ตำหนักที่ 1 ---> https://fanboi.ch/literature/4172/
ตำหนักที่ 2 ---> https://fanboi.ch/literature/4500/
ตำหนักที่ 3 ---> https://fanboi.ch/literature/4668/
Last posted
Total of 1000 posts
ตำหนักที่ 1 ---> https://fanboi.ch/literature/4172/
ตำหนักที่ 2 ---> https://fanboi.ch/literature/4500/
ตำหนักที่ 3 ---> https://fanboi.ch/literature/4668/
โทษที กูลืมนึกชื่อใหม่๕๕๕๕
เนียนโฆษณา! ถถถ
คิดถึงตำหนักเราจัง เถียงเรื่องเล่าลือกันแป๊บ ๆ ก็ขึ้นตำหนักใหม่ละ
ในฐานะที่กูเปิดประเด็นเรื่องนี้ กูขอชื่นชมโม่งที่โทรถามราชบัณฑิตจากใจจริง มึงแม่ง ความหวังของมวลมนุษยชาติแท้ ๆ เลย
รู้สึกอยากสับนิยายแต่ก็ขี้เกียจจัง 55555555555555
แค่ร่ำลือ เล่าลือก็กินไปครึ่งมู้ละ ไม่ได้สับเบย
ตกลงใช้ได้ทั้งร่ำลือและเล่าลือ โปรดปักธง ปุกาด ๆ ๆ ใช้ได้ทั้งร่ำลือและเล่าลือ แต่ต้องใช้ให้ถูกบริบทด้วยนะสหายโม่ง
ป.ล. โม่งโทรศัพท์ช่วยโทรถามราชบัณฑิตด้วยว่า ตอดคมสันต์ใช้ได้มั้ย เพราะอาจจะมาจากการผสมคำ ตอด+คม+สันต์ แปลว่าตอดแล้วดูคมคายดีและสุขสันต์หรรษาด้วย
โม่งเพื่อนรัก กูไปเจอของดีมาอีกแล้ว มึงบอกกูทีว่าอ่านแล้วมึงไม่ได้คิดถึงป่าท้อ T-T
http://www.tunwalai.com/story/209661/ป๋ายเจิน-สาปรักจิ้งจอกพันปีnc-18
ใครกล้าถามตอดคมสันต์กูจะนับเป็นศิษย์พี่
ทำไมนิยายจีนคนไทยแต่งถึงราคาแพงจัง ต้นทุนเขาสูงขนาดนั้น ลิขสิทธ์นิยายไทยอะเขาคิดไงเหรอ ทำไมเขาตั้งราคาสูงพอๆกับแปลจีน
กูคือเบอร์ไรวะจำไม่ได้ ที่คุยเรื่องร่ำลือ เล่าลือ
แต่ก็งงๆ กับคำตอบของราชบัณฑิตนะ แบบนี้เราเอาคำที่มีอยู่ในพจนานุกรมมาประสมเองก็ถือว่าถูกใช่มะ
ส่วน จบชีวิต ที่ว่าเป็นประโยค กราบขออภัย เกิดสับสนกับการที่ประโยคภาษาไทยสามารถละประธานได้
แต่กริยา+กรรม มันก็ไม่ใช่คำศัพท์ เรียกว่า กริยาวลี ใช่รึเปล่า ซึ่งตรงนี้ก็ถูกอย่างที่ราชบัณฑิตว่าไม่สามารถเอาทุกคำมาใส่พจนานุกรม
อย่างพจนานุกรมอังกฤษจะเก็บคำหลักไว้ นาม กริยา คุณศัพท์ วิเศษณ์ แล้วก็เพิ่มเติมคำประกอบหรือสำนวน มีตัวอย่างคำตัวอย่างประโยค
ใจจริงอยากให้พจนานุกรมเราทำแบบของฝรั่งนะ ละเอียดดี
โม่ง มีใครสับ จื่ooิj...อย่านอนเอา ไปยัง กูแค่เห็นคำโปรยก็มุมปากกระตุก รู้สึกคันไม้คันมืออย่างยิ่ง
>>13 มึงจะต้องงงทำไมกับคำตอบราชบัณฑิต ปกติคนเราก็ใช้คำแต่ละคำผสมมาเป็นประโยคหรือเป็นวลีอยู่แล้วในการสนทนา แล้วแต่ว่าใครมีความสามารถทางภาษามากน้อย คนมีน้อยก็ใช้เลียนแบบคนอื่นโดยไม่สร้างใหม่ คนมีมากก็สร้างวลีสวย ๆ ได้เอง แต่ไม่ได้แปลว่าสร้างขึ้นใหม่โดยไม่มีความถูกต้อง กูเคยอ่านรงค์ วงษ์สวรรค์บอกว่าเขาเขียนคำว่ากระท่อมโย้เซ แล้วโดนบอกอแก้ให้เป็นโย้เย้หรือไงเนี่ย เขาไม่ยอม เพราะทั้งโย้ทั้งเซมันมีความหมาย เขาเอามันมารวมกัน กูมองว่าเขาพูดถูก ถ้ามีความสามารถทางภาษาก็สามารถจำคำมารวมกันเองได้ แต่ทีนี้คนอ่านและบอกอจะยอมรับคำของมึงหรือเปล่าเท่านั้น กูไม่ได้ร่วมถกเรื่องคำว่าร่ำลือ เพราะกูอ่านแต่แรกก็เห็นแล้วว่าเป็นสองคำที่มีความหมายในตัวเอง พอดีช่วงนั้นสอบเลยขี้เกียจเขียน เพราะเขียนแล้วต้องตามมาตอบยาว ต้องขอบคุณโม่งที่โทรไปถามราชบัณฑิต คำที่ไม่ได้ใส่ในราชบัณฑิตยังมีอีกเยอะนะ ในเว็บเขาก็เขียนไปว่าให้เสนอได้ พอก่อนกูต้องไปกินข้าว คิดถึงการสับนิยายของโม่งตอดว่ะ เมื่อไหร่จะมา
>>6 ถามราชบัณฑิตไปทางอีเมลว่า ตกลงควรใช้คำว่า สมคำร่ำลือ หรือ สมคำเล่าลือ
ราชบัณฑิตตอบมาแบบนี้ว่ะ
ควรเขียนเป็น ร่ำลือ คำว่า ร่ำ มีความหมายว่า พูดซ้ำๆ , พร่ำ
(เวลาโทรถามราชบัณฑิต ส่วนใหญ่เขาตอบดีนะ เขามีเจ้าหน้าที่ไว้ตอบคำถามด้านนี้อยู่แล้วในวันเวลาราชการ
ในหน้าเว็บเขาตรงพวกเบอร์ติดต่อภายใน เขายังมีโชว์เบอร์ของที่จะ สอบถามศัพท์ ด้านภาษาไทย ไว้เลย
เพียงแต่ตอนโทร ทำใจนิด โทรติดยากมาก แต่ถ้าโทรติดแล้ว เขาคุยดี อารมณ์เหมือนคุยกับครูภาษาไทยตอนเด็กเลย)
เกรงใจเพื่อนโม่งจริงๆ ว่ะ ลากยาวมาก ประเด็นร่ำลือ ล่ำลือ กินพื้นที่ทู้จริงๆ
ป.ล. ตอดคมสันต์ อยากถามมั้ย เดี๋ยวถามให้ ฮ่าๆ ๆ
กราบขอเพื่อนโม่งพอเรื่องร่ำลือเล่าลืออะไรก็ตามที หยุดเถิด
ปอลู ใครเจอเสิ่นเจิ้นลอกเสิ่นเจิ้นก็มาแบ่งปันกันบ้าง เผื่อจะช่วยกันสอดส่อง
สับนิยายดีกว่าว่ะ ใครมีเสิ่นเจิ้นยาวไม่เกินยี่สิบตอน เอามาลงเลย ติดท็อปไม่ติดท็อปได้หมด เดี๋ยวกูเลือกเฉาะเรื่องนึง ที่เหลือรอโม่งตอด
ห้องนี้มีกฎว่าเวลาพูดถึงนิยายเรื่องไหน ห้ามเขียนชื่อตรงๆ ป่าววะ เห็นหลายคนพิมพ์แบบไม่ตรงเป๊ะ
ไม่ใช่อะไร กลัวทำผิดกฎ
กูอ่าน เพียง love สลัก heart มาแล้ว ตอนแรกกะว่าจะอ่านซักสามตอน แต่พออ่านบทนำได้ไม่ถึงครึ่งกูก็เลื่อนลงดูแล้วว่าใกล้จบหรือยัง สรุปว่าอ่านบทนำบทเดียวจอด
อันแรกเลยกูต้องบอกว่าถ้าใครอ่านจีนแปลหรืออ่านภาษาจีนได้ และไม่ชอบเสิ่นเจิ้นที่เขียนไม่จีน ขอให้ผ่านนิยายเรื่องนี้ไปได้เลย ไม่เชื่อไปอ่านดูเอง นี่คือคำตัดสินของกูคนเดียว (กูอ่านจีนแปลเป็นหลัก อ่านเสิ่นเจิ้นเฉพาะงานที่มีกลิ่นจีน)
ประโยคบรรยายไม่จีนเลย แล้วถ้าจะดูแบบไทย ตัดอคติในเรื่องจีนไม่จีนออกไป ประโยคไทยก็ไม่สละสลวย กูไม่ขอติเรื่องเว้นวรรค นักเขียนอาจจะพิมพ์ในไหนก็แล้วแต่ที่เว้นวรรคยาก หรือรีบลง ไม่ได้ตรวจอะไรก็แล้วแต่เหตุผลเขา แต่กูขอติการใช้ประโยคยาวเป็นพืดที่ทำให้ความน่าอ่านลดลงไปครึ่งนึง แล้วเขียนแบบนี้ในทุกอารมณ์ ทุกตัวละครที่ออกมา ใช้การบรรยายแบบเดียวกันหมด มันเป็นการเล่าเรื่องที่แบนมาก เพราะจริง ๆ แล้วตัวละครแต่ละตัวมันมีบุคลิกของมัน มุมมองของมันต้องมีลักษณะต่างกัน ความคิดของมัน ท่วงท่าของมัน พวกมึงคงเข้าใจ เขาเปิดบทนำมาด้วยตัวพระเอกกับนางเอก นางเอกโดนนินทาเรื่องเป็นใบ้แต่จะได้แต่งกับผู้ชายดีและหล่อ ส่วนพระเอกก็เปิดตัวด้วยการถอดเสื้อรำกระบี่ แต่อ่านแล้วไม่ได้รู้สึกว่ามันเหี้ยมหาญอะไรอย่างที่พยายามจะบอก เพราะประโยคมันเย่ินเย้อยืดยาด และมีการใช้คำผิดความหมายด้วย
ยกตัวอย่าง ใบหน้าได้รูปและดวงตาที่เฉี่ยวขึ้นเล็กน้อย (เฉี่ยวขึ้นเล็กน้อยคืออะไร เฉี่ยวแปลว่าทันสมัย เช่น แต่งตัวเฉี่ยว เปรี้ยว ดวงตาทันสมัยขึ้นเล็กน้อยคืออะไร ไหนใครบอกหน่อย ควรใช้ว่าดวงตาเฉียงขึ้น ง่ายแค่นี้เองแต่คนเขียนไม่รู้) ตัวอย่างที่สอง เริ่มสงสารว่าที่ลูกสะใภ้ขึ้นมาเนือง ๆ (สงสารเนือง ๆ เป็นยังไงเหรอวะ เนือง ๆ หมายถึงทำบ่อย ๆ มันไม่เข้ากับประโยค ถ้าสงสารบ่อย ๆ ก็ไม่ต้องมีคำว่าเริ่ม หรือถ้าจะแปลว่ามาก อย่างที่ใช้กันว่าเนืองนอง มันก็ไม่เข้าอีกอยู่ดี นี่กูพยายามหาคำแปลมาช่วยแล้ว) อยากบอกนักเขียนทุกคนว่าถ้ามึงไม่แม่นคำก็จงเปิดพจนานุกรมซะหน่อย
นิยายแบบนี้ในสายตากู คือนิยายที่อ่านข้าม ๆ เอาเนื้อเรื่องพอได้ อ่านเอาอรรถรสด้านภาษาสำหรับกูแล้ว ไม่ผ่าน อ่านแล้วง่วง ขนาดคิดว่าเราต้องเปิดใจอ่านซักสามบท กูยังไม่ไหวเลยว่ะ ได้แค่บทนำก็ปวดตับแล้ว
อ้อ ข้อดีคือไม่ค่อยมีคำพิมพ์ผิด กูเห็นคำเดียวคือบุตรตรี ที่เหลือให้โม่งอื่นมาออกความเห็นบ้างดีกว่า เชื่อกูคนเดียวเดี๋ยวว่าลำเอียง
เรื่องนางเอกเอาแต่นอนที่ติดท็อปเหมือนกัน กูลองไปแง้มดู มันไม่มีอะไรเพราะเนื้อเรื่องเดิม ๆ แทบไม่เพิ่มเติมอะไรเลย นางเอกไปเกิดใหม่ในร่างนางร้าย แล้วก็พยายามทำตัวให้แตกต่างจากนิยายที่อ่านมา คุณหนูเรย์กะมาเก็บค่าลิขสิทธิ์ได้ว่ะ แบบเดียวกัน แต่คนเขียนบอกว่าเพิ่งเขียนเรื่องแรกอย่าว่ากัน ก็เอาตามนั้น เพิ่งเขียนเรื่องแรกก็เลยเขียนตามเรื่องอื่น ง่ายดี คนอ่านเยอะด้วย ติดท็อปด้วย ลั้นลา ๆ ๆ
