Fanboi Channel

วันศุกร์ที่สิบเก้า ของเหล่าซาลารี่แมน

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:CY3pTX2ENo

>>>/lounge/68/ วันศุกร์ที่หนึ่ง
>>>/lounge/216/ วันศุกร์ที่สอง
>>>/lounge/286/ วันศุกร์ที่สาม
>>>/lounge/408/ วันศุกร์ที่สี่
>>>/lounge/765/ วันศุกร์ที่ห้า
>>>/lifestyle/1530/ วันศุกร์ที่หก
>>>/lifestyle/2284/ วันศุกร์ที่เจ็ด
>>>/lifestyle/3353/ วันศุกร์ที่แปด
>>>/lifestyle/5047/ วันศุกร์ที่เก้า
>>>/lifestyle/6139/ วันศุกร์ที่สิบ
>>>/lifestyle/6603/ วันศุกร์ที่สิบเอ็ด
>>>/lifestyle/7075/ วันศุกร์ที่สิบสอง
>>>/lifestyle/8483/ วันศุกร์ที่สิบสาม
>>>/lifestyle/10347/ วันศุกร์ที่สิบสี่
>>>/lifestyle/12401/ วันศุกร์ที่สิบห้า
>>>/lifestyle/14347/ วันศุกร์ที่สิบหก
>>>/lifestyle/15723/ วันศุกร์ที่สิบเจ็ด
>>>/lifestyle/16891/ วันศุกร์ที่สิบแปด

2 Nameless Fanboi Posted ID6:eXHTStc0e4

วันศุกร์แล้วโว้ย

3 Nameless Fanboi Posted ID:3M5l8Bf3v2

กูมีงานวันเสาร์💀

4 Nameless Fanboi Posted ID:YK/0TB8MPx

ทำงานพ่วง เสา ทิต อาาาาาห์

5 Nameless Fanboi Posted ID6:08s1gX8udf

กำลังจะกลายเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้ว ควรซื้ออะไรเข้าหอบ้าง ตู้เย็นอันเล็กหรือใหญ่

6 Nameless Fanboi Posted ID6:.7iBxaIcPp

>>5 แนะนำว่าค่อยๆ อยู่ค่อยๆ ทยอยซื้อไป พออยู่แล้วรู้สึกขาด มันจะเป็นตัวบอกเองว่ามึงต้องการอะไรเพราะแต่ละคนก็ไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน บางคนเน้นอยู่ห้อง ชอบทำอาหาร (ถ้าเป็นหอที่อนุญาตให้ทำนะ) บางคนเน้นออกห้อง เที่ยว กินนอกบ้าน ฯลฯ อย่างกูไม่ใช่สายทำอาหาร ชอบกินจากข้างนอกมาเลยค่อยเข้าห้อง ไม่ก็สั่ง delivery ในตู้เย็นมีแต่น้ำ ตู้เย็นเล็กนี่เหลือเฟือ

7 Nameless Fanboi Posted ID:usSAPeTNyF

>>5 ตู้เย็นนี่แนะนำ6คิวอัพ อย่าประหยัดมากนะมึง ถ้ามึงชิวๆแบบ >>6 จะใช้ตู้เล็กก็ดี แต่กูตอนมาแรกๆประหยัดจัดจนแตกอ่ะดิ ซื้อตู้กากๆแบรนด์ขึ้นห้างขนาด3.8คิวงี้มา เชี่ย น้ำเจิ่งห้องหมด ของแช่เสียง่าย เครื่องไม่ยอมทำงาน สุดท้ายเรื่องกินเลยพาลมีปัญหาตามมาเลย ทนไม่ไหวยอมเสีย18000ซื้อ 14.6คิวไว้แม่ง ....
สิ่งที่มึงควรคิดว่าอะไรต้องซื้อไม่ซื้อคือเรื่องกินอ่ะถูกละ ต่อมาก็ความสะดวกในห้องมึงเอง โต๊ะ เก้าอี้ มีมากพอให้ทำนั่นนี่ไหม ต่อมาความสะอาด เครื่องซักผ้าหอพักมึงแม่งซักสะอาดพอไหม หอกูนี่เสื้อผ้าแมวกับกระต่ายเจ้าของปล่อยให้ใช้ซักได้อ่ะ แต่ดีที่300อีกเมตรมีร้านซักฝาหน้าให้ไปใช้บริการ แล้วดูเงินในกระเป๋ามึงต่อไปว่ารอดแค่ไหน

8 Nameless Fanboi Posted ID:VUd0jbdlcZ

รองเท้าคัทชูผู้ชายมียี่ห้อไหนแนะนำไหมวะ ปกติไม่ได้ใส่บ่อยแต่อยากมีติดไว้เผื่อต้องไปเจอลูกค้าแบนานๆ(ๆๆๆๆๆๆ)ที

9 Nameless Fanboi Posted ID:3DuqfVT.uO

>>8 เลือกทรงoxford แบบ cap toe ก็ได้ หลัก ๆ hush puppies heavy manwood freewood luigi batani

10 Nameless Fanboi Posted ID:MYpVdz+SSk

งบบริษัทกำลังหมดและกูก็กำล้งจะกลายเป็นคนว่างงานในอายุเลข 3

11 Nameless Fanboi Posted ID:bAk3Hq0FUW

ขี้เกียจทำงานจังเลย

12 Nameless Fanboi Posted ID:BKn6HqlGXC

>>8 กูในฐานะคนทำงานต้องใส่คัชชู กูไม่ใส่คัชชูจ้า กูล่อรองเท้าเซฟตี้ที่หน้าเดียวกับคัชชูไปเลย555+ ละแม่งทรงเหมือนกันเด๊ะสัสๆ ถ้าการเจอลูกค้าของมึงไม่มีว่าต้องใส่แบรนด์เนมให้เกียรติสายตาลูกค้า กลุ่มลูกค้าที่มาติดต่อไม่ใช่พวกที่บ้าเปลือกเหมือนเข้าหาแต่ละทีเหมือนเข้ามาในบาร์โฮสต์ละก็แนะนำหาเป็นรองเท้าเซฟตี้แทนไปเลย ใส่สบายกว่าคัชชูคู่กากๆกับราคาแพงแต่แม่งไม่สบายตีนมากๆ

