Fanboi Channel

โปรแกรมเมอร์ที่รัก [โปรแกรมที่ 2]

Last posted

Total of 1000 posts

249 Nameless Fanboi Posted ID:RknDBtqtlZ

สวัสดีค่ะ ระหว่างคิดจะเปลี่ยนมาสายงาน programmer ได้มาเจอบอร์ดนี้โดยบังเอิญ อ่านแล้วเรียลดีมากเลยค่ะ ชอบ ๆ 5555
ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ ตอนนี้เราทำงานวิศวะไฟฟ้าออกแบบอยู่ที่นึง แต่อยากจะเปลี่ยนมาเป็นสาย programmer นี่เริ่มจากไหนดีคะ
ตอนเซิร์จ เจอทั้ง ยูเดมี่,โค้ดสตาร์ (แต่เหมือนในนี้ไม่ค่อยแนะนำ โค้ดสตาร์เท่าไหร่) สนใจ codecamp thailand แต่ค่าเรียนก็แอบสูงค่ะและเราทำงานเต็มเวลา อาจจะไม่เหมาะ
เคยเรียน java มานิด ๆ ตอนเรียนมหาลัย แต่เอาจริงๆ แทบจะลืมไปหมดละค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ และก็อย่าด่าเค้าเยอะนะ หาข้อมูลแล้วมันเยอะจนจับต้นชนปลายไม่ค่อยถูกเลยค่ะ TT

250 Nameless Fanboi Posted ID:795toUz/UL

>>249 ยูเดมี่ (Udemy) ช่วงลดสุดๆ คอส์ทละ 3-400 บาท ไม่ต้องตกใจเรื่องลดราคาเพราะมันลดทั้งกะปี
เลือกตัวที่สนใจมาซักอันแล้วทำตาม ถึงจะน้ำแยะแต่ก็ดีกว่า คอร์สคนไทยที่เป็นหลักหมื่น หลักแสน น่ะ

251 Nameless Fanboi Posted ID:zyeo708c9J

Aws solution architect ของไทยเงินเดือนประมาณเท่าไรอ่ะ

252 Nameless Fanboi Posted ID:kpwepIvb3d

>>251 แสนขึ้น

253 Nameless Fanboi Posted ID:wauoFP7RS8

ถามหน่อย
คือตอนนี้มีอีก บ. มาทาบทามให้กูไปทำงานด้วย ซึ่งเงินเดือนดีกว่าที่เดิมเกือบ 2 หมื่น แต่การก้าวหน้าดูดีกว่า
ทีนี้คือกูยังเหลือโปรเจ็คของ บ. ปัจจุบันอยู่ ส่งมอบงานให้ลูกค้า สิ้นปีนี้ แต่ในส่วนของกูทำเกือบเสร็จแล้ว ถ้าไม่มีเปลี่ยน requirement เดือนหน้าก็จะเสร็จ รวม unit test แล้วก็ sit ของ sprint นี้แล้ว

คำถามคือกูควรอยู่จนถึงปิดโปรเจ็คเลย หรือกูควรย้ายงานเลยดีวะ ต่อส่วน module ที่กูทำมันค่อนข้างเฉพาะทาง มีคนทำเป็นอยู่ 2 คน ถ้ากูออกก็จะเหลือเขาคนเดียวที่ต้องดูต่อน่ะ กูเลยลำบากใจ กูอยากไปจากที่นี่เพื่อฟาโอกาสที่ดีกว่า แต่ที่นี่ก็โอเคกับกู ไม่อยากเหมือนทิ้งเขา หรือกูคิดมากไปวะ

254 Nameless Fanboi Posted ID:m4O69XJjXm

>>253 ย้ายงานครับ ไม่มีคุณเค้าก็หาคนอื่นมาทำต่อได้
คุณเป็นแค่ฟันเฟืองตัวเล็ก ๆ ในเครื่องจักรขนาดใหญ่
คุณไม่ได้มีค่าขนาดนั้น
ไอสไตน์ตายไปวงการฟิสิกส์ก็ยังขับเคลื่อนได้ต่อเลย

255 Nameless Fanboi Posted ID:Cqb3E/eQ3/

>>253 ย้ายดิรอไร ถ้ามึงย้ายตอนนี้ ก็แจ้งออกประมาณปลายเดือน ตุลา ก็ยังไง ให้เค้าหาคนมาทัน เค้าหามาได้อยู่แล้ว

256 Nameless Fanboi Posted ID:VfmlXMOgaS

>>253 ย้ายสิวะ มันไม่ใช่หน้าที่ที่จะคิดว่างานจะเป็นไงต่อ มันเป็นหน้าที่ของบริษัทที่ต้องหาคนมาทำต่อต่างหาก มีโอกาศก็รีบคว้า อย่าปล่อย งานยิ่งหายากๆอยู่

257 Nameless Fanboi Posted ID:LMcKYGmzNf

>>253 ถ้าไม่ใช่ pm ก็ไม่ติดอะไรหรอก ทำเอกสาร ส่งต่องานดีๆแล้วกัน

แต่ถ้าเป็น pm ก็อีกเรื่อง ต้องจบโปรเจคก่อน ไม่งั้นจะโดนมองว่าทิ้งงาน ประวัติเสีย

258 Nameless Fanboi Posted ID:GPttFzCt+a

node vs golang อันไหนน่าจะไปต่อได้ดีกว่ากัน พอดีได้งาน2ที่

259 Nameless Fanboi Posted ID:y777oWhkDC

>>258 node+typescript

260 Nameless Fanboi Posted ID:57iVD01KsQ

ความรู้สึกเวลามาเขียน go lang เหมือนขี้ไม่สุดว่ะ จากเคยพิมพ์เต็มๆ พอย่อแล้วรู้สึกแปลกๆ

261 Nameless Fanboi Posted ID:sGsDjKKpCs

ความเข้าใจผิดที่เห็นบ่อย

"การเลือกใช้ RDBMS แล้วทีมพัฒนาจะคิดเรื่อง Schema ให้ดี วางแผนเรื่องข้อมูลเยอะๆ แล้วเราจะได้ Structure ของข้อมูลที่ดี"

ผมคิดว่าการใช้ RDBMS โดยคาดหวังผลลัพธ์ว่าจะได้บังคับทีมพัฒนาให้คิดเรื่อง Data structure ให้ดีก่อนทำอะไร ไม่เคยได้ผลจริงเลย

อันนี้มักจะเป็นความเข้าใจของคนที่ดูแลฐานข้อมูลหรือ Infrastructure แต่ไม่ได้ร่วมงานกับทีมพัฒนา ที่ว่าพอเสนอ Field Migration แล้วถูกตั้งคำถามจากฉัน เขาจะได้คิดดีๆ ก่อนเสนอ แล้วเราจะได้มี Data schema ที่งดงามไม่ Bloat โอ้ มันช่างดี มันต้องได้ผลแน่ๆ

ในความเป็นจริงผมเห็นมาหลายระบบแล้ว พอคุณทำให้ Field Migration มันยาก คนไม่ได้คิดให้ดีก่อนเสนอ Schema change ครับ คนเขาจะพยายาม Reuse field เก่ามาใช้หลายๆ อย่างแทนครับ เพราะเขามานั่งรอคุณตั้งคำถามไม่ได้ เขามีงานที่ต้อง Deliver

สิ่งที่เกิดขึ้นคือเราจะมีฟิลด์ที่มีหลายความหมาย ซึ่งไม่ใช่การออกแบบที่ Data ที่ดีเลยแม้แต่นิดเดียว

นั่นคือ Actual consequence ไม่ใช่การที่คนคิดให้ดี แต่เป็นการที่คนขี้เกียจทำไปเลย

แต่ถ้าคนที่เสนอสิ่งนี้ ไม่ได้อยู่ในทีมพัฒนา เช่น อยู่ในองค์กรที่มี DBA แยกกันกับทีมพัฒนาอย่างสมบูรณ์จนกระทั่งไม่รู้เลยว่าข้อมูลพวกนี้ไปใช้ในส่วนไหนของซอฟต์แวร์บ้าง จะไม่รู้ไง เห็นว่า Database schema/Structure เหมือนเดิม ก็เข้าใจผิดไปว่านี่คือออกแบบ Data มาดีแล้ว

"ดูสิ ออกแบบครั้งเดียวใช้ได้เป็นปีเลยนะ เห็นป่ะ อยากออกแบบดีๆ ให้ไม่ต้องเปลี่ยนก็ทำได้นี่" เขาจะเข้าใจประมาณนี้ เพราะไม่เห็นว่าเนื้อซอฟต์แวร์เอาฟิลด์ไปใช้อะไรบ้าง

จนกระทั่งต้องเริ่มทำ BI ถึงจะเห็นปัญหาว่าอ้าว ฟิลด์นี้มันหมายถึงหลายอย่างเลยนี่หว่า จะเอาไป Analyze ยังไงล่ะ

RDBMS มีประโยชน์หลายอย่างมากๆ ผมก็ชอบ RDBMS แต่ผมไม่เห็นด้วยกับเคลมที่ว่า พอใช้ RDBMS แล้วจะบีบให้ทีมคิดให้ดีก่อนทำ Database schema ไม่เคยเห็นเกิดขึ้นจริงมาก่อน

นี่คือเหตุผลหนึ่งที่คนทำงาน Infra ควรจะอยู่ในทีมพัฒนา ไม่ใช่แยกกันทำงาน ฉันดูแลระบบ แกพัฒนา พอมันแยกกัน ความเข้าใจผิดก็เกิดขึ้นได้ง่ายมาก

262 Nameless Fanboi Posted ID:WCdAEEoJk5

>>258 golang

263 Nameless Fanboi Posted ID:PPYSz1jZnj

จำได้ว่าแต่ก่อนมีแต่คนไซโคว่าอายุใกล้ 30 แล้วจะหางาน Programmer ยาก
วันนี้กูมาลองเปิดหาๆดู พวกตำแหน่ง Senior ส่วนมากรับช่วงอายุแถวๆ 28-40 เกือบทั้งนั้นเลย
แปลว่าจริงๆอายุเกิน 30 แล้วเดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้หางาน Programmer ยากเสมอไปแล้วรึเปล่านะ

264 Nameless Fanboi Posted ID:3LMRRGu2uE

fw ยุคหลังๆ ถ้าจะเอามา customize แม่งเขียนได้ป่วยชิบ บางทีก็อยากจะด่าว่ามึงทำ IDE ลากวางไปเลยเหอะ เวลาจะดัดแปลงอะไรนอกเหนือจากของที่มีหน่อย ล็อกโน่นล็อกนี่เต็มไปหมด สรุปตรูต้องมาเสียเวลาเขียนข้ามกฏมัน และหาวิธีมันมากกว่าเขียนดิบไปเลยสัด

ล่าสุดว่าจะเปลี่ยนระบบเก่าเป็น laravel กลายเป็นว่ายิ่งลุยเข้าไปลึกมักเจอเรื่อง wtf เยอะมาก ครือ แค่จะ authentication โง่ๆ เปลี่ยนเป็นแบบ manual เพื่อจะดัดแปลงหน่อยไม่ยอม ติดโน่นติดนี่เต็มไปหมดอะไรวะเนี่ย คู่มือบอกอย่างนึง ทำจริง error ?? stack overflow ไล่หาก็มีคนถามกันเต็ม ไล่อ่านมาทั้งวัน กลายเป็นว่าไม่มีคำตอบ ไอ้ที่ตอบมาก็มั่วไม่ตรงคำถาม dafuq ช่างแม่งตัดหัวตัดท้ายลบจุดที่ใช้ไม่ได้เขียน bypass เองแม่ง สัดเอ้ย

265 Nameless Fanboi Posted ID:20InxbPZGK

โม่ง อันนี้รบกวนขอความรู้หน่อย กราบเลย พอดีมีคนในทวิตเตอร์โดนspam hashtag

โดยใช้ ทวิต บอต โปรแกรม ในเว็บนี้ https://www.cubi.so/twitter/tweet_bot/

ไปแสปมHashtag ของคนในทวิตรัวๆ โดยใส่เนื้อหาที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป เพื่อทำให้ hashtag เกิดการปนเปื้อน

ทำให้คนไม่กล้าเข้าไป หวังทำลายธุรกิจ เราจะแก้ทางวิธีการแบบนี้ยังไง?

266 Nameless Fanboi Posted ID:b84SDS8j1w

https://www.facebook.com/829547523/posts/10161118104872524/?extid=0&d=n ทัวร์ลงเฉยเลย
Kamon Treetampinij

267 Nameless Fanboi Posted ID:VRv2pYcmpy

https://www.facebook.com/groups/ThaiPGAssociateSociety/permalink/1618725398338723/

ต้นเหตุ

268 Nameless Fanboi Posted ID:sPO4fK/gNy

โหดสัด สั่งบิ้มทิ้งหมด ประเภทไม่สังเกตคำสั่งเลยก็อปวางแหง

269 Nameless Fanboi Posted ID:3334cjWtoR

เห็นเม้นนึงบอกว่ามันลบไม่ได้นี่ คนถามมันแกล้งกลับเรียกทัวร์

270 Nameless Fanboi Posted ID:rYwChHhBho

โม่งโปรแกรมเมอร์มีใครหางานใหม่บ้างมั้ย วันนี้กูอัพ resume ใส่ jobsdb ไป เจอ recruiter โทรมาแบบรัวๆจนกูตกใจเลย
ตอนนี้เค้าบอกว่าส่งไปหลายที่แล้ว ซึ่งก็ดีแหละ แต่กูกลัวสัมภาษณ์ไม่ผ่านชิบหาย
เพราะตอนกูหางานรอบก่อนสัมภาษณ์ไม่ผ่านซะส่วนใหญ่ ไปสิบกว่าที่ เค้ารับแค่สองที่ แต่ที่ๆได้ก็ได้แบบง่ายๆงงๆ

271 Nameless Fanboi Posted ID:Y5gJisAs29

>>270 เป็นแบบนั้นแหละ บางที่ต้องการด่วน แต่ส่วนใหญ่ outsource ซะเยอะนะแบบนี้ บางที่ต้องการโคตรเทพ บางที่เขียนได้ จัดการ business ให้เค้าได้ เค้าก็โอเคแล้ว

272 Nameless Fanboi Posted ID:Y5gJisAs29

>>271 แต่บางทีแม่งรับไปแก้โปรแกรม CR โปรแกรม บางโปรแกรมใหม่ บางโปรแกรมเก่า ไม่ได้ทำโปรเจคห่าไรใหม่ๆ เลย แม่งเซ็งว่ะ

273 Nameless Fanboi Posted ID:rLskHkjN54

>>272 ถ้าเป็นบริษัทที่ไม่ได้ทำเกี่ยวกับ IT โดยตรงส่วนมากก็เป็นแบบนั้นน่ะ

274 Nameless Fanboi Posted ID:Q+06b1K5ZC

กู >>270 นะ ตอนนี้สัมภาษณ์มา 2 ที่เป็นธนาคารทั้งคู่ รู้สึกไม่ใช่แนวเลย เพราะเคยอยู่บริษัทแนวๆ Software House มาก่อน
เจอต้องเข้างาน 8.30 สายไม่ได้, WFH ไม่ได้เลย, ต้องใส่เสื้อเชิ๊ต อะไรพวกนี้แล้วรู้สึกอีหยังวะมากๆ
ที่ๆนัดสัมอื่นๆเป็นแนวบริษัทประกันซะส่วนมาก หวังว่าจะไม่มาแนวเดียวกันนะ

275 Nameless Fanboi Posted ID:ue5eXJe2nl

มีเมลล์ชวนไปทำ test สมัครงานมาจากบริษัทๆนึง เข้าไปเป็นหน้าเว็บทำ test ตอนแรกก็รู้สึกเจ๋งดีอยู่หรอก
พอเจอข้อสอบจริงๆรู้สึกว่าแม่งเหี้ยเกิ๊น ข้อสอบ choice เขียนไม่ค่อยเคลียร์ แถมถามแต่เรื่องของที่แทบไม่ได้ใช้เวลาทำงานจริง
ข้อสอบเขียนโค้ดก็ยากแบบเจอโจทย์แนวๆ Dynamic Programming ซึ่งไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวันอีกเหมือนกัน
มีมา 3 ข้อกูทำได้ข้อเดียว แต่ดันเสือกได้ข้อที่เค้าเขียวว่าเป็นข้อยาก ข้อที่เค้าบอกว่าปานกลาง 2 ข้อทำไม่ได้ซะงั้น
จากตอนแรกประทับใจที่ข้อสอบบนเว็บ (ถึงจะไม่ได้ทำเอง) เจอข้อสอบเหี้ยๆแบบนี้แทบจะไม่เหลือความประทับใจเลย
หรือบริษัทเค้าอยากรับแต่พวกสัตว์ประหลาดที่แก้โจทย์พวกนี้ได้กันเป็นปกติก็ไม่รู้นะ

276 Nameless Fanboi Posted ID:pKD+/FAxkh

>>275 บริษัทอะไรอ่า ธนาคารสีเขียวป่ะ

277 Nameless Fanboi Posted ID:moH9bTdlMZ

>>276 ไม่ใช่อ่ะ เป็นบริษัทประกัน

278 Nameless Fanboi Posted ID:q7c2m5nYbm

ได้ยินมาจากเพื่อนที่เพิ่งจบเรื่องบ.ท่องเที่ยวดังย่านสยามว่า งานมันน่าเบื่อ tech debtโคตรเยอะ มันกะเข้าไปฝึกสกิลแต่ไม่ค่อยได้ไรเลย อยากออกไปทำบ.อื่นถึงเงินจะน้อยกว่าก็เถอะ
อันนี้จริงป่ะ เห็นเงินก็ดีคนก็อยากเข้ากัน

279 Nameless Fanboi Posted ID:7NM1/Evab7

>>278 อะโกด้าหรอ กูไม่รู้เรื่องภายในนะ แค่เห็นประกาศรับสมัครบ่อยจัดจนสงสัย

280 Nameless Fanboi Posted ID:dAWNSU1mmv

>>279 บ.นั้นแหละ

281 Nameless Fanboi Posted ID:8dbznxrjml

>>278 มันเป็นแหล่งไว้อัพเงินเดือนแบบกระฉูดๆเวลาไปที่ต่อไปมากกว่า

282 Nameless Fanboi Posted ID:wxIe8gHBxZ

test test test test test

283 Nameless Fanboi Posted ID:wxIe8gHBxZ

test test test test test

284 Nameless Fanboi Posted ID:wxIe8gHBxZ

test test test test test

285 Nameless Fanboi Posted ID:wxIe8gHBxZ

test test test test test

286 Nameless Fanboi Posted ID:ttx3cA/h4b

>>276 งานที่ธนาคารสีเขียวนี่โอเคไหม รู้สึกเงินให้ไม่ค่อยเยอะเท่าที่อื่นเลย

287 Nameless Fanboi Posted ID:6+sqO5drYz

https://www.facebook.com/groups/1836794843081325/permalink/3431757143585079/

มีคนมาหมิ่นโค้ดสตาของเราครับ

288 Nameless Fanboi Posted ID:qQLfbo7jvu

อยากลองเป็นโปรแกรมเมอร์นะ อังกฤษพอได้ พอรู้พวกโค้ด เรียนมาเหมือนกัน แต่เริ่มไม่เป็น แต่แปลงได้ แก้ได้ ต่อยอดได้ โทอิคตก 500กว่าๆ แต่ตอนนี้รู้สึกไม่มั่นใจว่าจะทำอะไรเป็นสักอย่างเลย มี rpi 3 ตัวเดียว
1.ถ้าจะเริ่มต้นสักอาชีพนึงที่เกี่ยวกับด้านนีั้ ต้องเริ่มตรงไหนก่อนดี blackend frontend full stack
2.งานแบบนี้คอมหรือโน้ตบุ๊คดี สเปคต้องครอบคลุมมั้ย
3.ถ้าไปสายนี้จะต้องเกลาตรงไหนให้ชำนาญมั้ง แบบทำงานให้เขาได้
4.โฟกัสโค้ดไหนก่อน C C++ C# javascript python หรือตัวอื่นๆ

289 Nameless Fanboi Posted ID:Lk1DuXEb./

>>288
อยากทำ web หรือ app? เลือกมาซักอย่างใดอย่างนึงก่อน

สายเว็ป วิธีลัดสุด cms ง่ายๆ แบบ wordpress ไปหาวิธีติดตั้ง host มาดูก่อน ตาม youtube ก็น่าจะมี ขี้เกียจหาก็ udemy ทำตามที่สอนไปเหอะ ไม่นานก็น่าจะลงได้ จากก็ลองติดตั้ง template , plugin พอคล่องก็ สลับมาหัดเขียน html css ลองดู bad design vs. good design หามาดูประกอบ อ่านกฏพื้นฐานของ material design หน่อย แล้วกลับมาลองเขียน theme wordpress

ถ้าจะไป backend ต่อก็หยิบเครื่องมือ จะหา framework javascript สวยๆ ซักตัว หรือถ้าเคยเรียนภาษา php , c# ก็ลองรื้อฟื้น test กฏพื้นฐาน get post ส่งข้อมูลไปมา ส่ง mail แล้วค่อยกลับไปหา framework javascript ยอดนิยมอีกทีเอาก็ได้ อย่างน้อยก็น่าจะไวกว่าไปเล่น javascript โดดๆ ก่อน แล้วก็ฝึกกฏพื้นฐาน ปรับรูปแบบสไตล์การเขียน code ให้สวยเป็นมาตรฐาน ฝึกใช้งาน version control

จากนั้นก็ได้เวลาลองทำระบบทั่วไป จะเอา blog ง่ายๆ หรือระบบซื้อขายง่ายๆ หรือระบบจอง ลองหัดทำซักตัวแล้วค่อยมา ลองชำแหละ cms ยอดนิยม ดูสไตน์การเขียน code แล้วสร้างเองต่อยอดเอา

สาย App ให้ดู ​bad design vs. good design , material design เหมือนกัน จากนั้นก็เลือกภาษา platform แล้วลุยได้เลยเริ่มจาก app ตารางง่ายๆ กดหา save เชื่อมต่อกับ database ภายในภายนอก ส่ง mail , save รูป พอคล่องก็มาเล่นกับ notification จากนั้นก็หา UI components มาเล่น วนกลับไปฝึกและปรับรูปแบบสไตล์การเขียน code ให้สวยเป็นมาตรฐาน ฝึกใช้งาน version control จากนั้นลองหาวิธี submit app ที่เขียนเองง่ายๆ ลง store แล้วค่อยมามองตัวเองต่อว่าจะทำ app อะไร เอาชิ้นส่วนที่ผ่านหูผ่านตามาแล้วมาประกอบกัน

ส่วนคอม ให้เริ่มจากเอาเครื่องแบบไหนก็ได้ที่พิมพ์งานได้ สายเว็ปเริ่มแรกคอมดาดๆ ทั่วไปก็ได้ ส่วน app ก็ยัด ram ให้เยอะหน่อย อ่อถ้าจะมา iOS อาจจะต้องใช้ mac อย่างเดียว กรณีนั้นเอาตัวถูกๆ แบบ mac mini มาก็ได้

290 Nameless Fanboi Posted ID:1TnJSCaPqz

>>289 ใจมาก แบบนี้พอดูแนวทางได้เยอะหน่อย

291 Nameless Fanboi Posted ID:.T.yNuOqvf

>>288
ไม่แน่ใจว่ามึงเรียนมาตรงสายมั้ย แล้วเป็นเด็กจบใหม่รึเปล่า

1. เรื่องจะ backend frontend fullstack นี่กูว่าคงต้องลองศึกษาดูทั้ง front และ back อ่ะว่าตัวมึงเองชอบงานแบบไหนมากกว่ากัน
เรื่อง front ส่วนตัวเชียร์ให้ลองสายเว็บก่อน เพราะไม่ต้องใช้เครื่องมือเยอะ พื้นฐาน html, js, css ถึงไม่เป็น front ก็เป็นอะไรที่รู้ไว้ก็ดี
โดยเฉพาะ js มันเอาไปประยุกต์ใช้ได้หลายหลาย

2. สเปคคอมที่ใช้ทำงาน กูเป็นสาย Windows นะ สำหรับกู
- ควรมี SSD ซึ่งโน๊ตบุ๊คยุคนี้ทั่วๆไปน่าจะเป็น SSD แทบหมดแล้ว
- แรมควรมีขั้นต่ำ 16 GB เพราะพวก tool ทำงานส่วนมากกินแรมเยอะ เวลาเขียนโค้ดทำงานจริงต้องหาข้อมูลเยอะ ซึ่ง browser ก็กินแรมอีก
โน๊ตบุ๊คแรม 16 ในไทยราคาอาจจะโดดจากพวกรุ่นแรม 8 เยอะบ้าง ถ้าแพงไปอาจจะลองดูรุ่นแรม 8 ที่ใส่เพิ่มเองได้แทน
- ถ้าไม่รีบรอ commart ปลายปี (ไม่ต้องไปซื้อที่งานก็ได้ แค่รอให้ถึงช่วงนั้น) จะเป็นช่วงที่ของลดราคาเยอะ
และรุ่นใหม่ๆที่ออกปลายปีจะเข้าไทยเกือบครบแล้ว

3. เรื่องทั่วๆไปที่ควรรู้ก่อนนอกจากเขียนโค้ดตรงๆนึกออกแค่ database, version control, web service ซึ่งรู้พื้นฐานไว้ก็ดี
แต่ทำงานจริงมันก็มีรายละเอียด/ข้อตกลงภายในของแต่ละที่ๆต้องไปเรียนรู้หน้างานเอาอีกที

4. เรื่องภาษาโนคอมเม้นแฮะ พอดีทำงาน back ในบริษัทใหญ่ๆเลยเขียน Java อย่างเดียวมาตลอด
และติดภาษานี้ไปแล้ว ลองอย่างอื่นก็ไม่ถนัดมือเท่า ไม่ค่อยได้ตามเทรนด์ภาษาช่วงนี้เท่าไหร่

292 Nameless Fanboi Posted ID:1TnJSCaPqz

>>291 ตรงสาย จบใหม่ แต่เรียนมาอย่างละนิดละหน่อย
มาหาแนวทางเพิ่มเพราะไม่รู้จะเริ่มยังไงดี

293 Nameless Fanboi Posted ID:Kh73f3uxid

>>292 กูว่าเริ่มจากหางานเลยดีกว่ามั้ง จบใหม่ยังไงรับเข้าไปก็ต้องมีสอนงานเพิ่มอยู่แล้ว
เค้าไม่ได้เอาขนาดว่าเข้าไปแล้วต้องต่องานได้เลยหรอก
ไม่ใช่ทุกที่จะรับเด็กจบใหม่ แต่ถ้าเค้ารับแปลว่าเค้าต้องคิดเผื่อเรื่องการสอนงานอยู่แล้วแหละ น่าจะเป็นที่ๆให้โอกาสคนพอสมควร
แต่ค้นหาตัวเองในเรื่องสำคัญๆก่อนก็ดี เช่นชอบงาน front และ back, จะเขียนภาษาอะไร (อันนี้อาจจะต้องดูตลาดประกอบด้วย)

ตอนของกูจบใหม่ก็ไม่คิดอะไรมากอ่ะ เพื่อนชวนไปงาน job fair ก็ตามเค้าไป แล้วบู๊ทไหนเค้ารับเด็กจบใหม่ก็กรอกๆไป
แต่ของกูดีตรงชัดเจนเรื่องภาษาเพราะคณะกูเน้นสอน Java เป็นหลัก เลยถนัดจริงๆจังๆแค่ภาษาเดียว แล้วก็เป็นภาษาหากินยาวจนทุกวันนี้

294 Nameless Fanboi Posted ID:G02Oh4jG2T

>>293 ถ้าทำ web กุว่าควรจะเขียน html css ได้ก่อนเป็นขั้นต่ำว่ะ เพราะสอนงานตั้งแต่ต้นแบบนับหนึ่งเลยก็เกินไป
ยกเว้นจะเอาไปทำ support , tester หรือเอามาทำ admin ก็ว่าไปอย่าง

295 Nameless Fanboi Posted ID:YMfnBfxYhr

กูสงสัยมานานละ พวกเกมมือถือเวลาแจกไอเท็ม ทำไมต้องแจกด้วยการเอาใส่ mailbox แล้วคนเล่นต้องมากดรับอีกทีนึง
ไม่เอาของใส่ inventory คนเล่นตรงๆ มันเป็นข้อจำกัดทางเทคนิคอะไรรึเปล่า

296 Nameless Fanboi Posted ID:OYVP.nvEM/

>>295 ไม่ใช่ข้อจำกัดทางเทคนิคแต่เป็นจิตวิทยาให้รู้ว่าได้ของขวัญ และให้เรียนรู้ว่า เวลามีประกาศอะไรให้มาดูที่นี่นะ จะได้รู้ว่าเวลามีกาชา อะไรออกใหม่จะได้เตรียมเงินได้ถูก

297 Nameless Fanboi Posted ID:bKAlKo0h4b

เห็นคนเริ่มพูดเรื่อง ThoughtWorks เอา Redux กลับมาอยู่ Trial ขอร่วมออกความเห็นบ้าง

คือทำแอพมาก็เยอะ ในชีวิต Career ที่ผ่านมา พบว่ามีแอพ Taskworld แอพเดียวจริงๆ ที่นั่งคิดนอนคิดยังไง ก็ต้องใช้ Redux ในการจัดการ State

แต่แอพที่เหลือที่ทำมาเนี่ย ไม่มีอะไรเลยที่ผม Prefer Redux

คือถามว่าทำไม Taskworld เขียนด้วย State management แบบอื่นได้ยาก

- เราทำให้เวลาที่คนแก้ Task title จาก A เป็น B แล้วตัว Notification bar, Chat message ที่เกี่ยวข้องกับ Task นี้ เช่น John commented on Task A one minute ago ก็จะถูกเปลี่ยนเป็น John commented on Task B โดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องมี Full refresh ใดๆ
- เราทำให้เวลา Project เปลี่ยนชื่อ ทุกๆ อย่างที่เกี่ยวข้อง ก็เปลี่ยนตามไปในพริบตาเดียวเหมือนกัน ไม่ต้องมี Refresh
- เวลามี Notification เรามีจุดแดงเตือนว่ามีคนส่งข้อความหา ประมาณ​ 2-3 ทั่วแอพ เพื่อให้มั่นใจว่า User เห็นโดยไม่ได้เด้งมาเป็น Popupใหญ่ๆ ให้รำคาญ และในเวลาที่คนอ่าน Notification แล้ว จุดแดงพวกนั้นจะหายไปพร้อมกันหมดในพริบตาเดียว

คือถ้าระบบที่สร้างมันมี State มีข้อมูลที่ต้องใช้ร่วมกันหลายที่มากๆ แล้วเราต้องการให้มี Seamless syncronization แบบเนี้ย มันจะเหมาะกับ Redux มาก การทำคุณภาพที่เนียนขนาดนี้ด้วย MobX หรืออื่นๆ จะยากมาก

(และจากที่ลองใช้ Basecamp, Jira มา บอกเลยว่าเรื่อง Seamless Sync เนี่ย Taskworld ทำได้ดีมาก จนทำให้พอใช้อย่างอื่น ผมหงุดหงิดความ Sync ข้อมูลทั่วแอพไม่เนี๊ยบต้องคอย Full refresh เรื่อยๆ ไปเลย)

แต่เนื่องจาก ~95% ของระบบ Web app ในโลกนี้ไม่ได้มี UI ที่ซับซ้อนขนาดนี้ หลายครั้งก็เป็นอารมณ์แอพกรอกฟอร์มข้อมูล ดูข้อมูล ก็จงสงวน Redux ไว้ใช้ในกรณีพิเศษจริงๆ ละกันนะ และผมเข้าใจได้ว่าทำไม Redux ไม่ควรจะเป็น Default choice ในการเขียน React App

298 Nameless Fanboi Posted ID:5mzcThw4Si

เศร้าว่ะ เป็นเด็กจบใหม่ ตรงสาย เกรดสวยมาก ภาษาก็ดี สกิลก็มี แต่เงินเดือนสตาร์ทน้อยกว่าคนเรียนโค้ดสตาร์อีก 😔

299 Nameless Fanboi Posted ID:AAdjpkrQTO

https://cryptozombies.io/
เรียน Blockchain

300 Nameless Fanboi Posted ID:AAdjpkrQTO

>>299 Solidity เป็นทางเลือกเดียวแล้วตอนนี้

301 Nameless Fanboi Posted ID:gr3WdwLqhf

>>286 สวัสดิการอื่นๆโอเคอยู่ เบิกได้เยอะดี แต่เรื่องงานน่าปวดหัวหน่อย เพราะเป็นองกรณ์ใหญ่ทำอะไรทีก็ต้องรอคนนู้นคนนี้

302 Nameless Fanboi Posted ID:VQyC.TChMJ

>>299-300 เอาจริงๆถ้าไม่ทำ startup ด้านนี้โดยเฉพาะนี่มันเอาไปหากินอะไรได้บ้างวะ

303 Nameless Fanboi Posted ID:go.RrrrDuE

>>302 ไม่มีมั้ง นอกจะทำระบบจอง ระบบจ่ายเงิน ที่รับ transaction พร้อมๆ กันบน server หลายตัว โดยคิด protocol ขึ้นมาเอง

แต่บริษัทพวกที่รับสายเฉพาะจ่ายดีอยู่นะ หลักแสน สมัยเฟื่องฟูให้เดือนละล้านก็มีมาแล้ว ค่าตัวแพงกว่า sap อีก

304 Nameless Fanboi Posted ID:ILV/Zilfu7

>>303 blockchain เรียนจากไหนดีวะ

305 Nameless Fanboi Posted ID:i/6kJpBZjR

>>304 เรียนตาม >>299 หรือ https://www.skilllane.com/courses/ethereum-developer

306 Nameless Fanboi Posted ID:i/6kJpBZjR

>>304https://www.udemy.com/course/ethereum-and-solidity-the-complete-developers-guide/

307 Nameless Fanboi Posted ID:GdMXKWnKPv

ด้วยความเคารพ

Imperative “ไม่เท่ากับ” Loop
Functional “ไม่เท่ากับ” Map, Reduce

โว้ยยยยยยย

#ขอระบายหน่อย
#เจออะไรโง่ๆมา
#แค่เปลี่ยนLoopเป็นMapก็เขียนFPแล้ว

308 Nameless Fanboi Posted ID:Arw6GQQyi.

กุรู้พวกมึงแต่ละคนเสียภาษีเยอะ เพราะเงินเดือน เย๊อะะะะ

พวกมึงใช้ลดหย่อน บิดา มารดา คนละ 30,000 ไหม แต่บิดา มารดา มีรายได้เกิน 30,000 ต่อปี(ไม่เข้าเงื่อนไขที่ใช้ในการลดหย่อน)

พวกมึงเคยลักไก่ไหมวะ แบบบิดามารดารายได้เกิน 30,000 ต่อปี แต่พวกมึงก็ยังไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนบิดา มารดา

เค้าจะมาตรวจสอบย้อนหลังไหม หรือใครเคยใช้ ใครเคยโดน

309 Nameless Fanboi Posted ID:Kx.R9FzBk7

>>308 รายได้บิดามารดาอยู่ในระบบไหม ถ้าอยู่ในระบบก็เอามาลดหย่อนไม่ได้

จาก ปสก.ตรง ไม่ต้องรอตรวจสอบย้อนหลังหรอก แค่ลืมจ่ายภาษี freelance ไปซักใบสองใบ ยอดไม่กี่หมื่น มันก็โทรมาทวงถึงที่ล่ะ รู้ขนาดว่าลืมจ่ายไปกี่ใบเลขไหนบ้าง เอาภาษีส่งด้วย

สรรพกรมันไม่โง่หรอก มันแทรกย้อนหลังได้หมดว่าทำอะไรบ้าง รายการไหนมั่วบ้าง เพียงแค่ถ้ายอดน้อยๆ มันอาจจะขี้เกียจทวงแค่นั้น

310 Nameless Fanboi Posted ID:aAc4pcOdzw

รู้สึกเซ็งตัวเองว่ะ ทำงานพลาดโง่ๆติดกันรัวๆเลย ยังคิดเข้าข้างตัวเองอยู่นะว่าถ้างานมันไม่ได้เร่งเอาๆน่าจะทำได้ดีกว่านี้

311 Nameless Fanboi Posted ID:OLscV4Uijr

https://www.raywenderlich.com/4936497-your-first-kotlin-android-app/lessons/1

312 Nameless Fanboi Posted ID:OLscV4Uijr

มีคนถามว่าอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ไปจนแก่เลย ไม่อยากเป็น Manager ต้องเตรียมตัวเตรียมสกิลอะไรบ้าง
.
เป็นคำถามที่ดี ก็อยากแบ่งเป็นสองอย่างนะ
.
1) Faste Learner Skill - การเขียนโปรแกรมนั้นเราไม่สามารถบอกแบบ Fix ได้ว่าต้องเขียนโน่นเป็นนี่เป็นเพราะ "สกิลของงานสายนี้เป็น Dynamic และเปลี่ยนไปตามยุค" ทุกอย่างมันเปลี่ยนทุกวัน มีของใหม่เกิดมาทุกวัน มีของเก่าตายไปทุกวัน
.
สกิลสำคัญของคนที่จะทำสายนี้ยืดคือ "ต้องวิ่งตามเทคโนโลยีให้ทัน" ต้องลองลงมือทำทุกอย่าง มีอะไรใหม่ก็ต้องทำให้เป็นให้หมด ก็คือต้องเรียนรู้เร็วมากนั่นเอง
.
ช่วงแรก ๆ เหนื่อยแหละ แต่ถ้าทำไปเรื่อย ๆ .... ก็เหนื่อยแหละ มันจะไม่เหนื่อยได้ไงอ่ะ ! 5555
.
แต่สิ่งที่หลายคนทำพลาดไปในข้อนี้คือไม่ยอมฝึกสกิลใหม่ ๆ และยึดติดกับสิ่งที่ตัวเองทำเป็นอยู่แล้วเท่านั้น มันไม่พอนะ บอกเลยว่ามันไม่เคยพอ ตระหนักไว้เสมอว่าสิ่งที่คุณทำเป็นอยู่แล้วอาจจะตายเมื่อไหร่ก็ได้
.
ก็ได้ยินอยู่บ่อย ๆ นะว่า "งานประจำหนักอยู่แล้วเลยไม่มีเวลาฝึกสกิลใหม่เลย"
.
แนะนำให้ลองบริหารเวลาใหม่เพราะฟังดูน่าจะมีปัญหาเรื่อง Work Life Balance ที่ทำอยู่มันอาจจะดีกับบริษัท แต่มันไม่ดีกับตัวคุณนะ
.
อยากอยู่สายนี้อย่าหยุดพัฒนาตัวเองและตามให้ทันเทคโนโลยีครับ
.
ไม่ฝากเรื่องว่าต้องเขียนอะไรให้เป็นบ้างเพราะสกิลที่ยั่งยืนของสายงานนี้คือ "ต้องปรับตัวเองตามยุคให้ทันเสมอ" ก็ลองดูว่าตอนนี้โลกไปทางไหนแล้วฝึกสกิลที่ขาดดูนะ
.
2) Teamwork Skill - สำคัญมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ต่อให้อยากจะโค้ดจนแก่ชราแต่การทำงานดี ๆ ขึ้นมาสักชิ้นเราทำคนเดียวไม่ได้หรอกนะ มันต้องทำเป็นทีม
.
และแน่นอน คุณเลยต้องฝึกทุกสกิลที่เกี่ยวข้องให้หมด เช่น การสื่อสาร การ Collab การเขียน Doc ฯลฯ
.
หลายคนมาก ๆ ที่ยังติดกับการทำงานคนเดียวเพราะมันสะดวกว่องไว Doc ก็ไม่ต้องเขียน ไม่ต้อง Co งานกับใคร
.
แต่ถ้ายังทำได้แค่นั้นคุณจะโตไปไหนไม่ได้หรอกนะ
.
ชีวิตจริงมันต้อง Collab กับ PM, PMM, Designer, Customer Supporr ฯลฯ เพราะเราก็ต้องการข้อมูลจากเค้า เค้าก็ต้องการข้อมูลจากเรา หรือก็ต้อง Collab กับโปรแกรมเมอร์คนอื่น จะทำคนเดียวหมดนี่จะ Deliver งานเมื่อไหร่ ?
.
ถ้ายังทำงานเป็นทีมไม่เป็น สุดท้ายคุณก็จะได้ทำแค่งานเล็ก ๆ เพื่อนร่วมงานก็ไม่อยากทำงานด้วย ท้ายที่สุดบริษัทไหนก็คงไม่ต้องการ ทำได้อย่างมากก็รับงาน Freelance เล็ก ๆ
.
เดินคนเดียวมันเดินเร็ว แต่ก็เหงานะ อยากเดินไปได้ไกลต้องเดินไปเป็นทีม จำไว้
.
3) Mentorship - ยิ่งอายุมากขึ้นประสบการณ์ก็มากขึ้น แม้จะยังทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ต่อไปแต่สิ่งที่ทุกคนคาดหวังในตัวคุณจะมีมากกว่ามานั่งเขียนโปรแกรมเสมอ
.
หนึ่งในนั้นคือ คุณต้องสามารถส่งต่อความรู้และปั้นคนได้
.
มันก็คือสกิลการสอนแหละ การที่มีคนที่ทำเป็นอยู่แล้วแต่กลับส่งต่อความรู้ให้คนอื่นไม่ได้นี่มัน Waste มากเลยนะ มันไม่ส่งผลดีกับใครเลย
.
ก็ถือเป็นสกิลที่ยากอยู่เพราะการสอนมันเป็นศิลปะ สอนคนยังไงให้ใช้เวลาน้อยแต่ได้ประสิทธิภาพ รู้ได้ยังไงว่าจะสอนอะไร เรียบเรียงเนื้อหายังไง ฯลฯ ก็ถือเป็นอีกสกิลที่อยากให้ฝึกไว้ครับ
.
ที่เมกาคนอายุ 50-60 แต่ยังเขียนโปรแกรมอยู่มีอยู่ถมไปมาก ต่างจากที่เมืองไทยที่พออายุเกิน 40 ก็เริ่มโดนกีดกันหรือโดนบังคับให้เปลี่ยนสายงานละ เราเสียโปรแกรมเมอร์เก่ง ๆ ไปเพราะสาเหตุนี้กี่พันคนแล้วก็ไม่รู้
.
เป็นอีกสิ่งที่ถ้าสังคมไทยเปลี่ยนได้ก็คงส่งผลดีต่อวงการอย่างมากเลยทีเดียว

313 Nameless Fanboi Posted ID:YFFEAbCsGi

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=3678729828859859&id=100001686337010&ref=bookmarks
ดราม่าเลย คุ้นๆว่ามีโม่งโปรแกรมเมอร์จบที่นี่หลายคนด้วยหนิ

314 Nameless Fanboi Posted ID:RicGvQIFOx

เพิ่งจบมอหก อยากเป็นสายเกมส์เดฟ เกมส์ที่สร้างต้องระดับไหนอะ เขาถึงจะรับเข้าทำงาน

315 Nameless Fanboi Posted ID:RicGvQIFOx

คือ เขาคาดหวังขั้นต่ำของเด็กจบใหม่ไว้ประมาณไหนอะ

316 Nameless Fanboi Posted ID:Hf1om/jcTy

>>313 ไปเรียนที่โค้ดสตาดีกว่า

317 Nameless Fanboi Posted ID:5GLcjFmBXs

>>313 เคยเรียนอยู่ ค่าเทอมโหดสัสหมามากนะ ข้อดีก็มีเยอะแต่ไม่ใช่เรื่องเรียนอ่ะเอาตรงๆ5555+ ที่แม่งจริงสัสๆคือหลักสูตรหาความคงที่ไม่ได้จริง อาจารย์คณะเบียวๆก็มี ตามนี้แหละ

318 Nameless Fanboi Posted ID:6jk0Ai45Q.

>>314 ไม่รู้ว่ะ อยากรู้เหมือนกัน ตอนนี้ทำสายเว็บอยู่ อยากรู้ว่าถ้าจะเปลี่ยนตอนนี้จะไหวมั้ยนะ เคยทำแต่ RPG Maker ง่อยๆ 555

319 Nameless Fanboi Posted ID:NK8VMoqz/F

>>317 จบนานยังอ่ะโม่ง ของกูเกือบๆจะ 10 ปีละ

320 Nameless Fanboi Posted ID:xPFIpiZpGk

>>319 ไม่ๆ กูสู้ค่าเทอมไม่ไหวจริงๆเลยซิ่วออกมาเรียนที่อื่นหว่ะ จริงๆคือ หากไม่ติดเรื่องเงินเลย ถ้าพยายามหน่อยกับรุ่นกูเองนะ สิ่งที่ยากสุดคงเป็นการเรียนสายวิทย์ให้รอดกับทำข้อสอบcalให้ผ่านอ่ะ

321 Nameless Fanboi Posted ID:8tAwtoly1d

10 คำแนะนำสำหรับการสมัครงานบริษัท tech ในอเมริกา

ในปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสแนะนำน้องๆที่สนใจสมัครงานกับบริษัท tech ในอเมริกาหลายๆบริษัท ก็เลยขอเขียนรวบรวมคำแนะนำต่างๆ และแก้ความเข้าใจผิดของคนไทยในบางเรื่อง หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการเตรียมตัวครับ

(หมายเหตุ 1: ทั้งหมดเป็นคำแนะนำและความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้เป็นคำแนะนำหรือความคิดเห็นของบริษัทที่สังกัดอยู่

หมายเหตุ 2: ข้อ 1-5 เฉพาะเจาะจงกับตำแหน่งสาย engineer ส่วนข้อ 6-10 ไม่เจาะจงกับสาย)

1. ควรซ้อมโจทย์ coding interview สไตล์อัลกอริทึมที่บริษัทส่วนใหญ่ในอเมริกาใช้ในการสัมภาษณ์ เว็บที่ใช้ซ้อมกันเยอะคือ leetcode ที่จะรวมโจทย์ที่คนเคยไปเจอมาจากการสัมภาษณ์บริษัทต่างๆ รวมถึงมีระบบตรวจโค้ดอัตโนมัติ แนะนำว่าให้ซ้อมเยอะๆให้คล่องมือกับภาษาอะไรก็ได้ที่ถนัด ควรคล่องประมาณว่าถ้าคิดอัลกอออกแล้วจะไม่ไปเสียเวลาคิดว่าจะ implement ยังไง เช่น ถ้าจะ sort array ของ tuple โดย sort by key หรือ by value ก็ควรเขียนได้เร็วๆ หรือถ้าจำไม่ได้จริงๆ ก็บอกคนสัมภาษณ์ว่าขอสมมติว่ามีฟังก์ชันให้เรียกใช้ (ถ้าฟังก์ชันนั้นไม่ได้เป็นแก่นหลักของการแก้โจทย์)

ส่วนตัวยังไม่เคยเจอคนที่รู้จักที่ไม่ซ้อม coding interview แล้วผ่านการสัมภาษณ์ บางคนเก่งมากระดับคอมพิวเตอร์โอลิมปิก แต่ไม่ได้ซ้อมก็ทำให้ไม่คล่องตอนสัมภาษณ์ และตกสัมภาษณ์ได้ ดังนั้นซ้อมเยอะๆ (มีเพื่อนชาวอินเดียสมัยทำงานที่สิงคโปร์เล่าให้ฟังว่ากลุ่มเพื่อนเค้าซ้อมโจทย์กันทุกๆครึ่งปี เผื่อมีโอกาสในการย้ายงานจะได้พร้อม)

2. ควรซ้อม interview รูปแบบที่เฉพาะเจาะจงกับ role นั้นๆเพิ่ม เช่น ถ้าเป็น SWE (Software Engineer) ก็ควรซ้อม System Design เพื่อออกแบวระบบให้ scalable ถ้าเป็น UIE (User Interface Engineer) ก็ควรซ้อมเขียน JS/HTML/CSS ในการออกแบบเว็บ ถ้าสาย Data Science ก็ควรซ้อมโจทย์ด้านเลขและสถิติ ถ้าเป็น SE (Solutions Engineer) ก็ควรซ้อมการออกแบบระบบโดยคำนึงถึงมุมมองด้านธุรกิจ

3. การ interview นั้นไม่ได้ดูแค่ผลลัพท์ว่าแก้โจทย์ได้หรือไม่ได้ แต่ยังดูผลในมิติอื่นๆประกอบด้วย เช่น สามารถสื่อสารให้คนสัมภาษณ์เข้าใจกระบวนการคิดได้มั้ย สามารถแสดงความเห็นของข้อดีข้อเสียในวิธีต่างๆที่เป็นไปได้ได้มั้ย เป็นต้น

4. บางบริษัทขนาดเล็กหรือกลาง อาจมีการให้การบ้านไปแก้โค้ดจริง หรือลองนั่งทำงานจริงกับ engineer แต่บริษัทใหญ่แทบจะไม่มีแบบนั้น เพราะยากที่จะ scale ได้เทียบกับปริมาณคนที่สมัครเข้ามา

322 Nameless Fanboi Posted ID:8tAwtoly1d

5. ควรซ้อม mock interview กับเพื่อนโดยสลับกันเป็นคนสัมภาษณ์ และคนถูกสัมภาษณ์ เพราะจะได้ฝึกการคิดไปอธิบายไปให้อีกฝ่ายรู้เรื่อง และพอเราเป็นคนสัมภาษณ์ เราจะได้เห็นว่าอะไรที่คนถูกสัมภาษณ์มักจะพลาดและเราควรหลีกเลี่ยง ถ้าไม่มีคู่ซ้อม ลองฝึกกับเว็บ pramp.com ซึ่งจะช่วยจับคู่ซ้อมให้กับเรา

6. ไม่ต้องกลัวหรือคิดว่าตัวเองไม่เก่งถ้าสัมภาษณ์ไม่ผ่าน เป็นที่รู้กันว่านอกจากความสามารถแล้วก็ยังขึ้นกับดวงด้วยว่าได้เจอโจทย์แนวที่เข้าทางมั้ย หลายคนตกสัมภาษณ์บริษัทระดับรอง แต่ผ่านสัมภาษณ์บริษัทระดับท็อป เพราะเจอโจทย์ที่เข้าทางมากกว่า บริษัทหลายที่ยอมที่ว่าให้มีคนเก่งตกสัมภาษณ์ ดีกว่าให้คนไม่เก่งผ่าน ดังนั้นเราอาจเป็นคนเก่งที่ตกก็ได้ พยายามสัมภาษณ์หลายๆที่

7. ถึงจะตกสัมภาษณ์ ส่วนใหญ่รอครึ่งปีหรือปีนึงก็จะสมัครใหม่ได้ หรือบางครั้งถ้าเราตกแบบมีแวว ก็อาจถูกเรียกสัมภาษณ์ใหม่เร็วกว่านั้น หลายๆคนที่รู้จักสามารถผ่านได้ในการสมัครครั้งที่ 2-3 หรือมากกว่านั้น