>>28 คารวะโม่งเฉาะช่วยตอดคมสันต์ อยากให้ช่วยเฉาะนิยายกูแต่กูก็ใจบางเกินไป มึงเฉาะละเอียดมาก อ่านแล้วได้ความรู้ตลอด มึงลองยกตัวอย่างเสิ่นเจิ้นที่อ่านแล้วพอจะได้กลิ่นบรรยายแบบจีนหน่อยได้ไหมอะ กูจะได้ตามไปดูเผื่อจะเอามาเป็นเยี่ยงอย่าง
มันมีเสิ่นเจิ้นเรื่องหนึ่ง อะไรเกียจคร้านสักอย่าง กูอ่านคำโปรยกับหน้าแรกผ่าน ๆ แล้วก็นึกถึงเรื่องซ่อนรักวิวาห์ลวง นางเอกขี้เกียจทำนองนี้แหละ
เจอทั้งเสิ่นเจิ้นคล้ายจีนแปล แล้วก็เจอทั้งเสิ่นเจิ้นคล้ายเสิ่นเจิ้นด้วยกันเอง ร้องว้าวหนักมาก
>>28 กูเจอคำว่าคู่หมั้นสาว ก็ไท๊ไทยล่ะ กูไม่ค่อยชอบอ่านนิยายจีนที่ใช้คำว่าสาวกับหนุ่มต่อประโชค ยกเว้นคำว่า ชายหนุ่ม หญิงสาว ถ้าเจอคำแบบ แม่ทัพหนุ่ม ไรพวกนี้ จะไม่ค่อยชอบ มันไท๊ไทย กูพยายามจะอ่านอยู่นะของนักเขียนคนนี้ กูอ่านจากคอมเม้นต์เห็นมีแต่คนว่าละมุน คือกูอยากรู้ว่าดำเนินเรื่องแบบไหนเหรอถึงได้ทำให้คนอ่านรู้สึกว่าละมุน อีกอย่างหนึ่งในเรื่องนี้ที่บ่งบอกความเป็นไทย คือนิสัยจะเอาชนะของพระเอก พอนางเอกทำท่าจะถอนหมั้น ฮีก็ไม่ยอมจ้า จะแต่งให้ได้ คือเอาตามหลักความจริงนิสัยแบบชายจีนโบราณ อย่างที่พระเอกเคยคิดในเรื่องหน้าตาทางหน้าที่การงาน การมีภรรยาเป็นใบ้จะทำให้เขาเสื่อมเสีย การที่เจอนางเอกปฏิเสธควรจะดีใจด้วยซ้ำ อย่างมากในใจแค่รู้สึกแปลก ๆ ในความที่นางเอกไม่เหมือนหญิงอื่น และปล่อยผ่าน แต่เพราะสองคนนี้คือพระเอกนางเอกไง เลยต้องดำเนินเรื่องให้ยินยอม
กูช่วงนี้ไม่มีอะไรอ่านอย่างแรงเลยโฉบไปอ่านนิยายจีนโดยนักอ่านไทยมาหลายเรื่องอยู่ จากที่กูเห็นมีนิยายข้ามภพย้อนเวลาเกิดเป็นคุณหนู นางร้าย ตัวประกอบ90% ดังนั้นเรื่องไหนมีพล๊อตต่างไปกูจะยอมอ่านหลายบทหน่อย ถือว่ามีความพยายามดี ถ้าจากท้อปในเด็กดีกูว่า กู่มี่เอิน ทำได้ดี แม้ว่าบางช่วงจะซูเกินและยัดข้อมูลที่ไปรีเสิชมาล้นไปหน่อย แต่ดีกว่าไม่ทำรีเสิชแหละวะ โดยรวมเนื้อเรื่องน่าติดตาม ภาษาไม่ติดขัด แต่กูไม่กล้าสับมาก บางทีกูก็มัวตามเนื้อเรื่อง สำนวนถ้าไม่ไทยจ๋าเกินกูก็ผ่านๆไป
นางเอกจื่ออิงเอาแต่นอน กูว่าน่าเบื่อมาก นางเอกตามอาจารย์ไปเรียนตั้งแต่5ขวบ ยังไม่สิบขวบก็เรียนได้แทบทุกอย่าง เป็นหมอด้วยโว้ย กูเบื่อนางเอกซูที่ย้อนเวลาไปมากๆ บางทีก็พยายามบอกว่าจบสูงมาก ฉลาดมาก ย้อนเวลามาเลยซู อยากจะเขียนเรื่องให้นางเอกอยู่กรุงเทพวันๆเอาแต่เล่นเกมส์ปลูกผัก ย้อนเวลาไปแล้วทำเหี้ยอะไรก็ไม่ได้มั่งจัง
>>30 เสิ่นเจิ้นกลิ่นจีนที่กูว่าใช้ได้คือจินเสวี่ยนหวาง รูปประโยควางได้เหมือนแปลจีน อีกคนคือคนเขียนบันทึกมหาดเล็ก คนนี้กูไม่รู้ว่าเขารู้ภาษาจีนหรือเปล่า แต่เขียนเหมือนแปลจีน แล้วก็คนเขียนกู่มี่เอิน เรียงประโยคได้ดีแบบจีน ๆ เหมือนกัน คือถ้ามึงรู้ภาษาจีน มึงจะรู้ว่ารูปประโยคมันไม่เหมือนไทย มันจะไม่มีประโยคแบบร่างบางเดินเยื้องกรายเข้ามาหยุดมองดอกโบตั๋นซึ่งท่านแม่เรือนเล็กได้ปลูกไว้ตั้งแต่ปีกลายจนบัดนี้ออกดอกเบ่งบาน อะไรแบบเนี้ย มันไม่ใช่จีน ถ้ามึงอยากรู้ว่าจีนมันเขียนประโยคยังไง มึงลองหาบทกวีจีนดัง ๆ มาอ่านแล้วมึงจะเห็น มันจะเน้นการใช้คำสวยแต่สั้น ไม่ได้ยืดเยื้อ ถ้าแปลเป็นไทยจะห้วน
>>33 เรื่องที่มันผิดธรรมเนียมกูไม่ค่อยอยากติ ตีซะว่ามันเป็นนิยายแบบยกจินตนาการเหนือธรรมเนียม แบบคุณหนูวิ่งแร่ออกนอกบ้านไปหมั้นกับคุณชายบนร้านเหล้า ไรเงี้ย มันเป็นนิยายที่ไม่อิงความจริง แต่เอาฮา เอามัน เอาฟิน มันก็ทำได้ไง แต่ในเรื่องความคิดพระเอก กูเห็นด้วย มันไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจีนเลย เอางี้ แค่เป็นใบ้ อีกฝ่ายก็ถอนหมั้นได้แล้ว เพราะเขาก็ต้องกลัวว่าจะได้ลูกออกมาเหมือนแม่ คนใหญ่คนโตที่ไหนเขาจะมาหมั้นคนพิการให้ลูกชายลูกสาว นอกจากมันจะมีเหตุผลอื่นนะ กูอ่านแค่บทนำ เลยว่าไม่ได้เต็มปาก
>>34 เรื่องที่มีพล็อทใช้ได้สำหรับคนอ่านจีนแปล ถ้าไม่เน้นรัก กูคิดว่ากู่มี่เอินกับบันทึกมหาดเล็กใช้ได้ทั้งคู่ แต่กูไม่ค่อยชอบบรรยายสรรพนามบุรุษที่หนึ่ง เห็นคนเขียนบันทึกแต่งอีกเรื่องบรรยายสรรพนามที่หนึ่งเหมือนกัน กูเลยดองไว้ก่อน
>>36 ไม่เน้นรักนี่หายากมาก เดี๋ยวกูไปตามบันทึกมหาดเล็กมาอ่านก่อน กูไม่ชอบสรรพนามที่หนึ่งเหมือนกัน จนป่านนี้กูยังดองลำนำทะเลทรายอยู่เลย ด้วยความที่ดูละครเพราะท่านหูเก้าและแม่ทัพเอ็ดดี้เผิงไปแล้ว เจอบทบรรยายนางเอกข้านู่นข้านี่เลยไม่ผ่านเล่ม1สักที55
พอมึงอธิบายเรื่องสำนวนภาษาจีนมันต่างกับไทยยังไงกูเลยเข้าใจขึ้นเลย กูไม่รู้ภาษาจีนแต่ติดอ่านจีนแปลมาตั้งแต่เด็กเพราะชอบสำนวนภาษากลภนมาก เวลาจะอ่านเสิ่นเจิ้นกูเปิดใจมากๆเพราะรู้ว่าอ่านเอามโนเอาฮาไป แต่กูว่าถ้านักเขียนแนวนี้เน้นเขียนสนองนี้ดตัวเองไปเรื่อยๆไม่คิดจะก้าวหน้าไปกว่านี้ก็น่าเสียดายแทน เพราะแนวจีนแปลดีๆมันมีมาให้เปรียบเทียบตลอด คนอ่านอ่านเยอะๆเข้าก็จะถึงวันที่ทนอ่านเสิ่นเจิ้นกลวงๆไม่รอดเอง กูมองโลกสวยไปมั้ย
เพื่อนโม่ง กูซื้อหนังสือคลังคำตามมึงแนะนำแล้ว
หูยยยสะใจคุ้มค่ามาก
มีเรื่องไหนในท็อปยังไม่โดนสับบ้างวะ เฉาะให้ชมเป็นบุญตาที
>>28 >>33 คิดเหมือนกัน กูเจอ "ตาเฉี่ยว" เข้าไปกูสะดุดหัวทิ่มเลย แต่อ่านต่อไปเพราะชอบตัวละครที่ร่างกายไม่สมบูรณ์ บอกตรงๆ เรื่องนี้ดำเนินเรื่องโคตรไทย ตัวละครคิดและทำแบบไทยทุกอย่าง อย่างที่มึงว่าเลยว่าบุคลิกพระเอกนี่คือพระเอกนิยายไทยชัดๆ กูอ่านเหตุผลที่มันทู่ซี้หมั้นกะนางเอกต่อไปแล้วปวดกบาลมาก แต่เรื่องนี้อ่านเพราะเห็นคนเขียนเค้าไปแปะในวดด.มั้ง เห็นเรื่องย่อนางเอกเป็นใบ้กูเลยสนใจ นี่กูเลิกอ่านไปนานละ ตั้งแต่นางเอกพูดได้กูก็ไม่รู้จะอ่านนิยายไทยใส่ชุดจีนนี่ต่อไปทำไม
แล้วกูก็ไม่คิดว่าแบบนี้เรียกละมุน เขียนเป็นนิยายไทยยังไม่รู้สึกว่าน่าอ่านเลย นี่เขียนเป็นจีนที่ความรู้และความคิดของคนเขียนไม่จีนมันเลยออกมาแบบนี้
พวกมึง กูเห็นเรื่องนี้ขึ้นท็อปนานมากละ แต่ไม่มีคนสับ มีใครอ่านบ้างวะ เป็นไงมั่ง เรื่องคู่ขย้ำบัลลังก์ กูว่าชื่อเรื่องแปลกดี
>>47 คนนี้เขียนดี โม่งเฉาะขอตบมือให้ ใครที่ร้องว่าเขียนยังไงก็ไม่จีน เขียนยังไงก็โดนติ ไปดูคนนี้ได้ เขาไม่ได้เขียนจนกลายเป็นจีนแปล แต่เขาใส่ความเป็นจีนเป็นไทยได้พอเหมาะ พอดีนางเอกเป็นไทยด้วย ชื่อดุสิตา การบรรยายในมุมมองของดุสิตาจึงเป็นไทยบ้าง แต่ก็ไม่ผิดเพราะตัวละครเป็นไทย แต่ส่วนที่เป็นตัวละครจีนพูด เขาก็ทำได้ดี มีการแทรกความคิดแบบจีนในตัวละครจีน การบรรยายโดยทั่วไปจัดว่าดี ถ้าจะมีประโยคยืดเยื้อนิดหน่อย ก็เป็นประโยคที่เชื่อว่าจะถูกแก้ไขในการรีไรต์ก่อนพิมพ์ เพราะกูมองว่าเขาตรวจเองอยู่แล้วระหว่างที่เขาแต่ง แต่ของอย่างนี้มันต้องมีหลงตาบ้างอยู่แล้ว กูอวยคนนี้ในแง่การเขียนงาน เนื้อเรื่องกูไม่ขอพูดถึงเพราะจะพูดได้ก็ต้องอ่านงานเขาให้จบอย่างละเอียด ถ้าใครบอกว่าเรื่องนี้เริ่มต้นไม่ได้แปลกอะไร ตายแล้วเข้าร่างใหม่ กูก็อยากจะบอกว่านิยายที่เริ่มต้นด้วยการตายแล้วเข้าร่างใหม่มันไม่ได้ผิด แต่มันจะดูตลกถ้ามึงไม่มีลูกเล่นใหม่เลย เหมือนคนอื่นเป๊ะราวกับเทโจ๊กคนอร์ตามด้วยน้ำเปล่าหนึ่งซองครึ่ง แต่งานของเขาคนนี้มีลูกเล่น ความคิดของนางเอกทำให้นิยายชวนอ่านขึ้นเป็นกอง ถ้าใครคิดว่ากูอวยคนซ้ำๆ ก็ลองไปอ่านเรื่องที่กูอวยบ้างนะ กูยุติธรรมในการติชม ถ้ามีงานดีมาให้เฉาะกูก็ชม ในเมื่อยังไม่ค่อยมีมา กูก็ต้องชมเรื่องเดิมเป็นธรรมดา
