Fanboi Channel

รวมพลนักเขียน แชร์เทคนิคประสบการณ์และข่าวสาร [กระทู้ที่ 4]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:3q.4G0Yz2r

กระทู้เพื่อพูดคุยเทคนิคการเขียน และเรื่องการประกวดต่างๆเกี่ยวกับนิยาย

กระทู้ 1 >>>/literature/2342/
กระทู้ 2 >>>/literature/3442/
กระทู้ 3 >>>/literature/4775/

2 Nameless Fanboi Posted ID:MdiEwgv6q+

ถ้าแต่งเซ็​ตติ้ง​โลกแนวๆสตรีมพังค์+เวทมนตร์​ ควรใช้สรรพนามยังไง​ดีอะ
ลังเลว่าจะ ข้า-เจ้า หรือ ฉัน-เธอ ดี -​_-

3 Nameless Fanboi Posted ID:xDEYSm6.29

>>2 ข้าสิวะ ลองเอาไพเรทแคริเบียนมาเป็นแบบดิ แต่เติมความเป็นสตรีมพังค์ลงไป กูว่าโคตรเข้า

4 Nameless Fanboi Posted ID:BRPKI8SN6h

ถามเรื่องโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับการพิมพ์ได้ไหม

กูเคยใช้ hp หลายปี พอเปลี่ยนเป็น Lenovo แล้วถึงกับพิมพ์ไม่เป็นเลย กูว่าตำแหน่งแป้น Lenovo มันประหลาด พิมพ์สัมผัสได้ไม่สะดวก ไม่เหมาะกับงานพิมพ์ ถึงตอนนี้จะเริ่มใช้คล่องขึ้น แต่กูอยากถามความเห็นพวกมึงเก็บไว้เผื่ออนาคตจะเปลี่ยนเครื่องอีก ยี่ห้อไหนดี ขนาดเท่าไร ถึงจะสะดวกและเหมาะกับงาน

5 Nameless Fanboi Posted ID:r/Wtynas+s

>>4 Toshiba แต่ส่วนใหญ่จะหนักกว่าชาวบ้านเขา รุ่นใหม่ๆ ไม่รู้เป็นไงบ้าง

6 Nameless Fanboi Posted ID:it7t/HjDES

>>4 ซื้อคีย์บอร์ดไม่ง่ายกว่าเหรอ

7 Nameless Fanboi Posted ID:Filiy73Dt7

>>5 ยี่ห้อนี้มันเจ๊งไปแล้วไม่ใช่เหรอ......ปีที่แล้วกูไปหาซื้อไม่มีเลย พนง.ขายบอกเจ๊งไปแล้วพี่
เสียดาย เครื่องเก่ากูก็ Toshiba โคตรทนเลย ตอนนี้ใช้ Dell อยู่ ตำแหน่งคีย์บอร์ด เหมือน แป้น PC เลย

8 Nameless Fanboi Posted ID:I4QaACKhNa

>>4 กูมีโน้ตบุ๊ค dell อยู่ แต่จอใหญ่หนักชิบหาย พกไปข้างนอกทีไหล่จะหลุด กูเลยไปสอย 2in1 ของ hp มาเอาไว้พิมพ์นิยายอย่างเดียว พกไปอ้อยอิ่งตามร้านกาแฟก็สะดวกดี คุณภาพก็พอใช้ได้อยู่

9 Nameless Fanboi Posted ID:ktKvYYa51f

>>7 จริงดิ ไม่ได้ไปเดินดูมานานแล้ว พอดีเครื่องที่ใช้อยู่ยังไม่พังแต่ก็ใกล้แล้ว เสียดายอ่ะ ชอบที่สุดตั้งแต่มีมา เปลี่ยนกี่ึครั้งก็ใช้แต่โตชิบา แต่ก่อนหน้าเคยใช้เอเซอร์ด้วยนะ ไม่โอเคเลยยี่ห้อนั้น

10 Nameless Fanboi Posted ID:WvJpu.s+5p

>>5 แต๊งกิ้ว
>>6 เออ จริงด้วย แต่บางทีก็อยากพกไปไหนมาไหนไง มันไม่สะดวก
>>7 จด dell ไว้ แต๊งจ้ะ
>>8 2in1 น่าสน จดไว้ โน้ตเพิ่มว่า dell หนัก ใจจ้า
>>9 โน้ตว่า acer ไม่โอเค ใจจ้ะ

11 Nameless Fanboi Posted ID:Kl9tkq2SEa

>>9 งั้นกูคงซวยสุดๆ ใช้โตชิบ้า เปลี่ยน HDD ไปสองรอบ ประกันสองปีใช้คุ้มเลยกู เปลี่ยน HDD แม่งทุกปี

12 Nameless Fanboi Posted ID:0Xmx+kAURv

ขอถามโม่งที่เขียนนิยายกันหน่อยว่า แต่ละคนเขียนนิยายกันตอนเรื่องนึงใช้เวลาประมาณเท่าไรวะ
กูเขียนเรื่องนึง (ประมาณ 250 หน้า) ราว ๆ 3-4 เดือนได้ยังรู้สึกว่าช้าอยู่เลย ไม่รู้ว่าเหล่ามืออาชีพเขาเขียนกันได้เร็วขนาดไหน อยากจะพัฒนาตามได้มั่งจัง

13 Nameless Fanboi Posted ID:3tG0HJMrE5

>>12 มึงเขียนเร็วนะจ้ะเพื่อนโม่ง

14 Nameless Fanboi Posted ID:W1jFF49kI8

>>12 มึงเขียนเร็วจริงๆ ค่ะเพื่อนโม่ง ของกูเรื่องนึง จน.หน้าประมาณเดียวกับมึงกูใช้เวลา 10 เดือนอ่ะ กูได้พิมพ์แค่วันหยุด

15 Nameless Fanboi Posted ID:H8198gwSfc

>>12 มืออาชีพก็มีเขียนช้าเขียนเร็วนั่นแหละ แต่ละเรื่องยังเขียนช้าเร็วไม่เท่ากันด้วย อย่างลุงจอร์จ คนเขียน got เขียนมายี่สิบปีละยังไม่จบ (แต่แกก็เขียนเรื่องอื่นไปด้วย) ส่วนของลุงสตีเฟ่นคิง เห็นบอกเขียนเล่มละสองเดือน อันนี้เอามาจากตอนที่สองคนนี้คุยกัน

มึงเขียนเร็วแล้ว แต่ที่มืออาชีพต่างกับมือสมัครเล่นคือผลงาน มืออาชีพอยู่ด้วยงานเขียนก็ต้องเขียนงานแล้วมีแดก ส่วนมือสมัครเล่นก็เขียนเป็นงานอดิเรก มึงจะเขียนช้าก็ได้ถ้าเล่มหนึ่งมึงขายได้มาก แต่ถ้าเล่มหนึ่งมึงขายแทบไม่ออกเลยมึงเขียนเดือนละเล่มก็สู้คนที่ขายดีเขียนเล่มเดียวปีเดียวไม่ได้หรอก

16 Nameless Fanboi Posted ID:idwiXGyoSx

>>12 ถ้าเทียบอัตราเขียนคือวันละ 2-3 หน้าสำหรับคนมีงานประจำกูว่าปกติค่อนไปทางเร็วด้วย (คนเขียนนิยายไทยส่วนใหญ่ไม่ได้เขียนเป็นงานประจำ) ถ้าเขียนแนวเข้มข้นคุณภาพได้สองสามหน้าในทุกๆ วันนี่ยิ่งกว่าเร็ว บางคนบอกว่านั่งเขียนตั้งหลายวันได้มาหน้าเดียว เพราะเขียนๆ ลบๆ ไม่ถูกใจสักที
เมื่อก่อนกูเคยเขียนนิยายวัยรุ่นได้ 3-5 หน้าในหนึ่งวัน ส่วนผลตอบรับนั้น... กูสนุกตอนเขียนคนเดียว 55555555

17 Nameless Fanboi Posted ID:0Xmx+kAURv

โอ้เข้าใจผิดมาตลอดเลยนะเนี่ยว่าตัวเองเขียนช้า เพราะเห็นคนอ่านชอบบ่นว่าลงช้าเป็นประจำ (ประมาณอาทิตย์ละ 2-3 ตอนโดยเฉลี่ย)

ที่มาถามนี่เพราะกูมีเพื่อนใน FB อะ อีกฝ่ายเป็นนักเขียนมืออาชีพพิมพ์ขายเอง ปีเดียวเขาออกได้หลายเล่มด้วย พอเอามาเทียบแล้วเลยรู้สึกว่าตัวเองยังด้อยกว่าเขาเยอะ

18 Nameless Fanboi Posted ID:+44ekkdZ2M

เขียนช้ารึเร็วนี่นับเอาแต่ละตอนหรือนับตอนจนกว่าปิดเรื่องวะ อย่างกูเขียนเล่น ๆ ถ้าวันไหนว่าง เอาเฉลี่ยรวม ๆ ก็ได้วันละตอน (ประมาณ 10 หน้า) ส่วนวันไหนไม่ว่างก็ไม่ได้แตะเลยเงี้ย (ซึ่งปกติก็ไม่ว่าง ถถถ) กูเลยใช้เวลาหลายเดือนมากกว่าจะเข็นจบ อันนี้คือก็คงถือว่าออกช้าละมั้ง 5555

19 Nameless Fanboi Posted ID:IGr4qF277i

>>18 นับตั้งแต่ต้นจนจบดิ ไม่มีใครมาดูหรอกว่าคนเขียนใช้เวลากี่ชม.ถึงแต่งได้ตอนนึง เค้าดูกันว่าเล่มนึงเขียนกี่เดือน

20 Nameless Fanboi Posted ID:fnXEt6rBAf

เล่มนึงกูปีนึงมั้ง (ไม่ถึงขนาดนั้น) แต่ถ้าเรื่องยาวหน่อยก็ประมาณนี้ อย่างล่าสุดประมาณ 500 หน้าก็ปีนึง แต่ระหว่างนั้นก็มีเขียนเรื่องสั้นๆประปราย แต่กูคิดว่าความเร็วกูประมาณนี้ แล้วคนอ่านก็ชินแล้วกูลงอาทิตย์ละตอน ก็ไม่ค่อยมีคนบ่นว่ากูลงช้านะ เค้าคงรู้กันแล้วว่าสปีดกูได้แค่นี้ง่ะ

21 Nameless Fanboi Posted ID:GWBwQuRp1Y

ในบรรดาโม่งนักเขียนทั้งหลาย มีใครชอบจองชื่อนิยายบ้างไหม กูมาระบายว่ารกหูรกตามาก เวลาเห็นคนอัพสเตตัสจองชื่อในเฟซ คนทั้งโลกต้องรับรู้เหรอวะ เจอหลายคนละ

22 Nameless Fanboi Posted ID:nHAPSbS5wG

>>21 เพราะเดี๋ยวชื่อไปซ้ำกับคนอื่นแล้วมีคนมาดราม่าใส่ไง ขนาดดราม่านามปากกางานเขียนคนละไทป์ยังมีมาแล้ว

23 Nameless Fanboi Posted ID:Fy4P9bBZ.C

กูว่าจองไว้ก็ดีแล้วนะ จริง ๆ น่าจะมีเว็บคีย์ชื่อนิยาย / นามปากกา เป็นฐานข้อมูลไว้เลยยิ่งดี เห็นซ้ำกันแล้วหงิด ๆ ไงไม่รู้ว่ะ

24 Nameless Fanboi Posted ID:DC.m887HGk

>>23 กูมองเป็นความเห็นแก่ตัว และคนดราม่าก็คนจองเอง กูลองเขียนนิยายใส่ชื่อเรื่องในเด็กดีเจอว่ามีคนใช้แล้ว กูก็ไม่ซ้ำแค่นั้น แต่พวกประกาศในเฟซส่วนตัว กูสาระแนไปเห็น คนที่ไม่เห็นแล้วเขาตั้งซ้ำขึ้นมามันความผิดเขาไหมวะ บางคนกูเห็นจองชื่อทุกอาทิตย์ ใจกูอยากไล่ให้ไปเขียนเรื่องที่ยังค้างให้จบก่อน แต่ทำได้แค่เลิกติดตามแล้วมาบ่นในนี้

25 Nameless Fanboi Posted ID:HSc3RIBJy2

Ky นะเพื่อนโม่ง กูสงสัยขึ้นมาว่าการที่คนจะชอบหรือมองว่าตัวละครนี้มีเสน่ห์นี่มันมีปัจจัยมาจากอะไรบ้าง กูอยากเอาไปปรับใช้ตอนสร้างตัวละครน่ะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:JA8LZ3/cS.

>>25 ตอบยากว่ะ กูว่าสเน่ห์แต่ละคนไม่เหมือนกัน แล้วยังแยกออกเป็นเสน่ห์ที่รูปลักษณ์ กับนิสัยอีก คือบางคนไม่หล่อแต่นิสัยดี บางคนมีดวงตาคมกระชากใจ มีรอยยิ้มน่ารัก ดูน่าทนุถนอม อะไรแบบนี้อ่ะ

27 Nameless Fanboi Posted ID:Yvy5yxIvp8

>>25 ของแบบนี้มันเแล้วแต่เทสแต่ละคนอะมึง วัดไม่ค่อยได้หรอก 5555

28 Nameless Fanboi Posted ID:fLk9sHQ5Mc

>>25 มันแล้วแต่คน แต่ถ้าให้กูสังเกตตัวเองก็จะประมาณนี้
1. เป็นตัวละครที่รับมือกับสถานการณ์ได้สมเหตุสมผล - ไม่จำกัดว่าจะด้วยวิธีขาวหรือดำ แค่แก้ปัญหาแบบที่กูคิดว่า "เป็นกูก็คงทำงี้" หรือไม่ก็แก้ปัญหาได้เหมาะสมกับลักษณะนิสัยของตัวละครที่คนเขียนปูมาแต่แรก เรียกได้ว่ามีจุดยืนชัดเจนน่ะ จะเป็นจุดยืนที่จะไม่มีจุดยืนก็ยังได้
2. สกิลเทพ/ชาติกำเนิดรวดร้าว/แถมคอมโบหน้าตาดีเข้าไปอีก- อันนี้คลิเช่
3. แกปโมเอะ! - อย่างตลค.แนวลาสบอสที่โหดสัส พระเอกต้องเซ่นเลือดซาตานแล้วตายอีกสิบรอบก็ยังล้มไม่ได้ แต่พออยู่กับพรรคพวกของตัวเองแล้วพูดประโยคเปิ่นๆ ออกมาประโยคเดียวที่เราไม่คาดคิดงี้ กูว่ามันน่ารักดี 555

29 Nameless Fanboi Posted ID:XGJw0lWaRE

กูว่าอยู่ที่คำพูดตัวละคร ที่ไม่งี่เง่า ถ่ายทอดลักษณะนิสัยได้ชัดเจน พอคนอ่านเริ่มเข้าใจตัวละคร เห็นภาพชัด ก็จะเริ่มโดนโปรยเสน่ห์ใส่ง่ายขึ้น55

30 Nameless Fanboi Posted ID:lZOLtyETrt

กูสงสัยมานานแล้วว่าทำไมหนังสือที่ตัวเอกเป็นหญิงถึงได้รับอนุญาตให้มีบุคลิกหลากหลายได้ แต่พอเป็นตัวเอกชายกลับเห็นแค่ไม่กี่แบบวะ เรามีหนังสือที่มีนางเอกหวานๆ อ่อนโยน มีนางเอกเปรี้ยวๆ สนใจแฟชั่น บ้าเครื่องยนต์ มีสายบู๊ถ่อยเถื่อนกักขฬะ หรือเงียบขรึมมีปม คนก็ไม่เห็นว่าอะไร แต่ทำไมพอหนังสือที่ตัวเอกเป็นชายบางทีจะชอบมีคนบ่นว่า 'ผู้ชายจริงๆ ไม่คิดงี้ทำงี้หรอก' คือผู้ชายจริงๆ ก็มีความปากร้ายเวิ่นเว้อมโนอ่อนไหวป่ะวะ อันนี้กุมาถามในฐานะนักอ่านนะ ที่เวลามองภาพรวมทั้งวงการ(กุไม่ได้อ่านหนังสือทุกเล่มบนโลก แค่เทียบจากหนังสือดังๆ ในหลายเจนเร)นิยายที่ดำเนินเรื่องโดยผู้ชายมักจะเป้นตลค.ที่นิสัยกลางๆ คือแบบเก่ง มีสกิล จบ ไอ้หล่อรวยมีอำนาจมืดอะไรพวกนี้ก็เป้นตัวแถมแล้วแต่ว่ากำลังอ่านนิยายแบบไหน

31 Nameless Fanboi Posted ID:VNhfffyuer

กูว่าเพราะว่านืฝิยายส่วนใหญ่ขายผญ. มันก็ต้องแต่งให้ผช.เป็นหนุ่มในอุดมคติที่คนอ่านอยากจะเห็นอ่ะ ไม่งั้นเสี่ยง มึงต้องมีฝีมือหรือทีชื่อจริงๆถึงจะขายออก อย่างนิยายของ ว.วิจ อะไรพวกนี้พระนางโคตรสมจริง แต่นิยายเครียดๆคนไม่ค่อยอ่านอ่ะมึง ขายยาก

32 Nameless Fanboi Posted ID:BMnPYkbcrB

>>30 แล้วแต่แนวอย่างที่บอก กูคิดว่านี่แสดงให้เห็นว่านักอ่านหลายคนชอบพระเอกผู้ชายแบบนี้ในอุดมคติ
ผู้ชายที่อยากได้ พระเอกนางเอกที่ถูกใจหรือโดนใจคนอ่าน
ผู้ชายจริงๆมีหลายแบบ แต่เพราะคนอ่านน่าจะอยากได้ผู้ชายในอุดมคติรวมมากกว่าถึงได้มีคนชอบบ่น ผู้ชายจริงๆไม่คิดทำงี้หรอก แต่สำหรับกูนะต้องดูด้วยอีกว่าทำอะไรในเรื่อง ถ้าปากเสียเวิ้นเว้ออ่อนไหวก็มี
กูคิดเหมือน >>31 นะ เพราะบางทีผู้ชานในชีวิตจริงไม่ตอบโจทย์พอมาอ่านคนอ่านก็อยากจะเจอแต่ผู้ชายในอุมคติที่ฝันถึง กลับกันถ้าเป็นคนเขียนคิดว่าถ้าพระนางสมจริงจะแต่งออกมาให้สนุกจริงๆให้คนชอบจริงๆยากกว่าด้วยซํ้า

33 Nameless Fanboi Posted ID:Ks0z5cqj3O

Ky แพพ คือกุกำลังเขียนนิยายที่เอี่ยวเรื่องลัทธิความเชื่อเมิง แบบว่าตลค.จะต้องไปผจญภัยตามหาไอเทมในลัทธิชวนเชื่อที่ป๊อปมากๆในประเทศ คือกุก็พยายามหาข้อมูลเยอะๆอ่ะ ดีเทลแบบลัทธิต้องมีอะไร กล่อมคนยังไง แต่อ่านแล้วยังไม่อินว่ะ กุมองว่าถ้ากุไม่อินเดี๋ยวคนอ่านก็ไม่อินตาม มีคำแนะนำไรให้กุมะ

34 Nameless Fanboi Posted ID:HAmQ/b1.5r

>>33 ดูตัวอย่างจากลัทธิแซ่บซึ้งก็ยังไม่อินเหรอ

35 Nameless Fanboi Posted ID:Mr/0JTy5iL

มึงๆ นิยายของ รอม พ. การใช้ภาษาเป็นยังไงบ้างวะ ถือว่าอยู่ในขั้นที่พอจะเป็นแบบอย่างได้ไหม กูอยากซื้อมาอ่านว่ะ เห็นมีกลอนโน้นนี้ด้วย น่าสนใจดี อย่าง บุพเพสนว.เนี่ย โอเคปะวะ

36 Nameless Fanboi Posted ID:kBJP/4TMrS

>>35 กูเคยอ่านเรื่องเดียวคือพรายเนตรทิพย์ และในสายตากูภาษาของรอมแพงธรรมดามาก บางจุดคือกูคิดว่าเกือบอ่อนไปด้วยซ้ำ ขาดเสน่ห์ด้วย นักเขียนใหม่บางคนอาจใช้ภาษาดีกว่านี้อีก มันทำให้กูผิดหวังแบบคิดว่านี่เหรอวะนักเขียนดัง พอบุพเพฯ บูมกูก็ไม่สนอยู่ดีเพราะอคติรอไว้แล้ว

37 Nameless Fanboi Posted ID:bjKjXpLWw0

>>35 ภาษาวัยรุ่นๆน่ะ
นักเขียนที่กูชอบภาษามี พนมเทียน สุดยอดมากๆๆๆ
แก้วเก้า บางทีบรรยายธรรมดาๆ แต่ดึงดูดให้ต้องตามอ่านต่อ
ปิยะพร ภาษาสวย นุ่มนวลอ่อนโยน

38 Nameless Fanboi Posted ID:WFdGnoeImw

>>35 ส่วนตัวกูไม่ค่อยชอบวิธีการเขียนเค้าอ่ะ แบบอ่านแล้วสะดุดหลายรอบมาก คือจริงๆกูว่าเค้าเฉยมากทั้งวิธีดำเนินเรื่องทั้งภาษา ยิ่งภาษานี่กูแทบไม่รอด
นักเขียนไทยถ้าเกิดว่าแนวแบบเวิ่นวือ (ทีกูชอบ) กูว่าทมยันตี แต่บางคนก็ไม่ชอบในความแบบดูเยอะๆของภาษาเค้าเหมือนกันนะ
กิ่งฉัตร ธรรมดาสบายๆแต่อ่านไม่สะดุด กูว่าเป็นคนที่ใช้ภาษาเรียบๆได้ดี
แก้วเก้า คนโปรดของกูเอง กูว่าเค้าเขียนดีอ่ะ

39 Nameless Fanboi Posted ID:za9w0CJKwQ

ใครช่วยแนะนำนิยายย้อนยุค (ไม่ต้องย้อนเวลา) ของปิยะพร กับ แก้วเก้า ให้หน่อย หรือนักเขียนชั้นครูคนอื่นก็ได้

40 Nameless Fanboi Posted ID:.Yfd165pgc

>>39 แก้วเก้า + ว.
บูรพา รัตนโกสินทร์ มาลัยสามชาย เรือนมยุรา แต่ปางก่อน ช่อมะลิลา สองฝั่งคลอง นึกออกแค่นี้

41 Nameless Fanboi Posted ID:.Yfd165pgc

>>39 ปิยะพร รากนครา สะพาน ...(จำชื่อเต็มไม่ได้ มันภาคต่อกัน)

42 Nameless Fanboi Posted ID:.Yfd165pgc

ชอบแก้วเก้ามากกว่า คาแรคเตอร์หลากหลายกว่า
ปิยะพร อ่านหลายเงแล้ว พระนางคล้ายๆเดิม แต่ภาษาดี

43 Nameless Fanboi Posted ID:Q5HhMxepQT

>>34 ลัทธิอะไรกุขอขยายความ ถ้าลัทธิเดียวกับที่กุเข้าใจกุไม่อินเมิง กุผ่านมาสองสามลัทธิแล้วแหละ มีเพื่อนสนิทมีคนรู้จักเคยพาเข้าไปลัทธิดังๆนี้แลฟังเขาพูดกุนี้หลับรัวๆตื่นตอนกินอย่างเดียว กุไม่เคยอินกับคำพูดชวนเชื่อแนวนี้เลย ลำบากใจมาก

44 Nameless Fanboi Posted ID:zF5Pb.5ksI

มีใครเขียนแนวเมต้ามั้ยเพื่อนโม่ง เจอนิยายตปท.เรื่องนึงที่ตัวละครมีแค่ตัวเดียวแต่มันคุยกับคนอ่านทุกตอนแล้วเดาความคิดเราได้หมดเลยจนหลอน แต่งกันมาได้ไงวะแนวนี้ เทพสัส

45 Nameless Fanboi Posted ID:CjYNRqk74P

>>43 ลัทธิพิซซ่า ปอบป้ากานดาขั้นสุด

46 Nameless Fanboi Posted ID:h3Yr9M72ol

>>44 ขอชื่อเรื่อง><

47 Nameless Fanboi Posted ID:SN55PuJT7Q

ky มีเพื่อนโม่งคนไหนทดสอบเข้าเป็น Head Writer กับ Co Writer ของสนพ.Movel เหมือนกันบ้างปะวะ อยากรู้ว่าเขาติดต่อใครกลับไปบ้างรึยัง นี่ก็ผ่านไปเกือบเดือนแล้วทางกูยังเงียบอยู่เลย ปกติถ้าไม่ผ่านสนพ.มันจะแจ้งรึเปล่า หรือกูควรเมลไปถามเองดี?

48 Nameless Fanboi Posted ID:/9GbxT7T54

>>47 สร้างชื่อเอง เขียนในนามปากกาตัวเองจะไม่ดีกว่าเหรอ คอนเซปสนพ เสี่ยงเชรี่ยๆ

49 Nameless Fanboi Posted ID:1sQt+NNiSH

>>48 กูเห็นด้วยนะ 5555555 ในฐานะคนเขียนกูว่ามันไม่ค่อยคุ้ม แต่ถ้าอยากจะลองเอาประสบการณ์มันก็โอเคแหละ
>>47 กูว่าเมลไปถามก็ได้ ใช้คำดีๆเค้าน่าจะไม่ว่าอะไรหรอก

50 Nameless Fanboi Posted ID:PPh7XIk64D

>>47 มึงสังเกตดูเปเปอร์งานวิจัย มีคนเขียนร่วมหลายคนช่ะป่ะล่ะ แต่คนที่ได้เครดิตคือชื่อคนแรก
ถ้าใส่ชื่อคณะผู้เขียน มึงต้องเขียนกี่ปีล่ะกว่าจะมีคนรู้จักตัวมึง
สนพ เขาให้เครดิตยังไง?

51 Nameless Fanboi Posted ID:gGINvyC.3X

>>44 อยากอ่านเลย

ยังมีคนอ่าน/เขียนแฟนตาซีไทยอยู่มั้ยอะ ไปดูกระทู้แฟนฯส่วนใหญ่เห็นแต่ต่างประเทศ
เห็นแล้วท้อใจ ไม่มีให้อ่านด้วย และไม่มีแรงจูงใจจะเขียนด้วย

52 Nameless Fanboi Posted ID:77zXLIvGSa

>>51 กูลองอ่านลำนำอตีตาอยู่ (อ่านแค่สองตอน) นางเอกเป็นเจ้าหญิงที่อยากช่วยราชาจัดการบ้านเมือง นางสวย ฉลาด ชอบอะไรแบบนี้นะ ไม่ต้องฉลาดมากก็ได้ ขอแค่ไม่ทำตัวน่ารำคาญก็พอ

53 Nameless Fanboi Posted ID:gGINvyC.3X

>>52 โอ๊ะ เดี๋ยวลองๆ เลือกนิยายจากตัวละครหลักเหมือนกัน ถ้ารำคาญก็ไม่ทน

54 Nameless Fanboi Posted ID:NhCwnr7H6D

มึง ถ้ากูให้นางเอกกูแทนตัวเองในเรื่องว่า 'เค้า' มึงอ่านกันแล้วจะรู้สึกขัด ๆ ปะ คือนางเอกกูนิสัยน้องงงงง อะ (ไม่ใช่แบ๊ว ๆ ปัญญาอ่อนนะ กูอธิบายไม่ถูก) แบบลองใช้ฉันแล้วมันดูแข็งไป ใช้ชื่อเล่นก็ยังไง ๆ อยู่ พวกมึงว่าไง

55 Nameless Fanboi Posted ID:ETsTU0TPK5

>>54 ส่วนตัวนะ เค้า ดูแอ๊บกะน่ารำคาญมากอะ กูว่าใช้ชื่อเล่นดีกว่า กับอีกคำนึงคือเวลาพูดกับคนอายุมากกว่าไม่เยอะแล้วแทนตัวเองว่า น้อง อะ รอบตัวกูมีหลายคนมากที่ใช้อย่างนี้ และกูรู้สึกว่ามันน่ารักดี

56 Nameless Fanboi Posted ID:PNnf9lOJYr

>>54 เค้า นี่กูใช้เรียกตัวเองเวลาคุยกับเพื่อนเป็นส่วนใหญ่เลย เลยรู้สึกกลางๆ แต่ไม่แน่ใจว่าในนิยายใช้เแล้วจะทำให้คนอ่านรู้สึกยังไงนะ
มันขึ้นอยู่กับเรียกอีกฝ่ายยังไงด้วยรึเปล่า อย่างกู ใช้คำแทนตัวเองว่า เค้า แล้วเรียกอีกฝ่ายด้วยชื่ออะ หรือไม่ก็เรียกอีกฝ่ายว่า แก กูรู้สึกว่ามันก็ไม่แบ๊วนะ (หรือเพราะกูเอาตัวเองเป็นที่ตั้งวะ แล้วคิดว่าตัวกูก็ไม่ใช่คนแบ๊ว เลยคิดว่ามันไม่แบ๊ว)
มีอีกอย่างที่คิดว่าไม่แบ๊วแล้วใช้แทน เค้า ได้ คือคำว่า เรา อะ
อย่างกูใช้คำว่า เค้า กับเพื่อนสมัยเด็ก/สมัยเรียน แต่พอมาทำงานแล้วกูใช้คำว่า เรา กับเพื่อนร่วมงานที่อายุพอๆกันเอาอะ (เอ่อ พอคิดไป ถ้าเรียกแทนตัวว่า เค้า กับเพื่อนร่วมงานนี่ก็ดูแบ๊ว/หน่อมแน้ม/ไม่ professional ไปจริงๆแฮะ)

57 Nameless Fanboi Posted ID:LkW.d4VdoX

ขอบใจพวกมึงมาก แต่จริง ๆ นางก็ใช้เค้าแค่กับพระเอกคนเดียว คนอื่นก็แทนชื่อไป
เดี๋ยวกูดูฟี้ดแบ๊กนักอ่านกูอีกทีแล้วกัน ถ้าไม่โอเคกันคงเปลี่ยนเป็นใช้เรา

58 Nameless Fanboi Posted ID:VgL0P/l7as

แวะมาบ่น ...อ๊าาาาา จะบ้าตาย เกลียดตัวเองวุ้ย!!
มีนิยายในมือยังเขียนไม่จบ และคาดว่าอีกยาวกว่าจะเขียนจบ แต่จู่ๆ เมื่อวานก็มีพล็อตเรื่องใหม่เข้ามาในหัวซะงั้น
พอมีพล็อตใหม่แล้วมันทำเอาเขียนเรื่องเก่าไม่ออก อยากจะเขียนเรื่องใหม่ทั้งที่งานเดิมยังค้างซะงั้น

59 Nameless Fanboi Posted ID:Y/syATN4om

เรื่องปกตินะ เป็นเหมือนกัน แต่พอลองแต่งเรื่องใหม่ที่มีแค่พล็อตคร่าวๆ จะแต่งได้ไม่กี่ตอนเพราะยังหาทางไปต่อไม่เจอ แค่เอามาสนองนี้ดตัวเองขณะนั้น(กับเปลี่ยนอารมณ์จากอีกเรื่อง) สุดท้ายก็คิดถึงเรื่องเก่า+มีพล็อตละเอียดกว่าด้วย ก็กลับไปแต่งต่อ ส่วนนึงเพราะคนอ่านรอด้วยแหละ

60 Nameless Fanboi Posted ID:df7wJPXwyM

>>43 ไม่ต้องลัทธิ มึงลองพวกขายตรง แชร์ลูกโซ่ไหม ไม่ต่างกันเท่าไร หรือตามพวกต้มตุ๋นชาวบ้าน ลองดู wild wild country ในnetflixดู

61 Nameless Fanboi Posted ID:df7wJPXwyM

>>44 ขอชื่อที กูไม่เคยเจอ อยากลองว่ะ

62 Nameless Fanboi Posted ID:.80oHgU52i

>>54 กูว่าเค้าได้ ถ้าเรื่องมันให้ คาแรกเตอร์มันได้
>>58 กูก็เป็น บ่อยเลย นี่คือเกรงใจคนอ่านมาก

63 Nameless Fanboi Posted ID:TDpV.OJgG6

>>60 แท๊งกิ้วเมิงกุจะไปหาดูอย่างไว กำลังตันมาก นี่กุกำลังจะลองไปนั่งฟังแชร์ลูกโซ่อยู่ เพื่อนเคยนัดกุแต่กุชิ่งก่อน 555

64 Nameless Fanboi Posted ID:P3onKsfbve

อ่าาาา ท่าจะแย่แล้ว จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนว่าเขียนไม่ออกซะงั้น
เขียนไม่ออก เขียนไม่ได้เลย เป็นมาหลายวันแล้วด้วย แบบนี้จะเหมือนก่อนหน้านี้มั้ยเนี่ยที่ต้องหยุดเขียนไปตั้งครึ่งปีกว่าจะกลับมาเขียนได้

65 Nameless Fanboi Posted ID:9kpsEbEvh4

>>64 กูก็เป็น เดี๋ยวนี้เขียนอะไรยาวๆ ไม่ได้เลย บางครั้งจะเขียนก็เขียนได้แค่ประโยคสองประโยค แต่เอาวะ ก็พยายามเขียนต่อไป 555 /ร้องไห้ทั้งน้ำตา

66 Nameless Fanboi Posted ID:+xBN8wgrGV

กูเป็นอยู่ พักมาจะปีแล้วด้วย พล็อตมาเรื่อย ๆ นะ แต่ไฟไม่มีเลย อาจจะเป็นเพราะชีวิตช่วงนี้มันยุ่งด้วยแหละ

67 Nameless Fanboi Posted ID:XaI.Dv9diA

Ky ถามหน่อย มีใครเคยส่งหนังสือให้เพจรีวิวไหม เค้ารับกันหรือเปล่า หรือมันถือเป็นการติดสินบน ผิดจรรยาบรรณเพจไรงี้ไหม

68 Nameless Fanboi Posted ID:UWNjyWeFD.

>>67 อย่างในเมกา (เพราะไม่แน่ใจว่ามีประเทศอื่นทำมั้ย) นักเขียนจะส่งไฟล์อีบุ๊คให้นักรีวิวอ่านล่วงหน้าเพื่อ honest reviews (ไม่มีการสปอยล์)
ในบ้านเราธรรมเนียมแบบนี้ไม่ได้เป็นแบบเปิดเผย อย่างนักรีวิวจะไม่บอกนะว่ารีวิวนี้ได้จากการอ่านฟรี หรือได้รีวิวละ200
(หรือมีบางคนที่ได้หนังสือไปฟรีๆ ไปก่อนแล้วไม่ได้รีวิวแต่สปอลย์นิยายก่อนวันวางขายก็ยังมี)

ถ้ารีวิวจากใจจริงแล้วบอกตามตรงว่าได้อ่านฟรีก็ไม่น่าใช่การติดสินบนนะ

69 Nameless Fanboi Posted ID:fU.a12mSrm

>>68 ทำไมขำ ตอนอ่านถึงนักรีวิวสองร้อย

70 Nameless Fanboi Posted ID:KBGmCN4xR+

>>69 ไม่เก็ตอ่ะ มาไม่ทัน คือไร รีวิว 200

71 Nameless Fanboi Posted ID:PSYn1CjbJI

>>70 หมายถึงรีวิวละ 200 บาทป่ะ

สมัยก่อนตอนเฟสยังไม่ดัง (นานมากแล้ว) กูรีวิวบ่อย จนสนพ ติดต่อมามอบหนังสือให้ ขอให้รีวิวลงเว็บ พอพี่คนที่มีหน้าที่ติดต่อเขาออกจากงานก็จบ ช่วงนั้นกูมีนิยายอ่านฟรี ได้มาประมาณ 20-30 เล่ม มาทีห่อใหญ่เลย (แถมกูรีเควสบางเรื่องเป็นพิเศษได้ด้วย)

72 Nameless Fanboi Posted ID:7gW3LA8Ag9

>>70 รีวิวละ200+ทริปเที่ยวเกาหลี
อย่าเชื่อกู ลองไปขุดอ่านดูที่ตำหนักเผือก

ถึงคนที่ถาม มันอาจจะดีที่ส่งหนังสือตัวเองให้เพจรีวิว แต่เท่าที่เห็นรีวิวแต่ละเพจมีความไบแอส แต่ เพจรีวิวคนตามเยอะๆ ถ้าเขาอวยหนังสือเล่มไหนคนซื้อตามเยอะนะ ถึงแม้ว่าเล่มนั้นจะ นะ ขนาดไหน เขาก็จะหาทางชมจนดีเลิศ แต่กลับกันถ้าเรื่องไหนที่เขาคิดว่าไม่ดี ไม่ชอบก็จะหาข้อติแบบที่ว่า 'อะไรของมึง' ได้เลย

ขอโทษทีที่นอกเรื่อง กูคนอ่านไม่ใช่นักเขียน แต่การส่งหนังสือดีเป็นรูปเล่มดีกว่า อย่างน้อยนักรีวิวคนนั้นก็เอาไปแบ่งปันทำทานได้ลำบากหน่อยนึง (บอกไว้เผื่อมึงอยากจะส่งหนังสือให้นักรีวิว)

73 Nameless Fanboi Posted ID:+yICSYMo4s

>>72 อุ๊ปส์ 5555555555

ส่งหนังสือให้รีวิวนี่กูไม่ได้มองว่าผิดจรรยาบรรณอะไรนะ ตราบใดที่เป็นการรีวิวจากความรู้สึกจริงๆ ไม่ใช่ว่า อะ เค้าให้หนังสือมาแล้ว เขียนถึงดีๆ หน่อยละกัน อะไรแบบนี้ แต่มันพูดยาก เพราะไม่มีใครรู้ว่าตกลงกันยังไง ในฐานะนักอ่านถ้ารู้ว่ามีการส่งหนังสือให้บางคนก็อาจจะรู้สึกไม่ดีไปเลยก็ได้ เพราะยังไงถ้าลงรีวิวขึ้นมาจริงๆ อย่างน้อยก็นักเขียนก็เหมือนได้โปรโมทหนังสือไปในตัว ส่วนเรื่องที่ไหนรับบ้าง อันนี้น่าจะแล้วแต่เพจ ถ้าเป็นนักเขียนแล้วอยากขอให้ช่วยรีวิวก็ติดต่อดูเลยน่าจะดีกว่า

74 Nameless Fanboi Posted ID:ZtSCIITrn5

>>73 ก็รีวิวแบบจริงจังใจ ตรงไปตรงมาสิ ติส่วนด้อยส่วนดี อะไรแบบนี้ ระบุด้วยว่าได้หนังสือมาฟรีนะ 55555555

75 Nameless Fanboi Posted ID:fU.a12mSrm

นักรีวิวที่คนตามเยอะๆ นี่ชี้ชะตายอดขายได้นะ บางทีถึงเห็นว่าชอบไปนู่นนี่กับนักเขียนเหมือนเป็นประโยชน์ต่างตอบแทนอะ ยิ่งถ้าสนิทกันก็อวยไปเถอะ อวยไป

76 Nameless Fanboi Posted ID:B93+dsekx8

>>70 อีกนิด ถ้าอยากรู้ว่าเพขไหนที่กูพูดถึง เรป628 ตู้นิยายไทย 55555

77 Nameless Fanboi Posted ID:bAZLYGa5UF

>>76 เด็ด...... ขอบใจ เก็ตละ จังหวะเหมาะเลย มู้ไทยกะลังเม้าท์เว็บรีวิว มันน่าจะมีรีวิวนักรีวิวอย่างที่เค้าว่าเจงๆ 55

78 Nameless Fanboi Posted ID:6aLNS.O9kk

เพื่อนโม่งกูกำลังเขียนนิยายแฟนตาซีอยู่ ขอความเห็นหน่อยสิ

พวกมึงคิดว่ามนุษย์จะอยู่รอดในโลกแฟนตาซีที่มีมอนสเตอร์อย่าง มังกร แมนติคอร์ กริฟฟิน ยักษ์ โทรลอะไรแบบนี้ได้มั้ย? ยังไม่นับรวมออร์ค ก๊อปลิน ปีศาจ เผ่าอื่นๆอีกที่มีความฉลาดพอๆหรือเทียบเคียงได้เท่ามนุษย์หรือมากกว่า ถ้ารอดทำยังไงถึงรอด? แบบกูเห็นหลายๆเรื่อง มนุษย์แม่งไม่น่ารอดมาถึงยุคกลางได้เลย

79 Nameless Fanboi Posted ID:bYc9MjoEP.

ขอถามหน่อย เวลาติดต่อพวกเอเจนซี่​นี่ต้องเมลเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษ​วะ มันคาใจช่วยบอกหน่อย

80 Nameless Fanboi Posted ID:.qDdf.VgzT

>>67 บางเพจโพสบอกเลยว่า สนพ.สามารถส่งหนังสือมาให้ตัวเองอ่านรีวิวได้นาจา

แล้วบางเพจคือ ต้องดูเลยว่าอ่านสนพ.ไหนเป็นหลัก จะเห็นว่าอวยงานเขียนของสนพ.นั้นมากๆ หรือสนิทกับนักเขียน ก็อวยมากเป็นพิเศษ แล้วยิ่งเพจไหนลูกเพจเยอะๆ ถ้าเจ้าของเพจรีวิวเรื่องไหนไม่ดี หรือมีอคติกับสนพ. นักเขียน ไรงี้ ก็รีวิวแย่ๆไป ลูกเพจก็จะเทกันตามๆแบบไม่คิดไรเลย แต่พวกรีวิวพวกนี้ไม่มีผลต่อการซื้อหนังสืออ่านนะ กูเป็นพวกชอบลองของเอง ไม่ค่อยเชื่อใจใคร แล้วกูคิดว่า รสนิยมการอ่านของกูอาจจะไม่ตรงกับพวกนั้น

>>79 เอเจนตปท.อะเหรอ ก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาของประเทศเค้าดิ พิมพ์ไทยไปเค้าก็อ่านไม่ออกหรอก

81 Nameless Fanboi Posted ID:s/pnVYtDHt

>>78 ก็ปกติมนุษย์มีจำนวนเยอะกว่ารึเปล่าแล้วก็ไม่ได้ใช้ชีวิตด้วยกัน มันก็เหมือนถามว่าทำไมเราอยู่ร่วมโลกกับเสือเบงกอลได้โดยไม่ถูกมันกิน ก็เราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไง แบบออร์ค ก็อบลิน ยักษ์ อาจจะอยู่ในป่าในถ้ำในอะไรก็ว่าไป คนก็อยู่ในเมืองโง่ๆไป อาจจะมีอย่างอื่นมาปกป้อง เช่น พ่อมดบลาๆ (พูดในแง่เรียลลิสติกก็ศาสนา)
แต่ก็แล้วแต่เซตติ้งมึงด้วยอ่ะเนาะ ถ้าประชากรอีกฝั่งเยอะก็อาจจะมีสงครามได้ (แบบเก้าศาตรา)

82 Nameless Fanboi Posted ID:zTwbJsz3cU

>>78 อยู่รอดยังไงล่ะ ท่ามกลางสงครามแล้วฝ่ายมนุษย์สู้ชนะ หรือว่าใช้ชีวิตประจำวันเฉยๆ ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ ยังไงก็ไม่น่าจะได้เจอกันแบบที่ >>81 บอกรึเปล่า
ถ้าไม่งั้นก็ลองลงลึกไปที่ลักษณะนิสัยของแต่ละเผ่าพันธุ์ดู บางพวกอาจจะรักสงบ ไม่ยุ่งกับเผ่าอื่นก่อนยกเว้นโดนรุกราน หรือว่าเป็นพวกป่าเถื่อน วันๆ ตีกันเองจนจะตายยกเผ่าแล้ว เป็นเผ่าพันธุ์หายากที่มีจำนวนน้อย อย่างในเซ็ตติ้งสงครามมันก็ไม่ใช่ว่าทุกเผ่าจะสู้กันเองมั่วซั่วใช่มั้ยล่ะ มันก็มีทั้งพวกเป็นพันธมิตรกัน หรือพวกหักหลังกันเอง มีจุดอ่อนต่างๆ ที่เอามาใช้ได้นอกเหนือจากความฉลาดหรือความแข็งแกร่งทางร่างกายอีกเยอะอะ

83 Nameless Fanboi Posted ID:VkHJLD3x2v

>>78 ถ้าไม่ได้อยู่ในห่วงโซ่อาหารเดียวกัน ไม่ได้แย่งที่อยู่อาศัยกัน ก้อรอดได้นะ เหมือนจิ้งจกตุ๊กแกแอบอยู่ในบ้านมึงก้อรอดอยู่ได้เลย

84 Nameless Fanboi Posted ID:cBjnXnOMgP

>>78 มึงต้องสร้างจุดเด่น จุดด้อยและลักษณะของของเผ่าพันธุ์ก่อนเว้ย แล้วจึงค่อยคิดว่าจะเอาตัวรอดยังไง

กูขอยกตัวอย่างจาก Warhammer นะ มนุษย์เดิมทีเป็นเผ่าพันธุ์อ่อนแอ อายุก็สั้น แถมเคยถูกพวกออคและมนุษย์สัตว์ไล่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มาก่อนจนกระทั่ง Sigmar รับได้ Ghal Maraz และเทคโนโลยีหลอมโลหะจากคนแคระ ถึงได้มีโอกาสพิสูจน์ว่ามนุษย์เองก็มีจุดเด่น และใช้จุดเด่นนั้นดำรงเผ่าพันธุ์ตัวเองให้รอดมาได้ในที่สุด กลับกันฝ่ายออคไม่มีเทคโนโลยีก็ต้องแพ้ไปและกลายเป็นศัตรูคู่แค้นตลอดกาล

ซึ่งถ้ามองจากด้านบนจะเห็นเลยว่า มนุษย์ มีจุดอ่อนเรื่องพละกำลังและอายุขัยก็จริง แต่มีจุดเด่นตรงที่เป็นพวกช่างคิดและเรียนรู้ได้รวดเร็ว แค่ได้รับเทคโนโลยีหลอมโลหะจากคนแคระมาก็สามารถนำมาต่อยอด และผลิตอาวุธกลับไปสู้กับออคได้ ซึ่งตรงกันข้ามกับออคที่กำลังดี แต่โง่ เลยต้องดำรงเผ่าพันธุ์ร่วมกับก็อบลิน ซึ่งฉลาด แต่อ่อนแอมาก ซึ่งตรงนี้ล่ะคือเหตุผลที่ทำให้ทั้งสองเผ่าต่างกินกันไม่ลงซะที เพราะต่างฝ่ายต่างมีข้อดีข้อด้อยมาคอยค้านกันอยู่นี่เอง

85 Nameless Fanboi Posted ID:zXunOJpeZU

ลองเล่น Dragon age ภาคแรก ดิ แล้วจะรู้นักเขียนที่ดีคือยังไง กูเล่นไป แม่งยังกะ ตำนานจริงๆ

86 Nameless Fanboi Posted ID:vwm.vO6ohW

กูหลุดมาจากห้องไลท์ฯ กูขอแนะนำ no game no life ช่วงสงครามละกัน
บอกได้ดีเลยว่ามนุษย์แม่งสู้ไม่ได้แน่นอน(อยู่ช่วงหนึ่ง) แต่ก็ไม่ถึงขั้นสิ้นเผ่าพันธุ์ไปเลย(กากจนเผ่าอื่นไม่ใส่ใจ ตย. เช่น เผ่ามังกรในหลายๆเรื่องที่ขึ้นชื่อว่ามีปัญญา+พลังสูงสุดมักจะไม่ใส่ใจเผ่าอื่นและปล่อยไปเฉยๆ ยกเว้นเจอเผ่าที่แกร่งพอๆกัน จะเป็นเทพรึอะไรก็ว่าไป)
และจะต้องมีจุดเปลี่ยนอะไรสักอย่างหรือใครสักคนมาชักนำให้เผ่ามนุษย์พลิกห่วงโซ่จากใต้สุดมากลางๆ หรือบนสุดไปเลยอะไรเทือกนั้นทำให้อยู่รอดมาได้

ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่าจะวางคสพ.ของแต่ละเผ่ายังไง เล่าในมุมมองของเผ่าไหน จะให้เผ่าไหนโดดเด่นยังไง(โดนรังเกียจ/กลัว/สิ้นเผ่าพันธุ์/เป็นมิตร/ยกย่องบูชา/เก่งสุด/อ่อนสุด/ฉลาดสุด ฯลฯ)

ส่วนตัวกูว่าจะแต่งให้สมจริงมันค่อนข้างยากถ้าไปเจาะจงรายละเอียดมากไป เพราะเดิมทีพวกสัตว์แฟนตาซีมันอยู่ทั่วโลกการที่เอาหลายตำนานมารวมกันแล้วแจกบทให้มันยาก ที่ง่ายคือข้ามช่วงมนุษย์รอดมาได้ยังไงไป แล้วไปใส่ข้อมูลในส่วนที่ว่ามนุษย์มีความสามารถในการต่อสู้กับเผ่าอื่นตรงไหนแทน เนิฟเผ่าอื่นลงให้โง่ๆเหมือนเวลาตลค.อื่นเจอพวกซู หรือเพิ่มบทของเผ่าอื่นมานิดหน่อยพอเป็นพิธีนั่นแหละ ตย. เช่น ให้เผ่าโอเกอร์ที่แข็งแกร่งโง่ๆเข้าไว้ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ ให้เผ่าเอลฟ์ที่ฉลาดๆเก่งเวทมนตร์เป็นพวกหัวอนุรักษ์ไม่ยอมพัฒนาหรืออยู่รวมกันเป็นจน.น้อย ให้มนุษย์คิดค้นวิธีการเฉพาะในการสู้แต่ละเผ่าได้ หรือจะเน้นอวยว่ามนุษย์เจ้าเล่ห์ปรับตัวเก่งก็ว่าไป ใส่แค่ว่าตัวเอกบังเอิญไปเจอมังกร/ออร์ค/แฟรี่ พวกเผ่าที่เจอบ่อยๆ หรือชอบเก็บตัวอะไรแบบนั้น

ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับว่าจุดหมายของตัวเอกคืออะไรมากกว่า
อย่างถ้าแค่ผจญภัยธรรมดาก็ไม่ต้องลงรายละเอียดมากถ้าไม่จริงจังจริงๆ(คหสต.มันเกลื่อนไปทั่วจนกูเบื่อเลยวะแต่ถ้าใส่รายละเอียดแบบมากๆลงไปจะโครตเพอร์เฟค>>กูไม่เห็นแบบดีๆมานานแล้ว)
ล้างแค้นก็เน้นแค่เผ่าที่อยากให้ตัวเอกไปเจอแล้วเก่งขึ้นก็พอ(ถ้าedgyก็น่ารำคาญแต่ตอนนี้แม่งเป็นแนวตลาดวะ>>ฮาจิเมะ)
slice of life (น่าเบื่อสัดถ้าแต่งไม่ดี>>แต่กูชอบ ตย.เช่น ลาติน่า)
แนวสงครามก็ต้องลงรายละเอียดเยอะเหี้ยๆ(แต่กูว้อนแนวนี้มาก>>the lord,ngnl เล่ม6)
แฟนตาซีทั่วไปเอาแค่เผ่าที่ต้องการมาก็พอ(มังกร-มนุษย์ , กอบลิน-มนุษย์ , เทพ-มนุษย์ , ครึ่งสัตว์-มนุษย์ , ปีศาจ-มนุษย์ แนวนี้ค่อนข้างนิยมเพราะค่อนข้างใส่จุดหมายที่แน่นอนให้ตัวเอกได้ และลงลึกรายละเอียดได้แบบไม่ต้องกว้างมาก>>กอบลินสเลเยอร์,เอรากอน)

87 Nameless Fanboi Posted ID:5Tmx5L2XSW

จะว่าไปตอนเย็นกูเข้ามาตั้งใจจะบ่นนี่หว่า แต่ลืมบ่นซะงั้น ถ้างั้นบ่นตอนนี้เลยละกัน
กูกลุ้มกับนิยายตัวเองว่ะ ตอนนี้ยังเขียนเก็บเอาไว้อยู่เพราะยังเขียนไม่เสร็จ แต่ไม่รู้ว่าคนอ่านจะคิดยังไงและคุ้มค่ามั้ยที่จะเขียนต่อ

ที่อยากจะบ่นนี่เพราะรสนิยม + แนวคิดความสนุกกูดันต่างจากคนทั่วไปเนี่ยล่ะ ไม่รู้ว่าไอ้ที่กูเขียนแล้วรู้สึกสนุกเนี่ยคนอื่นเขาจะสนุกด้วยรึเปล่า orz

88 Nameless Fanboi Posted ID:Cz/yYTjtBB

>>87 มีงก็เอาลงแล้วดูผลตอบรับดิ พวกลงในเว็บนี่ 99.99 % ยังเขียนไม่จบทั้งนั้นแหละ

89 Nameless Fanboi Posted ID:kA8ebRWKqC

เออ กูก็สงสัยมานานละว่าถ้าแต่งแบบมีหลายเผ่าพันธ์ุ มนุษย์จะสู้เผ่าอื่นอะไรยังไงได้บ้าง แวะมาเอาข้อมูลด้วย 555

90 Nameless Fanboi Posted ID:KhYOHYKjrn

>>87 ลงไปก่อนนนนน ถ้าคอมเม้นดีมึงจะมีไฟขึ้นมาเองงง

91 Nameless Fanboi Posted ID:5Tmx5L2XSW

กู >>87 นะ อยากจะลงแหละแต่ติดปัญหาคือช่วงนี้เขียนไม่ออกว่ะ
ถึงฉาก Climax ของเล่มแล้วแท้ๆ แต่ไอเดียตันซะงั้น เลยยังไม่ลงดีกว่า

92 Nameless Fanboi Posted ID:hJhObe5cJ.

>>89 ลองคิดแบบจริงจังดูนะ ถ้าในโลกแฟนตาซี อาวุธของมนุษย์ควรจะเน้นไปที่หอกและอาวุธระยะไกลว่ะ
มึงลองคิดดูดิ ถ้ามีโทรลรึยักษ์ตัวใหญ่กว่ามึง 4-6 เท่า สูงเท่าบ้านนั่นล่ะ มึงจะเอาดาบวิ่งไปชาร์จใส่มันมั้ย?
ก็ไม่ อีกอย่างดาบมันออกแบบมาไว้สำหรับสู้กับคนด้วยกันเอง ถ้าฟันสิ่งที่มีขนาดใหญ่ พื้นที่ตกกระทบมันมากเกินไป ความเสียหายย่อมลดลงตามไปด้วย เพราะพลังงานจลมันกระจายออกไป กูสายเรียล เห็นนิยายแนวใช้ดาบชาร์จเข้าใส่มังกรไรงี้แล้วเพลีย ต่อให้เป็นดาบใหญ่ก็ไม่เวิร์ค

ถ้าเป็นยุคกลางนะ อาวุธต่อสู้มอนสเตอร์ระยะประชิดต้องฮัลเบิร์ดว่ะ ใช้แทง ใช้ฟัน ใช้ทุบได้หมด ถ้าไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันคือหอกหนักที่มีด้ามเป็นขวานและตะขอหรือค้อน ปลายแหลมแบบหอก สมมุติการใช้นะ ถ้ามีโทรลวิ่งมาหา มึงง้างรอเลย เข้ามาในระยะสับทีมีตัวขาด พื้นที่หน้าตกกระทบมันไปโฟกัสที่ด้ามขวาน แถมมีด้ามจับยาว = มีแรงส่งมาก ดาเมจรุนแรงแน่นอน เจอมอนสเตอร์อย่างมังกรนี่ถ้าประชิดตัวได้ ใช้ด้ามค้อนทุบเลย เกร็ดแข็งยังไง แรงตกกระทบมันก็ทะลุไปถึงกระดูกอยู่ดี ถึงตัวมันจะใหญ่แต่อารมณ์เหมือนโดนกั้งดีดนิ้วอ่ะ กระดูกแตกมึงก็ต้องรีบชักมือหนีแล้ว

เพราะงั้นอาวุธหลักเลย หอก/ง้าว/ฮัลเบิร์ท แต่ต้องมีอาวุธรองก็ดาบ ขวาน ลูกตุ้ม โล่เล็ก ส่วนค้อนรึกระบองกูว่าไม่เหมาะ เพราะด้ามมันเล็กแต่ปลายดันใหญ่ หยุดกลางคันไม่ได้เวลาออกท่าฟาดไปแล้ว ถ้าจะหยุดมีมือเคล็ดได้เลย รองจากนี้ก็มีดสั้น ถ้ามีปืนคาบสิลาด้วยจะเพอเฟคมาก พกไว้สัก 3 กระบอก นี่ล่ะ เกียร์นักผจญภัยที่แท้ทรู แต่ในความคิดกูอาวุธที่ดีที่สุดในแฟนตาซียุคกลางคือฮัลเบิร์ด เอาไป 1-1 กับใครก็ได้ ถ้าขนาดตัวเท่ากัน หรือต่อให้ใหญ่กว่า แรงเยอะกว่าก็สู้ได้

ลองตั้งสมมุติฐานดู มนุษย์ใช้ฮัลเบิร์ด เจอกับออร์คใช้ขวานใหญ่ แน่นอนว่าเหล็กมนุษย์ต้องดีกว่า ถ้าออร์คมันตั้งรับ อาวุธมันหักแน่นอน ง้างรอฟาดได้เลย แต่ถ้าเป็นในที่แคบล่ะ? ไม่มีปัญหาว่ะ ใช้พุ่งแทงได้สบายๆเลย ถ้าสมมุติโดนปัดลงพื้นละ? มึงก็ชักฮัลเบิร์ดกลับเอาด้านค้อนรึตะขอเกี่ยวขาแม่งให้ล้มได้อีก ใส่เกราะหนัก? เจอด้านค้อน เอาดาบกันสิ ดาบหักแน่นอน เพราะงั้นต่อให้แรงเยอะยังไง แต่ถ้าอาวุธล้าสมัยกว่า ยังไงก็แพ้

เว้นแต่จะเจอ 1-1 พวกกริฟฟิน มังกร ยักษ์ อันนี้วิ่งเถอะ 5555

93 Nameless Fanboi Posted ID:GlxFWRu9ku

>>80 กู >>79 นะ เอเจนซี่​ไทยสิ

94 Nameless Fanboi Posted ID:GlxFWRu9ku

ขอคำปรึกษา​อีกอย่าง ถ้ากำลังเจอปัญหา​ชีวิตแต่ต้องส่งต้นฉบับให้ทันเวลา มีวิธีจัดการอารมณ์​ตัวเองกันยังไงวะให้กลับมาเขียนต่อได้โดยมูดไม่เปลี่ยน
คือพ่อเพิ่งเสีย แล้วตอนนี้เจ็บขาจากเหตุการณ์​เดียวกันกับที่พ่อเสีย แล้วล่าสุดไปหาหมอมา หมอบอกว่ามีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้า​ด้วย ต้องทำไงต่อวะ หรือต้องขอพักงานเขียนไปก่อนดี

95 Nameless Fanboi Posted ID:x1wehKVcFB

>>94 เสียใจด้วยนะ เรื่องงานเขียน กูว่าทำที่มึงสบายใจ ถ้าไม่ไหวก็พักก่อนได้ หรือถ้าการเขียนจะช่วยดึงมู้ดมึงขึ้นมาได้ก็อาจจะลอง

96 Nameless Fanboi Posted ID:QHrvO45VjY

>>94 ขึ้นอยู่กับใจว่ะ แต่ถ้าลองแล้วไม่ไหวก็แนะนำให้ขอเลื่อนแล้วเอาเวลานี้ไปเจอเพื่อนหรือคนอื่นดีกว่า ปัจจัยหนึ่งของงานเขียนคือการทำงานคนเดียว และการทำงานคนเดียวมันจะทำให้ติดอยู่กับตัวเองและอารมณ์เศร้า นานไปถ้ามันออกไม่ได้ก็จะติดอยู่แบบนั้นอะ

97 Nameless Fanboi Posted ID:FQw3VZoKSa

>>94 ถ้างานเขียนช่วยเยียวยามึงได้ก็ทำไป แต่ถ้าไม่ก็พักยาวๆดีกว่าว่ะ

98 Nameless Fanboi Posted ID:0+ne06CKLA

>>94 กูคงไม่ปลอบแต่พอเป็นงานมึงต้องรับผิดชอบหน้าที่มึง กูเจอเหตุการณ์ชีวิตไม่แพ้มึงกูต้องส่งงานตามกำหนดไม่งั้นจะมีปัญหากับบก. สำคัญเงินว่ะไม่ส่งไม่มีเงินแดก กูซึมเศร้าอยากตายกูก็ต้องกัดฟันเขียน กูตายได้แต่คนที่เหลือกูไม่ได้ตายพร้อมกูด้วย กูก็ต้องฮึดเขียนต่อ

99 Nameless Fanboi Posted ID:eAPPIE00fv

>>94 เอาปัญหากับความท้อแท้ มาระบายในงานเขียนไปเลยสิ แต่ถ้างานที่ค้างอยู่เป็นรอมคอม....อันนี้ก็ไม่รู้ว่ะ

เพราะว่าการเขียนมันก็เป็นวิธีการบำบัดอย่างนึงนะ

100 Nameless Fanboi Posted ID:8yJndU162f

>>92 กูอ่านแล้วอยากจับมือมึงว่ะ มึงรสนิยม + ความคิดแนวกับกูเลย
ถ้าได้ลองศึกษาเกี่ยวกับอาวุธสมัยยุคกลางแล้วจะยิ่งสนุก เพราะสามารถจินตนาการตามได้ไม่ยากว่าเจอมอนสเตอร์ตัวนี้ต้องใช้อาวุธประเภทไหนเข้าสู้ถึงจะดีที่สุด และหนึ่งในนั้นก็คือ Halberd หรือ Poleaxe นั่นล่ะ ไม่มีอาวุธไหนอเนกประสงค์เท่ามันอีกแล้ว

ตัวเอกนิยายเรื่องเก่ากูก็ใช้ Halberd

101 Nameless Fanboi Posted ID:4LbgzjlFQM

>>94 ขอบคุณทุกคนมาก เพื่อนกูแนะนำ​ให้​ปรึกษา​จิตแพทย์​ก็ว่าจะลองดู เขาน่าจะช่วยอะไรกูได้ ใจจริงไม่อยากทิ้งงานเพราะทำเป็นอาชีพหลักเลย แต่ก็กลัวว่าแม่งจะกลายเป็นป่วยหนักขึ้นแล้วแม่งเละทุกอย่าง แล้วไอ้งานที่เขียนค้างอยู่ดันฟีลกู๊ดมากขัดแย้ง​กับ​อารมณ์​ตอนนี้ แต่บก.ก็รู้แล้วว่ากูประสบอุบัติเหตุ​มา เขาไม่ได้ว่าอะไรยังไม่เร่งงาน ช่วยได้เยอะเลย

102 Nameless Fanboi Posted ID:4LbgzjlFQM

ข้างบนลืม *จะบอกว่ากูคือ >>94

103 Nameless Fanboi Posted ID:q5Hf4rVtCr

ตี๋เข้มเป็นยังไงวะมึง เจอในนิยายแล้วนึกภาพไม่ค่อยออก ขัด ๆ ยังไงไม่รู้ พอมีตัวอย่างคนจริง ๆ ให้กูสักคนปะ

104 Nameless Fanboi Posted ID:Z20L4d9M5y

>>103 ตี๋เข้มกูคิดว่าเหมือนอย่างทาเคชิ คาเนชิโร่งี้ป่าววะ แบบเป็นตี๋แต่หน้าเข้ม

105 Nameless Fanboi Posted ID:n9HQZuMPX.

>>103 แบบตี๋ใหญ่?

106 Nameless Fanboi Posted ID:WXBIAFVViW

>>103 กูเข้าใจแบบ 104 นะ หรือบางทีก็หน้าตี๋แต่ตาดุ ไว้หนวดนี่ล่ะ

107 Nameless Fanboi Posted ID:+acSn1h3w+

กูรู้สึกว่า ปุ่มกดให้กำลังใจ ในเด็กดีทำให้คอมเมันกูน้อยลงรึเปล่า แบบว่าคนอ่านจะรู้สึกว่ากดให้กำลังใจไปแล้วอะไรแบบนี้น่ะ
เพราะว่าบั่บบบ กำลังใจหลักร้อย แต่คอมเม้นไม่ถึงยี่สิบก้พากูเฟลอยู่นะ

108 Nameless Fanboi Posted ID:LQndDl9y6g

>>107 ดีกว่าไม่ได้อะไรเลยนะเว้ย จริงๆต้องถามก่อนว่า ก่อนหน้านี้คอมเม้นท์เยอะขนาดไหน มันอาจจะน้อยลง แต่เป็นไปได้ว่ามันอาจจะเท่าเดิม พอมีปุ่มกำลังใจเพิ่มมา นักเขียนก็ได้ส่วนนี้เพิ่มด้วย

ไอ้เรื่องคอมเม้นท์นี่ตอบยากนะ บางคนถึงไม่มีปุ่มให้กดก็ไม่เม้นท์ ส่วนคนจะเม้นท์เค้าก็เม้นท์อยู่แล้ว ส่วนตัวชอบปุ่มนี้นะ เพราะเวลาอ่านไม่ค่อยเม้นท์ นานๆจะแสดงตัวว่าติดตาม แต่พอมีปุ่มนี้ ก็ได้กดให้ทุกตอน บอกคนเขียนว่าเออ ยังมีตรงนี้อีกเสียงนึง

109 Nameless Fanboi Posted ID:+acSn1h3w+

>>108 ก่อนหน้านี้สักห้าสิบ ตอนนี้สักยี่สิบอ่ะ ._.

110 Nameless Fanboi Posted ID:LPxWAekoJ5

ของกูลงมา 1 อาทิตย์ 6 ตอน ยังกินไข่ทุกอย่างเลย มีคนเข้ามาดู 27 คน สุดยอดดด...!!