8. ถ้ารู้จักใครทำงานอยู่ในบริษัทที่สนใจ ไม่ต้องกลัวที่จะขอให้เค้าช่วย refer ให้ มุมมองการ refer ของอเมริกาไม่เหมือนไทย คนไทยมักคิดว่าเป็นการใช้เส้นสายเลยอาจไม่อยากให้คน refer เพราะดูไม่ดีหรืออาจจะกลัวเป็นการรบกวน แต่การ refer ของบริษัทใหญ่ในอเมริกาคือ แค่ช่วยให้ resume ถูกหยิบขึ้นมาพิจารณาเร็วขึ้นแทนที่จะไปต่อคิวยาวเหยียดเพราะคนสมัครกันเยอะมาก ซึ่งสุดท้ายแล้วจะขึ้นกับการพิจารณาของ recruiter อีกทีนึงอยู่ดีว่าจะเรียกสัมภาษณ์มั้ย และทุกคนก็ต้องผ่านการสัมภาษณ์ทุกรอบตามปกติ (เพราะถ้าใช้เส้นสายเข้างานเลย บริษัทอาจถูกฟ้องได้) ในขณะที่คนที่ช่วย refer ให้ส่วนใหญ่จะได้รับโบนัสถ้าคนที่ถูกแนะนำสามารถผ่านสัมภาษณ์และเข้าทำงานในบริษัทได้ ดังนั้นส่วนใหญ่จะเต็มใจช่วย refer อยู่แล้ว ขอแค่เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสัมภาษณ์

9. ถ้า recruiter ให้เตรียมตัวเรื่องอะไรเป็นพิเศษหรือให้ลิงค์เว็บเพื่อศึกษา ควรทำการศึกษาให้มาก เพราะคนสัมภาษณ์มีสิทธิ์ถามเรื่องที่ให้ไปเตรียมตัวมา แต่บางครั้งถ้าเวลาเตรียมตัวไม่ทันจริงๆ ให้จัดลำดับความสำคัญโดยเตรียมเรื่องที่เราถนัดน้อยสุดก่อน

10. ถ้าสมัครบริษัทสาขาที่อเมริกาโดยตรงจากเมืองไทยโดยไม่มี visa ทำงาน โอกาสสูงมากที่จะโดนปฏิเสธทันทีหรือเงียบหายไป (แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาส เพราะมีคนที่ทำสำเร็จมาแล้ว แต่ก็ถือว่าจำนวนน้อยมาก) ซึ่งมีทางเลือกอื่นเช่น ทำงานบริษัทที่มีสาขานอกอเมริกาอย่างน้อย 1-2 ปีก่อน ก็จะได้ visa L-1 ทำให้เข้าไปทำงานที่อเมริกาได้ หรืออีกทางเลือกที่นิยมกันคือไปเรียนต่อที่อเมริกาก่อน ก็จะได้ visa ทำงานต่อหลังเรียนจบ

11. [Bonus] แนะนำให้ search profile ของ Knott Wittawat ด้วยคีย์เวิร์ด "สัมภาษณ์" เค้าได้เขียนประสบการณ์การไปสัมภาษณ์แต่ละที่ไว้อย่างละเอียด และทรงคุณค่ามาก

ก็หวังว่าคำแนะนำนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการเตรียมตัวหรือวางแผนสมัครงานบริษัท tech ในอเมริกาครับ

323 Nameless Fanboi Posted ID:zSSYWWk1CT

ถามหน่อยว่าโม่งที่อายุใกล้ 30 หรือเพิ่งเลย 30 ใหม่ๆมีใครเปลี่ยนจากฟรีแลนซ์/พนักงานสัญญาจ้างที่เงินเยอะๆมาเป็นพนักงานประจำกันบ้างมั้ย
ตอนนี้กูเป็นโปรแกรมเมอร์ อายุใกล้ 30 แล้ว เป็นพนักงานสัญญาจ้าง ยังรู้สึกว่าถ้าต้องเปลี่ยนจริงๆทำใจกับเงินที่หายไปไม่ค่อยได้
ตอนเรียนจบใหม่ๆเคยเป็นพนักงานประจำอยู่พักนึง รู้สึกสวัสดิการหลายอย่างจะใช้จริงๆก็เงื่อนไขการขอเบิกก็จุกจิกมาก
แล้วก็ไม่ชอบระบบประเมินพนักงานด้วย กูเลยไม่ชอบการเป็นพนักงานประจำเท่าไหร่
เรื่องความมั่นคงเห็นพ่อแม่หรือเพื่อนที่เป็นประจำชอบพูดเชียร์กันว่าดี แต่ก็เห็นพนักงานประจำโดยเลย์ออฟกันเป็นว่าเล่นอยู่ดี
อาชีพนี้ ศก. ไม่ดีก็หางานประจำยากขึ้นเรื่อยๆด้วย พวกมึงคิดว่าไงกันมั่ง

324 Nameless Fanboi Posted ID:02863TXo9t

งานประจำไม่ใช่ทุกที่ต้องประเมินแบบที่มึงว่านะ
บางที่ประเมินเป็นพิธี ส่วนที่เหลือหารจากผลประกอบการแจก
บางที่จะเข้า office หรือทำที่บ้านก็ได้
ค่ารถ ค่ารักษาพยาบาล ก็ไม่ได้เบิกยุ่งยาก ทุกที่
ค่าตอบแทนโบนัส แบบที่ให้เจ๋งๆ กว่าสัญญาจ้างก็มี

325 Nameless Fanboi Posted ID:gm6U5PloQ0

สวัสดีพี่โม่ง กำลังจะเรียนจบวิดวะคอม ถ้าต้องเลือกเรียนโทนอกกับทำงานเลย เลือกไหนดี

326 Nameless Fanboi Posted ID:02863TXo9t

ตอนนี้ฝึกเขียนโปรแกรมไปก่อนเถอะ โควิดยังระบาดอยู่แบบนี้น่าจะไปนอกยากว่ะ

327 Nameless Fanboi Posted ID:jQ057pWRDK

>>325 ไม่รู้ว่าอันไหนดีกว่า แต่จากประสบการณ์ตัวเอง เลือกทำงานก่อนค่อยเรียน เพราะตอนจบมายังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี งานสายคอมแม่งไปได้โคตรเยอะ เลยไปลองทำงานดูว่าชอบอะไร ช่วงแรกๆก็ลองทำงานไปเรื่อย งานไหนไม่ชอบก็ลาออก(ทำงานได้ 1-2อาทิตย์ลาออก บางที่ทำได้2วันออก) แต่เพิ่งจบใหม่+เก่ง+ชื่อมหาลัยดี เลยหางานไม่ยาก ตอนหลังเจองานที่ชอบก็ทำยาวๆเลย แล้วอยากอัพสกิล+อัพโปรไฟล์เลยต่อโทสายที่เกี่ยวกับงานนี้
เลยออกมาเรียนต่อหลังจากทำงานไปได้ปีนึง
แล้วตั้งใจว่าจะเอาความรู้ไปอุทิศให้กับประเทศด้วยการไปเข้าวงการราชการ (ให้เวลาตัวเองสำหรับการอดทนไอพวกหัวโบราณ 2 ปี) จบเรื่องเล่าแบ่งปันประสบการณ์
คหสต ถ้ายังไม่มั่นใจว่าจะเรียนไปเพื่ออะไร ไปทำงานหาคำตอบให้ตัวเองก่อนน่าจะดีกว่าไปเรียนต่อแบบประสบการณ์เป็นศูนย์

328 Nameless Fanboi Posted ID:aMhcfqMC4a

>>327 เข้าใจละ แต้งกิ้วพี่โม่ง

329 Nameless Fanboi Posted ID:aMhcfqMC4a

อยากได้คำแนะนำอีกหน่อย จะเรียนจบแล้ว. ML ไปได้ไกลแค่ไหนอะ ชอบคอนเซปมันเลยอยากหากินกับ ML ด้วย กลัวจะเสียเปล่า

330 Nameless Fanboi Posted ID:2wl/L+Sq3x

>>329 กุ327เอง ตอนนี้ตลาดสาย ML จากที่กุคิด กุแบ่งได้แบบนี้
Low-tier - พวกกากๆที่เห่อ ML, data sci ใช้เป็นแค่ Lib ดังๆ เข้าใจเบสิค ML นิดหน่อย พื้นฐานคอมพอใช้ แก้ปัญหาที่มันตรงไปตรงมาได้ ณ ตอนนี้แม่งคน tier นี้แม่งเริ่มจะเกลื่อนตลาดแรงงาน
Medium/High-tier - ไอพวกนี้จะเก่งกว่าพวกแรก พื้นฐานแน่นปึก ทำงานที่มันซับซ้อนมากๆได้ อ่านเปเปอร์แล้วมาประยุกต์กับงานมึงได้ เริ่มทำ ML มาแก้ปัญหาที่มันไม่ค่อยมีใครทำได้หรือยังทำได้ไม่ดี หลักๆก็จะไปแนว Reseacher ซะมากกว่า ถ้าเก่งมากๆหรือเป็นพวกระดับสูง กุบอกได้เลยว่าพวกนี้มันทำโปรเจคเสร็จทีนึง มันเอาโปรเจคนี้ไปตีพิมพ์เป็นเปเปอร์ต่อ
ประเด็นที่กุจะบอกคือ ถ้ามึงยังไม่หลุดพ้นจากการเป็น Low-tier มึงไปได้ไม่ไกลหรอก เพราะคนเห่อ ML ช่วงนี้แม่งเยอะชิบหาย แถมพวกนี้ไม่มีจุดที่น่าสนใจซักเท่าไหร่ แต่ถ้ามึงหลุดพ้น Low-tier แล้ว มันมีพื้นที่ให้มึงเสมอ กุเห็นบริษัทใหญ่ๆหลายที่แม่งเปิดหา Data science ไปทำงานด้าน ML กันหลายเดือนแต่ก็ยังไม่ได้คนซักที ซึ่งไอที่มันยังไม่ได้คนเนี่ยมันหมายถึงยังไม่มีคนที่เก่งพอจะมาทำงานด้วย มีแต่แบบกากๆ low-tier ต่อให้เข้ามา 10 คน ก็สู้เอาพวก Medium/High-tier คนเดียวไม่ได้ ที่บริษัทกุก็เป็นงี้ บอกว่ามี ผญ หลายคนมาสมัคร สุดท้ายแม่งไม่ผ่านสัมซักคน เศร้าชิบหาย TT

331 Nameless Fanboi Posted ID:61eAcz1LvF

>>330 อีกมุมนึงนะ
ถ้าจากที่มึงเล่า กู classify ตัวเองว่าน่าจะเป็นพวก mid-tier เกือบๆ high ละ แก้ปัญหาที่ค่อนข้าง specific ไม่มีคนทำได้ เคยจับงานตั้งแต่ visualize , feature analysis, computer vision, nlp มาหมดละ ทำ Architecture หรือ Deployment cloud k8s docker ไรงี้เป็นหมด
เหลือแค่พวก reinforcement ที่ไม่เคยทำ ส่วนเปเปอร์อินเตอร์ก็มีบ้าง แต่ก็ไม่ได้หรูหราฟู่ฟ่าอะไรมากมาย
ล่าสุดเมื่อกลางปีที่แล้วมี headhunt มาทาบทามให้ไปทำ บ. ด้าน ai ในเครือของบริษัทชั้นนำอันนึงมาเรียกไปสัมภาษณ์ กูก็เออน่าไปทำนะ เงินน่าจะดีกว่าที่เดิม

ตอนสัมภาษณ์แม่งเอาประมาณเด็กจบนอกมาสัมกูว่ะ พูดแต่เรื่องทฤษฎี ดููไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่อะเอาจริง โม้ซะเยอะ แล้วก็ถามเรื่องงานเก่าๆที่กูทำซึ่งกูก็เล่าๆไป แม่งมีเถียงงานกูด้วยบอก ทำไมไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งกูก็บอกมันว่าทำไปหมดแล้วมันไม่เวิร์ค เลยต้องทำอีกแบบนึง พร้อมอธิบายเหตุผล
ก็จบไป เหมือนจะรับนะ พอกูรีเควสเงินเดือน แม่งไม่สู้ว่ะ กูเลยไม่ได้ไปทำ
เอาจริงๆกูก็ไม่ได้เรียกแพงว่ะ แต่แม่งให้ได้ในเรตพวกเด็กจบใหม่ ไร้ประสบการณ์อะ แต่ตอนสัมนี่ทำเหมือนหา expert เลยนะ
อาทิตย์ที่แล้ว คนรู้จักกูที่อยู่บริษัทแม่ของบริษัทนั้นก็แชร์หาคนเข้าไอ้ตำแหน่งเดิมที่เรียกกูไปสัมนั่นแหละ ป่านนี้มันยังไม่ได้คนเลย

ความเห็นกูมันก็สมควรนะ บางบริษัทแม่งอยากหาคนเก่ง ทำงานได้ แต่ไม่สู้เงินเดือน สงสัยหวังฟลุคเจอพวกจบใหม่ mid tier มั้ง กูบอกเลยยากมาก
งาน ML ตอนเรียนกับโจทย์จริงแม่งคนละเรื่อง

332 Nameless Fanboi Posted ID:q+1fleKNWc

>>330 งี้ถ้ามีโอกาสไปโทด้าน ML จะดีกว่าเริ่มทำงานเลยไหม ไม่งั้นก็แบบ เป็นพวก Low-tier มีโท น่าจะ stand out ออกมาอีกหน่อย ไรเงี้ย
>>331 เออเนี่ย ผมงงมาก คือยังไม่ได้ทำงานด้านนี้จริงๆเลยนึกไม่ออกว่ามันจะเอาความรู้พวกนี้ไป Adapt กับ real-life problem ยังไง ที่ศึกษาอยู่คือเอา data set มา process หา insight นู่นนี่ แต่คิดว่าของจริงน่าจะยากกว่า แต่ยังไม่เคย เลยไม่รู้จะทำงานด้านนี้แล้วจะชอบจริงไหม

เมื่อคืนไปเห็น RoR มา มี บ นึงทำงานกับ ตปท ด้วย RoR ผมมองเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง เพราะว่าผมมีภาษาที่สามด้วย ไม่รู้จะไปทางไหนดีตอนนี้ เวลาน้อยละ

333 Nameless Fanboi Posted ID:w6nYG5DMFI

Bitkubเงินเดือนประมาณเท่าไรรู้ป่ะครับ

334 Nameless Fanboi Posted ID:9FDbNoUa8+

>>331 กูเป็นสาย backend แต่หางานก็โดนกดเงินประมาณนึงเหมือนกัน + ไม่ค่อยรับประจำ อยากได้แต่สัญญาจ้าง
คงเพราะช่วงนี้ ศก. ไม่ดีอ่ะแหละ พ้นโควิดไปได้น่าจะดีขึ้น

335 Nameless Fanboi Posted ID:6aKXHX2OAR

ระบายหน่อย กูสาย full stack web แต่ตอนนี้กำลังอยากกรีดร้อง งานครึ่งปี กว่าจะได้ข้อมูลว่าจะทำอะไรบ้าง ลากมา 3 เดือนประชุมแล้วประชุมอีก ลูกค้าเอากำหนดเร็วขึ้นอี๊ก แต่เพิ่มตังค์ให้ แล้ว sale รีบคว้าเฉย เพราะโควิตแถมดีไซน์ก็ทำ mock up หลอกลูกค้าไปอย่าง กูก็ทำไปอย่าง ตอนนี้เริ่มเห็นถึงความชิบหายมาลางๆ แล้ว ระบบใหญ่ชิบล็อกอินหลายประเภท แต่แต่ละ log in เซลเสือกโม้ว่าแบ่งสิทธิ์ sub ย่อยไปอี๊ก ไหนจะต้องทำ app มือถือด้วย

ระบบหลักล้าน programmer 1 หน่อ เวลาทำ ณ ตอนนี้เหลือเวลาไม่ถึง 2 เดือนทำทุกอย่าง เขียนโปรแกรม ดีไซน์ระบบ คุยกับลูกค้า ตั้งเซิร์ฟเวอร์ รวมทั้งดีไซน์ภายนอกเองอีกต่างหาก เวงแท้ ไม่ทำก็ไม่ได้ orz

336 Nameless Fanboi Posted ID:iOE7NGyBuH

>>335 ฟังดูยุ่งเหยิงชิบหาย โหดไปนะให้ทำคนเดียว

337 Nameless Fanboi Posted ID:7cnGLnY.Q9

>>335 เงินเดือนเท่าไหร่เนี่ย ทำเป็นหมดทุกอย่างเลยเรอะ

338 Nameless Fanboi Posted ID:7cnGLnY.Q9

>>335 เอาจริงป่ะ เราเงินเดือนเป็นแสน ยังทำไม่เป็นหมดที่ว่ามาแล้ว เราทำเป็นแต่ส่วนเล็ก ๆ

339 Nameless Fanboi Posted ID:wQf0N0EBuX

ถามประสบการณ์ทำงาน Dev. เริ่มงานแรกกันยังไงหรอครับ นี่คิดไม่ออกเพราะแม่งมีหลายภาษา หลายเฟรมเวิร์ก หลายรูปแบบเหลือเกิน นี่เลยนั่งคิดว่าตะเริ่มด้วยทางไหนดี อะไรไปไกลกว่า เงินดีกว่า ช่วยแนะนำหน่อย ตอนนี้ศึกษา AI, ML, Data นู่นนี่อยู่ อีกอย่างที่มองไว้คือพวก Backend Dev. ไม่เอา Mobile Dev. เพราะศึกษาแล้วไม่ชอบ ไม่รู้มีอะไรน่าสนใจอีกไหม รึควรไปทางไหนดี แนะนำหน่อยครับ

340 Nameless Fanboi Posted ID:FWmGLASvm7

>>335 บริษัทอยากทำของใหญ่ๆขายได้แพงๆเอาเร็วๆ แต่ไม่ยอมลงทุนนี่หว่า ถ้าได้งานใหม่มึงรีบชิ่งก็ดีนะ

>>339 แชร์ของตัวเองให้ฟัง แต่มึงอาจจะเอาไปประยุกต์ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้นะ
คณะกูเค้ามีจัดงาน job fair ให้บริษัทมาเปิดบูทชวนเด็กไปทำงานอยู่แล้ว กูก็เลยไปร่อนๆ resume
กูว่าเกรดกูกับ resume กูก็ไม่แย่นะ แต่ไม่รู้ทำไมร่อนไปเยอะมาก ซัก 10 ที่ได้ มีที่เค้าติดต่อมาที่เดียว เป็นบริษัทต่างชาติที่มีสาขาในไทย
ด้วยความที่ไม่มีที่อื่นติดต่อมา แล้วกูเองก็ไม่ได้ขวนขวายไปหางานจากแหล่งอื่น ก็เลยจบที่บริษัทนี้

ส่วนเรื่องภาษากับสายงาน ตอนนี้กูเป็น Backend Java คือคณะกูใช้ Java เป็นภาษาหลักเวลาเรียนอยู่แล้ว
กูเลยถนัดภาษานี้เด่นๆอยู่แค่ภาษาเดียว กูชอบภาษานี้ด้วย แล้วก็เป็นคนปรับตัวเข้ากับภาษาอื่นๆยาก เลยเก่งเด่นๆอยู่แค่ภาษาเดียว
เรื่อง framework สมัยนั้นงาน Java ถ้าเด็กเรียนจบใหม่บริษัทเค้าไม่ซีเรียสอยู่แล้ว ของพวกนี้มาเรียนกันหน้างาน แต่ภาษาอื่นๆไม่รู้นะ
แต่มันมามีปัญหาเอาตอนหางานที่ 2 นี่แหละ หลายที่มากแค่ไม่เคยใช้ Spring ก็สอบตกสัมภาษณ์แล้ว

ส่วนที่เป็น Backend เพราะชอบความตรงไปตรงมาของงาน
มันไม่จุกจิกเหมือนงาน Frontend ที่มีปัญหาเรื่องความสวยงาม ทำงานไม่เหมือนกันเพราะปัญหา environment ของคนใช้ที่เราคุมไม่ได้
แล้วก็เรื่องเทคโนโลยีด้วย สาย web ไม่ชอบ JS เพราะลักษณะภาษาที่เรียกได้ว่าแทบจะตรงข้ามกับ Java ทุกอย่าง
สาย mobile ยุคนั้น dev tool library Android ยังไม่ดีเหมือนทุกวันนี้ แค่ทำแอพในโปรเจควิชาๆนึงก็ไม่อยากกลับไปยุ่งกับมันแล้ว
iOS นี่ไม่เคยแลเลย เพราะไม่ชอบแนวทางของ Apple

341 Nameless Fanboi Posted ID:jvYAr.c62y

>>340 ขอบคุณมาก อยากฟังอีก ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องพวกนี้ ไม่รู้จะปรึกษาใคร ฮา

342 Nameless Fanboi Posted ID:9urwPmGFv8

>>339 กูยุคแรกเริ่มต้นด้วยงาน support ซ่อมคอม ติดตั้ง server อะไรพวกนี้ ตอนนั้นหัวหน้ากูเค้าบอกถ้าว่างนักก็เขียนโปรแกรม support user บ้างสิ ดูท่าทางน่าจะเขียนเป็นนิ (ในหัวกูจบช่างไฟ) แต่ก็ทำนะ ช่วงนั้นใช้ vb macro excel foxpro access กับฐานข้อมูลโง่ๆ ทำอยู่พักนึง

จากนั้น พอย้ายที่มาเขียน delphi + oracle พวกระบบ ERP ตอนนั้นก็เขียน delphi ซะจนพรุน ทำ component เอง สมัยนั้นยังไม่มี machine learning ใช้ ocr แบบเขียน logic ดิบเอง อ่อที่พีคหน่อยทำระบบ POS โต้รุ่ง 2 อาทิตย์เสร็จ จากนั้นปวกกระบาลไปกับระบบบัญชีซะเต็มคราบเป็นปี จริงๆ ตอนทำระบบ ERP ช่วงนั้นระบบกันบังก็ผ่านมาหมดนะ ส่วนฐานข้อมูล บางทีก็สลับไปมาไม่ได้ oracle อย่างเดียว ms sql บ้าง บางทีก็ไปเขียนโปรแกรมเสริมให้ win รุ่นเก่าเพราะเครื่องจักรมัน update ไม่ได้

ถัดมาเขียนเวป html php mysql ทำระบบจองโรงแรม ร้านค้า อะไรพวกนี้ แล้วระหว่างนี้ก็เขียนพวกเกม flash ช่วงแรก ส่วน php framework ช่วงแรกที่มีให้ใช้มันห่วย เพราะดันใช้กับบาง server ไม่ได้ก็ทำเอง ส่วน flash ก็ทำนะตอนนั้น time frame ไม่ได้สน จับเขียน script ดิบเนี่ยล่ะ ยุคต่อมาก็ย้ายมา html5 อ่อ fw javascript ก็ทำนะ แล้วบางทีก็โดดไปแก้ .net แล้วแต่เซลว่าจะขายอะไรมา เน้นงาน ตปท. ระบบคล้ายๆ พวก วงใน shopee lazada หรือทำเว็ปคล้ายๆ fb พวกนี้เคยทำมาหมดนะ ช่วงทำเว็ปได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเกี่ยวกับเรื่องดีไซน์ ออกแบบ ux มั้ง เจอคนตรวจงานเป็นคนฝรั่งเศส แม่งโคตรเคี่ยวจัด เลยได้พวกการออกแบบช่องไฟ สี ui มาเยอะ ส่วนฝั่งญี่ปุ่นก็ไม่แพ้กันแม่งเอา code ไปอ่านแล้วไล่บี้มาเป็นชุดเลย นอกจากนั้นช่วงนี้สิ่งที่กูพัฒนามาด้วยความขี้เกียจ ก็พวกเขียน scrip automation มั้ง เพราะระบบใหญ่ไม่เขียนก็ลำบาก

ส่วนด้านมือถือ จริงๆ กูเขียนมาตั้งแต่ objective c ช่วงแรกอยู่แล้วเลยไปไวหน่อย ไอ้ที่ต้องมา ล้าง mem เองน่ะ แล้วก็เปลี่ยนผ่านมาเรื่อย จนถึงตัว swift ปวดกระบานหน่อยตอนย้ายเก่ามาใหม่ แถมช่วงแรกเปิลมันเสือกทิ้ง bug ยิ่งพวกจัดการ memory leak แรกๆ ต้องรื้อเองทั้งกะบิเลยคล่องหน่อย แล้วก็มาเล่นด๋อยต่อ พักนึง ช่วงหลังขี้เกียจถ้าไม่ได้ใช้โปรเจคที่ต้องคุม memory ที่พิศดารมากก็จะใช้ react เผา

อ่อเกมกูก็เขียนนะ แต่เป็นเกมแคสช่วล ทำไม่กี่อาทิตย์เสร็จอะไรพวกนี้น่ะ เกมกากๆ ยุคแรกก็ flash script จากนั้นพอลงมือถือก็ก็ใช้ cocos2d พอทำได้ซักพัก ช่วงนึงก็ใช้ fusion เผาเพราะมันทำไวดี แต่ช่วงหลังก็เปลี่ยนมายูนิตี แต่พว sprite พวกนี้ได้ดีไซน์เนอร์ญี่ปุ่นมาทำให้ และเป็นช่วงที่ภาษาอังกฤษกูวิบัติมาก

ส่วนเรื่องอื่น พวก bot เทรดหุ้นกูก็เขียนนะ ลำบากเรื่องคำนวณ rsi mdca wave ผลก็ตรงบ้างไม่ตรงบ้าง

343 Nameless Fanboi Posted ID:ia/nkOrjZ+

ที่ทำงานใครใช้ vmware horizon client มั่งวะ กุว่าเหมือนมันกระตุกๆ แล็คๆ ประมาณ response ช้า ดีเลย์ไป 0.2 0.3 วิประมาณนี้อ่ะ ไม่สมูทเหมือนเล่นเครื่องตัวเอง

344 Nameless Fanboi Posted ID:PjEjbJ1lSo

>>339 ลองดูทาง Devops เงินสตาร์ทค่อนข้างสูง แต่ไม่ค่อยมีในบ.ขนาดเล็ก

345 Nameless Fanboi Posted ID:6j4c8x9sLD

>>343 บริษัทเก่าเคยบังคับให้ใช้ ของมึงดีเลย์ 0.2-0.3 วิยังดี ที่กูเจอน่าจะประมาณ 0.5 วิได้ หัวควยมากๆ

346 Nameless Fanboi Posted ID:K9MODOuQd5

>>331 เรื่องโดนกดเงินน่าจะเป็นเรื่องปกติของตอนสมัครงาน อันนี้อยู่ที่ศิลปะการเจรจาล่ะ ส่วนเรื่องสัมภาษณ์ที่พูดนั่นพูดนี่ ถามจี้ คิดว่าน่าจะเรื่องปกติ
อารมณ์แบบอยากรู้ว่าเรารู้จริงหรือรู้จำเฉยๆ วัดกึ๋นน่ะแหล่ะ เคยโดนแบบถามเรื่องโปรเจคจบ นั่งถามตอบกับคนสัมภาษณ์อยู่ครึ่งชั่วโมง คุย วิเคราะห์ว่าแบบนั้นทำได้ด้วยเหรอ ทำไมได้ ลองวิธีอื่นเป็นไง บลาๆๆ ก็ตอบไปด้วยหลักการที่ศึกษามา

>>332 ตอบไม่ได้แฮะ เพราะส่วนตัวทำงานก่อนค่อยไปเรียนต่อ แต่ในมุมมองผมนะ คิดว่าดีกรีสูงมันได้เปรียบกว่านิดหน่อยในการหางานสายนี้ หลายบริษัทรับขั้นต่ำ ป.โท อะ ยังไงก็มีโอกาสเยอะกว่าอยู่แล้ว

347 Nameless Fanboi Posted ID:2b3EGDZGdn

>>344 DevObs ไม่เคยเห็นเค้ารับ Entry level เลยอะพี่โม่ง เคยเห็นแต่ exp 3++

348 Nameless Fanboi Posted ID:BTIKb1ebWF

>>347 นั่นสิครับ ผมอยากเปลี่ยนสายไปเป็นdevopsแต่ไม่มีประสบการณ์เลย ผมจะไปลงเรียนฟรือหาประสบการณ์จากไหนดีครับ

349 Nameless Fanboi Posted ID:ukPOJCH4b8

>>331 กูเป็นเด็กจบใหม่ กูเคยสมัครงานตำแหน่ง Network Admin ที่จังหวัดนึงแถวภาคเหนือ สัมกับหัวหน้าเขา ถามมากูก็ตอบไปปกติ แต่บางทีกูก็รู้สึกว่ามึงถามอะไรที่มันเลยขอบเขตของ Network Admin ไปแล้วป่ะวะ จนกูงงสุดคือเขาถามกูว่าปีนเสาไฟได้ไหม กูก็แบบ "ห๊ะ?" ปกติ Network Admin ต้องปีนเสาไฟไปลากสายด้วยหรอวะ ทีนี้ตอนถึงเรื่องเงินเดือนกูเรียกไปแบบเจียมตัว 18K เขาไม่สู้ กดให้เหลือ 15K กูก็เริ่มใจไม่ดีละ พอเหลือ 15K แม่งถามต่อว่าต่ำลงกว่านี้ได้ไหม กูชิ่งเลย หลังจากนั้นก็เห็นเขายังคงรับอยู่ถึงทุกวันนี้

350 Nameless Fanboi Posted ID:iEB6jYKyQq

>>347 udemy เลย แล้วพวก gcp, aws อะไรพวกนี้ก็มีให้ใช้ฟรี 300 เครดิตอยู่นะ ลองเล่นดูได้ เริ่มจาก ci/cd แบบง่ายๆก่อนก็ได้

351 Nameless Fanboi Posted ID:xOPDsZsx56

>>346 ถามหน่อยว่าที่ว่ารับขั้นต่ำ ป. โท หมายถึงสายเฉพาะทางอย่าง AI, Data Scientist อะไรงี้ใช่ป่ะ เพราะกูยังไม่เคยเจอที่ไหนมีขั้นต่ำ ป. โท เลย

352 Nameless Fanboi Posted ID:.fhE5Zc.O.

>>351 ใช่ เข้าใจถูกแล้ว

353 Nameless Fanboi Posted ID:W4tU+4UDpR

เข้ามาเก็บความรู้ และชีวิประวัติ 5555

354 Nameless Fanboi Posted ID:8Ktj92mLy5

คือเราเป็นนักศึกษาอยู่นะ คือตอนนี้เรากำลังดูวิธีเขียนแบบoopบนjavaอยู่ คือเราก็อ่านตามพวกบทความที่หาจากกูเกิลแล้ว พวกคอนเซ็ปอะไรพวกนี้ก็พอเก็ตๆอยู่ แต่อยากรู้ว่าเวลาเค้าเขียนกันจริงๆเค้าเขียนกันยังไง ใครพอมีตัวอย่างบ้าง หรือควรพิมพ์ในกูเกิลว่าอะไรดี

355 Nameless Fanboi Posted ID:BrIWx8TUai

>>354 ถ้า Java Frontend ยุคนี้น่าจะเหลือเด่นๆแค่ Android
ส่วนมากจะเป็นแนวมี class/interface ของ library สำเร็จรูปมาให้ แล้วต้องมา extends/implements จาก class/interface พวกนั้น
แล้ว override method ต่างๆตามจุดที่ต้องการ custom การทำงาน/การ display เอาเอง
อยากเห็นตัวอย่างก็ต้องเรียนเขียน Android เลยแหละ

ส่วน Backend โค้ดที่เขียนกันเองในบริษัทส่วนมากไม่ค่อยประยุกต์ใช้ประโยชน์จากอะไรพวกนี้มากหรอก
อย่างมากก็แค่แยกโค้ดไปตาม class ต่างๆเพื่อจัดโค้ดให้มันเป็นหมวดหมู่เฉยๆ
แต่ก็มีพวก library / framework หลายตัวที่ใช้ประโยชน์จากอะไรพวกนี้ เพราะงั้นก็ควรรู้ไว้
อยากเห็นโค้ดที่ใกล้เคียงกับกับการใช้ทำงานจริงลองไปดูพวก Spring Framework เอา เพราะเดี๋ยวนี้งาน Backend Java เป็นตัวนี้แทบจะหมดแล้ว

356 Nameless Fanboi Posted ID:RP2O8GM6Tb

มีใครพอบอกได้มั้ยว่า ไอที่เขาประกาศรับกันในเพจ facebook Job Thai For Programmer
สาย Outsourceสัญญาจ้าง ที่ว่าให้เงินเดือน30,000 - 65,000 (บริษัทไทยนะ ไม่ได้ภาษาอังกฤษ)
สมมติเรียกไป 65,000 ตรง max พอดี ถ้าผ่านไป 1 ปี ต่อสัญญา เงินเดือนมันจะขึ้นมั้ย หรือมันจะตันละ ไม่ขึ้นละ
แล้วถ้าขึ้นเนี่ย อยากรู้ว่ามันจะไปตันที่ประมาณเท่าไหร่อะ

357 Nameless Fanboi Posted ID:RP2O8GM6Tb

ปล.ลืมบอก สาย C#.NET นะ

358 Nameless Fanboi Posted ID:qyalshtwOX

Outsource บริษัทเดิม ต่อสัญญาอย่าหวังว่าเงินจะขึ้นเลย ยิ่งบริษัทไทยบอกเลยว่ายากว่ะ

359 Nameless Fanboi Posted ID:vm.dnLKcOB

สอบถามหน่อย คือตอนนี้เราเป็นกราฟฟิคดีไซน์ อยากผันตัวไปเป็น Web-dev เราจำเป็นต้องมีทักษะอะไรที่ต้องรู้มากแค่ไหนบ้าง คือเคยเรียนมาบ้างตอนสมัยเรียนแต่ไม่ได้ลงลึก ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาไปถึงไหนกันแล้ว ขอบคุณล่วงหน้านะ

360 Nameless Fanboi Posted ID:oy9fmawFGi

>>359 HTML CSS javascript react

361 Nameless Fanboi Posted ID:wv52A8KRdN

>>359
หลักสูตรเร่งรัด
Wordpress + Theme สำเร็จรูป จบปิ๊ง
พอคล่องแล้วก็หัด Html CSS PHP jQuery(JavaScript) เอาไว้ทำ Theme เอง ตอนนี้หา plugin มาทำ custom field pos อะไรพวกนี้
แค่นี้ก็ไปสมัครงานรับงานระดับย่อยได้แล้ว เอาจริงๆ กราฟฟิกดีไซน์ส่วนมากจะจบแค่นี้น่ะ อาจจะโดดไปทำทีม E-Commerce สำเร็จรูป ตัวอื่นต่อก็ว่ากันไป

แต่ถ้ามึงไม่สนใจงานดีไซน์ต่อแล้วจะมา Backend , Frontend ทำทั้งระบบใหม่ รูปแบบ Enterprise หรือจะทำ Start Up ของตัวเองอะไรก็ตามแต่ อันดับแรกลองแกะ DB WP ได้ก่อน แล้วค่อยมา ไม่งั้นออกแบบระบบได้ง่อยแดก เจออะไรจำกัดนิดหน่อยไปไม่เป็น

ถ้ามาส่วนนี้ให้เพิ่มความรู้ฐานข้อมูลหน่อย หัดเขียน stored procedure trigger แล้วก็หัดตั้ง host ใช้งานพวก AWS สร้าง EC2 , Firebase อะไรพวกนี้ด้วยถ้าจะลุยเดี่ยว ส่วนงานกลุ่มอาจจะไม่ต้องยุ่งกับ server มากนัก แต่หัดใช้ GIT ด้วยก็ดีใช้ไม่เป็นโดนด่าเสียหมานะมึง

ส่วน Javascript framework หัดใช้ Angular , React , Vue เป็นให้หมดทั้ง 3 ตัวนั่นล่ะ แล้ว PHP , C# ก็อ่านไว้บ้างก็ดี ถ้าเป็นงานบริษัท 3rd party ประเภทขายงานชาวบ้านได้ใช้แน่เพราะงานเก่ามันก็วนๆ กับ PHP , C# นั่นล่ะ

362 Nameless Fanboi Posted ID:tGyPexcKl0

ถามหน่อยพวก webassembly มีแนวโน้มเป็นอย่างไรในอนาคต

363 Nameless Fanboi Posted ID:8pHBIQ25Jb

>>362 ตอนนี้ยังไม่น่าสนใจว่ะความคุ้มค่าในการพัฒนายังต่ำอยู่ ถึงจะเอา Rust มาเขียนก็เปลืองพลังงานในการเขียนมากอยู่ดี ถ้าจะให้คนมาใช้กันเยอะต้องทำ fw มาครอบ หรือไม่ก็เครื่องมือแปลง code ให้ง่ายกว่านี้

364 Nameless Fanboi Posted ID:CzWye/rJrV

สัมภาษณ์งานตำแหน่งพวก AI developer นี่มันต้องเตรียมอะไรไปบ้างวะ คือกูจบใหม่

365 Nameless Fanboi Posted ID:0h5yObVcla

คำถามเดียวกับปีที่แล้ว (ที่ยังไม่มีคนตอบ)
ที่ไหนดีระหว่าง Agoda กับ ExxonMobil

366 Nameless Fanboi Posted ID:yT9dJ60bQP

ใครมีวิธีทำให้เน็ตเปิดเว็บจีนไวๆบ้างวะสาสส เนตบ้านกูออกจีนกากเหี้ยๆเลยจ้า

367 Nameless Fanboi Posted ID:O.l6UOT+A3

>>365 ex

368 Nameless Fanboi Posted ID:W/Wnog68G6

>>359 ตามรอยแบบที่ >>361 แนะนำเลย เราก็เคยเป็นกราฟิกที่ปัจจุบันเป็น Front-end เราเริ่มจาก HTML/CSS ต่อด้วย jQuery ต่อด้วย Wordpress (modify theme นะไม่ใช่อัพเดทคอนเท้นท์) เลยต้องแตะ PHP ด้วยเพื่อ custom ต่างๆ นาๆ เหล่านี้คือส่ิงที่มีก่อนได้งานปัจจุบัน ตอนนี้อยากศึกษา React อยู่ ทำตามคอร์สใน Udemy ยังใช้ ES6 ไม่คล่องมือเลย

ที่อยากเสริมคือส่วนที่เราคิดว่าเป็นจุดเด่นของคนที่เคยเป็นกราฟิกมาก่อนจับงานฟร้อนท์เอน คือ ทำ ตาม ดีไซน์ เท่าที่รู้มาเดฟจ๋าๆ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยใส่ใจรายละเอียดพวกนี้ เขาไม่เข้าใจว่าแพดดิ้งต่างกันนิดๆ หน่อยๆ จะเป็นไร มีเส้นโผล่มาพิกเซลนึงทำเป็นเรื่องใหญ่ สีเอยฟ้อนต์เอย คนที่ดีไซน์มาก็อยากจะให้ผลสุดท้ายที่ออกมา เหมือน ดีไซน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เราว่าความรู้ CSS และมุมมองแบบดีไซน์เนอร์นี่แหละที่ทำให้เราได้งาน

369 Nameless Fanboi Posted ID:W/Wnog68G6

>>368 อ่อ ที่ลืมไม่ได้สุดๆ (แต่เมื่อกี๊ลืม 555) คือเรื่อง Responsive เรื่อง grid ต่างๆ ก็ต้องศึกษาด้วยนะ

370 Nameless Fanboi Posted ID:JHXL+qIGPm

>>367 ขอเหตุผลได้ไหมว่าทำไม ตอนนี้กูเครียดมากๆ เลือกไม่ถูก

371 Nameless Fanboi Posted ID:WJ6ufGB6oB

>>370 ถามหน่อยได้มั๊ย สองที่นี้เรทเงินเดือนเท่าไหร่วะ ตำแหน่งอะไร

372 Nameless Fanboi Posted ID:/8jRdIaSTy

>>370 มึงเซิชในกูเกิลก็น่าจะรู้นะ แนวโน้มธุรกิจขาลงทั้งคู่ แต่ ex มันใหญ่มากๆๆ เงินเยอะขนาดที่ว่าน่าจะทำอะไรได้กับปัญหาที่เ(ชิญอยู่ได้ agoda ก็แนวโลคัลหน่อย แม้โอกาสทางธุรกิจจะยังพอมีทางออกหลังโรคระบาดจบแต่คู่แข่งก็เยอะ

373 Nameless Fanboi Posted ID:M9TwNyjkud

>>365 เคยสัมสองที่ตอนนี้อยู่A เงินดีแต่งั้นๆอ่ะมันดูunorganizedแปลกๆ มีความคิดว่าอยากลองเปลี่ยนสายไปสมัครที่exอยู่ dev->platform แต่เงินน่าจะลด

374 Nameless Fanboi Posted ID:M9TwNyjkud

>>370 จบใหม่?

375 Nameless Fanboi Posted ID:g7o/RJmw+x

>>372 จริงๆ เสิชมาพอสมควรแล้วเหมือนกัน แต่ตัดสินใจไม่ได้เลยมาถามความเห็นดู ขอบคุณครับ
>>371 กูสมัครพวก dev ไป ส่วนเรื่องเงินขออุบไว้ก่อน
>>373 ตอนนี้ตอบตกลงที่ ex ไปแล้ว ส่วนเรื่องสายงานนี่กลับกันเลย (โม่งแตกใน 3 2 1...)
>>374 ใช่ครับ

376 Nameless Fanboi Posted ID:uAyWhINms4

>>375 บอกหย่อยได้มะว่าทำไมเลือก e ทั้งๆที่ไม่ชอบสายงาน Aน่าจะให้เยอะกว่าหนิเท่าที่เคยสัมมาทั้งคู่

377 Nameless Fanboi Posted ID:Tz/b9GnoNb

>>376 ตัดปัจจัยเรื่องงานและเงินออกไป e เป็นบริษัทที่ใฝ่ฝันอยากร่วมงานมานานแล้ว ที่สำคัญคือประทับใจกับบุคลากรของบริษัทนี้มาก ตั้งแต่ hr คนที่สัมภาษณ์ ไปจนเจ้าหน้าที่ ตอนไปที่บ.ทุกครั้งรู้สึกว่าทุกคน nice มาก ทุกๆ คนจริงๆ แบบไปแล้วไม่อึดอัดใจเหมือนที่อื่น มีโอกาสได้ไป open house ก็รู้สึกว่าคนแบบนี้แหละที่กูอยากจะเป็น คิดว่าทำงานที่นี่จะมีความสุข
จริงๆ ต้องเล่าก่อนว่าเมื่อก่อนกูเป็นคนที่ทำทุกอย่างเพื่อเงิน แต่รู้สึกตัวอีกที กูแทบไม่มีเพื่อนเลย ป่วยเป็นโรคเครียดเรื้อรังเพราะการเรียน เพราะแบบนี้มั้ง กูเลยคิดว่า ตอนนี้กูอยากพัฒนาด้านความเป็นมนุษย์บ้าง กูทำทุกอย่างเพื่อเงิน ลืมไปว่าเป้าหมายคือการมีความสุข แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีความสุขเลย :(
จริงๆ ได้เรียกสัมหลายที่มาก ทั้งที่ที่ให้เงินเยอะกว่าสองเท่า บ.ที่กูชอบเนื้องานมาก และบ.ที่เคลมว่าเป็นที่ 1 ที่เลือก e อีกส่วนก็เพราะติดต่อมาไวด้วย ไม่รู้เลือกผิดเลือกถูก แต่เลือกไปแล้ว T_T

378 Nameless Fanboi Posted ID:Sm9zmp/nbK

>>377 อ่านแล้วคิดว่าเลือกถูกนะ เพราะตอนนีส่วนตัวได้เงินโอเคแต่เนื้องานไม่ชอบเลยก็sufferอยู่เหมืนกัน คิดว่าถ้าเลือกeไปตอนแรกอาจจะแฮปปี้กว่านี้

379 Nameless Fanboi Posted ID:.gZYL/B8e5

>>377 มันก็แล้วแต่ทีมด้วยแหละ ถ้าไปเจอทีมที่งานหนัก หัวหน้าไม่ค่อยดีมันก็แย่อ่ะ

380 Nameless Fanboi Posted ID:xZ+DS+g3ix

เปิดมาดูเล่นๆแล้วเจอ Angular กูตกใจเลย สรุปแพ้ React อย่างเป็นทางการแล้วใช่ป่ะ https://killedbygoogle.com

381 Nameless Fanboi Posted ID:wYgaDPJTf/

>>378 ขอบคุณมากค้าบ แต่คิดอีกแง่ ถ้าเลือก e ตั้งแต่แรก ก็ต้องมีเสียดายบางอย่างแหละ (เหมือนกูที่เสียดายเรื่องเงิน 😂)
>>379 จริง ที่สัมภาษณ์งานมาทุกที่ หัวหน้ามีผลต่อการตัดสินใจมาก

382 Nameless Fanboi Posted ID:ycD1kkB1Zy

>>380 ไม่ใช่ AngularJS หมายถึง Angular1 เวอร์ชั่นใหม่ ๆ เค้าเรียก Angular แทนแล้ว ที่ตายตือ AngularJS ไม่ใช่ Angular

383 Nameless Fanboi Posted ID:6l2X6ZKVJ2

ปกติเวลาย้ายงาน เรียกเงินเดือนเพิ่มขึ้นกี่%กันอะ 30%นี่เยอะไปปะวะ ปสก4ปี

384 Nameless Fanboi Posted ID:YRjcRAmI/x

>>383 ย้ายจากที่ๆแล้วกูได้ขึ้นเกือบ 2 เท่าอะ จาก 30k ปลายๆ เป็น 60k หน่อยๆ

385 Nameless Fanboi Posted ID:Wv8xMTDMgQ

>>382 แต๊งมาก เข้าใจละ ตอนแรกตกใจนึกว่า Google จะทิ้ง Angular แล้ว

386 Nameless Fanboi Posted ID:Clo.rlhp3Q

>>385 ไม่เป็นไรนะ สงสัยอะไรเข้ามาถามได้ตลอดเลย

387 Nameless Fanboi Posted ID:ctV8B7uIYf

บ่น ...

