ตำหนักที่ 1 ---> https://fanboi.ch/literature/4172/
ตำหนักที่ 2 ---> https://fanboi.ch/literature/4500/
ตำหนักที่ 3 ---> https://fanboi.ch/literature/4668/
Last posted
Total of 1000 posts
ตำหนักที่ 1 ---> https://fanboi.ch/literature/4172/
ตำหนักที่ 2 ---> https://fanboi.ch/literature/4500/
ตำหนักที่ 3 ---> https://fanboi.ch/literature/4668/
โทษที กูลืมนึกชื่อใหม่๕๕๕๕
เนียนโฆษณา! ถถถ
คิดถึงตำหนักเราจัง เถียงเรื่องเล่าลือกันแป๊บ ๆ ก็ขึ้นตำหนักใหม่ละ
ในฐานะที่กูเปิดประเด็นเรื่องนี้ กูขอชื่นชมโม่งที่โทรถามราชบัณฑิตจากใจจริง มึงแม่ง ความหวังของมวลมนุษยชาติแท้ ๆ เลย
รู้สึกอยากสับนิยายแต่ก็ขี้เกียจจัง 55555555555555
แค่ร่ำลือ เล่าลือก็กินไปครึ่งมู้ละ ไม่ได้สับเบย
ตกลงใช้ได้ทั้งร่ำลือและเล่าลือ โปรดปักธง ปุกาด ๆ ๆ ใช้ได้ทั้งร่ำลือและเล่าลือ แต่ต้องใช้ให้ถูกบริบทด้วยนะสหายโม่ง
ป.ล. โม่งโทรศัพท์ช่วยโทรถามราชบัณฑิตด้วยว่า ตอดคมสันต์ใช้ได้มั้ย เพราะอาจจะมาจากการผสมคำ ตอด+คม+สันต์ แปลว่าตอดแล้วดูคมคายดีและสุขสันต์หรรษาด้วย
โม่งเพื่อนรัก กูไปเจอของดีมาอีกแล้ว มึงบอกกูทีว่าอ่านแล้วมึงไม่ได้คิดถึงป่าท้อ T-T
http://www.tunwalai.com/story/209661/ป๋ายเจิน-สาปรักจิ้งจอกพันปีnc-18
ใครกล้าถามตอดคมสันต์กูจะนับเป็นศิษย์พี่
ทำไมนิยายจีนคนไทยแต่งถึงราคาแพงจัง ต้นทุนเขาสูงขนาดนั้น ลิขสิทธ์นิยายไทยอะเขาคิดไงเหรอ ทำไมเขาตั้งราคาสูงพอๆกับแปลจีน
กูคือเบอร์ไรวะจำไม่ได้ ที่คุยเรื่องร่ำลือ เล่าลือ
แต่ก็งงๆ กับคำตอบของราชบัณฑิตนะ แบบนี้เราเอาคำที่มีอยู่ในพจนานุกรมมาประสมเองก็ถือว่าถูกใช่มะ
ส่วน จบชีวิต ที่ว่าเป็นประโยค กราบขออภัย เกิดสับสนกับการที่ประโยคภาษาไทยสามารถละประธานได้
แต่กริยา+กรรม มันก็ไม่ใช่คำศัพท์ เรียกว่า กริยาวลี ใช่รึเปล่า ซึ่งตรงนี้ก็ถูกอย่างที่ราชบัณฑิตว่าไม่สามารถเอาทุกคำมาใส่พจนานุกรม
อย่างพจนานุกรมอังกฤษจะเก็บคำหลักไว้ นาม กริยา คุณศัพท์ วิเศษณ์ แล้วก็เพิ่มเติมคำประกอบหรือสำนวน มีตัวอย่างคำตัวอย่างประโยค
ใจจริงอยากให้พจนานุกรมเราทำแบบของฝรั่งนะ ละเอียดดี
โม่ง มีใครสับ จื่ooิj...อย่านอนเอา ไปยัง กูแค่เห็นคำโปรยก็มุมปากกระตุก รู้สึกคันไม้คันมืออย่างยิ่ง
>>13 มึงจะต้องงงทำไมกับคำตอบราชบัณฑิต ปกติคนเราก็ใช้คำแต่ละคำผสมมาเป็นประโยคหรือเป็นวลีอยู่แล้วในการสนทนา แล้วแต่ว่าใครมีความสามารถทางภาษามากน้อย คนมีน้อยก็ใช้เลียนแบบคนอื่นโดยไม่สร้างใหม่ คนมีมากก็สร้างวลีสวย ๆ ได้เอง แต่ไม่ได้แปลว่าสร้างขึ้นใหม่โดยไม่มีความถูกต้อง กูเคยอ่านรงค์ วงษ์สวรรค์บอกว่าเขาเขียนคำว่ากระท่อมโย้เซ แล้วโดนบอกอแก้ให้เป็นโย้เย้หรือไงเนี่ย เขาไม่ยอม เพราะทั้งโย้ทั้งเซมันมีความหมาย เขาเอามันมารวมกัน กูมองว่าเขาพูดถูก ถ้ามีความสามารถทางภาษาก็สามารถจำคำมารวมกันเองได้ แต่ทีนี้คนอ่านและบอกอจะยอมรับคำของมึงหรือเปล่าเท่านั้น กูไม่ได้ร่วมถกเรื่องคำว่าร่ำลือ เพราะกูอ่านแต่แรกก็เห็นแล้วว่าเป็นสองคำที่มีความหมายในตัวเอง พอดีช่วงนั้นสอบเลยขี้เกียจเขียน เพราะเขียนแล้วต้องตามมาตอบยาว ต้องขอบคุณโม่งที่โทรไปถามราชบัณฑิต คำที่ไม่ได้ใส่ในราชบัณฑิตยังมีอีกเยอะนะ ในเว็บเขาก็เขียนไปว่าให้เสนอได้ พอก่อนกูต้องไปกินข้าว คิดถึงการสับนิยายของโม่งตอดว่ะ เมื่อไหร่จะมา
>>6 ถามราชบัณฑิตไปทางอีเมลว่า ตกลงควรใช้คำว่า สมคำร่ำลือ หรือ สมคำเล่าลือ
ราชบัณฑิตตอบมาแบบนี้ว่ะ
ควรเขียนเป็น ร่ำลือ คำว่า ร่ำ มีความหมายว่า พูดซ้ำๆ , พร่ำ
(เวลาโทรถามราชบัณฑิต ส่วนใหญ่เขาตอบดีนะ เขามีเจ้าหน้าที่ไว้ตอบคำถามด้านนี้อยู่แล้วในวันเวลาราชการ
ในหน้าเว็บเขาตรงพวกเบอร์ติดต่อภายใน เขายังมีโชว์เบอร์ของที่จะ สอบถามศัพท์ ด้านภาษาไทย ไว้เลย
เพียงแต่ตอนโทร ทำใจนิด โทรติดยากมาก แต่ถ้าโทรติดแล้ว เขาคุยดี อารมณ์เหมือนคุยกับครูภาษาไทยตอนเด็กเลย)
เกรงใจเพื่อนโม่งจริงๆ ว่ะ ลากยาวมาก ประเด็นร่ำลือ ล่ำลือ กินพื้นที่ทู้จริงๆ
ป.ล. ตอดคมสันต์ อยากถามมั้ย เดี๋ยวถามให้ ฮ่าๆ ๆ
กราบขอเพื่อนโม่งพอเรื่องร่ำลือเล่าลืออะไรก็ตามที หยุดเถิด
ปอลู ใครเจอเสิ่นเจิ้นลอกเสิ่นเจิ้นก็มาแบ่งปันกันบ้าง เผื่อจะช่วยกันสอดส่อง
สับนิยายดีกว่าว่ะ ใครมีเสิ่นเจิ้นยาวไม่เกินยี่สิบตอน เอามาลงเลย ติดท็อปไม่ติดท็อปได้หมด เดี๋ยวกูเลือกเฉาะเรื่องนึง ที่เหลือรอโม่งตอด
