Fanboi Channel

วันศุกร์ที่สิบสี่ ของเหล่าซาลารี่แมน

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:Z76/W0FOtP

>>>/lounge/68/ วันศุกร์ที่หนึ่ง
>>>/lounge/216/ วันศุกร์ที่สอง
>>>/lounge/286/ วันศุกร์ที่สาม
>>>/lounge/408/ วันศุกร์ที่สี่
>>>/lounge/765/ วันศุกร์ที่ห้า
>>>/lifestyle/1530/ วันศุกร์ที่หก
>>>/lifestyle/2284/ วันศุกร์ที่เจ็ด
>>>/lifestyle/3353/ วันศุกร์ที่แปด
>>>/lifestyle/5047/ วันศุกร์ที่เก้า
>>>/lifestyle/6139/ วันศุกร์ที่สิบ
>>>/lifestyle/6603/ วันศุกร์ที่สิบเอ็ด
>>>/lifestyle/7075/ วันศุกร์ที่สิบสอง
>>>/lifestyle/8483/ วันศุกร์ที่สิบสาม

2 Nameless Fanboi Posted ID:voJ7euEXc/

อยากเรียนเรื่องการเงินให้เข้าใจเนี่ย มันต้องพึ่งพาพื้นฐานอะไรเยอะไหมวะ? แล้วการเงินที่เอาไปใช้งานจริงกับการเงินการธนาคาร การเงินเศรษฐศาสตร์ตามมหาลัยนั่นนี่มันแตกต่างไงมั่งอ่ะ

3 Nameless Fanboi Posted ID:/z3VmFf756

>>>/lifestyle/8483/991 ถ้านี่เป็นที่ทำงานแรกๆ ขอบอกว่างานมันก็แบบนี้ล่ะ ลูกค้าที่ไม่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองต้องการ และคนทำงานที่ไม่เชี่ยวพอจะมองข้ามช็อตและตีโจทย์ที่ลูกค้าต้องการจริงๆได้
ถ้าทำมาหลายปีแล้ว และคิดว่าเจ๋งพอ ทำพอร์ตแล้วไปสมัครบ.ใหญ่ๆดังๆ ไม่ก็ตั้งบ.ตัวเอง

4 Nameless Fanboi Posted ID:lJ8H9z9+7s

>>2 กูไม่มีพื้นฐานอะไร อาศัยดูคลิปในยูทูปก็พอได้รู้อะไรอยู่บ้างนะ ที่หันมาศึกษาก็เพราะเป็นหนี้นี่แหละ

5 Nameless Fanboi Posted ID:liYbA9n2ZU

สงสารแม่จังวะ แบกภาระค่าใช้จ่ายทั้งบ้าน แล้วก็โดนเจ้านายกดดัน ทำยอดทำเป้า กุก็ยังเรียนไม่จบ เห้อออ

6 Nameless Fanboi Posted ID:73EheDextv

ล่าสุดเลยเมื่อกี้ เลิกงานแล้วเลยรีบนอนเร็วเพราะง่วง แต่ลูกค้าสั่งแก้งาน คนในบริษัทเลยโทรมาปลุกตอน 3 ทุ่มครึ่งเพื่อคุยงานวันพรุ่งนี้ ตื่นเลยอีเหี้ย โกรธสัตว์ๆ

7 Nameless Fanboi Posted ID:akwao+XMik

>>2 เอาไว้ใช้จริงคือพวกการวางแผนการเงิน + การลงทุน หรือ personal finance พวกนี้จะคนละแบบกับเอกไฟแนนซ์ในมหาลัย อันนี้จะเรียนลึกกว่า คำนวณราคาหุ้นในอนาคตได้ ทำ financial model ได้ ทำ feasibility ได้ พวกนี้จะทำงานในแบงค์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเราคนธรรมดาอาจจะไม่ต้องมีความรู้ถึงขั้นนั้นก็ได้

