Fanboi Channel

รวมพลนักเขียน แชร์เทคนิคประสบการณ์และข่าวสาร [กระทู้ที่ 22]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID6:2ilLrYQpjj

กระทู้เพื่อพูดคุยเทคนิคการเขียน และเรื่องการประกวดต่าง ๆ เกี่ยวกับนิยาย

กระทู้ 1 >>>/literature/2342/
กระทู้ 2 >>>/literature/3442/
กระทู้ 3 >>>/literature/4775/
กระทู้ 4 >>>/literature/5724/
กระทู้ 5 >>>/literature/7084/
กระทู้ 6 >>>/literature/10634/
กระทู้ 7 >>>/literature/12326/
กระทู้ 8 >>>/literature/12952/
กระทู้ 9 >>>/literature/13391/
กระทู้ 10 >>>/literature/13744/
กระทู้ 11 >>>/literature/14253/
กระทู้ 12 >>>/literature/15039/
กระทู้ 13 >>>/literature/15642/
กระทู้ 14 >>>/literature/16386/
กระทู้ 15 >>>/literature/16722/
กระทู้ 16 >>>/literature/17022/
กระทู้ 17 >>>/literature/17223/
กระทู้ 18 >>>/literature/17576/
กระทู้ 19 >>>/literature/17967/
กระทู้ 20 >>>/literature/18263/
กระทู้ 21 >>>/literature/18537/

2 Nameless Fanboi Posted ID6:rMx4oeOg5O

ขอถามถึงตอนจะวางขายหน่อยแฮะ ว่าถ้าหากจะทำ E-book ขายแล้ว เราควรมัดแพ็คติดเหรียญตอนที่ปล่อยอ่านฟรีไปเลยด้วยมั้ย?

3 Nameless Fanboi Posted ID6:BGCuc7CoP6

>>2 ก็แล้วแต่ (ไม่ได้กวนตีน) อยากติดเหรียญหาตังหรืออยากให้อ่านฟรีต่อ อยู่ที่มึงเลยเพื่อน

4 Nameless Fanboi Posted ID6:BGCuc7CoP6

สายนิยายรัก มีใครสายเขียนสั้น ๆ ไม่ถึงแสนคำปะ กุอยากรู้ว่าทำไงมันถึงสั้นได้ เขียนทีไรกุเผลอเขียนยาวแสนคำขึ้นหมดเลย รู้สึกเขียนสั้นละมันยังไม่อิ่ม แค่โมเม้นพระนางก็ยาวววละ มีปมหลัก ปมตลค. บรรยายอะไรมากมายอีก สุดท้ายก็ยาวทะลุแสนหมด อยากเขียนสั้น ๆ ได้บ้าง (จะได้รีบจบรีบขายโว้ย ร้อนตัง 5555) TT

5 Nameless Fanboi Posted ID6:2ilLrYQpjj

>>4 กูเพิ่งอ่านมาเลย 2หมื่นกว่าคำ 9ตอน ขาย79฿ได้ป้ายแดงด้วยโครงคือ
-เจอกันครั้งแรก ระหว่างนี้ก็เล่าใครเป็นใครที่มาที่ไปว่าทำไมถึงต้องมาเจอมาอยู่ด้วยกัน
-เรียนรู้นิสัย เริ่มเกิดความรู้สึกในใจแต่ยังไม่อะไร
-มีเหตุให้ได้กัน ติดใจ
-มีปัญหาเป็นเหตุให้ต้องแยกห่าง เลยยิ่งรู้ตัวว่ารักมาก
-ตามขอคืนดี สารภาพความในใจ ลงเอยด้วยดี
-ตอนพิเศษครอบครัวสุขสันต์
จบละ
ฟีดแบคคือ คอมเมนต์ส่วนใหญ่บอก สนุกมาก เสียดายสั้นไปหน่อย

6 Nameless Fanboi Posted ID6:+X2/vEo0FD

>>4 นิยาย LN ส่วนใหญ่จบที่ 6 หมื่นถึง 8 หมื่นคำเอง ถ้าแค่เปลี่ยนเนื้อหาเป็นรักก็คงเขียนไม่ต่างกันเท่าไร

7 Nameless Fanboi Posted ID6:+X2/vEo0FD

>>3 ไม่ๆ ที่กูสงสัยคือถ้าปล่อยอ่านฟรีไปด้วย คนมันจะซื้อ ebook เหรอ

8 Nameless Fanboi Posted ID:dzpb3XbKEk

>>7 คนอ่านอีบุคมีตลาดของตัวเองอยู่นะ ส่วนที่หวังว่าคนอ่านรายตอนจะตามไปซื้อถ้าเปิดให้อ่านฟรีจนจบโดยไม่คิดจะติดเหรียญเลย... อันนี้มึงต้องพึ่งฝีมือและแฟนคลับหน่อยล่ะ อาศัยความรักในตัวคนเขียนกับผลงานล้วนๆว่าเขาจะชอบจนอยากซัพมึงโดยการตามไปซื้อมั้ย แต่บางคนก็ยินดีโดเนทให้นะถ้าผลงานมึงเข้าตาเขาพอ

9 Nameless Fanboi Posted ID:C5O+2yE/Z.

ไม่รู้ถามมู้ไหนดี กุแค่สงสัยแนวเด็กเสี่ย / FWB (เพราะไม่เคยอ่านน่ะ) เวลาพระเอกมันยื่นข้อเสนอให้ตอนแรกเนี่ย มันมาไม้ไหนถึงไม่ดูเหี้ยเกินวะ 555 คือจู่ ๆ มีผช.ไม่รู้จักมาถามว่าเธอขายไหม อยากเป็นเด็กเสี่ยไหม เป็นกูกูขมวดคิ้วนะ คือผช.ดี ๆ มันคงไม่ถามคนไม่รู้จักแบบนั้นอะ 55555 **กุไม่อะไรกับพล้อตแนวนี้นะ ตกลงคอนเซ้นกันก็โอเค แค่สงสัยว่ามันเริ่มยังไงว้า 555555

10 Nameless Fanboi Posted ID6:UjeQt2D.qy

>>9 ประเด็นนี้ไม่ได้อยู่ที่พระเอกเว้ย เพราะคนเสนอจะถูกมองเหี้ ย ตลอดอยู่แล้ว นข.จะให้พระเอกพูดตรง พูดอ้อมยังไงความหมายก็มีหนึ่งเดียวคือเลวอยู่ดี มีเรื่องนึง ตอนผู้ชาย(พระเอก)เสนอเงินให้เพื่อให้มาผูกปิ่นโต นางเอกโกรธและไม่ยอม ซึ่งคนทั่วไปต้องรักศักดิ์ศรีไม่ยอมใช่ป่ะ แต่ๆๆ ชีวิตต้องไม่ราบรื่น ลำบาก ขัดสน นางเอกมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วน พ่อเข้ารพ. น้องรถชน พี่สาวจะตัย แม่ป่วยหนัก ซึ่งถึงทางตันจริงๆ ถูกบีบคั้นทุกทาง ข้อเสนอพระเอกจึงเหมือนขอนไม้เดียวที่เกาะไว้ได้ให้ไม่จมลงไป แล้วตอนนั้นแหละ ข้อเสนอพระเอกก็เหมือนยอมขายวิญญาณให้ซาตาน ดูเลวยังไง แต่ก็เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด

11 Nameless Fanboi Posted ID6:UjeQt2D.qy

ส่วนFWBนี่ กูคิดว่าต่างก็มีความเง่นอยู่ก่อนแล้ว ชอบๆอยู่บ้างแต่ไม่อยากเอาใจไปเล่น ขึ้นอยู่กับว่าใครกล้าพูดก่อนแล้วตกลงดีล ซึ่งคนเปิดก่อนจะมองว่า อินี้เลวหื่นก็ได้ จะมองว่าเป็นคนตรงๆแฟร์ๆกล้าถามในสิ่งที่ต้องการก็ได้

12 Nameless Fanboi Posted ID:C5O+2yE/Z.

>>10 โอเค อันนี้อีกมุมนึง แต่ตัวอย่างมึงนี่มันไม่โดนฉอดใช่มั้ยวะ 5555 มันดูจำใจขายตัวแลกเงินยังไงไม่รู้ **ย้ำ ไม่ได้ว่าอะไร** อยากรู้แนวที่นางเอกเต็มใจแต่แรกมั่ง (แม่งจะมีคนเต็มใจมั้ยวะ 55555)

13 Nameless Fanboi Posted ID:2ioa82GwRx

>>12 กุเคยเจอ พอ.มองนอ.แล้วชอบอยากได้ นอ.ก็รู้แต่ไม่อะไร ทีนี้เจอวิกฤตถุกเวลาบีบคั้นเลยมาเปิดทางเองเลย เพราะคิดว่ายังไงให้พอ.คนเดียวดีกว่าหลายคน แล้วก็รู้ว่าพอ.ภาษีดีไม่มั่วแน่ๆ (อันนี้ตรรกะโรมานส์เลย ชีวิตจริงกุคงอยากตีซักที พึ่งรุ้จักจะมามั่นใจอะไรวะว่าเขาไม่มั่ว555)

14 Nameless Fanboi Posted ID6:cmuUha6I8Z

>>12 มี ช่วงนี้เยอะเลย เรื่องที่นางเอกมันเสนอก่อนนี่แหละว่าร้อนเงิน นอนกับชั้นได้นะ พล็อตเต็มใจมีเยอะอยู่นะมึงช่วงนี้