ห้องนี้มีกฎว่าเวลาพูดถึงนิยายเรื่องไหน ห้ามเขียนชื่อตรงๆ ป่าววะ เห็นหลายคนพิมพ์แบบไม่ตรงเป๊ะ
ไม่ใช่อะไร กลัวทำผิดกฎ
กูอ่าน เพียง love สลัก heart มาแล้ว ตอนแรกกะว่าจะอ่านซักสามตอน แต่พออ่านบทนำได้ไม่ถึงครึ่งกูก็เลื่อนลงดูแล้วว่าใกล้จบหรือยัง สรุปว่าอ่านบทนำบทเดียวจอด
อันแรกเลยกูต้องบอกว่าถ้าใครอ่านจีนแปลหรืออ่านภาษาจีนได้ และไม่ชอบเสิ่นเจิ้นที่เขียนไม่จีน ขอให้ผ่านนิยายเรื่องนี้ไปได้เลย ไม่เชื่อไปอ่านดูเอง นี่คือคำตัดสินของกูคนเดียว (กูอ่านจีนแปลเป็นหลัก อ่านเสิ่นเจิ้นเฉพาะงานที่มีกลิ่นจีน)
ประโยคบรรยายไม่จีนเลย แล้วถ้าจะดูแบบไทย ตัดอคติในเรื่องจีนไม่จีนออกไป ประโยคไทยก็ไม่สละสลวย กูไม่ขอติเรื่องเว้นวรรค นักเขียนอาจจะพิมพ์ในไหนก็แล้วแต่ที่เว้นวรรคยาก หรือรีบลง ไม่ได้ตรวจอะไรก็แล้วแต่เหตุผลเขา แต่กูขอติการใช้ประโยคยาวเป็นพืดที่ทำให้ความน่าอ่านลดลงไปครึ่งนึง แล้วเขียนแบบนี้ในทุกอารมณ์ ทุกตัวละครที่ออกมา ใช้การบรรยายแบบเดียวกันหมด มันเป็นการเล่าเรื่องที่แบนมาก เพราะจริง ๆ แล้วตัวละครแต่ละตัวมันมีบุคลิกของมัน มุมมองของมันต้องมีลักษณะต่างกัน ความคิดของมัน ท่วงท่าของมัน พวกมึงคงเข้าใจ เขาเปิดบทนำมาด้วยตัวพระเอกกับนางเอก นางเอกโดนนินทาเรื่องเป็นใบ้แต่จะได้แต่งกับผู้ชายดีและหล่อ ส่วนพระเอกก็เปิดตัวด้วยการถอดเสื้อรำกระบี่ แต่อ่านแล้วไม่ได้รู้สึกว่ามันเหี้ยมหาญอะไรอย่างที่พยายามจะบอก เพราะประโยคมันเย่ินเย้อยืดยาด และมีการใช้คำผิดความหมายด้วย
ยกตัวอย่าง ใบหน้าได้รูปและดวงตาที่เฉี่ยวขึ้นเล็กน้อย (เฉี่ยวขึ้นเล็กน้อยคืออะไร เฉี่ยวแปลว่าทันสมัย เช่น แต่งตัวเฉี่ยว เปรี้ยว ดวงตาทันสมัยขึ้นเล็กน้อยคืออะไร ไหนใครบอกหน่อย ควรใช้ว่าดวงตาเฉียงขึ้น ง่ายแค่นี้เองแต่คนเขียนไม่รู้) ตัวอย่างที่สอง เริ่มสงสารว่าที่ลูกสะใภ้ขึ้นมาเนือง ๆ (สงสารเนือง ๆ เป็นยังไงเหรอวะ เนือง ๆ หมายถึงทำบ่อย ๆ มันไม่เข้ากับประโยค ถ้าสงสารบ่อย ๆ ก็ไม่ต้องมีคำว่าเริ่ม หรือถ้าจะแปลว่ามาก อย่างที่ใช้กันว่าเนืองนอง มันก็ไม่เข้าอีกอยู่ดี นี่กูพยายามหาคำแปลมาช่วยแล้ว) อยากบอกนักเขียนทุกคนว่าถ้ามึงไม่แม่นคำก็จงเปิดพจนานุกรมซะหน่อย