แก้เพิ่มช่องนิดนุง แยกช่องก็ดีนะดูง่าย
- อีเหี้ยนิดนุงของมึงนะ รื้อตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ไหนจะต้องไปแก้ db ที่เข้ามาแล้วอีก เยอะชิบหาย

อุ้ยเวลาเท่านี้ลูกค้าเข้าไม่เอาหรอก
- ให้เวลาแค่นั้น มีมนุษย์คนไหนก็ทำไม่ทั้นหรอกเว้ย

ลูกค้าส่งข้อมูลมาแล้วทำไม่ทำไม่ทัน
- ก็มุงส่งมาเมื่อวานเนี่ยนะ ทันก็บ้าละ ข้อมูลไรวะขยะชิบ กำหนดไว้อย่าง ส่งมาอีกอย่าง ขยุ้มรวมกันหมดเลย

ทำไม search แบบนี้ๆ ไม่ได้เหรอจ๊ะ
- ก็ข้อมูลมึงมันเหี้ยไง ตอนแรกคุยซะดิบดีจะมีโน่นนี่ไหน จะไปหาเจอได้ไงวะ เล่นเอาทุกอย่างรวมเป็นบรรทัดเดียวกันหมดเลย แถม record ข้อมูลเดียวกันเสือกกรอกไม่เหมือนกัน

ปรับดีไซน์หน่อยนุง
- ดีไซน์เชี่ยไรวะเนี่ย แต่ละหน้าทำไหมหมดเลยนี่หว่า ไหน guide line ไม่ได้ทำตามเลยหรือวะ ขนาดปุ่มหน้านึงกีสีนึง input ก็คนละแบบ คว***ยเถอะ

จะเอา app ด้วย นี่ไงๆ มีเขียนบอกด้วยนะ
- fu*k you มึงมาบอกเมื่อวานเนี่ยนะ

388 Nameless Fanboi Posted ID:Hl7jxe4NE5

>>387 สยอง

389 Nameless Fanboi Posted ID:zyVur1Cks+

เพิ่งจบใหม่ไปสาย network engineer เพียวๆจะรอดมั๊ยครับในยุคนี้

390 Nameless Fanboi Posted ID:1Ar1hsKlZD

>>389 เริ่มต้นสายนี้เพียวๆ ได้ แต่ต่อไป มึงต้อง เป็นอย่างอื่นด้วย ไม่ใช่ network engineer เพียวๆ
กุไม่ได้หมายถึง ซ่อมแอร์ ล้างตู้เย็น บลาๆ นะ
หมายถึงงานที่มันสัมพันธ์กับสาย network eng อ่ะ อาจจะต้องไปทำ role อื่นๆ ด้วย

391 Nameless Fanboi Posted ID:gGBQ2VSR/T

ไม่รู้เป็นกันบ้างหรือเปล่า

แต่ส่วนตัวยิ่งงานไกล้ deadline แล้วเหลือส่วนที่ต้องทำเยอะ logic จะวินาศสันตะโรมาก code ขยะมันจะเกิดช่วงนี้ คือ สมงสมองไปหมดล่ะแยก class component เหรอ ไม่ย่งไม่แยกมันล่ะ

พอมีเวลาย้อนกลับมาดูก็ตลกตัวเอง ช่วงนั้นกูทำบ้าอะไรไปวะเนี่ย function โง่ๆ ก็เสือกเขียนซ้ำซากไม่รู้ตั้งกี่ตัว อารมณ์หงุดหงิด จะรวมเหรอ test ไม่ผ่านซักทีกูก็ก็อปโง่ๆ แยกมันเอาดื้อๆ เนี่ยล่ะ db query ก็เลือกเขียนใหม่ซ้ำไปซ้ำมา ทั้งที่รวมกัน หรือเขียนเป็น view ให้เรียกใช้งานง่ายๆ ได้ แต่อารมณ์ตอนนั้นมันก็คิดอะไรไม่ออก ได้แต่คิดว่าเอาให้เสร็จไว้ก่อน

392 Nameless Fanboi Posted ID:GCIIMyR2fj

>>391 เป็นเหมือนกูเลย55555 เน้นงานเดินไปข้างหน้าเรื่องอื่นไว้ทีหลัง55555

393 Nameless Fanboi Posted ID:0aZu.udQkr

>>391 ประจำอ่ะแหละมึง หนักกว่าพวกนั้นคือปล่อยบัคโง่ๆเป็นฝูงนี่แหละ
โดยเฉพาะเวลาที่ไม่ได้งานเยอะอย่างเดียวแต่ต้องทำหลายๆอย่างพร้อมกันด้วย

394 Nameless Fanboi Posted ID:q3NWKOuN7G

Google Analytic Cert. นี่ legit แค่ไหนอะ บ ในไทยมองว่ามันมีค่าไหม สมควรเสียตังเอาไหม ว่าจะทำงานสาย data จบปีหน้า

395 Nameless Fanboi Posted ID:WPQZqOk.4J

>>394 สาย data กูว่า cert ไม่ได้จำเป็นเท่าไหร่ มันวัดความเก่งไม่ค่อยได้อะ cert แต่ละตัวมันแค่ดูว่าใช้ tool นั้นๆเป็นรึเปล่าทางทฤษฎีไม่ได้งัดกึ๋นอะไรเท่าไหร่ งาน data จริงๆมันดูแค่ประสบการณ์มากกว่า
เวลาสัมภาษณ์นี่คุยกันปากเปล่าเรื่องโจทย์จริงเลยว่าเจอแบบนี้จะวิเคราะห์ยังไง visualize ยังไง เอา tool ไหนมาจับ ถ้าจะทำ ai ควรใช้ลักษณะไหน เอา model อะไรมาใช้ แบบนี้มากกว่า cert ไม่ค่อยได้ดูอะ
มีไว้ก็ดีแหละ แต่กูไม่ค่อยอยากให้ไปเสียเงินแพงๆ ได้กระดาษมาใบนึงที่วัดอะไรไม่ค่อยได้

396 Nameless Fanboi Posted ID:QLbFXlBm.H

>>395 โอเค กูคนละโม่งกับ 394 นะ แต่กูกำลังจะย้ายสายงานไปสาย Data & Information tech ภายในปีหน้านี้แหละ ว่าจะเรียนออนไลน์เก็บใบ Cert เอาเยอะๆ แต่ทีนี้ จะฝึกประสบการณ์ผ่านด้านใหนได้บ้าง เพราะแค่ทำโจทย์ตามคลิปสอนมันคงไม่พออ่ะ แล้วส่วนใหญ่เครื่องมือทำงานต้องใช้ Spec สูงๆระดับมากแค่ไหนวะ คือกูจะลงทุนลงอุปกรณ์เฉพาะไปเลย

397 Nameless Fanboi Posted ID:8tZz+dzlDy

>>396 ไม่ต้องถึงกับโจทย์จริงอะ แต่ต้องพอรู้ว่างานแบบนี้จะเอาเครื่องมืออะไรมาจับ soft skill ก็สำคัญ ต้องอธิบายคนอื่นได้ว่าเราทำอะไร แก้ไขปัญหาลักษณะ data ควรเป็นยังไง ข้อจำกัดต่างๆของ data ที่เรามีสามารถเอามาทำอะไรได้ อะไรทำไม่ได้ต้องเก็บเพิ่ม การเทสผลจะเทสยังไง

ส่วนโจทย์ยอดฮิตในไทยก็จะมีพวก data classification เช่น วิเคราะห์การปล่อยเงินกู้, วิเคราะห์การทำธุรกรรมต่างๆ
ถ้าสาย image ก็พวก คัดแยกเอกสาร, ทำ ocr, object detection, image matching and retrieval พวกเนี้ย
สาย nlp ก็แชทบอท, sentimental analysis, dialogue classification

ลองเข้าไปดูใน kaggle ก็ได้ ส่วนนึงเป็นโจทย์จริงนี่แหละ

บางอย่างต้องเริ่มเองทั้งหมดก็ไปใช้บน cloud ได้ ก็ต้องพอรู้เจ้าดังๆ พวก azure, gcp, aws

398 Nameless Fanboi Posted ID:JKbGMNrS8I

>>395 อ่า คือประสบการณ์เป็นศูนย์ อยากมีอะไรที่แบบ stand out จากคนสมัครอื่นๆอะ อะไรน่าสนใจมั่ง

399 Nameless Fanboi Posted ID:S5V.0IWEUk

>>398 ลองลงพวก Hackaton ต่างๆนาๆก็ได้นะ มีทั้งไทยทั้งของนอก เดี๋ยวนี้แข่งออนไลน์กันแหละ ไม่จำเป็นต้องติดอันดับก็ได้ จะมีภาษีกว่าพวกใบ cert ต่างๆ เวลาสัมภาษณ์จะได้มี topic คุยว่าไปแข่งมาทำโจทย์อะไร แก้ปัญหาอะไร
ไม่ก็ทำพวกโจทย์ใน kaggle ก็ได้ ให้มันพอรู้ จะได้มีอะไรคุยตอนสัมภาษณ์

400 Nameless Fanboi Posted ID:LV.tCP07BM

React Native นี่มันอวยเกินจริงไปไหมวะ เขียนจริงอยากจะร้องเชรี่ย ช้ากว่าเขียนบน Xcode , ด๋อยสตู มาก

ถ้าไม่ผ่านตัว Expo ชิวิตบัดซบซิบ เสียเวลา config มากกว่าเขียน code อีกสัด ถ้าจะง่อยขนาดนี้สู้ไปใช้ Ionic ยังจะปิดงานไวกว่า

401 Nameless Fanboi Posted ID:C/jA9G0bEe

>>400 มันเอาไว้ให้พวกเขียน js ทำง่ายๆ
cross platform ไปใช้ flutter ดีกั่ว

402 Nameless Fanboi Posted ID:.Q7dAPLOCA

ขอความช่วยเหลือหน่อย regex บน python

[7zu7] Erosion ~First Night~ (Comic Bavel 2016-07) {incest ahegao anal busty forced creampie tentacles x-ray socks pubic-hair double-penetration squirting lactation milf}.zip

จะแยก

{incest ahegao anal busty forced creampie tentacles x-ray socks pubic-hair double-penetration squirting lactation milf}

ออก ต้องเขียนประมาณไหนอะ

(^\[.+?\])\s*?(.+$)

403 Nameless Fanboi Posted ID:+aq7y/pUOU

(^\[.+?\])\s*?(.+)\s*?(\(.+?\))\s*?(\{.+?})(.+$)

ทำเองได้ละ

404 Nameless Fanboi Posted ID:2Lxq8ExF1u

>>402-403 มาไม่ทัน แต่มาแนะนำเว็บ debug regex เลือกแยกสำหรับแต่ละภาษาได้ + มี quick reference ช่วยเผื่อลืม
https://regex101.com/

405 Nameless Fanboi Posted ID:e5UIzPbRUt

>>403 มองผ่านๆ เห็นเป็น kaomoji ลงสัยตาลาย (^ω^)

406 Nameless Fanboi Posted ID:v.Uc5QkAzi

มีใครสมัคร 42Bangkok บ้าง

407 Nameless Fanboi Posted ID:/nhTobY6x6

>>406 รีวิวหน่อยคือถ้าทำงานอยู่ใน field นี้อยู่แล้ว 5 ปี มันน่าสนใจไหม หรือเฉพาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนสายงานวะ ?

408 Nameless Fanboi Posted ID:mfCbPBNHs2

https://www.humblebundle.com/books/learn-you-more-code-no-starch-press-books
เผื่อโม่งสนใจ

409 Nameless Fanboi Posted ID:v.Uc5QkAzi

>>407 กูว่าน่าสนใจสำหรับนักศึกษาหรือคนที่อยากเปลี่ยนสายงานนั่นแหละ ถ้าเป็นเดฟอยู่แล้วคงไม่ต้อง หรือแบบเป็นฟรีแลนซ์ก็คงดีมั้งเผื่อได้คอนเนคชั่น แต่น่าจะต้องว่างๆ หน่อย อยากรู้เหมือนกัน แต่มันยังไม่เริ่มนิ ยังรับสมัครกันอยู่ ถ้ามีใครได้ลองแล้วคงมีข้อมูลเพิ่มขึ้น

410 Nameless Fanboi Posted ID:vwuqr4bOG8

https://www.pluralsight.com/
โปรคอร์สเรียนฟรีเดือนนี้ทั้งเดือน

411 Nameless Fanboi Posted ID:uUGNfX9yim

>>402

ขอความช่วยเหลือหน่อย

Traceback (most recent call last):
File ".\scriptori.py", line 18, in <module>
artists_name = set([re.match(NAME_RE, name).group(1).strip("[] ") for name in list(mangas.keys())])
File ".\scriptori.py", line 18, in <listcomp>
artists_name = set([re.match(NAME_RE, name).group(1).strip("[] ") for name in list(mangas.keys())])
AttributeError: 'NoneType' object has no attribute 'group'

https://pastebin.com/eVq9KqPc

ไฟล์ประมาณ

[7zu7] Erosion ~First Night~ (Comic Bavel 2016-07) {incest ahegao anal busty forced creampie tentacles x-ray socks pubic-hair double-penetration squirting lactation milf}.zip

[Akutenkou] Will You Forgive My Sloppiness? (Comic Shitsurakuten 2020-08) {ahegao chubby booty busty creampie deepthroat osananajimi x-ray pubic-hair squirting}.zip

[Ashiomi Masato] Workout! (Comic Kairakuten 2020-09) {booty busty creampie muscles ponytail}.zip

วันก่อนเราทำได้ละ ไม่รู้ไปแก้อะไรผิด มันเลยพัง...

412 Nameless Fanboi Posted ID:Y3cHENVf8A

>>411 เผื่อคนสงสัย
จะเอาไว้จัดเรียงไฟล์ จาก https://sukebei.nyaa.si/view/3090361

413 Nameless Fanboi Posted ID:bQJMfEr+Po

>>411
Regex มันไม่matchมันเลยreturn None กลับมา มันเลยใช้groupต่อกับ None ไม่ได้ matchแล้วเช็คก่อนว่ามีค่าไหมถ้ามีค่อยทำต่อ

fmt = re.match([regex], str)
if fmt is None:
return None
grps = fmt.group(0)
....
อะไรประมาณนี้

414 Nameless Fanboi Posted ID:eo8oB.4Tu6

เราต้องแก้ regex เป็นแบบไหนอะ
ไฟล์ประมาณนี้

[7zu7] Erosion ~First Night~ (Comic Bavel 2016-07) {incest ahegao anal busty forced creampie tentacles x-ray socks pubic-hair double-penetration squirting lactation milf}.zip

415 Nameless Fanboi Posted ID:D1BCyIjbq3

>>413 แก้ได้ละ ขอบคุณมากเพื่อนโม่ง

416 Nameless Fanboi Posted ID:/1c83VhCLF

>>413 ถ้ามันอยู่ใน List ต้องเขียนโค้ดประมาณไหนเพื่อที่จะวนลูปไล่เช็คอะ

417 Nameless Fanboi Posted ID:D1BCyIjbq3

>>416
เราเจอปัญหาละ มันไม่ Match แล้วเราดันไม่ดักไว้ ข้อมูลก้อนมันอยู่ใน List ตามโค้ดนะ เราจะดัก List นี้ก่อนต้องเขียนประมาณไหนอะ

https://pastebin.com/p2fqWzug

418 Nameless Fanboi Posted ID:J8XIBNsJtC

มีโม่งเป็น Java Programmer มั่งป่ะ กูเขียนได้อยู่ภาษาเดียวแล้วก็ทำงานมาพักใหญ่ๆแล้ว เริ่มกลัวอนาคตของภาษานี้
รู้สึกว่าในระยะยาวมันน่าจะค่อยๆตาย จากเดิมเขียนได้หลายอย่างมาก เทคโนโลยีหน้าบ้านเก่าๆสาย Java Applet, Swing ก็เกือบตายสนิทแล้ว
จะเขียน Android ก็โดน Kotlin มาแย่งไปเยอะแล้ว และไม่ได้เป็นภาษาที่ Google แนะนำแล้วด้วย
ตอนนี้เหลือแค่งาน backend ในองค์กรใหญ่ๆที่ก็ค่อยๆถูกภาษาใหม่ๆอย่าง Go เริ่มมาแย่งไปแล้ว ไม่รู้อนาคตจะเป็นยังไงต่อ
ลองไปเรียนภาษาอื่นหลายตัวก็ไม่รู้สึกถูกใจเท่า

419 Nameless Fanboi Posted ID:nH88ixrmfB

>>418 เอ่อมึง ถ้ามึงเป็นภาษานึงแล้ว ย้ายไปเขียนภาษาใหม่มันไม่ได้ใช้เวลาเยอะนะ ถ้ารู้โครงสร้างภาษาเก่าๆ แล้วภาษาใหม่แป๊ปเดียว กุให้อย่างเก่งมึงคงดู udemy แล้วลอกอาทิตย์เดียวคงคลิ๊กในหัวเข้าใจและเขียนได้แล้วมั้ง

ขอให้ลดทิฐิ เปิดใจลองดูมันหน่อยเถอะ ยิ่งภาษาใหม่ยิ่งง่าย แต่คงจะไปหงุดหงิดเรื่องติดตั้งแค่นั้นล่ะ

420 Nameless Fanboi Posted ID:OCT7sbh.j2

ไม่รู้จะถามที่ไหนดี แต่ถ้าจะหาแฮกเกอร์นี่หาจากไหนได้บ้างวะ อยากจ้าง กูอยากดูประวัติการแชตว่ะ

421 Nameless Fanboi Posted ID:8L7N/rAYO7

>>420 hack ไม่ได้หรอก

422 Nameless Fanboi Posted ID:QuR1J4zNZa

เรื่องจริงมั้ย https://youtu.be/fe4WeWuyyhI

423 Nameless Fanboi Posted ID:rK5p2g79km

ได้ cer Aws solution architect associate มา จะหางานdevopsไรได้มะ พอดีอยากเปลี่ยนสายงานแต่ไม่มีปรัะสบการณ์เลย เลยลองตั้งใจเรียนแบบzero to heroวีคนึงละไปลองสอบดูก็ผ่านเฉย

424 Nameless Fanboi Posted ID:nK5qqUcWfa

>>423 อาจจะต้องลองหาทำจากใน บ. เก่าก่อนแหละว่ะ ลองคุยกับทีมดู ถ้าไปสมัครที่ใหม่ งานพวกนี้เขาจะดูประสบการณ์มากกว่า

425 Nameless Fanboi Posted ID:lEYVZxHnNV

>>424 ย้ายทีมไม่ได้อ่ะคนขาด ฮืออออ

426 Nameless Fanboi Posted ID:FAfiANDs4T

มีใครพอจะรู้จักเว็บนี้บ้างจำชื่อเว็บไม่ได้อะ อยากเข้าไปดูอีกที หลายปีที่แล้วเคยเห็นเว็บสอนให้รู้จักเขียนโค้ด เข้าหน้าเว็บไปก็เจอหน้าต่างให้ลองพิมพ์เองเลย คู่กับการอธิบาย แบบสอนตั้งแต่เบสิคว่าโค้ดคืออะไร ฟีลแบบเล่นเกม เพราะเว็บจะให้ทำมิชชั่นมันจะยากขึ้นๆตามสิ่งที่มันสอน

427 Nameless Fanboi Posted ID:t3ZPeLD4rO

>>426 code.star

428 Nameless Fanboi Posted ID:FAfiANDs4T

>>427 ไม่ใช่ว้อย

429 Nameless Fanboi Posted ID:/nROyaiaXV

พูดแบบนี้เดายากว่ะ มีตั้งหลายภาษา สมมุติ ruby มันก็มี
https://try.ruby-lang.org/

430 Nameless Fanboi Posted ID:1rJYYbjybj

>>426 เว็บแนวนี้มีเยอะอ่ะ ไม่รู้ใช่อันที่มึงตามหามั้ย แต่ 2 อันนี้มีคนรู้จักเคยแนะนำมา แต่กูก็ไม่เคยเล่นนะ
https://checkio.org/
https://www.codingame.com/start

431 Nameless Fanboi Posted ID:vrfYxeJ48p

ร้างแล้วเหรอ อยู่บ้าน WFH แอบมาเล่นโม่งกันมั่งดิชาวโปรแกรมเมอร์ทั้งหลาย

432 Nameless Fanboi Posted ID:Vu9vbZ9ehz

>>426 อ่ะเสนออีกชื่อ อันนี้รวมๆ หลายภาษา
https://www.sololearn.com/home

433 Nameless Fanboi Posted ID:mohOhOf.Ch

>>431 เล่นโม่งตลอดนะ แต่มู้นี้มันไม่มีไรให้คุยอ่ะ

434 Nameless Fanboi Posted ID:Ls9CWbhgFt

เรียนสายนี้มาแล้วเพิ่งรู้สึกว่ามันไม่ใช่ว่ะ เนื้อหาที่เรียนหรืองานโอเคอยู่ ให้ทำก็ทำได้ แต่ไลฟ์สไตล์มันไม่ใช่ แต่ย้อนกลับไปคงไม่ทันแล้ว คนสายเทคดูมีแต่คนเก่งๆ ขยัน ตามเทรนด์เทคโนโลยี ทำนู่นทำนี่เก่งกันหมดเลย ส่วนกูเหมือนอิป้าคอนเซอเวทีฟ เห็นข่าวเทคใหม่ๆก็เฉยๆ ไม่มีแพชชั่นเหมือนคนอื่นเขาเลย สมัครทำงานก็แบบ ทำอะไรก็ได้ละกันแล้วแต่เขาจะจ้าง ในขณะที่คนอื่นมีเส้นทางของตัวเองชัดเจนกันดีจัง รู้สึกแปลกแยก T_T

435 Nameless Fanboi Posted ID:GyF776F/hZ

>>434 จะไล่ตามคนอื่นทำไม เราทำละเลี้ยงตัวเองได้ไม่เครียดก็พอละ ผมจบใหม่มาปีนึงทำๆไปเรื่อยๆ ไม่ได้อยากจะเป็นเทพหรืออะไรแบบคนอื่น

436 Nameless Fanboi Posted ID:d60tlO3zFv

>>434 กูก็เห็นมาทั้งสองแบบนะ คนที่พอใจกับจุดที่ตัวเองอยู่แล้ว ใช้ความรู้เดิมหากินได้เรื่อยๆ กับคนที่ถีบตัวเองอยู่ตลอดเวลา พี่ที่เขาพอใจในจุดที่ตัวเองอยู่แล้วก็คือค่อนข้างมีอายุแล้ว มีลูกมีเมียมีบ้านมีรถ เขาก็มีจุดอื่นๆ ที่ต้องทุ่มเทชีวิตให้อ่ะ ไม่ได้มีเวลามาพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ตอนที่กูจะออกจากงานก็คือ เขาก็รู้นะว่าบ.มีปัญหายังไง แต่เขารับได้ แค่ว่าจ่ายเงินให้เขาไม่ขาดไปเรื่อยๆ มีเงินเลี้ยงดูลูกเมียเขาก็โอเคแล้ว แต่ก็สนับสนุนนะถ้ากูจะไปเติบโตต่อที่อื่น

437 Nameless Fanboi Posted ID:V+PaDIgBmB

frontend backend อันไหนหางานง่ายสุดอ่ะ กำลังจะเริ่มเรียน ตอนนี้ได้ sql python ชอบงานดีไซน์ แต่เหมือนจะได้ยินว่า frontend หางานง่ายกว่าป้ะ (แต่เงินน้อยกว่า backend)

438 Nameless Fanboi Posted ID:rgA8ZKLOEX

>>434 ที่ทำงานเก่ากูก็มีพี่ผู้หญิงหลายคนที่ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เป็นชีวิตจิตใจ แต่ก็ทำงานของตัวเองกันได้ดีนะ
กูว่าสำคัญที่ในเวลางานก็ตั้งใจทำงาน มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเองก็พอแล้ว

439 Nameless Fanboi Posted ID:Uo9Erbabc1

>>437 backend ง่ายกว่านะกุว่า

440 Nameless Fanboi Posted ID:mCWJsS+.A4

>>418 ไม่ตายหรอกภาษานี้ หางานได้เสมอ

441 Nameless Fanboi Posted ID:nFQNbYiyWr

สมมติว่ากุทำโปรแกรมที่มันสุ่มเสี่ยงศีลธรรม/กฎหมาย เช่น แอพสร้างข่าวปลอมที่เหมือนจริงมากๆที่สามารถโพสลงทวิสเตอร์ได้ทันทีเลยแค่ใส่ข้อมูลนิดๆหน่อยๆลงไป
ตอนนี้ลังเลว่าควรจะแชร์โค้ดของงานนี้ลงบน github ดีมั้ย ใจนึงกุอยากแชร์ให้คนอื่นดู มันน่าจะทำให้โปรไฟล์กุมันดูดีขึ้น อีกใจนึงกุก็กลัวคนเอาไปใช้ในทางที่ผิด
โม่งมีความเห็นว่ายังไงมั่ง

442 Nameless Fanboi Posted ID:kuubsZrlEu

>>441 โพสแค่ตัวเทคโนโลยีหลักในการโพสลงทวิตเตอร์สิ ตัวสร้างข่าวเดาว่าใช้ ML ใช่ไหม ถ้าใช่ก็ไม่ต้องโพสตัวโมเดลลง

443 Nameless Fanboi Posted ID:eckGLErr4j

ไหนๆก็มีคนถามละ งั้นกูถามต่อหน่อยว่า profile บน github นี่จำเป็นแค่ไหนอ่ะ
กูมีโปรเจคทำเล่นอยู่หลายอันนะ แต่บางอย่างมันไม่ใช่อะไรที่รู้สึกว่ามันน่าเอามาแชร์ให้คนอื่นดูเท่าไหร่

444 Nameless Fanboi Posted ID:7l4QyBQ04a

>>443 ถ้าจะทำ portfolio ไว้สมัครงานก็ทำเป็นชิ้นเป็นอัน ชื่อตรง นามสกุลตรง project อย่าไร้สาระมากไป แยกไปดิ

ส่วนถ้าทำเล่นๆ ก็ใช้ account โม่ง

445 Nameless Fanboi Posted ID:+yEtcQn6Gd

>>443 แล้วแต่ที่ หลายๆที่ก็ไม่ได้ดูอะไรพวกนี้ มีก็ดี ไม่มีก็ยังหางานได้อยู่

446 Nameless Fanboi Posted ID:reIJgaEDoW

>>442 จุดขายมันอยู่ที่ ML น่ะสิเพื่อนโม่ง

447 Nameless Fanboi Posted ID:HmYfvivstf

ย้ายงานแล้วบริษัทให้เครื่อง Mac มาใช้งาน ด้วยความที่กูใช้เครื่อง Windows มาทั้งชีวิตนี่รู้สึกมึนสัสๆ
ในความรู้สึกกูคือ UX UI โคตรหลุดโลก ใช้แล้วรู้สึกอีหยังวะมากๆ เคยใช้พวก Linux Desktop อาจจะมีงงๆบ้างแต่ก็ไม่รู้สึกว่ามันประหลาดขนาดนี้
ที่บ่นไม่ได้ว่ามันไม่ดีนะ แต่คงไม่ใช่อะไรที่เหมาะกับกูจริงๆ

448 Nameless Fanboi Posted ID:hlg4u61VRD

>>447 ใช้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ชินเอง

449 Nameless Fanboi Posted ID:nRdPvKdVUS

>>447 ใช้ประมาณเดือนสองเดือนระวังถอนตัวไม่ขึ้น กุก็ใช้mac ทำงาน พอกลับไปใช้ window แล้วเจอ command prompt กุร้องยี้เลย

450 Nameless Fanboi Posted ID:J..rjDa7Bo

https://www.facebook.com/groups/ThaiPGAssociateSociety/permalink/1794959530715308
เด็กฝึกงาน สมควรได้รับเงินค่าตอบแทนหรือไม่

5555555555555555 อ้างสารพัดเพื่อหาความชอบธรรมให้กับการหลอกใช้ free labor

451 Nameless Fanboi Posted ID:hYe+3qzKTn

>>447 มึงต้องเสพติดทัชแพดก่อน แล้วมึงจะไม่ย้อนกลับไปหาพวกเหี้ยนั่นอีก

452 Nameless Fanboi Posted ID:AB6Zthvpe2

>>447 ถ้าคนที่เคยใช้ Linux มาก่อนกูว่าชิวกว่าคนใช้ Win นะ terminal มันแทบจะอย่างเดียวกันเลย UX UI ไม่หลุดโลกหรอก

แต่ถ้าถนัดใช้ UI ของ Win มาก่อน แนะนำให้ไปแก้เรื่อง scroll mouse ใน system preferences -> moue ก่อนเพื่อน นอกนั้นพวก short cut ก็ครือๆ กันนั่นล่ะ

>>450 แยกเป็นสองส่วน
ถ้าตามใน fb กล่าวถึงการสอนงาน ถ้าตามนั้นมันก็ใช่ ถ้าสอนงานอย่างเดียวน่ะนะ ซึ่งกรณีนี้ไม่ค่อยมี คือ สู้ไม่รับไปเลยดีกว่า

แต่ในความจริงส่วนมากก็ให้เงินล่ะ แต่เอาไปทำงานประเภทกรอกข้อมูลแบบ Routine แทน

ส่วนเรื่องเขียนโปรแกรมบริษัทสติดีเค้าไม่เอาเด็กฝึกงานไปเขียนโปรแกรมที่จะขายให้ลูกค้าหรอก เสี่ยงเกิน ถ้าจะเสียเวลาตรวจ code สู้ทำเองยังจะดีกว่า

453 Nameless Fanboi Posted ID:4KiMomMZZl

>>452 พวก software house ล่ะ เอาจริงเขียนโค้ดต่อให้ไม่ใช่เด็กฝึกงานมันก็ต้องมีตรวจโค้ดอยู่แล้วรึเปล่าปกติ หรือมีแค่ที่กูทำอยู่

454 Nameless Fanboi Posted ID:3MbPXapEID

>>452 ตอนแรกกูรู้สึกเหมือนมึนมากๆอยู่พักนึง แต่พอสลับ scroll mouse กับสลับปุ่ม control กับ command แล้วก็ค่อยดีขึ้นหน่อย
แต่ก็ยังมึนอยู่ดี พวกคีย์ลัดคล้ายกันก็จริง แต่สุดท้ายหลายๆอันก็ไม่เหมือน แล้วพอต้องใช้เม้าส์กดแทนมันก็ไม่ชินเท่า
ไหนจะติดๆเรื่อง UI ส่วนอื่นๆที่ไม่เหมือนกันอีกเยอะ โดยเฉพาะ Dock, การจัดการ windows, global menu อะไรพวกนี้กูว่ามันงง
ซึ่ง Linux Desktop ตระกูลที่กูเคยใช้กูว่ามันยังจัดการอะไรง่ายกว่า อาจจะด้วยความที่กูไม่ชินด้วยแหละ
ส่วนพวก command line พอดีสายที่กูทำไม่ค่อยได้ใช้ command มากขนาดนั้น ส่วนมากใช้เวลา remote เข้า server มากกว่า
เลยไม่ได้รู้สึกว่าได้ใช้ประโยชน์จากส่วนนี้มากเท่าไหร่

แต่ไปๆมาๆน่าจะไม่ได้ใช้แล้ว เพราะเครื่อง Mac นี่เหมือนแผนกเบิกซื้อมาใช้กันเอง แล้ว IT บริษัทเค้าไม่ค่อยชอบที่ทำแบบนี้กัน
ในอนาคตอันใกล้ถ้าไม่ใช่เครื่อง Windows ของบริษัทที่มาแบบถูกกฏของ IT จะ VPN ไม่ได้แล้ว สรุปคือต้องไปใช้ Windows กันหมด

>>453 กูไม่เคยทำงาน software house แต่คิดว่าเรื่อง code review สุดท้ายมันแล้วแต่ที่นะว่าจะจริงจังเรื่องคุณภาพงานกันมั้ย หรือจะทำงานเน้นปริมาณกัน

455 Nameless Fanboi Posted ID:H1FETwWvyp

>>453 กูก็ทำ swh แต่บอกเลยว่าที่ทำอยู่ไม่ทำอะไรเสี่ยงๆ แบบเอาเด็กฝึกงานไปเขียนโปรแกรมส่งลูกค้าเด็ดขาด เสียหายไม่คุ้มกันเกิด bug หลุดล่ะชิบหาย โปรแกรมหลักสิบล้าน ลูกค้าก็เอาไปใช้กับงานที่มีเงินหมุนอยู่เป็นพันล้าน งานคุณภาพต่ำ กลาง หรือสูง มันไม่มีหรอกนะ มันมีแต่งานที่ใช้ได้กับใช้ไม่ได้แค่นั้น

เออ แต่ถ้าให้เด็กฝึกงานเขียนโปรแกรมที่ใช้ในแผนกเล็กๆ ประเภทหาเบอร์โทร booking ห้องประชุม หรือจัดการเบิกจ่ายนิดหน่อย ที่ต่อให้เสียหายก็ไม่เป็นอะไรมาก ก็คงได้มั้ง แต่ส่วนมากน่าจะจับยัดแผนก software tester ซะมากกว่า

456 Nameless Fanboi Posted ID:6VlTRFqQZ7

>>455 ก็นั่นแหละ แค่ตัดคำว่าส่งให้ลูกค้าก็เอามาเขียนโค้ดได้แล้ว บริษัท swh ก็ไม่ได้มีแต่ประเภทรับงานลูกค้า

457 Nameless Fanboi Posted ID:ggsx.nZP58

>>456 แต่ไอ้ระบบที่ว่าพวกนี้ swh มักมีอยู่แล้วว่ะ เพราะมันไม่ได้ใช้เวลามากมายอะไรเลย แปะๆ แป๊ปเดียวเสร็จ เอาไปเป็นข้อสอบตอนรับสมัคร junior ยังได้

ถ้าเป็นตามโรงงาน หรือบริษัทที่ไม่เกี่ยวกับ IT ก็ว่าไปอย่าง

458 Nameless Fanboi Posted ID:BJwt4h0W8L

>>457 เหตุการณ์มึงสมมุติเยอะเกิ้น

459 Nameless Fanboi Posted ID:WfoDTEQ7Ad

อยากรู้ว่าบริษัททอปๆ เช่น agoda ktbg exxon ตอนสมัครงาน ในไทยเจอคำถาม data and algorithm กันบ่อยไหม เห็นต่างประเทศเค้าสัมภาษณ์แนวนี้กันด้วย หรือถ้าไม่ถาม แล้วเค้าถามอะไรบ้าง ให้เขียนโค้ดใส่กระดาน หรือคุยเรื่องโปรเจคที่ทำงี้เหรอ

ป.ล. งาน New graduate นะ

460 Nameless Fanboi Posted ID:6CjtKIPTzP

>>459
บ.ต่างประเทศที่เคยเจอนะ
- โทรคุย hr แล้วไป นัดสัมภาษณ์กับ se ผ่าน skype ฝั่งนั้นเค้าตั้งคำถามสด test ผ่านเว็ป แบบดูมึงเขียน code เดี๋ยวนั้นเลย ถ้าผ่าน hr ก็จะนัดอีกรอบเรื่องเอกสารอะไรพวกนี้

461 Nameless Fanboi Posted ID:fbzDr+XteF

>>459 อโกด้าถาม

462 Nameless Fanboi Posted ID:A66UhjakeR

>>459 จากที่เคยรวบรวมข้อมูลจากเพื่อนหลายๆคนที่เคยสัมที่ต่างๆ+ประสบการณ์ตัวเอง
-exxon ให้โจทย์แล้วเขียนโค้ดหาคำตอบเหมือนเล่นเว็บแข่ง+สัม ตอนสัมเขาจะมาจี้โค้ดที่เราทำยับๆว่าเขียนแบบนี้ทำไม ประสิทธิภาพห่วยมั้ย โจทย์เหมือน problem solving ตามเว็บแข่ง เพื่อนกุบอกว่ายาก แต่กุว่าค่อนข้างง่าย จำได้ว่ามีแนว greedy ข้อนึง
-kbtg เพื่อนเล่าว่า code interview โจทย์ยากชิบหาย แต่ไม่เคยเห็นโจทย์ เดาว่าน่าจะระดับเดียวกับโจทย์แข่งในงานที่พวก KBTG จัด เช่น TechJam (ถ้าติด top3 ไม่ต้องสัม เขาชวนไปทำงานเลย) ซึ่งก็คือต้องอธิบาย data structure/algo ไรให้เขาได้+เขียนโค้ดได้นะแหล่ะ
-agoda เพื่อนบอกแค่ว่าสัมอังกิด นอกนั้นลืมหมดล่ะ ฟังเพื่อนเล่าตอนกำลังเล่นเกมอยู่

อันนี้เพิ่มเติม ถ้าสัมแนว data science จากที่คุยหลายๆคนมา หลายๆที่ชอบให้โจทย์ไปทำแล้วมาเล่าผลลัพธ์+วิธีการ (อารมณ์เหมือนแข่ง hackathon ระยะเวลาทำแล้วแต่ที่ บางที1-2อาทิตย์ บางที1วัน) มีที่นึงให้ทำ NLP (PoS tagging) กับ Comp. vision (Image Classification) จากที่เคยเห็นโจทย์ ตัวโจทย์ไม่ยากถ้าเคยทำโมเดล NLP หรือ Comp vision มาก่อน แต่บางที่ไม่ได้ให้ทำ hackathon ก็จะให้ทำพวก technical test ทำล่วงหน้าหรือไม่ก็ทำตอนก่อนจะสัม แล้วไปจี้ด้านเทคนิคเพิ่มตอนสัม กุเคยคุยกับคนสัมเรื่อง binomial distribution (เขายื่นกระดาษกับปากกาให้ทำตอนนั้นเลย แต่โจทย์ง่ายไปหน่อย) กับ chaos theory อยู่ แถมเขาเห็นเราเคยทำ deep learning เลยยื่นปากกาไวท์บอร์ดให้ลองอธิบาย neuron network/deep learning ตั้งแต่แรกเลย

463 Nameless Fanboi Posted ID:0xtqZn4DUH

>>459 Agoda แล้วแต่คนสัมพาด บางคนก็คุยนิดเดียวแล้วดูเขียนโคดเลย บางคนก็คุยยาวๆ
ขึ้นอยู่กับ background ที่เมิงมีด้วย

แต่กุบอกได้เลยว่าถ้ามา Agoda แล้วเขาคุยแปปเดียวแล้วจะบเขียนโคดเลยแปลว่า background เมิงไม่น่าสนใจ

464 Nameless Fanboi Posted ID:pDIpfPkocT

>>463 แบคกราวน่าสนใจเช่นไรอ่ะ แบบ โปรเจคน่าสนใจงี้ได้มะ หรือต้องชนะแฮกกาตอนมาไรงี้ คือกุไม่ได้จบสายคอมมา กูจบสายวิชาชีพอันนึงที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเลขหรือคอมเลย แต่ฝึกโค้ดมาเรื่อยๆแล้วก็ทำโปรเจคมาได้ประมาณปีกว่า แอบกังวลนิดนึงเหมือนกัน

465 Nameless Fanboi Posted ID:+/yeVGOdg3

>>464
ปัญหาคือมึงไปสมัครส่วนไหนมากกว่า ถ้า front end ประวัติพวกนั้นไม่ได้น่าสนใจเท่าเขียน html ธรรมดา ใช้ scss ได้ถูกต้องตามแบบแผน หรอกนะ

หรือถ้าเป็น backend พื้นฐาน db logic การออกแบบระบบ e-commerce erp resolution สำคัญกว่า

ส่วนพวก data science จะไม่มีค่าอะไรเลย ถ้าตำแหน่งงานมันวนๆ อยู่ในระบบ erp พวกนี้ก็แค่เขียนโปรแกรม + - x % ตามหลักบัญชีตามปรกติ

466 Nameless Fanboi Posted ID:b5XrfGK7vC

>>459 จากประสบการณ์ส่วนตัวนะ
- Agoda มีคำถามอัลกอ แต่ไม่ยาก ถามความยากประมาณว่า รู้จัก fibonacci ไหม เขียนยังไง ทำให้ดีขึ้นยังไง ที่เหลือก็ถามเกี่ยวกับการเลือกใช้ tool ทำไมถึงเลือกใช้ ถ้าอังกฤษแข็งก็ง่ายๆ
- KBTG อารมณ์แบบโจทย์ใน leetcode จะให้ลิงค์ codility มา มี 3 ข้อ ให้เวลาทำ 2-3 ชม ภาพรวมโจทย์ค่อนข้างยากกว่าทุกที่ ถ้าทำคะแนนได้ไม่ถึง 60% ก็อดไปต่อ **ถ้าได้ทำพวกซอฟแวร์ของธนาคาร แนะนำว่างานหนักไม่คุ้มเงินเดือน
- Lineman มี assignment ง่ายๆให้เวลาทำ 5 วัน เป็นแนวถามตอบคล้ายๆข้อสอบมหาลัย ค่อนข้างง่าย google หาคำตอบได้ง่าย ถ้าผ่านได้ไปสัมภาษณ์กับ engineer CTO คำถามก็คล้ายๆ agoda ไม่เน้นต้องเขียนโค้ดถูก เอาแค่แนวคิดได้ก็พอ

ที่เหลือที่ดังๆพวก Line, SCB 10X ถ้าไปสัมภาณษณ์เป็น Full-Stack ก็จะได้ assignment มาทำเป็นเว็บ ไม่ยาก แต่ต้องโชว์ทักษะให้ครบ พวก Design pattern, TDD ถ้า assignment ที่ทำส่งไปน่าสนใจก็จะได้ไปสัมภาษณ์ต่อ คำถามก็แนวๆ agoda

467 Nameless Fanboi Posted ID:MO1cKqBYGp

>>459 กูเคยสัมทั้ง 3 ที่
- agoda ตำแหน่ง backend ทำไมข้างบนถึงบอกว่าโจทย์ง่ายวะ 55 ของกูสัม 3 รอบ ง่ายแค่รอบแรก อันง่ายก็ง่ายมากจนจำไม่ได้ละ รอบสองเท่าที่จำได้เหมือนจะให้ implement data structure เอง from scratch (แต่ก็อปได้) + เขียนอัลกอ traverse ด้วย รู้สึกกูจะโดน BT มั้งนะ ให้เขียนแบบ recursive ด้วย กดดันจัด (กูกดดันตรงคนสัมนี่แหละ ฮือ) รอบสุดท้ายรู้สึกจะให้เขียน API ให้ยากอันดับ 1 เพราะสัมต่อกัน 3 ชม. ใช้ความรู้หลายแขนงมากจ้า 555 สมองล้า
- KBTG ตำแหน่ง dev รู้สึกจะมี 3 ข้อ สองข้อแรกง่ายจนกูทำไม่ถึงชม.ก็เสร็จ แบบอัลกอพื้นฐานๆ ถ้าเตรียมตัวไปก็ชิล ส่วนข้อสุดท้ายกูงมอยู่นานมาก โจทย์เหมือนวิชา algorithm design ที่เกี่ยวกับพวกกราฟ ก็ส่งไปแบบที่รันเทสเคสถูกไม่หมดแหละ 5555 เออ ดูเรื่อง test case ด้วย ของ codility มันดักแทบจะทุกเคสเลย รันไทม์นานเกินก็ไม่ได้ด้วยมั้งรู้สึก ทำโจทย์เสร็จก็อธิบายโค้ดตัวเอง ให้ยากอันดับ 2
- Exxon ตำแหน่ง dev นี่ชิลกว่าที่อื่น รู้สึกจะมีโจทย์โค้ด 3 ข้อ กับ sql ข้อนึงมั้ง ไม่ค่อยยากมากเท่าไร แนว if else เหมือนจะห้ามก็อป กูทำเสร็จก่อนเวลานานมาก สัมภาษณ์ไม่เจาะเยอะมากเท่าที่อื่น ก็ให้อธิบายแนวคิดตัวเอง อธิบายว่าแต่ละเคสเป็นไง ทำไมเขียนแบบนี้ กูอุตส่าห์เตรียมไปอย่างเยอะ 55 ให้ยากอันดับ 3

ส่วนเรื่องสัม กูรู้สึกว่ามัน depends กับบริษัทที่ไปสัมภาษณ์น่ะ แต่ละบ.ก็จะมีลักษณะคนที่อยากได้ต่างกัน มันแสดงออกผ่านการสัมภาษณ์ชัดเลย บางที่ก็ถามเรื่อง technical อย่างเดียว ให้อธิบายโปรเจคที่เคยทำบ้าง ปสก.ฝึกงานอะไรงี้ ปสก.นี่ถามทุกที่ ขึ้นอยู่กับว่าถามมากถามน้อย ถ้าปสกเกี่ยวกับตำแหน่งที่สมัครก็ถามมากหน่อย บางที่เน้นการพูดคุยโต้ตอบ (ภาษาอังกฤษ) ไม่ก็แบบกิจกรรมสมัยเรียนที่เคยทำ หรือทัศนคติ งานอดิเรก ถ้าจะให้แนะนำก็เป็นตัวของตัวเองนี่แหละดี อย่างน้อยเราก็จะได้องค์กรที่ fit กับตัวเราจริงๆ
ไปละเดะโม่งแตก อิอิ

468 Nameless Fanboi Posted ID:EFxh5uX5MX

>>467 ที่กูว่า agoda ง่ายอาจจะเพราะคนสัมภาษณ์เน้นให้อธิบายด้วยมั่ง คิดยังไง มีขั้นตอนยังไง ไม่ได้เน้นว่าต้องเขียนโค้ดมาแล้วรันได้ แค่สามารถอธิบายได้ถูกก็โอละ ส่วน kbtg มันดวงซะเยอะ ถ้ารอบนั้นสุ่มได้โจทย์แปลกๆบางทีก็คิดไม่ออก แถมถ้าทำ hidden case ผ่านน้อย มึงก็อดไปต่อ แม้จะทำมาถูกทางละ

469 Nameless Fanboi Posted ID:MO1cKqBYGp

>>468 เออถ้ามองมุมนี้ก็เห็นด้วยแหะ ตอนกูสัม Agoda เจอคนสัมภาษณ์จริงจังมาก กูล่กจนโดนสับเละเลยเพื่อน 5555 เศร้า
ของ kbtg นี่ตอนกูฝึกทำโจทย์ hidden case ก็ขึ้นสีแดงเถือกจริงๆ นั่นแหละ u_u

470 Nameless Fanboi Posted ID:D2OXjY6H3y

เป็นบัคในใจกูมาหลายปีละ ทำไมคนไทยออกเสียง django ว่า ดีจังโก้กันวะ ดูคลิปพวกฝรั่งมันสอนมาก่อนมันเรียกจังโก้เฉยๆนะ กูก็ติดเรียกจังโก้เฉยๆ
แต่พอกลายเป็นพูดกับคนไทยต้องออกเสียงว่าดีจังโก้ ไม่งั้นเขาจะงงๆกัน ยิ่งช่วงหลังๆเจอเด็กจบใหม่มันก็เรียก ดีจังกัน
สรุปคือกูเรียกผิดใช่มะ

471 Nameless Fanboi Posted ID:IbWoXdOeGa

>>470 จับมือ กูก็ต้องเปลี่ยนวิธีเรียกไม่งั้นคนฟังงง

472 Nameless Fanboi Posted ID:55Jq9RQMWR

>>470 มีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอวะ กุไม่เคยเจอ ถือว่าเป็นโชคดีของกุ

473 Nameless Fanboi Posted ID:trbbgfHg.e

stackoverflow ล่ม อ๊ากกกกก

474 Nameless Fanboi Posted ID:JikpzFyGdD

>>470 คำบางคำถึงจะรู้ว่าที่ถูกออกเสียงยังไง ถ้าคนอื่นที่เราทำงานด้วยออกเสียงผิดกันหมดก็ต้องออกเสียงผิดตามเค้าอ่ะ
มันจะได้คุยกันรู้เรื่อง แล้วไม่เป็นการไปหักหน้าคนที่เค้าอยู่มาก่อนเราด้วย
อย่างเช่น Vault https://www.vaultproject.io/ ออกเสียงว่า วอลท์ แต่ที่ออฟฟิซกูเรียกโวลท์กันหมดกูก็ต้องเรียกโวลท์ตามเค้า
มีน้องหลายที่รู้ว่าออกเสียงยังไงนะ เพราะได้ยินเผลอหลุดเรียกว่าวอลท์กันหลายครั้ง แต่ก็ต้องแก้ว่าหมายถึงโวลท์กันตลอด 555

475 Nameless Fanboi Posted ID:cJyBnqwDTi

ถ้าออฟฟิศนานาชาติมึงไม่เป็นหรอก แต่ถ้าออฟฟิศไทยจ๋าๆ ทำงานแต่กับคนไทยด้วยกัน ยังไงก็เจอ

476 Nameless Fanboi Posted ID:1SLh/2dXia

ระบาย เพิ่งเริ่มฝึกงานเป็น dev ได้เดือนนึง ทำไรไม่ค่อยได้เลยอะ ต้องเก็บเวลนานแค่ไหนถึงจะพอใช้งานได้วะ เรียนมาไม่ค่อยได้ใช้เลย กดดันตัวเองมากไม่รู้ว่าทำถูกไหม ทำทันไหม

477 Nameless Fanboi Posted ID:doxSrDOZKA

>>476 สมัยกูกว่าจะเริ่มเขียน service ง่ายๆได้ก็เกือบ 2 เดือนแล้ว สมัยเรียนมันเน้นพวกอัลกอ ซึ่งถ้า บ. ที่ทำมันบ้านๆมันก็ไม่ต้องใช้มากอะ แค่ทำๆให้มันเสร็จๆ ทฤษฎีไม่ค่อยมี

478 Nameless Fanboi Posted ID:3XYW77QAi7

กูเพิ่งผ่านข้อเขียนทุนป.โทของกพ. อยากรู้ว่าสายนี้ทำงานราชการเวิร์คไหมวะ ตอนนี้กูทำอยู่บ.อินเตอร์ แต่ที่บ้านอยากให้เรียนต่อ+รับราชการมาก ใจจริงอยากทำงานเก็บปสก.สักระยะค่อยหาทุนต่อโท

479 Nameless Fanboi Posted ID:AZgxsRWobA

ตอนเด็กๆ เล่นแร๊คก็เรียก swardman ว่า สะหวอดแมน 555

480 Nameless Fanboi Posted ID:VN767YK6nd

>>479 เราเรียกนักดาบอ่ะเพื่อนโม่ง

481 Nameless Fanboi Posted ID:guL6F6.YrZ

Golang เป็นภาษาที่ทุเรศชิบหาย มีดีแค่ perf

482 Nameless Fanboi Posted ID:VN767YK6nd

ลงเรียน Flutter ไปละ เริ่มเรียนจาก 0 เลย กำหนดเรียนจบธันวานี้แล้วว่าจะย้ายสายงานมาทำเลย เป็นกำลังใจให้กูด้วยนะพวกเมิง

483 Nameless Fanboi Posted ID:XqMnORNWQ5

>>482 ลงที่ไหนเพื่อนโม่ง

484 Nameless Fanboi Posted ID:VN767YK6nd

>>483 ลุงวิศวะ

485 Nameless Fanboi Posted ID:nM/HlrRlTb

ทำไมอยู่ดีๆถึงมาฮิต Flutter กันหว่า

486 Nameless Fanboi Posted ID:OOadsvryl7

ทำงาน wongnai โอเคมั้ย ใครรู้บ้าง

487 Nameless Fanboi Posted ID:M2Bqh4i/uh

ระบาย บริษัท tech หรือทำงานด้าน IT ที่ไหน มีการ กึ่งบังคับ ให้พนักงาน เข้ารับฉีดวัคซีนจากภาครัฐบ้างวะ ประมาณว่าให้ฉีดให้เร็ซที่สุดๆ ก็จองๆ ฉีดกันไป ช่วงนี้ WFH
แรกๆ ก็ปฏิเสธได้ หลังๆมา ทั้งบริษัทต้นสังกัด บริษัทลูกค้า ออกแนวบังคับให้จองไปฉีดเข็มแรกทุกคน

กุว่าจะรอ Moderna แต่ได้เดือนตุลานุ้น กุคงไม่พ้นฉีดวัคซีนของรัฐวะ

หรือเป็นแนวทางของบริษัท หรือ โดนภาครัฐบีบมาว่ะ

488 Nameless Fanboi Posted ID:6iw5H9keoS

>>487 กูว่าเพราะเค้าอยากให้กลับเข้าออฟฟิซกันมั้ง

489 Nameless Fanboi Posted ID:qHKSmvPqQh

>>487 ไม่ฉีดก็ลาออกไปดิ เค้าไม่ห้ามมึง

และจริงๆ แล้วจะฉีดตัวอะไรไปก่อนก็ได้ แล้วค่อยไปฉีดตัวที่อยากได้ทีหลัง ก็แค่เว้นระยะจากการฉีดตัวล่าสุดซักเดือนก็ฉีดตัวใหม่ได้แล้ว

490 Nameless Fanboi Posted ID:fVqNNTj/Rw

ความต้องการสายไอทีจะลดลงไหมในอนาคต เท่าที่สังเกต บริษัทเดี๋ยวนี้ชอบจ้างพวกวิศวกรเคมี ไฟฟ้า เครื่องกล ฯลฯ แล้วเอาเข้าไปเรียนด้านไอทีเพิ่มทีหลังกันแล้ว แต่ในทางกลับกัน ไม่มีใครจ้างคนจบคอมไปเทรนเรื่องเทคนิคอลอื่นๆ ซะงั้น เพื่อนกูบ่นกันระงมว่าเข้าไปทำงานโรงงานก็ต้องไปเรียนเขียนโปรแกรม เรียน machine learning data sci เนื้องานใช้ algorithm design ยังกะเด็กจบใหม่สายไอที กูเลยงงๆ ว่าปกติไม่ใช่ว่าให้พวกนี้โยน requirement ให้ไอทีจัดการหรอกหรอ ทำไมต้องมานั่ง implement เอง
+ การมาของ no-code platform นี่น่ากลัวแหะ ทีมบิสเนสทำเองได้เลย อีกหน่อยคงไม่ต้องถึงมือโปรแกรมเมอร์แล้วล่ะ

491 Nameless Fanboi Posted ID:b.+Zf.8ulX

เอ วศ.ไฟฟ้าเครื่องกล ปรกติมันก็เขียนโปรแกรมได้อยู่แล้วนะ มันมีโปรแกรมใช้กับ PLC อยู่. พวกนี้ภาษาระดับต่ำ ที่ code ยากกว่าภาษาระดับสูงรุ่นหลังๆ เยอะ อุปกรณ์พวกนี้หน่วยความจำ จำกัดจำเขี่ย เขียนมั่วไม่ได้ต้องเขียนเคลียร์ ram อีกต่างหาก

492 Nameless Fanboi Posted ID:rR+IGzM9Ep

>>490 ทีมบิสเนสมันก็แค่ User ใช้ตามหน้างานกดตาม Work book ไปงั้นๆ แต่ในระดับ Development ยังคงมีเรื่อยๆแหละ มนุษย์ มันมีการพัฒนาทุกๆวันและมีความต้องการใหม่ๆเกิดขึ้นเสมอๆ

493 Nameless Fanboi Posted ID:fVqNNTj/Rw

>>491 ไอเขียนโปรแกรมนี่เข้าใจได้ว่ามีทุกสาย แต่หลังๆ มานี่คือจบใหม่ทำงาน tech company เลย หรือแม้แต่บริษัทที่ core ไม่ใช่ tech ก็ดูใช้งานเยอะมากจนกูตกใจเหมือนกันแหะ
ชีวิตช่วงนี้กูเหมือนเป็นที่ปรึกษาด้านไอทีไปโดยปริยาย เพื่อนสายอื่นมาปรึกษาเรื่องเทคเยอะมาก ถือว่าเปิดโลกเหมือนกัน
ฟังเพื่อนโอดครวญว่า เพิ่งรู้เด็กคอมเขาทำอะไรกัน ก่อนหน้านี้คิดว่าเรียนง่าย รู้สึกภูมิใจแปลกๆ ตอนเลือกคณะนี้ยังมีแต่คนถามว่าจะจบไปจะทำอะไรได้อยู่เลย ตอนนี้รู้สึกฮ็อตฮิตสุดๆ เลยย

494 Nameless Fanboi Posted ID:WBSVGZGbi3

>>490 สงสัยว่าพวกนี้เค้าให้เรียนพื้นฐานงาน IT แล้วสุดท้ายต้องมาทำงานพวกนี้เองด้วยหรอ
หรือแค่ให้เรียนเพื่อเข้าใจพื้นฐานให้คุยกับคนสาย IT รู้เรื่องมากขึ้นเฉยๆ
ส่วนพวก No-Code Development Platform มันก็ support ได้แค่งานตาม template ที่มีมาให้อ่ะ
สุดท้ายอยากทำอะไร custom มากๆก็ต้องเขียนโปรแกรมเองอยู่ดี พอดีกูทำสาย enterprise ด้วยน่ะ เลยไม่คิดว่าพวกนี้จะกระทบมาก

495 Nameless Fanboi Posted ID:x6Y+6kSN.A

>>490 ไม่ลดหรอก ยิ่งตอนนี้เป็นยุค digital disruption จะมีแต่คนต้องการ ไอที่เทรนๆกันมันเพราะคนสาย IT แม่งขาดจนไม่รู้จะหาจากไหน หรือไม่ก็แม่งต้องการลด cost ฝั่ง IT เลยหลอกให้มาทำเพิ่ม (เคสนี้มีอยู่จริง)
แต่ถึงยังไงกุว่าหลายๆคนที่เป็นสายตรงรวมถึงกุด้วยก็ไม่กลัวพวกข้ามสายมาแย่งงานหรอก ความรู้หลายอย่างมันยังห่างกันอีกเยอะ งานสาย IT ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดได้ก็จะมาแทนกุได้ซักหน่อย (กุเก่ง)

496 Nameless Fanboi Posted ID:q8nMffaBMJ

>>495 เห็นด้วย ขนาดกุไม่ได้จบ IT มา ตอนนี้ยังไปลงเรียนการเขียนโค้ดเลย เพราะในอนาคตข้างหน้ามันจะเกิด Disruption ขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องอัพสกิลตัวเองไว้ อย่างน้อยๆ ก็จะได้ตาม Wave ของโลกทัน

497 Nameless Fanboi Posted ID:NOVLmXBtb1

>>495 คนที่เพิ่งย้ายสายมาถ้าไม่นับคนที่ขยันและตั้งใจจริงๆ ยังไงก็คงสู้คนที่จบมาตรงสายในทันทีไม่ได้
แต่ที่กูเสียวคือภาวะ ศก. ไม่ดี และคนเป็น HR หรือผู้บริหารที่ไม่ได้เข้าใจเนื้องานสายนี้จะอยากจ้างคนที่มีความรู้ผิวเผินเพราะเห็นแก่ของถูกนี่แหละ

498 Nameless Fanboi Posted ID:+IB8PgRYDq

>>497 กุเจอเคสนึง บริษัทเจอโควิดไป เลยต้องลดงบ ฝั่ง IT โดนลดหนักจัด สุดท้ายคนหายเกือบทั้งแผนก ไม่ได้โดนไล่ออกนะ แต่ย้ายไปสู่ที่ที่ดีกว่า เป็นแผนกที่ไปทีไรคนเยอะตลอด พอช่วงโควิดเลิกระบาดแล้วให้คนกลับบริษัท แม่งอย่างกับแผนกร้าง

499 Nameless Fanboi Posted ID:lItHtLbyvD

พวกทีม Hackathon เค้ารวมทีมจากที่ไหนกันวะ กูสนใจอยากหาทีมไว้ลงแข่งสร้างเรซูเม่ให้ตัวเอง

500 Nameless Fanboi Posted ID:ANP8rurwwY

wfh ต่อ vpn ของ บ. เค้าจะรู้ไหมว่าเราเข้าดูอะไรบ้าง แบบเข้า youtube ไรเงี้ย

501 Nameless Fanboi Posted ID:K3SSdG1qaI

>>500 ถ้าเอา log มาดู ก็รู้หมดว่าเปิดเว็ปไหนเวลาอะไร แต่ส่วนมากไม่ตรวจหรอกมันเยอะ

502 Nameless Fanboi Posted ID:jvawCUMLyt

>>501 อันนี้กูถามแบบคนไม่ค่อยรู้ ถ้าเปิดด้วย https มัน encrypt แบบ end to end จะรอดมั้ยอ่ะ

503 Nameless Fanboi Posted ID:ANP8rurwwY

มีใครทำงาน อกด ไหม จบปีหน้า อยากทำที่ อกด มากๆ อยากใช้ภาษา ชอบความหลากหลาย ดูไปได้ไกล มีไรแนะนำไหม

504 Nameless Fanboi Posted ID:AmnTy6dU0f

>>502 ไม่รอด เพราะ url มันไม่ซ่อนอยู่ดี

505 Nameless Fanboi Posted ID:Wju1vtt5wz

>>503 กูเอง หลากหลายเหรอวะ ใช้แต่ scala

506 Nameless Fanboi Posted ID:NwRD0Yvlk9

>>505 หมายถึง nationality ป่ะ

507 Nameless Fanboi Posted ID:L1UFxfAjog

>>503 อยากทำบ้าง แต่เขาไม่รับกู แง

508 Nameless Fanboi Posted ID:VTuYgfDqbV

>>506 ส่วนมากก็อินเดียนะ ไม่ได้หลากหลายไร

509 Nameless Fanboi Posted ID:Rk3Rfcr.ol

>>508 ฟังดูไม่น่าทำงานด้วยเท่าไหร่ละ 555

510 Nameless Fanboi Posted ID:fMYx6mkO4E

>>509 มึงมัน racist 555555

511 Nameless Fanboi Posted ID:b4rRNPgh1S

>>503 หลากหลายไงวะกุทำอยู่ก็เห็นคนไทยเกลื่อน ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้ใช้มากมายขนาดนั้น ลก็ใช้แต่scala น่าเบื่อด้วยทีมที่กุอยู่ แม่งกุอยากออกทุกวันเลยแต่ติดที่สกิลถดถอยนี่แหละ รู้แต่scalaแต่ไม่มีที่ไหนใช้ละ ยิ่งทำยิ่งรู้สึกดโดนpigeonholed กุว่ามันก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น

512 Nameless Fanboi Posted ID:F7a/NhP6+b

>>511 คิดเหมือนกุเลยพวก

513 Nameless Fanboi Posted ID:7oF8052O4b

>>512 กุ >>511เอง อันนี้ทำอยู่ที่เดียวกันอ่อเพื่อน555555

514 Nameless Fanboi Posted ID:F7a/NhP6+b

>>513 เออ กุคือ >>505 น่ะ5555

515 Nameless Fanboi Posted ID:HuzVeJ7OCX

>>514 เจอเพื่อนว่ะ555555555 ตอนนี้กุsufferสัส อยากลาออกมาพักสักหน่อยชิบหาย555555

516 Nameless Fanboi Posted ID:OAkvxg7..W

>>515 ทำมากี่ปีละวะ ของกุ 2 ปี 5555555 กำลังจะออกละ ทำงานนี่ละแม่งเหมือนใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่มีจุดหมายอะไรเลย

517 Nameless Fanboi Posted ID:HuzVeJ7OCX

>>516 ปีนิดๆ เพิ่งจบปีที่แล้ว55555 ยังไม่รู้เลยจริงๆอยากทำไรกันแน่

518 Nameless Fanboi Posted ID:v8w0777Su9

>>517 เซมว่ะ มึงไม่รู้อยากทำไรแต่ก็รู้ว่าไม่ใช่ทำที่นี่ใช่มั้ยวะ55555555 เพราะกุก็เป็น ฮืออออออ

เอาจริงกุอยากออกนานละแต่เพราะโควิดเลยลากยาวมาขนาดนี้

519 Nameless Fanboi Posted ID:VNwHDqorfO

จบ 6 ปี มีงานให้กูมั้ยวะ

520 Nameless Fanboi Posted ID:JR3posMCqa

>>518 ช่าย5555

521 Nameless Fanboi Posted ID:v8w0777Su9

เอาจริงกุก็ไม่รู้ว่าที่ไหนแม่งดีบ้างเพราะเคยทำแค่อกด

522 Nameless Fanboi Posted ID:JR3posMCqa

>>521 กุอยากออกมาลองหาไรเรียนดูว่ะ แบบพักเลยสักเดือนสองเดือนละค่อยว่ากันใหม่

523 Nameless Fanboi Posted ID:ho0iMWkuCN

แอบเผือกพวกมึงคุยกัน อกด นี่คนในอยากออกคนนอกอยากเข้าปะเนี่ย 555 บ.กูคนลาออกไปอกดกันเยอะมาก เพื่อนกูที่อยากเข้าหรือย้ายงานไปก็เยอะมากเช่นกัน

524 Nameless Fanboi Posted ID:JR3posMCqa

>>523 เออสำหรับกุคิดว่างั้น55555

525 Nameless Fanboi Posted ID:p5acGpHPJ.

ไม่รู้จะถามมู้ไหนขอถามมู้นี้ละกัน ถ้าเริ่มจาก noc จะไปเป็น network en พอเป็นไปได้มั๊ยหรือว่าอนาคตสายนี้ความต้องการจะน้อยลง ไปเป็น dev ดีกว่า

526 Nameless Fanboi Posted ID:MV0w.gGF6+

>>525 ยากมั้ง noc นี่แค่ดู alert เฉยๆรึเปล่า ไม่ได้ทำ technical

527 Nameless Fanboi Posted ID:HzmKEbNibG

เพื่อนโม่งคนไหนสมัคร Actkathon บ้าง?

528 Nameless Fanboi Posted ID:zYj8a1xGMH

>>527 เสียเวลาซีวิตเปล่าๆ เงินรางวัลโคตรน้อย

529 Nameless Fanboi Posted ID:st9mwSolVb

>>527 ว่าจะสมัคร แต่เห็นหน้ากรรมการแต่ละคน กุเลิกสมัครดีกว่า

530 Nameless Fanboi Posted ID:jxZfRl/pkC

>>525 ได้นะ ไม่ตกงานรอก ทุกที่ใช้infraหมด

531 Nameless Fanboi Posted ID:kwnRnb2cnn

ดูพรีเซ้นต์งานนักเรียนบอมน้อย รำคาญ ceo มันชิบหายเลยว่ะ พูดไปเรื่อย พูดเรื่อยเปื่อย

532 Nameless Fanboi Posted ID:mJk0fRAZUf

>>531 คือไรงง

533 Nameless Fanboi Posted ID:kwnRnb2cnn

>>532 บอทน้อยๆ พิมพ์ผิด
คือเขา present project ของนักเรียนรุ่น 3 อยู่
กูก็จะว่าจะดูเผื่อถ้ามันดีจะได้ไปเรียนรุ่น 4 แต่ฟัง ceo พูดแม่งกูก็รำคาญซะละ แล้วดูโปรเจ็คทีมยังไม่ว้าวเท่าไหร่ แนวคิดบางทีมโอเค แต่ยังทำไม่เสร็จซะเยอะ เพราะมันทำจริงไม่ได้ ตันตรงจะหา data มาจากไหน
โจทย์ที่กูอยากรู้จริงๆคือ เทคนิคการ collecting data แบบต้นทุนถูกๆ แต่เหมือนเขาไม่ได้สอนตรงนี้เท่าไหร่ ทั้งๆที่การทำงานจริง ปัญหานี้มันใหญ่สุดในสาย data เลย

534 Nameless Fanboi Posted ID:6zIZ5uK6zw

>>533 หลายๆกลุ่มก็ดูน่าสนใจนะ แต่กุเห็นด้วยว่า CEO แกชอบพูดเป็นต่อยหอย พูดไปเรื่อย แต่กุแปลกใจ ทำไมหลายกลุ่มสมาชิกแม่งโคตรเยอะเลยวะ
ส่วนเรื่องทำเสร็จไม่เสร็จกุไม่แน่ใจว่าเพราะมันเป็นแค่ pitching เปล่า เลยทำแค่ไอเดีย แต่เห็นบางกลุ่มมี demo อยู่นะ บวกกับเวลาทำโปรเจ็ค ไม่รู้ว่าเยอะแค่ไหน
แต่ตรงหาข้อมูลต้นทุนถูกนี่แล้วแต่เคสว่ะ ถ้าเอาง่ายสุดกุว่าพวก open data ทั้งหลายอะ ถ้าในองค์กรที่มี database ก็พยายามเอาจากใน database มาใช้นั่นแหล่ะ แต่ถ้า database มันไม่มี+ไม่มี open data อันนี้คงต้องคุยยาว เช่น ปรับแก้ database ให้รองรับในระยะยาว ทำ data เอง ไม่ก็จ้างเขาทำ
แต่กุเห็นด้วยเลยว่าการหาข้อมูลนี่แม่งเป็นปัญหาใหญ่ บริษัทแม่งอยากจะ digital transform ก็มีไอเดียจะใช้AIช่วยนู่นนั่นนี่แหล่ะ แต่ database แม่งยังกากๆ บางทีมีข้อมูลแต่เก็บข้อมูลเป็น excel เก็บแบบแผนกใครแผนกมัน ข้อมูลตรงที่อยากได้กันมันไม่มี ทีงี้ก็ต้องไปนั่งทำ data gov+ให้ data eng แปลงข้อมูลมาให้ วางแผน+ทำกันเป็นปี แต่ส่วนใหญ่นานเพราะต้องไปคุยกับคนนี่แหล่ะ เสียเวลาชิบ แต่เงินที่ได้กลับมาแม่งก็คุ้มแหล่ะ คือในมุมมองกุคิดว่าต้นทุนที่เสียไปกับเรื่องการหาข้อมูลคือเรื่องของเวลามากกว่า แล้วแม่งเป็นแนวงานคุยกับคนซะส่วนใหญ่ อันนี้จากประสบการณ์กุนะ
ฉะนั้นการมาดู pitching บอทน้อยก็ไม่น่าจะเจออะไรพวกนี้อยู่แล้ว

535 Nameless Fanboi Posted ID:Xqe4+t+PsV

มีใครเคยทำงานแบงค์ม่วงบ้าง เห็นประกาศรับสมัครงานให้เงินเดือนเยอะจัง อยากรู้ของจริงให้ขนาดนั้นจริงรึเปล่า

536 Nameless Fanboi Posted ID:1/llsUcAdw

>>535 เคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาเยอะมากว่าเงินเดือนโหด กระทั่งเด็กจบใหม่ แต่กูไม่เคยสมัครอะไม่รู้จริงเท็จเป็นไง ขอเกาะด้วย

537 Nameless Fanboi Posted ID:LEOlO9xg1C

>>535 ถ้าเป็น scb10x อ่ะเงินเยอะจริง เพื่อนกูหลายๆคนก็แฮปปี้กันกว่าที่อื่นๆที่ให้เรทพอๆกันอีกนะ

538 Nameless Fanboi Posted ID:jMKle1YJI8

>>536 ฐานเงินเดือนสูงอยู่ บางตำแหน่งขนาดจบใหม่ยังได้ 50k

539 Nameless Fanboi Posted ID:KxGZq7NY6g

>>537 >>538 น่าสนใจ เห็นตัวเลขแล้วอยากย้ายงานไปบ้างเลย Y-Y แต่คงย้ายเร็วๆ นี้ไม่ได้ เสียใจจัง

540 Nameless Fanboi Posted ID:4kydHCg/jq

>>535 รับงานสายไหนอ่ะ กูเพิ่งออกจากที่เก่ามานั่งเล่นเกมส์เฉยๆอยู่บ้าน 3 เดือนละ รู้สึกเบื่อๆ

541 Nameless Fanboi Posted ID:iGKau55Fhs

>>533 หมะกูแฉให้ ในฐานะ DSE รุ่นนึง ถ้าเมิงคาดหวังที่จะเรียนเพื่อ know how technique collect data เมิงไปหาคอร์สอื่นดีกว่า เพราะ DSE เน้นหา open dataset มา analytic เลย หรือไม่ก็ให้ไปเก็บ data point ง่อยๆเอง 200 ตัวพอ และแน่นอนตอนเรียนก็มีprojectกลุ่มกะคนต่างวัย ต่างสาขา ซึ่งกูก็ชอบนะตรงนี้นะ แต่ปัญหาก็เหมือนกับ >>534 แหละ ไอเดียดีแต่ไม่มี data หา data ได้ แต่ไม่มีไอเดียพอที่จะวิเคราะห์

อนึ่ง สำหรับกู กูมาเรียนเพื่อหา connection เผื่อฟลุ๊กได้งาน จะได้ย้ายสายเลย สุดท้ายสอบใบเซอร์ สอบ trainee ใน datasci hub อะไรนั้น รู้สึกไม่ต่างจาก recruiter อะไรเลย แค่เน้น data sci data analytic โดยเฉพาะเฉยๆ ซึ่งถ้าหาจากข้างนอก มันก็หายากจริงๆแล้ว รับแต่ senior
อสอง CEO แมร่งเพ้อเจ้อจริงๆแหละ เห็นไปสัญญาอะไรกับ special guess อะไรด้วยเมื่อสองเดือนก่อน แต่ทุกวันนี้ยังไม่เห็นเริ่มอะไรเลย แกคงไม่ว่างจริงๆ 555

>>534 รุ่นนึงมีประมาณ 200-300คน แบ่งกลุ่มทำงาน 10 กลุ่ม ทำจริงๆมีไม่มีคน บางคนอาจมาแค่เรียนเฉยๆ

542 Nameless Fanboi Posted ID:SXUxn4IFqg

เรียน Data science / Data engineer ที่ไหนบ้างวะ ที่มีใบเซอร์ออกให้ + หาตำแหน่งสมัครงานให้ด้วย

543 Nameless Fanboi Posted ID:rbCgg1LJMv

>>542 ชีวิตมึงจะเอาง่ายไปไหน 5555

544 Nameless Fanboi Posted ID:ismIzkcf8e

>>543 ก็ต้องเริ่มแบบไวที่สุดนี่แหละ เพราะคลื่นแห่งการ Disrupt กำลังใกล้จะเข้ามาแล้ว คนอายุวัยกลางคนแบบกูถ้าไม่อยากเน่าตายคาระบบเก่า ก็ต้องปรับตัวให้ไวที่สุดไง ขอแค่ได้เริ่มต้นให้ไวที่สุดก่อน แล้วเรื่องอื่นๆกูจะใช้ประสบการณ์ที่มีทั้งหมดสานต่อเอง

545 Nameless Fanboi Posted ID:V/AMqWA+4v

>>544 หาได้ยังล่ะ

546 Nameless Fanboi Posted ID:ismIzkcf8e

>>545 ยังเลย แต่ตอนนี้กูลง MOOC ไว้อยู่ และจะลงอย่างอื่นๆเพิ่มอีกให้มี Skill หลายๆแบบหน่อยจะได้ One stop service ในตัวเองเลย เสร็จแล้วระหว่างทำงานเดิมอยู่ กูก็หางานใหม่เรื่อยๆ และระหว่างหางานใหม่ก็คงทำ Project ด้วยตัวเองกิ๊กๆก๊อกๆบ้างเผื่อไว้คุยตอนสัมภาษณ์งานใหม่ได้ เริ่มวุ่นวายแล้วมั้ยล่ะชีวิตกู

547 Nameless Fanboi Posted ID:V/AMqWA+4v

>>546 วุ่นวายจริง งานตอนนี้ทำไรอยู่

548 Nameless Fanboi Posted ID:4rngU27rxK

ทำงานมาได้ปีนิดๆอยากลาออกมาพักจังเลยว่ะเพื่อน ไม่รู้เป็นความคิดที่ดีไหมแต่กุเริ่มburnountหนักมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วละ....

549 Nameless Fanboi Posted ID:V/AMqWA+4v

>>548 นี่มันโม่งอโกดารึเปล่า

550 Nameless Fanboi Posted ID:4rngU27rxK

>>549 รู้ได้ไงวะะะะะะ555555555

551 Nameless Fanboi Posted ID:V/AMqWA+4v

>>550 คราวที่แล้วคุยกันมึงก็พูดงี้555555

552 Nameless Fanboi Posted ID:4rngU27rxK

>>551 เออความคิดกุวนลูปอยู่ยังงี้แหละ มึงว่าไงวะ55555

553 Nameless Fanboi Posted ID:V/AMqWA+4v

>>552 กุเชียร์ให้ออก เพราะกุก็ไม่ชอบเหมือนกัน ฮรืออออออ

554 Nameless Fanboi Posted ID:Ny4v26w1YZ

อยากรู้คนที่ออกจาก อกด ส่วนใหญ่ไปไหนกันวะ ส่วนบ.กูก็ยังคงมีแต่คนอยากย้ายไปเหมือนเดิม 5555

สนใจงานที่แอพส่งข้อความสีเขียวว่ะ มีใครรู้เรื่องตัวเลขเรทจบใหม่บ้างไหม เคยได้ยินว่าเยอะ+สวัสดิการดี แต่ยังไม่เคยเห็นตัวเลขแน่นอน กูเคยไปสัมมาแล้วไม่ติด เผื่อว่าปีหน้าจะไปสมัครใหม่ 5555

555 Nameless Fanboi Posted ID:ZYGHgYFZVA

>>554 ไม่แน่ใจแต่รู้ว่างานหนัก turnover สูง

556 Nameless Fanboi Posted ID:ZYGHgYFZVA

>>553 TT ไม่รู้ออกละจะไปทำไรต่อว่ะ

557 Nameless Fanboi Posted ID:srstdmtX5.

>>547 เป็น Supervisor คุมโรงงานอาหารอยู่ ปกติก็มีใช้ Excel , Spreadsheet ทำสรุปข้อมูลการผลิตรายเดือน ตอนนี้เริ่มอิ่มตัวมากๆแล้วบวกกับสุขภาพที่เริ่มแย่จากการทำงานเข้ากะ นอนไม่เป็นเวลาเลย

558 Nameless Fanboi Posted ID:YiY5GXO3lk

>>557 ย้ายแบบนี้เงินเดือนจะได้น้อยกว่าเดิมเยอะเลยนะ

559 Nameless Fanboi Posted ID:Jv30hzVOcg

>>557 ในความรู้สึกกูที่เป็นโปรแกรมเมอร์ธรรมดา ไม่ได้ทำงานสาย Data Science
รู้สึกทำไมตำแหน่งงานมึงมันฟังดูใหญ่โตกว่าโปรแกรมเมอร์เยอะเลยนะ

560 Nameless Fanboi Posted ID:zBqJy.DvK3

เราจะรู้ได้ไงว่าโทรศัพท์เรามีมัลแวร์ หรืออะไรที่ตามดูเราได้ไหมอ่ะ คือคนที่ตามไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันนะ แต่รู้ทุกเรื่องได้ไงไม่รู้ มันมีแแพหรือมัลแวร์ที่แอบดูได้ป่ะ แล้วเช็คไง ไม่อยากคืนค่าโรงงานเพราะเสียดายไฟล์หลายอย่าง

561 Nameless Fanboi Posted ID:NVAZT9UvPJ

>>558 ยอมให้น้อยลงว่ะ ไม่กระทบ Fix cost ของแต่ละเดือนที่แบกไว้อยู่ก็พอ
>>559 ฟังดูมีตำแหน่งก็จริง แต่ต้องสลับเวลานอนทุกสัปดาห์ บวกกับงานที่ทำมันไม่ค่อยมีมีอะไรใหม่ๆให้เรียนรู้แล้ว ที่ทำอยู่ก็เป็นงานรูทีน

562 Nameless Fanboi Posted ID:Peae3zvDxC

>>560 ดูในอัตราการใช้แบตของมือถือว่ามีโปรแกรมไรที่ไม่ค่อยคุ้นใช้แบตหนักๆไหม

>>561 จริงๆ Data Sci กับ Data Eng ไม่ค่อยเหมือนกันนะ ต้องเลือกก่อน Eng ก็จะเขียนโค้ดนี่แหละ แต่เขียนโค้ดเพื่อจัดระเบียบ data ที่เข้ามาในระบบ เช่นเอาไป transform ต่อหรือเอาไปเก็บไว้ในระบบนี้ๆ ก็อาจต้องดูแล maintain ตัวระบบที่เอาไปเก็บด้วย แต่ถ้า Sci ก็เล่นกับข้อมูล หา insight ทำโมเดล prediction machine learning บลาๆ ชื่อสองงานอาจจะใกล้กันแต่งานคนละแบบเลย

Eng จะหางานง่ายกว่า ก็เป็นงานกรรมกรเหมือนโปรแกรมเมอร์ทั่วไป Sci นี่จากประสบการณ์ในการหางานของกู กูว่าค่อนข้างยากถ้าจะหางานที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน
แต่แม่งก็คนละแบบแหละ เลือกอันที่ชอบๆไป

563 Nameless Fanboi Posted ID:QpshQy8.tH

>>562 ขอบใจมากเพื่อนโม่ง กูเคยทำโรงงานมาก่อน ก็คุ้นชินสไตล์กรรมกรแหละเลยเลือกมา Data En ไง

564 Nameless Fanboi Posted ID:gr4LPBsUuC

>>562 ขอบใจโม่ง กูสบายใจขึ้นละ

565 Nameless Fanboi Posted ID:Fpp1exThHw

บ่น ระบบยังไม่เสร็จดีเลย ข้อมูล ยังมี test เพียบ รู้ตัวอีกที sale บอกให้ลูกค้าใช้จริงเฉย อ้าาาก จะบ้าตาย ยังไม่ได้ทำ server production กับ test แยกกันเฟ้ย

566 Nameless Fanboi Posted ID:+qHGdq4PVE

>>565 เว็บซิโนฟาร์มปะวะเนี่ย ปตท digital แม่งทำออกมาเหี้ยจัด

567 Nameless Fanboi Posted ID:LviSL2rGyp

ทำงาน consult ดีไหมวะเพื่อนโม่ง

568 Nameless Fanboi Posted ID:fQiYq1XOgZ

Exxon ใช้คอมไรกันครับ

569 Nameless Fanboi Posted ID:ifDpssA9OL

>>568 ASUS TUF Gaming

570 Nameless Fanboi Posted ID:tp3p59lb2k

>>569 ถามจริง

571 Nameless Fanboi Posted ID:z.NkiO7VTm

>>568 thinkpad

572 Nameless Fanboi Posted ID:tLMoio3WT/

>>568 Dell

573 Nameless Fanboi Posted ID:Sk.oq+miK0

วงในเงินดีไหม

574 Nameless Fanboi Posted ID:DlZ73eWobm

เบื่อเขียนโค้ดแล้ว ไปทำไรดีเพื่อนโม่ง

575 Nameless Fanboi Posted ID:qvzXHNkBqW

ทำไม php ถึงกากวะ?

https://www.facebook.com/koonnarate/posts/10219621677799960

576 Nameless Fanboi Posted ID:Y78ILOzv8g

>>575 ไม่กากหรอกเร็วกว่า NodeJS เยอะ ยิ่ง 8 นี่อุดจุดอ่อนเดิมๆ ไปหมดแล้ว

577 Nameless Fanboi Posted ID:cT1rRSk6Ca

มีโม่งคนไหนเคยทำ DGA Depa GDBi มั้ย น่าทำงานมั้ยวะ ไปดูเว็บแล้วงงๆว่ามันทำงานอะไรกัน
พอดีกุสนใจงาน data sci/eng เคยทำเอกชนมาปีนึง
กำลังมองหาลู่ทางหลังเรียนจบโทว่าจะไปอุทิศตนเพื่อชาติหรือเข้าสายทุนนิยมดี เอกชนแม่งเงินเยอะเหี้ยๆ
แต่กุก็อยากลองทำราชการวะ เห็นระบบ IT ไทยมันโง่แล้วหงุดหงิดอยากลงไปทำเอง

578 Nameless Fanboi Posted ID:74YjrPIn+4

>>577 กูเคยติดทุนของกพสาย data อ่ะแต่ทิ้งมาทำเอกชน ไม่รู้อันเดียวกันป่าว มีเพื่อนทำอยู่ / เคยคุยกับคนที่ทำงานข้างใน แชร์เท่าที่รู้เพราะกูวงนอก
เท่าที่รู้ผ่านๆเหมือนช่วงนี้ราชการเขายังเน้น data eng กันอยู่เลย ไม่ค่อยได้จับ sci/ทำโมเดลอะไรเพราะหน่วยงานรัฐหลายที่ยังไม่พร้อมตั้งแต่ขั้นเตรียมเดต้า (แหงล่ะ...) เรื่องระบบงานราชการเพื่อนกูก็บ่นๆเหมือนกันว่าห่วยแตก นอกจากเรื่องระบบ ก็เรื่องเงินเดือนราชการที่แม่งน้อยมาก ได้ข่าวมาว่าสตาร์ทแค่หนึ่งหมื่นกับอีกหนึ่งพัน (ป.ตรี/น่าจะแล้วแต่ตำแหน่ง+วุฒิเห็นในเว็บมีตารางอยู่)
ยังไงก็ตาม กูวงนอกมากๆ ถ้ามีโม่งวงในผ่านมาอยากแก้ตรงไหนแก้ได้เลยนะ

579 Nameless Fanboi Posted ID:GGkml.kCUw

มึง กูสงสัย

580 Nameless Fanboi Posted ID:GGkml.kCUw

>>579 เอาใหม่ มือลั่น คือกูสนใจงานที่บริษัทเครื่องหมาย > สีม่วงๆ แต่ทำไมทั้งกูทั้งเพื่อนรอบตัวเหมือนเจอปัญหาสมัครงานเข้าไปแล้วบริษัทไม่ติดต่อกลับมา หรือติดต่อกลับมาช้ามากกันหมดเลยวะ คือบริษัทแคนดิเดตเยอะจนเลือกได้เลยหรอ
ทั้งกูทั้งเพื่อนกูก็โปรไฟล์ถือว่าค่อนข้างดีถึงดีมาก ส่วนตัวกูเคยสมัคร ก็รอเป็นปีถึงจะเรียกสัม กว่าจะติดต่อมากูก็ตกลงทำที่อื่นไปละ ตอนนี้กูคิดๆ ชั่งใจอยู่ว่าจะย้ายงานไปดีไหม เพราะงานที่ทำอยู่มันชิลมากเกินไปจนเบื่อ มีคนจาก > ติดต่อมาแหละ แต่ก็รู้สึกว่าต้องโดนแกงอีกแหงเลย

581 Nameless Fanboi Posted ID:ofvbxVitCi

>>580 กูพึ่งได้ offer ที่นี่นะ ไม่ได้ยื่นเอง แต่มี recruiter ติดต่อมา กูว่าเป็นปกติเวลาสมัครงานอยู่ละ บริษัทส่วนใหญ่ ถ้าอยากได้เร็วต้องคุยตรงผ่าน recruiter

ว่าแต่บริษัทมันดีไหมวะ กูไม่มีข้อมูลเลย

582 Nameless Fanboi Posted ID:ofvbxVitCi

อ่อ ลืม ของกูที่ recruiter ติดต่อมาคือ ทำ assignment เสร็จ สองวันถัดไปนัดสัมภาษณ์เลย เร็วมาก

583 Nameless Fanboi Posted ID:6m5x0rUunC

>>580 ที่กุเจอมานะ ถ้าสมัครเองบางทีมึงลงตำแหน่งนึงไว้ แต่ตอนนั้นยังไม่มีทีมไหนต้องการมึงก็รอไป แต่ถ้าผ่าน recruiter แม่งก็จะดีลให้เลยไง

>>581 กูไม่ได้ทำที่นี่นะ แต่เพื่อนทำอยู่เยอะ ดีไม่ดีแล้วแต่ทีมที่ได้ไปอยู่ว่ะ แต่ทีมดีๆก็ถือว่า rare นะ โดยเฉลี่ยเพื่อนกูทำประมาณ 6 เดือน - 1 ปีก็ออก เน้นมาอัพเงินเพื่อไปต่อมากกว่า

584 Nameless Fanboi Posted ID:6m5x0rUunC

มีใครทำงานอยู่ ต่างประเทศบ้างวะ แนะนำแนวทางหน่อย ต้องมีสกิลประมาณไหน สิ้นหวังกับประเทศไทยแล้ว

585 Nameless Fanboi Posted ID:JXukS/+yJO

ย้ายไปทำ low code ดีไหมวะ

586 Nameless Fanboi Posted ID:ngECtbtbgf

>>584 ถ้ายังอยู่ในระดับที่แค่นี้ยังหาข้อมูลเองไม่ได้ ก็จงอยู่ไทยแบบสิ้นหวังบ่นเช้าบ่นเย็นไปเถอะ เพราะชีวิตจริงมึงต้องหาทางพึ่งตัวเองอีกเยอะ

ส่วน skill ประมาณไหนก็ดูงานประเทศที่มึงจะไปทำดิ งานเค้าระดับไหน pinterest google มีก็ลองหาดูเทรนภาษา ดูดีไซน์เอาก่อนดิ

587 Nameless Fanboi Posted ID:JXukS/+yJO

>>586 เม้นมึงไร้ประโยชน์ดีว่ะ

588 Nameless Fanboi Posted ID:j7110r/Sgd

>>586 กูไม่ใช่ 584 นะ แต่กูก็อยากรุ้แบบมันเหมือนกัน ความอยากย้ายมีมาเป็นพักๆ ก็เลยหาข้อมูลอยู่ซักพักแล้ว เช่น relocate.me หรือ turing.com แต่ข้อมูลที่เป็น "ประสบการณ์" ของคนที่ย้ายประเทศ มึงคิดว่าหาเอาจากกูเกิ้ลได้ง่ายๆ หรอวะ การที่มันมาถามในโม่งมันก็คือหนึ่งในการหาข้อมูลไง ถ้ามึงไม่มีประสบการณ์จะเล่าก็ไม่เห็นต้องด่าเลย(กุที่อยากรุ้บ้างเลยโดนไปด้วยละเนี่ย)

589 Nameless Fanboi Posted ID:j7110r/Sgd

>>588 เพิ่มเติม ปกติในประกาศรับสมัครงานมันจะบอกสกิลที่ต้องการแบบกว้างๆ แต่กุก็ยังประหม่าอยู่ดี เพราะอย่างที่รู้กันว่าการรับคนนอกประเทศแม่งยุ่งยากกว่า บ.เขาคาดหวังขนาดไหนที่ในสกิลเดียวกันนี้ ว่าผู้สมัครจะต้องโดดเด่นแค่ไหนเมื่อเทียบกับคนในประเทศ บ.จึงจะยอมลำบากมากขึ้นเพื่อจ้างมัน หรือจริงๆ กูแค่ป๊อดไป เขาไม่ได้เปรียบเทียบกับคนในประเทศ หรือความแตกต่างระหว่างประเทศนี้ประเทศนั้น มีกำแพงภาษามั้ย อะไรเงี๊ยที่กูอยากรู้เหมือนกัน

590 Nameless Fanboi Posted ID:DAomrofhX6

>>587-588 ในโม่งมีพวกอยากทำเป็นฉลาดด่าคนอื่นเอาสนุกอยู่เยอะ ทีหลังเจอก็เมินๆแม่งไปเหอะ

591 Nameless Fanboi Posted ID:ebHnMiytCN

หวัดดีโม่ง

592 Nameless Fanboi Posted ID:rJ7K27XJYm

https://youtu.be/li8-JuBvtqo เรียนรู้ซะบ้างพวกโม่ง

593 Nameless Fanboi Posted ID:Chkv7J7TDp

>>589 มีแค่ไม่กี่ทางหรอก ตปท. ที่รับ งานที่เกี่ยวกับการแปลภาษา อันนี้ต่อให้ไปทำ SG มึงก็ต้องเกี่ยวกับไทยอยู่ดี แต่ส่วนมากเป็นเอเจนซี่มีกำหนดเวลาจ้าง อยู่ไม่นานหรอก แถมเงินก็ไม่ได้มากมาก จะไปเก็บเงินก็พอได้ แต่เงินมันไม่ได้มากมายเทียบกับคนทั่วไปประเทศเค้า ซื้อบ้านไม่ไหวหรอก อ่อ ไอ้งานแปลภาษา การพัฒนาฝีมือเลิกคิด ลูทีนก็อปวาง ส่วนวิธีสมัครอันนี้รู้แต่ส่วนมากไปลากมาจาก ลิงค์อิน

อีกทางเรียนต่อแล้วหางานที่โน่นทำ แต่ละประเทศมันมีคุณสมบัติเบื้องต้นที่จะรับเป็นประชากร เรียนต่อแล้วทำงานได้เปรียบสุดแล้ว ถ้าอายุไม่ถึงเลข 3 ไอ้ทุน work and study ก็มีอยู่นิ ลองไปไล่ๆ สมัครดู

โอนย้ายสาขาไปทำงาน อันนี้บริษัทญี่ปุ่นบางที่ทำได้ คือ ขอไปทำบริษัทแม่ได้เลย แต่บอกเลยว่าถ้าไม่ได้มีเมียยุ่นแล้วจำเป็นต้องไปอยู่นั่นจริงๆ อย่าหาทำ โดนลากไปเป็นเซลที่เกาะแน่

ไปอย่างผู้ประกอบการ อันนี้คงไม่มีมาถามในโม่งหรอกมั้ง ไปถามบริษัทที่ปรึกษาด้านนี้ง่ายกว่า แบบกำปั้นทุบดินก็อสังหา แต่ประเทศพัฒนาทำเงินด้านอสังหายาก มึงต้องไปหาแถวปินส์โน่น

ไปอย่างกรรมกรไม่แนะนำ ถ้ามึงเขียนโปรแกรมในไทย ระดับเงินเดือนถือ เป็นชนชั้นกลางเงินก็มากกว่าอยู่แล้ว จะไปแบบนี้ทำเหี้ยอะไร

594 Nameless Fanboi Posted ID:Chkv7J7TDp

ส่วนคำถาม skill ประมาณไหน อันนี้ wtf มาก โดนกวนตีนกลับไม่แปลก ก็ใครจะไปตรัสรู้วะ เล่นถามแบบเคว้งคว้างมาก ก่อนจะถาม อย่างน้อยๆ บอกว่าทำอะไรสายไหนก่อนสิ

Game Web ERP Server ???

595 Nameless Fanboi Posted ID:Q6Db3AaYSJ

เงินเดือนเท่าไหร่กันครับพี่โม่งโปรแกรมเมอร์ในไทย

596 Nameless Fanboi Posted ID:.ZqnwieUv1

แสนสอง

597 Nameless Fanboi Posted ID:Q6Db3AaYSJ

>>596 ปสก กี่ปี

598 Nameless Fanboi Posted ID:VtnurvjzsK

>>597 นั่นดิ ทำไมเวลากุขอเงิน แล้ว มาคิดทีหลังว่าทำไมได้น้อยกว่าอีกหลายที่ ที่ประกาศรับในประสบการณ์เท่ากันวะ 55555

599 Nameless Fanboi Posted ID:YcmOzUIm/F

สายโปรแกรมเมอกุแนะนำหาเอาใน LinkedIn ฟิลเตอร์ตามประเทศที่ชอบ แล้วอ่านดูเลยว่าเขาอยากได้คนมีอะไร ส่วนใหญ่พวกนี้อยากได้คนมี ปสก เป็นเด็กใหม่ก็ลำบากหน่อย
เจอที่ไหนพอไหวก็ submit ไปเลยเขาว่าดีเด๋วก็มีคนมาสัมเอง
ตอนสัมเมิงก็อย่าลืมถามเรื่องโปรเซสดีๆด้วยว่าน้ายไปไง เงินตัวเอง หรือ บ ออกให้

600 Nameless Fanboi Posted ID:V87OA/Od2w

>>595 ไม่กล้าเรียกตัวเองว่าโปรแกรมเมอร์เลยว่ะ กู Front-end Dev 40k ปสก ปีนึง ย้ายสายมาจากเป็นดีไซเนอร์มาเกือบสิบปี

601 Nameless Fanboi Posted ID:vaF.PZXb69

>>600 ทำไมถึงย้ายวะ ถ้าทำมาเกือบสิบปีเงินเดือนน่าจะเยอะกว่า 40k รึเปล่า

602 Nameless Fanboi Posted ID:sPBo7H3BQY

ดีไซเนอร์บ้านเรามันมีเงินเดือนตันนะ ไอ้บริษัทประเภทที่ว่างานไม่ได้แพงไปจ้างฟรีแลนต์เอาก็ได้มันมีเยอะ อีกอย่างเซลขายงานดีไซน์ราคาแพงยาก

603 Nameless Fanboi Posted ID:rYMcgtnn+X

>>580 คือกูเอง ของกูคือแนวๆ คนที่ทำอยู่ในนั้นหาคนเลยติดต่อมา โดนหลายรอบแล้ว แต่ส่งเรซูเม่ไปก็เงียบกริบ ... ส่งไป 3 เวอร์ชั่นแล้วคงไม่ถูกใจสักอันเลยมั้ง 5555
>>581 อิจฉาว่ะ ไม่รู้ว่าดีไหม แต่สำหรับกูเนื้องานเป็นสิ่งที่กูชอบและสนใจเลยอยากไปทำ ได้ยินเพื่อนที่ไปทำก็บอกงานท้าทายดี แต่ขึ้นชื่อเรื่องทำงานหนัก work-life balance พัง แต่กูเป็น workaholic เลยถูกใจใช่เลย 555

604 Nameless Fanboi Posted ID:C3whVULNa8

>>601 ก่อนย้ายคือเงินเดือน 30k ถ้าไปสาย management ก็จะได้สูงกว่านี้แหละ แต่กูชอบทำตัวงานมากกว่าจัดการกับคน รวมถึงอินกับโค้ดดิ้งด้วยแหละเลยลองย้ายดู

605 Nameless Fanboi Posted ID:Z7ACaKJJaX

>>603 โปรไฟล์มึงดีประมาณไหนวะ

606 Nameless Fanboi Posted ID:EOltPjBamv

https://pantip.com/topic/40941528

607 Nameless Fanboi Posted ID:OEWV1/gbaX

>>606 หลังโควิดไว้ค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้ใครเดินเข้าออก office ก็เสียวกันทั้งนั้น แถมสายโฆษณายอดขายยังไม่ปรกติด้วย

608 Nameless Fanboi Posted ID:4+neqqeMot

พวกมึงมีใครที่เคยเป็น team lead แล้วกลับมาเป็น dev มั่งป่ะ
ถ้าขอกลับมาเป็น dev / หางานใหม่เป็น dev จะโดนลดเงินเดือนมั้ย แล้วมันจะทำให้ profile เราดูแย่รึเปล่า
ตอนนี้ทีมกูคนออกเยอะมาก โดยเฉพาะคนที่เป็น lead แล้วกูก็ค่อนข้างอาวุโสในหมู่ dev กูเลยโดนผู้ใหญ่คะยั้นคะยอให้เป็น team lead แทน
แต่ด้วยนิสัยกูไม่ใช่คนเก่งเรื่องคนเท่าไหร่ อยากทำงานเน้นเรื่อง technical และกูไม่ได้พร้อมรับผิดชอบอะไรใหญ่โตขนาดนั้น
กลัวถ้าไปรับปากเค้าเพราะแค่จะลองดู แล้วถ้าไม่ชอบมันจะกลายเป็นมีปัญหาทีหลัง

609 Nameless Fanboi Posted ID:5u5Dj4s0c5

>>605 ไม่กล้าบอกเยอะกลัวโม่งแตก 555 เอาเป็นว่าประมาณ academic แข็ง ภาษาอังกฤษดี บุคลิกภาพโอเค กิจกรรมนอกเวลาเรียนมี เปเป้อก็มี มีปสกทำงานที่หาคนเคยทำยาก+ได้ยินว่าบริษัทนี้ก็หาคนทำตำแหน่งนี้อยู่ โปรไฟล์ไม่ได้เพอร์เฟ็คหรอก แต่ไม่คิดว่าจะเป็นแคนดิเดตที่แย่น่ะ ยัดทุกอย่างในเรซูเม่แล้วกะว่าไม่น่าพลาด แต่ก็พลาด อาจจะไม่มีดวงร่วมกันจริงๆ ละมั้ง 555

610 Nameless Fanboi Posted ID:w2NWQaVLlY

>>609 เสียใจด้วยเพื่อนโม่ง แล้วเอาไงต่อวะ

611 Nameless Fanboi Posted ID:jaxBHRfwUM

>>608 บริษัทใหญ่ที่ทำแต่ in house อาจจะมีแยกเป็นจริงจังบ้าง แต่ถ้าบริษัทเล็กๆ ตำแหน่ง มันก็แค่ตำแหน่งไว้แปะคุยกับลูกค้าแค่นั้นแหละ บางทีก็เอา sale แปะ lead ไม่ก็ลาก dev ที่กำลังปั่นงานแปะป้าย lead ไปคุยกับลูกค้าก็มี ส่วนเงินเดือนมันก็เท่าเดิมนะ

แต่มันมีอีกกรณี คือ ควบตำแหน่ง อันนี้นรกแตกของจริง กูเคยทำแบบนั้นมาแล้วเกือบตาย
ทำงาน 827 837 เคยได้ยินไหม ทำงาน 8 โมงเช้ายัน ตี 2 ตี 3 7 วัน / สัปดาห์ไม่หยุด เป็นปีๆ กลางวันประชุมกับลูกค้า แล้วกลับมาปั่นงานตอนกลางคืน ตอนลาออกไตเกือบพัง เพราะแทบจะกระดกกาแฟต่างน้ำ

612 Nameless Fanboi Posted ID:VAYfgFfNzH

>>610 ตอนนี้ทำที่อื่นละ ก็โอเคนะ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่อยากทำ/ค่าตอบแทนกลางๆ แต่เริ่มติดเซฟโซนละเหมือนกัน ค่อยหาโอกาสย้ายในอนาคตเอา บางทีอยู่ที่ที่ต้องการกูก็อาจจะดีกว่าก็ได้ กูแพ้บริษัท/หัวหน้าที่เอาใจ 55

613 Nameless Fanboi Posted ID:JRaazb862D

>>611 พอดีของกูบริษัทใหญ่น่ะ งานของคนเป็น lead จะเป็นแนวสอนงาน ประเมินผลงานลูกน้อง ประชุมกับคนนอกทีมแทน
แต่ก็ยังต้องทำงาน dev ไปด้วยอยู่ดี งานคงไม่ถึงกับหนักมาก แต่คงเลี่ยงการต้องทำเกินเวลาพอสมควรไม่ได้
เงินเดือนคิดว่าได้เพิ่มซัก 5,000 - 10,000 มั้งนะ
ซึ่งด้วยความที่กูอายุงานเยอะแล้ว เลยรู้สึกว่าเงินเดือนที่เพิ่มเทียบกับความรับผิดชอบที่เพิ่มมาแล้วไม่ค่อยจะคุ้มเท่าไหร่

614 Nameless Fanboi Posted ID:/WNuKV4wOy

>>609 บริษัทที่สมัครนี่ใช่ scb 10x เปล่าวะ กุเดาว่าที่ hr โทรช้าเพราะแม่งโทรไปหาคนอื่นก่อน ที่กุเดางี้เพราะในไลน์กลุ่มของภาคกุ (วิศวะ คอม สีชมพู) แม่งมาโพสหาคนทุกเดือนเลย ใครสนใจก็ทักส่วนตัวไป เหมือนแบบเอาคนที่คนใน Refer กันก่อนอะ
แล้วอีกเรื่องนึง กุคิดว่าตำแหน่งงานสาย tech ของแก๊ง scb ทั้งหลายน่าจะชอบสีชมพูพอสมควร ที่เคยเห็น process ก็ประมาณ1-2เดือนนึงมั้งถ้าจำไม่ผิด (โทรคุยhr+ทำ online test+สัม)

615 Nameless Fanboi Posted ID:L8NpnNYRqA

มีโม่งหญิงเป็นโปรแกรมเมอร์บ้างป่ะ กูผู้หญิงแล้วในทีมแม่งมีแต่ผู้ชายหมดเลย อยากมีเพื่อนสาวไว้เม้ามอยบ้างไรบ้าง ; ;

616 Nameless Fanboi Posted ID:93GAIcP9Qx

>>614 ม่ายช่าย 10x แต่แอบสน เสียใจจังตอนเข้ามหาลัยเลือกสีชมพูได้แต่ไม่เลือก จบมาหางานง่าย+คอนเนคชั่นแน่นกว่ากันเยอะ น้องๆ คนไหนผ่านมาส่องเลือกได้ไปสีชมพูเลยจ้ะ ส่วนกูก็คงต้องพิสูจน์ตัวเอง สร้างโปรไฟล์ต่อไป ยาวยาววว เหนื่อยจัง ~_~
>>615 กูเอง โปรแกรมเมอร์หญิงกูว่าเยอะมากนะ อาจจะแล้วแต่สาย แล้วแต่บริษัท

617 Nameless Fanboi Posted ID:sOIipNLDI0

ของกูก็วิดวะคอมชมพู ไม่เห็นมีใครมาโพสในกรุ๊ปเลยวะ สงสัยแก่แล้ว

ว่าแต่ 10X มันเทพขนาดไหนวะ ได้ยินบ่อยมาก

618 Nameless Fanboi Posted ID:+8XuXkbzos

กูเพิ่งนึกออกลูกศรม่วงที่พวกมึงคุยกันคือบริษัทอะไร กูไม่เคยสัมผัสโดยตรง แต่ฟังจากคนรู้จักที่ออกมาจากตรงนั้นคือแม่งระยำเกิน
ก็ไม่ได้อยากขัดศรัทธานะ แต่กูแค่อยากเตือนคนที่อยากไปเพราะคิดว่ามันเหมาะกับคนชอบงานหนัก ว่ามันไม่น่าจะดี
นอกงานงานหนักแล้วแล้วมันมีวีรกรรมอะไรอื่นๆอีกเยอะมาก
- เอาคนจบ ม. ดังๆ เกรดดีๆ แต่ไม่ใช่สาย IT มาเป็นหัวหน้างานเพื่อเอา profile ดีๆไปอ้างขอตังกับลูกค้าทั้งที่คนพวกนี้ไม่รู้เรื่องงานอะไรเลย
- ระบบเด็กเส้น พวกข้างบนนี่จะได้ขึ้นเงินได้โปรโมทบ่อย ทั้งที่จริงๆไม่ได้ทำเชี่ยไรเลยนอกจากสั่งอย่างเดียวจริงๆ
- ด้วยสภาพและบรรยากาศการทำงาน มึงจะไม่ได้เรียนรู้อะไรเท่าไหร่ ทำงานแบบลวกๆสักแต่ว่าให้รันได้ไปเรื่อยๆ
- สวัสดิการจะเบิกทียึกยักมาก อ้างว่าเอกสารไม่ถูกมั่ง โยกโย้ไปเรื่อง สุดท้ายก็ไม่ให้เบิกอย่างที่อ้าง
- เงินเดือนเดือนสุดท้ายไม่ยอมจ่ายหรือจ่ายไม่ครบนี่แหละ หาว่าออกก่อนสัญญาเลยปรับเงินพนักงาน ต้องไปฟ้องศาลแรงงานถึงได้คืน
และอื่นๆอีกเยอะ นึกไม่ออกละ

619 Nameless Fanboi Posted ID:a/KgcUL0iu

ถามหน่อยว่าแล้ว ม. สีน้ำเงิน อินเตอร์ จบมาหางานง่าย, คอนเนคชั่น นี่เทียบกับ ม. ชมพูแล้วด้อยกว่ากันเยอะมั้ย

620 Nameless Fanboi Posted ID:qt2xzL7AME

>>619 เอ่อ ในความเป็นจริง มึงจบ ม. อะไรก็ตาม เค้าไม่มาสนใจหรอก ที่สนใจหลักๆ ก็แค่

- มึงคุยกับเค้ารู้เรื่องหรือเปล่า บาง office ต้องทำงานร่วมกับชาวต่างชาติ
- มึงทำงานได้หรือเปล่า คือ เค้าจ่ายเงินจ้างมาทำงาน ไม่ได้จ้างมาเรียน อย่างน้อยๆ มึงต้องเขียนเป็น ในระดับ อธิบายวิธีเชื่อมต่อ วิธีจัดเก็บ แล้วแจกงาน มึงต้องทำงานได้เลย

ซึ่งสิ่งที่เค้าสนใจและให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องจบจาก ม. ไหน คือ portfolio สมมุติว่า ถ้าเค้ารับมึงมาเขียน app มือถือ กรณีนี้ถ้ามึงเคยวางขาย app ใน store มาก่อน เค้าจะให้ภาษีมึงดีกว่า ก็แค่นั้นเอง

621 Nameless Fanboi Posted ID:gB8cAWWt8H

ก็ปฏิเสธไม่ได้แหละว่า ม มีผล
อยู่ที่ hr ล้วนๆ

บ กุเคยรับหมดไม่เลือก
พอเปลี่ยน hr ดันมีเลือกสีเฉย

622 Nameless Fanboi Posted ID:qt2xzL7AME

คนรับเข้าทำงานไม่ใช่ hr นิ hr แค่หายรายชื่อมา คนรับจริงๆ คือหัวหน้าทีม
ถ้าเลือกสีแล้วหาคนไม่ได้ hr ก็ซวยตอนประเมิน kpi เอง

623 Nameless Fanboi Posted ID:fBB9PruK1c

>>622 มันไม่ใช่แบบนี่ทุกที่ไงมึง

624 Nameless Fanboi Posted ID:L0qZfmbver

สาย tech เขาชอบดู portfolio ก็จริง แต่ถามว่า มอ มีผลไหม มีแน่ๆ เรื่องนี้มั่นใจพอสมควร
อารมณ์เหมือนเครื่องการันตีคุณภาพอะ เกรดกากๆสีชมพู เบสิคต่างๆยังแน่น หัวไวพอสมควรเทียบกับหลายๆที่ เรื่องพวกนี้จี้ตอนสัมก็พอรู้ล่ะ

แต่อันนี้หมายถึงพวก fresh grad นะ ถ้ามีประสบการณ์การทำงานก็อีกเรื่องนึง

625 Nameless Fanboi Posted ID:L0qZfmbver

>>617 เทพมั้ยไม่รู้ แต่10xเงินแม่งหนา ส่วนสีเขียวแม่งงก กดเงินชิบหาย ยังไม่รวมกับที่แม่งชอบเปิดเพลงคาราบาวทุกตอนเย็น แสลงหูชิบ

626 Nameless Fanboi Posted ID:HWD6sVszBa

ประสบการณ์ไม่มีก็หางานยากนะชมพู

627 Nameless Fanboi Posted ID:cIjN7lJBN8

>>619 ถ้า portfolio มึงพอมีอะไรบ้าง ไม่ต้องถึงระดับเทพ ภาษาได้ สื่อสารเป็น แค่นี้ก็ผ่านเกณฑ์บ.ดังๆเกือบหมดแล้ว กูว่าข้อดีของสีชมพูเด่นๆเลยคือ มันมีเพื่อน มีพี่มาชวนทำอะไรเล่นไว้ประดับพอร์ตเยอะ ถ้าเทียบกับที่อื่นนะ

628 Nameless Fanboi Posted ID:cIjN7lJBN8

เออ กูเคยทำสีเขียว แม่งการเมืองเยอะจัดจนมีโปรเจ็คล่มทุกปี คนเก่งๆเลยย้ายไปสีม่วงกันเยอะ

629 Nameless Fanboi Posted ID:/61ZlP/mhW

>>618 เป็นบริษัทที่ชื่อเสียงกับชื่อเสียงเยอะพอๆ กันจริงๆ ขอบคุณมากที่มาแชร์ บริษัทที่กูทำอยู่ก็โอเคมาก กูอาจจะแค่หน้ามืดตามัว หลงในสิ่งที่ตัวเองไม่มี TT

หันมองม.ชมพู แล้วหันกลับมาม. ที่กูจบมา ยังกะคนละโลก คนเก่งๆ ก็พอมี แต่ส่วนใหญ่มีแต่เหมือนมาเรียนเล่นๆ เพราะที่บ้านมีตังอยู่แล้ว หาคนทะเยอทะยานยากมาก เอาแค่จะหาข้อมูลว่าบริษัทไหนน่าร่วมงานด้วยนี่ว่ายากแล้ว หารุ่นพี่หรือเพื่อนที่ทำงานบริษัทดังๆ นี่คือนับคนได้เลย ตอนที่ได้ยินว่าม.อื่นมีแบบจับกลุ่มติวสอบเข้าทำงานบลาๆ ม.กูนี่ยังไม่มีคนเริ่มหางานเลย เป็นเศร้า ดูแค่ม.ที่จบก็บอกแนวโน้มได้ว่าจะเป็นคนประมาณไหน อันนี้กูเห็นด้วยมาก เพราะเจอกับตัว

630 Nameless Fanboi Posted ID:e8LTrMM6qo

>>629 อันนี้ไม่ได้กวนนะ มันมีชื่อเสียงด้านดีๆอะไรบ้างหรอ กูไม่เคยได้ยินเรื่องดีๆของบริษัทนี้เลย เห็นมีแต่คนสาปแช่ง

631 Nameless Fanboi Posted ID:QPq4VtLfBl

จะซื้อโต๊ะปรับระดับมา มีแบรนด์ไหนแนะนำบ้าง

632 Nameless Fanboi Posted ID:9otTybPErW

>>630 จ่ายเรทดีถ้ามึงต่อรองเก่งตอนสมัครเข้า แต่แรงงานทาส

633 Nameless Fanboi Posted ID:qEu5I81Dpu

>>632 งั้นกูว่าก็เหมาะแค่เข้าไปอัพเงินเดือนแล้วก็รีบลาออกหนีไปที่อื่นต่อใช่ป่ะ

634 Nameless Fanboi Posted ID:W8/mv6rG/t

ปาฎิหาริย์มาก รีพลายกูหาย

635 Nameless Fanboi Posted ID:KN2Jxmo/Tj

เกลียดวงในว่ะ

636 Nameless Fanboi Posted ID:W60w12Y4Yd

>>635 ว่าไงไหนเหลา

637 Nameless Fanboi Posted ID:yKq9tpMMHH

>>636 เมื่อก่อนมันไม่รับกู แล้วตอนนี้จะมาชวนกูไปสัม ควาย

638 Nameless Fanboi Posted ID:N3K2Kz.ClI

ช่วงก่อนหน้านี้คนทีมกูลาออกกันไปเกือบหมด แล้วก็มีจะรับ dev team lead เข้ามาใหม่คนนึง
ตอนหัวหน้าแผนกบอกชื่อ ชื่อเค้าเล่นซ้ำกับพี่ในทีมที่กูเคยทำงานในบริษัทเก่าเมื่อนานมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร
วันนี้เห็นชื่อจริงที่มัน register เข้ามาในระบบก่อนเค้าจะเข้ามาทำงาน ปรากฏว่าแม่งเป็นพี่คนนั้นจริงๆ
ซึ่งคนเค้าบอกกันว่าวงการนี้มันแคบนี่ กูทำงานสายนี้มาเกือบๆ 10 ปี เพิ่งเจอคนรู้จักเวียนมาเจอกันเป็นครั้งแรก
แต่ปัญหาคือกูว่าเค้าไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ว่ะ เป็นคนขี้ลืมมาก ทำงานมาตกๆหล่นๆตลอด คุยก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ทักษะด้านคนก็ไม่ดี (ซึ่งกูเองก็ไม่ได้ดีหรอก)
รวมๆคือไม่เหมาะกับงานเป็น lead เลย แต่กูก็ไม่ได้เจอเค้ามา 5 ปีแล้วนะ ไม่รู้มันแฟร์มั้ยที่จะเอาอดีตมาตัดสิน
แต่ด้วยความที่เค้าก็อายุไม่ได้น้อยแล้ว (น่าจะเกิน 45) ส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อว่าเค้าจะเปลี่ยนไปได้มากเท่าไหร่
ตอนนี้แค่นึกถึงอนาคตตอนต้องทำงานกับเค้าก็เครียดแล้วว่ะ ไม่พ้นกูต้องแบกงานเองแล้วต้องนั่งเถียงเรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งวันแหงๆ OTL

639 Nameless Fanboi Posted ID:0n/Pv+hCiq

>>638 ไม่เปลี่ยนหรอกว่ะ รอดูก็ได้ มึงหางานใหม่ตามคนที่ออกๆเตรียมรอไว้เลย

640 Nameless Fanboi Posted ID:f66HwLQ0Ko

>>25

641 Nameless Fanboi Posted ID:kpYKSF/L/I

>>25 เคยเจอคนจบวิศวะเคมีเปลี่ยนสายมาทำเดฟ แต่จบนอกนะ เขาเลยรับมั้ง

642 Nameless Fanboi Posted ID:kpYKSF/L/I

>>641 แถม เพื่อนๆกูวิศวะชมพูก็มีย้ายมาทำสายนี้เยอะ ทั้งภาคเครื่องกล ไฟฟ้า อุตสาหการ นาโน สำรวจ มีเยอะแยะ

643 Nameless Fanboi Posted ID:c5CjEHCtEl

ไม่รู้ว่าใครเป็นเหมือนกูหรือเปล่านะ แบบทำงานถ้าบอกว่านัดประชุมตอน 10 โมง ช่วง 8-9 โมงจะเขียนโปรแกรมไม่ได้เลยจนกว่าจะประชุมเสร็จ

หรือถ้าบอกว่าเดี๋ยวให้ stand by support ช่วงบ่ายแล้วทำงานรอไปด้วย อันนี้สำหรับกูคือ ช่วงบ่ายงานไม่กระเตื้องแล้วหวาดระแวงตลอด อีกประเภททำงานอยู่ดีๆ โทรมาห้องรวม teams หรือ zoom อะไรแล้วพอเข้าไปแล้วบอกไม่เกี่ยวออกไปได้เลย อันนี้สมาธิแตก ต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าสติจะฟื้นกลับมาทำงานได้ต่อ

644 Nameless Fanboi Posted ID:lRb9QlAaFU

>>643 กูก็เป็นเหมือนกันอะ

645 Nameless Fanboi Posted ID:f6vrVZC8/G

>>643 กูเป็น แต่เพิ่งเป็นได้ประมาณ 2 ปี ก่อนหน้านี้ไม่เป็น ไม่รู้เป็นเพราะทำงานสภาพแบบนั้นนานๆแล้วมีผลทำให้สมาธิแย่ลงมั้ย

646 Nameless Fanboi Posted ID:ERiRfYYmkw

https://imgur.com/II5HGAK

647 Nameless Fanboi Posted ID:G1/GaYlFwB

ปกติพวกมึงเขียน return กับแบบไหนวะ สมมติแบบนี้

ResponseModel response = new RepsonseModel();

if(model == null){
status = 501;
success = false;
message = "model is null";
return repsonse;
}
}

if(GetResultById(model.id)){
status = 501;
success = false;
message = "id not found";
return repsonse;
}
}

หรือ

try{
ResponseModel response = new RepsonseModel();

if(model == null){
throw new Exception("model is null");
}

if(GetResultById(model.id) == null){
throw new Exception("id not found");
}

}
catch(Exception ex){
response.status = 501;
response.success = false;
message = ex.message;
return response;
}

หรือแล้วแต่ระบบเราว่าไม่ควรโยนเข้า catch ทุกเคส
แต่เคยอ่านๆมา try..catch ใช้เยอะๆ ก็ช้าเหมือนกัน

648 Nameless Fanboi Posted ID:eBaqqd6I88

>>647 กูว่าถึง try catch จะช้ากว่าการใช้ if else แต่ความต่างมันในการใช้งานจริงมันไม่ได้มากขนาดนั้น
ถ้าใช้แล้วมึงรู้สึกว่ามันทำให้โค้ดเข้าใจง่ายกว่าก็ใช้ๆไปเถอะ แถมเอาไว้ดู stacktrace ทำให้แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้นด้วย

สำหรับกูการใช้ try catch เพื่อดักจับ exception ที่ throw มาจากใน method เดียวกันมันไม่ผิดนะ แค่รู้สึกไม่ค่อยจำเป็น
ถ้าอยากใช้ try catch ก็รวบส่วน logic ไปอีก method เลยดีกว่า แล้วใน try ก็ให้มีแค่ไป call อย่างเดียวพอ

จากโค้ดที่ให้มาเดาว่าที่มึงถามนี่คือพวกปลายทางตอนปั้น response ของ service
จะเสริมว่าในการทำงานจริง ถึงจะดูผิดหลักการจากที่เรียนในห้องเรียนไปบ้าง
แต่กูคิดว่าการสร้าง Exception กลางๆขึ้นมาซัก class แล้วเอาข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการปั้น error response เช่น code, message ยัดในนั้นให้หมด
แล้วก็ใช้สำหรับ exception ที่เราตั้งใจดักทุกอย่างไปเลยมันง่ายกว่ามาก
โค้ดส่วนที่เอา exception ไปแปลงเป็น error response จะได้เขียนทีเดียวรียูสได้ทุกที่ด้วย

ภาษาอื่นๆนี่กูไม่แน่ใจ ถ้าเป็น Java Spring นี่แนะนำว่าลองไปดูของที่ framework มันมีให้ดู
มันมีตัวช่วยสามารถเอาโค้ดส่วนแปลง exception เป็น error response แยกไปไว้อีกที่หรือเขียนทีเดียวใช้กับหลายที่ด้วยการ config ได้
https://www.baeldung.com/exception-handling-for-rest-with-spring

649 Nameless Fanboi Posted ID:4m21MD02tE

java? ถ้าไม่มั่นใจว่า test ครบทุกกระบวนการจะใช้ try catch ก็ได้ อย่างน้อยก็ไม่ error โดนถีบหลุดมากลางทาง

ว่าแต่ เขียนงงนะ คือ if เงื่อนไขรวมกันแล้วไป switch case code error หรือ regex code error เร็วกว่าเยอะ ทั้งความเร็ว ทั้งเวลาแก้
มันต่างกันแค่ message แค่น้ันเองนิ ฝึกเขียนให้เป็นระเบียบให้ติดเป็นนิสัยไว้ดีกว่า ถ้าเขียน code เปลืองโดยใช้เหตุโปแกรมใหญ่ขึ้นจะอ่าน code ตัวเองลำบากเอา

650 Nameless Fanboi Posted ID:DzVurbjfT5

>>647 เอาอันบนครอบ try อีกทีละ catch return 501 สำหรับ unexpected exception แต่จะไม่สร้าง exception ใหม่

651 Nameless Fanboi Posted ID:3nHaevol8s

[แจ้งทราบ]
เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจเข้าร่วมทีม We Love Bug Biz จำนวน 2 คน โดย
แยกเป็น
Software Tester 1 คน
Programmer 1 คน
-----------
มาทำอะไร?
-----------
1. ซ่อม Automated Tests ทั้ง Functional Tests และ Nonfunctional Tests
2. ซ่อม Automation Works
3. สร้าง Automated Tests ทั้ง Functional Tests และ Nonfunctional Tests
4. สร้าง Automation Works
5. ส่งมอบประสบการณ์ผ่านเวิร์คชอปต่าง ๆ
---------------
เงินเดือนเท่าไร?
---------------
ถ้าเรื่องนี้เป็น เรื่องสำคัญลำดับหนึ่งจะตัดสินใจมาร่วมงาน
ก็ขอบคุณที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ครับ
ถ้าไม่ใช่ อ่านต่อด้านล่าง
----------------------------------------
ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่มีติดตัวมา
----------------------------------------
น่าจะใช้ไม่ได้กับโจทย์ที่จะเจอ คือ ซ่อม และสร้าง
ดังนั้น
3 เดือน จะถูกฝึก ฝึก และฝึก
------------
ถ้ารับได้กับ
------------
1. อ่านหนังสือ
2. ฝึก ฝึก และฝึก
3. คิด วิเคราะห์ และออกแบบ
4. บอกว่ารู้ และไม่รู้อะไร
5. ไม่กลัวงานยาก
6. จะถูกครอบงำให้ลด ละ เลิก กับการคิดว่าตัวเองไม่เก่ง
7. ทำงานภายใต้สภาวะความกดดัน
8. ต้องบริหารเวลาของตัวเองได้
ส่ง Email มาหาผมที่ prathan@welovebug.biz
เพื่อนัด วัน และเวลา ในการพูดคุยกัน

652 Nameless Fanboi Posted ID:1EYmbclSJ3

>>651 สรุปคือหลอกเด็กหาแรงงานโค้ดราคาถูก

653 Nameless Fanboi Posted ID:vexGDVIbJ3

>>651 ได้รับแรงงานถึกทนราคาถูก

654 Nameless Fanboi Posted ID:E2HJs6aH5l

เห็นชาว Go บ่นการเขียน Go แบบ Java-esque แล้ว จับมือ
ผมนี่ตั้งแต่เขียน JS หลายปีที่แล้ว ก็ไปเถียงกับคนอื่นว่าอย่าพยายามทำ JS เป็น Java-esque, DotNet-esque เลยมันไม่เวิร์คหรอก แล้วก็โดนด่ากลับมาว่าไม่เข้าใจ OOP ไม่เข้าใจ Good software engineering practice มันต้องแบ่งแบบนี้
จนตอนนี้ทำคอร์สสอน OOP ออกไปพูดเรื่อง SOLID กำลังจะหาเวลาสอนพวก MVC, Clean Architecture แล้ว พวกแพทเทิร์นที่มันใช้กันในโลกจาวากับดอทเนทที่เขาบอกว่าเราไม่รู้จักไม่เข้าใจเลยต่อต้านอ่ะ ไม่รู้จักจนจะสอนได้แล้วเนี่ย
ตั้งใจจะสอนโดยที่เข้าใจว่ามันมีไว้ทำไมแล้วเมื่อไหร่ไม่ต้องใช้ไง ไม่ได้สอนแบบเห้ยนี่มันคือสิ่งที่ดีที่สุดในโลกที่ทุกคนต้องใช้ถึงจะเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ดี
ผมเป็นคนขายคอร์ส OOP ที่กล้าพูดว่าโดยส่วนตัวแบบส่วนตัวจริงๆ แล้วผมเบื่อ OOP Pattern, Practice หลายอย่างมากเลย แล้วอยากเขียนโปรแกรมที่ Main paradigm เป็น Functional มากกว่าเยอะ
แต่สุดท้าย OOP มันมีคุณค่าตรงที่มันเป็น Collaboration scheme & structure ไง ใช้เพื่อทำงานกับเพื่อนได้ ดังนั้นมันมีประโยชน์มากๆ ที่จะรู้จะเข้าใจและจะสอน ซึ่งนั่นอ่ะคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในโลก Software engineering ทำงานเป็นทีมทำยังไง

655 Nameless Fanboi Posted ID:TSfj5jJcrl

โปรแกรมเมอร์แบ่งเป็น 5 ประเภท

https://www.youtube.com/watch?v=z-9YlsON0u0

656 Nameless Fanboi Posted ID:nL38o6dVJY

>>654 เหตุผลเดียวกับที่ Java ยังมีความนิยมใช้อยู่ในองค์กรหลายๆที่ ทั้งๆที่มีภาษาอื่นที่ดีกว่าเยอะแยะทั้งใช้ jvm และไม่ใช้ เพราะคนส่วนใหญ่แม่งเขียนได้แค่นั้นแหละ ไม่ใช้อันนี้แม่งก็ทำงานกันไม่ได้

657 Nameless Fanboi Posted ID:dUUOvZZj2K

เพื่อน ๆ เราเริ่มศึกษา web 3 กันดีป่ะ

658 Nameless Fanboi Posted ID:UE18agr.sA

>>656 ส่วนมากในบริษัทใหญ่ๆคนบนๆเป็นฝ่ายเลือกเทคโนโลยีไม่ใช่เรอะ
แล้วที่ Java มันฮิตในบริษัทใหญ่ๆมาก่อนก็เพราะมีภาพลักษณ์ว่าเป็นของเหมาะใช้ในองค์กร ดูเป็นของแบรนด์ น่าเชื่อถือ

659 Nameless Fanboi Posted ID:QyCfDRPoJf

>>658 ถ้าเป็นบริษัทใหญ่ๆ ประเภทโรงงานใช้ .net กัน และ สมัยก่อนที่มี .net ก็ใช้ Delphi ประเด็นสำคัญ คือ ใช้อะไรก็ได้ที่มี ide เขียนงานได้เร็ว และต่อ oracle ได้ก็ตอบโจทย์ แน่นอนว่า Java ตกไปตั้งแต่ประสิทธิภาพห่วยแตกแล้ว

660 Nameless Fanboi Posted ID:SjwRoe8Xni

>>658 มันก็ไม่ใช่จะเลือกอะไรก็ได้ตามใจ ให้เซฟๆก็ต้องเลือกพวก java, c# นี่แหละ หาคนง่าย ไม่ต้องเทรนเยอะ

661 Nameless Fanboi Posted ID:r+33HAXlsV

ไอ้ future skill สอนเขียนโปรแกรมนี่ดีรึเปล่าวะ
เห็นโฆษณาขึ้นบนเฟสบุ้ครัวๆ จนน่ารำคาญ

662 Nameless Fanboi Posted ID:BLORIUnGo3

>>651 บ.กูนี้เคยเอามา consult อยู่ แม่งไม่ค่อยได้เรื่องอะ แต่แรงโม้เยอะ

663 Nameless Fanboi Posted ID:Hv3.FO/mCe

>>662 แค่ดูจากการโพสต์รับคนของมันแล้ว กูก็รู้เลยว่าไม่ได้เรื่อง

664 Nameless Fanboi Posted ID:is+vC41PJx

>>661 udemy ดีกว่าเพื่อน

665 Nameless Fanboi Posted ID:6S8f7f0VTE

>>661 ถ้าความรู้มึง 0 เลยมันก็พอว้าวๆอะแบบเห็นภาพคร่าวๆ แต่ถ้าหวังไปเพื่ออัพสกิลเนี่ยเสียตังค์ฟรี
สรุปถ้าฟังภาษาอังกฤษออก ไป udamy เถอะ

666 Nameless Fanboi Posted ID:yGCGFnVGm8

udemy นี่กูดูกี่ทีก็หลับ สงสัยไม่ใช่ทาง

667 Nameless Fanboi Posted ID:sxW+ZL9IV6

>>666 พวกขายที่นี่ความยาว video ต้องยาวระดับหนึ่งถึงขายดี และนำให้กดข้ามไอ้ที่บ่นที่มาที่ไปโลดเสียเวลาเปล่า หรือไม่ก็ซื้อคอร์สอันดับรองลงมาที่ไม่ใช้เวลามาก

668 Nameless Fanboi Posted ID:utevkQW.W/

พวกมึงเคยเจอแบบนี้ปะวะ
ทำโค้ดให้อ่านง่าย แยกเป็นสัดส่วน พยายามทำให้เข้า code standard แล้วก็ duplicate น้อยๆ เขียนเทสแบบเข้าใจง่าย ไม่ใช้ท่าพิศดารที่ชาวบ้านเขาไม่ทำกัน
แต่พอส่ง source code ให้ลูกค้า เสือกโดนฝ่าย it ตรวจรับ แล้วบอกว่า ผมรีวิวโค้ดละ code ง่ายๆแบบนี้ทำไมเก็บแพง แล้วใช้เวลานาน
คือกููต้องเขียนให้มันซับซ้อนๆ อ่านไม่เข้าใจ กูเข้าใจคนเดียวงี้หรอวะ ถึงเรียกว่าเทพ

669 Nameless Fanboi Posted ID:RnJTK0LGNB

>>668 คิดแบบนี้ก็ส้นตีนเกิน ทีหลังเอาโค้ดโยนใส่พวก Obfuscator แล้วค่อยส่งให้แม่งเลยละกัน

670 Nameless Fanboi Posted ID:ilvx.0whJo

>>668 มันแค่กดมึงเฉยๆ ง่ายจริงทำไมมึงไม่ทำเอง ไอ้ห่า!

671 Nameless Fanboi Posted ID:2uMEqcGOWX

>>668 เคยเจอแบบหัวหน้าตรวจงานเราที่เขียนอ่านง่าย กับพี่อีกคนที่เขียนอ่านไม่รู้เรื่อง แล้วเหมือนเขาจะรู้สึกกว่าพี่คนนั้นเก่งกว่าเรา

672 Nameless Fanboi Posted ID:XO8ALtC5np

เขียน code แบบทั่นเทพ John Carmack ไง ดูสั้นแต่รับรอง noob อ่านไม่ออก

i = 0x5f3759df - (i >>1); // What the fuck? เชรี้ยไรฟระเนี่ย

673 Nameless Fanboi Posted ID:OpcWcOR228

Sigma male ใช้ Lisp

674 Nameless Fanboi Posted ID:FkOASc2xZq

Chad ใช้ Brainfuck, Whitespace

675 Nameless Fanboi Posted ID:9S0wpMtQ5z

Lbgtq ใช้อะไร

676 Nameless Fanboi Posted ID:eB7RxCQaWp

>>673 อะไรของมึงวะกลับห้อง Lifestyle นู่นไป

677 Nameless Fanboi Posted ID:Zij8ldX6ba

แนะนำหน่อยพี่โม่ง เด็กจบใหม่ทำ AI/ML/DS เป็นควรเรียก salary เท่าไหรหรอ

678 Nameless Fanboi Posted ID:JaneHiBvFd

>>677 salary ขึ้นอยู่กับงานที่ทำ ถ้างานที่ทำไม่ใช้พวกนั้น ถึงทำเป็นก็ไม่มีผล แต่ถ้างานใช้พวกนั้นจริงๆก็น่าจะได้ 35++ นะ อยากได้เท่าไหร่ก็เรียกๆไป

679 Nameless Fanboi Posted ID:5odMH/5I4n

>>677 ขึ้นกับที่ทำงาน แล้วพวกบริษัทที่ใช้พวกนี้ทำงานจริงๆ เด็กใหม่ก็ไม่ค่อยสนเท่าไหร่หรอก เพราะถ้าแค่เขียนไปดูตามยูเดมี่ซัก 10-20 ชม. ก็ทำได้แล้ว ปัญหาคือประยุกต์ใช้ที่ต้องอาศัยประสบการณ์ซะ หาชิ้นส่วนมาต่อให้เหมาะกับการทำงานซะส่วนใหญ่

แล้วอีกอย่าง ML บ้านเราส่วนมากจะเอาไปใช้วิเคราะห์การใช้งานของลูกค้าซะมากกว่า ซึ่งไอ้พวกนี้จริงๆ เอาข้อมูลโยนใส่ google , fb api เดี๋ยวก็ได้รายงานมา ใช้ง่ายและดีกว่าเขียนเองด้วย

680 Nameless Fanboi Posted ID:.m2+a5A6Gi

>>678 >>679 ขอบคุณนะพี่โม่ง

681 Nameless Fanboi Posted ID:FDpQqNFaYN

ขอถามเพื่อน ๆ โม่งหน่อย ทางนี้เป็นคนที่ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย แต่เหมือนแบบมีความรู้สึกว่ากุอยากพัฒนาทักษะตัวเองว่ะ ซึ่งก็ว่าจะมาทางโปรแกรมมิ่ง เพื่อนโม่งช่วยชี้ช่องหน่อยได้ไหมว่าไปเริ่มยังไง (Preferably แบบที่กุนั่งอ่าน ทำตามบทเรียนทางเน็ตได้ฟรี ๆ ภาษาอังกฤษได้) ภาษาอะไรดี? กุรู้สึกว่าโลกแม่งกว้างมากขนาดจะเริ่มกุยังเริ่มไม่ถูก

682 Nameless Fanboi Posted ID:8dTrsd0PoC

>>681 web , app , game ชอบอะไรที่ใช้บ่อยๆ แล้วลองดูโครงสร้างไม่ซับซ้อนมาก ลองหาทางก็อปมันดู
อ่อแล้วตัวฟรีมันเสียเวลาเกินไป ลงทุนซัก 300 ซื้อคอร์ส udemy เถอะ

683 Nameless Fanboi Posted ID:hPd.faCJz1

>>681 ต้องดูก่อนว่าอยากเอาไปใช้ทำไรต่อ

684 Nameless Fanboi Posted ID:XAIIzeg7Yu

>>681 แค่ความรู้สึกส่วนตัวนะว่าการเขียนโปรแกรมมันเป็นเรื่องเฉพาะทางมาก ไม่ใช่อะไรแนวๆทักษะที่ควรมีในชีวิตประจำวันทั่วๆไปเท่าไหร่
ถ้าสนใจลองเริ่มจากอะไรที่ไม่ใช่การเขียนโปรแกรมโดยตรงอย่าง html ก่อนดีมั้ยว่าลองน้ำจิ้มแนวนี้แล้วรู้สึกชอบมั้ย ถ้าชอบแล้วอยากจริงจังค่อยต่อยอด

685 Nameless Fanboi Posted ID:lAWj1eXsfm

>>684 เออกุว่าเริ่มจาก html css javascript แล้วต่อยอดไป wordpress น่าสนใจนะ

686 Nameless Fanboi Posted ID:oiL7f8jBzc

บริษัทที่กูสมัครเขารับงานนอกแล้วรับงานเกี่ยวพวกยิงปลาสล็อต กูควรเข้าไปทำมั้ยวะ

687 Nameless Fanboi Posted ID:Wap/KbGgsj

>>686 ไม่ควร

688 Nameless Fanboi Posted ID:hRq4PjT8bz

งานที่ทำตอนนี้รู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวเองและไม่ค่อยชาเลนจ์ อยากย้ายงาน แต่ไม่รู้ไปไหนดี เพื่อนโม่ง มีที่ไหนแนะนำปะ กูจบเกือบใหม่ เป็นเป็ด ทำอะไรก็ได้แค่ไม่เก่งสักอย่าง และยังหาตัวเองไม่เจอ TT

689 Nameless Fanboi Posted ID:liqSEwGTNc

ตอนนี้แม่งเบื่องานสัสๆ รู้สึกโคตรหมดไฟ งานแม่งมีเรื่องเอกสารกับประชุมเยอะชิบหาย
ไม่ได้รู้สึกว่าเบื่อการเขียนโปรแกรมนะ มีโปรเจคที่เองเล่นๆแล้วยังอยากทำอันนั้นต่ออยู่ แต่มันดันไม่ทำเงินนี่แหละ 555

690 Nameless Fanboi Posted ID:laHLIUzXit

>>688 เป็นเกือบทุกที่แหละ งาน Challenge มันไม่ค่อยมี หาที่เงินเดือนดี เพื่อนร่วมงานดี สวัสดิการดี โอเคแล้ว

691 Nameless Fanboi Posted ID:kzTqCsZsQ3

พวกมึงเคยเป็น contract outsource แล้วไปทำ site ลูกค้า แล้วเค้าสนใจ convert เป็นประจำป่าววะ
อันนี้เกี่ยวกับบริษัท finance พวกบัตร ก็มีชื่ออยู่
แล้วกุเปน outsource ตอนนี้ก็ได้เยอะอยุ่ (สวัสดิการก็ตาม outsource อะนะ)
ถ้าเค้า convert to in house สวัสดิการดีนะ + โบนัสก็โอเค(เท่าที่ฟังพี่ๆ in house)
หัวหน้ากุ(in house) ให้โทรคุยกับ hr แล้วเหมือน hr ดูกดๆ ฐานเงินเดือนจัง ตอนแรกที่กุกะคือ เงินเท่าเดิม หรือ ลดกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ hr พูดประมาณว่า น่าจะต้องลดลงเยอะอยุ่นะ กุเริ่มลังเลนะ นี่พิจารณาอยุ่ พวกมึงว่าไงวะ เคยมีประสบการณ์แบบนี้ไหม
ซึ่งหัวหน้ากุก็ไม่รุ้เรทเงินเดือนเหมือนกัน เค้าประสานงานให้

692 Nameless Fanboi Posted ID:jOPCvn1kPa

>>691 กูเพิ่ง convert เป็นประจำเมื่อไม่นานมานี้ เรื่องเงินเดือนกูได้เพิ่มนะ แต่เพิ่มไม่ได้เยอะมาก ไม่ถึง 10%
คือของแบบนี้มันขึ้นกับหลายปัจจัยมาก ทั้งหัวหน้ามึงที่ไซต์ลูกค้าเค้าช่วยมั้ย มึงมีอำนาจต่อรองเยอะมั้ย
ของกูโชคดีที่หัวหน้าเค้าตั้งนโยบานทีมเลยว่าคนที่จะ convert ขั้นต่ำต้องไม่โดนลดเงินเดือน
แล้วอำนาจต่อรองกูเยอะ เพราะในทีมคนลาออกเยอะมาก เค้าก็พยายามซื้อใจให้กูเลือกอยู่เต็มที่ ไม่งั้นคนหายหมด
ถ้ามึงบอกตัวเลขแล้วเค้ากด ก็ต้องลองคิดบวกลบดูว่าเลขที่เค้าให้เทียบกับพวกสวัสดิการแล้วคุ้มมั้ย
ส่วนโบนัสส่วนตัวกูไม่เอาเป็นปัจจัยหลัก เพราะของแบบนี้บริษัทชอบหาข้ออ้างจ่ายน้อยอยู่แล้ว ยิ่งสภาพ ศก. แบบนี้ได้เจอข้ออ้างสารพัด

แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกไม่แน่ใจแล้วว่าคิดถูกมั้ยวะที่มาเป็นประจำ เหมือนไม่คุ้มยังไงไม่รู้ กูย้ายปลายปีเลยไม่ได้โบนัสปีนี้
ไหนจะเจองานเอกสารประเมินพนักงาน เทรนนิ่งเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานเป็นกอง ทั้งที่งานก็ยุ่งจะตายห่า
ต้องมานั่งแงะโค้ดเก่าๆของคนที่ออกไปแล้ว แล้วไม่มีคนให้ถาม แบบของเก่าๆที่เขียนแม่งก็อ่านแล้วมีจุดที่แบบอะไรวะเยอะมาก

693 Nameless Fanboi Posted ID:8kqIqiyp+o

วันนี้ทำงานส่วนที่เกี่ยวกับ datetime แล้วปวดหัวกับเรื่อง time zone ชิบหาย
จะดีกว่านี้มั้ยวะถ้าไม่ต้องมีระบบ time zone ไม่ต้องมีพวก daylight saving ห่าเหวอะไรพวกนี้ ทั้งโลกอิงเวลาเดียวกันหมด
แต่เวลาที่คนจะทำอะไรต่างๆก็ยังอิงกับฟ้าสว่าง ฟ้ามืด ในแต่ละท้องที่เหมือนเดิม
อย่างประเทศไทย time zone +7 ก็ เคารพธงชาติเช้าเวลา 15.00 พักเที่ยง 19.00 เคารพธงชาติเย็นเวลา 01.00 วันถัดไป
ไปก่อนนะ หมอเรียกละ

694 Nameless Fanboi Posted ID:cOgAE.vWV0

มีใครเคยทำ appmxn ป่ะพี่โม่ง รีวิวหน่อย

695 Nameless Fanboi Posted ID:d7RzCTU5QJ

>>691 กุเอง รุ้เรทมาละ หายไป 25% จากเงินเดือน outsource ตอนนี้เลย บร๊ะเจ้า ตอนคุยกับ hr เค้าแจ้งว่ามีโบนัสเฉลี่ย* ประมาณ 3 เดือนขึ้น กุลองมาคำนวณดูแล้ว เงินเดือนที่เค้า fix มาให้ คือต้องได้โบนัส 4 เดือนอ่ะ ถึงจะเท่าเงินเดือน outsource ตอนนี้
แต่สวัสดิการอื่นๆ ก็โอเคนะ
แต่คิดว่าจะบายก่อนว่ะ บริษัทนี้ เมื่อก่อนก็เคยรุ้เรทเงินเดือนมาบ้าง พี่ที่ทำงานเก่าเล่าว่า รุ่นพี่เคยไปสมัคร ผ่านทุกอย่าง พอเรียกเงิน เค้าก็ fix ให้เท่านั้น คือ 1 ปีผ่านไป เงินเดือนที่รุ่นพี่ในที่ทำงานเก่าเคยบอกกุ ก็ยังเท่ากับที่เค้าเสนอให้กุปัจจุบันอยู่เลย เหมือน Fix cost ไว้แล้ว
สงสัยโครงสร้างองค์กรเค้า fix rate แบบนั้น บวกกับเราก็ไม่ได้เทพมากมาย

696 Nameless Fanboi Posted ID:zPoQ6PQGI7

แต่ก่อนทำงานแต่พวก API หลังบ้านจ๋าๆ รู้สึกแม่งเอาแต่เขียนโค้ดอย่างเดียว ไม่รู้เรื่องการวางระบบหรืออะไรพวกนี้เลย
พอได้มาทำงานพวกแนวๆ Open API จริงๆแล้วอยากกลับไปทำหลังบ้านจ๋าๆชิบหาย วันๆแม่งมีแต่งานนั่ง config gateway กับรับ issue จากคนใช้งาน

697 Nameless Fanboi Posted ID:HNWQpWvkqQ

ใครเขียน Java โดนสั่งแก้เรื่อง log4j ด่วนกันบ้างมั้ย
เรื่องมาตอนไหนไม่มา แม่งเสือกมาตอนใกล้ปีใหม่ เลยรอบ deploy ไปแล้วอีก

698 Nameless Fanboi Posted ID:Yzb6tWxE5L

ได้เงินเดือนเพิ่ม 5% ตอนนี้เงินเดือนกูเกิน 120,000 แล้ว

699 Nameless Fanboi Posted ID:f86NWuTQ2D

>>698 แบ่งหน่อยสิโม่ง

700 Nameless Fanboi Posted ID:5ai+jwOWvX

>>699 มึงเป็นสาวสวยน่ารักนิสัยดีหรือเปล่า

701 Nameless Fanboi Posted ID:pmPdyS./kE

log4j แม่งเจอช่องโหว่ใหม่อีกละ แล้วทำ spring boot แยกหลายๆตัวต้องมานั่งแก้ version ทีละโปรเจค deploy ทีละโปรเจคอีก สัส

702 Nameless Fanboi Posted ID:sJcBvE.lsY

>>700 Simp

703 Nameless Fanboi Posted ID:ssQ/UMnQa1

https://thematter.co/brief/163257/163257
อ่านข่าวแล้วสงสัยคือเอาเซลสมองมาเพาะเลี้ยงแล้วใช้กระบวนการอะไรทำให้เซลสิ่งมีชีวิตทำหน้าที่เหมือน CPU วะ

704 Nameless Fanboi Posted ID:a3SW4ObUYi

>>703 แบบ dark หน่อย ถ้าทำบอลตกโดนช็อตสมอง

705 Nameless Fanboi Posted ID:ssQ/UMnQa1

>>704 ประเด็นคือมันไม่ใช่สมองทั้งก้อนอ่ะ(มีแค่แสนกว่าเซล) เหมือนเอาแค่เซลสมองส่วนหนึ่งมาทำ CPU แต่กูงงว่า CPU มันประมวลผลแบบฐานสอง แล้วนักวิทย์ใช้วิธีไหนทำให้เซลสมองทดลองประมวลผลได้ ซึ่งการประมวลผลแบบชีวภาพ มันคือการสื่อสารระหว่างเซลประสาท แต่การประผลแบบกลไกมันคืออ่านค่า 1,0

706 Nameless Fanboi Posted ID:PuVd529bUo

>>705 การเขียนแบบนี้มันต้องเปลี่ยนวิธีการเขียนโปรแกรมโดยอิง gates electronics แบบดั้งเดิม and nand not เป็น gates แบบ quantum แทนเลย

707 Nameless Fanboi Posted ID:hCNkwNuACu

>>703 Gundam IBO ลอยมาในหัวเลยสัส มีคนจริงขับหุ่น ข้างหลังเบาะเป็นสมองในโหลช่วยประมวลผลลดภาระคนขับ

708 Nameless Fanboi Posted ID:qC1kGDjJBF

>>705 แปลงสัญญาณไฟฟ้าอนาล็อกเป็นดิจิตอล

709 Nameless Fanboi Posted ID:uXN6Xmw5Ti

https://youtube.com/watch?v=luvFbaimbyI

710 Nameless Fanboi Posted ID:u6K6l4Wb3e

อ่านของคนอื่นเยอะแล้ว เขียนของตัวเองบ้าง ปี 2021

ด้านงาน

เคยนิยามไว้ว่าเราโตเป็นผู้ใหญ่ต่อเมื่อให้ความสำคัญกับเป้าหมายมากกว่าเรียนรู้ ตามนิยามนี้ ปีนี้จะเป็นปีแรกที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

ทำงานในบริษัทใหญ่เป็นครั้งแรกในชีวิต Pace เปลี่ยนไปจากชีวิตสมัยก่อนมากจนรู้สึกประหลาด บางครั้งก็ตื่นตระหนกด้วยซ้ำว่ามันไปเร็วแบบเดิมไม่ได้ นี่ทำอะไรผิดอยู่หรือเปล่า นี่ขนาด ThoughtWorks นี่ค่อนข้างคล่องตัวแล้วนะถ้าเทียบกับบริษัทใหญ่อื่นๆ จนรู้เลยว่าตัวเองทำงานกับบริษัทที่คล่องตัวน้อยๆ Hierarchy เข้มข้นถือยศถืออย่างมีไซโลเยอะๆ นี่อยู่ไม่ไหวชัวร์ ตอนนี้กำลังปรับตัวทำความเข้าใจกับ Pace แบบนี้อยู่

งานราบรื่นดีตาม Pace ของมัน Project แรกที่ทำลูกค้าฟีดแบ็คว่า I think you are already perfect. ซึ่งน่าดีใจแต่เราเองก็ต้องหาจุดที่จะพัฒนาต่อไปเอง

เริ่มมองออกว่า Tech lead ถ้าตัวงานคือทำให้คนทำงานดีขึ้น เป็น Multiplier force เนี่ย มันมีสามธีมหลักที่ต้องดูแลคือ Collaboration, Morale กับ Competency ซึ่งแต่ละทีมที่ไปดูจะมีจุดที่น่าเติมที่สุดคนละแบบกันหมด และไม่ต้องเติม Competency ถ้า Collaboration, Morale พังอยู่ (ซึ่งอันนี้เมื่อก่อนชอบเติมผิด)

งานราบรื่นดี แต่ต้องปรับตัวกับความคาดหวังที่มีต่อตัวเองเยอะ

ครอบครัว

ดี ทะเลาะกันใหญ่ครั้งนึงแต่ใหญ่มาก แต่พอเข้าใจกันแล้วก็ราบรื่น ปีหน้าก็มีภารกิจของครอบครัวใหญ่รออยู่ มีเรื่องส่วนตัวเยอะที่ไม่อยากเขียนลงรายละเอียดมาก ขอบคุณที่ร่วมผ่านกันมาอีกปีนึง

เติบโตอะไรบ้าง
- ค่อยๆ รียนรู้ว่าเราพักผ่อนยังไง
- เห็นมากขึ้นว่าในชีวิต อะไรสำคัญกว่าอะไร ลำดับยังไง อย่างซื่อสัตย์กับตัวเองมากขึ้นด้วย
- เรียนรู้ที่จะรอบ้าง
- เขียนบล็อกภาษาอังกฤษบ่อยขึ้นเยอะเลยทำให้รู้ว่าที่เคยเขียนบล็อกคล่องๆ เนี่ยเพราะเราเชี่ยวชาญภาษา ตอนเขียนบล็อกภาษาไทยเมื่อก่อนเขียนระหว่างนั่งรถไฟฟ้ายังได้เลย ภาษาอังกฤษคือต้องเปิดคอม ค่อยๆ วางเลย์เอาท์ ต่างกันเยอะ
- เริ่มชินกับการทำงานจากบ้านมากขึ้น
- ที่ยังบอกตัวเองไม่ค่อยได้คือ Enjoy moment ปัจจุบัน ยังต้องเตือนตัวเองบ่อยๆ และยังดึงตัวเองออกจากหล่มที่คิดไปข้างหน้าตลอดได้ไม่ดีนัก (การวางแผนไว้ก่อนก็ดี แต่การ Overthinking จนปวดหัวและเครียดทั้งๆ เนี่ยมันไม่ใช่นะ เวลาที่ไม่จำเป็นก็กลับมาอยู่กับปัจจุบันบ้าง)
- และยิ่งเข้าใจมากขึ้นว่าสิ่งที่บล็อกตัวเองส่วนมากมาจากจิตใจและความยึดติดภายใน วางได้ก็จะได้มีอิสระ (และต้องขอย้ำว่า ปล่อยวางไม่เท่ากับเพิกเฉย ปล่อยวางคือมองตรงๆ เลยว่าเราทุกข์แล้วจับมันเท่าที่ควรต้องจับ ไม่แรงไปกว่านั้น เพิกเฉยคือไม่คิดถึงมัน) แต่การปล่อยวางน่ะมันยาก อย่าไปบอกให้ใครปล่อยวางชุ่ยๆ นะ เสียมากกว่าได้ เขาจะปล่อยวางไม่ได้แล้วยังจะยิ่งขยาย

ขอให้ทุกท่านโชคดีในปีนี้

สายลมแห่งความเปลี่ยนแปลงจะพัดพาโลกทั้งใบไปที่อยู่จุดไหนกันในปี 2022 นี้

711 Nameless Fanboi Posted ID:xSbqha.a9H

tor, vpn เล่นโม่งไม่ได้ กูต้องทำยังไงดีวะ อย่าบอกนะว่าต้องไปร้านเนท

712 Nameless Fanboi Posted ID:hCURGL2RQN

>>711 มึงไปจ่ายตังสมัครสมาชิก VIP ก่อน

713 Nameless Fanboi Posted ID:WnJfsGIogK

https://www.bleepingcomputer.com/news/security/dev-corrupts-npm-libs-colors-and-faker-breaking-thousands-of-apps/
มีงานโม่งคนไหนโดนบ้างมั้ยเนี่ย

714 Nameless Fanboi Posted ID:sSWl.20kJ9

ใครเคยทำ easy buy บ้างวะ ปกติโบนัสกี่เดือน hr โม้ว่าเฉลี่ยน 4-5 เดือน อันนี้จริงป่าว ไปสมัครแต่โดนกดเงินอยู่

715 Nameless Fanboi Posted ID:4Y4EHHB0.X

ถามหน่อยดิเพื่อนๆถ้าไม่มีความรู้เรื่องทางด้านโค้ดเลยเรียนพวกDataquest,Datacampนี่มันพอจะไปได้ถึงขั้นสมัครงานสายนี้ได้เลยมั้ย?

716 Nameless Fanboi Posted ID:1zOhJNHO7D

>>715 จะไปสมัครอะไร ถ้า AE , Sale Support ก็พอได้

แต่ถ้าไปเป็น Programmer คือไม่ ถ้าเป็นสายเขียนโปรแกรมอันนี้ ความต้องการส่วนมากคือ โยนงานมาให้ต้องทำได้เลย อย่างน้อยถ้าไม่มีประสบการณ์ ต้องเขียนโปแกรมเป็น Project ซักตัวแล้วเอาไปเสนอ

717 Nameless Fanboi Posted ID:9c0OyN8S7c

ปกติกูเป็น backend ถ้าอยากลองเขียน Desktop App เล่นๆเป็นงานอดิเรกนี่ลอง electron ดีมั้ย หรือมีตัวไหนแนะนำบ้าง

718 Nameless Fanboi Posted ID:kvL+pqVTg.

อยากได้คอมมูที่เรียนรู้ data sci อะ พอมีแนะนำปะ

719 Nameless Fanboi Posted ID:I9cP.XPyCG

ตอนนี้เราเป็น it support อยู่
ทำมา 10 ปีแล้วแต่ดูทรงแล้วน่าจะโดนเอาออกซักวัน ตอนนี้เลยกะว่าจะปัดฝุ่นการเขียนโปรแกรมใหม่ แล้วย้ายสายไปเป็นโปรแกรมเมอร์ จบตรีไอทีสายตรง เคยเรียนเขียน c++ มา
ขอถามว่าตอนนี้ตลาด c++ ยังดีอยู่มั้ย
ถ้าไม่ดีแล้วตอนนี้มีภาษาอะไรดี
ถ้ามีคำแนะนำอะไรเพิ่มก็บอกมาได้เลย

720 Nameless Fanboi Posted ID:MPs01pUNTe

>>719 อืม c++ ตัวไหนหว่า ถ้า c++ จอ dos เลยไปใช้ .NET ก็อ่า... ฝึกหน่อยคงได้มั้ง แต่มันจะได้แต่งาน consult กับพวกโรงงานน่ะ วันๆ ทำแต่เขียนโปรแกรมออก report แต่ช่วงโควิทจะยากนิดนึง เพราะไม่ค่อยเปิด ต้องรอหลังโรคระบาดแล้ว

ส่วนถ้า app web พวกนี้ ช่วงนี้อาจจะหางานง่ายกว่า แต่ภาษาไหนๆ เริ่มใหม่ก็ไม่ยากนักหรอก มันก็แค่ if else for while function class เดิมๆ MVC ก็แค่บังคับเก็บเป็นสัดส่วน ตามโครงที่ framework ที่วางไว้ ส่วนภาษาก็ HTML กับ javascript ล่ะมั้ง แต่ถ้า web เอาทางลัดก็ไปใช้ CMS สำเร็จรูปแบบ wordpress ก็ได้ แต่ขั้นต่ำก็วาง HTML ให้ถูก

721 Nameless Fanboi Posted ID:ROfEwiHhEv

>>719 อย่าไปยึดที่เคยเรียนมาเลย ที่ใช้เรียนกับใช้ทำงานแทบไม่เหมือนกันเลย ภาษามันใช้ยากด้วย เรียนภาษาง่ายๆใหม่ไปเลยยังจะเป็นเร็วกว่า อยากได้แบบหางานง่ายก็ java, c#, javascript

722 Nameless Fanboi Posted ID:e8bgN6aX7V

java นี่

723 Nameless Fanboi Posted ID:n3CyYISxjt

>>720 >>721 c++ ที่เอาท์พุทเป็นคอนโซลอย่างที่ว่าแหละ
คิดว่าถ้ามีพื้นแล้วมารื้อฟื้นน่าจะไปได้เร็วกว่าเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นน่ะ ตอนนี้อายุเริ่มมากแล้วกลัวตามเด็กจบใหม่ไม่ทัน แต่ถ้าไม่เวิร์คก็จะได้มูฟออนไปเลย
ส่วนพวก web เคยใช้ joomla, wordpress อยู่ แถมเคยพยายามหัด typo3 ด้วยแต่ยากเกินเลยเลิกไป
เอาไปเป็นว่าจะลองศึกษาพวก java ดู แล้วจะลอง python ด้วย ตลาดยังดูมีโอกาสอยู่
ขอบคุณสำหรับคำตอบ

724 Nameless Fanboi Posted ID:V8A9s3j1e+

มีใครเป็น front end(html css JavaScript + bootstrap 4) ไหม อยากถามว่าเวลาประกาศ tag หรือใส่คลาสนี้ดูยังไงวะว่าต้องใส่ tag หรือคลาสตังไหน คือกุพยายามอ่าน doc แล้วลองเขียนเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี แต่กุชอบเวลาที่ได้แบบนั่งแก้โค้ดไปเรื่อยๆแล้วจู่ๆก็แก้ได้ว่ะ

725 Nameless Fanboi Posted ID:TgV8nfmOuM

>>724 กู full stack จับฉ่าย แต่ขอเผือกตอบให้นะ

bootstrap ไม่ว่า ver ไหนมันก็มีตัวอย่างอยู่ในหน้า doc ในส่วน examples ตรงตัวเลย ตัวอย่างเยอะจนไม่รู้ยังไงแล้ว ถ้าตัวอย่างยังไม่พอก็เปิด google search free boostrap template แล้วลอกมาดิ

แต่ๆ ถ้ายังไม่เข้าใจอีก เท่ากับมึงผิดผี ทะเร่อทะล่าไปอ่าน bootstrap ก่อนเข้าใจพื้นฐานของ html ก็จงหยุดอ่าน bootstrap เดียวนี้
เปิด w3schools แล้วไล่อ่าน ไล่ทำความเข้าใจให้ครบก่อน
https://www.w3schools.com/html/default.asp

ส่วน JavaScript พวก Class นี้ขึ้นอยู่กับ UI ที่ใช้นิ อ่านใน doc ของ UI ที่ใช้โลด ส่วนมากก็อปมาวางได้เลย ถ้าทำงานไม่ได้แสดงว่ามึงโหลด UI มาผิด version แต่ก่อนจะเอามายำกันหลายตัว ให้ลองหัดเขียน Class เอาไว้ใช้เองก่อน

แต่ถ้าไม่เข้าใจอีก Udemy เสียตังค์ซัก 3-4 ร้อย ซื้อคอร์สเลือกคนกด like เยอะๆ มาซั๊กคอร์ส แล้วเสียเวลาดูมันพร่ามซัก 20 ชั่วโมงหน่อย ทฤษดีน้ำก็กดข้ามๆ ไปบ้าง ทำได้ตอนไหนให้หยุดดู แล้วเริ่มเขียนเองโลด เพราะบางคอร์สดูมากกว่านี้ก็เสียเวลาเปล่า

726 Nameless Fanboi Posted ID:0yknVq.CJi

ถ้า Framework ยังไงมึงก็ต้องอ่าน Doc เพื่อให้ใช้ตรงกัน

727 Nameless Fanboi Posted ID:IRYkHnQYeC

โม่งมีใครต้องทำ Privacy Policy ใส่แอปหรือเว็บของตัวเองกันบ้าง กูลองหาๆดูเห็นมีพวกระบบ auto gen อยู่หลายเจ้าเลย
ไม่รู้ว่าเจ้าไหนดี-ไม่ดีต่างกันยังไงบ้าง มีใครมีแนะนำมั้ย

728 Nameless Fanboi Posted ID:lBk0du1CXe

>>727 ถ้าจะเอาแบบจริงจังต้องเขียนเอาเองอ่ะมึง ไอ้แบบ auto gen มันเอาไว้เผาทำหลอกแต่ให้คลิก cookie ปิดเฉยๆ อ่ะ lol

729 Nameless Fanboi Posted ID:sKsmAWY/+L

ไม่รู้กูมาถูกมู้ไหม แนะนำโปรแกรมป้องกันไวรัสให้กูหน่อยได้ไหม

730 Nameless Fanboi Posted ID:nBY2OY09qM

>>729 ใช้OSอะไร

731 Nameless Fanboi Posted ID:TDB8.1R0H8

รู้สึกมีคนคิดว่าโปรแกรมเมอร์คือช่างซ่อมคอมหรือ it support เยอะแฮะ

732 Nameless Fanboi Posted ID:sKsmAWY/+L

>>729 Window10

733 Nameless Fanboi Posted ID:m.rDF79kX5

>>732 defenderของตัวosเองก็พอ ถ้ามึงไม่ได้ชอบเข้าเว็บแอดเป็อปอัพเยอะๆ เว็บเสี่ยงๆหรือลงโปรแกรมเถื่อนอะนะ

734 Nameless Fanboi Posted ID:UM7XiKX.dn

>>729 OS แท้ กับ windows defender ก็พอละมั้ง win 11 เปลี่ยนชื่อเปน windows security แล้ว นอกจากจะลงโปรแกรม crack อันนั้นก็ต้องระวังหน่อย เมื่อก่อนกุก็ติดลงนะ พวก แบบ subscribe free ของ bitdefender อันอื่นๆ ไรงี้ เดวนี้ไม่ใช้ละ

735 Nameless Fanboi Posted ID:qgkcKP52uc

เมื่อวานหาอะไรไปเรื่อยแล้วไปเจอดราม่าในตำนานเลยเอามาแปะ เผื่อโม่งอยากเข้าไปอ่านรำลึกความหลังกัน
https://www.blognone.com/node/4385
https://deans4j.wordpress.com/2007/04/12/against-idiot/
https://deans4j.wordpress.com/2007/04/14/against-idiot-ii/
https://www.blognone.com/node/4426
http://pphetra.blogspot.com/2010/11/drama-3.html

แถม
https://www.blognone.com/node/23524

736 Nameless Fanboi Posted ID:F0I3pstGCg

>>735 เหยดเข้ เรื่องราวนานกว่า13ปี เด็กเกิดปีนั้นแม่งตามไม่ทันอ่ะ 55555

737 Nameless Fanboi Posted ID:+5vYrmLqQx

>>735 ขอบใจ กำลังจะศึกษาเกี่ยวกับภาษาคอมเป็นงานอดิเรกอยู่พอดีเลย

738 Nameless Fanboi Posted ID:4/G64LdfR3

>>737 ไปศึกษาอันอื่นเถอะ อันนี้มัน outdated เกินไปละ

739 Nameless Fanboi Posted ID:0NoGtdbJ8J

ก็รู้นะว่าปัญหาเรื่อง format datetime นี่แม่งปัญหาคลาสสิก
แต่เจอต้องไปเรียก service นึง request มี field datetime 3 field แม่งใช้ format ไม่เหมือนกันซัก field
แล้วที่พีคคือมีอันนึงที่ให้ส่ง date กับ time แยกกันคนละ field แต่ field ที่เป็น date แม่งให้ส่งเป็น ISO 8601 แบบเต็มที่มีทั้ง datetime
แล้วหลังบ้านเค้าจะเอา time ไปตัดทิ้ง แล้วดึงเฉพาะส่วน date แล้วเอา time จาก อีก field มาใช้แทน
แถมตอน response มีอันนึงมาเป็น ISO 8601 แบบเต็มที่มีทั้ง datetime timezone มาครบ
แต่ timezone ที่ส่งมากับเนื้อ data จริงๆไม่ตรงกันนะ คนรับต้องรู้เองว่าไอ้ data นี้ timezone ผิดแล้วมาแก้เอาเอง
ตอนแรกที่กูทำแล้วงงว่าทำไมมันออกมาแปลกๆเลยไปถาม dev ทีมนั้นแม่งก็อธิบายหน้าตาเฉยเหมือนเป็นเรื่องปกติ กูล่ะเหนื่อย

740 Nameless Fanboi Posted ID:gkvO0XtoKd

>>739 ของกุเจอปัญหา เวลาในเครื่องไม่เท่ากัน ห่างกันหลักวินาที แล้วแนบ token ไป ปรากฏว่าตี Error ทุกวันนี้ยังต้องแก้มือ มันเรียกผ่านหลายเครื่อง ทาง infra ก็บอกให้แก้เฉพาะหน้าไปก่อน เค้าไปหาวิธี นานแล้วนะเนี่ย 55555 เซิฟเวอร์ จอยโดนเมน มีเวลาปิด เปิด อะไรไม่รุ้ของทางฝุ่งนุ่น กุก้อยังไม่ค่อยเข้าใจ ทนๆ ใช้ไปก่อน

741 Nameless Fanboi Posted ID:xh1ODwEn3V

สอบถามโม่งหน่อย front end จ้าๆเลย แต่ไม่ปสก. มันยากในการหางานในช่วงนี้ไหม

742 Nameless Fanboi Posted ID:cCf/fawXki

>>741 ไม่มี ปสก. ก็เอาพอร์ตงานที่ทำไปให้เค้าดูสิ ถ้างานใช้ได้ก็รับ

743 Nameless Fanboi Posted ID:bxLC/B/Mr5

>>742 ขอบคุณที่ตอบครับ

744 Nameless Fanboi Posted ID:eCClNgpDqv

จบไม่ตรงสาย ไม่มีประสบการณ์ พอร์ตกลางๆ จะหางานยากไหม

745 Nameless Fanboi Posted ID:0CvZmIgLA.

>>744 จบตรงสายหรือไม่เรื่องเล็ก พอร์ตเป็นตัวที่แสกนคร่าวๆ ว่าจะเรียกมาคุยหรือเปล่า ที่สำคัญสำหรับกรณีที่ไม่มีประสบการณ์ คือ test ผ่านไหม มากกว่า

746 Nameless Fanboi Posted ID:9tjU4Sl8U0

>>744 หาได้อยู่ละ ทุกวันนี้ความต้องการ dev เยอะ ถ้าไม่เกี่ยงงานพวกบริษัทเล็กๆจ่ายไม่เยอะก็หาได้แน่นอน งานแรกก็เข้าไปเก็บเวลก่อน มีประสบการณ์ปุ๊บก็หาทางหนี

747 Nameless Fanboi Posted ID:/C4o5bbhgN

โม่งมีใครใช้ Windows แล้วลองอัพ Win 11 กันแล้วบ้าง อยากลองของใหม่ เห็นมันก็ออกมาพักใหญ่ๆแล้ว ปัญหาน่าจะเริ่มเบาๆลง
แต่อีกใจนึงก็กลัวอัพแล้วพังต้องมาเซ็ตใหม่หมดทุกอย่างคงไม่สนุกเท่าไหร่

748 Nameless Fanboi Posted ID:eVmDQWaqd8

>>747 หนีไปเลยมึง อยู่ที่win 10ก็อยู่ตรงนั้นไป อัพwin 11 อย่างแรกละคือvirtualboxใช้ไม่ได้

749 Nameless Fanboi Posted ID:IcBW/MhINg

ffjaafllfa

750 Nameless Fanboi Posted ID:RDdSEE4buU

>>748 ตอนนี้ผมใช้ virtualbox ใน win11 มาตอบคุณอยู่

751 Nameless Fanboi Posted ID:t7xgk+4HcE

>>750 ba baka na

752 Nameless Fanboi Posted ID:DqVUZpC1Rc

>>164 กุเจ้าของเม้นเอง สืบรู้มาละ โบนัสแจกประมาณ 3 ครั้ง ต่อปี รวมๆ อยุ่ประมาณ 4-5 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยุ่กับการประเมิน/ตำแหน่ง ด้วย ถ้าได้ประเมินคะแนนดีๆ อาจได้พุ่งถึง 6-7 เดือน แต่เงินเดือนเริ่มต้นแม่งน้อยวะ

753 Nameless Fanboi Posted ID:0JaH8jA/x.

โม่ง network ถามหน่อย
งงเรื่อง Vlan เราจะแบ่ง vlan ทำไมในเมื่อตอนเซ็ท ip อุปกรณ์ก็เซ็ทให้มันคนล่ะ subnet กันได้อยุ่แล้ว

754 Nameless Fanboi Posted ID:csxq3o9MdV

กูไม่รู้มาถูกมู้ไหม​ https://www.hackerservice2021.com/post/สำหร-บท-านใดท-เคยจ-างงาน-สามารถร-ว-วได-ท-โพสน-เลยนะคร-บ-เพ-อเป-นแนวทางในการต-ดส-นใจในจ-างงาน โกงปะ

755 Nameless Fanboi Posted ID:SgiAJDFRnc

>>753 คนละอย่างกันเลยหรือเปล่า vlan มันเอาไว้ให้ทำเหมือนอุปกรณ์หลายตัวๆอยู่ Lan เดียวกันได้

756 Nameless Fanboi Posted ID:8vmkNWC.T.

>>754 ถ้างานจริง ก็คือมันจะไปหาฝรั่งในเว็บ .onion จ้างต่ออีกทอดนึง ซึ่งแม่งไม่ต่างห่าไรกับพวกdropshippingเลยสัส ข้อดีคืออย่างน้อยๆเขามีการบ้านส่งให้มึง ข้อเสียคือมึงจ่ายแพงกว่าจ้างคนทำงานจริงโดยตรง

757 Nameless Fanboi Posted ID:iplEOjAUdm

>>754 https://imgur.com/ufbmbL2

758 Nameless Fanboi Posted ID:GRDWYGrp0m

matlab จะมาแทน javascript ได้ไหมครับ

759 Nameless Fanboi Posted ID:43zaOfha+9

>>758 มันใช้งานคนละด้านเลยไม่ใช่เรอะ

760 Nameless Fanboi Posted ID:JByEd8053n

>>752 มึงสืบนานจังวะหรือพึ่งนึกได้ว่าจะมาแบ่งข้อมูล

761 Nameless Fanboi Posted ID:JByEd8053n

เรียนไม่จบเพราะเบื่อก่อน ปี 3 ละไม่ได้ลงเรียนต่อ ดรอปไว้ ถ้าอยากทำ fullstack นี่ควรมีงานให้เค้าดูเยอะขนาดไหน

762 Nameless Fanboi Posted ID:4eIc8uZ8hT

>>761 เยอะๆ ไม่มีปริญญาจะติดตรง recruiter ไม่เรียกมากกว่าตอนไปสัมกับ engineer

763 Nameless Fanboi Posted ID:o/tfacGxi.

>>761 ไหนๆเรียนมาถึงปี 3 แล้วกูว่ายอมๆกัดฟันไปต่อให้มันจบๆเถอะ
สังคมไทยยังไงใบปริญญาก็ยังสำคัญไปอีกนาน โดยเฉพาะสำหรับการหางานแรก

แต่ถ้าจะเลือกทางทำงานเลย จะไม่เรียนแล้วมึงจะต้องแก้ปัญหาอีก 2 เรื่อง

- มึงคือต้องหาที่ๆเค้าเปิดกว้าง ไม่กีดกันคนไม่มีปริญญา ซึ่งกูไม่รู้จะแนะนำยังไงเหมือนกัน
เพราะส่วนมาก requirement คนสมัคร เค้ามักจะเขียนว่าเรียนจบตรีสาขาที่เกี่ยวข้องหรือใกล้เคียงไว้ก่อน
ส่วนจริงๆจะซีเรียสกับเรื่องนี้แค่ไหนมันก็แล้วแต่

- เวลาโดนถามว่าทำไมไม่เรียนต่อให้จบ มึงเตรียมคำตอบสวยๆไว้ด้วย บอกไปตรงๆว่าเบื่อนี่มึงจะโดนมองว่าไม่มีความอดทน
เค้าก็จะคิดต่อว่าทำงานไปเกิดเบื่อก็จะทิ้งงานไปดื้อๆ หรือทำไปแป๊ปๆก็ลาออกมั้ยอะไรแบบนี้ แล้วโอกาสรับก็จะน้อยลง

764 Nameless Fanboi Posted ID:dlVBNTNF/A

เลือกเรียนgo หรือ typescript อยู่ อันไหนน่าจะหางานได้ง่ายกว่ากัน

765 Nameless Fanboi Posted ID:cJwtPlJm9r

>>764 typescript หางานง่ายกว่า

766 Nameless Fanboi Posted ID:cJwtPlJm9r

justify-content and align-items
ตั้งชื่อห่วยมาก

767 Nameless Fanboi Posted ID:uqo1.qJ0ZQ

>>764 typescript งานกว่าเยอะ go หลายเท่า แต่ต้องฝึกใช้ framework ด้วยนะไม่ใช่แค่ภาษา

768 Nameless Fanboi Posted ID:/uDUweIicO

กุใช้เวลาสืบนานอยุ่ เพราะไม่ค่อยมีข้อมูลพวก โบนัสเลย บริษัทนี้ 555

769 Nameless Fanboi Posted ID:/uDUweIicO

>>760 กุใช้เวลาสืบนานอยุ่ เพราะไม่ค่อยมีข้อมูลพวก โบนัสเลย บริษัทนี้ 555 ***อันบนซ้ำ***

770 Nameless Fanboi Posted ID:yqpFh+EhsH

Backend/frontend/fullstack อันไหนน่าจะหางานง่ายกว่าสำหรับคนจบไม่ตรงสาย+First jobberอ่ะ

771 Nameless Fanboi Posted ID:93b.fzFCX3

>>770 คิดว่า fullstack

พวกบริษัท outsource เล็กๆอ่ะ จบไม่ตรงสายน่าจะหาได้

772 Nameless Fanboi Posted ID:1hxO9SRLTz

>>770 fullstack ยังไงก็ง่ายสุดเพราะมันคือทำได้ทั้ง front และ back แต่เวลาสมัครงานใส่ไปแบบนี้ไม่ได้แปลว่าจะได้ทำงานเป็น fullstack จริงๆ
บางทีอาจจะโดนให้ไปทำ back หรือ front อย่างเดียวไปเลยก็ได้ ก็ต้องไปคุยตอนสัมภาษณ์เอาว่ามึงโอเคมั้ย
แต่เนื้องาน front กับ back มันต่างกันเยอะ ถ้ามึงไม่ใช่คนที่แบบยังไงก็ได้จริงๆก็ควรดูตัวเองด้วยนะว่ามึงชอบแบบไหน
เวลาทำงานจริงมีเรื่องชวนให้ละเหี่ยใจอีกเยอะ ถ้ามาเซ็งกับต้องมาทำส่วนที่ไม่ชอบอีกมันก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

773 Nameless Fanboi Posted ID:9zZwuF+Otm

>>772 คำถามกูนะ เก็บประสบการณ์งานยังไงให้ไปถึงfullstackได้วะ?

774 Nameless Fanboi Posted ID:T.VDTVZXrT

>>773 front/back/fullstack มันไม่ใช่ตำแหน่ง มันคือการบอกว่าทำงานสายไหน
fullstack โดยนิยามมันคือคนที่ทำได้ทั้ง front และ back
การจะเป็น fullstack ถ้าเริ่มจากสมัครงานแรกก็คงต้องรู้พื้นฐานของงานทั้ง front ทั้ง back
และมึงโอเคกับการต้องเรียนรู้งานและทำทั้ง 2 อย่างแหละ

775 Nameless Fanboi Posted ID:Ed67J8JhgV

>>773 รับโปรเจคนอก แล้วทำคนเดียว

776 Nameless Fanboi Posted ID:9Ar.lau5IF

มีใครเป็นโปรแกรมเมอร์อยู่ต่างจังหวัด(ที่ไม่ใช่กรุงเทพ)มั่งวะ back-end ปสก 3-5 ปีนี่ เงินเดือนประมาณเท่าไหร่กัน

777 Nameless Fanboi Posted ID:EdFq7c8XxN

>>776 15000

778 Nameless Fanboi Posted ID:edKpTdrnMi

>>776 หางานรีโมทจะได้เรตเท่ากรุงเทพ

779 Nameless Fanboi Posted ID:qPdg67/q9a

https://www.facebook.com/groups/ThaiPGAssociateSociety/permalink/2052348808309711/

Based

780 Nameless Fanboi Posted ID:TaH5twnw6j

ฐานเงินเดือน swe ที่ไทย(กทม)ขึ้นบ้างยังวะ?

2 ปีก่อนกุเห็น base salary new grad อยู่ที่ 25k-50k range จาก no name ไปถึง international ส่วนเพดานอยู่ที่ 150k-200k

ตอนนี้เป็นไงบ้าง ฐานหรือเพดานปรับขึ้นบ้างปะวะ?

781 Nameless Fanboi Posted ID:TaH5twnw6j

>>780 แก้ เพดานกุหมายถึง level แบบ senior/lead ไรงี้นะสัส

782 Nameless Fanboi Posted ID:fKALUkAiQb

>>780 เหมือนๆเดิมกุว่า

783 Nameless Fanboi Posted ID:+lv2Uv4Pqf

>>780 มันจะขึ้นด้วยสาเหตุไรวะ

784 Nameless Fanboi Posted ID:/.kttHHK5l

>>783 เพดานเงินต่ำ ดึงคนเก่งไว้ในประเทศไม่ได้ หนีออกนอกประเทศหมด

785 Nameless Fanboi Posted ID:syMSIKb921

>>780 ส่วนตัวกูรู้สึกว่ายังขึ้นอยู่เรื่อยๆนะ ถามเพื่อนๆน้องๆ New grad 40k กลายเป็นตัวเลขมาตรฐานไปแล้ว ต้อง 50++ ถึงจะน่าสนใจ ได้ยินว่าหลายที่ turnover rate สูงด้วย ส่วนคนที่เลือกได้ก็หนีไปเรียนไปทำงานต่างประเทศกันหมด
ส่วนตัวกูเพิ่งทำงานครบ 1 ปีแหละเพื่อนโม่ง รู้สึกสกิลไม่เพิ่มขึ้นเท่าไร อาจจะเป็นเพราะเสียเวลาย้ายงาน แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ไม่ค่อยมีเวลาว่างมาเล่นเลย คิดถึงห้องนี้มาก เคยมาโพสขอคำแนะนำเรื่องหางานอยู่ ตอนนี้กูได้งานที่ค่อนข้างโอเคแล้ว ;-;

786 Nameless Fanboi Posted ID:XL3+dKnFt.

>>784 new grad เนี่ยนะ

787 Nameless Fanboi Posted ID:pW59yqI4B/

>>786 มีเพื่อนกูในคณะคนนึงได้ 40k ทำงานอยู่บริษัท ag**a มันบอกว่าไม่ใช่ทุกคนที่เข้าได้ ต้องมีผลงานแบบจับต้องได้มาก่อน ทักษะต้องเยี่ยม ภาษาอังกฤษต้องเด่น เขียนอีเมลเป็นภาษาอังกฤษได้ และก็สัมพาษณ์หลายรอบ แต่มันอาศัยคนในชวนเข้าไปก็เลยง่ายหน่อย

ถ้าเป็นบ.ต่างชาติ 40k นี่จิ๊บๆ จ้างคนไทยหรืออินเดียยังไงก็ถูกกว่า ถ้าเป็นบ.ไทยไม่มีทางได้ขนาดนี้ 30-35k ก็หรูแล้วสำหรับ new grad

788 Nameless Fanboi Posted ID:pW59yqI4B/

ลืมบอก สมัยกูจบใหม่กูได้ 32k ว่ะ อยู่บ.ไทยแห่งหนึ่ง ใบ้ให้ว่าสายธนาคารและการเงิน พูดชื่อแล้วใครๆ ก็รู้จัก

789 Nameless Fanboi Posted ID:5SNd4YAInl

>>788 ให้เดาว่าไม่เขียวก็ม่วงหรือไม่งั้นก็ไอที่เพิ่งควบรวบกิจการ รู้สึกว่าสองเจ้านี้พยายามผลักเรื่องเทคมาก กูเคยอยากเข้านะถ้าฝีมือพร้อมแต่สงสัยเลยหว่ะ รายได้แบบนั้น มันให้อะไรมึงอีกบ้าง? แล้วที่เหี้ยๆสัสหมามีอะไรบ้าง? เช่น มันตามงานมึงหลังเลิกงานจนมึงต้องมานอน บ. ตลอด หรือวันๆมันสนแต่โค้ดมึงจัดช่องไฟไม่ถูกใจมันจนงานไม่เดิน, มันให้มึงทำโอ ทำงานแบบสไตล์คาโรชิของยุ่นอะไรทำนองงี้ป้ะ

790 Nameless Fanboi Posted ID:i8C1+i43Q/

ไม่โปรแกรมเมอร์แต่ถามหน่อย สาย netsec ในไทยอนาคตดูเป็นไงมั่ง

791 Nameless Fanboi Posted ID:aU/wxZMkvX

>>790 ความจำเป็นน้อยลงเรื่อยๆ เพราะบริการทุกวันนี้ใช้ระบบเช่าเอา เรื่องความปลอดภัยก็ไม่ต้องดูแลเอง

792 Nameless Fanboi Posted ID:OK0Ntp67T/

>>791 โทษทีหมายถึง infosec (โดยเฉพาะด้าน cyber sec) แต่เรียก netsec จนชินไปหน่อย พอดีผมสอบ oscp ได้แล้วแต่ยังเรียนไม่จบ อยากรู้สถานการณ์สายอาชีพหน่อย

793 Nameless Fanboi Posted ID:aU/wxZMkvX

>>792 เราว่าเหมือนเดิมอยู่ดีน่ะ ปริมาณงานที่จำเป็นที่ต้องใช้ cyber sec ในยุคที่เริ่มย้าย service ไปใช้ cloud แทน มันน้อยลงกว่าแต่ก่อนนะ

ตัวอย่างเช่น แต่เดิมเราใช้ drive กลางที่ตั้งในบริษัทแม่ แต่เปลี่ยนไปใช้ one drive หรือแต่เดิมตั้ง mail server ดูแลความปลอดภัยเอง ตอนนี้ไปใช้ google service แทน เรื่องความปลอดภัยต้องต้องดูแลมันน้อยลงกว่าแต่เดิม เพราะโยนไปให้ผู้บริการดูแลแทน

794 Nameless Fanboi Posted ID:i1SEItl.EZ

>>785 ยินดีด้วยที่ได้งานใหม่ดีๆ จะว่าไปเงินเดือนสายนี้เปลี่ยนเร็วเหมือนกันแฮะ
ของกูกว่าจะได้ถึง 50k นี่ก็ทำงาน 3 ปีแล้ว แถมแลกมาด้วยสวัสดิการโคตรบัดซบอีก
แต่เพราะกูเลือก work life balance เป็นหลัก ไม่เอางานหนักเองด้วยแหละ

795 Nameless Fanboi Posted ID:Ll3XspUqXx

new gradสมัยนี้ได้เยอะขนาดนั้นเลยเหรอวะ สมัยกูจบวิศวะได้เเค่19kเอง วิศวะโรงงาน ถามเพื่อนๆก็ส่วนใหญ่ได้ประมาณนี้ อย่างหรูเลยก็25kเเบบในฐานะคนความสามารถกลางๆ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นนะ

796 Nameless Fanboi Posted ID:ArEGh1UrGC

>>795 ปัจจุบันสายงานนี้มันขาดแคลนอย่างรุนแรง บริษัทไม่อยากจ่ายแพงหรอก แต่ทำไงได้ คนเก่งๆมีอยู่นิดเดียว
พูดถึง range เงินเดือนเด็กจบใหม่มันกว้างมาก มีตั้งแต่ 8000 ยังไม่คุ้ม ยัน 60000 ก็ยอมจ่ายก่อนที่บริษัทคู่แข่งจะคว้าตัวไป

ถ้าอยากได้เงินเดือนเยอะๆต้องเลือกบริษัทเกรด A ที่ core business คือเทคโนโลยี พวกนี้สวัสดิการอู้ฟู่มาก
แจก macbook ให้ dev คนละเครื่อง บางที่แจกข้าวฟรี น้ำฟรี เบิกเงินไปซื้อเก้าอี้เพื่อสุขภาพได้ แถมให้ wfh อีกต่างหาก

แต่ตัว dev เองต้องเก่งมากๆ ภาษาอังกฤษเป็น requirement ขั้นต่ำ ต้องอ่านออกเขียนได้ ไม่ใช่ความสามารถพิเศษ
ต้องมีประสบการณ์เขียนโปรแกรมของจริง เช่น รับงาน freelance ไม่ต่ำกว่า 1-2 ปี และต้องทำโจทย์อัลกอริทึมยากๆได้ตอนสัมภาษณ์งาน

797 Nameless Fanboi Posted ID:K1zZ9kI8BL

จบบัญชีมา แต่ไม่ชอบทำงานสายนี้เลย อยากทำงานเกี่ยวกับ data science มากๆ ควรเริ่มจากไหนดี
ว่าจะไปเรียนป.ตรีเพิ่มอีกใบ comsci หรือ สถิติศาสตร์และวิทยาการจัดการข้อมูล อันไหนดีกว่ากัน

798 Nameless Fanboi Posted ID:wO+CY8i9+1

>>795 เอาไปเทียบวิศวะทั่วไปไม่ค่อยได้นะ

>>797 หางานที่ใกล้ๆ data sci ให้ได้ก่อน อาจจะ data analyst

แล้วระหว่างนั้นก็ศึกษาเอง data sci นี่อ่านเองได้ง่ายสุดละถ้าเทียบกับเรื่องอื่นในสายคอม

มีปสกสักปีนึงก็หางาน data sci ตรงๆได้ สายนี้ปสกสำคัญสุด ไม่ต้องเรียนอีกใบก็ได้ มีปสกเอาไว้ให้เวลายื่นสมัครจะได้ไม่โดน reject ตั้งแต่ recruiter

799 Nameless Fanboi Posted ID:PUIBxywfZP

ไหนๆแล้วก็ขอถามด้วยเลย สาย infra นี่ให้แตะ30Kพอเป็นไปได้มั๊ย นี่ new grad ปสก 1 ปี ได้ประมาณ 18k เองถ้าไม่นับค่าอื่นที่บอเพิ่มให้รวมๆ 21-22 รู้แหละว่าเป็นงานรูทีน ดูแลระบบ แก้เคสลูกค้า คิดโซลูชั่นใหม่นานๆที แต่เพิ่มเงินเดือนให้หน่อยเถอะน้อยเกิ๊นนน งานหนักอีก แม่ม

800 Nameless Fanboi Posted ID:Uf6Ldc1t8Q

>>799 ได้สิ ขึ้นอยู่กับบริษัท มีหลายที่ให้ได้แน่นอน

801 Nameless Fanboi Posted ID:j62V+a14J/

>>797 สอนใช้ program r หน่อย เดี๋ยวจ้าง

802 Nameless Fanboi Posted ID:Oy98EbUs4a

>>801 ทัมมัยไม่ไพทอน

803 Nameless Fanboi Posted ID:rrO7F/NMLx

>>802 จะเอามาคำนวนสแตทธีสิส

804 Nameless Fanboi Posted ID:.97rAWdDeI

คนจริงต้องเขียน Assembly

805 Nameless Fanboi Posted ID:mtn+XtXliG

>>804 มึงเป็นพวกชอบอะไรต่ำๆสินะ

806 Nameless Fanboi Posted ID:2TLbx6gyri

คนจริงต้องเขียน wolfram

807 Nameless Fanboi Posted ID:t8XQy/1XsU

ก็เว่อไป new grad ได้เกิน 30k นี่นับบ.ได้เลย

808 Nameless Fanboi Posted ID:Y9pZOF0EFc

เอาจริงๆจะหางานเงินเดือนดีๆมันแล้วแต่จังหวะด้วย ส่วนตัวกูทำอยู่ agoda ก่อนมาทำก็มีประสบการณ์มาประมาณ 8 เดือน คำถามตอนสัมภาษณ์จริงๆก็เรียนในมหาลัยเป็นพื้นฐานมาหมดแหละ พวก design pattern, database ไรงี้ ภาษาอังกฤษก็กลางๆ ถ้าไปสอบ ielts ก็ไม่เกิน 4-4.5 หรอก แต่ก็ยังติดมาได้

809 Nameless Fanboi Posted ID:kw2fimj1Hh

เงินเดือนดีๆ ถ้าบริษัทเล็ก กลาง พวกนี้เค้าดูว่าจ้างแล้วบริษัททำกำไรโป๊ะเงินเดือนไหวหรือเปล่า ถ้าดูแล้วเก่งพอที่จะเอามาทำงานปิดงานที่ขายได้สมน้ำสมเนื้อมากกว่ารายจ่ายเงินเดือนบวกค่าโสหุ้ยค่าเช่าบริษัทแล้วได้กำไรซัก 2-3 เท่าตัว แสนนึงก็ถูก แต่ถ้าทำอะไรไม่ได้ไม่เป็นเลย 8 พันก็แพง

แต่กรณีบริษัทใหญ่แล้วมีส่วน r&d จะอีกเรื่องนึง พวกนี้ต่อให้จบใหม่ก็ไม่มีปัญหา (ถ้าไม่โง่เกินไปนะ) เพราะงบมันเหลือที่ต้องจ้างคนให้ครบตามจำนวน แล้วเอามาฝึกอีกที พวกนี้เป้ากดดันมันจะน้อยกว่า

810 Nameless Fanboi Posted ID:zLhAaWL1u+

new grad 30k-40k เป็นเรตปกติ ไม่ใช่เงินเดือนพันทิป มีไม่เยอะมากแต่ก็เกินสิบบริษัท ไม่เชื่อไปเปิด linkedin หรือ jobsdb ก็ได้
เด็กจบใหม่ที่ได้เงินเดือนเรตนี้ต้องมีความสามารถมาโชว์ มีผลงานที่จับต้องได้ ซึ่งคนที่ทำแบบนี้ได้ก็เหมือนกับมีประสบการณ์มาแล้ว 0.5-2 ปี

811 Nameless Fanboi Posted ID:XZ1XLhK2.g

กุจบ 2019 ตอนนั้น แบบค์เขียวtg 29k วงไม่นอก(ยังไม่เป็นแชทแมน) 35k

812 Nameless Fanboi Posted ID:XZ1XLhK2.g

>>811 แบงค์*

813 Nameless Fanboi Posted ID:5sburFwdgv

new grad 30k-40k ยังไงก็ไม่ใช่เรทปกติว่ะ กูก็จบมาจากม.ที่มีชื่อเสียงมากๆนะ แต่คนที่ทำงานที่แรกได้เท่านี้เลยก็ไม่เยอะว่ะ มันจะปกติยังไงวะ

814 Nameless Fanboi Posted ID:BNYpAYh1.p

ทำโปรเจคจบเป็นเว็บโม่งแบบที่Sirn ทำหลังจบใหม่ได้นี่ จะเรียกรายได้ได้กี่ตังค์วะ?

815 Nameless Fanboi Posted ID:ucBR2.4R7c

>>814 เรียกหมายศาลได้

816 Nameless Fanboi Posted ID:llVNf0ybPb

>>813 เพราะว่ามึงคิดแบบนี้ไง 30-40k เลยเป็นเรื่องไกลตัว ทั้งที่มันเป็นเรื่องโคตรของโคตรปกติของสายงานนี้ ถ้ามึงได้น้อยกว่า 30k แสดงว่ามึง underrated ตัวเองอยู่ เตรียมย้ายงานได้เลย
บริษัทสายไอทีทั้งหมดไม่สนใจว่ามึงเรียนจบอะไรมา มึงจะจบฮาวาร์ดหรือมหาลัยRที่โดนดูถูกบ่อยๆก็ไม่มีผล เขาสนใจแค่ว่ามึงมีปัญญาทำอะไรได้บ้าง มึงต้องมีผลงานที่จับต้องได้มาก่อน เคยทำโปรเจคอะไรไว้ก็ยัดใส่ github ให้หมด อย่าลืมฝึกทำโจทย์ leet code ด้วยเพราะมีถามตอนสัมภาษณ์

817 Nameless Fanboi Posted ID:llVNf0ybPb

ต่อจากเมนต์ข้างบน ลืมบอก มึงต้องเลือกบริษัทที่เป็นเทคโนโลยีเต็มตัวนะ อย่าไปเลือกพวกโรงงานกากๆหรืองานออฟฟิศเกรด C เพราะพวกนั้นเขามองโปรแกรมเมอร์เป็นเหมือนเสมียนหรือพนักงานพิมพ์ดีด เงินเดือนไม่ถึง 15000 แต่ใช้งานหนักกว่าบริษัทที่กล้าให้ new grad 40k

818 Nameless Fanboi Posted ID:YJa64MYYsf

>>816 กุว่ามหาลัยก็มีผลอยู่บ้างถ้าจบใหม่แล้วไม่มีผลงานไปอวด/จบอย่างอื่นมา แต่ leetcode นี่ในไทยเรียกว่านับที่ได้ที่ถามได้เลย น้อยมาก เพราะคนสัมภาษณ์ส่วนใหญ่แม่งก็ทำกันไม่เป็นเหมือนกัน

819 Nameless Fanboi Posted ID:gJXNy5I.CR

>>818 เชี่ยไรเนี่ย มึงมาปั่นเหรอ? มึงไม่เอาโค้ดสตาร์มาอวยด้วยเลยละสัส

820 Nameless Fanboi Posted ID:YJa64MYYsf

>>819 ปั่นไรวะ มึงลิสต์มาสิที่ไหนถาม leetcode กุสัมมาหลายที่แม่งแทบไม่ถาม

821 Nameless Fanboi Posted ID:ttliPvfaQy

>>816 มึงอย่าเอาแค่บริษัทแค่ไม่ถึง 10% ในอุตสาหกรรมมา แล้วมาบอกว่า 30-40k สำหรับ new grad มันเรื่องปกติ มึงลอง list มาเลย จะถึง 100 บ.หรือเปล่าที่ให้ถึง อ้อกูไม่เคย underrated ตัวเองว่ะ จบมากูก็สตาร์ทที่ 65k แล้ว

822 Nameless Fanboi Posted ID:1mgR5dKmpw

>>821 100 บ. 10% แปลว่ามีบ.ในอุตสาหกรรมถึง 1000 บ.เลยเหรอ ใช่เหรอ

823 Nameless Fanboi Posted ID:28FuKE7bma

>>822 ถ้ามึงไม่โม้ก็ลอง list มาเท่าที่นึกออกดูสิ ไม่ต้องไปไล่จับคำผิดเขาเหมือนโม่งขี้โม้ นักมโนที่หลวมว่าตัวเองเงินเดือนเยอะทั้งที่ยังช่วยแม่กรอกน้ำอยู่เหมือนโม่งที่โดนจับในห้อง Lounge ก็ได้

824 Nameless Fanboi Posted ID:1mgR5dKmpw

>>823 แต่กูไม่ใช่ >>816 ว่ะ ลิสต์ให้ได้ไม่ถึง 100 บ.หรอก อุตสาหกรรมไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น

825 Nameless Fanboi Posted ID:rwdkArnAmw

พวกมึง กูไม่เก่งพวกโค้ดเพราะไม่ค่อยตั้งใจเรียน+เคยตั้งใจเรียนแล้วได้เกรดมากสุดแค่ B เรียน nodejs ตอนนี้จบมาเป็น helpdesk ทำมาปีนึงแล้ว เงินเดือน start 19000 กูอยากลองพยายามกับโค้ดอีกครั้งนึง เพราะรู้สึก helpdesk สมองกูแม่งไม่พัฒนาเลย อยากเก่งกว่านี้ ถ้าไปฝึกเขียนในยูทูป ลองทำโจทย์จนคล่อง พอจะสมัครงานใหม่เริ่มใหม่ได้ไหมวะ เพราะประสบการณ์ helpdesk 1 ปี แล้วไปสายโค้ดมันน่าจะไม่มีประโยชน์อะไร

826 Nameless Fanboi Posted ID:yhPwjOmWPr

>>825 ได้ดิ ถ้ามี toeic ุ650+ เสริมๆซักหน่อยสบายๆ ประสบการณ์ help desk ก็พอช่วยได้ จะหางานสาย tech ต้องหน้าด้านเข้าไว้ อย่าไปคิดว่าตัวเองไม่เก่ง ให้บริษัทตัดสินเองว่าเก่งไม่เก่ง กูจบเกรด 2.3 มายังลุยสบายๆ

827 Nameless Fanboi Posted ID:rwdkArnAmw

>>826 ขอบใจมากมึง มีกำลังใจละ ส่วนโทอิคตอนนี้มีอยู่ 700 พอดี น่าจะไหว

828 Nameless Fanboi Posted ID:LNsOsK9oxG

>>825 กูมีคำถาม help desk นี่มึงทำที่ บ.ไหนวะ? เหมือนแอบชิลล์จังวะ

829 Nameless Fanboi Posted ID:rwdkArnAmw

>>828 กูเป็นเอาท์ซอสแห่งหนึ่งแถวบางรัก วันๆ คอยรับเคสเข้ามาอย่างเดียว ซึ่งเดือนนึงมีไม่ถึง 10 เคส บางทีไปนั่งเฉยๆ แม่งทั้งเดือนกินเงินเดือนไปวันๆ เฉยๆ เหมือนไปนั่งตากแอร์ฟรี ส่วนใหญ่ไปนั่งเล่นเกม ดูหนัง

830 Nameless Fanboi Posted ID:rk6a3SxMyp

>>829 เชี่ยดีจังวะ แล้วที่จะมาเขียนโค้ดนี่เพราะเงินเหรอ

831 Nameless Fanboi Posted ID:rk6a3SxMyp

>>825 อ่อมึงบอกไว้ในนี้แล้วนี่ ถ้าเริ่มใหม่กุว่าเลือกสายที่อยากทำก่อน frontend/backend/mobile/data engineer หรืออื่นๆ ยังไม่รู้ หรืออะไรก็ได้ อยากทำบริษัทสตาร์ทอัพหรือบริษัทใหญ่ จะได้มาเลือกภาษากันว่ามึงควรเลือกฝึกตัวไหนเพื่อไปถึงจุดหมาย จริงๆมันก็มีตัวที่ general อยู่แต่บางสายมันมีตัวที่เหมาะเฉพาะอยู่น่ะ จะได้หางานง่ายๆ

ไม่ก็ทำ low code มั้ย อาจจะเหมาะกับมึงนะ

832 Nameless Fanboi Posted ID:rwdkArnAmw

>>831 ขอบใจมากมึง จะเอาคำแนะนำมึงไปใช้ดู

833 Nameless Fanboi Posted ID:IqrWFw3/ML

ล่าสุด บ.เทคแบงก์เขียวออกมาเปิดงานรับคนเข้าทำงานละ มีโม่งตัวไหนเคยไปทำงานมาไหมวะ? มันดีหรือไม่ดี?

834 Nameless Fanboi Posted ID:IpwJqIlRvc

>>833 เห็นบอกจะทำให้เป็นบ.เทคที่ดีที่สุดใน sea แต่กูไม่เห็นเค้าลางเลยว่ะ

835 Nameless Fanboi Posted ID:sEDuHIVB7i

>>834 บริษัทเทคโนโลยี "ด้านการเงินและธนาคาร" ที่ดีที่สุดใน SEA

836 Nameless Fanboi Posted ID:c+c9Jdxv78

>>834 วิสัยทัศน์มันกูไม่สนหรอก ที่กูสนคือรายได้ กับสไตล์การทำงานมากกว่า ถ้าเข้าไปเก็บ ปสก. จะได้ไรกลับมาบ้างไหมวะ? เห็นเคยได้เจอว่าที่นี่แม่งไม่ได้สนวุฒิจบด้วย ถ้ามีผลงานให้ดูก็ทำงานกับเค้าได้ จริงหรือจ้อจี้วะ

837 Nameless Fanboi Posted ID:JkRG6EMmsI

>>836 ป.หก รับไหมครับ

838 Nameless Fanboi Posted ID:IpwJqIlRvc

>>835 ไม่มีคำว่าการเงินและธนาคารนะ https://www.marketingoops.com/media-ads/event/kbtg-set-the-big-goal-top-regional-tech-company/

Best tech company

839 Nameless Fanboi Posted ID:hSO7IVbCsT

>>838 อ้าว แสดงว่าแบงก์เขียวจะแตกไลน์ทำ บ.เทคล้วนไปอีกสายนึงเหรอ?

840 Nameless Fanboi Posted ID:mnVeawhfAY

>>839 ก็บ.เดิมนั่นแหละ แต่จะดีที่สุดในแง่ที่แข่งกับทุกบ.เทค ไม่จำกัดว่าแค่ในสายการเงิน (shopee gojek grab foodpanda binance)

ซึ่งกูไม่เห็นเค้าลางว่ะ

841 Nameless Fanboi Posted ID:rRi0peJjoU

พวกมึงรุ้ไหม เวลา site ต่างๆ รับ outsource programmer พวกนี้จ่ายให้บริษัทต้นสังกัดเท่าไหร่
แล้วต้นสังกัดเค้ารู้เงินเดือนเราไหม
เช่น เราขอเงินเดือน 50k site ลูกค้า ต้องบวกให้ต้นสังกัดอีก 100% ต้นสังกัดได้รับจากลูกค้ามา 100k
หรือ... ปกติเค้าจ่ายให้ระดับ 100k ++ ตามประสบการณ์ แล้วต้นสังกัดมาเจรจากับเราอีกที ว่าเราจะได้เท่าไหร่

842 Nameless Fanboi Posted ID:Vvk+omO7KE

>>841 ปกติที่กูเจอมาคือเงินเดือนเราต้นสังกัดเป็นคนให้ ลูกค้าไม่เกี่ยว
ลูกค้าต้องจ่ายเงินค่าใช้งาน programmer ให้ต้นสังกัดอีกที ซึ่งกว่าจะผ่านประบวนการวางบิลนู่นนี่อาจจะกินเวลานานหลายเดือน
ต้นสังกัดควรจะจ่ายเงินเดือนมึงตามเดือนที่ทำงาน แต่ถ้าเจอที่ๆต้องรอลูกค้าจ่ายก่อนแล้วถึงจ่ายเงินเดือนพนักงานทีหลังนี่ควรเลี่ยง
การเจรจาเงินเดือนคือเราเจรจากับต้นสังกัด แล้วต้นสังกัดเค้าจะไปคิดเองอีกทีว่าคุ้มไม่คุ้มสำหรับเค้า
โดยมีเรื่องเงินที่ได้จากลูกค้าเป็นปัจจัยหลัก แต่อาจจะมีปัจจัยอื่นๆเสริมเช่นต้องมีอุปกรณ์ให้มั้ย อะไรพวกนี้ด้วย

843 Nameless Fanboi Posted ID:fN9AmAuUsH

เงียบเลยว่ะ พวกมึงไปคุยกันที่ไหนวะ

844 Nameless Fanboi Posted ID6:3L7oVOsksk

>>843 มึงคิดว่าโปรแกรมเมอร์คุยกับคนด้วยเหรอวะ

845 Nameless Fanboi Posted ID:yDMgki/iw1

>>844 คุยสิ ไม่เคยทำ scrum เหรอ

846 Nameless Fanboi Posted ID:w.XKpPyfwL

>>845 scrum งานไทยทำได้ด้วยเหรอ เหอๆ

ที่ข้าพเจ้าเคยเจอมา แผนงานกำหนด 1 เดือน ลูกค้าส่งของมาช้าสุดท้ายโดนเร่งให้เสร็จภายใน 3 วันนี่เรื่องปรกติมาก

โปรเจ็คราคา 5 ล้าน เนื้องานมีทั้ง web + app ออกแบบระบบจาก 0 ทีมงานมี sale 1 หน่อ พกโปรเกม่อนไป 1 ตัว ปิดงานภายใน 4 เดือน แถมเวลาทำจริง นับดูแล้วเดือนเดียว

Full Stack คือ Full Stack จริงๆ นอกจาก code โปรแกรมได้แทบทุกภาษาที่ลูกค้าอยากได้ set cloud ได้ ดีไซน์ได้ ทำ automation test ได้ แล้วยังคุยต่อรองกับลูกค้า + หา supplier ได้ แถมยังขายงานแทน sale ได้ด้วย อ๋อ ทำบัญชีได้ด้วยนะ lol

847 Nameless Fanboi Posted ID6:oj0SMh+cif

>>846 กูไปทำเน็ตเวิร์กคุยกับสายไฟแล้วก็ตู้เซิฟเวอร์ดีกว่า

848 Nameless Fanboi Posted ID6:UzjR5vRKJx

https://twitter.com/noeysavitta/status/1566396437977796608
อ่านแล้วถอนหายใจ

849 Nameless Fanboi Posted ID6:GiXTtSf309

>>848 อ่านแล้วเหมือน how to เอาไป cer ไปหลอกสมัครงานกับบริษัท start up อ่ะใส่ไปมั่วยัน cer ของ it support แบบ visual desktop เพื่อ -.-

PM ที่ทำเป็นแค่นั้นไร้ประโยชน์ ฝั่งเอกสาร+แผนงานอะไรพวกนี้ ปรกติบริษัททีมขนาดเล็ก sale มันทำได้หมดอ่ะ หรือถ้าบริษัทใหญ่หน่อยก็โยนให้ AE

อ่อ แล้ว agile ไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่อะไร ไปใช่ตัวง่ายๆ แบบ monday จัดตารางเอาก็ได้

ส่วนคุยกับลูกค้าไปลากโปรแกรมเมอร์ไปหน้างานก็ได้ งานที่ต้องปรับแต่งพวกนี้ลูกค้ามักเตรียมงานมาระดับหนึ่งอยู่แล้ว ส่งมาประชุมร่างแผนกันเดี๋ยวเดี๋ยวจบ ไม่ต้องเสียเวลามาก

850 Nameless Fanboi Posted ID:oDA/YQ/hIB

>>833 ตอบตอนนี้ทันมั้ยวะ บ ลูกของแบงเขียว ว่ากันจริงๆ กุว่าระดับบนๆ เก่งอยู่ แต่ถ้ามึงเข้าไปเป็นลูกมือทำงาน internal เนี่ย codebase ก็ไม่เลวร้าย แต่ก็ไม่ถึงกับดี management ค่อนไปทางแย่ จริงๆ อาจจะขึ้นกับทีมด้วยแหละ แต่กุไม่ดีขนาดนั้น ส่วนตัวไม่เคยทำแบงม่วง (ที่เป็น บ เทคนะ) แต่เท่าที่รู้คือแบงม่วงจ่ายดีกว่าแบงเขียวพอสมควร assume ตำแหน่งเดียวกัน

สรุปคือ ถ้าเลือกได้ ไปแบงม่วงดีกว่า

>>822 Agoda, Accenture, Omise, Big4, KBTG, SCB, SCB10X, SCB Tech, Bitkub, G-Able, Rabbit, Refinitiv, Capco, Finnomena, Line, Wongnai, VMWare และ Startup tech อื่นๆ ที่กุเคยสัมภาษณ์อีก 4-5 ที่ที่กุจำชื่อไม่ได้แล้ว จริงๆ ที่พูดมาทั้งหมดนี่ เกิน 35k หมดเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่แค่ 30k อาจจะยกเว้น Rabbit กับ SCB แต่พ้อยคือ บ ที่พร้อมจ่ายให้ new grad เกิน 30k ตอนนี้คือมีเยอะมาก อย่าง Agoda, Accenture, KBTG, SCB นี่เพื่อนที่จบรุ่นเดียวกันกับกุคืออยู่ใน บ พวกนั้นไปละ 30-40% กุค่อนข้างพูดได้เต็มปากว่าเฉลี่ยเงิน dev อยู่ที่ 30k ต้น กุอาจจะ echo chamber ในกลุ่ม elite ของกุเองก็ได้ แต่ถ้าเอา echo chamber ในกลุ่ม elite กุนี่ เงิน start new grad อยู่ที่ 40k+ ด้วยซ้ำมั้ง

851 Nameless Fanboi Posted ID:oDA/YQ/hIB

>>850 แท็กผิด ต้องแท็ก >>813

เสริมอีกนิดคือข้อมูลกุอาจจะไม่อัพเดทแล้วด้วยซ้ำ เพราะที่ว่ามาทั้งหมดนี่ ข้อมูล 2 ปีก่อน เพราะงั้นยังไงกุก็คิดว่าเงินเดือน new grad swe ในไทยยังไงเฉลี่ยก็อยู่ที่ 30k+ ถ้ามึงมี ปห เรื่องหางานที่ได้เงินดีๆ กุว่ามึงหา agent ให้เขาช่วยหางานให้มึงอะ ตอนที่กุจะย้ายงานก็ใช้ agent เนี่ย ที่กุบอก startup 4-5 ที่ นั่นก็จาก agent หางาน

จะบอกว่ากุเป็น outliner ก็คงไม่ใช่ เพราะกุรู้จักคนที่เป็น outliner จริงๆ พวกนั้นเขาเงินไม่ได้ start หลักหมื่นกันหรอก แฮะๆ

852 Nameless Fanboi Posted ID:8e7s78+n1s

กำลังจะได้ agoda เรียกเท่าไหร่ดีวะ junior ปสก 2 ปี

853 Nameless Fanboi Posted ID:psj2Ri1VmP

ปกติทริคคือ ไม่บอกว่าตัวเองอยากได้เท่าไหร่ แต่เป็นถาม hr ว่า range เท่าไหร่ แต่นี่คือเทคนิคที่ใช้ใน ตปท ว่ะ กุไม่รู้ว่าใช้ในไทยได้มั้ย

854 Nameless Fanboi Posted ID6:.E7BeeLtc6

ที่เก่ากู 32 เองไง คือถ้า 40 45 มันก็ถือว่าอัพเกรดได้ละ แต่กูก็ได้ยินว่าที่นี่จ่าย new grad 50 ตั้งแต่ปี 63 กูก็เลยสงสัยว่าหรือกูควรเรียก 50 เลย

855 Nameless Fanboi Posted ID:HJaEHbDIM4

>>853 ยากมาก คนไทยแม่งด้านจะเอาให้ได้

856 Nameless Fanboi Posted ID6:YYiWfb8ulq

ทำงาน 6 วันต่อวีคในฐานะโปรแกรมเมอร์นี่คือเรื่องปกติไหมวะ?

