มานี่ๆ ฉันจะเล่าให้ฟัง ว่าทำไมไทยแลนด์ถึงมีพิธีไหว้ครู
คืองี้ ย้อนไปเป็นร้อยปี สมัยก่อนเมืองไทยไม่มีโรงเรียน เวลาคนอยากได้ความรู้เรื่องอะไร ก็จะไปขอให้คนที่มีความรู้เรื่องนั้นๆช่วยสอน ซึ่งมันก็จะเป็นความรู้เฉพาะทาง เช่น สอนทอผ้า สอนฟันดาบ สอนรำ สอนปั้นหม้อ สอนวาดรูป
ทีนี้ คนที่สอนเนี่ย มันก็ไม่ได้มีอาชีพเป็นครูไง ดังนั้น เวลาคนมาขอให้สอนเนี่ย มันเลยกลายเป็นการไปรบกวนเขาไง "อีเหี้ย กูจะทำมาหาแดก เสือกมาให้กูเสียเวลาสอนมึง แถมพอมึงได้วิชาจากกูไป มึงก็ทำแข่งกับกูอีก" แถมบางราย ยังต้องไปกินอยู่หลับนอนที่บ้านคนสอนอีก เดือดร้อนเกะกะกันไปหมด
มันก็เลยต้องมีพิธีไหว้ครู เพื่อขอบคุณและขอขมาที่สาระแนไปสร้างความเดือดร้อนให้เขา ทั้งๆที่เขาอยู่ของเขาดีๆ
แต่ปัจจุบัน มันมีโรงเรียน มีอาชีพครูแล้ว คนมาเป็นครูเพื่อเอาเงินค่าเทอมจากนักเรียนมาเลี้ยงชีพ ไม่ได้สอนฟรี กลายเป็นครูมีชีวิตอยู่รอดได้เพราะเงินนักเรียน
ดังนั้น ปัจจุบันครูจึงไม่ใช่ผู้มีพระคุณล้นเหลือแบบเมื่อหลายร้อยปีก่อน แต่เป็นการ "พึ่งพาอาศัยกันและกัน" ครูต้องพึ่งเงินนักเรียน ส่วนนักเรียนก็ต้องพึ่งครู
ฉะนั้น ครูไม่ควรเบ่งกร่างใส่นักเรียน ทำตัวเป็นเทวดาสูงส่ง ให้เด็กมากราบตีน และนักเรียนก็ไม่ควรทำเหี้ยๆใส่ครู ควรอยู่ร่วมกันอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกันจ้ะ จบ