Fanboi Channel

วันศุกร์ที่สิบแปด ของเหล่าซาลารี่แมน

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:3A2fV9RPKq

>>>/lounge/68/ วันศุกร์ที่หนึ่ง
>>>/lounge/216/ วันศุกร์ที่สอง
>>>/lounge/286/ วันศุกร์ที่สาม
>>>/lounge/408/ วันศุกร์ที่สี่
>>>/lounge/765/ วันศุกร์ที่ห้า
>>>/lifestyle/1530/ วันศุกร์ที่หก
>>>/lifestyle/2284/ วันศุกร์ที่เจ็ด
>>>/lifestyle/3353/ วันศุกร์ที่แปด
>>>/lifestyle/5047/ วันศุกร์ที่เก้า
>>>/lifestyle/6139/ วันศุกร์ที่สิบ
>>>/lifestyle/6603/ วันศุกร์ที่สิบเอ็ด
>>>/lifestyle/7075/ วันศุกร์ที่สิบสอง
>>>/lifestyle/8483/ วันศุกร์ที่สิบสาม
>>>/lifestyle/10347/ วันศุกร์ที่สิบสี่
>>>/lifestyle/12401/ วันศุกร์ที่สิบห้า
>>>/lifestyle/14347/ วันศุกร์ที่สิบหก
>>>/lifestyle/15723/ วันศุกร์ที่สิบเจ็ด

2 Nameless Fanboi Posted ID:L8hKvBizBq

ปรึกษาหน่อย ช่วงนี้สภาพจิตใจกูไม่ดีเลย คนที่บ้านป่วยหนักทั้งสองคน อยู่ในเลเวลที่หมอให้เตรียมทำใจ ที่ผ่านมากูพยายามดูเขาไปด้วย(กูลูกคนเดียว) ทำงานไปด้วย แต่ตอนนี้กูเริ่มไม่ไหวแล้วว่ะ ไม่สามารถไปทำงานเจอลูกค้าแล้วฝืนว่าตัวเองยังไหว ไม่อยากเจอใครเลยด้วยซ้ำ บางวันกูเหนื่อยจนไม่อยากจะทำงานเลย กูคิดว่าถ้ากูเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆแม่งกระทบงานแน่นอน แต่กูก็ไม่ไหวจริงๆ อยากรู้ว่ามันขอพักงานได้มั้ยวะ หรือได้แค่ลาออกเลย กูยังไม่กล้าคุยกับHRเลยเนี่ย เฮ้อ

3 Nameless Fanboi Posted ID6:q/FzwYUJcv

>>2 ปกติควรคุยกับหัวหน้าก่อน ถ้าหัวหน้าเห็นใจและยินดีช่วย เดี๋ยวเขาไปคุยกับ hr ต่อให้เอง อาจจะให้ leave without pay ยาวๆ อะไรก็ว่าไป

4 Nameless Fanboi Posted ID6:7iGmUhWbfk

>>2 ป่วยเป็นอะไรหมอถึงบอกให้เตรียมทำใจ ไปรักษาช้าหรือว่ามีปัญหาเรื่องค่ารักษา

5 Nameless Fanboi Posted ID:L8hKvBizBq

>>3 เดี๋ยวลองดู แต๊งมึง
>>4 ไม่อยากพูดถึงอะ โทษที เอาเป็นว่ารักษามาหลายปีและตอนนี้แย่ลงแล้ว

6 Nameless Fanboi Posted ID6:3A/4Zv2cOu

>>5 เป็นกำลังใจให้นะ แต่เกิดแก่เจ็บตายก็เป็นเรื่องที่ต้องปลง ตอนเด็กกว่านี้กูคิดว่าถ้าพวกเขาจากไปกูรับไม่ได้แน่ๆ กูอยู่ไม่ได้แน่ๆ กูอยากเป็นฝ่ายไปก่อน แต่พอถึงตอนนี้ (กูอายุ 30 ละ) กูปลงได้แล้วแฮะ คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องเกิด วันนึงกูเองก็ต้องไปเช่นกัน ให้เขาไปก่อนแหละดีแล้วเขาจะได้ไม่ทุกข์ ถ้าเราไปก่อนนี่สิ เขาใจสลายและใช้ชีวิตที่เหลือด้วยความตรอมใจแน่นอน พอโตเป็นผู้ใหญ่แล้วมันไม่ง่ายเลยว่ะ มันมีเรื่องมากมายที่เข้ามาให้เราต้องจัดการทั้งในเชิง physical และ mental สู้ๆ นะ ทั้งมึงด้วย ทั้งกูด้วย ทั้งรีแมนทุกคนเลย

7 Nameless Fanboi Posted ID:qKx/f3.F4.

กำลังจะเริ่มทำงานกะดึก ตั้งแต่2ทุ่มยาวยัน8โมงเช้า(ควบotนะ)
มีอาหารอะไรแนะนำสำหรับกินอยู่ท้องไหมน่ะ?
ตอนนี้เราซื้อพวกเจเล่วิตามิน กับพวกถั่วเตรียมไว้ล่ะ นึกไม่ออกว่าจะเอาอะไรไปเป็นเสบียงเพิ่ม

8 Nameless Fanboi Posted ID:YODF+4WhQM

สมมติว่าตอนนี้โม่งอายุ27-28 ทำงานบ.ข้ามชาติยักษ์ใหญ่ด้านไอทีที่มีแต่คนฉลาดๆ แต่ตัวเองเป็นสายโอเปเรชั่น มนุษย์กลางๆ ที่ไม่ได้มีสกิลให้อัพเงินอะไรนอกจากขึ้นเงินเดือน 2-5% ประจำปี เงินเดือน 30k ละมีโอกาสไปทำงานใช้แรงที่ปท.โลกที่1 หรืออาจจะงานออฟฟิศถ้าเขารับ จะเสี่ยงทิ้งหน้าที่การงานไปเปื่อมีโอกาสต่อยอดมั้ยอ่ะ แบกกราวด์คือไม่มีหนี้ไม่มีภาระ

9 Nameless Fanboi Posted ID6:N9h39xU77a

>>8 ถ้าทำงานตปท แบกกราวด์ก็ต้องมีเงินระดับหนึ่งปะวะ55555

10 Nameless Fanboi Posted ID6:Wy2K+Vfmzl

>>8 เอเจนซี่สิงคโปร์รับคนอยู่เรื่อยๆ นะ แต่มันจะเป็นงาน sub ของบริษัทใหญ่ ที่ไปรับงาน localized ภาษาไทย ส่วนมากงานก็แค่ก็อปวางแค่นั้นแหละ ต่อยอดได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเราเองนะ skill ทางตรงอาจจะไม่ แต่ทางอ้อมที่ได้จากสภาพแวดล้อมเยอะ ยังไงสายไอทีมันต้องฝึกเองอยู่แล้ว

แต่ทั้งนี้ถ้าไม่มีหนี้ไม่มีภาระ ส่วนตัวแล้วอยากจะให้มึงลองหางานพวก work and travel ดู เดี๋ยวอายุเยอะจะมาเสียดายทีหลัง

11 Nameless Fanboi Posted ID:2brkVbnzru

>>9 ตอนนี้กุทำงานอยุ่ไทย แต่ถ้าหมายถึงทุนไปเมืองนอกกุมีเงินเก็บส่วนตัวราวๆ 2.5 ล แต่ไม่อยากแตะเยอะ อยากเก็บไว้ตอนเกษียณน่ะ
>>10 ใช่ๆ กุได้วี wah ที่ออส ลองๆ กดดูเพราะเบิร์นเอาท์กับงาน อยากหาลู่ทางเพราะไม่เห็นภาพตัวเองทำบ.ยันแก่อ่ะ แต่ชักลังเลว่ากุจะทิ้งงานทิ้งการที่นี่ไปล้างจานทำฟาร์มที่นู่นเหรอ งานบ.กุมั่งคงมาก แทบไม่มีโอกาสโดนเลเลยเพราะตน.เงินน้อย ถึงกุไม่ฉลาดแต่อาศัยว่าชำนาญมันก้คงจะขยับขึ้นช้าๆไปตามยถากรรมได้อยุ่แหละ

12 Nameless Fanboi Posted ID6:r7KGZ+ErRs

อยากเป็นซาลารี่แมนแต่วุฒิม.6 ทำอะไรดี

13 Nameless Fanboi Posted ID:d25MZcdYVR

>>11 เงินเก็บเยอะนะเทียบกับอายุและเงินเดือน เก็บเงินเก่งจังวะ

14 Nameless Fanboi Posted ID:t73.iYYml+

>>11 ทิ้งงานการไปล้างจาน-ก่อสร้างที่ออสนี่อย่าหาทำนะ ถ้าไป มึงควรวางแผนA , B , C ไว้เลยมากกว่า เอาจริงๆนะ คนที่เหมาะไป ตปท. กูว่านอกจากสกิลภาษา ควรเป็นเป็ดควบด้วย เป็นงานหลายหน้ามีภาษีกว่ามากๆ

15 Nameless Fanboi Posted ID:VhSPNseBzC

ใช้แรงสร้างเงินแสนก่อน แล้วใช้เงินแสนสร้างเงินล้าน

16 Nameless Fanboi Posted ID6:RvnqW0Xqgy

>>13 น่าจะเป็นเงินที่มีอยู่แล้วเดิมนะ เช่น บ้านรวยเป็นทุนเดิม ไม่ได้เก็บจากการทำงานด้วยตัวเอง เพราะอายุ 28 ตีกลมๆ ว่าเรียนจบ 22 ทำงานมาแล้ว 6 ปี = 72 เดือน จะมีเงินเก็บ 2.5m ต้องเก็บเดือนละ 34,722.22 บาท แต่เห็นบอกว่าเงินเดือนปัจจุบันคือ 30k นะ

17 Nameless Fanboi Posted ID6:7dbq/HS+k8

>>16 ถ้าบ้านมีต้นทุนแบบนี้ทำไรก็ทำเลยเหอะ

18 Nameless Fanboi Posted ID:mbqWSpiloL

>>16 ใช่ ไม่ใช่เงินจากการทำงานทั้งหมด มันเป็นเงินเก็บตั้งแต่มัธยมจากค่าขนม+ทุนบลาๆ ที่เคยได้สมัยก่อนน่ะ ไม่ได้รวยหรอกแต่กุใช้เงินไม่ค่อยเก่ง
>>17 กุมีแค่นั้นแหละ 5555 ถ้าไปแล้วพังจนต้องเริ่มเก็บใหม่ก็หน้าซีดอยู่ แต่กุตัดสินใจว่าจะลองไปเปิดโลกนั่นแหละละหาพวกคอร์สเรียนเพิ่มไปด้วย

19 Nameless Fanboi Posted ID6:CzRNK3FIYf

>>18 ตัดภาพมาที่กู นอกจากใช้เงินเก่งแล้วก็ไม่เก่งอะไรเลย ถถถ

20 Nameless Fanboi Posted ID6:ppVLaYWk8H

>>16 โอเค กูเห็นไอ >>11 แม่งอายุยังไม่30แต่เงินเก็บร่วมล้านก็ทำคอกูตกไปพักๆเลย 5555 ขนาดกูมีต้นทุนจากทางบ้านเอย คอยเก็บเงินออมๆ(เงินออมจริงๆนะ)แล้วจัดพอร์ทเอย ตั้งแต่อายุ18-19ยังได้ไม่ร่วมแสนเลย เพิ่งมาตั้งตัวได้ก็ช่วงอายุ23นั่น

21 Nameless Fanboi Posted ID6:S4fXl3cdUw

เห็นพวกมึงแล้วอิจฉาว่ะ อายุยังไม่เลข 3 แต่รายได้ 30k งี้
ทุกวันนี้กู 30 กว่า รายได้เดือนละ 10k ดีนะที่บ้านอยู่ใกล้ที่ทำงาน แถมค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ให้ที่บ้านออกหมด ถ้าใช้ประหยัดๆ แบบกินข้าวบ้าน เช้า-เย็น ดอยกาแฟออฟฟิต และตรงกลับบ้านเลยหลังเลิกงานก็จะเหลือเก็บเดือนละ 2-3000 แต่เผลอเมื่อไรเจอของอยากได้นี่คือกูเงินติดลบทันทีเลย

คือกูจบปริญญามา 2 ใบนี่ไม่มีค่าอะไรเลย เมื่อกูไม่มีโอกาสได้งานดีๆ ทำ

22 Nameless Fanboi Posted ID:99ox9ZConq

>>21 กูใช้แรงงานรับจ้างว่ะ ขนาดงานโรงงานคุมเครื่องจักรวุฒิมอหกเค้ายังไม่เอากูเลย

23 Nameless Fanboi Posted ID6:ppVLaYWk8H

>>21 ไม่หารายได้เสริมหลังเลิกงานวะ? หรือเอาง่ายๆ เรียนอะไรเพิ่มละไปหารายได้สองสามงานช่วงวันหยุดเลยมึง เรียนพวกตลาดหุ้นด้วย อย่างน้อยๆอายุตอน50ก็ยังพอหวังไรได้มั่ง

24 Nameless Fanboi Posted ID6:S4fXl3cdUw

>>23 ก็ทำอยู่แหละหลังเลิกงาน แต่รวมๆ จบเดือนก็มีรายได้แค่ราวๆ 15k เอง
ส่วนเรื่องหุ้นเรื่องลงทุนนี่ตัดไปได้เลย รายได้กูไม่มีเงินเย็นที่จะสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากพอ ยิ่งยุคลุงแบบนี้ค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ค่าแรงไม่ขึ้นเลยนี่ยิ่งไม่สามารถว่ะ

จะหางานใหม่ แม่งก็ประหลาดอย่างคือไม่มีใครรับ

25 Nameless Fanboi Posted ID:vaF6PKbxcO

เงินเดือน 20k ที่ below average ปะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:oPwkwhN5KE

>>24 อายุ 30กว่าแต่รายได้ไม่พอใช้ มึงมีลูกเมียป่ะเนี่ย? .... ส่วนหางานใหม่ละไม่มีใครรับเนี่ย เรื่องอายุมึงคือตัวหลักเลย อย่างที่สองคือประสบการณ์งาน และสามเลยคือเทรนด์ธุรกิจ ถ้ามึงไม่ตามๆดูว่างานเสริม งานหลักมึงแม่งเป็นช่องทางที่หาเงินจากตรงนี้ได้น้อยลงนะ ขาดทุนกับแรงตัวเองชัวร์ ไม่งั้นมีแต่รอคอยความจนตอนอายุใกล้เกษียณ

27 Nameless Fanboi Posted ID:zdwl7vrSSG

เออ จะว่าไปก็แปลกดี คนบอกหางานยากเยอะ แต่บางคนแม่งก้จ้อบฮอปเปอร์เป็นว่าเล่น น้องในทีมกุที่ค.สามารถเท่าๆกะกุนี่ล่ะ ลาออกไปทำนั่นนี่ที่ละ 3-9 เดือน 2 ปีนี้ทำไปประมานสี่ที่ อายุ 26 งด.แม่งจะปาไปห้าหมื่นละเพราะย้ายบ่อย (จุดนี้กุก็งงนะ คือทำแต่ละที่ไม่ได้นานเอาอะไรไปอัพเงินวะ ถ้าโลกนี้มันตัดสินเงินเดือนกันตอนพรีเซ้นตัวเองอย่างเดียว กุก็สิ้นหวังหน่อยๆ) กุพอรุ้งด.มันแล้วก้ได้แต่ถามตัวเองว่ากุมัวกอดคอมฟอทโซนรอขึ้นงด. ปีละพันสองพันทำไมนี่

28 Nameless Fanboi Posted ID6:ybft/xaVSX

>>27 อยู่ที่สายงานด้วย พวกมึงจัมพ์ได้บ่อยๆแบบนี้สงสัยสายเทคแน่เลย

29 Nameless Fanboi Posted ID6:ybft/xaVSX

>>21 มึงจบอะไรมาตั้ง 2 ใบ แต่หางานดีๆทำไม่ได้

30 Nameless Fanboi Posted ID:zdwl7vrSSG

>>28 ไม่เทคๆ พื้นฐานจบไฟแนนซ์แต่มันโดดไปมาเกตติ้งบ้าง กึ่งๆเซลส์โคบ้าง คอนซัลท์บ้าง กุก็งงอยุ่เลยไม่กล้าสมัครมั่วซั่วแบบมัน กลัวสัมภาษณ์แล้วจะแบล้งก์ไม่มีอะไรไปแถ 5555

31 Nameless Fanboi Posted ID:2aSBrgKc4R

>>27 ให้กูคิดนะ สายงานขาย บางทีสายงานแบบนี้มันสามารถทำได้แบบสายเทคไหม? คือรวมผลงานเอาไปนำเสนอ สายเทค เช่นเขียนโปรแกรม มึงโชว์นายจ้างดูได้ว่ามีผลงานไรมา ต่อให้ทำงานกับสัก บ. แค่เดือนสองเดือนมันก็ได้นะ แต่สายงานการตลาดการเงินเนี่ย กูไม่รู้ว่ามันทำได้ไหมนะ อีกอันนึงที่กูว่าสายงานมึงน่าจะพอๆกับสายงานโรงแรมเลยคือพวกคอนเนคชั่น หรือหางานได้ผ่านการเขียนอะไรแนะนำไปแต่ละ บ. นั่นแหละ ราวๆนั้น
>>29 เออ กูก็นึกตามนะ จบ ป.ตรีมา2ใบทำไมหางานดีๆไม่ได้

32 Nameless Fanboi Posted ID6:NA2diAYz./

>>11 ถ้ากูเป็นมึง กูไป เงินเก็บขนาดนี้ไม่กลัวไรละ ไปเปิดประสบการณ์ก่อนจะแก่เกิน กู 36 อยากใช้ชีวิตประเทศอื่นบ้างนี่ยากแล้ว อายุเยอะโอกาสมันก็น้อยลง อยู่กินกับแฟนซื้อบ้านที่นี่แล้วแมวอีกสี่ตัวกูก็ไปไหนไม่ได้แล้ว

33 Nameless Fanboi Posted ID6:NA2diAYz./

>>24 หรือมึงอยู่ ตจว. วะ ทำไมกดค่าแรงจัง ตอนกูย้ายมาทำงาน กทม.คือเงินเดือนโดดขึ้น 10k เลยนะ (ถึงค่าครองชีพจะสูงขึ้นด้วยก็เหอะ หักลบแล้วก็ยังคุ้มอยู่) ตลาดงานมันกว้างกว่า อยากรู้เหมือนกันเลยว่าปริญญาสองใบนั่นอะไรบ้าง

34 Nameless Fanboi Posted ID6:Tx9HthShVx

>>33 กูทำงานอยู่ กทม นี่ล่ะ เป็นเจ้าหน้าที่ในมหาลัยแห่งหนึ่ง แต่ไม่ได้จ้างประจำเป็นสัญญารายปีให้ดูแลโครงการหนึ่งของภาควิชา

ตอนแรกกูได้ 20k ด้วยซ้ำ แต่พอโครงโควิตมากูก็โดนลดเงินเหลือหมื่นห้าแลกกับทำงานอาทิตย์ละ 3 วัน แล้วตอนนี้พอโครงการปิดโปรเจคไปแล้วก็โดนลดเหลือหมื่นเดียวอีก นี่เขายังใจดีที่ให้กูอยู่ต่อได้ระหว่างยังหางานใหม่ไม่ได้ เพราะกูอยู่มาก็ 5-6 ปีละไง แล้วนี่กูหาใหม่ไม่ได้มาก็เป็นปีที่ 2 ละ เพราะกูไม่มีประสบการณ์อะไรที่ตรงกับที่เรียนจบมาเลย

ส่วนปริญญา 2 ใบกูมีนิติศาสตร์จากรามฯ กับ บัญชี จากหอการค้าที่ไปเรียนต่อช่วงก่อนโควิตมา กูพยายามหางานใหม่ตลอดนะ แต่แม่งปิ๋วหมดเลย ประสบการณ์กฎหมายนี่คือจบมาแทบไม่เคยใช้งาน ส่วนบัญชีก็ประสบการณ์น้อยมากอีก ไปที่ไหนมีแต่ส่ายหน้าให้อะ

35 Nameless Fanboi Posted ID6:Tx9HthShVx

ส่วนเรื่องรายได้เสริม เลิกงานกูก็มาช่วยน้องกูที่เป็นแม่ค้าออนไลน์ขายของนี่ล่ะ

ถ้าจะถามว่าทำไมกูไม่ไปสอบตั๋วทนายล่ะก็ กูสอบมาจะ 10 ปีละตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ ยังไม่ผ่าน ไปติวแล้วลงเรียนแล้วก็ยังไม่ผ่าน คะแนนข้อเขียนกูไม่มีปัญหามันเกินครึ่ง แต่ข้อกานี่กูแทบจะออกมาเลขหลักเดียวทุกรอบ เพราะกูไม่ถนัดจำอะไรเล็กน้อย อย่างวันที่ก่อตั้ง ชื่อผู้บริหาร หรือพวกระเบียบที่ต้องท่องออกมาเป๊ะๆ คิดดูมารยาททนายความแค่ไม่กี่สิบข้อกูท่องมาเกือบสิบปียังท่องไม่ได้ซักข้อ ซึ่งข้อสอบข้อกาแม่งออกแต่แบบนี้ ยิ่งปีหลังๆ เอามาออกข้อเขียนอีก ความหวังจะผ่านนี่กูจึงยิ่งริบหรี่จนไม่มีเลย

ตอนนี้กูมองหาอะไรใหม่ๆ นอกจากสายที่เรียนจบมาบ้างละ กะว่าจะไปสอบใบอนุญาตขายประกันตามที่เพื่อนแนะนำ ไม่ก็กลับไปเรียน MBA ต่อเลย

36 Nameless Fanboi Posted ID6:mSkqOUThnD

เอาตรง ๆ นะ ไม่ต้องเรียนแล้วโว้ย รีบหางานหาคอนเนคชันดีกว่า

37 Nameless Fanboi Posted ID6:SVrAmsR9KZ

รู้สึกเซ็งว่ะ เก็บเงินมาจะไปเที่ยวเมืองนอกสิ้นปี ตอนต้นเดือนกูยังอารมณ์ดีๆอยู่เลยเพราะจะได้ไป แต่พอใกล้ถึงวันที่จะต้องไปแล้ว แม่งก็เอาปัญหาเรื่องการเงินของทางบ้านมาพูดให้กูฟัง บอกกูอ้อมๆว่าเอาเงินให้เขาไปใช้หนี้ดีกว่าไปเที่ยว ทำตัวไม่มีหัวคิด บางวันก็เอาเรื่องเงินๆทองๆของญาติที่ไม่มีเงินใช้หนี้มาบ่นให้ฟังอีก ทำเอากูเซ็งปนหดหู่หมดมู้ดอยากเที่ยวเลย

38 Nameless Fanboi Posted ID:LfbPPoCFVM

>>36 กุอ่านๆแล้วก็คิดว่าไม่ต้องเรียนแล้วเหมือนกัน 555 ถ้าไม่ได้ยึดว่าอยากจะทำงานให้ตรงสายให้ได้กุว่าขายของออนไลน์มันเวิ้คมาก ยิ่งพวกที่ทุ่มกับมันได้เต็มที่ไม่ต้องแบ่งเวลาจากงานประจำแป้บๆ ติดตลาดละ แต่แล้วแต่เพื่อนโม่งแหละ เป็นกำลังใจให้นะ

39 Nameless Fanboi Posted ID6:QTzQBgmYBW

>>38 คหสต. ... เห็นด้วยตรงที่ถ้ามีเวลาว่างขายของละรู้จักใช้เครื่องมือนะ แม่งดี ละทำงานประจำ3วันต่อวีค อห. ไรเนี่ย5555 ดีจัดๆ ถือ ป.ตรีไปอีก ถ้าไม่โทษแต่ลุงนะ ไปหาทางพัฒนาตัวเองเหอะ เอาเงินเหลือๆหลังสารพัดหักอ่ะ ไปซื้อคอร์สเรียนอะไรสักอย่างเพื่อฝึกฝนตัวเองนะ ให้ดีๆก็หาสิ่งที่สนใจรองลงมาก็ได้

40 Nameless Fanboi Posted ID6:nCeRDzrLFI

>>38 มันก็มีหลายคนนะที่ไปเรียนโทเพื่อเอาคอนเน็คชั่นอะ เห็นคนพูดกันเยอะ

41 Nameless Fanboi Posted ID:po03/M2tRz

อาทิตย์หน้าหยุดทั้งอาทิตย์แล้วว้อย

42 Nameless Fanboi Posted ID6:nCeRDzrLFI

>>41 อิจฉามึงมาก พักผ่อนให้สบายนะ กูหยุด 4 วันถ้วน ไม่รู้สึกถึงความเป็นวันหยุดยาวปีใหม่เลย...

43 Nameless Fanboi Posted ID6:L7tAJBBHw5

>>41 กูหยุด 3 วัน ทำงานถึง 30
แต่ถามว่าวีคสุดท้ายจะเหลือคนมีกะใจทำงานมั้ย กูว่าไม่ 555+ ไปก็เหมือนไปยืมไฟออฟฟิศละนั่งอู้

44 Nameless Fanboi Posted ID6:Bx3FPB3F6m

>>43 ตอนแรกกูก็กะจะทำแบบนั้นแหละ 555 แต่เหมือนเจ้านายกูรู้แกวว่ะ เลยสั่งงานไว้เรียบร้อย จะเอาตอนเปิดปีใหม่ ส่วนเจ้านายกูลาพักร้อนยาวๆ ไปแล้วจ้า 555 อดอู้เลย 555

45 Nameless Fanboi Posted ID:DS.itNMaV/

มึง ตอนนี้กุมาทำงานต่างประเทศได้ครึ่งปีแล้ว เหงาคิดถึงบ้านชิบหายแต่เงินที่นี่มันก็ดีจนไม่อยากกลับไปเลยว่ะ ทำยังไงดีวะ กุคิดถึงพ่อแม่หมาเพื่อน อาหารไทยต่าง ๆ

46 Nameless Fanboi Posted ID6:h0bHieOgfC

เพิ่งเรียนจบแล้วรู้สึกว่าชอบทพงานอิสระมากกว่า แต่ก็อยากจะลองทำงานออฟฟิศก่อน เราต้องทำอย่างต่ำกี่เดือน กี่ปีืถึงจะลาออกได้อ่ะ คือจากประสบการณ์ฝึกงาน แล้วไม่ชอบเลยทำงานแนวนี้ แต่ก็อยากลองไปทำจริงๆก่อน แน่ก็อยากทีควาทรู้ไว้เผื่อไปทำแล้วไม่ชอบ

47 Nameless Fanboi Posted ID6:WnVh.rkYKh

กู >>34 >>35 เอง ไม่ได้เข้าโม่งมาหลายวัน
ใช่ตอนนี้กูหาคอร์สเรียนอยู่แต่ยังเลือกไม่ถูกระหว่างภาษาต่างประเทศ หรือจะไปโปรแกรมมิ่งดี ทุกวันนี้คือภาษาอังกฤษพอได้ในระดับคุยกับเพื่อนใน Discord ต่างชาติสบาย ถ้าเพิ่มระดับเข้าไปน่าจะสบาย แต่ในขณะเดียวกันก็สนใจภาษาญี่ปุ่นอยู่เหมือนกัน ส่วนโปรแกรมมิ่งนี่คือระดับฝึกหัดเลย ทุกวันนี้ได้แค่ xml แต่ข้อดีคือมันหาเรียนออนไลน์ง่ายนี่ล่ะ

ส่วนรายได้เสริมอื่นตอนนี้ กูคิดหลายตลบละว่าจะกลับไปเขียนนิยายดีมั้ย เมื่อก่อนก็เขียนขายอยู่ ยุคนี้ยิ่งขายง่ายกว่าเมื่อก่อนเพราะติดเหรียญขายได้เลย แต่ตรงนี้แม่งติดทิฐิตัวเองที่ไม่ชอบเขียนแนวซ้ำกับตลาดนี่ล่ะทั้งที่เขียนได้แท้ๆ

แต่น่าแค้นใจชะมัดปีที่ผ่านๆ มานี่สอบเข้ารับราชการ/พนักงานราชการ ไปหลายสิบที่แต่ไม่ติดเลยซักที่ เพราะมีจุดอ่อนเรื่องการจำรายละเอียดเล็กน้อยอย่างวันสำคัญ บุคคลสำคัญ ชื่ออธิการบดีอะไรพวกนี่ไม่ได้นี่ล่ะ ทั้งที่มีภาค ก. อยู่แล้วแท้ๆ นะ

48 Nameless Fanboi Posted ID:66LThnkpVJ

พอท้ายปีมาคำนวนภาษีเห็นเลขที่ต้องจ่ายแล้วน้ำตาจะไหล ทำงานมาเหนื่อยแทบตายสุดท้ายต้องเอาเงินไปให้รบ.ผลาญทิ้ง

49 Nameless Fanboi Posted ID:62orUKDrlz

>>48 อย่าลืมภาษีมูลค่าเพิ่มที่มึงเสียเรื่อยๆมาทั้งปีด้วยอีกอย่าง 555

50 Nameless Fanboi Posted ID:3pgY/ALc.T

ใครเคยร้องไห้เพราะงานมั่ง

51 Nameless Fanboi Posted ID:5Zlg9xAIDm

>>50 กูมันอัดอั้นไอ้สัส มึงเคยเจอหัวหน้างานสไตล์ไล่ต้อน แบบมึงต้องผิด!!!
เหมือนแม่งโรคจิต ตรวจงานให้กูทีเป็นวันแล้ว คอมเม็นต์โง่ๆแบบใช้คำไม่ถูกใจแม่ง ใช้คำไม่เหมือนกัน
แล้วพอมาอีกงานกูเคยเขียนแบบที่แม่งคอมเม็นต์ไว้ เสือกคอมเม็นต์แก้เป็นแบบเก่า
หลังๆโรคจิตหนักๆเข้า ให้กูไปหาเอาเองว่ากูทำอะไรไม่ถูกใจมัน
แล้วประเมินกูแบบกดจมดิน แบบกูกากมาก
กูนี่กำหมัด คือไอ้สัส ถ้ามีที่ไปกูจะรีบลาออกให้ไวเลย

52 Nameless Fanboi Posted ID:Ys3MAwRtj6

>>51 ไปตั้งวงแดกเหล้ากับเพื่อนที่โดนแบบเดียวกันจะช่วยมึงได้เยอะ

53 Nameless Fanboi Posted ID6:w8Wuim3f.u

>>48 โดนไปเท่าไหร่วะ กูฐาน 20 ถ้าไม่ซื้ออะไรเลย (มีแค่ลดหย่อนส่วนตัวพื้นฐานที่ทุกคนมี) จะโดน 85k กว่าๆ ซื้อจนเหลือจ่ายจริงแค่ 30k ซื้อจนหมดเนื้อหมดตัว 555 ได้ยินว่ามนุษย์เงินเดือนที่รายได้เยอะๆ นี่โดนกันแบบซื้อแคมรี่ได้คันนึง omg มากก
>>49 ภาษีมูลค่าเพิ่มกูไม่มายด์นะ เพราะทุกคนเสียเหมือนกันหมดตราบใดที่มึงยังต้องซื้อของ แต่ภาษีเงินได้แม่งปวดใจ เพราะพวกทำธุรกิจรวยแม่งก็ทำบัญชีเลี่ยงภาษี พวกพ่อค้าแม่ค้าข้างทางก็ไม่จ่ายภาษี อ้างว่าจน แต่ขับ fortuner สัสสส สรุปคนจ่ายภาษีจริงๆ รู้สึกจะมีแค่ 4 ล้านคนเองมั้ง ทั้งประเทศ ถ้ากูจำไม่ผิด เคยอ่านข่าวอยู่

54 Nameless Fanboi Posted ID:66LThnkpVJ

>>53 กูว่าเงินเดือนกูน่าจะพอๆกับมึงเลย แต่ปีนี้มีรายจ่ายส่วนตัวเข้ามาเยอะ+ไม่ได้เตรียมวางแผนลดหย่อนไว้ให้ดีตั้งแต่ต้นปี เลยมาหนักช่วงนี้

ลองคำนวนคร่าวๆของปีหน้าแล้ว จากเงินเดือนฐานภาษี20 พอหัก fix cost (พวกค่าที่พัก, ส่งให้ที่บ้าน, ค่าเน็ต ค่ามือถือ กับพวก subscription ทั้งหลาย) + ค่าข้าว/ของใช้จิปาถะ + ส่วนที่ต้องเอาไปใช้เพื่อลดหย่อน(ssf ประกัน บลาๆ) + ส่วนที่ต้องเก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน + ภาษีหัก ณ ที่จ่าย แม่มเหลือให้เอาไปใช้สุรุ่ยสุร่ายได้นิดเดียวเองนี่หว่า ยังดีหน่อยที่กู wfh เลยไม่ต้องหักค่าเดินทางไปอีก

55 Nameless Fanboi Posted ID6:Zaaw8x/zje

>>54 มึงยังดี เหลือให้สุรุ่ยสุร่ายนิดเดียว กูไม่เหลือแล้วววว 555 ช็อปดีมีคืนต้นปีหน้า 40k นี่ลังเลอยู่ว่าจะเอาไงดี จริงๆ ถ้ามีของใหญ่จะซื้ออยู่แล้วนี่โคตรคุ้มอะ แต่เงินก็ไม่มีละ 555 นอกจากเงินเดือนน่าจะพอๆ กัน ชีวิตน่าจะคล้ายกันด้วย ต้องส่งให้ที่บ้านและมีค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายอื่นๆ คล้ายกันมากเลย แต่ของมึงดีกว่าตรงไม่มีค่าเดินทาง กูนี่ทั้งค่าน้ำมันรถ ประกัน เข้าศูนย์ ฯลฯ เมื่อก่อนสมัยเคยคิดว่าเงินเดือนประมาณนี้คือเยอะแล้ว พอได้จริง จะใช้ทีต้องคิดเยอะโคตรๆ ไม่ได้สบายเล้ย

56 Nameless Fanboi Posted ID6:XtSF/xMfV6

มีคำถามนะ อยากซื้อรถEV แบบเพื่อให้เดินทางได้เองสะดวกๆ เจอในLazada ระยะขับราวๆ76 กม. และก็เห็นยี่ห้อFommoneก็น่าสนเพราะน้ำท่วมจริงจะได้ไม่ต้องกลัวไร 5555 คำถามต่อมาก็คือ ซื้อรถEVจิ๋วๆมาขับตอนนี้เพื่อจะได้หากินกับงานประจำจุดอื่นง่ายขึ้น(เช่น ราชพฤก,ปิ่นเกล้า, แถวๆกองทัพเรือ,ทวีวัฒนา) กับซื้อมอไซค์EVหรือรอไปอีกยาวๆ5ปีจนปั๊มชาร์จไฟมีครบทุกจุดนี่อันไหนโอเคกว่ากันวะ?

57 Nameless Fanboi Posted ID6:7B5iLOiBtv

ปรึกษาหน่อยว่ะ กุเงินเดือนประมาณ 35k ไม่มีภาระอะไรเลย ใช้ส่วนตัว+ให้ที่บ้านแล้วเหลือประมาณ 12-13k อยากซื้อรถเก๋งใช้ไปทำงานสักคัน ที่บ้านจะดาวน์ให้ ควรเลือกราคาประมาณไหนดีวะ

58 Nameless Fanboi Posted ID6:ZqqJSVA8DH

>>57 อีโคคาร์ญี่ปุ่น ประมาณ 500-550k จิ้มเอาสักคัน

59 Nameless Fanboi Posted ID6:f86lAfc3QF

>>57 ถ้าถามกูนะ... รายได้เท่านี้หารถมือ 2 ราคาถูกๆ ไปก่อน แล้วเอาเงินที่เหลือแต่ละเดือนไปเก็บเป็นเงินเย็นไว้ลงทุน
กูเห็นมาเยอะละพวกเงินเดือนประมาณมึง คิดว่ารายได้เยอะพอเลี้ยงตัวเองเลยเริ่มก่อหนี้สิน ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อนั่นโน้นนี่ สุดท้ายคือพังเพราะนอกจากหมุนเงินไม่ทันแล้ว ยังเอาเงินที่ควรมีไปละลายทิ้งอีกต่างหาก

กลับกันถ้าเกิดมึงเก็บเงินเย็นได้ก้อนนึง แล้วเอาไปลงทุนหาของที่ซื้อเก็บไว้แล้วรอราคามันขึ้นได้ มึงจะมีแต่ได้กับได้ จะซื้อหุ้น ซื้อตราสาร ซื้อทอง ซื้ออะไรก็แล้วแต่เลย พอเป็นงี้มึงจะมี Passive income พอได้ดอกผลมาก็ตัดมาเป็นรายได้เอาไปจ่ายซื้อนั่นโน้นนี่จะดีกว่า แทนที่จะเอาเงินก้อนไปซื้อของที่ราคาจะเสื่อมลงทุกปีทันทีเลยอย่างรถเก๋งงี้

60 Nameless Fanboi Posted ID:VKAQI5/KYS

>>57 ที่บ้านดาวน์ให้อะดาวน์เท่าไร ถ้าเป็นกุต้องดาวน์ 30-40% และชำระต่องวดต้องเป็นครึ่งนึงของเงินที่เหลือจากเงินเดือน ถึงจะยอมออกรถ อย่าเชื่อลมปากครอบครัวมากถ้าเขาไม่โอนเงินสดเข้าบัญชีมึง และถ้ากุมีเงินเหลือเท่ามึง กุซื้อเวฟขี่

61 Nameless Fanboi Posted ID:xiJ+TsKuPv

>>58 ซื้อมือสอง ไม่เกิน 2-3 แสนอ่ะพอแล้ว ค่อยมีหลักแสนค่อยซื้อมือ 1

62 Nameless Fanboi Posted ID6:KURs0/1jCH

พรุ่งนี้ต้องกลับไปทำงานแล้ว รู้สึกไม่พร้อม แงงงงงง

63 Nameless Fanboi Posted ID:MEWCqnZ6j4

>>62 same

64 Nameless Fanboi Posted ID6:QZ0sjRquo1

ปีนี้อุตส่าห์ได้หยุดปีใหม่ยาวกว่าปกติ แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยได้พักอยู่ดี
มีเรื่องเข้ามาไม่หยุดเลย ทั้งคอมเสีย ไอแพดเสีย ต้องเตรียมของไปให้ญาติ เจอญาติมาหาแบบไม่บอกก่อนแล้วนั่งคุยไม่ยอมกลับ ฯลฯ
พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแล้ว แต่ขี้เกียจชิบหาย ขอโดน layoff หรือโดนย้ายแผนกแบบงงๆเป็นของขวัญปีใหม่ได้มั้ยวะ

65 Nameless Fanboi Posted ID:uU6xFfBChj

ไม่รู้เอามาคุยในนี้ได้ไหม แต่ล่าสุดโดนชวนไปทำของแบรนด์นึง ตอนแรกก็น่าสนใจโดนคำว่าpassive incomeล่อลวง แต่ตอนนี้คืออยากหยุดมาก ทัศนคติมันไม่ตรงกันเลยอ่ะ รู้เลยว่ามันไม่ใช่ มันฝืน คนเราเปลี่ยนกันได้แต่เปลี่ยนทั้งที่ฝืนอ่ะ มันแย่ไง ละคือเริ่มทำแล้วนัดคนได้แล้วด้วย แบบรู้นะว่าตัวเองขี้เกรงใจเกินไป ขนาดจะบอกแค่ว่าไม่ทำแล้ว ยังตองมานั่งหาคำพูดให้มันโอเคคืออยากตีหัวตัวเอง

66 Nameless Fanboi Posted ID:3LEQ0XRB4R

เราสามารถเลิกจ้างคนด้วยเหตุผลว่ามัน toxic ได้มะ เขียนราวๆ มีปัญหาในการสื่อสารกะผู้ร่วมงาน ทำให้บรรยากาศการทำงานมีปัญหา ไรงี้

67 Nameless Fanboi Posted ID:jb3wCKzoNb

เพื่อนโม่งคับ
ผมทำงานบริการแห่งหนึ่งมา5ปี
และตัดสินใจออกปลายเดือนนี้

แน่นอนว่าสมัครงานที่ใหม่แล้ว กำลังสร้างอยู่ กว่าจะเสร็จน่าจะกุมภา มีนา แล้วรอเขาเรียกสัมภาษณ์

ช่องว่าง1เดือน กุควรไปทำอะไรเพิ่มดีคับ ไม่เคยมีเวลาขนาดนี้มานานแล้ว

68 Nameless Fanboi Posted ID6:4SpsPWOov0

>>66 เอาตามกฎหมายนี่คือไม่ได้ เพราะไล่ออกตามกฎหมายแรงงานมีเงื่อนไขว่าลูกจ้างต้องทำผิดอย่างใดอย่างนึงตามนี้ก่อนคือ
1. ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง
2. จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
3. ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
4. ฝ่าฝืนข้อบังคับการทำงาน ระเบียบ หรือคำสั่งของนายจ้าง อันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว เว้นแต่กรณีที่ร้ายแรง นายจ้างไม่จำเป็นต้องตักเตือน (หนังสือเตือนให้มีผลบังคับได้ไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่ลูกจ้างได้กระทำผิด)
5. ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาสามวันทำงานติดต่อกันไม่ว่าจะมีวันหยุดคั่นหรือไม่ก็ตาม โดยไม่มีเหตุอันสมควร
6. ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
ถ้าไล่ออกนอกจากเหตุผลข้างต้นนี้ มีสิทธิโดนขึ้นศาลแรงงาน โดนจ่ายเงินชดเชยอ่วมเลยในฐานเลิกจ้างแบบไม่เป็นธรรม

แต่ความเป็นจริงมันมีวิธีกำจัดคนที่เราไม่ต้องการเยอะแยะ อย่างเช่นรุมบูลลี่ในที่ทำงาน จับแขวนให้ไปอยู่ส่วนงานความสำคัญต่ำและอีกฝ่ายไม่ถนัด หรือไม่ก็ตัดสวัสดิการนั่นโน้นนี่ บีบเข้าไปให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าอยู่ไม่ได้และสุดท้ายก็ลาออกไปเอง

69 Nameless Fanboi Posted ID:oP/KRo4QDD

>>67 เที่ยวให้เต็มทึ่ก่อนจะไม่มีโอกาสไหม

70 Nameless Fanboi Posted ID:A79cUw.hJY

>>68 โอเค งั้นกูแจกหนังสือเตือนละกัน

71 Nameless Fanboi Posted ID:CjXIfOqX9e

>>70 ถูกแล้ว ตามนั้น ถ้าเอาเพลย์เซพก่อนจะออกใบเตือนก็ให้เพื่อนร่วมงานของมันส่งเมลแจ้งมึงว่างานมีปัญหาเพราะพฤติกรรมไอ้/อีคนนั้น เผื่อใช้เป็นหลักฐานในอนาคต แต่ไม่ต้องเอาไปให้มันดูนะว่าใครแจ้ง ออกใบเตือนแล้วยังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมภายใน 1 เดือน(ซึ่งถ้ามัน toxic โดยสันดานมันเปลี่ยนไม่ทันหรอก) ก็ออกซ้ำพร้อมระบุเพิ่มว่าเตือนครั้งสุดท้าย เดือนถัดมาก็ไล่ออก ไม่ต้องจ่ายชดเชยเพราะมีหลักฐานความผิดตามข้อ 2และ4 แล้ว

ทั้งหมดที่กูว่าไป ในมุมของอีกฝ่ายมันอาจมองว่าเล่นพรรคเล่นพวก ใช้อำนาจโดยมิชอบ ก็ได้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าฝั่งไหนทำ benefit ให้บ.ได้มากกว่า มึงลองย้อนกลับมามองฝั่งตัวเองด้วยละกัน

72 Nameless Fanboi Posted ID:A79cUw.hJY

>>71 จะเอาออกเพราะ benefit กะงานติดลบด้วยนี่แหละ
แบบว่าขยันนะ แต่งานใช้ไม่ได้ เสียเวลาคนอื่นมานั่งแก้
แล้วก็ทำให้บรรยากาศงานไม่ดีด้วย แต่แนวทางไม่ตรงกันอย่างแรง
มีทางอื่นมะ แบบประเมินไม่ผ่าน แต่แบบนั้นกูต้องจัดแบบประเมินล่ะนะ

73 Nameless Fanboi Posted ID6:.RzJEU4Pk9

>>72 ... คือ กูถามได้ไหมว่าตั้งแต่เขาเข้ามาจนถึงวันนี้นี่คือมันผ่านโปรยัง? ถ้าสมมติแบบมาทำเดือนนึงละมาตัดสินทุกอย่าง อยากแจกใบเตือนบลาๆใส่ งานมันก็ทำแต่ในมุมองเค้าคือมึงกับพรรคพวกไล่ต้อนเค้าตลอดรึเปล่า กดดันทั้งคำพูดทั้งอะไรเอยไหม ยิ่งนานวันยิ่งห้ามมีช่องผิดไปอีกทั้งๆที่เค้าทำหม่บ่อย ทำคร้งสองครั้งเองนี่กูบอกเลย เป็นกูกูก็ออก เพราะทำดีขนาดไหนเค้าก็มองว่ามึงไม่ชอบ มองว่าไม่ดีร่ำไปนั่นแหละ คนเราแม่งทำห่าไรอย่างน้อยๆถ้าไม่รู้สึกว่าทำคุณคนขึ้นมาเลยก็ไม่อยู่หรอก เปลืองแรงเค้าพอกัน

74 Nameless Fanboi Posted ID:+SVZhQO6qU

>>69 คิดว่าคงไม่ได้เที่ยวอ่ะนะ ไม่รู้จะไปไหนอยู่แล้ว ปกติก้ไม่ใช่คนเที่ยวไปไหนมาไหนด้วย

75 Nameless Fanboi Posted ID6:0LN.27yjj1

>>73 กูไม่ใช่ >>72 นะ แต่คนบางคนที่ตอนสัมภาษณ์ดูโอเค แต่เข้ามาแล้วมีปัญหาบางเคสมันก็ชัดแต่เนิ่นๆได้นะ ไม่ได้ต้องรอนานขนาดนั้น

76 Nameless Fanboi Posted ID:YfffVPBKmR

>>75 กูไม่รู้นะว่างานแบบไหน ทางเลือกของ บ. เยอะกว่าที่คิดจนแบบคนๆนี้ต่อให้ออกไป งานโดยรวมก็ไม่โหลดหนักขนาดนั้นรึเปล่าถึงได้มองว่ามันทำงานละbenefit บ.มันไม่ได้ไง ถ้าแบบตัวเลือกของ บ. กับไอโม่งหัวหน้านี่คือเลือกๆใครบนท้องถนนมาทำงานนี้ก็ได้ ฝึกละเข้ากับทีมมันได้อันนี้กูว่าก็ไล่ๆออกแล้วหาๆใหม่ไปเถอะ

77 Nameless Fanboi Posted ID:QgfE61zBLX

เอาเหอะ สรุปว่ากูจบแค่หนังสือเตือน และหวังว่ามันจะดี คือ ถ้าไม่พัฒนากูยอมจ่ายตังให้มันออกเลย เปลืองแรง

78 Nameless Fanboi Posted ID:O+Limi572J

ทำไมงานที่ require มึงให้เข้าออฟฟิศ ถึงไม่ออกค่าเดินทางให้มึง

79 Nameless Fanboi Posted ID:EHTdgGpQKJ

>>78 เพราะทุนนิยมแม่งเหี้ย

80 Nameless Fanboi Posted ID6:ewAi1Gc3RA

>>75 มีปัญหาเพราะอคติ รุมกินโต๊ะ หรือสังคมผู้หญิงเล็กๆน้อยๆ จนสุดท้ายถูกมองว่า toxic แถมผลประกอบการ บ. แย่จนต้องเพ่งเล็งคนออกด้วยสารพัดเหตุผลดีๆกับแย่ๆเนี่ย อันนี้กูว่าคงไม่ใช่ที่ตัวคนทำงานอย่างเดียวแล้วล่ะ คนๆนึงถูกตัดสินว่าtoxicได้นี่ก็เกิดจากคนtoxicไปตัดสินเค้าได้เหมือนกันอ่ะ

81 Nameless Fanboi Posted ID:O1tEUxq4BU

สังคมออฟฟิศที่ผู้หญิงเยอะๆมันก็ toxic จริงๆนะ กูไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดแต่พลอยโดนหางเลขไปด้วย เวรจริงๆ

82 Nameless Fanboi Posted ID6:bk42m86.8A

>>80 >>81 ได้ยินคนพูดแบบนี้ประจำ กูว่ากูโชคดีชิบหายแผนกกูผู้หญิง 90% แต่ไม่มีดราม่าปสด.กันเองเลย เพราะพวกเราปสด.กับเรื่องงานและปริมาณอันล้นหลามอยู่แล้ว 555 แค่ทำงานอย่างเดียวแม่งก็แทบจะไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน ไม่มีเวลามานั่งหาเรื่องกันเองหรอกนะ และเจ้านายกูที่เป็นผู้หญิงก็นิสัยแมนมากๆ เป็นไอดอลกูเลย การได้อยู่ในสังคมที่ทำงานที่ดี นอกจากจะไม่ทำให้เราปสด.แล้ว มันยังทำให้เราอยากพัฒนาตัวเองด้วยนะ เวลาเห็นคนเก่งทั้ง IQ และ EQ เราก็จะรู้สึกอยากเป็นแบบเขาบ้าง แต่ถ้าอยู่ในสังคมเห่ยๆ จากคนไฟแรงบางทีก็ไฟมอดหมด เห็นคนอื่นห่วยๆกากๆทำงานขอไปทีเราก็จะเกิดความคิดว่า กูจะเหนื่อยจะพยายามไปคนเดียวทำไมวะ แต่พอรอบตัวมีแต่ผู้หญิงเก่งๆ นิสัยดีโอเค คุมอารมณ์นิ่ง เราก็จะมองว่า แม่งเท่ว่ะ อยากเป็นผู้หญิงเท่ๆ อย่างเขาบ้าง

83 Nameless Fanboi Posted ID6:0QL6BNAATY

>>80 ถ้าเรามีปัญหากะคนนึง คนนั้นอาจจะ toxic
ถ้าเรามีปัญหากะกลุ่มนึง กลุ่มนั้นอาจจะ toxic
ถ้าเรามีปัญหากับทุกคน ทุกคนอาจจะ toxic..... หรือจริงๆอาจจะเป็นที่เราที่เป็นคนนำ toxic
กูไม่ได้เกลียดส่วนตัวนะ แต่ถ้ามันสร้างปัญหามากเกินไปก็ต้องจัดการ

84 Nameless Fanboi Posted ID6:1JV5BVKf.K

>>82 เออ มองไปๆมาๆที่ บ.กูมีอยู่สองคน คนนึงระดับกลางอีกคนระดับสูง อายุแอบเยอะสุดกว่าทุกคนในที่ทำงานกันหน่อย แต่ใจเย็น ควบคุมอารมณ์ดี ปากไม่พล่อย คือแบบถ้ากูทำพลาดกับคนอื่นคงมีแต่ด่าท่าเดียวแต่นี่ไม่ ให้โอกาส เตือน แนะนำวิธีอื่นตลอด ถึงหลายๆครั้งใช้สีหน้านำมาบ้างก็ตามทีเถอะ แต่บอกเลยว่าจากที่ทำงานมา มีวุฒิภาวะเอามากๆ ฝีมือไม่แย่ จบมหาลัยราดพัดด้วยซ้ำนะแต่พึ่งพาได้ชิบหาย ซึ่งอยากให้มีงี้ในทีมตัวเองเยอะๆจังเลยหว่ะ

85 Nameless Fanboi Posted ID6:.NTXDwdWTQ

>>78 พวกโรงงานมีนะ

86 Nameless Fanboi Posted ID6:VEb9+NKNVO

>>82 เรื่องแบบนี้ อย่างที่บอกไปใน>>80อ่ะว่า ทีมมึงอาจจะแย่กว่านี้ต่อไปก็ได้ถ้าเกิด บ. มึงผลประกอบการแย่ หรือหาเงินจากลูกค้าไม่ได้ง่ายๆแบบแต่ก่อน ที่บ้าคลั่งกับเฉพาะงานแสดงว่างานมาเรื่อยๆจนมันทำกำไรกับกิจการได้ไง ก็คือมึงเก่งและโชคดีด้วยที่ได้เจอแน่กับคนที่เจ๋งจริง มีทักษะจริงๆ แอบอิจมึงนะที่ได้เจอกับอะไรแบบนี้ในช่วงที่คนเค้าวิกฤติกันชิบหาย กูนี่มาอยู่กับ บ.ข้ามชาติเพิ่งเปิดในไทย หนี้ระยะยาวมหาศาล แต่ว่ากันว่าทุนหนา ความเสี่ยงเยอะเพราะ ศก. แย่มันก็แย่ตามด้วย อยากย้ายไปทำงานอื่นที่แบรนด์เข้มแข็งกว่านี้อย่างบอกไม่ถูกเลย

87 Nameless Fanboi Posted ID:gx42bXSKRH

อีเชี่ย ช่วงนี้ทำไมขอรับบริจาคแม่งระบาดอีกละวะ เข้าใจว่าเจอในห้างบิ๊กซีซะเยอะนะ แต่ไปๆมาๆเจอตามสถานี รฟฟ ใหญ่ๆด้วย ไอพวกนี้นี่เอาไปทำเรื่อลดหย่อนภาษีได้เหรอ? เห็นมีแต่กระปุกกับป้ายโปรโมท ซึ่งถ้าจะเอาไปยื่นสรรพากรขอลดหย่อนด้วยไอซุ้มพวกนี้ไม่น่ามีปัญญาถูกไหม?

88 Nameless Fanboi Posted ID:oCp28ByIx/

ใส่อะไรลงไปในเรซูเม่ให้มันดูมีประสบการณ์ดีวะ...

89 Nameless Fanboi Posted ID:NRUH3m+ffe

มีใครเคยลาออกไปทำฟรีเเลนซ์หรืองานส่วนตัวบ้างไหมวะ เตรียมตัวยังไงดี เก็บเงินเท่าไร กูอยากลาออกชิบหายเเต่กลัวตรงที่ยังไม่มีเงินเก็บเพียงพอ

90 Nameless Fanboi Posted ID:j1EM2xYYaH

>>81 ผู้ชายก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่ต่างฝ่ายก็รู้กันว่าจะหยุดกันที่ระดับไหน ล้ำเส้นมากไปเจอชกต่อย เรียกพวกมารุมกระทืบกันแน่

91 Nameless Fanboi Posted ID:nqVaTpRhVf

>>88 เกจค่าพลังสิวะ

92 Nameless Fanboi Posted ID:ENK4DydqKm

>>91 ความร้อนเงิน : 101%

93 Nameless Fanboi Posted ID6:WomHH5aijW

>>90 ใช่ ผู้ชายคือมีแบบนั้นแหละ แต่ผู้หญิงงกูก็เคยเจอนะ บางคนมันไม่จบไม่หยุดไงก็มีดักตบเหมือนกัน สมัยแม่กูนี่ไม่มีกล้องติดทั่วเมืองเหมือนสมัยนี้เค้าจ้างกุ๊ยราคาถูกมีปืนมาดักยิงเลยก็มี

94 Nameless Fanboi Posted ID:QebLMGLEij

>>93 สายโรงงานยกพวกตีกันเลย มียิงกันตายกันทุกปี จัดเลี้ยงทีมีเรื่องกันตลอด
สุ่มตรวจฉี่เจอก็เยอะ

95 Nameless Fanboi Posted ID:y4eorm9EFN

>>94 สายโรงงาน .... unskilled labourไอสัส

96 Nameless Fanboi Posted ID:+CrdZi/HS4

>>95 แคมป์คนงาน ไม่มีเหตุก็ไม่ไปว่ะ ถ้าไปต้องไม่ไปคนเดียวว่ะ ที่สุดของที่สุด

97 Nameless Fanboi Posted ID:Hx92/0s8i1

>>94 โรงงานกูเห็นไลน์ผลิตมีแต่คนอีสาน แล้วร้อยละเก้าสิบคือคนรู้จักไม่ก็เครือญาติที่ได้คนในแนะนำเข้ามา

98 Nameless Fanboi Posted ID:QebLMGLEij

>>97 โรงงานสีขาว & มยส. อิอิออิอิอิ

99 Nameless Fanboi Posted ID:.ygT9g7Zhr

>>97 อันนี้จริง และใช้ระบบครอบครัวยันพวกมีวุฒิ ป.ตรีด้วยนะ ตรรกะเพี้ยน บริหารงานแบบเลือกที่รักมักที่ชังมาก หาดีๆได้โคตรน้อย ยิ่งพวกอีสานติดเขมรนี่คือเหมือนเอาสมองคนเขมรแต่ตัวเป็นพลเมืองไทยมาทำงานอ่ะ ความคิดความอ่านน่ารังเกียจสัส

100 Nameless Fanboi Posted ID:fHFDRGobEE

วันศุกร์แล้วโว้ยยยยย ศุกร์ 13 ซะด้วย

101 Nameless Fanboi Posted ID6:jiaq+oDqql

>>100 แค่วันศุกร์เดี๋ยวนี้ไม่พอ 🥲 ใจกูวาร์ปไปสงกรานต์ละ

102 Nameless Fanboi Posted ID6:JHJ184tSoJ

รู้สึก burnout มาก ตอนปีใหม่กูเอาวันลาที่ดองมานานตั้งแต่ปีก่อนๆมาถมลายาวๆไปเกือบเดือนก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย
ถึงเพื่อนร่วมทีมจะดีแต่กูเบื่อและเกลียดเนื้องานสัสๆ ทุกวันนี้วันนึงแทบไม่ได้ทำงาน พยายามจะทำแล้วมันโฟกัสไม่ได้จริงๆ
หรือบางทีทำแล้วติดนิดๆหน่อยๆก็หมดอารมณ์จะหาทางแก้ หลุดโฟกัสไปเลย
ก่อนหน้านี้เหมือนโชคดีเผางานนาทีสุดท้ายแล้วออกมาโอเคเลยเอาตัวรอดมาได้เรื่อยๆ
แต่กูก็รู้ว่ามันหลอกคนอื่นไปไม่ได้ตลอดหรอก แถมงานที่ทำอยู่ก็ไม่เดินมา 3-4 วันแล้วทั้งที่เป็นงานด่วน ลูกค้ารอ ผู้ใหญ่ก็มาเร่งยิกๆอีก
น่าจะโป๊ะแตกก็งานนี้แหละ

103 Nameless Fanboi Posted ID6:l9neakdAFu

โม่งสาวออฟฟิศคนไหนแนะนำคัชชูให้คนไม่เคยใส่ได้บ้างไหม ขนาดรองเท้าแบบสลิปออนกูยังโดนกัดเลย แต่งานใหม่จำเป็นต้องใส่คัชชู หรือแนะนำอะไรที่จะบรรเทาการโดนกัดบ้างก็ได้

104 Nameless Fanboi Posted ID:z8dBKr3MGH

>>103 ถุงเท้าหนาหน่อย แผ่นกันรองเท้ากัด

105 Nameless Fanboi Posted ID6:iMYqSwuFFY

>>103 กูใส่ผ้าใบมาทั้งชีวิต เมื่อก่อนคิดโง่ๆ ว่าเดี๋ยวโตเป็นผู้ใหญ่ไปทำงานคงใส่เป็นเอง สรุปกัดชิบหาย ต่อให้ยี่ห้อแพงแค่ไหนที่ใครแนะนำ ต่อให้ตอนลองเหมือนจะดีเหมือนจะนุ่มแค่ไหน พอเอามาใส่เดินจริงก็กัดเละเทะ เคยลองมาหมดทั้งซิลิโคนครอบเท้าโน่นนี่นั่น ไม่เวิร์คซักอย่าง กูเลยใส่ผ้าใบสลับกับรองเท้าออกซ์ฟอร์ดเอาแทน เลิกพยายาม เลิกตามหาเลิกเสียเงินกับรองเท้าที่ซื้อมาก็ใส่ไม่ได้

106 Nameless Fanboi Posted ID6:iMYqSwuFFY

อ้อ กันกัดมันใส่ได้แค่ข้างหลัง ของกูโดนกัดรอบเท้า (หลังเท้า นิ้วทั้ง 5) ข้างเท้า ไอ้พลาสเตอร์กันกัดแม่งก็ไม่เวิร์คบอกเลย มันเลื่อนหลุดระหว่างวัน

107 Nameless Fanboi Posted ID:JuAaBf1C9P

>>103 มียี่ห้อที่ ชื่อว่าnissin rubber หรืออีกอย่างเรียกว่าHyper V ลองหาซื้อดู ไม่เคยถูกรองเท้ากัดเลย เพราะเนื้อผ้ารองเท้าด้านในคือดีมาก

108 Nameless Fanboi Posted ID:JuAaBf1C9P

>>103 เสริมให้ ด้วยความที่มันเป็นรองเท้าเชฟ รองเท้างานครัว ทรงไม่สวยเลย มีแต่ความเรียบและทางการ แต่ใช้กับงานสมบุกสมบันได้ ราคาหลักพันแต่ถ้ามึงไม่ลุยน้ำดุๆ ไม่ไปลุยแดดหนักๆเนี่ย ทนมาก

109 Nameless Fanboi Posted ID6:h58eTu+HB0

>>104 ขอบคุณ
>>105 กูกลัวเลย ใส่แค่พวกสลิปออนแบบไม่มีถุงเท้ากูก็โดนกัดแล้ว
>>107 ใจมาก แต่กูลองหาแล้วแอบหาซื้อยากเหมือนอนกัน หรือหาไม่ถูกเว็บวะ orz

110 Nameless Fanboi Posted ID6:2h.V4Fiade

>>109 https://www.monet.asia/c/K_06_07/page/3/
กูส่องเว็บนี้อยู่แต่ยังไม่ตัดสินใจสอยมา เพราะที่ทำงานมีให้ พนง. ยืมใช้ แล้วขายราคาค้าปลีกจะราวๆนี้อยู่แล้ว แพงหน่อยนึงแต่ใช้แล้วเป็นมิตรกับเท้ามากเวลายืนทำงาน

111 Nameless Fanboi Posted ID6:l8.UJ41HLY

>>109 กูใส่แตะคีบ flipflop เดินแค่แถวบ้านไม่กี่ก้าวยังโดนกัดเลยมึง ต้องใส่ผ้าใบ+ถุงเท้าเท่านั้น เวลาไปทำงานก็ออกซ์ฟอร์ด+ถุงเท้า ยี่ห้อไหนใครว่าดีกูไม่รอดซักยี่ห้อ -*-

112 Nameless Fanboi Posted ID6:B4EMKAzdz2

ระบาย ขอเล่าเรื่องที่คิดไม่ตก ยาวหน่อย
ตอนแรกทำงานลักษณะอยู่ไซต์งาน ก็สบายๆ (สบายใจกว่าปัจจุบันนี่แน่ๆ) เพื่อนร่วมงานดี งานควบคุมได้ วางแผนงานได้ แต่ทำ 6 วัน
ต่อมาหัวหน้าชวนไปทำงานที่ออฟฟิตใหญ่ ทำ 5 วัน เป็นงานลักษณะที่หัวหน้ามองแล้วเราทำได้ ซึ่งก็ทำได้แหละ แต่กลายเป็นว่าตลอดช่วงที่ทำมา ไม่มีความสุขเลย งานไม่จบ เพราะหัวหน้าใหญ่ที่ออฟฟิตใหญ่เป็นคนจริงจัง ใส่เต็ม ไปลึก ไปสุด งานทำมารู้สึกเหมือนจะจบก็ไม่จบ ได้ไปทำเพิ่มเรื่อยๆ จนรู้สึกทำงานไม่สำเร็จสักอย่าง แถมงานเก่ายังไม่จบก็มีงานใหม่มาใส่ไว้รอ
ยิ่งเห็นพี่ๆที่ตำแหน่งสูงกว่าทำงานกันมากมายมหาศาลยิ่งรู้สึกไม่อยากเติบโตขึ้นไปสักเท่าไหร่เลย งานสมัยอยู่ไซต์ จบได้ คุมได้ สบายใจกว่าเยอะเลย แต่จะกลับไปทำไซต์ก็ไม่ได้แล้ว ตำแหน่งงานเต็ม บริษัทก็ไม่ได้เปิดโครงการใหม่ๆมาก
ทำอยู่ออฟฟิตมาครบปี ตอนนี้รู้สึกตัดสินใจผิดสุดๆที่เข้ามาออฟฟิต แต่มาล่าสุดมีเพื่อนที่อยู่บริษัทอื่นชวนไปทำด้วยกัน เงินดีกว่าที่เดิมด้วยพอสมควร แต่งานน่าจะหนักขึ้นมากแน่ๆ จนรู้สึกกลัวจะตัดสินใจผิดอีกครั้ง อายุก็ 30 ละ
เอาจริงตอนนี้ก็หมดไฟเพราะเข้ามาทำออฟฟิต จนรู้สึกไม่อยากทำงานแล้ว อยากลาออกมาหาอะไรง่ายๆทำไปวันๆด้วยซ้ำ หรือไม่ก็ลาออกเอาเงินเก็บลงเรียนคอสจริงจังแล้วย้ายสายไปเลย
ไอ้ที่เพื่อนมาชวนเลยกลายเป็นเรื่องให้คิดว่า ย้ายไปตอนนี้จะทำได้จริงเหรอวะ กับการอยู่ที่เดิมต่อแล้วหวังว่าเผื่อเศษกิจดีขึ้น บริษัทมีโครงการใหม่ๆจะได้ขอกลับไป
เห้อ
งานสบายใจกับงานเงินดี โม่งเลือกไรกันวะ
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ระบาย

113 Nameless Fanboi Posted ID:Nr5u+zwemY

>>112 ตอนแรกคิดว่าอาจจะแค่ยังไม่ชินสไตล์การทำงานเฉยๆ แต่เห็นบอกว่าทำมาครบปีแต่ก็ยังไม่ชอบ แสดงว่ามันไม่ใช่สไตล์มึงแล้วแหละ

114 Nameless Fanboi Posted ID:7qOuFrbBpz

>>112 สไตล์หัวหน้าใหญ่มึงทำงานด้วยแล้วเหนื่อยอยู่แล้ว สไตล์นี้ถ้างานมึงไม่ดีเลย์แม่งไม่ยอมปล่อยออก มันจะไอ้นู่นนิดนี่หน่อยพอให้ตรวจก็จะเอานู่นนี่เพิ่มไปเรื่อยจนงานมันดีเลย์ถึงยอมปล่อย (ถ้าเป็นหัวหน้ากูจะด่าด้วยว่าทำไมปล่อยจนดีเลย์ นี่ก็ได้แต่กำหมัด)
งานมึงจะเยอะมาก เทียบกับทำงานอยู่ไซต์ มันจะสบายใจกว่า เหนื่อย(ใจ)น้อยกว่า
มึงลองไปคุยกับหัวหน้ามึงตรงๆว่าอยากออกไซด์งานดีกว่า

115 Nameless Fanboi Posted ID6:AZPMyMiiG5

กุคือโม่งเบิร์นเอาท์ไม่ก้าวหน้ารีพลาย 9 นะ แม่ง พอกุตั้งใจจะออกจากคอมฟอทโซนไปสุ้เอาดาบหน้าที่เมืองนอก ทุกอย่างพร้อมเหลือรอโบนัสและซื้อตคบ.กุดันได้เลื่อนขั้นซะงั้น ทำเอาคนโลเลเจ็บไม่จำอย่างกุอยากจะฮึดทำอีกซักตั้งเลย นี่มันท้อกสิครีเลชั่นชิปชัดๆ!

116 Nameless Fanboi Posted ID:U8vyh//6D6

มีโม่งคนไหนที่เป็นอินโทรเวิร์ทแต่ต้องทำงานที่ต้องพบปะกับลูกค้าบ่อยๆมะ กุรู้สึกเหนื่อยมากเวลาคนในทีมบอกให้สนิทกับคนอื่นในแผนกไว้เยอะๆ คุยกับลูกค้าให้มากๆ แต่กุเป็นประเภทแยกโลกทำงานกับโลกส่วนตัวออกจากกันไปเลยอะ นอกเวลางานคือกุไม่อะไรกะใครทั้งนั้น มีปาร์ตี้แผนกบางทีก็ไม่ไปเพราะอยากพัก แต่บริษัทกุก็อีเวนท์เยอะเหลือเกิน อบรมทุก3-4เดือน ปาร์ตี้ทุกครึ่งปี ออกงานนอกสถานที่แทบทุกเดือน บางทีก็เบิร์นเอ้าท์หนัก อยากลาออกมานอนเฉยๆให้รู้แล้วรู้รอด ติดแค่แม่งไม่มีจะแดกนี่แหละ เห้อ

สมมติว่าถ้าอยากเปลี่ยนงานมันมีงานไหนที่ไม่ต้องพบปะลูกค้าเยอะบ้างมั้ยวะ สายงานมาฝั่งบช การเงิน อะไรเทือกนี้

117 Nameless Fanboi Posted ID:AfOXsW9iRA

>>116 อันนี้คือได้งานที่ไม่เหมาะสมกับตัวเองแล้วล่ะ ถ้ารู้ตัวว่าเป็นอินโทรเวิร์ทก็ไม่ควรทำงานที่ต้องพบปะผู้คนอยู่แล้ว ไม่ควรตั้งแต่ส่งใบสมัครเลย เพราะถ้าทำไปนานๆเราจะรู้สึกไม่แฮปปี้กับงานเหมือนต้องอดทนทำไปวันๆสุดท้ายก็อาจส่งผลกับผลงานที่ออกมาอีก งานที่ไม่ต้องพบปะลูกค้าก็มีพวกdocument finance accounting data entry operationบางสายงาน ไม่จำเป็นต้องลาออกลองคุยกับหัวหน้าขอrotateสายงานดูก็ได้

เราเองก็เป็นอินโทรเวิร์ทงานที่เราทำไม่ต้องพบปะลูกค้า แต่ก็มีลูกค้าโทรเข้ามาบ้างหาเราแต่เราจะเตรียมข้อมูลไว้ล่วงหน้าเพราะรู้อยู่แล้วเขาจะโทรมาเรื่องอะไรเพื่อตอบให้เร็วคุยให้สั้นที่สุด

118 Nameless Fanboi Posted ID:8eb0ohl3PO

กุทำงานออฟเดียวกับแฟนกุใช่มะ ละเวลากุเดินไปคุยกะแฟนกุ คนข้างๆจะชอบหันมามองตลอดเลย

มาบ่นแค่นี้แหละ

119 Nameless Fanboi Posted ID:tGDbcV6aid

>>118 เขามองแบบจ้อง หรือมองแบบ เอ๊ะใครมายืนข้างหลังเรา บางทีมึงก็คิดมากไปนะ แบบ สมมุติว่าไม่ได้เดินหาแฟนมึง แต่เป็นคนอื่น เขาก็คงมองอยู่ดีปะ เขาแค่ขี้เสือกเฉยๆเอง

120 Nameless Fanboi Posted ID6:rnEUYgKpX7

>>8 สตอรี่เหมือนคนรู้จักกูเด๊ะๆ 555 1. ทำงานบ.ไอทีข้ามชาติ 2. ทำงานฝ่าย support 3. เงินเดือนพอๆกัน ที่ต่างกันคือคนนี้มันไปตปท.แล้ว เริ่มจากทำงานต๊อกต๋อยนี่แหละ แต่มันดูแฮปปี้มากๆ

121 Nameless Fanboi Posted ID:LfKeN4zoVk

โม่งว่าสายบชถ้าจะเรียนต่อให้เรียนภาษาเพิ่ม หรือต่อโทฝั่งการเงิน การตลาด ไรพวกนี้ แบบไหนมันโอเคกว่ากันวะ ในแง่ถ้าอยากได้งานเงินเดือน35kup ที่ไม่ใช่สายออดิท

122 Nameless Fanboi Posted ID:54WMxY.4VO

แอบได้ยินยุ่นในโรงงานบ่นกะคนไทยที่พูดญี่ปุ่นได้ว่าพวกในไลน์ผลิตนี่ของขวัญก็ให้ เงินพิเศษก็ให้ otมีก็จ่าย บลาๆๆๆ ปิดท้ายด้วยด่าว่าเป็นพวกlow level 555

123 Nameless Fanboi Posted ID6:yq13ncYR8M

ทำไมการที่กูทำงานได้เงินเดือนประจำมั่นคงถึงต้องกลายเป็นคนแบกภาระทั้งหมดของบ้าน แต่น้องที่ไม่เป็นโล้เป็นพาย อายุจะสามสิบแล้วยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งกลับได้อยู่เฉยๆสบายๆ ไม่มีเงินก็ให้แม่มาขอเงินกู ไม่ให้แม่ก็ด่ากูเป็นวรรคเป็นเวรหาว่ากูไม่เอาพี่เอาน้อง ใครในบ้านเจ็บป่วยมากูคือคนจ่ายเงินออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่มีใครคิดจะทำอะไรเลยเหมือนรอเกาะกูอย่างเดียว เหนื่อยเหี้ยๆ

124 Nameless Fanboi Posted ID:VnzB+pCe7X

>>122 ก็ระบบคนในคนนอกอ่ะ ซึ่งเรื่องนี้sirnนี่ก็เคยบอกอยู่นะ แล้วไงวะ low level แต่บ้านเกิดพวกแม่งเศรษฐกิจแช่แข็งเหมือนหนังแตดขั้วโลกเหนือกี่ปีละไอห่า บางทีค่าเงินอ่อนไปอีก หาแดกบ้านคนอื่นเค้าไปก็ด่าไปเนอะไอพวกยุ่น
แอบสงสัยอย่างนึง Uchi-Soto ไอระบบแบบนี้ ในสังคมระดับคนทำงานหัวๆของไทยก็มีเหมือนทำตามแบบที่ยุ่นทำกันไหมวะ? เพราะเห็นระดับที่ถูกดันเป็นหัวหน้า ถูกผลักดันเข้าไปในแวดวงอีกแบบ แล้วไปๆมาๆกูไปรู้มาอีกว่ามีการเมืองเด็กคนนั้น เด็กคนนี้ปนๆไปด้วย นี่คือปกติใน บ.ยุ่นไหม? หรือจริงๆ บ.ไทยก็เป็นเพราะต่อให้เจ้าของจะยุ่นยังไงแต่ก็จ้างคนไทยทำงานกันอยู่ดี

125 Nameless Fanboi Posted ID:VnzB+pCe7X

>>124 แล้วสังคมก็เลยเป็นแบบคนไทยอยู่แล้ว วัฒนธรรมยุ่นเข้ามาแบบหลวมๆชิบหาย อันที่พีคสุดเลยนะเป็นวัฒนธรรมที่มีทั่วโลกเลยคือ ถ้ามีheeได้รับการอัพเกรดเงินเดือนหรือตำแหน่งไวชิบหาย 55555+ แล้วล่าสุด ผจก. อาวุโสในแผนกกูนี่แหละที่เป็นงี้ มีการส่งคนที่ทุกคนมองว่าทำงานโอเค ดูทรงละทำได้แทบทุกแผนก มาทำงานสาย ขาด ลา น้อยมากแทบไม่มี ทีมหัวหน้ากับ ผจก ส่งชื่อไปให้ดันตำแหน่งแต่ไปๆมาๆกลับตาลปัตร ไปเอาใครไม่รู้อีกแผนก ไม่เคยแตะแผนกที่สำคัญๆอีกแผนกนึงมาถึงสองเดือนเลยมาเตรียมดันอัพเวล และทั้งหมดคือมีhee ซึ่งอีหยังชิบหาย

126 Nameless Fanboi Posted ID:ZK0eMqY1n/

>>121 ทำไรอยู่ จบจากไหน ไม่ได้มาสายออดิทมึงเสียเปรียบเรื่องไม่เคยเห็นภาพรวมระบบบัญชีจนมาเป็นงบการเงินของ บ.นึงแล้ว ต้องทำการบ้านหนักหน่อย ถ้าที่ทำอยู่มี job rotation.นี่ก็ยังดี ส่วนภาษานี่ยังไงก็ต้องได้ว่ะ บ.ไทบ บ.ยุ่น แผนกบัญชีนี่ไม่ค่อยโอซักที่ถ้่เทียบกะ MNC ตะวันตก

127 Nameless Fanboi Posted ID:/z.2Qco7o/

>>125 อันนี้ไม่เกี่ยวกับมีher แต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์นะ ต่อให้มีkuyแต่ถ้าคนประเมินชอบมึงเชิงชู้สาวและอยากดัน มึงก็ขึ้นได้

128 Nameless Fanboi Posted ID6:HbuUs+Bj6n

เมื่อเจ้านายกูให้กูร่างจดหมาย technical clarify กับ owner กูก็หาข้อมูลนู่นนี่อยู่แปปนึง เจ้านายกูแคปรูปที่ chatgpt ตอบมาแปะแล้วบอกกู clarify แบบนี้ก็ได้มั้ง
วันพิพากษาใกล้เข้ามาแล้วสินะ

129 Nameless Fanboi Posted ID:eMXz+HtY9k

>>126 จบจากม.ไม่ดังทางบชเท่าไหร่ ตอนนี้ทำออดิทอยู่แต่รู้สึกไม่ใช่ทางเท่าไหร่ ว่าจะเก็บชม.ครบก็ออกไปทำอย่างอื่น ก่อนหน้าจะหางานใหม่ก็อยากอัพสกิลกับวุฒิตัวเองด้วย เผื่อได้เงินโอเคขึ้น

//ไม่ชอบงานออดิทแต่เงินเดือนเริ่มต้นแม่งดีสุดในสายงานละ กุเลยเลือกได้ไม่มาก55

130 Nameless Fanboi Posted ID:Wg/4nTzzJp

>>119 จ้องเลย แต่กุเทสละ หันมาจ้องทุกรอบที่กูลุกไปคุยงานกะคนอื่นตลอด อาจจะแค่ขี้เสือกแหละ ตอนนี้กุเริ่มชินละ

131 Nameless Fanboi Posted ID6:LysmLI7Px6

>>128 บอกแม่งไปว่า chatgpt แม่งมั่วได้

132 Nameless Fanboi Posted ID6:nJG4IfaS92

>>128 กูทำงานโปรแกรมเมอร์ ถึงจะรู้ว่า AI มันไปเร็วกว่าที่คนทั่วไปคิด
แต่กูก็มั่นมากมาตลอดว่า AI แย่งงานโปรแกรมเมอร์ไม่ได้เร็วๆนี้หรอก อยากน้อยก็คงไม่เกิดก่อนกูแก่จนเกษียณ
ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจละ หรือที่ผ่านมากูจะประมาทเกินไป

133 Nameless Fanboi Posted ID:NaYOAUpflu

>>128 เป็นกูกูไม่ใช้chatGPTนะ เพราะความดังของมัน มันเป็นได้แค่ตัวร่างแบบให้เฉยๆ ตัวสังเคราะห์ที่ดีกว่าคือGPT-3 รุ่นที่เป็นพื้นฐานให้chatGPTนี่แหละ แนะแนวการเขียนได้เก่งกว่า
>>132 AI ตอนนี้คือเบบี๋มากหว่ะ แล้วในตะวันตก ตื่นตัวจริงไรจริงนะ แต่บุกมาฝั่งSEAยังแอบยากๆยังไงไม่รู้นะ แล้วใช้AIแย่งงานโปรแกรมเมอร์มันจะแย่งได้ยันถึงวิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าต่างๆขนาดนั้นเลยเหรอวะ? ไม่เชื่อสัส โอเค วาดรูปได้ เลียนเสียงได้ ทำวิดีโอได้ แต่ไม่ใช่ว่ามันฉลาดขนาดนั้นถ้าไม่มีมนุษย์มาอัพฟีเจอร์ดุๆให้มัน หรือแหวกแนวให้มันอ่ะนะ

134 Nameless Fanboi Posted ID:DFEoharVfY

>>133 ทุกวันนี้ ai ของ github ทำกูแทบไม่ต้องเขียนโค้ดแล้วนะ พิมไป2ตัวแม่ม suggest มาเป็นฟังชั่น และใช้ได้จริงแถมคลีนอีก
ถ้าอยู่ดีๆวันนึงมันรวมกันกูว่าความชิบหายอยู่ไม่ไกล

135 Nameless Fanboi Posted ID:P/bkjecsJy

>>131 กูก็บอกไปว่ามันเขียนมาลอยๆ ต้องหา standard อ้างอิงก่อนครับ ส่งไปยังงี้ Owner ไม่ให้ผ่านหรอก ดีที่เจ้านายกูขี้เกียจเลยไม่ไปถามมันต่อว่ามันอ้างจาก standard อะไร...เพราะกูอ่ะถามมันแล้วมันเสือกตอบได้ด้วย 555 ตอบได้ยัน para เท่าไหร่ ปีไหน (standard เดียวกันออกคนละปีบางทีเขียนไม่เหมือนกัน)
>>132 ความเห็นส่วนตัวกูคิดว่าต่อไปจะเหลือจ้างแค่ระดับ senior ไว้คอยสอนกับตรวจงานพวก AI น่ะแหละ ถ้ามันไม่เจ๋งจริง MS มันคงไม่บ้าไปลงทุนเป็นแสนล้านหรอก เอาซะกูเกิ้ลนั่งไม่ติดเลย

136 Nameless Fanboi Posted ID6:6IY1kV9dkU

>>134 ละถ้าสมมติ ทำโปรเจคใหญ่ๆ หรือขอคำปรึกษาให้ตรวจงานโค้ดที่มึงเขียนมาเนี่ย chatGPTทำได้ไหม? เพราะมันมีแต่ให้มึงพิมพ์ประโยคเข้าไปแค่นั้นนะ หรือกูอาจจะไม่เคยใช้มันแบบประยุกต์มากกว่านี้ก็ไม่รู้ดิ ...ส่วนอีกเรื่องที่กูสงสัยเลย มันช่วยแก้โจทย์ในพวกทฤษฎีคำนวณที่หลักวิชามาจากAlan Turingได้ไหม เพราะคิดโจทย์คณิตเชิงซ้อนยังไม่เก่งเลย พลังมันเยอะ มันเทพ แต่รู้สึกว่าฟังก์ชันมันน้อยๆไงไม่รู้หว่ะถ้าเาาไม่ป้อนข้อความเข้าไป

137 Nameless Fanboi Posted ID6:nKQF0w8fS/

ถ้าใช้เป็นอ่ะ chatGPT มันโหดมากนะเว้ย ถ้าจับหลัก language model มันได้ เข้าใจเรื่องเอไอและลอจิกนิดหน่อย มันเขียนฟังก์ชันยาวๆ หรือตอบคำถามภายใต้เงื่อนไขยุบยับได้เลย กูชอบมาก ไม่ต้องมานั่งพิมพ์เอง ใช้ให้มันคลีนโค้ดให้ หรือตรวจสอบช่องโหว่ เขียนไปปไลน์ตามสเปคที่เราบอก ยันวิเคราะห์ระบบว่าปัญหาอาจจะมาจากตรงไหนบ้าง บอกว่ามีปัญหานี้ๆ มีทางแก้แบบไหนได้บ้าง มันก็ทำได้หมดเท่าที่มันมีเดต้า
แต่ยังมีความรู้สึกว่าคนใช้ก็ต้องมีความรู้ถึงจะบอกโจทย์ให้มันตอบถูก แล้วก็ต้องคอยแก้มันตอนมันมั่วนี่แหละ แต่กูว่ามันโหดมาก 555 ถ้าเดต้าอัพเดตนี่น่าจะโหดกว่านี้อีกหลายขุม ให้ความรู้สึกเหมือนใช้ search engine ที่เราใส่ constraints ให้มันได้แบบเป็นภาษาพูดเลย
ความเทพของมันคือมันรู้ทุกอย่างเท่าที่เดต้าที่มันเอาไปเทรนนี่แหละ กูคุยกับมันทุกอย่างจริงๆ ตั้งแต่เรื่องงาน เหมือนให้มันแก้ปัญหาที่เรารู้ว่าต้องตั้งสมการยังไงแต่ขี้เกียจมานั่งแก้สมการเองอ่ะ มันแก้ได้ไวมากในพริบตาเดียว ปรึกษาปัญหาชีวิตยังได้
จนตอนนี้กูเริ่มรู้สึกแล้วว่ามันคือความฉลาดที่คนเราสามารถเอามันมาใช้ได้เลยว่ะ ไม่ต้องเสียเวลาคิด ไม่ต้องเสียเวลาค้นข้อมูล หรือเรียนเอง เพราะอะไรก็ตามถ้าสามารถเขียนให้อยู่ในรูปคณิตศาสตร์ได้ คอมพิวเตอร์มันใช้เวลาแค่แปบเดียวทั้งนั้น คนเทียบมันไม่ติด กูรอดูอนาคตเลยว่า ยุคที่ทุกคนเก่ง ฉลาด รู้ทุกอย่างเหมือนกัน แก้ปัญหาได้เหมือนกันด้วยเอไอ คนเรามันจะวัดกันด้วยอะไรวะ555 ทุกคนกลายเป็นเทพ มันจะยังเหลืออะไรให้แข่งกันไหม 555

138 Nameless Fanboi Posted ID:.QZye1S4LH

กูไม่ได้ลองมาก และ ใน field ที่กูอยู่ มันก็ผิดเยอะ
แต่กูเห็นด้วยว่า ai เก่งมาก ถ้าถามตรงจุดล่ะนะ

139 Nameless Fanboi Posted ID6:la/t6CzhQu

>>137 ai มันก็ไม่ต่างจาก seach engine ปะวะ ทุกวันนี้ทุกคนก็มีคำตอบสำหรับทุกคำถาม เพราะฉะนั้นความฉลาดมันวัดกันด้วยใครมีคำถามที่ดีที่สุด

140 Nameless Fanboi Posted ID6:wZq9Nc+3gk

>>137 มึง อวยมันเกินรึเปล่า เออ เรื่องการใช้ชีวิต ดูแลสุขภาพ โอเคกับมันอยู่นะ แต่พอกูถามกฎหมาย ถามหาว่าประเทศนี้มีสถานที่แบบนี้กี่แห่ง มันให้มาไม่ได้ พอถามไล่ต้อนไปอีกมันไล่ให้ไปถามผู้เชี่ยวชาญ คนท้องที่แทนไปเลย กูเจอมาสามสี่รอบละ เลยกังขากับมันอ่ะว่าแม่งเก่งแต่งานเทคป่ะเนี่ย แบบนี้ใช้github copilotก็ได้ป่ะวะ

141 Nameless Fanboi Posted ID6:Nh4EOW80lw

มีใครทำงานคนเดียวปะ? เวลาลางานยาวๆ ทำไงกัน? คือกูเป็นเลขานายต่างชาติ ปกติเวลานายกลับประเทศหรือไป business trip ตปท. กูก็จะอาศัยจังหวะนั้นรวดลายาวด้วย ที่ผ่านมาก็เลยไม่มีปัญหาอะไร แต่ปีนี้มีแพลนอยากไปเที่ยวกับเพื่อนโดยที่ schedule มันไม่ตรงกับช่วงที่นายจะไปไหนเลย แล้วทั้งบ.ก็มีกูเป็นล่ามเลขาอยู่คนเดียว จะฝากงานให้ใครแทนก็ไม่ได้ ถ้าลาก็คือปล่อยนายอยู่คนเดียวไปเลย 555 ซึ่งเอาจริงนายกูคงให้ลาแหละ (นายกูใจดี) แต่ก็ดูเหมือนละทิ้งหน้าที่ยังไงไม่รู้ เพราะถ้ากูไม่อยู่ นายกูคงคุยกับใครไม่ค่อยรู้เรื่อง แกแทบไม่ได้ภาษาอังกฤษเลย

142 Nameless Fanboi Posted ID:ZroI6QhRPc

>>141 เชี่ย นึกถึงหัวหน้าระดับสูงๆติดนายยุ่นกูคนนึงเลย เหมือนนายยุ่นจะได้อังกฤษแต่ไม่ได้เลย ฟังไทยไม่ค่อยออก แล้วจะใช้สิทธิ์ตามที่ บ. มีให้ก็ยากชิบ หลายๆครั้งต้องกล่อมนายให้ขอไปคุมแผนกอะไรก็ได้สักแผนกไปแทนจะได้ไม่ต้องมาตัวติดแจกับนายยุ่นไปเรื่อยแบบนี้555

143 Nameless Fanboi Posted ID:NywjQvDRUv

พอเห็นเพื่อนร่วมงานที่ก็ไม่ได้เก่งกว่าเรา แต่ได้เงินเยอะกว่าเราแล้วมันก็อดนอยไม่ได้ กุนี่แม่งไม่เป็นมืออาชีพเลยใช่ป่าววะ

144 Nameless Fanboi Posted ID:u5tHtyJ/EE

สกิลที่กูมีอยู่นี่ ถือว่ากูเป็น specialist รึยังวะ...

145 Nameless Fanboi Posted ID:u5tHtyJ/EE

>>141 สงสารเจ้านายเหรอ

146 Nameless Fanboi Posted ID:7DAStc+2hC

>>143 มืออาชีพกับสกิลการตัดสินใจเลือกนายมันคนละเรื่องกันนะ มึงเคยอ่านสามก๊กไหมล่ะ ขงเบ้งแม่งบัณฑิตไร้ประสบการณ์ แต่ความสกิลเยอะ กึ๋นดี ไปทำกับโจโฉก็ได้ ไปกับเล่าปี่ก็ได้ แต่โจโฉให้อะไรน่าจะเยอะกว่ากลับไม่เอาไปเอาเล่าปี่ เพราะเล่าปี่มันไม่ต้องแข่งขันเยอะไง มาละให้เข้าระดับสูง โชว์สกิลเต็มที่ เทียบกับโจโฉต้องแข่งขันเพื่อตำแหน่ง อันดับ บลาๆ กล่าวคือ งานหนักพอกัน แต่เงินเดือนต่างกัน เรื่องแบบนี้ต้องพึ่งพาดวงกับคอนเนคชั่นด้วยหว่ะถึงจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมาว่าทำที่ไหนดีกว่าที่ไหนมากกว่ากัน

147 Nameless Fanboi Posted ID:D7vbDISmxu

เดี๋ยวนี้มีงานสายไหนที่ทำ 4 หยุด 3 บ้างมั้ยวะ กุอยากต่อโทแต่ดูจากงานปจบแล้วทำไปเรียนไปไม่น่าไหว แต่จะให้ลาออกมาเรียนอย่างเดียวก็กลัวเงินเก็บไม่พอแดก

148 Nameless Fanboi Posted ID6:TH.Ktai3FU

>>147 ทำ 4 หยุด 3 ในไทยน่าจะยังหายาก แนะนำหางานที่เบสต่างประเทศแต่ remote work จากไทยได้ ที่รู้ว่ามีเยอะแน่ๆ คือไอที แต่สายอื่นไม่แน่ใจ

149 Nameless Fanboi Posted ID6:ydVmMRkNZi

>>147 แค่ 5 หยุด 2 หลังๆ ยังเริ่มหายากเลย

150 Nameless Fanboi Posted ID6:TH.Ktai3FU

>>149 ของกู 5 หยุด 2 แต่บ.ให้ wfh ได้อาทิตย์ละวัน ฟีลก็เหมือนทำ 4 หยุด 3 นะ ฮ่าๆๆๆ เพราะวันที่ wfh สำหรับกูคือสบายอะ ตื่นสายได้เพราะไม่ต้องเผื่อเวลาเดินทาง เข้างาน 8.30 กูตื่น 08.20 มาล็อคอินระบบ แล้วก็ไปอาบน้ำ กินข้าว ชงกาแฟ เล่นกับหมาที่บ้าน ค่อยมานั่งทำงานชิลล์ๆ แป๊บๆ ก็เที่ยงละ พักกก 555 แต่ถ้าช่วงงานโหลดกูก็ทำยาวถึงค่ำเลยนะ ขึ้นอยู่กับ workload ตอนนั้นด้วย

151 Nameless Fanboi Posted ID:RYIMKlpu5o

>>150 ของกูตรงกันข้าม WFH 4 เข้าออฟฟิซ 1 วัน WFH ก็คือทำงานจริงจัง
แต่วันเข้าออฟฟิซเหมือนเป็นวันพัก เข้างานสาย เข้าไปเจอหน้านั่งเม้ากันมากกว่าทำงาน กลางวันออกไปหาอะไรกินไกลๆ
ตอนเย็น 5 ครึ่ง ก็ออกละ ถ้าไม่รีบกลับบ้านก็ไปกินเหล้ากันต่อ

152 Nameless Fanboi Posted ID:fOuZGGJQf6

ตกงานตอนอายุ 50 ทำไงวะ

153 Nameless Fanboi Posted ID:5ddSO2nkOZ

>>147 ลองต่อรองกับที่ทำงานปัจจุบันดูก็ได้ ถ้ามึงเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าต่อบ.มากพอเค้าอาจจะยอม แต่อาจลดเงินเดือนหรือลดผลประโยชน์อะไรบ้างน่ะนะ

154 Nameless Fanboi Posted ID:PJUZmX4+tN

หวัดดีกูโม่งเด็กคิดถึงอนาคตตัวเองอยู่ ที่บ้านทําธุรกิจเปิดกิจการเป็นของตัวเอง พี่กูรับไปสืบสานต่อ กูเลยเดินตัวปลิวจะทํางานไรก็ได้ กูไม่อยากติดอยู่กับบ้าน เลยจะหางานอื่นๆที่ไม่ใช่ช่วยงานที่บ้าน กูกลัวทำงานบริษัทเพราะกูเกลียดความไม่แน่นอน กูไม่ชอบไปเคว้นหาบริษัท เปลี่ยนบริษัท ทีนี้กูเลยอยากทํางานข้าราชการ แต่กูไม่รู้จะปรึกษาใครได้เลยหว่ะ รอบข้างมีแต่อาจารย์มหาลัยกับนักธุรกิจหมด แล้วกูจะควรปรึกษาหรือหาข้อมูลยังไงดีวะพรี่โม่ง

155 Nameless Fanboi Posted ID:ZifBdNZXLv

>>152 เกษียญประชดชีวิตแม่มเลย

156 Nameless Fanboi Posted ID:HQ7aqG6F+x

ตอนนี้มีงานออฟฟิศสายไหนบริษัทไหนที่ยังให้ WFH ได้บ้างวะ กุไม่ได้เบื่องานที่เก่านะแต่เบื่อการเบียดแย่งกันขึ้นรถไฟฟ้ายามเช้ามาก มนุดป้าแม่มก็ขยันยืนขวางประตูเหลือเกิน

157 Nameless Fanboi Posted ID:gT2ubrwR+M

>>155 ไม่ถามก่อนว่ามันมีตังไหม = =

>>156 จากใจคนทำงานฟรีแลนซ์บวกเทรดหุ้นไปด้วยนะ ตอนนี้กูโครตกระหายสังคมเลยอยากออกจากบ้านมากแต่ที่บ้านมันทำงานสะดวกกว่า

158 Nameless Fanboi Posted ID:2+Y2qiiJf.

>>156 สาย IT อ่ะ บางที่ก็ WFH ยาวๆเลย หลายบริษัทลดงบเลยลดขนาดพื้นที่ออฟฟิซ

159 Nameless Fanboi Posted ID:PbOrmqQ22T

>>156 เพื่อนกูทำงาน บ. IT แม่งมาโม้ให้ฟังทุกวันเลยว่า บ. ไม่บังคับเข้าออฟฟิต จะเข้าหรือไม่เข้าก็ได้(แต่มันก็เข้าตลอด)จนกูอิจฉาเลย

160 Nameless Fanboi Posted ID:Khrg+FTv.a

สายIT สายsoftware eng devไรพวกนี้อะเพื่อนกูทำWFHกันเเทบทุกคน โคตรอิจฉาเลย ยิ่งมีคนนึงเก่งพอไปทำงานremoteให้บ.ต่างประเทศคือเเบบดีสัดๆ ส่วนกูเหรอวิศวกรโรงงานก็ต้องไปทำที่โรงงานยาวๆไม่มีความสามารถด้านพวกนี้เลย

161 Nameless Fanboi Posted ID:fOuZGGJQf6

>>156 ถ้าไม่มีเหตุผลให้เขาออฟฟิศ ลองขอเจ้านายดู

162 Nameless Fanboi Posted ID6:UuUXLb4AVc

เดี๋ยวนี้โควิดไม่ต้องกักตัวแล้วก็จริง แต่บ.กูถ้าติดโควิดยังให้ wfh จนกว่าจะเหลือขีดเดียว ดังนั้นถ้าใครอยาก wfh ก็จงติดโควิด 555

163 Nameless Fanboi Posted ID:PW5hi280su

เพื่อนโม่งมีใครทำงานเเบบพวกเซลล์ เดินทางบ่อย ไปดูเเลลูกค้าอะไรพวกนี้บ้างปะ ลุยๆหน่อย เดินทางข้ามต่างจังหวัดบ่อย อยากรู้ว่างานเเนวนี้หนักไหมจะมีเวลาทำอย่างอื่นรึเปล่า เเต่เดาๆว่าในนี้น่าจะมีเเต่เเนวออฟฟิศเเหงเลย

164 Nameless Fanboi Posted ID6:1ITNBhIgPq

พรุ่งนี้วันจันทร์อีกแล้วโว้ยยย แต่ข้อดีของเดือนกุมภาคือมีแค่ 28 วันแต่ได้เงินเดือนเท่าเดิม เย้ๆๆๆๆๆ

165 Nameless Fanboi Posted ID6:DQwd3TgkGE

>>164 กำลังพยายามคิดว่าชีวิตกุมภามันเร็วกว่ามกราหน่อยนึง คงเพราะวันด้วยแหละ แต่เดี๋ยวมีนาก็มี 31 วันเหมือนเดิม ตอนนี้คือดื่มด่ำกับช่วงเวลาสั้นๆ ให้เต็มที่---

166 Nameless Fanboi Posted ID:jzXizBGBpW

โบนัสกุออกยี่สิบแปด กพ กุควรบอกลาออกตอนนี้เลยมั้ย หรือรอเงินเข้าแล้วค่อยบอกดีกว่า แต่กุไม่อยากทนทำเดือนมีค.แล้วแม่งเอ๊ยย

167 Nameless Fanboi Posted ID:hqmhB4K+QO

>>156 กูเป็นสายดีไซเนอร์ ทำเต็ค/อินทีเรีย ก้wfhชิวๆเลย แต่อยากเข้าอฟมากกว่า กุชอบมนุษย์

168 Nameless Fanboi Posted ID6:OvJfc6T8He

มีพี่โม่งมนุษย์เงินเดือนที่พ่อแม่เริ่มถึงวัยเจ็บปวดหนักๆบ้างมั้ย อยากรู้ว่าจัดการการเงินยังไง ค่ารักษาตัวเดี๋ยวนี้แม่งแพงมาก

กูไม่อยากให้ถึงวันที่พ่อแม่กูเป็นหนักแล้วแบบไม่มีเงินมารักษาเขา กูคงเกลียดตัวเองมากๆกับสิ่งที่เขาให้กู แต่กูตอบแทนเขาไม่ได้เลย

169 Nameless Fanboi Posted ID6:1ITNBhIgPq

>>168 พ่อแม่เราใช้สิทธิ์บัตรทอง แต่ถ้าอะไรไม่ครอบคลุมก็จ่ายเพิ่มต่างหาก เคยจ่ายมากสุดคือหลักแสน (ร.พ.รัฐ ถ้าเอกชนคงหลักล้านไปละ) ส่วนประกันทำไปก็เท่านั้น โรคประจำตัวมันเคลมไม่ได้อยู่แล้ว เลยไม่ทำ เก็บเงินเอง ส่วนของตัวเองใช้ประกันบริษัทเอา สุดท้ายก็ต้องหัดทำใจบ้าง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เรามีญาติรวยมากๆ เป็นมะเร็ง กี่ล้านก็มีจะจ่าย แต่ก็ไม่รอดอยู่ดี... เราถือว่ามีชีวิตอยู่ด้วยกันมาได้ขนาดนี้ก็คุ้มละ ที่เหลือคือกำไร และเราก็ทำดีที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรให้ค้างคาใจหรือเสียใจ เสียดาย

170 Nameless Fanboi Posted ID:leMX5zOr4M

>>168 ถึงตอนนั้นถ้าเขาสุขภาพไม่ไหวจริงๆก็ต้องปล่อย ช่วยเท่าที่จะช่วยดูแลได้ แค่มึงมีใจช่วยก็ดีแล้วโม่ง อย่าไปกดดันตัวเองเลย หลายๆครอบครัวที่จ่ายไมาไหวก็เอากลับมาดูแลที่บ้านจนถึงสาระสุดท้ายหลายคนนะ

171 Nameless Fanboi Posted ID6:JQ2/OTvUOX

กูกลัวการทำงานออฟฟิศว่ะ มีปสกฝังใจกับที่ทำงานที่แรก มันแนววิจัยแล้วทุกคนในนั้นส่วนมากจบโทเอกตปทหมด เข้าไปเป็นผู้ช่วยแล้วรู้สึกไร้ค่าเห้ๆ(หัวหน้าใจดีมากไม่ได้ด่าไรเลยนะ แต่รู้สึกกากเอง)จนลาออกมาเรียนต่อโทเพราะรู้สึกความรู้ไม่พอ ตัวเองกากไป นี่เรียนจะจบแล้วแต่มันกลัวการทำงานออฟฟิศมากๆ เพื่อนโม่งเวลาเริ่มต้นหางานใหม่/เริ่มต้นใหม่มีวิธีให้กำลังใจตัวยังไงกันอะ

172 Nameless Fanboi Posted ID:Mq9QcMljr3

>>171 “ถ้ามึงไม่ทําแล้วมึงจะอดตาย” กูก็กลัวเหมือนกัน เพิ่งต่อปโทเหนี่ยเพราะตอนฝึกงานกากมากแต่เพื่อนร่วมฝึกงานทํางานดีจนพี่ที่ทํางานมาเสนองานเลย กูก็จ๋อยเป็นหมาเลยสัส แต่จบมาแล้วก็ต้องทํา ไม่ทํางานมึงก็อดตาย ทุกอย่างเราเริ่มมามันยังไม่เข้าที่ไม่เก่งหรอก แต่ไปเรื่อยๆกูว่ามึงจะคล่องจะเข้าใจระบบงานเอง สู้ๆนะมึง

173 Nameless Fanboi Posted ID6:SfYx7ptiL6

>>171 แสดงว่าบ้านมึงมีพื้นฐานประมาณนึง พร้อมซัพพอร์ต มึงเลยยังมีกะจิตกะใจไปกลัวอย่างอื่นได้ บ้านกูไม่มีใครซัพพอร์ต กูคือเสาหลักของบ้าน ต้องเลี้ยงพ่อแม่ (ไม่งั้นพ่อแม่จะเอาอะไรแดก ทำงานไม่ต้องพูดถึง แค่เดินยังลำบาก เงินเก็บก็ไม่ค่อยมี พื้นฐานก็จน การศึกษาน้อย เอาเงินมาดูส่งเสียกูสุดกำลังแล้ว) ถ้ากูล้มคนนึงก็คือล้มทั้งบ้าน ดังนั้นคำว่าอดตาย คำว่าความจน น่ากลัวกว่าทุกอย่าง กำลังใจอะไรไม่มีหรอก มีแค่คำว่าหน้าที่กับต้องทำ แค่นั้นแหละ

แต่กูก็ไม่อยากตายนะ กูก็ยังหวังว่าซักวันนึง เมื่อกูหมดภาระทุกอย่างแล้ว กูจะมีโอกาสได้สบายกับเขาบ้าง ได้เก็บเกี่ยวดอกผลจากเมล็ดที่กูหว่านไปบ้าง ............ปรากฏพอแก่ตัวไปเงินเฟ้อ เงินที่พยายามเก็บมาแทบตายไม่มีค่า อนาถกว่าเดิม ถถถ

174 Nameless Fanboi Posted ID6:A5E8FV61CL

เซงชิบ ลูกค้าโทรมาด่ากูว่าทำผิด กูก็ขึ้นสวนกลับว่าตอนส่งเมลให้ไม่เสือกเช็ก พอตอนนี้กลับมาเคลม กูยอมรับว่ากูผิดเพราะตอนนี้งานกูล้นมือ ทำงาน 24/7 ช่วงโควิดเอาคนออกเยอะ คนที่ยังอยู่รับงานคนเก่าคูณสิบ ตอนบ่ายนายเรียกไปด่าซ้ำ กูนั่งคิดวนไปวนมา อยากลุกไปขอลาออกแล้ว walk out แม่งไปเลย เงินไม่มีหรอก แต่อยากไปแบบไม่มีงานใหม่เนี่ยแหละ พอไปเค้าก็หาคนแทน แค่นั้นแหละชีวิต

175 Nameless Fanboi Posted ID:Cbf6ptKspY

>>173 อย่าเก็บเงินไว้ในธนาคารอย่างเดียวไง เอาไปลงทุนอย่างอื่นบ้าง ซื้อหุ้น ซื้อทอง ซื้ออสังหา

176 Nameless Fanboi Posted ID:Cbf6ptKspY

มาบ่น เห็นเพื่อนที่เป็นนีทไม่ยอมไปหางาน แล้วรู้สึกตัวเองขยันและดูเท่ขึ้นมาเลยหว่ะ ถึงกูจะกากแต่กูก็ไม่ได้ขี้แพ้อย่างมัน กูกับมันมีทรัพย์สินที่บ้านน่าจะพอๆกัน ตอนนี้ก็ดิ้นรนหางาน พอได้งานกูจะมาตอกหน้ามันไอทัศนคติที่ว่าไม่ยอมไปทํางานกากๆรอให้งานดีๆเข้ามา ถถถ

177 Nameless Fanboi Posted ID:Cbf6ptKspY

คือหมั่นไส้แม่งมานานละทําตัวเป็นอวดรวย จริงๆก็ชนชั้นกลาง ไม่ได้กลางค่อนสูงด้วย กูสินทรัพย์มีกว่า20ล้าน ยังทำตัวติดดินอยู่ ดิ้นรนหางานอยู่เลย ถถถ จะบ้ากับความวอนนาบีโลกสวยของมัน

178 Nameless Fanboi Posted ID6:t2zW8k31xp

>>173 กูขอถาม เวลามึงเปลี่ยนงานทีนี้เตรียมเงินล่วงหน้าไปกับอะไรบ้างเผื่อเจองานที่ไม่โอเคกับตัวเองวะ? ละเตรียมตัวกี่เดือน? ละสมมติเริ่มงานใหม่ที่แรกละรู้เลยว่าสมควรเดินออกแบบไม่ต้องกลัวอะไรเพราะมันไม่โอเค มันควรทิ้งระยะสักขนาดไหนดี? หรือ 1 วันก็เยอะเกินพอแล้ว? เห็นบางบทความบอกจะย้ายงานทีมีเงินเก็บสูงสสุดไว้5-6เดือนจะดีที่สุดไรงี้เอาเข้าจริงเก็บกันเงินไว้ราวๆกี่เดือนดีวะ 5-6เดือนนี่ถ้าต้องเก็บเบอร์นั้นคือเยอะมาก

179 Nameless Fanboi Posted ID6:SiuaB5yk3x

>>175 ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ ตอนนี้มีกองทุนหุ้น (ที่แดงเถือก) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันออมทรัพย์ แต่อสังหาไม่มีเงินซื้อนะ ไม่พร้อมเป็นหนี้จริงๆ

>>178 กูต้องแบกทั้งครอบครัว เงินสำรอง 6 เดือนไม่พออุ่นใจ ต้องมากกว่านั้นเยอะ แต่ถ้ามึงรับผิดชอบแค่ตัวเองคนเดียวก็ไม่ต้องเยอะแบบกูหรอก เงินเก็บ 5-6 เดือนกูว่าก็โอเคกำลังดี ไม่ได้เยอะมากหรอก ได้ฝึกความอดทนด้วย ตอนทำงานที่แรกกูอยากจะลาออกตั้งแต่วันแรกและในทุกๆ วันหลังจากนั้นเป็นปี แต่เพราะความจนทำให้กูกัดฟันทน ทีแรกกูกะว่าจะทนเก็บเงิน+เก็บโปรไฟล์ไว้หางานใหม่ (ทำซัก1ปีขึ้นไปจะได้ดูไม่เหลาะแหละ) ทนไปทนมา ผ่านอะไรมามากมาย พอกล้าแกร่งขึ้น ทำงานเป็น อยู่ด้วยตัวเองได้ เอ๊า เสือกอยู่ได้สบายๆ ซะงั้นว่ะ เลยอยู่มายาวเลย 55555555

180 Nameless Fanboi Posted ID:o.eq/PB0mu

>>179 กุพึ่งเข้าวงการหุ้นได้สามวันมีเรื่องสงสัย สมมติหุ้นตัวดังๆ อย่างของชำเจ้าสัวกินรวบ ห้างใหญ่ รพดัง หรือตัวใดๆ ก็ตามที่พอพูดถึงแล้วคนอ๋อเพราะเป็นต้นๆในอุตสาหกรรมนั้น ต่อให้วันนี้พรุ่งนี้อาทิตย์นี้มันจะแดง แต่แนวโน้มแบบหลายเดือนหรือหลายปีมันไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ อยุ่ดีเพราะหาคุ่แข่งมาล้มยาก ทยอยซื้อไปช่วงที่ราคาพอโอเคยังไงสักพักก็น่าจะเขียวไม่ใช่เหรอ กุถามจริงไม่ได้โทรล กุเก็บเงินไว้ในธนาคารเกือบหมดกะจะถอนมาบ้างเพื่อซื้อไอ้หุ้นพวกนี้ไว้แล้วรอแคปเกนยาวๆ เพราะกุไม่มีเวลาเดย์เทรด อาจจะแวะมาดูได้วันละครั้งสองครั้งไรงี้ กุคิดง่ายไปมั้ย

181 Nameless Fanboi Posted ID:/r.2oNx.IG

มีใครเตรียมสอบ กพ บ้างไหมวะ

182 Nameless Fanboi Posted ID:t09Ry9KI8L

>>180 ก็แล้วแต่คนจะมองนะ แต่หุ้นเจ้าสัวกูมองว่าทุกวันนี้สะดวกซื้อ ห้างขายปลีก-ส่ง ก็ขยายสาขาครอบคลุมทั่วประเทศหมดแล้ว จะไปหวังหุ้นเด้งจากการเติบโตของบริษัทน่าจะยากอยู่

183 Nameless Fanboi Posted ID6:lFb3fTEEyl

>>179 ขอบคุณมึงมาก กูถามไม่ใช่เพราะไรหรอก บางที่ทำงานมันเหี้ยมาก เหี้ยจริงก็มี หรือไม่งั้นก็ค่อยๆไต่ระดับความแย่ไปเรื่อยๆไง บางทีไม่แย่เพราะเจ้านายก็แย่เพราะคน ลำไยเพราะอย่างอื่นแทนกันมากกว่าก็ว่าไป ถ้ามึงจนแล้วเจอคนเหี้ยๆที่ทำงานกูก็สงสัยไม่น้อยอ่ะว่ามึงรับมือได้ไง กัดฟันทนได้ไง แล้วสมัยนี้ถ้าไม่เปลี่ยนเจ้านายก็เจริญยาก เลยอยากรู้แนวทางการเปลี่ยนงานของมึงเหมือนกัน

184 Nameless Fanboi Posted ID6:bScZ/oT.o0

>>180 limited upside

185 Nameless Fanboi Posted ID:1TZl5W959S

กูบริหารคนไม่เป็นว่ะ ทำไงดีวะ แบบ ลูกน้องบางคนก็เอางานไปทำคนเดียวบ่อย แต่คือ ถ้างานอยู่กะมันคนเดียว ถ้ามันไม่อยู่แล้ว คนอื่นจะทำไรไม่ถูกเลย
ไม่ใช่ว่างานไม่ดีหรือไม่มีปัญหา แต่มันเป็นปัญหาที่โครงสร้างระบบป่ะวะ ถ้ามันป่วย ลาออก อะไรงี้ล่ะ

