Fanboi Channel

วันศุกร์ที่สิบเก้า ของเหล่าซาลารี่แมน

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:CY3pTX2ENo

>>>/lounge/68/ วันศุกร์ที่หนึ่ง
>>>/lounge/216/ วันศุกร์ที่สอง
>>>/lounge/286/ วันศุกร์ที่สาม
>>>/lounge/408/ วันศุกร์ที่สี่
>>>/lounge/765/ วันศุกร์ที่ห้า
>>>/lifestyle/1530/ วันศุกร์ที่หก
>>>/lifestyle/2284/ วันศุกร์ที่เจ็ด
>>>/lifestyle/3353/ วันศุกร์ที่แปด
>>>/lifestyle/5047/ วันศุกร์ที่เก้า
>>>/lifestyle/6139/ วันศุกร์ที่สิบ
>>>/lifestyle/6603/ วันศุกร์ที่สิบเอ็ด
>>>/lifestyle/7075/ วันศุกร์ที่สิบสอง
>>>/lifestyle/8483/ วันศุกร์ที่สิบสาม
>>>/lifestyle/10347/ วันศุกร์ที่สิบสี่
>>>/lifestyle/12401/ วันศุกร์ที่สิบห้า
>>>/lifestyle/14347/ วันศุกร์ที่สิบหก
>>>/lifestyle/15723/ วันศุกร์ที่สิบเจ็ด
>>>/lifestyle/16891/ วันศุกร์ที่สิบแปด

2 Nameless Fanboi Posted ID6:eXHTStc0e4

วันศุกร์แล้วโว้ย

3 Nameless Fanboi Posted ID:3M5l8Bf3v2

กูมีงานวันเสาร์💀

4 Nameless Fanboi Posted ID:YK/0TB8MPx

ทำงานพ่วง เสา ทิต อาาาาาห์

5 Nameless Fanboi Posted ID6:08s1gX8udf

กำลังจะกลายเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้ว ควรซื้ออะไรเข้าหอบ้าง ตู้เย็นอันเล็กหรือใหญ่

6 Nameless Fanboi Posted ID6:.7iBxaIcPp

>>5 แนะนำว่าค่อยๆ อยู่ค่อยๆ ทยอยซื้อไป พออยู่แล้วรู้สึกขาด มันจะเป็นตัวบอกเองว่ามึงต้องการอะไรเพราะแต่ละคนก็ไลฟ์สไตล์ไม่เหมือนกัน บางคนเน้นอยู่ห้อง ชอบทำอาหาร (ถ้าเป็นหอที่อนุญาตให้ทำนะ) บางคนเน้นออกห้อง เที่ยว กินนอกบ้าน ฯลฯ อย่างกูไม่ใช่สายทำอาหาร ชอบกินจากข้างนอกมาเลยค่อยเข้าห้อง ไม่ก็สั่ง delivery ในตู้เย็นมีแต่น้ำ ตู้เย็นเล็กนี่เหลือเฟือ

7 Nameless Fanboi Posted ID:usSAPeTNyF

>>5 ตู้เย็นนี่แนะนำ6คิวอัพ อย่าประหยัดมากนะมึง ถ้ามึงชิวๆแบบ >>6 จะใช้ตู้เล็กก็ดี แต่กูตอนมาแรกๆประหยัดจัดจนแตกอ่ะดิ ซื้อตู้กากๆแบรนด์ขึ้นห้างขนาด3.8คิวงี้มา เชี่ย น้ำเจิ่งห้องหมด ของแช่เสียง่าย เครื่องไม่ยอมทำงาน สุดท้ายเรื่องกินเลยพาลมีปัญหาตามมาเลย ทนไม่ไหวยอมเสีย18000ซื้อ 14.6คิวไว้แม่ง ....
สิ่งที่มึงควรคิดว่าอะไรต้องซื้อไม่ซื้อคือเรื่องกินอ่ะถูกละ ต่อมาก็ความสะดวกในห้องมึงเอง โต๊ะ เก้าอี้ มีมากพอให้ทำนั่นนี่ไหม ต่อมาความสะอาด เครื่องซักผ้าหอพักมึงแม่งซักสะอาดพอไหม หอกูนี่เสื้อผ้าแมวกับกระต่ายเจ้าของปล่อยให้ใช้ซักได้อ่ะ แต่ดีที่300อีกเมตรมีร้านซักฝาหน้าให้ไปใช้บริการ แล้วดูเงินในกระเป๋ามึงต่อไปว่ารอดแค่ไหน

8 Nameless Fanboi Posted ID:VUd0jbdlcZ

รองเท้าคัทชูผู้ชายมียี่ห้อไหนแนะนำไหมวะ ปกติไม่ได้ใส่บ่อยแต่อยากมีติดไว้เผื่อต้องไปเจอลูกค้าแบนานๆ(ๆๆๆๆๆๆ)ที

9 Nameless Fanboi Posted ID:3DuqfVT.uO

>>8 เลือกทรงoxford แบบ cap toe ก็ได้ หลัก ๆ hush puppies heavy manwood freewood luigi batani

10 Nameless Fanboi Posted ID:MYpVdz+SSk

งบบริษัทกำลังหมดและกูก็กำล้งจะกลายเป็นคนว่างงานในอายุเลข 3

11 Nameless Fanboi Posted ID:bAk3Hq0FUW

ขี้เกียจทำงานจังเลย

12 Nameless Fanboi Posted ID:BKn6HqlGXC

>>8 กูในฐานะคนทำงานต้องใส่คัชชู กูไม่ใส่คัชชูจ้า กูล่อรองเท้าเซฟตี้ที่หน้าเดียวกับคัชชูไปเลย555+ ละแม่งทรงเหมือนกันเด๊ะสัสๆ ถ้าการเจอลูกค้าของมึงไม่มีว่าต้องใส่แบรนด์เนมให้เกียรติสายตาลูกค้า กลุ่มลูกค้าที่มาติดต่อไม่ใช่พวกที่บ้าเปลือกเหมือนเข้าหาแต่ละทีเหมือนเข้ามาในบาร์โฮสต์ละก็แนะนำหาเป็นรองเท้าเซฟตี้แทนไปเลย ใส่สบายกว่าคัชชูคู่กากๆกับราคาแพงแต่แม่งไม่สบายตีนมากๆ

13 Nameless Fanboi Posted ID:BKn6HqlGXC

>>12 แบรนด์นึงที่แนะนำนะ Midori ตอนแรกจะหาHyper V ซึ่งหาๆไปก็หาไม่เจอ แต่เจอแบรนด์นี้ในแอพชอปปิ้งก็ดูน่าสนใจดี

14 Nameless Fanboi Posted ID6:mVkjwmyPCo

https://m.facebook.com/groups/jobthaiofficial/permalink/1347887302756718/?wtsid=rdr_06bHxj7EA0pNrd4Vc&refsrc=deprecated&_rdr

เคยมีโม่งเถียงกันเรื่องหางานไม่ได้เพราะ Overqualified สรุปในไทยแม่งมีจริงๆหว่ะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:MrVmopAQOd

ตามพื้นฐานคนปกติทั่วไปของพวกจบวิศวะ อายุ 30 ควรมีเงินเก็บให้ได้เท่าไหร่วะ แล้วไอเก็บนี่คือเก็บไปทำอะไร

16 Nameless Fanboi Posted ID:1Lf2L/71ar

>>14 เข้าไปส่องแล้วดูทรงเป็นคนเก่งจริง แต่เหมือนเรียกเงินเยอะใช่ปะมันก็ถูกแล้วไหมอะตามความสามารถ

17 Nameless Fanboi Posted ID:iSt7Ni83/2

>>14 มึงฟันธงเร็วไป
1. resume เขียนได้ง่อยมาก
1.1 จบวิศวะคอม UK แต่ทำได้แค่ python? ไอ่สัสเป็นไปไม่ได้ เรียน 4 ปีได้มาแค่นี้
1.2 Eng C1 แต่พิมพ์ eng ผิดโง่ๆ?
1.3 แค่เขียน resume ต้องรอเอามาลงกรุ๊ปเฟสให้คนไม่รู้จักสอน
แค่ข้อ 1 นี่ตัดคะแนนเยอะเลยนะ แค่กูเกิลวิธีเขียน resume ให้ตรงสายยังทำเองไม่ได้ solving skill ติดลบแล้วอะ
2. เรียกเงินเดือนเท่าไร ตำแหน่งอะไร สมมติ tester, helpdesk เรียก 50K entry level ก็ไม่ไหวนะครับ บวกจากความกากในข้อ 1 ไปด้วย
3. เห็นไม่ตอบเม้นในกรุ๊ปที่แนะนำ linkedin อนุมานว่าไม่ได้ลงไว้ = ไม่ได้เก่งจริงแบบที่เดากัน
3. overqualified เอย, diploma เอย คนเม้นแบบนี้คือไม่เข้าใจสายงาน IT อะ ลองเอา resume ไปโยนใส่กรุ๊ปหางาน IT คอมเม้นแบบนี้ไม่มีหรอก
4. งาน IT แม่งขาดคนจะตาย ถ้าหางานไม่ได้ส่วนใหญ่เพราะ underqualified แต่เรียกเงินเยอะมากกว่าว่ะ

18 Nameless Fanboi Posted ID6:mVkjwmyPCo

>>17 เดี๋ยวนะ เออ เจอจุดแปลกๆละ ไปเรียนที่บาธมากูก็นึกว่าจบ ป.ตรีเค้ามาละ มันเรียนดิปเว้ยมึง หลักสูตรดิปนี่มันแค่1-2ปีเองมึง จะได้แค่pythonคือไม่แปลกเลย .... แต่กูว่าที่หางานไม่ได้มันก็ปัญหาที่เรซูเม่จริงๆแหละ ที่เยอะกว่านั้นคือเรื่องโปรเจกต์อ่ะ ไม่ใส่จริงดิ เป็นงงหว่ะ HRในกลุ่มก็ละเอียดเรื่องคัดกรองระดับนึงละนะ

19 Nameless Fanboi Posted ID6:fuK736h4Fv

>>17 ถูกทุกข้อ กูก็ว่าไม่ผ่านตั้งแต่ resume ถถถถ งานไอทีต่อให้โปรไฟล์เทพเหมือนจะ overqualified แต่ถ้าสมัครถูกบริษัท ถูกตำแหน่ง กูว่าก็ยังหาได้สบาย

เข้ามาบ่นๆหน่อย พอทำงานแล้วเวลาชีวิตผ่านไปไวมาก แปบเดียวเข้าสู่ปีที่ 3 ของการทำงานแล้ว แต่ยังรู้สึกชิล ไม่รู้สึกว่าตัวเองเก่งขึ้นเท่าไร ทั้งที่เริ่มมีผลงานและเริ่มมีน้องๆที่ต้องดูแลแล้ว ยังรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนเดิมตอนที่เรียนจบใหม่เลยว่ะ ตอนเรียนจินตนาการเอาว่าพอทำงานต้องเจออะไรยากๆเยอะแน่เลย ตัดภาพมาความเป็นจริง รู้สึกไม่ได้ใช้สมองเลยในแต่ละวัน เหมือนสมองจะฝ่อละ มีอะไรยากกว่า technical เยอะ ทั้งเรื่องรับมือกับคน ต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ถูกใจลูกค้า/เข้ากับทีมให้ได้ และต้องจัดการกับอารมณ์ตัวเอง

20 Nameless Fanboi Posted ID6:V2RlnM8i95

>>19 งาน dev หรอ กูว่าลองย้ายงานดูมั้ย ลองหาที่ๆดูให้ความสำคัญกับเรื่อง technical มากหน่อย
เผื่อจะได้เจออะไรใหม่ๆ เรียนรู้อะไรใหม่ๆด้าน technical แล้วกลับมามีไฟกับเรื่องพวกนี้มากขึ้น ถ้าอยากนะ
แต่เรื่องการจัดการกับคนนี่เป็นอะไรที่ไปที่ไหนก็หนีไม่พ้นอ่ะนะ

21 Nameless Fanboi Posted ID:g4n.NEI54Y

>>18 แต่ใน resume เขียนว่า 2018-2022 นะ กูเลยงงๆว่าตกลงมันเรียนอะไรแค่ไหน ต่อให้ 2 ปีจริงๆมันก็ต้องผ่านอะไรมามากกว่า python ปะวะ อย่างน้อยสุด DB ซักตัวต้องเคยเล่น
แต่ยังไงก็ตามงาน IT ไม่สนวุฒิการศึกษาอยู่แล้ว ขอแค่ลิสผลงาน/สกิลมาให้ดูได้ ซึ่งถ้าเรื่องแค่นี้ยังไม่รู้แปลว่าเด็กคนนี้ไม่คุยกับเพื่อน/รุ่นพี่/ไม่มี connection เลย ไม่ขวนขวายด้วย ถ้ากูเป็น head hunter เจอแบบนี้กูก็ดันให้อัพเดท resume แหล่ะ profile มันมีสิทธิ์จะเรียกค่าตัวได้แพงๆ แต่ถ้าเป็น senior มาเห็นกูจะไม่ชวนเข้าทีม

22 Nameless Fanboi Posted ID:g4n.NEI54Y

>>19 เดาว่าโครงสร้างบ.มึงทำให้มึงต้องโตในสาย management งานในไทยส่วนใหญ่ก็แบบนี้อะนะ มีบางที่ที่จะเปิดให้มึงโตในสาย technical ลึกๆเป็น senior dev ที่เน้นเก่งไม่เน้นดูแล junior แต่ถามว่าที่ไหนคงต้องลองถามคนรู้จักเอาว่ะ หรืออีกทางเลือกคือไปต่อแบบเดิมนี่แหล่ะ แต่หาอะไรเรียนเพิ่มเองในเวลาว่างแล้วเอามาปรับใช้กับงาน

23 Nameless Fanboi Posted ID:suQiU660hI

>>21 มึงคือตัวเดียวกับ >>>/tech/8162/939 ป่ะวะ? อันนี้คือกูก็งงจริงๆนะว่า วงการนี้เด็กจบใหม่ไม่รับแล้วจะให้เค้าไปเข้าหางานทางไหน? ผ่านconnectionงี้เหรอ? ต้องไปหางานช่างกล้อง ไกด์ ทำครัว เก็บรสชาติชีวิตก่อนมาทำตรงนี้??? หรือยังไง? ขนาดงานโรงแรมนี่เกร่อมาก ความต้องการสูงไม่เอาวุฒิเหมือนสายงานนี้เลยนะ แต่ผ่านงานร้านอาหารมาได้มันยังเข้าไปทำได้เลย แล้วสายงานนี้เด็กจบใหม่ไม่เคว้งแย่เหรอวะ? เอาเท่าที่กูดูคลิปฝรั่งที่มันทำงานสายพวกนี้นะ แนะแนวกันทุกคนเลยว่าไปหาทำโปรเจกต์ไรสักอย่างนึงเป็นชิ้นเป็นให้ได้แล้วจะมีโอกาสแตะงานได้บ้าง ต่อให้จบใหม่ก็ตาม ดีกว่ามาแต่วุฒิเพียวๆไม่มีเหี้ยไรเลยแบบนี้คือสิ่งที่พวกhead hunterเค้าต้องการกันมากกว่าเหรอ?

24 Nameless Fanboi Posted ID:ZO7ReSlAyg

กุสายITนะ แต่จบมา10ปีได้ละ ปีสุดท้ายคนที่ยังเหลือไม่ถึงครึ่งจากที่เข้ามาตอนปีหนึ่ง พอจบแล้วคนที่ยังไปสายไอทีต่อมีไม่ถึงครึ่ง
สำหรับพวกที่โค้ดดิ้งเก่งๆก็คือมีอยู่ไม่ถึง5% ซึ่งพวกนี้มันโค้ดเป็นงานอดิเรก ยามว่าง มีผลงานเต็มไปหมด ตอนสมัครก็สบายๆ บางคนถึงขั้นมาจับตัว
สำหรับคนที่เก่งแต่ไม่ถึงขั้นเทพ ก็เกรดสวย เกียรตินิยม สอบเก่ง พวกนี้ยื่นใบสมัครก็มักจะถูกเลือกก่อน พอไปทำข้อสอบก็ต้องทำได้ ผ่านฉลุย ซึ่งพวกนี้จะอยู่บ.ไอทีแนวหน้า
สำหรับคนทั่วไปแบบกุ โค้ดได้แต่ไม่เทพ และมีความรู้ด้านไอทีก็ยังพอมีโอกาสได้งานในบริษัทไอทีระดับกลางๆ ซึ่งงานแต่ละที่ ก็หลากหลายเยอะแยะ ซึ่งเกี่ยวข้องกับไอที ซอฟแวร์ เต็มไปหมด ตอนนั้นกุสตาร์ท25k แต่พวกนี้อาจจะไม่ได้ต้องการประสบการณ์ แค่ขอเป็นสายไอที เพราะกะจับมาเทรนอยู่แล้ว
ส่วนคนที่ไม่ได้เก่ง ก็จะไปทำบ.ที่ไม่ได้ไอทีเป็นหลัก แต่ต้องมีไว้ บางคนเป็นไอทีซัพพอร์ต ทำทุกอย่าง ดีไม่ดี ทำเยอะและปวดหัวกว่าบ.ไอทีกลางๆที่มีการจัดการที่ดี
ที่เหลือเกินครึ่งก็บ้านรวยบ้าง เป้นแอร์บ้าง ทำธุรกิจตัวเอง ถ่ายรูป เทรนเนอร์ และอีกมากมาย

แต่ถ้าสมัยนี้จากที่มีน้องในทีมที่เป็นเด็กจบใหม่ ส่วนมากเขาจะรับตรงสายไม่มีประสบการณ์ก่อน จากนั้นก็เลื่อนลงมาพวกไม่ตรงสาย แต่ไม่ใช่ว่าสายภาษาจะมาไอทีอะไรแบบนี้นะ อาจจะเป็นพวกสายแมท วิศวะ หรือสายที่มันมีวิชาไอทีอยู่ประปราย ซึ่งพวกนี้เขาจะดูที่สกิลที่มี ควบคู่ไปกับคณะ และผลงานที่มี ส่วนพวกที่ย้ายสายมาแล้วมีแค่เซอร์นี่เอาไว้สุดท้ายเลย ยกเว้นที่พอมีผลงานไว้โชว์อันนี้ก็จะขึ้นมาหน่อย

25 Nameless Fanboi Posted ID:4AgJ8EqRrS

>>24 คำถามกูเลยก่อนนอน สมมติมีผลงานโชว์สัก2โปรเจกต์แล้วจบมัธยมปลายแบบSIRN มาเริ่มต้นจากการย้ายสายงาน ไปสมัครพวกข้ามชาติ(ตะวันตก) อันนี้คืออันดับท้ายๆของการพิจารณาแน่ๆใช่ป่ะ? ถ้าใช่กูจะได้ไปหาวุฒิที่ตรงสายมาจริงๆอีกใบ ยิ่งถ้า บ. ข้ามชาติยิ่งต้องแบบตรงสายและมีใบ ป.ตรีด้วย กูมีแผนย้ายสายงานหลัง30หว่ะ แต่ติดเรื่องเงิน ภาระค่าใช้จ่ายสารพัด(แต่ไม่มีหนี้แค่เงินเก็บน้อย) และสายงานที่ทำคือกูทำเพราะหากินให้รอดล้วนๆ ไม่ใจรักเท่าไหร่ ถึงได้ต้องการหาลู่ทางใหม่หว่ะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:ylHtKUjo7W

>>23 กูก็แค่เล่าให้ฟังว่าวงการนี้มันเป็นแบบนี้ กูไม่ใช่คนกำหนดซักหน่อย วงการนี้มักไม่รับเด็กจบใหม่มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีที่ไหนรับเลย ก็แค่หายากหน่อยแค่นั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นประเด็นอะไรมากหรอก เพราะคนเรียนจบมาแล้วอยากทำงานเขียนโค้ดและทำงานได้มันก็มีไม่ถึงครึ่งของที่จบมาอยู่แล้ว

27 Nameless Fanboi Posted ID:Nm6Xfx.WuZ

เพื่อนโม่งมีอะไรที่แตกต่างจากคนอื่นในออฟฟิศป่าวครับ ของกูมี คือ เป็นคนเดียวในออฟฟิศที่โสด ที่เหลือเขามีเมียมีผัวกันหมดละ

28 Nameless Fanboi Posted ID:zTqdnWYMFL

โม่งเคยมีประสบการณ์ที่แบบตัดสินใจช้าจนพลาดโอกาสไปอะไรอย่างงี้ป่ะ คือกูเป็นคนที่ถ้ามีคนมายื่นข้อเสนออะไร จะให้อะไร กูจะให้คำตอบตอนนั้นไม่ได้ทันที เพราะยังคิดไม่รอบด้าน บางทีเลยขอคิดดูก่อน ขอหาข้อมูลดูก่อน มีบางครั้งที่อีกฝ่ายเหมือนแบบ ไม่รอ อยากได้คำตอบตอนนั้นเลย (ไม่รู้ด้วยว่าทำไมต้องเร่งขนาดนั้น แม่งอย่างกะมิจฉาชีพกะจะมัดมือชก)
ส่วนใหญ่ที่คิดถี่ถ้วนแล้วปฏิเสธไป มารู้ทีหลังว่า ดีแล้วที่ปฏิเสธไปมีเยอะนะ แต่กูมีมุมสงสัยว่ามันจะมีข้อเสนอดีๆ ที่เป็นประโยชน์กับเราจริง โดยที่แบบเร่งขอคำตอบต้องรีบคว้าไว้จริงๆ มั้ย

29 Nameless Fanboi Posted ID:Nj6pl/95NU

>>23
1) กูคือ >>21 และกูไม่ใช่ >>>/tech/8162/939 (ซึ่งมันมาตอบแล้วใน >26)
2) กูไม่เห็นด้วยกับที่มันบอกว่า [มักไม่รับเด็กจบใหม่] จากที่กูเห็นคือถ้า ทดสอบผ่าน/คุยแล้วดูฉลาด/สกิลถึง/มีผลงาน จะไม่สนอายุกับวุฒิเลย
ดังนั้นคำแนะนำของกูคือ ทำไงก็ได้ให้อีกฝั่งรับรู้ได้ว่ามึงมีของ และอย่าคิดมาก
แต่ก็นั่นแหล่ะ คนเก่งคือคนที่รู้ตัวว่าตัวเองขาดอะไร = คนที่กากมักไม่รู้ตัวว่ากาก
3) disclaimer กูไม่มีสถิติ ไม่ฟันธงว่ากูหรือมันพูดถูก และไม่คิดจะ debate หัวข้อนี้

30 Nameless Fanboi Posted ID:KrdU1StFB.

มึง กูมีความสงสัย ทำไมหัวหน้าบอกว่าการจ้างพี่น้องมาทำงานด้วยกัน(อยู่ในออฟฟิศเดียวกัน)ถึงไม่ดี และให้ระวังวะ ทั้งที่ทั้งคู่มาทำงานก่อนกู แล้วกูมาทีหลังสุด แต่หัวหน้าคอยให้กูแอบสอดส่องให้เขา

31 Nameless Fanboi Posted ID6:lbOvVvA7IL

>>29 สถิติกูก็ไม่มีเหมือนกัน 555 ของแบบนี้กูว่าทำสถิติไปก็เท่านั้น เพราะมันมีรายละเอียดจุกจิกเยอะเกินไป
เช่นคนที่เคยทำฟรีแลนซ์/ช่วยงานวิจัยอาจารย์มาก่อน แต่ไม่เข้าระบบงานบริษัทถือเป็นเด็กจบใหม่มั้ย
ที่ๆบอกว่าไม่รับ แต่ถ้ามีหลุดสมัครมาแล้วดูพอถูไถก็รับ บางที่บอกรับ แต่ถึงเวลาจริงไม่ใช่เด็กจบใหม่ที่โดดเด่นแบบ top 1% ไม่เอา พวกนี้นับยังไง
แถมสำรวจมาถ้าผลไม่ตรงกับความคิดของตัวเองก็เถียงว่าการทำสถิติไม่แม่นได้อีก เถียงกันไม่จบ

32 Nameless Fanboi Posted ID:Um19xN+YM7

ไม่รู้คนอื่นคิดเหมือนกันมั้ย แต่กูว่าวงการ dev ให้ค่ากับจำนวนปีที่เคยทำงานมากเกินไป บางคนมีแค่ตัวเลขปีเยอะๆ แต่ความสามารถต่ำเตี้ยยังขอเงินเดือนแพงๆได้

33 Nameless Fanboi Posted ID6:sWng8hZE.w

>>32 มันทำแบบนี้กับ บ. ข้ามชาติได้เหรอวะ? หรือว่าราคาคุยได้แต่กับ บ.ไทย? ของกูนี่สายงานพวกครัวโรงแรมหรือร้านอาหาร ปสก. ไม่ช่วยอะไรเท่าฝีมือกับสกิลสร้างคอนเนคชั่น เพราะมันต้องมีเทสงาน ครัวเย็นต้อง มีสกิลมีด ครัวร้อน ยืนหน้าเตา ยกกระทะนานๆได้ พรีเซนต์มากมายแต่ไปทำจริงไม่รอดเค้าไล่ออกก่อนผ่านโปรด้วยซ้ำ

34 Nameless Fanboi Posted ID:IFOEdkoiN1

>>33 ข้อสอบรับ dev มันห่วย วัดอะไรจริงไม่ค่อยได้ หลายๆอย่างที่ให้ทำตอนสอบ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำจริงตอนทำงาน

35 Nameless Fanboi Posted ID:IFOEdkoiN1

แต่เอาจริงๆงานสายนี้มันควรเป็นงานที่ไม่รับเด็กจบใหม่มากกว่าที่คิดด้วยซ้ำนะ เพราะถ้าไม่ใช่โปรเจคใหญ่ระดับ enterprise ที่ต้องทำให้รองรับจำนวนผู้ใช้และ transaction เยอะๆ มันไม่ใช่งานยากอะไรขนาดนั้น อ่าน doc ออก ลองผิดลองถูกนิดหน่อยมันก็แทบจะทำได้ทุกอย่างแล้ว สิ่งที่ทำให้ senior ต่างกับ junior แทบจะมีแค่เวลาที่ใช้ตอนหา bug กับพวก code structure + readability แค่นั้นเลย

36 Nameless Fanboi Posted ID:N+tJin7i8.

>>35 มันก็มีคำถามต่อมานะว่า อ้าว แล้วเด็กจบใหม่มานี่มีที่ยืนตรงไหนได้บ้างวะ? มันต้องไปทำโปรเจกต์กันมาก่อนสักงานเพื่อวัดใจคนให้งานนี่แม่งก็หินมากเลยมึง เว้นว่าข้อสอบวัดdevนี่พวกHRใช้ชี้วัดคนทำงานจริงจนมันต้องมีสัก บ. ที่แบบหลุดเข้าไปทำเก็บใส่โปรไฟล์ได้นี่ก็แบบบุญวาสนามาเลยงี้อ่อ?

37 Nameless Fanboi Posted ID:HsxfV9pFYy

>>36 เด็กจบใหม่ ถ้าขาวสวยหมวยอึ๋มมายืนในใจพี่ได้นะครับ ❤

38 Nameless Fanboi Posted ID6:Bf7oFYaG.4

>>20 >>22 ใช่ๆๆ งานเดฟ เอาจริงกูย้ายงานมาทีนึงละ จากบ.เน้น management มาเป็นบ.ไอทีเน้น technical เลย แต่คงเป็นเพราะจบมาไม่นานด้วยก็เลยไม่ได้จับโปรเจคยากอะไรมากมาย หรือถึงยากยังไงก็มีคนเคยทำ มีไกด์ไลน์ มี doc มี google chatgpt ตื่นเต้นได้แปบเดียว แต่ทำไปทำมามันก็เริ่มจะรูทีนเหมือนเดิม คงได้แต่หวังว่าจะได้จับโปรเจคอะไรใหม่ๆตื่นเต้นๆบ้างในอนาคตนะ

39 Nameless Fanboi Posted ID:IFOEdkoiN1

>>36 โทษทีกูพิมผิด กูจะพิมว่ามันควรเปิดโอกาสรับเด็กจบใหม่มากกว่านี้ เพราะอย่างที่บอกความต่างระหว่างซีเนียกับเด็กจบใหม่ไม่ใช่เรื่องทำงานได้ทำงานไม่ได้ แต่มักจะเป็นเรื่องอื่นๆมากกว่า

40 Nameless Fanboi Posted ID:LIX0oidQus

กูรายงานตัวว่างงานเดือนสุดท้าย ตั้งแต่วันที่ 7 ในเว็บมันขึ้นสำเร็จ แต่ในแอพยังไม่มีการอัพเดท สรุปกูจะได้เงินไหมวะ เงินยังไม่เข้าเลย

41 Nameless Fanboi Posted ID:r+FGc/NFui

ขอความเห็นเพื่อนโม่ง คือกูมาทำงานที่ใหม่ได้ 3 เดือนแล้วว่ะ และมีโอกาสได้ไป outing กับที่ออฟฟิศมาละ จากงานเอ้าติ้งกูสังเกตได้ว่าแผนกกูไม่สนิทสนมกันเหมือนแผนกอื่นเลย ทำกิจกรรมอะไรก็อยู่คนละมุมเลย 555 แล้วกูเด็กสุดสนิทกับคนในแผนก 1 คน ผู้หญิงเหมือนกัน แต่ประเด็นคือในแผนกกูมีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งระดับ junior เหมือนกู อยู่มาได้ประมาณ 2 ปีละ แม่งลูกอีช่างฟ้องสุดๆ ใครทำอะไรต้องรายงาน Director ซึ่งขนาด Manager มาสายก็ยังโดนเอาไปฟ้อง กูอยู่ในช่วงโปรก็โดนมาละ (เรื่องเบสิคๆ คือมาสาย) แต่ Manager เขาก็ปกป้องกูนั่นแหละ คือกูควรวางตัวยังไงดีวะ ซึ่งกูก็ไม่คิดเลยว่ามาทำงานองค์กรระดับนี้แล้วจะเจอคนแบบนี้ งานก็หนัก และมาเจอคนแทงข้างหลังอีก ถ้ามึงแนะนำวิธีแก้แค้นด้วยจะดีมากเลยว่ะ 555

42 Nameless Fanboi Posted ID:Uu.m+Cu6G8

>>41 กูก็เจอนะ ไอลูกอีช่างฟ้อง ปากสว่าง แต่มึงอย่าไปแก้เผ็ด มึงอย่าไปทำอะไรกับมัน เอามันมาใช้ประโยชน์ให้มึงได้ข้อมูลดีกว่า ถ้ามันไม่ได้ขี้ฟ้องแค่กับมึง มันทำไปทั่ว กับคนอื่นๆก็ทำ แนะนำเลยนะ เวลาอยากรู้นิสัยใคร เวลามีคนนี้คนนั้นมาขอนั่นนี่(เช่น ขอยืมเงิน) ไปถามมันว่าให้ดีไหม(ถ้ามึงยังไม่ได้ทะเลาะกับมันนะ) อีตัวขี้ฟ้องแบบนี้ถ้าปากสว่างด้วยมันคงให้ข้อมูลมึงได้ และที่ทำงานกูมีอยู่ตัวนึง ตะล่อมนิดเดียวปล่อยมาดิบดีว่าใครเป็นยังไง5555+ แต่มีคนแบบนี้ในที่ทำงานก็ต้องระวัง อย่าไปให้ข้อมูลสำคัญกับมัน อย่าพยายามทำให้อะไรๆมันกระทบเรา

43 Nameless Fanboi Posted ID:sGQNQuzNHT

>>42 ร้ายนะเรา

44 Nameless Fanboi Posted ID:sGQNQuzNHT

>>41 กูไม่รู้ว่า director มึงให้ค่าทำพูดมันมากแค่ไหน ถ้าให้ค่ามากก็อาจจะกระทบมึงตอนประเมินขึ้นเงินเดือน เช่นจริงๆมึงควรจะถูกประเมินได้ 100 คะแนน แต่มีคนคอยฟ้องเรื่องไม่ดีเล็กๆน้อยๆไม่บ่อยๆเข้าก็อาจจะเหลือ 60-70ไรงี้ได้

45 Nameless Fanboi Posted ID6:HbHegQYDqS

>>34 ข้อสอบส่วนใหญ่ห่วยจริง โดยเฉพาะของพวก HR / recruiter
แต่ถ้าข้อสอบที่มาจากทีม dev เองส่วนมากค่อนข้างดีนะ มีหลายที่เลยที่เคยไปสัมมาแล้วเจอข้อสอบน่าสนใจ

อย่างกูทำสาย backend ที่ชอบมากอันนึงให้เขียน service ง่ายๆขึ้นมาตัวนึง มี requirement ให้คร่าวๆ
ข้างหลังมี logic นิดๆหน่อยๆ กับมีต่อ service สำเร็จรูปที่มีอยู่แล้วเพื่อเอาข้อมูลมาใช้ต่อ
มีคะแนนโบนัสคือลองคิดดูควรทำ security ใส่เข้าไปตรงไหนบ้าง กับเขียน unit test
ทำเสร็จแล้วก็ push ใส่ git public repo พร้อมวิธีใช้งาน API ใส่ README แล้วส่งให้เค้า
พอสัมภาษณ์เค้าก็ให้อธิบายโค้ด แล้วก็มีได้คุยกันว่าทำไมตรงนี้เลือกเขียนแบบนี้ ทำไม design API แบบนี้
ก็สนุกดีนะ แบบได้แลกเปลี่ยนไอเดียหลายๆอย่างกับคนสัมด้วย แล้วในมุมคนตรวจข้อสอบมันเห็นหลายอย่างมาก
อย่างตอนสัมคุยกันคนตรวจเค้าก็ตั้งใจตรวจนะ ไม่ใช่ดูแค่ตัวโค้ด แต่ดู doc การ design API ยันพวก commit message
แต่ข้อสอบแบบนี้มันมีข้อเสียคือใช้เวลาทำเยอะ ถ้าคนสอบขี้เกียจแล้วมีตัวเลือกเยอะก็อาจจะยอมทิ้งที่นี่ไปเลย