13 Nameless Fanboi Posted ID:BKn6HqlGXC

>>12 แบรนด์นึงที่แนะนำนะ Midori ตอนแรกจะหาHyper V ซึ่งหาๆไปก็หาไม่เจอ แต่เจอแบรนด์นี้ในแอพชอปปิ้งก็ดูน่าสนใจดี

14 Nameless Fanboi Posted ID6:mVkjwmyPCo

https://m.facebook.com/groups/jobthaiofficial/permalink/1347887302756718/?wtsid=rdr_06bHxj7EA0pNrd4Vc&refsrc=deprecated&_rdr

เคยมีโม่งเถียงกันเรื่องหางานไม่ได้เพราะ Overqualified สรุปในไทยแม่งมีจริงๆหว่ะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:MrVmopAQOd

ตามพื้นฐานคนปกติทั่วไปของพวกจบวิศวะ อายุ 30 ควรมีเงินเก็บให้ได้เท่าไหร่วะ แล้วไอเก็บนี่คือเก็บไปทำอะไร

16 Nameless Fanboi Posted ID:1Lf2L/71ar

>>14 เข้าไปส่องแล้วดูทรงเป็นคนเก่งจริง แต่เหมือนเรียกเงินเยอะใช่ปะมันก็ถูกแล้วไหมอะตามความสามารถ

17 Nameless Fanboi Posted ID:iSt7Ni83/2

>>14 มึงฟันธงเร็วไป
1. resume เขียนได้ง่อยมาก
1.1 จบวิศวะคอม UK แต่ทำได้แค่ python? ไอ่สัสเป็นไปไม่ได้ เรียน 4 ปีได้มาแค่นี้
1.2 Eng C1 แต่พิมพ์ eng ผิดโง่ๆ?
1.3 แค่เขียน resume ต้องรอเอามาลงกรุ๊ปเฟสให้คนไม่รู้จักสอน
แค่ข้อ 1 นี่ตัดคะแนนเยอะเลยนะ แค่กูเกิลวิธีเขียน resume ให้ตรงสายยังทำเองไม่ได้ solving skill ติดลบแล้วอะ
2. เรียกเงินเดือนเท่าไร ตำแหน่งอะไร สมมติ tester, helpdesk เรียก 50K entry level ก็ไม่ไหวนะครับ บวกจากความกากในข้อ 1 ไปด้วย
3. เห็นไม่ตอบเม้นในกรุ๊ปที่แนะนำ linkedin อนุมานว่าไม่ได้ลงไว้ = ไม่ได้เก่งจริงแบบที่เดากัน
3. overqualified เอย, diploma เอย คนเม้นแบบนี้คือไม่เข้าใจสายงาน IT อะ ลองเอา resume ไปโยนใส่กรุ๊ปหางาน IT คอมเม้นแบบนี้ไม่มีหรอก
4. งาน IT แม่งขาดคนจะตาย ถ้าหางานไม่ได้ส่วนใหญ่เพราะ underqualified แต่เรียกเงินเยอะมากกว่าว่ะ

18 Nameless Fanboi Posted ID6:mVkjwmyPCo

>>17 เดี๋ยวนะ เออ เจอจุดแปลกๆละ ไปเรียนที่บาธมากูก็นึกว่าจบ ป.ตรีเค้ามาละ มันเรียนดิปเว้ยมึง หลักสูตรดิปนี่มันแค่1-2ปีเองมึง จะได้แค่pythonคือไม่แปลกเลย .... แต่กูว่าที่หางานไม่ได้มันก็ปัญหาที่เรซูเม่จริงๆแหละ ที่เยอะกว่านั้นคือเรื่องโปรเจกต์อ่ะ ไม่ใส่จริงดิ เป็นงงหว่ะ HRในกลุ่มก็ละเอียดเรื่องคัดกรองระดับนึงละนะ

19 Nameless Fanboi Posted ID6:fuK736h4Fv

>>17 ถูกทุกข้อ กูก็ว่าไม่ผ่านตั้งแต่ resume ถถถถ งานไอทีต่อให้โปรไฟล์เทพเหมือนจะ overqualified แต่ถ้าสมัครถูกบริษัท ถูกตำแหน่ง กูว่าก็ยังหาได้สบาย

เข้ามาบ่นๆหน่อย พอทำงานแล้วเวลาชีวิตผ่านไปไวมาก แปบเดียวเข้าสู่ปีที่ 3 ของการทำงานแล้ว แต่ยังรู้สึกชิล ไม่รู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้นเท่าไร ทั้งที่เริ่มมีผลงานและเริ่มมีน้องๆที่ต้องดูแลแล้ว ยังรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนเดิมตอนที่เรียนจบใหม่เลยว่ะ ตอนเรียนจินตนาการเอาว่าพอทำงานต้องเจออะไรยากๆเยอะแน่เลย ตัดภาพมาความเป็นจริง รู้สึกไม่ได้ใช้สมองเลยในแต่ละวัน เหมือนสมองจะฝ่อละ มีอะไรยากกว่า technical เยอะ ทั้งเรื่องรับมือกับคน ต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ถูกใจลูกค้า/เข้ากับทีมให้ได้ และต้องจัดการกับอารมณ์ตัวเอง

20 Nameless Fanboi Posted ID6:V2RlnM8i95

>>19 งาน dev หรอ กูว่าลองย้ายงานดูมั้ย ลองหาที่ๆดูให้ความสำคัญกับเรื่อง technical มากหน่อย
เผื่อจะได้เจออะไรใหม่ๆ เรียนรู้อะไรใหม่ๆด้าน technical แล้วกลับมามีไฟกับเรื่องพวกนี้มากขึ้น ถ้าอยากนะ
แต่เรื่องการจัดการกับคนนี่เป็นอะไรที่ไปที่ไหนก็หนีไม่พ้นอ่ะนะ

