สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>790 เทียนกวาน Part.100
.
.
.
.
.
เถ้ากระดูกคือจุดอ่อนของผี ศพนี้คงไม่ใช่ธารทมิฬล่มเรือเพราะอีกฝ่ายคงไม่เอาร่างตัวเองมาตั้งโชว์ ทว่าจะมาสงสัยว่าอีกฝ่ายคือใครในเวลาแบบนี้ก็ใช่ที่ ซืออู๋ตู้เลยหันไปเรียกหมิงอี้ ถามว่าที่นี่น่าจะวาดคาถาร่นระยะได้ไหม ทันใดนั้นศพกลางห้องก็ยกหัวขึ้น พร้อมยื่นมือคว้าเทพแห่งน้ำ แต่พอเซี่ยเหลียนซัดไปก็แน่นิ่ง เขาจึงตั้งข้อสังเกตว่าที่มันขยับได้อาจจะเป็นจิตสุดท้าย และคำพูดบางอย่างของเทพแห่งน้ำอาจไปกระตุ้นมันเข้า พอเห็นทุกคนกลับไปโฟกัสกับศพอีก หมิงอี้เลยเร่งให้ตามหาจุดที่ใช้คาถาได้
ดูเหมือนว่าธาราทมิฬล่มเรือจะไม่อยู่ ทั้ง 5 จึงสำรวจจนไปเจอห้องแคบๆ ที่มีร่องรอยคาถาร่นระยะวาดไว้ แต่พอหมิงอี้เชคก็บอกว่าที่นี่สามารถส่งคนผ่านไปทีละคนเ หากฝืนเข้าไปพร้อมกันพอออกไปปลายทางจะทำให้ร่างทุกคนรวมกันประหนึ่งน้องนีนา FMA อีกทั้งคนที่ผ่านไปแล้วไม่สามารถกลับมาบอกคนที่นี่ได้ว่าปลายทางถูกต้องหรือไม่ แต่แล้วข้างนอกก็มีเสียงพายุจากเควสคราวเคราะห์ของซืออู๋ตู้ดังขึ้น เพื่อไม่ให้ธาราทมิฬล่มเรือโกรธ พวกเขาต้องรีบไปทันที เทพแห่งดินอธิบายว่าหลังใช้งานครั้งหนึ่งก็ต้องวาดคาถาขึ้นใหม่ เขาที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้มากที่สุดจะอยู่รั้งท้ายให้เอง พอซือชิงเสวียนบอกว่าจะอยู่กับหมิงอี้เป็นคนรองสุดท้าย บราคอนซืออู๋ตู้ก็ไม่พอใจจนมีปากเสียง ซือชิงเสวียนเลยจี้พี่ชายว่าจะทิ้งเผยหมิงไว้เหรอ แต่เทพแห่งน้ำก็บอกว่าแม่ทัพเผยถึกทน รอพวกตนไปตามกำลังเสริมมาช่วยก็คงยังไม่ตาย ทำเอาเซี่ยเหลียนแอบรู้สึกสงสารเผยหมิงหน่อยๆ พอฟ้าผ่าดังขึ้นอี ซืออู๋ตู้ก็ไม่มีทางเลือกต้องรีบไปก่อนคนแรก แล้วหมิงอี้ก็จับซือชิงเสวียนโยนเข้าประตูเป็นรายต่อไป ส่วนฮวาเฉิงบอกว่าตนตายแล้วเข้าไปพร้อมกับเซี่ยเหลียนก็ไม่มีปัญหา เขาหันไปบอกหมิงอี้ให้ปลายทางเป็นอารามผูจี้ พอทั้งคู่เข้าไปในห้องแล้วเปิดประตูออกมาอีกครั้งก็มาถึงปลายทางที่ต้องการ
สักพักเซี่ยเหลียนก็ติดต่อโทรจิตไปหาหมิงอี้เพื่อเชคว่าออกมาจากเกาะหรือยัง พอไม่ได้รับการตอบรับเลยเข้าไปในเครือข่ายกลางของสวรรค์แทน แต่ก็พบว่าทุกอย่างวุ่นวาย พอหลิงเหวินทราบว่าพวกเซี่ยเหลียนหลงไปทะเลใต้ก็ตกใจมาก เพราะตอนนี้ยังติดต่อพวกซืออู๋ตู้ไม่ได้สักคน ทันใดนั้นเซี่ยเหลียนก็ปะติดปะต่อเรื่องเกือบทุกอย่างออก เขาหันมาถามฮวาเฉิงซึ่งยืนหน้าเครียดว่าอีกฝ่ายกับคนๆ นั้นทำสัญญากันไว้นานแล้วใช่หรือไม่ แต่พออ๋องผีจะตอบเขาก็ห้ามไว้เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายผิดสัญญากับคนๆ นั้น ฮวาเฉิงเอ่ยขอโทษ ขอให้เรื่องจบเท่านี้ แต่เซี่ยเหลียนกลับใช้คาถาสลับวิญญาณกับซือชิงเสวียน แต่ด้วยความที่ไม่มีพลังทิพย์แล้ว ทำให้วิญญาณของอีกฝ่ายไม่ได้สลับมาที่ร่างเซี่ยเหลียน
ซือชิงเสวียนกำลังวิ่งอย่างหวาดกลัว เซี่ยเหลียนจึงเข้าบังคับร่างอีกฝ่ายแล้วบอกให้ใจเย็น ซือชิงเสวียนดีใจมากที่เซี่ยเหลียนกลับมาช่วยเพราะเขายังติดอยู่ในเกาะของธาราทมิฬล่มเรือ อีกทั้งไม่พบกับพี่ชายของตน เซี่ยเหลียนใช้ร่างของอีกฝ่ายปีนไปซ่อนบนต้นไม้ บอกให้เจ้าของร่างเงียบเสียงเพราะเห็นหมิงอี้ที่สุดปลายถนน พออีกฝ่ายเดินพ้นไปไกลแล้วจึงปีนต้นไม้ลงมา แต่ทันใดนั้นร่างของเขาก็แข็งค้าง เมื่อหันหลังไปก็เจอหมิงอี้อยู่ในระยะปะชิด เซี่ยเหลียนรีบเอามือไปซ่อนด้านหลังเพื่อส่งซิกไม่ให้ซือชิงเสวียนบอกอีกฝ่ายว่าเขาก็อยู่ที่นี่ด้วย
หมิงอี้เสนอให้ไปตามหาซืออู๋ตู้ พอได้จังหวะซือชิงเสวียนก็แอบขยับปากแบบไม่มีเสียงถามเรื่องราวจากเซี่ยเหลียน เขาจึงตอบไปว่าคนตรงหน้าเป็นตัวปลอม แท้จริงอีกฝ่ายคือผู้อาวุโสแห่งวัจนะว่างเปล่า พอเห็นคนที่เดินตามมาหายใจสะดุด หมิงอี้ก็หันมาถามว่าเป็นอะไร เมื่อซือชิงเสวียนตอบว่าตนกลัว เทพแห่งดินก็บอกว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะกลัว พอซือชิงเสวียนก้าวเท้าพลาด ปากสั่นบอกว่าตนอยากตาย คำตอบที่ได้กลับมาก็คือ ฝันไปเถอะ แม้ปรกติเขาจะคิดว่าที่อีกฝ่ายชอบพูดเย็นชาเพราะเป็นพวกซึนเดเระ แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกกลัวมาก แล้วเซี่ยเหลียนก็ขยายความเพิ่มว่าสถานะอีกอย่างของคนตรงหน้าคือธาราทมิฬล่มเรือ ผู้ซึ่งมีนามจริงว่าเฮ่อเสวียน
Note 1 : จริงๆ ฮวาเฉิงก็เคยบอกแล้วว่าธาราทมิฬล่มเรือชื่อว่าเสวียน ตั้งแต่สปอย Part.28 แล้ว (โคตรยาวไกล) >>>/801/7776/539
Note 2 : ทุกครั้งที่ซือชิงเสวียนเคลมว่าหมิงอี้เป็นเพื่อนรัก หมิงอี้จะปฏิเสธตลอดว่าเขาไม่เคยเป็นเพื่อนรักของซือชิงเสวียน (กูถึงสปอยละเอียดไงล่ะ ทุกอย่างมันเชื่อมกัน)
Note 3 : ธาราทมิฬล่มเรือเป็นผีที่กินผีด้วยกัน เป็นผีสายกินแหลก (แต่มาดับอนาถกับอาหารของเซี่ยเหลียน) เรื่องบอกแล้วว่าเฮ่อเสวียนเองก็กินผู้อาวุโสแห่งวัจนะว่างเปล่าไป และในเรื่องก็จะมีฉากที่หมิงอี้มุ่งมันกินหรือเคี้ยวอะไรบางอย่างในปากอยู่บ่อยๆ เรียกว่าบอกใบ้มาตลอด
.
.
.
.
.