Fanboi Channel

รวมพลนักเขียน แชร์เทคนิคประสบการณ์และข่าวสาร [กระทู้ที่ 21]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:29Xn8qVO4W

กระทู้เพื่อพูดคุยเทคนิคการเขียน และเรื่องการประกวดต่าง ๆ เกี่ยวกับนิยาย

กระทู้ 1 >>>/literature/2342/
กระทู้ 2 >>>/literature/3442/
กระทู้ 3 >>>/literature/4775/
กระทู้ 4 >>>/literature/5724/
กระทู้ 5 >>>/literature/7084/
กระทู้ 6 >>>/literature/10634/
กระทู้ 7 >>>/literature/12326/
กระทู้ 8 >>>/literature/12952/
กระทู้ 9 >>>/literature/13391/
กระทู้ 10 >>>/literature/13744/
กระทู้ 11 >>>/literature/14253/
กระทู้ 12 >>>/literature/15039/
กระทู้ 13 >>>/literature/15642/
กระทู้ 14 >>>/literature/16386/
กระทู้ 15 >>>/literature/16722/
กระทู้ 16 >>>/literature/17022/
กระทู้ 17 >>>/literature/17223/
กระทู้ 18 >>>/literature/17576/
กระทู้ 19 >>>/literature/17967/
กระทู้ 20 >>>/literature/18263/

กระทู้ ระบาย 1 >>>/literature/3325/

2 Nameless Fanboi Posted ID6:MvbK.FxaAm

โอเคเดี๋ยวจะลองทุบหัวนักอ่านด้วยเล่มแรก 1 เล่ม (60 ตอน) ไปเลยดีกว่า
ถ้ามันอยู่ซัก 15 วัน ลงวันแรกลง 20 ตอน แล้วจากนั้นก็วันละ 3 ตอนยังได้ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ

3 Nameless Fanboi Posted ID6:52FaYRZslx

Ky กูไปเจอนข.แคปคอมเม้นนักอ่านที่คอมเม้นแย่ๆประมาณว่าเขียนนิยายเวิ่นเว้อ ไม่แปลกที่ไม่มีคอมเม้นบลาๆ
ถ้าเจอคอมเม้นในลักษณะนี้(ไม่มีประโยชน์;บั่นทอน;ปสด.) นักเขียนที่ดีeqสูงควรทำอย่างไรเหรอวะ
แคปแขวนเสียบประจาณ;หนีไปร้องไห้เลียแผลใจไม่เขียนนิยายอีกต่อไป; ด่ากลับ3หน้าa4 ;คิดว่าหมาเห่าแล้วลบเงียบๆ

4 Nameless Fanboi Posted ID6:1.eElQY33y

ตัยล่ะกู หลังจากได้เห็นยอดรี้ดใน ดด. แล้วทำหมดกำลังใจจะเขียนต่อเลย ถถถถถถ
แต่ก็ยังเขียนต่อนั่นล่ะ เขียนมันมาปีกว่าแล้วอ่านคนเดียว สนุกคนเดียวมาตลอด ยอมรับแหละว่ามีไหวหวั่นบ้างแอบคิดว่าเลิกเขียนไปเลยจะดีมั้ย แต่สุดท้ายพอนอนซักตื่นก็กลับมานั่งเขียนต่อซะงั้น

เดี๋ยวรอย้ายไป รอร. แทนดูสิว่าจะเป็นยังไง

5 Nameless Fanboi Posted ID6:xc/LCUW6qX

>>3 ข้อสุดท้ายเลยมึง คิดว่าเสียงหมาเห่าแล้วลบเงียบๆ จะข้อความไร้สาระไว้รกหน้านิยาวตัวเองทำไม ถ้าจับแขวนมีแววเกมพลิกด้วยซ้ำว่าแค่นี้ต้องประจานกันเลยเรอะ ถ้าจะหลบไปเลียแผลใจเลิกเขียนก็เหมือนไม่เห็นนักอ่ทนที่เหลือซึ่งไม่เคยด่ามึงอะแต่ตามอ่านงานมึงอยู่นะ

6 Nameless Fanboi Posted ID6:1.eElQY33y

ว่าไปกูลองสังเกตดู... ถ้าอยู่หมวดแนวแฟนตาซีนี่ยังไงก็ไม่ปังแฮะ
กลับมีเรื่องนึงกันแค่ย้ายหมวดไป Boy love ขนาดชื่อเรื่องเป็นแนวระบบ + จั๋วหัวว่า harem ในเรื่องก็ไม่มีความเกเรเลย เป็นแนวแฟนตาซีระบบทั่วไปแบบชัดเจน แต่ยอดคนอ่านอย่างเยอะซะงั้น

อีกเรื่องคือย้ายไปอยู่หมวดรักจีนโบราณ แต่ลองอ่านแล้วเนื้อหาไม่เกี่ยวกับความรักเลย แถมเป็นแนวดูยังไงก็เป็นแนวทะลุมิติมายุคจีนโบราณ แฟนตาซีจ๋า ใช้ความรู้ยุคปัจจุบันมาข่มชาวบ้านแบบเดิม ได้ยอดคนตามอย่างเยอะเลย

พอมาถึงจุดนี้แล้วกูก็แอบคิดนะว่า ...หมวดแฟนตาซี มันมีอาถรรพ์อะไรรึเปล่าหว่า? หรือว่าคนมองแค่เป็นหมวดแฟนตาซีก็ส่ายหน้าแล้ว?

7 Nameless Fanboi Posted ID:NajjEtxYrq

ky เห็นช่วงนี้คนอวยกันเรื่องพระเอกนางเอกธงเขียวกันเยอะ กูเลยกังวลเรื่องภูมิหลังของพระเอกกูอ่ะ เมื่อก่อนพระเอกเคยมีแฟนแต่แฟนเก่าคนนี้เป็น gold diggerผสมคาสโนวี่ พอพระเอกทำงานเหนื่อยๆกลับคอนโดด้วยในใจที่คิดว่าจะขอหมั้นแฟน แต่มาเจอแฟนกำลังคั่วกับหนุ่มที่ไหนไม่รู้ (ละครเหี้ยๆเลยกู555) เถียงไปเถียงมาแฟนเก่าโยนขี้ว่าพระเอกนั่นแหละผิด ด้วยอารมณ์มากมายที่สุมในอก พระเอกเลยตบหน้าแฟนเก่าเลือดกลบปาก จนปัจจุบันคบกับนางเอกแล้ว พระเอกกูก็ยังยืนยันว่ามันก็ไม่รู้สึกผิดนะที่ตบหน้าแฟนเก่า งี้พระเอกกูยังกรีนแฟล็กอยู่ป่าววะ ยิ่งเทียบกับนางเอกกูที่มาไทป์นางโศกบ้านจนแต่จิตใจดีอีก แต่กูก็ไม่อยากเอาภูมิหลังตรงนี้ออกอ่ะ เพราะกูรู้สึกว่าพระเอกมันก็ไม่ใช่ผู้ชายเพอร์เฟคดี มีจุดดำๆบนความขาวบ้าง เป็นจุดเปิดใจที่ให้นางเอกเข้าใจว่าพระเอกที่เคยเทิดทูนว่าเป็นดั่งเจ้าชายรูปงามก็ไม่ได้ดีไปหมดดุจนิยาย แต่ไม่รู้ว่าชาวบ้านชาวช่องจะเข้าใจได้เหมือนนางเอกกูหรือป่าวนะ

8 Nameless Fanboi Posted ID:NajjEtxYrq

>>7 เออลืมใส่ว่าพระเอกกูไม่ใช่นักเลงหัวไม้อะไรขนาดนั้น ไม่มีทางทำร้ายนางเอกแน่นอน555 แต่ตอนตบหน้าแฟนเก่าคือมันสุดจะทนแล้วจริงๆอ่ะ มันจะไม่เป็นไอ้เหี้ยไปหน่อยมั้ยวะ ยิ่งกระแสธงเขียวมาแรงอยู่//กัดเล็บ

9 Nameless Fanboi Posted ID6:3MKFb2wdga

>>7 ส่วนตัวกุอ่านถึงตบเลือดกลบปาก จุดนึงที่กุคิดขึ้นมาคือถ้าอยู่ในชีวิตจริงเป็นกุคงไม่เอาผู้ชายคนนี้เป็นผัวแน่ ๆ ตอนรักกันดีอาจจะดีมากก็จริง แต่ใครจะรู้ขืนทำให้โมโหมากมันจะตบกุเลือดกลบปากเหมือนแฟนเก่ามันมั้ย ขึ้นอยู่กับมึงแล้วแหละว่าบรรยายพระเอกออกมาให้มีข้อดีจนกลบจุดด้อยตรงนี้ยังไง สู้ๆ

10 Nameless Fanboi Posted ID:NajjEtxYrq

>>9 ก็พระเอกกูเป็นผู้ชายอกสามศอกตัวสูงเล่นกล้าม ตบหน้าผู้หญิงตัวบางๆแค่ทีเดียวก็เลือดออกอยู่แล้วดิ555นี่ตรรกะที่กูคิดนะ แต่ที่ผ่านมากูก็เขียนให้พระเอกเป็นคนดีโคตรๆ ไม่ติดพนัน ไม่ติดอบายมุขใดๆ ไม่เคยเมาจนขาดสติ ตั้งใจทำงานดี ไม่เคยตัดสินใครจากข่าวลือจนกว่าจะเห็นจะๆคาตา (มันเลยโดนแฟนเก่าหลอกเอาเงินไปเป็นล้าน ทั้งๆก็เคยได้ยินข่าวลือแย่ๆแท้ๆจนมาโดนสวมเขาจะๆ) ด้วยนิสัยที่มันไม่ตัดสินใครจากข่าวลือ นางเอกที่ทำงานพาร์ทไทม์เป็น reception ในม่านรูดเฉยๆแต่โดนข่าวลือว่าขายตัวในนั้น เลยประทับใจพระเอกที่ไม่ตัดสินตัวเองจากข่าวลือ แถมพระเอกก็ไม่ได้ให้นางเอกออกจะงานเพราะอี๋งานอย่างว่าด้วย (จริงๆพระเอกจะช่วยเรื่องเงิน แต่นางเอกไม่เอาเอง) จนมาเจอแฟนเก่าพระเอกมาแฉว่า มึงจะคบกับไอ้ชายแท้นั่นจริงหรอ มันเคยตบหน้ากูนะ นางเอกเลยไปถามพระเอกแล้วนำไปสู่ภูมิหลังของพระเอกที่กูบอกอ่ะ

แต่ก็ขอบคุณมึงมากนะจุ๊บ เอาเป็นว่ากูตัดซีนเลือดกลบปากออก เหลือแค่ตบหน้าเป็นรอยแดงปื้นๆพอล่ะกัน มันจะช่วยลดทอนความรุนแรงหน่อยนึงมั้ยอ่ะ

11 Nameless Fanboi Posted ID6:VGY/cfeNmo

>>10 กูไม่ใช่ 9 แต่เห็นด้วยกะ 9 นี่เคยอ่านนิยายแปลจีนเรื่องนึง พอ. ตบหน้า นอ. หันด้วยความโมโห ตอนนั้นยังไม่ได้คบกันนะ เป็นแค่คนรู้จักที่เริ่มๆ มีใจ เนื้อเรื่องก็พยายามปูให้มีเหตุผลเข้าใจได้ของมันมั้ง และคงพยายามสื่อว่าทุกคนเทาๆ แต่ส่วนตัวกู หลังจากนั้น อีก 6 เล่ม 7 เล่ม ไม่ว่าคนเขียนจะบรรยายว่าพอ. เป็นคนดี ยอมตายแทน นอ. ได้แค่ไหน ความในใจ นอ. บอกว่าประทับใจและรักผช. คนนี้แค่ไหน ในหัวกูจะแพลชแบ็กไปฉากตบหน้านั้นตลอด และจนจบเรื่อง กูก็ไม่อินกับความรักคู่นี้
สำหรับกู ถ้าทำร้ายร่างกายตอนโมโหได้ ไม่มีอะไรการันตีจริงๆ ว่าจะไม่ทำอีก แต่คนอ่านมึงก็ร้อยพ่อพันแม่แหละ บางคนติดใจ แต่อาจมีอีกเป็นล้านที่ไม่ติดใจก็ได้

12 Nameless Fanboi Posted ID:NajjEtxYrq

>>11 แต่นี่มันแฟนเก่านิสัยเหี้ยๆของพระเอกอ่ะ โดนหลอกเอาเงินไปเป็นล้าน โดนสวมเขาคาตา แต่พระเอกก็ได้รับผลจากการกระทำนี้คือ โดนปรับกับฝากขังคืนนึง(ตบแฟนเก่าทีเดียว แต่กระทืบชู้เละ) ถ้าเป็นผู้ชายแมงดามาหลอกแบบเดียวกันแล้วนางเอกตบเอาคืนนี่กูจะไม่มานั่งถามหรอก เพราะกูก็เข้าใจแหละว่าถ้าเป็นผู้ชายเป็นฝ่ายลงมือมันจะดูรุนแรงกว่า แต่กูมองคนเป็นบุคคลๆโดยไม่เกี่ยวกับเพศอ่ะ แล้วพระเอกก็ไม่มีวันทำร้ายนางเอกแน่นอน--- เชี่ยเอ๊ยยยยยยยยยยย สับสนแล้วว่ะหรือกูโยนฉากตบทิ้งแม่ง แล้วเปลี่ยนเป็นพระเอกเดินอาดๆเหมือนมาตบแต่เบี่ยงเป็นกระทืบชู้แฟนเก่าเละคาตีน ระบายอารมณ์ที่โดนหลอกเอาเงินแทนได้มั้ยวะ

13 Nameless Fanboi Posted ID6:52FaYRZslx

>>12 มึงจากใจกูที่ไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรกับมึง (กูแค่ขี้เสือก)อย่าใส่ฉากตบเลือดกลบปากเลย ไม่ควรอย่างยิ่ง เปลี่ยนเป็นทำให้คนอ่านคิดว่าจะตบแต่เบี่ยงไปชกกำแพง หรือตบชู้ผู้ชายก็ได้แต่ทำร้ายผู้หญิง ไม่ได้เด็ดขาดนะมึง เต็ม10มาทุกตอนจะโดนหักหมด ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม จะขึ้นชื่อตีตราว่าไอ้นี่ตีเมีย

14 Nameless Fanboi Posted ID6:3MKFb2wdga

>>12 กุ 9 เห็นด้วยกับ 13 ลองเปลี่ยนเป็นเกือบจะตบแต่หันไปทำอย่างอื่นแทนดีกว่า คือต่อให้มึงจะใส่มาว่าผู้หญิงคนนั้นเลวชั่วมาก ๆ แต่มันต้องมีนักอ่านบางส่วนแหละที่คิดเหมือนกุว่าเวลาพระเอกฟิวขาดมาก ๆ จะชอบใช้กำลัง ตอนนี้มั่นใจเต็มล้านว่าพระเอกไม่ตบนางเอก แต่มันจะพอจินตนาการต่อได้ไงว่าถ้าโมโหขึ้นมามากจริง ๆ จะตบนางเอกป้ะวะ หรือถ้ามึงจำเป็นต้องใช้ฉากพระเอกทำร้ายแฟนเก่าเพื่อให้ตอนหลังนางเอกเกิดการระแวง อาจจะเขียนประมาณว่าพระเอกจะตบนั่นแหละแต่หักใจทันเลยหันไปปาแจกันอะไรว่าไป แล้วเศษแจกันกระเด็นไปบาดแฟนเก่า แฟนเก่าเลยเอาไปโมเมว่าพระเอกทำร้ายร่างกาย (ละครมั้ย 5555) แต่ก็แล้วแต่มึงจะพอใจนะ นิยายมึง เขียนที่มึงพอใจ

15 Nameless Fanboi Posted ID:NajjEtxYrq

>>13 โอเค งั้นกูรับข้อเสนอคนขี้เสือกอย่างมึงนะ//จับมือ เปลี่ยนเป็นพระเอกเดินไปชกกำแพง กัดฟันกรอดๆแล้วไล่แฟนเก่าด้วยน้ำเสียงเย็นๆ แต่ชู้ผู้ชายไม่จบเลยกระทืบไอ้ห่านี่จนพระเอกนอนคุกไปคืนนึง ส่วนที่ข้อหาแฟนเก่าพระเอกมาไซโคนางเอกคือ พระเอกเป็นคนหัวรุนแรงเคยกระทืบคนจนนอนคุกมาแล้ว แบบนี้ดูดีขึ้นรึยัง (นี่พระเอกกูหรือป๋าเดปป์วะไอ้ข้อหาตีเมียเนี่ย5555)

16 Nameless Fanboi Posted ID:NajjEtxYrq

>>14 เออๆเอาแนวละครแบบนั้นก็ได้มึง แฟนเก่าพระเอกสตอเบอแหลยุยงให้คนรักแตกแยก เพราะหมั่นไส้ที่พระเอกรั๊กกกกกกกกรักนางเอกเหลือเกิน555
ปล. ไปๆมาๆทำไมมันมาแนวกรณีเอมเบอร์วะ ฉันโดนจอห์นนี่ซ้อม my dog step on a bee แต่ก็กูเขียนให้นางเป็นนางร้ายหลอกแดกตังค์กับเล่นชู้เองนี่หว่า55555

17 Nameless Fanboi Posted ID6:Y7IN.ybWMy

KY หน่อย พอดีอยากลองหัดเขียนนิยายแนวตลาดบ้าง แต่กูเป็นคนที่ไม่เข้าใจสิ่งที่เรียกว่าความรักว่ะ แฟนก็ไม่เคยมี แถมเป็น introvert ไม่ชอบเที่ยวอีก จนกูไม่มีประสบการณ์อะไรมาเขียนพวกนี้เลย

คือปกติชีวิตกู ตื่นเช้า > ไปทำงาน > เลิกงานไปยิม > กลับบ้านพาหมาไปเดินเล่น > อาบน้ำเสร็จก็มานั่งหน้าคอม

พอลองออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอก ก็ไม่มีความรู้สึกสปาร์คกับใครเลยว่ะ แอบรำคาญด้วยที่จะต้องออกไปข้างนอก อีกอย่างกูโตมาในบ้านที่มีแต่หญิงแกร่งยืนด้วยลำแข้งตัวเองล้วนๆ ส่วนผู้ชายอย่างญาติๆ ก็ไม่เอาอ่าวซักคน ส่วนพ่อกูก็เป็นตำรวจโดนย้ายไปประจำที่อื่นบ่อยๆ นานๆ ถึงจะมาเจอหน้ากันที ตลอดชีวิตกูเลยไม่ค่อยรู้สึกประทับใจผู้ชายเท่าไร จนกลายเป็นพี่น้องทั้งบ้านกูโสดหมดไม่มีใครคบผู้ชายเลย (แต่กับผู้หญิงน่ะมี) เลย

ก็ไม่ได้เหยียดผู้ชายนะแต่คือไม่รู้สึกว่าอยากได้หรืออยากมีเลย กูเลยตั้งคำถามตัวเองละว่ากูจะงัดอารมณ์ งัดความรู้สึกแบบไหนมาเขียนแนวรักวะ? แต่แนวเดิมที่กูเขียนมันขายไม่ออก กูเลยต้องมาหัดเขียนแนวตลาดซะทีแล้วนี่ล่ะ ฮือ~

18 Nameless Fanboi Posted ID6:sH5eHoCtwz

>>17 ยากนะ บางทีนักอ่านก็สัมผัสได้ว่าตัวละครไร้เคมีต่อกัน อย่างน้อยมึงต้องมีนิยายหรือการ์ตูนรักที่ชอบอ่ะ ก็ลองเอามาปัดฝุ่นอ่านกับดูใหม่ว่าชอบอะไร อยากเขียนฉากหวานแบบไหน ไดนามิคยังไง ไม่มีความรักก็เขียนนิยายได้ เผลอๆนักเขียนส่วนใหญ่เป็นงี้กันหมดอะ555

กูก็ Introvert จัดๆไม่ค่อยอินเรื่องรักเหมือนกัน กูไม่มีความรักมานานละ แต่กูพอเขียนนิยายรักได้เพราะมีรักแรกสมัยม.ต้นที่จำฝังใจโคตรๆ เลยเอามาเปลี่ยนคาแรคเตอร์เขาหากินเรื่อยๆ เรื่องแรกที่เขียนคือเอาพระเอกเป็นเขาเลย เรื่องต่อๆมาก็ค่อยๆเปลี่ยน กวนตีนขึ้น สุภาพขึ้น เลวขึ้น กูใช้ประโยชน์จากรักแรกและรักเดียวในชีวิตแบบเต็มที่มาก ก็ใช้ได้อยู่นะมึง คนอ่านหลายคนก็บอกว่าอินฟินกัน555555

19 Nameless Fanboi Posted ID:2uJOxMbokg

>>17 ยินดีด้วยที่กูมาเจอคำถามมึง กูมีคำแนะนำจะให้
ถ้ามึงเล็งเป้าจะเขียนแบบขายวิญญาณเพื่อเงินนะ
เริ่มจากมึงกลั้นใจไถนิยายแนวตลาดอ่านให้จบ คัดเฉพาะที่แมสๆ ได้ป้ายแดง ลงทุนตรงนี้หน่อย เอาให้รู้ว่าทำไมถึงแมส อ่านไปมึงจะเริ่มจับหลักได้
แล้วมึงจะพบว่าความรักในแนวรักมันคือความรักที่โคตรกลวง ปลอมๆเปลือกๆ ไม่ได้ลึกซึ้งไรเลยมึง คนอ่านส่วนใหญ่ในแนวตลาดไม่ได้เสพความซึ้ง เค้าจ่ายเอาฟิน มึงจับจุดให้ถูกก่อน กูดูจากไลฟ์สไตล์มึงแล้ว เอาง่ายๆเลย มึงเขียนแนวแบบที่ตรงข้ามกับชีวิตมึงก็ได้ คือนอ.เป็นผู้หญิงไม่แกร่ง ต้องพึ่งผู้ชายตลอดทุกอย่าง โง่ ไม่เป็นตัวของตัวเอง และก็มีผู้ชาย(พอ. รองพอ.)มาหลงรักแบบกลวงๆ แบบที่มึงอ่านแล้วรู้สึกว่าอิห้าาาา

ถ้ามึงอ่านถึงตรงนี้แล้วสงสัยว่าทำไมต้องทรมานตัวเองแบบนี้วะ ให้วนไปอ่านบรรทัดที่สองของกูอีกที

20 Nameless Fanboi Posted ID6:F6qPEoidD4

>>19 มึงขายวิญญาณ นางเอกไม่ต้องแบบที่มึงว่าก็ได้นะ เป็นหญิงแกร่งสิ คนชอบ มึงให้นางเอกเป็นอย่างมึงว่า นอกจากตัวคนเขียนจะเหยียด นักอ่านก็เหยียด พระรองไม่ต้องจ้า มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่จำเป็นสักเท่าไหร่ เพิ่มความน่ารำคาญไปก็เท่านั้น มึงไปนะนำแบบที่คนอ่านไม่ชอบทำไม

21 Nameless Fanboi Posted ID6:499.5VL8pD

>>17 มึง...(ซุบซิบ🔞) มึง.. มอม้า-สระอา-สอเสือ-เต้อ-เบ ไหม? ถ้าไม่กูไม่มีอะไรแนะนำ //แต่ถ้าทำตอนนั้นมึงนึกถึงใคร จินตนาการสตอรี่แฟนตาซีให้ตัวเองเสวไหม? เอาตรงจุดนั้นมาเป็นวัตถุดิบในการเขียนได้ หื่นๆเสวๆอยากได้ คลั่งไคล้ ให้คนอ่านเกิดอารมณ์หลงใหลร้อนรุ่มอะ

22 Nameless Fanboi Posted ID:v08lWrDG4P

>>21 กูสงสัย ในวงเล็บคือหมายความว่าอะไรวะ แปลไม่ออก555

23 Nameless Fanboi Posted ID6:vyiEksuYw0

>>21 เอิ่ม.. เคสกูใช้ของเล่นช่วย ถ้าไม่เปิด PH ก็ใช้มังงะ/โดจิน 18+ เป็นกับข้าวน่ะ
ส่วนแนวไหนนั้น ...กูเสพย์แนวเฟอร์รี่ว่ะ ถ้าเป็นคนก็ต้องตัวใหญ่ๆ หุ่นหมีมีกล้ามส่วนใหญ่เลยลงเอยแนวฝรั่งทั้งนั้นเลย
ซึ่งนั่นก็ทำเอารสนิยมกูไม่เหมือนคนอื่นอีก โอ้ยยยย

24 Nameless Fanboi Posted ID6:vyiEksuYw0

ส่วนแนวผู้กูก็ชอบจินตนาการถึงก็ดันเป็นแนวดูภายนอกน่ากลัว แต่ภายในสุภาพอ่อนโยนแนวแด๊ดดี้อีก ซึ่งกูก็นึกไม่ออกเลยว่าจะเขียนออกมายังไงเนี่ย

25 Nameless Fanboi Posted ID:c42fcHge+5

>>24 รวมๆ จากที่มึงว่ามากุว่าได้อยุ่นะ เริ่มจากเขียนนอ.ที่นิสัยเหมือนมึงนี่แหละจะได้รีเลทง่าย มีเหตุให้โคจรไปเจอลุงหมีหน้าโหด เมาแล้ววันไนต์/เดตติ้งแอพ/รถชน/ลุงหมีหนีศัตรูตามฆ่า/ลุงหมีชวนมาแสดงละครตบตาเพราะชาตระกูลนางเอก บลาๆ หนือไม่ต้องอะไรหวือหวาแค่รักในออฟฟิศธรรมดา ลุงหมีเป็นท่านประธาน รองประธานก็ได้ ที่สำคัญคือต้องคิดว่า "ถ้ามีคนแบบนี้จริงๆ มาสนใจ เราอยากให้เขาทำอะไรกับเรา" แล้วก็ "เราอยากทำอะไรกับเขา" ไม่เคยมีความรักไม่เป็นไรแค่คิดว่าตัวเองชอบแบบไหนก็พอ สมมติชอบความใส่ใจ สุภาพบุรุษ ก็ได้ละฉากประธานลุงหมีเจอนางเอกที่ลิฟต์แต่เปิดทางให้ไปก่อน

26 Nameless Fanboi Posted ID6:21zTJ9RYbo

KY นิดนึง
กูเพิ่งเข้าวงการนักเขียน อยากลองลงสนามชญบ้าง ปกติเขาโปรโมทกันทางไหนวะ เห็นชชมีพวกแอครีวิวอยู่ แต่ชญนี่เขาเน้นทางไหนกัน มีกลุ่มหรืออะไรแนะนำมะ

27 Nameless Fanboi Posted ID6:C+jRXZhgYP

>>26 ชญ เขียนให้สนุกเหอะ แทบไม่ต้องจ้างรีวิวด้วยซ้ำ ป้าๆ ปากต่อปากกับนักอ่านในอีบุ๊คเค้าพร้อมเปย์ คำโปรยชื่อเรื่องจึ้ง แต่ถ้าจะเอาโปรโมต มึงไปเข้ากรุ๊ป นักเขียนนิยาย V2 แล้วโพสต์หาแอครับโปรโมตเอา ในทวิตชายหญิงก็รับก็มี มึงก็ลองหาตามแท็ก แต่ส่วนใหญ่กูเห็นคนขายดีก็ไม่ค่อยได้ใช้บริการอะไรพวกนี้ เก็บเงินยิงแอดตอนขายอีบุ๊คน่าจะได้ยอดกว่าแอคโปรโมตอีก

28 Nameless Fanboi Posted ID6:C+jRXZhgYP

>>26 ลืมบอกแต่สิ่งที่ทำให้ปังมากจริง คือไต่หน้าใหม่มาแรงใน รอร ให้ได้ ยิ่งมีอีบุ๊คพร้อมแล้วมึงไต่ขึ้นไปยิ่งสูงยอดยิ่งเยอะตาม

29 Nameless Fanboi Posted ID6:C+jRXZhgYP

>>26 โทษทีมือลั่นไปก่อน ขออีกเม้น มึงต้องลืมไปได้เลยว่า ชญ ไม่ใช่ตลาดที่จะเรียกร้องเอาฟรีมากเท่า ชช ทางนี้พร้อมเปย์ให้ เน้นว่าถ้านิยายถูกจริต เจ๊ๆ ป้าๆ ขาเปย์ เรื่องเดียวแสนอัพ รักษาเค้าไว้ได้ก็กินไปยาวๆ

30 Nameless Fanboi Posted ID6:21zTJ9RYbo

>>29 ขอบคุณมากๆ พยายามสำรวจตลาดอยู่ว่าคนชอบอ่านแนวไหน กูคงจะได้ขายวิญญาณ555 แต๊งมาก จะลองปรับดู

31 Nameless Fanboi Posted ID6:itcjlId.bx

>>30 เอาจริงๆ มันก็เศร้าหน่อย ที่ทางชญกำลังซื้อเยอะ แต่ต้องยอมรับว่าพวกป้าขาเปย์ชอบอ่านแต่แนวเดิมๆ เหมือนอยูู่ในเซฟโซน ซึ่งก็ไมไ่ด้ผิดอะไรนะ อาจเพราะคนที่เขียนแนวแหกแหวกมันเขียนกันไม่สนุกเท่านักเขียนที่เขียนแมสๆ แล้วเป็นเซฟโซนของพวกป้าๆ อะนะ วิธีดูก็ไปส่องหมวดท็อปนิยายรักกับโรมานซ์ในเม็ดเอาจะเห็นแนวตลาดชัดว่าอะไรฮิต

32 Nameless Fanboi Posted ID6:5ytI5/yDnY

KY บ้างพอดีเพิ่งเข้ามาอ่านแล้วเจอ >>17 มึงนี่ร่างแยกกูชัดๆ สถานการณ์เดียวกันเลย กูก็ขายไม่ออกแล้วกำลังจะศึกษาแนวตลาด แต่ไม่เคยมีความรัก
ไม่ใช่แค่นั้น กูเองก็โตมากับสภาพแวดล้อมหญิงแกร่งล้วนทั้งบ้าน ส่วนผู้ชายไม่เอาอ่าวเหมือนกันอีก 5555

จะต่างกันก็คือกูเป็นตัวผู้ว่ะ ทีนี้กูก็มานั่งคิดแล้วว่าจะทำยังไงดี มีแนวไหนที่เหมาะกับกูและสามารถเขียนได้บ้าง เพราะกูก็เขียนมาหลายปีแล้วแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จเลยซักที

33 Nameless Fanboi Posted ID:c42fcHge+5

ky ถ้าพูดว่า "ราคาแสนกลาง" มึงเข้าใจว่า 1) 130,000 - 160,000 หรือ 2) 400,000-600,000 วะ กุเข้าใจว่าอย่างแรกตลอด แต่พึ่งเคยเจอคนในชีวิตจริงเขาใช้ในความหมายแบบ 2 กุเลยงงเลย

34 Nameless Fanboi Posted ID6:21zTJ9RYbo

>>31 แต๊งมากๆ ส่องละไฟลุก 555555 ไต่หน้าใหม่รอรนี่ฝั่งชญมันยากมากมั้ยวะ เคยพยายามกับวายละโดนดันลงตลอด กลัวชญจะดันไม่ขึ้น

35 Nameless Fanboi Posted ID6:JXUE+i1k0M

>>33 กุก็เข้าใจว่า 1 แต่ถ้ามันกำกวม เลี่ยงไม่ใช้

36 Nameless Fanboi Posted ID6:JXUE+i1k0M

>>34 ยากพอกัน อาจจะยากกว่าด้วย 😅

37 Nameless Fanboi Posted ID6:JXUE+i1k0M

>>32 ถ้าขี้เกียจอ่านนิยายไทย ลองอ่านมังงะดูมั้ยหรือเว็บตูน จะได้เห็นผู้ชายแบบที่ผู้หญิงอิน โมเม้นต์ตกหลุมรักฮิตๆ อะ

38 Nameless Fanboi Posted ID6:5ytI5/yDnY

>>37 เคยอ่านพวกเว็ปตูน/การ์ตูนโชโจแหละ แต่ในสายตาผู้เหมือนกันเห็นแล้วมันขยะแขยงนำมาก่อนเลยอะสิ

สมัยก่อนเคยอ่านมังงะโชโจ Smug ก็ไม่เข้าใจนะว่านางเอกไปชอบพระเอกแบบนี้ได้ยังไง ...ชีวิตจริงก็ไม่เข้าใจว่าผญไปชอบพวกผู้ชายที่ทั้งใช้ความรุนแรง ปากเสีย กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำตัวเป็นแมงดาได้ยังไง และทนอยู่กับคนแบบนั้นไปได้ยังไง ซึ่งในสายตากูที่มองผู้หญิงในครอบครัวทำงานเลี้ยงตัวเองมาตลอด ก็ตั้งคำถามเลยว่าอะไรคือปัจจัยทำให้ไปรักคนที่ไม่ให้เกียรติผู้หญิงแบบนั้นได้?

ส่วนพวกแนวผัวโบ้ยังไม่เคยลองอ่านแฮะ ว่าจะลองหามาดูซักหน่อย
ที่กูเขียนได้แน่ๆ คือแนวยูริ ญญ เพราะมีตัวอย่างรอบตัวเยอะ จินตนาการมันเลยค่อนข้างบรรเจิด
ส่วนแนว ชช ไม่มั่นใจเท่าไร แต่คิดว่าน่าจะเขียนได้แค่ระดับ Bromance เพื่อนสนิทที่ลุยไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ถ้าให้ดูดปากกันกูก็ส่ายหน้าเพราะรับความจริงม่ายได้~
เว้นแต่ถ้าแปลงเป็นแนว Furry นี่กูว่าพอจะหนีความจริงแล้วจินตนาการเขียนได้ (ซะงั้น) 555555

39 Nameless Fanboi Posted ID:TYTc7XGscL

>>38 เพื่อนนนนนนนนนนนมึงต้องเลือกดงให้ถูกดิวะ มึงไปอยู่ดงไหนมา SMUT พระเอกดีๆ มีเยอะไป อีกอย่างคาร์แบบมึงว่า ม้นล้าแล้ว เดี๋ยวนี้พระเอกโชโจหรือสายเยส คือแทบไม่มีพวกปากหมาแล้วนะ มีก็น้อยว่ะ กูยังแทบไม่เจอพระเอกเหี้ยแบบมึงว่า ถ้าแนวรักกันแบบท็อกซิกเรียลๆ อะถึงมี แต่แบบมึงว่าไม่ให้เกียรติ ไม่ค่อยมีแล้ว

40 Nameless Fanboi Posted ID:TYTc7XGscL

>>38 กูแอบคิดแล้วนะ หรือมึงอายุเยอะ หรือมึงผิด ไปอยู่ในแนวเฮนไต ไม่ใช่ TL 5555

41 Nameless Fanboi Posted ID6:5ytI5/yDnY

>>39 กูไม่ได้ตามอ่านมานานเหมือนกัน กูอ่านสมัย อ.ชินโจ มายุ โน้นแน่ะ 55555
>>40 อันนี้กูยอมเลยเพราะกูอายุเยอะ เกินเลข 3 ไปหลายละ แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจเรื่องรักๆ อยู่ดีว่ะ

อีกอย่างกูไม่ได้อ่าน Webtoon มานานมากแล้วด้วย เรื่องสุดท้ายคือ Lookism โน้น ยิ่งพวก Male Fantasy กูยิ่งไม่แตะเลยเพราะแขยงพวกตัวเอกมาก ส่วนใหญ่กูอ่านจะเป็นแนววรรณกรรมกลางๆ คู่พระ-นาง ค่อยๆ ใช้โมเม้นท์ไปด้วยกันแล้วค่อยลงเอยกันตอนท้าย ยกตัวอย่างเรื่องที่กูชอบก็ บิเบลีย กับ ไมน์หนอนหนังสือ ที่กว่าคู่พระ-นางจะได้กันก็คือจบเรื่อง ซึ่งผลที่ได้ก็คือกูติดภาพว่าความรักคือการร่วมกันฝ่าฝันอุปสรรค์ไปด้วยกันเนี่ยสิ

42 Nameless Fanboi Posted ID6:JXUE+i1k0M

>>41 โหชินโจเก่ามาก5555 เอางี้ถ้าชอบบิเบเลีย ในเว็บตูน ขอแนะนำ ราวลมพัดกิ่งไม้แห้ง กับ ครอบครัวสามีคลั่งรัก เป็นแนวฟันฝ่ากว่าจะรัก เด็กเว็บตูนถมถุมจนน้ำลายท่วมแล้ว่าเดินเร่องช้า แต่จริงๆ ไม่ได้ช้า พล็อตเดินตลอด เพียงแต่ความสัมพันธ์พระนางคือสโลว์เบิร์น สวนมังงะ แนวเจ๊ชินโจมันตกยุกไปแล้ว ไปคุ้ยๆ ของบงกช ที่เป็นแนว ตัวละครผู้ใหญ่ คือมีแต่เรื่องดีๆ

43 Nameless Fanboi Posted ID6:idUmMKa20e

>>38 พระเอกมันก็มีหลายแนวว่ะมึง smut แบบผัวท็อกสิกก็มี ผัวงุงิมุมิก็มี ผัวธงเขียวกรีนแฟลกเยสเก่งเอวหวานก็มี แล้วแต่มึงจะเลือกอ่านอะ แต่จะเหมารวมว่าแนวเยสๆมันมีแต่ผัวท็อกสิกก็ไม่ได้ เหมือนโชโจนั่นล่ะ พระเอกหล่อๆเก่งๆเยอะแยะ เอาเรื่องล่าสุดที่กูอ่านก็ "ฉันต้องแต่งงานกับดยุคเพื่อใช้หนี้ให้ครอบครัวค่ะ" นางเอกน่ารักนุ่มฟู พระเอกหล่อเท่ไม่โง่ ลองไปหาอ่านดูนะ

44 Nameless Fanboi Posted ID6:5+9jyUP8EI

ถ้าอยากเขียนแนวมะรุมมะตุ้มรุมรักตัวเอก จะเขียนยังไงให้คนมันรู้สึกว่าตัวเอกมีดีพอที่คนจะมารักเยอะขนาดนี้วะ กูไปลองอ่านแนวฮาเร็มแล้วแม่งเหมือนโดนดีดน้ำมันพรายกันซะหมดทั้งที่ตัวเอกยังไม่ได้ทำอะไรดีๆมากมายเลยด้วยซ้ำ อยากได้แนวฮาเร็มแบบธรรมชาติอะ แต่ก็กลัวมือไม่ถึงถ้าจะเขียน

45 Nameless Fanboi Posted ID6:Zy86xepAgw

>>44 ลองไปดูงาน ชมรมรักคลับมหาสนุก ดูว่ะ เท่าที่เคยผ่านแนวฮาเร็ม มีเรื่องนี้แหละที่รู้สึกว่านางเอกไม่น่าหมั่นไส้และจิ้นกับใครก็อร่อย และถูกรัก แต่รักในที่นี้ อาจไม่ใช่ในเชิงชู้สาวไปหมดอะมึง ทุกคนรักนางเอก แต่รักในแบบเพื่อน น้อง ไรก็แล้วแต่ตัวละคร แต่คนไหนจะเทิร์นเป็นผัวก็ได้หมด เพราะนางเอกรู้สึกว่าควรถูกรัก

46 Nameless Fanboi Posted ID6:FC/BNF5ZU4

>>44 แนะนำมังงะได้ปะ เรื่องแฟนสาว 100 คนอะ ถ้าตัดความกาวไปกูว่าเขียนคาร์พระเอกได้ดีนะแบบรักและใส่ใจแฟนสาวทุกคนจริงๆ เป็นได้ทุกอย่างเพื่อเธอ ถึงแรกๆจะลิขิตรักชักนำ แต่พอหลังคบกันพระเอกยังพยายามประคองความสัมพันธ์ได้ต่อด้วยตัวเองจริงๆอะ แทบไม่มีเรื่องเซอร์วิสเกร่อๆแบบซุกนมซุกตูดไรงี้ แฟนสาวมีงอนกันทั่งแต่พระเอกก็พยายามง้อดี ใดๆคือคนเขียนเก่งด้วยละเขียนคาร์แฟนสาวแต่ละคนได้แบบเอาคุ้มเลยเนอะในเรื่องเดียว555 กูอ่านคู่แฟนสาวแต่ละคนคืองอกพล็อตในหัวต่อได้อีกสิบพล็อต555

47 Nameless Fanboi Posted ID6:WR2pBOc7gW

Kyถ้าเขียนนิยายรักปกติอยู่แต่อยากแยกนามปากกาเขียนหมวดรักผู้ใหญ่ เพื่อนโม่งว่าแบบไหนดีกว่า แยกไปเลยแบบเริ่มใหม่ไม่สามารถลิงค์กันได้ว่าเป็นคนเดียวกัน//หรือแยกแบบลิงค์กันได้

48 Nameless Fanboi Posted ID6:EcERCOe5R1

ตอนนี้ลังเลละว่าจะเอายังไงดี
เรื่องที่เขียนไปก่อนหน้าก็เขียนไปตั้ง 5 เล่มแล้ว กำลังนั่งเขียนเล่ม 6 ไปได้ครึ่งเล่ม แต่พออัพแล้วรู้สึกว่ายอดน่าจะไม่ดีถึงจะเพิ่งอัพไม่นานก็เถอะ
จะทิ้งเลยก็น่าเสียดาย แต่จะเขียนให้จบก็อีกไกล (วางไว้ราวๆ 10 เล่ม เล่มไม่หนาราวๆ 8 หมื่นคำ) ถ้าจะปั่นให้จบก็คงหมดปีโน้นเลย

ตอนนี้พยายามบอกตัวเองว่าใจเย็นก่อน ค่อยๆ ดูสถานการณ์สร้างฐานคนอ่านไปก่อน แล้วปีหน้าหลังเขียนจบแล้วค่อยเอาใหม่
แต่พอเห็นยอดน้อยแล้วรู้สึกไม่มีกำลังใจเขียนเลยแฮะ อู้งานไม่เขียนต่อมาเกือบอาทิตย์ละ 5555

49 Nameless Fanboi Posted ID6:Zy86xepAgw

>>48 5 เล่มถ้าเขียนแล้วขายไปแล้ว มึงต้องเอาให้จบ ไม่งั้นเรื่องใหม่มึงจะติดคำสาปแป้กเพราะคนที่ตามเรื่องเก่าแช่ง กูว่าลองตัดน้ำออก เอาแต่เนื้อๆ ให้จบภายในสัก 7-8 เล่ม

50 Nameless Fanboi Posted ID6:Mna4JJe.DL

>>44 ต้องเขียนแล้วทำให้เชื่อได้ว่าตัวเอกมีเสน่ห์พอที่จะทำให้คนอื่นชอบว่ะ ลองคิดภาพก็ได้ว่าถ้าเป็นมึงอยากจะไปทำความรู้จัก อยากเป็นเพื่อนกับคนคนนี้มั้ย ฮาเร็มแบบธรรมชาติคือตัวเอกมีคาริสม่าที่ยิ่งใหญ่พอให้คนมารายล้อมติดตาม ไม่ต้องเป็นผู้นำหรือออร่าแรงๆอะไรก็ได้ แค่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ สนุก จริงใจ ตรงไปตรงมา นิสัยดี ทัศนคติดี น่าคบหา แต่บุคลิกกับนิสัยก็ต้องดึงดูดด้วย ถ้าเขียนตัวละครมีเสน่ห์ให้คนชอบได้ คนอ่านก็เชื่อว่าตัวละครทั้งหลายจะสามารถรักคนคนนี้ได้

ไอ้พวกฮาเร็มหัวหลากสีมันจับยัดเกินไป ตัวเอกนิสัยห่วยๆ loser แต่มีตัวท็อปมารุมรักนี่มันเอาไว้ self insert อย่างเดียวไง แทนตัวเองเป็นตัวเอก กูนิสัยขี้แพ้ขนาดนี้ก็ยังมีคนโปรไฟล์เริ่ดๆมารัก มันเลยขัดแย้งกับความเป็นจริงว่าคนไม่มีอะไรดีเลยถึงได้เทวดานางฟ้ามาชอบมันจะเป็นไปได้ไง มันก็ต้องมีอะไรเป็นจุดชวนหลงใหลบ้าง หล่อแต่นิสัยห่วยมันก็มีหน้าตาหล่อๆให้ชอบ ไม่หล่อนิสัยห่วยแต่รวย ชอบที่เงินก็ได้ แต่ถ้าไม่หล่อไม่รวย ต้องคารมดี นิสัยดี บุคลิกดีคนถึงชอบ สรุปคือต้องมีอะไรดีๆดึงดูดด้วย แต่ฮาเร็มส่วนใหญ่แม่งเล่นเขียนให้กากหมดทุกสกิล หน้าตาห่วย นิสัยห่วย ไม่รวย ทัศนคติแย่ คนพรรค์นี้มันจะมีคนชอบได้ไงวะ ข้อดีมีแค่ให้พวกขี้แพ้อ่านแล้วปลอบใจตัวเองว่าซักวันตัวเองก็จะเนื้อหอมแบบตัวเอกนี่ล่ะ

51 Nameless Fanboi Posted ID6:ZTVxNI0TPO

>>47 ขึ้นอยู่กับว่าเขียนผู้ใหญ่แบบไหน ของกูคือแนวที่โม่งยี้เลย มีเสียงพรั่บๆตรั่บๆ ซี้ดด พร้อมคำหยาบที่ใช้เรียกน้องโจ้ยและจุ๋มจิ๋ม กูเลยแยกอีเมลไปเลย5555 เพราะอีกแอคที่เขียนคือไม่มีเสียงตอกเสาเข็ม ไม่มีใครกระพือปีก พระนางแสนสุภาพใส่กัน ถ้าเป็นกรณีแบบกูอะแนะนำให้แยก แต่ถ้าแนวผู้ใหญ่ที่มึงเขียนยังมีความภาษาสวย พล็อตไม่ต่างจากนปก.อีกอันมากนัก จะไม่แยกก็ได้นะ เผลอๆ

52 Nameless Fanboi Posted ID6:ZTVxNI0TPO

>>51 ต่อ เผลอๆได้ฐานแฟนคลับเพิ่มอีกต่างหาก

53 Nameless Fanboi Posted ID6:ECsDGPpKHb

ky ขอปรึกษาระหว่าง พอ ที่ขรึม เงียบ ๆ พูดน้อยต่อยหนักกับ ผช ที่บุคลิกตรงกันข้าม คนอ่านจะชอบแบบไหนกว่ากันเหรอ

54 Nameless Fanboi Posted ID6:bTim75W3km

>>53 ชอบหมด ถ้านักเขียนมีกึ๋นพอจะดึงเสน่ห์ ของคาร์ที่เขียนออกมา จะหนุ่มขรึมหรือร่าเริง และ นิยายต้องสนุกจ้า ถึงจะส่งให้ชอบ

55 Nameless Fanboi Posted ID6:ECsDGPpKHb

>>54 ขอบคุณจ้า เคยเขียนแบบแรกนานแล้ว แต่ไม่ปัง อาจจะเพราะเสน่ห์ไม่สุด

56 Nameless Fanboi Posted ID6:lDPFmo37LM

>>53 กูเคยคิดว่ากูชอบขรึมๆเงียบๆพูดน้อยต่อยหนักมาตลอดแต่พอไปเจอเรื่องนึง พระเอกสดใสลัลล้าพูดคนเดียวพูดไปเรื่อยยาวเป็นหน้าๆเพราะ นางเอกพูดน้อยฮีเลยพูดแทน ดันชอบว่ะ อยู่ที่นข.จริงๆว่าจะดึงเสน่ห์ตัวละครออกมาให้เห็นได้ไหม

57 Nameless Fanboi Posted ID:v2BuCvOGc8

>>56 เรื่องอะไรป้ายยาหน่อย

58 Nameless Fanboi Posted ID:ZuDdvhArKM

ky ไม่รู้จะถามมู้ไหน กุจะป้ายยานิยายลงติ๊กต็อกละอยากใส่เพลง (อาจจะ ver. remix) ในคลิปด้วย งี้ผิดลิขสิทธิ์ไหมอะ หรือเขาหยวนๆให้ ;-;

59 Nameless Fanboi Posted ID6:Lh+hst+/cK

>>58 ใช้เพลงในต๊อก ไม่ผิด

60 Nameless Fanboi Posted ID6:OWp/lS+Vtu

>>56 ตามด้วยยยยย

61 Nameless Fanboi Posted ID6:lDPFmo37LM

>>57 >>60 เรื่องปกส้มๆที่เรตติ้ง1.8kเยอะสุดของเดอะแกะอะ พระเอกพูดมากกกกพูดไปเรื่อย กูเดาว่าน่าจะไม่ใช่สไตล์โม่งนะ

62 Nameless Fanboi Posted ID6:VJCzx6BLpO

Kyขอถามนักเขียนที่มีเพจ ถ้าตั้งเพจนามปากกา แล้วคนที่ติดตามเพจจะรู้ไหมว่าใครตั้ง มันจะลิงค์กับเฟซบุ๊คของคนตั้งไหม คือกูไม่อยากให้เพื่อนในเฟซรู้ว่าเขียนนิยายน่ะ//ขอบคุณคำตอบล่วงหน้า

63 Nameless Fanboi Posted ID6:lRrDfQu062

>>62 ไม่รู้ แต่เพื่อความชัวร์ของกู กูอวตารใหม่ แล้วค่อยตั้งเพจว่ะ เผื่อมี นข.อยากเมคเฟรนด์ กูจะไม่เอาไปปนกับเฟสจริง

64 Nameless Fanboi Posted ID6:OJnFgZd38W

>>62 ไม่รู้ แต่มันจะมีปุ่มโปรโมทว่าอยากบอกเพื่อนให้มาไลค์เพจเธอมั้ยจ๊ะเด้งมากวนตลอด จนมึงจะแพนิคว่าสักวันกูต้องเผลอกดอิปุ่มนี้แล้วเชิญชวนรุ่นพี่รุ่นน้องมากดไลค์เพจนิยายเราแน่ๆ กูยังเป็นอยู่ทุกวันเลยมึง แพนิคจัด เลยอยากแนะนำเหมือน >>63 สร้างเฟสใหม่อะไรใหม่ไปเลยแล้วค่อยเพิ่มเพจจากเฟสนั้น ลำบากหน่อยแต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องมากังวล ส่วนกูสร้างใหม่ไม่ได้ละ เสียดายยอดไลค์

65 Nameless Fanboi Posted ID6:4f52YYIfMW

ท้อใจแฮะ คือหมวดแฟนตาซีมันไม่มีคนอ่านจริงๆ แบบจริงจัง
ขนาดเมื่อวานเริ่มลงใหม่ใน รอร อัพตอนใหม่ทุกครึ่งชั่วโมงไป 20+ ตอน น่าจะเด้งขึ้นหน้าแรกร่วม 12 ชั่วโมงได้ สรุปจบวันที่คนอ่านหลักสิบ ถถถถถถ

ถึงปกติกูจะเขียนเพราะเป็นงานอดิเรกก็เถอะ แต่เล่นไม่มียอดเลยแบบนี้ก็หมดแรงเขียนแฮะ
รอดูสิว่าหลังจากนี้อัพวันละ 2-3 ตอนจนถึงจบเล่มแล้วจะได้ยอดซักเท่าไร กูเดาว่าต่ำกว่า 1000 แหง

66 Nameless Fanboi Posted ID6:O5EMf3wBZ6

>>65 คือตอนนี้ยัคแฟนตาซีในไทยกระแสมันแผ่วแล้วไง ขนาดดด.ที่ว่าแน่ยังแผ่วลงอะ กระแสมันเทไปแนวจีนโบมากกว่าซึ่งแฟนตาซีกระจึ๋งนึงแบบย้อนเวลาทะลุมิติแหละ แต่พ้อยหลักจะมาแนวโรแมนแฟนตาซีมากกว่า ไอ้แฟนตาซีแบบรร.เวทมนตร์ ปราบจอมมาร สู้กันกู้โลก มันเอ้าท์แล้วมึง จะเขียนต่อเพราะใจรักอะก็เขียนไป แต่ถ้าเขียนเพื่อหวังยอดใช้หาแดกก็ทำใจ

67 Nameless Fanboi Posted ID6:sDBsvyX00N

>>65 ในรอรอัพบ่อยๆ แล้วมันจะเด้งขึ้นหน้าแรกตรงไหนวะ กูหาหน้านิยานอัพเดทใหม่ของมันไม่เจอเลยว่ะ

68 Nameless Fanboi Posted ID6:4f52YYIfMW

>>67 ใช่กูก็ลองเข้าไปดูแล้ว มันก็ไม่เห็นมีเลย
แต่กลับถูกดันไปอยู่พวกมาใหม่จืดๆ ชืดๆ

69 Nameless Fanboi Posted ID6:4f52YYIfMW

>>66 ปัญหาคือกูเขียนแนวปลูกผักสร้างตัวแบบที่นิยมไง เทมเพลตแบบเดียวกับพวกนิยายปลูกผักเลย แต่แค่ของกูไม่ใช่ธีมนิยายจีน และอัพลงที่หมวดแฟนตาซีแค่นั้น

คือถ้านิยายกูห่วยไม่สนุกคนเลยไม่อ่านอะไรทำนองนี้กูพอยอมรับได้นะ แต่นี่คือเหมือนอยู่ในหมวดที่ไม่มีคนอ่านเลย ขนาดลอยอยู่หน้าแรกตั้งนานยังไม่มีคนคลิกเข้ามานี่ กูก็เริ่มคิดละว่าปัจจัยมาจากตัวนิยายกู หรือมาจากหมวดที่ร้างอยู่แล้วกันแน่

กลับกันพอลองไปดูเรื่องอื่นที่อัพในหมวดรัก ไม่ก็ BL ซึ่งในเรื่องเป็นแนวแฟนตาซีจ๋าๆ แทบไม่มีเนื้อหาความรัก หรือความวายเลย แต่กลับได้ยอดคนอ่านเป็นหมื่นเป็นแสนนี่ ก็ทำเอากูคิดแล้วว่าเดินหมากพลาดไปแล้วรึเปล่าที่ลงหมวดนั้น

70 Nameless Fanboi Posted ID6:4f52YYIfMW

ว่าไปนี่คือถ้าอยากอยู่รอด กูต้องเขียนธีมจีน + หลอกว่าเป็นแนวรักจริงๆ สินะ
ถึงจะวางพล็อตเอาไว้บ้างแล้วก็เถอะ แต่ก็เสียดายเรื่องที่เขียนมาตั้งนานนี่ล่ะ ...แถมปกยังแพงอีก เฮ้อออ

71 Nameless Fanboi Posted ID:pxo4do3C3x

พูดได้มั้ย กุว่ายุคนี้คนมันไม่ค่อยอ่านนิยายเว็บของนข.ใหม่ๆ อะ 5555 แบบว่าโอกาสลืมตาอ้าปากมันน้อย ถ้าเทียบกับสมัยก่อนที่มีนข.น้อย คนอ่านเยอะ (ตอนนี้คือนข.เยอะชิบหาย แต่คนอ่านน้อย 5555) ถ้าเป็นสมัยก่อนอาจจะปังได้ง่ายกว่านี้ คงเพราะมีอะไรให้ทำเยอะขึ้นมั้ง นักอ่านรุ่นก่อนก็โต ๆ กัน ทำงานไม่มีเวลาอ่าน เด็กยุคนี้ก็ผันตัวเป็นสายวาวกันหมด ไม่งั้นก็ขายได้แต่งานตลาด งานหลากหลายนิช ๆ ไม่ค่อยได้แสงหรอก ทำใจ

72 Nameless Fanboi Posted ID6:4f52YYIfMW

>>71 เข้าใจเลย หลานกูอายุ 15 แม่งก็เข้าสายวายตั้งแต่ตอนอายุ 10 เศษๆ ฮืออออ
กูลองกด tag แฟนตาซีใน รอร แล้วพบว่าแม่งเกือบทั้งหมดไปหมกอยู่ในหมวด BL กันสิ้นเลย มีหลุดมาเป็นหมวดจีนโบราณนิดหน่อย แต่ 80% ได้นี่คืออยู่หมวด BL หมด

เฮ้ออออ สงสัยต่อต้านไม่ได้ก็คงต้องเข้าร่วมละมั้งเนี่ย

73 Nameless Fanboi Posted ID6:kp6Dbxp850

คือกุว่าที่เทรนด์เปลี่ยนเพราะการเข้ามาของนิยายแปลจีนอะ ทำให้นิยายแนวแฟนตาซีแปลจากตะวันตกยอดซบเซามากขนาดนักเขียนฝรั่งดังๆได้รางวัลยังขายดีสู้แปลจีนในไทยไม่ได้ แถมนิยายแปลจีนมันก็มีแทบทุกอย่างเลย ปลูกผัก/สร้างตัว กำลังภายใน แก้ประวัติศาสตร์ การเมือง ระบบ วงการบันเทิง ทำเกม/vr โลกออนไลน์ สตรีมมิ่ง แนวไซไฟต่างดาว/สายพันธุ์ เซตติ้งตะวันตก หรือขนาดคธูลูยังมี จากที่กูส่องกลุ่มนิยายแปลนะ ส่วนมากอ่านแนวแฟนตาซีกันแต่กลุ่มนี้จะไม่อ่านงานนักเขียนไทยแนวแฟนตาซี ถ้าอ่านก็เป็นส่วนน้อย(กลุ่มนักอ่านชาย) ถ้ามึงอยาหขายได้ต้องจับกลุ่มนักอ่านหญิงที่เป็นโรแมนซ์+แฟนตาซีเท่านั้น ถ้าไม่อยากเซตติ้งจีนก็ต้องเซตติ้งตะวันตกไปเลยแบบนิยายแปลเกาหลีแฟนตาซีที่ขายนักอ่านผู้หญิงอะ

74 Nameless Fanboi Posted ID6:lRrDfQu062

>>70 หลอกว่าแนวรัก ? เรื่องหน้ามึงก็ไม่เกิดอีกแน่ นอ.โดนหลอก เข็ด

75 Nameless Fanboi Posted ID6:mHMCtSpLVQ

>>73 ก็เคยรู้อยู่นะว่ายังไงก็ต้องจับกลุ่มนักอ่านหญิง

แต่ที่คาดไม่ถึงเลยคือไม่อ่านนิยายคนไทยเขียนนี่ล่ะ
สรุปถ้าจะยืนแนวแฟนตาซีปกติ ยังไงก็ต้องเขียนแข่งกับนิยายแปลซึ่งไม่น่ามีทางชนะอยู่แล้ว

76 Nameless Fanboi Posted ID6:kp6Dbxp850

>>75 กลุ่มนักอ่านชายที่อ่านแปลแฟนตาซีกูว่าเผลอๆกลุ่มเดียวกับที่เคยทำให้ ดด บูมด้วยแนวหลุดไปเกมโลกออนไลน์เสมือนจริงอะ แต่ตอนนี้อีโวเป็นไม่อ่านแฟนตาซีไทยแล้ว

77 Nameless Fanboi Posted ID6:rHofX4cFv9

>>76 ก็มีเค้าโครงอยู่ เพราะเรื่องเก่ากูก็เขียนยุคนั้นคนอ่านหลักแสนเลย ขนาดเขียนไม่จบนะ
แต่พอกลับมาเขียนใหม่ในรอบหลายปีเหมือนคนพวกนี้หายหมดไม่เหลือเลย ทุกวันนี้ใน กดดูยอดวิวยังไม่ถึง 500 เลย

ว่าแต่ไหนๆ แล้วก็ขอถามเป็นข้อมูลหน่อย พวกหมวด BL นี่เขาคาดหวังอะไรในเรื่องกันบ้างวะ? กูว่ากูได้ไอเดียใหม่ไว้เขียนละเนี่ย

78 Nameless Fanboi Posted ID6:LcVCHJEvtE

มึง ถ้ากูแต่งแนวพีเรียดสมัยที่อายุ16-17ก็แต่งงานละ นางเอกกู17ย่าง18 พระเอก23 แล้วมีฉอดมาฉอดนี่ทำไงดีวะ นางบอกทำไมไม่เพิ่มอายุอีกปีสองปี เพิ่มแค่นี้ไม่ได้มีผลกระทบอะไรหรอก แต่กูว่าถ้าเพิ่มนางเอกกูมันจะเป็นพวกขายไม่ออกยุคนั้นนะ

79 Nameless Fanboi Posted ID6:DidOP/Vfmn

>>78 ก็อธิบายไปตามนี้แหละ อายุเพิ่มไม่ได้มีผลกับเนื้อเรื่องก็จริง แต่มันมีผลกับรายละเอียดที่ตัวละครอื่นๆจะมองนางเอก มันจะกลายเป็นประเด็นรองขึ้นมารบกวนบลาๆก็ว่าไป

80 Nameless Fanboi Posted ID6:VJCzx6BLpO

>>78 ถ้าขยับอายุ ในยุคนั้นคือเป็นสาวเทื้อเลย มึงเขียนไว้ในคำนำนข.หรือหมายเหตุก็ได้ เผื่อมีใครหลงมาอีก

81 Nameless Fanboi Posted ID6:z2TXs/cRIc

Kyถ้ากูเป็นนักเขียนที่เผลอโพสต์หรือทำอะไรบ้งๆไปด้วยความคึกคะนองแล้วเพิ่งมารู้ตัวว่าแบบนี้มันไม่ควรทำ มันเสร่อ และรู้สึกผิด กูควรทำไงดี
-ไปให้สุด แล้วหยุดที่ศาล
-ขอโทษสังคม ขอโอกาส
-ลบทำลายหลักฐานเท่าที่จะทำได้ เก็บโทรศัพท์ไว้ไกลๆตัว
-หนีไปชุบตัวเปลี่ยนนามปากกา
-ปล่อยวาง

82 Nameless Fanboi Posted ID:chokhO2wLx

>>81 นิ่งๆไว้ แต่ถ้ามีคนทักหรือหยิบยกขึ้นมาก็ยอมรับไปตรงๆว่าตอนนั้นทำผิดไป คิดผิดไป มันจะสื่อถึงการพัฒนามากกว่า

83 Nameless Fanboi Posted ID:RV6TJBu2Gv

>>81 มึงลองไปศึกษากรณีนข. JSL เก่าก็ได้ ก่อนเคยเหยียดทอมดี้ไว้ พอมีคนขุดก็ขอโทษไปแก้ไขไรไป ทุกวันนี้นานๆทีก็ยังมีคนขุดมาเหมือนไม่เคยเห็นกัน นข.ก็วางตัวคูลๆเย็นๆขอโทษไรไป

84 Nameless Fanboi Posted ID6:r0uLFblB0H

KY หน่อยโม่งเอ๋ย ขอปรึกษาเรื่องที่กำลังเขียนหน่อย

ถ้าสมมุติว่ากำหนดให้ฝั่งพระเอกมีแฟนอยู่แล้ว แต่อยู่มาวันหนึ่งบังเอิญได้อยู่ตามลำพังกับแฟนของเพื่อนสนิท และนางอ่อยให้ท่าเต็มที่จนเกือบถอดแล้ว แต่พระเอกปฏิเสธเพราะมีนางเอกอยู่แล้ว + ไม่อยาก NTR เพื่อนสนิท ในสายตาคนอ่านพวกมึงจะมองพระเอกเป็นคนยังไงกันวะ?

กูเขียนโดยตั้งใจให้พระเอกมันรักเดียวใจเดียว ส่วนฝั่งแฟนเพื่อนก็แค่หยอกเล่นลองใจ
แต่เพราะกูอยู่ในสังคม Hentai มานาน ถ้าพระเอกแบบนี้มักจะมีคอมเม้นท์ประมาทว่า โง่บ้าง ใจตุ๊ดบ้างออกมาเสมอเลยว่ะ

หลักๆ กูแค่อยากได้ฉากสีสันสลับคู่ขำๆ แต่อยากมาถามก่อนเพื่อความชัวร์จะได้แก้ทันว่ะ

85 Nameless Fanboi Posted ID6:r0uLFblB0H

>>84 ลืมบอก สาเหตุที่ตัวแฟนเพื่อนลองอ่อย เพราะได้ยินนางเอกพูดว่าบนเตียงพระเอกโคตรดุ อะไรทำนองนั้นอะ

86 Nameless Fanboi Posted ID6:lSvPjfn7gS

>>84 เกือบถอด คือพระเอกเกือบถอดเสื้อผ้าตัวเองใช่มั้ย แค่นี้ก็หมดสง่าราศีพระเอกแล้ว การบอกว่าห้ามใจได้ ไม่ช่วยอะไรเลยมึง กราฟความชอบพระเอก หักลงหัวทิ่ม

87 Nameless Fanboi Posted ID6:z2TXs/cRIc

>>84 เป็นพระเอกคนดีใช้ได้เลย รักเดียวใจเดียวมองแต่นางเอกคนเดียวเป็นสิ่งที่คนอ่านอย่างกูคาดหวังจากพระเอกดีๆสักคน
ส่วนแฟนเพื่อนคนนั้น🦏ในทุกกรณี ถึงจะหยอกขำๆลองเชิงยังไงก็จะโดนรุมสาป รุมเหม็น โทษฐานตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้วยังมาอ่อยพระเอกที่มีแฟนอีก

88 Nameless Fanboi Posted ID6:lSvPjfn7gS

>>84 ลืมประเด็นเฮนไต มึงอย่าเอาตรรกะที่ต้องถอดสมองทิ้งก่อนอ่านเฮนไต มาใช้กับนิยายรัก/โรมานซ์จ้า

89 Nameless Fanboi Posted ID:XBllh.n4y1

>>84 อีเพื่อนคู่รอง? นักอ่านไม่ขำกับมึงแน่

90 Nameless Fanboi Posted ID:zLbvpaqMtr

>>84 มองติดลบเหมือน >>86 เพราะเกือบถอดคือเริ่มลังเลละ ของจริงแม่งต้องไม่เอาอะไรทั้งสิ้นและจะมองอีผญ.ว่าดอกด้วย ถ้ามึงจะลงแนวโรแมนซ์ปกติก็เตรียมใจโดนด่าได้ (กูคนนึงล่ะถ้าเจอกุด่าแน่ 5555) หมวดรักเฮนไตของมึงฐานคนอ่านมันผู้ชาย-ชายแทร้ว่ะ จะด่าว่าพระเอกโง่ก็ไม่แปลก (ซึ่งกูก็อยากด่าอีนักอ่านชายแทร้พวกนี้เหมือนกันแหละ 🙄 5555) แต่ถ้ามาแนวรักมึงโดนนักอ่านผญ.ด่ายับนะ บอกเลย

91 Nameless Fanboi Posted ID6:.L9aDjnT/G

นี่ล่ะความเห็นที่ต้องการ
แสดงว่าแบบนี้กูควรเขียนแก้ฝ่ายหญิงสินะ
ที่ถามเพราะอย่าง >>90 บอกนั่นล่ะ แม่งมานึกๆ ดูแล้วพล็อตมันดูชายแท้เกิ้น

สงสัยมุกพระรอง BBC ขนาด 30cm คงต้องโยนลงถัง กะว่าจะให้นางคู่รองมาเกทับผัวให้พระเอกฟังซักหน่อย

92 Nameless Fanboi Posted ID6:.L9aDjnT/G

ลืมบอกว่าเกือบถอดนั้นคือฝ่ายหญิงน่ะ กำลังจะล้วงเป้าพระเอกละ แต่ในเรื่องให้พระเอกปัดมือทิ้งตลอด

93 Nameless Fanboi Posted ID:zLbvpaqMtr

>>92 อ่อ โอเคร ๆ กุนึกว่าพระเอกถอด 5555 งั้นถ้าพระเอกมั่นคงไม่โลเลสักนิดก็ถือว่าสอบผ่าน ส่วนชีคนอ่อยก็โดนด่าอยู่ละล่ะ เล่นไรไม่รู้เรื่อง 55555 ถ้าเป็นคู่รองคนคงไม่ชอบนะ ลองปรับดู //ว่าแต่ bbc คือไรวะเพื่อน

94 Nameless Fanboi Posted ID6:r0uLFblB0H

>>93 ไก่ยักษ์สีดำ Big Black C0ck
โอเคกูลบเรื่องนางรองยั่วออกไปละ ตัดไปเป็นแค่พระเอกสังเกตเห็นแล้วตัดบทบอกไม่เอาไปเลยน่าจะดีกว่า

95 Nameless Fanboi Posted ID6:QjoleY/99c

ลักษณะถามอะไรแปลกๆ นี่เหมือนโทรล นางเอกซิง โทรลนางเอกรูปร่างแบบเด็ก ให้พระเอกเย้ได้มุ้ยเลย

96 Nameless Fanboi Posted ID:x6QMkgghCT

Ky มึงงงงงงง ขอปรึกษาหน่อยมันอาจจะฟังดูงี่เง่านิดๆนะ คือกูวาดแฟนอาร์ตให้ไรท์เตอร์คนนึง กูก็แท็กทวิตเขานะ แต่เขาแค่กดหัวใจเฉยๆไม่หือไม่อือ แล้วกูรู้สึกเฟลและนอยมากมึง กูตั้งใจวาดนะเนี่ยแต่ทำไมรีแอคแค่นี้ เลยอยากถามในมุมมองนักเขียนอย่างพวกมึงว่า คิดยังไงกับแฟนอาร์ตที่วาดให้มึง หรือมึงในฐานะไรท์เตอร์ที่ไม่รีแอคอะไรเพราะมีเหตุผลอะไรวะ

97 Nameless Fanboi Posted ID6:KprSt81qGB

>>96 ไม่เคยได้เลย ถ้าได้คงดีใจตรัยเลยอะ

98 Nameless Fanboi Posted ID6:FLpOHghh1R

>>96 กูเคยประสบเหตุคล้ายมึง
กูรีวิวนิยายเค้าชื่นชมด้วยความรักมากมาย และตั้งใจถ่ายหนังสืออย่างสวย ทำcanva ให้กับนิยายเขาแต่เขา มากดหัวใจแล้วไปไม่หือไม่อือไม่ถามสุขภาพอะไรใดๆสักคำ กูก็นึกว่าเป็นนิสัยติสต์ๆ ไม่ว่ากัน
แต่....ไม่กี่วันกูไถเจอเขาไปคุยเวิ่นเว้อหยอกล้อต่อกระซิกขอบคุณพวกแก๊งรีวิว ให้สแตนดี้นิยายเรื่องนั้นกันด้วย แต่กับกูที่นูกูเขาไม่คุยเว้ย กูนอยและเฟลมากกกก ทำไมต้องเลือกปฏิบัติ ช้ำใจมากก ...คำตอบที่กูให้มึงได้คือทำใจเว้ย นักเขียนไม่เหมือนกัน ทำให้เค้าแล้วก็เผื่อใจรับผลตอบรับด้วยว่าเขาจะเย็นชาใส่
กูนี่ถึงขั้นตามลบรีวิวประโยคที่เคยบอกว่ารักนักเขียนทิ้ง กดเลิกติดตามในเมb แล้วเลียแผลใจเงียบๆอะ

99 Nameless Fanboi Posted ID:x6QMkgghCT

>>97 ขอให้ได้นะมึง//ลูบหัว
>>98 เออๆแบบนี้เลยมึงงงงงง ไม่อยากโทษเขาเลยแต่มันก็อดน้อยใจไม่ได้ กูไม่ได้ไล่ลบเม้นหรือรีวิวเหมือนมึงเพราะกูยังตามอ่านอยู่ แต่กูชี้จอแล้วด่า(คนเดียวในห้อง)ระบายไฟในอก ทำไมวะ เห็นนักอ่านเป็นของตายรึไง ถ้าไม่มีนักอ่านมึงจะอยู่ได้ถึงตอนนี้มั้ยยยย?? สุดท้ายก็ได้แต่เลียแผลใจเงียบๆ ไม่ยึดติดอะไรกับนักเขียนอะไรแล้ว คือแล้วแต่มึงเลยครับไอ้คุณไร้เต้อ

100 Nameless Fanboi Posted ID:/8.hnM9wbb

ky ปรึกษาหน่อยเพื่อน พอดีกุจะเขียนแนวหลัวชั่งกลับใจ ลังเลว่าจะให้มีพระรองแสนดีดีมั้ย คือกุอยากให้อีพระเอกมันหึงมันเฮิร์ต 55555 + อยากให้นางเอกเจอคนดี ๆ ในชีวิตบ้าง แต่ใจนึงก็สงสารพระรองที่สุดท้ายต้องนกอะ เอาไงดีวะ 5555 ถ้าปรับให้เป็นพระรองไม่ได้ชอบนางเอก แค่ใจดีเฉย ๆ (แต่อาจจะเคมีดีหน่อย 55) นักอ่านเขาจะจิ้นมั้ยวะ ทีมผัวที่ดีคือผัวใหม่อาจจะปาหินใส่กูที่ให้นางเอกกลับไปกินอ้วกมะ 555555555

101 Nameless Fanboi Posted ID6:KprSt81qGB

>>100 กูชอบแบบ พระรองแค่ใจดีเฉยๆ แต่ถ้ามึงอยากจะให้ชอบก็โอเค เรื่องหน้าก็ขยับพระรองเป็นพระเอก นี่แหละสิ่งที่นักอ่านต้องการ ถ้ามึงจะใส่พระรองลงไป แต่ถ้ามาเวย๋ ยิ่งแบบพระรองไม่ได้คิดอะไร แต่แกล้งพระเอก กูยิ่งชอบว่ะ555 เรื่องหน้าก็ขอสาวน่ารักๆ ให้ฮี มึงจะได้ยอดซื้อกลุ่มหนึ่งมาไว้ในมือแล้วแน่นอน

102 Nameless Fanboi Posted ID6:LZo1s2muTC

>>100 มึงแก้เป็นพระรองแอบชอบพระเอกไปเด่ะ ชวนลุ้นกว่าอีก 555555555555555555

103 Nameless Fanboi Posted ID:cpD51CKMUI

>>102 กูไม่ใช่100 แต่อยากถาม ถ้าเขียนดีเกิน คนชอบเยอะ นักอ่านสายชายหญิง หวังว่าจะมีเล่มแยกของพระรอง มึงจะอ้อนวอนเค้ายังไงให้มาอ่านเรื่องพระรอง หรือให้เป็นไบดี

104 Nameless Fanboi Posted ID6://WQMku2c/

>>100 ถ้ามาแนวนี้นะ สำหรับกูพระรองคือตัวที่สร้างสถานการณ์เพื่อให้พระเอกสามารถเข้าถึงนางเอกได้ทุกสถานการณ์ว่ะ 555 อารมณ์ประมาณพล็อตอาเมอร์ที่คนเขียนอยากจะเอาใส่เข้าไป

ยกตัวอย่าง พระเอกติดงาน แต่นางเอกเข้าโรงพยาบาล ก็จะเอาพระรองนี่ล่ะมาบอกว่า "แกไปดูอาการนางเถอะ เรื่องงานฉันเคลียร์กับบอสให้เอง"
หรือจะเอามากกว่านั้นก็ นางเอกกำลังไปขึ้นเครื่องบิน แต่พระเอกรถพังคงตามไปไม่ทัน พระรองก็จะโผล่มาพร้อมรถซิ่งว่า "ขึ้นมาเร็ว! เดี๋ยวพาไปส่ง!"
ระหว่างนั้นก็อาจจะให้มีคู่ของตัวเอง ที่มาแบบนิ่งๆ เงียบๆ แต่อัดหมัดฮุกเข้าอย่างจัง เช่นที่จริงพระรองชอบเพื่อนนางเอกอะไรทำนองนั้นแต่ตลอดทั้งเรื่อง

ส่วนเรื่องที่กูเขียนอยู่ คู่พระรองแม่งคือพระนางอีกคู่เลย แค่จะไปมีบทเด่นตอน Side story แทน

105 Nameless Fanboi Posted ID6:sHsX3IBkY0

>>101 กูก็ชอบพระรองสายแกล้งพระเอก ยิ่งพวกเตี๊ยมกับนางเอกไว้เพื่อมาแกล้งทำให้พระเอกหึง แต่ไม่ได้ชอบนางเอกนะ เห็นเป็นว่าที่เมียเพื่อนเลยอยากเชียร์ กูยิ่งชอบ55555

106 Nameless Fanboi Posted ID6:ZrXEkl4M7b

กุสงสัยอะ กุจำได้เคยเห็นโม่งสักที่มันมาบอกว่า
xter เคยไปใช่บริการกับเด็กอายุต่ำกว่า 18
พอข่าวฉาวเลยซุบตัวเองเป็นนักวาดแนว Milf เพื่อหนีความจริงว่าเคยใช่บริการเด็ก

มันไปเอาข่าวนี้มาจากไหนวะ?

107 Nameless Fanboi Posted ID6:ExvyTmWM8z

>>103 ถ้ามึงเขียนได้น่าสนใจ น่าสงสาร รักไม่สมหวัง มึงก็แยกมาเขียนเป็นแนววายไปเลยแค่นั้นเอง หรือให้พระรองมันเป็นไบก็ได้ อกหักจากพระเอก เจอสาวที่เข้าใจก็มูฟออนไป กรุยๆทางไว้หน่อยก็ได้ว่าจะเจอใครต่อจากนี้ แล้วก็แยกไปเขียนอีกเล่มให้เขาเจอคนของเขา

มึงเคยอ่าน koi to uso ป่ะ ในเรื่องนี้พระรองแอบชอบพระเอก ถึงไม่มีลุ้น แต่สตอรี่พระรองก็ทำให้เชียร์ได้ คนแอบรักข้างเดียวที่ทำตัวไม่งี่เง่ามันเชียร์ง่ายอยู่นะเว้ย 5555555

108 Nameless Fanboi Posted ID:/8.hnM9wbb

ขอบใจทุกคนมาก กุได้ข้อสรุปละ คงให้บทเป็นตัวเร่งหึงเฉย ๆ แหละ ไม่ได้ชอบใคร ถ้าผลตอบรับดีอาจจะให้มีเรื่องแยกทีหลัง ให้หักมุมแอบชอบพระเอกคงไม่ไหว เพราะลูกกุสันดานส้นตีนมาก ไม่น่าพิศวาส 555555 ยังไงขอบใจมาก เริ้บ ๆ

109 Nameless Fanboi Posted ID6:VeRwNayNCC

ky กูแยกนปก.เรื่องเสียวปั่กๆกับโรมานซ์ไว้ แยกแบบแยกเมลตอนสมัครรี้ดกะเม้ดเลย ไม่มีอะไรให้เชื่อมโยงกันแน่นอน แต่พอพล็อตจะหมดมันก็อยากเอาเรื่องสั้นเสวๆมาเขียนให้ยาวขึ้น จริงจังขึ้น เอาเหตุการณ์เดิมเป็นเรื่องใหม่ด้วยสำนวนแบบนปก.หลักว่ะ (นปก.เสวเขียนสำนวนหยาบหน่อย) กุทำได้มั้ยวะ เหมือนก๊อปนิยายตัวเองเลยอะ555 แต่คิดว่าได้มั้ยนะ เหมือนนข.บางคนที่เขียน version ชญกับชชด้วยพล็อตเดียวกัน กลัวจะต้องมาเตรียมร่างอธิบายถ้าเกิดมีคนเข้าใจผิดว่าก๊อปนี่แหละว่าเป็นคนเดียวกัน แต่กูก็ชอบเรื่องสั้นเสวๆมากเพราะมันต่อยอดได้

110 Nameless Fanboi Posted ID:1wq24yYwvz

>>109 มึงจะซีเรียสมั้ยละถ้าโป๊ะแตก นักอ่านจับได้ว่า2 นามปากกาคือคนเดียวกัน ถ้าไม่ซีเรียสก็จัดเลย 555

111 Nameless Fanboi Posted ID6:naobMPMgB6

>>109 กูก็เปิด นปก เสว แบบจะเอาไว้เขียนแนวชิปเหี้ย พระเอกเลี้ยงนางเอกมาตั้งแต่ห้าขวบ ได้กับพ่อเลี้ยง พี่น้องบุญธรรมแอบแซ่บ แต่เสียดายดีเทล พล็อตบางส่วน จะเขียนก็เก็บไว้ให้สายขาวดีกว่า ทุกวันนี้ นปก นั่นก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน555

112 Nameless Fanboi Posted ID6:EFpDmmWP2D

>>109 กุเคยเห็น นปก.ดังนึง (รานฎอกเลิฟ) ก่อนเปิดตัวชื่อนี้เขียนเสวหมวดนิยายรักผู้ใหญ่น้าหลาน(ไม่จริง)และเสวอื่นๆแรงๆมาก่อน แต่ตอนนี้ นิยายในนปก.เสียว ยุติการขายทุกเล่มไปแล้ว ซึ่งกูเสียดาย อยากอ่านมาก เพราะมันแรงดี
ที่กูจะสื่อคือ ถ้าคนอ่านรู้ หรือคิดว่าก็อปแล้วโป๊ะแตกขึ้นมาก็ไม่เป็นไรนี่มึง กูมองว่ามันเล็กน้อยจิ๊บจ๊อยมาก น่าดีใจนิดๆด้วยที่มีคนรู้แสดงว่างานมึงมีคนเห็นและอ่านมึงทั้งสองนปก. พลิกวิกฤติเปิดตัวคู่ยอมรับแมนๆไปเลย อุ๊ปส์!นปก.นั้นคือไรท์เองค่ะ ฝากอุดหนุนด้วยนะคะ กูเป็นคนอ่านก็ไม่ติด

113 Nameless Fanboi Posted ID6:ncJmowmoXu

มีเรื่องสงสัยนิดนึงว่ะ ถ้ามีนักอ่านไปโฟกัสประเด็นหยุมหยิมแบบจุดเล็กชิบหายในเนื้อเรื่องมึงที่ไม่ได้มีผลอะไรกับสตอรี่เลย แล้วด่าลามมาว่ามึงแม่งเขียนออกมาได้ไงฉากเหี้ยๆพรรค์นี้ พวกมึงจะทำไงกันวะ

อันนี้ฉากสมมติ ไม่ใช่ฉากจริงในนิยายกู
นางเอกพระเอกอยู่ยุควิคตอเรียน เป็นชนชั้นสูง เข้าป่าล่าสัตว์เป็นกีฬากันเป็นเรื่องปกติ พระเอกนางเอกแข่งกันยิงนกบนต้นไม้ว่าใครจะล่าได้มากสุด แต่ไม่ได้บรรยายการยิง เหมือนมันท้าพนันเข้าป่าว่าใครจะล่านกได้เยอะสุดแล้วตัดฉากออกมาอีกทีนับแต้มแล้วนางเอกชนะไรงี้ เป็นฉากเล็กมากๆก่อนจะไปฉากต่อไปคือฉากกินดินเนอร์ในบ้านพระเอกร่วมกับครอบครัวนางเอกที่เป็นหัวใจหลักของตอน แต่นักอ่านมาว้อแตกเรื่องฆ่าสัตว์เพื่อเกมกีฬาของพวกมึงได้ไงไอ้พวกเหี้ย เจอแบบนี้พวกมึงจะทำยังไงกันวะ กูเจอคอมเมนต์แบบนี้แล้วกูไปไม่เป็นเลย....

114 Nameless Fanboi Posted ID6:naobMPMgB6

>>113 นักอ่านนี่สมองไม่คิดจะทำงานหน่อยเหรอ มึงก็แค่เมินอะ อย่าปล่อยให้นักอ่านแบบนี้มาท็อกซิกใส่ดิวะ สู้ๆ

115 Nameless Fanboi Posted ID6:ncJmowmoXu

>>114 กูก็ไม่คิดว่าจะเจอ peta ในคอมเมนต์นิยายนี่หว่า 55555555555555555555

จะด่าเนื้อเรื่องหลักนี่กูไม่ติดนะ แต่มาด่าอีเวนท์แบบเล็กสัสๆๆๆๆๆแบบนี้ว่าเขียนออกมาได้ไงอีเวนท์เหี้ยๆแบบนี้ กูก็แบบว่า โอ้ยย อะไรของมึ้งงงงงงง รับมือไม่ถูกเลย

116 Nameless Fanboi Posted ID6:naobMPMgB6

>>115 ยันต์ TW ต้องเข้าแล้วละมั้งวะเมิง สมมุติว่าเป็นรื่องนี้ แต่ถ้ามึงไม่ได้ยกของจริง ถ้ามันติด TW ติดเป็นยันต์กันนอ.ปสด.ไป

117 Nameless Fanboi Posted ID6:ncJmowmoXu

>>116 กูก็ไม่รู้จะเอาตรงไหนมา TW บรรยายก็ไม่ได้บรรยายละเอียด บอกแค่ไปทำอะไรมาคร่าวๆ แล้วก็ข้ามไปเลยไม่ได้เอ่ยถึงอีก เนื้อหาต่อๆมาก็ไม่ได้มีฉากแบบนี้ด้วย เป็นอีเวนท์เล็กมากแบบมากจริงๆ

เอาจริงๆมันก็เรื่องปกติสมัยนั้นที่จะทำอะ แต่เสือกมีนักอ่านรับไม่ได้ซะงั้น

118 Nameless Fanboi Posted ID6:naobMPMgB6

>>117 ถ้าอย่างนั้นแนะนำให้เมินไปจริงๆ ว่ะ แต่ถ้านักอ่านไม่จบ บังเอิญไปตีฟูที่ไหน มึงแคปไปสวนเลยว่า ชี้แจ้งตามนี้ว่านิยายยุคไหนและกล่าวถึงนิสสสสเดียว เอาละทำใจสบายๆ แล้วเขียนต่อดีกว่า อย่าให้มารมันมากวนใจ นึกถึงนักอ่านน่ารักๆ ที่เอนจองกับเราไว้ ส่วนพวกนี้ทำบุญแล้วก็ลองนึกชื่อไอดีมัน แผ่เมตตาไป มันจะได้ไปไกลๆ ไม่จองเวรจองกรรม

119 Nameless Fanboi Posted ID6:VeRwNayNCC

>>113 เพิ่งเห็นมาใน x เลย มันฮวานี่แหละ มีฉากยิงสัตว์ กะควบม้าเร็วๆจนม้าขาจะหัก (ทั้งที่ในบริบทนางเอกช็อกเรื่องผัวตายจนสติหลุด) เข้าใจได้ว่าจะมีนักอ่านบางคนที่ไม่ชอบและฉอดหนักกับเลิกอ่าน แต่สำหรับกูก็หยุมหยิมอะ มันยุคนั้น คนตระหนักรู้มีแค่คนเขียนกับคนอ่าน แต่ตัวละครมันรู้มั้ยล่ะ เข้าสังคมมันยิงนกยิงสัตว์อะ เรื่องเวทมนตร์แฟนตาซีรับได้ แต่เรื่องเรียลๆรับไม่ได้ก็สุดแล้วแต่เขาละ อย่าไปซีเรียสเลย ถ้าอยากตอบก็ตอบอธิบายไปว่าบริบทยุคนั้น ถ้าไม่สบายใจก็ใส่ฉากให้ตัวเอกมันไปทำบุญทำทานขอโทษพระเจ้าไป555

เข้าใจว่ายกตัวอย่างเฉยๆ แต่ถ้าเจอกรณีแบบนี้อย่าเก็บมาใส่ใจจนหัวระเบิดเลย ถ้าโชคดีหน่อยเดี๋ยวนักอ่านจะมาช่วยอธิบายอีกแรง

120 Nameless Fanboi Posted ID6:ZLsP827kTf

นึกถึงอีกรฯอาายแนวพระเอกรวย มีเจ็ตส่วนตัวไม่อินเพราะการบินเจ็ตทำให้โลกร้อน 5555

121 Nameless Fanboi Posted ID6:ZLsP827kTf

*อีกรณีสิ

122 Nameless Fanboi Posted ID6:ncJmowmoXu

>>119 อันนั้นกูก็เห็นละ โดนคล้ายๆกูเลย แม่งโฟกัสฉากเล็กๆที่ไม่ได้มีผลอะไรกับเรื่องแล้วมาเหมารวมว่าเรื่องมันเหี้ย กูก็รู้สึกว่าประสาทแดกเกินไปมั้ย

123 Nameless Fanboi Posted ID6:qi0Di/dP6/

>>113 กูเคยเห็นนิยายของนขค่อนข้างดังคนนึง(ป้ายแดงตลอด) ในเมพมีคอมเม้นท์ประมาณว่านขทิ้งท้ายไว้ว่าจะให้นางร้ายหรือนางรองนี่แหละของเรื่องนี้ไปเป็นนางเอกอีกเรื่องคู่กับพระรองต่อแล้วเขารับไม่ได้ เพราะชีตั้งใจขับชนคน(ขับจริงแต่ไม่ได้ชน และพยายามฆ่าจริง) แล้วไม่โดนคดีหนีไปเก็บตัวเมืองนอกสวยๆ เห็นเม้นท์แบบนี้ประมาณ2-3คน บางคนเอาไปเทียบเคสแพรวาเลย แล้วเท่าที่กูส่องนิยายเขาในแอพมา เหมือนเขาก็ไม่ได้แต่งเรื่องนางรองต่อจริงๆ(เท่าที่อ่านเรื่องย่อ) คือมันก็ไม่ได้มีผลต่อเรื่องหลัก และคนอ่านบางคนก็คอมเม้นท์แรงเหมือนกัน เห็นมึงพูดแล้วเลยนึกถึงเคสนี้

124 Nameless Fanboi Posted ID6:ZLsP827kTf

นอกจากตลต.ต้องเป็นคนดี ยังต้องทำแต่ความดี พูดแต่เรื่องดีๆ สอนแต่เรื่องดีๆ นี่กำลังอ่านหนังสือธรรมะสอนใจหรือแบบเรียนจริยธรรมอยู่รึไง

125 Nameless Fanboi Posted ID6:naobMPMgB6

>>123 ถ้าเป๋นพระรอง เคยจะฆ่าพระเอก มะเปงไรค้าบ

126 Nameless Fanboi Posted ID6:HXBlzwBYf2

KY จร้า พอดีกุชอบอ่านรีวิวนิยายคนอื่น จะได้เก็บประเด็นที่คนติมาเป็นลิสต์ที่ต้องระวังในงานตัวเอง (ทริคนี้ดีนะ เช่นอ่านเจอเรื่องนึงติว่านางเอกโลเล กุก็จดไว้ว่า ต้องระวังตอนเขียนพฤติกรรมตอนนางอยู่กับพระรอง กันนักอ่านติข้อหาเดียวกัน) ไปเจอเรื่องนึง นักอ่านติประมาณว่า "มันไม่มีเนื้อเรื่อง แค่เรื่องของคนมีแผลใจสองคน เยียวยาหัวใจกัน จบ" คือกูก็พอนึกออกว่าน่าจะเป็นแนว slice of life, hurt/comfort ไม่ติดใจกับเนื้อเรื่อง แต่สงสัยมุมคนตินิส ๆ ว่าแค่นี้มันไม่พอเหรอ นิยายรัก พล็อตคือเรื่องของคนสองคน ก็เบสิคปกติปะ หรือเขาต้องการอะไรมากกว่านี้ ใครช่วยกุคิดหน่อยได้มั้ย 555 เจอประเด็นนี้กุไม่รู้จะระวังยังไงเลอ สงสัยว่ามันผิดตรงไหนนิ 555 ถ้ากุเขียนแนวพระนางจีบกันไปวัน ๆ นี่ถือว่ามีเนื้อเรื่องมั้ย หรือจะโดนข้อหาเดียวกัน 5555

127 Nameless Fanboi Posted ID6:EFpDmmWP2D

>>126 คนอ่านอาจจะอยู่ในช่วงอารมณ์อยากได้อะไรที่ให้เดายากๆว่าจะรักกันยังไง ความสัมพันธ์ซับซ้อนซ่อนปมน่ะ
ซึ่งถ้ามึงจะเขียนสไตล์นี้มึงก็บอกนักอ่านเขาก่อนสักหน่อยในคำนักเขียนก็ได้ว่าเรื่องนี้แนวสบายๆไม่ซับซ้อนใดๆให้ปวดหัวเหมือนมาดูคนจีบกันรักกัน
ถ้าบอกแต่เนิ่นๆแล้วยังฝืนอ่านเพื่อหาอะไรที่มันไม่มีในนิยาย ก็ปล่อยเขาไปเถอะ

128 Nameless Fanboi Posted ID6:EFpDmmWP2D

>>127 *คำนำนักเขียน

129 Nameless Fanboi Posted ID:lxXVF5orgI

>>126 กุเคยอ่านงานฝรั่งที่ทั้งเรื่องมีตัวละครสองคนนั่งคุยกันในห้องนั่งเล่น ตัวละครที่เหลือแค่ถูกพูดถึงในบทสนทนาเฉยๆ กุอ่านแล้วประทับใจมากในพัฒนาการความคิดของตัวละคร แต่เพื่อนกุที่เป็นสายชิวๆ ไม่คิดเยอะ ดูหนังอ่านนส.แค่ผ่านๆ ดูจบจำชื่อตัวละคร นักแสดง หรืออะไรเด่นๆ ไม่ได้เลยคือเสพเอาสนุกเฉยๆ มันด่าเลยว่านิยายบ้าไรเนี่ย ง่วง ไม่มีไรเลย กุเลยคิดว่านักอ่านคนนี้เขาเป็นคนแบบเพื่อนกุรึป่าว แบบไม่ชอบดีพทอล์ค จะชอบให้มีเหตุการณ์ ใช้สถานการณ์ดำเนินเรื่องมากกว่า กุว่าถ้ามึงตั้งใจเขียนคนจีบกันชิวๆ ไม่มีดราม่าจริงก็ตามนั้นแหละ แต่ถ้ายังไงก็อยากเลี่ยงเม้นแบบนี้ก็ใส่อุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ หรืออะไรที่มันคอนฟลิคหน่อยๆ เป็นยันต์น่าจะพอช่วยได้นะ

130 Nameless Fanboi Posted ID6:2c4BjI3kmq

>>110-112 แต๊งกิ้วมาก คือบางทีมันก็เขินๆอะมึงถ้าโดนจับได้ อีกนปก.กูใสๆ อีกอันก็แนวแบบที่ใครเห็นก็ต้องแคปปั่กๆพรั่บๆมาล้อ555 ไม่นับ kink ต่างๆที่กูใส่ไปแบบหยาบโลนอีก ถ้าโดนจับได้ก็คงต้องยอมรับแต่โดยดีพร้อมของกลาง ถ้าจับไม่ได้ก็เลยตามเลยไป ขอบคุณสำหรับตัวอย่างมากๆนะ สบายใจขึ้นเยอะ

131 Nameless Fanboi Posted ID6:2c4BjI3kmq

ky ใครเคยซื้อนิยายในเม้ดแบบมีสิทธิพิเศษแบบนี้บ้าง https://pic.in.th/image/IMG-2485.lV7dNp กูสนใจอยากทำแบบนี้ในนิยายตัวเองบ้าง เตรียมติดต่อเม้ดละ แต่อยากรู้ว่าเวลาได้ของแถมสิทธิพิเศษมา มันจะขึ้นในชั้นหนังสือเราประมาณไหนอะ แบบมีสองไฟล์ให้มาในการซื้อเดียวอะไรแบบนี้เหรอ วอนใครว่างช่วยแคปมาให้กูดูคร่าวๆที กูอยากซื้อมาดูแต่กูสายซื้อเล่มน่ะ ของนข.คนนี้เลยซื้อไปแล้ว

132 Nameless Fanboi Posted ID6:lpAg0FuPkn

>>131 เคยได้จากมังงะ ได้อีโปสการ์ด/วอลเปเปอร์ มันส่งมาที่เมลที่สมัคร

133 Nameless Fanboi Posted ID6:sau6HuKpfm

>>131 กูเคยได้หลายแบบ แบบโปสการ์ด ซื้อตามระยะเวลา เข้าไปที่หน้ารับสิทธิพิเศษ(แบบที่มึงแคปมา)กดรับแล้วจะมีให้กรอกชื่อที่อยู่ แล้วนข.ก็จส่งมาให้ทางไปรษณีย์
กับถ้าเป็นไฟล์เช่นคอมมิคพิเศษ;หรือเล่มสปินออฟ มันจะแถมมาให้ทันทีเลยในชั้นหนังสือ ก็คือซื้อ1โผล่มา2ให้แบบอัตโนมัติ

134 Nameless Fanboi Posted ID6:2c4BjI3kmq

>>132-133 ขอบคุณมากๆค้าบ กราบแนบอก

135 Nameless Fanboi Posted ID:yRK4AdFaF2

ไม่มีไมโครซอฟเวิร์ด จะเตรียมไฟล์เล่มส่งโรงพิมพ์ใช้ไรแทนได้บ้าง

136 Nameless Fanboi Posted ID:jDr7Pt6wAs

>>135 ถ้าไม่มีเวิร์ดแล้วมึงพิมพ์ลงในไหนอะ..

