ย้อนกลับไปในเดือนที่แล้ว ทีม HR ของวงใน wongnai.com เว็บรีวิวอาหารชื่อดัง ติดต่อวิเคราะห์บอลจริงจังมาครับ
เขาบอกว่า ทุกๆเดือน ในวันศุกร์ที่ 2 และ 4 บริษัทจะมีกิจกรรมชื่อ WeShare คือการเชิญเอา คนมีชื่อเสียงจากวงการต่างๆ มาถ่ายทอดประสบการณ์ให้เด็กๆในองค์กรได้ฟัง
สำหรับผม แน่นอนว่าเป็นเกียรตินะครับ ที่เขาไว้ใจ และเชิญเรา แต่ผมไปนั่งไล่ดูประวัติเก่าๆ ว่า วงใน เชิญใครไปแล้วบ้าง ปรากฏว่า มีแต่บุคคลแบบโคตรดังทั้งนั้น เช่น วู้ดดี้ เกิดมาคุย , ต่อ ฟีโนมีน่า นักทำโฆษณาระดับโลก , เก้ง จิระ มะลิกุล ผู้กำกับตัวท็อป ฯลฯ
ผมเลยถามทีมงาน HR กลับไปว่า อย่างผม จะสร้างประโยชน์ให้กับทีม สตาฟฟ์ของวงในได้จริงๆหรอ ผมเป็นคนธรรมดามากๆเลยนะ เพจยังไม่ถึง 2 แสนไลค์เลยนะครับ
แต่เมื่อ HR ของเขายืนยันหนักแน่น ผมก็โอเค ตอบรับไปครับ
ปัญหาคือ ผมจะพูดอะไรนี่สิ ในเมื่อผมไม่ใช่เซเล็บที่จะมีเรื่องราวโลดโผนน่าสนใจอะไรขนาดนั้น
อย่างพี่เก้ง จิระ นี่เล่าจุดเริ่มต้นว่าทำไมคิดไอเดียสร้างหนัง แอม ไฟน์ แต้งกิ้ว ด้วยการไปดักฟังคนแอบคุยกันในร้านกาแฟ คือมีสตอรี่ มีความโลดโผน ซึ่งคือชีวิตผมไม่มีอะไรอย่างนั้นเลยอ๊ะ เรียบง่ายมากๆ
ผมเลยทำการบ้านอย่างหนักเลยครับ ไปค้นข้อมูลของวงในมาก่อน ว่าเป็นองค์กรอย่างไร และพูดเรื่องไหน จะมีประโยชน์กับเขามากที่สุด
จากนั้น ก็ลำดับ Sequence เรื่อง เหมือนเขียนวิเคราะห์บอลเลย ว่าจะพูดอะไร 1 2 3 แถมมีการซ้อมพูดในรถด้วยนะ ก่อนมาพูดจริง คือมีความตื่นเต้นอยู่บ้าง ขนาดไปแข่งวินนิ่งชิงแชมป์โลกที่ลอนดอน ยังไม่เตรียมพร้อมขนาดนี้เลยนะเนี่ยะ
ในห้องประชุม มีคนฟังประมาณ 60-70 คนครับ ผมก็ถ่ายทอดในสิ่งที่ผมรู้ทั้งหมด ทริกการเขียน และทริกการทำให้คอนเทนต์มียอดไลค์ที่ดี
ซึ่งหวังเพียงว่า จะเป็นประโยชน์กับเขาบ้างเล็กน้อยก็ยังดี
ตอนจบของการบรรยาย ผมทิ้งท้ายไป 2 เรื่องครับ
1) ผมบอกน้องๆของวงในว่า ช่วงอายุไม่ถึง 30 เนี่ยะ อย่าเพิ่งคิดมาก หากยังไม่เห็นแววว่าจะประสบความสำเร็จ
ผมเอาตัวเองเป็นเกณฑ์นะ ว่าตั้งแต่เรียนจบ จนถึง 30 เนี่ยะ ผมล่องลอยมาก
ออกสตาร์ตงานแรกได้เงินเดือน 8 พัน พออายุเกือบ 30 ได้เงินเดือนหมื่นกว่าบาท นึกไม่ออกเลยว่า จะเก็บเงินแต่งงาน หรือสร้างหลักฐานในชีวิตได้ยังไง
แต่พอ 30 ไปแล้ว เมื่อเราพร้อมทั้งวัยวุฒิ และประสบการณ์ โอกาสจะเข้ามาหาเราเร็วมาก ซึ่งถ้าเราเตรียมตัวไว้พร้อมแล้ว เราจะคว้าโอกาสไว้ในมือได้แน่ๆ
