พระราชดำรัสของ สุลฎอน ฮัจยีอัซซานัล โบเกียฮ์ สุลฎอนแห่งบรูไนดารุสลาม ทรงตอบโต้ชาติตะวันตก เกี่ยวกับการใช้กฎหมายชารีอะห์ (กฎหมายอิสลาม) ของประเทศบรูไน ดารุสลาม
"ในประเทศของท่าน กล่าวกันว่ามีสิทธิเสรีภาพด้านแสดงความคิดเห็น เสรีภาพด้านสื่อ การนับถือศาสนาและอื่นๆ และนั่นคือสิ่งที่ปรากฏในกฎหมายรัฐธรรมนูญในประเทศของท่าน ถือเป็นระบบการเมืองการปกครอง อัตลักษณ์ประจำชาติและวิถีชีวิตของท่าน ในประเทศของข้าพเจ้า เราปฏิบัติใช้วัฒนธรรมมลายู อิสลาม และระบบกษัตริย์ เราจะใช้ชารีอะห์(กฎหมายอิสลาม) อิสลามได้ปรากฎในรัฐธรรมนูญของเรา คืออัตลักษณ์ประจำชาติของเรา คือสิทธิและวิถีชีวิตของเราเช่นกัน เราอาจพบจุดอ่อนในกฎหมายและระบบการปกครองของท่าน และท่านอาจพบจุดอ่อนของเราเช่นกัน แต่บรูไนคือประเทศของเรา ในประเทศของท่าน ได้มีกฎหมายคุ้มครองชาวเกย์และกฎหมายอื่นๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับโลกของท่านที่ท่านอาศัยอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น เราก็มีสิทธิเช่นเดียวกับท่านที่จะปฏิบัติเพื่อแสดงความเป็นมุสลิมในโลกดุนยาและโลกอาคิเราะห์ที่เราเชื่อศรัทธา นี่คือประเทศมุสลิม ที่ต้องการปฏิบัติใช้กฎหมายอิสลาม ทำไมท่านไม่เคยวิตกกังวลลูกหลานของท่านที่ถูกกราดยิงตามโรงเรียนต่างๆไม่เว้นแต่ละวัน ทำไมท่านไม่เคยวิตกกังวลว่าคุกในประเทศของท่านอาจมีขนาดไม่เพียงพอกับจำนวนนักโทษ ทำไมท่านไม่เคยวิตกกังวลกับสถิติอาชญากรรมที่พุ่งพรวดทุกวัน ท่านไม่เคยวิตกกังวลสถิติของผู้ฆ่าตัวตายและอัตราการทำแท้งของสตรีบ้างใช่ไหม ท่านควรห่วงใยวิกฤติที่กำลังคุกคามประเทศของท่านมากกว่า เกือบทุกศาสนาปฏิเสธลัทธิ "รักร่วมเพศ" และปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่เลย พลันที่ท่านระแคะระคายว่าอิสลามและมุสลิมได้แสดงจุดยืนและใช้ความพยายามเพื่อปกปักษ์รักษาอิหม่านของพวกเขา ท่านรีบพิพากษา บอยคอตและตัดสินว่าเป็นความผิดพลาด เขลาเบาปัญญา และไร้จริยธรรม ข้าพเจ้าขอให้ท่านทบทวนในการแสดงความวิตกกังวลสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาแล้วก่อนหน้านี้ การอนุญาตให้พลเมืองพกพาอาวุธร้ายแรงตามอำเภอใจ ไม่เป็นความผิดใช่ไหม การให้โอกาสแก่ทารกในครรภ์ลืมตาดูโลกอย่างปลอดภัย เป็นความผิดใช่ไหม การใช้ชีวิตตามลัทธิเซ็กส์เสรีที่สุ่มเสี่ยงกับโรคเอดส์ที่ทำลายล้างความต่อเนื่องของอนุชนรุ่นหลัง เป็นความผิดพลาดใช่หรือไม่"
"ทำไมท่านจึงสนใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา ซึ่งเป็นประเทศมุสลิม ในขณะที่ท่านหลับหูหลับตาทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน กรณีของประเทศซีเรีย บอสเนีย ปาเลสไตน์ โรฮิงญาและที่อื่นๆ ผู้คนนับพันนับหมื่นได้ล้มตายจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในประเทศเหล่านี้ แต่พวกท่านไม่เคยสนใจใยดีใดๆเลย ทั้งๆที่ในประเทศบรูไน ยังไม่มีใครเสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติจากการใช้กฎหมายชารีอะห์แม้เพียงคนเดียว แต่ท่านได้กระพือข่าวใหญ่โต ประชาชนชาวบรูไนที่อาจได้รับผลกระทบโดยตรงจากกฎหมายนี้ ต่างก็ยอมรับโดยดีด้วยซ้ำ ใช่ ! กฎหมายชารีอะห์ อาจดูรุนแรงน่ากลัว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะถูกปฏิบัติใช้อย่างง่ายๆ ตามอำเภอใจ มันจะต้องผ่านกระบวนการและขั้นตอนอย่างรอบคอบและรัดกุมอยู่แล้ว เราจึงยอมรับกฎหมายนี้โดยดี เราสบายใจ และบรูไนรวมเป็นหนึ่ง"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง