1) เทียบกับตำนานระดับ ลีชางโฮ โจฮุนยุนที่เคยสอบผ่านตอน 10 ขวบ?
อันนี้ผมตอบได้อย่างเต็มปากเลยว่าน้องซุมิเระฝีมือยังสู้สองท่านนี้ตอนสอบผ่านไม่ได้เพราะทั้งลีชางโอและโจฮุนยุนนั้นสอบผ่านโดยวิธีปกติซึ่งดีกรีความโหดนั้นคนละเรื่อง จึงเอาฝีมือมาเทียบกับน้องซุมิเระไม่ได้
2) น้องซุมิเระได้เป็นอินเซย์ที่เกาหลี
อินเซย์ที่เกาหลีนั้นแยกหญิง ชาย ครับการจะเป็นอินเซย์ผู้ชายนั้นยากจริงเพราะตอนสอบเข้าก็คล้ายๆกับการสอบมืออาชีพเลยคือต้องแข่งกันเอง แต่สำหรับอินเซย์ผู้หญิงนั้นง่ายมากครับแค่มีมืออาชีพแนะนำและเขียนใบสมัครก็เป็นอินเซย์ได้เลยเพราะจำนวนผู้หญิงที่เล่นหมากล้อมนั้นน้อยมากครับ ในโรงเรียนหมากล้อมที่ผมเคยไปเรียนใน 100 คนจะมีผู้หญิงแค่ราวๆ 5-10 คนเท่านั้น ผมไม่รู้ว่าน้องซุมิเระนั้นตอนเป็นอินเซย์อยู่กลุ่มที่เท่าไหร่ถ้าอยู่กลุ่ม 1 เลยก็คงต้องบอกว่าฝีมือไม่เบาทีเดียว จากที่ผมเคยเล่นกับกลุ่ม 1 ผู้หญิงมาก็น่าจะฝีมือราวๆ 6 ดั้งครับ
3) ผลงานในการแข่งจริง
เนื่องจากเกมที่น้องเล่นนั้นมีบันทึกอยู่น้อยครับ แต่จากที่ดูน้องแข่งตอนยังอยู่ที่เกาหลีก็อยู่ในระดับปกติไม่ได้โดดเด่นมากแข่งกับคนที่อายุเท่ากันก็มีแพ้ชนะเป็นปกติ
จากข้อสังเกตสามข้อที่ผมพูดมาผมคิดว่าน้องซุมิเระนั้นฝีมือน่าจะอยู่ราวๆ 6 ดั้ง แต่ถ้าจะให้น้องไปสอบตามระบบมืออาชีพปกตินั้นผมคิดว่าน้องไม่น่าจะผ่านแน่นอนครับอาจจะต้องใช้เวลาสักพักอย่างเร็วก็คงจะไปผ่านตอนอายุ 11 ขวบตามสถิติทั่วไป
==========================================
ทีนี้ปัญหาก็อยู่ที่ว่าผู้ตัดสินทั้งสามคนของญี่ปุ่นเล็งเห้นอะไรในตัวเด็กคนนี้ถึงยินยอมให้ได้เป็นมืออาชีพตั้งแต่อายุแค่ 9 ขวบ
1) น้องซุมิเระเป็นผู้หญิง
ผมคิดว่านี่เป็นจุดที่มีน้ำหนักที่สุด เพราะอย่างที่ผมเคยพูดไปคือการแข่งขันในวงการหมากล้อมหญิงนั้นเล็กกว่าของผู้ชายเยอะจะเห็นได้ว่ากว่าจะมี 9 ดั้งหญิงหน้าใหม่โผล่มานั้นใช้เวลาหลายปี จะพูดได้ว่าถ้าเป็นมืออาชีพหญิงโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลกได้นั้นย่อมมีมากกว่าผู้ชายแน่นอน
2) สไตล์การเล่นของน้องซุมิเระนั้นมีจุดเด่นที่การอ่านหมากและ Fighting spirit