111 Nameless Fanboi Posted ID:NPYaK60Ct/

>>109 อ่า ลดลงอย่างเห็นได้ชัด /ตบบ่า
แต่มันก็มีปัจจัยอื่นด้วยแหละ อย่าคิดมาก เขียนต่อๆ เดี๋ยวคนเม้นท์ก็เพิ่ม

>>110 เรื่องแรกที่ลงเยอะกว่านั้นหน่อยเพราะช่วงปิดเทอม ถ้าลงเปิดเทอมก็น่าจะใกล้เคียง ส่วนตอนนี้ดอง ยอดทุกอย่างเลยนิ่งมาก
ขอให้เพื่อนโม่งสู้ต่อไป

112 Nameless Fanboi Posted ID:hx0qfx.6ui

>>110 มึงต้องไปทบทวนมาใหม่ 6 ตอนมีคนดู 27 กูว่ามีปัญหา แต่ถ้ามึงไม่สนใจเรื่องคนอ่านก็ไม่เป็นไร

113 Nameless Fanboi Posted ID:y1HUhqL1eX

>>112 สงสัยต้องไปทบทวนอีกรอบ นิยายมันเฉพาะทางเกินไป ที่ลงเพราะจะปูเรื่องไปยังอีกเรื่อง ซึ่งออกแนวรั่วๆ ฮาๆ น่าจะมีคนดูเยอะกว่า

114 Nameless Fanboi Posted ID:KYNaXtYxJX

ไม่ได้ซึมเศร้า แต่รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความสนุกเหลือเลยวุ้ย
ขนาดนั่งทำงานอดิเรกอย่างเขียน กับนั่งอ่านนิยายที่ชอบยังไม่รู้สึกสนุกเลย orz

115 Nameless Fanboi Posted ID:VNxfx/wWNV

>>114 +1

116 Nameless Fanboi Posted ID:bHsRvivDsg

อยากเขียนนิยายเก่ง ให้ลองฝึกฝนเรียนรู้และเข้าใจกับหลักตรรกะดูสิครับ Codestarสามารถสอนเรื่องโปรแกรมมิ่งและการสร้างประสบการณ์การทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์มืออาชีพอย่างหลากหลาย มีศิษย์เก่ามากมายจากสถาบันได้งานมาแล้วอย่างล้นหลามเลยนะครับ

117 Nameless Fanboi Posted ID:O7pHREpvhL

>>116 นี้คือมุกหรือม้านะเจ้าคะ

118 Nameless Fanboi Posted ID:WuNQlUOAtc

>>117 ไม่แน่ใจ แต่เป็นการตลาดที่เหี้ยมาก นอกจากไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายแล้วยังใช้ภาษาได้ขายตรงสัดๆดูไม่น่าเชื่อถืออย่างแรง 555555555

119 Nameless Fanboi Posted ID:VNxfx/wWNV

>>116 โปรแกรมมิ่ง เกี่ยวไรกับการเขียนนิยายเหรอ

120 Nameless Fanboi Posted ID:29q8.PkV+U

>>119 ไปแฮคเด็กดีให้นิยายติดท๊อป?

121 Nameless Fanboi Posted ID:p293fQ93Pz

>>120 เออ อันนี้จริง แฮคเข้าไปปัผ๊มยอดไลค์ให้เยอะๆ

122 Nameless Fanboi Posted ID:r7hNf6TH4X

มึงคือกูเพิ่งแต่งนิยายอะ ละกูประสาทแดกมาก 555 เวลาคนคอมเม้นเค้าก็คอมเม้นสิ่งดีๆใช่มะ กูแบบอยากรู้ว่ากูควรปรับตรงไหนอะมึง แล้วอีกเรื่องคือกูแต่งนิยายเรื่องนึง ละก็มีคนแต่งแนวเดียวกับกูแล้วเปิดเรื่องเวลาพอๆกันแต่คนนั้นมีแต่คนชมว่าภาษาดี กูแบบเฟลมากเลยว่ะ กูรู้ตัวว่ากูงอแงเป็นเด็กๆประสาทแดก แต่กูหยุดคิดไม่ได้ ทำไงดี TT

123 Nameless Fanboi Posted ID:lYZhkbSj5r

>>122 เขาเม้นว่าอะไรล่ะ ไหนลองบอกมาซิ

เขียนนิยายให้ตัวเองสนุกก่อน ถ้าไปคาดหวังกับคนอ่านมากๆ เนี่ย ระวังไปไม่รอดนะ

124 Nameless Fanboi Posted ID:4uaNNEzRGo

>>123 เค้าก็เม้นว่าแบบสนุกดี ภาษาไม่แปลก คือกูก็ดีใจนะ กูนี่แหละที่ประสาทแดกเอง ชอบเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่น คาดหวังมากไป ไว้หายงอแงเมื่อไหร่จะไปแต่งต่อ ขอบคุณมึง

125 Nameless Fanboi Posted ID:lbQ/6KllOq

>>124 ไม่ต้องไปเปิดของเค้าดูดิ กูไม่เคยเปิดของใครดูเลย ไม่อยากเปรียบเทียบเนี่ยแหละ

126 Nameless Fanboi Posted ID:COq4o0WJ3z

ทำไมเดี๋ยวนี้นิยายรักชอบแชร์เพลง กูอ่านตอนนึงได้เพลงมาสิบเพลง อิห่อววว อีกอย่างเดี๋ยวคนเค้าชอบสไตล์การเขียนแบบฮิปๆเพ้อๆเหรอ

127 Nameless Fanboi Posted ID:8kDgSaq/pL

>>126 ใช่ 5555555555555 เห็นบางคนภาษาเพ้อสัด ไม่รู้เป็นญาติฝ่ายไหนกับหกสค

128 Nameless Fanboi Posted ID:krLGoMpGuR

>>126 อ้าว แชร์เพลงไม่ได้เหรอวะ กูเป็นนข. เวลากูเขียนเรื่องไหนแล้วเพลงมันเข้ากูก็ชอบแชร์ให้คนอ่านฟังด้วยนะ มันไม่ดีหรือยังไงอะมึง

129 Nameless Fanboi Posted ID:ZnuF2d.Nir

>>128 แชร์ได้ดิ กูหมายถึงที่แชร์เยอะๆเป็นสิบเพลง เกินพอดี

130 Nameless Fanboi Posted ID:krLGoMpGuR

เขียนไป 10 ตอน พระนางรักกันได้ยังวะ รึมันเร็วไป

131 Nameless Fanboi Posted ID:HFIQXiJViT

>>20

132 Nameless Fanboi Posted ID:Ccn+scOq54

กูพูดในฐานะคนอ่านและคนแต่งนะ เรื่องแชร์เพลงนี่ขอบเขตประมาณเอาลิ้งมาแปะแล้วให้คนกดไปฟังอันนั้นไม่อะไร แต่มึงเคยเจอแบบเนื้อลงไปในนิยายเลยปะ อันนี้กูในฐานะคนอ่านไม่โอเค ไม่ชอบ บางเพลงกูไม่รู้จักแล้วพอกูอ่าน กูต้องออกเสียงในหัวยังไงให้อินตามวะ

แล้วก็ที่เอามาลงๆไว้นี่ ไม่มีปัญหา​เรื่องลิขสิทธิ์​หรือไง

133 Nameless Fanboi Posted ID:dZ3m6gVzh5

>>132 มันชอบมาเป็นชื่อเพลง ละเพลงไม่ตรงรสนิยมกู กุแบบ ฮืออ ต้องฟังใช่มั้ยจะได้อิน พอเข้าใจนะว่ามันเพื่อมู้ดแอนด์โทนของเรื่องแต่บางทีอึดอัดอะ

134 Nameless Fanboi Posted ID:oA7+s26fC0

เข้าใจ กูเลยไม่ใส่เนื้อเพลงเข้าไปเลย มันตกยุคด้วยแหละ ยิ่งพวกชอบใส่เพลงตามกระแสนะ แม่ง ตอนเขียนเนี่ยเพลงมันก็กำลังมาใช่มั้ย แต่ลองเปิดดูอีกสองสามปีให้หลัง หรือเขียนจบแล้วดูสิ ครวญมาก ใส่อะไรลงไป ถ้าจำเป็นต้องใส่เพลงจริง ๆ กูจะใช้วิธีบรรยายความหมาย ทำนองอะไรก็ว่าไป ให้คนอ่านไปคิดเอาเองว่ามันจะเป็นเพลงที่มีอยู่จริงเพลงไหน

135 Nameless Fanboi Posted ID:HCrPapIQTP

กูแต่งนิยายลงเว็บปัญหา​คือไม่ค่อยมีคนคอมเมนท์​ นิยายที่กูลงผิดพลาดตรงไหนป่าววะ คือ ยอดวิวก็เยอะอยู่นะสำหรับ6ตอนที่ลงไปแต่คอมเมนท์​แค่12เองว่ะ ในทวิตก็มีคนพูดถึงนิยายกูอยู่สองสามคน กูอยากได้ฟีดแบ็กบ้าง
นิยายกูเป็นวาย แฟนตาซี​หน่อยๆ
กูอัพเดือนละ1ตอน ตอนละ3000-5000ตัวอักษร
หรือกูควรอัพให้เร็วกว่านี้วะ แต่ติดปัญหา​เรื่อง​ไม่ว่างแต่งอีก กูมีงานเขียน​ต้องส่งประจำปีละ1เล่มอยู่
พวกมึงมีวิธีเขียนยังไงให้ได้สักอาทิตย์​ละตอนวะ สร้างแรงบันดาลใจ​กันยังไง

136 Nameless Fanboi Posted ID:vagZcrPITt

>>135 เขียนตุนเป็นสต็อกไว้ จบแล้วค่อยลงดีสุด

137 Nameless Fanboi Posted ID:vagZcrPITt

อ้าวชิบหาย ตอบไม่ตรงคำถามอีกกู 555 เอาเป็นว่าข้ามกูไปแล้วกัน 5555

138 Nameless Fanboi Posted ID:jRFI.mmjrV

>>135 หาคนรู้จัก ไปถามข่าวเรื่องนิยาย เช่น เคยอ่านแล้วตำชื่อเรื่องไม่ได้จะกลับไปอ่านต่อ ลงเรื่องย่อไว้นิด มีเลือนๆบ้าง. ถ้าfcไม่มาเฉลย ก็หาเพื่อนไปเปิดว้าบให้ จะได้เนียน นิยายดีก็ต้องมีโฆษณาบ้าง ช่วงนี้นิยายออกกันเยอะคนอ่านอ่านไม่ค่อยทัน

139 Nameless Fanboi Posted ID:UJZIm1rTZz

>>135 ตอนมึงน้อยไปนะ วิวเยอะนี่ประมาณเท่าไหร่ พันสองพันไหม กูว่าต้องมีตอนมากกว่านี้สัก 15-20 ตอนค่อยดูทิศทางได้

ส่วนฟีดแบค คนปกติเขาไม่บอกจนกว่าตอนที่มึงเขียนจะโดนใจเขาจริงๆ อะ นอกนั้นสายให้กำลังใจ สายเข้ามาแล้ววิจารณ์แง่ลบพวกนี้ปกติจะไม่ค่อยเจอ เป็นสายหายาก สายอยู่ๆ อยากวิจารณ์เรื่องของมึงยิ่งหายากเข้าไปอีก คนปกติสนุกก็ตามอ่านต่อเฉยๆ ถ้าไม่สนุกคนจะน้อยลง น้อยลง โดยไม่ต้องพูดอะไร

อัพเดือนละตอน มึงต้องพยายามทำให้แต่ละตอนพีคๆ หน่อย ตัวอักษรกูไม่ค่อยนับ ปกตินับเป็นจำนวนคำ ถ้าเดือนหนึ่งมึงแต่งได้แค่นี้ มึงรออีกสักปี ค่อยดูทิศทางอีกที

เขียนให้เร็วคือมึงต้องเป็นมืออาชีพอะ แบบเลี้ยงปากเลี้ยงท้องด้วยการเขียนมึงอาจจะเขียนได้เร็วขึ้น หรือมึงเขียนด้วยความสุขก็อาจจะเร็ว เขียนเป็นประจำพอชินแล้วก็อาจจะเร็ว แรงบันดาลใจคือมันมาไม่ยากหรอก มึงเดินๆ ไปก็เจอ แต่เก็บไว้มันยาก เวลาอยากเขียนก็ต้องเขียนเอาไว้เยอะๆ นอกนั้นออกแนวสถานการณ์บังคับปิดเล่มแล้ว มึงอาจจะระเบิดพลังออกมาได้

140 Nameless Fanboi Posted ID:oCgDMpmZO8

เพื่อนโม่งปรึกษาหน่อย
ระหว่างเขียนแนวหนักๆ แต่เนื้อหาแน่นและชวนลุ้น กับแนวย่อยง่ายเบาสมองไปวันๆ แต่เนื้อหาห่วยแตก แบบไหนมันจะไปรอดกว่ากันวะ
คือกูหาวิธีเขียนให้มันสนุกทั้งสองแบบพร้อมกันไม่ได้อะ ถ้าจะเน้นเนื้อหาเป็นหลักก็ต้องเครียดกันหน่อยถึงจะมีช่วงผ่อนคลายแต่ theme หลักของเรื่องยังไงก็ค่อนข้างหนักว่ะ

141 Nameless Fanboi Posted ID:hqSyuKl+jL

>>140 หมายถึงคนจะอ่านแนวไหนมากกว่ากันช้ะ กูอยู่สายวายนะ กูว่าแนวผ่อนคลาย slice of life รอดกว่า

142 Nameless Fanboi Posted ID:3xRPhChPnk

>>139 วิวหลักหมื่นอะมึง แต่คอมเมนท์​แม่งสวนทางกันมาก กูเลยอยากรู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร ผิดพลาด​ตรงไหน อ้อนับตามหลักwordนั่นแหละ

143 Nameless Fanboi Posted ID:s8u+3d6noS

>>140 ถ้าเน้นรุ่งคนอ่านเยอะเป็นหลักก็ต้องพวกย่อยง่ายๆ นั่นแหละ เรื่องที่เนื้อหาหนักๆ คนส่วนมากจะอ่านติดกันไม่ได้นาน ถึงจะชอบ แต่พออ่านซักเรื่องสองเรื่องก็อยากพักหัวแล้ว

144 Nameless Fanboi Posted ID:Dawrohtb9r

>>142 นิยายมึงมีปัญหาจริงๆ นั่นแหละถ้าวิวขนาดนั้นแต่คอมเมนต์แค่นี้ มึงลองคิดดูว่าแต่ละตอนของมึงมันมีอะไรให้เมนต์หรือเปล่า ถ้าเขียนมาหลายเรื่องหรืออ่านนิยายเว็บมาพอสมควรจะมองออกว่าตอนไหนๆ คนจะเมนต์ แต่ถ้ายังนึกไม่ออกกูไกด์คร่าวๆ ให้ว่ามันมีโมเมนต์อะไรในตอนไหม เช่น จุดให้คนอ่านรู้สึกฟิน จุดที่แบบดูน่าสงสัย จุดที่แบบทำให้อยากอ่านต่อ ถ้าเรื่องมันยังปูอยู่ ยังทั่วๆ ไปโมเมนต์ไม่เด่นชัดคนก็อาจจะเฉยๆ กดให้กำลังใจไปตามเรื่องราว อีกข้อก็ลองสังเกตตอนใหม่แต่ละตอนว่ายอดวิวลดแบบฮวบๆ เลยไหม ปกติตอนแรกๆ ยอดวิวเยอะกว่าอยู่แล้วเพราะคนมาใหม่มันก็มาเริ่มอ่านตอนแรกใหม่มันก็ทบๆ ไป ตอนที่เขียนตอนยอดเลยเยอะกว่าตอนหลัง แต่ถ้ามีปัญหายอดวิวจะหายฮวบเพราะคนกดปิดเรื่องไม่อยากอ่านต่อทำให้วิวตอนต่อๆ มามันลดแบบผิดสังเกต

อย่างสุดท้ายที่พอนึกออกคือโมเมนต์ที่ว่าถ้าใส่ไว้ช่วงท้ายๆ ตอนมันจะได้ผลมากกว่าใส่ไว้ตั้งแต่แรก คนอ่านจบแล้วกรี๊ด พิมพ์คอมเมนต์ให้ ถ้าใส่ไว้แรกๆ คนอ่านไปๆ อาจจะเลยฟีลที่จะมาเมนต์ให้แล้ว

145 Nameless Fanboi Posted ID:MehgZDFGpm

>>140 เราสายวายแฟนตาซี เขียนแนวพล็อตหนักปวดตับ ก็พอมียอดวิวยอดเมนต์นะ ปัญหาคือชื่อเรื่องกะปกมาแนว slice of life เนื้อเรื่องแรก
ๆ ใส ๆ แต่หลัง ๆ dark metal มาก คนอ่านก็จามอ่านนะ เลยไม่รู้ว่าวิวกะเมนต์ที่มีนั้น มาจากคนอ่านโดนหลอกหรือเค้าชอบเรื่องหนัก ๆ กัน

146 Nameless Fanboi Posted ID:fENZVyfWQ4

>>140 แนวหนักหนาสาหัส นานๆ ทีถึงจะอ่านเพื่อเสพมุมมอง ปกติชอบแนวสบายๆ แต่เนื้อหาต้องไม่ห่วยแตกด้วย ไม่ว่าจะแนวไหนก็ตาม คิดว่าไม่มีใครอยากอ่านเนื้อหาห่วยๆ นะ (หรือมี?) แต่ถ้าห่วยในที่นี้หมายถึงไม่ค่อยมีปมอะไรมาก เน้นบรรยายการใช้ชีวิต แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ดี มีธีมที่จะสื่อถึง ก็อ่าน ชอบด้วยซ้ำ

147 Nameless Fanboi Posted ID:PJUdA2EHKW

>>140 กูมาช่วยเสริมในฐานะคนอ่าน ถ้าหนักหน่วงชวนลุ้นแต่ชีวิตบัดซบน้ำเน่ามากกูไม่อ่าน ขึ้นอยู่กับตัวละครหลักด้วยว่านิสัยเป็นยังไงถ้ากูชอบกูคงอ่านต่อ >>146 +1 แต่ถ้า slice of life ไปเรื่อยๆกูก็อาจจะเลิกอ่านกลางเรื่องเพราะเบื่อก่อน

148 Nameless Fanboi Posted ID:m+AMQOEX8z

>>142 กูเฉยๆกับวิวหลักหมื่นคอมเมนต์หลักร้อย วิวหลักแสนคอมเมนต์หลักร้อยก็มีให้เห็นถมไป เรื่องมึงอ่านได้แต่ไม่พีคพอที่จะให้คนอ่านฟรีเมนต์งานมึง

149 Nameless Fanboi Posted ID:G4K+lkMdFo

>>144 น่าจะยังไม่มีจุดพีค เพราะตัวเอกยังไม่เจอหน้ากันตรงๆว่ะ เอาไว้กูจะปรับในตอนอื่น กูแอบคิดว่ามันเป็นเพราะมีปุ่มกดให้กำลังใจ​นักเขียนเปล่าวะ คอมเมนท์​เลยน้อย

150 Nameless Fanboi Posted ID:V7Ag1lLe1j

>>149 ส่วนหนึ่ง แต่กุว่าคนไม่เม้นก็คือคนไม่เม้นอะ ตุ่มให้กำลังใจสำหรับกุคือตุ่มสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะเม้นอะไร กดๆให้ไปละกัน แบบนี้

151 Nameless Fanboi Posted ID:7TUzXx+LX0

เห็นเคยมีคนบอกว่าสาเหตุที่ไม่คอมเม้นท์กัน เพราะอ่านในแอปเด็กดีมันคอมเม้นท์ยาก

152 Nameless Fanboi Posted ID:7TUzXx+LX0

จะว่าไปช่วงนี้รู้สึกว่าตัวเองเขียนสำนวนไม่ค่อยไหล่ลื่นเลยว่ะ
หมดอารมณ์? หรือว่าหมดไฟที่จะเขียนแล้วหว่า? เจอแบบนี้ทำไงดีวะช่วงหยุดยาวนี้ก็พักเขียนมาพอแล้ว แต่ก็เหมือนอารมณ์จะไม่กลับมาอะ

153 Nameless Fanboi Posted ID:Nr0XZIxHMa

>>152 กูก็เป็น สำนวนทื่อลงอย่างเห็นได้ชัด กูเขียนเรื่องยาวไม่ได้จริงนะตอนนี้ เขียนได้แต่อะไรสั้นๆ ไม่เกินพันคำ แค่ให้ถึงพันคำก็แทบกระอักเหมือนกัน จะพักก็เพลินจนไม่กลับมาเขียนซะงั้น 555 มารอด้วยละกัน

154 Nameless Fanboi Posted ID:.ItlaEeSmB

สำนวนกูเรียบมากเลยว่ะ กูพยายามจะใช้ร่างหนา ร่างบางละนะ แต่แม่งไม่ใช่สไตล์กูเลย ทำยังไงให้สำนวนสวยๆแบบคนอื่นเขาบางวะ แต่จริงๆกุก็ไม่รู้ว่าสำนวนสวยๆคืออะไร ฮืออ

155 Nameless Fanboi Posted ID:a5i.MHikSd

>>154 สงสัยด้วยคน สำนวนสวยๆ ต้องเป็นแบบไหน ใครก็ได้ยกตัวอย่างที คิดเองคิดแล้วมันลิเก๊ลิเก เหอๆๆ

156 Nameless Fanboi Posted ID:aqRKHYF6Hl

>>154 กูดีใจที่มึงไม่ใช้ร่างหนาร่างบาง คนตัวใหญ่ กูอ่านเวลาคนใช้กันถี่ๆแล้วมันเอียนมาก
สำนวนสวยๆคืออะไรกูไม่รู้นะ แค่สำนวนที่ลื่นไหล มีmood and tone ชัดเจน ก็ยากพอแล้ว

157 Nameless Fanboi Posted ID:LOibbsbwGM

>>154 อย่าใช้เลยมึง กูไม่ชอบ 5555 เดี๋ยวนี้มีคนไม่ชอบเยอะนะใช้ร่างหนาร่างบางเนี่ย
กูไม่แน่ใจว่าภาษาสวยเป็นยังไง เรื่องแบบไหนเรียกภาษาสวย งั้นกูขอข้ามเรื่องนี้ละกันนะ
มาคุย+บ่นเรื่องร่างหนาร่างบาง คือถ้าจะหาคำเรียกเวลาบรรยาย กูว่าใช้สรรพนาม เขา ผม เธอ ธรรมดา / ชื่อตัวละคร แค่นี้ก็ได้ละอะ
จริงๆจะแทนแทนร่างหนาร่างบางงี้ก็ได้นะ แต่อย่าเยอะแบบแทนมันทุกคำ เพราะคนที่เค้าไม่ชอบก็ไม่ชอบเพราะใช้งี้ทุกคำนี่แหละ นักเขียนบางคนไม่จบแค่ร่างหนาร่างบาง แต่บรรยายทุกอย่างเป็นหนาบางหมดเลยอะ แบบ มือหนา ปากหนา คิ้วหนา เอวหนา คือบั่บ บางอย่างก็ไม่ต้องหนาก็ได้ ตัวละครหล่อๆมันก็หล่อแบบปากบางๆ คิ้วบางๆได้แหง่ะ ถ้าจะบรรยายหนาหมด ไม่บอกว่าหน้าหนาไปด้วยเลยล่ะ

158 Nameless Fanboi Posted ID:168Ix+VU/r

>>154 ใช้ได้ถ้ามึงใช้อย่างเหมาะสม ถ้าเยอะเกินหรือผิดจังหวะผิดบริบทจะกลายเป็นน่ารำคาญแทน
รุ่นครูอย่างทมยันตีเขารู้วิธีใช้ สำนวนเลยสวย ประทับใจ แต่รุ่นใหม่ๆที่เลียนแบบสำนวนเขา ใช้ไม่เป็น อ่านแล้วรกๆ

159 Nameless Fanboi Posted ID:HX7M2mF7mz

เมื่อก่อนกูติดสำนวนบารามอส นึกออกมช่มะ มาทั้งสีตา สีผม ร่างหนาร่างบางเลย แต่เดี๋ยวนี้อ่านพวกแปลเยอะ สำนวนเลยเหมือนแปลไปด้วย 555 สมัยนั้นอ่านแล้วคิดว่าสวยนะ แต่พอมาปัจจุบัน อ่านแล้วรู้สึกมันยืดเยื้อไม่ก็แปลกๆ

160 Nameless Fanboi Posted ID:hPy.zsDrYv

สำนวนสวยในใจกู ขณะนี้กูยังยกให้แก้วเก้านะ ไม่ได้ใช้คำหรูหรือประดิษฐ์อะไรมากมาย แต่อ่านแล้วมันรื่นหู ไม่กระตุก ไม่กระฉึกกระฉักแปลกๆเหมือนบางเรื่องที่พยายามใช้คำหรูๆแต่ไม่เข้าว่ะ

อ๋อ อีกเรื่องที่เป็นต้นแบบทางภาษาที่กูอยากเขียนให้ได้แบบนั้นนะ....ทางช้างเผือก เรื่องเซ็ตของมานะมานีนั่นแหละมึง กูรู้สึกเขาเขียนง่าย แต่เขียนแล้วจับใจว่ะ นี่ชอบนั่งอ่านเรื่องเซ็ตนี้วนไปเผื่อจะได้สำนวนมาอยู่เนี่ย

161 Nameless Fanboi Posted ID:Wi3YQXI+u7

กูว่าสำนวนของพวกแนวแฟนตาซีโรงเรียนอ่ะแปลก 555555 (ไม่ได้พูดถึงบารามอสนะ บารามอสมันมีจังหวะความอนิเมะเยอะอ่ะกูว่า) แต่คนที่อยู่ช่วงหลังจากนั้นอ่ะ พวกเรือนผมสีฟ้า นัยน์ตาเย็นชาสีท้องฟ้ายามค่ำคืน อะไรประมาณนี้อ่ะ แต่ตอนนั้นกูก็เขียนภาษาแบบนี้เหมือนกัน

162 Nameless Fanboi Posted ID:CTY1lO3FuD

สำนวนสวยๆ มันต้องใช้แบบ Show อะ
แต่ตอนนี้กูตันแม่งยัด Tell มาอย่างเดียวเลย พอย้อนกลับมาอ่านแล้วรู้สึกว่าโคตรจืด แต่จะแก้ใส่ show เข้าไปบ้างก็ดันไม่มีอารมณ์ซะงั้น

163 Nameless Fanboi Posted ID:Wl0zplBBhI

กูชอบสำนวน ปิยะพร อ่ะ ป้าอี๊ดกูว่าบางที่ก้อรู้สึกเยอะไป กิ่งฉัตรก้อดูมีความพยายามมาแนวเดียวกับป้าอี๊ด

164 Nameless Fanboi Posted ID:Pcv1TcbG2q

>>162 ยังไงอะเพื่อนโม่ง

165 Nameless Fanboi Posted ID:tJDSqasv5L

>>162 เออว่ะ บางทีกูก็เบื่อที่จะshowแล้ว จับยัดปากตัวละครให้Tellเลยได้มะ 555

166 Nameless Fanboi Posted ID:hOZBFPY983

>>162 มันต้องบาลานซ์กันมั้ย แล้วก็ขึ้นอยู่กับซีนนั้นด้วยว่าควรเน้นอะไร show หรือ tell อย่างเดียวทั้งเรื่องนี่ยากเลยสำหรับกู นักอ่านเอาจริงก็คงไม่มานั่งเพ่งหรอกว่าอีนี่เทลทั้งเรื่องเลยเว้ย (แต่ถ้าทั้งเรื่องจนเกินไปแบบนี้กูก็ด่านะ ไม่ว่าเขา 555) เขียนยังไงก็ได้ให้สมูท อ่านแล้วคล้อยตามคือคอมพลีทแล้วอะกู

167 Nameless Fanboi Posted ID:CNVY2JH+Ln

กูเคยเจอนักเขียนที่บ่นว่าขัดใจเวลาอ่านเจอสำนวนร่างบางร่างหนา แต่ในนิยายเขาก็ใช้คำแทนแบบพวก "คนผมเป็นลอนทำหน้างง" "คนผมตรงดูดน้ำจากหลอด" ซึ่งเอาจริงๆ กูว่ามันน่าขัดใจกว่าอีร่างบางร่างหนาอีกว่ะ ความจริงจะใช้อะไรก็ใช้ได้ แค่อย่าใช้บ่อย

168 Nameless Fanboi Posted ID:9.piVJj.xo

แล้วใช้เขาบ่อยๆ ไม่เบื่อกันใช่ป้ะ

169 Nameless Fanboi Posted ID:/YZI.QmfeJ

>>168 สำหรับกูกูว่าไม่นะ ขึ้นอยู่กับว่าใช้บ่อยแค่ไหน แบบในนิยายแปลก็ใช้ เขา บ่อยๆ อ่านไปก็ไม่รู้สึกขัดเท่าไหร่
ถ้ากลัวซ้ำบ่อยก็สลับๆเรียกกัน ใช้ เขา, ชื่อตัวละคร, หรือใช้ ชายหนุ่ม หญิงสาว เด็กหนุ่ม ไรงี้แทนก็ได้, หรือไม่ก็ใช้ตำแหน่งหรืออาชีพ (คุณหมอ ทนาย บลาๆๆ) หรือไม่ก็ใช้ฉายา (ถ้ามี) ไรงี้
ส่วนตัวกูกูใช้ เขา/ชายหนุ่ม/ชื่อตัวละคร สลับกันไปแค่นั้น อ่านเองก็ไม่รู้สึกว่ามันซ้ำจนน่ารำคาญนะ

170 Nameless Fanboi Posted ID:1MgJZ5.h.T

>>166 กูใช้ show ซัก 30% อะที่เหลือเป็น tell
แต่ตอนนี้ตันๆ แม่ง tell ซะ 100% เลย

171 Nameless Fanboi Posted ID:Ze3iSqF7f9

สำนวนสวยสำหรับกู ต้องอ่านลื่นว่ะ ศัพท์​ยาก ศัพท์​ง่ายยังไงก็ได้ แต่เวลาอ่านออกมามันต้องลื่นไหล อ่านแล้วอินตามประมาณนั้นอะ

172 Nameless Fanboi Posted ID:/VsNpQzGmw

ระหว่างแพ็คขายนิยายในดด. ออกอีบุ๊ค กับส่งสนพ. เพื่อนโม่งว่าอันไหนดีกว่ากัน

173 Nameless Fanboi Posted ID:h/6kN6hmLn

>>172 ไม่รู้อันไหนดีกว่า แต่สำหรับเรา e-book สะดวกที่สุด meb ให้ส่วนแบ่งเยอะกว่า และขี้เกียจรอสำนักพิมพ์
แต่กำลังคิดว่า เรื่องไหนที่อยากได้ฟีดแบ็คและไม่รีบหาเงิน ก็อาจจะลองส่งดู จะได้เอาคอมเม้นท์มาพัฒนางานตัวเองอะ

แต่ก็มีเพื่อนถามนะทำไมไม่เปิดขายในดด. มันจะได้อยู่ที่เดียวกัน เขาขี้เกียจไปสมัครสมาชิก meb (แต่ตอนนี้มันก็สมัครไปละ)

รอโม่งอื่นมาตอบอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้เถอะ TT

174 Nameless Fanboi Posted ID:SqtlsWZf21

>>172 ส่งสนพ.ได้พัฒนางาน ได้วางร้านแบบไม่ต้องยุ่งยากเอง ติดสัญญา3-5ปีแล้วแต่ที่ แต่ต้องรอเงินหลายเดือนกว่าจะจบกระบวนการ

ทำอีบุ๊คเองได้เงินเร็วกว่า ถ้าฐานแฟนเยอะดีไม่ดีได้เงินเยอะกว่าออกสนพ.อีกเพราะไม่ต้องถูกหัก%อีกทอด ข้อเสียคือเรื่องคุณภาพงานอะ ถ้ามีมาตรฐานที่ดีอยู่แล้วก็ดี ถ้าไม่ก็จะพัฒนางานตัวเองยากหน่อยเพราะไม่มีคนมาช่วยติงช่วยคิดแบบสนพ. การตลาดต้องทำเอง ในกรณีที่เป็นแนวนิยายรักโอกาสขายละครยากกว่าการออกเล่มกับสนพ.(แม้ออกกะสนพ.ก็ไม่ได้ขายง่ายเสมอก็เถอะ)
ส่วนขายที่ไหนคงแล้วแต่ แต่คิดว่าmeb ค่อนข้างโปร่งใสที่สุดแล้วนะ

175 Nameless Fanboi Posted ID:GO/OxCrwyz

>>174 โปร่งใสคือ MEB แต่ถ้าอยากได้ตุกติกจ่ายเงินช้าเลยแง่ อุ๊คบี ธัญวลัย ฟิคชั่นล็อค

176 Nameless Fanboi Posted ID:szOJPU8V2w

ขอบคุณมากโม่ง >>173-174 คราวนี้เรามีปัญหาหนักกว่าเดิมคือ คนอ่านอยากได้เป็นเล่ม เรามีฐานแฟนเล็กน้อย แต่กำลังกังวลว่าถ้าพิมพ์แล้วจะแกลบกินรึเปล่า (แบบว่าสุดท้ายอาจจะเท่าทุนหรือขาดทุน) แล้วปกติพิมพ์เกินยอดสั่งจองกันไหม หรือ e-book นี่ดีสุด เพราะไม่มีต้นทุน

177 Nameless Fanboi Posted ID:k4esX0P7p1

>>176 ถ้าอยากพิมพ์เล่มตัวค่าพิมพ์จริงๆไม่ได้สูงมากนักนะ ไงๆลองถามว่าจะพรีออเดอร์ก่อนเอามั้ย ถ้ามีคนเอา ก็น่าจะพอพิมพ์ได้แหละ แต่มึงก็จะเหนื่อยมากเหมือนกัน สู้ๆนะ

178 Nameless Fanboi Posted ID:SqtlsWZf21

>>176 ทำแค่เท่าที่สั่งพอ สำรองนิดหน่อย อย่างลืมกะราคาดีๆ +ค่าส่งด้วย

179 Nameless Fanboi Posted ID:YXSjBPW4Es

>>176 ไม่เคยทำเล่ม แต่เห็นในกระทู้ดด.มีเรื่องหนังสือทำมืออยู่นะ ลองกูเกิ้ลดู พวกโรงพิมพ์แต่ละที่เป็นไง ราคาเท่านี้คุ้มไหม จำนวนหน้าเท่านี้ คิดเท่าไร (แต่ละที่มีของแถม/โปร/เนื้อกระดาษต่างกัน) ทำปก ภาพประกอบ ฯลฯ

ตอนถามจำนวนคนสั่งกับตอนพรีฯ จริง อาจจะไม่เท่ากัน ก็ต้องถามโรงพิมพ์เผื่อ เพราะจำนวนต่างกัน ราคาอาจจะต่างนะ

นอกจากนั้นก็ค่าบับเบิ้ล ค่ากล่อง ค่าส่ง
คิดดีๆ ด้วยว่าจะเก็บข้อมูลคนสั่งยังไง จัดเก็บเลขพัสดุต้องตามได้ เพราะถ้าทำเองมันเริ่มตั้งแต่เขียน ยันหนังสือถึงมือคนอ่าน

นี่คือเท่าที่จำได้ แต่ไม่เคยทำจริงนะ ลองไปหาตามกระทู้เก่าๆ หรือรอคนมีประสบการณ์อีกที

180 Nameless Fanboi Posted ID:+WNuv598fu

>>172 ไม่แนะนำให้ส่ง สนพ. แต่เขียนให้ สนพ. ติดต่อมาเองดีกว่า อันไหน สนพ. ไม่ติดต่อมาก็ทำเองออกเอง โอกาสผ่านมันไม่มาก ถ้างานมันน่าจะขายได้เขาติดต่อคนเขียนเองเป็นส่วนใหญ่ ถ้ารอมันเสียเวลาพอสมควร

เขียนยังไงให้ สนพ. ติดต่อมา เขียนให้ดี สนุก น่าติดตาม ติดอันดับ 1-3 นานๆ ไม่เกิน 3 เดือนเดี๋ยวคงมีคนติดต่อไปเอง

>>173 ที่รู้จักเป็นแบบนี้หลายคนเหมือนกัน อยากให้อยู่ที่เดียวกันแต่ไปอยู่นั่นหมด อันไหนขายดี ได้ % เยอะก็ไป

>>176 ถ้าทำแล้วขาดทุนก็ไม่ต้องทำ หรืออยากได้ประสบการณ์ก็ลองทำดู ปกติมันไม่น่าจะขาดทุนได้ถ้ามึงไม่สั่งวาด จ้างพิสูจน์อักษร จ้างคนจัดเล่ม

อ่อ มึงต้องรับเงินเขามาก่อนนะค่อยสั่งพิมพ์ อย่าไปพิมพ์ตามยอดจอง บางคนจองแต่ถึงเวลาไม่จ่ายก็มี สำรองได้ถ้าเงินเหลือ

181 Nameless Fanboi Posted ID:sE/9iJSflw

ยอดจองนี่คือช่วยคำนวณราคาต่อเล่มได้
แต่มึงต้องให้โอนเงินเต็มราคามาก่อนสั่งพิมพ์นะ
ถ้าเงินที่โอนมาน้อยกว่ายอดจองแต่coverต้นทุนและได้กำไรเล็กน้อยได้ก็พิมพ์ไป แต่ถ้าไม่มึงก็อย่าเลย โอนเงินคืนยังจะดีกว่าเข้าเนื้อ
บอกคนอ่านตรงๆ ขอเบอร์บัญชีโอนกลับไว้ล่วงหน้าเลย

182 Nameless Fanboi Posted ID:wxEB9JKofB

>>177-181 ขอบคุณมาก ได้ความรู้อีกมากเลย เราเคยแต่เขียนฟิคร่วมกับคนอื่นแต่เค้าเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมด เพิ่งรู้ว่ามันเหนื่อยมากก็ตอนนี้แหล่ะ

183 Nameless Fanboi Posted ID:57iYKMg70I

ในเด็กดี ถ้าค้นคำที่ไม่มีในชื่อเรื่องแต่มีในแท็ก เช่น เรื่องชื่อ สวัสดีครับคุณครู แต่ติดแท็กดราม่า พอค้นคำว่าดราม่าก็ไม่ขึ้นงี้เหรอ มีแท็กไปทำไมวะนั่น

184 Nameless Fanboi Posted ID:VMwOghwy3H

>>183 เวลาเสิร์ชในอากู๋ไง

185 Nameless Fanboi Posted ID:JGLQWGjOjd

กูแชร์มั่ง เดี๋ยวนี้ขี้เกียจรวมเล่ม กูเขียนงานทีไรมีแต่คนถามหาอีบุ๊ค แล้วช่วงนี้กูย้ายหอด้วย ไม่มีที่เก็บ เลยลงอีบุ๊ครัวๆ กูว่ามันก็โอเคอยู่นะ ถึงจะโดนหักเยอะอยู่ก็เถอะ อย่างน้อยก็ไม่ต้องเปลืองที่เก็บกับเปลืองค่าห่อส่งว่ะ

186 Nameless Fanboi Posted ID:aFi.lQDn1+

>>185 กูเห็นด้วยว่ะ ช่วงนี้อีบุ๊คขายง่ายกว่า ขายเร็วด้วย ไม่ต้องรอการผลิต

187 Nameless Fanboi Posted ID:t//lK5JwRj

>>185 เล่มเคยคิดจะทำ แต่ก็ขี้เกียจดีลกับคน เลยวางแต่อีบุ๊กเลย เรื่องขายได้น้อยมากไม่ค่อยคิดอะ อยากซื้อก็กดไป ไม่ชอบก็ไม่ว่ากัน

188 Nameless Fanboi Posted ID:dMkdKqRCdg

เบื่อนักชิปจัง อัพตอนใหม่เนื้อหามีแต่สงคราม​กะการเมือง​ เคยบอกละว่าเรื่องไม่เน้นโรแมนซ์ คอมเมนท์​มีแต่ "สาวใหม่ ปักธงๆ" "ฮาเร็ม​ๆ" ไม่คุยเนื้อหา​กะกุเลย T_T

189 Nameless Fanboi Posted ID:uKiIzuSqpf

>>188 เว็บดด.ปะ งี่แหละ คงต้องทำใจส่วนมากเป็นเด็กหรือคนที่ชอบอะไรแนวๆนั้นแหละ เหอๆ ๆ ๆ แต่กูก็เขียนลงเด็กดีนะ คนอ่านมันยังเยอะอยู่ดีอะ

190 Nameless Fanboi Posted ID:uKiIzuSqpf

นครคนนอกแม่งเฟี้ยวดีว่ะ กูชอบมาก

191 Nameless Fanboi Posted ID:PuPW1AhD+k

>>188 มึงต้องหัดมองโลกในแง่ดีบ้างนะ มึงดูคนข้างบน ยอดวิวติดท้อป ยอดเม้นแทบไม่มี
หรือยังมีพวกที่ไปโวยใส่นักเขียนขอ nc ขอฉาก xx ขอนั่นนี่ ด่านักเขียนถ้าชิปไม่ถูกใจพวกนี้อีก ของมึงเขาแค่กรี้ดกร้าดมึงก็เฟลซะแล้วเหรอ ถ้ากูเป็นนักเขียนไร้เม้นคงสาปแช่งมึงไปแล้ว

192 Nameless Fanboi Posted ID:qzIG/z0XuL

>>191 มึงอย่าพูดไปสิ กูคือนักเขียนไร้เม้นท์ี่กำลังสาปแช่งอยู่เนี่ย

193 Nameless Fanboi Posted ID:I4FQMs0jFo

กูคงหมดไฟไปแล้วจริงๆ พยายามเข็นให้จบตอนแค่ตอนเดียว ผ่านมาจะสามเดือนแล้วกูพึ่งเขียนไปไม่ถึง10%ของตอน ทำยังไงให้กลับมามีไฟเขียนวะ
แม่งปัญหา​ใหญ่เลย พอเขียนตอนนี้ไม่ได้กูพลอยกังวลไปหมด จนงานเรื่องอื่นจะล้มตามไปด้วย (กูเป็นประเภท​เขียนงานพร้อมกันที่สองสามเรื่องนะ)​เมื่อก่อนเคยมีปัญหา​แบบนี้นะ แต่ไม่เคยเป็นนานขนาดนี้เลยว่ะ ขนาดกูยอมจองตั๋วไปเที่ยวผ่อนคลาย​แล้ว งานยังไม่เดินเลยว่ะ กูเศร้าและเครียดมาก

194 Nameless Fanboi Posted ID:YsnK+83PM9

>>193 ใจเย็น กูว่าพักก่อน ถ้าเขียนไม่ออกก็พักก่อนได้ กูก็เป็น (ตอนนี้ก็เป็นอยู่) ไม่ได้เขียนอะไรมาหลายเดือนแล้ว คนอ่านจะแดกหัวละ แต่ก็พยายามใจเย็นๆ กูว่าฝืนไปก็เขียนไม่ออกอยู่ดี

195 Nameless Fanboi Posted ID:GM3GKGkq+O

>>193 ถ้าลองพักลองเที่ยวแล้วไม่ได้ผล ลองวิธีตรงกันข้ามมั้ยมึง เขียนตอนที่อยากเขียนของเรื่องนั้นแหละ ไม่ต้องเป็นฉากที่จะเกิดขึ้นก็ได้ แต่เอาฉากที่อยากเขียนมาเขียนก่อน เผื่อมึงจะกลับมาสนุกได้อีกครั้ง ถ้ายังไม่ได้จริงๆมึงก็ลองเขียนอันอื่นไปก่อนแล้วแวะมาเป็นพักๆเอา

เป็นกำลังใจให้จ้ะ

196 Nameless Fanboi Posted ID:2A.8cHiQHj

ขอบ่นมั่ง...
คือตอนนี้ไอเดียกลับมาจนสามารถเขียนงานได้แล้ว แต่ติดนิสัยชอบใช้สำฟุ่มเฟือยว่ะ คือถ้าไม่ใส่มาเยอะๆ มันดูเหมือนเป็นแค่คำบอกเล่าดาษๆ อะ

ยกตัวอย่าง
xxx เขากำลังเลียฝีปากและพ่นออกมาอย่างหื่นกระหาย สายตาจับจ้องมาทางผมที่เหลือแค่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียวแบบตาแทบไม่กระพริบจนชวนทำให้ขนลุก! เห็นท่าทางแบบนั้นแล้วผมก็แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาคือเพื่อนที่ร่วมหอที่เคยรู้จักกันมาถึงสามเดือน!!

197 Nameless Fanboi Posted ID:GM3GKGkq+O

>>196 กูไม่เห็นว่ามันจะฟุ่มเฟือยเกินไปนะ พอไหว แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัวกู อยากให้ระวังเรื่องว่าไงดี

เอางี้ >>> เขากำลังเลียฝีปากและพ่นออกมาอย่างหื่นกระหาย <<<< เลียฝีปากและพ่นออกมาอย่างหื่นกระหายนี่เป็นไงวะ แล้วฝีปากนี่หมายถึงความสามารถในการพูดไม่ใช่บอกส่วนหนึ่งของร่างกายนะ

แต่อันนี้เข้าใจได้ว่ามึงอาจจะด้นสดมาบรรยายให้เห็นปัญหาเฉยๆเลยไม่ได้ดูตรงนี้ให้ดีๆ ผ่านไปได้ นอกนั้นก็มีว่า ลองแบ่งวรรคเป็น

xxx เขากำลังเลียฝีปากและพ่นออกมาอย่างหื่นกระหาย สายตาจับจ้องมาทางผมที่เหลือแค่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียวแบบตาแทบไม่กระพริบจนชวนทำให้ขนลุก!

เห็นท่าทางแบบนั้นแล้วผมก็แทบไม่อยากเชื่อเลย ว่าเขาคือเพื่อนที่ร่วมหอที่เคยรู้จักกันมาถึงสามเดือน!!

ราวๆนี้ก็ไม่ดูใช้คำอัดไปแล้ว

198 Nameless Fanboi Posted ID:howB5te4vm

>>196 ไม่มีคอมเมนต์เรื่องคำฟุ่มเฟือย แต่ติดตรงเครื่องหมาย ! ว่ะ อันนี้เป็นจริตส่วนตัว กูไม่ค่อยชอบนักเขียนที่ใส่เครื่องหมายพร่ำเพรื่อ แม่งตกใจอยู่นั่นแล้ว อ่านแล้วเหนื่อยใจ

199 Nameless Fanboi Posted ID:JbncLrw7dP

เออ ๆ เห็น >>198 แล้วนึกได้ คือกูเป็นคนชอบเขียน ...เยอะอะ โดยเฉพาะเรื่องที่คาร์มันเงียบ ๆ นิ่ง ๆ หน่อย มีใครรำคาญตาบ้างมั้ยวะ กูตะได้พยายามลดลงหน่อย

200 Nameless Fanboi Posted ID:GF.jK+8qVA

>>196 กูสำนวนประมาณมึงอะ แต่ใส่อารมณ์น้อยกว่า ถ้าเป็นแนวกู คงประมาณ
xxx แลบเลียริมฝีปากและพ่นลมหายใจออกมาอย่างหื่นกระหาย สายตาของเขาจับจ้องมาทางผมที่เหลือกางเกงว่ายน้ำเพียงตัวเดียว ดวงตาของเขาที่แทบไม่กระพริบทำให้ผมรู้สึกขนลุกไปหมด เมื่อเห็นท่าทางแบบนั้น ผมก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าเขาคือเพื่อนที่ร่วมหอที่รู้จักกันมาถึงสามเดือน

201 Nameless Fanboi Posted ID:m9xBBEQaqe

>>199 แล้วแต่จังหวะ แต่กูไม่ค่อยใช้แทนอาการเงียบของตัวละคร ที่มีคนนึงถามหรือพูด แล้วส่งบทมาที่อีกฝ่ายละเงียบ "..." แบบนี้ไม่ใช้ว่ะ จะบรรยายว่าเงียบ หรือเขาตอบไม่ได้ ไม่เอ่ยคำนู้นนี้มากกว่า กูใช้ ... ในความทอดถอนใจ ทอดเสียง หรือเว้นจังหวะกิริยาอาการ ซึ่งก็ไม่มาก บทละไม่เกินห้าจุด

202 Nameless Fanboi Posted ID:g6EyEFPv5g

พ่นลมหายใจนี่ใช้กับหื่นได้เหรอวะ ถ้าพ่นลม (คือเป่าปาก) กูได้ฟิลประมาณมึงเซ็ง แบบ เฮ้อ! ไรงี้ มากกว่า ถ้าจะหื่นใช้คำว่าหอบหายใจเปล่า แบบ แฮ่กๆ

203 Nameless Fanboi Posted ID:9G7YZ0NXbm

ky อยากรู้ว่าทำไมนิยายรักส่วนใหญ่ (หรืออย่างน้อยที่กูสุ่มเจอ) ชอบเขียนให้พระนางทะเลาะกันโดยใช้คำพูดดูถูกกันอ่ะ ประเภทพระเอกด่านางเอกว่าโง่ ซื่อบื้อ หรือขี้เหร่ อะไรแบบนี้ คนเราในชีวิตจริงมันจะชอบคนที่มาบูลลี่ใส่แบบนี้เหรอ

204 Nameless Fanboi Posted ID:GF.jK+8qVA

>>202 กุว่าอารมณ์แบบ หมาป่าเห็นเหยื่อ ที่จะพ่นลมหายใจออกมา แบบหอบมันก็ดูเหนื่อยไป ไฮเปอร์เวน

>>203 ไม่อะ ในนิยายกูก้ไม่ฟิน ดูใช้อารมณ์ไม่ใช้เหตุผลเลยอะ โง่ ซื่อบื้อพอรับได้ แบบทำไมเธอโง่อย่างนี้นะ แนวแจ่มใสเลิฟซีรี่ส์ แต่ขี้เหร่นี่บายย

205 Nameless Fanboi Posted ID:0wlY/NY7Q7

ขอตรงๆ​ นิยายแฟนตาซีคนไทยเขียนตอนนี้​ สนพ.​ยังยอมพิมพ์อยู่ไหม​ หรือไปลงขายตาม​ fictionlog​ meb เองเลยดีกว่า​ ไม่เสียเวลารอคำตอบ

206 Nameless Fanboi Posted ID:m9xBBEQaqe

>>203 พ่นออกมาชั่ววูบมะ แบบคิดคำด่าไม่ออก สักแต่อยากด่างี้ 5555 แต่ถึงชั่ววูบมันคนมีตรรกะดีก็ไม่ด่าว่าโง่แบบนี้นะ กูคิดว่าคนเขียนยังอายุน้อย ไม่ก็ไม่เคยทะเลาะหรือผิดใจกับใครจริงจัง เลยไม่รู้ว่าคนเรามันจะผิดใจกันแบบฉลาด ๆ ได้ อาจบางทีแค่เงียบแล้วค่อย ๆ เฟดออกก็พอเว้ย พูดแล้วเศร้า เจอกับตัวแบบนี้โคตรบ่อย โกรธอะไรไม่รู้ ฝ่ายนึงไม่บอก ฝ่ายนึงไม่ถาม รู้ตัวอีกที กลับมาต่อไม่ติดซะแล้ว

ไอ้คำว่าโง่ ไม่สวย เรื่องของกูก็มีนะ แต่ไม่ใช่คำด่า แต่ก็ไม่ใช่คำตลกเหมือนกัน กูพยายามคุมคนแรคเตอร์ตัวละครให้มีสติที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำไมถึงทำแบบนี้ กินอันนี้ได้ไหม ถ้าแต่งงานมันก็จะมีความสุข ความทุกข์แบบนี้นะ บลา ๆ ซึ่งบางทีก็คุมจนเหมือนไม่ใช่คนเดินดินแล้วอห กลายเป็นต้องปรับเยอะเลยกว่าจะเข้าทาง

207 Nameless Fanboi Posted ID:O.gmluZznn

เอ่อ... กู >>196 นะ
กูผิดเอง!! กูจะเขียน "พ่นลมหายใจ" แต่กลายเป็นว่าตอนพิมพ์สดไปดันลืมเขียน ฮ่า~
ขอโทษที่ทำให้เพื่อนโม่งเข้าใจผิด

208 Nameless Fanboi Posted ID:+8TsMzjwQo

>>205 ก็ลองส่งไปก็ได้มั้ง แต่ว่าลองมองในตลาดก็ดูแล้วถ้าไม่ดังมาก่อน คิดว่าน่าจะรับยากนะ

209 Nameless Fanboi Posted ID:b524dc5DTc

>>194 >>195 Thanks เอาจริงๆกูคิดมากจนไมเกรนแดกอะ 5555 จะลองทำตามคำแนะนำนะ

210 Nameless Fanboi Posted ID:Ur870t4i0j

เออ กูคุยกับเพื่อนเรื่องแต่งนิยาย แล้วกูก็ยกนิยายเรื่องนึงที่บังเอิญเจอพอดีให้อ่าน ทีนี้แบบเขาก็บรรยายไม่เก่งไง ประเด็นมันอยู่ที่กูให้อ่านบทนำแล้วเพื่อนกูบอกว่าควรบอกว่าชื่ออะไร เป็นใคร มาจากไหนบลาๆ คือกูก็คุยเลี่ยงๆ ไปว่ามันก็แล้วแต่คนอะนะ มันไม่จำเป็นต้องเทลโต้งๆแบบนี้เสมอไป เพื่อนกูก็ไม่อะไร แต่กูชักสงสัย คนไทยส่วนใหญ่ติดแนวเทลทุกอย่างเหรอวะ หรือมันง่ายดี ไม่ต้องคิดอะไรมาก

211 Nameless Fanboi Posted ID:.A9Qqp57ez

>>210 คิดถึงงานตัวเอง กุใส่สัญลักษณ์ลงไปในงานเขียนอะ แบบบรรยายละเอียดๆหน่อย คนอ่านจะรู้เรื่องกับกูไหมเนี่ย หรือคิดว่าออกนอกเรื่องบรรยายในสิ่งไม่จำเป็น TT

212 Nameless Fanboi Posted ID:Go3upXUuzs

>>211 คนรู้เรื่องน่าจะมีมั้ง คนอ่านก็มีหลายประเภทนะ แต่เอาจริงก็สงสัยเหมือนกัน ในนิยายมีสัญลักษณ์หลายอย่างอยู่ กลัวว่าถ้าไม่อธิบายจะเก็ทกันมั้ย จะยกมาคุยท้ายตอนก็กลัวว่าพอรวมเล่มมันจะหายไปอยู่ดี จะใส่เชิงอรรถก็แปลกๆอีก /เรื่องเยอะวุ้ย

213 Nameless Fanboi Posted ID:ZzrUiQDLQz

>>203 ด่ากันแล้วทะเลาะกันยังพอว่า แต่ถ้าด่าแบบยายโง่ ยายเซ่อ ยายประสาทเอ๊ย แล้วนางเอกแม่งเขินหรือฟิน กูบายนิยายเรื่องนั้นเลย อีพวกแบดบอยตามรังควาญ ไม่ปรับปรุงตัวเหี้ยอะไรเลยแต่สุดท้ายดันรักกันก็ด้วย มันมีคนแบบนั้นจริงๆ นะ แกล้งคนที่ชอบ แซว ปากหมา ชวนทะเลาะ เพราะอยากแกล้งให้โกรธไงตะเอง โกรธซึนน่ารักจัง น่ารักกับผี ชีวิตจริงมันไม่ฟินเว่ย รำคาญเหี้ย ด่าเปิง

>>211 ถ้ามึงจะมีลูกเล่นมึงต้องแน่ใจว่าจะมีคนที่อ่านรู้เรื่อง ถ้ามึงอ่านรู้เรื่องคนเดียวนั่นไม่ใช่ลูกเล่น มันคือการที่มึงสื่อสารไม่รู้เรื่อง

และกูคิดว่าอย่าอธิบายจะดีที่สุด ให้คนอ่านเจอเอง เขียนอะไรที่อ่านยากๆ แล้วมานั่งอธิบายเพราะกลัวคนไม่รู้เรื่องแบบ "ไม่รู้ทุกคนสังเกตไหมว่าตรงนี้สอดแทรกอันนี้ไว้ มีความหมายว่าบลาๆๆ" มันแปลกๆ ว่ะ

214 Nameless Fanboi Posted ID:mRvOWTykT8

>>213 ใส่สัญลักษณ์ของกูคือกูก็บอกไม่ถูกว่าคืออะไร 555 แบบสมติว่า กูสร้างตัวประกอบผู้หญิงคนนึงขึ้นมาไม่บอกที่มาที่ไปกำหนดให้เลี้ยงกระต่าย แต่ในความคิดกูคือกระต่ายเป็นสัตว์ที่แพร่พันธุ์แสดงให้เห็นว่าเป็นคนเซ็กส์จัดไรงี้อะ แต่รนอื่นอาจจะคิดว่าไม่ต้องบอกก็ได้มั้ง

215 Nameless Fanboi Posted ID:gtDamsMB5k

>>215 มึงอ้อมไปไกลมาก กูคิดว่าคงไม่มีใครสนใจหรอกถ้ามึงไม่มีประโยคที่เอาคาร์ไปเทียบกับกระต่าย ไม่ว่าจะทางตรงทางอ้อมหรือมีคาร์อื่นคิดเปรียบเทียบขึ้นมา ยิ่งถ้าเป็นตัวประกอบไม่ค่อยมีบทคนก็จะอ่านผ่านๆ ไป คนทั่วไปเลี้ยงกระต่ายก็ไม่ได้หมายความว่าจะเซ็กส์จัดด้วย ถ้าแบบนี้จะใส่สัญลักษณ์หรือไม่ใส่ก็คงไม่มีผลกับการอ่าน ยกเว้นจะย้ำบ่อยจนคนจับได้ว่าย้ำบ่อยแต่ไม่รู้ว่ามึงย้ำทำไม

216 Nameless Fanboi Posted ID:gtDamsMB5k

>>214 สิ จิ้มผิด

217 Nameless Fanboi Posted ID:3mJcNrG8.6

ถ้ามันมีผลกับเนื้อเรื่อง กูก็ชอบตีความสัญลักษณ์นะ แต่ถ้ามันไม่มีหรือลึกเกินก็ไม่ไหวเหมือนกัน 555

218 Nameless Fanboi Posted ID:14UZQXDe7Z

>>214 อันนี้สำหรับกูกูเดาไม่ออกและไม่คิดว่ามันจะเป็นสัญลักษณ์ด้วย แบบเลี้ยงกระต่ายก็คือกระต่าย แบบเออกระต่ายน่ารักดี เลยเลี้ยงแค่นี้จบ

219 Nameless Fanboi Posted ID:JhjFqiRZWL

กู 214 เอง ขอบคุณทุกความเห็นมาก บางทีกูก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันมาใส่มาทำไม 55555 แต่กูไม่เคยใส่ที่กูยกตัวอย่างไปนะ

220 Nameless Fanboi Posted ID:14UZQXDe7Z

KY กูเบื่อ Cordia และ Angsana เพื่อนโม่งใช้ฟอนต์อะไรพิมพ์กันบ้างที่ไม่ใช่สองอันนี้

221 Nameless Fanboi Posted ID:6430nNfMh8

>>220 TH Sarabun มั้ย

222 Nameless Fanboi Posted ID:8F1WZB0Cz3

FreesiaUPC
TF Srivichai
TEPC CMPrasanmit
Maitree

223 Nameless Fanboi Posted ID:14UZQXDe7Z

>>221 >>222 แต้งกิ้ววววววววววว

224 Nameless Fanboi Posted ID:SLh5zwHFys

>>220 ไรก็ได้​ที่ไม่ใช่ tahoma..

225 Nameless Fanboi Posted ID:DMFMrtV6st

มีใครเคยใช้คีย์บอร์ดที่มันเชื่อมต่อกับสับปะ จะเอามาต่อกับทล. มันพิมพ์ลื่นไหลเหมือนคีย์บอร์ดคอมปะ

226 Nameless Fanboi Posted ID:5TOQkCB3Yb

>>225 กูใช้อยู้แป้นบลูทูธ พิมพ์ลื่นพอกันล่ะ แต่มันอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์กับแอพที่มึงใช้พิมพ์นะ เพราะถ้าหน้าจอมอถือมึงเล็ก มึงจะลำไยมาก ขนาด S8 กูยังลำไยเลย

227 Nameless Fanboi Posted ID:wgueAk/te8

แด่คุณนักเขียนนิยายเรื่อง RISK เห็นมาหลายวันละ ขอแจมหน่อย ก่อนอื่นกรุณาตั้งให้ถูกมู้

พอได้เข้าไปอ่านแล้วมีความรู้สึกว่านี่คือการเลียนแบบการนิยายแปลจีนรึเปล่า
แล้วก็ กรี๊ดดังลั่นจนคนทั้งหมู่บ้านได้ยิน แต่คนเป็นพ่อแม่กลับไม่แน่ในว่าใช่เสียงลูกตัวเองมั้ยเนี่ยนะ? หืมม
แล้วก็ตอนบรรยายสภาพศพทำได้ไม่ดีพอ ยิ่งตอนพ่อตะโกนใส่คนที่คิดว่าเป็นฆาตกรในห้อง เห้ คุณพ่อช่างสำบัดสำนวนในเวลาแบบนี้อะนะ ?
สุดท้ายนี้อ่านมา เกือบครึ่งเรื่องมีดีอย่างเดียวคือไม่เจอคำผิด

228 Nameless Fanboi Posted ID:YKuS.Tgyaf

ทำยังไงดี กูมีปัญหา​การเว้นวรรคว่ะ แก้ไม่หายสักที พยายามเปิดดูหลักภาษา​แล้ว แต่ก็ยังมีพลาด พอจะมีวิธีแก้ไหมวะ เบื่อเวลาต้องมีรีไรท์แล้วเจอข้อผิดพลาดเดิม ๆ ของตัวเองนี่แหละ

229 Nameless Fanboi Posted ID:V6Ld4SwjuB

>>228 กูมีปัญหาเดียวกับมึงเลยแล้วคือมันค่อนข้างเป็นนิสัยไปแล้วอ่ะ ชอบเว้นวรรคพร่ำเพรื่องี้

230 Nameless Fanboi Posted ID:aM/I4tgoTQ

>>228 ยังไงวะ นึกภาพไม่ออกอะ

231 Nameless Fanboi Posted ID:mNfbE4sBBL

>>228 เป็นเหมือนกู 5555 กลัวคนอ่านรำคาญแต่ไม่เว้นวรรคมันก็ดูอึดอัด เหมือนอ่านอะไรยาวๆเป็นพืดอะ

232 Nameless Fanboi Posted ID:NPrVkRiChZ

แต่ก่อนกูเคยโดนติเรื่องไม่เว้นวรรค ประโยคยาวแบบ ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็เหมือนข้อสอบ TOEFL อ่ะมึง คือขยายแล้วขยายอีก เชื่อมแล้วเชื่อมอีก คนอ่านบอก กว่าจะอ่านจบประโยคเกือบขาดใจตาย กูเลยลองอ่านออกเสียง คือ ถ้ากูเว้นตรงไหน ตัดตรงนั้นเลย

233 Nameless Fanboi Posted ID:Nwqlr/blYV

เรื่องหลักภาษานี่กูว่าจะหาหนังสือของดร.นววรรณมาอ่านว่ะ ไวยากรณ์ภาษาไทย อะ เผื่อจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง

234 Nameless Fanboi Posted ID:5ooCfbvdwQ

เฮ้ย ไอ้คนที่มาลงเรื่องสั้นที่อยากสับ มาที่มู้นี้ซักทีเหอะ อยากโดนสับนักไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องไปรบกวนมู้สับแหลกแหกวงการหนังสือ เพียงเพราะชื่อมีคำว่าสับเลยน่า เขาสับเฉพาะวงการหนังสือไม่ใช่งานเขียนรายบุคคลเว้ย

235 Nameless Fanboi Posted ID:qIGNs7Xf31

>>234 ลงลิ้งก์ให้มันยังไม่มา เขาแค่ไล่มากระทู้นี้ มันดันไปปิดนิยาย ตรรกะพินาศแบบนี้จะเขียนรู้เรื่องเหรอวะ

236 Nameless Fanboi Posted ID:fWPHbRcuzI

>>232 ภาษาไทยไม่มีเว้นวรรคจนกว่าจะจบประโยค อย่างเช่น ตุ๋มติ๋มเดินไปรินน้ำใส่แก้วมาส่งให้พวงชมพู ถ้าเกิดมีคำขยายก็จะยิ่งยาวไปอีก ตุ๋มติ๋มเดินไปรินน้ำเป๊ปซี่ใส่แก้วใสสีฟ้ามาส่งให้พวงชมพูที่กำลังทำหน้าเหม็นเบื่อ บางทีมันยาวมากเลย ต้องหาทางตัดดี ๆ โดยไม่ผิดหลักไวยากรณ์ หรือไม่ก็สร้างประโยคใหม่สั้น ๆ แบบ ตุ๋มติ๋มหยิบแก้วใสสีฟ้า รินน้ำเป๊ปซี่มาส่งให้พวงชมพูที่กำลังทำหน้าเหม็นเบื่อ กูเห็นคนที่เว้นวรรคไม่เป็นมีเยอะเลยว่ะ แบบบางคนนักเขียนดังนะ แต่พอมาเขียนลงเน็ทก็วรรคไม่ถูก ถ้ามีแค่นิดหน่อยกูอาจจะคิดว่าพิมพ์ในเน็ทมันยาก แต่ถ้ามีเยอะนี่กูแปลกใจเหมือนกัน เขียนมาตั้งนานยังเว้นวรรคขาด ๆ เกิน ๆ อีกเหรอวะ หรือมันจะมีสาเหตุอื่น

237 Nameless Fanboi Posted ID:CeijC865HB

กูที่บ่นเรื่องเว้นวรรค​นะ >>233 เดี๋ยว​กูไปหามาอ่านมั่ง
กูใช้วิธีแก้ด้วยการอ่านออกเสียงอยู่ตอนนี้ แต่ก็ยังมีพลาดอยู่ เว้นผิดวรรคบ้าง ลืมเว้นตรงคำเชื่อมบางคำบ้าง ทำให้ประโยค​มันยาวเกินไป

238 Nameless Fanboi Posted ID:CeijC865HB

>>236 มันมีพวกคำอื่นอีกนะที่ต้องเว้นวรรค พวกคำเชื่อม และ หรือ แม้ แต่ พวกชื่อ สถานที่​อะไรพวกนี้อีก พวกงานเขียนกับนิยายกูไม่ค่อยมีปัญหา​หรอก เพราะมันยังพอแก้ด้วยการออกเสียงได้ แต่งานที่ค่อนข้างเป็นวิชาการนี่กูโดนติเยอะอยู่
ปล. อาจเป็นเพราะตอนเรียนมัธยม​กูไม่สนใจภาษาไทยเลย โตมานี่แทบปาดน้ำตา ทำไมไม่ตั้งใจเรียนกว่านี้ ฮา

239 Nameless Fanboi Posted ID:XpeO8FAuv5

กูชอบเผลอเว้นวรรคตามภาษาอังกฤษอะ โดยเฉพาะพวก
However, He hates that. - อย่างไรก็ตาม เขาเกลียดสิ่งนั้น
Actually, She did it herself. - อันที่จริง เธอทำเอง
แบบเว้นตามลูกน้ำคั่นประโยคอะ มันผิดหลักภาษาไทยใช่มะ 55555

240 Nameless Fanboi Posted ID:fPhMDWa.kX

มึงง กูถามในมู้นี้ถูกไหมวะ
คือกูเป็นนักเขียนตีพิมพ์เล่มที่สนพ.แห่งหนึ่ง
ทีนี้คือ กูเห็นสนพ.อื่นมันจะบอกไงว่า ตีพิมพ์ครั้งที่ 1 2 3 บลาๆๆๆ
กูเลยมาเปิดดู เพิ่งเห็นว่า สนพ.กูมันไม่มีบอกว่ะ
แล้วทีนี้กูจะรู้ได้ยังไงว่า ขายไปกี่เล่มแล้ว แบบนี้ตุกติกป่ะมึง
เผื่อพิมพ์เพิ่มเอง แล้วกูไม่รู้ไรงี้
ลข.ตั้ง 3 ปีเลยนะมึง
กูจะเช็คจากที่ไหนได้บ้างวะ หรือว่าซุย รู้สึกขาดทุนไงไม่รู้

241 Nameless Fanboi Posted ID:LJQa00xx2d

>>240 แล้วตอนมึงตกลงให้เขาพิมพ์ให้ เขาไม่ได้บอกเหรอว่าปกติพิมพ์กี่เล่ม แล้วจ่ายเงินแบบไหน เหมาจ่าย หรือว่าเปอร์เซ็นต์ ปกติในสัญญาของสนพ.ดีๆต้องระบุดิว่าพิมพ์เท่าไร จ่ายยังไง แต่เรื่องไปถามเขาว่าขายได้กี่เล่มนี่ยากว่ะ ไม่คิดว่าเขาจะบอกมึงหรอกว่าขายออกกี่เล่มแล้ว ว่าแต่เรื่องของมึงนี่ดังแค่ไหน นิยายไทยสมัยนี้พิมพ์ซ้ำยากมากเลยนะ เรื่องที่ว่ากลัวเขาจะพิมพ์เพิ่มเองแล้วไม่บอกมึงนี่ กูว่ายังน่าห่วงน้อยกว่าจ่ายเงินไม่ครบเยอะ

242 Nameless Fanboi Posted ID:WN.lV8o1+e

>>240 เรื่องแรก โนเนม สนพ.เล็ก เขาไม่ค่อยระบุครั้ง 1 ตรงเดือนปีที่พิมพ์ ซึ่งกูไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันแต่ในสัญญาจะมีเขียนว่าพิมพ์กี่เล่ม ถ้าเรื่องมึงไม่ติดเบสเซลเลอร์มึงไม่ต้องร้อนใจว่าสนพ.จะพิมพ์เกิน ไว้ติดเมื่อไรค่อยลองแย็บๆ ถามเขาไปถ้ามีพิมพ์ซ้ำขอรีไรท์ได้มั้ยมีจุดอยากแก้ แต่นิยายไทยทำใจนะไม่ดังจริงบก.ไม่ค่อยง้อมึง โอเคนะ อ้อ ปกติการพิมพ์จะมีส่วนเผื่อพิมพ์เสียด้วย 1-3 ร้อยเล่มด้วย

243 Nameless Fanboi Posted ID:9i6qrmdqvg

>>240 เดาว่ามึงเป็นนักเขียนมือใหม่ ไม่งั้นมึงคงไม่มีคำถามนี้ เรื่องยอดพิมพ์นี่มึงไม่มีทางรู้ได้เลย เพราะฉะนั้นจะพิมพ์กี่เล่ม กี่รอบ คือสิ่งที่มึงต้องฟังจากสำนักพิมพ์เท่านั้น ถ้าเขาจะตุกติก เขาจะพิมพ์คำว่าหนที่หนึ่งสองสามหรือไม่พิมพ์คำนั้นเลย มึงก็เช็คอะไรไม่ได้ ถ้าเขาจะเขียนว่าพิมพ์ครั้งที่หนึ่งอย่างเดียว มึงก็จะไม่มีทางรู้ว่าเขาแอบพิมพ์ใหม่หรือเปล่า นอกจากมึงจะคอยกว้านซื้อ 5555 แต่ถ้ามึงเป็นนักเขียนใหม่ที่ไม่ดัง มึงอย่าไปคิดอะไรมากเลย สะสมบารมีไว้ดีกว่า เพราะสมัยนี้ส่วนใหญ่มันก็พิมพ์กันแค่พันเล่มนั่นแล ต้องเรื่องดังจริง ๆ หรือนักเขียนมีชื่อขายได้แน่นอนถึงจะพิมพ์มากกว่านั้น แล้วที่จะพิมพ์หนที่สองที่สามได้ก็ต้องมีกระแสอย่างแรง ติดบอร์ดอันดับหนึ่งหรือหนึ่งในสิบขายดีหลาย ๆ สำนัก มีคนดัง ๆ มาช่วยรีวิว ติดเทรนด์ทวิตต่อเนื่องกันเป็นเดือน ๆ ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น อย่าไปคิดเลยว่าสนพจะพิมพ์ใหม่ ยากว่ะ

244 Nameless Fanboi Posted ID:JcmW51Prsz

กูเห็นด้วยว่า เราไม่มีทางรู้หรอกว่าสนพ.จะพิมพ์กี่เล่ม

กูไม่เคยพิมพ์สนพนะ เคยแต่พิมพ์เอง แต่ฟังจากที่พวกมึงพูดกัน เล่มนึงสมมติได้พันเล่ม เปอร์เซ็นที่เราจะได้ประมาณ 10-15 เล่มนึงก็น่าจะมีเงินกลับมาที่เราประมาณสองสามหมื่นถูกมะ ถ้าเรตประมาณนี้

245 Nameless Fanboi Posted ID:WN.lV8o1+e

>>244 เมื่อก่อนให้ 5-15 % จากราคาปก * จำนวนพิมพ์ เดี๋ยวนี้ 3 - 7 % จากราคาปก * จำนวนขาย นักเขียนเลยออกหนังสือเองกันหมด

246 Nameless Fanboi Posted ID:JcmW51Prsz

>>245 เดี๋ยวนี้คิดจากจำนวนขายแล้วออวะ งี้ถ้าขายไม่ได้ก็ตกที่เราด้วยดิ

247 Nameless Fanboi Posted ID:XSqD+dOGV0

>>240 สัญญาสมัยใหม่ 3 ปีนี่น้อยแล้ว สมัยก่อนเขาทำ 5 ปี เสียเวลาฉิบหาย พิมพ์ใหม่ไหมก็ไม่ ทำไปงั้นๆ แหละ ถ้ามึงกังวลมากเรื่องใหม่มึงก็ทำเองออกเองเผื่อมึงรู้ยอดขายตัวเองแล้วอาจจะกลับตัวกลับใจ หรือไม่ก็ไปทำเองยาวๆ ไปเลย พิมพ์ใหม่คือมึงต้องขายดีจริงๆ นะ ขายดีระดับนักเขียนแนวหน้าในสายที่เขียน ไม่งั้นสมัยนี้เขาไม่ลดยอดพิมพ์กันหรอก เคยได้ยินเสียงบ่นนักเขียนใหม่บ่นคล้ายๆ มึงนี่แหละ แล้วไม่ค่อยได้ออกเล่มอื่นกับ สนพ. อะ เพราะ สนพ.มองว่ามีปัญหา ไม่เชื่อใจกัน ทำงานด้วยยาก ไม่ได้ขายดีอะไรมากมายขนาดต้องง้อ ถ้าเขาง้อมึงมากแสดงว่ามึงขายดีจริง ถ้าเขาไม่ง้อแสดงว่าไม่ได้ขายดีอะไร ดีไม่ดีทำแล้วขาดทุนอีกต่างหากแต่ถนอมน้ำใจไม่บอกคนเขียนก็มี

กูไม่ได้ด่ามึงนะ กูแค่เปรียบเทียบ เล่าเคสในอดีตและอยากแนะนำว่าบางทีก็อย่ามองโลกในแง่ร้ายเกินไป เสียสุขภาพจิต กระทบต่อการทำงาน มึงไม่สบายใจก็ลองทำเองดู คนทำแล้วรุ่งเยอะแยะ สนพ. สมัยนี้ขาดต้นฉบับดีๆ เพราะนักเขียนที่เขียนออกมาดีและรู้ว่างานตัวเองดีพอจะขายได้หันไปทำเองกันหลายคน

>>246 แล้วแต่ สนพ. เมื่อก่อนก็มี

248 Nameless Fanboi Posted ID:9i6qrmdqvg

สำนักพิมพ์ที่ให้เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย ถ้าเป็นสำนักพิมพ์เล็ก ๆ เปิดใหม่ คนทำงานหน้าใหม่ อย่าไปเซ็นสัญญาด้วย แต่ถ้าเป็นสำนักพิมพ์ใหญ่ เซ็นไปเถอะถ้าอยากอยู่ในวงการเขียนจริง ๆ เพราะถึงจะได้เงินน้อย แต่สำนักพิมพ์ใหญ่มันมีลูกค้าในมือมหาศาล เปิดตัวหนังสือใหม่แต่ละเล่มมีคนกดไลค์เยอะ มีช่องทางโฆษณาให้เยอะ ส่งให้หนังสือพิมพ์ช่วยรีวิวได้ มันคือการสร้างชื่อเสียง คนที่เริ่มต้นงานเขียนถ้าคิดแต่เรื่องเงินๆๆๆ จงไปทำงานอื่น เพราะอาชีพนี้ได้เงินน้อยกว่าสิ่งที่มึงต้องลงทุนลงแรงสมองมากมาย มึงต้องรักงานเขียนและเข้าใจวงจรธุรกิจด้วยถึงจะอยู่ได้

249 Nameless Fanboi Posted ID:JcmW51Prsz

>>248 แต่คนอื่นชอบมองเข้ามาแล้วคิดว่ามันรายได้ดีนะ 5555555

กูคือ 244 ที่กูคิด 15 นี่คือเพราะกูเคยถูกเสนอให้ 15 แต่เป็นสนพใหม่มากและกูจะเป็นเล่มแรกของเค้า ตอนนั้นกูไม่เคยพิมพ์กับที่ไหนมาก่อนเพราะพิมพ์เองมาตลอด แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจพิมพ์เอง เลยเข้าใจว่าปกติก็เรตประมาณนี้แฮะ

250 Nameless Fanboi Posted ID:HRdQurfdmh

จากใจเลยเงินที่ได้จากหนังสือ​นี่ไม่พอกินอะ นอกจากจะออกเล่มถี่ ๆ ซึ่งกูไม่สามารถ​ขนาดนั้น

251 Nameless Fanboi Posted ID:43Kn/D/saZ

https://www.eventpop.me/e/4091-fictionlog-fantasy-wuxia-project-workshop-more-than-fantasy-by-fictionlog-x-tk-park?utm_source=go.eventpop.me&utm_medium=urlshortener&utm_campaign=FantasyWuxiaProject

เอามาแปะนะ แต่ไม่อยากไปเวิร์กช็อปว่ะ เห็นชื่อวิทยากรแล้วรู้สึกว่าน่าจะกาก ขออวดตัวเองหน่อยเถอะ ถึงจะไม่ดังอะไรนัก แต่ก็ถือตัวว่ามีฝีมือเหมือนกัน ให้ไปฟังไอ้พวกนี้บรรยาย เหมือนเป็นนักธุรกิจที่ไปนั่งฟังไลฟ์โค้ชชี้ทางรวยเลยว่ะ

252 Nameless Fanboi Posted ID:gzEQ3dnTf+

>>251 สองคนนี้กูไม่รู้จักเลย งานกากเหรอวะ

253 Nameless Fanboi Posted ID:M5kWhb/am7

>>252 ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว และไม่เคยอ่านนิยายของสองคนนั้นมาก่อน เพราะงั้นเลยสรุปว่าน่าจะไม่ได้เก่งและโด่งดังเท่าไหร่ ที่ได้มาเป็นวิทยากรเนี่ยน่าจะแค่เพราะเป็นนักเขียนตัวท๊อป (หมายถึงตัวทำเงิน) ของเว็บ fictionlog มากกว่า

254 Nameless Fanboi Posted ID:q4+iIIZ1Ko

>>251 กูไปอ่านมา เขาเขียนว่าวิทยากรจะมาแชร์เคล็ดปั้นพล็อตให้ฮิต กูเลยตามไปอ่านงานของทั้งคู่มาหนึ่งหน้า ภาษายังไม่เข้าที่ แต่ก็ไม่ว่ากันเรื่องนี้ว่ะ อาจจะเก่งเรื่องพล็อตก็ได้ เพราะกูไม่ได้อ่านต่อ สมัยนี้เป็นวิทยากรกันง่ายดี ก็ตามมาตรฐานเว็บเขาแล้วกันว่ะ

255 Nameless Fanboi Posted ID:Y7sjkq2Fhk

กูเหมือนมีปัญหาด้านอารมณ์อ่ะ คือเป็นโรควิตกกังวล เมื่อก่อนเคยระบายได้ด้วยการเขียนนิยาย มาตอนนี้เหมือนไม่มีอารมณ์จะทำอะไรเลย อยากแต่จะนอนแม่งทั้งวัน จะเขียนนิยายก็อึดอัดกับตัวเอง แบบอยากเขียนนะ แต่สมองไม่มีอะไรสักอย่าง เหมือนมันกลับมาเขียนได้แแค่ช่วงหนึ่ง แล้วก็หายไป หายไปเป็นปีๆ สองปี อะไรแบบนั้น คือกูไม่รู้จะไประบายที่ไหนดี อยากบอกคนอ่านเหมือนกันว่าที่หายๆ คือกูมีปัญหาด้านอารมณ์ กูอยากเขียน แต่ไม่รู้ว่าตัวเองควรเขียนอะไรดี

256 Nameless Fanboi Posted ID:FymAnWqt5o

>>255 เขียนไดอารี่มั้ย เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ได้ กูเคยเขียนช่วงที่กูเขียนไรไม่ออก กูเขียนชีวิตตัวเองนี่แหละ บ่นขิงบ่นข่าบ่นหัวหน้าบ่นตัวเอง แต่ทำให้มันเป็น alternate universe ไม่มีชื่อกู

257 Nameless Fanboi Posted ID:Y6vqWrwYIO

กูเห็นดราม่าคนนอกด้อมซื้อแฟนฟิคสามเล่มไปเก็งกำไร พวกมึงคิดว่าไงบ้างวะ
https://fanboi.ch/801/5630/589-640/

258 Nameless Fanboi Posted ID:44tkdfjFEU

>>255 เป็นมานานยัง อารมณ์คล้ายๆ คนอ่านเป็น reader's block แต่นี่ writer's block ปะ กูเคยเป็นรีดเดอร์บล็อกนะ แนะนำให้ไปทำอย่างอื่นอะ ดูซีรี่ส์ เล่นเกม ทำอะไรนอกเหนือจากหนังสือน่ะ แล้วมันก็ค่อยๆ หายเอง

259 Nameless Fanboi Posted ID:EdPYOutuYh

ย้อนอ่านงานเก่าๆที่เคยคิดว่าเพอร์เฟค​ แล้วเจอคำผิด คำฟุ่มเฟือย​เต็มไปหมดเลยเหวย ทำไมตอนนั้น​ถึงอ่านไม่เจอวะ 😂

260 Nameless Fanboi Posted ID:vbEdWq3vr8

>>259 เหมือนกัน แม่งอับอาย ลบทิ้ง

261 Nameless Fanboi Posted ID:342ryauq.M

>>259 แก้ปัญหาได้ด้วยการไม่กลับไปอ่านเว่ย 55555555555 กูกลับไปอ่านแล้วแบบเหมือนอ่านงานใครก็ไม่รู้อ่ะ กูเคยใช้ภาษาแบบนี้ด้วยเหรอออ อ่านแล้วรู้สึกจักจี้มากบอกไม่ถูก ฮือๆ อ่านแล้วอยากมุดลงหลุม

262 Nameless Fanboi Posted ID:j/jh1kXKxp

เดี๋ยวนี้เขียนตอนนึงกันยาวแค่ไหนน่ะ
กูรู้สึกว่าพฤติกรรมการอ่านของกูมันเปลี่ยนไป สมาธิสั้นลง บวกกับอ่านนิยายเว็บแต่ช่วงเวลาพัก พอเจอตอนยาวๆแล้วก็ขี้เกียจอ่านและ พอจะเขียนเองก็ไม่แน่ใจแล้วว่าปกติกะยังไงกัน

263 Nameless Fanboi Posted ID:xcH1QRV7Sk

>>262 เออว่ะ เดี๋ยวนี้กูก็เป็นแบบมึงเลย เจออะไรยาวๆแล้วชักขี้เกียจอ่านชะมัด 555

264 Nameless Fanboi Posted ID:+HVf.H70bO

>>262 ประมาณ 4000+ คำว่ะ เวลาลงจะแบ่งเป็นสองสามพาร์ทแล้วแต่จังหวะเรื่อง กูยังคิดอยู่นี่ว่าเวลาทำเล่มจะแบ่งเหมือนเว็บเลยดีหรือเปล่า

265 Nameless Fanboi Posted ID:9irzn84rxe

มึง เคยนึกคำไม่ออกกันบ้างไหม
กูพยายามนึกคำว่าguardเป็นภาษาไทยแบบแนวๆ โบราณมาตั้งนาน จะเรียกยามก็ทะแม่ง ๆ จะเรียกทหารก็ไม่เชิง แล้วเสือกเป็นนิยายย้อนยุคอีก อ่าก
คนอ่านรอกูเป็นเดือนสองเดือนแล้ว กูติดแหง่กกับคำไม่กี่คำเพราะนึกคำโบราณไม่าออก เดี๋ยวมาโดนนินทาในโม่งอีกว่าไม๋โบราณเบย

266 Nameless Fanboi Posted ID:zMBXqGB+RB

>>265 ใช้องครักษ์ได้มั้ยอะ

267 Nameless Fanboi Posted ID:RSK7JXIRWP

>>265 องครักษ์อย่าง >>266 ว่า ไม่ก็ผู้พิทักษ์ ผู้ปกป้อง ผู้อารักขา ผู้คุ้มครอง พอไหวมั้ยมึง

268 Nameless Fanboi Posted ID:GKFsagUlW5

การ์ดไทยโบราณมหาดเล็กได้ไหม
มหาดเล็กรักษาพระองค์

269 Nameless Fanboi Posted ID:w/dmI3Q5jr

>>265 โบราณมึงนี่สมัยไหนอะ ถ้ากูเข้าใจไม่ผิด ไทยสมัยก่อนก็ไม่มีการเรียกว่าองครักษ์ละมั้ง น่าจะนับรวมเป็นขุนนางหรือไม่ก็ทหารแล้วเรียกตามยศตามตำแหน่งมั้ง

270 Nameless Fanboi Posted ID:MNro+Zst/K

>>269 จีน ญี่ปุ่น เกาหลีประมาณนี้ ตัวเอกกูโผล่หลายที่

271 Nameless Fanboi Posted ID:xslrLmkCIA

>>270 อ่อ งั้นกูว่าเรียกองครักษ์ได้อยู่มั้ง หรือถ้าอยากได้ละเอียดๆ หน่อยก็ลองเสิร์ชเรื่องบรรดาศักดิ์ในสมัยโบราณเอา

272 Nameless Fanboi Posted ID:iHPgr+p2JB

ขอถามเรื่องการใช้คำหน่อย
ถ้าจะใช้คำว่า "ยอดนักเย็ด" ให้ดูหยาบคายน้อยลง จะใช้คำแบบไหนดีอะ

273 Nameless Fanboi Posted ID:uW/7JKJEgd

>>272 คาสโนว่า...เพลย์บอย เสือ นักฟันไม่เลือก
คำมึงนี้แบบ

274 Nameless Fanboi Posted ID:iHPgr+p2JB

>>273 กะ กูขอโทษที่คำเสื่อมไป5555 ที่จริงกูว่าจะคิดฉายาที่เกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ให้ตัวละครน่ะ (ประมาณผู้เชี่ยวชาญ? หรือคนที่ฟันมาเยอะก็ได้) แต่จะใช้คำตรงๆก็เสื่อมไป ไม่อยากใช้ด้วย แต่คิดคำอื่นไม่ออกเหมือนกัน

แต่คำแนะนำของมึงก็พอช่วยให้กูนึกคำอื่นๆออกได้บ้างแหละ ขอบคุณมากๆ จุ๊บๆ

275 Nameless Fanboi Posted ID:L8KbMCjP+r

รี้ดอะไรท์ โฆษณาว่าจะจ่ายเงินตามยอดวิว (ยังไม่ได้บอกรายละเอียด)

276 Nameless Fanboi Posted ID:hilsdeuVmZ

>>265 คนคุ้มกัน

>>272 เสือ​ เสือผู้หญิง​ ถ้าเป็นนิยายรักกุ๊กกิ๊ก​ เรียกว่าพ่อเสือร้ายก็น่ารักดี​

277 Nameless Fanboi Posted ID:8zLgo1mWKn

>>274
มีคำแสลงจีนคือ คนขับเฒ่า อยู่นะ แปลว่าผู้เชี่ยวชาญ 555

278 Nameless Fanboi Posted ID:YO3X.b.pQ5

>>275 เหรออออ หมายถึงยอดวิวนับจากอนาคตใช่ป่ะ ไม่นับย้อนหลังใช่มะ อ่ะ กูควรรอระบบนี้ก่อนละค่อยลงเรื่องใหม่ป่ะวะ มีงพอรู้ว่ามันจะมาตอนไหนป่ะ

279 Nameless Fanboi Posted ID:L8KbMCjP+r

>>278 ทวิตว่างี้ https://twitter.com/readAwrite/status/1037637793835450368?s=19

280 Nameless Fanboi Posted ID:Hqm8QhE1QE

>>279 นับย้อนด้วย เจ๋งว่ะ

281 Nameless Fanboi Posted ID:vxmpfFXkKV

ถามห้องนี้ได้ไหมวะ หากผิดมู้ ขออภัยด้วย
กูได้รับคอมเมนท์ยาวมากจากเรื่องหนึ่ง มีนักอ่านมาคอมเมนท์ แล้วเหมือนไม่เข้าใจที่กูสื่อ
กูเลยกังวลว่ากูเขียนไม่ดี หรือเขาอ่านไม่เข้าใจ กูเลยเอาไปให้พี่สาวอ่าน นางก็บอก ไม่นะ เข้าใจปกติ
ยกตัวอย่างนะ กูให้ตัวละครมีนิสัยเสีย 1 อย่าง ที่ตอนคบกันมันไม่เคยทำ แต่มาทำหลังๆ จากที่แต่งงานไปแล้ว
แต่กูไม่ได้เล่าลงลึก (กูแค่จะสื่อว่าคนเราคบไปนานๆ อยู่กันไปนานๆ สันดานออกไรงี้)
กูแค่ให้ตัวเอกด่าว่า เมื่อก่อนไม่เคยทำ ทำไมเดี๋ยวนี้ทำ เปลี่ยนไปนะ
งง ไหมวะ ประมาณนี้
คนอ่านก็คอมเมนท์ว่า ทำไมถึงนิสัยเปลี่ยนไปได้ยังไง คอมเมนท์เหมือนกูเขียนนิสัยตัวละครย้อนแย้งอะ
กูเข้าใจนะว่าไม่ควรเก็บเอามาคิดมาก แต่เพราะกูไม่เคยเจอคอมเมนท์แนวนี้เลยเริ่มกังวลหรือเป็นที่กูที่อธิบายไม่ดี
ขอบคุณมาก

282 Nameless Fanboi Posted ID:9JYERGGtfz

>>281 มึงเคยหยอดความนิสัยเสียนี้ในเรื่องรึเปล่า เช่น ไม่ทำอย่างนี้ตอนต่อหน้าแฟนตอนที่คบกันเพราะอยากให้เห็นแต่ด้านดีๆ แต่ก็อาจจะยังทำนิสัยนี้ให้เห็นเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นอย่างเพื่อนหรือครอบครัวไรงี้ คือถ้ามีพูดถึงบ้างมันก็ชัดเจนดีว่าพ้นช่วงหวานหมดโปรขี้เกียจแอ๊บแล้วถึงมาแสดงนิสัยนี้ตอนหลังแต่งงาน แต่ถ้าไม่เคยพูดถึงเลยก็อาจจะมีคนงงอย่างที่มึงบอกก็ได้

283 Nameless Fanboi Posted ID:vxmpfFXkKV

>>282 ไม่มีว่ะ เพราะมันเพิ่งเริ่มเรื่อง มันเพิ่งตอนสองตอนเองมึง
(เรื่องเปิดมาคือตัวเอกสองคนอยู่ด้วยกันแล้วมึง)
แต่ใช้ตัวละครอื่นเป็นคนพูดถึงนิสัยเสียของตัวละครนั้นแทน
ขอบใจมึงมาก เดี๋ยวกูลองทวนดูอีกรอบ

284 Nameless Fanboi Posted ID:kdJ7PIwlAf

>>283 ถ้าเพิ่งตอนสองตอนก็กำลังปูเรื่องรึเปล่า นักอ่านอาจจะงงๆได้(นิยายหลายเรื่องเปิดเรื่องมาบางทีกูก็งงๆนะ แบบต้องอ่านต่อไปแล้วเค้าก็เล่าที่มาที่ไปให้เก็ตเอง) มึงก็ลองใช้ตอนต่อๆมาเล่าเรื่องนิสัย+ที่มาที่ไปของนิสัยตลค. ก็น่าจะเก็ตขึ้น
กูอ่านคอมเม้นต์คนอ่านนี่มึงบอก กูคิดว่าเค้าอาจจะเม้นต์อารมณ์แบบ อยากรู้ว่าทำไมนิสัยเปลี่ยนไป (อยากตามอ่านต่อเพื่อให้รู้) ไรงี้ปะ

285 Nameless Fanboi Posted ID:XvMurIrw6g

>>284 เค้าคอมเมนท์ว่า ก่อนหน้านี้ พระเอกพูดเหมือนไม่เคยมีนิสัยแบบนี้มาก่อน
ทำไมวันนี้ถึงเป็นไปได้ แบบเมื่อก่อนไม่เคยทำ ทำไมตอนนี้ทำ คนคอมเมนท์บอกไม่โอเคนะ
เค้าคอมเมนท์กูยาวมาก จนกูตกใจ ประมาณ 1 หน้าเอสี่ได้อะมึง นี่กูอ่านหลายรอบไม่แน่ใจว่า
เค้าอิน เค้าแนะนำ หรือเค้ายังไง
จริงๆ ตอนต่อไปก็ค่อยๆ จะแสดงนิสัยให้รู้เรื่อยๆ หวังว่าเขาจะเข้าใจตัวละครกูมากขึ้น
ส่วนกูจะพยายามปรับปรุงส่วนนี้ด้วย ขอบคุณมึงมาก

286 Nameless Fanboi Posted ID:s6gIlk0O2j

>>285 ถ้าเขาเม้นยาวเบอร์นั้นมึงต้องกราบไหว้บูชาแล้ว แปลว่าเขาตั้งใจอ่านมาก ไม่ว่ามึงจะเห็นด้วยหรือไม่ก็พูดกันดี ๆ ล่ะ ถ้ามึงยังแค่ปูเรื่องอาจจะบอกก็ได้ว่าเดี๋ยวมีอธิบายต่อไป
กูก็เคยนะ อ่านไปมีจุดแปลก ๆ ก็บอกนักเขียน ตอนต่อไปเขาก็มาเฉลยเลย ไม่รู้ว่าเติมมาเพราะอยากไขข้อข้องใจหรือตั้งใจอธิบายอยู่แล้ว มึงก็ทำงี้ก็ได้ ดูว่าเขาไม่เข้าใจตรงไหนก็ยัดบทอธิบายไป หลังจากนั้น ซึ่งปกติถ้าไม่ใช่ว่าพลอตมันพังมากก็เติมกันได้ทั้งนั้นแหละมั้ง

287 Nameless Fanboi Posted ID:BGSTdG.J8S

>>286 กูคิดต่างว่ะ ที่กูเจอเมนต์ยาวมาก เหมือนจะดีวิเคราะห์เรื่องแต่ความจริงจับผิดหมดแถมวางเรื่องให้ล่วงหน้าราวกับถ้าไม่ใช่แบบนี้คือกูเขียนห่วยมือไม่ถึง

คนอ่านเมนต์ยาวไปก็ไม่ใช่เรื่องดี แต่เป็นหารูรั่วในเรื่องมึงแล้วมายกว่ารู้ดีกว่าคนเขียน

ยิ่งบอกว่าเพิ่งลงแต่มาสกัดขาวิ่งแล้วกูมองทางลบก่อน

288 Nameless Fanboi Posted ID:o1rFm15WdG

กูเขียนนิยายรักอยู่ แล้วฉากสารภาพรักกูไปต่อไม่ได้ว่ะ เขียนแล้วมันยาวออกทะเลทุกที ถ้าเอาลงกูโดนด่าแน่ๆว่ามีแต่น้ำไม่มีเนื้อจะยืดยาดไปไหน ต่างฝ่ายต่างซึนเดเระใส่กันอ้ำอึ้งปากหนักกันทั้งคู่ แต่จะให้บอกออกไปตรงๆก็ผิดนิสัยพระเอกนางเอกกูไง แต่พูดไปก็เฉไฉกันไปคนละเรื่องตลอด มันเลยไม่เข้าฝั่งซักที พอจะมีวิธีเขียนบอกรักหรือแสดงความรักกันแบบง่ายๆซึนนิดๆพองามแต่คนอ่านฟินตายไปเลยมั้ยวะ กูหนักใจมากเลย

289 Nameless Fanboi Posted ID:zK8EcXMVa1

>>286 >>287 กูไม่รู้ว่าจะมองบวกหรือลบกับคอมเมนท์ดีคือแบบว่า
กูพยายามมองในแง่ดีให้มากสุดๆ สำหรับนิสัย ตลค กูจะพยายามแทรกไปเรื่อยๆ แหละ
กูไม่อยากเขียนชี้นำคนอ่านขนาดนั้น อยากให้เขารู้สึกไปพร้อมๆ กับกู
ส่วนที่ว่าเขาเมนท์ยาว บอกตรงๆ กูแอบรู้สึกนิดนึง เหมือนเขาเขียนพลอตให้กู
แต่ยังไงกูก็จะลงพลอตเดิมแหละ ไม่พยายามหลงประเด็นหรือเอนเอียงจากคอมเมนท์ในเรื่องพลอตนะ

>>288 ถ้าพระเอก นางเอกมึนมีอาการซึน ปากหนัก มึงต้องหาฉากหรือเหตุการณ์แบบ บอกรักโดยไม่ต้องมีคำบอกรักอะมึง
กูอาจจะสมมติแบบน้ำเน่าไปหน่อย เช่น เดินระวังหน่อยยัยโง่ จะให้คนเป็นห่วงไปถึงไหน มึงลองหาเหตุการณ์ที่ให้พระ นาง
มีอะไรที่จะแสดงออกมาก็ได้

290 Nameless Fanboi Posted ID:KVVjopQDhs

>>289 มึงเบลอได้เบลอบ้างคนเมนต์แบบบังคับคนเขียนต้องเขียนตามมัน ถ้าไม่เขียนตามขู่เลิกอ่าน

291 Nameless Fanboi Posted ID:mgFJdCtSra

มึง กูมีไอเดียมาแบ่งปัน จริงๆว่าจะเก็บไว้คนเดียว แต่กูก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรเพราะไม่ใช่แนวเลยว่ะ
คือ เหมือนกูเคยดูหนังหรืออะไรซักอย่างจำไม่ได้ ที่ตัวเอกจะได้ยินความคิดต่างๆของคนอื่น เลยเอามาดัดแปลงนิดๆหน่อย คือ คนทั้งโลกมีบอลลูนความคิดที่ทุกคนมองเห็นได้ ลองนึกถึงว่ามึงมีป้ายปักอยู่บนหัว เวลาคิดอะไร มันจะขึ้นเป็นตัวอักษรบนป้ายหมดเลย

292 Nameless Fanboi Posted ID:cCV6ibBrmE

อ่าาาา ขอมานั่งบ่นหน่อย
อยากจะเขียนนิยายชะมัดเลยยย ทว่าตั้งแต่เริ่มมีเรียน เสาร์-อาทิตย์ แล้วต้องบังคับตัวเองให้ตื่นตั้งแต่ 7 โมงนี่ อารมณ์เขียนนิยายแทบจะไม่มีเลย

293 Nameless Fanboi Posted ID:hR+Nq66QCM

พอจะมีตัวอย่างนิยายที่เล่าเรื่องด้วยสรรพนามบุรุษที่ 1 มากกว่า 1 คนขึ้นไปเป็นคนดำเนินเรื่องไหมวะ เหมือนสลับกันดำเนินเรื่องในมุมมองของตัวเองอะ อยากลองอ่านดู

294 Nameless Fanboi Posted ID:J9DZ5FdOtx

>>293 มึงจะเอาแนวไหน กูขอนึกก่อน

295 Nameless Fanboi Posted ID:c6JjysO1L8

>>293 เอเลนอร์กับปาร์ค (normal/นิยายแปล)
มีนิยายวายเรื่องนึงที่สลับกันเขียน ใช้บุคคลที่หนึ่งทั่งคู่ สลับมุมทองสองคนไปเรื่อยๆ

296 Nameless Fanboi Posted ID:1p7oi4h76J

กูขอถามคนที่สามารถแต่งนิยายพระเอกแนวหนุ่มอัลฟ่าหน่อย กูค้นพบว่าตัวเองชอบแต่งนางเอกที่นิสัยเอื่อยเฉื่อย ไม่อินังขังขอบ และเวลาอ่านนิยายคนอื่นกูว่ากูชอบผช.อัลฟ่านะ เลยอยากจะให้พระเอกกุเป็นแนวนั้นบ้าง แต่แต่งแล้วมันจะกลายพันธุ์เป็นคนเด๋อ ไม่ก็อ่อนโยนไปทันทีเลยว่ะ เหมือนกับพอพระเอกจะทำตัวอวดดี บงการนั่นนี่ นางเอกก็ยอมง่ายๆ แบบ "เออทำดิ" "ถ้าสบายใจก็ไม่ว่ากัน" จนกลายเป็นหาช่องใส่ความอัลฟ่าไม่ได้เลยว่ะ หรือว่าเคมีนิสัยมันจะต้องเป็นแพทเทิร์นที่ค่อนข้างฟิกซ์วะ อย่างอัลฟ่าต้องคู่กับสนิมสร้อยไม่ก็เผ็ดร้อนไปเลย คนซึนก็ต้องคู่กับไทป์หมาพันธุ์ใหญ่ใจดีงี้

297 Nameless Fanboi Posted ID:hseqs.KKpm

มีกวีนิพนธ์อันไหนน่าอ่านเอามาเป็นแบบอย่างบ้างวะ

298 Nameless Fanboi Posted ID:nQTtH9QSzB

>>297 มีแนวไหนหรือผลงานใครที่เคยชอบเป็นพิเศษมั้ย เผื่อแนะนำถูก

299 Nameless Fanboi Posted ID:NIypKJaFm8

>>296 นิสัยเอื่อยๆไม่ได้แปลว่ายอมคนนะเว้ย พวกนิสัยเอื่อยๆแต่แม่งเซลฟ์และดื้อเงียบนี้กูเจอเยอะเลย เรื่อยๆเอื่อยๆเหมือนจะไม่มีอะไรแต่ถ้าไม่สนใจคือกูไม่ทำไม่สนใจเอื่อยๆไหลๆไปตามใจ ใครว่าอะไรก้อหัวเราะแหะๆใส่แล้วก้อทำเหมือนเดิม

300 Nameless Fanboi Posted ID:/+rWgJk/1i

>>296 ลองอัลฟ่าแบบเรียกร้องความสนใจมั้ย แบบพระเอกรู้สึกตะหงิดใจกะนางเอกแล้วก็ตามตื๊อบ่อย ๆ อะ เคยเห็นอยู่นะ

301 Nameless Fanboi Posted ID:h+P2MdieG.

>>295 ขอบใจมากเดี๋ยวไปหาอ่านดู แล้วนิยายวายที่ว่าเรื่องอะไรรรรรรรรร

302 Nameless Fanboi Posted ID:TdvU1vj0Gt

KY ขอถามหน่อย ว่าปุ่มโปรโมตของธนี่กูกดแล้วนิยายกูจะไปขึ้นในส่วนไหนของหน้าแรกอ่ะ

303 Nameless Fanboi Posted ID:9bUsjWRKxc

เวลาตัวละครพูดติดอ่าง ควรเขียนแบบไหน?

"ท- ท- ท- ทำไม?" หรือ "ทะ ทะ ทะ ทำไม?"

304 Nameless Fanboi Posted ID:tM7bUYb.Lg

>>303 แบบหลัง

305 Nameless Fanboi Posted ID:OXsd84JbTn

>>303 ปกติกูเขียนแบบหลังนะ ตามเสียงที่ออกจริง เวลาเห็นเขียนแบบแรกในหัวกูจะอ่านเป็น ทอ ทอ ทอ ทำไมอะ 5555

306 Nameless Fanboi Posted ID:JGfz+rBhbC

ใช้ ท...ทำไม ได้ปะวะ เหมือนเคยเห็นคนใช้

307 Nameless Fanboi Posted ID:/aloL7S5lI

>>306 ถ้าจำไม่ผิด กูว่าเคยอ่านเจอทั้งสองแบบนะ ทั้ง ท ท ทำไม และ ทะ ทะ ทำไม อันนี้มันไม่น่าจะมีหลักการเขียนนะ

308 Nameless Fanboi Posted ID:f.k2LBo2PO

ใช้ได้สองแบบ แต่คุ้นกับแบบหลังมากกว่า ส่วนใหญ่ก็ใช้แบบหลังกันทั้งการ์ตูนและวรรณกรรม

309 Nameless Fanboi Posted ID:rIrevsZQB5

พวกมึงลงทุนกับข้อมูลในนิยายกันขนาดไหนวะ กูมีปัญหาว่าถ้าไม่รู้จริง ไม่เคยจับ ไม่เคยเห็นกูจะเขียนถึงสิ่งนั้นไม่ได้เลย อย่างอาชีพงี้ ปูให้ตัวละครหลักทำร้านกาแฟดริป โดยที่กูไม่รู้ลึกเกี่ยวกับกาแฟดริปเลย ทั้งที่ทุกวันนี้กูก็ดริปกินเอง ถูกปากตัวเอง ให้คนอื่นชิมไม่บ้วนทิ้ง กูลองหาอ่านเพิ่มเติมตามเน็ตมันก็ไม่มีชีวิตชีวาอะ มีแต่ทฤษฎียุบยับ บางทริคลองทำตามแล้วห่วยแตกมาก กูว่าจะลองไป workshop สักครั้ง เพื่อนิยายและสุนทรีย์ส่วนตัวด้วย... พวกมึงลงทุนกันมากเปล่าวะ

310 Nameless Fanboi Posted ID:DVdbsoguMP

>>309 ปกติกูยังไม่ค่อยได้เขียนอะไรที่ใส่ข้อมูลเยอะขนาดนั้น กูว่าคนอ่านก็อาจจะไม่ได้อยากได้ข้อมูลอะไรมากอ่ะ คืออย่างกูเคยเขียนแนวโรงพยาบาล กูทำงานในรพด้วยซ้ำ แต่กูก็ใส่ข้อมูลเท่าที่มันจำเป็นอ่ะ แบบอะไรไม่จำเป็นก็ไม่เขียน แต่ต้องทำให้เป็นธรรมชาติ กูว่ามาร่ายทฤษฎียาวๆไม่ไหวอ่ะ

311 Nameless Fanboi Posted ID:t522HkEofv

>>309 ในฐานะคนอ่านนะ ถ้าจะใส่ ใส่มาสั้นๆ พอ ไม่ต้องบรรยายเยอะ โดยเฉพาะถ้าไม่ใช่ประเด็นที่กระทบกับแก่นของเรื่อง สมมติ ถ้ามึงจะเขียนเกี่ยวกับร้านกาแฟ ไม่ต้องบรรยายวิธีการทำกาแฟเลยก็ได้ ถ้าไม่ได้จะเฉลยว่าตัวเอกมีวิธีชงกาแฟสูตรลับเฉพาะที่คิดค้นขึ้นเอง แล้วโดนคนมาขโมยไป หรืออะไรแบบเนี้ย คนอ่านแบบกูไม่ได้อยากรู้ทุกเรื่องเว่ย ยิ่งสมัยนี้อ่ะ แค่อยากรู้เนื้อหา ไม่ได้อยากอ่านฉากบรรยายยาวเหยียด ถ้าอยากได้รายละเอียด กูไปอ่านสารคดีหรือเสิร์ชหาเองได้ ที่อยากได้จากการอ่านคือ ขอแค่ให้มีความละเมียด เห็นภาพบรรยากาศก็พอแล้ว

312 Nameless Fanboi Posted ID:f.k2LBo2PO

>>309 ลองอ่านการ์ตูนเรื่อง barista ดูไหมเกี่ยวกับกาแฟเหมือนกันเนื้อหาไม่หนักกูอ่านก็ได้ความรู้เรื่องกาแฟเยอะมาก ทั้งกาแฟสายอิตาเลียนกับเมกา วัฒนธรรมคอฟฟีบาร์
ถ้าจะแทรกแนะนำเอาแบบเรื่องทั่วไปพวกความรู้รอบตัว อย่างการใส่ไซรัปในกาแฟของสายเมกากับ รสเปรี้ยวของกาแฟแต่ละชนิด การทำกาแฟแบบ made by customers กับ ชื่อเรียกแบบฝรั่ง เหมือนทำไมBTSหมอชิตแต่อยู่จตุจักรประมาณนี้

313 Nameless Fanboi Posted ID:ht6Xd31Ioi

บวกอีกเสียงนะ ไม่ต้องใส่แน่นมากก็ได้ บางครั้งเจอทฤษฎีอะไรเยอะ ๆ ก็ข้ามอะ เอาแค่พอประมาณเหอะ

314 Nameless Fanboi Posted ID:N7mXJU4FYJ

>>309 ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่รู้​ กูเสียเวลารีเสิร์ชข้อมูล​เยอะมากว่าเป็นอะไรยังไงบ้าง

แต่เวลาเขียนจริงไม่ค่อยได้ใส่หรอก 😂

315 Nameless Fanboi Posted ID:1JUxy8sfkJ

>>309 กูลงทุนนะ บางอย่างมันไม่ได้ใส่กับนิยายตรงๆ แต่มีความสำคัญกับตัวละครว่ะ อย่างมึงให้ตัวละครมึงเป็นคนทำกาแฟดริป นึกภาพมันไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าสถาปัตย์ที่วัดทางเหนือและมีร้านชานมเย็นที่คนมุงสิมึง พวกมันสองตัวคงไปกันคนละทาง จากนั้นไปกินข้าวซอยก็จะเม้าท์กันคนละเรื่อง (หรือแม่งอาจจะทะเลาะกันตั้งแต่ร้านที่จะไปกินแล้ว)

ดังนั้น ถามกู กูก็ตอบว่าจะลงทุนจนกว่ากูจะได้ตัวละครคิดแบบคนทำกาแฟ หรือกูเข้าใจไลฟ์สไตล์และแนวความคิดของตัวละครนัั้นว่ะ ไม่งั้นกูเขียนไม่อินจริงๆ

316 Nameless Fanboi Posted ID:CetutcE1PF

>>309 ในฐานะคนเขียนกูลงทุนกับการหาข้อมูลนะ แต่ในฐานะคนอ่าน กูก็ไม่ได้ต้องการข้อมูลจำเพาะขนาดนั้นว่ะ เคยอ่านนิยายที่พระเอกเป็นหมอ โดยที่คนเขียนเป็นหมอจริงๆ คือกูสัมผัสได้เลยว่ารู้จริงเขียนด้วยอินเนอร์ แต่อ่านไม่รู้เรื่องเลยเว้ยว่าพระเอกกับนางพยาบาลคุยไรกันวะ 5555 บอกว่าแม่งใกล้ตายจะเข้าใจง่ายกว่า

317 Nameless Fanboi Posted ID:26CtFnI5rn

เพื่อนโม่งมีใครจะเล่น fictober มั่ง

318 Nameless Fanboi Posted ID:rnwgc5Brr3

KY หน่อยนะเพื่อนโม่งเห็นนักเขียนอยู่เยอะ กูอยากจะเขียนนิยายแต่สกิล0เลยอะ ตอนเด็กๆกูโตมากับหนังสือพวกวิทย์,ดาราศาสตร์จ๋าเลย แทบจะไม่ได้แตะวรรณกรรมเลย เลยอยากให้ช่วยแนะนำหนังสือ,นิยายหน่อย (กูจะเก็บทักษะการอ่านก่อน)

319 Nameless Fanboi Posted ID:g1MqbpZDAG

>>318 อยากเขียนแนวไหนก็อ่านแนวนั้น อ่านไปทั้งหมดเลย ไม่ต้องถามหรอกว่าเล่มไหนดีหรือไม่ดี อ่านเอาเอง อ่านเยอะๆเดี๋ยวก็รู้เองว่าแบบดีเป็นไง
>>317 อยากเล่นนะ ปีที่แล้วกูแบบหนุกหนานมาก รวมเล่มแจกฟรีด้วย 55555

320 Nameless Fanboi Posted ID:kAKBVyWULT

หาโจทย์ Fictober จากไหนกันง่ะ

321 Nameless Fanboi Posted ID:CL6XKfsl/W

>>320 ไม่ได้กวนนะ แต่ลิงหาจากอากู๋ยังวะ

322 Nameless Fanboi Posted ID:EinkGbkFhX

>>318 กูก็สายวิขาการนะ​ แนะนำไปหานิยายมาอ่านแล้วแกะแบบ​ วิเคราะห์​การดำเนินซีนต่างๆ​ ดูศัพท์​ จดศัพท์​ที่ชอบ​ และดูการวางสำนวน​ ปรับสำนวนให้เข้ากับสำนวนปกติของตัวเอง​ ที่เหลืออยากอ่านเสริมกี่เล่มก็ทำไป ไม่ต้องอ่านถึงร้อยเล่มก็น่าจะเขียนได้ภายในการวิเคราะห์​ของมึงแค่1-2เล่ม​ เพราะมึงสายวิชาการ​ มึงจะวิเคราะห์​ไวอยู่แล้ว​ เหบือแค่ทดลองเขียน​ แรกจะเขี่ย​ ๆภาษาไม่คงที่แล้วมึงจะไวขึ้นเรื่อยๆเพราะทำความเข้าใจไปด้วย​
ส่วนหนังสือสอนเขียนนิยาย​ จะอ่านเสริมก็ได้​ แต่ถ้าตีหนังสือนิยายปกติออกก็คือเขียนได้แล้ว​ แต่อาจจะมีศัพท์​น้อยต้องเสริมเอาเอง
กูทำแบบนี้แหละ​ เพราะกูก็สายวิชาการ

323 Nameless Fanboi Posted ID:kqlZQKNE1L

เดี๋ยวนี้มันมีนิยายสายวรรณกรรม(อารมณ์บ้านเล็กในป่าใหญ่ นาร์เนียไรงี้)ลงเว็บบ้างไหมวะ แล้วเพื่อนคิดยังไงกับนิยายแบบนี้ จะอ่านกันไหม

324 Nameless Fanboi Posted ID:4VE577eg4M

>>320 กูเห็นในทวิตเตอร์คนรีมาบ่อยๆ มึงลอง search ในทวิตเตอร์ก็ได้นะ

325 Nameless Fanboi Posted ID:4i1ap0jAL6

พวกมึงเคยเกลียดนิยายที่จบแบบค้างๆ คาๆ หรือปล่อยให้คนเดาบทสรุปกันไปเองมั้ยวะ เมื่อก่อนกูเกลียดมาก ยิ่งตอนไปตามหาอ่านสัมภาษณ์นักเขียนแล้วนักเขียนตอบประมาณว่ามันจบแบบนั้น แม้แต่ตัวเองก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เป็นเรื่องของผู้อ่านที่จะตีความว่าลักษณะนิสัยของตลค.จะนำพาให้เหตุการณ์หลังฉากจบดำเนินไปยังไง กูจะแบบมึงเป็นคนเขียนมึงจะไม่รู้ได้ไงวะ รับผิดชอบหน่อยเซ่!! เพราะกูเป็นประเภทที่เขียนแล้วจะจบเคลียร์ตลอด แต่ตอนนี้กูมีนิยายสองสามเรื่องที่เป็นแบบนั้นว่ะ คือเคลียร์ปมละ แต่ส่วนเรื่องตัวเอกใช้ชีวิตยังไงต่อไป รอดไม่รอดกูอยากปล่อยไว้เฉยๆ งั้นเลย มันเรียกว่าจุดบอดป่ะวะ

326 Nameless Fanboi Posted ID:eRnGZNiwZP

นอกจากจอมมาร/ราชาปีศาจ มีคำอะไรที่มันแนวๆไอ้ตัวพวกนี้อีกมั้ยวะ เบื่อใช้จอมมาร รู้สึกไม่ขลัง อ่านแล้วนึกถึงพวกจอมมารโม่ยๆที่ฮิตกัน

327 Nameless Fanboi Posted ID:p5arUMubNu

>>325 กุไม่ค่อยชอบนิยายแบบนั้นอะ มันจะมีความรุ้สึกแบบ อ้าวจบแล้วเหรอ แบบบางทีกุก็ไม่ได้ฉลาดขนาดมานั่งเดาความเป็นไปหรือบางทีก็ไม่อยากคิดไปเอง บางทีก้มีตอนพิเศษให้พอเดาได้ก็ได้มั้งว่าเป็นไงต่อไป

328 Nameless Fanboi Posted ID:c+arvaTLg5

>>325 ชอบนิยายที่ต้องตีความต่อแต่ไม่ใช่แบบนักเขียนลืมปมหรือคิดไม่ออกเลยจบแบบหางด้วนนะไอ้คำตอบคนเขียนก็ไม่รู้นี่ไม่เอาเลย ชอบจบที่สามารถคิดในมุมต่างๆ ได้ให้คนอ่านเติมเต็มบทจบได้เองด้วยหรือจะจบแค่คนเขียนเขียนไว้ก็ได้ หนังเก่าๆ เป็นแบบนี้เยอะพวกทิ้งหางไว้ต่อภาคได้แบบนี้

329 Nameless Fanboi Posted ID:.Zc5O/Zrts

ขอถามหน่อย คือกูมีแพลนว่าจะทำเล่ม แล้วสนใจนักวาดคนหนึ่งอยากให้เขามาวาดปกให้ ควรติดต่อเขายังไงวะ กูไม่ถนัดคุยกับคนอื่นเท่าไหร่ อีกอย่างเขามีทั้งเพจกับทวิตเตอร์​ควรติดต่อผ่านทางไหนดี
แล้วเวลาเริ่มคุยอะ เริ่มยังไง พวกเรทราคาด้วย กูไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย นิยายเรื่องแรกน่ะ

330 Nameless Fanboi Posted ID:5nBig/R5Hm

>>329 inbox ไปถามว่ารับคอมมิชชั่นปกไหม ถามไหนก็ได้ มึงไปก็ สวัสดี ทักจ้า อะไรก็ว่าไป แล้วถามไปเลยรับงานคอมมิชชั่นไหม เขาอาจจะตอบช้า ไม่ต้องรีบร้อน บางคนทักไปเจ็ดวันค่อยมาตอบก็มี ไม่รับก็จบ รับก็ถามคิวว่าว่างช่วงไหน มีรายละเอียดราคาไหม บางคนเขาทำชีตให้อ่านรายละเอียด

>>323 มี เหมือนเคยเห็นแวบๆ แต่คนอ่านออนไลน์น้อยแน่นอน เว้นแต่เป็นนักเขียนใหญ่มาลงเองงอาจจะพอมีคนอ่านอยู่

>>325 เฉยๆ อยากจบยังไงก็แล้วแต่คนเขียน กูเห็นพวกเขียนเคลียร์หน่อยก็วนๆ งั้นๆ จบแล้วก็แต่งงาน มากกว่านั้นก็มีลูกมีหลานมีความสุข คนนั้นได้กับคนนี้ ลูกคนนั้นกลายเป็นผัวหรือเมียกับลูกคนนี้ ไม่ก็เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน จบแฮปปี้เป็นส่วนใหญ่ จบแบบสปอล์ยที่ไม่รู้จริงหรือหลอกแบบ got นี่ไม่ค่อยเห็น

331 Nameless Fanboi Posted ID:V+PFzk7xT5

ถามหน่อยดิ มึงเขียนนิยายเรื่องนึง มีโครง มีตอนจบอะไรเรียบร้อยหมดแล้ว พอเขียนๆไปแล้วเคมีของพระเอกกับตัวละครหญิงตัวอื่นเข้ากันได้ดีกว่านางเอกที่วางไว้ตั้งแต่ต้น คนอ่านก็เชียร์มากกว่า ถ้าเป็นพวกมึงจะยอมเปลี่ยนตอนจบมาให้คู่กับตัวละครนั้นรึเปล่าวะ หรือจะยืนยันตามโครงเดิมที่วางไว้ คู่กับคนเดิมแม้จะโดนด่า

332 Nameless Fanboi Posted ID:4vnn/cinR6

>>331 เป็นกรู กรูเปลี่ยนนะ

333 Nameless Fanboi Posted ID:gDOHw0wP0W

>>331 ให้พระเอกหลงรักคนที่เคมีดีกว่า หาจังหวะพีคๆ ฆ่าตัวละคร ด้วยเหตุผลสวยๆอย่างเสียสละหรือปกป้องพระเอก ทิ้งบาดแผลในใจพระเอกไว้ตลอดกาล แล้วเพิ่มบทยืดเรื่องให้นางเอกมาประคับประคองพระเอกจากความสูญเสีย ค่อยจบกับนาง แต่สาวที่ตายไปก็ไม่เคยลบเลือนไปจากใจ นางเอกได้อยู่คู่กันจนสุดท้าย แต่นางคนนั้นได้ใจพระเอกไป ทิ้งปริศนาไว้ให้นางเอกสงสัยว่าคนตายไม่สามารถเอาชนะได้ตลอดกาลจริงรึเปล่า ตกลงแล้วตอนนี้ฉันเป็นคนที่พระเอกรักที่สุดรึยัง แต่กูจะเขียนไม่ให้พระเอกตอบ เขาเพียงยิ้มเศร้าๆให้เท่านั้น //แค่ก กูเป็นนักเขียนสไตล์ยิ่งคนอ่านกรีดร้องยิ่งสมใจน่ะ อย่าอ้างอิงกูจะดีกว่า...

334 Nameless Fanboi Posted ID:gDOHw0wP0W

>>326 ประมุขพรรคมาร ซาตาน เทพตกสวรรค์ ผู้ที่ไม่อาจเอ่ยนาม ราชาภูตผี จ้าวแห่งความตาย ทรราช จอมปีศาจ ราชามาร จักรพรรดิแห่งความมืด ดาร์กลอร์ด ธานอส ราชานรก ฮาเดส เทพแห่งความตาย อะนูบิส นึกไม่ออกแล้วกูหมดมุก

335 Nameless Fanboi Posted ID:Ef/Q79h2Y3

>>333 เฮือกมากมรึงเอ้ย

336 Nameless Fanboi Posted ID:UyO/xJQwpQ

ขอถามความเห็นโม่งหน่อย สมมุติกูแต่งนิยายแนวอิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับคนๆนึงที่มีข่าวลือว่าเป็นเกย์
แล้วเขียนให้นางเอกย้อนเวลาไปเป็นคนที่มีข่าวลือว่าเป็นคู่ขาของคนๆนี้ ซึ่งตามปวศ. เป็นผู้ชาย
แต่นางเอกต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายเพราะยุคนั้นผู้หญิงไม่ได้รับการยอมรับ ซึ่งจริงๆมันก็พล๊อตธรรมดาแหละ
แต่กูกลัวว่าด้วยมาตราฐานยุคนี้มันจะดูเหมือน homophobia รึเปล่าวะ พวกมึงคิดว่าไงบ้าง

337 Nameless Fanboi Posted ID:.AjpjB9tjx

>>333 คหสต เกลียดพล็อตแบบนี้ชิบหาย

338 Nameless Fanboi Posted ID:QooCBeQIu4

>>336 จะโฮโมโฟบยังไงวะ สำหรับกูปกตินะ นางเอกของมึงแค่ไปทำความรู้จักกับคู่ขา ต่อให้สุดท้ายปรากฎว่าคนในปวศ.กับคู่ขามีคสพ.กันจริงๆ หรือลงเอยที่คู่ขาหันมาสนใจนางเอกมันก็ไม่ได้เหยียดเกย์อะไร เขาอาจจะเป็นไบก็ได้ หรืออาจจะเป็นชายแท้แต่แรก อยู่ที่วิธีการเล่าเรื่องของมึงมากกว่า

339 Nameless Fanboi Posted ID:Ks/6eU+M89

>>338 แบบว่าเหมือนไปบิดเบือน ปวศ. จากให้เค้าเป็นเกย์หรือไบมาชอบผู้หญิงไรงี้น่ะ

340 Nameless Fanboi Posted ID:m38K.VCBTe

กุคิดอยุ่ว่าถ้าเซตติ้งโลกปัจจุบัน ตัวละครหญิงอายุซัก18พึ่งมารุ้ว่าความจริงตัวเอกเป็นผู้ชาย อาจจะเคยชอบผชแบบติ่งดาราไรงี้มาก่อน แต่มาชอบกะนางเอกที่เป็นชะนีจริงๆจะเปนไปได้ปะวะ แล้วนางเอกมันควรเป็นคนยังไงให้ผู้ชายที่เป็นผู้หญิงมาตลอดมารักจนแต่งงานมีลูกได้

341 Nameless Fanboi Posted ID:m38K.VCBTe

ไอเดียกุมาจากอยากแต่งอะไรตรงข้ามกะอิพวกนิยายที่ตัวละครชายกลายเป็นหญิงเฉยๆแหละ แต่พอกุคิดเซตติ้งโลกปัจจุบันล่ะยากชห

342 Nameless Fanboi Posted ID:ua5F4jVsg+

>>340 เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นผช? ถ้ากุเป็นคนอ่านกุจะคิดว่า ไม่ได้เรียนสุขศึกษาเหรอ พ่อแม่นี่ยังไงเลี้ยงลูกแบบไหนถึงไม่รู้ว่าตัวเองเพศอะไร สูติบัตร บัตรประชาชนหลักฐานตั่งต่าง ทำไมมึงไม่รู๊วว แต่มองข้ามความไม่สมเหตุสมผลเรื่องการเพิ่งรุ้ตัวเอง กุว่านางเอกต้องเป็นอะไรที่พระเอกแพ้ทางอะ พวกนิสัย ทัศนคติ เหมือนมาเติมเต็มส่วนที่ขาด พระเอกถึงจะรัก มันก็แนวๆนิยายวายที่เป็นเกย์ให้นายคนเดียวไรงี้ แต่ถึงขั้นเกิดอารมณ์ทางเพศ… คิดไม่ออกว่ะ

343 Nameless Fanboi Posted ID:.AjpjB9tjx

KY ชิบหายแล้วมึง คือนิยายที่กูแต่งมันหน่วงมาทั้งเรื่อง (คสพ.พระนาง) ทีนี้พอกูจะปูทางให้มันจบดีแฮปปี้กูเสือกนึกภาพไม่ออกว่ะ คืออีสองคนนี้มันรันทดขนาดให้มันคิดเรื่อง sexual กันไม่ได้แล้วอะ มีแต่อยู่ด้วยแล้วอิ่มใจ เกื้อกูลกัน ทำนองนั้น เป็นคสพ.ที่ให้เรียกว่าคนรักก็บอกไม่ถูก ให้แต่งงานมีลูกกันยิ่งนึกภาพไม่ออก กูควรทำยังไงดี หรือให้จบเศร้าให้มันจบ ๆ ไปเลยดีวะ

344 Nameless Fanboi Posted ID:GTh9e4.lKc

>>343 ให้แต่งงานกันบังหน้าแต่อ้างว่าเป็นหมันแล้วรับเด็กมาเลี้ยง
หรือ ต่างฝ่ายต่างแต่งไปกับคนอื่น แต่เวลามีปัญหาก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเหมือนเดิม

345 Nameless Fanboi Posted ID:nuLGbCqAKW

>>340 มึงหมายถึง นางเอกชอบกับพระเอก(ที่พึ่งรู้ว่าตัวเองเป็นผช) ถูกป้ะ
เซตติ้งโลกปจบ พลอตประมาณหนังที่อนันดาเคยแสดงอาจจะได้ป่ะ มีมายเซลฟ์อ่ะ

346 Nameless Fanboi Posted ID:uJw0A2+Liz

>>342 ไม่แน่นะ มันมีเคสผิดปกติมีโครโมโซม xy แต่เอสโตรเจนเยอะมากจนกายภาพออกมาเพศหญิง พ่อแม่หมอก็เห็นเป็นหญิงเลี้ยงขึ้นมาเป็นหญิง กระทั่งอวัยวะเพศก็มีช่องคลอด แต่ไม่มีเมนส์ มีหน้าอกใหญ่ด้วย ไม่มีจู๋ แล้วพอโตจนมีแฟนคบขนาดแต่งงานแล้วเพิ่งมานึกได้ตอนอยากมีลูกว่าตัวเองไม่มีเมนส์ เลยไปหาหมอ หมอตอนแรกนึกว่ามดลูกไม่เจริญแต่ดันไม่มีส่วนต่อมดลูกและรังไข่ ไปมีอัณฑะซ่อนในช่องท้องแทน ไอ้ข้างล่างมันกลายจากไอ้นั่นกับถุงอัณฑะเปลี่ยนรูปร่างเป็นช่องคลอดกับแคม พอเช็กเพราะคิดว่าโครโมโซมผิดปกติถึงรู้มี xy ปกติอีก คนไข้ต้องรับฮอร์โมนใหม่ให้กลับมาเพศจริงแล้วศัลยกรรมข้างล่างใหม่ รวมถึงอาจจะเกิดปัญหาเป็นหมั้นเพราะอัณฑะไม่เจริญอาจผลิตเซลล์สืบพันธ์ุไม่ได้ แถมสามีรับไม่ได้ขอหย่า ไม่ได้ตามข่าวต่อนะว่าเขาจะรักษาหรือเปล่าหรือคงเพศหญิงเหมือนเดิม

347 Nameless Fanboi Posted ID:nZwrCty6kr

ด้วยความหลากหลายทางเพศสมัยนี้ทำไมมันจะเป็นไปไม่ได้วะ ถ้าทอมกับกระเทยยังรักกันได้แบบ happy sexually ทำไมของมึงจะจบไม่ได้ มันมีกระทั่งแบบที่บอกว่ารักที่ตัวคนไม่ใช้ที่เพศ จะเพศอะไรก้อรัก

348 Nameless Fanboi Posted ID:.Fhl.xm67r

>>346 androgen insensivity syndrome
ภายนอกเหมือนผู้หญิงทุกอย่าง ภายในไม่มีมดลูกและรังไข่ โครโมโซมเป็น XY
ส่วนมากมันจะเป็นผู้หญิงที่สวยสูงยาวเข่าดีเป็นนางแบบด้วย

349 Nameless Fanboi Posted ID:.Fhl.xm67r

>>348 กูพิมพ์ผิดนิดนึง insensitivity

350 Nameless Fanboi Posted ID:yRkcCi/MJG

>>346 ไม่ใช่ฮอร์โมนเพศหญิงเยอะนะ แค่ไม่มี receptors ต่อ androgen testosterone
โรคนี้เป็นตัวสนับสนุนทฤษฎีที่ว่าพื้นฐานของมนุษย์มีศักยภาพที่จะพัฒนาไปเป็นเพศหญิงได้มากกว่าเพศชาย เพราะเมื่อเนื้อเยื่อพื้นฐานไม่ได้รับอิทธิพลจาก androgen ก็เกิดการพัฒนาทางเพศแบบ female

351 Nameless Fanboi Posted ID:uJw0A2+Liz

>>350 ใจมาก กูไม่แม่นยังแยกเอสโตรเจน แอนโทรเจนไม่ออกเลย อ่านเจอหน้าข่าวผ่าน ได้รู้จักชื่อโรคแล้ว

352 Nameless Fanboi Posted ID:bbPOfbHmgH

หาข้อมูลอาชีพอินทีเรียร์หน่อยงับ อยากรู้ถ้ามีโปรเจ็คออกแบบห้องให้รีสอร์ท(ห้องพัก)อะไรแบบนี้ (ไปตจว.) มันใช้เวลาประมาณกี่วันวะ หรือใช้ทีมละกี่คน เท่าที่อ่านมาเหมือนกูยังนึกภาพไม่ค่อยออกเลย

353 Nameless Fanboi Posted ID:.BViNokJaS

>>352 พี่ชายแฟนทำรับคนเดียว ไม่ได้อยู่บ.ฟรีแลนซ์แต่ค่าตัวเขาแพงนะที่ทำให้นี่ทำแบบ รีสอร์ตเจ้าของเงินหลักร้อยล. เงินไม่ฝากธนาคารเก็บตู้เซฟบ้านแล้วจ่ายใส่ถุงก๊อปแก๊ปอะ

ทำวันถึงสองวัน แบบร่างแรก หลังจากนั้นแก้งานสามครั้ง ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับคนจ้าง(จะถ่วงเวลาไหม) แต่มีแปลนมาให้แล้วนะ (ปกติเขามีให้อยู่แล้ว แปลนเนี่ยมีมาตั้งแต่สมัยสร้างโครงห้อง) ถ้ามีแปลน3Dก็เจ๋ง ไม่มีก็ไม่ใช่ปัญหาไปถ่ายรูปห้องเอามาขึ้น เสร็จภายในสโคปเวลาที่บอก

รายได้เขาต่อเดือนแสนนึงบวกบวก

พวกทำบริษัทรอเจ้าอื่นละกัน

ขอเพิ่มรายละเอียดอีกนิดหน่อย สองวันที่ว่าคือโมเดล3D เรนเดอร์พร้อมทั้งห้องนะ ไม่ใช่ไปเลือกกระเบื้องเฟอลงห้องแล้ว พอแบบผ่านลูกค้าโอเค ก็จะพากันควงแขนไปดูกระเบื้อง ดูวอลเปเปอร์ ส่วนใหญ่ออกก่อนเองออฟเฟอร์ไปก่อน ลูกค้าปาเงินมาให้เลยก็มี ระยะเวลานานไหมขึ้นอยู่กับการหาของ ว่าได้ที่ต้องการรึเปล่า กระเบื้องเอย ต้องไปดูสี ขนาด ลักษณะด้วยนะ บางทีได้หมดยกเว้นขนาด ก็ต้องหาวนไป กระเบื้องมันมีสองไซส์อะหลักๆ