อีกที่ให้ design flow การทำงานของ API แล้วมีเขียนว่าข้อมูลที่ดึงจากระบบอื่นมาใช้ต่อมีการเปลี่ยนไม่บ่อย
กูตีความเจตนาของโจทย์เองนะว่าอยากวัดว่าคนทำโจทย์จะนึงถึงการทำ cache มั้ย
ซึ่งกูคิดว่ามันดูได้เลยนะว่าคนที่ทำโจทย์คิดถึงปัจจัยอื่นๆเวลาทำงานมั้ย หรือเป็นพวกสนใจแค่โค้ดทำงานได้แล้วพอ

46 Nameless Fanboi Posted ID:D9a1++1Ofu

>>43 สายงานกูมันงานใกล้ๆโรงแรม สายงานนี้การเมือง คอนเนคชั่น แรงมาก ขนาดแค่ที่ทำงานบางที่ คนนิดเดียวแต่หัวหน้าเหี้ยนี่ก็เหนื่อยมากนะ กูกำลังคิดอยู่ว่าครัวตามโรงแรมก็แรงด้วยไหมเพราะครัวกูเห็นค่าตอบแทนละก็น่าทำงานไม่น้อย แต่ส่วนมากเห็นจะเข้าได้ต้องมีญาติหรือคนรู้จักเข้าไปนำก่อน แต่กูทำสายที่เบี่ยงออกมากูบอกเลยนะ เจอมากกว่าแค่ปากสว่างอีก กูถูกนายว่าสารพัดอย่างเพราะอีพวกนี้ก็ชินๆละ ออกมาพิสูจน์งานอีกแผนกกูก็ทำ อีพวกที่ทำงานกับกูก็หนักสุดคืองานการไม่ทำ จ้องจะจับผิดละมีหน้าว่ากูได้ คิดว่าตัวเองตีสนิทกับหัวหน้า(ใช้กีป้ายหน้า) เอาตัวเข้าแลกละคือคิดว่าเป็นเจ้าที่ได้ ละเจออีประเภทอยู่ตำแหน่งเดียวกันแต่กระสันทำตัวเป็นหัวหน้าอีกอีเหี้ย รำคาญมาก แต่กูหวังให้มันทนพิษนโยบายนายใหญ่ไม่ไหวลาออกไปเอง กูไม่มีน้ำใจกับมันมากอยู่แล้ว ทุกคนเบื่อกับพวกนี้แต่ทนเพราะโบนัส หรือคนเกินละมีความต้องการคัดคนไปอีกสาขากูก็ยอมนะ ขอที่แม่งติด ม.รามได้ยิ่งดีเลย เรียนควบทำงานกับที่นี่กูโอเคมาก ไม่โอเคเพราะคน เบื่ออีพวกจะไต่มาเป็นเจ้าที่ชิบหาย ส่วนกูคือจะสืบหางานตาม ถ.สุขุมวิท เนี่ยแหละว่าเปิดรับจริงๆหรือแม่งแค่ทำผลงานให้นายดูเหมือนกัน แต่ก็เสี่ยงแหละว่าเจอเจ้าที่แรงไหม5555+

47 Nameless Fanboi Posted ID6:uMgMm923uz

>>35 อันนี้อิงจากประสบการณ์และความเห็นส่วนตัวกูนะ

กูว่า code structure + readability นี่เรื่องใหญ่นะ
มีผลมากโดยเฉพาะกับโปรเจคที่อยู่ไปนานๆ ไม่ใช่ของที่ทำให้ลูกค้าแล้วขายขาดไปเลย
ซึ่งต่อให้เป็นแบบหลังถ้าลูกค้าขอแก้หรือเพิ่มนู่นนี่ แล้วคนเก่าทำไว้เละๆแม่งก็เดือดร้อนอยู่ดี
แต่ของแบบนี้ถ้าไม่ได้เละมากบางทีมันก็แล้วแต่ความชอบคนด้วยเลยวัดยาก

แล้วเด็กจบใหม่ไม่ได้ขาดแค่เรื่องพวกนี้ แต่กูคิดว่ามันมีเรื่องอื่นๆอีกเยอะเลยที่เด็กจบใหม่ (ย้ำว่าไม่ทุกคน) ไม่รู้หรือไม่แม่น
เอาง่ายๆ tool ที่ dev ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างพวก version control นี่มหาลัยไม่ค่อยสอนหรอก
หรือถ้าเป็นที่ๆเขียน unit test กัน มหาลัยก็น้อยที่มากที่สอนเขียน unit ถ้าสอนก็ผิวๆมาก ไม่ไปถึงเขียน mock
ไหนจะปัจจัยอื่นๆที่บางทีเด็กจบใหม่ก็ไม่รู้หรือไม่สนใจมากอย่างเรื่อง security
การใช้ framework บางอย่างที่มารายละเอียดจุกจิก ข้อต้องระวังบางอย่างมากกว่าแค่โค้ดรันได้แล้วจบ

คือไอ้ทุกอย่างที่ว่ามา ถามว่าให้เด็กไปอ่านเองศึกษาเองได้มั้ยมันก็ได้ แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนจะอ่าน doc แล้วจะเข้าใจ ทำได้เลย
งานบางอย่าง บาง framework ก็มีรายละเอียดจุกจิกที่ต้องระวัง ถ้าทำได้อาจจะเจอปัญหาแบบรันได้แค่บนเครื่องตัวเองงี้
ของพวกนี้บริษัทดีๆหน่อยก็จัดเทรนได้ แต่ค่าเทรนพวกนี้ไม่ได้ถูกนะ ความรู้ได้มาใช้ในงานจริงก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้หน้างานจริงอีก
ในมุมบริษัทบางที่เค้าก็มองว่ายอมจ่ายค่าตัวคนที่เคยผ่านงานมาแล้วแพงหน่อย คุ้มกว่าลงทุนปั้นเด็กทั้งในแง่เงินและเวลาที่เสียไป
ยิ่งสายงงานนี้คนย้ายงานกันบ่อยๆอยู่แล้วด้วย

ที่ว่ามาคือไม่ได้บอกว่าเด็กจบใหม่แย่หมด หรือประสบการณ์ที่ทำงานมาเป็นตัวบอกทุกอย่างนะ
แต่กูแค่อยากแชร์ว่าในมุมการรับคนเข้าทำงาน การที่บางที่เลือกไม่รับเด็กจบใหม่มันไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผลขาดนั้น

48 Nameless Fanboi Posted ID6:0ON0hZF2mm

เด็กจบใหม่ ไม่มีหนี้ เงินเดือน 28k แบ่งใช้ยังไงให้ได้เก็บเยอะ (ค่าหอรวมน้ำ ไฟ เน็ต 7000)

49 Nameless Fanboi Posted ID:D9a1++1Ofu

>>48 กูนะ เก็บไม่เยอะ เพราะเงินเดือนน้อยกว่ามึง1.5เท่าตัว เอยากเก้บเยอะๆ ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย อะไรที่ต้องเสียเงิน ตัดๆออกมาลงในช่องรายจ่ายให้หมดเลย แต่ถ้าหารายได้เสริมได้นอกจากเงินเดือน อันนี้คือสวยโลน ว้าวุ่นหน่อยแต่ระยะยาวคือเอาเงินเก็บไปหาลงทุนDCAสักอย่างยังได้เลย แต่ที่สำคัญกว่าคือมึงลดปัจจัย4ต่างๆนาๆลงได้ไหม เช่น ค่าที่พักมึง ซึ่งถ้าราคานี้ ลดการเดินทางได้ไหม ถ้าลดได้จะดีมาก แต่ลดไม่ได้ อันนี้ต้องรอดูการปรับฐานเงินเดือน บ.มึงเพื่อเก็บเงินเลย แล้วหาเวลาทำกับข้าวเองให้ได้เยอะๆในเดือนนั้น แต่ระหว่างรอปรับฐานนะ มึงต้องหัดควบคุมเงินเดือนให้ได้เท่าฐานเก่ามากๆ เวลาฐานใหม่มามันจะได้ง่ายกับมึงนะโม่ง ใช้จ่ายอะไรจุดมุ่งหมายต้องมีให้มากๆ เน้นเก็บเงินเยอะๆอย่าเน้นฟุ่มเฟือย หาออมกับสิ่งที่ควรออมเข้าไว้

50 Nameless Fanboi Posted ID:PxbBT+dIoz

>>42 ขอบใจมากว่ะ ทุกวันนี้กูก็พยายามทำแบบนี้แหละ ดีหน่อยที่ฝ่ายกูกับมัน co กันน้อยมาก
>>44 ก็ฟังพอสมควรนะ เพราะ Dir แต่เขามาทีหลังอีนี่อ่ะ มาแค่ 6 เดือนเอง เขาย่อมอยากรู้อยากเห็นอยู่แล้ว พออีนี่มาเป็นหูเป็นตาก็อาจจะฟังบ้างแหละ แต่ Dir กูก็อาวุโสมากอ่ะหวังว่าเขาคงฟังหูไว้หู

51 Nameless Fanboi Posted ID:oPJjlKFW0.

>>35 เอาแค่ดีไซน์ฐานข้อมูลส่วนมากเด็กใหม่ตายเรียบ มหาลัยเค้าไม่ได้สอนเรื่องการดีไซน์ฐานข้อมูลขนาดใหญ่

52 Nameless Fanboi Posted ID6:DGWPyIPKzX

>>48 แต่ช่วงแรกลองตั้งเป้าไว้ว่าจะเก็บเงินซื้ออะไร ซื้อจริงหรือไม่อีกเรื่องแต่มีเป้าไว้มันจะเก็บเงินง่าย แล้วหาแอพมาทำตารางรายรับรายจ่าย จากนั้นมึงจะรู้เองว่าควรทำอย่างไร

อ๋อ แล้วถ้าบริษัทมึงมีพวกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ อันนี้กูแนะนำให้สมัครนะ กำไรดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และไม่เสี่ยงด้วย

53 Nameless Fanboi Posted ID6:VOeRGpEXRl

ใครว่าสาย IT ไม่รับเด็กจบใหม่วะ ตอนกูและเพื่อนจบใหม่ถ้าไม่ได้เลือกบ. ก็ได้งานกันทุกคนนะ

54 Nameless Fanboi Posted ID:OO0.WULEDS

เพื่อนโม่ง เข้างานมาใหม่ก็ตกหลุมรักหัวหน้าเลยว่ะ ต้องทำงานแบบใกล้ชิดกันทุกวัน นั่งรถด้วยกันทุกวัน ละคุยกันคือจีบใส่กันแบบอ้อมๆตลอด กูก็หวั่นไหวไม่เคยมีแฟน แต่เค้าเป็นคนที่ประเมินให้กูว่าจะผ่านช่วงทดลองงานมั้ยนี่แหละ555 ละถ้าคบกันแล้วดันเลิกกันภายในสองสามเดือน ชีวิตต่อจากนั้นจะเป็นไงวะ เพราะต้องทำงานใกล้ชิดกันตลอดแค่สองคน กูก็อุตส่าห์เรียนจบมีงานทำแล้ว ก็อยากลองเดทคนนั้นนั้นคนนี้ แบบคนละสามสี่เดือนงี้ ไม่ได้อยากคบ long term เลือกไม่ถูกว่าจะไปต่อ หรือรีบ friend zone พี่หัวหน้าคนนี้ดี แต่แบบกูโคตรชอบเค้าเลย เค้าเป็นคนอบอุ่นใจดีมาก

55 Nameless Fanboi Posted ID:0sXwLB1Xts

>>54 อนาคตเมิงจบแล้วหล่ะ

56 Nameless Fanboi Posted ID:M6k1wlE0.X

>>54 พ้นโปรก่อนสัสอย่ารีบ เจอกันใหม่ๆอะไรก็ดีหมดตื่นสัสตื่น

57 Nameless Fanboi Posted ID:kCii/EVYSp

>>55 5555 กูว่าอยู่อ่ะมึง จบละ อนาคต แต่บริษัทกูคือปกติมากหลายๆคนก็คบกัน หัวหน้าลูกน้อง ceo-manager ไรงี้ คือค่อนข้างอิสระ คบเปิดเผยกัน แต่กูต้องอดใจรอ 3 เดือนให้ผ่านโปรก่อนแหละมั้ง กูไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้าน แต่หวั่นไหวชิบหายต้องนั่งรถด้วยกันทุกวัน กูก็ไม่เคยมีแฟน ก็ใจเต้นหน้าแดงตลอด เก็บทรงไม่อยู่ แม่งง55

58 Nameless Fanboi Posted ID:k9V.qXkUcE

>>54 รอผ่านโปรก่อนมึง จากนั้นจะทำไรก็ทำ แต่พนง.ระดับหัวหน้าขนาดนั้นอายุอานามเท่าไรว่ะ แน่ใจนะว่าลูกเมียไม่มี เด็กจบใหม่แม่งโดนหลอกเยx ง่ายว่ะ มึงก็หลอกเยxเขากลับบ้างนะ

59 Nameless Fanboi Posted ID6:cTBXIroCjK

>>54 เอาแบบซีเรียสกูว่าบริษัทที่ปล่อยให้หัวหน้าลูกน้องเป็นแฟนกันได้นี่ไม่ใช่อะไรที่ดีนะ
แต่ความรู้สึกคนมันห้ามกันไม่ได้ ถ้าอยากจะเป็นแฟนกันก็ควรมีกฏให้คนใดคนหนึ่งลกออกหรือย้ายไปแผนกอื่น
หรืออย่างน้อยๆถึงไม่มีกฏเป็นเรื่องเป็นราว ก็ถือเป็นมารยาทที่คนในบริษัทควรรู้เองว่าต้องทำ
ส่วนถ้ามึงคิดว่าสามารถใช้ช่องว่างนี้ให้เป็นประโยชน์กับตัวเอง แล้วไม่กลัวผลในแง่ลบที่อาจจะตามมาอันนี้ก็แล้วแต่

60 Nameless Fanboi Posted ID6:MlqzdTTM/Y

>>58 อายุเยอะกว่านิดเดียวเองมึง เค้าเป็นคนเก่งมากๆ ตั้งใจทำงาน แต่ไม่ใช่สไตล์เจ้าชู้เลย เป็นเนิร์ดๆหน่อย

61 Nameless Fanboi Posted ID6:ood2CHoxUu

>>59 บริษัทกูเลย ถ้าเจ้านาย-ลูกน้องเป็นแฟนกัน จะให้คนใดคนนึงย้ายแผนก เพื่อรักษาการปกครองให้ยุติธรรม (ให้คนเป็นแฟนกันประเมินเกรด performance ให้แฟนตัวเอง คนอื่นๆ ย่อมมีข้อกังขาแน่นอน) จะว่าไปแล้วบ.กูนี่มาเป็นแฟนกันในบ.เยอะมากกกก มีทั้งที่ไปรอดตลอดรอดฝั่งแต่งงานมีลูกยาวๆ ไป กับแบบที่เลิกรากัน แต่กูจะไม่มีวันเอาคนในบ.มาเป็นแฟนเด็ดขาด อันนี้ policy ส่วนตัวกูเอง

62 Nameless Fanboi Posted ID:ECRqRX49lU

>>61 เคยเจอนโยบายแบบมึงเหมือนกัน ต้องอยู่คนละส่วน ไม่คนละส่วนก็ต้องแบบอยู่อีกสาขางานนึงใน บ. ไปเลย เพราะกลัวว่าแบบถ้าเกิดว่าลาออกขึ้นมามันจะไปทีทั้งผัวทั้งเมียไรงี้ แต่ถ้าเอาให้คำสวยๆหน่อยก็รักาาการปกครองให้ยุติธรรมนั่นแหละ แต่กับ บ. ข้ามชาติเหมือนจะยากหว่ะ โดยเฉพาะ บ.ยุ่นที่เรื่องส่วนตัวเค้าไม่ไรเลย เลิกงานต่างคนต่างอยู่ บางทีมันไม่รู้กันง่ายๆเลยว่าแฟนเป็นใครยังไง เจอแต่กับ บ. ที่พวกเจ้าของคนไทยนะจะทำไรแบบนี้

63 Nameless Fanboi Posted ID6:VoZLv0aT81

>>61 >>62 กูเจ้าของเม้นท์นะ คือแผนกกูถ้านับแบบจริงๆเลย คือมีกันสองคน กูกับหัวหน้าเนี่ยแหละ!55 จะแยกก็ทำยากอ่ะ เพราะหัวหน้าเค้าย้ายไม่ได่แน่เพราะเป็นคนสำคัญของตำแหน่งนี้ ถ้ากูย้ายกูจะไปทำไรวะ ทำอย่างอื่นไม่เป็น แถมเพิ่งเข้ามาทำงานอีก กูก็อยากทำตำแหน่งนี้ที่สุด

คนมีเป็นล้านคนทำไมเค้าต้องมาชอบกูกลับด้วยวะ ถ้ากูชอบเค้าคนเดียวกูจะได้เก็บไว้ในใจได้ แง้

64 Nameless Fanboi Posted ID6:F+vP70tEWF

แม่ง จะสามสิบละ เงินเดือนกูยังไม่ถึง 30k
ไอ้อยู่คนเดียวน่ะก็จัดสรรเงินให้ตัวเองกับแฟนได้นะ แต่ส่งให้ที่บ้านกับต้องมาดูแลย่าแล้วแม่งไม่ได้เลยว่ะ
แค่จะซื้อมือถือ 3000 กว่าบาทให้ย่ากูก็ไม่มีปัญญาละ

65 Nameless Fanboi Posted ID:rU+RMS8XBw

>>64 กูเข้าใจไม่ใช่มึงคนเดียวที่ประสบปัญหานี้

66 Nameless Fanboi Posted ID:S0+hBnoP0g

>>64 ออกมาอยู่ข้างถนน

67 Nameless Fanboi Posted ID:y5lu4sOWPT

>>64 ย่าเคยเลี้ยงเรา เมิงทำอะไรไม่ผิดใจตนเองทีหลังเหอะ
แฟนยังหาใหม่ได้ แต่เวลาที่อยู่กับท่าน เมิงหาเงินได้ถึงตอนนั้นท่านก็ไม่อยู่ให้เมิงชดใช้ค่าดูแล แล้ว

68 Nameless Fanboi Posted ID:OYOZqvop3R

พรุ่งนี้กูจะลาป่วย

69 Nameless Fanboi Posted ID:v7ZfIaT30F

>>68 พูดถึงลาป่วย ตอนกูทำงานใหม่ๆ กูลาป่วยการเมืองทุกปี ปีละวัน ปีที่ผลิตวัคซีนโควิด
กูนี่รีบฉวยโอกาสไปฉีดวัคซีนแล้วแกล้งบอกว่าแพ้วัคซีน หาเรื่องหยุดงานได้ฟรีๆหนึ่งวัน
แต่ปีนี้กูไม่ได้ลาป่วยเลย เพราะผู้บริหารคนใหม่จุกจิกกว่าเดิมมาก เพื่อนร่วมแผนกป่วยการเมือง
วันสองวันแม่งเรียกเข้าไปให้ชี้แจง กูเลยเปลี่ยนแผนใหม่ ว่าจะไม่ลาป่วยการเมืองแล้ว
ถ้าวันไหนขี้เกียจทำงานจริงๆ ก็หอบร่างตัวเองมานั่งโง่ๆ ที่โต้ะตัวเองดีกว่า

70 Nameless Fanboi Posted ID:r.6Wi3SsKm

>>69 ทำงานโรงงานป่ะวะ? สมัยนี้ยังมีเหรอวะที่แบบ จะใช้สิทธิ์อะไรคือบริหารเอง เอกสารรับรองไม่ต้อง ของกูนี่ลาป่วยแนวการเมืองทีถามหาใบรับรองแพทย์นะ ไม่ใช่ว่ามีสิทธิ์วันลาจะใช้ก็ใช้ตามใจชอบ ไม่งั้นเจอลาไม่รับค่าจ้างไปเลย

71 Nameless Fanboi Posted ID:r.6Wi3SsKm

ละที่กูงงคือพวกขี้เกียจทำงานนะ รุ่นแก่ๆกว่ากูทั้งนั้นเลยที่จะทำงี้นะ คือไม่แบกร่างมาทำงานแต่หาเหตุผลลาป่วยเอา ป่วยเพราะไรไม่มีเอกสารรับรอง อีพวกทำงี้คือเจอเพ่งเล็งทั้งนั้น ทุกวันนี้ไม่รู้เลยนะว่ายังมีอีกจริงๆเหรอประเภทที่ป่วย ลากิจ ลานั่นนี่ละไปขอก็ขอได้ ไม่เจอหัวหน้ามาเรียกชี้แจงบลาๆ กูละไม่เคยเจอ

72 Nameless Fanboi Posted ID:4XcMGvhmEX

>>67 ย่าไม่เคยเลี้ยงกูอะโม่ง...

73 Nameless Fanboi Posted ID:r3dv/XM.3p

พี่โม่งขอคำแนะนำหน่อยครับ เดือนหน้าต้องไปงานแต่งเพื่อนแต่ยังไม่มีชุดเลย
ตั้งใจจะซื้อ กางเกงแสลค รองเท้าคัทชู สูทตัวนอกละเอามาทับเสื้อยืดหรือเชิ้ตเอา มีงบประมาณ 5k นิดๆ
ขอคำแนะนำเลือกแบรนด์ของแต่ละชิ้นในงบประมาณนี้ด้วยฮะ เน้นสมราคา ทรงดี คัทชูอยากได้เน้นใส่สบาย ขอบคุณครับ

74 Nameless Fanboi Posted ID6:fqeLjTrIxW

>>67 ไอโอหลุดคอกมาเรื้อนที่นี่นี่เอง
มืงไม่ได้ทำงานแท้ๆ

75 Nameless Fanboi Posted ID6:IymUsLRxPk

สอบถามพี่โม่ง กูเพิ่งเรียนจบ หางานสายนี้ยากมาก บ.ที่สนใจก็เต็มหมดแล้ว บ.ที่เคยฝึกงานก็บอกว่าอยากได้คนที่มีประสบการณ์หลายปี ตอนค่ำเพิ่งเจอบ.นึงประกาศรับอยู่ 4 ที่ แต่พอเข้าไปอ่านรายละเอียดในเว็บมันระบุไว้ว่าขอประสบการณ์ 1-3 ปี ในกรณีนี้กูที่เป็นเด็กจบใหม่ สามารถหน้าหนาลองส่งเรซูเม่ไปก่อนได้ไหม ท้อแท้มาก ท้อจนอยากเปลี่ยนสายงาน แต่เสียดายค่าเทอมที่พ่ออุตส่าส่งตั้งหลายแสน

76 Nameless Fanboi Posted ID:+VjPG9PK9+

>>75 เมิงก็ไปสมัครราชการดิ มั่นคง เช้าชามเย็นชาม

77 Nameless Fanboi Posted ID:4/PRYs4qiY

>>75 จบไรมาไม่บอกละจะให้แนะนำยังไง หางานในไทยไม่ได้ถ้าได้ภาษาก็ลองหางาน ตปท. หรือถามเพื่อนในรุ่นดูบริษัทไหนรับคนเพิ่มไหม
ส่วนมีปสก.หรือไม่มีมึงส่งได้หมดละ ไม่มีใครห้ามหรอก ส่วนจะพิณาให้ไหมมันแล้วแต่บริษัทแล้วแต่ HR บางที่ถ้าเรซูเม่ไม่ตรงก็โยนลงถังขยะเลย บางทีก็เก็บเอาไว้ก่อนเผื่อหาคนสมัครไม่ได้

78 Nameless Fanboi Posted ID6:VbpfoG2qxH

>>73 ถ้าตามโจทย์ที่ว่ามา งบน้อยไป ถ้าเปลี่ยนสูทเป็นเบลเซอร์ยังพอไหว แต่ก็หืดขึ้นคออยู่ดี เพราะคัชชูใส่สบายๆ เช่น Clarks หรือ Hush Puppies ส่วนมากก็ 5-6000 แล้ว เบลเซอร์กับสแลคร้านตามห้างแนว h&m ตีกลมๆ ก็ซัก 3-4000 ยกเว้นแต่ว่าเอาแบบบ้านๆ เลยไม่มีแบรนด์ ก็ไปเลือกไปลองเอาเองเลยตามความพอใจ
>>75 nothing to lose อย่างมากเค้าก็ไม่เรียกมึง หรือเรียกไปสัมฯเพื่อไปบอกว่า ทางเราต้องการคนมีประสบการณ์ค่ะ แต่สำหรับเด็กจบใหม่ยังว่างงาน ทุกการสัมภาษณ์งานคือการฝึกฝน ไม่เสียวันลา ดังนั้นลองสมัครไปเถอะ

79 Nameless Fanboi Posted ID:pKrY+JmNo4

>>77 มึง อันนี้เอาฮาหรือเอาประชดวะหางาน ตปท. ?? ตามหาในLinkedInเหรอหรือยังไงวะ? จบใหม่ละจะได้งาน ตปท.(โลกที่หนึ่ง) นี่มึงไม่ไล่มันไปซื้อหวยเผื่อถูกสักงวดวะ? หรือมึงหมายถึงJobThaiเหรอ? แบบตำแหน่งงานตามสาขาบริษัทไทยในลาว เมียนมา กัมพูชา หนีมาเฟียจีน ฮั้วทหารพม่า ปิดบ้านกันโจรม้งงี้ 55555+

80 Nameless Fanboi Posted ID:qCxxShV5MK

จากประสบการณ์ที่กูเพิ่งได้งานเมื่อปีที่เเล้ว ส่งไปเลยพวกบริษัทที่บอกว่าต้องการประสบการณ์1ปีขึ้นก็ส่งได้ เเต่อย่าไปส่งพวกที่ต้องการประมาณ2ปี+ก็พอ เพราะพวกนี้มันคัดกรองไว้เเล้วว่าต้องการระดับseniorคนทำงานเป็นเท่านั้น ทีนี้จะได้งานหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถ สัมภาษณ์เเล้วตรงใจไหม
ปล.กูสายวิศวะยื่นไปหลายที่ก็ยังไม่ได้ ไปได้ที่ๆบอกว่าต้องการประสบการณ์1ปีขึ้น พอเขาเรียกสัมก็ไปสัมดู เราก็บอกไปยังไม่มีประสบการณ์ อื่นๆ ถ้าเขาดูเเล้วพอสอนได้มีพื้นฐานบ้างก็ได้งานเอง

81 Nameless Fanboi Posted ID6:KKRbCwO.T0

>>75 กูสมัคร บ เค้าเอาคนมีประสบการณ์+จบ ป.ตรี กูนี่ไม่เคยมีประสบสายนี้เลย เพราะจะย้ายสายงาน ยังเรียนป.ตรีไม่จบด้วย เกรดเหี้ยอีกต่างหาก แถมเรียกเงินเดือนสูงสุดใน candidate ด้วย แต่เค้าเอากูเฉย55 อย่างนึงคือกูมั่นใจใน CV ตัวเองมากในแง่อื่นๆว่ากูดี กูทำได้

82 Nameless Fanboi Posted ID:mzMpNj6UmQ

สิ้นปีนี้ไม่รู้จะได้โบนัสกี่ตังค์ แต่ว่ากันว่าค่อนข้างก้อนใหญ่ แบ่งไว้ว่าจะใช้กับของที่อยากซื้อ, เงินลงทุน , เงินฉุกเฉินไว้ใช้เผื่อตกงาน , คอร์สเรียนทักษะใหม่ๆ ปัญหาคือ กูควรจัดลำดับการใช้เงินก้อนนี้ยังไงดี

83 Nameless Fanboi Posted ID:fcazTU4jDs

>>82 ถ้าของกูเเบ่งง่ายๆหาเงินสำรองฉุกเฉินไว้ก่อน ที่เหลือใช้ตามใจชอบ ถ้ายังไม่มีเงินสำรองอันนี้คือpriorityหลัก priorityรองก็อาจจะถ้ามีหนี้อยู่ที่มันกินดอกก็รีบไปทยอยปิดซะ(เช่นหนี้บัตรเครดิตบางคนอาจจะจ่ายขั้นต่ำไว้ โดนดอกเบี้ยเเดกเรื่อยๆ) พอหนี้หมดมีเงินสำรองเเล้วที่เหลือก็เเบ่งเงินออมนิดหน่อยเเล้วก็เอาไปทำในสิ่งที่อยากทำ

84 Nameless Fanboi Posted ID6:1wEmVHA0Ne

>>83 โอเค มีวางแผนไว้ แต่ไม่รู้ตรงกับบรรดาโม่งๆที่ทำงานมานานกว่าไหม เพิ่งเคยทำงานครบปีแบบไม่ถูกนายจ้างหาเรื่องเอาเปรียบหว่ะ เลยไม่รู้ว่าเงินแบบนี้ควรจะอะไรยังไง ขอบคุณมากสำหรับคำชี้แนะนะ

85 Nameless Fanboi Posted ID:4IU4HnHm9d

อีเชี่ย น่าตกใจสัส รองผจก.แผนกกูเค้าได้อัพไปเป็น ผจก. หน่วยใหม่หว่ะ ทีนี้พวกเจ้าที่แม่งพยายามตั้งตัวรอเลียเลยอ่ะมึง แล้วมีคำสั่งเอาหัวหน้าจากอีกหน่วยมาประจำตำแหน่งที่ รองผจก.อัพเกรดไปแล้วทันที เชี่ย ปัญหาคือเรื่องภาวะผู้นำกับเรื่องการเมืองด้วย คนวิ่งเต้นเข้าหาเยอะสัส กูผู้ซึ่งไม่ได้หมกมุ่นกับอะไรแบบนี้แต่แรกอยู่ยากชิบหาย เจ้าที่งานการไม่คิดทำ ทำตัวเหมือนเป็นหัวหน้า จ้องสูบแรงกูท่าเดียว งานก็เก็บไม่เรียบร้อย พอกูทำงานเสร็จไม่ทันก็ชวนคนของมันมาว่ากู คิดละละเหี่ยใจหว่ะ แต่ใจชื้นขึ้นหน่อยที่หัวหน้าที่มีอยู่ตอนนี้คือไม่อัพเกรดในหน่วยเดียวกัน 55555+

86 Nameless Fanboi Posted ID:JlDUw6x.6j

ตอนนี้กูทำงานที่บริษัทใหม่ได้ 3 เดือนละ ทีนี้ในแผนกมีพี่คนนึงอายุห่างจากกู 7-8 ปีได้มั้ง กูก็ปิ๊ง และชอบหยอดๆ เขา (คือกูเป็นคนขี้อายโคตรๆ พูดน้อย แต่กูพิมพ์แชทเก่งมาก นักเลงคีย์บอร์ดสุดๆ) แบบเวลาออกข้างนอกออฟฟิศ กูก็จะหยอดๆในไลน์ว่า คิดถึง เขาก็จะตอบกลับมาว่าคิดถึงก็กลับมาออฟฟิศสิประมาณนี้ ส่งสติ๊กเกอร์แบบหยอดกันไปมา แล้วทีนี้กูมารู้ว่าเขามีแฟนแล้วเป็นชาวต่างชาติคบกันมา 4-5 ปีละ กูก็เลยเฟดๆ ตัวออกมากลัวถลำลึก 555 แล้วยังไงไม่รู้เขาก็ยังไม่เลิกส่งไลน์มาหา ยังหาเรื่องชวนคุยโน้นนี่นั่น เอาดวงความรักมาแปะให้อ่าน คือกูพยายามตอบกลับให้สั้นๆ แล้วรีบตัดจบ และคุยแต่เรื่องงานเท่านั้น แต่คือกูอยู่แผนกเดียวกันต้องทำงานด้วยกันตลอดเวลา กินข้าวกลางวันด้วยกัน อยากรู้ว่าทำไงดีอ่ะ อยากให้มันจบๆ แบบไม่รู้สึกแย่ทั้งสองฝ่าย กูไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นชู้ 5555
ปล. กูไร้เดียงสามาก ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยคุยกับใครเชิงชู้สาวมาก่อนน่ะ เลยไม่รู้ต้องทำไง - -'

87 Nameless Fanboi Posted ID6:mFjco1cASC

>>86 friendzoneซะ หุหุ

88 Nameless Fanboi Posted ID:Q7WhXdzXkq

มีใครไม่กินชาหรือเเฟตอนเช้ามั่ง อยากรู้ว่าทำไงให้หายง่วง ว่าจะเลิกกินให้ได้ละกูไม่กินกาเเฟนะเเต่กินชาเขียวจนรู้สึกว่าตอนนี้กูติดคาเฟอีนเเทนละ ชาเขียวไม่ได้กินเเบบน้ำตาลนะ กินพวกฟูจิชะฝาขาวหรืออิโตเอ็นชงเอง กินเช้ากลางวันเย็น พอไม่กินเเล้วเพลีย ตอนนี้กำลังพยายามลดๆกับทนง่วงเอา