186 Nameless Fanboi Posted ID:zQQruofM0q

>>185
- เรียกประชุมทีม สั่งให้มันทำ week report มาว่าทำอะไรไปมั่ง เพื่อความเนี่ยนว่ามันไม่ได้โดนเพ่งเล็งสั่งให้ทำทั้งทีม บอกว่ามึงจะ control progress
- บอกว่าเมลล์ทุกเมลล์ ส่งงานต้อง cc มึง (เวลาหางานที่ค้างดูใน weekly แล้วเซริทชื่อเอกสารใน mail เอา)
- บอกว่างาน issue ให้เอาลงใน sv ทุกอันเพ่จะเข้าไปดูอะไรก็ว่าไป
- ตัวมึงเอง ทำ progress report จะได้รู้ว่าลูกน้องออกอะไรยังไงไปแล้วบ้าง

187 Nameless Fanboi Posted ID:67TdJhJ+MU

>>180 ถ้าไม่มีเวลามากกูว่าพวกหุ้น active fund ก็ดีนะ ที่มันเอาไปลงตามดัชนีหรือธีม

188 Nameless Fanboi Posted ID6:9XvWKWQJmG

โคตรรำคาญเวลาต้องคุยงานกับคนในที่ทำงานที่อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้ว
แต่ถามคำถามได้โง่หรือเข้าใจอะไรยากยิ่งกว่าเด็กจบใหม่อีก
คุยด้วยแล้วเหมือนคุยกับเด็กเกาะเบาะร้านเกม
ตำแหน่งขนาดนี้แต่ทำงานได้แค่นี้ ขนาดกูไม่ได้รักบริษัทยังเสียดายเงินแทนบริษัทที่เอามาจ้างคนแบบนี้เลย

189 Nameless Fanboi Posted ID:FKdU.Rg7R7

>>188 เหยดดด +1

190 Nameless Fanboi Posted ID:jCI5PjgVgj

>>188 อยากรู้รายละเอียด มันเป็นไงหรอ ถามอะไรที่ดูโง่หรอ

191 Nameless Fanboi Posted ID:ycGjx0uWb7

พรุ่งนี้วันจันทร์

192 Nameless Fanboi Posted ID:a/s3HqZvdp

ขอถามโม่งที่ทำงานกับ บ.ยุ่นที การเมืองของ บ.ยุ่นในไทยก็ไม่ต่างจากที่อื่นใช่ไหม? ฟังข่าวนึงมาจากกินเลี้ยงอำลาพี่คนนึงจะไปทำงานอื่นก็แอบช๊อกเอาเรื่อง .........ผจก.ที่กูทำงานมาด้วยคือหาลูกน้องที่ขึ้นมาเป็นระดับหัวหน้าได้เป็นเพราะแค่ว่าถูกชะตาด้วยแค่นั้น หน้างานบางตัวไม่เคยเรียนรู้ บางหน้างานแทบไม่เคยแตะ ก็ดันขึ้นระดับซุปไรงี้ได้ หรือไม่ก็เอาเข้าระดับรองหัวหน้าภายในเดือนเดียวหรือให้เงินเดือนระดับรองผจกล่วงหน้าไปก่อนแล้วค่อยอัพย้อนหลังอีกทีแบบยศก้าวกระโดดอารมณ์เดียวกับเมียเบ็นเทนเลย สืบๆมาระดับนึงแล้วบ.นี้ก็ไม่ใช่พวก บ.แบลคนะ ซึ่งกูสงสัยว่าเจ้านายยุ่นไม่มีลงมาสุ่มตรวจเหรอวะ? ทำไมกูนึกถึง บ.ธนาคารระดับท๊อปๆของไทยเลยนะที่เป็นแบบนี้ละพอเอาแต่ดันลูกรักกันจนผลักพวกคนอยากเป็นงานจริงๆอยู่กันไม่ได้ก็คือแบบที่กูเห็นตอนนี้มันชัดมาก พวกกลุ่มเก่งๆจากที่อื่นที่เก่งงานในสายกว่ากูมาก ตอนนี้เริ่มมองหางานที่ใหม่กันแล้วเพราะรู้ตัวว่าไม่ใช่ลูกรักในที่ตัวเอง ขอวันหยุด วันลาหรือใช้สิทธิ์นั้นนี่คือไม่ให้ ส่วนกูนี่่คือเจอกำลังภายในส่งไปอีกแผนกไม่ให้มาเติบโตในแผนกที่กูอยากเรียนรู้เลย อยากลาออกนะ เสียอย่างเดียวคือสวัสดิการแม่งดีสุดในที่ที่กูอยู่นี่ดิ

193 Nameless Fanboi Posted ID6:ryADPu/kpk

วันนี้มีประชุมใหญ่ประจำปีของบริษัท แล้วมีพูดเรื่องนวัตกรรม แต่ละเรื่องที่พูดยังวนเวียนอยู่กับเรื่อง เงินคริปโต NFT Metaverse กันอยู่เลย
คืออยากโชว์ว่าตามเทรนด์ก็ช่วยอัพแพทช์กันหน่อยเถอะ ชาวบ้านชาวช่องเค้าถอนสมอหนีเรื่องพวกนี้กันไปถึงไหนแล้ว
ที่หนักสุดคือคนนึงออกมาพูดชื่นชมนวัตกรรมเครื่องตรวจเลือดของ Elizabeth Holmes คือเค้านอนหลับไปหลายปีแล้วเพิ่งถูกปลุกให้ขึ้นมาพูดหรอ

194 Nameless Fanboi Posted ID6:21w6caMOfB

>>193 ด....เดี๋ยวนะ กรรมการ บ.หรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่ทำงานมึงคือเนื้อในของเรื่องเทคมาพูดกันแบบนี้จริงดิ? เชี่ย บ.อุตสาหกรรมไหนกูสงสัยมาก

195 Nameless Fanboi Posted ID6:WJjvV7/ZRy

>>192 ต่างกันปรกติบริษัทยุ่น ลูกรัก = คนที่ทำกำไรให้บริษัท ส่วนมากจะเป็นพวกเซล กับแผนกที่ทำงานให้เซล จะเติบโตไวมาก ส่วนแผนกอื่นถ้าอยู่มานานเงินเดือนเยอะโดนบีบให้ออก

ส่วนหัวหน้างาน บริษัญยุ่น ส่วนมากต้องไปขายงานด้วย ถ้าขายงานไม่ได้ก็โดนเขี่ย

196 Nameless Fanboi Posted ID6:F+z2sLmyRi

>>195 กูก็ว่าสิ ไอพวกลูกรักจะเป็นคนที่ได้ไปลงเรียนวิธีบริหารค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นงานระดับพวก ผจก. กับซุปจะทำกัน ดีนะที่แผนกกูสตาฟเงินเดือนไว้ทุกตัว กลัวอย่างเดียวเลยคือทำโอทีกันเยอะเกินจนรวยกว่าแผนกที่ลูกรักหัวหน้าอยู่ละจะบรรลัยเอา 5555

197 Nameless Fanboi Posted ID6:QkrdbpCM+Z

เบื่อสังคมงานที่เก่าอยากลาออก ทำอะไรก็โดนหัวหน้าเรียกมาด่าทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดกูแท้ๆ ตอนนี้กำลังหางานที่ทำที่บ้านได้แต่ไม่ใช่การขายของออนไลน์เพราะกูต้องไปต่างจังหวัดบ่อยเรื่องญาติผู้ใหญ่ มีใครมีแนะนำมั้ยงานที่มีเดดไลน์ได้แต่ไม่ฟิกเวลาทำงานอ่ะ กูวาดรูปได้ ;_;

198 Nameless Fanboi Posted ID:NBwdDzj0UM

>>197 ถ้าวาดสวยไป commission market ไม่ได้เรอะ
กูโดนฟันหัวแบะ(กูล้อเล่น กูรู้ว่างานมันไม่ง่าย) รูปละ 2-3000 ออกบ่อย(ส่วนอันนี้จริง กูโดนไปหลักแสนละ) 555

199 Nameless Fanboi Posted ID:kqrJ/tpDiQ

งานที่ทำที่บ้านใด้ไม่ต้องยุ่งกับคนอื่นก็งานวาดรูปนั่นเเหละ ถ้าเก่งๆสายป่านดีๆก็ทำเป็นอาชีพได้นะ เเต่ก็นะการเเข่งขันดูสูงนักวาดเยอะ

200 Nameless Fanboi Posted ID:WkSkAgIVQh

>>197 รับคอมมิชชั่น รับสอนวาดรูปหรือในออนไลน์ เริ่มจากสอนเด็กๆก็ได้ เป็นคอนเท้นครีเอเตอร์ มึงก็วาดรูปแล้วทําตามเทรนไปอ่ะ ช่วงนี้มันมีมีมวาดรูปอะไร หรือทําvlogเล่าเรื่องชีวิตมึงกับงานวาดรูปก็ได้
ของพวกนี้ต้องทําไปพร้อมๆกันถึงจะค่อยๆโต กูคิว่านะ แบบทําวิดีโอมันก็ช่วยโปรโมทตัวเราเอง มีไรทําได้ก็ลองๆทําไปเลยโม่ง เวิร์คไม่เวิร์คค่อยปรับค่อยเปลี่ยน

201 Nameless Fanboi Posted ID6:49oLKSEZAp

>>197 ถ้าเอาแค่ปัญหาที่ทำงาน แก้ง่ายๆ ก็หาที่ทำงานใหม่จบป่ะ หัวหน้าเรียกมาด่าโดยไม่มีความผิดไม่ใช่เรื่องปรกติ มันต้องมีเหตุ หัวหน้าอาจจะโดนบีบ หรือแผนกโดนยุบเมื่อไหร่ก็ได้

202 Nameless Fanboi Posted ID:j6Ud9oxb9R

>>197 มันต้องดูว่ามึงทำอะไรได้บ้างล่ะนะ
ขอวกเข้าเรื่องกูมั่ง ขายของ แล้วแม่ง มันจะมีของขายไม่ออกทุนจม ไรงี้ป่ะ
กะของที่มา หมด มา หมด โดยโลจิคทั่วไป ก็สั่งของที่ขายได้ เลิกสั่งของที่ขายไม่ออก
แต่ถ้าบริษัทที่ส่ง แม่งบังคับ สั่ง คู่กันล่ะวะ แม่มก็จะเหลืออย่างนึงเต็มร้าน

203 Nameless Fanboi Posted ID:0bxHxemc9i

อ่านนี่แล้วนึกขึ้นได้ https://fanboi.ch/lifestyle/16952/206/
ของมันดึงดูดแฟนนิสัยแปลกๆ ของกูนี่ เปิดร้านเกม เจอแต่คนแปลกๆ รึเดี๋ยวนี้ต้องคนแปลกๆ ถึงจะเข้าร้านเกมวะ

204 Nameless Fanboi Posted ID:HmDMLHr14b

มีใครเคยย้ายจาก บ เมกัน ไป บ ยุ่นบ้างไหมโม่ง แล้วปรับตัววัฒนธรรมการทำงานลำบากไหม

205 Nameless Fanboi Posted ID6:Wu9DBllMKQ

ถามหน่อย ปกติคนเราจำได้ว่าตัวเองปิดแก๊สแล้ว จำได้เป็นฉากๆเลย แต่ไม่มั่นใจจนระแวงว่าลืม มึงว่ากูปิดยังวะ?

206 Nameless Fanboi Posted ID6:VPOEIIBgfj

>>204 ไม่เคยทำงาน บ.เมกัน แต่บ.ยุ่นที่ว่านี่หมายถึงบ.ยุ่นในไทยมั้ย? ถ้าใช่ ต้องลงดีเทลลึกๆ อีกที เพราะบางบ.จะญี่ปุ่นจ๋าสัสๆ แต่บางบ.ก็ไท๊ยไทย อยู่ไทยมานานเกินจนโดนความเป็นไทยกลืนกินไปหมดละ ก็สภาพแบบบ.ไทยดีๆ นี่เอง (ซึ่งไม่แนะนำ)

207 Nameless Fanboi Posted ID6:VPOEIIBgfj

>>204 อ้อ แต่อ้างอิงจากเพื่อนที่เคยย้ายงานมาจากบ.ฝรั่ง (เพื่อนพูดญี่ปุ่นไม่ได้) สุดท้ายมันก็ไม่ชอบนะ ลาออกไปแล้ว มันบอกอึดอัดที่พอพูดญี่ปุ่นไม่ได้จะเหมือนเป็นพลเมืองอีกชั้น เนื่องจากสื่อสารกับนายตรงๆ ไม่ได้ คุยอังกฤษกันบางทีก็สื่อได้ไม่ครบ ไม่เข้าใจกันบ้าง เข้าใจผิดกันบ้าง คุยผ่านล่ามก็ไม่แน่ใจว่าล่ามมันแปลถูกแปลครบไหม แถมไม่ได้ค่าภาษาแบบคนที่พูดญี่ปุ่นได้ เงินเดือนเลยน้อยกว่า

แต่ถ้าไปเจอบ.ญี่ปุ่นหัวสมัยใหม่ที่คนญี่ปุ่นพูดอังกฤษได้หมดทุกคน ก็อาจจะไม่มีข้อเสียพวกนั้น

208 Nameless Fanboi Posted ID:n.2ydRabwX

>>207 ขอบใจมาก

209 Nameless Fanboi Posted ID:q.x3n3m2Vf

มีเพื่อนโม่งเคยเจอแบบนี้ไหม ย้ายที่ทำงานใหม่แล้วลูกน้องที่ทำงานใหม่เป็นพวกอายุเยอะกว่า แล้วจะนิสัยเหมือนคนอกหัก ยังมูฟออนจากคนเก่าไม่ได้ ยังบ่นคิดถึงหัวหน้าเก่างั้นงี้ ทีกูที่มาเป็นหัวหน้าคนใหม่คือไม่คุยกับกูเลย ไม่แชร์ดีเทลงานอะไรให้ฟังทั้งนั้น เวลางานมีปัญหากูต้องลงไปล้วงข้อมูลเอง พอสั่งให้ทำอะไรก็จะขัดขืนไม่ยอมทำตาม หรือบางทีก็บ่นๆหัวหน้าคนเก่าไม่เห็นทำยังงี้ สึส พวกมึงเป็นชู้กันหรอวะ ทำเป็นรับคนใหม่ไม่ได้ ไม่เปิดใจให้คนใหม่

210 Nameless Fanboi Posted ID:QA8+IDM8sm

เหอๆ ลูกน้องคนละแผนกชอบตีกันวุ้ย ไม่ได้ตีแบบยกพวกตีกันนะ ตีกันแบบในงานอ่ะแบบทางนี้ทำมา ทางนี้ ไม่ชอบ ทางโน้นทำ ทางนี้ไม่ชอบ 555
อยากตะโกนมาก กูเป็นเจ้าของนะเว้ย ไม่ใช่คนไกล่เกลี่ย ไม่ใช่ล่าม แล้วก็ไม่ใช่ฑูต แต่เอาเหอะ ก็กูไม่ได้ตะโกนไปไง เลยเป็นงี้

211 Nameless Fanboi Posted ID6:DDaOxEJMkc

>>209 ก็ปกตินิ

212 Nameless Fanboi Posted ID6:iSkoevkqIV

>>209 มันขึ้นอยู่กับว่าหัวหน้าคนเก่าออกไปยังไงด้วย
ถ้าออกแบบถูกข้างบนบีบให้ออก คนที่ยังอยู่ก็คงมองมึงเหมือนเป็นตัวแทนของข้างบนรังแกหัวหน้าคนเก่าส่งมาปกครองแทน จะต่อต้านก็ปกติ
เป็นอะไรที่มึงต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองให้เค้าเห็นว่ามึงมีความสามารถ และไม่ใช่ศัตรูของเค้าอ่ะ

213 Nameless Fanboi Posted ID:3L/Ct9QXe0

พึ่งรู้ตัวว่าไม่ได้ใส่เข็มขัดว่ะ จะถึงที่ทำงานแล้วด้วย 5555

214 Nameless Fanboi Posted ID:nh+3xL3Ire

ขอถามในนี้หน่อยได้มั้ย jpt กับ JLPT มีผลกับการสมัครงานไหมอ่ะ

215 Nameless Fanboi Posted ID:zwftykyeMR

กูมาทำงาน ไม่ได้มาเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้กับใคร

216 Nameless Fanboi Posted ID:Z7u7I1UMqi

>>214 ถ้าทำบริษัทญี่ปุ่นก็มีผล มากด้วย
ได้ระดับดีๆ มีค่าภาษาแถมให้อีก

217 Nameless Fanboi Posted ID:zORz0nJFa1

>>216 เฉพาะบ.ใหญ่มั้ง กุเคยทำอยู่บ.เล็กๆไม่ได้ค่าภาษาซักบาท

218 Nameless Fanboi Posted ID:zORz0nJFa1

>>217 เสริมนิดว่ากูทำตำแหน่งอื่นไม่ได้เป็นล่าม แค่มีผลสอบวัดระดับ

219 Nameless Fanboi Posted ID:GizzqW.gH0

>>214 มีตอนสมัครจะทำให้คนเรียกสัมง่าย แต่ตอนทำงานไม่มีผลเพราะไงเขาจะสนแค่ว่ามึงทำงานให้เขาได้ไหม บางทีN1ไม่เคยลงไลน์การผลิตเลย แปลไม่ได้เขาก็อาจจะแบบคาดหวังกับมึงไว้สูง แต่ใดๆจะ Nไหนมึงก็ต้องไปเริ่มเรียนรู้งานใหม่อยู่ดี

220 Nameless Fanboi Posted ID6:q0te3axtGe

วันศุกร์แล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เหนื่อยสัสสสสสสสสสสสสส จะได้พักซะที

221 Nameless Fanboi Posted ID:TBLUsuhQPx

เห้อ พรุ่งนี้วันจันทร์อีกแล้ว

222 Nameless Fanboi Posted ID6:RKb8CTnvqS

>>221 เร็วมากอะมึง มีนาก็มีวันหยุดแค่วันเดียว ตอนนี้ใจกูรอสงกรานต์อย่างเดียวละ หลังจากนั้นก็เหนื่อยยาวๆ ไป แต่ไม่ทำงานก็ไม่ได้เนาะ ไม่มีจะแดก กูยิ่งแดกเปลืองอยู่ด้วย ;_;

223 Nameless Fanboi Posted ID:TRX32HPqEL

>>214 เราเองนะ ขอถามเพิ่มได้ไหม สองตัว JPT กับ JLPT ต่างกันอย่างไรอ่ะ อันไหนสำคัญกว่ากัน

224 Nameless Fanboi Posted ID6:yeJ+8daxdP

เพื่อนโม่ง พอดีกุจบใหม่เพิ่งได้งานทำไม่ถึงเดือน แล้วเพิ่งรู้ว่าเงินมันตกเบิกอย่างน้อย 3 เดือน เลยลองไปดูบัตรเครดิต (ไม่เคยใช้บัตรเครดิต) เห็นว่าต้องมีสลิปเงินเดือนใดๆอีก คือเพื่อนโม่งสามารถแนะนำให้กุหน่อยได้ไหม กุแค่อยากได้เงินมาประคองๆค่ากินค่าเดินทางให้ผ่านสามเดือนนี้แค่นั้นอะ ;-;

225 Nameless Fanboi Posted ID:2xrJWxzXrx

>>224 การใช้บัตรเครดิตที่ดีคือใช้ตอนที่มีเงินจ่ายนะ ดอกเบี้ยบัตรเครดิตนี่มันไม่ถูกนะถ้ามึงจ่ายไม่ทัน

226 Nameless Fanboi Posted ID6:fvnaBRcVIC

>>224 จบใหม่ทำงานไม่ถึงเดือนมันทำไม่ได้อยู่แล้ว ปกติต้องทำงาน 6 เดือนขึ้นไป (ของกูเคยทำได้ตอน 4 เดือนเพราะชื่อเสียงบริษัท) หรือฝากค้ำ หรือมีเงินออม 1 ล้าน+ ซึ่งสองข้อหลังมึงน่าจะไม่เข้าเกณฑ์อยู่ละเพราะมึงทำเพราะไม่มีตังค์ ดังนั้นตัดไป ดังนั้นไม่ว่าคิดยังไงมึงก็ทำไม่ได้

227 Nameless Fanboi Posted ID:MvzoleSh/r

>>223 JPT ใช้ข้อสอบเดียวกันแต่ตัดระดับที่คะแนนไม่มีผ่านไม่ผ่านมีแต่ได้ระดับสูงหรือต่ำ(คล้ายๆ TOEIC) แต่ JLPT ต้องสอบตามระดับแล้วไปวัดว่าผ่านไม่ผ่าน
บริษัทที่กูผ่านมาทั้งหมดดู JLPT เพราะมันแบ่งชัดเจนว่า N ไหนเท่ากับทักษะประมาณไหน แถมนิยมมากกว่าด้วย

228 Nameless Fanboi Posted ID:ZVMQdPkMk6

ky ในนี้ทุกคนคงเป็นรุ่นพี่กูหมด แต่กูขอใช้ภาษาแบบโม่งนะ มหาลัยมีผลต่อการรับเข้าทำงานมากมั้ย กูกำลังจะสอบเข้ามหาลัย กูโตมากับความคิดที่เหยียดราชภัฎ/ราชมงคล/รามคำแหงอะไรงี้ (ตอนเด็กเหยียดนะ แต่พอโตมาก็เข้าใจว่าบางคนก็ไม่มีทางเลือก หรือมีเหตุผลอื่นๆ) กูเลยพยายามจะเข้ามหาลัยดังๆให้ได้ อยากสอบถามรุ่นพี่วัยทำงานว่ามหาลัยมีผลไหม แล้วคอนเนคชั่นที่ได้จากมหาลัยใช้ได้จริงรึเปล่า หรือไปหาคอนเนคชั่นจากการทำงานจะไปได้ยาวกว่า

229 Nameless Fanboi Posted ID6:5xk59APS+E

>>228 ถามในความคิดกูที่จบ ม.รัฐที่ไม่ใช่ที่มึงว่ามานะ กูว่ามีผล แต่มีผลกับแค่บางสายงาน กูอยู่สายงานที่ต้องลงหน้างานคือเป็น ผชผกก ทำงานกอง สถาบันเลยไม่ค่อยมีผลมากเพราะของแบบนี้วัดกันที่ฝีมือ หลายปีหลังมานี้ เด็กม.เอกชน ทำผลงาน งานดีกว่ามหาลัยรัฐเยอะ แต่ก็มีบาง เฮ้าท์ บางสตู หรือบางบริษัทที่รับแต่เด็กคณะตัวเองเช่น นดบก รับแต่เด็กนิเทศ ฬ ไรงี้ บางวิชา บางสาขาเด็กราชมงคลก็เก่งไม่แพ้พวก ม.ดังหรอกอย่างพวกคณะวิศวะโยธาไรงี้เพราะพวกเด็กช่างมาเรียนเยอะ ปฎิบัติเก่งไม่แพ้ ม.ดังๆอะ
แต่ที่กูอยากรู้คือมึงยังไม่ได้เข้ามหาลัยเลยแล้วมึงจะไปเหยียด พวกราชภัฎ ราชมงคลทำไมวะ งง เหยียดตามพวกไอปด พวกปลาคังหรือพวกเพจปั่นเอ๋อๆหรอวะงง จบมายังไงมึงก็ได้เจอทุก ม.อยู่แล้ว ระวังมายเซ็ตนี้จะทำให้มึงอยู่กับคนอื่นลำบากนะ

230 Nameless Fanboi Posted ID:01gpgTUqKi

บ.จีนมันจะอารมณ์นี้เหมือนกันทุกบ.ป่ะถึงจะเป็นบ.ใหญ่
คือสวัสดิการกาก คือมันเป็นอะไรที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ถามตอมสัมเพราะมันเป็นเรื่องพื้นฐานคิดว่าบ.มึงที่จีนเป็นบ.ก่อสร้างอันดับต้นๆ แล้วกูไปอยู่มาหลายบ. บ.เล็กๆของฝรั่งยังมีเลย ไม่เคยคิดว่าจะมาเจอแบบไม่มี คือ ไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ไม่มีตรวจสุขภาพประจำปี
แล้วตอนรับเข้ามาให้เงินเยอะกว่าที่เก่าก็จริง แต่พอปลายปี ไม่มีโบนัส+ไม่ปรับเงินเดือนจ้า
ไม่คุ้มอย่างแรงสัส กูพลาดเองแหละ หลงคารมหัวหน้าเก่ากู
ไม่อยากให้พลาดถ้ามา บ.จีน ถาม hr ก่อนนะตอนสัมน่ะ
ตอนนี้กูส่องที่ใหม่และ

231 Nameless Fanboi Posted ID:L.sNM6Qvh7

>>228 ตอบในฐานะคนจบ มธ. เกียรตินิยม คิดว่ามีผล 1000% ยิ่งถ้าอยากทำในบริษัทดีๆ เค้ายิ่งคัดเลย ส่วนตัวกุเป็นคนที่โปรไฟล์ไม่มีไรเลยนอกจากเกรดดี กับม.ดี กิจกรรมห่าเหวจิตอาสาไม่เคยทำเลย สมัยเรียนเล่นแต่เกม resume ว่างโครต ก็ยังหางานบริษัทดีๆได้ตลอด แสดงว่าที่ได้งานมันก็เพราะ มหาลัยกับเกรดแหละ พูดง่ายๆคือถ้าเรียนที่ไม่ดังก็ต้องสร้างโปรไฟล์หนักหน่อย แต่จบที่ดีๆก็มีชัยไปครึ่งแล้ว เรื่องคอนเนคชั่นก็มีผล คือเพื่อนๆมึงจะได้เข้าไปทำที่ดีๆซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วบางทีที่ตำแหน่งในนั้นว่าง มันก็จะมาชวนมึงก่อน มึงก็ได้โอกาสที่ดีกว่าคนนอกที่ส่งผ่านเว็บละเพราะมีคนรับรองให้และมีเครือข่ายที่ให้ข่าวสารกัน ประมาณนี้

232 Nameless Fanboi Posted ID:EegUOEZjz3

>>228 มีผล ไม่ได้หมายความว่า ราชภัฎ ไม่เก่ง กูเจอราชภัฎคนนึงเก่งกว่ากูอีก
แต่เพื่อนที่เรียนมาด้วยกันมีผลนะ กูเข้า คณะนึงที่คนแย่งเข้าแทบตาย สุดท้ายจบมากูก็ลาออก แต่เพื่อนฝูงที่ได้ตอนอยู่ในคณะดีมากอ่ะ (แต่ก็ต้องเลือกๆ นะ)
ตอนกูรับพนักงานกูก็ไม่ดูสถาบันหรอก ยังไงก็ต้องดูงานที่ส่งเป็นหลัก แต่พวกเพื่อนกูว่ามีผลแน่ๆ

233 Nameless Fanboi Posted ID:a6G19RluRq

>>229 กูเคยเหยียดตอนเด็ก (ก็ตามที่ผู้ใหญ่ปลูกฝังอะมึง ราชพัดจบไปก็เป็นแต่ครู ไม่ก็เป็นที่ๆคนไม่มีที่เรียนแล้วมาเรียน) แต่ตอนนี้กูไม่ได้เหยียดแล้ว เพื่อนกูหลายคนก็เข้าเพราะอยากเรียนจริงๆ กูเลิกเหยียดไปตั้งแต่อยู่ม.4ละ มายเซ็ตที่กูคิดว่ากูน่าจะทำงานกับคนอื่นยากคือกูไม่ยอมใครมากกว่าว่ะ สังเกตว่าตัวเองชอบควบคุมให้คนอื่นเป็นไปตามความคิดตัวเอง (ไปหาจิตแพทย์ เขาบอกว่ากุเป็นperfectionist) ตอนนี้พยายามแก้อยู่

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากนะโม่งรุ่นพี่

234 Nameless Fanboi Posted ID:oLIGHQyXGp

>>228 หลายๆอย่างเป็นไปตามที่ >>231 บอกเลย เมืองนอกก็มีนะ มึงนึกถึงแคนาดาที่ประชากรบางสัสๆ จ้างงานน้อยตามจำนวนประชากร มหาลัยดีๆจะเจอหัวกะทิและบริษัทระดับชาติเตรียมจองตัวด้วยคอนเนคชั่นกับเส้นสายแบบ100%เลย หรือสิงคโปร์ เกาหลีใต้ก็ได้ สถาบันมันดึงดูดคนประเภททายาทกิจการ , ลูกท่านหลานเธอ , ครูผู้สอนเป็นนักธุรกิจหรือเศรษฐีนีเรียนแต่วิชาการรัวๆเพื่อถ่ายทอดความรู้ได้ ให้เส้นทางแจ่มๆกับหัวกะทิในสถาบันได้ ใน จุฬา,มธ, สามพระจอม มีอะไรแบบนี้เต็มไปหมด เทียบกับ ม.รามนะ ความต่างคือต่างมาก มึงจบมามีแต่วุฒิไม่มีคอนเนคชั่น และที่เลวร้ายกว่าคือ งานpart-timeสำหรับเด็กราม รุ่นพี่รามเองไม่เคยไว้ใจหาจ้างเด็กในรามให้ทำ ไปหาในเด็กสถาบันดังๆแถวสามย่าน รังสิตกันทั้งนั้น .....แต่จำใจต้องเรียนเพราะเงิน จังหวะเวลา สถานการณ์ไม่เหมาะก็มี ยังไงก็เถอะ จบมาแบบไหนไม่สำคัญเท่าหลังจบไปนะ คอนเนคชั่น รายได้ ทักษะ ของพวกนี้หาได้มากกว่านี้หลังจบไปได้หลายเท่าตัวอยู่ที่ตัวคน จังหวะ กับอะไรหลายๆอย่างด้วยนะ

235 Nameless Fanboi Posted ID:oLIGHQyXGp

>>228 มหาลัยดังดูคณะด้วยนะ ต่อให้มหาลัยดังก็จริง แต่มีหลายคณะหลายสถาบันลูกที่แม่งไม่ได้ดีหรือมีคอนเนคชั่นสวยงามจนคุ้มค่าแก่การเรียนของมึงขนาดนั้น กูเคยซิ่วมา2-3ที่ช่วงอายุแก่กว่ามึงหน่อย มหาลัยดังนะแต่เกณฑ์การรับเข้าคะแนนน้อยแบบแปลกๆ เข้าไปคือแม่งระบบคล้ายๆกับคณะครูราดพัดเลย ส่วนคนที่มาเรียนคือแม่งเหมือนติดคณะนี้ก็เลยเรียน แล้วสวัสดิการเทียบกับเด็กคณะอื่นๆคือเหี้ยมากจนไม่โอเค รุ่นพี่ที่จบไปแล้วมีแต่พวกที่กร่างได้เพราะคอนเนคชั่นดีกับมีมรดกพ่อแม่หนุนหลัง นอกนั้นคือเลียล้วนๆ กลับมาคิดทบทวนเลยรู้ว่าในการทำงานก็มีแบบนี้ไม่ต่างกัน และคะแนนแอดมิชชั่นหรือTCASที่สูงๆมีส่วนสำคัญมากๆที่บ่งบอกว่าคัดคุณภาพคนไปเรียนขนาดไหน แล้วเข้าไปเรียนได้เรียนให้รอด คบหาเพื่อนร่วมรุ่นเจ๋งๆจะดีกว่ามาก

236 Nameless Fanboi Posted ID6:9yjfPDLXBZ

อีกอย่างที่มีมหาลัยมีผลกูเจอมากับตัวคือจบม.เอกชนแล้วบ.ที่เงินเริ่มต้นน้อยจะไม่อยากรับ เพราะว่าเงินเดือนไม่เท่าค่าเทอม กลัวอยู่ไม่ยาวเพราะถือว่าเรียนเอกชนมาจากบ้านคนรวย

237 Nameless Fanboi Posted ID6:QQidYXnltU

>>235 เอาซะกูไม่กล้าใช้คำหยาบด้วยเลย555555 กูสายงานpsychologistอะ ล่าสุดผลประกาศว่ากุเพิ่งติดมมส มอนี้มันโอเคมั้ยวะ หรือมอในกรุงเทพจะดีกว่า

238 Nameless Fanboi Posted ID6:Px.TKy0/Ub

>>236 มึงจบ ม.รัฐดังๆแล้วเป็นพวกค่าเทอมระดับลูกคุณหนู เช่น วิทยาลัยนวัตกรรม , สาขาวิศวกรรมดนตรี, วิศวะการเงิน, วิทยาศาสตร์ประกันภัยบลาๆนี่มึงเตรียมโดน rejectเช่นกันเว้ย เพราะนั่นแหละ จบผิดสายมาทำงานคนละแบบ พิจารณาแล้วไม่น่าทำงานอยู่ยาวเค้าก็ไม่อยู่ มันจะเหนื่อยคนประจำเปล่าๆไง หรือต่อให้ตรงสายแต่จ้างแพงไม่ได้นี่ก็ไม่เอานะ(อันนี้เป็นที่กิจการแม่งกากเอง) เช่น คนสมัครจบวิทยาลัยดุสิตธานีมา แต่ร้านอาหารเป็นระบบกงสีโง่ๆ ดาวมิชลินสักดวงก็ไม่มี นี่ก็คือมีเกิดขึ้นได้พอหะน

239 Nameless Fanboi Posted ID6:Px.TKy0/Ub

>>237 มึงลองเทียบ
-โอกาสในการได้งานทำในเมือง
-คอนเนคชั่นรุ่นพี่ที่ได้เงินดี มีปัญญาแนะนำที่ฝึกงานให้เลือกทำในเมืองได้
-อิสระในการเลือกทำกิจกรรมมหาลัย บางมหาลัยไม่สนการเข้ากิจกรรมเลย บาง ม.บังคับ บางหลักสูตร(นานาชาติ)มึงจ่ายแพงแบบเท่าเงินเดือนหมื่นห้าทั้งปี เหมือนยัดเงินให้ไม่ต้องทำกิจกรรมใน ม. เพื่อขอจบ เรื่องแบบนี้มีตั้งนมนาน ไปสืบดู
-ค่าเทอม และเวลาที่มึงขอเลื่อนการจ่ายค่าเทอมของแต่ละ ม. ถ้าทางบ้านมึงหมุนเงินไม่ทัน
แล้วที่สำคัญสุดเลยนะ ไอพวกสาขาวิชาที่ไม่ค่อยมีข่าวอะไรเลยออกมาเนี่ย น่าห่วงว่าปิดข่าวหรือมีเรื่องเสียๆหายๆในอดีตเยอะแต่มันไม่ดังเพราะคนในจังหวัด/คนต่อต้านรับน้องไม่ให้ความสงสาร/เห็นใจ ละที่สำคัญคือ บ้านนอกในสายตากูคือไม่มีอะไรเลย เทียบกับ กทม. ยังไง กทม. แม่งเจริญสุดและสายงานมึงนะ จุฬาก็มีเปิดสอน ถ้าเอาความคิดกูนะ ...จุฬาคือยังไงก็เป็นมหาลัยที่เฟรนลี่กับคนเรียนสุดในตอนนี้
ปล. 1 จุฬา นับตั้งแต่เปลี่ยนหลักสูตรมา3-4รอบ กูไม่เห็นว่าต้องมาไล่วิ่งทำกิจกรรมเพื่อขอจบถ้าไม่นับเด็กหอใน
ปล. 2 จุฬา ถ้ามึงพรูฟได้ว่าพ่อแม่มึงจนจริง มีข้าราชการเซ็นรองรับให้ มีทุนคณะหรือทุนสถาบันให้เปล่าไม่ต้องใช้ทุน
ปล. 3 จุฬามีทำโครงการแจกเครื่องแบบใช้แล้วให้รุ่นน้องใช้ต่อแบบฟรีๆ
ปล . 4 ...3 ปล. ที่กูว่ามามีใน มมส. ไหม? เทียบดูเอา ถ้ามึงไม่ติดจุฬามึงอย่ายอมแพ้ง่ายๆนะ ให้พ่อแม่มึงเก็บเงินค่าเทอมเผื่อไปให้มึงลองใหม่ปีถัดไปดู หรือลองอีกอันก็ มธ. ก็ได้ อันนี้ก็มีให้มึงเรียนTU100ไรนั่นให้ผ่าน ก็แค่นั้นจริงๆ ลองอ่านคำแนะแนวคนอื่นดูอาจจะเปิดโลกทัศน์มึงมากขึ้นกว่านี้

240 Nameless Fanboi Posted ID6:QQidYXnltU

>>239 ขอบคุณมากนะมึง ข้อ2มึงหมายถึงจุฬาชนบทใช่มั้ย กูไม่มีสิทธิ์เพราะเงินเดือนพ่อแม่กูเกิน บ้านกูไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินเท่าไหร่เลยไม่ซีเรียสเรื่องนี้ กูกะจะเอาจุฬาไม่ก็มธ.ให้ได้เหมือนกัน(รองลงมาเล็งมหิดล มศว มก) ถ้าไม่ได้ก็เข้าภาคอินเตอร์ไปเลย แต่กูกลัวว่าจะมีพวกเหยียดเด็กอินเตอร์อะ ในที่ทำงานมีกรณีแบบนี้บ้างรึเปล่า

241 Nameless Fanboi Posted ID:Ft2WX+vv+F

ถ้าจะให้ดีกูว่ามึงลองคิดคร่าวๆไว้ก่อนก็ดีนะว่าจบมาอยากทำงานกับบ.แนวๆไหน แล้วลองหาข้อมูลบ.นั่นๆไปเลย เพราะเรื่องมหาลัยมีผลไม่มีผลเนี่ยมันขึ้นอยู่กับบ.ล้วนๆเลย ต่อให้งานเดียวกัน บางที่จบมาผิดสีเขาก็ไม่อ่านresumeแล้ว ในขณะที่บางที่เขาก็เปิดฟรี

แต่ถ้ามึงเลือไม่ได้จริงๆ ตอนช่วงที่ต้องไปฝึกงานก็ลองดูที่ๆไปฝึกงานแล้วเขามีแววรับต่อหลังจบไปเลย เพราะอย่างน้อยตอนจบมามีงานทำก่อน แล้วอยากขยับขยายไปไหนค่อยหาทีหลัง

242 Nameless Fanboi Posted ID6:75mNOsnRGG

>>237 ถ้าเข้าม.พวก จุฬา มธ เกษตร ไม่ได้ ไปเรียน ม.กรุง abac หอการค้า ไรงี้ดีกว่าเย๊อะ บางทีเรียนเอกชนยังดีกว่าม.พวกนี้อีก ถ้าเอาคอนเนคชั่นนะ ถ้าเรื่องความแน่น เรื่องการรับงานถ้าแบบใช้ความสามารถล้วนๆไม่ใช้คอนเนคก็ยังไม่สู้ ม.รัฐ

243 Nameless Fanboi Posted ID6:Px.TKy0/Ub

>>240 ข้อ2กูไม่หมายถึงแบบนั้นเลย ก็แค่ว่าวันนึงมึงเดือดร้อนจนจ่ายค่าเทอมไม่ได้ มหาลัยสนมึงไหม หรือปล่อยให้มึงดรอปไปเพราะไม่มีเงินทั้งๆที่มหาลัยน่าจะรวยซะเปล่าไรงี้ แต่กับจุฬามันรวยจริงๆเลยให้ทุนยันค่าครองชีพได้ ถ้ามีคนส่งมึงมาเรียนใน กทม.ได้ มึงมาเถอะ ส่วนภาคอินเตอร์นะ พวกเหยียดอินเตอร์ถ้ามึงจะเจอคือเจอในพวก บ.ที่แม่งสักสิบชาติก็ไม่มีวันมีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ หรือมีได้ก็ไม่เคยไต่ไปถึง SET50-10และที่สำคัญสุดของสุดๆ หลักสูตรอินเตอร์ของ ม.ท้อปๆ มึงไม่ต้องไปหาป้ายประชาสัมพันธ์หางานแบบเหมือนใน ม.รามที่มีแต่โชว์งานรายได้ต่ำตมจนไม่มีจะออมแบบไทยมีงานทำนะ หลักสูตรแพงๆมี บ.ตรงสายงานบางครั้งมาตั้งบูธหาคนตามหน้าคณะหน้าภาควิชาด้วยซ้ำ มึงกลัวเหี้ยไรคนจะมามองมึงแกะดำในเมื่อคอนเนคชั่นคนจบอินเตอร์คนละเกรดกว่ามาก เผลอๆได้งาน บ.ข้ามชาติอีกไม่เจอแบบที่มึงคิดหรอก ที่มึงเจอมาก็แค่สัตว์นรกอิจฉาคนอื่นที่มีบุพการีส่งเสียให้ดีกว่าพ่อแม่กะหรี่เกรดเซียงกงแบบพวกแม่งเองอ่ะ อย่าใส่ใจเลย

244 Nameless Fanboi Posted ID:U.blDN9Lc4

>>242 >>243 ขอบคุณโม่งรุ่นพี่มากนะ ไม่รู้จะอวยพรยังไงให้ไม่ดูข้ามหัวผู้ใหญ่ เอาเป็นว่าขอให้ชีวิตราบรื่นนะ ปกติไม่เคยมาสิงห้องพวกนี้เลย ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับทุกคนแล้วเปิดมุมมองใหม่มาก (ขอบคุณตอนท้ายที่ >>243 ด่าครูตอนมัธยมให้กุนะ กูเรียนโรงเรียนประจำจังหวัด แต่เป็นห้องศิลป์ภาษา กูยังโดนครูในโรงเรียนเหยียดเลยว่าสู้เด็กวิทย์คณิตไม่ได้ งงชิบหาย ภาษามันไม่ดีตรงไหน)

245 Nameless Fanboi Posted ID:.rPAhR2kpJ

>>244 โอ๋ๆนะ มึงอย่าไปฟังปากอีแก่ยุคเก่าเท่าแม่กูมาก ปากมันพูดไปแต่ไม่ตรงกับยุคที่มันกำลังจะเข้าใกล้อเวจีหรอก ถ้าให้บอกว่าสู้ไม่ได้อ่ะ เพราะสมัยกูกำลังจบ ม.หก เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านเรื่องการรับตรงเด็กเข้ามหาลัย ถ้าเรียนจบสายศิลป์มาเนี่ย มันไปทางวิทย์หรืออยากเข้าสายวิทย์ต้องใช้คะแนนGAT-PATที่เค้ากำหนดให้กับเกรดเท่านั้นเลยจริงๆเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองเจ๋งจริงถึงเข้าไปได้ แต่ถ้ารับตรงแบบคล้ายๆรอบพอร์ตสมัยมึงตอนนี้นะ ในตอนนั้นการมีวิทย์คณิตจะเครดิตสูงกว่าเพื่อให้คุณสมบัติรับตรงมันผ่าน ก็แค่นั้นแหละ แต่สมัยนี้สายการเรียนคือแม่งแบบพื้นฐานมาจากวิทย์ ศิลป์ นั่นนี่ก็จริงแต่แตกแขนงรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก ใจความสำคัญกูว่าคือการรีบหากิจกรรมที่ตรงใจที่ตัวเองอยากทำในอนาคตมากๆแล้วลองไปเก็บๆเข้าแฟ้มยื่นดูเอาคงเข้าท่ามากกว่านะ แต่ถ้ามึงเด็ก ตจว. แล้วที่รร.ไม่มีเส้นในการหากิจกรรมให้เด็กทำกับหน่วยงานอื่นจริงๆแบบกู(ที่เป็นเด็กตจว เช่นกัน) กูเชียร์มึงให้ไปขวนขวายทำคะแนนสอบกลางTCASให้ได้ดีๆ อันนี้แนะนำเลยจริงๆ แล้วบุญเก่าเก็บคือโคตรไม่จำเป็น

246 Nameless Fanboi Posted ID:wVvz9w1Gip

บางสายงานมีผลจริงๆเว้ย ยิ่งบ.ท๊อปๆSCG PTT ถ้าเคยเข้าไปทำจริงๆเเล้วจะรู้เลย ในนั้นมีเเต่พวก8เกียร์ จุฬา อะไรพวกนั้น
ปล.กูรู้เเค่สายวิศวกร
เรื่องจุฬานี่เห็นด้วยเลยตามคห.บน ถ้ามีปัญญาเข้าไปได้นะ น้องกูก็เรียนอยู่บ้านกูฐานะจน-กลางๆ น้องกูขอทุนได้ตลอดเเต่ตอนนี้น้องกูอยู่ปี2ไม่รู้ปี3-4จะขอทุนได้อีกไหมเเต่เท่าที่ผ่านมาขอได้หมด

247 Nameless Fanboi Posted ID:nEtLPSrojG

>>237 เดี๋ยวมึงเดี๋ยว psychologist มมส นี่คือคณะอะไร คณะในไทยที่ห้อยว่าสาขาจิตวิทยาxxxมีโคตรเยอะ ดูดีๆนะมึงว่าเรียนจบมาแล้วสมัครงานอะไรได้บ้าง หลายคณะจบมาเป็นนักจิตไม่ได้ แค่ได้เปรียบตอนสมัครงาน HR เพราะถือว่ามีความรู้เรื่องจิตใจคนคนอยู่บ้าง นี่สำคัญมากถ้ามึงไม่อยากเสียเวลาซิ่ว มึง จง ไป เช็ค ให้ ละ เอียด