ถามอีกรอบ มีคนอ่านผ้าแพรสามศอกบ้างหรือยัง คิดว่าเป็นไงบ้าง กำลังตามหารีวิวอยู่ไม่เจอสักที่แต่ซื้อมานั่งอ่านแล้ว อ่านถึงบทที่สิบแปดแล้วแต่ยังไม่ขอรีวิวอีกรอบตอนนี้นะเดี๋ยวอ่านจบจะมาบอกว่ารู้สึกยังไง
>>51 ก็ดีแล้วไง โม่งไม่ควรมานั่งแยกว่าใครเป็นใคร ไม่ต้องมาตั้งชื่อโม่งนู่นนี่ด้วยซ้ำ ไม่งั้นจะมาเล่นโม่งทำไม แต่ที่ต้องมีโม่งตอดโม่งเฉาะ เพื่อให้จำได้ว่าโม่งตอดมันจะสับแบบนี้นะ โม่งเฉาะสับแบบนี้นะ โม่งอื่นก็มีข้อมูลว่าโม่งสองตัวนี้สับเฉาะแบบนี้ นอกเวลาสับ ๆ เฉาะ ๆ ก็ไม่ควรจะมาใส่ชื่อ
มีเรื่องใหม่ๆนะเช่น อนุตัวร้าย คนเขียนบอกว่าที่จริงคือ อนุของตัวร้าย อ่าวว แล้วทำไมไม่แก้เสียละจ้ะ
พล๊อตมีมุมใหม่คือ ให้พระเอกคือตัวร้ายของเรื่อง นางเอกเป็นหนูน้อยมัธยมปลายที่อินนิยายแล้วหวีดตัวร้ายเอามากๆ
แต่อ่านมาหลายบทพระเอกไม่ใช่ตัวร้ายนะ น่าจะเรียกว่าพระรองมากกว่า
หลุดมาในนิยายเพราะตัวร้ายผู้นี้ถูกฆ่า นางเศร้ามากเลยอธิษฐานอยากไปยืนเคียงข้างปลอบใจ อะให้คะแนนนิดนึงที่ไม่ได้ตายมาเกิดใหม่
นางตื่นมาในบทอนุภรรยาของตัวร้ายที่นางหวีด ที่ในหนังสือแทบไม่กล่าวถึง ตามบทตัวร้ายก็ย่อมไม่สนอนุภรรยาผู้นี้เท่าไหร่ เพราะกำลังไปถูกใจนางเอกของเรื่อง อนุก็ตั้งใจว่าจะต้องเปลี่ยนจุดจบของตัวร้ายไม่ให้ตายอย่างไร้ความหมายตามนิยาย
เรื่องดำเนินไปตามครรลอง ที่เราจะค้นพบว่านางเอกนิยายที่จริงไม่ได้ดีงามตามท้องเรื่องเท่าไหร่ นางอิจฉาก็จะกลายเป็นคนที่อนุภรรยา เห็นใจแล้วจะช่วยให้นางมีจุดจบที่ดีกว่านี้ คล้ายๆพล๊อตเกิดไปเป็นตัวประกอบทั้งหลาย
คำผิดเรื่องนี้มีไม่น้อย ทั้งพิมพ์ผิดในมือถือและใช้ผิด เช่น พลาง เป็น พราง คำภาษาพูดอย่าง ท่านตานาง ที่ควรเป็นท่านตาของนาง
หรือในความคิดย้อนไปปัจจุบัน แต่ศัพท์ที่ใช้กลายเป็นโบราณหมด เช่นคิดถึงคุณตา แต่เรียกท่านตา เรื่องนี้transitionของสำนวนปัจจุบันกับโลกอดีตมันกระโดดไวไป แต่มันก็เป็นปัญหาเดิมๆของเสิ่นเจิ้นแหละนะ กูรู้สึกว่า พอเป็นบทบรรยายความคิดนางเอกจากยุคปัจจุบันภาษามันก็ควรต่างจากคำบรรยายจากคนเขียน หรือ มุมความคิดของตัวละครอดีต ใช้เธอบ้างก็ได้ รึการเข้าโหมดจีนไปเลยมันดีกว่าลื่นกว่าวะ อันนี้กูก็ออกความเห็นในมุมคนอ่านที่ยังติดลอจิกอยู่ดี
แต่โดยรวมกูก็ว่าสนุกบันเทิงดีนะเรื่องนี้ ตัวละครมีพัฒนาการที่ค่อนข้างสมเหตุสมผลของแนวนี้(คือความสมเหตุสมผลบนบรรทัดฐานของแนวรักกุ๊กกิ๊กอะนะ) คาร์ของพระเอกก็น่ารักน่าหวีด แต่ไม่เห็นความร้ายตรงไหนเลย
กูละสะดุดตอนบทได้กันก็ตัดฉับไม่เน้นเอาสะเลย คือไม่เขียนNCก็ดีนะ กูเบื่อ แต่มันก็ต้องมีรายละเอียดด้านอารมณ์งามๆมาแทนด้วย คือคาร์นางเอกที่เป็นติ่งหวีดพระเอกอยู่แต่เดิมจะโดนตั้มทั้งที คิดแค่ว่า อย่างไรนางก็เป็นอนุของเขาอยู่แล้ว แหมะ นี่มันหมอหญิงมาเองเลยนี่
>>53 พล็อทเกิดเป็นนางร้ายส่วนใหญ่ก็เขียนจนกลายเป็นนางดีทั้งนั้น อันนี้กูไม่ตินะ เพราะคนเรามองในมุมมองตัวเองก็ต้องคิดว่าตัวเองทำดี แต่ถ้าเขียนให้มันฮาได้มันก็จะดีกว่าไง ดีกว่าอยู่ ๆ ก็กลายเป็นคนดีขึ้นมาเฉย ๆ แล้วนางเอกดันกลายเป็นคนร้ายไปซะ ส่วนเรื่องที่มึงไปอ่านมา กูไม่รอดบทแรกเช่นเคย เพิ่งย่อหน้าเดียวก็เจอ เสียงที่เบาราวกับลมแว่วออกมาจากปากหนาของชายหนุ่มพร้อมกับร่างที่ไร้วิญญาณกำลังล้มลงแววตาสีน้ำตาลอ่อนปิดลงช้า ๆ
แววตาของกูปิดลงพร้อมกับแววตาของพระเอก เอ๊ย ผู้ร้ายในเรื่อง แต่ใครไม่ต้องมาถามกูนะว่าแววตาปิดลงยังไง เพราะกูก็ไม่อาจจะอธิบายได้ คนเขียนยังไม่รู้จักเลยว่าแววตากับดวงตาต่างกันยังไง คงจะยังเด็กมาก อายุคงไม่เกินนางเอกในเรื่อง แต่ถ้าเกินแล้วก็ถามใจเธอดูนะจ๊ะว่าเกิดอะไรขึ้นกับภาษาไทยของเธอ
พูดเรื่องบทบรรยายนะ กูหมายถึงรวม ๆ ไม่ได้หมายถึงนิยายเรื่องนี้ พวกที่ใช้บทบรรยายติดขัด เป็นเพราะไม่เข้าใจคำว่ามุมมองของตัวละคร พวกนี้แยกได้แค่เวลาตัวละครพูด แต่พอถึงบทบรรยายซึ่งมองผ่านมุมมองตัวละคร ดันใช้มุมมองแบบเดียวกันหมด พระเอกมองฟ้า ฟ้าก็เรืองรองดังทองทาแบบนั้น นางเอกมองฟ้า ฟ้าก็เรืองรองดังทองทาแบบเดียวกัน มันไม่ใช่ไง คนเรามองไปทางเดียวกัน แต่ด้วยนิสัยที่แตกต่าง มึงจะมองไม่เหมือนกันหรอก ไหนยังจะมีบริบทอื่น การมองกันเองระหว่างตัวละคร มุมมองมันต้องต่าง ความคิดก็ต้องต่างด้วยข้อจำกัดทางเพศ การศึกษา อายุ อาชีพ ตรงนี้นักเขียนมือสมัครเล่นทำไม่ค่อยได้ แต่กูไม่ว่าอะไรนะ นักเขียนเด็กดีเป็นมือสมัครเล่นทั้งนั้น มืออาชีพมีไม่กี่คน ที่พูดเนี่ยไม่ใช่จะด่า แต่จะบอกให้รู้ว่าคนเขียนบางคนอ่อนตรงไหน ควรปรับปรุงตรงไหน คนอื่นเขาถึงจะยกย่องงานของมึง ไม่ต้องไปนั่งร้องไห้ขี้มูกโป่ง แต่หัดปรับปรุงงานจะดีกว่าจ้า
กูมองว่า นักเขียนเด็กดีเด็กน่อยทั้งหลายถ้าเริ่มหัดเขียนจากยุคที่ฮิตเสิ่นเจิ้นกูว่าในอนาคต มันน่าจะช่วยให้พัฒนาได้เร็วขึ้น ถ้ามันทำให้ได้อ่านสำนวนสวยๆมากขึ้นได้อ่านบทกวีงามๆผ่านตาบ้าง ยังไงทุกคนก็จะต้องค้นคว้าหาของแนวนี้มาใส่หัวบ้างไม่มากก็น้อย กูถือว่าจุดเริ่มต้นสายจีนมีคลังสมบัติให้ค้นหาได้มากถ้าคิดจะขุดหา กูเทียบกับยุคที่เด็กเขียนอิโมติคอนกันจนพัฒนาเป็นนิสัยที่ไม่สามารถบรรยายความคิดออกมาเป็นภาษาได้ จนทำให้เกิดนิยายที่อ่านไม่ไหวจะเคลียร์ เพราะคลังอาวุธมาจากมโนล้วนๆ
ขยันสับขยันเฉาะกันจังงงง กูว่างแล้ว เดี๋ยวกูมาตอดบ้าง
มึงกูถามไรหน่อย พวกที่ซื้อหนังสือชะตาพ่ายนางร้ายข้ามภพอะ ตะกี้กูไปอ่านตอนล่าสุดที่เพิ่งอัพในdd มา ญาติไทเฮาชื่อเหว่ยซู๊ด จริงหรอวะ คือนี่ชื่อคน?
อ่านเรื่องคุณชายอะไรซักอย่าง พระเอกเป็นคนมีปมด้อยก็เลยเป็นแบดบอย แล้วดันทะลุมิติไปยุคจีนโบราณ
นานๆ จะมีเรื่องพระเอกทะลุมิติในเสิ่นเจิ้น
ภาษาเขียนก็โอเคดีนะ หรือเพราะกูเป็นพวกอ่านเอาเรื่องก็ไม่รู้แฮะ ไม่ได้เน้นภาษาเท่าไหร่ ขอแค่ไม่สะดุดมากก็พอใจแล้ว
ตอนนี้ตามกูมี่เอิน ซื่อจื่อ ภรรยาทรราช คุณชาย แล้วก็เรื่องของคนเขียนลำนำขนนก (บันทึกลับมหาดเล็กกับคุณหนูใหญ่)
เรื่องราวน่าสนใจดี
แม่หนูกระต่ายแซ่จางเบาสุดแล้วของนักเขียนคนนี้ ตามมาตั้งแต่ลำนำขนนก 706 อ่านซ้ำวนเรื่องละหลายรอบแล้วเวลาไม่มีเรื่องไหนอ่าน
มาสปอยล์ แพรขาวสามศอก
.
.
.
.
.
เนื้อหาเหมือนกับตัวอย่างในเด็กดีสี่สิบกว่าบทส่วนที่เหลือเอ่ยถึงความโปรดปรานพิชชีเกินหน้าสนมนางอื่นทั้งไทเฮาและฮ่องเต้ เลื่อนตำแหน่งให้แบบก้าวกระโดดมาก จากไฉเหริน > หวั่นอี๋ > เจาหรง จนได้เป็น ฮองเฮา ส่วนสนมที่ถูกปลดหรือลดตำแหน่งก็ลดแบบลดฮวบไปเลยเหมือนกัน ท้ายที่สุดวังหลังเหลือแค่พิชชีคนเดียว สนมอื่นโดนปลดหมดแถมตอนอยู่อีฮ่องเต้บ้ายังไม่ค่อยแยแสอีก ทำงานหนักไปวังหลังแค่เดือนละสองครั้ง มีฮ่องเต้ที่ไหนเป็นแบบนี้บ้างเนี่ยไม่ห่วงเรื่องผู้สืบทอดราชบัลลังก์สักนิด ถ้าพิชชีมีลูกไม่ได้อีกคนนี่สงสัยต้องเอาหลานหรือพี่น้องมาสืบต่อราชบัลลังก์ซะแล้วมั้งเนี่ย สงสัยตอนบ้างานอีต่านี่คงลืมคำสอนขงจื่อที่ว่าอกตัญญูสามไร้ทายาทร้ายแรงสุดไปล่ะมั้ง ดีที่ยังมีโอรสธิดากับพิชชีคู่หนึ่งลบล้างอกตัญญูสามไปได้ในที่สุด
.