857 Nameless Fanboi Posted ID6:GRLOM+bJo5

>>856 ไม่นะ กูกับเพื่อนไม่มีใครเคยเจอ แต่เคยได้ยินว่าโปรแกรมเมอร์ที่ต้องอยู่ตามโรงงานมีที่ต้องทำ 6 วันอยู่

858 Nameless Fanboi Posted ID6:obY3leBIJE

>>856 ผิดปรกติ ถึงโปรแกรมเมอร์บางคนจะบอกว่าทำงาน 7 วันก็ตาม แต่พวกนั้นมันทำช่วงปิดงาน project ไม่ทันมากกว่า แล้วได้โอที เวลาช่วงหมด project ด่วน ก็กลับไปโหมด 5 วันธรรมดา

ถ้าให้เดางานถ้าทำ 6 วัน อันนี้กึ่งๆ support แล้วล่ะ แล้วก็น่าจะอยู่พวกบริษัทไทย - จีน รุ่นเก่าที่เอาเปรียบพอสมควร อย่าไปทำเลย บริษัทพวกนี้ เงินเดือนปรับขึ้นยากมาก

859 Nameless Fanboi Posted ID6:eYYPGzDG3S

ผิดปกติมากๆ มาตรฐานที่ถูกต้องคือ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เกินนั้นโอทีเท่านั้น ออกเหอะไปอยู่บริษัทเอาเปรียบงั้นอะ ขยันผิดที่เจริญยากนะมึง

ปล. ยังไม่มีใครแนะนำเงินเดือนอโกด้ากูเลย

860 Nameless Fanboi Posted ID:78Ewfhmkqa

>>857-859 ขอบคุณพวกมึงมาก ที่ถามอ่ะ ทุกวันนี้อยากทำงานสายนี้มานานหลายปีละแต่ปัญหาคือ
-กูต้องจำใจมาทำสายงานที่ตัวเองไม่ได้อยากมาทำแต่ต้องทำเพื่ออยู่รอด แล้วมีประสบการณ์ก็เถอะ ต่อยอดไปไกลได้แบบสายงานนี้เลยถ้าไปสุดทาง แต่ปัญหามีอยู่ว่ามันบั่นทอนร่างกายมาก แบบว่าใช้แรงงานด้วย ใช้สมองด้วยแบบเป็นเวลา8-9ชม. ไม่ใช่นั่งโต๊ะทำงานนะ

-ปัญหาที่กูมั่นใจละว่าอยู่ในวงการนี้ไม่นานคือ กูมองหน้างานบางจังหวะไม่ออก บางจังหวะก็ต้องรู้จักแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้เท่าที่จะทำได้ แล้วมองไม่ออกจริงๆถ้าไม่มีคนมาชี้แนวให้ว่าต้องทำยังไง ต้องพลิกแพลงแบบไหน ซึ่งต้องมองหน้างานให้ออกนี่คือต้องแบบนาทีเดียวก็ต้องปิ้งเลยว่าทำแบบนี้ละคิดถูกแน่ๆ ซึ่งกูก็ทำผิดซ้ำๆซากๆนะ คนในวงการนี้ก็.....ให้โอกาสเป็นหลักหน่วยได้แหละ บางคนกับบางที่คือไม่ให้เลยก็มี กูเลยมั่นใจว่าใครๆไม่ชอบกูก็เพราะข้อเสียกูข้อนี้ ซึ่งลังเลไม่น้อยเลยว่าต่อให้เรียนdata structures เรียน problem solving skillsมาแน่นปั๊ก ฝึกโจทย์มาเยอะๆก็ตามแล้ว มาทำตรงนี้จริงๆมันจะช่วยอะไรได้บ้างไหม ถ้าไม่มี กูคงไม่พยายามมาเส้นทางงานโค้ดดิ้งแล้ว หรือมาก็หวังไว้ว่ามากับพวกที่ใช้เวลาคิดสักระยะได้บ้าง ไม่ใช่งานที่หวังแนวทางภายใน45วินาทีตลอดเว

861 Nameless Fanboi Posted ID:u4..vfLWbg

พี่โม่งกูเรียนวิศวะไฟฟ้ากำลังอยู่ เเต่ไปๆมาๆอยากไปทำงานสายคอม、โปรแกรมมิ่งเเทนว่ะ อยากรู้ว่าสายนี้มันเริ่มต้นเงินเดือนเท่าไร เพดานเท่าไร เเล้วพวกกากๆต่ำกว่าaverageเงินเดือนเท่าไร อยากรู้ทั้งเพดานล่างเพดานบน วิศวะไฟฟ้านี่กูรู้เเค่ว่าเพดานล่างไปทำโรงงานได้เเค่17k-18kเอง

862 Nameless Fanboi Posted ID:JFe8Q+qtdS

>>861 วิดวะโรงงานก็ตามนั้น ถ้ามึงเป็นแค่วิดวะความสามารถทั่วๆไปไม่ได้โดดเด่น ไม่ได้ภาษาที่สาม เงินเดือนแทบไม่ต่างกะคนที่จบตรีสายอื่น จะดีหน่อยเวลามีโอทีให้ทำ

863 Nameless Fanboi Posted ID:u4..vfLWbg

เเล้วพูดถึงโปรเเกรมเมอร์อะ พวกวิศวะคอม ฐานต่างกันเยอะปะหรือเฉลี่ยaverage เพดานส่วนใหญ่รายได้มักเท่าไรกัน

864 Nameless Fanboi Posted ID:T3GxlbsnBB

recruit ที่หางานให้กู recruit คนระดับ 200k เป็นว่าเล่นอะ

ในไทยมีแหละถ้ามึงเก่งพอ ถึง 200k มากกว่านั้นไปตปท ดีกว่า เข้า FAANG ให้ได้

865 Nameless Fanboi Posted ID:0Qt68CLVQ9

ทำยังไงไม่ให้โดนกองprทับตายว่ะโม่ง รีวิวไปเดี๋ยวก็มีอันใหม่เข้ามา เหลือเวลาให้มานั่งเขียนโค้ดของตัวเองไม่กี่%ต่อวันเอง

866 Nameless Fanboi Posted ID:1rzp6pgTCk

>>864 บริษัทไหน?

867 Nameless Fanboi Posted ID6:2eZLxfTJZj

>>861 เพดานล่างของสายคอมต่ำกว่านะ เพราะเพดานล่างสาวคอม มันคืองาน support ช่อมคอมลงโปรแกรมธรรมดาพวกนี้เงินเดือนพอกับพนักงานทั่วไป เพราะใครก็ทำงานได้

ส่วนสายโปรแกรมมิ่งเพดานล่างไกล้เคียงกับวิดวะโรงงาน อาจจะต่ำกว่าหน่อย แต่มันเรียนเปลี่ยนภาษาเปลี่ยนเครื่องมือ up เงินเดือนง่ายกว่า

868 Nameless Fanboi Posted ID6:9BZwuSvM.r

>>866 เค้าไม่ได้บอกบริษัท แต่ recruitor มาจาก Micheal Page

869 Nameless Fanboi Posted ID:3B996OcFBO

ช่วงนี้ขาขึ้นสายเทคฯอ่ะนะ เงินเดือนหลักแสนถ้าเป็นบ.ต่างชาติในไทยนี่ไม่แปลกเลย ยิ่งเป็นระดับ head หรือ cto เงินเดือนสามแสนยังได้

870 Nameless Fanboi Posted ID6:cwqkam3EYG

ถ้าแบบ >>846 เงินเดือนแสน+ กูไม่แปลกใจ

871 Nameless Fanboi Posted ID6:9BZwuSvM.r

ไม่นะ อันนี้ head แผนกเฉยๆ ไม่ใช่แบบ full stack

อีกที่ ทีกูเจอมา อันนี้ recruit หาให้กูคือ senior middleware บ.เทคที่เป็นซับ บ.ไฟแนนซ์อีกที จากยุโรป นี่ก็ 65-70k แล้ว ขนาดแค่ Senior

872 Nameless Fanboi Posted ID:RQL9.VQu6O

>>861 พูดถึงแค่เงินเดือน new grad นะ เพดานล่างเท่าที่กุรู้ของสาย dev น่าจะแถวๆ 17-18k มั้ง เอา dev จริงๆ ไม่ใช่ it support นะ อาจจะมีต่ำกว่านั้น แต่ค่อนข้างน้อย
เพดานบนนี่ สุดแท้แต่ความสามารถมึงอะ ถ้ามึงเข้า agoda ในไทยได้ start น้อยสุดก็ 50k/เดือน หรือถ้ามึงเก่งภาษาแล้วเข้า shopee/faang สคป ได้ ก็ start +-100k sgd/year

873 Nameless Fanboi Posted ID:e5CP5YVEgv

>>868 ถ้าฟังแค่จาก recruiter ส่วนใหญ่โม้ทั้งนั้น ชอบเอา budget มาล่อ 100k 200k พอสนใจจริงๆมันก็ถาม current salary แล้วบวกให้นิดเดียวเท่านั้นแหละ ไว้ถ้าได้ offer เท่านั้นจริงๆแล้วมาบอกด้วยละกันว่าบริษัทไหน

874 Nameless Fanboi Posted ID:IQhbbbcjxb

https://twitter.com/we_esc/status/1575720477511004162?s=20&t=ujTV9Vzv0mUOlhd4Qy4JAQ
หึๆ

875 Nameless Fanboi Posted ID:VFL9NrDP/b

>>874 แบบ Genshin ดิ
ล่มปั๊ป กลับมา แจก Primoge
ดูก็โอเคกัน 555

พวก unicorn ยังแจกเงิน แจกคูปองส่วนลด ดึงคนได้
แบงค์แจกมันผิดกฎแบงค์ชาติปะวะ

876 Nameless Fanboi Posted ID6:8ibxBR29tW

>>873 100 200 จริงมั้ยไม่รู้ แต่เค้าเคยเสนอ 70 มาให้ กูไปสัมก็ได้ถึง 70 จริงนะ
ยังไงเค้าก็ต้องดันต้องเชียร์ให้สุดจริงปะ เพราะรายได้เค้าก็ตามมูลค่า candidate

>>872 17 18 นี่ล่างแบบ กูว่าอย่าเสียเวลาไปทำเหอะ อย่างน้อยก็ต้อง 25 หวะจริงๆ

877 Nameless Fanboi Posted ID:ZnEeC.VNIJ

>>876 เชียร์ไป สุดท้ายแม่งก็ตามลูกค้าอยู่ดี พวกนี้ขอฐานเงินเดือนเก่าทั้งนั้น แล้ว 70 กับ 200 มันคนละเรื่องกันว่ะ กูยังสงสัยอยู่เลยว่าในไทยมันมี 200 สักกี่ที่ถึงขนาดบอกว่าได้เป็นว่าเล่น

878 Nameless Fanboi Posted ID6:8ibxBR29tW

>>877 Head of Devops 250k
Several Front/Back upto 100k
Head of Engineering 220k
Devops 170k
Cloud Eng 140k

อันนี้เท่าที่กูเห็นจากโพสเค้าคนเดียว และน่าจะคนละบอ คนละโพสิชั่น
ถามว่าชัวร์มั้ย กูก็ให้สัก 50-50 ละกัน
หลายตำแหน่งมันบอกว่า open for expat และ expat มันหวังเลขนี้เป็นปกติอยู่แล้ว

ถ้าไปดูตามบอร์ดนี่ พวกฝรั่งแม่งนินทากันเลยว่า ได้ offer 120k จาก agoda ให้ relocate มาไทยแล้ว "น้อย"

แปลได้ว่าบอที่หวังจะดึง expat มาไทยนี่กูว่า่น่าจะต้องจ่าย 150 ขึ้น

879 Nameless Fanboi Posted ID6:aZ+xD+Y0Xz

อยู่ดีๆก็เจอบัคที่มั่นใจว่าเคยแก้ไปแล้วครั้งนึง ลอง reproduce หลายรอบก็เป็นตลอด
แล้วไปดู log แล้ว log debug ที่เคยใส่ไว้มันไม่ออก
ลองไปไล่โค้ด เลยนึกได้ว่า log debug พวกนั้นกูลบไปแล้ว เพราะคิดว่าไม่น่าได้ใช้อีก
พอลองใส่กลับเข้าไปแล้ว build ใหม่ reproduce ไม่ได้แล้ว WTF มาก

880 Nameless Fanboi Posted ID6:f+JX5cxnyV

https://twitter.com/danqing_liu/status/1576997489529344001?s=46&t=6GKm_Z0wB2Jvlvjmcf8oBw&fbclid=IwAR3iPI5kPIJLef_Kp1r-IMtPP6i_i0GiXfCZaTkoNzdX0J_NjFYy5NC3Df8

881 Nameless Fanboi Posted ID:Wlv.jyT/p0

>>878 มึงตกคำว่า max ไปนะ ไอ้พวกนี้เห็นเต็ม linkedin มันก็แค่ลงเรียกความสนใจเท่านั้นเอง เหมือนเดิม ไว้มึงลองไปสมัครเองก็จะรู้ ได้จริงเท่านั้นแล้วค่อยมาโม้ว่ะ

882 Nameless Fanboi Posted ID6:7brghyhu/q

200k มันก็น่าจะมีแหละแต่ก็ต้องระดับเฮด หรือ สเปเชียลลิสมากๆนะแหละ
กุซีเนียร์ธรรมดาก็เกิน 100k มาได้พอควรอยู่นะ

883 Nameless Fanboi Posted ID6:kvuQxSwNgT

ต่อจากโพสที่แล้ว โพสนี้จะพูดถึงว่า Culture ของ Facebook แย่ยังไงถึงทำให้ตัดสินใจลาออก แต่ในทางตรงข้ามทำไมก็ยังเชื่อว่า Facebook ก็ยังจะสามารถจ้าง Engineer เก่งๆได้

หมายเหตุ: บางอันอาจจะเว่อร์ไปหน่อย และไม่จริงในหลายๆทีม แต่อันนี้รวบรวมจากที่ประสบพบเองและที่ฟังมา

สิ่งที่ไม่ชอบ:
1) การตัดสินว่าใครจะได้เลื่อนขั้น ใครจะโดนไล่ออก แทบจะวัดด้วยอย่างเดียวคือ impact
- ซึ่ง impact เนื่องจากมันเป็น OKR ก็คือต้องวัดได้ เพราะฉะนั้นคุณจะแบบไม่ช่วยใครอะไรทั้งสิ้นก็ได้ เขียน code ห่วยยังไงก็ได้ hacky ยังไงก็ได้ (ตราบใดที่ยังมีคนกด code review ผ่านให้) แต่ถ้าคุณทำสิ่งที่วัดได้นั้นให้มันดี improve metrics ได้ ด้วยวิธีใดๆก็ตาม คุณก็จะได้เลื่อนขั้น แต่ในทางตรงข้าม ถ้าคุณเขียน code ได้ดีแต่ไม่มี metrics รองรับ คุณก็จะไม่ได้ promote และอาจจะโดน PIP + ไล่ออกในไม่ช้า
- ได้ข่าวว่าบางคน manager บอกมาเลยว่า "ถ้าทีมอื่นให้ช่วยทำอะไร อย่าไปช่วยเค้า การช่วยทีมอื่นจะไม่ช่วยให้คุณได้เลื่อนขั้น"

2) ไม่มี ownership code ที่ชัดเจน​
- ในหลายๆบริษัทเช่น Quora ทุกอย่างจะมี DRI หรือพูดง่ายๆคือเจ้าของ Code ที่คอยดูแล แต่ที่ Facebook แทบทุกอย่างอาจจะมีทีมที่ดูแล แต่ทีมก็อาจจะใหญ่มาก หรือหลายๆส่วนก็คือไม่มีเจ้าของเลย การที่มีเจ้าของร่วมเยอะๆและไม่มีคนต้องรับผิดชอบ ทำให้ทุกคนไม่มีใครแคร์ว่าของมันจะดีมั้ย ยิ่งคุณภาพของ code เป็นสิ่งที่วัดไม่ได้ง่ายๆ ยิ่งไม่มีคนสนใจ เพราะสนใจไปก็ไม่มี "impact" แม้ว่า Facebook แกนหนึ่งในการพิจารณาก็คือ engineering excellece แต่เอาเข้าจริง อะไรที่วัดไม่ได้ คนก็จะไม่สนใจ เพราะมันไม่มีผลอะไรกับชีวิต

3) ความคาดหวังว่า Senior Engineer จะต้อง lead project ทั้งในทาง technical และ non technical
- สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ได้เลื่อนขั้นโดยเฉพาะจาก Senior -> Staff++ ที่ Facebook คือคุณจะต้อง lead project ขนาดใหญ่ขึ้น scope กว้างขึ้น แต่ถ้าของมันก็มีอยู่เท่าเดิมจะเกิดอะไรขึ้น? สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือทุกคน ตั้งตัวเองเป็นหัวหน้า คอยสั่ง คอยกดดันให้คนอื่นทำทุกสิ่งที่ตัวเองสัญญาไว้ใน OKR เพื่อที่ตัวเองจะได้ promote ไปเรื่อยๆ กลายเป็นว่าทุกคนอยากสั่งคนอื่น แต่ไม่มีใครอยากทำอะไร
- "เพราะการทำอะไรหนะ มันเป็นงาน E3-E4 แต่การสั่งชาวบ้านหนะมันเป็นงานของ E5+"

4) manager ไม่มีหน้าที่กันเราจากทีมอื่น
- ในที่อื่นๆที่เคยทำมาปกติถ้ามีคนมาสั่งเราในงานที่ไม่เกี่ยวข้อง manager มักจะช่วยปกป้องเรา หรือไปเคลียกับคนอื่นให้ แต่ที่ Facebook ที่พบมาคือ manager ไม่มีความเข้าใจด้าน technical และไม่มีความคาดหวังที่จะต้องเข้าใจด้วยซ้ำ (เป็น people management ล้วนๆ) เพราะฉะนั้นเค้าก็จะแบบเหมือนเป็นที่ปรึกษาชีวิตแบบได้แต่บอกแบบ "สู้ๆนะ" แต่ช่วยอะไรแทบไม่ได้ พอรวมกับข้อ (3) ก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่

5) code quality นรกมาก
- อาจจะไม่น่าเชื่อ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าบริษัทอื่นๆแม้แต่บริษัทเล็กๆในไทยก็น่าจะ code quality ดีกว่าใน Facebook ซึ่งแย่เพราะไม่มีใครแคร์ ถ้าเปิด code Facebook ดูจะเห็นความก็อปแปะ ทุกอย่างเละแทะมาก
- "แต่จะสนใจไปทำไมหละ ตราบใดที่ยังมี impact เราก็ได้ promote ยิ่ง code ไม่มี ownership ด้วยก็ไม่ใช่หน้าที่เราในการไปทำให้มันดีขึ้น"

6) สิ่งที่เรียนรู้ไม่สามารถนำไปใช้ในงานต่อไปได้
- ข้อนี้จริงๆอาจจะเป็นบริษัทใหญ่ๆแทบทั้งหมด คือ tool/abstraction ต่างๆ ของ Facebook คือมีของตัวเองหมด เพราะฉะนั้นถ้าย้ายงานก็เหมือนที่เรียนรู้ไปแบบศูนย์เปล่า คือคนอาจจะบอกว่า concept ต่างๆมันก็เอาไปใช้ในงานต่อๆไปได้ แต่คือมันก็คงได้สักแบบ 20% อะไรงี้มั้ง ซึ่งแบบการเรียนรู้อะไรก็รู้สึกเสียเวลาเปล่ามากๆ

===

แล้วทำไมยังเชื่อว่า Facebook ก็ยังจะสามารถจ้าง Engineer เก่งๆได้
1) รวย
- ข้อนี้จริงๆสำคัญแทบจะที่สุดในโลกทุนนิยม Facebook จ่ายได้ไม่อั้น จ้างคนเก่งๆได้ไม่จำกัดมาทำงานโง่ขนาดไหนก็ได้ อยากได้อะไรก็เปย์ๆๆ แล้ว benefit perk อื่นๆก็สู้กับทุกคนได้หมดจริงๆ ไม่ใช่แค่เงินเดือน แต่ประกันสุขภาพ ออฟฟิศและอื่นๆ ก็สู้ได้จริงๆ

2) ชื่อเสียง
- เอาจริงๆใน FAANG Facebook ก็น่าจะเป็นอันที่ชื่อเสียงด้าน engineer ดูดีเป็นอันดับต้นๆ การมีชื่อ Facebook แปะก็มีคนสนใจมากมาย ไปทำอะไรต่อในอนาคตก็ง่ายจริงๆ

3) culture fit
- สิ่งที่เป็นข้อเสียที่ว่ามาทั้งหมด ความวุ่นวายแบบนี้ก็คงมีคนชอบแหละ ยิ่งคนที่อยู่ใน Facebook มาตั้งแต่จบใหม่ก็อาจจะไม่รู้สึกว่าที่ว่ามาเป็นปัญหาอะไรด้วยซ้ำ เผลอๆถือว่าเป็น feature ของบริษัท เพราะถ้าแบบ exploit ตรงนี้ได้ก็เจริญก้าวหน้ารัวๆได้เลย E6-E7 ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่ส่วนตัวอยู่แบบนี้ไม่ได้จริงๆ

884 Nameless Fanboi Posted ID:7izA/Pi.l7

200k ถ้าเป็นสาย devops นี่ยังไงก็มีถึงว่ะ สายนี้แม่งหาคนเก่งๆได้น้อยชิบหาย ต่อให้มีตังบางทีก็จ้างไม่ได้เพราะไปติดทำกับที่อื่นอยู่แล้ว

885 Nameless Fanboi Posted ID6:21EiP1B6jo

devops นี่ด้วยความที่งานมันความรับผิดชอบสูง+ต้องทำนอกเวลา บางคนทำได้ก็ไม่อยากทำด้วย
บ. เก่ากู devops ระดับเทพคนนึงถึงขนาดยอมลาออกแบบลดเงินเดือนไปเป็น dev ธรรมดาที่อื่น

886 Nameless Fanboi Posted ID6:FqzL44b/Rd

ทำงานวันละ 18 ชมอาทิตย์ละ 7 วัน จะเข้าห้องน้ำหรือนอน มีสะดุ้งจะโทรมาหรือเปล่าวะ แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ

887 Nameless Fanboi Posted ID6:N0iVvPSzlk

>>885 devops ....มันเทียบได้กับfull stack developerเลยไหมวะ?

888 Nameless Fanboi Posted ID6:f7ZIUMHbhG

>>886 ใช้งานเยี่ยงทาสแบบนี้ ไม่แปลกใจว่าทำไมเปลี่ยนงานไปเป็นแฮ๊กเกอร์เรียกค่าไถ่กันหมด

889 Nameless Fanboi Posted ID:PjVgCf5IAc

>>885 devops หรือ sre วะนั่นมีทำนอกเวลาด้วย

890 Nameless Fanboi Posted ID:7kG6ir2X2m

>>881 กูก็บอกแล้วว่าถ้าบอจะดึง expat มันก็ต้องจ่ายราคานี้ปะวะ

มึงคิดว่าคนขาวมันจะยอมrelocateมาอยู่ประเทศเหี้ยนี่ด้วยเงิน 100k หรอ

891 Nameless Fanboi Posted ID6:3HBmMPIKLT

>>889 ในไทยเรื่องทำนอกเวลาฉุกละหุก ประเภทโทรมาให้แก้บักนอกเวลาช่วงที่พึ่งรันโปรดักส์เป็นเรื่องปรกตินะ ตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ธรรมดาเนี่ยล่ะ โดยเฉพาะงานที่ไปเกี่ยวข้องกับเงินๆ ทองๆ แทบต้องเผื่อเวลาไว้เลยว่าวันหยุดไม่ได้ไปไหนแน่ๆ ต้องพร้อมรับสายตลอดเวลา

892 Nameless Fanboi Posted ID:gwjFGUqKA7

>>891 devops มีเรื่องอะไรให้ฉุกละหุก?

893 Nameless Fanboi Posted ID:O/D/tqpHi0

มีใครทำงานwork from homeบ้างปะ กูอยากรู้ว่าถ้าจัดโต๊ะคอมเเล้วปิดไฟรอบข้าง ชอบไฟสลัวๆ เเต่ติดไฟเเค่หน้าโต๊ะคอม,หน้าจอพอ
เเบบนี้มีผลเสียไหมกับสายตา หรือมีโคมไฟ ,การจัดโต๊ะทำงานเเบบไม่ได้เปิดไฟบนเพดานบ้างไหม กูรู้สึกชอบความมืดๆสลัวๆ อยู่เเล้วสมองเเล่นอะ

894 Nameless Fanboi Posted ID:mP5WQtKiU+

https://www.youtube.com/watch?v=X34ZmkeZDos

895 Nameless Fanboi Posted ID6:QAo1LC49rf

https://www.blognone.com/node/131247
มีใครรู้อะไรมั่งป่ะ มีแต่คนคอมเม้นว่า อืม ข้างในน่าจะปัญหาเยอะสินะ

896 Nameless Fanboi Posted ID6:8GeIAW2Ool

>>892 migrate server cicd พัง job ใหม่ที่ดีพลอยมีปัญหา สารพัดจะเลือกเลยมึง

897 Nameless Fanboi Posted ID6:bimD5QWAAF

who the fuck need jira these day.

898 Nameless Fanboi Posted ID6:/MlTRHxHVG

https://m.youtube.com/watch?t=91&v=x2-rSnhpw0g&feature=youtu.be

899 Nameless Fanboi Posted ID6:/MlTRHxHVG

>>898 Visualising software architecture with the C4 model - Simon Brown, Agile on the Beach 2019

900 Nameless Fanboi Posted ID6:A0ffCJ3s2K

ไปช่วยชี้ทางสว่างให้คนในบอร์ดเกมส์เลิกเล่นเกมส์กันเถอะ https://fanboi.ch/game/8282/
มาเขียนโปรแกรมดีกว่าเยอะเลย

901 Nameless Fanboi Posted ID:aOGNrZYYMI

>>900 เขียนโปรแกรมปั้มเงินให้หน่อยครับ ผมจะได้เลิกเล่น

902 Nameless Fanboi Posted ID:gg/auc80h+

คุณอ๊บแกมีเรื่องทุกวันเลยหรอ ทำไมสามารถมีเรื่องมาโพสเรื่องในกลุ่มได้ตลอด ดูเจนโลกดี หรือมันเป็นเรื่องปกติของคนที่เป็น CEO

903 Nameless Fanboi Posted ID:ItHFV+7.P+

>>902 วันๆอีตานี่ทำมาหากินกับอะไรวะ? เขียนโปรแกรมให้ลูกค้ากลุ่มไหน สงสัยมาก คือ ถ้าแบบแค่เรียนไรสักอย่างให้บรรลุละไปออกงานสอน ขายคอร์ส แล้วค่อยมารับงานนี่มันทำได้จริงๆกูจะลองก็อปตามมั่งดิ๊

904 Nameless Fanboi Posted ID6:2SVILLiWIg

https://monkeytype.com/

905 Nameless Fanboi Posted ID6:m3L/LM.2Rb

เห็นมีกระทู้เกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์ แต่เราไม่ใช่นะ แต่ตอนนี้เรางงกับโปรแกรมของทางบริษัทนิดหน่อย คือบริษัทจะเป็นการหาข้อมูล การเก็บข้อมูล จากสื่อต่างๆ พวกรายการทีวี เว็บไซต์ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ คือจะตามเก็บข้อมูลจำเพาะบางอย่างทั้งหมดที่ไปลงตามสื่อทุกอย่าง ทีนี่มันมีปัญหาตรง นิตยสาร และ นสพ. คือทางบริษัทจะมีโปรแกรมตัวนึง เอาไว้ใช้ ก๊อปปี้ตัวหนังสือ ตัว text ออกมาจากไฟล์สแกน ไฟล์ภาพ อะไรแบบนั้นอ่ะ สมมติ มีแผ่นป้ายโฆษณานึง หรือพวกแผ่นป้ายโครงการก่อสร้าง ทางบริษัทไปถ่ายมาเป็นภาพ ส่งภาพเข้าโปรแกรม มันก็จะได้ตัวหนังสือที่เห็นทั้งหมดในภาพออกมาจัดเก็บเป็นข้อมูล หรือพวก นสพ. มีข่าวอสังหานึง ก็สแกนจากนสพ.มา เอาภาพที่สแกนเข้าโปรแกรม ก็จะได้เนื้อหาข่าวนั้นมาทั้งหมด ทีนี้จู่ๆ ไม่รู้มันเกิดอะไร โปรแกรมมันอ่าน text ออกมาเพี้ยนบ้าง บางทีอ่านแค่บางบรรทัดบ้าง เลยทำให้มีปัญหาเวลาจัดเก็บ ต้องมานั่งตรวจ ไม่พอ ถ้ามันขาดๆ หรือเนื้อหาผิดเพี้ยน ต้องมานั่งตามพิมพ์ให้มันถูก แต่ก่อนมันเคยเป็นแบบนี้มาบ่อยๆ เหมือนกันนะ แต่ทางโปรแกรมเมอร์บริษัทก็แก้ไขอัปเดต font หรืออะไรนี่ล่ะให้มันไม่มีปัญหามาตลอด แบบ แก้แปปๆ ก็อ่านค่าได้ปกติ ทีนี้ จู่ๆมันก็เกิดแบบนั้นขึ้นอีก เป็นแบบนี้จนมาจะเกือบปีแล้ว คือทางบริษัทต้องรับสมัครคนมานั่งพิมพ์ คีย์ text เพิ่มเลยอ่ะ แล้วตัวโปรแกรมก็ไม่มีแก้ไขอะไรเหมือนแต่ก่อน เพราะโปรแกรมเมอร์ทีมเดิมออกไปแล้ว พวกที่มาใหม่ก็บอกว่า เดี๋ยวแก้ เดี๋ยวแก้ แล้วก็บอกว่าเป็นงานยาก ต้องใช้เวลาเป็นปี คือ หลายคนก็งง เพราะ คนก่อนทำ ก็แปปๆ ใช้งานได้ปกติ
คือ เราซึ่งไม่มีความรู้ด้านโปรแกรมเมอร์อะไรนะ อยากรู้ว่า มันยาก มันใช้เวลานานจริงมั้ย เห็นแผนกนั้นไม่ได้ทำงานอะไรเท่าไรเลย เห็นลงไปนั่งกินกาแฟข้างล่างกันจนหมดเวลางานก็กลับเกือบทุกวัน ก็เลยสงสัย

906 Nameless Fanboi Posted ID:.9oLdI5Dfx

>>905 ยาวหน่อยแต่อ่านให้จบนะ

เวลาเป็นปี = เอางี้โปรแกรมเมอร์เป็นงานกับไม่เป็นงาน ค่าจ้างแพงกับค่าจ้างถูก มันต่างกันตรงนี้น่ะ ตอบแบบนี้เข้าข่ายไม่อยากทำ หรือทำไม่เป็นเลยมั่วให้นานแล้วจะได้ไม่ต้องทำมากกว่า

ส่วนวิธีต้อง update font ไปเรื่อย อันนี้เดาว่าโปรแกรมทำมานานแล้ว สมัยก่อนยังไม่มี Machine learning มันต้องคอย updage font ตามเรื่อยๆ แต่มันไม่ใช่เอา font ใส่ได้เลยต้องไปยัดโปรแกรมแปลงอีกรอบ คนใหม่หาไม่เจอเลยโบ้ยมั่วซั่ว

ถ้ายังเหลือโค้ดเก่าอยู่ ปรับปรุงระบบใหม่แบบไม่ต้องแก้ซ้ำบ่อยๆ มันทำได้อยู่ อาจจจะมีค่าใช้จ่ายนิดหน่อย ไปใช้ API จาก third party จบไม่ต้องคอย update font ตามเรื่อยๆ ด้วย google ก็ได้ มันมีตัว clound vision api ให้ใช้เพียงแต่ต้องจ่ายค่าบริการรายเดือนนิดหน่อย ยังไงก็ถูกกว่าจ้างคนมีคีย์อ่ะ

ส่วนถ้าไม่มีงบ หรืออยากลองทำด้วยตัวเองดูก่อน เอางี้ google drive มันแปลงรูปเป็น text ได้นะ เอารูปใส่ google drive คลิกขวาเปิดด้วย google docs มันก็แปลงรูปเป็น text อัตโนมัติ ไม่ต้องมานั่งคีย์ ถ้าไม่เข้าใจก็ลองดูนี่ https://www.iphonemod.net/change-file-picture-to-text.html
* ปล.แต่ไงต้องตรวจทานเอาหน่อยกันพลาดนะ

907 Nameless Fanboi Posted ID6:m3L/LM.2Rb

>>906 ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจในบางเรื่องแต่ก็ขอบคุณมากๆ ตอนนี้กำลังคุยกับคนในบริษัทหลายๆคนอยู่ว่าจะเอาเรื่องนี้ไปพูดกับข้างบนเกี่ยวกับพฤติกรรมคนนี้ยังไง เห็นยกโน๊ตบุ๊กลงไปร้านกาแฟข้างล่างบอกว่าเอาไปเขียนโค๊ดแก้เรื่องโปรแกรมตัวนี้ตั้งหลายเดือนล่ะไม่เห็นเสร็จซะที

908 Nameless Fanboi Posted ID6:m7PaXqQvH5

>>905 กูไม่เคยทำโปรแกรมแนวๆนั้น แถมไม่ได้เจอหน้าหรือพูดคุยโปรแกรมเมอร์คนนั้น ไม่ได้เห็นโค้ดหน้างาน ก็คงตอบได้แค่กลางๆนะ
กูแชร์ความคิดเห็นของกูจากที่อ่านเป็นข้อๆละกัน มันมีประเด็นย่อยๆจุกจิกเยอะ แล้วกูไม่รู้จะเรียงยังไง

- ไอ้ปัญหาคนเก่าออกแล้วคนใหม่เข้ามาแทนแก้ของเดิมไม่ได้เป็นปัญหาคลาสสิคของวงการนี้อยู่แล้ว ซึ่งมันก็เกิดได้จากหลายสาเหตุประกอบกัน
มีทั้งปัญหาที่เกิดจากคนเก่า เช่นวางโครงไว้ไม่ดี ไม่ยืดหยุ่น ไม่ทำอะไรอย่างที่ควรจะทำจนคนมาทีหลังทำความเข้าใจได้ยาก ปัญหาที่การส่งต่อความรู้จากคนเก่าไปให้คนใหม่ไม่ดี ไม่มีเอกสารทิ้งไว้ให้ ปัญหาที่คนใหม่มันไม่มีความรู้หรือไม่เก่งจริงๆ แต่เวลาเกิดปัญหาคนใหม่มักจะซวย เพราะภาพที่คนเห็นมันคือคนใหม่ทำงานไม่ได้
- เรื่องต้องใส่ font เข้าไปเนี่ย กูแค่รู้สึกว่ามันฟังดูแปลกๆ เดาว่ามันอาจจะไม่ใช่การใส่ font เข้าไปจริงๆ แต่เค้าอธิบายแบบง่ายๆให้คนนอกเข้าใจ เนื้องานที่ต้องทำอาจจะมีอะไรมากกว่านั้น แล้วสำหรับรูปที่มันมีปัญหาตอนคนใหม่เข้ามาแล้วมันอาจจะแก้ยากกว่าจริงๆก็ได้
- เป็นไปได้มั้ยว่าปัญหาบางส่วนอาจจะเกิดจากรูปที่ป้อนเข้าไปช่วงหลังๆด้วย เช่นรูปเบลอ สแกนมาความละเอียดไม่ชัดเท่าของเก่า โปรแกรมที่เคยอยู่ของมันดีๆเลยทำงานได้ไม่ดีเท่าเดิม
- ถ้าแก้ของเก่ามันยาก อาจจะเพราะเทคโนโลยีหรือแนวทางเดิมที่วางไว้มันไม่ดีก็ตาม ลองยอมให้รื้อทิ้งทำใหม่มั้ย บางทีดูเหมือนยากและเปลืองกว่า แต่เป็นผลดีกว่าในระยะยาวก็ได้
- เรื่องที่บอกว่านานแล้วไม่ทำซะทีเนี่ย จากที่อ่านกูเดาว่าโปรแกรมเมอร์ไม่ได้ดูแค่ระบบนี้ แต่น่าจะมีงานอื่นๆด้วย ถ้าเป็นแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการลำดับความสำคัญของงานด้วยว่าใครเป็นคนจัด เค้าให้อันนี้อยู่ต่ำเพราะมองว่าไม่แก้มันก็มีทางออกด้วยการกรอกมือไปก่อนรึเปล่า แล้วมีงานอื่นที่มันสำคัญกว่าเข้ามาตลอดจนไม่ได้เอาอันนี้มาทำซักที ถ้ามึงเดือดร้อนก็ต้องไปเจรจากับคนจัดลำดับว่าให้เค้าเลื่อนลำดับงานนี้ขึ้นมาได้มั้ยเอา
- เรื่องไปนั่งร้านกาแฟมันก็เป็นได้ทั้งนั่งในออฟฟิซแล้วมีคนมาถามหรือขอให้ทำนู่นนี่จนไม่มีสมาธิทำต้องหนีไปทำที่อื่น หรือจริงๆไปนั่งอู้งานให้ไกลหูตาไกลตาคนอื่น

909 Nameless Fanboi Posted ID6:VoxQEwFJuk

เอาเรื่องบ่นไปเมื่อวาน วันนี้อัปเดท ใช้งานได้ปกติแล้ว

910 Nameless Fanboi Posted ID6:pv0f/4yxxt

https://youtu.be/m8Icp_Cid5o
system design

911 Nameless Fanboi Posted ID6:pv0f/4yxxt

https://www.youtube.com/watch?v=xpDnVSmNFX0&list=PLMCXHnjXnTnvo6alSjVkgxV-VH6EPyvoX

912 Nameless Fanboi Posted ID:itjCoMoDQa

https://narunc.medium.com/เงินถูกดูดหายหมดบัญชี-จริงๆแล้วเกิดอะไร-ยังไง-a070fee9e1c7

https://www.blognone.com/node/132272

บทความเกี่ยวกับเรื่องแฮคดึงเงินจากแอพธนาคารที่เป็นข่าวบ่อยๆ ที่ตอนแรกกูก็งงว่าในทางเทคนิคมันทำยังไง
เจอ 2 อันนี้อธิบายได้ดี เห็นน่าสนใจเลยมาแชร์

913 Nameless Fanboi Posted ID6:h/ZDRFd8f7

เรื่องเล่าโปรแกรมเมอร์ ตอน "จากติดลบสู่ โปรแกรมเมอร์ 100 ล้าน"
สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนครับ วันนี้ขอพาทุกท่านย้อนเวลากลับไป 7 ปีก่อน
วันนั้นเพื่อนผมคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท ซอฟแวร์เฮ้าส์แห่งนึง
ได้ทักมาหาพูดคุยกันตามปกติ แล้วตบท้ายด้วยเรื่องราวน่าสนใจกับไอเดียใหม่ของเขา นั่นคือ การทำระบบร้านค้าออนไลน์ แบบจัดการออเดอร์จาก woo, magento ในที่เดียว แม้จะมีเป็นสิบเว็บ ก็จัดการแค่จุดเดียวจบ
ตอนนี้ได้เงินจากนักลงทุนมาแล้วก้อนนึงเล็กๆ 2 ล้าน
...
ในนาทีนั้นยอมรับเลยว่าผมมองไม่เห็นว่ามันคืออะไร ก็แค่ระบบจัดการออเดอร์ไปต่อ API ของ Woo, Magento ไม่มีตรงไหนว้าวเลย
...
และแล้ววันเวลาผ่านไป
1 ปีนับจากวันนั้น เขาได้เริ่มสร้างตัวเว็บออกมาเป็นเรื่องเป็นราว ใช้งานได้ระดับนึง แต่มันก็ยังขาดทุนนะ คือยังไม่ทำกำไรนั่นล่ะพูดง่ายๆ งบที่มีก็เผาหมดสิ้นไปแล้วเรียบร้อย
เอาจริงๆ นะเงิน 2 ล้านจ้างคนเขียนโปรแกรมแค่ 1-2 คนกับ SA, Designer 1 คนนี่ก็แทบจะหมดละ ยังต้องมาจ่ายค่าโสหุ้ยต่างๆ อีกสารพัดในออฟฟิศ มันไม่แปลกอะไรเลยที่เงินจะหมดสิ้นไปก่อนทำกำไร
ผมก็หัวเราะในใจ เห็นมะ กรูว่าแล้วไหมล่ะ อีกหน่อยแม่มเจ้งแน่ไอ้โปรเจคนี้ เขาเจ้งกันเยอะแยะพวกสตาทอัพ ไม่ดูข่าวบ้างหรือไง เห้อ
...
เพื่อนผมไปขอเงินนักลงทุนเพิ่มอีก ก็คนเดิมนั่นล่ะเขาลงเงินมาอีกก้อนนึง คราวนี้ได้มา 10 ล้าน คงเพราะเขาเห็นตัวเลข user ที่เข้ามาใช้ระบบ กับได้เห็นตัวงานแล้วว่ามันใช้ได้จริงๆ ทำออกมาได้ ไม่ใช่การเอาเงินไปเผาเล่น
วันเวลาผ่านไปอีก 1 ปี
ก็ยังขาดทุนอยู่อีก (คือไม่มีกำไร) และเงินก็หมดไปพร้อมกองกำลังทีม Dev เต็มออฟฟิศ ผมเคยไปเยี่ยมเยือนที่ออฟฟิศช่วงนั้น เห็นมีกันเยอะนะ น่าจะราว 20-30 คน ทีมการตลาด ทีมเซลด้วย แล้วก็ทีมเทรนนิ่งลูกค้า
...
แต่แล้วผ่านไปอีกปี ถ้าผมจำตัวเลขไม่ผิดนะ โปรเจคนี้ก็ยังคงขาดทุน (ไม่มีกำไร) 3 ปีรวด รู้สึกจะติดลบไปหลายล้านเลยแหละ
ในหัวผมคิดเลยว่าคงมีแต่คนบ้าเท่านั้นล่ะ ที่เล่นเสียแล้วเสียอีกก็ยังจะลงไปเล่น รอให้หมดตัวก่อนหรือไงถึงจะเลิก
...
วันเวลาของเขามาถึงแล้ว
ในปีต่อมาของโปรเจคนี้ฐานลูกค้าแน่นเข้าเรื่อยๆ โปรดักเองก็มีฟังชั่นเยอะมากขึ้น มีทั้งพวก Sale Page, E-Commerce ต่อกับ Lazada, Shoppee ต่อกับ PEAK Account, Flow Account, Zort, และอื่นๆ เรียกว่าเกาะทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับโลกการซื้อขายออนไลน์
โยงไปถึง Facebook Page, Live และอะไรอีกเต็มไปหมด
นั่นล่ะฮะท่านผู้ชม กำไรของปีที่ 4 ฟาดไป 20 กว่าล้าน
และในปีต่อๆ มาก็โดดไปเรื่อยๆ 35 ล้าน 50 ล้าน และไปจนหลักร้อยล้าน
...
แต่ก่อนไปกรุงเทพ ผมจะได้แวะหาเพื่อนคนนี้เป็นประจำ
ดื่ม กินเที่ยว ด้วยกันเสมอ แต่ตอนนี้เขากลายเป็นคนร้อยล้าน ที่ไม่มีเวลาได้คุยกันอีก และผมเข้าไม่ถึงตัวเขาแล้ว หวังใจว่าสักวันเราจะได้พบกันในบรรยากาศเก่าๆ ที่เคยได้สนุกสนานแบบเป็นกันเอง
เรื่องราวของเพื่อนคนนี้สอนให้ผมรู้ว่า
โลกของการทำธุรกิจ แพ้ 10 ครั้งไม่เป็นไร ขอแค่เพียงชนะหนเดียวก็คุ้มแล้ว
และอีกหนึ่งบทเรียนที่ได้รับ
มันไม่ได้สำคัญหรอกว่าเราหมัดหนักแค่ไหน
แต่สำคัญว่าเรารับหมัดได้หนักและนานแค่ไหนต่างหาก
...
ทิ้งท้าย
ผมขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของเพื่อนคนนี้
ถ้าหากเขามาอ่านบทความนี้ ก็จะรู้ว่าผมเขียนเรื่องราวของเขาอยู่
อยากบอกกับนายว่า นายคืออีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้เราต่อสู้ยามท้อ
ความสำเร็จที่นายพิสูจน์ให้เราได้เห็นกับตา
มีค่ากว่าพวกตำราเรียน หรือคำสวยๆ จากไลฟ์โค้ชเป็นร้อยเท่า
ขอบคุณกับเบียร์ทุกขวดที่เคยเลี้ยง
ขอบคุณเรื่องราวที่นายไม่ได้เล่า แต่เราเห็นด้วยตัวเอง
นาทีนี้ ขอยอมรับและคารวะจากใจ อย่างไร้ข้อกังขาทุกประการ
นายไม่ได้เป็นแค่โปรแกรมเมอร์ที่เก่ง
แต่นายเป็นผู้บริหาร นักการตลาด ที่เก่งมากๆ คนหนึ่ง
...
กำแพงเมืองจีนไม่ได้สร้างในวันเดียวฉันใด
ความฝันอันยิ่งใหญ่ก็ไม่ได้สร้างกันในวันเดียวฉันนั้น

เอาบทความดีๆ จากอาจารย์ท่านนึงมาฝากจวั๊ฟ

914 Nameless Fanboi Posted ID6:pvueAm8rmw

วันนี้มีประชุมใหญ่ประจำปีของบริษัท แล้วมีพูดเรื่องนวัตกรรม แต่ละเรื่องที่พูดยังวนเวียนอยู่กับเรื่อง เงินคริปโต NFT Metaverse กันอยู่เลย
คืออยากโชว์ว่าตามเทรนด์ก็ช่วยอัพแพทช์กันหน่อยเถอะ ชาวบ้านชาวช่องเค้าถอนสมอหนีเรื่องพวกนี้กันไปถึงไหนแล้ว
ที่หนักสุดคือคนนึงออกมาพูดชื่นชมนวัตกรรมเครื่องตรวจเลือดของ Elizabeth Holmes คือเค้านอนหลับไปหลายปีแล้วเพิ่งถูกปลุกให้ขึ้นมาพูดหรอ

915 Nameless Fanboi Posted ID:rgBpuxR1tH

สวัสดีครับ มีพี่ๆเพื่อนๆคนไหนพอจะแนะนำเกี่ยวกับ bootcamp ของ Generation Thailand หน่อยได้ไหมครับ หารีวิวมาหลายที่แล้วก็ไม่เจอ เห็นเปิดมา 4 ครั้งแล้ว มันดีไหมครับ

916 Nameless Fanboi Posted ID:+xm8VM0x8x

รู้สึกหมดไฟจริงจังว่ะ จากตอนแรกแค่ขี้เกียจทำงาน ตอนนี้งานอดิเรกเขียนโปรแกรมเล่นๆที่แต่ก่อนทำได้ไม่มีเบื่อก็ขี้เกียจทำซะแล้ว

917 Nameless Fanboi Posted ID6:JUnAoBteqF

อัพเดตชีวิตตอนนี้ อายุ 30 แล้ว อยากหางานประจำ อยู่ยาวเกษียณ ตอนนี้ทำ outsource บริษัท finance, banking อยุ่ ได้แค่เกือบๆ 70k เอง (เหมือนที่นี่เงินเดือนที่เค้าให้ได้ใกล้ตันแล้ว แล้วเงินนี้มันน้อยไปไหมถ้าเทียบกับพวกนาย ประสบการณ์ 6 ปีครึ่ง) เอายังไงกับชีวิตดี พี่ พนง ประจำ ที่เคยทำงานด้วยกันที่ลาออกไป ก็แนะนำว่า เรามาสายนี้ก็ไปสาย finance banking ต่อไปเถอะ เงินดี พวกนายคิดว่าไงบ้าง
ไม่ได้มาบอร์ดนี้นาน