21 Nameless Fanboi Posted ID:g4n.NEI54Y

>>18 แต่ใน resume เขียนว่า 2018-2022 นะ กูเลยงงๆว่าตกลงมันเรียนอะไรแค่ไหน ต่อให้ 2 ปีจริงๆมันก็ต้องผ่านอะไรมามากกว่า python ปะวะ อย่างน้อยสุด DB ซักตัวต้องเคยเล่น
แต่ยังไงก็ตามงาน IT ไม่สนวุฒิการศึกษาอยู่แล้ว ขอแค่ลิสผลงาน/สกิลมาให้ดูได้ ซึ่งถ้าเรื่องแค่นี้ยังไม่รู้แปลว่าเด็กคนนี้ไม่คุยกับเพื่อน/รุ่นพี่/ไม่มี connection เลย ไม่ขวนขวายด้วย ถ้ากูเป็น head hunter เจอแบบนี้กูก็ดันให้อัพเดท resume แหล่ะ profile มันมีสิทธิ์จะเรียกค่าตัวได้แพงๆ แต่ถ้าเป็น senior มาเห็นกูจะไม่ชวนเข้าทีม

22 Nameless Fanboi Posted ID:g4n.NEI54Y

>>19 เดาว่าโครงสร้างบ.มึงทำให้มึงต้องโตในสาย management งานในไทยส่วนใหญ่ก็แบบนี้อะนะ มีบางที่ที่จะเปิดให้มึงโตในสาย technical ลึกๆเป็น senior dev ที่เน้นเก่งไม่เน้นดูแล junior แต่ถามว่าที่ไหนคงต้องลองถามคนรู้จักเอาว่ะ หรืออีกทางเลือกคือไปต่อแบบเดิมนี่แหล่ะ แต่หาอะไรเรียนเพิ่มเองในเวลาว่างแล้วเอามาปรับใช้กับงาน

23 Nameless Fanboi Posted ID:suQiU660hI

>>21 มึงคือตัวเดียวกับ >>>/tech/8162/939 ป่ะวะ? อันนี้คือกูก็งงจริงๆนะว่า วงการนี้เด็กจบใหม่ไม่รับแล้วจะให้เค้าไปเข้าหางานทางไหน? ผ่านconnectionงี้เหรอ? ต้องไปหางานช่างกล้อง ไกด์ ทำครัว เก็บรสชาติชีวิตก่อนมาทำตรงนี้??? หรือยังไง? ขนาดงานโรงแรมนี่เกร่อมาก ความต้องการสูงไม่เอาวุฒิเหมือนสายงานนี้เลยนะ แต่ผ่านงานร้านอาหารมาได้มันยังเข้าไปทำได้เลย แล้วสายงานนี้เด็กจบใหม่ไม่เคว้งแย่เหรอวะ? เอาเท่าที่กูดูคลิปฝรั่งที่มันทำงานสายพวกนี้นะ แนะแนวกันทุกคนเลยว่าไปหาทำโปรเจกต์ไรสักอย่างนึงเป็นชิ้นเป็นให้ได้แล้วจะมีโอกาสแตะงานได้บ้าง ต่อให้จบใหม่ก็ตาม ดีกว่ามาแต่วุฒิเพียวๆไม่มีเหี้ยไรเลยแบบนี้คือสิ่งที่พวกhead hunterเค้าต้องการกันมากกว่าเหรอ?

24 Nameless Fanboi Posted ID:ZO7ReSlAyg

กุสายITนะ แต่จบมา10ปีได้ละ ปีสุดท้ายคนที่ยังเหลือไม่ถึงครึ่งจากที่เข้ามาตอนปีหนึ่ง พอจบแล้วคนที่ยังไปสายไอทีต่อมีไม่ถึงครึ่ง
สำหรับพวกที่โค้ดดิ้งเก่งๆก็คือมีอยู่ไม่ถึง5% ซึ่งพวกนี้มันโค้ดเป็นงานอดิเรก ยามว่าง มีผลงานเต็มไปหมด ตอนสมัครก็สบายๆ บางคนถึงขั้นมาจับตัว
สำหรับคนที่เก่งแต่ไม่ถึงขั้นเทพ ก็เกรดสวย เกียรตินิยม สอบเก่ง พวกนี้ยื่นใบสมัครก็มักจะถูกเลือกก่อน พอไปทำข้อสอบก็ต้องทำได้ ผ่านฉลุย ซึ่งพวกนี้จะอยู่บ.ไอทีแนวหน้า
สำหรับคนทั่วไปแบบกุ โค้ดได้แต่ไม่เทพ และมีความรู้ด้านไอทีก็ยังพอมีโอกาสได้งานในบริษัทไอทีระดับกลางๆ ซึ่งงานแต่ละที่ ก็หลากหลายเยอะแยะ ซึ่งเกี่ยวข้องกับไอที ซอฟแวร์ เต็มไปหมด ตอนนั้นกุสตาร์ท25k แต่พวกนี้อาจจะไม่ได้ต้องการประสบการณ์ แค่ขอเป็นสายไอที เพราะกะจับมาเทรนอยู่แล้ว
ส่วนคนที่ไม่ได้เก่ง ก็จะไปทำบ.ที่ไม่ได้ไอทีเป็นหลัก แต่ต้องมีไว้ บางคนเป็นไอทีซัพพอร์ต ทำทุกอย่าง ดีไม่ดี ทำเยอะและปวดหัวกว่าบ.ไอทีกลางๆที่มีการจัดการที่ดี
ที่เหลือเกินครึ่งก็บ้านรวยบ้าง เป้นแอร์บ้าง ทำธุรกิจตัวเอง ถ่ายรูป เทรนเนอร์ และอีกมากมาย

แต่ถ้าสมัยนี้จากที่มีน้องในทีมที่เป็นเด็กจบใหม่ ส่วนมากเขาจะรับตรงสายไม่มีประสบการณ์ก่อน จากนั้นก็เลื่อนลงมาพวกไม่ตรงสาย แต่ไม่ใช่ว่าสายภาษาจะมาไอทีอะไรแบบนี้นะ อาจจะเป็นพวกสายแมท วิศวะ หรือสายที่มันมีวิชาไอทีอยู่ประปราย ซึ่งพวกนี้เขาจะดูที่สกิลที่มี ควบคู่ไปกับคณะ และผลงานที่มี ส่วนพวกที่ย้ายสายมาแล้วมีแค่เซอร์นี่เอาไว้สุดท้ายเลย ยกเว้นที่พอมีผลงานไว้โชว์อันนี้ก็จะขึ้นมาหน่อย

