส่ใจของคนมากกว่า ต่อให้ระบบการสอนไม่ดี แต่เวลาอ่านตำรา มันก็มีแต่ที่เขียนถูกมั้ยอะ ไม่ซึมซับมาบ้างเลยเหรอ
บางคนทำยังไงๆ ก็เรียนรู้การผันวรรณยุกต์ไม่ได้ เค้าก็ท่องจำเอานะ เป็นวิธีแก้ปัญหาของเค้า
อย่างนักเขียนสะกดไม่ถูกก็เปิดพจนานุกรมดูได้ หรือใช้ระบบตรวจสอบการสะกดของ ms word ก็ยังดี มันมีทางออกทั้งนั้น
>>302 +1
เข้าใจว่าบางคนอาจจะเป็นสไตล์นั้น คืออ่านแล้วกลายเป็นรีไรต์ แต่อย่างที่ >>290 บอก ต้องแยกกันแล้วชีวิตจะดีขึ้น อย่างน้อยก็ไม่ต้องสะดุ้งเวลาคนด่าเรื่องการสะกด ตัวนิยายก็ดูดีมีระดับขึ้นด้วย
คนเราผิดกันได้ บางทีมั่นใจมากไม่ได้เช็คอีกที ก็พลาดได้ ไม่ว่ากัน
แต่พวกที่ผิดมาเยอะๆ แบบไม่ใส่ใจนี่มันมองได้ว่าคนเขียนชุ่ย แล้วบก.ที่ไหนเค้าจะอยากคุยกับคนชุ่ย
>>306 เธอก็แปะมาสิ!
ถ้าไม่อยากโม่งแตกก็เนียน ๆ เอาลิงก์หลายเรื่องมาปน ๆ กันแล้วแปะก็ได้ ไม่งั้นก็เศร้าต่อไปอะ
จริง ๆ ที่กูมาเล่นห้องนี้เพราะระแวงว่านิยายตัวเองจะโดนสับไหม สรุปว่าอยู่นอกสายตา ทุกวันนี้เลยกลายเป็นคนสับแทน แม่งเง้ย
>>307 ขอให้พัฒนายิ่ง ๆ ขึ้นไป ขอบคุณสำหรับความใส่ใจนะ
>>309 บก.ที่ไหนจะอยากคุยกับคนชุ่ย คำถามนี้ง่ายมาก
ก็บก.ชุ่ยยังไงล่ะจ๊ะ
ไหนๆ ก็เนียนถามโม่ง เปิ่นหวางนี่จำเป็นต้องใช้แมะ ใช้คำว่าข้าแทนตัวคนพูดเลยได้มั้ย
>>316 โม่งตูดหนาแก้มตอดใช่มะ ถถถ กูว่าแก้มตอดโดนล้อยันลูกบวช
>>317 ถ้ามึงเว้นวรรคหน้าไม้ยมก เวลาคนอื่นอ่าน เปลี่ยนตัวอักษรโน่นนี่ เปลี่ยนขนาด ไม้ยมกของมึงก็อาจจะตกมาอยู่อีกบรรทัดไง เพราะมันกลายเป็นคำอีกคำนึงไป ก็แล้วแต่ว่ามึงต้องการความถูกต้องในการใช้ไม้ยมก (วรรคหน้าวรรคหลัง) หรือต้องการให้ไม้ยมกอยู่ติดคำแรกตลอดเวลา (ในการอ่านบนเน็ต) อย่างหลังเป็นการประยุกต์ให้เหมาะสมแค่นั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าถูก
ลงโทษโบยแบบห้าสิบทีขึ้นไป กูว่ายังไงก็ตายว่ะ อวัยวะภายในคงแตกสลาย เหมือนโดนโก๋รุมตื้บ
>>311 จักรพรรดินีสองบัลลังก์ น่าจะซับซ้อนน้อยกว่าบันทึกลับมหาดเล็กจริงๆ แหละ
อ่านในเมนต์ นักเขียนบอก
"ไรต์ต้องใช้หนังสือภาษาอังกฤษห้าหกเล่มเลยต่อการเขียนนิยายเรื่องนึง หมายถึงใช้เป็นตัวหลักนะคะ แล้วก็ใช้ตัวย่อยๆ อีกหลายเล่ม บางทีภาษาอังกฤษมีข้อมูลที่ไม่แน่นในบางเรื่อง ก็ต้องหาภาษาจีนแล้วเอาไปให้เพื่อนคนจีนอ่าน เกรงใจเพื่อนค่ะเพราะงานเยอะ แต่ต้องการความแม่นยำจริงๆ อย่างบางทีบันทึกทั้งจีนและอังกฤษเขียนว่าองค์ชายคนนี้เป็นลูกคนที่หก แต่ไรต์ดูวันเกิดแล้วไม่ใช่ ก็จะไปให้เพื่อนอ่านภาษาจีนจากหลายๆ แหล่ง เพื่อนก็จะเบื่อมาก นี่เอ็งเขียนนิยายหรือวิทยานิพนธ์"
นับถือเลย ทุ่มเทมาก
ทำไมนักเขียนชอบแทนตัวเองว่าไรต์ กูไม่ค่อยชอบเลย
>>319 กูว่าถ้ามึงไม่แม่นยำในการใช้ ใช้ข้าไปเลยดีกว่า พวกที่ใช้แล้วแม่นยำมักจะเป็นนิยายแปล อย่างของกูกู ตอนแรกกูอ่านแล้วเปลืองแรมมาก แต่พออ่านไปจนชินก็จะเข้าใจเอง ตอนหลังกูวิชาแก่กล้า รุ่นพี่บอกให้อ่านของนอนพรัตน์ เจอเล่าฮู เล่าฮิว เอียเท้า หัวร่อเคี้ยกๆ กูงี้ถึงกับลุกขึ้นยืนตรงเลย แต่พอแข็งใจอ่านก็ชินไปอีก กลายเป็นสนุก กูว่าถ้าเขียนดีจริง ไม่ว่าจะใช้ภาษาโบราณหรือสมัยใหม่ก็สนุกและเป็นนิยายดีได้ มึงจงเลือกตามถนัดของตัวมึงเทอญ
เล่าฮู เล่าฮิว เอียเท้า
มึงเอามาจากไหน กูไม่เคยเจอคำแบบนี้เลยนะ หรือว่าเอามาจากสมัยแต้จิ๋ว
มู้เดินเร็ว คล้ายรวมตัวนักเขียนหรือไร วันนี้ เห็น...
>>284 กล่าวถึงสนพ.
กูอยากบอกว่า ไม่ได้อยากคาดหวังอะไรกับสนพ. มันมีทั้งแง่ดีและไม่ดี ถ้าเขียนลากไส้กันจริงๆ จะบันเทิงเริงใจกว่านี้เยอะ
แต่กูเข้าใจด้วยว่าเขาคือระบบนายทุน รับได้แต่กำไร หนังสือเล่มหนึ่งลงทุนครบวงจรใช้เงินหลายแสนอยู่
ช่วงหลัง กูหนีไปทำมือ ขายอีบุ๊คเอง ได้มากได้น้อย สบายใจกว่ากันเยอะ แม้จะเหนื่อยกว่าเดิมก็ตาม
>>331 คนไทยมันก็ใช้อย่างไทยไง เหมือนเรียกตัวเองว่าแอดมิน มีที่ไหนเขาเรียกกัน แต่เมืองไทยเข้าใจกันแบบนี้ เรื่องนี้กูเป็นกลางนะ ใครใคร่ใช้ก็ใช้ ใครใคร่ด่าคนใช้ก็ด่าได้ เพราะกูว่ามันเป็นประเด็นเล็ก เหมือนกูเขียนมหาลัย เพื่อนโม่งมาเขียนคำเต็มให้ กูก็ไม่ว่าอะไร แต่กูก็คงจะเขียนว่ามหาลัยตลอดไปในแชท เพราะขี้เกียจพิมพ์ยาว ใครจะด่าก็ด่าได้ น้อมรับและพร้อมเปิดตูดให้โบย
กุใช้ว่าผู้เขียนได้มั้ยวะ
ที่แทนตัวเองว่าไรซ์ คือไรซ์ที่แปลว่าข้าว เขาก็อธิบายอยู่หน้านิยาย
>>345 เออ ไม่ได้อ่าน เคยอ่านสมัยแรกๆ ที่มีคนถามในเมนต์หน้านิยาย แล้วเค้าก็บอกว่าเค้ายืนยันจะใช้แบบนี้
ตอนนั้นไม่ได้อ่านละเอียดเลยจำเหตุผลไม่ได้ สรุปว่าใช้ ไรซ์ เพราะชื่อข้าวใช่มั้ย ขออภัยนักเขียนด้วยที่เข้าใจผิดนึกว่าอยากสร้างเอกลักษณ์
แต่พูดถึงนิยายเค้าสนุกดีนะ อ่านตั้งแต่เสี่ยวหวางเฟยจนถึงมู่กั๋ว ภาษาก็ดี
ในฐานะคนอ่าน กูว่าคนที่เขียนผิดเยอะๆ แล้วเอามาลงโดยไม่ตรวจนี่โครตชุ่ย คำง่ายๆ ยังผิด ตอนเรียนเขาไม่สอนสะกดคำเหรอ เจอแบบนี้นี่ปิดทิ้งเลยนะ
อย่าง คะ ค่ะ น่า หน้า นี่กูเห็นผิดกันเยอะจริง
อ่ะ กูยอมโม่งแตกวันนึง
สับได้เต็มที่
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1708786
>>347 กูคือ 345 กูไม่รู้ว่าเขาชื่อข้าวจริงไหม มองอีกนัยก็อย่างที่มึงว่า ทำให้ตัวเองมีเอกลักษณ์ คือใช้ประโยชน์จากการพ้องเสียง ไรท์ กับ ไรซ์ ซึ่งอ่านเหมือนกัน คนอื่นจะได้ไม่มาว่าไง ทำไมแทนตัวว่าไรท์ ไม่แทนว่านักเขียน ชื่อเล่นหรือนามปากกาไปเลย นางก็เลยไรซ์เลยจ้า ข้าวไงจะใครล่ะ
กูเดาว่าเขาหน้าแหกแล้วแถ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรนะ คนเราย่อมแถกันได้ กูก็ทำยู้ ถถถถถ
เห็นเรื่องมู่กั่วแล้ว กูยังงงอยู่ว่าสรุปมันใช้ได้ทั้งหวางโฮ่วกับหวงโฮ่วเลยรึเปล่า หรือสองคำนี้คนละความหมายกันเพราะเขียนไม่เหมือนกันเลย
>>361 คำว่าหวงโฮ่วควรเขียนว่าหวง มากกว่าที่จะเขียนว่าหวาง เพราะมันจะทำให้คนที่ไม่รู้ภาษาจีนสับสนกับคำว่าหวางที่แปลว่าอ๋อง ตัวอักษรหวงในคำว่าหวงโฮ่วใช้ตัว 皇 นี้ แต่คำว่าหวางที่แปลว่าอ๋อง ใช้ตัว 王 นี้ คนละตัวกันเลย และคนละความหมายด้วย แต่ที่บางคนเอาตัวอักษร "หวง" ตัวแรก มาเขียนเป็น "หวาง" ก็เพราะการอ่านภาษาจีนของตัวอักษร "หวง" 皇 ไม่มีในภาษาไทย มันไม่ได้อ่านว่าหวง และไม่ได้อ่านว่าหวาง แต่อ่านประมาณว่า หุ-หวาง คือมึงต้องมีเสียง "ห" อยู่ข้างหน้าคำว่า "หวาง" เข้าใจปะ แต่ถ้าไปเขียนว่าหวาง คนที่ไม่รู้จีนก็จะงงเพราะมึงจะได้ยินคำว่าหวางเฟย หวางจื่อ ซึ่งหมายถึง เมียของอ๋อง ลูกของอ๋อง เป็นคนละคำกับ หวงเฟย หวงจื่อ ที่แปลว่า เมียจักรพรรดิ ลูกจักรพรรดิ นิยายจีนที่ดันใช้คำว่าหวางในความหมายของคำว่าหวง ถ้ามีตำแหน่งหวางเฟย (เมียอ๋อง) ในนิยายด้วย ก็จะทำให้ผู้อ่านสับสนได้ เข้าใจผิดไปว่าเป็นตัวอักษรเดียวกัน
>>361 >>363 เพิ่มเติม เมื่อกี้กูตอบโดยไม่ได้ไปอ่านนิยายมู่กั่วที่เจ้าของคำถามยกมา แต่ตอนนี้กูไปดูแล้ว เขาใช้คำว่าหวาง 王 มาเขียนคำว่าหวางโฮ่ว เพราะฉะนั้นเขาใช้ไม่ผิดนะ กรณีเขาน่าจะหมายถึง (กูใช้คำว่าน่าจะเพราะกูไม่ได้อ่านนิยาย) พวกเมียเจ้าแคว้นเล็กที่ถือว่าตัวเองเป็นกษัตริย์ แต่ว่าด้อยกว่าจักรพรรดิ จึงไม่กล้าใช้คำว่าหวงโฮ่ว แต่เลี่ยงมาใช้หวางโฮ่ว ใช้ตัวอักษรหวาง 王 แบบนี้เลย แปลว่าเป็นแคว้นเล็กที่ปกครองตัวเอง แต่ยุคนั้นต้องมีแคว้นใหญ่กว่า จึงหลีกเลี่ยงการใช้คำเท่าเทียมกัน
>>364 ถ้าผัวมึงเป็นจักรพรรดิใหญ่เป้ง มึงใช้คำว่าหวงโฮ่วได้เลย แปลว่าจักรพรรดินี ถ้าผัวมึงเป็นอ๋อง (หวาง) มีแคว้นใหญ่ที่มีจักรพรรดิอยู่แล้ว มึงให้เมียใช้คำว่าหวางเฟย แต่ถ้ามึงอยากใช้คำว่าหวางโฮ่ว แปลว่าผัวมึงเป็นกษัตริย์ไม่ได้ขึ้นกับใคร ปกครองเอง แต่บังเอิญมีแคว้นใหญ่มากที่เมียจักรพรรดิใช้คำว่าหวงโฮ่วอยู่แล้ว มึงเลยเลี่ยงให้เมียมึงใช้คำว่าหวางโฮ่ว เป็นการแสดงความเคารพแคว้นใหญ่กว่าแคว้นนั้น แค่เนี้ยว่ะ ไม่ยากอะไร
อะไหนๆกูเขียนแล้วก็เขียนให้หมดละกัน พวกมึงคงจะเอาไปใช้ในนิยายใช่ปะ เรื่องอาณาจักรหรือแคว้นที่ >>366 ยกมาเนี่ย จะใช้เป็นบรรทัดฐานก็ได้อยู่ แปดสิบเปอร์เซนต์ไม่ผิดหรอกถ้ามึงใช้ตามนั้น แต่มันไม่ใช่ร้อยเปอร์เซนต์ เพราะเจ้าแคว้นเล็กที่ไม่ได้เป็นอาณาจักรใหญ่แบบฉิน ฮั่น ก็อาจจะเรียกตัวเองเป็นหวงตี้ (ฮ่องเต้) ได้เหมือนกัน แล้วแต่ความอหังการ์ มีมาแล้วในปวศจีนที่มีแคว้นยิบย่อยเพียบเลย แล้วแม่งก็เป็นหวงตี้กันหมด เมียก็เป็นหวงโฮ่วกันหมด แต่พอเวลามันนึกกลัวขึ้นมา ก็เปลี่ยนคำเรียกตัวเองให้ด้อยกว่า เช่น เปลี่ยนเป็นเทียนหวาง อะไรแบบเนี้ย กูเขียนบอกไว้ให้เข้าใจว่า ไม่จำเป็นเสมอไปที่ต้องเป็นอาณาจักรใหญ่แล้วมึงถึงจะเป็นฮ่องเต้ (หวงตี้) ได้ ถ้ามึงคิดว่าตัวเองแน่พอ มึงไม่ขึ้นกับแคว้นใหญ่ที่อาจจะยกมาถล่มมึงเมื่อไรกะได้ มึงก็เป็นหวงตี้ไปเลย เมียมึงก็เป็นหวงโฮ่ว กูเขียนบอกเผื่อว่าใครจะเขียนนิยายประเภทที่เจ้าแคว้นมันไม่ยอมลงให้ใคร จบ
แล้วแต่ผู้เขียนจิตนาการว่าในเรื่องของเขาอะ เขาอิงจากยุคสมัยไหนเพียงแต่เขาไม่ได้บอกต่อนักอ่าน "หวางโฮ่ว" คำนี้ที่ใช้เพราะ กษัตริย์มันทับศัพท์ด้วยคำว่า กั๋วหวางไง (กั๋วหวางหมายถึงกษัตริย์) แบบนี้สามารถเรียกได้ในยุคสมัย 16 แคว้น 5 ชนเผ่า ช่วงปลายของยุคเว่ยจิ้นหนานเป่ยเฉา ยังมียุคชุนชิวจ้านกว๋อที่กษัตริย์แทนว่าต้าหวาง
การใช้คำทับศัพท์เรียกกษัตริย์และฮองเฮา มันอยู่ที่ยุคสมัยค่ะเพื่อนโม่ง ยุคสมัยในที่นี้กูจะยกตัวอย่าง 1.ยุคสมัยที่มีหลายแคว้นหลายชนเผ่า ฉิน จ้าว เว่ย หาน ฉู่ เยียน ฉี (ยุคชุนชิวจ้านกว๋อ จิ๋นซีฮ่องเต้) 2.ยุคสมัยที่เป็นจงหยวนกับอีกหลายชนเผ่า ที่เรียกกันว่า ต้าถัง ต้าฮั่น ต้าชิง ไรพวกนั้น ถึงเป็นกษัตริย์แต่มันก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียวอย่าง 1 มีกษัตริย์หลายแคว้น (ผู้ปกครองแคว้น) ส่วน 2 มีกษัตริย์แค่คนเดียวปกครองแผ่นดินจีน
>>359 ขำมากกับชื่อ ปู -> แครบ
ถ้านักเขียนนิยมแทนตัวเองด้วยการแปลชื่อเล่นคงจะฮา
สมมติชื่อปลา ---
ฟิชขอบคุณผู้อ่านทุกท่านม้ากมาก เลิฟทุกคนรุย ฟิชสัญญาว่าจะเขียนให้ดีขึ้น เราจะสู้ไปด้วยกันเน้อออ
ใครเจอคำผิดบกได้นะจ้า ฟิชจะมาแก้ให้ที่หลัง
ปูลู ฟิชขอแนะนำนิยายของแครบเพื่อนเลิฟ ตามลิงก์ไปเลยจร้าาาา
>>368 เองนะ https://zh.wikipedia.org/wiki/王后 ไปเจอลิ้งก์อธิบายเป็นจีนมา
ฐานันดรศักดิ์ของภรรยาเอกเจ้าครองแคว้นที่ไม่ได้เป็นจักรพรรดิ เรียกหวางโฮ่วไม่เรียกหวงโฮ่ว แต่มีบางยุคสมัยที่เรียกว่าหวางเฟยได้ นอกจากนี้ยังใช้ โฮ่ว ในการเรียก หวงโฮ่ว กับ หวางโฮ่ว ได้ด้วย
ข้างล่างอธิบายแยกประเทศมี จีน ญี่ปุ่น เกาหลีเหนือ และ เวียดนาม
ในส่วนของจีนอธิบายว่า - หลังสมัยราชวงศ์เซี่ยของจีนเป็นคำนำหน้าชื่อของกษัตริย์ เช่น โฮ่วจี้ โฮ่วอี้ เป็นต้น ซึ่งเปลี่ยนมาเรียกว่าจักรพรรดิหลังสิ้นพรระชนม์
นับแต่ราชวงศ์ซางที่บรรพบุรุษเป็นกษัตริย์และสิ้นพระชนม์ในฐานะจักรพรรดิ จากแรกเริ่มกลายเป็นกษัตริย์ หวางโฮ่ว และ เฟย ถูกลดฐานะลง จนมาถึงสมัยฉิน ที่ฉินสื่อหวงเริ่มใช้คำว่าจักรพรรดิ ต่อมาหวางโฮ่วยังกลายเป็นภรรยาเอกของเจ้าครองแคว้นที่ได้เลื่อนเป็นหวงโฮ่วอีกด้วย
สมัยฮั่นตะวันตก หวางโฮ่วคือภรรยาของเจ้าครองแคว้น ( แคว้นแถบแนวชายแดน ) มารดาของเจ้าครองแคว้นเรียกว่าหวางไท่โฮ่ว
สมัยฮั่นตะวันออก เรียกว่าภรรยาเจ้าครองแคว้น ( แคว้นแถบแนวชายแดน ) ว่าหวางเฟย มารดาเจ้าครองแคว้นว่า หวางไท่เฟย
นับแต่ราชวงศ์ฮั่นของจีนเป็นต้นมาหวางโฮ่วถูกใช้กับกษัตริย์บางส่วนที่มีอำนาจทางการเมืองเท่านั้น
อธิบายประมาณนี้แหละ
รุนหวัดพวกมึง
นกกาโบยบินเหลย
ออกหากินร่าเริงแจ่มสายยยย
ฮือมึงๆๆๆๆๆ http://www.tunwalai.com/chapter/1116140/ตอนที่-38-ยากำหนัดเป็นเหตุ-25
ตับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ << อิเหี้ย นี่แผ่นเสียงตกร่องป้ะ
กูเจอคำนี้ด้วย "ทอดแท่งเนื้อ" ฮือ เอาลงกระทะ ใส่น้ำมัน แล้วแดกได้เลยปะวะ
กูพึ่งได้อ่านตัวอย่าง Ebook เสิ่นเจิ้นเรื่องหนึ่งในพี่เมพเร็วๆนี้
เห็นติดอันดับ Best Seller เปิดหน้าแรก ฉากซัมกัน3Pของโจรกับนางร้ายที่ชื่ออึ้งย้ง กูหมดอารมณ์อ่านทันทีตั้งแต่เห็นชื่อตัวละคร
บรรยายได้เหมือนหนังสือปกขาวหนังสือโป๊ทุกกระเบียดนิ้ว คนแต่งมีความพยายามยัดเรื่องจีนๆลงมาในเนื้อหา ชื่อตำแหน่ง โมงยามจีน
ซึ่งกูอ่านแล้วจีนปลอมที่สุด เพราะมันไม่เข้ากัน แถมนางเอกชื่อหลิวอี้เฟยอีกต่างหาก
กูไม่เข้าใจเลยว่าติดเบสต์ได้ไง หรือเป็นเพราะบทเย่เย็ดที่ใส่มามากมายแบบนั้นวะ
ใช่เรื่องที่ปิดการรีวิวให้เฉพาะคนที่ซื้อนิยายปะวะ
ขอแอบถาม เวลาอ่านฉากพวกนี้ มันเป็นงั้นจริงๆ เหรอ อ่านแล้วโคตรสงสัย
เช่น จูบปากแล้วบรรยายว่าหวานหอมงั้นงี้ ปากคนเราเนี่ยเต็มไปด้วยแบคทีเรีย มันจะหอมได้ไง
ไหนจะลิ้นทะลวงคอ บ้าป่าววะ อ้วกกันพอดี ขนาดแปรงลิ้นลึกไปหน่อยยังเกือบอ้วก
โฒ่งสิงแถวนี้เยอะป่ะ กุจะถาม จวน นี่คือบ้านหลังใหญ่ๆใช่มะ กุจะได้ไปใส่ในนิยายกุซักที กุไม่แน่ใจมานาน หรือเขาใช้ว่าคฤหาสน์กัน
>>400 จวนหมายถึงบ้านและที่ทำงานที่ทางการจัดให้ตามตำแหน่ง เป็นทั้งบ้านและที่ทำงานด้วยเลย แต่คนระดับเชื้อพระวงศ์และขุนนางตระกูลใหญ่ๆโตๆก็มีบ้านของตัวเองอยู่แล้วทั้งนั้น แต่ถ้าต้องออกนอกเมืองหลวงก็จะมีจวนในเมืองนั้นๆไว้ให้ ถ้ามึงเขียนถึงบ้านของเชื้อพระวงศ์ มึงก็ต้องใช้คำว่าตำหนัก ถ้าขุนนางอยู่บ้านของตัวเอง ก็ต้องเขียนว่าบ้านหรือคฤหาสน์อะไรก็ว่าไป แต่ถ้าจะใช้จวน ก็แปลว่าไปอยู่บ้านที่ทางการเขาจัดไว้ให้
เปิดเทอมแล้วไม่มีใครมาสับ กูไปเปิดดูนิยายท็อป ชายาอ๋องกอดอลอ ยอดคนอ่านเยอะมาก เปิดบทแรก ดาราสาวสวยโดนอุบัติเหตุไปเข้าร่างคุณหนูที่ฆ่าตัวตายเพราะโดนคู่หมั้นเปลี่ยนใจ ไปหมั้นกับเพื่อนของตัวเองแทน เปิดเรื่องมาเหมือนกับทุกเรื่องที่เคยดังมาก่อน สวย เก๋ เก่ง เฟี้ยว เฉี่ยว ไปเข้าร่างคุณหนูอ่อนแอ กูไม่ได้ว่าคนเขียนนะ กูไม่ได้อ่าน แค่เปิดดูแก้ง่วง เขาอาจจะเขียนสนุก แต่ว่ากูนึกถึงคนอ่านที่ชอบอ่านเรื่องแบบเดิมๆตลอด สนพที่ทำจีนแปลเลยมีแต่นิยายพวกนี้เพียบ เสิ่นเจิ้นยิ่งไม่ต้องพูด ถ้าไม่ได้เน้นแย่งผัวแก้แค้นผัวคงไม่ได้ตีพิมพ์ พวกมึงคนไหนจะเขียนให้ติดท็อปก็ต้องเขียนแบบนี้นะ แบบเดิมๆเลย เจออุบัติเหตุแล้วไปเข้าร่างคุณหนูอ่อนแอโดนผัวทิ้งพอดี เพิ่งจะฆ่าตัวตายแต่รอด พ่อแม่พี่น้องมารุมข้างเตียง สาวใช้เรียกคุณหนูเจ้าคะๆๆ แล้วนางเอกก็จะงงก่อน ใครวะมาเรียกคุณหนู ถถถถถ
>>383
ตลาดงานเขียน ‘อีโรติก’ โดย ‘ผู้หญิงเพื่อผู้หญิง’ เติบโตสูง
http://www.tcijthai.com/news/2017/10/scoop/7461
เค้าว่ากันยังงี้ ในยุคนี้วะ เพื่อนโม่ง
ถ้าอยากรู้ ลองตามเพซนักเขียนแนวรักโรมานซ์ แนวผู้ใหญ่
แล้วมึงจะไม่อยากเชื่อว่า
คนอ่านโหลดซื้อไป บางคนได้เป็นล้านต่อเดือด บางคนได้เป็นแสนต่อเดือน
น่าจะเป็นแนวที่เขียนได้ตังมากที่สุดในยุคนี้แล้ว...
เรื่อง yes yes นี่
>>413 มึงต้องไปส่องเรื่องที่เค้าเขียนขายได้ระดับท็อปของเมพดูบ้าง
เขียนไม่วางแผนอะไรเลย สมัยนี้ขายได้ยากแล้วมึง
เปิดใจ ส่องหา ค้นหา แนว เทคนิดดูบ้าง
หลักแสน แนวผู้ใหญ่ yes yes นี่ มีหลายสิบคน หลักล้านจะพวกระดับบิ๊กเนมในสายนี่ที่ออกงานเยอะเล่มมาก
ปล.กูเองก็ได้นะต่อเรื่องหลักแสนนี่ แต่รวมสองสามเดือน
>>417 เรื่องนี้กุทันอ่าน เทียบกับเรื่องอื่นในธวลแล้ว กุว่าคนนี้แม่งหลุดออกมาเลย คือภาษามันดี พล็อตโอเค (แต่ก็มีเหวงบ้าง) ฉาดเยก็เขียนได้สวยพอสมควร เทียบกับเรื่องอื่นในเว็บเดียวกันก็ถือว่าสวยมาก ไม่แปลกถ้ามันจะได้ตัง
อันนี้เทียบกับในธวลอย่างเดียว ถ้าเทียบกับงานดีๆหลายเรื่องก็ยังเฉยๆว่ะ
*เสิ่นเจิ้นที่ออกใหม่/ใกล้จะออกช่วงนี้จ้า*
เจ้าหญิง 👑
- รัชทายาทจอมมาร
- จอมใจเจ้าอสูร
แสน 💓 อ้ายหนี่
- ไป๋อวี้หนิง
บาง 💓
- บุปผาลวงภพ
เพิ่มอีกเรื่อง
- บุปผาเลี่ยม 💎
ชื่อนิยายชาวบ้านแม่งดูดี หันมาดูนิยายตัวเอง นึกว่าประโยคบอกเล่า ทั้งที่แนวเดียวกัน ถถถ
เพื่อนโม่ง มีใครอ่านนิยายในเด็กดีผ่านแอพบนมือถือมั่ง
อยากให้มันแจ้งเตือนว่านิยายที่บุ๊กมาร์กไว้มีการอัปเดต ต้องทำไงนะ
หรือว่าแค่บุ๊กมาร์กมันไม่เตือน ต้อง fav
ว่าแต่ไป fav มาละ บันทึกลับมหาดเล็ก ยอดน้อยโคตร
แต่เรื่องพวกทะลุมิติมาร่างนางเอกไร้ค่าหรือเมียผู้ถูกทอดทิ้งนี่ยอดเป็นหมื่น
เกิดความโลภเลย กูมีเรื่องต้องใช้เงินเยอะด้วย แนวเยต้องขายในธวลถึงรุ่งเหรอวะ
กุเคยลองเขียนสั้นๆ
ภาษาแรงๆแบบที ่นิยมกันกุทำำใจเขียนไม่ ได้
กุเคยอ่านเรื่องนึง นักเขียนแม่งได้เหรียญกะกุญแจเยอะมากในธวล
แต่นางบอกว่าไม่พอแดก เห็นกจเยอะๆนี่ จริงๆได้อยู่เดือนนึงร้อย สองร้อย เลยเลิกลงไปเลย
ว่าแต่มีใครอ่านนิยายจีน(?) ในธวลมั้ยวะ
กุงงใจมากว่ามันเสิ่นเจิ้นหรือจีนจริง บางเรื่องตรรกะมึงเบียวชิบหาย ข้อมูลก็แปลกๆ งงๆ จนนึกว่าเสิ่นเจิ้น แต่ไปอ่านตรงรายละเอียด แม่งบอกเป็นนิยายแปล
เรื่องธวล.นี่ กูว่าเว็บในเครือนี้ให้เงินน้อยจริงๆว่ะ คนได้วิวเป็นแสนๆ ในจอยลดา ยังได้เงินกันไม่ถึงร้อยบาทเลย การ์ตูนในอุ๊คบียอดวิวเป็นหมื่น ได้เงิน 300 งี้
http://www.mx7.com/view2/Af5HX7VG0EBJ7Bkp
อ่ะ นี่กู>>442 เอง
นี่คือที่นักเขียนคนนึงเคยบ่นไว้ เห็นว่าไปลงอีกเว็บนึงด้วย อันนั้นยิ่งได้น้อยกว่าเดิม เดาว่าน่าจะลงฟชล ตอนหลังนางเลยปล่อยขายในเมพแทน
ตั้งแต่คุยกันเรื่องตัวสะกด รู้สึกนิยายที่อ่านๆ นี่สะอาดตาขึ้นเยอะเลย ไม่มีสะกดผิดหรือผิดน้อยมาก
ไม่รู้เพราะนักเขียนใส่ใจอยู่แล้วหรือว่าตื่นตัวจากที่พวกเราคุยกัน (ฮ่าๆ อวยโม่ง)
วันก่อนอ่านเรื่องภรรยาทรราช นางเอกตายแล้วถูกวิญญาณสาวขอให้ไปเข้าร่างตัวเอง ช่วยใช้ชีวิตแทนนางที
นึกว่าชีวิตจะดีเป็นฮูหยินใหญ่ท่านเสนา
ปรากฏว่าตื่นมาในคุก โดนทรมาน กำลังรอประหาร
นางเอกเลยกระเสือกกระสนหาวิธีไปตีกลองร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม
มีเวลาเดือนนึงในการสืบหาความจริง
มีปมซ่อนไว้ด้วยเกี่ยวกับวิญญาณที่หลอกนางเอกมาเข้าร่าง
มีใครสนใจสับละเอียดมะ พอดีสับไม่เก่ง อ่านอย่างเดียว
>>446 ฟชล อย่าให้กุด่า แม่งเหี้ย
กุเกลียดเว็บเหี้ยนี่มาก หน้าฉากดูดี ข้างในระบบห่วย บั๊กเยอะ ก่อนหน้านี้ล่มบ่อยสัส กุอยู่มาตั้งแต่เว็บเปิดได้ไม่นาน เขาชวนไป (เหี้ย พูดแล้วโม่งจะแหกไหมวะ)
คือถ้ามึงไม่ได้ทีมงานดันให้ มึงไม่ได้เกิดว่ะ อัพแทบตายยอดวิวก็ไม่ขึ้น เพราะมันจะไม่เด้งมาหน้าแรกเหมือนเด็กดอย มึงต้องโปรโมทเอง ใครแฟนเพจเยอะก็สบายไป ลากคนเข้าเว็บได้อีก ฮ่าๆ สบายไปสองต่อสิเจ้าของเว็บ ไม่ต้องโฆษณานักเขียนก็ทำให้
ระบบลงนิยายก็แย่ จัดหน้าลำบากมาก มนม.ว่าน้อยแล้ว ฟชล.น้อยกว่าอีก พวกแม่งควรสลับชื่อกันได้แล้ว
เพื่อนกุที่ได้ทีมงานดันให้ ก็บอกค่าเรื่องได้น้อยมาก ขนาดขายทั้งเล่มแล้วก็เหอะ ยอดซื้อมีเยอะ แต่หักไปหักมาถึงมือไม่กี่บาท หักอีกนิดแม่งจะขายสติ๊กเกอร์ไลน์ได้เงินเยอะกว่าแล้ว จนกุเลิกลง ไปลงเด็กดอยเหมือนเดิม
ล่าสุด กุเห็นนักเขียนคนนึงทวิตว่าฟชล.รับแฟนฟิกนักร้องเกาหลีด้วย กุนี่ด่าเลย กุไม่ได้แอนตี้เกา แต่ตอนเปิดเว็บใหม่ๆเจ้าของพูดดีเชียวว่าจะไม่รับงานแฟนฟิก รับแต่นิยายแต่งเอง พอมาตอนนี้แม่งกลืนน้ำลายเฉย ส่วนแบ่งตลาดมันน่าสนอะดิ โด่
เว็บเครือธวลนี่แม่งเป็นงี้ทุกเว็บ
หูย โหดร้ายชิบหาย
สมัครสมาชิกธัญวลัยแล้วได้มากุญแจทองมาห้าดอก ผ่านไปสฃวันหนึ่งทำไมกุญแจไม่เพิ่มเลย ปกติมันเพิ่มยังไง?