8 Nameless Fanboi Posted ID:JeBZXfzv/F

>>5 เป็นลูกที่ดีจัง

9 Nameless Fanboi Posted ID:nRUv+cxGd8

>>>/lifestyle/8483/995/ ปัญหาคือเรื่องที่ทำให้ประสาทแดกทุกวันนี้น่าจะไปที่ไหนก็มีมากกว่า คงต้องทำใจจริงๆ

10 Nameless Fanboi Posted ID:647uP1ceyv

>>7 ใช่ นี่แหละที่กูอยากรู้ความต่าง ที่กูสงสัยเพิ่มคือ ถ้าเรียนแล้วแม่นจริงๆสามารถเข้าใจในระบบการหมุนเงินของธนาคาร กับ บ.หลักทรัพย์เลยไหมวะ? เห็นมีสายงานพวกเอกการเงินและการธนาคาร กูไม่รู้ว่าจบมาละสอบCFPถือว่าตรงสายสุดๆเลยรึยังนี่ดิ

11 Nameless Fanboi Posted ID:yC7Wio9SX8

>>10 กูว่ามึงอาจจะต้องเปลี่ยนคำถามใหม่เป็น จะเข้าใจในระบบการหมุนเงินของตลาดเงินมั้ย พวกระบบการหมุนเงินของแบงค์หรือบ.หลักทรัพย์ถ้ามึงได้เข้าไปทำงานมึงก็จะพอเข้าใจว่ามันทำงานกันยังไง แต่พวกวิชาด้านไฟแนนซ์มันไม่ได้สอนเรื่องนี้ตรง ๆ หรอก ถ้าอยากรุ่งในสายนี้แนะนำให้สอบ CFA หรือ CISA ตัวแรกสอบยากมากค่าสอบก็แพงเหี้ย ๆ ด้วย แต่ถ้าได้สักเลเวลเงินเดือนอัพแน่นอน

กลับมาที่คำถามของมึง พวกวิชาไฟแนนซ์ถ้าเรียนแล้วแม่นจริง ๆ คือจะเข้าใจการทำงานของตลาดเงินโดยรวมอ่ะ พวกระบบของธนาคารหรือบ.หลักทรัพย์อย่างที่บอก มันต้องเข้าไปศึกษาที่บอเอง

12 Nameless Fanboi Posted ID:FNtO5OiVDb

กูอยากทำร้านเสื้อของตัวเอง ศึกษามาพอสมควรจนคิดว่าเปิดได้แล้ว แต่ขาดแค่คนออกแบบนี่แหละ ต้องหาจากไหนวะแนะนำที

13 Nameless Fanboi Posted ID:1zz0kxBt0v

>>11 ยังไงวะรุ่นพี่ เรียนแล้วเข้าใจระบบตลาดนี่คือการตลาดของทั้งในหุ้น, หลักทรัพย์ ,อสังหาฯ, ตลาดสด ,ห้างร้าน, ฯลฯ ใช่ไหม? แล้วถามต่อจะเอาจริงจังงานสายนี้ แม่นคณิตเนื้อหาแบบไหนถึงจะดี?

14 Nameless Fanboi Posted ID:1zz0kxBt0v

>>11 อีกคำถามนะ สายงานนี้จบมาถึงอายุเท่าไหร่แล้วถึงจะไม่มีใครรับเข้าทำงานอีกต่อไป? มีไหมวะ? แบบแก่มากๆเข้าอายุเลย55ปุ๊บหรือเลย60ไปคือแบบรับงานอิสระยังไม่ได้เลยไรงี้อ่ะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:AY.VEeuprC

>>12 เปิดเป็นบริษัทแล้วรับสมัครไปเลย หรือไม่ก็ลองจ้างพวกดีไซน์เนอร์ฟรีแลนซ์ดู ถ้าว่างก็ไปลงเรียนออกแบบสิ จะได้มีพื้นฐานด้วย