.
.
.
.
จบสปอยล์
>> ข้ามภพมาเป็นหรงลี่เหม่ย <<
โดย ManutsanunPm
https://writer.dek-d.com/ManutsanunPm/story/view.php?id=1730744
กูว่าชื่อเรื่องธรรมดาอะ ข้ามภพมาเป็นโม่งห้องเสิ่นเจิ้น งี้มะ
อ้อ กูขอขำหน้าข้อมูลเบื้องต้นหน่อย เจอ “เงียบครึม” เข้าไปนี่ 5555555555
มากันที่ตอนแรกก็เจอคำผิด ใช้คำฟุ่มเฟือย แถมยังสลับ POV ตอนแรกใช้บุรุษหนึ่งอยู่ดี ๆ ก็มาเล่าแบบบุรุษสาม แล้วกลับเป็นบุรุษหนึ่งเฉย พี่ว่าน้องต้องตกลงกับตัวเองนะคะ
กูว่าประโยคสนทนามันทื่อ ๆ ไม่เป็นธรรมชาติว่ะ
“คุณตำรวจคะ เมื่อไปถึงสน. ฯลฯ” คือมันน่าจะใช้แบบ “ถึงสน.เมื่อไร ฯลฯ” อะไรแบบนี้จะดูลื่นไหลกว่าปะ ยังมีแบบ “ได้โปรดให้ร่าดูเถอะนะคะ มันเป็นครั้งสุดท้าย... ฯลฯ” “แต่ขอเพียงข้อเดียว” ทั้งที่มันเป็นคำพูดในยุคปัจจุบันแท้ ๆ
เว้นวรรคพลาด บรรยายแบบย่อยง่าย ในสายตากูคือไม่ได้สละสลวยดีเด่อะไร ออกจะธรรมดาจนขาดเสน่ห์ แล้วก็คนเขียนไม่สามารถทำให้คนอ่านอินไปกับตัวละครได้เลย บรรยายอยู่นั่นว่าร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะแม่ถูกฆาตกรรม บรรยายแค่นั้นแหละ ร้องวนไปวนมา
คือนี่หัวอกลูกสาวทั้งที เจาะลึกกว่านี้ บีบให้อินกว่านี้ได้มะ ในนางเอกคิดย้อนอดีต, หาคำมาอุปมา ฯลฯ อะไรก็ได้ที่แสดงชั้นเชิงมากกว่านี้ นี่ธรรมดาจนน่าเบื่อค่อนไปทางน่ารำคาญ
หรืออารมณ์โกรธของคนที่ปะทะฝีปากในตอนท้าย ๆ ของตอนก็นิ่งมาก น่าเบื่อมาก เหมือนดูหนังสักเรื่องที่นักแสดงเล่นเป็นธรรมชาติอะ คือเล่นเป็นหิน เป็นต้นไม้ เฮ้อ...
ยกตัวอย่างพวกบทบรรยาย
“เสียงแม่รินทร์ที่พูดออกมาอย่างแผ่วเบาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม” what!?
“โดยเฉพาะเธอที่ประโยคสุดท้ายของแม่รินทร์นั้นดังก้องอยู่ในหัว วนซ้ำไปซ้ำมา ด้วยอาการเหม่อลอย” กูขอร้อง what!? อีกรอบ 555555555
“เธอเข้าทำงานที่บริษัทแห่งนี้” อันนี้ยกมาเพียว ๆ คงไม่เห็นอะไร แต่คือเนื้อความก่อนหน้าคือไม่มีบอกเลยว่าบริษัทอะไร อยู่ ๆ ก็ “บริษัทแห่งนี้”
มากันที่ความสมเหตุสมผล
นางเอกแม่ถูกฆาตกรรม คนร้ายอัดคลิปไว้ นางเอกขอดูคลิป ตำรวจให้ดู
1. ทำไมคนร้ายอัดคลิป เพื่อประโยชน์อะไร มันไม่ใช่ข่มขืนที่จะเอาไว้ใช้แบล็กเมล์ได้อะ
2. คนร้ายทิ้งคลิปไว้และตำรวจได้ไป คือไร แล้วจะถ่ายทำไมอะ เพื่อไร งง
3. ตำรวจให้นางเอกดูคลิป อันนี้กูไม่รู้กระบวนการทางกฎหมาย แต่แม่ถูกฆาตกรรม ลูกสาวขอดูของกลาง? มันได้ปะ เออ ไม่รู้ อีกอย่างคือตอนนั้นยังสืบคนร้ายไม่ได้เลยอะ ตำรวจจะไว้ใจนังลูกสาวได้เหรอ งง
เอาเป็นว่าถ้ามีคำอธิบายสมเหตุสมผลมารองรับก็แล้วไป เพราะกูอ่านแค่ตอนแรก
ความสมเหตุสมผลประเด็นที่สอง คือหลังจากจับคนร้ายได้ก็สรุปว่านี่เป็นคดีฆาตกรรมธรรมดา แค่แม่นางเอกผ่านไปแถวย่านคนชั่ว พวกมันเลยจับมัด กรีดแขนกรีดขา
เกินกว่าเหตุไปมากจ้ะ
จากที่กูดูและอ่านแนวอาชญากรรมมาบ้าง ทำขนาดนี้ฆาตกรคงโรคจิตหรือมีเป้าหมายในใจแล้วมั้ย ถ้าต้องการฆ่าปิดปากเฉย ๆ ก็แทงแค่จึ้กสองจึ้กก็จบแล้ว นี่อะไร ทั้งเล่นใหญ่ ทั้งถ่ายคลิป แล้วยังโง่ทิ้งคลิปให้ตำรวจตามเจออีก บ้าบอ
สมเหตุสมผลประเด็นที่สาม นางเอกใช้เวลาแปดปีฝึกมวยไทย มวยจีน ปืน มีด เทควันโด เป็นแชมป์ธนูระดับจังหวัด อิดอก เกินเบอร์สุด 555555555555
คือแต่ละวิชาไม่ใช่ง่าย ๆ อะ กว่าจะฝึก กว่าจะเก่งขึ้นไปทีละขั้น ๆ มันก็ต้องใช้เวลาหลายปี นี่คุณนางเอกเขาเหมาไปหลายทักษะมากค่ะ แถมระหว่างนี้ก็ไปพบจิตแพทย์ แล้วก็เรียนมหาลัยไปด้วย อืม
สมเหตุสมผลประเด็นสี่ เคาะประตูห้องเจ้านาย บอกว่ารีบ ไม่รอเสียงอนุญาตก็เปิดประตูเข้ามาเลย หนูเป็นผู้ช่วยเลขาถูกมะ พี่ว่าหนูไม่รู้มารยาทเลยอะค่ะ
คำผิด
“ระแวก”
“โกรธเคื่อง”
คนเขียนสับสนระหว่าง “กับ” และ “กลับ”
“หน่ะ”
“ค่อม”
“สะ”
“พรวดพลาด”
สรุป ภาษาธรรมดามาก นิ่งมาก น่าเบื่อ บทพูดไม่เป็นธรรมชาติ คำผิดเยอะ อยากจับมาเรียนภาษาไทยใหม่ ความสมเหตุสมผลพินาศมาก
ไม่น่าสนใจเลยจ้า
ตอดโดย โม่งตอดแตดคมสันต์
>>73 กูเกลียดความตอดแตดคมสันต์ของมึงมาก นิยายเรื่องที่มึงสับเป็นนิยายที่มีคุณสมบัติในการติดท็อปครบทุกประการ หนึ่ง-สลับ POV สอง-นางเอกซู สาม-คนร้ายโง่ สี่-เงียบครึม ห้า-เสียงแม่รินทร์ที่พูดออกมาอย่างแผ่วเบาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เป็นไง ครบเลย รีบปรบมือกราวรัวววว
ตกลงตอนนี้เรื่องติดท็อปที่โม่งชมมีเรื่องไหนบ้างวะ เดี๋ยวคนเค้าจะว่าเราตอดอย่างเดียว
เห็นโม่งตอดสับกูเลยเฉาะแถม ไปเจอติดท็อปลำดับสุดท้ายมีแค่ห้าตอน ชื่อเรื่อง flower เร้นลับ ว้าว คิดว่ามันต้องดีแน่เลย เพิ่งเขียนก็ติดท็อปแล้ว บทแรกมีการแนะนำลำดับตำแหน่ง กูกำลังนึกดีใจ นี่คงเป็นเสิ่นเจิ้นทำการบ้าน พอเปิดมาอ่านบทแรก ชื่อตอนสตรีผู้ถูกถอดถอน สองประโยคแรกรู้สึกเอิ่ม ๆ นิด ๆ แต่พอประโยคที่สาม ผู้คนต่างเดินควักไขว่ตามรายทางท้องถนน อ่านแค่นี้รู้สึกถึงความสกปรกโสโครกของชาวเมืองผู้เป็นชาย ถึงกับเดินควักไข่กันทีเดียว ไม่เป็นไร เราต้องอ่านต่อ เขาแค่พิมพ์ผิดเล็กน้อย อย่ามา ๆ ๆ พออ่านมาอีกย่อหน้านึง เปิดตัวหวงโฮ่วกำลังเจ็บแผล เจอประโยคนี้เข้าไป เครื่องหน้าของแม่แห่งแผ่นดินขยับเคลื่อน กูรู้สึกว่ากำลังอ่าน I, robot เวอร์ชั่นจีน พอมาเจอประโยค ตำหนักนี้คือตำหนังเต้าเต๋อ ก็เลยคิดว่าบ๊ะบายดีกว่า
จบการตำหนังอย่างสั้น ๆ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่านดอกไม้เร้นลับของหวงโฮ่วหน้าขยับเคลื่อน ขอความกรุณาอย่าควักไขว่เล่น
>>69 ยงเจิ้งมีโอรสเยอะอยู่นะแต่อายุยืนน้อยคน ธิดาแท้ ๆ อายุยืนแค่นางเดียว แต่ก็ไม่ยืนเท่าไรนักแค่ราว ๆ ยี่สิบกว่าปีเอง ( โอรสธิดาส่วนใหญ่สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยงเจิ้งยังเป็นยงชินหวังอิ้นเจิน ) ส่วนธิดาบุญธรรมนั้นอายุยืนถึงสองนางจากสามนาง
>>72 ไม่ค่อยมีประเด็นอะไรจริง ๆ แหละ เดาง่ายมากว่าเดี๋ยวพิชชีก็แก้ปัญหาได้
อยากรู้จะย้อนอดีตกลับไปยังไงให้ไม่ซ้ำซากอ่ะ
แบบย้อนไปเก่งก็ซ้ำซาก ย้อนไปขี้เกียจก็ซ้ำซาก ย้อนไปลำบากก็มีละ ย้อนไปเป็นตัวประกอบก็มี ย้อนไปเป็นแมวก็มี
ย้อนไปเป็นอะไรดี
ย้อนไปเป็นกบฏบ้างจะได้ไม่ซ้ำใคร
ตอนนี้ย้อนเวลามันเฝือมาก เลิกย้อนกันสักพักน่าจะดีกว่า ตอนนี้ต่อให้ย้อนด้วยไอเดียใหม่ไม่ซ้ำ มันก็ช้ำไปหมดแล้วอยู่ดี
เอาจริงพล๊อตย้อนเวลานี่ ส่วนใหญ่คือมึงไม่ต้องย้อนกันก้อได้นะ ย้อนไม่ย้อนไม่เห็นจะต่างกันการย้อนไม่ได้ส่งผลกับเนื้อเรื่องเลย แบบย้อนกลับไปกินๆนอนผัวรักผัวหลงนี่ ไม่ย้อนก้อได้ป่าววะ รึจะย้อนเวลาเพราะนักเขียนไม่อยากไปสวมคาร์วิธีคิดแบบคนโบราณเหรอไง
