Fanboi Channel

รวมพลนักเขียน แชร์เทคนิคประสบการณ์และข่าวสาร [กระทู้ที่ 21]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:29Xn8qVO4W

กระทู้เพื่อพูดคุยเทคนิคการเขียน และเรื่องการประกวดต่าง ๆ เกี่ยวกับนิยาย

กระทู้ 1 >>>/literature/2342/
กระทู้ 2 >>>/literature/3442/
กระทู้ 3 >>>/literature/4775/
กระทู้ 4 >>>/literature/5724/
กระทู้ 5 >>>/literature/7084/
กระทู้ 6 >>>/literature/10634/
กระทู้ 7 >>>/literature/12326/
กระทู้ 8 >>>/literature/12952/
กระทู้ 9 >>>/literature/13391/
กระทู้ 10 >>>/literature/13744/
กระทู้ 11 >>>/literature/14253/
กระทู้ 12 >>>/literature/15039/
กระทู้ 13 >>>/literature/15642/
กระทู้ 14 >>>/literature/16386/
กระทู้ 15 >>>/literature/16722/
กระทู้ 16 >>>/literature/17022/
กระทู้ 17 >>>/literature/17223/
กระทู้ 18 >>>/literature/17576/
กระทู้ 19 >>>/literature/17967/
กระทู้ 20 >>>/literature/18263/

กระทู้ ระบาย 1 >>>/literature/3325/

2 Nameless Fanboi Posted ID6:MvbK.FxaAm

โอเคเดี๋ยวจะลองทุบหัวนักอ่านด้วยเล่มแรก 1 เล่ม (60 ตอน) ไปเลยดีกว่า
ถ้ามันอยู่ซัก 15 วัน ลงวันแรกลง 20 ตอน แล้วจากนั้นก็วันละ 3 ตอนยังได้ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ

3 Nameless Fanboi Posted ID6:52FaYRZslx

Ky กูไปเจอนข.แคปคอมเม้นนักอ่านที่คอมเม้นแย่ๆประมาณว่าเขียนนิยายเวิ่นเว้อ ไม่แปลกที่ไม่มีคอมเม้นบลาๆ
ถ้าเจอคอมเม้นในลักษณะนี้(ไม่มีประโยชน์;บั่นทอน;ปสด.) นักเขียนที่ดีeqสูงควรทำอย่างไรเหรอวะ
แคปแขวนเสียบประจาณ;หนีไปร้องไห้เลียแผลใจไม่เขียนนิยายอีกต่อไป; ด่ากลับ3หน้าa4 ;คิดว่าหมาเห่าแล้วลบเงียบๆ

4 Nameless Fanboi Posted ID6:1.eElQY33y

ตัยล่ะกู หลังจากได้เห็นยอดรี้ดใน ดด. แล้วทำหมดกำลังใจจะเขียนต่อเลย ถถถถถถ
แต่ก็ยังเขียนต่อนั่นล่ะ เขียนมันมาปีกว่าแล้วอ่านคนเดียว สนุกคนเดียวมาตลอด ยอมรับแหละว่ามีไหวหวั่นบ้างแอบคิดว่าเลิกเขียนไปเลยจะดีมั้ย แต่สุดท้ายพอนอนซักตื่นก็กลับมานั่งเขียนต่อซะงั้น

เดี๋ยวรอย้ายไป รอร. แทนดูสิว่าจะเป็นยังไง

5 Nameless Fanboi Posted ID6:xc/LCUW6qX

>>3 ข้อสุดท้ายเลยมึง คิดว่าเสียงหมาเห่าแล้วลบเงียบๆ จะข้อความไร้สาระไว้รกหน้านิยาวตัวเองทำไม ถ้าจับแขวนมีแววเกมพลิกด้วยซ้ำว่าแค่นี้ต้องประจานกันเลยเรอะ ถ้าจะหลบไปเลียแผลใจเลิกเขียนก็เหมือนไม่เห็นนักอ่ทนที่เหลือซึ่งไม่เคยด่ามึงอะแต่ตามอ่านงานมึงอยู่นะ

6 Nameless Fanboi Posted ID6:1.eElQY33y

ว่าไปกูลองสังเกตดู... ถ้าอยู่หมวดแนวแฟนตาซีนี่ยังไงก็ไม่ปังแฮะ
กลับมีเรื่องนึงกันแค่ย้ายหมวดไป Boy love ขนาดชื่อเรื่องเป็นแนวระบบ + จั๋วหัวว่า harem ในเรื่องก็ไม่มีความเกเรเลย เป็นแนวแฟนตาซีระบบทั่วไปแบบชัดเจน แต่ยอดคนอ่านอย่างเยอะซะงั้น

อีกเรื่องคือย้ายไปอยู่หมวดรักจีนโบราณ แต่ลองอ่านแล้วเนื้อหาไม่เกี่ยวกับความรักเลย แถมเป็นแนวดูยังไงก็เป็นแนวทะลุมิติมายุคจีนโบราณ แฟนตาซีจ๋า ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันมาข่มชาวบ้านแบบเดิม ได้ยอดคนตามอย่างเยอะเลย

พอมาถึงจุดนี้แล้วกูก็แอบคิดนะว่า ...หมวดแฟนตาซี มันมีอาถรรพ์อะไรรึเปล่าหว่า? หรือว่าคนมองแค่เป็นหมวดแฟนตาซีก็ส่ายหน้าแล้ว?

7 Nameless Fanboi Posted ID:NajjEtxYrq

ky เห็นช่วงนี้คนอวยกันเรื่องพระเอกนางเอกธงเขียวกันเยอะ กูเลยกังวลเรื่องภูมิหลังของพระเอกกูอ่ะ เมื่อก่อนพระเอกเคยมีแฟนแต่แฟนเก่าคนนี้เป็น gold diggerผสมคาสโนวี่ พอพระเอกทำงานเหนื่อยๆกลับคอนโดด้วยในใจที่คิดว่าจะขอหมั้นแฟน แต่มาเจอแฟนกำลังคั่วกับหนุ่มที่ไหนไม่รู้ (ละครเหี้ยๆเลยกู555) เถียงไปเถียงมาแฟนเก่าโยนขี้ว่าพระเอกนั่นแหละผิด ด้วยอารมณ์มากมายที่สุมในอก พระเอกเลยตบหน้าแฟนเก่าเลือดกลบปาก จนปัจจุบันคบกับนางเอกแล้ว พระเอกกูก็ยังยืนยันว่ามันก็ไม่รู้สึกผิดนะที่ตบหน้าแฟนเก่า งี้พระเอกกูยังกรีนแฟล็กอยู่ป่าววะ ยิ่งเทียบกับนางเอกกูที่มาไทป์นางโศกบ้านจนแต่จิตใจดีอีก แต่กูก็ไม่อยากเอาภูมิหลังตรงนี้ออกอ่ะ เพราะกูรู้สึกว่าพระเอกมันก็ไม่ใช่ผู้ชายเพอร์เฟคดี มีจุดดำๆบนความขาวบ้าง เป็นจุดเปิดใจที่ให้นางเอกเข้าใจว่าพระเอกที่เคยเทิดทูนว่าเป็นดั่งเจ้าชายรูปงามก็ไม่ได้ดีไปหมดดุจนิยาย แต่ไม่รู้ว่าชาวบ้านชาวช่องจะเข้าใจได้เหมือนนางเอกกูหรือป่าวนะ

8 Nameless Fanboi Posted ID:NajjEtxYrq

>>7 เออลืมใส่ว่าพระเอกกูไม่ใช่นักเลงหัวไม้อะไรขนาดนั้น ไม่มีทางทำร้ายนางเอกแน่นอน555 แต่ตอนตบหน้าแฟนเก่าคือมันสุดจะทนแล้วจริงๆอ่ะ มันจะไม่เป็นไอ้เหี้ยไปหน่อยมั้ยวะ ยิ่งกระแสธงเขียวมาแรงอยู่//กัดเล็บ

9 Nameless Fanboi Posted ID6:3MKFb2wdga

>>7 ส่วนตัวกุอ่านถึงตบเลือดกลบปาก จุดนึงที่กุคิดขึ้นมาคือถ้าอยู่ในชีวิตจริงเป็นกุคงไม่เอาผู้ชายคนนี้เป็นผัวแน่ ๆ ตอนรักกันดีอาจจะดีมากก็จริง แต่ใครจะรู้ขืนทำให้โมโหมากมันจะตบกุเลือดกลบปากเหมือนแฟนเก่ามันมั้ย ขึ้นอยู่กับมึงแล้วแหละว่าบรรยายพระเอกออกมาให้มีข้อดีจนกลบจุดด้อยตรงนี้ยังไง สู้ๆ

10 Nameless Fanboi Posted ID:NajjEtxYrq

>>9 ก็พระเอกกูเป็นผู้ชายอกสามศอกตัวสูงเล่นกล้าม ตบหน้าผู้หญิงตัวบางๆแค่ทีเดียวก็เลือดออกอยู่แล้วดิ555นี่ตรรกะที่กูคิดนะ แต่ที่ผ่านมากูก็เขียนให้พระเอกเป็นคนดีโคตรๆ ไม่ติดพนัน ไม่ติดอบายมุขใดๆ ไม่เคยเมาจนขาดสติ ตั้งใจทำงานดี ไม่เคยตัดสินใครจากข่าวลือจนกว่าจะเห็นจะๆคาตา (มันเลยโดนแฟนเก่าหลอกเอาเงินไปเป็นล้าน ทั้งๆก็เคยได้ยินข่าวลือแย่ๆแท้ๆจนมาโดนสวมเขาจะๆ) ด้วยนิสัยที่มันไม่ตัดสินใครจากข่าวลือ นางเอกที่ทำงานพาร์ทไทม์เป็น reception ในม่านรูดเฉยๆแต่โดนข่าวลือว่าขายตัวในนั้น เลยประทับใจพระเอกที่ไม่ตัดสินตัวเองจากข่าวลือ แถมพระเอกก็ไม่ได้ให้นางเอกออกจะงานเพราะอี๋งานอย่างว่าด้วย (จริงๆพระเอกจะช่วยเรื่องเงิน แต่นางเอกไม่เอาเอง) จนมาเจอแฟนเก่าพระเอกมาแฉว่า มึงจะคบกับไอ้ชายแท้นั่นจริงหรอ มันเคยตบหน้ากูนะ นางเอกเลยไปถามพระเอกแล้วนำไปสู่ภูมิหลังของพระเอกที่กูบอกอ่ะ

แต่ก็ขอบคุณมึงมากนะจุ๊บ เอาเป็นว่ากูตัดซีนเลือดกลบปากออก เหลือแค่ตบหน้าเป็นรอยแดงปื้นๆพอล่ะกัน มันจะช่วยลดทอนความรุนแรงหน่อยนึงมั้ยอ่ะ

11 Nameless Fanboi Posted ID6:VGY/cfeNmo

>>10 กูไม่ใช่ 9 แต่เห็นด้วยกะ 9 นี่เคยอ่านนิยายแปลจีนเรื่องนึง พอ. ตบหน้า นอ. หันด้วยความโมโห ตอนนั้นยังไม่ได้คบกันนะ เป็นแค่คนรู้จักที่เริ่มๆ มีใจ เนื้อเรื่องก็พยายามปูให้มีเหตุผลเข้าใจได้ของมันมั้ง และคงพยายามสื่อว่าทุกคนเทาๆ แต่ส่วนตัวกู หลังจากนั้น อีก 6 เล่ม 7 เล่ม ไม่ว่าคนเขียนจะบรรยายว่าพอ. เป็นคนดี ยอมตายแทน นอ. ได้แค่ไหน ความในใจ นอ. บอกว่าประทับใจและรักผช. คนนี้แค่ไหน ในหัวกูจะแพลชแบ็กไปฉากตบหน้านั้นตลอด และจนจบเรื่อง กูก็ไม่อินกับความรักคู่นี้
สำหรับกู ถ้าทำร้ายร่างกายตอนโมโหได้ ไม่มีอะไรการันตีจริงๆ ว่าจะไม่ทำอีก แต่คนอ่านมึงก็ร้อยพ่อพันแม่แหละ บางคนติดใจ แต่อาจมีอีกเป็นล้านที่ไม่ติดใจก็ได้

12 Nameless Fanboi Posted ID:NajjEtxYrq

>>11 แต่นี่มันแฟนเก่านิสัยเหี้ยๆของพระเอกอ่ะ โดนหลอกเอาเงินไปเป็นล้าน โดนสวมเขาคาตา แต่พระเอกก็ได้รับผลจากการกระทำนี้คือ โดนปรับกับฝากขังคืนนึง(ตบแฟนเก่าทีเดียว แต่กระทืบชู้เละ) ถ้าเป็นผู้ชายแมงดามาหลอกแบบเดียวกันแล้วนางเอกตบเอาคืนนี่กูจะไม่มานั่งถามหรอก เพราะกูก็เข้าใจแหละว่าถ้าเป็นผู้ชายเป็นฝ่ายลงมือมันจะดูรุนแรงกว่า แต่กูมองคนเป็นบุคคลๆโดยไม่เกี่ยวกับเพศอ่ะ แล้วพระเอกก็ไม่มีวันทำร้ายนางเอกแน่นอน--- เชี่ยเอ๊ยยยยยยยยยยย สับสนแล้วว่ะหรือกูโยนฉากตบทิ้งแม่ง แล้วเปลี่ยนเป็นพระเอกเดินอาดๆเหมือนมาตบแต่เบี่ยงเป็นกระทืบชู้แฟนเก่าเละคาตีน ระบายอารมณ์ที่โดนหลอกเอาเงินแทนได้มั้ยวะ

13 Nameless Fanboi Posted ID6:52FaYRZslx

>>12 มึงจากใจกูที่ไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรกับมึง (กูแค่ขี้เสือก)อย่าใส่ฉากตบเลือดกลบปากเลย ไม่ควรอย่างยิ่ง เปลี่ยนเป็นทำให้คนอ่านคิดว่าจะตบแต่เบี่ยงไปชกกำแพง หรือตบชู้ผู้ชายก็ได้แต่ทำร้ายผู้หญิง ไม่ได้เด็ดขาดนะมึง เต็ม10มาทุกตอนจะโดนหักหมด ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม จะขึ้นชื่อตีตราว่าไอ้นี่ตีเมีย

14 Nameless Fanboi Posted ID6:3MKFb2wdga

>>12 กุ 9 เห็นด้วยกับ 13 ลองเปลี่ยนเป็นเกือบจะตบแต่หันไปทำอย่างอื่นแทนดีกว่า คือต่อให้มึงจะใส่มาว่าผู้หญิงคนนั้นเลวชั่วมาก ๆ แต่มันต้องมีนักอ่านบางส่วนแหละที่คิดเหมือนกุว่าเวลาพระเอกฟิวขาดมาก ๆ จะชอบใช้กำลัง ตอนนี้มั่นใจเต็มล้านว่าพระเอกไม่ตบนางเอก แต่มันจะพอจินตนาการต่อได้ไงว่าถ้าโมโหขึ้นมามากจริง ๆ จะตบนางเอกป้ะวะ หรือถ้ามึงจำเป็นต้องใช้ฉากพระเอกทำร้ายแฟนเก่าเพื่อให้ตอนหลังนางเอกเกิดการระแวง อาจจะเขียนประมาณว่าพระเอกจะตบนั่นแหละแต่หักใจทันเลยหันไปปาแจกันอะไรว่าไป แล้วเศษแจกันกระเด็นไปบาดแฟนเก่า แฟนเก่าเลยเอาไปโมเมว่าพระเอกทำร้ายร่างกาย (ละครมั้ย 5555) แต่ก็แล้วแต่มึงจะพอใจนะ นิยายมึง เขียนที่มึงพอใจ

15 Nameless Fanboi Posted ID:NajjEtxYrq

>>13 โอเค งั้นกูรับข้อเสนอคนขี้เสือกอย่างมึงนะ//จับมือ เปลี่ยนเป็นพระเอกเดินไปชกกำแพง กัดฟันกรอดๆแล้วไล่แฟนเก่าด้วยน้ำเสียงเย็นๆ แต่ชู้ผู้ชายไม่จบเลยกระทืบไอ้ห่านี่จนพระเอกนอนคุกไปคืนนึง ส่วนที่ข้อหาแฟนเก่าพระเอกมาไซโคนางเอกคือ พระเอกเป็นคนหัวรุนแรงเคยกระทืบคนจนนอนคุกมาแล้ว แบบนี้ดูดีขึ้นรึยัง (นี่พระเอกกูหรือป๋าเดปป์วะไอ้ข้อหาตีเมียเนี่ย5555)

16 Nameless Fanboi Posted ID:NajjEtxYrq

>>14 เออๆเอาแนวละครแบบนั้นก็ได้มึง แฟนเก่าพระเอกสตอเบอแหลยุยงให้คนรักแตกแยก เพราะหมั่นไส้ที่พระเอกรั๊กกกกกกกกรักนางเอกเหลือเกิน555
ปล. ไปๆมาๆทำไมมันมาแนวกรณีเอมเบอร์วะ ฉันโดนจอห์นนี่ซ้อม my dog step on a bee แต่ก็กูเขียนให้นางเป็นนางร้ายหลอกแดกตังค์กับเล่นชู้เองนี่หว่า55555

17 Nameless Fanboi Posted ID6:Y7IN.ybWMy

KY หน่อย พอดีอยากลองหัดเขียนนิยายแนวตลาดบ้าง แต่กูเป็นคนที่ไม่เข้าใจสิ่งที่เรียกว่าความรักว่ะ แฟนก็ไม่เคยมี แถมเป็น introvert ไม่ชอบเที่ยวอีก จนกูไม่มีประสบการณ์อะไรมาเขียนพวกนี้เลย

คือปกติชีวิตกู ตื่นเช้า > ไปทำงาน > เลิกงานไปยิม > กลับบ้านพาหมาไปเดินเล่น > อาบน้ำเสร็จก็มานั่งหน้าคอม

พอลองออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอก ก็ไม่มีความรู้สึกสปาร์คกับใครเลยว่ะ แอบรำคาญด้วยที่จะต้องออกไปข้างนอก อีกอย่างกูโตมาในบ้านที่มีแต่หญิงแกร่งยืนด้วยลำแข้งตัวเองล้วนๆ ส่วนผู้ชายอย่างญาติๆ ก็ไม่เอาอ่าวซักคน ส่วนพ่อกูก็เป็นตำรวจโดนย้ายไปประจำที่อื่นบ่อยๆ นานๆ ถึงจะมาเจอหน้ากันที ตลอดชีวิตกูเลยไม่ค่อยรู้สึกประทับใจผู้ชายเท่าไร จนกลายเป็นพี่น้องทั้งบ้านกูโสดหมดไม่มีใครคบผู้ชายเลย (แต่กับผู้หญิงน่ะมี) เลย

ก็ไม่ได้เหยียดผู้ชายนะแต่คือไม่รู้สึกว่าอยากได้หรืออยากมีเลย กูเลยตั้งคำถามตัวเองละว่ากูจะงัดอารมณ์ งัดความรู้สึกแบบไหนมาเขียนแนวรักวะ? แต่แนวเดิมที่กูเขียนมันขายไม่ออก กูเลยต้องมาหัดเขียนแนวตลาดซะทีแล้วนี่ล่ะ ฮือ~

18 Nameless Fanboi Posted ID6:sH5eHoCtwz

>>17 ยากนะ บางทีนักอ่านก็สัมผัสได้ว่าตัวละครไร้เคมีต่อกัน อย่างน้อยมึงต้องมีนิยายหรือการ์ตูนรักที่ชอบอ่ะ ก็ลองเอามาปัดฝุ่นอ่านกับดูใหม่ว่าชอบอะไร อยากเขียนฉากหวานแบบไหน ไดนามิคยังไง ไม่มีความรักก็เขียนนิยายได้ เผลอๆนักเขียนส่วนใหญ่เป็นงี้กันหมดอะ555

กูก็ Introvert จัดๆไม่ค่อยอินเรื่องรักเหมือนกัน กูไม่มีความรักมานานละ แต่กูพอเขียนนิยายรักได้เพราะมีรักแรกสมัยม.ต้นที่จำฝังใจโคตรๆ เลยเอามาเปลี่ยนคาแรคเตอร์เขาหากินเรื่อยๆ เรื่องแรกที่เขียนคือเอาพระเอกเป็นเขาเลย เรื่องต่อๆมาก็ค่อยๆเปลี่ยน กวนตีนขึ้น สุภาพขึ้น เลวขึ้น กูใช้ประโยชน์จากรักแรกและรักเดียวในชีวิตแบบเต็มที่มาก ก็ใช้ได้อยู่นะมึง คนอ่านหลายคนก็บอกว่าอินฟินกัน555555

19 Nameless Fanboi Posted ID:2uJOxMbokg

>>17 ยินดีด้วยที่กูมาเจอคำถามมึง กูมีคำแนะนำจะให้
ถ้ามึงเล็งเป้าจะเขียนแบบขายวิญญาณเพื่อเงินนะ
เริ่มจากมึงกลั้นใจไถนิยายแนวตลาดอ่านให้จบ คัดเฉพาะที่แมสๆ ได้ป้ายแดง ลงทุนตรงนี้หน่อย เอาให้รู้ว่าทำไมถึงแมส อ่านไปมึงจะเริ่มจับหลักได้
แล้วมึงจะพบว่าความรักในแนวรักมันคือความรักที่โคตรกลวง ปลอมๆเปลือกๆ ไม่ได้ลึกซึ้งไรเลยมึง คนอ่านส่วนใหญ่ในแนวตลาดไม่ได้เสพความซึ้ง เค้าจ่ายเอาฟิน มึงจับจุดให้ถูกก่อน กูดูจากไลฟ์สไตล์มึงแล้ว เอาง่ายๆเลย มึงเขียนแนวแบบที่ตรงข้ามกับชีวิตมึงก็ได้ คือนอ.เป็นผู้หญิงไม่แกร่ง ต้องพึ่งผู้ชายตลอดทุกอย่าง โง่ ไม่เป็นตัวของตัวเอง และก็มีผู้ชาย(พอ. รองพอ.)มาหลงรักแบบกลวงๆ แบบที่มึงอ่านแล้วรู้สึกว่าอิห้าาาา

ถ้ามึงอ่านถึงตรงนี้แล้วสงสัยว่าทำไมต้องทรมานตัวเองแบบนี้วะ ให้วนไปอ่านบรรทัดที่สองของกูอีกที

20 Nameless Fanboi Posted ID6:F6qPEoidD4

>>19 มึงขายวิญญาณ นางเอกไม่ต้องแบบที่มึงว่าก็ได้นะ เป็นหญิงแกร่งสิ คนชอบ มึงให้นางเอกเป็นอย่างมึงว่า นอกจากตัวคนเขียนจะเหยียด นักอ่านก็เหยียด พระรองไม่ต้องจ้า มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่จำเป็นสักเท่าไหร่ เพิ่มความน่ารำคาญไปก็เท่านั้น มึงไปนะนำแบบที่คนอ่านไม่ชอบทำไม

21 Nameless Fanboi Posted ID6:499.5VL8pD

>>17 มึง...(ซุบซิบ🔞) มึง.. มอม้า-สระอา-สอเสือ-เต้อ-เบ ไหม? ถ้าไม่กูไม่มีอะไรแนะนำ //แต่ถ้าทำตอนนั้นมึงนึกถึงใคร จินตนาการสตอรี่แฟนตาซีให้ตัวเองเสวไหม? เอาตรงจุดนั้นมาเป็นวัตถุดิบในการเขียนได้ หื่นๆเสวๆอยากได้ คลั่งไคล้ ให้คนอ่านเกิดอารมณ์หลงใหลร้อนรุ่มอะ

22 Nameless Fanboi Posted ID:v08lWrDG4P

>>21 กูสงสัย ในวงเล็บคือหมายความว่าอะไรวะ แปลไม่ออก555

23 Nameless Fanboi Posted ID6:vyiEksuYw0

>>21 เอิ่ม.. เคสกูใช้ของเล่นช่วย ถ้าไม่เปิด PH ก็ใช้มังงะ/โดจิน 18+ เป็นกับข้าวน่ะ
ส่วนแนวไหนนั้น ...กูเสพย์แนวเฟอร์รี่ว่ะ ถ้าเป็นคนก็ต้องตัวใหญ่ๆ หุ่นหมีมีกล้ามส่วนใหญ่เลยลงเอยแนวฝรั่งทั้งนั้นเลย
ซึ่งนั่นก็ทำเอารสนิยมกูไม่เหมือนคนอื่นอีก โอ้ยยยย

24 Nameless Fanboi Posted ID6:vyiEksuYw0

ส่วนแนวผู้กูก็ชอบจินตนาการถึงก็ดันเป็นแนวดูภายนอกน่ากลัว แต่ภายในสุภาพอ่อนโยนแนวแด๊ดดี้อีก ซึ่งกูก็นึกไม่ออกเลยว่าจะเขียนออกมายังไงเนี่ย

25 Nameless Fanboi Posted ID:c42fcHge+5

>>24 รวมๆ จากที่มึงว่ามากุว่าได้อยุ่นะ เริ่มจากเขียนนอ.ที่นิสัยเหมือนมึงนี่แหละจะได้รีเลทง่าย มีเหตุให้โคจรไปเจอลุงหมีหน้าโหด เมาแล้ววันไนต์/เดตติ้งแอพ/รถชน/ลุงหมีหนีศัตรูตามฆ่า/ลุงหมีชวนมาแสดงละครตบตาเพราะชาตระกูลนางเอก บลาๆ หนือไม่ต้องอะไรหวือหวาแค่รักในออฟฟิศธรรมดา ลุงหมีเป็นท่านประธาน รองประธานก็ได้ ที่สำคัญคือต้องคิดว่า "ถ้ามีคนแบบนี้จริงๆ มาสนใจ เราอยากให้เขาทำอะไรกับเรา" แล้วก็ "เราอยากทำอะไรกับเขา" ไม่เคยมีความรักไม่เป็นไรแค่คิดว่าตัวเองชอบแบบไหนก็พอ สมมติชอบความใส่ใจ สุภาพบุรุษ ก็ได้ละฉากประธานลุงหมีเจอนางเอกที่ลิฟต์แต่เปิดทางให้ไปก่อน

26 Nameless Fanboi Posted ID6:21zTJ9RYbo

KY นิดนึง
กูเพิ่งเข้าวงการนักเขียน อยากลองลงสนามชญบ้าง ปกติเขาโปรโมทกันทางไหนวะ เห็นชชมีพวกแอครีวิวอยู่ แต่ชญนี่เขาเน้นทางไหนกัน มีกลุ่มหรืออะไรแนะนำมะ

27 Nameless Fanboi Posted ID6:C+jRXZhgYP

>>26 ชญ เขียนให้สนุกเหอะ แทบไม่ต้องจ้างรีวิวด้วยซ้ำ ป้าๆ ปากต่อปากกับนักอ่านในอีบุ๊คเค้าพร้อมเปย์ คำโปรยชื่อเรื่องจึ้ง แต่ถ้าจะเอาโปรโมต มึงไปเข้ากรุ๊ป นักเขียนนิยาย V2 แล้วโพสต์หาแอครับโปรโมตเอา ในทวิตชายหญิงก็รับก็มี มึงก็ลองหาตามแท็ก แต่ส่วนใหญ่กูเห็นคนขายดีก็ไม่ค่อยได้ใช้บริการอะไรพวกนี้ เก็บเงินยิงแอดตอนขายอีบุ๊คน่าจะได้ยอดกว่าแอคโปรโมตอีก

28 Nameless Fanboi Posted ID6:C+jRXZhgYP

>>26 ลืมบอกแต่สิ่งที่ทำให้ปังมากจริง คือไต่หน้าใหม่มาแรงใน รอร ให้ได้ ยิ่งมีอีบุ๊คพร้อมแล้วมึงไต่ขึ้นไปยิ่งสูงยอดยิ่งเยอะตาม

29 Nameless Fanboi Posted ID6:C+jRXZhgYP

>>26 โทษทีมือลั่นไปก่อน ขออีกเม้น มึงต้องลืมไปได้เลยว่า ชญ ไม่ใช่ตลาดที่จะเรียกร้องเอาฟรีมากเท่า ชช ทางนี้พร้อมเปย์ให้ เน้นว่าถ้านิยายถูกจริต เจ๊ๆ ป้าๆ ขาเปย์ เรื่องเดียวแสนอัพ รักษาเค้าไว้ได้ก็กินไปยาวๆ

30 Nameless Fanboi Posted ID6:21zTJ9RYbo

>>29 ขอบคุณมากๆ พยายามสำรวจตลาดอยู่ว่าคนชอบอ่านแนวไหน กูคงจะได้ขายวิญญาณ555 แต๊งมาก จะลองปรับดู

31 Nameless Fanboi Posted ID6:itcjlId.bx

>>30 เอาจริงๆ มันก็เศร้าหน่อย ที่ทางชญกำลังซื้อเยอะ แต่ต้องยอมรับว่าพวกป้าขาเปย์ชอบอ่านแต่แนวเดิมๆ เหมือนอยูู่ในเซฟโซน ซึ่งก็ไมไ่ด้ผิดอะไรนะ อาจเพราะคนที่เขียนแนวแหกแหวกมันเขียนกันไม่สนุกเท่านักเขียนที่เขียนแมสๆ แล้วเป็นเซฟโซนของพวกป้าๆ อะนะ วิธีดูก็ไปส่องหมวดท็อปนิยายรักกับโรมานซ์ในเม็ดเอาจะเห็นแนวตลาดชัดว่าอะไรฮิต

32 Nameless Fanboi Posted ID6:5ytI5/yDnY

KY บ้างพอดีเพิ่งเข้ามาอ่านแล้วเจอ >>17 มึงนี่ร่างแยกกูชัดๆ สถานการณ์เดียวกันเลย กูก็ขายไม่ออกแล้วกำลังจะศึกษาแนวตลาด แต่ไม่เคยมีความรัก
ไม่ใช่แค่นั้น กูเองก็โตมากับสภาพแวดล้อมหญิงแกร่งล้วนทั้งบ้าน ส่วนผู้ชายไม่เอาอ่าวเหมือนกันอีก 5555

จะต่างกันก็คือกูเป็นตัวผู้ว่ะ ทีนี้กูก็มานั่งคิดแล้วว่าจะทำยังไงดี มีแนวไหนที่เหมาะกับกูและสามารถเขียนได้บ้าง เพราะกูก็เขียนมาหลายปีแล้วแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จเลยซักที

33 Nameless Fanboi Posted ID:c42fcHge+5

ky ถ้าพูดว่า "ราคาแสนกลาง" มึงเข้าใจว่า 1) 130,000 - 160,000 หรือ 2) 400,000-600,000 วะ กุเข้าใจว่าอย่างแรกตลอด แต่พึ่งเคยเจอคนในชีวิตจริงเขาใช้ในความหมายแบบ 2 กุเลยงงเลย

34 Nameless Fanboi Posted ID6:21zTJ9RYbo

>>31 แต๊งมากๆ ส่องละไฟลุก 555555 ไต่หน้าใหม่รอรนี่ฝั่งชญมันยากมากมั้ยวะ เคยพยายามกับวายละโดนดันลงตลอด กลัวชญจะดันไม่ขึ้น

35 Nameless Fanboi Posted ID6:JXUE+i1k0M

>>33 กุก็เข้าใจว่า 1 แต่ถ้ามันกำกวม เลี่ยงไม่ใช้

36 Nameless Fanboi Posted ID6:JXUE+i1k0M

>>34 ยากพอกัน อาจจะยากกว่าด้วย 😅

37 Nameless Fanboi Posted ID6:JXUE+i1k0M

>>32 ถ้าขี้เกียจอ่านนิยายไทย ลองอ่านมังงะดูมั้ยหรือเว็บตูน จะได้เห็นผู้ชายแบบที่ผู้หญิงอิน โมเม้นต์ตกหลุมรักฮิตๆ อะ

38 Nameless Fanboi Posted ID6:5ytI5/yDnY

>>37 เคยอ่านพวกเว็ปตูน/การ์ตูนโชโจแหละ แต่ในสายตาผู้เหมือนกันเห็นแล้วมันขยะแขยงนำมาก่อนเลยอะสิ

สมัยก่อนเคยอ่านมังงะโชโจ Smug ก็ไม่เข้าใจนะว่านางเอกไปชอบพระเอกแบบนี้ได้ยังไง ...ชีวิตจริงก็ไม่เข้าใจว่าผญไปชอบพวกผู้ชายที่ทั้งใช้ความรุนแรง ปากเสีย กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำตัวเป็นแมงดาได้ยังไง และทนอยู่กับคนแบบนั้นไปได้ยังไง ซึ่งในสายตากูที่มองผู้หญิงในครอบครัวทำงานเลี้ยงตัวเองมาตลอด ก็ตั้งคำถามเลยว่าอะไรคือปัจจัยทำให้ไปรักคนที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิงแบบนั้นได้?

ส่วนพวกแนวผัวโบ้ยังไม่เคยลองอ่านแฮะ ว่าจะลองหามาดูซักหน่อย
ที่กูเขียนได้แน่ๆ คือแนวยูริ ญญ เพราะมีตัวอย่างรอบตัวเยอะ จินตนาการมันเลยค่อนข้างบรรเจิด
ส่วนแนว ชช ไม่มั่นใจเท่าไร แต่คิดว่าน่าจะเขียนได้แค่ระดับ Bromance เพื่อนสนิทที่ลุยไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ถ้าให้ดูดปากกันกูก็ส่ายหน้าเพราะรับความจริงม่ายได้~
เว้นแต่ถ้าแปลงเป็นแนว Furry นี่กูว่าพอจะหนีความจริงแล้วจินตนาการเขียนได้ (ซะงั้น) 555555

39 Nameless Fanboi Posted ID:TYTc7XGscL

>>38 เพื่อนนนนนนนนนนนมึงต้องเลือกดงให้ถูกดิวะ มึงไปอยู่ดงไหนมา SMUT พระเอกดีๆ มีเยอะไป อีกอย่างคาร์แบบมึงว่า ม้นล้าแล้ว เดี๋ยวนี้พระเอกโชโจหรือสายเยส คือแทบไม่มีพวกปากหมาแล้วนะ มีก็น้อยว่ะ กูยังแทบไม่เจอพระเอกเหี้ยแบบมึงว่า ถ้าแนวรักกันแบบท็อกซิกเรียลๆ อะถึงมี แต่แบบมึงว่าไม่ให้เกียรติ ไม่ค่อยมีแล้ว

40 Nameless Fanboi Posted ID:TYTc7XGscL

>>38 กูแอบคิดแล้วนะ หรือมึงอายุเยอะ หรือมึงผิด ไปอยู่ในแนวเฮนไต ไม่ใช่ TL 5555

41 Nameless Fanboi Posted ID6:5ytI5/yDnY

>>39 กูไม่ได้ตามอ่านมานานเหมือนกัน กูอ่านสมัย อ.ชินโจ มายุ โน้นแน่ะ 55555
>>40 อันนี้กูยอมเลยเพราะกูอายุเยอะ เกินเลข 3 ไปหลายละ แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจเรื่องรักๆ อยู่ดีว่ะ

อีกอย่างกูไม่ได้อ่าน Webtoon มานานมากแล้วด้วย เรื่องสุดท้ายคือ Lookism โน้น ยิ่งพวก Male Fantasy กูยิ่งไม่แตะเลยเพราะแขยงพวกตัวเอกมาก ส่วนใหญ่กูอ่านจะเป็นแนววรรณกรรมกลางๆ คู่พระ-นาง ค่อยๆ ใช้โมเม้นท์ไปด้วยกันแล้วค่อยลงเอยกันตอนท้าย ยกตัวอย่างเรื่องที่กูชอบก็ บิเบลีย กับ ไมน์หนอนหนังสือ ที่กว่าคู่พระ-นางจะได้กันก็คือจบเรื่อง ซึ่งผลที่ได้ก็คือกูติดภาพว่าความรักคือการร่วมกันฝ่าฝันอุปสรรค์ไปด้วยกันเนี่ยสิ

42 Nameless Fanboi Posted ID6:JXUE+i1k0M

>>41 โหชินโจเก่ามาก5555 เอางี้ถ้าชอบบิเบเลีย ในเว็บตูน ขอแนะนำ ราวลมพัดกิ่งไม้แห้ง กับ ครอบครัวสามีคลั่งรัก เป็นแนวฟันฝ่ากว่าจะรัก เด็กเว็บตูนถมถุมจนน้ำลายท่วมแล้ว่าเดินเร่องช้า แต่จริงๆ ไม่ได้ช้า พล็อตเดินตลอด เพียงแต่ความสัมพันธ์พระนางคือสโลว์เบิร์น สวนมังงะ แนวเจ๊ชินโจมันตกยุกไปแล้ว ไปคุ้ยๆ ของบงกช ที่เป็นแนว ตัวละครผู้ใหญ่ คือมีแต่เรื่องดีๆ

43 Nameless Fanboi Posted ID6:idUmMKa20e

>>38 พระเอกมันก็มีหลายแนวว่ะมึง smut แบบผัวท็อกสิกก็มี ผัวงุงิมุมิก็มี ผัวธงเขียวกรีนแฟลกเยสเก่งเอวหวานก็มี แล้วแต่มึงจะเลือกอ่านอะ แต่จะเหมารวมว่าแนวเยสๆมันมีแต่ผัวท็อกสิกก็ไม่ได้ เหมือนโชโจนั่นล่ะ พระเอกหล่อๆเก่งๆเยอะแยะ เอาเรื่องล่าสุดที่กูอ่านก็ "ฉันต้องแต่งงานกับดยุคเพื่อใช้หนี้ให้ครอบครัวค่ะ" นางเอกน่ารักนุ่มฟู พระเอกหล่อเท่ไม่โง่ ลองไปหาอ่านดูนะ

44 Nameless Fanboi Posted ID6:5+9jyUP8EI

ถ้าอยากเขียนแนวมะรุมมะตุ้มรุมรักตัวเอก จะเขียนยังไงให้คนมันรู้สึกว่าตัวเอกมีดีพอที่คนจะมารักเยอะขนาดนี้วะ กูไปลองอ่านแนวฮาเร็มแล้วแม่งเหมือนโดนดีดน้ำมันพรายกันซะหมดทั้งที่ตัวเอกยังไม่ได้ทำอะไรดีๆมากมายเลยด้วยซ้ำ อยากได้แนวฮาเร็มแบบธรรมชาติอะ แต่ก็กลัวมือไม่ถึงถ้าจะเขียน

45 Nameless Fanboi Posted ID6:Zy86xepAgw

>>44 ลองไปดูงาน ชมรมรักคลับมหาสนุก ดูว่ะ เท่าที่เคยผ่านแนวฮาเร็ม มีเรื่องนี้แหละที่รู้สึกว่านางเอกไม่น่าหมั่นไส้และจิ้นกับใครก็อร่อย และถูกรัก แต่รักในที่นี้ อาจไม่ใช่ในเชิงชู้สาวไปหมดอะมึง ทุกคนรักนางเอก แต่รักในแบบเพื่อน น้อง ไรก็แล้วแต่ตัวละคร แต่คนไหนจะเทิร์นเป็นผัวก็ได้หมด เพราะนางเอกรู้สึกว่าควรถูกรัก

46 Nameless Fanboi Posted ID6:FC/BNF5ZU4

>>44 แนะนำมังงะได้ปะ เรื่องแฟนสาว 100 คนอะ ถ้าตัดความกาวไปกูว่าเขียนคาร์พระเอกได้ดีนะแบบรักและใส่ใจแฟนสาวทุกคนจริงๆ เป็นได้ทุกอย่างเพื่อเธอ ถึงแรกๆจะลิขิตรักชักนำ แต่พอหลังคบกันพระเอกยังพยายามประคองความสัมพันธ์ได้ต่อด้วยตัวเองจริงๆอะ แทบไม่มีเรื่องเซอร์วิสเกร่อๆแบบซุกนมซุกตูดไรงี้ แฟนสาวมีงอนกันทั่งแต่พระเอกก็พยายามง้อดี ใดๆคือคนเขียนเก่งด้วยละเขียนคาร์แฟนสาวแต่ละคนได้แบบเอาคุ้มเลยเนอะในเรื่องเดียว555 กูอ่านคู่แฟนสาวแต่ละคนคืองอกพล็อตในหัวต่อได้อีกสิบพล็อต555

47 Nameless Fanboi Posted ID6:WR2pBOc7gW

Kyถ้าเขียนนิยายรักปกติอยู่แต่อยากแยกนามปากกาเขียนหมวดรักผู้ใหญ่ เพื่อนโม่งว่าแบบไหนดีกว่า แยกไปเลยแบบเริ่มใหม่ไม่สามารถลิงค์กันได้ว่าเป็นคนเดียวกัน//หรือแยกแบบลิงค์กันได้

48 Nameless Fanboi Posted ID6:EcERCOe5R1

ตอนนี้ลังเลละว่าจะเอายังไงดี
เรื่องที่เขียนไปก่อนหน้าก็เขียนไปตั้ง 5 เล่มแล้ว กำลังนั่งเขียนเล่ม 6 ไปได้ครึ่งเล่ม แต่พออัพแล้วรู้สึกว่ายอดน่าจะไม่ดีถึงจะเพิ่งอัพไม่นานก็เถอะ
จะทิ้งเลยก็น่าเสียดาย แต่จะเขียนให้จบก็อีกไกล (วางไว้ราวๆ 10 เล่ม เล่มไม่หนาราวๆ 8 หมื่นคำ) ถ้าจะปั่นให้จบก็คงหมดปีโน้นเลย

ตอนนี้พยายามบอกตัวเองว่าใจเย็นก่อน ค่อยๆ ดูสถานการณ์สร้างฐานคนอ่านไปก่อน แล้วปีหน้าหลังเขียนจบแล้วค่อยเอาใหม่
แต่พอเห็นยอดน้อยแล้วรู้สึกไม่มีกำลังใจเขียนเลยแฮะ อู้งานไม่เขียนต่อมาเกือบอาทิตย์ละ 5555

49 Nameless Fanboi Posted ID6:Zy86xepAgw

>>48 5 เล่มถ้าเขียนแล้วขายไปแล้ว มึงต้องเอาให้จบ ไม่งั้นเรื่องใหม่มึงจะติดคำสาปแป้กเพราะคนที่ตามเรื่องเก่าแช่ง กูว่าลองตัดน้ำออก เอาแต่เนื้อๆ ให้จบภายในสัก 7-8 เล่ม

50 Nameless Fanboi Posted ID6:Mna4JJe.DL

>>44 ต้องเขียนแล้วทำให้เชื่อได้ว่าตัวเอกมีเสน่ห์พอที่จะทำให้คนอื่นชอบว่ะ ลองคิดภาพก็ได้ว่าถ้าเป็นมึงอยากจะไปทำความรู้จัก อยากเป็นเพื่อนกับคนคนนี้มั้ย ฮาเร็มแบบธรรมชาติคือตัวเอกมีคาริสม่าที่ยิ่งใหญ่พอให้คนมารายล้อมติดตาม ไม่ต้องเป็นผู้นำหรือออร่าแรงๆอะไรก็ได้ แค่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ สนุก จริงใจ ตรงไปตรงมา นิสัยดี ทัศนคติดี น่าคบหา แต่บุคลิกกับนิสัยก็ต้องดึงดูดด้วย ถ้าเขียนตัวละครมีเสน่ห์ให้คนชอบได้ คนอ่านก็เชื่อว่าตัวละครทั้งหลายจะสามารถรักคนคนนี้ได้

ไอ้พวกฮาเร็มหัวหลากสีมันจับยัดเกินไป ตัวเอกนิสัยห่วยๆ loser แต่มีตัวท็อปมารุมรักนี่มันเอาไว้ self insert อย่างเดียวไง แทนตัวเองเป็นตัวเอก กูนิสัยขี้แพ้ขนาดนี้ก็ยังมีคนโปรไฟล์เริ่ดๆมารัก มันเลยขัดแย้งกับความเป็นจริงว่าคนไม่มีอะไรดีเลยถึงได้เทวดานางฟ้ามาชอบมันจะเป็นไปได้ไง มันก็ต้องมีอะไรเป็นจุดชวนหลงใหลบ้าง หล่อแต่นิสัยห่วยมันก็มีหน้าตาหล่อๆให้ชอบ ไม่หล่อนิสัยห่วยแต่รวย ชอบที่เงินก็ได้ แต่ถ้าไม่หล่อไม่รวย ต้องคารมดี นิสัยดี บุคลิกดีคนถึงชอบ สรุปคือต้องมีอะไรดีๆดึงดูดด้วย แต่ฮาเร็มส่วนใหญ่แม่งเล่นเขียนให้กากหมดทุกสกิล หน้าตาห่วย นิสัยห่วย ไม่รวย ทัศนคติแย่ คนพรรค์นี้มันจะมีคนชอบได้ไงวะ ข้อดีมีแค่ให้พวกขี้แพ้อ่านแล้วปลอบใจตัวเองว่าซักวันตัวเองก็จะเนื้อหอมแบบตัวเอกนี่ล่ะ

51 Nameless Fanboi Posted ID6:ZTVxNI0TPO

>>47 ขึ้นอยู่กับว่าเขียนผู้ใหญ่แบบไหน ของกูคือแนวที่โม่งยี้เลย มีเสียงพรั่บๆตรั่บๆ ซี้ดด พร้อมคำหยาบที่ใช้เรียกน้องโจ้ยและจุ๋มจิ๋ม กูเลยแยกอีเมลไปเลย5555 เพราะอีกแอคที่เขียนคือไม่มีเสียงตอกเสาเข็ม ไม่มีใครกระพือปีก พระนางแสนสุภาพใส่กัน ถ้าเป็นกรณีแบบกูอะแนะนำให้แยก แต่ถ้าแนวผู้ใหญ่ที่มึงเขียนยังมีความภาษาสวย พล็อตไม่ต่างจากนปก.อีกอันมากนัก จะไม่แยกก็ได้นะ เผลอๆ

52 Nameless Fanboi Posted ID6:ZTVxNI0TPO

>>51 ต่อ เผลอๆได้ฐานแฟนคลับเพิ่มอีกต่างหาก

53 Nameless Fanboi Posted ID6:ECsDGPpKHb

ky ขอปรึกษาระหว่าง พอ ที่ขรึม เงียบ ๆ พูดน้อยต่อยหนักกับ ผช ที่บุคลิกตรงกันข้าม คนอ่านจะชอบแบบไหนกว่ากันเหรอ

54 Nameless Fanboi Posted ID6:bTim75W3km

>>53 ชอบหมด ถ้านักเขียนมีกึ๋นพอจะดึงเสน่ห์ ของคาร์ที่เขียนออกมา จะหนุ่มขรึมหรือร่าเริง และ นิยายต้องสนุกจ้า ถึงจะส่งให้ชอบ

55 Nameless Fanboi Posted ID6:ECsDGPpKHb

>>54 ขอบคุณจ้า เคยเขียนแบบแรกนานแล้ว แต่ไม่ปัง อาจจะเพราะเสน่ห์ไม่สุด

56 Nameless Fanboi Posted ID6:lDPFmo37LM

>>53 กูเคยคิดว่ากูชอบขรึมๆเงียบๆพูดน้อยต่อยหนักมาตลอดแต่พอไปเจอเรื่องนึง พระเอกสดใสลัลล้าพูดคนเดียวพูดไปเรื่อยยาวเป็นหน้าๆเพราะ นางเอกพูดน้อยฮีเลยพูดแทน ดันชอบว่ะ อยู่ที่นข.จริงๆว่าจะดึงเสน่ห์ตัวละครออกมาให้เห็นได้ไหม

57 Nameless Fanboi Posted ID:v2BuCvOGc8

>>56 เรื่องอะไรป้ายยาหน่อย

58 Nameless Fanboi Posted ID:ZuDdvhArKM

ky ไม่รู้จะถามมู้ไหน กุจะป้ายยานิยายลงติ๊กต็อกละอยากใส่เพลง (อาจจะ ver. remix) ในคลิปด้วย งี้ผิดลิขสิทธิ์ไหมอะ หรือเขาหยวนๆให้ ;-;

59 Nameless Fanboi Posted ID6:Lh+hst+/cK

>>58 ใช้เพลงในต๊อก ไม่ผิด

60 Nameless Fanboi Posted ID6:OWp/lS+Vtu

>>56 ตามด้วยยยยย

61 Nameless Fanboi Posted ID6:lDPFmo37LM

>>57 >>60 เรื่องปกส้มๆที่เรตติ้ง1.8kเยอะสุดของเดอะแกะอะ พระเอกพูดมากกกกพูดไปเรื่อย กูเดาว่าน่าจะไม่ใช่สไตล์โม่งนะ

62 Nameless Fanboi Posted ID6:VJCzx6BLpO

Kyขอถามนักเขียนที่มีเพจ ถ้าตั้งเพจนามปากกา แล้วคนที่ติดตามเพจจะรู้ไหมว่าใครตั้ง มันจะลิงค์กับเฟซบุ๊คของคนตั้งไหม คือกูไม่อยากให้เพื่อนในเฟซรู้ว่าเขียนนิยายน่ะ//ขอบคุณคำตอบล่วงหน้า

63 Nameless Fanboi Posted ID6:lRrDfQu062

>>62 ไม่รู้ แต่เพื่อความชัวร์ของกู กูอวตารใหม่ แล้วค่อยตั้งเพจว่ะ เผื่อมี นข.อยากเมคเฟรนด์ กูจะไม่เอาไปปนกับเฟสจริง

64 Nameless Fanboi Posted ID6:OJnFgZd38W

>>62 ไม่รู้ แต่มันจะมีปุ่มโปรโมทว่าอยากบอกเพื่อนให้มาไลค์เพจเธอมั้ยจ๊ะเด้งมากวนตลอด จนมึงจะแพนิคว่าสักวันกูต้องเผลอกดอิปุ่มนี้แล้วเชิญชวนรุ่นพี่รุ่นน้องมากดไลค์เพจนิยายเราแน่ๆ กูยังเป็นอยู่ทุกวันเลยมึง แพนิคจัด เลยอยากแนะนำเหมือน >>63 สร้างเฟสใหม่อะไรใหม่ไปเลยแล้วค่อยเพิ่มเพจจากเฟสนั้น ลำบากหน่อยแต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องมากังวล ส่วนกูสร้างใหม่ไม่ได้ละ เสียดายยอดไลค์

65 Nameless Fanboi Posted ID6:4f52YYIfMW

ท้อใจแฮะ คือหมวดแฟนตาซีมันไม่มีคนอ่านจริงๆ แบบจริงจัง
ขนาดเมื่อวานเริ่มลงใหม่ใน รอร อัพตอนใหม่ทุกครึ่งชั่วโมงไป 20+ ตอน น่าจะเด้งขึ้นหน้าแรกร่วม 12 ชั่วโมงได้ สรุปจบวันที่คนอ่านหลักสิบ ถถถถถถ

ถึงปกติกูจะเขียนเพราะเป็นงานอดิเรกก็เถอะ แต่เล่นไม่มียอดเลยแบบนี้ก็หมดแรงเขียนแฮะ
รอดูสิว่าหลังจากนี้อัพวันละ 2-3 ตอนจนถึงจบเล่มแล้วจะได้ยอดซักเท่าไร กูเดาว่าต่ำกว่า 1000 แหง

66 Nameless Fanboi Posted ID6:O5EMf3wBZ6

>>65 คือตอนนี้ยัคแฟนตาซีในไทยกระแสมันแผ่วแล้วไง ขนาดดด.ที่ว่าแน่ยังแผ่วลงอะ กระแสมันเทไปแนวจีนโบมากกว่าซึ่งแฟนตาซีกระจึ๋งนึงแบบย้อนเวลาทะลุมิติแหละ แต่พ้อยหลักจะมาแนวโรแมนแฟนตาซีมากกว่า ไอ้แฟนตาซีแบบรร.เวทมนตร์ ปราบจอมมาร สู้กันกู้โลก มันเอ้าท์แล้วมึง จะเขียนต่อเพราะใจรักอะก็เขียนไป แต่ถ้าเขียนเพื่อหวังยอดใช้หาแดกก็ทำใจ

67 Nameless Fanboi Posted ID6:sDBsvyX00N

>>65 ในรอรอัพบ่อยๆ แล้วมันจะเด้งขึ้นหน้าแรกตรงไหนวะ กูหาหน้านิยานอัพเดทใหม่ของมันไม่เจอเลยว่ะ

68 Nameless Fanboi Posted ID6:4f52YYIfMW

>>67 ใช่กูก็ลองเข้าไปดูแล้ว มันก็ไม่เห็นมีเลย
แต่กลับถูกดันไปอยู่พวกมาใหม่จืดๆ ชืดๆ

69 Nameless Fanboi Posted ID6:4f52YYIfMW

>>66 ปัญหาคือกูเขียนแนวปลูกผักสร้างตัวแบบที่นิยมไง เทมเพลตแบบเดียวกับพวกนิยายปลูกผักเลย แต่แค่ของกูไม่ใช่ธีมนิยายจีน และอัพลงที่หมวดแฟนตาซีแค่นั้น

คือถ้านิยายกูห่วยไม่สนุกคนเลยไม่อ่านอะไรทำนองนี้กูพอยอมรับได้นะ แต่นี่คือเหมือนอยู่ในหมวดที่ไม่มีคนอ่านเลย ขนาดลอยอยู่หน้าแรกตั้งนานยังไม่มีคนคลิกเข้ามานี่ กูก็เริ่มคิดละว่าปัจจัยมาจากตัวนิยายกู หรือมาจากหมวดที่ร้างอยู่แล้วกันแน่

กลับกันพอลองไปดูเรื่องอื่นที่อัพในหมวดรัก ไม่ก็ BL ซึ่งในเรื่องเป็นแนวแฟนตาซีจ๋าๆ แทบไม่มีเนื้อหาความรัก หรือความวายเลย แต่กลับได้ยอดคนอ่านเป็นหมื่นเป็นแสนนี่ ก็ทำเอากูคิดแล้วว่าเดินหมากพลาดไปแล้วรึเปล่าที่ลงหมวดนั้น

70 Nameless Fanboi Posted ID6:4f52YYIfMW

ว่าไปนี่คือถ้าอยากอยู่รอด กูต้องเขียนธีมจีน + หลอกว่าเป็นแนวรักจริงๆ สินะ
ถึงจะวางพล็อตเอาไว้บ้างแล้วก็เถอะ แต่ก็เสียดายเรื่องที่เขียนมาตั้งนานนี่ล่ะ ...แถมปกยังแพงอีก เฮ้อออ

71 Nameless Fanboi Posted ID:pxo4do3C3x

พูดได้มั้ย กุว่ายุคนี้คนมันไม่ค่อยอ่านนิยายเว็บของนข.ใหม่ๆ อะ 5555 แบบว่าโอกาสลืมตาอ้าปากมันน้อย ถ้าเทียบกับสมัยก่อนที่มีนข.น้อย คนอ่านเยอะ (ตอนนี้คือนข.เยอะชิบหาย แต่คนอ่านน้อย 5555) ถ้าเป็นสมัยก่อนอาจจะปังได้ง่ายกว่านี้ คงเพราะมีอะไรให้ทำเยอะขึ้นมั้ง นักอ่านรุ่นก่อนก็โต ๆ กัน ทำงานไม่มีเวลาอ่าน เด็กยุคนี้ก็ผันตัวเป็นสายวาวกันหมด ไม่งั้นก็ขายได้แต่งานตลาด งานหลากหลายนิช ๆ ไม่ค่อยได้แสงหรอก ทำใจ

72 Nameless Fanboi Posted ID6:4f52YYIfMW

>>71 เข้าใจเลย หลานกูอายุ 15 แม่งก็เข้าสายวายตั้งแต่ตอนอายุ 10 เศษๆ ฮืออออ
กูลองกด tag แฟนตาซีใน รอร แล้วพบว่าแม่งเกือบทั้งหมดไปหมกอยู่ในหมวด BL กันสิ้นเลย มีหลุดมาเป็นหมวดจีนโบราณนิดหน่อย แต่ 80% ได้นี่คืออยู่หมวด BL หมด

เฮ้ออออ สงสัยต่อต้านไม่ได้ก็คงต้องเข้าร่วมละมั้งเนี่ย

73 Nameless Fanboi Posted ID6:kp6Dbxp850

คือกุว่าที่เทรนด์เปลี่ยนเพราะการเข้ามาของนิยายแปลจีนอะ ทำให้นิยายแนวแฟนตาซีแปลจากตะวันตกยอดซบเซามากขนาดนักเขียนฝรั่งดังๆได้รางวัลยังขายดีสู้แปลจีนในไทยไม่ได้ แถมนิยายแปลจีนมันก็มีแทบทุกอย่างเลย ปลูกผัก/สร้างตัว กำลังภายใน แก้ประวัติศาสตร์ การเมือง ระบบ วงการบันเทิง ทำเกม/vr โลกออนไลน์ สตรีมมิ่ง แนวไซไฟต่างดาว/สายพันธุ์ เซตติ้งตะวันตก หรือขนาดคธูลูยังมี จากที่กูส่องกลุ่มนิยายแปลนะ ส่วนมากอ่านแนวแฟนตาซีกันแต่กลุ่มนี้จะไม่อ่านงานนักเขียนไทยแนวแฟนตาซี ถ้าอ่านก็เป็นส่วนน้อย(กลุ่มนักอ่านชาย) ถ้ามึงอยาหขายได้ต้องจับกลุ่มนักอ่านหญิงที่เป็นโรแมนซ์+แฟนตาซีเท่านั้น ถ้าไม่อยากเซตติ้งจีนก็ต้องเซตติ้งตะวันตกไปเลยแบบนิยายแปลเกาหลีแฟนตาซีที่ขายนักอ่านผู้หญิงอะ

74 Nameless Fanboi Posted ID6:lRrDfQu062

>>70 หลอกว่าแนวรัก ? เรื่องหน้ามึงก็ไม่เกิดอีกแน่ นอ.โดนหลอก เข็ด

75 Nameless Fanboi Posted ID6:mHMCtSpLVQ

>>73 ก็เคยรู้อยู่นะว่ายังไงก็ต้องจับกลุ่มนักอ่านหญิง

แต่ที่คาดไม่ถึงเลยคือไม่อ่านนิยายคนไทยเขียนนี่ล่ะ
สรุปถ้าจะยืนแนวแฟนตาซีปกติ ยังไงก็ต้องเขียนแข่งกับนิยายแปลซึ่งไม่น่ามีทางชนะอยู่แล้ว

76 Nameless Fanboi Posted ID6:kp6Dbxp850

>>75 กลุ่มนักอ่านชายที่อ่านแปลแฟนตาซีกูว่าเผลอๆกลุ่มเดียวกับที่เคยทำให้ ดด บูมด้วยแนวหลุดไปเกมโลกออนไลน์เสมือนจริงอะ แต่ตอนนี้อีโวเป็นไม่อ่านแฟนตาซีไทยแล้ว

77 Nameless Fanboi Posted ID6:rHofX4cFv9

>>76 ก็มีเค้าโครงอยู่ เพราะเรื่องเก่ากูก็เขียนยุคนั้นคนอ่านหลักแสนเลย ขนาดเขียนไม่จบนะ
แต่พอกลับมาเขียนใหม่ในรอบหลายปีเหมือนคนพวกนี้หายหมดไม่เหลือเลย ทุกวันนี้ใน กดดูยอดวิวยังไม่ถึง 500 เลย

ว่าแต่ไหนๆ แล้วก็ขอถามเป็นข้อมูลหน่อย พวกหมวด BL นี่เขาคาดหวังอะไรในเรื่องกันบ้างวะ? กูว่ากูได้ไอเดียใหม่ไว้เขียนละเนี่ย

78 Nameless Fanboi Posted ID6:LcVCHJEvtE

มึง ถ้ากูแต่งแนวพีเรียดสมัยที่อายุ16-17ก็แต่งงานละ นางเอกกู17ย่าง18 พระเอก23 แล้วมีฉอดมาฉอดนี่ทำไงดีวะ นางบอกทำไมไม่เพิ่มอายุอีกปีสองปี เพิ่มแค่นี้ไม่ได้มีผลกระทบอะไรหรอก แต่กูว่าถ้าเพิ่มนางเอกกูมันจะเป็นพวกขายไม่ออกยุคนั้นนะ

79 Nameless Fanboi Posted ID6:DidOP/Vfmn

>>78 ก็อธิบายไปตามนี้แหละ อายุเพิ่มไม่ได้มีผลกับเนื้อเรื่องก็จริง แต่มันมีผลกับรายละเอียดที่ตัวละครอื่นๆจะมองนางเอก มันจะกลายเป็นประเด็นรองขึ้นมารบกวนบลาๆก็ว่าไป

80 Nameless Fanboi Posted ID6:VJCzx6BLpO

>>78 ถ้าขยับอายุ ในยุคนั้นคือเป็นสาวเทื้อเลย มึงเขียนไว้ในคำนำนข.หรือหมายเหตุก็ได้ เผื่อมีใครหลงมาอีก

81 Nameless Fanboi Posted ID6:z2TXs/cRIc

Kyถ้ากูเป็นนักเขียนที่เผลอโพสต์หรือทำอะไรบ้งๆไปด้วยความคึกคะนองแล้วเพิ่งมารู้ตัวว่าแบบนี้มันไม่ควรทำ มันเสร่อ และรู้สึกผิด กูควรทำไงดี
-ไปให้สุด แล้วหยุดที่ศาล
-ขอโทษสังคม ขอโอกาส
-ลบทำลายหลักฐานเท่าที่จะทำได้ เก็บโทรศัพท์ไว้ไกลๆตัว
-หนีไปชุบตัวเปลี่ยนนามปากกา
-ปล่อยวาง

82 Nameless Fanboi Posted ID:chokhO2wLx

>>81 นิ่งๆไว้ แต่ถ้ามีคนทักหรือหยิบยกขึ้นมาก็ยอมรับไปตรงๆว่าตอนนั้นทำผิดไป คิดผิดไป มันจะสื่อถึงการพัฒนามากกว่า

83 Nameless Fanboi Posted ID:RV6TJBu2Gv

>>81 มึงลองไปศึกษากรณีนข. JSL เก่าก็ได้ ก่อนเคยเหยียดทอมดี้ไว้ พอมีคนขุดก็ขอโทษไปแก้ไขไรไป ทุกวันนี้นานๆทีก็ยังมีคนขุดมาเหมือนไม่เคยเห็นกัน นข.ก็วางตัวคูลๆเย็นๆขอโทษไรไป

84 Nameless Fanboi Posted ID6:r0uLFblB0H

KY หน่อยโม่งเอ๋ย ขอปรึกษาเรื่องที่กำลังเขียนหน่อย

ถ้าสมมุติว่ากำหนดให้ฝั่งพระเอกมีแฟนอยู่แล้ว แต่อยู่มาวันหนึ่งบังเอิญได้อยู่ตามลำพังกับแฟนของเพื่อนสนิท และนางอ่อยให้ท่าเต็มที่จนเกือบถอดแล้ว แต่พระเอกปฏิเสธเพราะมีนางเอกอยู่แล้ว + ไม่อยาก NTR เพื่อนสนิท ในสายตาคนอ่านพวกมึงจะมองพระเอกเป็นคนยังไงกันวะ?

กูเขียนโดยตั้งใจให้พระเอกมันรักเดียวใจเดียว ส่วนฝั่งแฟนเพื่อนก็แค่หยอกเล่นลองใจ
แต่เพราะกูอยู่ในสังคม Hentai มานาน ถ้าพระเอกแบบนี้มักจะมีคอมเม้นท์ประมาทว่า โง่บ้าง ใจตุ๊ดบ้างออกมาเสมอเลยว่ะ

หลักๆ กูแค่อยากได้ฉากสีสันสลับคู่ขำๆ แต่อยากมาถามก่อนเพื่อความชัวร์จะได้แก้ทันว่ะ

85 Nameless Fanboi Posted ID6:r0uLFblB0H

>>84 ลืมบอก สาเหตุที่ตัวแฟนเพื่อนลองอ่อย เพราะได้ยินนางเอกพูดว่าบนเตียงพระเอกโคตรดุ อะไรทำนองนั้นอะ

86 Nameless Fanboi Posted ID6:lSvPjfn7gS

>>84 เกือบถอด คือพระเอกเกือบถอดเสื้อผ้าตัวเองใช่มั้ย แค่นี้ก็หมดสง่าราศีพระเอกแล้ว การบอกว่าห้ามใจได้ ไม่ช่วยอะไรเลยมึง กราฟความชอบพระเอก หักลงหัวทิ่ม

87 Nameless Fanboi Posted ID6:z2TXs/cRIc

>>84 เป็นพระเอกคนดีใช้ได้เลย รักเดียวใจเดียวมองแต่นางเอกคนเดียวเป็นสิ่งที่คนอ่านอย่างกูคาดหวังจากพระเอกดีๆสักคน
ส่วนแฟนเพื่อนคนนั้น🦏ในทุกกรณี ถึงจะหยอกขำๆลองเชิงยังไงก็จะโดนรุมสาป รุมเหม็น โทษฐานตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้วยังมาอ่อยพระเอกที่มีแฟนอีก

88 Nameless Fanboi Posted ID6:lSvPjfn7gS

>>84 ลืมประเด็นเฮนไต มึงอย่าเอาตรรกะที่ต้องถอดสมองทิ้งก่อนอ่านเฮนไต มาใช้กับนิยายรัก/โรมานซ์จ้า

89 Nameless Fanboi Posted ID:XBllh.n4y1

>>84 อีเพื่อนคู่รอง? นักอ่านไม่ขำกับมึงแน่

90 Nameless Fanboi Posted ID:zLbvpaqMtr

>>84 มองติดลบเหมือน >>86 เพราะเกือบถอดคือเริ่มลังเลละ ของจริงแม่งต้องไม่เอาอะไรทั้งสิ้นและจะมองอีผญ.ว่าดอกด้วย ถ้ามึงจะลงแนวโรแมนซ์ปกติก็เตรียมใจโดนด่าได้ (กูคนนึงล่ะถ้าเจอกุด่าแน่ 5555) หมวดรักเฮนไตของมึงฐานคนอ่านมันผู้ชาย-ชายแทร้ว่ะ จะด่าว่าพระเอกโง่ก็ไม่แปลก (ซึ่งกูก็อยากด่าอีนักอ่านชายแทร้พวกนี้เหมือนกันแหละ 🙄 5555) แต่ถ้ามาแนวรักมึงโดนนักอ่านผญ.ด่ายับนะ บอกเลย

91 Nameless Fanboi Posted ID6:.L9aDjnT/G

นี่ล่ะความเห็นที่ต้องการ
แสดงว่าแบบนี้กูควรเขียนแก้ฝ่ายหญิงสินะ
ที่ถามเพราะอย่าง >>90 บอกนั่นล่ะ แม่งมานึกๆ ดูแล้วพล็อตมันดูชายแท้เกิ้น

สงสัยมุกพระรอง BBC ขนาด 30cm คงต้องโยนลงถัง กะว่าจะให้นางคู่รองมาเกทับผัวให้พระเอกฟังซักหน่อย

92 Nameless Fanboi Posted ID6:.L9aDjnT/G

ลืมบอกว่าเกือบถอดนั้นคือฝ่ายหญิงน่ะ กำลังจะล้วงเป้าพระเอกละ แต่ในเรื่องให้พระเอกปัดมือทิ้งตลอด

93 Nameless Fanboi Posted ID:zLbvpaqMtr

>>92 อ่อ โอเคร ๆ กุนึกว่าพระเอกถอด 5555 งั้นถ้าพระเอกมั่นคงไม่โลเลสักนิดก็ถือว่าสอบผ่าน ส่วนชีคนอ่อยก็โดนด่าอยู่ละล่ะ เล่นไรไม่รู้เรื่อง 55555 ถ้าเป็นคู่รองคนคงไม่ชอบนะ ลองปรับดู //ว่าแต่ bbc คือไรวะเพื่อน

94 Nameless Fanboi Posted ID6:r0uLFblB0H

>>93 ไก่ยักษ์สีดำ Big Black C0ck
โอเคกูลบเรื่องนางรองยั่วออกไปละ ตัดไปเป็นแค่พระเอกสังเกตเห็นแล้วตัดบทบอกไม่เอาไปเลยน่าจะดีกว่า

95 Nameless Fanboi Posted ID6:QjoleY/99c

ลักษณะถามอะไรแปลกๆ นี่เหมือนโทรล นางเอกซิง โทรลนางเอกรูปร่างแบบเด็ก ให้พระเอกเย้ได้มุ้ยเลย

96 Nameless Fanboi Posted ID:x6QMkgghCT

Ky มึงงงงงงง ขอปรึกษาหน่อยมันอาจจะฟังดูงี่เง่านิดๆนะ คือกูวาดแฟนอาร์ตให้ไรท์เตอร์คนนึง กูก็แท็กทวิตเขานะ แต่เขาแค่กดหัวใจเฉยๆไม่หือไม่อือ แล้วกูรู้สึกเฟลและนอยมากมึง กูตั้งใจวาดนะเนี่ยแต่ทำไมรีแอคแค่นี้ เลยอยากถามในมุมมองนักเขียนอย่างพวกมึงว่า คิดยังไงกับแฟนอาร์ตที่วาดให้มึง หรือมึงในฐานะไรท์เตอร์ที่ไม่รีแอคอะไรเพราะมีเหตุผลอะไรวะ

97 Nameless Fanboi Posted ID6:KprSt81qGB

>>96 ไม่เคยได้เลย ถ้าได้คงดีใจตรัยเลยอะ

98 Nameless Fanboi Posted ID6:FLpOHghh1R

>>96 กูเคยประสบเหตุคล้ายมึง
กูรีวิวนิยายเค้าชื่นชมด้วยความรักมากมาย และตั้งใจถ่ายหนังสืออย่างสวย ทำcanva ให้กับนิยายเขาแต่เขา มากดหัวใจแล้วไปไม่หือไม่อือไม่ถามสุขภาพอะไรใดๆสักคำ กูก็นึกว่าเป็นนิสัยติสต์ๆ ไม่ว่ากัน
แต่....ไม่กี่วันกูไถเจอเขาไปคุยเวิ่นเว้อหยอกล้อต่อกระซิกขอบคุณพวกแก๊งรีวิว ให้สแตนดี้นิยายเรื่องนั้นกันด้วย แต่กับกูที่นูกูเขาไม่คุยเว้ย กูนอยและเฟลมากกกก ทำไมต้องเลือกปฏิบัติ ช้ำใจมากก ...คำตอบที่กูให้มึงได้คือทำใจเว้ย นักเขียนไม่เหมือนกัน ทำให้เค้าแล้วก็เผื่อใจรับผลตอบรับด้วยว่าเขาจะเย็นชาใส่
กูนี่ถึงขั้นตามลบรีวิวประโยคที่เคยบอกว่ารักนักเขียนทิ้ง กดเลิกติดตามในเมb แล้วเลียแผลใจเงียบๆอะ

99 Nameless Fanboi Posted ID:x6QMkgghCT

>>97 ขอให้ได้นะมึง//ลูบหัว
>>98 เออๆแบบนี้เลยมึงงงงงง ไม่อยากโทษเขาเลยแต่มันก็อดน้อยใจไม่ได้ กูไม่ได้ไล่ลบเม้นหรือรีวิวเหมือนมึงเพราะกูยังตามอ่านอยู่ แต่กูชี้จอแล้วด่า(คนเดียวในห้อง)ระบายไฟในอก ทำไมวะ เห็นนักอ่านเป็นของตายรึไง ถ้าไม่มีนักอ่านมึงจะอยู่ได้ถึงตอนนี้มั้ยยยย?? สุดท้ายก็ได้แต่เลียแผลใจเงียบๆ ไม่ยึดติดอะไรกับนักเขียนอะไรแล้ว คือแล้วแต่มึงเลยครับไอ้คุณไร้เต้อ

100 Nameless Fanboi Posted ID:/8.hnM9wbb

ky ปรึกษาหน่อยเพื่อน พอดีกุจะเขียนแนวหลัวชั่งกลับใจ ลังเลว่าจะให้มีพระรองแสนดีดีมั้ย คือกุอยากให้อีพระเอกมันหึงมันเฮิร์ต 55555 + อยากให้นางเอกเจอคนดี ๆ ในชีวิตบ้าง แต่ใจนึงก็สงสารพระรองที่สุดท้ายต้องนกอะ เอาไงดีวะ 5555 ถ้าปรับให้เป็นพระรองไม่ได้ชอบนางเอก แค่ใจดีเฉย ๆ (แต่อาจจะเคมีดีหน่อย 55) นักอ่านเขาจะจิ้นมั้ยวะ ทีมผัวที่ดีคือผัวใหม่อาจจะปาหินใส่กูที่ให้นางเอกกลับไปกินอ้วกมะ 555555555

101 Nameless Fanboi Posted ID6:KprSt81qGB

>>100 กูชอบแบบ พระรองแค่ใจดีเฉยๆ แต่ถ้ามึงอยากจะให้ชอบก็โอเค เรื่องหน้าก็ขยับพระรองเป็นพระเอก นี่แหละสิ่งที่นักอ่านต้องการ ถ้ามึงจะใส่พระรองลงไป แต่ถ้ามาเวย๋ ยิ่งแบบพระรองไม่ได้คิดอะไร แต่แกล้งพระเอก กูยิ่งชอบว่ะ555 เรื่องหน้าก็ขอสาวน่ารักๆ ให้ฮี มึงจะได้ยอดซื้อกลุ่มหนึ่งมาไว้ในมือแล้วแน่นอน

102 Nameless Fanboi Posted ID6:LZo1s2muTC

>>100 มึงแก้เป็นพระรองแอบชอบพระเอกไปเด่ะ ชวนลุ้นกว่าอีก 555555555555555555

103 Nameless Fanboi Posted ID:cpD51CKMUI

>>102 กูไม่ใช่100 แต่อยากถาม ถ้าเขียนดีเกิน คนชอบเยอะ นักอ่านสายชายหญิง หวังว่าจะมีเล่มแยกของพระรอง มึงจะอ้อนวอนเค้ายังไงให้มาอ่านเรื่องพระรอง หรือให้เป็นไบดี

104 Nameless Fanboi Posted ID6://WQMku2c/

>>100 ถ้ามาแนวนี้นะ สำหรับกูพระรองคือตัวที่สร้างสถานการณ์เพื่อให้พระเอกสามารถเข้าถึงนางเอกได้ทุกสถานการณ์ว่ะ 555 อารมณ์ประมาณพล็อตอาเมอร์ที่คนเขียนอยากจะเอาใส่เข้าไป

ยกตัวอย่าง พระเอกติดงาน แต่นางเอกเข้าโรงพยาบาล ก็จะเอาพระรองนี่ล่ะมาบอกว่า "แกไปดูอาการนางเถอะ เรื่องงานฉันเคลียร์กับบอสให้เอง"
หรือจะเอามากกว่านั้นก็ นางเอกกำลังไปขึ้นเครื่องบิน แต่พระเอกรถพังคงตามไปไม่ทัน พระรองก็จะโผล่มาพร้อมรถซิ่งว่า "ขึ้นมาเร็ว! เดี๋ยวพาไปส่ง!"
ระหว่างนั้นก็อาจจะให้มีคู่ของตัวเอง ที่มาแบบนิ่งๆ เงียบๆ แต่อัดหมัดฮุกเข้าอย่างจัง เช่นที่จริงพระรองชอบเพื่อนนางเอกอะไรทำนองนั้นแต่ตลอดทั้งเรื่อง

ส่วนเรื่องที่กูเขียนอยู่ คู่พระรองแม่งคือพระนางอีกคู่เลย แค่จะไปมีบทเด่นตอน Side story แทน

105 Nameless Fanboi Posted ID6:sHsX3IBkY0

>>101 กูก็ชอบพระรองสายแกล้งพระเอก ยิ่งพวกเตี๊ยมกับนางเอกไว้เพื่อมาแกล้งทำให้พระเอกหึง แต่ไม่ได้ชอบนางเอกนะ เห็นเป็นว่าที่เมียเพื่อนเลยอยากเชียร์ กูยิ่งชอบ55555

106 Nameless Fanboi Posted ID6:ZrXEkl4M7b

กุสงสัยอะ กุจำได้เคยเห็นโม่งสักที่มันมาบอกว่า
xter เคยไปใช่บริการกับเด็กอายุต่ำกว่า 18
พอข่าวฉาวเลยซุบตัวเองเป็นนักวาดแนว Milf เพื่อหนีความจริงว่าเคยใช่บริการเด็ก

มันไปเอาข่าวนี้มาจากไหนวะ?

107 Nameless Fanboi Posted ID6:ExvyTmWM8z

>>103 ถ้ามึงเขียนได้น่าสนใจ น่าสงสาร รักไม่สมหวัง มึงก็แยกมาเขียนเป็นแนววายไปเลยแค่นั้นเอง หรือให้พระรองมันเป็นไบก็ได้ อกหักจากพระเอก เจอสาวที่เข้าใจก็มูฟออนไป กรุยๆทางไว้หน่อยก็ได้ว่าจะเจอใครต่อจากนี้ แล้วก็แยกไปเขียนอีกเล่มให้เขาเจอคนของเขา

มึงเคยอ่าน koi to uso ป่ะ ในเรื่องนี้พระรองแอบชอบพระเอก ถึงไม่มีลุ้น แต่สตอรี่พระรองก็ทำให้เชียร์ได้ คนแอบรักข้างเดียวที่ทำตัวไม่งี่เง่ามันเชียร์ง่ายอยู่นะเว้ย 5555555

108 Nameless Fanboi Posted ID:/8.hnM9wbb

ขอบใจทุกคนมาก กุได้ข้อสรุปละ คงให้บทเป็นตัวเร่งหึงเฉย ๆ แหละ ไม่ได้ชอบใคร ถ้าผลตอบรับดีอาจจะให้มีเรื่องแยกทีหลัง ให้หักมุมแอบชอบพระเอกคงไม่ไหว เพราะลูกกุสันดานส้นตีนมาก ไม่น่าพิศวาส 555555 ยังไงขอบใจมาก เริ้บ ๆ

109 Nameless Fanboi Posted ID6:VeRwNayNCC

ky กูแยกนปก.เรื่องเสียวปั่กๆกับโรมานซ์ไว้ แยกแบบแยกเมลตอนสมัครรี้ดกะเม้ดเลย ไม่มีอะไรให้เชื่อมโยงกันแน่นอน แต่พอพล็อตจะหมดมันก็อยากเอาเรื่องสั้นเสวๆมาเขียนให้ยาวขึ้น จริงจังขึ้น เอาเหตุการณ์เดิมเป็นเรื่องใหม่ด้วยสำนวนแบบนปก.หลักว่ะ (นปก.เสวเขียนสำนวนหยาบหน่อย) กุทำได้มั้ยวะ เหมือนก๊อปนิยายตัวเองเลยอะ555 แต่คิดว่าได้มั้ยนะ เหมือนนข.บางคนที่เขียน version ชญกับชชด้วยพล็อตเดียวกัน กลัวจะต้องมาเตรียมร่างอธิบายถ้าเกิดมีคนเข้าใจผิดว่าก๊อปนี่แหละว่าเป็นคนเดียวกัน แต่กูก็ชอบเรื่องสั้นเสวๆมากเพราะมันต่อยอดได้

110 Nameless Fanboi Posted ID:1wq24yYwvz

>>109 มึงจะซีเรียสมั้ยละถ้าโป๊ะแตก นักอ่านจับได้ว่า2 นามปากกาคือคนเดียวกัน ถ้าไม่ซีเรียสก็จัดเลย 555

111 Nameless Fanboi Posted ID6:naobMPMgB6

>>109 กูก็เปิด นปก เสว แบบจะเอาไว้เขียนแนวชิปเหี้ย พระเอกเลี้ยงนางเอกมาตั้งแต่ห้าขวบ ได้กับพ่อเลี้ยง พี่น้องบุญธรรมแอบแซ่บ แต่เสียดายดีเทล พล็อตบางส่วน จะเขียนก็เก็บไว้ให้สายขาวดีกว่า ทุกวันนี้ นปก นั่นก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน555

112 Nameless Fanboi Posted ID6:EFpDmmWP2D

>>109 กุเคยเห็น นปก.ดังนึง (รานฎอกเลิฟ) ก่อนเปิดตัวชื่อนี้เขียนเสวหมวดนิยายรักผู้ใหญ่น้าหลาน(ไม่จริง)และเสวอื่นๆแรงๆมาก่อน แต่ตอนนี้ นิยายในนปก.เสียว ยุติการขายทุกเล่มไปแล้ว ซึ่งกูเสียดาย อยากอ่านมาก เพราะมันแรงดี
ที่กูจะสื่อคือ ถ้าคนอ่านรู้ หรือคิดว่าก็อปแล้วโป๊ะแตกขึ้นมาก็ไม่เป็นไรนี่มึง กูมองว่ามันเล็กน้อยจิ๊บจ๊อยมาก น่าดีใจนิดๆด้วยที่มีคนรู้แสดงว่างานมึงมีคนเห็นและอ่านมึงทั้งสองนปก. พลิกวิกฤติเปิดตัวคู่ยอมรับแมนๆไปเลย อุ๊ปส์!นปก.นั้นคือไรท์เองค่ะ ฝากอุดหนุนด้วยนะคะ กูเป็นคนอ่านก็ไม่ติด

113 Nameless Fanboi Posted ID6:ncJmowmoXu

มีเรื่องสงสัยนิดนึงว่ะ ถ้ามีนักอ่านไปโฟกัสประเด็นหยุมหยิมแบบจุดเล็กชิบหายในเนื้อเรื่องมึงที่ไม่ได้มีผลอะไรกับสตอรี่เลย แล้วด่าลามมาว่ามึงแม่งเขียนออกมาได้ไงฉากเหี้ยๆพรรค์นี้ พวกมึงจะทำไงกันวะ

อันนี้ฉากสมมติ ไม่ใช่ฉากจริงในนิยายกู
นางเอกพระเอกอยู่ยุควิคตอเรียน เป็นชนชั้นสูง เข้าป่าล่าสัตว์เป็นกีฬากันเป็นเรื่องปกติ พระเอกนางเอกแข่งกันยิงนกบนต้นไม้ว่าใครจะล่าได้มากสุด แต่ไม่ได้บรรยายการยิง เหมือนมันท้าพนันเข้าป่าว่าใครจะล่านกได้เยอะสุดแล้วตัดฉากออกมาอีกทีนับแต้มแล้วนางเอกชนะไรงี้ เป็นฉากเล็กมากๆก่อนจะไปฉากต่อไปคือฉากกินดินเนอร์ในบ้านพระเอกร่วมกับครอบครัวนางเอกที่เป็นหัวใจหลักของตอน แต่นักอ่านมาว้อแตกเรื่องฆ่าสัตว์เพื่อเกมกีฬาของพวกมึงได้ไงไอ้พวกเหี้ย เจอแบบนี้พวกมึงจะทำยังไงกันวะ กูเจอคอมเมนต์แบบนี้แล้วกูไปไม่เป็นเลย....

114 Nameless Fanboi Posted ID6:naobMPMgB6

>>113 นักอ่านนี่สมองไม่คิดจะทำงานหน่อยเหรอ มึงก็แค่เมินอะ อย่าปล่อยให้นักอ่านแบบนี้มาท็อกซิกใส่ดิวะ สู้ๆ

115 Nameless Fanboi Posted ID6:ncJmowmoXu

>>114 กูก็ไม่คิดว่าจะเจอ peta ในคอมเมนต์นิยายนี่หว่า 55555555555555555555

จะด่าเนื้อเรื่องหลักนี่กูไม่ติดนะ แต่มาด่าอีเวนท์แบบเล็กสัสๆๆๆๆๆแบบนี้ว่าเขียนออกมาได้ไงอีเวนท์เหี้ยๆแบบนี้ กูก็แบบว่า โอ้ยย อะไรของมึ้งงงงงงง รับมือไม่ถูกเลย

116 Nameless Fanboi Posted ID6:naobMPMgB6

>>115 ยันต์ TW ต้องเข้าแล้วละมั้งวะเมิง สมมุติว่าเป็นรื่องนี้ แต่ถ้ามึงไม่ได้ยกของจริง ถ้ามันติด TW ติดเป็นยันต์กันนอ.ปสด.ไป

117 Nameless Fanboi Posted ID6:ncJmowmoXu

>>116 กูก็ไม่รู้จะเอาตรงไหนมา TW บรรยายก็ไม่ได้บรรยายละเอียด บอกแค่ไปทำอะไรมาคร่าวๆ แล้วก็ข้ามไปเลยไม่ได้เอ่ยถึงอีก เนื้อหาต่อๆมาก็ไม่ได้มีฉากแบบนี้ด้วย เป็นอีเวนท์เล็กมากแบบมากจริงๆ

เอาจริงๆมันก็เรื่องปกติสมัยนั้นที่จะทำอะ แต่เสือกมีนักอ่านรับไม่ได้ซะงั้น

118 Nameless Fanboi Posted ID6:naobMPMgB6

>>117 ถ้าอย่างนั้นแนะนำให้เมินไปจริงๆ ว่ะ แต่ถ้านักอ่านไม่จบ บังเอิญไปตีฟูที่ไหน มึงแคปไปสวนเลยว่า ชี้แจ้งตามนี้ว่านิยายยุคไหนและกล่าวถึงนิสสสสเดียว เอาละทำใจสบายๆ แล้วเขียนต่อดีกว่า อย่าให้มารมันมากวนใจ นึกถึงนักอ่านน่ารักๆ ที่เอนจองกับเราไว้ ส่วนพวกนี้ทำบุญแล้วก็ลองนึกชื่อไอดีมัน แผ่เมตตาไป มันจะได้ไปไกลๆ ไม่จองเวรจองกรรม

119 Nameless Fanboi Posted ID6:VeRwNayNCC

>>113 เพิ่งเห็นมาใน x เลย มันฮวานี่แหละ มีฉากยิงสัตว์ กะควบม้าเร็วๆจนม้าขาจะหัก (ทั้งที่ในบริบทนางเอกช็อกเรื่องผัวตายจนสติหลุด) เข้าใจได้ว่าจะมีนักอ่านบางคนที่ไม่ชอบและฉอดหนักกับเลิกอ่าน แต่สำหรับกูก็หยุมหยิมอะ มันยุคนั้น คนตระหนักรู้มีแค่คนเขียนกับคนอ่าน แต่ตัวละครมันรู้มั้ยล่ะ เข้าสังคมมันยิงนกยิงสัตว์อะ เรื่องเวทมนตร์แฟนตาซีรับได้ แต่เรื่องเรียลๆรับไม่ได้ก็สุดแล้วแต่เขาละ อย่าไปซีเรียสเลย ถ้าอยากตอบก็ตอบอธิบายไปว่าบริบทยุคนั้น ถ้าไม่สบายใจก็ใส่ฉากให้ตัวเอกมันไปทำบุญทำทานขอโทษพระเจ้าไป555

เข้าใจว่ายกตัวอย่างเฉยๆ แต่ถ้าเจอกรณีแบบนี้อย่าเก็บมาใส่ใจจนหัวระเบิดเลย ถ้าโชคดีหน่อยเดี๋ยวนักอ่านจะมาช่วยอธิบายอีกแรง

120 Nameless Fanboi Posted ID6:ZLsP827kTf

นึกถึงอีกรฯอาายแนวพระเอกรวย มีเจ็ตส่วนตัวไม่อินเพราะการบินเจ็ตทำให้โลกร้อน 5555

121 Nameless Fanboi Posted ID6:ZLsP827kTf

*อีกรณีสิ

122 Nameless Fanboi Posted ID6:ncJmowmoXu

>>119 อันนั้นกูก็เห็นละ โดนคล้ายๆกูเลย แม่งโฟกัสฉากเล็กๆที่ไม่ได้มีผลอะไรกับเรื่องแล้วมาเหมารวมว่าเรื่องมันเหี้ย กูก็รู้สึกว่าประสาทแดกเกินไปมั้ย

123 Nameless Fanboi Posted ID6:qi0Di/dP6/

>>113 กูเคยเห็นนิยายของนขค่อนข้างดังคนนึง(ป้ายแดงตลอด) ในเมพมีคอมเม้นท์ประมาณว่านขทิ้งท้ายไว้ว่าจะให้นางร้ายหรือนางรองนี่แหละของเรื่องนี้ไปเป็นนางเอกอีกเรื่องคู่กับพระรองต่อแล้วเขารับไม่ได้ เพราะชีตั้งใจขับชนคน(ขับจริงแต่ไม่ได้ชน และพยายามฆ่าจริง) แล้วไม่โดนคดีหนีไปเก็บตัวเมืองนอกสวยๆ เห็นเม้นท์แบบนี้ประมาณ2-3คน บางคนเอาไปเทียบเคสแพรวาเลย แล้วเท่าที่กูส่องนิยายเขาในแอพมา เหมือนเขาก็ไม่ได้แต่งเรื่องนางรองต่อจริงๆ(เท่าที่อ่านเรื่องย่อ) คือมันก็ไม่ได้มีผลต่อเรื่องหลัก และคนอ่านบางคนก็คอมเม้นท์แรงเหมือนกัน เห็นมึงพูดแล้วเลยนึกถึงเคสนี้

124 Nameless Fanboi Posted ID6:ZLsP827kTf

นอกจากตลต.ต้องเป็นคนดี ยังต้องทำแต่ความดี พูดแต่เรื่องดีๆ สอนแต่เรื่องดีๆ นี่กำลังอ่านหนังสือธรรมะสอนใจหรือแบบเรียนจริยธรรมอยู่รึไง

125 Nameless Fanboi Posted ID6:naobMPMgB6

>>123 ถ้าเป๋นพระรอง เคยจะฆ่าพระเอก มะเปงไรค้าบ

126 Nameless Fanboi Posted ID6:HXBlzwBYf2

KY จร้า พอดีกุชอบอ่านรีวิวนิยายคนอื่น จะได้เก็บประเด็นที่คนติมาเป็นลิสต์ที่ต้องระวังในงานตัวเอง (ทริคนี้ดีนะ เช่นอ่านเจอเรื่องนึงติว่านางเอกโลเล กุก็จดไว้ว่า ต้องระวังตอนเขียนพฤติกรรมตอนนางอยู่กับพระรอง กันนักอ่านติข้อหาเดียวกัน) ไปเจอเรื่องนึง นักอ่านติประมาณว่า "มันไม่มีเนื้อเรื่อง แค่เรื่องของคนมีแผลใจสองคน เยียวยาหัวใจกัน จบ" คือกูก็พอนึกออกว่าน่าจะเป็นแนว slice of life, hurt/comfort ไม่ติดใจกับเนื้อเรื่อง แต่สงสัยมุมคนตินิส ๆ ว่าแค่นี้มันไม่พอเหรอ นิยายรัก พล็อตคือเรื่องของคนสองคน ก็เบสิคปกติปะ หรือเขาต้องการอะไรมากกว่านี้ ใครช่วยกุคิดหน่อยได้มั้ย 555 เจอประเด็นนี้กุไม่รู้จะระวังยังไงเลอ สงสัยว่ามันผิดตรงไหนนิ 555 ถ้ากุเขียนแนวพระนางจีบกันไปวัน ๆ นี่ถือว่ามีเนื้อเรื่องมั้ย หรือจะโดนข้อหาเดียวกัน 5555

127 Nameless Fanboi Posted ID6:EFpDmmWP2D

>>126 คนอ่านอาจจะอยู่ในช่วงอารมณ์อยากได้อะไรที่ให้เดายากๆว่าจะรักกันยังไง ความสัมพันธ์ซับซ้อนซ่อนปมน่ะ
ซึ่งถ้ามึงจะเขียนสไตล์นี้มึงก็บอกนักอ่านเขาก่อนสักหน่อยในคำนักเขียนก็ได้ว่าเรื่องนี้แนวสบายๆไม่ซับซ้อนใดๆให้ปวดหัวเหมือนมาดูคนจีบกันรักกัน
ถ้าบอกแต่เนิ่นๆแล้วยังฝืนอ่านเพื่อหาอะไรที่มันไม่มีในนิยาย ก็ปล่อยเขาไปเถอะ

128 Nameless Fanboi Posted ID6:EFpDmmWP2D

>>127 *คำนำนักเขียน

129 Nameless Fanboi Posted ID:lxXVF5orgI

>>126 กุเคยอ่านงานฝรั่งที่ทั้งเรื่องมีตัวละครสองคนนั่งคุยกันในห้องนั่งเล่น ตัวละครที่เหลือแค่ถูกพูดถึงในบทสนทนาเฉยๆ กุอ่านแล้วประทับใจมากในพัฒนาการความคิดของตัวละคร แต่เพื่อนกุที่เป็นสายชิวๆ ไม่คิดเยอะ ดูหนังอ่านนส.แค่ผ่านๆ ดูจบจำชื่อตัวละคร นักแสดง หรืออะไรเด่นๆ ไม่ได้เลยคือเสพเอาสนุกเฉยๆ มันด่าเลยว่านิยายบ้าไรเนี่ย ง่วง ไม่มีไรเลย กุเลยคิดว่านักอ่านคนนี้เขาเป็นคนแบบเพื่อนกุรึป่าว แบบไม่ชอบดีพทอล์ค จะชอบให้มีเหตุการณ์ ใช้สถานการณ์ดำเนินเรื่องมากกว่า กุว่าถ้ามึงตั้งใจเขียนคนจีบกันชิวๆ ไม่มีดราม่าจริงก็ตามนั้นแหละ แต่ถ้ายังไงก็อยากเลี่ยงเม้นแบบนี้ก็ใส่อุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ หรืออะไรที่มันคอนฟลิคหน่อยๆ เป็นยันต์น่าจะพอช่วยได้นะ

130 Nameless Fanboi Posted ID6:2c4BjI3kmq

>>110-112 แต๊งกิ้วมาก คือบางทีมันก็เขินๆอะมึงถ้าโดนจับได้ อีกนปก.กูใสๆ อีกอันก็แนวแบบที่ใครเห็นก็ต้องแคปปั่กๆพรั่บๆมาล้อ555 ไม่นับ kink ต่างๆที่กูใส่ไปแบบหยาบโลนอีก ถ้าโดนจับได้ก็คงต้องยอมรับแต่โดยดีพร้อมของกลาง ถ้าจับไม่ได้ก็เลยตามเลยไป ขอบคุณสำหรับตัวอย่างมากๆนะ สบายใจขึ้นเยอะ

131 Nameless Fanboi Posted ID6:2c4BjI3kmq

ky ใครเคยซื้อนิยายในเม้ดแบบมีสิทธิพิเศษแบบนี้บ้าง https://pic.in.th/image/IMG-2485.lV7dNp กูสนใจอยากทำแบบนี้ในนิยายตัวเองบ้าง เตรียมติดต่อเม้ดละ แต่อยากรู้ว่าเวลาได้ของแถมสิทธิพิเศษมา มันจะขึ้นในชั้นหนังสือเราประมาณไหนอะ แบบมีสองไฟล์ให้มาในการซื้อเดียวอะไรแบบนี้เหรอ วอนใครว่างช่วยแคปมาให้กูดูคร่าวๆที กูอยากซื้อมาดูแต่กูสายซื้อเล่มน่ะ ของนข.คนนี้เลยซื้อไปแล้ว

132 Nameless Fanboi Posted ID6:lpAg0FuPkn

>>131 เคยได้จากมังงะ ได้อีโปสการ์ด/วอลเปเปอร์ มันส่งมาที่เมลที่สมัคร

133 Nameless Fanboi Posted ID6:sau6HuKpfm

>>131 กูเคยได้หลายแบบ แบบโปสการ์ด ซื้อตามระยะเวลา เข้าไปที่หน้ารับสิทธิพิเศษ(แบบที่มึงแคปมา)กดรับแล้วจะมีให้กรอกชื่อที่อยู่ แล้วนข.ก็จส่งมาให้ทางไปรษณีย์
กับถ้าเป็นไฟล์เช่นคอมมิคพิเศษ;หรือเล่มสปินออฟ มันจะแถมมาให้ทันทีเลยในชั้นหนังสือ ก็คือซื้อ1โผล่มา2ให้แบบอัตโนมัติ

134 Nameless Fanboi Posted ID6:2c4BjI3kmq

>>132-133 ขอบคุณมากๆค้าบ กราบแนบอก

135 Nameless Fanboi Posted ID:yRK4AdFaF2

ไม่มีไมโครซอฟเวิร์ด จะเตรียมไฟล์เล่มส่งโรงพิมพ์ใช้ไรแทนได้บ้าง

136 Nameless Fanboi Posted ID:jDr7Pt6wAs

>>135 ถ้าไม่มีเวิร์ดแล้วมึงพิมพ์ลงในไหนอะ..

137 Nameless Fanboi Posted ID6:g/OOwfxrv.

>>135 ส่งไฟล์ไปให้คนอื่นจัดหน้า เค้ามีเวิร์ด มึงได้ PDF กลับมาก็ไปส้ง โรงพิมพ์

138 Nameless Fanboi Posted ID6:g/OOwfxrv.

>>135 จ้างน่ะ

139 Nameless Fanboi Posted ID:yRK4AdFaF2

>>136 กูเกิลดอค

140 Nameless Fanboi Posted ID6:BnfqPaU.Rq

Ky ปุกสา กูมีนามหลัก (เขียนแนวที่ชอบ) กับนามอวตาร (เขียนเรดแฟลกซ์หาเงิน) แต่กูไม่อยากให้คนอ่านจับลายเซ็นกูได้ ขนาดกูอ่านงานตัวเองยังรู้เลยว่าชัดเกิ้นน สำนวนกูแม่งบิดยากมาก กูควรทำไง

141 Nameless Fanboi Posted ID6:Q/yUUzOzUJ

>>140 ถ้าพยายามปรับสำนวนแล้วไม่ได้ไม่ไหว ก็ลองรอมอบตัวดู รอดูว่านักอ่านจะจับโป๊ะได้เมื่อไหร่ วันไหนวันนั้น เตรียมซ้อมบทพูดไว้ "อุ๊ย!รู้จนได้นะคะ แหะๆนปก.นั้นคือไรต์เองค่ะ" ซึ่งมึงอาจจะคิดไปเองก็ได้นะ

142 Nameless Fanboi Posted ID6:dTvKns88Hu

ถามหน่อยนิยายตอนหนึ่งนี่ควรยาวประมาณไหนดี นี่แต่งได้ตอนหนึ่งสัก2000ก็จะตายแล้วแต่ไปส่องของคนอื่นเขาดูยาวกว่าเยอะเลย

143 Nameless Fanboi Posted ID6:Od6IsvmIIf

>>142 ดูคนอื่นทำไม ทำที่ตัวเราพอใจ ฝืนไปก็เท่านั้น นักอ่านไม่ได้ดูว่าตอนหนึ่งกี่คำ เวลาซื้อดูทั้งเรื่อง ถ้าขายรายตอน ตอนนั้นก็ขายถูก ๆ หรือ มึงก็เอามา บวกกัน รวบ ขายใน หนึ่ง

144 Nameless Fanboi Posted ID6:dTvKns88Hu

>>143 พอดีเจอคนบอกว่าตอนสั้นจังอ่านแป๊บเดียวจบวะมึง

145 Nameless Fanboi Posted ID6:Od6IsvmIIf

>>144 บ่นคนเดียวนี่กูไม่แคร์นะ5555 แต่สั้นแล้วไงวะ ที นข.ดังอัพทีละนิดละหน่อยไม่เห็นบ่น อีกอย่างคือมึงเขียนสนุก

146 Nameless Fanboi Posted ID6:rgUan.0onR

>>142 กูเจอ800-900-1500 ยังติดท็อปขายดีเลย ขึ้นอยู่กับจังหวะเบรคและความสนุกด้วยนะ

147 Nameless Fanboi Posted ID6:iYma9OEDF4

>>142 ตามยุคว่ะ
สมัยก่อนกูอัดตอนละ 5000 คนยังบ่น
ถัดมาอัดตอนละ 3000 ปัจจุบันตัดลงเหลือ 1500-2000 พอ เอาสะดวกตัวเองกับอัพได้ถี่ๆ

148 Nameless Fanboi Posted ID6:Uz+umqKRmf

ว่าไปกูขอ KY ถามหน่อย
อย่างที่กูบ่นไปก่อนหน้าที่ว่ากูไปลงงานหมวดแฟนตาซีที่ค่อนข้างร้าง จึงรับรองได้แล้วว่างานคงขายไม่ได้แน่ๆ เพราะขนาดให้อ่านฟรียังแทบไม่มีคน

แต่ถึงอย่างนั้นกูก็ไม่อยากทิ้งงานนี้แฮะ และคิดว่าจะเขียนต่อให้จบ เพราะยังไงเดิมทีมันก็เขียนมาจากเวลาว่างอยู่แล้ว + กูเขียนเพราะชอบการเขียน ทว่าอย่างน้อยกูก็อยากจะได้อะไรกลับมาบ้างเล็กๆ น้อยๆ เป็นค่าขนมค่ากาแฟอะไรทำนองนั้น เลยอยากขอถามโม่งหน่อยว่ามีวิธีไหนบ้างที่พอเข้ากับสถานการณ์ของกูตอนนี้บ้าง

รอร. เห็นว่ามีระบบขอรับโดเนท แต่ รอร. ยอดคนอ่านหมวดนี้สิ้นหวังยิ่งกว่า ดด. อีก กูเลยว่าจะมุ่งเน้นไปที่ ดด. เป็นหลักมากกว่า
แต่ปัญหาคือ ดด. มันไม่มีระบบนี้นี่สิเลยไม่รู้ว่าจะใช้วิธีการไหนได้บ้าง ...ที่คิดออกตอนนี้มีแค่ Ko-fi ที่กำลังเตรียมทำนั่นล่ะ

149 Nameless Fanboi Posted ID6:Od6IsvmIIf

>>148 นานมาแล้ว กูเคยเจอคนแปะเลข บช.เลย 555555

150 Nameless Fanboi Posted ID6:HBpmNIOe.h

>>148 ดด.มีแล้วนี่มึง ไอเทมไม่กิ๊บเก๋เท่ารอร.แต่มีอยู่นะ

151 Nameless Fanboi Posted ID:IBxaUlUd0z

>>148 กูเหมือนจำได้ลางๆ ว่าเคยมีคนมาบ่นว่าดด.เปลี่ยนระบบแล้วนะ นข.ที่ลงหนังสือใหม่จะต้องยืนยันเลขบช.ก่อนเผยแพร่อะไรด้วยนี่ล่ะ? แต่กูลืมรหัสดด.ไปแล้ว ขก.สมัครใหม่ด้วยเลยไม่แน่ใจนะ มึงลองเข้าไปดูก่อน

152 Nameless Fanboi Posted ID6:Od6IsvmIIf

>>151 เออใช่ กูเจอเปิดแอคผี ลงนิยายหื่นโปรโมทใน ดด เฉยๆ เจอต้องลงทะเบียนเซ็งเลย

153 Nameless Fanboi Posted ID6:voJJcCkmDS

>>148 ลอง tipme มั้ย กูเห็นนักเขียนไม่ค่อยใช้ นักวาดกับสตรีมเมอร์ใช้เป็นหลัก
แต่มันง่ายดีตรงเป็นของคนไทย ระบบจ่ายเงินที่คนไทยใช้เยอะๆมีอยู่แล้ว
ข้อควรระวังคือช่องทางอื่นที่ไม่ใช่พร้อมเพย์จะโดนหักเยอะ ถ้าไม่อยากให้คนจ่ายผ่านทางนั้นต้องไปตั้งขั้นต่ำสูงๆกับเขียนบอกคนเอา

154 Nameless Fanboi Posted ID:ZcE+rfg4ec

ดดกับธัน แนวรักสายขาวไม่ 18+ เว้บไหนยอดดีกว่ากันอะเพื่อน

155 Nameless Fanboi Posted ID6:Od6IsvmIIf

>>154 เหี่ยวแห้งทั้งหมด ถ้ามึงไม่มีฐานแฟน รอร ได้เยอะสุด

156 Nameless Fanboi Posted ID6:eS9xa2vquo

Ky แทรกรูปในตอนนิยายใน raw ไม่ได้ ใครเป็นบ้าง

157 Nameless Fanboi Posted ID6:Od6IsvmIIf

>>156 น่าจะมีปัญหาที่ระบบ เห็นนางจะปิดปรับปรุงวันพรุ่งนี้ด้วย วันนี้คงแอบทำอะไรอยู่

158 Nameless Fanboi Posted ID6:Eg6EY79zPV

นี่กู >>148 เอง
ตอนบ่ายอารมณ์ดีเลยมองแบบนั้นแล้วเขียนออกมาได้ แต่พอตกกลางคืนกดเข้าเว็ปไปดูยอดแล้วโคตรเศร้าเลยว่ะ ถถถถถ อัพใหม่คนอ่าน 1 คนต่อตอน
เจอแบบนี้กูจัดการอารมณ์ตัวเองไม่ถูกเลยว่ะ เหี่ยวแห้งชิบหาย

159 Nameless Fanboi Posted ID6:+aqw8BkExt

>>158 ลลองขอขึ้นแบนเนอร์หรือยัง

160 Nameless Fanboi Posted ID6:TwfAgpsDJE

>>158 ต้องคิดว่าเขียนเพราะได้เขียนอย่างที่มึงว่าไว้แล้วล่ะ ยอดปล่อยมันไปเลย ยิ่งดูยิ่งมองยอดจะยิ่งซึมเอานะมึง ไม่ก็ต้องโปรโมทตามที่ต่างๆ กูไม่รู้ว่า1คน👁 นี่ระบบมันนับตัวนักเขียนด้วยรึป่าว

161 Nameless Fanboi Posted ID6:+aqw8BkExt

>>160 นับว่ะ

162 Nameless Fanboi Posted ID:PGSWm7kfcg

อ้าว กุเคยลองกดเผยแพร่ละรีบล็อกไว้ ไม่กดเข้าไปอ่านเองด้วย ตอนนั้นได้ 0 วิว แปลว่ามันไม่นับตัวเองปะ

163 Nameless Fanboi Posted ID6:+aqw8BkExt

>>162 ก็มึงไม่กดเข้าไปดู มันจะนับวิวใคร?

164 Nameless Fanboi Posted ID:PGSWm7kfcg

ky มึงว่าการเขียนเรื่องสั้น ๆ ละเปิดให้โหลดฟรีมันถือเป็นการตลาดที่ดีปะ แบบว่าจะพอเรียกแขกมามุงเรื่องอื่น ๆ ที่ขายไปแล้วได้มั้ย หรือว่าไม่คุ้มอยู่ดี เอาไปขายถูก ๆ แทนดีกว่า

165 Nameless Fanboi Posted ID:PGSWm7kfcg

>>163 หมายถึง ถ้า >>158 มันไม่กดเข้าไปอ่าน แปลว่า 1 วิวนั่นไม่ใช่มัน แต่เป็นนักอ่านไงเพื่อน 555

166 Nameless Fanboi Posted ID6:+aqw8BkExt

ถ้างั้น >>165 ตอนมันกด >>158 ไปดูมี 1 วิว คือนักอ่าน (ในกรณีถ้ามันเผยแพร่แล้วก็ไป ไม่ได้เข้าไปเช็กหน้าที่เผยแพร่) พอมันเข้าไปเห็น 1 วิว แล้วมันกลับมาดูอีก จะเป็น 2 วิว วิวมันไม่ได้ขึ้นออโต้ แบบมึงเข้าปุ๊บขึ้นปุ๊น่ะ มันขึ้นดีเลย์ ถ้าเข้าไปดูไม่วาจะใครก็นับวิว

167 Nameless Fanboi Posted ID:HTkOYscBSt

>>164 กุว่าดี ยิ่งถ้ายอดอ่านในเว็บน้อยยิ่งควรทำเลยว่ะ ไม่งั้นถ้าไม่ได้ขึ้นแบนเนอร์หรือยิงแอดแทบไม่มีโอกาสให้คนเห็นได้เลย สั้นๆ ไม่ถึงหมื่นคำก็ได้นะ ดีไม่ดีเขาเรียกร้องเรื่องยาวๆ ต่อยอดจากเรื่องนั้นของมึงไปอีก

168 Nameless Fanboi Posted ID6:SzmNFuvu6L

>>164 ก็มีข้อดีตรงเหมือนได้โปรโมตตัวเองให้คนรู้จักง่ายขึ้น ถ้าเขาถูกใจสำนวนเขาก็ไปดูเรื่องอื่น แต่ยำ้ว่าเท่าที่เคยเปิดฟรี ไม่ได้ทำให้ยอดฟู่ฟ่า บางคนก็อ่านแต่เรื่องฟรี แล้วเก็บเงินไปซื้อ นข.ในดวงใจเค้าน่ะ แต่ถ้าเรื่องนั้นมันติดลมได้นาน ช่วงที่งานฟรีมันอยู่หน้าแรกๆ กูสังเกตว่ายอดขายจะมีเกือบทุกวัน ไม่แดไข่แบบยาวๆ น่ะ

169 Nameless Fanboi Posted ID6:Eg6EY79zPV

>>159 ยังไม่ได้ลอง แต่ใน รอร. อัพถี่เลยได้ขึ้นหน้าใหม่ไฟแรง แต่ก็ไม่ช่วยกระตุ้นยอดเลย ยอดคนเก็บเข้าชั้นมีแค่ 13 คน (เลขหายนะด้วย) แล้วตอนนี้ก็ค่อยๆ ถูกดันตกละ เพราะอัพมาใกล้จะ 2 อาทิตย์แล้ว

ส่วนใน ดด. ตัวเลขเพิ่มขึ้นก็จริง แต่ยอดน้อยกว่าที่คาดโขเลยว่ะ อัพไปจะจบเล่มแล้วยังไม่แตะหลักพันเลย (ฮือ) ยังดีที่คอมเม้นท์คนอ่านออกมาทำนองเดียวกันว่าสนุกได้อยู่ กูเลยพอจะใจฟูเขียนต่อได้ แต่ถ้าอารมณ์เหวี่ยงลงมาดาวน์เมื่อไรนี่ก็คงมองสลับกันเลย

170 Nameless Fanboi Posted ID6:TwfAgpsDJE

>>164 กูมองว่าถ้าอยากโปรโมตเล็กๆน้อยๆไม่หวังผลลัพธ์อะไรมากอะได้
แต่เอาจริงถ้ากะดังเป็นตัวท็อป กูไม่ค่อยเห็นคนดังระดับตัวแม่ตัวพ่อแจกฟรีเลยว่ะ นานน้านนทีจะมีหลงมาคนแจกฟรีตามช่วงเทศกาล ประมาณหมื่น-3หมื่นคำ

171 Nameless Fanboi Posted ID6:Bq3JEXpPtY

ดราม่าเรื่องไมเนอร์บนนกฟ้ากลับมาอีกรอบละ เอาจริงๆกูก็เริ่มหวั่นไหวนะว่านิยายรักใสๆ ไม่มีเรื่องเพศ
เด็กมหาลัยจีบเด็กมัธยมปลายมันไม่โอเคขนาดนั้นเลยจริงๆหรอวะ ที่คิดไว้ตอนนี้คือ ปี 2 อีกคน ม.5 อายุก็ห่างกันแค่ 3 ปี
ตอนแรกกูคิดไว้เป็น ปี 3 กับ ม.5 อยากได้ระยะห่าง 4 ปี แต่ปรับลงมาเพราะกลัวดราม่า ซึ่งอันนี้ปรับได้โดยไม่กระทบโครงเรื่องมาก
แต่ถ้าเปลี่ยนระยะห่างอายุตัวละครโดยพยายามคงโครงเรื่องเดิมไว้มันอาจจะต้องแถบางอย่างจนทำให้ดูแปร่งๆ
เช่นยัดเรื่องตัวละครเรียนช้าหรือซิ่วไปปีนึงขึ้นมา ซึ่งมันก็ขัดๆกับไอเดียบางส่วนที่วางไว้แล้วอีก
จะเปลี่ยนให้รู้จักกันตั้งแต่ยังไม่ 18 ทั้งคู่ มันก็ดูเป็นการเปลี่ยนที่ดูฝืน แถมช่วงแรกๆคงได้เล่าเรื่องแบบ time skip รัวๆ
กูควรช่างแม่งความเห็นคนพวกนี้มั้ย หรือยอมเปลี่ยนไอเดียของเรื่องเยอะๆไปเลยดีกว่า

172 Nameless Fanboi Posted ID6:v/ObXCcQc0

>>171 อย่ากลัวเลย ถ้าไม่ได้สะดุดขาพวกขี้ฉอด แต่ถ้าฉอดแล้วไง นักอ่านน่ะกลุ่มไหน ถ้าเป็นกลุ่มป้าๆ ก็อย่าได้แคพวกทวิต พวกนี้ไม่ซื้อ กูนั่งอ่านอีเรื่อง ชนด แล้วอยากจะวอทเดอะฟัด ห่าเหอะ อายุก็ห่างกันแค่นั้นเอง แถมแค่คุยเฉยๆ ด้วยซ้ำ อีผู้หญิงก็เล่นบทเหยื่อแบบแหมไปถึงดาวอังคาร จะบอกว่ากูเบลมเหยื่อเหรอ มึงอีเด็กนั่นไม่ใช่เหยื่อห่าอะไรเล๊ยยยย

173 Nameless Fanboi Posted ID6:xadUTWYec3

Kyครอบครัว พวกมึงเป็นกังวลกับการเป็นนักเขียนของไหม แบบว่าดูไร้อนาคต ไม่น่าจะรอด

174 Nameless Fanboi Posted ID:yw/91Nc+tU

>>173 ของบ้านกุนะ ถ้ายึดเป็นอาชีพหลักเลยอะ เป็น 55555 แต่ถ้ามึงได้เงินดีจริงคิดว่าคงไม่ซีมากหรอก เอาง่าย ๆ ถ้าได้มากกว่า 35k+ คือหรูแล้ว (ซึ่งกูไม่ได้ 55555 /ร้องไห้) เผลอ ๆ อาจชื่นชมมากกว่าเป็นพนง.ต๊อกต๋อยเงินเดือนหมื่นห้าอีก ก็ต้องเข้าใจ fact แหละว่ามันเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคงขนาดนั้น ผู้ใหญ่เขาก็อยากให้ลูกหลานมีงานการมั่นคง แก่ไปมีบำเหน็จบำนาญ แต่เชื่อกุเหอะว่าถ้าได้เงินเยอะจริงยังไงเขาก็ปล่อย ถ้าได้เรื่องละล้านเป็นยอดภูเขาน้ำแข็งงี้เผลอ ๆ เอาไปเกทับญาติ ๆ ข้าราชการอีก 55555

175 Nameless Fanboi Posted ID6:Bq3JEXpPtY

>>172 แต๊งมาก จากที่ตอนแรกกูก็กะจะช่างคนพวกนั้นอยู่แล้ว
แต่กูเกิดกลัวขึ้นมาก็เพราะไอ้ดราม่านั้นนี่แหละ แม่งคลั่งกันได้น่ากลัวชิบหาย

176 Nameless Fanboi Posted ID:IlgmTf8YKn

>>171 เราว่าจะเขียนอ่ะ โปรโมทในxด้วย55 หาแคร์ไม่ มันก็แค่เรื่องแต่งป่ะ ห่างกัน3-5ปี โครตจะปกติ ทวิตเตี้ยนมันไม่เคยแอบชอบรุ่นพี่มหาลัยกันเลยไงว่ะ5555 แต่งๆไปเหอะ มั่นใจว่าไม่ผิด หลีกเลี่ยงการเขียนฉากncในตลคไมเนอร์ก็พอ

177 Nameless Fanboi Posted ID:yw/91Nc+tU

>>175 fact อย่างนึงคือ คนด่าไม่ซื้อ อะมึง 5555 ยิ่งสายชญ.นี่กุถือเป็นเซฟโซนนะ ส่วนมากนักอ่านสว.เขาไม่คิดไรมากอะ ขนาดแนว dark romance พระเอกจิต ๆ ที่คุยกันในมู้ตู้ยังขายดิบขายดี ปกกราฟฟิคเบสิคก็ยังขายได้ พวกนักฉอดนี่มีกี่คนเชียวที่อ่านงานชญ. ส่วนถ้าสายวายอะเหรอ สู้ ๆ นะแกร 555555 แม่งติทุกอย่าง ฉอดประเด็นเห็บหมาทุกวัน ปกก็ต้องจ้างวาดอลังไว้ก่อน เทียบแล้วนักอ่านชญ.ส่วนมากกลายเป็นแม่พระไปเลย ส่วนสายฉอด ช่างแม่มัน ไม่ซื้อก็ไม่ต้องด่าจ้าอี

178 Nameless Fanboi Posted ID6:Q7i9Ut2d18

>>173 ตอนสมัยเรียนเพิ่งจบก็มีนะ เคยโดนเตือนว่าไม่มั่นคงเอย เสียเวลาเอย ไส้แห้งเอย
และเพราะได้ยินแบบนั้น กูจึงเอาเวลาทำงานว่างๆ มาลงเขียนนิยายไปเพียบ จนสุดท้ายไม่ได้ตั้งใจทำงานเลย ถถถถ
แต่แล้วท้ายที่สุดก็โดนความจริงกระแทกหน้าด้วยที่ว่าขายไม่ออก จนปัจจุบันจึงยังโคตรไร้อนาคตอยู่เลย

179 Nameless Fanboi Posted ID6:z0Tpi.Rn.f

>>176 จริง แค่ไม่เขียน NC ต่ำกว่า 18 ก็พอเหอะ อีกอย่างในเว็บมันก็ห้ามนะ NC ต่ำกว่า 18 อันนี้บอกเผื่อ

180 Nameless Fanboi Posted ID6:XAXV3qEwSI

>>176 >>179 แต๊งมาก เรื่อง NC ยังไงก็จะไม่ใส่อยู่แล้ว แต่ก็กลัวมาตราฐานในใจคนมันจะหาเรื่องน่ะ 555
>>177 กูคิดไปเองมั้ยว่าพวกนี้ชอบหาเรื่องคนอื่น แต่พอตัวเองชิปคู่ผู้ใหญ่กับเด็กบ้างไม่หนีเงียบๆก็หาข้ออ้างแปลกๆให้ตัวเองได้ตลอด

181 Nameless Fanboi Posted ID:XrDPyjjbZq

มึง ทำไมคำว่าโทร. ที่เป็นกริยาถึงต้องมีจุดวะ ใช้โทรเฉย ๆ ไม่ได้เหรอ

182 Nameless Fanboi Posted ID6:7PmGNlBv+8

>>181 ใช้ได้ กูเห็นนักเขียนเยอะแยะใช้โทรเฉยๆ

183 Nameless Fanboi Posted ID6:mZPsTwlpI9

>>181 กูสังเกตเห็นebookใช้โทร เฉยๆก็มีเยอะนะแต่ส่วนที่ใช้ โทร. จะมีบ.ก. หรือออกกับ สนพ.

184 Nameless Fanboi Posted ID6:7pmYUbFAlO

KY ถามหน่อยโม่ง กูลงนิยายเรื่องเดียวกันสองที่ใน รอร. กับ ดด. แต่ดูจากยอดทาง รอร. นี่น่าจะไม่รอดเลย คนอ่านตอนละหลักหน่วย (ดด. ยังพอถูไถ)
ทีนี้กูเลยคิดว่าจะลง 2 ที่ต่อไปเลย หรือว่าตัดไอ้ที่ไม่รอดแน่ๆ ออกไปเลยเพื่อลดภาระของตัวเองดีวะ?

185 Nameless Fanboi Posted ID6:zLVpUJjcXs

>>184 ตัดคือตัดโอกาสเลย ลงต่อไปยังพอมีหวัง

186 Nameless Fanboi Posted ID6:zLVpUJjcXs

Kyเวลาพวกมึงจ้างพิสูจน์อักษร ตอนจะจ่ายเงินมัดจำ ต้องมีให้แสดงบัตรปชช.ไหมวะ หรือแค่บอกเลขบช.ก็โอนให้เลย
//ขอบคุณคำตอบล่วงหน้า

187 Nameless Fanboi Posted ID6:NqrvFxOIEq

>>186 ไม่มีอะ โอนเลย

188 Nameless Fanboi Posted ID6:NqrvFxOIEq

>>184 รอร มีปุ่มจบ ที่มันเหมือนได้บูตยอดอ่านส่งท้ายนะเมิง สู้ๆ

189 Nameless Fanboi Posted ID:Q75/d5Qry7

>>183 กูเพิ่งอ่านอยู่เลย งานกับ สนพ.ก็ใช้ โทร เฉยๆ แล้วนะ

190 Nameless Fanboi Posted ID6:0zEOCYoyXx

กูเขียนแล้วปิดจบท้ายตอนไม่ค่อยได้ว่ะ เหมือนเขียนไปเรื่อยๆแล้วไม่รู้จะตัดตอนตรงไหนดี ตอนมันยาวไปแต่กูก็ยังขมวดจบไม่ได้ จะแก้ปัญหานี้ยังไงดีวะ

191 Nameless Fanboi Posted ID:Q75/d5Qry7

>>190 ทำไมต้องขมวดอะ? อยากจบตรงไหนก็จบไปเลย บางทีก็ปล่อยจอยบ้างก็ได้ มันแค่เรื่องประติ๋วๆ อะ ปล่อยวางแบบกูจะจบตรงนี้ขึ้นใหม่ดีกว่า กูไม่คิดไรมากหรอก จบแม่งตรงนั้นแหละเพราะจำนวนคำพอแหละ คิดเยอะไปก็เสียสมอง เอาไปคิดเนื้อเรื่องเรื่อยๆ โล้ด

192 Nameless Fanboi Posted ID6:0zEOCYoyXx

>>191 อยากปิดตอนให้มันมีลูกเล่นเว้ย ไม่อยากให้มันห้วนเกิน เป็นความเรื่องมากของกูล้วนๆ 5555555555

193 Nameless Fanboi Posted ID6:UjntpKwVyC

>>192 เขาเรียกว่าจบปลายเปิดปะ เช่น จบแบบพระเอกชวนนางเอกไปกินข้าว ให้ตีความว่าเริ่มสานสัมพันธ์กันแล้วอาจจะได้เป็นแฟนกันมั้ย หรือพระเอกไปเที่ยวจีนจิบกาแฟชิวๆ แล้วบังเอิญเจอนางเอกที่จีนพอดีหลังแยกย้ายกันไปสิบปี
มักเจอในแนวๆไม่เน้นเลิฟไลน์อะ จบแบบให้คนอ่านคิดต่อเองว่าพระเอกนางเอกจะได้คู่กันป่าววะ หนักหน่อยก็ไทป์สคริปไปรุ่นลูกเลยว่าพูดถึงเรื่องในอดีตบลาๆ แล้วแง้มว่าคนเล่าให้ลูกฟังคือพระเอกหรือนางเอกนี่ละ

194 Nameless Fanboi Posted ID6:0zEOCYoyXx

>>193 ไม่ใช่ๆ ที่มีปัญหาคือตัดตอนปิดท้ายตอน

เช่น

"....พล่ามๆๆๆๆๆ" เอหัวเราะลั่น เล่าวีรกรรมที่เคยทำมาด้วยท่าทางภาคภูมิใจ บีได้แต่ยิ้มแหยๆ ด้วยความที่อายุน้อยกว่าจึงไม่กล้าขัด ได้แต่ยกแก้วน้ำขึ้นจิบราวกับจะกลืนความกระอักกระอ่วนลงคอไป รีบกวาดอาหารในจานใส่ปากแบบต้องการรับประทานให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้จบมื้อข้าวน่าเบื่อนี่สักที

-จบตอน-

กับ

"....พล่ามๆๆๆๆๆ" เอหัวเราะลั่น เล่าวีรกรรมที่เคยทำมาด้วยท่าทางภาคภูมิใจ บีได้แต่ยิ้มแหยๆ ด้วยความที่อายุน้อยกว่าจึงไม่กล้าขัด ได้แต่ยกแก้วน้ำขึ้นจิบราวกับจะกลืนความกระอักกระอ่วนลงคอไป รีบกวาดอาหารในจานใส่ปากแบบต้องการรับประทานให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้จบมื้อข้าวน่าเบื่อนี่สักที

ไม่น่านัดเจอไอ้หมอนี่เลย แม่งซวยฉิบหาย

-จบตอน-

อะไรประมาณนี้ แต่กูยังพามาถึงการขมวดปิดตอนแบบนี้ไม่ได้น่ะ เลยยังเป็นปัญหาอยู่

195 Nameless Fanboi Posted ID6:3Ff/sdBvve

>>190 ของกูมีทั้งแบบตัดห้วนๆ กับปิดท้ายด้วยวีรกรรมหรืออะไรซักอย่างของตัวเอก

ไอ้ตอนที่ตัดห้วนๆ มักจะเป็นช่วงเนื้อหาซีเรียส ทิ้งท้ายด้วยประโยคชวนคิดอย่างเช่น "คนร้ายน่ะ มันก็อยู่ในกลุ่มพวกเรานี่ล่ะ!" อะไรแบบนี้ แล้วค่อยตัดไปเลย

ส่วนขมวดจบแบบทั่วๆ ไปก็ทำแบบที่มึงพิมพ์ใน >>194 นี่ล่ะ ฉะนั้นกูเลยมองว่าไม่เห็นเป็นปัญหาตรงไหนเลยก็เห็นเขียนได้ตามปกติเองนี่?

196 Nameless Fanboi Posted ID6:5Mm1yV+FV4

พวกมึงที่ลงรายตอนเรื่องยาวกุขอคำปรึกษาหน่อย คือถ้ามีต้นฉบับจนจบแล้ว ถ้ากุลงวันละตอนก็จะใช้เวลา 3 เดือนกว่าแน่ะ กว่ามันจะจบ มันจะนานไปจนคนเบื่อเลิกตามมั้ยวะ หรือกุควรจะลงวันละ 2 ตอน ให้จบใน 2 เดือนดี แบบไหนดีกว่ากันวะ แต่กุวางแผนจะปล่อยอีบุคตอนลงไปได้เดือนนึง แล้วก็จะติดเหรียญขายตอนด้วย โดยสายฟรีมีทยอยเปิดให้อ่านตอนในระยะเวลาจำกัดแบบไม่กี่วันไรงี้ กุอยากรู้ว่าปกติเรื่องนึงมึงทิ้งระยะลงกันนานมั้ย แบบไหนให้ผลทางการตลาดดีกว่ากัน

197 Nameless Fanboi Posted ID6:NqrvFxOIEq

>>196 ลง รอร. มึงลงวันแรก 10 ตอนไปเลย แล้วลดเหลือวันละ 2 ตอน ถ้าติดเข้าใหม่มาแรง สักติดหนึ่งใน 50 มึงก็ปล่อยอีบุ๊คไปเลย มึงเดือนหนึ่ง นักอ่านสายอีบุ๊ค รอแห้งจนไม่อยากซื้อ

198 Nameless Fanboi Posted ID6:FhTE+9/a65

ky เพื่อนโม่งช่วงนี้กุร้อนเงิน อยากเขียนแนวที่ขายดี ๆ รักจีนโบราณไปรอดมั้ยวะ

199 Nameless Fanboi Posted ID6:NqrvFxOIEq

>>198 ร้อนเงิน เขียนนิยาย หมวด รักผญ. เยสสั้นๆ สักหมื่นคำไปก่อน นิยายจีนคนชอบยาวๆ เมื่อไหร่มึงจะเขียนจบง่ะ

200 Nameless Fanboi Posted ID6:2HJ+acBYnC

>>198 ประยุกต์จาก >>199 เอามารวมกัน รักจีนโบราณสั้นๆหมื่นคำผสมฉากเน้ด

201 Nameless Fanboi Posted ID6:gbHE5ycVID

>>197 ไม่กล้าหวังว่าจะติดชาร์ตกะเค้าเลยว่ะ 555
ใจมากมึง

202 Nameless Fanboi Posted ID:+oE2MVTrFs

เห็นประเด็นจบตอนของ >>190 แล้วนึกได้ ระหว่างตัดจบตอนแบบค้าง ๆ ให้ลุ้นตอนต่อไป กับเขียนตอนนึงให้คอมพลีตคลายปมในตอนไปเลย (เป็นตอนยาว ๆ เนื้อหาครบสมบูรณ์ทำนองนั้น) เพื่อนว่าแบบไหนดีกว่ากันวะ

203 Nameless Fanboi Posted ID:ET9dMCBHi9

>>202 กูอ่านได้ท้ังสองแบบ คหสต. ถ้ามึงจะจบครบในตอนยาวๆ มึงต้องทำให้กูอ่านแล้วรู้สึกว่าเออจบฟินแบบคุ้มที่อ่านยาวจนเหนื่อย ฟินนี่ไม่ได้แปลว่าจบดีจบหวานแบบจิกหมอน แต่ถ้าตัวละครมันต่อสู้กับปมมาทั้งตอนก็อยากให้ปิดจบตอนแบบกูคุ้มที่ลุ้นมา แบบนี้ต่อให้กูต้องโต้รุ่งก็ยังอยากไถอ่านเพื่อเหนื่อยกับมันต่อ
ไม่รู้กูอธิบายถูกมั้ย มึงเคยเป็นกันเปล่า แบบเวลาอ่านจบตอนช่วงกลางดึกแล้วรู้สึกว่าเชี่ยจบตอนสักทีแล้วปิดทิ้ง ไม่รู้สึกอยากโต้รุ่งเพื่ออ่านตอนต่อไปอ่ะ

204 Nameless Fanboi Posted ID:ET9dMCBHi9

>>203 เชี่ย กูพิมพ์ไม่รู้เรื่องเลย ขอโทษที ที่กูอยากบอกคืออย่าเป็นตอนยาวๆ ที่จบแล้วรู้สึกไม่คุ้มเหนื่อยอ่ะ กูนึกถึงตอนกูอ่านกลอรี ช่วงเล่มสิบกว่าๆ ที่พี่เยี่ยเจอเควสยาวตัวละครเยอะ แต่พอจบเควสนึงกูก็ยังอยากเปิดตอนต่อไป ไม่ว่าพี่เยี่ยในตอนนั้นจะจบแบบเทพเคลียร์ๆ หรือจบแบบมีปัญหารออยู่ข้างหน้า อะไรแบบนี้
ขอโทษอีกทีที่พิมพ์แล้วงง กูไม่ถนัดเรียบเรียงความคิดเลยแฮะ

205 Nameless Fanboi Posted ID6:BWLr0I/Fo6

Kyขอถามนข.--นข.ที่ลงขายebookแล้ว ไม่สามารถแก้ไขคำโปรย หรือเพิ่มTWตรงหน้าคำนำนข.ได้ทันทีที่รู้ว่าต้องแก้ไขเหรอวะ?//ต้องรอเมbมาทำให้เท่านั้นเหรอ?
คือมีนข.ลืมติดTWล่วงละเมิดเด็ก นักอ่านที่เป็นfcขาประจำซื้อไปอ่านแล้วดิ่งสุด จนจะอ้วก
เพิ่งมาเห็นในหน้าคอมเม้น ว่านข.บอกว่าลืมติดTWและรอให้เมbแก้ไข เพราะถ้าเห็นก่อนก็จะไม่ซื้อแน่นอน

206 Nameless Fanboi Posted ID:+oE2MVTrFs

>>205 คำโปรย/เนื้อหา หรืออะไรก็แล้วแต่ จะแก้ต้องรอเว็บอนุมัติ บางทีเป็นวัน แก้ทันทีไม่ได้จร้า

ว่าแล้วสงสัย เรื่อง TW นี่อยากให้ติดในคำโปรยเรื่องย่อเลย หรือให้อยู่ในเล่ม ต้องกดอ่านตย.ก่อนถึงจะเจอ ดี

207 Nameless Fanboi Posted ID6:0qys1B.Jc4

>>205 จริงๆ นข.มาโพสต์ในตรงความคิดเห็นหน้าเม้ดก่อนได้นะ

208 Nameless Fanboi Posted ID6:BWLr0I/Fo6

>>206 ถ้านข.กลัวจะสปอยล์ ติดในเล่มให้รู้ก่อนอ่านก็ได้
แต่โดยส่วนตัวกูที่เป็นคนอ่าน ชอบให้ติดทั้ง2ที่เลย ดูกล้าได้กล้าเสียกล้าทำกล้ารับดี วัดใจกันไป เพราะนักอ่านบางคนเจอTWตรงคำโปรยก็ไม่แม้แต่จะโหลดไปลองอ่านละ

209 Nameless Fanboi Posted ID6:a8oHpZchmI

ลงงานมา 1 เดือน + แอบดูคนรอบข้างแล้วพบว่า รอร. นี่ค่อนข้างชัดแล้วแฮะว่าหมวดแฟนตาตีแม่งร้างจริงๆ
เหมือนทางเว็ปมีไว้ประดับงั้นๆ แต่เอาไปวางซะข้างล่าง + ปนหมวดกันมั่วไปหมดเลย จนน่าจะไม่มีคนใส่ใจเข้าไปหาแล้ว
แบบนี้ชักไม่แปลกใจทำไมเรื่องแฟนตาซีอื่นๆ ถึงย้ายไปแฝงตัวหมวดอื่นกันหมด โดยเฉพาะแนวจีนโบเนี่ย

ขนาดมีคนเอาแนวจีนโบฯ มาลงหมวดแฟนตาซีจำนวนคนเข้าถึงยังน้อยจนน่าใจหายเลย

210 Nameless Fanboi Posted ID6:BWLr0I/Fo6

>>207 นข.โพสต์ในคอมเม้นแล้วจ้า แต่มาโพสหลังคนอ่าน4-5คอมเม้น แล้วคนอ่านบางคนไม่เห็นนี่สิ นิยายมาเที่ยงคืนวันศุกร์ก็โหลดอ่านกันเลย

211 Nameless Fanboi Posted ID6:0qys1B.Jc4

>>210 ไปดูมาละ น่าจะโดนว่าก่อนแล้วมาโพสต์ มันยิ่งช้าไปใหญ่

212 Nameless Fanboi Posted ID:X2DYiVrQ85

KY มึงกูหาไม่เจอว่ะ มันกดดูในเม๊พยังไงนะที่ให้โชว์จำนวนยอดโหลดหนังสือในระยะเวลา 7 วัน 150 วัน 1 ปี อะไรนั่นอ่ะ กูรื้อหาทั้งเว็บแล้ว ช่วยด้วย

213 Nameless Fanboi Posted ID6:lI5yyr2YC6

>>212 หนังสือของฉัน > จัดการบุฟเฟต์ > แล้วมึงกดปุ่มข้ามไปก่อน จะเจอรวมยอดที่หา

214 Nameless Fanboi Posted ID6:d4g5FGm34q

>>213 เจอเลยตามที่มึงบอก ขอบคุณหลายๆ เด้อ

215 Nameless Fanboi Posted ID:Ehv/3jAujM

ขอยาด 18+ หน่อยนะ พอดีไปเจอคห.คนที่ไม่ชอบการจูบมา บอกว่าดีพคิสมันน่าขยะแขยง บลา ๆ ทำเอาสาวโสดไม่เคยมีผัวอย่างกุเพิ่งตระหนักถึงฉากจูบ สมมติเพิ่งไปดินเนอร์มาละกลับมาจูบกัน / จูบตอนยังไม่แปรงฟันนี่คนอ่านเขาจะ eww มั้ยวะ แบบว่า สุขอนามัยมันไม่ได้ 555 กุต้องเขียนให้ลูกกุไปแปรงฟันก่อนมั้ย 555

216 Nameless Fanboi Posted ID6:b4nxrynYmv

>>215 เอาจริงนักอ่านส่วนใหญ่ไม่สนนะ มันมีความเร้าอารมณ์แทรกอยู่อะ แบบ เพิ่งดินเนอร์เสร็จ กรึ่มๆดื่มไวน์ นัวเนียจูบต่อในชุดสวยชุดหล่อเลยแม่งเซ็กซี่เว้ย แต่ถ้าแคร์เรื่องจูบ (กูเห็นนักเขียนบางคนแคร์จริง สัมผัสได้เลย) เขาจะเลี่ยงๆแบบสมมติให้พระนางแค่ดื่มกับกินอะไรเบาๆ ขนม ของหวาน หนักไปที่ไวน์ เวลาจูบนัวทีก็บรรยายได้ว่ากลิ่นไวน์เคล้าความหวานอะไรก็ว่าไป กับบางคนก็ไล่ไปแปรงฟัน แต่ถ้าแปรงฟันแล้วมาจูบมันไม่เซ้กซี่ ใครจะแปรงฟันเพื่อจูบอย่างเดียว ก็ต้องถอดเสื้ออาบน้ำ แต่มันก็จะลบเครื่องสำอางที่แต่งสวยมา ความเซ็กซี่มันหาย บางอย่างเลยต้องถอดสมองไปน่ะ ขึ้นอยู่กับคนเขียนเลย555

217 Nameless Fanboi Posted ID:ny662kH+q9

>>209 มันร้างเหรอวะ? คือกูตามแต่ในรอร.ไม่ได้ไปดด. เรื่องที่กูอ่านก็มีคนตามอยู่นะ(ร้อยปลายๆเกือบแตะพันเรียกว่าเยอะมั้ยนะ)แนวฟตซ.ผสมเกมออนไลน์อ่ะมึง กูว่าลงหมวดฟตซ.ก็ไม่ถูกเท่าไร คือคนเขียนลงให้อ่านฟรีกูก็อ่านไปเรื่อยๆก็เห็นคนเพิ่มเข้าชั้นสะสมมาเรื่อยๆเลยไม่รู้สึกว่ามันร้าง หรือบางทีคนที่มาอาจเป็นสายอ่านฟรีแบบกูก็ได้มั้ง ถถถถ

>>215 กูสน กูแคร์แต่ไม่ถึงกับขยะแขยง ถถถถ คือกูไม่อินเวลาพระนางตื่นมาตอนเช้าแล้วจูบกัน กูนึกถึงกลิ่นปากแล้วฟินไมม่ลง ถถถถ แต่อย่างที่มึงเสนอว่าเขียนให้ลุกไปแปรงฟันกันก่อน แบบนี้กูโอเค หรือตอนพอ.เอามือล้วงใต้กระโปรงนอ.อ่ะ กูจะคิดว่ามึงไปจับอะไรมาล้างมือก่อนได้ป่าว น้องสาวนอ.เป็นจุดบอบบางน่ะเว้ย ถถถถถ แต่คนรู้สึกแบบเดียวกับกูคงไม่ค่อยมีมั้ง

218 Nameless Fanboi Posted ID:x5/vLzoeJQ

>>215 กุเห็นด้วยว่าส่วนใหญ่ไม่สน คนที่คิดแบบนี้เป็นส่วนน้อย ว่าแต่กินดินเนอร์แล้วมันแหยะยังไงเหรอ อันนี้ถามเพื่อนโม่งคนอื่นๆ ที่มีความเห็นประมาณนี้ ถามแบบจริงๆ เพราะสงสัย 555 คือกุเคยชวนคุ่เดทที่เป็น ฝ ไปลองร้านอาหารไทย กุล่อกะเพราส่วนเขากินแกงเขียวหวาน ดื่มแค่น้ำเปล่า เขามาส่งหน้าบ้านมีจูบแรกกันแต่เตลิดหน่อยเลยไม่ใช่แค่แตะๆ น่ารักๆ ดีปอยุ่แต่มันก็ไม่ได้รู้สึกอี๋แหวะอะ ตอนกินข้าวเสร็จก่อนออกจากร้านกุแค่ไปเข้าห้องน้ำบ้วนปากด้วยน้ำปากเผื่อมีเศษอาหารติด ส่วนฮีกุกลับมาก็เห็นปากเนียนฉ่ำเหมือนแอบทาลิปมันเตรียมตัวไว้ กับบางคนโมเม้นจูบมาแบบไม่ได้ตั้งตัวด้วย คือแค่ทั้งคู่ดูแลความสะอาดน่าจะพอมะหรือคู่อื่นๆ เขาแปรงฟันกันก่อนตลอดเลยเหรอวะ ถ้าไม่ใช่ว่าพาเขามาแซ่บต่อที่ห้องมันก็ต้องจูบในที่ๆ แปรงฟันไม่ได้มั้ยง่ะ ส่วนจูบตอนตื่นกุเห้นด้วยว่าน่าจะแหวะอยุ่ 55555555

KY จริงๆ กุจะเข้ามาบ่นว่ากุเป็นสาวโสดซิงเขียนนิยายโรมานส์เพ้อๆ ขายฝันอยู่ดีๆ ไม่ชอบ เสือกไปลองเปิด ปสกส. ทีนี้มองโลกเทาเลยแง 5555 คือก่อนนี้กุมีแพลนนิยายเป็นสิบยี่สิบเรื่องเลย ส่วนใหญ่รักกุ๊กกิ๊กผสมฉาก 18+ ตามสูตรแหละ อาจจะมีขมบ้าง ระทึกบ้างแต่ตอนจบแฮปปี้ฟีลกู้ดตลอด ทีนี้ชีวิตรักกุนี่มันกึ่งๆ ons + fwb กุเลยเอาเรื่องตัวเองมาเขียนเพื่อฮีล มีดัดแปลงตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย ถ้าจะให้เขียนไปทางถูกใจตลาดก็ให้จบแฮปปี้ได้แหละ แต่กุรู้สึกว่าของจริงกุมันหวานปนขมเลยไม่อยากทรยศตัวเอง ทีจริงจบเรียลๆ เรื่องนึงคงไม่เป็นไร แต่ตอนนี้เหมือนกุมองโลกเปลี่ยนไปเลยจะกลับไปเข็นตัวเองให้เขียนเรื่องที่ค้างๆ ไว้ก็ไม่อินแล้วว่ะ ทำไงดีวะ

219 Nameless Fanboi Posted ID6:amK25s6VV2

>>209 รอร มันจัดวางเองได้ ไม่ใช่เหรอ มันอยู่ที่ว่าใครจะจัดไว้บนล่าง

220 Nameless Fanboi Posted ID:WJI/RE1zHQ

นิยายแสนคำ เพื่อนโม่งขายเท่าไหร่ แบบราคาพื้นไม่จัดโปร

221 Nameless Fanboi Posted ID6:XPmetlYUol

>>220 ตีกลมๆ 100000 = 300 / 299

222 Nameless Fanboi Posted ID6:5gC9UmWXp7

>>215 ถ้ามึงมัวนึกถึงความจริงในตอนที่อ่านนิยายมึงจะเจอความอี๋อีกหลายอย่างเลย ดังนั้นกุในฐานะนักอ่านนี่กุไม่สนหรอก ว่ามันจะไปจกปลาร้า แดกส้มตำกันมาก่อนจะมาดีพคิสกันอ่ะเปล่า ตราบใดที่คนเขียนไม่ได้บรรยายไว้กูก็จะถือว่าลมปากสะอาดหอมชื่นใจดุจเทพนิยายไว้ก่อนแหละ

>>220 กูกำลังว่าจะปล่อย 259 อยู่ มันถูกไปเหรอ? แต่กุโดนราคารายตอนดึงขาอยู่ว่ะ ไม่อยากให้มันต่างกันเกินครึ่งว่าจะเปิดราคานี้ แต่จริงๆ ยอดอ่านรายตอนแม่งก็กริบอยู่แล้ว หรือกุควรเปิดสูงไปเลยดีวะ ถือว่าลูกค้าคนละกลุ่มโดยสิ้นเชิงแล้วดี 🥲

223 Nameless Fanboi Posted ID:58/9XLy4Aj

>>222 ถ้าไม่ใช่ตัวมัม ราคาที่มึงว่ามาก็โอ คนจะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น ถือว่าลดลงมาหน่อย ถ้ามันเป็นเล่มฮอตขึ้นมา ค่อยแอบปรับราคาเงียบๆ ไม่ต้องประกาศบอก

224 Nameless Fanboi Posted ID6:Kw596MUDGq

>>222 ถ้าตอนแรกไม่ใช่ตัวมัม นักเขียนอย่าง รดสฬา ขายebookได้เยอะจนเรตติ้งรีวิวหลายร้อย(ตัดประเด็นเรื่องสำนวน/พล็อตไป)ก็เพราะขายถูกนี่แหละ กุเห็นเรื่องแรกเขาในแอพสองแสนคำขาย250 จากนั้นก็ปรับราคาขึ้นเรื่อยๆแต่ก็ยังไม่แพง แสนคำขาย200ไรงี้ ยอมใจการตั้งราคา กล้าเสี่ยงระดับหนึ่ง ถ้าถูกแล้วยังขายไม่ดีคือแย่ทุกทาง

225 Nameless Fanboi Posted ID6:It3.ww7uzy

ว่าแล้วถามหน่อย ถ้ายอดอ่านรายตอนค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว ทำ ebook นี่จะยังพอมีหวังคนเผลอกดไปบ้างรึเปล่าวะ
พอดีกูเพิ่งลงเล่มแรกที่ตั้งใจจะให้อ่านฟรีเสร็จ หลังจากนี้จะเริ่มขายละ แต่ยอดรายตอนก็น้อยกว่าที่คาดไปเยอะเลยกะจะไปลอง ebook ดู

226 Nameless Fanboi Posted ID:WJI/RE1zHQ

ขอบใจทุกคนมาก คือจริง ๆ กุตั้งไว้ที่ 0.0025 ต่อคำตามมาตรฐานแหละ จริง ๆ คิดว่าถูกมากแล้ว แต่เห็นนักอ่านบอกอีบุ๊กไม่ควรแพง (แพงของบางคนคือ 250+ ไม่สนจำนวนคำ ต่อให้ 2 แสนคำขาย 250 ก็บอกแพง .............) เลยหวั่นใจเล็กน้อย แต่ก็คิดว่า แม่ง เรื่องนึงกุเค้นสมองเขียนตั้งนาน 5555 ต้นทุนอื่น ๆ ก็มี ทีกินข้าวจาน 300 มื้อเดียวยังกินได้ 5555 กุจะกดราคาตัวเองทำไมฟะ 5555

227 Nameless Fanboi Posted ID6:sGwqQwxjyd

>>226 ในมุมนักอ่านแบบกูที่ไม่ได้เป็นทาร์เก็ตกรุ๊ปลูกเจ้าสัว กูว่าแพงเพื่อนโม่ง
ยิ่งถ้าไม่เคยอ่านงานกันมาก่อนจะคิดเยอะๆเลย หารจำนวนคำแล้วได้500+คำต่อ1฿คือราคาดีสำหรับกู//ต่ำกว่า400คำต่อ1฿คือเหล่แล้ว ทำไมแพง

228 Nameless Fanboi Posted ID6:/8/f1Ed.Yk

เวลาเขียนนิยาย ส่วนใหญ่แทนตัวละครด้วยชื่อจริงหรือชื่อเล่นกันน่ะ? คือส่วนตัวอยากใช้ชื่อจริงตัวละคร แต่มีคนแนะนำมาว่าถ้ามีชื่อเล่นใช้ชื่อเล่นดีกว่า 😅

แล้วสรรพนามบุรุษที่สาม (ผู้หญิง) มีอะไรนอกเหนือไป หญิงสาว, หล่อน, เจ้าหล่อน, ร่างเล็ก บ้างมั้ย ถ้าใช้ซ้ำๆซากๆ นักอ่านจะโอเคป่าววะ

229 Nameless Fanboi Posted ID6:sGwqQwxjyd

>>228 เห็นส่วนใหญ่บรรยายเป็นชื่อจริงนะ จะใช้ชื่อเล่นในบทสนทนา"..." ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมอ่านแล้วเข้าตาเข้าปากคนอ่าน
นอกจากหญิงสาว ;คนตัวเล็ก;ร่างบาง อาจเป็นลักษณะเฉพาะของคนๆนั้น เช่นคนตัวหอม หรืออ้างถึงบริบทก่อนหน้านี้เช่น คนที่บอกว่าจะไม่หิวเมื่อสักครู่ กลับนั่งกินข้าวกับเธอหน้าตาเฉย; ชายผู้เป็นเจ้าของส่วนสูง187เซนติเมตรกำลังก้มหน้ามองเธอ ;ลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน ;ลูกชายคนเล็กของบ้าน...

230 Nameless Fanboi Posted ID6:dS./Lla8dK

>>228 ของกูชื่อเล่นล้วนๆ เพราะตัวละครเรียกด้วยชื่อเล่นกันหมด
ของกูมีสรรพนามอื่นเอาไว้เรียกตัวละครบางตัวเป็นการเฉพาะเลยเช่น แม่ลูกแกะตัวน้อย, นังสมองนก, ยัยจิ้งจอก, นังงูพิษ, ทานูกิ/แรคคูน, แม่เสือสาว, อีลาโง่, พี่หมี ฯลฯ สรรพสัตว์ ถถถถถ
เพราะกูดีไซน์ตัวละคร โดยอิงลักษณะเด่นของสัตว์จำพวกนั้นๆ มาด้วยล่ะ

231 Nameless Fanboi Posted ID6:dS./Lla8dK

ยกตัวอย่างขำๆ ก็เช่น - และแล้ววันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ยัยจิ้งจอกศัตรูคู่อริเจ้าเดิม กำลังยิ้มกระหยิ่มขยิบตาที่คมกริบแถมยังกรีดด้วยอายไลเนอร์สีแดงสดจนดูคล้ายกับหลุดมาจากหอนามโลมยุคไหนซักยุค โปรยเสน่ห์ใส่พ่อหนุ่มร่างยักษ์จนทำเอาอีกฝ่ายถึงกับผงะตัวแข็งทึ่งไปชั่วขณะ
แน่นอนว่านั่น มันก็ไม่เป็นผลดีต่อแม่ลูกแกะตัวน้อยอันแสนจืดจางที่ยืนประกบอยู่ข้างๆ พี่หมีของพวกเราเลยซักนิด

232 Nameless Fanboi Posted ID:.KEGT00KRm

>>228 ถ้านิยายมึงฟีลจริงจังก็ชื่อจริง แต่ถ้าแนวรักใสๆวัยรุ่นและอยากใช้ชื่อเล่นก็ใช้ไปเหอะ

จริงๆจะใช้แบบไหนก็ได้ แค่มึงลองอ่านทวนแล้วบรรยากาศในเรื่องเหมือนที่มึงจินตนาการไว้ก็พอ

233 Nameless Fanboi Posted ID6:8v+wI/NfUI

>>228 ถ้าเขียนบรรยายกูใช้ชื่อจริง แต่ตัวละครพูดกูจะใช้ชื่อเล่น ตัวอย่าง

"ก้อยว่าเราไม่ควรเข้าไปดีกว่านะคะ" สุปราณีทำหน้าแหยๆเมื่อสมศักดิ์เอื้อมมือไปเปิดประตูเพื่อจะเข้าไปข้างใน หญิงสาวจุ๊ปากแล้วโบกมือให้เขาเดินไปทางอื่น

แต่ถ้าเป็นผู้ชายพูด กูก็ใช้สรรพนามแบบ ผม กู เรา ถ้านิยายโบราณๆหน่อยก็ฉัน กัน ประมาณนี้

234 Nameless Fanboi Posted ID6:rc9inAYi9/

>>231 จริงๆบรรยายแบบนี้สนุกมากนะ ถ้ากลุ่มลูกค้าคือวัยรุ่นอ่านนิยายออนไลน์ กูว่าน่าติดตามเลยแหละ
แต่ถ้าโม่ง >>228 ตั้งใจว่าอยากเขียนนิยายแบบเผื่อส่งสนพใหญ่ พยายามใช้ให้น้อยๆดีกว่า ฐานลูกค้าสนพส่วนมากเป็นผู้ใหญ่ มันก็จะอีกรสนิยมนึง

235 Nameless Fanboi Posted ID:ZsKV2p8u/y

ไม่รู้ถามมู้นข.หรือนักอ่านดี แต่พอดีกูอยากจ้างวาดปก/ตลค. แต่ไปเห็นคอมเม้นนิยายคนอื่นที่เขามีอิมเมจวาดเหมือนกัน นักอ่านติงประมาณว่าไม่ควรมีรูปเลย ไม่ชอบ วาดไม่สวย (เข้าใจว่าลางเนื้อชอบลางยา แต่กุมองว่าเส้นสวยโอเคนะ) ทำลายจินตนาการ บลา ๆๆ ละเฟลแทนนข.นว.เลย อยากรู้ว่าถ้าเจองี้ทำไงดีวะ นักวาดที่กุจะจ้างก็งานดีงานเริ่ดในสายตากุอยู่แล้ว แต่คนอ่านอาจจะไม่ถูกใจ หรือกุไม่ควรใส่รูปยัดเยียดอิมเมจให้คนอ่านจริง ๆ ฮือ ๆ

236 Nameless Fanboi Posted ID6:QtwIdTdRTS

>>235 ถ้ามี1คนที่บอกแบบนี้ แต่มึงคิดว่าดีว่าสวยก็ทำไปเถอะว่ะ มึงไปตามเอาใจคนอ่านไม่ได้ทุกคนอะ ใช้ความชอบของมึงเป็นเกณฑ์เลยเอาที่มึงเห็นสมควร แต่....ถ้ามีหลายๆคน(กะคร่าวๆมากกว่า10)บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าลายเส้นนี้ไม่สวยแบบนี้ไม่เวิร์คมึงต้องทบทวนใหม่ละว่ารสนิยมในด้านนี้มึงไม่ไปทางเดียวกันกับลูกค้า

237 Nameless Fanboi Posted ID:WMxqYm/Ntd

ขอเทคนิคพิมพ์นิยายได้วันละหลายพันคำหน่อย ตอนนี้กูเบิร์นเอาท์สุด ๆ พยายามเข็นให้ได้วันละสี่พันคำยังยาก เปิดคอมมากว่าจะทำนั่นนี่เสร็จมาพิมพ์ดึก ๆ นอนดึกตื่นสายไปทำงานแล้วเบลอ ๆ อีกหรือกูควรพอกับอาชีพนักเขียนดี มุ่งมั่นทำงานประจำ แต่นั่นแหละ เงินมันค้ำคอ

238 Nameless Fanboi Posted ID6:bPZOB8.ofG

>>236 +1 เอาความชอบตัวเองเป็นเกณฑ์

239 Nameless Fanboi Posted ID6:HqrG8+B6mw

รอร. นี่นับยอดวิวยังไงวะ อยู่ๆ ยอดพุ่งมาเพียบ แต่ในหน้าของนักเขียนเห็น นับยังก็ไม่ถึง

240 Nameless Fanboi Posted ID6:HqrG8+B6mw

>>237 มึงตั้งเป้าเยอะเกินไป วันละ 4000 นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย
ตอนแรกกูก็เหมือนมึงนั่นล่ะตั้งเป้าวันละ 3-4000 คำ สรุป Burnout
ปัจจุบันกูตัดเหลือ 1500 คำต่อวันพอ ตอนนึงเขียนจริงๆ แค่ 1-2 ชั่วโมง ถ้าวันไหนฟิตๆ หน่อยก็จัดไป 3-4000 คำ

241 Nameless Fanboi Posted ID6:xVAIId9ZvX

>>239 ถามงงว่ะ หมายถึงหน้านิยาย กับ ใแต่ละตอนเหรอ? รอร มันนับการคลิกดเข้าไปดู เช้าหน้าแรกก็นับ กดเข้าอ่านในตอยก็นับอีก1กดตอยต่อนับอีก1

242 Nameless Fanboi Posted ID:PuLlzLOPSZ

คือกุเป็นอะไรไม่รุ้อยากเขียนแต่เรื่องสั้นๆ ของตัวประกอบในเรื่องหลักที่ยังเขียนไม่จบหรือยังไม่ได้ลงมือเขียนมีแต่พล็อตกับทรีตเม้นต์ เขียนการพบเจอ คอนฟลิค ได้กัน บทสรุป แค่นี้กุพอใจละ ไม่ยาวมาก 4-8000 คำ กุก็กะว่าไว้เขียนเรื่องหลักจบค่อยไปใส่เป็นตอนพิเศษแถมให้คนอ่านเอา แต่ทีนี้กุเป็นสายชอบทำปกเองอีก อยากมีหน้าปกที่เหมาะกับโทนเรื่องของคู่นี้ๆ ก็เข้าแคนวาหาทำไปเรื่อย จนตอนนี้กุมีอิตอนพิเศษหลายเรื่องละแต่เรื่องหลักนี่คือทิ้งไปเป็นปีๆ ไม่มีวี่แววจะกลับมาเขียนได้เลยว่ะ หรือกุควรลงไอ้เรื่องพวกนั้นฟรีๆ เรียกแขกมามุงเรื่องเก่าๆ ก่อน

243 Nameless Fanboi Posted ID6:xVAIId9ZvX

>>242 ใช่มุงลงเป็นเรื่องฟรี เรียกแขกไเลย

244 Nameless Fanboi Posted ID6:P5n4DjhbXW

>>241 แสดงว่าเรื่องของกูมีคนเข้ามาดูเป็นพันๆ แต่คลิ๊กอ่านหลักหน่วยเองสินะ orz

ตอนแรกๆ ก็มีคนอ่านเป็นร้อยๆ นะ แต่พอดำเนินเรื่องไปซักพักยอดก็หาย แล้วในที่สุดลงไปเมื่อวานก็ไม่มีคนอ่านละ ยอดเป็น 0 เลย

เจอแบบนี้ชักอยากถามความเห็นเหล่าโม่งละว่ากูควรเลิกดันทุรังกับเรื่องนี้ดีมั้ย

245 Nameless Fanboi Posted ID6:xVAIId9ZvX

>>244 เอาให้จบมึง อย่างน้อยก็ไว้ขายอีบุ๊ค แต่เห็นแนวโน้มแบบนี้ มึงก้ตั้งราคาเบาหน่อย ไม่ได้เขียนเป็นงานหลักใช่ป่ะ? แต่บางทีนะ ลองเอาลงที่อื่นด้วย เผื่อดวงมึงจะผูกไว้กับแอพอื่นว่ะ

246 Nameless Fanboi Posted ID6:78wIdkqF2B

>>245 ปัจจุบันกูลงทั้ง ดด. ทั้ง รอร. คู่กันไป แล้วคือยอดพอๆ กันเลยทั้งคู่
จะให้ลงแอพอื่นก็ไม่น่าไหวละ เมื่อคืนนั่งตั้งเวลาอัพ 2 แอพพร้อมกัน กินเวลาไปราว 2-3 ชั่วโมงแน่ะ

247 Nameless Fanboi Posted ID6:xVAIId9ZvX

>>246 คือมึงอัพทีกี่ตอนหว่า?

248 Nameless Fanboi Posted ID6:78wIdkqF2B

>>247 50+ ตอน คืออัพทั้งเล่มนั่นล่ะ
กูเขียนสต๊อกเอาไว้เยอะมากแล้วไง แต่ทยอยตั้งเวลาอัพ
ปัญหาคือตอนอัพนี่ล่ะ แม่งต้องมาตรวจคำผิด + ตั้งเวลาทีละตอน แล้วต้องทำ 2 แอพพร้อมกันเลยกินเวลาเยอะกว่าที่คาดเลย

249 Nameless Fanboi Posted ID:51J4V4Cx84

>>248 ตรวจคำผิดทีละตอนก็แล้วไป แต่รี้ดมันตั้งเวลารวดเดียวได้นะเมิง แบบระยะห่างละวันละตอนงี้ก้ได้ ((คือจริง ๆ กุก็เพิ่งรู้ นึกว่าต้องตั้งทีละตอน เสียเวลางมตั้งนาน 5555))

250 Nameless Fanboi Posted ID6:HXx3gAieVd

>>249 อ้าวเหรอ เชี่ยกูก็โง่กดทีละตอนๆ

251 Nameless Fanboi Posted ID6:SmhUM4j0pA

กลุ่มนักเขียนใน FB นี่มีกลุ่มไหนบ้างมั้ยวะที่คุยและแชร์ประสบการณ์เขียนกันจริงๆ ไม่ใช่มีแต่โพสต์ฝากนิยายตัวเอง
เห็นลองแอบเข้าไปดูแต่ละกลุ่มมีแต่โพสต์ฝากนิยาย ไม่มีใครคุยกันเลยซักคน

252 Nameless Fanboi Posted ID:1XIuTxE5cW

>>251 มึงลองเปลี่ยนมาเข้า

253 Nameless Fanboi Posted ID:1XIuTxE5cW

>>251 มึงลองเปลี่ยนมาเข้ากลุ่มไลน์อพช.มะ
กูเคยลองแทรกเข้สไปทุกกลุ่ม​ 99% จะมึแต่พงกแปะลิงก์ฝากนิยายตัวเอง​ นิยายเพื่อน​ นิยายน้องเขียน
แต่กูเคยเจอกลุ่มนึงมันดิสคัสเรื่องเทคนิคเขียน/ขายจริงจัง​แ

254 Nameless Fanboi Posted ID:1XIuTxE5cW

>>253 ต่อ
มันดิสคัสเทคนิคจริงจัง​แต่คำพูดแต่ละคนจะเบียวๆไม่ก็ดัดจริตนิดหน่อย​ เคล็ดลับ​ก็เบสิคบ้างไม่ก็กลวงๆ​อย่างเช่นนอนให้พอสมองแจ่มใส​ ไม่ก็ออกไปเที่ยวโลกหาแรงบันดาลใจ​ กูตามอยู่พักนึงขี้เกียจ​อ่านเลยลีฟ
แต่พวกฝากลิงก์นิยายตัวเองก็มีนะ​ ไม่ใช่สมาชิกที่ดิสคัสด้วย​ เป็นพวก​ ROM แปะลิงก์​แล้วก็เงียบเป็นเดือนแล้วก็แวะมาแปะตอนใหม่แล้วก็ไม่คุยไรเลย
ไรพวกนี้กูเข้าไปในอพช.มาลองหมดแล้ว(​เฉพาะกลุ่มเปิดนะ​ )​ บอกได้เลยว่าพวกฝากนิยายยังไงมึงก็เจอ​ หลายกลุ่มแปะหราว่าฝากนิยายได้​สงสัยแอดมินกลัวไม่มีสมาชิก ขนาดกลุ่มดิสคัส 1%ที่ดูจิงจังยังมี​ กูเคยถามว่าแปะได้เหรอพวกที่น่าจะอยู่มานานบอกว่าไม่ได้ห้าม​ ห้ามแค่ลิงก์สินต้าทีรไม่ใช่นิยาย
ปอลอกลุ่มที่ว่านั่นกูก็ลีฟออกมาแล้วรำคาญบทสนทนาสวยๆในนั้น

255 Nameless Fanboi Posted ID6:8p9NjOivWZ

>>251 ไม่มี ทุกที่มีให้ฝากนิยายแทรกกับการคุยทริคบ้างดราม่าบ้าง

256 Nameless Fanboi Posted ID6:uQykZqF9uG

โม่งนี่โอสุดละ แถมบอกกันแบบไม่กั๊ก แต่แค่ต้องระวังเวลาปรึกษาพล็อต ยูนีคเกินโป๊ะแตก555

257 Nameless Fanboi Posted ID6:5xoLj0c8Rh

Ky ถ้าส่งไฟล์อีบุ๊กวันอาทิตย์ เมบจะอนุมัติในวันนั้นและได้ขายวันรุ่งขึ้นมั๊ย

258 Nameless Fanboi Posted ID6:81B/VwPQhh

>>256 ไม่มีใครกล้าฝากนิยายด้วย555 กลัวโป๊ะหลุดแหละ
ว่าก็ว่าเหอะ สมัยก่อนในดด.มันเคยมีนะ พวกคอมมูบทความแชร์ทริคเขียนนิยาย จำได้ว่าคึกคักมากฟีลเวิร์กชอปออนไลน์เลยมึง กูก็งมแบบงูๆปลาๆได้จากในนั้นละ ตอนนี้พวกคอมมูล่มสลายไปละอย่างร้าง บทความเขาก็เลิกเขียนละพวกทริค นานๆเขียนทีแต่ทริคกลวงๆอะ แนะนำให้ไล่หาอ่านบทความเก่าๆดู ที่เขียนโดยพี่น้องพี่เต้อะ ทริคเด็ดอยู่นะ อมตะตลอดกาลด้วยแบบไม่อิงกระแสมึงก็เอาทริคนั้นมาเป็นฮาวทูเริ่มต้นในการเขียนนิยายได้

259 Nameless Fanboi Posted ID6:zYVgSjT7n0

>>251 ไม่งั้นมึงก็ต้องหานักเขียนที่ฝากงานนั่นแหละมาเมคเฟรนด์ ปรึกษา แนะนำ ช่วยกดใจเวลาออกเล่ม สร้างกลุ่มกัน ชวนกันเขียนนิยายเซ็ต เห็นตัวแม่บางคนก็มีกลุ่มก้อนไว้ปรึกษา บางคนก็ฟีลทักตัวแม่ไปว่าคุณคือแรงบันดาลใจของฉัน สอบถามหลังไมค์เรื่องเทคนิคพร้อมแนบงาน ไม่ก็แท็กอวย เขาก็จะรีๆนิยายให้ตามมารยาท แก๊งนข.วัยรุ่นยิ่งแล้วใหญ่ ไปเรียนรู้เทคนิคจากหลังไมค์เอา ไม่งั้นก็ต้องรอคนเปิดลงทริคตัวเองแล้วไปเมคเฟรนด์กะเขา ซึ่งมันยุ่งยากสำหรับกูมาก ขก.คีพคสพ. (เพราะบางทีจะเจอคนปสด. ไม่ก็เรานี่แหละปสด.ซะเองด้วยปัจจัยหลายอย่าง)

ส่วนสิงโม่งเข้ากะกูสุดละ อยากถามตอนไหนก็มา อยากตอบตอนไหนก็ตอบ555

260 Nameless Fanboi Posted ID6:tqzJPkwY7I

>>256 จริง กุว่าโม่งนี่มีประโยชน์สุดแล้ว 555 อยากให้มีตุ่ม unsend เหมือนกัน กัวดิจิตอลฟุดฟิด 55555

>>257 ไม่ชัวร์นะ รู้สึกมันจะกำหนดให้ตั้งเวลาขายล่วงหน้าได้ไม่น้อยกว่า 3 วัน เว้นแต่จะกดให้ลงเลยเมื่อไฟล์พร้อม ของกุเร็วสุดคือส่งวันนี้เที่ยงคืนขายได้เลย (ให้เขาทำ epub ให้ด้วย ตกใจเหมือนกันที่ทำให้เร็วขนาดนั้น 55555) แต่ตอนนั้นที่ขอคือวันงาน ถ้าวันหยุดนี่ก็ไม่แน่ใจจะได้เร็วมั้ย รอเพื่อนโม่งท่านอื่นมาให้ข้อมูล

261 Nameless Fanboi Posted ID6:lg2SVbo8wk

ก็ว่างั้นนะ หลายปีมานี้กูเลยวนเวียนอยู่แต่ในโม่ง ไม่ได้เล่นคอมมูนิตี้บนดินอื่นเลย

เรื่องเทคนิคการเขียนนี่กูไม่มีปัญหาเท่าไร นอกโม่งมีหลายแหล่งบอกแหละนะว่ากูเขียนดี ในกระทู้ Arknights ของโม่งกูก็เป็นคนเขียนสรุปเนื้อเรื่องอีเว้นท์นี่ล่ะ ยิ่งเขียนนานเข้าสกิลยิ่งเพิ่มจนตอนนี้กูเขียนคล่องมากทั้งที่เพิ่งกลับมาเขียนจริงๆ จังๆ ได้ปีเดียว หลังจากเลิกเขียนไปหลายปีมาก

แต่ปัญหากูว่ากูไม่สามารถเขียนให้ดึงดูดคนอ่านให้อ่านได้ระยะยาวนี่ล่ะ... คล้ายกับว่าสไตล์กูเป็นแนว Slowburn ค่อยๆ เล่าเรื่องเล็กๆ หลายๆ ตอนให้มาประกอบกันก่อนจะพากันเป็นภาพรวมใหญ่ ซึ่งก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันดีมั้ย แต่เดาว่าคงไม่เหมาะกับการอ่านยุคใหม่หรือไม่น่าสนใจพอล่ะมั้ง? เพราะมาถึงตอนนี้กูไม่เห็นมีคอมเม้นท์หรือคอมเพลน์อะไรกับเรื่องที่กูเขียนเลย

ยิ่งกว่านั้นตอนนี้นิยายกูนี่ยอดต่ำมากจนใกล้เลข 0 จึงมารบกวนบ่นในมู้นี้บ่อยๆ เลย orz แถมพอลองมองรอบๆ ก็รู้สึกท้อแล้ว เพราะเห็นเรื่องที่บรรยายแย่กว่ามาก แต่กลับมียอดมากกว่ากูหลายสิบเท่า วันไหนที่เข้าไปเช็ค/ไปอัพตอนใหม่ แม่งก็โดนความรู้สึกแง่ลบโถมเข้าใส่ตลอด จนตอนนี้อยากจะลบเรื่องที่ลงเอาไว้ทิ้ง แล้วหนีหายไปจากสาระบบตลอดเลย

ถึงจะบอกกับตัวเองว่าเขียนด้วย Passion ที่อยากเขียนก็เถอะ แต่หลังๆ รู้สึกว่าตัวเองเริ่ม ปสด. กับเสียดายเวลาขึ้นมาว่ะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขียนเองอ่านเองคนเดียวยังมีความสุขดีอยู่เลยแท้ๆ ...มาถึงตรงนี้อยากจะถามโม่งแต่ละคนจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงกันบ้างเนี่ยล่ะ

นี่นั่งคิดละว่าควรจะตัดจบเรื่องที่เขียนอยู่ดีมั้ย แต่ก็เสียดายเซ็ตติ้งที่ปูมาว่ะ

262 Nameless Fanboi Posted ID:hGQrAOQJFR

>>261 กุเป็นหนึ่งในคนที่เขียนไม่ค่อยดี คือเวลาสกิลมันติดลบมันก็ติดลบจริงๆ แบบเขียนประโยคต้องคิดแล้วคิดอีก มันไม่โฟลว์อ่ะ พอย้อนอ่านก็จะเจอจุดที่คิดว่ามันน่าจะดีกว่านี้ได้หลายจุดอยู่แต่คือก็แก้หลายรอบแล้วก็ยะงไม่ได้ดั่งใจ แล้วอารมณ์เปลี่ยนครส.ก็เปลี่ยนทุกรอบที่แก้อีก เลยคิดว่าพอเหอะ ลงไปงี้แหละ
​งานลงไปก็ไม่ปังหรอก ยอดวิวกริบ ยอดอ่านรายตอนก็กริบ แต่แม่งโชคดี ไปเจอสุดยอดนักอ่านอยู่คนสองคนที่เขาชอบงานกู ใจกูเลยฟูเลย อีกอย่างคือกูเป็นพวกเขียนจบแล้วค่อยลง ดังนั้นจะปังจะฟุบกุก็ไม่มีที่ให้ถอยแล้วไงมึง ได้แต่ the show must go on 555
แต่งานที่ไม่มีคอมเมนต์กูก็จะปลอบใจตัวเองว่า อย่างน้อยแม่งก็ไม่เห้จนคนที่ซื้อกลับมาโพสท์ด่าว่ะ
งานทุกวันนี้มันล้นตลาดจริง ๆ มึง ลองนึกสภาพมึงคุ้ยเสื้อลดราคามือสองอ่ะ กว่าจะเจอชิ้นที่ใช่ คนหลายๆคนก็ยอมซื้อราคาเต็มที่วางเชลฟ์ให้เห็นง่ายมากกว่าไป ตลาดนิยายกูว่าไม่ต่างกันเลย มึงต้องดูงานแปลที่สนพ.คัดมาแล้ว เอาข้ามประเทศมา ลงทุนซื้อลงทุนแปล นั่นคืองานที่ผ่านการตัดสินมาหลายด่านแล้วนะ แต่สุดท้ายก็ยังแป๊กเลหลังเยอะแยะ ดังนั้นยอดขายไม่ได้บอกความสามารถนะ จะทำต่อหรือไม่ก็ต้องชั่งน้ำหนักเอาแล้วล่ะ ว่ามีอย่างอื่นที่ทำแล้วสุขกว่าคุ้มเวลากว่า ได้สิ่งที่ต้องการง่ายกว่ามั้ย สภาพการณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันอ่ะเนอะ
แต่ใดๆ ถ้ามันจบ มึงก็ทำเล่มวางขายใส่ชั้นไว้ให้ตัวเองพราวได้นะ กุรักงานตัวเองแบบที่พอกลับมาอ่านกูก็มีนิยายที่ตรงใจกูทุกอย่างหนึ่งเล่ม เป็นชิ้นงานเหมือนถ้วยรางวัลวางไว้ตรงนั้นแหละ ต่อให้แม่งจะทำเงินไม่คุ้มค่าเวลากูสักนิดเดียวเลยก็เหอะ
เห้อ ว่าแล้วก็ไปฮึบเขียนงานต่อ สองปีเรื่องแหนะสำหรับกู

263 Nameless Fanboi Posted ID6:81B/VwPQhh

>>261 >>262 เห็นพวกมึงตัดพ้องี้กูอยากแชร์ปสก.ในฐานะยักอ่าน มีนข.คนนึงจู่ๆเขาก็ดองงานแบบหายไปดื้อๆเก้าปีเลย อัปเดตสุดท้ายเขาบอกแค่ใกล้เรียนจบ แม่งหายไปแบบไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยทุกช่องทาง เฟสทวิตก็ปล่อยร้างไว้งั้น จนวันนี้เขาเพิ่งมาอัปเดตนิยายตอนใหม่กับอัปเดตชีวิตว่าทำงานอยู่ยุ่งๆแหนะ เพิ่งว่างมาเขียน แม่งเอ้ยความรู้สึกแรกที่เห็นแจ้งเตือนคือเหมือนเห็นผีลุกมาจากหลุม555 เขาหายไปก่อนลุงตู่เป็นนายกอีกมึง ตอนที่มาต่อก็ไม่ได้พีคไรมากสำนวนเปลี่ยนอีกต่างหาก แต่สำหรับนอ.เดนตายแบบกูที่เฝ้ารอมาเป็นปีๆคือเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ แล้วคนติดตามนิยายมีแค่ห้าร้อยกว่าคนเอง เม้นทีตอนละคนสองคนงี้ ในมุมนข.ก็เหือดแห้งอยู่แหละพอเข้าใจ
ก็เลยอยากบอกพวกมึง มันยังมีคนตามอ่านอยู่จริงๆนะ พวกนิยายไม่แมสคนอ่านน้อยเนี่ย คือคนอ่านที่เหลือเขาก็ตามมึงอยู่แหละ ต่อให้ไม่มีวี่แววว่าจะอัปตอนใหม่ก็คืออ่านวนตอนเก่าๆให้หายคิดถึง พอเป็นนข.มั่งกูถึงพอเข้าใจว่าเออพวกยอดต่างๆก็มีส่วนเป็นกำลังใจมากๆเลย อย่างการเม้นนี่มีคนเม้นทุกตอนต่อให้เป็นคนเดิมๆก็แฮปปี้ละ ถึงยอดอ่านไรมันจะน้อยหลักร้อยหลักสิบนี่น่าท้อใจจริง แต่พอเลิกตั้งเป้าว่าจะเอาเท่านี้ ให้ได้หลักพันหลักหมื่น มันก็ปล่อยจอยได้เองอะ ไม่ได้เขียนเพื่อขายเนอะ เน้นเขียนเล่นนี่นา อย่าเครียดๆ อย่าไปสนเอนเกจ ไม่งั้นมันจะเขียนไม่ออก
เออ แต่ในมุมนอ.ที่อุตส่าห์รอ อย่างน้อยถ้าจะเทหรือเลิกเขียนก็อยากให้บอกตรงๆก่อนไปอะว่าเขียนไม่ไหวงั้นงี้ ตัดจบแม่งก็ได้ กูตามอ่านนข มาเป็นร้อย มีนข.แค่ 2-3 คนเองที่กล้ามาบอกลาว่าเขียนไหวละจ้า ไม่ทีตอนใหม่แล้วนะ กับมาบอกตรงๆว่านี่คือตอนสุดท้าย ขอตัดจบเพราะไปต่อไม่ไหว ว่ากันตรงๆก็เหมือนกินข้าวไม่อิ่ม แต่ได้รู้ว่านี่คือข้าวจานสุดท้ายก็ยังดี เพราะดีกว่ารอข้างจานต่อไปที่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ ถึงเสียใจแต่ก็ได้มูฟออนหน่อย เก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ ไม่ใช่ความทรงจำที่ค้างคาแบบคิดถึงมันทีไรก็ข้องใจทุกทีว่ามันจะจบไงวะ นข.ยังมีชีวิตอยู่ใช่มั่ยนะ

264 Nameless Fanboi Posted ID6:Nf5JJ2LWZW

>>263 เคสกูทุกเรื่องก่อนเลิกเขียนนี่ระบุหมดระว่าทำไม
อย่างเรื่องก่อนที่เลิกเขียนไป เพราะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นระดับผู้จัดการ เวลาว่างมีไม่พอเลยต้องเลิกเขียน แต่อย่างน้อยก็เข็นจนจบเล่มล่ะนะ

ถ้าตอนอารมณ์ดีๆ มันก็คิดได้แหละว่าปล่อยจอยไป เขียนไปเรื่องแล้วทำ ebook ให้คนสะสมแบบโม่งบอกก็น่าจะดี
แต่พออารมณ์แม่งดาว์นเมื่อไรเนี่ยสิ แม่งกูคิดจะลบทิ้งอย่างเดียวเลย ถถถถ

265 Nameless Fanboi Posted ID:UtxZwGeRML

เชี่ย ทำไมในเว็บโม่งแม่งต่างจากในเพจนิยายที่มีแต่คนแชร์ยอดโหลดวันแรกหลักร้อยหลักพัน แล้วเชียร์ให้ทำตามฝันสไตล์ไลฟ์โค้ชจังวะ ถถถถถ แม่งต่างกับบนบกอย่างกับหน้ามือกับหลังเท้าแต่ก็เรียลดีว่ะ
>>261 กูเห็นด้วยกับมึงว่านิยายติดท็อปตอนนี้สำนวนอิหยังวะก็เยอะ บางเรื่องแต่ประโยคคำพูดของพระนางไปมาเป็นพรืดแต่ก็ขายดี คนอ่านกลุ่มใหญ่คงมาแนวนี้แหละ กูเห็นเวลามีใครมาถามในนี้ว่าร้อนเงินอยากเขียนนิยายแบบยอมขายวิญญาณ ส่วนใหญ่ก็มีแต่คนให้ไปลองอ่านพวกติดป้ายแดงขายดี มันเลยออกมากันเกร่อ

266 Nameless Fanboi Posted ID6:8p9NjOivWZ

>>265 จริง พวกติดท็อป(nit all)สำนวนกูอ่านไม่ได้เลย กูเคยลองอ่านดู เจอแต่คนตัวเล็ก(นางเอก)กับคนตัวโต(พระเอก) วนอยู่แค่นี้ อ่านแล้วเอียนมาก

267 Nameless Fanboi Posted ID6:oWfmgTE6kp

>>265 ปกติตามกลไลตลาดไงมึง อะไรขายดีคนก็แห่กันขายตาม อย่างหมาล่าสายพานงี้ ช่วงเฟื่องฟูคือเปิดกันสิบๆที่ เวลาผ่านไปกระแสซาลงถึงเป็นตัววัดนี่ละ ร้านไหนทำไม่อร่อยวัตถุดิบไม่ดีราคาแพงเกินควรก็เจ๊งไปซะ ที่รอดๆคือของดีจริงต่อให้ราคาแพงกว่าร้านข้างๆแต่บริการดีวัตถุดิบดี คนกินก็ตามต่ออะ
นิยายก็คือกัน ช่วงบูมๆคนก็แห่อ่านแบบไม่สนสำนวนหรอก แค่พล็อตโดนใจตามกระแสก็แห่กันมาอ่านละ พอผ่านๆไปก็จะเริ่มเลือกอ่านละคนนี้เขียนทื่อไม่ถูกจริต คนนี้เขียนคาร์ได้กากสัส คนเขียนที่ไม่รอดก็ต้องหาแนวใหม่มาเขียนวนไป คนที่รอดต่อให้มาพล็อตเดิมๆผัวโบ้เมียหอบท้องหนี เหมือนเหบ้าเก่าในขวดใหม่แต่ถ้าเขียนคาร์น่าจดจำสำนวนดีเนื้อหาเด่น คนอ่านก็ตามอ่านต่อไปนั่นละ

268 Nameless Fanboi Posted ID6:MkN/Z5RJ55

ผัวโบ้หอบลูกหนีนี่แม่งยืนหนึ่งจริงๆ ว่ะ ถ้าเขียนพระเอกโบ้โดนใจ ยังไงก็ขายได้555 แต่กูลองละ กูไปไม่รอดว่ะ555

269 Nameless Fanboi Posted ID6:Om8/xajzgN

>>267 กุว่ามันจะไม่เป็นงั้นน่ะสิ เด็กรุ่นใหม่จะโตมากับสำนวนแบบนี้จนคิดว่าไอ้แบบที่โม่งคิดว่าสวยอ่ะ มันคือสำนวนที่แม่งโคตรเยิ่นเย้อ แสนจะโบราณ ต้องแบบที่ติดท็อปนี่แหละถึงจะวัยรุ่นเร้าใจ สุดท้ายงาน+สำนวน+ศัพท์ มันก็จะดิ้นไปตามยุค เหมือนที่สำนวนกำลังภายในตายจากไปอ่ะมึง

270 Nameless Fanboi Posted ID6:jNJguD2IrL

สำนวนเป็นอะไรที่หยิบมาคุยก็ยังไงก็ไม่จบอะ
แต่เคสกูสำนวนไม่เกี่ยวแน่ๆ เพราะกูเขียนแบบ Simply แล้ว ไม่วัยรุ่นไป แต่ก็ไม่ยืดยาวไป

กูเดาว่าหลักๆ ปัญหากูอยู่ที่การดำเนินเรื่องแฮะ เพราะตอนแรกๆ คนอ่านเยอะมาก แต่จู่ๆ พอดำเนินเรื่องมาซักพักถึงตอนหนึ่งก็ดรอปฮวบไปเลย เหมือนเจออะไรบางอย่างขัดใจ แต่กูก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเช่นกันเพราะไม่มีคอมเม้นท์จากคนอ่านเลย

271 Nameless Fanboi Posted ID:zJ1WuZkyiw

>>269 มันเกิดขึ้นละ ล่าสุดเห็นคนชื่นชมว่านิยายแปลออนไลน์เรื่องนึงสำนวนดีมาก ส่วนเวอร์ชั่นหนังสือของเรื่องเดียวกันกากมาก (เรื่องนี้แปลสองสำนวน คนแปลคนละคน) แถมยืนยันว่าเดี๋ยวนี้คนเขาอ่านแต่สำนวนออนไลน์ทั้งนั้นแหละ ดีนะที่สนพ.รู้จักประมาณตัว ไม่งั้นคงต้องขายเลหลัง นักแปลก็ใช้ศัพท์อะไรไม่รู้ไม่คิดว่าคนอ่านจะอ่านเข้าใจมั้ย ฯลฯ

คำที่เขาบอกว่านักแปลเวอร์ชั่นหนังสือใช้โดยไม่คำนึงถึงความเข้าใจของนักอ่านคือ "ลัทธิ" ประมาณว่าใช้คำว่าลัทธิเรียกศาสนาในเรื่องได้ยังไง ต้องเรียกว่า "ศาสนจักร" สิถึงจะเก๋กู้ด เช่น "aนับถือศาสนจัรเทพธิดา" บลาๆ ส่วนลัทธิใช้กับพวกสิ่งไม่ดีทั้งนั้นแหละ

กูที่โตมากับคำว่าลัทธิขงจื้อ ลัทธิเต๋า ลัทธิเพแกน ฯลฯ ก็อึ้งๆไป

272 Nameless Fanboi Posted ID6:tMrR+7JUKi

กูเพิ่งเจอในกลุ่ม อพช.นักเขียน ชื่อเรื่อง... "เรื่องที่ลืมไม่หลงของเธอ"
ลืมไม่หลงคืออะไรว้าาา

273 Nameless Fanboi Posted ID6:NaZu0ZaQzy

>>261 จริงๆกูก็ประสบปัญหานี้อยู่ กูเขียนฟิคแต่เป็นการ์ตูนเก่าแล้ว คนน่าจะไม่ตามกันแล้ว กูก็เขียนไปเรื่อยๆแหล่ะสนองนี้ดความฟินตัวเอง มีคนหลงมากดใจ กดอ่าน เมนท์นิดๆหน่อยๆกูก็ดีใจมากแล้ว ไม่มีใครอ่านกูก็เฉยๆเพราะกูถือว่าเขียนให้ตัวเองอ่าน อย่าไปซีเรียสเรื่องยอดวิวยอดเมนท์มาก เอาความสนุกของมึงเป็นหลักพอ ถ้าทำแล้วไม่สนุกก็หยุดไว้ก่อนแค่นั้น

274 Nameless Fanboi Posted ID6:Om8/xajzgN

งานล้นตลาดจนนักเขียนแม่งเลิกหากินกับงานเขียนแล้ว เพราะไม่พอกิน หันมาตกเงินจากนักอยากเขียนด้วยกันรวยกว่า ทั้งงานโกสต์ งานบก. งานช่วยรีเสริซ งานรับอ่าน งานพิสูจน์อักษร งานจัดหน้า งานช่วยคิดพลอต งานช่วยโปรโมท คอร์สสอนเขียนออนไลน์ง่ายใน123 หนังสือกรรมวิธีเขียน รวมศัพท์ บลาๆ ล่าสุดรับจ้างคอมเมนต์ ใน raw บางคนเห็นเพิ่งเริ่มเขียนกันอยู่หลัดๆ ปีสองปี ล่าสุดรับจ้างเป็นบก.แล้ว

275 Nameless Fanboi Posted ID6:JNgY0JhPVg

>>271 ศาสนจักร ใช้กับพวกคริสต์ ไม่ใช่เหรอ

276 Nameless Fanboi Posted ID:9OqitBnbik

>>274 กูบอกตงว่าโคตรอิจฉา​แอครีวิวเลยว่ะ​ ถถถถ​เคยทักถามราคา​ รีวิว​ 1,500 วันละ​ 4-5 เรื่อง​ จองวันนี้รอคิวสองเดือน​ กูกดเครืาองคิดเลขเห็นรายได้หลักแสนฉ่ำๆแล้วอยากปั้นเพจไม่ก็เอ็กซ์​ให้เอ็นเกจสูงๆมั่ง

277 Nameless Fanboi Posted ID6:JNgY0JhPVg

>>276 จ้างรีวิวแล้ว ยอดขายดีขึ้นจริงมั๊ย

278 Nameless Fanboi Posted ID:rn.xtwaIjc

>>277 ไม่ อย่าไปเชื่อ

279 Nameless Fanboi Posted ID6:uOw/bRFW4s

>>276 อันนี้ไม่ค่อยเกี่ยวแค่สงสัย รับจ้างแบบนี้เขายื่นภาษีกันประเภทไหนวะ รับจ้างทำของหรอ แบบนี้ถ้ารายได้ดีขนาดนี้ก็ต้องจดแวตอะดิ เป็นล่ำเป็นสันโพดดด

280 Nameless Fanboi Posted ID:9OqitBnbik

>>277 แรกๆยอดอ่านยอดขายเข้าอยู่​ ไม่ถึงกับเป็นกอบเป็นกำแต่ก็เข้า​ คือไงดียอดกูเดิมต่ำเรี่ยดินอยู่แล้วพอมีรีวิวก็ช่วยได้​ อันนี้จ้างเมื่อสองปีก่อน​ และปีที่แล้วกูลองอีกเรื่องได้แต่ยอดกดเข้าชั้น​ ยอดขายหรอมแหรมมาก​ พอมาเรื่องล่าสุดเพิ่งได้คิวลงรีวิวไตรมาสแรกปีนี้​ ยอดอ่านไม่ขึ้น​ ยอดขายไม่ต้องพูดถึง​ orz ค่ารีวิวแพงขึ้นด้วยเว้ย​ รู้สึกเสียดายตังค์เพราะเค้าเขียนรีวิวไม่ค่อยน่าอ่าน​ (บางแอคจะให้มึงร่างเองเลยว่าอยากให้ชมยังไง​เรื่องย่อเป็นไงจถดขายตรงไหน)​ และกูว่าพอวันนึงลงรีวิววันละ​ 4-5​เรื่องอ่ะ​ คนตามก็คงเอียนละมั้ง​ เหมือนรู้ว่ามันก็โฆษณา​ดีๆนี่เอง​ เรื่องหน้ากูเลยว่าจะไม่ลงทุนกับตรงนี้แล้ว

281 Nameless Fanboi Posted ID6:MkN/Z5RJ55

>>277 นอเห็นประกาศรับรีวิวจากแอคพวกนี้เขาก็ไม่ค่อยเอาละมั้ง ต้องหวีดเก่งจริง ถึงเคลิ้ม คนท่ี่ตามฟอลส่วนใหญ่นักเขียนด้วยกันเอง

282 Nameless Fanboi Posted ID6:tMrR+7JUKi

หวีดเก่งจริงช่วยได้นะ อย่างในxของคุณ น อะ เพื่อนกูโดนตกตามหลายเรื่อง ไม่ใช่สักแต่ว่ารีวิวคนก็ซื้อนะ มันต้องมีจุดเรียกแขก มีความหวีดที่ดูจริงใจช่างเปรียบช่างเปรยให้เห็นภาพ แบบแค่อ่านรีวิวก็สนุก ไม่ใช่ยาวพรืดเป็นเรียงความส่งอาจารย์

283 Nameless Fanboi Posted ID6:Jz8OIA8DTX

>>280 กูเป็นนักอ่านประเภทนี้เลย ไม่สนแอคพวกนี้อะ เขาเปิดมาเพื่อรีวิวเอาเงิน ใครก้จ้างได้ป่าววะ พวกแอคที่เขียนเรทราคาชัดเจนว่าจะรีวิวกี่บาท จำนวนคำเท่านี้รีวิวเท่านี้ ให้อ่านกี่ตอน ให้หวีดแบบไหน (หวีดรายตอน เล่นแท็ก หวีดทุกวัน) กับพวกแอครีวิวนิยายวายที่อันนี้กูไม่รู้จ้างป่าว แต่เรื่องที่แคปมากรี๊ดก็ดังๆทั้งนั้น เคยอ่านละไม่ถูกจริตสักเรื่อง หวีดตามๆกันเฉยๆ กูปัดตกหมด ไม่สน แอคที่ได้อภินันทนาการจากสนพ.กูก็ปัดทิ้ง แก๊งนั้นที่ชอบรีวิวรักวัยว้าวุ่นเคยตามไปสองสามเรื่องไม่ถูกจริต ปัดตก เพราะงั้นสำหรับกูไม่ต้องจ้างหรอก อยากโปรโมทนอกจากขึ้นแบนเนอร์ก็เอาเงินไปยิง Ads เหอะ อย่างน้อยก็มีกดผิดเผลอคลิก ได้วิวหน่อยนึง

284 Nameless Fanboi Posted ID6:uOw/bRFW4s

>>283 กด ad ได้ผลจริง กุไถ ๆ เฟซบุ๊กละชอบลอยมา โดนตกไปหลายเรื่องแล้ว

285 Nameless Fanboi Posted ID6:Jz8OIA8DTX

>>284 เนอะ ขนาดไม่ได้สนใจกูยังคลิกอะ ไม่โดนคำโปรยตกก็โดนตกเพราะปก ยังไงก็ต้องมีจังหวะชะงักอ่านแน่ ๆ เพราะมันเห็นครบหมดเลยทั้งตัวเพจนักเขียน สงสัยอะไรก็เม้นถามไม่ก็ทักแชทได้ทันที ลิ้งค์ซื้อนิยายในเม้ดก็เด่นเป็นแบนเนอร์เบิ้ม ๆ จิ้มไปอ่านไปซื้อได้เลย ยิ่งมีคนมาให้ใจรีิวิวไว้ก่อนยังไงก็ชอบเลื่อน ๆ อ่านกันต่อ ยิ่งคนดังมีเม้นต์เยอะไลค์เยอะนะ คนเข้ามาอ่านตาม ๆ กันตรึม ยังไงหลายคนก็ยังต้องสิงเฟสอยู่ละ งานเอยไรเอย ไม่ทิ้งไป x ถาวรขนาดนั้นหรอก กูว่ายิง Ads เฟสยังคุ้มค่าอยู่นะ

286 Nameless Fanboi Posted ID6:L29/SFzJ6r

>>285 จริงมึง ยิงแอดเนี่ยได้ผลสุด ค่ายิงยังถูกกว่าจ้างแอครีวิวอีก อยู่ได้นานกว่าด้วย เคยเจอคนนึงเขายิงทิ้งไว้ทั้งสัปดาห์เลยมั้ง ไอ้ห่าเห็นจนกูรำคาญ ไถเฟสทุกวันเจอแม่งทุกวัน ยิ่งจิ้มไปอ่านแล้วออกเพราะไม่ถูกจริต มันขยันขึ้นมาให้กูเห็นบ่อยกว่าเดิมอีก555

287 Nameless Fanboi Posted ID:amhiJ4pIeN

>>286 มันสะกดจิตกุอย่างนึงนะมึงอันที่เห็นบ่อย ๆ เห็นบ่อยจนกุต้องกดเข้าไปอ่านตัวอย่างให้จบ ๆ 5555

288 Nameless Fanboi Posted ID6:Om8/xajzgN

>>279 เอาจริงป่ะ ถ้าไม่เอายอดไปยื่นก็ไม่เสียภาษี เพราะไม่มีหลักฐานการซื้อขาย ถ้าเงินไม่เยอะเกินจนบัญชีถูกเพ่งเล็งจริงๆ สรรพากรตามไม่เจอ

>>280 ระยะนี้ขาลงพวกอินฟลูอ่ะ เหมือนคนไม่ให้ความเชื่อถือเพราะมองเป็นโฆษณาไปหมดแล้ว แต่กุว่าแอคที่รับหวีดแบบเนียนๆ น่าจะพอไหวอยู่ พวกนี้ต้องจ้างหลังไมค์ป่าววะ

จริงๆแล้วทำแอคหวีดนิยายที่อ่านไปเรื่อยๆ รับสปอนเดือนละไม่กี่รายแซมก็น่าจะดีนะมึง น่าจะได้มากกว่าเขียนนิยายขาย ยังไงกูก็อ่านนิยายเกือบทุกวันอยู่แล้ว =_=

289 Nameless Fanboi Posted ID6:od67T2Vl/T

กูอยากถามอะไรหน่อยว่ะ มันอาจจะฟังดูเรื่องมากในความคิดพวกมึง กูเขียนนิยายเรื่องนึงในรี้ด ลงค่อนข้างสม่ำเสมอ ยอดวิวกับยอดเก็บเข้าชั้นพอได้(ประมาณ 300 หน่อยๆ) เวลาลงทีส่วนใหญ่เขาจะมากดใจกันเป็นสิบ แต่คอมเมนต์แบบพิมพ์ตัวอักษรนี่มีแค่ตอนละเมนท์สองเมนท์แค่นั้นเอง บางตอนก็ไม่มีเลย คนกดใจกันเป็นพรืดนี่กูก็แอบเฟลเบาๆ กดใจมันก็ดีอยู่หรอก แต่กูอยากให้นักอ่านพิมพ์คุยโต้ตอบกับกูด้วยอ่าาาาาา ตอนไหนมีคอมเมนต์แบบตัวอักษรกูนี่แทบจะลงไปกราบที่เขามาเมนท์ให้กู คิดแบบนี้กูเรื่องมากไปเองรึเปล่าวะ หรือนี่มันเรื่องปกติให้กูทำใจให้ชินไว้

290 Nameless Fanboi Posted ID6:tMrR+7JUKi

>>289 ความคิดกูนะ เรื่องมากกก จะให้ไปเจ๊าะแจ๊ะอะไรนักหนาถ้าตอนนั้นมันไม่มีเรื่องให้ลุ้น แค่ตามอ่านให้จบ ถ้าถึงตอนจบก็อาจจะเม้นขอบคุณ หรือถ้ามีตัดตอนแบบพีคๆก็อาจจะเม้นตามอารมณ์นั้นๆ แต่จะให้มาเวิ่นเว้อทุกตอนก็ดูเยอะว่ะ แล้วยิ่งกูเคยมีปสก.คุยกับนข.แล้วนข.ไม่ตอบไม่พูดด้วย กูก็ไม่อยากจะพิมพ์ชวนคุยอะไรแล้ว

291 Nameless Fanboi Posted ID6:CZezyVPNSt

อยากรู้ว่าทุกคนฝึกเขียนจากอะไรบ้างคับ

292 Nameless Fanboi Posted ID6:vsClOXI/Lv

>>290 แหม่มึง นักเขียนกับนักอ่านมันก็ต่างกันอยู่แล้วป่ะ นักอ่านมองยุ่งยากจะให้เมนท์เหี้ยไรนักหนา แต่นักเขียน คอมเมนต์มันคือกำลังใจนะเว้ย จะไปต่อได้นี่อย่างน้อยก็ต้องมีนักอ่าน interact กลับมาบ้างล่ะวะ

แต่มึงพิมพ์แบบนี้มาแสดงว่าไม่เคยเขียนนิยายล่ะสิท่า ถ้าเขียนขออวยพรให้มึงเจอนักอ่านแบบตัวเองนะ

293 Nameless Fanboi Posted ID:HRAN++YIXk

กุอยากลงนิยายเบียวๆ ตัวเอง มีเว็บไหนที่มันไม่มีกฎเยอะแยะบ้าง เขียนหยาบมากได้ บรรยายเอากันได้ มีความรุนแรงสูงๆ แล้วเว็บจะไม่แบนมึง

294 Nameless Fanboi Posted ID6:/M0JktiqbN

>>289 นิยายมึงแนวไหนอะ ถ้าแต่ละตอนนางเอกพระเอกจีบกันไปมา มันไม่มีประเด็น แต่ถ้ามีฉากพระเอกตบปากนางเอก เม้นตรึม ยกตัวอย่าง อีกอย่างนะ นักอ่านมีงาน มีลูกมีผัว มีนิยายเรื่องอื่นอีกที่เขาต้องอ่าน ทุกวันนี้ทำมาหาแดกกันสายตัวแทบขาด เหนื่อยกันจะตายโหง ไม่ได้มีแต่นักเขียนที่เหนื่อย อย่าเอาใจไปผูกกับเม้นให้มากนักเลย สักเกตเหอะ ทุกวันนี้นักอ่านเม้นกันน้อยลงมาก

295 Nameless Fanboi Posted ID6:iejcAFfEur

>>292 ขอบคุณนะเว้ย กูชอบตัวเองมาก

296 Nameless Fanboi Posted ID6:iejcAFfEur

>>289 มึงมีเพจไหม หรือเฟซที่เป็น นปก. นอกจากเนื้อหานิยายที่ชวนติดตาม ทำให้ค้าง หรือบีบคั้นอารมณ์ชวนให้คนเม้นแล้ว กูเห็นคนที่ได้เม้นในรอร.เยอะคือคนที่ทรีตนักอ่านเหมือนเพื่อน คุยเล่นตอบกลับนักอ่านเสมอๆ จนคิดว่าสนิทกัน ใครโพสต์อาหารก็ไปเม้นบอกน่ากิน ใครโพสต์รูปลูกก็ไปชมว่าน่ารัก โพสต์รูปตัวเองก็ชมว่าสวย พอขายงานก็จะมีคนตามมาอ่าน คอยคุยด้วย เช่นมาให้กำลังใจค่ะ ปังๆนะคะ รออีบุ๊คออกทีเดียวค่ะ
ซึ่งมันต้องใช้ความพยายามและเวลาถ้ามึงอยากได้คอมเม้นลักษณะนี้

297 Nameless Fanboi Posted ID:F7IkSIUVXP

>>296 วิธีนี้อ่านแล้วกูว่าใ่ช่เลย เพจนข.ที่ตามอยู่ก็ทำแบบนี้ ไม่ได้ขายนิยายอย่างเดียว การเอาตัวตนมาขายก็เป็นมาร์เก็ตทางนึง
กูสังเกตจากพวกตัวท็อปอย่างแนวฟตซ.ที่กลุ่มนักอ่านเป็นวัยรุ่นหน่อยก็จะมาแชร์/ชวนคุยเหมือนเป็นเพื่อนเป็นพี่ โพสแชร์ความสำเร็จให้คนอ่านรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งด้วย ส่วนพวกแนวรักที่นข.อายุเยอะหน่อยก็แชร์เขียนเรื่องชีวิตระหว่างเขียนนิยาย มีพักผ่อนไปเที่ยว แชร์เรื่องสามีเรื่องลูก มีเร่งปิดต้นฉบับ อารมณ์เหมือนตาม SOL ของนข. 55555 พวกนี้นักอ่านที่มีอายุหน่อยพอสตอรีนข.ไปเป็นส่วนหนึ่งของพวกเค้าแล้วมันจะเหมือนญาติพี่น้องกลาย ๆ (แต่ไม่ใช่กูนะ กูยังไม่วัยดึกขนาดนั้น 55555555) อัพตอนหรือออกงานใหม่ก็ไปช่วยซื้อ เวลาพี่น้องเปิดเพจหรือขายสินค้าอะไรแล้วนข.เอามาแชร์ก็มีช่วยอุดหนุนกัน
อะไรพวกนี้เรียกว่าเทคนิคอย่างโม่งบนๆ ดิสคัสกันมั้ยวะ แต่กูเห็นนข.ทำแค่ส่วนนึงอย่างมากก็ครึ่งๆ น่าจะเพราะนข.ที่มีงานประจำไม่ได้มีเวลามาทำมาร์เก็ตติ้งไรพวกนี้
.
.
.
อีกอย่าง กูไม่รู้ว่าพูวดแล้วจะโดนด่ามั้ยวะ ที่แนะนำกันบนๆ เรื่องซื้อแอดฟบ.อ้ะ กูคนนึงที่ถ้าเห็นขึ้นมาบ่อยๆกูจะบล็อกทิ้งไปเลย นข.ที่ถ้าจะโทษต้องไปโทษอัลกอรึทึมของฟบ. คือนข.ที่กูตามอยู่จะมาอัพวันหลายรอบกูโอเค (บางทีกูยังเห็นไม่ครบเลยมั้ง ฟบ.แม่งเล่นซ่อนหา) แล้วยังมาเจอแอดซ้ำๆบางทีกูก็1ลำไยนะ 55555555555 ไม่มีอะไรแค่อยากบอกไว้ว่าถ้าจะยิงแอดฟบ.ก็ศึกษาวิธีกับตั้งค่าดีๆ อย่าให้มันโผล่มาถี่ซ้ำซากแค่เพราะฟบ.อยากละลายตังค์มึง

298 Nameless Fanboi Posted ID:zv7LCfb7P9

ky ขอปรึกษา พอดีกุเกลียดพระเอกที่ใจร้ายกับนางเอกมากๆๆๆ กุเจ้บใจแทนลูกสาว จนอยากลองเขียนเอง ((เหี้ยปะ 5555)) เพื่อทรมานใจตัวเอง 555 กะให้พระเอกมันทำใจร้ายสารพัดเพราะแค้น (อาจจะเป็นแนวถ่านไฟเก่าจบกันไม่ดี) ปัญหาคือกุสงสัยว่าถ้าคนมันรัก (ซึ่งลูกชายกุมันไม่เคยเลิกรักเลย 55) มันจะทำร้ายใจเขาลงเหรอ TT มันต้องมีแนวคิดยังไงถึงทำลงวะ ถ้าเป็นพวกรู้ใจช้าไม่รู้ว่ารักอะกุเข้าใจ แต่นี่มันยังรักเธอเสมอ มันจะทำได้อ่อวะ โฮรๆ

299 Nameless Fanboi Posted ID:U2zxOXQ5ng

>>298 มึงลองดูรักยันเดเระสิ จะสตอกเกอร์หรืออะไรแนวจิตๆก็ได้ จะเรียกอะไรดีล่ะ คือบรรทัดฐานของคนพวกนี้มันจะไม่เหมือนปกติอ่ะ รักของมันก็เลยแสดงออกไม่ปกติไปด้วย ทำร้ายได้แน่นอนเพราะคำว่าทำร้ายของมึงมันมาจากบรรทัดฐานของคนปกติ
แต่ถ้าเอาเคสเบาๆ มึงก็มองคล้ายๆแนว พ่อแม่รังแกฉันก็ได้ นั่นก็ออกแนวรักทำร้ายเหมือนกัน บิดนิดหนึ่งรักแม่งก็ทำร้ายคนได้สารพัดเวย์แล้ว

300 Nameless Fanboi Posted ID:+sXsF/dlbV

>>298 มี คนแบบนี้ชีวิตจริงมีเยอะจนงงเลยล่ะ 5555555 ชายแทร่หญิงแทร่ก็เป็นได้หมดนะรักแต่ทำร้าย มันเป็นปัญหาส่วนตัวของเขาที่เขาไม่จัดการตัวเองทั้งเรื่องอารมณ์ร้ายปากร้ายหึงหวงแรง ขาดความมั่นใจในตัวเอง หรือปัญหาในชีวิตใดๆ แล้วไม่ยอมไปบำบัดหรือหาที่ปรึกษาด้วย แล้วเขาก็ทุกอย่างเอามาลงกับแฟนเพื่อเป็นการระบาย บางคนทำโดยไม่รู้ตัว5555555 ก็รักแฟนอ่ะ แต่จัดการตัวเองไม่ได้ไง คนที่ทนได้ก็มีแต่นางเอกนิยายเท่านั้นแหละ555555

301 Nameless Fanboi Posted ID6:iejcAFfEur

>>298 ฟีลยิ่งทำร้ายหัวใจเธอฉันเองก็เจ็บไม่ต่างกัน อยากให้เธอเจ็บ แบบที่ฉันเจ็บบ้างแต่กลายเป็นว่าฉันก็เจ็บเอง เกลียดเธอแค่ไหนก็รักมากเท่านั้น มันบ้าบอจิตๆแหละแต่มีคนชอบแนวนี้เยอะนะ มันหน่วงๆฟินๆ ยิ่งพระเอกมันหึงมันหวงมันเสียใจมันกลัวเสียนางเอกไป จะเป็นจะตาEขอโทษนางเอกได้เมื่อไหร่ยิ่งฟิน มีความหมาบ้าผสมหมาโบ้ แนวตลาดเลย

302 Nameless Fanboi Posted ID6:iejcAFfEur

พระเอกแนวนี้จะขี้เก๊ก รักเขามากแต่แอ๊บโกรธเกลียด ปากไม่ตรงกับใจ ปากหมาใส่แต่ในใจรักเขาแทบบ้า (ตอนมันเผลอตัวหลุดมองนางเอกตาหวานแทนที่จะแอ๊บขึงขังคนอ่านจะชอบเลย) ขี้หึง กระชากมาจูบบดขยี้ แล้วก็จะเจอนางเอกตบ ตบๆจูบๆกันไปได้ใจแม่ๆ แล้วเวลาหายบ้า ยอมรับว่ารักเธอ หายโกรธหายเกลียดเธอก็จะกลายเป็นติดเมียคลั่งรักสายเปย์ ฟีลๆนี้

303 Nameless Fanboi Posted ID6:5my1VKJi2U

ky ใน x มีประเด็นอะไรอีกละวะ เรื่องนักเขียนดรอปอะไรสักอย่าง

304 Nameless Fanboi Posted ID6:/M0JktiqbN

>>303 ไปมู้สับดิ

305 Nameless Fanboi Posted ID:zv7LCfb7P9

ขอบใจทุกคนมาก >>301 >>302 นี่ติ้กถูกทุกข้อเลย เห็นภาพชัดมาก 55555 กุรู้ละทำไมกุมีปัญหากะแนวนี้ ที่ผ่านมาเขียนผช.คลั่งรักแสนดีกับเธอตั้งแต่ต้นจนจบตลอดเลยนี่หว่า 555555 เดี๋ยวจะลองเขียนแนวใจร้ายมั่งละ บางทีอาจจะติดใจ 555555

306 Nameless Fanboi Posted ID:5dSCQlhmeI

ถ้ากูคิดพล็อตนิยายได้แต่มันไปตรงกับคนในเน็ตที่บ่นแบบเวิ่นๆไว้แล้วยังไม่เขียน กูไม่เคยรู้จักเขามาก่อน แต่เล่าพล็อตให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกพล็อตคล้ายๆคนที่มันฟอลอยู่เลย อันนี้ควรทิ้งพล็อตไปเลยดีป่ะวะ เสียดายพล็อตแต่ก็ไม่อยากมีปัญหา เดี๋ยวเขาหาว่ากูลอก และกูก็มาทีหลังเขาด้วย

307 Nameless Fanboi Posted ID6:J9hqPVsNQj

>>306 เขายังไม่ได้เขียน"แค่คิด" เป็นแค่ความคิดฟุ้งๆ ลขส.ไม่คุ้มครอง มึงลงมือก่อน เขียนเสร็จเผยแพร่วางขายก่อน ลขส.เรื่องเป็นของมึง ใครจะว่าอะไรมึงก็บอกคิดไว้นานแล้วซึ่งก็คือความจริง ลุยเลยเพื่อนโม่ง รีบเลย

308 Nameless Fanboi Posted ID:H4STlTU/Us

>>306 พล็อตซ้ำเป็นเรื่องปกติว่ะถ้ามันไม่ยูนีคสัสๆ อะนะ กูเคยเจอนข.สองคนที่ไม่รู้จักกัน ไม่อ่านงานกันแต่พล็อตเหมือนกันเดะอยู่ คนที่มีปัญหาคือนอ.ล้วนๆ จนนข.ที่อัพหลังต้องออกมาขอโทษแล้วบอกจะรีไรท์เรื่องนั้นไปแทน ..ที่กูจะบอกคือมึงมั่นใจในตัวเองแล้วเขียนไปเถอะ หรือถ้ามึงอยากเลี่ยงปัญหาแบบไม่อยากข้องเกี่ยวใดๆ ก็ทิ้งพล็อตไปแล้วคิดใหม่ก็ได้ แต่ยังไงๆ สุดท้ายพล็อตที่มึงคิดมันก็ต้องมีคนอื่นคิดได้เหมือนกันอยู่ดี

309 Nameless Fanboi Posted ID6:Vd+6nlyg5k

ky. มีใครลงอีบุ๊คในดด.มั่ง อยากรู้ว่ามันดีมั้ยวะ แบบคนอ่านเขาสะดวกไรงี้ปะ ในเมบการแข่งขันสูงเกินเลยว่าจะหาที่ลงเพิ่มหน่อย ว่าจะเริ่มจากดด.นี่ละเว็บเก่าแก่น่าจะโอเค วิธีลงก็สะดวกต่อคนเขียนอยู่นะ

310 Nameless Fanboi Posted ID:PsGciQdm4K

คนที่สะสมหนังสือ เอาหนังสือไปห่อปกพลาสติกกันไหม

311 Nameless Fanboi Posted ID6:J9hqPVsNQj

>>310 จะห่อปกใสบ้างจุ้นบ้างเฉพาะตอนอ่าน กันหนังสือเป็นรอย แต่ถ้าเก็บเล่ม ส่วนใหญ่จะอยู่ในซีลไม่ก็ในถุงแกงใช้สก็อตเทปเก็บมุมให้เรียบร้อย กูชอบแบบนี้มากกว่าใส่ในถุงซิปล็อกที่มองจากนอกชั้นแล้วไม่สวย ไม่เห็นสันปกว่าชื่อเรื่องอะไร //ปกใสถ้าห่อไปนานๆๆมันจะหนืดติดปกได้นะ

312 Nameless Fanboi Posted ID6:J9hqPVsNQj

*ขุ่น

313 Nameless Fanboi Posted ID6:26jWfjQSln

>>310 เมื่อก่อนห่อ พวกปกใสแบบไม่ต้องติดเทป กับปกขุ่นซื้อมาเป็นม้วนๆ เมื่อก่อนห่อบ่อยมากแต่เดี๋ยวนี้ไม่ละ กูเปลี่ยนมาใช้ปกผ้าน่ารักๆ ลายดอกไม้ลายวิวทิวทัศน์สีน้ำตามแอพส้มห่อแทน อ่านเสร็จก็ซีลถุงแกง ใส่ซองกันชื้น จบ555 จะไปห่อพวกถุงซิปล็อกเฉพาะเล่มโปรดที่อยากอ่านบ่อย ส่วนพวกเล่มที่อ่านไม่ถูกจริต รอบเดียวพอจะห่อไว้เตรียมขายมือสองไม่ก็เก็บบนชั้น
ถ้าอยากสะสมบนชั้นสวยๆ เหมือนใน x เคยมีคนมาแนะนำพวกกล่องใสอยู่นะ ไม่ต้องห่อกันฝุ่น ยังโชว์ปกสวยๆ ได้แบบไร้ซองด้วย

314 Nameless Fanboi Posted ID6:26jWfjQSln

ky ติดเหรียญในรอร.สามารถนับตามราคาเป๊ะๆแล้วใส่เป็นราคาอีบุ๊คในเม้ดได้เลยมั้ย กูเห็นบางคนลงเม้ดแล้วขายแพงกว่าซื้อเหรียญแยกมากเลยสงสัยว่าเขาหักค่าบริการเยอะกว่าเหรอ จะได้เพิ่มบ้าง เพราะปกติกูใช้ราคาเดียวกันเลย นับๆเหรียญจากรอร.แล้วก็ลงขายราคานั้นในเม้ด

315 Nameless Fanboi Posted ID6:.wiC8mUQWw

>>314 อีบุ๊คมันต่างจากรายตอนตรงมีการจัดหน้าด้วยไง บางคนเขาจ้างคนช่วยจัดหน้าด้วยก็เลยบวกไปในต้นทุน บางคนจัดเองก็บวกอยู่ดีเพราะมีรูปเล่ม555 แบบรายตอนมักจะถูกกว่า แต่อีบุ๊คจะแพงกว่าเพราะต้องขายให้ราคาพอๆกับแบบเล่ม เช่น แบบเล่มสามร้อย อีบุ๊คอาจจะถูกหน่อยสักสองร้อยงี้ ส่วนรายตอนร้อยห้าสิบ

316 Nameless Fanboi Posted ID6:.wiC8mUQWw

ky เห็นดราม่าไม้ยมกเอาอีกละ ราชบัณฑิตมึงอัปเดตอีกละอ้อ จากเดิมที่ใช้ได้ทั้งเว้นแค่หลัง (ไม้ๆ) กับเว้นหน้าหลัง (ไม้ ๆ )กลายเป็นทำได้แค่เว้นหน้าหลังอย่างเดียว โถอีห่า ภาษาไทยยังไม่ตาย แต่มึงไม่ต้องดิ้นนักก็ได้ กูยังฝังใจกับแซว-แซ็วอยู่เลยนะมึง

317 Nameless Fanboi Posted ID6:26jWfjQSln

>>315 อ๋าาา อย่างนี้นี่เอง แต๊งนะมึง แสดงว่าถ้าอยากตั้งราคาเหมือนกันทั้งคู่ก็ทำได้ใช่มั้ยถ้าไม่ได้มีเงื่อนไขจัดหน้าหรือทำเล่มที่อยากบวกเพิ่ม พอดีอันนี้เป็นอีกนปก.ที่กูไว้เขียนระบายเรื่องเสียวน่ะ จัดหน้าง่ายๆ ไม่ได้จริงจังอะไร ใช้แค่กระจายแบบไทยแล้วเน้นตรวจคำผิดหนักๆ เพราะเป็นแค่เรื่องสั้น ไม่ได้ซีเรียสเอารายได้อะไรมาก ขอแค่เกินค่าไทโปกับค่ารูปวิวปกก็พอ เน้นค่าน้ำมันรถค่ากาแฟ

>>316 เจองี้กูเขียนลง talk ละว่าราชบันดิดไม่ใช่พ่อกู ทราบดีและจะเขียนแบบนี้ต่อไป และคนอื่นก็ไม่ต้องมาบอกให้แก้ด้วย กูสบายใจกับอะไรแบบนี้555 แซ็วนี่โคตรตราบาปวงการเล้ย เวลาหยิบเล่มเก่าๆมาอ่านแล้วเจอทีไรคือเครียดทุกที แล้วคนที่มาไม่ทันยุคผีบ้าก็จะถ่ายมาลงกรุ๊ปว่าทำไมเขียนแซ็วแบบนี้ล่ะค้า555

318 Nameless Fanboi Posted ID6:f.MlBBp+KW

>>317 เรื่องอีบุ๊ค-ใช่ มึงจะตั้งราคาพอๆกันก็ได้ สมมุติไม่มีเล่ม มีแต่แบบรายตอนกับอีบุ๊ค มึงก็จะตั้งห่างกันสักสิบบาทยี่สิบบาทไรก็ว่าไป เพราะอีบุ๊คจะมีต้นทุนเพิ่มมาอยู่ละทั้งเรื่องการจัดหน้า ถึงมึงไม่จ้างใครทำเองเลยละกัน แต่เชื่อกูเหอะพอมึงจัดเองละอยากบวกค่าแรงให้ตัวเองแน่ๆ แม่งเพ่งจนปวดตาปวดหลัง กูเคยตรวจเองจนหลอนเลยแบบอ่านอะไรก็เห็นเป็นนิยายตัวเอง555 ส่งร้านแม่งก็ตาดีได้ตาร้านเสียอะ ถ้าตาร้ายก็แบบคนรับงานมันก็แก้คำถูกเป็นผิดงี้ จัดแบบตัดตกคำ ไปๆมาๆกูต้องมาแก้งานเองอยู่ดี เสียเงินไม่พอเสียเวลาต่ออีกต่างหาก ถ้าตาดีหน่อยต่อให้ฝากฝังประร้านประจำ แต่กว่าจะถึงคิวก็รอนานอยู่
ไม้ยมก-แม่งตลกร้ายคือ ในยุคเก่าๆมีคนค้นงานเขียนแบบสมัยอยุธยารัตนโกสินทร์ มีใช้กันทั้วแบบเว้นแค่หลัง กับไม่เว้นเลย สรุปราชบัญฑิตมันก็อัปเดตไปเรื่อยอะ อัปเดตใหม่ยังพอว่า แต่อัปเดตแบบอย่างเก่าห้ามใช้นะมันผิดหลักงี้ กูจะบ้า บางทีมึงน่ะผิดเองด้วยซ้ำ ไอ้แซ็วนี่ตราบาปจริงมึง กูเคยเขียนตอนที่มันบอกว่าถูก พอมาเฉลยว่าเค้าเขียนผิดละเตงกูเงิบเลย ไม่แก้ละแม่งงานมันจบไปนานละ ไอ้พวกทับศัพท์บางอย่างนี่กูก็ปล่อยจอยนะ ถูกหลักอย่างแดดดี แครักเตอร์ กูทำใจเขียนบ่ได้จริงๆ ขอเขียนเป็นแด๊ดดี้ คาร์แรคเตอร์ต่อไปละกัน

319 Nameless Fanboi Posted ID:r.9Sl/NuC7

>>316 *ตามหลัก* มันต้องเว้นหน้าหลังอยู่แล้วนะมึง เห็นว่าสมัยก่อนเป็นวรรคเล็ก-ๆ-วรรคใหญ่ ส่วนที่เว้นหลังเฉย ๆ นี่แค่หยวน ๆ กันในวงการพิมพ์ปะ เพราะจัดหน้าแล้วมันตกบรรทัดง่ายน่ะ ไม่ได้เพิ่งมาเปลี่ยนเน้อ ส่วนตัวกุเป็นโรคบ้าความสมมาตรเลยใช้เว้นหน้าหลัง 5555555 อย่างเครื่องหมายตกใจนี่จริง ๆ ก็ต้องเว้นนะ !? แต่ใครใคร่ใช้ยังไงก็ใช้เถอะ เป็นตำรวจเครื่องหมายวรรคตอนทำไม 5555

320 Nameless Fanboi Posted ID:uqRf9Wpoir

>>318 เรื่องการจัดหน้า พิสูจน์อักษรนี่จริงแท้ กุทำเรื่องยาว ขนาดอ่านซ้ำตอนเกลามาหลายรอบแล้ว พอทำไฟล์ebook แม่งเจออีกเป็นพรวน คำผิดไม่ค่อยเท่าไหร่ คำตกคำเกินแม่งมาจากไหนเยอะแยะแว้ นั่งเพ่งไปแก้ไป จนรู้สึกว่านิยายกูทำไมอ่านแล้วแม่งกร่อยขนาดนี้วะ อ่านไปคนอ่านจะมาหยุมหัวกุเพราะเรื่องดรอปกลางมั้ยวะ ทั้งๆที่ตอนอ่านทวนตอนเขียนยังรู้สึกสนุกกับงานตัวเองไปจนจบอยู่แท้ๆ

321 Nameless Fanboi Posted ID6:yKN/PW5Ut4

>>320 แนะนำว่าลองหาโปรแกรมอ่านไฟล์ มันจะจับโป๊ะได้อีกเยอะ

322 Nameless Fanboi Posted ID6:yKN/PW5Ut4

ตอนนี้ใช้แอพ ข้อความเป็นคำพูด โหลดเวิร์ดใส่ไปละก็ฟังยาวๆ ไปเลย

323 Nameless Fanboi Posted ID6:f.MlBBp+KW

ดราม่าไม้ยมก กูว่าน่าจะมีแบบใช้ได้ทั้งสองแบบเลยมะ อย่างเพิ่ง-พึ่ง ปกติ-ปรกติ เพราะมันก็มีเหตุให้ใช้ได้ทั้งคู่เลยอะ แบบไม่เว้นหน้า-สะดวกในการตีพิมพ์กันตัดตก อ่านง่าย แบบเว้นหน้าเว้นหลัง-ทำให้ดูเป็นระเบียบและไม่รกตา

324 Nameless Fanboi Posted ID6:E2dhVJP4q5

นี่กูว่าตอนพิมพ์คำผิดแทบไม่มีนะ
แต่พออัพลงนั่งตรวจคำผิดพบว่าบางคำแม่งผิดไปไกลเลย เหมือนโดน Auto spell ยังไงก็ไม่รู้

325 Nameless Fanboi Posted ID6:f.MlBBp+KW

>>324 จริงมึง ผิดแบบมึงหลุดQC มาได้ไง สแกนด้วยตาเนื้อกี่รอบแม่งเจอทุกรอบ ส่วนมากมักเป็นพวกคำที่ระบบพรูฟยังตรวจไม่เจอด้วยนะ แบบคำถูกแหละแต่มันตกมันพลาดไง เช่น หมายอม(หมายยอม) ของใหญ่(ของใหม่) เมตา(เมตตา) ไอ้คำพวกนี้ตรวจรอบแรกไม่เจอ รอบสองเจอละแต่หลุดไปคำอื่นอีก จนงงเลยตอนพิมพ์กูกดแป้นไม่ติดเหรอวะ555

326 Nameless Fanboi Posted ID:8q9zO6/1Bc

>>324 กูเบื่อสุดตอนนั่งตรวจสิบรอบไม่เจอ พออัพลงแล้วเข้าไปเช็กการจัดหน้าดันเจอเป็นพรืด พวกคำเกินคำขาดงี้อะ55555555 กูอยากกัดลิ้นตัวเอง

327 Nameless Fanboi Posted ID6:Xr.IXYYlGt

>>326 ฮือ อย่างเกลียด ขนาดกูตรวจซ้ำแบบปริ้นกระดาษมาวงทีละจุดเลยนะ พออัปอีบุ๊คแล้วโดนคนอ่านท้วงจนได้ กูก็เจออีกละ555 หลุดตากูได้ไงวะ

328 Nameless Fanboi Posted ID6:UkCCCMLoxT

กูใช้วิธี อัพโหลดไปแล้วกำหนดวันล่วงหน้าหลายวัน คือจะขอกิฟโค้ดมาอ่านอีกที ถ้ามีคำผิดก็รีบไปขอแก้ก่อนเมพปลอย มันโรคจิตว่ะ ชอบเห็นตอนที่มันเสร็จแล้วเป็นอีบุ๊คมากกว่าตอนอยู่ในไลฟ์เวอร์ด

329 Nameless Fanboi Posted ID6:rG7Ee/u89I

Ky เพื่อนโม่งปรึกษาหน่อย กุเขียนนิยายอยู่เรื่องนึง ร่างพล็อตเขียนทรีตเมนต์เสร็จหมดแล้ว แต่กุไม่มีมู้ดเขียนเลยว่ะ กับอีกเรื่องกุอยากเขียนแต่ยังไม่เริ่มร่างพล็อต กุควรมูฟไปเขียนเรื่องที่มีมู้ดก่อนมั้ยหรือข่มใจเขียนเรื่องเก่าก่อนดี กุเครียด

330 Nameless Fanboi Posted ID6:jRJq4JhkED

>>329 ถ้าไม่ได้ลงงานติดเหรียญมีคนอ่านรอหยุมหัว มึงเลือกเอาตามอารมณ์เลย

อย่างกุจะมีเรื่องหลักเรื่องนึง แต่มีทรีตที่ร่างไว้ไม่สมบูรณ์อีก 5-6 อัน บางทีตันเรื่องหลักแต่นึกฉากอันอื่นก่อนกุก็เขียนฉากนั้นเก็บเลย ใช้ได้ใช้ไม่ได้ว่ากันอีกที ถ้าไม่มีอารมณ์เหวี่ยงเป็นพิเศษก็กลับมาลุยเรื่องหลักต่อ

พอเรื่องนี้จบกุก็ได้ทรีตกะฉากสำคัญของเรื่องต่อไปมาครึ่งนึงแล้ว

331 Nameless Fanboi Posted ID6:rG7Ee/u89I

>>330 ไม่ ๆ กุเขียนจบก่อนถึงจะลงในเน็ต ไอเดียมึงดี ขอเอาไปใช้น้า มีมู้ดเรื่องไหนก็ร่างพล็อตไว้ก่อน ขอบใจมากเพื่อนโม่ง

332 Nameless Fanboi Posted ID6:fYKYB1LlUz

ky ขอปรึกษาหน่อย กุอยากลาออกจากงานประจำ เงินจากการขายนิยายคือมีพอประมาณ สม่ำเสมอมาห้าเดือนแล้ว กุควรรอดูอีกสักเดือนสองเดือนแล้วออก หรือออกมาทำเต็มเวลาเลยดีวะ คืองานที่ทำอยู่เงินดี แต่ท็อกซิกตั้งแต่หัวหน้ายันเพื่อนร่วมงาน เนื้องานก็แย่ ภาระหนี้สินมีแค่บ้าน กับหนี้ที่จ่ายทุกเดือน แพลนคือสิ้นปีจะเคลียร์หมด ทีแรกกุอยากรอถึงสิ้นปี แต่สุขภาพจิตตอนนี้คือย่ำแย่มากกก ร้องไห้ทุกวัน ร้องทั้งเช้าทั้งก่อนนอน กุควรลาออกมาทำเต็มที่เลยดีมั้ยวะ เครียดมาก

333 Nameless Fanboi Posted ID6:UkCCCMLoxT

>>332 ถ้าได้แค่เดือนละไม่กี่หมื่น กูบอกเลยมันยังไม่แน่นอน กูเคยได้เดือนหนึ่งห้าหมื่นอัพมาเป็นปี ตอนนี้เข็นเหนื่อย ถ้าสุขภาพจิตแย่ จริงๆ ลองออกมาพักก่อนได้ว่ะ แต่สมัยนี้ควรมีงานประจำทำสักงาน เลือกที่ไม่ต้องเงินเดือนเยอะ เอาอะไรที่ทำไปวันๆ แล้วเอาเวลาที่เหลือมาเขียนนิยาย ไม่งั้นถ้าออกมา แล้วเงนิขายนิยายไม่ได้ตามเป้า ไอ้ห่า เครียด เขียนไม่ออกอีกกูบอกเลย

334 Nameless Fanboi Posted ID6:jqyygH1Xe3

>>332 ตอนนี้เพื่อนโม่งมีเงินที่อยู่ได้โดยไม่ทำอะไรสัก6เดือน-1ปีไหม ถ้าได้ก็ออกมาได้เลย
ระหว่างเขียนนิยายไม่มีรายได้อื่นต้องมีเงินสำรองจ่ายค่าน้ำ-ไฟ-ค่าเน็ต-ค่าโทร.-ค่ากิน-ค่าครีม-ค่าดูแลบ้าน—ค่าน้ำมันรถ-ถ้าเลี้ยงหมา-แมวก็ต้องมีเงินดูแลมันด้วย-
ถ้าไม่มีเงินสำรองแล้วลาออกมาเพื่อนโม่งไม่ท็อกซิกจากงานแต่จะท็อกซิกเพราะไม่มีจะแฎก ไม่มีจ่ายค่าไฟจ่ายนู่นนี่ได้นะแล้วจะพาลเขียนนิยายไม่ได้ไปอีก มันเป็นความทุกข์คนละแบบ
เพื่อนลองตริตรองดู ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ขอเอาใจช่วยมึงนะ

335 Nameless Fanboi Posted ID6:UkCCCMLoxT

>>332 กูแนะนำอีกอย่าง อันนี้ถ้าทำได้ก็ดีกับตัวมึงเองอะ กูก็เคยเกลียดงานเกลียดเพื่อนร่วมงาน แต่พอคิดว่าทำไมต้องเอาคำด่ามาใส่ใจ ทำไมต้องเก็บเอามาคิด ท็อกซิกใส่กูแล้วทำไม ก็กูไม่สนใจ งานกูก็ทำเท่าที่ได้รับสั่งมา ไอ้เหี้ยงานไหนไม่ได้ตามเป้า ไม่เกี่ยวกับกู กูทำตามสั่งละ ในเมื่อมันได้แค่นี้ มึงจะเอาไงล่ะ ทำงานไปแบบแล้วใครจะทำไมกู แน่จริงมึงไล่กูออกสิ ไอ้เหี้ยทำงานกับความคิดที่ว่า โดนไล่ออกเมื่อไหร่ค่อยออกนี่คือไอ้สัส หัวกูโล่งมาก เขียนนิยายสบายใจ

336 Nameless Fanboi Posted ID6:2O6BE/r4+X

>>332 สมัครงานใหม่ถ้าหาได้แล้วก็ยื่นออกจากที่เก่าดีกว่า

337 Nameless Fanboi Posted ID6:fYKYB1LlUz

>>333 มันก็ไม่ได้หวือหวาอะมึง 40k สม่ำเสมอ กูอยากลาออกมาลองดูสักตั้ง ไม่เวิร์คก็กลับไปทำงานต่อ สายงานกูมันหางานได้อยู่แล้ว แต่ก็แอบเครียดกลัวประสาทแฎกเพราะขายงานไม่ออก 555555 กุเคยลองเมินทุกความทอกซิกละ แต่มันเคาะประตูเรียกกูทุกวันเลย 😭 ขอบใจมากนะมึง

>>334 มีนิดหน่อยเอง พออยู่รอดได้สองสามเดือน แต่กุค่าใช้จ่ายต่อเดือนค่อนข้างน้อย หนักสุดก็ค่าบ้ารละ สงสัยต้องเลือกระหว่างทอกสิกเพราะคน กับทอกสิกเพราะเงิน 555555 ขอบคุณมากเพื่อน

>>336 เออ เวย์นี้น่าสนใจ แต๊งส์มาก ไถหางานละ

338 Nameless Fanboi Posted ID6:2X8wSsNslK

>>335 กูทำอย่างมึง 5555 มายืนยันอีกเสียงว่าเวิ้กสัส ในเมื่อใจมันอยากออกอยู่แล้ว ตอนนี้ยังไม่ออกก็ทำงานแบบมึงจะทำไมกูไปก่อน เขาไล่ออกค่อยออก ปลายทางคือได้เขียนนิยายอยู่บ้านเหมือนกัน สรุปมีงานประจำซัพพอร์ตงานเขียนด้วย ส่วนงานประจำก็มีรายได้จากงานเขียนซัพกลับอีกเด้ง จอยๆ เรามันก็อยู่เพื่อจะตายกันซักวันอยู่แล้วป่ะวะ 555

339 Nameless Fanboi Posted ID6:59GRcGZhxM

Ky ขอถามคนที่ทำทั้งเล่มกับอีบุ๊ค เราสามารถใช้ขนาดตัวอักษรต่างกันได้มั้ย ตอนแรกกูใช้ขนาด 14 แบบในเว็บพอขยายได้ แต่แบบเล่มมันดูเล็กไป เลยเปลี่ยนเป็น 16 โดนคนอ่านแบบเว็บบ่นว่าใหญ่ไป กูเลยลังเลละ จะปรับเป็น 16 แค่แบบเล่ม หรือจะปรับทั้งคู่เลยดีมั้ยงั้น คือขนาด 14 นี่มันเล็กเท่าเม็ดถั่วเองมึง กูตัดแว่นอะสายตาสั้นมาก อ่านแบบเล่มแทบไม่รอดเลยมาเก็บอีบุ๊คแทน พอจะทำของตัวเองขายมั่งเลยไม่รู้จะยึดมาตรฐานไหนดี เห็นทั่วไปใช้คลอเดีย 14 แต่กูอ่านสะดวกสุดคือ 16 อะดิ

340 Nameless Fanboi Posted ID6:rU0spwcbq6

>>339 คนอ่านแบบเว็บบ่นทำไมวะ ในเมื่อเว็บมันปรับขนาดเองได้ แล้วแอพเม็ดแนะนำให้ทำ 16-18 ด้วยซ้ำ เวลามีคนบ่น อีบุ๊คบอกแอพมันแนะนำมาค่ะ

341 Nameless Fanboi Posted ID:PWDcawzEDS

>>338 ยิ่งแบบปล่อยไปเหอะเงินจะขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ก็ช่าง กูแค่มีมึงไว้เป็นเงินสำรอง จ่ายค่านำ้ค่าไฟค่านู่นค่านี่ ยิ่งสบายใจ เพราะส่วนตัวกูปกติแม่งงานก็เดินตอนกลาวคืนอยู่แล้วอะ5555 เคยออกมาอยู่ว่างๆ ก็เขียนตอนกลางคืน ดังนั้นกูปรับความคิดกูเลย งานหลักคืองานเขียนทำกลางคืน กลาวันนั้นกูไปรับจ๊อบว่ะ ส่วนเพื่อนโม่งข้างบนบอกงานขาย คงใช้ความคิดเยอะ ลองเปลี่ยนงานดู อย่างที่แนะนำกัน ก็อาจจะดีขึ้น แต่อยากให้มีงานอีกสักงานสำรอง

342 Nameless Fanboi Posted ID6:i9yhP+2jZP

>>339 16เถอะ 14มันเล็กไปจริงๆ กูหงุดหงิดทุกครั้งตอนอ่าน14 มันอึดอัดไม่สบายตา(พวกทำมือขวัญใจนักรีวิวใช้14กันเยอะ) อย่าจัดหน้าห่างเว้นว่างเกินไปให้มาฉอดได้ว่าเว้นที่ไว้ให้ควายนอนก็พอแล้ว

343 Nameless Fanboi Posted ID6:79VheeNgXY

>>337 ถ้าเป็นที่ที่ทำงาน สะสมเงินไว้พอกินสัก 6-8 เดือน แล้วลาออกหางานใหม่ ระหว่างนั้นพักเติมไฟก่อนสักเดือนสองเดือนก็ได้
ถ้าเป็นที่ตัวมึงไม่แมทซ์กับชีวิตออฟฟิศ หรือสายงาน อันนี้มึงต้องมีเงินสะสมมากกว่านี้ หรือไม่มีภาระหนี้เลย แล้วค่อยออกมามุ่งงานเขียน แต่รายได้มันไม่แน่นอน วันนี้พอไถ วันหน้าจะปังจะฟุบ จะหมดแรงบันดาลวันไหนก็ไม่รู้ ตลาดจะหนี เทรนจะเปลี่ยนอะไรยังไง มึงต้องเตรียมใจกับชีวิตที่พลิกขึ้นลงนะ มันจะไม่ใช่เส้นตรงรายได้คงที่แบบเก่า ถ้าฐานไม่หยาพอ มึงจะเครียดเวลาที่ปัญหาการเงินมาเคาะประตูแน่นอน และมันก็ท๊อกซิกกับชีวิตไม่แพ้คนที่ทำงานเหมือนกัน

>>339 pdf ebook กุล่อ cordia 20 เลย ไม่งั้นมันเล็กมาก ยิ่งจอมือถือยิ่งเล็ก
ถ้าเป็นเล่มนี่อ่านได้หมด จัดใหญ่18 ก็สบายตาที่เริ่มแก่ จัดเล็ก 14 ก็คุ้มค่ากระดาษ เล่มมันอ่านสบายตากว่าอยู่แล้ว

344 Nameless Fanboi Posted ID6:79VheeNgXY

>>343 เพิ่มอีกว่า ปัญหาเงินไม่พอใช้มันไม่ใช่แค่เงิน ปัญหากับคนที่ทำงาน มึงยังเอาความเกลียดไปลงกับงานกับบริษัท แล้วทำตัวเป็นเหยื่อที่มีคนกระทำ ปาเงินซื้อของล้างผลาญชดเชยอารมณ์กลับมาได้บ้าง แต่วันที่เงินมึงหมด งานที่พยายามเขียนขายแล้วไม่ปัง ไม่พอกิน หรือเกิดเขียนไม่ออก มึงโทษใครไม่ได้ ถ้า eq มึงไม่มั่นคงพอ self esteem มึงจะค่อยๆพังลงได้ง่ายมาก การรับมือกับอารมณ์ตัวเองช่วงว่างงาน/ไม่มีเงิน/งานไม่ได้ผลดังใจ ก็ไม่เบาเหมือนกัน ลองเลือกดูว่าสภาพการณ์มึงถูกโฉลกกับแบบไหนกว่ากัน อยากรับมือกับอุปสรรคชีวิตแนวไหนมากกว่ากัน

345 Nameless Fanboi Posted ID6:i9yhP+2jZP

>>344 อันนี้จริงมาก พอเงินไม่มีแต่รายจ่ายมันมารอ ข้าวน้ำก็ต้องกิน เวลานั้นมันจะตื้อไปหมด

346 Nameless Fanboi Posted ID6:2X8wSsNslK

>>344 กูชอบความเห็นพวกมึงมาก มันเรียล มันเป็นประสบการณ์ที่ควรมีคนบอกก่อนออกจากงานจริงๆ ว่ะ

347 Nameless Fanboi Posted ID6:zot8jB/szv

>>340 >>342 กูแอบงงเหมือนกันที่โดนคนอ่านเว็บบ่น555 เครๆ กูใช้ 16 ต่อไปละกัน อาริกาแต๊งหลายๆ

348 Nameless Fanboi Posted ID6:E9cF0vycAt

>>347 คนละครึ่งทาง เป็น 15 ดีมั้ย 5555 แต่กุพอเข้าใจนักอ่าน pdf นะ เพราะส่วนใหญ่กุก้อ่าน pdf (ถ้าจัดหน้ามาโอเค) ไม่ค่อยชอบอ่าน epub เจอบางคนจัด pdf ตัวใหญ่ก็อ่านลำบากนิดหน่อย คิดว่าคงเอื้อให้อ่านในโทสับมั้ง ถ้าอ่านในไอแพดมันจะใหญ่ไป ไม่ค่อยสบายตา แต่จะเอาไงก็แล้วแต่นข.เถอะ คงตามใจนักอ่านทุกคนไม่ได้

349 Nameless Fanboi Posted ID6:y7Hz/LnzQw

>>348 บางคนแนะนำให้จัด pdf เป็น 20 เลยแหละ555 เอื้อกับคนอ่านมือถือจริง

350 Nameless Fanboi Posted ID6:rU0spwcbq6

>>348 แอพแนะนำ 18 นะ ส่วนหนังสือก็ต่างหาก นักเขียนบางคนมีสองไฟล์ อีกอย่าง นักอ่านบางคนงอแงเพราะคิดว่า นักเขียนในแอพคิดราคาจากหน้า แต่จริงๆ คิดจากคำ

351 Nameless Fanboi Posted ID6:dJLU+y6EOi

ส่วนกุชอบอ่าน epub เดี๋ยวนี้ epub ของเมพตัดคำดีกว่าเมื่อก่อน อ่านแล้วสบายตากว่าอ่าน pdf เยอะ

352 Nameless Fanboi Posted ID6:ND/pKzokcs

ถามโม่งหน่อยใครเป็นบ้างหงุดหงิดเวลาเขียนบรรยายยาวจนขึ้นบรรทัดใหม่ แต่พอบรรยายจบพบว่าบรรทัดนั้นดันมีอยู่แค่ไม่กี่คำซะงั้น
คือแม่งรู้สึกโหวงๆ สิ้นเปลือง จนกูต้องหาอะไรนอกเรื่องมาเขียนเพิ่มถมๆ ไปให้ได้ซักครึ่งบรรทัดกันเลย

353 Nameless Fanboi Posted ID:MoBt7dTJNk

ถาทเพื่อนโม่ง กูสงสัยว่ากรณีพระเอกถูกทำให้มีลูกโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่นโดนมอมเหล้าแล้วเด้ากันเพราะตัวเองอยากจะท้อง แบบนี้มันมี twไหม คือถ้ากลับฝั่งผู้หญิงโดนตั้งใจทำท้องมันจะมีว่า ถูกทำให้ตั้งครรภ์โดยไม่ยินยอม แต่อันนี้พระเอกเป็นฝ่ายโดน ควรใช้คำว่าอะไร

354 Nameless Fanboi Posted ID:FzKLNsliZR

>>353 non-consensual sex มะ

355 Nameless Fanboi Posted ID6:IdlIe4mjn1

>>353 sexual assualt หรือจริงๆ ก็ rape มั้ย

356 Nameless Fanboi Posted ID:rfOxLOKfod

พวกมึงกูมัวทำนู่นทำนี่ดึกเลย ขอบใจมากๆๆๆ

357 Nameless Fanboi Posted ID6:EcO1rPstzI

>>352 กูเป็นจ้า เวลาตกมา 1 คำ คือประหารเท่านั้น

358 Nameless Fanboi Posted ID:EsqMzvJpOR

เจอกุ ชอบผวนคำ เหี้ยจัด ชีวิตติดเล่นเกิน 55555

พูดถึงเรื่องพรูฟแล้วนึกขึ้นได้ ปกติกุส่งไฟล์เวิร์ดให้พรู้ฟรี้ด/บก./เบต้า/จัดหน้า จนมีคนมาเตือนว่าระวังพวกนี้ดอยงานเรา มึงมีวิธีป้องกันเคสแบบนี้ยังไงบ้างวะ จะส่ง pdf ใส่ลายน้ำให้ก็ลำบากตอนอีดิตอีกง่า คัดให้คนเครดิตดีเท่านั้นก็ไม่รู้จะดีแตกเมื่อไหร่ trust issue ทำงานทีระแวงไปหมดเลยโว้ย ToT

359 Nameless Fanboi Posted ID6:a7TAR9V95U

>>344 เออว่ะ ยิ่งเงินร่อยหรอ self esteem ยิ่งอ่อนยวบ หดหู่ไปหมด

360 Nameless Fanboi Posted ID:Pm+r9ne78g

Ky เขียนนิยายที่มีฉากย้อนอดีตบ่อยๆ ยังไงไม่ให้โดนด่าดีวะ กุยังไม่เคยโดนด้วยตัวเองแต่ชอบไปเห็นคอมเมนต์ในเมบของคนอื่นที่เล่าอดีตตัดสลับ 50/50 โดนนักอ่านบ่นว่าน่าจะเล่าเรียงตามไทม์ไลน์จากอดีตมาปจบ. ไม่ก็บ่นว่าพาร์ทอดีตเยอะไป ฯลฯ แฟร์ๆ เลยบาบเรื่องทำงงจริง แต่บางเรื่องกุก็ว่าถ้าโฟกัสหน่อยก็ไม่หลุดนะ อ่านรุ้เรื่อง เขาแยกอดีตเป็นตัวเอียงชัดเจน หรือคอนเท็กซ์ในตอนบรรยายก็บอกโต้งๆ ว่าคิดไปถึงอดีตทำไมคนมันอ่านแล้วงงวะ

361 Nameless Fanboi Posted ID:nrPz.gi1rk

>>360 กุไม่งงนะแต่กุไม่ชอบ 5555 เคยอ่านเจอเรื่องแนวนี้มาสองสามครั้งถึงอ่านรู้เรื่องก็ไม่ชอบว่ะ เนื้อเรื่องมันเหมือนไม่ค่อยเดินอะ มัวแต่ย้อนอดีต

362 Nameless Fanboi Posted ID:rfOxLOKfod

>>360 คิดเหมือน 361 นะ นี่ว่าบางคนอาจไม่ได้งงแต่ไม่ชอบเปล่า กูเคยเห็นเรื่องที่นึกย้อนความละทำตัวเอียง นักอ่านบ่นทำตัวเอียงแล้วอ่านยาก(เอียงเยอะๆ หลายๆ ย่อหน้า) แต่พอไม่เอียงบางคนก็งงอีก นักอ่านมีเยอะนะชอบอ่านข้ามๆ ยิ่งถ้าช่วงต้นเรื่องยังไม่โฟกัส บางทีเจอบรรยายเยอะๆ ปาดผ่านพอไม่เอียงก็งง เอียงก็ไม่ชอบอีกอะไรแบบนี้
ส่วนตัวกูว่ามันย้อนได้นะ แต่เอาแบบที่จำเป็น มันเป็นเทคนิคหนึ่งในการเล่าเรื่องไง เคยเจอเรื่องที่ฝืนย้อนแบบไม่รู้จะย้อนทำไม จริงๆ ไม่ต้องย้อนก็ได้แบบนั้นกูก็ไม่ชอบนะ รู้สึกเปลืองหน้ากระดาษเปล่าๆ เหมือนเนื้อเรื่องไม่เดิน เหมือนกูซื้อมาในราคานี้ที่มีน้ำปนมาเยอะอะไรแบบนี้

363 Nameless Fanboi Posted ID6:adKIgbSCj8

ตอนนี้กูปลงกับยอดนิยายละ มีคนอ่านตอนละ 10-20 คนก็แล้วไป เพราะไม่ได้หวังรายได้อะไรอยู่แล้ว
แต่กูเคืองอย่างนึงคือ ...มึงอ่านกันแล้วช่วยคอมเม้นท์หน่อยได้มั้ย!! กูอยากรู้ว่าตรงไหนดี/แย่ จะได้เอาไปแก้
แต่นี่คือแต่ละคนอ่านเสร็จแล้วสะบัดตูดหายอะ ฮือออออ

364 Nameless Fanboi Posted ID6:DKpWCcpj0D

>>363 ทรงนี้ดราม่าควีน ติไปก็รับความจริงไม่ได้ แล้วพอเม้นท์ สนุกค่า รอต่อ ก็มาบ่นอีก อยากให้เม้นท์ยา่วๆ มีประโยชน์กับงานมากกว่านี้ (จ้างเบต้ารี้ด ไม่ก็ บก. ได้คอมเม้นท์เกี่ยวกับงานแน่)
ลองบอกเลย ไม่รับนักอ่านเงาค่ะ ไม่มีเม้นท์ไม่อัพหมดกำลังใจ ถ้าไม่เป็นจำพวก รอต่อค่า ก็หายไปเลย มึงก็เลิกแต่งไป จะได้ไม่ต้องมานั่งเคือง

365 Nameless Fanboi Posted ID6:a7TAR9V95U

>>363 มึงเหมาะกับมู้นี้นะ ระบายความในใจ https://fanboi.ch/literature/3325/recent/
ถ้าต้องการเคล็ดลับ โม่งบนๆเคยบอกไว้ว่าอย่าเอาใจไปผูกกับเม้นให้มาก ไม่ก็เขียนให้มันน่าตื่นเต้นตัดจบให้คนอยากเม้นชาเล้นจ์ตัวเองต่อไป

366 Nameless Fanboi Posted ID6:UkivdJroRs

ky ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่จ้างทำไทโปชื่อเรื่องแล้วแรกๆก็ว่าสวย (จ่ายเงินและรับงานไฟนอลเรียบร้อย) ไปๆมาๆพอปริ้นลงกระดาษ โปสการ์ด มองจากคอมพ์คนอื่นแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกใจว่ะ ทีนี้พอไม่ถูกใจครั้งเดียวก็ติดในใจมาตลอดเลย อยากแก้ อันนี้กูควรไปเพิ่มเงินแล้วให้คนเก่าแก้ ไม่ก็จ้างเขาทำใหม่ไปเลย หรือไปร้านใหม่เลยดีวะ กลัวเขาเสียความรู้สึก แต่ร้านก็ลงงานกูพร้อมปกในร้านเขาเรียบร้อย ปัญหาอาจไร้สาระในสายตาเพื่อนโม่งนะ แต่กูแอบเครียด กลัวเขาเสียความรู้สึกที่เราไปจ้างคนใหม่ ทำไมไม่ให้เขาออกแบบใหม่อีกรอบ แต่อีกใจกูก็ แง พูดไม่ถูก

367 Nameless Fanboi Posted ID:rfOxLOKfod

>>364 เท่าที่กูเจอมานะเป็นแบบมึงว่าเลย ไม่ได้หมายถึง >>363 นะ กูไม่รู้จักมึง แต่มิตรสหายหลายท่านของกูเป็นแบบนี้ กระหายคอมเมนต์ฟีดแบคจากนักอ่าน แต่พอโดนติงก็นอยด์ เอาไปจ้างพิสูจน์เขาติงมาก็ไม่ค่อยรับแล้วก็บอกไว้ปรับปรุงเรื่องหน้า สรุปเรื่องต่อมาก็เหมือนเดิม กูก็เคยช่วยติงให้นะ ทุกวันนี้ก็ยังเห็นส่วนที่กูเคยติงเป็นเหมือนเดิม แต่คงเพราะกูก็นักเขียนระดับเดียวกันมั้งเลยไม่ใส่ใจฟังเท่าไร กูก็เข้าใจได้นะ ก็ไม่ได้ช่วยติงไรอีก แค่ช่วยรับฟัง ต่างคนก็ต่างเขียนต่อไป
ว่าสาระ อย่าไปรอคอมเมนต์เลย คือมีก็ดี แต่ไม่มีก็ต้องมูฟออนช่วยตัวเองเอา ไม่ได้จะให้มึงไปติ้วนะ ก็ต้องวิเคราะห์เอง ลองไปหาอ่านเรื่องของคนอื่นที่มึงสนใจ ต้องลดอีโก้ลงแล้วอ่านจริงๆ นะ แล้วก็คิดตามว่ามึงชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน วิเคราะห์เอาว่านักอ่านน่าจะชอบส่วนไหนในเรื่องนี้ ไม่ชอบส่วนไหน แล้วก็ปรับปรุงงานตัวเอง
ถนนสายนักเขียนมันโดดเดี่ยวกว่าที่คิดไว้มากมึง ทุกอย่างแทบต้องรับจบเองหมด
สู้ๆ นะพวกมึง ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้พวกเรายังเขียนกันยังขายกันได้ก็เก่งมากแล้ว

368 Nameless Fanboi Posted ID:hykKetO7wz

>>366 กูในฐานะคนรับจ้างทำไทโป ถ้ามึงไม่ชอบหรือเปลี่ยนใจจะแก้ก็อยากให้มึงมาคุยกันนะ ยิ่งถ้าจะเพิ่มเงินกูยิ่งยินดี ถถถถถ ไม่ใช่อะไรหรอกกูเอาใส่ portfolio ไปแล้วไงว่านิยายเรื่องนี้ทำไทโปโดยกู ถ้านข.เปลี่ยนโดยไม่บอกกูมารูทีหลังก็เขินๆอ่า
ยิ่งเหตุผลคือมองบนคอมแล้วชอบ ปรินท์ลงกระดาษแล้วไม่ชอบนี่สายอาร์ตเข้าใจกันหมดแหละมึง ยินดีแก้ขอแค่จ่ายตังค์ ถถถถถถถถถถ แต่ถ้ามึงไม่ถูกใจฝีมือจริง ๆ แล้วอยากเปลี่ยนไปจ้างคนอื่น ก็แล้วแต่มึงอีกนั่นแหละ ไม่ต้องไปคิดมากหรอก

369 Nameless Fanboi Posted ID6:a7TAR9V95U

>>366 เข้าใจนะว่าคิดมากกังวลในหลายๆมุมกลัวคนนั้นเกรงใจคนนี้
แต่…นี่เป็นผลงานมึง มึงเป็นคนรับผิดชอบสูงสุด และมึงคือคนเสียเงิน ดังนั้นเอาที่มึงสะดวกใจสบายใจที่สุดเถอะ อย่าเกรงใจคนอื่นแต่ตัวเองเซ็ง

370 Nameless Fanboi Posted ID6:UkivdJroRs

>>368-369
แต๊งกิ้วมากกับความคิดเห็น ตอนแรกก็คิดจะเพิ่มตังค์ให้เขาแก้นั่นแหละ แต่ที่มีตัวเลือกไปหาร้านใหม่ให้จบๆไปเพราะมีปัญหาเล็กๆที่กวนใจ ประมาณว่าเขาส่งงานเลตจากที่ตกลงกันไว้หลายวัน ส่งเลตแล้วยังแนบไฟล์งานมาไม่ครบอีก ทักไปบอกทันทีแล้วแท้ๆยังต้องรอเป็นวัน ก็เลยทำกูแอบนอยน่ะ เหมือนให้ส่งช้าแล้วยังดูเหมือนไม่ใส่ใจอีก เลยซึมๆไม่ค่อยอยากไปดีลงานด้วยอีก

ขอบคุณมากๆนะ กูก็เกรงใจคนจริงๆนั่นแหละ555 มาถามในนี้เลยได้รู้มุมมองคนทำไทโปด้วยเลย เดี๋ยวกล้าๆเมื่อไหร่จะทักไปขอแก้ แก้แล้วไม่ถูกใจกูก็น่าจะหาร้านใหม่แล้วล่ะ

371 Nameless Fanboi Posted ID6:KIG8V5rQkY

กูว่การแสดงออกของนักวาด/คนทำไทโป/บก./พิสูจน์อักษร มีผลต่อการจ้างงานมากนะ บางคนทำงานดี ส่งตรงเวลาแบบวินาทีสุดท้าย แต่ชอบตอบช้าาา ไม่ตอบบ้างล่ะ แล้วไปเล่นทวิตฉ่ำ ทั้งๆ ที่ก็ฟอลกันอยู่กะกูเนี่ย 555 มันทำให้กูรู้สึกว่าเขาไม่อยากทำงานของกูรึเปล่าวะ หรือเขาแค่ procrastinating เฉยๆ ซึ่งไม่ว่าจะอะไรกูก็นอยอ่ะ ต่อให้ชอบงานก็ไม่อยากจ้างต่อเลย

372 Nameless Fanboi Posted ID:.pXheyUndU

>>360 กุคนนึงที่ชอบและต้องการมาก โดยเฉพาะแนวถ่านไฟเก่า / มีความหลังกันอะ บางเรื่องคือไม่เล่ามม.ย้อนอดีตเลย มีแต่พาร์ตปจบ. บอกแค่เป็นแฟนเก่างี้ กุละก็หมดอารมณ์จะอิน แม่งเคยรักกันเพราะอะไรยังไงก็ไม่รู้ จนไม่อินกับพาร์ตปจบ.เลย เซ็งมาก 555555
อัดย้อนอดีตมาเยอะ ๆ นี่สำหรับกุจะเล่าย้อนไปครึ่งเรื่องก็ไม่ว่า ถ้ามันมีประโยชน์กับเนื้อเรื่องอะนะ แค่ให้มันน่าสนใจ /สร้างความรู้สึกอะไรหน่อย (เขิน ขำ เศร้า บลา ๆ) ไม่ชวนหาวก็พอ //จริง ๆ เขียนย้อนแบบตัดสลับหรือย้อนปัจจุบันไปอดีตมันก็คือศาสตร์การเล่าเรื่องแบบนึงอะ ถ้าเล่าเป็นเส้นตรงอดีตไปปัจจุบันบางทีมันจะเรียบเรื่อยมาก ไม่น่าสนใจ แต่ยังไงนักอ่านก็ลางเนื้อชอบลางยา ขอให้เจอคนที่โดนเส้นกับวิธีที่มึงเลือกเยอะ ๆ สู้ ๆ จุ๊บ ๆ

373 Nameless Fanboi Posted ID:Mps7AI10CY

>>372 กุก็ว่าเล่าสลับมันน่าติดตามไปอีกแบบ แล้วเอาจริงนะ พอเล่าตามลำดับเรื่องราว เปิดมาจีบกัน เป็นแฟนกัน ทะเลาะกัน เลิกกัน กลับมาคืนดี นักอ่านก็เบื่ออีก หาว่าเวิ่นเว้อ ยาวไป เพราะอยากอ่านตอนพีคไว ๆ เอาใจยากสุด 555555

374 Nameless Fanboi Posted ID6:ul.eeFeCu9

อยากจะลองกลั้นใจอ่านแนวตลาดเพื่อศึกษางานเขียนดู เหล่าโม่งมีเรื่องไหนแนะนำบ้างมั้ย? เอาแบบที่โม่งคิดว่าเด็ดเลยอ่านแล้วไม่น่าเบื่อ สำนวนดี ดำเนินเรื่องดี อะไรทำนองนั้นอะ

กูอิงความชอบของตัวเองมาตัดสินไม่ได้ เพราะรสนิยมกูนี่ห่างไกลจากแนวตลาดอย่างสิ้นเชิงเลย

375 Nameless Fanboi Posted ID6:p34XNlsojM

>>374 งั้นกูขอนำเสนอ พิษชายาวาดี้ เรื่องล่าสุุด สถๅนะ wife เถื่oน

376 Nameless Fanboi Posted ID6:Nk498CrkFX

>>372 มึงงง เหมือนกู! แนวแฟนเก่าควรย้อนเยอะๆ หยิบจับอะไรก็ควรเป็นความหลัง ไม่งั้นมันไม่อินว่าเมื่อก่อนเคยรักกัน แล้วตอนเลิกกันแม่งเจ็บแค่ไหน!5555

377 Nameless Fanboi Posted ID6:F4+trl4t76

>>374 พยย.(หมูน้ำสไมล์) แนะนำลองเล่มที่เรตติ้งดีสุด อะเกน&อะเกน ใช้ศึกษาแนวพระเอก-นางเอกที่ตลาดชอบได้ เขียนแบบไหนให้คนตราตรึงกลับมาอ่านซ้ำ (เป็นเล่มที่คนกลับมาอ่านซ้ำบ่อย-ไปดูคอมเม้นได้หลังๆคือคนอ่านรอบ2-3-4ฯลฯกลับมาคอมเม้น) พระเอกมีเสน่ห์แบบดูร้ายๆ เจ้าเล่ห์ แต่เป็นแบดบอยแบบจริงใจ แซ่บ ฉลาด และเป็นเซฟโซน อยู่ข้างนางเอกยามมีปัญหา
นางเอกสวยเผ็ด สู้คน ฉลาด เซ็กซี่ มีลูกล่อลูกชน ทำให้คนอ่านรักด้วยความสวยอย่างมีคุณค่า ไม่อ่อนให้พระเอกง่ายๆ ดูสำนวนเขา ดูทริคที่ปูเรื่องอย่างไรให้ตกคนอ่านที่บทแรกได้เลย นอกจากนี้ก็มี..
//เหรวแหก,แหดฆอก,ณอกไจ,กังวาฬหวาณ ; ฟีลดราม่าหน่วงเข้มข้น อ่านแล้วจะได้เรียนรู้ว่าความบิ้วด์ให้คนอ่านรู้สึกถึงเครื่องถึงอารมณ์ ขยี้แล้วขยี้อีกให้แหลก ให้คนอ่านเจ็บปวดตามนางเอกแต่ก็เข้าใจพระเอก เอาใจช่วยตัวละครไปจนสุดทาง NCที่ทำให้ใจสั่น วูบวาบๆ ไปพร้อมๆกับดราม่าเข้มข้น ต้องประมาณไหน
ส่วนถ้าจะแนวตลาด แบบไม่มีNC แนะนำ ถ.ธ เล่เอ๊ยเล่เลิฟ สามารถศึกษาแนวทางการวางคาร์ ที่ชวนฝัน ตลค.เพอร์เฟคไร้ที่ติ มีเสน่ห์แบบนิย้ายนิยาย นางเอก-พระเอกฉลาด หล่อเลือกได้ กับสวยเลือกได้มาเจอกัน สำนวนที่นักอ่านหลายคนบอกว่าภาษาสวย (ศิษย์ป้าธม) สามารถลองอ่านเพื่อเอามาวิเคาะได้ว่าทำไมคนถึงเก็บขึ้นหิ้งและกลับมาอ่านซ้ำๆ เล่มเป็นของแรร์คนตามหาสะสมราคาพันกว่า

378 Nameless Fanboi Posted ID6:9P2bghW+CI

เคยอกหัก แต่นิยายก็ต้องแต่งกันไหมวะ
มันเฉาๆ รู้สึกมึนๆ ไม่ค่อยมีไอเดีย

379 Nameless Fanboi Posted ID6:vOAmRr9Fvr

>>378 อ่อ กูเอาผัวใหม่แบบที่อยากได้มาเป็นแรงบันดาลใจ

380 Nameless Fanboi Posted ID6:17aYXGebJh

>>375 >>377 ขอชื่อเต็มแบบไม่ผันไม่เปลี่ยนได้มั้ยอะ ลอง Search หาแล้วไม่เจอเลย
คือกูนอกวงการแนวตลาดมาก ไม่รู้หรอกว่าตัวย่อที่พวกมึงพูดถึงคือใคร ฮือออ

381 Nameless Fanboi Posted ID:PfW3wblau8

>>378 เป็นอยุ่เลยย นิยายกุแต่ละเรื่องวางพล้อตไว้สดใสร่าเริงจบแฮปปี้แมรี่ลูกสามคน แต่ตอนนี้อยากจะเขียนแต่แบบทางใครทางมัน แยกย้ายไปเติบโต คือชีวิตจริงกุจบแบบไม่เกลียดกันไง กุเลยพลอยมองว่าเออ ตลค. กุนี่เอาจริงๆ มันก้ไม่น่าไปกันรอดนะน่ะ

382 Nameless Fanboi Posted ID6:17aYXGebJh

ว่าไปถามเหล่าโม่งแนวตลาดหน่อย ปกติคือคิดเนื้อหานิยายเอาไว้แค่ 1 เล่มจบกันใช่มั้ยวะ
พอดีกูเขียนแนวแฟนตาซีมาตลอด ซึ่งพวกนี้ 1 เล่มจบมันไม่พออะ ถ้าจะเนื้อหาลงตัวต้อง 3+ เล่มตลอด

ถ้าความยาวแค่นั้นจะขมวดปม วางเนื้อหากันยังไงบ้างวะ เพราะเล่มนึงมันอาจจะแค่แสนคำต้นๆ ซึ่งจากที่กูเคยเขียนมาแม่งเล่าไม่หมดอะ

383 Nameless Fanboi Posted ID6:ddQpWpoyed

>>382 กูวางโครงเหมือนทำรายงาน เริ่มจากเขียนทุกประเด็นที่อยากเล่าลงในกระดาษแผ่นใหญ่ๆก่อน แล้วเลือกว่าเล่มนี้จะเล่าเรื่องอะไรเป็นหลักหนึ่งประเด็น ตัดไอ้ที่ไม่เกี่ยวกับประเด็นนี้ทิ้ง ไม่ต้องเล่าหมด มีประเด็นรองมารองรับจำกัดไม่เกินสองประเด็นกำลังสวย พอได้ประเด็นแล้วค่อยเลือกพล็อตมารองรับ อันไหนเป็น hint ใส่มาแต่พองาม ไม่จำเป็นต้องเล่าทุกอย่างที่คิดในหัวก็ได้ เก็บไว้เล่าเล่มหน้าบ้าง เอาให้เล่มนี้มันจบปิดประเด็นได้สวย มีคำตอบให้คอนฟลิกซ์ที่ตั้งไว้ก็พอ

384 Nameless Fanboi Posted ID:.pXheyUndU

ส่วนตัวกุอ่านแนวตลาดได้อยู่ แนวผัวเหี้ยบีบคั้นอารมณ์นี่พอเข้าใจว่าทำไมคนชอบ แต่แนวเบาสมองกุเข้าไม่ถึงจริง ๆ ว่ะ ไม่ได้จะเหยียดแต่ลางเนื้อชอบลางยาไม่ถูกจริตจริง ลองเรื่องติดท็อปเรตติ้งถล่มทลายบางเรื่องเขียนสั้น ๆ ไม่ถึงแสนคำ แทบไม่มีปม คือเบาม้ากกก ไม่มีอะไรเลย ถอดสมองอ่านชิล ๆ คลิเช่แบบเดาได้เป็นฉาก ๆ อ่านละหลับ แต่ดันขายดิบขายดี กูก็คิดอยู่ว่าถ้าเขียนแบบนั้นมั่งจะรุ่งมั้ย แต่ก็ทำใจไม่ลง เขียนเองยังอยากหลับเอง ไม่อยากเสี่ยงฝืนว่ะ 55555 ว่าแล้วก็ถามคนชอบแนวนี้หน่อย เจอพล็อตคลิเช่ ๆ ปมง่าย ไม่มีอะไรหักมุม พระนางสวยหล่อรักกันง่าย อ่านละไม่เบื่อเหรอวะ ฮือ ๆ

385 Nameless Fanboi Posted ID6:F4+trl4t76

>>384 มันมีวิธีอ่านคือ อ่านเล่มหนักๆเครียดๆหน่วงๆดราม่ามากาอน แล้วมาอ่านเล่มเบาๆแบบที่มึงว่าก็คืออ่านเพื่อพักสมองผ่อนคลายไม่ต้องคิดเยอะ คนอ่านจริงเขาไม่อ่านแนวเดียวหมวดเดียวไปตลอดหรอกมันจะเบื่อได้ต้องมีสลับๆบาลานซ์กันไป

386 Nameless Fanboi Posted ID6:Nk498CrkFX

>>384 บางทีชีวิตก็อกหักเหมือนโม่งข้างบนแหละ เครียดกับชีวิต เลยอยากหาไรน่ารักๆเบาสมองอ่าน บางทีก็นักเขียนที่ชอบ ก็อุดหนุนเขา

387 Nameless Fanboi Posted ID6:+jRsjNgbQL

>>384 บาวทีอยู่ที่คาแรกเตอร์ด้วยนะ คาแรกเตอร์เป็นแบบที่ชอบก็อยากอ่านเรื่องของเขาไปเรื่อย ๆ ไม่จำเป็นต้องพล็อตซับซ้อนบีบคั้นอารมณ์

388 Nameless Fanboi Posted ID6:vOAmRr9Fvr

>>384 คนเรายังแดกอาหารหลายรส นิยายก็ไม่ต่างกันอะ กูนี่แนวผัวโบ้ ห้องหนี กูเข้าไม่ถึง ทำไมต้องกลับไปกินอ้วก

389 Nameless Fanboi Posted ID:aVYZF9/OKR

>>382 กุกึ่งด้นกึ่งถู ไม่เคยจำกัดไว้ก่อนเลย จบเท่าไหร่ก็เท่านั้น แล้วแต่จังหวะจะลากไป วางโครงไว้แต่พอเขียนจริงมักจะรู้สึกมันขาดความลื่นกุก็เพิ่มลดฉากตรงนั้นเลยอีก คุมอะไรไม่อยู่เลยกุ ว่าแต่แนวตลาดที่มึงถามคือแนวรักๆ เหรอวะ ถ้าปมมีน้อยมันก็สั้น ๆได้อ่ะ มันไม่มีอะไรให้เล่ามาก
ยิ่งเขียนอีโรติกยิ่งสั้นเลย เจอกัน นัวกัน เน็ดเพิ่มสัมพันธ์x5ฉาก นอ.ทนไม่ไหวหนี1ฉาก พระเอกโบ้x2ฉาก เน็ดคืนดี จบบริบูรณ์

>>383 กุอยากทำได้เหมือนมึงมั่งจัง ดูเป็นมืออาชีพดี

>>387 วิธีหากินของแนว sos เลย

390 Nameless Fanboi Posted ID6:fh3mZzbxP8

>>360 กูมองว่าอดีตคือให้ย้อนระลึกถึงได้ แต่เนื้อเรื่องในปัจจุบันต้องมีมากกว่าย้อนอดีต ถ้ามึงมัวแต่เล่าอดีตเรื่องในปัจจุบันก็ไม่เดิน ไม่ควรเอาอดีตมาเล่าเยอะเกิน ควรตัดสลับไปมาแบบเป็นกระสายมากกว่า เช่นไปกินข้าวร้านนี้กับแฟนปัจจุบัน แต่ใจยังโหยหาแฟนเก่าก็บรรยายไปว่าเคยทำอะไรในร้านนี้กับแฟนเก่า ให้มันดูทับซ้อน รีเลท แฟนใหม่สั่งไวน์ นึกถึงแฟนเก่าก็สั่งไวน์เหมือนกันไรงี้ เล่าเรื่องให้มันดูน่าสนใจแว้บไปแว้บมาดีกว่าเล่าทั้งดุ้น มันจะน่าเบื่อเอา

มังฮวาที่กูอ่าน แม่งย้อนอดีตนานเหี้ยๆ เล่าเนื้อเรื่องปัจจุบันได้สี่ตอน ย้อนอดีตไปสิบห้าตอน แล้วแต่ละตอนแทบไม่ได้อะไรคืบหน้า คนอ่านก็ด่าเอาว่าเมื่อไหร่จะกลับมาปัจจุบัน อันนี้คือเล่าลำดับเรื่องห่วยไม่มีลูกเล่นจนไม่น่าสนใจ ทำไมกูต้องมาอ่านชีวิตเหี้ยๆของไอ้หน้าหมาน่ารำคาญอย่างมึงด้วย ความรู้สึกมันประมาณนี้ล่ะ

391 Nameless Fanboi Posted ID6:i//IpNQW1T

>>384 แนวตลาดผัวเหี้ยมันไม่คลิเช่ตรงไหนวะ5555

392 Nameless Fanboi Posted ID6:i//IpNQW1T

คลิเช่พอกัน

393 Nameless Fanboi Posted ID:Ql/SAb8V.A

นักอ่านแม่งก็ร้อยพ่อพันแม่แหละ นิยายติดท็อปเรื่องเดียวกันคนนึงอ่านบอกหนุกมากอวยเช้าเย็น อีกคนบอกแม่งติดท็อปได้ไงวะ ไม่เข้าใจ
การขายดีแปลว่าตลาดส่วนใหญ่ถูกใจ ไม่ได้แปลว่างานสมบูรณ์แบบ **สมบูรณ์แบบในที่นี้หมายถึงถ้ามีเกณฑ์วัดจริงจังอะนะ สมมติเรื่องภาษา ใช้ภาษาถูกต้องไม่เขียนผิด 10 ภาษาสละสลวย 10 ตัวละครมีมิติ 10 เรื่องความแปลกใหม่ไม่คลิเช่ 10 พล็อตน่าสนใจ 10 เนื้อเรื่องจรรโลงใจ มีประโยชน์ต่อสังคม 10 +เกณฑ์อื่น บลาๆๆๆๆ มึงว่าจะมีกี่เรื่องได้เต็มก่อน พวกที่ได้คะแนนสูงอาจจะไม่ดังเท่าเรื่องได้น้อยกว่าก็ได้ นึกภาพหนังรางวัลออสก้าอะ หนังดีคนเข้าไม่ถึงเยอะแยะ ก็คนดูกะคนตัดสินมันคนละเทสต์ เขียนนิยายขายตลาดนี่เน้นความต้องการนักอ่านก็โอละ ไม่ได้เขียนประกวดเดบิ้วเป็นศลป.แห่งชาติ/เขียนเอสเสส่งอ.นี่หว่า บางคนไม่กล้าเขียนนิยายเพราะไม่อยากเขียนแนวคลิเช่ กะคิดปมซับซ้อนหัวแตกแล้วค่อยเขียน หวังให้มัน perfect ที่สุด มันจะเครียดนะมึง ยิ่งผลตอบรับไม่ได้อย่างหวังก็เฟลเปล่าๆ อยากบอกว่าลองปล่อยจอยเขียนๆ ไปเหอะ อย่าชุ่ยมากก็พอ แล้วก็อย่าเหยียดความชอบกันด้วย ใครชอบอ่านชอบเขียนเสวซาวแทรคพั่บๆ ปรี๊ดๆ กรีนแฟลคน่าเบื่อไม่เร้าใจ ผัวเหี้ยสันดานทุเรศ บลาๆๆ ก็เรื่องของเขา มาดูถูกว่าชิทเทสต์นี่ค่อนข้างสาระแน อย่าเป็นตำรวจนิยายกันเลย โดยเฉพาะอีพวกธงเขวเยี่ยวม่วงนี่ กดกันจัง ไม่มีใครดีเท่าแม่มึงละค่ะ 55555

394 Nameless Fanboi Posted ID6:/hjijHOp62

>>393 เรื่องตลกคือ พวกธงเขียวชอบเจอแตงโมด้วยนะ555555 แยกกันไม่ออกเหมือนเด็กน้อยเลยมึง ไม่โรแมนติไซซ์ก็เขียวแล้วหรอม มีสายธงเขียวคนไหนความดันขึ้นหลังจากซื้อตามแรงอวยพวกนางรึยัง ใครซื้อตามแล้วยังไม่ได้อ่านลองอ่านบางเรื่องดูก่อนจะอยากทุบหลัง ไปเขียวกับแม่มึง5555

395 Nameless Fanboi Posted ID6:zFN+MeU6uK

>>394 เอาจริงกูเซ็งนะ เคยไปเจอคนบอกธงเขียวมาก ดูแลนางเอกดี ไอสัส เขียวแบบสตอกเกอร์ ตามเขาไปทั่ว ขับรถไปดูหน้าบ้านเขาจนกว่าไฟจะปิด น่ากลัวชิบหาย

396 Nameless Fanboi Posted ID6:ov/wr9o5Ci

Ky กูหลงไปเจอเรื่องนึง ที่แก๊งรีวิวแนะนำ นข.เล่นx พระเอกทำตัวดีธงเขียวมาแทบตลอดเรื่องแต่มีซีนนึง ตดให้นางเอกดมบนรถ กูช็อกมากกับมุกแบบนี้และโกรธคนเขียนที่ทำภาพลักษณ์พระเอกเสีย กูนอยพระเอกตด อยากให้1ดาวว่ะ กูรู้เหตุผลกูดูอิหยังวะแต่แม่ง กูไม่ชอบพระเอกตดอัดใส่นางเอก ไม่ชอบจริงๆ

397 Nameless Fanboi Posted ID6:ov/wr9o5Ci

>>396 เหมือนกูจะผิดมู้ โทษที

398 Nameless Fanboi Posted ID6:8yGwDoJtBM

>>393 เยี่ยม กูฝังหัวตัวเองเกินไปว่าต้องเพอเฟคส์ เคยส่งสนพ. ไม่ผ่านเพราะภาษาไม่สละสลวย ความจริงคนไทยก็ไม่ค่อยอ่านงานไทยภาษาดี เห็นอวยสำนวนแปลนิยายจีนกันฉ่ามในเอ้กกับอ่านงานไทยภาษาธรรมดา กูมาคิดได้ว่ากูทำอะไรอยู่ เครียดคิดปมกับเฟ้นหาคำจนเขียนไม่ออก พอขายก็ขายไม่ได้ เฟล เขียนแทบตายขายไม่ถึง 5 โหลด ไหนจะสีธง ไหนจะภาษา ชีวิตนักเขียนกูมันติดกรอบมากจ้นน แต่งานบางเรื่องที่ขายดีในเม้บภาษาไม่ได้เป๊ะขนาดนั้น กูว่าจะขายได้อยู่ที่เทคนิคคนเขียนกับจริตคนอ่านจะแมทซ์กันมั้ย ต่อไปนี้กูปล่อยจอยแล้ว ขอบใจมึงช่วยปลดล็อกกู

399 Nameless Fanboi Posted ID:bD+cz4Cwh8

>>396 ถ้ารู้ตัวว่าเหตุผลมึงออกแนวอิหยังมึงก็ปิดไปเถอะ รู้ว่าเป็นเรื่องรสนิยม คนเขียนเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร จะไปกดดาวเขาเพราะอคติส่วนตัวทำไมล่ะ หรือถ้ามึงอยากเอาสะใจ มึงก็ใส่เหตุผลให้เขาไปเถอะ ว่าเกลียดฉากตดนี่มาก ให้ 1 ดาวเพราะเกลียดฉากนี้ฉากเดียว คนอ่านรีวิวและคนเขียนเค้าจะได้พิจารณาได้ว่าคะแนนมึงมาจากอคติส่วนตัวโดยเฉพาะ และคนที่เป็นแบบเดียวกะมึงจะได้มีข้อมูลไม่มากดซื้อ

>>393 ตามมึงว่า มันคือความเป็นจริงที่คนไม่อยากจะยอมรับ

400 Nameless Fanboi Posted ID:iWs79MiJpz

>>393 มึงเขียนตรงใจกูมากโดยเฉพาะสามประโยคท้ายเรื่องพวกสาระแนกดนิยายต่างแนว ไม่มีใครดีเท่าแม่พวกม้นจริงๆจ้า ถถถถถถถถ
>>398 ดีใจที่มึงปลดล็อกได้ ส่วนเรื่องจำฝังหัวกับปสก.ส่งสนพ.แล้วเหตุผลปฏิเสธคือสำนวนไม่สวยมึงก็ลืมมันไปเถอะ ถ้าให้เอาความจริงมาพูดคือเรื่องสำนวนบ.ก.ช่วยได้จ้า เขียนแก้ให้ทั้งเรื่องก็มีมาแล้วขอแค่นข.ไม่งอแงไม่ยอมให้เปลี่ยน สำนวนไม่สวยคือเหตุผลง่ายสุดที่บ.ก.จะใช้ปฏิเสธแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นทั้งที่จริงถ้ามีใบสั่งจากข้างบนมาต่อให้สำนวนเหี้ยยังไงก็ต้องเข็นให้อยู่ในควอลิตี้ที่พิมพ์ขายได้ ดังนั้นขอแค่นข.มีฟค.หรืออยู่ในกระแสไฮบ์ระดับที่มั่นใจได้ว่าพิมพ์ออกมาแล้วจะมีคนซื้อก็พอ เวลาสนพ.เลือกไม่ได้มองสำนวนหรือเนื้อเรื่องมาก ยกตัวอย่างค่ายวายที่เอานิยายที่ตลค.เป็นโรคทางจิตเวชมาแต่เนื้อหาผิดความจริงเรื่องโรคเอยเรื่องสถานบำบัดเอยจนคนด่ามาแล้วยังมี หรือนข.เคยมีประวัติดอยฉากเสียวจากงานคนอื่นมาลงก็ยังพาไปรดน้ำมนต์ล้างบาปแล้วตีพิมพ์งานต่อก็มีมาแล้ว กูไม่อยากให้นข.มีแผลใจว่าเคยถูกปฏิเสธจากสนพ.แล้วคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ มันไม่ใช่เลยมึง หลายค่ายมีสล็อตพิมพ์งานนข.ไทยต่อปีจำกัด(แล้วมันก็ลดลงทุกปี) บ.ก.ก็ต้องเลือกที่ออกมาแล้วขายดีชัวร์ก่อน

401 Nameless Fanboi Posted ID6:YvgpIN/wHG

กูเป็นคนนึงที่ทำไม่ได้ว่ะ ไอ้การปล่อยจอยเขียนไปเรื่อย จนตอนนี้เริ่มแอบคิดแล้วว่ากูน่าจะตามโลกไม่ทันแล้วล่ะ

เรื่องล่าสุดนี่ล่ะชัดเจน กูใช้เวลาทำ Research สำรวจตลาดหลายปี (กูเป็นนักวิเคราะห์การตลาด) เอาข้อมูลจากกลุ่มลูกค้า มาผนวกรวมสร้างเป็นเรื่องแนวที่กูอยากเขียน แต่สุดท้ายก็มาตายที่อีหรอบเดิมคือ แม่งไม่ได้ผล (ฮือออ) โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพลาดตรงไหน

402 Nameless Fanboi Posted ID:6fXPGGzneI

ชวนคุย เวลาเขียนตัวละครพระนางงี้มึงคิดปีเกิดอิงความจริงกันมั้ยวะ อย่างให้พระเอกอายุ 34 งี้ก็ตั้งเซตติ้งว่าฮีเกิดปี 90 เป็นวัยรุ่นยุค 2000s โตมาเป็นไอ้หนุ่มเจนวาย บลา ๆ หรือถ้าให้อายุ 34 ก็ 34 ตลอดกาล ไม่มีปีเกิด ดองพล็อตไว้สิบปีเพิ่งเอามาเขียนก็ยังอายุ 34 เหมือนเดิม 555555555

403 Nameless Fanboi Posted ID6:.+NBT/PMbq

>>402 ไม่อิงปีเกิด ยกเว้นถ้าพล็อต จะขายความ ึึึึึึึึึึ คลาสสิก ของยุค

404 Nameless Fanboi Posted ID6:9+sc6mgMVA

หน้าที่บก นี่คือคอมเมนต์มาให้เราแก้ หรือบก จะแก้ไขให้ไปเลย

405 Nameless Fanboi Posted ID:kCCanuJq0A

>>402 กุไม่ตั้งปี นอกจากพล็อตจะอยากพูดถึงวิถีชีวิต y2k ตาม>>403 ว่า เพราะเวลากุอ่านนิยายที่ใช้พศ.จริง แล้วบอกตลค.ว่าอายุคนเท่านี้ๆ กุชอบบวกลบเลขในใจแล้วก็คิดว่าโอ้โห เก่าแล้วนี่นา 5555 ในความรุ้สึกกุเองมันขัดแย้งหน่อยนึง ชอบแบบบอกอายุไปเลยมากกว่า

406 Nameless Fanboi Posted ID6:qn2MaNWMRd

>>402 ตามโม่งบนว่า ถ้าไม่จำเป็นกับพลอตเรื่องจริงๆ ไม่ต้องใส่หรอก คนอ่านบวกลบเองได้

ขนาดโคนันกับชินจังแม่งผ่านสารพัดเทศกาลในรอบปีมา x10 แต่อายุมันยังไม่เคยขยับสักปี คนอ่านยังรับได้เล้ยยย 555

407 Nameless Fanboi Posted ID6:doDS8RdRzC

ถามความเห็นเหล่าโม่งหน่อย ถ้าเขียนให้ตัวละคร ช-ญ อายุห่างกันรุ่นพ่อ-ลูกได้กันนี่ภาพลักษณ์ของเรื่องในสายตาคนอ่านจะเป็นยังไงวะ อารมณ์ประมาณ ตัวละครวัยรุ่น (เอาอายุซัก 18+ เซฟเพลย์) ได้พบรักกับผู้ใหญ่ที่ใกล้วัยกลางคน (ซักราวๆ 36+ แต่ไม่เกิน 50) ไม่ก็ พ่อหม้าย/แม่หม้าย อะไรทำนองนี้

พอดีวันก่อนกูไปดูหมอดูมา แล้วทางโน้นเขาทักว่าดวงของกูก่อนหน้านี้มีผู้หญิงอายุน้อยมาหลง แต่กูไม่รู้ตัวจนเรื่องมันผ่านไปแล้ว (5555) ซึ่งบังเอิญอายุกูก็ราวๆ นั้นพอดี เลยลองหยิบมาจินตนาการพล็อตเล่นๆ ดู แต่ถ้าเขียนจริงก็กลัวว่าจะโดนเล่นประเด็นโคแก่กินหญ้าอ่อนนี่ล่ะ

408 Nameless Fanboi Posted ID:45381hW4Kj

>>407 เซฟ ๆ อายุต้อง 20+ ถึงจะนับเข้าเอจแก๊ป 18 ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แล้วพระเอก 36 นี่มึงโดนฉอดแน่

409 Nameless Fanboi Posted ID6:7DtEkcEs7e

กูชอบนะ18-36 แต่มึงเขียนตอนนี้คือไม่ปลอดภัย นางเอกต้อง20ปีขึ้นไป บรรลุนิติภาวะแล้ว ก็ไม่ต้องสนใจพวกฉอดปสด.
กูอ่านแนวโคแก่หญ้าอ่อนห่างกันสิบกว่าปี พระเอกอบอุ่นใจดี เฝ้ารักนางเอก นางเอกสดใส น่ารัก อย่างอาขมปลาหวานน่ะ ตอนนี้แนวนี้ดันกลายเป็นแนวโดนฉอดโดนเหยียดซะงั้น แต่กูก็จะหาอ่านต่อไปนะถ้ามีนข.เขียน กูไม่บ้าตามฉอด

410 Nameless Fanboi Posted ID6:fIh5Cd6V.1

>>407 เริ่มที่ 18 ไปเยสตอน 20 ก็รอดอยู่ แต่เอาจริงๆ ถ้าไม่สะดุดตีนฉอดก็รอด แต่อย่ากลัว กุว่าตอนนี้คนแขยงฉอด ปสด.มีเยอะ ให้มันช่วยโปรโมตไปดิ5555

411 Nameless Fanboi Posted ID:se5LIJZRtC

งั้นถ้าพอ.นอ.จีบกันที่ไทย​ ไปต่อไฮสกูลอังกฤษ​ ได้กันช่วงนั้น​ (อายุไม่ถึง 18) แล้วนอ.กลับมาต่อม.เมืองไทย แล้วเป็นแฟนกันตอนต่างต่างต่างเริ่มทำงาน
งี้จะรอดฉอดมั้ย​ มีอะไรกันตอนม.ปลายแบบเต็มใจทั้งสองฝ่าย

412 Nameless Fanboi Posted ID6:fIh5Cd6V.1

>>411 อายุไม่ถึง 18 - ไม่ได้ไง ฉากเซ็กส์กับคนต่ำกว่า 18 แอพมันก็ไม่อนุญาต มึงก็โดนฉอด แล้วข้างบนก็แนะนำไปแล้ว มึงจะฝืนเพื่อ หรือเป็นโทรลที่ชอบเวียนมาถามเรื่องเย่เด็กได้มั้ยบ่อยๆ นั่น???

413 Nameless Fanboi Posted ID6:JrUO7.TE0U

>>411 แต่อายุพระเอกมันไม่ได้ไง มีแต่นางเอกที่อายุจะเยสน้อยลงๆ แต่พระเอกถึงอายุลดก็ยังยี่สิบปลายๆ 30ต้นๆเหมือนเดิม มันผิด มันพรากผู้เยาว์ ให้พระเอกเป็นคนดีแค่ไหนคนก็สงสัยว่าคนดีๆที่ไหนมันจะไปเยสเด็กที่ยังไม่ 20 กูเริ่มสงสัยแล้วนะว่าโทรลรึเปล่า ถึงเปลี่ยนหมวดเป็นแนวรักผู้ใหญ่เว็บยังไม่ให้ลงเลย มันไม่ได้ คนชอบโคแก่หลายๆคนก็ยังส่ายหัว

414 Nameless Fanboi Posted ID6:fIh5Cd6V.1

>>413 เออจริง กูก็สายโค แต่จะเยสก็ขอเริ่มที่ 18 ไปก็ยังพอโอเค ถ้าเด็กเต็มใจเป็นแฟนกันว่าไปบลาๆๆๆ แต่ถึงจะพระเอกกรีนแฟค แต่เย่เด็ดต่ำกว่า 18 ก็ไม่ไหวเว้ย ถ้าเจอนี่กูแจ้งอีเม็ดเลย บางคนบอกทำไมคนนั้นเขียนได้ เวลามึงเจอมึงก็แจ้งอีเม็ดค่า ไม่ใช่เจอแล้วมัวแต่แหกปากบอกน้อยใจ ทำไมกุโดคคนเดียว นิยายมหาศาลอีเม็ดมันไม่ได้ตรวจละัเอียดขนาดนั้น มันถึงทำปุ่มให้มึงแจ้งกันไง

415 Nameless Fanboi Posted ID:se5LIJZRtC

ไม่ๆ​ ของกูคือไฮสกูลทั้งคู่​ รู้จักกันที่ไทย​ จีบๆกัน​ แต่ไปพิสูจน์​รักและได้กันตอนอยู่นอก​ กลับมาคบจริงจังแล้วแต่งอ่ะตอนทำงาน​ ไม่ได้โทรลเฟ้ย แค่อยากเขียนต่อยอดจากแนวจีบใสๆไปจนพวกมันได้กัน

416 Nameless Fanboi Posted ID6:fIh5Cd6V.1

>>415 ก็ให้มันเกิน 18 เดะ จะฝืนให้โดนด่าเพื่อ แถมแอพก็ห้าม

417 Nameless Fanboi Posted ID:XFq4kqYJIf

>>411 เซ็ตติ้งปัจจุบันให้มันพ้น 18 ไปเหอะ กระสันจะเยตอนต่ำกว่า 18 ทำไมนักหนา ไม่ใช่เซ็ตติ้งโบราณจัดๆที่ผู้หญิงมีผัวได้ตอนอายุน้อยๆ

418 Nameless Fanboi Posted ID6:JrUO7.TE0U

>>415 โล่งใจนะที่อายุเท่ากัน แต่เว็บเขียนกฎนี้ไว้จริงๆเว้ย ว่าอย่าต่ำกว่านั้น กูเคยเจอเรื่องนึงเขียนฉากได้กันตอนม.ปลายยังเลือกตอนม.6ตอน18พอดี อีกเรื่องในตำนานพระเอกไปต่อเมืองนอกเลยอายุ 20 ละมาเรียนม.6 ยังได้กับนางเอกที่ 18 แล้ว ฉลองเรียนจบไปเลย ถึงชีวิตจริงคนอายุเท่ากันจะได้ตอน 14 15 ก็เหอะ (ยิ่งสังคมฝรั่งเซ้ตติ้งไฮสกูลด้วย ฉ่ำ) แต่ถ้าเป็นไปได้ ในนิยายและเป็นคู่หลักด้วย ต้องเอาสัก 18 นะมึง

419 Nameless Fanboi Posted ID:se5LIJZRtC

ได้ๆ​ งั้นกูปรับให้พวกมันจบม.ปลายแล้วไปต่อกันเมืองนอกแทน

420 Nameless Fanboi Posted ID:Rnwxio006V

มึงๆ กุโดนสรรพขอเอกสารย้อนหลังเพราะไม่ได้ยื่นรายได้จากเมบสองปี ปีแรกหมื่นนึง ปีสองพันกว่าบาท ตอนนั้นกุเขียนเล่นๆ แล้วลืมมันไปเลยไม่ได้เอามาคิด กุรุ้กุพลาด ส่งเอกสารเพิ่มไปละแต่อยากรุ้ว่าดอกเบี้ยมันหนักมั้ย ประมานไหน

421 Nameless Fanboi Posted ID:7RSVhEWpXi

>>420 เงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน กับเบี้ยปรับ 1-2 เท่า ทั้งหมดนั้นคิดจากยอดภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่ม

ถ้าไม่ตั้งใจจริงๆก็ชี้แจงแสดงความจริงใจไป มันต่อรองขอลด/ขอยกเว้นได้ ถ้าเราไม่มีเจตนาจริงๆพี่สรรพก็พอเข้าใจ

422 Nameless Fanboi Posted ID6:fIh5Cd6V.1

>>420 คือยื่นไปแต่งานประจำใช่ป่ะ?

423 Nameless Fanboi Posted ID6:1u9wUSXFO6

KY + ชวนคุยหน่อย ไม่เข้าใจแฮะว่าทำไมประเทศอื่นอย่าง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ถึงเขียนแนวแฟนตาซีปกติ ผจญภัย ลุยดัน เก็บเลเวลส่งขายต่างประเทศกันโครมๆ ได้ในระดับอุตสาหกรรม

แต่พอเป็นบ้านเราแฟนตาซีแท้ๆ ในปัจจุบันดันแทบไม่มีคนสน ซะงั้นจนพวกนี้ต้องแอบไปแฝงตัวอยู่หมวดวายกันหมดแทนซะงั้น เหล่าโม่งคิดว่ามาจากปัจจัยอะไรกันบ้าง?

424 Nameless Fanboi Posted ID6:fIh5Cd6V.1

>>423 เท่าที่เป็นติ่ง แฟนตาซีแปลสมัยเด็ก ของไทยมันอ่านแล้วกูเอ๊ะมาก แล้วก็ซูแบบที่มันไม่มีกึ๋นอะ สักแต่จะให้พระเอกนางเอกสวยหล่อแล้วโชคดีๆๆ กูเคยอ่านเรื่องหนึ่ง แม่งดันบอกว่าทั้งแก๊งมีแต่คนหน้าตาดี คนโดยรอบเลยมองมาด้วยสายตาอิจฉา กูคริ้นมากเลยโว้ย อย่างอีเกาถึงจะซ้ำซาก แต่มันก็ยังมีจุดให้หวีดบ้าง อินี่ก็ดีแต่โรมานซ์แฟนนะ แนวอื่นก็กากก็อปยุ่นอีกที ถ้าใครสายยุ่นมาก่อนนี่แทบไม่แตะแนวอื่นละ ของยุ่นมันเฟรชมีแหวก มีคาร์น่าจำกว่า ของไทยคาร์แรคเตอร์ก็เขียนได้ไม่จับใจเลยอะ

425 Nameless Fanboi Posted ID6:fIh5Cd6V.1

แล้วอีกอย่างคือ ต้องมีพล็อตฮิตมาจากยุ่นสักพล็อต ไทยก็จะถล่มเขียนตาม

426 Nameless Fanboi Posted ID:XFq4kqYJIf

>>423 กูอ่านสมัยที่ซวน.ป่าละเมาะรุ่งเรืองมาก่อน ป่าละเมาะนี่ยังพอมีคาร์ให้หวีดได้อยู่นะ แต่ซวน.คือแม่งซูไร้ขอบเขตมาก ตัวท็อปของโลกขนกันมาเรียนชั้นเดียวกับนางเอกหมด ขยับไปไหนก็ลูกหลานคนสำคัญของโลก มีพลังนั่นนี่โน่นบลาๆๆๆ ตัวนางเอกก็ซูแบบไม่รู้จะเอาขีดจำกัดตรงไหน อะไรก็ผ่านได้ง่ายๆ ถึงผ่านไม่ได้ก็จะมีผัวตัวท็อปและเพื่อนโคตรเก่งมาช่วย นิสัยก็อยู่ระดับมาตรฐานนางเอกโชโจเบสิคๆไม่รู้จะเอาตรงไหนมาหวีด อ่านมากูยังจำอะไรเกี่ยวกับนางไม่ได้เลยนอกจากซูมาก

427 Nameless Fanboi Posted ID6:MsyBOiVPtP

>>423 อาจจะวนกลับมาฮิตอีกก็ได้แค่ไม่รู้เมื่อไหร่ เมื่อก่อน ฮรพต ฮิต แนวแฟนตาซีในไทยก็รุ่งเรือง เดี๋ยวนี้แนวจีนโบปลูกผักฮิต ของแบบนี้มันไม่ตายตัวว่ะ กุว่ามันอยู่ที่กระแสนิยายดังๆ ช่วงนั้น อย่างโรแมนติกแฟนตาซีเกานี่เวอร์นิยายไม่ค่อยนิยมในไทยนะ แต่ฮิตมากกเวอร์มันฮวา

428 Nameless Fanboi Posted ID:Rnwxio006V

>>421 ขอบคุณมาก ไม่ได้ตั้งใจจริงเดี๋ยวรอลองบอกเขาดูเพราะเยาขอเบอร์โทรไปด้วย
>>422 ใช่เพื่อน ยื่นแต่งานประจำ

429 Nameless Fanboi Posted ID:XFq4kqYJIf

>>427 นิยายโรแมนซ์เกาที่มันไม่นิยมในไทยเพราะมันไม่ค่อยมีแปลมากกว่า แต่มังฮวาคือหาอ่านง่าย lc นำเข้าก็มี อ่านภาษาเกาไม่ออกดูรูปเอาก็ได้ เส้นสวยฟรุ้งฟริ้ง แต่แบบตัวอักษรมันต้องมานั่งอ่านนั่งแปลถอดความหมายเอา เสพยากกว่ามังฮวาเยอะ

430 Nameless Fanboi Posted ID6:MsyBOiVPtP

>>429 กุกลับมองอีกมุมว่าถ้าคนนิยม สนพ ถึงซื้อมาแปล จริง ๆ ตอนนี้ก็เริ่มมีแล้วนะแค่ไม่ค่อยปังมาก คนอ่ายยังเป็นกลุ่มเฉพาะ เพราะมันฮวามันเข้าถึงง่ายเหมือนที่มึงว่า บางคนอ่านแบบการ์ตูรแล้วเลยไม่ได้อยากอ่านเวอร์นิยายอีกมั้ง

431 Nameless Fanboi Posted ID:wxQdcYH47d

>>430 แต่เอาจริงๆ การ์ตูนเกาส่วนมาก ทำออกมาไม่ดีนะ มีน้อยที่ทำดีกว่าต้นฉบับ แบบต้นฉบับจืด แต่ทำมันฮวาออกมาดีอะ ส่วนใหญ่ต้นฉบับคือดีระดับหนึ่ง แต่มันฮวาทำไม่ถึง เหมือนยืดในจุดที่ไม่ควรยืด ไม่เสริมในจุดที่ควรเสริม เหมือนว่าถ้าเอาเรื่องไหนมาละดี ก็ยืดๆ แต่ถ้าไม่ดีก็พยายามรวบรัดซะงั้น

432 Nameless Fanboi Posted ID6:WilOCbuUez

>>431 เห็นด้วย แล้วมันฮวามันไม่ได้ยืดแค่เนื้อเรื่องนะ เฟรมภาพก็ยืดแล้วยืดอีก จัดวางแบบขอวาดให้น้อยที่สุดแบบรู้สึกได้ มุมกล้องอะไรก็ไม่ค่อยสื่ออารมณ์ แทบไม่มีกรอบไหนเลยที่เห็นแล้วว้าว แล้วเป็นอะไรหน้าตัวละครแทบจะเหมือนกันทั้งเรื่อง เปลี่ยนแค่ทรงผม กูชินกับภาพที่มีรายละเอียดกว่านี้ว่ะ อ่านมันฮวาไม่เคยรอดซักเรื่อง

433 Nameless Fanboi Posted ID6:zUQra9HeIC

>>430 มึงนึกถึงไลท์โนเวลมังงะดิ มีกี่เวอร์ชั่น ก็ฮิตพอๆ กันได้ แค่มันยังไม่มีคนมาเล่นตลาดนิยายเกาจริงจังอ่ะว่ะ แถมการตลาดดูไม่ค่อยดีด้วย

434 Nameless Fanboi Posted ID6:DIeNTSgD2S

Kyขอถามนะ ถ้านข.เอานิยายเรื่องหนึ่งที่เป็นช-ช มาเขียนเปลี่ยน เป็นช-ญ หรือเอานิยายช-ญที่ชอบมาเปลี่ยนเป็น ช-ช มันไม่ดีเหรอวะเห็นคนด่ากันใหญ่ ในมุมกูที่ถนัดอ่านช-ญ ไปเจอนิยายที่ชอบแต่เป็นช-ช ยังคิดว่าถ้าเป็นช-ญก็คงดี แต่ทำไมเจอหลายคนแอนตี้

435 Nameless Fanboi Posted ID:XdRX68ojkm

>>434 เอาในมุมมองกู ชญ กับ ชช มันจะมีเอเลเมนท์กับบริบทที่ต่างกันอยู่อะ ทั้งทางกายภาพ ความคิด สามัญสำนึก กูอ่านชช กูก็อยากอ่านผู้ชายรักกับผู้ชาย ถ้านิยายไม่มีความต่างในแก๊ปตรงนี้ กูอ่านชญจะดีกว่ามั้ย จะได้ไม่มาหงุดหงิดเวลามันสาวแตกด้วย ลองคิดภาพแนวผู้ชายท้อง อมกว. แล้วนายเอกมานั่งลูบท้องร้องไห้ว่าจะหอบลูกหนีผัว เรียกลูกแม่อย่างนั้นอย่างนี้ แล้วมันต่างอะไรจากผู้หญิงยกเว้นฝ่ายรับมีกวยเฉยๆ

อีกอย่างคือมันดูไม่ลงทุนในการคิดพล็อตใหม่หรือการเขียน แค่เปลี่ยนเพศฝ่ายรับเฉยๆก็กลายเป็นนิยายเรื่องใหม่แล้วจ้ามันดูมักง่ายดูถูกผู้บริโภคเกิน กูจะไม่เสียเงินให้กับคนมักง่ายแบบนี้เด็ดขาด

436 Nameless Fanboi Posted ID6:psdbRaJ9k5

>>434 มึงในฐานะคนอ่านคือจะรู้สึกว่านักเขียนมักง่ายสัด ผู้หญิงกับผู้ชายนิสัยไม่เหมือนกัน การมองโลกไม่เหมือนกัน การเลี้ยงดูต่างกัน จารีตที่กดทับต่างกัน ปัญหาและปมในเรื่องควรต่างกัน แค่การยอมรับของสังคมและครอบครัวก็ต่างกันแล้ว เซ็ตติ้งอดีตไม่ต้องพูดถึงบางยุคโทษประหาร

ยกเว้นต้องการเขียนแค่ชะนีมีดุ้นอุ้มท้องโย้หนีผัวเน้นขายฉากอย่างว่าก็เอาเถอะ หรือจะเซ็ตโอเมก้าเวิร์สมันก็ไม่ต้องมาเปลี่ยนเพศชายหญิงแล้วมั้ย พ้นสภาพสังคมสองเพศไปแล้วนี่มีตั้งหกเพศ

437 Nameless Fanboi Posted ID6:psdbRaJ9k5

>>434 ยกตัวอย่างฉาก ชช ไปกินเหล้าเมาหลับโดนหอบกลับห้องไปนอน ถ้า ชช คือปกติสุดๆ
ชญ ญเมาหลับโดนช หอบกลับห้องไปนอน คือเพื่อนไม่ทักเหรอวะ ชดูเชลี่ยทันที หรือถ้าบอกว่าทำบ่อยเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ญดูเป็นสาวนักดื่มไม่ระวังตัวเลยนะ ถ้าแถว่าไปดื่มกันสองคนยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
แค่เนี้ย มึงจะเปลี่ยน ชช เป็น ชญ ยังไงวะ เรื่องบางอย่าง ช ทำได้ ญต้องคิดก่อนทำ

438 Nameless Fanboi Posted ID:XdRX68ojkm

>>436 ใช่ การดิ้นรนของผู้ชายผู้หญิงมันต่างกัน การมองโลก การเลี้ยงดู จารีตประเพณีที่กดทับ ปมปัญหาที่เจอมาก็ไม่เหมือนกันละ ให้นึกถึงบ้านคนจีน รักลูกชายมากกว่าลูกสาว แต่จิกหัวใช้ลูกสาว แบ่งมรดกน้อยกว่าเพราะคิดว่าเดี๋ยวแต่งงานออกไปก็เป็นคนของบ้านผัว ทรัพย์สินทางบ้านเดี๋ยวไปเป็นของทางบ้านผัวมัน แต่มึงต้องกตัญญูกูนะ กูเจ็บป่วยหรือจะทำอะไรมึงต้องมาเทคแคร์กู ส่วนลูกชายคือลูกเทวดา นานๆมาเยี่ยมทีก็อวยจนตัวลอย งานบ้านไม่ต้องทำ กินข้าวได้ของดีๆกว่าใครเพื่อน ผู้หญิงกินของเหลือ เชงเม้งผู้ชายมีหน้าที่นำไหว้ แต่งานเตรียมของหรือเก็บกวาดเป็นหน้าที่ผู้หญิง งานศพผู้หญิงแต่งออกไปแล้ว ถึงจะเป็นลูกสาวคนโต มึงก็ไปอยู่แถวหลังสุดเพราะมึงเป็นคนนอก ลองคิดดูว่าถ้าสลับเพศแล้ว จากหญิงไปเป็นชาย มันจะเจอปัญหาแบบเดียวกันมั้ย จะเข้าใจความรู้สึกผู้หญิงรึเปล่า

หรือเอาแบบความปลอดภัยอะไรนี่ก็ได้ ที่เป็นประเด็นในนกฟ้าเมื่อหลายวันก่อนที่ผู้หญิงไปพักโรงแรมแล้วแพคห้องตัวเองแน่นหนาแบบไม่ให้ใครเข้ามาได้เลย ผู้ชายมันเอามาขำกันว่าจะประสาทแดกอะไรขนาดนั้น แต่ผู้หญิงบอกไม่ใช่เรื่องขำเลยนะเพราะผู้หญิงรู้สึกไม่ปลอดภัยเวลาไปพักตามโรงแรม กังวลไปหมดจะโดนแอบถ่ายมั้ย จะมีคนปีนหน้าต่างมั้ย จะมีคนไขกุญแจเข้ามามั้ย ซึ่งมันเป็นจุดที่ผู้ชายไม่เคยกังวลไง ถึงมีโจร ผู้ชายก็อาจจะจัดการใช้กำลังไล่ไปได้ แต่ผู้หญิงต้องเสี่ยงกับการถูกฆ่า ถูกเรป แนวคิดการมองโลกต่างกันแบบนี้ สลับเพศก็คงได้แค่เปลือกนอก เพราะดีเทลแต่ละเพศมันมีรายละเอียดเยอะกว่านั้น

439 Nameless Fanboi Posted ID6:m5GRpI/.5y

นักอ่านรายตอนบางคนน่ารำคาญว่ะ อัพสั้นก็บ่น อัพยาวก็ยังว่าอัพสั้น ติดเหรียญก็ด่า จะอ่านฟรีแบบยาวๆอย่างเดียว น่าเบื่อ

440 Nameless Fanboi Posted ID6:Le7VqK.Ytp

>>439 ดีใจซะเถอะที่มีคนบ่น
ของกูนี่อ่านเงียบๆ ไม่คุยอะไรเลย

441 Nameless Fanboi Posted ID6:IsAOgYD6bZ

>>434 ในคห.กู นี่ตาม 435-438 เลย
แต่เอาจริงๆ ตลาดนักอ่านที่อายุน้อยหน่อยจะตอบรับดีมาก นอกจากไม่สนใจพอยน์พวกนั้นแล้วยังชอบมาก บอกว่ามีความลื่นไหลทางเพศ ไม่สเตอริโอไทป์ /ชญ.เท่าเทียม(?)​ บลาๆ

ดังนั้น มึงอยากลองขายก็เอาเลย ดูทอปฮิตห้อง bl ตอนนี้กุก็แยกไม่ค่อยออกแล้วว่ากำลังอ่านชญ หรือ ชช

ส่วนตัวกุไม่เหยียดคนที่ชอบนะ แต่โดยตัวกุกุไม่แตะและไม่ชอบอ่านแนวนี้
ตย. = นอ.ชื่อยิหวา(กุสมมุติ)​ แทนตัวเองยิหวาทุกคำ/โดนพอ.จีบแล้ว อ๊าย คุณพระเอก / พอ.เรียก คุณหนูยิหวา/ แม่พอ.เรียกหนูยิหวาคะ ไปไหนให้พี่xx ไปส่งนะคะ มันอันตราย / เวลาเสียบยังเรียกไอ้นั่นว่ากีอีกต่างหาก

อืมมม... กุถึงกับต้องเลื่อนดูชื่อห้อง กุมาผิดที่ไหมน๊อ~~

442 Nameless Fanboi Posted ID6:ImuO2XLn0u

กูละอึ้ง นักอ่าน ชช ที่บอกว่าไม่ชอบอ่าน ชญ เพราะพล็อตน่าเบื่อ รำคาญนางเอก แต่ก็จอยมาก แค่เปลี่ยนเพศ5555555555555555555555555

443 Nameless Fanboi Posted ID:xtQFNEPt7k

>>440 ส่วนอันนี้ก็ยังดีกว่าไม่มีคนอ่าน 55555 ต่างกรรมต่างวาระ มนุษย์เราน้อ

444 Nameless Fanboi Posted ID:XdRX68ojkm

>>442 ทฤษฎีผู้หญิงอิจฉากับรำคาญผู้หญิงด้วยกันเองจนต้องแตกหน่อมาเป็นวายมันใช้ได้เสมอนั่นล่ะ ถึงใครจะบอกว่าเป็นทฤษฎีแบบตกยุคล้าสมัยก็เหอะ แต่นักอ่านกลุ่มนี้แม่งก็แอพพรูพว่ามันคือเรื่องจริงแบบหักล้างไม่ได้ด้วย

-ถ้าผู้หญิงโดนกระทำมันก็จะรู้สึกไม่ดี เลยต้องหาตัวแทนมาถูกกระทำ ซึ่งในที่นี้ก็คือผู้ชาย รู้สึกฟินเหมือนได้เป็นผู้กระทำ ลงโทษผู้ชายในนิยายไปเพราะความเป็นจริงก็ทำไม่ได้
-เกลียดความเป็นหญิงของตัวเอง จะจิ้นก็ไม่รีเลทเพราะมีหลายปัจจัย อย่างเช่นจารีตขนบที่กดเรื่องเพศไว้ ก็เลยมาเอานายเอกไปเป็นตัวแทนตัวเองในนิยาย จะเขียนให้นางเอกร่านกวยแหกขาให้ผัวเอามันก็ดูไม่งามใช่ป่ะล่ะ แต่พอเป็นนายเอก มันไกลตัวกว่า อ่านได้เขียนได้ไม่ต้องตะขิดตะขวงใจ
-ถ้าเป็นแบบชญ ก็อาจจะอิจฉานางเอกหรือตัวละครหญิงที่ได้ใกล้ชิดผู้ชายตัวท็อป พอนางเอกทำตัวงี่เง่าไรงี้ก็คิดว่าเธอมันไม่คู่ควรกับผช.เริ่ดๆแบบนี้ ให้คู่กับผู้ชายยังดีกว่า

445 Nameless Fanboi Posted ID6:2f2xyOb.aD

ส่วนกูเนี่ยชอบผู้หญิงมาก แต่เขินอายที่จะเขียนแนวญญ มันรีเลทกับตัวเองมากไป เลยมาเขียนชญเพราะอยากเป็นผช.ไปเน้ดสาวที่ตรงสเป็ค เคยโดนปฏิเสธจากผญ.ด้วยกันด้วยแหละ ในใจลึกๆมันเลยแบบ ต้องเป็นผู้ชายเท่านั้นสาวที่ตรงสเป็คถึงจะมอง เส้า

446 Nameless Fanboi Posted ID6:AoWoX0UU+2

>>445 กลับกันกับกูเลยว่ะ กูชอบเขียนแนว ญญ เพราะรู้สึกรีเลทกับตัวเอง ทั้งที่กูเป็นตัวผู้ ถถถถถ
รู้สึกเขียน ญญ มันสนุกกว่าเยอะ แถมเวลาบรรยายยังรู้สึกไหลลื่นกว่าด้วย

447 Nameless Fanboi Posted ID6:y/dPn/QBWl

ky ปรึกษาที ความความตั้งใจเดิมกับผลงานที่ออกมาสวนทางกัน กูตั้งใจเขียนแนวรักแต่ออกมาดราม่า แล้วกูเขียนมาเยอะเป็นแสนคำแล้วด้วย กูก็อยากรึบขาย ร้อนเงิน ถ้าจะแก้ใหม่ก็เสียเวลาอีกเป็นเดือนเลย จะให้กูจมอยู่กับเรื่องนี้อีกกูก็อืด กูควรตัดจบแล้วไปเขียนเรื่องใหม่เลยดีมั้ย

448 Nameless Fanboi Posted ID6:y/dPn/QBWl

>>447 กูอีกที สารภาพว่ากูหมดใจกับเรื่องนี้แล้วตั้งแต่มันออกมาผิดจากที่ตั้งใจ จะเทก็เสียดาย ทำไงดีวะ ช่วยด้วยย

449 Nameless Fanboi Posted ID:xtQFNEPt7k

>>447 ถ้าหมดใจแล้วก็พักก่อนดีกว่า ถ้าไม่ได้ร้อนเงินขนาดนั้นก็ไปเข็นเรื่องใหม่ขายซะ รอมีแรงฮึดละค่อยเอาเรื่องเดิมมาแก้ รอให้มันมีฟีลก่อนจะได้ไม่กดดันตัวเองมาก สู้ ๆ

450 Nameless Fanboi Posted ID6:Le7VqK.Ytp

>>448 กูกำลังอยู่ในสภาพเดียวกันเลย ตอนนี้กำลังกัดฟันเขียนให้จบเล่ม เหลืออีกแค่ 1 บทก็จบแล้ว จากนั้นค่อยหันไปขึ้นเรื่องใหม่

ว่าไปพูดถึงเรื่องรีเลทนี่ คนอ่านเขาสนใจกันขนาดไหนบ้างวะ? พอดีกูเพิ่งปิ๊งพล็อตขึ้นมาได้แล้วรอบนี้ตั้งใจจะเขียนให้ตัวเอกเป็นหญิง แต่กูคนเขียนเป็นชายคงเล่าความรู้สึกผู้หญิงทั้งหมดไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องความรักนี่คงออกมากลวงชิบหายเลย (ถถถถ)

451 Nameless Fanboi Posted ID:vtDqGckTYl

>>450 ถ้าใจมึงมีรักเดี๋ยวมันก็ไม่กลวงเองแหละตอนเขียน ของแบบนี้ใช้มโนภาพเข้าไว้

452 Nameless Fanboi Posted ID6:ImuO2XLn0u

>>450 นักเขียนนิยายรัก ผช ดังๆ หลายคนนะ หมอเจ้าของซีรี่ส์ผ้า ป่องวุด ก็มีนยายรัก เกาแต๋ม ก็เหมือนจะ ผช

453 Nameless Fanboi Posted ID6:uDIFMJYJqZ

กู >>450 เองขอถามต่อหน่อย

เอิ่ม... ต้องขออภัยด้วย โพสต์นี้อาจจะฟังดูเหมือนงอแงหน่อยนะ แต่อยากถาม + ชวนคุยหน่อย

คือพอดีกูนี่อยากรู้สาเหตุจริงๆ แฮะว่าเรื่องที่กูเขียนไปทำไมมันไม่ใครสนใจเลยทั้งที่อัพมา 70+ ตอนละ
ใน รอร. นี่คนอ่านเป็น 0 มาหลายตอนเรียบร้อย โดนดันตกไปไหนต่อไหนแล้วเตรียมลบทิ้งได้เลย ส่วนใน ดด. นี่คงเส้นคงวามาก ตอนละ 20 คน นักอ่านเงาล้วนจนกูหลงรักคนเหล่ากันเลย ถถถถถถ

ลองอ่านเทียบกับเรื่องข้างๆ สำนวนกูดีกว่า เนื้อหาแน่นกว่า มีทิ้ง hints ทิ้งประเด็นให้ชวนเก็บไว้คิด แถมเรื่องก็ค่อนไปทางเบาสมองชิลๆ สลับกับยิงมุกตลก เพื่อให้โทนเรื่องไม่เข้มจนปวดหัวตามแนวที่นิยมแบบปัจจุบัน แถมยังอัพสม่ำเสมอทุกวัน ให้เบต้าอ่านทุกคนก็บอกโอเค ให้ AI อ่านก็บอกได้ 8/10 จะติดก็แค่ไม่ใช่แนวธีมจีนโบราณ ไม่ใช่แนวรัก หรือเป็นแนวระบบตามที่นิยมก็เท่านั้น

คือก่อนเขียนเรื่องนี้กูก็มั่นใจทำวิจัยตลาดมาเรียบร้อยนะว่าแนวนี้ขายได้ แต่พอลงจริงนี่กลับไม่เป็นดั่งคาดซะงั้น ในระดับที่ไม่มีคนอ่านเลย ถถถถถ
ตอนนี้เลยพยายามหาสาเหตุว่าพลาดตรงไหนไป เพราะเรื่องนี้คงสิ้นหวังเรียบร้อย

แต่ตอนนี้กูมูฟออนเตรียมเขียนเรื่องใหม่ละ ส่วนเรื่องที่เขียนก็กำลังหาจังหวะตัดจบแบบลงตัวอยู่ แต่ถ้ารู้สาเหตุก็กะจะเอาไปปรับแก้เรื่องหน้าหน่อย จึงอยากจะถามความเห็นโม่งหน่อยว่าปัจจัยอะไรบ้างวะ ที่ทำให้กลายเป็นแบบนี้ ขนาดเรื่องเก่าๆ ของกูเขียนไว้เมื่อหลายปีก่อนแย่กว่าเรื่องนี้หลายเท่าแต่ยอดเยอะกว่าราวๆ 50+ เท่าได้ จนพาลคิดว่าไอ้ความพยายามทำให้เรื่องออกมาสมบูรณ์นี่ มันส่งผลด้านลบมากกว่ารึเปล่าวะ?

454 Nameless Fanboi Posted ID6:u89jZsgq98

>>453 ถ้าต่างกันสองเว็บนี้แสดงว่ากลุ่มคนอ่านหลักมึงอยู่ที่ดด.ละ รอร.ไม่ใช่ลู่ทางของมึง แต่ลงทิ้งๆไว้ก็ไม่เป็น คิดในแง่ดียังมีคนตามอ่านมึงอย่างเหนียวแน่นเลยนะที่ดด. ส่วนที่ไปเทียบกับเรื่องข้าง ๆ แล้วได้ผลลัพธ์ต่างกัน แสดงว่ามีปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น งานเขาอาจมีนักอ่านที่ตามมาจากเรื่องก่อนๆ หรือเพราะสำนวนพล็อตเรื่องเขามันตกนักอ่านกลุ่มนี้ได้มากกว่า ดั่งคำว่าตลาดใครตลาดมัน นิยายมึงกับนิยายเขามันคนละตลาดเดียวกันไง ต่อให้มีปัจจัยร่วมเหมือนกันเช่น พล็อตผัวโบ้ แต่คนอ่านฝั่งนั้นเขาชอบเคมีพระนางมากกว่าคู่ของมึง เขาก็เลยไหลไปทางนั้นงี้

455 Nameless Fanboi Posted ID6:OQN5kQsjDv

>>453 มึงดูปก กับโปรยก่อนเลย ถ้าสองจุดนี้ไม่ผ่านเลยจริงๆ เขาก็ไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นกับมึงหรอก ว่าเนื้อหามึงจะดีแค่ไหน ดูแค่หน้าปก นิยายมึงก็แค่เม็ดทรายเม็ดหนึ่งในภูเขาทราย จะหาคนมาหยิบดูมันก็ยาก อันนี้จุดนึงล่ะ
สอง ความดีของเนื้อหานิยายมึงอาจไม่ใช่สิ่งที่นักอ่านส่วนใหญ่ต้องการ ดูจากนิยายน้ำดีไม่มีคนอ่านได้ ถ้าคนอ่านเขาอยากอ่านผัวโบ้ อยากอ่านเรื่องที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก ต่อให้งานมึงเป็นแนวสืบสวนที่โคตรมาสเตอร์พีช เขาก็ไม่คลิกอ่านอยู่ดี เพราะไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ มึงจับตลาดผู้บริโภคที่มีจำนวนน้อย ทำใจได้เบื้องต้นเลยว่ายอดขายก็ต้องน้อยตามลงไปด้วย
และสาม ต่อให้มึงวิจัยตลาดมาแล้ว มึงก็ยังมีอคติปนอยู่ดีว่าแนวความคิดมึงเป็นสิ่งที่ดีและจะต้องปัง ซึ่งบางทีมันไม่ใช่ การขายมันไม่ได้มีแค่คุณภาพงาน แต่ลักษณะนิสัยผู้บริโภคหลายๆอย่างมึงยังมองไปไม่ถึง เช่นคนสมัยนี้ส่วนมากใจร้อน สามตอนแรกมึงตกเขาไม่ได้แม่งไปล่ะน้า~ ทรายมีอีกหลายเม็ด เคสนี้มึงไม่ผิด แต่ตลาดไม่เอาสโลว์เบรินแล้ว ยอดขายมึงก็หายไปอีกด้วยเหตุและปัจจัยนี้
โลกการแข่งขันมันโหดร้ายและควบคุมได้ลำบากว่ะ กูคงพูดได้แค่สู้ๆ นะมึง กุเองก็ยอดหลักหน่วยหลักสิบนี่แหละ ไม่ได้ดีไปกว่ามึงหรอก เฮ้อ //ตบบ่า

456 Nameless Fanboi Posted ID:B0IuUl8TAG

>>453 เหมือนโม่งบนๆ กล่าว แนวมีผลมากมึง ถ้าไม่แมสเกิดยากมาก ยิ่งใน รอร มันจะเห็นแค่ภาพปกกับชื่อเรื่อง(ดด จะเห็นโปรยด้วย) มันเอื้อต่อการคัดแนวที่คนอ่านชอบอะ เช่นคนอ่านเห็นชื่อเรื่อง+ดูปก แนวไรวะ อืมม ผ่าน ไรงี้หรือถ้าเป็นแต่เป็นแนวที่ไม่ชอบก็ อืม...เอาไว้ก่อนอีก ยิ่งถ้ามึงหลุดจาก15วันแรกที่สามารถติดใหม่มาแรง นิยายมึงจะจมหายไปกับสายลม มีแต่จมลงเท่านั้น อัลกอเว็บมันเอื้อกับนิยายสั้นๆ แนวแมสๆ คนตามเยอะๆ เป็นเว็บที่ถ้ามึงลงแล้วไม่แมสก็จะบอกว่าอย่าคิดมากไปเลย

เรื่องแนวนี่ไม่ได้จะบังคับให้มึงไปเขียนอะไรแมสๆนะ แค่จะบอกว่ามันมีผลกว่าที่คิด ล่าสุดกูเจอมากับตัวเรื่องแรกแนวแม่งอย่างแมส แต่ตอนนั้นกูยังใหม่กับอะไรแนวๆ นี้ สรุปคือแต่งออกมาจืดๆแบนๆเรื่อยๆ ยอดขายก็ตามเนื้อหาแหละแต่ไปถึงป้ายแดงอยู่ เรื่องต่อมาชื่อกับปกไม่สื่อว่าเป็นแนวอะไรแต่เนื้อหาผ่านการศึกษาค้นคว้า(โดยกูเอง)มาอย่างดี ยอดตามเว็บกริบมากจ้า5555 แต่ยอดขายดีกว่าเรื่องแรกพอสมควรฟีดแบ็กดีกว่านะเพราะโชคดีเตะตานักรีวิวเขาเอาไปรีวิวให้(ทุกวันนี้ก่อนนอนสวดมนต์นึกขอบคุณพวกเขาเหล่านั้นอยู่เสมอ) ถ้าไม่เจอนักรีวิวอาจแย่กว่าเรื่องแรกเพราะตามเว็บตกคนแทบไม่ได้เลย
ถ้ายังไม่ปัง ไม่เป็นตัวมารดาบิดา เริ่มจากอะไรไม่แมสมันลำบากมากมึง คนจะอ่านผัวโบ้ ผัวชั่ว เยตับๆ ผัววิศวะพล็อตเบาจนถึงไม่มีเน้นเอาสะใจตั่งๆ สู้ต่อไปมึง กูเองก็จะสู้เหมือนกัน

457 Nameless Fanboi Posted ID6:ilkgBEcVMx

ถ้าสมมตินักเขียนมู้ดไม่ดี อารมณ์เสียหรือไม่ก็ไม่มีอารมณ์จะเขียนแต่โดนเดดไลน์บังคับเขียนไรงี้ นักอ่านจะรู้สึกได้เลยป่ะวะ เพราะกูรู้สึกว่าที่กูเขียนไปแม่งจืดและแห้งกว่าปกติเวลาที่มีอารมณ์จะเขียน ขนาดถอยมาอ่านเองยังรู้สึกมันลวกๆโดดๆไม่ค่อยเมคเซนส์เหมือนรีบเอาตีนเขี่ยให้จบๆ อยากกลับไปแก้ใหม่แต่ไม่มีเวลาเลย

458 Nameless Fanboi Posted ID6:I7dTpg8aX6

>>457 กูเป็นทั้งคนอ่านและคนเขียน รู้สึกได้จริงๆนะ55555 แล้วส่วนใหญ่เป็นเยอะด้วย ช่วงแรกกับกลางเรื่องทำดี ส่วนช่วงจบเหมือนร้อนเงิน หมดอารมณ์อยากไปเขียนเรื่องใหม่ ก็จะมีความรีบๆ เร่งๆ บางคนเห็นชัดถึงขนาดเขียนแต่บทพูด ไม่มีการบรรยาย แบบ มันรู้สึกได้จริงๆอะมึง

459 Nameless Fanboi Posted ID:Hg+6nqgN11

>>453 ในฐานะคนอ่านสะกิดใจคำว่ายิงมุกตลก คือบาางทีต่อมตลกคนเสพกับคนสร้างก็คนละเส้นกันมั้ง ยกตัวอย่าาางกูรักธอร์ทุกภาคแต่กูทนเข็นตัวเองดูภาคล่าสุดไม่จบ มุกถี่เรื่องตไม่ว่าาแต่มันไม่ตลกสำหรับกู บางจุดจริงจังๆอยู่ก็ไม่อยากโดนคิลมู้ดเลย
จุดที่สอง เบต้ากับ AI ก่อนมึงจะไว้ใจ มึงลองส่งงานที่มึงว่าสำนวนห่วย พล็อตมีแต่โฮลไปให้เช็กดู ดักได้กี่จุด calibrate นิดนึง
จุดสาม แนวตลาดที่มึงวิจัยมาแล้วว่าขายได้คือแนวอะไรวะ ไม่อยากบอกไม่เป็นไร แต่ให้แน่ใจว่ามึงวิจัยมาถูกแล้วก็เขียนตรงจุดจริง (ภาษาชาวบ้านเรียกขี้ให้ตรงร่อง)
กูยกตัวอย่าง แนวตลาดที่ขายได้จริงๆคือแนวพอ.เป็นหมอที่วันๆไม่ทำเหี้ยไรนอกจากจีบนอ. แต่ของมึงเขียนเป็นแนวพอ.หมอที่มีเล่าถึงวิชาชีพ ไรงี้คือกูยกตัวอย่างให้มึงลองไปเช็กดูอีกทีว่าผลวิจัยมึงยังไงแล้วเขียนตรงมั้ย

460 Nameless Fanboi Posted ID:EVes+R/ZKT

KY เผื่อพส.โม่งคนไหนพอมีข้อมูล คือกุสนใจเรื่องชีวิตลูกหลานแชโบล old money อะ อย่างจะเขียนพระเอกให้เป็นทายาทตระกูลนายทุน อายุ 35+ ตำแหน่งเป็น ceo หนุ่มอันนี้ไม่แปลก แต่อยากรู้ว่าก่อนหน้านั้นตอนเพิ่งเรียนจบหมาด ๆ นี่พวกนี้ทำงานทำการอะไรวะ 5555 สมมติต่อโทถึง 27 ให้มานั่งเก้าอี้บริหารเลยก็เวอร์ไปหน่อย ไม่มีประสบการณ์ให้เป็นผู้จัดการเลยก็ดูไม่เข้าท่า เป็นสายปฏิบัติการลูกน้องเขาก็ดูตำแหน่งต่ำกว่าดีกรีลูกนายทุนไปหน่อย พอจะยกตย.เส้นทางชีวิตกว่าจะเป็นผู้บริหารประธานบริษัทให้หน่อยได้มั้ย

461 Nameless Fanboi Posted ID:EVes+R/ZKT

เผลอกดส่งก่อน โทษที >> ถามอีกนิดว่าถ้ากุอยากศึกษาเรื่องชีวิตผู้บริหารในบ.ใหญ่งี้ แบบวัน ๆ ทำงานไรมั่งนอกจากเซ็นเอกสาร เวลาประชุมผู้ถือหุ้นนี่ทำอะไรยังไงกัน มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์พักร้อนปกติมั้ย มีใครอยากแนะนำมั้ยว่าควรหาข้อมูลยังไง ((เช่น ลองอ่านบทความสัมภาษณ์ผู้บริหารทั้งหลาย ลองดูละครตีแผ่ชีวิต ceo (มีมั้ยวะ 555) ลองส่องโครงสร้างบริษัทตามเว็บบ. บลา ๆ)) พอดีกุเบบี๋มาก ไม่ได้เป็นสาวออฟฟิศด้วย no idea กับสายนี้สุด ๆ กราบขอบคุณพส.โม่งล่วงหน้า

462 Nameless Fanboi Posted ID6:6JP5/1lJeA

>>461 ลองเรื่องล่าสุดของ ภะญูนญิ้ม ปกแดง พระเอกเป็นลูกชายเจ้าสัว ปัจจุบันอายุ35ดำรงตำแหน่งรองประธานบ. มีเส้นทางชีวิตวิถีการทำงานผสมกับเรื่องความรัก

463 Nameless Fanboi Posted ID6:w0K5Lvaus2

>>460 ลองไปหาอ่านบทสัมภาษณ์ชีวประวัติของพวกเจ้าของธุรกิจในไทยสิ อย่างร้านอาหารรถไฟที่เขาบอกยืมเงินเพื่อนสามสิบล้านมาทำทุนอะ555 คือคนรวยนอกจากพ่อแม่ให้มาก็ต้องมีคอนเนคชั่นประมาณนึงคือคบแต่คนรวยด้วยกัน ถ้าล้มก็แค่ลุก ถ้ารอดก็รุ่งยาวๆ

464 Nameless Fanboi Posted ID6:OQN5kQsjDv

>>460 บริษัทอะไรล่ะมึง ถ้าแบบบ้านๆ กิจการครัวเรือน มึงจะจบมาควบตำแหน่ง ceo เลยก็ทำได้ถ้าพ่อแม่มึงยอมให้ ส่วนทำแล้วจะล้มจะลุก

ถ้าบ.มหาชน อันนี้มึงรับหุ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ กินปันผล แล้วคอยบี้ ceo ในเชิงนโยบายอีกทีได้ ceo พวกนี้มีระบบสรรหามาอีกที มีผลงานมีเกณฑ์วัดตามปกติ

Ceo ไม่ได้วันๆเซ็นเอกสารอย่างเดียวนะ ประชุมลูกน้อง วางแผน ประเมินผลภาพรวม ออก/ผลักดันนโยบาย ตัดสินใจทิศทางหรือเรื่องสำคัญๆ การตัดสินใจบางอย่างต้องนั่งดูข้อมูลในบ.เป็นปึกๆเป็นวันๆ ทำรายงานเอกสารประกอบของตัวเองนั่นแหละดีลใหญ่ๆบางทีก็ต้องไปคุยเอง ข่าววงการอะไรพวกนี้ก็ต้องตามตลอดเพื่อจะผลักหัวเรือให้ทันการ กรณีบ.มหาชนก็เป็นตัวกลางกับผู้ถือหุ้นอีกที รายละเอียดก็ต่างกันไปตามแต่ประเภทกิจการ ceo บริษัทร้านอาหารยังมีลงไปเดินตลาดสดสำรวจราคาวัตถุดิบเองเลยมึง ส่วนวันหยุดอะไรนั่นมีเหมือนพนักงานบ.หมด อยู่ใต้กฎเดียวกัน แต่อาจจะมีคนละเกณฑ์บ้าง
แต่นั่นล่ะ ยกเว้นเป็นบ.ครอบครัวและมึงเป็นลูกเจ้าของ อันนี้ตามใจเถอะ เงินบ้านมึงนี่นะ

465 Nameless Fanboi Posted ID6:I7dTpg8aX6

>>460 มึงเป็นเพื่อนกูมาก ปีที่แล้วกูก็หาข้อมูลตาแตก พระเอก ceo คนแรก5555 จากที่หามาเลยได้รู้ว่า ceo แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเน้นประชุมฉ่ำ บางคนก็ไม่ บางคนหยุดเสาร์อาทิตย์ บางคนเสาร์อาทิตย์ทำงาน ไปหาหยุดวันธรรมดาแทน ของกูไม่ได้จะจริงจังขนาดนั้นนะ เพราะถ้าแตะจริงจังกูโป๊ะแน่ ของกูแบบเผินๆแต่ไม่แตะรายละเอียด

เริ่มต้นลองไปดูพวก vlog ของ ceo เอา หลักๆ 2 คนที่ทำคลิปมีคนที่เป็นหลัวศรีริต้า (คนนี้ ceo สายอสังหาบ้านคอนโด ก็จะไปดูหน้าไซต์งานจริง) กับBeerใบหญก (คนนี้เหมือนเน้นธุรกิจอาหารกับพวกโรงแรมมั้ง ก็มีไปดูร้านในเครือบ่อยๆ) กับไปฟังพอดแคสต์ของคุณ SuperG (ถอดให้เป็นชื่อจริงแบบไทย) ของดุษิตทานีก็ได้ คนนี้เสียงพูดนุ่มมาก ออร่าคนใหญ่คนโต แล้วก็มีอีกคนที่ถีบตัวเองจากดีเทลยามาเป็น ceo ฝั่งโลจิสติกส์ (คนนี้เผื่ออยากได้พระเอก/นางเอกแนวๆ จบไม่ตรงสาย มีความพยายาม สตอรี่เขาโคตรเหมาะกับนิยาย555) ลองหาๆ ฟังบทสัมภาษณ์แบบคลิปดู จะได้อะไรเยอะ มันจะได้ภาษากายกับท่าทางด้วยว่าคนระดับนี้จะแสดงออกประมาณไหน พูดจายังไง โทนเสียงแบบใด

466 Nameless Fanboi Posted ID6:6JP5/1lJeA

Kyไม่รู้ถูกมู้ไหม กูถูกคนในxพูดถึงว่าเป็นแฟนคลับเดนตายของนักเขียน
มันเป็นคำด่าหรือคำชมวะ?

467 Nameless Fanboi Posted ID6:b4XtBKht+f

>>466 อยู่ที่บริบทในการพูด ความหมายใกล้เคียงกับติ่ง

468 Nameless Fanboi Posted ID6:w1ITt5QsQh

Kyเพื่อนโม่ง กูรู้สึกว่าตัวเองeqต่ำเตี้ย นักอ่านมาเม้นเชิงตำหนิวิจารณ์ในแง่ลบ กูไปตอบเขาแบบกวนตีนมาก ฉห สุดๆ ละกูก็มานั่งเสียใจว่ากูไม่น่าเล้ยยย แล้วกูไปเจอนักเขียนอีกคนตอบคนอ่านที่วิจารณ์แง่ลบดีมากและปิดจบด้วยการอ้อนขอให้เขากลับมาอ่านงานอีกเรื่องหน้าที่พยายามพัฒนาปรับปรุง กูยิ่งรู้สึกแย่ในสิ่งที่กูทำไป พวกมึงมีวิธีรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ยังไงกันบ้างเหรอ

469 Nameless Fanboi Posted ID:ooDyE/F6fY

>>468 ถ้าเป็นแบบมึงเนี่ย ไม่ต้องตอบคือดีที่สุด ตอบเฉพาะคอมเม้นคำถามพอ ว่าอีบุ๊คออกเมื่อไหร่ ไรงี้

470 Nameless Fanboi Posted ID6:bospPP.rZh

>>468 ถ้าตอบไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้แล้วแหละ ทำใจมึง ใครๆก็พลาดได้ หรือถ้ามันคาใจมากๆนอนไม่หลับ มึงกลับไปเม้นอีกรอบว่าขอโทษที่ตอบไปแบบนั้น เป็นความผิดมึงเองที่จัดการอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้วเอามาลงกับนักอ่าน ฯลฯ ตรงๆ สุภาพ อย่าประชด แล้วจบเรื่อง ทำพลาดไปก็ขอโทษเขา ไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรี แต่มึงต้องระบุนะเฮ้ยว่ามึงมาขอโทษเนี่ย เพราะอะไร ไม่ใช่เปิดช่องให้เขาตีขลุมว่ามึงขอโทษที่เขียนนิยายไม่ถูกใจเขานะ ไม่งั้นมึงจะต้องขอโทษตลอดไป

471 Nameless Fanboi Posted ID6:G.xtcqYCmI

KY ถามโม่งหน่อย พวกพีเรียดตะวันตกนี่ คนอ่านเขาคาดหวังอะไรกันบ้างวะ อย่างเช่นชีวิตขุนนาง? การบริหารบ้านเมือง? ความเป็นอยู่พวกไพร่?
หรือว่าแม่งสนแต่จะจัดงานเลี้ยงออจี้กันอย่างเดียว

472 Nameless Fanboi Posted ID6:8Py+B/gkXa

>>471 คาดหวังความสนุก

473 Nameless Fanboi Posted ID6:G.xtcqYCmI

>>472 นี่ก็นิยามกว้างเกิ้น

474 Nameless Fanboi Posted ID6:vX2+0VmP8s

>>471 ต้องถามมึงก่อนว่าในหัวสิ่งที่อยากเขียนคือแนวไหน ถ้าแฟนตาซีจ๋าจะเน้นบริหารบ้านเมือง เวทมนตร์ กอบกู้อาณาจักร ทวงบัลลังก์มากก็ไม่แปลก แต่ถ้าเป็นโรมานซ์แฟนตาซีเขาจะคาดหวังเรื่องรักกันมากหน่อย

475 Nameless Fanboi Posted ID6:G.xtcqYCmI

>>474 โอเคถ้าถามมาแบบนี้ ก็ประเมินแล้วเรื่องที่กูคิดก็คงไม่ใช่แนวโรมานซ์แน่ๆ ถึงจะใส่ความรักมาบ้างก็เถอะ แต่ไม่ใช่แก่นเรื่องแน่ๆ
ท่าทางที่ต้องตีโจทย์ให้แตกก็คือ ตอนนี้กูควรโฟกัสเนื้อหาแบบไหนดีมากกว่าแฮะ
พล็อตยังไม่แน่นด้วยสิ นอนคิดไปก่อนละกัน

476 Nameless Fanboi Posted ID:DJwrRmktU7

กุ >>460 มาขอบคุณทุกคนที่ตอบ จุ๊บ ๆ
>>465 จับมือเพื่อนนะ กุชอบความกลัวโป๊ะของมึงมาก เก้ทความรู้สึก 55555 ขอบใจที่แนะนำคนจริงให้ด้วย เดี๋ยวกูลองไปส่อง ถ้ามีนิตยสาร/เว็บบทความสัมภาษณ์โดยเฉพาะวานมาแบ่งปันด้วยนะ 5555

477 Nameless Fanboi Posted ID6:EwO2moWm9i

>>469 >>470 ขอบคุณมากนะ กูยังคงนอย จิตตก รู้สึกผิด บ้ง

478 Nameless Fanboi Posted ID6:d71TcpdgVw

KY หน่อย กูว่าตอนนี้กูเริ่มเขียนต่อไม่ไหวแล้วแฮะ
ทุกวันนี้พยายามกัดฟันเขียนเข็นต่อโดยคาดหวังว่าซักวันจะมันจะออกผล แต่ยิ่งเข้าไปดูยอดแล้วก็พบว่ายิ่งไม่มีหวังเลย จนตอนนี้รู้สึกหมดใจกับเรื่องที่เขียน จนอยากจะเปลี่ยนเขียนเรื่องใหม่ละ

ปัญหาก็คือตอนนี้ที่กูเขียนสต๊อกเอาไว้ เนื้อหาแม่งเพิ่งดำเนินมาช่วงกลางๆ ของเรื่องนี่ล่ะ เลยไม่รู้จะหาทางลงยังไงดี ที่คิดได้ก็คือเขียนให้แค่จบเล่มแล้วระบุว่าดรอปเท่านั้น จึงอยากถามเหล่าโม่งหน่อยว่ามีไอเดียยังไงบ้างกับการดรอปงานที่เขียน?

479 Nameless Fanboi Posted ID6:coZYM0gMFu

>>478 ถ้ามึงไม่ได้ออกเล่มให้เก็บ ไม่ได้ติดเหรียญ กูคิดว่ามึงมีสิทธิ์ดรอปเพื่อไปเซฟใจมึงโดยไม่ต้องขออนุญาตใคร จะแจ้งตรงๆหรือไม่กล้าแค่เฟดไปเงียบๆ ยังไงก็ไม่มีใครได้ลงทุนกับมึงนอกจากลงทุนค่าเน็ตเอามาอ่าน หรือแค่เอางานพักไปก่อนรอโอกาสที่เหมาะสมก็ได้นะ บางทีงานมึงอาจจะมาก่อนกาล หรืออาจจะไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่มันจะเติบโตได้ พูดไว้ตรงนี้ว่านข.ที่ดรอปงานทุกคนมีหลากหลายเหตุผลมาก ดรอปด้วยความจำเป็นก็เยอะ ไม่ผิดอะไรถ้ามึงจะบอกลาตรงจุดนี้ไปก่อน แต่ถ้ามึงออกเล่มติดเหรียญแล้ว ให้คนมาเสียเงินกับมึงแล้ว มึงต้องรับเสียงด่าทั้งหลายให้ได้นะ ไม่ใช่ทุกคนจะพร้อมเข้าใจมึง แต่ไม่ว่าใครจะด่ามึง จำไว้ว่าที่มึงดรอปก็เพื่อเซฟสุขภาพจิตของมึงที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด สุขภาพจิตมึงพังมึงพยายามเข็นไปก็ไม่รู้มันจะเขียนจบมั้ยอยู่ดี งานมันก็จะพังลงเรื่อยๆจนกว่างานมึงจะแมสปาฏิหาริย์​อ่ะ
ปกติคนจะไม่ค่อยให้กำลังใจนข.ที่ดรอปหรือจะดรอปงาน มันเหมือนนข.ทำบาปอะไรซัมติง แต่กูขอเป็นโม่งตัวนึงที่ให้กำลังใจมึงนะ สู้ๆ เซฟตัวเองให้ได้ก่อน แล้วถ้ามึงรักการเขียนจริงๆมึงอาจจะกลับมาเซฟงานของมึงต่อ

480 Nameless Fanboi Posted ID6:d71TcpdgVw

>>479 มึงพูดถูกเลยแฮะ ตอนนี้คืองานพังมาก กลับมาย้อนอ่านเองรู้สึกได้เลยว่าสำนวนออกจืดๆ Plain ไม่ไหลลื่นแบบช่วงแรกที่เขียน
แถมระหว่างเขียนๆ เข็นๆ ก็รู้สึกทุกข์ใจมาก เหมือนพยายามหลอกตัวเองว่าต้องไปต่อได้อะ
ยังดีนะที่กูเปิดอ่านฟรีอยู่ ยังไม่ได้เริ่มติดเหรียญ ลงสต๊อกหมดแล้วค่อยแจ้งแล้วกัน

481 Nameless Fanboi Posted ID6:/YSv76qCPE

ky หกหมื่นคำนี่ถือว่าเรื่องสั้นหรือเรื่องยาวอะโม่ง พอดีกูเขียนเสียวปั่กๆแล้วไม่รุ่งทั้งเงินและกำลังใจ เลยว่าจะไปเปิดแนวโรมานซ์จริงจังเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องฝืนสำนวนตัวเองด้วย (นปก.หลักกูก็เขียนธรรมดา แต่แสนคำทุกเรื่องเลยว่ายาวละ) พอดีลองละเป็นจำนวนคำที่กูเขียนได้ทุกเดือน ออกได้เดือนละเล่มพอดีเลยอยากรู้ว่ามันถือเป็นเรื่องสั้นปะ

482 Nameless Fanboi Posted ID6:.FARzmfp+d

>>478 กูกำลังประสบปัญหาเดียวกันกับมึงเลย รู้สึกว่าเรื่องใหญ่โตเกินกว่าที่ตอนแรกคิดไว้เยอะมาก อยากดรอปทิ้งไปแล้วไปเขียนเรื่องอื่น แต่อีกใจหนึ่งก็อยากทำให้มันแล้วไปจบๆ ตอนนี้ก็เข็นเขียนไปแบบไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียกับเรื่องอยู่ นอยทุกวัน

483 Nameless Fanboi Posted ID6:EwO2moWm9i

>>481 กลางๆ เกือบไปทางสั้นว่ะ กูเป็นพวกสบายใจเมื่อเห็นนิยายที่อยากอ่านมีแสนคำขึ้นไป อ่าน8หมื่นคำกูยังรู้สึกไม่ค่อยสะใจเลย 6หมื่นนี่อ่านครึ่งวัน-วันเดียวจบ

484 Nameless Fanboi Posted ID:f+j07YBz7x

>>483 กุสายอ่านยาวเหมือนกันเจอ 150k ขึ้นนี่อย่างฟริน แต่สงสัยว่าทำไมบางเรื่องเขียนสั้นๆ ละยอดดีจัง เพราะราคาถูก (กว่าเรื่องยาวแน่ๆ) เหรอ ?

485 Nameless Fanboi Posted ID6:EwO2moWm9i

>>484 ส่วนใหญ่ราคามีส่วนเลย ราคาแบบไม่ต้องคิดเยอะ 49-99 หรือร้อยนิดๆอะ เอาไว้อ่านขำๆคั่นเวลาเรื่องยาว

486 Nameless Fanboi Posted ID6:jeXF9xcIdA

ยอดสถิติในเมบนี่มันคำนวณเฉพาะคนที่กดซื้อหรือเปล่าวะ กุแปลกใจที่ของกูมันแสดงกลุ่มคนอ่านที่อายุ 31-50 ไป 80 % เลยผิดจากที่คาดว่ากลุ่มเป้าหมายจะเป็นวัยรุ่นแฮะ

487 Nameless Fanboi Posted ID6:qDyLAwq7EI

>>486 คนซื้อ เด็กๆ,ไม่ค่อยซิ้อหรอก อ่านฟรี

488 Nameless Fanboi Posted ID:8Jc0LqD/tE

>>486 มันดูตรงไหนอะ

489 Nameless Fanboi Posted ID6:jeXF9xcIdA

>>487 งั้นกุก็คิดถูกแล้วที่จัดหน้าไฟล์ pdf ใหญ่หน่อย

>>489 ในหน้าจัดการหนังสือ เป็นไอค่อนรูปกราฟแท่งอ่ะ

490 Nameless Fanboi Posted ID:5CnXM8TAWR

>>486 กุจำไม่ได้ ตอนสมัครแอคมันมีให้กรอกอายุเหรอวะ หรือมันอิงจากที่เรายืนยันบัตรปชช. ถ้าให้กรอกปีเกิดเฉย ๆ อาจจะไม่ใช่ข้อมูลจริงก็ได้ปะ เด็ก ๆ ก็อัพปีเกิน 18 หมด

491 Nameless Fanboi Posted ID:45mUgr8WFK

>>489 ขอบใจมากมึง กุไม่เคยรู้มาก่อนเลย

492 Nameless Fanboi Posted ID6:AoAEjwt1qj

Kyเพื่อนโม่งพอจะรู้ไหมว่า แฟมมิลี่ทรี ทำได้ที่แอพไหน อยากทำใส่ในนิยายจ้า //กราบขอบพระคุณล่วงหน้า

493 Nameless Fanboi Posted ID6:y3L9Eu8368

>>492 canva

494 Nameless Fanboi Posted ID6:Fvcr2M3OLr

KY เป็นอะไรไหมที่นางเอกกูไม่ฟาด เป็นสาวน้อยเรียบร้อยที่ธรรมดาสุดๆ ไม่ได้มีซีนพูดจาฉลาดๆ แต่เป็นคนเข้าอกเข้าใจเป็นความอบอุ่นใจของพระเอกไปวันๆ นักอ่านจะหาว่านางเอกกูหน่อมแน้มไหมวะ

495 Nameless Fanboi Posted ID6:Fvcr2M3OLr

KY เป็นอะไรไหมที่นางเอกกูไม่ฟาด เป็นสาวน้อยเรียบร้อยที่ธรรมดาสุดๆ ไม่ได้มีซีนพูดจาฉลาดๆ แต่เป็นคนเข้าอกเข้าใจเป็นความอบอุ่นใจของพระเอกไปวันๆ นักอ่านจะหาว่านางเอกกูหน่อมแน้มไหมวะ

496 Nameless Fanboi Posted ID6:DEzNfGfnwF

>>495 ในมุมมองกูก็ไม่เป็นไร แต่จะมีประเด็นน่าติดตามรึเปล่านี่ล่ะ เพราะมันจะออกแนวสาวจืด
ถ้าเป็นกูคงใส่ภูมิหลังสุดโต่งมาด้วย เช่นเป็นหลานสาวประธานบริษัท มีคุณตาขี้หวงเลี้ยงมา แล้วพระเอกที่เป็นแค่พนักงานธรรมดาๆ โดนยัดเยียดหน้าที่คอยดูแล เพราะฝ่ายหญิงมาถูกใจนั่นล่ะ

497 Nameless Fanboi Posted ID6:y3L9Eu8368

>>495 สำหรับกูนะ นี่แหละนางเอกที่ตามหา กูเบื่อสายเฟียส แต่ใดๆ คือนิยายต้องสนุก

498 Nameless Fanboi Posted ID:5CnXM8TAWR

>>494 ขึ้นอยู่กับว่ามึงเจอนักอ่าน misogynist อ๊ะป่าว คนหมั่นไส้สาวนุ่มนิ่มเรียบร้อยเยอะ แต่กุชอบนะ ขอให้เจอนักอ่านที่ถูกใจเยอะ ๆ

499 Nameless Fanboi Posted ID6:HxmzI.CowC

>>495 กูชอบนะ ถึงเบื่อก็ไม่ว่าเพราะคาแรคเตอร์นางเอกมันน่ารักอะ กูชอบผู้หญิงแบบนี้ กูสายซื้อนิยายเพราะคาแรคเตอร์555 ถ้าจะเขียนจริงกูคงแนะนำให้ต้องมีซีนให้น้องช่วยฮีลใจพระเอกเยอะๆ ว่ะ พระเอกเป็นไอ้หนุ่มโดนครอบครัวกดดัน น้องชายเหลวแหลก พี่ชายห่วยแตก พ่อแม่หย่าร้าง หางานไม่ตรงสาย ปมจะไปหนักที่พระเอกแทน จุดนี้กูว่าจะช่วยชูคาแรคเตอร์นางเอกให้คนเอ็นดูมากๆ เป็นยัยน้อง ยัยนุ่มนิ่ม และเอาใจช่วยนางให้เป็นแสงตะวันกลางใจของไอ้หนุ่มนี่ (ยิ่งถ้านางเอกมีภูมิหลังน่าสงสารแต่ยังน่ารัก คอยเป็นความอุ่นใจให้พระเอกได้ สายอ่านนิยาเพราะคาร์แรคเตอร์จะเลิ้ฟมาก) เขยเปรตทีคนเข้าข้างนางเอกเยอะด้วยนะมึง555

500 Nameless Fanboi Posted ID6:AoAEjwt1qj

>>495 ถ้านางเอก มาทรงนี้ พระเอกมึงต้องเข้มข้นจัดจ้านชีวิตมีเรื่องกดดันต้องต่อสู้ฝ่าฟันเยอะแยะมากมายหน่อยนะ แล้วมีนางเอกมาฮีลใจ คนนึงนุ่ม คนนึงแข็ง คนนึงดาร์ก อีกคนไชน์ สดใสเจิดจ้า มันถึงบาลานซ์ ไม่งั้นจะชวนง่วงได้

501 Nameless Fanboi Posted ID6:5I/KRoLgeY

กู 495 นะ โฮ ขอบคุณพวกมึงทุกคนมาก 😭 กูเองชอบนางเอกแนวนี้ ชอบความสัมพันธ์แบบนางเอกแสนธรรมดามองโลกในแง่ดี เป็นผู้หญิงเรียบๆ ที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจหายเหนื่อยอ่ะ ส่วนปมก็ไปหนักทางพระเอกจริง วิ่งสู้ฟัดสุดๆ 555 บางทีกูก็นึกว่านางเอกกูควรมีซีนเป็น heroine ฟาดฟันตัวโกงกับเข้าบ้างไหม แต่ก็โคตรฝืนคาแรคเตอร์เลย น้องมันก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งอ่ะ กูเขียนๆ ไปก็กลัวนักอ่านจะเบื่อนางเอกแนวนี้แล้ว ขอบคุณพวกมึงจริงๆ ที่มาตอบให้กูมีกำลังใจเขียนต่อไปได้นะ /สูดยาดม

502 Nameless Fanboi Posted ID:MTiOXRbZvV

มีข้อสงสัยนิดนึงว่ะ กูไม่ได้เขียนแนวโรแมนติคขายฝันอะไรนะ แนวพีเรียดๆเหมือนบันทึกชีวิตมากกว่า นางเอกกูแอบรักผู้ชายคนหนึ่ง แล้วนางเอกโดนทางบ้านบังคับแต่งงาน นางเอกไม่ได้รักผัวตัวเอง แต่ผัวนางรักนางมากจนนางโคตรรู้สึกผิด พยายามรักแล้วแต่คนไม่ใช่มันก็ไม่ใช่ ส่วนผู้ชายคนนั้นก็โสดตลอดชีวิตเพราะรักนางเอกเหมือนกัน

ถ้านางเอกกูยังคะนึงหารักแรกของตัวเองแต่ไม่ได้ไปสานต่ออะไร ผัวก็อยู่กันแบบผูกพันแต่ไม่ได้รักในฐานะผัวเมีย ตายไปก็ยังคิดถึงแต่ผู้ชายคนนั้นไม่เคยคิดถึงผัวตัวเอง อันนี้นักอ่านจะผิดหวังและด่านางเอกมั้ยวะเพราะแม่งก็ขัด norm ที่เมียต้องซื่อสัตย์รักผัว แต่นางเอกไม่สามารถเลือกได้ว่าจะแต่งงานกับใครได้ด้วยซ้ำ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบให้คู่ครองในเรื่องแต่งไม่รักกันใช่ป่ะ

503 Nameless Fanboi Posted ID:5CnXM8TAWR

>>502 ใช่ มันจะขมเกิน เป้นแนวเรียลๆ ที่อ่านละหน่วงจิตอะ แต่ถ้ามึงเขียนให้นางเอกกะผช.ที่นางรักรักกันมากแล้วเขียนให้อินมันก็น่าสงสารแหละ ไม่น่าด่าหรอก ฟีลนางเอกพระเอกแต่ไม่ได้คู่กันอะ แต่ถ้ามึงให้บทผัวชีเด่นมากอันนี้แหละนักอ่านอาจจะเลือกข้างฮีแล้วหาว่านอ.ใจร้ายไม่ยอมมูฟออน อยู่ที่การนำเสนอเรื่องนะ
ว่าแต่มึงเขียนแนวนี้กะขายใครวะ ถามจริงๆ ไม่ได้กวนตีน 555

504 Nameless Fanboi Posted ID:MTiOXRbZvV

>>503 ไม่ได้กะขาย เขียนตามความพอใจของกูเอง ใครอยากอ่านก็อ่าน กูแค่อยากเอาออริที่กูเคยเขียนเล่นกับเพื่อนในสมัยก่อนมาเรียบเรียงใหม่เฉยๆ ึ

505 Nameless Fanboi Posted ID:+XX2d/V8Ap

>>502 กูขอโทษ แต่กูลำใยนอ.ไทป์นี้จัง ไม่ใช่เพราะแม่งขัดนอร์มที่เมียต้องซื่อสัตย์รักผัว แต่ลำใยที่มึงจะยื้อสามีไว้ทำไมถ้าใจมึงอยู่กับอีกผู้ อยู่กันแบบผูกพันแต่ไม่ได้รักนี่เข้าข่ายรักพี่เสียดายน้องมั้ยวะ ถ้ามึงจะมาทรงพีเรียดที่ตลค.ยังโดนบังคับด้วยขนบ มึงให้ครอบครัวนอ.บังคับนอ.แต่งกับผัวเหี้ยๆหน่อยเหอะ อย่างที่ >>503 บอกว่าถ้าบทผัวเด่นคนอ่านจะเทใจให้แทน

506 Nameless Fanboi Posted ID6:AoAEjwt1qj

>>502 ตามตรงคือ กูไม่ชอบนางเอกมึงเลยว่ะ กูสงสารผัวเขาที่แต่งด้วย แล้วกูก็ไม่ชอบคนที่นางเอกรักด้วย ทำไมมันไม่ไปรักกันให้จบๆ คาราคาซัง แต่อย่างที่มึงว่ามึงเขียนตามใจตัวเองไม่เน้นเซอร์วิสคนอ่านซึ่งก็จะดีใจมากที่เราไม่เป็นลูกค้ากันนะ ไม่งั้นกูสาปมึงจริงๆ แนวมึงเหมือนหนัง-ซีรี่ย์ญี่ปุ่งเลย นักเขียนชอบจบแบดๆไม่แคร์ เป็นแนวที่ทำให้กูรู้สึกว่า กูจะอ่านไปทำไมวะมันไม่คอมพลีทอะ ค้างคาในความรู้สึกสุดๆ555

507 Nameless Fanboi Posted ID:MTiOXRbZvV

>>505 แนวพีเรียดชนชั้นสูงอะมึง หย่าได้ซะที่ไหน ครอบครัวนางเอกแม่งบังคับกะเกณฑ์จัดๆตั้งแต่บังคับแต่งงาน ถ้าลูกสาวหย่าผัวแม่งเอาตายแน่ๆ ผัวที่มาแต่งด้วยก็นิสัยดีประมาณหนึ่ง เป็นคนดีแต่คนที่ไม่รัก ทำยังไงมันก็ไม่รัก ฟีลแบบมึงรู้จักคนคนนี้เป็นสิบปีแล้วมึงก็ผูกพันกับเขานั่นล่ะ แล้วอยู่ร่วมบ้านกันมาสิบปีมันจะไม่ผูกพันกันมันเป็นไปบ่ดั้ย แต่ผูกพันในแง่ไหนมันก็อีกเรื่อง

508 Nameless Fanboi Posted ID6:AoAEjwt1qj

>>507 อ่านแล้วนึกถึง คัมมั่นษันยา ของป้าทมเลย เรื่องนั้น พระเอกคือคนที่นางเอกรัก ตอนจบพระเอกตาEอีกต่างหาก

509 Nameless Fanboi Posted ID:MTiOXRbZvV

>>508 นางเอกของกูมันแนวบันทึกชีวิตเหมือนพวกโอชินไรงี้มากกว่า อาจจะไม่เน้นรักมาก เน้นเล่าชีวิตนางว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตั้งแต่เด็กยันแก่ มีสุขมีทุกข์ ผ่านความลำบากมากมาย ตายไปก็ทิ้งบันทึกให้รุ่นหลานมาอ่าน บางบทก็ยังมีเขาในซอกหัวใจไรงี้ ฟีลเพลงสลักจิต 55555555555555555

510 Nameless Fanboi Posted ID:+XX2d/V8Ap

>>509 อ่า งั้นกูพอเก็ตฟีลละ ถ้ามึงมีคอนเซปท์ชัดพอ กูว่ามึงไปต่อกับเวย์นี้ได้นะ ทำไมทำมากูชักอยากขออ่าน 55555 ถามอีกที มึงจะเขียนบันทึกชีวิตนอ.แบบ SOL ยุคพีเรียดใช่มะ

511 Nameless Fanboi Posted ID6:y3L9Eu8368

>>502 สงสารคนไม่มีเมีย ต้องมายึดติดกับอีนี่ แต่เอาจริงคิดอีกทางก็ดีละ ให้มันอยู่คนเดียวไปเหอะ เพราะถ้ามันมีเมียจะมี ผญ น่าสงสารเพิ่มอีก 1 คน

512 Nameless Fanboi Posted ID:+XX2d/V8Ap

>>508 โฮ มุงขุดแผลใจกู กูอ่านเรื่องนี้ตอนยังเด็กมากแล้วไม่อินเลย กูไม่เข้าใจความรักแบบนั้นเลย โฮๆๆๆๆ

513 Nameless Fanboi Posted ID6:y3L9Eu8368

ผัวอีนางด้วย แต่งเมียก็คาดหวังว่าจะมารักกัน

514 Nameless Fanboi Posted ID:MTiOXRbZvV

>>510 อารมณ์ประมาณนั้นล่ะ เรื่องที่อ่านคือบันทึกของคุณย่าอะไรประมาณนี้

>>511 กูแนะให้มึงไปอ่านแนวรักนะเพื่อน มีเต็มเลยที่พระเอกนางเอกรักกันฟินๆสองคน งานกูไม่ตอบโจทย์มึงหรอก

515 Nameless Fanboi Posted ID6:HxmzI.CowC

>>514 ลงให้ถูกหมวดละกันว่าดราม่า คนชอบแนวนี้เขาจะได้มาอ่าน ส่วนคนไม่ชอบจะได้ไม่แตะ เขียนเตือนด้วยคนเขาจะได้รู้ว่ามึงเขียนแนวประวัติชีวิตแบบใด ยกตัวอย่างมาเลยว่าฟีลเหมือนหนังเหมือนนิยายเรื่องไหน เข้าใจความอยากเขียนนะ แต่ลงให้ถูกหมวดกับเตือนให้ครบด้วย คนอ่านจะได้ไม่เข้าใจผิด และมึงจะได้ไม่ต้องมากลัวว่านางเอกจะโดนด่ามั้ย ต้องมากังวลว่าสังคมสมัยนี้จะรับนางเอกของกูได้รึเปล่านะ คนชอบแนวนี้ก็มี เขาไม่ตั้งคำถามมากหรอกถ้ามึงเขียนทุกอย่างครบ ขอให้หานักอ่านที่ชอบแนวนี้เจอเยอะๆนะเว้ย

516 Nameless Fanboi Posted ID6:irMHKtYI.K

เห็นด้วยว่าเขียนบอกไว้ก็ดี ไม่ได้บังคับหรอก แต่ถ้าบอกก็ดีกับนักอ่านมากกว่าอะ กุเคยเห็นคห.แนวนักอ่านสมัยนี้เรื่องมาก อยากได้เตือนนั่นเตือนนี่ สมัยก่อนไม่เห็นต้องขนาดนี้ กุก็เก้ทว่าพวกจิกหัวบังคับให้นข.เตือนทุกเม็ดนี่ก็เกินไปหน่อย แต่ก็ยังอยู่ทีมบอกก่อนดีกว่า ถ้าไม่โอจะได้ไม่เสียเวลาอ่าน นข.ได้นักอ่านตรงทาร์เก็ต ไม่โดนหักใจ นักอ่านได้อ่านแนวที่รับได้ ไม่เสียอารมณ์/ทริกเก้ออะไร วิน-วินอะ

อันนี้เม้าเฉยๆ ว่าเคยอ่านนิยายเก่า อ่านแค่คำโปรยหลังปกละซื้อเลยเพราะชอบไดนามิคพระนาง นิยายไม่แมสเลยไม่มีรีวิวด้วย สรุปสุดท้ายพระเอกนางเอกไม่ได้คู่กัน ต่างคนต่างแยกย้ายไปแต่งงานมีลูก (กับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก) แต่ตัวเองก็ยังมีคนในใจอยู่เสมอ จนลูกโตอะ กุจะร้องไห้ตาย เข้าใจว่าเรียล แต่กุไม่อยากอ่านอะไรแบบนี้อะ โฮรๆๆๆๆ เจองี้ทำกุหลอนงานสมัยก่อนไปเลย ต้องหารีวิวก่อนว่าแฮปปี้มั้ย เฮ้อ

517 Nameless Fanboi Posted ID6:y3L9Eu8368

>>514 แล้วใครบอกจะอ่านค้า แหม

518 Nameless Fanboi Posted ID6:7mOmu4J0KU

>>516 เจ้าใจมึงเลย จบงี้ก็เคว้งสิวะ เพิ่งเจอกับตัวก็เรื่องสงครามสมรสอะ เห็นเขาว่าละครดัดแปลงเยอะอยู่เลยไปหาสปอยนิยายเป็นไง สรุปจบแบบเรียลเชี่ยๆ ตัวร้ายลอยนวลไม่ได้รับกรรม ถึงคู่พระนางจะสมหวังก็เหอะ แต่กูคาใจจุดจบตัวร้ายอะ รอดทั้งบ้านได้ไงกัน แม่งควรคุกคู่เลยสิวะ แต่ดันจบแบบเรียลเกินรอดหมดไม่พอมีชีวิตดีๆต่อไปอีก คือมันก็ดีแหละในแง่จบแบบสะท้อนเสียดสีสังคมไรงี้ แค่ไม่ถูกใจคนอ่านอย่างกูที่อยากเห็นจุดจบแบบสาสมสักหน่อย

519 Nameless Fanboi Posted ID6:Fvcr2M3OLr

>>518 อย่างสงครามสมรสกูว่าไม่สมเหตุสมผลดีนะ เพราะทั้งเรื่องเขาปูมาแบบนั้น ว่าอำนาจชนะกระบวนการทางกฎหมายน่ะ ที่มึงเซ็งจุดจบตัวร้ายก็คงเป็นไปตามที่นักเขียนต้องการแล้วล่ะ

520 Nameless Fanboi Posted ID6:Fvcr2M3OLr

*แก้ สมเหตุสมผล

521 Nameless Fanboi Posted ID6:2fOK.UqOZC

>>519 ใช่แหละ มันสมเหตุสมผลอยู่ในตัวเพราะผู้มีอิทธิพลมันก็รอดคุกชิวๆงี้แหละ ซึ่งมันน่าหงุดหงิดใจที่เป็นตัวร้ายด้วยไงไม่ได้รับกรรมไรเลย กูสูนหลาย555 แต่พอเข้าใจอะนข.ตั้งใจเขียนแบบนี้แหละ ซึ่งกูว่าดีนะเอาจริง เป็นจบแบบทั้งเสียดสีและสะท้อนสังคมได้แบบไม่ตกยุคเลยมุกคลาสสิคสัสๆ เป็นการเขียนแบบที่พวกฉอดต้องด่าว่าโรแมนติกไซส์ห่าไรสักอย่างแหง

522 Nameless Fanboi Posted ID:eeW3Rb39s8

>>521 ฉอดไม่กล้าหรอก กับเคสที่สะท้อนสังคมจริงชัดๆแบบนี้ มันจะแสดงความโลกสวยแต่แปาก ทำห่านไม่ได้จริง ชัดเจนเกินไป ฉอดรับตัวเองไม่ได้

>>509 มึง ต้องทำใจหน่อยนะ งานแบบนี้คนเปย์ยาก ไม่ใช่ไร ขนาดกุเองงานแบดเอนท์ งานหม่นๆ นี่กุจะซื้อคิดแล้วคิดอีก ชีวิตกุทุกข์ยากจนไม่ต้องเติมผงปรุงเพิ่มแล้ว ต่อให้รู้ว่างานมันจะสำนวนสวย เรื่องตราตรึงใจ ดีเลิศๆ ก็เหอะ แต่กูมะอยากอึนไปเป็นสัปดาห์แล้วอ่าาา ขอมุมเล็กๆจากนิยายให้กุหนีความจริงหน่อยเถ้ออ

523 Nameless Fanboi Posted ID6:AoAEjwt1qj

จริง ชีวิตจริงมันมีเรื่องให้อยากร้องไห้เยอะแล้ว จะเสียเงินอ่านนิยายทั้งที กูขอที่จบดีทำให้กูคนเสียเงินมีความสุขอะ

524 Nameless Fanboi Posted ID6:DEzNfGfnwF

KY ถามโม่งหน่อย กูกำลังคิดพล๊อตโดยอิงให้ตัวเอกเป็น "คนมีอายุ" ไม่ใช่แนวโรมานส์จ๋า แต่อยากให้มีเนื้อหาความรักกับตัวละครอายุน้อยกว่ามาก (เอาซัก 20 ต้นๆ ละกัน) เลยอยากถามว่า "คนมีอายุ" เนี่ย ...ควรซักเท่าไรดีที่จะไม่รู้สึกว่าแก่เกินไป ตอนแรกกะจะเอาซัก 35+ แต่มาคิดดูแล้วอายุนี้ก็น่าจะยังหนุ่ม/สาวอยู่เลย จึงคิดว่าควรจะเพิ่มอายุเข้าไปหน่อย แถมอยากให้ตัวละครอื่นเรียกตัวเอกว่า ลุง/ป้า ด้วย (ยังไม่ได้กำหนดเพศน่ะ)

ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นแนวพีเรียดตะวันตก แต่ยังลังเลเรื่องยุคอยู่เดี๋ยวขอตบๆ พล๊อตให้เข้าที่ก่อนค่อยตัดสินใจ

