ทรัมป์ลองวิชาขอมดำดิน
ทรัมป์ออกอาการสติแตกเมื่อได้รับรายงานลับในห้องรูปไข่ของทำเนียบขาวว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสชาวอเมริกันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นพันคนแล้วทั่วทั้งประเทศ แทนที่จะถามสต๊าฟว่ามาตรการควบคุม และป้องกันโรคระบาดของหน่วยงานสาธารณสุขมีประสิทธิภาพเพียงใด เขากลับเหลือบดูดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐตลอดเวลาด้วยความกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง
ทรัมป์หันไปถามรมว. คลังว่า "สตีฟ ทำไมหุ้นร่วงไปแล้วหลายพันจุด หรือ20% แต่ไม่มีใครทำอะไรเลยหรือไง ผมนั่งอยู่ในทำเนียบขาวอย่างนี้เดือดร้่อนนะ แล้วไอ้เจ ผู้ว่าเฟดทำอะไรอยู่ บอกให้ลดดอกก็ไม่ยอมลด แล้วอย่างนี้จะแก้โรคระบาดได้อย่างไร"
"นายครับ ลดดอกเบี้ยแล้วจะทำให้มีคนอเมริกันติดเชื้อโคโรน่าน้อยลง มันไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน" สตีฟพูดอย่างประหม่า เพราะกลัวถูกปรับออกจากครม.
"ไม่เกี่ยวก็ทำให้มันเกี่ยวได้ บอกไอ้เจให้ลดดอกเบี้ยให้มากเท่ายุโรป กับญี่ปุ่น แล้วความมั่นใจในโคโรน่าไวรัสจะกลับคืนมา ไม่งั้นผมจะเซ็นคำสั่งปลดไอ้เจ แล้วจะให้อีแวนก้า ลูกสาวมาบริหารการเงินแทน" ทรัมป์กระแทกเสียงด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
"นายครับ ดอกเบี้ยยุโรปและญี่ปุ่นดำดินติดลบไปแล้วนะครับ จะให้เราดำดินกดดอกเบี้ยติดตาม ไม่รู้ว่าต่อไปดอลล่าร์จะไปโผล่ที่ไหน ถ้าโผล่ที่ไทยแลนด์พอทำเนา แต่ถ้าไปโผล่ที่เกาหลีเหนือ ผมคิดว่าบริษัทประกันภัยไม่จ่าย เพราะว่าอยู่นอกพื้นที่"
"แต่อังกฤษเพิ่งลดดอกไปแล้วสองสลึงเหลือ0.25%ได้ ทำไมของเรายังอยู่ที่ 1 บาท?"
"ครับนาย เดี๋ยวผมจะพูดกับเจให้เขารีบลดดอกตามนายสั่ง" สตีฟรีบพูดเอาใจนาย
ทรัมป์หันไปหาโรเบิร์ต เร็ดฟิลด์ ผู้อำนวยงานสำนักควบคุมและป้องกันโรคระบาด แล้วถามว่า "คุณบ๊อบ ลดดอกเบี้ยแล้วจะช่วยสร้างความมั่นใจให้โรคระบาดได้หรือไม่ อย่างน้อยหุ้นอาจจะขึ้น เพราะถ้าหุ้นตก ผมกับเมลาเนียอาจจะต้องขนของย้ายออกจากทำเนียบขาวสิ้นปีนี้"
"ครับนาย ถ้าหากว่าป้องกันการแพร่ระบาดไม่ได้ อเมริกาอาจจะต้องปิดประเทศในอีก2สัปดาห์" บ๊อบพูดอย่างไม่เต็มใจนัก
"ห๊ะ ปิดประเทศเหมือนจีน อิตาลี แล้วแขกที่บุ๊คมาอยู่ที่รีสอร์ทมาร์ อะลาโมของผมที่ฟลอริด้าจะทำอย่างไร? ต้องยกเลิกด้วยหรือไง ทำอย่างนี้ธุรกิจเสียหายหมดนะ"
"เฮียสี สั่งปิดเมืองอู่ฮั่น กักคนจีน50กว่าล้านคนที่มณฑลหูเป่ยจึงเอาโคโรน่าอยู่ อิตาลีปิดประเทศกักประชาชน60ล้านคนแล้ว ยังไม่รู้เอาอยู่หรือเปล่า"