นิยายแบบนี้ในสายตากู คือนิยายที่อ่านข้าม ๆ เอาเนื้อเรื่องพอได้ อ่านเอาอรรถรสด้านภาษาสำหรับกูแล้ว ไม่ผ่าน อ่านแล้วง่วง ขนาดคิดว่าเราต้องเปิดใจอ่านซักสามบท กูยังไม่ไหวเลยว่ะ ได้แค่บทนำก็ปวดตับแล้ว
อ้อ ข้อดีคือไม่ค่อยมีคำพิมพ์ผิด กูเห็นคำเดียวคือบุตรตรี ที่เหลือให้โม่งอื่นมาออกความเห็นบ้างดีกว่า เชื่อกูคนเดียวเดี๋ยวว่าลำเอียง
เรื่องนางเอกเอาแต่นอนที่ติดท็อปเหมือนกัน กูลองไปแง้มดู มันไม่มีอะไรเพราะเนื้อเรื่องเดิม ๆ แทบไม่เพิ่มเติมอะไรเลย นางเอกไปเกิดใหม่ในร่างนางร้าย แล้วก็พยายามทำตัวให้แตกต่างจากนิยายที่อ่านมา คุณหนูเรย์กะมาเก็บค่าลิขสิทธิ์ได้ว่ะ แบบเดียวกัน แต่คนเขียนบอกว่าเพิ่งเขียนเรื่องแรกอย่าว่ากัน ก็เอาตามนั้น เพิ่งเขียนเรื่องแรกก็เลยเขียนตามเรื่องอื่น ง่ายดี คนอ่านเยอะด้วย ติดท็อปด้วย ลั้นลา ๆ ๆ
>>28 คารวะโม่งเฉาะช่วยตอดคมสันต์ อยากให้ช่วยเฉาะนิยายกูแต่กูก็ใจบางเกินไป มึงเฉาะละเอียดมาก อ่านแล้วได้ความรู้ตลอด มึงลองยกตัวอย่างเสิ่นเจิ้นที่อ่านแล้วพอจะได้กลิ่นบรรยายแบบจีนหน่อยได้ไหมอะ กูจะได้ตามไปดูเผื่อจะเอามาเป็นเยี่ยงอย่าง
มันมีเสิ่นเจิ้นเรื่องหนึ่ง อะไรเกียจคร้านสักอย่าง กูอ่านคำโปรยกับหน้าแรกผ่าน ๆ แล้วก็นึกถึงเรื่องซ่อนรักวิวาห์ลวง นางเอกขี้เกียจทำนองนี้แหละ
เจอทั้งเสิ่นเจิ้นคล้ายจีนแปล แล้วก็เจอทั้งเสิ่นเจิ้นคล้ายเสิ่นเจิ้นด้วยกันเอง ร้องว้าวหนักมาก
>>28 กูเจอคำว่าคู่หมั้นสาว ก็ไท๊ไทยล่ะ กูไม่ค่อยชอบอ่านนิยายจีนที่ใช้คำว่าสาวกับหนุ่มต่อประโชค ยกเว้นคำว่า ชายหนุ่ม หญิงสาว ถ้าเจอคำแบบ แม่ทัพหนุ่ม ไรพวกนี้ จะไม่ค่อยชอบ มันไท๊ไทย กูพยายามจะอ่านอยู่นะของนักเขียนคนนี้ กูอ่านจากคอมเม้นต์เห็นมีแต่คนว่าละมุน คือกูอยากรู้ว่าดำเนินเรื่องแบบไหนเหรอถึงได้ทำให้คนอ่านรู้สึกว่าละมุน อีกอย่างหนึ่งในเรื่องนี้ที่บ่งบอกความเป็นไทย คือนิสัยจะเอาชนะของพระเอก พอนางเอกทำท่าจะถอนหมั้น ฮีก็ไม่ยอมจ้า จะแต่งให้ได้ คือเอาตามหลักความจริงนิสัยแบบชายจีนโบราณ อย่างที่พระเอกเคยคิดในเรื่องหน้าตาทางหน้าที่การงาน การมีภรรยาเป็นใบ้จะทำให้เขาเสื่อมเสีย การที่เจอนางเอกปฏิเสธควรจะดีใจด้วยซ้ำ อย่างมากในใจแค่รู้สึกแปลก ๆ ในความที่นางเอกไม่เหมือนหญิงอื่น และปล่อยผ่าน แต่เพราะสองคนนี้คือพระเอกนางเอกไง เลยต้องดำเนินเรื่องให้ยินยอม
กูช่วงนี้ไม่มีอะไรอ่านอย่างแรงเลยโฉบไปอ่านนิยายจีนโดยนักอ่านไทยมาหลายเรื่องอยู่ จากที่กูเห็นมีนิยายข้ามภพย้อนเวลาเกิดเป็นคุณหนู นางร้าย ตัวประกอบ90% ดังนั้นเรื่องไหนมีพล๊อตต่างไปกูจะยอมอ่านหลายบทหน่อย ถือว่ามีความพยายามดี ถ้าจากท้อปในเด็กดีกูว่า กู่มี่เอิน ทำได้ดี แม้ว่าบางช่วงจะซูเกินและยัดข้อมูลที่ไปรีเสิชมาล้นไปหน่อย แต่ดีกว่าไม่ทำรีเสิชแหละวะ โดยรวมเนื้อเรื่องน่าติดตาม ภาษาไม่ติดขัด แต่กูไม่กล้าสับมาก บางทีกูก็มัวตามเนื้อเรื่อง สำนวนถ้าไม่ไทยจ๋าเกินกูก็ผ่านๆไป
นางเอกจื่ออิงเอาแต่นอน กูว่าน่าเบื่อมาก นางเอกตามอาจารย์ไปเรียนตั้งแต่5ขวบ ยังไม่สิบขวบก็เรียนได้แทบทุกอย่าง เป็นหมอด้วยโว้ย กูเบื่อนางเอกซูที่ย้อนเวลาไปมากๆ บางทีก็พยายามบอกว่าจบสูงมาก ฉลาดมาก ย้อนเวลามาเลยซู อยากจะเขียนเรื่องให้นางเอกอยู่กรุงเทพวันๆเอาแต่เล่นเกมส์ปลูกผัก ย้อนเวลาไปแล้วทำเหี้ยอะไรก็ไม่ได้มั่งจัง
>>30 เสิ่นเจิ้นกลิ่นจีนที่กูว่าใช้ได้คือจินเสวี่ยนหวาง รูปประโยควางได้เหมือนแปลจีน อีกคนคือคนเขียนบันทึกมหาดเล็ก คนนี้กูไม่รู้ว่าเขารู้ภาษาจีนหรือเปล่า แต่เขียนเหมือนแปลจีน แล้วก็คนเขียนกู่มี่เอิน เรียงประโยคได้ดีแบบจีน ๆ เหมือนกัน คือถ้ามึงรู้ภาษาจีน มึงจะรู้ว่ารูปประโยคมันไม่เหมือนไทย มันจะไม่มีประโยคแบบร่างบางเดินเยื้องกรายเข้ามาหยุดมองดอกโบตั๋นซึ่งท่านแม่เรือนเล็กได้ปลูกไว้ตั้งแต่ปีกลายจนบัดนี้ออกดอกเบ่งบาน อะไรแบบเนี้ย มันไม่ใช่จีน ถ้ามึงอยากรู้ว่าจีนมันเขียนประโยคยังไง มึงลองหาบทกวีจีนดัง ๆ มาอ่านแล้วมึงจะเห็น มันจะเน้นการใช้คำสวยแต่สั้น ไม่ได้ยืดเยื้อ ถ้าแปลเป็นไทยจะห้วน
>>33 เรื่องที่มันผิดธรรมเนียมกูไม่ค่อยอยากติ ตีซะว่ามันเป็นนิยายแบบยกจินตนาการเหนือธรรมเนียม แบบคุณหนูวิ่งแร่ออกนอกบ้านไปหมั้นกับคุณชายบนร้านเหล้า ไรเงี้ย มันเป็นนิยายที่ไม่อิงความจริง แต่เอาฮา เอามัน เอาฟิน มันก็ทำได้ไง แต่ในเรื่องความคิดพระเอก กูเห็นด้วย มันไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจีนเลย เอางี้ แค่เป็นใบ้ อีกฝ่ายก็ถอนหมั้นได้แล้ว เพราะเขาก็ต้องกลัวว่าจะได้ลูกออกมาเหมือนแม่ คนใหญ่คนโตที่ไหนเขาจะมาหมั้นคนพิการให้ลูกชายลูกสาว นอกจากมันจะมีเหตุผลอื่นนะ กูอ่านแค่บทนำ เลยว่าไม่ได้เต็มปาก
