สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>145 เทียนกวาน Part.61
.
.
.
.
.
ตอนนั้นเองก็มีเสียงคนวิ่งอย่างรีบเร่งเข้ามาในอาราม เซี่ยเหลียนจึงกลับไปใช้กายทิพย์ซ่อนไม่ให้คนๆ นั้นเห็น อีกฝ่ายเป็นเด็กชายแต่งกายสกปรก ใบหน้าเต็มไปด้วยผ้าพันแผล มือทั้งสองประคองดอกไม้สีขาว แม้จะจำใบหน้าและชื่อของอีกฝ่ายไม่ได้แล้ว แต่เซี่ยเหลียนก็คิดว่าคนๆ น่าจะเป็นเด็กชายที่ตกจากกำแพงคนนั้น เด็กชายนำดอกไม้เปลี่ยนให้กับรูปปั้น ยืนประสานมือทำความเคารพ ไม่ได้คุกเข่าคำนับอย่างที่คนอื่นทำ ทำตามที่เซี่ยเหลียนกล่าวว่าไม่อยากให้มนุษย์กราบไหว้ และมันก็ทำให้เซี่ยเหลียนประทับใจมาก
ไม่นานนักก็มีเด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกันกลุ่มหนึ่งเข้ามาพูดจารังแกเด็กชาย เด็กชายโกรธจนเข้าไปเปิดฉากกับฝ่ายตรงข้าม แต่เด็กกลุ่มนั้นมีจำนวนมากกว่า เซี่ยเหลียนที่ไม่อาจทนดูได้เลยใช้พลังแยกพวกเด็กๆ ออก น้ำบนพื้นสาดโดนเด็กพวกนั้นจนล้มลงก่อนหนีกลับบ้าน เด็กชายจัดผ้าพันแผลใหม่แล้วนั่งกอดเข่าอยู่ข้างรูปปั้นดินเหนียว เซี่ยเหลียนส่งสัญญาณเรียกเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงมาปรึกษา ก่อนจะได้ยินเสียงท้องของเด็กชายร้อง เขาเลยหยิบผลไม้ในถาดเซ่นไหว้โยนใส่อีกฝ่าย แต่เด็กชายนึกว่าผลไม้หล่นออกมาเองจึงนำไปวางที่เดิม
ตอนนั้นเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงก็มาถึง พอเห็นหน้าเด็กชายมู่ฉิงก็คิดเหมือนกันว่าน่าเป็นเด็กที่หนีออกจากเขาไท่ชางเมื่อ 3 ปีก่อน เซี่ยเหลียนอยากหาวิธีให้เด็กชายกลับบ้าน แต่พอคิดว่าสถานการณ์ที่บ้านของอีกฝ่ายก็ไม่น่าจะดี อย่างน้อยเขาก็ยังอยากให้เด็กชายได้กินอะไรสักหน่อย เมื่อมู่ฉิงได้ยินอย่างนั้นจึงต่อว่าเซี่ยเหลียนที่ไม่จัดลำดับความสำคัญแล้วมาใส่ใจเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ เซี่ยเหลียนไม่โต้แย้ง เขาเดินออกไปด้านหน้าอาราม กางร่มออกแล้ววางทิ้งไว้ เสียงฝนกระทบบางอย่างทำให้เด็กชายเดินออกไปดู พอเห็นร่มที่โผล่มาอย่างไม่มีที่มาที่ไป เด็กชายก็หยิบมันขึ้นมาแล้วตะโกนใส่รูปปั้น ถามว่าเป็นเซี่ยเหลียนใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ช่วยตอบคำถามของเขาที
เด็กชายบอกว่าทุกวันของเขามีแต่ความเจ็บปวด ทุกวันล้วนนึกอยากให้ตัวเองตาย เขาอยากจะฆ่าทุกคนบนโลกนี้แล้วฆ่าตัวตายตาม เขามีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมาน เขาจะมีชีวิตไปเพื่ออะไร มีชีวิตต่อไปจะมีความหมายอะไร หลังสิ้นคำถามทุกอย่างก็เงียบสงัดจนเด็กชายก้มหัวลงอย่างสิ้นหวัง แต่ตอนนั้นเองก็มีเสียงๆ หนึ่งดังออกมาจากรูปปั้น
“ถ้าเจ้าไม่รู้ว่าจะมีชีวิตเพื่ออะไรอีกก็จงมีชีวิตเพื่อข้า ข้าไม่มีคำตอบให้กับคำถามของเจ้า ยังไงก็ตาม ถ้าเจ้าไม่รู้ว่าความหมายของชีวิตของเจ้าคืออะไร ก็ให้ข้าเป็นความหมายนั้น และใช้ข้าเป็นเหตุผลที่จะมีชีวิตต่อไปเถอะ” เฟิงซิ่นและมู่ฉิงตกใจมาก รีบห้ามไม่ให้เจ้านายพูดอะไรอีกเพราะจะผิดกฎสวรรค์ แต่เซี่ยเหลียนก็ยังเอ่ยต่อ “ขอบคุณสำหรับดอกไม้นะ มันงดงามจริงๆ ข้าชอบมันมาก”
เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงรีบลากเซี่ยเหลียนออกมาขณะที่เด็กชายยืนอึ้ง แต่เมื่อเห็นเด็กชายตัดสินใจยื่นมือไปหยิบผลไม้ในถาดเซ่นไหว้มากินก็ทำให้เซี่ยเหลียนพอใจ ก่อนที่เขาจะเปิดประเด็นกับทั้งสองว่าหากน้ำในเซียนเล่อมีไม่พอ ก็ต้องไปเอาน้ำมาจากอาณาจักรอื่น แต่มู่ฉิงคิดว่าด้วยระยะทางที่ไกล การทำเช่นนั้นจะเสียเวลามาก อีกอย่างการเข้าไปยุ่งในเขตแดนของเทพองค์อื่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่เซี่ยเหลียนก็บอกเขาจะขึ้นไปคุยบนสวรรค์เอง ระหว่างนี้ให้ทั้งสองช่วยดูแลจุดที่ได้รับผลกระทบแย่ที่สุดไปก่อน มู่ฉิงจึงบอกได้เพียงให้เจ้านายอย่าใช้เวลานานเกินไป เซี่ยเหลียนรีบกลับไสวรรค์เพื่อไปพบเทพที่ควบคุมน้ำ แต่น่าแปลกที่ตอนนี้มีเพียงเทพแห่งฝนที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ หากแต่อีกฝ่ายไม่ได้อาศัยอยู่บนสวรรค์ โชคดีที่เทพชั้นกลางสาวซึ่งทำงานเกี่ยวกับข่าวสาร หนานกงจี่ เข้ามาทักทายเขาพอดี เขาจึงได้ทราบว่าเทพแห่งฝนอยู่ที่อาณาจักรอวี้ซือ
ปล 1 ยังจำได้ไหมว่าฉากในวัดนี้เซี่ยเหลียนเคยพูดถึงในสปอย Part.28 >>>/801/7776/539 และคิดถึงในสปอย Part.36 >>>/801/7776/651
ปล 2 หนานกงจี่ คือชื่อจริงของหลิงเหวิน (หลิงเหวินเป็นชื่อตำแหน่ง)
.
.
.
.
.