เขาเลยชอบเขียนให้นางเอกหลงหน้าตาพระเอกกับพระเอกเคยทำดีให้มาก่อนหน้านี้แล้วไง บางทีเป็นฟีลสวยมาก อยากได้สักคืน แต่พอได้ละติดใจเลยขอร่างสัญญารายปี (อาจเป็นรุ่นพี่สมัยเรียน เพื่อนพี่ชาย เคยเห็นเขากางร่มให้แมว บลาๆๆ) พอร้อนเงินเวลาถูกเสนอดีลเลยตอบตกลงกันหมด กูเคยเจอบางคนก็เขียนให้เขารู้โดยทั่วกันว่าพระเอกน่าจะชอบเลี้ยงเด็ก ชอบเป็นเสี่ย เพื่อนแนะนำมาอีกทีว่าได้ข่าวเปย์หนัก ให้นางเอกไปเสนอขายเองได้เลย แต่เอาจริงเรื่องเสี่ยเลี้ยงที่พระเอกเสนอดีลก่อนก็ไม่ค่อยมีคนฉอดนะมึง พล็อตยอดฮิต ไม่โดนอะไรหรอก แต่ถ้ากลัวๆก็ให้นางเอกไปเสนอก่อนก็ได้ บางทีคืนเดียวรับตังค์แต่ติดใจ พระเอกก็เลยผูกปิ่นโตให้นางเอกรับเงินยาวๆก็มี เรื่องจะได้โฟลวต่อได้

15 Nameless Fanboi Posted ID6:UjeQt2D.qy

แนวสามัญประจำเมด ท็อปเมดนี่เยอะแยะเลย ทั้งนางเอกเสนอก่อน หรือพระเอกเสนอก่อน ตัวแม่สายโรมานซ์เรตติ้ง500อัพ ต้องมีผ่านแนวนี้กัน เมกฮวงฎาว พอ.เสนอ เรตติ้งพันกว่า, ภีละกาน ของ ตยก. เรตติ้ง5ร้อยกว่า นางเอกเป็นลูกคุณหนูแอบชอบพระเอกเห็นว่าพระเอกไม่จริงจังกับใครถนัดมีเด็กเลี้ยง เลยมาขอสมัครเป็นเด็กเลี้ยงจะได้ใกล้ชิด ส่วนพระเอกก็พวกตั้งใจจะไม่จริงจังแต่พอได้แซ่บ1ครั้งจากนั้นก็จะติดกีเธอขาทุกราย 555

16 Nameless Fanboi Posted ID6:QDZl6q/uo6

โม่งทำยังไงเมื่อรู้สึกว่าตัวเองชอบเขียนบรรยายเวิ่นเว้ออะ

คือกูอ่านเองอะไม่รู้สึกหรอกนะ เพราะกูติดความสมบูรณ์แบบเลยพยายามใส่ประโยคให้มันดูครบๆ ทั้งที่ความจริงแล้วไอ้ที่เสริมมานั่นตัดไปก็ได้ไม่มีปัญหา ซึ่งพอมาดูในมุมมองคนอ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่ามันดูล้นๆ อะไรทำนองนั้น จนต้องมานั่งตัดเอาทีหลังอีกหนทุกทีเลย

ดูอย่างที่กูพิมพ์ถามก็น่าจะรู้ได้ว่าแม้กระทั่งตอนคุยปกติกูก็จะเขียนล้นๆ เช่นกัน

17 Nameless Fanboi Posted ID:TM.o1gIXPt

>>16 เขียนล้นดีกว่าเขียนขาด คำตอบอยู่ในคำถามของมึงแล้วนั่นไง คือตัดออกทีหลังได้ตอนมาอ่านทวน ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย ทุกคนต้องมีการรีไรท์งานทั้งนั้นอะมึง นอกจากคนทำงานลวกๆ จริงๆ แบบเขียนครั้งเดียวจบส่งขายเลย

18 Nameless Fanboi Posted ID:zMdF2C0bm2

เรื่องทั้งหมดของแอ้ดเทียน เป็นเรื่องที่แอ้ดเทียนฝันไปเอง ตอนนี้เป็นตอนที่อ่านแล้วเส้า จนน้ำตาไหล สงสารแอ้ดเทียน การผจญภัยทั้งหมดเป็นเพียงความฝันที่อยากจะมีเพื่อนในขณะที่นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาลวันหนึ่ง ฉากในโรงพยาบาล แอ้ดเทียนตื่นขึ้นมา และเจอพ่อกับแม่และเพื่อนๆ ครบทุกคนยืนอยู่รอบเตียง แล้วแอ้ดเทียนก็ถามถึงโม่ง ทุกคนกลับปฎิเสธว่า ไม่รู้จักและบอกแอ้ดเทียนว่า แอ้ดเทียนหลับมานานเป็นปีแล้ว เนื่องจากไม่สบาย และแอ้ดเทียนก็นึกย้อนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับโม่งทั้งการผจญภัยต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงความฝันเท่านั้นโม่ง fanboi.ch ล้วนเป็นความฝันของเขาทั้งสิ้นแอ้ดเทียน เป็นเด็กที่ไม่แข็งแรง และไม่มีเพื่อนรักที่จะอยู่ด้วย เขาต้องนอนโรงพยาบาลตลอดเวลา และเขาก็หลับไป