>>34 เรื่องที่มีพล็อทใช้ได้สำหรับคนอ่านจีนแปล ถ้าไม่เน้นรัก กูคิดว่ากู่มี่เอินกับบันทึกมหาดเล็กใช้ได้ทั้งคู่ แต่กูไม่ค่อยชอบบรรยายสรรพนามบุรุษที่หนึ่ง เห็นคนเขียนบันทึกแต่งอีกเรื่องบรรยายสรรพนามที่หนึ่งเหมือนกัน กูเลยดองไว้ก่อน
>>36 ไม่เน้นรักนี่หายากมาก เดี๋ยวกูไปตามบันทึกมหาดเล็กมาอ่านก่อน กูไม่ชอบสรรพนามที่หนึ่งเหมือนกัน จนป่านนี้กูยังดองลำนำทะเลทรายอยู่เลย ด้วยความที่ดูละครเพราะท่านหูเก้าและแม่ทัพเอ็ดดี้เผิงไปแล้ว เจอบทบรรยายนางเอกข้านู่นข้านี่เลยไม่ผ่านเล่ม1สักที55
พอมึงอธิบายเรื่องสำนวนภาษาจีนมันต่างกับไทยยังไงกูเลยเข้าใจขึ้นเลย กูไม่รู้ภาษาจีนแต่ติดอ่านจีนแปลมาตั้งแต่เด็กเพราะชอบสำนวนภาษากลภนมาก เวลาจะอ่านเสิ่นเจิ้นกูเปิดใจมากๆเพราะรู้ว่าอ่านเอามโนเอาฮาไป แต่กูว่าถ้านักเขียนแนวนี้เน้นเขียนสนองนี้ดตัวเองไปเรื่อยๆไม่คิดจะก้าวหน้าไปกว่านี้ก็น่าเสียดายแทน เพราะแนวจีนแปลดีๆมันมีมาให้เปรียบเทียบตลอด คนอ่านอ่านเยอะๆเข้าก็จะถึงวันที่ทนอ่านเสิ่นเจิ้นกลวงๆไม่รอดเอง กูมองโลกสวยไปมั้ย
เพื่อนโม่ง กูซื้อหนังสือคลังคำตามมึงแนะนำแล้ว
หูยยยสะใจคุ้มค่ามาก
มีเรื่องไหนในท็อปยังไม่โดนสับบ้างวะ เฉาะให้ชมเป็นบุญตาที
>>28 >>33 คิดเหมือนกัน กูเจอ "ตาเฉี่ยว" เข้าไปกูสะดุดหัวทิ่มเลย แต่อ่านต่อไปเพราะชอบตัวละครที่ร่างกายไม่สมบูรณ์ บอกตรงๆ เรื่องนี้ดำเนินเรื่องโคตรไทย ตัวละครคิดและทำแบบไทยทุกอย่าง อย่างที่มึงว่าเลยว่าบุคลิกพระเอกนี่คือพระเอกนิยายไทยชัดๆ กูอ่านเหตุผลที่มันทู่ซี้หมั้นกะนางเอกต่อไปแล้วปวดกบาลมาก แต่เรื่องนี้อ่านเพราะเห็นคนเขียนเค้าไปแปะในวดด.มั้ง เห็นเรื่องย่อนางเอกเป็นใบ้กูเลยสนใจ นี่กูเลิกอ่านไปนานละ ตั้งแต่นางเอกพูดได้กูก็ไม่รู้จะอ่านนิยายไทยใส่ชุดจีนนี่ต่อไปทำไม
แล้วกูก็ไม่คิดว่าแบบนี้เรียกละมุน เขียนเป็นนิยายไทยยังไม่รู้สึกว่าน่าอ่านเลย นี่เขียนเป็นจีนที่ความรู้และความคิดของคนเขียนไม่จีนมันเลยออกมาแบบนี้