354 Nameless Fanboi Posted ID:mNwi4D+nA8

>>353 กราบมึงงงง นึกว่าจะไม่มีคนตอบแล้ว TTTT ถ้านึกอะไรออกจะมาถามเพิ่มแล้วกัน

355 Nameless Fanboi Posted ID:CU5EEd2RRl

>>342 >>345 >>346 >>347 >>348 >>349 >>350 ขอบคุณทุกคนมาก ข้อมูลจริงจัง ขนาดกูเรียนสายแพทย์ยังอาย กูลืมบอกว่ากูจะแต่งแฟนตาซี5555 กูคิดว่าจะมาแนวแม่มันจะซ่อนลูกชั่วคราวเลยจับกรอกยาเปลี่ยนเพศจากชายเป็นหญิงแล้วให้เพื่อนเลี้ยง บอกเพื่อนว่านี่ลูกสาว แต่อิแม่โดนจับไปก่อนก็เลยไม่มีใครรู้ว่าพระเอกเป็นชาย คนเลี้ยงเข้าใจว่าลูกสาวก็เลี้ยงแบบลูกสาวตลอด จนมันโตมาสัก18แล้วไปเผลอแดกไรซักอย่างให้เพศกลับมาเป็นชายนี่แหละ เรื่องเอกสารก็ถูกจัดการว่าเป็นผู้หญิงหมด คือนิยายแนวนี้กูเห็นแต่ชายเป็นหญิง&เซตโลกสมมติเลย แม่งเลยไม่ต้องมารองรับเรื่องความหลากหลายทางเพศยุบยับไรประมาณนี้(อย่างบารามอสอ่ะ) กูเลยคิดไม่ตกเนี่ยว่าถ้าเขียนว่าแม่งเป็นชายแล้วจะมีความเป็นไปได้มั้ยว่ามันจะรับร่างชายไม่แปลงเพศกลับไปร่างชะนีที่ใช้มาตลอดได้

356 Nameless Fanboi Posted ID:/0fxwzqOQB

>>355 โลกสมมุติแบบบารามอสมันทำได้แต่ยาให้โลกจริงมันไม่ง่ายแบบโคนัน

357 Nameless Fanboi Posted ID:zcDx1EYGGK

เพื่อนโม่งในนี้มีใครเขียนนิยายขายบ้างมั้ย?
พอดีกำลังจะหางานใหม่ แล้วระหว่างนั้นมันคงว่างอยู่พักหนึ่ง (ราวๆ 2-3 เดือน) เลยจะเอาเวลาว่างๆ มาเขียนนิยายสั้นๆ มาซักเรื่อง
แต่พอดีห่างหายจากวงการไปนานอยู่เลยไม่รู้ว่าปัจจุบันเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้แนวแฟนตาซียังขายได้รึเปล่าอ่า? หรือว่าต้องไปแนววายกันหมดแล้ว

358 Nameless Fanboi Posted ID:9u7Fa0Edc/

>>357 ไม่จำเป็นต้องวายก็ขายได้ แต่แนวแฟนตาซีขายยาก แต่ก็ขึ้นกับว่าแฟนตาซีแบบไหนด้วยนะ ทะลุมิติก็ถือว่าแฟนตาซีแต่ก็ขายได้ ส่วนแฟนตาซีโรงเรียนหรือแฟนตาซีแนวอาณาจักร ผู้ชายผมสีเขียวตาสีเขียว ผู้หญิงผมสีน้ำเงิน แบบนี้ขายยาก

359 Nameless Fanboi Posted ID:jdsB41kNoi

>>357 แฟนตาซีขายยาก แนวรักขายได้เสมอ ถ้าเล่นแนวรักแฟนตาซี แต่เน้นรักให้มากเข้าไว้ อาจจะพอได้ อย่าเผลอไปเน้นแฟนตาซีเข้าล่ะ

360 Nameless Fanboi Posted ID:zcDx1EYGGK

>>358 >>359 รักแฟนตาซีงั้นเหรอ? ต้องมีเนื้อหาความรักประมาณไหนอะ? เขียนได้นะแต่ไม่รู้ว่าต้องยัดเข้าไปประมาณไหนนี่ล่ะ
พล็อตที่กูมีตอนนี้เป็นแนวนางเอกโดนหักหลังแล้วฆ่า แต่ได้ย้อนเวลาเพื่อทวงแค้นอะ เนื้อหาออกไปทางการเมืองหน่อยๆ ด้วย

361 Nameless Fanboi Posted ID:xLH4KfRynC

>>357 จะทำเอาเงินต้องมีฉากปล้ำหรือจิ้นทุกตอน อัพทุกวัน นักอ่านเดี๋ยวนี้ไม่รอ อัพปั๊บเมนต์แรกใน 4 วิ "เมื่อไรจะอัพตอนใหม่คะ" เชี่ย กูพิมพ์ 7 วันมันอ่าน 4 วิ

362 Nameless Fanboi Posted ID:kqybhcqJ/R

เอาแบบขายได้ ก็วายกับกำลังภายใน ถ้าจะอยากเขียนแฟนตาซีด้วย มึงก็ยัดองค์ประกอบที่ว่ามาเข้าไปนั่นแหละ

363 Nameless Fanboi Posted ID:jdsB41kNoi

>>360 นิยายรักนั่นแหละขายได้ แต่ที่บอกว่ารักแฟนตาซี เพราะมึงบอกมาว่าถนัดแฟนตาซี ถ้าจะถามว่าต้องรักประมาณไหน ก็รักซะเก้าส่วน แฟนตาซีแค่ส่วนเดียว เน้นรัก ไม่จำเป็นต้องกอดปล้ำกันก็ได้ แต่ถ้ามี มันก็จะมีคนตามกรี๊ดตามฟินจิกหมอนขาด ทำให้เกิดกระแส แค่นั้นอะ

364 Nameless Fanboi Posted ID:x8nczyj89E

>>360 ไม่จำเป็นต้องเน้นรักอะไรขนาดนั้นก็ได้ นักอ่านบางส่วนก็หนีแนวรักมาอ่านแฟนตาซีนี่แหละ มีพวกที่ชอบแฟนตาซีจ๋าแบบไม้เน้นรักด้วยนะ แต่อาจจะเฉพาะกลุ่มไปหน่อย ถ้าจะเอาให้เซฟที่สุดก็ต้องใส่แนวรักเข้าไปแหละ

มึงไม่ต้องใส่เยอะขนาดนั้นก็ได้ แต่ขอให้มีบ้างพอกระชุ่มกระชวยหัวใจ มีบทรักตอนเนื้อเรื่องการเมืองกำลังพีคไรเงี้ย เครียดแล้วคอยอยู่ข้างกัน จับมือ กอด แอบมองตา แอบเป็นห่วง แค่ทำให้มันดูน้อยแต่มากไปด้วยความรู้สึก เยแทบทุกตอนตอนนักอ่านก็เบื่อ กูเคยเห็นมาแล้ว นักอ่านบอกตรงๆ เลยว่าฉากเยเยอะเกินไปมั้ย เนื้อเรื่องกลวงมากเลย อย่าให้นักอ่านมามีอิทธิพลจนทำลายความตั้งใจที่เราต้องการแต่งออกมาเลยมึง

...กูพิมพ์ได้หล่อมาก เหยด

365 Nameless Fanboi Posted ID:2jh20GmspU

ขอบคุณมากเพื่อนโม่งทั้งหลาย
ถ้ามีเวลา 2-3 เดือนน่าจะปั่น 30 ตอนทัน

366 Nameless Fanboi Posted ID:Br5O2HcaU5

มึง ถ้าเจอนิยายที่เปิดมาด้วยตอนจบ (ในอดีตอีก 10 กว่าปีต่อมา) คิดว่ามันจะมีข้อดีข้อเสียไงกันบ้างวะ ส่วนตัวกูกำลังสนใจแนวนี้อยู่ อยากรู้คห.คนอื่นว่าชอบไม่ชอบยังไง

367 Nameless Fanboi Posted ID:7rRzjvRGcg

>>366 หนังมีเปิดฉากจบก่อนเยอะนะ ข้อเสียคนอ่านรู้สปอยส์เรื่องก่อน จะใช้วิธีนี้ได้คือต้องมีฉากจบแบบคนสนใจมากๆ ว่าทำไมเพราะอะไรถึงจบแบบนี้ได้ ตอนจบจริงๆ จะเป็นแบบตอนเริ่มหรือเปล่ามีวิธีอะไรที่จะเลี่ยงไม่ให้เกิดบทจบแบบนั้นได้มั้ย การเล่าเรื่องต้องหลอกคนอ่านได้ มีการหักมุกตลอดหรือทางตรงข้ามเล่าให้คนคล้อยตามกดดันจนไปถึงตอนจบ แนวเขียนแบบนี้ถ้าการดำเนินเรื่องไม่สนุกคนไม่ตามต่อ

368 Nameless Fanboi Posted ID:DaLvyla5i7

>>366 มันก็มีวิธีเล่าแบบเปิดตอนจบ แต่ไม่เฉลย ไม่สปอยเยอะแยะออกนะ กูว่า

369 Nameless Fanboi Posted ID:1THno9/jhA

>>368 นิยายไทยน้ำดีหลายเรื่องเลยที่เปิดมาด้วยตอนจบ ข้างหลังภาพงี้ สองฝั่งคลองงี้ เล่ามาแบบตัวเอกที่แก่แล้วนึกไปตอนหนุ่มๆสาวๆกัน ข้างหลังภาพคือตัวเอกเล่าให้ภรรยาฟังว่าทำไมถึงไม่ทิ้งภาพ สองฝั่งคลองตัวเอกเป็นคุณยายกลับบ้านเก่าแล้วก็นึกถึงสมัยเด็กๆ

370 Nameless Fanboi Posted ID:5nHqtz9VNT

กูนึกถึงเรื่องของขวัญวันวาน ที่ปิดด้วยลูกๆของพระเอกนางเอกเล่าถึงเรื่องพ่อแม่สมัยยังหนุ่มสาว

371 Nameless Fanboi Posted ID:T2jLITED3.

หนังรักตลอดกาลอย่างไททานิคยังเปิดเรื่องมาตอนโรสแก่เลย แล้วค่อยเล่าย้อนไป คนดูก็ชอบกันนะ เพราะงั้นกูว่าเปิดเรื่องอย่างงี้มันทำได้แหละ ถ้าสมมติวางพล็อตไว้ว่าพระเอกหรือนางเอกตายตอนจบ ก็อาจจะไม่ต้องเปิดด้วยจุดนั้นก็ได้(กันสปอยล์) แต่เปิดด้วยการมีเรื่องอะไรซักอย่างให้ตัวละครที่ยังอยู่เล่าย้อนความหลัง ไรงี้

372 Nameless Fanboi Posted ID:PlQ/7vBDWn

เควาย เหมือนเคยเห็นผ่าน ๆ สักมู้พูดถึงเรื่องเพลงในนิยาย ถ้ากรณีใส่เนื้อเพลงสักท่อนที่มันตรงกับใจตลค.พอดีมันจะโอเคมั้ยวะ แบบบรรยายว่าไปเที่ยวแล้วได้ยินร้านเปิด/วิทยุ อะไรเงี้ย

373 Nameless Fanboi Posted ID:.wjxSnLty8

>>372 เอาจริงๆ มันผิดนะ ของมีลิขสิทธิ์ แต่ว่าไม่เคยมีปัญหา มึงเป็นนักเขียน กูว่าแต่งเองเลย พี่ที่กูรู้จัก เป็น นข นางก็แต่งเพลงเองเลย

374 Nameless Fanboi Posted ID:OANmTaIV4j

>>372 เหมือนกูเคยอ่านว่าพวก quote หรือเพลงนี่บางทีอาจต้องขออนุญาตหรือขอลิขสิทธิ์มาใส่นะ ยกเว้นจะเก่าจนเป็นพับลิคโดเมนไปแล้ว

แต่หากมึงบรรยายว่าตัวละครเดินเข้าบาร์แล้วได้ยินเสียงเพลง "ให้คุกกี้ทำนายกัน!" แค่สั้นๆ หรือมึงบรรยายว่าตลค.ดูหนังแล้วยกประโยคจากหนังมาสักอัน ปกติก็ไม่มีใครมาตามเอาเรื่องเอาราวกะมึงหรอก เว้นแต่มึงยกมาเต็มสตรีม เอาเนื้อเพลงเขามาเปิดเรื่อง มาใช้เป็นแกนหลัก สอดแทรกไว้ตามบท อันนี้ไม่เหมาะละ

375 Nameless Fanboi Posted ID:YGVXeWzpLn

>>374 พวกนิยายวัยรุ่นแจ่มใสไงตัวดี กูเคยอ่านไปตงิดใจไป มาเป็นท่อนเลย

376 Nameless Fanboi Posted ID:8ms5QOHOkb

รู้สึกผิดกับคนอ่าน กูมาเรียนต่อต่างประเทศ มาได้ 3 สัปดาห์แล้ว ยังจัดสรรเวลาไม่ค่อยลงตัวเลย ไหนจะเรียน ทำงานพิเศษ ออกกำลังกาย วันนึงมีเวลาเขียนนิยายไม่ถึงชั่วโมง ปรกติวันพุธจะว่างมาเขียนได้สัก 3-4 ชั่วโมง แต่สัปดาห์นี้ดันเป็นวันหยุดต้องไปทำงานอีก อยากเขียนนิยายแต่ไม่มีเวลาจริงๆ โฮฮฮฮ

377 Nameless Fanboi Posted ID:VY.64uECnq

พวกมึงว่าการที่เขียนเรื่องยาวได้ มันเก่งกว่าการที่เขียนได้แต่เรื่องสั้นมั้ยวะ ไม่มีอะไร กูแค่อาจจะรู้สึกไปเองน่ะ

378 Nameless Fanboi Posted ID:z/zTBj5sf2

>>377 กูว่าเก่งกันคนละแบบนะ
เรื่องสั้นต้องเขียนกระชับ เขียนให้เข้าใจได้ในขอบเขตที่จำกัด
เรื่องยาวต้องอ่านแล้วอยากติดตามต่อไปเรื่อยๆ เพราะกว่าจะถึงจุดไคลแม็กซ์หรือจบหนังสือ บางคนก็เกริ่นเรื่องซะยาว ยืดเยื้อเวิ่นเว่อ พาลให้เทไปดื้อๆ ไม่อ่านต่อ

379 Nameless Fanboi Posted ID:x5O3OfOImR

>>376 ไม่เป็นไรมึง บอกนักอ่านไปตามตรงเลย ของกูเคยเจอมรสุมงานรุมเร้าและกังวลว่าจะแต่งได้ไม่ดี ขาดกำลังใจ นักอ่านที่เขาชอบงานเราจริงๆ ก็เข้าใจนะเว้ย แค่บอกให้เขารู้หน่อย อยู่ๆ หายจ้อยไม่ส่งข่าวเลยก็ใจร้ายไปนิดนึง เพราะกูก็เคยโดนนักเขียนเทเหมือนกัน เศร้ามาก บอกกูก่อนว่าจะด๊องงง

380 Nameless Fanboi Posted ID:xy0/eSRZtb

>>377 กูเขียนได้แต่เรื่องยาว เรื่องสั้นเขียนไม่ได้อ่ะ ยังนึกชมว่าคนเขียนจบในตอนได้นี่เค้าเก่งจัง

381 Nameless Fanboi Posted ID:NOgXDiuInR

ว่าจะถามมานานแล้วแต่ไม่ได้ถามซักทีแฮะคำถามนี้
เพื่อนโม่ง เวลาเขียนนิยายที่ใช้เซ็ตติ้งโลกจริงในประเทศไทยนี่ แต่ละคนใช้สถานที่จริงกันทั้งหมดรึเปล่าวะ?
หรือว่าใช้สถานที่สมมุติเฉพาะในเขตพื้นที่ที่ตัวเอกอยู่เท่านั้น ส่วนสถานที่สำคัญจำพวก Land mark ยังใช้สถานที่จริง?

382 Nameless Fanboi Posted ID:DKU5UwtePA

>>381 ถ้าอยากเจาะจงชื่อเฉพาะ มั่นใจว่าข้อมูลแน่นก็ใส่ของจริง แต่ส่วนมากก็ก็เห็นเขาสมมุติเอาง่ายกว่า คือถ้าไม่ได้สำคัญเป็นเมนเรื่องก็อธิบายคร่าว ๆ อย่างเอราวัณก็น้ำตกแห่งหนึ่งที่เมืองกาญ บลา ๆ ว่าไป แต่จจริง ๆ ะเอาไงชอบแบบไหนก็ใช้ตามแต่ใจมึงเลย

383 Nameless Fanboi Posted ID:lxOzs67+v6

มึง ๆ สมมติว่ากูมีเรื่องต่อกัน แล้วอีสองเล่มนี้เฉลยปมทางจิตของพระเอกแบบเดียวกัน มันจะดูซ้ำซากมั้ยวะ /จบต่างกัน อันนึงอันนึงเส้า อะ มึงว่าไงง

384 Nameless Fanboi Posted ID:DrZFsucYCn

>>383 กูว่าซ้ำซากนะ

385 Nameless Fanboi Posted ID:uR3VeldcER

>>383 คืออยากมีฉากจบสองรูท แต่ว่าทั้งสองรูทเกิดจากปมเดียวกันแล้วคลายปมคนละวิธีเฉยๆ งี้เหรอ ถ้างั้นหาวิธีเฉลยปมแค่ครั้งเดียวแล้วค่อยเขียนต่อแยกสองรูทมั้ยอะ

386 Nameless Fanboi Posted ID:lxOzs67+v6

>>385 ไม่ ๆ คือเป็นคนละคนกัน สมมุติพระเอกเรื่อง 1 เป็นโรคจิต แต่หายได้ จบแฮปดีมีความสุข แต่พระเอกเรื่อง 2 ก็เฉลยปมว่าเป็นโรคเดียวกัน แต่มันไม่หายและจบแบดเอนท์ไง

387 Nameless Fanboi Posted ID:9Xeo1w5uWm

มึง อะไรคือการผิดศีลธรรมและจรรยาบรรณวะ กูถามโง่ ๆ เลย พอดีว่ากูเขียนนิยายแนวไล่เชือด มีฉากทำร้ายกันรุนแรง มันผิดตรงนี้มั้ยอ่ะ T_T

388 Nameless Fanboi Posted ID:ZvboFuVnk1

>>387 ไล่เชือดไม่ได้ผิดศีลธรรมมากหมายนะ
คือมันเป็นอะไรก็ได้ที่สร้างความสะเทือนใจแก่สังคมและขัดแย้งกับวิถีประชา เช่นหมอที่แอบมีความสัมพันธ์กับคนไข้หรือเอาความลับคนไข้ไปบอก(ผิดจรรยาบรรณหมอ)
ทนายปากมาก ครูกับลูกศิษย์ incest ข่มขืน หรืออนาจารก็ได้อย่างกรณีข่มขืนลูกตัวเอง ฆ่าข่มขืนบนรถไฟ มึงต้องคิดเองนะเป็น common sense แต่ต้องสะเทือนใจและสร้างความรังเกียจต่อสังคม เช่นเมื่อก่อนเกย์ก็ผิดศีลธรรมจรรยา แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ละ

389 Nameless Fanboi Posted ID:+uHcFYK80A

นั่นไง ของกูมี incest ข่มขืนเต็ม ๆ สนพ.ไหนรับบ้างวะแม่งเง้ย

390 Nameless Fanboi Posted ID:DHRb1UYtqS

>>388 พอจะเข้าใจแล้ว ขอบคุณมากนะมึง

391 Nameless Fanboi Posted ID:N+srh3h1Sq

แม่งเอ้ย อยากจะออกจากงานมาเขียนนิยายขายให้รู้แล้วรู้รอดชิบหาย รู้สึกเหลือทนกับงานที่บริษัทโคตรๆ
แต่ยุคนี้ดันทำไม่ได้ กูล่ะเศร้าชิบหาย

392 Nameless Fanboi Posted ID:H8tWmQMdkh

>>391 ถ้าออกมาแล้วมึงอยู่รอดก็เอาดิ แต่ท่าทางคงไม่ใช่มั้ยล่ะ 555

393 Nameless Fanboi Posted ID:yOeACvbi.w

กูเขียนนิยายแนวอาชญากรรมว่ะ แบบทั้งเรื่องเน้นการสืบสวน ไล่ยิงกันทั้งเรื่อง แบบนี้มีสำนักพิมไหนเขารับบ้างวะ

394 Nameless Fanboi Posted ID:rS+NJmMWMd

ถ้ามีเรื่องรักแซมมาด้วยหน่อยกูไปได้ทุกสนพ.ปะ ถ้าล้วน ๆ เลยนี่กูไม่แน่ใจว่ะ

395 Nameless Fanboi Posted ID:rS+NJmMWMd

ลืมชี้ >>393

396 Nameless Fanboi Posted ID:FgLccoFK.y

ทำยังไงให้หายกดดันเวลาเขียนนิยายเรื่องใหม่วะ พอเรื่องเก่ามันดีแล้วคนคาดหวังกับเรื่องต่อไปเยอะกูก็จะกดดันมากๆเลยอะ

397 Nameless Fanboi Posted ID:apb21lIpuY

>>396 กูกดดันมากเหมือนกัน แบบยิ่งพอมีเรื่องนึงหรือสองเรื่องที่คนชอบมากๆแล้ว พอมาเรื่องถัดมาดูดสียงตอบรับไม่ค่อยดี กูก็แบบใจแป้วไปไกลละอ่ะ เสียเซลฟ์มากตอนนี้
ไม่ได้ช่วยไรมึงเลย 5555555555

398 Nameless Fanboi Posted ID:x4nTiQsBy5

>>396 มองดูเรื่องใหม่ของเจเคยังแป้ก ไม่ฮิตถล่มทลาย. จะได้มีกำลังใจ

399 Nameless Fanboi Posted ID:ts7Yh2Fcwk

>>396 เปลี่ยนนามปากกา จะได้ไม่มีคนคาดหวัง

400 Nameless Fanboi Posted ID:4XLB+tfZdg

>>399 +1 กูจากแฟนตาซีเปลี่ยนไปเขียนเสิ่นเจิ้นยังเปลี่ยนเลย กลัวคนจำภาพเก่าๆ

401 Nameless Fanboi Posted ID:Myz7aDV8sK

แต่เปลี่ยนนามปากกาก็คือไปเริ่มใหม่หมดเลยป่ะวะ แบบกุยังคิดถึงคนอ่านของกุอยู่อ่ะ กว่าจะมาถึงจุดนี้ไรงิ แต่ก็กดดันด้วยย บ้าบอสัด

402 Nameless Fanboi Posted ID:wubDZtX1py

>>396 มึงก็ทำออกมาดีๆ ถ้างานออกมาดีความกดดันจะลดลงเอง ถ้าทำไม่ได้มึงจะกดดันหนักกว่าเดิมเพราะตัวมึงรู้ดีว่ามึงทำได้ไม่ดีเท่าที่ตัวเองเคยทำได้

>>401 ถ้ามึงจับจุดได้ จุดเริ่มมึงก็ดีกว่านักเขียนหน้าใหม่แล้ว กูเขียนมาสามแนว สามนามปากกาไม่เคยบอกใครว่าคนเดียวกันไม่เคยไปโฆษณาในนามปากกาเก่าคนมาอ่านก็มีพอสมควร

403 Nameless Fanboi Posted ID:T4J2kn6LNl

จะใส่เชิงอรรถใน readawrite ยังไงดีวะ คืออีนี่นั่งใส่แล้วค้างอยู่เป็น ชม

404 Nameless Fanboi Posted ID:ZHW59FLPuo

เพื่อนโม่งขอความเห็นหน่อย คือกูอยากลองเขียนแนวจีน(ซึ่งมันก็จะกลายเป็นเซิ่นเจิ้น) แต่ส่วนตัวกูอ่านแต่จีนไม่อ่านเจิ้นเลย เลยไม่รู้ว่าควรเขียนดีไหมมันขัดๆความรู้สึกไงไม่รู้ แล้วอยากรู้ว่าเจิ้นนี่คนอ่านเยอะไหมวะ

405 Nameless Fanboi Posted ID:eSwANMKa5b

>>404 มึงเล่นโม่งมากไปนะเลยอาจจะเข้าใจอะไรผิด เสิ่นเจิ้นคือนิยายจีนที่คนไทยเขียน มึงจะเขียนเหมือนมากเหมือนน้อยก็เสิ่นเจิ้นทั้งนั้น มันก็จะมีคนเขียนที่เขียนแบบจีน พยายามจีน หรือไทยที่เซ็ตติ้งจีน มึงไม่ต้องไปอ่านงานเสิ่นเจิ้นก็ได้เพราะทันทีที่มึงเขียนออกมาจะจีนยังไงงานมึงก็กลายเป็นเสิ่นเจิ้นอยู่ดี บางคนเข้าใจว่าเสิ่นเจิ้นคือนิยายพยายามจีนหรือไทยเซ็ตติ้งจีน พวกนี้บางทีก็ตั้งใจบางทีก็ไม่ได้ตั้งใจแต่มันเป็นมาจากพื้นฐานที่อ่านเขียนนิยายไทยมากไป ส่วนคนอ่านออนไลน์กูคิดว่ามากกว่างานแปลเล่มเยอะมาก งานแปลกูตีให้ว่าอย่างมาก 5 พันเล่ม ต่อให้ขายหมดร้านเอาไปให้เช่า แต่รวมๆ มันสู้คนอ่านฟรีบนเว็บไม่ได้หรอก ส่วนเสิ่นเจิ้นคนอุดหนุนงานไหมอีกเรื่องหนึ่งนะ

406 Nameless Fanboi Posted ID:7CoYdUA/Oj

ทันทีที่เขียนแนวแปลจีนจะเป็นเสิ่นเจิ้น แล้วทันทีที่เขียนแนวแปลญี่ปุ่นจะเป็นฮอกไกโดมั้ย แล้วทันทีที่เขียนแนวแปลอเมริกาจะเป็นเท็กซัสมั้ย แล้วทันทีที่เขียนแนวแปลอิตาลีจะเป็นเนเปิลส์มั้ย แล้วทันทีที่เขียนแนวแปลเยอรมันจะเป็นมิวนิกมั้ย

407 Nameless Fanboi Posted ID:x0.7jfc2Fv

>>406 แล้วฮอกไกโดขึ้นชื่อเรื่องของปลอมมั้ย
แล้วเท็กซัสขึ้นชื่อเรื่องของปลอมมั้ย
แล้วเนเปิลล์ขึ้นชื่อเรื่องของปลอมมั้ย
แล้วมิวนิกขึ้นชื่อเรื่องของปลอมมั้ย

408 Nameless Fanboi Posted ID:oYGNYMTpkv

>>407 แต่สำหรับกู ถ้าเซตติ้งต่างชาติแล้วบรรยายทุกอย่างไทยจ๋ามาก กูก็เรียกว่าเสิ่นเจิ้นหมดอะ

409 Nameless Fanboi Posted ID:F.f2TdxQoB

>>406 ประเด็นมึงอยู่ตรงไหนเนี่ย

410 Nameless Fanboi Posted ID:TrfQ+vyVaD

กูเรียกเสิ่นเจิ้นหมด เขียนดีไม่ดีกูก็เรียกเสิ่นเจิ้นว่ะ กูเข้าใจเอาเองว่าคือนิยายจีนที่คนไทยเขียน ต่อให้เขียนดีมากธรรมเนียมเป๊ะหมดก็เสิ้นเจิ้น สำหรับกูไม่ใช่คำดูถูกเป็นคำนามไว้เรียกเฉยๆ

411 Nameless Fanboi Posted ID:8CTJakvLCq

>>409 ประเด็นมันคือมีแค่คนไทยเขียนเซตติ้งจีนเหรอถึงดูปลอม ถ้าไทยเขียนเซตติ้งญป ยุโรป เมกัน ไม่นับว่าปลอมเหรอ (มั้ง)

412 Nameless Fanboi Posted ID:5TS/pPaWHx

>>411 คือเสิ่นเจิ้นที่ใช้กัน เสิ่นเจิ้น หมายถึงในแง่ของเมือง​ที่ขึ้นชื่อเรื่องของปลอมของก๊อปของเก๊ อะไรที่ไม่แท้ก็เรียกเสิ่นเจิ้นหมด ไม่ใช่แค่นิยายเซ็ตติ้งจีนไง

413 Nameless Fanboi Posted ID:KDklyJ/G0t

>>412 ก็ 405 มันบอกว่าเฉพาะจีนไง กูว่ามันแล้วแต่คนจะจำกัดความอีกอะ บางคนอาจจะบอกว่าคนเขียนไทย เซตติ้งไหนไม่ใช่ไทยก็นับเป็นเสิ่นเจิ้นหมดแบบไม่สนคุณภาพ บางคนบอกงานจีนเท่านั้นถึงจะเรียกเสิ่นเจิ้น ไม่สนใจเรื่องคุณภาพอีกเหมือนกัน หรือบางคนอาจจะบอกว่ากูสนคุณภาพ ถ้าเขียนออกมาดีประหนึ่งงานแปลจริงๆ กูก็ไม่นับเป็นเสิ่นเจิ้นแล้ว

414 Nameless Fanboi Posted ID:YdI95ELGFP

คำนี้มันเริ่มจากนิยายเซตติ้งจีนโบราณยุคแรก ที่แรกๆมักหลุดความเป็นจีนผิดๆเยอะ มันเลยโดนเหน็บว่าเสิ่นเจิ้น ของปลอมจากจีน คุณภาพต่ำ
แต่พอนานไป คนแห่มาเขียนแนวนี้มันก็มีงานคุณภาพขึ้นเยอะ จนเดี๋ยวนี้มันเลยไม่ได้ใช้แยกคุณภาพนิยาย แต่เรียกรวมกันไปเลย คำนี้เลยไม่ได้เป็นคำเหน็บแนมอีกต่อไป
แต่ถ้า เขียนเซตติ้งอื่นๆที่ไม่ใช่จีน กูว่ามันก็น่าจะมีคำเรียกอื่นนะ ซึ่งกูก็ไม่รู้เหมือนกัน 55 เดี๋ยวก็คงมีคนคิดขึ้นมาเองแหละ

415 Nameless Fanboi Posted ID:M8ruLI2ZhT

>>412มันไม่ค่อยมีคนไทยที่เขียน เซ็ตติ้งอื่นแบบตัวละครต่างชาติล้วนนะ ส่วนใหญ่จะมีไม่พระเอก ก็นางเอกเป็นคนไทย.....อย่างงานของ อ.โสภาค สุวรรณ เค้าก็เรียกกันว่าไพรัชนิยาย

416 Nameless Fanboi Posted ID:kRwpAVkltJ

สำหรับกูมันไม่ใช่คำเหน็บนะ >>411
เสินเจิ้น = นิยายจีนที่คนไทยเขียน (ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น)

นิยายที่คนไทยเขียน ตัวละครเป็นต่างชาติหมดก็มีนะ อย่างหมาล่าเนื้อไง เค้าสำนวนดี้ดี กูชอบคนนี้มาก เขียนจีนหรือฝรั่งก็แบบสำนวนได้หมด

417 Nameless Fanboi Posted ID:LOKnyhN0nS

>>413 เขียนออกมาดี แต่ถ้านักเขียนไม่ใช่คนจีน ไม่ได้เขียนออกมาเป็นภาษาจีน กูก็เรียกเซินเจิ้นอยู่ดี

418 Nameless Fanboi Posted ID:LOKnyhN0nS

กระเป๋าแบรนด์เนมคือกระเป๋าแบรนด์เนม
กระเป๋าก๊อป ต่อให้ก๊อปเหมือนแค่ไหน คุณภาพดีแค่ไหนก็คือของก๊อปเกรดเอ

ป.ล. 深圳 (Shēnzhèn - เซินเจิ้น) ไม่ใช่เสินเจิ้นหรือเสิ่นเจิ้น

419 Nameless Fanboi Posted ID:S/ym2jrsT0

นักเขียนไทยถึงเขียนตัวละครต่างชาติทั้งเรื่อง ฉากเป็นต่างชาติ สำนวนจะเหมือนนิยายแปลแค่ไหน อย่างไรก็เป็นนิยายไทย ไม่ใช่นิยายแปล ไม่ใช่เจ้าของชาติ ไม่มีทางเป็นนิยายจีน ไม่มีทางเป็นนิยายญี่ปุ่น ยกเว้นคนเขียนจะเป็นพวกลูกครึ่งแล้วไปอิงสัญชาติต่างชาติก็พอเนียนไปได้แต่ต้องเขียนเป็นภาษานั้นๆ ไม่ใช่ภาษาไทย

420 Nameless Fanboi Posted ID:tLUM39d9JM

>>419 สรุปคือนิยายชาติก็ไหนดูจากภาษาที่เขียนเลย

421 Nameless Fanboi Posted ID:hbHZ4VMoeo

>>415 มีเยอะแยะไป แต่หลักๆ จะไม่ใช่สายนิยายรักเท่านั้นเอง

422 Nameless Fanboi Posted ID:kRwpAVkltJ

>>419 มึงพูดแปลว่าอะไรวะ งง จะสื่อไรนะ
นิยายคนไทยเขียน ก็เป็นนิยายไทยอยู่แล้วดิ คือคนเขียนไม่ได้จะทำให้มันเป็นนิยายแปลอยู่แล้วป้ะะะะ มันก็คือนิยายไทยแค่ต่างกันที่เซตติ้ง กูว่าไม่มีใครพูดสักคำว่าจะทำให้มันเป็นนิยายแปล

423 Nameless Fanboi Posted ID:/Mzz4URm5G

พูดแล้วนึกได้ แล้วอย่างฮายาชิ คิซาระล่ะวะ เห็นว่ามีเขียนทั้งแบบไทยกับญี่ปุ่นเลยไม่ใช่เหรอ รึจำผิดวะ

424 Nameless Fanboi Posted ID:wRaLW9jVdK

>>423 สำหรับกูถ้าคนเขียนสัญชาติไรก็คือนิยายชาตินั้น คนไทยเขียนอิงยังไงก็มีลักษณะแบบไทยอยู่ เหมือนนิยาย ปลอิงหลายเรื่องอ่านไปก็เดาได้มาขาติไหนเขียน

425 Nameless Fanboi Posted ID:l6TXsUSfz+

>>424 +1 แต่เพิ่มเติมหน่อย มองว่าเขียนด้วยภาษาอะไรก็คือนิยายชาตินั้น ถ้าเขียนนิยายจีนด้วยภาษาจีน นิยายโรมานซ์ด้วยภาษาอังกฤษ แล้วคนเขียนมีศักยภาพพอ อาจจะไปอยู่จีนมาสักสามสิบปี มีสามีจีน สามีญี่ปุ่น อะไรก็ตามจนทำให้ได้คลุกคลีเข้าถึงวัฒนธรรมสังคมแล้วเขียนออกมาได้ เหมือนอย่างคนเขียน เอ็มมานูเอล นิยายอีโรติกยุคโบราณที่เป็นคนไทย เป็นภรรยาทูตฝรั่งเศสมั้ง อันนั้นนับเป็นนิยายแปลได้สำหรับกู
แต่อย่างเจ๊คาร่า ที่เขียนเป็นภาษาไทย แล้วตีพิมพ์มีทั้งชื่อคนเขียนคนแปล อันนั้นไม่ใช่ละ อย่างฮา

426 Nameless Fanboi Posted ID:dC59AoR+sj

แล้วอย่างน้องแมวเหมาเหมา ที่เขียนโดยคนญี่ปุ่นแต่เซ็ตติ้งเป็นจีนจะนับว่าเป็นอะไรดีวะ?

427 Nameless Fanboi Posted ID:1hxbnAipUF

>>426 น่าจะเรียกว่านิยายญี่ปุ่นนะ อย่างคนไทยเขียนนิยายแฟนตาซี เซ็ตติ้งฝรั่ง ฉาก ตัวละคร ทุกๆ อย่าง แต่ก็โดนเรียกว่านิยายไทยอยู่ดีนิ ใช่ป่ะ

428 Nameless Fanboi Posted ID:rIlQC+x/T1

กูว่ามันเป็นจริตทางวัฒนธรรม ที่คนชาตินั้นๆมันจะเขียนออกมา เวลาคนต่างชาติมาเขียน ก็ต้องทำรีเสิชเพื่อจะได้เข้าถึงตรรกะของวัฒนธรรมนั้นๆ ไม่แค่เซตติ้งนะ ตัวละครเองก็สำคัญ เหมือนมึงเขียนนิยายไทยให้พระเอกเป็นคนจีน วิธีคิดของตัวละครมันก็ต้องมีตรรกะตามแบคกราวน์จีน
เซินเจิ้น หรือ ชีคทะเลทราย กูอ่านทั้งนั้นถ้ามันทำให้กูเชื่อในตัวละครว่าแม่งเป็นคนชาติอื่น ถ้าเขียนแล้วแม่งยังวนอยู่แถวแพลตตินั่ม กูก็เรียกนิยายไทยห่วยๆ

429 Nameless Fanboi Posted ID:VBjh6VoB.W

เดี๋ยวนี้นิยาย สืบสวน มีที่ไหนรับบ้างวะ

430 Nameless Fanboi Posted ID:tjW/PwC8VV

กูสรุปให้ได้มั้ย
นิยายไทย แนวเซินเจิ้น เขียนโดยคนไทย เขียนเป็นภาษาไทย มีเซตติ้งเป็นประเทศจีน ตัวละครส่วนใหญ่เป็นคนจีนแท้ๆ อาจมีตัวละครไทยหลงมิติไปสวมร่างตัวละครจีน ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นจีนยุคโบราณ สำนวนภาษาจึงมักใช้แนวทางของสำนวนนิยายจีนแปลไทยเป็นหลัก ในการสร้างจักรวาลจีนโบราณที่คุ้นเคยกับนักอ่านชาวไทย

หากเป็นเซตติ้งจีนปัจจุบัน ตัวละครเป็นจีนล้วนๆ น่าจะนับเป็นเซินเจิ้น เพราะผู้เขียนกำลังสวมบทบาทนักเขียนชาวจีน
หากเป็นเซตติ้งจีนปัจจุบัน มีทั้งตัวละครไทยและจีน ไม่น่านับเป็นเซินเจิ้น เพราะในจักรวาลนิยายไทยไปพบรักกับชาวต่างชาติในต่างประเทศ มีมานานแล้ว

กูสรุปแบบนี้ ใครมีข้อแก้หรือเพิ่ม เชิญตามอัธยาศัย

431 Nameless Fanboi Posted ID:Td+NmnAa37

สรุปของกุ = นิยายเซตติ้งจีน(ตัวละครจีน)เขียนโดยคนไทย = เสินเจิ้น

เอาจริงนิยายคนไทยไปพบรักที่ตปทเนี่ย ให้ความรู้สึกเชยมากสำหรับกุตลอดเลยอะ ตอนเด็กๆแนวชีคๆกำลังฮิตด้วยแหละมั้ง แล้วทุกคนแม่งเป็นลูกสาวท่านทูต
พอนึกถึงแนวนี้ถ้ารุ่นใหม่หน่อยก็นึกถึง ณร ตลอดเลย

432 Nameless Fanboi Posted ID:W1F6+KC9r0

รบกวนถามเรื่องการใช้คำ คำว่า "เหรอ" กับ "หรือ" ในนิยาย กำลังสงสัยว่าต้องใช้อะไรถึงจะถูก
เช่นว่า "จะไปไหนเหรอ?" กับ "จะไปไหนหรือ?" แบบไหนถูกต้อง

เพื่อนโม่งคิดว่าไงกัน แบบไหนถูก

433 Nameless Fanboi Posted ID:PvQ6FVMNhm

>>432 กูว่า หรือ ฟังดูสุภาพและน่าจะถูกหลักการใช้มากกว่า
เหมือนคำว่า เหรอ เป็นภาษาพูดมากกว่า

434 Nameless Fanboi Posted ID:W1F6+KC9r0

>>433 ถึงแม้ว่าใช้ในประโยคคำพูด ก็ควรใช่ หรือ ดีกว่าใช่ไหม

435 Nameless Fanboi Posted ID:YO8QbLs73u

สำหรับเราถูกทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับระดับภาษาในเรื่อง
เหรอจะเด็ก ๆ วัยรุ่น สมัยใหม่กว่า
หรือจะทางการหรือสมัยโบราณย้อนยุค
ใช้ผสมผสานให้เข้ากับบริบทก็โอเคนะ

436 Nameless Fanboi Posted ID:5WWxCbmHXk

เวลามีคนใช้คำว่า หรือ ในภาษาพูด ภาษาแชท หรือในโซเชียลกูรู้สึกว่ากำลังคุยกับคนแก่ทุกทีเลย 555555555555
ยิ่งคำพูดแบบ ทำแบบนี้สมควรแล้วหรือ (ตามพวกในที่พูดเรื่องการเมืองๆ)

437 Nameless Fanboi Posted ID:W1F6+KC9r0

>>435 เราโม่งที่ถามนะ นิยายที่กำลังแต่งเป็นนิยายยุคปัจจุบัน ตัวละครเป็นวัยทำงาน พอดีกำลังพิมพ์นิยายแล้วดันเกิดสงสัยขึ้นมา สรุปควรใช้อะไรดี TT

438 Nameless Fanboi Posted ID:D17MudOSVR

>>437 กูว่ามันเป็นสำเนียงภาษาพูดของตัวละครอะ จะใช้ หรือ/เหรอ ก็แล้วแต่มึงว่าอันไหนเข้ากับบุคลิกตัวละครนั้นๆ

439 Nameless Fanboi Posted ID:Ok7R5gFc13

มันก็ถูกทั้งสองอย่างอะ (กูไม่ชอบคำว่าหรอเอาซะเลย แต่ก็พอมองข้ามไปก็ได้วะ 555) จะใช้อันไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวละครมึงแล้วแหละ ถ้าเป็นคนแก่หรือพวกชอบพูดทางการหน่อยก็ใช้หรือ ถ้าวัยรุ่นปกติก็ใช้เหรอไป

440 Nameless Fanboi Posted ID:i+x5puiVO1

กูว่าอยู่ที่ว่าภาษาทั้งเรื่องมึงจะcasual หรือ เอาถูกต้องตามหลักภาษาเขียน
เหรอ รึ กูว่าคนแก่ก็พูด มันภาษาพูด
กูอ่านได้ทั้ง หรือ เหรอ แต่ถ้าบางคนพูดหรือในเรื่อง อีกคน เหรอ กูจะงง เพราะกูไม่คิดว่า หรือ บอกวัยขนาดนั้น

441 Nameless Fanboi Posted ID:lGatbSrxmx

นิยายกูใช้ทั้งหรือและเหรอ แล้วแต่อารมณ์ตินนั้น มึงอย่าไปซีเรียสนักเลย

442 Nameless Fanboi Posted ID:L/.zcB+Par

กูได้หมดทั้ง หรือ ทั้ง เหรอ แต่ถ้าใช้ หรอ นี่จะไม่อ่าน 5555

443 Nameless Fanboi Posted ID:+Kot1lVVrC

>>442 พูดอีกก็ถูกอีก 555

444 Nameless Fanboi Posted ID:7ZyXj+qwp+

ไม่รู้จะถามไหน กูเกิลก็ไม่เจอ
แส้ ใช้ลักษณะนามว่าอะไรอะ.....

445 Nameless Fanboi Posted ID:yhKZfTOgvT

>>444 เส้นมั้ย

446 Nameless Fanboi Posted ID:jVQuyLko4r

>>444 ด้ามก็น่าจะได้รึเปล่า...

447 Nameless Fanboi Posted ID:cRH/BLpSBp

>>444 เส้น

448 Nameless Fanboi Posted ID:K4+hX8+vn.

ไม่รู้จะถามที่ไหน กูจะหารายละเอียดพวก openverse ได้ที่ไหนบ้าง

449 Nameless Fanboi Posted ID:zPr7Ss5SsJ

กูลองเสิร์จ แส้เส้นหนึ่ง กูเจอในนิยายแปลจีนเพียบ
สิ่งของลักษณะเป็นเส้นเล็กยาว เช่น เชือก ด้าย ลวด ใช้ลักษณนามว่า เส้น
กูว่าแส้ หรือ โซ่ เข้าข่ายนะ
https://sites.google.com/site/krutoeypanuwat/innovation/bth-thi-3-lak-sn-nam

450 Nameless Fanboi Posted ID:DnQdr1OzvP

topic นี้น่าจะเหมาะสมสุดในการแชร์ความคิดเรา

เราอยากให้นักเขียน เลิกเขียนฉากข่มขืนที่เขียนขึ้นเพราะความสะใจ หรือการลงโทษนางร้าย ด้วยการถูก "ข่มขืน"
เพราะบางครั้งมันสร้างค่านิยมว่า การข่มขืนเกิดขึ้นอย่างชอบทำ นางคนนั้นมันร้ายมันสมควรโดน เวลาที่เราอ่านเจอหรือดูละครเราจะจิตตกไปหลายวัน เฝ้าวนเวียนคิด ถึงจะบอกว่า ก็มันแค่ละคร แค่นิยาย แต่ว่านะ...พวกคุณนักเขียน เขียนมันขึ้น เพราะหวังว่าคนอ่านจะอินไปกับมันไม่ใช่เหรอ?

หากอยากเขียน หรือจำเป็นต้องเขียนฉากข่มขืน เราก็อยากให้มันออกมาเพื่อสร้างคติและความคิดว่า การข่มขืน น่ารังเกียจ ผู้หญิงบนโลกนี้ทุกคนไม่มีใครสมควรถูกข่มขืน

หรือกระทั่งพระเอก ด้วยเช่นกัน เรารู้ว่ามันเป็นจินตนาการ แต่ว่าถูกข่มขืน มันจะมีความสุขจริงๆ เหรอ?

ความคิดเราอาจงง เรียบเรียงแบบงงๆ ขอโทษด้วยค่ะ แต่หวังว่าเจตนาหรือความคิดของเราอาจส่งถึงนักเขียนบางคน อย่างน้อยๆ สักคนก็ยังดี

451 Nameless Fanboi Posted ID:z52ie94jqS

>>450 คหสต นะ กูว่าการเขียนเรื่องข่มขืนที่จำเป็นคือการสร้างแรงผลักดันให้นางเอก อย่างเรื่อง"ล่า" แต่กูก็ไม่ได้สนับสนุนเรื่องข่มขืนนะ ถ้าเป็นไปได้และจำเป็นต้องมีก็ควรเน้นที่ความรู้สึกความคิดของเหยื่อในตอนนั้น ไม่ใช่ลักษณะท่าทางในการข่มขืน

452 Nameless Fanboi Posted ID:qzLHr1Q5On

>>450 เห็นด้วยสุดๆ
ไม่ว่าจะ rape to love หรือ rape for justice ก็ทุเรศทั้งนั้น

453 Nameless Fanboi Posted ID:51RGd4lPKK

>>448 เคยเห็นฝรั่งคำสารบัญไว้ แต่ open มั้ยมึงต้องไปคุ้ยเอาเอง
https://fanlore.org/wiki/Alternate_Universe

454 Nameless Fanboi Posted ID:3o8UIP47Zs

เว็บเขียนนิยายเว็บไหนที่มีนักอ่านดีๆบ้างวะ

455 Nameless Fanboi Posted ID:09lOgcM9Ww

>>454 ไม่มี ลงที่ไหนก็เจอนักอ่านไม่ดีได้ทั้งนั้น

456 Nameless Fanboi Posted ID:jK0rZItbV6

>>454 ทุกทีตอนนี้เป็นเหมือนกันหมดนะ หวังแต่อ่านฟรีจนจบ พอนักเขียนๆ ไมจบก็ด่า แต่ระหว่างนั้นไม่เคยให้กำลังใจสาาาาากกกกคอมเม้นท์ โลกนี้ช่างน่าเศร้านัก

457 Nameless Fanboi Posted ID:MzeWZ7Un4F

>>450 *ชอบธรรม
>>456 *พอนักเขียนเขียนไม่จบ

458 Nameless Fanboi Posted ID:JHAPwihuCL

>>457 พอนักเขียนๆ ไม่จบก็ <<< ทำไมเขียนแบบนี้ถึงผิดอะ อยากรู้อะ

459 Nameless Fanboi Posted ID:KeFPIftYCZ

>>458 มันผิดแกรมม่า มันเป็นคนละคำกันแล้ว เข้าใจป่ะว่า เขียนของนักเขียน กับเขียนที่เป็นกิริยา มันกลายเป็นคนละคำกัน
ปกติมันจะใช้แบบพูดซ้ำสองครั้ง แต่ต้องเป็นคำเดียวกัน เช่น ไฟไหม้ๆ

ผิดแบบนี้น่าจะเรียกว่า ผิดแบบคนละบทคนละความ
เท่าที่จำได้นะ ขกหาอะ

460 Nameless Fanboi Posted ID:KeFPIftYCZ

>>459 เพิ่มเติมนิดนึงกู 458 จริงๆจะบอกว่าผิดเพราะเป็นคำคนละชนิดเลยก็ได้นี่หว่า นอกจากคนละบทคนละความ ยังทำหน้าที่ในประโยคต่างกันด้วย
นี่ถ้าเอาไปเป็นข้อสอบ ก็ตอบได้สองช้อยนะ 55555

461 Nameless Fanboi Posted ID:.Zke5Jptr7

>>458 ขอด่าแบบไม่ไว้หน้านิด ข้อผิดพลาดแบบนี้แม่งไม่ควรปรากฏในห้องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมู้นี้ ของ >>450 ถ้าบอกว่าไม่ใช่คนเขียนแต่เป็นแค่ข้อเสนอจากฝั่งคนอ่านยังพอจะเข้าใจได้ แต่ >>456 นี่แบบ อหหหหหหหหหห มึงกล้าเรียกตัวเองว่านักเขียนนนนนนนน
และใช่ >>458 ถ้ามึงอยู่ฝั่งคน(อยาก)เขียน กูขอด่ามึงด้วย วิธีการใช้ไม้ยมกอาจารย์ก็สอนตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว มึงควรจะจำได้ถ้ามึงอยากเป็นคนที่ถ่ายทอดเรื่องราวให้คนอื่นผ่านตัวอักษร

462 Nameless Fanboi Posted ID:ujgsB642Z9

>>461 456 458 กูเอง กูเป็นคนอ่าน ที่บัังเอิญ เปิดกระทู้เข้ามาเจอ แล้วกูแค่สงสารนักเขียน กูเลยตอบไปแบบนั้น โอเค ถ้าที่นี่เฉพาะนักเขียน กูจะไม่เสนอหน้าเข้ามาอีก และกูก็ลืมไอ้หลักการใช้ ๆ ไปเลย สวัสดีค่ะ

463 Nameless Fanboi Posted ID:/JQQuuq0oz

>>462 กลับมา ขอร้อง

464 Nameless Fanboi Posted ID:wElLOVka9r

ทำไมกูต้องเข้ามาเจออะไรแบบนี้ด้วย เอาหนังสือเขียนภาษาไทยหน่อยไหม กูเกลียดจริงๆ แบบนี้ ผิดไม่ว่า แต่เสือกไม่รับรู้ เดี๋ยวปาใส่ให้เลย

465 Nameless Fanboi Posted ID:o+xlYat9GD

มึงคาดหวังอะไรกับการด่า อยากให้คนเขาตอบดีด้วยคนบอกก็ต้องบอกสุภาพหน่อย กูก็เกลียดพวกด่าคนอื่นแต่อยากได้รับความเคารพอยากให้เขาน้อมรับ ถ้าไม่ไปกระแนะกระแหนความไม่รู้เขา ไม่เหยียบให้เขาดูต่ำแต่เปลี่ยนเป็นคุยกันให้ดีหน่อยทำไมเขาจะไม่รับรู้ อันนี้ไม่ต่างอะไรกับการอาศัยความผิดพลาดเพื่อไปด่าเขา

แบบนั้นกูก็ทำได้ >>461 ทำไมมึงเขียนว่ามู้วะ มึงเป็นนักเขียนไหมทำไมจงใจเขียนผิด แล้ว อหหหหหหหหหหห นี่คืออะไร ตัวย่อนี้กูไม่เคยพบเคยเห็น มึงเรียนภาษาไทยมาบ้างหรือเปล่า นักเขียนที่ไหนเขียนนักเขียนนนนนนนนกันวะ มึงจะซ้ำตัวสะกดอะไรขนาดนี้ใครสอนมึงมา แบบนี้มึงคิดว่ามันจะโกรธแล้วหาคำแก้ตัวพร้อมด่ากลับหรือจะน้อมรับโดยดี โดยปกติแล้วก็ควรจะโกรธไหม

466 Nameless Fanboi Posted ID:eGV/zL+R3v

แนวดราม่ากับ แนวชีวิตนี้มันแนวเดียวกันไม่ใช่หรอหรือยังไงวะ กูเข้าใจอะไรพลาดไป

467 Nameless Fanboi Posted ID:+vbyz..2db

ไร้สาระทั้งคนบ่น คนด่านั่นแหละ น่ารำคาญ

468 Nameless Fanboi Posted ID:BMOY1zsdZL

>>466 ดราม่าพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากันตอนจบไม่พระเอกก็นางเอกตาย แนวชีวิตคนหาเช้ากินค่ำ ปากกัดตีนถีบ?

469 Nameless Fanboi Posted ID:BiE.0+HWUp

>>467 คุณต่างหากคือคนที่น่ารำคาญที่สุด

470 Nameless Fanboi Posted ID:rqtbhrV27t

>>467 มึงก็บ่น มึงด่าตัวเองเหรอ

471 Nameless Fanboi Posted ID:2wSAzyw/3X

นักเขียนแบบพวกมึงนี่จบๆ ไปเหอะ แอ๊บแอร๋เวลาคุยกับแฟนคลับนิยาย ในโม่งนี่ปากแทบเฉาะแป้นพิมพ์

472 Nameless Fanboi Posted ID:SuBKAxpCDD

จะให้ปากเฉาะแป้นพิมพ์ตอนคุยกับคนอ่าน ชื่อกูคงหราในฮอลออฟเฟมโม่งดิ
แล้วไงวะ มันก็เหมือนมึงพูดสวัสดีค่ะกับหัวหน้า พูดไอเหี้ยกับเพื่อนอะ

473 Nameless Fanboi Posted ID:wZ.R+Y3R9C

โชสันดานไห้เต้มที่ ระวังหย่าหลุดไห้คนอ่านเหน ตอแลให้เต้มที่ สังคมนักเขียนเจรินแหน่ๆ 👍

474 Nameless Fanboi Posted ID:HOVlsLIjzM

อย่าว่างั้นงี้เลย บางทีกูก็เจอนักอ่านเหี้ยๆ กูก็อยากจะเหี้ยตอบ แต่ก็จะมีพวกนักอ่านที่ไม่สนหีสนแตดสักแต่จะด่านักเขียน เพราะชูคอว่านักอ่านคือพระเจ้า เป็นผู้ให้เงิน กูงี้อยากจะอ้วก แต่กูก็ต้องแอ๊บตอแหลใส่ กูงี้โคตรอึดอัดอีเหี้ย 555555
อุ้ย ถ้ามึงไม่ใช่นักอ่านเหี้ยๆก็ไม่ต้องมาดิ้นนะ กูจะเฉาะให้

475 Nameless Fanboi Posted ID:asl.JcCCsQ

>>473 แบบนรกป้ะ ห้าห้า

476 Nameless Fanboi Posted ID:R2bRnVY0Za

>>473 ทุกวันนี้ก็ทุกคนตอแหลกันเป็นปกติอยู่แล้วป่ะพูดตรงๆ อาจเรียกดีๆหน่อยก็รักษาภาพ จะให้มาสันดานออกตลอดเวลาก็ไม่ใช่นะเว้ย

477 Nameless Fanboi Posted ID:GcR7sNipZV

เรื่องเกิดจากว่าเขียนสนิงนี้ดตัวเอง ชอบผู้ชายไทป์นี้ ผู้หญิงไทป์นี้ เลยกลายเป็นเปิดโหมดออโตไพล็อตว่ะ คาร์แทบโขลกออกจากพิมพ์เดียวกัน ต่างแค่เซ็ตติ้งกับคอนฟลิกต์ โฮ orz

478 Nameless Fanboi Posted ID:f1dFZU7Ieb

>>474 เอ้า งานแลกเงินแบบนี้ มันก็ต้องถูกวิจารณ์ไหมละ

479 Nameless Fanboi Posted ID:9jvvdQ1sN2

>>472 ทุกวันนี้ นักเขียนคิดงี้เหรอ ไม่จริงใจกับนักอ่าน???

480 Nameless Fanboi Posted ID:HOVlsLIjzM

>>478 ถ้าคนอ่านวิจารณ์ ติชม แนะนำ พูดคุยรีวิวอย่างมีอารยะ กูเป็นคนเขียนก็ดีใจมากๆ ถือเป็นบุญเลยล่ะ แต่ถ้าเหี้ยมา ประเภทด่ากราดใช้คำหยาบๆแล้วบอกว่าวิจารณ์งาน มันไม่ใช่อ่ะกิ๊บ มันคือการหยาบคายใส่คนอื่นเพื่อระบายอารมณ์ และพวกที่กูเกลียดที่สุดคือพวกที่อ่านในเว็บ พอกูหยุดอัพเพื่อขายงาน คนพวกนี้ก็จะโวยวายด่ากู ด่าเหมือนกูไปหยิกหัวนมแม่มัน แล้วมีการเม้นเยาะเย้ยว่าอยากอ่านนะแต่ไม่ซื้อหรอก งานกูไม่สนุกพอ กูก็งงดิ ทีตอนกูอัพให้อ่าน แม่งโผล่มาเม้นอวยรอเปย์งั้นงี้ นักอ่านแบบนี้จะให้กูรับมือไงดี กูอยากด่ากราดแต่ก็อย่างที่มึงบอกไง อาชีพกูต้องเขียนแลกเงิน กูยอมรับ กูก็อยากจะเป็นคนดีทั้งกายวาจาใจ แต่โลกบังคับให้กูร้าย กูจะเอาชีวิตนักเขียนกูมาเปิดอัลติด่านักอ่านเหี้ยๆไม่กี่คนมันก็ไม่คุ้มค่าที่จะวอร์ กูถึงต้องตอแหลใส่หน้ากากตอบไปเยี่ยงนางงาม ว่าค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็น จะเก็บไปปรับปรุงค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
อีห่า กูเก็บกด แม่งจะเป็นไบโพล่า
ถ้าใครเป็นนักอ่านดีๆ กูก็กราบขอบพระคุณ จริงใจคุยด้วยอยู่แล้วล่ะ

481 Nameless Fanboi Posted ID:YhjkXtPELL

>>480 กอด ในฐานะนักอ่านและนักเขียน(ไม่ค่อยจบ) กูไม่เคยโกรธที่นักเขียนทำแบบมึง แต่อย่างว่า ทุกวันนี้การใช้คีบอร์ดโดยที่ไม่รู้ว่าอีกฝั่งคือใคร มันทำให้คนแสดงสันดานแท้ๆ ออกมา

482 Nameless Fanboi Posted ID:1SFZsvniSO

>>480 เข้าใจ เคยเป็นป้าไปสิงร้านเน็ต แล้วได้ยินกลุ่มเด็กคุยกันทำให้รู้ว่าเวลามันด่าใครในเกมหรือในเน็ต มันมีความคิดเหี้ยๆ ว่า "มึงด่าไปแรงๆ ได้เลย (ในเกมก็จะเป็น pk แม่งเลย) อีกฝ่ายไม่ใช่คนหรอก" หรือไม่ก็ "ด่าไปเหอะมันไม่รู้ว่ามึงเป็นใคร ตามมาตบมึงไม่ถูกหรอก"

483 Nameless Fanboi Posted ID:3FltuKzsF9

>>479 การจริงใจคือการพูดกับทุกคนในระดับที่เท่ากันเหรอ มึงพูดกับทุกคนในชีวิตมึงเหมือนที่มึงพูดในโม่งรึเปล่า กูว่ามันไม่เกี่ยวกับความจริงใจ มันคือมารยาท

484 Nameless Fanboi Posted ID:914eKy4RqQ

โอ้โห นี่มุมมืดของพวกมึงช้ะ กูทึ่ง เพราะกูไม่ค่อยจะมีโมเมนต์แบบนั้น จะเอามาเก็บกดกันทำไมวะ แทนที่จะปล่อยๆ ไป 55555

485 Nameless Fanboi Posted ID:wiGEwRqGy.

อยากเขียนนิยาย มีพล็อต มีทุกอย่างยกเว้นแรงฮึดอยากเขียน อิสัส จดพล็อตไว้เป็นร้อยแต่เขียนจบจริงจังไม่เกิน 50% เวนเน้ยยยย
ฟังเพลงก็แล้ว อ่านงานคนอื่นก็แล้ว แต่ก็เขียนแล้วตันอยู่ดีทั้งๆที่ใจอยากเขียน ภาพมโนในหัวมาเป็นฉากๆ กูเป็นอัลไลของกูว้อยยยยย

486 Nameless Fanboi Posted ID:Kn+MvyrX5u

>>485 ปกติๆ

487 Nameless Fanboi Posted ID:3Qzri..avl

>>485 กูก็เหมือนมึง ภาพแม่งมาเป็นฉาก แต่เขียนไม่ออกจริง แถมกูจะติดนิสัยชอบเขียนอะไรแบบเพอร์เฟ็คมาด้วย หนักกว่าเดิมอีก

สภาพนี้ต้องทำใจ กูก็ไม่รู้จะทำไงกับตัวเองละ พล็อตก็มี อะไรก็มีหมดแล้ว

488 Nameless Fanboi Posted ID:j/v11wy9c4

กูแย่กว่าพวกมึง

อยากเขียน มีพล็อตแค่คร่าวๆ แค่ตอนต้นกับจบ ไม่มีตรงกลาง และคิดไม่ออกด้วย ทำไงดี

489 Nameless Fanboi Posted ID:wiGEwRqGy.

>>486-487 กู 485 เอง ทุกวันนี้กูได้แต่เขียนไปเรื่อย ๆ วันละ2-3บรรทัดอะ จริง ๆ ถ้าเขียนได้เกินสามย่อหน้าใหญ่ ๆ ละกูจะเขียนได้ยาวจนกว่ากูจะเผลอสลบคาคอมเลยเว้ย แต่ตอนนี้มันไม่มีไฟเลยซักนิดอะ ฮือ แล้วพรุ่งนี้จะฝึกงานละไง ตั้งใจจะใช้วันหยุดเขียนนิยายให้เต็มที่ก็ดันไม่มีอารมณ์ เขียนไม่ออกเฉย บ้าบอเจรงงงง

490 Nameless Fanboi Posted ID:5vDfl.8SAy

>>489 เดี๋ยวกูลองทำแบบมึงบ้าง

491 Nameless Fanboi Posted ID:Hhfz475Rm3

>>488 ยังดีกว่ากรู มีแค่พล็อตตัวละครกับพล็อตกลางเรื่องแต่ไม่มีพล็อตเริ่มกับจบ 5555+

492 Nameless Fanboi Posted ID:AN43OxkUAg

>>491 มึงสองคนน่าจะลองร่วมแต่งกันนะ

493 Nameless Fanboi Posted ID:rSCivM.mf4

>>492 เออ ดีอ่ะ 555555 มาๆ แบ่งกันๆ ช่วยกันคิด

494 Nameless Fanboi Posted ID:8PFAiApRcu

ตอนนี้สำนักพิมพ์ใหญ่ๆ ไหนยังรับต้นฉบับนิยายที่ไม่ใช่นิยายรักอยู่บ้าง

จะบอกว่าเป็นนิยายแฟนตาซีก็ไม่ถนัดปาก บอกว่าเป็นนิยายแนวผจญภัยกึ่งแฟนตาซีก็แล้วกัน (ประมาณเพชรพระอุมา แต่ไม่ได้เข้าป่า ไม่ได้ล่าสัตว์ และไม่ใช่โลกปัจจุบัน) เท่าที่รู้คือตอนนี้นานมีไม่รับต้นฉบับ อมรินทร์ก็ไม่รับต้นฉบับ (แต่อรุณรับ) ส่วนสยามอินเตอร์ก็เหมือนจะไม่รับต้นฉบับอีก หรือกูควรจะหน้าด้านส่งไปรษณีย์ไปวะ รับไม่รับก็ช่าง

495 Nameless Fanboi Posted ID:IG4vMHxZRr

>>494 พิมพ์ขายเองเลยดิ ลงอีบุ๊คด้วย ได้เงินดีกว่าส่งสนพ.อีก

496 Nameless Fanboi Posted ID:8PFAiApRcu

>>495 ขาด legitimacy

497 Nameless Fanboi Posted ID:v5vOwRAQdp

เขียนลง ฟชlog นี่มันโอเคปะวะ

498 Nameless Fanboi Posted ID:EQJkmxAXJb

>>497 ไปอ่านห้อง fictionlog ใน web novel

499 Nameless Fanboi Posted ID:tatyasw8PI

ไอ้เราก็นึกว่าการที่มีเว็บให้ลงนิยายมันจะทำให้มีนิยายระดับซีไรต์ผุดขึ้นเยอะ ก่อนหน้านั้นกูวาดภาพนักเขียนต้องร่างโครงเรื่อง หาข้อมูล เขียนให้จบ ทิ้งไว้สักพักแล้วแก้ไข ตรวจทานสองสามรอบ แล้วค่อยปล่อยลงเว็บอาทิตย์ละตอน แต่ตอนนี้กูรู้ซึ้งแล้วสัส

500 Nameless Fanboi Posted ID:aEnBpFfyvD

>>499 ยังไง บอกกูหน่อย กูยังไม่รู้ซึ้งเลย

501 Nameless Fanboi Posted ID:ULqZU2eOc9

>>500 กูว่าลองอ่านนิยายขึ้นท็อปตามเว็บก็น่าจะพอเข้าใจได้ไม่ยากนะ 555

502 Nameless Fanboi Posted ID:NwlMjQg9OF

หลังจากตูไปอยู่บนดินมานานกูทนเสแสร้งไม่ไหวละกลับมาใต้ดินดีกว่า

503 Nameless Fanboi Posted ID:0hokJbSwnZ

>>502 บนดินของมึงคือที่ไหนวะ

504 Nameless Fanboi Posted ID:M3mRFUpUpZ

เพื่อนโม่งมีวิธีจัดการตัวเองเวลามีพล็อตงอก อยากเขียนทุกเรื่องที่เปิดไว้ ไปๆ มาๆ ไม่เขยื้อนซักเรื่องยังไงวะ เซ็งตัวเอง อยากเขียนไปหมดดด

505 Nameless Fanboi Posted ID:zP+pthydB1

>>504 จับสลาก เลือกมาเขียนให้จบก่อน1เรื่อง ที่เหลือห้ามแตะ

506 Nameless Fanboi Posted ID:PJHAKudx.m

>>504 เขียนพล็อตตั้งแต่ต้นจนจบออกมาให้ครบทุกเรื่อง เรื่องไหนมีรายละเอียดครบสุด แต่งได้เร็วสุด ก็เลือกเรื่องนั้นก่อน