ฉากต่อมา เริ่มที่ พ่อแม่และเพื่อนๆของโนบิตะร้องไห้กันอยู่ในงานศพของโนบิตะ..เขาจากไปก่อนวัยอันควร.. และเรื่องราวทุกอย่างก็จบลง ที่โนบิตะฝันถึงโดราเอมอน และอนาคตนั้นเป็นเพราะเขารู้ดีว่า เขาจะต้องตายในอีกไม่นาน เขาจึงอยากที่จะมีอนาคตมีเพื่อนรัก มีการผจญภัยสนุกสนาน

แต่ฝันของเขาก็ไม่มีวันเป็นจริง... ตลอดไป.....

19 Nameless Fanboi Posted ID6:/swZzcmCC6

Ky เวลาพิมพ์คำพูดที่โดนตัดโดนขัดชั่วคราว ส่วนใหญ่คนชอบแบบไหนตามหลังมากกว่ากันอะ ระหว่าง … กับ — ตอนแรกกูก็ใช้ … นี่แหละ แต่แวะไปอ่านนิยายคนอื่นแล้วรู้สึกว่า — มันได้ฟีลโดนพูดขัดมากกว่า เพิ่งหาวิธีพิมพ์ให้ตัวขีดมันยาวในคอมพ์ได้ด้วย555 ก็เลยอยากรู้ว่าเอาแบบไหนดี เพราะถ้าจะแก้กูก็ต้องย้อนแก้ยาวเลยเหมือนกัน ถ้าคนใช้เยอะ ชอบเยอะ จะได้ฮึดสู้มีแรงแก้

20 Nameless Fanboi Posted ID:QXAyGf2nVF

>>19 แบบขีดได้อารมณ์กว่า แบบจุดเหมือนลากเสียงท้ายให้ยาวๆ

21 Nameless Fanboi Posted ID6:brACgET9Au

กูโหวต —
ในครส.เหมือนเสียงหาย โดนตัด มีอุปสรรคมาขัดฉับพลัน
… เหมือนคนพูดจงใจหยุดพูดเอง บางทีก็เหมือนทิ้งระยะ

22 Nameless Fanboi Posted ID6:nZACM6kVVC

ky โม่งมึงพอมีนิยายที่อาชีพศักดิ์สิทธิ์อย่างตำรวจ ทหาร หมอ พยาบาล ครู เป็นตัวร้ายไหมวะ กูกำลังเขียนเรื่องที่ตัวร้ายเป็นอาชีพพวกนี้อยู่แล้วจู่ๆ ก็เกิดป๊อดขึ้นมาว่ะ กลัวสังคมหาว่ากูเขียนใส่ร้ายพวกเขา แต่กูตั้งใจจะเขียนสื่อถึงพวกที่ไม่ดีในกลุ่มนี้ไง ไม่ได้จะดิสเครดิต อยากมาขอนิยายตัวอย่างที่ทำได้ดีเป็นกำลังใจว่ะ

23 Nameless Fanboi Posted ID:+er3KVuCqM

>>22 ห๊ะ เต็มบ้านเต็มเมืองเลยนะมึง โดยเฉพาะตำรวจ ทหารเนี่ย เขียนๆไปเถอะ อย่าไปแตะบรรดาสถาบันกับศาสนาก็พอ

24 Nameless Fanboi Posted ID6:gC2NymPF5f

>>23 อ้าวเหรอ ขอบคุณ กูก็กลัวมันจริงเกิน 555

25 Nameless Fanboi Posted ID6:GcbaP36cl.

>>20-21 ขอบคุณมากๆ มีแรงใจแก้ละ

Ky เดี๋ยวนี้มีลูก 5 คนถือว่าเยอะมั้ย กูกำลังเขียนโรมานซ์ เหลือตอนพิเศษ ตั้งใจจะให้มี 5 คนมาแต่แรกละ แต่ช่วงนี้ไปเจอพวกลัทธิมอมอนแม่ลูก 8 ใน x แล้วไม่สบายใจ แต่เป็นความต้องการของนางเอกกูเอง ไม่มีใครบังคับ นางมีปมอยากให้ลูกมีพี่น้องเยอะๆ และพระเอกก็ช่วยได้ ไม่ติดขัด แต่มันน่าจะอันตรายป่าววะ สมัยนี้ แล้วกูก็ดันใจร้อนคอมมิชภาพเด็ก5คนไปละ พูดให้กูสบายใจทีว่าสมัยนี้ยังมี ฮือ