พวกมึง กูเห็นเรื่องนี้ขึ้นท็อปนานมากละ แต่ไม่มีคนสับ มีใครอ่านบ้างวะ เป็นไงมั่ง เรื่องคู่ขย้ำบัลลังก์ กูว่าชื่อเรื่องแปลกดี
>>47 คนนี้เขียนดี โม่งเฉาะขอตบมือให้ ใครที่ร้องว่าเขียนยังไงก็ไม่จีน เขียนยังไงก็โดนติ ไปดูคนนี้ได้ เขาไม่ได้เขียนจนกลายเป็นจีนแปล แต่เขาใส่ความเป็นจีนเป็นไทยได้พอเหมาะ พอดีนางเอกเป็นไทยด้วย ชื่อดุสิตา การบรรยายในมุมมองของดุสิตาจึงเป็นไทยบ้าง แต่ก็ไม่ผิดเพราะตัวละครเป็นไทย แต่ส่วนที่เป็นตัวละครจีนพูด เขาก็ทำได้ดี มีการแทรกความคิดแบบจีนในตัวละครจีน การบรรยายโดยทั่วไปจัดว่าดี ถ้าจะมีประโยคยืดเยื้อนิดหน่อย ก็เป็นประโยคที่เชื่อว่าจะถูกแก้ไขในการรีไรต์ก่อนพิมพ์ เพราะกูมองว่าเขาตรวจเองอยู่แล้วระหว่างที่เขาแต่ง แต่ของอย่างนี้มันต้องมีหลงตาบ้างอยู่แล้ว กูอวยคนนี้ในแง่การเขียนงาน เนื้อเรื่องกูไม่ขอพูดถึงเพราะจะพูดได้ก็ต้องอ่านงานเขาให้จบอย่างละเอียด ถ้าใครบอกว่าเรื่องนี้เริ่มต้นไม่ได้แปลกอะไร ตายแล้วเข้าร่างใหม่ กูก็อยากจะบอกว่านิยายที่เริ่มต้นด้วยการตายแล้วเข้าร่างใหม่มันไม่ได้ผิด แต่มันจะดูตลกถ้ามึงไม่มีลูกเล่นใหม่เลย เหมือนคนอื่นเป๊ะราวกับเทโจ๊กคนอร์ตามด้วยน้ำเปล่าหนึ่งซองครึ่ง แต่งานของเขาคนนี้มีลูกเล่น ความคิดของนางเอกทำให้นิยายชวนอ่านขึ้นเป็นกอง ถ้าใครคิดว่ากูอวยคนซ้ำๆ ก็ลองไปอ่านเรื่องที่กูอวยบ้างนะ กูยุติธรรมในการติชม ถ้ามีงานดีมาให้เฉาะกูก็ชม ในเมื่อยังไม่ค่อยมีมา กูก็ต้องชมเรื่องเดิมเป็นธรรมดา
ถามอีกรอบ มีคนอ่านผ้าแพรสามศอกบ้างหรือยัง คิดว่าเป็นไงบ้าง กำลังตามหารีวิวอยู่ไม่เจอสักที่แต่ซื้อมานั่งอ่านแล้ว อ่านถึงบทที่สิบแปดแล้วแต่ยังไม่ขอรีวิวอีกรอบตอนนี้นะเดี๋ยวอ่านจบจะมาบอกว่ารู้สึกยังไง
>>51 ก็ดีแล้วไง โม่งไม่ควรมานั่งแยกว่าใครเป็นใคร ไม่ต้องมาตั้งชื่อโม่งนู่นนี่ด้วยซ้ำ ไม่งั้นจะมาเล่นโม่งทำไม แต่ที่ต้องมีโม่งตอดโม่งเฉาะ เพื่อให้จำได้ว่าโม่งตอดมันจะสับแบบนี้นะ โม่งเฉาะสับแบบนี้นะ โม่งอื่นก็มีข้อมูลว่าโม่งสองตัวนี้สับเฉาะแบบนี้ นอกเวลาสับ ๆ เฉาะ ๆ ก็ไม่ควรจะมาใส่ชื่อ
มีเรื่องใหม่ๆนะเช่น อนุตัวร้าย คนเขียนบอกว่าที่จริงคือ อนุของตัวร้าย อ่าวว แล้วทำไมไม่แก้เสียละจ้ะ