89 Nameless Fanboi Posted ID:PSx2ZJUpRS

>>88 กินเหมือนกูแป๊ะเลย แต่กูกินสลับกับอเมริกาโน่ร้านต่างๆแรมด้อมไป
ไม่มีอะไรหายนอกจากนอนมาเพียงพอเท่านั้น

90 Nameless Fanboi Posted ID6:jm+gEb+2Yx

>>88 กูเลิกได้แล้ว ตอนนี้ไม่ดื่มเชี่ยไรทั้งสิ้น น้ำหวานก็ไม่กิน ถ้าง่วงก็ให้นอนมากขึ้น ออกกำลังกายก่อนนอนก็ดี สัก 3-4 ทุ่ม กูก็นอนแล้วเดี๋ยวนี้ เมื่อก่อน 5 ทุ่ม-เที่ยงคืน

91 Nameless Fanboi Posted ID:bKB5rB2Gzc

ตามนั้นกาแฟ ไม่ดี ชาเขียวไม่ดี ออกกำลังกายขับของเสีย และดื่มน้ำเปล่าดีสุด

92 Nameless Fanboi Posted ID6:MYLOc0YWNI

ถามควายๆเลยนะ ทำไมพวกที่มาออฟฟิต ชอบมาเสือกแนะนำให้คน WFH มาออฟฟิตวะ

ที่ทำงานกุมันให้เข้าออฟฟิตเดือนละ 5-8 วัน แต่มีคนในแผนกกุคนนึงอายุมากละ แม่งเข้าทุกวันและชอบมาเสือกกับคนที่ WFH ประมาณว่า

ทำงานที่บ้านทำได้เหรอ ไม่ก็พูดประชดว่าดีจังนะไม่ต้องเห็นหน้ากันเลยจะคุยก็ผ่านแต่ MS

คือกุ WFH แม่งสบายไง ตื่น 11 โมง ทำงานเสร็จจบ ไปหาไรทำได้ละ ประหยัดเงินค่าเดินทางด้วย ทุกครั้งที่เข้าบริษัทต้องเจอหน้าแม่งเห็นละหงุดหงิด วันนี้จะเข้าเดียวก็เจอแม่งพูดมากอีก

93 Nameless Fanboi Posted ID:eNntKO6hGQ

>>92 ก็เมิงเอาเปรียบเขาไง ปกติมันก็ต้องผลัดกัน เข้าออฟฟิต
เมิงเสียสละไรเพื่อองค์กรบ้างหล่ะ?

94 Nameless Fanboi Posted ID:X9aFMBxkVz

ตอนนี้เรียนราม แล้ววิชาปี 3-4ต้องเรียนวิชาบังคับเข้าห้องเรียนละ ทุกวันนี้เช่าบ้านเพื่อทำงานได้สะดวก กูควรลาออกจากงานประจำ กลับไปที่บ้านแล้วใช้เวลานี้สักปีเพื่อเก็บวิชาปีท้ายๆพวกนี้เต็มตัวเพื่อเรียนให้จบดีไหมวะ? เสียดายงานนี้พอตัวเพราะหัวหน้าโอเค สวัสดิการไม่แย่มาก ส่วนโบนัสคือได้2-3เดือนย้อนไปนะ แถมมีโอกาสปรับฐานเงินเดือนด้วย แล้วกำไรบริษัทเพิ่งกลับมาได้คงที่สัก4เดือนละ แค่แผนกกูเป้าไม่แตกจังๆบ่อยๆเฉยๆ กูเพิ่งลงเรียนเมื่อเทอมสองปีที่แล้ว ทีนี้โฟกัสเรื่องเรียนได้บ้าง ไปสอบได้หลายวิชา เวลาขอหยุดสอบไม่กระทบงานก็ให้ได้ปกติ แต่ที่กูคาใจคือ เรียนต่อไปถึงวิชาปี3-4 ละค่อยลาออกมาเพื่อเรียนต่อที่บ้านสักปี หางานพาร์ทไทม์ก๊อกๆแก๊กๆทำเอา มันจะโอเคไหมวะ? เสียมากขึ้นคือค่าเดินทางไปมหาลัยต่อวีคเยอะหน่อย หรือกัดฟันเรียนควบทำงานลากยันจบเลยดี? เป็นพวกมึงจะทำยังไงกันวะ?

95 Nameless Fanboi Posted ID6:h5+nwIGVLX

ขอ how to ใส่ยูนิฟอร์มบริษัท (เสื้อโปโล) อย่างไร ให้ไปเดินห้างแล้วไม่โดนทักว่าเป็นพนักงานของร้านนั้นๆ วะ 5555 วันนี้หลังเลิกงานไปเดินเล่นที่ห้าง โดนทักแม่งเกือบจะทุกร้านที่เข้าไปเดิน เรียก "น้องคะๆ" แล้วถามหาของตลอด 555

96 Nameless Fanboi Posted ID:KyzjLBunvs

>>95 เมิงใส่กางเกง ขาสั้นดิ

97 Nameless Fanboi Posted ID6:QJ.b5OHDzw

>>95 กูนะ.... หาเสื้อคลุมใส่ เอาป้ายชื่อร้านใส่กระเป๋าเสื้อ แค่นี้เนียนขึ้นมา60%-70% หรือหาเสื้อมีซิปใส่ปิดเลย เนียนอยู่80%

98 Nameless Fanboi Posted ID6:QJ.b5OHDzw

>>97 เอ้ย ป้ายชื่อ พนง.มึงอ่ะใส่กระเป๋าเสื้อ*

99 Nameless Fanboi Posted ID6:h5+nwIGVLX

>>96 >>97 >>98 ขอบคุณมาก คงต้องเสื้อคลุมรูดซิปปิดถึงคอไม่ให้เห็นข้างในแล้วแหละ (เพราะเคยใส่เสื้อคลุมแบบคาดิแกน เห็นเสื้อโปโลข้างใน ก็ไม่รอดอยู่ดี เพราะพนักงานร้านเค้าก็ใส่เสื้อคลุมกัน เพราะแอร์ห้างมันเย็น 555) เบ้าหน้าไม่รอดก็ลำบากงี้ คนอื่นเค้าก็ใส่ยูนิฟอร์มโปโลกันเต็มบ้านเต็มเมืองไม่เห็นโดนทักว่าเป็นพนักงานร้านทุกร้านที่ไปแบบกูเลย ถถถ

100 Nameless Fanboi Posted ID:RCBt7XSrhP

เป็นพวกมึงถ้ารายได้ขนาดนี้ การงานขนาดนี้ จะหวังลุยซื้อบ้านเลยไหมวะ สมมติเป็นผญ.ที่จบทุนจากรัฐบาลเมืองนอกมาระดับ ป.โท แล้วหางานในประเทศที่จบมาไม่ได้เลยกลับไทยมา ทีนี้ได้เงินเดือน45k แต่เช่าบ้านเดือนละ 15k เพราะไม่มีญาติครอบครองที่ดินใน กทม. เลย เป็นคน ตจว. .....เป็นพวกมึงนี่ถ้ารายได้ขนาดนี้พวกมึงจะหวังหาบ้าน/ที่ดินสักผืนใน กทม. เพื่อลงหลักปักฐานไหมวะ? หรือนี่แม่งปกติ? สำหรับกูนี่กูว่าไม่อ่ะ เห็นพวกรุ่นน้องกูบางคนขึ้นตำแหน่งหัวหน้านี่มันเล่นเอาอายุงาน1ปีกับรายได้+โอที 20Kต้นๆล่อไปกู้คอนโดย่านรังสิตละ หรือมันไม่รู้จริงๆวะว่ามันลดภาระการเงินของมันได้

101 Nameless Fanboi Posted ID:/kw1Dgbf+n

เป็นกูก็ยังไม่ซื้อนะ ถ้าอายุงานยังไม่เยอะ หรือดูเเล้วจะอยู่ได้อีกนาน ซื้อบ้าน/คอนโดมันเป็นความเสี่ยง
เเต่ไอ้เช่าบ้านเดือนละ15kอันนี้กูก็ไม่เช่า ขอไปเช่าห้องคอนโดหรือห้องพักถูกๆดีกว่าเเล้วเก็บเงินเยอะๆเข้าไว้ก่อน

102 Nameless Fanboi Posted ID:E64yVwI0X3

>>100 มึงอยู่แถวไหนวะน่ะ ค่าเช่าเอาเรื่องเลย
ส่วนเงินเดือน45k ถ้าไม่มีภาระอื่นกูว่าเริ่มเป็นจุดโอเคที่จะเริ่มซื้อคอนโดนะ แต่ที่สำคัญมึงต้องคำนึงด้วยว่ามันจะเป็นภาระผูกพันธ์มึงไปอีกยาวๆหลายปี

103 Nameless Fanboi Posted ID:WSx52tVEwl

45k ได้พอๆกัน โทukแต่เป็นทุนที่บ้านส่ง ว่าจะหางานแต่คิดไปคิดมากลับไทยดีกว่าเพราะรถมีบ้านก็ไม่ต้องเช่า ติดแค่คุณภาพชีวิต แต่การใช้ชีวิตเมืองนอก พอกลับมาอยู่ไทยนี่ ความสบายกับหลายๆอย่างหน้ามือเป็นหลังมือเลย ซึ่งมีที่ดีและเสีย แต่ก็แลกๆกัน
ส่วนตัวถ้าเกิดอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ถ้าเช่าบ้านเดือนละ15k คิดว่าไปผ่อนคอนโดตามข้างบนแนะนำดีกว่า แต่ถ้าเกิดคิดว่าเปลี่ยนงานบ่อย ไม่อยู่ที่เดิมนานๆ ก็เช่าดีกว่า แต่ราคาระดับนี้ดูแล้วน่าจะเตรียมสร้างครอบครัวรึเปล่า เพราะปกติค่าเช่าไม่น่าเกิน25-30%ของรายได้ แล้วอาจจะเอาไปผ่อนรถแทนถ้ายังไม่มี แต่อย่าผ่อนพร้อมกัน แล้วพอเงินอัพไปเรื่อยถึงจุดนึงอาจจะเกือบแสน ตอนนั้นน่าจะมีเงินเก็บระดับนึงก็เลือกอีกทีว่าจะเป็นคอนโด หรือบ้าน(ทาวเฮ้าส์) ก็น่าจะผ่อนหมดก่อนเกษียนพอดี ซึ่งพอถึงเวลาเกษียนก็เลือกว่าจะอยู่นี่ หรือบางคนที่ขายบ้านกทม. แล้วกลับไปใช้ชีวิตบ้านเกิดเลย แต่ก็ต้องดูหลายๆอย่าง ไม่มีลูกรึเปล่า หรือลูกโตทำงานออกไปใช้ชีวิตแล้ว แล้วก็อีกสิ่งหนึง ประกันชีวิตไว้ลดหย่อน ซึ่งมันระยะยาว และผ่อนเยอะไม่แพ้พวกคอนโด และรถเลย

104 Nameless Fanboi Posted ID:mWKNHRbMLp

กูใส่โปโลไม่เคยโดนทักอะไรแบบนี้เลยวะ โปโลกูใส่พวกยูนิโคล่ ก็มีให้เห็นคนทำงานใส่เต็มไปหมด หรือเพราะสะพายกระเป๋าตลอด แต่วันหยุดก็ใส่บ้างแต่ยังไม่เจอหรือเพราะไม่ค่อยเดินเล่นบ่อย แต่ว่ากลมกลืนกับพนง.ก็ดีนะ เพราะตอนเลือกไม่ชอบให้พนง.แม่งมากดดัน กุอยากเลือกไม่ต้องมาแนะนำหรือขายโว้ย ถ้าชอบก็ซื้อเอง

105 Nameless Fanboi Posted ID:RCBt7XSrhP

>>102 ไม่ใช่ชีวิตกู ชีวิตกูแค่ป.ตรียังไม่จบเลยสัส กูเห็นมันบ่นในโซเชียล ละมาโวยว่าภาระมันเยอะกว่าคนกรุงเทพชั้นในที่มีบ้านอยู่แล้ว นี่กูงงมาก ปัญหามันคือลดค่าบ้านได้ มันทำไมไม่ลด
>>103 มึงอายุมันไล่ๆกับลิซ่า ลลิษา เลย โสดด้วยซ้ำ ละมันเพิ่งกลับมาไทย มันมาระบายในแอคมันละกูก็กลับมาย้อนคิดทีนึงก็ช๊อคว่ามันบ้าหรืออะไรวะ เช่าราคานี้มันราคาผ่อนคอนโด/บ้านตาม กทม. เนี่ย ก็เรทคัดคนอีกระดับเลยนะ ไม่รู้มันเรียนแต่ทักษะที่มันชอบจนไม่หันมาดูเรื่องเงิน การบริหารเงินเลยนี่แม่งก็น่าคิดหว่ะ

106 Nameless Fanboi Posted ID:JWB0CmMJt4

>>105 แล้วมึงไปเสือกอะไรกับเงินเขาวะ

107 Nameless Fanboi Posted ID6:rsKDKvF8Go

>>92 มึงงานชิวนินาถึงพูดได้ ของกูอยากให้มา office ใจจะขาด มึงลองมาเจอ WFH แบบไม่เกรงใจ WFH สั่งงานตอนไหนก็ได้แบบกูสิ เดี๋ยวได้อยากไปทำ office ทุกวันแน่

WFH บ.กูเช็คชื่อ 8 โมงเช้า เช็คชื่อเสร็จปุ๊ป call คุยกันต่อล่ะ บางวันก็ลากไปเที่ยง พอเที่ยงก็มีคุยงานบ้างประชุมบ้างต่อ (WFH มึงต้องทำงานได้ทั้งวัน) บางวันข้าวกลางวันไม่ได้แดกหรอก แถมต้องใส่หูฟังทั้งวัน เพราะแม่ง call คุยงานแบบมักง่าย คนสั่งงานขี้เกียจพิมพ์ call แทนดีกว่าทั้งวันด้วย

กว่าจะได้ทำงานหลัก ก็บ่าย 3 บางวันก็ยิงยาว เลิกกัน 4-5 ทุ่ม ก็ WFH ไง จะสั่งงานตอนไหนก็ได้

108 Nameless Fanboi Posted ID6:ebpflwAqCl

>>107 งานกูไม่ชิลล์นะ แต่สังคมที่บริษัทดี ผู้คนมีมารยาท เจ้านายดี วัฒนธรรมองค์กรดี มีความเกรงอกเกรงใจกัน เพราะรู้ว่าทุกคนต่างก็งานยุ่งอยู่แล้ว ไม่ว่าจะทำงาน office หรือ wfh ก็ไม่ค่อยมีปํญหากวนใจแนวนั้น มีนาย expat บางคนตอนมาใหม่ๆ ก็เป็นแบบนั้น แบบคิดถึงแต่ตัวเอง ไม่ค่อยคิดถึงคนอื่น แต่พอคนอื่นเขาไม่ทำกัน คนส่วนน้อยก็ปรับตัวตามไปเอง วัฒนธรรมองค์กรจึงสำคัญมาก

109 Nameless Fanboi Posted ID:JWB0CmMJt4

>>107 เมื่อก่อนแรกๆกูก็เจอแบบนั้นนะ หลังๆทนไม่ไหว ถ้าเจอคุยน้ำท่วมทุ่งกูออกคอลเลย แล้วพิมไป "ผมขอออกคอลก่อนนะครับ ต้องการโฟกัสกับงาน ถ้ามีประเด็นอะไรสำคัญสามารถแท็กมาได้ครับ" แต่ดีหน่อยที่งานกูมีผลงานจริงเลยไม่ค่อยโดนอะไรเท่าไหร่ หลังจากนั้นคนอื่นๆก็ทำตามกัน จนหลังๆไม่ค่อยจะมีคอลแบบไร้สาระแล้ว
ปล. นอกเวลางานกูตั้งปิด noti ms team

110 Nameless Fanboi Posted ID6:3wbtLa49hL

>>106 เรื่องของเรื่องไม่ใช่ว่าจะแส่หรอก สงสัยเฉยๆว่าสภาพเงินแบบนั้นเป็นตัวโม่งที่อื่นเองจะต้องใช้เงินเช่าที่อยู่ขนาดนี้เป็นเรื่องปกติเหรอในเมื่อที่พักตามตัวเมืองแพงละอยู่ดีกินดีมันอยู่ช่วงหมื่นอัพเอง

111 Nameless Fanboi Posted ID:tME/gFEuKy

>>109 บางคนโดนให้ไม่ผ่านโปรเพราะแบบนี้นะ ไม่เกี่ยวกับผลงาน แต่เป็นเรื่องไม่มีปฏิสัมพันธ์กับทีม