26 Nameless Fanboi Posted ID6:pO.lpzVevz

>>25 เพื่อนกู 30+ เป็นลูกสาวคนเล็กสุด คนที่ 6 ไม่ได้เป็นลูกหลงด้วย แต่มันกับพี่คนโตสุดคือแทบเป็นพ่อลูกกันได้ 5555

27 Nameless Fanboi Posted ID:ZIKsZ965JW

>>25 ในไทยโดยภาพรวมอาจจะถือว่าลูกดกไปนิด แต่มันก็มี เขียนได้แหละน่าจะแค่คนส่วนน้อยที่คิดมาก อย่างญาติกุมีสองเมีย เมียหนึ่ง 7 คน เมียสอง 5 คน เด็กเกิดรุ่นเดียวกับกูคือช่วง 1990-2010 เนี่ย ไม่ได้ยุคโบราณมาก โดยเฉลี่ยแล้ววงศาขณาญาติกุขยันทำด้วยแหละ 5555 น้าๆ ป้าๆ กุมีลูก 3-4 คนเกือบทุกคน

28 Nameless Fanboi Posted ID6:t8dQGXuqAS

>>25 กำลังเป็นกระแสเลย มึงก็เกริ่นหน่อยว่านางเอกอยากมีลูกเยอะๆ ฝันแบบนี้มาตลอด มีปมในใจใดๆว่าไป ชูประเด็นนี้เยอะๆ ไม่ใช่ต้องละทิ้งความฝันนักบัลเลต์จูลิอาร์ดมามีลูกดก

29 Nameless Fanboi Posted ID6:pMLe5yP1jS

>>25 กุไม่ได้ตาม x แต่ถ้าพ่อแม่พร้อม มีปัญญาเลี้ยงให้ดีตามควร จะกี่คนก็มีไปสิวะ ทุกวันนี้คนไม่อยากมีเพราะค่าเลี้ยงดูมันสูง ส่วนที่คนขยันมีมันก็ไม่พร้อมจะเลี้ยงออกมาให้โตดีๆ ทำไมต้องฟาดค่านิยมมารัดคนขนาดนั้นด้วยวะ กุล่ะไม่เข้าใจชาว x เลย ปากบอกร้องหาความเท่าเทียมปชต.แต่ข้อเรียกร้องแต่ละอย่าง แม่งมีแต่ขีดกรอบชาวบ้าน เอียงจนแทบจะเป็นสังคมนิยมแบบเกาเหนือล่ะวะ
แต่ใดๆ อัตราการมีลูก เท่าที่กุประมาณจากปสก.ที่เห็นและฟังผู้เฒ่าเล่านะ
baby boomer ลูกเฉลี่ย 8-12
เจน x เหลือ 3-6
เจน y เหลือ 1-4
ปัจจุบัน 0.5-2

30 Nameless Fanboi Posted ID6:pMLe5yP1jS

>>29 ลืมตอบ ในนิยายมึงจะเขียนยังไงก็เขียนไปเหอะ ขอแค่ใส่เหตุใส่ผลให้ฟังแล้วคนอ่านคล้อยตามก็พอ แค่ใส่ว่านอ.อยากมีตามคห.บนๆว่ายังได้เลย

31 Nameless Fanboi Posted ID6:GcbaP36cl.

>>26-30 ขอบคุณทุกคนมากกก กราบงามๆ ข้อมูลมีประโยชน์สุดๆ กูสบายใจขึ้นเยอะเลย คงเพราะช่วงนี้กูเห็นพวกไฮโซคนรวยก็ไม่ได้มีลูกเยอะไปถึงขั้น 5 ส่วนใหญ่เฉลี่ยมากสุดเอาแค่เด็กแฝดชายหญิง 4 คนก็เหมือนจะปิดอู่กันละ กูเลยลังเลนิดหน่อยว่ามันเยอะไปป่าวว้า
นางเอกกูมีปมประมาณครอบครัวสุขสันต์ พ่อแม่ตายไปก็เหลือพี่น้องดูแลกัน รักกัน แต่พี่น้องดันมาตายในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ถ้าเป็นไปได้นางเลยอยากมีให้มากกว่า 2 เพราะการถูกทิ้งให้จัดงานศพคนเดียว ไม่มีคนที่รักมากอดปลอบมันทรมานเกินไป ไม่อยากให้ลูกต้องโดดเดี่ยว แล้วพระเอกก็ไหว รวยด้วย นางเลยขอไปให้สุดเลย แต่กูคงต้องเพิ่มฉากแสดงทัศนคติดีๆเข้าไปแหละ มีการจ้างพี่เลี้ยง ช่วยกันเลี้ยงลูก ให้เงินเดือนเมีย นางเอกก็ยังไม่ทิ้งความฝันตัวเอง