507 Nameless Fanboi Posted ID:6u/vAsdiSB

>>506 กูเห็นด้วยกับวิธีนี้ แต่ปกติ ถ้ากูเขียนเรื่องไหนอยู่แล้วอินมากๆ กูจะไม่ค่อยมีพลอตงอกนะ

508 Nameless Fanboi Posted ID:Xqg9lEgdpA

กูมีปัญหาดเรื่องได้เป็นช่วงๆ แต่ละช่วงสั้นๆแต่ต่อกันไม่ติดอะ ทำไงดี

509 Nameless Fanboi Posted ID:Y0XDG26h.Z

>>508 มึงต้องเอาแต่ละจุดมาช่วยสร้างโครงเรื่อง หาวิธีที่สมเหตุสมผลไปต่อกับมัน อย่าเพิ่งรีบแถไปหามัน เพราะถ้ามันไม่เวิร์คมึงเก็บไว้เป็นตอนพิเศษหรือเรื่องอื่นแทนได้ แต่อย่าหลงรักมันจนยอมให้โครงเรื่องเสียหาย

510 Nameless Fanboi Posted ID:i/ko69Kcux

สอบถามนิดนึง กูอยากเขียนแนวตัวเอกฉลาดๆ เลยอยากอ่านนิยายแนวที่ตัวเอกฉลาดๆ หน่อย อยากได้ฉลาดแนวๆ ยางามิ ไลท์ ไม่ก็ L จาก Death note ที่ไม่ต้องโม้ว่าไอคิว 300 ก็รู้ว่าฉลาดจากการกระทำอ่ะ 555 มีใครมีเล่มไหนแนะนำไหม จะไทยจะอิ๊งค์ก็ได้

511 Nameless Fanboi Posted ID:INRa.FiYM5

>>510 แนะนำซีรีส์ฝรั่งมากกว่าเขียนดีกว่าการ์ตูนญี่ปุ่น

512 Nameless Fanboi Posted ID:EfupKRT1CC

นิยายดราม่าสะท้อนสังคม จำเป็นจะต้องบรรยายฉากตัวละครไปตีกะหรี่แบบละเอียดเลยปะ น้ำกามพุ่งงง

513 Nameless Fanboi Posted ID:FvMG/QhdXu

>>512 อยากได้ฟีลแบบไหนอะ จริงๆตีกะหรี่แบบสะท้อนสังคมก็ได้นะ กูเคยอ่านแบบฉากแนวนี้ที่แบบเรียลๆรู้สึกจะอ้วกปนหดหู่เลยอะ

514 Nameless Fanboi Posted ID:cKmvrhz7YV

อยากแต่งนิยายรักไทยพีเรียด มึงว่าเอายุคไหนดี ถึงจะละมุนละไม //วายนะ

515 Nameless Fanboi Posted ID:V30ujYQTOo

>>514 ยุคที่มีนายใน

516 Nameless Fanboi Posted ID:cKmvrhz7YV

>>515 ยุคร6 อะหรอ

517 Nameless Fanboi Posted ID:X/M/JKe2d8

>>516 มึงไปหาหนังสือชื่อ นายใน มาอ่านเลย จะได้เห็นภาพคร่าวๆ

518 Nameless Fanboi Posted ID:+.tQe4TddI

>>517 กูอ่านแล้ว กูอ่านเวอร์ชั่นนิพนธ์เลย 555 และกูรู้สึกว่าเหมือนมันเขียน based on เรื่องซุบซิบในรั้วในในวัง อีกอย่าง มันละมุนละไมยังไงวะ กูถามจริง

519 Nameless Fanboi Posted ID:+jOj0hzfxr

>>518 กูแนะให้อ่านนายใน เป็นข้อมูล ไปเขียนนิยายต่อ ไม่ได้บอกว่าเรื่องนี้จะให้ความละมุนละไม ยุคนี้มันมีสมาคมสุภาพบุรุษที่เหล่าชายหนุ่มไปชุมนุมกัน แถมเป็นพ่อค้าเริ่มสร้างฐานะ เพราะเป็นยุคที่ ร.6 ท่านเปิดโอกาสทางการค้าใหม่ๆให้สามัญชนมากขึ้น มีเรื่องการข้ามคลาสได้อีก

520 Nameless Fanboi Posted ID:VK5e8Jon3V

เรื่องนายในเนี่ย ถึงจะฟังแล้วมีน้ำหนักอยู่มาก แต่กูเกลียดแนวการเขียนของผู้เขียนคนนี้ ตรงที่แม่งพยายามบอกเป็นนัยๆ ว่า ไม่ได้พูดนะว่า x เป็นเกย์ ให้ลองไปตีความจากหลักฐานเองดู แต่แม่งตั้งชื่อหนังสือว่า "นายใน" ถถถ แบบนี้ยังกล้าเรียกว่าไม่ได้พูดอีกนะ

521 Nameless Fanboi Posted ID:BVvTJrJR9U

ตอนนี้กูมีโครงการจะพิมเล่มขาย แฟนมีพอสมควร (มาจากอ่านฟรีทั้งนั้น)
กูว่าจะลงนิยายให้จนจบ รอซักอาทิตย์ แล้วลบ พิมพ์เล่มขายต่อ
แบบนี้มันพอจะไหวไหมวะ คือกูไม่อยากทิ้งคนอ่านที่มันไม่ซื้อหนังสืออะ

522 Nameless Fanboi Posted ID:JoV6QmDbwe

กูคิดพล็อตไว้คร่าวๆ ในหัวกูนี่มีแต่ฉากที่กูชอบ สนุกในหัวกู แต่ตอนแต่งจริงกูติดปัญหาคือกูจะเขียนสถานการณ์เพื่อเกริ่นให้มันดำเนินไปถึงฉากที่กูต้องการนั่นยังไงให้มันไม่น่าเบื่อ ให้มันเข้ากันวะ พอดันทุรังไปเรื่อยๆแต่งไปๆฉากนั้นที่กูว่ามันก็รู้สึกอารมณ์สนุกมันหายไปแล้วอ่ะ

523 Nameless Fanboi Posted ID:jfRi/n9Bm1

>>522 ใจเย็น ๆ นิยายทุกเรื่องมันก็เริ่มมาจากตรงนั้นแหละ แล้วก็ค่อยมาคิดจะนำไปยัดใส่ ต้น-กลาง-จบ ซึ่งมันใช้เวลาคิดพอสมควร

แต่หลายคนก็เก่งนะ มีพล๊อตนิดหน่อยแม่งก็ร่ายยาวจนจบ กูต้องมานั่งวางโครงเรื่องก่อน ไม่งั้นเขียนไม่ได้ กลัวไม่จบ

524 Nameless Fanboi Posted ID:KNFVfiyI6Y

กูไม่ขอสารยายปัญหา เพราะพวกมึงพูดถึงปัญหาของกูไปหมดแล้ว ตรงกับกูทั้งนั้น เป็นโมเม้นที่บัดซบมาก กร้ากกกกก

525 Nameless Fanboi Posted ID:eATETRNSMh

มีทุกอย่างในหัวแล้วแม่งก็ยังแต่งต่อไม่ได้เลย อารมณ์แบบมี 1 2 3 แล้วเขียน 1.1-1.9 เพื่อให้ 1 มันไปถึง 2 ไม่ได้
บางทีมีลัดข้ามไป 3 ก่อนเพราะ 1.1-1.9 เขียนไม่ออกสักทีด้วย

526 Nameless Fanboi Posted ID:JoV6QmDbwe

>>523 แต๊งนะมึง
>>524 กูก็ดีใจ(?)มากที่ยังมีเพื่อนคอยตันไปด้วยกันกับกู 55555
>>525 จับมือมึง ปัญหาโลกแตก

527 Nameless Fanboi Posted ID:mr6oyXIrr2

คิดนิยายไม่ออก ไม่มีอารมณ์ร่วมเลย

528 Nameless Fanboi Posted ID:ajRfGRT2/b

>>527 นั่งพักดูหนังฟังเพลง วิธีนี้กูทำบ่อยแต่ก็ไม่ได้ผล 555 สรุปกูไม่ได้ช่วยเหี้ยไรมึงเลยเพราะกูก็เป็น

529 Nameless Fanboi Posted ID:0defYGI2IQ

กูมีอีกวิธี คือมึงไปสัญญากับแฟนคลับมึงไว้ อันนี้ร่างของมึง จะบังคับนิ้วให้พิมพ์ได้คล่องเอง 5555

530 Nameless Fanboi Posted ID:ajRfGRT2/b

กูรู้สึกแต่งๆไปแล้ว อ่านเองแล้ว ทำไมมันน่าเบื่อชิบหายแต่ก็ดันทุรังแต่งต่อไป
กว่าจะแต่งไปถึงฉากที่กูชอบมันก็หมดอารมณ์แล้ว 5555
รู้สึกนับถือพวกมืออาชีพขึ้นมาเลย หรือไม่ก็แต่งลงอัพทุกวันงี้ ต้องจินตนาการดีขนาดไหนวะ

531 Nameless Fanboi Posted ID:o72JSIZPXW

>>530 ถ้ามันน่าเบื่อฉิบหายมึงต้องแต่งใหม่ เล่าเรื่องใหม่

532 Nameless Fanboi Posted ID:B3a3jXYymS

>>528 กูฟังเพลงจนเมื่อย

533 Nameless Fanboi Posted ID:DubS1/hFnz

>>522 เป็นเหมือนกัน คิดโมเม้นได้ แต่จะไปถึงตรงนั้นยังไงให้สมเหตุสมผลวะ…

534 Nameless Fanboi Posted ID:Tq21sJHPlr

ถ้ากูเจอฉากที่ชอบ กูเขียนก่อนเลย แบบก่อนจะมู้ดจะหาย แล้วค่อยมาหาทางทำให้มันไปอยู่ในเรื่องทีหลัง เช่น วันนี้กูอยากเขียนฉากจูบ มึงจูบกันเลยอีตัวละคร จูบกันเดี๋ยวนี้ แล้วกูเก็บไว้ พอถึงจังหวะพอพลอตไปพอที่ถึงฉากที่เขียนไว้แล้วก็ค่อยมาใส่งี้

535 Nameless Fanboi Posted ID:ez3Jnl7TXq

>>534 ได้ว่ะ กูชอบความคิดนี้ 5555

536 Nameless Fanboi Posted ID:tXwH/qJF7j

>>534 อารมณ์มึงคงประมาณถ่ายหนัง ซีนไหนได้ก็ถ่ายไปก่อน งี้ปะ?

537 Nameless Fanboi Posted ID:AaTKwWVAU1

รู้สึกเหมือนหยุดอยู่นิ่งกับจุดเดิมมานานมากๆ งานเขียนกูไม่มีความพัฒนาเลย พอย้อนกลับไปอ่านก็ยังรู้สึกถึงเค้าโครงเดิมๆอะไรเดิมๆ เป็นงานที่เด็กน้อยมากอะ กูอยากพัฒนาไปมากกว่านี้ อยากจะออกจากกรอบเดิมๆ อยากเขียนงานที่ลึกกว่านี้ กูควรเริ่มต้นไงดี?
บางครั้งเวลาอ่านงานคนอื่นแล้วรู้สึกว่ามันมีความรู้แฝงอยู่ มีแนวคิดที่เจ๋ง แนวคิดที่ทำให้คนอ่านรู้สึกตกผลึกกับอะไรบางอย่าง แล้วก็อยากทำให้ได้แบบนั้นบ้าง ในขณะที่งานกูมีแต่อะไรก็ไม่รู้ คนอ่านก็ชอบหรอก แต่คนเขียนคือรู้สึกตลอดว่ามันไม่เคยออกจากสไตล์เดิมๆเลย แล้วช่วงนี้กูมีปัญหาด้านการเขียนด้วย กูเขียนอะไรไม่ออกซักอย่าง พอจะเขียนที ถ้อยคำในหัวมันก็เหมือนกระจายๆอะมึง รวมเป็นพารากราฟไม่ได้เลย เขียนบ่นเขียนอะไรน่ะได้นะ แต่พอขึ้นต้นว่าเขียนนิยายปุ๊บ มันก็ทำไม่ได้เลย กูลองมาหลายวิธีแล้ว ทั้งลองเขียนเป็นภาษาอื่น ลองใช้ปากกาเขียน แต่ก็ยังแก้ไม่ได้ซักที มันเครียดอะ กดดันด้วย เฮ้อ

538 Nameless Fanboi Posted ID:tXwH/qJF7j

>>537 มันคือการยึดติด ความสมบูรณ์แบบ?

539 Nameless Fanboi Posted ID:/KLYS8BMlM

>>537 เคยลองเขียนแบบเอามันสสสสสสไหม ลองดิ (กูไม่ได้หมายถึง 18+++ นะ 5555)

540 Nameless Fanboi Posted ID:Og3kJC9we4

>>537 นี่ก็ไม่ได้เขียนลึกนะ แต่ลองอ่านนิยายลึกๆ เพิ่มไหม หรืออ่านแนวที่ไม่เคยอ่านมาก่อน
หรืออ่านปรัชญา สังคม​ศาสตร์ บลาๆ อะไรที่มึงสนใจ

541 Nameless Fanboi Posted ID:Lh0jYsv3d8

>>537 จะเขียนให้เกิดแนวคิดเชิงลึก ต้องอ่านให้เยอะขึ้น อ่านแนวอื่นๆ ที่ไม่ใช่นิยายด้วย ต้องดูฟังให้กว้างขึ้น ต้องคิด ต้องมองรอบตัวมองสังคมแล้วเห็นปัญหาที่จะเสนอ พวกนี้มันมาจากประสบการณ์และการตกตะกอนความคิดของคนนั้น บางคนอายุน้อยแต่เจอดราม่าชีวิตเยอะก็จะเห็นมุมมองที่มากกว่าคนที่ชีวิตเรียบๆ สบายๆ และถึงจะอ่านเยอะแค่ไหนแต่ถ้าคิดจากตัวเองไม่ได้มันจะเป็นแค่ก็อปความคิดนักเขียนคนอื่นมารวมๆ ใส่งานตัวเอง มันผิวเผินไม่ช้ามันก็ตัน

542 Nameless Fanboi Posted ID:T4B+Qa.YJS

>>538 กูแนะนำว่าให้มึงสร้างตัวเองก่อนที่จะสร้างนิยาย เขียนสิ่งที่เป็นตัวมึง สิ่งที่มึงคิด สิ่งที่มึงจินตนาการ มึงจะทำได้ดี มึงแต่งนิยายจากสายตาของมึงนั่นแหละว่ามองโลกยังไง ถ้ามึงเป็นคนง่ายๆ สดใส ตลก ก็ไม่ต้องไปพยายามดาร์คหรือดีปตามคนอื่น แม้มึงจะไม่ดีป ไม่ซีเรียส นิยายของมึงก็มีข้อคิดดีๆได้เหมือนกัน เอาจริงๆ นิยายที่ดีไม่ต้องเป็นนิยายที่ดูฉลาด ดูเป็นนิยายดราม่า นิยายรางวัล สำบัดสำนวนคมกริบ หรือนิยายที่มีข้อความวิชาการเป็นหน้าๆ เชิงอรรถยาวเหยียด นิยายที่ดีคือนิยายที่ทำให้คนอ่านอินไปกับมันได้ ทำให้สนุก ทำให้เศร้า ความรู้ที่คนอ่านจะได้จากนิยายของมึงอาจจะไม่ใช่ย่อหน้าบรรยายเรื่องวิชาการหรือคำพูดฉลาดๆ ที่มึงใส่ลงไปโต้งๆ คนอ่านอาจจะเก็บเกี่ยวได้จากเรื่องของมึงโดยที่มึงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ คนอ่านที่มีประสบการณ์ต่างกันก็รับรู้ต่างกันไป คนนึงอาจจะแค่รู้สึกว่าสนุก อีกคนอาจจะรู้สึกว่าได้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตก็ได้ ถ้ามึงเบื่อสไตล์เดิมๆ ก็เปลี่ยนให้หายเบื่อ แต่ไม่ใช่เปลี่ยนเพราะอยากแต่งได้เหมือนคนอื่น เก็ตกูมั้ย

ถ้ามึงรีบ มึงเลือกมาก่อนว่ามึงอยากเขียนเรื่องอะไร มึงอยากสื่ออะไรกับคนอ่าน เลือกมาสักอย่างก่อน แล้วค่อยไปหาข้อมูลว่ามีประเด็นอะไรให้มึงเขียน ถ้าเป็นเรื่องที่มึงไม่มีความรู้เลยก็ไปรีเสิร์ช ไปหาว่ามีประเด็นไหนเอามาแต่งได้น่าสนใจ แต่ถ้าไม่รีบและไม่มีไอเดีย มึงเริ่มจากอ่านเยอะๆ ดูหนังก็ได้ ไม่ต้องรีบเปิดเวิร์ดขึ้นมาเขียน ถ้ามึงไม่ได้เขียนนิยายเป็นอาชีพหลัก มึงมีเวลาในการหาไอเดียมากมาย มึงก็เอาเวลานั้นไปหาซะ มึงเอาแต่นั่งคิดมึงก็คิดได้แต่สิ่งที่มึงรู้อยู่แล้ว แต่บางทีสิ่งที่มึงรู้อยู่แล้วก็เอามาเป็นพล็อตได้นะ

543 Nameless Fanboi Posted ID:RJdJO+rHYl

>>535 >>536 ประมาณนั้น อันไหนมาก่อนก็เอาอันนั้นก่อน แต่คือหัวมึงก็ต้องจุ่มในเรื่องประมาณนึงนะ ไม่งั้นฟีลมันจะเป๋ๆต่อกันไม่ติด

544 Nameless Fanboi Posted ID:HO7hR6sgTT

กู >>537 นะ กูไม่ได้เขียนเป็นอาชีพหรอก แต่ก็เขียนมานานมากๆแล้ว พอย้อนกลับไปอ่านงานเดิมๆแล้วมาอ่านงานใหม่ๆยังไม่รู้สึกว่ามีอะไรแตกต่าง ในขณะที่เพื่อนนักเขียนคนอื่นๆของกูไปไกลแล้วมันเลยเกิดกดดันขึ้นมาอะ
ขอบคุณทุกๆโม่งที่ตอบกูนะ
>>540 อ่านอยู่เรื่อยๆเหมือนกัน
>>541 กูรู้สึกแบบนั้นอะ กูรู้สึกว่าความคิดของกูยังเด็กอยู่ เมื่อเทียบกับอายุแล้ว มุมมองชีวิตกูก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากใครเลย ก็แค่ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ เวลาอ่านอะไร กูก็ไม่ค่อยย่อย ไม่ค่อยคิดตาม กูจะชอบปล่อยตัวเองให้อ่านใจความที่คนเขียนสื่อมากกว่า จนบางทีก็เริ่มรู้สึกว่ากูไม่ค่อยมีจุดยืนเลย
>>542 แต๊งนะมึง เขียนตั้งยาวแน่ะ กูจะค่อยๆปล่อยตัวเองนะ ช่วงนี้กูเครียดที่งานมันไม่เคยออกจากกรอบเดิม เลยอยากหาวิธีออกจากกรอบอะ อยากเขียนอะไรใหม่ๆดูบ้าง จริงๆจะว่าฝืนมันก็ฝืนอยู่เพราะเป็นเรื่องที่กูไม่เคยแตะเลย แต่ก็ว่าจะลองดู
ช่วงนี้กูดูหนังเยอะอยู่ อยากดูอะไรหลายๆแบบ เผื่อจะมองเห็นมุมมองใหม่ๆบ้าง

545 Nameless Fanboi Posted ID:GIeUmPEEfu

>>544 ลองอ่านงานเวอร์จิเนีย วูลฟ์ งานแบบแนวกระแสสำนึก เส้นเรื่องเรียบมากแต่การปลดปล่อยอารมณ์และความคิดของผู้เขียนไปไกลและลึก บางประโยคทำกรีดร้องเพราะเจออารมณ์เดียวกัน แต่แปลไทยในความคิดกูนะมันรู้สึกสะดุดๆ ยังไม่เคยอ่านภาษาอังกฤษเลยไม่รู้ว่าไทยแปลดีหรือเปล่า

546 Nameless Fanboi Posted ID:ku+3LzpR5J

พวกมึงเคยมีโมเม้นท์แบบนี้มั้ยวะ แบบ พวกมึงแต่งนิยายมา ตอนที่พวกมึงคิดว่าเฮ้ย ทำไมตอนนี้กูแต่งได้สนุกดีวะ แล้วก็อัพลงพร้อมความคาดหวัง แต่ปรากฏว่ากริบ...
กลับกัน พอแต่งตอนต่อมากูใช้เวลานานมากกกเพราะมันตัน บทบรรยายสำหรับกูที่แต่งตอนนั้นก็ดูติดๆขัดๆไปหมด พอเอาไปอ่านเทียบกับตอนก่อนๆที่กูว่าดีอันล่าสุดนี่แม่งแย่ไปเลย แต่สุดท้ายพอกูอัพลงปุ๊ป โห ฟีดแบ็คแม่งดีชิบหายดีกว่าตอนที่กูว่าสนุกอีก กูดีใจนะแต่แบบโฮรรรรร

547 Nameless Fanboi Posted ID:etMxk24C7v

เวลาตั้งใจอะ เชื่อเหอะ มันต้องเขียนคำฟุ่มเฟือยใส่มาเยอะแน่ๆ ... แต่ถ้ามึงตันขึ้นมา มึงจะเขียนแบบใช้คำทั่วไปทันที (แต่มึวจะมองว่าแข็งทื่ออ่านะ) นี่อาจเป็นเหตุผล ที่ตอนมึงเขียนแบบตันๆ กระแสดีกว่าตอนตั้งใจ //ไม่มีไรหรอก กูพิมพ์เข้าตัวเองอยู่ กระซิกๆ Y_Y

548 Nameless Fanboi Posted ID:etMxk24C7v

>>547 คนอ่านอะ เขาชอบอ่านแบบปกติกัน ภาษาไม่ต้องสวยมาก บรรยายเยอะเขาก็เนือย อารมณ์ประมาณว่ามึงจะสารยายอะไรเยอะแยะ ...สรุปคือ ตัน = ภาษาปกติ = คนอ่านชอบ

549 Nameless Fanboi Posted ID:sYE.o5IG8v

ตอนกูเป็นคนอ่านบางทียังขี้เกียจอ่านอะไรเยอะๆยาวๆเวิ่นเว้อเลย ตอนเป็นคนเขียนกูก็เลยไม่บรรยายเยอะ ใช้ภาษาสวยแต่กระชับ ซึ่งจริงๆแล้วกูก็แค่ขี้เกียจว่ะ

550 Nameless Fanboi Posted ID:MpKIsauK2O

กูเขียนนิยายเรื่องแรก ถูกด่าเรื่องใช้คำง่ายๆมาบรรยาย แล้วยังบอกให้กูไปหางานชั้นครูมาอ่านด้วย เผื่อฝีมือจะพัฒนา กูเกือบไปไม่เป็น นี่ยังดีที่มีคนอ่านมาให้กำลังใจว่าชอบที่ใช้สำนวนภาษาธรรมดา กูถึงรู้สึกดีขึ้นมานิดหนึ่ง แต่คำติมันก็ยังฝังอยู่ในหัวกูอยู่เลยว่ะ

551 Nameless Fanboi Posted ID:ZQh5lGU.Yt

>>550 เอาจริงๆ บางเรื่องก็เหมาะกับคำง่ายๆมากกว่านะ แบบมันไม่ตายตัวอ่ะ บางคนใช้คำธรรมดาชิบหายแต่บรรยายดี กลับกันบางคนใช้คำสวยหรูแต่ก็ใช่ว่าจะบรรยายดีเสมอไปว่ะ

552 Nameless Fanboi Posted ID:ef8XCx6Z7x

>>550 โอ๋นะมึง อย่าเพิ่งเสียกำลังใจนะ จริงๆ ใช้คำหรูก็ไม่ได้ดีเสมอไปหรอก พวกใช้ศัพท์ยากแล้วเขียนวกวนก็เยอะแยะ คนอ่านบางคนก็พยายามจะโชว์เหนือ เลยต้องอวยสไตล์การเขียนแบบนั้นว่าดูดีไว้ก่อน

จะใช้คำแบบไหนกูว่าขึ้นอยู่กับโทนเรื่องอะ ไม่ต้องเลือกคำสวยอลังการมาก แต่พยายามใช้คำให้หลากหลายหน่อย อย่าใช้คำซ้ำๆ เวลาเขียนบรรยายให้เห็นภาพ อ่านเข้าใจก็พอแล้ว

553 Nameless Fanboi Posted ID:S3MV/bt4XA

ส่วนตัวกูชอบอ่านประโยคกระชับ,คำง่ายที่คมคายไม่เวิ่นเว้อ
แต่กูจะเทด่วนมาก ไม่ว่าจะคำหรูหรา หรือ คำสามัญชน เมื่อใช้ซ้ำๆซากๆเหมือนคนเขียนไม่มีคำอื่นๆในหัวเพื่อสื่อความหมายนั้นๆ
ดังนั้นกูว่า มึงเขียนแบบที่ถนัดไหลลื่น แล้วค่อยมาตรวจแก้เกลามันอีกที คำไหนมึงใช้บ่อยก็ระวัง กูว่าทุกคนรู้แหละ ว่าตัวเองเผลอติดคำไหนบ้าง

554 Nameless Fanboi Posted ID:/UcUyVFS+k

กูติดคำฟุ่มเฟือย แถมพอจะแก้ เอาออกไม่ลงจริงๆ อะ มันอยู่ในสายเลือด เพราะแบบนนี้ ถึงโดนคนอ่านด่าใส่ว่านิยายน่าเบื่อ คือกูบรรยายจนมันได้หลายบรรทัด 555555

555 Nameless Fanboi Posted ID:aXq0gy/l52

>>534 กูลองทำตามที่มึงบอก เออได้ผลนะ ดี 555555555555555

556 Nameless Fanboi Posted ID:LOhdii0E4z

ตอนนี้กูกำลังอยู่ในช่วงขี้เกียจเพราะไม่ตันไม่รู้จะไปต่อยังไง ทิ้งร้างมาหลายวันแล้ว อ่านเม้นท์เป็นกำลังใจก็ไม่ค่อยได้ช่วยอะไรกูเท่าไหร่ จะทำไงให้ไฟมันลุกโชนอีกครั้งวะ //นอนอืด

557 Nameless Fanboi Posted ID:X6iE7vB84T

ky ขอคำจำกัดความความแตกต่างของ sequel กับ spin-off หน่อยเพื่อนโม่ง
ในความเข้าใจกูตอนนี้คือ sequel มันจะเป็นเหตุการณ์ของตลค.อื่นแยกออกมาจากเรื่องหลักแต่อยู่ในไทม์ไลน์เดียวกัน
ส่วน spin-off เป็นเรื่องในอดีต/ภูมิหลัง/ที่มาของตลค.อื่น
พอดีกูเขียน short fiction ไว้หลายปีก่อน ละตอนนี้กำลังเขียนเรื่องที่งอกออกมาจากเรื่องนั้นอีกทีเลยไม่แน่ใจว่าควรใส่จั่วหัวว่าอะไรดี

558 Nameless Fanboi Posted ID:/V/G6ivJVj

ky ขอคำจำกัดความความแตกต่างของ sequel กับ spin-off หน่อยเพื่อนโม่ง
Sequel มันคือfollow up เรื่องราวหลังจากนั้น ไทม์ไลน์คือต้องเกิดหลังเรื่องหลัก(Prequel) อาจเป็นคู่พระรอง รุ่นลูก ฯลฯ แต่เรื่องจะเกิดหลังเรื่องหลัก มีตัวละครและธีมเดิม เป็นภาคสองอะเอาง่าย ๆ
Spin-off ก็คือเรื่องแยก การดำเนินเรื่องอาจจะเริ่มไปขนานกับภาคหลักหรือยังไงก็ได้แต่ตัวหลักคือตัวประกอบ(พระรอง คนใข้ ฯลฯ ) ย้ำ ! ต้องไม่ใช่ตัวละครหลัก
อย่าง หนังโซโล คือสปินออฟ (ลุคคือตัวหลัก) กูยกวายที่กูอ่าน
Pendulum: Jujin Omegaverse คือเรื่องหลักแต่คู่น้องชายขายดีเกินเลยออก Spinoffชื่อremnant และด้วยความฮิตก็ออก spin-offของspin-off ชื่อPetit Mignon ที่เกี่ยวกับลูกของน้องชาย สาเหตุที่ไม่ใช่Sequel ก็เพราะรุ่นลูกไม่ได้ follow up รุ่นพ่อ ( พ่อแม่ยังตีกันอยู่เลย ) และคู่น้องชายก็ดำเนินเรื่องคู่ขนานกับเรื่องหลัก

559 Nameless Fanboi Posted ID:/V/G6ivJVj

กู558 ให้ง่ายกว่านั้นsequel คือปัจฉิมบท prequel ปฐมบท spin-off ตอนพิเศษ/เรื่องแยก
เวงาอ่านนิยายที่บทสุดท้ายจะมีสรุปชีวิตตัวละครในอนาคต เหมือนแฮร์รี่บท 19ปีต่อมากับ ฉากจบ Voltron ที่เพิ่งฉายไป (เรือกูวววววว)

560 Nameless Fanboi Posted ID:SZ/uTU/Uco

กูมีปัญหา คือบางทีกูก็มีไฟที่จะแต่งต่อนะ แต่บางทีก็เบื่อๆอะ

561 Nameless Fanboi Posted ID:XuRDY44Voo

>>558 ขอบใจมากมึง ไอ้ที่กูจะเขียนต่อนี่คงเข้าข่าย sequel แล้วล่ะถ้าอิงตามจากที่มึงอธิบายเพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากเรื่องหลัก แต๊งกิ้วหลายเน่อ จุ๊บๆ

562 Nameless Fanboi Posted ID:TVrBWkdVQK

>>557 เจอจากนี่ด้วย ความแตกต่างระหว่าง Prequel - Side Story - Spin-off
https://fanboi.ch/subculture/2889/800-804/

Prequel - เรื่องก่อนเกิดเนื้อเรื่องหลัก
Side Story - เรื่องเสริมจากเนื้อเรื่องหลักซึ่งจะโยงไปที่เนื้อเรื่องหลักก็ได้หรือไม่โยงก็ได้
Spin-off - เรื่องที่เกิดในโลกเดียวกับเนื้อเรื่องหลัก ซึ่งจะมีตัวละครหลักมาอ้างอิงถึงแต่ไม่ใช่ตัวนำแสดง

ตัวอย่างเช่น เรื่องหลัก A ออกเดินทางปราบจอมมาร
Prequel - เล่าถึงพ่อแม่ A เป็นใคร, หรือ A ไปทำอะไรมาก่อนออกเดินทาง
Side Story - A หยุดเลี้ยงมังกรที่เมืองหนึ่ง ซึ่งมังกรตัวนั้นจะมาช่วยปราบจอมมารก็ได้หรือเลี้ยงแล้วจบก็ได้
Spin-off - เล่าถึง ก ที่อยู่โลกเดียวกับ A โดยที่อาจจะรู้จัก, เคยได้ยินชื่อ A ก็ได้ หรือไม่รู้จัก, ไม่เคยได้ยินชื่อเลยก็ได้ เช่น A เคยเดินทางผ่านหมู่บ้าน ก A ทิ้งดาบไว้ให้เป็นตำนานแล้วเดินทางจากไปโดยไม่กลับมาอีก ก เอาดาบนั้นเดินทางไปปราบจอมมารต่อ โดยที่ ก กับ A จะไม่มาเดินทางร่วมกัน

563 Nameless Fanboi Posted ID:lwfoEUolgd

>>562 กู 557 ขอบคุณมากมึง ช่วยได้เยอะเลย

ตอนนี้มีปัญหาอีกเรื่องคือเขียน one-shot อีกเรื่องละดันไม่ได้คิดพล็อตรวมคร่าวๆทั้งหมดไว้ ตอนนี้เลยปวดกบาลกับพาร์ทนึงในเรื่องที่ไม่รู้ว่าจะให้ดำเนินเรื่องไปยังไงดี เวรเอ๊ย 5555555555555555 คือติดอยู่ตรงนี้จุดเดียวเลย ถ้าเขียนผ่านไปได้คือจบแล้ว บ้าบอจริงงงงงงง แง

564 Nameless Fanboi Posted ID:Bym69AvWYg

ปรึกษา​หน่อยนะ​ คือกำลังแต่งนิยายเรื่องนึกแนวๆย้อนเวลาทั่วไปอะ​ มีแกนเรื่องอิงจากประวัติศาสตร์​และเรื่องเล่าในอดีต​ เป็นเรื่องของฝั่งตะวันตก​ ตอนแต่งช่วงแรกใช้หนังสืออ้างอิง​อยู่4เล่ม​ กับสารคดี1เรื่อง​ ซึ่งคนเขียนหนังสือกับคนทำสารคดีเป็นคนชนชาติเดียวกันกับฝ่ายที่ชนะ​ในเหตุการณ์​ที่เรายกขึ้นมาแต่ง​ จนเมื่อสองสามเดือนก่อนได้หนังสือมา1เล่ม​ เนื้อเรื่องในหนังสือเล่าถึงเหตุการณ์​เดียวกัน​ แต่คนเขียนเป็นชนชาติเดียวกับฝ่ายแพ้​ มันเลยได้มุมมองที่แปลกออกไป
ทีนี้เลยกำลังสับสนว่าควรจะเอามุมมองของอีกฝั่งมาใส่ลงในนิยายด้วยดีไหม มุมมองนี้น่าสนใจมากด้วยนี่สิ​ แต่อีกใจก็กลัวว่าจะกระทบกับเนื้อเรื่องเดิม
ควรเอามาใส่ดีไหมอะ

565 Nameless Fanboi Posted ID:HvT19rEEKF

>>564 ใส่ก็ดีนะ ทำให้เรื่องมันลึกขึ้น สร้างตัวประกอบสักตัวแทนมุมมองฝ่ายแพ้หรือใส่สักฉากก็ได้ถ้าไม่อยากแก้เยอะ

566 Nameless Fanboi Posted ID:cU2LvZmwMd

กูอยากได้ข้อมูลเพลย์ BDSM ไปเขียนนิยายจัง แบบที่ไม่ถึงขั้นเรื่องเพศอะ แบบเล่นกันเบาๆไม่รุนแรงมากอะ พอลองหาดูแล้วมันข้ามไปแรงๆเลย หรืออย่างน้อยก็อยากหาวิธีเล่น BDSM แบบปลอดภัยอะ ไม่รู้จะไปหาที่ไหน

567 Nameless Fanboi Posted ID:BdR0cKRNX0

อาชีพนักเขียนในไทยนี้รุ่งริ่งหรือรุ่งเรืองวะ

568 Nameless Fanboi Posted ID:F4P8Yg3r1e

>>567 ถ้ามีความสามารถ เขียนสนุก รุ่งเรื่องค่ะ ถ้ายิ่งได้ทำละคร

569 Nameless Fanboi Posted ID:BdR0cKRNX0

>>568 ถ้า

570 Nameless Fanboi Posted ID:kThlfM.Np.

ทุกวันนี้การแข่งขันสูงนะ นิยายอะ แต่ทำไมรู้สึกคุณภาพสวนทาง

571 Nameless Fanboi Posted ID:6Ld.5ZfYWE

>>566 ถ้าฟังอิ้งออกในยูทูปมีเต็มเลย มีไปสัมภาษณ์คนให้บริการพวกนี้ทั้งออกแนวบันเทิงทั้งแบบข้อมูลละเอียดยิบ

572 Nameless Fanboi Posted ID:fgB/DDx76E

เห็น >>571 พูดละนึกขึ้นได้ ว่าเคยเห็นบทสัมเชิงสารคดีที่เป็นภาษาไทยอยู่นะ สัมบาร์ bdsm ในเมืองไทยนี่แหละ ก็น่าสนใจดีๆ

573 Nameless Fanboi Posted ID:A9n6Rop8he

กูเคยแต่งิยายล่าสุดสิบกว่าปีที่แล้ว ตอนนี้อยากกลับมาแต่งอีกครั้ง มันว่างๆไม่มีอะไรทำ แม่งยากไปหมดเลยว่ะ โดยเฉพาะคิดชื่อเรื่องเนี่ย แม่งคิดคำที่สัมพันกับชื่อเรื่องแบบไม่น้ำเน่าไม่ออกสักทีถถถถ

574 Nameless Fanboi Posted ID:d23+RJLYWF

>>573 ไม่ชอบชื่อเรื่องที่มีคำว่า รัก ใจ ว่ะ เวลาคิดชื่อเพราะๆ ออกจะรีบจดไว้เลย แต่ก็นะ คิดไม่ค่อยออก กูเขียนแนวสีขาวน่ะ

575 Nameless Fanboi Posted ID:VadFMqKaW9

จะพิมหนังสือเองนี่มีขั้นตอนไรบ้างอะ
ตอนนี้กูมี ต้นฉบับ 150 กว่าหน้า (ไม่ใช่แนวตลาด)
อยากทราบขั้นตอนคร่าว ๆ

576 Nameless Fanboi Posted ID:ZB2PvF033g

>>575 จะขายที่ไหน ถ้าขายเองออนไลน์ก็ง่ายๆอะไม่มีขั้นตอนไรมาก
พิสูจน์อักษร จัดหน้า แล้วก็รวบเป็นไฟล์เดียว
ทำปก
ส่งให้โรงพิมพ์ จ่ายเงิน
รอรับอยู่บ้าน
ส่งให้คนซื้อ
แค่เนี่ยแหละ แต่ถ้าจะวางร้านก็อีกเรื่อง ยุ่งยากกว่าทัังจำนวนพิมพ์ก็ต้องมากพอประมาณนึง แถมถ้าเราจะพิมพ์เองหมดเลย เราต้องไปส่งที่ร้านเองด้วยนะ (ขอสงวนชื่อร้านนะอันนี้ กุเคยถามร้านหนังสือเฟรนไชน์นึงเมื่อนานมาแล้วนะ)

577 Nameless Fanboi Posted ID:HPpbUb2DJQ

>>576 พิมพ์ฝากร้านนี่ ต้องสาขาละกี่เล่ม แปลว่าต้องพิมพ์หลักพันเล่มรึเปล่า ถ้าขายเองมึงพิมพ์กันกี่เล่มอะ

578 Nameless Fanboi Posted ID:NB9HyoXFhw

>>577 เคยถามของร้านใหญ่ก็หลักพันอะ ของกูพิมพ์เองจะประมาณสาม-สี่ร้อยเล่ม แล้วแต่จำนวนคนอ่านของมึงด้วย มึงอาจจะเปิดพรีออเดอร์จะได้รู้จำนวนพิมพ์ แล้วพิมพ์เกินจากนั้นมาอีกหน่อยเผื่อเสีย เผื่อมีคนสั่งเพิ่ม มึงขายอีบุ๊คด้วยก็ได้

579 Nameless Fanboi Posted ID:jNoyk1/AUk

มึง เคยมั้ยที่นิยายสักเรื่องของมึงปังมาก พอมึงจะเขียนเรื่องต่อมาเลยทั้งกดดันทั้งคาดหวังกับตัวเอง แล้วแม่งมันไม่ปังแบบที่คิดไว้อะ ค่อนข้างจืดจางด้วยซ้ำ ตอนนี้กูทั้งท้อแล้วก็นอยด์มาก ๆ ใจกูเฟลจนไม่รู้จะฉุดตัวเองยังไง มีวิธีแก้หรือมีวิธีคิดอะไรจะช่วยชี้แนะกูหน่อยมั้ย ขอบคุณมาก ๆ

580 Nameless Fanboi Posted ID:PpKK2xATht

พวกมึง อยากรู้อะ อย่าหาว่าทะลึ่งนะ คนแต่งนิยายอิโรติกอะ เวลาแต่งแล้วมีอารมณ์ปะ หรือว่า ไม่มี นี่อยากอยากรู้จริงๆ เพราะคนอ่านอะมันมีอยู่แล้วแหละ เพราะมันอ่านเนื้อเรื่องที่สมบูรณ์ที่ขัดเกลามาแล้ว แต่คนแต่งตอนแต่งมันต้องคิดนู่นี่นั่นไปด้วย ว่าจะใช้ภาษายังไง บรรยายยังไง เลยอยากรู้อะ

581 Nameless Fanboi Posted ID:tiudprwOei

>>580 5555555 ตอบในฐานะคนเขียนแนวนี้ละกัน จริงๆกูคิดว่าถ้าเขียนให้สนุก ตัวคนเขียนเองก็ต้องมีอารมณ์ร่วมก่อน แต่ก็นั่นแหละอย่างที่มีงบอกอะ ตอนที่คิดไปเรื่อยเปื่อยอาจจะมี แต่พอเขียนไปเรื่อยๆสักครึ่งทาง กูก็เริ่มเฉยๆละนะ มันต้องคิดหลายอย่าง ตัวละครอยู่ที่ไหน ท่าอะไร มืออยู่ตรงไหนละ นี่ตัวละครกูเผลอมีสามมือรึเปล่า หรือว่าขาเมื่อกี้อยู่ข้างล่าง นี่มาอยู่ข้างบนได้ไงวะ กุใช้คำซ้ำรอบที่สามแล้วใช่มั้ย เสียงครางน่ารำคาญมากต้องตัดออก เยอะอะ ไปๆมาๆ ก็หมดมู้ดไปเอง 555555
ยิ่งพอเขียนมาหลายๆเล่ม คือหลังๆพิมพ์ไปแบบไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากเมื่อไหร่จะจบสักที กูจะจบแล้วใช่มั้ย พิมพ์ไปง่วงไป

582 Nameless Fanboi Posted ID:MnExJLkDfz

เวลาพวกมึงขายเองไม่ผ่านสำนักพิมพ์ พวกมึงได้รายได้จากส่วนไหนเยอะกว่ากันวะ ทำมือ e-book หรือขายเป็นตอนๆในเว็บ

>>579 กูเคยเป็นเด้อ ออกตัวก่อนว่ากูเป็นนักเขียนที่ไม่ได้ดีมากนัก กูจะไม่ค่อยสนนะเวลาที่คนแบบเมื่อไหร่จะลง เมื่อไหร่มีเรื่องใหม่ กูก็จะบอกนักอ่านไปตรงๆแหละว่า เดี๋ยวรอให้กูคิดออกก่อน ไม่ใช่กูไม่แคร์คนอ่านแต่ว่ากูคิดว่า กูไม่อยากสักแต่แต่งๆไป จริงๆการแต่งนิยาย มันเป็นวรรณกรรม มันเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง มันต้องมีฟิลลิ่งตอนแต่งอะ เพราะกูเคยแต่งแบบเออพล๊อตแบบนี้ก็พอได้ มันไม่ได้แย่นะ แค่มันยังไม่ถูกใจแบบเออ นี่แหละวิธีคลายปมตรงนั้นตรงนี้แบบปิดช่องโหว่ได้ทั้งหมด แต่กูก็รีบๆลงไปเพราะนักอ่านเร่งกู กูสุดท้ายมันออกมาไม่ดีเท่าที่นักอ่านและตัวกูเองคาดหวัง แม่งก็เฟลไปดิ่ หลังจากนั้นกูก็ไม่ปล่อยให้อะไรมากดดันกูได้อีกเลย ถ้ากูไม่ได้พล๊อตที่ดีเนื้อเรื่องที่ดีจนถูกใจแล้วกูจะไม่ลงนิยายเด็ดขาด
บางคนอ่านจะด่าว่านี่มันอาชีพจะมารอฟิลลิ่งอย่างเดียวไม่ได้ กูต้องใช้เงินแดกข้าว เออออ ก็แล้วแต่มึงอะอันนั้น กูรู้อยู่ กูเคยเป็นงี้แหละ แต่มันจะดีกว่ามันถ้าแบบผลงานออกมาแล้วมีคุณภาพทุกครั้ง นักอ่านวางใจว่างานมึงมาละ นักเขียนคนนี้แต่งดียุแล้ว กูจะซื้อแน่นอล เนี่ยชื่อเสียงมันจะติดตัวมึงไปเลยนะว่านามปากกานี้มีคุณภาพ งานมึงจะขายได้ในระยะยาวก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพเป็นหลักด้วยนะจะบอกให้
มันดีกว่ามีชื่อเสียอะ ดูอย่างในโม่งดิ กูยังเคยเห็นแบบ .....หรอ ก็เขียนดีแค่เรื่องเดียวป่าววะ เรื่องแม่ง.... ถ้ากูเป็นนักเขียนคนนั้นแล้วผ่านมาเห็นช้ำใจตายห่าละ
ส่วนวิธีอีกวิธีของกูนะ คือกูแต่งจนจบก่อน จบแล้วมาอ่านตั้งแต่ต้นใหม่แล้วกรองเนื้อเรื่องอีกที ตรงไหนมีช่องโหว่ ไม่สมจริง ขาดความตื่นเต้น ก็ เพิ่ม ลด แก้ไขกันไป แล้วค่อยเอาไปลง มันดีกว่าแต่งไปลงไปเชื่อกู แล้วในช่วงที่มึงลงอะ ก็ลงปกติไม่ต้องแบบเสร็จแล้วนี่หว่าลงรัวๆ ในช่วงนี้มันแค่ลงอะ หัวว่างๆก็คิดพล๊อตใหม่ไปแต่งเรื่องใหม่ไป โดยปกติกว่ากูจะลงจบ ก็แต่งเรื่องใหม่เสร็จพอดี ละก็ทำงี้ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเรื่องเก่าลงจบแล้ว เรื่องใหม่กูยังไม่เสร็จ ก็บอกให้นักอ่านให้รอก่อน ติดตามกูไว้ เวลาลงเรื่องใหม่มันจะได้เตือน55555 เนี่ยได้ยอดคนติดตามเพิ่มไปอีก แต่มันก็แล้วแต่คนนะ แต่สำหรับกูมันเวิร์ค

>>580 มีดิ แต่กูเคยแต่งอยู่แค่สองเรื่องนะที่เป็นอิโรติก นอกนั้นเป็นแนวอื่นๆ ก็จะแต่งสลับๆกันไปทุกแนวอะ แล้วแต่พล๊อตที่คิดได้ในช่วงนั้นๆ ช่วงที่แต่งอิโรติกนะ กูวุ่นกะผัวจนนางแทบจะไปนอนห้องนั่งเล่นแทน5555 แต่ย้ำนะกูแต่งไม่บ่อยไง ไม่รู้พวกที่แต่งแต่อีโรติกเป็นหลักอยู่แล้ว เขาจะชินชามั้ย รอคนอื่นมาตอบ

583 Nameless Fanboi Posted ID:NcduJDqhJ1

>>582 ebook อะ ตอนกูขายในเวบเป็นตอนๆแล้วมาลงในอีบุ้คอีกที มันทำให้ยอดอีบุ้คน้อยลง ยอดขายตอนก็ใช่ว่าจะสูง มันตั้งราคาแพงมากก็ไม่ได้อะ
ตอนนี้กูเลยตัดตอน แบบลงประมาณนึงแล้วตัดขายอีบุ้คเลย

584 Nameless Fanboi Posted ID:NcduJDqhJ1

>>582 โทด เพิ่งเห็นว่ามึงมีช้อยส์ทำมือให้ด้วย ถ้าเทียบกับทำมือ อีบุ้ค ขายตอน กูว่าทำมือว่ะ ทำมือตั้งราคาได้สูงกว่า แต่ว่าเหนื่อยหน่อย ต้องแพคเองอะไรเอง รองมาก็อีบุ้ค แล้วก็ขายตอน

585 Nameless Fanboi Posted ID:MnExJLkDfz

>>583 โอเคร เหมือนกูเลย กูสงสัยเฉยๆ เห็นบางคนลงแต่แบบตอนแล้วไม่ทำอีบุ๊กกูนึกว่าเดี๋ยวนี้มันได้เยอะกว่า คือกูเลิกขายแบบตอนไปนานมากกกก ส่วนทำมือนี่เคยทำอยู่ครั้งนึงรู้สึกไม่คุ้มค่า เหนื่อย หรือเป็นกะกูคนเดียวไม่รู้นะ 5555555

586 Nameless Fanboi Posted ID:MnExJLkDfz

>>585 ทำมือพวกมึงขายเท่าไหร่กัน คือกูไม่กล้า+ราคาแพงมาก เพราะมันก็แพงกว่าตามพวกสำนักพิมพ์ยุแล้ว เลยรู้สึกว่ามันได้น้อยอะ เหนื่อยจริง 5555

587 Nameless Fanboi Posted ID:tiudprwOei

>>586 คือมันแล้วแต่แนวที่มึงเขียนด้วยอะ แนวที่กุเขียนเค้าชอบเก็บเล่มกันอะ ก็แบบทำเล่มสวยๆหน่อย ตั้งราคาประมาณหน้าละบาทบวก ซึ่งจริงๆก็ธรรมดาแหละสำหรับสายทำมือ หาร้านที่ไม่แพงมาก แล้วก็พิมพ์เลย แต่หลังๆคือกูขกส่ง ขกแพค มันดูดพลังงาน อีบุ้คก็เป็นทางเลือกที่โอเคอะ

ส่วนแบบตอน คนที่ขายตอนอย่างเดียวก็มี กูเคยเข้าไปดูของคนที่ได้ที่หนึ่งสองสามเหรียญสูงสุดของธวล มีคนขายแค่ตอนจริงๆ แล้วแบบเค้าก็ได้เงินเยอะชหเลยด้วยอะ ตอนกูจะตัดสินใจตัดเรื่องขายอีบุ้คอย่างเดียวกูก็ลังเลเหมือนกันแหละ

588 Nameless Fanboi Posted ID:/M/C+kXgH5

พวกมึง ถ้านิยายมึงไม่ค่อยดัง มึงคิดว่าควรออกนิยายช่วงงานหนังสือไปพร้อมกับนิยายดัง ๆ เรื่องอื่น ๆ ในสนพ. (แบบหวังว่าคนที่มางานหนังสืออาจจะซื้อนิยายมึงติดมือไปด้วย) หรือควรออกหลังงานหนังสือ/ช่วงที่ไม่ใช่งานหนังสือ ก็คือสนพ.ออกนิยายมึงเดี่ยว ๆ ในช่วงเวลานั้นแบบไม่ต้องแข่งกับใครไปเลยดีวะ (แต่คนก็อาจจะมองผ่านไปเลย) กูกำลังลังเล เฮ้อ

มึงว่าแบบไหนดีกว่ากัน งงปะวะ

589 Nameless Fanboi Posted ID:+DaTYmghdP

>>588 ควรออก งานนี้จัดที่เดิมงานหน้าย้ายละ ถ้าไม่ออกงานนี้เว้นสักสองเดือนค่อยออกอะ หลังงานหนังสือคนไม่ค่อยซื้อ แต่ถ้าไม่ลงร้านก็ควรออกงานหนังสือนี้เลย

590 Nameless Fanboi Posted ID:qOvLwjX.Zu

>>588 นิยายไม่ดัง ออกงานหนังสือเท่านั้น เชื่อกู กระแสคนกำลังอยากจ่ายเงิน สำนักพิมพ์มึงเขาก็จะเชียร์นิยายเป็นแผงทีเดียว คนโดนมนตร์เป่าซื้อกันแบบลืมตาย

591 Nameless Fanboi Posted ID:5NkHWvrOD5

>>588 ถ้าออกกับสนพแบบนี้ ออกงานหนังสือเลยเหอะ ออกไปพร้อมกับเล่มดังๆเลย

592 Nameless Fanboi Posted ID:2pxE9L/5ea

เพื่อนโม่งมีใครทำนิยายขายบ้าง อยากถามเรื่อง ทุน รายได้และกำไรหน่อย

คือกูมีปัญหาเรื่องสุขภาพเลยจะกลับไปทำงานกงสีที่บ้าน ทำให้น่าจะมีเวลาเยอะขึ้น และทีนี้กูอยากหารายได้เสริมจากงานอดิเรกนี่ล่ะ แต่ก่อนจะเริ่มก็อยากจะรู้ก่อนว่าต้องใช้ทุนเท่าไร รายได้ประมาณการขนาดไหน และคุ้มค่ามั้ยที่จะทำน่ะ

593 Nameless Fanboi Posted ID:Anu6cdNZ6j

>>592 หมายถึงจะทำมือขายเหรอ

594 Nameless Fanboi Posted ID:Gh1KB2881D

เออ พวกมึง กูขอถามหน่อยได้ไหมวะ อันนี้นอกเรื่อง (หรือในเรื่อง)

คือกูสงสัยเรื่อง เย ทำไมพระเอกนางเอกเยกัน นางเอกมันต้องเจ็บวะ แล้วอิแบบปวดหลัง3วัน3คืนลุกออกจากเตียงไม่ได้อีก

คือแม่งสวนทางกับความเป็นจริงอยู่นะ จากประสบกามส่วนตัวและการสอบถามเพื่อนสนิททั้งชและญหลายคนที่พอคุยเรื่องแบบนี่กันได้

-ครั้งแรก บางคนก็เจ็บ บางคนก็บอกไม่เจ็บแค่รู้สึกแปลกเหมือนมีของปักคา แต่กูถามหลายคนก็บอกครั้งแรกไม่มีเลือดนะ มีโผล่มาคนนึงที่บอกมีเลือด น้อยแบบแทบไม่เห็น (นิยายนี่พระเอกนางเอกเยกันแล้วมึงต้องมีเลือดติดเตียงเสมือนเป็นเมนลืมใส่ผ้าอนามัย)

- พวกเยมาราธอน กูถามแม่งไม่มีใครบอก ปวดหลังปวดเอว3วัน3คืนแบบในนิยายเลยว่ะ มีแต่เยมากๆ แล้วแสบ จนไม่รู้สึกเหี้ยไรเลยเท่านั้น

- ในนิยายนางเอกแม่งโดนเยจนไม่มีแรงต้องพัก ต้องให้อุ้ม พระเอกแม่งแรงดีคึก แข็งแรง ในชีวิตจริงที่กูถาม เห็นญ ส่วนใหญ่ชิว คนตายจริงๆ คือผู้ชายลุกไม่ขึ้นขาสั่น

หรือมันเป็นธรรมเนียมแล้วว่า ถ้าเขียนพระเอกนางเอกได้กัน นางเอกต้องเจ็บ นางเอกต้องมีเลือด นางเอกต้องลุกไม่ขึ้น พระเอกต้องเยแล้วยังแข็งแรงแบบแดกยาม้าเข้าไป

คือบางทีเวลากูเขียนเลิฟซีนนี่กูขัดใจมาก เพราะรู้สึกแม่งปลอม แต่กูก็ต้องเขียนแบบนี้ หรือตัวอย่างข้อมูลกูมันผิดวะกูก็ไม่มีปัญญาไปถามตัวอย่างเยอะ หรือคนอื่นปกติส่วนใหญ่เค้าสไตล์เป็นแบบในนิยายวั

อันนี้กูคาใจจริงๆ เผื่อมีใครเสริมข้อมูลไรกูได้ กูไม่รู้จะไปถามเรื่องแบบนี้จากไหน

595 Nameless Fanboi Posted ID:NdHZdpobby

>>594 ที่มึงถามนี่ตรงกับที่กูอ่านจากในนิยายเกือบทุกเรื่องเลย สงสัยเป๋นธรรมเนียมในการโดนเย กูเพิ่งรู้นี่แหละว่ามันไม่จริง เปิดประสบการณ์มาก

596 Nameless Fanboi Posted ID:isFWw1jSrp

>>595 ประสบกามส่วนตัวและกลุ่มข้อมูลประมาณ10คน++ (กูซอกแซกเรื่องในมุ้งชาวบ้านได้ขนาดนี้กูว่ากลุ่มตัวอย่างกูเยอะมากแล้วนะ)

เลิฟซีนในนิยายทุกเรื่องนี่แพทเทิร์นนี้ทั้งนั้นจนทำให้กูสงสัยว่านักเขียนที่แต่งงานมีผัวคนอื่นเค้าไม่คิดแบบกูบ้างหรอ
การเยของพระนางคือเป็นจินตนาการอย่างเดียว มึงอย่าเอามาเทียบชีวิตจริงนะ เพราะไม่มีใครเป็นอย่างนั้น
ทำไมไม่มีใครเขียนฟีลลิ่งความรู้สึกจริงๆ ลงไปในนิยายบ้าง หรือมันไม่โรแมนติก?

แล้วอิแบบเยครั้งแรกนี่ ตอนแรกรู้สึกเจ็บตอนหลังรู้สึกดีนี่ชีวิตจริงก็ไม่มีนะ อิพวกที่บอกเจ็บคือแม่งเจ็บตั้งแต่ต้นยันจบ เย2-3 ครั้งจนร่างกายคุ้นชินโนานถึงค่อยรู้สึกดี ไม่มีนะครึ่งท่อนแรกเจ็บครึ่งท่อนหลังฟิน (แต่กูก็ต้องเขียนแบบนี้ เฮ้อออ)
เยมาราธอนนี่ต่อให้ผู้ชายเข้าฟิตเนส แข็งแรงปึ๋งปั๋งกินไวอากร้ามา คนเหนื่อยหมดแรงก็ไม่ใช่ผู้หญิงอ่ะ ผู้ชายต่างหากที่ฟ้าเหลือง ส่วนผู้หญิงเยนานๆ ไม่เหนื่อยแต่แสบ มากกว่า
สรุปคือกูรู้สึกคนเดียวหรือเปล่าว่า เลิฟซีนมันปลอม และทุกคนก็ต้องฟินกับความปลอมๆ หรือว่าความรู้สึกคนอื่นมันเป็นแบบในนิยายวะ

เผื่อกูอยู่ในกะลา ก็อยากเปิดโลกเหมือนกันว่า การเยในชีวิตจริงมีแบบในนิยาย

597 Nameless Fanboi Posted ID:0qYZyzWSe1

>>594 >>596 ขอตอบในฐานะคนซิงที่อ่านนิยาย กูคิดว่าที่เขาแต่งออกมาแบบนั้นเป็นเพราะยังไงสังคมไทยก็ยังมีแนวคิดเพศชายเข้มแข็ง เป็นผู้นำ เป็นฝ่ายปกป้องเพศหญิงที่อ่อนแอบอบบางอะไรทำนองนี้อยู่มั้ง จริงๆ ก็ทั่วโลกนั่นแหละ เพราะธรรมชาติของร่างกาย มวลกล้ามเนื้อต่อไขมัน ความคงทน ยังไงผู้หญิงก็ด้อยกว่าอ่ะ เทรตบนเตียงแนวๆ นี้มีทั้งในนิยายไทย จีน ญี่ปุ่น (ฝรั่งกูไม่ค่อยได้อ่าน) ที่ผู้ชายช่ำชอง เจนจัด เล่นกีฬาในร่มยกใหญ่แล้วยังเดินปร๋อ = มีร่างกายที่แข็งแรง เป็นนัยยะว่าพึ่งพาได้ ถ้าพระเอกมึงนอนฟ้าเหลืองแข้งขาสั่นจะดูกลายเป็นไอ้ไก่อ่อนไปทันที ส่วนผู้หญิงที่นอนปวดเบื้องล่างหน้าแดงเพราะเรื่องเมื่อคืน = ความคับแค้นใจที่แสนหวาน
อีกอย่างกูคิดว่าเพราะผู้หญิงจริงๆ มีความสามารถขึ้นทุกวัน มีอิสระในการทำนั่นนี่ด้วยตัวคนเดียวมากกว่ายุคก่อนๆ เพราะงั้นลึกๆ ก็อาจจะรู้สึกดีที่ถูกประคับประคอง เอาอกเอาใจไรงี้ป่ะวะ เวลาอ่านฉากแบบพระเอกอุ้มนางเอกไปกินข้าวเช้าในครัวเพราะเดินไม่ไหว อุ้มเยมือเดียวไม่ร่วงแล้วคนถึงฟินกระจาย มันเป็นแฟนตาซีที่คนไม่มีทึกทักเอาว่า อา...มันคงเป็นแบบนั้น
ปล. ถามเพื่อการศึกษา ว่าแต่ผู้หญิงเยครั้งแรกแบบศึกหนักนี่ไม่เป็นไรจริงๆ เหรอวะ เวลากูอ่านแล้วจินตนาการมันก็สมเหตุสมผลออกนะทีจะลุกไม่ขึ้น กูเคยขี่จักรยานอานแข็งๆ ยังระบมสองสามวัน นี่โดนกระแทกซ้ำๆ ทั้งคืน............