112 Nameless Fanboi Posted ID6:SjrMp1.0Kg

>>109 มึงตรงดีว่ะ ส่วนมากกู (และคนอื่นๆในทีมด้วย) เจอแบบนี้จะใช้วิธีบอกขอออกไปอีกประชุม หรือมีคนคอลหาขอออกไปคุยก่อน
ช่วงไหนรู้ตัวว่างานจะยุ่ง ต้องใช้สมาธิ ก็นัดประชุมคนเดียวให้ MS Team มันขึ้นตัวแดงไปเลย

113 Nameless Fanboi Posted ID6:ebpflwAqCl

>>109 5555 กูก็เคยทำ อย่างที่บอกว่าบ.กูส่วนมากดี แต่มันก็มีบ้างแหละ 1% เอะอะชอบเรียกประชุม เรื่องหมูหมากาไก่แต่นัดประชุมใหญ่โต (ชีชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ถถถ) กูกด reject สวยๆ เลยจ้า reply all ไปเลยว่างานยุ่งมาก ไม่ว่างประชุมค่ะ ไม่ต้องเลื่อนเวลาให้ด้วยเพราะจะตอนไหนก็ไม่ว่าง (aka ไม่ว่างสำหรับมึงจ้า เวลากูมีค่าเอาไว้ทำอย่างอื่น) แต่จะทำแบบนี้ได้ต้องมั่นหน้าว่าเป็นเดอะแบก ทำงานดี เป็นคนสำคัญ ไม่มีใครกล้าแหยม >>111 ถ้าไปทำแบบนี้ในช่วงเพิ่งเข้างานใหม่ ยังไม่ผ่านโปร ยังไม่ได้แบกงานสำคัญ ก็โง่เกิ๊น สมควรไม่ผ่านโปร

114 Nameless Fanboi Posted ID6:rsKDKvF8Go

>>113 แสดงว่ามึงยังไม่เคยเจอไม้ตาย ลากไปประชุมกับลูกค้าสินะ

115 Nameless Fanboi Posted ID:FrDT.6LJwr

>>111 +1

116 Nameless Fanboi Posted ID:SWM.P1kc52

มีใครเป็นอินโทรเวิร์ตแล้วต้องทำงานที่คุยกับคนเยอะๆไหม พอดีตำแหน่งที่กุทำอยู่มันต่อยอดยาก ถ้าอยากก้าวหน้าต้องไปทำพวกเซลล์หรือมาเก็ตติ้ง แต่กุกลัวงานที่ต้องพูดเยอะๆว่ะ

117 Nameless Fanboi Posted ID:uNZnIt/J78

ใกล้จะประเมินตัวต่อตัวแล้ว วู่ว
เตรียมตัวทริกเกอร์เรื่องความก้าวหน้าและเงินเดือนได้เลยกู

118 Nameless Fanboi Posted ID:i2yuXUscPF

>>116 มะนก็ต้องคุยทุกตําแหน่งทุกที่แหละ ถ้ามึงไม่ใช่พวกช่างซ่อม ช่างก่อสร้าง แบล็คเสต็จ บลาๆ
มึงต้องเลิกวามคิดที่ว่าไม่อยากไม่กล้าคุยกับคนไปถ้าอยากจะทํางานได้ตำแหน่งดีๆอ่ะนะ
จาก กูเองที่ก็เป็นอินโทรเวิร์ด คือก็ต้องทนๆทํา มันเลี่ยงไม่ได้การติดต่อประสานงาน การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ การหาคอนเน็คชั่นด้วยไรด้วย ค่อยๆสร้างๆไป แล้วบอกเลยมันจะกลับมาช่วยมึงที่เป็นอินโทรเวิร์ด
คทอพอคอนเน็คชั้นเยอะขึ้น มึงจะพูดน้อยลงทํางานสะดวกขึ้นนะเว้ย ลองกลับเอาไปคิดดูเองละกันขกอธิบาย

119 Nameless Fanboi Posted ID6:SBU+2C3hbj

พบว่าหัวหน้าผู้ชายที่รับกูเข้าทำงาน เค้ารับกูมาเพราะเค้าชอบกู กูทำไรเค้าก็ชมหมด แต่ความจริงคือกูทำงานเหี้ยมาก โง่มาก ละที่สำคัญคือไม่ได้อยากคบกับหัวหน้าคนนี้ แต่กูไม่อยากออกเพราะเงินเดือนดี ทำไงดีวะ เดี๋ยวแม่งจะประเมินโปรละ

120 Nameless Fanboi Posted ID6:opWzLBL2I0

>>117 ประเมินประจำปีอ่อเพื่อนโม่ง

เอาจริงคือประเมินรายปีนี่มันก็เข้าใจได้ แค่ว่าเราต้องยอมรับว่าช่วงเดือนนั้นแม่งทำอะไรๆ จะรู้สึกโดนทริกเกอร์ตลอด ว่ากูทำไรพลาดไปป่ะวะ แล้วจะมีคนมองยังไง ทุกวันนี้คือใช้วิธีทำงานเท่าที่เราทำได้ ส่วนคนหาเรื่องคือปล่อยเบลอ เพราะทุกวันนี้ก็ไม่ได้รู้สึกว่าคนจะมองอะไรเท่าไหร่ แค่ผ่านๆ ไปละสำหรับกู

121 Nameless Fanboi Posted ID:PA3FQih4kM

>>119 ระวัง! เขาตําแหน่งสูงกว่าแม่งอาจจะแกล้งมึงก็ได้ถ้าเขาแม่งผิดหวัง ดูจาดนิสัยแล้วน่าจะเป็นคนที่ไท่น่าไว้ใจได้ รับคนทํางานเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวอันนี้ไม่ได้เรื่อง
ระวัง2 คือตอนนี้รอบข้างมึงเป็นยังไงบ้าง มึงรีบพัฒนาตัวเองทํางานให้ดีขึ้น หาคอนเน็คชั่นใหม่เพืาอนร่วมงานใหม่ที่คอยซับพอร์ตมึงได้ แต่ถ้างานนี่สําหรับมึงมันไม่ไหวจริงๆก็พยายามหางานใหม่ไป อย่าฝืนเลย ชีวิตข้างหน้าอาจจะลําบากนะเว้ย ติดธงแดงไว้

122 Nameless Fanboi Posted ID6:l2HgsUR3ky

>>120 ประเมินโปร 3 เดือนอ่ะ พึ่งเข้ามาทำงานเลย
>>121 งานกูคือต้องทำกับห้วหน้าเค้าตลอดเลยว่ะ ตัวติดกัน นั่งด้วยกันทุกวินาที ส่วนงานกูรู้ว่าไม่เก่ง แต่กูค่อนนข้างชอบงานนี่เลยว่ะ โอกาสก้าวหน้าสูง ถึงจะได้ตำแหน่งมาไม่รู้ว่าด้วยความสามารถตัวเองจริงๆมั้ยแต่ก็อยากทำให้ดีขึ้นว่ะ

123 Nameless Fanboi Posted ID6:RqgDV1u95G

แย่นะหัวหน้าแบบนี้

124 Nameless Fanboi Posted ID6:ximf0Bpa6s

วันนี้กูคิดทั้งวันเลยว่าวันนี้คือวันศุกร์ ตั้งแต่เช้าจนค่ำ 555 เมื่อกี้ว่าจะเปิดดูรายการนึงในยูทูป เอ๊ะ ทำไมยังไม่อัป ถึงเพิ่งรู้ตัวว่า อ้าว วันนี้วันพฤหัสนี่หว่า 55555

125 Nameless Fanboi Posted ID:NKsQ/VTWpH

>>124 เหมือนกัน 555
นั่งรอนิยายที่อัพ 2 ทุ่มวันศุกร์อยู่ตั้งนาน

126 Nameless Fanboi Posted ID6:ximf0Bpa6s

>>124 เจอเพื่อแล้ว 55555 ถึงจะหยุดแค่ 3 วันแต่ก็ดีใจนะ เพราะเดือนที่ผ่านมาไม่มีวันหยุดเล้ย

127 Nameless Fanboi Posted ID6:Obwd2BWnxX

เพิ่งตื่น ตื่นมาวันหยุดก็ผ่านไปเกินครึ่งวันแล้ว 55555

128 Nameless Fanboi Posted ID:5pXgBKNUFj

ky เพื่อนโม่งกูขอปรึกษาเรื่องการวางตัวในที่ทำงานหน่อย กูรู้สึกว่าต้องปรับตัวเยอะมากและอยากผ่านโปร TT

สตอรี่แบบกูเป็นเด็กจบใหม่เพิ่งเข้าทำงานวันแรกไม่กี่วัน กูเป็นคนที่คนตำแหน่งระดับผู้บริหารชมว่าทำงานดี ไม่เคยโดนเรียกไปด่าไปไร้อารยะ (เต็มที่ประมาณแบบเพิ่มเรื่องนี้ นี้ ในสไลด์หน่อย) ผู้บริหารค่อนข้างแบบว่าอยากให้เข้าหาเขาเยอะ ๆ อ๊ะ กูก็ทำตามที่เขาบอก

แต่กลับกลายเป็นว่ากูกลายเป็นที่เหม็นหน้าของคนในแผนกเพราะกูจับสังเกตได้ว่าคนในแผนกชอบกระแหนะกระแหนกูเรื่องกูดูเข้ากับคนตำแหน่งใหญ่ ๆ ดีเนอะ ทั้งนี้เรื่องอัพเดทงานกูก็มีอัพเดทในแผนกแทบจะทุกวันอยู่แล้ว

ล่าสุดกูคุยขอเขาศึกษาเรื่องที่เขาถนัดเป็นการส่วนตัวแต่อยู่ในบริษัทและเขาตกลงยินดีสอนเป็นการส่วนตัวให้ (ซึ่งตรงนี้กูมองว่าไม่ใช่เรื่องของแผนกเลย เป็นการศึกษาเรื่องที่กูสนใจเฉย ๆ แต่น่าจะมีคนเอาไปฟ้อง) แม่งเอากูไปแขวนกลางแผนกแล้วบอกให้กูรายงานสิ่งที่กูไปคุยกับเขา เหมือนเชือดไก่ให้ลิงดู เขาบอกว่ากูไม่ให้เกียรติเขาและคนในทีม อันนี้กูพอเข้าใจได้ว่ากูไม่ได้คุยกับคนในทีมก่อนแต่แค่กูไปขอคำปรึกษาเขาเรื่องอื่นกูจำเป็นต้องรายงานคนในทีมขนาดนั้นเลยหรอวะ?? เพื่อนโม่งชี้แจงหน่อยว่ากูควรจะปรับตัวยังไง

ปล. ตอนเกิดเรื่องกูก็รีบไปขอโทษผู้บริหาร เขาก็บอกว่ากูก็ไม่ได้ล้ำเส้นอะไรนะ งง

129 Nameless Fanboi Posted ID6:uQdOeRIVbv

คนที่พอได้พักยาวๆ แล้วเหมือนได้ชาร์จแบต กลับไปมีแรงทำงานเต็มที่นี่ดีจังเลยนะ

ของกูยิ่งได้พักยิ่งติดใจกับการพัก ยิ่งไม่อยากกลับไปทำงานตลอดไป อยากลาออกแม่ง 555 (แต่ออกแล้วจะเอาอะไรแดก 555 ยิ่งเป็นคนใช้เงินเปลืองอยู่ด้วย 555) ทั้งที่ก็เป็นงานที่อยู่ในฟิล์ดที่ตัวเองชอบ (พัฒนามาจากงานอดิเรก) และก็เป็นงานที่ตัวเองเลือกเอง กูรู้สึกอิ่มเอมทุกครั้งที่ได้ใช้ชีวิตแบบเหลวแหลก เกเร โต้รุ่ง ตื่นบาย หัวฟู หน้าตาดูไม่ได้ ตื่นมาแดกมาม่าคัพ แดกเสร็จลงไปนอนต่อ เพราะในชีวิตจริงต้องตื่นแต่เช้า แต่งตัวเนี้ยบเสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะไปทำงาน กินอาหารมีประโยชน์เพื่อให้ร่างกายและสมองมีแรงทำงาน กลางวันง่วงก็นอนไม่ได้ต้องอัดกาแฟเข้าไปเพื่อแก้ง่วง

130 Nameless Fanboi Posted ID:qB10+XQeDp

>>128 ลาออก
ปล. จริงจัง

131 Nameless Fanboi Posted ID:LJXROJcNwZ

>>128 เมิงพูดไม่หมด ผู้บริหารผู้ชาย เมิงผู้หญิง อยากให้เข้าหาเยอะๆนี้คือไร ในใจคงรู้ดีว่าไม่ว่าจะเลือกทางไหน จะเยหรือไม่เย เมิงก็ต้องโดนบีบออกอยู่แล้วสักทาง

132 Nameless Fanboi Posted ID:5pXgBKNUFj

>>131 กู 128 ที่บอกูมีคนบริหารหลายคนทั้งชายและหญิง ตำแหน่งงานกูต้องประสานกับทุกฝ่าย

คนที่แนะนำให้กูเข้าหาผู้บริหารเยอะ ๆ เป็นหญิง กูขอแทนว่า A

ส่วนคนที่กูไปปรึกษาในวันที่เกิดเรื่องเป็นชาย ขอแทนว่า B

ซึ่ง B เป็นคนที่นาน ๆ ทีไปคุย ไม่บ่อยเท่าคนอื่น และจากเซ้นส์กูเป็นคนอาวุโสไม่น่ามีเรื่องเยมาเกี่ยวนะ

และทั้งคู่แต่งงานมีลูกมีเมียแล้ว (แต่ไม่ได้เป็นผัวเมียกันนะ)

>>130 มีอย่างอื่นนอกจากลาออกไหมวะ อายุงานกูยังไม่ถึงสามเดือน กลัวมีผลตอนสัมภาษณ์งานอ่ะ TT

133 Nameless Fanboi Posted ID6:B67bWbZPod

>>132 ทำไมต้องลาออก แต่เรื่องนั้นผ่านไปแล้วทำไรไม่ได้ แค่เตรียมหาทางซัดมันกลับแขวนมันคืนเอาไว้ การเมืองบริษัทต้องเล่นให้เป็น เรื่องข้ามหัวถ้าระดับบนไม่ว่าอะไรข้ามได้สบาย ตีซี้กับผู้บริหารไว้ให้เขาแบคมึงเวลามันพลาดเมื่อไรก็หยุมหัวมันคืน

134 Nameless Fanboi Posted ID:7Ci3KRMe+6

>>132 คนในแผนกเหม็นหน้าอะไม่เท่าไร แต่ถ้าหัวหน้า(คนที่มีอำนาจในการเสนอเพิ่มเงินเดือนและอัพตำแหน่งให้มึง)เอนเอียงไปฝั่งนั้นด้วย ทางเลือกมึงจะเหลือแค่หางานใหม่กับย้ายทีม/แผนก มันแปลว่าแผนกนั้นเน่าการเมืองจนทำอะไรไม่ได้แล้ว และมึงไม่ได้มีหน้าที่อะไรที่จะไปพยายามเปลี่ยนมัน การเมืองในบ.มันเรื่องไร้สาระ ถ้าเจอก็แค่เปลี่ยนสภาพแวดล้อมไปเรื่อยๆจนไม่เจอก็พอ ซึ่งกู recommended ย้ายทีม/แผนกน่ะนะ ง่ายกว่าหางานใหม่ ถ้าย้ายไม่ได้ก็หางานไปพลางๆและตีมึนไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปเครียดกับไอ้อีพวกนั้น
in worst case ไม่ผ่านโปร ตอนสัมที่ใหม่มึงก็บอกเหตุผลนี้ได้เลย ถ้าไม่รับเพราะเหตุผลนี้แปลว่าที่นั่นไม่แนวโน้มจะการเมืองเหมือนกัน ไม่ต้องไปเจอก็ดีแล้ว

135 Nameless Fanboi Posted ID:7Ci3KRMe+6

>>134 *แปลว่าที่นั่นมีแนวโน้มจะการเมืองเหมือนกัน

136 Nameless Fanboi Posted ID:t4I9W2M1TC

>>134 เห้ยมึง อันนี้สงสัยนะ สัมที่ใหม่เรื่องแบบนี้พูดได้เหรอวะ? เล่นว่าเล่าไปว่าจบมาใหม่ๆ เคยผ่านแค่ฝึกงานมาจะไม่ดีกว่าเหรอ? คือแม่งการที่เราไปเล่าๆว่ามันเป็นที่หัวหน้านี่มองอีกมุมในสายตาคนคัดเรามันบอกได้อีกว่าเราความอดทนต่ำเกินไปไรงี้ ส่วนอีกอันนึงที่กูมองคล้ายมึงเลยจริงๆอ่ะคือให้ >>128 ย้ายแผนก/ทีมดูอาจจะไม่เหนื่อยคนแบบที่เจออยู่ บางทีคนมัน ปสด นี่น่าเหนื่อยหน่ายกว่าหน้างานมากเหมือนกัน ถ้าไปเจอที่ใหม่ๆ work cultureที่อาจจะเข้ากับเรากว่ามันสบายใจกว่ากันเยอะนะ โดยเฉพาะเปลี่ยนหัวหน้าที่ต้องวัดผลเราได้นี่ดีสุดละ ปัญหาคือต้องกลบข้อด้อยตัวเองให้มากๆหว่ะ มีน้ำใจเพื่อนร่วมงานที่ใหม่ให้เยอะๆไปเลย เอาให้แผนกเดิมมาใส่ไฟคนในนั้นจะได้ไม่เชื่อ เผลอๆคนรู้กันทั่วว่าแผนกนั้น ปสด. ทุนเดิม คนมาทำกี่คนๆก็ออก