525 Nameless Fanboi Posted ID6:irMHKtYI.K

>>524 สัก 40 มั้ย กำลังดี หรือกดลงประมาณ 38+ อันนี้พอให้เด็ก ๆ เรียกลุงป้าได้

526 Nameless Fanboi Posted ID:E1y46oqyd7

>>521 สมจริงมากไปนักอ่านก็สะเทือนใจอะ โลกความจริงมันเหี้ยอยู่แล้ว ต้องมาอ่านนิยายเจอตัวละครมีชะตากรรมเหี้ยๆแบบไม่มีทางผุดขึ้นจากก้นบึ้งนรกได้แม่งก็หดหู่ชิบหาย คนมันเลยต้องขอนิยายมาปลอบประโลมใจบ้างก็ยังดี ถึงรู้ว่าโอกาสแฮปปี้แม่งเกิดได้ 1 ในล้านก็เหอะ ยังดีกว่าอ่านอะไรที่ตัวเองรู้สึกเฟล

แต่ดูท่าทางโม่งในนี้คงเป็นสายสุขนิยมกันพอสมควร อะไรขมๆดูสะเทือนใจหรือตัวเอกดูทรงจะงี่เง่าไม่ตรงตามมาตรฐานโม่งนี่ดูยี้กันอย่างแรง

527 Nameless Fanboi Posted ID:24FR82emKF

>>502 นิสัยงี้เป็นนางเอกกุก็ด่า เป็นพระเอกกุก็ด่า ไม่เกี่ยวกับนอมกะอะไร รำคาญล้วนๆ เสียดายชีวิตคนดีๆ ที่ต้องไปเป็นพระรอง/นางรองให้คนสันดานแบบนี้ นิสัยแบบนี้อยู่คนเดียวเถอะ

528 Nameless Fanboi Posted ID:LkmJ88oZ/a

>>526 กุก็งงเหมือนกัน พออ่านนิยายกุอยากให้มันต่อให้ตกระกำลำบากแค่ไหนสุดท้ายจะพลิกกลับมาจบดีได้ แต่ในฐานะคนเขียนกุนี่ชอบคิดพล็อตแบบจบทางใครทางมัน ไม่ชนะไม่แพ้ซะทีเดียว บอบช้ำกันไปทุกฝ่ายแล้วก็พยายามไปตั้งหลักกันที่อื่นงี้ คือกุมือใหม่ พยายามท่องว่านิยายรักๆ จบงั้นมึงจะขายใคร้ ไว้ยอดใช้ได้แล้วค่อยเขียนอะไรที่อยากเขียนแต่ใจกุมันจะไปทางจบเทาๆ ทุกที

529 Nameless Fanboi Posted ID:/OAd4QfPRY

>>528 กูมองว่าถ้าสร้างสรรค์งานก็ต้องการความหลากหลายว่ะ ถึงแนวเมนสตรีมแบบแมสๆอาจจะนิยมผัวโบ้ ขึ้นแบบหงส์ลงอย่างหมา ทำเหี้ยแล้วมาเลียตีนเธอทีหลัง คนอ่านต้องการเห็นมันแฮปปี้ แต่ในใจมึงบอกว่ามันไม่ใช่ ทำเหี้ยก็ต้องชดใช้ มึงแต่งออกมาแต่นักอ่านไม่ชอบ ขายได้ไม่ได้ อันนี้ก็อีกเรื่องนะ แต่มึงโอเคที่จะแต่งแบบนี้ มีความสุขกับผลงาน มันน่ายินดีกว่า

แต่ถ้าเนื้อหามึงยังจะลากมาให้จบแฮปปี้แม่งก็ไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ แล้วมันจะเอาเสน่ห์จากไหน กูชอบงานที่เป็นตัวเองไม่เอาใจใครและจบแบบที่มันควรเป็น ซึ่งมันคนละแบบกับจบเหี้ยๆส้นตีนๆนะเว้ย 5555555555
-จบแบบที่ควรเป็น เช่น ไททัน
-จบเหี้ยๆส้นตีนๆ เช่น เลือดของอีจีเซล

530 Nameless Fanboi Posted ID:vumA1zXAEX

>>526 บ่ มึง ในฐานะโม่งตัวนึง กุไม่ได้ยี้งานที่ไม่สุขนิยม แต่เงินในมือกุมีจำกัด กุจำเป็นต้องจัดสรรทรัพยากรให้พออยู่พอกิน
งาน bad end สะท้อนสังคมมีความงดงาม สมเหตุสมผลในตัวมันนะ ถ้ากุมีเงินล้นเหลือกุก็คงเปย์ไม่คิดเท่าไหร่ มึงผลิตงานได้แต่ตลาดมันเป็นงี้ ไม่มีใครถูกผิด ยอดขายมันก็จะแม่งสะท้อนสังคมแบบเดียวกับผลงานมึงเลย คนเขียนเห็นยอดแล้วก็อาจจะเศร้าพอๆกันกับคนอ่าน 🥲

531 Nameless Fanboi Posted ID6:BnfwRrCTLm

>>529 จีเซลนี่มันจบส้นเพราะนักวาดมีปัญหากับบอมันอะดิ ซวยคนอ่าน

532 Nameless Fanboi Posted ID:/OAd4QfPRY

>>530 ไม่ได้ยี้แต่ก็ไม่อ่านใช่ป่ะล่ะ อันนี้ไม่มีใครถูกผิด ทุกคนก็อยากอ่านสิ่งที่ตัวเองสบายใจกันหมด เลือกนรกที่ชอบกันเลย

แต่พอแนวอื่นๆมันไม่นิยม คนก็ไม่ค่อยเขียนอะไรแหวกๆออกมา เขียนแต่เมนสตรีม พระเอกนางเอกเป็นบล็อคแพทเทิร์นสูตรสำเร็จ เช่นเมะหึ เคะอ๊างๆ หรือสาวเฟียซกีเกิดมาฟาด อีสาวหวานดอกทองแอ๊บแบ๊ว แล้วนักอ่านก็จะบ่นว่าแม่งมีแต่อะไรซ้ำๆซากๆ กลายเป็นวงจรเหี้ยๆวนลูปไปอีก ก็ตลาดเขาชอบแนวนี้ แนวอื่นขายไม่ออกจะเขียนทำไมมันไม่คุ้ม สุดท้ายก็แทบไม่มีใครสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆเพราะเล่นเพลย์เซฟเน้นขายออกกันหมด

533 Nameless Fanboi Posted ID6:Q47URu2Uz0

>>530 กูเขียนแนวนอกเมนสตรีม ทุกวันนี้นั่งกอดเข่าตัวเองร้องไห้ ผ่านไป 2 เดือน ยอดวิวไม่ถึง 2000 ทั้งที้อัพตอนใหม่ทุกวัน คิดว่าแบบนี้อยากเขียนต่อมั้ยล่ะ

534 Nameless Fanboi Posted ID:Yko3ULHytU

>>533 กูว่าแนวอินดีคงจะขายยากจริง ไม่อย่างนั้นคงไม่มีนข.มาถามในนี้บ่อยๆว่าจะขายวิญญาณแล้ว ช่วยชี้เป้าแนวตลาดให้หน่อย
แต่กรณีโม่งเจ้าของทอปิคข้างบนคือเค้ารู้แล้วว่ามันไม่ใช่แนวกระแสน่ะ จะเขียนสนองนี้ดตัวเอง ไม่ได้เอาอารมณ์ไปแขวนกับยอดคนอ่าน กับนข.ที่ชัดเจนกับตัวเองชัดแบบนี้กูก็เอาใจช่วยให้ทำนะ

535 Nameless Fanboi Posted ID6:ExJuV4do39

ky กุเห็นประเด็นก็อปพล็อตละเข็ดขยาดชิบหาย สมมติถ้าโดนกล่าวหาว่าก้อปชาวบ้านทั้งที่ไม่ได้ทำเนี่ยต้องยืนยันความบริสุทธิ์ยังไงวะ เอาในกรณีดันมาทีหลังด้วย หลักฐานไทม์สแตมป์ไม่ช่วยเงี้ย ToT ละเคสกล่าวหาแบบนี้เราฟ้องหมิ่นกลับได้มั้ยวะ ใครพอรู้กฎหมาย

536 Nameless Fanboi Posted ID6:pAN6Gt2XsQ

ky กูอยากเขียนเรื่องแยกคู่พ่อแม่ แต่แม่ของรุ่นลูกเขาตายนะ มีลูกแล้วก้ใช้ชีวิตครอบครัวสุขสันต์ไม่กี่ปีแล้วตาย ผัวยังรักยังหลงตลอด ขนาดในเล่มหลักของเรื่องลูกก็ยังเพ้อถึงเมียที่ตายไป ไม่คิดมีใหม่ อันนี้ถ้ากูเริ่มเขียนคู่พ่อแม่ละ คนอ่านจะรับได้มั้ยถ้ารู้ว่านางเอกตายตอนจบ (แต่ก็ได้ใช้ชีวิตกับพระเอก มีลูก ได้เลี้ยงและตายไปเพราะปกป้องลูก) ต้องเขียนเตือนมั้ยว่านางเอกตาย

537 Nameless Fanboi Posted ID6:y5binTMZ+o

>>535 ฟ้องได้ เอาจริงควรทำเป็นสิ่งแรกด้วยซ้ำ ไม่ต้องมาโวยวายลงเนตเพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแปอะ ฟาดแม่งในศาลเสียเวลาหร่อยแต่อีนั่นคงเลิกกล่าวหาพล่อยๆสักที โวยลงเนตแค่อาศัยกฏหมู่มาช่วยอะ แล้วหลักฐานที่ว่าคือไร ต้องมีไทม์สแตม ต้องการจดบันทึกว่าเราเขียนพล็อตไว้วันที่นี้ๆเหรอวะ แล้วงี้พวกสายด้นสดที่ไม่จดไรก็ซวยสิ เพราะงั้นไปสู้ในศาล มีผู้รู้จริงกว่าพวกชาวเนตคอยให้คำแนะนำ โดนด่าในเนตอย่าไปดิ้นตามประเข้าทางคนเปิดเลย ใันอยากให้มึงดิ้นแหละ แล้วให้พวกมือที่สามเข้ามาช่วยซ้ำอีกที ซึ่งเห็นมาเยอะนะ โดนกล่าวหาทั้งที่ไม่ใช่คนปิด ชีวิตชิบหายกันไปเท่าไหร่ พอความจริงปรากฎว่ามึงบริสุทธิ์ ไอ้คนทำแค่ขอโทษนะงุ้ยๆ แล้วเนียนเงียบไปเลย คนที่มามุงเขาก็ไม่ได้ติดตามจนจบหรอกว่ามึงไม่ผิด ก๋จำกันต่อแหละว่ามึงผิดๆ
เข้าใจว่าการขึ้นศาลมันยุ่งยาก แต่เพื่อผลประโยชน์ตัวเองคือทำเถอะ

538 Nameless Fanboi Posted ID:5yUpTKYUAn

เดี๋ยวนี้เรทราคาอีบุค ภาพรวมตลาดราคาตกลงไปที่ คำx0.0015 กันแล้วเหรอวะ ไถไปเห็นแสนคำไม่ถึงสองร้อยกันโคตรเยอะ ห้าหมื่นคำก็วิ่งแถวร้อยนิดๆกัน

539 Nameless Fanboi Posted ID:r5tP+RyrHx

>>538 ลดแข่งกันอ่ะมึง กุจนเหนื่อยแล้ว เขียนนานชิบหายกว่าจะจบแต่ละเรื่อง กุเคยขายนิยายเกือบสองแสนคำ 350 บาท นักอ่านบอกแพง กุท้อจนไม่รู้จะท้อยังไงแล้ว แต่ก็นะ ตลาดลดกันไปจนราคาโปรสองแสนคำขาย 199 งี้กุจะเอาไรไปสู้

540 Nameless Fanboi Posted ID6:3Q4shURueL

น่าจะรู้ว่า300กว่าบาทขายยาก ถ้าไม่ได้มั่นใจว่ามีฐานลูกค้าเก่า หรือขายเอาแพชชั่น ราคาไม่เกิน300 คนอ่านสะดวกใจซื้อมากกว่า เจ้าไหน500คำอัพ:1฿ คือราคาเป็นมิตร

541 Nameless Fanboi Posted ID6:BnfwRrCTLm

>>539 มึงก็ต้องเข้าใจด้วยแหละว่าเศรษฐกิจมันไม่เอื้อให้ฟุ่มเฟื่อย แถมตอนนี้เขียนนิยายกันเหมือนเป็นรายได้เสริม ผลิตกันจนล้นตลาด สภาพก็ออกมาเป็นงี้แระ

542 Nameless Fanboi Posted ID:5rP2Im1ge+

หลายธุรกิจเขาจับมือทำราคากลางกัน ไม่ตัดราคากันเกินเหตุ แต่นักเขียนมันล้นตลาดแหละ จับมือกันไม่ไหว ร้อยพ่อพันแม่ แข่งกันลดราคา ใครลดไม่ไหวมึงก็ปั้นนามปากกาตัวเองให้ดี ๆ เอาให้ไม่ลดราคาคนอ่านก็ต้องดิ้นรนมาซื้อเหมือนพวกตัวแม่ตัวมัมเขา หรือมึงจะปั้นจนดังแล้วก็ตามมาขึ้นราคางานเก่าทีหลังก็ได้ ตอนนั้นไม่มีใครว่ามึงหรอก มีแต่คนอวยขึ้นครับพี่ ดีครับผม

543 Nameless Fanboi Posted ID6:BnfwRrCTLm

>>542 บอกเลยอีขึ้นราคานี่ ไม่ต้องประกาศ ไปแก้เงียบๆ

544 Nameless Fanboi Posted ID:fT9P5siVH+

>>543 ประกาศก็ไม่เป็นไรนะ ดังแล้ว กุเห็นมีแต่คนอวย คนเชียร์ว่าขึ้นเถอะ อยากให้นักเขียนรวย

545 Nameless Fanboi Posted ID6:BnfwRrCTLm

>>544 เป็นดิ คนหมั่นไส้ไม่พูดให้มุงได้ยินไง

546 Nameless Fanboi Posted ID:5yUpTKYUAn

ไถเจอสองแสน ขายร้อยกลางๆ ลงไม่กี่วันป้ายแดงแล้ว เห็นรีวิวบอก เห็นราคาคุ้มเลยกดเลย เนื้อหารอลุ้นเอา 🥲
เรื่องต่อไปกุลองเอากะเค้ามั่งดีกว่ามั้ยวะ แสนคำขายแม่ง 99 ไปเลย ลองดูว่าของถูกจะทำยอดขายรวมได้ดีกว่าขายเกาะราคาตลาดมั้ย

>>541 เหมือนเจอสภาพนี้ทุกวงการเลยว่ะตอนนี้ ดูสภาพคนแย่งกันกินแย่งกันใช้มากอ่ะมึง เห็นแล้วกังวลอนาคตสัดๆ

547 Nameless Fanboi Posted ID6:3Q4shURueL

>>544 บนบกไม่พูดหรอกเว้ยเดี๋ยวโดนรุม เก็บกดมาบ่นในโม่งไง

548 Nameless Fanboi Posted ID:5JH9weEQza

>>546 เคยอ่านเจอว่า กดราคาไปก็ไม่มีคนซื้ออยู่ดี ขาย 250 ได้ 10 คนอย่างน้อยก็ดีกว่าขาย 100 ได้ 10 คนวะ แม่งตลกร้ายสัส 5555555

ว่าก็ว่า คนไทยแม่งจนชิบหาย เสดกิจงี้ใครจะซื้ออีบุ๊คเล่ม 300 ที่ขายต่อไม่ได้ ยาวแค่ไหนก็ช่างเถอะ เพราะมันไม่มี physical touch ด้วย มันกะความหนาความบางไม่ได้อะ อยากขายราคาคุ้มค่าแรงคงต้องอวตารไปเกิดใหม่ที่จีนนู่น นิยายแปล 300 หน้าเล่มเกือบ 500 อิดอก

549 Nameless Fanboi Posted ID6:RZXTLPxQVb

คนซื้อมีนะราคา300กว่าน่ะ แต่ต้องเป็นนักเขียนที่ชอบ เชื่อใจ มีคุณงามความดี เคยทำให้ฟินกันมาก่อน บุญเก่าเกื้อหนุนน่ะ ถ้าเป็นหน้าใหม่ก็ต้องมีกระแสมีแสง มีคนบอกต่อเยอะว่าสนุกมาก
เขียนเซอร์วิสคนอ่าน ไม่ตามใจความติสต์ของตัวเองหักมุมตอนจบ แบบอ่านแล้วร้องอิหยังวะ

550 Nameless Fanboi Posted ID6:DZ7fM0Ld22

>>547 อวยมันก็กล้าดิ555 แอบด่าอีกเท่าไหร่ไม่รู้ เห็นด้วย ดังขึ้นมาก็ไม่ต้องชักแม่น้ำทั้งห้า แอบไปแก้ราคาเงียบๆ จบ ุ

551 Nameless Fanboi Posted ID:92zDOyDyJ3

>>548 มึงนิยายแปลราคาแรงมากๆๆ กูพูดตรงๆเลยนะ กูมีเงินซื้อได้สบายมาก แต่พอเห็นราคาเห็นการจัดหน้าแล้ว สัดมาก ซื้อแล้วเหมือนคนโง่อะ กูเห็นพวกนักแปลออกมาบอกว่าภาษาไทยสวยซื้อแปลไทยคุ้มได้คุณค่าทางภาษา กูนะไปอ่านจีนกดตุ่มแปล(อย่ามาด่ากูจ่ายเงินจิ้นเจียง)อ่านผ่านเอาดีกว่าไม่ต้องจ่ายทุกตอน อย่างพวกแนวquick wear กูก็กดอ่านเฉพาะโลกที่เซ็ตติ้งกุชอบ แล้วเรื่องไหนที่ชอบมากกุก็ซื้อเล่มเก็บเวลาลด หรือซื้อมือสอง ถ้าอีบุ๊คลด 40%กูก็กดซื้อ
ส่วนนิยายไทยคือซื้ออยู่เฉพาะนักเขียนเดิมๆที่เคยอ่านกันมา ส่วนนักเขียนหน้าใหม่กูกดอ่านตัวอย่างก่อนเลย แต่ถ้าเจอคำผิดตั้งแต่คำโปรยตัวอย่างกูก็ไม่อ่านละ อ่านตัวอย่างถ้าดึงดูดได้แล้วตัดช่วงได้น่าติดตาม กูจะไปอ่านรีวิวในกู้ดรี้ดก่อน รีวิวในเมพคือหารเยอะ ส่วนใหญ่คือเกรงใจนักเขียน ถ้านิยายแปลรีวิวในเมพเชื่อได้ ส่วนราคามีผลมาก ถ้าราคาเกิน 300คือไม่ใช่เศษเงินละ คิดเยอะก่อนซื้อ แต่ตอนนี้นิยายแปลราคาทะยานเกิน500ไปมากละ

552 Nameless Fanboi Posted ID:92zDOyDyJ3

กุเคยอ่านเจอมีคนมาเล่าว่าเป็นนักเขียนแนวบทกวีแต่ขายงานไม่ได้คนไม่ซื้อไม่มีแดก ต้องแยกนามปากกาส่วมโม่งเขียนนิยายขายเสว 29 39 89 109 บาทอะไรแบบนี้ ถึงได้มีเงินมาทำงานกวีที่รัก แต่กุว่าดูสภาพตอนนี้เรื่องเสวยังขายยากเลยมั้ง

553 Nameless Fanboi Posted ID6:ZlDaz5vnJK

>>552 ขายยากจิงงง ต้องตัวท้อปๆสายเสวเลยมั้งถึงยังขายดีอยู่ กูก็จ้างคอมมิชไปเยอะเพราะปีสองปีก่อนได้เงินดีอยู่ มาตอนนี้หมุนเกือบไม่ทันเลย เงินลดฮวบฮาบ พวกนูกูสู้ๆเด้อ ทำสายเขียนเป็นอาชีพไม่ได้ก็อย่าทำให้มันมาสร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจเลย T_T (กูบอกตัวเองด้วย)

554 Nameless Fanboi Posted ID6:pKPbhxXI/T

>>553 เห็นด้วยว่ะ ถ้ามันไม่ได้จริงๆ ก็วางมันลงก่อนแล้วจัดลำดับความสำคัญใหม่ ว่ามันคุ้มจริงเหรอที่ต้องทุ่มชีวิตให้มัน

กูหยุดเขียนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มาอาทิตย์นี้รู้สึกกระปรี่กระเปร่าชิบหาย ทั้งที่ก่อนหน้านี่ซึมจนทำอะไรไม่ได้ มาตอนนี้กูกลับเข้ายิมเล่นฟิสเนตละ มาเบิร์นไขมันทิ้งหน่อย หลังจากนอนอ้วนมาทั้งปี

555 Nameless Fanboi Posted ID:bQY7.z7VmZ

ขอถามพวกมึงหน่อย งาน 18+ ของพวกมึงเวลาลงรี้ดเนี่ย มึงติดบัตรกันป่ะ กูอยากลงงานเรท แต่งานกูมันวานิลาธรรมดาไม่ได้โลดโผนอะไร ถึงจะบอกว่า 18+ แต่ฉากเยแม่งมีไม่กี่ฉากด้วย จะติดบัตรเพื่อจะอ่านฉากเยของกูไม่กี่ฉากในเรื่อง กลัวคนจะผิดหวังว่ะ ไม่ได้อยากให้คาดหวังว่าติดบัตรจะได้อ่านอะไรเสวๆต้องให้คน 18+ มาอ่านเท่านั้นน่ะ

556 Nameless Fanboi Posted ID6:DZ7fM0Ld22

>>555 ไม่ต้องติด

557 Nameless Fanboi Posted ID6:bK7ViyJAQZ

>>556 แล้วมันต้องขนาดไหนถึงจะติดบัตรกันวะ แอบอยากรู้มาตรฐานจะได้จำไปใช้ ไม่ใช่ไร เดี๋ยวพอกูไม่ติดบัตรแล้วจะมีคนโวยวายเอา

558 Nameless Fanboi Posted ID:KPf83esaXj

>>557 กุเห็นนักเขียนดังจะติดบัตรกรณีเนื้อหามัน problematic บางส่วน เช่น พระเอกธงแดง นางเอกขายตัว ไรพวกนี้ แต่สำหรับสายฉอด ถ้ามึงถูกหมายหัวไว้แล้วก็ไม่รอดหรอก 55555

559 Nameless Fanboi Posted ID6:bK7ViyJAQZ

>>558 กูไม่ดัง ฉอดไม่มาลงหรอก 555555

560 Nameless Fanboi Posted ID6:fwl66PhlCV

>>557 แล้วมึงบอกว่างานมึง 18+ ด้วยสาเหตุไรวะ ฉากเยวานิลาไม่กี่ฉากอีก หรือมึงบรรยายลึกถึงขั้นทุกจังหวะ สวบผลัก เย เค อะไรพวกนี้เหรอวะ คือกุว่าเลิฟซีนไม่กี่ฉากที่บรรยายเลี่ยงหน่อยไม่ได้เน้นปลุกอารมณ์เสือป่าเกินไปมันก็โอเคนะที่จะไม่ติดบัตร
มึงลองสมมุติว่ามึงมีน้องมีนุ่งที่อายุต่ำกว่า 18 แล้วมึงอยากให้เค้าอ่านงานแบบนี้มั้ยก็ได้ ถ้าชั่งใจตรงไปตรงมาแล้วไม่อยากก็ติดบัตรซะ
แต่ถ้ามึงเองก็ต่ำ 18 เหมือนกัน อันนี้กุก็ไม่รู้แล้วแฮะ

561 Nameless Fanboi Posted ID6:bK7ViyJAQZ

>>560 ฉากเยถึงมีไม่กี่ฉากแต่กูก็จัดเต็มน่ะ อาจจะไม่ได้บรรยายว่าเสียวกีจังค่ะ แต่ก็บรรยายตั้งแต่ต้นยันจบ เลีย อม ดม กลืน โยกไรงี้ ไม่แพนเข้าโคมไฟแน่นอน 5555555555 ถ้าจะบอกแม่ง 18+ มันก็มีเนื้อหาด้านอื่นด้วย จริงๆฉากเยแม่งแค่ 10% ของเรื่องด้วยซ้ำ แถมกว่าจะเยก็กลางเรื่องค่อนไปทางท้ายๆละ ไม่ได้อยากให้คิดว่าติดบัตรต้องอ่านอะไรเสียวกีทั้งเรื่องเพราะกลัวจะผิดหวังเอา

562 Nameless Fanboi Posted ID:KPf83esaXj

>>561 ไม่ต้องติด นักเขียนที่อีฉอดทั้งหลายอวยเช้าอวยเย็น นิยายมาทั้ง เน้ด หลี กรวย มันยังลงหมวดวัยรุ่น ไม่ติดบัตรกันเลย ขายกับแบบใสๆ แต่ข้างในเป็นเหล้าขาว โดนเม้ดแบนมาแล้วด้วยซ้ำ อีฉอดยังช่วยนักเขียนเถียงเลยมึง ใครมาฉอดเพราะเลิฟซีน กุสนับสนุนให้มึงด่ากลับ ประสาทแดกเกิน

563 Nameless Fanboi Posted ID:RxguTzRkfO

>>562 ขอ'ญาตถามแทรก งั้นเรื่องที่กูติดไปแล้วในเม้บจะเอาออกยังไงอ้ะ กูเข้าไปดูตรงจัดการหนังสือ มันไม่ได้มีให้ติ๊กออกแบบในรี้ดเลยว่ะ

564 Nameless Fanboi Posted ID6:ZlDaz5vnJK

>>563 อาจต้องลองส่งเมลไปคุยว่ะ ของกูก็มีเรื่องนึงติดไป แต่พอมาเจอนิยายหลายๆเรื่องที่แรงกว่าแถมแอบสอด ฮี้ ครวย แตรดคือเอ้า กูติดทำไมเนี่ย555 อย่าหาติดเชียว จะขึ้นแบนเนอร์เม้ดก็ไม่ได้เลยนะถ้ามีคำว่า 18+ เป็นป้ายตามหลังนิยายอะ เม้ดนี่แบนเนอร์ขึ้นง่ายขึ้นไวสุดละ แต่ไม่ค่อยรับประกันยอดขายที่เพิ่มขึ้นเท่าไหร่ อย่าไปหวัง55

565 Nameless Fanboi Posted ID:RxguTzRkfO

>>564 งั้นกูลองเมล์ดู ขอบคุณนะมึง

566 Nameless Fanboi Posted ID6:sBiPaLBkmU

Kyเพื่อนโม่งเคยเบื่อนิยายที่ตัวเองเขียนไหม แบบพอเขียนจบก็อยากหนีไปเลย

567 Nameless Fanboi Posted ID:aEu7F9wyGZ

>>566 มึงเครียดเกินแล้วแหละ ทำเป็นอาชีพเหรอวะ ถ้าไม่มีอะไรบีบคั้นจนดิ้นไม่ได้ มึงก็ไปหาเวลาพักคืนกำลังใจ คืนความมีชีวิตชีวาสักพักก่อนเหอะ แล้วค่อยกลับมาทำต่อ

กุเคยเบื่อเป็นพักๆ เวลาเครียดจัดเบื่อจัดจะอ่านไรแม่งก็ไม่สนุกทั้งนั้น แต่พอผ่านสักพักแล้วกลับมามองมันใหม่ก็จะรู้สึกสนุกขึ้นมาได้เอง

อีกตอนคือตอนเกลาคำกับพิสูจน์อักษร ทำแล้วโคตรเบื่อนิยายตัวเองเลย ทำเสร็จคือต้องวางเป็นอาทิตย์ ถึงจะพอกู้ความรักในงานคืนกลับมาได้

568 Nameless Fanboi Posted ID6:XVqTf3VA/5

>>566 กูเป็นอยู่เนี่ย ยอดคนอ่านไม่ได้ตามที่คาดและสิ้นหวังมากทั้งที่กูเขียนไปสต๊อกไว้แล้วตั้งหลายเล่ม

ผลที่ได้ก็คือกูไม่มีใจจะเขียนต่อละเนี่ย ตอนนี้กูเลยดรอปงานนี้เอาไว้ก่อน พักหาอะไรอย่างอื่นทำไปใช้ชีวิตบ้างละ จากที่วันๆ ในหัวมีแต่นิยายคิดเนื้อหาตอนต่อไปเกือบ 24 ชั่วโมงจนทำอะไรก็ไม่สนุก พอดรอปปุ๊บกูมีอารมณ์กลับไปนั่งเล่นเกมยันเช้าเหมือนเมื่อก่อนเลย

569 Nameless Fanboi Posted ID6:XVqTf3VA/5

แต่จะว่าไปตอนนี้กูกำลังคิดมากอยู่เกี่ยวกับพล๊อตใหม่เหมือนกันว่ะ

คือพล๊อตคิดได้นะ ได้ไอเดียมาจดไว้หลายอันละ แต่พอคิดออกมาคำถามแรกที่ขึ้นมาในหัวกูเลยคือ มันขายได้เหรอ? จะมีคนอ่านเหรอ? หรือไม่ก็ จะไปรอดในยุคนี้เหรอ? ตลอดเลยว่ะ จนตอนนี้กูไม่มีความมั่นใจว่าจะเขียนเรื่องที่คิดออกมายังไงดีกันเลยว่ะ เพราะกลัวว่าเขียนมาขายไม่ได้อีกจะทำให้เสียเวลาชีวิตไปเป็นเดือนๆ กับเขียนให้เสร็จแต่ละเล่ม

ผลคงมาจากเรื่องก่อนหน้ากูมั่นใจมากว่าจะขายได้ แต่เอาจริงกลับแทบไม่มีใครแตะนั่นล่ะ

570 Nameless Fanboi Posted ID:eIQRVvJ6tg

>>569 เป็นนข.อย่าคิดเยอะ ยิ่งคิดเยอะจะยิ่งคาดหวังเยอะ หรือถ้าคาดหวังแล้วได้กลับมาในทีแรกเลย ต่อไปพวกมึงก็จะคาดหวังสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่จบสิ้นหรอก แม่งอยู่กับความเฟลวนไปอ่ะ ได้ 10 ก็อยากได้ 100 ได้ 100 เดี๋ยวก็อยากได้ 1000 แต่แล้วงานมึงมึงจะดันมันให้ไปถึงจุดนั้นไหวมั้ยอ่ะ อยากได้คนเข้ามาอ่านเพิ่มเม้นเพิ่มก็ต้องพยายามเพิ่ม นั่งเขียนอย่างเดียวก็ไม่รอด ต้องวิ่งโปรโมท จ้างรีวิว ล่าสุดแจกโดเนทอีก สารพัดพวกนั้นจะทำไปตลอดไหวมั้ย
อยากแนะนำมึงว่า "ช่างพ่อดีกว่า" มึงต้องบ้ามากพอถึงจะอยู่กับงานทุกลมหายใจจนกว่ามันจะประสบความสำเร็จได้ ถ้ามึงยังไม่บ้า มึงหนีไปเล่นเกมอ่ะถูกแล้ว
ส่วนงานเรื่องใหม่มึงกลัวก็ดีแล้ว งานเรื่องก่อนมึงไม่กลัวอ่ะดิ เขียนล่วงหน้าไปซะหลายเล่ม แต่มึงก็อย่าคิดเยอะเกินไป คราวนี้ลองเขียนทีละเล่มแล้วก็แอบอู้ไปทำอย่างอื่นบ่อยๆ เอาทีละตอนรายอาทิตย์เลยก็ได้ เวลาคาดหวังมันจะคาดหวังนิสเดียว จากที่เคยคาดหวังก้อนโคตรใหญ่ 55555555
>>566 พูดรวมกันไปเลย วันไหนเกิดเบื่อขึ้นมาก็ปกติ พวกมึงก็หนีเลย ไปตั้งอัปตอนกับลงขายอีบุ๊กเสร็จปุ๊บหนี อย่าอยู่กับงานตัวเอง 24 ชม.นะ ผัวเมียอยู่บ้านด้วยกันบ่อยเกินไปยังเบื่อหน้ากัน5555555

พ้อยต์ของกูคือ 'อย่า' เอาทั้งใจไปลงกับนิยาย แล้วไม่ต้องเอาตัวตนไปผูกติดกับความสำเร็จของมัน ได้อย่างที่หวังก็ยิ้มรับ ไม่ได้ก็ช่างพ่อ ท่องไว้ "ถ้ากูไม่เขียนโลกนี้ก็ไม่มีใครได้อ่าน ไอ้กูเองก็ไม่ได้อ่าน ไม่มีใครอ่านก็มีกูได้อ่านฟรีตั้งแต่ต้นจนจบคนนึง"55555555

แล้วถ้าใครมาเขียนเพราะจะหารายได้เลยคาดหวัง บอกตรงนี้เลยว่าตอนนี้มึงยังหนีทัน ให้รีบหนี มึงไม่รีบเดี๋ยวค่าปกบานตะไท ขาดทุนยับๆ ไม่มีทุนไปทำอย่างอื่นต่ออีก5555555

571 Nameless Fanboi Posted ID:ciN30ugL0y

>>570 เอาไปตบหน้าบทความพวก "เขียนนิยายหาเงินได้ง่ายนิดเดียว" กับ "รวยง่าย ๆ แค่เพียงเขียนนิยาย" เหรอวะ 555
ทุกวันนี้เห็นเมื่อไหร่มองบนเลยกู 555555

572 Nameless Fanboi Posted ID:7grtsDulGu

>>566 ขนาดเขียนยังไม่จบกุยังเบื่อเลยมึง โคตรเห้ 5555
>>567 กุเก้ทตอนพสอษ.มากกก อ่านทวนจนอ้วกจะแตก แม่งก็ยังมีหลุด จะเครซี่
>>570 กูชอบความคิดเพื่อนโม่งมาก อยากจะอคปเก็บไว้เลย 55555 ไอ้เรื่องอย่าเอาใจไปลงเต็มร้อยเนี่ย แม่งโคตรจริง ทุ่มเยอะเกินมันจะเครียดอะ อย่างที่โม่งบน ๆ ว่า ตอนแรกคิดพล้อตก็หนุก เขียนแรก ๆ ก็หนุก จนโฟกัสกับมันทั้งวันทั้งคืนใช้สมองเกิน 100% ไป ๆ มา ๆ แม่งเบื่อชิบหาย จู่ ๆ ก็คิดว่างานกุแม่งสนุกมั้ยนิ 5555 เจอแบบนี้กุต้องถอยออกมาก่อน บางทีต้องรอให้ลืมที่เขียนไป พอห่างกันแล้วเอากลับมาอ่านใหม่ก็หนุกเหมือนเดิม ฟีลผัวเมียละเหี่ยใจเหมือนที่ว่าเลย 5555 บางทีมันเบื่อเพราะเรารู้ทุกอย่างอยู่แล้วอะมึง คือรู้ทุกเม็ดตั้งแต่ต้นจนจบ แต่เวลานักอ่านมาอ่านเขาไม่รู้เรื่องกับเราไง ก็ลุ้นตื่นเต้นเหมือนปกติ กุถึงต้องรอให้ลืมก่อนเนี่ย 555

573 Nameless Fanboi Posted ID:7grtsDulGu

ต่ออีกนิด มาแชร์ปสก.ละกันว่ากูก็นข.นูกูคนนึง เขียนแนวอินดี้ตามใจกุจัด ๆ งานแทบขายไม่ได้ 55555 แต่ก็ยังหน้าด้านเขียนต่อด้วยแนวคิดแบบ >>570 เลย คือถ้ากุไม่เขียนกุก็ไม่ได้อ่าน 5555555 กุเขียนมาสนองนี้ดตัวเองล้วน ๆ อ่านงานคนอื่นละขัดใจ อยากอ่านแนวนี้แต่หาคนเขียนไม่ได้ ก็เขียนเองแม่งเลยสิครับ 555 ถ้ามีคนอ่านด้วยก็ดี ถ้าไม่มี อย่างน้อยกูก็คือเอฟซีตัวเอง คุณไรท์เก่งมาก อวยตัวเองจ้ะ 55555 ใครทำเป็นอาชีพนี่แหละจะเครียด ตอนนี้ใครมาขอคำแนะนำถามว่าเป็นนข.ฟูลไทม์ดีมั้ยกูคงแนะให้ไปทำมาหากินอย่างอื่นเหอะ ถ้าไม่ได้ปังแบบได้เรื่องละหลายหมื่นแน่ ๆ เนี่ย บอกเลยอยู่ยาก ยิ่งเครียดยิ่งเขียนงานไม่ออก ไปทำงานออฟฟิศกิ๊กก๊อกอย่างน้อยก็ได้เงินทุกเดือน ว่างๆ ค่อยเขียนนิยายไป เรื่อย ๆ ไม่ต้องกดดัน เสร็จเมื่อไหร่ก็ขาย ขายได้นิดหน่อยก็ถือเป็นค่าขนม ไม่ซีเรียส ดีกว่าเป็นเครื่องจักรเขียนนิยายยี่สิบสี่ชั่วโมง เขียนไม่จบก็ไม่มีตังแดกข้าว ขายไม่ได้ขาดทุนก็เสียสุขภาพจิตอีก มีแต่เสียกับเสียเด้อ

กุว่างานเขียนมันก็คือแพชชั่นอย่างหนึ่งอะ ถ้ามีใจรักก็เนรมิตออกมา เหมือนวาดรูปเล่น อ่านนิยายเล่นนี่แหละ บางทีอาจจะชอบเป็นงานอดิเรก พอทำเป็นงานจริงจังแล้วดันเกลียดแม่งไปเลย เป็นนว.เจอลูกค้าเรื่องมากสั่งแก้เอา ๆ เป็นบ.ก.ต้องอ่านงานคนอื่นจนตาแฉะ พสอษ.จนอ้วกแตก แทนที่จะได้วาดรูปเล่น อ่านนิยายฟริน ๆ สรุปพอมีเวลาว่างปุ๊บขยาดจนไม่อยากแตะ 5555 งานเขียนก็เหมือนกัน กุบอกเลยนะพวกคอร์สขายฝันอย่าง >>571 นี่แม่งมอมเมาเยาวชนชิบหาย ขอมองบนด้วยคน ไอ้พวกขายคอร์สแม่งเป็นใครวะ นข.ดังหลายคนยังพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่างานมันไม่มั่นคง คุณพี่เป็นใครมาบอกว่า "งานง่าย ๆ" นี่ยังไม่รวมคนนอกวงการที่เห็นนข.อวดยอดเงินแสนเงินล้านละคอมเม้นว่าเงินดีจุง เอาบ้างดีกว่า กุอยากหัวเราะฟันหัก คุณพี่มาลองดู๊ มาาาา

574 Nameless Fanboi Posted ID6:sBiPaLBkmU

>>570 กูชอบที่มึงพิมพ์มาก😍 แต่มึงช่วยกลับมาให้กำลังใจกูอีกสัก2-3พารากราฟได้ไหมมมม กูหนีไม่ทันแล้วววว

575 Nameless Fanboi Posted ID6:TGsfhnXkdd

>>574 โอเค กู 570 ขอกลับมาให้กำลังใจเพื่อนๆ นาน ๆ ทีได้เข้ามาพอจะช่วยอะไรได้กูก็ดีใจ ฮือ

ใครที่หนีไม่ได้หรือไม่อยากหนี คือใจมึงรักตรงนี้ไม่อยากไปไหนแล้ว (เหมือนกูที่กลับมาตายรังที่การเขียนนิยายเหมือนเดิม) คืออย่าโทษตัวเองทุกครั้งนะว่าเพราะมึงเขียนแบบนี้แบบนั้นมันเลยไปไม่รอด มึงไม่ต้องโบยตีตัวเองหรือรู้สึกว่าทำผิดพลาด ทุกอย่างเป็นความผิดของมึงขนาดนั้น ตลาดมันเหี้ย เศรษฐกิจ​ก็เหี้ย สังคมแม่งก็เหลี่ยม วงการนี้มันมีนักอ่านมาด่านข.ที่ติดเหรียญตอนละ 3 บาทอ่ะ มึงว่ามันเป็นวงการแบบไหนล่ะ
ถ้ามึงเลือกที่จะมาอยู่ในไอ้วงการแบบนี้แล้ว เห็นมันเหี้ยห่าบ้าบอขนาดนี้แต่มึงก็ยังไม่อยากหนี มึงก็ต้องมีเวลาที่ตอบตัวเองได้ว่า บางอย่างมึงทำผิดพลาด หรือมึงแค่ทำผิดที่?

กูเชื่อว่าพวกมึงทุกคนมีงานดี ๆ ที่พยายามเขียนออกมาให้โลกเห็นอยู่ตอนนี้ แต่วงการนี้มันไม่ได้มีแสงพอสำหรับทุกคน แล้วมันก็ไม่มีอะไรเป็นตัวบอกว่ามึงต้องทำยังไงถึงจะได้เข้าไปอยู่ในแสง เพราะฉะนั้นมึงจงจำไว้ ถ้ามึงจะผิดเรื่องอะไร มึงคงผิดที่มึงแค่ไม่ขายวิญญาณ 5555555

ต่อให้มึงขายวิญญาณเขียนงานตลาดได้นะ ก็ไม่ได้แปลว่าคนจะซื้อ กูเคยเจอบางเรื่อง ยอดวิวเป็นล้าน ขายอีบุ๊กได้รีวิวไม่ถึง 10 ป้ายแดงยังไม่มี เส้าชิบหาย 5555555

เราเป็นนข. เราก็อยู่กันไปแบบนี้แหละมึง อยากรวยอยากดังให้ไปทำอย่างอื่น ให้มึงดังเปรี้ยงในวงการ มักเกิ้ลแม่งก็ไม่ได้รู้จักมึง 555555 ถ้ามึงรับได้ว่านี่คือสภาพความเป็นจริง มึงก็จะไม่ทุกข์มาก เขียนไปเรื่อยๆเพลินๆอาจจะมีวันที่แมสขึ้นมาแบบงงๆใครจะไปรู้
สำคัญคือ ถ้าทำได้มึงอย่าเพิ่งยอมแพ้จนกว่าจะถึงวันนั้น ให้เซฟพลังงานจะได้รันยาวๆ
กูเชียร์ให้พวกมึงทุกคนเขียนอย่างสบายใจ ถ้าผลตอบรับไม่ดี มึงลองด่า "ไอ้ตลาดชายหญิง/ตลาดวายเหี้ยๆ" ดูบ้าง

งานมึงจะดีไม่ดีไม่รู้ล่ะ วันไหนที่สิ้นหวังแนะนำให้ไปส่องงานหัวตาราง Top แล้วถามใจตัวเองว่ามึงอยากเขียนแบบนั้นหรืออยู่ดี ๆ ก็รู้สึกภูมิใจในฝีมือตัวเองขึ้นมาทันที 5555555555

เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะ ขอให้มีวันที่ได้เจองานพวกมึงส่องแสง แสงไม่มาสักทีก็ "ช่างพ่อช่างแม่มัน พลาดของดีละ ไม่มาอ่านงานกู" 55555555555555555

576 Nameless Fanboi Posted ID:ciN30ugL0y

>>575 พูดได้ดี
มึงควรผันตัวไปเขียนแนว self help ขายให้นักเขียนนิยายที่สิ้นหวังจากบรรดาคอร์สและบทความขายฝัน กุว่าอาจจะไปรุ่งกว่าก็ได้นะมึง ลูกค้ากลุ่มนี้น่าจะเยอะพอๆกันและยังไม่มีคนจับตลาดนี้ว่ะ 5555

577 Nameless Fanboi Posted ID6:sBiPaLBkmU

>>576 มึงอ่ะ ขำว่ะ55555
แต่มันไม่ขายฝันดีจริง นี่กูมาแคปไว้อ่านยามท้อเลย ขอบคุณ575มากเว้ย ว่างๆมึงมาอีกนะ

578 Nameless Fanboi Posted ID:eIQRVvJ6tg

>>576 ไม่ได้สิวะ ตัวข้าไม่อยากสร้างศัตรู 555555

กูว่าใครอยู่ไปนานๆ เอาสัก 10 ปี เดี๋ยวก็คิดแบบกูเองอ่ะ ไอ้พวกไลฟ์โค้ชขายฝันช่างหัวพ่อมัน เหมือนหลอกคนมาลงนรก เรียนคอร์สวาดรูปยังรู้วิธีวาดรูปให้สวยขึ้น เรียนคอร์สเขียนนิยายเมืองไทยกูไม่รู้เลยว่ากูจะได้อะไรกับการสอนวิธีเขียนนิยายให้มีคนอ่าน กูถามจริง ๆ นะ มีนิยายเป็นแสน นข.เป็นหมื่น นข.ดังเป็นสิบ คนไปเรียนพวกนี้เนี่ยยอดฟอลแอคถึง 10 คนยังสัด เอาแค่บารมีดึงดูดคนมึงก็ไม่มีแล้ว
คอร์สพวกนี้มันไม่เวิร์กเพราะวงการนี้มันไม่เคยแฟร์ มึงพยายามเท่ากันกับนข.ดัง ลองทำแบบนข.ดัฝ มึงก็ไม่มีทางได้เท่ากับนข.ดัง มึงต้องพยายามมากกว่าเขา 5 เท่าหรือ 10 เท่า แต่ทำไปแม่งก็ยังการันตีเหี้ยอะไรไม่ได้ ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นเรื่องของจังหวะเวลาที่ถูกต้องกับโชค กับความอึด

กูว่าพวกมึงอ่ะไม่ได้อยากได้กำลังใจมากหรอก มึงแค่อยากได้อะไรที่จะมายืนยันว่าสิ่งที่พวกมึงทุ่มเททำ มึงไม่ได้เสียเวลาเปล่า
กูก็จะบอกว่ามันไม่เสียเปล่าแน่นอน ลูกมึงถึงจะไม่ดังก็ยังเป็นลูกมึงที่ไม่มีเรื่องไหนมาแทนได้ ลูกมึงถึงจะไม่ได้พามึงรวยมึงก็สร้างมาเองกับมือไม่มีใครได้มาช่วยมึงเลี้ยง เหมือนที่เขาว่าใครเขียนได้จนจบสักเล่มก็โคตรเก่งแล้ว มันคือผลงานที่ไม่ใช่ใครก็ทำได้ เดี๋ยวนี้คนแม่งชอบบอกว่านิยายใครก็เขียนได้ คนไทยทั้งปท.เป็นนข. แม่งเขียนบนเอ๊กเธรดเดียวก็เบื่อเลิกอ่ะดิ
แต่พวกมึงเขียนได้จนจบเล่มตั้งแต่ยังไม่มีใครได้อ่านสักคนไม่มีแสงสักแอะ มึงกอดตัวเองกับลูกมึงให้เยอะ ๆ เลย วันพรุ่งนี้มาพยายามกันใหม่

579 Nameless Fanboi Posted ID6:R3w11frHMf

>>575 กูขอกราบเพื่อนโม่งให้ข้อคิดดีมากเลย

กู >>568 เองเคยเลิกเขียนไปหลายปี น่าจะราวๆ 5-6 ปีได้เพราะการงาน แล้วเพิ่งกลับมาเขียนเมื่อปีที่แล้วนี่เอง มันเป็นงานอดิเรกแค่ไม่กี่อย่างที่กูทำมาตลอดตั้งแต่สมัยยังเบียวๆ กูเลยหวังจะหารายได้จากงานอดิเรกบ้าง แต่ผลสุดท้ายกลายเป็นว่าให้ความสำคัญกับมันมากเกินไป เกินกว่าจะเป็นงานอดิเรกจนมันย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองอย่างที่ว่าจริงๆ อะ

มากขนาดไหนก็ขนาดกูเอาเวลางานเกือบครึ่งมาเขียน ยอมสละเวลาเล่นเกมทั้งปีมาปั่นงาน จ้างวาดปกราคาหลักหมื่น ใช้เวลาเป็นเดือนๆ ในการ Rewrite เติมแต่งให้มันสมบูรณ์ โดยคาดหวังว่าจะได้รับเสียงตอบรับดี เรียกได้ว่าแม่งตั้งใจเขียนเต็มที่อะ

แต่ถึงงานนี้จะเฟล กูก็รู้สึกว่าทิ้งมันไม่ลงว่ะ ส่วนหนึ่งก็คงเขียนไปเยอะ แต่อีกส่วนก็คือเดิมทีกูเขียนงานนี้เพราะชอบด้วย ขนาดพักงานเขียนมาอาทิตย์กว่าพยายามไม่นึกถึงมัน อยู่ๆ ก็มีพล๊อตโผล่มาในหัวเฉย จนกูคันมืออยากจะกลับไปเขียนต่อละเนี่ยทั้งที่พักมาอาทิตย์เดียวเอง

แล้วล่าสุดแม่งทำกูใจฟูมาก คือนิยายกูมีแต่นักอ่านเงาขาประจำราวๆ 20 คน ที่จะเข้ามาอ่านอย่างเดียวแต่ไม่คอมเม้นท์อะไร ลงงานไปจะ 80 ตอนละคอมเม้นท์มียังไม่ถึง 10 แต่วันนี้พอลองเข้าไปเช็คดูก็พบว่าในที่สุดก็มีคนอ่านใหม่มาคอมเม้นท์ บอกว่าสนุกกับเนื้อหาที่กูเขียนด้วย ซึ่งสำหรับกูที่กำลังเฟลในตอนนี้ ได้แค่นี้แม่งก็ทำเอาน้ำตาคลออยากจะเขียนต่อแล้วว่ะ

แต่คงลดความสำคัญลง ไม่ให้มันมาเบียดเบียนชีวิตปกติน่าจะดีกว่า ก่อนหน้านี้จริงจังเกินเล่นซะชีวิตไม่มีความสุขเลย

580 Nameless Fanboi Posted ID:TdCGLfhX3V

>>577 ยินดี ๆ ขอบคุณพวกมึงที่กล้ามาระบายความทุกข์ของพวกมึงเหมือนกัน
หมดคืนนี้กูคงไม่มาอีกยาว5555 ขอทิ้งท้ายว่าพวกทุกข์ ๆ อย่างเราก็คือนข. 99% ในวงการนี้
สักวันเราอาจจะได้หลุดจาก 99% ก็ได้ แต่ตอนที่ยังไม่หลุดก็อ่านงานตัวเองให้มีความสุข เพลิน ๆ ไป มีเพื่อนอ่านเป็นยอดวิวหลักหน่วยหลักสิบยังดีกว่ายอดวิว 0 เพราะไม่เคยกดเผยแพร่เลย
ลองนึกภาพวันที่มึงมีงานที่แมสขึ้นมาได้ วันนั้นงานที่ยังไม่แมสของมึงพวกนี้จะเป็นหลักฐานว่าที่ผ่านมามึงพยายามมามากแค่ไหน จะโคตรภูมิใจ บอกเลย ❤️
เจอกันต่อในนรกนักเขียน~

581 Nameless Fanboi Posted ID:Lknqx2mk7I

>>580 กุชอบคห.เพื่อนโม่งมากเลย ขอแคปเก็บไว้เหมือนกัน ทรงเหมือนผู้นิพพานอะ (ชม) 555555 ไม่รู้มาทันมั้ย แต่ไหน ๆ แล้วก็ขอเสียมารยาทหน่อย คิดแบบนี้ได้ (ชม) พส.อายุ 30 ยังวะ 5555 อยากรู้วัยเพื่อนโม่งคนอื่นในมู้นี้ด้วย คือถ้าเราอยู่คนละรุ่นกันก็อยากสอบถามแลกเปลี่ยนปสก.น่ะ 555

ส่วนตัวกุนี่เด็ก gen z สมัยม.ต้นอ่านนิยายละก็เพ้อ อยากเป็นนข.มั่ง 5555 ทีนี้พอโตมา ปรากฏว่าทิศทางวงการนิยายมันเปลี่ยนไปมากก ToT จากที่ตั้งใจจะเป็นนข.สนพ. สนพ.แม่งก็ดันไม่ค่อยรับงานชญ. *ถ้าเทียบกับสมัยก่อนนะ* ที่เคยรุ่งโรจน์อย่างยามเช้างี้ ปจบ.หันไปเอาดีกับงานแปล สนพ.อื่นก็จับตลาดวาย นิยายชญ.ของนข.ใหม่ ๆ แทบจะไม่มีที่ยืน คนอ่านหดหายไปไหนหมดไม่รู้ ค่าหนังสือแพงขึ้น เสดกิจอุบาดขึ้นทุกวัน เรียกว่าปจบ.แม่งต่างจากที่กุในวัยใส 10 ปีที่แล้วคิดฝันพอสมควร ToT แต่ยังไงตอนนั้นกุก็ยังโตไม่ทัน ไม่รู้ว่าจริง ๆ ในวงการเป็นยังไง เทียบกับตอนนี้มันดีกว่าหรือที่จริงแย่กว่า ใครมีปสก.มาเล่าให้ฟังบ้างนะ

582 Nameless Fanboi Posted ID:Lknqx2mk7I

เอ้อ เวลานข.เก่า ๆ หายไปทีละคนก็ทำเอาเศร้าเหมือนกัน TT ขนาดบางคนเคยเด่นดังก็ยังไม่ใช่ดาวค้างฟ้า มีเกิดมีดับตามสัจธรรมชีวิต คิดไปคิดมาวงการนี้ทำกุปลงจนจะละทางโลกแล้วเนี่ย 55555 คนอื่นอาจจะล้มหายตายจากไปเพราะท้อ เดี๋ยวกุหน้าด้านสู้ต่อเอง สักวันคงมีตำนานนข.นูกู จู่ ๆ ก็แมสขึ้นมา 55555 เขียนไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังเขียนเด่วก็มีวันของกุเองแหละมั้ง 5555 เป็นกำลังใจให้คนอื่นด้วยนะ จุ๊บ ๆ

583 Nameless Fanboi Posted ID6:8cjxLSy/he

กูมาแคปมึงเช่นกัน ดูไม่ขายฝันดี ชอบตรงกูได้อ่านงานกูฟรีนี่แหละ กูชอบของฟรี5555

584 Nameless Fanboi Posted ID:tyErxPXRP7

กุอยากให้เพื่อนนขกุคิดได้แบบโม่งบนจังวะ เคยบอกมันว่าไม่ใช่งานหลักอย่าไปคิดมากเรื่องยอดแต่มันเพอเฟคชั่นนิสไม่ปล่อยเรื่องยอดจนทอกซิคคนอื่นไปทั่ว ใครบ่นขำๆมันก็ตามไปโพสตัดพ้อว่ามันยิ่งลำบากกว่า แรกๆคนก็ยังห่วงหลังๆกุไม่ไหวละ ปล่อยให้บ่นคนเดียวไป

585 Nameless Fanboi Posted ID:AxJps/G8If

>>584 เพื่อนมึงนี่เหมือนเพื่อนกูเลย เป๊ะ ท็อกซิกคนอื่นเค้าไปทั่วเนี่ย ทางกูนี่ติงไม่ได้ด้วยนะดิ่งทันที ดราม่าควีน นักอ่านติก็นอยด์เพื่อนติก็นอยด์ งานออกกี่เรื่องก็เหมือนเดิมไม่พัฒนา แต่ขยันเดินหน้าท็อกซิกคนอื่นต่อไป

586 Nameless Fanboi Posted ID6:ltRG+W+mNs

Kyขอถามนักเขียน กูเคยเห็นคอมเม้นเชิงลบในช่องรีวิวนิยายเรื่องนึงของเมด แล้วมีคนมาตอบคอมเม้นนั้น3-4คอมเม้น แบบแซะกัน วันนี้กูจะเข้าไปเสือกดูว่าเขาโต้ตอบกันไปถึงไหน แต่มันหายไป หาไม่เจอ คำถามคือนักเขียนสามารถลบคอมเม้นได้เองเลยใช่ไหมวะ หรือต้องแจ้งเมดมาลบให้ หรืออย่างไร อดเสือกเลยกู555

587 Nameless Fanboi Posted ID6:Zlo07rBGne

มีใครทำงานประจำแล้วเขียนนิยายมั้ยวะ ทำไงให้ไม่หมดไฟ ไม่หมดแรงวะ คืองานประจำกูหนักมากกกก งานโปรเจคอ่ะ ไม่มีวันจบสิ้น ทีนี้กูเขียนนิยายลง รอร. ผลตอบรับก้โอเค แล้วตอนเขียนกูประณีตมาก ตั้งใจมาก มีค.สุขมากที่ได้เขียน รักตัวละครที่เสกขึ้นมามากๆ จนเหมือนเป็นเพื่อนอยู่ช่วงหนึ่งเลย ตัดภาพมาปัจจุบัน ดองได้เดือนกว่าๆ ละ หมดแรงใจจะทำสุดๆ ทำไงดีวะ อยากเอาให้จบ 🥹🥹

588 Nameless Fanboi Posted ID:M0m+oKfCE3

>>586 ถ้าเป็นเม้นท์ที่ขึ้นว่าซื้อแล้ว นักเขียนลบเองไม่ได้นะ แล้วปกติเม้ดก็ไม่ลบสุ่มสี่สุ่มห้า นักเขียนอาจเมลไปแจ้งเม้ดให้ช่วยลบแล้วเม้ดเห็นสมควรลบ หรือไม่ก็คนเม้นท์มาลบเอง

589 Nameless Fanboi Posted ID6:BxGXhC0YjK

>>588 ถึงไม่ซื้อ ก็ลบเองไม่ได้ว่ะ แต่ถ้าไม่ซื้อ ขอให้ลบจะลบให้เลย แต่ถ้าซื้อ จะลบยาก ส่วนใหญ่ไม่ลบให้ด้วย

590 Nameless Fanboi Posted ID:M3M5a.0BxJ

>>589 ถ้าไม่ซื้อ เจ้าของเรื่องลบเองได้เลยเพื่อน เพราะกุเคยลบ พวกมาป่วน 555555

591 Nameless Fanboi Posted ID6:BxGXhC0YjK

>>590 อ้าววววห่าเอ๊ยตอนนี้ลบเองได้แล้วเรอะ เพิ่งรู้ กูรีบไปลบเลยเชียว แม่งกูขี้เกียจเมลไปหาเลยปล่อยไว้ตั้งนาน อัพเดตเมื่อไหร่ม่ายรู้ววว

592 Nameless Fanboi Posted ID6:BxGXhC0YjK

>>590 แต๊งมาก รีวิวกูกลับมาเกือบ 5 เต็มแล้ว 55555555

593 Nameless Fanboi Posted ID:M3M5a.0BxJ

>>592 จะมาด่าเรา มาลดดาวเรา ต้องเสียเงินคร่าคุณพรี่ จะมาด่ามาลดดาวกันแบบไม่ซื้อไม่ด้าย 55555555

594 Nameless Fanboi Posted ID6:ltRG+W+mNs

กู586 ขอบคุณมากที่มาตอบ พวกที่ไม่ได้ซื้อแต่มาถามอะไรที่นข.ไม่อยากตอบ หรือมาให้ดาวต่ำกว่า5แล้วบอกว่าตามมาจาก รอร ก็โดนลบด้วยเลย ดีกับนข.นะตัดปัญหาจุกจิก

595 Nameless Fanboi Posted ID:ZmrJh/81gw

KY สอบถาม กุให้ลูกชายกุเป็นทายาทเจ้าของบ. เป็นผู้บริหารบริษัทบ้านตัวเอง (แต่เป็นบ.ใหญ่ระดับมหาชนนะ) ไฮโพรไฟล์ขนาดนี้อย่างน้อยมันควรเรียนป.โทอย่างน้อยสักใบใช่มั้ยวะ ถ้าจบตรีเฉย ๆ เพื่อนว่าดีกรีมันพอมั้ย เอาแบบสมจริงอะ ชีวิตจริงมันมีผู้บริหารบ.มหาชนที่จบแค่ตรีมั้ย 555555

596 Nameless Fanboi Posted ID6:HyPnrana1K

>>595 ชีวิตจริงพวกจบปวช.ม.สามม.หกได้เป็นเจ้าของsmeยูนิคอร์นก็มีเว้ยมึง เพราะงั้นแล้วแต่มึงจะเซตติ้งอะ ให้มีวุณิสูงๆไว้เพื่อไร ดูเป็นคนฉลาดที่บีิหารธุรกิจเก่งเหรอ แต่ถ้าวุฒิต่ำๆก็จะกลายเป็นคนเก่งที่ฉลาดและมีความพยายามในการปั้นธุรกิจงี้
สตอรี่เศรษฐีอายุน้อยร้อยล้านมักจะมาทรงนี้ คือเคยจนเคยตกต่ำมาก่อน แล้วพอทำธุรกิจจนรวยเลยมีที่ให้โม้ว่ายืนด้วยลำแข้งตัวเอง จากยาาจกเป็นยอดคน ส่วนพวกที่มีใบปริญญาหลายใบ จะมาแนวๆบ้านรวยไว้ก่อน ซึ่งแน่นอนอะเรียนปริญญามันก็ต้องใช้ตังเยอะอะเนอะ เลยมีภูมิหลังประมาณจบมหาลัยตัวท็อปของประเทศ หรือมหาลัยเมืองนอกที่เป็นระดับโลก แล้วมาเริ่มจับธุรกิจสานจากรุ่นพ่อแม่ให้ปังกว่าเดิม ไม่ก็สร้างขึ้นเป็นของตัวเองแล้วปั้นจนปังไปเลยทั้งที่เป็นมือใหม่ทำธุรกิจ
สรุป มึงจะให้มีหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าเพื่ออะไร เช่น ให้ฟาดหน้าตัวที่มาเย้ยว่าเรียนจบม.Aมาด้วยเกียรตินิยมนะ คอนเนคชั่นธุรกิจตัวร้ายก็มาจากม.เดียวกัน พระเอกก็หงายการ์ดมาเลยกูจบม.B จากประเทศอังกฤษ คอนเนคชั่นกูระดับโลกเลยอะๆม่ใช่แค่ในประเทศอย่างมึงหรอกงี้

597 Nameless Fanboi Posted ID6:ltRG+W+mNs

>>595 มีเยอะเลย
แต่นิยายส่วนใหญ่มักให้พระเอกโพรไฟล์เริ่ดๆไว้ก่อน เป็นออพชั่นเสริมภาพลักษณ์ อย่างน้อยการเรียนที่ดีๆไอวี่ลีกนู่นนี่ก็เพิ่มคอนเนคชั่น ดูฉลาดขึ้นมาทันทีตั้งแต่เห็นดีกรี
แต่ถ้ามึงจะให้ฉลาดด้วยคาร์ ด้วยการกระทำ ก็ได้หมด ขึ้นอยู่กับมึง

598 Nameless Fanboi Posted ID:AOdhk2R2JS

>>595 ถ้าสร้างตัวมาเองแล้วแต่มึงกำหนดเลย แต่ถ้ามึงกำหนดเป็นทายาทเศรษฐีมา กวาดตามองได้เลยไปเรียนนอกกันทั้งนั้น นึกตามความเป็นจริงมีพ่อแม่รวยๆคนไหนบ้างไม่ให้ลูกเรียนสูงๆวะ ลองเปิดประวัติผู้บริหารบริษัทดูเลือกๆเอาแบบที่รุ่นที่สองสามสี่ จบนอกทั้งนั้น

599 Nameless Fanboi Posted ID:LtwCfZrCIl

>>595 ถ้าลูกชายมึงเป็นทายาทบ.ใหญ่โต อย่างน้อยต้องจบโทเมืองนอก ไม่มีหรอกที่จบแค่ตรีแล้วต้องมารับตำแหน่งคุมผู้บริหารคนอื่นๆ ที่จบสูงกว่า ใครจะเชื่อถือ ชีวิตจริงถ้าไม่รู้จักทายาทบ.คนไหนก็ลองไปดูประวัติสามีหรือแฟนดาราที่เป็นนักธุรกิจสิ มีคนไหนที่จบแค่ตรีบ้าง
พวกที่จบตรีแล้วได้เป็นผู้บริหารมันก็มี แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่ลูกหลานคนรวย เป็นพวกสู้ชีวิตจนประสบความสำเร็จ

600 Nameless Fanboi Posted ID6:vSFdoMAbT7

>>585 นขเป็นงี้กันครึ่งวงการไหม 55 วันก่อนก็เจอพวกแนวนี้ มีรีดมาทำลิสไรท์ในดวงใจกะแจกพลังงานบวก อิพวกไม่ติดลิสออกมางอแงตัดพ้ออยากเลิกเขียนลามไปว่าเพราะลิสแบบนี้ทำให้คนหมดกำลังใจทำมาทำไม มึงว่าพวกนี้น่ากดตามไหมท้อกสิกชห

601 Nameless Fanboi Posted ID6:ltRG+W+mNs

>>600 พอๆกับ เมด ทำท็อปออฟเดอะเยียร์เลย นข.ที่ไม่ติดก็นอย เมดทำแบบนี้ ทำให้ทดท้อ แบ่งแยก อยากให้ยกเลิก 5555

602 Nameless Fanboi Posted ID6:2UlgsNKb3M

>>596-599 ขอบใจทุกคนมาก พอดีกุต้องวางแผนเส้นทางชีวิตให้มันน่ะ ไม่ได้กะให้ฟาดใครหรอก 5555
>>599 นี่แหละที่กุคิดเลย 5555 ถึงเป็นทายาทนายทุนเจ้าของบ.แต่ถ้าจบแค่ตรีมานั่งบริหารก็อาจค้านสายตาประชาชีหน่อย 555 ((ตอนแรกกุวางไว้ว่าคาร์มันไม่อยากรับช่วงต่อที่บ้าน เลยเรียนแค่ตรีแล้วไปทำงานที่มันอยากทำ แต่สุดท้ายก็โดนที่บ้านจิกหัวเรียกมาช่วยงาน ทีนี้กุเลยสงสัยว่าแค่ป.ตรีมันจะพอเรอะ ก้เลยมาถามเพื่อนโม่ง 5555)) สรุปคงให้เรียน ๆ ไปก่อนแหละ อัพโปรไฟล์ให้ลูกหน่อย 555 แต้งกิ้วทุกท่านอีกทีจร้า

603 Nameless Fanboi Posted ID:6WMzvxhZAs

>>601 รำคาญมาก เอาแต่ใจตัวเองเกิน เขาก็ทำเพื่อให้เกิดการแข่งขัน มันก็จะดีกับการตลาดปะวะ ขยันท้อแท้ก็แพ้ตลอดกาลจ้า

604 Nameless Fanboi Posted ID6:NeyHXX/I.n

ky ขอระบาย เขียนนิยายเรื่องปัจจุบันมานานมาก รู้สึกหมดใจหมดไฟสุดๆ อะไรที่เคยเขียนแล้วรู้สึกว้าวสัสๆ ในตอนแรกก็หายว้าวไปแล้วตอนอ่านทวน อยากเทไปนอนเฉยๆ สักพักแต่ก็สัญญากับนักอ่านไว้แล้วว่าจะออกเรื่องนี้ เขียนได้ประมาณ 75% แล้วด้วย กูไม่มีกะจิตกะใจจะใช้ชีวิตด้านอื่นเลย อยากทำให้มันเสร็จๆ สักที แต่ก็ตึงไปหมด เขียนแล้วไม่ไหลลื่น ไม่สนุกเอง อยากมาขอแชร์ว่ากำลังรู้สึกแบบนี้ ขอบคุณสำหรับพื้นที่นะ

605 Nameless Fanboi Posted ID6:GhuYVsvAZJ

>>604 กอดมึงนะเพื่อน เพื่อนต้องพัก หาอะไรฮีลใจคลายความเครียดบ้างให้เวลาตัวเองสักวันดูหนังซีรี่ย์ที่ไม่ใช่แนวที่ปกติเคยดู ไปนวด อาบน้ำให้ตัวหอมๆ หรือขับรถไปทางใหม่ๆไปกินร้านอร่อยๆที่ไม่เคยกิน ไม่งั้นเพื่อนจะแย่และจมจ่อมมากไปกว่านี้ เผื่อจะได้ไอเดียอะไรใหม่ๆและรันกับมันยาวๆจนเสร็จ อีก25%
ตอนกูเครียดคิดอะไรไม่ออกเลยในหัวคิดแต่จะทำให้เสร็จจะได้จบๆไป พอไปทำอย่างที่ว่า สมองมันก็ค่อยเบาขึ้นมีแรงมาทำต่อแบบยิงยาว แทบไม่กินไม่นอนเลยจนมันเสร็จ ตอนเสร็จคือนอนยาว แบบตาE

606 Nameless Fanboi Posted ID:wen2QR4c+/

>>604 ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็หยุดเขียนไปก่อน ถ้าลงเน็ตไปแล้วก็บอกนักอ่านว่าขอหยุดอัพชั่วคราว ไม่ต้องฝืนเขียนหรอกมึง ไปใช้ชีวิตดูซีรีส์ดูหนังฟังเพลงหรือทำอย่างอื่นให้มันผ่อนคลายก่อนก็ได้ ไม่ต้องตึงกับตัวเองขนาดนั้น พอมึงสบายใจขึ้นผ่อนคลายขึ้นเดี๋ยวก็คงอยากกลับมาเขียนเองแหละ

607 Nameless Fanboi Posted ID:.DT53vM+7R

>>604 กูเป็นเหมือนมึง เขียนจะจบแล้ว หมดไฟดื้อๆ ตัดใจวางเรื่องนี้ทิ้งไว้ก่อน ดีนะกูรอเขียนจบค่อยอัปเพราะกูเป็นแบบนี้บ่อย ไม่อยากให้ทิ้งนักอ่านรออัป แต่ก็แลกกับการไม่มีกระแส คนอ่านลืมนามจนกว่าจะเขียนจบ กูเลยหนีไปปั่นเรื่องที่เข้ามือก่อน แนะนำมึงก็พักผ่อน ไปหาอย่างอื่นทำ ดูหนัง ฟังเพลง เที่ยวเล่น เผือกดราม่า หรืออ่านงานคนอื่น เดี๋ยวไฟเขียนก็กลับมาเอง สู้ๆ

608 Nameless Fanboi Posted ID6:pvBroiKaP8

>>604 กูเขียนมา 5 เล่ม เล่ม 6 เขียนไปได้ 90% กูก็นอยด์จนไม่อยากจะเขียนอยู่เนี่ยตอนนี้
แต่กูปล่อยวางชั่วคราวละ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมากูปล่อยจอยผ่อนคลายตัวเองเต็มที่ นั่งเล่นเกม Elden ring รอ DLC ใหม่ยันเช้ามาหลายวัน ตอนนี้คิดว่าน่าจะกลับไปเขียนต่อได้แล้ว

มันต้องมีช่วงพักชาร์จแบตมั่งแหละ งานศิลป์เป็นเหมือนกันทุกวงการ จนกูเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไม คมช. ที่กูสั่งไปบางทีต้องรอเป็นเดือนๆ

609 Nameless Fanboi Posted ID6:pvBroiKaP8

ว่าไปแม่งทำใจยากอยู่เหมือนกันแฮะ กับการปล่อยวาง เขียนแบบไม่สนอะไร
กูว่าช่วงพักกูไม่คิดถึงแล้วนะ แต่พอวันนี้ลองเข้าไปเช็คประจำสัปดาห์แล้วเห็นยอดรี้ดไม่กระเตืองเท่าไร ก็ทำเอาใจฟ่อเหมือนเดิม
ทั้งที่ก่อนหน้าเขียนสต๊อกเองอ่านเองรู้สึกสนุกแท้ๆ แต่พอมีตัวเลขมากำกับแบบนี้ก็ทำเอาห่อเหี่ยวได้ง่ายๆ เลยเหมือนกัน

610 Nameless Fanboi Posted ID:ZjLhcJXsax

ky คือมันมีช่วงหนึ่งที่กูดวงดี ได้ของที่อยากได้มาแล้วอารมณ์ดีมากเลยเปิดให้นักอ่านรีเควสฉากที่อยากอ่านในนิยายมา (ขอบอกก่อนว่าปกติกูเป็นพวกทำตามใจตัวเองมากเพราะแต่งสนองนี้ดล้วนๆ มีนักอ่านน้อยนิด) แล้วทีนี้มีนักอ่านสองคนมารีเควส คนแรกกูแต่งให้ได้ค่อนข้างโอเคเลย ถึงกลับไปอ่านก็ยังไม่คิดว่าแย่ แต่พอคนที่สองดันทำได้ไม่ดีมากๆ ตอนลงตอนแรกกูว่างานออกมากลางๆ แต่พอกลับไปอ่านวันต่อมาดันรู้สึกว่าแย่มาก กูต้องทำนักอ่านคนนั้นเสียความรู้สึกแหงเลยปิดตอนหนีไป เรื่องมันผ่านมาสักพักแล้วล่ะ กูกำลังคิดว่าควรกลับไปเขียนแก้รีเควสอันนั้นดีไหม หรือว่าควรปล่อยจมไปเลยดี กูคิดไม่ตกมาสักพักแล้ว ฮือ

611 Nameless Fanboi Posted ID6:Eo91E0YVTZ

กู 604 นะ ขอบคุณเพื่อนโม่งมากๆๆๆ กูกลับมาอ่านแล้วจะร้องไห้เลยพวกมึง กูจะไปพักก่อนสู้ต่อไปนะ

612 Nameless Fanboi Posted ID6:iECDqAWyyd

ky ใครมีแนวคิดนี้เป็นเพื่อนกูบ้าง กูไม่ค่อยชอบลดราคานิยายตัวเองว่ะ ไม่ได้ร่วมโปรมาสักพักละ ลดแค่ช่วงโปรออกใหม่แรกๆ เข้าทีก็แค่ไปดูยอดขายตัวเองเฉยๆ ว่าแต่ละปีได้กี่เล่ม (ซึ่งกูก็เพิ่งรู้จากเพื่อนโม่งว่าแค่กดข้ามตรงบุฟเฟต์ก็ดูยอดได้ละ ง่าวรออีเว้นท์ตั้งนาน555) เคยลดช่วงเทศกาลแล้วยอดกริบด้วย กับเวลาเห็นยอดซื้อถึงจะแค่โหลดสองโหลด แต่มาก่อนเม้ดจัดโปรแค่ไม่กี่วันกูก็ใจอ่อนว่ะ เคยเจอคนซื้อก่อนมีโปรใหญ่แค่1วันเอง แล้วกูตั้งใจจะเข้าร่วมโปรวันสุดท้ายเอาให้แน่ใจว่ายอด 0 มันนิ่งไง พอคิดว่าไม่อยากให้นักอ่านหลังหักเลยไม่ได้ลดสักที555

613 Nameless Fanboi Posted ID6:iECDqAWyyd

กู 612 ลืมใส่คำถาม555 กูเลยอยากถามว่ามีวิธีทำใจไม่ให้รู้สึกผิดมั้ย เวลาเห็นคนซื้อก่อนโปรแค่ไม่กี่วัน เราไม่ควรใจอ่อนใช่มั้ยวะถึงจะขายได้เยอะๆ เหมือนกูเห็นนข.ดังบางคนลดแทบทุกไตรมาสเลย อยากใจเด็ดได้แบบนั้นบ้าง

614 Nameless Fanboi Posted ID:SsZh/LzzmA

>>612 มึงงงง มึงคือกุละเมอพิมพ์แน่ ๆ สาบานว่าเมื่อชม.ก่อนกุกะจะมาถามประเด็นเดียวกันเลย แต่หุบนิ้วไปก่อน 5555 เอาเป็นว่ากุมาจับมือเรื่องไม่กล้าลดราคาเหมือนกัน ToT คือต่อให้ลด 20-30 บาทขั้นต่ำแคมเปญก็ไม่กล้าลดอะ สงสารนักอ่านที่เขาอุตส่าห์รีบซื้อแต่ได้ราคาเต็ม (กุก้เคยเจอนักอ่านซื้อก่อนแคมเปญงานนส.อะ รออีกไม่ถึงเดือนก็ได้ลดราคาละ สรุปพองานนส.ปุ๊บกุแม่งไม่กล้าลดเลย 55555) นี่พวกเราคิดมากไปใช่มั้ยวะ 55555555 คิดในแง่ดีก็ได้ความเท่าเทียมแหละ นักอ่านไม่หลังหักแน่ ๆ ยกตย.กุเนี่ยเวลาเจอโปรลดกระหน่ำล้างสต๊อกละนอยทุกที บางเล่มซื้อราคาเต็มมายังดองยุในซีล เวลาผ่านไปมีโปรลดราคาเฉย ทำเอากุไม่อยากรีบซื้อเลย รอลดดีกว่า การลดราคาที่มีกำหนดแน่นอน (เช่นลดทุกงนส.ทุกปีงี้) มันสร้างนิสัยเสียให้นักอ่านนะเอาจิง ๆ 55555

615 Nameless Fanboi Posted ID6:Df1tu8GS4H

>>613 ในฐานะที่เป็นนักอ่านนะ ก็ลดไปเถอะนี่ก็ซื้อแบบหลังหักบ่อย ถ้าเราอ่านงานนขคนนี้แล้วชอบ ต่อให้เคยซื้อเรื่องนึงตอนราคาเต็มมา แต่ถ้าเรื่องใหม่ๆเขาออกมาแล้วรู้ว่าเขาจะเข้าร่วมโปรแน่ก็แค่ไปรอซื้อเรื่องใหม่ช่วงที่มีโปรเอา หรือถ้าไม่มีเรื่องใหม่ออกมันก็จูงใจให้ไปย้อนซื้อเล่มเก่าๆที่ยังไม่ได้ซื้อ อย่างตัวกูงี้เวลามีโปร หลังจากซื้อเล่มที่จ้องไว้แล้วว่าจะซื้อแน่ๆ(ไม่ว่าจะลดไม่ลด)ก็จะดูเล่มเก่าๆของนขที่ชอบเพราะลด

616 Nameless Fanboi Posted ID6:bIVLu5mWgf

>>613 >>614 นข.ดังคนนึง(ถธ) ไม่มีโปรใดๆ(ขายราคาเดียว)คือราคาลดจากปก 20-25%อะไรก็ว่าไป มีหลายคนไปถามว่าจะมีโปรไหม เขาตอบได้ดีนะว่า --จัดโปรตลอดกาลให้นักอ่านไปแล้วคือราคานี้ ไม่ว่าจะซื้อเมื่อไหร่ก็จะได้ราคานี้เท่าเทียมกันทุกคน คนที่ซื้อมาแต่ไม่อ่านก็จะไม่รีบซื้อมาดองเพราะมีโปร อยากอ่านเมื่อไหร่ก็มาซื้อได้ เป็นราคาที่ยุติธรรมกับทุกคน//นานไปนักอ่านก็จะเข้าใจและยอมรับว่าเขาเป็นนข.สไตล์นี้ แต่นี่คือกรณีของคนที่ไม่ลดราคาแล้วขายได้นะ ในยุคที่การแข่งขันสูง ฉิบ ห าย น้อยคนที่จะทำแบบนี้แล้วมีคนตามซื้อ
ดังนั้นกูอยากบอกว่า มึงจะลดเวลาไหนก็ลดไปเถอะ ตามที่มึงเห็นสมควร นักอ่านถ้าเขาอยากจะซื้อตอนลด เขาพิมพ์ถามได้เว้ย นข.จัดโปรไหม? จะมีลดช่วงไหนอีกไหมคะ? ถ้าเขากดซื้อคือเขาอยากอ่านเลย อยากซื้อเลย พร้อมเสียเงินตรงนี้ ถ้ามาเจอลดทีหลังแล้วเจ็บครั้งหน้าก็จะเรียนรู้เองว่าต้องทำยังไง มึงไม่ต้องคิดมากแทนเขาขนาดนั้นนน

617 Nameless Fanboi Posted ID6:h0gAkAuQI3

>>616 คนนี้แม่งสุดจริง นอกจากไม่จัดโปร แล้วกูไม่เคยเห็นเขาโปรโมทงานตัวเองเลย ขายเสร็จเหมือนหายสาปสูญไปจากวงการ เหมือนขายไม่เน้นยอด ไม่โชว์เหี้ยห่าโปรโมทอะไรเลย

618 Nameless Fanboi Posted ID6:iECDqAWyyd

>>614 จับมือๆๆ บังเอิญจังวะ5555 เราคนประเภทเดียวกันแน่ๆเพราะกูเกลียดโมเม้นตอนอยู่ดีๆก็มีโค้ดมีลดทั้งที่เพิ่งซื้อสุดๆ เข้าใจว่าธรรมดาของชีวิต แต่ถ้าเลือกได้กูก็ไม่อยากเป็นคนทำให้ใครหลังหักอ่า T-T

และขอบคุณ >>615 มาก รู้ว่านักอ่านเขาชินจะได้ไม่ซี ก็อยากอ่านตอนนั้นเลยซื้อคือเก็ตไอเดียเลย กูแค่ไม่ชินเฉยๆ อยู่มาหลายวงการทั้งเกม แม่บ้าน สายเทค เครื่องครัว เจออะไรแบบนี้แล้วกูเจ็บจึ้กตลอด ไม่เคยชินเล้ย ในอกเลยรับไม่ได้เวลาต้องลดเองกับมือ เหมือนอย่างน้อยก็ไม่อยากเป็นคนที่ทำใครหลังหัก555

และ >>616 กูไม่เคยอ่านงานคนนี้นะ แต่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามในโม่งบ่อยมากเรื่องการยึดมั่นจะขายราคาเดียวตลอดไป แล้วยังขายได้ดี ลึกๆกูอาจมีเขาเป็นไอดอลแหละ ถ้าวางเรื่องขายดีขายไม่ดีทิ้งไป กูก็แค่อยากเป็นคนที่ไม่ทำให้ใครหลังหักเฉยๆ ทำเพื่อความสบายใจของตัวเองล้วนๆ ขอบคุณที่มาบอกในมุมคนอ่านไม่คิดมากขนาดนั้นด้วยนะ ไว้รอยอดนิ่งแบบกินแกลบสักครึ่งปีเด๋วกูจัดโปร ช่วงนี้ลดไม่ลงเพราะแต่ละเดือนก็ดันมียอดเล่มสองเล่มนี่แหละ555

619 Nameless Fanboi Posted ID:QyUYMhMWVC

>>618 มึงต้องอยู่กับความเป็นจริงก่อนว่ามึงไม่ใช่นักเขียนที่มีแฟนคลับเท่าเขา (ถธ หรือคนอื่นๆ) ดังนั้นการจัดโปรลดราคามันคือการโปรโมตงานทางหนึ่ง ให้นักอ่านขาจรได้มาทำความรู้จักกับงานมึงผ่านการลดราคาหนังสือ มึงไม่ต้องรู้สึกว่าหักหลังคนซื้อราคาเต็มหรือคนซื้อก่อนหน้า มันคือเรื่องของการส่งเสริมการขาย สินค้าไหนๆ ก็ทำกันเป็นปกติ ถ้ามึงไม่อยากหักหลังคนซื้อคนแรกๆ มึงจัดโปรลดแบบเยอะที่สุดช่วงออกเล่มใหม่ ส่วนโปรลนตามฤดูกาล ตามแคมเปญเป็นช่วงๆ อะไรพวกนี้มึงลดได้ ถ้าไม่อยากให้ดูน่าเกลียดก็รอให้ออกหนังสือเกินหกเดือนค่อยจัด แต่กำหนดราคาลดไม่ให้ลดเยอะเท่าช่วงออกเล่มใหม่ก็พอ ก็คือคนที่ช่วงมึงออกเล่มใหม่จะได้ราคาถูกที่สุดไป ส่วนคนซื้อหลังๆ ในช่วงจัดโปรลดจะได้ราคาถูกลงแต่ไม่ถูกที่สุด

ในฐานะนักอ่าน กูโอเคที่นักเขียนจดโปรลด แต่ต้องไม่จัดโปรลดเร็วเกินไป เช่นออกงานมาแค่สองสามเดือนก็จัดโปรลดแล้ว ส่วนถ้าจะจัดโปรล้างสต็อกลดเกิน 50% ก็ทำได้ แต่ต้องออกงานมาเกิน 3 ปีกูถึงจะไม่รู้สึกว่าโดนหักหลัง

620 Nameless Fanboi Posted ID:QyUYMhMWVC

กูได้เจอผลงานของนักเขียนใหม่ๆ ที่กูไม่เคยอ่านงานจากการช้อปช่วงมีแคมเปญลดราคานี่แหละ การลดราคาให้ถูกลงมันจูงใจให้กูกดเข้าไปดูผลงานของนักเขียนคนอื่นๆ และมักได้เจอนักเขียนที่ชอบเพิ่มเข้ามาในลิสต์ด้วย

621 Nameless Fanboi Posted ID6:yYl+SutX2v

ky ขอระบายหน่อย ไม่มีใครให้ระบาย เหนื่อยเขียนนิยาย ยังต้องเหนื่อยกับการเสี่ยงดวงอีกว่านักวาดจะเทมั้ย เมื่อไรนักวาดจะส่งงานกุสักทียยยยยย รอจนลืมบรีฟ จนนิยายแต่งเสร็จแล้วแต่ลงไม่ได้เพราะรอปก ตามนานๆ ละเริ่มประสาทแหลก กุเข้าใจคนซื้อปกสำเร็จละ แม่งดีกว่าเยอะ บ่นเฉยๆ T-T อยากร้องไห้ พอไม่ได้ปกก็ต้องเลื่อนแพลนงานตัวเอง จะควักตังไปจ้างอันอื่นมาใช้แก้ขัดก็เกินงบ เครียด

622 Nameless Fanboi Posted ID6:Z1bgXBGAB.

>>621 เกินเดทไลน์หรือยัง ลองไปคุยก่อนมั้ยว่า ตอนนี้นิยายจบแล้ว รอปกคุณอยู่

623 Nameless Fanboi Posted ID6:yYl+SutX2v

>>622 เกินมาสักพักละ ตามไม่รู้จะตามยังไง จนถึงตอนนี้ร่างยังไม่เห็นเลย กุคงใช้วิธีขอเงินคืนแล้วหานว.ใหม่เอา แต่มันเสียดายเวลาและโอกาสหลายๆ อย่าง เลยมาบ่นน่ะ TT

624 Nameless Fanboi Posted ID6:iECDqAWyyd

>>619-620 ขอบใจมากนะมึง ได้ฟังแบบนี้กูก็จะหลับตาปี๋ตอนกดปุ่มเข้าแคมเปญลดราคาละ555 ถ้าไม่ลด ไม่มีโปร คนก็ไม่เห็นงานเรานี่เนอะ โอเคๆ

625 Nameless Fanboi Posted ID6:iECDqAWyyd

>>623 เข้าใจมึงมากกก กอดๆ ของกูเคยได้คิวต้นปี ส่งภาพร่างกลางปี แค่ภาพร่างด้วยนะ จะปีใหม่กูทนไม่ไหว ทักทวงทุกช่องทางเลย จะเอาเงินคืนแล้ว สุดท้ายจบดีได้เงินคืนครบจำนวนพร้อมคำขอโทษของนักวาด แต่ที่เสียไปคือเวลากับโอกาสจริงๆว่ะ กูไม่ยอมจ้างคนอื่นเพราะรอเขาคนเดียวเลยนะ มีอีกหลายคนมากที่เข้าตาและถ้าตั้งใจกูก็จองทัน แต่กูก็ต้องตัดใจเพราะมีนักวาดแล้ว แต่เขากันดอง หายหนี ทั้งที่งานมันควรจะเสร็จนานแล้วแท้ๆ แต่กลายเป็นว่าเราไม่ได้อะไรเลย

626 Nameless Fanboi Posted ID6:Z1bgXBGAB.

>>623 งั้นขอคืนเลย ยืนยันว่าไม่เอางานนะ กลัวแทนว่าจะได้งานเผา แล้วไปดูปกสำเร็จ เผื่อฟลุ๊คเจอที่ใช่ กับกรุ๊ป คอมมิชชั่น โพสต์หา บอกใช้ด่วน มีคนเสนอตัวเยอะ ไม่ก็ในกรุ๊ปนั่นแหละ พวกนักวาดงานดี ที่รับเป๋นล็อตๆ ก็งานเร็ว

627 Nameless Fanboi Posted ID6:fuBLZoi53j

Ky ใครเขียนพอร์นผู้ใหญ่แวะมาดิสคัสกัน ตั้งแต่แอพเขียวบอกว่ากรองพอร์น ยอดขายกูเหมือนกีแห้งตั้งแต่นั้น แชร์ยอดพวกมึงหน่อย กูเขียนพอร์นผู้ใหญ่ต่อหรือเปลี่ยนแนววะ เป็นนูกูว่ายากแล้ว นิยายพอร์นขายยากขายเย็นอิ๋บอ๋าย

628 Nameless Fanboi Posted ID6:iECDqAWyyd

>>627 น้อยค้าบ เดือนสองเดือนนี้กูเร่งเคลียร์พล็อตเสวผู้ใหญ่เพื่อเคลียร์ปกสำเร็จในเครื่องแค่นั้นเลยอะ มีเรื่องนึงหมดใจเขียนไปแค่หมื่นสองหมื่นหน้าแล้วตัดใจขาย 19 บาทเลย เห็นยอดแล้วท้อ ไม่อยากเสียเวลาละ มีแต่พวกท็อปๆมั้งที่รอด นูกูขอลา

629 Nameless Fanboi Posted ID6:iECDqAWyyd

>>628 แก้ๆ หมื่นสองหมื่นคำ เป็นหน้าตายห่าพอดี555

630 Nameless Fanboi Posted ID:cxBKZwuM7p

>>627 กรองยังไงอะเพื่อน แต่ก่อนไม่กรองเหรอ เห็นสมัยก่อนบอกขายเสว = ยอดอื้อซ่า ตอนนี้ก็ขาลงเรอะ

631 Nameless Fanboi Posted ID6:aF.OgN2ODj

>>630 ถ้าไม่ยืนบันอาบุด้วยบัตร ปชช จะไม่เห็ยหมวดนี้ ถ้ากดขากลิงค์ที่นักอ่านให้ก็ซื้อไม่ได้ถ้าไม่บืนยันบัตร ข้อแม้เยอะ,ซึงก็ถูกแล้ว หื่นต้องพยายามหน่อย แต่เอาจริงๆ ตอนน้้ยอดขายตกกันระนาวกนาวรูดทุกหมวด

632 Nameless Fanboi Posted ID6:MyVshPdgwD

Kyถามนักเขียน ถ้ามีคอมเม้นรีวิวมาบอกว่านิยายของมึงเป็นนิยายที่สนุกแบบต้องถอดสมองอ่าน มึงจะรู้สึกลบไหม? นข.ใจบางกันมากกูเดาใจไม่ถูกเลย

633 Nameless Fanboi Posted ID6:lQ2zXEex97

>>632 รู้สึก คำว่า เบาสมอง ถอดสมองอ่าน พวกนี้กูเคยเจอในรีวิวตัวเองแล้วไม่ค่อยรู้สึกดีเท่าไหร่ เพราะเป็นงานแนวๆที่เนื้อหาหนักหน่อยด้วยมั้ง ที่นอ.มาบอกว่าสิ่งที่กูตั้งใจคิดมาให้ซับซ้อนเป็นอะไรเบาสมอง มันรู้สึกไม่ค่อยดี
แต่นข.จะใจบางยังไงก็อย่าปิดกั้นตัวเองไม่ให้รีวิวตามตรงนะ ไม่มีอะไรจะทำให้นข.เติบโตได้แล้วนอกจากคำวิจารณ์​

634 Nameless Fanboi Posted ID:IMN73dR+1k

>>631 คนไม่มีเงินจริงๆนะ ไม่ใช่แค่นิยาย แต่ขนาดของกินของใช้ก็ยังแห้งอ่ะ แต่กุกลับคิดว่านิยายเสวรายตอนน่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าแนวอื่น เพราะเปย์เหรียญตอนละไม่กี่บาทสั้นๆ เสวพอใจแล้วแยกย้ายได้ ดันไม่เป็นงั้นแฮะ

>>632 คุ้น ดราม่าเก่าเล่าใหม่เหรอวะ ปีก่อนป่าวที่ดราม่ากันใหญ่โตเพราะคำนี้ คนเขียนที่เป็นนักอ่านมานานและเขียนแนวคอมเมดี้จะไม่มีปัญหานี้นะ แต่ถ้าเป็นน้องๆรุ่นใหม่ เคสนี้มีเคยดราม่ามารอบนึงแล้วไปหาฟุตพรินต์ของจริงดูได้เลย

