"การไม่ย่อท้อที่ไร้วิชั่น มันก็เป็นได้แค่ความดื้อรั้นที่ไร้อนาคต"
.
คงเคยเห็นภาพคนที่ขุดหาเพชรไปสักพักแล้วล้มเลิกทั้ง ๆ ที่อีกนิดเดียวก็เจอเพชรแล้ว เป็นภาพที่พยายามสื่อว่าเป็นเพราะเรา "ยอมแพ้" ก็เลยไม่ประสบความสำเร็จนั่นเอง
.
เป็นคำสอนที่ดูดีว่าอย่ายอมแพ้ แต่เอาเข้าจริง ชีวิตจริงกลับสอนอีกอย่างนึง ตรงกันข้ามเลยหละ
.
"ยอมแพ้ให้ถูกจุดก็เป็นกลยุทธ์นึงของการประสบความสำเร็จนะ"
.
เราถูกชักจูงจากเรื่องเล่านี้มาตลอดว่าด้านหน้าต้องมีเพชร ถ้าขุดไปเรื่อย ๆ ต้องได้เพชรแน่นอน ถ้ายอมแพ้ก็จบ ถ้าไม่ยอมแพ้ต้องสำเร็จแน่ ๆ
.
ทั้งที่จริงข้างหน้าอาจไม่มีเพชรอยู่เลยก็ได้นะ ... เรื่องก็พลิกกลายเป็นว่า "ใครล้มเลิกก่อนต่างหากที่จะเป็นผู้ชนะ" เพราะเค้าจะมีโอกาสไปเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ได้ก่อนคนอื่น
.
เรื่องราวจะเป็นยังไงทั้งหมดอยู่ที่เรื่องเดียวเลย ... "ข้างหน้ามีเพชรมั้ย" ถ้ามีก็ขุดต่อสิ ยอมแพ้ทำไม แต่ถ้าไม่มีก็เลิกสิ จะดื้อรั้นต่อไปทำไม
.
เรื่องเปลี่ยนไปละ ...
.
ประเด็นคือ "คุณจะรู้ได้ยังไงว่าข้างหน้ามีเพชรมั้ย"
.
รู้ได้สิ เพียงแต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ เพราะสิ่งสำคัญมากที่ต้องใช้ในโจทย์นี้คือสิ่งที่เรียกว่า ... "วิชั่น" สำคัญมาก เพียงแต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมี
.
การมองให้ออกว่าอนาคตกำลังจะไปทางไหน เรากำลังเดินไปถูกทางมั้ย ทั้งหมดเป็น Asset ที่สำคัญมากของการเดินทางสู่ความสำเร็จ เพราะไม่ว่าการเดินทางจะเป็นอย่างไร จะง่ายดายหรือพบเจออุปสรรคแค่ไหน แต่สุดท้าย "ปลายทาง" ต่างหากที่สำคัญ
.
การไม่ยอมแพ้เป็นเรื่องดี เพียงแต่ถ้าไม่มีวิชั่น การไม่ยอมแพ้ก็เป็นแค่การดื้อรั้นที่จะพาเราไปถึงทางตันในที่สุดอยู่ดี
.
หากชีวิตเจอเรื่องราวที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าไม่อยากไปต่อ ก็ลองหยุดพักสักนิดแล้วคิดดูอย่างละเอียดว่าที่เรากำลังทำอยู่นี้ มันเป็นหนทางพาเราไปสู่ปลายทางที่เราคิดว่าดีหรือเปล่า
.
ถ้าใช่ก็ปาดเหงื่อแล้วสู้ต่อ สักวันก็จะถึงปลายทางแน่นอน
.
แต่ถ้าไม่ใช่ ... เวลามีค่านะ กลับตัวยังทัน การเดินทางใหม่ ๆ ยังมีอีกมาก
.
และหนึ่งในนั้นจะเพชรก้อนที่เรียกว่า "ความสำเร็จ" กำลังนั่งรอคุณอยู่ที่ปลายทางนั่นแหละ =)