25 Nameless Fanboi Posted ID:4AgJ8EqRrS

>>24 คำถามกูเลยก่อนนอน สมมติมีผลงานโชว์สัก2โปรเจกต์แล้วจบมัธยมปลายแบบSIRN มาเริ่มต้นจากการย้ายสายงาน ไปสมัครพวกข้ามชาติ(ตะวันตก) อันนี้คืออันดับท้ายๆของการพิจารณาแน่ๆใช่ป่ะ? ถ้าใช่กูจะได้ไปหาวุฒิที่ตรงสายมาจริงๆอีกใบ ยิ่งถ้า บ. ข้ามชาติยิ่งต้องแบบตรงสายและมีใบ ป.ตรีด้วย กูมีแผนย้ายสายงานหลัง30หว่ะ แต่ติดเรื่องเงิน ภาระค่าใช้จ่ายสารพัด(แต่ไม่มีหนี้แค่เงินเก็บน้อย) และสายงานที่ทำคือกูทำเพราะหากินให้รอดล้วนๆ ไม่ใจรักเท่าไหร่ ถึงได้ต้องการหาลู่ทางใหม่หว่ะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:ylHtKUjo7W

>>23 กูก็แค่เล่าให้ฟังว่าวงการนี้มันเป็นแบบนี้ กูไม่ใช่คนกำหนดซักหน่อย วงการนี้มักไม่รับเด็กจบใหม่มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีที่ไหนรับเลย ก็แค่หายากหน่อยแค่นั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นประเด็นอะไรมากหรอก เพราะคนเรียนจบมาแล้วอยากทำงานเขียนโค้ดและทำงานได้มันก็มีไม่ถึงครึ่งของที่จบมาอยู่แล้ว

27 Nameless Fanboi Posted ID:Nm6Xfx.WuZ

เพื่อนโม่งมีอะไรที่แตกต่างจากคนอื่นในออฟฟิศป่าวครับ ของกูมี คือ เป็นคนเดียวในออฟฟิศที่โสด ที่เหลือเขามีเมียมีผัวกันหมดละ

28 Nameless Fanboi Posted ID:zTqdnWYMFL

โม่งเคยมีประสบการณ์ที่แบบตัดสินใจช้าจนพลาดโอกาสไปอะไรอย่างงี้ป่ะ คือกูเป็นคนที่ถ้ามีคนมายื่นข้อเสนออะไร จะให้อะไร กูจะให้คำตอบตอนนั้นไม่ได้ทันที เพราะยังคิดไม่รอบด้าน บางทีเลยขอคิดดูก่อน ขอหาข้อมูลดูก่อน มีบางครั้งที่อีกฝ่ายเหมือนแบบ ไม่รอ อยากได้คำตอบตอนนั้นเลย (ไม่รู้ด้วยว่าทำไมต้องเร่งขนาดนั้น แม่งอย่างกะมิจฉาชีพกะจะมัดมือชก)
ส่วนใหญ่ที่คิดถี่ถ้วนแล้วปฏิเสธไป มารู้ทีหลังว่า ดีแล้วที่ปฏิเสธไปมีเยอะนะ แต่กูมีมุมสงสัยว่ามันจะมีข้อเสนอดีๆ ที่เป็นประโยชน์กับเราจริง โดยที่แบบเร่งขอคำตอบต้องรีบคว้าไว้จริงๆ มั้ย

29 Nameless Fanboi Posted ID:Nj6pl/95NU

>>23
1) กูคือ >>21 และกูไม่ใช่ >>>/tech/8162/939 (ซึ่งมันมาตอบแล้วใน >26)
2) กูไม่เห็นด้วยกับที่มันบอกว่า [มักไม่รับเด็กจบใหม่] จากที่กูเห็นคือถ้า ทดสอบผ่าน/คุยแล้วดูฉลาด/สกิลถึง/มีผลงาน จะไม่สนอายุกับวุฒิเลย
ดังนั้นคำแนะนำของกูคือ ทำไงก็ได้ให้อีกฝั่งรับรู้ได้ว่ามึงมีของ และอย่าคิดมาก
แต่ก็นั่นแหล่ะ คนเก่งคือคนที่รู้ตัวว่าตัวเองขาดอะไร = คนที่กากมักไม่รู้ตัวว่ากาก
3) disclaimer กูไม่มีสถิติ ไม่ฟันธงว่ากูหรือมันพูดถูก และไม่คิดจะ debate หัวข้อนี้

30 Nameless Fanboi Posted ID:KrdU1StFB.

มึง กูมีความสงสัย ทำไมหัวหน้าบอกว่าการจ้างพี่น้องมาทำงานด้วยกัน(อยู่ในออฟฟิศเดียวกัน)ถึงไม่ดี และให้ระวังวะ ทั้งที่ทั้งคู่มาทำงานก่อนกู แล้วกูมาทีหลังสุด แต่หัวหน้าคอยให้กูแอบสอดส่องให้เขา

31 Nameless Fanboi Posted ID6:lbOvVvA7IL

>>29 สถิติกูก็ไม่มีเหมือนกัน 555 ของแบบนี้กูว่าทำสถิติไปก็เท่านั้น เพราะมันมีรายละเอียดจุกจิกเยอะเกินไป
เช่นคนที่เคยทำฟรีแลนซ์/ช่วยงานวิจัยอาจารย์มาก่อน แต่ไม่เข้าระบบงานบริษัทถือเป็นเด็กจบใหม่มั้ย
ที่ๆบอกว่าไม่รับ แต่ถ้ามีหลุดสมัครมาแล้วดูพอถูไถก็รับ บางที่บอกรับ แต่ถึงเวลาจริงไม่ใช่เด็กจบใหม่ที่โดดเด่นแบบ top 1% ไม่เอา พวกนี้นับยังไง
แถมสำรวจมาถ้าผลไม่ตรงกับความคิดของตัวเองก็เถียงว่าการทำสถิติไม่แม่นได้อีก เถียงกันไม่จบ

32 Nameless Fanboi Posted ID:Um19xN+YM7

ไม่รู้คนอื่นคิดเหมือนกันมั้ย แต่กูว่าวงการ dev ให้ค่ากับจำนวนปีที่เคยทำงานมากเกินไป บางคนมีแค่ตัวเลขปีเยอะๆ แต่ความสามารถต่ำเตี้ยยังขอเงินเดือนแพงๆได้

33 Nameless Fanboi Posted ID6:sWng8hZE.w

>>32 มันทำแบบนี้กับ บ. ข้ามชาติได้เหรอวะ? หรือว่าราคาคุยได้แต่กับ บ.ไทย? ของกูนี่สายงานพวกครัวโรงแรมหรือร้านอาหาร ปสก. ไม่ช่วยอะไรเท่าฝีมือกับสกิลสร้างคอนเนคชั่น เพราะมันต้องมีเทสงาน ครัวเย็นต้อง มีสกิลมีด ครัวร้อน ยืนหน้าเตา ยกกระทะนานๆได้ พรีเซนต์มากมายแต่ไปทำจริงไม่รอดเค้าไล่ออกก่อนผ่านโปรด้วยซ้ำ

34 Nameless Fanboi Posted ID:IFOEdkoiN1

>>33 ข้อสอบรับ dev มันห่วย วัดอะไรจริงไม่ค่อยได้ หลายๆอย่างที่ให้ทำตอนสอบ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำจริงตอนทำงาน

35 Nameless Fanboi Posted ID:IFOEdkoiN1

แต่เอาจริงๆงานสายนี้มันควรเป็นงานที่ไม่รับเด็กจบใหม่มากกว่าที่คิดด้วยซ้ำนะ เพราะถ้าไม่ใช่โปรเจคใหญ่ระดับ enterprise ที่ต้องทำให้รองรับจำนวนผู้ใช้และ transaction เยอะๆ มันไม่ใช่งานยากอะไรขนาดนั้น อ่าน doc ออก ลองผิดลองถูกนิดหน่อยมันก็แทบจะทำได้ทุกอย่างแล้ว สิ่งที่ทำให้ senior ต่างกับ junior แทบจะมีแค่เวลาที่ใช้ตอนหา bug กับพวก code structure + readability แค่นั้นเลย

36 Nameless Fanboi Posted ID:N+tJin7i8.

>>35 มันก็มีคำถามต่อมานะว่า อ้าว แล้วเด็กจบใหม่มานี่มีที่ยืนตรงไหนได้บ้างวะ? มันต้องไปทำโปรเจกต์กันมาก่อนสักงานเพื่อวัดใจคนให้งานนี่แม่งก็หินมากเลยมึง เว้นว่าข้อสอบวัดdevนี่พวกHRใช้ชี้วัดคนทำงานจริงจนมันต้องมีสัก บ. ที่แบบหลุดเข้าไปทำเก็บใส่โปรไฟล์ได้นี่ก็แบบบุญวาสนามาเลยงี้อ่อ?

37 Nameless Fanboi Posted ID:HsxfV9pFYy

>>36 เด็กจบใหม่ ถ้าขาวสวยหมวยอึ๋มมายืนในใจพี่ได้นะครับ ❤

38 Nameless Fanboi Posted ID6:Bf7oFYaG.4

>>20 >>22 ใช่ๆๆ งานเดฟ เอาจริงกูย้ายงานมาทีนึงละ จากบ.เน้น management มาเป็นบ.ไอทีเน้น technical เลย แต่คงเป็นเพราะจบมาไม่นานด้วยก็เลยไม่ได้จับโปรเจคยากอะไรมากมาย หรือถึงยากยังไงก็มีคนเคยทำ มีไกด์ไลน์ มี doc มี google chatgpt ตื่นเต้นได้แปบเดียว แต่ทำไปทำมามันก็เริ่มจะรูทีนเหมือนเดิม คงได้แต่หวังว่าจะได้จับโปรเจคอะไรใหม่ๆตื่นเต้นๆบ้างในอนาคตนะ

39 Nameless Fanboi Posted ID:IFOEdkoiN1

>>36 โทษทีกูพิมผิด กูจะพิมว่ามันควรเปิดโอกาสรับเด็กจบใหม่มากกว่านี้ เพราะอย่างที่บอกความต่างระหว่างซีเนียกับเด็กจบใหม่ไม่ใช่เรื่องทำงานได้ทำงานไม่ได้ แต่มักจะเป็นเรื่องอื่นๆมากกว่า

40 Nameless Fanboi Posted ID:LIX0oidQus

กูรายงานตัวว่างงานเดือนสุดท้าย ตั้งแต่วันที่ 7 ในเว็บมันขึ้นสำเร็จ แต่ในแอพยังไม่มีการอัพเดท สรุปกูจะได้เงินไหมวะ เงินยังไม่เข้าเลย

41 Nameless Fanboi Posted ID:r+FGc/NFui

ขอความเห็นเพื่อนโม่ง คือกูมาทำงานที่ใหม่ได้ 3 เดือนแล้วว่ะ และมีโอกาสได้ไป outing กับที่ออฟฟิศมาละ จากงานเอ้าติ้งกูสังเกตได้ว่าแผนกกูไม่สนิทสนมกันเหมือนแผนกอื่นเลย ทำกิจกรรมอะไรก็อยู่คนละมุมเลย 555 แล้วกูเด็กสุดสนิทกับคนในแผนก 1 คน ผู้หญิงเหมือนกัน แต่ประเด็นคือในแผนกกูมีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งระดับ junior เหมือนกู อยู่มาได้ประมาณ 2 ปีละ แม่งลูกอีช่างฟ้องสุดๆ ใครทำอะไรต้องรายงาน Director ซึ่งขนาด Manager มาสายก็ยังโดนเอาไปฟ้อง กูอยู่ในช่วงโปรก็โดนมาละ (เรื่องเบสิคๆ คือมาสาย) แต่ Manager เขาก็ปกป้องกูนั่นแหละ คือกูควรวางตัวยังไงดีวะ ซึ่งกูก็ไม่คิดเลยว่ามาทำงานองค์กรระดับนี้แล้วจะเจอคนแบบนี้ งานก็หนัก และมาเจอคนแทงข้างหลังอีก ถ้ามึงแนะนำวิธีแก้แค้นด้วยจะดีมากเลยว่ะ 555