>>73 ขอบคุณที่ตอด เรื่องนี้ก็บายเหมือนกัน อ่านแค่บทสองบท ไปดีกว่า
>>75 ขอบคุณที่เฉาะ ฮาก๊ากตรงควักไขว่
>>82 เห็นด้วย บางเรื่องนี่ไม่รู้จะย้อนเวลามาเพื่ออะไร ไม่ต้องย้อนก็ได้
ถ้าต้องการให้เป็นคนที่คิดไม่เหมือนใคร ก็เป็นคนยุคนั้นที่มีมุมมองแตกต่างจากคนอื่นก็ได้มะ
เพราะมันก็ไม่ได้คิดต่างจนเว่อร์อะไรนักหนา
แต่บางเรื่องก็ย้อนมาแบบเทพมาก เขียนแบบระหัดวิดน้ำ ปืนสั้นปืนยาว อาวุธต่างๆ ได้ ทั้งที่ตอนอยู่ยุคปัจจุบันก็เป็นคนธรรมดา
บางเรื่องย้อนมาเจอคนที่ย้อนมาเหมือนกัน แถมบางคนเคยเป็นเพื่อนหรือแฟนกันมาก่อนด้วย
อ่านแล้วรู้สึกว่าการย้อนเวลาทะลุมิตินี่มันง่ายดีวุ้ย
แต่ที่เจอแทบทุกเรื่องที่มีการทะลุมิติคือ นางเอกจะพบว่าตัวเองมาอยู่ในยุคสมัยอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีในประวัติศาสตร์ คงจะเป็นโลกคู่ขนาน
ก็ง่ายดีเนาะ ไม่ต้องค้นคว้าข้อมูลอะไร
(แต่ก็ชื่นชมที่นางเอกเก่งประวัติศาสตร์จีนมากพอที่จะรู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในยุคไหนเลย)
กุว่าจะแต่งย้อนเวลาไปเป็นผัวชาวบ้านแทน เมียเป็นสิบแทน บริหารไม่ถูก แม่มมีไปเป็นเมียชาวบ้าน แต่วิญญาณข้างในเป็นผุ้หญิง
หากเจอพยายามติกูเบาๆ นะกูใจบาง
กูไม่มีปัญหากับการย้อนเวลา กูคิดว่าเทรนด์นี้จะยังอยู่อีกนาน นิยายจีนกับนิยายญี่ปุ่นก็ยังย้อนเวลากันอยู่เลย ยังมีเรื่องดัง ๆ อีกเยอะ แต่มันจะย้อนหลากหลายกว่าเสิ่นเจิ้น แบบเป็นจอมยุทธเฒ่าย้อนไปเป็นเด็กหนุ่มไรเงี้ย แต่ของเสิ่นเจิ้นจะมีเรื่องรักเป็นหลัก เลยย้อนไปเป็นเมียอ๋องเมียแม่ทัพกันหมด แต่กูก็ไม่ว่านะถ้าจะย้อนไปเป็นเมีย ขอแค่อย่าให้รูปแบบการย้อนมันเหมือนเดิมเป๊ะได้ปะ แบบบทนำต้องเกริ่นถึงชีวิตก่อนย้อน แล้วก็ตัดมามีท่านแม่หรือคนใช้มากอดขา นางเอกตื่นมางงมาก ใครกันนี่ อุ๊ย ทำไมฉันสวย มีคู่หมั้นหนุ่มรออยู่ ไม่ถูกกัน มีเมียอยู่แล้ว หรือไม่ก็ย้อนมาเป็นชายาที่ผัวไม่รัก เขียนเหมือนกันแทบจะย่อหน้าต่อย่อหน้าเลย มึงไม่ต้องย้อนเหมือนกันขนาดน้านน หัดใส่ลูกเล่นอย่างอื่นมั่งกะได้
มีเรื่องไหนมั้ยที่ย้อนแล้วพยายามหลอกถามข้อมูลมาแบบเนียนๆ
ไม่ใช่ตื่นมาตกตะลึงซักพักก็มีความรู้พุ่งเข้ามาในหัวจนรู้ทุกสิ่ง หรือสั่งให้คนใช้เล่ามาให้หมดโดยอ้างว่าความจำเสื่อม
ถ้าหัวกระแทกแล้วความจำเสื่อมก็ยังโอเคนะ แต่บางเรื่องจมน้ำแล้วความจำเสื่อม นอนป่วยแล้วความจำเสื่อม มันแปลกๆ
กูจะแต่งสมาคมลับผู้ย้อนเวลาข้ามมิติแห่งเมืองฉางอัน
ท่านประมุขส่งสายสืบไปทั่วสารทิศเพื่อค้นหาสมาชิกย้อนเวลา เพราะแม่งย้อนกันมาเยอะมาก ใครความจำเสื่อม
ใครนิสัยเปลี่ยน พาไปขายบัตรสมาชิกให้หมด555
มีสถานศึกษาให้ปรับตัว หลังจบการชุบตัวจะหักเงินค่าสมาชิกปีละหลายตังค์
>>89 ไม่แกล้งตีเนียนไม่ได้เว้ย ไม่งั้นกระโตกกระตากขึ้นมาคงโดนน้องหรงฆ่าตาย หุหุ/กลับตำหนักจีนละ
นึกถึงเเรื่องลวงเล่ห์มังกร กูอ่านเรื่องนี้ตอนที่ลงในดด ตอนนั้นยังไม่ได้เข้าสู่จีนเต็มตัว นางย้อนจีนมาแบบมึนๆ พูดจีนได้แบบงงๆ ก็แล้วไปเถอะ พอได้กลับไปอ่านอีกรอบ ภาษาลิเกมาก ลูกของอ๋องสาม เรียกองค์ญ องค์ชาย ทำลายความชอบกูตอนนั้นไม่เหลืออะไรเลย
เดี๋ยวกูแต่งนางเอกทะลุมิติมาเป็นขอทานดีกว่า กร๊ากกกกก
กูจะแต่งให้ทั้งเรื่องแม่งมีฮ่องเต้องค์เดียวที่เป็นคนยุคโบ ส่วนวังหลังแม่งนางสนมทะลุมิติกันมาล้วนๆสามพันนางมีทั้ง
สนมกินและนอน
สนมเจ้าคิดเจ้าแค้นไม่รู้ชาติที่แล้วเจออะไรมา
สนมกายเป็นสาวใจเป็นผู้บ่าว
สนมขายเครื่องประทินผิวสายเกาหลี
สนมหมอหญิงรักษาทุกโรค
สนมนักสืบชาติที่แล้วเป็นตำรวจ
โอย พอละกูเหนื่อย
แต่งแล้วเอามาแปะเลย กูจะเฉาะให้สาแก่ใจอิช้อย
กูจะเพิ่ม สนมโม่งเฉาะ สนมโม่งสับ สนมโม่งตอด ลงไปด้วยกลัวไม่ครบสามพันนาง🤣🤣😂😂🤣
พวกมึงไม่ต้องรออ่านกันหรอกนะ ท่าทางกูคงต้องรีเสิขนานกว่าจะอ่านนิยายท้อปทั้งหลายหมดกูอาจใช้แพรขาวคลุมโปงตายไปก่อน
>> เทพธิดาสะบั้นด้ายดำ - เหมยฮวาเสี่ยวเซียน <<
โดย karnsirorut
https://writer.dek-d.com/karnsirorut/story/view.php?id=1584212
เห็นโปรโมตในวดด.ซึ่งงงง กูมีปัญหากับการใช้ภาษาของเขา โม่งตอดจะพาพี่ ๆ ไปชมดูนะคะ
เริ่มที่คำโปรยค่ะ
“เสี่ยวเซียนเป็นเทพธิดาอัปลักษณ์ทำหน้าที่สะบั้นด้ายดำ หามีใดเกี่ยวพันกับชายาที่ท่านทำหายไปไม่ เพ้ย! มิแน่ นางอาจตกอยู่ในพงหญ้าก็เป็นได้! ขออย่าหลอกอย่าหลอนเสี่ยวเซียนอีกเลย! ไท่จื่อบัดซบ!”
1. “หามีใด” คืออะไรอะ 5555555 “หามีสิ่งใด” ไรงี้จะดีกว่าปะ
2. “มิแน่” ก็เข้าใจว่ามีความคิดว่า “ไม่” ถ้าอยากให้โบราณจะใช้ “มิ” แต่ไม่ได้หมายความว่า “มิ” จะแทน “ไม่” ได้ในทุกคำรึเปล่าอะ ออกมามันเลยแปลก
ถ้าจำไม่ผิด เฟยหลิง ก็เคยโดนคนอ่านติว่าใช้ “มิ” มากเกินไป กูว่านักเขียนควรระวัง อยากใช้คำให้ดูโบราณ แต่ไม่ต้องพยายามมากขนาดนี้ มันตลก
3. อัศเจรีย์จะพุ่งกระแทกหน้ากูอยู่แล้ว ใส่แค่ในคำอุทานก็พอ แล้วเลือกตัดออกในประโยคคำพูดยาว ๆ บ้างก็ได้
4. “ขออย่าหลอกอย่าหลอน” กลิ่นไทยละเกิลลล์
อะ ต่อที่หน้าข้อมูลเบื้องต้น
“สรรพยางใจ” อิดอก บันเทิงมากสำหรับคำนี้ มีโม่งคนไหนสนใจชื่อนี้บ้าง หื้ม เพื่อนโม่งสรรพยางใจ 555555555 คือยังไงอะ เอาไว้คู่กับ สรรพางค์กาย เหรอ แต่คือ สรรพยาง ไม่มีในพจนานุกรม สรรพางค์ใจ ก็ไม่น่าจะมีใช้ปะ ฮือ
“โดนเหยียดหยามจากเทพเซียนอื่น ๆ นางจึงหลีกหนี...หาได้ไม่”
“สมควรตาย! หาได้ไม่ จวินเกอไม่สมควรตาย”
เป็นไรอะ ติดใจอะไรกับ “หาได้ไม่” ใช้อยู่นั่น ละใช้ไม่เป็นอีก ตลก “โดนเหยียดหยามจากเทพเซียนอื่น ๆ นางจึงหลีกหนี” นี่เนื้อความมันคล้อยตามกัน แล้วไปใส่ “หาได้ไม่” เพื่ออะไรให้มันพลิกมาเป็นขัดแย้งกันอะ ก็บอกไปเลยดิว่า “นางไม่อาจหลีกหนี” “นางหาหลีกหนีไปได้ไม่” ไรงี้
ไอ้ตรงจวินเกอสมควรตายก็เหมือนกัน จะสื่ออะไร งง
นี่ขนาดยังไม่อ่านเนื้อหาเลยนะ ซึ่งจากแค่ตอนแรกที่อ่าน ในความเป็นภาษาจีนโบราณ กูว่าพอใช้ได้ หมายถึงเขาคงอ่านจีนแปลมาประมาณหนึ่งแล้ว แต่! แต่เขาพยายามเกินไป อยากให้โบราณ อยากให้จีนจนไม่แคร์อะไรทั้งนั้น บางคำเลยเป็นคำผิดแบบคิดขึ้นเอง บางคำก็ใช้ผิด
โดยรวมแล้ว เรื่องนี้เป็นเคสที่ดีสำหรับนิยายที่มีความพยายามมากจนมันพัง
ตอดโดย โม่งตอดหน่อแตดคมสันต์สรรพยางใจเงียบครึมควักไขว่
ป.ล. ทีมสนมสามพันคนของพวกมึงน่าสนดีนะ กูขอมีชู้เป็นชินอ๋อง ละตอนจบหนีตามกันไป สุดท้ายทะลุมิติมาในโลกยุคปัจจุบัน ดีลลลลล
>>105 ...หาได้มีสิ่งใดที่เกี่ยวพันกับชายาที่ท่านทำหายไปไม่!
เปลี่ยน มิแน่ เป็น บางที ?
“โดนเหยียดหยามจากเทพเซียนอื่น ๆ นางจึงมิอาจ ไม่หลบหนีได้ไม่
“สมควรตาย! หาได้ไม่ จวินเกอไม่สมควรตาย” อะไรวะ จวินเกอหาได้สมควรตายไม่ ?