น้องซุมิเระนั้นชื่นชอบการทำโจทย์เป็นตายมาก เวลาถูกสัมภาษณ์ว่าชอบเรียนหมากล้อมแบบไหนก็จะตอบว่าชอบการทำโจทย์เป็นอย่างแรก ในบันทึกหมากของน้องทุกเกมรวมถึงเกมที่เล่นกับอิยาม่า ยูตะ เราจึงจะได้เห็นใจสู้ของน้องคนนี้ที่ต่อสู้อย่างทรงพลังไม่มีความเกรงกลัวแม้ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นถึง 9 ดั้ง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ผู้เล่นระดับแชมป์โลกทุกคนมี
3) อิยาม่ายูตะ และโจ้อุ ยืนยันว่าน้องซูมิเระนั้นฝีมือเก่งกว่าอิยาม่า ยูตะตอนอายุเท่ากัน
ถึงแม้ตัวยูตะนั้นจะไม่ได้สอบมืออาชีพผ่านตอนอายุ 9 ขวบเช่นกันแต่ก็น่าจะทำให้ทั้งสองคนมีความหวังว่าในอนาคตน้องซุมิเระอาจจะเก่งขึ้นมาถึงระดับโลกเหมือนยูตะได้
4) วงการหมากล้อมญี่ปุ่นตอนนี้ขาดแรงผลักดัน
หลังจากที่จีนนั้นขึ้นมาเป็นมหาอำนาจหมากล้อมแทนญี่ปุ่น วงการหมากล้อมของญี่ปุ่นนั้นก็เรียกได้ว่าซบเซาลงมาเรื่อยๆเพราะนักหมากล้มอจากญี่ปุ่นแทบไม่เคยได้ชนะรายการระดับโลกอีกเลย ทำให้ความสนใจของผู้ปกครองที่จะให้ลูกเป็นนักหมากล้อมมืออาชีพในญี่ปุ่นนั้นน้อยลงทุกวันถึงแม้จะมีการ์ตูนฮิคารุเซียนโกะ อิยาม่า ยูตะมากระตุ้นให้บูมขึ้นมาได้บ้างแต่ก็นับว่ายังไม่เพียงพอ การที่น้องซุมิเระได้เป้นมืออาชีพตั้งแต่อายุยังน้อยนั้น อาจจะทำให้กำเนิดไอดอลคนใหม่และเปลี่ยนทัศนคติต่อการเป็นมืออาขีพหมากล้อมของผู้ปกครองญี่ปุ่น
===========================================
สุดท้ายแล้วผมคิดว่าการกระทำของสมาคมหมากล้อมญี่ปุ่นในครั้งนี้นั้นถูกต้องแล้วครับในอดีตนั้นญี่ปุ่นเป็นที่พักพิงของนักหมากล้อมชื่อก้องโลกมากมายไม่ว่าจะเป็นปรมาจารย์อู่ชิงหยวน โจฮุนยุน รินไคโฮ แม้กระทั่งในปัจจุบันก้ยังมีทั้งโจ้อุ และนักหมากล้อมหญิงเซี่ยยี่หมินซึ่งที่กล่าวมานี่ไม่ใช่คนญี่ปุ่นโดยกำเนิดเลยครับแต่แค่มามีชื่อเสียงจากการเล่นหมากล้อมในญี่ปุ่น ถึงเวลาแล้วครับที่ญี่ปุ่นจะมีนักหมากล้อมที่เรียกได้เต็มปากว่าเป็นคนญี่ปุ่นจริงๆ ทั้งอิยาม่า ยูตะ และน้องซุมิเระถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของหมากล้อมญี่ปุ่นยุดใหม่ครับ
น้องซุมิเระจะสอบผ่านมืออาชีพตอนกี่ขวบนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญครับสิ่งสำคัญคือความสามารถของน้องเค้าถึงแม้ว่าตอนนี้อาจจะยังเก่งสู้คนที่ผ่านมาจากระบบการสอบปกติไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่คณะกรรมการตัดสินเห็นในตัวน้องจะช่วยให้น้องเป็นกำลังสำคัญของญี่ปุ่นในอนาคตแน่นอนครับ