635 Nameless Fanboi Posted ID6:jl6bG2kzL8

เด่วนี้ใจบางกันเกินอะ รีดเม้นดีๆก็โดนด่าเพราะคำว่าดีของไรท์แต่ละคนไม่เท่ากัน แล้วใครมันจะอยากไปเม้น ถอดสมองนี่ก็ไม่ได้คำด่าตรงๆเลยมีช่วงนึงเป็นคำต่อท้ายตลกถอดสมองเฉยๆด้วย ไรท์แม้มบางคนบอกเม้นแค่ติ้กเกอก็ได้บางคนบ่นเขียนแทบตายได้แค่ติกเกอ บางคนเปิดมาแค่มาลองอ่านก็ดีใตแล้วอีกคนด่าแช่งอ่านงาน บางคนเม้นสั้นเอาไปเทียบกับไรท์คนอื่นทำไมเม้นเค้ายาวของเราได้สั้น ทำไมเม้นเค้าก่อนมาเม้นเรา ปสด

636 Nameless Fanboi Posted ID6:aF.OgN2ODj

อ่านชาอู่หลงติดไฟ อ่านมังงะกาวๆ = ถอนสมองอ่าน ชม
อ่านนางร้ายหุ่นเชิด= ถอดสมองอ่าน ด่า

ไม่รู้จะยกตัวอย่างนิยายอะไร ขอยกเป็นสายนี้ที่อ่านบ่อย อยู่ที่บริบทของเรื่องนั้นๆ

637 Nameless Fanboi Posted ID:IcY9k12A2w

ขอรบกวนสอบถามเพื่อนโม่งในนี้หน่อย ถ้าถามผิดมู้ต้องขออภัยด้วยจริงๆ จ้า

พอดีกูไปเห็นปกสำเร็จที่เค้าบอกว่าเป็นปกจากจีนสวยๆ คนขายบอกไม่มีส่วนผสมของ AI ราคาแค่ 200-300 บาท เป็นเทมเพลตที่เค้าทำมาจากจีน มันคืออะไรหว่า แล้วควรซื้อมาเป็นปกมั้ย เค้าบอกว่าใช้ได้เชิงพานิชย์ แต่ได้แค่อีบุคเท่านั้น

638 Nameless Fanboi Posted ID:zRUOp6XLM6

>>637 เหมือนเอาตลค. ในภาพในเซท มาแปะๆรวมกันได้อ่ะ ภาพที่mixออกมาให้สิทธิ์ใช้งานอย่างเดียว ทำอะไรอื่นไม่ได้ เผลอๆก็อาจมีโอกาสไปเจอคาร์หน้าเดียวในปกนิยายเรื่องอื่น แต่ใส่เสื้อคนละสีได้ แต่นอกนั้นกุก็ไม่รู้ข้อจำกัดอื่นๆแฮะ ใครเคยใช้มาเล่าทีนะ กุเองก็อยากรู้เหมือนกัน ขอบคุณในความเอื้อเฟื้อแบ่งปันความรู้ล่วงหน้า

639 Nameless Fanboi Posted ID:IcY9k12A2w

>>638 กูพอเข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก เรื่องของเรื่องคือกูเห็นราคามันย่อมเยา ตอนเจ้าของภาพลงขายก็ไม่ค่อยมีคนตอบรับ(แต่อาจจะมีหลังไมค์เยอะ) กูเลยงงว่ามันขายได้รึ ภาพสวยแต่ดูมีคนสนใจน้อย ตกลงแล้วมันใช้ได้หรือเปล่า เกิดวันนึงกูอยากซื้อมาใส่นิยาย กูจะโดนลากไปแขวนมั้ย 😂

640 Nameless Fanboi Posted ID6:MyVshPdgwD

>>637 มึงกูเคยซื้อมาดองว่าจะใช้นั่นแหละ แต่ระหว่างที่กูดองอยู่นั้น กูเจอปกนิยายebookวางขายแล้ว องค์ประกอบในภาพ(เป็นชายหญิงจับมือกัน)เหมือนของกูเป๊ะ แต่ฉากไม่เหมือน แล้วเดือนต่อมาก็เจอนักเขียนดังเอา ไอ้ชายหญิงจับมือกันแต่ฉากอีกแบบ มาทำแบรนด์เนอร์โปรโมตนิยายตัวเอง คือกูยังไม่ทันใช้แต่เห็นคนอื่นๆใช้กัน เรื่องก็ประมาณนี้

641 Nameless Fanboi Posted ID:IcY9k12A2w

>>640 ชิบหายมาก 🤣 อยากได้ของถูกก็ต้องเสี่ยงสินะ

642 Nameless Fanboi Posted ID6:RhtKPQeU7d

อ้อ แบบแอปแคนวาป่าววะที่มีกราฟิคให้เรามาแปะรวมเองได้ ปรับสีปรับองศาได้นิดหน่อย มีเทมเพลตที่ให้เราดัดแปลงต่อได้แค่ใส่ชื่อเรื่องหรือเปลี่ยนสีเอางี้ มีรูปถ่ายให้ทำฉากพร้อม

643 Nameless Fanboi Posted ID:zRUOp6XLM6

ใช่ๆ มันจะประมาณแคนวา ดังนั้นถ้ามีคนสนใจคาร์เดียวกับมึงเยอะ ก็เป็นแบบเมนต์บนเลย เพราะเค้าขายแค่สิทธิ์การใช้งานองค์ประกอบ และสามารถเอาไปดัดแปลงขายสิทธิในการใช้ซ้ำได้อีกเรื่อยๆ ทำให้ราคามันถูก และมีโอกาสเจอคนใช้ซ้ำได้แน่นอน ส่วนปัญหาเรื่องเอไออาจจะไม่มี เพราะคงคล้ายๆกับแคนวาที่ใช้คนวาดองค์ประกอบลงขายน่ะ
แปลว่าต้นทางมันมีแอพแบบเดียวกับแคนวาโดยเฉพาะหรือเปล่าวะ ตอนแรกกุก็คิดว่ามีนักวาดรับผิดชอบเฉพาะ แค่วิธีการขายมันต่างจากการคอมมิชชั่นให้สิทธิ์ขาดรายเดียว แต่ถ้าทางจีนมีแอพแนวนี้จริง เราก็สมัครใช้แล้วแปะๆเองไม่ต้องผ่านร้านพวกนี้ได้เหมือนกันมั้ยวะ

644 Nameless Fanboi Posted ID6:LmMq9c3XEM

มีใครซื้อโฆษณาในตตเพื่อโปรโมทนิยายบ้าง อยากรู้ว่ามันเห็นผลมั้ย

645 Nameless Fanboi Posted ID6:w1hlGAiMV5

>>644 มึงต้องปั้นให้ ต๊อกๆ มังมีกลุ่มเป้าหมายเป๋นพวกอ่านนิยายก่อน เปิดปุ๊บยิงเลย กุว่าไม่ได้ผลอะไรเลย

646 Nameless Fanboi Posted ID6:cFVc1AKR9j

เออใครเป็นบ้างวะ เขียนนิยายตัวเองแล้วพอลองไปอ่านเรื่องอื่นๆ รู้สึกไม่ถูกใจสำนวนของเขาซะงั้น
คือช่วงนี้เวลากูอ่านเรื่องอื่น โดยเฉพาะนิยายแปลแล้วสัมผัสได้ว่าสำนวนเขาแย่ ไม่ไหลลื่น จืด ฯลฯ แล้วคิดว่าสำนวนที่กูเขียนดีกว่าเยอะเลย จนพาลไม่รู้สึกอยากอ่านแบบละเอียดเอาอารมณ์ แต่ขออ่านข้ามๆ เก็บรายละเอียดเนื้อเรื่องพอซะงั้น ซึ่งพอลองมามองย้อนดูแล้วรู้สึกว่าตัวเองอีโก้จัดยังไงก็ไม่รู้ว่ะ

647 Nameless Fanboi Posted ID6:w1hlGAiMV5

>>646 แปลจีนเหรอ ถ้าแปลจีนนิยายออนไลน์ตกเกรดหมด บางเรื่องแปลแล้วนึกว่าเสิ่นเจิ้นในเสิ่นเจิ้น ส่วนสนพ. ตอนนี้ห่วยกว่าจย.ก็ รหมล. มาตรฐานหน่อยก็ ยช กับ จส มึงอาจจะอีโก้ แต่ไม่ได้อีโก้สูงอะไรนักหรอก ถ้ามึงเขียนเสิ่นเจิ้นอะนะ เอาจริงนักเขียนไทยสำนวนดี แค่ติดตรรกะไทยๆ ใส่ในนิยายให้เสียอารม

648 Nameless Fanboi Posted ID6:iAz1e77X6z

>>646 นิยายแปลจีนเหรอเพื่อนโม่ง ถ้าใช่มึงไม่ได้อีโก้หรอก กูก็คิดเหมือนมึงนี่แหละ ขนาดงานสนพ.ที่มาตรฐานดีอย่างจส. กูซื้อมาอ่านละยังโมโหเลย สำนวนแห้งแล้งจืดทื่อมาก กูว่าสิบปีก่อนมันดีกว่านี้อะ ทุกวันนี้ไม่รู้วงการนิยายเป็นอะไรไปกันหมด

649 Nameless Fanboi Posted ID6:cFVc1AKR9j

>>647 >>648 แปลจากญี่ปุ่นน่ะ ส่วนใหญ่กูอ่าน Light Novel
แต่พอเรื่องคนไทยเขียนก็เป็น พวกบทความก็เป็น ล่าสุดกูอ่านบทความเขียนสรุปเนื้อหาเกม กูอ่านไปหงุดหงิดไปกับสำนวน แล้วบ่นในใจว่าถ้ากูเขียนเองดีกว่านี้อีกหลายเท่าอะไรแบบนั้นอะ

650 Nameless Fanboi Posted ID6:S6PK1Ae20t

>>649 เอาตามตรงนะ light novel หาสำนวนดีๆยากมากอะ กูว่าเขาเน้นอ่านง่าย ย่อยง่าย ทุกอย่างฉับไว ใช้คำกระชับ จะรู้สึกแบบนั้นก็ไม่แปลก ลองไปหาอ่านแนวอื่นสิ สำนวนจัดเต็มมาก ถ้าอยากทลายอีโก้ตัวเองอย่าอ่าน light novel

651 Nameless Fanboi Posted ID:sn6SArbXat

Light novel ญี่ปุ่นส่วนนึงยังมองเป็นขยะวรรณกรรม ก็เหมือนไทยที่นักเขียนซร. นักเขียนรางวัลมองนิยายแมสๆ นิยายวายขายดีแต่สำนวนห่วยว่าเป็นขยะ เขียนให้วัยรุ่นอ่าน self insert ฮาเร็มบุฮี้ๆ ไม่ก็ตบหน้าฟินๆ สำนวนอ่ะเรื่องรอง ยกตัวอย่างเรื่องเฮียวกะ ออกมาหลายปีอย่างกริบ เพิ่งแมสได้จากอนิเม นิยายรีปรินต์ก็ใช้ปกอนิเม แต่นข.ยื่นคำขาดว่าห้ามจัดนิยายเขาเป็น Light novel ***เด็ดขาด*** เพราะฝั่งวรรณกรรมไม่นับ Light novel อยู่ในหมวดเดียวกัน
สำนวน Light novel ตั้งต้นมาอย่างนั้น คนแปลจะแปลให้สละสลวยก็ไม่ได้อีก หน้าที่คือแปลและเรียบเรียงให้ตรงต้นฉบับ ไม่ใช่ทำให้สละสลวยกว่า ขนาดมุกไม่ขำยังแปลให้ขำขี้แตกยังไม่ได้เลย อันนี้มาจากคนทำงานแปล กูไม่ได้พูดเอง

652 Nameless Fanboi Posted ID:DjX/eWJuTl

เห็นคลิปนึงบอกว่าเวลาคนเราอ่านหนังสือ สมองจะประมวลผลในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง

653 Nameless Fanboi Posted ID6:ZXZpXtYpgk

>>648 อย่าไปบ่นให้พวกมู้นี้เห็นเชียวนะ https://fanboi.ch/literature/18408/recent/ มันเทิดทูนสำนวนจืดๆแบบนั้นจะตาย ใครติหน่อยไม่ได้ ด่ากราดไปทั่ว

654 Nameless Fanboi Posted ID6:nzuzP9Xvrh

ป่วนไปทั่ว=หาบจงหยวน

655 Nameless Fanboi Posted ID6:d/gDXQ0+jd

>>654 คอนเฟิร์ม นี่ลามมากระทู้นักเขียนแน้ว

656 Nameless Fanboi Posted ID6:8m1MYpFDZF

ติไม่ได้จริงด้วยว่ะ ติปุ๊บ=หาบจงหยวน 555

657 Nameless Fanboi Posted ID6:d/gDXQ0+jd

>>656 ถ้ามึงยังวิเคราะห์ไม่ออก ว่ามันชอบมากวนตีนเวลาไหนบ้าง ก็เชิญไปอยู่กับอีโทรลมันเหอะ

658 Nameless Fanboi Posted ID6:uc2lmujTVJ

กุกำลังวางพลอตว่าจะเขียนแนวอีโรติกหื่นจัด +ผัวชั่ว+รักเป็นพิษ+ดราม่าการกดทับโดยค่านิยมสังคม+แบดเอนท์ แต่เขียนไปเขียนมาประเด็นหดหู่ของสังคมปิตาชักแทรกเข้ามามากขึ้นทุกที ทำให้เรื่องแม่งฟีลซึมเซาสัด ซึ่งก็ละไม่ได้เพราะกุว่ามันเป็นแรงจูงใจหลักที่จะพานอ.กูไปสู่การดีดผัวชั่วแต่รักจริงทิ้งในท้ายสุด

มึงว่าส่วนประกอบนี้จะไปกันได้ไหมวะ คนอ่านยังจะหื่นออกอยู่มั้ยในเรื่องที่โทนซึมเซาแบบนี้ ส่วนคนอ่านดราม่าจะหนีเพราะฉากเรทกุมันเยอะไปไหม แต่อีโรติกไงมึง ไม่เรทเรื่องก็โหว่อ่ะ กุตั้งใจให้มันข่มเหงกดทับกับบนเตียงเป็นจุดหลัก นอกเตียงประปรายเป็นจุดรอง

ปล.กุรู้อยู่แล้วว่าไม่น่าจะขายออก แต่แบบ... กุแค่อยากเขียนอ่ะ🥲

659 Nameless Fanboi Posted ID:/k5AI2.0Zh

>>658 เวลาลงเม็ดก็อยู่หมวดดราม่า แต่ติดบัตร ให้ต้องยืนยันบัตรก่อนซื้อ พร้อมคำเตือนว่าอีโรติกดราม่า ถ้าไปอยู่หมวดรักผู้ใหญ่ที่ไม่เน้นเรื่องราวเสพศิลป์อะไรเท่าไหร่อาจจะไม่ตรงประเด็นกว่า

660 Nameless Fanboi Posted ID6:4DeeA1gn.6

เชี่ยพักงานเขียนไป 2 อาทิตย์ กลับมาเขียนแล้วรู้สึกต่อไม่ได้ติดว่ะ ถถถถถถ
นี่กูหมดใจกับเรื่องไปแล้ว หรือว่าแค่ลืมวิธีเขียนสำนวนตัวเองวะเนี่ย

661 Nameless Fanboi Posted ID:zVnxgvD8br

>>660 ปกติมุง อาจต้องใช้เวลาอุ่นเครื่องหน่อย เด่วเครื่องก็ติด 5555 สู้ ๆ เพื่อน
>>658 ไปกันได้อยู่ เขียนบอกไว้ก็พอ ส่วนเรื่องหมวดนี่กุอยากให้มึงคิดถึงกลุ่มนักอ่าน อยากขายเสวหรือขายดราม่ามากกว่า อยากเขียนก็เขียนเลยเพื่อน จัดไป /แอบมาดันหลังว่าจริง ๆ กูก็อยากอ่านแนวนี้นะ 5555555 ขายเสว ผัวเหี้ย แบดเอนท์สะใจเนี่ย ถ้ามีวาสนาขอให้เราได้เจอกันนะ

662 Nameless Fanboi Posted ID6:92tgDpMbKw

>>660 ลองแกล้งๆกลับไปย้อนอ่านตอนเก่าๆด้วยการรีไรท์ไปก่อนก็ได้ มันจะจดจำสำนวนตัวเองได้แล้วกลับมาต่อติดเอง

663 Nameless Fanboi Posted ID6:q0hkSqHSAZ

>>662 อันนี้ช่วยได้จริง กูย้อนไปอ่านละเพิ่งเห็นว่ามีพล็อตโฮล ก็แถเอาในตอนปจบ.เลย จากที่ตันๆคิดไรไม่ออก กูเอาพล็อตโฮลมาแก้กรรมแล้วลื่นเลยทีนี้

664 Nameless Fanboi Posted ID:d.Ox.jbH6E

>>659 >>661 ขอบใจมาก จริงๆกุไม่ค่อยห่วงตอนขายเพราะคิดว่าไม่น่าขายออก 555 แต่จะระวังเรื่องคำเตือนเพิ่มนะ อันนี้เดิมไม่คิดว่าจะต้องเตือนเลยว่ะ

665 Nameless Fanboi Posted ID:2hJ0Y2MYyJ

Kyคำว่า”กระ-เ ด้ า” เป็นคำต้องห้ามของเมดไหมวะ คือกูอยากใช้แต่ไม่กล้าใช้กลัวโดนระงับการขาย แต่กูไปอ่าน เล่มปกแดงนข.ดัง เจอคำนี้ มากกว่า1ครั้ง เลยมาลองถามที่นี่/ขอบคุณล่วงหน้า

666 Nameless Fanboi Posted ID6:u1dIJePtrk

>>665 ไม่ห้าม ห้ามแค่ Hee Kuay YED เงี่ยนยังพิมพ์ได้เลย หายห่วง

667 Nameless Fanboi Posted ID6:a.hbHr67kl

>>666 ใช้คำว่า หลี กวย แทดได้จริงๆเหรอวะ มันอนุญาตหรือมันยังตรวจจับไม่เจอ

668 Nameless Fanboi Posted ID6:G8sE+zA+0P

>>667 มึงถ้าเพิ่งตื่น แปลกฟันก่อนจะได้หายง่วง5555555555555555

669 Nameless Fanboi Posted ID6:a.hbHr67kl

>>668 อ่อ โทษที กูอ่านเป็นใช้หลี กวย แทดได้ อายจัง โกเมนเนะ

670 Nameless Fanboi Posted ID:uI5Q5Tiux8

>>665 แต่เอาจริงๆ คำนี้ไม่ใช้ไม่ได้เหรอวะ กุอ่านแล้วจะขำทุกที ยิ่งเป็นพระเอกนักธุรกิจเข้มขรึมมายังไงกุอ่านเจอคำนี้ปุ้บลุคส์ในใจกุกลายเป็นสิงห์รถบรรทุกดิบเถื่อนไปเลย

671 Nameless Fanboi Posted ID:ZWSEWjSa+P

กูงงๆ กับการตรวจนะว่ามันเอาไรตรวจกันแน่ อย่าง PleaseStarเรื่องล่าสุดนี่ เย็ แบบตรงๆ ตั้งสามรอบ ล่อตั้งแต่แรกๆ เลย ไม่เห็นโดนไร

672 Nameless Fanboi Posted ID:8rKLf2dZhL

>>671 กดแจ้งสิ หรือเมลไป

673 Nameless Fanboi Posted ID:8rKLf2dZhL

>>671 ส่วนใหญ่เข้าใจว่าคนแจ้ง เม็ดมันไม่มีเวลามาสรีนเองหรอก

674 Nameless Fanboi Posted ID:lqouFJZV+L

>>670 กุก็ขำเหมือนกัน 55555

675 Nameless Fanboi Posted ID6:u1dIJePtrk

>>669 แต่แตดใช้ได้นะมึง ที่เหลือคือโนหมด555

กูสงสัยมาสักพักละ แสดงว่าเล่มดังๆนข.ท็อปที่กล้าเขียนอวัยวะ เน้ด ตรงตัวคือไม่มีใครเมลแจ้งอ่อวะ ถึงยังรอด อยากให้ได้บทเรียนเหมือนคนอื่นบ้าง ทีตัวเล็กตัวน้อยนอ.เมลกันฉ่ำเลยน้า555
ช่วงนี้ก็เข้าใจกันว่ามีนักอ่านเมลแจ้งไปแหละ เม้ดมันรักษาความลับนักอ่านด้วย ถึงนข.มาหลังไมค์ขอเมลขอตัวนอ.ที่แจ้ง เม้ดก็ไม่มีทางให้ ถ้าทำผิดจริงก็โดนสอบโดนย้ายหมวด มีรักผู้ใหญ่อะเข้มมากหน่อย แทบจะ Ctrl+F หาหอยหาโคยหาเย้ดแล้วบอกให้รีบแก้เลย555

676 Nameless Fanboi Posted ID:ZWSEWjSa+P

กู >>671 นะ งี้นี่เองต้องกดแจ้งสินะ คิดเหมือน 675 ว่าแสดงว่าไม่มีใครแจ้งเลยเขาเลยรอดมาได้
จริงๆกูก็อยากกดแจ้งนะ แต่ติดตรงกูก็เป็นนักเขียนนี่แหละ ละกูก็กำลังจะขายงานเร็วๆ นี้ด้วย ไม่ได้กลัวเขาจะมาจองเวรนะเพราะเขาไม่รู้หรอกว่ากูแจ้ง(ถ้ากูจะแจ้งจริงๆ) แต่แอบกลัวกรรมนิดหน่อย ปกติก็ไม่ได้ขายดีมากมายอยู่ละ ต้องลุ้นทุกเรื่องทุกเล่มเลยกลัวแป้ก ข้าพเจ้าจึงของดกระทำการชั่วร้ายไปก่อน555
ละประเด็นคือกูแม่งทำไรแบบนี้ไม่ค่อยขึ้นว่ะ มักให้ผลตรงกันข้าม อย่างเกลียดใครนึกแช่งชักใคร คนนั้นได้ดีเฉย ละก็มีแบบกูเคยอวตาร์ไปเม้นเพื่อนนักเขียนที่รู้จักกันนี่แหละ เม้นติเพราะติต่อหน้าไม่ได้เขาไม่รับ ซึ่งเรื่องนั้นมันเหี้ยมากจนกูทนไม่ไหวต้องอวตาร สรุปเป็นเรื่องที่ขายดีสุดของเขาซะงั้น(โดยที่เขาไม่ได้แก้ซึ่งมันบูดมากจริงๆนะ) แล้วก็มีอีกเรื่องหนึ่งของเขาที่ไม่ได้บูดมากเท่าอีเรื่องแรกแต่มีจุดที่กูอ่านแล้วขำรู้สึกไม่เมกเซนส์กูอวตารไปอีก แบบเม้นแค่เบาๆสั้นๆเหมือนนักอ่านทั่วไป สรุปขายดีอีก(สำหรับเขา) กูเลยแบบพอเลิกติติงเลิกขัดแข้งขัดขาใคร 555

677 Nameless Fanboi Posted ID6:OfuBkX6hni

ถามโม่งหน่อย ถ้าเขียนแนวนางร้าย + ทะลุมิติ + ระบบ แต่อยากจะคงให้นางร้ายเล่นบทนางร้ายตลอดไป เราควรเขียนให้เป็นแบบไหนดี ระหว่าง

1. นางเอกทะลุมิติมาเป้นนางร้ายเองเลยแล้วมีระบบนางร้าย ทำให้เ่ล่นเป้นคนดีไม่ได้ ต้องทำตัวร้ายๆต่อ หรือ ต้องเบียวเป้นนางร้ายต่อไปเรื่อยๆแม้ไม่ชอบ

2. นางเอกไม่ได้ทะลุมิติมาเป้นนางร้าย แต่เป้นระบบหรือพลังของนางร้ายแทน อารมณ์เหมือนเป็นผี/เอไอ สิงสู่อยู่กับนางร้ายแต่แชร์อารมณ์ ค.เจ็บ ถ้าตายก็ตายด้วยกัน เลยต้องคอยให้คำปรึกษานางร้าย ใช้ระบบของตัวเองที่ล็อคไว้แล้วว่าต้องร้ายเท่านั้นคอยให้รางวัลและภารกิจกับนางร้ายให้รอดไปได้แบบร้ายๆต่อไป ตัวนางร้ายก็ต้องร้ายต่อไปไม่ก็เบียวร้ายต่อไป ไม่งั้นระบบของนางเอกจะลงโทษ

ถ้าโม่งเป้นนักอ่านจะชอบแบบไหน หรือรับกับแบบไหนได้มากกว่ากัน

678 Nameless Fanboi Posted ID6:t2M6jmF4E4

>>677 แค่ขึ้นมาว่า ทะลุมิติ + ระบบ + นางร้าย กูก็ส่ายหัวแล้วจ้า แต่นั่นก็ความเห็นกูคนเดียวนะ ตลาดอาจจะชอบ
ถ้าถามกู ข้อแรกก็น่าสนใจอยู่ อาจจะแสดงความขัดแย้งว่าตัวเอกไม่ได้อยากจะร้าย แต่ระบบบังคับให้ร้ายเลยต้องตามน้ำ จนมีใครซักคนมองออกแล้วอาศัยจังหวะนั้นเข้ามาตีซี้ก็น่าจะได้อยู่มั้ง

แต่อย่างที่บอกล่ะ กูไม่ชอบอ่านแนวทะลุมิติ + ระบบ กูก็บอกไม่ได้มากว่าแบบไหนดีกว่า

679 Nameless Fanboi Posted ID6:G8sE+zA+0P

>>678 โหอย่างกับกูละเมอพิมพ์ >>677 มึงลองไปปรึกษาพี่สาวมู้เว็บตูนดูมั้ย จั่วหวานๆ พี่สาวอยากเขียนแบบนี้รบกวนแนะนำ หน่อย

680 Nameless Fanboi Posted ID:CDeZjbmRR1

>>670 กุขำเหมือนกัน ไม่รู้ทำไมคำนี้มันให้ภาพจำดิบเถื่อนเหมือนเรื่องเสวถุงกล้วยแขกอะ 55555 คือไม่ใช่ภาษาที่กุคิดว่าจะเจอในนิยายรักภาษาสุภาพสละสลวยอะ รึคลังคำกุต่ำเองวะ จริง ๆ มันเป็นภาษาสุภาพปกติมั้ย

681 Nameless Fanboi Posted ID6:a.hbHr67kl

>>677 ถ้าทำตัวเป็นนางร้ายสันดานหมาก็จะเข้า bad end แล้วตอนจบก็จะเกิดความชิบหายแก่ตัวมันน่ะสิ คนปกติที่ทะลุมิติเข้าไปแม่งก็หาทางเลี่ยงเดธแฟลกกันทั้งนั้น เว้นแต่ว่าการเป็นนางร้ายของอีสาวทะลุมิติมันจะได้รับรางวัลอะไรซักอย่างที่ทำให้ลงทุนทำถึงขนาดนั้น จะให้ยอมเสียหรือยอมแลกทุกอย่างก็ได้เพื่อสิ่งนี้ นักอ่านก็จะได้เห็นใจนางหน่อยว่าดิชั้นไม่ได้อยากร้ายแต่จำเป็นต้องทำจริงๆนะคะ เช่น ป่วยใกล้ตาย บ้านติดหนี้มหาศาล อยู่แบบตายทั้งเป็น ฯลฯ มีระบบมาถามอยากสมหวังในสิ่งที่ปรารถนามั้ย งั้นมึงมาเป็นนางร้ายในโลกระบบของกูหน่อยไรงี้ แต่มึงเจ็บจริงตายจริงโดนเกลียดจริงนะ ถ้ามึงสะสมพอยน์การเล่นบทเป็นนางร้ายได้จะสามารถขอพรนั่นนี่โน่นได้ อะไรแบบนี้ก็ว่าไป นางเอกสาวทะลุมิติของมึงก็คิดซะว่าสิ่งที่ต้องทำเป็นงานชนิดหนึ่ง ถึงจะไม่ได้ชอบแต่ก็ต้องทำเพื่อหาเลี้ยงตัวเองไรงี้

682 Nameless Fanboi Posted ID6:g/kRZ3Kreq

>>677 กุชอบดำน้ำนิยายจีนอะนะ แนวแรกจะเห็นบ่อยกว่าแนวหลัง(คือ in gerneral เลยล่ะถ้าจะให้นางร้ายร้ายเหมือนเดิม) เหมือนมาซ่อมโลกที่กำลังจะพังแล้วระบบกำหนดให้ต้องดำเนินตามบทนิยายไม่งั้นจะมีบทลงโทษที่ถึงตาย หรือถ้าทำตามบทได้ก็จะได้รางวัลอะไรก็ว่าไป ถ้าคิดว่าพล็อตแบบแรกเจอเยอะกว่า=คนน่าจะยอมรับได้มากกว่าก็อันแรกมั้งกูว่า

683 Nameless Fanboi Posted ID6:OfuBkX6hni

โอ้ว ขอบคุณโม่งมาก ที่ช่วยตอบ ความจริง เราอยากให้นางเอกเป้น hater นางเอกในเรื่อง และรู้สึกเห็นใจนางร้ายมากกว่า เลยทำให้เธออยากช่วยตัวร้ายไรงี้ด้วย

684 Nameless Fanboi Posted ID6:Dyf8fyEsTQ

>>683 อ้าว แบบนี้มันก็ซ้ำรอยพวกมังฮวาทั่วๆไปอะดิ เกลียดนางเอก รักนางร้าย ทั้งที่ความจริงแล้วนางร้ายในนิยายส่วนใหญ่น้อยมากที่จะทำให้คนรักชอบได้ แล้วมังฮวาพวกนี้เหตุผลจะสั่วจัดๆ บอกชอบนางร้ายแต่เหตุผลเบาหวิว ทำให้เชื่อไม่ได้เลยว่าอีนางร้ายพรรค์นี้จะมีคนชอบ พอได้สวมร่างนางร้ายปุ๊บก็เตะเหตุผลอื่นๆกระเด็นหมด เสพสุขในร่างนางร้ายคนสวยอย่างเดียว ถ้ามึงจะเล่นเหตุผลนี้จริงๆก็ควรเขียนให้คนเชื่อได้ด้วยว่านางร้ายมีดีให้ชอบจริงๆ ไม่งั้นมันก็จะซ้ำรอยมังฮวาเกร่อๆแบบที่กูบอกไป

แต่นางร้ายเรื่องนึงกูก็เห็นใจมันอยู่เหมือนกัน ไม่รู้มึงเคยอ่านนางร้ายสายเชิดมั้ย อีสาวเกาทะลุเข้าร่างนางร้ายที่สวยและรวยมาก เกลียดอีนางเอกนิยายหัวชมพูเพราะอีนี่มันตอแหลจริงๆ พอเฉลยปมอีหัวชมพูก็เห็นใจมัน ตอนแรกอุตส่าห์เป็นคนดี บ้านถังแตกก็ยังเพียรพยายามหางานสุจริตทำ เป็นชนชั้นสูงแต่ตกอับต้องมาเป็นสาวใช้ในบ้านขุนนางชั้นสูง ไม่สนใจคำนินทา หนักเอาเบาสู้ ได้รับคำชมจากอีนางร้ายหนนึงเลยถือเป็นไอดอล แต่ต่อมาโดนอีนางร้ายทำตัวเหี้ยๆใส่เลยธาตุไฟแตก เข้าดาร์กไซต์ไปเลย ไม่เป็นแม่งแล้วคนดี กูจะตามอาฆาตมึงไปตลอดกาล ซึ่งอีเรื่องนี้มันก็เข้ารอยพล็อตชอบนางร้ายเกลียดนางเอกนิยายแบบที่กูบอก และมันเดินเรื่องได้สั่วสัสๆ ทั้งเรื่องแม่งไม่มีเหี้ยไรดีเลย มีอีหัวชมพูมาดึงมีนนิดนึงแต่ก็เป็นตัวละครโง่ๆตายไปแบบกีกี้อีก สงสารมันเหมือนกัน ขนาดจะเป็นนางร้ายยังกระจอกงอกง่อยสู้ใครเขาก็ไม่ได้ไปอีก

685 Nameless Fanboi Posted ID6:rMOrn/3HFY

>>683 งั้นมึงตอบตัวเองก่อนว่านางร้ายของมึงน่ารักตรงไหน แล้วค่อยชูจุดนั้นขึ้นมาให้คนอ่านรักด้วย ตัวเอกนิสัยไม่ดีบางคนมีคนรักเพราะตลก ฉลาด ไม่ยอมแพ้ หรือตั้งใจวางแผนร้ายๆแต่ผลดันออกมาดี ทุกคนแฮปปี้มีความสุข
จะไปเวย์นางเอก(ร้าย)กลับมาแก้แค้นก็ได้แหละ แต่มีเป็นพันๆเรื่องแล้วปะนะ

686 Nameless Fanboi Posted ID6:EKZ9diAJ1V

Kyกูจ้างนักวาดที่ส่วนใหญ่วาดงานช-ช
แต่กูเป็นนข.สายช-ญ แล้วมีเรื่องนึงขายหมวดโรมานซ์ ไม่มีแท็กบอยเลิฟหรือวายใดๆ ที่คำโปรยบอกให้อ่านตัวอย่างก่อนซื้อด้วย ภาพปกเป็นผู้ชาย1คน มีคนให้1ดาว สถานะขึ้นว่ามีแล้ว ด้วยเหตุผลว่านึกว่าเป็นนิยายช-ช
กูต้องยังไงดีวะ ต้องใช้ทริคอะไรรับมือ😑เจอแบบนี้ไปไม่เป็นเลย

687 Nameless Fanboi Posted ID6:2NANx.b3yg

>>686 นักอ่านโชว์โง่แท้วะ ลองปรึกษาเม็ด เขาน่าจะลบให้นะ เหตุผลที่ให้ดาวขี้หมาจัด

688 Nameless Fanboi Posted ID6:2NANx.b3yg

>>683 แค่นี้ก็รู้แล้วนิยายมึงจะมาทรงไหน5555 ยัดบทนางเอกนิยายเป็นอีดอกล่ะสิ เกร่อจัด แต่คนส่วนใหญ่เห้นชอบกัน

689 Nameless Fanboi Posted ID6:9BoPMK..vP

>>684 685 688

ความจริงเราวางแผนให้นิยายที่ตัวเอกทะลุมิติไป มันมี 2 ไตรภาค ไตรภาคแรกที่ขายดีโด่งดังไปทั่ว ตัวละครและเนื้อเรื่องดี
แต่พอขายดีแล้ว ก็โดนบริษัทใหญ่ซื้อลิขสิทธิ์ไปทำไตรภาค2 ต่อ ตัวละครหลักเป้นตัวละครใหม่หมด เนื้อเรื่องบ้ง ซ้ำซาก ไม่สมเหตุสมผล นางเอกใหม่แมรี่ซูเกิน + ไม่สวย ตัวละครเก่าบทมีน้อยแถมยังโดนตัวละครใหม่แกล้ง เจอปู้ยี้ปู้ยำ แถมบริษัทที่ซื้อไปเจอใครให้คะแนนน้อยจะส่งไอโอออกมาโจมตี ด่า รีพอร์ท และชอบปั่นคะแนน รีวิว ไตรภาคใหม่ให้ดีเว่อ

นางเอกที่ทะลุมิติ มันแฟนรุ่นเก่า เคยโดนไอโอเล่นงานไป เลยเกลียดมากเข้ากระดูกดำ พอเกิดใหม่เป้นนางร้ายที่ถูกบทเขียนให้โง่แบบไม่มีเหตุผลเพื่อแพ้นางเอก เลยเห้นใจเธอ งวดนี้เลยขอเช็คบิลนางเอกใหม่ ใช้ระบบมุ่งพัฒนาเป้นนางร้ายที่เก่งกว่าเพื่อล้างจักรวาลไตรภาคใหม่ที่เธอแสนเกลียด และช่วยตัวละครเก่าที่เธอชอบ

แบบนี้เป้นไงบ้างโม่ง มันพอสมเหตสมผลไหม

690 Nameless Fanboi Posted ID:8x31cJ9dK+

>>689 ก่อนอื่นนางเอกทะลุไปไหน เกมหรือนิยาย แต่จากที่พิมพ์น่าจะนิยาย กูมองว่าไม่สมเหตุสมผลตั้งแต่บริษัทล่ะ ต่อให้ซื้อลิขสิทธิ์ แต่คนประพันธ์ก็คนเดิม เหมือนนางร้ายยุคบุกเบิกของชาวเกาะ เขียนลงเว็บเล่มเดียวจบ นายทุนติดต่อมา ต้องเขียนยาวๆ หลายเล่ม
แล้วทำคนแต่งทำตามที่มึงว่า คนโดนด่าก่อนคือคนเขียนจากที่เขียนดีๆ ในภาคแรก แล้วภาคสองก็จู่ๆ ผีเข้าเขียนบ้งชิบหาย แฟนคลับด่ายังไง นายทุนแม่งก็ไม่สนหรอก ถ้าขายไม่ได้ก็ตัดจบ หานิยายเรื่องใหม่ขาย

เหตุผลเดียวที่คนเกลียดนางเอกได้ในสายตากูคือคนปสด.แบบสุดๆ อย่างที่กูเจอนางเอกเกมจีบหนุ่มหนึ่งแม่งโดนเกลียด เพราะนางขัดขวางโมเมนต์จิ้นวาย

691 Nameless Fanboi Posted ID:8x31cJ9dK+

>>690 อะ แต่ถ้ามึงยังอยากเขียนแนวนี้ต่อ แนะนำว่าจงมีคนทะลุ 2 คน ที่เหลือมึงคิดพล็อตต่อเอาเอง

692 Nameless Fanboi Posted ID6:hpIPuvEWxe

ขอบ่นหน่อย ช่วงนี้รู้สึกไม่มีอารมณ์จะเขียนแฮะ
คืออยากเขียนนะ แต่แม่งเบื่อที่จะต้องมาคำนึงว่าแนวนี้จะเป็นที่นิยมมั้ย แนวนี้จะมีคนอ่านมั้ย แนวนี้จะขายได้มั้ย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องปัจจัยภายนอกที่ทางเราควบคุมไม่ได้ แล้วแม่งก็พาลรู้สึกไม่อยากเขียนเลยแฮะ

คิดถึงตอนที่เขียนแบบไม่คิดอะไรชะมัด ตอนนั้นแค่รู้ว่าอยากจะเขียนก็เลยเขียนออกมาเท่านั้น
ถึงผลลัพธ์จะออกมาไม่เวิร์คก็เถอะ แต่ระหว่างเขียนเองอ่านเองก็ยังรู้สึกสนุก ไม่เหมือนตอนนี้เลยที่แค่มองหน้ากระดาษก็รู้สึกเปื่อยแล้ว

693 Nameless Fanboi Posted ID6:oU.fR/TGBa

>>692 มึงก็รู้ตัวนะว่ามึงตั้งความหวังในสิ่งที่มึงควบคุมไม่ได้ แล้วมึงก็รู้ตัวด้วยนะว่ามึงเอาแต่คิดแต่เรื่องเดิมๆจนเบื่อตัวเอง ทางตัดวงจรก็ง่าย(แต่ทำโคตรยากอยู่)​ ไม่คาดหวังผล แล้วรับรางวัลจากความสุขระหว่างขั้นตอนแทน เท่านั้นแหละ

ปัญหาแนวนี้ไม่ได้เกิดแค่กับงานเขียน แต่มันเกิดได้กับทุกอย่างในชีวิต

694 Nameless Fanboi Posted ID6:EKZ9diAJ1V

>>693 กูไม่ใช่692 แต่ชอบแนวคิดมึงอะ ว่างๆมึงมาโปรดแถวนี้บ่อยๆนะ เรื่องที่รู้แต่บางทีอยู่ในปัญหามันก็ตื้อไปหมดมองไม่เห็น คิดอะไรไม่ออก

695 Nameless Fanboi Posted ID6:4ZkNFrXXXl

>>689 กูอ่านแล้วรู้สึกเหมือนเห็นติ่งเดนตายของบุพเพเลยว่ะ ภาคแรกทำไว้ดี เป็นออเจ้ากันทั่วบ้านทั่วเมือง พอขายดีนายทุนก็ได้ใจ ยัดแต่ฉากฟิน ตัวละครก็งี่เง่าไม่สมเหตุสมผลไปหมด

แต่ถึงงั้นกูก็รู้สึกว่ามันงี่เง่ากับการที่นางเอกของมึงจะทะลุไปเปลี่ยนนั่นนี่ในเรื่องตามประสาติ่ง คือถ้าอยากให้เป็นไปตามใจมันก็ควรไปเขียนแฟนฟิคเองว่ะ บางเรื่องทำมาห่วยๆนี่แทบจะลบความจำว่ากูเคยดูเรื่องนี้แล้วเตะทิ้งถังขยะให้หมด อ่านแค่ต้นฉบับพอ ส่วนหนังจะวินาศสันตะโรยังไงกูไม่สนใจ

แล้วเซ็ตติ้งมึง นายทุนทำพังเองขนาดนั้น นักอ่านมันน่าจะรู้สึกเหมือนโดนหักหลังป่ะวะ ฟีลแบบ got ที่จบห่วยๆ จากคนเคยไฮป์เรื่องนี้เพราะดีมาตลอดแม่งก็ไม่พูดถึงอีกเลย ซีรีส์แม่งแทบจะจมลงไปใต้ก้นมหาสมุทรไม่มีใครพูดถึง ติ่งที่เคยรีวิวก็ส่ายหน้ากันหมด เจออะไรแย่ๆมันเลยหมดรักกับเรื่องนี้ไปแล้วก็มูฟออนไปหาด้อมใหม่มากกว่าจะย้ำคิดย้ำทำว่าอยากแก้อีเวนท์ให้เป็นไปตามใจมึงมากกว่าว่ะ ถ้านางเอกมึงยังคิดจะแก้ไขอีเวนท์แม่งต้องรักเรื่องนี้อย่างแรงกล้ามากๆเลยนะ ซึ่งแม่งน่าทึ่งมาก เจ้าของผลงานมันคงไม่รักนิยายที่มันแต่งเท่านางเอกมึงเลยมั้งนั่น

696 Nameless Fanboi Posted ID6:hpIPuvEWxe

>>693 มาลองคิดดู กูว่าตอนนี้กูน่าจะอยู่ในช่วง Burnout แฮะ
คงต้องให้เวลามันเยียวยาไปเองอย่างเดียวอะ ยิ่งฝืนยิ่งแย่ นี่ลองฝืนนั่งเขียนมาทั้งวันได้แค่ 1000 คำเศษๆ เอง แถมไม่สนุกด้วย คงต้องปล่อยไปก่อนล่ะ

697 Nameless Fanboi Posted ID:20pE13vNqP

KY เคยมีส่วนที่ต้องเขียนแต่ดันไม่มีใจเขียนส่วนนั้นบ้างมั้ยวะ คือกุแต่งนิยาย อยากเขียนซีนคนจีบกันกุ๊กกิ๊ก แต่ต้องเขียนประเด็นอื่นด้วยเพื่อให้เรื่องมันสมบูรณ์ /สมมติว่าเป็นส่วนปมตัวละคร ย้อนอดีตรันทดที่ทำให้กลายเป็นคนมีปม คือมันควรจะเขียนเพื่อเพิ่มความมีมิติ แต่กูดันไม่อยากเขียน เขียนละเบื่อ ไม่มีไฟ แบบนี้ถือว่ากูมาถูกทางมั้ยวะ กูควรกัดฟันเขียนๆ ไปให้เรื่องมันสมบูรณ์ หรือพยายามเค้นสมองแก้ให้ประเด็นมันน่าสนใจขึ้น หรือตัดส่วนนั้นออกเลยดีกว่า Orz เพื่อนคิดว่าไง

ปล.พอดีกูเป็นนักอ่านสายเรื่องมากน่ะ พอเป็นนข.แล้วอะไรไม่อยากอ่านก็ไม่อยากเขียน ชอบคิดว่าขนาดนข.ยังเบื่อยังไม่อยากอ่านเลย นักอ่านจะเหลือเหรอวะ 5555 (ทั้งๆ ที่ถ้ามองอย่างเป็นกลางมันก็ไม่ได้แย่มากนะ แค่ตัวกุไม่อยากอ่านเฉยๆ) แต่ประเด็นส่วนนั้นมันก็ควรเขียนนิ 5555

เป็นนข.แม่งยากจังวะ ต้องผูกเรื่องให้มันสมเหตุสมผลนั่นนี้ กุแค่อยากเห็นคนรักกัน โฮรๆๆๆๆๆๆ

698 Nameless Fanboi Posted ID6:W9Q9LUTdvi

>>691 +1 ทางเดียวที่จะบิดพล็อตได้แบบหน้ามือหลังตีนโดยเมคเซ้นมาหน่อย กูว่าต้องมาทรงนี้แหละ ให้สาวทะลุสองคนมาซัดกันเอง ถ้าให้ทะลุคนเดียวแล้วมาแถแหลกแบบพส.เกาที่ใช้ทุกเดิมๆเช่น พอนิยายจบไม่มีนข.คุมแล้ว ตลค.อย่างนางเอกเรื่องเลยหลุดคาร์ocได้เฉย แต่เป็นอยู่ตัวเดียวนะ555 พระเอกพระรองยังคีปคาร์เดิมไม่เปลี่ยน แต่สาวทะลุเข้ามาตบเกรียนนางเอกนิยายที่ออกลายดอก เลยหันมาสนใจสาวทะลุแทน ส่วนนางเอกนิยายโดนเขี่ยทิ้งไป
แต่ อันนี้เป็นเว็บตูนในแอปเขียว ชื่อไรวะกูลืมละ โม่งไหนจำได้มาใส่ชื่อที
แต่ก็เคยเจออีกเรื่องคือสาวทะลุมาตีกันแหละ แต่ดันใส่พล็อตย้อนเวลามาแทรก เรื่องเลขาทรราชในแอปดำ คือเส้นเวลาแรกสาวทะลุเข้าร่างนางเอกนิยาย แล้วพอเดินอีเว้นตามรอยทุกอย่างจนจบกับพระเอกจนจบเรื่อง หลังจากนั้นก็แต่งวานมีลูกซึ่งพอเป็นเนื้อหาไม่มีในนิยายหลักก็ดันบิดซะว่าเป็นอีดอกไม่สนลูกซะงั้น มาสำนึกได้ตอนขิตเลยตั้งใจจะแก้ไขตัวเองพอได้ย้อนเวลาใหม่ เสือกยัดสาวทะลุอีกคนมาเข้าร่างตปก. แล้วฉกตำแหน่งนางเอกนิยายไปแทน ทีนี้สาวทะลุในร่างนางเอกนิยายเลยกลายเป็นตัวร้ายเต็มขั้นไปเลย กลายเป็นความอิหยังสะแบบจะย้อนเวลามาทำไมในเมื่อยัดบทนางเอกให้อีกคนงี้ สาวทะลุคนเดิมก็ควรขิตไปเลยเหอะงั้นจะให้ย้อนเวลามาด้วยเพื่อ ส่วนสาวทะลุคนใหม่ที่ไม่ได้ย้อนเวลา แต่เพิ่งมีบทในเส้นเวลาใหม่ก็โดนดันขึ้นแท่นนางเอกแทนเพราะแค่สาวทะลุคนเดิมมันดอกเกินนะเหรอ ดูอิหยังสะแถไปทุกทางซะงั้น
เพราะงั้นจากพล็อตที่มึงเล่าใน >>689 พอเมคเซ้นในระดับนึงที่บิดคาร์จนสาวทะลุต้องแก้กรรมให้ แต่ไม่เมคเซ้นพอจะลบล้างความอิหยังวะ ตลค.ออริต่อให้เขียนจากมือคนแต่ง(ที่โดนนายทุนสั่งแก้)จนนิสัยเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีน แต่ถ้าสาวทะลุเข้ามาแทรก ไงตลค.นั้นๆก็กลายเป็นตลค.oc ไปแล้วงั้น ไม่ใช่ตลค.ดั้งเดิมที่นางเอกรักอะ
ถ้าใส่สาวทะลุมาอีกคนมันจะเมคเซ้นขึ้นมานิดนึงแหละ กลายเป็นตลค.oc สองตัวที่ไส้ในเป็นสาวทะลุมาซัดกันเอง แต่ทั้งนี้ก็อย่าใส่จุดเปลี่ยนบ้งๆอย่างที่กูยกตัวอย่างมานั่นละ ทะลุก็คือทะลุ ย้อนเวลาก็คือย้อนเวลา มึงจะเล่นปมทะลุอย่างเดียวก็เล่นไป แต่ถ้าคิดใหญ่เอาสองปมมารวมกันแบบทะลุ+ย้อนเวลา มันจะไปกันไม่รอดเพราะมีจุดขัดแย้งกันไปหมด

699 Nameless Fanboi Posted ID6:wUtYaJntC/

>>698 โอ้ ขอบใจมาก

รู้อะไรไหมโม่ง เราเคยคิดไอ้พล็อตเอาแนวทะลุมิติ มา vs กับไอ้พวกย้อนเวลาละ 555

เคยสงสัยว่าเอาสองสายนี้มาเจอกันใครมันจะแน่กว่ากัน

700 Nameless Fanboi Posted ID6:2NANx.b3yg

>>699 มีแล้ว แต่เรื่องที่เจอ สองสาวเขาร่วมใจช่วยกัน ไม่มีใครอีดอก มีแต่ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ สาวๆ รักกันดี

701 Nameless Fanboi Posted ID6:2NANx.b3yg

>>699 อ่อ นิยายจีนก็มี รุ่งโรจน์นิรันดร์ สองสายนี้ตบกัน

702 Nameless Fanboi Posted ID6:2NANx.b3yg

>>700 อันนี้เว็บตูน ชีวิตที่สองบนพรมแดง

703 Nameless Fanboi Posted ID6:ld0Bu1bJcT

ช่วงฉากที่ตัวละครต้องทำแบบเดิมซ้ำๆ นานเป็นหลายเดือนโดยที่ยังไม่มีเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนเข้ามา กูพยายามบรรยายแบบไทม์สคิปแล้วหาจุดเปลี่ยนเล็กๆ (เช่น วันแรกนั่งอ่านสือที่สวนสาธาแบบเบื่อๆ แต่ไม่อยากกลับบ้าน จนผ่านไปอาทิตย์นึงก็จำหน้าคนที่มาประจำได้หมด เดือนนึงผ่านไปก็พบว่าที่นี่ถึงจะหน้าเบื่อแต่ก็มีอะไรน่าสนุกให้ทำ ไม่เหมือนกับตอนอยู่บ้าน วันนี้ก็เลยมาที่นี่อีกจนหมาที่เห่าตลอดเลิกเห่า แล้วในตอนนั้นเอง… ) แล้วว่ะ แต่มันก็ยังออกมาเป็นชอตๆ แล้วพอถึงเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนมันก็ยังดูเหมือนรีบรวบ กูรู้สึกเองว่าไม่สมูธ ไม่มีตังจ้างเบต้า ใครพอนึกตัวอย่างบรรยายประมาณนี้แต่อ่านแล้วไม่ขัดได้บ้างวะ

704 Nameless Fanboi Posted ID6:kLQ2RedHm7

>>698 เลขาทรราชเหตุผลการสวมร่างคือสั่วมากและพล็อตโฮลเละเทะ มีดีแค่เส้นสวย แต่เหตุผลห่วยแตก

-พระเจ้าสร้างโลกมา กลายเป็นนิยายมาให้อีเกาหลีสองตัวได้อ่าน
-อีเกาหลีตัวแรกทะลุเข้านิยายตามจุดมุ่งหมายของพระเจ้า โลกของมันต้องมีสาวอิเซไกมาสวมร่าง โลกของอีพระเจ้าถึงจะสมบูรณ์(เหตุผล wtf สัส)
-อีเกาหลีตัวแรกนี่สันดานดอกตั้งแต่แรกอยู่ละ ได้สวมร่างสาวสวย เป็นนางเอก มีผัวหล่อๆ ก็เดินเรื่องตามบท พอไม่มีบทเป็นไกด์นำทางอีกละ สันดานเดิมเลยออก เอาแต่เกาะหนึบติดกับผัว ไม่เอาลูก ผัวจ๋าสำคัญที่สุด
-พระเอกนิยายเฮิร์ตหนัก เมียเปลี่ยนไป จากสาวน่ารักๆกลายเป็นอีดอก วันๆไม่ทำอะไรเอาแต่ติดหนึบกับกูไปละ ทะเลาะกัน ครอบครัวแตกแยก ตัวเองต้องหนีอีน่ารำคาญจนตรอมใจตาย(มั้งนะ ถ้ากูจำไม่ผิด)
-สาวเกาเบอร์ 2 ตายห่ามาสวมร่างตัวประกอบไร้ชื่อไร้บทในนิยาย มีประวัติโคตรย่อว่าเป็นน้องสาวของเลขาที่ไม่ได้เรื่องของพระเอกแล้วโดนสั่งประหารเพราะทำงานพลาด
-อีนี่เลยไปเสนอตัวทำงานแทนเพราะไม่อยากตายห่ายกบ้านแบบนิยายสปอยไว้ ทำงานไปอ่อยไปแต่ไม่รู้ตัวเลยว่านี่คือการอ่อยเหรอคะ
-อีป้าไทเฮาแม่เลี้ยงพระเอกสาระแนเรื่องหาคู่หมั้นให้พระเอกแต่งงาน อีพระเอกเลยต้องจัดงานเลือกเมีย
-อีเมียจากลูปก่อนย้อนเวลากลับมา ทำตัวตอแหลแอ๊บแบ๊ว หวังว่าจะเป็นเหมือนเดิม แต่โทษที มึงโดนปาดหน้าเค้กไปละ มีอีดอกเบอร์ 2 มาอ่อยติดไป อดเป็นนางเอกแล้ว ว้ายยยย
-อีเบอร์ 1 ทำตัวเหี้ยๆดอกๆ ฮว้ากกก มึงแย่งผัวกู อีเบอร์ 2 อ่อยอย่างตอแหลแอ๊บแบ๊ว หีอยากปากตอแหล แต่บังเอิญว่าเขาล็อคตำแหน่งนางเอก อีเบอร์ 1 แพ้ไปนะ ดอกทั้งคู่ แต่อีพระเจ้าตัดหางมึงทิ้งนานละ มึงทำโลกอีพระเจ้าล่มจมในลูปแรก พระเจ้าไม่ปลื้ม (แต่มันเอาอีนี่กลับมาทำไมวะ เหตุผลอีพระเจ้าโคตรกะหลั่ว อีเบอร์ 1 ใช้งานไม่ได้ มันเอาอีเบอร์ 2 ขึ้นแท่นนางเอกแทนทันที นักเขียนให้เหตุผลได้กากชิบหาย)

705 Nameless Fanboi Posted ID6:2NANx.b3yg

>>704 เรื่องนี้กลายเป็นสงสารนางร้ายไปหน่อยๆ เพราะชีดูแบบมีอาการเบบี้บลู พระเอกเหี้ยลอยตัวคน้ดียว

706 Nameless Fanboi Posted ID6:5EWYaRKdEW

>>699 มีคนเล่นไปเยอะละ ออกมาดูดีก็มี ดูบ้งก็มี มึงอยากเขียนก็ได้แต่หาจุดเมคเซ้นหน่อยละกัน

707 Nameless Fanboi Posted ID6:kLQ2RedHm7

>>705 อีเบอร์ 1 มันสันดานดอกอยู่แล้วด้วยน่ะ พอคลอดลูกแล้วตัวเองก็ไม่เอาลูก มุ่งแต่จะตัวติดกับผัว ไม่มีไกด์จากนิยายนำทางแล้วก็เป็นตัวมันเองจริงๆละ ผัวถึงกับรับไม่ได้ ไม่ได้น่าสงสารอะไรหรอก

แต่คนน่าสงสารคือนางเอกนิยายตัวจริงมากกว่า อยู่กับผัวอยู่ดีๆ อีพระเจ้ามากระชากวิญญาณออกจากร่างแล้วเอาวิญญาณอีดอกใส่ เอาร่างนางไปปู้ยี้ปู้ยำ ตอนจบก็โดนลืมไปเลย ทำเหมือนอีเกาหลีเบอร์ 1 มันคืออีนางเอกนิยายตัวจริง แต่เปล่าจ้า มันก็คนสวมร่างเฉยๆ นางเอกนิยายเสียทุกอย่างทั้งร่างตัวเอง สถานะ แล้วก็ผัวที่รักกันอยู่ดีๆ เป็นกูคงเปิดสงครามกับพระเจ้าเหี้ยๆแบบนี้แม่ง โลกตัวเองไม่ดูแลให้ดี สาระแนไปเอาใครไม่รู้มาใส่ร่างแล้วพังไทม์ไลน์เละเทะ

708 Nameless Fanboi Posted ID6:2NANx.b3yg

>>707 เออลืม เจ้าของร่างจริงนี่แหละ วงวารสุด แต่กุเกลียดพระเอกใน สมการนี้มากกว่า สุดจัดอะเรื่องนี้ เรื่องเหี้ยไรก็ไม่รู้

709 Nameless Fanboi Posted ID:./WCB+RLvY

>>703 ลองบรรยายแบบ วันนี้ตื่นมาชงกาแฟกินอาหารเช้าบลาๆ เลือกหนังสือที่จะไปอ่านที่สวนสาเหมือนเดิม(เหตุการณ์เดิมๆ แต่เพิ่มรายละเอียดที่มึงเคยตัดออกไปเอามาใส่ตรงจุดนี้แทน) อาจจะบรรยาย ครส ตัวละครว่าวันนี้รู้สึกยังไง เบื่อมั่งไรมั่ง หรือไม่บรรยายประมาณวันนี้ก็เหมือนเดิมๆ แต่ไม่รู้เลยว่าจะมีสิ่งที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตเธอ/เขาไปไรงิ แล้วค่อยๆ บรรยายเข้าสู่เหตุการณ์ที่จะเป็นจุดเปลี่ยนที่มึงตั้งใจ

ไม่รู้จะตรง จปส ที่มึงอยากได้ป่าวนะ เผื่อเป็นไอเดีย

710 Nameless Fanboi Posted ID:jXwiEumLBi

>>692 ย่อหน้าแรกเหมือนมึงไม่ได้อยากเขียน มึงอยากมีนิยายที่เขียนเสร็จแล้ว ย่อหน้าสองเหมือนมึงอยากเขียน กูอยากบอกแค่ว่าอย่าฝืน ไปหาอะไรเติมไฟให้ตัวเองแล้วค่อยลองไปทำอีกทีดีกว่าเสียเวลามองหน้ากระดาษว่างๆแบบที่มึงว่า

711 Nameless Fanboi Posted ID6:T++YvCMAk.

>>710 ลึกซึ้งว่ะ ไม่ได้อยากเขียนแต่อยากมีนิยายที่เขียนจบแล้ว นี่มันกูเลย

712 Nameless Fanboi Posted ID6:dJ65AVR7RP

>>710 กูเขียนไปไกลแล้วไง นี่กำลังจะปิดเล่มที่ 6 ซึ่งตามแผนเดิมมันดำเนินมาได้ครึ่งเรื่อง
แต่มาตอนนี้กูหมดไฟจนไม่อยากเขียนต่อละ ว่าจะตัดจบแค่เล่มนี้เล่มสุดท้าย แต่ก็ไม่มีอารมณ์ที่จะเค้นเขียนต่อให้จบได้ซะงั้น
แถมพอนึกจะเขียนเรื่องใหม่ก็เจอโจทย์มารุมเร้าจนไม่อยากเขียนต่ออีก เลยมาบ่นอย่างที่เห็นนี่ล่ะ

713 Nameless Fanboi Posted ID:zesWNT08/6

อยากร้องไห้ว่ะ มีประเด็นไหนแตะแล้วทำนักอ่านร้องไห้ได้มั่ง ถ้าไม่ใช่เรื่องความตาย / สัตว์ตาย ????

714 Nameless Fanboi Posted ID6:T++YvCMAk.

>>713 เรป,ล่วงละเมิดเด็ก (ถ้าเป็นนางเอกหรือพระเอกจะยิ่งหดหู่) ,ถูกนอกใจแบบเจ็บปวด ร้องไห้ตามเพราะอยากออกจากสภาพนี้, โดนตัวละครที่ชงมาว่าดีตลอดทรยศหักหลัง แล้วทุกอย่างที่พยายามมาพังลงต่อหน้า , ต้องตัดใจจากคนที่รักทั้งที่ยังรัก เพื่อเหตุผลบางอย่างที่กดดันบีบคั้น เช่นต้องหลอกผัวว่าทำแท้ งไปแล้วเพื่อให้ผัวเลิกกับตัวเองแล้วไปเรียนต่อ แล้วก็แอบคลอดลูกมาเลี้ยงลูกคนเดียว

715 Nameless Fanboi Posted ID6:65ADyFRUxi

>>713 ชีวิตรัดทด บัดซบเหมือนสวรรค์สาปส่งนรกถีบกลับ อยู่ต่อก็เหมือนตาย แต่ตายไปก็คือยิ่งกว่าว่างเปล่า

716 Nameless Fanboi Posted ID:zesWNT08/6

>>713 นึกได้เพิ่ม เรื่องครอบครัว / คนแก่ มีไรทัชใจอีกวะ

>>714 >>715 เก้ทเลย แต่ประเด็นพวกนี้บางทีฝืนเกิน สงสารลูกๆ กู 5555

717 Nameless Fanboi Posted ID6:ncnTaOOFgW

>>713 ลองเรื่องดีๆมั้ย แบบพยายามมานานมากๆๆๆๆ แล้วในที่สุดก็ได้รับการยอมรับอย่างจริงใจ หรือครอบครัวเพื่อนฝูงได้เคลียร์ใจกลับมาอยู่ด้วยกันงี้ เขียนซึ้งๆมันก็ร้องได้นะ น้ำตาอุ่นของความสุขใจไรงี้

ไม่ใช่ไร กูไม่เจอมานานมาก อยากอ่าน 5555

718 Nameless Fanboi Posted ID6:T9FA6ezk+o

สำหรับกู กูจะร้องไห้ฉากที่ตัวละครทำอะไรเสียสละชีวิตเพื่อคนอื่น ทำตามคำสัญญาได้แล้ว การจากลา หรือตอนจบหลังฝ่าฟันอุปสรรคมามากมายจนได้เจอความสงบสุขและที่พักใจไรงี้ ส่วนใหญ่มันจะเป็นน้ำตาความปลื้มปิติมากกว่า เรื่องไหนจบดีๆแบบเคลียร์ทุกประเด็นแล้วให้ตัวละครพบกับความสุขได้ซักทีกูก็ร้องไห้เหมือนกัน

แต่ถ้าฉากเศร้าๆแบบบิลด์มาเศร้าแน่นอนคือฉากหมาหรือสัตว์ตาย คนแก่ไรงี้กูก็สะเทือนใจ เคยดูหนังเกาหลีเรื่องคุณยายของผมดีที่สุดในโลกแม่งสะเทือนใจหลายอันเลย พระเอกที่เป็นเด็กน้อยต้องไปอยู่ตจว.กันดารๆกับยาย เงินก็ไม่ค่อยมี อยากกินเคปซีก็ไม่มีให้กิน หงุดหงิดใส่ยายตลอด หนีออกจากบ้านจะกลับไปหาแม่แล้วยายที่เป็นใบ้ต้องตามหาทั้งคืน ตื่นมาเจอไก่ทอดเย็นๆที่ยายเจียดเงินไปซื้อมาทอดให้ พระเอกนั่งกินไก่เย็นชืดทั้งน้ำตา กลับตัวเป็นเด็กดีไม่สร้างภาระให้ยาย ตอนลาจากก็เศร้าแต่ก็งดงามเหมือนพระเอกก็ได้เรียนรู้ชีวิตแล้ว

อีกเรื่องที่กูร้องไห้ทั้งเรื่องจำได้ว่าเป็นเรื่องแม่อายสะอื้นมั้ง ชีวิตนางเอกแม่งบัดซบทุกดอกแทบไม่มีช่วงไหนดีเลย โดนหลอกไปขายตัว ท้องแล้วต้องเอาลูกไปฝากพ่อไว้ พอเตลิดไปแล้วกู่ไม่กลับ ทำร้ายคนนั้นคนนี้ไปเยอะแยะมากมาย แต่คนที่นางเอกทำร้ายก็มีครอบครัวตัวเองด้วย กูสะเทือนใจตอนพ่อนางเอกที่ป่วยหนักแต่ต้องพาหลานที่ขาพิการออกมาเร่ร่อนขอทานเพราะมาตามหานางเอกในกรุงเทพ นางเอกก็ทำเป็นไม่รู้จักไปอีกเพราะตอนนั้นตัวเองเป็นดาราดังแล้ว กลัวว่าถ้ามีคนรู้อดีตตัวเองว่ามีลูกแล้วจะดับ ตอนจบก็เศร้าไปอีก

719 Nameless Fanboi Posted ID6:/NAIFsx4Sp

ในเอ็กมีคนโพสว่าเจนzไม่มีใครดันใครปั้น กุว่ามันก็ตามกระแสคนอ่านด้วยปะ สนพใหม่ๆจับกระแสว่าคนอ่านชอบหวัดงานชชที่มีกระแสดังมาก่อนก็เอามาแปลเพื่อความอยู่รอดของสนพเอง พวกรุ่นเก่าๆที่เคยขายงานคนไทยก็ไม่ใช่สายที่คนอ่านเจนนี้ชอบ

720 Nameless Fanboi Posted ID:IgJL87PwDq

>>719 เป็นกุก็ไม่อยากปั้นอ่ะ กุไม่อยากเหมารวมนะแต่ส่วนใหญ่เด็กสมัยนี้มันร่วมงานยาก ไม่อดทน ไม่รอ อยากให้ดันแต่ไม่ยอมปรับงาน ให้แก้งานทีอีโก้เสียดฟ้า เข้าข้างตัวเอง มีเหตุผลให้ตัวเองทุกอย่าง แต่ไม่เข้าใจองค์กรที่ร่วมงาน แถมยังแฉเก่งอีกต่างหาก บางเรื่องก็พูดแต่มุมตัวเอง เป็นสนพ.ปวดหัวตาย งานยังขายไม่ได้แต่อีโก้ยิ่งกว่ายอดพีระมิด กุไปจับงานแปลที่ขายได้ชัวร์ๆ และไม่เสี่ยงดราม่าให้ปวดหัวดีกว่า

721 Nameless Fanboi Posted ID:QbE.3vFPlU

>>720 เดี๋ยวๆ หน้าที่ของสนพ.คิอการตีพิมพ์งานมันต้องมาแคร์เรื่องพวกนี้ด้วยเหรอวะ เอางานนข.มาตีพิมพ์ ไม่ได้เอาตัวนข.มาตีพิมพ์ ถ้าจะยึดตรรกะนี้สนพ.ก็เขียนเองตีพิมพ์เองเลยไม่ดีกว่าเหรอ จบปัญหาดึงคนนอกมาร่วมงานแน่นอน คนในมึงก็อย่าปากเปราะ เอาอย่างค่ายดาร์คฟตซ.ไทยบางค่าย มีนข.ในสังกัด เขียนงานกันเป็นทีม ทำกันได้มั้ย ทุกวันนี้ทำได้แค่แก้ปัญหาปลายเหตุคือไม่รับงานนข.ไทยดีกว่า ละดูปท.ชาติอื่นที่เขาเจริญๆดิ๊ นข.ประสาทขนาดไหนเขาก็ปล่อยแม่ง เรื่องมึงพล่ามเกี่ยวกับกูที่ไหน ละยังไงงานชาติตัวเองก็ต้องมาก่อนค่าLCก็ไม่แพงหูดับ
ละปัญหานข.ไม่ให้บรรณาธิกร? แล้วมึงจะไปแคร์เหี้ยไรอ่ะ นข.อยากตีพิมพ์ก็ต้องทำงานมีคุณภาพ ไม่ทำนข.มึงก็หอบงานมึงกลับไป บ.ก.ก็แข็งใส่อีพวกประสาทอย่างงี้บ้างดิ เป็นคนไทยขี้เกรงใจเลยทำไม่ได่รึไง หรือไปง้อเอางานแมสๆบนเน็ตมากลัวเขาจะไม่ยอมตีพิมพ์ด้วย เลยไม่กล้าแตะ จนติดมาเป็นนิสัย แล้วมึงจะเป็นไปทำไมบ.ก. วันๆจัดเล่มกับนั่งพิสูจน์อษ.แข่งกับฝ่ายพิสูจน์อษ.เหรอ
นข.ก็ไม่คิดจะโทษตัวเอง ไม่คิดพัฒนาตัวเอง สนพ.ก็ไม่คิดจะโทษตัวเอง ไม่คิดพัฒนาระบบ ก็ปล่อยมันเจ๊งไปหยั่งงี้แหละสัส ใครแกร่งสุดก็อยู่รอดละกัน กูรอดูภาคเอนด์เกมอย่างเดียวละ

722 Nameless Fanboi Posted ID:fwxdG2PjkN

>>719 เห็นในx ถ้าเป็นอันเดียวกันนะ มันก็ไม่เชิงตัดพ้อว่าไม่มีใครดันเจน z แต่เป็นสภาพการณ์โดยรวมของตลาดว่านักเขียนใหม่ที่ปังๆไม่มีเกิดในยุคนี้เลยมากกว่า และส่วนหนึ่งคือสนพ.เน้นงานแปล เพราะว่าคนอ่านส่วนใหญ่ก็เทไปงานแปลด้วย จะด่าสนพ.อย่างเดียวก็ไม่เต็มปาก เพราะตลาดมันเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดทิศทางจริงๆ
แต่เห็นคห. นึงน่าสนใจ ตรงที่พูดถึงงานแมวมอง ว่าคุณภาพงานตาม webnovel มันไม่ผ่าน ส่วนที่ผ่านก็ยอดไม่ปัง แถมลงปุ๊บขายebook ปั๊บ สนพ.จีบไม่ทัน กุแอบสนใจประเด็นนี้แฮะ อยากรู้ว่าความคุณภาพไม่ผ่านนี่คือยังไง และถ้าเรื่องนั้นยอดไม่ปังคือไม่เอาเลยใช่ไหม ต่อให้คุณภาพตามเกณฑ์แมวมองจะดีมากก็ตาม และถ้ามีอีบุคแล้วคือตัดเลยใช่ไหม เพราะสนพ.ต้องการทั้งสองอย่าง อะไรทำนองนี้

723 Nameless Fanboi Posted ID6:EIiwIGZsGV

เมื่อก่อนสนพ.แทบจะกว้านกวาดเอานิยายท็อปๆติดอันดับในเว็บ กับคนในหลังไมค์หานข.ให้ส่งต้นฉบับมาเลยด้วยซ้ำ นักเขียนใหม่กลายเป็นนักเขียนดังบางทีก็เกิดจากตรงนี้ด้วย (แต่ก็ต้องยอมรับว่าไอ้ที่กวาดมา เรื่องแปลกๆก็เยอะใช้ได้) เดี๋ยวนี้เหมือนไปแตะนิยายแปลกันหมดแล้วจริงๆ เห็นบางสนพ.เคยไปจีบนข.ทำมือดังๆเขาก็ไม่เอา เพราะเขาลำบากแค่ตอนแพ็กของอย่างเดียว แต่เงินทำเล่มกับอีบุ๊คต้องหักให้สนพ.ต่อ รายได้มันลด เขาก็ไม่ร่วมงานด้วย ไม่ใช่แค่สนพ.ที่เลือกได้หรอก นข.ก็เลือกเหมือนกัน

คือกูรักนิยายไทยพอตัวนะ กูรักการบรรยายด้วยชื่อจริงในบทบรรยายและเรียกกันด้วยชื่อเล่น กูรัก nc แบบเปรียบเปรยนมเป็นทรวงอกอิ่ม ยอดปทุมถัน กูรักคลังคำบ้านเรา และกูก็ชอบรูปเล่มมากจริงๆ 😭 พอเห็นมันจะตายและสนพ.ที่ตามก็เต็มไปด้วยนิยายแปลชื่อจีนกันไปหมด กูก็แอบเจ็บใจจริงๆ

724 Nameless Fanboi Posted ID6:bHatYYdyjV

กูเจน Y ต้นๆ ปลายๆ เจน X ยังตัดพ้อเลยมึง
ตลาดตอนนี้แม่งเหี้ยจริงวงการนิยายเนี่ย ราวๆ สิบปีก่อน กูเห็น บก. มานั่งเสาะหานิยายวาย แล้วปฏิเสธนิยายแนวอื่นหมด ทั้งที่ก่อนหน้าก็มีแต่แฟนตาซีออกมาเรื่อยๆ

พอยุคถัดมาแทนที่แนวอื่นจะได้กลับมารุ่งเรืองก็ดันต้องมาแข่งกับนิยายแปล โดยเฉพาะนิยายจีนที่มีเป็นพันๆ ตอนซะงั้น กูเขียนมาตลอดยังไม่มีโอกาสลืมตาอ้าปากเลย

แต่เจน Z นี่ปัญหาเยอะจริงคนไม่ค่อยอยากทำงานด้วย ทว่าเคสนี้อาจจะเป็นปัจจัยมาจากกระแสตลาดมากกว่านั่นละ

725 Nameless Fanboi Posted ID:IgJL87PwDq

>>721 ก็คนไทยอะไรมันก็ด่านายทุนก่อนไง ด่าสนพ.ก่อนไง กุไม่ใช่คนในด้วย เป็นแค่นักอ่านที่เห็นความเคลื่อนไหวมาตลอด ตลาดไทยล่มจมกุก็ไม่เดือดร้อนนะ แต่นักเขียนบางคนงานไม่ผ่านพิจารณาก็ด่าสนพ. ไม่ได้ดั่งใจอะไรก็ด่า แต่งานก็ไม่ได้ขายดีอ่ะ เขาบอกให้ปรับให้เข้ากับตลาดหน่อยก็งอแงว่าลดทอนเอกลักษณ์ แล้วส่วนใหญ่พวกขายดีเขาก็ออกไปทำเองกันทั้งนั้น สนพ.ไทยมันไม่ได้สายป่านยาว ตลาดกว้างเหมือนเมืองนอกที่มึงจะไม่แคร์อะไรขนาดนั้น เขาก็ทำมาค้าขาย งานขายไม่ได้แล้วนักเขียนยังเอาทัวร์มาลง ทำให้คนอ่านด่า มึงยังจะเสี่ยงเหรอ พูดแบบแฟร์ๆ เลย

726 Nameless Fanboi Posted ID:IgJL87PwDq

กุเข้าใจคนที่คิดว่าหน้าที่ของสนพ.คือกรองเรื่องดีๆ หลากหลาย ปั้นออกสู่ตลาด สมัยก่อนที่นักอ่านยึดสนพ.เป็นหลัก การออกงานต้องผ่านสนพ.ถึงจะขายได้ มันก็ใช่ตามนั้น แต่ยุคนี้มันแตกต่างเพราะนักเขียนทำมือเองได้ พวกที่ขายได้เอง มีฐานแฟนคลับกลางๆ ถึงระดับสูงเลยเลือกทำมือเอง ไม่ก็ทำอีบุคเองเพราะมันได้เงินเยอะกว่าผ่านสนพ. แถมไม่ต้องรอนาน (งานที่ออกกับสนพ.มึงต้องรอไม่ต่ำกว่า 2 เดือน) แล้วสนพ.สมัยนี้มีปัญหาตรงนั้นตรงนี้กันหมด พวกนักเขียนที่พอจะมีทางไป เขาเลยออกมาทำเอง ทีนี้เลยกลายเป็นว่าสนพ.ไม่ได้งานเขียนไทยที่ขายได้ ส่วนนักเขียนใหม่มึงต้องแข่งกับตลาดแปลถ้าอยากออกงานกับสนพ. แต่นักเขียนใหม่ยุคนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นคล้ายๆ กับที่กูบอกไปข้างบน เทียบกับงานแปลที่เอามาขายได้และปัญหาน้อย สนพ.ก็เลยเลือกงานแปลมามากกว่า เพราะมันขายได้ สิ่งสำคัญสุดคือมันขายได้นั่นแหละจ้า อยากให้สนพ.ปั้นนักเขียนหน้าใหม่แต่งานขายไม่ได้แถมบางคนฉอดองค์กรอีก สนพ.มันจะไหวเหรอ กุย้ำอีกทีว่าตัวเองไม่ใช่คนใน แต่เป็นคนอ่านที่ผ่านมาหลายรุ่น มึงอย่าไปคิดว่าเขาจะใจบุญสุนทานทำเพื่อวงการยอมกัดก้อนเกลือดันนักเขียนหน้าใหม่ที่ยอดเสี่ยงขายไม่ออกขนาดนั้น ขายไม่ออกเล่มนึงขาดทุนเป็นแสนๆ แบกไหวเหรอ แล้วสมัยนี้ถ้างานไม่ดัง สายส่งไม่รับเลย ปัดตกเลยนะ ทุกวันนี้คนอ่านหนังสือน้อยลงมาก ไม่เหมือนยุคก่อน สมัยก่อนแฟนตาซีขายไม่ได้ยอดพิมพ์ยังสามสี่พัน สมัยนี้ไม่ได้คือไม่ได้เลย งานมันเลยถูกบีบให้แคบลง มีแนวที่ขายได้ไม่กี่แนว คนอ่านไม่กล้าเสี่ยงกับแนวใหม่ๆ สนพ.ก็เลยไม่กล้าเสี่ยงกับนักเขียนหน้าใหม่ด้วย ถ้าคนอ่านหนังสือเยอะเหมือนสมัยก่อน อย่างขายไม่ได้ยังได้ยอดสักสองสามพัน สายส่งไม่ถีบหัวส่ง กุว่าสนพ.เขาก็อาจอยากลองเสี่ยงผลิตงานที่หลากหลายนะ

727 Nameless Fanboi Posted ID6:XaqWzgTe.N

คนไทยก็อ่านงานไทยกันเยอะนะ แต่พฤติกรรมการอ่านคืออ่านในรอร. อ่านอีบุ๊กใน meb ไรงี้มากกว่า ลองไปดูนิยายขายดีใน meb สิ ส่วนใหญ่เป็นนิยายคนไทยเขียนทั้งนั้น แล้วคนไทย (นอทออล) มันจะมี mindset แปลกๆที่ไม่รู้เริ่มมาจากไหน ว่างานไทยต้องลงให้อ่านในเว็บจนจบ ใครลงไม่จบ=แย่มาก ไม่เห็นใจนักอ่าน สนพ.เลยหันไปจับงานแปลกันหมด เพราะมันเป็นงานที่ไม่เคยมีเผยแพร่ทางไหนมาก่อน เอาจริงๆพวกงานแปลตามร้านเนี่ยส่วนใหญ่ยอดพิมพ์ก็แค่หลักพัน พันในที่นี้คือพันสองพันด้วยซ้ำ มีน้อยเรื่องที่จะได้พิมพ์หลายพันหรือไปถึงหมื่น คือไอ้งานแปลที่ชาว x แขวะๆกันอยู่ว่าวางเต็มร้านตอนนี้ยอดขายยอดพิมพ์แม่งไม่ได้เยอะเลย แค่มุมมองที่คนอ่านมีต่องานไทยกับงานแปลมันไม่เหมือนกัน งานแปลเลยได้พิมพ์ออกมาเป็นเล่มจับต้องได้เยอะกว่า เท่านั้นเอง

728 Nameless Fanboi Posted ID:fwxdG2PjkN

บางมุมกุก็คิดนะ ว่าเรายึดติดกับคำว่า สื่อสิ่งพิมพ์ = งานสนพ./งานรูปเล่ม มากเกินไปหรือเปล่า เราได้พิจารณายอดเติบโตในฝั่ง webnovel และ ebook ด้วยหรือเปล่า แน่ล่ะว่าตอนนี้ด้วยสภาพเศรษฐกิจยอดตลาดมันซึมลงจนร่อแร่ทั้งตลาดแหละ
แต่ถ้าเน้นที่ประเด็นที่โพสท์x ต้นทางเปิด เรื่องประเด็นนักเขียนหน้าใหม่ในยุคเจนz ถ้าลองพิจารณาดีๆ มันอาจจะมีนข.เกิดในวงเวบโนเวลและอีบุคมากมายก็ได้ เพียงแต่แนวเรื่องและมาตรฐานงานเขียนที่ตลาดตอบรับนั้นมันเปลี่ยนไปแล้ว พอวัดด้วยเกณฑ์เดิมในมุมมองเขาก็เลยกลายเป็นไม่มีหน้าใหม่เกิดไป (ปล. อันนี้เอาแค่ในปท.นะ)​

729 Nameless Fanboi Posted ID:fwxdG2PjkN

>>727 มึงอ่านเน้นวายเหรอ ค่านิยมนี้เด่นในสายวายนะ สายชญทั่วๆไปกุเห็นลงไม่จบ ติดเหรียญเลยรัวๆ ก็ไม่มีใครว่าไรนะ เปย์ไหวก็เปย์รัวๆ เงียบๆ ไป

730 Nameless Fanboi Posted ID6:guMUu+hwsb

>>726 เชี่ย ที่โม่งเขียนถ้าจริงนี่น่ากลัวกว่าอ่านนิยายสยองชวัญอีก

ความฝันมันจบแล้ว ไม่ทันฝันก็จบแล้ว เริ่มต้นมาก็เข้าเอนเกมแล้ว

731 Nameless Fanboi Posted ID6:XaqWzgTe.N

>>728 เห็นด้วยเลย หนังสือที่พูดว่าตายๆๆกันอยู่ดูหมายถึงรูปเล่มเน้นๆ ไม่ได้มองพวกหนังสือออนไลน์กันเท่าไหร่ สาเหตุนึงที่สมัยนี้ไม่ค่อยมีนักเขียนดังเปรี้ยงๆแบบรุ่นบูมเมอร์มันไม่ใช่เพราะคนอ่านน้อยลง หรือมีงานคนไทยน้อยลง แต่เป็นเพราะยุคนี้นักเขียนเยอะมากกกกกกต่างหาก นักอ่านก็มีตัวเลือกเยอะ หาอ่านออนไลน์กันตามสะดวก ไม่ต้องมานั่งอ่านในหนังสือสกุลไทยเหมือนสมัยก่อน (บ่งบอกอายุเลยกู) แต่ถ้ามองแค่รูปเล่มเพียวๆก็ใช่แหละ มันมีรูปเล่มของนักเขียนไทยน้อยลงจริงๆ
>>729 ใช่ๆ ที่กูพูดก็หมายถึงสายวายนั่นแหละ เลยใส่คำว่านอทออลไว้ จริงๆกูว่าเรื่องคนอ่านงานแปลเยอะกว่าไทยนี่มันดูเป็นปัญหาของสายวายมากกว่า สายชญคนก็ยังอ่านงานนักเขียนไทยกันเยอะแยะ งานแปลไม่ได้แมสขนาดนั้น กูอ่านชญเป็นหลักยังต้องมานั่งคร่ำครวญอยู่บ่อยๆว่ากูอยากอ่านงานแปลแต่ไม่มีให้กูอ่านเลยโว้ยยย เห็นมีแต่แปลจีนซึ่งกูไม่อ่านง่ะ

732 Nameless Fanboi Posted ID6:FQ/GqKkGGS

กุเป็นนักอ่านคนนึงที่พฤติกรรมเปลี่ยนจริง นิยายไทยไม่เก็บเล่มเลย ซื้อแต่ebook (ไม่อ่านในรอรด้วย ไม่มีเวลามาตามที่เขาอัพเดทงาน ปกติเลยอ่านแค่ตยในเมพถ้าชอบก็ซื้อเลย) ส่วนนิยายแปลถ้าไม่ได้ขายebookค่อยซื้อเล่ม ซึ่งกูเห็นนขดังๆก็มาอวดนะบางเรื่องยอดโหลดอีบุ๊คเป็นหมื่น ขณะถ้าทำเล่มยอดอาจจะแค่หลักพัน จริงๆกูว่าคนคงไม่ได้อ่านนิยายไทยน้อยลงหรอก ยอดอีบุ๊คน่าจะโตทุกปี แถมนักอ่านมีโอกาสเห็นงานนักเขียนหน้าใหม่ก็มีมากกว่าไปเซ็นต์กับสนพอีกกุว่า แต่เพราะมันเข้าออกตลาดง่าย จำนวนนักเขียนเลยเยอะขึ้น แข่งกันเยอะขึ้นกว่าเดิมด้วย

733 Nameless Fanboi Posted ID:flJrjH76uh

>>730 ถ้ารัฐหันมาผลักดันอย่างจริงจังกุว่ามันกลับมาได้นะ แต่ไม่ใช่สนับสนุนพอให้ได้ชื่อว่าช่วยแล้วนะ อย่างโปรเจ็กต์ล่าสุดที่เอางานไปขายต่างชาติ กุว่าไม่ได้อะไรเท่าไหร่เลย ถ้าจะผลักดันจริงๆ ต้องเข้าพยุงไม่ให้ต้นทุนการพิมพ์สูงก่อน คนจะได้เข้าถึงได้มากขึ้น สนับสนุนให้คนไทยอ่านหนังสือเยอะขึ้น สมัยก่อนมีเยอะนะโครงการรักการอ่านอะไรพวกนี้ พอคนอ่านเยอะขึ้น ตลากกว้างขึ้น กุว่าฟันเฟืองในตลาดมันก็คล่องขึ้น ถ้าระยะยาวส่งต่อรุ่นต่อรุ่นมันก็มั่นคงได้นะ แต่ยุคนี้พอตลาดมันแคบ นักอ่าน นักเขียน สนพ. ก็ตัวใครตัวมันแบบที่เห็น นักอ่านก็ไม่มีงบมากพอจะซื้อหนังสือทิ้งๆ ขว้างๆ หรือเปิดใจรับแนวใหม่ เลือกซื้อที่ชัวร์ไว้ก่อน นักเขียนก็เขียนแต่แนวที่ขายได้ ส่วนสนพ.ก็เลือกพิมพ์งานที่ขายออก เพราะทุกคนก็ต้องเอาปากท้องตัวเองก่อนอะ เสร้าฉิบหาย

734 Nameless Fanboi Posted ID6:EIiwIGZsGV

ky ขอคั่นเวลามาถามเรื่องความรู้สึกของตัวละครหน่อย
คือกูอยากให้มีฉากแม่ตัวเอกเก่งมาก นางทำความฝันไปเรียนต่อเมืองนอก ห่างลูกทั้งสองคน ห่างผัว เลยเผลอใจ ไปๆมาๆก็หลงผู้ใหม่เลยอยากหย่า ผัวที่ไทยรู้ก็ตกใจ เพราะก็ยังรู้สึกว่าเรารักกันอยู่ ลูกก็ตกใจเหมือนกัน แม่เลยแก้ตัวว่าตอนนี้นางเจอคนที่ใช่ในเวลาที่ไม่ใช่ แต่ก็จะทำให้ใช่ด้วยการหย่าไปอยู่กับชู้นี่ไง ตัวเอกมีแม่เป็นไอดอลมาตลอด มาเจอแบบนี้ก็ผิดหวังโคตรๆ แม่เลยบอกว่ากล้ามาผิดหวังได้ไง นางส่งเงินส่งให้ลูกเรียนตลอด เป็นเมียที่ดีด้วย แค่เจอรักใหม่ อย่ามาผิดหวังในความเป็นแม่ของนาง ตัวเอกควรรู้สึกยังไงกับแม่ดีวะ โกรธที่ทรยศพ่อ แต่นางก็เป็นแม่ที่ดีมาตลอด หรือควรเข้าใจ พอมองให้ผู้ชายเป็นฝ่ายนอกใจกูคิดได้นะ แต่พอเป็นฝ่ายหญิงกูดันเข้าข้างแม่ตัวเอกว่ะ (คงเพราะกูก็หญิงเหมือนกัน) ตัวเอกควรรู้สึกยังไงวะ

735 Nameless Fanboi Posted ID:DpYkB.3yR0

>>719 ยุคนี้ไม่เหมาะกับการ "ปั้น" เด็กแล้วน่ะกูว่า ปั้นคือโพรเซสสำหรับยุคเก่าที่บ.ก.มีฝีมือกับนข.มีแววจะมาขัดเกลามาลองตลาดไปด้วยกัน
เด็กยุคนี้เผลอๆ เก่งกว่าบ.ก. ไม่ต้องมารอสนพ.มาเฟ้นหาก็ขายงานเองได้ Tools ก็มี media ที่จะทำตลาดก็มีอยู่ในมือ พวกเก่งๆไม่ต้องรอแล้ว
>>720 เชี่ย คห.มึงทำให้กูนึกถึงตอนรับเด็กเจนหลังๆ มาสอนงานเลย อีโก้พุ่งชนเพดาน งานออกมาทั้งผิดทั้งชุ่ย สอนให้แก้ไม่จัม ไม่ได้เป็นแค่คนสองคนด้วยนะที่กูเจอ

736 Nameless Fanboi Posted ID:nZ9pszVgil

>>734 มึงเข้าข้าง cheater ทำไม๊ม๊ม๊ ถ้าทรงนี้กูด่าเช็ดนะ ถ้าผัวไม่เหี้ย = ไม่มีข้ออ้างให้นอกใจว่ะ ต่อให้เป็นแม่กูเลี้ยงกูมาดีกูก็ผิดหวัง คงไม่อยากคุยด้วยเลยอะ แก้ตัวว่าเป็นแม่ที่ดีเป็นเมียที่ดีก็ฟังไม่ขึ้นนะ มึงนอกใจชัด ๆ มาขอความเห็นใจเหี้ยไร คนดี ๆ ที่ไหนจะเผลอใจทั้งที่มี commitment อยู่ทนโท่ ทุเรศ อินไปนิด โทษที 555

737 Nameless Fanboi Posted ID6:FQ/GqKkGGS

>>734 ขึ้นอยู่กับวัยว่ะ ถ้าเด็กๆยันวัยรุ่นช่วง20คงมีเกลียดแม่ แต่พอโตมา30-35+ถ้าเขายังพยายามkeep in touchตัวเอกตลอดแม้โดนเมินใส่ พยายามชดเชยลูกจริงๆตลอดสิบกว่าปีมานี้ กุเป็นตัวเอกคงไม่เกลียดแม่ละ แต่ไม่สนิทใจเหมือนเดิมหรือเท่าพ่อแน่ๆ และความคิดที่แม่เป็นฝ่ายผิดก็ยังไม่หายไปด้วย คงแบบปีนึงนัดกินข้าวทีไรงี้

738 Nameless Fanboi Posted ID6:6CyAqbspnx

บนๆนี่กุเห็นด้วยเรื่องจำนวนไรท์มันเยอะขึ้นด้วยแต่รีดน้อยลงมาก คนที่ชอบอ่านงานเขียนมากๆผันตัวมาเป็นไรท์เองเยอะแต่ผู้บริโภคเสพสื่ออื่นมากขึ้น ราคาสตรีมซีรีย์ก็ไม่กี่ร้อยดูได้ทั้งเดือนแต่อ่านหนังสือได้แค่เล่มเดียวสองสามวันก็จบแล้ว ราคาความคุ้มมันต่างกันมากๆ แล้วตลาดงานเขียนมันก็แปลก กุไม่รู้ว่าเป็นแค่ที่ไทยเจนนี้หรือเปล่าเพราะกุเป็นแค่ผู้บริโภค กุเห็นไรท์ไทยกันเองก็ยังไม่เสพงานกันเองอ่านแต่งานแปลด้วยเหมือนกัน งานหนังสือทีโพสรูปว่าซื้องานแปลวรรณกรรมงานดังๆมาเพียบแต่งานไทยซื้อแค่ที่สนิทกันมากๆเท่านั้นเคยลองแอบถามก็บอกว่าไม่ได้อ่านงานกันเองเพราะไม่มีเวลาแล้วกัวติดสำนวนกันเอง แต่ซื้องานแปลมาได้เนี่ยนะ ที่ยกมานี่ไมได้คิดว่าตลาดจะรอดถ้าไรท์มาอ่านกันเองหรอกนะแค่มันแปลกที่ขนาดพวกมึงยังไม่อ่านงานกันเองเลยแล้วทำไมคิดว่าคนอื่นจะอ่านน่ะ

739 Nameless Fanboi Posted ID6:EIiwIGZsGV

>>736 ไม่เป็นไร อินเหอะ กูอยากรู้ความรู้สึกของลูกไง555 กูดูเข้าข้างเนอะ รู้สึกแย่กับตัวเองเหมือนกันที่ไบแอส คงเพราะแม่มีเหตุผล ใจดีกับลูกมาตลอด แล้วมาเสนอขอหย่าดีๆด้วยแหละ (ถึงจะด้วยตรรกะบ้งๆก็ตาม) แต่ก็อย่างที่มึงว่า นอกใจคือนอกใจอะ นางก็ไปมีคนอื่นจริง ผัวไม่ได้ทำไรผิดเลย ผัวอยู่ไทยเลี้ยงลูกแทนด้วยซ้ำ ขับรถพาลูกไปนู่นไปนี่ ตอนจบกูเลยอาจให้ผัวฟ้องหย่าไม่ก็หย่ากันดีๆไป แต่ความรู้สึกของลูกทั้ง2ก็ไม่เหมือนเดิมแน่ๆ

>>737 วัยตัวเอกประมาณมหา'ลัยนี่แหละ อยากได้ฟีลๆผิดหวังในตัวเขาแต่ก็เกลียดไม่ลง เพราะเขาก็เป็นแม่ที่ดีมาตลอด เป็นไอดอล เป็นแนวทางให้อนาคตของลูก ให้กำลังใจและเข้าใจเสมอ แต่เป็นเมียที่นอกใจผัว โอเคเลย เดี๋ยวกูจดไว้ว่ายังรักแม่แต่แค่ไม่สนิทใจเหมือนเดิมเฉยๆ เป็นบทลงโทษของคนนอกใจไป ไม่โดนฟ้องหย่าก็จริง แต่ลูกก็ไม่รู้สึกรักแม่เท่าเมื่อก่อนละ

740 Nameless Fanboi Posted ID:nZ9pszVgil

>>738 อันนี้ตลกร้าย เพื่อนนข.กูก็งี้เลย เขียนงานไทยแต่ไม่อ่านงานไทย จริง ๆ เข้าใจเรื่องติดสำนวนนะ อันนี้เรื่องใหญ่ แต่ใหญ่กว่าน่าจะเป็นเรื่องพล็อต / องค์ประกอบอื่นอะ ถ้าเจอเรื่องที่คล้ายตัวเองมาก ๆ (แต่ไม่มีใครก้อปใครแน่ ๆ) แม่งจะหลอนนั่งไม่ติดละ 555 สมมติไม่ได้อ่านแต่มีหาบประสาทแดกมาชี้หน้าหาว่าก้อปจะได้แก้ต่างได้เต็มปากว่าไม่เคยอ่านโว้ย ถ้าอ่านแล้วนี่สิงานหยาบ ต้องระแวงว่าควรแก้ไหม ต้องแก้แค่ไหนให้ไม่คล้ายคนมาก่อน (นี่กูมาดีเฟ้นให้เลยนะ 55555)
หาบบางคนแม่งประสาทจริง โดยเฉพาะทำมาเกริ่นว่ากลิ่นคล้าย ๆ เนี่ย อิดอก กลิ่นผัดกะเพราแม่งก็คล้ายกันทั้งประเทศแหละ คิดว่าร้านประจำตัวเองเป็นต้นฉบับกะเพรามั้ง หัวจะปวด // ใด ๆ กูคิดว่าถ้านข.ไม่อ่านงานคนอื่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไรว่ะ คือถ้าอ่านก็ดี ถือว่าสนับสนุนวงการ ถ้าไม่อ่านก็สิทธิ์ของเขา เหมือนร้านข้าวเปิดข้างกัน ตัดปัญหาโดนหาว่าก็อปสูตรประมาณนั้น กุว่าถ้าไม่มีปัจจัยภายนอกด้านความประสาทแดกพวกนี้คงสะดวกใจอุดหนุนเพื่อนร่วมวงการมากขึ้นแหละ

741 Nameless Fanboi Posted ID6:PlOAJltGPH

>>738 กุพูดในมุมนักอ่านนะ เท่าที่เห็นมา มันจะมีใครกล้าพูดตรงๆมั้ยว่านักเขียนก็ไม่อยากสนับสนุนกันเองอ่ะ ส่วนใหญ่มองเป็นคู่แข่ง มึงดูดราม่าที่ผ่านมาแต่ละอันสิ ชัดเจนชิบหาย ส่วนเรื่องหาบก็อีกเรื่อง กุว่าโดนชี้หน้าทีนี่ไม่สนุกเลยนะ ไม่อ่านก็ตัดตรงนี้ทิ้งได้ว่ากูไม่ได้อ่าน แค่บังเอิญใช้มุกเดียวกัน แล้วยังมีเรื่องอีโก้นักเขียนอีก ต้องชมอย่างเดียว ไม่ชมมีน้อยใจ เอาไปแขวนลับหลังก็มีให้เห็นเยอะแยะ ไฟลามทุ่งจนเป็นดราม่าก็มีให้เห็น กุว่านักเขียนหลายคนทำตัวเองด้วยว่ะ ใจบางกันเกิน ใครจะอยากอ่านวะถามจริง อีกอย่าง ถ้าซื้องานนักเขียนคนอื่นมา ก็เหมือนต้องมาคุยกันนิดนึงป่ะ กุไม่รู้นะอันนี้กุไม่ใช่นักเขียน แต่แบบ กุเห็นนักเขียนหลายๆคนเวลาซื้อหนังสือนักเขียนคนอื่นมาก็ถ่ายรูป ละก็มีนักเขียนเจ้าของหนังสือมาเม้นขอบคุณไรงี้ไหม ละถ้าสมมตินักเขียนคนนั้นซื้อมาแล้ว ดันไม่ชอบ ทำไงอ่ะ กุเป็นนักอ่านกุก็ดองคลังเงียบๆได้ แต่นักเขียนทำไงวะ สุดท้ายก็คงจะจบที่ตัดปัญหาไม่ซื้ออ่านน่าจะดีกว่ามั้ยนะ ขนาดกุยังคิดแบบนี้เลย แล้วนักเขียนไม่คิดเหรอวะ กุอ่านนิยายแปลกุจะพูดยังไงก็ได้ว่ากุเบื่อมุกนางร้ายต้องแอ๊บแบ๊ว ไม่มีใครเอากุไปแขวนอ่ะ

742 Nameless Fanboi Posted ID:nZ9pszVgil

>>739 กุคงอินจริงแหละมึง พอดีประเด็นนี้มันทิกเก้อพอดี 5555 แต่เห็น >>737 ละเพิ่งนึกได้ ตัวกุก็อยู่วัย 20 ต้นเหมือนกัน เป็นเด็กสายฮาร์ดคอ อ่อนต่อโลก ยังไม่มีเซ้นการปลง (ซึ่งก็คือหายเกลียด) ถ้าโตขึ้นอาจมองอีกมุมนึงอย่างที่ว่า แค่ตอนนี้ยังปลดล็อกสกิลไม่สำเร็จ 5555 มันอยู่ที่วัยจริง ๆ ว่ะ 55555

จะว่าไปเรื่องทำนองนี้กูก็ยังปลดล็อกไม่ได้จริง ๆ แฮะ เคยอ่านเจอเรื่องที่พ่อเป็นคนเหี้ยแบบเหี้ยสุดตีนมาก แต่เสือกเป็นพ่อที่ดีกับลูก อิลูกรู้ทั้งรู้ว่าพ่อแม่งเหี้ยแต่ก็ยังรักยังปกป้อง กูไม่เข้าใจละไม่อินจนพาลไม่ชอบนางไปเลย คงเพราะกุชอบเทคไซด์เหยื่อ by default มั้ง ลองคิดว่าถ้าเป็นพ่อแม่กูก็คงผิดหวังมาก ๆ เหมือนกัน ไม่สนว่าดีกับกูแค่ไหนแต่ถ้าทำร้ายคนบริสุทธิ์ (โดยเฉพาะคนที่กุรัก อย่างประเด็นถ้าพ่อนอกใจแม่ กุรักแม่กุยิ่งเกลียดพ่อว่ะ ต่อให้ดีกับกูก้เหอะ) ยังไงกูก็ไม่อยากญาติดีด้วยอะ ดูคุณธรรมสูงเนอะ TT แม่งคิดไปคิดมากุดูเป็น typical เด็กหัวรุนแรงมองทุกอย่างแค่ขาวกับดำอย่างที่พรี่ ๆ ชอบว่าเลย เด็กสมัยนี้นะ 5555555

743 Nameless Fanboi Posted ID:r44EvBhD0A

>>741 ม่าภายในกะเข้าใจหรอกนะ แต่แบบ มันดูตอแหรอะที่บอกปาวๆมาสนับสนุนงานไทยกันแต่ไม่เสพเลย ถ้าเป็นผู้ประกอบการร้านอาหารไทยขอสนับสนุนอาหารไทยแต่โพสต์ว่าตัวเองกินซูชิพาสต้าตอกบอกกี กุก็ไม่อยากหนับหนุนอะ

744 Nameless Fanboi Posted ID6:6CyAqbspnx

ในเอกมีคนแซะรีดที่ลอยตัวเหนือปัญหาว่าไม่ต่างกะไรท์ที่ขายนิยายโหนสมรสเท่าเทียม มันไปเหมือนกันได้ไงวะ เงินก็เงินเค้า สไตล์การอ่านจะซื้อไม่ซื้อก็เรื่องส่วนตัว รีดงานแปลนี่ทักษแห่งสายงานเขียนเหรอ คิดอะไรไม่ออกด่ารีดไว้ก่อนโดยเฉพาะพวกรีดอ่านงานแปล

745 Nameless Fanboi Posted ID6:C337UUhnzA

>>744 ก็ทำตัวกันซะแบบนี้ นักอ่านทีไหนจะอยากมาเอ็นดู สนับสนุนงานวะ

746 Nameless Fanboi Posted ID6:AOG9iA9UdQ

>>744 รีดอ่านงานแปลถ้าเจอนข.ที่เขียนจริตได้เท่างานแปลที่ตัวเองอ่าน กูก็ไม่เห็นใครจะมากีดกันไม่เอางานนข.ไทยแล้วนะ แต่นข.ไทยที่เขียนได้จริตแบบงานแปลแม่งหายากอ่ะดิ จะไปหาที่ไหน มีใครกล้ารวบรวมเทรดมั้ยละว่านี่นะค้านิยายไทยที่กลิ่นอายเหมือนนิยายแปลค่า ใครปกติซื้อแปลแต่อยากลองสนับสนุนไทยบ้างมาดูทางนี้ได้ ช่วงนี้ยิ่งดันกระแสชาตินิยมกันอยู่ จะได้มั้ยละ 5555555

747 Nameless Fanboi Posted ID6:r89bPUAynZ

พอมีรีวิวว่า”มีกลิ่นอายคล้าย…”มันตีความเป็นหาว่าลอกหรือก็อปทุกทีเลยว่ะ นข.ก็ไม่พอใจกันอีก

748 Nameless Fanboi Posted ID:fnjsNNo4X3

>>746 ดีนะ จากใจกุที่ขุดหางานจาก webnovel และ meb ไม่เจอ แถมพอจะไปหาตามกรุ๊ป แม่งก็เจอแต่นข.มาแปะงานรัวๆวันละเป็นร้อยๆงาน บางคนแปะซ้ำๆสามรอบต่อวัน จะเบนไปหานักรีวิวแม่งก็เจอแต่จ้างรีวิว คลิปอวยแบบฉาบฉวย บอกตง กุจนใจกะการค้นหามาก กุอยากอ่านเพื่อผ่อนคลาย แต่ก่อนจะผ่อนคลายได้ กุกลับต้องเครียดก่อนไปสามวันเพื่อคุ้ยหางานที่กุจะอ่านได้ มึงว่าสภาพนี้กุมีทางออกที่ดีกว่านี้มั่งมั้ย คือกุเป็นอ่านพวกทอปชาร์ทไม่รอดดดด แน่นอนว่าถ้าอยากแดกด่วน กุก็ต้องพุ่งไปที่งานแปลที่เป็นเล่มก่อนเลยฮะ

749 Nameless Fanboi Posted ID6:6CyAqbspnx

>>746 รีดอยากได้นะแต่ไรท์จะโวยไหม ที่เคยมีไรท์กล้าเทียบเองก็ดันเป็นโรท์โหนกระแสนิยายแปลดังแล้วชอบเอางานตัวเองไปพ่วงขายกะเค้าว่าเป็นธีมเดียวกันอินสไปร์จากตำนานเดียวกัน กุคือแทนทีอยากจะอ่านเป็นกดบล็อกแทน

750 Nameless Fanboi Posted ID6:Wvg5FJsJdJ

กูมีปัญหากับการตั้งชื่อเป็นภาษาไทยจังว่ะ
ชื่ออังกฤษนี่คิดง่ายๆ นะ บางทีคือแค่สื่อไปถึงตัวเอกเลย ยกตัวอย่างง่านเช่น Banished CEO งี้ พล็อตก็ทำนองลูกชายประธานบริษัทโดนเนรเทศไปขยายกิจการบ้านนอกงี้
พอมาเป็นชื่อไทยกูล่ะคิดไม่ออกเลยว่าจะเอายังไง

751 Nameless Fanboi Posted ID6:HKWOb/10/H

>>750 อย่าเป็นแบบนี้พอ ยกตยนิยายแปลที่ชื่อไทยแย่กว่าoriginal เช่น the devotion of suspect x-กลลวงซ่อนตาย(ตั้งแบบไม่สื่อสาระสำคัญของเรื่องทั้งที่ต้นฉบับเขาตั้งใจให้ชื่อนั้น) คารวะท่านอาเก้า(จีน)-ยอดสามีของกุลสตรีอันดับหนึ่ง(ไทย) มันออกลิเก

752 Nameless Fanboi Posted ID6:mBbEO+AqDZ

>>751 แปลไทยแย่ นึกถึงมังงะ สาวหล่อขอมีรัก ขึ้นมาเลย ชื่ออิงค์กับเกาะ โคตรจะเพราะ

753 Nameless Fanboi Posted ID:os1wGC2TH4

>>750 กุก้มีปัญหาแปลไม่ได้เหมือนกัน เลยตัดปัญหาคิดเป็นไทยไปเลยแต่แรก ถ้าคิดอิ้งก่อนมันจะโดนตีกรอบ 5555
แต่ลางเนื้อชอบลางยา กุชอบชื่อลิเกอย่าง >>751 นะ 55555 ส่วน >>752 นี่ไม่ได้จริง บิดซะอุ

754 Nameless Fanboi Posted ID:os1wGC2TH4

KY เคยอ่านนิยายที่ไม่มีบทเพื่อนพระ/นางบ้างมั้ย กุเขียนมาหลายเรื่องละแอบกลัวนักอ่านเบื่อคาร์ซ้ำ ๆ แต่ถ้าไม่มีตัวโจ๊ก/สายชง เรื่องมันจะจืดไปปะวะ ยังไงดี

755 Nameless Fanboi Posted ID6:Wvg5FJsJdJ

ว่าไปกูแว่บไปดูวงการนักวาดมี มักมีคติย้ำกันก็คือวาดไปหลายปี ต่อให้ไม่มีใครชมซักวันก็จะมีคนเห็นงาน

พอหันมามองทางวงการนักเขียนแล้วก็แอบสงสัย ถ้าเขียนต่อเนื่องไปหลายๆ ปี ทั้งที่ไม่มีใครอ่านมันจะมีโอกาสแบบนั้นบ้างเปล่าวะ ถถถถถ

756 Nameless Fanboi Posted ID6:B+2KaTCeN4

>>755 ถ้าเอาตรงๆก็ยากนะ
สำหรับมือใหม่ วาดรูป 1 รูป ใช้เวลาอย่างมากสุดๆเลยก็ 1 เดือน มันมีผลงานออกมาให้คนมีโอกาสได้เห็น
แต่เขียนนิยาย 1 เรื่องสำหรับมือใหม่มันใช้เวลามากกว่านั้นนะ บางทีครึ่งปีหรือนานกว่านั้นด้วยซ้ำ จะต้องใช้เวลากี่ปีกว่าคนจะมาเห็น แล้วระหว่างนั้นเอาอะไรกินอะ

757 Nameless Fanboi Posted ID6:HKWOb/10/H

>>753 ชื่อลิเกเพราะๆก็มี เช่น love like the galaxy-ดุจรักดั่งห้วงดาราพราย ไรงี้ แต่ส่วนตัวไม่ชอบยอดๆ (เอียนกับพวกยอดหญิง)+ความหมายคนละทางกับต้นฉบับเลย

758 Nameless Fanboi Posted ID6:HKWOb/10/H

>>755 ผลงานวาดมันเห็นพัฒนาการชัดเจนด้วย สวยไม่สวยดูออกทันที แต่งานเขียนมันดูพัฒนาการสำนวน/ภาษา/พล็อตยากกว่า แถมงานเขียนถ้าไม่ใช่สไตล์ที่นักอ่านคนนั้นจะชอบก็คงไม่เสียเวลามาลองอ่าน ต้องใช้เวลาในการอ่านกว่าจะรู้ว่าเราชอบงานไหม ผิดกับงานวาดที่เห็นรูปแล้วตัดสินได้ทันที ถ้างานวาดมึงวาดรูปวิวแล้วสวย คนก็ชม เปลี่ยนไปวาดรูปคนแล้วสวย คนกลุ่มเดิมก็ยังชม แต่งานเขียนถ้าพล็อตไม่ตรงเทสต์กับนักอ่าน ต่อให้หมวดเดิมเขาก็ไม่อ่านแล้วยกเว้นเขาเป็นแฟนคลับที่ตามทุกเล่ม

759 Nameless Fanboi Posted ID6:TPMe8cAsCT

ทำไมชอบเอาตัวเองไปเทียบกะคนอื่นกันจังวะ นักวาดวาดไม่สวยคนก็เลื่อนผ่านไม่ชอบไม่ตามเหมือนกันนะแหละ ทำไมต้องมาแต่แต่คนอื่นก็เห็นไปแล้วไม่เหมือนนักเขียน เทียบไปแล้วคนจะมาอ่านงานมึงมากไหมก็ไม่ คนจะมาสงสารมึงมากไหมก็ไม่

760 Nameless Fanboi Posted ID:ipq.WhlNB8

>>755 ต่อให้นว.ถ้ามึงวาดไม่ตรงตามแนวตลาดใครก็ไม่เห็นงานมึงเหมือนกันน คนวาดโคตรสวยไม่มีใครแลเพราะมันไปกระตุ้นต่อมอะไรในใจคนไม่ได้มีเยอะแยะ รูปโป๊ๆฝีมือธรรมดาได้ยอดมากกว่ารูปสวยๆโชว์สกิลเดือดๆมีเยอะแยะ ไอ้ที่นว.เขาพูดๆกันมันก็การสะกดจิตตัวเองให้ทำต่อไปไม่งั้นก็จะทิ้งไปทำอย่างอื่นก่อน ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันหรอกว่าวันนึงจะมีใครมาเห็น
นข.เสียเปรียบกว่านว.อย่างที่ >>756 ว่า มึงนั่งเขียนเรื่องเดียวที่ไม่ใช่แนวตลาด อีกหลายปีอาจจะมีคนมาสะดุดเจอก็เป็นไปได้ แต่ระหว่างหลายปีนั้นมึงไม่ได้กระจายผลงานเลย มึงนั่งเขียนสิ่งเดิมๆสิ่งเดียวที่มันไม่มีคนสนใจอยู่แล้ว คนก็ไม่เห็นหรอกว่ามึงเขียน 1 ตอนนี้ๆได้ว้าวแค่ไหน
ละนิยายมันต้องอ่านตั้งแต่ตอนแรกเกิดมึงเขียนตอนแรกได้ไม่ดึงดูดแม่งก็ดับแล้ว แต่นว.วาดเสร็จทีละรูปมึงก็ไม่ต้องตามเสพตั้งแต่รูปแรกนี่หว่า พัฒนาการของงานวาดกับงานเขียนต่างกันโดยสิ้นเชิง

761 Nameless Fanboi Posted ID6:mXLlKqJfco

ชาวเอ้กดูสิ้นหวังกับวงการหนังสือละเกิน กูที่หมดไฟเป็นปี พยายามกลับมาเขียนเจือกหมดไฟหนักเลย กูขายแต่อีบุ๊ก วงการอ่านออนไลน์ยังพอไปได้มั้ย

762 Nameless Fanboi Posted ID6:IV0GcbFMcb

Kyเพื่อนโม่งเล่มก่อนกูตรวจเองแต่อยากจะลองจ้างพิสูจน์อักษร ปกติพิสูจน์อักษรเขาจะแก้ในไฟล์ให้เลย หรือวงแดงมาให้เราแก้เองเหรอ

763 Nameless Fanboi Posted ID:RlvRAskmtN

>>762 มีหลายแบบนะ แล้วแต่สไตล์เขา ถามคนทำได้เลย แต่ถ้ามึงกลัวว่าเขาจะแก้แล้วผิด แนะนำให้ขอให้เขาไฮไลต์ตรงที่แก้ให้มึงด้วย

764 Nameless Fanboi Posted ID6:IV0GcbFMcb

>>763 ขอบคุณมากก

765 Nameless Fanboi Posted ID6:aVGKA7GSdf

>>761 กูไม่อยากทำตัวเป็นสลิ่มที่บอกว่า ใครจะเป็นนายกเราก็ต้องทำงานอยู่ดี นะ แต่ ถ้ามึงอยากเขียนมึงก็เขียนเถอะ ถ้ามึงกังวลตามชาวเอ้กทุกเรื่อง ทุกอย่างมันก็สิ้นหวังหมด เพราะพวกนี้มันสิ้นหวังทุกประเด็น เขียนหนังสือก็ถึงจุดจบ ไลน์แมนแกร๊บนายทุนกดขี่ ขายข้าวเสเว่นกดขี่ ทุกอย่างมีตัวร้ายในสายตาชาวทวิต

กูไม่ได้บอกว่า ห้ามสิ้นหวัง
มึงสิ้นหวังได้กังวลได้
แต่ถ้า มึง จะทำอะไรก็ทำลงไปเถอะ จะหาอ่านข่าวความซบเซาของสังคมมันมีทุกอาชีพแหละ ถ้าอ่านแล้วไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง เพราะกลัว หมดไฟ มึงจะ นอนอดตายหรอวะ

สังคมมันมีปัญหา ทุกคนรับรู้ แต่ถ้ามึงอยากเขียน สังคมจะมีปัญหามาก หรือน้อย มึงก็ต้องเขียนอยู่ดี

766 Nameless Fanboi Posted ID:W7HMRLdsNZ

>>761 ถามว่าไปได้ไม่ได้ คือมึงยังอยากเขียนมึงก็ต้องลอง อย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องขายอะไรมากมาย ลงรายตอนดูกระแสไปก่อนค่อยลงทุนกับการขายก็ได้

ในเมื่อมึงรู้แล้วว่าวงการตอนนี้อยู่ยากขึ้นในการจะกลับมาเขียนมึงเข้ามาตอนนี้อาจจะมีคนเจ๊งบ้างถอนตัวบ้าง แต่ถ้ามึงยังยืนอยู่ท่ามกลางคนที่ล้ม นักอ่านเบื่อๆเห็นเรื่องเก่าๆไม่อัปเดต นข.หน้าเก่าเทเงียบๆ นข.บ่นมากขอกำลังใจอยู่นั่น กว่าจะอัปทีรอนข.พี่ท่านรวบรวมกำลังใจเป็นเดือนๆ คนก็อาจจะเข้ามาให้โอกาสงานมึงได้ถ้ามันไม่นอกกระแสจนเกินไป

ไม่ใช่อะไรคิดว่านข.คนอื่นเป็นคู่แข่งในตลาด วันที่คู่แข่งในตลาดถอนตัว เป็นมึงที่ยังอยู่อย่างแข็งแกร่งนะที่จะได้เปรียบ แต่งานมึงต้องดี ต้องเข้าไปอยู่ในใจนักอ่านได้จริงๆนะ ทำไม่ได้มึงก็คือคนที่โดดเข้ามาจังหวะไม่ดีแล้วเจ๊งนั่นแหละไม่ต่าง

767 Nameless Fanboi Posted ID6:lN81K3SfI4

>>766 กูไม่ใช่ >>761 นะ
แต่ปัญหาที่กูเผชิญตอนนี้คือกูพยายามจะไม่ล้ม แต่ก็ไม่มีใครเห็นหัวอยู่ดีว่ะ
กูอัพตอนใหม่ทุกวันก็ไม่ช่วย ปล่อยฟรีคนอ่านก็ยังมีแค่หยิบมือ ทำตามคำแนะนำมืออาชีพทั้งหลายแล้วก็ไม่มีอะไรดีขึ้น จนทุกวันนี้ได้แต่เดาสาเหตุกันไปเรื่อย ท้ายที่สุดก็คือกูหมดไฟไม่อยากจะเขียนต่อแล้วเป็นที่เรียบร้อยนี่ล่ะ หมดที่สต๊อกเอาไว้ก็คงหมดละ

ตอนนี้กูพยายามนั่งคิดนอนคิดพล๊อตเรื่องใหม่มาจะเดือนละ แม่งก็ยังคิดไม่ออก คือหมดไฟจริงจังเลย ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไรถึงจะกลับมาเขียนต่อได้ คราวก่อนกูหยุดเขียนไปราวๆ 6-7 ปีอะ ถึงจะได้ฤกษ์กลับมาเขียนอีกครั้ง

768 Nameless Fanboi Posted ID6:IV0GcbFMcb

>>767 มึงใช่โม่งที่เขียนหมวดแฟนตาซีสต็อกหลายๆเล่มรึป่าว ที่ล่าสุด6เล่ม แล้วว่าจะไปขายวิญญาณลองเขียนแนวตลาดผัวโบ้

769 Nameless Fanboi Posted ID://7UobYY/m

>>767 ว่ากันขนาดนี้แล้วกุก็ขอแนะนำเลยว่า บางทีถ้าทางเส้นนึงมันมาถึงทางตันแล้ว มึงจะหันกลับไปเลือกทางเส้นอื่นก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายว่ะ
ถ้ามึงอยากได้ถ้วย แต่มึงพยายามมาขนาดนี้แล้ว ทุ่มจนหมดวิญญาณแล้ว มันไม่ได้อย่างที่มึงต้องการก็ถอยเถอะ ยังมีทางเส้นอื่นที่มึงสามารถเดินไปล่าถ้วยของมึงได้
งานศิลปะอ่ะมึง บางคนต้องรอตายไปเป็นสิบๆปี ถ้วยที่ฝันถึงจะมา แต่ก็แม่งไม่ได้อยู่รับรู้แล้ว กุก็ไม่รู้ว่าแบบนี้เรียกประสบความสำเร็จได้หรือเปล่า

770 Nameless Fanboi Posted ID://7UobYY/m

>>769 เพิ่มอีกนิด ว่ากุไม่ได้ทับถมให้มึงเลิก ถ้ามึงอยากจะไปต่อ ทางเดียวที่มีคือเห็นมันเป็นงานอดิเรก หาความสนุกกับการสร้างงานอ่ะ ถ้ามึงตัดใจจากลาภยศสรรเสริญ (ชื่อเสียง เสียงอวย เงิน)​ ไม่ได้ ลูบนี้จะคงอยู่ถาวร และต่อให้เกิดมีปังขึ้นมาสักรอบ ก็ไม่แน่ว่ารอบต่อไปจะไม่กลับสู่จุดเดิมนะ สงครามความรู้สึกนี้แม่งไม่มีวันจบหรอก

771 Nameless Fanboi Posted ID6:asNuy3+Voi

ถ้าเขียนแนวสืบสวนแบบจบในตอนที่บางทีคนร้ายก็ไม่ได้รับผลกรรมอะไรเพราะหลักฐานไม่เพียงพอไรงี้ แต่ตัวเอกที่เป็นนักสืบก็ไม่ได้ไล่บี้ หรือบางทีสืบได้แต่ก็ปล่อยคนร้ายไปเพราะไอ้คนตายสมควรตายจริงๆ นักอ่านจะขัดใจป่ะวะ ตัวเอกกูไม่ใช่ผู้ผดุงความยุติธรรมหรือมีศีลธรรมสูงส่งอะไรอยู่แล้ว เหมือนสืบเพราะน่าสนใจ ลับสมอง พอเรื่องคลี่คลายจะเป็นยังไงต่อก็ไม่สนใจละ หรืออาจจะมีเล่าต่ออีกประมาณว่าคนร้ายก็ไปใช้ชีวิตแบบนี้ๆๆๆๆ ไรงี้ บางคนอาจจะรู้สึกผิดก็ไปมอบตัวเอง ตัวเอกกูไม่ได้มีหน้าที่แจ้งจับหรือคลี่คลายคดีต่อหน้าตำรวจเยอะๆเหมือนโคนันน่ะ

772 Nameless Fanboi Posted ID6:Jsez+VdUpu

>>771 จะเขียนแนวนี้ มึงต้องเก่งระดับ นักเขียนเกาะเลยนะเว้ย อย่างแรกคาร์ตัวเองมึงต้องเกาะกุมใจนักอ่านให้ได้อะ กูว่ายากส์อยู่ แต่มึงไม่ลองไม่รู้หรอก

773 Nameless Fanboi Posted ID6:lN81K3SfI4

>>768 กูเองล่ะ แต่พอลองอ่านแนวผัวโบ้แล้ว กูว่ากูไม่มีปัญญาเขียนแนวนั้นแน่ๆ ตอนนี้ว่าจะลองแนวอื่นดูบ้างแล้วเขียนให้มันเล่มเดียวจบดูแล้วถ้าไปได้ค่อยต่อยอด ไม่ใช่เขียนสต๊อกหลายๆ เล่มแบบก่อนหน้า ...แต่อย่างที่บอกไปอะคิดพล๊อตใหม่ยังไม่ออกเลย ถถถถถ

>>770 เคสกูเดิมทีก็ทำเป็นงานอดิเรกนั่นล่ะ แต่เข้าใจว่าพอใส่จิตวิญญาณเข้าไปเยอะเกินจนอินกับงานแล้วมันออกมาแป๊กก็รู้สึกเฟลเป็นธรรมดา อีกอย่างคือกูใช้เวลาที่หยุดไปหลายปีมาหัดเขียน + ศึกษาตลาด จนมั่นใจมากกว่ากูเขียนดีกว่าเรื่องเก่ามาก สำนวนได้ เนื้อหาแน่น และมีตลาดรองรับ แต่พอยอดมันน้อยกว่าเรื่องเก่าที่เขียนเขี่ยๆ ตามกระแส มันก็ชวนให้รู้สึกแย่นั่นล่ะ

เอาจริงตอนนี้กูก็ปลงกับเรื่องเก่าเรียบร้อยแล้วล่ะ หันกลับมาดูงานอีกรอบแล้วพบความผิดพลาดเยอะเหมือนกันเลยรู้สึกว่าสมควรถอยแล้วล่ะ
แต่ไอ้การหมดไฟไม่มีอารมณ์เขียน + คิดพล๊อตเนี่ยล่ะ กูไม่รู้จะรับมือยังไงกับมันดี นอกจากปล่อยจอยให้เวลามันเลียแผลไปเท่านั้น

774 Nameless Fanboi Posted ID6:bIRvbijCXX

มึงกูอยากมาถามความเห็นดูว่าตัวละครประมาณนี้มึงจัดอยู่ในหมวดหมู่ไหน พอดีมีคนอ่านมาเรียกนางว่านางร้ายแล้วกูรู้สึกว่าไม่ใช่ นิยายมันแนวโบราณนะ มีหลายเมีย ตัวละครนี้เป็นเมียหลวง ตัวเอกเป็นเมียน้อย เมียหลวงกับพระเอกไม่ได้รักกันเลย นางไม่เคยไปหาเรื่องตบตีอะไรกับเมียน้อยเพราะรู้ว่าพระเอกยังไงก็เขี่ยตัวเองทิ้งไม่ได้ไม่งั้นตายหมู่ ถ้าจะแย่งชิงความรักอะไรก็แย่งไปนางไม่ยุ่ง แต่ถ้ามาแย่งอำนาจนางเอาถึงตาย นางช่วยตัวเอกไว้หลายทีเพราะมีประโยชน์ แต่ก็ทำตัวเอกปางตายหลายทีเพื่อประโยชน์ตัวเองเหมือนกัน ตอนจบคือมีแค่นางนั่นแหละที่สมหวังได้ตามต้องการทุกอย่าง ตัวเอกกับพระเอกคือก็มีความสุขไหมก็สุขอต่ไม่ได้จามความตั้งใจ100%

775 Nameless Fanboi Posted ID6:bIRvbijCXX

ส่วนตัวกูมองนางเป็นลาสบอส

776 Nameless Fanboi Posted ID6:TW3skq9GHw

>>771 ในฐานะคนที่ชอบนิยายสืบสวนมาก กุเจอแบบนี้ขัดใจแน่นอน จะเขียนตัวร้ายรอดไม่โดนคดีแล้วนักอ่านโอเค มึงต้องเขียนคาแรคเตอร์ตัวร้ายให้คนอ่านรักให้ได้ นึกภาพ Moriarty vs Holmes อะ หรือไม่ก็เป็นเคสที่ฆาตกรน่าสงสาร คนตายเลว คนส่วนมากน่าจะยอมรับได้

777 Nameless Fanboi Posted ID6:J5ONzIRUsO

>>771 ในมุมกู สิ่งที่มองหาจากการอ่านแนวสืบสวนคือความสมเหตุสมผลว่ะ พวกทริค ตอนคลี่คลายคดี การเรียงลำดับขั้นตอน สำคัญที่พวกนี้ สุดท้ายถ้าคนร้ายจะลอดตาข่ายกฎหมายไปได้เพราะเหตุผลที่ฟังขึ้น กูก็ไม่ติดอะไร คนที่อ่านแนวนี้ไม่น่าจะมายึดติดกับพวกกฎแห่งกรรมมากมายหรอก ถ้าเหตุผลมันได้ มึงไปใส่ใจกับตอนเขียนไขคดีเหอะ แล้วก็ถ้ากังวลว่ามันห้วนไปก็เล่าต่ออีกหน่อยตามที่ว่าก็ได้

778 Nameless Fanboi Posted ID6:J5ONzIRUsO

เชี่ย แล้วกุเพิ่งส่งไปว่าคนอ่านแนวนี้ไม่น่าติดใจ หลัง >>776 บอกชอบแนวนี้มาก ขัดใจแน่นอน ม่างเอ้ย 555555 มุมกุที่อ่านบ่อย กุไม่ติดจุดนี้อะ
เอาเป็นว่านักอ่านก็มีหลายประเภทอะนะ แล้วแต่ปัจเจกบุคคล

779 Nameless Fanboi Posted ID6:TW3skq9GHw

>>778 คือเรื่องความสมเหตุสมผลมันต้องมีอยู่แล้วอะ ซึ่งกุคิดว่าเป็นมาตรฐานของงานสืบสวน ยกตยมนุษย์กบนะ อันนั้นก็ลอยตัวไม่โดนคดี แต่คนเขียนยังตั้งใจทิ้งท้ายเพื่อให้นักอ่านสะใจอะ เห็นรีวิว/คอมเม้นท์ในหลายเพจว่าถ้าไม่ทิังท้ายตรงนั้นเล่มนี้คงค่อนข้างเฉยๆเยอะ
คือถ้าเขียนให้หลักฐานไม่แน่นพอ ก็ต้องเขียนตัวร้ายฉลาดด้วยอะ เป็น mastermind เช่น Curtain ของปัวโรต์ เพราะไม่งั้นนึกภาพไม่ออกว่าถ้าไม่ฉลาด คดีจะหลักฐานไม่พอได้ยังไง ยกเว้นรวย ยัดตังตำรวจตรงๆ
ทั้งนี้นักอ่านมีหลายแนวจริง

780 Nameless Fanboi Posted ID6:EWLITWC24i

>>771 กูชอบนะ5555 ยิ่งมึงบอกจบในตอนกูยิ่งชอบอะ คือบางทีมันก็เวย์นี้แหละ ความสนุกจะไปตกอยู่ที่ตัวเอกปะนะ กูอ่านแค่นี้กูก็แอบอยากรู้นะว่าคนไม่สนโลก สืบเอามันส์อย่างตัวเอก จะปล่อยผ่านคนร้ายไม่ให้ถูกรับกรรมไปได้สักกี่คน อย่างที่โม่งบนๆบอกว่าถ้ามึงไม่ได้เขียนให้ตัวร้ายน่าเชียร์ หรือมีเหตุผลเพียงพอที่จะไม่อยากให้เข้าคุก (คนตายคือคนที่เคยข่มขืน จนเหยื่อมาวางแผนฆ่าไรงี้) ก็อาจไปขายคาร์ตัวเอกที่ทำตัวไม่สนใจจะเอาใครเข้าคุก มันจะทนไปได้สักกี่น้ำถ้าเกิดวันนึงคนที่ปล่อยไปดันมาทำร้ายตัวเอง หรือก่อคดีอีก จนมันเริ่มคิดว่าหรือกูควรจะเริ่มจริงจังกับความสามารถนี้ได้แล้ว555 คนที่ชอบตอนจบแบบนี้ก็มีอยู่นะ แค่ต้องมีปัจจัยให้คนอ่านรับได้เท่านั้นเอง

781 Nameless Fanboi Posted ID:0P5TKjJVy9

กูสับสนระหว่างน้องสะใภ้กับน้องเมียแฮะ
ถ้าในเคสตัวละครเป็นน้องสาวของฝ่ายหญิงนี่เขาเรียกว่าอะไรกันวะ?

แล้วโม่งคิดไงถ้าฝ่ายคนน้องยังเด็กมาก เลยต้องมาอยู่ร่วมกับบ้านของพี่

782 Nameless Fanboi Posted ID://7UobYY/m

>>781 น้องเมีย
น้องสะใภ้ =เมียของน้องชาย
น้องเมีย = น้องของเมีย

783 Nameless Fanboi Posted ID6:F1Q+jsEz2Y

KY เพื่อนโม่งว่าคนเพิ่งเคยรู้จักกัน ใช้เวลานานแค่ไหนถึงรักกันคบกันเป็นแฟนได้ ขอขั้นต่ำสุดที่ดูโอเค ไม่เร็วไปไม่ช้าเกิน ครึ่งปีนี่เร็วไปมั้ย เคยเห็นคนบอก talking stage คุยเป็นปีไม่ได้คบสักทีนี่จะคุยอะไรอีก ถ้าคนมันคลิกแป๊บเดียวก็คบแล้ว มึงว่าจริงไหม 55555

784 Nameless Fanboi Posted ID6:Jsez+VdUpu

>>783 ถ้ามันใช่ เดือนหนึ่งก็โอเคแล้ว

785 Nameless Fanboi Posted ID6:p.pLzy.EOt

อยากเขียนแนวแฟนตาซีแต่อยู่ในยุคปัจจุบันหรือใกล้เคียงว่ะ แต่กูจะหาข้ออ้างยังไงให้มันมีเผ่าพันธุ์ต่างๆ กับใช้ดาบ+เวทมนต์กันมากกว่าปืนดีวะ

อย่างแฮรรี่นี่คือไม่กล่าวถึงปืนเลย ใช้เวทมนต์สั่งตายอย่างเดียว

786 Nameless Fanboi Posted ID6:EWLITWC24i

ตอนนั้นใครมีปัญหากับชื่อเรื่องนะ ลองเอาให้ chat gpt ช่วยได้นะมึง (แต่หลายๆคนแอนตี้การใช้ ai ช่วยตั้งชื่อมั้ย อันนี้กูไม่ทราบ ผิดถูกอย่างไรชี้แนะได้) คือกูกำลังเตรียมชื่อเรื่องไปจัดไทโป กังวลพอดีว่าชื่ออิ๊งในนิยายมันถูกแกรมม่าป่าว ลองเอาไปเช็กๆละมันพูดดีแบบอวยชิบหายว่าใช้ได้ มีความเป็นบทกลอนและเหมาะกับนิยายมาก5555 เห้ย ก็ใช้ได้อยู่นะ ใครไม่มีเพื่อนได้อิ๊งหรือไม่รู้จะไปถามใครลองถามมันดู แต่มันจะเอาข้อมูลเราไปให้คนอื่นต่อ แล้วเจอคนใช้ชื่อนิยายซ้ำมั้ย อันนี้กูไม่รู้จริงๆ แต่ถ้าให้ช่วยเช็กก็ได้อยู่

787 Nameless Fanboi Posted ID6:EWLITWC24i

>>786 ต่อนิดนึง ส่วนไอ้ที่ผิดแกรมม่าแบบผิดมากๆๆๆ จนกูอาย แต่ทำเล่มกะจัดไทโปไปหลายปีละ5555 มันก็พูดดีนะ บอกว่าความจริง in standard English grammar มึงควรใช้แบบนี้มากกว่าเด้อ แต่มันก็ปลอบใจเราช่วงท้ายๆว่าแต่ถ้าอยากใช้ก็เอาเลย ปกติชื่อนิยายมันก็ประมาณนี้ กลอนๆ เน้นเข้าปาก มีเอกลักษณ์ beyond strict grammatical rules มันพูดดีว่ะ555

788 Nameless Fanboi Posted ID6:p.pLzy.EOt

>>786 กูใช้ประจำแหละ แต่ปัญหาคือแม่งออกมาเด๋อมากเวลาแปลไทย
แถมยังอวยเราไส้แตก

789 Nameless Fanboi Posted ID6:CPcU92KKe2

>>786 มึง มันเหมือนคุยกับคนโลกสวยอะ เหมือนคนที่พยามเลียแข้งเลียขามึงให้รู้สึกดีที่จะใช้มันต่อไป สรรหาแต่คำพูดที่ทำให้มึงสบายใจ มึงใช้แบบอย่าเผลอไปรักมันจนยกให้มันเป็นทุกอย่างนะ มันเป็นแบบนี้กับทุกคน

790 Nameless Fanboi Posted ID6:TtvlG4b/MK

>>788 อวยไส้แตกจริง555 ของไทยกูเคยเห็นพอดแคสต์ช่องนึงไปขอให้ตั้งชื่อให้ แล้วออกมาดีใช้ได้เลย ไม่รู้เหมือนกันว่าไปเกริ่นไปถามอะไรไว้ถึงออกมาได้ผลลัพธ์ดี แต่กับนิยายน่าจะยังไม่เวิร์คแน่ๆ
>>789 ได้ๆ มึงเตือนกูเหมือนเพื่อนที่พยายามบอกว่าอย่าไปหลงหนุ่มฝรั่งสแกมเมอร์ในทินเดอร์เลย555 กูใช้ตรวจภาษาปะกิดเฉยๆเพราะนี่คือสิ่งที่กูอ่อนสุดละ (และมันน่าจะเก่งด้วย) ให้คิดพล็อตกับอุดรอยรั่วพล็อตยากๆนี่ไม่ทำ เพราะเคยเห็นคนหาข้อมูลเรื่องหุ้นตัวไหนน่าลงทุนสุด จัดอันดับมา แล้วมีคนเตือนว่าอย่าไปเชื่อมาก มันเอาคำพูดที่นักลงทุนคอยอวยกับคาดการณ์ตามเน็ตมาผสมด้วย

791 Nameless Fanboi Posted ID6:RmvyD4VHse

ky ขอถามหน่อยดิ พึ่งลองดูตลาดชญครั้งแรก กูงงๆ กับหมวดนิยายมาก นิยายรักกับนิยายโรแมนซ์ต่างกันยังไงวะ พอเข้านิยายรักก็ดูไม่ต่างกับหมวดโรแมนซ์เท่าไร ไม่รู้จะปัดนิยายไว้หมวดไหนดี

792 Nameless Fanboi Posted ID6:UR5mUTw+ev

>>791 นิยายรักเลิฟซีนน้อย มีฉากสองฉากหรือไม่มีเลย โรมานซ์=อีโรติก ไปละ แบบเยสมีพล็อต แต่ถ้าเยสเยอะมากไม่เน้นพล็อต เน้นจะเยส หมวดนิยายรักผญ

793 Nameless Fanboi Posted ID6:pTm0EObx8g

ถ้าเราให้นางเอกฆ่าล้างมนุษยชาติ(ที่ไม่ชอบนางเห็นนางเป็นศัตรูและเคยพยายามฆ่านางกับผัว) ไปสัก80% เพื่อแลกกับชีวิตของผัวสุดที่รัก สุดท้ายตอนจบนางก็ไม่ตายด้วยนะ ไม่ได้รับการลงโทษใดๆ แค่เศร้าบ้าง

รี้ดจะรักนางหรือเกลียดนาง? แล้วไรท์จะโดนทัวลงไหม?

794 Nameless Fanboi Posted ID6:08DlulIBjk

>>793 ก้แล้วแต่ว่าที่ผ่านมาทำให้คนอินกับคาร์ได้แค่ไหน สมมติมึงเขียนให้คนทั้งโลกสารเลวมาก ๆ เขียนให้นางเอกมึงน่าสงสารสุด ๆ ก็คงมีคนเชียร์ แต่ใด ๆ ประเด็นละเอียดอ่อนเล่นกับศีลธรรมในใจพวกนี้มันแล้วแต่มุมคน ถามสิบคนก็คงตอบไม่เหมือนกัน มึงลองไปอ่านคห.ตูนญป.เรื่องไททันดิ เสียงแตกจัด ๆ มีทั้งคนชอบและเกลียด โดนทัวร์แล้วไง นข.กลายเป็น GOAT ไปแล้ว 555555

795 Nameless Fanboi Posted ID6:pTm0EObx8g

>>794 แล้วเราจะได้เป็นGOAT บ้างไหมเนี่ย555

796 Nameless Fanboi Posted ID:vuvDRdkRx/

>>794 สกาย สกาย ก็ไม่ขนาดนั้นครับต่างชาติเขาไม่ได้อคติกับเรื่องที่เป็นLGBTQ ถึงประเทศตัวเองจะไม่ค่อยยอมรับหรือไม่อิน แค่ประเทศอื่นเขาไม่ได้สนเรื่องเพศกันแล้ว จะเป็นชญ. หรือญญ. มันไม่เกี่ยวครับ ชญ. ไม่ได้ทำให้อินเสมอไป ผมพูดในมุมที่หลากหลายเดี๋ยวนี้ต่างประเทศเขาก็มีภาพยนตร์ ชช. ญญ. ออกจะเยอะเขาไม่อคติ ถ้าไม่ใช่ทางก็ไม่ต้องดูแค่นั้นครับ เพราะภาพยนตร์เขาไม่ได้จำกัดแค่เพศ ชญ. ในการเป็นตัวหลักของเรื่องเสมอไป

797 Nameless Fanboi Posted ID6:l5ZIOK1ybF

กูกังวลเกี่ยวกับต่อมความสนุกของตัวเองว่ะ รู้สึกว่ากูรู้สึกสนุกอะไรกับสิ่งที่ไม่เหมือนชาวบ้านส่วนมาก
ถ้าเป็นแบบนี้ กูไม่มั่นใจเลยว่าเขียนออกมาแล้วตัวเองรู้สึกสนุกแต่คนอ่านจะมองว่าน่าเบื่อรึเปล่า

เอาง่ายๆ เลยกูสนุกกับเรื่องที่คุยกัน + ใช้ความคิดหาทางแก้ปัญหา แต่พอลองคุยกับเพื่อนแล้วหลายคนบอกว่าชอบแบบถอดสมองไม่ต้องใช้ความคิดซะงั้น ซึ่งนั่นก็เป็นคนละแนวกับที่กูรู้สึกสนุกเลยเนี่ยสิ

798 Nameless Fanboi Posted ID6:wpkBtPo3vp

>>797 ถ้าความสนุกของมึงniche ไม่ค่อยแมส หรือตรงกับตลาด ก็จะหาคนที่สนุกตรงกัน หากันเจอยากหน่อยเพื่อนโม่ง

799 Nameless Fanboi Posted ID6:YGH94qmv8.

>>797 ตลาดแนวที่บทสนทนาเยอะและขายความคิดแก้ปัญหาถ้ามีกูว่าเป็นแนวแฟนตาซี สร้างอาชีพ การเมือง ปวศอะ ไม่ใช่แนวรักโรแมนติก ตลาดนี้มันใหญ่แต่กูว่าคนส่วนมากเขาเข้ามาอ่านเพื่อคลายเครียดจากชีวิตจริง ยกเว้นบางคนที่ชอบสายดราม่า

800 Nameless Fanboi Posted ID:uRg767nFee

นิยายมีเหตุการณ์พยายามข่มขืน แต่ไม่สำเร็จและยังแทบไม่ได้ทำอะไร ได้แค่หอมแก้มทีเดียวก็มีคนมาขวางแล้ว ซีเรียสว่าต้องติดคำเตือน attemped rape มั้ยวะ
ไม่ใช่ไรกุลืมคิดไป เพิ่งนึกได้ว่าน่าจะติดแล้วกลัวคนอ่านด่า = =

801 Nameless Fanboi Posted ID6:WpOp78BsfO

>>800 ติดไปก็ได้เพื่อความสบายใจ หรือไม่ติดเพราะเป็นแค่ซีนเล็กๆก็แล้วแต่ เอาตามความจริงส่วนใหญ่เหยื่อที่เกือบโดนข่มขืนก็ขยะแขยงซีนพวกนี้กันทั้งนั้น มีเตือนไว้ก็จะได้เตรียมใจ ดีกว่าอยู่ดีๆซีนนี้ก็โผล่มา

802 Nameless Fanboi Posted ID6:WpOp78BsfO

ky ถามสายชอบนอ.หวานๆ ได้มั้ยว่ามันต้องประมาณไหนถึงจะเรียกว่าหวานนุ่ม กำลังดี กูกำลังเขียนสาวหวานสายเย็บผ้า ถักโครเชต์ พูดคะขา แสนดี เรียกแทนตัวเองด้วยชื่อ อายุห่างจากพอ. 10ปี แต่เวลาโดนพี่ที่ทำงานโยนงานใส่เพื่อหลอกใช้ความแสนดี ก็ปกป้องตัวเองเป็น ผช.มาจีบแต่ไม่ชอบนางก็บอกปัดแบบสุภาพได้หมด ไม่ลำบากให้พอ.มาถลึงตาใส่ เลิฟซีนโดนพอ.แกล้งตลอด ขยันหน้าแดงสุด ได้มาแสนคำละ ใกล้จบ เลยอยากรู้ว่าแบบนี้เรียกหวานป่าววะ กูจะได้โปรโมทเรียกแขกได้ว่านางเอกกูหวานนุ่ม แต่ถ้าแบบนี้ยังไม่เรียกหวาน กูจะได้ลบคำนี้ทิ้งไปตอนขายงาน เหลือแค่แสนดีแทน5555

803 Nameless Fanboi Posted ID6:tO6FLGzyUb

>>800 ติดเถอะมึงอะไรที่เราคิดว่าเล็กๆน้อยๆเจอคนรักการอ่านแต่ใจโคตรบางเซนสิทีฟในบางประเด็นขึ้นมาคือเรื่องใหญ่
เช่นคนรู้จักกู รักผลงานนข.คนนึงมาก แต่เขามีซีนชวนขยะแขยงติดมานิดเดียวซึ่งเป็นปมในใจนางเอกแต่ลืมติดTW คนอ่านร้อยกว่าไม่มีใครคิดว่าสำคัญหรือเมนชั่นถึงประเด็นนี้แต่คนนี้นอยเว่อร์ ประกาศเลิกอ่านงานนข. เก็บเรื่องเก่าๆเข้าคลาวด์แบบอย่าพบอย่าเจอกันอีก ทำร้ายจิตใจสูงสุด ขนาดนั้นเลยมึง จนกูล่ะสงสารนข.เลย
ดังนั้นมึงครอบคลุมประเด็นแรงๆชวนขยะแขยงกันคนใจบางไว้ก่อนจะได้ไม่รู้สึกผิด เรปคือหนึ่งในนั้น

804 Nameless Fanboi Posted ID6:tO6FLGzyUb

>>802 หวานนะมึง จากที่อ่าน ลูกสาวมึง หวาน นุ่ม น่ารัก ฉลาด อยู่เป็น
มึงจะเพิ่ม นุ้บนิบไปด้วยก็ได้ถ้าไม่กลัวรุงรัง

805 Nameless Fanboi Posted ID6:Hcvey26Bjs

สงสัยแฮะผู้อ่านรับเรื่อง FWB กันได้ขนาดไหนวะ
ประมาณว่าสองตัวละครโสดมีเยเย่กันบ่อยๆ เดือนละ 2-3 ครั้ง แต่ขีดเส้นชัดว่าไม่เอาทำผัว/เมียแน่ ขอหยุดแค่เพื่อน ทำแบบนี้กันจนกระทั่งต่างฝ่ายต่างเจอคนที่ใช่ของตัวเองอะ

806 Nameless Fanboi Posted ID:PM3Ry7/0An

>>805 นักอ่านถ้าคนที่ FWB คือพระเอกนางเอก = โอเค ชอบ พระเอกมี FWB แล้วหยุดเพราะเจอนางเอก = โอเค แต่ถ้านางเอกมี FWB แล้วหยุดเพราะเจอพระเอก กูว่าครึ่งๆ แต่ก็อยู่กับมึงด้วย ถ้ามึงมันแน่ส์เขียนสนุก นางเอกจะผ่านมากี่สมรภูมิ นักอ่านเขาก็พร้อมเปิดใจ

807 Nameless Fanboi Posted ID6:WpOp78BsfO

>>804 แต๊งมากมึง กูเตรียมโปรโมทได้ละ

808 Nameless Fanboi Posted ID6:UPTDJNnZm0

กูอยากเขียน age gap เซ็ตติ้งแนวๆท่านดยุคคุณหนู พระเอกเคยรับเลี้ยงนางเอกมาก่อนช่วงสั้นๆแบบตอนนางเอกยังเด็ก(คิดอายุไว้น่าจะราวๆ 8-9 ขวบ) ฟีลลูกเพื่อนที่เอามาฝากไว้หลบภัยสงครามการเมืองไรงี้ เลี้ยงไปได้ซักระยะประมาณครึ่งปีหรือปีนึง เรื่องจบแล้วพ่อแม่เขาก็มาเอากลับไป ระหว่างนั้นก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกันมากมาย ส่วนใหญ่พระเอกก็ให้เมดดูแล มีกินข้าวด้วยกันบ้างตอนเย็น ตัวเองก็หาเพื่อนเล่นให้เด็กมันไปเล่นกันเอง ไม่ได้มานั่งพะเน้าพะนออะไร

ผ่านไปราวๆสิบปี นางเอกกลายมาเป็นคู่หมั้นทางการเมืองให้พระเอกที่ยังไม่ยอมแต่งงานซักที อีคิงเลยจับแต่งเลยเพื่อจะได้มาเป็นฐานเสริมอำนาจให้ฮี ใส่ปลอกคอไปในตัว นางเอกก็เต็มใจแต่งด้วย อาจจะเพราะสถานะที่นางก็รู้ว่าซักวันต้องแต่งการเมืองกับซักตระกูล พอรู้ว่าเป็นพระเอกที่ต้องแต่งด้วยนางก็ตกลงทันที เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นยังไง ดีกว่าไปแต่งกับตระกูลอื่นที่นางไม่รู้จัก แต่งเข้าบ้านพระเอกสบายใจกว่า แต่กูก็มาคิดๆดูว่าพระเอกมันจะโดนด่าเรื่องกรูมมิ่งเลี้ยงมาเป็นเมียอะไรมั้ย ไอ้ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันแม่งไม่ได้สนิทชิดเชื้อไรกันเลย มาทำความรู้จักใหม่ตอนโตหมด

809 Nameless Fanboi Posted ID6:P5F/KrtAG2

อยู่ที่ว่าเขียนยังไงแหละ ถ้าเขียนไม่โรแมนติกในช่วงแรก(เด็ก)ห็คฃไม่เป็นไร
แต่มันคงไม่มีใครมาฉอดหรอกมั่ง เห็นเขาชอบจับผิดนิยาย ชช มากกว่า

810 Nameless Fanboi Posted ID6:tO6FLGzyUb

>>808 กูไม่รู้สึกถึงความกรูมมิ่งนะ ถ้าฉอดคือตลกละ เลี้ยงแป๊บเดียวไม่ได้รักใคร่ ให้คนอื่นเลี้ยงด้วย
แต่ถ้ามีฉอดมาจริง มองในแง่ดีก็โปรโมทเสริมไปซะเลย เรียกคนมาสนใจ ช่วงนี้ตลาดยิ่งเงียบๆกันอยู่

811 Nameless Fanboi Posted ID:kAxEjTi2gr

Ky ถ้าตัวละครจะด่าว่า ไ อ้-สัด ,สัด-เอ๊ย ควร ใช้”สัส” หรือ “สัตว์” ดีวะ ใจกูอยากใช้”สัส”

812 Nameless Fanboi Posted ID6:eON9TD72rR

เพื่อนกูขอตามหาข้อมูลหน่อย อยากรู้ว่าพวกขุนนางมันสามารถตกอับทั้งที่มียศได้ป่าววะ แบบเป็นดยุก เป็นเคานต์แต่จนงี้ แต่ก็ยังมียศอยู่

ทีนี้ถ้าเกิดจนได้กูก็สงสัยอีก พวกนี้หน้าที่คือดูแลเขตแดนของตัวเองช้ะ ถ้าจนมันจะดูแลยังไงหว่า พวกคิงควีนไม่ยึดยศคืนหรอ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบ

813 Nameless Fanboi Posted ID6:9ejrvSkXwC

>>812 มีแต่ยศจนได้ เคยอ่านเรื่องหนึ่ง พ่อพระเอกผลาญตังค์เพราะติดผู้หญิง ติดพนัน พอมาถึงพระเอกแม่งให้ได้แต่ยศ พระเอกจนสัดจนต้องเลือกผู้หญิงรวยมาแต่งงาน เพราะพวกนี้มันไม่ทำงาน ดูแลเก็บภาษีคนในเขตตัวเอง แต่ถ้าบอกไปอีกว่าตอนนี้เขตเก็บภาษีไม่ค่อยได้ เพราะแล้ง เพราะคนย้ายหนี ก็จะเป็นท่านกยุกจนต้๊อกต๋อย

814 Nameless Fanboi Posted ID6:9ejrvSkXwC

ไม่ทำงาน คือไม่ลงทุนทำธุรกิจอะไร เพราะในเรื่องมันเซ็ทมาว่า คนที่ทำธุรกิจคือพวกพ่อค้า คนละชั้นกัน แล้วทีนี้พ่อนางเอกก็อยากดองกับพวกผู้ดี เลยดีลกันลงตัวไรงี้

815 Nameless Fanboi Posted ID6:eON9TD72rR

>>813 แต้งมากเพื่อน กุนึกว่าพวกนี้จะมียศทั้งที่จนไม่ได้ แบบเข้าใจว่าถ้าเงินไม่พอสำหรับรักษาบรรดาศักดิ์คือเอนด์เกม ปลดยศเป็นสาทัญชนไรงี้ไปเลย ขอบคุณมากๆ

816 Nameless Fanboi Posted ID6:9ejrvSkXwC

>>815 ถ้าจะปลด มีแค่พวกกบฎไรงี้ ส่วนใหญ่ยศมันเป็นยศที่ได้มาแล้วจะส่งต่อสู่ทายาท อ่านโรมานซ์ฝรั่งไม่เคยเจอปลดเพราะจนนะ แล้วพวกนี้คือ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ มันไม่แต่งกับคนธรรมดานะ อย่างน้อยก็ต้องมียศ เอิร์ล เคาท์ไรก็ว่าไป จะแต่งกับนางเอกที่เป็นลูกท่านเอิร์ลที่รวยมาก เพราะมีเหมืองทองในที่ดินก็ได้นะ

817 Nameless Fanboi Posted ID6:uB8vuE3oZx

>>812 มีเยอะแยะมึง ช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมพวกขุนนางผู้ดีทั้งหลายตกอับกันเยอะแยะ มียศแต่ไม่มีเงิน แต่พวกนี้ยังอยากใช้ชีวิตหรูๆฟู่ฟ่ากันต่อทั้งที่ไม่เคยทำงาน ไม่ทำธุรกิจอะไรเลย แต่ไลฟ์สไตล์ยังฟุ่มเฟือยทั้งที่เจ้าหนี้ตามจิกตลอด ก็เลยมีพล็อตแต่งงานกับเศรษฐีใหม่ที่เป็นพวกชนชั้นกลางชั้นล่างที่ถีบตัวเองจากการทำธุรกิจขึ้นมารวยเท่าขุนนางในสมัยก่อน ถึงจะเหยียดว่ามึงมันชั้นต่ำแต่ก็อยากได้เงิน พวกเศรษฐีใหม่ก็อยากได้ยศ เจอกันครึ่งทางที่จับลูกหลานแต่งงานกัน พล็อตปกติมาก

818 Nameless Fanboi Posted ID6:2rBRM61ADZ

>>812 มันรวยเพราะขูดรีดดูดทรัพย์จากคนในท้องที่ที่ปกครองนี่แหละ ทีนี้พอยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมมา คนไปเป็นแรงงานหมด ไม่ยอมเป็นทาสติดที่ เงินก็ไปโฟลวกับสินค้าอุตสาหกรรม พวกนี้เลยจนลงจนลง แต่ถ้าเป็นยุคก่อนปฎิวัติอุตสาหกรรม ช่วงที่ระบอบศักดินารุ่งเรือง อันนี้นอกจากสงครามกับโรคระบาดแล้วก็นึกไม่ออกว่าจะมีเหตุอะไรให้จนกรอบถึงขีดสุดเหมือนกันนะ

819 Nameless Fanboi Posted ID6:VJAobKcopS

>>818 อันนี้แย้งนิดนึง อีพวกขุนนางส่วนมากมันก็ปรับตัวกันทั้งนั้นแหละ แค่เปลี่ยนจากเจ้าของที่ดินไปเป็นนักลงทุนและผู้ถือหุ้น ถ้าไม่ใช่พวกนี้ได้รับประโยชน์จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วยจะยอมให้แรงงานเข้าสู่โรงงานได้ไง เพราะมันต้องการคนในโรงงานและตลาดที่มีคนมีกำลังพอซื้อเพื่อขายสินค้าเหมือนกัน มันแค่เปลี่ยนไปขูดรีดแรงงานต่อ (สมัยนั้นทำงานวันละ16ชม) ที่จนลงในช่วงหลังๆเพราะลงทุนล้มเหลว บริษัทล้มละลาย แต่ที่รอดมายันปัจจุบันก็มี เช่น Grosvenor Group บริษัทแม่อยู่ukเจ้าของเป็นตระกูลดยุค Howard เจ้าของก็บรรพบุรุษเป็นขุนนาง

820 Nameless Fanboi Posted ID6:fTkDb5ixp3

>>812 กูมาเสริมให้ ขุนนางคือข้าราชการของอาณาจักร ที่ทำสัญญาว่าจะคอยดูแลอาณาเขตปกครองของตัวเองโดยแลกกับการจ่ายภาษีให้กับอาณาจักร ซึ่งมากน้อยก็แล้วแต่สัญญาที่ระบุเอาไว้ ภาษีที่ว่ามีทั้งเป็นสิ่งของ เป็นเงินทอง บรรณาการ หรือแม้กระทั่งแรงงาน

ยศขุนนางเป็นสิ่งที่ไม่สามารถริบคืนได้ด้วยวิธีปกติ เพราะมันจะทำให้ขุนนางคนอื่นๆ มองคนริบคืนในแง่ร้ายว่าพยายามกำจัดเสี้ยนหนาม ในกรณีที่ถูกริบยศคืนจะมีแค่ทำตัวเป็นปรปักษ์ก่อกบฎชัดเจนเท่านั้น ขนาดพยายามลอบสังหารคนให้ยศยังไม่ผิดพอที่จะขอริบยศคืนได้เลย

แต่การตกอับนี้ขึ้นอยู่กับว่าตกอับในกรณีไหน กรณีถังแตกเงินในคลังหมด หรือว่าตกอับเพราะถูกริดรอนอำนาจ
ที่ปรากฎให้เห็นบ่อยๆ คือมักจะเป็นอย่างแรกคือตระกูลถังแตก ไม่มีเงินไปใช้บริหารบ้านเมืองจนต้องขายข้าวของในบ้านไปเป็นทุน ซึ่งเคสนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะขุนนางคือผู้ปกครองพื้นที่ ถ้าบริหารไม่ดีแล้วไม่ได้ผลผลิตกลับมาก็ทำให้ไม่มีเงินไปบริหารได้เช่นกัน
ส่วนอีกเคสคือกรณีที่โดนริดรอนอำนาจ มักเห็นกันในช่วงยุคเปลี่ยนผ่าน เช่นยุคปฏิวัติอุตสหกรรมที่อำนาจขุนนางน้อยลง จะมีพวกที่ปรับตัวเอาเงินทุนไปทำธุรกิจ หรือพวกที่ปรับตัวไม่ได้แล้วยอมสละยศ

821 Nameless Fanboi Posted ID6:fTkDb5ixp3

>>820 อ้อลืมบอก ยังมีอีกเคสนึงคือขอแต่งงานทางการเมืองกับขุนนางอื่น เพื่อดึงตระกูลนั้นมาช่วยในฐานะญาติ
นอกจากช่วยในด้านทางการทหารและกองกำลังแล้ว ยังสามารถขอความช่วยเหลือด้านทรัพยากรต่างๆ ได้ด้วย

822 Nameless Fanboi Posted ID6:yTkeh7KmAe

ถ้าเป็นนิยายโรมานซ์นี่ ส่วนใหญ่ที่เขาขายดีขายได้ง่ายๆ กัน นอกจากพลอตแล้ว เขาชอบแบบภาษากระชับๆ อ่านง่ายกันด้วยใช่ป่ะ

823 Nameless Fanboi Posted ID6:RQidR0PoVP

>>822 เท่าที่กูสังเกตพวกบิ๊กเนม กูว่าสำนวนการเล่าเค้าไม่เหมือนใคร อย่างคนอื่นอาจจะสนุกเพราะพล็อตรวมๆ ทั้งเรื่อง แต่คนพวกนี้จะสนุกแม้แต่การเล่าที่ส่งความน่าสนใจไปแบบย่อหน้าสู่ย่อหน้า แต่ละย่อหน้ามันน่าติดตามต่อไปหมด ยิ่งข้ามจากอีกบทไปอีกบทเค้าจะตรึงคนอ่านไว้ไม่ให้เบื่อ ความเคมีเข้ากันของตัวละคร แบบพระนางเคมีเข้ากันแบบกริบ ประมาณนักแสดงที่ต่อบทกันลื่นไหลเวลาเข้าฉากอะ มึงลองสังเกตพวกป้ายแดง (บางเรื่อง) ดู

824 Nameless Fanboi Posted ID6:glhQJiy5hx

>>822 ภาษากระชับจริง แต่มันไม่ได้กระชับแบบไร้อารมณ์อะ พวกท็อปๆที่กูว่าเขียนดีบางคนคือทั้งกระชับ ส่งความรู้สึกได้ในหนึ่งย่อหน้า ไม่ต้องเยิ่นเย้อให้มากความ บางคนเน้นบรรยายเยอะๆไว้ก่อน แต่ถ้ามากไปจะกลายเป็นคำพูดมากมายความหมายเท่าเดียว กว่าจะหลุดจากบทบรรยายมาบทพูดได้ ภาษาจะเนือยไป คนอ่านเหนื่อย เผลอๆลืมละว่าเมื่อกี้ใครพูดว่าอะไรวะ บรรยายเยอะเกิน

บางคนก็กระชับแบบน่าชื่นชมนะ สื่อสารครบจบ แต่ไม่ห้วนสั้นเกินไป ซึ่งส่วนใหญ่ กูเจอแต่แบบห้วนสั้นเกินจนไม่อินกับอารมณ์ตัวละคร ถ้าหาตรงกลางได้จะเจ๋งเลย

825 Nameless Fanboi Posted ID6:tRVfJri5NC

>>822 ไม่ค่อยเกี่ยวว่ะ คือกระชับกับอ่านง่ายมันก็ส่วนนึง แต่ที่กูสังเกตคือสำนวนมันต้องคมด้วย ถ้าสำนวนไม่คม ต่อให้กระชับและใช้ศัพท์ง่ายขนาดไหนมันก็จืด แต่ถ้าจังหวะคม ต่อให้เยิ่นเย้อศัพท์ยาก มันก็มีคนติด

826 Nameless Fanboi Posted ID:pS/bgbj56d

มึงคือกุเขียนเพราะรักไม่ได้ทำเป็นอาชีพ แต่ได้เงินก็ดี เขียนจบไปเรื่องเดียว ที่คิดไว้มีเรื่องในจักรวาล นอกจักรวาลต่ออีกเป็นล้าน ทีนี้สามปีถัดมากุยังเขียนต่อไม่จบซักเรื่อง หงุดหงิดเข้าวนกลับไปอ่านไอ้เรื่องเดียวที่เขียนจบเพื่อจูนตัวเอง แล้วก็เจอคำผิด อ่านเจอย่อหน้านี้แล้วรีไรท์ อยากปรับโครงสร้าง/ลำดับเนื้อเรื่อง บลาๆ ไปหมดเลยว่ะ กุเป็นโอซีดียังวะ

827 Nameless Fanboi Posted ID6:wkO+znhrY2

>>826 ยังไม่เป็น ลองเกลาดู มันแค่เราโตขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น

828 Nameless Fanboi Posted ID6:wkO+znhrY2

>>811 ใช้สัดไหนก็ได้แล้วแต่มึงพอใจ เพราะกูเจอมาทุกอย่างที่มึงว่านะ 555

829 Nameless Fanboi Posted ID6:1SQhMv9.DB

>>811 ใช้ได้หมดเลย กูก็ชอบสัสเหมือนกัน คนใช้เยอะ

830 Nameless Fanboi Posted ID6:D3uW67HfJ5

>>826 นี่คิดว่าถ้าคิดจะแก้ มันก็แก้ก็เสริมได้ไม่รู้จบอ่ะ เพราะความคิดมุมมองมันก็จะเป็นไปตามอารมณ์เราขณะนั้นๆด้วย สังเกตดูว่าประโยคเดิมนี่แหละ วันนี้อ่านแล้วดี พรุ่งนี้อยากแก้ อีกสามวันมาอ่านรู้สึกว่าพอไหว หกวันต่อมาอ่านแล้วรู้สึกไม่ใช่สุดๆ เก้าวันกลับมานี่มันก็สอดคล้องกับวรรคก่อนแล้วนี่หว่า สิบห้าวันผ่านไปแม่งอันแรกอ่ะเมพสุดแล้ว อะไรงี้ตลอด
คติกุคือถ้าลงให้คนอ่านแล้วคือจบ กุจะไม่แก้ไรนอกจากคำผิดคำตกเท่านั้น เพราะกุเป็นพวกเขียนจบก่อนค่อยลง และขณะเขียนก็มีทวนหลายรอบแล้ว ดีร้ายไงมันก็คอมพลีตออกสู่สายตาประชาชีไปแล้ว ถ้าพลาดอะไรกุขอเอาไปลงกับเรื่องใหม่ดีกว่า

831 Nameless Fanboi Posted ID6:LlbzslpoY2

KY กุจะเขียนประเด็นนึงที่ร้ายแรงมากแบบทำคนอ่านลบออกจากชั้นทันทีได้ แต่จะมาเฉลยทีหลังว่าจริง ๆ กุแค่ mislead ไปงั้น (สมมติประเด็นพระเอกนอกกายไปนอนกับคนอื่นงี้ ถ้ากุเจอกุก็ปิดล่ะ 555) ซึ่งมันจำเป็นกับเนื้อเรื่องแบบแก้ไม่ได้ แต่กุก็กลัวนักอ่านหนี 555555 มึงว่ากุควรสปอยนักอ่านอ้อม ๆ มั้ย ว่ามันอาจไม่ใช่อย่างที่คิสสส ฯลฯ หรือปล่อยไปตามยถากรรม Orz ประเด็นคือถ้าสปอยจะเสียอรรถรสมั้ย มุมกุถ้ากุเป็นนักอ่านกุยอมโดนสปอยดีกว่าเสียอารมณ์ละต้องดรอปดื้อ ๆ น่ะ 5555 แต่ไม่รู้คนอื่นคิดไงกัน กุคือทั้งกลัวไปสปอยเขา ทั้งกลัวนักอ่านหนีเลย 555555555

832 Nameless Fanboi Posted ID6:ROMbwtFOI3

นานๆจะเข้านกฟ้าที ถ้ากุอยากอ่านคห.ที่คนคุยกันเกี่ยวกับการเขียน ทริค หรือการขายงาน บลาๆ ที่ไม่มีพวกโปรโมทกุต้องไปเกาะแท๊กไหนวะ ไปตรงไหนก็เจอแต่พวกโปรโมทนิยายเป็นพรืดไปหมด

833 Nameless Fanboi Posted ID6:nYymcaQIZr

>>831 แล้วแต่มึงนะ แบบไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ แต่สต.กูว่า บอกไปเถอะมึง นักอ่านส่วนใหญ่(นอท ออลลล)อ่านนิยายเพื่อผ่อนคลายต้องการความสบายใจเป็นหลัก สปอยนิดหน่อยให้สบายใจที่จะอ่านตั้งแต่เริ่ม กับ อรรถรสการอ่านที่อ่านไปอย่างระแวงแล้วมาเซอร์ไพรส์รู้ตอนจบ
กูว่าอย่างแรกคนชอบ มีมากกว่า อย่างหลัง

834 Nameless Fanboi Posted ID6:nYymcaQIZr

>>832 #คุยกันคุณนักเขียน

835 Nameless Fanboi Posted ID:qr7iDgOI4t

>>831 มึงเขียนมุมมองไหนอะ ถ้ามุมมองพระเจ้าก็สปอยไปเถอะ รึเขียนให้มันคลุมเครือแบบน่าเชื่อว่าไปทางเข้าใจผิดก็ได้ ตอนอ่านอาจจะอึนๆ พอเฉลยจะได้โล่งอก

836 Nameless Fanboi Posted ID:582P5YYnCD

>>831 ใส่คำเตือนเนื้อหากว้างๆไว้ แล้วจากนั้นก็ตามใจมึงเถอะ ว่าอยากหักอารมณ์คนอ่านแค่ไหนยังไง คนที่เขารับไม่ได้เขาก็บายตั้งแต่แรก คนที่เหลือคือคนที่รับได้ ยังไงมึงก็จับคนอ่านทุกกลุ่มไว้ทั้งหมดไม่ได้อยู่แล้ว
ยสตน. สำหรับกูนักอ่านธงแดงนี่เป็นอะไรที่สบายใจในการเขียนให้อ่านกว่ามาก

>>834 เจอแต่แปะฝากนิยาย โฆษณารับรีวิว แจกโดเนทแลกใจ ไถหาที่คุยกันจริงๆแทบไม่เจอเลย ที่เจอก็คุยคนเดียวไม่มีคนตอบหรือตอบแค่สองสามรีว่ะ - -.

837 Nameless Fanboi Posted ID6:0pe9P4uupK

กลับมานั่งอ่านนิยายตัวเองเขียนเมื่อราวๆ 10 ปีก่อนแล้วกุมขมับเลยว่ะ
กูเขียนไปได้ไงตอนละ 2 หมื่นคำแต่เนื้อหาไม่เดิน แถมยังนอกเรื่องไปซะเยอะด้วย ถถถถถถถถ

838 Nameless Fanboi Posted ID6:+P3BuwPPYM

>>837 เวลาบอกว่าเนื้อหาไม่เดินนี่ ในทางปฏิบัติมันเป็นยังไง

839 Nameless Fanboi Posted ID6:nYymcaQIZr

>>838 เช่นคุยกันไปใช้ชีวิตแต่ละวันกันไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดไคล์แมกหรือวิกฤติใดๆที่จะมาเป็นจุดเปลี่ยน

840 Nameless Fanboi Posted ID6:nYymcaQIZr

ซึ่งกูกำลังเผชิญเลย พระเอกนางเอกกูคบกันแล้ว ดำเนินเรื่องหวานชื่น แต่กูอยากให้มันมีวิกฤติชีวิตคู่สักหน่อย ช่วยกันแก้ปัญหา แล้วจบ แต่ยังตัน

841 Nameless Fanboi Posted ID6:PmQ02IFWXi

>>838 เอาที่กูเคยโดนด่ามาคือบรรยายยืดเกินไป 1ย่อหน้าไม่เดินไปไหนเลย ครส.ของคนอ่านคงรู้สึกว่านร.มันไม่ไหนมั้ง

842 Nameless Fanboi Posted ID6:PGzo4QGvsV

>>840 อยู่พระเอกขับรถชนหมา พอได้ป่ะ

843 Nameless Fanboi Posted ID6:Wrr+AuWh4E

>>838 เอาเคสที่กูเขียนเลยคือ
ตัวเอกเดินทางเข้าเมืองไปหางาน > เจอเพื่อนเก่ามารับ > พาไปหาเจ้านายระหว่างรอเข้าพบ เจอจิ๊กโก๋มาทะเลาะเลยตบให้หายซ่า > คุยกับเจ้านายเรื่องจ้างงาน
ทั้งหมดที่นับได้คือ 80k คำ ถถถถถถถ แม่งเอ้ย เทียบกับนิยาย 1 เล่มสมัยนี้เลย เมื่อก่อนกูบ้าเขียนไปได้ไงวะเนี่ย

844 Nameless Fanboi Posted ID6:Wrr+AuWh4E

>>843 เอาหลักๆ คือคุยสารทุกข์สุขดิบ พยายามยัด World build เข้ามาจนซะแน่น ปูตัวละครที่ต้องใช้ในอนาคต ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนั้นคือยังไม่เข้าเนื้อหาหลักเลย ทำเอากูอยากย้อนเวลาไปตบกะบาลตัวเองในสมัยนั้นชิบหาย

คือยุคนั้นกูเข้าใจผิดๆ ไงว่าเขียนเยอะ = งานดี เพราะกูเขียนยุคที่ สนพ. ตอนนั้นแม่งรีเควสนิยายหน้าละ 500+ คำ 300+ หน้า ขนาดตัวอักษร 14 ห้ามเคาะเว้นบรรทัดอะไรทำนองนั้น เลยทำให้เข้าใจว่าเขียนยิ่งเยอะยิ่งดี มาตอนนี้หยิบมาอ่านทีกุมขมับเลย

ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นนิยายที่กูเขียนตอนเพิ่งเรียนมหาลัยฯ จบ เทียบตอนนี้ก็น่าจะ 12+ ปี

845 Nameless Fanboi Posted ID6:W9YhtUu8FW

กุชอบปกกราฟฟิค / ปกที่มีความหมายกับเนื้อเรื่องมาก ๆ ไม่ค่อยชอบปกวาดเท่าไหร่ แต่เห็นว่าปกวาดดึงดูดนักอ่านมากกว่าใช่ปะ ทำไมเป็นงั้นวะมึง เห็นตลค.หน้าซ้ำ ๆ ยืนกอดกันเฉย ๆ มันน่ากดเข้าไปดูอะไรหว่า อันนี้สงสัยจริง ไม่ได้กวนตีน 5555

846 Nameless Fanboi Posted ID6:QC5/B7fxus

>>845 กูก็อยากเปลี่ยนไปใช้แบบนั้น แต่มือลั่นจองตลอด บางทีก็สงสารนักวาดงานดี อยากเป็นกำลังใจ แรงผลักดันให้เค้า5555

847 Nameless Fanboi Posted ID:dCTWI1uU7H

>>845 ตอบจากคนซื้อ ปกตลค.ช่วยกูกรองแนวเรื่อง-คาร์พระนางได้ระดับหนึ่ง กูไม่อ่านรักวัยเรียน เจ้านายกับเลขา มาเฟีย กีฬาทุกแนว ปลูกป่าบ้านนา พีเรียดไทยจีนเทศ นึกภาพทั้งร้านเป็นปกกราฟฟิคหมด กูคงเสียเวลาสกรีนกว่าเดิม ต้องกดเข้าไปอ่านคำโปรยกับตัวอย่าง
สมมติชื่อเรื่อง "รักสุดใจนายสุดจืด" ปกหนุ่มแว่นบนรถแกร็บไบค์ กับปกแกร็บไบค์เฉย ๆ สำหรับกูแบบแรกเข้าใจง่าย รู้ว่าจุดขายของเรื่องคืออะไร

กูไม่ได้สนับสนุนว่าต้องปกตลค.หมดนะ แล้วแต่รสนิยมเลย ปกตลค.ที่ว่าแพงๆกันบางคนออกมารกรุงรังก็มี อีกอย่าง ปกกราฟฟิคจะทำให้มีความหมายหรือดูแพงก็ยากไปอีกแบบนะมึง ภาพวิว ภาพแนวโกธิค กรอบแบบโรโกโก เอามาเบลนด์กับดอกไม้แฉะๆ ไม่ก็วิวธรรมชาติ ออกมารุงรังกว่าปกตลค.ก็มี กูนึกถึงปกความรู้สึกดี นั่นเรียกปกกราฟฟิคมั้ยวะ แรกๆสวย หลังๆเฟลก็มี กูซื้อเพราะหัวซีรีส์แท้ ๆ

848 Nameless Fanboi Posted ID6:u7X15M.0iN

>>846 ของกูโดนสองปกเลย ทั้งปกวาดและปกกราฟิกในเรื่องเดียว หายนะทางการเงินหนักกว่าเดิม555

849 Nameless Fanboi Posted ID6:MF8x0fBTUF

>>847 จะว่าไปทำไม พอเป็นนิยายฝรั่ง มันใช้ปกแบบกราฟฟิก หรือบางทีปกมีแต่ชื่อเรื่องตัวใหญ่ๆอย่างเดียว มันยังขายติดเบสเซลได้หว่า

แต่ปกฝั่งเอเชียนี่ต้องสวยไว้ก่อน มีรูปคนยิ่งดี

850 Nameless Fanboi Posted ID6:mqJjpn7vsw

>>849 ฝั่งนั้น งานโรมานซ์ กก มีเซ็ตที่ใช้ภาพคนจริง บางทีเหี้ยมาก ในนิยาย ตัวเล็กผมแดง ปกฝรั่งตัวหนาบึกหัวแดง หมดอารมณ์อ่าน

851 Nameless Fanboi Posted ID6:mqJjpn7vsw

>>849 ส่วนตัวกุคิดว่า ฝั่งนั้นไม่ค่อยสะสมหนังสือด้วยป่ะ กระดาษที่ใช้พิมพ์ก็บางๆ

852 Nameless Fanboi Posted ID6:yW.ABZC/lY

>>849 สงสัยเหมือนกัน ที่สวยเริ่ดเลยก็มีนะ แต่เรียบ ๆ เน้นไทโปชื่อเรื่องชื่อนข.ตัวเบ้อเร่อก็หรูแล้ว ยังไงก็น่าจะถูกกว่าจ้างวาดหมื่นสองหมื่น

>>851 เป็นอีบุ๊คก็ไม่ได้สะสมอยู่ดีใช่ปะล่ะ คนก็ยังกดเข้าไปดูนะ แปลกจัง 555555

853 Nameless Fanboi Posted ID:2vWIKzlR8.

>>845 กูชอบทั้งสองแบบ แต่ขอสื่อความหมายในเรื่องก็พอ กูมองว่าปกสองแบบมันก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ปกตัวละครคือมองปราดเดียวรู้เลยว่าพระเอกนางเอกหน้าตายังไง ธีมเรื่องแบบไหน เช่นหน้าปกนางเอกสวยแซ่บเอาปลอกคอคล้องพระเอกที่ทำหน้าหมาน่อยหงิงๆ มันก็พอเดาเรื่องได้แล้วป่ะว่ามันมาแนวไหนลักษณะไหน หรือปกกราฟฟิคที่วางรูปโซ่แส้กุญแจมือไรงี้ ก็พอรู้เนื้อหาข้างในรางๆว่ามันเกี่ยวกับอะไร

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เวลาซื้อกูดูเรื่องย่อ พล็อต สำนวนก่อน ถ้าถูกใจก็หยิบแบบไม่เกี่ยงว่าจะเป็นปกคนหรือกราฟฟิค บางทีพกไปข้างนอก กูไม่หยิบปกคนไปอ่านเลยด้วย เอาปกกราฟฟิคไปอย่างเดียวพอ

854 Nameless Fanboi Posted ID:AlgiaCENti

ky กูเห็นมู้นี้พูดถึงเรื่องเขียนแนวมังฮวาโรแมนซ์แฟนตาซี กูก็มีเรื่องปรึกษาเหมือนกัน คือกูก็แนวทะลุมิติ พระเอกตื่นมาในนิยายแบบไปทั้งร่างไปทั้งชื่อ แล้วฮีมีเป้าหมายคือจีบนางเอกต้นฉบับที่ถูกพระเอกนิยายทิ้งไปสอยนางร้าย(ที่มีสาวทะลุมิติสิงร่าง) ประเด็นคือ พระเอกในโลกใหม่ตอนนี้อายุ 22 แล้วมีซีนที่กูเขียนให้พระเอกทะเลาะกับนางเอกเรื่องนางเอกไม่มูฟออนจากพระเอกนิยายสักที ทีนี้พ่อบ้านรุ่นลุงก็มาแนะนำว่า นางเอกตอนนี้แค่18-19 อาจจะยังเด็กที่คิดไม่เท่าพระเอกที่อายุมากกว่า พระเอกเลยสะกิดใจขึ้นมาว่า อ๋อก็นั่นสินะ ก็ก่อนจะอิเซไค เราอายุ 28 แล้วจะมองว่านางเอกคิดไม่ทันเราก็แปลก ทีนี้มึงว่ามันจะทำให้นักอ่านครีปปี้เรื่อง age-gap มั้ยวะ แม้ว่าพระเอกจะไม่ล่วงเกินนางเอกเลย เพราะกูอยากเขียนให้ตัวละครมี identity crisis บ้างอ่ะ กูอ่านมังฮวาตั้งหลายเรื่องเป็นป้าวัยทำงานอายุ 27 ทะลุเข้าร่างตัวละคร17-18 แล้วแม่งโยนเรื่องอายุตัวเองทิ้งเฉยเลย กูอยากให้มีการตระหนักถึงตัวตนโลกเก่าในแนวทะลุมิติอ่ะ

855 Nameless Fanboi Posted ID:AlgiaCENti

>>854 **ก็ไม่แปลก

856 Nameless Fanboi Posted ID6:mqJjpn7vsw

>>854 แก่กว่าสิบปีเอง ไม่เข้าแนวโคแก่ด้วยซ้ำ มึงอย่าคิดมาก ถ้ามึงขายพวกป้าๆ หรือขายผู้ชาย ไม่มีใครมาครีปปี้หรอก

857 Nameless Fanboi Posted ID:AlgiaCENti

>>856 กูกลัวโดนจับยัดข้อหาเรื่องพาวเวอร์ไดนามิก Power Imbalance นั่นนี่อ่ะดิ ขนาดข้างบนๆที่แค่เขียนว่าล่าสัตว์ตามขนบยุคเก่ายังโดนด่าเฉยเลย แต่จะพยายามหน้าด้านเขียนและไม่คิดมากนะ ฮึกๆฮือๆ

858 Nameless Fanboi Posted ID6:mqJjpn7vsw

>>857 เฮ้อตั้งแต่รู้จักชาวฉอด กูรู้สึกว่าชีวิตนักเขียนแม่งเหมือนแขวนบนเส้นด้าย สู้ๆ เพื่อนโม่ง

859 Nameless Fanboi Posted ID6:lc03.9V.yk

>>851 บ้านเขาวงการมันใหญ่ ไอ้ที่บางๆเป็นฉบับ paperback เน้นถูกไว้อ่าน ถ้าฉบับสะสมของเขาก็จะเป็นอีกเกรด
กุว่าปกคนจริงในแนวนั้นอาจจะถูกโฉลกกลุ่มเป้าหมายบ้านเขาก็ได้นะ

>>857 ขอแค่มึงขัดตาโวคยังไงก็ต้องมีสักจุดให้ขุดมาโดน ยกเว้นเนื้อหามึงจะฉาบความโวคแบบฉาบฉวยไว้แน่นหนา อันนี้มันอาจจะมองว่าเป็นพวกเดียวกันแล้วปกป้องมึงอย่างไม่ลืมหูลืมตา

860 Nameless Fanboi Posted ID6:b+uAS+vQlq

Kyขอถามความเห็น นิยายกูมีซีนพยายาม ฆตต แต่มีคนมาเตือนสติทัน จากนั้นก็ไม่มีละ กูควรติดTW ให้เห็นชัดๆที่คำโปรย ตอนขายebookไหม
คือใจกู ไม่อยากติดที่คำโปรย อยากติดในเล่มก่อนบทนำที่เดียว อยากให้คนโหลดตัวอย่างไปดูสักหน่อย ไม่ใช่ลากันตรงคำโปรยน่ะ

861 Nameless Fanboi Posted ID:JxHRPF9ZVI

>>860 ติดตรงนั้นแหละ ก่อนบทนำ ไม่ก็ติดแม่งก่อนบทแรกเริ่มเลย กูเคยติดแบบก่อนเริ่มเนื้อหาเลย ก็ไม่มีใครว่าไรนะ

862 Nameless Fanboi Posted ID6:b+uAS+vQlq

>>861 โอเค ขอบคุณมาก

863 Nameless Fanboi Posted ID:2vWIKzlR8.

>>857 มึงคะ ต่อให้พระเอกแสนดีธงเขียวเป็นป่าอเมซอนแค่ไหนก็โดนด่าได้ค่ะ ก่อนหน้านั้นพระเอกเธอคือดาวกลางใจก็โดนด่าไปแล้วเรื่องความเป็นชายแทร้ ตอนนี้ทันจิโร่ พระเอกเด็กดีธงเขียวยิ่งกว่าป่าอเมซอนสุภาพบุรุษไม่ชายแท้ก็โดนชาวฉอดด่าเหมือนกันค่ะ ข้อหาไปขัดขวางคนที่กำลังตั้งใจจะตายให้อยู่ต่อไปเรื่อยๆไม่สิ้นสุดแบบทุกข์ทรมาน ขนาดทันจิโร่ก็โดนฉอดได้ ตัวละครของมึงก็พึงระวังไว้ 55555555555555555

864 Nameless Fanboi Posted ID6:xuSi80+EoI

มึงกูอยากรู้ว่าพวกฉอดเรื่อง age gap , pedo นี่มันลามไปถึงเผ่าพันธุ์อื่นที่ไม่ใช่คนไหมวะ คือถ้ากูแต่งแนว bestiality /มนุษย์ครึ่งสัตว์ ที่เผ่าสัตว์มัน2-3ปีก็โตเต็มที่พร้อมสืบพันธุ์มึงว่ากูจะโดนฉอดไหม

865 Nameless Fanboi Posted ID6:xuSi80+EoI

>>864 อ้อกูลืมบอกไปว่ามีร่างคนนะ แต่ร่างคนก็เป็นผู้ใหญ่ละ ร่างเด็กมีแค่ตอนเป็นลูกสัตว์

866 Nameless Fanboi Posted ID6:+mGUkm2lgV

ky พวก template ในแคนว่า (แบบไม่ปรับอะไรเลย ใช้ดีไซน์ฟรีของเขาหมด) เอาไปใช้ตกแต่งในช่วง talk ของอีบุ๊คได้มั้ยอะ ติดลิขสิทธิ์อะไรหรือเปล่า กูกะว่าจะให้เครดิตคนทำเทมเพลทด้วย แต่ก็กลัวว่าจะยังไม่พอ แล้วจะโดนแคปมาแฉในเน็ตว่าเอาเทมเพลทชาวบ้านไปใช้แบบหน้าด้านๆ แต่กูไร้หัวศิลป์แล้วเทมเพลทเขาก็น่ารักมากจริงๆ TvT

867 Nameless Fanboi Posted ID6:LqT0d9TCS+

>>864 มึงเหมือนโม่งนึงที่เคยมาวนถามหลายรอบว่าจะโดนฉอดไหมถ้าเขียนนิยายแฟนตาซีให้เด็ก12-13 สืบพันธ์กับรุ่นใหญ่และใส่เหตุปัจจัยต่างๆกันฉอด ซึ่งตอนนั้นโม่งก็ตอบไปแล้วว่าโดน ถ้านิยายมึงดัง

868 Nameless Fanboi Posted ID6:LqT0d9TCS+

>>866 ถ้ามึงใช้แบบโปรคือได้นะ แต่กูแนะนำว่ามึงควรดัดแปลงอีเลเมนต์ต่างๆบ้างนิดหน่อยอย่ายกของเขามาทั้งดุ้น

869 Nameless Fanboi Posted ID6:+mGUkm2lgV

>>868 โอเคๆ แต๊งมากมึง แรกๆกูว่าจะให้เครดิตแหละ แต่ไปๆมาๆกูนั่งโละดีไซน์ทั้งคืนจนไม่เหมือนของเขาละ ค่อยยังชั่ว สบายใจขึ้นเยอะเลย555

870 Nameless Fanboi Posted ID6:V5AWTKesje

>>864 ถ้าสองสามปี ตัวโต นิสัยก็โตตาม ไม่โดน แต่ถ้ามึงเขียนออกแนว โตแต่ตัวแต่นิสัย อ่อนเป็นเด็ก มึงก็เละ เหมือนแค่เลี่ยงบาลี

871 Nameless Fanboi Posted ID6:XLZxNczOyl

>>867 กูมาถามครั้งแรกนี่แหละ
>>870 นิสัยแบบสัตว์ไม่มีไรซับซ้อนอะมึง ชอบก็จะอยู่ด้วย ไม่ชอบก็จะตะปบ ให้อาหารคือเป็นคนดี แต่ถ้ารำคาญขึ้นมาก็จะงาบหัวตายถึงจะเป็นคนที่ชอบก็เถอะ แล้วก็90+%จะอยู่ร่างสัตว์หมด ไม่ชอบร่างคน แม้แต่กับร่างอิคนที่ชอบเพราะบอกว่ามันปวกเปียกเหมือนอาหาร

872 Nameless Fanboi Posted ID:r1j0IFQrGA

>>871 เขียน

873 Nameless Fanboi Posted ID:r1j0IFQrGA

>>871 เขียนๆไปมึง​ เหตุผลกับเซตติ้งมึงปูมาแค่ไหนคนจะด่าก็หาจุดด่าได้อยู่ดี​ นิยาย​พรอพเบิลมาติกโนเนมโดนแขวนจนได้ป้ายแดงก็เพิ่งจะมี​ให้เห็น​ ประเด็นเรดแฟล็กแต่นข.ขายดีมีครบทุกแฟล็กก็เพิ่งดิสคัสอยู่มู้ข้างๆ มึงอยากเขียนมึงก็เขียน​ ตีมึนไปจนมึงดัง​ แฟนคลับจะคุ้มมึงเอง​ ทนๆให้นข.ด้วยกันมาสับด่าเพราะอิจฉา​ ทนได้ก็พอ

874 Nameless Fanboi Posted ID6:LqT0d9TCS+

Ky ขอวิธีรับมือ หรือ ทำใจ กับคนซื้อที่ให้1ดาว ไม่รีวิว หน่อยสิวะ กูขายถูก แสนกว่าคำไม่ถึงร้อย ลดราคาเพราะออกมาหลายปีแล้ว ปกสำเร็จไม่เอไอ คนให้5ดาว3ร้อยกว่า เพิ่งเจอ1ดาวครั้งแรก โม่งที่มีสติ มีวุฒิภาวะมีeqเจอแบบนี้จะทำอย่างไร
ใจกูรู้สึกเกลียดชังมากๆ อยากคืนเงิน ไม่อยากให้มันมาซื้อ หรือมายุ่งเกี่ยวใดๆ

875 Nameless Fanboi Posted ID6:V5AWTKesje

>>874 มี 5 ดาวตั้ง 300 มึงจะแคร์ไรอะ ถ้าเค้าซื้อแล้วมันก็เป็นสิทธิ์ของเขาอะ อีกอย่างคือ มึงต้องทำใจทำโมสังโค นิยายเรื่องหนึ่งไม่ใช่ว่าจะสนุกสำหรับทุกคนไง

876 Nameless Fanboi Posted ID6:LqT0d9TCS+

>>875 ฮือ ขอบคุณนะ

877 Nameless Fanboi Posted ID6:Op4Nl1eKh2

>>874 โห ถึงขั้นเกลียดชังเลยเหรอ

878 Nameless Fanboi Posted ID:amATPKOzTK

มีทางไหนที่จะเขียนฮาเร็มและ polygamy อย่างเป็นธรรมชาติที่ไม่ได้นอกใจกันและกันบ้างวะ ไม่ได้มาแนวคิงยุคก่อนนะเว้ย แต่เป็นคนธรรมดายุคปัจจุบันนี่ล่ะ มีหนทางไหนที่ทุกฝ่ายจะยอมรับความสัมพันธ์แล้วเปิดรับอีกคนเข้ามาแบบไหลลื่นไม่ติดขัดอะไรเลย

พอดีมีคนแนะให้กูไปดูพี่ต้องเทพที่พระเอกมีหลายเมีย แต่กูดูแล้วมันก็ อ้าว มึงนอกใจเมียนี่หว่าอีสัส แถมยังมัดมือชกพากลับบ้านมาให้ทางบ้านยอมรับด้วย เยสสาวอื่นในช่วงเวลาที่เมียท้องแก่รอผัวกลับบ้านแล้วเจอว่าผัวพาเมียน้อยกลับมา อีเมียหลวงก็ไม่โกรธแถมโอเคจ้า เรามาเป็นครอบครัวเดียวกันนะเตง อันนี้กูรับไม่ได้ กูไม่อยากเขียนฮาเร็มแบบนี้

879 Nameless Fanboi Posted ID6:bz2TpngzxX

>>878 ถ้ามึงขายผชแท้ หรือคุ ก็ตามตรรกะพี่ต้องเทพไปได้แหละ แต่ถ้าจะเน้นกลุ่มเป้าหมาย ผญ. หรือคนธรรมดา ที่นึกออกมีสองแนวว่ะ คือตั้งเซตติ้งแบบชนเผ่าไปเลย ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีหลายท้องถิ่นที่มีวัฒนธรรมนี้อยู่ ทั้ง polygamy และ polyandry
กับอีกแบบ กุเจอในแนวดราม่าโรแมนติก คือคู่เดิมก็รักกันดีๆ แต่มีอีกคนมาแทรกตรงกลางแบบตอนแรกก็มาแบบเป็นมิตรเอ็นดูกันทั้งสองฝ่าย แต่พอเรื่องราวดำเนินไปดันกลายเป็นรักสามเส้าแบบวนเป็นวงกลมขึ้นมา ใครก็ทิ้งใครไม่ลงสักคน เลยตกลงอยู่กันไปสามคนแบบนั้นแหละ

880 Nameless Fanboi Posted ID6:V5AWTKesje

>>878 แฟนสาวร้อยคน

881 Nameless Fanboi Posted ID6:bz2TpngzxX

>>879 อ่อ มึอีกอย่าง แค่ให้พอ.เป็นมุสซี่ ก็แต่งเมียได้ 4 คนแบบเมียหลวงเต็มใจเหมือนกัน

882 Nameless Fanboi Posted ID:VOj19hOZyd

>>874 ให้ยืมวิธีของเพื่อน เพื่อนชอบใช้วิธีนี้ คิดว่ามีคนอิจฉา มึงขายถูกด้วยนี่ เหม็นๆ ขี้หน้ากันอยู่ ซื้อซะกดหนึ่งดาว(ไม่ซื้อลบรีวิวได้) ประมาณนี้
ส่วนในความเห็นกู เข้าใจที่มึงนอยด์นะ นักเขียนอะเนอะถึงจะมีคนให้ดาวเราเต็มห้ามากมาย แต่มันมีอีหนึ่งดาวโผล่มาตำตาตำใจ ยังไงก็นอยด์ คิดวนเวียน ทำไม กูผิดอะไร นู่นนี่ แต่ก็นั่นแหละมูฟออนเพื่อน ไม่น่าทำให้เรตติ้งเฉลี่ยรวมมึงตกสักเท่าไร กูว่ามึงเก่งมากเลยนะมีเรตติ้งตั้งสามร้อย เดี๋ยวนี้จะไปให้ถึงสักร้อยยังแสนยาก

883 Nameless Fanboi Posted ID6:UlD9b2k8lN

Ky พวกมึงเป็นไหม กูรู้สึกว่าพอเป็นนักเขียนแล้วอ่านนิยายสนุกน้อยกว่าเดิมว่ะ กูจะอ่านแบบ เขาจะทำให้ตัวละครรักกันแบบไหน เหตุผลอะไร ใช้คำแบบไหน เปิดเรื่องยังไง บรรยายท่าทางแบบนี้อย่างไร ตอนนี้กำลังอยู่จุดไหนของโครงเรื่อง

884 Nameless Fanboi Posted ID:0wM6nOyAob

>>883 เป็น แต่กับเรื่องที่มันตรงจริต ตรงเวลาจริงๆ ก็ยังทำให้มึงเพลินจนลืมคิดวิเคราะห์โครงเรื่องได้อยู่ แล้วก็ต้องกลับมาอ่านซ้ำเพื่อจะเรียนรู้กลวิธีการเขียนเขา แต่ถ้าสนุกและยาว สุดท้ายมึงก็ลืมอีก
ส่วนเรื่องที่แบบกลางๆ ไม่ดึงดูดใจมาก หรือ sos ที่อารมณ์เรื่องไม่พีคนัก อันนี้อ่านไปก็จะพยายามจับไป บางทีก็เปิดจินตนาการหาจุดเอ๊ะไปใส่เรื่องที่ตัวเองกำลังเขียน ไม่ได้ลอกนะมึง แบบอ่านเจอนอ.เที่ยวทะเล กุก็เออ ใส่ทะเลลงในเรื่องเอาแบบน้อยใจริมทะเลดีกว่า อะไรงี้ ผลคือ อินกะเรื่องได้ยากมาก
สรุปหาเรื่องที่อ่านแล้วอินกับปล่อยจอยไปกับเนื้อเรื่องยากกว่าเดิมมาก

885 Nameless Fanboi Posted ID6:Z7frsulLQ+

นักเขียนที่มึงถูกจริตกับงานเขาซะส่วนใหญ่ แต่บางเรื่องมึงก็ไม่ชอบและไม่อ่าน อาจจะด้วยพล็อตหรือตรรกะประหลาดๆในเรื่องที่มึงรับไม่ได้ มึงยังจะโอเคกับเขาและจะอ่านงานต่อกันอยู่ป่ะ จะดูเป็นเรื่องๆไปหรือจบกันแค่นี้ล่ะ

886 Nameless Fanboi Posted ID:0wM6nOyAob

>>885 ทำไมต้องยึดติดกับชื่อนข.ขนาดนั้น งานเขาโอเคคือความสามารถและวิธีเล่าเรื่องเขาตรงสเปค ทีนี้ถ้าเขาจะพลิกแนวกุก็แค่ข้ามเรื่องที่ไม่ใช่แนวกูไปเท่านั้น ถ้าเรื่องใหม่มาโปรยและแนวตรงกับที่กุชอบก็เปย์ได้ไม่ต้องคิดมาก
ทำไมต้องเทถาวร ทำไมต้องฝืนอ่านเรื่องที่ไม่ชอบแค่เพราะเขาเขียนวะ? กุตามผลงานเขาไม่ใช่ตัวเขาว่ะ

887 Nameless Fanboi Posted ID:McLorbj06i

กูว่านักอ่านส่วนใหญ่เลือกอ่านที่พล็อตมากกว่าเน้นตามนักเขียน จะมีบ้างที่ตามซื้อทุกเรื่องเป็นแฟนคลับเดนตาย แต่เท่าที่กูสังเกตไม่ว่าจะตัวแม่แค่ไหนถ้าเขียนพล็อตที่ต่างไปจากเรื่องเดิมมากๆ และเป็นพล็อตที่ไม่ตรงจริตเท่าไรนักอ่านก็ไม่ค่อยซื้อกันนะ เช่น ปกติเขียนพระเอกโตกว่านางเอก แต่แหวกมาเขียนพระเอกเด็กกว่านางเอก นักอ่านที่ชอบอ่านพระเอกโตกว่านางเอกก็อาจจะไม่ซื้อหรือยังไม่ตัดสินใจซื้อทันที รอซื้อตอนลดไรงี้ ทำให้ยอดขายยอดรีวิวลดกว่าเรื่องก่อนๆ แล้วพวกที่ไม่ซื้อก็จะรอดูเรื่องต่อไปว่าจะตรงจริตอีกไหม ถ้าตรงก็เปย์เหมือนเดิมยอดรีวิวกลับมาเยอะเหมือนเดิม

888 Nameless Fanboi Posted ID6:9//qTaVvsn

>>887 +1 สมัยนี้ นักอ่านเลือกพล็อตก่อน นข.