เข้าว่าอยากเรียงปยแบจีนนะ แต่ถ้าเรียบไม่เป็นมันจะตลก
>>105 ช่วย ๆ ๆ เห็นด้วยที่มึงว่าพยายามเกินไปจนพัง ดูเผิน ๆ เกือบจะดีแล้วเชียว แต่พออ่านละเอียดแล้วมันเกิน
ประโยคที่ไม่สมบูรณ์ก็มีให้เห็นบ่อย ไม่รู้จงใจหรือเผอเรอ อย่างเช่น จวินเกอส่งสายตาทางเราทั้งสามบ้าง เราสามคนสายตาอึกอัก (ควรเป็น ส่งสายตามาทางเรา, เราสามคนท่าทีอึกอัก ท่าทางอึกอัก มองตากันอย่างอึกอัก หลบตาอย่างอึกอัก อะไรก็ว่าไป แต่สายตาอึกอักเนี่ยมันไม่มี เพราะอึกอักเป็นอาการแบบพูดไม่ออก ได้แต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไหนใครลองทำสายตาอึกอักดูสิ ทำได้ที่ไหน เอาแค่สายตานะ ไม่ต้องใช้ท่าทางอย่างอื่น แล้วให้คนอื่นทายว่ามึงกำลังอยู่ในอารมณ์ใด ถ้ามีคนตอบว่า อ๋อ มึงกำลังมีสายตาอึกอัก กูจะกราบ)
อ้อ นักเขียนเขาออกตัวไว้แล้วว่าเขียนนิยายไทยไม่ออกเลยมาเขียนจีน ไม่ได้ค้นคว้า เพราะฉะนั้นกูจะถือว่างานเขาอยู่ในโหมดแต่งเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน ซึ่งใครก็ตามที่เข้าโหมดนี้ กูจะให้คะแนนเต็มสิบหมด ถือเป็นคะแนนทักษะพิสัย แต่ถ้าวันใดกลายเป็นหนังสือตีพิมพ์ จะต้องหลุดจากโหมดแต่งเล่นทันที
ทุกวันนี้เค้าก็แต่งหมวดเพลิดเพลินกันนะมึง ปิดรีไรท์ตอดเล็กน้อย ขายอีบุ้คขายสนพเล่นๅก็เพลินดี
กูว่าจะไปหานิยายท็อป 20 มาเฉาะไม่ให้ห้องเงียบ ทำไมนิยายที่มีแค่สองตอนอย่างแมวข้าใครอย่าแตะถึงติดท็อปวะ ไม่เข้าใจ แค่แจ้งข่าว ยอดวิวไม่ได้สูงอะไรเลย งงว่ะ หรือเขามีระบบจ่ายเงินโฆษณา
เพื่อนโม่งที่แนะนำคนเขียนคุณหนูใหญ่แต่งงาน บันทึกมหาดเล็ก กูขอบคุณมาก กูชอบมากกกกก ตอนนี้กูไล่ตามอ่านเรื่องอื่นๆตาแฉะเลย
กูน่าจะรีไรท์บ่อยๆบ้าง เผื่อติดท็อป แม่ง หมูนี้ใครๆก็พากันรีไรท์กันหมด ไม่ก็แจ้งข่าวบ่อยๆ มึงพิมพ์กันล่างตอนก็ได้
เหมือนเป็นเสต็ปนิยายติดท็อป...
ไป๋อวี๋หนิง ควรค่าแก่การเสียตังค์มั้ยวะะ
ซื้อนาjs้ายสายชิa มา อ่านไปได้ครึ่งเล่มละคือชิลสมชื่อเรื่อง คือนึกว่าตัวละครจะแค่ชิล แต่นี่เนื้อเรื่องก็ยังชิล
จริงๆ ชอบสนพ.นี้นะ เดี๋ยวไว้ว่างจะอ่านองค์หญิงแมวให้ได้สักที
มีใครอ่าน เหนือลิขิตรัก ปะ ผูกเรื่องดูน่าสนใจดี ภาษาโอเค แต่ไม่ค่อยเข้าใจนางเอก หนีการตามล่าแต่ยังคงสวมกระพรวนข้อเท้า
ไว้บอกตำแหน่งตัวเอง?
เงียบจุง ไม่มีใครสับนิยายเลยเหรอ
กูอ่านมาหลายเรื่องละ คำว่าจวนนี่มันควรเป็นจวนแม่ทัพทั้งจวน แล้วหน่วยย่อยลงไปเรียกว่า เรือนต่างๆ เรือนคุณหนู เรือนแม่ เรือนลูกอะไรก็ว่าไป คนเขียนกลับ เรียกเรือนพวกนี้ว่าจวนด้วย มีจวนรับรองแขกในจวนแม่ทัพอีกทีด้วยงี้ อันนี้กูว่ามันเป็นการใช้ภาษาไทยผิดอย่างแรง
เสิ่นเจิ้นแนวไหนคนอ่านน้อยวะ การเมืองงี้มะ
กูว่าคนอ่านไม่ได้น้อยหรอก หาคนเขียนน้อยมากกว่า ดูกูมี่เอินคนอ่านเยอะอยู่นะ ก็ไม่ได้หวานแหววอะไร พอมีที่แตกต่างคนก็อยากอ่าน กูเองมาอ่านคนไทยเขียนก็เพื่อความบันเทิงล้วนๆ แนวมันก็เดิมๆแหละ แค่เปลี่ยนเซตติ้ง พอคนเขียนหลบเลี่ยงไม่ทำการบ้าน แนวนี้มันก็ยิ่งโชว์แผลกันเยอะ นอกจากความอ่อนทางสำนวนภาษาแล้ว การรีเสิร์ชจากเสิ่นเจิ้นด้วยกันเอง หรือ เอาผิวๆของเล่มฝอย อ่านประวัติศาสตร์ที่ย่อยมากๆมาแล้ว มันก็ต้องรอเวลาซึมซับย่อยมาใช้ หวังว่าแนวนี้จะฮิตนานพอที่จะให้คนเขียนพัฒนาตัวทันเวลา
131 เอง นึกง่ายๆว่าในไทย เราจะคุ้นกับจวนผู้ว่าราชการจังหวัด แปลนบ้านจีน จะมีเรือนหลักอยู่ในสุด ตรงกลางเรือนหลักมีโถงที่ไว้รับแขก แบบในหนังจีน ปีกข้างหนึ่งเป็นห้องหนังสือ อีกข้างเป็นห้องนอน จากเรือนหลักแยกเป็นหอหรือเรือนปีกซ้ายขวา ล้อมพื้นที่ตรงกลางไว้ เรือนคนรับใช้อยู่ตรงรั้วกำแพง แยกส่วนจากเจ้านาย ถ้าเป็นจวนข้าราชการ หรือบ้านคหบดีใหญ่ พื้นที่มักจะใหญ่เป็นหมู่ตึกย่อยแยกยูนิตกันได้อีก ยังจะต้องมีเรือนคนที่ทำงานติดตามรับใช้ เรือนครัว
แล้วถ้าบ้านคนธรรมดาที่ไม่ใช่ขุนนางใหญ่ จะเรียกว่าอะไรดี บ้านตระกูลxx บ้านคหบดีxx ก็น่าจะไม่ผิดนะ
จะว่าไปแปลนเรือนไทยก็คล้ายกัน แยกห้องหับคล้ายๆกัน ขนาดย่อมเยากว่า แล้วเชื่อมด้วยชานตรงกลาง เพียงแต่เรายกใต้ถุนหนีน้ำหลากแถมมา
>>141 คฤหาสน์เผิงอวี๋เยี่ยน ก็ฟังจีนนะ บ้านกูเอง
แต่คฤหาสน์ มันให้ความรู้สึกยุคโคโลเนียลละ นึกถึง แมนชั่น สถาปัตยกรรมที่ได้อิทธิพลผสม
อันนี้ขอผู้รู้ภาษาไทยมาช่วยขยายรากคำ
บ้านคหบดีตระกูลเผิง หมู่ตึกตระกูลเผิง คำว่าตระกูลนี่ช่วยได้มั้ย
บ้านท่านเศรษฐีเผิง เรือนท่านเผิง อาจยังฟังดูไทย
แต่จวนมันผิดความหมายเลย โดยเฉพาะในกรณีที่เราเรียกเรือนย่อยในหมู่ตึกในรั้วเดียวกัน เราไม่เรียกจวน
จวนมันคือหมู่เรือนทั้งหมด ซึ่งเป็นลักษณะวางตามแบบแผนของมัน และเจ้าของจวนต้องเป็นขุนนางระดับสูง
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
จวน ๑ น. ที่อยู่ของเจ้าเมือง, บ้านที่ทางราชการจัดให้เป็นที่อยู่ของผู้ว่าราชการจังหวัด เรียกว่า จวนผู้ว่าราชการจังหวัด.
คฤหาสน์ (คะรึหาด) น. เรือน, โดยมากหมายถึงเรือนขนาดใหญ่และสง่าผ่าเผย.
"สถานที่ที่ฮ่องเต้ประทับอยู่เรียกว่า พระราชวัง (กงเตี้ยน), สถานที่ที่บรรดาเชื้อพระวงศ์พำนักอยู่เรียกว่า วัง หรือ ทำเนียบ (ฝู่), สถานที่ที่บรรดาขุนนางอยู่เรียกว่า คฤหาสน์ หรือ จวน (ไจ๋ตี้กงก่วน) สำหรับประชาชนธรรมดาแล้วเรียกว่า บ้าน (เจีย)"
จากหนังสือพลิกม่านไม้ไผ่ พิมพ์ครั้งที่ 1 เดือนก.พ.2549 น.34 ผิดถูกไม่รู้กูยกของเขามาเฉย ๆ
เพื่อนโม่ง จำกลยุทธ์รอดตายในหวางฝู่ได้หรือไม่ ที่เคยพูดถึงกันในตำหนักเก่า ๆ ซึ่งกูก็จำไม่ได้แล้วว่าตั้งแต่ยังปนในตำหนักจีนหรือแยกมาเป็นตำหนักนี้ เอาเป็นว่าตอนนี้นักเขียนเห็นความเห็นของพวกเราแล้ว เขาชี้แจงมาอย่างนี้ https://writer.dek-d.com/pachth/writer/viewlongc.php?id=1601751&chapter=30
อ่านละสงสารคนเขียน ดูปวดใจอยู่
ky wsะชายาผู้เกียจคs้าuนี่จะตีพิมพ์กับบางเลิฟเหรอวะ เห็นบก.ไปอวยอยู่ในกลุ่มผ.
ทำไมนิยายสนพ.คำต่อคำส่วนใหญ่ตอนจบไม่กินใจเลยวะ กูอ่านเสิ่นเจิ้นของสนพ.นี้แล้ว ส่วนใหญ่ต้นกับกลางๆจะสนุกอยู่แต่พอตอนจบรู้สึกแบบไม่แย่แต่ก็ไม่ดี คือไรวะ งง เสิ่นเจิ้นหลายเรื่องที่ไม่ใช่สนพ.นี้ตอนจบก็แปลกซะเยอะ คือหาวิธีลงไม่เจอหรือยังไง กูอ่านแล้วก็เบลอๆตอนจบ รู้สึกแบบ จะจบแบบนี้เหรอบ่อยมาก
>>150 กูจำไม่ได้ว่ามีใครไปว่าเขาแบบนั้น กูไม่ได้อ่านเรื่องของเขา แต่เคยได้ยินชื่อ เหมือนจะมีคนชมในโม่งนะ แปลว่าดังดีใช้ได้เลย แต่คนติกูนึกไม่ออก ถ้าคนเขียนมาอ่านอีก ขอให้คิดไว้เลยว่าบอร์ดแบบโม่งมันปิดชื่อ เกรียนงี่เง่าก็เข้ามาเขียนได้ แต่โม่งที่ติชมนิยายจริงจังมักจะมีเหตุผล ให้อ่านดูถ้าโม่งเขียนยาว ๆ มักจะมีความรู้พอสมควร ถ้ามาแค่ด่าเสีย ๆ หาย ๆ มีคำหยาบส่อสันดานคนเขียน ก็จงอย่าไปสนใจ มันมีอย่างนี้ทุกที่ จงมีกำลังใจเขียนงานของเทอว์ต่อไป ในโม่งเองก็รู้แหละว่าเม้นท์ไหนห่วย ด่าเอามัน ส่วนใหญ่ก็จะไม่ฟีด ปล่อยลอย ๆ ไปอย่างนั้น
>>151 เสิ่นเจิ้นส่วนใหญ่เป็นงานเขียนหน้าใหม่ แรงบันดาลใจดี ตอนแรกเลยสนุก แต่ตอนจบทำไม่เป็น บางคนตัดจบดื้อ ๆ แบบว่าหมดแรงแล้ว จบดีกว่า ถถถถถถ