42 Nameless Fanboi Posted ID:Uu.m+Cu6G8

>>41 กูก็เจอนะ ไอลูกอีช่างฟ้อง ปากสว่าง แต่มึงอย่าไปแก้เผ็ด มึงอย่าไปทำอะไรกับมัน เอามันมาใช้ประโยชน์ให้มึงได้ข้อมูลดีกว่า ถ้ามันไม่ได้ขี้ฟ้องแค่กับมึง มันทำไปทั่ว กับคนอื่นๆก็ทำ แนะนำเลยนะ เวลาอยากรู้นิสัยใคร เวลามีคนนี้คนนั้นมาขอนั่นนี่(เช่น ขอยืมเงิน) ไปถามมันว่าให้ดีไหม(ถ้ามึงยังไม่ได้ทะเลาะกับมันนะ) อีตัวขี้ฟ้องแบบนี้ถ้าปากสว่างด้วยมันคงให้ข้อมูลมึงได้ และที่ทำงานกูมีอยู่ตัวนึง ตะล่อมนิดเดียวปล่อยมาดิบดีว่าใครเป็นยังไง5555+ แต่มีคนแบบนี้ในที่ทำงานก็ต้องระวัง อย่าไปให้ข้อมูลสำคัญกับมัน อย่าพยายามทำให้อะไรๆมันกระทบเรา

43 Nameless Fanboi Posted ID:sGQNQuzNHT

>>42 ร้ายนะเรา

44 Nameless Fanboi Posted ID:sGQNQuzNHT

>>41 กูไม่รู้ว่า director มึงให้ค่าทำพูดมันมากแค่ไหน ถ้าให้ค่ามากก็อาจจะกระทบมึงตอนประเมินขึ้นเงินเดือน เช่นจริงๆมึงควรจะถูกประเมินได้ 100 คะแนน แต่มีคนคอยฟ้องเรื่องไม่ดีเล็กๆน้อยๆไม่บ่อยๆเข้าก็อาจจะเหลือ 60-70ไรงี้ได้

45 Nameless Fanboi Posted ID6:HbHegQYDqS

>>34 ข้อสอบส่วนใหญ่ห่วยจริง โดยเฉพาะของพวก HR / recruiter
แต่ถ้าข้อสอบที่มาจากทีม dev เองส่วนมากค่อนข้างดีนะ มีหลายที่เลยที่เคยไปสัมมาแล้วเจอข้อสอบน่าสนใจ

อย่างกูทำสาย backend ที่ชอบมากอันนึงให้เขียน service ง่ายๆขึ้นมาตัวนึง มี requirement ให้คร่าวๆ
ข้างหลังมี logic นิดๆหน่อยๆ กับมีต่อ service สำเร็จรูปที่มีอยู่แล้วเพื่อเอาข้อมูลมาใช้ต่อ
มีคะแนนโบนัสคือลองคิดดูควรทำ security ใส่เข้าไปตรงไหนบ้าง กับเขียน unit test
ทำเสร็จแล้วก็ push ใส่ git public repo พร้อมวิธีใช้งาน API ใส่ README แล้วส่งให้เค้า
พอสัมภาษณ์เค้าก็ให้อธิบายโค้ด แล้วก็มีได้คุยกันว่าทำไมตรงนี้เลือกเขียนแบบนี้ ทำไม design API แบบนี้
ก็สนุกดีนะ แบบได้แลกเปลี่ยนไอเดียหลายๆอย่างกับคนสัมด้วย แล้วในมุมคนตรวจข้อสอบมันเห็นหลายอย่างมาก
อย่างตอนสัมคุยกันคนตรวจเค้าก็ตั้งใจตรวจนะ ไม่ใช่ดูแค่ตัวโค้ด แต่ดู doc การ design API ยันพวก commit message
แต่ข้อสอบแบบนี้มันมีข้อเสียคือใช้เวลาทำเยอะ ถ้าคนสอบขี้เกียจแล้วมีตัวเลือกเยอะก็อาจจะยอมทิ้งที่นี่ไปเลย

อีกที่ให้ design flow การทำงานของ API แล้วมีเขียนว่าข้อมูลที่ดึงจากระบบอื่นมาใช้ต่อมีการเปลี่ยนไม่บ่อย
กูตีความเจตนาของโจทย์เองนะว่าอยากวัดว่าคนทำโจทย์จะนึงถึงการทำ cache มั้ย
ซึ่งกูคิดว่ามันดูได้เลยนะว่าคนที่ทำโจทย์คิดถึงปัจจัยอื่นๆเวลาทำงานมั้ย หรือเป็นพวกสนใจแค่โค้ดทำงานได้แล้วพอ