32 Nameless Fanboi Posted ID6:pMLe5yP1jS

>>31 แอบแชร์ปสก.ตรงนะ กุดีใจมากที่พ่อแม่กุมีลูกเยอะจนกุมีพี่น้องเยอะ เวลาพ่อแม่ป่วยขึ้นมา คนเดียวคือหลังหักแน่ ยิ่งป่วยพร้อมกันด้วยนะมึงเอ้ย! มันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่มันมีเรื่องของการขอความช่วยเหลือและซัพพอร์ตทางจิตใจด้วย เวลามึงจนมุมมึงร้องหาพี่หาน้องมึงมาช่วยได้ ร้องไห้กับพี่กับน้องให้เค้าปลอบได้ เป็นอะไรที่โคตรจะล้ำค่า กุมองหลานกุที่เป็นลูกคนเดียวแล้วนึกถึงวันหน้าเลย ถ้าพี่กุกับพี่สะใภ้กุป่วยพร้อมกัน หลานคนเดียวจะแยกร่างที่ไหนมาดูแลคอยพาหาหมอวะ ยังมีงานการที่ต้องดูแลอีก แต่ใดๆก็นั่นล่ะ ในข้อแม้ว่าพี่น้องต้องดีด้วยนะมึง ถ้าห่วยแม่งก็ฝันร้ายไปอีกแบบเหมือนกัน

33 Nameless Fanboi Posted ID6:GcbaP36cl.

>>32 ขอบคุณที่มาแชร์ปสก.นะมึง กูก็มีพี่น้องที่รักกันดี ไม่ได้ห่วยแตกมาก เวลาเขียนนิยายเลยชอบให้พระนางเขามีพี่น้องหรือไม่ก็ตอนจบมีลูกสักสองคนขึ้นไป แต่ก็เข้าใจฟีลคนมีพี่น้องห่วยแตก แม่งก็แย่มากจริงๆ ต้องมาผูกพันกับคนทรามๆ ด้วยสายเลือด แต่ที่ดีก็อุ่นใจจริงๆ เหมือนในโลกเฮงซวยยังมีคนที่พร้อมช่วยเราแน่ๆ ตั้งหน่อสองหน่อ
บางทีกูก็ชอบอ่านนิยายแล้วลองคิดตามว่าตอนจบพระนางจะมีลูกกี่คน555 เพราะนิสัย คาแรคเตอร์ กับการถูกเลี้ยงดูมันสัมพันธ์ต่อจำนวนลูกในตอนจบเยอะเลย (ถ้าไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยว) ถ้าตัวละครมีพี่น้องห่วยแตก ตอนจบก็จะชอบมีลูกคนเดียว บางทีปมคือพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน ตัวเอกก็เลือกที่จะมีแค่คนเดียวเพื่อมอบความรักให้เต็มที่ ไม่อยากให้ถูกเมินเหมือนที่ตัวเองโดน ครั้งนึงกูเคยโดนนักอ่านติงว่าพระนางรักกันขนาดนี้ทำไมมีลูกแค่คนเดียว ส่วนพวกมีพี่น้องดีๆป่วนๆส่วนใหญ่คือลูก 2 ขึ้นไปกันทั้งนั้น

34 Nameless Fanboi Posted ID:Qx+.yYOs+D

>>25 คห.กุ แบบคหสต.เลย กุนี่แหละคนคิดมาก 55555 ขออภัยด้วย ส่วนตัวกุชอบมองความเรียลไว้ก่อน ต่อให้ลูกสาวมึงต้องการ เต็มใจมีลูก กุก็รู้สึกแปลก ๆ น่ะ รู้สึกเหมือนเจอ fetish breeding kink 5555 ไม่รู้มึงเคยมีลูกมั้ย แต่คือท้องทีคลอดทีมันทรมานน่ะมึง TT มี 5 คนนี่จะให้ห่างกันกี่ปี มันต้องเว้นช่วงเลี้ยง ช่วงแซ้บกับผัวด้วย มันไม่ใช่แค่คลอดละฟิตเลอ ลูกยังไม่หย่านมมึงท้องใหม่ละ อันนี้ก็ทรหดหน่อย แต่ถ้าเว้นนานหน่อย กว่าจะครบ 5 คนก็นานอีก หรือถ้าให้เป็นลูกแฝดแทน อันนี้ก็หนัก 555 ท้องแฝดแม่งความเสี่ยงเยอะมากนะ แต่คนชอบมองข้าม
มีลูกเยอะสมัยนี้กุให้มากสุด 4 คนอะ กำลังโอเค ถ้า 5 นี่เริ่มตงิด ๆ แระ แต่ถ้ามึงเขียนให้ดีมีเหตุผลพร้อมซัพก็คงไม่ไรมากหรอก อันนี้ช่วยแสดงความเห็นมุมคนไม่โอนะ มึงต้องเจอคนอย่างกูบ้างแหละ แค่บางทีเขาไม่เผยตัว 5555 แต่คนชอบก็มีแน่ ๆ ฉะนั้นอยากเขียนไรก็เขียนโลด ลางเนื้อชอบลางยาอยู่ละ