137 Nameless Fanboi Posted ID6:g/OOwfxrv.

>>135 ส่งไฟล์ไปให้คนอื่นจัดหน้า เค้ามีเวิร์ด มึงได้ PDF กลับมาก็ไปส้ง โรงพิมพ์

138 Nameless Fanboi Posted ID6:g/OOwfxrv.

>>135 จ้างน่ะ

139 Nameless Fanboi Posted ID:yRK4AdFaF2

>>136 กูเกิลดอค

140 Nameless Fanboi Posted ID6:BnfqPaU.Rq

Ky ปุกสา กูมีนามหลัก (เขียนแนวที่ชอบ) กับนามอวตาร (เขียนเรดแฟลกซ์หาเงิน) แต่กูไม่อยากให้คนอ่านจับลายเซ็นกูได้ ขนาดกูอ่านงานตัวเองยังรู้เลยว่าชัดเกิ้นน สำนวนกูแม่งบิดยากมาก กูควรทำไง

141 Nameless Fanboi Posted ID6:Q/yUUzOzUJ

>>140 ถ้าพยายามปรับสำนวนแล้วไม่ได้ไม่ไหว ก็ลองรอมอบตัวดู รอดูว่านักอ่านจะจับโป๊ะได้เมื่อไหร่ วันไหนวันนั้น เตรียมซ้อมบทพูดไว้ "อุ๊ย!รู้จนได้นะคะ แหะๆนปก.นั้นคือไรต์เองค่ะ" ซึ่งมึงอาจจะคิดไปเองก็ได้นะ

142 Nameless Fanboi Posted ID6:dTvKns88Hu

ถามหน่อยนิยายตอนหนึ่งนี่ควรยาวประมาณไหนดี นี่แต่งได้ตอนหนึ่งสัก2000ก็จะตายแล้วแต่ไปส่องของคนอื่นเขาดูยาวกว่าเยอะเลย

143 Nameless Fanboi Posted ID6:Od6IsvmIIf

>>142 ดูคนอื่นทำไม ทำที่ตัวเราพอใจ ฝืนไปก็เท่านั้น นักอ่านไม่ได้ดูว่าตอนหนึ่งกี่คำ เวลาซื้อดูทั้งเรื่อง ถ้าขายรายตอน ตอนนั้นก็ขายถูก ๆ หรือ มึงก็เอามา บวกกัน รวบ ขายใน หนึ่ง

144 Nameless Fanboi Posted ID6:dTvKns88Hu

>>143 พอดีเจอคนบอกว่าตอนสั้นจังอ่านแป๊บเดียวจบวะมึง

145 Nameless Fanboi Posted ID6:Od6IsvmIIf

>>144 บ่นคนเดียวนี่กูไม่แคร์นะ5555 แต่สั้นแล้วไงวะ ที นข.ดังอัพทีละนิดละหน่อยไม่เห็นบ่น อีกอย่างคือมึงเขียนสนุก

146 Nameless Fanboi Posted ID6:rgUan.0onR

>>142 กูเจอ800-900-1500 ยังติดท็อปขายดีเลย ขึ้นอยู่กับจังหวะเบรคและความสนุกด้วยนะ

147 Nameless Fanboi Posted ID6:iYma9OEDF4

>>142 ตามยุคว่ะ
สมัยก่อนกูอัดตอนละ 5000 คนยังบ่น
ถัดมาอัดตอนละ 3000 ปัจจุบันตัดลงเหลือ 1500-2000 พอ เอาสะดวกตัวเองกับอัพได้ถี่ๆ

148 Nameless Fanboi Posted ID6:Uz+umqKRmf

ว่าไปกูขอ KY ถามหน่อย
อย่างที่กูบ่นไปก่อนหน้าที่ว่ากูไปลงงานหมวดแฟนตาซีที่ค่อนข้างร้าง จึงรับรองได้แล้วว่างานคงขายไม่ได้แน่ๆ เพราะขนาดให้อ่านฟรียังแทบไม่มีคน

แต่ถึงอย่างนั้นกูก็ไม่อยากทิ้งงานนี้แฮะ และคิดว่าจะเขียนต่อให้จบ เพราะยังไงเดิมทีมันก็เขียนมาจากเวลาว่างอยู่แล้ว + กูเขียนเพราะชอบการเขียน ทว่าอย่างน้อยกูก็อยากจะได้อะไรกลับมาบ้างเล็กๆ น้อยๆ เป็นค่าขนมค่ากาแฟอะไรทำนองนั้น เลยอยากขอถามโม่งหน่อยว่ามีวิธีไหนบ้างที่พอเข้ากับสถานการณ์ของกูตอนนี้บ้าง

รอร. เห็นว่ามีระบบขอรับโดเนท แต่ รอร. ยอดคนอ่านหมวดนี้สิ้นหวังยิ่งกว่า ดด. อีก กูเลยว่าจะมุ่งเน้นไปที่ ดด. เป็นหลักมากกว่า
แต่ปัญหาคือ ดด. มันไม่มีระบบนี้นี่สิเลยไม่รู้ว่าจะใช้วิธีการไหนได้บ้าง ...ที่คิดออกตอนนี้มีแค่ Ko-fi ที่กำลังเตรียมทำนั่นล่ะ

149 Nameless Fanboi Posted ID6:Od6IsvmIIf

>>148 นานมาแล้ว กูเคยเจอคนแปะเลข บช.เลย 555555

150 Nameless Fanboi Posted ID6:HBpmNIOe.h

>>148 ดด.มีแล้วนี่มึง ไอเทมไม่กิ๊บเก๋เท่ารอร.แต่มีอยู่นะ

151 Nameless Fanboi Posted ID:IBxaUlUd0z

>>148 กูเหมือนจำได้ลางๆ ว่าเคยมีคนมาบ่นว่าดด.เปลี่ยนระบบแล้วนะ นข.ที่ลงหนังสือใหม่จะต้องยืนยันเลขบช.ก่อนเผยแพร่อะไรด้วยนี่ล่ะ? แต่กูลืมรหัสดด.ไปแล้ว ขก.สมัครใหม่ด้วยเลยไม่แน่ใจนะ มึงลองเข้าไปดูก่อน

152 Nameless Fanboi Posted ID6:Od6IsvmIIf

>>151 เออใช่ กูเจอเปิดแอคผี ลงนิยายหื่นโปรโมทใน ดด เฉยๆ เจอต้องลงทะเบียนเซ็งเลย

153 Nameless Fanboi Posted ID6:voJJcCkmDS

>>148 ลอง tipme มั้ย กูเห็นนักเขียนไม่ค่อยใช้ นักวาดกับสตรีมเมอร์ใช้เป็นหลัก
แต่มันง่ายดีตรงเป็นของคนไทย ระบบจ่ายเงินที่คนไทยใช้เยอะๆมีอยู่แล้ว
ข้อควรระวังคือช่องทางอื่นที่ไม่ใช่พร้อมเพย์จะโดนหักเยอะ ถ้าไม่อยากให้คนจ่ายผ่านทางนั้นต้องไปตั้งขั้นต่ำสูงๆกับเขียนบอกคนเอา

154 Nameless Fanboi Posted ID:ZcE+rfg4ec

ดดกับธัน แนวรักสายขาวไม่ 18+ เว้บไหนยอดดีกว่ากันอะเพื่อน

155 Nameless Fanboi Posted ID6:Od6IsvmIIf

>>154 เหี่ยวแห้งทั้งหมด ถ้ามึงไม่มีฐานแฟน รอร ได้เยอะสุด

156 Nameless Fanboi Posted ID6:eS9xa2vquo

Ky แทรกรูปในตอนนิยายใน raw ไม่ได้ ใครเป็นบ้าง

157 Nameless Fanboi Posted ID6:Od6IsvmIIf

>>156 น่าจะมีปัญหาที่ระบบ เห็นนางจะปิดปรับปรุงวันพรุ่งนี้ด้วย วันนี้คงแอบทำอะไรอยู่

158 Nameless Fanboi Posted ID6:Eg6EY79zPV

นี่กู >>148 เอง
ตอนบ่ายอารมณ์ดีเลยมองแบบนั้นแล้วเขียนออกมาได้ แต่พอตกกลางคืนกดเข้าเว็ปไปดูยอดแล้วโคตรเศร้าเลยว่ะ ถถถถถ อัพใหม่คนอ่าน 1 คนต่อตอน
เจอแบบนี้กูจัดการอารมณ์ตัวเองไม่ถูกเลยว่ะ เหี่ยวแห้งชิบหาย

159 Nameless Fanboi Posted ID6:+aqw8BkExt

>>158 ลลองขอขึ้นแบนเนอร์หรือยัง

160 Nameless Fanboi Posted ID6:TwfAgpsDJE

>>158 ต้องคิดว่าเขียนเพราะได้เขียนอย่างที่มึงว่าไว้แล้วล่ะ ยอดปล่อยมันไปเลย ยิ่งดูยิ่งมองยอดจะยิ่งซึมเอานะมึง ไม่ก็ต้องโปรโมทตามที่ต่างๆ กูไม่รู้ว่า1คน👁 นี่ระบบมันนับตัวนักเขียนด้วยรึป่าว

161 Nameless Fanboi Posted ID6:+aqw8BkExt

>>160 นับว่ะ

162 Nameless Fanboi Posted ID:PGSWm7kfcg

อ้าว กุเคยลองกดเผยแพร่ละรีบล็อกไว้ ไม่กดเข้าไปอ่านเองด้วย ตอนนั้นได้ 0 วิว แปลว่ามันไม่นับตัวเองปะ

163 Nameless Fanboi Posted ID6:+aqw8BkExt

>>162 ก็มึงไม่กดเข้าไปดู มันจะนับวิวใคร?

164 Nameless Fanboi Posted ID:PGSWm7kfcg

ky มึงว่าการเขียนเรื่องสั้น ๆ ละเปิดให้โหลดฟรีมันถือเป็นการตลาดที่ดีปะ แบบว่าจะพอเรียกแขกมามุงเรื่องอื่น ๆ ที่ขายไปแล้วได้มั้ย หรือว่าไม่คุ้มอยู่ดี เอาไปขายถูก ๆ แทนดีกว่า

165 Nameless Fanboi Posted ID:PGSWm7kfcg

>>163 หมายถึง ถ้า >>158 มันไม่กดเข้าไปอ่าน แปลว่า 1 วิวนั่นไม่ใช่มัน แต่เป็นนักอ่านไงเพื่อน 555

166 Nameless Fanboi Posted ID6:+aqw8BkExt

ถ้างั้น >>165 ตอนมันกด >>158 ไปดูมี 1 วิว คือนักอ่าน (ในกรณีถ้ามันเผยแพร่แล้วก็ไป ไม่ได้เข้าไปเช็กหน้าที่เผยแพร่) พอมันเข้าไปเห็น 1 วิว แล้วมันกลับมาดูอีก จะเป็น 2 วิว วิวมันไม่ได้ขึ้นออโต้ แบบมึงเข้าปุ๊บขึ้นปุ๊น่ะ มันขึ้นดีเลย์ ถ้าเข้าไปดูไม่วาจะใครก็นับวิว

167 Nameless Fanboi Posted ID:HTkOYscBSt

>>164 กุว่าดี ยิ่งถ้ายอดอ่านในเว็บน้อยยิ่งควรทำเลยว่ะ ไม่งั้นถ้าไม่ได้ขึ้นแบนเนอร์หรือยิงแอดแทบไม่มีโอกาสให้คนเห็นได้เลย สั้นๆ ไม่ถึงหมื่นคำก็ได้นะ ดีไม่ดีเขาเรียกร้องเรื่องยาวๆ ต่อยอดจากเรื่องนั้นของมึงไปอีก

168 Nameless Fanboi Posted ID6:SzmNFuvu6L

>>164 ก็มีข้อดีตรงเหมือนได้โปรโมตตัวเองให้คนรู้จักง่ายขึ้น ถ้าเขาถูกใจสำนวนเขาก็ไปดูเรื่องอื่น แต่ยำ้ว่าเท่าที่เคยเปิดฟรี ไม่ได้ทำให้ยอดฟู่ฟ่า บางคนก็อ่านแต่เรื่องฟรี แล้วเก็บเงินไปซื้อ นข.ในดวงใจเค้าน่ะ แต่ถ้าเรื่องนั้นมันติดลมได้นาน ช่วงที่งานฟรีมันอยู่หน้าแรกๆ กูสังเกตว่ายอดขายจะมีเกือบทุกวัน ไม่แดไข่แบบยาวๆ น่ะ

169 Nameless Fanboi Posted ID6:Eg6EY79zPV

>>159 ยังไม่ได้ลอง แต่ใน รอร. อัพถี่เลยได้ขึ้นหน้าใหม่ไฟแรง แต่ก็ไม่ช่วยกระตุ้นยอดเลย ยอดคนเก็บเข้าชั้นมีแค่ 13 คน (เลขหายนะด้วย) แล้วตอนนี้ก็ค่อยๆ ถูกดันตกละ เพราะอัพมาใกล้จะ 2 อาทิตย์แล้ว

ส่วนใน ดด. ตัวเลขเพิ่มขึ้นก็จริง แต่ยอดน้อยกว่าที่คาดโขเลยว่ะ อัพไปจะจบเล่มแล้วยังไม่แตะหลักพันเลย (ฮือ) ยังดีที่คอมเม้นท์คนอ่านออกมาทำนองเดียวกันว่าสนุกได้อยู่ กูเลยพอจะใจฟูเขียนต่อได้ แต่ถ้าอารมณ์เหวี่ยงลงมาดาวน์เมื่อไรนี่ก็คงมองสลับกันเลย

170 Nameless Fanboi Posted ID6:TwfAgpsDJE

>>164 กูมองว่าถ้าอยากโปรโมตเล็กๆน้อยๆไม่หวังผลลัพธ์อะไรมากอะได้
แต่เอาจริงถ้ากะดังเป็นตัวท็อป กูไม่ค่อยเห็นคนดังระดับตัวแม่ตัวพ่อแจกฟรีเลยว่ะ นานน้านนทีจะมีหลงมาคนแจกฟรีตามช่วงเทศกาล ประมาณหมื่น-3หมื่นคำ

171 Nameless Fanboi Posted ID6:Bq3JEXpPtY

ดราม่าเรื่องไมเนอร์บนนกฟ้ากลับมาอีกรอบละ เอาจริงๆกูก็เริ่มหวั่นไหวนะว่านิยายรักใสๆ ไม่มีเรื่องเพศ
เด็กมหาลัยจีบเด็กมัธยมปลายมันไม่โอเคขนาดนั้นเลยจริงๆหรอวะ ที่คิดไว้ตอนนี้คือ ปี 2 อีกคน ม.5 อายุก็ห่างกันแค่ 3 ปี
ตอนแรกกูคิดไว้เป็น ปี 3 กับ ม.5 อยากได้ระยะห่าง 4 ปี แต่ปรับลงมาเพราะกลัวดราม่า ซึ่งอันนี้ปรับได้โดยไม่กระทบโครงเรื่องมาก
แต่ถ้าเปลี่ยนระยะห่างอายุตัวละครโดยพยายามคงโครงเรื่องเดิมไว้มันอาจจะต้องแถบางอย่างจนทำให้ดูแปร่งๆ
เช่นยัดเรื่องตัวละครเรียนช้าหรือซิ่วไปปีนึงขึ้นมา ซึ่งมันก็ขัดๆกับไอเดียบางส่วนที่วางไว้แล้วอีก
จะเปลี่ยนให้รู้จักกันตั้งแต่ยังไม่ 18 ทั้งคู่ มันก็ดูเป็นการเปลี่ยนที่ดูฝืน แถมช่วงแรกๆคงได้เล่าเรื่องแบบ time skip รัวๆ
กูควรช่างแม่งความเห็นคนพวกนี้มั้ย หรือยอมเปลี่ยนไอเดียของเรื่องเยอะๆไปเลยดีกว่า

172 Nameless Fanboi Posted ID6:v/ObXCcQc0

>>171 อย่ากลัวเลย ถ้าไม่ได้สะดุดขาพวกขี้ฉอด แต่ถ้าฉอดแล้วไง นักอ่านน่ะกลุ่มไหน ถ้าเป็นกลุ่มป้าๆ ก็อย่าได้แคพวกทวิต พวกนี้ไม่ซื้อ กูนั่งอ่านอีเรื่อง ชนด แล้วอยากจะวอทเดอะฟัด ห่าเหอะ อายุก็ห่างกันแค่นั้นเอง แถมแค่คุยเฉยๆ ด้วยซ้ำ อีผู้หญิงก็เล่นบทเหยื่อแบบแหมไปถึงดาวอังคาร จะบอกว่ากูเบลมเหยื่อเหรอ มึงอีเด็กนั่นไม่ใช่เหยื่อห่าอะไรเล๊ยยยย

173 Nameless Fanboi Posted ID6:xadUTWYec3

Kyครอบครัว พวกมึงเป็นกังวลกับการเป็นนักเขียนของไหม แบบว่าดูไร้อนาคต ไม่น่าจะรอด

174 Nameless Fanboi Posted ID:yw/91Nc+tU

>>173 ของบ้านกุนะ ถ้ายึดเป็นอาชีพหลักเลยอะ เป็น 55555 แต่ถ้ามึงได้เงินดีจริงคิดว่าคงไม่ซีมากหรอก เอาง่าย ๆ ถ้าได้มากกว่า 35k+ คือหรูแล้ว (ซึ่งกูไม่ได้ 55555 /ร้องไห้) เผลอ ๆ อาจชื่นชมมากกว่าเป็นพนง.ต๊อกต๋อยเงินเดือนหมื่นห้าอีก ก็ต้องเข้าใจ fact แหละว่ามันเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคงขนาดนั้น ผู้ใหญ่เขาก็อยากให้ลูกหลานมีงานการมั่นคง แก่ไปมีบำเหน็จบำนาญ แต่เชื่อกุเหอะว่าถ้าได้เงินเยอะจริงยังไงเขาก็ปล่อย ถ้าได้เรื่องละล้านเป็นยอดภูเขาน้ำแข็งงี้เผลอ ๆ เอาไปเกทับญาติ ๆ ข้าราชการอีก 55555

175 Nameless Fanboi Posted ID6:Bq3JEXpPtY

>>172 แต๊งมาก จากที่ตอนแรกกูก็กะจะช่างคนพวกนั้นอยู่แล้ว
แต่กูเกิดกลัวขึ้นมาก็เพราะไอ้ดราม่านั้นนี่แหละ แม่งคลั่งกันได้น่ากลัวชิบหาย

176 Nameless Fanboi Posted ID:IlgmTf8YKn

>>171 เราว่าจะเขียนอ่ะ โปรโมทในxด้วย55 หาแคร์ไม่ มันก็แค่เรื่องแต่งป่ะ ห่างกัน3-5ปี โครตจะปกติ ทวิตเตี้ยนมันไม่เคยแอบชอบรุ่นพี่มหาลัยกันเลยไงว่ะ5555 แต่งๆไปเหอะ มั่นใจว่าไม่ผิด หลีกเลี่ยงการเขียนฉากncในตลคไมเนอร์ก็พอ

177 Nameless Fanboi Posted ID:yw/91Nc+tU

>>175 fact อย่างนึงคือ คนด่าไม่ซื้อ อะมึง 5555 ยิ่งสายชญ.นี่กุถือเป็นเซฟโซนนะ ส่วนมากนักอ่านสว.เขาไม่คิดไรมากอะ ขนาดแนว dark romance พระเอกจิต ๆ ที่คุยกันในมู้ตู้ยังขายดิบขายดี ปกกราฟฟิคเบสิคก็ยังขายได้ พวกนักฉอดนี่มีกี่คนเชียวที่อ่านงานชญ. ส่วนถ้าสายวายอะเหรอ สู้ ๆ นะแกร 555555 แม่งติทุกอย่าง ฉอดประเด็นเห็บหมาทุกวัน ปกก็ต้องจ้างวาดอลังไว้ก่อน เทียบแล้วนักอ่านชญ.ส่วนมากกลายเป็นแม่พระไปเลย ส่วนสายฉอด ช่างแม่มัน ไม่ซื้อก็ไม่ต้องด่าจ้าอี

178 Nameless Fanboi Posted ID6:Q7i9Ut2d18

>>173 ตอนสมัยเรียนเพิ่งจบก็มีนะ เคยโดนเตือนว่าไม่มั่นคงเอย เสียเวลาเอย ไส้แห้งเอย
และเพราะได้ยินแบบนั้น กูจึงเอาเวลาทำงานว่างๆ มาลงเขียนนิยายไปเพียบ จนสุดท้ายไม่ได้ตั้งใจทำงานเลย ถถถถ
แต่แล้วท้ายที่สุดก็โดนความจริงกระแทกหน้าด้วยที่ว่าขายไม่ออก จนปัจจุบันจึงยังโคตรไร้อนาคตอยู่เลย

179 Nameless Fanboi Posted ID6:z0Tpi.Rn.f

>>176 จริง แค่ไม่เขียน NC ต่ำกว่า 18 ก็พอเหอะ อีกอย่างในเว็บมันก็ห้ามนะ NC ต่ำกว่า 18 อันนี้บอกเผื่อ

180 Nameless Fanboi Posted ID6:XAXV3qEwSI

>>176 >>179 แต๊งมาก เรื่อง NC ยังไงก็จะไม่ใส่อยู่แล้ว แต่ก็กลัวมาตราฐานในใจคนมันจะหาเรื่องน่ะ 555
>>177 กูคิดไปเองมั้ยว่าพวกนี้ชอบหาเรื่องคนอื่น แต่พอตัวเองชิปคู่ผู้ใหญ่กับเด็กบ้างไม่หนีเงียบๆก็หาข้ออ้างแปลกๆให้ตัวเองได้ตลอด

181 Nameless Fanboi Posted ID:XrDPyjjbZq

มึง ทำไมคำว่าโทร. ที่เป็นกริยาถึงต้องมีจุดวะ ใช้โทรเฉย ๆ ไม่ได้เหรอ

182 Nameless Fanboi Posted ID6:7PmGNlBv+8

>>181 ใช้ได้ กูเห็นนักเขียนเยอะแยะใช้โทรเฉยๆ

183 Nameless Fanboi Posted ID6:mZPsTwlpI9

>>181 กูสังเกตเห็นebookใช้โทร เฉยๆก็มีเยอะนะแต่ส่วนที่ใช้ โทร. จะมีบ.ก. หรือออกกับ สนพ.

184 Nameless Fanboi Posted ID6:7pmYUbFAlO

KY ถามหน่อยโม่ง กูลงนิยายเรื่องเดียวกันสองที่ใน รอร. กับ ดด. แต่ดูจากยอดทาง รอร. นี่น่าจะไม่รอดเลย คนอ่านตอนละหลักหน่วย (ดด. ยังพอถูไถ)
ทีนี้กูเลยคิดว่าจะลง 2 ที่ต่อไปเลย หรือว่าตัดไอ้ที่ไม่รอดแน่ๆ ออกไปเลยเพื่อลดภาระของตัวเองดีวะ?

185 Nameless Fanboi Posted ID6:zLVpUJjcXs

>>184 ตัดคือตัดโอกาสเลย ลงต่อไปยังพอมีหวัง

186 Nameless Fanboi Posted ID6:zLVpUJjcXs

Kyเวลาพวกมึงจ้างพิสูจน์อักษร ตอนจะจ่ายเงินมัดจำ ต้องมีให้แสดงบัตรปชช.ไหมวะ หรือแค่บอกเลขบช.ก็โอนให้เลย
//ขอบคุณคำตอบล่วงหน้า

187 Nameless Fanboi Posted ID6:NqrvFxOIEq

>>186 ไม่มีอะ โอนเลย

188 Nameless Fanboi Posted ID6:NqrvFxOIEq

>>184 รอร มีปุ่มจบ ที่มันเหมือนได้บูตยอดอ่านส่งท้ายนะเมิง สู้ๆ

189 Nameless Fanboi Posted ID:Q75/d5Qry7

>>183 กูเพิ่งอ่านอยู่เลย งานกับ สนพ.ก็ใช้ โทร เฉยๆ แล้วนะ

190 Nameless Fanboi Posted ID6:0zEOCYoyXx

กูเขียนแล้วปิดจบท้ายตอนไม่ค่อยได้ว่ะ เหมือนเขียนไปเรื่อยๆแล้วไม่รู้จะตัดตอนตรงไหนดี ตอนมันยาวไปแต่กูก็ยังขมวดจบไม่ได้ จะแก้ปัญหานี้ยังไงดีวะ

191 Nameless Fanboi Posted ID:Q75/d5Qry7

>>190 ทำไมต้องขมวดอะ? อยากจบตรงไหนก็จบไปเลย บางทีก็ปล่อยจอยบ้างก็ได้ มันแค่เรื่องประติ๋วๆ อะ ปล่อยวางแบบกูจะจบตรงนี้ขึ้นใหม่ดีกว่า กูไม่คิดไรมากหรอก จบแม่งตรงนั้นแหละเพราะจำนวนคำพอแหละ คิดเยอะไปก็เสียสมอง เอาไปคิดเนื้อเรื่องเรื่อยๆ โล้ด

192 Nameless Fanboi Posted ID6:0zEOCYoyXx

>>191 อยากปิดตอนให้มันมีลูกเล่นเว้ย ไม่อยากให้มันห้วนเกิน เป็นความเรื่องมากของกูล้วนๆ 5555555555

193 Nameless Fanboi Posted ID6:UjntpKwVyC

>>192 เขาเรียกว่าจบปลายเปิดปะ เช่น จบแบบพระเอกชวนนางเอกไปกินข้าว ให้ตีความว่าเริ่มสานสัมพันธ์กันแล้วอาจจะได้เป็นแฟนกันมั้ย หรือพระเอกไปเที่ยวจีนจิบกาแฟชิวๆ แล้วบังเอิญเจอนางเอกที่จีนพอดีหลังแยกย้ายกันไปสิบปี
มักเจอในแนวๆไม่เน้นเลิฟไลน์อะ จบแบบให้คนอ่านคิดต่อเองว่าพระเอกนางเอกจะได้คู่กันป่าววะ หนักหน่อยก็ไทป์สคริปไปรุ่นลูกเลยว่าพูดถึงเรื่องในอดีตบลาๆ แล้วแง้มว่าคนเล่าให้ลูกฟังคือพระเอกหรือนางเอกนี่ละ

194 Nameless Fanboi Posted ID6:0zEOCYoyXx

>>193 ไม่ใช่ๆ ที่มีปัญหาคือตัดตอนปิดท้ายตอน

เช่น

"....พล่ามๆๆๆๆๆ" เอหัวเราะลั่น เล่าวีรกรรมที่เคยทำมาด้วยท่าทางภาคภูมิใจ บีได้แต่ยิ้มแหยๆ ด้วยความที่อายุน้อยกว่าจึงไม่กล้าขัด ได้แต่ยกแก้วน้ำขึ้นจิบราวกับจะกลืนความกระอักกระอ่วนลงคอไป รีบกวาดอาหารในจานใส่ปากแบบต้องการรับประทานให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้จบมื้อข้าวน่าเบื่อนี่สักที

-จบตอน-

กับ

"....พล่ามๆๆๆๆๆ" เอหัวเราะลั่น เล่าวีรกรรมที่เคยทำมาด้วยท่าทางภาคภูมิใจ บีได้แต่ยิ้มแหยๆ ด้วยความที่อายุน้อยกว่าจึงไม่กล้าขัด ได้แต่ยกแก้วน้ำขึ้นจิบราวกับจะกลืนความกระอักกระอ่วนลงคอไป รีบกวาดอาหารในจานใส่ปากแบบต้องการรับประทานให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้จบมื้อข้าวน่าเบื่อนี่สักที

ไม่น่านัดเจอไอ้หมอนี่เลย แม่งซวยฉิบหาย

-จบตอน-

อะไรประมาณนี้ แต่กูยังพามาถึงการขมวดปิดตอนแบบนี้ไม่ได้น่ะ เลยยังเป็นปัญหาอยู่

195 Nameless Fanboi Posted ID6:3Ff/sdBvve

>>190 ของกูมีทั้งแบบตัดห้วนๆ กับปิดท้ายด้วยวีรกรรมหรืออะไรซักอย่างของตัวเอก

ไอ้ตอนที่ตัดห้วนๆ มักจะเป็นช่วงเนื้อหาซีเรียส ทิ้งท้ายด้วยประโยคชวนคิดอย่างเช่น "คนร้ายน่ะ มันก็อยู่ในกลุ่มพวกเรานี่ล่ะ!" อะไรแบบนี้ แล้วค่อยตัดไปเลย

ส่วนขมวดจบแบบทั่วๆ ไปก็ทำแบบที่มึงพิมพ์ใน >>194 นี่ล่ะ ฉะนั้นกูเลยมองว่าไม่เห็นเป็นปัญหาตรงไหนเลยก็เห็นเขียนได้ตามปกติเองนี่?

196 Nameless Fanboi Posted ID6:5Mm1yV+FV4

พวกมึงที่ลงรายตอนเรื่องยาวกุขอคำปรึกษาหน่อย คือถ้ามีต้นฉบับจนจบแล้ว ถ้ากุลงวันละตอนก็จะใช้เวลา 3 เดือนกว่าแน่ะ กว่ามันจะจบ มันจะนานไปจนคนเบื่อเลิกตามมั้ยวะ หรือกุควรจะลงวันละ 2 ตอน ให้จบใน 2 เดือนดี แบบไหนดีกว่ากันวะ แต่กุวางแผนจะปล่อยอีบุคตอนลงไปได้เดือนนึง แล้วก็จะติดเหรียญขายตอนด้วย โดยสายฟรีมีทยอยเปิดให้อ่านตอนในระยะเวลาจำกัดแบบไม่กี่วันไรงี้ กุอยากรู้ว่าปกติเรื่องนึงมึงทิ้งระยะลงกันนานมั้ย แบบไหนให้ผลทางการตลาดดีกว่ากัน

197 Nameless Fanboi Posted ID6:NqrvFxOIEq

>>196 ลง รอร. มึงลงวันแรก 10 ตอนไปเลย แล้วลดเหลือวันละ 2 ตอน ถ้าติดเข้าใหม่มาแรง สักติดหนึ่งใน 50 มึงก็ปล่อยอีบุ๊คไปเลย มึงเดือนหนึ่ง นักอ่านสายอีบุ๊ค รอแห้งจนไม่อยากซื้อ

198 Nameless Fanboi Posted ID6:FhTE+9/a65

ky เพื่อนโม่งช่วงนี้กุร้อนเงิน อยากเขียนแนวที่ขายดี ๆ รักจีนโบราณไปรอดมั้ยวะ

199 Nameless Fanboi Posted ID6:NqrvFxOIEq

>>198 ร้อนเงิน เขียนนิยาย หมวด รักผญ. เยสสั้นๆ สักหมื่นคำไปก่อน นิยายจีนคนชอบยาวๆ เมื่อไหร่มึงจะเขียนจบง่ะ

200 Nameless Fanboi Posted ID6:2HJ+acBYnC

>>198 ประยุกต์จาก >>199 เอามารวมกัน รักจีนโบราณสั้นๆหมื่นคำผสมฉากเน้ด

201 Nameless Fanboi Posted ID6:gbHE5ycVID

>>197 ไม่กล้าหวังว่าจะติดชาร์ตกะเค้าเลยว่ะ 555
ใจมากมึง

202 Nameless Fanboi Posted ID:+oE2MVTrFs

เห็นประเด็นจบตอนของ >>190 แล้วนึกได้ ระหว่างตัดจบตอนแบบค้าง ๆ ให้ลุ้นตอนต่อไป กับเขียนตอนนึงให้คอมพลีตคลายปมในตอนไปเลย (เป็นตอนยาว ๆ เนื้อหาครบสมบูรณ์ทำนองนั้น) เพื่อนว่าแบบไหนดีกว่ากันวะ

203 Nameless Fanboi Posted ID:ET9dMCBHi9

>>202 กูอ่านได้ท้ังสองแบบ คหสต. ถ้ามึงจะจบครบในตอนยาวๆ มึงต้องทำให้กูอ่านแล้วรู้สึกว่าเออจบฟินแบบคุ้มที่อ่านยาวจนเหนื่อย ฟินนี่ไม่ได้แปลว่าจบดีจบหวานแบบจิกหมอน แต่ถ้าตัวละครมันต่อสู้กับปมมาทั้งตอนก็อยากให้ปิดจบตอนแบบกูคุ้มที่ลุ้นมา แบบนี้ต่อให้กูต้องโต้รุ่งก็ยังอยากไถอ่านเพื่อเหนื่อยกับมันต่อ
ไม่รู้กูอธิบายถูกมั้ย มึงเคยเป็นกันเปล่า แบบเวลาอ่านจบตอนช่วงกลางดึกแล้วรู้สึกว่าเชี่ยจบตอนสักทีแล้วปิดทิ้ง ไม่รู้สึกอยากโต้รุ่งเพื่ออ่านตอนต่อไปอ่ะ

204 Nameless Fanboi Posted ID:ET9dMCBHi9

>>203 เชี่ย กูพิมพ์ไม่รู้เรื่องเลย ขอโทษที ที่กูอยากบอกคืออย่าเป็นตอนยาวๆ ที่จบแล้วรู้สึกไม่คุ้มเหนื่อยอ่ะ กูนึกถึงตอนกูอ่านกลอรี ช่วงเล่มสิบกว่าๆ ที่พี่เยี่ยเจอเควสยาวตัวละครเยอะ แต่พอจบเควสนึงกูก็ยังอยากเปิดตอนต่อไป ไม่ว่าพี่เยี่ยในตอนนั้นจะจบแบบเทพเคลียร์ๆ หรือจบแบบมีปัญหารออยู่ข้างหน้า อะไรแบบนี้
ขอโทษอีกทีที่พิมพ์แล้วงง กูไม่ถนัดเรียบเรียงความคิดเลยแฮะ

205 Nameless Fanboi Posted ID6:BWLr0I/Fo6

Kyขอถามนข.--นข.ที่ลงขายebookแล้ว ไม่สามารถแก้ไขคำโปรย หรือเพิ่มTWตรงหน้าคำนำนข.ได้ทันทีที่รู้ว่าต้องแก้ไขเหรอวะ?//ต้องรอเมbมาทำให้เท่านั้นเหรอ?
คือมีนข.ลืมติดTWล่วงละเมิดเด็ก นักอ่านที่เป็นfcขาประจำซื้อไปอ่านแล้วดิ่งสุด จนจะอ้วก
เพิ่งมาเห็นในหน้าคอมเม้น ว่านข.บอกว่าลืมติดTWและรอให้เมbแก้ไข เพราะถ้าเห็นก่อนก็จะไม่ซื้อแน่นอน

206 Nameless Fanboi Posted ID:+oE2MVTrFs

>>205 คำโปรย/เนื้อหา หรืออะไรก็แล้วแต่ จะแก้ต้องรอเว็บอนุมัติ บางทีเป็นวัน แก้ทันทีไม่ได้จร้า

ว่าแล้วสงสัย เรื่อง TW นี่อยากให้ติดในคำโปรยเรื่องย่อเลย หรือให้อยู่ในเล่ม ต้องกดอ่านตย.ก่อนถึงจะเจอ ดี

207 Nameless Fanboi Posted ID6:0qys1B.Jc4

>>205 จริงๆ นข.มาโพสต์ในตรงความคิดเห็นหน้าเม้ดก่อนได้นะ

208 Nameless Fanboi Posted ID6:BWLr0I/Fo6

>>206 ถ้านข.กลัวจะสปอยล์ ติดในเล่มให้รู้ก่อนอ่านก็ได้
แต่โดยส่วนตัวกูที่เป็นคนอ่าน ชอบให้ติดทั้ง2ที่เลย ดูกล้าได้กล้าเสียกล้าทำกล้ารับดี วัดใจกันไป เพราะนักอ่านบางคนเจอTWตรงคำโปรยก็ไม่แม้แต่จะโหลดไปลองอ่านละ

209 Nameless Fanboi Posted ID6:a8oHpZchmI

ลงงานมา 1 เดือน + แอบดูคนรอบข้างแล้วพบว่า รอร. นี่ค่อนข้างชัดแล้วแฮะว่าหมวดแฟนตาตีแม่งร้างจริงๆ
เหมือนทางเว็ปมีไว้ประดับงั้นๆ แต่เอาไปวางซะข้างล่าง + ปนหมวดกันมั่วไปหมดเลย จนน่าจะไม่มีคนใส่ใจเข้าไปหาแล้ว
แบบนี้ชักไม่แปลกใจทำไมเรื่องแฟนตาซีอื่นๆ ถึงย้ายไปแฝงตัวหมวดอื่นกันหมด โดยเฉพาะแนวจีนโบเนี่ย

ขนาดมีคนเอาแนวจีนโบฯ มาลงหมวดแฟนตาซีจำนวนคนเข้าถึงยังน้อยจนน่าใจหายเลย

210 Nameless Fanboi Posted ID6:BWLr0I/Fo6

>>207 นข.โพสต์ในคอมเม้นแล้วจ้า แต่มาโพสหลังคนอ่าน4-5คอมเม้น แล้วคนอ่านบางคนไม่เห็นนี่สิ นิยายมาเที่ยงคืนวันศุกร์ก็โหลดอ่านกันเลย

211 Nameless Fanboi Posted ID6:0qys1B.Jc4

>>210 ไปดูมาละ น่าจะโดนว่าก่อนแล้วมาโพสต์ มันยิ่งช้าไปใหญ่

212 Nameless Fanboi Posted ID:X2DYiVrQ85

KY มึงกูหาไม่เจอว่ะ มันกดดูในเม๊พยังไงนะที่ให้โชว์จำนวนยอดโหลดหนังสือในระยะเวลา 7 วัน 150 วัน 1 ปี อะไรนั่นอ่ะ กูรื้อหาทั้งเว็บแล้ว ช่วยด้วย

213 Nameless Fanboi Posted ID6:lI5yyr2YC6

>>212 หนังสือของฉัน > จัดการบุฟเฟต์ > แล้วมึงกดปุ่มข้ามไปก่อน จะเจอรวมยอดที่หา

214 Nameless Fanboi Posted ID6:d4g5FGm34q

>>213 เจอเลยตามที่มึงบอก ขอบคุณหลายๆ เด้อ

215 Nameless Fanboi Posted ID:Ehv/3jAujM

ขอยาด 18+ หน่อยนะ พอดีไปเจอคห.คนที่ไม่ชอบการจูบมา บอกว่าดีพคิสมันน่าขยะแขยง บลา ๆ ทำเอาสาวโสดไม่เคยมีผัวอย่างกุเพิ่งตระหนักถึงฉากจูบ สมมติเพิ่งไปดินเนอร์มาละกลับมาจูบกัน / จูบตอนยังไม่แปรงฟันนี่คนอ่านเขาจะ eww มั้ยวะ แบบว่า สุขอนามัยมันไม่ได้ 555 กุต้องเขียนให้ลูกกุไปแปรงฟันก่อนมั้ย 555

216 Nameless Fanboi Posted ID6:b4nxrynYmv

>>215 เอาจริงนักอ่านส่วนใหญ่ไม่สนนะ มันมีความเร้าอารมณ์แทรกอยู่อะ แบบ เพิ่งดินเนอร์เสร็จ กรึ่มๆดื่มไวน์ นัวเนียจูบต่อในชุดสวยชุดหล่อเลยแม่งเซ็กซี่เว้ย แต่ถ้าแคร์เรื่องจูบ (กูเห็นนักเขียนบางคนแคร์จริง สัมผัสได้เลย) เขาจะเลี่ยงๆแบบสมมติให้พระนางแค่ดื่มกับกินอะไรเบาๆ ขนม ของหวาน หนักไปที่ไวน์ เวลาจูบนัวทีก็บรรยายได้ว่ากลิ่นไวน์เคล้าความหวานอะไรก็ว่าไป กับบางคนก็ไล่ไปแปรงฟัน แต่ถ้าแปรงฟันแล้วมาจูบมันไม่เซ้กซี่ ใครจะแปรงฟันเพื่อจูบอย่างเดียว ก็ต้องถอดเสื้ออาบน้ำ แต่มันก็จะลบเครื่องสำอางที่แต่งสวยมา ความเซ็กซี่มันหาย บางอย่างเลยต้องถอดสมองไปน่ะ ขึ้นอยู่กับคนเขียนเลย555

217 Nameless Fanboi Posted ID:ny662kH+q9

>>209 มันร้างเหรอวะ? คือกูตามแต่ในรอร.ไม่ได้ไปดด. เรื่องที่กูอ่านก็มีคนตามอยู่นะ(ร้อยปลายๆเกือบแตะพันเรียกว่าเยอะมั้ยนะ)แนวฟตซ.ผสมเกมออนไลน์อ่ะมึง กูว่าลงหมวดฟตซ.ก็ไม่ถูกเท่าไร คือคนเขียนลงให้อ่านฟรีกูก็อ่านไปเรื่อยๆก็เห็นคนเพิ่มเข้าชั้นสะสมมาเรื่อยๆเลยไม่รู้สึกว่ามันร้าง หรือบางทีคนที่มาอาจเป็นสายอ่านฟรีแบบกูก็ได้มั้ง ถถถถ

>>215 กูสน กูแคร์แต่ไม่ถึงกับขยะแขยง ถถถถ คือกูไม่อินเวลาพระนางตื่นมาตอนเช้าแล้วจูบกัน กูนึกถึงกลิ่นปากแล้วฟินไมม่ลง ถถถถ แต่อย่างที่มึงเสนอว่าเขียนให้ลุกไปแปรงฟันกันก่อน แบบนี้กูโอเค หรือตอนพอ.เอามือล้วงใต้กระโปรงนอ.อ่ะ กูจะคิดว่ามึงไปจับอะไรมาล้างมือก่อนได้ป่าว น้องสาวนอ.เป็นจุดบอบบางน่ะเว้ย ถถถถถ แต่คนรู้สึกแบบเดียวกับกูคงไม่ค่อยมีมั้ง

218 Nameless Fanboi Posted ID:x5/vLzoeJQ

>>215 กุเห็นด้วยว่าส่วนใหญ่ไม่สน คนที่คิดแบบนี้เป็นส่วนน้อย ว่าแต่กินดินเนอร์แล้วมันแหยะยังไงเหรอ อันนี้ถามเพื่อนโม่งคนอื่นๆ ที่มีความเห็นประมาณนี้ ถามแบบจริงๆ เพราะสงสัย 555 คือกุเคยชวนคุ่เดทที่เป็น ฝ ไปลองร้านอาหารไทย กุล่อกะเพราส่วนเขากินแกงเขียวหวาน ดื่มแค่น้ำเปล่า เขามาส่งหน้าบ้านมีจูบแรกกันแต่เตลิดหน่อยเลยไม่ใช่แค่แตะๆ น่ารักๆ ดีปอยุ่แต่มันก็ไม่ได้รู้สึกอี๋แหวะอะ ตอนกินข้าวเสร็จก่อนออกจากร้านกุแค่ไปเข้าห้องน้ำบ้วนปากด้วยน้ำปากเผื่อมีเศษอาหารติด ส่วนฮีกุกลับมาก็เห็นปากเนียนฉ่ำเหมือนแอบทาลิปมันเตรียมตัวไว้ กับบางคนโมเม้นจูบมาแบบไม่ได้ตั้งตัวด้วย คือแค่ทั้งคู่ดูแลความสะอาดน่าจะพอมะหรือคู่อื่นๆ เขาแปรงฟันกันก่อนตลอดเลยเหรอวะ ถ้าไม่ใช่ว่าพาเขามาแซ่บต่อที่ห้องมันก็ต้องจูบในที่ๆ แปรงฟันไม่ได้มั้ยง่ะ ส่วนจูบตอนตื่นกุเห้นด้วยว่าน่าจะแหวะอยุ่ 55555555

KY จริงๆ กุจะเข้ามาบ่นว่ากุเป็นสาวโสดซิงเขียนนิยายโรมานส์เพ้อๆ ขายฝันอยู่ดีๆ ไม่ชอบ เสือกไปลองเปิด ปสกส. ทีนี้มองโลกเทาเลยแง 5555 คือก่อนนี้กุมีแพลนนิยายเป็นสิบยี่สิบเรื่องเลย ส่วนใหญ่รักกุ๊กกิ๊กผสมฉาก 18+ ตามสูตรแหละ อาจจะมีขมบ้าง ระทึกบ้างแต่ตอนจบแฮปปี้ฟีลกู้ดตลอด ทีนี้ชีวิตรักกุนี่มันกึ่งๆ ons + fwb กุเลยเอาเรื่องตัวเองมาเขียนเพื่อฮีล มีดัดแปลงตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย ถ้าจะให้เขียนไปทางถูกใจตลาดก็ให้จบแฮปปี้ได้แหละ แต่กุรู้สึกว่าของจริงกุมันหวานปนขมเลยไม่อยากทรยศตัวเอง ทีจริงจบเรียลๆ เรื่องนึงคงไม่เป็นไร แต่ตอนนี้เหมือนกุมองโลกเปลี่ยนไปเลยจะกลับไปเข็นตัวเองให้เขียนเรื่องที่ค้างๆ ไว้ก็ไม่อินแล้วว่ะ ทำไงดีวะ

219 Nameless Fanboi Posted ID6:amK25s6VV2

>>209 รอร มันจัดวางเองได้ ไม่ใช่เหรอ มันอยู่ที่ว่าใครจะจัดไว้บนล่าง

220 Nameless Fanboi Posted ID:WJI/RE1zHQ

นิยายแสนคำ เพื่อนโม่งขายเท่าไหร่ แบบราคาพื้นไม่จัดโปร

221 Nameless Fanboi Posted ID6:XPmetlYUol

>>220 ตีกลมๆ 100000 = 300 / 299

222 Nameless Fanboi Posted ID6:5gC9UmWXp7

>>215 ถ้ามึงมัวนึกถึงความจริงในตอนที่อ่านนิยายมึงจะเจอความอี๋อีกหลายอย่างเลย ดังนั้นกุในฐานะนักอ่านนี่กุไม่สนหรอก ว่ามันจะไปจกปลาร้า แดกส้มตำกันมาก่อนจะมาดีพคิสกันอ่ะเปล่า ตราบใดที่คนเขียนไม่ได้บรรยายไว้กูก็จะถือว่าลมปากสะอาดหอมชื่นใจดุจเทพนิยายไว้ก่อนแหละ

>>220 กูกำลังว่าจะปล่อย 259 อยู่ มันถูกไปเหรอ? แต่กุโดนราคารายตอนดึงขาอยู่ว่ะ ไม่อยากให้มันต่างกันเกินครึ่งว่าจะเปิดราคานี้ แต่จริงๆ ยอดอ่านรายตอนแม่งก็กริบอยู่แล้ว หรือกุควรเปิดสูงไปเลยดีวะ ถือว่าลูกค้าคนละกลุ่มโดยสิ้นเชิงแล้วดี 🥲

223 Nameless Fanboi Posted ID:58/9XLy4Aj

>>222 ถ้าไม่ใช่ตัวมัม ราคาที่มึงว่ามาก็โอ คนจะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น ถือว่าลดลงมาหน่อย ถ้ามันเป็นเล่มฮอตขึ้นมา ค่อยแอบปรับราคาเงียบๆ ไม่ต้องประกาศบอก

224 Nameless Fanboi Posted ID6:Kw596MUDGq

>>222 ถ้าตอนแรกไม่ใช่ตัวมัม นักเขียนอย่าง รดสฬา ขายebookได้เยอะจนเรตติ้งรีวิวหลายร้อย(ตัดประเด็นเรื่องสำนวน/พล็อตไป)ก็เพราะขายถูกนี่แหละ กุเห็นเรื่องแรกเขาในแอพสองแสนคำขาย250 จากนั้นก็ปรับราคาขึ้นเรื่อยๆแต่ก็ยังไม่แพง แสนคำขาย200ไรงี้ ยอมใจการตั้งราคา กล้าเสี่ยงระดับหนึ่ง ถ้าถูกแล้วยังขายไม่ดีคือแย่ทุกทาง

225 Nameless Fanboi Posted ID6:It3.ww7uzy

ว่าแล้วถามหน่อย ถ้ายอดอ่านรายตอนค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว ทำ ebook นี่จะยังพอมีหวังคนเผลอกดไปบ้างรึเปล่าวะ
พอดีกูเพิ่งลงเล่มแรกที่ตั้งใจจะให้อ่านฟรีเสร็จ หลังจากนี้จะเริ่มขายละ แต่ยอดรายตอนก็น้อยกว่าที่คาดไปเยอะเลยกะจะไปลอง ebook ดู

226 Nameless Fanboi Posted ID:WJI/RE1zHQ

ขอบใจทุกคนมาก คือจริง ๆ กุตั้งไว้ที่ 0.0025 ต่อคำตามมาตรฐานแหละ จริง ๆ คิดว่าถูกมากแล้ว แต่เห็นนักอ่านบอกอีบุ๊กไม่ควรแพง (แพงของบางคนคือ 250+ ไม่สนจำนวนคำ ต่อให้ 2 แสนคำขาย 250 ก็บอกแพง .............) เลยหวั่นใจเล็กน้อย แต่ก็คิดว่า แม่ง เรื่องนึงกุเค้นสมองเขียนตั้งนาน 5555 ต้นทุนอื่น ๆ ก็มี ทีกินข้าวจาน 300 มื้อเดียวยังกินได้ 5555 กุจะกดราคาตัวเองทำไมฟะ 5555

227 Nameless Fanboi Posted ID6:sGwqQwxjyd

>>226 ในมุมนักอ่านแบบกูที่ไม่ได้เป็นทาร์เก็ตกรุ๊ปลูกเจ้าสัว กูว่าแพงเพื่อนโม่ง
ยิ่งถ้าไม่เคยอ่านงานกันมาก่อนจะคิดเยอะๆเลย หารจำนวนคำแล้วได้500+คำต่อ1฿คือราคาดีสำหรับกู//ต่ำกว่า400คำต่อ1฿คือเหล่แล้ว ทำไมแพง

228 Nameless Fanboi Posted ID6:/8/f1Ed.Yk

เวลาเขียนนิยาย ส่วนใหญ่แทนตัวละครด้วยชื่อจริงหรือชื่อเล่นกันน่ะ? คือส่วนตัวอยากใช้ชื่อจริงตัวละคร แต่มีคนแนะนำมาว่าถ้ามีชื่อเล่นใช้ชื่อเล่นดีกว่า 😅

แล้วสรรพนามบุรุษที่สาม (ผู้หญิง) มีอะไรนอกเหนือไป หญิงสาว, หล่อน, เจ้าหล่อน, ร่างเล็ก บ้างมั้ย ถ้าใช้ซ้ำๆซากๆ นักอ่านจะโอเคป่าววะ

229 Nameless Fanboi Posted ID6:sGwqQwxjyd

>>228 เห็นส่วนใหญ่บรรยายเป็นชื่อจริงนะ จะใช้ชื่อเล่นในบทสนทนา"..." ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมอ่านแล้วเข้าตาเข้าปากคนอ่าน
นอกจากหญิงสาว ;คนตัวเล็ก;ร่างบาง อาจเป็นลักษณะเฉพาะของคนๆนั้น เช่นคนตัวหอม หรืออ้างถึงบริบทก่อนหน้านี้เช่น คนที่บอกว่าจะไม่หิวเมื่อสักครู่ กลับนั่งกินข้าวกับเธอหน้าตาเฉย; ชายผู้เป็นเจ้าของส่วนสูง187เซนติเมตรกำลังก้มหน้ามองเธอ ;ลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน ;ลูกชายคนเล็กของบ้าน...