บันไดหยกงาม บทที่สี่ทำกูอึ้ง ทุกอย่างเปลี่ยนเร็วชิบหาย...มันเศร้าแต่เศร้าไม่สุดว่ะ อ่านแล้วอารมณ์หมองๆไปเลย กลิ่นไอดราม่าหึ่งมาก กูเกลียนจิ้นอ๋อง!!!!(ทีมจิ้นอ๋องอย่าตบกู ToT)
พิมพ์ผิด *เกลียดดดดดดด
กูก็นึกว่าตำหนักเสิ่นเจิ้นหายไปไหน
อย่าสิมึง อุตส่าห์มีตำหนักแนวนี้ให้กูแล้ว ขอกูเอาไว้เมาธ์นิยายจีนคนไทยแต่งเถอะนะ
/กอดจ้าวเสียวไควกับเสี่ยวตั๊บแก่อย่างแน่นเหนียว
เสิ่นเจิ้นแปลกแหวกแนวหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ตอนนี้นักเขียนที่กูตามดันหยุดพักร้อน แม่งไม่มีไรอ่านเล้ย ต้องหวนไปหาจีนแปลเช่นเคย
>> ภรรยาทรราช https://writer.dek-d.com/beam_at/story/view.php?id=1718930 <<
>>447 แค่บทแรกนะ
- ภาษานิยายแปล สำนวนภาษาต่างประเทศมาก เช่น "ฉันผ่านทุกความเสี่ยงอันตราย" "มือที่ด้านหนาของฉัน" "มันน่าอึดอัดทรมานสิ้นดี"
- บุพบทผิดที่ผิดทาง ทำให้อ่านติดขัด เช่น "ชีวิตทั้งชีวิตอยู่บนเส้นด้ายที่บางหากพลาดก็คือความตายรออยู่" น่าจะตัด "ที่" ออกแล้วใช้ไม้ยมกแทน เป็น "เส้นด้ายบาง ๆ" ไรงี้ แล้วเอา "ที่" ไปไว้หน้า "หาก", "ใบหน้าได้รูปนั้นที่ลงตัวด้วย..." เอา "ที่" ออกเถอะจ้า นอกจากจะผิดที่ผิดทางแล้วยังทำให้ไม่เป็นประโยคอีก
- คำขยายงง ๆ และคำขยายดูผิดที่ผิดทาง บางทีก็รวมพวกคำขยายทั้งหมดไว้ด้วยกันจนเหมือนถูกยัดรวม ๆ เช่น "ลมหายใจของฉันจากถี่เริ่มแผ่วเบาหอบ ๆ หายใจไม่เต็มปอด" แผ่วเบาบ้าง หอบ ๆ บ้าง หายใจไม่เต็มปอดบ้าง คือก็น่าจะวรรค น่าจะตัดออกสักตัว หรือน่าจะใส่ประธานลงไปหน่อยให้มันลื่นไหลกว่านี้, "กลิ่นคาวหวานของเลือด" หือ คาวหวาน? กลิ่นคาวเฉย ๆ ดีไหม หรือถ้าจะสื่อว่าเลือดมันคาว แต่ฉันคิดว่าหวานไรงี้ก็ควรเพิ่มคำอธิบายลงไปอีก, "คำถามเพ้อเจ้องมงายในหัวคิด" คือไม่ต้องใส่คำว่า "คิด" เข้าไปก็ได้อะ
- ไม่ระวังเรื่องการเว้นวรรค "สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้ากลับมีแต่ป่าหนาทึบที่มืดครึ้มน่ากลัวพร้อมเสียงที่ร้องไห้คร่ำครวญโหยหวนที่ไม่รู้ว่าดังมาจากทางไหนทำให้สถานที่ฉันนอนอยู่ดูวังเวงชวนขนหัวลุก" ลองอ่านดู เกือบขาดใจตายแน่ะ แล้วจากที่ยกมาจะเห็นว่านอกจากไม่ระวังเรื่องการเว้นวรรค ยังใช้คำว่า "ที่" ซ้ำอยู่หลายครั้งอีก
- ไม่ระวังเรื่องคำซ้ำ
- เจอจุดสลับ POV ด้วยจ้า ทำไมผิดกันเยอะจังวะเรื่อง POV เนี่ย
- คำผิด เอาเป็นว่าในสายตากูก็ขัดใจ พวก "ที่นี้" "ผูกพันธ์" "ทรมาร" "ต่าง ๆ นา ๆ" ฯลฯ แต่บางคำก็เข้าใจได้ว่าเป็นคำผิดประเภทมือพาไปมากกว่าผิดเพราะไม่รู้
- เว้นวรรคไม่ระวัง เออ ต่างจากไม่ระวังเว้นวรรคยังไงวะ 5555 เอาเป็นว่าอันบนคือไม่วรรคเลย ส่วนอันนี้คือเดี๋ยววรรค เดี๋ยววรรค วรรคจนกูหยุดหายใจตามเป็นพัก ๆ แล้ว
- พูดถึงการดำเนินเรื่อง กูอาจจะเหนื่อย+ง่วงจากการปั่นบทความไปหน่อย กูรู้สึกว่ามันเนือย เนิบ บางจุดก็วกวนเหมือนพายเรือในอ่าง จากที่อ่านคงเพราะนิสัยนางเอกน่าจะเป็นคนนิ่ง ๆ มั้ง แต่มันน่าจะกระตุ้นอารมณ์หรืออะไรต่อมิอะไรได้ดีกว่านี้อะ
สรุปแล้วในส่วนของการบรรยาย กูว่ามีหลายจุดที่ควรแก้ หรือบางจุดจะมองว่าเป็นสไตล์เฉพาะก็แล้วแต่ ส่วนเนื้อเรื่อง กูไม่รู้จะพูดอะไร เพราะก็แนว ๆ นี้ทั้งนั้น อารมณ์ของเรื่องสำหรับกูมันค่อนข้างนิ่งไปหน่อย มีบางจุดเล็ก ๆ เท่านั้นที่ทำให้ขำขึ้นมานิดหนึ่งเพราะคำบรรยาย สำนวนภาษาต่างประเทศแบบนิยายแปลฝรั่งมาก แทบไม่มีความไทย และไม่มีความจีนในเวลาเดียวกัน อ้อ ในเมื่อเลือกจะใช้บุรุษที่หนึ่ง คนก็เขียนควรระวังเรื่อง POV ด้วยอะ
ด้วยรักและสับเบา ๆ
โม่งตอดคมสันต์
มีคนมาบอกที่ตำหนักเผือกว่า อรตจะลงมาเขียนเสิ่นเจิ้น เรื่องจริงหรือวะ?
พวกมึงๆ กุถามหน่อยดิ มีใครเคยอ่าน มัญชุษกะคีตา บ้างมั้ยวะ คือกุจะถามว่า
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ตกลง แฝด1 แม่งหลอกแดกนางเอก แต่นางเอกรักแฝด2 ใช่มั้ยวะ ส่วนอีแฝด3 นี่กุโคตรเกลียดมันพอๆ กับนางเอกเลย แต่แม่งดราม่าดีวะ กุชอบ
กุหารีวิวแม่งไม่มีสักอัก ถ้าตอบกุขอบใจล่วงหน้านะพวกมึง
>>461 โม่งตอดคมสันต์ กูตามไปอ่านมาแล้ว เป็นอย่างที่มึงว่าทุกประการ ความจริงเขียนเรื่องเรียบๆแบบนี้ภาษาสำคัญมาก ถ้าภาษาดีมันจะน่าอ่านไปหมดเลย ถึงเนื้อเรื่องจะนิ่งๆก็เถอะ แต่พอภาษาไม่ดี คำซ้ำเยอะ อธิบายแล้วอธิบายอีก กูเลยปิดไป ส่วนพวกที่ภาษาห่วยแต่มียอดคนอ่านเยอะติดท็อป กูลองไปส่องดูแล้วพอจะเข้าใจละว่าคนอ่านไม่ได้อ่านเอาภาษา แต่อ่านเอาเรื่องแค่ว่าใครได้กะใคร ใครตบกัน ใครเชิดหน้าใส่คุณนายแม่ ใครได้จับมังกรพระเอก แค่นั้น
มีใครสับทอป 20 น่าสนใจบ้าง ตอนนี้ตามๆ ดูอยู่ แต่ไม่อยากเสียเวลาอ่านทีละเรื่อง
มีใครแนะนำมั้ย
ฟชล คือนามปากกาหรือเว็บลงนิยาย ? นึกชื่อไม่ออกเลย 555
เจอแล้ว ปกไม่สวย หน้านางเอกแก่มาก มือผิดสัดส่วนอีก กูว่าหน้าปกนิยายคุงคูดูดีกว่าว่ะ
เขาจะใช้ชื่อศิษย์พี่เซียวเหล่งนึ่งเป็นนามปากกาหรือวะ
รสนิยม อรต มั้ง
กูตามไปเผือกมาแล้ว อห ปกแบบนี้ยังมีคนชมว่าสวย ไอ้พวกที่ชมนี่หลับหูหลับตาอวยกันไปได้ยังไงวะ ไม่สงสารเจ้าของนิยายเค้าบ้างเรอะ กะจะไม่ให้เจ้แกขายได้เลยรึไง
กูเพิ่งได้อ่าน เสี่ยวหวางเฟย ซึ่งบอกเลยกูอ่านไม่รอด หยุดที่เล่มเกือบท้ายๆเล่ม1 อ่านๆหยุดๆจนถอดใจเลิกอ่านล่ะ ไม่ใช่แนวกูเลย เพิ่งเห็นว่ามีภาค2ต่อด้วย น่าจะขายดีล่ะมั้ง แต่ไม่ถูกจริตกู
ประเด็นคือกูมีคำถาม กูรู้ว่า หวางเฟย คือชายาหวาง(อ๋อง) แต่เสี่ยวหวางเฟย (พระชายาน้อย?) คำนี้มันมีจริงๆหรอ คือเคยอ่านเจอ ฮูหยินน้อย นะ จากนิยายมกร.ของส้ม แต่เสี่ยวหวางเฟยนี่ไม่คุ้นเลยวะ มันมีจริง หรือคนแต่งมโนเอง // มาถามเป็นความรู้ ใครช่วยตอบ กูขอบคุณล่วงหน้า
*หมวดที่เท่าไรสักหมวด : ท็อป 5 ประจำวันที่ 16 พ.ย. 60*
แค่บทแรกและคร่าว ๆ
1. ชายาอ๋องกระดูกเหล็ก โดย 54101140007 https://writer.dek-d.com/54101140007/story/view.php?id=1714407
: ภาษาในการบรรยายใช้ได้ แต่สำหรับกูรู้สึกว่าสำนวนคนเขียนยังไม่ค่อยมีเสน่ห์ ยังไม่มีไลน์เฉพาะของตัวเอง เป็นสำนวนทั่ว ๆ ไปอยู่
บทบรรยายยืดเยื้อ บางจุดตัดได้ก็ควรตัด
บทสนทนาไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ
กำลังจะบอกว่าไม่น่าจะมีอะไร พอเจอบทนางเอกโดนรถชน กูแบบ เฮ้อ ทำไมเอาเสียงเอาอะไรมาก่อนเหตุการณ์วะ คนอ่านลำดับภาพก่อน-หลังยากอะ
สำหรับบทแรกของเรื่องนี้ ไม่คิดว่าจะน่าสนใจขนาดนั้นขึ้นเป็นท็อป 1 ได้ แสดงว่าบทหลัง ๆ คงมีอะไรน่าสนใจ
2. ชะตาฝันมั่นรัก (สนพ.คำต่อคำ) โดย FrostyNight https://writer.dek-d.com/FrostyNight/story/view.php?id=1699430
: เรื่องนี้การบรรยายเขาตรงจริตกูและคิดจะเปย์อยู่แล้ว อ่านแค่บทแรกกับเคยเข้าไปสุ่มอ่านมาสักตอนก็ชอบ เอาเป็นว่าดีไหมไม่รู้ ใช้คำว่าตรงจริตละกัน
แต่มีเว้นวรรคแยกคำหลายจุดมาก ไม่รู้เกิดจากอะไร มันทำให้ขัดใจ มีภาษาพูดใช้ในภาษาบรรยาย เช่น "ยังไง" ก็ควรใช้เป็น "อย่างไร"
จบบทดึงความสนใจได้ดี
มีคำซ้ำบ้าง คำผิดเยอะ เห็นคนเขียนลงวันที่ที่มาแก้คำผิดไว้ แต่มันก็ยังเยอะอยู่
3. ลี่ลี่ จอมฉ้อฉลน้อย (สนพ. ไลต์ออฟเลิฟ) โดย Ninid33 https://writer.dek-d.com/Ninid33/story/view.php?id=1644013
: สับไปแล้วในตำหนักที่ 1
4. เซวี่ยซินซี ฮูหยินวิปลาส โดย 0007G https://writer.dek-d.com/0007G/story/view.php?id=1693870
: ย่อหน้าเปิดเรื่องนี่เหมือนหนังเหมือนละคร คือให้อารมณ์เหมือนเสียงคนพากย์อะ
หนึ่งย่อหน้าเนื้อหายาวเกิน ตาลาย! เว้นวรรคแปลก ๆ บางทีก็แยกคำ คำเชื่อมไม่ค่อยลื่นไหล
ภาษาแบบย่อยง่าย อารมณ์เหมือนตักเข้าปากแล้วย่อยเลย ถูกใจนักอ่านสายเน้นอ่านเร็วในเว็บ แต่ไม่ถูกใจกู ไม่ค่อยจะได้สัมผัสเสน่ห์, อารมณ์อะไรเลย
ยิ่งฉากรถนางเอกตกผา อห รีบเวอร์ ยังไม่ทันเห็นภาพ ยังไม่ทันเก็ต เหมือนฉายหนังแบบกรอเร็ว ๆ ให้กูดูอะ
และที่สำคัญ เรื่องนี้คือตัวอย่างชั้นดีของนักเขียนที่เขียนคำง่าย ๆ ผิด แหม กูนี่อ่านไปกัดฟันไป อ่านทอล์กคนเขียนกูก็ไม่แปลกใจละ อืม
5. นางร้ายพ่ายรัก(ดวงใจรัชทายาท) โดย jaifong https://writer.dek-d.com/jaifong/story/view.php?id=1704331
: อยากจะหักคะแนนความประทับใจตั้งแต่ย่อหน้าแรก ๆ เปิดมาด้วยเสียงประกอบฉากแต่ไม่มีบรรยายอะไรเลย คนอ่านบางคนก็คงไม่สามารถตรัสรู้ได้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
นึกว่านิยายแฟนตาซี ระเบิดพลังมั่ง ผลักพลังมั่ง ภาษาบรรยายมั่ง ไม่มีกลิ่นจีนเลยยกเว้นชื่อตัวละคร
ใช้เสียงประกอบฉากอีกละ "วูบ!" แต่ไม่มีบอกเลยอิที่วูบนี่อะไร ใคร ยังไง เกิดอะไรขึ้น จะให้คนอ่านพยายามคิดเอาเองเหรอ
ภาษาย่อยง่าย ค่อนไปทางจืดชืด
คำผิดขัดใจ
แต่ที่งงที่สุดคือท้ายเรื่อง คนเขียนเอาคอมเมนต์คนอ่านมาแปะแล้วบอกว่า Top Comment คือไรอะ? นโยบายกระตุ้นให้คนอ่านเมนต์เยอะ ๆ หรืออะไร
===================
แค่นี้ก่อนนะ เอาแค่ Top 5 กูโหวตว่ากูชอบชะตาฝันมั่นรักที่สุดก็แล้วกัน
โม่งตอดคมสันต์
แถม ๆ
8. แมวของข้า ใครก็อย่าอาจหาญมาแตะต้อง! โดย ninghua29 https://writer.dek-d.com/ninghua29/story/view.php?id=1712360
: เอ๋า กูเจอของดีเข้าอีกแล้ว คืออาจไม่ได้ดีที่สุดในใจกู (ตอนนี้ยกให้มหาดเล็กฯ) แต่เอาเป็นว่ากูคิดว่าดีเลยแหละ
น่ารักน่าเอ็นดูอะ ขนาดกูไม่ใช่ทาสแมวค่อนไปทางไม่ชอบ อ่านแล้วยังเอ็นดูขึ้นมา แบบอ่านละยิ้ม หัวเราะนิด ๆ รู้สึกชีวิตมุ้งมิ้งงงงง
คนเขียนอ่านมาเยอะหรือไม่ก็น่าจะเขียนมาพอสมควร คลังคำในหัวเลยเยอะ เลือกมาใช้ได้น่าสนใจและมีเสน่ห์เฉพาะตัว
คำผิดประปราย แล้วก็ "ละมัง" ไม่มีในพจนานุกรม น่าจะใช้ "กระมัง"
อืม ติดตรงที่ "กึ่ง" แบบใช้ว่ากึ่งหงุดหงิด กึ่งสงสัย กึ่งแปลกใจ คือคำว่า กึ่ง มันควรแบ่งครึ่ง แต่คนเขียนแบ่งออกจนเกินครึ่งละเนี่ย
แล้วก็อาจจะต้องระวังพวกคำซ้ำบ้าง
คำว่า "ต่อ" ที่เอาไว้เชื่อมเนื้อหาน่าจะเอาออกเปลี่ยนเป็นใช้ ... จะทำให้อารมณ์คนอ่านต่อเนื่องกว่า
หนึ่งบทยาวไปหน่อยแต่น่าสนใจ และกูชอบ กูไม่รู้ว่าสนพ.ติดต่อมายัง แต่อ่านแค่จากบทแรกน่าจะเหมาะกับสไตล์คตค ไม่ก็เจ้าหญิง บางทีอ่านไปอาจจะคิดถึงเรื่ององค์หญิงแมวไปบ้าง โดยรวมแล้ว(แค่บทแรก บทอื่นไม่รู้)คิดว่าสนพ.ควรมาจีบ
อ้อ เพิ่งเห็นว่าเขาจะมีรูปเล่ม ไม่รู้กับสนพ.อะไรหรือว่าทำมือ
พวกมึงได้ตามดราม่าตั๊บแกมั้ย
>>486 ชายาอ๋องกดล กูว่าเพราะเปิดเรื่องแบบนั้นแหละคนเลยอ่านเยอะ เปิดเรื่องตามสูตรสาวสวยเก๋ไปเข้าร่างคุณหนูอ่อนแอคู่หมั้นทิ้ง คนจะตามอ่านทันที แล้วถ้าเรื่องมันวนเวียนอยู่กับการทำตัวสวยเริ่ดเชิดหยิ่งใส่คู่หมั้นกับนางอิจฉา ก็จะติดท็อปได้ง่ายเลย เน้นผัวเมียจะอยู่ได้นาน กูเห็นบางเรื่องเขียนแก้เกี้ยวว่าไม่ได้มีแค่นี้นะยังมีอะไรหนักๆแต่พอกูลองทำใจกว้างอ่านไป เรื่องหนักๆที่ว่าก็ไม่พ้นเรื่องชิงอำนาจแบบไม่มีชั้นเชิง แต่นี่แหละสูตรแห่งการติดท็อปว่ะ
ชตฝมร กูว่าบรรยายมาตรฐานดีสมเป็นนักเขียน แต่เรื่องไม่มีกลิ่นอายจีนเลยสำหรับกู มันไทยมากว่ะ เปลี่ยนชื่อเป็นชาลิดา พวงเพ็ญ สุดามาลี ได้เลย ไม่ตรงจริตกูอย่างแรง ถ้าอ่านของเขาเป็นไทยกูคงอ่านได้ แต่อ่านแล้วไม่รู้สึกตรงไหนว่ามันจีน กูไม่มีอคติกับเสิ่นเจิ้นด้วยนะ อ่านได้ถ้าภาษาดี แต่เรื่องนี้บายว่ะ
เรื่องแมวของข้าฯกูก็ว่าโอเค ภาษาเกือบดีแล้ว จัดว่าดีเกินมาตรฐานเด็กดี ถ้ากูเป็นทาสแมวกูคงอ่าน พอดีไม่ใช่ แต่กูถือว่าจากติดท็อปทั้งหมด เรื่องของคนนี้โอเคสุด
>>488 ตามหลักภาษาก็ไม่ผิดไง เรียกด้วยความเอ็นดูก็เรียกได้ทั้งนั้น นิยายจีนมีตั้งหลายเรื่องเลยว่าที่ใช้คำว่าเสี่ยวหวางเฟย แต่มันจะเป็นคำที่ธรรมดาเกินไปที่จะเป็นชื่อเรื่อง หมายถึงถ้าเป็นนิยายจีนน่ะ เหมือนแปลว่า พระชายาน้อย แค่นั้น ของจีนเท่าที่กูเห็นจะต้องมีคำอื่นมาขยาย ชื่อเรื่องประมาณ พระชาน้อยจอมพิษสง พระชายาน้อยผู้เย่อหยิ่ง พระชายาน้อยใจเหี้ยม อะไรเงี้ยว่ะ
>>494 กูไม่คุ้นคำนี้ไง เลยสงสัยว่าเค้าเรียกกันงี้จริงหรอ ส่วนมากกูเจอแต่แบบ รุ่ยหวางเฟย ฉู่หวางเฟย เข้าใจแหละว่าคนเขียนตั้งใจจะสื่อถึงพระชายาตัวน้อย เรียกด้วยความเอ็นดู กูแค่สงสัยว่ามันมีเรียกกันงี้จริงหรอ เพราะอย่างที่บอก ฮูหยินน้อย มันเป็นตำแหน่ง=เมียลูก ฮูหยินใหญ่=เมียพ่อ เท่าที่กูเจอมาน่ะ
กูไม่มีความรู้จีน คำเรียกกูรู้แต่จากนิยาย กว่ากูจะเข้าใจความต่างของการเรียกชื่อ+เอ๋อร์ กะ เสี่ยว+ชื่อ ก็ตั้งนานนน 55+
>>486 ขอบคุณโม่งตอด เดี๋ยวตามไปอ่านแมวของข้า
ชะตาฝันตามอยู่เหมือนกัน ภาษาโอเคแต่เนื้อเรื่องค่อนข้างเรียบๆ เรื่อยๆ ไปหน่อย
>>493 เห็นด้วย พวกทะลุมิติไปเข้าร่างอ่อนแอมันสนุกตอนพลิกโฉม ตอนแก้เผ็ด แก้แค้น มันก็วนเวียนๆ แค่นี้แหละ แต่คนอ่านรู้สึกว่าสะใจ คอยดูว่านางเอกจะทำอะไรยังไงต่อไป
ตอนนี้ที่อ่านแล้วรู้สึกน่าติดตาม มีเรื่อง คุณชาย ข้าตระหนกจนผมร่วง ตอนแรกออกแนวฮา หลังๆ ดราม่าซ้อนชาติภพ
กับเรื่อง สลับร่างรัก ประมุขพรรคเจ้าเสน่ห์ อ่านไปเรื่อยๆ แล้วมันมีดราม่าซับซ้อนยิ่งนัก
>>497 อ๋อ กูเข้าใจละว่าทำไมมึงงง พอดีกูเรียนจีนเลยเข้าใจไปโดยปริยาย ไม่ได้นึกถึงคนไม่เรียนจีน ต้องอ่านวรรณกรรมเก่าๆของจีนถึงจะเห็นการเรียกที่ถูกต้องว่ะ วรรณกรรมใหม่ของจีนยังเอาง่ายเข้าว่า เพราะการใช้คำมันเปลี่ยนไปแล้ว บางคำกลายเป็นคำดูถูกไปแล้วก็มี ถ้าเขียนให้คนรุ่นใหม่อ่าน พวกไลท์โนเวลจะเปลี่ยนเป็นคำปัจจุบันหมดเลยทั้งที่เป็นนิยายตีมโบราณ จริงๆคำว่าฮูหยินน้อยอะไรเนี่ยก็ไม่ใช่คำเรียก เพราะเวลาเรียกกันในบ้าน เอาแบบสมัยโบราณจริงๆเลยนะ มันก็จะเรียกกันว่า หน่ายไน แปลว่านายหญิง จะใหญ่แค่ไหนก็คำนี้ ถ้ามีหลายคนก็จะเรียงลำดับไป หน่ายไนหนึ่ง หน่ายไนสอง (ต้าหน่ายไน เอ้อรฺหน่ายไน) ถ้าเป็นชายาใหญ่สุดในแคว้นนั้นก็เรียกว่าเหนียงเหนียง ไม่ได้มาเรียกกันว่าหวางเฟยเต็มยศ นอกจากจะเรียกเป็นทางการ ผัวเองถึงจะเอ็นดูเมียก็คงไม่เรียกแบบนั้นเหมือนกัน นอกจากจะพูดเล่น เหมือนพูดว่า Oh my little princess ประมาณนั้น
คนเขียนมโนเองนะกูว่า อ่านจีนแปลมาก็มากยังไม่เคยเห็นเรื่องไหนใช้เสี่ยวหวางเฟย พระชายาแต่ละเรื่องก็อายุน้อยทั้งนั้น แต่ไม่มีสักเรื่องที่นึกเอ็นดูนางเอก เห็นตัวเล็กอายุน้อย แล้วเรียกเสี่ยสหวางเฟย นางคงแบบเห็นเสี่ยวกูเหนียง เสี่ยวยาโถว มันใช้ได้มั้ง แปลแล้วก็ประมาณแม่นางน้อย คิดไปว่าคงใช้กับพระชายาตัวน้อยได้มั้ง
อ่อ กูลืมทิ้งท้าย บางคนอ่านอาจเข้าใจได้ว่า เสี่ยวหวางเฟย = พระชายาของอ๋องเสี่ยว เพราะถ้าคนอ่านไม่รู้ว่าเสี่ยวหมายถึงอะไร ภาพมโนพระชายาตัวน้อยคงไม่มีในหัว
กุว่าที่ใช้ฮูหยินเรียกเมียเจ้าบ้านกันเพราะจากหนังจีนพากย์ไทยป่าว กุกำลังดูอยู่พอดี เรียกกันฮูหยินๆ หมด ฮูหยินใหญ่ก็เมียเจ้าบ้าน ฮูหยินน้อยก็เมียของลูก
บางเรื่องก็นายหญิงแม่งทั้งคู่
หรือกูใช้คำว่านายหญิงมั่งดี แบบไหนถูก
>>493 >>498 ชายาอ๋องกดล กูเห็นด้วยเลยว่ะ สูตรสำเร็จจริง ๆ ส่วนชตฝมร ภาษากลิ่นไทยเลยแหละ 55555 ความเรื่อยของเรื่องกูรู้สึกฟีลจันทราในเรือนเร้นอะ
เออ ว่าแต่เรื่องชิงอำนาจแบบไม่มีชั้นเชิง แบบไหนมั่งวะ กูนึกภาพไม่ค่อยออก
>>495 กูใช้แอปอ่านนิยายเด็กดีอะมึง เวลาก็อปมันเลยติดมาทั้งยวง ขี้เกียจลบด้วย แต่ถ้ามันไม่ควรทำแบบนี้ก็บอกกูได้นะ คราวหลังจะได้ลบออก
>>502 เห็นมึงพูดถึงฮูหยิน กูก็งงอยู่เรื่องหนึ่งคือถ้ามีลูกชายหลายคนอะ เมียลูกชายคนโต เมียลูกชายคนรองงี้ จะยังเรียกฮูหยินน้อยอีกปะวะ แล้วจะรู้ได้ไงว่าหมายถึงคนไหน หรือใช้สกุล+ฮูหยินไปเลย?
ถ้าไม่รู้ภาษาจีน มึงใช้คำไทยดีที่สุด กูเห็นเสิ่นเจิ้นหลายเรื่องใช้ภาษาจีนปนกัน แต้จิ๋ว ฮกเกี้ยน จีนกลาง ยิ่งทำให้ดูปลอมเข้าไปใหญ่เลยว่ะ อย่างคำว่าเอ้อร์ ไปเขียนแค่เอ้อ มันก็ผิดความหมายแล้ว บางเรื่องแม่งมีทั้งหวางเฟย ฮูหยิน ฮ่องเต้ จะเลือกสำเนียงไหนกูว่าศึกษานิดนึง ไม่เสียเวลามาก ดีกว่าทำออกมาแล้วตลก แต่ถ้าขี้เกียจศึกษาก็ภาษาไทยเลยว่ะ กูเห็นหลายเรื่องแปลแบบไทยๆไปเลย กูว่าก็อ่านได้สบายดีนะ คนอ่านเยอะเลยที่ชอบ
>>503 ชิงอำนาจแบบไม่มีชั้นเชิง ก็แบบที่บรรยายมาซะเยอะว่าพระเอกโคตรฉลาด นางเอกโคตรฉลาด ตัวโกงโคตรฉลาด แต่ว่าสุดท้ายไม่ได้ใช้ความฉลาดอะไร วิ่งไปปักมีดฆ่ากันเฉยๆ แล้วตัวโกงก็เฉลยความชั่วของตัวเองออกมาดื้อๆ
ถ้าบ้านมีลูกชายหลายคน เขาก็จะเรียกด้วยแซ่เดิม แล้วตามด้วยคำว่าซื่อ แปลว่าท่าน แม้แต่ในวังหลวง บางยุคก็ใช้แซ่ของแม่ มาเติมหน้าคำว่าองค์ชายของลูก จะได้รู้ว่านี่ลูกแม่ไหน
เพราะในการแปลเค้าเน้นให้คนอ่านหนังสือแล้วเข้าใจ เพิ่งจะมีหลังๆ ที่เกิดกระแสคำเป๊ะจีนกลางจ๋าขึ้นมา ไทยเราจะชินกับฮ่องเต้ อ๋อง อะไรพวกนี้มากกว่าว่ะมึง ไม่ได้ใช้จีนกลางกันมาตั้งแต่แรก
ในฐานะคนอ่านที่ไม่ได้เรียนภาษาจีน คุ้นกับการเรียกตามละครจีนเดิมๆ
ฮ่องเต้ ฮองเฮา พระสนม (สรรพนาม) แต่ถ้าเรียกชื่อก็ แซ่+กุ้ยเฟย หรือพระสนม+แซ่ ใครใหญ่กว่าใครจะรู้ตามบริบทมากกว่าชื่อ
ถ้าพระชายานี่เข้าใจว่าเมียอ๋องหรือเมียองค์ชาย
ใครลูกใครก็จำชื่อเอา
แต่อีกหน่อยจีนกลางอาจจะกลืนหมดก็ได้นะ เด็กรุ่นใหม่ๆ อาจจะคุ้นกว่า และคงจะทับศัพท์เกือบหมด
สำหรับกูนะ การใช้คำที่คนไทยเคยชินอาจจะไม่ผิด แต่ถ้าใช้ปนกันตลอดทั้งเรื่อง ยังไงมันก็ดูตลก ถ้าคนเขียนรู้อยู่แล้ว แต่ตั้งใจจะใช้เพื่อให้อ่านง่าย เขียนเชิงอรรถบอกไว้หน่อยก็ดี แต่อย่าให้ถึงกับใช้ปนกันในคำๆ เดียว แบบเรียกเมียว่าหวางเฟย แต่หันไปเรียกผัวว่าอ๋อง ในเมื่อใช้ของเมียเป็นจีนกลางก็ควรใช้ของผัวเป็นจีนกลางไปด้วย
กูไม่ว่าหรอกนะถ้าคนอ่านรุ่นเก่าจะบอกว่าชินแล้ว แต่กูคิดว่าในนิยายเรื่องนึงๆถ้าจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนให้มันไปในทางเดียวกันหมด อีกหน่อยก็เข้าใจกันไปเอง ไม่ใช่ครึ่งๆกลางๆไปเรื่อย แล้วส่วนใหญ่ครึ่งๆกลางๆแบบไม่รู้ มันก็ไม่ได้ยกระดับความรู้ของคนเขียนขึ้นมาเลย นี่กูพูดถึงตัวคนเขียนโดยตรงนะ รักจะเขียนก็ศึกษาบ้าง กูเข้าใจดีว่าไม่ใช่ทุกคนจะเรียนภาษาจีนได้ แต่ถ้าจะทำงานตรงนี้ก็เสียเวลาศึกษาซักหน่อยดีมะ มันไม่ได้เยอะจนสมองรับไม่ได้ กูเห็นบางคนเขียนเรื่องจีนแล้วมาถามรายวันเลยในห้อง web novel การถามมันก็ดีอยู่หรอก แต่บางคำถามนี่มันทำให้กูคิดว่า คนเขียนนิยายบางคนจะไม่หาอ่านเองบ้างเลยเหรอ ถ้าในห้องนี้มีคนเขียนนิยายแล้วเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องจีน กูแนะนำว่าให้ยึดหลักราชวงศ์หมิงกับราชวงศ์ชิง เพราะมึงหาข้อมูลง่าย มันเป็นราชวงศ์หลังๆแล้วที่มีระเบียบชัด มีหนังเยอะด้วย ส่วนใหญ่กูเห็นแต่งนิยายกันแบบไม่ยึดยุคสมัยอยู่แล้ว ก็ใช้รูปแบบข้อมูลที่หาง่ายไปเลย ดีต่อสมองมึงเองด้วยว่ะ
บางทีคนถามเพราะไม่รู้ก็บอกๆไปหน่อย ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงอะไร นขใช้คำผิดก็บอกไป มันฟังไม่ฟังก็เรื่องของมัน แต่นขบางคนก็คอยอยู่ว่าตัวเองผิดหรือเปล่า ไม่บอกก็ไม่รู้ ไม่ใช่มาคอยด่าแต่ในโม่ง ขนาดข้อมูลในเนตที่เผยแพร่กันหรือหนังสือแม่งยังไม่ถูกเสมอไปเลย คนหนึ่งบอกแบบนี้ คนหนึ่งบอกแบบนั้น เว็บฝรั่งใช่ว่าเชื่อถือได้ อยากได้แบบไม่มีที่ติมึงต้องหาอ่านวิทยานิพนธ์แล้วล่ะ (ซึ่งบางคนก็ไปเอาจากที่ผิดๆมา)
กูนี่แหละแนะนำตลอดในเรื่องที่กูคิดว่าช่วยได้ แต่คำถามบางคำมันเกินไป นักเขียนเรื่องจีนบางคนขี้เกียจเกินไป แค่พินอินยังไม่อยากเรียน บอกว่าไม่ถนัด แต่อยากเขียนเรื่องจีน มันย้อนแย้งป่าววะ บางคนบอกว่าดูหนังเป็นเรื่องๆเพื่อจะไปลอกคำจีน ถ้ามีเวลาดูหนังสี่สิบตอนก็น่าจะมีเวลาหาหนังสือหรืออ่านจากเน็ท เทียบกันเอาว่าข้อมูลตรงกันมะ วิธีหาข้อมูลมึงต้องเทียบกันทั้งนั้น กูเรียนจีนเริ่มตอนมอสี่ กูยังต้องเปิดหาข้อมูลวิธีพูดมายันกันเลย เพราะครูกูเป็นจีนที่พูดไทยไม่ได้ กูถามอะไรเขาก็ไม่เข้าใจ บอกให้พูดตามอย่างเดียว คนเราต้องรู้จักหาข้อมูลมายันกันว่ะ แล้วที่เขียนๆเสิ่นเจิ้นกันเนี่ยก็ไม่ใช่ระดับอิงประวัติศาสตร์อะไรเลย ไม่เห็นต้องไปค้นถึงวิทยานิพนธ์ แค่ไม่รู้จักคำพื้นๆกับประเพณีง่ายๆพื้นๆซึ่งหาเอาได้ ถ้ามีแก่ใจจะหา
กูเนี่ยเป็นคนอ่านชั้นดีที่ไม่ด่าคนเขียนเลย ไม่ด่าคนถามด้วย ถ้าถามคำถามทุเรศ กูก็เงียบแค่นั้น แต่ในใจกู "ระอา" คนเขียนที่ไม่หาข้อมูล ไม่ยกระดับงานของมึงเอง ถ้ามึงคิดว่าตัวเองหาข้อมูลไม่เก่ง ไม่แม่น ก็เสริมส่วนจินตนาการเข้าไปดิ เอาส่วนดีของมึงมาใช้ ไม่ใช่เอาส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงมามั่วแล้วบอกว่าหาข้อมูลถูกต้องไม่ได้ เข้าใจวิธีหาข้อมูลป่าววะ ถ้าอยู่เลยชั้นประถมมึงต้องทำรายงานแล้วอะ เวลาทำรายงานมึงทำไงเหรอ ตัดแปะเลยเหรอไง เจอแหล่งเดียวมึงก็ลอกเลยเหรอ มึงไม่รู้เหรอว่าหาข้อมูลต้องหาจากหลายแหล่ง ถ้าหาไม่ได้ก็อย่าเขียนถึงตรงนั้น ถ้ามีใครมาถามว่า ราชวงศ์ถังฮ่องเต้ใส่หมวกห้อยลูกปัดกี่เส้น อันนี้กูเข้าใจนะว่าอาจจะหาไม่ได้ ไม่ถนัดภาษาอื่นนอกจากภาษาไทย แต่ถ้ามาถามว่า long men พินอินอ่านว่าอะไร กูยอมให้แต่เด็กประถมว่ะ เว็บสอนอ่านพินอินของไทยมีมากกว่าเชื้อราในยาคูลท์
>>517 ถ้าพูดถึงตัวกูในความเป็นคนอ่านนะ นิยายเรื่องไหนถ้าไม่ได้ชอบ หรือไม่ได้เห็นความสำคัญ/มีความรู้สึกว่าคนเขียนจะใส่ใจในการแก้ไข กูก็ไม่นั่งหาคำผิดมาบอกให้เสียเวลากูหรอก
ส่วนในความเป็นคนเขียน กูก็พยายามแก้คำผิดอยู่ตลอด คนอ่านบอกคำผิดได้ก็จะเป็นพระคุณเหมือนที่มึงว่านั่นแหละ
ส่วนในความเป็นคนสับ กูก็แค่อยากสับ อยากพูดถึงอะไรที่อยากพูด บางเรื่องผิดฉิบหายวายป่วง เสียเวลาชีวิตกูมากถ้าจะต้องมานั่งหาให้ บางเรื่องมันสะท้อนว่าคนเขียนไม่ได้ใส่ใจคำผิดเลย เป็นต้นว่า คะ-ค่ะ นี่-นี้ อะไรพวกนี้ยังผิด ทั้งที่มันเป็นคำใกล้ตัวระดับนี้แล้ว หรือบางเรื่องที่ผิดเต็มตลอดทั้งหน้าตลอดทั้งเรื่อง ต่อให้แป้นลั่น แต่ถ้าลั่นบ่อยกูก็คิดแล้วนะว่าคนเขียนไม่ใส่ใจหรือเปล่า ตรวจสักสองสามรอบก็น่าจะกรองได้บ้างแล้ว
อะ อย่างเรื่องนี้ http://www.tunwalai.com/chapter/1261945/บทที่1แต่งงาน
กูจนปัญญาจะสับ จนปัญญาจะบอกเรื่องคำผิด จนปัญญาไปหมด โลกใบนี้ช่างน่าเศร้าเหลือเกิน
แล้วใครที่คิดว่ามาด่าแต่ในโม่ง ไม่มีประโยชน์ กูอยากบอกเลยว่ามึงเข้าใจเว็บบอร์ดโม่งหรือเปล่าวะ มันคือที่วิจารณ์และพูดคุยตามหัวข้อ มันไม่ใช่แหล่งนักบุญที่จะมาช่วยเหลือใคร มึงเจอคนร้อยพ่อพันแม่ในนี้ บางคนด่าเอามัน ด่าๆๆเท่านั้น ด่าคนเขียนด้วยคำหยาบเลยก็มี แต่หลายคนก็เขียนอย่างสุภาพปกติ แค่ใช้มึงกูตามกันไป อย่างโม่งตอดคมสันต์มันก็สับของมันตามความคิดมัน มันเอามาลงให้อ่าน มีใครเห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็ว่าไป โม่งสับคนอื่นใครใคร่สับก็ไปหามาสับ จะให้โม่งแต่ละคนไปเขียนบอกนักเขียนถึงที่ มันไม่ใช่เรื่องว่ะ นี่มันบอร์ดคุยกันเรื่องนิยาย
>>518 เมิงบ่นถึงอีกห้องใช่มะ กุเห็นด้วย กุว่าแรก ๆ ยังถกกันโอเคนะ หลัง ๆ เหมือนมีโม่งใหม่ ๆ เข้ามา แล้วแบบ บางเรื่องมันหาข้อมูลได้ง่ายมาก ๆ หรือบางเรื่องข้างบนก็ตอบไว้แล้ว ขนาดจะเลื่อนไปอ่านด้านบนยังไม่คิดจะเลื่อนเลย มาถามใหม่เอา คิดจะเป็นนข.มันต้องขยันหาข้อมูลว่ะ ไอนั่งดูซีรีย์กุบอกเลยว่าอิงห่าไรไม่ได้ เปิดดูเรื่องนึงเรียกอย่าง อีกเรื่องเรียกอีกอย่าง มันมีทั้งอิงยุคสมัย ทั้งไม่อิงเป็นเรื่องแต่งเอง บางคนยังแยกไม่ออกเลย กุเคยจะเทียบแล้ว มันงงกว่าเก่าอีก สุดท้ายเลยเอากลาง ๆ ที่ตัวเองเข้าใจว่าถูก มีคนใช้เยอะจบ บางคนถามเหมือนจะพยายามลงลึก แต่คำถามมันชวนให้คิดนะว่าแค่นี้ยังไม่คิดจะหาข้อมูลเลยหรอ คือถ้าไม่ชินกับวัฒนธรรม ไม่เคยดูหรืออ่านแนวจีนมาก่อนในชีวิต เพิ่งมานั่งศึกษา สมควรไปหาข้อมูลเองก่อนจะดีมาก บางคนยังไม่เข้าใจระบบครอบครัวคนจีน หรือแนวความคิดต่าง ๆ เลย แต่อยากจะแต่งมากกก ไม่รู้ว่าด้วยกระแสหรืออะไร แต่สุดท้ายมันก็เป็นได้แค่นิยายไทยใช้ชื่อจีน ตามที่โม่งด่า ๆ กันระงมน่ะแหละ ถ้าไม่อยากโดนด่า ก็ควรให้เวลาตั้งใจกับนิยายที่คิดจะเขียนหน่อย
>>521 ใช่อย่างที่มึงพูดเลย แล้วกูคิดว่าถ้าไม่ถนัดแต่อยากเขียนก็เขียนให้มันเป็นคำไทยไปเลย กูไม่เข้าใจคนที่อยากเขียนในสิ่งที่ตัวไม่รู้ว่ะ แล้วมาถามคนอื่นเนี่ย แน่ใจเหรอว่าจะได้คำตอบที่ถูกต้อง ก็ต้องค้นคว้าหน่อยมะ กูเคยเห็นโม่งบางคนไปหาซื้อหนังสือมาเลย แล้วมาถามด้วยว่าเล่มนี้เล่มนั้นดีมั้ย จะได้เอามาเป็นแบบแผน กูโคตรสนับสนุนเลยคนแบบนั้น แต่แบบนั่งดูหนังแล้วมาถามว่าทำไมเรียกไม่เหมือนกัน นี่คือยังไม่รู้เลยว่าจีนแม่งมีหลายราชวงศ์ ถ้าไม่ได้เรียนภาษาจีน มันก็ไม่มีทางไปเทียบได้เพราะอ่านหนังสือไม่ออก แต่ใช้คำไทยแทนได้ไง จะกระเสือกกระสนใช้ภาษาจีนอะไรปานนั้นทั้งที่ตัวเองไม่รู้ บางคนแม่งเหมือนถามรายวันเลย พอเขียนถึงตอนนี้ก็มาถามที เขียนอีกตอนก็มาถามอีกที จนกูสงสัยว่ามันไม่รู้จัก google search เหรอวะ บางทีกูก็คิดว่ามันอาจจะอายุสิบขวบ กูก็จะช่วยตอบ
หนังสือสมัยนี้หาง่ายยิ่งกว่ากระดาษเช็ดตูดอีก ก็ยังไม่ค้นข้อมูลกัน อินเตอร์เน็ตมีอยู่ตรงหน้าแค่พิมพ์ก็ค้นได้แล้วไม่ค้น กูไม่รู้จะพูดยังไงนะ ในฐานะคนเขียนมักจะรู้สึกเหนื่อยใจนิดหน่อยที่เจอคนมักง่าย เอาง่ายเข้าว่า สักแต่ว่าถามอะ นักอ่านบางคน ไปรู้ความรู้มาผิดๆ จากนักเขียนคนอื่น มาจับผิดกู ทั้งๆ ที่ข้อมูลที่กูใช้มีแหล่งอ้างอิง กูนี่อยากร้องไห้เลยว่ะ
เคยแนะนำไปสักที่ว่าถ้าไม่เคยดูหรืออ่านแนวจีนมาก่อนในชีวิต อย่างแรกต้องอ่านแนวที่จะเขียนให้เยอะ ๆ ก่อนเพราะอ่านเยอะแล้วช่วยได้มาก ตามด้วยดูซีรีส์พากย์ไทย ซับไทย และ ไร้ซับ เป็นสเต็ป ๆ ไป มันช่วยได้จริง ๆ นะดูซีรส์อ่ะแต่ไม่ได้หมายถึงให้จำรูปประโยคมา ที่แนะนำให้ดูซีรีส์เพราะจะได้ศึกษาประเพณีวัฒนธรรมต่าง ๆ ของจีนจากในเรื่องต่างหาก บางทีดูซีรีส์แแล้วเกิดอยากหาข้อมูลก็มีนะ อย่างตัวเองเนี่ยชอบหาข้อมูลมาอิงกับซีรีส์ที่ดูมาก
ควรเข้าสู่กระทู้สับ กูมาถูกห้องแล้วใช่มั้ย 5555555
หมวดอดีต ปจบ อนาคต ที่ยังไม่ได้สับ
1 อ๋องกอดอลอ สับแล้ว >>486
2 ชายาพยัคฆ์ ------ยังไม่ได้สับ------
3 ชตฝมร สับแล้ว >>486
4 ฮองเฮา... สับเยอะแล้วไล่หาดู หวังเย หวังเย่ หวังเย้
5 เซวี่ยซินซี >>486
6 โลหิตนาง >>75
7 ซานหวางเฟย ว่างง----ยังไม่ได้สับ---
8 ไป๋อิง >>>13
9 นางร้ายพ่ายรัก >>486
10 เหอ สับแล้ว...เยอะ นิยายปกขาวที่ครองอันดับหน้าแรกมาได้หลายเดือน
11 แมวของข้า >>>487 >>>493
12 บุปผาลวงภพ >>>13
13 กลนาง สับเยอะละ
14 หพทบล สับละ
15 ตัวประกอบสุดเริ่ด ???
16 จินหวังเฟย >>13
17 จางฟางเซียน -----ยังไม่ได้สับ------
18 ว่านฮองเฮา ----สับยัง? ไม่ชัวร์------
19 บุปผาเคลือบไดมอนด์ ---ยังไม่ได้สับ----
20 สิ้นเยื่อในเสน่หา >>26 >>40
ณ ตอนนี้ เรื่องที่ขาดสับของทอป 20 ใครว่างอัญเชิญจอง
ชายาพยัคฆ์
ซานหวางเฟย
ตัวประกอบสุดเริ่ด
จางฟางเซียน
ว่านฮองเฮา
บุปผาเคลือบไดมอนด์
มีใครสับมั้ย
ชายาพยัคฆ์เหรอวะ กูเคยเปิดดูแว้บๆนึกว่าชาติพยัคฆ์ ถถถถถ ถ้าใครจะสับ กูว่าชายาพยัคฆ์กับซานหวางเฟยภาษาไม่แย่ กูเคยเปิดไล่อ่านบทสองบท แต่เนื้อเรื่องโนคอมเม้น ไม่ได้ตามว่ะ
กูอ่านอยู่ ชายาพยัคฆ์ พระเอกปากหมามาก
นิดนึงพวกมึง หลังจากไม่ได้อัพมานาน
ใครรอรัชทายาทเสิ่นเจิ้นอยู่ ลงแล้วนะเว้ย
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1708786&chapter=26
กูช่วยโม่งตอดสับ สับชายาเสือ สองบทแรก
คำโปรย เขียนได้น่าสนใจตามแบบฉบับนิยายสูตรสำเร็จ นางเอกยอมปลอมตัวเป็นองค์หญิงไปแต่งงานกับองค์ชายผู้เป็นที่หมายปองของหญิงทั่วหล้า ถ้าถูกจับได้โดนฆ่าทิ้ง พล็อทนี้อมตะนิรันดร์กาล สร้างความสนใจให้ผู้อ่าน กูเคยเห็นนิยายที่โปรยเรื่องประมาณนี้ ได้เฟ้บทันทีที่ลงหน้าแรก แต่ของคนนี้เขามีหนังสืออ้างอิงด้วย มีการค้นคว้า ไม่ได้มาเล่นๆ
บทแรกเป็นบทนำ เปิดฉากมาแบบเรียกเฟ้บไปอีกสามพันหัว พระเอกจ่อดาบบนลำคอนางเอก ถ้าอ่านบรรยายเผินๆจะเห็นว่าบรรยายได้ลื่นไหล แต่ถ้าเทียบกับนิยายที่คนแต่งมีฝีมือมากกว่านี้ จะเห็นว่าผู้เขียนคนนี้รู้จักใช้แค่ภาษา แต่ยังไม่มีอารมณ์ที่กลมกลืน กูจะยกตัวอย่างนะ
“ดวงตาคมกร้าวคู่นั้นสะท้อนประกายเพลิง แผดเผานางให้กลายเป็นเถ้าธุลีได้เพียงปรายตามอง เย็นยะเยือก... ไร้หัวใจ... กระชากเช่นนางให้ร่วงลงสู่เบื้องบาทใต้พื้นธรณี” (ดวงตาเหมือนไฟ แผดเผาให้กลายเป็นเถ้า แต่คำที่ตามมาคือเย็นยะเยือก มึงกำลังโดนไฟในดวงตาพระเอกเผา มึงรู้สึกเย็นยะเยือกไม่ได้ หรือจะบอกว่าพระเอกเป็นคนเย็นยะเยือกในบริบทนี้ก็ไม่ได้ เพราะกำลังใช้ดวงตาแผดเผานางเอกอยู่ กูบอกเลยนะ บทนำหรือบทแรกบอกฝีมือผู้เขียนได้มาก เพราะมันเป็นบทที่ตั้งใจเขียนที่สุด กูจึงบอกไปในย่อหน้าที่แล้วว่า รู้จักใช้ภาษา แต่ไม่มีอารมณ์ที่กลมกลืน อีกอันนึงที่กูอ่านหลายครั้งคือคำว่า “กระชากเช่นนาง” มันคืออัลไล เดาไม่ออก หรือจะเขียนว่ากระชากคนเช่นนาง หรือมันเป็นคำพ้องเพื่อให้ไพเราะ กูไม่เคยเห็นมาก่อน ใครมีความรู้มากกว่ากูก็ช่วยบอกด้วยว่ามันแปลว่าอะไร อีกอย่าง คำว่าร่วงลงสู่เบื้องบาทใต้พื้นธรณีมันทำให้กูมองภาพไม่ออก ร่วงลงไปสู่เบื้องบาทพระเอก แล้วแทรกตัวไปอยู่ใต้พื้นดินเลยเหรอ พระเอกมันยืนอยู่ต่ำกว่าพื้นหรือไง หรือว่าแรงกระชากแรงจนมึงดำดินได้เลย จะบอกว่าเป็นคำเปรียบเปรยก็ไม่เหมาะที่จะใช้ ถ้าจะให้ดูน่าสงสาร ร่วงลงแล้วจมใต้ตีนของพระเอกก็พอแล้ว เขียนว่ากระชากนางให้จมธรณีใต้เบื้องบาท อันนี้ถึงจะเห็นภาพว่ากระชากแล้วกระทืบซ้ำด้วย)
นอกจากที่กูบอกมา ยังมีพวกคำขยายที่ไม่จำเป็นต้องใช้ เช่น “ปลายดาบคมกริบพาดอยู่บนลำคอบอบบาง นัยน์ตาคู่งามของอู๋ซานเหนียงสั่นระริก เนื้อตัวสกปรกมอมแมมบัดนี้เต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน” (นี่คืออีกตัวอย่างที่จะบอกว่าคนเขียนมีฝีมือแล้วหรือยังต้องฝึกหัด เวลาบรรยายถึงเนื้อตัวของตัวละคร จะบรรยายความงาม ความบอบบาง ความสวยสดอะไรก็แล้วแต่ มึงต้องหาเวลาที่มันกำลังได้อารมณ์ควรบรรยายด้วย เช่น มองผ่านสายตาพระเอก ผ่านสายตาคนใช้ หรือเวลาที่มันโรแมนติก แต่ในเวลาที่นางเอกกำลังทุลักทุเลโดนดาบจ่อคอ มึงไม่จำเป็นต้องมาบรรยายเยิ่นเย้อ ถ้าจะใช้คำขยาย ควรใช้คำขยายที่ได้อารมณ์ของตัวละครในขณะนั้นมากกว่า เช่น ดวงตาที่มีน้ำตาคลอ ดวงตาหวาดหวั่น แก้วตาสั่นระริก ดวงตาที่เหมือนลูกกวาง ฯลฯ เนื้อตัวสกปรกมอมแมมก็ลดให้เหลือแค่เนื้อตัวมอมแมมบัดนี้เต็มไปด้วยเลือด คราบเลือด รอยแผล อะไรก็ว่าไป มึงไม่จำเป็นต้องใช้คำว่าแดงฉานมาใส่ในบริบทนี้ เพราะมันต้องการให้รู้เท่านั้นเองว่านางเอกมีสภาพแบบไหน ไม่ใช่กำลังบรรยายถึงแผ่นดินเปื้อนเลือดแดงฉาน โดยมองจากสายตาใครซักคนที่มาเห็น)
เดี๋ยวมาต่อบทที่หนึ่ง
>>532 ต่อ ชายาเสือ
บทที่หนึ่งก็ยังเหมือนเดิม เขาบรรยายได้ลื่นไหล ภาษาดี แต่ขาดอารมณ์ร่วมในขณะเขียน และขาดความเป็นเหตุเป็นผล
ยกตัวอย่าง “ศีรษะทหารที่ขาดกระเด็นถูกม้าศึกวิ่งเตะไปมาเหมือนเศษหิน” (หัวคนใหญ่และหนักเกินกว่าจะเป็นเศษหิน มันไม่กระเด็นโด่งไปโด่งมาเหมือนเศษหินแน่นอน คำบรรยายแบบนี้ให้อารมณ์ที่ผิด ให้ภาพที่ผิด มึงนึกภาพหัวคนลอยไปมาเพราะถูกเตะเหมือนลูกบอลสิ ม้าคงเจ็บตีนชิบหาย ความจริงเปลี่ยนเป็นเหยียบจะดีกว่า หรือจะเขียนว่าวิ่งข้ามไปมาก็ดี เพราะการวิ่งข้ามก็แสดงแล้วว่าไร้ค่า)
คำขยายยังคงเหมือนในบทนำ ใส่คำขยายเยอะทุกครั้งที่บรรยาย ไม่แยกว่าตรงนี้ควรบรรยายรวบรัดหรือบรรยายยืดยาว บางบริบทบรรยายยืดยาวแล้วมันสวยงามได้อารมณ์ แต่บางบริบทควรบรรยายกระชับ ยกตัวอย่าง “เมฆดำบนท้องฟ้ารวมตัวกันเป็นก้อนหนาทึบ กดดันให้ทุกอย่างหนักหน่วง ในที่สุดก็เกิดเสียงฟ้าร้องดังกึกก้อง สายฟ้าสว่างวาบในหมู่เมฆ ลมค่อยๆพัดแรงขึ้นกวาดเอาฝุ่นปลิวว่อนแล้วพัดกระหน่ำรุนแรงจนต้นไม้กระชากเหมือนมีมือยักษ์ดึงทึ้ง” (ถ้าต้องการบรรยายภาพที่มันดูกราดเกรี้ยว ช่วงอารมณ์รุนแรง มันต้องกระชับกว่านี้ ไม่ใช่เขียนทุกคำเหมือนกำลังบรรยายฉากยามเช้าที่พระเอกนางเอกตื่นมาดูท้องฟ้าด้วยกัน ถ้าเป็นแบบนั้นจึงเหมาะที่จะบรรยายทุกอณู เพราะสภาพคนมีความรัก ยิ้มให้กับขี้จิ้งจกยังได้ แต่นี่มันเป็นเวลาโกรธ พระเอกกำลังโมโหที่ต้องแต่งงาน ทุกอย่างควรออกมารุนแรง กราดเกรี้ยว ถ้าอ่านหมดทุกคำเขาก็ต้องการให้มันแรงนะ แต่พอใช้คำเยอะ มันก็เลยอ่านแล้วธรรมดา เหมือนจะยัดคำมาให้ประโยคสวยเฉยๆ)
เอาแค่นี้ว่ะ เมื่อยมือ ขอบอกว่างานชิ้นนี้ (ไม่นับเนื้อเรื่อง) ภาษาดีเกินมาตรฐานเด็กดี คนเขียนใส่ใจ ไม่เห็นคำผิด มีการหาข้อมูล เนื้อเรื่องไม่เวอร์เกิน บรรยายลำดับเรื่องได้ดี มีข้อเสียอย่างที่กูว่ามาคือ อารมณ์ในการบรรยายขาดๆเกินๆ (มักจะเกิน) จบว่ะ
>>532 >>533 กูโม่งตอดเองนะ มึงสับ+วิเคราะห์ละเอียดดีอะ กูชอบ อ่านแล้วได้ความรู้ไปด้วย
กูเห็นด้วยเรื่องเขาพยายามยัดคำเข้ามาใส่ พยายามให้สวย ให้เห็นภาพ หรือจะเพื่ออะไรก็ตาม แต่พอมันเกินพอดีมันก็ผิดที่ผิดทางไปหมด
เออ กูแวะไปดูเรื่องที่ติดท็อปมา หพทบล เหอซือฯ กูน่าจะสับแล้ว ส่วนข้าจะเป็นอะไรเริ่ด ๆ สักอย่าง ตอนนี้คนเขียนลบตอนจะรีไรต์ละ
ส่วนจางฟางเซียน แค่บทแรก ถ้ากูเป็นคนอ่านที่หานิยายอ่าน กูจะกดปิดตั้งแต่สองสามย่อหน้าแรกละ คนเขียนคงยังอ่อนประสบการณ์ ไม่ค่อยจะมีชั้นเชิงอะไร ให้สับคงพรุน ยิ่งถ้าให้โม่ง >>532 >>533 สับ ยิ่งน่าจะแหลกเป็นเม็ดทราย
>>534 กูชอบนิยายภาษาดีและคนเขียนฉลาดๆว่ะ แบบอ่านแล้วกูได้ความรู้จากเขาไปด้วย กูไม่ได้อ่านเอาฟินอย่างเดียว แต่กูอ่านนิยายหวานๆด้วยนะไม่ใช่อ่านแต่นิยายเนื้อหาหนัก แบบเว่ยเว่ยกูก็อ่าน กูชอบด้วย กู่ม่าน (ชื่อนี้ป่าววะ ลืม ขี้เกียจไปเปิดหา) เขียนนิยายเบาๆแต่ความจริงลึกซึ้ง บทบรรยายเป๊ะพอดีหมด ไม่มากไม่น้อย เน้นรักฟินๆแต่มีความคิดสมจริง เว่ยเว่ยนี่ใครชอบเล่นเกมจะรู้ว่าเขียนได้ตรงใจคนเล่นเกมมาก แต่เขาเน้นนักอ่านหญิง ตัวละครชายเลยฟุ้งๆไปหน่อย แต่ก็ไม่เวอร์จนหมั่นไส้
ถ้าเป็นนิยายเด็กๆเขียนกูไม่สับนะ แบบอ่านแล้วรู้ว่าเฮ้ยแม่งมอต้นแน่ๆกูจะไม่ขอยุ่ง น้องกูก็รุ่นนั้น ด่านิดเดียวแม่งร้องไห้ แค่บอกกระเป๋ามึงสีไม่สวย ร้องไห้เลย กูเลยไม่ชอบยุ่งกับคนอ่อนกว่าว่ะ บาปกรรม
กูไปดูจางฟางเซียนมาแล้วนะโม่งตอด>>534 ถ้าคนเขียนไม่ใช่เด็กมอต้นก็คงเพิ่งได้สัญชาติไทย วรรณยุกต์เอกโทใช้ผิดเยอะ แต่ที่ติดท็อปได้ก็เพราะคำบรรยายหน้าแรก ใครอ่านแล้วรู้ทันที นางเอกจะต้องไปทำเครื่องสำอางขายในร่างใหม่ สูตรสำเร็จ ตายทันทีย่อหน้าแรก เกิดใหม่ในร่างเด็ก ทำขนมมีคนชม ต่อไปคงทำเครื่องสำอาง (กูยังอ่านไม่ถึง) เห็นปะ สูตรแห่งการติดท็อป มึงจะเป็นดาราแบบชายากดล หรือจะเป็นตุ๊ด เป็นคนใช้บ้านไหน ถ้ามึงมีสกิลนางร้าย นางเอก ทำกับข้าว กวนลิปสติก แล้วมึงตายในสภาพใดก็ตาม มึงไปเกิดใหม่เจอชินอ๋อง ไม่ว่าชินอ๋องจะตบมึงจนหนังหลุดหรือรักมึงทันที เอามึงไปเลี้ยงเหมือนลูกแมว นิยายมึงจะติดท็อปโดยไม่ต้องผ่านโปรแกรมตรวจคำผิดแต่อย่างใด เอ้า คนเขียนนิยายดูไว้
>>538 เขียนประชดไม่มีประโยชน์ มึงต้องเขียนให้เป็นสูตร จะเอานางเอกน่าสงสาร ตลก หรือเริ่ด ก็ได้ แต่ต้องตรงสูตร ตายกะทันหัน เกิดใหม่อีกทีเป็นเด็กสาวอยู่ในจวนขุนนางหรือเป็นองค์หญิงก็ได้ แล้วมึงต้องพูดเรื่องผัวทันที จะผัวในอนาคตหรือผัวปัจจุบันก็ได้ แต่ต้องไม่สมหวัง ผัวต้องเกลียดนาง แล้วทีนี้นางก็ต้องไปกวนแป้งรักษาสิวขาย หรือจะไปทำขนม เป็นหมอก็เป็นอาชีพที่ดี ปรุงทิงเจอร์ขายก็ได้ว่ะ ถ้ามีผัวแล้วมึงต้องมีลูกติดท้อง ลูกแฝดมีเขียนแล้ว มึงต้องเขียนว่ามีแฝดสี่ แบบสี่ยอดกุมารเลย แล้วทุกคนก็มาช่วยแม่ ผัวก็จะค่อยๆได้ยินชื่อเสียงของเมีย ตามมาแอบดู มาง้อ หรือมึงจะเอาแนวผัวโหดก็ต้องให้นางเอกเรียบร้อย โดนตบตีแต่อดทนเข้าไว้ ถ้าแม่ผัวร้าย พ่อผัวต้องดี จะได้มีคนเชียร์ทั้งสองขั้ว มึงไปลอกพล็อทละครที่ฉายตอนนี้เลยเรื่องไหนก็ได้ เขียนภาษาให้ดีหน่อย ขยันอัพ อย่าลืมเอารูปจากเน็ทมาประกอบนิยายมึงด้วย แล้วให้เครดิตว่ามาจากกูเกิ้ล แค่นั้นพอ ไม่ต้องติดต่อเจ้าของนะ มึงจะดูเป็นคนแปลก ทำอย่างนี้รุ่งแน่นวล
>>539 พหลโยธินไหนวะ
กูเจอนิยายเรื่องหนึ่งจำชื่อไม่ได้ รู้สึกนางเอกชื่อเฉินฮวา เป็นลูกเจ้าเมืองเฉิน พระเอกเป็นฮ่องเต้แคว้นถังมาตีเมืองนางเอก นางเอกเป็นเชลยที่เมืองพระเอก เรื่องนี้ภาษาดีบรรยายดีแต่ไม่มีความจีนเลย มีแต่ชื่อที่จีนกับตำแหน่ง นางเอกพูดคะค่ะ กูโอเค พอรับได้
แต่ตัวละครแบนมาก พระเอกจะให้นางเอกเป็นสนมก็ดีดดิ้นไม่ยินยอม บอก เจ้ากับข้าคือศัตรู มีฉากนางเอกปีนกำแพงวัง สะดุดขาจะตก แม่ทัพคนนึงเสือกมารับทันพอดี แล้วก็ปีนกำแพงส่งนางกลับ คือมึงกำแพงวังมึงปีนกันง่ายๆงี้เลยเหรอ
สนมตัวร้ายก็ร้ายดาษๆ อยากเป็นฮองเฮา มาด่านางเอกแว้ดๆ ด่าไทเฮา กูอ่านละแบ่บ....นั่นไทเฮา...นั่นแม่ผัว มึงไม่ด่าเขางั้นแล้วมึงจะได้เป็นฮองเฮาได้ไง มีการบอกแม่หรือจะสู้เมีย
แล้วแม่งเสือกอวยนางเอกสัสๆ ให้ตัวละครชมว่านางเอกฉลาด กล้าหาญ แต่การกระทำขัดทุกอย่าง บอกเกลียดพระเอก แต่เห็นพระเอกเอากับคนอื่นก็ไม่พอใจสะดีดสะดิ้ง
กล้าหาญไม่กลัวโจรป่าที่ว่าโหดเหี้ยม แต่เสือกกลัวผีกลัวความมืด
แล้วพระเอกทั้งเรื่องก็เรียกนางเอก เจ้าบุปผางามทั้งเรื่อง จะแปลไทยเป็นไทยทำไมวะ ?
ภาษาดี บรรยายดี แต่แบ่บ.....
รู้สึกมี4เล่ม ขายในmeb
>>554 เคยมีและอ่านจบเซตแล้วตอนนี้ขายทิ้งไปแล้ว เออีบุ๊คมีสองเล่มมั้ง แบบรูปเล่มตีพิมพ์สองรอบอันนั้นแหละมี 4 เล่มจบ เคยทำรีวิวส่งไปให้นักเขียนแต่ตอนนี้ไม่มีรีวิวนั้นแล้วเพราะไม่เห็บไว้ในโน้ตบุ๊ก เรื่องนี้จุดที่ชอบและไม่ชอบ ที่จำได้คือพระเอกชื่อถังไท่หยาง ไทเฮาแซ่หยางเหมือนหยางกุ้ยเฟย นางเอกชื่อเฉินฮวา พ่อนางเอกชื่อเฉินกง จริง ๆ สงสารนางร้ายด้วย ฮ่า ๆ อีแม่ทัพนั้่นชื่อซันไป่หูเป็นตัวละครที่ไม่ชอบยิ่งกว่าคนรักเก่าของนางเอกที่โผล่มาบทต้น ๆ อีก
@กลุ่มวดด
"อยากสอบถาม ใครเคยอ่านหงษ์พิทักษ์บัลลังก์ในเด็กดีบ้างคะ?
พอดีเพิ่งไปอ่านตอนแรกๆดู ดูพล็อตเรื่องและเจอฉากบางฉาก ทำไมมีความคล้ายคลึงเรื่อง ยอดหญิงหมอเทวดาจังเลยคะ แอบสงสัยว่านข.เขาดัดแปลงเรื่องมาจากหมอหญิงหรอ พอดีอ่านคำนำ ก็ไม่มีการเกริ่นถึงเลยว่าเรื่องนี้มีแรงบันดาลใจมาจากเรื่องอื่น"
กูไปเผือกมาละ ยังคงยืนยันว่านิยายจีนที่คนทำงานบก.สมัยนี้ควรอ่านคือ ชุดเพชร ผลาญ ว่าด้วยอาชีพนางสนม เพียงหนึ่งใจ ตำนานรักเหนือภพ ชายาสะท้านแผ่นดินก็เคยเห็นมีคนบอกว่าเจอเรื่องที่ได้กลิ่นแรงบันดาลใจ อ้อ ป่าท้อกับลิขิตเหนือเขนยก็ด้วย อีพวกทายาทสวรรค์ จิ้งจก ให้เพ่งสองเรื่องนี้ไว้ก่อนเลย
>>564 ไปอ่านดูแล้วก็ไม่เหมือนนะ เหมือนแค่ตรงถูกส่งไปอยู่นอกวัง นอกนั้นก็ต่างไปเลย ตัวนางเอกเป็นตำรวจมาเข้าร่างฮองเฮา ได้ไปสืบคดีตอนอยู่นอกวัง
ไม่มีลูกติดท้อง แค่เก็บเด็กมาเลี้ยง แล้วตอนหลังก็ไปผจญชีวิตในวัง
อีกเรื่องเหมือนกว่าอีก นางเอก (ที่มีวิญญาณคนปัจจุบันมาเข้าร่าง) ถูกขับออกจากบ้านสามีเพราะอนุใส่ร้ายหรือไงเนี่ยแหละ ปรากฏว่ามารู้ทีหลังว่าตัวเองท้อง
นางเอกก็ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านขนม ตอนหลังสามีมาอยู่ด้วยจนรับกลับบ้าน
>>569 นางรีไรท์แล้วไง ตอนแรกเขียนมาเหมือนเป๊ะๆ จนคนอ่านท้วง นางไม่ขอโทษ ฟาดงวงงาโทษชาวบ้าน
แต่ขอรีไรท์ใหม่
พอรีไรท์ อ่านแล้วกูรู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันสะดุดไม่ต่อเนื่องลื่นไหลเหมือนของเก่า
กูขำตรงที่มีสำนักพิมพ์กล้าเอาเรื่องของนางมาตีพิมพ์อีก ถ้าได้พิมพ์แล้วมีคนจับได้ว่าลอก มีคนฟ้องร้องขึ้นมาคงสนุกพิลึก
เหมือนนิยายไทยเดือนก่อนที่จับได้ว่าลอกงานเขา สำนักพิมพ์ต้องเรียกคืนหนังสือทั้งหมด ทั้งที่ตีพิมพ์เสร็จแล้ว
เงียบเชียวนะพวกมึง
พวกมึง กูท้อใจอ่ะ ออกเล่มมาได้ไม่กี่วัน ไฟล์ pdf ว่อนเลย กูควรทำยังไงดีวะ ใครมีแนวทางแก้ปัญหามั้ย T_T
>>581 อันนั้นแค่ดึงเวลาไว้ได้เท่านั้น แต่สุดท้ายก็มีไฟล์จริงปล่อยแสกนออกมา
เพราะไฟล์มันหลุดจากการที่ สนพ. ส่งไปให้พวกกลุ่มนักวิจารณ์ลองอ่านก่อน
แล้วไฟล์มันถูกปล่อยอย่างรวดเร็ว
ทำให้ไม่มีแรงดึงดูดอยากซื้อ
พอคนเขียนทราบเรื่อง ก็บอกให้สนพ. ไม่ต้องส่งให้กลุ่มพวกนี้อ่านก่อน แล้วอัพไฟล์หลอกในช่วงเวลาที่หนังสือวางขายใหม่ๆ
ถึงจะดึงดูดคนอ่านให้ยอมซื้อได้ แต่ก็แค่การยืดเวลาเท่านั้น
แต่ยอดซื้อระยะแรกขายได้ดีจริง แต่เมื่อไฟล์เถื่อนที่สแกนสมบูรณ์แล้ว ยอดขายก็ตกลงเช่นเดิม
แต่ก็ให้มุมมองจริงๆ ว่าไฟล์เถื่อน ทำให้โอกาสที่นักเขียนจะเขียนเรื่องยาวๆ หรือมีโอกาสเขียนเรื่องใหม่ส่ง สนพ. นั้นๆ
จะน้อยลงเรื่อยๆ หรือ จบลงด้วยการที่นักเขียนไม่ได้ออกนิยายกับสนพ. อีกต่อไป
ไฟล์สแกนมันทำลายตรงนี้ได้ดีที่สุด
แต่คนทำมันไม่สนใจอะไรหรอก
>>580 ยังไม่มี ตราบใดที่ สนพ ยังไม่สนใจฟ้องร้องจัดการให้เห็นเป็นตัวอย่าง ก็คงยากวะ
สนพ. คิดแค่ได้กำไรในเรื่องนั้นๆ แล้ว ก็ไม่อยากจัดการต่อ เพราะมันเสียเวลาและเงินในการทำคดีความ
พวกสแกนก็เลยได้ใจไง
สนพ.สนใจแค่ทำยอดได้เท่าไร พอยอดไม่ดี ก็ไม่เอาผลงานของนักเขียนนั้นๆ มาตีพิมพ์อีก แล้วก็มองหานักเขียนใหม่ๆแทน
แนวทางก็คงทำใจ แล้วก็คงออกไปทำมือขายเอง ถ้าสนพ.ปฏิเสธ
แต่คาดหวังได้เงินในช่วงแรกๆให้ดีหน่อย กูเห็นนข.หลายคน ออกทำมือเอง ก็เป็นแบบนี้แหละ
อยากให้มึงสับนิยายกุกันนะ แต่กุสงสารจิตใจบอบบางของตัวกุเอง รอกุแกร่งกว่านี้ละกัน
>>584 ทำมือ จะมีช่วงปล่อยพรีออเดอร์
คือโอนเงินก่อน แล้วหนังสือก็พิมพ์ตามยอดที่ได้ยังไง นั่นคือยอดเงินรายได้ของนข. ในเรื่องนั้นๆ ที่จะได้ออกมาก่อนก้อนหนึ่ง ก่อนโดนไฟล์เถื่อนไง
ซึ่งถือว่า นข.จะอยู่ได้ไม่ได้ก็เริ่มกันแต่แรกเลย
ต่อมา นข.จึงนำลงอีบุ๊ค ซึ่งสมัยนี้มันดูดจากเว็บ ออกมาปล่อยได้ง่ายๆ กันเลย
จากนั้นก็ตามแต่วาสนา จะได้ยอดโหลดขายได้เท่าไร
ส่วนหนังสือก็ทำตามพรีออเดอร์เป็นช่วงๆไป แต่คงนานมากกว่าเดิม ถ้ามีไฟล์เถื่อนออกมาแล้ว
>>582 หมายถึงทำไปเรื่อย ๆ ทำทุกครั้งที่หนังสือตัวเองออก
คนแสกนคิดว่ามีแค่ไม่กี่คน แสกนลงที่นึงจากนั้นก็แพร่ต่อไปเรื่อยๆ อย่างกับลูกโซ่
กูแค่คิดว่าถ้าคนมันตั้งใจโหลดเจอแบบนี้บ่อยๆ ไม่เหนื่อยมันก็ให้รู้ไป
แล้วไฟล์ก็ทำให้มันใหญ่ๆ ไว้เลย ไม่ต้องไปย่อให้มัน เอาไปปนๆกับไฟล์ที่แสกนทั้งเล่ม
ยิ่งถ้าเป็นเจ้าของนิยายก็แจ้งรีพอร์ตไปเรื่อยๆ ขอให้แฟนคลับช่วยรีพอร์ตด้วย
ที่จริงเรื่องแสกนเถื่อนควรจะเป็นหน้าที่ของทางสนพที่ต้องหามาตราการมาป้องกันตรงนี้
มีคนแจ้งสนพไปมากมาย แต่การฟ้องร้องมันเสียเวลาจริงๆ
ทีนี้สนพก็พิมพ์น้อย อ้างว่าต้นทุนสูงแต่ทำหนังสือแพงขึ้น คนที่ซื้อจ่ายได้รับผลกระทบหนักสุด
มีคนบอกกูว่าเมื่อก่อนเกมก็มีปัญหาเรื่องเถื่อน ตอนนี้ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ
โทษที บ่นไรเยอะแยะ
เกมเปลี่ยนให้ไปที่เน้นให้เป็น เทพทรู เทพเติมเงินซื้อไอเทม มากกว่าจะเน้นซื้อแผ่นเกม
แต่หนังสือทำแบบนั้นไม่ได้
ส่วนไฟล์สแกน ที่อัพหลอก แก้ได้แบบถ่วงเวลาเท่านั้น พอมีไฟล์สแกนจริงออกมา มันจะรู้กันเองเช่นมีกำกับท้ายว่าแก้แล้ว หรือใส่เลข number เข้าไป
คือแค่ ดูชื่อขาใหญ่มีชื่อที่อัพให้ประจำในที่นั้น ก็จะรู้ทันทีว่าไฟล์สแกนแท้หรือไม่
ขอสับสั้นๆ เรื่อง บันทึกพลิกฟ้า ชะตามังกร
สำนวนภาษาใช้ได้ ถือว่าดีกว่าระดับเฉลี่ยของนิยายในเด็กดี
การดำเนินเรื่องลื่นไหล เนื้อเรื่องออกแนวแฟนตาซี (มีพลังต่างๆ)
ผูกเรื่องได้น่าสนใจดี ชวนให้ติดตาม
มีซูๆ ไปบ้าง แต่ก็สนุกดี มีกลิ่นวายจางๆ
ข้อเสียร้ายแรงคือคำผิด มีเยอะเกินไปจนลดระดับความน่าอ่าน
ไปอ่านอีกเรื่องของนักเขียนคนเดียวกัน บันทึกลับบัลลังก์พันปี
พอดีชอบมังกรอยู่แล้วก็เลยรู้สึกติดใจเรื่องนี้มากกว่า
แต่คำผิดเยอะมากกกกก อีกอย่าง หลงดีใจว่าเพิ่งอัพ 24 พ.ย. แต่ดูปีดีๆ 59 นิหว่า
คิดว่าคงเทไปแล้วละ เสียดาย
อีกนิด อยากขอร้องให้นักเขียนใช้จินตนาการกับเรื่องราวที่แต่งก็พอ ไม่ต้องใช้กับศัพท์สำนวน (ถ้าจะสร้างภาษาใหม่แบบชุดธิโมส์ก็ว่าไปอย่าง)
อ่านเจอเรื่องนึง นางเอก "จับหมอนนอนป่วย"
อึ้งไป 30 วิ คิดได้ไงวะเนี่ย เค้ามีแต่ "ล้มหมอนนอนเสื่อ" หรือกลัวเสื่อจะไม่จีน?
ไม่งั้นก็บอกแค่ล้มป่วยก็ได้นะ
มีอีกคำที่เพิ่งเคยเห็น "สับประดล" มาจากไหนเนี่ย
ขนาดกูไม่ใช่คน conservative ยังรู้สึกได้ถึงความวิิบัติิของภาษา 5555
เออ พูดแล้วนึกได้ เพิ่งเจอมาแต่ไม่ใช่จากนิยาย เขียนข้าพเจ้าเป็นคาบเจ้า 555
>>600 ตอนนั้นอ่านจากเรื่องนี้ https://writer.dek-d.com/oongga/story/view.php?id=1048031 แต่น่าจะแก้หมดแล้วทั้งเสาร์ไฟ ทั้งโคสก เพราะกลับไปส่องดูไม่เจอแล้ว ก่อนนี้ผิดทุกคำเหมือนไม่รู้การสะกดจริง ๆ
โอ้ะ กู 605 เพิ่งคิดออกหลังจากส่งไปแล้วอ่ะ ว่ามันน่าจะเป็นกอบโกย 5555555555+
>>601 >>602 มีคนใช้งี้จริง ๆ นะ บนทวิตเตอร์ไรงี้ แล้วก็คงติดไปใช้ในนิยาย 55555555 ถ้าให้อธิบายแบบวิชาการ มันเรียกว่าการแปรเสียงอะ
อิเหี้ย กูขอบ่นหน่อย เรื่องคำผิดคะ-ค่ะกูขี้เกียจพูดละ แต่คำผิดตั้งแต่ชื่อเรื่อง ทั้งที่คำบางคำก็ไม่ได้ยาก, เห็นกันบ่อย ๆ นี่มันก็เหลือทน
หงส์ : กูเจอทั้ง หง, หงษ์
บัลลังก์ : นี่ก็มีพวก บัลลัง, บัลลังค์
บุปผา : กูเพิ่งเจอ บุพผา มาสด ๆ ร้อน ๆ
โอ๊ย แม่งเง้ยยย
อห เหมือนพูดไม่ชัดอะ กอบกวย 555555555555
604 นะ ลืมบอกว่าสี่คำหลังมาจากเรื่องเดียวกัน
กะจะหาคำผิดแปลกๆ มาแชร์ ผ่านตามาเยอะแต่จำไม่ได้แล้ว
แล้วก็เลยนึกถึงเรื่องที่มี "จับหมอนนอนป่วย"
คิดว่าต้องมีอะไรให้หยิบมาได้อีกแน่ ลองเข้าไปดูก็ได้มาจริงๆ นี่แค่อ่านผ่านๆ นะ
จอมมารซานซานเฉียน
https://writer.dek-d.com/Dadapehetcharat/story/view.php?id=1712616
กูกำลังจะบ่นว่ากลิ่นแรงบันดาลใจมันเข้มข้นเหลือเกิน ไปเจอคอมเมนต์ของคนอ่านบอกว่ามาจากเรื่องอะไรบ้าง คนเขียนบอก "ยังมีเยอะกว่านี้ มาเขียนเพราะซีรีส์จบไม่โดนใจ"
เอ้า สรุปนี่คือแฟนฟิกถูกมะ
หงส์หรือหงษ์ มันเขียนได้2 แบบนะ ระหว่างบาลีกับสันสกฤต ดังนั้นไม่ผิด มันขึ้นอยู่กับยุคสมัย แต่เค้าก็พยายามทำให้มันเป็นแนวเดียวกัน ให้มันเหมือนกัน
แต่คนอ่านจะชินหงส์ มากกว่า
หง 'ษ์' เดียวที่ใช้ คือ หงษ์ทอง ซึ่งเป็น"ชื่อ"แบรนด์เหล้า นับเป็นวิสามานยนามจึงอนุโลมใช้ได้
ส่วนที่เหลือจะหงส์ห่าน หรือหงส์จีน พญาหงส์ก็ควรเป็น หง 'ส์'
620 นะ
ตอบ 621 ภาษาบาลีจะไม่มีอักษร ตัว ษ เลย คำไหนที่ใช้ ตัว ษ คือมาจากสันสกฤตหมด
เพิ่มเติม
ส่วนคำว่าหงษ์นี่คือ เป็นคำโบราณที่ปัจจุบันถูกถอดออกแล้วเพื่อให้ใช้ในระบบเดียวกัน หาราชบัณฑิตตอนนี้ไม่เจอหรอก แต่ลองหาประวัติศาสตร์ภาษาได้ มันไม่ใช่การพิมพ์ผิด แต่มันคือยุคสมัยของภาษา
เน้นว่า "สมัยโบราณ" โน่นนน รัชกาลต้นๆ โน่น ปัจจุบันไม่ใช้กันแล้ว แต่คนก็ยังใช้อยู่
กูถึงบอกว่าไม่ผิดไง มันคือยุคสมัยของภาษา แต่คนบางส่วนก็ยังจำใช้แบบนี้ แต่ปัจจุบันก็จะถือว่าเขียนผิด
>>624 ก็ ณ ยุคสมัยนี้เมื่อราชบัณฑิตใช้ 'ส' ที่ถูกก็ต้องเป็น 'ส' สิ เรื่องประวัติศาสตร์ก็ส่วนประวัติศาสตร์นะ ไอ้พวกที่ใช้ 'ษ' กันนี่มีกี่คนที่รู้ถึงข้อเท็จจริงนี้วะ มันติดมาจากแบรนด์เหล้ากันทั้งนั้น ไม่ก็จำมาจากพวกที่เขียนผิดกันอีกทอดหนึ่ง คือตอนนี้ยังไง 'ษ' ก็เท่ากับเขียนผิดว่ะ
>>624 มึงมั่วมากจริงๆ บาลีไม่มี ษ น่ะใช่ แต่สันสกฤตมีหมดทั้ง ส ศ ษ คำว่าหงส์ ภาษาบาลีกับสันสกฤตใช้ ส เหมือนกัน ไม่ได้เกี่ยวกับยุคสมัยอะไรเลย แล้วในพจนานุกรมก็อ้างได้ เพราะที่เขียนในวงเล็บมันคือคำที่ยืมมา (บาลี > หงฺส / สันสกฤต>หํส)
การที่มึงอ้างว่าภาษาไทยสมัยโบราณใช้ว่าหงษ์ มันก็คือคำที่ไทยเอามาใช้แล้ว ไม่ใช่ว่าภาษาสันสกฤตใช้แบบนั้น
งี้กูจะพิมพ์ ภาษา เป็น ภาสา ก็ไม่ผิด เพราะเป็นการเขียนสมัยจอมพลป. มีหลักฐานลายลักษณ์อักษรชัดเจน ยุคสมัยใหม่กว่าโบราณของมึงอีก
>>629 ถ้านิยายมึงเขียนให้อยู่ในยุคนั้นก็ใช้ได้ละ
มันพูดว่าเป็นเรื่องของยุคสมัยก็ถูก เอาง่ายๆ อย่างตำแหน่งขุนนาง ตำหนัก นางสนม ฯลฯ พวกนี้เปลี่ยนไปทุกยุค ถ้าเป็นนักเขียนที่แม่นพอจะใช้ถูกต้องตามยุคสมัย แต่ส่วนใหญ่จะใช้คำกลางๆ แทนมากกว่า เพราะเอาให้ตรงทุกจุดมันยากมากๆ แม้แต่นักเขียนจีนยังไม่ค่อยทำกันเลย
กูรอดูสิ่งอ้างอิงว่า หงษ์เป็นภาษาสันสกฤต อยู่นะคะ อิ๊
หง ที่ไม่มี ส์ เป็น แซ่จีน ชื่อจีน และ เปรียบเทียบรูปร่าง เช่น หงอี้เอ๋อร์ ( แซ่จีน ) เหวินจิ้นหง ( ชื่อจีน ) จินตนาเป็นหญิงสาวรูปร่างระหง ดวงหน้าคมขำ กอปรกับมีรอยยิ้มจริงใจปรากฏบนดวงหน้าเสมอทำให้เดินไปทางไหนก็มีแต่คนเหลียวหลัง แต่เธอกลับมั่นในรักต่อสามีที่เสียชีวิตไปนานแล้วเพียงผู้เดียว ( เปรียบเทียบรูปร่าง )
หงส์ ที่มี ส์ เป็น สัตว์ คำเปรียบเทียบผู้หญิง เปรียบเทียบดวงตาของผู้หญิง และ เปรียบเทียบเครื่องใช้บางประเภทที่เกี่ยวกับผู้หญิง เช่น ดูหงส์ตัวนั้นสิว่ายไปว่ายมาไม่หยุดเลย ( สัตว์ ) หวงโฮ่วช่างงามงดสมเป็นนางหงส์คู่บารมีจริงๆ ( เปรียบเทียบผู้หญิง ) ดวงตาหงส์คู่นั้นจ้องมองไปที่เฟิ่งหลงเป่าไม่กะพริบ ( เปรียบเทียบดวงตาของผู้หญิง ) ยามมีการพบปะกันระหว่างเชื้อพระวงศ์หวงโฮ่วมักนั่งอยู่บนเก้าอี้หงส์ข้างกายหวงตี้เสมอ ( เปรียบเทียบเครื่องใช้บางประเภทที่เกี่ยวกับผู้หญิง )
หลัก ๆ เราจำไว้แค่นี้แหละ แต่ยังมีเผลอใช้ผิดเพราะรีบพิมพ์บ้าง
อ่านมาจากอากู๋มั้ง แต่ในอากู๋ที่กูเห็นก็ไม่มีอ้างอิงเหมือนกัน ลอยๆ
ถ้าเป็นชื่อกูว่าไม่ผิดนะ หงษ์ทอง หรือคนชื่อหงษ์ (เหมือนสหมงคลฟิลม์) แต่ถ้าหมายถึงหงส์ก็ใช้ที่ถูกไปเถอะ เดี๋ยวเด็กรุ่นใหม่มาเห็นก็ลอกตามไปอีกกลายเป็นผิดต่อๆกันไป
ไม่พูดถึงสันสกฤตซะแล้ว กูรออ้างอิงคำโบราณแทนก็ดั้ยยยยย
>>635 เราไม่ใช่คนที่อ้างสันสกฤตนะ เพิ่งมานั่งอ่านได้ครู่หนึ่งตอบไว้ใน >>632 และ >>634 เท่าที่หามาได้มีแค่นี้มั้ง http://www.lovelfc.com/blogs/2013/06/tlหงส์-หรือหงษ์-หรือไลเวอ/
ถ้าบอกว่าไม่ผิด ขึ้นอยู่กับยุคสมัย แต่นี่เราคุยกันในสมัยนี้ ก็ต้องใช้ภาษาตามมาตรฐานสมัยนี้ ถูกมั้ย
ถ้าจะอ้างว่าเขียนนิยายจีนโบราณ เลยใช้คำโบราณ แล้วทำไมมันโบราณแค่ หงษ์ คำเดียว
(ส่วนชื่อต่างๆ ยี่ห้อเหล้าหรือข้าว มันเป็นชื่อเฉพาะของเค้า แบบนั้นไม่ผิด)
>>637 >>638 หาหลักฐานของคำว่า หงษ์ ยากมาก ส่วนตัวเราก็ไม่เคยใช้คำนี้แต่เคยเจอบ่อยมากในนิยายอ่ะนะ วันนี้ค้นหลายเว็บแล้วส่วนใหญ่ก็เจอที่ใช้คำนี้เป็นชื่อเฉพาะแหละ ส่วนประเด็นนิยายจีนโบราณที่เคยเจอ เป็นใช้ หงษ์ แทน หงส์ กับ หงส์ แทน หง งงไหมเนี่ย
คือ
เรื่องแรกใช้ประมาณว่า ดวงเนตรหงษ์เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำ อันนี้เจอนานแล้วผู้แต่งแก้ไขแล้ว
อีกรื่องใช้ประมาณว่า "ได้เจ้าค่ะคุณหนู บ่าวจะจะไปนำกล่องเครื่องประดับมาให้"เสี่ยวหงส์บอกแล้วเดินไปยังหีบใบใหญ่ข้างห้อง รื้อค้นอยู่ครู่หนึ่งเจอหาของที่ต้องการเจอ
เสริม >>627
เจอแบบนี้จากเว็บ http://www.thekop.in.th/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=90786
คำว่าหงส์ หรือ หงษ์ นั้น มีรากศัพท์ มาจากคำว่า หํส (รูปคำนี้ ใช้หมือนกันทั้งในภาษาบาลี และภาษาสันสกฤต ภาษาบาลีออกเสียงว่า ฮังสะ ภาษาสันสกฤต ออกเสียงว่า ฮัมสะ) คำว่า หงส์ที่สะกดด้วย "ษ" นั้นไม่มีในภาษาสันสกฤต ค่ะ
การเขียนตัวการันต์ต่างๆ นานา เช่น ส์ บ้าง ษ์ บ้าง ศ์ บ้าง นั้นเป็นการเทียบผิดแนว (ANALOGY) ซึ่งผู้ใช้ภาษามักอาจเคยเห็นจากแนวเทียบอื่น เช่น คำว่า "วงส์ (วํส) ในภาษาบาลี จะเป็น วงศ์ (วํศ) ในภาษาสันสกฤต" และมักคิดว่า ส ในภาษาบาลีจะกลายเป็น ษ และ ศ ในภาษาสันสกฤต ทุกครั้งไป เช่น ภาสา ในบาลี จะเป็น ภาษา ในสันสกฤต ราสี ในบาลี จะเป็น ราศี ในสันสกฤต ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นแบบนี้เสมอไปในทุกกรณีค่ะ
สมัยโบราณหนังสือต่างๆ อาจเขียนคลาดเคลื่อนไปได้บ้าง แต่ที่ถูกต้องจริงๆ คือ หงส์ ส เสือ ค่ะ
ที่มา :: http://www.monstudies.com/thaismf112/index.php?topic=431.0 (แต่คลิกเข้าไปเปิดไม่ได้แล้ว)
กูเป็นคนเดียวที่ไม่เคยเจอคำว่าหงษ์ในนิยายเหรอ เคยเจอแต่บนขวดเหล้าเนี่ย
หงษ์ เจอคำแปลว่าเป็นคำโบราณที่เดียวในlongdo dict.com. นอกนั้นเป็นวิสามายนามหมดไม่ว่าชื่อเหล้า ชื่อวัด ชื่อคน พจนานุกรมไทยหลายฉบับรวมถึงฉบับราชบัณฑิตไม่มีคำนี้ ไว้ว่างๆกลับบ้านจะไปค้นฉบับหมอบรัดเลย์ให้ ถ้าเป็นคำโบราณจริงน่าจะมีก่อนร.4
เท่าที่ค้นมา หงษ์ น่าจะเป็นคำที่นิยมใช้ในสมัยก่อน คือใช้ ษ์ ให้เหมือนเป็นคำจากภาษาสันสกฤต ดูงามดี
ทั้งที่สันสกฤตจริงๆ เป็น หํส
ต่อมาก็เลยพยายามเขียนให้ถูกต้องตามจริง หงษ์ ก็ค่อยๆ หายไป
อย่างน้อยในหมู่ผู้รู้ช่วงร.4 ร.5 ก็ใช้ หงส์
ในจดหมายที่สมเด็จฯ กรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ส่งถึงสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราขานุภาพ --
“ร้อนใจที่จะกราบทูลสารภาพ ว่าที่วิจารณ์คำ “ช้าเจ้าหงส์” มาถวายนั้นผิดไปเสียแล้ว แท้จริงรำลึกชาติขึ้นได้ว่าคำ “ช้าเจ้าหงส์” มาคนละทาง ไม่ใช่ไกวเป็นหงส์ในพิธีชิงช้าของพราหมณ์ที่เทวสถาน นั่นเขาเรียกโดยทางราชการว่า “กล่อมหงส์” คำว่าช้าหงส์นั้นเป็นชื่อเพลง คือเพลงซึ่งโต้กันอย่างเพลงปรบไก่ แต่ลูกคู่ร้องรับยืนคำอยู่ ว่า “ช้าเจ้าหงส์เอย ปีกอ่อนร่อนลง เข้าในดงลำไย” เมื่อยังร้องซ้ำอยู่นานเบื่อหูเข้า เขาก็ร้องรับยักไปว่า “อินนะชิตฤทธิรงค์ เข้าในดงลำไย” เพลงนี้เขาเอามาเล่นบำเรอเมื่อไปเที่ยวเมืองนางรอง เรียกว่า “เพลงช้าเจ้าหงส์”” (ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. นริศรานุวัดติวงศ์, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา., ๒๕๐๕ : ๒๔๒)
จริงจังกับการค้นคว้ามาก ฮ่าๆ
กุได้ความรู้ใหม่จากโม่งเลยนะเนี่ย เพิ่งได้เถียงกับเพื่อนมา หงส์ กับ หงษ์ เกือบเสียเพื ่อนแล้ว๕๕
มึงๆ กูขอแทรกหน่อย