889 Nameless Fanboi Posted ID:ZEluDEG6fb

>>885 กุซื้อแค่เรื่องที่เนื้อเรื่องและพระนางตรงจริตว่ะ กุเข้าใจมึงนะคือบางคนสำนวนดี คลังคำแน่น เดินเรื่องสมูธ แต่บางทีมันตั้งใจให้ตลค.โง่เกินเพื่อให้เรื่องเดิน ตรรกะแปลกจนฝืน ไม่ก็บริบทในออฟฟิศ ฉากธุรกิจ ฉากตปท.ปลอมๆ อ่านแล้วรุ้เลยว่านั่งเทียนเขียนงี้กุหงุดหงิดมาก ก็ถือว่าธรรมดา คนเราจะเขียนดีทุกเรื่องไม่ได้

890 Nameless Fanboi Posted ID6:Z7frsulLQ+

พอดีกูไปเห็นเมนท์ด่านักเขียนมาน่ะ กูไม่เคยอ่านงานเขาหรอกนะ แต่เหมือนนักเขียนเขาจะเขียนพล็อตบ้งๆหรือตัวละครทำอะไรเหี้ยๆซักอย่างในเรื่อง แล้วนักอ่านคนนี้เขาก็เมนท์ด่าประมาณว่าตามงานมาตั้งนานทำไมเขียนอะไรแบบนี้ออกมาได้ ผิดหวังมาก จากนี้คือจะไม่อ่านงานมึงแล้ว กูเลยสงสัยว่าถ้าเป็นกรณีแบบนี้พวกมึงจะทำยังไงนี่ล่ะว่ะ ทั้งในมุมนักอ่านและนักเขียนเลย

891 Nameless Fanboi Posted ID6:JyeZXiMzlN

Ky ขอถามหน่อย สงสัยเรื่องปกท่านชีคทะเลทรายของนิยายสมัยก่อนมานานละ555 กูเกิดทันแต่ไม่รู้กระบวนการหลังบ้าน ยุคนั้นยังไม่มี AI เลยนี่นา เลยอยากรู้ว่าปกเรียลๆแต่ก็ไม่เรียลเกินไปแบบนี้เขาทำ เขาซื้อกันยังไง แล้วถูกลิขสิทธิ์หรือเปล่า สงสัยมานมากกก

892 Nameless Fanboi Posted ID6:8OBRM0l7Gi

>>886 >>887 +1 คิดเหมือนกัน
>>890 งานบ้งกับงานไม่ตรงจริตมันต่างกันนะมึง ถ้าบ้งมากคนจะไม่อยากสนับสนุนอีกก็ไม่แปลกหรอก แต่ถ้าแค่ไม่คลิกก็รอเรื่องใหม่แค่นั้น ที่ว่าตามงานตั้งนานอาจจะตั้งตัวเป็นเอฟตีกองอวยปะ เลยยิ่งผิดหวัง เอาจริง ๆ ความพิศวาสคนเรามันเปลี่ยนได้เสมอแหละ ยกเว้นเป็นแฟนเดนตายหลับหูหลับตาสนับสนุนหมดไม่สนเนื้อเรื่อง 555

893 Nameless Fanboi Posted ID6:UlD9b2k8lN

>>890 กูมีเพื่อนที่เคยบอกแบบนี้เลย อ่านงานกันมาจนเป็นนักเขียนในดวงใจแต่ไปเจอเรื่องนึงเขาใส่บทที่สะเทือนใจเพื่อนกูสุดๆ อ่านจบคือลบทิ้งจากชั้น ผิดหวังจนจะไม่อ่านงานนข.คนนี้อีกแล้ว ในมุมนักอ่าน ถ้าผิดหวังจากเรื่องนี้ ก็มูฟออนไปอ่านเรื่องอื่นๆนักเขียนคนอื่นได้ตลอดมึง ถึงจะโกรธแต่ก็มีทางไป มีที่ฮีลใจให้เลือกเยอะแยะ
มุมนักเขียน- ถ้าเขียนบ้งๆโดยไม่ตั้งใจและเจอนักอ่านแบบนี้ เข้าใจว่าอาจเฟลอาจนอยด์ แต่ขอให้มูฟออนให้ได้และเขียนเรื่องใหม่ ถ้ามึงมีเรื่องเจ๋งๆมากๆสนุกมากๆเรื่องใหม่คนชมกันปากต่อปาก มันจะมีคนคันยิกๆอยากอ่านของมึงแน่นอน มีนักอ่านหลายคนกลับมาตายรัง แต่ต้องเขียนต่อไปอะนะ

894 Nameless Fanboi Posted ID6:Ni2XQ7C9kB

>>891 ผิดลิขสิทธิ์สิวะ555 สมัยก่อนคือเอารูปในเนตแหละดาราฝรั่งหรือคนต่างชาติที่ดูหล่อสวยมาตัดต่อเองมั่งแบบใช้สกิลกราฟฟิกรีทัชยับๆหรือลงทุนหน่อยวาดเองนะแต่เทรซจากภาพนั่นละ งานเลยออกมาดูสมจริงจนเคยมีข่าวไง หนุ่มฝรั่งมาเที่ยวไทยแล้วเจอหน้าตัวเองบนปกนิยายไทย555

895 Nameless Fanboi Posted ID6:yLgPSafHbE

สงสัยเรื่องระลึกชาติแฮะ สมมติตลค.สาวใสอายุ 15 จู่ๆ วันนึงระลึกชาติได้ว่าชาติที่แล้วตัวเองเป็นลุงแก่อายุ 60 เคยมีลูกมีเมียบลาๆ เท่ากับว่าปัจจุบันที่เป็นสาวใสจะมีวุฒิภาวะเพิ่มขึ้นมา / กลายเป็นคนกร้านโลกทันทีเลยมั้ย คิดว่าไงกัน

896 Nameless Fanboi Posted ID6:X1J7n5LTeL

>>895 ไม่มึง เพราะอันนี้มันโตมามีพื้นเพนิสัยแล้ว กฌแค่จำได้เฉยๆ ระลึกได้

897 Nameless Fanboi Posted ID6:4b8HA0zxil

Kyถ้ามีนักเขียนที่ไม่รู้จักมาให้หัวใจนิยาย ทั้งๆที่กูไม่ได้ขอ และทิ้งคอมเมนต์ว่ามาให้ใจค่ะ นิยายน่าอ่านมาก แบบนี้ กูจำเป็นต้องไปให้ใจคืนตามมารยาทไหมวะ เพราะกูไปส่องแล้วไม่ชอบ หรือปล่อยเบลอ เดี๋ยวเขาก็มาเอาใจคืนไปเอง

898 Nameless Fanboi Posted ID:ay5ojfFZNu

>>895 ใช้ชีวิตเป็นสาวน้อยมา 15 ปี พวกนิสัย พื้นเพ ความชอบมันสร้างตัวตนขึ้นมาในระดับที่ค่อนข้างมั่นคงแล้ว แค่เห็นความทรงจำของตัวเองในชาติก่อนว่าเคยเป็นตาลุงมาก่อนคงไม่ทำให้เปลี่ยนไปเท่าไหร่ แต่อาจจะได้ประสบการณ์เพิ่มขึ้นจากเรื่องที่เคยทำตอนเป็นลุงไรงี้ เช่นลุงเคยพูดหมาๆใส่คนนึงแล้วโดนกระทืบมา พอได้เห็นความทรงจำในส่วนนี้ก็รู้ว่าจะไปพูดแบบนั้นกับคนนี้ไม่ได้นะ ต้องหาวิธีอื่นในการคุย มีวุฒิภาวะเพิ่มขึ้นมั้ยก็คงเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ตัวตนสาว 15 ในชาตินี้ก็แข็งแรงมั่นคงเกินกว่าจะมองว่าตัวเองคือลุง 60 ในชาติก่อนน่ะ

สมมติชาติก่อนมึงเป็นลุงซกมก แต่ชาตินี้มึงเป็นสาวน้อยรักสะอาดเจ้าระเบียบ ถ้านึกขึ้นมาได้ว่ามึงเคยเป็นลุงซกมกมาก่อนมึงจะทิ้งนิสัยรักสะอาดของชาตินี้ไปเลยมั้ยก็ไม่ใช่ใช่ป่ะ ยิ่งเห็นความซกมกในชาติก่อนมึงจะยิ่งรักสะอาดล่ะสิไม่ว่า พวกเขียนแนวระลึกชาติบางทีก็เบลนด์บุคลิกไม่ดีจนกลายเป็นเอานิสัยชาติก่อนมาใช้ทั้งหมดแล้วทิ้งตัวตนในชาตินี้ไปเลยจนเหมือนมาสวมร่างมากกว่าจะระลึกชาติ ไม่เห็นการหลอมรวมนิสัยหรือความ identity crisis ยิ่งชาติก่อนเป็นผู้ชายแล้วมาระลึกได้ตอนเกิดมาเป็นผู้หญิงมันก็มีเรื่องเพศ เรื่องความเคยชิน เรื่องเส้นแบ่งระหว่างหญิงกับชายอยู่ด้วย การตัดสินใจของเด็ก 15 กับลุง 60 ก็ไม่เหมือนกันแล้ว มึงต้องบาลานซ์จุดนี้ให้ดีด้วย

899 Nameless Fanboi Posted ID6:X1J7n5LTeL

>>897 ถ้าเป็นในเม็ดกูลบทิ้งไปเลย เพราะไม่ได้ซื้อ ดูออกว่าเสเสร้ง ถ้าเป็นในรีดปล่อยเบลอ

900 Nameless Fanboi Posted ID6:X1J7n5LTeL

พวกมึงคิดยังไงกับแนวทะลุมิติไปแย่งผัวนางเอกนิยายวะ จะเขียนแบบนั้นกันมั้ย5555

901 Nameless Fanboi Posted ID:K9YKcVJPoX

>>900 ก็เอาไว้สนองนี้ดกลุ่มเป้าหมายที่อยากได้พระเอกนิยายเป็นผัวไง 555555555555555555

แต่อ่านนิยายทีไรกูตกหล่มพระรอง ตัวรอง คู่รองตลอด คู่พระเอกนางเอกบางทีกูเอ็นดูมากกูคงไม่อยากไปแย่งเขาหรอก บางเรื่องกูก็เกลียดพระเอกด้วยซ้ำ ไอ้เรื่องจะแย่งมาไว้เองนี่คงไม่เขียน แต่นิยายแนวนี้เขาก็มีกลุ่มเป้าหมายของเขาอะนะ

902 Nameless Fanboi Posted ID6:yLgPSafHbE

>>896 >>898 ขอบใจเพื่อน ประเด็น identity crisis นี่ดีเลย น่าจะเล่นได้เยอะ ขอบใจที่ช่วยชี้ เดี๋ยวกูคงต้องไปหาแนวระลึกชาติอ่านเยอะ ๆ 555

903 Nameless Fanboi Posted ID6:TxvMn5sYUx

กุคิดมากไปแหละ แต่หนักใจเรื่องการผลิตซ้ำจังเลยว่ะ... คิดไปคิดมารู้สึกว่าถ้าเขียนอะไรเดิมๆ มันจะซ้ำกับที่เคยเขียนมาไงไม่รู้ สมมุติเรื่องตัวละคร พระเอกนิ่งขรึมก็อาจมีปมคล้ายๆ กัน ตัวร้ายอาจมีจุดหมายคล้ายๆ กัน พลิกแค่ไหนก็หลุดไปไม่ไกล ยิ่งถ้าเขียนไป 10-20 เรื่องนี่ยังไงก็ต้องมีซ้ำเรื่องที่เคยเขียน นักอ่านหน้าเก่าเดาทางออกหมดละ Orz บางทีอาจจะเป็น skill issue แหละ แต่อดคิดไม่ได้ว่าสายผลิตสร้าง masterpiece ออกมาไม่กี่เรื่องก็ดีละ อาจจะดีกว่าเผลอผลิตซ้ำงานเดิมแล้วคนเปรียบเทียบ ToT

904 Nameless Fanboi Posted ID6:qFj5P/oCHs

>>903 เผื่อเป็น กลจ รู้จักนักเขียนคนนึง ถธ ปีนึงออก1เล่ม อ่านแล้วจะรู้สึกซ้ำๆๆๆๆเหมือนที่มึงบอก พล็อต คาร์นางเอก-พระเอก ใกล้ๆกันหมด มีนักอ่านหนีหายไปบ้างแต่เขาก็ยังเสถียรในการเขียนไปแบบนั้นจนเป็นซิกเนเจอร์ แล้วตอนนี้งานเขากลายเป็นของแรร์

905 Nameless Fanboi Posted ID6:jonBWDydUd

>>904 กูว่าไม่ใช่คนนี้คนเดียว มีอีกเยอะ พวกชอบเขียนแนวผัวโง่ นางเอกสำออยเจ้าน้ำตา ท้องก่อนแต่ง แต่กูมองในแง่ดีว่ามันเป็นการสร้างลายเซ็นเอกลักษณ์ให้ตัวเขาเองว่ะ จากที่เห็นพวกที่ชอบโพสในกลุ่มตามหาแนวพระนางฉลาดคนก็แนะนำให้ไปอ่านคนนี้ แนวพระเอกโบ้ ให้มาคนนี้

906 Nameless Fanboi Posted ID6:TxvMn5sYUx

>>904 >>905 มีอีกเยอะจริงมึง มันก็ถือเป็นลายเซ็นจริงแหละ แล้วพวกนี้กุก็เห็นฟีดแบคนักอ่านบ่นอยู่ประปรายว่าแนวซ้ำเดิมเรื่องเก่า สลับตลค.ยังสมูท 555 แต่ก็ขายพวกชอบเซฟโซนได้แหละนะ

ว่าแล้วก็นึกถึงพวกชอบหาว่าคนอื่นก้อปบ้างยำบ้าง งานคนเดียวกันยังซ้ำกันได้เลย นับประสาอะไรกับบังเอิญซ้ำชาวบ้าน material มันก็มีให้เลือกกี่อย่าง พระนาง ตัวร้าย ครอบครัวพระนาง เพื่อนสาวสายชง บลาๆๆๆ ไอ้ว่า 'ยำ' นี่ฮาสุดละ งานส่วนใหญ่ในโลกแม่งก็ยำรวมมิตรทั้งนั้นแหละโว้ย คิดว่าตัวเองเป็นต้นฉบับนข.คนแรกหรือไงไม่รุ

907 Nameless Fanboi Posted ID6:jI.9i29UDX

เงิบ กูสองจิตสองใจว่ะว่าจะให้พระเอกเป็นหนุ่มหล่อปกติ หรือจะให้ออกมาเป็น Furry ขนปุยๆ ดีวะ
ถ้าถามส่วนตัวกูชอบ furry นะ แต่เกรงว่าผู้อ่านจะรับไม่ได้เนี่ยสิ ถถถถถ

908 Nameless Fanboi Posted ID:ICrbHTMaAm

>>907 //กระซิบข้างหูมึง "furry สิวะ..."

909 Nameless Fanboi Posted ID6:qFj5P/oCHs

Furryเป็นแบบไหนเหรอวะ แบบม๋าเด็ก เอเนอจี้ล้น ซนๆขี้อ้อน ตาใสๆ รักใครก็ตามวอแวพอเขาไม่แคร์ก็เป็นม๋าหงอยรึป่าว

910 Nameless Fanboi Posted ID6:uM+4li8TmW

>>909 แบบซูโทเปียหรือบีทสตาร์อะ

911 Nameless Fanboi Posted ID6:uM+4li8TmW

>>909 Hana and the Beast Man แนะนำนะ เปิดโลกสู่เฟอร์รี่ฮอทๆ

912 Nameless Fanboi Posted ID6:HvjwS7HYwL

ky กูเขียนมาสักพักแล้วแต่ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการเน้นตัวละครเดินเรื่องกับเน้นพล็อตเดินเรื่อง เห็นในเอ้กบอกนักเขียนไทยชอบใช้ตัวละคร ไม่ค่อยใช้พล็อต กูลองหาอ่านจากในเนตก็งงๆ ทุกวันนี้กูยังไม่รู้เลยว่าเวลาเขียนของตัวเอง กูใช้อันไหน ใครก็ได้ช่วยชี้แจงบอกบุญกูที

913 Nameless Fanboi Posted ID6:TxvMn5sYUx

>>912 คาร์พระนางมึงเด่นมากกว่า หรือพล็อตเรื่องเด่นกว่า แค่นั้นเองมึง สมมติเรื่องย่อมึงคือ เรื่องราวความรักของหนุ่มเพลย์บอยกับสาวเนิร์ด อันนี้คือดำเนินเรื่องด้วยตัวละคร แต่ถ้าเรื่องย่อแนว เมื่อไดโนเสาร์ฟื้นมาครองโลก นายเอกับผองเพื่อนจึงต้องช่วยกันปราบ อันนี้อะพล้อต แต่ส่วนมากแนวรักก็เน้นคาร์สัก 80% อยู่แล้วนะ ถ้าจะเน้นพล็อตต้องมาแนวสืบสวน ให้ตัวละครดำเนินเรื่องเฉยๆ งี้ แต่อะไรพวกนี้ (คาร์กับพล้อต) จริงๆ มันผสมกันอยู่แล้วแหละ แค่อันไหนเยอะอันไหนน้อย บาลานซ์กันก็ดีกว่าเทไป 100%

อ้อ แต่ถ้าเป็นในเอ้กที่บ่น ๆ กันมึงอย่าไปฟังมากนะ ที่กดนข.ไทยบอกเอาแต่เน้นคาร์ อวยว่านิยายแปลเน้นพล็อตอะ ออกแนวเวอร์เกิน แนวรักชาติไหนก็ขายคาร์พระนางพระนายทั้งนั้นแหละ แค่เซตติ้งบางเรื่องมันอลังเกิน ปูพล้อตแน่นมาปึ้กแค่นั้น

914 Nameless Fanboi Posted ID6:7luJ+sT3vu

>>910 แบบ Beast star อะ

915 Nameless Fanboi Posted ID6:7luJ+sT3vu

>>914 ชี้ผิดๆ จะชี้ >>909

916 Nameless Fanboi Posted ID6:ptlLt31SB5

Ky คำว่า good vibe กูอยากเอามาใช้บรรยายนิยาย กูควรแปลว่าอะไรดีวะ บรรยากาศดี พอจะได้ไหม

917 Nameless Fanboi Posted ID6:JebwD8j504

กุเขียนแนวรักมีเนื้อเรื่องจริงจัง ละหลวมตัวเขียนฉากแส้บอย่างมันมือ กลับมาอ่านละรู้สึกฉากอย่างว่าไม่เข้ากับอารมณ์ภาพรวมเรื่องไปหน่อยเลยตัดออก มึงว่ากุตัดสินใจถูกมั้ยวะ 5555555 หรือควรใส่ ๆ ไปเหอะ ใครไม่อยากอ่านเขาก็ข้ามแค่นั้น

918 Nameless Fanboi Posted ID6:ycmgJkYJLN

>>917 ตัดสินใจผิด ใส่กลับเข้ามาเดี๋ยวนี้5555

919 Nameless Fanboi Posted ID:9tYETq6OGC

กุเพิ่งรู้ว่า เวบเขียวที่ใส่ระบบเมนต์รายบรรทัดนี่ พอนอ.เมนต์รายบรรทัดแล้วมันจะไม่แจ้งเตือน
กุเพิ่งเปิดให้โชว์เม้น แม่ง นอ.ทิ้งอีโมกะเม้นไว้ในรายบรรทัดเพียบเลยนิหว่า บางคนเม้นแต่ในรายบรรทัด ไม่เม้นท้ายบท กุก็เข้าใจว่าไม่มีเม้นไปสิ

920 Nameless Fanboi Posted ID6:G5pnlTlt.D

>>911 มีแนะนำอีกมั้ยเพื่อนโม่ง อู้ยยยยย เด็ดชะมัดเลย

921 Nameless Fanboi Posted ID6:KqnytVY.ns

>>920 น้องฮอตมากมึง อ่านละระวังหัวใจวาย Imouto wa Neko

922 Nameless Fanboi Posted ID6:KqnytVY.ns

>>920 ถ้าอ่านวายด้วยก็แนะนำ เสี้ยวรัก มีในเม็ด นอกนั้นกูไม่มีแนะนำละ ส่วนข้างบนหยอกๆ5555

923 Nameless Fanboi Posted ID6:G5pnlTlt.D

>>921 เอิ่มมมมม นี่กูควรทำหน้ายังไงดีวะเนี่ย....

924 Nameless Fanboi Posted ID6:KqnytVY.ns

>>923 แบ๊วมึงใสๆ น่ารัก กูล้อมึงเล่นเฉยๆ 5555555 แต่แนวเฟอร์รี่ใครอ่านแบบเอาพล็อต อยากให้ลองบีสสตาร์กันนะ

925 Nameless Fanboi Posted ID6:nxFn.PqRnF

ky ถ้า Ebook กูจะเสร็จช่วงกย.พอดี กูควรออกเลยก่อนงานหนังสือ หรือว่ารอออกช่วงงานหนังสือไปเลยดีวะ
กูมีฐานนักอ่านอยู่เล็กน้อย น่าจะขายได้แน่ๆ สักห้าร้อยโหลด ถ้าออกก่อนงานหนังสือกลัวจะไม่ได้ร่วมวงการกับชาวบ้านเขา
แต่ถ้าออกชนงานหนังสือเลย ก็กลัวว่าจะจมหายไปกับนักเขียนอีกสามล้านกว่าคนที่จะออกช่วงนั้นพอดี
ยังไม่เคยมีประสบการณ์เขียนงานเสร็จเดือนกย.มาก่อน ขอคำแนะนำหน่อยนะเพื่อนโม่ง

926 Nameless Fanboi Posted ID6:Eszn5faP9s

>>925 เชียร์ให้ออกก่อน ช่วงนี้คนบ่นไม่ค่อยมีนิยายอ่าน ออกมาโดดเด่นให้เลือกก่อน ดีกว่าไปจมหายเป็นตัวเลือกในหลายๆตัวเลือกช่วงงานหนังสือ

927 Nameless Fanboi Posted ID:KlqkxzvZT.

>>925 ในฐานะคนอ่าน เชียร์ออกก่อน แล้วจะำด้เฟบไว้รอกดตอนเม้ดจัดโปรแจกสแตมป์งานหนังสือ ถ้าออกช่วงงานหนังสือจะจมมาก หาไม่เจอนะบางทีถ้าไม่ใช่คนที่ติดตามไว้

928 Nameless Fanboi Posted ID:KlqkxzvZT.

ky ถามหน่่อย พอดีจะเขียนแนวจีนย้อนอดีต แต่ทีนี้ถ้าเป็นยุค90 นี่เราจัดว่าจีนโบราณมั้ย พอดีเห็นเรื่องนึงในหมวดจีนเป็นยุคนี้ แต่คือกูอยากอยู่หมวดนิยายรักไง ว่าแต่ยุค90นี่มันเข้าโบราณละหรอ กูที่เกิดยุคนี้ทำใจไม่ได้5555555555

929 Nameless Fanboi Posted ID6:MOGhRc25hq

>>928 อยากอยู่หมวดไหนก็อยู่ไปเหอะ เห็นก็อยู่มั่วๆ อยู่หลายเล่มมานานแล้ว

930 Nameless Fanboi Posted ID:REPuWhBJSJ

>>928 ไม่โบราณ โบราณจริงชุดที่ใส่ต้องสาบเสื้อไขว้กัน ถือกระบี่เดินกลางเมืองอะมึง

931 Nameless Fanboi Posted ID:VBBWWxVKQx

เพื่อนโม่ง คือกุมีโอกาสมาใช้ชีวิตตปท.ด้วยโครงการนึง ทีนี้กุเดินทางด้วยบวกเปลี่ยนงานเรื่อยๆก็เลยได้ไปทำอะไรใหม่ๆ เห็นอะไรใหม่ๆ พล็อตงอกเยอะมาก เขียนได้เป็นห้าหกเรื่องเลย กุจะเอาปสก.ตรง เบื้องลึกเบื้องหลังมาเล่านี่ล่ะ แต่ถ้าจะให้นอ.ทุกเรื่องมาด้วยโครงการนี้หมดก็แปลกและซ้ำซาก แต่มันไม่สามารถรวบมาเขียนเป็นเรื่องเดียวได้จริงๆ รึถ้าทำเรื่องเดียวหลายคู่มันคงยาวมากแถมอิเหละเขะขะ รึกุควรตั้งเป็นเซ็ตไปเลย

932 Nameless Fanboi Posted ID6:EbSCw/E+aY

>>931 ก็เป็นเซ็ตแยกเรื่องไปเลยเพื่อน หาทางให้แต่ละคู่มาเจอกันด้วยเพิ่มความฟรินจุกๆ

933 Nameless Fanboi Posted ID6:MOGhRc25hq

>>931 เซ็ตเลย การทำนิยายเซ็ตมีความแปลกอย่างหนึ่งคือ มาด้วยโครงการเดียวกัน สมมติมาได้ผัว ชาตินั้น ชาตินี้ ชาติโน้น ก็ไม่มีใครว่า ลุ้นกันไปอีก เล่มหน้าจะเจอสัญชาติไหน5555

934 Nameless Fanboi Posted ID6:oQaPQVvfZd

>>931 อย่างที่โม่งบอก เซ็ตเลยมึง น่าตื่นเต้นจัง ให้มารู้จักกันตอนโครงการพาเด็กมาปาร์ตี้ ทำความรู้จัก จนคบเป็นกลุ่มเพื่อนคนไทย (หรือเพื่อนจากหลายประเทศ) ที่ซี้กันก็ได้ เซ็ตโครงการสื่อรักอะไรก็ว่าไป555 นักอ่านชอบนะ แก๊งสาว/หนุ่มโสดในเมืองนอก หรือจะให้บางคนไม่รู้จักกัน แต่มาเฉลยตอนท้ายว่าอ้าว มึงก็มาโครงการเดียวกับกูเรอะก็ยังได้

935 Nameless Fanboi Posted ID6:ewQNYXCe85

เพื่อนโม่งหาแรงบันดาลใจเขียนนิยายกันยังไงบ้างวะ?
กูตอนนี้ Burnout มานานเกินจนเริ่มเปื่อยละ พล็อตเรื่องใหม่ก็มีแล้ว พร้อมที่จะเขียนได้ตลอด
แต่พอจะเขียนก็ดันมาตั้งคำถามกับตัวเองเยอะแยะทำนองว่าคุ้มค่ากับเวลาที่ต้องจ่ายไปมั้ย จะได้อะไรกลับมารึเปล่าในเมื่อไม่ได้เขียนแนวตลาดซะงั้น ทำเอาจุดอารมณ์ที่จะเขียนไม่ติดกันเลย

936 Nameless Fanboi Posted ID6:+ICjKqsCVZ

>>935 ทำไปอย่างที่อยากทำอะมึง เอาที่มีในหัวออกมาซะทีให้จบๆ ทำแบบไม่เอาใจไปลงมาก ไม่หวังดัง ไม่หวังเงิน ทำเพราะอยากทำ พูดง่ายแต่ทำยากแหละ

937 Nameless Fanboi Posted ID6:I7hpBsbeGL

กุตระหนักว่า การเขียนนิยายเล่มหนึ่งให้สมบูรณ์มันงานช้างชิบหายเลยว่ะ 5555555555 กุเริ่มเขียนเพราะเป็นคนชอบมโน ชอบไดนามิคพระนางแบบที่หาอ่านไม่ค่อยได้ ชอบเขียนซีนคนคุยกัน แต่แม่งก็แค่เสี้ยวหนึ่งของเรื่องเต็ม จะปิดงานได้เล่มนึงนี่ต้องเค้นสมองผูกเรื่องเชื่อมโยง หาพื้นหลังให้ตลค. ใส่ค.สมเหตุสมผล ต้องรีเสิร์จข้อมูลบลาๆๆ เหน็ดเหนื่อยชิบหายกว่าจะได้ออกมาแบบสมบูรณ์ ยังไม่นับว่านักอ่านจะชอบรึเปล่าอีก อยากสดุดีนข.ที่ทุ่มเทกับงาน ไม่มักง่าย lazy writing น่านับถือจริง

938 Nameless Fanboi Posted ID:SRptSfFTgQ

>>935 หางานอื่นที่กินได้ทำ แล้วเอางานเขียนไว้เป็นงานอดิเรก
มึงพักสักพัก ในระหว่างนั้นทุกครั้งที่หัวมึงคิดคำถามพวกนั้นขึ้นมาเอง มึงก็ตอบตัวเองไปเลย ว่าไม่คุ้มหรอก ทุกครั้งนั่นแหละ จากคำตอบนี้คำถามต่อไปคือยังจะทำมั้ย ให้กลับไปอ่านพลอตเรื่องมึง โครงเรื่องมึง ถามตัวเองว่ารักอันนี้มั้ย รักคาร์พวกนี้มั้ย อ่านแค่โครงเรื่องคร่าวๆแล้วรู้สึกสนุกอยากจะซื้อเหมือนตอนที่เราอ่านโปรยเลือกซื้อนิยายสักเรื่องไหม ถ้าเห็นมันสมบูรณ์จะมีความสุขมั้ย เกิดความรู้สึกอยากจะเขียนขึ้นมั้ย

ถ้าตอบมี เอ่อ มึงก็ทำไป มึงรู้แล้วนะว่ามึงกำลังทำเพราะอะไร

ถ้าตอบไม่ มึงไม่ต้องฝืน ถ้าไม่มีปัจจัยเรื่องการทำมาหากินแล้ว งานอดิเรกที่แม่งตอบโจทย์สปาร์คจอยไม่ได้สักสิ่ง มึงทิ้งไปเถอะ โลกนี้มีอย่างอื่นอีกเยอะ

เสริมว่าต่อให้เป็นนักเขียนดังมึงก็หวังความปังเหมือนเดิมทุกเรื่องไม่ได้ คาดหวังผลลัพธ์เป๊ะๆกับนิยายก็พอๆกับที่มึงซื้อหวยแล้วหวังรางวัลที่หนึ่งเป็นเป้านั่นแหละ โอกาสได้โคตรต่ำ แต่ถ้ามึงหวังรางวัลรองๆลงมาโอกาสก็สูงขึ้น แต่ใดๆคือ มึงทำอะไรกับผลลัพธ์ไม่ได้ ได้แค่ลงมือหาเงินซื้อ ลงมือเลือกเลข จากนั้นผลลัพธ์ก็โชคชะตาล้วนแล้วว่ะ

Aka อย่างกุ นขใหม่สดซิงลงงานวายเล่มแรก ไปชนกับบรรดาโปร 91929 พอดี แถมวันหมดโปรช่วงแรกก็ไปชนกับวันหมดโปรพวกนี้อีก แถมลงในภาวะเศรษฐกิจซบเซา ปาฎิหารย์อะไรกุไม่เคยเห็นสักอย่าง เรื่องพวกนี้กุคุมได้เหรอ (ร้อยวันพันปีไม่เคยเกิดนะมึง)​ เหมือนเล่นเกมเศรษฐีจั่วไพ่อ่ะมึง มึงไม่รู้เลยว่าอะไรจะมากระทบกับเลขยอดขายยอดชมและแสงที่จะส่องมึงบ้าง อย่าไปคาดหวังในเรื่องที่มึงไม่สามารถคาดได้จนเกิดไปนัก ชีวิตมึงจะมีความสุขขึ้นอีกนิดหน่อย
ปล.งานกุไม่ได้ดีมากหรอกยังมีจุดอ่อนอีกเพียบและโคตรจะไม่คุ้มค่าเวลาและแรง กุไม่ใช่คนมีพรสวรค์ด้านนี้เลย กว่าจะเค้นออกมาได้แต่ละบทลากดินมากๆ แต่ก็ยังได้รับการตอบรับในเชิงตัวเลขและคอมเมนต์มาจากคนอ่านไม่กี่คนอยู่ กุแค่รักตลค.กูน่ะเหมือนที่กุอ่านแล้วรักตลค.ในนิยายสักเรื่องจนต้องอ่านซ้ำๆ เลยเข็นจนจบได้ และไม่เสียใจที่ค่อยๆปั้นมันขึ้นมา แต่อย่างว่า รายได้จากมันคือไม่พอกินจริงๆนะมึง เฉลี่ยกับเวลาเขียนจนตอนนี้คือตกเดือนละไม่ถึงพัน แถมนี่คือค่าจ้างรายสิบกว่าเดือนถึงจะจ่ายทีอีกต่างหาก

939 Nameless Fanboi Posted ID:SRptSfFTgQ

>>937 ลากเลือดมาก ทั้งข้อมูล ทั้งฉาก ส่วนที่คิดตอนเริ่ม ที่ฝันอย่างกาวๆ สมมุติเช่นพอ.นอ.ทะเลาะกันตัวร้ายเข้ามาแทรก นอ.เข้าใจโกรธและผิดหวังเลยตัดสินใจทุบพอ.จนฟันหักแล้วหนี ทิ้งท้ายเราจบกันก่อนสะบัดหน้าหนีเริ่ดๆ จากพลอตนี้กุเค้นสมองแทบตายตั้งแต่จะทำไงให้เรื่องมันเดินมาถึงฉากนี้วะ แล้วตัวร้ายมันทำอะไรถึงทะเลาะกัน มันต้องมีปูก่อนสัก3ฉากสิ จู่ๆมันจะมาทะเลาะกันปางตายไม่ได้ สาเหตต้องแรงพอไม่อิหยังวะสิ แล้วเวลาตบกันมือมันง้างไงวะ แรงตบประมาณนี้ทำพอ.กุฟันหักได้จริงป่าววะ ค้นข้อมูลแพทย์นิด นอ.เดินออกจากบ้านแล้วประตูอยู่ตรงไหน มันตบกันมุมไหนของบ้าน บ้านพอ.ผังเป็นไงวะ ตลค.น้องสาวที่กุเซทไว้บทก่อนหน้าว่าเวลานี้ต้องเล่นกับหมาหน้าบ้านล่ะ บลาๆ
คือที่ไอเดียแวบๆที่อยากเขียนอ่ะยอดน้ำแข็งสุดๆ กุอิจพวกตามเฟสที่ปั่นกันอย่างแฮปปี้วันละตอนสุด ๆ อิจเวลาพวกนั้นโชว์ยอดด้วย แต่นั่นล่ะ กุนี่แหละฐานรากของบรรดานข.เงินพันเงินร้อยกับเวลาเขียนเกินปีที่พวกบทความงานเขียนง่ายนิดเดียวคิดว่าไม่มีอยู่🥹
ดังนั้นนขทุกคน มีกุอยู่คนหนึ่งที่รู้ซึ้งแล้วถึงความทุกข์ยากของพวกมึงนะ กุชื่นชมพวกมึงอยู่ แต่เงินกุมีจำกัด กุหนับหนุนได้แค่งานที่ตรงใจสัดๆแค่ไม่กี่งานจริงๆ ถ้าอยากทำงานเขียนต่อก็สู้ต่อไปนะพวกมึง รายได้จากงานมึงได้มาไม่ง่าย คนอ่านอย่างกุก็รากเลือดในอาชีพเพื่อหาเงินมาเปย์มึงไม่ง่ายเช่นเดียวกัน เราไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกมึง 🥹

940 Nameless Fanboi Posted ID:htaQhwPtoe

>>937 กูเป็นแบบมึงเลย เลย หลังๆ เลยฝันเอาก่อนนอน 🤣 อีกวิธีที่อยากลองแนะนำอส่วนที่รายละเอียดเยอะๆ แต่ไม่ค่อยจำเป็นให้รวบเป็นการเล่าแทน แล้วก็เน้น คสพ คู่ตัวละคร มันน่าจะออกมาเป็นเล่มเดียวจบได้ เหมาะกับคนที่ชอบอ่านเร็วๆ แล้วรู้ตอนจบเร็วๆ เปลี่ยนวิธีการและเป้าหมายคนอ่านไปเลย

941 Nameless Fanboi Posted ID:SRptSfFTgQ

>>940 กุเคยทำ กลายเป็นแม่งนอนไม่หลับ คิดๆไปกำลังจะหลับปิ๊ง! ตื่นมาจดไอเดีย นอนๆไปหลับไม่สนิทอีก ในฝันมีแต่เรื่องในนิยายวนไปวนมาแต่จำอะไรไม่ได้เลยไม่ได้อะไรปิ๊งๆสักนิด ตื่นมาต้องสะโหลสะเหลไปทำงาน เวลาพักก็เหม่อนั่นจิ้นเนื้อเรื่องต่างๆนานา แม่ง งานอดิเรกห่าอะไรวะ ไม่ต้องแนวตลาดหรอก กุขายวิญญาณแลกเงินร้อยเงินพันตั้งแต่ตอนนี้แล้วแหละ เป็นความทุกข์ทนรสน้ำผึ้งสัด

942 Nameless Fanboi Posted ID6:ApNjFdcOHP

>>935 กูใช้วิธีทำงานอื่นไปด้วย แล้วก็เอาเรื่องที่เจอจากบรรดางานทั้งหลายนี่แหละมาเขียน ถ้ายังเรียนอยู่ก็สมัครทำกิจกรรมหรือลงแข่งอะไรสักอย่างให้ชีวิตมีอีเวนต์ เดี๋ยวแรงบันดาลใจก็มาเอง อย่าจมอยู่กับสภาพแวดล้อมเดิมนานๆ นิยายมันเป็นเรื่องของมนุษย์ว่ะมึง ถ้ามึงเจอแต่ผู้คนเดิมๆมึงก็จะไม่มีอะไรเขียน

943 Nameless Fanboi Posted ID:Dm2cfeEnFd

>>942 แต่จ้อเสียคือเจอคนเยอะ ไอเดียเจ๋งๆ บรรเจิดร้อยแปดแต่ไม่มีปัญญาเขียน กุเป็นอยุ่ 555555

944 Nameless Fanboi Posted ID:htaQhwPtoe

>>941 โอ๊ยยยมึง ดูทรมานมาก กูคิดแค่ฉาก คสพ พอนอ ฟินจบก็หลับเลย สบายใจ 55555

945 Nameless Fanboi Posted ID6:kKMR/lKe5p

Kyไม่รู้ถูกมู้ไหม ถ้าเพื่อนนข.ที่คุยกันบ่อยๆในโซเชี่ยลเรื่องนิยายดินฟ้าอากาศ เม้าเรื่องดารา แต่อยู่ๆมาถามว่ากูได้เงินดิจิตอลวอลเลตจะเอาไปทำอะไร มึงว่าคำถามนี้มันละลาบละล้วงไหมวะ กูมองว่ามันเป็นคำถามที่ประเมินสถานภาพ รายได้และเงินเก็บของกู หรือกูคิดมากไปเอง555

946 Nameless Fanboi Posted ID6:Sy4LewFH1Y

ขอระบาย ไม่รู้จะไปตีอกชกหัวที่ไหน นข.ชาวโม่งรับฟังกูที
กุไม่ชอบพล็อตคนเก่าคนโปรดมากๆๆๆๆๆ รับไม่ได้แบบทริกเกอร์ อ่านเจอแล้วเจ้บใจอยากร้องไห้สิ้นชีพ มีใครเข้าใจกุบ้าง ToT
พระ/นางมีคนเก่า รักมากแต่อีกฝ่ายตุยรึอุปสรรคอื่น ถึงมีคนใหม่แล้วก็ยังเก็บคนเก่าไว้ในใจเป็นรักที่ดีที่สุดตลอดไปงี้ กุจะร้อง คนมาทีหลังสู้ไรได้อะ ถ้าคนเก่ายังอยู่ก็คงไม่ได้รักกันใช่ปะละ ช้ำแทนทั้งคนใหม่คนเก่า ToT
เข้าใจว่าคนเราอาจจะมีรักตราตรึงใจลืมไม่ได้แหละ แต่กุไม่ต้องการความเรียลนี้ อ่านนิยายขอขายฝันฟริน ๆ ค่ะขอร้อง ถ้าอยากเขียนมากกราบขอความกรุณารบกวนติดสปอยแจ้งนิด ถ้าไม่บอกตั้งแต่เรื่องย่อ/ออกมาตอนแรกๆ เลยใครจะไม่รู้ อ่านเจอทีหลังละแจ้กพ้อตแตกตู้ม รับไม่ได้ เสียดายตัง งอนนข.ไม่อยากอ่านเรื่องอื่นอีกเลย ใครไม่อยากทำร้ายนักอ่านตาดำๆ แบบกุช่วยติดสปอยให้เถอะ ใครอยากอ่านจะได้พุ่งใส่ ใครไม่ไหวจะได้หนีทัน ดีกว่าทำร้ายใจกัน กุกราบละพี่ Orz

947 Nameless Fanboi Posted ID6:KEGVB+ebK0

>>945 ไม่นะมึง คือกูก็คุยเรื่องนี้กับเพื่อนปกติเลย5555 ต้องดูแหละว่าเขาเป็นคนนิสัยยังไง แต่ถ้าเพื่อนปกติก็แค่ถามชวนคุยเล่นเฉยๆอะ บางทีเห็นเงื่อนไขห้ามจ่ายค่าน้ำค่าไฟซื้อมือถือละก็ไม่รู้จะเอาตังค์ไปทำอะไร ไม่อยากให้ค้างในบัญชีเปล่าๆ เลยถามมึงเผื่อจะลอกข้อสอบเฉยๆก็ได้ว่าเอาไปทำไรดี สำหรับกูคำถามเงินดิจิม่อนก็จัดอยู่ในหมวดหมู่ดินฟ้าอากาศอ่ะ

>>946 เหมือนกูเลย กูก็ไม่ชอบ ยิ่งจากตายมันเศร้าอะ คนเก่าไม่ได้ทำผิดอะไร เป็นที่หนึ่งในใจตลอดไปแน่นอน กับครอบครัวเช่นพ่อแม่ตายยังพอทน แต่ปมแฟนเก่าคนโปรดนี่เขียนเตือนไว้หน่อยเหอะ ทำเป็นคุยเล่นขำๆก็ได้ว่าพระนางมีแฟนเก่าคนโปรดนะคะเรื่องนี้ กูจะได้ถอยห่างไม่ก็เตรียมใจ แต่เข้าใจฟีลมึงนะ อ่านแล้วเครียดหน่วงๆตลอดเวลาเลย ไม่แฮปปี้ หวานแค่ไหน ncแส่บแค่ไหน กูก็ไม่แฮปปี้!!!5555

948 Nameless Fanboi Posted ID:dKbgOE6bBP

>>946 >>947 กุเข้าใจที่พวกมึงมีจุดที่ไม่ชอบนะ และไม่อยากอ่านเจอนะ แต่ตรงจุดที่มึงไม่ชอบเนี่ย... กุจะว่าไงดีล่ะ ลักษณะมันมักจะเป็นกิมมิคประกอบส่วนหนึ่งอ่ะ ถ้ายึดความยุติธรรมต่อนักอ่านทุกคนซึ่งอาจมีความไม่ชอบลักษณะเดียวกันกับมึงแต่คนละจุดคนละแบบแล้ว คนเขียนคงไม่สามารถไปรู้ทั้งหมดร้อยคนหรอกว่าใครจะทริกเกอร์เนื้อหาแบบไหน บางทีคนเขียนอาจไม่ต้องแปะเตือนแล้ว คือ มึงอาจต้องเขียนพลอตย่อขนาด 3 a4 ให้คนอ่านเลือกเหมือนขายงานเอเจนซี่ก่อนแล้วล่ะ จะได้สับกันไปเลยว่าทุกส่วนมีของไม่ถูกปากมึงมั้ย แต่สปอยหมดแบบนั้นแล้วมันยังจะเหลืออะไรน่าค้นหาในงานอีกเหรอมึง

คือ กุคิดว่าลักษณะนี้เนี่ย มันไม่ใช่ลักษณะที่ควรต้องเตือนเป็นสากลน่ะมึง และอะไรที่ไม่เดือดร้อนคนเป็นสากลเนี่ย คนๆนั้นควรรับผิดชอบตัวเองก่อนมาถามหาความรับผิดชอบจากสังคมนะ

ถ้าระบบรีวิวยังอยู่มึงคงจะรู้ได้จากรีวิวหรือวงเมาท์มอยนักอ่านทันทีแน่ๆ แต่ น่าเสียดาย

949 Nameless Fanboi Posted ID:F0Ga2u5Mwt

สอบถามในนีัได้ไหม พึ่งเข้าวงการนักอ่านนิยาย อยากซื้อนิยายที่ไม่ได้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ ในเมปจะมีลดราคาช่วงไหนบ้างไหม กับเรื่องที่ไม่ได้ตีพิมพ์นักเขียนลงขายเองงี้จะมีลดบ้างไหม

950 Nameless Fanboi Posted ID:Ha793elPV6

>>949 เม็ดมันก็หาเรื่องจัดแคมเปญบ่อยๆ นะ555 เดี๋ยวงายหนังสือนี้มันก็จัด แต่มันจะมีเทคนิค คืออยากได้เล่มไหน ไปกดว่าอยากได้ไว้ เวลาถ้ามันมีแคมเปญก็ไปไล่ดูลิสต์ที่อยากได้ ส่วนนักเขียนเนี่ยเขาจะเข้าร่วมการลดหรือเปล่า ตัวนักเขียนส่วนใหญ่ก็ประกาศกันในเพจ แต่ส่วนใหญ่โปรขายครั้งแรกของนักเขียนเนี่ยจะเปนราคาที่ถูกสุด

951 Nameless Fanboi Posted ID:SJUI4S0iWM

>>949 รีบไปหาตอนนี้แหละ ยังมีบางคนโหนโปร 9 บาทสมรสเท่าเทียมอยู่ (จากร้อยสองร้อยเหลือ9บาท)​ แล้วเมพก็จัดโปรให้นข.อยู่เรื่อยๆ แล้วแต่ตอนไหนธีมอะไร ลองดูหน้าแรกมันจะมีเล่มที่จัดโปรวันสุดท้ายอยู่ ไม่งั้นก็อย่างรีบนว่ารองานหนังสือปลายปีก็ได้

952 Nameless Fanboi Posted ID:mG/ks3IEol

>>949 ที่มีลดแน่ๆ คือช่วงงานหนังสือเดือนมีนา-เมษา กับ กันยา-ตุลา นอกนั้นก็มีจัดลดเป็นระยะๆ ตามหมวดหนังสือ เมปมันจะแจ้งผ่านโนติสให้เรานะ หรือไม่ก็ลองเข้าไปส่องในเมปเรื่อยๆ

953 Nameless Fanboi Posted ID6:cC7uuI7NqN

พวกมึง กุผวาว่ะ เพิ่งเคยเป็น คือ ไม่สามารถเขียนเล่มใหม่ได้ทันทีเพราะพลอตแบล้งเลย ได้แต่ขึ้นต้น เคมีพระ-นางคร่าวๆ แต่หาปมอะไรมาเดินเรื่องไม่ได้เลย

กุเขียนนิยายมา 5 ปีได้ละ ปลอบใจตัวเองว่าคนที่เขียนไประยะนึงน่าจะเป็นกันส่วนใหญ่ มันปกติใช่ไหม เดี๋ยวพักอ่านนิยาย ดูซีรีส์เก็บไอ้ดียไปเรื่อยๆ ก็ร่างทรีตเม้นจบเองใช่ไหมวะ

ป.ล. กูเขียนหลายแนว แล้วก่อนหน้านี้ นานมากไม่ได้แตะแนวที่กำลังแบล้งนี่อยู่เลย นิยายก็อ่านแต่คนละแนว นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ?

954 Nameless Fanboi Posted ID6:U5F2xjKmP9

>>949 เม้ดมีแคมเปนลดเป็นระยะๆ อย่างเพื่อนโม่งบนบอก แต่ถ้าเป็นนข.อิสระบางคนอาจไม่ลดก็ได้ มึงลองทักถามเจ้าตัวเลยดีกว่า

>>953 น่าอาการตันนะ ลองหาแรงบันดาลใจ เสพสื่ออะไรๆ ไปพลาง เดี๋ยวก็ดีขึ้นเพื่อน สู้ๆ

955 Nameless Fanboi Posted ID:SJUI4S0iWM

>>953 หาปมหาฉากมาเดินเรื่องไม่ได้นี่กุเป็นทุกวันเลยมึง มึงเขียนมา5ปีเพิ่งเป็นแสดงว่ามีสกิลเหมาะกับงานนี้แล้ว 5 ปีเพิ่งเจอ writer block ครั้งเดียวเนี่ย
ไปเปลี่ยนบรรยากาศสักพักค่อยว่ากันมึง

956 Nameless Fanboi Posted ID6:si4NpEOO1Q

ky ขอคำแนะนำหน่อยสิเพื่อน พอดีกุอยากเขียนนิยายเผยแพร่งาน แต่ดันค่อนข้างเป็นพวกขี้กลัว+ดิ่งง่ายจัดเลยไม่กล้าลงงานสักที พอเห็นนิยายดีๆ นข.ดังๆ ยังโดนคนตินั่นนี่ได้กุก็คิดว่างานกุจะเหลือเหรอ คือพยายามทำให้ดีอยู่แล้ว แต่ก็อาจไม่ดีเป๊ะแน่ๆ ถ้านักอ่านชี้ข้อผิดพลาดบลาๆ ให้กุก็ควรน้อมรับคำวิจารณ์ แต่กุแยกการติงานกับการติผู้ผลิตไม่ได้ ถ้าเจอฟี้ดแบคว่างานมีข้อเสียอย่างงั้นอย่างงี้กุคงเผลอคิดว่าตัวกุแม่งกากเอง คือแก้มายเซ็ตยังไงดี TT มีพส.คนไหนเป็นผู้กล้าแกร่งพร้อมรับคำติมั้ย สอนกุหน่อยว่าต้องคิดปล่อยวางยังไง

957 Nameless Fanboi Posted ID6:si4NpEOO1Q

ขอเพิ่มอีกนิด ถ้า feedback คำผิดหรือ error อื่นๆ กุรับได้เพราะกุตรวจจริงจังมาก ถ้าดันหลุดมาจริงก็น้อมรับผิดได้ แต่บางเรื่องอย่างความสมเหตุสมผลนี่รู้สึกมันความเห็นปัจเจกมาก เอาตย.ที่เห็นคนติงานคนอื่นคือเรื่องคาร์ตัวร้ายไม่มีมิติ ร้ายแบบร้ายโดยสันดานเลย หรือความรักพระนางไม่น่าอิน คลั่งรักเกินไปงี้ คือมุมมองนข.มันสมเหตุสมผลไง ตัวร้ายมันร้ายเพราะ born villain ไม่มีเหตุผลมาก พระนางรักกันเพราะมันเป็นเนื้อคู่ พรหม(นข.)ลิขิต เขียนอะไรก็อินอยู่แล้ว ถ้าโดนติมากุคงไม่รู้จะดีเฟ้นยังไงเหมือนกัน คงเศร้าที่ความสมเหตุสมผลเรามันไม่เมคเซนส์ในสายตาเขา ฮือๆ กุมีบ.ก.มีเบต้ารี้ดให้คห.แล้วก็จริง แต่ก็กลัวจะมีนักอ่านเห็นต่างแบบนี้ (ขนาดเรื่องดังๆ กุอ่านแล้วโอยังโดนได้ ;-;) เอาแต่กลัวนั่นกลัวนี่เลยไม่กล้าเผยแพร่สักทีเนี่ย 55555

958 Nameless Fanboi Posted ID:+BqJD.mfPc

>>957 เอาตรงๆน่ะ ตัวมึงยังใช้เหตุผลนำอารมณ์ไม่ไหวเลย แล้วมึงหวังจะให้นักอ่านที่มาติมึงเป็นคนดีศรีสยามนักวิจารณ์ชั้นเลิศเหรอวะ มันเป็นไปไม่ได้ว่ะ ขนาดเอาเหตุผลมาโต้กันในเรื่องหนึ่ง หัวข้อนึง มันยังมีได้หลายมุมมองเลย และแต่ละมุมมองก็ไม่มีถูกผิดแบบ1+1=2 ซะด้วย โลกมันก็แบบนี้ จะเอาอะไรกับนิยายที่เป็นเรื่องของการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกและเปิดจินตนาการของคนอ่านเป็นหลักวะ คนอ่านเขาต้องคิดต้องรู้สึกได้ร้อยแปดแบบตามแต่ชีวิตและประสบการณ์เขาอยู่แล้ว
มึงไม่ต้องกลัว บอกเลยยังไงมึงก็โดน มีคนเห็นต่างกับมึงแน่ ๆ ขึ้นแค่ว่าเขาจะบอกมึงมั้ย ข้อดีอย่างนึงคือวงการทุกวันนี้นักอ่านเขาไม่ค่อยอยากติมึงหรอก กลัวนข.ใจบางสร้างดราม่ากันอยู่แล้ว
บางเรื่องไม่จำเป็นต้องดีเฟนท์ เห็นต่างกันก็แค่ปล่อยเขาไป แยกแยะว่าคำไหนมีประโยชน์เก็บมา นักเขียนชั้นครูทุกคนมีคนด่าหมด มึงเทพเหนือโลกมาจากไหนล่ะ ถึงจะพ้นจากปัญหานี้อยู่คนเดียวอ่ะ
ดังนั้นลงไปเลย ยิ่งเจอของจริงมึงจะยิ่งแกร่ง หดหัวกลัวคำวิจารณ์มันก็จะกลัวต่อไปชั่วชีวิต ลุยตอนที่สภาพแวดล้อมยังดี ยังมีคนให้ซุกหัวคอยดันเวลาที่ใจยังไม่แข็งพอนี่แหละดีแล้ว ทุกคนเจ็บเหมือนกันหมดเวลาโดนติโดนว่า เลียแผลแล้วก็ปล่อยมันหายเหมือนกันทั้งนั้น มึงมองโลกให้กว้างๆ กลาง ๆไว้ แล้วมันจะมีที่ให้มึงเติบโตได้อีกมาก

959 Nameless Fanboi Posted ID6:gs2CeIXzvs

>>956 เผยแพร่ไปเถอะ อย่าไปคิดมาก บางทีเรื่องกังวลมันก็ไม่เกิดขึ้นจริงหรอก กูก็เคยเป็นงี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือเจอแต่คนดีๆมาบอกข้อเสียให้ปรับปรุงด้วยคอมเมนต์น่ารักๆที่รับได้ ส่วนอีกเรื่องไม่มีคอมเมนต์เลย ขายไม่ดีหนักมาก ก็คิดเข้าข้างตัวเองได้ว่ากูงานดี มียอดซื้อนิดๆแต่ไม่มีใครติใครชมสักคน ก็ถือว่าไอ้สิ่งที่เคยคิดว่ามันต้องบ้งต้องเลวร้ายจนโดนด่าก็ไม่เกิดขึ้นไง555

ต้องยอมรับว่าบางทีความกลัวมันก็ฉุดรั้งความพร้อมของเราอะ มึงเหลือแค่เผยแพร่กับวางขายเอง เผลอๆเขียนจบแล้วด้วย มีบก.มีเบต้ารี้ดอีกต่างหาก ถ้าเขาติก็แค่เอามาปรับปรุง หรือคิดว่าสมเหตุสมผลสุดแล้ว นักอ่านเรื่องมากเอง มึงแขวนเขาในใจได้เว้ย ด่าไปเลย ด่าในใจให้มันจบๆแต่อย่าแขวนอย่าแคปลงโซเชียลแล้วตัดพ้อเด็ดขาด กูก็ไม่ใช่แม่พระ เวลาเจอวิจารณ์แรงๆแบบสักแต่จะด่า ไม่คิดจะบอกว่าแย่ตรงไหนให้ปรับปรุง กูด่าในใจตลอด แต่ไอ้ที่พิมพ์ตอบคือขอโทษนะคะ ความเห็นคุณนักอ่านมีประโยชน์มากเลย จะเอาไปปรับปรุงในผลงานเรื่องต่อไปค่ะ <3 มึงจะหาทางอยู่กับวงการนี้ได้ด้วยวิธีของมึงเองแน่นอน ขอแค่มีความกล้า กลั้นใจ กดเผยแพร่ไปก็พอ อย่าไปกลัว คอมเมนต์คนติไม่ทำให้เราถึงตาย อะไรที่ไม่ทำให้เราถึงตาย มันจะทำให้เราแกร่งขึ้น

960 Nameless Fanboi Posted ID6:NN.0hTnBYY

>>957 ให้มันมีคนติเถอะ กลัวว่าตอนหลังมึงจะมาขอคำปรึกษา ไม่มีคนเม้น ตอนนี้เม้นขาดแคลนจะตายห่า อ่อแล้วมันมีฟังชั่น ปิด ไม่รับเม้น จะได้ไม่มีใครคิด

961 Nameless Fanboi Posted ID6:Ixe7gDvG.y

>>956 มึงคิดไปเลยว่าจะต้องเจอสองอย่างนี้แน่ๆ
1. คนด่าไม่มีเหตุผล / คนด่าไม่รักษาน้ำใจมึง
2. ไม่มีคนเมนต์เลย เงียบเหมือนเป่าสาก
คิดแล้วก็คิดต่อไปเลยว่าเจอแล้วจะทำยังไง เตรียมใจเผื่อไว้ เหมือนคนทำกับข้าวมันต้องถูกลวกถูกบาดอะมึง ก็เตรียมยาเอาไว้ มึงคิดไปเลยว่า “ยา” ที่มึงจะใช้เตรียมรับถ้าถูกด่าหรือเมนต์กริบคืออะไร เช่น มึงจะไปบ่นกับเพื่อนมึง มึงจะไปเผาพริกเกลือแช่งอีคนนั้นที่เมนต์ไม่รักษาน้ำใจมึง คิดไปให้จบแล้วก็วางได้แล้ว

962 Nameless Fanboi Posted ID6:TwoazoZ9d/

กูวางพล็อตเรื่อง วางทรีตเม้นต์ แบ่งตอนตั้งแต่ต้นจนจบ ตัวละครโผล่มาฉากไหน ใช้คำพูดประมาณไหน สนุกสุดๆ เขียนไปครึ่งนึงแล้ว จนไปอ่านเรื่องนึงที่มีคนเผยแพร่ไว้เมื่อสองปีก่อน พล็อตหลักๆ คล้ายกู 30-40 % เลย (ไม่สิ กูมาทีหลัง กูสิไปคล้ายเขา) เวลาอ่านที่เพื่อนๆ มาถามว่าไปเจอเรื่องคล้ายๆ กัน แก้เกมยังไงดี ไปต่อหรือพอซ่ำหนี้ กูเคยคิดว่ามันพอจะบิดๆ ไปได้ พอมาเจอกับตัวกูนั่งยิ้มอ่อนเลย

963 Nameless Fanboi Posted ID6:yDwDkdtJyO

>>956 ทุกวันนี้กูปลงละ เขียนมา 100 กว่าตอนคอมเม้นท์หลักหน่วย ทั้งที่คนอ่านก็วันละราวๆ 40-50 คนนะ

964 Nameless Fanboi Posted ID:OxMhIhIC9Q

>>962 พล็อตหลักเหมือน แต่การดำเนินเรื่องไม่เหมือน ตัวเอก/คาร์แวดล้อมไม่เหมือนก็ไม่มีอะไรน่ากังวลแล้วนะสำหรับกู ยิ่งถ้ากลิ่นสำนวนมึงต่างจากเขาด้วยไม่น่าถูกโยง

965 Nameless Fanboi Posted ID:2Fne3jP1VE

>>962 นึกสภาพพลอตมาเฟียที่เริ่มด้วยการไปกู้หนี้ลงเอยด้วยรักล้านแปดเรื่องบนโลกนี้ไว้มึง

966 Nameless Fanboi Posted ID6:ArYP8k6BDQ

กุ >>956 ขอบใจทุกคนมากนะ ได้แนวทางเป็นประโยชน์มาก จุ๊บๆ

>>962 ปัญหาพวกนี้คงไม่มีแต่แรกถ้าไม่มีสิ่งชีวิตที่เรียกลูกหาบกับลูกอีช่างเคลมเป็นออริ หดหู่อยู่นะวงการ Orz บางเคสมันพิสูจน์แทบไม่ได้อยู่ว่าก๊อปจริงมั้ย แต่ถ้าไม่จริงก็แสดงความบริสุทธิ์ใจไปเลย (ถึงจะไม่มีหลักฐานก้เหอะ) ถ้าโดนหาบจิกนักก็เล่นบทเหยื่อเยอะๆ พวกออกตัวแรงสิจะโดนกระแสตีกลับ

967 Nameless Fanboi Posted ID6:4QpC+NBpe8

มึง นข.ที่ออกเรื่องแรกเรื่องสองแล้วกริบ มันจะมีวันได้เงยหน้าอ้าปากงานแมสปังปุเรื่องหลังๆ มั้ยวะ ที่เห็นคนมันจะรุ่งเปิดตัวมาก็รุ่งเลย มีเคสตัวอย่างคนสู้ชีวิตบ้างมั้ย อยากมีหวังเป็นกำลังใจ 5555555

968 Nameless Fanboi Posted ID6:mCvVdIunyW

>>967 กูไม่ได้ตามคนนี้จริงจังนะ แต่น่าจะตรงกับที่มึงตามหา (มั้ยนะ ใครคิดว่ายังไม่ใช่แย้งได้) ซำลีสีพิ้งค์ เห็น 1-2 งานที่ออกเองในเม้ดไม่ค่อยมีคนเห็นเท่าไหร่ กริบอยู่ พอไปอยู่กับสนพ.คือป้ายแดงมา 3 เรื่องติดทันที เรื่องแรกที่ออกกับสนพ.ยังตรงตามมารตรฐาน แต่เรื่อง 2 เหมือนปังในหมู่คนรีวิวไปเลย เรื่องที่แมสๆดราม่าคนก็อวยกับชมในกลุ่มกันล้นหลามสุดๆ

969 Nameless Fanboi Posted ID6:mCvVdIunyW

>>968 ต่อนิดนึง ที่กูลังเลว่าใช่ที่มึงตามหามั้ยเพราะจะว่าปังปุก็อาจไม่ได้ปังมากถ้าเทียบกับตัวแม่ (แต่ก็ถือว่าปังสำหรับกูนะ) แต่ช่วงนึงถ้าคนขอนิยายดราม่า ร้องไห้ เรื่องฝนของเขาคือคนแนะนำแทบจะเป็นเสียงเดียวกันในกรุ๊ปอ่ะ

970 Nameless Fanboi Posted ID6:4oQuvaHyuN

>>968 กูว่าคนนี้ตรงตามที่มันขอแล้วนะ กูยังนึกไม่ออกเลย ที่นึกออกอีกคนก็บบรพนั่นแหละ เล่มแรกๆ ยังตามมาตรฐาน มาปังมากที่เล่มนางร้ายน่ะ ส่วนที่มันบอกว่าเห็นแต่คนที่มันจะรุ่งมาถึงก็รุ่งเลยนี่กูเห็นภาพมาก คิดออกหลายคนอยู่ มีทั้งรุ่งแบบมาตรฐานกับตัวแม่เลย ซึ่งทุกคนก็ออกมาแล้วรุ่งเลยจริงๆ ว่ะ เพิ่งสังเกตเกมือนกัน 55

971 Nameless Fanboi Posted ID6:4QpC+NBpe8

>>968 เริ่ดๆๆๆ คนนี้ได้เลอ ดีจัง แต่เขาลงสนพ.ด้วยแหละ แสงส่องถึงเยอะกว่าตอนอยู่ตัวคนเดียวอยู่แล้ว มีเคสที่ไม่ได้ลงสนพ.ไม่มีเจ๊ดันช่วยอุ้มบ้างมั้ย

>>970 ตัวแม่คนนี้จุติมาก็ป้ายแดงเลยนะมึง 555 เพิ่งไปไล่ดูกุยิ่งอึ้ง เขาเดบิ้วปี 21 ละลงงานใหม่ทุกเดือนเลยว่ะ (กุนึกว่าเขาเพิ่งมาลงทุกเดือนปีหลังๆ นี่ทำแต่แรกเลย เยกเข้) ที่เรตติ้งทุบสถิติแอพก็ปีเดียวกัน ของแทร้ว่ะคนนี้ ไม่รู้ได้ไปกี่ล้านละ ขยันปั่นขยันทำงาน สมละที่ได้ผลลัพธ์คุ้มเหนื่อย

ใดๆ คือกุสงสัยน่ะ หน้าใหม่เดบิ้วเรื่องแรกละกริบมันก็ไม่แปลกหรอก แต่อยากรู้มากว่าทำไงให้เรื่องแรกละป้ายแดงเลย ไปหานักอ่านมาจากไหนกัน point คือติดชาร์ตรี้ดให้ได้เหรอ ???? ขอแบนเนอร์ก้ต้องรอลุ้นเป็นเดือนละนิ

972 Nameless Fanboi Posted ID6:rVq7qw43rx

>>971 ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่ะ ไม่มีใครการันตีผลได้100% ง่ายๆเลย ตอบแบบกำปั้นทุบดิน คือเขียนให้สนุก มูให้เยอะๆ นอกนั้น ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาวาสนานำพา

973 Nameless Fanboi Posted ID:226fqA4BlF

>>971 หลายปัจจัยมากมึง หลายจนมึงไม่ควรยึดติดเพราะมันไม่มีสูตรสำเร็จ
ไม่ใช่แค่เรื่องแรกกริบเป็นปกติหรอก วงการนข.มีทุกแนวเป็นปกติ ปังเรื่องแรกเรื่องเดียวแล้วดับยาว, เขียนมาสี่สิบเรื่องถึงปัง, เขียนไปสามเรื่องถึงปัง, เขียนสามเรื่องกริบสี่เรื่องปังต่อด้วยสามเรื่องกริบก็มี, หรือเขียนมายี่สิบเรื่อง ไม่เคยปังเลย แต่จากยอดขายกินขนมกลายเป็นยอดขายที่ใช้ชีวิตได้ทุกเดือนก็มี
มีฝีมือไม่ปังก็มี ไม่มีฝีมือแต่ปังก็มี ทำใจสบายๆผลิตงานแล้วลงแล้วค่อยปรับไปตามสมควร ตามสถานการณ์เถอะ

974 Nameless Fanboi Posted ID:226fqA4BlF

>>973 เพิ่มให้อีกอย่าง บางเคสนิยายเรื่องเดียวกันลง 3 เวบ เวบนึงดัง เวบนึงดับ เวบนึงเฉยๆ ขนาดเรื่องเดียวกันนี่แหละมึง

975 Nameless Fanboi Posted ID6:kGONQ4Lrkz

ตงกงนี่ขวัญใจด้อมโม่งเลย เวลามีคนมาสาปก็ช่วยกันดีเฟ้นสุดยังกับตงกงมาเล่นโม่งเอง ส่วนตัวกูว่าคนนี้ไม่ได้โนเนมบ๋อแบ๋มาก่อน แต่เป็นอวตารคนดังสักคนที่เขียนสายคลีนมาแล้ว แต่อยากจะสายแดงก็เลยอวตารนามใหม่ อะไหนๆ พวกมึงก็ปลิ้มปริ่มขนาดนี้ ไหนวิแคะให้กูฟังหน่อยว่าทำไมงานคนนี้ปังทุกเรื่อง ขายดิบขายดีเหมือนแจกฟรีปานนี้

976 Nameless Fanboi Posted ID6:mCvVdIunyW

>>975 โม่งช่วยดีเฟ้น?5555 ตัวดีเลย สงสัยก่อนบนบกจนเคลียร์กันเองแล้วว่าไม่ได้ใช้โกสต์ไร้ท์ช่วยเขียน เพราะช่วงนึงออกงานทุกเดือนแล้วเหมือนสำนวนไม่นิ่ง โม่งบนๆเคยวิแคะเรื่องความปังของงานเขากันไปนานละ ลองไปย้อนดูได้ เพราะคนสงสัยเยอะจริง+เป็นไอดอลของใครหลายๆคน ในโม่งคือผ่านจุดสงสัยมาเป็นจุดชื่นชมในความขยันละ

กูยังก้ำกึ่งกับคนนี้ว่าอวตารอีกนปก.มาจริงมั้ย เพราะกูทันช่วงแรกๆงานเขาก็ไม่ได้ปังมากนะ แต่เหมือนจับจุดคนชอบผัวโบ้สาวเฟียสได้แล้วเข็นแนวนี้ออกมารัวๆเลย พอมาถึงช่วงนี้ถึงยังแมสอยู่แต่ก็เหมือนอิ่มตัวอะ ขนาดแฟนคลับเดนตายยังเม้นบอกว่าอยากให้นักเขียนออกจากเซฟโซน ลองพอ.ไทป์อื่นบ้าง

977 Nameless Fanboi Posted ID6:Lx4tAHlX0Q

>>976 จริงอีโม่งนี่ตัวดี พอบนบกก็สงสัยเหมิอนกัน ก็ไปด่าเค้า 5555

978 Nameless Fanboi Posted ID6:rVq7qw43rx

>>977 กูว่าโม่งมันไม่ชอบอิคนสงสัยมากกว่านะ แก๊งรีวิวธงเขวน่ะ บวกลบแล้ว เกลียดอิแก๊งนี้มากกว่ามันเลยเลือกด่าอิคนสงสัยฉ่ำ

979 Nameless Fanboi Posted ID:J3jINUtsAT

>>975 ช่วงแรกงานเขาไม่ได้ปังนะ ค่อยๆ ไต่ระดับตามวิถีนามปากกาใหม่เหมือนคนอื่นๆ นั่นแหละ มาปังจริงๆ จากเรื่องสองพันเรตติ้ง จากนั้นก็ปังยาวแบบติดลมบนจนตอนนี้กระแสนิ่งเริ่มอิ่มตัวนั่นแหละ

>>976 กูคิดก้ำกึ่งเหมือนมึงว่าอาจจะอวตาร เพราะเปิดขายเล่มเรื่องแรกก็ให้โอนเงินเข้าบัญชี หจก. เลย หน้าใหม่ส่วนใหญ่เขาโอนบัญชีส่วนตัวกันทั้งนั้น นักเขียนหน้าเก่าหลายคนตอนนี้ก็ให้โอนเข้าบัญชีส่วนตัวกันอยู่เลย แต่เจ๊แกเปิดขายเรื่องแรกให้โอนเข้านิติบุคคลเลย หน้าใหม่แบบใด พิรุธพิราบมาก

980 Nameless Fanboi Posted ID6:Lx4tAHlX0Q

>>978 ที่โม่งเปลี่ยนสี เปลี่ยนท่าทีกับตงกงก็ช่วงนี้แหละ5555

981 Nameless Fanboi Posted ID6:4oQuvaHyuN

>>979 ขอเป็นหนึ่งเสียงที่มาดีเฟ้นเบาๆ ได้ไหม เรื่องหจก.นี่ถ้าเป็นพวกทำธุรกิจอยู่แล้ว อยากปกปิดตัวตน คือไม่แปลกเลยนะ แค่อาจจะหายากที่นักเขียนนิยายจะจัดการการเงินเก่งด้วย มั่นใจในตัวเองด้วย ประมาณนั้น

982 Nameless Fanboi Posted ID6:rVq7qw43rx

>>979 ทำไมกูไม่เจอหจก. แต่กูเจอ เป็นบัญชีชื่อบริษัท...จำกัดเลยวะ ทุนจดทะเบียน1ล้าน
ใดๆคือการบริหารจัดการเงินดีมาก

983 Nameless Fanboi Posted ID:J3jINUtsAT

>>981 กูถึงบอกว่าก้ำกึ่งไงว่าอาจจะใช่และไม่ใช่อวตาร

>>982 กูจำผิดเป็น หจก เองแหละ เป็น บจก มาตั้งแรกแล้ว

984 Nameless Fanboi Posted ID:w+ujiz4Rh3

เอ๊ะ เคลียร์แล้วเหรอว่าไม่โกสต์ กุว่างานเขาแรกๆ อาจจะไม่จัดว่าปังถล่มทลายแต่ได้ป้ายแดงยอดอ่านกับเรตติ้งหลัก 40+สำหรับกุมันก็ปังอยุ่นะ เรียกว่าเริ่มได้สวยอ่ะ เทียบกับบางคนหลายปีแล้วยังหลักหน่วยหลักสิบ ว่าแต่เราควรไปมู้สับมั้ย ถึงจะไม่ได้นินทาแต่เริ่มเม้ามอยตัวบุคคล

985 Nameless Fanboi Posted ID:V6tWinY31a

นักอ่านหัวโบราณมีอยู่จริงมั้ยวะมึง ถ้ากุเขียนแนวรักทั่วไปแต่มีซีนเด็กมหาลัยได้กันแบบ consent คู่ ไม่ได้เมา/พลาด แค่แส้บกันจริงจัง กุจะโดนเขาด่าว่าชี้นำเยาวชนมั้ย หรือฟรินๆ ไม่คิดไรมาก 555555

986 Nameless Fanboi Posted ID6:J4GEuij8+r

>>985 มีจริง อยู่ในเอ็กซ์ ส่วนป้าๆ ในเฟสไม่เห็นเคยบ่น

987 Nameless Fanboi Posted ID6:935A3gp13q

>>986 จริง ป้าๆชอบมากฟรินมาก บอกเวลาอ่านต้องอย่านึกถึงเหตุผลมาก แบบนี้เลยมึงซึ่งเขาก็อ่านกันได้ ส่วนในเอ็กซ์น่ะเหรอ...
เมื่อไหร่จะเลิกแต่งนิยายproblematic โรแมนติไซ้ อ่านแล้วจะอ้วก มันไม่ได้ มันเบียว มันบ้ง โตมาแบบไหนอ่านนิยายแบบนั้น บลาๆ โคตรปสด.

988 Nameless Fanboi Posted ID6:935A3gp13q

แต่... ที่โพสต์ว่าไม่สนับสนุน เอดูเขตต่างๆนานา ก็เห็นอ่านแนวพระเอก-นางเอกวัยมหาลัยเข้าร้านเหล้าเมาแล้วได้กัน ศัพท์ ค ห ต ย มาเต็มจนเมดระงับการขายมาแล้วก็มี ดังนั้นแนวที่มึงบอกว่าไม่เมาไม่พลาดแต่แส้บกันจริงจัง คือปกติมากนะ เขียนไปเถอะเพื่อน

989 Nameless Fanboi Posted ID6:EW8/mHXA6u

พูดถึงจ้างโกสของตงกงแล้ว อีกคนคือ ตยก คนนี้ก็ออกทุกเดือน ป้ายแดงทุกเล่ม เขาทำได้ไงวะ กุว่าเขาไม่ได้จ้างโกส สำนวนการเขียนเขาค่อนข้างไปแนวแปลฝรั่ง แล้วคิดพลอตได้ทุกเดือนนี้ โห ทำได้ขนาดนี้คือ ลูกอึดเลยชะ ขายวิญญาณให้ซาตาน ไม่ใช่ไรกุอยากทำได้บ้าง ไม่จำเป็นต้องดังหรอก แต่การออกงานบ่อยมันก็ช่วยให้คนเห็นเยอะขึ้น

990 Nameless Fanboi Posted ID6:935A3gp13q

คนนี้ก็สุดจริง ขยันมากกกกกกกก ไม่ติดอันดับโดดเด่น แต่มาแบบเรื่อยๆเลื่อนดูจะเจอว่าติดอันดับขายดี มีแฟนขับเดนตาย กูเคยคิดจะตามซื้ออ่านทุกเล่ม ทำได้แค่หลัก30กว่า เขามีร้อยกว่าเล่มในเมดกูท้อ แต่งานเขามีซิกเนเจอร์และพระเอกจะสไตล์อัลฟ่าๆ เป็นเอกลักษณ์ ไม่มีโปรตอนแรกขาย ราคาจะ279 259 ประมาณนี้ จะมีโปรเล่มเก่าๆเฉพาะช่วงงานหนังสือ กูชอบในความขยันตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเองอย่างเดียวมาก

991 Nameless Fanboi Posted ID:HWFuF5ecQU

>>990 เสียดายที่นิยายเขาไม่ใช่จริตกู ไม่งั้นจะรู้สึกเปรมมาก แม่งมีอ่านทุกเดือน

992 Nameless Fanboi Posted ID6:oPx6xU0YP5

โม่งใช้หลักเกณฑ์อะไรที่จะตัดสินใจเขียนต่อ/ไม่เขียนต่อกันวะ
คือกูเขียนสต๊อกเอาไว้พอสมควรละ แต่ยอดคนอ่านเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 30-40 คน เท่านั้น และอิงจากกราฟสถิติแล้วก็คงโตช้าไม่ก็ไม่โตละ

ก็ไม่ได้หวังจะขายหาเงินเพราะยังไงก็มีงานประจำอยู่แล้วเลยเป็นแค่งานอดิเรก แต่ก็ยังอยากหวังจะทำเป็นอาชีพอยู่ ทว่าพอเห็นยอดน้อยก็พาลรู้สึกเฟล + ตอนนี้คือใจกูเอียงไปเขียนเรื่องใหม่แล้ว ทั้งที่เรื่องนี้เพิ่งเขียนไปได้ราวๆ ครึ่งเรื่องเท่านั้น กูเลยไม่รู้ว่าควรจะเอายังไงต่อดีระหว่างเขียนต่อแบบไม่สนใจอะไร หรือจะไปลองเสี่ยงเขียนเรื่องใหม่เผื่อว่าจะดีกว่ากันเลย

เทียบข้อดีข้อเสีย เรื่องเก่านี่คือวางโครงเอาไว้จนจบละ ถ้าเขียนต่อมันก็เขียนไปได้เรื่อยๆ ในขณะที่เรื่องใหม่ต้องมาวางพล็อตใหม่ แต่ก็คงต้องทนรับกับยอดรีดที่ต่ำเตี้ยต่อไป ตอนนี้ก็ลังเลอยู่ว่าจะเอายังไงต่อดีเลยอยากขอความเห็นโม่งหน่อยว่าจะเขียนต่อหรือขึ้นเรื่องใหม่ไปเลยดี

993 Nameless Fanboi Posted ID6:nhCzVzbHQT

>>992 ถ้ามึงมีแรงมากพอนะ ลองเขียน2เรื่องพร้อมกันไปก่อน อย่างน้อยเรื่องเก่าโครงมึงจบแล้ว แต่ถ้าไม่ไหวอยากทิ้งเลย มึงเริ่มเรื่องใหม่มึงก็ต้องเผื่อใจว่ามันอาจจะไม่แมสเหมือนเรื่องเก่านะ บางคนเขีบนไม่รู้กี่เรื่องกว่าจะแมส กว่าจะสร้างฐานแฟนได้อ่ะ กลัวมึงจะผิดหวังเกิดเริ่มเรื่องใหม่แล้วยังอีหรอบเดิมหรือแย่กว่าเดิม

994 Nameless Fanboi Posted ID6:YYKWDxo5I3

>>992 คำถามแรก กึเขียนจบก่อนค่อยลว กุเลยไม่มีปัญหาว่าเขียนต่อไม่เขียนต่อน่ะ

คำถามสอง มึงไม่ลองลุ้นตลาดอีบุคดูอีกทีเหรอวะ หรือลองเอาไปลงที่แอพอื่นดูก่อนมั้ย

995 Nameless Fanboi Posted ID6:UGs9MPLKm/

>>994 ตลาดอีบุ๊คนี่ก็คิดอยู่ว่าจะลองวางขายดู แต่ต้องทำปก+รูปเล่มใหม่ก่อน
แต่แอพอื่นลองละ สุดท้าย ดด. นี่ล่ะคือกลุ่มลูกค้ากู รอ. นี่โดนกลืนหายไปกับธารนิยายละ
ปัญหาคือตอนนี้กูลังเลแล้วว่าจะเอายังไงต่อดีนี่ล่ะ เพราะที่เขียนมาทั้งหมดมันยังแค่กลางเรื่องเอง จะไปต่อให้จบก็เกรงว่าน่าจะอีกไกล ที่พอคิดได้ก็คือหางทางลงแบบตัดจบเท่านั้นล่ะ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.