Fanboi Channel

วันศุกร์ที่ยี่สิบ ของเหล่าซาลารี่แมน

Last posted

Total of 265 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID6:/vyWQdPTsc

>>>/lounge/68/ วันศุกร์ที่หนึ่ง
>>>/lounge/216/ วันศุกร์ที่สอง
>>>/lounge/286/ วันศุกร์ที่สาม
>>>/lounge/408/ วันศุกร์ที่สี่
>>>/lounge/765/ วันศุกร์ที่ห้า
>>>/lifestyle/1530/ วันศุกร์ที่หก
>>>/lifestyle/2284/ วันศุกร์ที่เจ็ด
>>>/lifestyle/3353/ วันศุกร์ที่แปด
>>>/lifestyle/5047/ วันศุกร์ที่เก้า
>>>/lifestyle/6139/ วันศุกร์ที่สิบ
>>>/lifestyle/6603/ วันศุกร์ที่สิบเอ็ด
>>>/lifestyle/7075/ วันศุกร์ที่สิบสอง
>>>/lifestyle/8483/ วันศุกร์ที่สิบสาม
>>>/lifestyle/10347/ วันศุกร์ที่สิบสี่
>>>/lifestyle/12401/ วันศุกร์ที่สิบห้า
>>>/lifestyle/14347/ วันศุกร์ที่สิบหก
>>>/lifestyle/15723/ วันศุกร์ที่สิบเจ็ด
>>>/lifestyle/16891/ วันศุกร์ที่สิบแปด
>>>/lifestyle/17717/ วันศุกร์ที่สิบเก้า

2 Nameless Fanboi Posted ID6:Qd6dt7OIFa

ตกลงมันผิดที่ตัวกูไม่มีความสามารถหรือบริษัทกั๊กตำแหน่งว่ะ คือกูสมัครมาเป็นผู้จัดการเค้าก็รับแต่ยังให้เป็นหัวหน้าแผนกไปก่อนเพราะมีอีกคนที่จะมาเป็นผู้จัดการแต่เค้าก็ดูๆรอประเมินอีกที ละทีนี้พอเป็นหัวหน้าแผนกกูก็ทำงานตามความรับผิดชอบและขอบเขตที่ระบุไว้ใน JD ไป แต่เรื่องจะให้เป็นผู้จัดการคือเงียบไปเลยจนกระทั่งวันนี้นัดคุย สรุปคือ เค้ามองว่าระดับความสามารถกูยังไม่ถึงขั้นผู้จัดการ แต่ทำหน้าที่หัวหน้าแผนกได้ดี เลยให้กูเป็นตำแหน่งนี้ไปแทน แย่สัสๆ คือถ้าจะประเมินว่ากูเป็นผู้จัดการได้ไหมก็ควรแต่งตั้งให้กูเป็นแล้วค่อยประเมินแบบนั้นป่าววะ ไม่ใช่ให้กูเป็นแค่หัวหน้าแผนก แล้วกูต้องไปสั่งงาน ไปสั่งหัวหน้าแผนกคนอื่นๆ ไปเข้าประชุม เหมือนเป็นผู้จัดการงี้หรอ ความคิดเห้ไรของมันวะ

3 Nameless Fanboi Posted ID:Ol.fybJNVj

>>>/lifestyle/17717/1000 กูมั่นใจว่าความไม่แตกเพราะถ้ากูทำเองกูมุดVPNแน่นอน และคนไม่ชอบมันมีหลายคน นับแบบชัดๆก็2-3คนได้ และพอมันผ่านโปรเห็นเริ่มออกลายละนะ มันทำหน้าทำตาแบบไม่พยายามสร้างบรรยากาศในที่ทำงานเลย มีประวัติว่าไปเหวี่ยงไปใส่อารมณ์กับเพื่อนร่วมงานอีกแผนกนึงจนเค้าฟิวส์ขาดได้เพราะแค่ตัวเองมาก่อนแค่1-2วัน แต่หัวหน้าเก่ากูคือเหมือนไม่สนไม่แคร์ แค่เพราะทำงานได้ระดับนึงเลยปล่อยผ่าน แต่มันมีนิสัยชอบหาคนในที่ทำงานเป็นที่ระบายอารมณ์ ซึ่งกูคือ1ในนั้น แต่นับวันเริ่มจะเล็งกูมากขึ้นๆละกับอีกคนที่ไม่กินเส้นกันมาแต่แรก ในสายตาเพื่อนร่วมงานคนอื่นนี่คือแบบมันชอบหนีงานหนัก หรือสื่อสารงานแม่งก็ไม่ดูหน้างาน ทำงานไม่รู้เรื่องชิบหาย จะลงมืออัปเปหิมันทั้งทีกูคิดว่าตอนนี้ค่อนข้างเหมาะเพราะว่ามี พนง.ใหม่กำลังจะเข้ามาเพิ่ม กูจะหาจังหวะเก็บหลักฐานที่มันทำแย่ๆใส่เพื่อนร่วมงานใหม่ไปในตัว แต่จะให้มันดูเลวร้ายขั้นกว่าตรงหาช่องทางส่งข้อความให้ร้ายหัวหน้าใหม่(ซึ่งฝีมือทำงานไม่เด่นเท่าคนเก่า)ไปในตัวด้วย ปัญหาคือกูคลำทางต่อก็ไปไม่ถูกว่าจะเอายังไงต่อ เรื่องแบบนี้แม่งคุยกับChatGPTละมันเสือกโลกสวยหว่ะเลยมาคุยกับโม่งดีกว่า 555555

4 Nameless Fanboi Posted ID6:eR+z8mNEzj

>>2 บริษัทขนาดเล็กเหรอวะ สมัครตำแหน่งนึง ได้ทำอีกตำแหน่งนึง แบบนี้กั๊กชัดๆ

5 Nameless Fanboi Posted ID6:Ct8At/b1ln

connection คือเส้นสายปะ ละมันจะแยกเป็น 2 คำทำไมวะ ให้มันดูชิคๆคูลๆเก๋ๆ ดูมีการศึกษาเฉยๆหรอ

6 Nameless Fanboi Posted ID:TmDh6QoNln

>>2 กั๊กไว้ให้เด็กเส้นป่าววะ

7 Nameless Fanboi Posted ID:3.9wvwOABo

>>5 how do you translate networking nigga

8 Nameless Fanboi Posted ID6:jrwCKieXGB

>>5 ภาษาพวกอังกลอยด์มีการพัฒนาทางสติปัญญาสูงกว่าลิงเหลืองเลยมีคําsynonymsหลายคําเป็นเรื่องปกติครับ นิกก้าชิ้งฉ่องแฉงหนีฮ่าว

9 Nameless Fanboi Posted ID:WNABTuHylY

มีใครรู้สึกว่าไปที่ไหนก็เป็นเดอะแบกมั้ยวะ คือกุเป็นพวกบ้างาน จริงๆ ก็ไม่เชิง ออกแนวเถรตรงชอบทำอะไรให้ถูกต้อง ถ้าส่วนนี้หน้าที่เราแน่ๆ ก็จะทำให้ดี ไม่ต้องรอคนมาสั่งซ้ำๆ หรือพอว่างเห็นอะไรทำได้ก็ทำไว้เพราะรู้ว่าในวีคนั้นๆ ต้องใช้แน่ๆ แต่กูมักเจอเพื่อนร่วมงานแบบทำแค่ขอไปที ถ้าหน.เคยสั่งแล้วแต่เขาไม่ย้ำทุกอาทิตย์ก็จะเนียนไม่ทำ งานบางอย่างมันไม่ได้สำคัญแบบหายนะ บางทีเป็นเรคคอร์ดจุกจิกที่ไม่ได้มีคนขอดูบ่อยๆ แต่เขาขอให้เรคคอร์ดไว้เผื่อเวลาต้องใช้จะได้ตามหาเจอ

10 Nameless Fanboi Posted ID:WNABTuHylY

เผลอกดส่ง… บางทียุ่งๆ กุเข้าใจแหละว่าโยนๆ ทุกอย่างเละเทะไว้ แต่พอวันที่ว่างก็น่าจะคิดได้ว่าควรเก็บกวาด นี่กุต้องเป็นคนคอยกระตุ้นตลอดอ่ะว่าเรามาทำนั่นกันเถอะ เรามาทำนี่กันเถอะ คนอื่นก็จะแบบเราว่างหางานเข้าตัวทำไม? ทำคนละอันสองอันก็กลับไปเล่นมือถือต่อละ เหนื่อยโว้ย กุจะเทไม่สนใจแบบพวกมันมั่งก็ไม่ได้เพราะกุเข้ามาคนแรก หน.เอย แผนกอื่นเอยติดขัด สงสัยอะไรหรือไปเจอความชุ่ยก็มาถามกุหมด

11 Nameless Fanboi Posted ID:p3HOlflGFV

https://www.youtube.com/watch?v=fRIvXAX5r3I
วิธีเอา 'โฟกัส' ของคุณกลับคืนมา (ก่อนจะสายเกินไป!)