35 Nameless Fanboi Posted ID:Qx+.yYOs+D

ยกตัวอย่างเพิ่มละกัน เจอเรื่องนึงเป็นภาคต่อนิยายดัง พระนางมีลูก 5 หรือ 6 ไม่แน่ใจ แต่มีแฝด 2 คู่ (ช 2 ญ 2) เสียงนักอ่านมีทั้งคนฟริน ๆ เอ็นดูลูกหลาน ดีจังครอบครัวใหญ่ แต่ก็เห็นเสียงว่า มีลูกเยอะไป เหมือนกัน (จำไม่ได้ว่าเห็นในเม้ดหรือที่อื่น น่าจะที่อื่นมั้ง) ใด ๆ พวกนี้มีไม่เยอะหรอก เชื่อกุ ปัจจุบันคนไม่กล้าออกความเห็นกันแล้ว อย่างกุนี่ถ้าไม่ชอบอะไรก็ไม่บอกหรอก อาจจะถอดล้อกอินไปให้ดาวแล้วไปเลย 5555

36 Nameless Fanboi Posted ID6:pMLe5yP1jS

>>34 คือมึง ในแง่ความเรียลลูกดกเนี่ยถ้ามึงว่ากันเฉพาะเรื่องสรีระและธรรมชาติการเจริญพันธ์ของมนุดนะ มึงต้องไปถามคนอายุ 70-80 ดู นี่จะเป็นคนรุ่นที่ยังมีพี่น้องกันทีเป็น 10 กว่าคนอยู่ หัวปีท้ายปีกับผัวเดียวเมียเดียวเนี่ยแหละ สาเหตุไม่มีไรเลย ก็แค่การคุมกำเนิดไม่แพร่หลายเท่านั้นเอง

แต่ใดๆ อย่างที่โม่งนี่บอก มึงเขียนให้ถูกใจทุกคนไม่ได้หรอก คนอ่านแต่ละคนมีปสกชีวิต มีชอบชัง มีทริดเกอร์ต่างกันหมดแหละ คิดเสียว่าถ้ามึงขายกะเพราเขาอยากกินสลัด มึงก็ต้องปล่อยเขาไปแหละ

37 Nameless Fanboi Posted ID6:EtyO79i+Pa

>>32 พ่อแม่มุงน่าจะนิสัยดี ลูกเลยไม่ชัง

38 Nameless Fanboi Posted ID6:H8TtW2KGEJ

>>37 ป่าว พ่อกุนิสัยไม่ดีเลย ตอนเด็กมากๆกุเคยเกลียดเขาจนคิดว่าขอให้เขาไม่ต้องกลับบ้านมาแล้วนะด้วย(ให้ตุยนอกบ้านไม่ต้องกลับมาน่ะ)​ แม่กุเวลาทำบุญยังเคยขอว่าขอเจอพ่อกุชาติเดียวพอ อย่าได้มีชาติหน้าเลย
แต่เขาก็ยังมีข้อดีที่ใช้ได้อยู่บ้างนั่นแหละ ไม่ไร้ความรับผิดชอบต่อลูกเมียไปทั้งหมด โตแล้วถึงจะพอเข้าใจขึ้นมาได้
ส่วนที่พี่น้องบ้านกุดี น่าจะเพราะพ่อกุไม่ดีเนี่ยแหละ มีตัวอย่างไม่ดีให้เห็นตำตาเลยเห้แบบนั้นกันไม่ลง

39 Nameless Fanboi Posted ID6:t4MpSBjnpz

Ky ถ้าอยากให้ตลค.พูดประโยคให้กำลังใจทำนองว่า"ตัวเราในอนาคตรอเราคนปัจจุบันอยู่"แต่ไม่อยากใช้ประโยคนี้ตรงๆ มีคำพูด หรือประโยคที่ความหมายคล้ายๆกันไหมเพื่อนโม่ง ใจกูพอได้ยินประโยคนี้มันนึกออกแต่ มึงรอต่อไปเถอะกูจะนอนorz

40 Nameless Fanboi Posted ID6:JxoJH+jcNd

Ky ในฐานะนักอ่านสงสัยว่าทำไมนักเขียนไม่ลงขายอีบุ๊คพร้อมตอนพิเศษไปเลยอะ คือเห็นหลายคนแล้วที่มาอัพเดทอีบุ๊คที่มีตอนพิเศษทีหลังเป็นเดือน ตอนนั้นนักอ่านอย่างกูมูฟออนไปเรื่องใหม่นานแล้ว บางทีก็ทำงานไม่ว่างมาส่องแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวหรอกว่าจะมาตอนไหน กว่าจะได้มาอ่านมันก็ไม่ใช่ความรู้สึกเดียวกับตอนแรกแล้วอะ อย่างเรื่องล่าสุดที่เจอคือนอกับพอเพิ่งดีกันแล้วจบเลย แต่ยังไม่ได้กลับมาคบกัน ทั้งเรื่องแทบไม่มีซีนหวานพระนาง แล้วมาทิ้งว่าจะมีตอนพิเศษนะคะ คืองงว่าทำไมไม่รอขายตอนจบเรื่องสมบูรณ์ไปเลย จะสนุกจะฟินไรก็ไม่สุด ความสนุกมันลดลง