137 Nameless Fanboi Posted ID6:9Wa49apZIB

ได้รับตำแหน่ง manager ครึ่งตัวมาแบบงงๆมาซักพักแล้วรู้สึกไม่ไหวละ
แม่งต้องทำทั้งเป็นคนนำประชุม วางแผนงาน ตรวจงานน้อง ช่วยเวลาน้องติดปัญหา ไปประชุมกับทีมอื่นมั่งผู้ใหญ่มั่งเรื่องห่าไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด
แค่นี้ก็หมดไปทั้งวันแล้ว ยังมีงานส่วนของตัวเองเพิ่มอีก จะไม่ทำก็ไม่ได้เพราะงานมันเยอะเกิน แถมไม่ได้เป็น manager เต็มตัว
ขึ้นเป็น manager เต็มตัวก็ไม่อยาก เพราะกูไม่ชอบทำงาน manager เต็มตัวอย่างพวกประเมินคะแนนคนด้วย
แถมด้วยปริมาณงานแบบนี้ดีไม่ดีเป็น manager เต็มตัวก็ต้องมาช่วยทำงานอยู่ดี กลายเป็นเสียทั้งขึ้นทั้งล่อง
กลับไปเป็นคนทำงานเต็มตัวแบบเดิมก็เป็นไม่ได้ เพราะด้วยอายุและไม่มีคนอื่นแล้วก็ต้องทำโดยสสภาพอยู่ดี

138 Nameless Fanboi Posted ID:9FIlqi3ZOO

เออ กูรับ part time เพราะอยากประหยัดงบบริษัท ทีนี้ part time ส่วนมากเด็กมหาลัย
พอแม่งหายก็หายพร้อมกันหมดเลย (กูเข้าใจได้ว่าชีวิตแม่งคงยุ่ง) แต่งานมันจะไม่เดินเอา
มีข้อแนะนำไหม หรือกูควรจ้าง part time ที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นนิดนึงวะ

139 Nameless Fanboi Posted ID:b54scW/+UT

ขอฮาวทูจีบซารารี่แมนหน่อยจ้าาาาาา

140 Nameless Fanboi Posted ID6:V5QkAe645n

>>139 เอาเงินมาดิ ถ้ามึงช่วยให้กูลาออกจากงานเชี่ยนี่ได้แล้วไม่ต้องกลัวอดนี่กูรักเลยอ่ะ

141 Nameless Fanboi Posted ID6:Qll.2aHrSs

มีโม่งทำส่วนออฟฟิศของห้างมั้ยวะ เช่น แม็คโคร โลตัส เดอะมอล เซ็นทรัล

เล่าให้ฟังคร่าวๆหน่อยว่าวัฒนธรรมองค์กร ใช้ชีวิตยังไง บรรยากาศเป็นยังไง

142 Nameless Fanboi Posted ID6:P+hDHUknnc

จะปฏิเสธเป็นแฟนกับหัวหน้า (อายุ 25 /กู อายุ 24) ยังไงให้ทำงานร่วมกันได้วะ (กูเป็นเลขาต้องตามติดเค้าตลอด) คือตอนแรกก็จีบๆกัน กูก็ชอบเค้ามากอ่ะ แต่ว่าตอนนี้มีอีกคนที่เข้ามาจีบแล้วกูอยากคบกับคนนี้มากกว่า เพราะว่ามันไม่เป็นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเหมือนหัวหน้าลูกน้องอ่ะ

143 Nameless Fanboi Posted ID:e/WTYARgim

>>142 ลาออก ย้ายที่ทำงาน

144 Nameless Fanboi Posted ID6:sYRdzYZ+pD

คุณซื้อ OR มาราคา ipo ที่ 18 บาท

ผมซื้อ OR วันนี้ ที่ราคา 18 บาท

เราไม่เหมือนกัน

145 Nameless Fanboi Posted ID6:r0i04k+BXc

>>144 กูไม่ซื้อเพราะคำสอน อ.นิเวศน์ แม่งหลอนในหัว ก่อนซื้อมันจะผุดขึ้นมาเลยหว่ะ กิจการมันเปลี่ยนโลกได้ไหม? มันผูกขาดธุรกิจได้ไหม? มันสร้างกำไรจากลูกค้าได้ไหม? ลูกค้ายังต้องมาซื้อของกับเจ้านี้เท่านั้นไหม แม่งมาเต็ม ... ตอนแรกก็ก่ะว่าจะซื้อละ แต่ขนาดสถานีEVนี่ EA ยังมีสถานีชาร์จเยอะกว่านี่สรุปก็รู้กันละว่าORไปไม่สุดสักทาง ที่เหี้ยกว่าจนน่ากุมขมับคือ จะขยายตลาดไปเขมรอีก

146 Nameless Fanboi Posted ID:QtFVkoZgWW

ที่บ้านกุซื้อORกันทุกคนยกเว้นกู กุจะไปพูดยังไงเขาก็คงไม่ฟังกุอยู่ดี ตอนนั้นORของมันต้องมี 34 บาท ประมาณนี้
และกุไม่ได้ตามว่าซื้อเพิ่มกันเปล่าเพราะถ้าเขากำไรครั้งนึง เขาก็จะซื้ออีกเรื่อยๆ แบบไม่มีไม่ได้นะ อารมณ์การบินไทยเนี่ยละ ครอบครัวกุเจ๊งจากการบินไทยแล้วไม่จำ

147 Nameless Fanboi Posted ID6:pRBjb.wC6W

OR กุซื้อ IPO แล้วขายวันแรกเลย กำไรเยอะอยู่

148 Nameless Fanboi Posted ID:VBmbvuCrgj

เป็นพวกมึงเจอแบบนี้พอกัน จะลาออกหลังโบนัสออกดีไหมวะ เงินเดือนกลางๆแต่ไม่มีตำแหน่งให้ขยับ ถ้าโบออกกำลังคิดว่าไม่รอปรับฐานเงินเดือนดีกว่าไหม พวกที่อยู่ด้วยกันเริ่มทำตัวกร่าง กร่างแบบกุ๊ยเลย สันดานแย่มากจนมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนร่วมงานที่เดียวกันมาแล้ว ละเรื่องแย่ๆมันทำได้ คนอื่นห้ามทำแบบมัน ที่หนักจริงคือเคยมีคนประเภทแบบนี้ได้อัพตำแหน่งจนไปเป็นหัวหน้ามาแล้วคนอื่นใต้บังคับบัญชาเค้าพากันออกหมดมาแล้ว สืบไปสืบมาถึงได้รู้ว่า บ. กู HRไม่ตรวจประวัติอาชญากรรมเลย พวกที่คลุกคลีกับกูนี่ติดคุกมาก่อนสักปีสองปีกันทั้งนั้น มีปัญหากับเพื่อนร่วมงานไปเรื่อย พวกมึงคิดว่าไงวะ? เจอไรแบบนี้มาไฟเริ่มหมดจริงๆหว่ะ พวกแม่งสิ้นปีโบนัสออกมันไม่ออกตามชาวบ้านเค้าด้วยนี่ดิ เห้อออออ เบื่อชิบหาย

149 Nameless Fanboi Posted ID:watxHnDLI3

วางแผนเกษียณกันอย่างไร ฟังมันนี่โค้ดแล้วท้อเลยว่ะ

150 Nameless Fanboi Posted ID:dVqiYRMi/z

>>149 เดือนหน้าจะทำอะไรกูยังไม่คิดเลย 555

151 Nameless Fanboi Posted ID6:BXMHwyq8q4

>>149 กะว่าจะอยู่ด้วยเงินออมที่สะสมไว้ตอนทำงานประจำ เงินจากประกันบำนาญ ประกันออมทรัพย์ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนSSF กองทุนRMF บำนาญประกันสังคม ถ้าเอาบ้านเข้า reverse mortgage ได้อีกอย่างก็คงดี แต่ได้ยินว่าเงื่อนไขเยอะอยู่

แต่รวมๆ แล้วก็อาจจะไม่พออยู่ดี เพราะไม่รู้อนาคตเงินจะเฟ้อแค่ไหน เมืองไทยจะกลายเป็นเวเนซูเอล่ามั้ย แต่ก็ไม่เครียดมาก วางแผนอนาคตก็ส่วนนึง แต่ก็มีความสุขกับปัจจุบันด้วย ไม่ได้ประหยัดอะไรมากมาย ก็ใช้ไปด้วยเก็บไปด้วยพอประมาณ เอาที่ตัวเองสบายใจ

คนเราไม่มีใครรู้อนาคตหรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น โรคระบาดร้ายแรง สงครามโลกครั้งที่สาม ภัยพิบัติ เงินบาทไร้ค่า ฯลฯ ต่อให้วางแผนดีแค่ไหนก็มีโอกาสผิดแผนได้เสมอ ก็เอาเป็นว่าวางแผนไว้ประมาณนึง ไม่ถึงกับใช้ชีวิตวันต่อวัน แต่ก็ไม่ต้องเครียดมากจนเกินไป สุดท้ายสกิลการปรับตัวกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็เป็นสิ่งสำคัญ

พวกไลฟ์โค้ชมันนี่โค้ชอะไรพวกนี้กูไม่เคยฟังเลย แต่ชอบหาความรู้ในอินเทอร์เน็ตนะ

152 Nameless Fanboi Posted ID:FW+o9/nJcd

>>149 แผนเกษียณกูคือลองพยายามเก็บสกิลภาษาแล้วหางาน ตปท. ดีๆสักที่ไปเลยหว่ะ ไม่งั้นก็เก็บเงินเรียน หางานแถวนั้น ถ้าเมืองไทยแม่งการหางานดีๆมันยากชิบหายขนาดนี้ หุ้นไทยไม่โตแหกแหวกมูลค่าเท่าเมกา เวียดนามได้ ก็ไปหาสัญชาติใหม่ หาที่พักพิงที่อื่นดีกว่า

153 Nameless Fanboi Posted ID:l.TjAcm7sP

กุว่างงานมา4ปี หลังทำงานที่แรกมา3ปี จริงๆก็เรียกได้ไม่เต็มปากว่าว่างงาน เพราะระหว่างนั้นก็เรียนภาษา และไปเรียนโท แถมเจอโควิดรวมๆกันก็เลยดูเยอะ
แต่ช่วงนั้นคือมันก็มีเวลาทำอะไรหลายๆอย่าง ได้ทำอะไรที่อยากทำ มีเวลาเยอะมาก แต่สิ่งที่หนีไม่พ้นมันคือความน่าเบื่อ เพราะเวลามันเหลือเยอะมากๆ เล่นเกมก็แล้ว ออกกำลังกาย ดูซีรี่ย์ แต่ส่วนมากอยู่ในห้อง เพื่อนก็ไม่ว่างวันปกติ เจอแต่ในดิส

พอเรียนจบกลับมาหางาน ทำไปได้ครึ่งปี แม้ว่าจะเดินทางไปกลับรวมสองชั่วโมงครึ่ง ก็ยังรู้สึกรีเฟรช ได้เข้าออฟฟิศทุกวัน จริงๆมีwfhแต่ที่ทำงานคือเขาอยากให้เข้าทุกวันซึ่งกุไม่ติด เพราะเพื่อวันไหนนัดเจอกินข้าวกับเพื่อนที่ทำในเมืองได้เหมือนกัน รู้สึกอยากออกจากบ้านตลอด ส-อ ก็ออกไปหาอะไรทำ จากที่แต่ก่อนติดอยู่แต่ในห้องอาจจะด้วยโควิดด้วย ตอนนี้เลยรู้สึกใช้ชีวิตคุ้ม แต่ก็แอบกลัวว่าถ้าทำไป3ปีจะเริ่มเบิร์นเอ้าเหมือนที่เคยเจอไหม
แต่ตอนนี้คือเงินเดือนเกือบ2เท่าจากแต่ก่อน และอาจจะเรียกเพิ่มได้อีก ในหัวตอนนี้เลยคิดว่าถ้าไม่ได้ทำงานชีวิตคงน่าเบื่อแย่ คงไม่กลับไปว่างงานยาวๆอีกแล้ว

154 Nameless Fanboi Posted ID:v7dRjwZhi2

กะมีอายุถึง 80 ปี ใช้เงินเดือนละ 20,000 หลังเกษียณ ต้องเกือบให้ได้ 4.8 ล้าน ตอนนี้เงินเก็บยังไม่ถึง 5 แสนเลยว่ะ เงินเก็บออมอย่างเดียวไม่ได้เอาไปลงทุนอะไร เต็มแค่ซื้อฉลากออมสิน

155 Nameless Fanboi Posted ID6:4Pfn1ZBEbR

กูเป็น ขรก. ไม่ได้วางแผนเหี้ยไรเลย นอกจากทุน กบข.
แต่อีกตั้ง 30 ปี ข้าวคงจานละร้อยแล้ว เงินประมาณ 5 หมื่นต่อเดือนคงอยู่ได้แค่ประหยัดไปวันๆ

156 Nameless Fanboi Posted ID:f0qbniHps/

>>155 ลงทุนในแผนไหนของ กบข.

157 Nameless Fanboi Posted ID:euXV8P70It

>>154 ถ้าเอาไปเล่นหุ้น จาก 5 แสน อาจจะเหลือ 3 แสนแทนก็ได้นะ 555

158 Nameless Fanboi Posted ID:W0qhXK3XOK

>>157 กระจอกว่ะ เอามา 5 แสน เดี๋ยวกูเล่นให้เหลือ 1 หมื่นให้ดู

159 Nameless Fanboi Posted ID:uWA2/HOjEe

อเมซอนมันกดราคาหรือเอเจนซี่มันกดราคาวะ? นักแปลได้น้อยจัด

160 Nameless Fanboi Posted ID:k//93SMFy4

ช่วงนี้หนี้เยอะมาก แถมโดน fastwork แบบมาชาติเศษ ไม่รู้ทำไมแบน อยากหางานเสริม ทำได้ทุกอย่าง เขียน ตัดต่อ กราฟฟิค ทำเว็บ แปล หางานที่ไหนได้บ้าง

161 Nameless Fanboi Posted ID6:UM1T.4UCZY

>>157 กูเชื่อว่าตอนนี้พอร์ตของหลายๆ คนก็สภาพประมาณนั้น รวมถึงพอร์ตกูด้วย ถถถ

162 Nameless Fanboi Posted ID:tKQJQZ93Gc

>>160 ถ้าไม่หนีงานไม่เรียกเยอะ แวะมาให้กูจ้างได้นะ แต่ต้องดูสกิลก่อน

163 Nameless Fanboi Posted ID6:uJPP+YcqpJ

>>159 ที่ไหนวะ? อเมซอนมีแปลไรงี้ด้วย? งง

164 Nameless Fanboi Posted ID:aEWCB5WmAs

>>163 ซีรีส์ อเมซอน พราม

165 Nameless Fanboi Posted ID6:vNRDa1yYu3

>>160 ทำไมโดนแบนอะ รับงานเทาเหรอ

166 Nameless Fanboi Posted ID6:ejBf3KPsI8

จะไปเริ่มต้นชีวิต เริ่มหางานในกรุงเทพ ต้องมีเงินขั้นต่ำไปเท่าไหร

167 Nameless Fanboi Posted ID6:vNRDa1yYu3

มีกระทู้ ย้ายไปต่างประเทศบ้างปะ ไม่เอาแบบหาผัว หาเมียฝรั่งนะ
ทุกวันนี้ไปนอกเรื่อยๆ ดูลู่ทางไว้ แต่ลุ่มๆดอนๆ ปัญหาสารพัด เหอะๆ

168 Nameless Fanboi Posted ID6:vNRDa1yYu3

>>149 ทยอยขายที่ดินไปเรื่อยๆ มีมรดกนิดหน่อย กับประหยัดเอา
หาเองได้ไม่เยอะเลยต้องพึ่งบุญเก่า

169 Nameless Fanboi Posted ID6:pmaP0vWgED

เกษียณหรอ ลองคืดสิ เมิงทำงานทั้งชีวิต คู่ต่อสู้ไม่ใช่คู่แข่งในสายงาน แต่คือเงินเฟ้อ