46 Nameless Fanboi Posted ID:D9a1++1Ofu

>>43 สายงานกูมันงานใกล้ๆโรงแรม สายงานนี้การเมือง คอนเนคชั่น แรงมาก ขนาดแค่ที่ทำงานบางที่ คนนิดเดียวแต่หัวหน้าเหี้ยนี่ก็เหนื่อยมากนะ กูกำลังคิดอยู่ว่าครัวตามโรงแรมก็แรงด้วยไหมเพราะครัวกูเห็นค่าตอบแทนละก็น่าทำงานไม่น้อย แต่ส่วนมากเห็นจะเข้าได้ต้องมีญาติหรือคนรู้จักเข้าไปนำก่อน แต่กูทำสายที่เบี่ยงออกมากูบอกเลยนะ เจอมากกว่าแค่ปากสว่างอีก กูถูกนายว่าสารพัดอย่างเพราะอีพวกนี้ก็ชินๆละ ออกมาพิสูจน์งานอีกแผนกกูก็ทำ อีพวกที่ทำงานกับกูก็หนักสุดคืองานการไม่ทำ จ้องจะจับผิดละมีหน้าว่ากูได้ คิดว่าตัวเองตีสนิทกับหัวหน้า(ใช้กีป้ายหน้า) เอาตัวเข้าแลกละคือคิดว่าเป็นเจ้าที่ได้ ละเจออีประเภทอยู่ตำแหน่งเดียวกันแต่กระสันทำตัวเป็นหัวหน้าอีกอีเหี้ย รำคาญมาก แต่กูหวังให้มันทนพิษนโยบายนายใหญ่ไม่ไหวลาออกไปเอง กูไม่มีน้ำใจกับมันมากอยู่แล้ว ทุกคนเบื่อกับพวกนี้แต่ทนเพราะโบนัส หรือคนเกินละมีความต้องการคัดคนไปอีกสาขากูก็ยอมนะ ขอที่แม่งติด ม.รามได้ยิ่งดีเลย เรียนควบทำงานกับที่นี่กูโอเคมาก ไม่โอเคเพราะคน เบื่ออีพวกจะไต่มาเป็นเจ้าที่ชิบหาย ส่วนกูคือจะสืบหางานตาม ถ.สุขุมวิท เนี่ยแหละว่าเปิดรับจริงๆหรือแม่งแค่ทำผลงานให้นายดูเหมือนกัน แต่ก็เสี่ยงแหละว่าเจอเจ้าที่แรงไหม5555+

47 Nameless Fanboi Posted ID6:uMgMm923uz

>>35 อันนี้อิงจากประสบการณ์และความเห็นส่วนตัวกูนะ

กูว่า code structure + readability นี่เรื่องใหญ่นะ
มีผลมากโดยเฉพาะกับโปรเจคที่อยู่ไปนานๆ ไม่ใช่ของที่ทำให้ลูกค้าแล้วขายขาดไปเลย
ซึ่งต่อให้เป็นแบบหลังถ้าลูกค้าขอแก้หรือเพิ่มนู่นนี่ แล้วคนเก่าทำไว้เละๆแม่งก็เดือดร้อนอยู่ดี
แต่ของแบบนี้ถ้าไม่ได้เละมากบางทีมันก็แล้วแต่ความชอบคนด้วยเลยวัดยาก

แล้วเด็กจบใหม่ไม่ได้ขาดแค่เรื่องพวกนี้ แต่กูคิดว่ามันมีเรื่องอื่นๆอีกเยอะเลยที่เด็กจบใหม่ (ย้ำว่าไม่ทุกคน) ไม่รู้หรือไม่แม่น
เอาง่ายๆ tool ที่ dev ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างพวก version control นี่มหาลัยไม่ค่อยสอนหรอก
หรือถ้าเป็นที่ๆเขียน unit test กัน มหาลัยก็น้อยที่มากที่สอนเขียน unit ถ้าสอนก็ผิวๆมาก ไม่ไปถึงเขียน mock
ไหนจะปัจจัยอื่นๆที่บางทีเด็กจบใหม่ก็ไม่รู้หรือไม่สนใจมากอย่างเรื่อง security
การใช้ framework บางอย่างที่มารายละเอียดจุกจิก ข้อต้องระวังบางอย่างมากกว่าแค่โค้ดรันได้แล้วจบ

คือไอ้ทุกอย่างที่ว่ามา ถามว่าให้เด็กไปอ่านเองศึกษาเองได้มั้ยมันก็ได้ แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนจะอ่าน doc แล้วจะเข้าใจ ทำได้เลย
งานบางอย่าง บาง framework ก็มีรายละเอียดจุกจิกที่ต้องระวัง ถ้าทำได้อาจจะเจอปัญหาแบบรันได้แค่บนเครื่องตัวเองงี้
ของพวกนี้บริษัทดีๆหน่อยก็จัดเทรนได้ แต่ค่าเทรนพวกนี้ไม่ได้ถูกนะ ความรู้ได้มาใช้ในงานจริงก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้หน้างานจริงอีก
ในมุมบริษัทบางที่เค้าก็มองว่ายอมจ่ายค่าตัวคนที่เคยผ่านงานมาแล้วแพงหน่อย คุ้มกว่าลงทุนปั้นเด็กทั้งในแง่เงินและเวลาที่เสียไป
ยิ่งสายงงานนี้คนย้ายงานกันบ่อยๆอยู่แล้วด้วย

ที่ว่ามาคือไม่ได้บอกว่าเด็กจบใหม่แย่หมด หรือประสบการณ์ที่ทำงานมาเป็นตัวบอกทุกอย่างนะ
แต่กูแค่อยากแชร์ว่าในมุมการรับคนเข้าทำงาน การที่บางที่เลือกไม่รับเด็กจบใหม่มันไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผลขาดนั้น

48 Nameless Fanboi Posted ID6:0ON0hZF2mm

เด็กจบใหม่ ไม่มีหนี้ เงินเดือน 28k แบ่งใช้ยังไงให้ได้เก็บเยอะ (ค่าหอรวมน้ำ ไฟ เน็ต 7000)

49 Nameless Fanboi Posted ID:D9a1++1Ofu

>>48 กูนะ เก็บไม่เยอะ เพราะเงินเดือนน้อยกว่ามึง1.5เท่าตัว เอยากเก้บเยอะๆ ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย อะไรที่ต้องเสียเงิน ตัดๆออกมาลงในช่องรายจ่ายให้หมดเลย แต่ถ้าหารายได้เสริมได้นอกจากเงินเดือน อันนี้คือสวยโลน ว้าวุ่นหน่อยแต่ระยะยาวคือเอาเงินเก็บไปหาลงทุนDCAสักอย่างยังได้เลย แต่ที่สำคัญกว่าคือมึงลดปัจจัย4ต่างๆนาๆลงได้ไหม เช่น ค่าที่พักมึง ซึ่งถ้าราคานี้ ลดการเดินทางได้ไหม ถ้าลดได้จะดีมาก แต่ลดไม่ได้ อันนี้ต้องรอดูการปรับฐานเงินเดือน บ.มึงเพื่อเก็บเงินเลย แล้วหาเวลาทำกับข้าวเองให้ได้เยอะๆในเดือนนั้น แต่ระหว่างรอปรับฐานนะ มึงต้องหัดควบคุมเงินเดือนให้ได้เท่าฐานเก่ามากๆ เวลาฐานใหม่มามันจะได้ง่ายกับมึงนะโม่ง ใช้จ่ายอะไรจุดมุ่งหมายต้องมีให้มากๆ เน้นเก็บเงินเยอะๆอย่าเน้นฟุ่มเฟือย หาออมกับสิ่งที่ควรออมเข้าไว้