"แล้วเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่จะตรวจคนไข้โคโรน่ามีความพร้อมแค่ไหน" ทรัมป์ถาม
"ท่านอยากฟังข่าวดี หรือข่าวร้ายก่อนครับ"
"เอาข่าวดีก่อนก็แล้วกัน"
"ข่าวดีคืองบประมาณดูแล และป้องกันโคโรน่า$8,500ล้าน มีการเบิกจ่ายแล้วครับ หน่วยงานCDCของผมได้รับเงินแล้วครับ ขอบคุณนายมากที่กรุณาสู้เรื่องนี้"
"ดีแล้ว แล้วข่าวร้ายเป็นไง"
"ข่าวร้ายคือ แม้จะมีเงิน มีงบประมาณพร้อม แต่ซื้อของไม่ได้ครับ"
"ว่าไงนะ"
"เฮียสีสั่งงดการส่งออกเวลานี้ อุปกรณ์การแพทย์ เวชภัณฑ์หยูกยาอะไรต่างๆที่เราให้ 80%ส่งมาจากจีนครับ เมื่อจีนไม่ส่งของ เราก็ไม่มีของ" บ๊อบจำใจพูด
"ดอลล่าร์คือเงิน เงินคือพระเจ้า ใครๆก็ต้องการเงินทั้งนั้น แต่ทำไมดอลล่าร์ซื้อของไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไร" ทรัมป์บ่นพึมพัม
"ก็คงต้องรอเฮียสีเมตตาว่าเมื่อไหร่จะปล่อยล็อตสินค้าเวชภัณฑ์ที่เราออร์เดอร์ ตอนนี้ค้างที่ท่าเรือเซี่ยงไฮ้หลายร้อยตู้คอนเทนเนอร์ ถ้าล่าช้าเราจะไม่มีอุปกรณ์ตรวจสอบ (test kits)คนไข้โคโรน่า หมออเมริกันตามโรงพยาบาลอาจจะต้องวินิจฉัยโรคแบบดำดิน คือมั่วเอาไปพลางๆก่อนครับ ถ้ายาจากจีนไม่มา สงสัยโรงพยาบาลทั่วประเทศอเมริกาต้องปิดกิจการในอีก2เดือนข้างหน้าครับ เพราะสต็อคหมด เวชภัณฑ์เกือบทุกอย่าง Made in Chinaทั้งนั้นครับ"
ทรัมป์รู้สึกกระดากใจขึ้นมาทันที ถ้าต้องโทรศัพท์ฮ็อตไลน์ไปหาเฮียสีเพื่อขอให้เฮียสีปล่อยตู้คอนเทนเนอร์ลงเรือมันจะเสียฟอร์มประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่อเมริกาเคยมีมาตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐ เมื่อยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร ทรัมป์จึงสั่งปิดประชุม ไล่ทุกคนให้ออกจากทำเนียบขาว
ทรัมป์นั่งเหม่อลอยคนเดียวที่โต๊ะทำงาน เขาจำคำพูดของตัวเองได้ที่ด่าเฮียสีเอาไว้มาก ทั้งต่อหน้าและลับหลัง หาว่าเฮียสีขโมยเทคโนโลยีอเมริกัน หาว่าเฮียสีแฮ็คระคอมพิวเตอร์ของทำเนียบขาว หาว่าเฮียสีค้าขายเอาเปรียบคนอเมริกัน ด่าพ่อล่อแม่เฮียสีไปมาก แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรดี สตีฟแอบกระซิบหูวันก่อนว่า เฮียสีจัดชั้นดอลล่าร์เป็นเงินสกุลกงเต๊ก เทียบชั้นต่ำกว่าเงินกงเต็กเซียนฮ่องเต้ หลายเกรด เวลาคนจีนจะเผาเงินกงเต๊ก ดอลล่าร์กงเต๊กอาจจะขายไม่ออกด้วยซ้ำ
เหม่อไปละเมอมา ทรัมป์รู้สึกกลัวขึ้นมาทันที เพราะว่าเขาไปร่วมงานประชุมวันก่อน และได้จับมือสัมผัสกับสส.หลายคน มีคนหนึ่งติดเชื้อโคโรน่า เขาไม่มั่นใจว่าตัวเขาเองจะติดเชื้อหรือไม่