กูก็เป็นหนึ่งในนักเขียนที่เจอที่นี่เพราะเซิทหาชื่อเรื่องตัวเอง และเรื่องของกูก็ถูกวิจารณ์แบบเสียหาย ถึงขั้นเกลียดและเหยียดมาจนถึงตัวผู้เขียนซึ่งก็คือกู ถามว่ากูใส่ใจไหม ใส่ใจ กูเสียใจไหม กูเสียใจ แต่เพราะกูเขียนมาด้วยความทุ่มเทและรักในทุกตัวละครที่รังสรรค์ กูเลยปล่อยผ่านความคิดเห็นพวกนั้น เพราะกูอ่านของเขาแล้ว เหมือนเขาไม่เคยอ่านเรื่องของกู ถึงอ่านก็คงผ่าน ๆ เน้นวิจารณ์แบบสะใจหาพวก ถ้าใครไม่ชอบเหมือนกันก็จะมารุมกันว่านิยายของกู กูไม่ได้บอกว่านิยายของกูดี แต่กูมีความรักและใส่ใจที่จะแต่งต่อไปจนจบมาก เวลาวิจารณ์หรือด่า ขอให้ตรงกับเนื้อหาในเรื่องด้วย ไม่ใช่สักแต่จะด่าเอามัน ตอนนี้กูปล่อยเบลอแล้ว มีคนรักย่อมมีคนเกลียด คนรักและคนรอที่จะอ่านนิยายกูก็ไม่น้อย กูโดนคนอ่านเตือนหลายครั้ง ว่าจะสนใจทำไมแค่คนเพียงไม่กี่คน ดูสิมีคนรออยู่เท่าไร ไม่ใช่ว่ากูติไม่ได้ กูฟังและปรับปรุง แต่ถ้ามันไม่ใช่ กูจะออกมาชี้แจง และพอกูออกมาชี้แจง คนบางพวกก็จะหาว่ากูอีโก้สูง? กูงงในงง คุณไม่อีโก้สูงเหรอคะ มีคนคิดต่างหรือเฉยเมยต่อคำของคุณ ก็ว่าอีโก้สูง บางทีเนื้อเรื่องไม่เป็นไปตามที่คุณคิด ว่าออกทะเลทั้งที่กูคิดพล็อตตั้งแต่ต้นจนจบเชื่อมโยงกันหมด บางทีคนเขียนก็ไม่เข้าใจคนอ่านค่ะ ว่าต้องการอะไร ต้องการอ่านนิยายที่คนเขียนรังสรรค์ หรือต้องการอ่านนิยายตามที่ใจคุณคิด
วันหลังกูจะมาขอคำแนะนำใหม่
>>154 กูอยากจะบอกอย่างนะว่า คำว่าสนใจทำไมแค่คนไม่กี่คนเนี่ย เป็นคำที่อาจจะให้กำลังใจมึงได้ แต่ก็ฆ่ามึงได้เหมือนกัน รักจะเขียนนิยาย มึงต้องแยกให้ออกว่าคนที่เขาติมึงเขาติเอามันหรือติเพื่อก่อ ถ้าแยกสองตัวนี้ไม่ออกก็ใช้ชีวิตยาก คำชมน่ะใคร ๆ ก็อยากได้ว่ะ แต่ถ้าเป็นคนสร้างผลงาน ต้องหัดพิจารณาคำติด้วย ถ้ามีคนติมึงเหมือน ๆ กันหลายคนในจุดเดียวกัน มึงต้องกลับไปมองงานของมึงแล้ว แต่ถ้ามันติแบบด่ามึงเสีย ๆ หาย ๆ ด่าแค่ตัวมึงเอามัน มึงก็รู้แล้วว่ามันไม่มีราคา ดูให้ดีว่าเขาติงานหรือติตัวมึงแบบสนุกปาก อย่าใช้คำว่าคนไม่กี่คนมาปลอบใจตัวเอง คนอ่านเป็นแสนก็ใช่ว่างานมึงจะต้องดี คนอ่านเป็นร้อยก็ใช่ว่างานมึงจะต้องแย่ คนติเพียงคนเดียว คนชมเป็นหมื่น ก็ใช่ว่าคนติจะมีคติ คิดให้ดี
>>154 กูเข้าใจนะและสนับสนุนมึงถ้ามึงมีจุดยืนที่ดีอยู่แล้ว กูงงว่าคนอื่นอ่านไม่เคลียร์หรือมึงเขียนไม่เคลียร์วะ แต่กูอ่านกูก็เข้าใจนะ
มึงใส่ใจคำวิจารณ์ แต่บางคนวิจารณ์เหมือนไม่ได้ไปอ่านเรื่องมึงแบบนี้มึงเลยปล่อยผ่าน มันถูกแล้วไม่ใช่หรือวะ
มึงบ่นว่าถ้าจะวิจารณ์เรื่องไหนก็ให้ตรงกับเรื่องด้วย กูเข้าใจนะว่ามึงอยากบอกคนที่วิจารณ์งานคนอื่นหรืออยากด่าก็อยากให้ใส่ใจอ่านก่อนด้วยค่อยมาติหรือมาด่า
กูว่ามึงเขียนมาแยกแยะดีแล้วเพียงแต่ต้องอ่านละเอียดสักหน่อย มึงไม่ได้เคืองคนติงานแค่เคืองว่าคนที่ติอย่าสักแต่อยากติ อ่านด้วยค่อยมาติ
ส่วนบางคนติเพราะอยากให้เรื่องเป็นอย่างที่ใจตัวเองอยากให้เป็น พอมึงไม่เห็นด้วยเพราะแนวทางมันไม่ใช่แล้วหาว่ามึงไม่ฟังบ้างอีโก้สูงบ้าง พวกนี้ไร้สาระไม่ต้องเอามาใส่ใจ ชี้แจงแล้วไม่ฟังก็ไม่ต้องไปตอบโต้ มีแต่เสียกับเสีย
จิ่นเสวี่ยนหวาง นี่เค้าจะยังมาต่อมะ
>>153 อาจจะเป็นกูก็ได้ เพราะกูบอกว่าเรื่องน่ะเหมือนเมียคุนนะทำ แต่เป็นเว่อร์ชั่นรุ่ยอ๋อง
แต่กูเขียนแค่นั้น ไม่ได้ด่าอะไรเสียๆหายๆเลย
ถ้าทำใครเสียใจไปก็ขอโทษด้วยละกัน
ตอนนั้นกูอ่านแค่ตอนแรกๆ แต่หลังๆเรื่องมันน่าสนใจมากขึ้น อนุแต่ละคนก็มีฤทธิ์ใช้ได้
กูว่ายังน่าติดตามอยู่
นำเสนอ ปาฏิหาริย์หัวใจลิขิตรัก
บังเอิญอ่านเจอ แต่สับไม่เก่ง ฝากเพื่อนโม่งช่วยสับหน่อย
>>168 ของมึงเองหรือเปล่าถามจริง ๆ
เปิดไปเห็นคนอ่านน้อยมาก ปกตินิยายแนวนี้เขียนมาสี่สิบตอน ยอดวิวอย่างน้อยต้องไปถึงหมื่น แต่อันนี้ได้สามพันเอง คนเม้นท์ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่ กูเข้าไปดูยังไม่ถึงยี่สิบเม้นท์เลย ชมคนเขียนก่อนว่ามีความตั้งใจดีมาก กูขอปรบมือให้
เท่าที่กูอ่านบทแรก นิยายไม่ได้แย่ เวลาเขียนบทสนทนาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากนิยายติดท็อป กูหมายถึงว่ามันน่าจะได้รับความสนใจมากกว่านี้ แต่สิ่งที่ทำร้ายนิยายคือคำโปรยหน้าแรกกับบทแรกสุด คำโปรยแทนที่จะบอกว่านิยายเกี่ยวกับอะไร กลับบอกแค่ว่าตัวเองมีเวลาว่างเลยเขียนเล่นแล้วก็เขียนไม่ถึง (มันไม่ดึงดูดคนอ่าน ส่วนใหญ่ถ้าจะเขียนออกตัวว่ายังเขียนไม่เก่ง ไม่ได้คาดหวังมาก ต้องเขียนไว้ตอนท้ายหลังจากที่แนะนำนิยายแล้ว)
บทแรกสุดรวมบทนำเอาไว้กับตัวนิยาย ทำให้คนมาอ่านบทแรกแล้วขอลาไปเยอะอยู่ ปกติถ้านิยายอยู่ในระดับที่ดึงดูดให้คนลองอ่าน สามสี่บทแรกจะมีจำนวนคนอ่านใกล้ ๆ กัน หลังจากนั้นคนอ่านจึงตัดสินว่าจะอ่านต่อหรือจะผ่าน ไม่เอาดีกว่า ไม่ใช่แนวทางที่ชอบ แต่ถ้าบทแรกกับบทที่สองลดฮวบเกือบครึ่ง แปลว่าบทแรกไม่ดึงดูดพอ ทั้งที่บทที่สองสามสี่มันอาจจะดีก็ได้
บทแรกแย่กว่าที่มันเป็นเพราะช่วงนำเรื่อง (บทนำช่วงเทพ) เขียนได้น่าเบื่อ (ขออภัยที่ใช้คำนี้) คนเขียนเริ่มต้นด้วย ทะเลสาบแห่งหนึ่งแฝงเร้นอยู่ท่ามกลางทิวเขาที่แสนงดงาม องค์มหาเทพเผอิญผ่านมาพบเข้ารู้สึกพึงพอใจไม่น้อย ประโยคยาว ๆ แบบนี้และบรรยายติดต่อกันไปสี่ย่อหน้าทำให้ความน่าสนใจลดลง ถ้าลองนึกถึงสำนวนนิยายแปลจีน มันจะเริ่มต้นว่า ทิวเขางามตระการ หรือ ทิวเขาลดหลั่นซับซ้อน ใจกลางมีทะเลสาบซุกซ่อน อะไรก็ว่าไป จังหวะของนิยายจีนเวลาบรรยายจะเป็นจังหวะสั้น ๆ แบบที่เสิ่นเจิ้นไทยนิยมเอามาใช้ เช่น ยามจื้อ ทะเลเงียบสงบ ทำนองนี้ ถ้าจะบรรยายยาว ๆ แบบที่คนเขียนทำ จะต้องบรรยายให้มันน่าตื่นเต้นมากกว่าที่เป็นอยู่ ลองอ่านดูสิ ทะเลสาบแห่งหนึ่งแฝงเร้นอยู่ท่ามกลางทิวเขาที่แสนงดงาม มันเป็นการบรรยายพื้น ๆ ที่ไม่เห็นภาพอะไรเลย ทะเลสาบสีอะไร ใสมั้ย มีหมอกลอยมั้ย มืด สว่าง ทิวเขาที่แสนงดงาม นึกภาพได้มั้ย งดงามแบบไหนหว่า ต้นไม้เขียวไปหมด หรือเป็นภูเขาหัวล้าน มีดอกไม้มั้ย กูไม่ได้หมายถึงให้บรรยายให้หมด แต่ถ้าจะเขียนแค่ทิวเขาแสนงดงาม มันไม่ได้ช่วยให้คนอ่านรู้สึกอะไร นอกจากจะอ่านผ่านไปแล้วลืม
เฉาะแค่นี้นะ บทอื่น ๆ เป็นบทสนทนามากขึ้น น่าจะดึงดูดคนอ่านมากขึ้น แต่เพราะบทนำกับคำโปรยเป็นแบบนั้น ทำให้คนอ่านน้อยกว่าที่ควรจะเป็นไปหนึ่งเท่าเลย เป็นกำลังใจให้ ชื่นชมคนมีความพยายามและรักในนิยายของตัวแม้จะมีคนอ่านน้อยว่ะ กราบด้วยใจจริง
>>169 กูเป็นคนอ่านอย่างเดียวเลยจริงๆ พอดีบังเอิญอ่านเจอเรื่องนี้ก็ว่าเรื่องมันโอเคนิหว่า ภาษาใช้ได้ แต่ทำไมคนอ่านน้อยจัง หรือเรามองอะไรไม่เหมือนชาวบ้าน
แต่จริงอย่างที่เฉาะมา ช่วงนำเรื่องออกจะยืดยาด แต่พอเข้าเรื่องแล้วก็ดีขึ้น
นับถือคนเขียน คนอ่านน้อย เมนต์ยิ่งกว่าน้อย พลอยทำให้ไม่กล้าเมนต์ไปด้วย
>>150
กูเป็นคนนึงที่อ่านกลยุทธ์รอดตายในหวางฝู่
เห็นที่นักเขียนปวดใจเหมือนกันแต่ตามไปลองหาก็หาไม่เจอที่คนว่าอีโก้สูง
เรื่องนี้อ่านเพราะชอบว่าด้วยอาชีพนางสนมเลยหาทุกอย่างที่เป็นคู่มือมาอ่าน
คู่มือนางกำนัลอันดับหนึ่ง
วันว่างของนางสนม
กลยุทธ์รอดตายในหวางฝู่
คือหาเรื่องแต่งเสิ่นเจิ้นที่ได้แรงบันดาลใจมาอ่านต่อยอดนั่นเอง
ทุกเรื่องก็สนุกกันไปคนละแบบ
อยากบอกนักเขียนกลยุทธ์..เผื่อมาอ่านเจอว่า...(ถ้าไม่อยากรู้หรือกลัวน้อยใจ ขอให้ข้ามเลยอย่าอ่าน....แต่แบบจากใจคนอ่านนะ ด้วยความจริงใจ)
.
.
.
.
.
*มันสนุกนะ เพราะพล็อตมันแปลกไป พระเอกแม่งณ.ตอนนี้ไม่มีดีสักอย่าง นอกจากรวยและเป็นเชื้อพระวงศ์
*แต่..มันช้ามากเลยอ่านไม่ค่อยต่อเนื่อง
*นางเอกในนิยายเหมือนจะมีอีโก้นะ แบบได้ข้อมูลที่พระเอกยอมให้ ก็ยังไม่พอใจ ก็ไม่รู้ว่านางจะเอาไปเพื่ออะไร ต้องการอะไร นักเขียนอาจมีธงในใจแต่ลืมบอกคนอ่าน หรือเราเจอแล้วลืมไปแล้ว555
*อยากให้เขียนให้นางเอกน่ารักกว่านี้อีกหน่อย มองในมุมพระเอกนี่ นางเอกก็แทบไม่มีไรดีเลย นอกจากครอบครัว ไหนๆก็เป็นคนอื่นมาแล้ว ขอเสน่ห์อีกนิดเถอะ เช่นไม่สวยแต่แซ่บ เข้าอกเข้าใจ คอยเอาใจช่วยออกนอกหน้า ฉลาดมากแก้ปัญหาให้พระเอกได้แต่ทำเนียนแบบไม่ตั้งใจอะไรแบบนี้ หรือเพราะไม่รักพระเอกเลยสนับสนุนให้มีเมียเยอะๆที่ถูกใจ ทำเอาพระเอกงงไป เพราะตอนนี้ถ้าเราเป็นพระเอก จะรำนางเอกมาก เยอะเกิน (โอ๋ๆอย่าน้อยใจนะ)
.