50 Nameless Fanboi Posted ID:PxbBT+dIoz

>>42 ขอบใจมากว่ะ ทุกวันนี้กูก็พยายามทำแบบนี้แหละ ดีหน่อยที่ฝ่ายกูกับมัน co กันน้อยมาก
>>44 ก็ฟังพอสมควรนะ เพราะ Dir แต่เขามาทีหลังอีนี่อ่ะ มาแค่ 6 เดือนเอง เขาย่อมอยากรู้อยากเห็นอยู่แล้ว พออีนี่มาเป็นหูเป็นตาก็อาจจะฟังบ้างแหละ แต่ Dir กูก็อาวุโสมากอ่ะหวังว่าเขาคงฟังหูไว้หู

51 Nameless Fanboi Posted ID:oPJjlKFW0.

>>35 เอาแค่ดีไซน์ฐานข้อมูลส่วนมากเด็กใหม่ตายเรียบ มหาลัยเค้าไม่ได้สอนเรื่องการดีไซน์ฐานข้อมูลขนาดใหญ่

52 Nameless Fanboi Posted ID6:DGWPyIPKzX

>>48 แต่ช่วงแรกลองตั้งเป้าไว้ว่าจะเก็บเงินซื้ออะไร ซื้อจริงหรือไม่อีกเรื่องแต่มีเป้าไว้มันจะเก็บเงินง่าย แล้วหาแอพมาทำตารางรายรับรายจ่าย จากนั้นมึงจะรู้เองว่าควรทำอย่างไร

อ๋อ แล้วถ้าบริษัทมึงมีพวกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ อันนี้กูแนะนำให้สมัครนะ กำไรดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และไม่เสี่ยงด้วย

53 Nameless Fanboi Posted ID6:VOeRGpEXRl

ใครว่าสาย IT ไม่รับเด็กจบใหม่วะ ตอนกูและเพื่อนจบใหม่ถ้าไม่ได้เลือกบ. ก็ได้งานกันทุกคนนะ

54 Nameless Fanboi Posted ID:OO0.WULEDS

เพื่อนโม่ง เข้างานมาใหม่ก็ตกหลุมรักหัวหน้าเลยว่ะ ต้องทำงานแบบใกล้ชิดกันทุกวัน นั่งรถด้วยกันทุกวัน ละคุยกันคือจีบใส่กันแบบอ้อมๆตลอด กูก็หวั่นไหวไม่เคยมีแฟน แต่เค้าเป็นคนที่ประเมินให้กูว่าจะผ่านช่วงทดลองงานมั้ยนี่แหละ555 ละถ้าคบกันแล้วดันเลิกกันภายในสองสามเดือน ชีวิตต่อจากนั้นจะเป็นไงวะ เพราะต้องทำงานใกล้ชิดกันตลอดแค่สองคน กูก็อุตส่าห์เรียนจบมีงานทำแล้ว ก็อยากลองเดทคนนั้นนั้นคนนี้ แบบคนละสามสี่เดือนงี้ ไม่ได้อยากคบ long term เลือกไม่ถูกว่าจะไปต่อ หรือรีบ friend zone พี่หัวหน้าคนนี้ดี แต่แบบกูโคตรชอบเค้าเลย เค้าเป็นคนอบอุ่นใจดีมาก

55 Nameless Fanboi Posted ID:0sXwLB1Xts

>>54 อนาคตเมิงจบแล้วหล่ะ

56 Nameless Fanboi Posted ID:M6k1wlE0.X

>>54 พ้นโปรก่อนสัสอย่ารีบ เจอกันใหม่ๆอะไรก็ดีหมดตื่นสัสตื่น

57 Nameless Fanboi Posted ID:kCii/EVYSp

>>55 5555 กูว่าอยู่อ่ะมึง จบละ อนาคต แต่บริษัทกูคือปกติมากหลายๆคนก็คบกัน หัวหน้าลูกน้อง ceo-manager ไรงี้ คือค่อนข้างอิสระ คบเปิดเผยกัน แต่กูต้องอดใจรอ 3 เดือนให้ผ่านโปรก่อนแหละมั้ง กูไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้าน แต่หวั่นไหวชิบหายต้องนั่งรถด้วยกันทุกวัน กูก็ไม่เคยมีแฟน ก็ใจเต้นหน้าแดงตลอด เก็บทรงไม่อยู่ แม่งง55

58 Nameless Fanboi Posted ID:k9V.qXkUcE

>>54 รอผ่านโปรก่อนมึง จากนั้นจะทำไรก็ทำ แต่พนง.ระดับหัวหน้าขนาดนั้นอายุอานามเท่าไรว่ะ แน่ใจนะว่าลูกเมียไม่มี เด็กจบใหม่แม่งโดนหลอกเยx ง่ายว่ะ มึงก็หลอกเยxเขากลับบ้างนะ

59 Nameless Fanboi Posted ID6:cTBXIroCjK

>>54 เอาแบบซีเรียสกูว่าบริษัทที่ปล่อยให้หัวหน้าลูกน้องเป็นแฟนกันได้นี่ไม่ใช่อะไรที่ดีนะ
แต่ความรู้สึกคนมันห้ามกันไม่ได้ ถ้าอยากจะเป็นแฟนกันก็ควรมีกฏให้คนใดคนหนึ่งลกออกหรือย้ายไปแผนกอื่น
หรืออย่างน้อยๆถึงไม่มีกฏเป็นเรื่องเป็นราว ก็ถือเป็นมารยาทที่คนในบริษัทควรรู้เองว่าต้องทำ
ส่วนถ้ามึงคิดว่าสามารถใช้ช่องว่างนี้ให้เป็นประโยชน์กับตัวเอง แล้วไม่กลัวผลในแง่ลบที่อาจจะตามมาอันนี้ก็แล้วแต่

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.