16 Nameless Fanboi Posted ID:qWsAN4THzf

ถามพี่ๆโม่ง ตอนเรียนจบทำงานใหม่ๆเจออะไรคัลเจอร์ช็อกในที่ทำงานมั่งปะ แบบเหยชเข้มันมีงี้ด้วย ของกุก็เรื่องนิสัยคน ถึงตัวจะเป็นผู้ใหญ่แต่สมองยังเป็นเด็ก ตอนนั้นอ่อนต่อโลกคิดว่าโตๆกันแล้วคุยรู้เรื่อง แต่เปล่า-_-

17 Nameless Fanboi Posted ID:2kYxRo.Gu2

>>16 กูไม่นะ ตอนเข้าไปเค้าต้อนรับดี และบรรยากาศทีมก็ดีมาก
เรื่องเหี้ยมันค่อยๆมาเห็นตอนอยู่ไปซักพักมากกว่า ส่วนนึงคือตอนเข้าไปแรกๆยังเด็กไม่ค่อยเข้าใจอะไรด้วย

18 Nameless Fanboi Posted ID:BZpYHk0bqg

>>17 เหมือนกัน ตอนจบใหม่ทำงานที่แรกดีมาก รุ่นพี่คอยสอน คอยปกป้องทุกสิ่ง เจ้านายก็แสนดี ทุกคนโอ๋หมด เรียกว่าเข้าไปเรียนงานแล้วก็ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายแค่นั้น ไม่ต้องคิด/แก้ปัญหา/เผชิญอะไรเองเลย ก็เลยไม่ค่อยรู้หรอกว่าโลกการทำงานจริงๆ เป็นไง เหมือนไข่ในหินที่มีพี่ๆ ในทีมคอยดูแลปกป้อง แต่พอทำงานไปหลายปีโตแล้วนี่แหละต้องแกร่งเองละ ต้องเผชิญทุกอย่างเองละ ต้องไฟท์กับคนโน้นคนนี้ ซึ่งมันก็เป็นไปตามวัยตามตำแหน่งอะนะ พอมีน้องใหม่เข้ามาเราก็ทำแบบเดียวกัน คือคอยปกป้อง คอยสอนให้น้องเรียนรู้โลกการทำงานทีละนิดๆ ไม่ได้โยนตู้มทีเดียวให้น้องช็อก ยิ่งถ้าเรารู้อยู่แล้วว่าคนไหนดีลยาก ตรรกะประหลาด พูดไม่รู้เรื่อง เราก็จะไม่ปล่อยให้น้องไปเผชิญเอง แต่จะพาไปด้วยเวลาเราไปคุย ให้น้องไปนั่งฟัง ให้รู้จักสไตล์คนคนนี้ก่อน แล้วก็สอนวิธีรับมือไป

19 Nameless Fanboi Posted ID:PZE9MuLIq4

>>16 ตอนเข้าไปทำงานที่แรกโดนบูลลี่ เหมือนเค้าจะไม่ชอบเรา แต่ไม่รู้จริง ๆ ว่าไม่ชอบเพราะสาเหตุอะไร เวลางานมีปัญหาอะไรจะชอบโยนความผิดมาให้เราตลอด แล้วเราพูดอะไรไม่ได้เลยอ่ะ เพราะเค้าเป็นเพื่อนกันหมดเลยทำงานเป็นทีมจริง ๆ ต้องรับกรรมไป แต่เรื่องนี้งงที่สุดคือเคยโดนตักเตือนว่าไม่มีมารยาทเพราะแทคชื่อคนในไลน์ พี่เค้าบอกว่าทำไมไม่ใส่คำว่า "พี่" ไปข้างหน้าด้วย เช่น พี่ @aaa อะไรงี้อ่ะ อันนี้กูอิหยังมาก

20 Nameless Fanboi Posted ID:PZE9MuLIq4

>>13 อันนี้กูแปะเป็น syllabus ของม.ชมพูให้ดูนะจะได้เห็นภาพว่าเรียนไรบ้าง https://bba.acc.chula.ac.th/index.php/prospective-students/2014-07-09-06-47-20/2014-06-27-06-07-13/financial-analysis-and-investment

คำว่าตลาดเงินนี่คือจะได้เรียนเรื่องพวกพันธบัตร หุ้นกู้ หุ้นในตลาด หลักทรัพย์ทางการเงินอีกหลายตัว แต่มันไม่ได้หมายความว่าเราจะได้เรียนการหมุนเวียนระบบเงินของสถานที่ต่าง ๆ นะ อย่างเช่น ตลาดสด หรือคอนโด อันนี้ไม่ใช่ ถ้าอยากรู้อันนี้แนะนำให้ไปหาข้อมูลเอาเอง เพราะในมหาลัยไม่ได้มีสอน

ส่วนเรื่องคณิตควรแม่นแคลกับสถิติมากที่สุด algebra พื้นฐานควรจะแน่นด้วยถ้าคิดจะลงลึก แต่สำคัญที่สุดคือตรรกะในการคิด ก่อนเราจะลงลึกไปถึงสูตรยาก ๆ ที่พวกเอกนี้เค้าเรียนกัน เราจะต้องเจอกับสูตรง่าย ๆ ก่อน ที่เหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ง่าย พวกนี้เลขพื้นฐานมาก ๆ แค่บวกลบคูณหาร แต่ที่ทำให้มันยากคือตรรกะในการคิดมากกว่า สรุปคือไม่ต้องกลัวว่าตัวเองจะไม่เก่งเลย มันสำคัญที่ตรรกะการคิดมากกว่า

ส่วนเรื่องอายุนี่ไม่รู้เลยว่ะ ตอบไม่ได้ แบบ 55 60 นี่หลาย ๆ สายงานก็คงหางานยากเหมือนกันหมดแล้วมั้ง แต่ที่เคยเห็นคนทำงานในแบงค์ก็อายุหลากหลายนะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์อ่ะ ถ้าอายุเยอะแล้วก็อาจจะเจอสถานการณ์ที่เราพบได้ทั่วไปคือ ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่ง junior ขอไม่รับอายุเกิน 30 นะ อะไรแบบนี้อ่ะ

21 Nameless Fanboi Posted ID:qWsAN4THzf

>>18 โห ดีจังอยากทำงานกับพี่เลยค้าบ T_T

22 Nameless Fanboi Posted ID:peG9koYa/+

>>18 ดีจัง นี่ทำงานที่นึงนอกจากหัวหน้าจะไม่ปลื้มแล้ว (เพราะเราเห็นต่าง เสนอความคิดไป เขามองว่าเถียง) เอาเราไปนินทากับคนอื่นในทีมและนอกทีม และบีบให้เราเซ็นออกแบบยินยอมให้ที่สุด

23 Nameless Fanboi Posted ID:72rYORSAeS

>>20 อห ขอบคุณการแนะแนวมึงมาก นี่หาcourse syllabusของพวก มธ. อ่านๆไปไม่ค่อยเก็ท ของจุฬาเก็ทกว่าหว่ะ ....... เห้อ สายงานนี้แม่งมีจุดสิ้นสุดที่อายุ55ขึ้นไปสินะ คือ กูไม่โอเคเท่าไหร่เลยไง ตอนหนุ่มๆคือแบบสอบใบเซอร์ ผ่าน ปสก.มาสูงมาก พอตอนรีไทร์แล้วสิ่งที่เคยหามาสมัยหนุ่มๆสาวๆแม่งไร้ค่าเลยอ่ะ เหมือนวิศวะที่แม่งอายุมากๆเข้านี่ก็ตกงานจริงคือแย่เหมือนกัน ทำงานได้แค่แบบต่ำกว่า ป.ตรีเท่านั้น อย่างน้อยแบบกูเจอสายโปรแกรมเมอร์ไรงี้เห็นตกงานยังไงถ้าดวงตายังไหว แขนขายังได้คือมันดิ้นได้หางานอิสระได้อีกอ่ะ