230 Nameless Fanboi Posted ID6:dS./Lla8dK

>>228 ของกูชื่อเล่นล้วนๆ เพราะตัวละครเรียกด้วยชื่อเล่นกันหมด
ของกูมีสรรพนามอื่นเอาไว้เรียกตัวละครบางตัวเป็นการเฉพาะเลยเช่น แม่ลูกแกะตัวน้อย, นังสมองนก, ยัยจิ้งจอก, นังงูพิษ, ทานูกิ/แรคคูน, แม่เสือสาว, อีลาโง่, พี่หมี ฯลฯ สรรพสัตว์ ถถถถถ
เพราะกูดีไซน์ตัวละคร โดยอิงลักษณะเด่นของสัตว์จำพวกนั้นๆ มาด้วยล่ะ

231 Nameless Fanboi Posted ID6:dS./Lla8dK

ยกตัวอย่างขำๆ ก็เช่น - และแล้ววันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ยัยจิ้งจอกศัตรูคู่อริเจ้าเดิม กำลังยิ้มกระหยิ่มขยิบตาที่คมกริบแถมยังกรีดด้วยอายไลเนอร์สีแดงสดจนดูคล้ายกับหลุดมาจากหอนามโลมยุคไหนซักยุค โปรยเสน่ห์ใส่พ่อหนุ่มร่างยักษ์จนทำเอาอีกฝ่ายถึงกับผงะตัวแข็งทึ่งไปชั่วขณะ
แน่นอนว่านั่น มันก็ไม่เป็นผลดีต่อแม่ลูกแกะตัวน้อยอันแสนจืดจางที่ยืนประกบอยู่ข้างๆ พี่หมีของพวกเราเลยซักนิด

232 Nameless Fanboi Posted ID:.KEGT00KRm

>>228 ถ้านิยายมึงฟีลจริงจังก็ชื่อจริง แต่ถ้าแนวรักใสๆวัยรุ่นและอยากใช้ชื่อเล่นก็ใช้ไปเหอะ

จริงๆจะใช้แบบไหนก็ได้ แค่มึงลองอ่านทวนแล้วบรรยากาศในเรื่องเหมือนที่มึงจินตนาการไว้ก็พอ

233 Nameless Fanboi Posted ID6:8v+wI/NfUI

>>228 ถ้าเขียนบรรยายกูใช้ชื่อจริง แต่ตัวละครพูดกูจะใช้ชื่อเล่น ตัวอย่าง

"ก้อยว่าเราไม่ควรเข้าไปดีกว่านะคะ" สุปราณีทำหน้าแหยๆเมื่อสมศักดิ์เอื้อมมือไปเปิดประตูเพื่อจะเข้าไปข้างใน หญิงสาวจุ๊ปากแล้วโบกมือให้เขาเดินไปทางอื่น

แต่ถ้าเป็นผู้ชายพูด กูก็ใช้สรรพนามแบบ ผม กู เรา ถ้านิยายโบราณๆหน่อยก็ฉัน กัน ประมาณนี้

234 Nameless Fanboi Posted ID6:rc9inAYi9/

>>231 จริงๆบรรยายแบบนี้สนุกมากนะ ถ้ากลุ่มลูกค้าคือวัยรุ่นอ่านนิยายออนไลน์ กูว่าน่าติดตามเลยแหละ
แต่ถ้าโม่ง >>228 ตั้งใจว่าอยากเขียนนิยายแบบเผื่อส่งสนพใหญ่ พยายามใช้ให้น้อยๆดีกว่า ฐานลูกค้าสนพส่วนมากเป็นผู้ใหญ่ มันก็จะอีกรสนิยมนึง

235 Nameless Fanboi Posted ID:ZsKV2p8u/y

ไม่รู้ถามมู้นข.หรือนักอ่านดี แต่พอดีกูอยากจ้างวาดปก/ตลค. แต่ไปเห็นคอมเม้นนิยายคนอื่นที่เขามีอิมเมจวาดเหมือนกัน นักอ่านติงประมาณว่าไม่ควรมีรูปเลย ไม่ชอบ วาดไม่สวย (เข้าใจว่าลางเนื้อชอบลางยา แต่กุมองว่าเส้นสวยโอเคนะ) ทำลายจินตนาการ บลา ๆๆ ละเฟลแทนนข.นว.เลย อยากรู้ว่าถ้าเจองี้ทำไงดีวะ นักวาดที่กุจะจ้างก็งานดีงานเริ่ดในสายตากุอยู่แล้ว แต่คนอ่านอาจจะไม่ถูกใจ หรือกุไม่ควรใส่รูปยัดเยียดอิมเมจให้คนอ่านจริง ๆ ฮือ ๆ

236 Nameless Fanboi Posted ID6:QtwIdTdRTS

>>235 ถ้ามี1คนที่บอกแบบนี้ แต่มึงคิดว่าดีว่าสวยก็ทำไปเถอะว่ะ มึงไปตามเอาใจคนอ่านไม่ได้ทุกคนอะ ใช้ความชอบของมึงเป็นเกณฑ์เลยเอาที่มึงเห็นสมควร แต่....ถ้ามีหลายๆคน(กะคร่าวๆมากกว่า10)บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าลายเส้นนี้ไม่สวยแบบนี้ไม่เวิร์คมึงต้องทบทวนใหม่ละว่ารสนิยมในด้านนี้มึงไม่ไปทางเดียวกันกับลูกค้า

237 Nameless Fanboi Posted ID:WMxqYm/Ntd

ขอเทคนิคพิมพ์นิยายได้วันละหลายพันคำหน่อย ตอนนี้กูเบิร์นเอาท์สุด ๆ พยายามเข็นให้ได้วันละสี่พันคำยังยาก เปิดคอมมากว่าจะทำนั่นนี่เสร็จมาพิมพ์ดึก ๆ นอนดึกตื่นสายไปทำงานแล้วเบลอ ๆ อีกหรือกูควรพอกับอาชีพนักเขียนดี มุ่งมั่นทำงานประจำ แต่นั่นแหละ เงินมันค้ำคอ

238 Nameless Fanboi Posted ID6:bPZOB8.ofG

>>236 +1 เอาความชอบตัวเองเป็นเกณฑ์

239 Nameless Fanboi Posted ID6:HqrG8+B6mw

รอร. นี่นับยอดวิวยังไงวะ อยู่ๆ ยอดพุ่งมาเพียบ แต่ในหน้าของนักเขียนเห็น นับยังก็ไม่ถึง

240 Nameless Fanboi Posted ID6:HqrG8+B6mw

>>237 มึงตั้งเป้าเยอะเกินไป วันละ 4000 นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย
ตอนแรกกูก็เหมือนมึงนั่นล่ะตั้งเป้าวันละ 3-4000 คำ สรุป Burnout
ปัจจุบันกูตัดเหลือ 1500 คำต่อวันพอ ตอนนึงเขียนจริงๆ แค่ 1-2 ชั่วโมง ถ้าวันไหนฟิตๆ หน่อยก็จัดไป 3-4000 คำ

241 Nameless Fanboi Posted ID6:xVAIId9ZvX

>>239 ถามงงว่ะ หมายถึงหน้านิยาย กับ ใแต่ละตอนเหรอ? รอร มันนับการคลิกดเข้าไปดู เช้าหน้าแรกก็นับ กดเข้าอ่านในตอยก็นับอีก1กดตอยต่อนับอีก1

242 Nameless Fanboi Posted ID:PuLlzLOPSZ

คือกุเป็นอะไรไม่รุ้อยากเขียนแต่เรื่องสั้นๆ ของตัวประกอบในเรื่องหลักที่ยังเขียนไม่จบหรือยังไม่ได้ลงมือเขียนมีแต่พล็อตกับทรีตเม้นต์ เขียนการพบเจอ คอนฟลิค ได้กัน บทสรุป แค่นี้กุพอใจละ ไม่ยาวมาก 4-8000 คำ กุก็กะว่าไว้เขียนเรื่องหลักจบค่อยไปใส่เป็นตอนพิเศษแถมให้คนอ่านเอา แต่ทีนี้กุเป็นสายชอบทำปกเองอีก อยากมีหน้าปกที่เหมาะกับโทนเรื่องของคู่นี้ๆ ก็เข้าแคนวาหาทำไปเรื่อย จนตอนนี้กุมีอิตอนพิเศษหลายเรื่องละแต่เรื่องหลักนี่คือทิ้งไปเป็นปีๆ ไม่มีวี่แววจะกลับมาเขียนได้เลยว่ะ หรือกุควรลงไอ้เรื่องพวกนั้นฟรีๆ เรียกแขกมามุงเรื่องเก่าๆ ก่อน

243 Nameless Fanboi Posted ID6:xVAIId9ZvX

>>242 ใช่มุงลงเป็นเรื่องฟรี เรียกแขกไเลย

244 Nameless Fanboi Posted ID6:P5n4DjhbXW

>>241 แสดงว่าเรื่องของกูมีคนเข้ามาดูเป็นพันๆ แต่คลิ๊กอ่านหลักหน่วยเองสินะ orz

ตอนแรกๆ ก็มีคนอ่านเป็นร้อยๆ นะ แต่พอดำเนินเรื่องไปซักพักยอดก็หาย แล้วในที่สุดลงไปเมื่อวานก็ไม่มีคนอ่านละ ยอดเป็น 0 เลย

เจอแบบนี้ชักอยากถามความเห็นเหล่าโม่งละว่ากูควรเลิกดันทุรังกับเรื่องนี้ดีมั้ย

245 Nameless Fanboi Posted ID6:xVAIId9ZvX

>>244 เอาให้จบมึง อย่างน้อยก็ไว้ขายอีบุ๊ค แต่เห็นแนวโน้มแบบนี้ มึงก้ตั้งราคาเบาหน่อย ไม่ได้เขียนเป็นงานหลักใช่ป่ะ? แต่บางทีนะ ลองเอาลงที่อื่นด้วย เผื่อดวงมึงจะผูกไว้กับแอพอื่นว่ะ

246 Nameless Fanboi Posted ID6:78wIdkqF2B

>>245 ปัจจุบันกูลงทั้ง ดด. ทั้ง รอร. คู่กันไป แล้วคือยอดพอๆ กันเลยทั้งคู่
จะให้ลงแอพอื่นก็ไม่น่าไหวละ เมื่อคืนนั่งตั้งเวลาอัพ 2 แอพพร้อมกัน กินเวลาไปราว 2-3 ชั่วโมงแน่ะ

247 Nameless Fanboi Posted ID6:xVAIId9ZvX

>>246 คือมึงอัพทีกี่ตอนหว่า?

248 Nameless Fanboi Posted ID6:78wIdkqF2B

>>247 50+ ตอน คืออัพทั้งเล่มนั่นล่ะ
กูเขียนสต๊อกเอาไว้เยอะมากแล้วไง แต่ทยอยตั้งเวลาอัพ
ปัญหาคือตอนอัพนี่ล่ะ แม่งต้องมาตรวจคำผิด + ตั้งเวลาทีละตอน แล้วต้องทำ 2 แอพพร้อมกันเลยกินเวลาเยอะกว่าที่คาดเลย

249 Nameless Fanboi Posted ID:51J4V4Cx84

>>248 ตรวจคำผิดทีละตอนก็แล้วไป แต่รี้ดมันตั้งเวลารวดเดียวได้นะเมิง แบบระยะห่างละวันละตอนงี้ก้ได้ ((คือจริง ๆ กุก็เพิ่งรู้ นึกว่าต้องตั้งทีละตอน เสียเวลางมตั้งนาน 5555))

250 Nameless Fanboi Posted ID6:HXx3gAieVd

>>249 อ้าวเหรอ เชี่ยกูก็โง่กดทีละตอนๆ

251 Nameless Fanboi Posted ID6:SmhUM4j0pA

กลุ่มนักเขียนใน FB นี่มีกลุ่มไหนบ้างมั้ยวะที่คุยและแชร์ประสบการณ์เขียนกันจริงๆ ไม่ใช่มีแต่โพสต์ฝากนิยายตัวเอง
เห็นลองแอบเข้าไปดูแต่ละกลุ่มมีแต่โพสต์ฝากนิยาย ไม่มีใครคุยกันเลยซักคน

252 Nameless Fanboi Posted ID:1XIuTxE5cW

>>251 มึงลองเปลี่ยนมาเข้า

253 Nameless Fanboi Posted ID:1XIuTxE5cW

>>251 มึงลองเปลี่ยนมาเข้ากลุ่มไลน์อพช.มะ
กูเคยลองแทรกเข้สไปทุกกลุ่ม​ 99% จะมึแต่พงกแปะลิงก์ฝากนิยายตัวเอง​ นิยายเพื่อน​ นิยายน้องเขียน
แต่กูเคยเจอกลุ่มนึงมันดิสคัสเรื่องเทคนิคเขียน/ขายจริงจัง​แ

254 Nameless Fanboi Posted ID:1XIuTxE5cW

>>253 ต่อ
มันดิสคัสเทคนิคจริงจัง​แต่คำพูดแต่ละคนจะเบียวๆไม่ก็ดัดจริตนิดหน่อย​ เคล็ดลับ​ก็เบสิคบ้างไม่ก็กลวงๆ​อย่างเช่นนอนให้พอสมองแจ่มใส​ ไม่ก็ออกไปเที่ยวโลกหาแรงบันดาลใจ​ กูตามอยู่พักนึงขี้เกียจ​อ่านเลยลีฟ
แต่พวกฝากลิงก์นิยายตัวเองก็มีนะ​ ไม่ใช่สมาชิกที่ดิสคัสด้วย​ เป็นพวก​ ROM แปะลิงก์​แล้วก็เงียบเป็นเดือนแล้วก็แวะมาแปะตอนใหม่แล้วก็ไม่คุยไรเลย
ไรพวกนี้กูเข้าไปในอพช.มาลองหมดแล้ว(​เฉพาะกลุ่มเปิดนะ​ )​ บอกได้เลยว่าพวกฝากนิยายยังไงมึงก็เจอ​ หลายกลุ่มแปะหราว่าฝากนิยายได้​สงสัยแอดมินกลัวไม่มีสมาชิก ขนาดกลุ่มดิสคัส 1%ที่ดูจิงจังยังมี​ กูเคยถามว่าแปะได้เหรอพวกที่น่าจะอยู่มานานบอกว่าไม่ได้ห้าม​ ห้ามแค่ลิงก์สินต้าทีรไม่ใช่นิยาย
ปอลอกลุ่มที่ว่านั่นกูก็ลีฟออกมาแล้วรำคาญบทสนทนาสวยๆในนั้น

255 Nameless Fanboi Posted ID6:8p9NjOivWZ

>>251 ไม่มี ทุกที่มีให้ฝากนิยายแทรกกับการคุยทริคบ้างดราม่าบ้าง

256 Nameless Fanboi Posted ID6:uQykZqF9uG

โม่งนี่โอสุดละ แถมบอกกันแบบไม่กั๊ก แต่แค่ต้องระวังเวลาปรึกษาพล็อต ยูนีคเกินโป๊ะแตก555

257 Nameless Fanboi Posted ID6:5xoLj0c8Rh

Ky ถ้าส่งไฟล์อีบุ๊กวันอาทิตย์ เมบจะอนุมัติในวันนั้นและได้ขายวันรุ่งขึ้นมั๊ย

258 Nameless Fanboi Posted ID6:81B/VwPQhh

>>256 ไม่มีใครกล้าฝากนิยายด้วย555 กลัวโป๊ะหลุดแหละ
ว่าก็ว่าเหอะ สมัยก่อนในดด.มันเคยมีนะ พวกคอมมูบทความแชร์ทริคเขียนนิยาย จำได้ว่าคึกคักมากฟีลเวิร์กชอปออนไลน์เลยมึง กูก็งมแบบงูๆปลาๆได้จากในนั้นละ ตอนนี้พวกคอมมูล่มสลายไปละอย่างร้าง บทความเขาก็เลิกเขียนละพวกทริค นานๆเขียนทีแต่ทริคกลวงๆอะ แนะนำให้ไล่หาอ่านบทความเก่าๆดู ที่เขียนโดยพี่น้องพี่เต้อะ ทริคเด็ดอยู่นะ อมตะตลอดกาลด้วยแบบไม่อิงกระแสมึงก็เอาทริคนั้นมาเป็นฮาวทูเริ่มต้นในการเขียนนิยายได้

259 Nameless Fanboi Posted ID6:zYVgSjT7n0

>>251 ไม่งั้นมึงก็ต้องหานักเขียนที่ฝากงานนั่นแหละมาเมคเฟรนด์ ปรึกษา แนะนำ ช่วยกดใจเวลาออกเล่ม สร้างกลุ่มกัน ชวนกันเขียนนิยายเซ็ต เห็นตัวแม่บางคนก็มีกลุ่มก้อนไว้ปรึกษา บางคนก็ฟีลทักตัวแม่ไปว่าคุณคือแรงบันดาลใจของฉัน สอบถามหลังไมค์เรื่องเทคนิคพร้อมแนบงาน ไม่ก็แท็กอวย เขาก็จะรีๆนิยายให้ตามมารยาท แก๊งนข.วัยรุ่นยิ่งแล้วใหญ่ ไปเรียนรู้เทคนิคจากหลังไมค์เอา ไม่งั้นก็ต้องรอคนเปิดลงทริคตัวเองแล้วไปเมคเฟรนด์กะเขา ซึ่งมันยุ่งยากสำหรับกูมาก ขก.คีพคสพ. (เพราะบางทีจะเจอคนปสด. ไม่ก็เรานี่แหละปสด.ซะเองด้วยปัจจัยหลายอย่าง)

ส่วนสิงโม่งเข้ากะกูสุดละ อยากถามตอนไหนก็มา อยากตอบตอนไหนก็ตอบ555

260 Nameless Fanboi Posted ID6:tqzJPkwY7I

>>256 จริง กุว่าโม่งนี่มีประโยชน์สุดแล้ว 555 อยากให้มีตุ่ม unsend เหมือนกัน กัวดิจิตอลฟุดฟิด 55555

>>257 ไม่ชัวร์นะ รู้สึกมันจะกำหนดให้ตั้งเวลาขายล่วงหน้าได้ไม่น้อยกว่า 3 วัน เว้นแต่จะกดให้ลงเลยเมื่อไฟล์พร้อม ของกุเร็วสุดคือส่งวันนี้เที่ยงคืนขายได้เลย (ให้เขาทำ epub ให้ด้วย ตกใจเหมือนกันที่ทำให้เร็วขนาดนั้น 55555) แต่ตอนนั้นที่ขอคือวันงาน ถ้าวันหยุดนี่ก็ไม่แน่ใจจะได้เร็วมั้ย รอเพื่อนโม่งท่านอื่นมาให้ข้อมูล

261 Nameless Fanboi Posted ID6:lg2SVbo8wk

ก็ว่างั้นนะ หลายปีมานี้กูเลยวนเวียนอยู่แต่ในโม่ง ไม่ได้เล่นคอมมูนิตี้บนดินอื่นเลย

เรื่องเทคนิคการเขียนนี่กูไม่มีปัญหาเท่าไร นอกโม่งมีหลายแหล่งบอกแหละนะว่ากูเขียนดี ในกระทู้ Arknights ของโม่งกูก็เป็นคนเขียนสรุปเนื้อเรื่องอีเว้นท์นี่ล่ะ ยิ่งเขียนนานเข้าสกิลยิ่งเพิ่มจนตอนนี้กูเขียนคล่องมากทั้งที่เพิ่งกลับมาเขียนจริงๆ จังๆ ได้ปีเดียว หลังจากเลิกเขียนไปหลายปีมาก

แต่ปัญหากูว่ากูไม่สามารถเขียนให้ดึงดูดคนอ่านให้อ่านได้ระยะยาวนี่ล่ะ... คล้ายกับว่าสไตล์กูเป็นแนว Slowburn ค่อยๆ เล่าเรื่องเล็กๆ หลายๆ ตอนให้มาประกอบกันก่อนจะพากันเป็นภาพรวมใหญ่ ซึ่งก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันดีมั้ย แต่เดาว่าคงไม่เหมาะกับการอ่านยุคใหม่หรือไม่น่าสนใจพอล่ะมั้ง? เพราะมาถึงตอนนี้กูไม่เห็นมีคอมเม้นท์หรือคอมเพลน์อะไรกับเรื่องที่กูเขียนเลย

ยิ่งกว่านั้นตอนนี้นิยายกูนี่ยอดต่ำมากจนใกล้เลข 0 จึงมารบกวนบ่นในมู้นี้บ่อยๆ เลย orz แถมพอลองมองรอบๆ ก็รู้สึกท้อแล้ว เพราะเห็นเรื่องที่บรรยายแย่กว่ามาก แต่กลับมียอดมากกว่ากูหลายสิบเท่า วันไหนที่เข้าไปเช็ค/ไปอัพตอนใหม่ แม่งก็โดนความรู้สึกแง่ลบโถมเข้าใส่ตลอด จนตอนนี้อยากจะลบเรื่องที่ลงเอาไว้ทิ้ง แล้วหนีหายไปจากสาระบบตลอดเลย

ถึงจะบอกกับตัวเองว่าเขียนด้วย Passion ที่อยากเขียนก็เถอะ แต่หลังๆ รู้สึกว่าตัวเองเริ่ม ปสด. กับเสียดายเวลาขึ้นมาว่ะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขียนเองอ่านเองคนเดียวยังมีความสุขดีอยู่เลยแท้ๆ ...มาถึงตรงนี้อยากจะถามโม่งแต่ละคนจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงกันบ้างเนี่ยล่ะ

นี่นั่งคิดละว่าควรจะตัดจบเรื่องที่เขียนอยู่ดีมั้ย แต่ก็เสียดายเซ็ตติ้งที่ปูมาว่ะ

262 Nameless Fanboi Posted ID:hGQrAOQJFR

>>261 กุเป็นหนึ่งในคนที่เขียนไม่ค่อยดี คือเวลาสกิลมันติดลบมันก็ติดลบจริงๆ แบบเขียนประโยคต้องคิดแล้วคิดอีก มันไม่โฟลว์อ่ะ พอย้อนอ่านก็จะเจอจุดที่คิดว่ามันน่าจะดีกว่านี้ได้หลายจุดอยู่แต่คือก็แก้หลายรอบแล้วก็ยะงไม่ได้ดั่งใจ แล้วอารมณ์เปลี่ยนครส.ก็เปลี่ยนทุกรอบที่แก้อีก เลยคิดว่าพอเหอะ ลงไปงี้แหละ
​งานลงไปก็ไม่ปังหรอก ยอดวิวกริบ ยอดอ่านรายตอนก็กริบ แต่แม่งโชคดี ไปเจอสุดยอดนักอ่านอยู่คนสองคนที่เขาชอบงานกู ใจกูเลยฟูเลย อีกอย่างคือกูเป็นพวกเขียนจบแล้วค่อยลง ดังนั้นจะปังจะฟุบกุก็ไม่มีที่ให้ถอยแล้วไงมึง ได้แต่ the show must go on 555
แต่งานที่ไม่มีคอมเมนต์กูก็จะปลอบใจตัวเองว่า อย่างน้อยแม่งก็ไม่เห้จนคนที่ซื้อกลับมาโพสท์ด่าว่ะ
งานทุกวันนี้มันล้นตลาดจริง ๆ มึง ลองนึกสภาพมึงคุ้ยเสื้อลดราคามือสองอ่ะ กว่าจะเจอชิ้นที่ใช่ คนหลายๆคนก็ยอมซื้อราคาเต็มที่วางเชลฟ์ให้เห็นง่ายมากกว่าไป ตลาดนิยายกูว่าไม่ต่างกันเลย มึงต้องดูงานแปลที่สนพ.คัดมาแล้ว เอาข้ามประเทศมา ลงทุนซื้อลงทุนแปล นั่นคืองานที่ผ่านการตัดสินมาหลายด่านแล้วนะ แต่สุดท้ายก็ยังแป๊กเลหลังเยอะแยะ ดังนั้นยอดขายไม่ได้บอกความสามารถนะ จะทำต่อหรือไม่ก็ต้องชั่งน้ำหนักเอาแล้วล่ะ ว่ามีอย่างอื่นที่ทำแล้วสุขกว่าคุ้มเวลากว่า ได้สิ่งที่ต้องการง่ายกว่ามั้ย สภาพการณ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันอ่ะเนอะ
แต่ใดๆ ถ้ามันจบ มึงก็ทำเล่มวางขายใส่ชั้นไว้ให้ตัวเองพราวได้นะ กุรักงานตัวเองแบบที่พอกลับมาอ่านกูก็มีนิยายที่ตรงใจกูทุกอย่างหนึ่งเล่ม เป็นชิ้นงานเหมือนถ้วยรางวัลวางไว้ตรงนั้นแหละ ต่อให้แม่งจะทำเงินไม่คุ้มค่าเวลากูสักนิดเดียวเลยก็เหอะ
เห้อ ว่าแล้วก็ไปฮึบเขียนงานต่อ สองปีเรื่องแหนะสำหรับกู

263 Nameless Fanboi Posted ID6:81B/VwPQhh

>>261 >>262 เห็นพวกมึงตัดพ้องี้กูอยากแชร์ปสก.ในฐานะยักอ่าน มีนข.คนนึงจู่ๆเขาก็ดองงานแบบหายไปดื้อๆเก้าปีเลย อัปเดตสุดท้ายเขาบอกแค่ใกล้เรียนจบ แม่งหายไปแบบไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยทุกช่องทาง เฟสทวิตก็ปล่อยร้างไว้งั้น จนวันนี้เขาเพิ่งมาอัปเดตนิยายตอนใหม่กับอัปเดตชีวิตว่าทำงานอยู่ยุ่งๆแหนะ เพิ่งว่างมาเขียน แม่งเอ้ยความรู้สึกแรกที่เห็นแจ้งเตือนคือเหมือนเห็นผีลุกมาจากหลุม555 เขาหายไปก่อนลุงตู่เป็นนายกอีกมึง ตอนที่มาต่อก็ไม่ได้พีคไรมากสำนวนเปลี่ยนอีกต่างหาก แต่สำหรับนอ.เดนตายแบบกูที่เฝ้ารอมาเป็นปีๆคือเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ แล้วคนติดตามนิยายมีแค่ห้าร้อยกว่าคนเอง เม้นทีตอนละคนสองคนงี้ ในมุมนข.ก็เหือดแห้งอยู่แหละพอเข้าใจ
ก็เลยอยากบอกพวกมึง มันยังมีคนตามอ่านอยู่จริงๆนะ พวกนิยายไม่แมสคนอ่านน้อยเนี่ย คือคนอ่านที่เหลือเขาก็ตามมึงอยู่แหละ ต่อให้ไม่มีวี่แววว่าจะอัปตอนใหม่ก็คืออ่านวนตอนเก่าๆให้หายคิดถึง พอเป็นนข.มั่งกูถึงพอเข้าใจว่าเออพวกยอดต่างๆก็มีส่วนเป็นกำลังใจมากๆเลย อย่างการเม้นนี่มีคนเม้นทุกตอนต่อให้เป็นคนเดิมๆก็แฮปปี้ละ ถึงยอดอ่านไรมันจะน้อยหลักร้อยหลักสิบนี่น่าท้อใจจริง แต่พอเลิกตั้งเป้าว่าจะเอาเท่านี้ ให้ได้หลักพันหลักหมื่น มันก็ปล่อยจอยได้เองอะ ไม่ได้เขียนเพื่อขายเนอะ เน้นเขียนเล่นนี่นา อย่าเครียดๆ อย่าไปสนเอนเกจ ไม่งั้นมันจะเขียนไม่ออก
เออ แต่ในมุมนอ.ที่อุตส่าห์รอ อย่างน้อยถ้าจะเทหรือเลิกเขียนก็อยากให้บอกตรงๆก่อนไปอะว่าเขียนไม่ไหวงั้นงี้ ตัดจบแม่งก็ได้ กูตามอ่านนข มาเป็นร้อย มีนข.แค่ 2-3 คนเองที่กล้ามาบอกลาว่าเขียนไหวละจ้า ไม่ทีตอนใหม่แล้วนะ กับมาบอกตรงๆว่านี่คือตอนสุดท้าย ขอตัดจบเพราะไปต่อไม่ไหว ว่ากันตรงๆก็เหมือนกินข้าวไม่อิ่ม แต่ได้รู้ว่านี่คือข้าวจานสุดท้ายก็ยังดี เพราะดีกว่ารอข้างจานต่อไปที่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่ ถึงเสียใจแต่ก็ได้มูฟออนหน่อย เก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ ไม่ใช่ความทรงจำที่ค้างคาแบบคิดถึงมันทีไรก็ข้องใจทุกทีว่ามันจะจบไงวะ นข.ยังมีชีวิตอยู่ใช่มั่ยนะ

264 Nameless Fanboi Posted ID6:Nf5JJ2LWZW

>>263 เคสกูทุกเรื่องก่อนเลิกเขียนนี่ระบุหมดระว่าทำไม
อย่างเรื่องก่อนที่เลิกเขียนไป เพราะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นระดับผู้จัดการ เวลาว่างมีไม่พอเลยต้องเลิกเขียน แต่อย่างน้อยก็เข็นจนจบเล่มล่ะนะ

ถ้าตอนอารมณ์ดีๆ มันก็คิดได้แหละว่าปล่อยจอยไป เขียนไปเรื่องแล้วทำ ebook ให้คนสะสมแบบโม่งบอกก็น่าจะดี
แต่พออารมณ์แม่งดาว์นเมื่อไรเนี่ยสิ แม่งกูคิดจะลบทิ้งอย่างเดียวเลย ถถถถ

265 Nameless Fanboi Posted ID:UtxZwGeRML

เชี่ย ทำไมในเว็บโม่งแม่งต่างจากในเพจนิยายที่มีแต่คนแชร์ยอดโหลดวันแรกหลักร้อยหลักพัน แล้วเชียร์ให้ทำตามฝันสไตล์ไลฟ์โค้ชจังวะ ถถถถถ แม่งต่างกับบนบกอย่างกับหน้ามือกับหลังเท้าแต่ก็เรียลดีว่ะ
>>261 กูเห็นด้วยกับมึงว่านิยายติดท็อปตอนนี้สำนวนอิหยังวะก็เยอะ บางเรื่องแต่ประโยคคำพูดของพระนางไปมาเป็นพรืดแต่ก็ขายดี คนอ่านกลุ่มใหญ่คงมาแนวนี้แหละ กูเห็นเวลามีใครมาถามในนี้ว่าร้อนเงินอยากเขียนนิยายแบบยอมขายวิญญาณ ส่วนใหญ่ก็มีแต่คนให้ไปลองอ่านพวกติดป้ายแดงขายดี มันเลยออกมากันเกร่อ

266 Nameless Fanboi Posted ID6:8p9NjOivWZ

>>265 จริง พวกติดท็อป(nit all)สำนวนกูอ่านไม่ได้เลย กูเคยลองอ่านดู เจอแต่คนตัวเล็ก(นางเอก)กับคนตัวโต(พระเอก) วนอยู่แค่นี้ อ่านแล้วเอียนมาก

267 Nameless Fanboi Posted ID6:oWfmgTE6kp

>>265 ปกติตามกลไลตลาดไงมึง อะไรขายดีคนก็แห่กันขายตาม อย่างหมาล่าสายพานงี้ ช่วงเฟื่องฟูคือเปิดกันสิบๆที่ เวลาผ่านไปกระแสซาลงถึงเป็นตัววัดนี่ละ ร้านไหนทำไม่อร่อยวัตถุดิบไม่ดีราคาแพงเกินควรก็เจ๊งไปซะ ที่รอดๆคือของดีจริงต่อให้ราคาแพงกว่าร้านข้างๆแต่บริการดีวัตถุดิบดี คนกินก็ตามต่ออะ
นิยายก็คือกัน ช่วงบูมๆคนก็แห่อ่านแบบไม่สนสำนวนหรอก แค่พล็อตโดนใจตามกระแสก็แห่กันมาอ่านละ พอผ่านๆไปก็จะเริ่มเลือกอ่านละคนนี้เขียนทื่อไม่ถูกจริต คนนี้เขียนคาร์ได้กากสัส คนเขียนที่ไม่รอดก็ต้องหาแนวใหม่มาเขียนวนไป คนที่รอดต่อให้มาพล็อตเดิมๆผัวโบ้เมียหอบท้องหนี เหมือนเหบ้าเก่าในขวดใหม่แต่ถ้าเขียนคาร์น่าจดจำสำนวนดีเนื้อหาเด่น คนอ่านก็ตามอ่านต่อไปนั่นละ

268 Nameless Fanboi Posted ID6:MkN/Z5RJ55

ผัวโบ้หอบลูกหนีนี่แม่งยืนหนึ่งจริงๆ ว่ะ ถ้าเขียนพระเอกโบ้โดนใจ ยังไงก็ขายได้555 แต่กูลองละ กูไปไม่รอดว่ะ555

269 Nameless Fanboi Posted ID6:Om8/xajzgN

>>267 กุว่ามันจะไม่เป็นงั้นน่ะสิ เด็กรุ่นใหม่จะโตมากับสำนวนแบบนี้จนคิดว่าไอ้แบบที่โม่งคิดว่าสวยอ่ะ มันคือสำนวนที่แม่งโคตรเยิ่นเย้อ แสนจะโบราณ ต้องแบบที่ติดท็อปนี่แหละถึงจะวัยรุ่นเร้าใจ สุดท้ายงาน+สำนวน+ศัพท์ มันก็จะดิ้นไปตามยุค เหมือนที่สำนวนกำลังภายในตายจากไปอ่ะมึง

270 Nameless Fanboi Posted ID6:jNJguD2IrL

สำนวนเป็นอะไรที่หยิบมาคุยก็ยังไงก็ไม่จบอะ
แต่เคสกูสำนวนไม่เกี่ยวแน่ๆ เพราะกูเขียนแบบ Simply แล้ว ไม่วัยรุ่นไป แต่ก็ไม่ยืดยาวไป

กูเดาว่าหลักๆ ปัญหากูอยู่ที่การดำเนินเรื่องแฮะ เพราะตอนแรกๆ คนอ่านเยอะมาก แต่จู่ๆ พอดำเนินเรื่องมาซักพักถึงตอนหนึ่งก็ดรอปฮวบไปเลย เหมือนเจออะไรบางอย่างขัดใจ แต่กูก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเช่นกันเพราะไม่มีคอมเม้นท์จากคนอ่านเลย

271 Nameless Fanboi Posted ID:zJ1WuZkyiw

>>269 มันเกิดขึ้นละ ล่าสุดเห็นคนชื่นชมว่านิยายแปลออนไลน์เรื่องนึงสำนวนดีมาก ส่วนเวอร์ชั่นหนังสือของเรื่องเดียวกันกากมาก (เรื่องนี้แปลสองสำนวน คนแปลคนละคน) แถมยืนยันว่าเดี๋ยวนี้คนเขาอ่านแต่สำนวนออนไลน์ทั้งนั้นแหละ ดีนะที่สนพ.รู้จักประมาณตัว ไม่งั้นคงต้องขายเลหลัง นักแปลก็ใช้ศัพท์อะไรไม่รู้ไม่คิดว่าคนอ่านจะอ่านเข้าใจมั้ย ฯลฯ

คำที่เขาบอกว่านักแปลเวอร์ชั่นหนังสือใช้โดยไม่คำนึงถึงความเข้าใจของนักอ่านคือ "ลัทธิ" ประมาณว่าใช้คำว่าลัทธิเรียกศาสนาในเรื่องได้ยังไง ต้องเรียกว่า "ศาสนจักร" สิถึงจะเก๋กู้ด เช่น "aนับถือศาสนจัรเทพธิดา" บลาๆ ส่วนลัทธิใช้กับพวกสิ่งไม่ดีทั้งนั้นแหละ

กูที่โตมากับคำว่าลัทธิขงจื้อ ลัทธิเต๋า ลัทธิเพแกน ฯลฯ ก็อึ้งๆไป

272 Nameless Fanboi Posted ID6:tMrR+7JUKi

กูเพิ่งเจอในกลุ่ม อพช.นักเขียน ชื่อเรื่อง... "เรื่องที่ลืมไม่หลงของเธอ"
ลืมไม่หลงคืออะไรว้าาา

273 Nameless Fanboi Posted ID6:NaZu0ZaQzy

>>261 จริงๆกูก็ประสบปัญหานี้อยู่ กูเขียนฟิคแต่เป็นการ์ตูนเก่าแล้ว คนน่าจะไม่ตามกันแล้ว กูก็เขียนไปเรื่อยๆแหล่ะสนองนี้ดความฟินตัวเอง มีคนหลงมากดใจ กดอ่าน เมนท์นิดๆหน่อยๆกูก็ดีใจมากแล้ว ไม่มีใครอ่านกูก็เฉยๆเพราะกูถือว่าเขียนให้ตัวเองอ่าน อย่าไปซีเรียสเรื่องยอดวิวยอดเมนท์มาก เอาความสนุกของมึงเป็นหลักพอ ถ้าทำแล้วไม่สนุกก็หยุดไว้ก่อนแค่นั้น

274 Nameless Fanboi Posted ID6:Om8/xajzgN

งานล้นตลาดจนนักเขียนแม่งเลิกหากินกับงานเขียนแล้ว เพราะไม่พอกิน หันมาตกเงินจากนักอยากเขียนด้วยกันรวยกว่า ทั้งงานโกสต์ งานบก. งานช่วยรีเสริซ งานรับอ่าน งานพิสูจน์อักษร งานจัดหน้า งานช่วยคิดพลอต งานช่วยโปรโมท คอร์สสอนเขียนออนไลน์ง่ายใน123 หนังสือกรรมวิธีเขียน รวมศัพท์ บลาๆ ล่าสุดรับจ้างคอมเมนต์ ใน raw บางคนเห็นเพิ่งเริ่มเขียนกันอยู่หลัดๆ ปีสองปี ล่าสุดรับจ้างเป็นบก.แล้ว

275 Nameless Fanboi Posted ID6:JNgY0JhPVg

>>271 ศาสนจักร ใช้กับพวกคริสต์ ไม่ใช่เหรอ

276 Nameless Fanboi Posted ID:9OqitBnbik

>>274 กูบอกตงว่าโคตรอิจฉา​แอครีวิวเลยว่ะ​ ถถถถ​เคยทักถามราคา​ รีวิว​ 1,500 วันละ​ 4-5 เรื่อง​ จองวันนี้รอคิวสองเดือน​ กูกดเครืาองคิดเลขเห็นรายได้หลักแสนฉ่ำๆแล้วอยากปั้นเพจไม่ก็เอ็กซ์​ให้เอ็นเกจสูงๆมั่ง

277 Nameless Fanboi Posted ID6:JNgY0JhPVg

>>276 จ้างรีวิวแล้ว ยอดขายดีขึ้นจริงมั๊ย

278 Nameless Fanboi Posted ID:rn.xtwaIjc

>>277 ไม่ อย่าไปเชื่อ

279 Nameless Fanboi Posted ID6:uOw/bRFW4s

>>276 อันนี้ไม่ค่อยเกี่ยวแค่สงสัย รับจ้างแบบนี้เขายื่นภาษีกันประเภทไหนวะ รับจ้างทำของหรอ แบบนี้ถ้ารายได้ดีขนาดนี้ก็ต้องจดแวตอะดิ เป็นล่ำเป็นสันโพดดด

280 Nameless Fanboi Posted ID:9OqitBnbik

>>277 แรกๆยอดอ่านยอดขายเข้าอยู่​ ไม่ถึงกับเป็นกอบเป็นกำแต่ก็เข้า​ คือไงดียอดกูเดิมต่ำเรี่ยดินอยู่แล้วพอมีรีวิวก็ช่วยได้​ อันนี้จ้างเมื่อสองปีก่อน​ และปีที่แล้วกูลองอีกเรื่องได้แต่ยอดกดเข้าชั้น​ ยอดขายหรอมแหรมมาก​ พอมาเรื่องล่าสุดเพิ่งได้คิวลงรีวิวไตรมาสแรกปีนี้​ ยอดอ่านไม่ขึ้น​ ยอดขายไม่ต้องพูดถึง​ orz ค่ารีวิวแพงขึ้นด้วยเว้ย​ รู้สึกเสียดายตังค์เพราะเค้าเขียนรีวิวไม่ค่อยน่าอ่าน​ (บางแอคจะให้มึงร่างเองเลยว่าอยากให้ชมยังไง​เรื่องย่อเป็นไงจถดขายตรงไหน)​ และกูว่าพอวันนึงลงรีวิววันละ​ 4-5​เรื่องอ่ะ​ คนตามก็คงเอียนละมั้ง​ เหมือนรู้ว่ามันก็โฆษณา​ดีๆนี่เอง​ เรื่องหน้ากูเลยว่าจะไม่ลงทุนกับตรงนี้แล้ว

281 Nameless Fanboi Posted ID6:MkN/Z5RJ55

>>277 นอเห็นประกาศรับรีวิวจากแอคพวกนี้เขาก็ไม่ค่อยเอาละมั้ง ต้องหวีดเก่งจริง ถึงเคลิ้ม คนท่ี่ตามฟอลส่วนใหญ่นักเขียนด้วยกันเอง

282 Nameless Fanboi Posted ID6:tMrR+7JUKi

หวีดเก่งจริงช่วยได้นะ อย่างในxของคุณ น อะ เพื่อนกูโดนตกตามหลายเรื่อง ไม่ใช่สักแต่ว่ารีวิวคนก็ซื้อนะ มันต้องมีจุดเรียกแขก มีความหวีดที่ดูจริงใจช่างเปรียบช่างเปรยให้เห็นภาพ แบบแค่อ่านรีวิวก็สนุก ไม่ใช่ยาวพรืดเป็นเรียงความส่งอาจารย์

283 Nameless Fanboi Posted ID6:Jz8OIA8DTX

>>280 กูเป็นนักอ่านประเภทนี้เลย ไม่สนแอคพวกนี้อะ เขาเปิดมาเพื่อรีวิวเอาเงิน ใครก้จ้างได้ป่าววะ พวกแอคที่เขียนเรทราคาชัดเจนว่าจะรีวิวกี่บาท จำนวนคำเท่านี้รีวิวเท่านี้ ให้อ่านกี่ตอน ให้หวีดแบบไหน (หวีดรายตอน เล่นแท็ก หวีดทุกวัน) กับพวกแอครีวิวนิยายวายที่อันนี้กูไม่รู้จ้างป่าว แต่เรื่องที่แคปมากรี๊ดก็ดังๆทั้งนั้น เคยอ่านละไม่ถูกจริตสักเรื่อง หวีดตามๆกันเฉยๆ กูปัดตกหมด ไม่สน แอคที่ได้อภินันทนาการจากสนพ.กูก็ปัดทิ้ง แก๊งนั้นที่ชอบรีวิวรักวัยว้าวุ่นเคยตามไปสองสามเรื่องไม่ถูกจริต ปัดตก เพราะงั้นสำหรับกูไม่ต้องจ้างหรอก อยากโปรโมทนอกจากขึ้นแบนเนอร์ก็เอาเงินไปยิง Ads เหอะ อย่างน้อยก็มีกดผิดเผลอคลิก ได้วิวหน่อยนึง

284 Nameless Fanboi Posted ID6:uOw/bRFW4s

>>283 กด ad ได้ผลจริง กุไถ ๆ เฟซบุ๊กละชอบลอยมา โดนตกไปหลายเรื่องแล้ว

285 Nameless Fanboi Posted ID6:Jz8OIA8DTX

>>284 เนอะ ขนาดไม่ได้สนใจกูยังคลิกอะ ไม่โดนคำโปรยตกก็โดนตกเพราะปก ยังไงก็ต้องมีจังหวะชะงักอ่านแน่ ๆ เพราะมันเห็นครบหมดเลยทั้งตัวเพจนักเขียน สงสัยอะไรก็เม้นถามไม่ก็ทักแชทได้ทันที ลิ้งค์ซื้อนิยายในเม้ดก็เด่นเป็นแบนเนอร์เบิ้ม ๆ จิ้มไปอ่านไปซื้อได้เลย ยิ่งมีคนมาให้ใจรีิวิวไว้ก่อนยังไงก็ชอบเลื่อน ๆ อ่านกันต่อ ยิ่งคนดังมีเม้นต์เยอะไลค์เยอะนะ คนเข้ามาอ่านตาม ๆ กันตรึม ยังไงหลายคนก็ยังต้องสิงเฟสอยู่ละ งานเอยไรเอย ไม่ทิ้งไป x ถาวรขนาดนั้นหรอก กูว่ายิง Ads เฟสยังคุ้มค่าอยู่นะ

286 Nameless Fanboi Posted ID6:L29/SFzJ6r

>>285 จริงมึง ยิงแอดเนี่ยได้ผลสุด ค่ายิงยังถูกกว่าจ้างแอครีวิวอีก อยู่ได้นานกว่าด้วย เคยเจอคนนึงเขายิงทิ้งไว้ทั้งสัปดาห์เลยมั้ง ไอ้ห่าเห็นจนกูรำคาญ ไถเฟสทุกวันเจอแม่งทุกวัน ยิ่งจิ้มไปอ่านแล้วออกเพราะไม่ถูกจริต มันขยันขึ้นมาให้กูเห็นบ่อยกว่าเดิมอีก555

287 Nameless Fanboi Posted ID:amhiJ4pIeN

>>286 มันสะกดจิตกุอย่างนึงนะมึงอันที่เห็นบ่อย ๆ เห็นบ่อยจนกุต้องกดเข้าไปอ่านตัวอย่างให้จบ ๆ 5555

288 Nameless Fanboi Posted ID6:Om8/xajzgN

>>279 เอาจริงป่ะ ถ้าไม่เอายอดไปยื่นก็ไม่เสียภาษี เพราะไม่มีหลักฐานการซื้อขาย ถ้าเงินไม่เยอะเกินจนบัญชีถูกเพ่งเล็งจริงๆ สรรพากรตามไม่เจอ

>>280 ระยะนี้ขาลงพวกอินฟลูอ่ะ เหมือนคนไม่ให้ความเชื่อถือเพราะมองเป็นโฆษณาไปหมดแล้ว แต่กุว่าแอคที่รับหวีดแบบเนียนๆ น่าจะพอไหวอยู่ พวกนี้ต้องจ้างหลังไมค์ป่าววะ

จริงๆแล้วทำแอคหวีดนิยายที่อ่านไปเรื่อยๆ รับสปอนเดือนละไม่กี่รายแซมก็น่าจะดีนะมึง น่าจะได้มากกว่าเขียนนิยายขาย ยังไงกูก็อ่านนิยายเกือบทุกวันอยู่แล้ว =_=

289 Nameless Fanboi Posted ID6:od67T2Vl/T

กูอยากถามอะไรหน่อยว่ะ มันอาจจะฟังดูเรื่องมากในความคิดพวกมึง กูเขียนนิยายเรื่องนึงในรี้ด ลงค่อนข้างสม่ำเสมอ ยอดวิวกับยอดเก็บเข้าชั้นพอได้(ประมาณ 300 หน่อยๆ) เวลาลงทีส่วนใหญ่เขาจะมากดใจกันเป็นสิบ แต่คอมเมนต์แบบพิมพ์ตัวอักษรนี่มีแค่ตอนละเมนท์สองเมนท์แค่นั้นเอง บางตอนก็ไม่มีเลย คนกดใจกันเป็นพรืดนี่กูก็แอบเฟลเบาๆ กดใจมันก็ดีอยู่หรอก แต่กูอยากให้นักอ่านพิมพ์คุยโต้ตอบกับกูด้วยอ่าาาาาา ตอนไหนมีคอมเมนต์แบบตัวอักษรกูนี่แทบจะลงไปกราบที่เขามาเมนท์ให้กู คิดแบบนี้กูเรื่องมากไปเองรึเปล่าวะ หรือนี่มันเรื่องปกติให้กูทำใจให้ชินไว้

290 Nameless Fanboi Posted ID6:tMrR+7JUKi

>>289 ความคิดกูนะ เรื่องมากกก จะให้ไปเจ๊าะแจ๊ะอะไรนักหนาถ้าตอนนั้นมันไม่มีเรื่องให้ลุ้น แค่ตามอ่านให้จบ ถ้าถึงตอนจบก็อาจจะเม้นขอบคุณ หรือถ้ามีตัดตอนแบบพีคๆก็อาจจะเม้นตามอารมณ์นั้นๆ แต่จะให้มาเวิ่นเว้อทุกตอนก็ดูเยอะว่ะ แล้วยิ่งกูเคยมีปสก.คุยกับนข.แล้วนข.ไม่ตอบไม่พูดด้วย กูก็ไม่อยากจะพิมพ์ชวนคุยอะไรแล้ว

291 Nameless Fanboi Posted ID6:CZezyVPNSt

อยากรู้ว่าทุกคนฝึกเขียนจากอะไรบ้างคับ

292 Nameless Fanboi Posted ID6:vsClOXI/Lv

>>290 แหม่มึง นักเขียนกับนักอ่านมันก็ต่างกันอยู่แล้วป่ะ นักอ่านมองยุ่งยากจะให้เมนท์เหี้ยไรนักหนา แต่นักเขียน คอมเมนต์มันคือกำลังใจนะเว้ย จะไปต่อได้นี่อย่างน้อยก็ต้องมีนักอ่าน interact กลับมาบ้างล่ะวะ

แต่มึงพิมพ์แบบนี้มาแสดงว่าไม่เคยเขียนนิยายล่ะสิท่า ถ้าเขียนขออวยพรให้มึงเจอนักอ่านแบบตัวเองนะ

293 Nameless Fanboi Posted ID:HRAN++YIXk

กุอยากลงนิยายเบียวๆ ตัวเอง มีเว็บไหนที่มันไม่มีกฎเยอะแยะบ้าง เขียนหยาบมากได้ บรรยายเอากันได้ มีความรุนแรงสูงๆ แล้วเว็บจะไม่แบนมึง

294 Nameless Fanboi Posted ID6:/M0JktiqbN

>>289 นิยายมึงแนวไหนอะ ถ้าแต่ละตอนนางเอกพระเอกจีบกันไปมา มันไม่มีประเด็น แต่ถ้ามีฉากพระเอกตบปากนางเอก เม้นตรึม ยกตัวอย่าง อีกอย่างนะ นักอ่านมีงาน มีลูกมีผัว มีนิยายเรื่องอื่นอีกที่เขาต้องอ่าน ทุกวันนี้ทำมาหาแดกกันสายตัวแทบขาด เหนื่อยกันจะตายโหง ไม่ได้มีแต่นักเขียนที่เหนื่อย อย่าเอาใจไปผูกกับเม้นให้มากนักเลย สักเกตเหอะ ทุกวันนี้นักอ่านเม้นกันน้อยลงมาก

295 Nameless Fanboi Posted ID6:iejcAFfEur

>>292 ขอบคุณนะเว้ย กูชอบตัวเองมาก

296 Nameless Fanboi Posted ID6:iejcAFfEur

>>289 มึงมีเพจไหม หรือเฟซที่เป็น นปก. นอกจากเนื้อหานิยายที่ชวนติดตาม ทำให้ค้าง หรือบีบคั้นอารมณ์ชวนให้คนเม้นแล้ว กูเห็นคนที่ได้เม้นในรอร.เยอะคือคนที่ทรีตนักอ่านเหมือนเพื่อน คุยเล่นตอบกลับนักอ่านเสมอๆ จนคิดว่าสนิทกัน ใครโพสต์อาหารก็ไปเม้นบอกน่ากิน ใครโพสต์รูปลูกก็ไปชมว่าน่ารัก โพสต์รูปตัวเองก็ชมว่าสวย พอขายงานก็จะมีคนตามมาอ่าน คอยคุยด้วย เช่นมาให้กำลังใจค่ะ ปังๆนะคะ รออีบุ๊คออกทีเดียวค่ะ
ซึ่งมันต้องใช้ความพยายามและเวลาถ้ามึงอยากได้คอมเม้นลักษณะนี้

297 Nameless Fanboi Posted ID:F7IkSIUVXP

>>296 วิธีนี้อ่านแล้วกูว่าใ่ช่เลย เพจนข.ที่ตามอยู่ก็ทำแบบนี้ ไม่ได้ขายนิยายอย่างเดียว การเอาตัวตนมาขายก็เป็นมาร์เก็ตทางนึง
กูสังเกตจากพวกตัวท็อปอย่างแนวฟตซ.ที่กลุ่มนักอ่านเป็นวัยรุ่นหน่อยก็จะมาแชร์/ชวนคุยเหมือนเป็นเพื่อนเป็นพี่ โพสแชร์ความสำเร็จให้คนอ่านรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งด้วย ส่วนพวกแนวรักที่นข.อายุเยอะหน่อยก็แชร์เขียนเรื่องชีวิตระหว่างเขียนนิยาย มีพักผ่อนไปเที่ยว แชร์เรื่องสามีเรื่องลูก มีเร่งปิดต้นฉบับ อารมณ์เหมือนตาม SOL ของนข. 55555 พวกนี้นักอ่านที่มีอายุหน่อยพอสตอรีนข.ไปเป็นส่วนหนึ่งของพวกเค้าแล้วมันจะเหมือนญาติพี่น้องกลาย ๆ (แต่ไม่ใช่กูนะ กูยังไม่วัยดึกขนาดนั้น 55555555) อัพตอนหรือออกงานใหม่ก็ไปช่วยซื้อ เวลาพี่น้องเปิดเพจหรือขายสินค้าอะไรแล้วนข.เอามาแชร์ก็มีช่วยอุดหนุนกัน
อะไรพวกนี้เรียกว่าเทคนิคอย่างโม่งบนๆ ดิสคัสกันมั้ยวะ แต่กูเห็นนข.ทำแค่ส่วนนึงอย่างมากก็ครึ่งๆ น่าจะเพราะนข.ที่มีงานประจำไม่ได้มีเวลามาทำมาร์เก็ตติ้งไรพวกนี้
.
.
.
อีกอย่าง กูไม่รู้ว่าพูวดแล้วจะโดนด่ามั้ยวะ ที่แนะนำกันบนๆ เรื่องซื้อแอดฟบ.อ้ะ กูคนนึงที่ถ้าเห็นขึ้นมาบ่อยๆกูจะบล็อกทิ้งไปเลย นข.ที่ถ้าจะโทษต้องไปโทษอัลกอรึทึมของฟบ. คือนข.ที่กูตามอยู่จะมาอัพวันหลายรอบกูโอเค (บางทีกูยังเห็นไม่ครบเลยมั้ง ฟบ.แม่งเล่นซ่อนหา) แล้วยังมาเจอแอดซ้ำๆบางทีกูก็1ลำไยนะ 55555555555 ไม่มีอะไรแค่อยากบอกไว้ว่าถ้าจะยิงแอดฟบ.ก็ศึกษาวิธีกับตั้งค่าดีๆ อย่าให้มันโผล่มาถี่ซ้ำซากแค่เพราะฟบ.อยากละลายตังค์มึง

298 Nameless Fanboi Posted ID:zv7LCfb7P9

ky ขอปรึกษา พอดีกุเกลียดพระเอกที่ใจร้ายกับนางเอกมากๆๆๆ กุเจ้บใจแทนลูกสาว จนอยากลองเขียนเอง ((เหี้ยปะ 5555)) เพื่อทรมานใจตัวเอง 555 กะให้พระเอกมันทำใจร้ายสารพัดเพราะแค้น (อาจจะเป็นแนวถ่านไฟเก่าจบกันไม่ดี) ปัญหาคือกุสงสัยว่าถ้าคนมันรัก (ซึ่งลูกชายกุมันไม่เคยเลิกรักเลย 55) มันจะทำร้ายใจเขาลงเหรอ TT มันต้องมีแนวคิดยังไงถึงทำลงวะ ถ้าเป็นพวกรู้ใจช้าไม่รู้ว่ารักอะกุเข้าใจ แต่นี่มันยังรักเธอเสมอ มันจะทำได้อ่อวะ โฮรๆ

299 Nameless Fanboi Posted ID:U2zxOXQ5ng

>>298 มึงลองดูรักยันเดเระสิ จะสตอกเกอร์หรืออะไรแนวจิตๆก็ได้ จะเรียกอะไรดีล่ะ คือบรรทัดฐานของคนพวกนี้มันจะไม่เหมือนปกติอ่ะ รักของมันก็เลยแสดงออกไม่ปกติไปด้วย ทำร้ายได้แน่นอนเพราะคำว่าทำร้ายของมึงมันมาจากบรรทัดฐานของคนปกติ
แต่ถ้าเอาเคสเบาๆ มึงก็มองคล้ายๆแนว พ่อแม่รังแกฉันก็ได้ นั่นก็ออกแนวรักทำร้ายเหมือนกัน บิดนิดหนึ่งรักแม่งก็ทำร้ายคนได้สารพัดเวย์แล้ว

300 Nameless Fanboi Posted ID:+sXsF/dlbV

>>298 มี คนแบบนี้ชีวิตจริงมีเยอะจนงงเลยล่ะ 5555555 ชายแทร่หญิงแทร่ก็เป็นได้หมดนะรักแต่ทำร้าย มันเป็นปัญหาส่วนตัวของเขาที่เขาไม่จัดการตัวเองทั้งเรื่องอารมณ์ร้ายปากร้ายหึงหวงแรง ขาดความมั่นใจในตัวเอง หรือปัญหาในชีวิตใดๆ แล้วไม่ยอมไปบำบัดหรือหาที่ปรึกษาด้วย แล้วเขาก็ทุกอย่างเอามาลงกับแฟนเพื่อเป็นการระบาย บางคนทำโดยไม่รู้ตัว5555555 ก็รักแฟนอ่ะ แต่จัดการตัวเองไม่ได้ไง คนที่ทนได้ก็มีแต่นางเอกนิยายเท่านั้นแหละ555555

301 Nameless Fanboi Posted ID6:iejcAFfEur

>>298 ฟีลยิ่งทำร้ายหัวใจเธอฉันเองก็เจ็บไม่ต่างกัน อยากให้เธอเจ็บ แบบที่ฉันเจ็บบ้างแต่กลายเป็นว่าฉันก็เจ็บเอง เกลียดเธอแค่ไหนก็รักมากเท่านั้น มันบ้าบอจิตๆแหละแต่มีคนชอบแนวนี้เยอะนะ มันหน่วงๆฟินๆ ยิ่งพระเอกมันหึงมันหวงมันเสียใจมันกลัวเสียนางเอกไป จะเป็นจะตาEขอโทษนางเอกได้เมื่อไหร่ยิ่งฟิน มีความหมาบ้าผสมหมาโบ้ แนวตลาดเลย

302 Nameless Fanboi Posted ID6:iejcAFfEur

พระเอกแนวนี้จะขี้เก๊ก รักเขามากแต่แอ๊บโกรธเกลียด ปากไม่ตรงกับใจ ปากหมาใส่แต่ในใจรักเขาแทบบ้า (ตอนมันเผลอตัวหลุดมองนางเอกตาหวานแทนที่จะแอ๊บขึงขังคนอ่านจะชอบเลย) ขี้หึง กระชากมาจูบบดขยี้ แล้วก็จะเจอนางเอกตบ ตบๆจูบๆกันไปได้ใจแม่ๆ แล้วเวลาหายบ้า ยอมรับว่ารักเธอ หายโกรธหายเกลียดเธอก็จะกลายเป็นติดเมียคลั่งรักสายเปย์ ฟีลๆนี้

303 Nameless Fanboi Posted ID6:5my1VKJi2U

ky ใน x มีประเด็นอะไรอีกละวะ เรื่องนักเขียนดรอปอะไรสักอย่าง

304 Nameless Fanboi Posted ID6:/M0JktiqbN

>>303 ไปมู้สับดิ

305 Nameless Fanboi Posted ID:zv7LCfb7P9

ขอบใจทุกคนมาก >>301 >>302 นี่ติ้กถูกทุกข้อเลย เห็นภาพชัดมาก 55555 กุรู้ละทำไมกุมีปัญหากะแนวนี้ ที่ผ่านมาเขียนผช.คลั่งรักแสนดีกับเธอตั้งแต่ต้นจนจบตลอดเลยนี่หว่า 555555 เดี๋ยวจะลองเขียนแนวใจร้ายมั่งละ บางทีอาจจะติดใจ 555555

306 Nameless Fanboi Posted ID:5dSCQlhmeI

ถ้ากูคิดพล็อตนิยายได้แต่มันไปตรงกับคนในเน็ตที่บ่นแบบเวิ่นๆไว้แล้วยังไม่เขียน กูไม่เคยรู้จักเขามาก่อน แต่เล่าพล็อตให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกพล็อตคล้ายๆคนที่มันฟอลอยู่เลย อันนี้ควรทิ้งพล็อตไปเลยดีป่ะวะ เสียดายพล็อตแต่ก็ไม่อยากมีปัญหา เดี๋ยวเขาหาว่ากูลอก และกูก็มาทีหลังเขาด้วย

307 Nameless Fanboi Posted ID6:J9hqPVsNQj

>>306 เขายังไม่ได้เขียน"แค่คิด" เป็นแค่ความคิดฟุ้งๆ ลขส.ไม่คุ้มครอง มึงลงมือก่อน เขียนเสร็จเผยแพร่วางขายก่อน ลขส.เรื่องเป็นของมึง ใครจะว่าอะไรมึงก็บอกคิดไว้นานแล้วซึ่งก็คือความจริง ลุยเลยเพื่อนโม่ง รีบเลย

308 Nameless Fanboi Posted ID:H4STlTU/Us

>>306 พล็อตซ้ำเป็นเรื่องปกติว่ะถ้ามันไม่ยูนีคสัสๆ อะนะ กูเคยเจอนข.สองคนที่ไม่รู้จักกัน ไม่อ่านงานกันแต่พล็อตเหมือนกันเดะอยู่ คนที่มีปัญหาคือนอ.ล้วนๆ จนนข.ที่อัพหลังต้องออกมาขอโทษแล้วบอกจะรีไรท์เรื่องนั้นไปแทน ..ที่กูจะบอกคือมึงมั่นใจในตัวเองแล้วเขียนไปเถอะ หรือถ้ามึงอยากเลี่ยงปัญหาแบบไม่อยากข้องเกี่ยวใดๆ ก็ทิ้งพล็อตไปแล้วคิดใหม่ก็ได้ แต่ยังไงๆ สุดท้ายพล็อตที่มึงคิดมันก็ต้องมีคนอื่นคิดได้เหมือนกันอยู่ดี

309 Nameless Fanboi Posted ID6:Vd+6nlyg5k

ky. มีใครลงอีบุ๊คในดด.มั่ง อยากรู้ว่ามันดีมั้ยวะ แบบคนอ่านเขาสะดวกไรงี้ปะ ในเมบการแข่งขันสูงเกินเลยว่าจะหาที่ลงเพิ่มหน่อย ว่าจะเริ่มจากดด.นี่ละเว็บเก่าแก่น่าจะโอเค วิธีลงก็สะดวกต่อคนเขียนอยู่นะ

310 Nameless Fanboi Posted ID:PsGciQdm4K

คนที่สะสมหนังสือ เอาหนังสือไปห่อปกพลาสติกกันไหม

311 Nameless Fanboi Posted ID6:J9hqPVsNQj

>>310 จะห่อปกใสบ้างจุ้นบ้างเฉพาะตอนอ่าน กันหนังสือเป็นรอย แต่ถ้าเก็บเล่ม ส่วนใหญ่จะอยู่ในซีลไม่ก็ในถุงแกงใช้สก็อตเทปเก็บมุมให้เรียบร้อย กูชอบแบบนี้มากกว่าใส่ในถุงซิปล็อกที่มองจากนอกชั้นแล้วไม่สวย ไม่เห็นสันปกว่าชื่อเรื่องอะไร //ปกใสถ้าห่อไปนานๆๆมันจะหนืดติดปกได้นะ

312 Nameless Fanboi Posted ID6:J9hqPVsNQj

*ขุ่น

313 Nameless Fanboi Posted ID6:26jWfjQSln

>>310 เมื่อก่อนห่อ พวกปกใสแบบไม่ต้องติดเทป กับปกขุ่นซื้อมาเป็นม้วนๆ เมื่อก่อนห่อบ่อยมากแต่เดี๋ยวนี้ไม่ละ กูเปลี่ยนมาใช้ปกผ้าน่ารักๆ ลายดอกไม้ลายวิวทิวทัศน์สีน้ำตามแอพส้มห่อแทน อ่านเสร็จก็ซีลถุงแกง ใส่ซองกันชื้น จบ555 จะไปห่อพวกถุงซิปล็อกเฉพาะเล่มโปรดที่อยากอ่านบ่อย ส่วนพวกเล่มที่อ่านไม่ถูกจริต รอบเดียวพอจะห่อไว้เตรียมขายมือสองไม่ก็เก็บบนชั้น
ถ้าอยากสะสมบนชั้นสวยๆ เหมือนใน x เคยมีคนมาแนะนำพวกกล่องใสอยู่นะ ไม่ต้องห่อกันฝุ่น ยังโชว์ปกสวยๆ ได้แบบไร้ซองด้วย

314 Nameless Fanboi Posted ID6:26jWfjQSln

ky ติดเหรียญในรอร.สามารถนับตามราคาเป๊ะๆแล้วใส่เป็นราคาอีบุ๊คในเม้ดได้เลยมั้ย กูเห็นบางคนลงเม้ดแล้วขายแพงกว่าซื้อเหรียญแยกมากเลยสงสัยว่าเขาหักค่าบริการเยอะกว่าเหรอ จะได้เพิ่มบ้าง เพราะปกติกูใช้ราคาเดียวกันเลย นับๆเหรียญจากรอร.แล้วก็ลงขายราคานั้นในเม้ด

315 Nameless Fanboi Posted ID6:.wiC8mUQWw

>>314 อีบุ๊คมันต่างจากรายตอนตรงมีการจัดหน้าด้วยไง บางคนเขาจ้างคนช่วยจัดหน้าด้วยก็เลยบวกไปในต้นทุน บางคนจัดเองก็บวกอยู่ดีเพราะมีรูปเล่ม555 แบบรายตอนมักจะถูกกว่า แต่อีบุ๊คจะแพงกว่าเพราะต้องขายให้ราคาพอๆกับแบบเล่ม เช่น แบบเล่มสามร้อย อีบุ๊คอาจจะถูกหน่อยสักสองร้อยงี้ ส่วนรายตอนร้อยห้าสิบ

316 Nameless Fanboi Posted ID6:.wiC8mUQWw

ky เห็นดราม่าไม้ยมกเอาอีกละ ราชบัณฑิตมึงอัปเดตอีกละอ้อ จากเดิมที่ใช้ได้ทั้งเว้นแค่หลัง (ไม้ๆ) กับเว้นหน้าหลัง (ไม้ ๆ )กลายเป็นทำได้แค่เว้นหน้าหลังอย่างเดียว โถอีห่า ภาษาไทยยังไม่ตาย แต่มึงไม่ต้องดิ้นนักก็ได้ กูยังฝังใจกับแซว-แซ็วอยู่เลยนะมึง

317 Nameless Fanboi Posted ID6:26jWfjQSln

>>315 อ๋าาา อย่างนี้นี่เอง แต๊งนะมึง แสดงว่าถ้าอยากตั้งราคาเหมือนกันทั้งคู่ก็ทำได้ใช่มั้ยถ้าไม่ได้มีเงื่อนไขจัดหน้าหรือทำเล่มที่อยากบวกเพิ่ม พอดีอันนี้เป็นอีกนปก.ที่กูไว้เขียนระบายเรื่องเสียวน่ะ จัดหน้าง่ายๆ ไม่ได้จริงจังอะไร ใช้แค่กระจายแบบไทยแล้วเน้นตรวจคำผิดหนักๆ เพราะเป็นแค่เรื่องสั้น ไม่ได้ซีเรียสเอารายได้อะไรมาก ขอแค่เกินค่าไทโปกับค่ารูปวิวปกก็พอ เน้นค่าน้ำมันรถค่ากาแฟ

>>316 เจองี้กูเขียนลง talk ละว่าราชบันดิดไม่ใช่พ่อกู ทราบดีและจะเขียนแบบนี้ต่อไป และคนอื่นก็ไม่ต้องมาบอกให้แก้ด้วย กูสบายใจกับอะไรแบบนี้555 แซ็วนี่โคตรตราบาปวงการเล้ย เวลาหยิบเล่มเก่าๆมาอ่านแล้วเจอทีไรคือเครียดทุกที แล้วคนที่มาไม่ทันยุคผีบ้าก็จะถ่ายมาลงกรุ๊ปว่าทำไมเขียนแซ็วแบบนี้ล่ะค้า555

318 Nameless Fanboi Posted ID6:f.MlBBp+KW

>>317 เรื่องอีบุ๊ค-ใช่ มึงจะตั้งราคาพอๆกันก็ได้ สมมุติไม่มีเล่ม มีแต่แบบรายตอนกับอีบุ๊ค มึงก็จะตั้งห่างกันสักสิบบาทยี่สิบบาทไรก็ว่าไป เพราะอีบุ๊คจะมีต้นทุนเพิ่มมาอยู่ละทั้งเรื่องการจัดหน้า ถึงมึงไม่จ้างใครทำเองเลยละกัน แต่เชื่อกูเหอะพอมึงจัดเองละอยากบวกค่าแรงให้ตัวเองแน่ๆ แม่งเพ่งจนปวดตาปวดหลัง กูเคยตรวจเองจนหลอนเลยแบบอ่านอะไรก็เห็นเป็นนิยายตัวเอง555 ส่งร้านแม่งก็ตาดีได้ตาร้านเสียอะ ถ้าตาร้ายก็แบบคนรับงานมันก็แก้คำถูกเป็นผิดงี้ จัดแบบตัดตกคำ ไปๆมาๆกูต้องมาแก้งานเองอยู่ดี เสียเงินไม่พอเสียเวลาต่ออีกต่างหาก ถ้าตาดีหน่อยต่อให้ฝากฝังประร้านประจำ แต่กว่าจะถึงคิวก็รอนานอยู่
ไม้ยมก-แม่งตลกร้ายคือ ในยุคเก่าๆมีคนค้นงานเขียนแบบสมัยอยุธยารัตนโกสินทร์ มีใช้กันทั้วแบบเว้นแค่หลัง กับไม่เว้นเลย สรุปราชบัญฑิตมันก็อัปเดตไปเรื่อยอะ อัปเดตใหม่ยังพอว่า แต่อัปเดตแบบอย่างเก่าห้ามใช้นะมันผิดหลักงี้ กูจะบ้า บางทีมึงน่ะผิดเองด้วยซ้ำ ไอ้แซ็วนี่ตราบาปจริงมึง กูเคยเขียนตอนที่มันบอกว่าถูก พอมาเฉลยว่าเค้าเขียนผิดละเตงกูเงิบเลย ไม่แก้ละแม่งงานมันจบไปนานละ ไอ้พวกทับศัพท์บางอย่างนี่กูก็ปล่อยจอยนะ ถูกหลักอย่างแดดดี แครักเตอร์ กูทำใจเขียนบ่ได้จริงๆ ขอเขียนเป็นแด๊ดดี้ คาร์แรคเตอร์ต่อไปละกัน

319 Nameless Fanboi Posted ID:r.9Sl/NuC7

>>316 *ตามหลัก* มันต้องเว้นหน้าหลังอยู่แล้วนะมึง เห็นว่าสมัยก่อนเป็นวรรคเล็ก-ๆ-วรรคใหญ่ ส่วนที่เว้นหลังเฉย ๆ นี่แค่หยวน ๆ กันในวงการพิมพ์ปะ เพราะจัดหน้าแล้วมันตกบรรทัดง่ายน่ะ ไม่ได้เพิ่งมาเปลี่ยนเน้อ ส่วนตัวกุเป็นโรคบ้าความสมมาตรเลยใช้เว้นหน้าหลัง 5555555 อย่างเครื่องหมายตกใจนี่จริง ๆ ก็ต้องเว้นนะ !? แต่ใครใคร่ใช้ยังไงก็ใช้เถอะ เป็นตำรวจเครื่องหมายวรรคตอนทำไม 5555

320 Nameless Fanboi Posted ID:uqRf9Wpoir

>>318 เรื่องการจัดหน้า พิสูจน์อักษรนี่จริงแท้ กุทำเรื่องยาว ขนาดอ่านซ้ำตอนเกลามาหลายรอบแล้ว พอทำไฟล์ebook แม่งเจออีกเป็นพรวน คำผิดไม่ค่อยเท่าไหร่ คำตกคำเกินแม่งมาจากไหนเยอะแยะแว้ นั่งเพ่งไปแก้ไป จนรู้สึกว่านิยายกูทำไมอ่านแล้วแม่งกร่อยขนาดนี้วะ อ่านไปคนอ่านจะมาหยุมหัวกุเพราะเรื่องดรอปกลางมั้ยวะ ทั้งๆที่ตอนอ่านทวนตอนเขียนยังรู้สึกสนุกกับงานตัวเองไปจนจบอยู่แท้ๆ

321 Nameless Fanboi Posted ID6:yKN/PW5Ut4

>>320 แนะนำว่าลองหาโปรแกรมอ่านไฟล์ มันจะจับโป๊ะได้อีกเยอะ

322 Nameless Fanboi Posted ID6:yKN/PW5Ut4

ตอนนี้ใช้แอพ ข้อความเป็นคำพูด โหลดเวิร์ดใส่ไปละก็ฟังยาวๆ ไปเลย

323 Nameless Fanboi Posted ID6:f.MlBBp+KW

ดราม่าไม้ยมก กูว่าน่าจะมีแบบใช้ได้ทั้งสองแบบเลยมะ อย่างเพิ่ง-พึ่ง ปกติ-ปรกติ เพราะมันก็มีเหตุให้ใช้ได้ทั้งคู่เลยอะ แบบไม่เว้นหน้า-สะดวกในการตีพิมพ์กันตัดตก อ่านง่าย แบบเว้นหน้าเว้นหลัง-ทำให้ดูเป็นระเบียบและไม่รกตา

324 Nameless Fanboi Posted ID6:E2dhVJP4q5

นี่กูว่าตอนพิมพ์คำผิดแทบไม่มีนะ
แต่พออัพลงนั่งตรวจคำผิดพบว่าบางคำแม่งผิดไปไกลเลย เหมือนโดน Auto spell ยังไงก็ไม่รู้

325 Nameless Fanboi Posted ID6:f.MlBBp+KW

>>324 จริงมึง ผิดแบบมึงหลุดQC มาได้ไง สแกนด้วยตาเนื้อกี่รอบแม่งเจอทุกรอบ ส่วนมากมักเป็นพวกคำที่ระบบพรูฟยังตรวจไม่เจอด้วยนะ แบบคำถูกแหละแต่มันตกมันพลาดไง เช่น หมายอม(หมายยอม) ของใหญ่(ของใหม่) เมตา(เมตตา) ไอ้คำพวกนี้ตรวจรอบแรกไม่เจอ รอบสองเจอละแต่หลุดไปคำอื่นอีก จนงงเลยตอนพิมพ์กูกดแป้นไม่ติดเหรอวะ555

326 Nameless Fanboi Posted ID:8q9zO6/1Bc

>>324 กูเบื่อสุดตอนนั่งตรวจสิบรอบไม่เจอ พออัพลงแล้วเข้าไปเช็กการจัดหน้าดันเจอเป็นพรืด พวกคำเกินคำขาดงี้อะ55555555 กูอยากกัดลิ้นตัวเอง

327 Nameless Fanboi Posted ID6:Xr.IXYYlGt

>>326 ฮือ อย่างเกลียด ขนาดกูตรวจซ้ำแบบปริ้นกระดาษมาวงทีละจุดเลยนะ พออัปอีบุ๊คแล้วโดนคนอ่านท้วงจนได้ กูก็เจออีกละ555 หลุดตากูได้ไงวะ

328 Nameless Fanboi Posted ID6:UkCCCMLoxT

กูใช้วิธี อัพโหลดไปแล้วกำหนดวันล่วงหน้าหลายวัน คือจะขอกิฟโค้ดมาอ่านอีกที ถ้ามีคำผิดก็รีบไปขอแก้ก่อนเมพปลอย มันโรคจิตว่ะ ชอบเห็นตอนที่มันเสร็จแล้วเป็นอีบุ๊คมากกว่าตอนอยู่ในไลฟ์เวอร์ด

329 Nameless Fanboi Posted ID6:rG7Ee/u89I

Ky เพื่อนโม่งปรึกษาหน่อย กุเขียนนิยายอยู่เรื่องนึง ร่างพล็อตเขียนทรีตเมนต์เสร็จหมดแล้ว แต่กุไม่มีมู้ดเขียนเลยว่ะ กับอีกเรื่องกุอยากเขียนแต่ยังไม่เริ่มร่างพล็อต กุควรมูฟไปเขียนเรื่องที่มีมู้ดก่อนมั้ยหรือข่มใจเขียนเรื่องเก่าก่อนดี กุเครียด

330 Nameless Fanboi Posted ID6:jRJq4JhkED

>>329 ถ้าไม่ได้ลงงานติดเหรียญมีคนอ่านรอหยุมหัว มึงเลือกเอาตามอารมณ์เลย

อย่างกุจะมีเรื่องหลักเรื่องนึง แต่มีทรีตที่ร่างไว้ไม่สมบูรณ์อีก 5-6 อัน บางทีตันเรื่องหลักแต่นึกฉากอันอื่นก่อนกุก็เขียนฉากนั้นเก็บเลย ใช้ได้ใช้ไม่ได้ว่ากันอีกที ถ้าไม่มีอารมณ์เหวี่ยงเป็นพิเศษก็กลับมาลุยเรื่องหลักต่อ

พอเรื่องนี้จบกุก็ได้ทรีตกะฉากสำคัญของเรื่องต่อไปมาครึ่งนึงแล้ว

331 Nameless Fanboi Posted ID6:rG7Ee/u89I

>>330 ไม่ ๆ กุเขียนจบก่อนถึงจะลงในเน็ต ไอเดียมึงดี ขอเอาไปใช้น้า มีมู้ดเรื่องไหนก็ร่างพล็อตไว้ก่อน ขอบใจมากเพื่อนโม่ง

332 Nameless Fanboi Posted ID6:fYKYB1LlUz

ky ขอปรึกษาหน่อย กุอยากลาออกจากงานประจำ เงินจากการขายนิยายคือมีพอประมาณ สม่ำเสมอมาห้าเดือนแล้ว กุควรรอดูอีกสักเดือนสองเดือนแล้วออก หรือออกมาทำเต็มเวลาเลยดีวะ คืองานที่ทำอยู่เงินดี แต่ท็อกซิกตั้งแต่หัวหน้ายันเพื่อนร่วมงาน เนื้องานก็แย่ ภาระหนี้สินมีแค่บ้าน กับหนี้ที่จ่ายทุกเดือน แพลนคือสิ้นปีจะเคลียร์หมด ทีแรกกุอยากรอถึงสิ้นปี แต่สุขภาพจิตตอนนี้คือย่ำแย่มากกก ร้องไห้ทุกวัน ร้องทั้งเช้าทั้งก่อนนอน กุควรลาออกมาทำเต็มที่เลยดีมั้ยวะ เครียดมาก

333 Nameless Fanboi Posted ID6:UkCCCMLoxT

>>332 ถ้าได้แค่เดือนละไม่กี่หมื่น กูบอกเลยมันยังไม่แน่นอน กูเคยได้เดือนหนึ่งห้าหมื่นอัพมาเป็นปี ตอนนี้เข็นเหนื่อย ถ้าสุขภาพจิตแย่ จริงๆ ลองออกมาพักก่อนได้ว่ะ แต่สมัยนี้ควรมีงานประจำทำสักงาน เลือกที่ไม่ต้องเงินเดือนเยอะ เอาอะไรที่ทำไปวันๆ แล้วเอาเวลาที่เหลือมาเขียนนิยาย ไม่งั้นถ้าออกมา แล้วเงนิขายนิยายไม่ได้ตามเป้า ไอ้ห่า เครียด เขียนไม่ออกอีกกูบอกเลย

334 Nameless Fanboi Posted ID6:jqyygH1Xe3

>>332 ตอนนี้เพื่อนโม่งมีเงินที่อยู่ได้โดยไม่ทำอะไรสัก6เดือน-1ปีไหม ถ้าได้ก็ออกมาได้เลย
ระหว่างเขียนนิยายไม่มีรายได้อื่นต้องมีเงินสำรองจ่ายค่าน้ำ-ไฟ-ค่าเน็ต-ค่าโทร.-ค่ากิน-ค่าครีม-ค่าดูแลบ้าน—ค่าน้ำมันรถ-ถ้าเลี้ยงหมา-แมวก็ต้องมีเงินดูแลมันด้วย-
ถ้าไม่มีเงินสำรองแล้วลาออกมาเพื่อนโม่งไม่ท็อกซิกจากงานแต่จะท็อกซิกเพราะไม่มีจะแฎก ไม่มีจ่ายค่าไฟจ่ายนู่นนี่ได้นะแล้วจะพาลเขียนนิยายไม่ได้ไปอีก มันเป็นความทุกข์คนละแบบ
เพื่อนลองตริตรองดู ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ขอเอาใจช่วยมึงนะ

335 Nameless Fanboi Posted ID6:UkCCCMLoxT

>>332 กูแนะนำอีกอย่าง อันนี้ถ้าทำได้ก็ดีกับตัวมึงเองอะ กูก็เคยเกลียดงานเกลียดเพื่อนร่วมงาน แต่พอคิดว่าทำไมต้องเอาคำด่ามาใส่ใจ ทำไมต้องเก็บเอามาคิด ท็อกซิกใส่กูแล้วทำไม ก็กูไม่สนใจ งานกูก็ทำเท่าที่ได้รับสั่งมา ไอ้เหี้ยงานไหนไม่ได้ตามเป้า ไม่เกี่ยวกับกู กูทำตามสั่งละ ในเมื่อมันได้แค่นี้ มึงจะเอาไงล่ะ ทำงานไปแบบแล้วใครจะทำไมกู แน่จริงมึงไล่กูออกสิ ไอ้เหี้ยทำงานกับความคิดที่ว่า โดนไล่ออกเมื่อไหร่ค่อยออกนี่คือไอ้สัส หัวกูโล่งมาก เขียนนิยายสบายใจ

336 Nameless Fanboi Posted ID6:2O6BE/r4+X

>>332 สมัครงานใหม่ถ้าหาได้แล้วก็ยื่นออกจากที่เก่าดีกว่า

337 Nameless Fanboi Posted ID6:fYKYB1LlUz

>>333 มันก็ไม่ได้หวือหวาอะมึง 40k สม่ำเสมอ กูอยากลาออกมาลองดูสักตั้ง ไม่เวิร์คก็กลับไปทำงานต่อ สายงานกูมันหางานได้อยู่แล้ว แต่ก็แอบเครียดกลัวประสาทแฎกเพราะขายงานไม่ออก 555555 กุเคยลองเมินทุกความทอกซิกละ แต่มันเคาะประตูเรียกกูทุกวันเลย 😭 ขอบใจมากนะมึง

>>334 มีนิดหน่อยเอง พออยู่รอดได้สองสามเดือน แต่กุค่าใช้จ่ายต่อเดือนค่อนข้างน้อย หนักสุดก็ค่าบ้ารละ สงสัยต้องเลือกระหว่างทอกสิกเพราะคน กับทอกสิกเพราะเงิน 555555 ขอบคุณมากเพื่อน

>>336 เออ เวย์นี้น่าสนใจ แต๊งส์มาก ไถหางานละ

338 Nameless Fanboi Posted ID6:2X8wSsNslK

>>335 กูทำอย่างมึง 5555 มายืนยันอีกเสียงว่าเวิ้กสัส ในเมื่อใจมันอยากออกอยู่แล้ว ตอนนี้ยังไม่ออกก็ทำงานแบบมึงจะทำไมกูไปก่อน เขาไล่ออกค่อยออก ปลายทางคือได้เขียนนิยายอยู่บ้านเหมือนกัน สรุปมีงานประจำซัพพอร์ตงานเขียนด้วย ส่วนงานประจำก็มีรายได้จากงานเขียนซัพกลับอีกเด้ง จอยๆ เรามันก็อยู่เพื่อจะตายกันซักวันอยู่แล้วป่ะวะ 555

339 Nameless Fanboi Posted ID6:59GRcGZhxM

Ky ขอถามคนที่ทำทั้งเล่มกับอีบุ๊ค เราสามารถใช้ขนาดตัวอักษรต่างกันได้มั้ย ตอนแรกกูใช้ขนาด 14 แบบในเว็บพอขยายได้ แต่แบบเล่มมันดูเล็กไป เลยเปลี่ยนเป็น 16 โดนคนอ่านแบบเว็บบ่นว่าใหญ่ไป กูเลยลังเลละ จะปรับเป็น 16 แค่แบบเล่ม หรือจะปรับทั้งคู่เลยดีมั้ยงั้น คือขนาด 14 นี่มันเล็กเท่าเม็ดถั่วเองมึง กูตัดแว่นอะสายตาสั้นมาก อ่านแบบเล่มแทบไม่รอดเลยมาเก็บอีบุ๊คแทน พอจะทำของตัวเองขายมั่งเลยไม่รู้จะยึดมาตรฐานไหนดี เห็นทั่วไปใช้คลอเดีย 14 แต่กูอ่านสะดวกสุดคือ 16 อะดิ

340 Nameless Fanboi Posted ID6:rU0spwcbq6

>>339 คนอ่านแบบเว็บบ่นทำไมวะ ในเมื่อเว็บมันปรับขนาดเองได้ แล้วแอพเม็ดแนะนำให้ทำ 16-18 ด้วยซ้ำ เวลามีคนบ่น อีบุ๊คบอกแอพมันแนะนำมาค่ะ

341 Nameless Fanboi Posted ID:PWDcawzEDS

>>338 ยิ่งแบบปล่อยไปเหอะเงินจะขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ก็ช่าง กูแค่มีมึงไว้เป็นเงินสำรอง จ่ายค่านำ้ค่าไฟค่านู่นค่านี่ ยิ่งสบายใจ เพราะส่วนตัวกูปกติแม่งงานก็เดินตอนกลาวคืนอยู่แล้วอะ5555 เคยออกมาอยู่ว่างๆ ก็เขียนตอนกลางคืน ดังนั้นกูปรับความคิดกูเลย งานหลักคืองานเขียนทำกลางคืน กลาวันนั้นกูไปรับจ๊อบว่ะ ส่วนเพื่อนโม่งข้างบนบอกงานขาย คงใช้ความคิดเยอะ ลองเปลี่ยนงานดู อย่างที่แนะนำกัน ก็อาจจะดีขึ้น แต่อยากให้มีงานอีกสักงานสำรอง

342 Nameless Fanboi Posted ID6:i9yhP+2jZP

>>339 16เถอะ 14มันเล็กไปจริงๆ กูหงุดหงิดทุกครั้งตอนอ่าน14 มันอึดอัดไม่สบายตา(พวกทำมือขวัญใจนักรีวิวใช้14กันเยอะ) อย่าจัดหน้าห่างเว้นว่างเกินไปให้มาฉอดได้ว่าเว้นที่ไว้ให้ควายนอนก็พอแล้ว

343 Nameless Fanboi Posted ID6:79VheeNgXY

>>337 ถ้าเป็นที่ที่ทำงาน สะสมเงินไว้พอกินสัก 6-8 เดือน แล้วลาออกหางานใหม่ ระหว่างนั้นพักเติมไฟก่อนสักเดือนสองเดือนก็ได้
ถ้าเป็นที่ตัวมึงไม่แมทซ์กับชีวิตออฟฟิศ หรือสายงาน อันนี้มึงต้องมีเงินสะสมมากกว่านี้ หรือไม่มีภาระหนี้เลย แล้วค่อยออกมามุ่งงานเขียน แต่รายได้มันไม่แน่นอน วันนี้พอไถ วันหน้าจะปังจะฟุบ จะหมดแรงบันดาลวันไหนก็ไม่รู้ ตลาดจะหนี เทรนจะเปลี่ยนอะไรยังไง มึงต้องเตรียมใจกับชีวิตที่พลิกขึ้นลงนะ มันจะไม่ใช่เส้นตรงรายได้คงที่แบบเก่า ถ้าฐานไม่หยาพอ มึงจะเครียดเวลาที่ปัญหาการเงินมาเคาะประตูแน่นอน และมันก็ท๊อกซิกกับชีวิตไม่แพ้คนที่ทำงานเหมือนกัน

>>339 pdf ebook กุล่อ cordia 20 เลย ไม่งั้นมันเล็กมาก ยิ่งจอมือถือยิ่งเล็ก
ถ้าเป็นเล่มนี่อ่านได้หมด จัดใหญ่18 ก็สบายตาที่เริ่มแก่ จัดเล็ก 14 ก็คุ้มค่ากระดาษ เล่มมันอ่านสบายตากว่าอยู่แล้ว

344 Nameless Fanboi Posted ID6:79VheeNgXY

>>343 เพิ่มอีกว่า ปัญหาเงินไม่พอใช้มันไม่ใช่แค่เงิน ปัญหากับคนที่ทำงาน มึงยังเอาความเกลียดไปลงกับงานกับบริษัท แล้วทำตัวเป็นเหยื่อที่มีคนกระทำ ปาเงินซื้อของล้างผลาญชดเชยอารมณ์กลับมาได้บ้าง แต่วันที่เงินมึงหมด งานที่พยายามเขียนขายแล้วไม่ปัง ไม่พอกิน หรือเกิดเขียนไม่ออก มึงโทษใครไม่ได้ ถ้า eq มึงไม่มั่นคงพอ self esteem มึงจะค่อยๆพังลงได้ง่ายมาก การรับมือกับอารมณ์ตัวเองช่วงว่างงาน/ไม่มีเงิน/งานไม่ได้ผลดังใจ ก็ไม่เบาเหมือนกัน ลองเลือกดูว่าสภาพการณ์มึงถูกโฉลกกับแบบไหนกว่ากัน อยากรับมือกับอุปสรรคชีวิตแนวไหนมากกว่ากัน

345 Nameless Fanboi Posted ID6:i9yhP+2jZP

>>344 อันนี้จริงมาก พอเงินไม่มีแต่รายจ่ายมันมารอ ข้าวน้ำก็ต้องกิน เวลานั้นมันจะตื้อไปหมด

346 Nameless Fanboi Posted ID6:2X8wSsNslK

>>344 กูชอบความเห็นพวกมึงมาก มันเรียล มันเป็นประสบการณ์ที่ควรมีคนบอกก่อนออกจากงานจริงๆ ว่ะ

347 Nameless Fanboi Posted ID6:zot8jB/szv

>>340 >>342 กูแอบงงเหมือนกันที่โดนคนอ่านเว็บบ่น555 เครๆ กูใช้ 16 ต่อไปละกัน อาริกาแต๊งหลายๆ

348 Nameless Fanboi Posted ID6:E9cF0vycAt

>>347 คนละครึ่งทาง เป็น 15 ดีมั้ย 5555 แต่กุพอเข้าใจนักอ่าน pdf นะ เพราะส่วนใหญ่กุก้อ่าน pdf (ถ้าจัดหน้ามาโอเค) ไม่ค่อยชอบอ่าน epub เจอบางคนจัด pdf ตัวใหญ่ก็อ่านลำบากนิดหน่อย คิดว่าคงเอื้อให้อ่านในโทสับมั้ง ถ้าอ่านในไอแพดมันจะใหญ่ไป ไม่ค่อยสบายตา แต่จะเอาไงก็แล้วแต่นข.เถอะ คงตามใจนักอ่านทุกคนไม่ได้

349 Nameless Fanboi Posted ID6:y7Hz/LnzQw

>>348 บางคนแนะนำให้จัด pdf เป็น 20 เลยแหละ555 เอื้อกับคนอ่านมือถือจริง

350 Nameless Fanboi Posted ID6:rU0spwcbq6

>>348 แอพแนะนำ 18 นะ ส่วนหนังสือก็ต่างหาก นักเขียนบางคนมีสองไฟล์ อีกอย่าง นักอ่านบางคนงอแงเพราะคิดว่า นักเขียนในแอพคิดราคาจากหน้า แต่จริงๆ คิดจากคำ

351 Nameless Fanboi Posted ID6:dJLU+y6EOi

ส่วนกุชอบอ่าน epub เดี๋ยวนี้ epub ของเมพตัดคำดีกว่าเมื่อก่อน อ่านแล้วสบายตากว่าอ่าน pdf เยอะ

352 Nameless Fanboi Posted ID6:ND/pKzokcs

ถามโม่งหน่อยใครเป็นบ้างหงุดหงิดเวลาเขียนบรรยายยาวจนขึ้นบรรทัดใหม่ แต่พอบรรยายจบพบว่าบรรทัดนั้นดันมีอยู่แค่ไม่กี่คำซะงั้น
คือแม่งรู้สึกโหวงๆ สิ้นเปลือง จนกูต้องหาอะไรนอกเรื่องมาเขียนเพิ่มถมๆ ไปให้ได้ซักครึ่งบรรทัดกันเลย

353 Nameless Fanboi Posted ID:MoBt7dTJNk

ถาทเพื่อนโม่ง กูสงสัยว่ากรณีพระเอกถูกทำให้มีลูกโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่นโดนมอมเหล้าแล้วเด้ากันเพราะตัวเองอยากจะท้อง แบบนี้มันมี twไหม คือถ้ากลับฝั่งผู้หญิงโดนตั้งใจทำท้องมันจะมีว่า ถูกทำให้ตั้งครรภ์โดยไม่ยินยอม แต่อันนี้พระเอกเป็นฝ่ายโดน ควรใช้คำว่าอะไร

354 Nameless Fanboi Posted ID:FzKLNsliZR

>>353 non-consensual sex มะ

355 Nameless Fanboi Posted ID6:IdlIe4mjn1

>>353 sexual assualt หรือจริงๆ ก็ rape มั้ย

356 Nameless Fanboi Posted ID:rfOxLOKfod

พวกมึงกูมัวทำนู่นทำนี่ดึกเลย ขอบใจมากๆๆๆ

357 Nameless Fanboi Posted ID6:EcO1rPstzI

>>352 กูเป็นจ้า เวลาตกมา 1 คำ คือประหารเท่านั้น

358 Nameless Fanboi Posted ID:EsqMzvJpOR

เจอกุ ชอบผวนคำ เหี้ยจัด ชีวิตติดเล่นเกิน 55555

พูดถึงเรื่องพรูฟแล้วนึกขึ้นได้ ปกติกุส่งไฟล์เวิร์ดให้พรู้ฟรี้ด/บก./เบต้า/จัดหน้า จนมีคนมาเตือนว่าระวังพวกนี้ดอยงานเรา มึงมีวิธีป้องกันเคสแบบนี้ยังไงบ้างวะ จะส่ง pdf ใส่ลายน้ำให้ก็ลำบากตอนอีดิตอีกง่า คัดให้คนเครดิตดีเท่านั้นก็ไม่รู้จะดีแตกเมื่อไหร่ trust issue ทำงานทีระแวงไปหมดเลยโว้ย ToT

359 Nameless Fanboi Posted ID6:a7TAR9V95U

>>344 เออว่ะ ยิ่งเงินร่อยหรอ self esteem ยิ่งอ่อนยวบ หดหู่ไปหมด

360 Nameless Fanboi Posted ID:Pm+r9ne78g

Ky เขียนนิยายที่มีฉากย้อนอดีตบ่อยๆ ยังไงไม่ให้โดนด่าดีวะ กุยังไม่เคยโดนด้วยตัวเองแต่ชอบไปเห็นคอมเมนต์ในเมบของคนอื่นที่เล่าอดีตตัดสลับ 50/50 โดนนักอ่านบ่นว่าน่าจะเล่าเรียงตามไทม์ไลน์จากอดีตมาปจบ. ไม่ก็บ่นว่าพาร์ทอดีตเยอะไป ฯลฯ แฟร์ๆ เลยบาบเรื่องทำงงจริง แต่บางเรื่องกุก็ว่าถ้าโฟกัสหน่อยก็ไม่หลุดนะ อ่านรุ้เรื่อง เขาแยกอดีตเป็นตัวเอียงชัดเจน หรือคอนเท็กซ์ในตอนบรรยายก็บอกโต้งๆ ว่าคิดไปถึงอดีตทำไมคนมันอ่านแล้วงงวะ

361 Nameless Fanboi Posted ID:nrPz.gi1rk

>>360 กุไม่งงนะแต่กุไม่ชอบ 5555 เคยอ่านเจอเรื่องแนวนี้มาสองสามครั้งถึงอ่านรู้เรื่องก็ไม่ชอบว่ะ เนื้อเรื่องมันเหมือนไม่ค่อยเดินอะ มัวแต่ย้อนอดีต

362 Nameless Fanboi Posted ID:rfOxLOKfod

>>360 คิดเหมือน 361 นะ นี่ว่าบางคนอาจไม่ได้งงแต่ไม่ชอบเปล่า กูเคยเห็นเรื่องที่นึกย้อนความละทำตัวเอียง นักอ่านบ่นทำตัวเอียงแล้วอ่านยาก(เอียงเยอะๆ หลายๆ ย่อหน้า) แต่พอไม่เอียงบางคนก็งงอีก นักอ่านมีเยอะนะชอบอ่านข้ามๆ ยิ่งถ้าช่วงต้นเรื่องยังไม่โฟกัส บางทีเจอบรรยายเยอะๆ ปาดผ่านพอไม่เอียงก็งง เอียงก็ไม่ชอบอีกอะไรแบบนี้
ส่วนตัวกูว่ามันย้อนได้นะ แต่เอาแบบที่จำเป็น มันเป็นเทคนิคหนึ่งในการเล่าเรื่องไง เคยเจอเรื่องที่ฝืนย้อนแบบไม่รู้จะย้อนทำไม จริงๆ ไม่ต้องย้อนก็ได้แบบนั้นกูก็ไม่ชอบนะ รู้สึกเปลืองหน้ากระดาษเปล่าๆ เหมือนเนื้อเรื่องไม่เดิน เหมือนกูซื้อมาในราคานี้ที่มีน้ำปนมาเยอะอะไรแบบนี้

363 Nameless Fanboi Posted ID6:adKIgbSCj8

ตอนนี้กูปลงกับยอดนิยายละ มีคนอ่านตอนละ 10-20 คนก็แล้วไป เพราะไม่ได้หวังรายได้อะไรอยู่แล้ว
แต่กูเคืองอย่างนึงคือ ...มึงอ่านกันแล้วช่วยคอมเม้นท์หน่อยได้มั้ย!! กูอยากรู้ว่าตรงไหนดี/แย่ จะได้เอาไปแก้
แต่นี่คือแต่ละคนอ่านเสร็จแล้วสะบัดตูดหายอะ ฮือออออ

364 Nameless Fanboi Posted ID6:DKpWCcpj0D

>>363 ทรงนี้ดราม่าควีน ติไปก็รับความจริงไม่ได้ แล้วพอเม้นท์ สนุกค่า รอต่อ ก็มาบ่นอีก อยากให้เม้นท์ยา่วๆ มีประโยชน์กับงานมากกว่านี้ (จ้างเบต้ารี้ด ไม่ก็ บก. ได้คอมเม้นท์เกี่ยวกับงานแน่)
ลองบอกเลย ไม่รับนักอ่านเงาค่ะ ไม่มีเม้นท์ไม่อัพหมดกำลังใจ ถ้าไม่เป็นจำพวก รอต่อค่า ก็หายไปเลย มึงก็เลิกแต่งไป จะได้ไม่ต้องมานั่งเคือง

365 Nameless Fanboi Posted ID6:a7TAR9V95U

>>363 มึงเหมาะกับมู้นี้นะ ระบายความในใจ https://fanboi.ch/literature/3325/recent/
ถ้าต้องการเคล็ดลับ โม่งบนๆเคยบอกไว้ว่าอย่าเอาใจไปผูกกับเม้นให้มาก ไม่ก็เขียนให้มันน่าตื่นเต้นตัดจบให้คนอยากเม้นชาเล้นจ์ตัวเองต่อไป

366 Nameless Fanboi Posted ID6:UkivdJroRs

ky ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แค่จ้างทำไทโปชื่อเรื่องแล้วแรกๆก็ว่าสวย (จ่ายเงินและรับงานไฟนอลเรียบร้อย) ไปๆมาๆพอปริ้นลงกระดาษ โปสการ์ด มองจากคอมพ์คนอื่นแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกใจว่ะ ทีนี้พอไม่ถูกใจครั้งเดียวก็ติดในใจมาตลอดเลย อยากแก้ อันนี้กูควรไปเพิ่มเงินแล้วให้คนเก่าแก้ ไม่ก็จ้างเขาทำใหม่ไปเลย หรือไปร้านใหม่เลยดีวะ กลัวเขาเสียความรู้สึก แต่ร้านก็ลงงานกูพร้อมปกในร้านเขาเรียบร้อย ปัญหาอาจไร้สาระในสายตาเพื่อนโม่งนะ แต่กูแอบเครียด กลัวเขาเสียความรู้สึกที่เราไปจ้างคนใหม่ ทำไมไม่ให้เขาออกแบบใหม่อีกรอบ แต่อีกใจกูก็ แง พูดไม่ถูก

367 Nameless Fanboi Posted ID:rfOxLOKfod

>>364 เท่าที่กูเจอมานะเป็นแบบมึงว่าเลย ไม่ได้หมายถึง >>363 นะ กูไม่รู้จักมึง แต่มิตรสหายหลายท่านของกูเป็นแบบนี้ กระหายคอมเมนต์ฟีดแบคจากนักอ่าน แต่พอโดนติงก็นอยด์ เอาไปจ้างพิสูจน์เขาติงมาก็ไม่ค่อยรับแล้วก็บอกไว้ปรับปรุงเรื่องหน้า สรุปเรื่องต่อมาก็เหมือนเดิม กูก็เคยช่วยติงให้นะ ทุกวันนี้ก็ยังเห็นส่วนที่กูเคยติงเป็นเหมือนเดิม แต่คงเพราะกูก็นักเขียนระดับเดียวกันมั้งเลยไม่ใส่ใจฟังเท่าไร กูก็เข้าใจได้นะ ก็ไม่ได้ช่วยติงไรอีก แค่ช่วยรับฟัง ต่างคนก็ต่างเขียนต่อไป
ว่าสาระ อย่าไปรอคอมเมนต์เลย คือมีก็ดี แต่ไม่มีก็ต้องมูฟออนช่วยตัวเองเอา ไม่ได้จะให้มึงไปติ้วนะ ก็ต้องวิเคราะห์เอง ลองไปหาอ่านเรื่องของคนอื่นที่มึงสนใจ ต้องลดอีโก้ลงแล้วอ่านจริงๆ นะ แล้วก็คิดตามว่ามึงชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหน วิเคราะห์เอาว่านักอ่านน่าจะชอบส่วนไหนในเรื่องนี้ ไม่ชอบส่วนไหน แล้วก็ปรับปรุงงานตัวเอง
ถนนสายนักเขียนมันโดดเดี่ยวกว่าที่คิดไว้มากมึง ทุกอย่างแทบต้องรับจบเองหมด
สู้ๆ นะพวกมึง ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้พวกเรายังเขียนกันยังขายกันได้ก็เก่งมากแล้ว

368 Nameless Fanboi Posted ID:hykKetO7wz

>>366 กูในฐานะคนรับจ้างทำไทโป ถ้ามึงไม่ชอบหรือเปลี่ยนใจจะแก้ก็อยากให้มึงมาคุยกันนะ ยิ่งถ้าจะเพิ่มเงินกูยิ่งยินดี ถถถถถ ไม่ใช่อะไรหรอกกูเอาใส่ portfolio ไปแล้วไงว่านิยายเรื่องนี้ทำไทโปโดยกู ถ้านข.เปลี่ยนโดยไม่บอกกูมารูทีหลังก็เขินๆอ่า
ยิ่งเหตุผลคือมองบนคอมแล้วชอบ ปรินท์ลงกระดาษแล้วไม่ชอบนี่สายอาร์ตเข้าใจกันหมดแหละมึง ยินดีแก้ขอแค่จ่ายตังค์ ถถถถถถถถถถ แต่ถ้ามึงไม่ถูกใจฝีมือจริง ๆ แล้วอยากเปลี่ยนไปจ้างคนอื่น ก็แล้วแต่มึงอีกนั่นแหละ ไม่ต้องไปคิดมากหรอก

369 Nameless Fanboi Posted ID6:a7TAR9V95U

>>366 เข้าใจนะว่าคิดมากกังวลในหลายๆมุมกลัวคนนั้นเกรงใจคนนี้
แต่…นี่เป็นผลงานมึง มึงเป็นคนรับผิดชอบสูงสุด และมึงคือคนเสียเงิน ดังนั้นเอาที่มึงสะดวกใจสบายใจที่สุดเถอะ อย่าเกรงใจคนอื่นแต่ตัวเองเซ็ง

370 Nameless Fanboi Posted ID6:UkivdJroRs

>>368-369
แต๊งกิ้วมากกับความคิดเห็น ตอนแรกก็คิดจะเพิ่มตังค์ให้เขาแก้นั่นแหละ แต่ที่มีตัวเลือกไปหาร้านใหม่ให้จบๆไปเพราะมีปัญหาเล็กๆที่กวนใจ ประมาณว่าเขาส่งงานเลตจากที่ตกลงกันไว้หลายวัน ส่งเลตแล้วยังแนบไฟล์งานมาไม่ครบอีก ทักไปบอกทันทีแล้วแท้ๆยังต้องรอเป็นวัน ก็เลยทำกูแอบนอยน่ะ เหมือนให้ส่งช้าแล้วยังดูเหมือนไม่ใส่ใจอีก เลยซึมๆไม่ค่อยอยากไปดีลงานด้วยอีก

ขอบคุณมากๆนะ กูก็เกรงใจคนจริงๆนั่นแหละ555 มาถามในนี้เลยได้รู้มุมมองคนทำไทโปด้วยเลย เดี๋ยวกล้าๆเมื่อไหร่จะทักไปขอแก้ แก้แล้วไม่ถูกใจกูก็น่าจะหาร้านใหม่แล้วล่ะ

371 Nameless Fanboi Posted ID6:KIG8V5rQkY

กูว่การแสดงออกของนักวาด/คนทำไทโป/บก./พิสูจน์อักษร มีผลต่อการจ้างงานมากนะ บางคนทำงานดี ส่งตรงเวลาแบบวินาทีสุดท้าย แต่ชอบตอบช้าาา ไม่ตอบบ้างล่ะ แล้วไปเล่นทวิตฉ่ำ ทั้งๆ ที่ก็ฟอลกันอยู่กะกูเนี่ย 555 มันทำให้กูรู้สึกว่าเขาไม่อยากทำงานของกูรึเปล่าวะ หรือเขาแค่ procrastinating เฉยๆ ซึ่งไม่ว่าจะอะไรกูก็นอยอ่ะ ต่อให้ชอบงานก็ไม่อยากจ้างต่อเลย

372 Nameless Fanboi Posted ID:.pXheyUndU

>>360 กุคนนึงที่ชอบและต้องการมาก โดยเฉพาะแนวถ่านไฟเก่า / มีความหลังกันอะ บางเรื่องคือไม่เล่ามม.ย้อนอดีตเลย มีแต่พาร์ตปจบ. บอกแค่เป็นแฟนเก่างี้ กุละก็หมดอารมณ์จะอิน แม่งเคยรักกันเพราะอะไรยังไงก็ไม่รู้ จนไม่อินกับพาร์ตปจบ.เลย เซ็งมาก 555555
อัดย้อนอดีตมาเยอะ ๆ นี่สำหรับกุจะเล่าย้อนไปครึ่งเรื่องก็ไม่ว่า ถ้ามันมีประโยชน์กับเนื้อเรื่องอะนะ แค่ให้มันน่าสนใจ /สร้างความรู้สึกอะไรหน่อย (เขิน ขำ เศร้า บลา ๆ) ไม่ชวนหาวก็พอ //จริง ๆ เขียนย้อนแบบตัดสลับหรือย้อนปัจจุบันไปอดีตมันก็คือศาสตร์การเล่าเรื่องแบบนึงอะ ถ้าเล่าเป็นเส้นตรงอดีตไปปัจจุบันบางทีมันจะเรียบเรื่อยมาก ไม่น่าสนใจ แต่ยังไงนักอ่านก็ลางเนื้อชอบลางยา ขอให้เจอคนที่โดนเส้นกับวิธีที่มึงเลือกเยอะ ๆ สู้ ๆ จุ๊บ ๆ

373 Nameless Fanboi Posted ID:Mps7AI10CY

>>372 กุก็ว่าเล่าสลับมันน่าติดตามไปอีกแบบ แล้วเอาจริงนะ พอเล่าตามลำดับเรื่องราว เปิดมาจีบกัน เป็นแฟนกัน ทะเลาะกัน เลิกกัน กลับมาคืนดี นักอ่านก็เบื่ออีก หาว่าเวิ่นเว้อ ยาวไป เพราะอยากอ่านตอนพีคไว ๆ เอาใจยากสุด 555555

374 Nameless Fanboi Posted ID6:ul.eeFeCu9

อยากจะลองกลั้นใจอ่านแนวตลาดเพื่อศึกษางานเขียนดู เหล่าโม่งมีเรื่องไหนแนะนำบ้างมั้ย? เอาแบบที่โม่งคิดว่าเด็ดเลยอ่านแล้วไม่น่าเบื่อ สำนวนดี ดำเนินเรื่องดี อะไรทำนองนั้นอะ

กูอิงความชอบของตัวเองมาตัดสินไม่ได้ เพราะรสนิยมกูนี่ห่างไกลจากแนวตลาดอย่างสิ้นเชิงเลย

375 Nameless Fanboi Posted ID6:p34XNlsojM

>>374 งั้นกูขอนำเสนอ พิษชายาวาดี้ เรื่องล่าสุุด สถๅนะ wife เถื่oน

376 Nameless Fanboi Posted ID6:Nk498CrkFX

>>372 มึงงง เหมือนกู! แนวแฟนเก่าควรย้อนเยอะๆ หยิบจับอะไรก็ควรเป็นความหลัง ไม่งั้นมันไม่อินว่าเมื่อก่อนเคยรักกัน แล้วตอนเลิกกันแม่งเจ็บแค่ไหน!5555

377 Nameless Fanboi Posted ID6:F4+trl4t76

>>374 พยย.(หมูน้ำสไมล์) แนะนำลองเล่มที่เรตติ้งดีสุด อะเกน&อะเกน ใช้ศึกษาแนวพระเอก-นางเอกที่ตลาดชอบได้ เขียนแบบไหนให้คนตราตรึงกลับมาอ่านซ้ำ (เป็นเล่มที่คนกลับมาอ่านซ้ำบ่อย-ไปดูคอมเม้นได้หลังๆคือคนอ่านรอบ2-3-4ฯลฯกลับมาคอมเม้น) พระเอกมีเสน่ห์แบบดูร้ายๆ เจ้าเล่ห์ แต่เป็นแบดบอยแบบจริงใจ แซ่บ ฉลาด และเป็นเซฟโซน อยู่ข้างนางเอกยามมีปัญหา
นางเอกสวยเผ็ด สู้คน ฉลาด เซ็กซี่ มีลูกล่อลูกชน ทำให้คนอ่านรักด้วยความสวยอย่างมีคุณค่า ไม่อ่อนให้พระเอกง่ายๆ ดูสำนวนเขา ดูทริคที่ปูเรื่องอย่างไรให้ตกคนอ่านที่บทแรกได้เลย นอกจากนี้ก็มี..
//เหรวแหก,แหดฆอก,ณอกไจ,กังวาฬหวาณ ; ฟีลดราม่าหน่วงเข้มข้น อ่านแล้วจะได้เรียนรู้ว่าความบิ้วด์ให้คนอ่านรู้สึกถึงเครื่องถึงอารมณ์ ขยี้แล้วขยี้อีกให้แหลก ให้คนอ่านเจ็บปวดตามนางเอกแต่ก็เข้าใจพระเอก เอาใจช่วยตัวละครไปจนสุดทาง NCที่ทำให้ใจสั่น วูบวาบๆ ไปพร้อมๆกับดราม่าเข้มข้น ต้องประมาณไหน
ส่วนถ้าจะแนวตลาด แบบไม่มีNC แนะนำ ถ.ธ เล่เอ๊ยเล่เลิฟ สามารถศึกษาแนวทางการวางคาร์ ที่ชวนฝัน ตลค.เพอร์เฟคไร้ที่ติ มีเสน่ห์แบบนิย้ายนิยาย นางเอก-พระเอกฉลาด หล่อเลือกได้ กับสวยเลือกได้มาเจอกัน สำนวนที่นักอ่านหลายคนบอกว่าภาษาสวย (ศิษย์ป้าธม) สามารถลองอ่านเพื่อเอามาวิเคาะได้ว่าทำไมคนถึงเก็บขึ้นหิ้งและกลับมาอ่านซ้ำๆ เล่มเป็นของแรร์คนตามหาสะสมราคาพันกว่า

378 Nameless Fanboi Posted ID6:9P2bghW+CI

เคยอกหัก แต่นิยายก็ต้องแต่งกันไหมวะ
มันเฉาๆ รู้สึกมึนๆ ไม่ค่อยมีไอเดีย

379 Nameless Fanboi Posted ID6:vOAmRr9Fvr

>>378 อ่อ กูเอาผัวใหม่แบบที่อยากได้มาเป็นแรงบันดาลใจ

380 Nameless Fanboi Posted ID6:17aYXGebJh

>>375 >>377 ขอชื่อเต็มแบบไม่ผันไม่เปลี่ยนได้มั้ยอะ ลอง Search หาแล้วไม่เจอเลย
คือกูนอกวงการแนวตลาดมาก ไม่รู้หรอกว่าตัวย่อที่พวกมึงพูดถึงคือใคร ฮือออ

381 Nameless Fanboi Posted ID:PfW3wblau8

>>378 เป็นอยุ่เลยย นิยายกุแต่ละเรื่องวางพล้อตไว้สดใสร่าเริงจบแฮปปี้แมรี่ลูกสามคน แต่ตอนนี้อยากจะเขียนแต่แบบทางใครทางมัน แยกย้ายไปเติบโต คือชีวิตจริงกุจบแบบไม่เกลียดกันไง กุเลยพลอยมองว่าเออ ตลค. กุนี่เอาจริงๆ มันก้ไม่น่าไปกันรอดนะน่ะ

382 Nameless Fanboi Posted ID6:17aYXGebJh

ว่าไปถามเหล่าโม่งแนวตลาดหน่อย ปกติคือคิดเนื้อหานิยายเอาไว้แค่ 1 เล่มจบกันใช่มั้ยวะ
พอดีกูเขียนแนวแฟนตาซีมาตลอด ซึ่งพวกนี้ 1 เล่มจบมันไม่พออะ ถ้าจะเนื้อหาลงตัวต้อง 3+ เล่มตลอด

ถ้าความยาวแค่นั้นจะขมวดปม วางเนื้อหากันยังไงบ้างวะ เพราะเล่มนึงมันอาจจะแค่แสนคำต้นๆ ซึ่งจากที่กูเคยเขียนมาแม่งเล่าไม่หมดอะ

383 Nameless Fanboi Posted ID6:ddQpWpoyed

>>382 กูวางโครงเหมือนทำรายงาน เริ่มจากเขียนทุกประเด็นที่อยากเล่าลงในกระดาษแผ่นใหญ่ๆก่อน แล้วเลือกว่าเล่มนี้จะเล่าเรื่องอะไรเป็นหลักหนึ่งประเด็น ตัดไอ้ที่ไม่เกี่ยวกับประเด็นนี้ทิ้ง ไม่ต้องเล่าหมด มีประเด็นรองมารองรับจำกัดไม่เกินสองประเด็นกำลังสวย พอได้ประเด็นแล้วค่อยเลือกพล็อตมารองรับ อันไหนเป็น hint ใส่มาแต่พองาม ไม่จำเป็นต้องเล่าทุกอย่างที่คิดในหัวก็ได้ เก็บไว้เล่าเล่มหน้าบ้าง เอาให้เล่มนี้มันจบปิดประเด็นได้สวย มีคำตอบให้คอนฟลิกซ์ที่ตั้งไว้ก็พอ

384 Nameless Fanboi Posted ID:.pXheyUndU

ส่วนตัวกุอ่านแนวตลาดได้อยู่ แนวผัวเหี้ยบีบคั้นอารมณ์นี่พอเข้าใจว่าทำไมคนชอบ แต่แนวเบาสมองกุเข้าไม่ถึงจริง ๆ ว่ะ ไม่ได้จะเหยียดแต่ลางเนื้อชอบลางยาไม่ถูกจริตจริง ลองเรื่องติดท็อปเรตติ้งถล่มทลายบางเรื่องเขียนสั้น ๆ ไม่ถึงแสนคำ แทบไม่มีปม คือเบาม้ากกก ไม่มีอะไรเลย ถอดสมองอ่านชิล ๆ คลิเช่แบบเดาได้เป็นฉาก ๆ อ่านละหลับ แต่ดันขายดิบขายดี กูก็คิดอยู่ว่าถ้าเขียนแบบนั้นมั่งจะรุ่งมั้ย แต่ก็ทำใจไม่ลง เขียนเองยังอยากหลับเอง ไม่อยากเสี่ยงฝืนว่ะ 55555 ว่าแล้วก็ถามคนชอบแนวนี้หน่อย เจอพล็อตคลิเช่ ๆ ปมง่าย ไม่มีอะไรหักมุม พระนางสวยหล่อรักกันง่าย อ่านละไม่เบื่อเหรอวะ ฮือ ๆ

385 Nameless Fanboi Posted ID6:F4+trl4t76

>>384 มันมีวิธีอ่านคือ อ่านเล่มหนักๆเครียดๆหน่วงๆดราม่ามากาอน แล้วมาอ่านเล่มเบาๆแบบที่มึงว่าก็คืออ่านเพื่อพักสมองผ่อนคลายไม่ต้องคิดเยอะ คนอ่านจริงเขาไม่อ่านแนวเดียวหมวดเดียวไปตลอดหรอกมันจะเบื่อได้ต้องมีสลับๆบาลานซ์กันไป

386 Nameless Fanboi Posted ID6:Nk498CrkFX

>>384 บางทีชีวิตก็อกหักเหมือนโม่งข้างบนแหละ เครียดกับชีวิต เลยอยากหาไรน่ารักๆเบาสมองอ่าน บางทีก็นักเขียนที่ชอบ ก็อุดหนุนเขา

387 Nameless Fanboi Posted ID6:+jRsjNgbQL

>>384 บาวทีอยู่ที่คาแรกเตอร์ด้วยนะ คาแรกเตอร์เป็นแบบที่ชอบก็อยากอ่านเรื่องของเขาไปเรื่อย ๆ ไม่จำเป็นต้องพล็อตซับซ้อนบีบคั้นอารมณ์

388 Nameless Fanboi Posted ID6:vOAmRr9Fvr

>>384 คนเรายังแดกอาหารหลายรส นิยายก็ไม่ต่างกันอะ กูนี่แนวผัวโบ้ ห้องหนี กูเข้าไม่ถึง ทำไมต้องกลับไปกินอ้วก

389 Nameless Fanboi Posted ID:aVYZF9/OKR

>>382 กุกึ่งด้นกึ่งถู ไม่เคยจำกัดไว้ก่อนเลย จบเท่าไหร่ก็เท่านั้น แล้วแต่จังหวะจะลากไป วางโครงไว้แต่พอเขียนจริงมักจะรู้สึกมันขาดความลื่นกุก็เพิ่มลดฉากตรงนั้นเลยอีก คุมอะไรไม่อยู่เลยกุ ว่าแต่แนวตลาดที่มึงถามคือแนวรักๆ เหรอวะ ถ้าปมมีน้อยมันก็สั้น ๆได้อ่ะ มันไม่มีอะไรให้เล่ามาก
ยิ่งเขียนอีโรติกยิ่งสั้นเลย เจอกัน นัวกัน เน็ดเพิ่มสัมพันธ์x5ฉาก นอ.ทนไม่ไหวหนี1ฉาก พระเอกโบ้x2ฉาก เน็ดคืนดี จบบริบูรณ์

>>383 กุอยากทำได้เหมือนมึงมั่งจัง ดูเป็นมืออาชีพดี

>>387 วิธีหากินของแนว sos เลย

390 Nameless Fanboi Posted ID6:fh3mZzbxP8

>>360 กูมองว่าอดีตคือให้ย้อนระลึกถึงได้ แต่เนื้อเรื่องในปัจจุบันต้องมีมากกว่าย้อนอดีต ถ้ามึงมัวแต่เล่าอดีตเรื่องในปัจจุบันก็ไม่เดิน ไม่ควรเอาอดีตมาเล่าเยอะเกิน ควรตัดสลับไปมาแบบเป็นกระสายมากกว่า เช่นไปกินข้าวร้านนี้กับแฟนปัจจุบัน แต่ใจยังโหยหาแฟนเก่าก็บรรยายไปว่าเคยทำอะไรในร้านนี้กับแฟนเก่า ให้มันดูทับซ้อน รีเลท แฟนใหม่สั่งไวน์ นึกถึงแฟนเก่าก็สั่งไวน์เหมือนกันไรงี้ เล่าเรื่องให้มันดูน่าสนใจแว้บไปแว้บมาดีกว่าเล่าทั้งดุ้น มันจะน่าเบื่อเอา

มังฮวาที่กูอ่าน แม่งย้อนอดีตนานเหี้ยๆ เล่าเนื้อเรื่องปัจจุบันได้สี่ตอน ย้อนอดีตไปสิบห้าตอน แล้วแต่ละตอนแทบไม่ได้อะไรคืบหน้า คนอ่านก็ด่าเอาว่าเมื่อไหร่จะกลับมาปัจจุบัน อันนี้คือเล่าลำดับเรื่องห่วยไม่มีลูกเล่นจนไม่น่าสนใจ ทำไมกูต้องมาอ่านชีวิตเหี้ยๆของไอ้หน้าหมาน่ารำคาญอย่างมึงด้วย ความรู้สึกมันประมาณนี้ล่ะ

391 Nameless Fanboi Posted ID6:i//IpNQW1T

>>384 แนวตลาดผัวเหี้ยมันไม่คลิเช่ตรงไหนวะ5555

392 Nameless Fanboi Posted ID6:i//IpNQW1T

คลิเช่พอกัน

393 Nameless Fanboi Posted ID:Ql/SAb8V.A

นักอ่านแม่งก็ร้อยพ่อพันแม่แหละ นิยายติดท็อปเรื่องเดียวกันคนนึงอ่านบอกหนุกมากอวยเช้าเย็น อีกคนบอกแม่งติดท็อปได้ไงวะ ไม่เข้าใจ
การขายดีแปลว่าตลาดส่วนใหญ่ถูกใจ ไม่ได้แปลว่างานสมบูรณ์แบบ **สมบูรณ์แบบในที่นี้หมายถึงถ้ามีเกณฑ์วัดจริงจังอะนะ สมมติเรื่องภาษา ใช้ภาษาถูกต้องไม่เขียนผิด 10 ภาษาสละสลวย 10 ตัวละครมีมิติ 10 เรื่องความแปลกใหม่ไม่คลิเช่ 10 พล็อตน่าสนใจ 10 เนื้อเรื่องจรรโลงใจ มีประโยชน์ต่อสังคม 10 +เกณฑ์อื่น บลาๆๆๆๆ มึงว่าจะมีกี่เรื่องได้เต็มก่อน พวกที่ได้คะแนนสูงอาจจะไม่ดังเท่าเรื่องได้น้อยกว่าก็ได้ นึกภาพหนังรางวัลออสก้าอะ หนังดีคนเข้าไม่ถึงเยอะแยะ ก็คนดูกะคนตัดสินมันคนละเทสต์ เขียนนิยายขายตลาดนี่เน้นความต้องการนักอ่านก็โอละ ไม่ได้เขียนประกวดเดบิ้วเป็นศลป.แห่งชาติ/เขียนเอสเสส่งอ.นี่หว่า บางคนไม่กล้าเขียนนิยายเพราะไม่อยากเขียนแนวคลิเช่ กะคิดปมซับซ้อนหัวแตกแล้วค่อยเขียน หวังให้มัน perfect ที่สุด มันจะเครียดนะมึง ยิ่งผลตอบรับไม่ได้อย่างหวังก็เฟลเปล่าๆ อยากบอกว่าลองปล่อยจอยเขียนๆ ไปเหอะ อย่าชุ่ยมากก็พอ แล้วก็อย่าเหยียดความชอบกันด้วย ใครชอบอ่านชอบเขียนเสวซาวแทรคพั่บๆ ปรี๊ดๆ กรีนแฟลคน่าเบื่อไม่เร้าใจ ผัวเหี้ยสันดานทุเรศ บลาๆๆ ก็เรื่องของเขา มาดูถูกว่าชิทเทสต์นี่ค่อนข้างสาระแน อย่าเป็นตำรวจนิยายกันเลย โดยเฉพาะอีพวกธงเขวเยี่ยวม่วงนี่ กดกันจัง ไม่มีใครดีเท่าแม่มึงละค่ะ 55555

394 Nameless Fanboi Posted ID6:/hjijHOp62

>>393 เรื่องตลกคือ พวกธงเขียวชอบเจอแตงโมด้วยนะ555555 แยกกันไม่ออกเหมือนเด็กน้อยเลยมึง ไม่โรแมนติไซซ์ก็เขียวแล้วหรอม มีสายธงเขียวคนไหนความดันขึ้นหลังจากซื้อตามแรงอวยพวกนางรึยัง ใครซื้อตามแล้วยังไม่ได้อ่านลองอ่านบางเรื่องดูก่อนจะอยากทุบหลัง ไปเขียวกับแม่มึง5555

395 Nameless Fanboi Posted ID6:zFN+MeU6uK

>>394 เอาจริงกูเซ็งนะ เคยไปเจอคนบอกธงเขียวมาก ดูแลนางเอกดี ไอสัส เขียวแบบสตอกเกอร์ ตามเขาไปทั่ว ขับรถไปดูหน้าบ้านเขาจนกว่าไฟจะปิด น่ากลัวชิบหาย

396 Nameless Fanboi Posted ID6:ov/wr9o5Ci

Ky กูหลงไปเจอเรื่องนึง ที่แก๊งรีวิวแนะนำ นข.เล่นx พระเอกทำตัวดีธงเขียวมาแทบตลอดเรื่องแต่มีซีนนึง ตดให้นางเอกดมบนรถ กูช็อกมากกับมุกแบบนี้และโกรธคนเขียนที่ทำภาพลักษณ์พระเอกเสีย กูนอยพระเอกตด อยากให้1ดาวว่ะ กูรู้เหตุผลกูดูอิหยังวะแต่แม่ง กูไม่ชอบพระเอกตดอัดใส่นางเอก ไม่ชอบจริงๆ

397 Nameless Fanboi Posted ID6:ov/wr9o5Ci

>>396 เหมือนกูจะผิดมู้ โทษที

398 Nameless Fanboi Posted ID6:8yGwDoJtBM

>>393 เยี่ยม กูฝังหัวตัวเองเกินไปว่าต้องเพอเฟคส์ เคยส่งสนพ. ไม่ผ่านเพราะภาษาไม่สละสลวย ความจริงคนไทยก็ไม่ค่อยอ่านงานไทยภาษาดี เห็นอวยสำนวนแปลนิยายจีนกันฉ่ามในเอ้กกับอ่านงานไทยภาษาธรรมดา กูมาคิดได้ว่ากูทำอะไรอยู่ เครียดคิดปมกับเฟ้นหาคำจนเขียนไม่ออก พอขายก็ขายไม่ได้ เฟล เขียนแทบตายขายไม่ถึง 5 โหลด ไหนจะสีธง ไหนจะภาษา ชีวิตนักเขียนกูมันติดกรอบมากจ้นน แต่งานบางเรื่องที่ขายดีในเม้บภาษาไม่ได้เป๊ะขนาดนั้น กูว่าจะขายได้อยู่ที่เทคนิคคนเขียนกับจริตคนอ่านจะแมทซ์กันมั้ย ต่อไปนี้กูปล่อยจอยแล้ว ขอบใจมึงช่วยปลดล็อกกู

399 Nameless Fanboi Posted ID:bD+cz4Cwh8

>>396 ถ้ารู้ตัวว่าเหตุผลมึงออกแนวอิหยังมึงก็ปิดไปเถอะ รู้ว่าเป็นเรื่องรสนิยม คนเขียนเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร จะไปกดดาวเขาเพราะอคติส่วนตัวทำไมล่ะ หรือถ้ามึงอยากเอาสะใจ มึงก็ใส่เหตุผลให้เขาไปเถอะ ว่าเกลียดฉากตดนี่มาก ให้ 1 ดาวเพราะเกลียดฉากนี้ฉากเดียว คนอ่านรีวิวและคนเขียนเค้าจะได้พิจารณาได้ว่าคะแนนมึงมาจากอคติส่วนตัวโดยเฉพาะ และคนที่เป็นแบบเดียวกะมึงจะได้มีข้อมูลไม่มากดซื้อ

>>393 ตามมึงว่า มันคือความเป็นจริงที่คนไม่อยากจะยอมรับ

400 Nameless Fanboi Posted ID:iWs79MiJpz

>>393 มึงเขียนตรงใจกูมากโดยเฉพาะสามประโยคท้ายเรื่องพวกสาระแนกดนิยายต่างแนว ไม่มีใครดีเท่าแม่พวกม้นจริงๆจ้า ถถถถถถถถ
>>398 ดีใจที่มึงปลดล็อกได้ ส่วนเรื่องจำฝังหัวกับปสก.ส่งสนพ.แล้วเหตุผลปฏิเสธคือสำนวนไม่สวยมึงก็ลืมมันไปเถอะ ถ้าให้เอาความจริงมาพูดคือเรื่องสำนวนบ.ก.ช่วยได้จ้า เขียนแก้ให้ทั้งเรื่องก็มีมาแล้วขอแค่นข.ไม่งอแงไม่ยอมให้เปลี่ยน สำนวนไม่สวยคือเหตุผลง่ายสุดที่บ.ก.จะใช้ปฏิเสธแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นทั้งที่จริงถ้ามีใบสั่งจากข้างบนมาต่อให้สำนวนเหี้ยยังไงก็ต้องเข็นให้อยู่ในควอลิตี้ที่พิมพ์ขายได้ ดังนั้นขอแค่นข.มีฟค.หรืออยู่ในกระแสไฮบ์ระดับที่มั่นใจได้ว่าพิมพ์ออกมาแล้วจะมีคนซื้อก็พอ เวลาสนพ.เลือกไม่ได้มองสำนวนหรือเนื้อเรื่องมาก ยกตัวอย่างค่ายวายที่เอานิยายที่ตลค.เป็นโรคทางจิตเวชมาแต่เนื้อหาผิดความจริงเรื่องโรคเอยเรื่องสถานบำบัดเอยจนคนด่ามาแล้วยังมี หรือนข.เคยมีประวัติดอยฉากเสียวจากงานคนอื่นมาลงก็ยังพาไปรดน้ำมนต์ล้างบาปแล้วตีพิมพ์งานต่อก็มีมาแล้ว กูไม่อยากให้นข.มีแผลใจว่าเคยถูกปฏิเสธจากสนพ.แล้วคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ มันไม่ใช่เลยมึง หลายค่ายมีสล็อตพิมพ์งานนข.ไทยต่อปีจำกัด(แล้วมันก็ลดลงทุกปี) บ.ก.ก็ต้องเลือกที่ออกมาแล้วขายดีชัวร์ก่อน

401 Nameless Fanboi Posted ID6:YvgpIN/wHG

กูเป็นคนนึงที่ทำไม่ได้ว่ะ ไอ้การปล่อยจอยเขียนไปเรื่อย จนตอนนี้เริ่มแอบคิดแล้วว่ากูน่าจะตามโลกไม่ทันแล้วล่ะ

เรื่องล่าสุดนี่ล่ะชัดเจน กูใช้เวลาทำ Research สำรวจตลาดหลายปี (กูเป็นนักวิเคราะห์การตลาด) เอาข้อมูลจากกลุ่มลูกค้า มาผนวกรวมสร้างเป็นเรื่องแนวที่กูอยากเขียน แต่สุดท้ายก็มาตายที่อีหรอบเดิมคือ แม่งไม่ได้ผล (ฮือออ) โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพลาดตรงไหน

402 Nameless Fanboi Posted ID:6fXPGGzneI

ชวนคุย เวลาเขียนตัวละครพระนางงี้มึงคิดปีเกิดอิงความจริงกันมั้ยวะ อย่างให้พระเอกอายุ 34 งี้ก็ตั้งเซตติ้งว่าฮีเกิดปี 90 เป็นวัยรุ่นยุค 2000s โตมาเป็นไอ้หนุ่มเจนวาย บลา ๆ หรือถ้าให้อายุ 34 ก็ 34 ตลอดกาล ไม่มีปีเกิด ดองพล็อตไว้สิบปีเพิ่งเอามาเขียนก็ยังอายุ 34 เหมือนเดิม 555555555

403 Nameless Fanboi Posted ID6:.+NBT/PMbq

>>402 ไม่อิงปีเกิด ยกเว้นถ้าพล็อต จะขายความ ึึึึึึึึึึ คลาสสิก ของยุค

404 Nameless Fanboi Posted ID6:9+sc6mgMVA

หน้าที่บก นี่คือคอมเมนต์มาให้เราแก้ หรือบก จะแก้ไขให้ไปเลย

405 Nameless Fanboi Posted ID:kCCanuJq0A

>>402 กุไม่ตั้งปี นอกจากพล็อตจะอยากพูดถึงวิถีชีวิต y2k ตาม>>403 ว่า เพราะเวลากุอ่านนิยายที่ใช้พศ.จริง แล้วบอกตลค.ว่าอายุคนเท่านี้ๆ กุชอบบวกลบเลขในใจแล้วก็คิดว่าโอ้โห เก่าแล้วนี่นา 5555 ในความรุ้สึกกุเองมันขัดแย้งหน่อยนึง ชอบแบบบอกอายุไปเลยมากกว่า

406 Nameless Fanboi Posted ID6:qn2MaNWMRd

>>402 ตามโม่งบนว่า ถ้าไม่จำเป็นกับพลอตเรื่องจริงๆ ไม่ต้องใส่หรอก คนอ่านบวกลบเองได้

ขนาดโคนันกับชินจังแม่งผ่านสารพัดเทศกาลในรอบปีมา x10 แต่อายุมันยังไม่เคยขยับสักปี คนอ่านยังรับได้เล้ยยย 555

407 Nameless Fanboi Posted ID6:doDS8RdRzC

ถามความเห็นเหล่าโม่งหน่อย ถ้าเขียนให้ตัวละคร ช-ญ อายุห่างกันรุ่นพ่อ-ลูกได้กันนี่ภาพลักษณ์ของเรื่องในสายตาคนอ่านจะเป็นยังไงวะ อารมณ์ประมาณ ตัวละครวัยรุ่น (เอาอายุซัก 18+ เซฟเพลย์) ได้พบรักกับผู้ใหญ่ที่ใกล้วัยกลางคน (ซักราวๆ 36+ แต่ไม่เกิน 50) ไม่ก็ พ่อหม้าย/แม่หม้าย อะไรทำนองนี้

พอดีวันก่อนกูไปดูหมอดูมา แล้วทางโน้นเขาทักว่าดวงของกูก่อนหน้านี้มีผู้หญิงอายุน้อยมาหลง แต่กูไม่รู้ตัวจนเรื่องมันผ่านไปแล้ว (5555) ซึ่งบังเอิญอายุกูก็ราวๆ นั้นพอดี เลยลองหยิบมาจินตนาการพล็อตเล่นๆ ดู แต่ถ้าเขียนจริงก็กลัวว่าจะโดนเล่นประเด็นโคแก่กินหญ้าอ่อนนี่ล่ะ

408 Nameless Fanboi Posted ID:45381hW4Kj

>>407 เซฟ ๆ อายุต้อง 20+ ถึงจะนับเข้าเอจแก๊ป 18 ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แล้วพระเอก 36 นี่มึงโดนฉอดแน่

409 Nameless Fanboi Posted ID6:7DtEkcEs7e

กูชอบนะ18-36 แต่มึงเขียนตอนนี้คือไม่ปลอดภัย นางเอกต้อง20ปีขึ้นไป บรรลุนิติภาวะแล้ว ก็ไม่ต้องสนใจพวกฉอดปสด.
กูอ่านแนวโคแก่หญ้าอ่อนห่างกันสิบกว่าปี พระเอกอบอุ่นใจดี เฝ้ารักนางเอก นางเอกสดใส น่ารัก อย่างอาขมปลาหวานน่ะ ตอนนี้แนวนี้ดันกลายเป็นแนวโดนฉอดโดนเหยียดซะงั้น แต่กูก็จะหาอ่านต่อไปนะถ้ามีนข.เขียน กูไม่บ้าตามฉอด

410 Nameless Fanboi Posted ID6:fIh5Cd6V.1

>>407 เริ่มที่ 18 ไปเยสตอน 20 ก็รอดอยู่ แต่เอาจริงๆ ถ้าไม่สะดุดตีนฉอดก็รอด แต่อย่ากลัว กุว่าตอนนี้คนแขยงฉอด ปสด.มีเยอะ ให้มันช่วยโปรโมตไปดิ5555

411 Nameless Fanboi Posted ID:se5LIJZRtC

งั้นถ้าพอ.นอ.จีบกันที่ไทย​ ไปต่อไฮสกูลอังกฤษ​ ได้กันช่วงนั้น​ (อายุไม่ถึง 18) แล้วนอ.กลับมาต่อม.เมืองไทย แล้วเป็นแฟนกันตอนต่างต่างต่างเริ่มทำงาน
งี้จะรอดฉอดมั้ย​ มีอะไรกันตอนม.ปลายแบบเต็มใจทั้งสองฝ่าย

412 Nameless Fanboi Posted ID6:fIh5Cd6V.1

>>411 อายุไม่ถึง 18 - ไม่ได้ไง ฉากเซ็กส์กับคนต่ำกว่า 18 แอพมันก็ไม่อนุญาต มึงก็โดนฉอด แล้วข้างบนก็แนะนำไปแล้ว มึงจะฝืนเพื่อ หรือเป็นโทรลที่ชอบเวียนมาถามเรื่องเย่เด็กได้มั้ยบ่อยๆ นั่น???

413 Nameless Fanboi Posted ID6:JrUO7.TE0U

>>411 แต่อายุพระเอกมันไม่ได้ไง มีแต่นางเอกที่อายุจะเยสน้อยลงๆ แต่พระเอกถึงอายุลดก็ยังยี่สิบปลายๆ 30ต้นๆเหมือนเดิม มันผิด มันพรากผู้เยาว์ ให้พระเอกเป็นคนดีแค่ไหนคนก็สงสัยว่าคนดีๆที่ไหนมันจะไปเยสเด็กที่ยังไม่ 20 กูเริ่มสงสัยแล้วนะว่าโทรลรึเปล่า ถึงเปลี่ยนหมวดเป็นแนวรักผู้ใหญ่เว็บยังไม่ให้ลงเลย มันไม่ได้ คนชอบโคแก่หลายๆคนก็ยังส่ายหัว

414 Nameless Fanboi Posted ID6:fIh5Cd6V.1

>>413 เออจริง กูก็สายโค แต่จะเยสก็ขอเริ่มที่ 18 ไปก็ยังพอโอเค ถ้าเด็กเต็มใจเป็นแฟนกันว่าไปบลาๆๆๆ แต่ถึงจะพระเอกกรีนแฟค แต่เย่เด็ดต่ำกว่า 18 ก็ไม่ไหวเว้ย ถ้าเจอนี่กูแจ้งอีเม็ดเลย บางคนบอกทำไมคนนั้นเขียนได้ เวลามึงเจอมึงก็แจ้งอีเม็ดค่า ไม่ใช่เจอแล้วมัวแต่แหกปากบอกน้อยใจ ทำไมกุโดคคนเดียว นิยายมหาศาลอีเม็ดมันไม่ได้ตรวจละัเอียดขนาดนั้น มันถึงทำปุ่มให้มึงแจ้งกันไง

415 Nameless Fanboi Posted ID:se5LIJZRtC

ไม่ๆ​ ของกูคือไฮสกูลทั้งคู่​ รู้จักกันที่ไทย​ จีบๆกัน​ แต่ไปพิสูจน์​รักและได้กันตอนอยู่นอก​ กลับมาคบจริงจังแล้วแต่งอ่ะตอนทำงาน​ ไม่ได้โทรลเฟ้ย แค่อยากเขียนต่อยอดจากแนวจีบใสๆไปจนพวกมันได้กัน

416 Nameless Fanboi Posted ID6:fIh5Cd6V.1

>>415 ก็ให้มันเกิน 18 เดะ จะฝืนให้โดนด่าเพื่อ แถมแอพก็ห้าม

417 Nameless Fanboi Posted ID:XFq4kqYJIf

>>411 เซ็ตติ้งปัจจุบันให้มันพ้น 18 ไปเหอะ กระสันจะเยตอนต่ำกว่า 18 ทำไมนักหนา ไม่ใช่เซ็ตติ้งโบราณจัดๆที่ผู้หญิงมีผัวได้ตอนอายุน้อยๆ

418 Nameless Fanboi Posted ID6:JrUO7.TE0U

>>415 โล่งใจนะที่อายุเท่ากัน แต่เว็บเขียนกฎนี้ไว้จริงๆเว้ย ว่าอย่าต่ำกว่านั้น กูเคยเจอเรื่องนึงเขียนฉากได้กันตอนม.ปลายยังเลือกตอนม.6ตอน18พอดี อีกเรื่องในตำนานพระเอกไปต่อเมืองนอกเลยอายุ 20 ละมาเรียนม.6 ยังได้กับนางเอกที่ 18 แล้ว ฉลองเรียนจบไปเลย ถึงชีวิตจริงคนอายุเท่ากันจะได้ตอน 14 15 ก็เหอะ (ยิ่งสังคมฝรั่งเซ้ตติ้งไฮสกูลด้วย ฉ่ำ) แต่ถ้าเป็นไปได้ ในนิยายและเป็นคู่หลักด้วย ต้องเอาสัก 18 นะมึง

419 Nameless Fanboi Posted ID:se5LIJZRtC

ได้ๆ​ งั้นกูปรับให้พวกมันจบม.ปลายแล้วไปต่อกันเมืองนอกแทน

420 Nameless Fanboi Posted ID:Rnwxio006V

มึงๆ กุโดนสรรพขอเอกสารย้อนหลังเพราะไม่ได้ยื่นรายได้จากเมบสองปี ปีแรกหมื่นนึง ปีสองพันกว่าบาท ตอนนั้นกุเขียนเล่นๆ แล้วลืมมันไปเลยไม่ได้เอามาคิด กุรุ้กุพลาด ส่งเอกสารเพิ่มไปละแต่อยากรุ้ว่าดอกเบี้ยมันหนักมั้ย ประมานไหน

421 Nameless Fanboi Posted ID:7RSVhEWpXi

>>420 เงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน กับเบี้ยปรับ 1-2 เท่า ทั้งหมดนั้นคิดจากยอดภาษีที่ต้องจ่ายเพิ่ม

ถ้าไม่ตั้งใจจริงๆก็ชี้แจงแสดงความจริงใจไป มันต่อรองขอลด/ขอยกเว้นได้ ถ้าเราไม่มีเจตนาจริงๆพี่สรรพก็พอเข้าใจ

422 Nameless Fanboi Posted ID6:fIh5Cd6V.1

>>420 คือยื่นไปแต่งานประจำใช่ป่ะ?

423 Nameless Fanboi Posted ID6:1u9wUSXFO6

KY + ชวนคุยหน่อย ไม่เข้าใจแฮะว่าทำไมประเทศอื่นอย่าง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ถึงเขียนแนวแฟนตาซีปกติ ผจญภัย ลุยดัน เก็บเลเวลส่งขายต่างประเทศกันโครมๆ ได้ในระดับอุตสาหกรรม

แต่พอเป็นบ้านเราแฟนตาซีแท้ๆ ในปัจจุบันดันแทบไม่มีคนสน ซะงั้นจนพวกนี้ต้องแอบไปแฝงตัวอยู่หมวดวายกันหมดแทนซะงั้น เหล่าโม่งคิดว่ามาจากปัจจัยอะไรกันบ้าง?

424 Nameless Fanboi Posted ID6:fIh5Cd6V.1

>>423 เท่าที่เป็นติ่ง แฟนตาซีแปลสมัยเด็ก ของไทยมันอ่านแล้วกูเอ๊ะมาก แล้วก็ซูแบบที่มันไม่มีกึ๋นอะ สักแต่จะให้พระเอกนางเอกสวยหล่อแล้วโชคดีๆๆ กูเคยอ่านเรื่องหนึ่ง แม่งดันบอกว่าทั้งแก๊งมีแต่คนหน้าตาดี คนโดยรอบเลยมองมาด้วยสายตาอิจฉา กูคริ้นมากเลยโว้ย อย่างอีเกาถึงจะซ้ำซาก แต่มันก็ยังมีจุดให้หวีดบ้าง อินี่ก็ดีแต่โรมานซ์แฟนนะ แนวอื่นก็กากก็อปยุ่นอีกที ถ้าใครสายยุ่นมาก่อนนี่แทบไม่แตะแนวอื่นละ ของยุ่นมันเฟรชมีแหวก มีคาร์น่าจำกว่า ของไทยคาร์แรคเตอร์ก็เขียนได้ไม่จับใจเลยอะ

425 Nameless Fanboi Posted ID6:fIh5Cd6V.1

แล้วอีกอย่างคือ ต้องมีพล็อตฮิตมาจากยุ่นสักพล็อต ไทยก็จะถล่มเขียนตาม

426 Nameless Fanboi Posted ID:XFq4kqYJIf

>>423 กูอ่านสมัยที่ซวน.ป่าละเมาะรุ่งเรืองมาก่อน ป่าละเมาะนี่ยังพอมีคาร์ให้หวีดได้อยู่นะ แต่ซวน.คือแม่งซูไร้ขอบเขตมาก ตัวท็อปของโลกขนกันมาเรียนชั้นเดียวกับนางเอกหมด ขยับไปไหนก็ลูกหลานคนสำคัญของโลก มีพลังนั่นนี่โน่นบลาๆๆๆ ตัวนางเอกก็ซูแบบไม่รู้จะเอาขีดจำกัดตรงไหน อะไรก็ผ่านได้ง่ายๆ ถึงผ่านไม่ได้ก็จะมีผัวตัวท็อปและเพื่อนโคตรเก่งมาช่วย นิสัยก็อยู่ระดับมาตรฐานนางเอกโชโจเบสิคๆไม่รู้จะเอาตรงไหนมาหวีด อ่านมากูยังจำอะไรเกี่ยวกับนางไม่ได้เลยนอกจากซูมาก

427 Nameless Fanboi Posted ID6:MsyBOiVPtP

>>423 อาจจะวนกลับมาฮิตอีกก็ได้แค่ไม่รู้เมื่อไหร่ เมื่อก่อน ฮรพต ฮิต แนวแฟนตาซีในไทยก็รุ่งเรือง เดี๋ยวนี้แนวจีนโบปลูกผักฮิต ของแบบนี้มันไม่ตายตัวว่ะ กุว่ามันอยู่ที่กระแสนิยายดังๆ ช่วงนั้น อย่างโรแมนติกแฟนตาซีเกานี่เวอร์นิยายไม่ค่อยนิยมในไทยนะ แต่ฮิตมากกเวอร์มันฮวา

428 Nameless Fanboi Posted ID:Rnwxio006V

>>421 ขอบคุณมาก ไม่ได้ตั้งใจจริงเดี๋ยวรอลองบอกเขาดูเพราะเยาขอเบอร์โทรไปด้วย
>>422 ใช่เพื่อน ยื่นแต่งานประจำ

429 Nameless Fanboi Posted ID:XFq4kqYJIf

>>427 นิยายโรแมนซ์เกาที่มันไม่นิยมในไทยเพราะมันไม่ค่อยมีแปลมากกว่า แต่มังฮวาคือหาอ่านง่าย lc นำเข้าก็มี อ่านภาษาเกาไม่ออกดูรูปเอาก็ได้ เส้นสวยฟรุ้งฟริ้ง แต่แบบตัวอักษรมันต้องมานั่งอ่านนั่งแปลถอดความหมายเอา เสพยากกว่ามังฮวาเยอะ

430 Nameless Fanboi Posted ID6:MsyBOiVPtP

>>429 กุกลับมองอีกมุมว่าถ้าคนนิยม สนพ ถึงซื้อมาแปล จริง ๆ ตอนนี้ก็เริ่มมีแล้วนะแค่ไม่ค่อยปังมาก คนอ่ายยังเป็นกลุ่มเฉพาะ เพราะมันฮวามันเข้าถึงง่ายเหมือนที่มึงว่า บางคนอ่านแบบการ์ตูรแล้วเลยไม่ได้อยากอ่านเวอร์นิยายอีกมั้ง

431 Nameless Fanboi Posted ID:wxQdcYH47d

>>430 แต่เอาจริงๆ การ์ตูนเกาส่วนมาก ทำออกมาไม่ดีนะ มีน้อยที่ทำดีกว่าต้นฉบับ แบบต้นฉบับจืด แต่ทำมันฮวาออกมาดีอะ ส่วนใหญ่ต้นฉบับคือดีระดับหนึ่ง แต่มันฮวาทำไม่ถึง เหมือนยืดในจุดที่ไม่ควรยืด ไม่เสริมในจุดที่ควรเสริม เหมือนว่าถ้าเอาเรื่องไหนมาละดี ก็ยืดๆ แต่ถ้าไม่ดีก็พยายามรวบรัดซะงั้น

432 Nameless Fanboi Posted ID6:WilOCbuUez

>>431 เห็นด้วย แล้วมันฮวามันไม่ได้ยืดแค่เนื้อเรื่องนะ เฟรมภาพก็ยืดแล้วยืดอีก จัดวางแบบขอวาดให้น้อยที่สุดแบบรู้สึกได้ มุมกล้องอะไรก็ไม่ค่อยสื่ออารมณ์ แทบไม่มีกรอบไหนเลยที่เห็นแล้วว้าว แล้วเป็นอะไรหน้าตัวละครแทบจะเหมือนกันทั้งเรื่อง เปลี่ยนแค่ทรงผม กูชินกับภาพที่มีรายละเอียดกว่านี้ว่ะ อ่านมันฮวาไม่เคยรอดซักเรื่อง

433 Nameless Fanboi Posted ID6:zUQra9HeIC

>>430 มึงนึกถึงไลท์โนเวลมังงะดิ มีกี่เวอร์ชั่น ก็ฮิตพอๆ กันได้ แค่มันยังไม่มีคนมาเล่นตลาดนิยายเกาจริงจังอ่ะว่ะ แถมการตลาดดูไม่ค่อยดีด้วย

434 Nameless Fanboi Posted ID6:DIeNTSgD2S

Kyขอถามนะ ถ้านข.เอานิยายเรื่องหนึ่งที่เป็นช-ช มาเขียนเปลี่ยน เป็นช-ญ หรือเอานิยายช-ญที่ชอบมาเปลี่ยนเป็น ช-ช มันไม่ดีเหรอวะเห็นคนด่ากันใหญ่ ในมุมกูที่ถนัดอ่านช-ญ ไปเจอนิยายที่ชอบแต่เป็นช-ช ยังคิดว่าถ้าเป็นช-ญก็คงดี แต่ทำไมเจอหลายคนแอนตี้

435 Nameless Fanboi Posted ID:XdRX68ojkm

>>434 เอาในมุมมองกู ชญ กับ ชช มันจะมีเอเลเมนท์กับบริบทที่ต่างกันอยู่อะ ทั้งทางกายภาพ ความคิด สามัญสำนึก กูอ่านชช กูก็อยากอ่านผู้ชายรักกับผู้ชาย ถ้านิยายไม่มีความต่างในแก๊ปตรงนี้ กูอ่านชญจะดีกว่ามั้ย จะได้ไม่มาหงุดหงิดเวลามันสาวแตกด้วย ลองคิดภาพแนวผู้ชายท้อง อมกว. แล้วนายเอกมานั่งลูบท้องร้องไห้ว่าจะหอบลูกหนีผัว เรียกลูกแม่อย่างนั้นอย่างนี้ แล้วมันต่างอะไรจากผู้หญิงยกเว้นฝ่ายรับมีกวยเฉยๆ

อีกอย่างคือมันดูไม่ลงทุนในการคิดพล็อตใหม่หรือการเขียน แค่เปลี่ยนเพศฝ่ายรับเฉยๆก็กลายเป็นนิยายเรื่องใหม่แล้วจ้ามันดูมักง่ายดูถูกผู้บริโภคเกิน กูจะไม่เสียเงินให้กับคนมักง่ายแบบนี้เด็ดขาด

436 Nameless Fanboi Posted ID6:psdbRaJ9k5

>>434 มึงในฐานะคนอ่านคือจะรู้สึกว่านักเขียนมักง่ายสัด ผู้หญิงกับผู้ชายนิสัยไม่เหมือนกัน การมองโลกไม่เหมือนกัน การเลี้ยงดูต่างกัน จารีตที่กดทับต่างกัน ปัญหาและปมในเรื่องควรต่างกัน แค่การยอมรับของสังคมและครอบครัวก็ต่างกันแล้ว เซ็ตติ้งอดีตไม่ต้องพูดถึงบางยุคโทษประหาร

ยกเว้นต้องการเขียนแค่ชะนีมีดุ้นอุ้มท้องโย้หนีผัวเน้นขายฉากอย่างว่าก็เอาเถอะ หรือจะเซ็ตโอเมก้าเวิร์สมันก็ไม่ต้องมาเปลี่ยนเพศชายหญิงแล้วมั้ย พ้นสภาพสังคมสองเพศไปแล้วนี่มีตั้งหกเพศ

437 Nameless Fanboi Posted ID6:psdbRaJ9k5

>>434 ยกตัวอย่างฉาก ชช ไปกินเหล้าเมาหลับโดนหอบกลับห้องไปนอน ถ้า ชช คือปกติสุดๆ
ชญ ญเมาหลับโดนช หอบกลับห้องไปนอน คือเพื่อนไม่ทักเหรอวะ ชดูเชลี่ยทันที หรือถ้าบอกว่าทำบ่อยเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ญดูเป็นสาวนักดื่มไม่ระวังตัวเลยนะ ถ้าแถว่าไปดื่มกันสองคนยิ่งหนักเข้าไปใหญ่
แค่เนี้ย มึงจะเปลี่ยน ชช เป็น ชญ ยังไงวะ เรื่องบางอย่าง ช ทำได้ ญต้องคิดก่อนทำ

438 Nameless Fanboi Posted ID:XdRX68ojkm

>>436 ใช่ การดิ้นรนของผู้ชายผู้หญิงมันต่างกัน การมองโลก การเลี้ยงดู จารีตประเพณีที่กดทับ ปมปัญหาที่เจอมาก็ไม่เหมือนกันละ ให้นึกถึงบ้านคนจีน รักลูกชายมากกว่าลูกสาว แต่จิกหัวใช้ลูกสาว แบ่งมรดกน้อยกว่าเพราะคิดว่าเดี๋ยวแต่งงานออกไปก็เป็นคนของบ้านผัว ทรัพย์สินทางบ้านเดี๋ยวไปเป็นของทางบ้านผัวมัน แต่มึงต้องกตัญญูกูนะ กูเจ็บป่วยหรือจะทำอะไรมึงต้องมาเทคแคร์กู ส่วนลูกชายคือลูกเทวดา นานๆมาเยี่ยมทีก็อวยจนตัวลอย งานบ้านไม่ต้องทำ กินข้าวได้ของดีๆกว่าใครเพื่อน ผู้หญิงกินของเหลือ เชงเม้งผู้ชายมีหน้าที่นำไหว้ แต่งานเตรียมของหรือเก็บกวาดเป็นหน้าที่ผู้หญิง งานศพผู้หญิงแต่งออกไปแล้ว ถึงจะเป็นลูกสาวคนโต มึงก็ไปอยู่แถวหลังสุดเพราะมึงเป็นคนนอก ลองคิดดูว่าถ้าสลับเพศแล้ว จากหญิงไปเป็นชาย มันจะเจอปัญหาแบบเดียวกันมั้ย จะเข้าใจความรู้สึกผู้หญิงรึเปล่า

หรือเอาแบบความปลอดภัยอะไรนี่ก็ได้ ที่เป็นประเด็นในนกฟ้าเมื่อหลายวันก่อนที่ผู้หญิงไปพักโรงแรมแล้วแพคห้องตัวเองแน่นหนาแบบไม่ให้ใครเข้ามาได้เลย ผู้ชายมันเอามาขำกันว่าจะประสาทแดกอะไรขนาดนั้น แต่ผู้หญิงบอกไม่ใช่เรื่องขำเลยนะเพราะผู้หญิงรู้สึกไม่ปลอดภัยเวลาไปพักตามโรงแรม กังวลไปหมดจะโดนแอบถ่ายมั้ย จะมีคนปีนหน้าต่างมั้ย จะมีคนไขกุญแจเข้ามามั้ย ซึ่งมันเป็นจุดที่ผู้ชายไม่เคยกังวลไง ถึงมีโจร ผู้ชายก็อาจจะจัดการใช้กำลังไล่ไปได้ แต่ผู้หญิงต้องเสี่ยงกับการถูกฆ่า ถูกเรป แนวคิดการมองโลกต่างกันแบบนี้ สลับเพศก็คงได้แค่เปลือกนอก เพราะดีเทลแต่ละเพศมันมีรายละเอียดเยอะกว่านั้น

439 Nameless Fanboi Posted ID6:m5GRpI/.5y

นักอ่านรายตอนบางคนน่ารำคาญว่ะ อัพสั้นก็บ่น อัพยาวก็ยังว่าอัพสั้น ติดเหรียญก็ด่า จะอ่านฟรีแบบยาวๆอย่างเดียว น่าเบื่อ

440 Nameless Fanboi Posted ID6:Le7VqK.Ytp

>>439 ดีใจซะเถอะที่มีคนบ่น
ของกูนี่อ่านเงียบๆ ไม่คุยอะไรเลย

441 Nameless Fanboi Posted ID6:IsAOgYD6bZ

>>434 ในคห.กู นี่ตาม 435-438 เลย
แต่เอาจริงๆ ตลาดนักอ่านที่อายุน้อยหน่อยจะตอบรับดีมาก นอกจากไม่สนใจพอยน์พวกนั้นแล้วยังชอบมาก บอกว่ามีความลื่นไหลทางเพศ ไม่สเตอริโอไทป์ /ชญ.เท่าเทียม(?)​ บลาๆ

ดังนั้น มึงอยากลองขายก็เอาเลย ดูทอปฮิตห้อง bl ตอนนี้กุก็แยกไม่ค่อยออกแล้วว่ากำลังอ่านชญ หรือ ชช

ส่วนตัวกุไม่เหยียดคนที่ชอบนะ แต่โดยตัวกุกุไม่แตะและไม่ชอบอ่านแนวนี้
ตย. = นอ.ชื่อยิหวา(กุสมมุติ)​ แทนตัวเองยิหวาทุกคำ/โดนพอ.จีบแล้ว อ๊าย คุณพระเอก / พอ.เรียก คุณหนูยิหวา/ แม่พอ.เรียกหนูยิหวาคะ ไปไหนให้พี่xx ไปส่งนะคะ มันอันตราย / เวลาเสียบยังเรียกไอ้นั่นว่ากีอีกต่างหาก

อืมมม... กุถึงกับต้องเลื่อนดูชื่อห้อง กุมาผิดที่ไหมน๊อ~~

442 Nameless Fanboi Posted ID6:ImuO2XLn0u

กูละอึ้ง นักอ่าน ชช ที่บอกว่าไม่ชอบอ่าน ชญ เพราะพล็อตน่าเบื่อ รำคาญนางเอก แต่ก็จอยมาก แค่เปลี่ยนเพศ5555555555555555555555555

443 Nameless Fanboi Posted ID:xtQFNEPt7k

>>440 ส่วนอันนี้ก็ยังดีกว่าไม่มีคนอ่าน 55555 ต่างกรรมต่างวาระ มนุษย์เราน้อ

444 Nameless Fanboi Posted ID:XdRX68ojkm

>>442 ทฤษฎีผู้หญิงอิจฉากับรำคาญผู้หญิงด้วยกันเองจนต้องแตกหน่อมาเป็นวายมันใช้ได้เสมอนั่นล่ะ ถึงใครจะบอกว่าเป็นทฤษฎีแบบตกยุคล้าสมัยก็เหอะ แต่นักอ่านกลุ่มนี้แม่งก็แอพพรูพว่ามันคือเรื่องจริงแบบหักล้างไม่ได้ด้วย

-ถ้าผู้หญิงโดนกระทำมันก็จะรู้สึกไม่ดี เลยต้องหาตัวแทนมาถูกกระทำ ซึ่งในที่นี้ก็คือผู้ชาย รู้สึกฟินเหมือนได้เป็นผู้กระทำ ลงโทษผู้ชายในนิยายไปเพราะความเป็นจริงก็ทำไม่ได้
-เกลียดความเป็นหญิงของตัวเอง จะจิ้นก็ไม่รีเลทเพราะมีหลายปัจจัย อย่างเช่นจารีตขนบที่กดเรื่องเพศไว้ ก็เลยมาเอานายเอกไปเป็นตัวแทนตัวเองในนิยาย จะเขียนให้นางเอกร่านกวยแหกขาให้ผัวเอามันก็ดูไม่งามใช่ป่ะล่ะ แต่พอเป็นนายเอก มันไกลตัวกว่า อ่านได้เขียนได้ไม่ต้องตะขิดตะขวงใจ
-ถ้าเป็นแบบชญ ก็อาจจะอิจฉานางเอกหรือตัวละครหญิงที่ได้ใกล้ชิดผู้ชายตัวท็อป พอนางเอกทำตัวงี่เง่าไรงี้ก็คิดว่าเธอมันไม่คู่ควรกับผช.เริ่ดๆแบบนี้ ให้คู่กับผู้ชายยังดีกว่า

445 Nameless Fanboi Posted ID6:2f2xyOb.aD

ส่วนกูเนี่ยชอบผู้หญิงมาก แต่เขินอายที่จะเขียนแนวญญ มันรีเลทกับตัวเองมากไป เลยมาเขียนชญเพราะอยากเป็นผช.ไปเน้ดสาวที่ตรงสเป็ค เคยโดนปฏิเสธจากผญ.ด้วยกันด้วยแหละ ในใจลึกๆมันเลยแบบ ต้องเป็นผู้ชายเท่านั้นสาวที่ตรงสเป็คถึงจะมอง เส้า

446 Nameless Fanboi Posted ID6:AoWoX0UU+2

>>445 กลับกันกับกูเลยว่ะ กูชอบเขียนแนว ญญ เพราะรู้สึกรีเลทกับตัวเอง ทั้งที่กูเป็นตัวผู้ ถถถถถ
รู้สึกเขียน ญญ มันสนุกกว่าเยอะ แถมเวลาบรรยายยังรู้สึกไหลลื่นกว่าด้วย

447 Nameless Fanboi Posted ID6:y/dPn/QBWl

ky ปรึกษาที ความความตั้งใจเดิมกับผลงานที่ออกมาสวนทางกัน กูตั้งใจเขียนแนวรักแต่ออกมาดราม่า แล้วกูเขียนมาเยอะเป็นแสนคำแล้วด้วย กูก็อยากรึบขาย ร้อนเงิน ถ้าจะแก้ใหม่ก็เสียเวลาอีกเป็นเดือนเลย จะให้กูจมอยู่กับเรื่องนี้อีกกูก็อืด กูควรตัดจบแล้วไปเขียนเรื่องใหม่เลยดีมั้ย

448 Nameless Fanboi Posted ID6:y/dPn/QBWl

>>447 กูอีกที สารภาพว่ากูหมดใจกับเรื่องนี้แล้วตั้งแต่มันออกมาผิดจากที่ตั้งใจ จะเทก็เสียดาย ทำไงดีวะ ช่วยด้วยย

449 Nameless Fanboi Posted ID:xtQFNEPt7k

>>447 ถ้าหมดใจแล้วก็พักก่อนดีกว่า ถ้าไม่ได้ร้อนเงินขนาดนั้นก็ไปเข็นเรื่องใหม่ขายซะ รอมีแรงฮึดละค่อยเอาเรื่องเดิมมาแก้ รอให้มันมีฟีลก่อนจะได้ไม่กดดันตัวเองมาก สู้ ๆ

450 Nameless Fanboi Posted ID6:Le7VqK.Ytp

>>448 กูกำลังอยู่ในสภาพเดียวกันเลย ตอนนี้กำลังกัดฟันเขียนให้จบเล่ม เหลืออีกแค่ 1 บทก็จบแล้ว จากนั้นค่อยหันไปขึ้นเรื่องใหม่

ว่าไปพูดถึงเรื่องรีเลทนี่ คนอ่านเขาสนใจกันขนาดไหนบ้างวะ? พอดีกูเพิ่งปิ๊งพล็อตขึ้นมาได้แล้วรอบนี้ตั้งใจจะเขียนให้ตัวเอกเป็นหญิง แต่กูคนเขียนเป็นชายคงเล่าความรู้สึกผู้หญิงทั้งหมดไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องความรักนี่คงออกมากลวงชิบหายเลย (ถถถถ)

451 Nameless Fanboi Posted ID:vtDqGckTYl

>>450 ถ้าใจมึงมีรักเดี๋ยวมันก็ไม่กลวงเองแหละตอนเขียน ของแบบนี้ใช้มโนภาพเข้าไว้

452 Nameless Fanboi Posted ID6:ImuO2XLn0u

>>450 นักเขียนนิยายรัก ผช ดังๆ หลายคนนะ หมอเจ้าของซีรี่ส์ผ้า ป่องวุด ก็มีนยายรัก เกาแต๋ม ก็เหมือนจะ ผช

453 Nameless Fanboi Posted ID6:uDIFMJYJqZ

กู >>450 เองขอถามต่อหน่อย

เอิ่ม... ต้องขออภัยด้วย โพสต์นี้อาจจะฟังดูเหมือนงอแงหน่อยนะ แต่อยากถาม + ชวนคุยหน่อย

คือพอดีกูนี่อยากรู้สาเหตุจริงๆ แฮะว่าเรื่องที่กูเขียนไปทำไมมันไม่ใครสนใจเลยทั้งที่อัพมา 70+ ตอนละ
ใน รอร. นี่คนอ่านเป็น 0 มาหลายตอนเรียบร้อย โดนดันตกไปไหนต่อไหนแล้วเตรียมลบทิ้งได้เลย ส่วนใน ดด. นี่คงเส้นคงวามาก ตอนละ 20 คน นักอ่านเงาล้วนจนกูหลงรักคนเหล่ากันเลย ถถถถถถ

ลองอ่านเทียบกับเรื่องข้างๆ สำนวนกูดีกว่า เนื้อหาแน่นกว่า มีทิ้ง hints ทิ้งประเด็นให้ชวนเก็บไว้คิด แถมเรื่องก็ค่อนไปทางเบาสมองชิลๆ สลับกับยิงมุกตลก เพื่อให้โทนเรื่องไม่เข้มจนปวดหัวตามแนวที่นิยมแบบปัจจุบัน แถมยังอัพสม่ำเสมอทุกวัน ให้เบต้าอ่านทุกคนก็บอกโอเค ให้ AI อ่านก็บอกได้ 8/10 จะติดก็แค่ไม่ใช่แนวธีมจีนโบราณ ไม่ใช่แนวรัก หรือเป็นแนวระบบตามที่นิยมก็เท่านั้น

คือก่อนเขียนเรื่องนี้กูก็มั่นใจทำวิจัยตลาดมาเรียบร้อยนะว่าแนวนี้ขายได้ แต่พอลงจริงนี่กลับไม่เป็นดั่งคาดซะงั้น ในระดับที่ไม่มีคนอ่านเลย ถถถถถ
ตอนนี้เลยพยายามหาสาเหตุว่าพลาดตรงไหนไป เพราะเรื่องนี้คงสิ้นหวังเรียบร้อย

แต่ตอนนี้กูมูฟออนเตรียมเขียนเรื่องใหม่ละ ส่วนเรื่องที่เขียนก็กำลังหาจังหวะตัดจบแบบลงตัวอยู่ แต่ถ้ารู้สาเหตุก็กะจะเอาไปปรับแก้เรื่องหน้าหน่อย จึงอยากจะถามความเห็นโม่งหน่อยว่าปัจจัยอะไรบ้างวะ ที่ทำให้กลายเป็นแบบนี้ ขนาดเรื่องเก่าๆ ของกูเขียนไว้เมื่อหลายปีก่อนแย่กว่าเรื่องนี้หลายเท่าแต่ยอดเยอะกว่าราวๆ 50+ เท่าได้ จนพาลคิดว่าไอ้ความพยายามทำให้เรื่องออกมาสมบูรณ์นี่ มันส่งผลด้านลบมากกว่ารึเปล่าวะ?

454 Nameless Fanboi Posted ID6:u89jZsgq98

>>453 ถ้าต่างกันสองเว็บนี้แสดงว่ากลุ่มคนอ่านหลักมึงอยู่ที่ดด.ละ รอร.ไม่ใช่ลู่ทางของมึง แต่ลงทิ้งๆไว้ก็ไม่เป็น คิดในแง่ดียังมีคนตามอ่านมึงอย่างเหนียวแน่นเลยนะที่ดด. ส่วนที่ไปเทียบกับเรื่องข้าง ๆ แล้วได้ผลลัพธ์ต่างกัน แสดงว่ามีปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น งานเขาอาจมีนักอ่านที่ตามมาจากเรื่องก่อนๆ หรือเพราะสำนวนพล็อตเรื่องเขามันตกนักอ่านกลุ่มนี้ได้มากกว่า ดั่งคำว่าตลาดใครตลาดมัน นิยายมึงกับนิยายเขามันคนละตลาดเดียวกันไง ต่อให้มีปัจจัยร่วมเหมือนกันเช่น พล็อตผัวโบ้ แต่คนอ่านฝั่งนั้นเขาชอบเคมีพระนางมากกว่าคู่ของมึง เขาก็เลยไหลไปทางนั้นงี้

455 Nameless Fanboi Posted ID6:OQN5kQsjDv

>>453 มึงดูปก กับโปรยก่อนเลย ถ้าสองจุดนี้ไม่ผ่านเลยจริงๆ เขาก็ไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นกับมึงหรอก ว่าเนื้อหามึงจะดีแค่ไหน ดูแค่หน้าปก นิยายมึงก็แค่เม็ดทรายเม็ดหนึ่งในภูเขาทราย จะหาคนมาหยิบดูมันก็ยาก อันนี้จุดนึงล่ะ
สอง ความดีของเนื้อหานิยายมึงอาจไม่ใช่สิ่งที่นักอ่านส่วนใหญ่ต้องการ ดูจากนิยายน้ำดีไม่มีคนอ่านได้ ถ้าคนอ่านเขาอยากอ่านผัวโบ้ อยากอ่านเรื่องที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก ต่อให้งานมึงเป็นแนวสืบสวนที่โคตรมาสเตอร์พีช เขาก็ไม่คลิกอ่านอยู่ดี เพราะไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ มึงจับตลาดผู้บริโภคที่มีจำนวนน้อย ทำใจได้เบื้องต้นเลยว่ายอดขายก็ต้องน้อยตามลงไปด้วย
และสาม ต่อให้มึงวิจัยตลาดมาแล้ว มึงก็ยังมีอคติปนอยู่ดีว่าแนวความคิดมึงเป็นสิ่งที่ดีและจะต้องปัง ซึ่งบางทีมันไม่ใช่ การขายมันไม่ได้มีแค่คุณภาพงาน แต่ลักษณะนิสัยผู้บริโภคหลายๆอย่างมึงยังมองไปไม่ถึง เช่นคนสมัยนี้ส่วนมากใจร้อน สามตอนแรกมึงตกเขาไม่ได้แม่งไปล่ะน้า~ ทรายมีอีกหลายเม็ด เคสนี้มึงไม่ผิด แต่ตลาดไม่เอาสโลว์เบรินแล้ว ยอดขายมึงก็หายไปอีกด้วยเหตุและปัจจัยนี้
โลกการแข่งขันมันโหดร้ายและควบคุมได้ลำบากว่ะ กูคงพูดได้แค่สู้ๆ นะมึง กุเองก็ยอดหลักหน่วยหลักสิบนี่แหละ ไม่ได้ดีไปกว่ามึงหรอก เฮ้อ //ตบบ่า

456 Nameless Fanboi Posted ID:B0IuUl8TAG

>>453 เหมือนโม่งบนๆ กล่าว แนวมีผลมากมึง ถ้าไม่แมสเกิดยากมาก ยิ่งใน รอร มันจะเห็นแค่ภาพปกกับชื่อเรื่อง(ดด จะเห็นโปรยด้วย) มันเอื้อต่อการคัดแนวที่คนอ่านชอบอะ เช่นคนอ่านเห็นชื่อเรื่อง+ดูปก แนวไรวะ อืมม ผ่าน ไรงี้หรือถ้าเป็นแต่เป็นแนวที่ไม่ชอบก็ อืม...เอาไว้ก่อนอีก ยิ่งถ้ามึงหลุดจาก15วันแรกที่สามารถติดใหม่มาแรง นิยายมึงจะจมหายไปกับสายลม มีแต่จมลงเท่านั้น อัลกอเว็บมันเอื้อกับนิยายสั้นๆ แนวแมสๆ คนตามเยอะๆ เป็นเว็บที่ถ้ามึงลงแล้วไม่แมสก็จะบอกว่าอย่าคิดมากไปเลย

เรื่องแนวนี่ไม่ได้จะบังคับให้มึงไปเขียนอะไรแมสๆนะ แค่จะบอกว่ามันมีผลกว่าที่คิด ล่าสุดกูเจอมากับตัวเรื่องแรกแนวแม่งอย่างแมส แต่ตอนนั้นกูยังใหม่กับอะไรแนวๆ นี้ สรุปคือแต่งออกมาจืดๆแบนๆเรื่อยๆ ยอดขายก็ตามเนื้อหาแหละแต่ไปถึงป้ายแดงอยู่ เรื่องต่อมาชื่อกับปกไม่สื่อว่าเป็นแนวอะไรแต่เนื้อหาผ่านการศึกษาค้นคว้า(โดยกูเอง)มาอย่างดี ยอดตามเว็บกริบมากจ้า5555 แต่ยอดขายดีกว่าเรื่องแรกพอสมควรฟีดแบ็กดีกว่านะเพราะโชคดีเตะตานักรีวิวเขาเอาไปรีวิวให้(ทุกวันนี้ก่อนนอนสวดมนต์นึกขอบคุณพวกเขาเหล่านั้นอยู่เสมอ) ถ้าไม่เจอนักรีวิวอาจแย่กว่าเรื่องแรกเพราะตามเว็บตกคนแทบไม่ได้เลย
ถ้ายังไม่ปัง ไม่เป็นตัวมารดาบิดา เริ่มจากอะไรไม่แมสมันลำบากมากมึง คนจะอ่านผัวโบ้ ผัวชั่ว เยตับๆ ผัววิศวะพล็อตเบาจนถึงไม่มีเน้นเอาสะใจตั่งๆ สู้ต่อไปมึง กูเองก็จะสู้เหมือนกัน

457 Nameless Fanboi Posted ID6:ilkgBEcVMx

ถ้าสมมตินักเขียนมู้ดไม่ดี อารมณ์เสียหรือไม่ก็ไม่มีอารมณ์จะเขียนแต่โดนเดดไลน์บังคับเขียนไรงี้ นักอ่านจะรู้สึกได้เลยป่ะวะ เพราะกูรู้สึกว่าที่กูเขียนไปแม่งจืดและแห้งกว่าปกติเวลาที่มีอารมณ์จะเขียน ขนาดถอยมาอ่านเองยังรู้สึกมันลวกๆโดดๆไม่ค่อยเมคเซนส์เหมือนรีบเอาตีนเขี่ยให้จบๆ อยากกลับไปแก้ใหม่แต่ไม่มีเวลาเลย

458 Nameless Fanboi Posted ID6:I7dTpg8aX6

>>457 กูเป็นทั้งคนอ่านและคนเขียน รู้สึกได้จริงๆนะ55555 แล้วส่วนใหญ่เป็นเยอะด้วย ช่วงแรกกับกลางเรื่องทำดี ส่วนช่วงจบเหมือนร้อนเงิน หมดอารมณ์อยากไปเขียนเรื่องใหม่ ก็จะมีความรีบๆ เร่งๆ บางคนเห็นชัดถึงขนาดเขียนแต่บทพูด ไม่มีการบรรยาย แบบ มันรู้สึกได้จริงๆอะมึง

459 Nameless Fanboi Posted ID:Hg+6nqgN11

>>453 ในฐานะคนอ่านสะกิดใจคำว่ายิงมุกตลก คือบาางทีต่อมตลกคนเสพกับคนสร้างก็คนละเส้นกันมั้ง ยกตัวอย่าาางกูรักธอร์ทุกภาคแต่กูทนเข็นตัวเองดูภาคล่าสุดไม่จบ มุกถี่เรื่องตไม่ว่าาแต่มันไม่ตลกสำหรับกู บางจุดจริงจังๆอยู่ก็ไม่อยากโดนคิลมู้ดเลย
จุดที่สอง เบต้ากับ AI ก่อนมึงจะไว้ใจ มึงลองส่งงานที่มึงว่าสำนวนห่วย พล็อตมีแต่โฮลไปให้เช็กดู ดักได้กี่จุด calibrate นิดนึง
จุดสาม แนวตลาดที่มึงวิจัยมาแล้วว่าขายได้คือแนวอะไรวะ ไม่อยากบอกไม่เป็นไร แต่ให้แน่ใจว่ามึงวิจัยมาถูกแล้วก็เขียนตรงจุดจริง (ภาษาชาวบ้านเรียกขี้ให้ตรงร่อง)
กูยกตัวอย่าง แนวตลาดที่ขายได้จริงๆคือแนวพอ.เป็นหมอที่วันๆไม่ทำเหี้ยไรนอกจากจีบนอ. แต่ของมึงเขียนเป็นแนวพอ.หมอที่มีเล่าถึงวิชาชีพ ไรงี้คือกูยกตัวอย่างให้มึงลองไปเช็กดูอีกทีว่าผลวิจัยมึงยังไงแล้วเขียนตรงมั้ย

460 Nameless Fanboi Posted ID:EVes+R/ZKT

KY เผื่อพส.โม่งคนไหนพอมีข้อมูล คือกุสนใจเรื่องชีวิตลูกหลานแชโบล old money อะ อย่างจะเขียนพระเอกให้เป็นทายาทตระกูลนายทุน อายุ 35+ ตำแหน่งเป็น ceo หนุ่มอันนี้ไม่แปลก แต่อยากรู้ว่าก่อนหน้านั้นตอนเพิ่งเรียนจบหมาด ๆ นี่พวกนี้ทำงานทำการอะไรวะ 5555 สมมติต่อโทถึง 27 ให้มานั่งเก้าอี้บริหารเลยก็เวอร์ไปหน่อย ไม่มีประสบการณ์ให้เป็นผู้จัดการเลยก็ดูไม่เข้าท่า เป็นสายปฏิบัติการลูกน้องเขาก็ดูตำแหน่งต่ำกว่าดีกรีลูกนายทุนไปหน่อย พอจะยกตย.เส้นทางชีวิตกว่าจะเป็นผู้บริหารประธานบริษัทให้หน่อยได้มั้ย

461 Nameless Fanboi Posted ID:EVes+R/ZKT

เผลอกดส่งก่อน โทษที >> ถามอีกนิดว่าถ้ากุอยากศึกษาเรื่องชีวิตผู้บริหารในบ.ใหญ่งี้ แบบวัน ๆ ทำงานไรมั่งนอกจากเซ็นเอกสาร เวลาประชุมผู้ถือหุ้นนี่ทำอะไรยังไงกัน มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์พักร้อนปกติมั้ย มีใครอยากแนะนำมั้ยว่าควรหาข้อมูลยังไง ((เช่น ลองอ่านบทความสัมภาษณ์ผู้บริหารทั้งหลาย ลองดูละครตีแผ่ชีวิต ceo (มีมั้ยวะ 555) ลองส่องโครงสร้างบริษัทตามเว็บบ. บลา ๆ)) พอดีกุเบบี๋มาก ไม่ได้เป็นสาวออฟฟิศด้วย no idea กับสายนี้สุด ๆ กราบขอบคุณพส.โม่งล่วงหน้า

462 Nameless Fanboi Posted ID6:6JP5/1lJeA

>>461 ลองเรื่องล่าสุดของ ภะญูนญิ้ม ปกแดง พระเอกเป็นลูกชายเจ้าสัว ปัจจุบันอายุ35ดำรงตำแหน่งรองประธานบ. มีเส้นทางชีวิตวิถีการทำงานผสมกับเรื่องความรัก

463 Nameless Fanboi Posted ID6:w0K5Lvaus2

>>460 ลองไปหาอ่านบทสัมภาษณ์ชีวประวัติของพวกเจ้าของธุรกิจในไทยสิ อย่างร้านอาหารรถไฟที่เขาบอกยืมเงินเพื่อนสามสิบล้านมาทำทุนอะ555 คือคนรวยนอกจากพ่อแม่ให้มาก็ต้องมีคอนเนคชั่นประมาณนึงคือคบแต่คนรวยด้วยกัน ถ้าล้มก็แค่ลุก ถ้ารอดก็รุ่งยาวๆ

464 Nameless Fanboi Posted ID6:OQN5kQsjDv

>>460 บริษัทอะไรล่ะมึง ถ้าแบบบ้านๆ กิจการครัวเรือน มึงจะจบมาควบตำแหน่ง ceo เลยก็ทำได้ถ้าพ่อแม่มึงยอมให้ ส่วนทำแล้วจะล้มจะลุก

ถ้าบ.มหาชน อันนี้มึงรับหุ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ กินปันผล แล้วคอยบี้ ceo ในเชิงนโยบายอีกทีได้ ceo พวกนี้มีระบบสรรหามาอีกที มีผลงานมีเกณฑ์วัดตามปกติ

Ceo ไม่ได้วันๆเซ็นเอกสารอย่างเดียวนะ ประชุมลูกน้อง วางแผน ประเมินผลภาพรวม ออก/ผลักดันนโยบาย ตัดสินใจทิศทางหรือเรื่องสำคัญๆ การตัดสินใจบางอย่างต้องนั่งดูข้อมูลในบ.เป็นปึกๆเป็นวันๆ ทำรายงานเอกสารประกอบของตัวเองนั่นแหละดีลใหญ่ๆบางทีก็ต้องไปคุยเอง ข่าววงการอะไรพวกนี้ก็ต้องตามตลอดเพื่อจะผลักหัวเรือให้ทันการ กรณีบ.มหาชนก็เป็นตัวกลางกับผู้ถือหุ้นอีกที รายละเอียดก็ต่างกันไปตามแต่ประเภทกิจการ ceo บริษัทร้านอาหารยังมีลงไปเดินตลาดสดสำรวจราคาวัตถุดิบเองเลยมึง ส่วนวันหยุดอะไรนั่นมีเหมือนพนักงานบ.หมด อยู่ใต้กฎเดียวกัน แต่อาจจะมีคนละเกณฑ์บ้าง
แต่นั่นล่ะ ยกเว้นเป็นบ.ครอบครัวและมึงเป็นลูกเจ้าของ อันนี้ตามใจเถอะ เงินบ้านมึงนี่นะ

465 Nameless Fanboi Posted ID6:I7dTpg8aX6

>>460 มึงเป็นเพื่อนกูมาก ปีที่แล้วกูก็หาข้อมูลตาแตก พระเอก ceo คนแรก5555 จากที่หามาเลยได้รู้ว่า ceo แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเน้นประชุมฉ่ำ บางคนก็ไม่ บางคนหยุดเสาร์อาทิตย์ บางคนเสาร์อาทิตย์ทำงาน ไปหาหยุดวันธรรมดาแทน ของกูไม่ได้จะจริงจังขนาดนั้นนะ เพราะถ้าแตะจริงจังกูโป๊ะแน่ ของกูแบบเผินๆแต่ไม่แตะรายละเอียด

เริ่มต้นลองไปดูพวก vlog ของ ceo เอา หลักๆ 2 คนที่ทำคลิปมีคนที่เป็นหลัวศรีริต้า (คนนี้ ceo สายอสังหาบ้านคอนโด ก็จะไปดูหน้าไซต์งานจริง) กับBeerใบหญก (คนนี้เหมือนเน้นธุรกิจอาหารกับพวกโรงแรมมั้ง ก็มีไปดูร้านในเครือบ่อยๆ) กับไปฟังพอดแคสต์ของคุณ SuperG (ถอดให้เป็นชื่อจริงแบบไทย) ของดุษิตทานีก็ได้ คนนี้เสียงพูดนุ่มมาก ออร่าคนใหญ่คนโต แล้วก็มีอีกคนที่ถีบตัวเองจากดีเทลยามาเป็น ceo ฝั่งโลจิสติกส์ (คนนี้เผื่ออยากได้พระเอก/นางเอกแนวๆ จบไม่ตรงสาย มีความพยายาม สตอรี่เขาโคตรเหมาะกับนิยาย555) ลองหาๆ ฟังบทสัมภาษณ์แบบคลิปดู จะได้อะไรเยอะ มันจะได้ภาษากายกับท่าทางด้วยว่าคนระดับนี้จะแสดงออกประมาณไหน พูดจายังไง โทนเสียงแบบใด

466 Nameless Fanboi Posted ID6:6JP5/1lJeA

Kyไม่รู้ถูกมู้ไหม กูถูกคนในxพูดถึงว่าเป็นแฟนคลับเดนตายของนักเขียน
มันเป็นคำด่าหรือคำชมวะ?

467 Nameless Fanboi Posted ID6:b4XtBKht+f

>>466 อยู่ที่บริบทในการพูด ความหมายใกล้เคียงกับติ่ง

468 Nameless Fanboi Posted ID6:w1ITt5QsQh

Kyเพื่อนโม่ง กูรู้สึกว่าตัวเองeqต่ำเตี้ย นักอ่านมาเม้นเชิงตำหนิวิจารณ์ในแง่ลบ กูไปตอบเขาแบบกวนตีนมาก ฉห สุดๆ ละกูก็มานั่งเสียใจว่ากูไม่น่าเล้ยยย แล้วกูไปเจอนักเขียนอีกคนตอบคนอ่านที่วิจารณ์แง่ลบดีมากและปิดจบด้วยการอ้อนขอให้เขากลับมาอ่านงานอีกเรื่องหน้าที่พยายามพัฒนาปรับปรุง กูยิ่งรู้สึกแย่ในสิ่งที่กูทำไป พวกมึงมีวิธีรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ยังไงกันบ้างเหรอ

469 Nameless Fanboi Posted ID:ooDyE/F6fY

>>468 ถ้าเป็นแบบมึงเนี่ย ไม่ต้องตอบคือดีที่สุด ตอบเฉพาะคอมเม้นคำถามพอ ว่าอีบุ๊คออกเมื่อไหร่ ไรงี้

470 Nameless Fanboi Posted ID6:bospPP.rZh

>>468 ถ้าตอบไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้แล้วแหละ ทำใจมึง ใครๆก็พลาดได้ หรือถ้ามันคาใจมากๆนอนไม่หลับ มึงกลับไปเม้นอีกรอบว่าขอโทษที่ตอบไปแบบนั้น เป็นความผิดมึงเองที่จัดการอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้วเอามาลงกับนักอ่าน ฯลฯ ตรงๆ สุภาพ อย่าประชด แล้วจบเรื่อง ทำพลาดไปก็ขอโทษเขา ไม่ใช่เรื่องเสียศักดิ์ศรี แต่มึงต้องระบุนะเฮ้ยว่ามึงมาขอโทษเนี่ย เพราะอะไร ไม่ใช่เปิดช่องให้เขาตีขลุมว่ามึงขอโทษที่เขียนนิยายไม่ถูกใจเขานะ ไม่งั้นมึงจะต้องขอโทษตลอดไป

471 Nameless Fanboi Posted ID6:G.xtcqYCmI

KY ถามโม่งหน่อย พวกพีเรียดตะวันตกนี่ คนอ่านเขาคาดหวังอะไรกันบ้างวะ อย่างเช่นชีวิตขุนนาง? การบริหารบ้านเมือง? ความเป็นอยู่พวกไพร่?
หรือว่าแม่งสนแต่จะจัดงานเลี้ยงออจี้กันอย่างเดียว

472 Nameless Fanboi Posted ID6:8Py+B/gkXa

>>471 คาดหวังความสนุก

473 Nameless Fanboi Posted ID6:G.xtcqYCmI

>>472 นี่ก็นิยามกว้างเกิ้น

474 Nameless Fanboi Posted ID6:vX2+0VmP8s

>>471 ต้องถามมึงก่อนว่าในหัวสิ่งที่อยากเขียนคือแนวไหน ถ้าแฟนตาซีจ๋าจะเน้นบริหารบ้านเมือง เวทมนตร์ กอบกู้อาณาจักร ทวงบัลลังก์มากก็ไม่แปลก แต่ถ้าเป็นโรมานซ์แฟนตาซีเขาจะคาดหวังเรื่องรักกันมากหน่อย

475 Nameless Fanboi Posted ID6:G.xtcqYCmI

>>474 โอเคถ้าถามมาแบบนี้ ก็ประเมินแล้วเรื่องที่กูคิดก็คงไม่ใช่แนวโรมานซ์แน่ๆ ถึงจะใส่ความรักมาบ้างก็เถอะ แต่ไม่ใช่แก่นเรื่องแน่ๆ
ท่าทางที่ต้องตีโจทย์ให้แตกก็คือ ตอนนี้กูควรโฟกัสเนื้อหาแบบไหนดีมากกว่าแฮะ
พล็อตยังไม่แน่นด้วยสิ นอนคิดไปก่อนละกัน

476 Nameless Fanboi Posted ID:DJwrRmktU7

กุ >>460 มาขอบคุณทุกคนที่ตอบ จุ๊บ ๆ
>>465 จับมือเพื่อนนะ กุชอบความกลัวโป๊ะของมึงมาก เก้ทความรู้สึก 55555 ขอบใจที่แนะนำคนจริงให้ด้วย เดี๋ยวกูลองไปส่อง ถ้ามีนิตยสาร/เว็บบทความสัมภาษณ์โดยเฉพาะวานมาแบ่งปันด้วยนะ 5555

477 Nameless Fanboi Posted ID6:EwO2moWm9i

>>469 >>470 ขอบคุณมากนะ กูยังคงนอย จิตตก รู้สึกผิด บ้ง

478 Nameless Fanboi Posted ID6:d71TcpdgVw

KY หน่อย กูว่าตอนนี้กูเริ่มเขียนต่อไม่ไหวแล้วแฮะ
ทุกวันนี้พยายามกัดฟันเขียนเข็นต่อโดยคาดหวังว่าซักวันจะมันจะออกผล แต่ยิ่งเข้าไปดูยอดแล้วก็พบว่ายิ่งไม่มีหวังเลย จนตอนนี้รู้สึกหมดใจกับเรื่องที่เขียน จนอยากจะเปลี่ยนเขียนเรื่องใหม่ละ

ปัญหาก็คือตอนนี้ที่กูเขียนสต๊อกเอาไว้ เนื้อหาแม่งเพิ่งดำเนินมาช่วงกลางๆ ของเรื่องนี่ล่ะ เลยไม่รู้จะหาทางลงยังไงดี ที่คิดได้ก็คือเขียนให้แค่จบเล่มแล้วระบุว่าดรอปเท่านั้น จึงอยากถามเหล่าโม่งหน่อยว่ามีไอเดียยังไงบ้างกับการดรอปงานที่เขียน?

