Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 9th quotes

Last posted

Total of 1000 posts

420 Nameless Fanboi Posted ID:wUgW5wzGiZ

"ช่วง ลองวิเคราะห์ปรากฎการณ์: พอดีเห็นดราม่าเพจมิตรสหายท่านหนึ่งช่วงนี้ แล้วคิดเอาเองว่า มันมีประเด็นทางกฎหมายน่าสนใจมากๆ ในสองเรื่องด้วยกัน นี่ว่าจะเอาไปถามนศ.ในคลาสหนึ่งดูเล่นๆ แต่อยากเขียนสรุปไว้เองก่อนดังนี้ฮะ (ยาวจร้า)

ถ้าสมมติข้อเท็จจริงเป็นว่า ข้อความที่เขียนของใครสักคนหนึ่ง มีความเป็น “ข้อมูลส่วนบุคคล” อาทิเช่น เป็นความคิดเห็นดีๆ คมๆ แต่มันสามารถเผยแสดงให้เห็นถึงรสนิยมทางการเมือง หรือทางเพศของผู้เขียนได้ ในขณะที่ผู้เขียนเองก็เปิด public หรือสาธารณะเอาไว้ การที่เพจมิตรสหายท่านหนึ่งไปก๊อปมาโดยไม่ขออนุญาต เช่นนี้

1. ถือเป็นการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลได้หรือไม่ ?

ที่ยกประเด็นนี้มา เพราะในดราม่านั้น มีคนใช้เหตุผลทำนองนี้เยอะมากว่า “ถ้าไม่อยากให้คนอื่นๆ มาอ่าน มาก๊อปเอาไปอ่านต่อ ก็จงอย่างตั้งเป็นสาธารณะตั้งแต่แรก” ...ซึ่ง เราอ่านแล้วตะหงิดๆ อยู่...การจะตอบเรื่องนี้ได้ ไม่ง่ายเลยนะฮะ เพราะก่อนอื่น เราต้องตั้งคำถามก่อนว่า “การเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวหรือข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเองในพื้นที่สาธารณะ = สละความคุ้มครองในข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือไม่?”

ประเด็นนี้ Alan Westin ศาสตราจารย์ด้านกม.ผู้คร่ำหวอดอยู่กับเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเคยแสดงทัศนะไว้ทำนองว่า “ความเป็นส่วนตัวจะยังคงได้รับความคุ้มครองอยู่ หากผู้เป็นเจ้าของข้อมูลยังสามารถควบคุมข้อมูลของเขาได้” ดังนั้น “คนที่ถูกกีดกันจากการควบคุมข้อมูลของตัวเอง ย่อมเท่ากับเขาได้สูญเสียความเป็นส่วนตัวไปแล้ว” ...ถ้าคิดบนหลักการนี้ จึงเท่ากับว่า ต่อให้เราโพสต์ข้อมูลส่วนตัวในหน้า fb เรา ทั้งยังเปิดสาธารณะ คนอื่นๆ เห็นได้ แต่ตราบใดถ้าเรายัง “ควบคุม” มันได้ เช่น แก้ได้ ลบทิ้งได้ ..ความเป็นส่วนตัวเรายังไม่โดนละเมิด แต่ถ้าเมื่อไหร่ มีคนก๊อปข้อความเราไป เผยแพร่ต่อ ในแพล็ตฟอร์มที่เราตามไปลบ หรือแก้ไขไม่ได้ ...เรากำลังสูญเสียความเป็นส่วนตัวในข้อมูลนั้นไป ...กล่าวรวบให้ง่ายอีกทีก็คือ การโพสต์อะไร แม้ในที่สาธารณะ ยิ่งถ้ามีความเป็นข้อมูลส่วนบุคคลซ่อนอยู่ด้วยแล้ว มันไม่ได้หมายความว่า “ผู้โพสต์จะไม่ได้รับ หรือสละความคุ้มครองในข้อมูลนั้นแล้ว” นั่นเอง เขายังคงต้องได้รับความคุ้มครองอยู่ ดังนั้นปกติ จะเอาไปต้องขออนญาตก่อน จะมาอ้างแบบที่อยู่ในดราม่านั้นว่า เปิดสาธารณะแล้ว เท่ากับ ใครจะเอามันไปทำอะไรต่อก็ได้ ไม่ได้

ที่ว่าไปนั้นคือ “หลักการ” คราวนี้ เพจมิตรสหาย ฯ ต่อเรื่องนี้มันมีความพิเศษของมันอยู่ เพราะ ข้อมูลส่วนบุคคล โดยสภาพมันจะถือว่าถูกละเมิดได้ หรือมันจะมีฟังชั่นของมันได้ หรือส่งผลใดๆ ต่อเจ้าของข้อมูลได้ ปกติคนอื่นๆ ต้องรับรู้ว่า มันคือ “ข้อมูลของใคร” ดังนั้น คำคมๆ ที่แสดงรสนิยมทางการเมืองโดยที่คนอ่านก็ไม่อาจรู้ว่า ใครกันวะ ที่มีรสนิยมทางการเมืองแบบนั้น จึงสูญเสียความเป็น “ข้อมูลส่วนบุคคล” ไปแล้วโดยปริยาย ดังนั้น ต่อให้ไปก๊อปมาโดยไม่ขอ แต่เอาชื่อเขาออกเสีย ใส่ว่า “มิตรสหายท่านหนึ่ง” ลงไปแทน จึงไม่น่าจะละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของใครได้เลย.. โดยมิพักต้องสนใจเลยด้วยซ้ำว่า เจ้าของที่แท้จริงสละความคุ้มครอง หรือหมดสิทธิควบคุมข้อมูลนั้นไปแล้วหรือเปล่า ...ประเด็นนี้ เห็นด้วยไหมฮะ?

ปล. เรื่องนี้ย่อมไม่เหมือนกรณี นักข่าวถือวิสาสะเอาความคิดเห็นของใครไปเป็นข่าว และไม่ปกปิดชื่อแส้ของเขาด้วย

(มีต่อ)

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.