598 Nameless Fanboi Posted ID:aqt3B8OxNy

>>596 กราบบบบ กูก็ไม่รู้ (และไม่กล้าจะไปถามใคร) ขอบคุณมาก รู้สึกเหมือนได้เรียนเพศศึกษาแบบรวบรัด
สรุปว่าที่เคยอ่านๆ มาและจินตนาการตามในนิยายทุกเล่มมันคือมโนของนักเขียนสินะ ใครเป็นคนต้นแบบก็ไม่รู้ ตอนหลังก็ลอกแพทเทิร์นเดียวกันเด๊ะ แล้วคนที่แต่งงานแล้วเขาไม่เขียนประสบการณ์จริงๆ ลงไปบ้างเหรอวะ

แต่กูก็ไม่เคยอ่านฉากนิยายฝรั่งที่เจาะลึกเรื่องพวกนี้ด้วยสิ ไม่รู้เขาจะใช้ข้อมูลจริงหรือเปล่า เพราะส่วนใหญ่ที่กูอ่านเป็น YA ค่อนข้างใสๆ ถ้ามีฉากเซ็กส์ก็จะบรรยายอารมณ์ความรู้สึกมากกว่า

599 Nameless Fanboi Posted ID:0EB6N7pyIv

>>594 >>596 หมดกันความหวานซาบซ่านที่กูได้อ่าน อิดอก ที่แท้ก็ตอแหลทั้งนั้นเหรอวะ 55555555555

เรื่องเลือดออกเคยอ่านเจอบทความหมอ เขาบอกว่าเป็นเพราะเล้าโลมไม่พอด้วยสาเหตุหนึ่งอะ น้ำหล่อลื่นของผู้หญิงเลยยังไม่พร้อม มันเลยเสียดสีจนเลือดออกไรงี้ (ปะวะ ไม่ค่อยแม่น) การเลือดออกในนิยายมันคือธรรมเนียมที่พิสูจน์ว่านางเอกซิงอะ แล้วค่านิยมความซิงของนางเอกแม่งคนอ่านก็ชอบไง ทั้งที่เรื่องพรหมจรรย์ เขาว่าส่วนใหญ่ออกกำลังแรง ๆ ก็ฉีกขาดกันหมดแล้ว

แต่เออกูไม่สนอะ กูก็เขียนให้เยกัน ต่อให้เป็นครั้งแรกกูก็ไม่พูดถึงเลือด เพราะ 1. พระเอกกูจะดูกากเรยมั้ยถ้าทำนางเอกเลือดออกเนี่ย มึงเล้าโลมดี ๆ หน่อยสิวะ 2. นางเอกกูจะซิงหรือไม่ซิง หีจะผ่านสมรภูมิมานับล้านครั้งแล้วมั้ยยังไงมันก็ไม่ได้ทำให้คุณค่าของความเป็นผู้หญิง ความเป็นนางเอกลดลงไปอะ ยังไงก็นางเอกคนเดิม

>>597 ความคิดมึงเป็นเหตุเป็นผลแบบน่าสนใจมาก กูชอบ เห็นด้วยว่ะ

600 Nameless Fanboi Posted ID:wdtrl2LCX2

ตอบ ครั้งแรกเจ็บจนชา จนไม่รู้สึกไรเลย ครั้งต่อ ๆ ไปก็เจ็บ เลือดออก และออกต่อเนื่องหลังจากนั้นอีก ลุกไม่ขึ้นจริง ขาไม่มีแรง ไม่รู้เพราะดิ้นด้วยเปล่า
กูชอบผู้ชายคนนั้นนะ แต่กูก็ไม่ได้อยากมีอะไรด้วย รู้สึกเหมือนถูกหยามความเป็นมนุษย์ยังไงไม่รู้ กูก็เลยพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้
มานึกตอนนี้น่าจะฆ่าแม่งมากกว่า
กูกลายเป็นพวกขยะแขยงผู้ชายไปแล้ว กูยังชอบคนหล่อ แต่กูไม่อยากถูกใครแตะต้อง ควรบำบัดจิตมั้ยวะ

601 Nameless Fanboi Posted ID:xJYlU/Fvcg

>>600 มึงไปด่วน ประสบการณ์มึงไม่ดี อย่าให้ไอ้คนห่วยๆทำให้มึงไม่มีโอกาสมีประสบการณ์ดีๆ
กูขอแนะนำนักอ่านที่ยังซิงว่า แพทเทิร์นนิยายไม่ได้เกิดกับทุกคน
กลัวพวกมึงไปคาดหวังผิดๆ ถ้าถึงเวลานั้นให้ลืมนิยายให้หมดแล้วสนใจประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเองกับคนๆนั้น แล้วโมเมนท์นั้นจะเป็นแบบดีๆของมึงเอง อาเมน

602 Nameless Fanboi Posted ID:7RclV/Jek+

ตอนที่ถกเรื่องบีนทึกปิ่น ห้องจีนมีคนมาบอกอยู่ว่าhymenไม่ได้ขาดง่าย ถ้าไม่มีการเล้าโลมหรือน้ำหล่อเลี้ยงเพียงพอจะทำให้เกิดการฉีกขาดเลือดออกได้ ครั้งแรกเข้ายากเพราะคนไม่เคยมักจะเกร็ง

603 Nameless Fanboi Posted ID:n8hD08tZFZ

>>594 นิยายส่วนใหญ่มันเฟคมาก เจอเรื่องที่คนเขียนมีประสบการณ์มันจะมีมุกที่จะไม่ลอกๆ กันมาแบบนี้กูเลยไม่ชอบพวก nc จีน ไทย มันสร้างความคิดผิดให้คนอ่าน ของฝรั่งจะเขียนได้สมจริงกว่ายกเว้น 50สีของนายเกรย์มั่วมาก

เลือดออกเยอะส่วนใหญ่ช่องคลอดฉีกมากกว่าเลือดจิ้น พวกเจ็บแรกดีหลังเฟค ถ้าเจ็บจะเจ็บเลยอารมณ์ฮวบเล้ายังไงก็ต่อไม่ติด มีแต่จะกัดฟันน้ำตาซึมแล้วก็คิดว่าเมื่อไรจะเสียบจบวะ

บอกก่อนกูไบ จากนี้เรต 18+ นะ

เยมาราธอน ผู้ชายมีแต่ฟ้าเหลือง ส่วนใหญ่ 2 ยกผู้ชายก็ไม่เอาแล้วจะนอนอย่างเดียวจนอยากถีบลงเตียงอัดไวอาก้าก็อึดกว่าเดิมแป๊บเดียว ปกติเสียบไม่ถึง 3 นาทีก็พ่นแล้ว พวกไก่อ่อนเสียบแล้วพ่นเลยก็มี อย่าคาดหวังพวกหนุ่มซิงมันจะเก่งยิ่งพวกรูดตัวเองจนชินยิ่งห่วยทำผู้หญิงจริงๆ ไม่เป็น หนังโป๊เห็นนานๆ มันเฟค มันมีวอร์มอัพตลอดไม่ให้ฟีบ พวกบรรยายฟัดถึงเช้าในความเป็นจริงไม่เกินชม. ผู้ชายจอด ที่นานคือเล้าไม่ใช่ตอนเสียบ เยมาราธอนข้ามวันได้คือกูเล่นกับทอม ฟัดกันไปได้เรื่อยๆ พักยกกินดื่มแล้วก็ฟัดกันต่อ

เพิ่มความรู้ให้ ของผู้หญิงจะนิ้วทอยหรือของผู้ชายรู้สึกไม่ต่างกัน พวกบอกเอ็นอุ่นๆ ดีกว่าคือกูหัวเราะใส่เลย พวกถุงยางบางๆ มีแต่ผู้ชายที่รู้สึกต่างผู้หญิงรู้สึกเหมือนเดิม จะให้ต่างต้องถุงยางที่มีพื้นผิว ผู้หญิงจะขึ้นคือต้องเข้าถูกจุดและนานพอ โดน G ต้องต่อเนื่องไม่งั้นไม่ฟิน เอาตรงๆ ของผู้ชายขยี้ไม่ตรง G ว่ะ ล้วงเองยังขึ้นง่ายกว่า ถึงโดนก็แค่วูบเดียวไม่ต่อเนื่องมันไม่นานแบบนิ้วกับทอยที่ลงตรงตำแหน่ง

กูไม่ตอบต่อนะเพราะผิดหัวข้อกระทู้แล้ว แต่ยืนยันเลิฟซีนนิยายโคตรเฟค กูอ่านผ่านไม่อินสักเรื่อง

604 Nameless Fanboi Posted ID:vlrLwAwOkW

>>603 โคตรละเอียด! พวกต่อต้านหนังสอนเรื่องเพศตอนนี้มาเห็นต้องอกแตกตาย
บางทีก็เข้าใจนะว่านิยายมันไม่ควรมีบทที่โจ๋งครึ่มเกินไป เพราะบ้านเมืองเราแยกแยะและจัดเรตนักอ่านไม่ได้ (ถึงจัดก็ไม่มีใครสน คนอ่านเลือกเอง) แต่กูชอบแบบฝรั่งนะ ไม่ว่าจะหนังหรือนิยายก็อิงความจริง ข้อมูลมาเต็ม แต่ถ้าเป็นแฟนตาซี บางทีแม่งก็อิงความจริงมีเหตุผลจนกูเชื่อได้อ่ะ ไม่ใช่เมคขึ้นมาลอยๆ

605 Nameless Fanboi Posted ID:lOuytZoFDr

กูเพิ่งมาเจอที่นี่ ทำไมกูเพิ่งมาเจอที่นี่ นี่มันสังคมคุณภาพชัดๆ ...
กูเคยหลงไปโน่น ห้องนักเขียนนิยายเด็กดี ไปถามดีๆเจอแขวะเจอแซะซะจนกูงงเลยว่ากูทำไรผิด

606 Nameless Fanboi Posted ID:pkPfubFBUP

>>605 สงสัยจังว่าไปถามอะไรมา
บางคนมารยาทดี บางคนมารยาทไม่ดีก็ต้องให้กาลเวลาและสังคมช่วยขัดเกลา

607 Nameless Fanboi Posted ID:lOuytZoFDr

>>606 ขอเทคนิคการเขียนธรรมดานี่แหล่ะ โดนไล่ไปอ่านหนังสือให้มากๆ แล้วก็โดนแขวะว่าจะไปเขียนสารคดีเหรอ เอาข้อมูลอะไรนักหนา

608 Nameless Fanboi Posted ID:55TGZvIz0g

>>605 ห้องนั้นมันเถื่อนอะมึง 555555

แต่ห้องนี้จะจริงจังกว่าหน่อย เพราะห้องนั้นส่วนใหญ่จะเป็นสับนิยายกับรวมวีรกรรมนักเขียนเด็กดีมากกว่ามั้ง

609 Nameless Fanboi Posted ID:ZsL337qxAI

>>607 เขาบอกให้อ่านมากๆ ก็ถูกแล้ว มันเป็นวิธีเรียนรู้เทคนิคการเขียนที่ดีที่สุดนะ

610 Nameless Fanboi Posted ID:55TGZvIz0g

>>609 แต่ถึงขั้นแขวะนี่น่าจะเอาความสะใจมากกว่าอยากแนะนำแล้วนะ 'จะไปเขียนสารคดีเหรอ เอาข้อมูลอะไรนักหนา' ถ้าคนแนะนำบอกแบบนี้กูก็ไม่อยากฟังอะ พูดดีๆก็ได้มั้ยล่ะ

แต่วกกลับไปที่ประเด็นฉาก18+ก่อน สรุปที่อ่านๆมานี่คือโดนหลอกมาตลอดเลยสินะ ขอบคุณโม่งบนๆทุกคนมาก ทำให้โม่งเวอร์จิ้นอย่างกูได้เปิดโลก ฮือ ... ว่าแต่ สมมติกูจะเขียนนิยายที่มีฉากนี้ ถ้าเกิดเอาตามความสมจริงเลยคือไม่เกินสองยกพระเอกหมดแรงนี่จะมีคนชอบมั้ยนะ หรือต้องเขียนแบบเวอร์วังตามคนอื่นจริงๆ

611 Nameless Fanboi Posted ID:ZFFT0CRQ8m

>>610 เขียนแบบรอบเดียว จบตัดมาตื่นมองตากันพอมั้ง หรือมึงเขียนเเนวติดเรต+++

612 Nameless Fanboi Posted ID:55TGZvIz0g

>>611 กูเพิ่งเขียนครั้งแรกเลยยังไม่แน่ใจว่าต้องเริ่มยังไงอะมึง โอเค แต้งกิ้วนะ

มีคำถามอยู่เรื่องนึง บางทีเวลากูอ่านนิยายแล้วจะเจอชื่อตัวละครที่... มันดูขัดๆอะ เหมือนชื่อแบบนี้ไม่น่ามีคนใช้จริงแน่ๆ พอจะมีวิธีตั้งไม่ให้ชื่อแปลกๆมั้ย คำถามกูคลุมเครือไปรึเปล่าบอกได้นะ

613 Nameless Fanboi Posted ID:B3j.4EM4Ul

>>612 บางชื่อนักเขียนก็ผูกขึ้นมาเองจ้า อาจจะดูไม่คุ้นชินกับการใช้ในปัจจุบันสักหน่อย แต่ถ้าความหมายมันได้ มันก็น่าจะโอเคน้า ไหนมึงลองยกตัวอย่างมาซิ ชื่อที่มึงว่าแปลกน่ะ แต่ถ้ามึงอยากไม่ให้แปลกจริงๆ ก็ลองเอาชื่อมาจากคนใกล้ตัวอ่ะ อันนั้นละไม่แปลกแน่ๆ

614 Nameless Fanboi Posted ID:XHnoZ13Iwz

>>612 เขียนแบบใสๆ ตัดเข้าโคมไฟก็ได้ถ้างั้นอะมึง

615 Nameless Fanboi Posted ID:8shy7fcuaT

กูขอกราบ >>594 ที่ช่วยเปิดประเด็น กูก็เคยสงสัยจริงๆนะมึงว่าจะมีผู้ชายที่อึด ทน คึก จนถึงเช้าจริงๆเหรอวะ เพราะตามประสบกามของกูรอบเดียวก็จอดแล้วทั้งกูทั้งผู้อะ

616 Nameless Fanboi Posted ID:ZiYZzPpXX1

กูรู้สึกว่าคนปกติก็ไม่ได้อยากเอากันนานเป็นชั่วโมง ๆ ปะวะ... รอบสองบางทีไปไม่จบด้วยซ้ำ นอนเหอะ
เวลาอ่านนิยายเจอพลิกหลายท่า ทำหลายรอบ กว่าจะจบช่วงเรตยาวแปดสิบหน้ากูก็มีมองบนอะ กูชอบแบบมีเกริ่นๆ มีฟอร์เพลย์สักหน้าสองหน้าแล้วตัดจบไปเลย

617 Nameless Fanboi Posted ID:.fbxmmp3lQ

เขียนนิยายเรื่องที่สองรู้สึกภาษาบรรยายไม่คงที่ เทียบกับเรื่องเเรกไม่ได้ มันเป็นเพราะเขียนเเนวที่ไม่ถนัดหรือเปล่าหว่า

618 Nameless Fanboi Posted ID:zgXsfDZgxP

>>612 กูขอแนะนำว่าถ้าเกิดมีชื่อหรือคำตั้งเองที่ชอบที่มันประหลาดกว่าชาวบ้าน อย่าเอามาตั้งชื่อตัวละครเกินสองตัวต่อเรื่อง กูเคยเจอนิยายที่ชื่ออลังตั้งแต่ตัวเอกยันตปก.ละรู้สึกมันพยายามมากเกินไป

619 Nameless Fanboi Posted ID:OO/lP8J0Ck

กูชอบพระเอกสายเล้าโลมนางเอกกับเรื่องบนเตียงมาก เอะอะก็ยัดๆๆ นี่ไม่ค่อยชอบ ชอบแบบอ่อนโยนว่ะ มีใครเขียนแนวนี้มั้ย เดี๋ยวกูตามไปอ่าน555555

โคตรเปิดโลกเลย ขอบคุณคนเปิดประเด็น //กราบ

เอาจริงๆ บางเรื่องไม่บรรยายแบบโจ่งแจ้งก็ทำนักอ่านฟินได้นะ เคยเจอเรื่องนึงตอนได้กันเสร็จพระเอกแม่งใส่เสื้อผ้ากับอาบน้ำให้นางเอกอะ กูประทับใจมากๆ ฟินกว่าฉากได้กันอีก แม่งเอ๊ยยย

620 Nameless Fanboi Posted ID:i1grx8nzr/

>>619 เรื่องอะไร โปรดแน่ะนำเราหน่อยย

621 Nameless Fanboi Posted ID:RtSslTqnll

ขอถามเรื่องการตีพิมพ์นิยายหน่อย เราเขียนเรื่องลงเว็บ ตั้งใจจะพิมพ์เองเก็บไว้อ่านซักสองสามเล่ม ไม่ได้เผื่อขาย เพราะคนติดตามไม่ได้เยอะอะไร
ทีนี้ ถ้าสมมุติมีสนพ.โนเนมมาขอตีพิมพ์เช่าค่าลิขสิทธิ์สามปี ให้ 10%จากปกรวมแล้วประมาณสี่พันถึงเจ็ดพันบาท น่าจะพิมพ์กับ สนพ.ให้มีเครดิตเป็นรูปเล่ม หรือควรพิมพ์เองดีกว่า คิดยังไงกัน

622 Nameless Fanboi Posted ID:5c19CnDXUO

>>621 ดูสัญญาดีๆ ถ้าสัญญาไม่มีตุกติกเป็นทางเลือกที่ดี เพิ่มฐานคนอ่านรู้จักเพิ่มได้อีกทาง แล้วมีเครดิตว่าเคยตีพิมพ์เวลาเสนอสนพ.อื่นจะภาษีดีกว่าพิมพ์เอง

623 Nameless Fanboi Posted ID:FQqq28rDax

>>621 พิจารณาดีๆก่อนว่ามึงอยากเป็นนักเขียนเต็มตัวหรือเปล่า ถ้าใช่ เดินหน้าส่งสำนักพิมพ์มาตรฐานเท่านั้น สำนักพิมพ์เล็กๆที่พิมพ์ให้มึงได้แค่ 200-500 เล่ม มันสร้างชื่อเสียงให้มึงได้ยาก หนังสือมึงจะไม่ถูกวางในร้านหนังสือใหญ่ๆอย่างนายอิงหรือซีเอะ เวลาคนอ่านค้นหนังสือมึง ก็จะเจอแต่ร้านออนไลน์เล็กๆ ถ้ามึงอยากสร้างชื่อเสียง ทำอีบุ๊กลงเมบมีโอกาสกว่า แล้วพอมีฐานลูกค้ามึงค่อยคิดเรื่องพิมพ์ก็ได้ ที่กูบอกว่าให้ส่งเข้าสำนักพิมพ์มาตรฐาน เพราะสำนักพิมพ์เล็กๆเก็บงานไปพิมพ์ทีละนิดหน่อยบางทีแม่งไม่มีคุณภาพ ปกห่วย จัดหน้าห่วย ไม่มีพิสูจน์อักษร งานมึงถูกลดเกรดทันที กูไม่เหมารวมแล้วกัน แต่ดูกันเองก็น่าจะรู้ แล้วมึงบอกว่าตัวมึงได้แค่สี่พันถึงเจ็ดพัน กูมองว่าน้อยมาก ถ้ามึงจะเอาเครดิตในการได้ตีพิมพ์ตรงนี้ไปใช้ มันก็เป็นเครดิตที่แทบจะไม่ช่วยอะไรเลย เพราะนิยายปัจจุบันดูกระแสเป็นหลัก นักเขียนโนเนมที่เขียนตรงกระแสพอดีได้พิมพ์กันเยอะแยะไป นักเขียนที่เขียนตกกระแส ถึงจะมีงานพิมพ์มาก่อนก็ได้พิมพ์ยาก นักเขียนที่มีฐานคนอ่านแล้วเลยต้องผันไปทำมือ หาเงินกันเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่านิยายมึงเป็นแนวไหนด้วย ถ้าเป็นแนวที่ไม่มีคนอื่นเขียน และมึงมีฐานคนอ่านแน่นอนห้าร้อยคน มึงไปสร้างชื่อในเมบก่อนเลย หรือถ้ามีน้อยแค่สองร้อยคนก็ยังดี โอกาสที่มึงจะได้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์มาตรฐานจะตามมาเอง

624 Nameless Fanboi Posted ID:kiGA.qX6BV

ลงนิยายในเวบ พอไม่มีคนอ่านกูเลยเริ่มรู้สึกว่าขี้เกียจลงวะ ก่อนลงแต่ละตอนกูเช็กคำผิดไม่ต่ำกว่า 3 รอบ พยายามไม่ให้หลุดไป แต่ลงไปแล้วก็แค่นั้น ไม่มีใครอ่าน 55555555555 เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าไหมวะกู

625 Nameless Fanboi Posted ID:XqSaInvayb

>>622 >>623 คนถามเอง ขอบคุณมากนะ

626 Nameless Fanboi Posted ID:pUxr9A7PeE

>>624 เอาเวลาไปทำอย่างอื่นเหอะ

627 Nameless Fanboi Posted ID:o2xniMuBob

>>624 ลงแค่พอเป็นน้ำย่อย หรือเหมือนการโฆษณา เขียนจบทำอีบุ๊คเถอะ บางครั้งนักอ่านเงา ถึงจะเงียบๆอาจซื้อกระจายนะฮะ แต่ถ้าเขียนเอาสนุก มึงเบื่อมึงก็หยุดเถอะ

628 Nameless Fanboi Posted ID:CPRcA9Q9CJ

พวกมึงเอานิยายอิโรติกลงเว็บไหนกัน DD หรือ ธรว

629 Nameless Fanboi Posted ID:xys7oehlZa

กูเอาลง ธวล. ว่ะ แต่ DD ก็เห็นคนแจ้งเกิดกันหลายคนนะ จั่วหัวนิยายว่า 18+ แล้วสร้างกลุ่มลับในเฟส พอมีฉากแบบนั้นก็ตัดเอามาลงในกลุ่ม กูอยากมีโมเม้นต์ลองทำแบบนั้นบ้างเหมือนกัน แต่แฟนคลับกูส่วนใหญ่ก็สิงๆ อยู่ใน ธวล. อะ ยังไม่อยากทิ้งไปไหน รักมาก ถ้าเปิดเรื่องใหม่กูคงอัพควบคู่กันทั้งสองเว็บเลย

ส่วน ธวล. พวกติดเทรนด์ก็จะมีแต่แบบ...ฉากอย่างว่าก็จะเถื่อนๆ ดิบๆ ครางเยอะๆ ไม่ใช่แนวกูอย่างแรง บางเรื่องนะ เรื่องดีๆ ก็มี แต่พวกเรื่องเสียวมันเยอะกว่าแค่นั้นเอง

630 Nameless Fanboi Posted ID:p9fzeaDzpf

ถามไรโหน่ยยยย สมมตินะคับสมมติ ถ้าเกิดว่ากูมีแอคเคาท์ meb แบบนักอ่านอยู่แล้ว กูจะขายนิยาย กูต้องสมีครใหม่หรอวะ ทำไมใช้อันเดิมไม่ได้

631 Nameless Fanboi Posted ID:qYRn9lG/vz

>>630 ใช้ได้นี่ กูก็ทั้งอ่านทั้งขายในแอคเดียว

632 Nameless Fanboi Posted ID:CPRcA9Q9CJ

>>629 ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะมึง แสดงว่าในธวล.เขียนแรงแค่ไหนก็ไม่แบนใช่ไหมวะ (กูเขียนชื่อเว็บผิดอีกต่างหาก เขินแรงมาก)

633 Nameless Fanboi Posted ID:xys7oehlZa

>>632 อันนี้ไม่รู้แฮะ แต่สำหรับกูเห็นบางเรื่องใช้คำว่า ค... เนื้อเรื่องแนวข่มขืน เรื่องเสียว หรือคำหยาบกว่านี้แบบตรงๆ ก็ไม่โดนแบนอะไรนะ กูเคยเห็นธวล.แบนแค่รูปภาพหน้าปกที่อาจจะล่อแหลมเกินไป ส่วนเนื้อเรื่องไม่เคยเห็นโดนแบบแบบ DD อะ

634 Nameless Fanboi Posted ID:2wV2Z9fb0L

ขอถามสายนักเขียนที่ลงเรื่องในเนต
ปกติพวกมึงลงจนจบไหมวะ กูเคยลงจนจบแล้วพรี กับไม่ลงจนจบแล้วพรี ยอดต่างกันเกินครึ่ง ลงไม่จบแล้วพรีคนซื้อเยอะกว่า เป็นพวกมึงจะเลือกทางไหน

635 Nameless Fanboi Posted ID:Qk4hEj7rQc

>>634 ไม่จบ แต่ต้องแจ้งเลยว่าจะลงให้อ่านแค่ไหน กูทำแบบนั้น

636 Nameless Fanboi Posted ID:1selAdp3wB

>>634 กูลงจบอะ สนพ.ให้กูลงจบแล้วค่อยลบเหลือสิบตอน

มึง ๆ มึงเคยแบบลุ่ม ๆ ดอน ๆ ปะ งานหนึ่งดี ปัง งานถัดมาค่อนข้างวูบ ๆ เฟล ๆ ไรงี้ เยียวยาใจตัวเองกันยังไงวะ

637 Nameless Fanboi Posted ID:pQRqeIE9XJ

>>636 รีบเขียนงานใหม่เลย หมกมุ่นใหม่ มีโกลใหม่ จะได้ไม่จม

638 Nameless Fanboi Posted ID:bIZI3XMgFd

ขอถามนขหน่อยสิ ทำไมพองานที่หมดสัญญากับสนพ.แล้วเอามาลงขายใหม่ในเมพ คำผิดบานเลยอะ
เข้าใจว่าถ้างานผ่านกับสนพ.แล้วจะมีกองพิสูจน์อักษรให้ แต่ว่าพอหมดสัญญาแล้วไม่แก้เองหรือมีเงื่อนไขว่าห้ามแก้หรอ

639 Nameless Fanboi Posted ID:kSRORlaECu

>>638 ต้นฉบับที่ สนพ. เอาไปพิมพ์ เขาจะมีการแก้คำผิดและเกาสำนวนให้
นข. ไม่มีสิทธิเอาต้นฉบับที่ผ่านการแก้ไขแล้วเอาไปขาย
โดยส่วนที่หมดลิขสิทธิ์แล้ว มาทำขายเอง จะต้องใช้ต้นฉบับเดิมๆ ที่ตัวเองเขียน
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ นข. คนนั้น จะกลับมาทวนแก้ไข หรือ ไม่สนใจอะไรเลยแล้วใช้งานดิบออก ebook เลย
ประมาณจะขายใหม่ก็ต้องใช้สำนวนเดิมของตน จะใช้ต้นฉบับสำนวนแก้ไขของสนพ. เอามาขายไม่ได้

640 Nameless Fanboi Posted ID:tauIx6kVUh

>>638 ผิดแบบสระตกหล่นปะ กูเห็นแวบๆในคอมเม้นท์นิยายในแอพ บางทีการอัพนิยายจาก pdf > epub มันทำให้บางคำผิด

641 Nameless Fanboi Posted ID:bIZI3XMgFd

>>639 แสดงว่าเข้าใจถูกแล้ว แต่แหม คำผิดงานดิบที่ยังไม่ผ่านมือสนพ.แล้วเอามาลงขายเหมือนเดิม คือมันเอิ่มมากเลยนะ คำสะกดง่ายๆยังผิด คะ/ค่ะ ไม่ต้องพูดถึง เลยรู้สึกว่าในเมื่อมีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่างานตัวเองมีคำผิดตรงไหนบ้างทำไมไม่แก้ไรแบบนี้

>>640 ไม่ ผิดคือผิดอะ อย่างเช่นถ้านักเขียนคนไหนแยกคะ/ค่ะ ไม่ออกนี่คือรู้เลย

642 Nameless Fanboi Posted ID:elx9hHyNWM

>>641 มีด้วยเหรอวะ นักเขียนที่แยกคะค่ะไม่ออก

643 Nameless Fanboi Posted ID:AvU3DFBS+E

>>642 เยอะแยะ 555555 กดไล่อ่านคำโปรยในเมบดูดิ ผิดตั้งแต่คำโปรยก็จอดเลยละกู

644 Nameless Fanboi Posted ID:5.4djWIHCz

>>639 เขาก็ลงขายกันปกตินี่ ไม่ได้ห้ามอะไรรึเปล่า

645 Nameless Fanboi Posted ID:n2fXHCr9Oa

>>642 ต้องถามใหม่ว่า มีนขกี่คนที่แยกคะ/ค่ะ ออก
>>644 ห้ามที่ว่าคือห้ามเอาฉบับที่ถูกเกลาถูกแก้คำผิดแล้วมาลงขายต่อ

646 Nameless Fanboi Posted ID:5.4djWIHCz

>>645 นั่นแหละ มันไม่ได้สตริกขนาดนั้น เพราะในสัญญาไม่เคยเจอว่ามีนะ

647 Nameless Fanboi Posted ID:pOSb/7xwqS

>>646 เคยอ่านงานขอนขชื่อดังที่พอหมดสัญญากับสนพแล้วเขาเอามาลงใหม่ อ่านแล้วแบบ อื้อฮือ คำผิดมากมายก่ายกอง ทำไมคำง่ายๆยังสะกดผิดไรแบบนี้

648 Nameless Fanboi Posted ID:bIh8V+uIbX

>>646 งานที่สนพ.ผ่านการแก้ไข มันจะมีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ บรรณาธิการเล่ม คนแก้ไขคำผิดเกลาสำนวน คนจัดรูปประโยคเว้นวรรค
ปกติมีค่าใช้จ่ายอยู่นะ
ถ้าสนพ. ไม่เขี้ยว ก็ยินยอมให้ใช้ต้นฉบับที่ผ่านการแก้ไขแล้วของเค้า
แต่ถ้า สนพ. กับ นข. มีความในใจกันบ้าง แล้ว นข. ทำไม่รู้ไม่ชี้ เสือกเอาต้นฉบับของ สนพ. ไปขายใหม่
ระวังจะถูกฟ้องร้องกันตูดบานนะเพื่อน ถ้า สนพ. เกิดหมั่นไส้อะไรขึ้นมา
เพราะฉะนั้น นข. โดยปกติจะใช้สำนวนเดิมของตน ในการขายใหม่หลังจากหมดสัญญากันแล้ว
เพื่อป้องกันสนพ. เกิดหมั่นไส้มาไล่ฟ้องกันทีหลังไง

649 Nameless Fanboi Posted ID:bIh8V+uIbX

ปล. ที่ว่าไม่ได้สตริกขนาดนั้น อาจเพราะสนพ.คิดว่างานนั้น ทำเงินในการขาย ebook ไม่ได้มากมายอะไร และ นข. ยังมีงานใหม่ส่งให้ สนพ. ต่อเนื่อง
แต่ถ้า สนพ. กับ นข. ไม่พอใจหรือมีความในใจอะไรกันอยู่
กรณีนี้แหละ เอาของสนพ. ไปทำขายใหม่เมื่อไร นข.คนนั้นโดนฟ้อง ด้วยข้อหาเหม็นขี้หน้าแน่นวล...ฮ่าฮ่า

650 Nameless Fanboi Posted ID:bIh8V+uIbX

ต่ออีกนิด... นี่จากประสบการณ์จากเพื่อกูเองแหละ
คือ นางไม่ใช่ลูกรักของ สนพ.นั้น นางจึงถูกเตือนสนพ.ก่อนแล้วเรื่องนี้ ต่างจาก นข.ลูกรักในสนพ. ที่รับอนุญาติให้ขาย ebook โดยใช้สำนวนสนพ.ได้
ฉะนั้นทางที่ดี ถ้าไม่ได้รับการอนุญาติเป็นลายลักษณ์อักษรจาก สนพ. ก็ไม่ควรใช้สำนวนที่ผ่านการแก้ไขแล้วเด็ดขาด

651 Nameless Fanboi Posted ID:L+MZTe76vK

ความเป็นจริงไม่ฟ้องหรอก เสียเวลา ขู่ไปงั้น

652 Nameless Fanboi Posted ID:WPAFHXKA2S

>>650 อันนี้จากประสบการณ์ของคนใกล้ตัวกูที่เอาเล่มที่หมดสัญญาแล้วมาทำอีบุ๊กใหม่นะ อย่าไปมองเรื่องลูกรักไม่ลูกรักว่ะ เอาที่ตัวเองเซฟไว้ก่อนดีกว่า เพราะลูกรักในวันนี้ ในวันหน้ามันก็ไม่แน่นอนใช่ไหมล่ะว่าจะยังรักอยู่ไหม อย่างคนใกล้ตัวกูคือจ้างกองบรรณาธิการฟรีแลนซ์ให้ดูแลต้นฉบับดั้งเดิมของเขาอีกรอบเลย ให้อีดิตใหม่ปรู๊ฟใหม่ทั้งหมด ปกเปิกงานอาร์ตก็หาคนใหม่ไม่เอานักวาดคนเก่า จะได้ไม่โดนจับเอาไปเปรียบกับรูปเล่มที่ออกกับสนพ. เจ๊เขาบอกกูว่ามันจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกัน

653 Nameless Fanboi Posted ID:ECbEMynm4Q

เครียดจังวะ เขียนนิยายแต่ละที แม่งมีขีดจำกัดตลอด 7-8 บรรทัดต่อวัน เวลาว่างมีเยอะแต่เสือกได้เท่านี้ พอเขียนเยอะแม่งก็เละเทะอีก

654 Nameless Fanboi Posted ID:sbff0bxunp

ถามโม่งนักเขียนนักอ่านทั้งหลาย พวกมึงคิดว่านิยายกระแสไหนจะฮิตอีกหลังจาก จีนโบราณ/ย้อนอดีต/สิงร่าง/ระบบ/ตัวร้าย ต่างๆ

655 Nameless Fanboi Posted ID:sbff0bxunp

>>653 มึงเขียนได้7-8บรรทัดนี่ใช้เวลากี่วันกว่าจะได้ตอนนึงวะเนี่ย

656 Nameless Fanboi Posted ID:7.RWDHxJ04

>>653 กูเคยเป็นเหมือนมึง เครียดจนเขียนไม่ได้เป็นเดือนๆก็มี วิธีแก้ก็คือเปิดเรื่องใหม่แม่ม เขียนอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องสนสี่สนแปดอะไร

657 Nameless Fanboi Posted ID:kWitf8i5Ad

>>654 อวยไซไฟ ท่องอวกาศ 555

658 Nameless Fanboi Posted ID:nhyg/leKph

มึงมีเรื่องไหนที่ตัวละครเป็นซื่อจื่อบ้างปะ แนว ๆ ลูกอ๋องอะ

659 Nameless Fanboi Posted ID:nhyg/leKph

>>658 โทษ ผิดตำหนัก อิเวร

660 Nameless Fanboi Posted ID:sbff0bxunp

>>657 แนวนั้นต้องหาข้อมูลพอสมควรเลยนะ ส่วนตัวกูว่าบูมยาก

661 Nameless Fanboi Posted ID:j3fCUzFCup

มีวิธีสร้างตัวละครกันมะ กูชอบแต่แนวเดิม ๆ พอเขียนเรื่องใหม่เลยต้องพยายามไม่ให้คาร์มันซ้ำกันอะ

662 Nameless Fanboi Posted ID:eILEHDUlC2

>>661 มึงก็ลองเอาตัวละครเก่าๆพระรองตัวร้ายที่มีคาร์ต่างกับพระเอกมึง มาเป็นพระเอกบ้างเอาพระเอกมึงไปเป็นลูกไล่บ้าง พอมองในมุมใหม่ๆ มึงก็ต้องคิดแบบคาร์ใหม่ๆ ช่วยฝึกตัวเองให้ได้ชิมรสชาติใหม่ๆดีนะ

663 Nameless Fanboi Posted ID:zBXU5A5DEG

ถามหน่อย ทำไมนักเขียนชอบเขียนคลอดลูกแฝดวะ ยิ่งยุคโบราณเนี่ย ท้องแฝดมึงทำใจตายทั้งกลมหรือคลอดลูกแม่ตายได้เลยนะเว้ย ถ้ามึงอยากเขียนเรื่องเศร้าตายตอนจบนี่โอเค

664 Nameless Fanboi Posted ID:MrLhWTN5tz

>>663 จะได้ดราม่า เร้าอารมณ์ มีความลุ้นไงว่าจะรอดทั้งแม่ทั้งลูกมั้ย

665 Nameless Fanboi Posted ID:/vaze.0mo4

>>663 บางคนก็ไม่คิดไปถึงความลำบากตอนคลอดหรอก ข้ามไปฟินซีนพ่อแม่ลูกเลย

666 Nameless Fanboi Posted ID:M32XHbqM1x

เขียนแล้วมีแต่ถูกคนอ่านด่า ท้อชิบหาย ท้อจนอยากเลิกเขียน ทั้งที่เหตุผลกูก็มีอธิบายไว้ตลอด กูเหี้ยเองแหละที่ทำได้ไม่ดี ไม่เก่งพอจะเขียนให้เขาเข้าใจอะ 55555555555

ไม่มีอะไร กูแค่ไม่มีที่ให้ระบาย ขอโทษที

667 Nameless Fanboi Posted ID:hVNKQ/hJ3G

>>663 คหสต. กูคิดว่าเด็กแฝดมันน่ารักอะ ยิ่งแฝดชายหญิงนะจะยิ่งรู้สึกว่าน่ารักเป็นพิเศษ

668 Nameless Fanboi Posted ID:aJtNlijl86

>>667 กูชอบพี่ชายจูงน้องสาวเดินว่ะ น่ารัก

669 Nameless Fanboi Posted ID:lf7/WOCDdK

พวกมึงพี่น้องรักกันกลมเกลียวไหมวะ ทั้งเพศเดียวกัน หรือต่างเพศรอบตัวกูไม่เห็นจะมีบ้านไหนรักหวงเว่อร์วังเลย มีแต่ตีกัน กูนี่เลยไม่เขียนแบบรักหวงห่วงไม่ออก ใจอาจห่วงนะเว้ย แต่ไม่แสดงออก กลายเป็นซึนเลย

670 Nameless Fanboi Posted ID:Uk5nnKSjfF

>>669 ของกูตอนเด็กๆ ตีกันบ่อย ส่วนตอนโตก็มีโวยวายใส่กันบ้าง เถียงกันบ้าง เหมือนเพื่อนคุยกันอ่ะมึง คุยได้เกือบทุกเรื่อง ไม่เคยเรียกพี่เพราะค่อนข้างสนิทกัน แต่ก็ไม่ได้รักกันเวอร์

671 Nameless Fanboi Posted ID:BjbRG4D.Bg

>>669 กูไม่ได้บราค่อนนะ แต่สมัยก่อนกูทำตัวมีปัญหาไปๆมาๆกูเลยสนิทกับพี่ว่ะ สนิทกว่าพ่อแม่อีก เพราะพี่จะคอยมาตามมาดูแลกูตลอดมีอะไรก็ช่วยกูตลอดงี้ กูแม่งทำตัวเป็นภาระมาก เวลาเรียกกูก็เรียกพี่กูว่าพี่ ตอนเด็กๆก็เรียกตัวเองว่าหนู พอโตๆมาหน่อยก็เรียกตัวเองว่าน้องว่ะ แม่ง พอมาพิมพ์แบบนี้แล้วเขินชิบ อีกอย่างคือกูไม่เคยทะเลาะกับพี่กูนะ คุยดีๆกันตลอด แม้บางทีกูจะเหวี่ยงจนรู้สึกเหี้ยมากทีหลัง แต่ทางโน้นถ้าไม่พอใจอย่างมากก็เดินหนีแล้วค่อยมาคุยกันใหม่ทีหลังว่ะ หวังว่าจะเป็นข้อมูลให้เพื่อนโม่งนะจุ๊บๆ ปล.กูชอบแนวพี่น้องคอยดูแลกันนะ

672 Nameless Fanboi Posted ID:KuTJGKnoy/

>>669 ของกูเป็นพี่น้องที่ ไม่มีความเป็นพี่น้องเท่าไร เพราะห่างกันปีเดียว กูเป็นพี่สาวมันเป็นน้องชาย ตอนเด็ก ๆ มันนิสัยชอบแหย่พี่มันเล่น กูก็ขี้โมโห มันแหย่กูก็โกรธ มันก็ยิ่งชอบ พอทะเลาะกันแม่ก็ตีทั้งคู่..T T

พอโตขึ้นมาหน่อยก็เริ่มแข่งกันเรียน บังเอิญว่าเรียนดีด้วยกันทั้งคู่ เลยไม่ค่อยมีไร พอเข้ามหาลัย โชคดีอยู่คนละที่ มันรู้สึกว่ามันเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้าน ต้องดูแลพี่และแม่ มันก็เลยเริ่มยึดอำนาจในบ้าน ( จริง ๆ ก็รับภาระหลักในบ้านแหละ ) กูก็มัวแต่ทำงานส่งจารย์ ไม่ค่อยได้กลับบ้าน ....เรื่อยมาจนทุกวันนี้ มันกลายเป็นพี่คนโตไปแล้ว

คำเรียกแทนตัว สมัยเด็ก ๆ จะ เป็น ตัว-เค้า พอโตมาหน่อย มันกลายเป็น มึง-กู มาตราบทุกวันนี้ ไม่มีโมเมนต์ พี่-น้อง จริง ๆ

673 Nameless Fanboi Posted ID:b5/z9YZ.Nq

>>669 พี่กูเป็นออทิสติก ดีที่ครอบครัวเลี้ยงกูมาดีเลยเข้าใจ ตอนเด็กไม่เคยน้อยใจว่าทำไมพี่ทำร้ายกูแล้วพ่อแม่ไม่ว่าเพราะแม่อธิบายไม่ฟัง แต่มันก็จะมีการทะเลาะตบตีกันบ้างเพราะเด็กออทิสติกจะก้าวร้าว ทำลายข้าวของ เมื่อก่อนนอนห้องเดียวกันจู่ๆพี่โมโหพุ่งมาทำร้ายกูกูก็ทำร้ายกลับ(?)ได้แผลเป็นมาประจำ เป็นที่สนุกสนานมาก กูก็โกรธได้แค่แป๊ปเดียวแหละเพราะเข้าใจ555 เคยคิดอยู่นะว่าถ้าพี่กูปกติป่านนี้ไม่รู้จะทำตัวเกเรหรือมีเมียไปแล้วหรือเปล่า จะเป็นพี่ที่ดีกับกูมั้ยก็ได้แค่คิด แต่แค่นี้กูก็มีความสุขกับครอบครัวแล้ว
กูขอบอกเลยว่าถึงภายนอกกูจะทำเป็นไม่ค่อยสนใจพี่เท่าไหร่ แต่บอกเลยว่าถ้าพี่กูเสียชีวิตไปกูทำใจไม่ได้ กูเคยจินตนาการแล้วกูร้องไห้ตลอด กับพ่อแม่ก็เหมือนกัน คือครอบครัวมันเลยคำว่าความรักไปแล้ว มันมีความผูกพันธ์รวมอยู่ด้วย ถ้าใครคนใดคนหนึ่งในครอบครัวกูหายไปกูคิดไม่ออกว่าจะทำใจได้แค่ไหน

674 Nameless Fanboi Posted ID:fBZbt0khWE

>>669 กูอายุห่างพี่คนโต 17 ปี ทุกคนที่เจอจะบอกว่ากูเป็นลูกพี่สาวกูหมด 55 พี่สาวกูเลี้ยงกูมากกว่าแม่อีก จำความได้ก็อยู่กับพี่ เล่นกับพี่ กินนอนก็อยู่กับพี่ โตขึ้นมาเพราะอายุห่างกับแม่มากคุยไม่รู้เรื่องอีกมีอะไรก็เลยคุยกับพี่ สนิทกับพี่มากกว่า พี่สาวกูแต่งงานมีน้องแล้วยังวนแวะมาห่วงกูเห็นเป็นลูกคนโตไปแล้ว

675 Nameless Fanboi Posted ID:tTQUz6Xask

>>674 ฟังๆ แล้วน่าอิจฉาดี
แฟนพี่กูเป็นลูกหลงคนที่เจ็ดของบ้าน ห่างกับพี่คนโตยี่สิยกว่าปี
พี่กูมีเพื่อนสนิทที่มีน้องอายุห่างกันกว่า 15 ปี
ส่วนเพื่อนมต้นกูมีน้องที่เพิ่งคลอด(ณตอนนั้น)อายุห่างกับเพื่อนกู15-16 ปี
สรุปทุกคนเลี้ยงน้องเป็นลูกหมด 555

676 Nameless Fanboi Posted ID:LdHHgXlvab

ขอถามเรื่องเทคนิคการเขียนนิยายหน่อยเพื่อนโม่ง (กูมาถูกห้องไหม?) คือกูกำลังหัดเเต่งฉากเรท เเต่ปัญหาคือเเต่งไม่รอดว่ะ รู้สึกไปไม่เป็น มันเขินตัวเองไปหมด มีใครมีเทคนิคในการเเต่งฉากเรทสำหรับ Beginner บ้างไหม เเบ่งปันกูหน่อยเถอะ

677 Nameless Fanboi Posted ID:EM2s223I/0

>>676 มึงไปหาอะไรมาทำให้ตัวเองชินก่อน เช่นแบบดูหนังโป๊ก็ได้ หรืออ่านนิยายคนอื่นแนวนี้ แต่อย่าชินมาก จริงๆการที่มึงรู้สึกเขินๆเป็นความรู้สึกที่ดี เก็บความรู้สึกนี้ไว้ มันสดใหม่ มันจะทำให้มึงเขียนแล้วไปได้
อย่างกู เขียนแนวนี้มานาน นานจนตอนนี้กูพิมพ์ไปแบบโรบอทมาก เขียนไปแบบที่กูไม่รู้สึกไรเลย แล้วกูก็เบื่อมากด้วย 5555555555

678 Nameless Fanboi Posted ID:LdHHgXlvab

>>677 คือกูก็ดูหนังโป๊นะ นิยายคนอื่นที่มีฉากอย่างว่ากุก็อ่าน เเต่คือตอนนั้นมันไม่รู้สึกไรอะ มันเฉยมาก เเต่พอมาเเต่งเองเเล้วเเอบบ เอร๊ยยยยยย มันเขิน มันไม่นิ่งเหมือนตอนดูหนังโป๊รึอ่านนิยายฉากเรทเลย คนละฟีลมาก

ขอถามหน่อยว่ามีวิธีจัดการความรู้สึกยังไงให้เเต่งได้เเบบไม่รู้สึกว่าไม่กล้าเขียนบ้างวะ เป็นปัญหามากตอนนี้

679 Nameless Fanboi Posted ID:EM2s223I/0

>>678 มึงเป็นคนเขียนเองมันก็ต้องเขินกว่าเป็นธรรมดาแหละ ถ้าเสพสื่อแล้วไม่ช่วย ก็คือลุยเขียนไปเลยยยย เดี๋ยวก็หายเขินเอง

680 Nameless Fanboi Posted ID:LdHHgXlvab

ขอบคุณมากเพื่อน กูจะพยายาม นี่เขียนลบเขียนลบมาห้าหกรอบเเล้วเนี่ย

681 Nameless Fanboi Posted ID:+MsOYWFUu3

>>676 ไม่ต้องบรรยายละเอียดก็ได้ ตัดๆ ให้พอรู้ เริ่มชำนาญก็ค่อยเพิ่มระดับความยาก

682 Nameless Fanboi Posted ID:Ai156tBGqh

>>676 ตอนเขียนใหม่ๆประสบการณ์ไม่มี จะเขียนก็เขินๆอยู่เหมือนกัน กูเลยเขียนถึงแค่จูบแล้วตัดจบ เปิดวรรคต่อมาก็เช้าแล้วอะไรแบบนี้

683 Nameless Fanboi Posted ID:8Cr2sSBGoJ

>>682 ได้นะ แบบนั้นกูก็ชอบอ่าน บางทีก็ไม่ต้องละเอียดครบทุกท่า แค่รู้ว่าได้กัน อย่างนิยายที่ชอบมากๆ ที่เพิ่งอ่าน จูบไปหนึ่งทีถ้วนทั้งเรื่อง

แต่งานเขียนกู ดันเขียนหื่น 5555

684 Nameless Fanboi Posted ID:QVFwylHzlY

กูมีคำถาม พวกมึงเขียนฉากหื่นทั้งหลายนี่ มีประสบการณ์จริงกันรึเปล่า

685 Nameless Fanboi Posted ID:sLNQdNEt5n

>>684 กูเคยเขียนฟิคเล่นๆ
ฉากหื่นทั้งหลายที่กูเขียนก็มาจากจินตนาการ+ฉากหื่นในนิยายที่เคยอ่านมา

686 Nameless Fanboi Posted ID:iUhkJKnGXl

เกิดมายังไม่เคยมีแฟนเลยยย อินเสิร์ชตัวเองเข้าไปในมังงะที่ชอบ แล้วก็เพลย์ต่อไปเอง ส่วนใหญ่เขียนซีนอารมณ์ไหน ช่วงนั้นก็จะอ่านที่มู้ดใกล้ครือ ๆ กันอะ แต่นิยายกูไม่มีฉากหื่นหรอก เอาแค่พอจั๊กจี้ เขินพอบิดกาย แล้วก็ตัดไปโป๊ะไฟ

687 Nameless Fanboi Posted ID:ZNzRaBCR6q

ถามถึงคนที่สนิทกับวงใน สถพ อะไรอย่างได้ปะวะ คือกูอยากรู้จริง ๆ ว่าเกณฑ์รับต้นฉบับนักเขียนหน้าใหม่นี่ วัดจากยอดวิวในเว็บอย่างเดียวเลยรึเปล่าวะ กูไม่เห็นงานของสถพ เรื่องไหนที่ไม่ผ่านการอัพให้อ่านในเน็ตมาก่อนเลยอะ

688 Nameless Fanboi Posted ID:+MsOYWFUu3

>>684 มีแฟนแล้วเลยทำให้ตอนอ่านงานคนอื่นพอรู้ว่างานไหนมโนเขียน งานไหนเขียนตามๆ กัน เซ็กซ์จริงๆ ไม่เหมือนในนิยายจ้ะ

689 Nameless Fanboi Posted ID:Iy+MpQ.ZLN

>>656 เออ จริงมึง กูก็เปิดเรื่องใหม่เหมือนกัน วันหนึ่งกูมีหลายอารมณ์มาก เศร้าก็เขียนดราม่า สุขก็เขียนแนวฟีลกู๊ดซะเลย

690 Nameless Fanboi Posted ID:j2o+S1rNdh

กูอ่านฉากเยแล้วขำเยอะมาก กูว่าคนเขียนเด็กๆมีจินตนาการล้นเหลือมาก เพราะมีประสบการณ์จากนิยายที่คนอื่นก็เขียนมโนไว้เต็มเนต เลยยิ่งไปกันใหญ่ แถมท่าก็เลยวนกันซ้ำซากไป ฉากเยพวกอุ้มแตง ขี่ม้า กูก็ไม่เข้าใจว่าจะทำให้เรื่องเดินหน้าไปยังไง หรือ ช่วยขยายทัศนคติทางเพศของพระนาง ยิ่งสายวายกูยิ่งฮา

691 Nameless Fanboi Posted ID:NCl5TmUb/o

>>690 กูถามจริง ไม่เคย แต่ท่าอุ้มแตง มันทำได้เหรอ ดูไม่น่าจะได้

692 Nameless Fanboi Posted ID:u.sw3QhYZk

กูนี่ศึกษา(?)ทั้งจากคลิปเกย์คลิป ชญ คือไม่รู้มีใครเป็นเหมือนกูมั้ย ดูคลิปแล้วกูเฉยฉิบหาย กดรีกดข้ามเป็นว่าเล่น แต่ถ้าเป็นนิยายกูจะอ่านแล้วเขิน...ถ้าใครอยากศึกษาฉาก NC กูว่าอย่าไปหาในธัญหรืออะไรเลย ส่วนมากมีแต่ป้าบๆตับๆ เอาที5-7รอบมึงจะบ้าหรอ อ่านไปพาลแต่จะทำให้เบื่อหรือเอียน ฉากNCอิโรติกกูชอบที่ไม่มากอล่างฉ่างเกินไป เวลาซื้อนิยายแปลจีนแปลวายหรือนอร์มอลไรพวกนี้ บางเรื่องบรรยายพอผ่านๆแต่ทำให้เขิน บางเรื่องบรรยายจัดเต็มแต่อ่านแล้วไม่รู้สึกน่าเกลียด เวลากูจะแต่งก็ไปอ่านบิวท์จากนิยายที่ซื้อๆมาอ่านนี่แหละ

693 Nameless Fanboi Posted ID:WGs/h59S3P

>>691 ได้ๆ แต่ผญ ต้องตัวเล็กหน่อย ไม่หนักมาก

694 Nameless Fanboi Posted ID:SzwoeFNEf.

กุ 676 นะ กูพยายามหาอ่านนิยายที่มีฉากอยเรทแบบศิลปะอยู่ คือไม่ใช่แพนกบ้อวอะ แต่ยังไม่ค่อยเจอเลย ที่เจอนี่เจอแต่แนวธัญวลัยที่มีแต่กระเเทกๆร้อยอ๊าๆๆๆทั้งบท รู้สึกไม่โอ ไม่ชวนหวิวอต่ดูหยาบไแฮะ เลยอยากหาที่มันดูเรทแบบศิลปะมาอ่านหน่อย พอมีแนะนำไหม ทั้งวายทั้งวายและไม่วาย

>>691 เคยดูคลิปที่ใข้ท่าแบบนี้นะ ก็ได้อยู่ไม่พากันบ้มแต่อย่างใด

695 Nameless Fanboi Posted ID:sfnmUu+m7R

>>694 แนะนำนิยายโรมานซ์แปลได้ปะ งานของแก้วกานต์อะ แปลดี ไม่หยาบ กูใช้เป็นที่ศึกษาฉากเรต

696 Nameless Fanboi Posted ID:sfnmUu+m7R

>>695 สนพ.แก้วกานต์

697 Nameless Fanboi Posted ID:eQNKJxsGgV

กูเห็นด้วยว่าของฝรั่ง บรรยายดีเขินหน้าแดง แต่ ธวล เน้นเสียวเรท70%แล้วเดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยมีประโยชน์ในการพัฒนาการเขียนเท่าไหร่

698 Nameless Fanboi Posted ID:9xfNxU6JqT

มีตัวอย่างฉากเรทแบบที่หลายๆ คนชอบหรือเขินกันบ้างรึเปล่า ไม่ใช่แบบที่หาได้ทั่วไปตามธวล. นะ ไม่อยากได้เรื่องเสียว ได้กันให้เป็นศิลปะแบบลายลักษณ์อักษรต้องเป็นยังไงวะ ฮืออ ขอตัวอย่างมาสักแถวสองแถวก็ได้ กูว้อนท์มาก ตอนนี้กูเผลอแต่งแนวอ๊ะอ๊าครางยาวๆ ไปทั้งบรรทัดแล้วเนี่ย โคตรหงิดตัวเอง ส่วนใหญ่นิยายในห้องกูมีแต่แนวตัดภาพไปหาโคมไฟ ไม่ก็เข้าห้องหอตอนจบเล่มสองบรรทัด...

เออ แต่ท่าอุ้มแตงนี่จะทำก็ทำได้จริงๆ นะ แต่กูอยากรู้ว่าฝ่ายชายเหนื่อยมากรึเปล่า อุ้มไปด้วยกระแทกไปด้วยน่าจะลำบากพอสมควร

699 Nameless Fanboi Posted ID:Zf/I3FRT8f

ก็ความเห็นข้างบนแนะนำนิยายของแก้วกานต์ มึงก็ลองๆ ไปหามาสักเล่มดิ
แต่สำหรับกูถ้าแก้วกานต์ แนะนำ มนต์เสน่ห์เหมันต์ ส่วนถ้านิยายไทย กูอ่านแต่สายใสๆ วะ
ไม่รู้ทำไมพอเป็นนิยายไทย ตัวละครไทย กูจะไม่ชอบเรื่องที่มีฉาก NC

700 Nameless Fanboi Posted ID:zImc73+DYG

>>695 กูก็ว่างานแปลฝรั่งสำนวนดี อ่านแล้วฟินจริงๆ
>>698 เวลากูอ่านเจอพวก อ๊ะๆ อิ๊ๆ กูจะนึกถึงทำนองเพลง อุ๊ยๆๆๆ ตลอด ฉาก NC ก็จะตลกไปในทันที

701 Nameless Fanboi Posted ID:ZQooZztbtb

>>698 ถ้าจัดระเบียบร่างกายดีๆ ย่อเข่าตั้งฐานให้มั่นคง ให้โมเมนตัมลงพื้นก็เหนื่อยกว่าท่าปกติแค่นิดเดียว ขึ้นอยู่กับน้ำหนักผญด้วย
ทำไมนานๆเข้าห้องลิททีกูต้องมาตอบอะไรพรรค์นี้วะเนี่ย

702 Nameless Fanboi Posted ID:EVmbnDoB2m

>>669 ของกูเป็นพี่น้องคนละเพศห่างกันปีเดียว ไม่ค่อยสนิทว่ะ แต่มันเป็นที่สภาพแวดล้อมด้วยมั้ง คือบ้านกูก็พยายามเลี้ยงให้เหมือนกันนะ โรงเรียนก็เรียนที่เดียวกันตั้งแต่อนุบาลยันม.ปลาย (มัธยมเป็นช่วงเวลาที่บ้านกู wtf กับโรงเรียนมากที่สุด ลูกสองคนเล่าเรื่องโรงเรียนเหมือนไม่ใช่สถานที่เดียวกันอ่ะ โคตรด้านมืดกับด้านสว่าง ครูทรีตต่างกัน เพื่อนๆรอบตัวก็ต่าง เหตุการณ์แวดล้อมก็ด้วย) ช่วงมหาลัยพวกกูแยกกันไปเรียนคนละที่แล้ว กูกับน้องทัศนคติต่างกันหลายอย่าง ถ้าคุยกันส่วนใหญ่ก็จะออกมาหงุดหงิดเห็นต่าง ถ้าเป็นเพื่อนกูเลิกคบแม่งไปละ 555 แต่เพราะเป็นพี่น้องนี่แหละ ไม่สนิทแต่มันก็ยังเป็นครอบครัว ชีวิตก็ยังวนเวียนอยู่ใกล้กันอยู่ดี ผัวยังเปลี่ยนได้แต่ไม่ว่ายังไงกูก็เปลี่ยนน้องไม่ได้ป่ะ พวกกูก็ไม่ได้เกลียดกันหรอก ก็ยังออกไปกินข้าว ติดรถเวลาไปไหนมาไหน ขอให้ช่วยทำงานอะไรงี้ แต่ถามว่าชอบมันมั้ยก็ไม่ว่ะ ไม่ชอบนิสัยหลายอย่าง น้องก็ไม่ชอบนิสัยกูเหมือนกัน 5555 กูคิดว่าถ้าเราคนใดคนหนึ่งตายไป อีกคนก็คงไม่ได้เสียใจขนาดนั้น แต่มันคงแปลกๆ เหมือนอะไรบางอย่างหายไปมากกว่า

ปล.แต่อ่านนิยายกูอยากได้ความแฟนตาซีพี่น้องรักกันมากกว่านะ นิยายที่สมจริงไปไม่ค่อยสนุกอ่ะ...

703 Nameless Fanboi Posted ID:1x.A6sxvhX

>>698 มีอยู่เรื่องนึงที่กูเคยอ่าน ลงในธัญนี่แหละ แต่เป็นวายนะ จำชื่อเรื่องเต็มๆไม่ได้ แดนทัพอะไรสักอย่างอะ ลองหาๆดู กูว่าบทเรทเค้าบรรยายใช้ได้
ส่วนของแก้วกานต์กูก็ชอบนะ กูเคยอ่านพวกแบบแฟนตาซี เชอรีลีน เคนยอนและอื่นๆ(สัดๆๆบ่งบอกอายุชิบหาย) พวกพารานอมอลไรงี้อะ แต่คือบทเรทฝรั่งมันจะคนละแบบกับการเขียนเรทแบบไทยๆเลยนะ คนละแบบอะ แต่ก็แล้วแต่ว่ามึงชอบแบบไหนแหละ
แบบมิสเตอร์เกรย์เงี้ยะ กูโคดไม่ชอบ อ่านแล้วปสด

704 Nameless Fanboi Posted ID:fwG/.rGm+X

>>703 กูชอบเซต ชีวิตอันเป็นนิรันดร์

705 Nameless Fanboi Posted ID:+DbHjRSXkZ

>>702 นอกเรื่องแป้บ เออว่ะ เอาจริงๆกูก็รู้สึกกับพี่คล้ายๆกับที่มึงพูดเลยแฮะ

706 Nameless Fanboi Posted ID:ZZOGySHPH.

ต่อมความสมเหตุสมผลของคนเขียนกับคนอ่านมันไม่เท่ากันเหรอวะ...

707 Nameless Fanboi Posted ID:+vXUEXIdq3

ถ้ามันเรียลหมด มันจะน่าสนใจได้ไง

708 Nameless Fanboi Posted ID:Mm1Eyhg+BO

จะเขียนให้ถูกใจคนอ่านทุกคนมันเป็นไปไม่ได้มึง แปะๆ ตบไหล่ให้กำลังใจ

709 Nameless Fanboi Posted ID:eLytDVCQkU

ไม่เท่ากัน ประสบการณ์จะหล่อหลอมความคิด และตรรกะ แต่ละคนโตมายังไงกันบ้างล่ะ ขนาดเพื่อนกันแท้ ๆ ยังอิหยังวะวันละหลายรอบเลยว่ะ

710 Nameless Fanboi Posted ID:owvaOiN.MD

มึงเลิฟซีนมันต้องมีคำอธิบายเสียงอย่าง อิ๊ อ๊ะ อรั๊ง จุ๊บ จ๊วบ แบ๊ะๆ ด้วยไหมวะ พอดีกูจะลองไปลงนิยายในธัญ
รู้สึกว่านิยายกูนี่ยังกับละครใบ้ ไม่มีสงมีเสียงอะไรกับเขาเลย

711 Nameless Fanboi Posted ID:vDLE9N9Ir+

>>710 กูชอบแบบไม่มีหรือมีนิดๆ ไม่ใช่มาแบบเป็นท่วงทำนองเฉกเช่นใน ธวล

712 Nameless Fanboi Posted ID:yr4xaqk6gH

>>710 แบ๊ะๆ นี่ทำอะไรกันวะ

713 Nameless Fanboi Posted ID:owvaOiN.MD

>> ทีแรกจะเขียนแจ๊ะๆ กูก็เกิดหน้าบางขึ้นมา55

714 Nameless Fanboi Posted ID:/rbB0vxKME

>>710 กูไม่ชอบว่ะ แบบ ซี้ดๆๆๆๆๆ อ๊ะๆๆๆๆๆ อู๊ยๆๆๆๆ ยาวเป็นบรรทัดแบบในธัญอะ กูอ่านเจอแบบนี้ทีไรหมดอารมณ์ทุกที 5555
กูชอบแบบที่บรรยายสวยๆ มีพวกเสียงนิดๆแค่คำสองคำเวลาครางอะได้ กูโอเคเลย แบบ อ๊ะ แค่คำสองคำไรงี้
แต่ๆๆๆๆๆๆ นี่เป็นความเห็นกูคนเดียว กูสังเกตว่า เรื่องที่มีอะไรที่กูไม่ชอบมักจะเป็นเรื่องดังในธัญ
เพราะงั้น ถ้ามึงอยากให้นิยายมึงดังในธัญ มึงอาจจะต้องใส่เสียงเยอะๆเป็นบรรทัดๆแบบที่นิยายดังๆในธัญมันทำว่ะ 55555

715 Nameless Fanboi Posted ID:qvu/XbpjrI

กูเกลียดแบบมีเสียง มันเหมือนนิยายโป๊เกรดต่ำ เรื่องเสียวธรรมดา โคตรโลว ไม่มีศิลปะ

716 Nameless Fanboi Posted ID:1OkKNSOSlI

>>715 เหมือนกูเลย

717 Nameless Fanboi Posted ID:8KJRdVZ1wv

กูรำคาญเวลามีเสียงเยอะๆ อะ กูเคยอ่านเจอ 'พั่บๆๆ' อิสัส พั่บพ่อง ไม่ได้ทำให้กูอินเล้ยยย

718 Nameless Fanboi Posted ID:zdviETJWeB

>>717 อย่างกะนกกระพือปีก อิเห 55555

719 Nameless Fanboi Posted ID:Dq6CClDlSQ

อิพั่บๆ ตั่บๆ แม่งฮาจริง ได้ยินละนึกถึงเสียงตำน้ำพริกไม่ก็นกพิราบกระพือปีกในสวนสาธารณะที่มีคุณตาคุณยายหน้าตาใจดีๆ กำลังโปรยอาหารนกอยู่555555 ถึงของจริงมันจะมีเสียงก็เถอะ แต่เวลาอ่านแล้วมันขำอะ

กูชอบให้ครางน้อยๆ เหมือนกัน ละครใบ้ก็ได้ ครางนิดๆ ก็ยังดี กูเฟติชการเรียกชื่อกันและกันตอนทำเรื่องอย่างว่ามากกว่า ไม่รู้จะให้ครางอะไรก็ให้พระนางเรียกชื่อกันและกันก็ได้นะ กูเป็นนักอ่านที่ชอบแนวนี้ //ปิดหน้าเขิน

720 Nameless Fanboi Posted ID:ejaRghqHSn

กูเกลียดเสียงครางจำพวกอ้าาาาา ตับๆพับๆ ชิบหาย อารมณ์หายหมด
คือกูเป็นพวกชอบนิยายเรทแบบบรรยายจริงๆอะ ไม่ชอบพวกเลี่ยงคำเป็นบุปผานู้นนี้นั่น แต่ก็ไม่ชอบแบบที่มันหยาบเกินไป ชอบแบบมีคุย+ความคิดไปด้วยแต่ไม่ชอบแบบใน ธวล โคตรเรื่องมากหาคนไทยเขียนฉากเรทถูกจริตไม่ได้เลย

721 Nameless Fanboi Posted ID:PYzGmNkQRs

กู 710 เด้อ ขอบคุณทุกความเห็น กูนี่ลองใส่เสียงประกอบลงในนิยายตัวเอง เชี่ยเอ้ยตลกฉิบหาย กูไม่เอาละ ขอบรรยายอย่างสงบๆเงียบๆต่อไปละกัน

722 Nameless Fanboi Posted ID:GCGFPPTljb

ถามหน่อยเพื่อนมีใครลงในยายในเด็กดี readawrite fictionlog ไหม กุสงสัยว่ากลุ่มนักอ่านสามเว็บนี้ต่างกันยังไง

ละกุเพิ่งลองลงนืยายไปสามเว็บนี้ตอนประมาณสองทุ่ม ยอดคนเข้าน้อยมากเลยว่ะ คอมเม้นเฉลี่ยตอนละเม้น (คือส่วนหนึ่งาจเพราะนิยายกุเพิ่งเปิดเรื่องด้วยมั้ง นี่มีเเค่สองตอนอยู่) เเต่เพื่อนอีกคนลงตอนสี่ทุ่มดูยอดคนคลิกเข้าเยอะกว่าสองทุ่มดี (เเต่นั่นเเค่ข้อสงสัยที่ได้มาจากการลงนิยายของกุกะเพื่อนเเต่คนละเวลาเเต่วันเดียวกันนะ เเละยังไม่มีการทำซ้ำเพื่อทดสอบสมมุติฐานเเต่อย่างใด) กุเลยอยากรู้ว่าช่วงเวลาไหนเหมาะกับลงนิยายเเต่ละเว็บบ้างวะ ขอบคุณมาก

723 Nameless Fanboi Posted ID:GCGFPPTljb

อีกคำถามๆ แล้วจะมีวิธีโปรโมตนิยายให้คนเข้ามาอ่านเยอะๆยังไงบ้าง ทั้งในสามเว็บเลย เนื่องด้วยกุไม่มีฐานแหนคลับ เป็นนักเขียนใหม่แกะกล่องมากๆ กุนี้ดโอกาสจากนักอ่าน ฮือ

724 Nameless Fanboi Posted ID:j3Qx.ZNtkD

dd คนเยอะต่อกูเอางานออกหมดแล้ว คนอ่านอวยๆ ไม่แต่ไม่ซื้อทั้งบุ๊คทั้งคอยน์ ลงคอยน์บอกอยากได้เป็นเล่มมากกว่าประกาศพรีทำเล่มเงียบป่าช้า แต่โคตรท้วงตอนใหม่เช้าเย็น โมโหสุดคือลงตอนใหม่ไม่ถึง 3 นาทีแม่งมาพิมพ์ตอบ "เมื่อไรตอนใหม่จะมาค่ะ ทำไมไรต์ขี้เกียจแบบนี้ไม่มีความรับผิดชอบเลย" คอมเมนต์นี้คอมเมนต์เดียว กูเอางานออกจากเด็กดี

raw คนพอสมควรเยอะเฉพาะบางหมวด แอดมินจะเรียกโง่ก็ได้ แบ่งบ้าอะไรว่ะนิยายรัก 2 หมวด นิยายเรต 2 หมวด นิยายผู้ใหญ่อีก 1 หมวด ถามไปนิยายรัก โรแมนซ์ รักวัยรุ่น รักวัยว้าวุ่น ต่างกันยังไง เขาตอบ รักไม่มีเรต โรแมนซ์มีเรตได้ วัยว้าวุ่นเน้นวัยรุ่น ว้ยว้าวุ่นเน้นผู้ใหญ่ แต่ที่เห็นลงงานมั่วกันหมด

fl ธญว เอางานออกแล้วตั้งแต่รู้ว่าเกี่ยวกับ okkbee กูแบนนายทุนเจ้านี้ตั้งแต่เอางานไปทำบุฟเฟต์ เอาไปขายที่อื่นโดยไม่บอกนักเขียน นักเขียนไม่รู้ไม่ออกมาด่าก็ยังทำต่อ

725 Nameless Fanboi Posted ID:CJluD3Wced

>>724 เรท แบ่ง 2 หมดถูกแล้ว กูว่าเป็นแอปลงนิยายที่แรกที่แบ่งถูกเลย โรมานซ์กับ อิโรติก มันไม่เหมือนกัน

726 Nameless Fanboi Posted ID:SdP2Ypd0nc

>>722 ส่วนใหญ่ก็กลุ่มเดียวกันนั่นแหละ มี fic ที่จะมาจากกลุ่มอ่านแปลจีนแวบมาอ่านบ้างแต่ก็ไม่ได้เยอะอะไรหรอก raw มาจาก ดด+meb แต่คนอ่านมันก็วนๆ กันไปหน้าเดิมๆ เปลี่ยนเว็บอ่านแค่นั้น ดด งานเยอะคนลงเยอะงานปลิวเร็ว หน้าใหม่มึงก็ไปเก็บแต้มช่วงคนลงน้อยๆ ช่วงตีหนึ่งอะไรแบบนั้น คนเยอะพอควรแล้วก็ไปช่วงเวลาคนอ่านเยอะเช่นสี่ห้าโมงเย็น แต่ถ้างานมึงกากลงตอนไหนก็ไม่ได้ช่วยอะไร ถ้างานมึงดี ตอนมึงเยอะสักสามสิบตอนขึ้นไปแล้วลงยังไงก็มีคนอ่านระดับหนึ่ง ถ้าสามสิบตอนแล้วคนยังอ่านน้อย มีคนอ่านไม่ถึงร้อยควรพิจารณาตัวเอง fic กูไม่ลง ยุ่งยาก เลยบอกไม่ได้ รู้แต่เว็บเป็นที่รู้จักวงกว้างเพราะเอานิยายจีนมาแปลไม่ใช่เพราะงานไทยไปลง ถึงก่อนหน้านี้คนไทยจะพอรู้จักบ้างก็รู้จักในหมู่คนเขียนไม่ใช่คนอ่าน คนอ่านไปรู้จักพวก ธวล มากกว่า raw มึงลงช่วงเปิดเรื่องบ่อยๆ มันจัดอันดับเรื่องลงใหม่แยกให้คนก็จะอ่านหมวดนี้เยอะ ถ้าเรื่องเก่าแล้วจะไปอยู่การจัดอันดับแบบอื่น เรื่องใหม่ก็สู้เรื่องใหม่กับค่อนข้างใหม่ด้วยกันแล้วหน้านี้มันมีโฆษณาไป meb ด้วย คนอ่านก็จะตามเร็ว ช่วงลงใหม่ๆ ลงได้ก็ควรลงทุกวันให้ติดชาร์ตหมวด ไม่พร้อมอย่าเพิ่งลงเสียโอกาส มีเรื่องหนึ่งกูใช้ นปก ใหม่ ลง ดด วิวหลักหลายพัน - ใกล้ๆ หมื่น ลง raw วิว แสน คอมเม้นต์ต่างกัน 10 เท่า เพราะช่วงลงใหม่ๆ กูขยันลงแล้วงานติดชาร์ตหลายวันคนตามไว ส่วนเวลาลง raw แล้วแต่อารมณ์ว่ะ เรื่องมันไม่ได้เยอะมาก ชาร์ตบางชาร์ตแม่งก็แข่งกันเฉพาะเรื่องใหม่ เรื่องถ้ามึงแอคทีฟสักพักก็น่าจะติดชาร์ตใดชาร์ตหนึ่ง ไม่ได้จมลงไปเลย แต่กูว่าคนอ่านรวมๆ จำนวนก็ไม่น่าสู้ ดด ได้ ยังไง ดด คนอ่านก็ยังเยอะสุดอยู่

727 Nameless Fanboi Posted ID:IbxR6mAxHw

>>724 คนอ่านผู้ไม่เคยเขียน นอกจากจะมาเร่งเอางานแล้วยังเป็นพวกใช้นะคะ นะค่ะอีก เป็นกูจะเบลอเม้นนี้ไป อ่านแล้วเสียสุขภาพจิต

คนเขียนเขียนสามปี คนอ่านอ่านสามชั่วโมง กูเห็นใจคนเขียนและคนรอ แต่ไม่เห็นใจคนไร้มารยาทมาทวงนิยายทั้งที่เขาเพิ่งจะลง

728 Nameless Fanboi Posted ID:GCGFPPTljb

ขอบใจมากเพื่อน

729 Nameless Fanboi Posted ID:fIUjZoBzjP

ทำไงดีวะกูแต่งตัวละครนิสัยคล้ายๆกันไปหมดเลย คือตอนวางพล็อตก็คิดไว้นะว่าตัวนี้สบายๆ ตัวนี้จริงจัง ตัวนี้ฉูดฉาด แต่พอเข้าบทสนทนาแล้วกูจะใส่ความเสียดสีเข้าไปตลอดเลยไม่ว่าใครจะคุยกับใคร กูเป็นพวกตลกร้ายไง เวลาถามตอบก็หลุดไม่พ้นจากความเป็นตัวเองน่ะ ทีนี้เลยกลายเป็นว่าเพื่อนนางเอกช่างเสียดสี ญาตินางเอกก็ช่างเสียดสี พี่ชายนางเอกก็ช่างเสียดสีอีก อ่านแล้วไม่มีเสน่ห์เลย

730 Nameless Fanboi Posted ID:GCGFPPTljb

นั่นน่าจะมาจากอินเนอร์ในใจมึงรึเปล่า
กูเคยเป็นนะ แก้ด้วยการระบุไปในหัวว่าตัวละครตัวนี้คล้ายตัวละครในนิยาย การ์ตูน อนิเมะ นักแสดงคนไหนอะไรก็ว่าไป แล้วความรู้สึกตอนบรรยาย หรือบทพูดขิงตัวละครตัวนั้นจะเปลี่ยนไปตามในหัวเลย

731 Nameless Fanboi Posted ID:1kVHrPSrx+

กูชอบอ่านเสียดสีนะ แต่มึงก็หาตัวละครที่ไม่เกทว่าโดนเหน็บไว้บ้างสิ

732 Nameless Fanboi Posted ID:CJRlWZGBbN

เขียนแบบตัวเองกำลังแสดงหนังดิ สวมบทบาทเป็นตัวละครนั้นๆ คิดว่าคนนั้นจะพูดอะไร ตัดสินใจอะไร กำหนดอุปนิสัยพื้นฐานกำกับไว้ด้วย แค่แนะนำอ่านะ แล้วแต่มึงจะใช้

733 Nameless Fanboi Posted ID:qd5ZV/sqYp

>>729 มึงลองเขียนแบบมีอิมเมจจริงๆก่อนมั้ย เป็นการฝึกฝีมือ หรือเขียนฟิคอะไรแบบนี้ แบบมันจะได้มีอิมเมจในหัวชัดๆๆไปเลยว่าตัวละครนี้บุคลิกแบบไหนแบบไหน เป็นการฝึกเขียนหลายๆบุคลิก /คือต้องไม่ OOC ด้วยอะนะ
พอเขียนได้แล้วก็ไปเขียนออริตัวเองอีกที

734 Nameless Fanboi Posted ID:nW8mjbc0HX

กูจะทำนิยายขาย แล้วอยากแทรกรูปประกอบลงในแต่ละตอน แต่กูควรแทรกไว้ที่ตรงไหนถึงจะดีวะ

735 Nameless Fanboi Posted ID:pEvkNidlw+

>>734 เสียสละหน้าข้างๆไปเลย กูไม่ค่อยชอบ รูปกับตัวหนังสือ หน้าเดียวกัน รู้สึกว่าอ่านสะดุด แต่อันนี้ส่วนตัวนะ เพราะกูเห็นพวกนิยายเยาวชนหลายอัน อย่าง ย.จ.ด. ก็แทรกครึ่งหน้า กัน

736 Nameless Fanboi Posted ID:UEb8ot8BF0

ย.จ.ด. คืออะไรวะ

737 Nameless Fanboi Posted ID:/b5gAb5zOV

>>734 จ.ส. ทำแยกหน้าข้างๆ ไม่เอามาอยู่กับตัวหนังสือ

738 Nameless Fanboi Posted ID:8dxMve4tJn

กูเริ่มเครียดที่กูรู้สึกว่าเซนส์ตลกกูไม่ตรงกับชาวบ้าน ถึงตลกกูจะตลกกริบๆหน่อยไม่ได้ตลกโบ๊ะบ๊ะแต่มันก็น่าจะขำบ้างดิ ทำไมเหมือนกูขำอยู่คนเดียว ไม่มีใครฮากับกูเลย หรือว่าจริงๆมันไม่ขำวะ

739 Nameless Fanboi Posted ID:IrkBj/vEph

>>736 ยักษ์ใจดี หนังสือเยาวชนของโรอัล ดาลห์

740 Nameless Fanboi Posted ID:8k9kHBZ1x1

เดี๋ยวนี้เว็บห้องสมุดยังมีนักอ่านอยู่ไหมวะ กูเพิ่งเอานิยายตอนแนกไปลงที่นั่นครั้งแรก งงไกับระบบพอสมควรเลย พอลงไปละไม่มียอดวิวเลยสักคนกูเลยงงว่ากูยังไม่ได้กดอัพมันหรือไม่มีคนมาอ่านจริงๆวะ (คือถ้าไม่มีนี่มันจะไม่มีแม้กระทั่งยอดคนคงิิิกอ่านวิวสักวิวเลยเหรอ กุงงมาก)

741 Nameless Fanboi Posted ID:daIoo90Hkx

กูถามในนี้ได้ไหมเนี่ย อยากลองทำงานทางด้าน Content writer ดู ใครพอมีประสบการณ์ทางด้านนี้บ้าง บอกอะไรที่กูควรรู้ที่ บรรยากาศการทำงานการปั่นงาน บลาๆๆ

742 Nameless Fanboi Posted ID:N3ie3KwR6/

เพื่อน กู >>722 นะ ที่เคยถามเรื่องลงนิยายใน เด็กดี readawriteกะ fictionlog กูมารายงานผล
กูลงนิยายมา 1 อาทิตย์กว่าละ แต่ไม่ได้ลงทุกวันแบบที่เพื่อนโม่งแนะนำหรอกนะ เพราะสต้อกกูไม่พอ ตอนนี้ลงไปสามตอน ผลตอบรับโอเคเลย ตอนนี้ติดหน้าแรกของนิยายออกตัวแรง หมวด BL ของ readawrite ละ โคตรดีใจ รู้สึกซัคเซสมากที่พานิยายตัวเองไปจุดนั้นได้แม้จะเป็นมือใหม่ไร้ขื่อ และไม่ใข่นิยาย nc อิ๊อ๊ะ อ๊า ถึงแม้นี่จะแค่ความสำเร็จก้าวเล็กๆก็ตาม

สำหรับคนอื่นๆที่คิดจะเอานิยายลง กูเห็นด้วยกะเพื่อนโม่งเลยว่าถ้าอัพบ่อยๆได้ทุกวันนี่ดีแน่นอน
สต้อกไว้เยอะๆแล้วค่อยลง (เเต่ของกูไม่ทันแล้วดันใจร้อนลงตอนแรหไปทั้งที่สต้อกมีไม่เยอะ เลยต้องมาปั่นตาแหกอัพตามกำหนดไม่ให้ยอดตกหาย) ส่วนทางง fictionlog นี่เงียบมากกกก ฝั่งเด็กดีของกูพอๆกับ readawrite

ปล. ขอบคุณเพื่อนโม่งมากๆสำหรับคำแนะนำ ช่วยกูได้เยอะเลย

743 Nameless Fanboi Posted ID:iiUqKDH.fD

อยากถามว่าเพื่อนโม่งเขียนตัวละครหญิงยังไงให้เป็นที่รักของคนอ่านวะ กูเขียนนิยายเรื่องนึงแล้วมีแต่คนด่านางเอกหรือตัวละครหญิงของกูทุกที กูเสียจึย เลยอยากได้คำแนะนำจากในนี้หน่อยว่าแบบไหนที่เขาเรียกกันว่าน่ารัก

744 Nameless Fanboi Posted ID:iiUqKDH.fD

ลืมบอกไปว่าไม่มีประเด็นรักสามเส้าใจโลเลเผื่อเลือกอะไรทั้งนั้น นางเอกกูเป็นผู้หญิงนุ่มนิ่มบอบบางเรียบร้อย ไทป์สาวหวานมาเลย อาจจะมีเจ้าน้ำตานิดหน่อยเพราะนางขี้แย หรือเขาจะไม่ชอบสไตล์นี้กันวะ

745 Nameless Fanboi Posted ID:Ut/EiW1tvs

>>744 อ่อนหวาน แต่ต้องไม่งี่เง่า กูชอบแบบนี้นะ แต่ตอนนี้เปิดเรื่องไหนนางเอกก็แรง ก็ร้าย รุกก่อน กูเบื่อ อ้อ ถึงจะหวานจะเรียบร้อย ก็ถ้าไม่มีเหตุผลให้เล่นตัวเยอะ ก็อย่าเล่นตัวเยอะ พระเอกอ่อยใส่ ก็ตอบสนองบ้าง กูว่าน่ารักดี

746 Nameless Fanboi Posted ID:BWAjxSAOZ6

>>742 สู้ๆ นะมึง ขยันอัพเข้าไว้

747 Nameless Fanboi Posted ID:Wqfh2aOrEG

>>744 กูก็ชอบนางเอกแบบนี้นะ เพราะแลดูบอบบางให้พระเอกปกป้องได้ สู้ๆนะมึง

748 Nameless Fanboi Posted ID:QQAiJBI5HD

นางเอกนุ่มนิ่มเรียบร้อยกูอ่านได้ แต่กูไม่ชอบนางเอกเป็นง่อย แบบสาวเกินจนทำไรไม่เป็นเองเอาแต่พึ่งคนอื่น แนวนางเอกยุคโบราณโง่ๆเชื่องๆ โดนรังแกก็ไม่สู้ไรงี้อ่ะ อ่านแล้วรำคาญ

749 Nameless Fanboi Posted ID:V0gX7itkZm

กูว่าบุคลิกพระเอกนางเอกจะเป็นไงก็ได้ ถ้าเรื่องมันสนุกถูกใจ คนอ่านมันก็อ่านนั่นแหละว่ะ คนอ่านมีหลายกลุ่ม บางเรื่องกูไม่คลิกเลย แต่คนอื่นเขาคลิกก็มี แต่ถ้าเนื้อเรื่องมันดาวพระศุกร์มากมันก็อาจจะเชย แต่กูเชื่อว่ายังมีคนชอบอีกเยอะ

750 Nameless Fanboi Posted ID:B2Q0.S/v82

อยากถามเพื่อนๆโม่งหน่อยนะ พอดีกำลังจะเขียนนิยายเซตติ้งยุโรปโบราณพวกขุนนางเทือกนี้ แล้วสงสัยเรื่องลูกนอกสมรสอ่ะ คือหาไปแล้วเจอว่าถ้าพ่อยอมรับแล้วตั้งเป็นลูกตามกฎหมายได้ แล้วถ้ากรณีพ่อตายไปแล้ว คนขึ้นแทนพี่น้องนี่ตั้งพี่น้องได้ไหม อันนี้สงสัย

751 Nameless Fanboi Posted ID:9ZDVwNgjFv

>>750 กูอ่านมาเยอะพอควร แต่ไม่เคยเจอแบบ พี่น้องจะมาตั้ง พวกลูกนอกสมรสนะ แต่รับมาเลี้ยงดูไว้อะมี

752 Nameless Fanboi Posted ID:B2Q0.S/v82

>>751 ขอบใจนะเพื่อนโม่ง พอดีเรื่องที่กูแต่งคือพ่อนางเอกมีลูกสองคน นางเอกเป็นลูกในสมรสตามกฎหมาย แล้วก็มีน้องชายอีกคนที่เป็นลูกนอกสมรส คือเรื่องกูนางเอกรับตำแหน่งมาหลังพ่อตายแต่ไม่ได้คิดจะแต่งงาน เลยสงสัยว่ารับน้องชายมาได้ไหม แบบให้เป็นทายาทต่อจากตัวเองได้งี้

753 Nameless Fanboi Posted ID:B2Q0.S/v82

*ได้รึเปล่างี้ มันอาจจะสับสนหน่อยๆ555 แต่ถ้าอย่างเพื่อนว่าว่าได้แต่พ่อ ก็เอาตำแหน่งคนสนิทไปละกัน

754 Nameless Fanboi Posted ID:9ZDVwNgjFv

>>752 ผู้หญิงรับตำแหน่งได้ด้วยเรอะ ถ้าน้องเป็น ผช อะ ก็ต้องไปเอาน้องมันนี่แหละมารับตำแหน่งสืบทอดบรรดาศักดิ์ เหมือนผู้หญิงทำได้แค่รักษา ถ้ามันมีน้องก็ยกให้น้อง

755 Nameless Fanboi Posted ID:9ZDVwNgjFv

ต่ออีกนิด อันนี้คือกูไม่แน่ใจ เพราะตอนนี้ ก็ห่างนิยายแนวนี้

ถ้านางเอกแต่งก่อนพ่อตาย ลูกเขยเหมือนจะรับบรรดาศักดิ์ได้ ในกรณีที่มีแต่ลูกสาว แต่มาแต่งหลังพ่อตาย บรรดาศักดิ์ไม่ได้

756 Nameless Fanboi Posted ID:B2Q0.S/v82

>>754 คือกูคิดเรื่องให้มันยุ่งยากเองแหละยอมรับ555 คือส่วนตัวก็เคยอ่านแล้วเลือนๆไปเหมือนกันอันนี้ยอมรับ จำได้และค้นเจอแค่ว่าถ้าตำแหน่งลูกสาวรับแล้วไม่ได้แต่งงานตำแหน่งขุนนางมันจะตายไปในรุ่นนี้ไปเลย แต่ถ้าอย่างเพื่อนบอกว่าแค่มีลูกชายไม่จำเป็นต้องเป็นในสมรสก็ต่อจากพ่อได้ กับข้อมูลเพิ่มเติม ก็คงต้องไปแก้รายละเอียดใหม่แหละแบบนี้

757 Nameless Fanboi Posted ID:x+Xx0KzcYx

>>756 ลูกนอกสมรสก็รับได้ กูอ่านอยู่เรื่องหนึ่ง จำชื่อเรื่องไม่ได้ พระเอกเป็นลูกนอกสมรส โดยไม่รู้ว่ามันกับเพื่อนอะพ่เดียวกัน ละทีนี้พอเพื่อนตาย พ่อมันถึงมาตามพระเอกมารับบรรดาศักดิ์แทนตัวเอง หรือก็มีอีกเรื่อง กูรางเลือนมาก แต่ในเซตนั้น คือพวกผู้หญิงอะลูกสมรส แล้วมันไปตามน้องชายนอกสมรสมารับบรรดาศักดิ์ของพ่อ มีน้องชายนี่แหละ เป็นเล่มปิดเซต

758 Nameless Fanboi Posted ID:M5wbXzlPYk

มึงงงง ขอระบายอะไรโง่ๆหน่อยนะ กูเฟลว่ะ กูเป็นนักเขียนใหม่ที่เพิ่งลงงานไป ตแนนี้ลงนิยายไปได้สี่ห้าตอนละ คือกูไม่มีฐานแฟนคลับอะนะ ชีวิตเลยขาดแคลนคอมเม้นต์กะซัพพอร์ตมาก ตอนนี้นี่แบบคนที่มาเม้นให้นิยายกูมีแตาขาประจำสองสามคนเท่านั้น (ซึ่งกูก็รู้สึกขิบคุณเขามากๆนะ) ละอบบวันนี้กูเข้าไปส่องยอดนินายตัวเอง เจอว่ามีคนถอนเฟบนิยายกูไปคนนนึง ตอนแรกที่เห็นนี่ self กูสั่นสะเทือนมาก แบบโคตรคิดมากเลยว่านิยายกูไม่ดีเหรอ ทั้งที่มันเป็นแค่ยอดเดียวอะ แล้วมีคนเฟบนิยานกูเรื่อยๆนะ วันละสองสามคน และกูก็รู้ว่ามันก็เกี่ยวกับรสนิยม บางคนอ่านไปแล้วรู้สึกมันไม่ใช่ เค้าก็มีสิทธิ์เลิดติดตามได้ คือมันมีทั้งคนชอบคนไม่ชอบอะ คือกูรู้นะ แต่กูก็รู้สึกสะเทือนใจอยู่ดี มันอดเฟลไม่ได้เลยมึง กูคงคาดหวังมากเกินไป ฮือออ

กูรู้กูไม่มีเหตุผล มันดูงี่เง่า แต่กูเฟลมากเลย

759 Nameless Fanboi Posted ID:ESznSB/btw

>>758 ในฐานะคนอ่าน บางทีกดเฟบไว้โดยยังไม่ได้อ่าน กะจะกลับมาอ่านทีหลัง
พออ่านไปสักพักไม่ใช่แนวก็กดออกอะ มันจะได้ไม่เตือน กับพวกอัพหลอกอันนี้กดออกหมดรำคาญ

760 Nameless Fanboi Posted ID:A7SthTBq5n

>>758 กูก็เป็นมึง มันจะเฟลๆรู้สึกแย่หน่อยๆ ทุกครั้งที่อัพตอนใหม่ คนจะหายไปสองสามคน ละจะมาเพิ่มอีกสองสามคนทดแทนกันไปอย่างนี้จนจบเรื่อง แงงง

761 Nameless Fanboi Posted ID:qL35uevcDw

>>759 ฮืออออ ขอบคุณมากเพื่อน อ่านที่มึงพิมพ์แล้วเรียกสติกูมากว่าเออมันก็มีแบบนี้ด้วยนี่นา

>>760 เมื่อคืนกูฟุ้งซ่านคิดมากจนถึงขนาดเกือบหมดกำลังใจแต่งต่อว่ะ โคตรแย่

762 Nameless Fanboi Posted ID:.CM0A56Iab

วันนี้กูมาเล่า เผื่อมีคนน้อยใจที่ยอดคอมเม้นไม่ขึ้น
บางทีกูพิมอะไรเสร็จหมดแล้วแต่พอจะส่งข้อความก็เจอปัญหาหลายอย่างชวนหัวร้อน จะด้วยความสะเพร่าของตัวเอง หรือระะบบเว็บ จนสุดท้ายก็ไม่ได้ส่งเม้นไป ถ้าใครไม่เห็นคอมเม้นให้คิดว่าบางทีนักอ่านอาจจะมีปัญหานะ
ไม่มีอะไรเพราะกูเพิ่งหัวร้อนมา กร๊าซซซ

763 Nameless Fanboi Posted ID:qL35uevcDw

>>762 ขอบใจมากเพื่อน

764 Nameless Fanboi Posted ID:9mM3xm51ik

กูเนี่ยเครียดกว่ามึงอีก มึงแต่งลง ดด กูเดาว่าคงไม่มีปัญหาเหมือนกะกู กูแต่งลง rw คนอ่านถือว่าอยู่ในระดับเยอะใช้ได้ แต่กูไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมตอน nc คนอ่านมันเยอะกว่าตอนอื่นมากๆ ตอนอื่นมันก็ไม่ได้น้อยหรอก แต่พอเป็นแบบนี้ บางทีมันทำให้กูขาดความมั่นใจอะว่าคนอ่านนิยายของกูเพราะ nc หรอ หรือที่มีคนอ่านแต่ nc เพราะเนื้อเรื่องมันไม่สนุกหรือเปล่า จะว่ากูงี่เง่าก็ได้ จริงๆแค่มีคนอ่านมันก็ดีแล้วแหละ แต่กูอยากให้ nc มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งไง อยากให้นักอ่านสนในที่เนื้อเรื่องมากกว่า หรือกูเป็นบ้าไปเอง เฟลไปเองวะ ลืมบอกว่า nc กูไม่ได้มีบ่อยนะประมาณ 2 ครั้งต่อเรื่องได้ แต่ยอดวิวแม่งจะต้องนำโด่งไปจากตอนอื่นทุกที ไม่เข้าใจเลย

765 Nameless Fanboi Posted ID:lPHwWJTHd3

>>764 ไม่รู้คนอื่นเป็นไง แต่กูเป็นคนที่จะกดไปอ่าน nc ก่อน ถ้า nc อ่านแล้วกูไม่โอ ก็ไม่อ่านต่อ

766 Nameless Fanboi Posted ID:otW7T3yGFB

>>764 ถ้าอ่าน ๆ ไปยังไงก็ต้องเจอฉากนั้นใช่ไหม ซึ่งกูแม่งเรื่องมากกับเอ็นซีว่ะ โจ๋งครึ่มไปไม่ใช่แนวไง ถ้าระดับที่ใจรับได้ก็จะอ่านต่อตามปกติ

767 Nameless Fanboi Posted ID:aW/Ae3yMPg

กู >>758 นะ กูลง readawrite ว่ะ นี่แหละเศร้า้ลย

768 Nameless Fanboi Posted ID:HYSNy47K9D

>>758 คิดอะไรมาก กูจะพูดตรงๆเลยนะ แบบไม่อ้อมค้อม ไมรู้จะแทงใจดำใครไหม บางคนก็อ่านNCซ้ำ เวลา...... NC บางเรื่อง เร้าอารมณ์ได้มากกว่าหนังโป๊อีก ยอดมันก็เลยเพิ่มเป็นธรรมดา กูไม่รู้ว่ามึงเขียน NC เป็นยังไง แต่ถ้ามึงเขียนดี ก็เลิกแปลกใจได้เลย

769 Nameless Fanboi Posted ID:HYSNy47K9D

กู >>768 เองแท๊กผิด จะตอบ >>764

770 Nameless Fanboi Posted ID:uhFNTxEMqt

>>764 ไม่แปลก คนสนใจ nc มากกว่าอยู่แล้ว คนอ่านเยอะมากที่กดอ่านแต่ nc ไม่อ่านตอนปกติ

771 Nameless Fanboi Posted ID:f3S46W72oW

คือกูก็มึง NC ก่อนนะ ถ้าเข้าไปแล้วยิ่งเจอ แปะหลังตอนว่า NC คือ บางคนกูอ่านแล้วมันคลื่นอะ มันไม่ฟิน กูไม่อยากเสียเวลาเลยขอดูก่อนอันดับแรก แล้วก็ดูด้วยว่ามัน ข่มขืนหรือเต็มใจ ถ้าข่มขืนกูก็ผ่าน

772 Nameless Fanboi Posted ID:vjiY7kgFHs

เดี๋ยวนี้ยังมีสนพ.รับพิจารณาต้นฉบับนข.หน้าใหม่ไหมวะ หรือเขาจะหาเอาเองเฉพาะพวกที่ติดท็อป กับนข.หน้าเก่าเท่านั้น

773 Nameless Fanboi Posted ID:zBAJ7WlJ63

>>772 มี ถ้าแต่งดีก็ไม่น่าห่วงละ

774 Nameless Fanboi Posted ID:CQIFxMdtll

>>771 กูด้วย ถ้าแปะหลังตอนกดดูก่อน ถ้าข่มขืนก็ไม่อ่านทั้งเรื่อง ถ้าดูแบบน่ารักดีก็ไปอ่านตั้งแต่ต้นเรื่อง ถ้าดูแบบหยาบโลนก็ปิด

775 Nameless Fanboi Posted ID:Lca/2/5xX9

กูมาขอพื้นที่ระบายความท้อหน่อย กูลงงานขายอีบุ๊ค แต่ยอดโหลดน้อยอย่างกะจิ๋มมด รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันแล้วแต่รสนิยมคนอ่านล่ะนะ แต่มันก็ห้ามความท้อใจไม่ได้ว่ะ มีพล็อตเรื่องต่อไปละ แต่ไม่มีกำลังใจจะลงมือเขียนเลย กูเขียนเพราะชอบการเขียน แต่ส่วนหนึ่งก็ยอมรับว่าเขียนเพื่อขายด้วย ตอนนี้เฟลว่ะ หมดกำลังใจ

776 Nameless Fanboi Posted ID:Pi32wBjrUp

>>775 กูมาให้กำลังใจนะมึง แบบว่าของกูก็ร่อแร่ไม่ต่างกัน ไม่มียอดโหลดเลยก็มี ได้มาสักโหลดสองโหลดดีใจจะแย่แล้วว่ะ

777 Nameless Fanboi Posted ID:QdlUyqZnyO

>>775 กอดๆ

778 Nameless Fanboi Posted ID:CyTINaWqFI

>>775 กอดนะมึง อย่างน้อยมึงก็เขียนจนจบไปได้สุดทางแบ้วนะเว้ย ถึงแม้สุดท้ายผลลัพธ์จะยังไม่ถึงกับที่มึงหวังไว้ก็ตาม แต่กูตอนนี้สิเขียนนิยายอัพลงเน็ตไป ไม่มีคนคอมเม้นเลย เงียบมากจนกูหมดกำใังจสุดๆทั้งที่กูตั้งใจว่าจะแต่งให้จบแล้วทำอรบุ๊คขายเนี่ย เศร้าชิบ

779 Nameless Fanboi Posted ID:IZyNrVpyf4

>>775 กอดด้วยคนมึง ล้มลุกคลุกคลานแต่ไม่ท้อเนอะ จะผ่านไปด้วยกัน 🧡

Ky มึง นิยายกูกำลังจะออกเล่มใหม่(ออกงานสือ) แล้วเล่มเก่าคือดังประมาณหนึ่ง คนเลยคาดหวังกับเล่มใหม่เยอะ ซึ่งกูรู้ว่าทำได้ไม่ดีเท่าและมีจุดติเยอะ

กูกลัวอะมึง กูกลัวเขาคาดหวังสูง พออ่านจริงเขาเฟลละจะด่าจะติแรง ๆ กูยิ่งใจบางอยู่ด้วย กูกลัวจนแทบไม่อยากให้คนแห่ไปซื้อเยอะ ๆ ด้วยซ้ำ กูจะผ่านมันไปยังไงดีวะ

Ky ซ้อน

นักเขียน(เช่นกู)บางคนแม่งอ่อนไหวง่ายชิบหายเลย ใจบาง ๆ ที่ฟูง่ายแต่ก็เจ็บง่ายเสมอ กูเคยออกจากห้องตอนกลางดึกไปร้องไห้เพราะคนอ่านบอกว่าจะไม่อ่านต่อด้วยซ้ำ กูคิดจะเลิกเขียนด้วย บางทีกูคงอ่อนแอเกินไปว่ะ

เป็นกำลังใจให้เพื่อนโม่งทุกคน ทำดีที่สุดแล้วนะมึง ขอให้มีความสุขกับทางที่เลือกเดิน ถ้าวันหนึ่งกูเลิกเขียนนิยายก็จะพยายามไม่โทษตัวเองเหมือนกัน

780 Nameless Fanboi Posted ID:CyTINaWqFI

>>779 ฮือออ กอดมึงนะ เข้าใจเลย ใจกูก็บางประมาณมึง ขนาดมีคนถอนเฟบนิยายกู กูยังเฟลมาหๆอะ ฟีลแบบไม่มีกำละงใจแต่งต่อแล้ว

แต่ดูของมึงน่าจะหนักกว่ากู กอดนะ ถ้ากูรู้จักมึงเป็นการส่วนตัวกูจะกอดมึงแน่นๆเลย กูรู้ว่าความคาดหวัง คาฝวามกลัว การต้องแบกรับความดห็นคนอื่นมันลำบากมาก ยิ่งกับคนใจบางๆด่วยแล้ว มึงควรมีใครสักคนที่เข้าใจและอยู่ข้างๆมึงนะ (ซึ่งกูก็ยังไม่มี อยากจะร้องไห้)

781 Nameless Fanboi Posted ID:L/k4wJ6A4e

>>775 ให้กำลังใจมึง มองแง่ดีมึงเป็นนักเขียนในยุคที่ไม่ต้องพึ่งสำนักพิมพ์มึงมีอิสระและโอกาสกว่าสมัยก่อน และไม่ต้องเข้าเนื้อทำหนังสือเองไม่ต้องกลัวหนังสือขึ้นราขายไม่ได้ อีบุ๊กมันยังดีกว่ากระดาษปลวกแดกแน่ๆ ตอนนี้ไม่โหลดงานใหม่เปรี๊ยงขึ้นมาคนก็ตามมาโหลดงานเก่านะ

782 Nameless Fanboi Posted ID:CyTINaWqFI

พวกมึงง กูหมดกำลังในการเขียนมากเลย กูอัพนิยายลงแต่ผลตอบรับเงียบสัสๆ โคตรท้อเลยว่ะ แต่กูก็อยากให้นิยายตัวเองออกมาเป็นอีบุ๊คอยู่อะ โคตรแบบ อยากเดินต่อแต่ไม่มีแรงมากๆ

783 Nameless Fanboi Posted ID:U7naZNyCAM

>>782 สู้ๆมึง เป็นกำลังใจให้

784 Nameless Fanboi Posted ID:DlkEAy0rYf

เดี๋ยวนี้ตลาดแนวสืบสวนเป็นไงบ้างวะ ถ้ากูทำเป็นอีบุ๊คแล้วจะพอขายได้ไหม
พอดีกูเข้าเว็ปอีบุ๊คแล้วเจอแต่แนวรัก เห็นแล้วอยากจะร้อง

785 Nameless Fanboi Posted ID:yX/q75fU6L

>>784 กูหาอ่านอยู่ รักปนสืบสวน

786 Nameless Fanboi Posted ID:S4IqL4cJcn

กูชอบอ่านนะพวกสืบสวน มึงเขียนแล้วมาเรียกไปอ่านด้วย

787 Nameless Fanboi Posted ID:s38bc4c18L

โม่ง มีใครมีข้อมูลเกี่ยวกับอาหารจีนสมัยก่อนใหม่จะเว็บหรือหนังสือก็ได้

788 Nameless Fanboi Posted ID:RNbP+pZ00q

ถ้าสืบสวนล้วนมึงขายยากแน่ ต้องรักปนสืบสวนขายได้ ถ้าปมดีเน้นปมสืบสวน ถ้าปมอ่อนเน้นคสพ.

789 Nameless Fanboi Posted ID:y7jpymwFTA

>>787 มึงเสิรชพวกสารคดีอาหารจีน ดูสิ เยอะนะ ในเนตฟลิคก็มี bbc ก็มี
ตะก่อนกูชอบดูรายการ เชฟนิค พาไปหัดทำของพื้นถิ่น อาหารเก่าแก่อะไรงี้

790 Nameless Fanboi Posted ID:wkVrsPIE.D

>>789 โอเค แต็งมาก

791 Nameless Fanboi Posted ID:njcxkjx4XV

ปรึกษาหน่อย พวกนิทานดัง ๆ อย่าง ซินเดอร์เดร่า อะลาดิน หนูน้อยหมวกแดง มันมีลิขสิทป่าววะ
ถ้ากูเอามาทำใหม่เป็นเวอร์ชั่นของกู จะผิดไรป่าว

792 Nameless Fanboi Posted ID:8SiSLHlsz8

>>791 คนเขียนตายเกิน 50 ปีทำได้ (ถ้าจำไม่ผิดนะ)
นางซินนี่แปลงกันจะร้อยเรื่องแล้วมั้ง

793 Nameless Fanboi Posted ID:p5iZy1ulrC

>>791 ไม่ผิด

794 Nameless Fanboi Posted ID:YMEBOS9UtM

>>790 มึงๆในยูทูป มึงดูสารคดี อาหารจีนโอชารส
มันดีมาก

795 Nameless Fanboi Posted ID:eaQQtPDD9U

>>794 อะเคร ถ้ากูแต่งเสร็จแล้วมึงอย่าลืมมาอ่านนิยายกูด้วยนะ555

796 Nameless Fanboi Posted ID:gGPB9GoIlF

>>795 เอาลิงค์มาแปะกลางโม่งเลยเว้ย 55555

797 Nameless Fanboi Posted ID:otWCNGVFEQ

ถ้าเอานิสัยของคนที่เรารู้จักในชีวิตจริง (รวมถึงตัวเราด้วย) มาสร้างเป็นคาร์แรคเตอร์ในนิยายแบบนี้นี่จะผิดไหมวะ แบบเอามาแค่นิสัยนะ

พอดีกูเป็นนักเขียนหน้าใหม่แบบเพิ่งคลอดจากท้องแม่แล้วอยู่ ๆ ก็ปิ๊งพล็อตเข้ามาในหัวอะ

798 Nameless Fanboi Posted ID:owTEMLiaIx

>>797 ไม่ผิด หลายๆคนก็เริ่มจากตรงนั้น แต่ก็สร้างนิสัยตัวละครให้กลมกลืนหน่อยนะ ไม่งั้นถ้ามีคนรู้จักมึงมาอ่านอาจเชื่อมโยงได้ว่ามึงหมายถึงใคร

799 Nameless Fanboi Posted ID:rR3UbNG2oU

นอกจากแว่นแก้วกับพานแว่นฟ้าแล้ว ตอนนี้มีงานประกวดไหนที่รับงานประเภทนวนิยายอีกไหมวะ

800 Nameless Fanboi Posted ID:oMH6koWxJK

มึง ใครรู้ระบบสำนักพิมพ์ สถพ มั่งวะ กูมีนิยายที่เขียนจบ 1 เรื่อง กำลังจะส่งสนพ. กูอยากรู้ว่าที่นี่ตีพิมพ์ขั้นต่ำเท่าไร มีใครรู้เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของที่นี่บ้าง โปรดสงเคราะห์กูหน่อย เห็นเขามีดราม่ากันเยอะเหลือเกินงี้ กราบบงบ

801 Nameless Fanboi Posted ID:oMH6koWxJK

>>775 กูเหมือนมึงเลยจ้า ขายเล่มละ 299 แบบโนเนมมาก ไม่โปรโมตไม่หีไม่แตด สามเดือนละได้มา 20 โหลด (อี 15 โหลดแรกได้เพราะจัดโปรเหลือ 199) ตอนนี้กูหันมาเขียนเรื่องสั้น 18 บวก ขายเล่มละ 29 บาท ถถถ ยังขายได้จิ๋มมดเลยมึง ตอนนี้คือกูหวังกับสนพ.อย่างเดียวแล้วละ มึงลองหาแนวทางอื่น ๆ ดู เฟลได้ แต่มึงต้องรู้ว่าชีวิตมีทางเดินให้เดินอีก สู้ ๆ นะคะ

802 Nameless Fanboi Posted ID:HE4sVDlEje

ใครเป็นเหมือนกูบ้างวะ พอมีความรักแล้วเขียนนิยายรักไม่ดีเลย อ่านงานตัวเองแล้วมันไม่อิน ไม่ฟินเหมือนตอนโสดๆ เหงาๆ นี่กูเลยเทคนคุยไปหลายคนแล้วเพราะทำงานไม่ได้ดั่งใจ เศร้าว่ะ ต้องขึ้นคานแลกกับเงิน

803 Nameless Fanboi Posted ID:T9G5/FUrmy

>>802 สัจธรรมมึง แต่ถ้าได้แฟนคล้ายพระเอกพล็อตนี่อีกเรื่องเลยนะ แต่แม่งยากสัส ใครบ้างจะเจอ

804 Nameless Fanboi Posted ID:RpbAplI.6W

>>803 เพ้อเจ้อ ผู้ชายในนิยายกับความจริงคนละโลก

805 Nameless Fanboi Posted ID:m.20OmDVRb

กูเป็นนักเขียนมือใหม่ คิดพล็อตได้เยอะมาก วางโครงเรื่องได้จนจบ แต่การอธิบายออกมามันยากสำหรับกู กูจะสื่อว่าตลค.ทำแบบนี้คิดแบบนี้ แต่พอพิมพ์ออกมาแล้วภาษามันธรรมดามาก คำเชื่อมก็ซ้ำๆ ย้อนไปอ่านที่ตัวเองเขียนแล้วรู้สึกว่าดูเร็วไปหมด อยากได้แบบเนิบๆแต่ก็ไม่รู้จะใส่อะไร ควรทำไงดี

806 Nameless Fanboi Posted ID:bTJ8xAROfC

>>805 เบรกแล้วไปหาหนังสือมาอ่าน ดูวิธีบรรยาย เก็บศัพท์เข้าคลังคำ ศึกษาจังหวะเดินเรื่องแล้วเอามาปรับใช้

807 Nameless Fanboi Posted ID:78a/RwuFuC

ค่อยๆเขียน ใจเย็นๆ ลองเขียนฉากเดียวด้วยการบรรยายหลายๆแบบดู แบ้วมึงจะเจอจังหวะการเล่าเรื่องที่มึงชอบเอง

808 Nameless Fanboi Posted ID:78a/RwuFuC

เอ้อ ขอถามหน่อย มีใครที่ลงขายอีบุ๊คทั้งที่ไม่มีฐานแฟนคลับไหมวะ แบบหน้าใหม่ ยอดเม้นน้อยๆไรงี้ หรือคนที่ไม่ได้เอานิยายลงเว็บแต่แต่งจบละมาขายเลย (แบบไม่ได้มีชื่อมาก่อนอะนะ) ยอดเป็นยังไงกันมั่งวะ แบ่งปันกูหน่อย กูนี้ดข้อมูลมากๆ

809 Nameless Fanboi Posted ID:77u.ixFW16

>>808 ทำไมไม่ bump คนจะได้เห็น

810 Nameless Fanboi Posted ID:78a/RwuFuC

>>809 อ้าว โทดๆ กูลืม บั้มละๆ ขอคถณที่เตือนนะเพื่อนโม่ง

811 Nameless Fanboi Posted ID:hwa7QTw69f

>>808 เท่าที่กูเคยส่องดูยอดขายคนอื่นนะ กูยังไม่เคยเห็นนิยายเรื่องไหนที่หน้าใหม่แกะกล่องขายดีติดป้ายแดงได้เลยสักคน บางทีอาจจะมีแต่กูไม่เห็นในช่วงที่กูดูก็ได้

812 Nameless Fanboi Posted ID:hwa7QTw69f

>>811 กูหมายถึงคนที่ไม่เคยลงนิยายมาก่อนเลยนะแบบโผล่มาเลย พวกที่เคยลงแล้วมาเปิดขาย ebook เห็นคนขายดีมีป้ายการันตีเยอะอยู่ ต่อให้เป็นเรื่องแรกเลยก็ตาม

813 Nameless Fanboi Posted ID:Gbqw4YFj1g

แล้วทำไมมึงไม่ลงเว็บวะ คือยุคนี้มันก็มีแพลตฟอร์มให้มึงใช้ประโยชน์เยอะแยะในการโปรโมทก่อนลงขาย ใช้อินเตอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์ดิ ทำเพจ กดโฆษณา ถ้ามึงอยากได้ยอดจริงๆ มึงก็ต้องทำอะ จะมาเหนียมๆ เก็บตัวแล้วหวังให้คนมาเจอมันเป็นไปไม่ได้

814 Nameless Fanboi Posted ID:78a/RwuFuC

กู 808 นะ คือกูก็ลงนะ สองสมที่ได้ ยอดเฟบถือว่าโอเคอยู่(สำหรับกูนะ คือกูก็ไม่รู้ว่ามันนับว่าน้อยหรือมาก ถ้าเทียบกับจำนวนตอน กูกะไม่เป็น) แต่ยอดเม้นนี่น้อยนิด ตอนนี้ลงได้ 10 ตอน มีเฟบ 85 ยอดเม้น 44 ซึ่งกูคิดว่าคนที่มาเม้นๆนี่ก็ไม่ชัวร์ว่าถ้ากูลงอีบุ๊ค เขาจะมาซื้อไหมอะ เลยอยากรู้ว่าของคนอื่นๆเป็นไงกันมั่ง

815 Nameless Fanboi Posted ID:I.b0u+I5q5

แง โคตรเงียบเลย

816 Nameless Fanboi Posted ID:HykBJTzHii

>>814 แบบนั้นถ้าหน้าใหม่แกะกล่องก็ถือว่าพอใช้ แต่พูดถึงยอดขายจริงจังกูว่าเป็นจำนวนคนติดตามที่น้อยไปหน่อยนะ สำหรับกูคิดว่าเรื่องไหนคนติดตามไม่ถึง 3 พัน จะให้ขายดี มีป้ายการันตีเป็นเรื่องยากพอสมควร งานบางงานคนตามห้าหกพันขายไม่ค่อยดีก็มี (กูชอบส่องบ่อยว่างานใครขายดีบ้าง ช่วงไหนลงเล่มก็เอางานตัวเองเป็นตัววัดเพราะลำดับมันก็เห็นๆ กันอยู่ งานหน้าใหม่บางคนขายดีกว่ากูก็มี) เว้นแต่งานมันมีอะไรบางอย่างดึงดูดคนได้อะ คือดูปก อ่านโปรย อ่านแล้วตัวอย่างก็รู้ว่างานมันขายได้เลยแบบนั้นก็มีโอกาสอยู่ ส่วนหน้าเก่าบางคนไม่ได้อัพบ่อยๆ ลงเล่มเลยโอกาสขายดีก็มีมากกว่า เอาเฟบมาชี้วัดลำบาก

หน้าใหม่กูว่าจะให้ขายดี เฟบ 20 ตอนควรหลักพันแล้วอะ แสดงว่างานมีอะไรดีให้คนตาม แห่ตามกันมาอ่าน แต่ที่ดีที่สุดมึงเขียนจบก่อนลงตอนสักหน่อยแล้วลง ebook ไปเลย ไม่ต้องรอเฟบเยอะ ใครทนไม่ไหวเขาไปซื้อ ebook อ่านต่อเอง มึงรอคนเฟบมากถ้าเนื้อหาไปเยอะแล้วคนเฟบๆ ไว้อาจจะไม่ซื้องานมึงแล้วก็ได้ หลายคนคิดว่ามันไม่คุ้มเงินเพราะได้อ่านนิดเดียว มึงไม่ต้องลังเลในการลง ebook ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ปิดเล่มไปแล้วก็เปิดเล่มใหม่ โอกาสมันมาเรื่อยๆ เท่าที่มึงปิดเล่มแล้วเปิดใหม่นั่นแหละ บางคนปังแต่แรก บางคนปังเรื่องสองเรื่องสาม

817 Nameless Fanboi Posted ID:yGJLOiIZDi

กูขอบ่นได้ไหมว่ะ นิยายกูยอดวิวตอน1-8มันเยอะนะมึง แต่ตอนหลัง10-20กลับน้อยลงมากกว่าครึ่งเหลืออีก เหมือนคนอ่านของกูแค่เปิดมาอ่าน2-3บทแรกแล้วก็ปิด ทำเอารู้สึกว่านิยายกูแม่งยังไม่ดีพอ คนอ่านเลยไม่สนใจตามต่อ กูอยากจะปิดแล้วแก้ใหม่หมดแต่กูก็อยากลงให้ขาประจำที่ตามเม้นกูตลอด กูพยายามที่ไม่สนใจยอดวิวแล้วเเขียนตามใจรักแต่แม่งทำใจยากสัส

818 Nameless Fanboi Posted ID:cGR2tGjjY0

>>817 บทแรกๆ มันเป็นแบบนั้นแหละมึง ต่อให้นักเขียนยอด fav หลักหมื่นก็เจอแบบนี้ ขาจรมันเยอะ บางคนคลิกมาสกรีนดูเฉยๆ จัดหน้าไม่ถูกใจตัวอักษรเล็กไปแล้วปิดทิ้งทั้งที่ไม่อ่านก็มี

819 Nameless Fanboi Posted ID:yGJLOiIZDi

>>818 ขอบคุณมากมึง กูว่าจะทิ้งนิยายกูไปผ่อนคลายก่อนแล้ว กลับมาเขียนอีกรอบรู้สึกว่ากูหมกมุ่นกับมันมากไปแล้ว

820 Nameless Fanboi Posted ID:y1ynwHBwpg

>>816 ขอบคุณมากมึง เปิดมุมมองกูเยอะ กูอ่านแบ้วต้องปรับเยอะเลย ปล กู 814 นะ

>>817 มึงงง ฮืออออ กูก็เป็น โคตรเศร้า โคตรบั่นทอน

821 Nameless Fanboi Posted ID:WZMGUcb8vn

ขอตอบมุมนักอ่าน คือเป็นคนเปิดเข้าไป ถ้าก๊อปมาแล้วลงพลั่วเลย เราไม่อ่านต่อนะ แต่ถ้าน่าสนใจคือ fav ไว้ ถ้ามันเป็นเล่มถึงจะซื้อมาอ่าน

สำหรับเราที่จะทำให้ยอมอ่านหน้าเว็บ ตัวขนาด 18 ปรับเป็นสีดำ ตัวอกษรถ้าได้คลอเดียจะดี แน่จะเปนอังสนาก็ยังไหว คือมันดูสบายตาดี พวกพิมพ์ในคอมแล้วลงเลยขนาด 14 กูไม่อ่านอะ แถมปล่อยไม่เปลี่ยนสี รู้ว่าปรับขนาดได้ แต่เสียสละอีกสักนิด นักอ่านเข้ามาไม่น้องควานหาปุ่มกดจะดีกว่ไหม

อันนี้พูดถึงอ่านหน้าเว็บ

822 Nameless Fanboi Posted ID:25CCnba6q.

จังหวะการเขียนกูไปคอมเมดี้ไม่ได้เลยว่ะ ลากเข้าดราม่าตลอด เฮ้อ

823 Nameless Fanboi Posted ID:cqG86tRZUm

>>822 ยากว่ะ อาจจะต้องค่อยๆปรับมะ ลองเปลี่ยนวิธีบรรยายดู?

824 Nameless Fanboi Posted ID:KXmLp8bufz

"ภาษาดี" ในความคิดของพวกมึงเป็นไงวะ
ช่วยแนะนำ นิยายภาษาดีให้หน่อย ถ้าไม่มีในเว็ปเอาเป็นเล่มก็ได้
เอาที่ซื้ออ่านง่าย ๆ นะ

825 Nameless Fanboi Posted ID:y+5e.gaC3R

>>824 กวิน ใช้คำไม่หรู สำหรับดูนะ รู้สึกว่าเขาใช้คำง่ายๆ บรรยาย กูอยากทำได้อย่างเขา

826 Nameless Fanboi Posted ID:Z7qhJcxVA6

>>824 ภาษาดี อันดับแรกคือ อ่านแล้วลื่นไหล รื่นรมย์ ใช้คำได้ถูกบริบท ไม่รวบรัดเกิน ไม่เยิ่นเย้อเกิน

ถ้าจะแนะนำนิยายภาษาดี ก็คงต้องเป็นของนักเขียนรุ่นใหญ่ ถ้าให้แนะนำนะ
ปิยะพร ศักดิ์เกษม...คนนี้ภาษาสละสลวย
กฤษณา อโศกสิน.....คนนี้ภาษามีเอกลักษณ์ มากอ่ะ คืออ่านแล้วดี แต่โทนเรื่องเค้าจะหนัก
โบตั๋น......คนนี้คือใช้ภาษาโครตธรรมดาเลย ไม่ใช่ภาษาแบบสละสลวยอะไร แต่วิธีเล่าเรื่องมันได้....สามารถทำให้ตัวละครดูหยาบคาย โดยไม่ต้องใช้คำหยาบ.. แต่ก็นะเรื่องเค้าหนักกว่าป้ากฤษณา อีก

827 Nameless Fanboi Posted ID:+QNYwct.yD

>>826 เคยอ่านเรื่องโบ๊เบ๊ของโบตั๋นมั้ย อยากรู้ว่าพระเอกสุดท้ายแล้วรักเมียตัวเองรึเปล่า

828 Nameless Fanboi Posted ID:ve5Yo4+cfX

>>827 โบตั๋น ไม่ได้แต่งเรื่อง โบ๊เบ๊ ค่ะ (อันนี้เป็นงานของ วราภา...ซึ่งเราไม่ได้อ่าน )

829 Nameless Fanboi Posted ID:+QNYwct.yD

>>828 อ๋าา โบตั๋นเป็นคนเขียนยทละคร มิน่าล่ะค้นแล้วไม่เจอ แหะๆ

830 Nameless Fanboi Posted ID:v5hN7HK6K/

>>824 แนะนำงานของ ว.วินิจฉัยกุล/แก้วเก้า คนนี้เขียนใช้ภาษาง่าย แต่เขียนออกมาได้สวยมากว่ะ คือเขาจะใช้คำได้ตรงกับอารมณ์ของเรื่องตอนนั้นๆ มาก แล้วก็อ่านได้ลื่นไหลดี ไม่จำเป็นต้องใช้คำยากๆ หรูๆ แต่ก็ทำให้ภาษาดีได้นะ

831 Nameless Fanboi Posted ID:v5hN7HK6K/

>>826 ชอบอ่านของกฤษณา อโศกสินเหมือนกันว่ะ เขาเป็นคนที่เขียนเรื่องรักๆ ได้ออกมาดีมาก ทำให้อ่านไปได้แบบไม่เบื่อ

832 Nameless Fanboi Posted ID:qp.0MnT6Tp

>>831 เรื่องรัก????

833 Nameless Fanboi Posted ID:gaCe.IRzED

>>831 กฤษณานี่รักหรอ ออกแนว slice of life นะเราว่า ชอบงานโบตั๋น โทนเรื่องคือบ้านมาก บ้านแบบชีวิตชนชั้นกลางเลยอะ อ่านแล้วมันชวนเอาใจช่วย จะผูกพันธ์กับตัวละครของโบตั๋นมากเพราะรู้สึกเหมือนเพื่อน ของปิยะพรเราชอบถึงขั้นรักเลยคือเรื่องใต้ร่มไม้เลื้อย อันนี้อ่านซ้ำกี่ทีร้องไห้ทุกครั้ง ทมยันตีนี่เราไม่อินกับแนวคิดเค้านะ แต่ยอมรับว่าเค้าเขียนได้เนียนและกล่อมได้อยู่ เรื่องค่าของคนเนี่ยตอนเด็กๆชอบมาก พระเอกเฮี้ยวน่ารัก อ่าานตอนนี้หรอ มึงไปตายซะไอ้เหี้ยยยยย 555555

834 Nameless Fanboi Posted ID:lbZBYQj/2w

>>833 เรื่องรัก นี่กูหมายถึงว่า เรื่องราวความรักของตัวละครในเรื่องน่ะ คือเขาเขียนนิยายชีวิต หนักบ้าง เบาบ้าง แต่วิธีการนำเสนอเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์ตัวละครในเรื่องทำได้ดี ทำให้ไม่เบื่อ

835 Nameless Fanboi Posted ID:VAbB10whcN

>>827 รักนะ คุณหนูดอกแก้ว มันคือรักครั้งแรกอะ ออกแนว puppy love จำได้ไม่ลืมก็จริง แต่กับนุช (แม่ของลูก) มันคือการอยู่กับปัจจุบันอะ มันคือความจริง

836 Nameless Fanboi Posted ID:VAbB10whcN

ภาษาสวย สำหรับเรา คือปิยะพร ศักดิ์เกษม

837 Nameless Fanboi Posted ID:Rj6K.z1QMV

ขอถามหน่อย เพื่อนโม่งมีใครใช้แท็บเลตเขียนนิยายมั่ง ปกติกูใช้โน้ตบุ๊ก แต่เจ๊งแล้วต้องซื้อใหม่ ช่วงนี้ไม่มีตังแล้วไม่อยากยืมคอมคนในบ้านด้วย เลยจะสอยแท็บเลตมาแก้ขัดก่อน กะเอารุ่นราคาเบาๆสีกสามพันอะ ถ้าพ่วงคีย์บอร์ดหรือไม่พ่วงเลยพอใช้พิมพ์สะดวกปะ มันจะมีแัญหาตอนอัปลงเว็บมั้ย

838 Nameless Fanboi Posted ID:V0Gv.r86ic

>>837 มึงแต่งลงแอปไหน ถ้า ธวล แนะนำ ios ถ้าdd แนะนำแอนดรอย เพราะมันสามารถลงผ่านแอปได้เลยมันสะดวก

839 Nameless Fanboi Posted ID:43bHuQleFk

>>838 ลงddกับraw

840 Nameless Fanboi Posted ID:p4MTuSAHwn

>>838 ลงเว็บโดยตรงไม่ได้เหรอ

841 Nameless Fanboi Posted ID:XkfnsLVSWF

>>840 ได้

842 Nameless Fanboi Posted ID:SLyx43A5jT

>>841 เค ขอบใจมากสหายโม่ง

843 Nameless Fanboi Posted ID:3MdG71MT6i

ห้องเซินเจิ้น กับ ตู้นิยาย ชอบหาว่านข.แปลงร่างมาอวยตัวเอง พวกมึงเคยแอบทำปะ

844 Nameless Fanboi Posted ID:YGayVChA02

กูไม่เคยทำอะ ให้อวยนิยายตัวเองให้คนอื่นฟังไม่เขินเหรอ 55

845 Nameless Fanboi Posted ID:s2ff5b6+PI

>>843 ไม่เคยอะ อวตารมาอวยนิยายตัวเองนี่ชีวิตต้องอ้างว้างเบอร์ไหนวะนั่น

846 Nameless Fanboi Posted ID:/h7LBGSK41

>>844 มึงอย่าไปใส่ใจคนพวกนี้ บางทีก็คิดในแง่ร้ายเกินไป กูเนี่ยกลายเป็นนักเขียนมา 2 คนละ แค่เพียงเพราะกูแนะนิยายที่กูชอบ เดี๋ยวนี้กูไม่แนะนำ ไม่ชม ไม่ด่าอะไรละ เดี๋ยวนักเขียนซวยเพราะกูๆจะรู้สึกผิดอีก

847 Nameless Fanboi Posted ID:ETNYsIduhQ

>>843 คนอื่นกูไม่รู้ แต่สำหรับตัวกูถ้ากูแต่งนิยายสักเรื่องสิ่งที่กูไม่อยากเห็นมากที่สุดคือชื่อนิยายกูอยู่ที่โม่งไม่ว่าหัวข้อที่พูดถึงนิยายกูจะดีหรือไม่ดีก็ตาม เพราะงั้นจะให้แปลงมาอวยตัวเองหรอ ถถถถถถ อย่าหวังเลย

848 Nameless Fanboi Posted ID:1K/ic/SRTj

>>843 กูเคยนั่งมองคนอื่นโดนด่าว่าเป็นกูด้วยนะ หาว่าโปรโมตนิยาย โดน 2-3 ครั้งแหนะ กูนี่แบบเฟลชิบหาย คือกูไม่ได้ทำอะ แล้วจะไปออกตัวว่าอิคนที่โดนด่าไม่ใช่กู กูตัวจริงอยู่นี่ต่างหาก ก็ไม่ใช่อะ เดี๋ยวจะพลอยโดนด่าว่าเข้ามาโปรโมตนิยายก่อนหน้านี้ใช่มั้ยอีก บอกไว้ตรงนี้เลยนะ กูคิดเหมือน >>847 คือไม่อยากให้นิยายตัวเองมีชื่อในนี้ด้วยซ้ำ คนติ 10 คนชม 5 งี้ ละคนติอะดีๆ ติเพื่อก่ออะ มันมีนะ อันนี้กูไม่ว่าหรอก แต่บางคนมันชอบติแบบแซะบ้างล่ะ ติมั่วบ้างล่ะ บางทีอิตัวคนตินั้นแหละเป็นคนที่ไม่ได้รู้ข้อมูลเอง พอมีคนมาบอกก็แค่ อ้อ กูเพิ่งรู้นะเนี่ยความรู้ใหม่ เออแล้วที่ด่ากูไปก่อนหน้านั้นล่ะว่ะ อิคนที่เข้ามาเห็นแต่ข้อความมึงแล้วไม่เห็นข้อความที่มีคนมาอธิบายล่ะ อย่าลืมดิ่คนเล่นโม่งบางคนแม่งไม่ได้เล่นทุกวัน บางคนก็ไม่ได้ย้อนอ่าน คนซวยมันคือกูอะ แล้วพอคนชมบ้างเสือกโดนหาว่าเป็นกูมาโปรโมตนิยายอีก กูนี่ก็แบบเชี่ยไรวะเนี่ย

849 Nameless Fanboi Posted ID:cTLs+AFFbv

นี่ละกูถึงคุยกับห้องนั้นอย่างไม่เคยมีความสุข ระแวงงงสูงว่าจะโดน ตอนนี้คนที่ชอบหาว่า นข เข้ามาโปรโมทคงเข้าใจอะไรมากขึ้น

850 Nameless Fanboi Posted ID:fmfGGYHqps

นข.ใจบางไม่ควรเข้าห้องนั้นนะ แบบถ้าเจอคนติแรงๆนี่มีน้ำตาคลอแน่ๆกูว่า

851 Nameless Fanboi Posted ID:tl0alSy0Db

>>850 กูว่าไอ่เรื่องติไม่เท่าไหร่ว่ะมึง อาจจะมีเฟลบ้าง แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ต้องยอมรับแหละมึง แต่อันไหนที่มันเกินเบอร์ ติเอามันส์ก็ปล่อยผ่านบ้างก็ได้ อันนี้เป็นสิ่งที่กูอยากบอกนักเขียนใจบางที่หลงเข้ามาในโม่งทุกคนเลย วิเคราะห์เอาอันไหนเขาไม่ได้หวังดีก็ไม่ต้องไปใส่ใจ

แต่กูเกลียดสุด เรื่องที่แม่งชอบหาว่านักเขียนคนนั้นคนนี้มาโปรโมตนิยาย มึงคิดดูถ้าคนที่มันโดนกล่าวหาว่าเป็นนักเขียน มันทำพฤติกรรมเหี้ยๆ นักเขียนที่โดนปรักปรำก็ซวยอีก มันเสียหายอะมึง ตัวอย่างจากเรปบนๆก็แสดงให้เห็นว่ามันมีคนเดือดร้อน จากพฤติกรรมของพวกที่สักแต่พูดอย่างไร้ความรับผิดชอบพวกนี้จริงๆ

852 Nameless Fanboi Posted ID:KwJG1qf3rF

>>847 จริงงง กูนี่ขอเลยว่าอย่าโผล่ บางทีเกริ่นชื่อมาเรื่องนึง โดนโม่งสาวประวัติยาวเหยียดไปถึงเรื่องก่อนๆ ยันเรื่องส่วนตัว มันไม่เคยจบที่นิยายเรื่องเดียวเลย รอดออกไปแบบศพสวยมีน้อยมาก เหมือนคนในนี้จ้องแต่จะด่าอยู่แล้ว กูขออยู่เงียบๆ จ่ายเงินยิงโฆษณาให้นักอ่านกูดีกว่ามาแปะให้ใครไม่รู้ในโม่งเห็น

853 Nameless Fanboi Posted ID:wNTQRjOtgQ

ในนี้แม่งแหล่งรวมอคติ วิธีแก้เผ็ดคือถามแม่งกลับรัว ๆ บทนี้เป็นไงหรอ ตัวละครนี้เป็นไงบ้าง บทนำควรปรับยังไง

พวกนี้แม่งอ่านผ่าน ๆ เท่านั่นแหละ พอเจอซักแบบละเอียด หายเงียบทุกราย

854 Nameless Fanboi Posted ID:8eThGui6Fr

กูเป็นคนอ่านที่ติเพื่อก่อตลอด แบบกูอ่านมาเยอะ กูเกลียดพวกติไม่สนสี่สนแปด ติไม่มีเหตุผล มาด่าทิ้งระเบิดโครมแล้วจบ นักเขียนกับแฟนคลับที่เค้าชอบมาอธิบายก็ไม่ฟัง กูไม่ให้ราคาพวกนั้น พวกมึงที่เป็นนักเขียนก็อย่าไปให้ราคา คนอ่านซื้อเรื่องของมึงถ้าเค้าจะซื้อ คนไม่ซื้อแม่งก็ไม่ซื้อ บางเรื่องกูรู้เลยว่าติเพราะอคติ ติเพราะเวลมึงอ่านไม่ถึงเอง อ่านไม่รู้เรื่อง

855 Nameless Fanboi Posted ID:e+nU3MeSFN

>>853 ใครมันจะไปตอบละเอียดๆ ให้วะ คนปกติก็อ่านกันผ่านๆ ว่ากันตามที่อ่านนั่นแหละ มึงจะเอาละเอียดเป็นการเป็นงานก็ให้บรรณาธิการมาตรวจดีกว่านะในโม่งคงไม่มีใครเสียเวลามาตอบให้มึงละเอียดขนาดนั้นหรอก

เรื่องนิยายนี่ในโม่งมันก็คนอ่านคนเขียนปกติ มีคนชอบมีคนไม่ชอบ ยิ่งเรื่องไหนคนอ่านเยอะความเห็นต่างมันก็เยอะตาม พวกอคติชอบดราม่าก็มาก มึงจะขอนิยายแนะนำนิยายกูว่าไปเข้ากลุ่มในเฟสดีกว่าถ้าเป็นนิยายไทย

856 Nameless Fanboi Posted ID:9i86rVjwoi

>>853 โดนสับละเอียดตายสถานเดียว คิดยังไงของมึง

857 Nameless Fanboi Posted ID:410E2Zmabv

>>856 ละเอียดก็ยิ่งดีน่ะสิ เขาอุส่ามาพูดถึงนิยายเรานะเว้ย ก็ต้องพิมตอบเขาหน่อย

858 Nameless Fanboi Posted ID:410E2Zmabv

นักเขียนที่ทำมือเขาจ้างพิสูจน์อักษรกันปะวะ
หรือเขียนเอง ตรวจเอง พิมเอง

859 Nameless Fanboi Posted ID:GnSsyUlpqB

>>858 แล้วแต่งบ

860 Nameless Fanboi Posted ID:M/xrJy7l7C

>>859 จ้างพิสูจน์เล่มนึงนี่ประมาณเท่าไหร่อะ กูอยากพิมหนังสือเอง แต่กลัวเรื่องคำผิด

861 Nameless Fanboi Posted ID:hitmlkvXEx

>>860 #รับพิสูจน์อักษร ไปลองหาในนี้ดู

862 Nameless Fanboi Posted ID:qpOEG4KN4p

กูว่าความเห็น >>853 มันไม่ได้อยากรู้ มันแค่อยากให้คนวิจารณ์หุบมือหุบปาก การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นมันไม่น่าใช้คำว่าแก้เผ็ดหรอกว่ะ

>>858 >>860 ปกติกูจ้างเล่มละประมาณ 5-15k กูไม่ลงเลขละเอียดนะเดี๋ยวคนพิสูจน์อักษรกูจับได้ว่ากูมาเล่นโม่ง 555

863 Nameless Fanboi Posted ID:Flf8g7uDhy

>>862 ปกติคนพิสูจน์อักษรต้องจบมาทำงานแล้ว หรือแค่เป็นนักศึกษาอยู่ก็มีคนรับงานได้ ไม่ใช่อะไร เอาไปเป็นข้อมูลแต่งนิยาย

864 Nameless Fanboi Posted ID:OBA4jA9XeE

>>860 เขาคิดเป็นหน้า ยิ่งหนายิ่งแพง

865 Nameless Fanboi Posted ID:VDqguWeZYb

>>861 >>862 >>864 ขอบคุณทุกท่าน

866 Nameless Fanboi Posted ID:qpOEG4KN4p

>>863 ได้หมดถ้ามีความสามารถ แต่พิสูจน์อักษรนี่มันไม่ใช่สักแต่ว่าตรวจคำผิดอะ มันมีหลักการใช้ภาษาไทยที่ต้องเข้าใจหลักการจริงๆ ด้วย เหมือนคนเรียนอักษรเขาไม่ได้เรียนมาตรวจคำผิด เขาเรียนพวกทฤษฎีของภาษาด้วยซึ่งคนปกติก็จะใช้ผิดอยู่บ่อยๆ

ปัญหาหลักๆ คือการทำงานร่วมกัน บางทีนักเขียนไม่โอเคอยากใช้คำผิดที่คนทั่วไปเข้าใจว่าถูก ซึ่งมันขัดกับสิ่งที่พิสูจน์อักษรเรียนมา เข้าใจก็เข้าใจ ไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจ พิสูจน์บางคนแม่งก็ไปเปลี่ยนสำนวนคนอื่นเขา การทำงานมันเลยสำคัญที่ตัวบุคคลระดับหนึ่ง ไม่ใช่ใครก็มาเป็นพิสูจน์ได้ หรือเรียนอักษรมาแล้วจะเป็นพิสูจน์อักษรได้เลยเหมือนงานแปลบางคนแปลทื่อบางคนสละสลวยก็แปลเหมือนกันแต่มันก็ไม่ได้เหมือนกัน การทำงานถ้าทำงานร่วมกันไม่ได้มันก็ไม่ได้อะ ถ้าแค่ตรวจคำผิดมันไม่ต้องเรียนมาก็ได้

ส่วนราคามันก็หลายแบบ เอาพวกรับอิสระนะแบบประจำสำนักพิมพ์ที่ไม่ใช่คนนอกเขารับเงินเดือนของเขาอยู่แล้ว พวกรับอิสระมีแบบคิดเหมาเป็นเล่ม คิดเป็นหน้า (ปกติก็ a4 ขนาดอักษรเท่าไหร่ก็ว่าไป) คิดเป็นจำนวนคำ คิดเป็นอักษร แล้วแต่คนจะคิด มันไม่ตายตัว พอมึงเริ่มทำมาหลายเล่มก็อาจจะเจอราคาเหมาให้แบบคุยง่ายๆ คิดง่ายๆ แต่แม่งต้องเกรงใจกัน ไม่ใช่เล่มแรก 150 หน้า ราคานี้ เล่มต่อมา 300 หน้าจะเอาราคาเดิมมันก็ไม่ใช่ บางทีเกินมานิดหน่อยเขาไม่คิดมาก ขาดไปนิดหน่อยไปขอต่อพิสูจน์อักษรแม่งก็อาจลาขาดเหมือนกัน อยู่ที่ดีลแล้วพอใจกันไหม พวกใหม่ๆ ก็จะหาที่ถูกๆ ก่อน พวกจ้างบ่อยก็เริ่มคิดแล้ว คนนี้ทำงานโอเคไหม คนนี้ทำงานเร็วไหม คนนี้ชอบดองงานไหม ราคาแม่งจะเริ่มเป็นปัจจัยรองคุณภาพงานจะเริ่มเป็นปัจจัยหลัก

867 Nameless Fanboi Posted ID:4b5nmbz+yh

>>866 thx เข้าใจขึ้นเยอะเลย

868 Nameless Fanboi Posted ID:yuRtBPEkmD

กูขอถามเกี่ยวกับ สนพ. หนึ่งหน่อยได้ไหมอ่ะ ไม่รู้จะไปถามที่มู้ไหนดี Orz

คือ สนพ.สถาwร เนี้ย ชอบเทนักเขียนหรอวะ แบบ ไม่มีการติดตามงานนักเขียนให้เขียนต่อ บางเรื่องพอทำรูปเล่มออกมาไม่ดี ออกไม่กี่เล่มก็เทเขาเฉย ทั้งๆ ที่นักเขียนเขายังเขียนต่ออยู่ ส่วนนักเขียนบางคนที่ไปเปิดเรื่องใหม่ เพราะเรื่องเก่าตัน สนพ. ไม่มีการกำหนดเดดไลน์ หรือวิธีกระตุ้นนักเขียนอะไรเลยหรอ ปล่อยให้หายไปเฉยๆ สุดท้ายก็ตัดทิ้ง ลบหนังสือของนักเขียนคนนั้นออกจากเว็บ ไม่ประกาศไรต่อสักอย่าง

กูเฟลมาก กูอยากอ่านต่อ

869 Nameless Fanboi Posted ID:3zLaEcZEyU

>>868 เขาทุนนิยมอะมึง

870 Nameless Fanboi Posted ID:6OKZtpbRNO

>>868 ไม่เห็นเทนักเขียน un เลย

871 Nameless Fanboi Posted ID:vr4BDbSXX4

เดี๋ยวนี้เราตามนักเขียน ไม่ได้ตาม สนพ.แล้ว ถ้าเจอที่ชอบ ถ้าสนพ.ไม่ตีพิมพ์ให้ เราก็พร้อมเปย์งานทำมือ หรือออกกับที่อื่น เราก็ตามไปซื้อ หรือจะออกแค่อีบุ๊คก็ตามไปสุดหล้า อยากให้ นข มีกำลังใจทำต่อ เพราะบางครั้งถึงจะปวดใจแทนนักเขียน แต่ก็เรื่องจริงของนักเขียนที่เราชอบเขาเขียนงานใสๆ แล้วไม่ดัง จากนั้นก็หายไปกับสายลม 😭

872 Nameless Fanboi Posted ID:zy1W./pNJO

บางทีคนเขียนก็ตันไปต่อไม่ได้ นักเขียนไม่ใช่พนักงานตามได้แต่เขาไม่ทำหรือทำออกมาไม่ได้มันก็ไม่มีต้นฉบับให้ทำเล่ม บางทีทำออกมาแล้วขาดทุนสะสมหนักเกินก็ต้องตัดจบ งานนิยายสมัยนี้ความสัมพันธ์คนเขียนคนทำมันไม่ได้ผูกพันอะไรกันขนาดนั้น อยู่กันด้วยผลประโยชน์จากกันด้วยผลประโยชน์ คือทุกคนก็ต้องเอาตัวเองให้รอดกันก่อน บางทีนักเขียนเขาเขียนออกมาได้แต่โดนลดยอดพิมพ์เขาก็ไม่อยากเขียน ได้ตังค์น้อยไปเขียนเรื่องอื่นดีกว่าไหม ระบบสำนักพิมพ์แต่ก่อนนี่คือต้องรอหนังสือวางร้านสักระยะคนเขียนค่อยได้รับเงิน แล้วหนังสือกว่าจะทำลงร้านได้เสียเวลากันไปอีกหลายเดือน บางคนเขารอไม่ได้ บางคนเขาก็ไม่ไหว หลายเดือนไม่มีเงินมาหมุนจะอยู่กันยังไง เล่มหนึ่งกว่าจะเขียนออกมาได้ใช้เวลาไปเท่าไหร่แล้ว ส่วนสำนักพิมพ์ถ้าจ่ายเงินให้มากตัวเองขาดทุนจะทำไปทำไม ทำออกมาแล้วขาดทุนหนักจะทำยังไงต่อ อันนี้พูดรวมๆ หลายที่นะไม่เจาะจง เหตุผลเรื่องไม่เขียนต่อมันเยอะ แต่หลักๆ ก็เรื่องผลประโยชน์ ไม่ของนักเขียนก็ของสำนักพิมพ์

873 Nameless Fanboi Posted ID:2ow8JQSwyC

สอบถามหน่อย เรามีวิธีเช็กไหมว่า สนพ. เอานิยายเราไปตีพิมพ์ครั้งต่อไป แค่สงสัยน่ะ สมมติตีพิมพ์1000เล่ม ละขายหมดพันเล่ม ก็ต้องพิมพ์ครั้งที่2 ใช่มะ แล้วเราจะรู้ได้ไงว่า สนพ. มันพิมพ์ ไฟล์เลยไรก็อยู่กะทางนั้นหมด คือไม่มีประสบการณ์เลย

ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้านะ

874 Nameless Fanboi Posted ID:BBPR042n9j

>>873 เช็กว่าพิมพ์เท่าไหร่ เช็กไม่ได้ อาศัยความไว้ใจอย่างเดียว
สนพ ใหญ่ๆ เวลาพิมพ์เพิ่มเขาจะบอก นข นะ

875 Nameless Fanboi Posted ID:zva.ia9sux

>>874 เรา>>873 นะ ขอบคุณมาก

876 Nameless Fanboi Posted ID:KoJMug55hV

พวกมึงคิดว่าต้องเขียนขนาดไหนถึงจะเรียกตัวเองว่า "นักเขียน" ได้วะ
หรือแค่เริ่มเขียนบันทัดแรก ก็เป็นนักเขียนได้เลย

877 Nameless Fanboi Posted ID:Z3ysbESzDS

>>876 พูดในฐานะคนอ่านนะ (โยนความนข.ออกไป๊) ถ้าได้ไปอ่านนิยายที่มีคนแต่งให้อ่าน จะกี่บรรทัดก็เหอะ กูก็เรียกเขาว่านักเขียนแล้วอะ

878 Nameless Fanboi Posted ID:5UtCAjTLn.

>>877 +1

879 Nameless Fanboi Posted ID:kcrDnvU1pM

>>873 เขาจะเมล์มาแจ้งนักเขียนเองทว่าได้ตีพิมพ์ครั้งที่ xx ต่อไป

880 Nameless Fanboi Posted ID:ooY6G2sm9p

ความคาดหวังของคนช่างน่ากลัว ของกูอะเหรอ เปล่าเลย ของนักอ่านต่างหาก

881 Nameless Fanboi Posted ID:.KDS/LdLJY

ปกติเขียนตอนละกี่คำกันเหรอ กูล่อไป 4-5 พันคำเลยอ่า แต่เวลาอัพก็แบ่งอยู่นะ

882 Nameless Fanboi Posted ID:PiS7X7dfiJ

>>879 ขอบใจมาก
>>881 เมื่อก่อนกู 7-9 พันคำ เดี๋ยวนี้ปรับแล้ว พยายามไม่ให้เกิน 4000 คำ เพราะอยากควบคุมไม่ให้เนื้อเรื่องยาวเกินไป

883 Nameless Fanboi Posted ID:ow3Xj8Rw/i

>>881 ของกูเป็นหมื่นคำอะ...ชอบเขียนใส่น้ำ นิสัยเสียกูเลย แก้ยากมาก

884 Nameless Fanboi Posted ID:3hdqU2nZTd

>>881 ของกูตอนหนึ่งก็เกือบหมื่น พยายามลดแล้วแต่กูรู้สึกว่าเนื้อหามันไม่ต่อเนื่องกัน กูเลยอัพประมาณนี้ตลอด

885 Nameless Fanboi Posted ID:OV3SbZZWCi

>>881 ของกูไม่นับอะ กูไม่ชอบกะเกณฑ์ว่ะ กูรู้สึกว่า เวลาไปกำหนดมากๆ แล้วมันจะลดความสมบูรณ์ของจินตนาการ เวลาเขียนก็จะกดดันด้วยว่ามันจะเกินมั้ย ในหัวกูยังเขียนไม่หมดเลยทำไง ตัดตอนไปไว้อีกตอนหรอ แต่เนื้อหามันต่อเนื่องกันยุนะ บลาๆๆๆ อันนี้คือส่วนตัวกูนะ ส่วนคนอื่นมันก็แล้วแต่สไตล์การเขียนของแต่ละคนด้วย แต่ใส่หมดก็ไม่ใช่ว่ายัดเยียดลงไปให้เยอะไว้ก่อน ของกูถ้าตอนไหนแม่งได้ 10000 ก็ตามนั้น ตอนไหนได้ 2000 ก็ตามนั้น ไม่ตัดและไม่ยัดเยียดเนื้อหาเพิ่ม

886 Nameless Fanboi Posted ID:a7ANId8xeT

>>881 มากสุด 3500 น้อยสุด 1200 เฉลี่ยตอนละ 2000 คำ

887 Nameless Fanboi Posted ID:3EHOIMCOyg

มีปัญหาคำนับญาติว่ะ ช่วยที เด็กจะเรียกเมียของลุงว่าอะไรวะ แต่เมียลุงอายุน้อยกว่าแม่มันนะ อธิบายงง เอาแผนภาพไปดีกว่า
https://uppicimg.com/v/2gH4Qf6k

888 Nameless Fanboi Posted ID:3EHOIMCOyg

>>887 เว็บกาก เอาใหม่ https://m.imgur.com/a/SrwLnEB

889 Nameless Fanboi Posted ID:yD5LRcEXer

>>888 เรียกป้า ตามลุง

890 Nameless Fanboi Posted ID:yD5LRcEXer

>>889 ต้องนับญาติจากทางลุงอะ

891 Nameless Fanboi Posted ID:g/rI8dgoo/

>>887 เมียลุง ก็คือป้าสะใภ้ ก็เรียกป้าดิ

892 Nameless Fanboi Posted ID:yD5LRcEXer

เเล้วเมียลุง ไม่ใช่พี่น้องกะแม่มันใช่ปะละ

893 Nameless Fanboi Posted ID:3EHOIMCOyg

>>892 ไม่ใช่ มาจากทางอื่น //ขอบคุณทุกความเห็นจ้า

894 Nameless Fanboi Posted ID:+pkKgkp.6c

Ky พวกมึงเคยเจอนักอ่านเม้นด่าให้เปลี่ยนcharacter ตัวละครกันบ้างมั้ยวะ ทำนองว่านางเอกงี่เง่าปัญญาอ่อน รบกวนปรับปรุงนิสัยนางใหม่ด้วยนะคะ กูแบบเหวอมาก ไม่เคยเจอ จู่ๆ ก็โดนด่า แล้วเหมือนเขาอ่านตอนนั้นไม่ละเอียด กูใส่เหตุผลอธิบายไว้เรียบร้อยแล้ว พอด่าเสร็จก็หายเข้ากลีบเมฆ เหมือนเห็นนิยายกูเป็นถังขยะมาระบายอารมณ์ใส่อ่ะ เฟลมาก

895 Nameless Fanboi Posted ID:9qI./yo97O

>>894 เจอบ่อยมาก แต่มึงต้องเข้าใจว่าทุกคนไม่ได้ชอบเหมือนกัน นางเอกมึงอาจจะน่ารักสำหรับคนกลุ่มหนึ่งแต่อาจน่าหมั่นไส้ในสายตาคนอีกกลุ่มก็ได้ เป็นนักเขียนก็เหมือนดารา ต้องทำใจว่ะ แต่เดี๋ยวนี้นักอ่านคอมเม้นฮาร์ดคอร์ขึ้นเยอะจริงๆ ถ้าจะลงไปโต้ตอบก็ไม่รุ้มหรอก ชื่อเสียงสร้างยากแต่ทำลายง่ายนิดเดียว ถ้ามึงไม่ชอบก็เมินไป ใส่ใจกับนักอ่านที่คอยติดตามมึงดีกว่า

896 Nameless Fanboi Posted ID:g/rI8dgoo/

>>892 เออ เนาะ ... ถ้าลุงได้กับน้องแม่ จะเรียกไงดี??
เรียกน้าป่ะ นับญาติผ่านแม่ดูใกล้ชิดกว่า

897 Nameless Fanboi Posted ID:FAsmO3IJga

>>896 ถ้าอย่างนั้น ลุงพี่พอ น้าน้องแม่ ตามนี้ละมั้ง ไม่เคยเจอสลับคู่ในชีวิตจริง5555

898 Nameless Fanboi Posted ID:g/rI8dgoo/

>>894 ก็มีบ้างนะมึง แย่กว่านั้นก็มี ด่าเหมาทั้งเรื่องเลยงี้
บางอย่างที่เป็นประโยชน์ก็รับไว้ บ้างอย่างที่อ่านแล้วรู้สึกว่าเค้าเอาอารมณ์หรืออคติ ความชอบ ไม่ชอบส่วนตัวมาติ มาตัดสิน บางทีกูก็ปล่อยผ่านวะ

899 Nameless Fanboi Posted ID:R5A67OTYA7

มึง พวกมึงชอบอ่านนิยายแบบไหนกัน มีบทบรรยายเยอะ ๆ มีบทสนทนาน้อยกว่า แต่เป็นบทสนทนาที่มีแต่เนื้อ ไม่มีการให้ตัวละครคุยสัพเพเหระ กับการบรรยายน้อย แต่ตัวละครสื่อสารกันเยอะ คุยกันเยอะ ๆ ขอถามหน่อย

900 Nameless Fanboi Posted ID:bab20Fvl0M

>>899 ถามที่ตู้นิยายไทยด้วยสิ

901 Nameless Fanboi Posted ID:Tiz5EVbRm9

ชอบแบบพอดีๆ สนทนากับบรรยายทำได้พอดีลงตัว สนทนาแล้วมีบรรยายเสริมบรรยากาศบ้างไรงี้
กูได้ยินมาว่าเด็กสมัยนี้ติดจอยจนอ่านนิยายบรรยายไม่ได้แล้ว ตกใจนิดนึงเพราะกูสายนิยายเน้นโวหารบรรยาย ไอ้พวกที่มีแต่บทพูดล้วนกูไม่ชอบอ่ะนะ

902 Nameless Fanboi Posted ID:5pFvm7YZVu

พวกมึงคือกูถามหน่อยสิ กูเจอนิยายเรื่องนึงในดด. ของนขคนหนึ่ง ออกแนววัยรุ่นๆ หน่อย ตอนแรกกูเข้าไปดูเพราะกูเห็นยอดเมนต์เขามากกว่ายอดเฟบ กูเลยแปลกใจ เพราะไม่ค่อยเจออะไรแบบนี้ แต่พอกูลองอ่านเมนต์ มึงเอ๊ยคนละสองร้อยเม้นท์อะ คือเม้นติดๆ กันถี่ๆ กูงงมาก แบบนี้ก็ได้เหรอ เหมือนนขเขาขอร้อยเม้นท์ คนเม้นเลยเม้นท์ให้ไปสองร้อยข้อความเดิมเป๊ะ ด้วย กูไม่ค่อยชอบพฤติกรรมแบบนี้เท่าไหร่ว่ะ เวลากูเขียนกูก็รอฟีดแบล็กกลับมา มาถามมู้นี้ว่าพวกมึงเคยเจออะไรแบบนี้ป่าว แล้วทำแบบนี้มันได้อะรายยยยย

903 Nameless Fanboi Posted ID:61XvjU2WA4

>>902 มีบ่อยไป เม้นท์ถึงเท่านี้เท่านั้นจะมาอัพ หรือแบบขอกำลังใจหน่อยค่ะ อันนี้ขอแบบเลี่ยงๆ แต่ก่อนเคยหลงไปอ่านของ นข วัยรุ่น ของแจ่ม คุณ Hi เขาจะแบบมาอัพ แต่แบบ Loading จะมาแบบเนี่ย คนก็ รอค่ะ เป็นกำลังใจค่ะ เขาขอกะลังใจในการอัพ คือเขียนต้นฉบับแล้วนะ แต่ขอก่อน ยอดเมนท์พอใยแล้วจะมา คนอื่นกูเปิดเข้าไปดูก็เจอบ่อย พวกที่ดังๆ พระเอกถ่อยๆ แต่กูว่าอาจได้ตัวอย่างมากจากคุณ Hi นี่แหละ เพราะแตาละคน นิยายเหมือนจะได้แรงบันดาลใจมากจากคุณ Hi เพราะพระเอกสไตล์ หล่อ ฮอต ร้าย เลว เหมือนกันหมด

904 Nameless Fanboi Posted ID:oKvT0GS3aT

>>903 อันนี้กูยืนยันอีกเสียง คุณฮสมัยนั้นอัพหลอกบ่อยชิบหาย แบบเม้นถึงเท่านี้จะมาลงเนื้อเรื่องนะ ฟคก็รอนะคะ ติดตามนะคะ สู้ๆนะคะ
รำคาญสัส กูไม่ได้อ่านนิยายเค้านะ แต่เค้าอัพหลอกบ่อยจนอยู่ในหน้าอัพเดทตลอด เวลากูจะลองหาเรื่องใหม่ๆแต่มาเจอแต่เรื่องเดิมๆมันน่ารำคาญอ่ะ

905 Nameless Fanboi Posted ID:FmbDE2rcnj

ขอถามหน่อย เราควรลงจนจบเรื่องเลยแล้วค่อยเอาลงขาย หรือลงแบบไม่จบแล้วขายดีวะ

906 Nameless Fanboi Posted ID:hUdcKn0+sV

>>905 เขียนให้จบก่อนแล้วทยอยลง แต่บอกก่อนว่าจะลงไม่จบ พอเริ่มพีคก็ค่อยเปิดขาย อย่าลงหมดเผื่อโดนก็อบด้วย

907 Nameless Fanboi Posted ID:C02pN67BBA

>>905 ถ้าจะลงไม่จบ ควรแปะบอกตั้งแต่แรก ไม่อย่างนั้นบ้านบึ้ม แต่ถ้าจะลงจนจบก็อาจได้ใจแฟนคลับ บางคนเขาก็ตาทไปสนับสนุนอีก ลงจบก็อย่าเอาไว้นานจนเกินไป ก็ชี้แจงไปว่า ลงจนจบนะคะ แต่จะลบภายในกี่วันหลังจบ

908 Nameless Fanboi Posted ID:C02pN67BBA

>>906 อืม ลืมบอกประเด็นนี้ ถ้าลงจบต้องระวัง เพื่อนเพิ่งโดน นางใจดีไง ลงจนจบแล้วก็ทิ้งไว้ซะนาน เพราะขี้เกียจจัดหน้าลงอีบุ๊ค เลยไปปรากฏเป็นฟิคซะ

909 Nameless Fanboi Posted ID:a8WXuu/tbH

กูแนะให้ลงจนจบแล้วทยอยปิด คนที่ตามงานสนับสนุนกันมาควรได้อ่านจนจบ ้พราะกูว่านักอ่านเหล่านี้ช่วยให้เรามีกำลังใจเข็นมันจนจบ คนที่พึ่งมาตามถ้าเค้าชอบเค้าก็จะไปเก็บต่อเอง

910 Nameless Fanboi Posted ID:aHsLNAPHNW

>>906 907 908 909 ขอบคุณมากเมิง กูเขียนนิยายยังไม่ทันจบบอกว่าเดี๋ยวเขียนจบจะทำอีบุ้กขายละนะ คนอ่านก็ถอนเฟบไปเยอะเลย กุเลยใจแป้วมากไม่รุ้จะเอาไงต่อดี

911 Nameless Fanboi Posted ID:Silm48HJLO

>>910 มึงรักษาคนอ่านที่เหลือ พวกที่ถอนเฟบแสดงว่าเขาไม่ได้อยากอุดหนุนงานเรา

912 Nameless Fanboi Posted ID:A8bHmevQB+

บางเรื่องกูอ่านนะแต่ถ้าซื้ออ่านจบแล้วก็ถอนเฟ็บอ่ะ แบบกูขี้เกียจเช็คอัพเดทหลายๆเรื่องอันไหนอ่านจบแล้วคือถอนออกเลย

913 Nameless Fanboi Posted ID:84/8HPN3P+

อยากให้คนอ่านเม้นต์ให้มากกว่านี้อะ บางทีแต่งตอนนึงตั้งนานได้รับคอมเม้นต์มาว่า รอนะ รอตอนต่อไป
กูก็ดีใจแหละ ดีใจมากๆ ที่มีคนรออยู่ มีแรงฮึดแต่งตอนใหม่ แต่บางทีก็อยากให้เขาหวีดๆ หรือพูดถึงฉากที่กูแต่งในตอนนั้นบ้าง T.T คิดไปคิดมาก็แอบเครียด เอ หรือว่านิยายกูมันไม่สนุกวะ เขาก็เลยเม้นต์ส่งๆ ไป ไม่ประทับใจอะไรเป็นพิเศษ

เคยมีคนเม้นต์ชมว่าพระเอกนิสัยน่ารัก ตอนนั้นกูยิ้มดีใจหน้าบานไปทั้งวันเลย ฮืออ นานๆ ทีจะมีคนเม้นต์อะไรที่เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง

914 Nameless Fanboi Posted ID:y2ttIwPa+g

>>913 มึงลองไปเม้นนิยายดูบ้างนะ พยายามเม้นให้ได้ทุกตอน เกี่ยวกับเนื้อเรื่องในตอนนั้น ๆ เผื่อมึงจะเข้าใจคนอ่านบ้าง

915 Nameless Fanboi Posted ID:99J2aw8e.p

>>914 เค้าก็บอกแล้วไงว่าเม้นแค่ รอตอนต่อไป เขาก็พอใจแล้ว มึงล่ะเข้าใจนักเขียนบ้างรึเปล่า

916 Nameless Fanboi Posted ID:wpP6pXH3CL

>>915 ทำไมจะไม่เข้าใจล่ะ ย้อนไปก่อนหน้านี้ประมาณปีกว่า กู...เป็นนักเขียนที่เม้นไม่มีเลยครับ เข้าใจดีที่สุดของที่สุด คืองานของกูไม่ใช่แนวตลาด ลงแรก ๆ ไม่มีคนเม้นเลย ต้องลงไปเรื่อย ๆ เกือบปีถึงจะมีแฟนประจำมาคอยเม้นให้

กูก็เคยคิดแบบนี้แหละ "คนเม้นอยู่ไหนวะ วิวก็เยอะแต่คนเม้นไม่มี"

กูเลยลองไปเป็นคนอ่านบ้าง ปรากฏว่าแม่มเจอปัญหาสารพัด บางเรื่องในแต่ละตอนมันธรรมดามาก ไม่มีอะไรน่าพูดถึง (จะบ่นก็ไม่ได้โดนไล่อีก) หรือบางทีจะเม้นให้กำลังใจ อีระบบเว็ปแม่งก็ค้าง สุดท้ายไม่เม้นแม่งเลย ไปเม้นตอนจบทีเดียว

917 Nameless Fanboi Posted ID:wpP6pXH3CL

>>916 คือให้กูแนะนำนะ ถ้ามึงจะเขียนลงเว็ปมึงอย่าไปสนคอมเม้นมาก ถ้ามึงคิดว่างานมึงดีจริง มึงก็ลงไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวคนแม่งมาเม้นเอง มาหัวเสียกับเรื่องแค่นี้สุดท้ายท้อ...เขียนไม่จบ

918 Nameless Fanboi Posted ID:JlHngYWQil

>>916 จริง ระบบค้างทำกูหัวเสียมาหลายรอบ พิมไว้เยอะต้องมานั่งพิมใหม่ น้ำตาจะไหล

919 Nameless Fanboi Posted ID:ybPUg2ddni

แล้วระบบแม่งต้องค้างเฉพาะตอนเม้นยาวด้วยนะ ค้างทีจากสิบบรรทัดกูลดเหลือสองบรรทัดอะ บางที

920 Nameless Fanboi Posted ID:OyRvDd2FbN

เรื่องเม้นเนี่ยคือต้องทำใจมากๆถ้ามีก็ดี ไม่มีก็สู้ต่อไป

921 Nameless Fanboi Posted ID:H7cqoa076M

ขอบคุณที่ตอบนะ ก่อนจะมาลองเขียนกูก็เป็นนักอ่านมาก่อนเหมือนกัน ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ เข้าใจทั้งสองฝ่ายอะ
ตอนนี้กูคิดได้ละ เพราะลองไปไล่อ่านนิยายตัวเองดูก็รู้สึกว่าแม่งไม่มีจุดพีคที่น่าสนใจจริงๆ นั่นแหละ จะร้อง...

ปกติเวลาคอมเม้นต์ยาวๆ กู copy เม้นต์ตัวเองเก็บไว้เลย ทำบ่อยจนชินเพราะรู้ว่าเว็บมันต้องล่ม ต้องค้าง ข้อความต้องหาย ต้องเกิดอะไรสักอย่างให้กูเม้นต์ไม่ได้แน่ๆ เว็บเดียวกันหรือเปล่าเนี่ย บางทีเม้นต์ตอบนักอ่านก็ไม่ได้55555

922 Nameless Fanboi Posted ID:P0.aHJmG8E

มึงคือกูมีปัญหาว่ะ แต่งนิยายแล้วเวลามาอ่านทวนรู้สึกว่าสำนวนตัวเองมันแปลก ๆ คือสำนวนกูมันจะคล้ายกลอน กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมสำนวนกูถึงเป็นแบบนั้น แต่อ่านแล้วแม่งไม่คุ้นตาซิบหาย กูก็เลยกลัวว่าคนอ่านเขาจะอ่านแล้วไม่เข้าใจ กลัวว่าจะสื่อเหตุการณ์แต่ละฉากได้ไม่ถูกต้อง ทำเอากูไม่กล้าแต่งนิยายต่อเลยว่ะ

923 Nameless Fanboi Posted ID:+P2nZGDUm4

>>922 มึงก็แก้ให้มันเข้าใจสิวะ นักเขียนที่ตีพิมก็แก้กันสองสามรอบทั้งนั้นแหละ...บางคสแกเป็นสิบเที่ยว ยังมีมาแล้ว

924 Nameless Fanboi Posted ID:JexKjsMK4U

เจอเมนต์มาแนวๆ ถามสปอยล์นี่จะตอบยังไงให้น่ารักวะ เพิ่งเจอแบบนี้ ไม่อยากเสียคนอ่าน ยิ่งมีน้อยๆ อยู่

925 Nameless Fanboi Posted ID:DnYKlIkDv/

>>924 สปอยแต่พอดี ตอบในข้อความลับ (ลงในดดปะ?)

926 Nameless Fanboi Posted ID:1n044HjNUL

>>924 ต้องติดตามต่อไปจ้า +หน้ายิ้ม

927 Nameless Fanboi Posted ID:05qG07obut

>>924 "บอกไม่ได้จ้า คนเขียนก็ไม่รู้เหมือนกัน"

928 Nameless Fanboi Posted ID:Qc0e6rZJkT

>>927 จุกเลย ยังเขียนไม่จบ พล็อตไม่วาง 5555

929 Nameless Fanboi Posted ID:Y0321IdpTo

>>924 ระวังโดนลอกด้วยนะ แต่บางที คนอ่านก็ถามเล่นๆ มั้ง

930 Nameless Fanboi Posted ID:L5YXUmAEuY

เออ ถามหน่อยพวกมึงซีเรียสเรื่องการบรรยายการงานตัวเอกแค่ไหนกัน กูน่ะแค่ต้องการบอกว่าที่ตัวเอกเรียนมาคนละสายกับกิจการที่บ้านเลยไม่ได้ไปทำด้วย อย่างสมมติที่บ้านเป็นเจ้าของห้าง แต่ตัวเอกเรียนโบราณคดี/วิศวะ/เภสัชทำนองนี้เลยไปสมัครงานที่อื่นทำเอา แต่กูไม่ได้พูดถึงไอ้พวกฉากโชว์เมพลงลึกเรื่องสาขาอาชีพมันนี่จะรู้สึกตะหงิดๆ ป่ะวะ แค่บรรยายว่าอ่ะมันเข้าบ.ทำงานของมันไปละมีไปวันๆ ละก้เป็นฉากดำเนินเรื่องทั่วไป

931 Nameless Fanboi Posted ID:2nssZks1oc

>>930 กูไม่ซีเรียสนะแบบนี้ ซีเรียสพวกเขียนแล้วพยายามโชว์เมพว่าขัอมูลแน่น แต่เละมากกว่า อ้อ แต่ก็เกลียดพวกบอก รวยระดับโลก แต่แม่งนิสัยเด็กน้อย มาตื้อนางเอกอย่างกับเด็กประถมจีบสาวกูยี้

932 Nameless Fanboi Posted ID:2nssZks1oc

>>931 วันๆ ไม่ทำอะไรเลย ก็เกินไปอะ

933 Nameless Fanboi Posted ID:z6atVcVFM/

กูว่ามึงแต่งให้พระเอกจบมาอย่างทำอีกอย่างเพื่ออะไรสำคัญกว่า
มันมีผลกับคาร์หรือเนื้อเรื่องในอนาคตรึเปล่า ต้องมีฉากที่พระเอกโชว์สกิลของที่เรียนมามั้ย ถ้าบรรยายความเทพโดยไม่มีจุดหมายก็ไม่ต้องเสียเวลา ไม่เป็นไรหรอก

934 Nameless Fanboi Posted ID:cLjI4sfecQ

กูเขียนตัวละครไม่มีสกิลอะ ทำงานตามหน้าที่ไปวันๆ เลยง่ายหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกะเช้าชามเย็นชา

935 Nameless Fanboi Posted ID:P5YOJB8p+h

Meb นี่มันโอนเงินทุกวันที่เท่าไหร่นะ

936 Nameless Fanboi Posted ID:Q97b79GMrh

>>935 ทุกวันที่ 20 แต่ถ้าติดวันหยุด หรือ เสาร์อาทิตย์ ก็เป็นวันทำการถัดไป
เดือนนี้ออกวันที่ 21 พ.ค

937 Nameless Fanboi Posted ID:QKasIlwNNa

>>936 ขอบคณมาก แล้วมันดูได้ว่าวันนี้เราขายได้กี่เล่มแล้วอะ

938 Nameless Fanboi Posted ID:QKasIlwNNa

แก้ๆ แล้วมันดูได้มะว่าในแต่วันว่าวันนี้ขายได้กี่เล่มแล้ว หรือต้องรอสรุปยอดเป็นรายเดือนอะ

939 Nameless Fanboi Posted ID:01ysCR4vqu

>>933 ไม่มี แค่มันเป็นคนเนิร์ดๆ สนใจอะไรก็ลุยด้านนั้นโดยไม่ยึดติดกับการรับช่วงต่อกิจการ บวกไม่ชอบสังคมไฮโซ แนวๆติดดินแต่คนดินก็จะดูออกว่าคนละชั้น ส่วนคนรวยก็รู้สึกว่าจะมาลำบากทำไม ตั้งใจว่าให้เป็นแกะดำแต่ญาติก็ด่าได้ไม่เต็มคำเพราะชีวิตมันก็ดูการงานดีอะ

940 Nameless Fanboi Posted ID:lEzoDI.0kA

>>938 มีเป็นกราฟสถิติแทบจะ real time บอกทั้งคนเข้าชม คนโหลดตัวอย่าง คนซื้อ ชอบที่สุดในบรรดาอีบุ๊คที่กูลงขายนะ

941 Nameless Fanboi Posted ID:B1.8UoIYbF

>>937 >>940 เลือก จัดการอีบุ๊กที่วางขาย /เลือก analytics
มีสรุปเป็นกราฟรวมทุกเล่ม หรือจะดูแยกเป็นเล่มก็ได้ เลือกเอาที่เมนูข้างบน
ดูที่ paid download count เป็นยอดขายแต่ละวัน ดูย้อนหลังได้ เลือกดูของเดือนเก่าๆ ก็ได้

942 Nameless Fanboi Posted ID:lEzoDI.0kA

>>941 นี่แอดเมพมาเองม่ะเนี่ย ละเอียดเป๊ะเว่อร์

943 Nameless Fanboi Posted ID:c8mLnGSanI

>>940 >>941 ขอบคุณมากจ้า

944 Nameless Fanboi Posted ID:tHpluQi6E+

คนอ่านซื้อหนังสือไปเรื่องนึง มีสิทธิ์วิจารณ์ได้ขนาดไหนวะ กูเฟลมาก รำคาญมาก มีคนไปคอมเม้นท์นิยายเรื่องล่าสุดของกู ว่าเคยอ่านเรื่องแรกแล้วไม่ชอบ เชี่ยเอ๊ย มันคนละเรื่องกันป่ะ

945 Nameless Fanboi Posted ID:FJrzAjijf+

>>944 มึงลงขายในไหนวะเพื่อน กูลงในเมบ มีนักอ่านคอมเมนต์ว่าสั้นไป กูแบบอ้าว สั้นไปก็ไม่ได้ราคาเท่านี้ กูอยากขายถูก ๆ แต่กูก็ต้องคำนึงถึงปากท้องตัวเองบ้างอะ ให้เขียนเยอะ ๆ แต่ขายถูกมาก ๆ แล้วกูจะเหลืออะไรวะ

หลัง ๆ กูไม่อยากลงเมบละ บอกตรง ๆ กลัวประสาทแดก ความคิดคนขายกับคนซื้อมันต่างกันเกินไป หาจุดลงตัวไม่ได้อีเหี้ย รำคาญ ต่อไปนี้ส่งสนพ.อย่างเดียว

946 Nameless Fanboi Posted ID:ibxtXA91x8

>>945 ลง Meb นี่แหละ แล้วเจออีกอย่างคือ บ่นกูในเมพไม่พอ กูไปเจอนางคอยตามบ่นเวลาคนอื่นพูดถึงนิยายกูในแง่ดี จำได้เพราะก๊อปที่บ่นกูในเมพไปวางในโพสต์คนอื่นตามเฟซอ่ะ

947 Nameless Fanboi Posted ID:ensVNpLUHb

เดือนแรกพวกมึงขายได้เท่าไหร่กันบ้างวะ อยากรู้

948 Nameless Fanboi Posted ID:FJrzAjijf+

>>947 ไม่กี่บาทหรอก ได้น้ำไฟ 555 ได้ค่าสกินแคร์นิด ๆ หน่อย ๆ

949 Nameless Fanboi Posted ID:FJrzAjijf+

>>946 คนอะไรฝังหุ่นขนาดนั้นวะ หรือเป็นนข.ด้วยกันแล้วอิจฉามึง

950 Nameless Fanboi Posted ID:ibxtXA91x8

>>949 ไม่เป็นนะ เพราะกูก็ตามเสือกโดยการเอาชื่อเขาไปค้นว่าเขาเม้นท์คนอื่นว่าไงบ้าง ก็มีทั้งชอบทั้งไม่ชอบอ่ะ ตามไปส่องเฟซด้วย ไม่ใช่นักเขียน บางทีกูก็ทำใจได้ว่าคนมีร้อยแปดพันเก้า แต่บางทีก็หงุดหงิดว่าทำไมเป็นกูที่เจอ ทำมั๊ย

951 Nameless Fanboi Posted ID:FJrzAjijf+

>>950 อาจจะเป็นพวกคิดว่าซื้อมาแล้วจะทำอะไรก็ได้งี้ละมั้งมึง

952 Nameless Fanboi Posted ID:BLowLo1xgB

คือ บางทีกูก็งงใจกับนักเขียน มึงทำงานศิลปะนะ เปิดใจหน่อยค่ะ มันก็มีทั้งชอบและไม่ชอบปนๆ กันไป คือถ้ามันอ่านแล้วไม่สนุก จะให้เขาไปบอกต่อว่าสนุกเหรอ สิ่งที่มึงทำได้อะ ตั้งสติแล้วมองดูนิยายตัวเองอีกทีสิ หาความแปลกใหม่ พัฒนาตัวเอง คนที่เขาไม่ชอบงานมึงอะเขาก็คงไม่กลับมาแล้วละ แต่ตอนที่มันไปบอกคนอื่นว่ามันไม่ชอบ มันไม่ดี ถ้าเขาเชื่อมันก็เรื่องของเขาบางครั้งข้อไม่ดีที่เขาบอกไป มันก็ไปช่วยคนอ่านตัดสินใจ เขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อมันก็คงแล้วแต่คนที่มาอ่านรีวิวอ่านคอมเม้นท์ บางคนเคยเห็นคอมเม้นท์แล้วกูคนละเทสกัน เล่มไหนเขาบอกไม่ชอบ แต่กูอ่านรอด บางคนเขาก็ไปลองของมึง เอาเวลาที่มึงบ่นเขียนงานใหม่ คนอื่านใหม่ๆ เดี๋ยวก็มา เขาก็จะไปตามซื้ออีก พอนานไปมึงมีคนชอบเยอะขึ้น เดี๋ยวก็มีคนช่วยเถียงอิคนนั้นเองแหละว่า เราอ่านแล้วชอบค่ะ เพราะ บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กูไม่ใช่นักเขียน แต่เสือกผ่านมา อ่านจะเขียนงงๆ

953 Nameless Fanboi Posted ID:2kbgSUlJlI

>>952 เป็นโรคชนิดหนึ่งมั้ง กูก็ไม่รู้เหมือนกัน เวลามีคนชมนิยายกู กูก็พิมตอบ "ขอบคุณ" ปกติ

แต่พอมีคนมาเม้นในแง่ลบ กูนี่ตอบยาวสี่ห้าหน้า เช่น มีคนมาบ่นเรื่องความไม่สมเหตุสมผล ถ้ากูสามารถแถได้ กูก็จะแถจนกว่าแม่งจะเข้าใจ หรือเงียบหายไป

กูว่ามันต้องเป็นโรคอย่างหนึ่งแน่เลย

954 Nameless Fanboi Posted ID:BLowLo1xgB

>>953 มึง กูเจอนักเขียนแบบมึง ต่อให้เรื่องต่อไปมึงดังได้เป็นละคร กูก็ไม่เอามึงแล้วนะ ทำตัวไม่น่ารัก เขาบอกความไม่สมเหตุผล มึงก็เก็บไปปรับปรุง มึงไปแถนี่กูหมดคำพูด ส่วนคนชม มึงควรคุยกับเขาเยอะหน่อย โอ้ยยยย มึงนี่นะ5555

955 Nameless Fanboi Posted ID:ibxtXA91x8

>>954 ปัญหาของกูไม่ได้อยู่ที่เขาไม่ชมหรือบ่นแล้วกูรับไม่ได้นะ แต่อยู่ที่ เขาอ่านเรื่องแรก แล้วไม่ชอบ แต่คอยตามไปย้ำในเรื่องอื่นๆ ของกูว่าไม่ชอบเรื่องแรก คือกูรู้แล้วจ้าา นี่เรื่องที่สี่แล้ว ช่วยพูดถึงเรื่องปัจจุบันของกูได้ไหม แค่นั้นแหละ

956 Nameless Fanboi Posted ID:TWAnicCb5H

>>955 มึงคือ >>953 เหรอ

957 Nameless Fanboi Posted ID:2MOvoWQQwJ

>>954 กูไม่ได้สักแต่เถียงนะเว้ย อย่างที่บอก "ถ้าแถได้" แต่ถ้าเจอไม่สมเหตุสมผลแบบกูพลาดจริง ๆ อันนี้ก็ต้องขออภัย

แต่ส่วนใหญ่กูมักจะแถได้นะ 55555

958 Nameless Fanboi Posted ID:a7EGE+PWvd

>>955 นักอ่านคนนั้นมีนิสัยแบบคุณครูหรือเปล่า เรื่องแรกไม่ชอบ นักเขียนบอกรับทราบ มันสั้นไป อยากให้ตอบยาวๆหน่อย พอมีปมในใจว่ายังไม่ได้คำตอบที่ต้องการ จะเม้นเรื่องเก่านบอาจไม่เห็น ขยี้เรื่องเดิมในเรื่องใหม่ นขต้องอ่านแน่ๆ

959 Nameless Fanboi Posted ID:9zGfZR4IL9

กูว่าไม่ควรแถนะ ควรตอบขอบคุณสำหรับคำแนะนำ หรือถ้ามันมีจุดผิดพลาดจริงๆก็ควรบอกว่าน้อมรับแล้วจะนำไปปรับปรุงในเรื่องต่อไป

960 Nameless Fanboi Posted ID:BLowLo1xgB

>>958 เกี่ยงอะไรกับครู นิสัยชอบพาดพิงไปเรื่อย ไม่ดีเลยค่ะ!!!

961 Nameless Fanboi Posted ID:FJrzAjijf+

เอาจริง ๆ ถ้าตามเมนต์ไปทุกเรื่องแบบนั้นกูก็รำคาญว่ะ กูเป็นพวกความอดทนต่ำด้วยนะ ใครมาเมนต์นิยายที่กูลงให้อ่านในเว็บแบบในแง่ลบ แนว ๆ ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะต้องอ่าน กูแบบปรี๊ดมากอีเห้ แต่สุดท้ายกูก็ลบเมนต์นั่นทิ้งอะมึง บั่นทอนจิตใจ กูไม่ชอบ เกลียด และไม่อยากเห็นด้วย

962 Nameless Fanboi Posted ID:a7EGE+PWvd

>>960 ขอถอนคำพูด เปลี่ยนเป็นนิสัยชอบสอน เจอประจำเวลาบอกว่าผิด ไม่ใช่ อีกฝ่ายควรตอบรับชัดเจนว่าเข้าใจ และจะนำไปปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาด ถ้าไม่รับคำก็จะวนซ้ำเรื่องเดิม

963 Nameless Fanboi Posted ID:lWfBTHazqa

>>958 แล้วนิสัยแบบครูไม่ดีตรงไหน มึงโตมาแบบไม่มีครูคอยสอนอะไรเลยเหรอ ผิดก็ว่าตามผิด แก้ไขให้ถูกต้องก็พอแล้ว ไม่ผิดก็แย้งไป หรือจะปล่อยให้ผิดแบยไม่รู้ตัวอยู่ยังงั้น บอกไม่ได้ แนะนำไม่ได้ สอนไม่ได้ นี่มึงโตมายังไง?

964 Nameless Fanboi Posted ID:.T3GHOk0lF

>>963 ใจเย็นๆ เพื่อน เขาถอนคำพูดแล้ว >>962

965 Nameless Fanboi Posted ID:Xo8xeJ5WQ.

>>963 เกรี้ยวกราดเบอร์แรงชิบหาย

966 Nameless Fanboi Posted ID:wULZ..3Tw9

พวกมึงขายหนังสือในเมพเดือนแรกปกติขายกันได้ประมาณกี่เล่มวะ กูอยากรู้เป็นแนวทางอะ กูเห็นยอดขายตัวเองละท้อมาก

967 Nameless Fanboi Posted ID:RxOlbC3x7y

ปรึกษาหน่อยว่ะ คือกูจะพิมพ์นิยายเล่มแรก พอบวกลบคูณหารนู้นนี่ ต้นทุนแม่งเยอะชิบหาย แถมพิมพ์น้อยอีกต่างหาก
คือถ้ากูตั้งราคาปก แพงกว่าจำนวนหน้านี่ ถือว่าน่าเกลียดปะวะ เคยเห็นมีคนบอกว่าราคานิยายไม่ควรแพงกว่าจำนวนหน้า

968 Nameless Fanboi Posted ID:jXM0M4/t6/

>>967 กูว่าน่าเกลียดว่ะมึง เว้นแต่มึงจะมั่นใจว่างานมึงเจ๋งคูลมาก ซึ่งอันนี้ต้องอยู่ที่ลูกค้า/นักอ่านมองด้วย แต่กูเห็นใน meb โดนนักอ่านเม้นว่าหลายราย พวกที่ราคาแพงกว่าจำนวนหน้าอะ อย่างกูเอง ขนาดว่าจำนวนหน้าตั้ง 400 กว่า กูขาย 299 ยังโดนนักอ่านว่าเลยว่าแพงไปสำหรับนักเขียนโนเนม กูก็เฟลไปสักพักเหมือนกัน

969 Nameless Fanboi Posted ID:k8SC/tkvXI

>>968 มึงแบ่งเป็นสองเล่มสิ เล่มละ 200 หน้า 149 บาท

970 Nameless Fanboi Posted ID:+R1bqak5FG

>>966 ขายดีพอประมาณ มีป้ายแดงติด และมีคนขายดกว่ากับดีกว่ามาก หมวดที่คนอ่านค่อนข้างเยอะ(ไม่ใช่วายนะ) กูประมาณ 150 -300 เล่ม แต่ยอดประมาณนี้กูคิดว่าไม่ได้มีมากอะ จากที่สังเกตนิยายที่อยู่เหนือกูนะ แล้วทุกเล่มต้องติด top paid หน้าแรกอันดับบนๆ ด้วย ยอดประมาณนี้ ยอดจะตกลงทุกเดือน ขายพอได้แต่ละเล่มประมาณ 3 เดือน ยอดจากนั้นจะเริ่มช้าแล้ว

>>967 มีงไปเขียนตอนพิเศษเพิ่มหน้ากระดาษ เรื่องที่แพงกว่าหน้ามันก็มี แนววายกูเห็นหลายเรื่อง สุดท้ายมันก็ดูกันที่ยอดขาย ขายแพงโดนด่าแต่ขายดีก็แสดงว่าคนอ่านส่วนใหญ่เขาคิดว่าคุ้มเงินเขา มึงอย่าเอาความเห็นคนโดนด่าเป็นที่ตั้ง ทำแล้วขาดทุนอย่าไปทำ ให้ดูยอดขายเป็นหลักว่าคนอ่านเขาโอเคไหม คนซื้อเขาชอบแล้วไม่พูดอะไรเยอะแยะ คนไม่ซื้อด่าฉิบหายก็เยอะแยะเหมือนกัน แต่ถ้ามันน่าเกลียดมากไปในความคิดมึงก็อย่าไปทำ เช่นมีสองร้อยหน้ามึงขายสามร้อยห้าสิบงี้ สำหรับกูก็เกินไป ถ้ามีสักสามร้อยหน้าขายสามร้อยห้าสิบ ถ้าสนุกกูก็ไม่ซีเรียสที่จะอุดหนุน

971 Nameless Fanboi Posted ID:mBXR5dnUfY

กูอยากรู้ว่าขายใน meb มันขึ้นชื่อคนซื้อเปล่าอ่ะ หรทอขึ้นแต่ยอดซื้อ??

972 Nameless Fanboi Posted ID:0i+iSDRT8Z

>>971 ถ้าคนซื้อไม่แวะมารีวิวก็ไม่เห็น คนขายจะเห็นแค่ยอดกับสถิติลูกค้าที่สนใจงานเรานิด ๆ หน่อย ๆ

973 Nameless Fanboi Posted ID:OB+zzP5CkI

>>970 แต้งมาก ต้นฉบับกูมีประมาณ 220 กว่าหน้า A5 คิดว่าจะขายสัก 270 (รวมส่ง)

974 Nameless Fanboi Posted ID:mnSMVimRQ.

>>973 220 หน้าของมึงนี่กี่คำล่ะ ถ้ามึงจัดหน้าแบบย่อหน้าหน้าเยอะๆ ช่องว่างระหว่างบรรทัดกว้างๆ หรือตัวอักษรใหญ่ๆ มึงก็ต้องพิจารณากับจำนวนคำ ไม่ใช่หน้า

975 Nameless Fanboi Posted ID:B5ToKxPYIA

>>974 อักษร 14 ไม่เว้นระยะบันทัด ก็มาตรฐานแหละ

976 Nameless Fanboi Posted ID:XLURhR8mTJ

>>975 มันจะมาตรฐานได้ยังไง บางคนบรรทัดนึงพิมพ์ว่า
"ค่ะ"

บางคนบรรทัดนึงพิมพ์ว่า
"ค่ะ" บุษบาตอบ หล่อนฉีกยิ้มกว้างจนปากแทบถึงหู ก่อนจะตีลังกาห้าตลบลงมายืนอย่างสวยงาม กรรมการกดแต้มให้เต็มสิบ

เห็นมะ พอจัดหน้าเป็นอีบุ๊คจำนวนบรรทัดกับจำนวนคำก็ต่างกันแล้ว

977 Nameless Fanboi Posted ID:Ygthg0EiBN

>>976 อ๋อ ครับ...

978 Nameless Fanboi Posted ID:XcD9YZZvDp

คือมึงแค่ดูจำนวนคำในเวิร์ดอะ มันมีบอกอยู่แล้ว

979 Nameless Fanboi Posted ID:UN.Y.kWHhj

พวกมึงเป็นกันปะวะ เขียนนิยายเรื่องนึง แรก ๆ ก็สำนวนอีกแบบ กลาง ๆ เรื่องสำนวนอีกแบบ เห้อ กูเบื่อที่ต้องมารีไรท์ให้สำนวนมันเท่ากันอะ

980 Nameless Fanboi Posted ID:qiJjqJxYxi

>>979 กูเคย โทนเรื่องกับนิยายที่อ่านช่วงนั้นทำให้สำนวนเปลี่ยนไม่รู้ตัวจากตอนแรกเน้นคำพูดกลายเป็นเน้นบรรยาย บางทีรูปแบบจัดหน้าก็เปลี่ยนเหมือน 976 เคยเขียนอยู่ฉากหนึ่งเพชรพระอุมาก็ลอยเข้ามาในหัว สรุปบทนั้นเป็นสำนวนพนมเทียน พระเอกกุพูดจายังกับพระเอกยุค90

981 Nameless Fanboi Posted ID:INiPBOKy6S

>>979 เป็นเหมือนกัน เรื่องกูรีไรท์แม่ง 4-5 รอบ เขียนๆไปสักพักสำนวนเปลี่ยนอีกละ นักอ่านบางคนหาว่ากูรีไรท์เรียกยอด กูหงุดหงิดมากเลย กูนี่อยากจะบอกมากว่า มึงดูหน่อยได้ว่าสำนวนแต่ละตอนมันต่างกันแบบไปคนละหมวด เขียนไทยโบราณดีๆ กูก็เผลอเอาการพูดแบบจีนมาใส่บ้าง แฟนตาซีมาใส่บ้าง มึงอ่านๆกันนี่ไม่รู้สึกเลยหรอ กูกลับมาย้อนอ่านซ้ำยังอยากกดปิดเลย คิดว่ากูอยากรีไรท์บ่อยๆนักรึไง เหนื่อยจะตายห่า ถ้าเลือกได้กูก็ไม่อยากรีไรท์หรอก

982 Nameless Fanboi Posted ID:apleyq/oEK

สำนวนกุสลับไทยกับแก้วกานต์ว่ะ แต่ก็ยังเขียนไปๆๆ ไม่สน เอาให้จบก่อนค่อยรีไรท์ ยากสุดในการเขียนคือแม่งไม่จบสักทีนี่ละ พล็อตยังกะถั่ว งอกได้งอกดี

983 Nameless Fanboi Posted ID:sHuZIum.za

กูหนักใจแฮะ
คือแม่งช่วงนี้รู้สึกเพลียๆ กับงานประจำจนไม่ได้เขียนนิยายเลย แล้วก็ไม่รู้บังเอิญเป็นเหี้ยอะไรที่ตรงจังหวะมาก สื่อรอบตัวกูแม่งชอบประโคมเนื้อหาทำนอง "จงเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เพราะชีวิตมันคือความไม่นแน่นอน" อะไรทำนองนั้น ซึ่งแม่งก็เสือกกระตุ้น "ต่อมอยากเขียน" กูขึ้นมาพร้อมกับความที่คิดว่า "ลาออกจากงานดีกว่า" ซะงั้น!!

สัด!! ถ้ากูไม่ทำงานก็ไม่มีแดกอะดิ!! ...แต่ถ้าทำงานก็ไม่มีเวลาเขียนนิยายนะ~ ฮ่วย!

984 Nameless Fanboi Posted ID:kmRh9RpfIg

>>983 กูยิ่งเพลีย ยิ่งเครียด ยิ่งเขียนได้เยอะ เหมือนถูกบำบัด เพราะได้มาอยู่ในโลกของตัวเอง (กูไม่ใช่นข.มืิออาชีพ) ตอนที่ว่างมากๆ จะอ่านนิยาย

985 Nameless Fanboi Posted ID:yJ1FNvxvin

>>984 กูก็เคยเป็นงั้นแหละ
แต่งานกูนี่แม่งไม่มีเวลาว่างเลย สัดหมาเอ้ย!!

986 Nameless Fanboi Posted ID:IhbUP8yljX

>>983 กูขอบอกว่างานประจำมีไว้ดีกว่า​ มึงจะเปลี่ยนที่ทำงานก็อาจช่วย​ แล้วมึงแบ่งเวลาเขียนดีๆทำให้สมำ่เสมอจนมึงแน่ใจในรายได้กับรายจ่ายมึงแล้ว​ มึงถึงจะมาคิดว่าออกมาเต็มตัวดีมั้ย​ เอาใจช่วยนะมึง

987 Nameless Fanboi Posted ID:yS.vrYFi.F

>>986 กูก็สนับสนุน มีงานประจำไว้ดีกว่า

988 Nameless Fanboi Posted ID:2IwlRkuvin

ถ้ามึงคิดจะเป็นนักเขียน แต่มึงค่อนข้างจะโนเนม
สมมุตขายเล่มนึงได้กำไร 100 บาท
มึงใช้เวลาเขียน อย่างเก่งก็สองเดือนต่อเล่ม สมมุติเล่มนึงมึงขายได้ร้อยคน 100x100 = 10000
ปีนึงมึงปั่นได้ 6 เล่ม 10000x6 = 60000 เฉลี่ยแล้ว มึงมีรายได้ 60000/12 = 5000 บาทต่อเดือน
แค่ค่าแดกก็หมดแล้วม้าง 5555555

989 Nameless Fanboi Posted ID:0QaUj82peo

กูเห็นด้วยนะ งานประจำไปก่อนถึงจะเหนื่อยเวลาเขียนน้อย ไว้มั่นใจว่ามั่นคงระดับนึง
เมื่อไหร่ค่อยออกมาเขียนอย่างเดียวยังไม่สาย

990 Nameless Fanboi Posted ID:Ga52U2xXvI

คุมตีมไม่อยู่ เปิดด้วยคอเมดี้ ไปๆ มาๆ ดราม่าเฉย แถมหาทางลง HE ไม่เจอ //ท้อแล้ว

991 Nameless Fanboi Posted ID:pjUMuqgQwZ

>>990 มึงจะเขียนคอมเมดี้ แต่เสือกใส่เรื่องเศร้าเข้าไป ????

992 Nameless Fanboi Posted ID:Y3rwikOm41

กูรู้นะว่ามันกว้างมาก แต่ทำยังไงให้วรรณศิลป์อยู่ในระดับเทพๆว่ะ

993 Nameless Fanboi Posted ID:F/FH6e.4Ds

>>992 ที่กูเคยเรียนมาในคลาส มึงต้องอ่านเยอะ ๆ สังเกตเยอะ ๆ ว่ะ โดยเฉพาะอ่านวรรณคดี แต่ก็อีกนั่นแหละ พวกวรรณคดี มึงต้องมีคนสอน คนชี้แนะ คนพาให้รู้ว่าตรงนี้มีวรรณศิลป์อะไร อะไรแบบนี้ ง่าย ๆ คือต้องมีอาจารย์อะ แต่ถ้ามึงจะลองเองก็ได้ แต่มึงต้องอ่านเยอะ ช่างสังเกต เอามาปรับใช้

994 Nameless Fanboi Posted ID:jRN5uuC5ea

>>992 มึงต้องอ่านเยอะและหลากหลายแนวด้วย​แต่ละแนวมันมีการปูความ​ เร้าอารมณ์ที่ต่างๆกัน​ และต้องหัดวิเคราะห์การใช้ภาษา​ อย่าแค่อ่านเอาเรื่อง​ คนอ่านมีตั้งแต่อ่านเอาเรื่อง​ อ่านเพื่อบันเทิง​ อ่านเพื่อขบคิด​ คนเขียนต่อให้เพื่อบันเทิงเป็นหลัก
ก็จำเป็นต้องขบคิดว่าจะสร้างความบันเทิงที่ซับซ้อนกว่าการเล่าเรื่องอย่างไร

995 Nameless Fanboi Posted ID:pjUMuqgQwZ

พูดถึงเรื่อง วรรณศิลป์ แล้ว อยากให้พูดถึงเรื่องชั่นเชิงการเล่าด้วย
เป็นศาสตร์ที่กูไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไหร่

996 Nameless Fanboi Posted ID:LxkEGzs/ar

กูคิดว่าวรรณศิลป์คือสิ่งที่มันมีอยู่แล้วคนค่อยอธิบายมันออกมา ไม่ควรใช้อาจารย์สอนอะ เพราะเป็นการสร้างกรอบการมองเห็นสิ่งนั้น เล่าได้ ชี้แนะได้แต่คนเรียนมันต้องเห็นสิ่งนั้นด้วย กูว่าที่สอนๆ กันมาเป็นแบบแผนในโรงเรียนหรืออะไรทำนองนี้มันเป็นการจำกัดความงามเอาไว้ สมมุติมีคนบอกว่าผู้หญิงสวยต้องผมยาว แล้วแบบนั้นผู้หญิงผมสั้นจะสวยไม่ได้เลยหรือ เราสอนกันมาเป็นแบบแผน เป็นกรอบจำกัดความคิด ต้องเป็นแบบนั้นต้องเป็นแบบนี้จึงงาม กูว่ากระดุมเม็ดแรกแม่งก็ผิดไปไกลแล้ว ความงามมันต้องเห็นได้ เข้าใจได้ แม้จะอธิบายออกมาไม่ได้แต่พบงานเขียนที่มีคุณค่าทางวรรณศิลป์แล้วมันก็บอกได้เลยว่าอันนี้งาม เหมือนเจอผู้หญิงคนหนึ่งแต่แรกพบก็บอกได้แล้วว่ารูปร่างหน้าตาสวยไหม กูเห็นการสอนนี่แหละบิดเบือนความงามที่แท้จริงไปมากเพราะคนสอนส่วนใหญ่แม่งให้ความสำคัญกับแบบแผน แต่เหมือนไม่เข้าใจความงาม

เช่นตอนนี้กูเห็นคนคิดว่างานมีคุณค่าทางวรรณศิลป์คือต้องใช้ภาษาเก่า ต้องมีภาษาโบราณสักหน่อย ต้องบรรยายเยอะเข้าไว้แล้วคิดว่าภาษาสวย กูไม่เห็นด้วย ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น ถ้าจะบรรยายเยอะมันต้องเข้าใจความงดงามของมันเสียก่อนซึ่งหลายคนสักแต่เขียนโดยไม่เข้าใจ บรรยายโดยคิดแค่ต่อคำให้เยอะๆ เขียนให้ละเอียดมากๆ จบหนึ่งเล่มเขียนไปสามแสนคำแต่ไม่มีเนื้อหาสาระอะไร สัมผัสความงามในงานก็ไม่ได้ มีแต่น้ำแบบนี้น่าตีมือ กูเห็นนักเขียนใหม่ๆ หลายคนโอดครวญ แต่ละตอนเขียนก็เยอะภาษาก็ดีทำไมคนอ่านน้อย กูลองดูแล้วก็ไม่เห็นความงามในงานเลย หาสิ่งนั้นได้น้อย ภาษาที่ว่าดีก็แค่พยายามเขียนให้ถูกกับบรรยายให้มากๆ เท่านั้น ยังไม่ถึงกับมีความงาม ถ้างานมันมีความงามจริงๆ เขียนไปไม่มากก็ต้องมีคนมาติดบ่วงส่วนหนึ่งแล้ว

จะยกระดับวรรณศิลป์ อย่างแรกกูว่าควรเข้าใจวรรณศิลป์ก่อน เข้าใจในสิ่งที่มันเป็นจริงๆ ไม่ใช่เข้าใจตามแบบแผนที่สอนกันมา พอเข้าใจแล้วมันจะพิจารณางานตัวเองออกว่าที่เขียนไปมันดีแล้วหรือยัง บางคนเขียนรอบเดียวก็ออกมาดีได้ บางคนเขียนเป็นร้อยรอบถ้ามันไม่ดีก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ดี ความงามไม่ใช่เรื่องกระบวนการ ไม่ใช่เรื่องความพยายาม เป็นเรื่องที่ผลที่ออกมา แต่กระบวนการกับความพยายามทำให้เกิดโอกาสออกมาได้มาก

ส่วนชั้นเชิงการเล่า ตามความเข้าใจกูนะ คือคนเขียนมีสิ่งหนึ่งอยากจะเล่าแต่มีวิธีการเล่าที่สนุกสนาน น่าตื่นเต้น มีความน่าสนใจ รวมๆ แล้วคือเล่าดีและเล่าให้ใครฟัง กูยกตัวอย่างเรื่องอยากเล่าเรื่องความพยายาม มึงคงเคยได้ยินนิทานกระต่ายกับเต่า นิทานก็เป็นชั้นเชิงการเล่าแบบหนึ่ง เป็นการเล่าเรื่องความพยายามกับความประมาท มึงเห็นภาพไหม มึงบอกเด็กว่าเราต้องมีความพยายามและไม่ประมาทในชีวิต จบแล้ว เรื่องเดียวกันเลย บอกตรงๆ เด็กอาจจะเข้าใจแต่เด็กจะสนใจไหม กูว่าคงไม่เท่าเล่าเป็นนิทาน นี่คือความเข้าใจของกู คนเขียนอยากจะเล่าอะไรสักอย่างหนึ่ง แล้วก็หาวิธีให้สิ่งที่ถูกเล่านั้นน่าสนใจ นักเขียนบางคนแค่บรรยายพระอาทิตย์ขึ้นแม่งก็เหมือนกับเราไปอยู่ในจุดๆ นั้นด้วยแล้ว ทำให้คนสนใจ ทำให้คนดื่มด่ำหรือคล้อยตามไปด้วย นั่นคือเขามีชั้นเชิง ส่วนวิธีการเขียนนั้นเป็นเรื่องของตัวนักเขียนที่ต้องแสวงหาด้วยตัวเอง งานศิลปะหลายๆ อย่างมันมีชั้นเชิงการเล่าในตัวงานเอง ลองดูภาพวาดสวยๆ ที่เห็นแล้วรู้สึกอารมณ์ในภาพ ดูรูปถ่ายที่เห็นสตอรี่ของมัน งานโฆษณาก็เป็นตัวอย่างได้ ลองสังเกตความต่างของการพูดคุยธรรมดากับการเล่าด้วยกลวิธีแบบนั้นดูอาจจะช่วยให้เข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น

997 Nameless Fanboi Posted ID:F/FH6e.4Ds

>>996 +1
กูคือ 993 แต่กูก็เห็นด้วยกับมึง อาจารย์แค่ชี้แนะเฉย ๆ และยิ่งถ้าเขียนนิยายโดยพิงกับกรอบมากเกินไป สุดท้ายจะหาตัวเองไม่เจอ

กูว่าวรรณศิลป์เป็นเรื่องการสะสมอะ โดยเฉพาะการมีคลังคำเยอะ ๆ คลังคำเยอะไม่ได้หมายความว่าต้องรู้ศัพท์โบราณ คำไวพจน์นะ เอาจริง ๆ วรรณศิลป์จะสวยไม่สวยขึ้นกับว่าคนอ่านได้อะไรไปจากการอ่านเรื่องของมึง มันจับใจคนอ่านอยู่มั้ย มันคล้อยตามมั้ย มันจินตนาการได้มั้ย มีความคิดสร้างสรรค์พอหรือยัง

ทุกอย่างมันต้องสะสม หัดเขียน ต่อให้อ่านมาพันเรื่องแต่ไม่เคยลงมือเขียน เขียนครั้งแรก ๆ กูว่ายังไงก็ไม่ดี เพราะตอนเราอ่าน เราอ่านในฐานะนักอ่าน แต่ถ้าอ่านในฐานะนักเขียน มึงจะช่างสังเกตขึ้น เอามาปรับใช้กับนิยายของมึงได้

แจ่ม ๆ เลย ที่กูว่าวรรณศิลป์ดีคือของคุณวีรพร นิติประภา เอาจริง ๆ นักอ่านทั่วไปมองว่าเวิ่น เยิ่น แต่เด็กอักษรแบบกูกับพี่ในคณะคือชอบมาก เค้าใช้ภาษาได้มีมิติในแบบที่พวกกูคิด แต่คนอื่นอาจจะมองว่าเวิ่น

จริง ๆ วรรณศิลป์จะสวยไม่สวย กูว่าขึ้นกับคนอ่านอะว่าจะมองวรรณศิลป์ของมึงเป็นยังไง มันขึ้นกับผลลัพธ์จริง ๆ อย่างแรกที่ควรมีถ้าอยากวรรณศิลป์สวยคือคลังคำอะ ต้องคลังคำเยอะก่อน แล้วการสร้างประโยคให้กินใจคนอ่านได้มันจะมาทีหลัง

วรรณศิลป์คือการสะสม การฝึกฝน

998 Nameless Fanboi Posted ID:Y3rwikOm41

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์น๊ะค่ะ

999 Nameless Fanboi Posted ID:taFzJYr8p4

>>994 สนับสนุนความเห็นนี้ เวลาอ่านแล้วสำหรับนักเขียนต้องไม่แค่อ่านเอาเรื่อง แต่ต้องดูการใช้ภาษา การลำดับเรื่อง ว่าเขาไป 1-2-3-4-5 หรือ 5-1-3-4-2 เพื่อหลอกล่อหรือทำให้คนอ่านอยากติดตามและอยากรู้เรื่องต่อ เวลาเราอ่านนิยายบางเรื่องแล้วเราติดใจเห็นว่าฉากนี้ดีมากๆ ก็ต้องพยายามมองให้ออกว่าเขาใช้เทคนิคยังไงทำไมถึงทำให้คนอ่านรู้สึกแบบนั้น อีกอย่าง ถ้าจะเขียนก็ต้องอ่านสิ่งที่คนอื่นไม่อ่านกัน เรียกว่าต้องอ่านรอบด้านเลยละ

1000 Nameless Fanboi Posted ID:kH3i3MvMSc

มู้หมดแล้ว ตั้งมู้ใหม่ซะที~

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.