เพื่อให้การทำงานดีขึ้นกันครับ

12 Nameless Fanboi Posted ID:X+2K14+emm

>>11 jump cut every 5 seconds

13 Nameless Fanboi Posted ID6:aAyaoeb7fF

คิดยังไงกับเศรษฐกิจช่วงนี้ที่เขาบอกว่าให้กอดงานประจำไว้เเน่นๆ

14 Nameless Fanboi Posted ID6:8unGRT92kW

>>13 it's like saying don't forget to breathe. we know bro. at what point in history could you ever just stop working and not starved to death

15 Nameless Fanboi Posted ID:ZFBdmbqW1b

เครียดว่ะ แบบนี้ควรออกไปหางานใหม่ดีไหมวะ เหมือนถูกบริษัทขายฝันเลย
>>2 ท้าวความต่อจากอันนี้นะ
ตอนนี้กูได้ยินข่าวลับมาอีกว่า ตำแหน่งผู้จัดการจะมีคนมาทำละ ก็เป็นผัวของอีน้องตำแหน่งเดียวกันกับกูในแผนกนี่แหละ แบบนี้เหมือนโดนบริษัทหลอกเลยว่ะ คือตอนแรกกูคิดบวกไว้นะว่า มันก็มีคนที่เค้ากำลังดูๆจะให้ขึ้นมาเป็นผู้จัดการอยู่แต่กูมาสมัครแล้วเห็นว่าก็เป็นผู้จัดการได้เหมือนกันเลยรับเข้ามาทำงาน แต่อาจจะให้กูเรียนรู้ระบบก่อนโดยเริ่มจากหัวหน้างาน แล้วค่อยโยนโปรเจ็คส์ให้ทำเพื่อจะเอามาวัดผลแข่งกันหาคนที่ทำตรงนี้ได้ แต่พอไอ้คนนั้นลาออกไปแล้ว Slot ผู้จัดการก็ว่าง แต่ก็เงียบไม่เห็นมาคุยอะไรเรื่องตรงนี้ต่อ โปรเจ็คส์ก็มีมาให้กูทำนะ แต่แล้วอะไรคือหาคนมาเสียบตำแหน่งที่ว่าง แทนที่จะดันกูขึ้นไปลองทำตามที่คุยๆไว้ทีแรกว่ะ แล้วแบบนี้กูก็คง Stuck อยู่แค่ตรงหัวหน้างานใช่ป่าววะ เพราะถ้าให้ Challenge แข่งกัน ยังไงไอ้คนมาใหม่ก็ชนะกูใสๆ เพราะถูก Assign มาให้ทำโดยตรงแถมยังมีเมียมันมาสนับสนุนเป็นมือเท้าให้อีก แล้วที่เล่ามาว่าถ้ากูสามารถ Achirev target ตามที่วางไว้ได้ก็จะพิจารณาปรับตำแหน่งให้ ก็คงเป็นการขายฝันสินะ แบบนี้กูออกไปหาที่ใหม่ดีๆกว่าป่าววะ

16 Nameless Fanboi Posted ID:ZFBdmbqW1b

>>15 คิดต่อ คงเป็นปัญหาที่ ทางผู้บริหารไม่เชื่อว่ากูจะทำตำแหน่งนี้ได้ ก็เลยหยุดพลักดัน แล้วหาคนมาเสียบแทน ทั้งๆที่ตอนแรกประเมินว่ากูสามารถทำได้นะ พอมาคิดแบบนี้แล้วกูรู้สึกว่าควรออกไปหาอนาคตที่ดีๆกว่าว่ะ เมื่อหัวๆไม่เชื่อใจแล้ว เราจะพยายามทำอะไรไปก็เปล่าประโยชน์ ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีสินะ

17 Nameless Fanboi Posted ID:TiSLuEu2gc

>>15 ชีวิตตัวสำรอง

18 Nameless Fanboi Posted ID6:gaLX3SYD1p

>>17 เออ จากที่ประเมินทบทวนหลายๆรอบแล้วกูคงต้องเตรียมอัพเดทเรซูเม่เพื่อหาที่ทำงานใหม่แล้วล่ะ เกริ่นก่อนคือมันจะมีอีน้องในแผนกคนนึงตำแหน่งหัวหน้างานเนี่ยล่ะ งอแง ร้องจะลาออกหลายรอบแล้วเพราะอยากไปทำงานใกล้ๆอยู่กับผัวมัน และคงเห็นตำแหน่งผู้จัดการว่างอยู่พอดีเลยไปคุยเสนอให้ผู้บริหารดึงตัวผัวมันมาเสียบ ซึ่งกูไม่ติดตรงที่อยากทำงานใกล้ผัวหรือจะมีใครมาเสียบตำแหน่งที่เคยเปรยๆกับกูไว้นะ แต่ที่กูสืบข้อมูลมา ผัวมันก็อายุเท่าๆกู แต่เรียนจบสถาบันที่ด้อยกว่าดังนั้นทั้งอายุและประสบการณ์ทำงานกูถือว่าเหนือกว่า ก็คงกะดึงผัวมันมาเพื่อซื้อใจให้อีลูกรักอยู่ทำงานต่อแหละ สรุปแบบนี้กูก็ควรกู้ดบายที่นี่ได้ละ กูพยายามหาเหตุผลอื่นๆเพื่อ cross-check ว่ากูไม่ได้แค่น้อยใจ แต่มันเป็นเรื่องของการให้ความยอมรับและเห็นคุณค่าในตัวกูว่ะ นึกสภาพกูที่เป็นแคนดิเดตผู้จัดการ แต่ถูกจับมายัดตำแหน่งหัวหน้างานเพราะรอประเมินอีกคนอยู่ แต่พอเหลือกูคนเดียวแล้วก็ทำเบลอ ไม่สนใจคุยเรื่อง carrer path ที่โม้ไว้ให้ กลับดึงคนอื่นมาเสียบเลยแทนที่จะลองโปรโมทกูแล้วทำงานแข่ง Performance กันก่อน งั้นก็ตัวใครตัวมันละ ขอให้เจริญๆละกันกับอีลูกรัก&ผัวมัน ไม่อยากเป็นหมาหัวเน่าว่ะ

19 Nameless Fanboi Posted ID6:mCBa6abc/e

คนเพิ่งโดนให้ออกหลังทำงานที่เก่าหลายปีนี่พูดคุยในนี้ได้รึเปล่า

20 Nameless Fanboi Posted ID6:Ue8Td8PelE

>>19 ได้

21 Nameless Fanboi Posted ID:qQKPB1iwOZ

เมื่อไหร่จะได้งานหนอกู กูว่าตอนสัมกูก็ทำได้ดีแล้วนะ เห้อ~~

22 Nameless Fanboi Posted ID:Q6URfpCJ2o

เบื่อว่ะสัสเอ้ย อยากหายใจเป็นเงิน

23 Nameless Fanboi Posted ID6:MJB0duH46W

ปรึกษาหน่อย โม่งรีแมนในนี้มีใครทำประกันบำนาญไหม กรณีเราไม่มีลูกหลาน ควรทำดีมั้ย ตอนนี้มี LTF/RMF/SSF/PVD/เงินฝาก/สลากออมสิน ประมาณนี้ สนใจทำประกันบำนาญแต่อ่านแล้วยังลังเล กลัวจะตายเร็ว 555 เห็นเขาบอกถ้าตายเร็วไม่คุ้ม ขาดทุน อีกอย่างเห็นหลายคนบอกว่ามันเป็นการบังคับตัวเองออมเงินจะได้มีใช้ตอนแก่ เหมือนแค่เอาเงินไปฝากเขาไว้ก่อน แล้วพอแก่เขาค่อยทยอยจ่ายให้ ผลตอบแทนต่ำมาก เหมาะกับคนเก็บเงินไม่อยู่ แต่ส่วนตัวมองว่าตัวเองเป็นคนออมเงินเองได้ บริหารเองได้ ไปเก็บในรูปแบบอื่นน่าจะคุ้มกว่าไหม

24 Nameless Fanboi Posted ID6:MJqprogh5N

>>22 ใช่ อยากนอนอยู่ห้องเฉยๆ

25 Nameless Fanboi Posted ID6:hGO7pb693t

ไม่อยากเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยเลย แต่รู้สึกว่าทำไมกูจางในที่ทำงานจังวะ รู้สึกไม่มีใครเห็นค่าของสิ่งที่กูทำเลยถึงมันจะเป็นงานใช้สกิลแค่ไหน กูก็อดทนหาวิธีแก้ปัญหาจนได้ พยายามทำงานให้เสร็จในเวลาที่เร็วที่สุด ทน overwork เพื่อให้งานมันยังไปต่อได้ แต่คนที่ได้หน้ากลับเป็นคนอื่น แถมยังต้องให้กูช่วยไกด์ช่วยทำงานอีก เป็นแบบนี้มาหลายรอบจนอยากจะตะโกนว่าพวกมึงเอางานไปทำกันเอาเองบ้าง กูเหนื่อย
ถึงกูจะติดนิสัยชอบพูดว่าง่าย ชิล สบาย มันไม่ได้แปลว่าสิ่งที่กูทำง่ายหรือเปล่าวะ หรือพอกูพูดบ่อยๆ มันทำให้ทุกคนคิดแบบนั้นจริงๆ ไม่อยากระบายแบบลูซเซอร์แบบนี้เลย แต่ก็ลูซเซอร์จริงๆ ความอดทนมันใช้ได้ผลในการทำงานจริงดิ

26 Nameless Fanboi Posted ID:FwbJC7RttE

>>25 ไม่จริง หมายถึงเรื่องความอดทน
มึงทำมึงต้องเสนอ ว่ามึงทำ ไม่งั้นคนไม่รู้ ใครจะมานั่งส่อง

27 Nameless Fanboi Posted ID6:9SjQcf8kUQ

รู้สึกเหนื่อยใจกับนิสัยง้องแง้งของผู้บริหารว่ะ คือเข้าใจว่าพึ่งถูก แอสไซน์ ให้มาดูงานบริหารแต่วุฒิภาวะและความเบียวก็ควรให้มันมีหน่อยดิวะ ไม่ถูกใจงาน ไม่ถูกใจไอเดียกู แต่ก็อมเงียบอยู่นั้น แล้วเอาไปบ่นให้คนอื่นๆฟัง ทำนิสัยเด็กสัสๆแล้วความมั่นในหัวตัวเองคือที่สุด คิดอะไร พูดอะไรแล้วทุกคนต้องทำตามแม้มันจะไม่เมคเซนต์ แถมเบียวเล่นบอร์ดเกมส์ คิดว่าตัวเองมีความคิดไอเดีย มีคอนเซปต์เล่าให้ฟังว่าอยากทำอย่างนู้น อยากทำอย่างนี้ แต่ไม่เคยชัดเจนว่าให้ใครทำ แล้วจะติดตามสรุปผลตอนไหนยังไง ไหนจะเรื่องลูกรักอีก อีลูกรักบ่นอยากย้ายงานเพราะอยากไปอยู่ใกล้ๆผัว ก็หาเรื่องมารั้งไว้ถึงขนาดดึงผัวมันให้มาทำงานด้วย ออฟเฟอร์ตำแหน่งสูงๆให้ผัวมันยอมมาทำ(ทั้งๆที่พึ่งผ่านโปรบริษัทอื่น) คนเก่าๆ คนที่รันงานรันโปรเจคส์ให้ก็มองข้าม ไม่มาพูดคุยอะไร ดองไว้พิสูจน์ความจงรักภักดีและบารมีอยู่นั้น แล้วดึงผัวอีลูกรักมาเป็นหัวหน้าอีลูกรักอีกทีคิดว่าจะเป็นไงละ? ก็เรือหายสิทีนี้ ปกครองอีลูกรักไม่อยู่ วันๆคุยงานแต่อีลูกรัก แล้วคาดว่าประเมินปลายปีก็คงเกี๊ยะเซี๊ยะอวยกันอยู่สองคนผัวเมียแหละ กับคนอื่นเสนอไอเดีย เสนออะไรไปก็ไม่ฟังแล้วตอบว่าคุณก็ทำได้แค่นั้นแหละ ก็คุณมึงไม่ยอมเชื่อใจแล้วมอบหมายให้ลองทำดูก่อนไง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมีแต่คนบ่นว่าซื้อใจลูกน้องไม่ได้ เปลี่ยนมือบริหารทีทีมงานออกยกชุด เพราะเค้ารู้มันแกวหมดแล้วว่าขยันไปสิบปีก็ไม่เจริญหรอกถ้าไม่ใช่ลูกรัก จริงๆกูมีโปรเจ็กต์และไอเดียที่จะพัฒนาทีมให้ไปด้วยกันตามระบบที่ทีแรกก็เหมือนๆจะให้กูมาทำ แต่พอเห็นการรับคนอื่นเข้ามาเพราะบารมีลูกรัก แล้วจะให้มาทำต่อจากกู พูดตรงๆว่ากูคงไม่มีอะไรจะมอบให้แล้วล่ะ ทำเอาแค่สิ่งที่กูริเริ่มไว้เสร็จก็คงไปละ จากตอนแรกมองๆไว้ว่าจะทำยาวๆ แต่มาแบบนี้คงต้องตัดสินใจโยกย้าย ทำใจเขียนเรซูเม่ร่อนหาที่ใหม่ได้ง่ายขึ้นละ ใกล้ช่วงปลายปี ไฮต์ซีซั่นละด้วย ก็คงต้องโบกมือลาก่อนจ๊ะ อิอิ

28 Nameless Fanboi Posted ID6:Mzurhk2DNG

อีคนที่บ่นอยากลาออกโว้ยย อยากลาออกทุกวัน อยากไปทำงานอยู่ใกล้ๆกับผัวเพราะผัวมันก็ผ่านโปรแล้ว เป็นหัวหน้างานบริษัทใหญ่โต แต่อยู่ดีๆดันกลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ดูชีวิตดีมีความสุข และแล้วก็ได้คำตอบ อยู่ๆบริษัทก็หาคนมาทำตำแหน่งผู้จัดการได้ทั้งๆที่มีแคนดิเดทรออยู่2-3คน แต่บริษัทก็เลือกผัวมันมารับตำแหน่งผู้จัดการ คนที่รออยู่กลายเป็นหมาหัวเน่า เรื่องมันเศร้า ขยันสิบปีก็แพ้ลูกรักว่ะ

29 Nameless Fanboi Posted ID:Nl.O15A9If

>>25 ความอดทนทำงานงกๆๆๆ ไม่ช่วยให้มึงมีหน้าที่การงานที่ดี มึงต้องประกาศตัว (อ้อมๆ) ว่าเป็นคนทำผลงานชิ้นนั้น ให้คนที่มีส่วนเป็นคนประเมินมึง เมเนเจอร์มึงเห็น และมีหลักฐานว่ากูนี่แหละทำ เช่น เวลาส่งงานให้หัวหน้ามึงส่งเป็น e-mail แล้ว cc คนสำคัญๆที่มึง cc ได้ดูไม่น่าเกลียด
มึงต้องพยายามหาสปอร์ตไลท์มาส่องให้ตัวเองว่ะ

30 Nameless Fanboi Posted ID6:RWmT2X2PHj

>>26 >>29 ก็จริง กูไม่ค่อยชอบเคลม เครดิตงานก็คือถ้าทำกับใครก็ให้คนอื่นก่อนตลอด
ตอนอยู่บริษัทที่เก่า งานมีหัวหน้าดูแลจริงจัง ทำอะไรเลยมีคนเห็นตลอด
แต่พอย้ายมาที่ใหม่ งานมันต่างคนต่างรับผิดชอบงานตัวเองมากขึ้น แต่เนื้องานกูดันเป็นคนตรงกลางคนสาธารณะ เกี่ยวข้องกับหลายส่วน เลยเคลมอะไรเป็นผลงานของตัวเองยากมาก :(

31 Nameless Fanboi Posted ID6:1tWPgnDJoe

>>30 เห้ย คนตรงกลางก็ยิ่งดีแล้วไม่ใช่หรอว่ะ ทุกเส้นทาง ทุก Path way ทุก Transaction ทุกแสงวิ่งเข้าหามึงหมด มึงแค่ต้องเอาตัวเองออกไปประกาศแสงให้ชัดๆหน่อย สู้ๆเว้ย

32 Nameless Fanboi Posted ID:rkzbDQDmVB

แมสสสสสสสส
https://www.youtube.com/watch?v=HUHfmNzJyh8&list=PLmPNQNKb70_WpU1XP6pXquOJyJOiChNSS&index=23

33 Nameless Fanboi Posted ID6:OiJzfmAACN

อาชีพที่ดีที่สุดคือเป็รลูกคนรวยหว่ะ

34 Nameless Fanboi Posted ID:kryu5ZppbT

เข้ากับคนที่ทำงานไม่ได้เลย ออกดีไหมว่ะ ไม่อยากไปทำงานเลย

35 Nameless Fanboi Posted ID6:3tKC+kTXv3

>>34 ออกครับ

36 Nameless Fanboi Posted ID6:767DaYUR4g

>>34 ออกเลย อย่าอยู่เป็นภาระสังคม

37 Nameless Fanboi Posted ID6:ewdoSGzO1p

ทำงานที่ใหม่ได้วีคนึง แต่ hr ยังไม่ให้เซ็นสัญญาจ้างเลยว่ะ แถมเวลาแจ้งข้อมูลอะไรก็แปลกๆ ตอนแรกดีลเงินเดือนเท่านี้ แต่ก่อนเริ่มงานทักมาบอกว่าเรทที่กุขอไปไม่ได้เป็นฐานนะ แต่ได้แค่ประมาณนึงแล้วที่เหลือไปเป็นเบี้ยขยันแทน ซึ่งมารู้ทีหลังอีกว่าเงินส่วนนี้จะยังไม่ได้ในสองสามเดือนแรก แผนการเงินที่กุคำนวนไว้เกือบพังเลย (ใช้คำว่าเกือบเพราะยังมีเงินเก็บจากที่เก่า แต่ก็ไม่อยากใช้ปะวะ) ข้อดีคือบอใหญ่ คนไทยรู้จัก

ขณะเดียวกันก็มีบออื่นโทรมาจะนัดสัม แต่นัดวันอาทิตย์ ถึงจะออนไลน์ก็เถอะ ( hr เขาจะทำงานวันอาทิตย์กันเหรอ อันนี้สงสัยนิดนึง) แต่บอนี้เป็นสตาร์ทอัพ ไม่ได้แมสโดยทั่วไปแบบบอที่ทำอยู่ แถมในเพจมีรับสมัครตำแหน่งเพียบ

กุควรเอาไงดีวะ

38 Nameless Fanboi Posted ID:wQdd7cjsuo

กำลังเล็งๆ samsung A15 5G
8,999.- แต่พอไปดู pantip
ทำไมมีแต่คนบอกเครื่องรวน
https://pantip.com/topic/42642860

39 Nameless Fanboi Posted ID:c6x+NK.Kh3

>>38 Android ถ้าไม่ใช่ Pixel 6 ขึ้นไปก็คือขยะ
ส่วน Samsung ต้องเป็นตระกูล Note ultra ก็คือขยะที่ถ่ายรูปสวย
ดังนั้นรุ่นที่มึงว่ามาคือ ขยะของโคตรขยะ

40 Nameless Fanboi Posted ID6:.JKez/JkFj

กูเล่นเกมออนไลน์อยู่เกมนึงเป็นเกมเก่า คนส่วนใหญ่ที่เล่นก็จะเป็นวัยทำงาน 30+ แล้วกูเห็นคนพวกนี้ไม่ค่อยมีเวลาเล่นกันเท่าไหร เวลน้อยๆเล่นกันก็ไม่เคยจะรู้ทริค แต่เวลามีกาชาหรือแฟชั่นใหม่เข้ามาก็มักจะเติมเงินซื้อของกันตลอด ส่วนกูเป็นนีทมีเวลาว่างเล่นทั้งวันจนเป็นท็อปของเซิฟเวอร์โดยแทบไม่ต้องเติมสักบาท เอาของที่ฟาร์มได้มาขายพวกนี้แหละ คนในเกมต่างยกย่องกูว่าเป็นท่านอาจารย์ มีอะไรก็จะมาปรึกษาถามกู แต่กูกลับรู้สึกว่าชีวิตกูมันไร้ค่ากว่าพวกบีกินเนอร์พวกนี้เสียอีก ทั้งๆที่ในเกมกูสามารถฆ่าพวกนี้หมดทั้งแมพได้เพียงแค่วิ่งชน แต่กูกลับรู้สึกว่างเปล่า กูได้ทำอย่างที่ฝันไว้ตอนเด็กแล้วว่าอยากเล่นเกมทั้งวันทั้งคืนโดยที่ไม่มีใครมาห้าม แต่ตอนนี้กูกลับอิจฉาพวกทำงานหาเช้ากินค่ำไม่มีเวลาเล่นเกมที่ตัวเองอยากเล่นทำได้แค่เติมเงินซื้อของดองเอาไว้โดยที่รอวันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือวันนักขัตฤกษ์เพื่อที่จะได้เล่น ทำไมมันย้อนแย้งแบบนี้วะ

41 Nameless Fanboi Posted ID6:8O0dO.zkUO

>>37 แปลกจัด กับบอปัจจุบันมึงทำไมไม่ให้เซ็นวะ? เพราะทำโปรเกี่ยวป่ะเนี่ย? แต่การรู้สัญญางานก่อนมันจะดีกว่าอ่ะ จะได้รู้ว่าอะไรทำได้ทำไม่ได้ แต่ถ้ามึงไม่ไว้ใจ มึงไปสัมกับที่ใหม่ดู แต่เทียบสวัสดิการละมึงคิดเอานะ... เอิ่มม... จะว่าไป มึงเคยสืบงบการเงินจากบอใหญ่นี่ไหมว่ากำไรหดรึเปล่า เทียบกับบอสตาร์ทอัพละดีกว่าไหมอะไรยังไงป่ะวะ?

42 Nameless Fanboi Posted ID6:Rwst+Q.e+J

ky เด็กจบใหม่ถามพี่โม่งหน่อย เข้าวัยทำงาน โสดสนิท อยู่หอคนเดียว ไม่ได้อยู่บ้านกับครอบครัว มีเหงากันบ้างมั้ยวะ ;-; เพื่อนเก่าก็กระจัดกระจาย ต่างคนต่างมีชีวิตตัวเอง ค่อย ๆ ห่างกันไป เพื่อนร่วมงานก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น พอกลับห้องมาอยู่ตัวคนเดียวรู้สึกเหงาจัด สมัยมหาลัยกุเจอคนเยอะ อย่างน้อยก็พอมีสังคม พอเริ่มทำงานแล้วรุ้สึกโดดเดี่ยวไงไม่รู้ ต้องทำใจให้ชินหรือทำไรดีวะ orz

43 Nameless Fanboi Posted ID6:G1z26/H2De

>>41 ไม่เคยเลยเพื่อน กุไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย T_T แต่บอมันดูไม่ได้อยากเคลียร์ใครออกนะ ปัจจุบันยังรับคนเพิ่มอยู่เพราะได้ยินว่ามีหลายทีมคนไม่พอ แล้ววันแรกที่ปฐมนิเทศ hr บอกว่าเดี๋ยวทำสัญญาจ้างให้เย็นนั้น ไม่ก็วันถัดไป แต่นี้เกินมาหมดแล้ว กุก็ไม่กล้าไปถาม เพราะตึกออฟฟิศที่นี่มันใช้แค่ฉากกั้นแผนก ไม่ได้แยกเป็นห้อง แถมแต่ละแผนกมีหัวหน้าใหญ่ๆ นั่งคุมอีกที (ซึ่งเขาเป็นต่างชาติ/เอเชีย)

44 Nameless Fanboi Posted ID6:mg4DXtyq0D

>>40 nigga u feel worthless

45 Nameless Fanboi Posted ID:8/xaiWTg.W

>>40 มึงว่างจัดไปหาอะไรทำนอกจากเล่นเกมซะ
>>42 การมีแฟน/ครอบครัว จะเข้ามาอุดช่องโหว่เพื่อนไง...แล้วพอมีแล้วมึงก็จะอยากกลับไปโสดเหมือนเดิม 555

46 Nameless Fanboi Posted ID:01tq8gDDlP

>>42 กูเป็นช่วง1-2ปีแรก แต่อยู่ไปนานๆก็ชิน

47 Nameless Fanboi Posted ID:01tq8gDDlP

>>43 ไม่กล้าอะไร ผลประโยชน์มึงล้วนๆ เดินไปถามซะไอ่สัส

48 Nameless Fanboi Posted ID:EZCl5s5PpL

>>46 หาแฟน นอกจากจะไม่เหงาแล้วยังนำความวุ่นวายและปสด.เข้ามาในชีวิต

49 Nameless Fanboi Posted ID6:MrNa99jJn4

>>42 เหงาไม่เหงาคงอยู่ที่คนด้วย กูเป็นพวกขี้รำคาญ อยู่กับคนอื่นแล้วรำคาญอึดอัดหงุดหงิด การเรียนจบได้ออกมาอยู่หอคนเดียวนี่สวรรค์สุดๆ เพื่อนร่วมงานที่คบกันแค่ในงาน เลิกงานแยกย้ายไม่วุ่นวายไม่วอแวกันนี่สวรรค์สุดๆ

50 Nameless Fanboi Posted ID:9zPXLDgEdN

ต้องทำใจให้ชิน เพราะอนาคตมึงจะยิ่งโดดเดี่ยวมากขึ้น เพื่อนๆก็เเต่งงานเเยกย้ายกันไปไม่มีเวลาเล่นเกมด้วยกัน เพื่อนร่วมงานมีน้อยคนที่จะได้เพื่อนจริงๆ ส่วนมากเพื่อนที่เเท้จริงของคนส่วนใหญ่มันมักจะมาจากช่วงมัธยม-มหาลัย เพราะใช้ชีวิตด้วยกันมานาน ถ้าเป็นพวกขี้เหงาก็หาอะไรทำ
ส่วนกูเป็นพวกอินโทรเวิร์ดเพราะงั้นเลยเฉยๆเเละมีเพื่อนน้อย คุยกันอยู่ทุกวันนี้5-6คนเองตั้งเเต่สมัยเรียน(เเต่เพื่อนก็คุณภาพนะ)

51 Nameless Fanboi Posted ID6:nqtz+WSX9z

>>42 สำหรับกูนะยิ่งชั่วโมงทำงานมากขึ้นคือยิ่งรู้สึกว่าเออ ก็โดดเดี่ยวอยู่ เพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่ก็อยู่ในระดับที่เป็นเพื่อนร่วมงานอ่ะ จะให้เลื่อนขั้นมาเป็นเพื่อนหรือเพื่อนสนิทมันก็ยากหน่อย อย่างที่ >>50 ว่า บางคนก็มีเพื่อนมาจากสมัยเรียนที่ยังติดต่อกันอยู่ หรือบางทีบางคนก็ไปได้เพื่อนจากนอกเวลางาน แบบไลฟ์สไตล์ตรงกันแล้วคุยกันถูกคอเงี้ย มันอยู่ที่ความสะดวกใจจริงๆ แหละว่าจะหาเพื่อนหาสังคมจากไหน

กูเองก็ใช่ว่าจะมีเพื่อนเยอะ วันทำงานก็มาทำงานแล้วก็ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไหร่
วันศุกร์พอมีบ้าง ดกเบียร์ชิว เสาร์ทิตย์นี่ก็แล้วแต่คนแต่กลุ่มว่าจะไปไหน แต่ส่วนใหญ่ถ้าไม่มีไรทำนี่กูกลับมานอนยาวๆ

52 Nameless Fanboi Posted ID:hq+DBcxRg7

พวกมึงกูสัมงานที่ใหม่ผ่านที่นึงแต่มันทำ 6 วัน และหยุดไม่ตรง ส-อา + มียูนิฟอร์มซึ่งตัดค่ายูนิฟอร์มไปเป็นมัดจำตอนเงินออกแต่ผ่านโปรแล้วจะได้คืน กับอีกที่ถ้าผ่านสัมจะมีให้ทดลองงานก่อน 10 วัน(มีค่ารายวัน) ครบ 10 วันถึงจะเข้าช่วยโปร ทำ 5 วัน หยุดส-อา ปกติ
พวกมึงว่าควรเลือกอะไรดีว่ะ

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.