170 Nameless Fanboi Posted ID6:2CtN61CqDd

>>166 ค่าหอพักมัดจำล่วงหน้า+จ่ายเดือนด้วย ก็เตรียมไว้เนิ่นๆ 3 เดือน ที่เหลือก็ค่ากิน ค่ารถ

ทีเหลือขึ้นอยู่กับว่าไปทำอะไรโซนไหน อย่ามาโง่ๆ ตัวเปล่าหาข้อมูล นัดสัมภาษณ์ก่อนค่อยมา แล้วถ้าแค่มาสัมภาษณ์ไปหาโฮสเทลถูกๆ เดือนละไม่กี่ร้อย ก็ได้แต่ระวังของมีค่าหน่อย

ส่วนเตรียมเงินเท่าไหร่ อันนี้กูไม่รู้ว่ามึงจะทำงานอะไรว่ะ ถ้าประเภทพนักงาน office มีติดกระเป๋าไว้อย่างน้อย 3 หมื่นก็พอมั้ง แต่ถ้ามีเพื่อนคนรู้จัก ทำอยู่ก่อนก็ไปขออาศัย หารค่าหอแบบนี้หมื่นเดียวยังพอไหว แต่ตึงหน่อย

ส่วนถ้าเป็นโรงงาน ค่าที่พักจะถูกกว่าพนักงาน office เพราะโซนโรงงานมันอยู่นอกเมือง บางที่แค่ 2 พันกว่าบาทต่อเดือนเองด้วยซ้ำ ค่าอาหารในโรงงานก็ถูกสุดๆ บางที่ข้าวฟรี กับข้าวหลักสิบ แต่ถ้าทำโรงงานจริงจัง และมีมอเตอร์ไซต์ มึงไปนิคมภาคตะวันออกดีกว่า เพราะโรงงานฝรั่ง ญี่ปุ่นอยู่เยอะ พวกนี้จ่ายสมน้ำสมเนื้อมากกว่า

171 Nameless Fanboi Posted ID6:xSHqzT8PlZ

เศรษฐกิจแย่แบบนี้เกาะพ่อแม่กินไม่ได้ ทำไงดีวะ

172 Nameless Fanboi Posted ID6:GTNMGcOKfA

>>170 พนักงานออฟฟิซเงินเดือนเท่าไหรวะถึงต้องมีอย่างน้อย 3 หมื่น

173 Nameless Fanboi Posted ID6:NnI2Wy/3tB

>>172 สมมุติค่าที่พัก 5 พัน มันต้องวางเงินประกัน2เดือน + ค่าเช่าล่วงหน้า ก็ 15,000 แล้วไง แล้วแต่โซนที่ทำงานถ้าโซนในเมืองแพง ถ้าโซนนอกเมืองถูก แต่รถหลายต่อ แต่ไม่มีข้อมูลทำงานกะเช้า กะค่ำ เผื่อไม่มีรถกลับก็ตีราคาโซนในเมืองไว้ก่อน

ที่เหลืออุปกรณ์ใช้ประจำวัน อุปกรณ์บางอย่างต้องซื้อเพิ่มตีไว้ 5 พัน ที่เหลือค่ากินค่ารถตีเผื่อไว้ เผื่อๆ เลยหมื่นนึง

174 Nameless Fanboi Posted ID6:NnI2Wy/3tB

อันนี้กูตีแบบ ทำเป็นพนักงงานทั่วไปธรรมดาที่อยู่ในเมืองนะ

175 Nameless Fanboi Posted ID6:2pllS/CQxo

>>172 ควรมี3หมื่นอัพ ขนาดกูคนกรุงชานเมืองแต่เกิดเข้าไปหางานตัวเมืองชั้นในยังไปดึงงบฉุกเฉินมาเลย พวกค่าเช่า ค่าซื้อของเข้าที่พัก พวกสิ่งอำนวย ค.สะดวกพื้นฐานเงี้ยคือแม่งจำเป็นสัส ถ้าเก็บเงินซื้อของแบรนด์ทนๆได้ทุกตัวเลยยิ่งดี ตู้เย็น ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้าinduction หาตามlazada shopeeเลย

176 Nameless Fanboi Posted ID:Ogp8ZIGdyv

>>170 เรื่องโรงงานต้องไปภาคตะวันออกนี่กูเพิ่งรู้เลยนะ จริงๆกูเคยคิดถึงเรื่องซื้อบ้านตามเมืองจันทน์หรือพวกระยองตามเขตEECเลยนะ อยากไปทำงานสายที่ตัวเองจบมาในแถบนั้นอยู่(หวังว่างานเกี่ยวกับสกิลภาษาจะมีให้กูไปทำแล้วรายได้ไม่น่าเกลียด) ที่กูกังวลคือสาธารณูปโภคแม่งสู้ กฟน. , กปน. ได้ไหมนี่สิ กลัวไปใช้ชีวิตละมันขาดมากกว่าจะได้ หรือขัดสนกว่าเมืองหลวงไปอีก มีเงินก็ทำห่าไรไม่ได้ด้วยซ้ำไรงี้

177 Nameless Fanboi Posted ID:oNHm1i+pL.

>>176 ทำงาน ตจว. มันต้องมีรถน่ะ อย่าได้หวังกับรถประจำทางเลย ส่วนเรื่องไฟฟ้า น้ำประปา net ไม่ต้องห่วงหรอก

178 Nameless Fanboi Posted ID6:OH4rHRPwYm

ถ้าเงินเดือนตันชนเพดานแล้ว จะโดนบริษัทบีบให้ออกไหมวะ แบบถ้าไม่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการอะไรแบบนี้

179 Nameless Fanboi Posted ID6:e49LoS3p.Q

>>178 แล้วแต่บริษัท อย่างบ.สัญชาติญี่ปุ่นที่กูเคยทำ เป็นบ.เก่าแก่ เปิดในไทยมากว่า 50 ปี เขาเลี้ยงยันเกษียณ ตอนเกษียณพี่เขาก็เป็นพนักงานเลเวลปฏิบัติการธรรมดานี่แหละ ส่วนบ.ไทยกับบ.ฝรั่งไม่รู้เพราะไม่เคยทำ

180 Nameless Fanboi Posted ID6:wY1ySGVhzO

>>178 ถ้างานที่ทำไม่ค่อยมีคุณค่าแบบเอาเด็กใหม่มาฝึกๆแปบทำได้ก็มีโอกาส แต่มักไม่เกิดกับบริษัทมหาชนใหญ่ๆที่เลี้ยงพนักงานไหว ยกเว้นจะไปเจอช่วงเศรษฐกิจแย่ lay off คนออก

181 Nameless Fanboi Posted ID6:e49LoS3p.Q

ถามหน่อย มีใครทำงาน call center แบงก์หรือบัตรเครดิตบ้างมั้ย มีเรื่องอยากรู้

พอดีเมื่อกี้โทรเข้า call center บัตรเครดิต แต่ไม่ได้หาข้อมูลก่อนว่ามันมีเบอร์สำหรับลูกค้า wealth ก็โทรเข้าเบอร์ปกติของค่ายบัตรเลย โดยใช้เบอร์ที่แจ้งกับธนาคารไว้โทรเข้าไป แต่พอตอนสายติดมันบอกว่าสวัสดีค่ะ ขอต้อนรับสู่ wealth บลาๆๆ อะไรสักอย่าง ฟังยังไม่ทันพนักงานก็รับสายในทันที ไม่ต้องมานั่งกดตัวเลขบ้าบออะไรเลย หลังจากคุยกับพนักเสร็จ มาลอง google ดู จริงๆ คือมันมีเบอร์สำหรับลูกค้า wealth อยู่ แต่เราก็ไม่ได้โทรไปเบอร์นั้นนะ

คำถามคือ เดี๋ยวนี้มัน detect เบอร์ที่เราใช้โทรเข้าไปแล้วส่งเข้าฝั่ง wealth อัตโนมัติโดยไม่ต้องรอสายได้เลยเหรอ? คาใจมาก 555 อยากรู้ จะลองโทรไปอีกทีก็ไม่กล้าเพราะพนักงานรับสายเร็วมาก กลัววางไม่ทัน 555

182 Nameless Fanboi Posted ID:gBw4P8W/fz

>>181 ไม่ได้รู้ทางเทคนิคการโอนสายเชื่อมสายนะ
แต่กุทำงานด้านdata พวกฐานข้อมูล อยากจะบอกว่าข้อมูลที่กรอกกัน หรือการกดยินยอมให้จัดเก็บข้อมูลส่วนตัว อยากจะบอกว่ามันเก็บมันทุกอย่าง เก็บหมด ไม่ว่าจะเบอร์โทรกี่เบอร์ ที่เคยลงไว้ ในบริการต่างๆ สุดท้ายแล้วเขาก็จะเอาข้อมูลพวกนั้นมารวมกันว่า คนนี้เลขบัตรนี้มีเบอร์โทรอะไรบ้าง ใช้อีเมลอะไรบ้าง มีบัตรอะไรบ้าง ที่อยู่มีกี่ที่ คือเก็บหมดทุกอย่าง
ก็เลยไม่แปลกถ้าคนทำบริการพวกนี้จะไปเอาข้อมูลเบอร์โทรไปกำหนดอะไรพวกนี้ต่อได้

183 Nameless Fanboi Posted ID6:e49LoS3p.Q

>>182 ขอบคุณมากเลย งั้นน่าจะใช่แหละ ดีอะ ชอบ รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องมานั่งกดโน่นกดนี่เยอะแยะ ได้เจอมนุษย์ในทันที ปกติมีแต่เอาข้อมูลเราไปขาย โฆษณาโน่นนี่นั่น เอาไปทำประโยชน์อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าแบบนี้บ้างก็ดี แจ่มเลย

184 Nameless Fanboi Posted ID:vWiSAn+lOO

>>183 ลองเอาเบอร์อื่นโทรเข้าไปดิ เพื่อพิสูจน์ แต่อย่างเม้นท์บนว่าแหละทำได้ก็ไม่ได้น่าแปลกใจอะไร

185 Nameless Fanboi Posted ID6:OXBeioghcC

>>181 ปกติเวลาสมัครบัตรลูกค้าต้องกรอกเบอร์มือถือให้ธนาคารไว้อยู่แล้ว เพราะใช้สำหรับรับ OTP, ติดต่อเวลามีปัญหาต่างๆ ฯลฯ
เวลาโทรหา call center ระบบจะรู้เบอร์คนที่โทรหาอยู่แล้ว เหมือนเวลามีคนโทรเข้ามือถือเราแล้วมันขึ้นเบอร์นั่นแหละ
ซึ่งจากเบอร์ตรงนี้เค้าทำตัวดักมาเช็คในฐานข้อมูลก่อนว่าเป็นเบอร์ของลูกค้าที่มีสิทธิใช้ช่องทางพิเศษได้มั้ย
ถ้าใช่ก็โอนสายไปลงช่องทางพิเศษเลย ถ้าไม่ใช่ก็อยู่ช่องทางปกติที่ต้องฟังแล้วกดตัวเลขตามเมนูต่อไป

>>182 กูว่าอันนี้มันคนละเคสกันนะ เพราะนี่คือข้อมูลที่ลูกค้าต้องเป็นคนกรอกให้ธนาคารเองตอนสมัครบัตร
แล้วก็ถูกใช้งานเวลาลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพื่อเช็คว่าลูกค้าเป็นใคร มีสิทธิพิเศษอะไรมั้ยแบบตรงไปตรงมา
ไม่ใช่พวกข้อมูลที่โดนดูดไปแบบเงียบๆเพราะกดยินยอมไปแล้ว แล้วเอาไปแชร์กับ partner หรือเอาไปใช้เพื่องานแบบอื่นๆต่อ

186 Nameless Fanboi Posted ID6:e49LoS3p.Q

>>185 โห ขอบคุณมาก กระจ่างเลย ดีๆๆๆ ชอบ ทำดีก็ชื่นชม ปกติเห็นเมื่อก่อนมีแต่แยกเบอร์เฉพาะกลุ่มลูกค้า ซึ่งจะโทรติดง่ายกว่า พนักงานรับสายเร็วกว่ากลุ่มลูกค้าทั่วไป เพิ่งรู้วันนี้แหละว่าเดี๋ยวนี้มันเช็คเบอร์ให้ โอนสายไปช่องพิเศษให้เองเลย เยี่ยม
>>184 ไว้เดี๋ยววันไหนลองเอาอีกเบอร์โทรดู

187 Nameless Fanboi Posted ID:gDzLVZHVk6

>>185 ถ้าเจ้าตัวใช้เบอร์มือถืออื่นที่มี แล้วโทรเข้าแบบไม่ต้องรอ ก็สันนิษฐานได้เลยว่าฝั่งหลังบ้านน่าจะ เก็บ และmapping ข้อมูลเรียบร้อย

ปกติเคสพวกรวมข้อมูลลูกค้าส่วนมากจะเอาไว้ใช้กับการยิงโปรโมชั่น ยิงลีด หรือส่งให้คอลเซนเตอร์โทร เบอร์แรกไม่ติด ใช้เบอร์ต่อไป

188 Nameless Fanboi Posted ID:0fh+j7WOvF

เหลือเงินเก็บเดือนละกี่บาทกัน

189 Nameless Fanboi Posted ID:iEN6q6qmRU

>>188 ของกูพยายามจะเก็บให้ได้เดือนละ 3 หมื่น แต่มักได้ตามเป้าไม่กี่เดือน มีเรื่องให้ใช้เงินตลอด

แต่กูอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มั่นคง งานก็ไม่ได้ประจำ ชมการทำงานก็เยอะเกินมาตรฐานแรงงาน และเค้าจะเอากูออกตอนไหนก็ได้ไม่ได้ชดเชย

190 Nameless Fanboi Posted ID6:bIIysg9K9c

>>189 เดือนละสามหมื่นนี่เงินเดือนมึงต้องขนาดไหนวะเนี่ย.....
กูเดือนละหมื่นก็ตึงๆ แน่นๆ ละ

191 Nameless Fanboi Posted ID6:1jg6btr4d3

>>188 เหลือพอประมาณ แต่ด้วยความไม่อยากเสียภาษี พอถึงท้ายปีกูก็เอาไปเทลงกองทุน+จ่ายค่าประกันแบบเต็มโควต้า
สรุปเหลือปีนึงแค่หลักพัน หรือปีไหนเยอะหน่อยก็แค่เกินหมื่นมานิดหน่อย

192 Nameless Fanboi Posted ID:94z8J8BMip

>>189 แบบนี้อย่าลืมเจียดเงินลงประกันสังคมก็ดีนะโม่ง เป็นไรไปแม่งยังดีกว่ารอความตายกับบัตรทอง

193 Nameless Fanboi Posted ID:uDWITlNUBk

>>188 เหลือเก็บเดือนละ 4000
ฮือๆๆ

194 Nameless Fanboi Posted ID:QY/X0G3d4U

ช่วงนี้เจอซ่อมบ้านซ่อมรถ เหลือน้อยกว่า >>193 อีก T T
แต่ยังพยายามเก็บนะ มีเติมน้อยหน่อยแต่ขอได้เติม

195 Nameless Fanboi Posted ID6:Jam2/MD6D+

เงินเก็บกูเหลือเดินละเกือบหมื่นนะ แต่สุดท้ายก็หมดกับค่ากาชาเกมเรียบ มุแง้

196 Nameless Fanboi Posted ID:Hgh6BXedrC

>>195 มึงมันจิตใจอ่อนแอ เลยตกเป็นทาสวัฒนธรรมอันชั่วร้าย กูก็ด้วย...

197 Nameless Fanboi Posted ID6:/c82yzBYrM

จ็อบฮันท์นานๆ เข้ามันก็ไม่รู้ว่าจะสมัครงานอะไรดี

198 Nameless Fanboi Posted ID:DsWIPcgn16

>>195 เจอค่ากิน ค่าน้ำมัน ค่านวดก็หมดแล้วว่ะ

199 Nameless Fanboi Posted ID:dHeyGRDQcr

>>198 คนเราต้องนวดด้วยหรอ
อยากกินชาบูทุก3วัน

200 Nameless Fanboi Posted ID:vmzC+0NGsv

>>199 ปัญหาของสายแดกคือเมื่อภึงวันที่มีเงินมากพอจะแดกอะไรแพงๆได้สบายๆ ร่างกายก็จะเริ่มไม่ไหวแทน...

201 Nameless Fanboi Posted ID6:CYIKtMb6K8

เงินเดือนแสนห้า มีหนี้แค่ค่ารถเดือนละสองหมื่นนิดๆ อยู่ห้องเช่าที่บ.หาให้(ฟรี) กูใช้เงินเกลี้ยงทุกเดือน เก็บได้หลักพัน อายุสามสิบกว่าละเลยยังไม่กล้ามีเมียเลย อายตัวเอง

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.