.
.
.
.
>>171
.
.
.
.
.
เหมือนต่างคนต่างไม่มีอะไรดีเลยว่ะ
พระเอกดีแค่เป็นอ๋องที่รวยมากๆ แต่นิสัยห่วย
นางเอกฉลาดมาก ตระกูลดี ที่จริงอาจจะนิสัยดีก็ได้ แต่เจอผัวแบบนี้เหมือนโดนฉุดลง คือเหวี่ยงมา ส่วนใหญ่ก็อยากเหวี่ยงตอบอ่ะ
ตอนนี้ก็คือแบบนางเอกรู้ทันว่าตั้งใจทำดี จะได้ใช้ตระกูลชีเป็นแบ็ค แต่ชีไม่โอ ก็พยายามโชว์พาว์ในฐานะชายาว่าทำอะไรได้มั่ง เหมือนจะหยั่งเชิงว่าขีดจำกัดอยู่ตรงไหน
ส่วนเรื่องอนุ ชีดูเหมือนจะไม่สนหรอกว่าจะไปหาใคร ถ้าอนุคนอื่นไม่เลื่อยขา หรือมาหาเรื่อง
แต่ประเด็นมันหลักคือรอดตายป่ะ ใช้ชีวิตอยู่ในฐานะชายาให้รอด ดึงอำนาจที่ตัวเองควรมีในฐานะเมียเอกมาไว้ในมือโดยไม่โดนปั๋วเฉดหัวทิ้งก่อน
ยิ่งมาเจอพระเอกนิสัยแบบนี้ กูว่าต่อให้อยู่ในฐานะชายา เจอกันทุกวันยังไงก็รักไม่ลง
แล้วนิสัยชีไม่ได้น่ารักนุ่มนิ่มเข้าอกเข้าใจปั๋วทุกอย่างแบบผู้หญิงสมัยก่อนด้วย พระเอกคงไม่รักอยู่ดี
แต่กูก็สนใจนะว่านิยายจะดำเนินไปทางไหนต่อ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างคู่นี้มันน่าเล่นดี
.
.
.
.
.
>>171 >>172 กูว่ามันไม่มีเสน่ห์ถูกใจเราก็ดีไปอย่างนะ แปลกดี กูอ่านเรื่องนี้ไปสิบกว่าตอนแล้วพักก่อน ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่พอดีติดอ่านเรื่องของอีกคนมากกว่า เลยเฟ้บรอไว้ โชคดีที่รอเพราะช่วงนี้เขาแต่งช้าด้วย กูว่าคนแต่งเขาเริ่มเรื่องดี ตั้งชื่อน่าสนใจ ภาษาก็ดี เท่าที่กูเห็นก็คำผิดน้อย ชอบนิยายที่คนเขียนรักษาคุณภาพว่ะ นางเอกที่กูขัดใจที่สุดไม่ใช่ของเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่โม่งชมกันเยอะ เรื่องสาวจอมคลั่ง อันนั้นอ่านแล้วตับพังเลย แต่พอทน ๆ อ่านไปแล้วสนุกว่ะ นางเอกแม่งไม่มีอะไรดีตั้งแต่ต้นจนจบ
>>173 แต่ช่วงแรกๆ ฮาก๊ากเลยนะ มีการตีลังกาโชวพาวด้วย แต่คิดว่านางเป็นคนอ่อนโยนนะ พื้นฐานจิตใจดี ดูจากตอนที่เลี้ยงเด็กกับตอนห่วงคนแก่ เพียงแต่ด้วยการเลี้ยงดูเลยทำให้หลงตัวเองแบบผิดๆ ซึ่งมันจะออกแนวฮามากกว่าน่าหมั่นไส้
เป็นนางเอกที่ใกล้เคียงผู้หญิงทั่วไป ไม่ได้สวย ไม่ได้หุ่นดี ไม่ได้ฉลาด มีข้อเสียมากมาย แต่ข้อดีก็คือเป็นคนดี มีน้ำใจ
>>174 ตอนแรกยอมรับเลยว่ากูเทนางเอก พระเอกแม่งปล่อยนางเอกตามยถากรรมอีก ทนอ่านไปแบบขัดใจ แต่คนอื่นว่าสนุก อ่านเม้นท์ก็บอกว่าสนุก กูก็ว่าสนุกนะแต่ไม่ชอบพระเอกนางเอก กูก็เลยไปทุ่มใจให้หลิงจี เจอมุดมิติหนแรกได้เป็นองค์หญิง โคตรฮา ทีนี้อ่านแล้วติดเลย พออ่านซ้ำถึงได้เห็นว่านางเอกก็เป็นคนดี แต่คนเขียนนำเสนอซะ แม่งเอ๊ย ไม่สงสารคนอ่านตับอ่อนอย่างกูเลย
กูว่าสาวคลั่งมีความคาร์แบบchick lit กูชอบเรื่องนี้แต่รำคาญนางเอกมากเพราะกูหนีชิคลิทมา แต่โครงเรื่องแม่งดีอะ ตอนจบนี่กูตบมือ นิยายไทยมักจะเริ่มปมไว้ดีน่าติดตามแต่พอถึงแก้ปมคลี่คลายส่วนใหญ่จะเจ๊ง บางทีกูก็รู้สึกว่าหรือนิสัยชนชาติพวกเรามันพวกแก้ปัญหาไม่เก่ง ใช้อารมณ์ก็พอ คือไม่ได้ด่านะ กำลังคิดว่าเป็นนิสัยร่วมของชนชาติ
>>179 แปะมือมึงในเรื่องเกลียดนางเอกพระเอกของคนนี้ แต่กูยอมรับว่าเนื้อเรื่องเขาดีมาก มันทำให้กูทนอ่านจนชอบ ตอนแรกโคตรเกลียดลี่เหยา แต่ตอนหลังก็เชียร์นาง เพราะไอ้พระเอกแม่งเล่นตัวชิบหาย กูอยากให้เพื่อนเป็นพระเอกแทนเลย
>>182 กูยอมเขาตรงโครงเรื่องนี่แหละว่ะ แต่อ่านบันทึกมหาดกูชอบนะ ชอบบรรยายเรื่อย ๆ แล้วจบมีเหตุผลหมดทุกเรื่องเท่าที่กูอ่าน ลำนำ สาวคลั่ง อ่านแค่นี้ว่ะแต่รู้สึกเหมือนอ่านหลายเรื่อง ถถถถ บันทึกมหาดแม่งกว่าจะได้กัน กูรอนางเอกโตจนเพลีย ยอมรับว่าเขาเฉลยปมดี ไม่หลุดคาร์
ในโม่งนี่แฟนคลับนักเขียนคนนี้เยอะใช้ได้เลยว่ะ ไม่มีใครอ่านแนวแมรี่ซูกันละเรอะ
>>184 กูอ่านได้นะแมรี่ซู ขอให้ซูแท้ ๆ เลย แต่ไม่ชอบซูแบบที่คนเขียนเปลี่ยนใจกะทันหัน เหมือนกลัวว่าเรื่องของตัวเองจะถูกมองว่าไม่มีอะไรแล้วมาออกตัวว่าจะดาร์ค จะดราม่า แล้วคาร์เปลี่ยนไปเลยจากทีแรกแสบ ๆ คัน ๆ ซู ๆ แบบบทจะโดนทำร้ายก็ง่ายปานนั้น กูจะทิ้งเลย มึงจะเขียนซูก็ซูให้สุดไปเลย อ่านแล้วไม่คิดมากดี แบบบางคนพอโดนคนอ่านด่าว่าไม่มีอะไรก็รีบเปลี่ยน เบื่อมากว่ะแบบนั้น
คุณหนูใหญ่แต่งงานแล้วดูเหมือนคนเขียนจะลองปรับลงมาให้คอมอดี้ย่อยง่ายขึ้น สไตล์ของนักเขียนคนนี้คือให้เราเพลินๆก่อนและสงสัยคาร์ของตัวละคร ว่าตกลงพวกมึงเป็นอะไรกันมากมั้ย แล้วค่อยๆเฉลยให้ลอจิคที่ดูจะยอมรับได้ แล้วเรื่องก็ค่อยๆเข้มข้นขึ้น คอนฟลิคมา แต่ต้องอ่านไปพักนึงถึงจะเห็นว่าเรื่องจะไปทางไหน คือปูโครงแบบนี้ในออนไลน์ต้องล่อซื้อเก่งๆนะ กูว่าอย่างสาวคลั่งล่อซื้อด้วยนิสัยนางเอกที่ดูจะแมสหน่อย แต่พอคนอ่านแล้วเรื่องเผยมาก็ต้องทำให้คนอ่านต่อให้ได้ คุณหนูใหญ่คุมโทนเนียนขึ้นนะกูว่า
ตอนนี้กูรออีกเรื่อง ชื่อไม่น่าสนใจแต่อ่าน2-3บทละท่าทางจะดี โฉมงามกับอสูร นางเอกเป็นคุแก่ บ้าอ่านหนังสือ ผมหยิกตัวอ้วน เป็นหนึ่งในตัวประหลาดของเมือง พระเอกเป็นอ๋องเจ้าเมืองซ่อนตัวอยู่บนวังภูเขาไม่สุงสิงชาวบ้าน
ท่านอ๋องยังไม่โผล่เป็นทางการ
>>187 กูว่าจะไม่อ่านคุณหนูใหญ่ของเขาแล้วนะ เพราะกูอ่านมหาดเล็กแล้วไม่จบซะที กูก็รอให้นางเอกแม่งได้มีลูกมีเต้า แบบอยากอ่านให้สุด รอนานเกินเลยไปอ่านคุณหนูใหญ่ฆ่าเวลา แม่งเสือกฮา ทีนี้เลยอ่านคุณหนูใหญ่ยาวเลย แต่กูชอบสาวคลั่งมากกว่า เนื้อเรื่องเข้มข้นกว่า ต้องไปหาอ่านราชวงศ์เหว่ยเหนือเลย แต่กูไม่ชอบคาร์พระเอกนางเอกสาวคลั่ง อยากจะสลับคาร์ลำนำขนนกมาไว้เรื่องสาวคลั่งแทน แต่คนเม้นท์คนอื่นก็เห็นเขาชอบคาร์สาวคลั่งกัน กูเลยไม่บ่น
>>190 คนละนักเขียน ขอโทษทีกูไม่ได้Ly
>>189 คนเขียนค้นข้อมูลปวศดี อ่านแล้วสนุก พอคุณหนูใหญ่เห็นชัดเลยว่ากำลังพยายามหาความลงตัวของปวศกับเรื่องบันเทิง เลือกยุคหวงกุ้ยเฟยพี่เลี้ยงฮ่องเต้ที่คนค่อนข้างคุ้นเคย เพิ่มความหื่นของพระเอก มีตัวอิจฉาตามสมัยนิยม สำนวนก็พอดีๆลื่นไหลกระชับดี ดำเนินเรื่องไวกว่าเดิม ถึงกูจะรู้สึกว่ามันเบากว่าเดิมเยอะ แต่กูว่ามันกลมกล่อมขึ้น
คงเพราะตัวเอกเรื่องคุณหนูใหญ่ไม่น่าอึดอัดตับไตมากเท่าเรื่องก่อนๆ สาวคลั่งนี่ไม่น่ารักเพราะคาร์เว่อร์ล้นๆไป หรือพอโยกคาร์แบบนี้มาใส่ตัวละครพระเอก เราเลยโอเคฟระ จิตใต้สำนึกคนอ่านสาวๆรับได้55555
กูถามหน่อย คอมเม้นต์หลักร้อยของ บันทึกมหาดเล็ก สาวจอมคลั่ง
นี่คือถือว่าดังแล้วใช่ป่ะ ถ้าเทียบนิยายเสินเจิ้นอ่ะ
(กูไม่ได้ว่าไรนะ 555555 กูแค่มาจากสายฟิค สายนั้นจะคอมเม้นต์ถล่มทลายหน่อยๆอ่ะ)
หวงกุ้ยเฟยในคุณหนูใหญ่นี่ในประวัติศาสตร์คือใครอ่ะ
>>196 สาวจอมคลั่งกับบันทึกมหาดเล็กนี่ถือว่าไม่ดังเลยว่ะในสายเสิ่นเจิ้น พวกดัง ๆ ยอดวิวเป็นแสนเป็นล้าน แต่ถ้าเทียบแค่ยอดเม้นท์ถือว่าได้เม้นท์เยอะมากสำหรับนิยายที่ไม่ดัง ยอดเฟ้บน้อยแต่ได้เม้นท์จากคนอ่าน มึงไปดูเรื่องติดท็อปนิยายหมวดนี้ ยอดเฟ้บเป็นหมื่น เม้นต์เป็นพันเท่านั้น เว้นแค่บางเรื่องที่ยอดเม้นท์ถล่มทลาย ที่โม่งอวยไม่ใช่เพราะนิยายสองเรื่องนี้ดัง แต่เพราะมันแต่งดีถูกจริตหลายคน โม่งบางคนก็ไม่อ่านนะ แต่ก็รู้ว่ามันดี แค่ไม่ใช่นิยายที่ชอบ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.