479 Nameless Fanboi Posted ID6:coZYM0gMFu

>>478 ถ้ามึงไม่ได้ออกเล่มให้เก็บ ไม่ได้ติดเหรียญ กูคิดว่ามึงมีสิทธิ์ดรอปเพื่อไปเซฟใจมึงโดยไม่ต้องขออนุญาตใคร จะแจ้งตรงๆหรือไม่กล้าแค่เฟดไปเงียบๆ ยังไงก็ไม่มีใครได้ลงทุนกับมึงนอกจากลงทุนค่าเน็ตเอามาอ่าน หรือแค่เอางานพักไปก่อนรอโอกาสที่เหมาะสมก็ได้นะ บางทีงานมึงอาจจะมาก่อนกาล หรืออาจจะไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาที่มันจะเติบโตได้ พูดไว้ตรงนี้ว่านข.ที่ดรอปงานทุกคนมีหลากหลายเหตุผลมาก ดรอปด้วยความจำเป็นก็เยอะ ไม่ผิดอะไรถ้ามึงจะบอกลาตรงจุดนี้ไปก่อน แต่ถ้ามึงออกเล่มติดเหรียญแล้ว ให้คนมาเสียเงินกับมึงแล้ว มึงต้องรับเสียงด่าทั้งหลายให้ได้นะ ไม่ใช่ทุกคนจะพร้อมเข้าใจมึง แต่ไม่ว่าใครจะด่ามึง จำไว้ว่าที่มึงดรอปก็เพื่อเซฟสุขภาพจิตของมึงที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด สุขภาพจิตมึงพังมึงพยายามเข็นไปก็ไม่รู้มันจะเขียนจบมั้ยอยู่ดี งานมันก็จะพังลงเรื่อยๆจนกว่างานมึงจะแมสปาฏิหาริย์​อ่ะ
ปกติคนจะไม่ค่อยให้กำลังใจนข.ที่ดรอปหรือจะดรอปงาน มันเหมือนนข.ทำบาปอะไรซัมติง แต่กูขอเป็นโม่งตัวนึงที่ให้กำลังใจมึงนะ สู้ๆ เซฟตัวเองให้ได้ก่อน แล้วถ้ามึงรักการเขียนจริงๆมึงอาจจะกลับมาเซฟงานของมึงต่อ

480 Nameless Fanboi Posted ID6:d71TcpdgVw

>>479 มึงพูดถูกเลยแฮะ ตอนนี้คืองานพังมาก กลับมาย้อนอ่านเองรู้สึกได้เลยว่าสำนวนออกจืดๆ Plain ไม่ไหลลื่นแบบช่วงแรกที่เขียน
แถมระหว่างเขียนๆ เข็นๆ ก็รู้สึกทุกข์ใจมาก เหมือนพยายามหลอกตัวเองว่าต้องไปต่อได้อะ
ยังดีนะที่กูเปิดอ่านฟรีอยู่ ยังไม่ได้เริ่มติดเหรียญ ลงสต๊อกหมดแล้วค่อยแจ้งแล้วกัน

481 Nameless Fanboi Posted ID6:/YSv76qCPE

ky หกหมื่นคำนี่ถือว่าเรื่องสั้นหรือเรื่องยาวอะโม่ง พอดีกูเขียนเสียวปั่กๆแล้วไม่รุ่งทั้งเงินและกำลังใจ เลยว่าจะไปเปิดแนวโรมานซ์จริงจังเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องฝืนสำนวนตัวเองด้วย (นปก.หลักกูก็เขียนธรรมดา แต่แสนคำทุกเรื่องเลยว่ายาวละ) พอดีลองละเป็นจำนวนคำที่กูเขียนได้ทุกเดือน ออกได้เดือนละเล่มพอดีเลยอยากรู้ว่ามันถือเป็นเรื่องสั้นปะ

482 Nameless Fanboi Posted ID6:.FARzmfp+d

>>478 กูกำลังประสบปัญหาเดียวกันกับมึงเลย รู้สึกว่าเรื่องใหญ่โตเกินกว่าที่ตอนแรกคิดไว้เยอะมาก อยากดรอปทิ้งไปแล้วไปเขียนเรื่องอื่น แต่อีกใจหนึ่งก็อยากทำให้มันแล้วไปจบๆ ตอนนี้ก็เข็นเขียนไปแบบไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียกับเรื่องอยู่ นอยทุกวัน

483 Nameless Fanboi Posted ID6:EwO2moWm9i

>>481 กลางๆ เกือบไปทางสั้นว่ะ กูเป็นพวกสบายใจเมื่อเห็นนิยายที่อยากอ่านมีแสนคำขึ้นไป อ่าน8หมื่นคำกูยังรู้สึกไม่ค่อยสะใจเลย 6หมื่นนี่อ่านครึ่งวัน-วันเดียวจบ

484 Nameless Fanboi Posted ID:f+j07YBz7x

>>483 กุสายอ่านยาวเหมือนกันเจอ 150k ขึ้นนี่อย่างฟริน แต่สงสัยว่าทำไมบางเรื่องเขียนสั้นๆ ละยอดดีจัง เพราะราคาถูก (กว่าเรื่องยาวแน่ๆ) เหรอ ?

485 Nameless Fanboi Posted ID6:EwO2moWm9i

>>484 ส่วนใหญ่ราคามีส่วนเลย ราคาแบบไม่ต้องคิดเยอะ 49-99 หรือร้อยนิดๆอะ เอาไว้อ่านขำๆคั่นเวลาเรื่องยาว

486 Nameless Fanboi Posted ID6:jeXF9xcIdA

ยอดสถิติในเมบนี่มันคำนวณเฉพาะคนที่กดซื้อหรือเปล่าวะ กุแปลกใจที่ของกูมันแสดงกลุ่มคนอ่านที่อายุ 31-50 ไป 80 % เลยผิดจากที่คาดว่ากลุ่มเป้าหมายจะเป็นวัยรุ่นแฮะ

487 Nameless Fanboi Posted ID6:qDyLAwq7EI

>>486 คนซื้อ เด็กๆ,ไม่ค่อยซิ้อหรอก อ่านฟรี

488 Nameless Fanboi Posted ID:8Jc0LqD/tE

>>486 มันดูตรงไหนอะ

489 Nameless Fanboi Posted ID6:jeXF9xcIdA

>>487 งั้นกุก็คิดถูกแล้วที่จัดหน้าไฟล์ pdf ใหญ่หน่อย

>>489 ในหน้าจัดการหนังสือ เป็นไอค่อนรูปกราฟแท่งอ่ะ

490 Nameless Fanboi Posted ID:5CnXM8TAWR

>>486 กุจำไม่ได้ ตอนสมัครแอคมันมีให้กรอกอายุเหรอวะ หรือมันอิงจากที่เรายืนยันบัตรปชช. ถ้าให้กรอกปีเกิดเฉย ๆ อาจจะไม่ใช่ข้อมูลจริงก็ได้ปะ เด็ก ๆ ก็อัพปีเกิน 18 หมด

491 Nameless Fanboi Posted ID:45mUgr8WFK

>>489 ขอบใจมากมึง กุไม่เคยรู้มาก่อนเลย

492 Nameless Fanboi Posted ID6:AoAEjwt1qj

Kyเพื่อนโม่งพอจะรู้ไหมว่า แฟมมิลี่ทรี ทำได้ที่แอพไหน อยากทำใส่ในนิยายจ้า //กราบขอบพระคุณล่วงหน้า

493 Nameless Fanboi Posted ID6:y3L9Eu8368

>>492 canva

494 Nameless Fanboi Posted ID6:Fvcr2M3OLr

KY เป็นอะไรไหมที่นางเอกกูไม่ฟาด เป็นสาวน้อยเรียบร้อยที่ธรรมดาสุดๆ ไม่ได้มีซีนพูดจาฉลาดๆ แต่เป็นคนเข้าอกเข้าใจเป็นความอบอุ่นใจของพระเอกไปวันๆ นักอ่านจะหาว่านางเอกกูหน่อมแน้มไหมวะ

495 Nameless Fanboi Posted ID6:Fvcr2M3OLr

KY เป็นอะไรไหมที่นางเอกกูไม่ฟาด เป็นสาวน้อยเรียบร้อยที่ธรรมดาสุดๆ ไม่ได้มีซีนพูดจาฉลาดๆ แต่เป็นคนเข้าอกเข้าใจเป็นความอบอุ่นใจของพระเอกไปวันๆ นักอ่านจะหาว่านางเอกกูหน่อมแน้มไหมวะ

496 Nameless Fanboi Posted ID6:DEzNfGfnwF

>>495 ในมุมมองกูก็ไม่เป็นไร แต่จะมีประเด็นน่าติดตามรึเปล่านี่ล่ะ เพราะมันจะออกแนวสาวจืด
ถ้าเป็นกูคงใส่ภูมิหลังสุดโต่งมาด้วย เช่นเป็นหลานสาวประธานบริษัท มีคุณตาขี้หวงเลี้ยงมา แล้วพระเอกที่เป็นแค่พนักงานธรรมดาๆ โดนยัดเยียดหน้าที่คอยดูแล เพราะฝ่ายหญิงมาถูกใจนั่นล่ะ

497 Nameless Fanboi Posted ID6:y3L9Eu8368

>>495 สำหรับกูนะ นี่แหละนางเอกที่ตามหา กูเบื่อสายเฟียส แต่ใดๆ คือนิยายต้องสนุก

498 Nameless Fanboi Posted ID:5CnXM8TAWR

>>494 ขึ้นอยู่กับว่ามึงเจอนักอ่าน misogynist อ๊ะป่าว คนหมั่นไส้สาวนุ่มนิ่มเรียบร้อยเยอะ แต่กุชอบนะ ขอให้เจอนักอ่านที่ถูกใจเยอะ ๆ

499 Nameless Fanboi Posted ID6:HxmzI.CowC

>>495 กูชอบนะ ถึงเบื่อก็ไม่ว่าเพราะคาแรคเตอร์นางเอกมันน่ารักอะ กูชอบผู้หญิงแบบนี้ กูสายซื้อนิยายเพราะคาแรคเตอร์555 ถ้าจะเขียนจริงกูคงแนะนำให้ต้องมีซีนให้น้องช่วยฮีลใจพระเอกเยอะๆ ว่ะ พระเอกเป็นไอ้หนุ่มโดนครอบครัวกดดัน น้องชายเหลวแหลก พี่ชายห่วยแตก พ่อแม่หย่าร้าง หางานไม่ตรงสาย ปมจะไปหนักที่พระเอกแทน จุดนี้กูว่าจะช่วยชูคาแรคเตอร์นางเอกให้คนเอ็นดูมากๆ เป็นยัยน้อง ยัยนุ่มนิ่ม และเอาใจช่วยนางให้เป็นแสงตะวันกลางใจของไอ้หนุ่มนี่ (ยิ่งถ้านางเอกมีภูมิหลังน่าสงสารแต่ยังน่ารัก คอยเป็นความอุ่นใจให้พระเอกได้ สายอ่านนิยาเพราะคาร์แรคเตอร์จะเลิ้ฟมาก) เขยเปรตทีคนเข้าข้างนางเอกเยอะด้วยนะมึง555

500 Nameless Fanboi Posted ID6:AoAEjwt1qj

>>495 ถ้านางเอก มาทรงนี้ พระเอกมึงต้องเข้มข้นจัดจ้านชีวิตมีเรื่องกดดันต้องต่อสู้ฝ่าฟันเยอะแยะมากมายหน่อยนะ แล้วมีนางเอกมาฮีลใจ คนนึงนุ่ม คนนึงแข็ง คนนึงดาร์ก อีกคนไชน์ สดใสเจิดจ้า มันถึงบาลานซ์ ไม่งั้นจะชวนง่วงได้

501 Nameless Fanboi Posted ID6:5I/KRoLgeY

กู 495 นะ โฮ ขอบคุณพวกมึงทุกคนมาก 😭 กูเองชอบนางเอกแนวนี้ ชอบความสัมพันธ์แบบนางเอกแสนธรรมดามองโลกในแง่ดี เป็นผู้หญิงเรียบๆ ที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจหายเหนื่อยอ่ะ ส่วนปมก็ไปหนักทางพระเอกจริง วิ่งสู้ฟัดสุดๆ 555 บางทีกูก็นึกว่านางเอกกูควรมีซีนเป็น heroine ฟาดฟันตัวโกงกับเข้าบ้างไหม แต่ก็โคตรฝืนคาแรคเตอร์เลย น้องมันก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งอ่ะ กูเขียนๆ ไปก็กลัวนักอ่านจะเบื่อนางเอกแนวนี้แล้ว ขอบคุณพวกมึงจริงๆ ที่มาตอบให้กูมีกำลังใจเขียนต่อไปได้นะ /สูดยาดม

502 Nameless Fanboi Posted ID:MTiOXRbZvV

มีข้อสงสัยนิดนึงว่ะ กูไม่ได้เขียนแนวโรแมนติคขายฝันอะไรนะ แนวพีเรียดๆเหมือนบันทึกชีวิตมากกว่า นางเอกกูแอบรักผู้ชายคนหนึ่ง แล้วนางเอกโดนทางบ้านบังคับแต่งงาน นางเอกไม่ได้รักผัวตัวเอง แต่ผัวนางรักนางมากจนนางโคตรรู้สึกผิด พยายามรักแล้วแต่คนไม่ใช่มันก็ไม่ใช่ ส่วนผู้ชายคนนั้นก็โสดตลอดชีวิตเพราะรักนางเอกเหมือนกัน

ถ้านางเอกกูยังคะนึงหารักแรกของตัวเองแต่ไม่ได้ไปสานต่ออะไร ผัวก็อยู่กันแบบผูกพันแต่ไม่ได้รักในฐานะผัวเมีย ตายไปก็ยังคิดถึงแต่ผู้ชายคนนั้นไม่เคยคิดถึงผัวตัวเอง อันนี้นักอ่านจะผิดหวังและด่านางเอกมั้ยวะเพราะแม่งก็ขัด norm ที่เมียต้องซื่อสัตย์รักผัว แต่นางเอกไม่สามารถเลือกได้ว่าจะแต่งงานกับใครได้ด้วยซ้ำ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบให้คู่ครองในเรื่องแต่งไม่รักกันใช่ป่ะ

503 Nameless Fanboi Posted ID:5CnXM8TAWR

>>502 ใช่ มันจะขมเกิน เป้นแนวเรียลๆ ที่อ่านละหน่วงจิตอะ แต่ถ้ามึงเขียนให้นางเอกกะผช.ที่นางรักรักกันมากแล้วเขียนให้อินมันก็น่าสงสารแหละ ไม่น่าด่าหรอก ฟีลนางเอกพระเอกแต่ไม่ได้คู่กันอะ แต่ถ้ามึงให้บทผัวชีเด่นมากอันนี้แหละนักอ่านอาจจะเลือกข้างฮีแล้วหาว่านอ.ใจร้ายไม่ยอมมูฟออน อยู่ที่การนำเสนอเรื่องนะ
ว่าแต่มึงเขียนแนวนี้กะขายใครวะ ถามจริงๆ ไม่ได้กวนตีน 555

504 Nameless Fanboi Posted ID:MTiOXRbZvV

>>503 ไม่ได้กะขาย เขียนตามความพอใจของกูเอง ใครอยากอ่านก็อ่าน กูแค่อยากเอาออริที่กูเคยเขียนเล่นกับเพื่อนในสมัยก่อนมาเรียบเรียงใหม่เฉยๆ ึ

505 Nameless Fanboi Posted ID:+XX2d/V8Ap

>>502 กูขอโทษ แต่กูลำใยนอ.ไทป์นี้จัง ไม่ใช่เพราะแม่งขัดนอร์มที่เมียต้องซื่อสัตย์รักผัว แต่ลำใยที่มึงจะยื้อสามีไว้ทำไมถ้าใจมึงอยู่กับอีกผู้ อยู่กันแบบผูกพันแต่ไม่ได้รักนี่เข้าข่ายรักพี่เสียดายน้องมั้ยวะ ถ้ามึงจะมาทรงพีเรียดที่ตลค.ยังโดนบังคับด้วยขนบ มึงให้ครอบครัวนอ.บังคับนอ.แต่งกับผัวเหี้ยๆหน่อยเหอะ อย่างที่ >>503 บอกว่าถ้าบทผัวเด่นคนอ่านจะเทใจให้แทน

506 Nameless Fanboi Posted ID6:AoAEjwt1qj

>>502 ตามตรงคือ กูไม่ชอบนางเอกมึงเลยว่ะ กูสงสารผัวเขาที่แต่งด้วย แล้วกูก็ไม่ชอบคนที่นางเอกรักด้วย ทำไมมันไม่ไปรักกันให้จบๆ คาราคาซัง แต่อย่างที่มึงว่ามึงเขียนตามใจตัวเองไม่เน้นเซอร์วิสคนอ่านซึ่งก็จะดีใจมากที่เราไม่เป็นลูกค้ากันนะ ไม่งั้นกูสาปมึงจริงๆ แนวมึงเหมือนหนัง-ซีรี่ย์ญี่ปุ่งเลย นักเขียนชอบจบแบดๆไม่แคร์ เป็นแนวที่ทำให้กูรู้สึกว่า กูจะอ่านไปทำไมวะมันไม่คอมพลีทอะ ค้างคาในความรู้สึกสุดๆ555

507 Nameless Fanboi Posted ID:MTiOXRbZvV

>>505 แนวพีเรียดชนชั้นสูงอะมึง หย่าได้ซะที่ไหน ครอบครัวนางเอกแม่งบังคับกะเกณฑ์จัดๆตั้งแต่บังคับแต่งงาน ถ้าลูกสาวหย่าผัวแม่งเอาตายแน่ๆ ผัวที่มาแต่งด้วยก็นิสัยดีประมาณหนึ่ง เป็นคนดีแต่คนที่ไม่รัก ทำยังไงมันก็ไม่รัก ฟีลแบบมึงรู้จักคนคนนี้เป็นสิบปีแล้วมึงก็ผูกพันกับเขานั่นล่ะ แล้วอยู่ร่วมบ้านกันมาสิบปีมันจะไม่ผูกพันกันมันเป็นไปบ่ดั้ย แต่ผูกพันในแง่ไหนมันก็อีกเรื่อง

508 Nameless Fanboi Posted ID6:AoAEjwt1qj

>>507 อ่านแล้วนึกถึง คัมมั่นษันยา ของป้าทมเลย เรื่องนั้น พระเอกคือคนที่นางเอกรัก ตอนจบพระเอกตาEอีกต่างหาก

509 Nameless Fanboi Posted ID:MTiOXRbZvV

>>508 นางเอกของกูมันแนวบันทึกชีวิตเหมือนพวกโอชินไรงี้มากกว่า อาจจะไม่เน้นรักมาก เน้นเล่าชีวิตนางว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตั้งแต่เด็กยันแก่ มีสุขมีทุกข์ ผ่านความลำบากมากมาย ตายไปก็ทิ้งบันทึกให้รุ่นหลานมาอ่าน บางบทก็ยังมีเขาในซอกหัวใจไรงี้ ฟีลเพลงสลักจิต 55555555555555555

510 Nameless Fanboi Posted ID:+XX2d/V8Ap

>>509 อ่า งั้นกูพอเก็ตฟีลละ ถ้ามึงมีคอนเซปท์ชัดพอ กูว่ามึงไปต่อกับเวย์นี้ได้นะ ทำไมทำมากูชักอยากขออ่าน 55555 ถามอีกที มึงจะเขียนบันทึกชีวิตนอ.แบบ SOL ยุคพีเรียดใช่มะ

511 Nameless Fanboi Posted ID6:y3L9Eu8368

>>502 สงสารคนไม่มีเมีย ต้องมายึดติดกับอีนี่ แต่เอาจริงคิดอีกทางก็ดีละ ให้มันอยู่คนเดียวไปเหอะ เพราะถ้ามันมีเมียจะมี ผญ น่าสงสารเพิ่มอีก 1 คน

512 Nameless Fanboi Posted ID:+XX2d/V8Ap

>>508 โฮ มุงขุดแผลใจกู กูอ่านเรื่องนี้ตอนยังเด็กมากแล้วไม่อินเลย กูไม่เข้าใจความรักแบบนั้นเลย โฮๆๆๆๆ

513 Nameless Fanboi Posted ID6:y3L9Eu8368

ผัวอีนางด้วย แต่งเมียก็คาดหวังว่าจะมารักกัน

514 Nameless Fanboi Posted ID:MTiOXRbZvV

>>510 อารมณ์ประมาณนั้นล่ะ เรื่องที่อ่านคือบันทึกของคุณย่าอะไรประมาณนี้

>>511 กูแนะให้มึงไปอ่านแนวรักนะเพื่อน มีเต็มเลยที่พระเอกนางเอกรักกันฟินๆสองคน งานกูไม่ตอบโจทย์มึงหรอก

515 Nameless Fanboi Posted ID6:HxmzI.CowC

>>514 ลงให้ถูกหมวดละกันว่าดราม่า คนชอบแนวนี้เขาจะได้มาอ่าน ส่วนคนไม่ชอบจะได้ไม่แตะ เขียนเตือนด้วยคนเขาจะได้รู้ว่ามึงเขียนแนวประวัติชีวิตแบบใด ยกตัวอย่างมาเลยว่าฟีลเหมือนหนังเหมือนนิยายเรื่องไหน เข้าใจความอยากเขียนนะ แต่ลงให้ถูกหมวดกับเตือนให้ครบด้วย คนอ่านจะได้ไม่เข้าใจผิด และมึงจะได้ไม่ต้องมากลัวว่านางเอกจะโดนด่ามั้ย ต้องมากังวลว่าสังคมสมัยนี้จะรับนางเอกของกูได้รึเปล่านะ คนชอบแนวนี้ก็มี เขาไม่ตั้งคำถามมากหรอกถ้ามึงเขียนทุกอย่างครบ ขอให้หานักอ่านที่ชอบแนวนี้เจอเยอะๆนะเว้ย

516 Nameless Fanboi Posted ID6:irMHKtYI.K

เห็นด้วยว่าเขียนบอกไว้ก็ดี ไม่ได้บังคับหรอก แต่ถ้าบอกก็ดีกับนักอ่านมากกว่าอะ กุเคยเห็นคห.แนวนักอ่านสมัยนี้เรื่องมาก อยากได้เตือนนั่นเตือนนี่ สมัยก่อนไม่เห็นต้องขนาดนี้ กุก็เก้ทว่าพวกจิกหัวบังคับให้นข.เตือนทุกเม็ดนี่ก็เกินไปหน่อย แต่ก็ยังอยู่ทีมบอกก่อนดีกว่า ถ้าไม่โอจะได้ไม่เสียเวลาอ่าน นข.ได้นักอ่านตรงทาร์เก็ต ไม่โดนหักใจ นักอ่านได้อ่านแนวที่รับได้ ไม่เสียอารมณ์/ทริกเก้ออะไร วิน-วินอะ

อันนี้เม้าเฉยๆ ว่าเคยอ่านนิยายเก่า อ่านแค่คำโปรยหลังปกละซื้อเลยเพราะชอบไดนามิคพระนาง นิยายไม่แมสเลยไม่มีรีวิวด้วย สรุปสุดท้ายพระเอกนางเอกไม่ได้คู่กัน ต่างคนต่างแยกย้ายไปแต่งงานมีลูก (กับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก) แต่ตัวเองก็ยังมีคนในใจอยู่เสมอ จนลูกโตอะ กุจะร้องไห้ตาย เข้าใจว่าเรียล แต่กุไม่อยากอ่านอะไรแบบนี้อะ โฮรๆๆๆๆ เจองี้ทำกุหลอนงานสมัยก่อนไปเลย ต้องหารีวิวก่อนว่าแฮปปี้มั้ย เฮ้อ

517 Nameless Fanboi Posted ID6:y3L9Eu8368

>>514 แล้วใครบอกจะอ่านค้า แหม

518 Nameless Fanboi Posted ID6:7mOmu4J0KU

>>516 เจ้าใจมึงเลย จบงี้ก็เคว้งสิวะ เพิ่งเจอกับตัวก็เรื่องสงครามสมรสอะ เห็นเขาว่าละครดัดแปลงเยอะอยู่เลยไปหาสปอยนิยายเป็นไง สรุปจบแบบเรียลเชี่ยๆ ตัวร้ายลอยนวลไม่ได้รับกรรม ถึงคู่พระนางจะสมหวังก็เหอะ แต่กูคาใจจุดจบตัวร้ายอะ รอดทั้งบ้านได้ไงกัน แม่งควรคุกคู่เลยสิวะ แต่ดันจบแบบเรียลเกินรอดหมดไม่พอมีชีวิตดีๆต่อไปอีก คือมันก็ดีแหละในแง่จบแบบสะท้อนเสียดสีสังคมไรงี้ แค่ไม่ถูกใจคนอ่านอย่างกูที่อยากเห็นจุดจบแบบสาสมสักหน่อย

519 Nameless Fanboi Posted ID6:Fvcr2M3OLr

>>518 อย่างสงครามสมรสกูว่าไม่สมเหตุสมผลดีนะ เพราะทั้งเรื่องเขาปูมาแบบนั้น ว่าอำนาจชนะกระบวนการทางกฎหมายน่ะ ที่มึงเซ็งจุดจบตัวร้ายก็คงเป็นไปตามที่นักเขียนต้องการแล้วล่ะ

520 Nameless Fanboi Posted ID6:Fvcr2M3OLr

*แก้ สมเหตุสมผล

521 Nameless Fanboi Posted ID6:2fOK.UqOZC

>>519 ใช่แหละ มันสมเหตุสมผลอยู่ในตัวเพราะผู้มีอิทธิพลมันก็รอดคุกชิวๆงี้แหละ ซึ่งมันน่าหงุดหงิดใจที่เป็นตัวร้ายด้วยไงไม่ได้รับกรรมไรเลย กูสูนหลาย555 แต่พอเข้าใจอะนข.ตั้งใจเขียนแบบนี้แหละ ซึ่งกูว่าดีนะเอาจริง เป็นจบแบบทั้งเสียดสีและสะท้อนสังคมได้แบบไม่ตกยุคเลยมุกคลาสสิคสัสๆ เป็นการเขียนแบบที่พวกฉอดต้องด่าว่าโรแมนติกไซส์ห่าไรสักอย่างแหง

522 Nameless Fanboi Posted ID:eeW3Rb39s8

>>521 ฉอดไม่กล้าหรอก กับเคสที่สะท้อนสังคมจริงชัดๆแบบนี้ มันจะแสดงความโลกสวยแต่แปาก ทำห่านไม่ได้จริง ชัดเจนเกินไป ฉอดรับตัวเองไม่ได้

>>509 มึง ต้องทำใจหน่อยนะ งานแบบนี้คนเปย์ยาก ไม่ใช่ไร ขนาดกุเองงานแบดเอนท์ งานหม่นๆ นี่กุจะซื้อคิดแล้วคิดอีก ชีวิตกุทุกข์ยากจนไม่ต้องเติมผงปรุงเพิ่มแล้ว ต่อให้รู้ว่างานมันจะสำนวนสวย เรื่องตราตรึงใจ ดีเลิศๆ ก็เหอะ แต่กูมะอยากอึนไปเป็นสัปดาห์แล้วอ่าาา ขอมุมเล็กๆจากนิยายให้กุหนีความจริงหน่อยเถ้ออ

523 Nameless Fanboi Posted ID6:AoAEjwt1qj

จริง ชีวิตจริงมันมีเรื่องให้อยากร้องไห้เยอะแล้ว จะเสียเงินอ่านนิยายทั้งที กูขอที่จบดีทำให้กูคนเสียเงินมีความสุขอะ

524 Nameless Fanboi Posted ID6:DEzNfGfnwF

KY ถามโม่งหน่อย กูกำลังคิดพล๊อตโดยอิงให้ตัวเอกเป็น "คนมีอายุ" ไม่ใช่แนวโรมานส์จ๋า แต่อยากให้มีเนื้อหาความรักกับตัวละครอายุน้อยกว่ามาก (เอาซัก 20 ต้นๆ ละกัน) เลยอยากถามว่า "คนมีอายุ" เนี่ย ...ควรซักเท่าไรดีที่จะไม่รู้สึกว่าแก่เกินไป ตอนแรกกะจะเอาซัก 35+ แต่มาคิดดูแล้วอายุนี้ก็น่าจะยังหนุ่ม/สาวอยู่เลย จึงคิดว่าควรจะเพิ่มอายุเข้าไปหน่อย แถมอยากให้ตัวละครอื่นเรียกตัวเอกว่า ลุง/ป้า ด้วย (ยังไม่ได้กำหนดเพศน่ะ)

ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นแนวพีเรียดตะวันตก แต่ยังลังเลเรื่องยุคอยู่เดี๋ยวขอตบๆ พล๊อตให้เข้าที่ก่อนค่อยตัดสินใจ

525 Nameless Fanboi Posted ID6:irMHKtYI.K

>>524 สัก 40 มั้ย กำลังดี หรือกดลงประมาณ 38+ อันนี้พอให้เด็ก ๆ เรียกลุงป้าได้

526 Nameless Fanboi Posted ID:E1y46oqyd7

>>521 สมจริงมากไปนักอ่านก็สะเทือนใจอะ โลกความจริงมันเหี้ยอยู่แล้ว ต้องมาอ่านนิยายเจอตัวละครมีชะตากรรมเหี้ยๆแบบไม่มีทางผุดขึ้นจากก้นบึ้งนรกได้แม่งก็หดหู่ชิบหาย คนมันเลยต้องขอนิยายมาปลอบประโลมใจบ้างก็ยังดี ถึงรู้ว่าโอกาสแฮปปี้แม่งเกิดได้ 1 ในล้านก็เหอะ ยังดีกว่าอ่านอะไรที่ตัวเองรู้สึกเฟล

แต่ดูท่าทางโม่งในนี้คงเป็นสายสุขนิยมกันพอสมควร อะไรขมๆดูสะเทือนใจหรือตัวเอกดูทรงจะงี่เง่าไม่ตรงตามมาตรฐานโม่งนี่ดูยี้กันอย่างแรง

527 Nameless Fanboi Posted ID:24FR82emKF

>>502 นิสัยงี้เป็นนางเอกกุก็ด่า เป็นพระเอกกุก็ด่า ไม่เกี่ยวกับนอมกะอะไร รำคาญล้วนๆ เสียดายชีวิตคนดีๆ ที่ต้องไปเป็นพระรอง/นางรองให้คนสันดานแบบนี้ นิสัยแบบนี้อยู่คนเดียวเถอะ

528 Nameless Fanboi Posted ID:LkmJ88oZ/a

>>526 กุก็งงเหมือนกัน พออ่านนิยายกุอยากให้มันต่อให้ตกระกำลำบากแค่ไหนสุดท้ายจะพลิกกลับมาจบดีได้ แต่ในฐานะคนเขียนกุนี่ชอบคิดพล็อตแบบจบทางใครทางมัน ไม่ชนะไม่แพ้ซะทีเดียว บอบช้ำกันไปทุกฝ่ายแล้วก็พยายามไปตั้งหลักกันที่อื่นงี้ คือกุมือใหม่ พยายามท่องว่านิยายรักๆ จบงั้นมึงจะขายใคร้ ไว้ยอดใช้ได้แล้วค่อยเขียนอะไรที่อยากเขียนแต่ใจกุมันจะไปทางจบเทาๆ ทุกที

529 Nameless Fanboi Posted ID:/OAd4QfPRY

>>528 กูมองว่าถ้าสร้างสรรค์งานก็ต้องการความหลากหลายว่ะ ถึงแนวเมนสตรีมแบบแมสๆอาจจะนิยมผัวโบ้ ขึ้นแบบหงส์ลงอย่างหมา ทำเหี้ยแล้วมาเลียตีนเธอทีหลัง คนอ่านต้องการเห็นมันแฮปปี้ แต่ในใจมึงบอกว่ามันไม่ใช่ ทำเหี้ยก็ต้องชดใช้ มึงแต่งออกมาแต่นักอ่านไม่ชอบ ขายได้ไม่ได้ อันนี้ก็อีกเรื่องนะ แต่มึงโอเคที่จะแต่งแบบนี้ มีความสุขกับผลงาน มันน่ายินดีกว่า

แต่ถ้าเนื้อหามึงยังจะลากมาให้จบแฮปปี้แม่งก็ไม่ต่างจากเรื่องอื่นๆ แล้วมันจะเอาเสน่ห์จากไหน กูชอบงานที่เป็นตัวเองไม่เอาใจใครและจบแบบที่มันควรเป็น ซึ่งมันคนละแบบกับจบเหี้ยๆส้นตีนๆนะเว้ย 5555555555
-จบแบบที่ควรเป็น เช่น ไททัน
-จบเหี้ยๆส้นตีนๆ เช่น เลือดของอีจีเซล

530 Nameless Fanboi Posted ID:vumA1zXAEX

>>526 บ่ มึง ในฐานะโม่งตัวนึง กุไม่ได้ยี้งานที่ไม่สุขนิยม แต่เงินในมือกุมีจำกัด กุจำเป็นต้องจัดสรรทรัพยากรให้พออยู่พอกิน
งาน bad end สะท้อนสังคมมีความงดงาม สมเหตุสมผลในตัวมันนะ ถ้ากุมีเงินล้นเหลือกุก็คงเปย์ไม่คิดเท่าไหร่ มึงผลิตงานได้แต่ตลาดมันเป็นงี้ ไม่มีใครถูกผิด ยอดขายมันก็จะแม่งสะท้อนสังคมแบบเดียวกับผลงานมึงเลย คนเขียนเห็นยอดแล้วก็อาจจะเศร้าพอๆกันกับคนอ่าน 🥲

531 Nameless Fanboi Posted ID6:BnfwRrCTLm

>>529 จีเซลนี่มันจบส้นเพราะนักวาดมีปัญหากับบอมันอะดิ ซวยคนอ่าน

532 Nameless Fanboi Posted ID:/OAd4QfPRY

>>530 ไม่ได้ยี้แต่ก็ไม่อ่านใช่ป่ะล่ะ อันนี้ไม่มีใครถูกผิด ทุกคนก็อยากอ่านสิ่งที่ตัวเองสบายใจกันหมด เลือกนรกที่ชอบกันเลย

แต่พอแนวอื่นๆมันไม่นิยม คนก็ไม่ค่อยเขียนอะไรแหวกๆออกมา เขียนแต่เมนสตรีม พระเอกนางเอกเป็นบล็อคแพทเทิร์นสูตรสำเร็จ เช่นเมะหึ เคะอ๊างๆ หรือสาวเฟียซกีเกิดมาฟาด อีสาวหวานดอกทองแอ๊บแบ๊ว แล้วนักอ่านก็จะบ่นว่าแม่งมีแต่อะไรซ้ำๆซากๆ กลายเป็นวงจรเหี้ยๆวนลูปไปอีก ก็ตลาดเขาชอบแนวนี้ แนวอื่นขายไม่ออกจะเขียนทำไมมันไม่คุ้ม สุดท้ายก็แทบไม่มีใครสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆเพราะเล่นเพลย์เซฟเน้นขายออกกันหมด

533 Nameless Fanboi Posted ID6:Q47URu2Uz0

>>530 กูเขียนแนวนอกเมนสตรีม ทุกวันนี้นั่งกอดเข่าตัวเองร้องไห้ ผ่านไป 2 เดือน ยอดวิวไม่ถึง 2000 ทั้งที้อัพตอนใหม่ทุกวัน คิดว่าแบบนี้อยากเขียนต่อมั้ยล่ะ

534 Nameless Fanboi Posted ID:Yko3ULHytU

>>533 กูว่าแนวอินดีคงจะขายยากจริง ไม่อย่างนั้นคงไม่มีนข.มาถามในนี้บ่อยๆว่าจะขายวิญญาณแล้ว ช่วยชี้เป้าแนวตลาดให้หน่อย
แต่กรณีโม่งเจ้าของทอปิคข้างบนคือเค้ารู้แล้วว่ามันไม่ใช่แนวกระแสน่ะ จะเขียนสนองนี้ดตัวเอง ไม่ได้เอาอารมณ์ไปแขวนกับยอดคนอ่าน กับนข.ที่ชัดเจนกับตัวเองชัดแบบนี้กูก็เอาใจช่วยให้ทำนะ

535 Nameless Fanboi Posted ID6:ExJuV4do39

ky กุเห็นประเด็นก็อปพล็อตละเข็ดขยาดชิบหาย สมมติถ้าโดนกล่าวหาว่าก้อปชาวบ้านทั้งที่ไม่ได้ทำเนี่ยต้องยืนยันความบริสุทธิ์ยังไงวะ เอาในกรณีดันมาทีหลังด้วย หลักฐานไทม์สแตมป์ไม่ช่วยเงี้ย ToT ละเคสกล่าวหาแบบนี้เราฟ้องหมิ่นกลับได้มั้ยวะ ใครพอรู้กฎหมาย

536 Nameless Fanboi Posted ID6:pAN6Gt2XsQ

ky กูอยากเขียนเรื่องแยกคู่พ่อแม่ แต่แม่ของรุ่นลูกเขาตายนะ มีลูกแล้วก้ใช้ชีวิตครอบครัวสุขสันต์ไม่กี่ปีแล้วตาย ผัวยังรักยังหลงตลอด ขนาดในเล่มหลักของเรื่องลูกก็ยังเพ้อถึงเมียที่ตายไป ไม่คิดมีใหม่ อันนี้ถ้ากูเริ่มเขียนคู่พ่อแม่ละ คนอ่านจะรับได้มั้ยถ้ารู้ว่านางเอกตายตอนจบ (แต่ก็ได้ใช้ชีวิตกับพระเอก มีลูก ได้เลี้ยงและตายไปเพราะปกป้องลูก) ต้องเขียนเตือนมั้ยว่านางเอกตาย

537 Nameless Fanboi Posted ID6:y5binTMZ+o

>>535 ฟ้องได้ เอาจริงควรทำเป็นสิ่งแรกด้วยซ้ำ ไม่ต้องมาโวยวายลงเนตเพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแปอะ ฟาดแม่งในศาลเสียเวลาหร่อยแต่อีนั่นคงเลิกกล่าวหาพล่อยๆสักที โวยลงเนตแค่อาศัยกฏหมู่มาช่วยอะ แล้วหลักฐานที่ว่าคือไร ต้องมีไทม์สแตม ต้องการจดบันทึกว่าเราเขียนพล็อตไว้วันที่นี้ๆเหรอวะ แล้วงี้พวกสายด้นสดที่ไม่จดไรก็ซวยสิ เพราะงั้นไปสู้ในศาล มีผู้รู้จริงกว่าพวกชาวเนตคอยให้คำแนะนำ โดนด่าในเนตอย่าไปดิ้นตามประเข้าทางคนเปิดเลย ใันอยากให้มึงดิ้นแหละ แล้วให้พวกมือที่สามเข้ามาช่วยซ้ำอีกที ซึ่งเห็นมาเยอะนะ โดนกล่าวหาทั้งที่ไม่ใช่คนปิด ชีวิตชิบหายกันไปเท่าไหร่ พอความจริงปรากฎว่ามึงบริสุทธิ์ ไอ้คนทำแค่ขอโทษนะงุ้ยๆ แล้วเนียนเงียบไปเลย คนที่มามุงเขาก็ไม่ได้ติดตามจนจบหรอกว่ามึงไม่ผิด ก๋จำกันต่อแหละว่ามึงผิดๆ
เข้าใจว่าการขึ้นศาลมันยุ่งยาก แต่เพื่อผลประโยชน์ตัวเองคือทำเถอะ

538 Nameless Fanboi Posted ID:5yUpTKYUAn

เดี๋ยวนี้เรทราคาอีบุค ภาพรวมตลาดราคาตกลงไปที่ คำx0.0015 กันแล้วเหรอวะ ไถไปเห็นแสนคำไม่ถึงสองร้อยกันโคตรเยอะ ห้าหมื่นคำก็วิ่งแถวร้อยนิดๆกัน

539 Nameless Fanboi Posted ID:r5tP+RyrHx

>>538 ลดแข่งกันอ่ะมึง กุจนเหนื่อยแล้ว เขียนนานชิบหายกว่าจะจบแต่ละเรื่อง กุเคยขายนิยายเกือบสองแสนคำ 350 บาท นักอ่านบอกแพง กุท้อจนไม่รู้จะท้อยังไงแล้ว แต่ก็นะ ตลาดลดกันไปจนราคาโปรสองแสนคำขาย 199 งี้กุจะเอาไรไปสู้

540 Nameless Fanboi Posted ID6:3Q4shURueL

น่าจะรู้ว่า300กว่าบาทขายยาก ถ้าไม่ได้มั่นใจว่ามีฐานลูกค้าเก่า หรือขายเอาแพชชั่น ราคาไม่เกิน300 คนอ่านสะดวกใจซื้อมากกว่า เจ้าไหน500คำอัพ:1฿ คือราคาเป็นมิตร

541 Nameless Fanboi Posted ID6:BnfwRrCTLm

>>539 มึงก็ต้องเข้าใจด้วยแหละว่าเศรษฐกิจมันไม่เอื้อให้ฟุ่มเฟื่อย แถมตอนนี้เขียนนิยายกันเหมือนเป็นรายได้เสริม ผลิตกันจนล้นตลาด สภาพก็ออกมาเป็นงี้แระ

542 Nameless Fanboi Posted ID:5rP2Im1ge+

หลายธุรกิจเขาจับมือทำราคากลางกัน ไม่ตัดราคากันเกินเหตุ แต่นักเขียนมันล้นตลาดแหละ จับมือกันไม่ไหว ร้อยพ่อพันแม่ แข่งกันลดราคา ใครลดไม่ไหวมึงก็ปั้นนามปากกาตัวเองให้ดี ๆ เอาให้ไม่ลดราคาคนอ่านก็ต้องดิ้นรนมาซื้อเหมือนพวกตัวแม่ตัวมัมเขา หรือมึงจะปั้นจนดังแล้วก็ตามมาขึ้นราคางานเก่าทีหลังก็ได้ ตอนนั้นไม่มีใครว่ามึงหรอก มีแต่คนอวยขึ้นครับพี่ ดีครับผม

543 Nameless Fanboi Posted ID6:BnfwRrCTLm

>>542 บอกเลยอีขึ้นราคานี่ ไม่ต้องประกาศ ไปแก้เงียบๆ

544 Nameless Fanboi Posted ID:fT9P5siVH+

>>543 ประกาศก็ไม่เป็นไรนะ ดังแล้ว กุเห็นมีแต่คนอวย คนเชียร์ว่าขึ้นเถอะ อยากให้นักเขียนรวย

545 Nameless Fanboi Posted ID6:BnfwRrCTLm

>>544 เป็นดิ คนหมั่นไส้ไม่พูดให้มุงได้ยินไง

546 Nameless Fanboi Posted ID:5yUpTKYUAn

ไถเจอสองแสน ขายร้อยกลางๆ ลงไม่กี่วันป้ายแดงแล้ว เห็นรีวิวบอก เห็นราคาคุ้มเลยกดเลย เนื้อหารอลุ้นเอา 🥲
เรื่องต่อไปกุลองเอากะเค้ามั่งดีกว่ามั้ยวะ แสนคำขายแม่ง 99 ไปเลย ลองดูว่าของถูกจะทำยอดขายรวมได้ดีกว่าขายเกาะราคาตลาดมั้ย

>>541 เหมือนเจอสภาพนี้ทุกวงการเลยว่ะตอนนี้ ดูสภาพคนแย่งกันกินแย่งกันใช้มากอ่ะมึง เห็นแล้วกังวลอนาคตสัดๆ

547 Nameless Fanboi Posted ID6:3Q4shURueL

>>544 บนบกไม่พูดหรอกเว้ยเดี๋ยวโดนรุม เก็บกดมาบ่นในโม่งไง

548 Nameless Fanboi Posted ID:5JH9weEQza

>>546 เคยอ่านเจอว่า กดราคาไปก็ไม่มีคนซื้ออยู่ดี ขาย 250 ได้ 10 คนอย่างน้อยก็ดีกว่าขาย 100 ได้ 10 คนวะ แม่งตลกร้ายสัส 5555555

ว่าก็ว่า คนไทยแม่งจนชิบหาย เสดกิจงี้ใครจะซื้ออีบุ๊คเล่ม 300 ที่ขายต่อไม่ได้ ยาวแค่ไหนก็ช่างเถอะ เพราะมันไม่มี physical touch ด้วย มันกะความหนาความบางไม่ได้อะ อยากขายราคาคุ้มค่าแรงคงต้องอวตารไปเกิดใหม่ที่จีนนู่น นิยายแปล 300 หน้าเล่มเกือบ 500 อิดอก

549 Nameless Fanboi Posted ID6:RZXTLPxQVb

คนซื้อมีนะราคา300กว่าน่ะ แต่ต้องเป็นนักเขียนที่ชอบ เชื่อใจ มีคุณงามความดี เคยทำให้ฟินกันมาก่อน บุญเก่าเกื้อหนุนน่ะ ถ้าเป็นหน้าใหม่ก็ต้องมีกระแสมีแสง มีคนบอกต่อเยอะว่าสนุกมาก
เขียนเซอร์วิสคนอ่าน ไม่ตามใจความติสต์ของตัวเองหักมุมตอนจบ แบบอ่านแล้วร้องอิหยังวะ

550 Nameless Fanboi Posted ID6:DZ7fM0Ld22

>>547 อวยมันก็กล้าดิ555 แอบด่าอีกเท่าไหร่ไม่รู้ เห็นด้วย ดังขึ้นมาก็ไม่ต้องชักแม่น้ำทั้งห้า แอบไปแก้ราคาเงียบๆ จบ ุ

551 Nameless Fanboi Posted ID:92zDOyDyJ3

>>548 มึงนิยายแปลราคาแรงมากๆๆ กูพูดตรงๆเลยนะ กูมีเงินซื้อได้สบายมาก แต่พอเห็นราคาเห็นการจัดหน้าแล้ว สัดมาก ซื้อแล้วเหมือนคนโง่อะ กูเห็นพวกนักแปลออกมาบอกว่าภาษาไทยสวยซื้อแปลไทยคุ้มได้คุณค่าทางภาษา กูนะไปอ่านจีนกดตุ่มแปล(อย่ามาด่ากูจ่ายเงินจิ้นเจียง)อ่านผ่านเอาดีกว่าไม่ต้องจ่ายทุกตอน อย่างพวกแนวquick wear กูก็กดอ่านเฉพาะโลกที่เซ็ตติ้งกุชอบ แล้วเรื่องไหนที่ชอบมากกุก็ซื้อเล่มเก็บเวลาลด หรือซื้อมือสอง ถ้าอีบุ๊คลด 40%กูก็กดซื้อ
ส่วนนิยายไทยคือซื้ออยู่เฉพาะนักเขียนเดิมๆที่เคยอ่านกันมา ส่วนนักเขียนหน้าใหม่กูกดอ่านตัวอย่างก่อนเลย แต่ถ้าเจอคำผิดตั้งแต่คำโปรยตัวอย่างกูก็ไม่อ่านละ อ่านตัวอย่างถ้าดึงดูดได้แล้วตัดช่วงได้น่าติดตาม กูจะไปอ่านรีวิวในกู้ดรี้ดก่อน รีวิวในเมพคือหารเยอะ ส่วนใหญ่คือเกรงใจนักเขียน ถ้านิยายแปลรีวิวในเมพเชื่อได้ ส่วนราคามีผลมาก ถ้าราคาเกิน 300คือไม่ใช่เศษเงินละ คิดเยอะก่อนซื้อ แต่ตอนนี้นิยายแปลราคาทะยานเกิน500ไปมากละ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.