พล๊อตมีมุมใหม่คือ ให้พระเอกคือตัวร้ายของเรื่อง นางเอกเป็นหนูน้อยมัธยมปลายที่อินนิยายแล้วหวีดตัวร้ายเอามากๆ
แต่อ่านมาหลายบทพระเอกไม่ใช่ตัวร้ายนะ น่าจะเรียกว่าพระรองมากกว่า
หลุดมาในนิยายเพราะตัวร้ายผู้นี้ถูกฆ่า นางเศร้ามากเลยอธิษฐานอยากไปยืนเคียงข้างปลอบใจ อะให้คะแนนนิดนึงที่ไม่ได้ตายมาเกิดใหม่
นางตื่นมาในบทอนุภรรยาของตัวร้ายที่นางหวีด ที่ในหนังสือแทบไม่กล่าวถึง ตามบทตัวร้ายก็ย่อมไม่สนอนุภรรยาผู้นี้เท่าไหร่ เพราะกำลังไปถูกใจนางเอกของเรื่อง อนุก็ตั้งใจว่าจะต้องเปลี่ยนจุดจบของตัวร้ายไม่ให้ตายอย่างไร้ความหมายตามนิยาย
เรื่องดำเนินไปตามครรลอง ที่เราจะค้นพบว่านางเอกนิยายที่จริงไม่ได้ดีงามตามท้องเรื่องเท่าไหร่ นางอิจฉาก็จะกลายเป็นคนที่อนุภรรยา เห็นใจแล้วจะช่วยให้นางมีจุดจบที่ดีกว่านี้ คล้ายๆพล๊อตเกิดไปเป็นตัวประกอบทั้งหลาย
คำผิดเรื่องนี้มีไม่น้อย ทั้งพิมพ์ผิดในมือถือและใช้ผิด เช่น พลาง เป็น พราง คำภาษาพูดอย่าง ท่านตานาง ที่ควรเป็นท่านตาของนาง
หรือในความคิดย้อนไปปัจจุบัน แต่ศัพท์ที่ใช้กลายเป็นโบราณหมด เช่นคิดถึงคุณตา แต่เรียกท่านตา เรื่องนี้transitionของสำนวนปัจจุบันกับโลกอดีตมันกระโดดไวไป แต่มันก็เป็นปัญหาเดิมๆของเสิ่นเจิ้นแหละนะ กูรู้สึกว่า พอเป็นบทบรรยายความคิดนางเอกจากยุคปัจจุบันภาษามันก็ควรต่างจากคำบรรยายจากคนเขียน หรือ มุมความคิดของตัวละครอดีต ใช้เธอบ้างก็ได้ รึการเข้าโหมดจีนไปเลยมันดีกว่าลื่นกว่าวะ อันนี้กูก็ออกความเห็นในมุมคนอ่านที่ยังติดลอจิกอยู่ดี
แต่โดยรวมกูก็ว่าสนุกบันเทิงดีนะเรื่องนี้ ตัวละครมีพัฒนาการที่ค่อนข้างสมเหตุสมผลของแนวนี้(คือความสมเหตุสมผลบนบรรทัดฐานของแนวรักกุ๊กกิ๊กอะนะ) คาร์ของพระเอกก็น่ารักน่าหวีด แต่ไม่เห็นความร้ายตรงไหนเลย
กูละสะดุดตอนบทได้กันก็ตัดฉับไม่เน้นเอาสะเลย คือไม่เขียนNCก็ดีนะ กูเบื่อ แต่มันก็ต้องมีรายละเอียดด้านอารมณ์งามๆมาแทนด้วย คือคาร์นางเอกที่เป็นติ่งหวีดพระเอกอยู่แต่เดิมจะโดนตั้มทั้งที คิดแค่ว่า อย่างไรนางก็เป็นอนุของเขาอยู่แล้ว แหมะ นี่มันหมอหญิงมาเองเลยนี่
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.