ใครไปรังแกตั๊บแกตามหาโซโหวะ https://www.dek-d.com/board/view/3810923/
>>659 นางงอแงว่าโดนแบนคำว่า เสียว จากชื่อเสียวเกี้ยว (เตียวเสียวป่ะวะ สกิลแปลงชื่อต่ำตมจิง)
กูว่าเป็นข้ออ้าง ในฐานะที่กูโดนแบนมาอย่างโชกโชน ระบบจะตรวจคำที่สุ่มเสี่ยง เช่น คราง เสียว บลาๆ ขึ้นเป็นตัวแดงเด้งให้จนท.ตรวจสอบประโยคบริบทโดยรอบ ถ้าเป็นฉากเสียว ฉากหยาบ ฉากอัปปรีย์จริง เขาถึงจะกดแบน
ตั๊บแก่อ้างว่าโดนเเบนเพราะชื่อเสียวเกี้ยว มีคำว่าเสียวเลยโดน กูบอกเลย อีนี่แถ
นังกุยนี่ดราม่าเรื่องถูกคนรังแกมาตั้งสิบกว่าปีแล้ว ใครพูดไม่เข้าหูนางหาว่าจ้องจะทำลายนางหมด แก่แรดแปดสิบปีแล้วยังไม่เลิกอีก คิดว่าตัวเองมีดีอะไรใก้คนอยากจะทำลายกันวะ อีบ้า
นิยายไรวะ 450ตอน เรื่องเสียวทุกตอนเลยไหม
แต่เป็นกูกูก็โมโหนะ นิยายตั้งร้อยกว่าตอน แม่งแจ้งมารัวๆๆๆแล้วแบนเลย ไปแดกข้าวแป๊บเดียวกลับมานิยายปลิวละ
ky มีคนสับเรื่อง ตัดสิ้นวาสนา ยังวะ
กูเปย์เฟยมี่อิงกับองค์หญิงแมวมาแล้วๆๆๆๆ แต่กูยังไม่มีเวลาอ่าน
ไม่มีไร แวะมาหวีดเฉย ๆ 55555555555
รัชทายาทจอมมารสนุกมั้ยอะ
>>671 เห็นด้วย
แต่เนื้อเรื่องช่วงแรกๆ มันดูตั้งใจโหดเกินไปหน่อย นางเอกโดนกล่าวหาว่าทำให้เมียรอง (หรืออนุก็ไม่รู้) แท้ง
สามีสั่งโบยเลย เมียเอกแท้ๆ แถมเป็นลูกสาวหัวหน้าอีกเผ่าที่พวกตัวเองหวังพึ่งพา
ทำไมถึงสั่งให้โบยจนกว่าจะตาย
แถมนางเอกก็อึดมาก ไม่ตายซะที คือนานพอที่สามีจะเปลี่ยนใจ แต่ก็ไม่เปลี่ยน
อ่านๆ ไปพ่อผู้ชายบอกว่าผู้ชายเคยเกือบหลงรักนางเอกด้วย
งงว่ามันน่าจะยังมีความรู้สึกดีๆ ให้บ้างไม่ใช่รึ อะไรจะโกรธหน้ามืดขนาดนั้น
ตัดสิ้นวสนกูเข้าไปลองอ่านแล้ว คงเป็นมือใหม่หรือไม่ก็เด็กเขียน ใช้คำซ้ำเยอะ บรรยายไม่มีความหมายอะไร เหมือนพยายามใส่คำเข้าไปเฉย ๆ
ยกตัวอย่าง
ปากเล็ก ๆ เอื้อนเอ่ยไถ่ถาม
ปากน้อย ๆ ครางเจ็บ
เวลาบรรยายก็มือเล็ก ร่างน้อย มือน้อย ร่างเล็ก ร่างใหญ่โต มีแบบนี้อยู่ตลอดเวลา แต่อันนี้กูติงเฉย ๆ นะ ไม่ได้จะว่าอะไร เพราะคิดว่าเป็นมือใหม่ แต่ที่กูแปลกใจคือในบทแรก นางเอกเห็นพระเอกจูงมือผู้หญิงสาวสวยเข้ามา ใช้คำว่า "จับจูงกันด้วยความรัก" แต่นางเอกยังซื่อขนาดเดินเข้าไปยิ้มกว้างให้สามี แถมยังบรรยายว่า "อีกสองปีต่อมานางถึงได้รู้ว่าแม่นางคนนั้นคือคนรักของสามี" เอิ่ม มันจะความรู้สึกช้าไปหน่อยมั้ยวะ ต่อให้ซื่อปานไหนถ้าเห็นผัวเดินจูงมือผู้หญิงก็ต้องรู้แล้วว่าเป็นคนรักหรือเป็นเมีย อะไรจะซื่อใสบริสุทธิ์ปานนั้นวะ
ลืมเขียนเมื่อกี้กดส่งเร็วไป เจอคำนึงถึงกับอึ้ง บรรยายว่านางเอกก้าวลงอ่างน้ำ มีไอสีขาวคละคลุ้ง (พิมพ์ผิดเป็นคละคุ้ง) แต่คำว่าคละคลุ้งมันแปลว่าเหม็นเน่า อ่านแล้วแอบขำว่านางเอกตรงไหนเหม็นวะ เดินลงน้ำที ไอสีขาวเหม็นเน่าลอยขึ้นมาเลย แหะแหะ ไม่ศึกษาความหมายคำให้ดีก่อน จากคนงามกลายเป็นคนเหม็นปลาเค็มไปเลยว่ะ
มีเสิ้นเจินเรื่องไหนเด็ดๆ แนะนำกูที
ขอเรื่องที่มีเหตุมีผล แต่งเนื้อเรื่องได้สอดคล้องกับความเป็นจีนโบราณจริงๆ ไม่ใช่อยากยัดอะไรลงไปก็ยัดลงไป โดยไม่คำนึงถึงบริบทสังคมและวัฒนธรรม อย่างนิยายทะลุมิติ ก็จะอ้างความเป็นคนยุคปัจจุบัน มีเรื่องไหนแนะนำไหมคะเพื่อนโม่ง
>>683 งั้นมึงคงต้องบอกมาตรฐานที่ต้องการมาอย่างละเอียดแล้วล่ะ ว่าไอ้ไม่แหกสังคมวัฒนธรรมที่มึงอยากอ่านน่ะแบบไหน ขนาดปี้ก่อนแต่งยังบอกนับไม่ได้ หรือเรื่องที่นางเอกไม่ต้องเป็นกุลสตรี ออกรบโดยที่ฮ่องเต้+ขุนนางเห็นพ้องมึงยังไม่แย้ง กูก็งงในงง เพราะในความเป็นจริงมันก็คือแหกสังคมและวัฒนธรรม ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังมันก็คือแหกอยู่ดี
ky พวกมึง กูขอบ่นหน่อย คือดูเหมือนนักเขียนที่กูชื่นชอบที่สุด ผู้ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีข่าวคาว หรือเกี่ยวข้องกับประเด็นดราม่าใดๆ เป็นนักเขียนที่กูยังซื้องานเค้าอ่านได้อย่างไม่รู้สึกยี้กับพฤติกรรมส่วนตัว แต่ตอนนี้ดูเหมือนเค้ากำลังจะกระโดดลงตลาดนิยายจีนเสิ่นเจิ้นอีกคน เห็นบอกว่าเขียนไปได้บทสองบทละ โอ๊ยยยย กูผิดหวัง
คือกูค่อนข้างแอนตี้นักเขียนไทยที่ไหลตามกระแสน่ะ จริง ๆ ถ้าเค้าเขียนแนวนี้มาแต่แรกกูก็คงไม่รู้สึกผิดหวังแบบนี้ แต่มันเหมือนเค้าเห็นตลาดตรงนี้กำลังบูม เขียนอะไรสั่ว ๆ ไม่สมจริงแค่ไหนก็ขายได้ เพราะนักอ่านไทยก็น้อยคนที่จะรู้เรื่องจีนจริง ๆ ขอแค่เขียนพล็อตที่ตลาดชอบออกมาขายก็พอละ
มันทำให้กูเซ็ง เพราะกูชอบงานของเค้า ถามว่าถ้าเค้าเขียนจีนเสิ่นเจิ้นออกมา กูก็เชื่อว่าเค้าคงเขียนได้สนุก(มั้ง) แต่จะสมจริงรึเปล่าอีกเรื่องนะ แต่พอเป็นแบบนี้แล้วกูไม่อยากสนับสนุนผลงานเค้าแล้วว่ะ
พวกมึงคิดว่าไงวะ กูเยอะไปมั้ย
>>687 ถ้านักเขียนเขียนดี มึงต้องสนับสนุนให้เขาเขียนนิยายตามกระแสนะ เพราะจะได้มีงานตามกระแสที่ดี ๆ มาอ่านกันไงล่ะ ไม่ใช่มีแต่ตามกระแสที่เหมือนกันหมด ลอกพล็อทกันมา ภาษาห่วย ๆ แล้วก็นั่งด่ากันว่าเสิ่นเจิ้นมีแต่งานแย่ ดูอย่างกฉดิ ถึงเขียนไม่จีน กลิ่นอายไทยจ๋า แต่อย่างน้อยก็ภาษาโอเคใช่มะ ถ้าเขียนบ่อย ๆ อาจจะมีเวลาศึกษามากขึ้น งานจีนของเขาอาจจะดีกว่านี้ก็ได้ กูยังอยากให้ลงมาเขียนกันเยอะ ๆ เลย จะได้เปรียบเทียบกัน คนอ่านที่อ่านได้ทั้งจีนแปลและเสิ่นเจิ้นอย่างกูก็จะมีตัวเลือกเยอะขึ้นอีก ถ้าเปิดใจไม่มีอคติ งานดี ๆ ของคนไทยก็มี แต่ที่คนยี้เพราะมีแต่มือใหม่เขียนไง แล้วดันถูกเอาไปเทียบกับจีนแปลที่เป็นนักเขียนแท้ทรู ภาพลักษณ์เสิ่นเจิ้นเลยย่ำแย่
เจ้าฟ้ากระจ่าง ...
คนด่ากันเพียบ ว่าแม่งโคตรลิเก
>>695 กูเห็นด้วยว่าการเปิดกว้างให้นักเขียนลงมาเขียนเยอะๆจะทำให้คนอ่านอย่างเรามีตัวเลือกเยอะขึ้น แปลจีนบางเรื่องกูก็ว่าไม่ค่อยสนุก ขอแค่ไม่ไปลอกเลียนแบบใครถึงภาษาจะยังไม่เข้าที่แต่ก็มีโอกาสพัฒนาในอนาคตนะ เสิ่นเจิ้นที่กูชอบก็มีหลายคน ที่กูรับไม่ได้คือพลอตยอดฮิตลอกๆกันมา แถมสะกดผิดๆถูกๆ เงี้ย นอกนั้นดีไม่ดีก็ว่าไปตามเนื้อผ้า
ตอนกูอ่านกฉในดด กูก็ชอบนะ อาจเป็นคนใจง่าย "เจ้าฟ้ากระจ่าง"ก็รับได้ไม่หมั่นไส้มากนัก เพราะเวลาเราชอบใครรักใครแค่เห็นหน้าโลกก็สวยแล้ว
ชอบตรงที่มันแทรกสอดข้อคิดไปด้วย อย่างน้อยก็สอนให้อย่ามองคนจากรูปลักษณ์ภายนอก ให้มีเมตตา พล็อตอาจยังมีรูรั่วอยู่บ้าง แต่ก็อ่านเพลินๆดี อ่านฟรีไง55
อันนี้พูดถึงแต่นิยายนะ คิดว่านักเขียนเปลี่ยนแนวบ้างก็ดี เป็นความกล้าหาญ ต้องทำงานหนักขึ้น คนอ่านได้กำไร ไม่ดีก็แค่ไม่อ่าน แล้วโม่งค่อยมาสับกัน
นักเขียนเขาก็คงมีตามอ่านโม่งบ้าง จะได้เอาไปปรับปรุง แต่คงให้ถูกใจทุกคนคงยาก
กูไม่ได้อ่านของกฉ แค่รู้ว่าเขาเขียนนิยายจีน ไม่รู้ว่าเจ้าฟ้ากระจ่างของเขาใช้ในบริบทไหนยังไง แต่กูคิดว่าถ้าใครอ่านนิยายจีนแปลมาเยอะก็จะเห็นว่ามีบ่อยไปที่นักแปลใช้คำออกไทย ๆ กูอ่านมาตั้งแต่นิยายกำลังภายในสิบปีก่อน เห็นแปลชื่อกันไทย ๆ นี่แหละ ของน.นพรัตน์ก็เยอะ ของป้าหลินทับศัพท์มากกว่า แต่ไม่ว่าจะแปลทุกคำหรือจะทับศัพท์ ก็จะต้องโดนคนบ่นคนด่าอยู่ดี กูจึงเห็นว่าใครจะใช้ภาษาลิเกลิกวดก็ช่างมันเถอะ ถ้าโดยรวมของมันไม่โดดออกมา ส่วนที่จะบ่นว่าไทยไป ไม่ค่อยจีน มันก็มีอยู่สองแบบ คือเขียนแล้วไม่จีนจริง ๆ กับเขียนให้จีนยังไงก็ถูกมองว่าเสิ่นเจิ้น มันขึ้นอยู่กับอคติคนอ่านล้วน ๆ ใครไม่มีอคติก็รับงานได้เยอะหน่อย มีหนังสือให้อ่านหลากหลายกว่า กูเองก็ไม่มีอคติ เขียนมาเถอะ ถ้ากูเห็นว่าสนุกก็อ่าน คนเขียนจะเป็นไทยจีนแขกลาวกูก็ไม่ว่า ไม่ดูถูกด้วยว่าถ้าเป็นไทยแล้วจะเขียนให้เท่าจีนไม่ได้ เพราะจีนแม่งประวัติศาสตร์ยาวนาน ใช่ว่านักเขียนจีนจะรู้ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมตัวเองไปหมด กูคนกรุงเทพ กูยังไม่รู้วัฒนธรรมอีสานเลย กินเป็นแต่ส้มตำ ของอย่างนี้มันต้องอาศัยเวลาศึกษา ถ้านักเขียนไทยลงมาเล่นเสิ่นเจิ้นเยอะ ๆ กูจึงว่าดี จะได้แข่งขันกัน เปิดตลาดให้แม่งใหญ่ไปเลย
เฉยๆนะเรื่องคนไทยแต่งจีน แต่ต้องเขียนให้เชื่อว่าจีนจริงๆ ไม่ใช่แต่งจีนแล้วใช้คำไทยแบบนี้ไม่ไหวอ่ะ แต่ไทยไปเลนง่ายกว่า
ปล.ตามคหสต. ไม่เคยอ่านงานเสิ่นเจิ้นกฉ.แต่ใช้คำว่า เจ้ากระจ่างฟ้า มันขัดไงไม่รู้นะ ถ้าเป็นชื่อ+เออร์ หรือ เสี่ยว+ชื่อ แบบนี้น่าได้อารมณ์กว่า
มีเรื่องไหนบ้างที่คนไทยแต่งแล้วโอเค
กูโอเคกับฮ่องเต้ทาสแมวนะ ถึงจะรู้สึกว่าปกมันดูไทยๆ ไปหน่อยก็เถอะ อีกเรื่องที่คิดว่าภาษากูว่าได้ก็ราชบุตร เรื่องใหม่ๆ มีเรื่องไหนอีกไหม
กูน่าจะเป็นคนแรกที่เปิดประเด็นฟ้ากระจ่าง
คือมันขัดไง มาก ๆ
ใส่ในนิยายไทยก็ว่าประหลาดแล้ว ใส่ในนิยายจีนมันยิ่งขำหลุดโลกไปอีก
ปกติกูไม่ใช่คนเรื่องมากนะ คำที่ชาวโม่งหลายคนแซะ 80% กูเฉย ๆ (มีพีคตรงผลไม้ละเมียดน้ำนี่แหละ) แต่อันนี้มันตลกจริง ๆ
คำว่าเจ้ากระจ่างฟ้า เป็นกู กูคงไม่ใช้ แต่ว่าคิดว่ามีนิยายจีนหลายๆเรื่องที่แปลมาก็ใช้คำทำนองนี้นะ แบบแปลทุกอย่างเหมือนไอ้อะไรวะ ชายาสะท้านแผ่นดินอ่ะ มีอาณาจักรไร้ปีก จวนม่วงพราว แผ่นดินลืมธารา ราชาฟ้าบูรพา ไรเงี้ยะ เหมือนแนวกำลังภายในสมัยก่อนก็แปลแบบนี้ป่ะ
ประเด็นคือ ของกฉ มันมาทั้งเผยขิงเทียน ทั้งเจ้าฟ้ากระจ่าง อีนางเอกชื่อชิงเทียน อีพระเอกก็จะคิดถึงว่า เจ้าฟ้ากระจ่าง เจ้าฟ้ากระจ่าง
แปลทำไม?
เนี่ย คนเค้าถึงบ่นกัน บางย่อหน้ามาทั้งชิงเทียนทั้งเจ้าฟ้ากระจ่าง หลากคำงี้อ่อ กูว่ามันตลก
>>711 แปลชื่อคือแปลชื่อ อันนี้เป็นฉายานางเอกที่พระเอกตั้งให้ด้วยความเอ็นดูในใจค่ะ ประมาณว่า
เผยชิงเทียน เวลาเจ้ายิ้มโลกช่างสดใสไปหมด สมชื่อฟ้ากระจ่างของเจ้าจริง ๆ เจ้าฟ้ากระจ่างของข้า... ประมาณนั้น ถ้ามีแค่ประโยคแรกมารอบเดียวเราคงไม่คิดอะไร แต่ปรากฎหลังจากนั้นพระเอกแม่งพร่ำเพ้อถึงนางเอกว่าเจ้าฟ้ากระจ่างตลอด ๆ อะ โคตรตลก
กูเคยลองอ่านของกฉ บทแรกหรือสองบทนี่แหละ แล้วก็ปิดไปเพราะความไม่จีนของตัวละคร ถ้าเขาจะเอาดีทางนี้น่าจะต้องศึกษานิยายจีนกับวัฒนธรรมจีนเยอะ ๆ หน่อย ระดับนี้แล้วเขียนลื่นไหล ถูกจริตคนไทยเยอะด้วย เสียดายที่ลากมาให้เป็นแบบไทยมากไป คนที่อ่านจีนประจำเลยขัดตา แต่ถ้ามองในแง่นักเขียน เขาอาจจะพอใจกับตรงนี้ก็ได้ว่ะ เพราะมีกลุ่มคนอ่านนิยายไทยตามมาอ่าน จำนวนมันเยอะกว่าคนอ่านนิยายจีนเห็น ๆ
กฉ กลับไปเขียน แนวไทยๆ เทพๆ กินนร กินนรีเหมือนเดิมเถอะ แค่ชื่อจีนมันยังทำให้นิยายมันจีนไม่ได้หรอกนะ
กูกลับสนับสนุนให้เขาเขียนต่อนะ แนวจีนนี่แหละ จะได้ดึงนักเขียนไทยเก่ง ๆ มาเขียนอีก แต่เขาต้องศึกษามากกว่านี้หน่อย มีกลิ่นไทยนิดหน่อยกูว่าพอทน (ถึงกูจะไม่อ่านก็เถอะ กูช่างเลือก) แต่กลิ่นเยอะไปมันก็ไม่ใช่แล้ว ธรรมเนียมจีนในชีวิตประจำวันต่างจากไทยมากมาย ยิ่งถ้าไม่รู้ภาษาจีน ไม่รู้การเรียงประโยคคำพูดในภาษาจีน มันก็จะยิ่งเขียนออกมาไทยจ๋าเกินไป เพราะคนจีนมันมีภาษาพูดต่างจากไทย นิยายกำลังภายในยุคก่อนถึงได้มีภาษาที่ผิดจากนิยายไทย เพราะเขาแปลออกมาตามหลักการเรียงประโยคของจีน กลายเป็นกลิ่นอายเฉพาะตัว กฉไม่จำเป็นต้องเลียนแบบเปี๊ยบ แต่ต้องสลัดความเป็นไทยออกไปให้มากกว่านี้ เอาแบบห้าสิบห้าสิบ นักอ่านงานจีนจะได้อ่านได้ด้วยโดยไม่ขำซะก่อน
>>718 แนวไทย ๆ เทพ ๆ ของเขาเอาเข้าจริงกูก็ค่อนข้างผิดหวังอยู่นะ
กูได้ยินชื่อเสียงเขามานานแต่ไม่เคยอ่านงานเขา จนกูมาหาอ่านนวฯ ซึ่งกูก็ชอบไอเดีย ชอบอะไรพวกนี้ แต่กูไม่ค่อยชอบพล็อต
คือจุดพีกไม่มี ความน่าตื่นเต้นแปลกใหม่ไม่มี มันไม่สมกับที่อุตส่าห์สร้างโลกขึ้นมาใหม่เลยอะ
อ่านจบ กูก็เลยเก็ตว่า อ่อ ที่แท้พล็อตเขาเป็นงี้เองเหรอ...
ส่วนวสนชตรของเขา เรื่องฟ้ากระจ่างกูไม่พูดถึงละกัน แต่กูเคยอ่านพล็อตเขาที่มีคนเคยสรุปไว้ ซึ่งพออ่านจบก็...อ่า พล็อตแค่นี้จริงดิ แบบนี้จริงดิ มันนิยายไทยมาก+มันไม่มีอะไรแปลกใหม่โดดออกมาเลย
ป.ล. ความแปลกใหม่ที่กูหมายถึง ไม่ใช่ล้ำประหลาดอะไรมาก เพราะความแปลกใหม่ในนิยายเดี๋ยวนี้ก็หายากแล้ว
แต่เรื่องเขามันดำเนินเป็นเส้นตรงเกินไป [สปอยล์] >>> แบบคู่หมั้นที่สวยมาก ๆ ของพระเอก จริง ๆ เป็นนางร้าย แล้วพระเอกก็เพิ่งมารู้ความจริงทีหลัง, แบบนางเอกปลอมตัวเป็นผชจำพวกเจ้าฮะมาทั้งเรื่อง และพระเอกไม่รู้ ฯลฯ คือมันแบบ...
งานแนวไทยกูอ่านกฉได้ แต่วสน.กูผ่านว่ะ บรรยายยังโคตรไทย พล็อตก็โคตรไทย
ท็อปตอนนี้มีเรื่องไหนใช้ได้บ้างวะ
ชะตาฝันมั่นรักที่นักเขียนท่านนึงเพิ่งเขียนจบไปสนุกมั้ย เกี่ยวกับราชวงศ์ชิง
เรื่องใหม่ของส้ม มีใครรีวิวหรือไปขุดมาแล้วบ้างมั้ย ชี้เป้าหน่อย ขอบคุณ
ปล. แอบหงิดหงิดกับคำโปรยนิดหน่อย ทำไมต้องเน้นเรื่องรูปลักษณ์ขนาดนั้น...
>>731
ไม่topได้มะ
เพิ่ง3ตอน มีคำผิดบ้าง plotคล้ายๆซ่อนรักวิวาห์ลวงแต่ถูกจริตคนไทยกว่า
เรื่องพระชายาผู้เกียจคร้าน
https://writer.dek-d.com/monmituna/story/view.php?id=1724387
ต่อจาก736
นางเอกขี้เกียจมาก อ้วน อ่านหนังสือ กิน นอนคืองานหลัก แต่ฉลาดมาก
พระเอกหล่อแบบสวยเลย
3ตอนก็สนุกดีทันกันพระนาง
>>736 ไม่แปลกที่สามตอนจะได้วิวเกือบสองหมื่น ไม่เกินสิบตอนคงขึ้นท็อป เพราะเข้าสูตรนิยายติดท็อปชัดเจน เปิดมาบทแรกก็มีกลิ่นริษยาระหว่างพี่สาวน้องสาว พ่อมีหลายอนุ ลูกสาวแย่งความเป็นหญิงงามอันดับหนึ่ง ลูกสาวที่เป็นนางอิจฉาปากแดงคลี่ยิ้ม พอกแป้งหนาจนไม่เห็นสีหน้า เวลาโกรธก็เส้นเลือดขึ้น ส่วนนางเอกอ้วนไม่สนใจใคร อ่านหนังสืออย่างชิว ๆ พระเอกเปิดฉากมาก็แสดงความกร้าวไม่กลัวพ่อไม่กลัวย่า เป็นอ๋องเจ็ดหลานรักของไท่เฮา ปฏิเสธการแต่งงาน คนสวยไม่เลือก จะเลือกคนอัปลักษณ์ที่สุดในแผ่นดิน เหม่ ๆ ๆ ช่างเข้าทางนางเอกเสียนี่กระไร พวกมึงอ่านเท่านี้ก็เดาได้ว่านี่คือนิยายท็อปแห่งท็อป แถมด้วยคำผิดแบบรีบพิมพ์รีบลง มองไม่เฮ้นมองไม่เห็น แค่ย่อหน้าแรกมึงก็จะเจอสายน้ำที่มีปลาแหลกว่าย เดาว่าปลาคงจะแหลกไปด้วยว่ายไปด้วย ผสมกันเป็นคำใหม่อันงดงามสยามประเทศ ภาษาจีนที่ใช้ก็ผสมปนเปกันไปแบบลูกครึ่ง มึงจะเอาฮกเกี้ยนแต้จิ๋วจีนกลาง ไรท์จัดให้ค่า นี่แหละนิยายเสิ่นเจิ้นติดท็อป พระเอกนางเอกเป็นลูกชนชั้นสูง แต่ไม่มีการเคารพวัฒนธรรมใด สามารถเถียงพ่อแม่และใช้ชีวิตกันเองตามชอบ เสิ่นเจิ้นแห่งเสิ่นเจิ้น โฟรโดจงหลีกทาง พวกมึงจงรีบไปอ่านไปเฟ้บกันโดยพลัน
อ่อ ที่ว่ามาทั้งหมดกูไม่ได้ตำหนินะ กูอวย รู้ว่าพวกมึงก็จะไปอ่านกันอย่างชื่นมื่น กูไม่ได้มาสับ แค่เฉาะเฉย ๆ พอให้ my day มีสีสัน
ไม่ต้องมาออกตัวกับกูกันนะว่าใครอ่านได้ไม่ได้ ดีไม่ดี เพราะกูไม่สนใจหรอก รสนิยมคนอ่านมันแตกต่างกัน ใครชอบก็อ่าน กูแค่เฉาะเล่น ๆ ตามนิสัยกูเท่านั้น กูไม่มีอคติกับคนเขียน ไม่ซื้อ ไม่อ่าน ไม่ด่า เขียนแบบนี้แล้วกูเดาว่าติดท็อป กูก็บอกไปตรง ๆ เซเว่นแถวบ้านกูก็มีนิยายประมาณนี้ขาย แป๊บเดียวหมดแผง เล่มนึงไม่กี่ตังค์ คนอ่านอ่านเพลินสบายใจไม่ต้องเก็บรักษา กูไม่อ่านนิยายรักตบตีผัวเมียสูตรเดิม ๆ แต่กูก็อ่านการ์ตูนปล่อยพลังยิงแสงกันแทบทะลุโลก กูเลยไม่ว่าใคร ไม่ต้องกลัวว่าใครเอานิยายมาลงให้เฉาะแล้วกูจะไปดูถูกฝีมือ อันไหนพิมพ์ผิดขำกูก็แซว ไม่ได้ด่าทอไปถึงสติปัญญาของมึง
มีนิยายกล้าเอามาลงก็เอามา โม่งตอดคมสันต์คงแอบอยู่แถวนี้ รายนั้นเฉาะ เอ๊ย ตอด เอ๊ย สับ สุภาพนุ่มนิ่มกว่ากูเยอะ
คนชอบแบบนี้กันเหรอ เหมือนเอาลิเกมาแต่งชุดงิ้ว บรรเลงทำนองจีนด้วยระนาด
แค่รู้ว่าเอาพล็อต หรือบุคลิกตัวละครอื่นมาใช้กูก็ไม่สนใจแล้วว่ะ
พล็อตหรือตัวละครอาจจะมีนิสัยคล้ายกันได้ แต่ถเาอ่านแล้วคุ้นไปหมดเลย มันก็ไม่ใช่อ่ะ
*ถ้า // พิมพ์ผิดไปนิด
รีวิวได้แบบ กูไม่อ่านก็เดาเรื่องได้เลยอีเหร้
กูเดาไม่ได้บอกกุที
พวกมึงนี่ช่างก้าวร้าวกันจริงนะ นางเป็นคนเขียนเรื่องชะตาเกี้ยวหมอหญิง ไม่ผิดที่นางจะสามารถเขียนเรื่อง พระชายาผู้วิวาห์ลวงได้
มีคนสับยัง ถ้ายังสับให้หน่อยกูอยากอ่าน
http://writer.dek-d.com/Papiess/writer/view.php?id=1544532
ขอช่วยแนะนำนิยายให้หน่อยค่ะ ที่ตามอ่านทะยอยจบไปหมดแล้ว (กับออกทะเลไปไกลจนอ่านต่อไม่ไหว) ตอนนี้เหลือแค่จิ่นเสวี่ยนหวาง (ยังหวังจะได้อ่านต่อ) โรงน้ำชาเจ้ายุทธจักร มู่กั๋วหวางโฮว อิ่งเฟิง อยากได้มาเติมอีกหลายๆเรื่อง ปกติอาศัยอ่านฟรีแต่ที่ วดด. ถ้าจะแนะนำเรื่องที่อยู่เว็บอื่นก็ได้นะคะแต่ขออ่านฟรีเหมือนกัน
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ชอแนะนำเรื่องที่ข้ามศพ เอ้ย ภพแล้วอยู่กันเฉยๆ ไม่คอยทำประโยชน์ให้ฝ่ายใน ไม่ปลูกผัก ไม่ทำอาหาร แม่งไม่ทำไรเลบให้เป็นประโยชน์ชาวบ้าน มีไมเรื่องแบบนี้ แบบสวยเฉยๆ แต่ไร้ประโยชน์ กูเบื่อแนวสวยแกร่งเริดกูไม่ง้อพระเอกก็ได้ มันไม่เรียล ของจริงมันต้องหลอกใช้ทุกคนโว้ย คนรักก็ต้องใช้มันใช้ให้หมด...
ขอโทษ เอาเป็นว่ากูขอแนวนางเอกไม่ทำสวน ไม่ทำยาเป็น ไม่ทำอาหารเป็น แบบเป็นตัวไร้ประโยชน์สุดๆ
กูอ่านทั้งท็อปทั้งมาใหม่มาแนวเดียวกันหมด ขนาดไปอ่านนิยายแปลยังเจอนางเอกทำสวน ทำยา ไรว้าาา
โห มึง กูเพิ่งเห็น สนพ.คตค เอาเรื่องพวกปลิงว่ะ นิยายที่เป็นต้นเหตุชื่อ ลวงเล่ห์มังกร มีใครเคยอ่านบ้างวะ
ซาน__เฟยกับหงส์__ม่าน มีใครสนใจจะสับสักหน่อยมั้ย
https://www.dek-d.com/board/view/3812467/
พล็อตเสิ้นที่กูเบื่อสุด ทะลุมิติ+ เกิดในชนชั้นสูง+ ความงามล่มแคว้น พบสามสิ่งนี้กูเซ็งมาก โดยเฉพาะถึงช็อตต้องส่องกระจก แล้วพบว่างามล่มแคว้น งามล่มเมืองนี้ กูแทบกรอกตา เท่าที่กูอ่านจีนน้อยนะที่จะเจอคนชมตัวเอง เออ ไม่ได้ชมตัวเองสิ ชมร่างที่ตนเองสิงอยู่ ไม่งั้นก็หน้าตาอัปลักษณ์ไปเลยงี้ 5555
กูเห็นตำหนักจีนคุยเรื่องอาชีพต่าง ๆ ถ้าหลุดไปจีนโบราณจะเป็นไง ในฐานะสายเสิ่นเจิ้น มึงว่าเรื่องไหนตัวละครได้ใช้สกิลล์อาชีพตัวเองแบบเต็มที่บ้างวะ แบบที่ไม่ใช่วัน ๆ จ้องแต่จะหาผัวตบตีกันเอง
กูเคยอ่านเรื่องหนึ่ง นางเอกเป็นหมอ พอหลุดไปก็เป็นหมอ คนเขียนก็เป็นหมอ รักษาคนกันทั้งเรื่อง
เห็นแต่นางเอกชอบทำสวนปลูกผักกัน คนแบบกุมะลุไปมีแต่ชิบหาย ทั้งเรื่อง
>>769 คนเขียนมาเองป่ะ เริ่มเกรงใจ55
ซาน_เฟย
ก็อ่านเรื่อยๆได้ เด็กๆคงชอบ ใสๆ นางเอกชีวิตดี๊ดี แต่มันไม่มีจุดพีคอ้ะ พระเอกรักนางเอกเพราะอะไรไม่บอกไว้ เหมือนภาคต่อจากนิยายอื่น เลยไม่ค่อยอิน อ่านจบแล้วมันไม่มีอะไรค้างในหัวแบบเดาทางได้หมด
หงส์_ม่าน
อันนี้พล็อตโอนะ แต่อยากให้ดราม่ากว่านี้อีกหน่อย ใส่ซีนพระนางอีกนิดช่วงที่ข้ามไป7ปี
.
.
.
ให้เห็นว่าทำไมนางเอกรักพระเอก ทำไมพระเอกก็รักนางแต่ต้องห้ามใจไว้
มันแปลกๆนิดว่าพระเอกคิดจะกำจัดครอบครัวนางเอกแต่ปล่อยให้มีลูก แล้วก็ลูกชายด้วย แล้วก็ไม่มีลูกกับคนอื่นด้วย ดูย้อนแย้ง
.
.
.
โดยรวมก็อ่านเพลินๆ นักเขียนขยันอัพ มิน่าขึ้นท็อป ทั้งที่เป็นนักเขียนใหม่ไม่มีไรให้สับ แต่แบบแค่รู้สึกมันไปไม่สุด อ่านแล้วอมยิ้มนิดๆไม่ถึงฟิน
แต่กูก็ว่าเก่งนะ เพิ่งเริ่มเขียนเอง
นักเขียนเป็นตำรวจ อยากให้นักเขียนลองเขียนเรื่องตำรวจย้อนเวลาไปเป็นนางเอกช่วยพระเอกสืบคดีอ้ะ แบบเอาเทคนิคจริงไปใช้เลย การเก็บหลักฐาน การเก็บลายนิ้วมือ แข่งกับบันทึกปิ่นงาย55 รออ่านๆ
ข้างบนจุดน้อยไปไหมวะ โทษๆ
เสิ่นเจิ้นดูเงียบๆ นะ หรือกูคิดไปเอง เข้าดด.เดี๋ยวนี้ Top20 มีจีนประปราย 2-3 เรื่อง
มึง เรื่องคุณชาย...ข้าตระหนก___ จบวันนี้ใช่ปะ กูเลยแวะไปดูมา เผื่อถูกใจอยากเปย์
ปรากฏว่ากูขัดใจกับการบรรยายแบบละประธานของเขามากเลยว่ะ แม่งเง้ย /ตบโต๊ะ
Ky พวกมึง กูบ่นห้องนี้ได้มั้ยวะ คือกูรำคาญนามปากกา เพลง_บ_ม ที่แชร์โปรโมทนิยายตัวเองใน วดด อะ แอดมินก็เคยออกมาเตือนเรื่องการใช้พื้นที่โปรโมทนิยายอยู่นะว่าควรทำแค่สัปดาห์ละ 2 ครั้ง(ถ้ากูจำไม่ผิด) แต่เพลง_บ_ม โพสทุกวัน บางวันโพส 2 รอบจร้าา คือหน้าไม่อายเกินไปมั้ย กระสันจะโฆษณานิยายตัวเองจนไม่เคารพกฎกติกา สันดานแบบนี้กูไม่สนับสนุนผลงานเด็ดขาด ถ้าเจ้าตัวสิงอยู่ห้องนี้และมาเห็นโพสกู ก็ขอสื่อความไปถึงเลยละกันว่าหยุดทำเหอะ คนอื่นเค้าเข้าไปกลุ่ม วดด เพราะอยากคุยเรื่องนิยาย แต่ต้องมาโดนโพสขายนิยายดันถี่ๆจนโพสที่มีสาระมันตกไป
>>784 พวกที่มาโปรนิยาย ส่วนใหญ่จะก้อบข้อความแล้วไล่แปะๆๆๆๆ มีกี่กลุ่มก็ไล่แปะหมดโดยไม่สนหิสนแตสใดๆ เพราะตัวเองปิดฟีดกลุ่มอ่ะ แอดมินโพสเตือนไปมันก็ไม่เห็นหรอก กูเป็นแอดมินกลุ่มนึง มีพวกทะเล่อทะล่ามาโพสกันไม่ได้หยุด กูต้องตั้งค่าให้แอดมินเป็นคนอนุมัติโพส คนอื่นทำตามกฎ กูก็อนุมัติตามปกติ
พอมันมาโพสรัวๆแล้วไม่ขึ้น มันก็ยิ่งมาโพสอีก แต่โพสไม่ขึ้น สุดท้ายมันก็เก็บเสื่อหายไปเอง ถถถถถ
ปล.กฎกลุ่มต้องชัดเจนนะว่าห้ามโพส จำกัดโพสอุไรบ้าง
โม่งเพื่อนรัก เมียกระโดดกำแพงแก้มตอดคมสันต์เป็นเล่มแล้วนะจ๊ะ กูนี่ร้องไห้ซึ้งใจเลย
https://www.dek-d.com/board/view/3813518/
โม่งที่รักยิ่ง แพรขาวสามศอกของมึงก็มานาจา 55555+
https://www.lightoflovebooknovel.com/showwait.php?bid=806
>>793 ใช่ เนี่ย
https://fanboi.ch/literature/4500/45/
https://fanboi.ch/literature/4500/54/
>>795 กูล่ะหมดคำพูด 55555555 อัลไลคือฮ่องเต้ปลอมตัวเป็นองครักษ์ ละนางเอกเอาไม้ไล่ฟาดคร้ ขันที นางกำนัล แถวนั้นไม่มีใครจำหน้าฮ่องเต้ได้เลยไง้
สวัสดีรอบวง จริง ๆ กูไม่ว่าง แต่กูอยากคลายเครียดจากไฟนอล เลยหานิยายมาสับ แต่ปรากฏว่ากูเครียดกว่าเดิมอีก 55555
>> นางมารเจ้าดวงใจ <<
https://writer.dek-d.com/Arucha_P/story/view.php?id=1734308
กูคลิกเข้ามาเพราะคำโปรย “ใครเป็นคนกำหนดว่าหญิงสาวที่ย้อนเวลาหรือทะลุมิติจะต้องเป็นเหมือนกันหมด ถ้าอย่างนั้นผู้หญิงแบบ'อริสรา'ก็นับว่าแหกคอกอย่างแรง” B1 มึงคิดเหมือนกูหรือเปล่า นางเอกที่ย้อนเวลามาพวกมึงก็พอจะรู้ไทป์คร่าว ๆ ละใช่มะ กูก็เลยคลิกเข้ามาด้วยความคาดหวังว่า โอเค แหกคอกยังไง ไหนดูซิ
หน้าแนะนำตัวละคร นางเอกสวย/แชมป์เทควันโด/แชมป์ยิงปืน เข้าร่างลูกสาวแม่ทัพใหญ่ที่ร่างกายอ่อนแอตั้งแต่กำเนิด << แค่หน้าแนะนำกูก็รู้สึกว่า คุณหลอกดาว!!!
ในหน้าข้อมูลเบื้องต้น คนเขียนแทนตัวเองว่า “ไร้” (แอดวานซ์กว่าอะไรทั้งปวงไปอี๊ก) บอกว่านางเอกส่วนใหญ่อ่อนหวาน บอบบาง ยอมจำนนต่อโชคชะตา ซึ่งกูสงสัยมากว่าเดี๋ยวนี้คนเขียนได้ลองอ่านเรื่องอื่นดูบ้างหรือเปล่าวะ คนเขียนนิยายแนวนางร้ายคงนั่งร้องไห้แล้วมั้ง
สุดท้ายคนเขียนก็บอกอีกว่า ไม่ต้องคาดหวังหรือข้อมูลภาษา/ขนบธรรมเนียมว่าจะเหมือนของจีนโบราณ อันนี้กูรู้ กูเข้าใจอยู่บ้างว่าจะไปรู้ลึกรู้จริงขนาดนั้นก็คงยาก แต่ก็ลองแกล้งอิงหลักการอะไรสักอย่างหรือลองหาข้อมูลอะไรสักนิดดูไหมอะ เจอคนเขียนแปะไว้เด่นโร่ขนาดนี้ กูก็...
เรื่องสับ กูขอแค่ตอนแรกเหมือนเดิม
เปิดมาด้วยบทสนทนาเป็นส่วนมาก บรรยายน้อยยิ่งกว่าน้อย กูไม่เห็นภาพของอะไรทั้งสิ้นนอกจากคนพูดโต้ตอบกัน เป็นลักษณะของนิยายที่บ่งบอกว่าคนเขียนยังมือใหม่เป็นอย่างมาก มากจนกูขี้เกียจสับ ส่วนเนื้อเรื่องตรงส่วนนี้ก็ไม่มีอะไร นางเอกฟื้น ถามว่าคุณเป็นใคร ที่นี่ที่ไหน ซึ่งร่างที่นางเอกฟื้นก็คือร่างของคุณหนูจวนแม่ทัพที่สุขภาพอ่อนแอขี้โรค << คุณหลอกดาว!!!!! ไหนคุณบอกดาวว่าจะไม่เหมือนเรื่องอื่น ๆ ยังไงล่ะคะ ทำไมคุณทำกับดาวแบบนี้!
มีสาวใช้ทำปากยื่นใส่นางเอกด้วย สมัยนั้นไม่ใช่ว่าสาวใช้ต้องเคารพเจ้านายเยี่ยงชีวิตหรอกรึ แล้วก็การที่โฟกัสแต่ความหล่อของพ่อนางเอก เน้นว่าหล่ออย่างนั้นอย่างนี้ มันทำให้กูรู้สึกแบบ หืม นี่มาเข้าร่างลูกสาวเขานะ ช่วยอย่าคิดอะไรไปทำนองนั้นหน่อย หรือใจกูมันอกุศลไปเองก็ไม่รู้
บทแรกสั้นมาก สิ่งที่สำคัญสุดในเรื่องนี้คือ คำผิดเยอะมากกกกกกกก ผิดในคำที่ไม่น่าจะผิด แบบ “ร้อนลน” “กำเหนิด” “บุตรตรี” “ยอมรับอย่างสดุดี” โดยเฉพาะ "ยอมรับอย่างสดุดี" กูนี่ร้องไชโยเลยจ้า
เกร็ดความรู้ ที่ถูกคือ "ยอมรับอย่างดุษณี" ซึ่งดุษณีแปลว่า อาการนิ่งซึ่งแสดงถึงการยอมรับ แต่คนมักเขียนผิดเป็น "ยอมรับอย่างดุษฎี" ดุษฎีเนี่ยแปลว่าความยินดี, ความชื่นชม ส่วนนิยายเรื่องนี้ก็ขั้นกว่าไปอีก คือผิดจากดุษณีเป็นดุษฎี แล้วผิดซ้อนต่อไปเป็นสดุดี เอาเข้าไป 5555555555
สรุปก็คือ คุณหลอกดาว อะไรคือการบอกว่าจะต่างไปจากนางเอกเรื่องอื่น ๆ คะ ดาวผิดหวังในตัวคุณจริง ๆ ค่ะ
กุขรรมตรงยอมรับสดุดี
>>795 >>796 เรื่องแพรขาวเอามาห่มนอนกับเรื่องฮ่องเต้ปลอมตัวแล้วคนจำไม่ได้ กูช่วยหาเหตุผลให้คนเขียน แล้วกูก็อธิบายได้ว่า อ๋อ มันเป็นคอเมดี้ไง 5555 พวกมึงก็อย่าไปล้อมาก เด๋วเค้าจะว่ามึงไม่มีอารมณ์ขัน แต่ถ้าเอาตามจริง ฮ่องเต้ปลอมตัวแล้วคนในวังจำไม่ได้ก็อาจจะเป็นไปได้เหมือนกัน แต่ต้องเป็นคนในวังระดับล่างๆที่ไม่ได้เห็นหน้าฮ่องเต้บ่อย เห็นแค่ระยะไกล ส่วนเรื่องแพรขาวกูโนคอมเม้น เปิดการ์ดคอเมดี้โลด
>>797 กูเห็นหลายเรื่องที่เขียนว่าไม่ซ้ำแบบ แหกคอก ไม่ได้มีแต่เรื่องฟิน รับรองว่าเกี่ยวกับการเมือง ชิงอำนาจ บลา ๆ ๆ แต่พอกูลองเปิด ๆ อ่านก็เห็นเหมือนกันหมด เข้าร่างแล้วเจอสาวใช้เจ้าคะเจ้าขา ท่านพ่อบอกให้แต่งงาน พระเอกสายโหด หยิ่ง เย็นชา ตามด้วยการเมืองแบบมังกรถูไถน้ำไหลแตกโพละ
คำพูดที่ว่าไม่อิงขนบธรรมเนียมโบราณนี่กูไม่รู้จะเขียนออกตัวกันมาทำไม เพราะมีนับเรื่องได้ที่อิง
หยกมีหลายสี มีความหมายตามความเชื่อของคนจีน เช่น
หยกสีเขียว มีความหมายในด้านอดมสมบูรณ์ ร่มเย็นเป็นสุข ความมั่งคั่ง ความร่ำรวย ชาวจีนเชื่อว่าหยกสีเขียวเป็นต้นกำเนิดของคำว่า "เงินทองไหลมาเทมา"
หยกสีขาว มีความหมายว่า เป็นสิ่งที่เอาความโชคดี มาสู่ผู้เป็นเจ้าของทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ผุดผ่อง ซึ่งเน้นลงไปถึงพลังจิตใจที่ใสสะอาดเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังนำมาสู่ ความอายุยืนอีกด้วย
หยกสีม่วง หรือหยกลาเวนเดอร์ มีความหมาย ที่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ แห่งชีวิตที่มีความสุขสมบูรณ์ มีความพรั่งพร้อมในทุกด้าน ทั้งยังมีพลังในการควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ทำให้เป็นคนที่อดกลั้นเพื่อเดินทางไปสู่จุดมุ่งหมายตามใจหวังเป็นที่สุด
หยกสีแดง มีความหมายถึง การรับรู้ของอารมณ์ความรักได้ดี ทั้งยังเป็นหยกที่ช่วยลดความโกรธและความเครียดต่างๆได้อีกด้วย ทั้งยังช่วยก่อเกิดความเป็นผู้นำ กล้าคิด กล้าทำ มีพลังสร้างผลงานใหม่ๆมาได้อีก
หยกสีเหลือง เป็นสัญลักษณ์แห่งการกระตุ้นชีวิตชีวาให้เต็มไปด้วยความสนุกสนานทั้งยังเป็นการเพิ่มพลังให้ผู้สวมใส่ตลอดเวลาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแรงบันดาลใจ
หยกสามสี หรือ หยกฮก ลก ซิ่ว สามสีรวมกันในหยกชิ้นเเดียว เช่น ขาว ม่วง เขียว หรือ ม่วง เหลือง เขียว เป็นสัญลักษณ์ของโชค วาสนา อายุมั่นขวัญยืน
เอาจริงๆ กูก็ว่าว่าต้องมีสีขาวอ่ะแหละ แต่มันจะไม่เนียนนุ่มนี่สิ 555
เออ กูว่ากูก็เคยเห็นนิยายจีนเค้าเปรียบเทียบผิวกับหยกอยู่นะ แต่จำไม่ได้แล้วว่ามีในเรื่องไหนบ้าง/ชมในแง่ไหน (ความขาวหรือความเนียน) กูไม่ได้อ่านนิยายจีนนานแล้ว
ที่จริงไทยก็มีคำว่า หน้าหยก ไว้ใช้ชมผู้ชายนะ แบบพวก พระเอกหน้าหยก เพชรฆาตหน้าหยก ไรงี้ กูยังคิดเลยว่าเอามาจากนิยายจีนปะวะ เพราะปกติคำนี้เค้าไว้ชมผู้ชายขาวๆตี๋ๆหน้าใสๆอะไรแบบนั้น (แต่อันนี้กูไม่ชัวร์ กูมั่ว เพื่อนโม่งคนไหนรู้จริงช่วยอก้ให้กูด้วยละกัน)
หยกขาวมันแพะ กูเห็นนิยายเปรียบเทียบบ่อยๆนะ
ประมาณนี้มั่ง
http://market.kapook.com/upload_contents/product/2014-12-04/547fff9bef72966a34000041-0-20141204133051-9fcf2929d273e03bb0adffe2560d9d92.jpg
ถ้าแยกเป็นผิวขาวใสเหมือนหยกและเนียนนุ่มเหมือนอะไรก็ว่าไปแต่เขียนมาติดกันแบบนี้มันไม่ใช่อ่ะกิ๊บ มันไม่ใช่อ่ะ 555
หยกกูเห็นคนเปรียบกับผิวว่าเนียน/ขาว แต่ไม่เคยเจอว่านุ่ม เจอเรื่องคุณหลอกดาวเรื่องแรกนี่แหละ กูนี่สดุดีเลย 55555555
มึงงงงง กู่มี่เอิน ต้าเจี่ยผู้ยิ่งใหญ่เป็นยังไงบ้าง สนุกมั้ย
แต่หยกก็ถือเป็นมณีเนื้ออ่อนนะ จะว่าเนียนนุ่มกูก็ไม่ขัดอะ
คนแต่งใช้แบบไทย ๆ ปนจีน เพราะคนไทยชอบแต่งว่าผิวขาวใสโง้นงี้ แต่คนจีนเปรียบผิวกับหยกในเรื่องความละเอียด ผิวเนียนละเอียดดังหยกเนื้อดี เพราะหยกชั้นดีมันจะเรียบไม่มีรอย แต่เขาจะไม่นิยมพูดว่าขาวใสโดยเปรียบกับหยก แต่จะเปรียบกับหิมะ กูอ่านจีนแปลทั้งกำลังภายในและนิยายรัก เขาจะเปรียบผิวเนียนดังหยก ผิวขาวดังหิมะ ขาวเย้ยหิมะ แล้วก็เปรียบฟันราวไข่มุก คนไทยแต่งโดยไม่มีความรู้เรื่องการใช้ภาษาจีน เลยกลายเป็นผิวขาวใสดังหยก ก็เรียกว่าเป็นการบรรยายแบบเสิ่นเจิ้นแล้วกัน (แต่ที่บอกว่าเนียนนุ่มด้วยนี่คือบรรยายเพลินโดยไม่มีอินเนอร์ ถ้ามีอินเนอร์ต้องสะดุดว่ะ ใครมีผิวแข็งเหมือนหยกแล้วดันมาบอกว่านุ่ม สงสัยจะเป็นหยกช่วงกำลังลอกคราบนะกูว่า)
ถ้านุ่มนิ่ม ส่วนใหญ่จะใช้สำนวนราวกับจะเค้นน้ำออกมาได้ว่ะ
>> กู่มี่เอิน ต้าเจี่ยผู้ยิ่งใหญ่ <<
กูไปดูมาคร่าว ๆ ละ สำนวนใช้ได้ ภาษาเรียบง่ายดี แต่มีพวกคำฟุ่มเฟือย คือ "ทำการ" กับคำผิดแบบอธิบายไม่ถูก จาก "ละเลย" เป็น "ละลาย" , "ขีดขีน" เป็น "ขีดเขียน" อย่างเงี้ย
จากแค่ตอนแรก เรื่องดูไม่มีอะไร แต่ความรู้สึกกูกูคิดว่ามันมีอะไร ซึ่งกูคิดว่าเรื่องนี้คงไม่ค่อยถูกใจสายรีบอ่านเร็วเคลมเร็ว สายตบตีกับพี่น้องในจวน สายต่อปากต่อคำต่อราคา แต่เหมาะกับสายค่อย ๆ อ่าน ค่อย ๆ รับรู้ไปพร้อมตัวละคร กูคิดว่านี่คงเป็นเสน่ห์เล็ก ๆ ของเรื่องนี้
ในบรรดาท็อป ตามสายตากู จัดว่าดีอยู่ ✔️
ป.ล. ถ้าเนื้อเรื่องมีอะไรขึ้นมาจริง ๆ หรือมีพระเอกไรงี้ คงมีสนพ.มาจีบแน่ ดูเหมาะกับสนพ.สไตล์คตค
นี่กูไปเปิดเทียบท้าปฐพีมาดูเลยว่าฉากนั้นมันพูดว่าไง คือเป็นฉากที่ตราตรึงกูมากเหมือนกัน แต่ไม่กล้าพูดมากมันสปอยล์ เอาเป็นว่า ปกติหยกใช้บรรยายผิวของตัวละครนี้อยู่แล้ว
"มือคู่นั้นสลักจากหยกขาว" ไรงี้ ในวรรคมีทั้งขาวเกลี้ยงเนียนนุ่ม แวววาวดั่งหยก เออแต่ว่า...มันเป็นสถานการณ์พิเศษแหละนะ
กู่มี่เอินกูอ่านแล้ว กูชอบนะ มันเรื่อย ๆ เริ่มมาเป็นการดิ้นรนเอาตัวรอด ว่าจะมีชีวิตอยู่ไปได้ยังไง ทั้งยังต้องเลี้ยงดูน้องอีกสี่คน (นางเอก 10 ขวบ) ที่ชอบเพราะกูเคยอ่านเรื่องจับแม่ทัพไปไถนามาก่อน เรื่องนั้นสนุกมากสำหรับกู แต่กูมี่เอินค่อนข้างแฟนตาซี นางเอกมีโชค เลยไม่ค่อยดูจะลำบากเท่าไร ช่วงที่นางเอกไปจับปลาในลำธาร ดูง่ายเกินไป ไม่มีทางที่จะได้ปลาเยอะขนาดนั้นและทำอะไรได้รวดเร็ว นางแค่ 10 ขวบกับน้องชาย 7-8 ขวบ เพราะละแวกนั้นใช่ว่าจะไม่มีคนอยู่ คนสมัยก่อนเขาก็จับปลาเป็น หิวเป็น ที่ที่นางเอกกับน้องอยู่ทำเลดีมาก แปลกที่ผู้อื่นจะไม่มาแย่งอยู่อาศัย ละแวกนั้นคนอพยพหนีสงคราม ใช่ว่าจะร้างผู้คน
>>826 แม่ทัพไถนากูอ่าน eng แกรมม่าไม่ค่อยดี แต่อ่านพอประทังไปได้ กูชอบเรื่องนี้ว่ะ แนวกูคืออ่านเรื่อย ๆ ไม่เน้นตบตี ไม่เน้นเมียน้อย มีความรู้ไปด้วย ของไทยกูอ่านบันทึกลับมหาด แนวเดียวกัน เรื่อย ๆ ไม่ตบตี อ่านแล้วอิ่มใจ อย่างนี้กูคงอ่านกูมี่เอินได้ เดี๋ยวไปลองก่อน
>>828 ชอบแนวเรื่อยๆ อ่านชะตาฝันมั่นรักปะ (แต่ไม่รู้ปิดตอนไปยัง)
ตอนนี้เค้าเขียนเรื่องใหม่แล้ว น่ารักดีเหมือนกัน นางเอกเป็นใบ้
ถ้าชอบบันทึกลับมหาดเล็ก เรื่องจักรพรรดินีสองบัลลังก์ก็สนุกดีนะ คนเขียนคนเดียวกัน
เดี๋ยวนี้เวลาเจอเรื่องที่โอเค จะตามไปอ่านเรื่องอื่นของคนเขียนคนนั้นด้วย
โม่งไหนก็ได้ ช่วยสับ ซานหวางเฟย ที กูอยากรู้ว่า มันจะสนุกสมกับที่นักเขียนตั้งกระทู้อวยตัวเองไหม
>>833 สนุกมั้ยกูบอกไม่ได้ เพราะกูลองไปอ่านแค่บทแรกมา แต่บอกได้ว่าถูกจริตคนอ่านจำนวนมาก ตั้งแต่แนะนำตัวละครหน้าแรก นางเอกเป็นคุณหนูแก่นแก้วโผงผางงามหยาดฟ้า พระเอกเป็นองค์ชายเย็นชาลึกลับแต่ขอนางเอกแต่งงานตั้งแต่แรกพบ มีพระรองเป็นเพื่อนนางเอก หล่อเหลาตามแบบฉบับ เรื่องนี้เป็นคอเมดี้จึงไม่เกี่ยวข้องกับกฎเกณฑ์ธรรมเนียมอะไรทั้งนั้น ตัดเรื่องความสมจริงออกไปเลย ถ้าดูเฉพาะการบรรยาย ถือว่าบรรยายใช้ได้ เรียบเรียงเข้าใจหมด คำผิดแทบไม่มี แต่มีปัญหาในการแบ่งวรรคตอน แบ่งวรรคตอนผิดพลาดตลอด
ทีนี้มาย้อนถึงการบรรยายอีกที ที่กูบอกว่าบรรยายใช้ได้คือบรรยายแล้วอ่านรู้เรื่อง เนื้อความบอกบุคลิกตัวละครชัดเจน ไม่เยิ่นเย้อ ไม่ยัดเยียด แต่ไม่มีกลิ่นอายจีนเลย เป็นไทยมาก แต่คนเขียนพยายามแทรกคำที่ทำให้เหมือนนิยายจีนโบราณ แล้วมันก็ไปปนกับการบรรยายแบบไทย ถ้าคนอ่านไม่สนใจความเป็นจีนก็จะอ่านได้สบาย แต่ถ้าคนอ่านชอบความเป็นจีนจะอ่านไม่ลง มีการใช้มุกตลกกับภาษา ซึ่งรูปประโยคจีนมันไม่มี สรุปว่าถ้ามึงชอบอ่านนิยายจีนแบบไทยจ๋า ไม่มีกลิ่นอายจีนนอกจากชื่อแซ่ นิยายเรื่องนี้ตอบโจทย์ แต่ถ้าใครชอบนิยายจีนในความเป็นจีนจี๊นจีน ก็จะอ่านไม่ได้
สำหรับกู นิยายจีนต้องเป็นจีน ถึงคนเขียนเป็นไทยถ้าเขียนนิยายจีนก็ต้องเขียนให้มันจีน กูจึงไม่อ่าน แค่เฉาะ นิยายลักษณะนี้กูไม่เรียกว่าเป็นนิยายจีน กูเรียกว่าเป็นนิยายไทยใช้ชื่อจีน
กูว่าคอมเมดี้ก็คือความตลก ไม่เกี่ยวอะไรกับการไม่เกี่ยวข้องกับกฏเกณฑ์ทำเนียม
ตลกก็ส่วนตลก
ไม่เป๊ะข้อมูล เขียนแบบโม้ๆ เอาสนุกเข้าว่า ก็อีกเรื่อง
รหัสแดง! Heart ชินชาได้ท็อป 27 ของหมวด อิเหี้ย!!
วันล่มสลายของมวลมนุษยชาติแล้วอีเวร กูจะโดดขึ้เรือโนอาเดี๋ยวนี้แหละ T_______T
รีวิว ลี่ลี่ จอมฉ้อฉล ค่าย ลอล เจ้าเก่า
.
.
.
.
.
เหยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
กูสนใจเพราะปกล้วนๆ
กูสับสนเพราะนึกว่าอิงช่วงราชวงศ์ชิง เพราะเห็นปกมันสื่อไปทางนั้น แต่ปรากฎว่าไม่ใช่ เนื้อเรื่องเป็นจีนยุคสมมติ
เนื้อเรื่องเริ่มด้วยนางเอกเดินกินของพิศดารกับเพื่อน พิศดารอย่างเช่น แมงป่องทอดเสียบไม้ ม้าน้ำเสียบไม้ ดาวทะเลเสียบไม้ และกำลังจะไปกินหมาต้มกัน ตลกมั้ย ก็ไม่นะ กูอ่านแล้วอืมมม
อ่อ คนเขียนไม่ได้บอกว่านางเอกเป็นคนชาติอะไร นางชื่อนาตาลี ชื่อเล่น ลี่ แต่มีเพื่อนชื่อจีน กูเลยใช้สกิลมโนส่วนตัวว่านางเอกคงเป็นนักศึกษาต่างชาติมาเรียนที่จีน เปิดฉากมาด้วยเมพ แนะนำนางเอกว่าเป็นนศ.วิทยาศาสตร์ เอกคอม เป็นดาวคณะ เกรดสูงสุด เมพเมพ
นางเอกลืมวันจ่ายค่าเทอม นางไม่มีตัง ทำไงดี
นางเปิดโน้ตบุ๊คจ้าา กดๆเคาะๆ เป้าหมายคือนายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรี.........
จ๊ะ นางแฮคระบบ แล้วส่งไวรัสล้วงข้อมูล กรอกรหัสห้าตัว ห้าตัว ห้าตัว
ขู่เรียกเงินนายกสิบล้าน ไม่งั้นภาพลับน่าอายจะหลุด นายกกริ้ว สั่งหาตัวการ แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถหาตัวการได้
เลือดกูกระอักออกมุมปาก
เอื้อออออ เก่งจังอีลี่ อีนักศึกษาปีสี่ สมชื่อจอมฉ้อฉล
ในที่สุดนายกก็ต้องยอมจ่าย โอนเงินเข้าบัญชีลับลวงพราง นางก็เย้ ชั้นมีเงินจ่ายค่าเทอมแระ นางเป็นโจรมีสัจจะจะถอนไวรัสให้ ขณะกำลังกรอกรหัสห้าตัว จู่ๆนางก็น๊อก หัวทิ่มตายไปเลย บรรยายว่ากว่าจะมีคนรู้ กลิ่นศพก็ออกแล้ว เอิ่มมม มาเร็วเคลมเร็วกว่าอีนคชาแห่งรัชทายาทเสิ่นเจิ้นอีก ส่วนนายกก็โดนภาพหลุด กระเด็นหลุดจากเก้าอี้
อีลี่ไปเกิดใหม่เป็นลูกอนุ แบบว่าแม่กำลังเบ่ง พร้อมบรรยายว่านางลำบากมั่กๆ โดนเมียเอกกลั่นแกล้ง ผัวแม่ทัพไม่อยู่ เมียเอกเลยไล่นางไปอยู่กระท่อมโกโรโกโสท้ายจวน แถมนางจะคลอดลูกยังไม่มีหมอตำแยยอมมาเลย ลำบากมั่กๆ สาวใช้วันรุ่นเลยแปลงร่างเป็นหมอตำแยฉบับซุปเปอร์ไซย่า เจ้านายเบ่งเสร็จก็คุยกันไปมา บรรยายว่านางมีพลังขั้นสีเหลือง สีดำ??????? กูงง อะไรพลังสีเหลือง สีดำ???
เออ อิลี่เกิดมามีรอยดาวกี่แฉกวะจำไม่ได้บลาๆ แม้ตัวจะเป็นเด็กแต่สมองยังคงเป็นผู้ใหญ่ ชื่อของนางคืออีลี่นะจ๊ะ
และตบท้ายด้วยการบอกว่า ข้าฝากลูกข้าด้วย...
กูงงดิ ตอนคลอดไม่ได้บรรยายอะไรว่านางป่วยจะตาย หรือเป็นอะไรใกล้ตาย จู่ๆก็บอกว่าฝากลูกกูด้วย สาวใช้ก็บอกข้านมแบน ฮูหยินก็เออ เจ้านมแบนจริงๆด้วย เถียงกันไปเถียงกันมา ฮูหยินบอก เจ้าทำคลอดรกลูกข้าต่อที สาวใช้ก็อ่ะเครจัดให้ เก็บกวาดเช็ดล้าง ทำคลอดให้เรียบร้อย
เชรดดดดด กูนึกว่าอีลี่เมพคนเดียว แต่เมพยันสาวใช้
สุดท้ายฮูหยินก็ม่องเท่ง ไม่ได้บอกว่าเป็นอะไรนะ แค่บรรยายว่าตาย ส่วนอีลี่ในร่างทารกก็มีสาวใช้ดูแลตามมีตามเกิด พ่อไม่สนใจเพราะพ่อสนแต่ลูกที่มีค่าพลังสูง??????
จบการรีวิวเท่านี้ กูไม่มีอะไรจะพูดแล้ว
อุ้ยต๊ายตายน่าอ่านว่ะ
ต่ออีกนิด
อีลี่เป็นทารก เริ่มคลานเตาะแตะ ทนชีวิตลำบากในกระท่อมหลังคารั่วท้ายจวนไม่ไหวแระ เลยคว้าถ่านมาเขียนบอกสาวใช้ว่าจะไปบ่อน
สาวใช้ก็โอ้ววววว คุณหนู คุณหนูของบ่าวเป็นอัจฉริยะโดยแท้ มีพลังขั้นสีทองตั้งแต่เกิด แถมยังอ่านออกเขียนได้ตั้งแต่ตั้งไข่ สมแล้วที่เป็นบุคคลในตำนานที่ถูกพยากรณ์ไว้
กูต้องย้อนไปอ่านช่วงที่ฮูหยินเถียงกะสาวใช้ละเอียดๆ ถึงได้ อ่อ รอยดาวแฉกที่ปรากฎเป็นสัญลักษณ์ของระดับพลังสูงสุด สีทอง ไม่ต้องวัดระดับเบย ฟังธงได้เลยว่าอีลูกอนุมีพลังซุปเปอร์ไซย่า สัญลักษณ์แห่งเทพ คำทำนายโบราณบอกไว้ว่า เด็กที่มีตรานี้จะครองอำนาจเหนือทุกสิ่ง แว่นแคว้นจะแย่งชิงตัวเด็กเพื่อครองอำนาจ สงครามจะบังเกิดเพราะแคว้นต่างๆรอฉกเด็ก
ดังนั้นฮูหยินก็เลยผนึกพลังอีลี่ไว้แล้วป่วยตายห่าไป
กูไม่เข้าใจ ทำไมเรื่องนี้ขายได้
>>846 ไม่ต้องมีพลังแม่งก็เมพสึสๆแระ กูอ่านถึงตอนนางไปบ่อนเนี่ย ให้สาวใช้ปลอมตัวเหน็บกระบี่?? อุ้มอีลี่ไปบ่อน เงินลงทุนหนึ่งอีแปะ อีลี่จะให้แทงข้างไหนก็เขียนนิ้วใส่อกสาวใช้ อีลี่แทงมีแต่ได้ไม่มีเสีย ตระเวนเข้าบ่อนจนรวย มีตังกินของดีๆ แต่ยังไม่ซ่อมกระซ่อมเพื่อตบตา
คนที่ชอบนางเอกเมพซูซูแบบไม่มีเหตุผล อีลี่นี่แหละตอบโจทย์มึงค่ะ
>>848 ดีแล้วที่มึงเลิกอ่าน จะได้ไม่ช้ำใจหลงซื้อมาแบบกู
กูอ่านต่ออีกหน่อย อิลี่ครบห้าขวบ ต้องไปวัดระดับพลัง พ่อเลยเพิ่งนึกได้ว่ามีอีลี่อยู่กระท่อมท้ายจวน ให้ชุดใหม่หนึ่งชุด พวกพี่ๆลูกแม่ใหญ่กับลูกอนุคนอื่นๆก็มองนางอย่างอิจฉา...... เดี๋ยวๆ กูว่าอารมณ์นั้นควรจะมองอิลี่อย่างสมเพชมากกว่านะ
พ่อพาไปวัดระดับพลังซึ่งมีขั้นสีนั้นสีนี้ มีแบ่งธาตุ บรรยายระดับของเด็กแต่ละคนไป ส่วนอีลี่จงใจวัดระดับให้ผลออกมาไม่มีพลังสีพลังธาตุ
ทุกคนในที่นั่นอุทานออกมา "สวะ สวะชัดๆ" "ไม่มีพลังเป็นตัวสวะ"
ท่านแม่ทัพอาย เสยอัปเปอร์คัตระดับพลังสีน้ำตาลใส่ลูกห้าขวบแล้วสะบัดตูดกลับจวนอย่างโมโห อิลี่สลบเมือด ได้สาวใช้ซุปเปอร์ไซย่าเจ้าเก่าควักยาชั้นเลิศอันดับหนึ่งมากรอกปากอีลี่ (มึงไปเอามาจากไหน อย่าถาม กูไม่รู้ ซื้อมามั้ง) สาวใช้ก็อุ้มอีลี่กลับ
กูปาดน้ำตาไปอ่านไป
เรื่องนี้ตั้งแต่กูแวะไปสับแค่บทแรกกูก็ตัดสินใจไม่อ่านต่อแล้วล่ะจ้า พวกมึงแม่ง โม่งผู้กล้าสัส ๆ คารวะหกสิบเก้าจอก บังไค! 555555555
จะมีใครสับพิชชาพร [ แพรขาวสามศอก ] ต่อจากที่ลงไว้ในเด็กดีไหมอ่ะ อยากรู้มากว่าจะจบยังไง เห็นมีลี่ลี่แล้วเลยนึกถึงเล่มนี้ขึ้นมา
สงสารพวกเมิงจังแต่กุขำชิบหาย 555+
>>854 นี่ไง แป๊ปเดียวแค่นั้นแหละ แค๊ปเมนต์กูประจานกราย ๆ มึงดูที่กูพิมพ์นะ ดัดแปลงอย่างสุภาพแล้ว แต่ก็ถือว่า มันควบคุมตัวเองได้ดีในระดับหนึ่ง เข้าใจนะ ว่าไม่มีใครอยากถูกติ แต่ถ้าผ่านไปได้ก็จะสตรอง นี่แม่งอ่อนไหว จนต้องเปิดตอนใหม่ หากำลังใจจากพวกลูกหาบ แต่ก็มีคนเห็นด้วยอยู่นะ https://writer.dek-d.com/dekkizao_2882/story/viewlongc.php?id=1705000&chapter=47
คนอ่าน 99% ของงานเขียนแบบนี้เขาต้องการแค่ความฟิน จิ้น ง่าย ๆ จบ เขาไม่ต้องการความถูกต้องหรือความสวยงามอะไรทั้งนั้น เขาจะเปิดการ์ดนี่นิยายไม่ใช่สารคดี ไม่ต้องเหมือนจริง ไม่ต้องศึกษาอะไรทั้งนั้น เพราะเดี๋ยวรายนี้เขียนจบ เขาก็ตามไปอ่านรายใหม่ที่เขียนเรื่องทำนองนี้ เขาไม่มานั่งจำชื่อนักเขียนไว้หรอก เหมือนซื้อลูกชิ้นปิ้งงานวัดยายศรี ซื้อสิบไม้ทิ้งห้าไม้ก็คุ้ม เพราะมันถูก หาง่าย ความจริงนักเขียนรายนั้นไม่น่าจะต้องโอดครวญ เพราะโดนติแค่สองเรื่องเอง เว้นวรรคผิด กับเขียนแล้วไม่มีกลิ่นอายจีน ไม่เห็นจะต้องเสียใจอะไรเลยว่ะ เปราะบางเกิ๊น
>>857 จริงมาก แล้วคนเขียนก็เลือกจะมัวเมาอยู่ในกะลาที่คนอ่านเอามาครอบ
>>858 อ้าว งั้นกูขอถอนคำพูดว่า 'มันควบคุมตัวเองได้ดีในระดับหนึ่ง' ถุยยย นั่นกูไม่ได้หยาบคายเลยนะ แม่งรับไม่ได้เฉย นี่ขนาดกูก๊อปตรงที่คนเฉาะเขาชมเรื่องการบรรยายของมันไปด้วยนะเนี่ย ถ้ากูติเพียว ๆ นี่สงสัย...
กูก็คิดเหมือนมึงนะเรื่องคนอ่านนะ แม่งก็ไม่ได้สนใจเหี้ยไรหรอก แค่อาจเห็นบรรทัดที่อีคนเขียนมันบอกว่า 'คงต้องขอหยุดสักพัก' ประมาณนี้ แม่งก็เลยแห่กันมาให้กำลังใจ เพราะกลัวคนอ่านดอง
นี่กูกำลังดูว่า มันจะไปตั้งกระทู้ไหม ไม่ใช่กระทู้ด่านะ แต่อาจประมาณว่า 'นักเขียนท่านอื่นจะทำไง หากเจอคอมเมนต์ประมาณนี้คะ'
To be continued
มุงเอาข้อความไรไปลงอ่ะ กูตามไปแม่งลบหมดเบย
อ่ะ เผื่อใครอยากลองนิยายค่ายนี้
🚩🏁🏴มาแรงแซงทุกทางโค้ง...ต้องนิยายจีนในเครือสำนักพิมพ์แสนรักอ้ายหนี่เลยคร้า
#ขำสนุก #ฮากระจาย #ซึ้งกินใจ ฟินแล้วทั่วยุทธภพ
สนใจสั่งซื้อได้ที่หน้าเว็บไซต์ไลต์ ออฟ เลิฟ
https://www.lightoflovebooknovel.com/product.php
และหน้าร้านนายอินทร์ ซีเอ็ด B2S
♀️♂️สนใจอ่านตัวอย่างได้ตามลิงก์ที่แนบมาให้นี้นะคะ
-เจิ้งฝูสื่อ จอมนางตำหนักเย็น โดย จั้วเจีย ราคา 329.- จำนวน 400 หน้า
**เปิดขายที่หน้าเว็บไซต์สำนักพิมพ์ไลต์ ออฟ เลิฟ วันที่ 19/12/60
วางขายหน้าร้านนายอินทร์วันที่ 22/12/60
อ่านตัวอย่างได้ที่เว็บเด็กดีค่ะ
https://writer.dek-d.com/inin17305/story/view.php?id=1672006
-ลี่ลี่ จอมฉ้อฉลน้อย โดย จินอวี้ ราคา 359.- จำนวน 464 หน้า
https://www.lightoflovebooknovel.com/admin/attachment/liliweb.pdf
-บุปผาเลี่ยมเพชร (พาร์ท 1) โดย เสี่ยวเฝิ่นจู ราคา 319.- จำนวน 392 หน้า
https://www.lightoflovebooknovel.com/admin/attachment/bupphafweb.pdf
-ไป๋อวี้หนิง โดย ถานเม่ยฟู่ ราคา 269.- จำนวน 288 หน้า
https://www.lightoflovebooknovel.com/admin/attachment/baiyuningweb.pdf
-ชายามังกร โดย ตันเหมย ราคา 279.- จำนวน 312 หน้า
https://www.lightoflovebooknovel.com/admin/attachment/chayamangornweb.pdf
-ทะลุมิติไปมีรัก โดย เตี๋ยอู่ ราคา 309.- จำนวน 368 หน้า
https://www.lightoflovebooknovel.com/admin/attachment/talumitiweb.pdf
-หลินซูเหยา โดย เหม่ย เหม่ย ราคา 309.- จำนวน 368 หน้า
https://www.lightoflovebooknovel.com/admin/attachment/linzuyaoweb.pdf
-ปี้หู้ตัวร้ายกับองค์ชายมังกร โดย ชิงลี่ ราคา 309.- จำนวน 360 หน้า
https://www.lightoflovebooknovel.com/admin/attachment/bihutuaraiweb.pdf
-พระชายาแสวงพ่าย โดย ตันเหมย ราคา 419.- จำนวน 592 หน้า
https://www.lightoflovebooknovel.com/admin/attachment/prachayaweb.pdf
กูก็อปมาแปะทั้งดุ้น ลืมลบลิ้งก์ขายของ กราบขออภัยรอบวง กูจะให้พวกมึงลองกดอ่านความวายป่วงโดยเฉพาะอีลี่ ไม่ได้แนะนำให้ซื้อนะจร๊ะ ไม่งั้นจะมาช้ำใจอย่างกู
>>864 สัสดีนะก๊อปไว้ เสียดายไม่ได้แค๊ป กูดัดแปลงไปจาก >>835 ตามนี้
ขอวิจารณ์ตามความรู้สึก
พอดีเห็นเรื่องนี้ติดท๊อปก็เลยแวะเข้ามาอ่าน เรื่องนี้ถูกจริตคนอ่าน ตั้งแต่แนะนำตัวละครหน้าแรก นางเอกเป็นคุณหนูแก่นแก้ว โผงผาง งามหยาดฟ้า พระเอกเป็นองค์ชายเย็นชาลึกลับ แต่ขอนางเอกแต่งงานตั้งแต่แรกพบ มีพระรองเป็นเพื่อนนางเอก หล่อเหลาตามแบบฉบับ บวกกับความฮาคนอ่านจึงชอบกันมาก
ถ้าดูเฉพาะการบรรยาย ถือว่าบรรยายใช้ได้ เรียบเรียงเข้าใจหมด คำผิดแทบไม่มี บรรยายแล้วอ่านรู้เรื่อง เนื้อความบอกบุคลิกตัวละครชัดเจน ไม่เยิ่นเย้อ ไม่ยัดเยียด แต่ไรต์มีปัญหาเรื่องการแบ่งวรรคตอน ที่พลาดตลอด อ่านแล้วอารมณ์สะดุด และเรารู้สึกว่า เรื่องธรรมเนียมหรือกฎเกณฑ์บางอย่างไม่ค่อยสมจริง
ที่สำคัญก็คือ นิยายเรื่องนี้ไม่มีกลิ่นอายจีนเลย เป็นไทยมาก ซึ่งไรต์ก็พยายามแทรกคำที่ทำให้เหมือนนิยายจีนโบราณแล้ว แต่มันก็ไปปนกับการบรรยายแบบไทย ถ้าคนอ่านชอบความเป็นจีนจะอ่านไม่ลง(เช่นเรา)เช่น เรื่องการใช้มุกตลกกับภาษา ซึ่งรูปประโยคจีนมันไม่มี
สรุปว่าถ้าใครชอบอ่านนิยายจีนแบบไทยจ๋า ไม่มีกลิ่นอายจีนเลยนอกจากชื่อแซ่ตัวละคร กับชื่อเรื่อง นิยายเรื่องนี้ตอบโจทย์ แต่ถ้าใครชอบนิยายจีนที่ให้ความรู้สึกเป็นจีนสมจริงก็จะอ่านไม่ได้
ความจริงนักเขียนเป็นคนไทย แต่ถ้ารักจะเขียนนิยายจีนก็ต้องเขียนให้มันจีนได้
สำหรับเราคงไม่อ่านต่อ ต้องขอโทษด้วย ขออภัยหากทำให้หัวร้อน
ใส่ชื่ออวตารไปว่า Cr.No.835
อย่าว่าอย่างโง้นอย่างงี้เลยมึง อันนี้กูสงสัยจริงๆ ว่าทำไมอิเรื่องที่พวกมึงแม่งด่ากันวายป่วงเสือกออกเล่มกันไม่หยุด แม่งติดขายดีมันพรึบเลยวะ
หรือยิ่งด่า ยิ่งห่วย ยิ่งขายดี
เรื่องไหนพวกมึงรีวิวว่าเนื้อเรื่องดี สนุก น่าอ่านทำไมคนทั่วไปถึงไม่ค่อยอ่านวะ
บางเรื่องกุเห็นในโม่งแม่งชมว่าดีโง้นงี้ ตามไปอ่านในเด็กดี...คน fav ไม่ถึงหลักพัน ขนาดตอนโคตรเยอะ อย่าพูดถึงออกเป็นเล่มเลย
อันนี้กูสงสัยจริงๆ มันมีอะไรผิดพลาดวะ
>>872 นี่เป็นความคาดเดาของกู
กูเดาว่าเป็นเพราะโม่งเป็นแค่เสียงๆ หนึ่งจากคนอ่านหนังสือกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และโม่งตำหนักนี้ส่วนหนึ่งสิงตำหนักจีน รสนิยมคนอ่านจีนแปลที่คัดมาแล้วกับรสนิยมคนอ่านนิยายฟรีตามเว็บมันไม่เหมือนกัน ไม่แปลกที่โม่งหลายคนในนี้จะแอนตี้เรื่องที่มั่วข้อมูล เซินเจิ้นในเซินเจิ้น
>>872 มันเป็นงี้ทั้งตลาดอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ในเด็กดี หนังสือระดับดี ๆ ขายไม่ค่อยได้ นิยายตบกันแย่งผัวกันหรือมีผัวหื่นซาตานชีคขายดีขายเร็ว คุณหนูจีนโดนตบโดนกลั่นแกล้งก็เข้าข่ายเหมือนกัน คนอ่านนิยายไทยตามไปอ่านได้สบาย แต่นิยายจีนหรือเสิ่นเจิ้นแบบมีข้อมูลดี ๆ แล้วไม่เน้นผัวเมียมันก็ขายได้น้อยอยู่แล้ว มึงดูหลางหยาป่างขนาดหูเกอเล่น มีคนดูพูดถึงกี่คน มีแค่ในกลุ่มที่รักการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ แต่พอเรื่องดอกท้อ คนพูดถึงเต็มไปหมด กูไม่ได้ว่าดอกท้อไม่ดีนะ แต่เรื่องรักมันขายได้ ยิ่งเป็นรักแบบเดิม ๆ มีปมเรื่องผัวเมียลูกเมียหลวงเมียน้อยมันขายดีมานานแล้วในบ้านเรา มึงไปดูนิยายเล่มถูก ๆ ชื่อคนแต่งไม่มีใครรู้จัก แต่ขายดีขายเร็วหมดแผงไว ตลาดมันเป็นงี้ทั่วไปว่ะ ไม่ใช่แค่นิยายเด็กดี
แถม ไม่ใช่แค่นิยายเสิ่นเจิ้น นิยายแปลจีนก็เหมือนกัน มึงดูนิยายรักสายหื่นสายแย่งท่านอ๋องดิ ขายดีจะตาย คนชอบอ่านเรื่องแบบนี้มากกว่า ไม่คิดมาก ได้ลุ้นเคียดแค้นผัวนางเอก มันเป็นรสนิยมคนส่วนนึงที่ดันเป็นกลุ่มใหญ่ว่ะ
คนชอบดูชาวบ้านตบตีกันไงมึง เรียกง่ายๆ ชอบเผือกเรื่อวผัวเมีย
ขอแหวกนิดนึงนะ ตำหนักนี้มีนักเขียนเสิ่นเจิ้นอยู่บ้างใช่เปล่า รบกวนตอบมู้เสิ่นเจิ้นในห้องโนเวลให้ทีจ้า https://fanboi.ch/webnovel/4205/801/ เห็นส่วนใหญ่มาอยู่ห้องนี้กันกลัวจะไม่เห็น คือตอนนี้กำลังสงสัยมาก
เมียอ๋องสามกูเคยตามอ่านอยู่ช่วงนึง อ่านพอถึงช่วงนางเอกจะไปสนิทกับเมียรัชทายาท กูก็เริ่มรู้สึกว่าพระเอกคาแรคเตอร์เปลี่ยน ต้นเรื่องจนถึงตอนนี้แทบไม่รู้สึกว่ามันเป็นคนเดียวกัน เหมือนคุมคาแรคเตอร์ตัวละครไม่ได้ นางเอกก็เหมือนกันบทจะดูเจ้าเล่ห์ก็ให้มันเจ้าเล่ห์ซะดื้อๆ ทั้งที่ต้นเรื่องดูเหมือนไม่ค่อยเดียงสาแค่แก่นซน
กูอาจรู้สึกอยู่คนเดียว แต่พออ่านแล้วรู้สึกแบบนี้กูเลยเลิกอ่าน
กูคนเฉาะเอง ไม่แปลกที่เขาจะดิ้น เพราะเขาเขียนได้แค่นั้น เขาคิดอะไรมากกว่านั้นไม่ได้ กูจึงไม่ไปเสียเวลาติงเป็นอันขาด ที่พูดในนี้คือคุยกันในฐานะนักอ่าน แถมฟรีมากูก็ไม่อ่าน กูแค่ไปเฉาะเล่นบทเดียว ส่วนใครว่าดีก็อ่านต่อไป
เพื่อนโม่ง กูไม่รู้ภาษาจีน แต่กูสงสัยว่า เย่ว มันมีความหมายปะวะ กูรู้จักแต่ เยว่ อะ
กูเจอเซินเจิ้นบางเรื่องใช้ เย่ว
>>882 กูเรียนจีน "เย่ว" เป็นคำที่ผิดเลย มีแต่ "เย่" กับ "เยว่" (คนละคำกัน) แต่กูเห็นบ่อยที่คนแปลจีนเขียน "เยว่" เป็น "เย่ว" หรือเขียนเป็น "เย่ว์" ซึ่งกูไม่รู้เจตนาว่าเขาเขียนแบบนั้นเพราะสะกดผิดหรือเพราะจงใจ ถ้าพวกมึงเขียนเสิ่นเจิ้นแล้วอยากเขียนให้ถูกหลัก อย่าเขียนเย่วเป็นอันขาด
>>886 กูเดานะ อาจจะต้องการให้นักพากษ์อ่านง่ายขึ้นก็ได้ว่ะ หรือให้คนดูจำชื่อได้ง่ายขึ้น เพราะคนดูหนังส่วนใหญ่ไม่รู้ภาษาจีน ชื่อที่ไม่ค่อยมีใช้ตามตัวสะกดไทยอาจจจะยาก อันนี้กูเดาแบบช่วยสุด ๆ แล้ว ถถถถ
เจอใครเขียนเย่ว กูจะอ่านคล้ายๆ โย่ว
แบบเด็กแร๊พ เย่ว เย่ว
คนที่เขียนผิดเป็นเย่ว ปัญหาไม่น่าจะอยู่ที่อ่านจีนไม่ออก แต่อยู่ที่ทักษะการเขียนการอ่านภาษาไทย
>>888 ตามความคิดกูนะ ฐานะคนเรียนจีน เขียน "เยว่" คือตรงที่สุดแล้ว เคยเห็นบางเล่มเขียน "เยวี่ย" กูว่ายังมีความตรงน้อยกว่า แล้วดูเสี่ยงที่คนอ่านจะอ่านเป็น "เยี่ยว" ส่วนที่เขียนว่า "เย่ว์" อันนั้นคือเขียนผิด แต่กูมองว่ายังเป็นความผิดที่พอจะมองข้ามได้บ้าง คือเขียนแล้วรู้ว่ามาจากศัพท์ตัวไหน เพราะถ้าเขียนว่า "เย่" อย่างเดียวเลย อันนี้จะไม่รู้ว่าเป็นศัพท์ตัวไหน ผิดคำไปเลย กูจึงคิดว่าไม่ควรเขียน "เย่ว์" แต่ควรเขียน "เยว่" มากกว่า
กูเห็นคำว่าเย่วทีไรกูกลอกตาทุกรอบ เพราะมันอ่านแบบเดียวกับเย้ว แบบเต้นเย้วๆไรงี้ แค่เปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์
ตำนานมหาเทพตงหัวในพี่เมพ นิยายแฟนฟิคลิขิตเหนือเขนย
เอาชื่อตงหัว เฟิ่งจิ่วมาขาย กูกูรู้ข่าวหรือยัง?
กูลองอ่านดูแล้ว นักเขียนแต่งแนวลิเกไทยว่ะ มึงจงคิดถึงละครจักร์ๆวงศ์ๆ ช่องเจ็ด ผสมกับ นิยายแฟนตาซี สำนวนแบบนั้นเลย
แถมคาแรกเตอร์ตงหัวนั่นไม่ใช่เลยว่ะ มันไม่ใช่มหาเทพตงหัวผู้เกรียนโครตที่กูเคยอ่าน กลับกลายเป็นใครก็ไม่รู้
ทำลายภาพตงหัวของกูในนิยายและซีรี่ย์มากว่ะ กูต้องกลับไปอ่านลิขิตเหนือเขนยอีกรอบแล้ว
บอกตรงไหนกูจะได้ตามไปแคปไปฟ้องป้า
เพิ่งไปดูราคามา อห. ขายแพงด้วย หากินง่ายหวะ จะเขียนแฟนฟิคก็อย่าเอามาขายดิ๊ ถ้าจะขายก็ไปเขียนของตัวเอง เปลี่ยนชื่อไปเลยดีกว่า ทำแบบนี้เหมือนหวังเกาะกระแสหากินกับคนชอบปู่ แถมถ้าเป็นอย่างที่พวกมึงว่าก็ยิ่งเห้ กูที่เป็นแฟนคลับปู่รับไม่ได้
เขียนแฟนฟิคไปขาย ความละอายไปไหนหมดวะ
เขียนแฟนฟิคขายผิดอ่อวะ กูก็เขียนฟิคการ์ตูน ลงขายเมพอ่ะ แต่ของกูไม่ได้เอาชื่อการ์ตูนมาตั้งนะ แค่บอกในหน้าคำนำว่านี่คือฟิค ตอนจบเปลี่ยนคู่เปลี่ยนไม่จบเหมือนการ์ตูน กูไม่ได้กวนนะ กูโง่จิง
>>901 เอาจริงๆ ก็ผิดอ่ะมึง อย่างพวกโดจินที่ขายอยู่ทุกวันนี้คือ official ทำเป็นหลับตาข้างหนึ่งไม่รู้ไม่เห็นปล่อยผ่าน แต่โดยหลักกฎหมายลิขสิทธิ์คือเอาผลงานที่เป็นความสร้างสรรค์ของคนอื่นไปดัดแปลงหารายได้เข้าตัวนี่ผิดแน่นอน นี่คือเหตุผลที่สติกเกอร์ไลน์ไม่รับ fan art นักวาดไทยดังๆ ที่ทำเนียนๆ ออกสติกเกอร์แฟนอาร์ตเรื่องดังมากกกกกกกก็ยังโดนขุดเรื่องนี้มาด่าถึงทุกวันนี้นะเว้ย
แฟนฟิคตงหัวเตรียมตัวเตรียมเงินไว้ดีๆนา ตอนนี้กูกูกำลังจะฟ้องแล้ว
โพสเกี่ยวกับตงหัวในกลุ่มสามชาติของกูกู
>>901 แฟนฟิค โดจิน คอสเพลย์ เป็นโลกสีเทา ความจริงคือผิด แต่เจ้าของลข.ทำเป็นหลับตาข้างนึง เพราะไปเอาเรื่องกับพวกนี้มันก็ไม่คุ้มอะไรหรอก แต่ก็คิดในแง่ว่าเป็นการโปรโมทไปในตัวได้ แต่ถ้าเจ้าของลข.ห้าม ก็คือห้ามทำเด็ดขาด อย่างเคสท่านพนมเทียนที่ไม่อนุญาตให้เขียนฟิค โด หรืออื่นใดก็ตามของเพชรพระอุมาแบบนั้น
>>910 กูอ่านที่แถ-ลงแล้วเหมือนเด็กน้อยงอแงยังไงก็ไม่รู้ว่ะ อะไรคือไม่รู้ว่ามันผิดยังไง
https://www.img.in.th/image/kzPUv
เออ สงสัยด้วยคน
ถ้าเกิดเขียนนิยายที่เอาชื่อตัวละครมาใช้ แต่ฉากและเนื้อหาคนละโลก (เช่น เทพตงหัวกลายเป็นมาเฟียลูกครึ่งจีนชื่อตงหัว) แบบนี้ผิดป่าว
หรือว่าทำได้ แต่ถ้าใช้ชื่อซ้ำ ห้ามเกินกี่ตัวที่จะสื่อให้คนนึกถึงนิยายเรื่องนั้นๆ
เช่น ใช้ชื่อตงหัวคนเดียว คนอื่นนอกนั้นก็แต่งชื่อใหม่หมด
แบบนี้คือไม่ผิดปะ
>>913 ชื่อน่ะมันซ้ำกันได้ มันอยู่ที่เจตนาและความตั้งใจอ่ะกูว่า
เช่น มึงอาจจะมีตัวเอกชื่อแฮร์รี่ได้ มึงอาจจะอยากใช้ชื่อนี้ และชื่อมันก็ทั่วไป แน่นอนจะไม่มีใครมาด่ามึงด้วย และมึงไม่ได้เจตนาจะลอกชื่อมา
แต่มึงจะมีตัวเอกชื่อแฮรฺ์รี่ เฮอร์ไมโอนี่ และรอน ไม่ได้ เพราะนั่นคือเจตนา (หมายถึงกรณีตงหัวเฟิ่งจิ่วด้วย มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเอามากี่ชื่อ)
>>913 จำได้ลางๆ ว่่าเคยเห็นข่าวกิมย้งฟ้องนักเขียนที่เอาชื่อก้วยเจ๋งอึ้งย้งไปใช้ในนิยายอยู่นะ ถึงจะเป็นนิยายโลกปัจจุบันก็เหอะ แต่จำไม่ได้ว่าลอกเลียนบุคลิกลักษณะตัวละครมาด้วยหรือเปล่า ถ้าพระเอกมึงชื่อตงหัวแต่นิสัยเจี๋ยมเจี้ยมกากๆ คงไม่มีใครว่า แต่ถ้าเกรียนเทพแล้วรอบข้างมีนางเอกที่เด็กกว่าเยอะ แอบชอบพระเอกมานาน ร่าเริงใสๆ ถึงจะไม่ได้ชื่อเฟิ่งจิ่วก็อาจจะมีปัญหาได้ป่ะวะ กูไม่รู้กูเดา
กรณีอื่นกูก็ไม่รู้นะ แต่กรณีนี้ชัดเจนเลยว่าเป็นแฟนฟิคและนำมาขายเลย และคำโปรยและการตอบตอบคอมเมนต์ของนักเขียนในเมพชวนให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องต่อเนื่องจากป่าท้อ
ซึ่งทำให้กูมองว่าผิด 2 กระทงคือ เขียนแฟนฟิคขายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลข. และ โฆษณาชวนเชื่อให้คนที่ดูแค่ซีรีย์แต่ไม่ได้ติดตามนิยายเข้าใจผิดว่าเรื่องนี้เป็นของถังชี
แปะรูปที่ตอบคอมเม้นท์ใน meb ฝากไปให้กูกูที
https://www.img.in.th/image/kkdHc
โหย ถ้าจะขนาดนี้
ถังชีไม่บินมาฟ้องหรอกมึง ไม่นับเรื่องที่ตัวเองก็โดนด่าว่าลอกเค้ามาอีกทีเหมือนกัน
เคสนี้อย่างมากก็ทำได้แค่รุมด่าจนกว่าจะลบ ไม่ลบก็ทำไรไม่ได้
เอามันให้หนัก ถ้ากูไม่ตามข่าวจากเพจกูกู ไม่สิงกลุ่มนิยายจีน กูก็อาจจะเข้าใจผิดไปอีกคน สงสารคนที่หลงเชื่อและจ่ายเงินซื้อโคตรๆ
กรณีแบบนี้มันทำให้ป่าท้อกับเขนยและกูกูเสียหายได้ เพราะว่าถ้าคนเข้าใจผิด อ่านแล้วพบว่ากาก ก็จะพลอยเหม็นป่าท้อ เขนย และกูกูด้วยก็เป็นได้
>>923 ลองพิจารณาอีกทีมั้ย
https://pantip.com/topic/33933155
คนเขียนมหาดเล็กแห่งเฉินเฉาเปิดเรื่องใหม่ละนะมึง ใครเป็นแฟนคลับไปตามได้ คนเขียนว่าหากคนนิยมเรื่องนี้จะเข้าโครงการขายเพื่อบริจาคตามโครงการเว็บเด็กดีด้วย ลองอ่านดูได้
เหลี่ยมเล่ห์บัลลังก์หงส์ ลองอ่านในเด็กดีแล้วได้แต่ร้องเหี้ย รับไม่ได้อ่ะมึง ไม่ใช่แนวกูเลย ทำไมมีฉากนางเอกกับผู้ชายอื่นด้วยอ่ะ แท้งอีก 5555555 คหสต. อ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นนิยายสำหรับผู้ใหญ่เลยอะ แบบขายคนที่ทำงานมาแล้วประมาณนึง อย่างกูนี่ยังรับไม่ได้ รู้สึกแต่ละเรื่องดูแรงๆ
แปะ
https://writer.dek-d.com/chakchan/story/view.php?id=1743346
กุชอบของนักเขียนคนนี้ทุกเรื่อง
>>938 ไปดูแค่ตอนแรก ภาษาเขาก็ยังทำให้กูชื่นชมได้อยู่ดี เรียบง่ายแต่นุ่มนวลและดูมีอะไร ส่วนเนื้อเรื่อง ความเนิบ ๆ แบบนี้กูนึกถึงฟีลจันทราในเรือนเร้น ประมาณนั้น แต่ไม่เชิงฟีลซ่อนรักวิวาห์ลวง
กูติดขัดสองคำ "พ้องจอง" คำนี้น่าจะ คล้องจอง ? กับ "ร่ำลือ" คำนี้ไม่มีใช้ เป็น เล่าลือ จะถูกกว่า
ร่ำลือกูก็ใช้นะ เห็นคนอื่นใช้กันเยอะด้วย อย่างสมคำร่ำลืออะไรเงี้ย ตกลงมันผิดเหรอ
เกิดจากความเคยชินที่ได้ยินจากสื่อต่างๆ รอบตัว นิยายที่กุอ่านอยู่ก็ใช้ร่ำลือ ข่าวก็ใช้ร่ำลือ สรุปแม่งผิดกันแถบๆ สินะ
//เดี๋ยวกุค่อยแก้ของกูตอนรีไรท์
สมคำเล่าลือ...
วันนี้ไปตอบบล็อกคนอื่น แล้วใช้คำว่า
"สมคำเล่าลือ"
ในตอนแรก ผมจะใช้คำว่า สมคำร่ำลือ
เพราะมันชินปากคุ้นหูมากกว่า
แต่เพราะสับสนว่ามันเขียนว่า ร่ำลือ หรือ ล่ำลือ กันแน่
ผมเลยพยายามหาจาก google ก่อน
ก็พบว่า มีการใช้คำว่า ร่ำลือ และ ล่ำลือ ทั้งสองคำพอๆกัน
ดังนั้น ที่พึ่งสุดท้าย ก็คือราชบัณฑิต
http://rirs3.royin.go.th/dictionary.asp
ผมลองหาดูแล้ว
ร่ำลือ ไม่พบ
ล่ำลือ ไม่พบ
ดังนั้นสองคำนี้ไม่มีในพจนานุกรม
หรืออีกนัยหนึ่ง มันเป็นคำที่เพี้ยนมาจากการใช้ของเราเอง
คำที่ถูกต้องคือ เล่าลือ ครับ
คาดว่า คงจะเพี้ยนไปจากการพูดชุดคำว่า "สมคำเล่าลือ"
พอเจอพยางค์ "คำ" แล้วต่อด้วย "เล่า"
คนที่ปากไม่คล่อง ก็จะพูดผิด จากเล่า กลายเป็น ล่ำ ไปซะงั้น
จนกลายมาเป็นคำติดปากแบบพาสะดวกว่า สมคำล่ำลือ ไปเสีย
ทั้งๆที่ความจริง ต้องใช้ว่า สมคำเล่าลือ
ซึ่งผมว่า มันแปลออกได้ทุกพยางค์ และน่าจะถูกต้องกว่า
ต่อไปนี้ผมจะใช้คำว่า เล่าลือ ให้ชินก็แล้วกัน
ปล. อันนี้มาจากการคิดเองเออเอง ถ้านักภาษาศาสตร์เห็นว่าไม่ถูกต้อง ก็ขอคำแนะนำด้วยครับ
แท็กของ Technorati: {กลุ่มแท็ก}language,mispell,speak,speel,thai,คำไทย,ร่ำลือ,ล่ำลือ,เล่าลือ,ใช้ผิด
เอาง่าย ๆ เปิดพจนานุกรมนะ http://www.royin.go.th/dictionary/
เว็บไซต์ทั่วไปก็อย่าไปเชื่อมาก เธอก็เชื่อพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานสักหน่อยเถอะ
>>946 ก็คงเป็นตามที่เขาอธิบายแหละ ให้อธิบายแบบภาษาศาสตร์ก็คือมันเป็นการแปรเสียงแบบกลมกลืนเสียง คิดว่าจาก "สมคำเล่าลือ" สระ อำ มันไปกลมกลืนกับ เล่า จนเป็น ล่ำ, ร่ำ
การแปรเสียงมันเกิดได้หลายแบบ กลมกลืนเสียง สับเสียง ทำสระให้สั้น ทำสระให้ยาว สูญหน่วยเสียง ฯลฯ
พอมาออกเสียงกันจริง ๆ มันก็ยากจะฟันธงว่าคำไหนถูกผิด แต่ในเมื่อมาเป็นภาษาเขียน มีราชบัณฑิตฯ กำหนดคำที่ถูกไว้ให้ก็คิดว่าควรเป็นไปตามที่เขาว่า คือ เล่าลือ
ปกติเวลากุใช้ คือ เล่าลือ ในประโยคบรรยาย
ร่ำลือ ในบทสนทนา เพราะภาษาพูดจะมีการกร่อนเสียง/พูดเพี้ยน/พูดผิดไม่ใช่เรื่องแปลก ยกเว้นแนวพีเรียด ต้องระวังเรื่องกร่อนเสียงเป็นพิเศษ
กูเห็นด้วยว่าต้องใช้ให้ถูกถ้าเป็นงานเขียน ถ้านักเขียนไม่ค่อยเขียนผิด มีที่ผิดแค่บางคำ นักอ่านก็น่าจะบอกได้นะถ้าเราเจอ
หลงเข้าใจว่ามาจากคำว่า ร่ำรำพัน แล้วลือกันไป เลยกลายเป็น ร่ำลือ
คือเท่าที่ลองเปิดพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตอ่ะ http://www.royin.go.th/dictionary/
คำว่า "ร่ำ" ก. พูดซํ้า ๆ, พรํ่า, เช่น ร่ำว่า ร่ำสั่ง ร่ำสอน
คำว่า "ลือ" ก. พูดกันทั่วไป แต่ยังไม่มีอะไรยืนยันได้แน่นอน
"ร่ำลือ" เนี่ย ถึงไม่มีในพจนานุกรม แต่ มันน่าจะ เกิดจากสองคำนี้มาประสมกันเปล่าวะ แปลว่า ลือกันซ้ำๆ ลือกันในวงกว้าง ลือกันมานานแล้ว ไรงี้มั้ย
เพราะบทความอื่นๆ ในเว็บราชบัณฑิตยสถานเอง ยังมีการใช้คำว่า ร่ำลือ อยู่นะ
http://www.royin.go.th/?knowledges=สางห่า
ดูจากบทความในลิงค์นี้ บรรทัดแรก ย่อหน้าแรก
“สางห่า” เป็นชื่อสัตว์ที่กล่าวขานร่ำลือกันว่า มีพิษร้ายกาจรุนแรงน่าสะพรึงกลัว
บทความนี้ยกมาจาก จดหมายข่าวราชบัณฑิตยสถาน ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๒
คือถ้า จะยกเหตุผลว่า "ร่ำลือ" ค้นไม่เจอในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เลยกลายเป็นคำที่ผิด
ถ้างั้นมีอีกเพียบเลยนะ เอาง่ายๆ คำว่า "จบสิ้น" , "จบชีวิต" , "เหนื่อยล้า" ลองไปค้นในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตฯ ดูดิ ก็ไม่เจอนะ
งี้ก็แปลว่าเป็นคำผิด ใช้ไม่ได้ไปด้วยเหรอวะ
ตีกันๆ แพนด้าๆ
กู่มี่เอินกำลังจะพุ่งขึ้นท็อป 3 แล้วว่ะ กูเชียร์อยู่ อยากให้มีเรื่องอื่น ๆ นอกจากผัวเมียลูกเมียหลวงเมียน้อยติดท็อปบ้าง
>> โฉมงามนางอสูร 《恶魔的女孩》<<
กูเห็นติดท็อป (ได้ท็อป 12) เลยแวะไปดูว่าเป็นยังไง อ่านแค่คำโปรยนี่นึกถึงเรื่องหงส์กรีดปีก กูไม่เคยอ่านนะ แต่คุ้น ๆ ว่านางเอกก็เป็นนางโลมมาก่อนใช่ปะ เออ นั่นแหละ
ดูตอนผ่าน ๆ ละเห็นซอยถี่ยิบมาก หนึ่งวันลงหลายตอน แต่กูก็ไม่รู้ว่าลงเวลาไหนบ้างและรูปแบบการลงเป็นยังไงน่ะนะ
อ่านคำโปรยในหน้าข้อมูลเบื้องต้นละงง เข้าใจว่าตั้งใจจะตัดมาแบบนิด ๆ หน่อย ๆ พอกระตุ้นความอยากรู้ แต่สำหรับกูมันกระท่อนกระแท่นมากเกินไปจนหายใจไม่สุด ไม่ได้เพิ่มความอยากรู้แต่เพิ่มความหงุดหงิดประมาณว่า จนแล้วจนรอดกูก็ไม่รู้ว่าคำโปรยต้องการจะบอกอะไร
แซ่บสุดคือข้อตกลงของคนเขียนจ้า ดุมาก เป็นอะไรที่ถ้ากูเป็นนักอ่านคนหนึ่ง เปิดเข้าไปอ่านข้อตกลงแบบนี้ก็พร้อมจะกดปิดจริง ๆ พูดแล้วก็ ฮึ่ม 55555
จะว่าไปเขาก็ดุจนกูกลัวเลยอะ แบบถ้าเสิร์ชชื่อนิยายตัวเองเจอในกูเกิลละมาเจอที่โม่ง เขาจะด่ากูยับแค่ไหน /ตัวสั่น
หน้าบทนำ เปิดมาด้วยฉากต่อสู้มั้ง? ไม่บรรยายฉาก ไม่บรรยายคน แทบไม่บรรยายอะไร ส่วนใหญ่มีแต่บทสนทนาและอัศเจรีย์รัว ๆ
ใช้การบรรยายแบบไม่ค่อยมีชื่อตัวละคร มีแต่แบบ "ผู้ถูกไล่ล่า" "ผู้ที่เต็มไปด้วยบาดแผล" "เจ้าของเสียง..." "สามี" "ผู้ลอบโจมตี" ซึ่งจากการแทบไม่บรรยายอะไรของเขาเลยทำให้กูงงไปหมด ตกลงใครล่าใคร ใครมีแผล ใครสามีใคร
ส่วนสถานการณ์ในเรื่อง กูก็ไม่รู้อีกว่าใครทรยศใครกันแน่ ใครเป็นพี่ใคร ใครโดนแทง งงไปหมด หรือกูง่วงกูเลยงงวะ ถ้าเพื่อนโม่งอ่านแล้วไม่งง คงเป็นความผิดกูเอง
บทสนทนาพูดยาวเป็นวรรคเป็นเวร ยืดเยื้อ ไม่เหมาะกับสถานการณ์เลย และบอกตรง ๆ กูรกตากับอัศเจรีย์มาก!!! มีทุกคำพูด!!! กูอ่านแล้ว!! สะดุ้ง!!! แถมยัง!!! ใส่มาตั้งหลายตัว!!
อ้อ บทบรรยายให้กลิ่นอายแฟนตาซีมาก ระเบิดพลังปะทะกันเปรี้ยงปร้าง ๆ จีนแค่อย่างเดียวคือชื่อตัวละคร
คำผิดก็ อัสนีบาต >> อสนีบาต
กังวาล >> กังวาน
กฏ >> กฎ
ส่วน "ราชัน" แปลว่ากษัตริย์ "ราชันย์" แปลว่าเชื้อกษัตริย์ กูเห็นคนเขียนใช้ "ราชันย์ลำดับที่__" จากการที่กูยังไม่เก็ตเนื้อเรื่องกูเลยไม่รู้ว่าเขาควรใช้คำไหน ก็ควรพิจารณาดู
ฯลฯ
สรุปคือกูคิดว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสะเปะสะปะมาก รู้สึกกระท่อนกระแท่น ยังไงดีวะ กูไม่เก็ตตั้งแต่คำโปรยในหน้าข้อมูลเบื้องต้น บทนำก็ไม่เก็ต บรรยายงง บทสนทนางง และอัศเจรีย์เล่นใหญ่มาก
ด้วยความงงระดับนี้กูก็ไม่สามารถบอกได้ว่ารู้สึกแย่แค่ไหน เอาเป็นว่ารู้สึกงงมากกว่า
หรือเพราะกูง่วงนะ อาเมน
ประมุขมารเลี้ยงต้อย https://writer.dek-d.com/ArtLie/story/view.php?id=1742964
กูไปเจอมา! อ่านผ่าน ๆ กูชอบนะ ภาษาก็ได้เลยแหละ ความน่ารักที่แทรกอยู่ก็ใช้ได้ แงงงง เอ็นดู
แต่ขัด ๆ กับบางคำแบบ โลกา กายา ใช้เป็น โลก กาย ไรงี้ไปเลยน่าจะดูดีกว่า
มึงใครอ่านชะตาพ่าย นางร้ายข้ามภพแล้วแล้วสปอยตอนจบกูหน่อย คือกูชอบแรกๆมาก แต่หลังๆกูเริ่มรู้ออกอ้าว ละนิสัยนางเอกเริ่มหลุดอะ คือแรกๆนางกล้าพูด กล้าทำ คิดไรก็พูดออกมา พอเข้าวังกูก็งงมีไรก็เก็บไม่พูด ขนาดท้องยังปิด เพื่อ!!? อย่างน้อยควรบอกผัวหน่อยปะ จะทำไรอะ กูกลัวแบบจบไม่ถูกใจกูอีก เลยลังเลว่าจะซื้อเก็บดีมั้ย
>>966 มีคนสปอยล์อยู่ในกลุ่ม ผ. อะ กูก็อปมาแปะให้
[สปอยล์ชะตาพ่ายฯ]
.
.
.
.
.
"เฉลยทุกปมเลยค่ะ ถือว่าจบดีแต่อาจจะมีเสียน้ำตาไปนิดหนึ่ง 5555 #โอวหยางหมิงเซียนได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ต่อจากเฟยหลงที่เป็นอาค่ะ #เด็กๆน่ารักมากวันที่สองแฝดเกิดมีเหตุกาณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับเฟยหลงกับอวี้เอ๋อร์ด้วยค่ะร้องไห้เลย 😭 #นางหงส์ของฉู่เจาหรานยังเป็นสตรีตระกูลไป๋อยู่ค่ะ #แอบมีต่อในยุคปัจุบันด้วยนะคะเกี่ยวกับไป๋อวี้หรือหยกนภาในชาติปัจจุบัน สปอยเยอะไปมั้ยคะหรือไม่ช่วยอะไรเลย 55555 หวังว่าจะช่วยในการตัดสินใจได้นะคะ ^^"
"Happyคะ มังกรดำพระเอกของเราจัด)ากแกล้งตายอยากลงบังลังก์ พาลูกเมียท่องเที่ยว"
"นางเอกเป็นไทเฮาแต่ไม่ปกครองวังหลังนะคะ ยกให้น้องสาวไป๋วเสวี่ยแทน แต่มีมาจัดการลูกชายที่เป็นไท่จือแทนมีมาใช้อำนาจนิดๆๆในตอนพิเศษ"
"พระเอกรู้นางท้องแต่แรกละ ปล่อยให้นางแสดงคะ เพราะรู้ว่านางเอกอยากให้แต่งตั้งหลานชายเป็นไท่จือ <อีอดีตคนที่นางเอกเคยรักก่อนข้ามภพมาสิงร่าง>"
"ไทเฮาไม่เลิกร้ายพระเอกเลยวางแผนตลบหลัง ช่วงนี้มีดราม่าน้องนางเอกแท้ง นางเอกถูกกล่าวหาว่าทำ พระเอกเมิน<สุดยอดแผนของพระเอก> สรุปนางเอกเกือบฆ่าตัวตายแต่เดชะพลอตเขียนนางเอกห้ามตายลูกดิ้น นางเอกเลยไม่ทำ"
.
.
.
.
.
แกล้งเหมือนหนีหมีงี้ก็ได้หรอ555555
ละพวกสนมพระเอกอะ นางเอกจัดการยังไง
ที่จริง กูว่า ปัญหาเยอะขนาดนี้ จะขึ้นบัลลังก์แต่แรกทำไม 55555
เออ ไม่ต้องขึ้น ให้หมิงขึ้นเลยก็ได้ป่ะวะ มันติดปัญหาอะไรที่หนักหนาจนแก้ไขไม่ได้รึ?
*ปุกาด มาพบกันอีกครั้งนะคะกับช่วง หนังสือออกใหม่ช่วงนี้ บางเรื่องกูลิสต์ไปยังวะ จำไม่ได้*
แสนเลิฟอ้ายหนี่
- ชายาจoมทัwเคียJใจเฉิJอ๋อJ
- แพรขาวสามศอก
เลิฟยู
- เมียกระโดดกำแพง
- เสี้ยวoสูs (แนว Y)
โม่งที่รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลองคนใดสนใจก็สามารถไปตำกันได้จ้า โม่งที่ผิดหวังจากลี่ลี่ยังอยู่ไหม นายอยากไฝว้หรือเปล่า
>>975 กราบนะ นักเขียนคนไหนส่งงานไปตีพิมพ์แล้วเนี่ย หาเวลาซักห้านาทีมาตรวจคำผิดหน้าคำโปรยกับบทแรกซักนิด เปิดไปเจอ ตัดขั่วหัวใจ มันทำให้งานซึ่งอาจจะดีก็ได้กลายเป็นงานไม่มีราคาขึ้นมาทันที กูซื้อหนังสือเยอะมากเพราะพ่อกับพี่ช่วยจ่าย ชุดละพันก็ซื้อ แต่เจอในเว็บแบบนี้ก็เปลี่ยนใจไม่อยากอ่าน พยายามทำใจว่าหนังสือตรวจปรู๊ฟแล้ว ไม่ผิดเหมือนในเว็บ แต่ในเว็บผิดจะๆ หน้าแรกนี่มันรู้สึกว่านักเขียนชุ่ยอะ ติดลบทันทีเลย ก็อยากเปิดใจอะนะ แต่คนเขียนต้องทำให้คนอ่านรู้สึกประทับใจได้ด้วยปะ หน้าแรกมันก็เหมือนหน้าตามึงอะ เปิดมาเจอสวยสะอาดตาก็น่ามอง เปิดมาเจอเหงื่อหยดขี้ไคลดำปื้นกูก็ไม่ไหวนะ
มึง กูไปเจอเรื่อง "จอมนาง คู่บัลลังก์" มาเว้ย อ่านไม่ผิด เป็นเซินเจิ้น ไม่ใช่จีนแปล นี่ https://www.readawrite.com/a/28815d7a5372c2125e339e91d644350f
ทำอีบุ๊กด้วย เข้าไปส่องในอีบุ๊กเห็นว่าตีพิมพ์กับสนพ.แสง star
แบบนี้มันได้เหรอมึง หรือว่าแค่เว้นวรรคห่างก็ถือว่าคนละชื่อเรื่องกันละ
จอมนางก็มี
ข้าอยู่บนท่านอยู่ล่างก็มา
ชื่อเรื่องซ้ำกันมันเป็นไปได้ แต่อันนี้จงใจมากไป กะใช้ชื่อเรื่องที่ดังอยู่ก่อนมาเรียกคนเข้านิยายตัวเอง แบบเซิร์ชแล้วเจอเลยเข้าไปอ่าน เจตนาไม่ดีตั้งแต่แรกแล้ว
มึง ชายาอ๋องกระดูกเหล็กผ่านพิจารณาสนพ.สถพบ.แล้วววว สนุกมั้ย
Happy new yearเพื่อนโม่ง ขอให้มีนิยายน่าอ่าน น่าสับต่อไปปปป
>>957 เพราะมันมีคำที่ใช้อยู่แล้วไงคือ เล่าลือ
เล่าลือ
ก. แพร่ข่าวกันแซ่ เช่น เขาเล่าลือกันว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่.
แม่คำของ "เล่าลือ" คือ เล่า
ถ้ามาแต่งคำใหม่โดยยกคำที่มีในพจนานุกรมมาประกอบกัน ร่ำ+ลือ แล้วใช้ในความหมายเดียวกับ เล่าลือ ก็ถือว่าไม่ถูกไง ไม่ใช่คำมาตรฐาน
ส่วน จบสิ้น จบชีวิต มันไม่ใช่คำศัพท์ จบสิ้น เป็นคำซ้อน เหมือนคำว่า เสื่อสาด ก็เป็นคำซ้อน ไม่มีในพจนานุกรมแต่ก็ใช้กันได้
จบชีวิต เป็นประโยค มีกริยา มีกรรม ไม่ต้องอยู่ในพจนานุกรม
ถ้าจะถามว่าทำไมคำศัพท์นี้ไม่เก็บ คำซ้อนนี้ทำไมเก็บ ทำไมคำโน้นไม่เก็บ คงต้องไปถามราชบัณฑิต
แต่ว่านะ อีกหน่อยอาจจะเป็นเหมือนคำว่า ร่ำลา ก็ได้ สมัยเรียนครูภาษาไทยย้ำว่า ร่ำลา ผิดนะ ต้อง ล่ำลา
แต่หาในพจนานุกรม 2554 เจองี้
ล่ำลา
ก. อำลา, ลา, ร่ำลา ก็ว่า.
กลายเป็นว่า ร่ำลา ถูกแล้วจ้าในปัจจุบัน ครูคงปวดหัวต้องไปท่องใหม่
วันก่อนอ่านเรื่องนึง นักเขียนตัดพ้อว่าเมนต์น้อยลงเรื่อยๆ ไม่สนุกแล้วเหรอ ก็เลยจะไปเมนต์ให้กำลังใจซะหน่อย
ปรากฏเป็นเมนต์ที่พันกว่า เอิ่ม หันไปดูเรื่องอื่นที่ตามอยู่ เมนต์หลักสิบหลักร้อย...
>>990 มาๆ วันนี้โทรไปถามราชบัณฑิตยสภามาแล้ว เห็นค้างคามาตั้งแต่ปีที่แล้ว
อาจจะยาวหน่อย ขอโทษเพื่อนโม่งทั้งหลายด้วย
(นี่คือ เจ้าของเม้นต์ 954 955 957 นะ)
ตามที่คุยกับเจ้าหน้าที่ราชบัณฑิตฯ วันนี้
เรื่องที่เข้าใจกันว่า "ร่ำลือ" ผิด เพราะไม่มีในพจนานุกรมราชบัณฑิต มีแต่คำว่า "เล่าลือ"
เลยให้ใช้ "สมคำเล่าลือ" แทน "สมคำร่ำลือ" นั้น
เจ้าหน้าที่ย้อนถามมาเลย ว่าเอามาจากไหน เพราะอะไรถึงคิดแบบนั้น
เพราะในพจนานุกรม มันไม่สามารถบรรจุภาษาไทยทุกคำไว้ในเล่มเดียวได้หมดอยู่แล้ว ปัจจุบันนี่สี่หมื่นกว่าคำแล้วในเล่ม
มีคำซ้อน คำขยาย วลี กลุ่มคำ คำประสมบางคำ อะไรอีกสารพัด ที่ไม่ได้บันทึกไว้
(ก็เหมือนที่เพื่อนโม่ง >990 อธิบายคำว่า จบสิ้น เป็นคำซ้อน พจนานุกรมไม่บันทึก
ก็ถูกแล้ว ตรงนี้เข้าใจตรงกันนี่ ก็ที่ยกตัวอย่างคำมาเปรียบเทียบมากมาย ก็เพื่อจะบอกว่าพจนานุกรม ค้นไม่เจออีกเยอะแยะ ถ้าจะเอาหลักนี้มาตัดสิน ร่ำลือ มันจะได้เหรอ)
(***ส่วนคำว่า จบชีวิต ที่เพื่อนโม่งบอกว่าเป็นประโยค มีกริยา มีกรรม อันนั้นเพื่อนโม่งน่า
จะจำผิดแล้ว ประโยคอย่างน้อยๆ มันต้องมีประธาน+กริยานะ ไม่ขอลงรายละเอียดมากนะ มันอยู่ในภาษาไทยเบื้องต้นเลย)
มาๆ ต่อๆ
เพราะฉะนั้น "ร่ำลือ" มันมาจากคำว่า
"ร่ำ" แปลว่า ก. พูดซํ้า ๆ, พรํ่า, เช่น ร่ำว่า ร่ำสั่ง ร่ำสอน
"ลือ" แปลว่า ก. พูดกันทั่วไป แต่ยังไม่มีอะไรยืนยันได้แน่นอน เช่น เขาลือว่าจะเกิดเหตุที่ท่าน้ำ
จะเห็นว่า พอรวมคำแล้วความหมายตรงๆ ตัวเลยคือ พูดซ้ำๆ พูดกันในเรื่องที่ยังยืนยันไม่ได้ ลือกันซ้ำๆ
เพราะฉะนั้น คำซ้อน กลุ่มคำ วลี อะไรที่มันรวมคำแล้วความหมายตรงๆ ตัว คงเดิมแบบนี้
ส่วนใหญ่พจนานุกรมไม่มีความจำเป็นต้องบันทึกอยู่แล้ว
(ก็ตรงกับที่เราสันนิษฐานไว้จริงๆ )
และ "ร่ำลือ" ก็ไม่ใช่การนึกจะผสมคำเองก็ผสมจนกลายเป็นคำผิดหรือไร้มาตรฐาน ที่พยายามจะเอามามั่วใช้แทนเล่าลือที่มีอยู่แล้วด้วย
แต่คำนี้เป็นคำที่มีความหมายเข้าใจโดยทั่วกัน และมีใช้กันในงานเขียนที่เป็นทางการนานมากแล้ว
(อย่างบทความจดหมายข่าวของราชบัณฑิตที่เรายกมาตั้งแต่แรกใน >954 ว่าถ้ามันผิด ทำไมราชบัณฑิตเองยังใช้) วันนี้พอคุยกับเจ้าหน้าที่ ถึงได้รู้ว่าบทความนี้เขียนโดยอาจารย์ผู้ชำนาญการของราชบัณฑิตเองด้วย บทความเขียนตั้งแต่ปี 2532 โน่นแล้ว (ดังนั้นก็ตัดประเด็นที่ว่าราชบัณฑิตอาจจะมาเพิ่มตอนหลังไปได้ด้วยอีกเรื่องเลย)
และที่สำคัญ "ร่ำลือ" ก็ยังมีปรากฏในพจนานุกรมฉบับอื่นๆ ที่ใช้กัน เช่น พจนานุกรมของ สอ เสถบุตร ด้วย (พอมาค้นดูทีหลัง หลังจากคุยกับราชบัณฑิต เก่าหนักเข้าไปอีก เพราะ สอ เสถบุตร ตายตอนปี 2513 พจนานุกรม จะปีไหนคิดเอา แต่ช่างเถอะเรื่องเก่า เดี๋ยวจะหาว่าก็ผิดมาตั้งแต่ยุคเก่าอีก มาดูประเด็นสำคัญกันดีกว่า)
***********************************************************
*******อันนี้สำคัญมาก*******
มีหลายคนเข้าใจว่า ต้องเชื่อแต่พจนานุกรมราชบัณฑิตเท่านั้น
ก็ูถูก ถ้าในกรณีที่พจนานุกรมบางที่เกิดสะกดคำศัพท์ไม่เหมือนราชบัณฑิต
อันนั้นก็ต้องยึดราชบัณฑิตอยู่แล้ว อย่างพวกพจนานุกรม sanook นี่คำสะกดผิดเยอะมาก
แต่ในกรณีนี้ เมื่อมีพจนานุกรมอื่นมีบันทึกไว้ และมันคือคำที่ไม่ได้บันทึกไว้แบบรวมคำในราชบัณฑิตด้วยเหตุผลที่บอกไปแล้วตอนต้น จะเห็นว่ามันคนละเคสกับการสะกดผิดเลย จะบอกว่าไม่ควรเชื่อพจนานุกรมอื่น ให้ยึดแต่ราชบัณฑิตเท่านั้น ไม่ใช่แล้ว
เจ้าหน้าที่ยังบอกด้วยว่า ตอนนี้ทางราชบัณฑิตเอง ถึงพยายามจะรวบรวมเรื่องเพจแวดล้อม พจนานุกรมแวดล้อม เกี่ยวกับพวกคำศัพท์อื่นๆ อะไรพวกนี้อยู่ด้วยเหมือนกัน
การจะหาข้อมูลว่าคำนี้คำนั้นใช้ได้หรือไม่ สามารถดูพจนานุกรมอื่นๆ ประกอบด้วย
ก็ประมาณนี้ ที่เจ้าหน้าที่บอกมา ***ที่วงเล็บคืออธิบายหรือแสดงความคิดเห็นนะ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่พูด
สุดท้ายสิ่งที่เจ้าหน้าที่บอกมาทั้งหมดเนี่ย มันเป็นแค่ข้อมูลที่มีในมือเจ้าหน้าที่เขานะ เป็นหลักการหาศัพท์ หลักการใช้พจนานุกรม เป็นวิธีการไขข้อสงสัยทางการคุยผ่านโทรศัพท์เท่านั้น
ถ้าจำเป็นต้องมีการอ้างอิงทางวิชาการอะไรที่มากกว่านี้ ต้องการหลักฐานเป็นลาย
ลักษณ์อักษร
เจ้าหน้าที่เขาก็แนะนำว่า ให้ Mail ไปถาม
จะมีอาจารย์ผู้ชำนาญการอาวุโสต่างๆ มาตอบแบบเป็นทางการให้อีกที
หรือจะเข้าเว็บพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิต ที่มันมีระบบ
แนะนำคำศัพท์ ไปเพิ่มคำศัพท์ไว้ตรงนั้นก็ได้ แต่ก็จะช้าหน่อยถึงช้ามาก
***เพิ่มเติม***
(จริงๆ บทวิเคราะห์ใน >946 ที่หลายๆ คนอ่านแล้วเห็นด้วยเนี่ย ไม่แน่ใจว่าลืมอ่านตรงที่ คนเขียน เขา ป.ล. ไว้หรือเปล่า ที่เขาบอกว่า มันมาจากการคิดเองเออเองของเขา ถ้านักภาษาศาสตร์เห็นว่าไม่ถูกต้อง ก็ขอคำแนะนำด้วย)
กูอ่านทุกเม้นนะ หมายถึงค่อยอดกูรวมหลักพันนะ ไม่ใช่ต่อตอน อ่านทุกอันอันละหลายรอบ ดาวน์ๆก็หยิบมาอ่านได้
ให้กูสร้างตำหนักใหม่เลยไหม
กูปิดให้
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.