918 Nameless Fanboi Posted ID6:8vGILSXzZk

>>917 ไหนๆก็มาทางนี้แล้วถ้าไม่รังเกียจก็ทำสายนี้ต่อก็ได้มั้ง
ถ้าไม่ชอบความเรื่องเยอะของแบงค์ เดี๋ยวนี้ก็มีที่ๆเค้าปรับเปลี่ยนแนวทางแล้ว หรือไม่ก็ไปอยู่บริษัทลูกของแบงค์แทนได้
เปลี่ยนเป็นประจำแล้วเรื่องเงินเดือนอย่าดูแค่ตัวเลข อย่าลืมเทียบปัจจัยอื่นๆด้วย
อย่างสวัสดิการ โบนัส (ซึ่งเอาจริงๆแม่งก็เอาแน่นอนไม่ค่อยได้) ความหนักของงาน โอกาสเติบโต ฯลฯ

919 Nameless Fanboi Posted ID6:mSi2.ixq3V

โม่งกุถามหน่อย
อุปกรณ์ iot ที่กุใช้อยู่มันมีให้เลือกส่งค่าเป็น json โดยใช้ https protocol
ถ้ากุอยากจะอ่านค่าที่ส่งไปต้องทำยังไงบ้าง

920 Nameless Fanboi Posted ID:XrBQTfIqX6

>>917 ต้องไปหางานทำต่างประเทศที่ค่าแรงสูงกว่าไทยมากๆ เพื่อที่ทำงาน 10ปี แล้วหอบเงินมาใช้ในไทย 20ปี นอกนั้นก็คิดไม่ออกแล้ว

921 Nameless Fanboi Posted ID6:NWCS5Bt9VF

เพื่อนโม่ง ในนี้มีใครทำงาน/มีเพื่อนทำงานสาย IT ในบริษัทรถไฟฟ้า B*S,M*T มั่งปะ อยากรู้ว่าเงินเดือนกับสภาพแวดล้อมเป็นไงมั่ง เห็นเขาเปิดรับสมัครอยู่ อยากไปลอง แต่ก็อยากได้ข้อมูลไว้เตรียมตัวด้วย

922 Nameless Fanboi Posted ID:UaxpfpcVUq

>>917 ถ้าเรื่องเงินเดือนว่าน้อยไปมั้ย กูตอนนี้ทำมา 2 ปี 50k อะ ถ้าดูเรตขึ้นเงินเดือน 6 ปีก็คงเท่ามึงคือ 70k ซึ่งตอนนี้เงินเดือนกูสูงสุดในกลุ่มกูนะ คิดว่าไม่น้อยเลย อายุ 30 salary 70k เนี่ย

923 Nameless Fanboi Posted ID6:.C02oWYIIl

kbtg ดีไหมพี่โม่ง

924 Nameless Fanboi Posted ID6:r83pJtXV9V

>>923 มาเขียน Golang กัน

925 Nameless Fanboi Posted ID:MXm5QvsA1m

>>922 กุ 917 เอง ตอน ปสก 2 ปี ออกมาเปน os กุยัง 38k อยุ่เลย ตอนนั้นทำงานประจำเริ่มต้น ได้น้อย (เพราะกุไม่ค่อยเด่นหรือโปรไฟล์ไม่ค่อยดี) พอย้ายมา outsource เลยพึ่งเริ่มขยับ

926 Nameless Fanboi Posted ID:nbQiiQaVC4

ต้องทำงานกับคนแผนกอื่นที่ตำแหน่งและอายุก็ไม่ได้น้อยแล้ว แต่ต้องมาเถียงกับมันเพราะมันไม่เข้าใจว่า empty string กับ null ไม่เหมือนกัน กูจะบ้าตาย

927 Nameless Fanboi Posted ID6:BQe2DczZAj

กุอยากรุ้พวกหา โปรแกรมเมอร์ที่ใน กลุ่ม job for thai programmer เช่น salary up to 100k 120k 150k มันเอาโปรแกรมเมอร์ไปทำไมวะ โค้ดเฉยๆ ทำทุกอย่าง เป็น lead, senior หรืออะไร ทำไม

928 Nameless Fanboi Posted ID6:ffBOzsL+bu

>>927 ลองเข้าไปดูต้นทางสิงาน recruit ทั้งนั้นแหละ หามาหลายคนแล้วกรองๆ จับส่งให้ บริษัทที่ต้องการด่วนอีกที และถ้าเงินเดือนให้สูงผิดปรกติให้เข้าใจไว้ก่อนมักเป็น contract ที่เช็นไว้รัดกุมมาก ถ้าว่ากันง่ายๆ คนมาพัฒนา software มันถูกกว่าจ้างบริษัทข้างนอกทำให้ไง แล้วก็ระวังไว้หน่อยว่าถ้าชื่อโนเนมก็ one for all ไปประชุม แล้วทำทุกอย่างเองเลยจนส่งงาน รวมทั้ง present เองด้วย ไม่ต้องมี lead senior อะไรทั้งนั้น

929 Nameless Fanboi Posted ID6:gnhCLgGHR5

กุรุ้สึกตันๆกับงานที่ทำอยู่
ทุกวันนี้ทำเกี่ยวกับพวก iot ดูทั้ง hardware พวก sensor gateway router, software ก็พวก database api dashboard
มันพอจะไปต่อทางไหนได้อีกไหมวะ

930 Nameless Fanboi Posted ID6:Yck3U.hDc2

พี่โม่ง น้องทำงานมาปีครึ่ง ยังไม่มีโบ ไม่มีปรับเงินเดือน ย้ายเลยดีไหม หรืออยู่ต่ออีกหน่อย

931 Nameless Fanboi Posted ID:T8M43ZlUnF

>>930 ย้ายเถอะ ปีครึ่งไม่มีโบ ปกติครบ 1 ปีต้องมีโบแล้วนะ หรือไม่ก็ปีนิดๆ หรือไม่ก็ควรเฉลี่ยโบมาให้หน่อยถ้าอายุงานยังไม่ครบ อ่อ เงินเดือนด้วย ครบ 1 ปี มันควรจะปรับได้แล้วนะ ลองคุยกับทาง hr ดุก่อน แต่อย่าใจอ่อน เสียเวลา

932 Nameless Fanboi Posted ID:D5Ui3WIOC4

>>930 จากความเห็นส่วนตัวกู อันนี้บริษัทที่มึงอยู่ไม่เข้าท่าแล้วล่ะ หาทีใหม่ด่วนๆ

ลักษณะนี้มันต้องมีปัญหาภายในแหงๆ แบบผลประกอบการย่ำแย่ มันถึงไม่มีการปรับอะไรขึ้นเลย มึงรีบโดดออกมาเถอะ

933 Nameless Fanboi Posted ID6:cdkcnblpn8

>>931 >>932 จบิงด้วย น้องเพิ่งทำงานมางานแรกเลยไม่รู้ว่าแบบนี้ปกติไหม เดี๋ยวลองหางานใหม่ดูละ ข่อม

934 Nameless Fanboi Posted ID:Ed6CaUsvts

ขอ how to ทำงานกับ ux/ui แบบไม่ให้หงุดหงิดหน่อย

935 Nameless Fanboi Posted ID:KJm14qBgy9

https://twitter.com/Grady_Booch/status/1697450877676892455?s=20
LMAO

936 Nameless Fanboi Posted ID:JW+eaNVsBy

https://twitter.com/flaviocopes/status/1700085401740861867?s=20
😂

937 Nameless Fanboi Posted ID6:bEe5ZQZRha

อย่าหาว่าโม่งสอน ไม่ต้องเสียเวลาไปเรียนหรอกคอร์สเทสเตอร์ไรพวกนี้ ส่งไปกี่บ.เขาก็ไม่เอา คอร์สขายฝันหลอกคนจบไม่ตรงสายย้ายงานไปไอที หมดค่าคอร์สเรียนเป็นหมื่นได้ใบเซอร์มาแต่สมัครงานไปหลายที่เขาก็ไม่เอา โดนตอกกลับมาว่ารับแค่คนจบตรงสายอยู่ดี

938 Nameless Fanboi Posted ID:JzFDcBU4EF

>>937 สมมติว่าจบราดพัดแต่ตรงสายนี่แม่งก็ยังมีโอกาสกว่าจบไม่ตรงสายย้ายไปไอทีอีกเหรอวะ?

939 Nameless Fanboi Posted ID6:Sa68/aHI+v

>>938 ปกติสัมภาษณ์ไม่ดูผิวเผินแค่จบที่ไหนมาหรอก สายนี้โดยมาก (ย้ำว่าโดยมากนะ) ไม่ได้สนใจเรื่องวุฒิมากมายอะไรด้วย
มันต้องให้ทำข้อสอบ ถามทดสอบความรู้ ความสามารถ ดูทัศนคติก่อนถึงจะเทียบว่าได้จะเลือกคนไหน
แต่ปัญหาคือเด็กจบมหาลัยไม่ดังแล้วเป็นเด็กจบใหม่อีก กับคนย้ายสายที่เอา cer คอร์สขายฝันมาแปะ
มันก็มีสิทธิที่ resume จะโดนเขี่ยออกตั้งแต่ยังไม่สัมภาษณ์สูงทั้งคู่เลย
แล้ววงการนี้มักไม่รับเด็กจบใหม่กันด้วย ส่วนมากเค้าอยากเลือกคนที่มีประสบการณ์ประมาณนึงแล้วมากกว่า

940 Nameless Fanboi Posted ID6:R4ctD/xL1k

>>939 จะบอกว่าไม่ต้องเรียนจบก็ได้ กูเอาประสบการณ์อย่างเดียว ถ้างั้นทำไมพวกที่โดนไล่ออกอายุเกิน 30 แม่งก็ไม่เอาอยู่ดี แต่จะเอาอายุ 20ปี ประสบการณ์ 5-10ปีขึ้นไป คือมึงจะรับเด็กที่ไม่เรียนหนังสือ แล้วทำงานตั้งแต่อายุ 10-15ปี เรอะ??????

941 Nameless Fanboi Posted ID:5kJDl7aZg9

>>940 ใช่ ไม่รู้หรอว่าวงการนี้เค้ารับแต่คนมี passion กัน ไม่ใช่ที่ของพวกปลอมเปลือกเรียนคอร์สขายฝันมาหวังรวยทางลัดหรอกนะ

942 Nameless Fanboi Posted ID6:R4ctD/xL1k

>>941 เอาเด็กมีพาสชั่นมา ไม่มีวุฒิ พออายุ 30 แม่งก็ต้องไปคอร์สปลอมเปลือกอยู่ป่ะ เพราะเรียนไม่จบ สุดท้าย ก็ต้องไปหลอกเด็กมีพาสชั่นฝูงใหม่มารึไง

943 Nameless Fanboi Posted ID:5kJDl7aZg9

>>942 คิดว่าวงการนี้คนอายุ 30 ที่มีผลงานติดตัวต้องมาหาวุฒิแปลว่ามึงไม่รู้อะไรไม่ก็เคยทำงานแต่กับบริษัทกากๆแล้วล่ะ

944 Nameless Fanboi Posted ID6:R4ctD/xL1k

>>943 บริษัทส่วนใหญ่ก็บริษัทกากทั้งนั้นแหละ หรือจะบอกว่าไม่มีวุฒิ แต่ประสบการณ์อย่างเดียว 20-30ปี จ้างเลย เดือนละแสน(ถึงป่ะวะ????) งี้น่ะเหรอ

945 Nameless Fanboi Posted ID:5kJDl7aZg9

>>944 อ่า เครๆ อยากเชื่อแบบนั้นต่อไปก็ตามใจมึงละกัน

946 Nameless Fanboi Posted ID:Mkq7MlVLYL

พวกบูชาใบปริญญาหลุดมาจากไหนวะ 🤮

947 Nameless Fanboi Posted ID6:MgWksXSUjb

https://twitter.com/remino/status/1702108812873011316?s=20
เรื่องแค่นี้ต้องดราม่าเลยเรอะ กูเห็นแอค htmx ก็ชอบเล่นมุกอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
ไม่แน่ใจว่าฝั่ง bun ไม่เก็ทว่าเป็นแค่มุกเล่นเอาฮาเลยดราม่า หรือจริงๆรู้อยู่แล้วแต่ก็จะดราม่าอยู่ดี

948 Nameless Fanboi Posted ID6:7.gqEwMEU2

>>944 ไอที มันมีหลายสาขา ถ้าพวก network / system ที่ทำแบบเป๊ะๆ มีรูปแบบตายตาย พวกนี้ใบเซอร์มีค่าในการพิจารณา มากกว่าวุฒิ
คือวุฒิมันจะพิจารณายังไง ในเมื่อวิชาที่เรียนอยู่กับงานที่ใช้มันไม่ตรงกันเลย (ยกเว้นส่วนภาษา)

ส่วนโปรแกรมเมอร์ อันนี้เนื่องจากภาษา กับเครื่องมือ มันเปลี่ยนบ่อย แล้วโปรแกรมมันแตกเป็นหลายรูปแบบ ทำเกม ทำเวป ธรุกิจ โรงงาน โรงแรม บัญชี ทำเครื่องมือ ระบบอัตโนมัต ระบบขนส่ง..... etc ดังนั้นวิธีคัดคนฝั่งโปรแกรมเมอร์ถ้าเคยมีพอร์ทงานอะไรคล้ายๆ กัน ก็รับมาทำแค่นั้นแหละ หรือถ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็ทำข้อสอบในส่วนระบบที่คิดว่าต้องใช้เอา

ส่วนซัพพอร์ต อันนี้ฐานต่ำสุด มึงประกอบคอมลง windows ได้ เข้าหัว lan ได้หน่อยก็รับ แถมวุฒิไม่ต้องใช้ด้วย พวกนี้เน้นถูกเป็นหลัก
และส่วนมากพวกนี้ก็ไม่ได้ทำตลอดชีพหรอก ทำได้ซักพักมักหนีไปสอบ network / system เอาทีหลัง

949 Nameless Fanboi Posted ID6:GdhDONvKrz

https://twitter.com/java/status/1704127335983644701
Java LTS ใหม่ออกแล้ว ที่ออฟฟิซ service เก่าๆบางตัวยัง Java 8 อยู่เลย 555

950 Nameless Fanboi Posted ID6:n+EbBRQRd4

>>946 สวัสดีครับครูพรี่บีม

951 Nameless Fanboi Posted ID:ID2Xo1UgKi

งานสาย DevOps มีอนาคตแค่ไหน กูไม่ชอบและพยายามจะหนีแต่ก็หนีไม่รอด ทำงานที่ไหนเขาตำแหน่งอะไรก็ลากกูมาทำอยู่ดี จนตอนนี้ชื่อตำแหน่งกลายเป็น DevOps ไปแล้ว, head hunters ก็ทักมาแต่ตำแหน่ง senior devops engineer เอาดีไปเลยดีไหม

952 Nameless Fanboi Posted ID6:NdGjc9C6X9

สัมภาษณ์เส้นทางชีวิต ก่อนจะมาเป็น Software Engineer ที่ Google Switzerland (Part 1)
https://www.youtube.com/watch?v=GDjqr8klJOA

953 Nameless Fanboi Posted ID:XCYRgVmB0s

WFH ก็ดีอย่างนึง บางวันกุปวดหัว เปื่อยๆ ถ้างานไม่เยอะ หรือไม่รีบเท่าไหร่ก็พอได้พักบ้างแบบไม่ต้องใช้วันลา แต่มา recovery ทีหลัง หลังจากหายป่วยเพื่อให้งานเสร็จทัน

954 Nameless Fanboi Posted ID6:ixr76hQ.O1

มีใครเคยทำระบบแนวๆที่ต้องมี notification คล้ายๆที่มีในพวก SNS บ้างมั้ย
สงสัยว่าเวลาเก็บข้อมูลลงว่า notification ของ user แต่ละคนใครมี notification อะไรบ้าง อันไหนเห็นไปแล้วหรือยังไม่เห็นนี่มันเก็บกันแบบไหน
ถ้าเก็บลง Database ดื้อๆมันน่าจะเยอะมากจน query ช้าเป็นคอขวดของระบบ

955 Nameless Fanboi Posted ID:YZqJu1ygXm

จากที่หลายคนไปเจอมีม ว่ามีเดฟทำรายได้วันละ 100,000 โดยการทำงานละ 100 บาท ทำแค่วันละ 1,000 งาน ก็ได้ละวันละแสน
ถามว่าเป็นไปได้ไหม
ในหลักการปกติ เป็นไปได้ยากเพราะแต่ละงานใช้เวลาเขียนเยอะ
แต่ถ้าเราใช้แนวคิดใหม่ สร้างงานเดียวพอ ขายสัก 100 บาท เหมือนกัน แต่ขายคนได้ 1,000 คนในวันเดียว (ได้นะ เช่น แอพ หรือพวก SAAS) พวกนี้ เพียงแค่ว่ามันก็ไม่มีอะไรการันตีหรอกว่าคุณจะได้แบบนี้ทุกวัน
เรื่องของรายได้มัน dynamic อยู่แล้ว คนทำงานสายนี้เขารู้กันหมด
คำถามก็เลยกลายเป็นว่า ตกลงมันเป็นไปได้ หรือไม่ได้กันแน่
คำตอบคือมันเป็นไปได้ แต่ว่าคุณจะต้องสร้างอะไรบางอย่างให้มีคนอยากโหลด และยอมจ่ายเงินให้สิ่งนั้นวันละ 1,000 คน คนละ 100 บาท
หรืออาจจะปรับใหม่ ขาย 1,000 บาท ให้คน 100 คน (เออ ค่อยดูเหนื่อยน้อยลงหน่อย)
เรามองกันว่าพันบาทแพงไปไหม สำหรับผมนะ ไม่แพง ผมเองเคยซื้อแอพ ซื้อเซอวิส ซื้อโปรแกรมบางอย่างแพงกว่านี้ด้วยซ้ำ เช่น โปรแกรมอัดวีดีโอ ผมซื้อ 4,000 กว่าบาท หรือแอพพวก ToDoList, Mail Service และอื่นๆ ในราคาแพงกว่า 1,000 บาท
ลองดูครับ
ไอเดียเล็กๆ เป็นไปได้เสมอ แค่มองหาจุดขายให้เจอ
วันละ 100,000 ก็เดือนละ 3 ล้าน ปีนึง 36 ล้าน
ไปส่องรายได้ บ. เทคกันใน DBD มีคนทำได้เยอะแยะเลย ถ้านึกไม่ออก ไปดูของ อ. เล็ก แห่ง CodeMobiles ครับ เจ้านั้นเขาก็ทำรายได้อยู่ประมาณนี้
ขออนุญาตินะครับท่านเทพ อ. เล็ก เพราะข้อมูลพวกนี้ไม่ได้เป็นความลับอะไร ก็เลยขออ้างอิงหน่อย
แล้วก็มีอีกเยอะแยะหลายเจ้าเต็มไปหมด บางเจ้าเขาทำรายได้วันละ 1,000,000+ ก็มี อันนั้นเราจะไม่พูดกันละกันเนาะว่าเจ้าไหน

956 Nameless Fanboi Posted ID6:4OcShq+ZZx

>>954 ไม่ช้า เก็บลง db ธรรมดาเนี่ยล่ะ อย่าพึ่งไปโทษระบบ กฏง่ายๆ เวลาเขียน query update ยิงครั้งเดียว อย่าไป loop

957 Nameless Fanboi Posted ID:ulkxXslT3D

>>955 ตู้เต่าบินไง เดือนนึง วันนีงคนต้องกด100แก้วอย่างต่ำไม่งั้นยกตู้ออก

958 Nameless Fanboi Posted ID6:b3aC19.ZjH

>>957 บางจุดก็ไม่ถึงก็ไม่ยกหรอก ถ้ามีแนวโน้มยอดเพิ่มเรื่อยๆ ก็อยู่ต่อ หรือถ้ายังไม่มีที่ลงใหม่ก็อยู่ต่อเหมือนกัน

959 Nameless Fanboi Posted ID:TGUyr9rkca

จะไปลงวิทย์คอมของ มสธ เอาวุฒิดีมั้ยพี่โม่งแนะนำหน่อย แต่หนังสือแต่ละเล่มเนื้อหาทำไมมันเยอะนักวะ https://readonline.ebookstou.org/flipbook/22069/mobile/index.html#p=1

960 Nameless Fanboi Posted ID6:b3aC19.ZjH

>>959 น้ำ น้ำ water everywhere แถมอธิบายเรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก ไม่รวมที่ว่าต้องเปิดย้อนไปย้อนมา
มึงไปเปิด youtube ค้น queue data structure พวกนี้อธิบายรู้เรื่องกว่า คลิปยาวไม่น่าจะถึง 10 นาทีดีด้วย

961 Nameless Fanboi Posted ID6:Fy678g9a1x

>>959 เห็นคำว่าเอาวุฒิเลยไม่แน่ใจว่าอันนี้คือมึงอยู่ ม.6 กำลังจะเข้ามหาลัย
หรือทำงานแล้ว แต่อยู่สายอื่นแล้วอยากย้ายมาทำ IT
หรือเขียนโปรแกรมเป็นอยู่แล้ว แต่อยากได้วุฒิมาเพิ่มความน่าเชื่อถือเวลาหางาน

เรื่องหนังสือเรียนกูว่าจะหนังสือไทยหรือของนอกมันน้ำเยอะเป็นปกติอยู่แล้วอ่ะ
ถ้าเน้นรู้เรื่องแนะนำว่าหาตามเว็บที่มีให้อ่านฟรี / tutorial วีดีโอบน youtube ดีกว่าอ่านหนังสือเรียนพวกนี้เยอะ
และนำแนะว่าอยากให้อ่านภาษาอังกฤษมากกว่า สำหรับคนไม่ได้ภาษาแรกๆมันก็ฝืนหน่อย แต่เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง
เพราะในการทำงานจริงมันต้องหาข้อมูลด้วยภาษาอังกฤษตลอกเวลา เอกสารก็เป็นภาษาอังกฤษ
ถ้าเรียนด้วยภาษาไทยมันจะงงคำศัพท์ และมีปัญหาอื่นๆตามมา และทำให้การทำงานติดขัดมาก

962 Nameless Fanboi Posted ID:8Ydvjbim96

>>961 อยู่สายอื่นว่ะ แต่สนใจพวกเขียนโปรแกรมเป็นงานอดิเรก

963 Nameless Fanboi Posted ID:8Ydvjbim96

>>961 เพิ่มเติมนิด ภาษาอังกฤษกูไม่มีปัญหาอ่าน Stackoverflowได้ เขียนโปรแกรมภาษา C พวกรีเคอร์ซีฟเป็น เข้าใจการทำงานของพอยเตอร์ IO ไม่มีปัญหา แต่พวกสายงานนี้ไม่แน่ใจวุฒิจำเป็นแค่ไหนไง เคยได้ยินมาบางคนเขาดูGithubโดยไม่สนวุฒิด้วยซ้ำ

964 Nameless Fanboi Posted ID6:BqItPAcE1Q

>>963 วุฒิจำเป็นแค่ไหนนี่กูคิดว่าก็ไม่เท่าไหร่ แต่ของแบบนี้มันก็แล้วแต่ที่ด้วย
มันจะยากเป็นพิเศษตอนหางานแรกที่เค้าจะรับคนไม่มีทั้งใบปริญญาและประสบการณ์การทำงานนี่แหละ
ต้องหาที่ๆใจกว้างประมาณนึง ยินดีสอนงานคน และทำให้คนรับเค้าเชื่อว่ามึงทำงานได้โดยไม่มีทั้ง 2 อย่างนี้ให้ได้
ซึ่งเวลาสมัครงานมีโอกาสที่ไม่ถูกเรียกสัมตั้งแต่แรก เลยจบตั้งแต่ไม่มีโอกาสได้โชว์ความสามารถ
แต่การมีโปรเจคส่วนตัวไปแปะใน resume มันก็ช่วยทำให้ดูดีขึ้นอยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสก็ลองทำอะไรเล่นๆแล้วแปะไปเพิ่มดู

965 Nameless Fanboi Posted ID6:yPEeeIuP7G

>>962 เรียนแล้วช่วยโครตเยอะ ตอนเข้าไปทำงานใหม่ๆ ดึงข้อมูล ทำรายงานน่าเบื่อชิบหาย พอไปฝึกเรียนเขียน python m vba code หลังจากนั้นสบายๆเป็นแบบ auto งานไม่ซ้ำซ้อน แถม kpi มี km ผ่าน lv5

966 Nameless Fanboi Posted ID6:yPEeeIuP7G

หรือเบื่อๆ ฝึกเขียน malware หรือ trojan ก็สนุก เอาไปปล่อยใน discord
https://www.blackbox.chat/

967 Nameless Fanboi Posted ID:AbMUIU1tl5

>>965 พวกนี้ดู udamy เอาไวกว่า แล้วฐานข้อมูลที่ใช้เรียนกับทำงานจริง ไม่เหมือนกันซะทีเดียว เพราะ ในห้องเรียนมักไม่สอน การออกแบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่

968 Nameless Fanboi Posted ID:xUbnUeCfud

>>967 จากประสบการณ์ส่วนตัวกูคิดว่ามันน้อยที่ที่จะต้อง design Database ใหญ่ๆ
ถ้าไม่นับพวกงานสาย data ที่ต้องเรียนเรื่องพวกนี้มาเฉพาะอยู่แล้ว
แต่ก็คิดเหมือนกันว่าเรียนจากคอร์สออนไลน์ดีๆนี่ดีกว่าการไปอ่านหนังสือเรียน หรือเรียนมหาลัย โดยเฉพาะถ้าไม่มีปัญหาเรื่องจะเอาวุฒิ

969 Nameless Fanboi Posted ID:pCR8qggH9W

รู้สึก project manager นี่แม่งหาคนพอดีๆยากจังวะ เจอประเภทไม่ใส่ใจ (เสือก) มากเกินไป ก็เป็นประเภทไม่ทำห่าอะไรเลย

970 Nameless Fanboi Posted ID6:g.lgK00oNU

มีใครทำบ.ต่างชาติที่ไม่มี hq ในไทยบ้าง ได้ยินว่าภาษีโหดกว่าทำบ.ที่มีสาขาในไทยนี่จริงรึเปล่า

971 Nameless Fanboi Posted ID6:yWReR3Yo1H

>>970 เรทปรกติ บริษัทบัญชีไม่คำนวณภาษีพลาดหรอก

972 Nameless Fanboi Posted ID:MZn1XDasVx

.....

973 Nameless Fanboi Posted ID6:2TrtGQi021

พี่โม่งคนไหนเคยมีประสบการณ์ title ไม่ตรงงานที่ทำไหม กำลังสงสัยว่าตัวเองกำลังถูกลิมิตเงินเดือนด้วย title: developer ทำดา แต่ทุกวันนี้เขียน ai/ml อะ แปลกป่ะ

974 Nameless Fanboi Posted ID6:vvLhrRWJrf

>>973 ai / ml มันจะเอาอะไรมากก็ dev อ่ะจะโวยทำไม. ฐานเงินเดือนมันอยู่กับบริษัทที่ทำงาน ถ้ามีฝีมือจริงก็ย้ายงานใหม่หาที่จ่ายหนักกว่าเก่าไม่ยาก

975 Nameless Fanboi Posted ID:M5HZm+QTAz

>>969 เห็นข้อความนี้แล้วกูอยากจะร้องไห้ เพราะตอนนี้กูเจอประเภทหลังอยู่ ไม่เห็นทำห่าไรเลยอ่ะ มีแต่ถามว่าตอนนี้กูทำอะไรอยู่ แต่ถึงรับรู้ไปมันก็ไม่เข้าใจอยู่ดีกว่ากูทำอะไรอยู่ คือสรุปตำแหน่งนี้มันมีไว้ทำไมวะ ? รู้สึกเหมือนแม่งทำนาบนหลัง dev ยังไงก็ไม่รู้ หรือกูเจอคนเหี้ย

976 Nameless Fanboi Posted ID:ShY8F49Sum

DEV ที่กูเคยเจอไร้ประโยชน์กว่า AI อีก

977 Nameless Fanboi Posted ID:1AF2pGlIpH

>>975 หลักๆ เลยตำแหน่งนี้เอาไว้คุยอย่างเดียว ไม่ว่ากับกับลูกค้า คุยกับเซล ทำงานกึ่ง AE หา Supplier ติดต่อปริษัท server / service / license ต่อรองกำหนดส่ง ประสานงานข้ามสาขา จัดคิวงาน

ไอ้ตำแหน่งนี้ไม่ต้องมีก็ได้ถ้า Dev ทำงานพร้อมคุยได้ตลอดวัน

กูเคยทำควบ PM กับ Dev นะ สรุปคือไม่รอดจ้า ประสาทจะแดกเอา ระชุมทั้งวันอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เพราะต้องผ่านลูกค้าประสาทแดก Supplier ห่วยแตกนั่นแหละ ได้มาทำงาน Dev ได้ทำเอาตอนทุ่มนึงตอนนั้นก็คิดอะไรไม่ออกแล้ว สุดท้ายต้องโอนงาน PM ไปให้คนอื่นแทน

ปล. เวลาทำงานส่วนมากมันก็บ่นว่างานกูหนักสุดทุกคนนั่นแหละ เพราะมันมองเห็นแค่งานตัวเองไง เอาแบบ Sale ก็ได้ถ้าดูผ่านๆ ไอ้นี่งานไม่หนักเลยได้ยอดได้เงินเพิ่มและ บริษัทก็โอ๋มากไม่ต้องเข้างานก็ได้ แต่ถ้าลองไปทำจริงจะรู้ว่าเครียสชิบหาย บุคคลิกบางคนนี่ไม่เหมาะทำไม่ได้

978 Nameless Fanboi Posted ID:XZCgfSCS7y

>>977 กูคือคนที่บ่นนะ ขยายความเพื่อความเคลียร์ละกันว่าไอ้งานคุย+ทำเอกสารตาม process ของบริษัท ซึ่งเป็นหน้าที่ของมันโดยตรงมันยังไม่ทำเลย เฉไฉโยนให้คนอื่นคุยแทน/ทำแทน มีคนเหลืออดไปจี้ในที่ประชุมว่าแต่นี่มันหน้าที่มึงนะมันยังหน้าด้านหาข้ออ้างไม่ยอมทำเลย ส่วนถามว่าทำไมไม่ฟ้องผู้ใหญ่ คือนึกภาพบริษัทใหญ่มากๆ แถมในโปรเจคคือคนทีมไหนก็ไม่รู้มีเป็นสิบทีม ไม่รู้จะฟ้องใคร ฟ้องผู้ใหญ่ไปก็ดูเป็นคนขี้ฟ้องเปล่าๆอีก

979 Nameless Fanboi Posted ID:oP5UYlaN8W

>>977 PM ที่กูเจอไม่ทำอะไรเลยอ่ะมึง ไม่ต้องติดต่ออะไรด้วย ซึ่งจริง ๆ ต้องทำเอกสารนะแล้วก็ต้องช่วยทีมตัดสินใจในบางเรื่อง แล้วทีมกูก็เล็กมากมันไม่ต้องมีก็ได้อ่ะ เอา dev มาเพิ่มยังทำให้งานออกมาเยอะกว่าอีกอ่ะแต่ไม่เอา เอาคนไม่รู้ห่าอะไรมาเป็น PM ก็ไม่ได้เพิ่ม productivity ทีมอะไรอยู่ดี สรุปคือกูเห็นด้วยกับมึงตรงที่ว่าถ้า dev พร้อมคุยก็ไม่ต้องมีก็ได้ แต่ถ้าทีมใหญ่ stakeholder เยอะก็ควรมีอ่ะ มันจะทำให้การทำงานราบรื่นขึ้นมาก ๆ แต่ถ้ามีแล้วเหมือนไม่มีไม่ต้องมีดีกว่า

>>978 มึงเจอคนเหมือนกูเลยนะ คนที่กูเจอก็โยนแม่งตลอด เบลมเก่งเป็นที่หนึ่ง งานตัวเองไม่ทำไรเลยดีแต่พูดอย่างเดียว พูดทีก็ถามว่า dev จะเสร็จเมื่อไหร่ ทำไมอันนี้ไม่เสร็จ ทำไมอันนี้บอกเวลาเลยไม่ได้ แต่ไม่เคยคิดจะเข้าใจห่าไรเลย ลอยตัวเหนือทุกอย่าง กูก็อยากถามมากว่าจะมีไว้ทำไม แบบที่ดี ๆ ก็คงมีมั้ง แต่กูโชคร้ายไม่เจอ ดันเจอพวก free rider

980 Nameless Fanboi Posted ID6:ho.J2Trk39

Complex System, Emergent

981 Nameless Fanboi Posted ID:etL4CdN6X+

นอกเรื่องหน่อยเพื่อนโม่ง กูจะไปสาย FullStack ยุคนี้เวบมันมีโฮสเจ้าใหนดีๆบ้างสำหรับเวบแอป
แล้ว docker / kuber aws เรียนตัวใหนดี หางานในไทย
แล้วเวบขนาดใหญ่ lazada shopee nocnoc ใช้ตัวใหน
มือใหม่เปิดโลกทำเวบจ้า

982 Nameless Fanboi Posted ID:etL4CdN6X+

คือกูจะทำ demo project webapp + mobile + backend กะทำไว้ต่อยอดเป็น pitching project ด้วยเลย
แต่กูโง่เรื่องเวบมาก เพราะบ้านไม่รวย สมัยเรียนค่าโฮสแพงๆไม่มีจ่าย ทำได้แค่พวกโมบาย ตอนนี้มีตังแล้ว หน้าใหม่หัด FS

983 Nameless Fanboi Posted ID:uYcXOHyxqV

>>981 แค่หัดลง docker เครื่องตัวเอง กับเขียน code dev งานเอาให้รอดก่อน hosting เอาไว้ท้ายๆ เลย และหัดใช้งาน git ด้วย

984 Nameless Fanboi Posted ID:uYcXOHyxqV

>>981 แค่หัดลง docker เครื่องตัวเอง กับเขียน code dev งานเอาให้รอดก่อน hosting เอาไว้ท้ายๆ เลย และหัดใช้งาน git ด้วย

985 Nameless Fanboi Posted ID6:i5JOvFVwKe

>>981 มือใหม่ทำเว็บ หรือ มือใหม่หัดเขียนโค้ด

ตอนแรก ลง ngrok ไปก็พอ แล้วแก้ url เอาเรื่อยๆ

986 Nameless Fanboi Posted ID6:nzKgSTg+2P

กึ่งๆโดนบังคับให้มาเป็น team lead แล้วรู้สึกไม่ค่อยชอบเลยว่ะ อยากทำงานนั่งเขียนโค้ดเงียบๆ ไม่ต้องยุ่งคนอื่นเกินจำเป็น
ไม่อยากมาเข้าประชุม ทำดีไซน์ ทำสไลด์ บรีฟงานน้อง ตรวจงานน้อง คุยกับคนทีมอื่นแล้ว...

987 Nameless Fanboi Posted ID:apcVfXQ8T/

>>983 กูมีคำถามนะ ทำไมในThe odin projectแม่งแนะนำให้ใช้แมคเลยวะ? จริงๆถ้าจะไปสายงานนี้ใช้โน้ตบุ๊คทั่วๆไปก็ได้ไหม? แล้วสำหรับคนงบน้อยแบบ>>982 นี่ถ้าเริ่มไปสอยคอมCPU gen8-9 สภาพมือสองมาใช้เรียนจริงๆจังๆมันยังได้ไหมวะ?

988 Nameless Fanboi Posted ID6:j/XNP4NnPW

>>987 ก่อนจะมางอแง มึงลองสมัครแล้วเข้าไปอ่านก่อนเถอะโยม
ตัวที่ใช้งานมันก็แค่ตัวติดตั้งนะ สมมุติ html / css / javascript มึงก็ไปใช้ codepen เขียนบนเว็ปได้เลย กะอีแค่เปิดเว็ปอะไรก็ได้มือถือ table ได้หมด

ส่วน requirement มันคืกกรณี run บนเครื่อง ส่วนเหตุผลมันก็เขียนบอกว่าไม่อยากยุ่งยากเสียเวลาไล่เพราะแต่ละเครื่องชอบลงเหี้ยอะไรไว้หลากหลายต้องมา support พวกโง่งอแง config มั่วซั่วไป Mac / Linux จบๆ อย่างน้อยก็ไม่มีอะไรไปป่วนระบบมัน กรณีใช้ Win ก็ลง Virtual Machine รัน Linux ไปดิ

ปล. อยากให้สอนส่วนติดตั้งบน win ตรงๆ เริ่มต้นด้วยพื้นฐาน แล้วถ้ามึงเป็น newbie ด้วย กูแนะนำให้มึงไปซื้อ course udemy เหอะ

989 Nameless Fanboi Posted ID:.MfIHOZR.8

hello พี่โม่ง ว่าจะเรียนโทไอที เรียนที่ไหนดีครับ เล็ง ลาดบังกะ มศว ไว้อยู่

990 Nameless Fanboi Posted ID6:vHVDGhGIYS

>>988 แล้วทัมมัยต้องลงเรียน udemyให้เสียตังค์ด้วยวะ ในเมื่อThe odin project มันฟรี

991 Nameless Fanboi Posted ID:Kg8d9sZuG7

เห็นมีคุยกันเรื่อง front end สายเว็บ สงสัยว่าเวลาพวกมึงจะเลือก framework นี่เลือกจากอะไร
แล้วเคยรู้สึกว่าตัวเองเลือกผิด ต้องมาเริ่มเรียนรู้ใหม่หมดจนเสียเวลาเสียโอกาสบ้างมั้ย
คือกูเป็น backend แล้วเวลาฟังคนเป็น front end สายเว็บ คุยกันแล้วรู้สึกเหนื่อยแทน
ทั้ง framework เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน กับเทรนด์ที่แม่งเปลี่ยนกันเป็นว่าเล่น

992 Nameless Fanboi Posted ID6:/pBnWBy9PB

>>991 มองแนวกว้างดูไม่ว่าภาษาไหน หรือจะวาดกระดาษ concept responsive ภาษาไหนก็เหมือนกันหมด ส่วนที่เหลือถ้าพวก web / app ยิ่งง่าย ให้ยึดหลัก html css ธรรมดาที่เหลือมันแค่ตัวช่วย (บางที framework เสือกช้ากว่าเขียนดิบ) วางโครงได้ที่เหลือ animation มันแค่แฟชั่น แฟนซี เอาจริง timing ถ้ามึงเคยเขียนเกมนี้หมูเข้าปาก

ส่วน backend web ช่วงหลัง ส่วนตัวแล้วถ้าไม่ใด้ทำอะไรบ้าบอคอแตก กูใช้ wordpress ปิดงานซะส่วนมากว่ะ เพราะถ้าใช้ framework เป็นทางการ รู้สึกเปลือง ในเมื่อส่วนที่จะใช้เดี๋ยวนี้มันมีให้ครบหมดแล้ว ต่อ firebase / cronjob / ap / แบ่งระดับ account มันทำได้หมด เลยใช้อะไรที่ปิดงานไวดีกว่า

993 Nameless Fanboi Posted ID6:PXG.HTyggQ

https://twitter.com/htmx_org/status/1742643471369019458
🤣

994 Nameless Fanboi Posted ID:4yxJgPtDpX

Agoda เปนไงบ้างพี่โม่ง รีวิวหน่อย

995 Nameless Fanboi Posted ID:6fpD1U2C7Y

มีใครเคยสัม lseg/abacus/techx บ้างอ่ะ อยากรู้สัมเป็นไงบ้าง

996 Nameless Fanboi Posted ID6:QGbUbH6n7S

>>>/tech/18177/

997 Nameless Fanboi Posted ID6:E+Li.7s9e8

เราจะวิจารณ์หรือด่า Solution ได้ยังไงถ้าเรายังไม่เข้าใจเลยว่าเขาจะแก้ปัญหาอะไร
สมัยก่อนคนหลายคนวิจารณ์ Go ว่าห่วยเพราะไม่มี Generic โดยไม่เข้าใจว่า Go มันออกแบบมาเพื่อเน้นแก้ปัญหาอะไร คือเขาต้องการ System programming language ที่มี Dev productivity ที่ดีและ Learning curve ต่ำ เขาก็เลยไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นจนมันมาหลังๆ
สมัยนี้เห็นคนบ่นว่าเว็บ Complex กว่าทำ UI สมัยก่อน แต่ไม่ได้เข้าใจว่า Web app เดี๋ยวนี้มันมี Brand identity ที่ต้องใส่เข้าไปในแต่ละเว็บไซต์หรือแม้แต่เว็บแอพ ลองทำ ปุ่ม Label Textbox ที่แบบต้องได้สีได้ลุคแอนด์ฟีลที่ใช่ที่เข้ากับ Brand identity ในสมัยที่เรามี Winform ดิ เหนื่อยมากนะ
(นี่ผมยังไม่นับเรื่อง Interactivity นะ เว็บเดี๋ยวนี้กรอกฟอร์มเป็น Wizard แบบสมัยก่อนไม่ได้แล้วนะ)
บางคนอาจจะเถียงกลับว่า UI ที่ดีควรล้อเข้ากับ Native อะไรที่อยู่บนแมคก็ควรมี Look & Feel แบบแมค อะไรบนแอนดรอยด์ต้องเป็นตาม Guideline ของแอนดรอยด์ดิวะ ทำไมคนสมัยนี้ UX ทำตามใจแบรนด์ตัวเองหมดไม่เคารพแพลตฟอร์มเลย
อันนี้คือข้อแตกต่างระหว่างโจทย์ที่ว่า
"เราให้ความสำคัญกับปัญหานี้เยอะไปมั้ยทำไมเราต้องมาบ้าเรื่องทำ Custom UI ที่ตรงกับแบรนด์ Identity ขนาดนี้ มันใช่มั้ยเนี่ยที่จะเอาปัญหานี้มาเป็นจุดโฟกัสของงานแล้วสร้างเฟรมเวิร์คเยอะแยะไปหมด"
กับ
"ปํญหานี้ที่เราเลือกมาแล้วว่าจะแก้ เราจะสร้าง Custom UI ให้ได้แล้วเนี่ย เราได้สร้าง Solution ที่ดีสมเหตุสมผลมั้ย มัน Unnecessary bloat, ไร้ประสิทธิภาพและซับซ้อน complex เกินไปมั้ย"
เนี่ยเป็นข้อแตกต่างที่ชัดเจนมาก คำถามแรกคือ Design question ส่วนคำถามที่สองคือ Problem solving question สองโจทย์นี้เป็นโจทย์คนละระดับกันเลย มันเอามาปนกันแล้วจะงงไปหมด

998 Nameless Fanboi Posted ID6:E+Li.7s9e8

มันเหมือนคุณวิจารณ์ว่าค้อนแม่งแย่เพราะเอามาใช้ตีลูกปิงปองแล้วมันตีไม่เป็นโดนเลยเงี้ย มันไม่ได้เว้ย เออ คุณไม่สนใจเรื่องตอกตะปูสนใจแต่เรื่องตีปิงปองก็ไม่ผิดอะไรนะ แต่วิจารณ์ค้อนในกรอบที่ราวกับว่าคนสร้างและใช้ค้อนเขาไม่ได้อยากตอกตะปูแต่อยากตีปิงปองเนี่ยมัน..... ผิดที่ผิดทางไปหมด
ในซอฟต์แวร์นี่เจอบ่อยมากที่คนใช้เลนส์แบบฉันอยากจะตีปิงปองเลยวิจารณ์ทุก Design decision ราวกับว่าทุกๆ System ออกแบบมาตีปิงปอง
"Go ไม่มี Generic ไม่มี Type system ที่ดี กาก" โปรแกรมเมอร์ที่คิดว่าโลกนี้ Type safety เท่านั้นคือปัญหาที่สำคัญ
"Ruby on Rails ช้า กาก" โปรแกรมเมอร์ที่คิดว่า Machine performance เท่านั้นคือปัญหาที่สำคัญ
(ซึ่งแปลกไอ้แนวคิดแบบที่ว่าปัญหาที่กูสนใจเท่านั้นคือปัญหาสำคัญของโลกนี้ที่ทุกระบบต้องออกแบบโดยใส่ใจสิ่งนี้เป็นที่สุดนะเว้ย เจอบ่อยในโปรแกรมเมอร์ต่างชาติมากกว่าไทยแฮะ ถ้าจะมีอะไรที่คิดว่าโปรแกรมเมอร์ไทยโดยเฉลี่ยทำได้ดีกว่าก็เรื่องนี้)
"Modern web development สมัยนี้มัน Bloat และซับซ้อนไปหมด" เนี่ยเจอคนที่วิจารณ์อย่างเข้าใจว่า Modern tooling มันมีไว้แก้ปัญหาอะไรน้อยมากๆ คือผมก็คิดว่า Modern tooling มันมีอะไรให้พัฒนาได้เยอะและก็มีข้อให้ติเยอะมากเลยนะ
แต่เจอแบบ "ทุกคนควรกลับมาทำ DOM Manipulation เพราะมันเร็วกว่าเปลืองทรัพยากรน้อยกว่าและไม่ซับซ้อน" อันนี้คือดูไม่เข้าใจไปเลยว่านี่มันค้อนตอกตะปู ไม่ใช่ไม้ปิงปองเว้ย

999 Nameless Fanboi Posted ID6:E+Li.7s9e8

คือผมคิดว่าเราจำเป็นจะต้องเข้าใจว่า
1. Design กับ Problem solving มันเป็นโจทย์คนละแบบ การเลือกปัญหาที่ใช่ กับการแก้ปัญหาที่เลือกมาแล้ว มันคือโจทย์คนละอย่างกันเลย ถ้าไม่เข้าใจว่ามันคนละเรื่องก็จะมองหรืออ่าน Solution แบบผิดเพี้ยนไปหมด ยังไม่ต้องพูดถึงการวิจารณ์
2. การเลือกปัญหาให้มันทำผ่านการเข้าใจว่ามนุษย์เรามี Unmet need อะไรบ้างที่เป็นไปได้
3. ความสามารถในการเข้าใจ Empathize กับ Unmet need ที่ "ตัวฉัน" รู้สึกเฉยๆ เป็นทักษะสำคัญที่ต้องมีในการทำงาน Design Software, Solution and Architecture มากกกก มากกว่าที่หลายคนอาจจะตระหนักรู้ (อย่างเช่นหลายคนที่ทำงาน low-level ก็มีที่มองว่าไอ้พวกที่มันโอดร้องว่าอยากได้เครื่องมือที่ช่วยทำงานง่ายขึ้น ต้องการ Garbage collector มันก็แค่คนขี้เกียจไม่มีทักษะในการจัดการเมมโมรี่! เราต้องทำของที่ไวสิวะแล้วต้องเข้าใกล้ Machine level ให้มากที่สุดสิวะ! อันนี้ก็คือขาดสามารถในการ Empathize ไปเลย)
เลือกปัญหามาแก้ถูก บางทีทำงานไม่ตรงเป๊ะลูกค้ายังเซ็นผ่านเลย เลือกปัญหาผิดมาแก้ ตรงตามสโคปในสัญญาทุกตัวอักษรยังไฝว้กันได้เลย (ผมไม่ตัดสินละกันว่าอันนี้ดีหรือไม่ดี แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง)
นั่นแหละที่สอน Humanistic architecture ก็คือตั้งใจจะ Address เรืองนี้ เป็นคอร์สที่ผมอยากสอนที่สุด คิดเอาเองว่ามีประโยชน์กับโปรแกรมเมอร์ที่พร้อมรับ อย่างน้อยผมก็พบว่าสำหรับตัวเองมันเป็นแกนกลางการทำงานของผมเลย
บางคนอ่านคอร์สและอ่านรีวิวอาจจะงงว่าเรื่องแบบจิตวิทยา การเข้าใจตัวเอง การเข้าใจคุณค่าและพื้นฐานของความต้องการมนุษย์ มันเกี่ยวข้องกับ Software architecture design ยังไง งาน Software Architecture มันน่าจะเรียนเรื่องแบบ Distributed system, database, horizontal scaling, idempotency, design pattern อะไรพวกนี้ไม่ใช่เหรอ
ผมคิดว่ามันเกี่ยวอย่างที่สุดแล้ว เกี่ยวแบบคือ Step 0 ในระดับรากฐานที่สุดเลย คุณเลือกปัญหาอะไรมาแก้ก่อนล่ะ ปัญหาระบบล่ม? ปัญหาต้นทุน? ปัญหาฟีเจอร์ออกช้า? หรือไม่เลือกอะไรเลยออกแบบไปเรื่อยเปื่อย? ถัดมา คุณ Trade อะไรทิ้งไป ลดความสำคัญของปัญหาอะไรลงไปบ้าง
นี่อ่ะคือแกนกลางของงานออกแบบ Architecture ชัดๆ
ทั้งทักษะการ Problem solving และทักษะการ Design มันสำคัญทั้งคู่ แต่ที่สำคัญเลย มันเป็นคนละทักษะกันครับ และถ้าไม่เข้าใจ คิดว่าโลกซอฟต์แวร์มีชุดปัญหาชุดเดียวเท่านั้นที่สำคัญ (เช่นระบบไม่ล่มบ้างล่ะ ความมี Resource efficient บ้าง ต้นทุนการรันอินฟรา ความปลอดภัยขั้นเทพบ้าง) คุณจะไม่สามารถเห็นคุณค่าของ Solution หรืองานออกแบบที่ออกแบบมาแก้ปัญหาที่คุณไม่ได้เลือกได้เลย
ในประเทศไทยผมยกและซูฮกให้พี่เดฟไปแล้วเรื่องการสอนทักษะ Problem solving ผมว่าผมสอนได้ทั้งไม่ดีและไม่ลึกเท่าแกหรอก ให้แกดีกว่า
(ถ้าพี่ผ่านมาอ่านแล้วอยากให้ Tag บอกได้ เผื่อให้คนตามไปดูพี่ออกคอร์ส)
ผมอยากเสริมจุดที่ผมว่านักพัฒนาหลายคนมองข้ามคือจุดของงาน Design เวลามีคนความต้องการขมุกขมัวที่อึดอัดไปหมดจนพร้อมจ่างเงินมากมาย เราจะออกแบบว่า Concrete problem ที่ช่วยเยียวยาความต้องการนั้นได้คืออะไรนะ
แล้วจากจุดนั้น จึงทำการ Problem solving ต่อไป
(นี่เริ่มมาจากฟังคลิปใหม่ของ Theo ที่นั่ง Defend web development จากพวก "ปรมาจารย์ด้าน Performance" ต่างๆ ที่นั่งด่าว่าทำเว็บสมัยนี้มัน Bloat มัน Complex ช้าไปหมดมีแต่เครื่องมือไร้สาระแก้ปัญหาไร้สาระ ก็แบบ...​.. ของขึ้นอ่ะนะ เข้าอกเข้าใจในโจทย์กันก่อนดีมั้ยคะ)
มันมีหลายภาษาและหลาย Solution design ที่ผมกล้าพูดว่ามันออกแบบมาโคตรดีและงดงามจัดๆ แต่ผมไม่ชอบ เพราะมันไม่ได้แก้ชุดของ Problem ที่ผมคิดว่า Matter ในประสบการณ์ส่วนตัว ผมก็สามารถซาบซึ้งในความสวยงามของมันได้ และเลือกใช้มันได้เวลาที่ต้องการอ่ะครับ

1000 Nameless Fanboi Posted ID6:PAtS71F8yK

1000

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.