ถามว่าม.มีผลมั้ย ถ้ากูเข้าใจถูกว่ามึงอยากเป็นนักจิต ใช่ ม.มีผลมากๆ เพื่อนกูจบคณะจิตวิทยาจุฬา ผ่านไป 4-5 ปีได้ทำงานในวัง ได้ยศทหาร โดยก็ยังทำงานนอกไปด้วย มันว่าอีกไม่กี่ปีจะได้เครื่องราช ทั้งหมดนี้คือคอนเนคชั่นจุฬา ถ้าจบม.รัฐตจว.ป่านนี้ก็ยังเป็นแค่นักจิตรพ.รัฐไกลๆซักที่นึง

248 Nameless Fanboi Posted ID6:AeaW49r0Us

>>247 ดีนะที่กูแนะนำน้องมันไปแบบนั้น ไม่ใช่ว่าจิตวิทยาจุฬาแม่งดีดักอะไรนะ แต่ดีกว่าที่อื่นๆเอามากเพราะมันยังเป็นคณะเดียวในไทยมั้งที่เฉพาะทางกับตรงนี้จริงๆ และถ้าหวังแบบเอาดีที่สุด ค่าเทอมเทียบกับทุก ม.ถูกสุด ต้องจุฬาเลย มึงไม่มีเงินก็มีทุนซัพให้ ม.อื่นนอกจากนี้ไม่มีหรอกนะ
>>246 มันเป็นแบบนี้มานาน โดยเฉพาะกับ บ.ที่มีคิงถือหุ้นส่วนใหญ่ ขนาดผู้สมัครจบมหาลัยรัฐน้ำดีในเยอรมัน ฝรั่งเศสไรงี้มาสมัครงาน บ.กลุ่มอย่างว่าเค้ายังกันที่ให้แต่ในสถาบันชั้นนำเท่านั้นจริงๆ

249 Nameless Fanboi Posted ID:FT7N3MrnPP

>>247 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาจิตวิทยา จะเลือกเอกได้ตอนปี2 เป็นจิตคลินิก

250 Nameless Fanboi Posted ID6:6L3xQCYVqS

กูถามหน่อยพวกมึง พวกบริษัทที่ สัมภาษณ์แล้ว เขาดูโอเค แล้วพูดเรื่องสวัสดิการให้ฟัง รวมถึงเงินเดือน แต่ยังให้ไปทำข้อสอบในงานที่ทำเทสอีกรอบ แบบนี้โอกาสได้งานกี่%วะ ในกรณ๊ที่ทำข้อสอบไม่ค่อยได้

251 Nameless Fanboi Posted ID:r.VBauW1rS

>>250 % ตามข้อสอบที่มึงทำน่ะแหละ มันเป็นปกติที่บริษัทเค้าจะคุยเรื่องสวัสดิการกับเงินเดือนอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับว่ามึงจะได้งานหรือไม่ได้ สิ่งที่ส่งที่สุดคือข้อสอบน่ะแหละ

252 Nameless Fanboi Posted ID6:+XG2fFhyUj

>>251 +1 ตามนี้

253 Nameless Fanboi Posted ID6:tf7UtURen+

ขี้เกียจสัสๆ วันหยุด 3 วันหมดไปแล้ว 2 วันโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย งงตัวเองมาก ยิ่งแก่ยิ่งขี้เกียจ 555

254 Nameless Fanboi Posted ID:tMfEmGM8QD

กำลังจะเข้ามหาลัยเกี่ยวกับพวกคณะภาษา ตอนนี้ภาษาอังกฤษนี่ไม่เป็นที่ต้องการแล้วจริงมั้ย เห็นเขาบอกว่าตอนนี้ใครก็พูดได้แล้ว นี่จบสายศิลป์อิ้งมา ถ้าในตลาดไม่ค่อยต้องการแล้วกะจะเบนสายไปเรียนสาขาอื่น โม่งมีภาษาที่ตลาดแรงงานต้องการเยอะแนะนำมั้ย ตอนนี้สนใจญี่ปุ่น จีน สเปน

255 Nameless Fanboi Posted ID:IO+VCeAaNn

>>254 จีนเลย ไทกั๋วไม่ไกล
กูเรียนญี่ งานส่วนมากมีแต่ล่าม ถึงชื่อจะตำแหน่งอื่น JD แม่งยังไงก็ต้องได้ล่าม
ถ้าให้แนะนำมึงเรียนสายอาชีพอื่นแล้วเรียนภาษาเสริมดีกว่า

256 Nameless Fanboi Posted ID6:WTYf2cMkAo

>>254 ไม่เป็นที่ต้องการน่าจะแบบตรงสายตรงทางนะ แต่มึงลองนึกว่าภาษาแม่งก็มีศัพท์ธุรกิจ ,กฎหมาย ,วิทย์-คณิต ,การเงิน,การลงทุน แล้วควาคิดมึงจะเปลี่ยน .... กูเคยคิดแบบมึงนะ แต่พอมาคิดว่าถ้าบ้านไม่รวยเท่าไหร่ พ่อแม่แม่งส่งเสียมาตามประสาตื๊ด ที่บ้านหาคนจบ ป.ตรีคุณภาพไม่ได้สักตัว ไม่รีบเรียนจะไม่มีแดก มึงคว้าอิงค์มาจบเป็น ป.ตรีใบแรกละเอาสกิลภาษาที่เรียนมาแบบถึงเครื่องไปเรียนสกิลอื่นเพิ่มเพื่อหางานต่อใครๆก็บอกว่ากูไปได้ไกลกว่านี้นะ เช่น มึงจบป.ตรี อิงค์มา มึงทำงานล่ามก็ได้ หรือมึงไปงานโรงแรมที่กล้าจ่ายค่าภาษาก็ได้ แล้วจบมาแต่อายุยังไม่ถึง20นะ หายื่นไปชิมลางงาน ตปท. กูว่ายังทำได้เลยมั้งนั่น

257 Nameless Fanboi Posted ID6:WTYf2cMkAo

หรือคิดอีกแบบ ..... จบอิงค์ใบแรก ละพยายามหาเรียนอย่างอื่นต่อแล้วสายงานต้องการ ป.ตรี ก็ค่อยต่อ ป.ตรีอีกใบ

258 Nameless Fanboi Posted ID:WRqf2lghD0

>>255 ขอบคุณนะ แต่กูเป็นประเภทหัวมาทางสายศิลป์น่ะมึง55555 กูโง่คณิตกับวิทย์ถึงขั้นโง่มากๆ แต่พวกสายงานที่มันมีโอกาสไปทำงานต่างประเทศดันเป็นพวกวิทย์คณิตไรงี้นี้ดิ กูไม่ชอบคำนวณอะเอาง่ายๆ แต่ถ้าภาษาคือกูเรียนภาษาใหม่ๆได้ตลอด ตอนเรียนม.ปลายก็ท็อปห้องตลอด กูล่ะอิจฉาพวกเก่งคณิตฟิสิกส์ไรงี้มากเลย ดูอนาคตเพื่อนกูที่เรียนวิทย์คณิตแต่ละคน ติดวิศวะ ติดหมอ ติดสถาปัตย์ ส่วนกูถนัดแค่ภาษากับศิลปะ ศิลปะนี่เอามาหากินในประเทศนี้ยากอยู่ละ กูเคยคิดจะไปเรียนพวกนิติ/รัฐสาดไรงี้อยู่นะ แต่กูกลัวเรียนเรื่องที่ไม่ชอบลึกๆแล้วได้ซิ่ว กูเลยเบนมาสายภาษาแบบเต็มตัว

ว่าแต่มึงเรียนญี่ คนญี่เป็นไงบ้างวะ กูก็เป็นโอตาคุมาตั้งแต่เด็กๆนี่แหล่ะ เห็นด้านดีด้านมืดญี่ปุ่นมาเยอะ บางทีก็อ่านเขาเล่านู่นเล่านี่ เพื่อนกูที่ญาติมีสามีเป็นคนญี่ปุ่นบอกว่าเขาดื่มหนักกับสูบบุหรี่จัดกันมากเลย

>>256 >>257 แต๊งกิ้วนะ กูคงเลือกเรียนภาษาอังกฤษนี่แหล่ะ แต่กูมีพื้นฐานญี่ปุ่น/จีน/พม่าอยู่(ตอนม.ปลายโรงเรียนให้กูเรียนทำไมไม่รู้ กูอยู่สายศิลป์อังกฤษ มาให้นั่งเรียนจีนญี่ปุ่นพม่าเฉย) อาจจะไปต่ออะไรพวกนี้ต่อ ว่าแต่เรามีป.ตรีสองใบได้ด้วยหรอวะ กูเข้าใจมาตลอดเลยว่าถ้าเรียนป.ตรีจบแล้วก็ไปต่อโทแล้วก็เอก ขอบคุณสำหรับความรู้ใหม่นะโม่ง กูนึกว่าจะเลือกเรียนได้แค่คณะเดียว ถ้ากูเรียนจบแล้วว่างมากๆเมื่อไหร่จะลองเรียนป.ตรีคณะที่ตัวเองอยากเข้าแต่ในไทยแทบไม่มีลู่ทางเลย ขอบคุณโม่งทุกคนมากๆ

259 Nameless Fanboi Posted ID:IO+VCeAaNn

>>258 คนญี่ก็มีหลายแบบเหมือนคนไทยแหละ แต่พวกexpatมาไทยแม่งก็จะทำตัวไทยๆขึ้นเยอะ
คนญี่ปุ่นแดกเหล้าจัดจริง กูก็ได้อิทธิพลมา ก่อนไปเรียนต่อกูไม่กินเหล้า ตอนนี้แดกทุกอาทิตย์ เพื่อนกูส่วนมากด้วย 55555 ส่วนบุหรี่แล้วแต่คนแต่ก็สูบเยอะระดับต้องมีโซนบุหรี่ในร้านอาหารแหละ

260 Nameless Fanboi Posted ID:XFkPJ+55G4

วันศุกร์แร้วจ้า อิ_อิ

261 Nameless Fanboi Posted ID6:8KhSFZayBP

ถามหน่อยโม่ง กูแพลนจะลาออกพฤษภา (แต่ยังไม่ได้บอกใคร) แบบแจ้งออกเมษาล่วงหน้า 30 วัน วันสุดท้ายก็จะช่วงเดือนพฤษภาพอดี
กูแพลนจะใช้วันลาให้หมดๆ ไป อยากรู้ว่าการลาออกนี่กูแจ้งเรื่องแล้วออกได้เลยใช่ปะ บ.มันดึงเชิงกูไม่ได้ใช่มะ

262 Nameless Fanboi Posted ID:9fP77H8BWD

>>261 ได้ ไม่เซ็นใบลาออกให้ไง

263 Nameless Fanboi Posted ID:9fP77H8BWD

กูส่งใบสมัครงานออนไลน์ไปเมื่อ 2 วันก่อนยังเงียบ นี่กูสามารถโทรตามเลยได้ป่ะ แกล้งโทรไปทำเป็นตอนกดส่งมันขึ้นเออเรอร์ไม่รู้ส่งถึงรึเปล่าเลยโทรมาคอนเฟิรม หยั่งงี้น่าเกลียดป่ะวะ

264 Nameless Fanboi Posted ID6:8KhSFZayBP

>>262 ละกรณีนี้กูทำอะไรได้บ้างป่ะให้มันเซ็นใบลาออก ดึงการ์ดที่ใหม่มามันจะได้ปะวะ

265 Nameless Fanboi Posted ID:YkNRLfv5Md

ตามกฎหมายการลาออกไม่ต้องเซ็นหนิ แค่แจ้งก็ถือว่าลาออก

266 Nameless Fanboi Posted ID:pphqliR+Y4

>>264 ยื่นจดหมายลาออกจากงานแล้ว แต่นายจ้างไม่อนุมัติ ทำได้ไหม?

นายจ้างไม่สามารถปฏิเสธการลาออกจากงานของเราได้ ถ้ามีการยื่นจดหมายลาออกที่เป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว เราจะไม่มาทำงานตามวันที่แจ้งลาออกเลยก็ได้โดยไม่ต้องรออนุมัติ และนายจ้างเองก็ไม่มีสิทธิมาบังคับไม่ให้เราออกด้วยเช่นกัน

267 Nameless Fanboi Posted ID:bbp9QQh6W1

>>262 ไม่รู้ก็อย่ามาตอบอะไรมั่วๆทำเหมือนรู้ดี เสียเวลาคนอื่นต้องมาแก้ ตอนทำงานทำตัวแบบนี้มันจะถ่วงงานชาวบ้านเค้า

268 Nameless Fanboi Posted ID6:8KhSFZayBP

ขอบคุณพี่ๆโม่งทุกคนที่มาแก้ไขความเข้าใจผิดครับ
ขอถามอีกอย่าง ถ้ามีบริษัทโทรมาแจ้งว่าสนใจประวัติจากบนเว็บ แล้วเราบอกเขาว่าช่วยส่ง jd มาให้ทางเมล แต่ผ่านมาวันนึงแล้วเขายังไม่ส่งเมลมา อันนี้กูสามารถโทรไปถามเขาได้ป่ะวะ...

269 Nameless Fanboi Posted ID:8XKQxl901d

>>262 ก็เหี้ยละโม่ง ถ้าแจ้งแล้วมึงจะออกวันถัดมาเลยยังได้ นายจ้างไม่มีสิทธิอะไร 30วันนั่นแค่มารยาทด้วยซ้ำ

270 Nameless Fanboi Posted ID6:I52itwZ4AA

>>269 ออกได้ก็จริงนะ แต่มึงก็ถูกจับเข้าblacklist บ.ไปแล้วไง

271 Nameless Fanboi Posted ID6:K8LGpYLLwL

>>269 อันนั้นสำหรับยังไม่ผ่านโปรป่าววว

272 Nameless Fanboi Posted ID6:6aqF8UI6Qf

>>271 เอาตามกฎหมายเลยก็คือไม่มีการกำหนดว่าการลาออกจะต้องแจ้งล่วงหน้ากี่วัน คือมึงสามารถแจ้งแล้วสะบัดตูดไปเลยก็ได้ ถ้าใจมึงเหี้ย(ม)พอ แต่ส่วนมากตามกฎระเบียบบริษัทส่วนมากมักจะบอกว่าให้แจ้งล่วงหน้า 30 วัน แต่กฎระเบียบบริษัทไม่สามารถใหญ่กว่ากฎหมายของประเทศได้

ส่วนถ้าจะว่ากันในทางกฎหมายจริงๆ มันมีแค่ว่าการลาออกแบบกะทันหันของมึงทำให้นายจ้างเกิดความเสียหายหรือเปล่า ซึ่งถ้าเกิด นายจ้างก็ต้องไปฟ้องร้องเอากับมึง และต้องแจงกับศาลได้ว่าการออกกะทันหันของมึงก่อให้เกิดความเสียหายต่อนายจ้างอย่างไร เป็นมูลค่าเท่าไหร่ ก็ว่ากันไปตามหลักฐานพยานและคำพิพากษาของศาล

ดังนั้นการแจ้งล่วงหน้า 30 วันตามกฎบริษัทเลยกลายเป็นเหมือนมารยาทซะมากกว่า ถ้าทำถูกต้องตามกฎบริษัท บริษัทก็จะไม่เกลียดมึง มึงก็ไม่ต้องกลัวบริษัทจะมาฟ้องร้อง หรือวันหลังมาเจอหน้ากันก็มองหน้ากันติดทุกฝ่าย (บางวงการมันแคบนะ) ดังนั้นกูแนะนำให้ทำตามกฎบริษัทให้ถูกต้องจะดีที่สุด แต่ถ้าเขาไม่เซ็นให้ก็ไม่ต้องกังวล เพราะมันนับจากวันที่เราแจ้ง ไม่ได้นับจากวันที่อนุมัติ (เพราะการลาออกเป็นการแจ้งให้ทราบ ไม่ใช่การขออนุมัติ) ก็เก็บหลักฐานเอาไว้ก็พอว่าแจ้งวันไหน

273 Nameless Fanboi Posted ID6:6aqF8UI6Qf

อ้อ อีกเรื่องคือในทางกฎหมาย ไม่มีคำว่าผ่านโปรไม่ผ่านโปร ทุกคนเป็นพนักงานโดยสมบูรณ์ตั้งแต่วันแรกที่ทำงาน ดังนั้นเรื่องโปรยิ่งไม่เกี่ยวกับกฎหมายเข้าไปใหญ่เลย เพียงแต่ว่าถ้าโดนเลิกจ้างก่อน 119 วันโดยมีการแจ้งล่วงหน้า 1 รอบเงินเดือน จะไม่ต้องจ่ายชดเชย บ.หลายที่เลยยึดเอาตรงนี้เป็นช่วง probation ของบริษัทก็เท่านั้นเอง

274 Nameless Fanboi Posted ID:8dC8Twzw+3

ถ้าหลังจากเราลาออกเราคิดว่าเราจะไม่ได้งานใหม่ทันทีเราไปขอเงินเยียวยาจากปกสคเลยได้มั้ย

275 Nameless Fanboi Posted ID:TUKBYSVBJq

>>273 "ถ้าโดนเลิกจ้างก่อน 119 วันโดยมีการแจ้งล่วงหน้า 1 รอบเงินเดือน จะไม่ต้องจ่ายชดเชย" คือยังไงนะประโยคนี้ ถ้าสมมติว่ามีคนๆนึงทำงานให้นายจ้างดูละมันไม่โอเค นายจ้างบอกพรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานละนะ ออกไปเลย ก็คือให้มันออกไป เงินรายเดือนเดือนก็ไม่ต้องจ่ายให้ จ่ายไปแค่ค่าแรงรายวันที่ทำมาก่อนหน้านี้?

276 Nameless Fanboi Posted ID:TUKBYSVBJq

อีกอันนะ กูมีคำถามเลย เพราะเห็นทุก บ. ทำ ยิ่ง บ.คนไทยระดับมีหุ้นในSET 50กูว่าทำทุก บ.จนคนทำงานหาทางหนีไปหานายจ้าง บ.ข้ามชาติที่มาในไทยแทน .... ทำเกินเวลา แต่เอาเงื่อนไขยอดขาย เอากฎเกณฑ์นั่นนี่มาอ้างเพื่อไม่จ่ายโอที บางคนทำเกินไป4ชม. ให้โอทีแค่2ชม.เงี้ย ที่มันยังทำเหี้ยๆกันแบบนี้ได้อยู่เพราะว่ามันมีช่องว่างทาง กม. เยอะเหรอ? หรือว่าการหาหลักฐานของฝั่งลูกจ้างมันหายากจนเอาไปฟ้องศาลแรงงานไม่ได้? หรือฟ้องไปก็ไม่คุ้ม บางทีเห็นลูกจ้างฟ้องละก็แพ้คดีมาเยอะ เรื่องนี้เรื่องสุดท้ายละ ไอพวกที่ถูกให้ทำงาน6วันต่อวีคเนี่ย ทำไมสมัยนี้ถึงเกร่อชิบหาย ทั้งๆที่มี กม. บอกไว้แต่ก็เหมือนคนทำงานทำอะไรไม่ได้

277 Nameless Fanboi Posted ID:lfyV5ZlbS0

>>275 ล่วงหน้า1รอบเงินเดือน คือจ่ายถึงสิ้นเดือนหน้า

278 Nameless Fanboi Posted ID:Ij+SlpQ6DE

>>276 หลายบ.มันไม่ให้โอทีเพราะกลัวลูกจ้างจะแกล้งถ่วงเวลาแกล้งทำงานช้าเพื่ออยู่เอาโอทีไง มันก็ต้องดูที่ลักษณะงานด้วย ถ้างานแบบเดียวกันแล้วคนนึงต้องทำโอคนนึงไม่ต้องทำโอมันแปลว่าคนทำโอทำงานกาก บ.ใช้จุดนี้เป็นข้ออ้างไม่จ่ายได้

279 Nameless Fanboi Posted ID:68gNZHDHNx

>>276 บ.เก่ากูมีเรื่องฟ้องร้องกับพนักงานเรื่องโอทีนี่แหละ คือมันจะไม่เรียกว่าโอที ให้เป็นเรตเหมาจ่ายอยู่ถึง 2 ทุ่มได้เท่านี้ 4 ทุ่มได้เท่านี้
สรุปว่า...บ.ชนะนะครับ อ้างว่าไม่ได้ขอให้พนักงานทำโอที พวกมึงทำกันเองนะฮะ 5555 T_T

280 Nameless Fanboi Posted ID:vj1nIQILx8

เราเป็นลูกจ้างเราก็ต้องคิดแบบลูกจ้าง ไว้เป็นนายจ้างเมื่อไหร่ค่อยคิดแบบนายจ้าง

281 Nameless Fanboi Posted ID:zK0oy5LATO

พึ่งเริ่มทำงาน ถามหน่อย ถ้าโดนให้ทำงานวันหยุด แต่ไม่ได้ค่า OT แต่เจ้านายให้เป็นวันหยุดเพิ่มแทน แบบนี้ถือว่าคุ้มไหมอ่า?

282 Nameless Fanboi Posted ID6:RFQxBtfK3X

หมดไฟว่ะ ทำงานมาครบปีแล้วก็ยังไม่ได้ขึ้นเงินเดือน แถมแอบรู้ว่าเพื่อนตำแหน่งเดียวกัน ที่เข้าทำงานก่อนและหลังได้รับเงินเดือนมากกว่าอีก พาลเอาไม่อยากทำงานเลย หมดแพชชั่นนนน ไอ่เหี้ย

283 Nameless Fanboi Posted ID:/D/p71Q+Rz

>>282 ลองดูตัวเองยังว่าทำงานได้ดีเท่าเพื่อนป่าว ไม่ใช่เข้างานสายชิงกลับก่อนนั่งเล่นเกมเวลางานkpiไม่ได้สักข้อแล้วมาร้องงอแงเงินเดือนไม่ขึ้น ถ้าทำดีกว่าเพื่อนแล้วเงินเดือนยังไม่ขึ้นก็ลาออกไปเถอะมันแปลว่านายจ้างเขากดดันให้ลาออกเองแล้ว

284 Nameless Fanboi Posted ID:tMkLoditkf

>>281 อยากจะตอบยาวๆนะแต่ไอโง่SIRNแก้เว็บห่าหอกไรไม่รู้ ....ตอบสั้นๆว่ามึงได้เงินดีกว่าได้วันหยุด เชื่อกู

285 Nameless Fanboi Posted ID:k1vr3CE+Ss

>>284 สมน้ำหน้า

286 Nameless Fanboi Posted ID6:K6kFrulqwK

>>285 เป็นส้นแตดไร แม่มึงสิ้นเลยสมน้ำหน้าตัวเองเหรอ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.