ดังนั้นช่วงการทำงาน 7-8 ปีแรก ถ้ายังมองไม่ออกว่าชีวิตจะยังไงต่อ ก็อย่าเพิ่งซีเรียสไป ชีวิตมันมีจังหวะของมันเสมอ
และ 2) การทำงานกับองค์กร เราสามารถสร้างสรรค์งานของตัวเองควบคู่ไปได้
ตลอดชีวิตแอดมิน ทำงานกับองค์กรมาตลอดครับ จากคิกออฟ สู่นิตยสาร Mars สู่สยามกีฬา และมา Workpoint ในปัจจุบัน
แน่นอน ผมก็ทำเพจไปด้วย ควบคู่ไปกับการ ทำงานประจำนี่แหละ
การทำงานกับองค์กร คือเป็นโอกาสดี ที่เราจะได้ร่วมงานกับคนเก่งครับ การได้ร่วมงานกับคนอื่น ส่งผลให้เรามีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เวลาเอามาประยุกต์กับงานตัวเอง
ดังนั้น ต่อให้วันนี้มีสังกัดอยู่ในองค์กร ก็ไม่ใช่ว่า เราจะสร้างอะไรของเราเองขึ้นมาไม่ได้ เพราะมันทำไปพร้อมๆกันได้เสมอ แค่จัดสรรเวลาให้ดี
สำหรับผมก่อนหน้านี้ เรารู้จัก วงในมาแล้วล่ะ เวลาจะดูรีวิวร้านอาหาร ก็ต้องใช้ App หรือ Web Wongnai ตลอด
แต่พอได้มาที่ออฟฟิศเขา รู้สึกได้ว่า เป็นศูนย์รวมของคนหนุ่มสาว ที่เต็มไปด้วยพลังจริงๆ
คุณยอด ซีอีโอของบริษัท (ใส่เสื้อลิเวอร์พูลในรูป) อายุ 36 ปีเองนะครับ สุดยอดเลย อายุมากกว่าแอดมิน 1 ปีเอง
คุณนิค มาร์เก็ตติ้งของบริษัท อายุ 34 ปี! (ถ้าเทียบกับมาร์เก็ตติ้งของหลายๆบริษัทอื่นนี่ต้อง 40 อัพ เน้นความเก๋า เน้นประสบการณ์ไว้ก่อน ก็ถือว่าเด็กนะ)
สตาฟฟ์ที่มาฟังบรรยาย ประเมินจากสายตาอายุส่วนใหญ่ไม่เกิน 27-28 กันหรอก
และ แต่ละคนเต็มไปด้วยแววตา ความมุ่งมั่นตั้งใจ ทุกคนฟัง คือฟังจริงๆ ไม่ว่อกแว่ก ไม่เล่นมือถือ
ยอดเยี่ยมมากๆเลยครับ แบบนี้คนพูดก็แฮปปี้นะ
สำหรับ Wongnai ตอนนี้ มีอายุครบ 9 ปี นอกจาก App และ เว็บหลักแล้ว อาณาจักรยังค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ใน Facebook มี Wongnai Beauty, Wongnai Travel, Wongnai Cooking และมี Wongnai Delivery สำหรับสั่งอาหาร
มีบริษัทลูกที่สร้างคอนเทนต์คุณภาพเชิงไอที อย่าง Blognone และ เชิงธุรกิจอย่าง Brand Inside
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ก้าวต่อไปของ Wongnai จะกระโดดไปไกลขนาดไหน
แต่แน่นอน ด้วยพลังของคนหนุ่มสาวในองค์กร ตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงสตาฟฟ์ แอดมินเชื่อว่า พวกเขาจะสำเร็จยิ่งขึ้นกว่านี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย