>>117 กูบอกตัวเองเลย ออกมากากแน่นอน งานแรกจะเอาจากไหนมาเพอร์เฟควะ กุก็ไม่ใช่เทพจากที่ไหน พรสววรรค์ล้นฟ้าหรือก็เปล่า กูบอกตัวเองว่ากูแค่อยากเขียน อยากท้าทายตัวเองว่าจะพยายามเขียนจนเสร็จได้มั้ย จากนั้นกูก็ลากเลือดไปเป็นระยะๆ เพราะคำถามมึงมันแค่ด่านแรก พอเริ่มลงมือมึงอาจจะเจออีกสารพัดด่าน ไม่ว่าจะเขียนไม่ไป ตัน อยากเขียนแต่บรรยายไม่ออก นานแล้วทำไมไม่เสร็จ กุแม่งกากมากชาวบ้านใช้เวลาเดือนเดียวได้ทำไมกูปีนึงแล้วยังไม่เสร็จ และถ้ามึงเขียนแล้วลงเลยมึงจะเจอสารพัดคอมเมนต์เทกระหน้่ำได้อีกทั้งดีและร้าย ปิดท้ายหลังลงงานคือ งานกูไม่มีคนอ่าน งานกูกากหรือแค่แสงหากูไม่เจอ ฯลฯ
ดังนั้นกุขอเสนอ มึงไม่ต้องสงสัย มึงแค่ลงมือทำและทำต่อไป บอกตัวเองว่ากูเขียนเพราะกูอยากเขียน และกูจะเขียนให้มันจบให้ได้ แค่นั้นพอ
อีกอย่างกุก็รู้สึกเหมือน >>118 บางงานแม่งเป็นงั้นจริงๆ เหมือนหมูไม่กลัวน้ำร้อนอ่ะมึง อาจจะเด็กมาก มั่นมาก อยากทำไรลงเลย เพราะเห็นมาไม่มากไง ไม่มีความคิดว่าเราไม่ได้มาตรฐานตามนั้นนี่โน่นยังไม่ควรลงหรอก แต่พอลงก็ปรากฎว่ายังมีคนสนุกกับเรื่องของเค้าได้อยู่ อาจจะวัยเดียวกันหรืออะไรก็เหอะ แต่นั่นแหละ มันก็เป็นตัวอย่างว่าทำไมมึงถึงควรเลิกกังวลและลงมือทำน่ะ
ปล.กุก็มือใหม่ กุเขียนมาปีกว่า เพิ่งจบเรื่องสั้นไปเรื่องนึงสามหมื่นกว่าคำ แล้วกูก็ชาเลนท์ตัวเองด้วยเรื่องยาวต่อเลย จะปีนึงแล้วยังไม่จบเลยมึง ท้อๆ วาง ๆ อย่างที่กุเล่าข้างบนตลอดแหละ กุก็บอกตัวเองอย่างที่บอกมึง คือเออ กุก็กากมือใหม่นั่นแหละ จะเอาไรมาราบลื่น เรียบสะดวกสบายวะ ไม่เจอปัญหาจะเรียกมือใหม่เหรอ ดังนั้นพักจนอารมณ์นอยด์หายแล้วกูก็กลับมาทู่ซี้เขียนต่อไป กุต้องเขียนส่งลูกกูไปถึง happy ending ให้ได้