24 Nameless Fanboi Posted ID:2kYxRo.Gu2

>>19 กูว่าฟังดูเหี้ยมากเลยนะ ไม่รู้เป็นปัญหาที่คนหรือเน่ามาตั้งแต่วัฒนธรรมองค์กร แต่ฟังดูไม่น่าอยู่เลยว่ะ

25 Nameless Fanboi Posted ID:+W9joZvtDq

ก็รู้อะนะว่าปีนี้ไม่ต้องหวังโบนัส แค่มีงานทำเงินเดือนได้เต็มอยู่ก็บุญหัวแล้ว แต่พอมาคิดถึงเงินเก็บที่จะหายไปหลายแสนในปีนี้ก็ใจหายเหมือนกัน เพิ่งเข้าใจที่เค้าบอกว่าอย่าเอาชีวิตไปฝากกับโบนัส เพราะได้มาเท่าๆ กันตลอด 10 ปี จนเคยตัว ดีนะไม่ได้ซื้อประกันจนเกินตัวยังส่งไหวด้วยเงินที่มี (ปกติจะเอาโบนัสไว้ซื้อประกัน กองทุนลดหย่อนภาษีต่างๆ) คนที่ฝากชีวิตไว้กับโอที โบนัส อันตรายมากจริงๆ

26 Nameless Fanboi Posted ID:3Qv+++Bzoe

>>23 ไม่เป็นไรมึงยินดี มันไม่ได้สิ้นสุดที่ 55 หรอก กูว่าพนักงานออฟฟิศวงจรชีวิตก็เป็นแบบนี้แหล่ะ ไม่อยากเหมารวมทุกสายอาชีพนะ แต่หลาย ๆ อาชีพเลย พออายุเยอะทางมันก็เริ่มตัน แต่เท่าที่กูเห็นสายไฟแนนซ์พอเกษียณเขาก็ไปเป็น consultant กันต่อนะให้บริษัทใหญ่ ๆ โปรเจ็คสำคัญ ๆ อ่ะ สายนี้มันไม่ค่อยรับฟรีแลนซ์ได้กว้างขวางแบบโปรแกรมเมอร์ด้วยแหล่ะ ภาพรวมมันเลยออกมาดูอายุเยอะแล้วตันกว่า

27 Nameless Fanboi Posted ID:3Qv+++Bzoe

>>24 เป็นที่คนแหล่ะ นายต่างชาติ พนักงานต่างชาติบ้าง แต่ทีมที่อยู่ culture ไทย กูออกก่อนคนที่มาบูลลี่นะ แต่พอแก๊งนั้นออกหมดก็ไม่รู้จะเป็นยังไง เพราะถ้าไม่นับแก๊งที่มาบูลลี่ คนอื่น ๆ ก็โอเคนะ

28 Nameless Fanboi Posted ID:2nHAmqMMUn

เพื่อนโมง มีใครมีเด็กเส้นในองค์กรมาทำงานบ้างมะ ปกติวางตัวกับเค้ายังไงกัน ให้งานเหมือนปกติมั้ย
ของเราจะมีเดือนหน้า ลูกค้ารายใหญ่ฝากหัวหน้ามา

29 Nameless Fanboi Posted ID:2FpqwhQeRi

ทีมในออฟฟิซจะยกขโยงไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน ก็อยากไปนะ แต่พวกมึงดูเวลาหน่อยเถอะว่ามันใช่เวลาจะไปเที่ยวมั้ยเนี่ย

30 Nameless Fanboi Posted ID:YgIBEPRGF7

>>29 ไม่ไปก็เรื่องของมึง

31 Nameless Fanboi Posted ID:R90cnkMl5l

>>19 เรื่องเรียกพี่นี่มันปัญหาคลาสสิคเคาเจอไทยจริงๆ ถึงขนาดเวลาส่ง email ภาษา eng ยังมี dear p' xxx อ่านแล้วได้แต่ถอนหายใจกลัวฝรั่งมันไม่งงกันเหรอ
บางทีมี N' xxx ด้วยต้องมาคอยอธิบายฝรั่งข้างๆว่าคืออะไร

32 Nameless Fanboi Posted ID:zOxYCpHhUu

>>29 ร่างกายต้องการทะเลลลล

33 Nameless Fanboi Posted ID:yIe5Ja98Ve

>>32 หัวใจต้องการมีเธอ

34 Nameless Fanboi Posted ID:w.chH/pgAe

>>33 คลื่นลมไม่ฮาไม่เฮ

35 Nameless Fanboi Posted ID:VaWtMrlWfW

>>34 ถ้าทะเลไม่มีเธอ

36 Nameless Fanboi Posted ID:4z0VuegKCg

>>29 ทำไมไปเที่ยวช่วงนี้ไม่ได้วะ? กลัวติดโควิด? สภาพการเงินบริษัทง่อนแง่นเพราะโควิด? อื่นๆ? แต่ >>30 พูดถูกแล้ว

>>31 กูไม่มองว่าเป็นปัญหานะ ตรงข้ามเลยคือภาษาอังกฤษนั่นแหล่ะกากที่ไม่มี honorific ให้ใช้ แล้วภาษามันก็ตีความเป็น sarcasm ได้ง่ายมาก การที่คนไทยคุยกับคนไทยในบ.ไทยแล้วใช้ P' N' K(คุณ) kub ka ช่วยมันเป็นเรื่องปกติ และฝรั่งที่อยู่ใน cc มีหน้าที่ต้องเรียนรู้ culture การทำงานในไทย
ยกเว้นว่าจะใช้แบบนี้ตอนคุยกับฝรั่งเป็นหลัก อันนั้นถึงจะเรียกว่าผิดกาละเทศะ

37 Nameless Fanboi Posted ID:jyStDPsJdU

ข่าวโควิดระลอก2ทำกูเครียดชิบหาย​ คือกูพึ่งตกงานเพราะโควิดทีนี้เอาไรแดกล่ะ

38 Nameless Fanboi Posted ID:s2XPZvOFXC

>>31 เวลาเขียนเมลล์ภาษาอังกฤษคุยกับคนไทยกูใส่นะ
แต่พวกหางเสียงอย่าง krub ka นี่จะไม่ใส่เพราะรู้สึกแม่งประหลาดเกิน
ส่วนในไลน์หรือแอพแชทที่ tag หากันได้นี่จะมาจิกคนอื่นเพราะไม่ใส่นี่กูว่าเหี้ยไป ระบบ tag มัน
>>36 เรื่องฝรั่งต้องเรียนรู้วัฒนธรรมคนไทยนี่กูโอเค
แต่ภาษาอื่นกากเพราะเจ้าของภาษาวัฒนธรรมไม่เหมือนเราเลยไม่มีคำนำหน้าชื่อแบบเดียวกับเราใช้แปลว่าภาษากากนี่โลจิคอะไรวะ
แล้วพูดเหมือนภาษาไทยมันตีความเป็นการประชดยากนักแหละ ของพวกนี้มันอยู่ที่บริบท

39 Nameless Fanboi Posted ID:hSZGO7OVVv

>>37 ระลอกสองมาแล้วหรอ

40 Nameless Fanboi Posted ID:WliVSedIYu

>>37 กูหวั่นใจอยู่ตลอด ถ้าบริษัทจะเอาใครสักคนออก กูคนแรกเลยแหละ...

41 Nameless Fanboi Posted ID:WliVSedIYu

>>40 พูดละขอระบายต่อหน่อย ไม่ชอบความรู้สึก insecure ตอนนี้มากๆ บริษัทกู WFH 3 เดือนละ แต่ยังจ่ายเงินเดือนเต็มเท่าเดิม รายจ่ายกูลดไปเยอะมากเพราะ WFH แต่กูก็ไม่กล้าใช้เงินเพราะกลัวตกงานนี่แหละ บริษัทกูโดนผลกระทบยอดขายลด กูก็ไม่แน่ใจว่าสายป่านบริษัทยาวแค่ไหน ใช้ชีวิตด้วยความหวั่นใจตลอดเวลา

42 Nameless Fanboi Posted ID:8ff/7uZeaD

>>36 ทำไมมึงถึงคิดว่าการที่ไม่ใส่คำนำหน้าเป็นเรื่อง sarcasm อ่ะ สำหรับภาษาอังกฤษกูรู้สึกว่ามันมีระดับภาษาของมันอยู่อ่ะ แต่ไม่ได้มาในรูปแบบของเรียกพี่เรียกน้องแบบไทย ส่วนตัวกูว่าถ้าไม่ใส่คำว่า P' N' K' อะไรแบบนี้ แต่รูปแบบภาษาทางการมันก็โอเคแล้วนะ กลับกันกูรู้สึกว่าการใส่ krub ka naka อะไรแบบนี้มันดูไม่เข้ากันด้วยซ้ำอ่ะ ในเมื่อเปลี่ยนมาใช้ภาษาอังกฤษแล้วทำไมถึงละ "คะ/ค่ะ" ไม่ได้ หรือถ้าไม่ใช่ปุ๊บจะดูเป็นคนไร้มารยาททันที ?

43 Nameless Fanboi Posted ID:behOqzOoLj

ทำงานด้านอื่นมาตลอด แล้วตอนนี้อยากเป็นผู้ช่วยสัตวแพทย์ สมัครไปหลายที่ ไม่มีที่ไหนตอบกลับเลย ควรเปลี่ยนสายใช่ไหม

44 Nameless Fanboi Posted ID:6l2/1FoltH

ถ้าหัวหน้าดีกับมึงมาก แต่หัวร้อน พูดแย่ๆ ทำเรื่องไร้มารยาทใส่คนอื่นที่เค้าไม่ชอบ ไม่ถูกใจ ทั้งที่คนนั้นไม่ได้ทำผิดอะไรมาก มึงจะมองหัวหน้าดีอยู่ไหมวะ

45 Nameless Fanboi Posted ID:62oG0gWGmJ

>>44 ไม่ดีอ่ะ เพราะเคยประสบเหตุการณ์แบบนี้มาแต่กูไม่ได้เป็นลูกรักเขา เหมือนทำอะไรก็ผิด นิดหน่อยก็เกะกะสายตา เลยรู้สึกว่าถึงจะชอบคนไม่เท่ากันก็น่าจะปฏิบัติให้เท่าเทียมกันกว่านี้อ่ะ

46 Nameless Fanboi Posted ID:u1Gwo8qOFm

>>44 >>45 เราเป็นคนที่โดนหัวหน้าเกลียดเอง เพราะเราไม่ใช่คนหัวอ่อนเหมือนลูกน้องที่เขาชอบ เรามักจะมีคำถามเมื่อเห็นต่างและคำพูดเรามักจะโดนตีความไปทางลบหมดสำหรับเขาทั้งที่เราไม่ได้หมายความแบบนั้น เขาทรีตลูกน้องคนอื่นดีหมดยกเว้นกับเราที่พูดดีด้วยก็ต่อเมื่อจะใช้งาน แล้วเราก็โดนบีบให้ออก ที่น่าน้อยใจคือเพื่อนในทีมยังมองว่าเขาเป็นหัวหน้าที่ดี ถึงพูดไปก็จะหาว่าใส่ร้ายหัวหน้า ตอนอยู่กับเราสองคน เขาเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาอย่างไม่ปิดบังเลย

47 Nameless Fanboi Posted ID:I2JCX2Q/VI

>>44 เชี่ย เหมือนพูดถึงหัวหน้ากูอยู่เลย เขาดีกับกูก็จริงแต่เวลางานพลาดก็โดนเหมือนกันนะ บางทีก็สงสัยว่าเขาเอ็นดูกูหรือว่าเหม็นขี้หน้ากูกันแน่ เคยปรึกษาแฟนแฟนว่าเขาอาจจะเป็นคนที่ควบคุมการแสดงออกไม่ได้ จริงๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก เลยดูเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.