( ต่อจาก >>737 )
เมื่อมองจากพระคำภีร์ออกมายังประวัติศาสตร์ใกล้ๆ
ผมคิดถึงเรื่องของ จอห์น นิวตัน พ่อค้าทาสผู้กลับใจของอังกฤษในศตวรรษที่ 18
การเลิกทาสเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในสมัยนั้น พูดออกมาก็มีแต่คนด่าว่าบ้า
แต่จู่ๆคำเทศน์ของ จอห์น นิวตัน กลับไปจับใจ ส.ส. หนุ่มอย่าง วิลเลียม วิลเบอร์ฟอร์ส
วิลเบอร์ฟอร์ส เป็น ส.ส. ตั้งแต่อายุ 21 เพราะ วิลเลียม พิทเพื่อนซึ่งเป็นลูกอดีตนายกฯ พาไปดูเขาเถียงกันในสภา แล้วนึกคึกชวนไปสมัครเลือกตั้ง แล้วดันได้เป็น ส.ส.
(วิลเลียม พิท เพื่อนของวิลเบอร์ฟอร์ส ดันได้เป็นนายกฯในขณะอายุแค่ 24 ปี และพาประเทศผ่านยุคที่พึ่งแพ้สงครามประกาศเอกราชอเมริกา และเผชิญการปฏิวัติฝรั่งเศสมาได้ - ซักวันหนึ่งเราคงได้เล่าถึงเขา)
วิลเบอร์ฟอร์ส จริงจังมากกับการพยายามเลิกทาสโดยอาศัยรัฐสภา ขนาด วิลเลียม พิท ยังบอกว่า "เรื่องนี้คงช่วยไม่ได้"
แน่นอนกฎหมายของ วิลเบอร์ฟอร์ส ถูกสภาคว่ำ
แต่สิ่งที่วิลเบอร์ฟอร์สทำคือพยายามรณรงค์ต่อไป
เขาเขียนหนังสือ บทความ ส่งกระจายไปทั่ว
ซื้อเรือค้าทาสมาจัดแสดงให้คนเห็นความโหดร้าย
จัดตั้งคณะโบสถ์กลุ่มหัวปฏิรูปที่เห็นด้วยกับการเลิกทาส เพื่อเทศนา รณรงค์ และจัดกลุ่มใต้ดินช่วยเหลือทาสเพื่อหลบหนี
วิลเบอร์ฟอร์สส่งกฎหมายเข้าสภาทุกปี และถูกคว่ำทุกปี
จอห์น นิวตัน เสียชีวิตไปในช่วงนี้ เขาตายโดยที่เห็นเพียงแค่กฎหมายถูกคว่ำทุกปี
วิลเบอร์ฟอร์ส ยังคงทำต่อไป เขาทำแบบนี้อยู่ 24 ปี ทำอยู่ 24 ปี เพื่อกฎหมายฉบับเดียว ในที่สุดปี 1807 เขาก็ผ่านกฎหมาย "เลิกการค้าทาส" ได้สำเร็จ ยังไม่ใช่การเลิกทาส แต่ห้ามซื้อทาสใหม่ได้สำเร็จ
วิลเบอร์ฟอร์ส ยังคงรณรงค์ต่อไปเพื่อการเลิกทาส
จนกระทั่งปี 1833 เมื่อเขาอายุ 73 ปี เพียงหนึ่งเดือนก่อน วิลเบอร์ฟอร์ส เสียชีวิต ฝ่ายเลิกทาสก็ผ่านกฎหมายเลิกทาสก็ออกมาได้สำเร็จ
วิลเบอร์ฟอร์สใช้เวลาไป 50 ปี เพื่อกฎหมายฉบับนี้ ใช้เวลาทั้งชีวิตต่อสู้เพื่อเป้าหมายเดียว เพื่อสร้างสิ่งสิ่งเดียว จาก ส.ส. หนุ่ม สู่รัฐบุรุษอาวุโส
แต่ผู้สืบทอดของวิลเบอร์ฟอร์สยังคงอยู่ พวกเขารณรงค์ต่อในสหรัฐอเมริกา ตั้งกลุ่มลับพาทาสหนีไปแคนาดา จนกระทั่งปี 1865 สหรัฐอเมริกาก็เลิกทาสสำเร็จ
.
.
.
เราเรียนรู้อะไรจากเรื่องราวเหล่านี้?
เราเป็นดั่งเอลียาห์ในถิ่นกันดาร มองไม่เห็นเป้าหมาย มองไม่เห็นความหวัง ก่นด่าในความไร้น้ำยาของตัวเอง และสาปแช่งตนเอง และฟ้องผิดชนชาติของตัวเอง
อ่อนล้า ไร้กำลัง และอยากตายหายๆไป
เป้าหมายของเราอยู่ที่ไหนหนอ ความหวังของเราอยู่ที่ใดหนอ
องค์เจ้านายของข้าพระองค์ ขอทรงตรัสบอกว่าทรงอยู่ที่นี่ บอกว่านี่เป็นงานของพระองค์
เพราะการเดินทางนี้ ช่างยาวนาน และเหนือกำลังของเรา
เพราะหากนี่เป็นงานของพระองค์ เรารู้ว่าเพื่อนร่วมงานของเรา เจ้านายของเรา จะยังอยู่ และทำงานต่อไปเสมอ แม้ว่าเราจะเกษียณไปสักวันหนึ่ง งานนั้นจะยังเดินหน้าต่อไป และมันจะสำเร็จ
ดังนั้นเราจึงไม่ต้องกังวล เราจึงไม่กลัว เราจึงหวังใจ เราจึงเชื่อ และเดินไปข้างหน้าได้
ขอพระองค์ทรงเป็นแสงดาวที่นำทางเราในถิ่นกันดาร เหมือนที่พระองค์ทรงนำวิลเบอร์ฟอร์ส ได้ตลอด 50 ปี ตลอดชีวิตของเขา
ขอพระสิริของพระองค์ทรงฉายในงานของเรา ขอพระคุณของพระองค์สถิตอยู่ในสิทธิ์ของเรา ในเสรีภาพของเรา ในรัฐสภาของเรา ในกฎหมายของเรา
โปรดนำเราไปพระผู้เป็นเจ้า โปรดประคองเราไป เพราะการเดิินทางนี้เหนือกำลังของเรา
#มิตรสหายท่านหนึ่ง