41 Nameless Fanboi Posted ID6:xVR6Qi3.vn

>>40 สำหรับกูมีเหตุผลคือ นักอ่านชอบถามหา ถ้าไม่มีตอนพิเศษ แต่เวลาเขียนบางทีอินเนอร์มันจบแค่นั้น ยังไม่ได้อยากเขียน แต่แปะกันไว้ก่อน 55555 เผื่อโดนหักคะแนนเพราะไม่มีตอนพิเศษ คนอื่นม่ายรู้เน้อ

42 Nameless Fanboi Posted ID:R3SJ0tU8dd

>>40 สำหรับกูคือเขียนเนื้อหาหลักจบแล้ว อยากได้ตังค์แล้วก็เลยลงก่อน เพราะตอนพิเศษคือเนื้อหาแถมที่ไม่ได้มีผลกับเนื้อหาหลัก กว่าจะเขียนเรื่องหลักจบมันใช้พลังงานพอสมควรนะเว้ย กูก็อยากอยากมีเวลาพักบ้างอะไรบ้าง

43 Nameless Fanboi Posted ID6:JxoJH+jcNd

>>42 >>41 เข้าใจฝั่งนักเขียนนะ ส่วนตัวกูคิดว่าตอนพิเศษไม่จำเป็นต้องมี ขึ้นอยู่กับนขว่าอยากเขียนไหม แต่พอลงขายพร้อมเขียนในเล่มหลังตอนจบว่าจะมีตอนพิเศษมันเลยให้ความรู้สึกเป็นงานขายที่ยังไม่สมบูรณ์ไม่เสร็จ100%น่ะ อารมณ์แบบมันเป็นcommitment ที่นขต้องทำแทน

44 Nameless Fanboi Posted ID:te5fxL5NCh

>>43 กุเป็นนักอ่าน ถ้าเรื่องไหนนักเขียนบอกว่าจะมีตอนพิเศษตามมา หรือจะพิสูจน์อักษรแบบสมบูรณ์ทีหลัง กุจะโหลดช่วงโปรไว้ก่อนแล้วรออ่านทีหลังตอนมัน 100% แล้วนะ ก็ไม่มีปัญหาไร จัดการตัวเอง 555

45 Nameless Fanboi Posted ID6:NaL0sdt3Gz

>>44 สงสัยว่าถ้าเอาสินค้าอื่นที่ทำไม่เสร็จมาขาย ผู้บริโภคที่จ่ายเงินซื้อไปแล้วจะบ่นจะเคลมไหม หรือต้องจัดการตัวเองด้วย

46 Nameless Fanboi Posted ID6:xVR6Qi3.vn

>>45 มันไม่ใช่สินค้าที่ไม่เสร็จ มันเสร็จแล้วค้าบ แต่ตอนพิเศษมันคือแถมให้ตามรีเควสประมาณนั้นอาเพิ่ลโม่ง

47 Nameless Fanboi Posted ID6:JxoJH+jcNd

>>45 เห้ย ใจเย็นนนนนน อย่ามาแซะในท็อปปิคที่กุตั้งเลย เสียว นี่ไม่ใช่ทู้ดราม่าด้วย แค่ตั้งเพราะอยากรู้เหตุผลฝั่งนขเฉยๆ
>>44 เออ แบบวิธีที่มึงว่าก็ดี5555555555

48 Nameless Fanboi Posted ID:te5fxL5NCh

>>47 ลองดูมึง สันติวิธี แฮปปี้ทุกฝ่าย 5555

49 Nameless Fanboi Posted ID:Oob9I89RtU

ขอสอบถามอีกรอบบ พึ่งกลับมาอ่าน รอร คือตอนอ่านนิยายมันทีให้ใส่สติ๊กเกอร์แสดงความรู้สึกด้วยระหว่างบรรทัด ไม่ชอบเลยแต่หาที่ปิดไม่เจออ่า มันอยู่ตรงไหน ปิดได้ไหมนี่

50 Nameless Fanboi Posted ID:SJNCkDz6g/

>>49 ขอเกาะถามด้วย เห็นตอนนั้นมีเพื่อนโม่งบอกว่ามันไม่แจ้งเตือนนับยอดหลัก คือนข.ต้องกดดูเองแต่ละตอนเหรอ รึยังไง ???

51 Nameless Fanboi Posted ID6:256dBcEkvu

>>49 ตรงหน้าเนื้อหาที่มีรูป AA อะ

52 Nameless Fanboi Posted ID6:H8TtW2KGEJ

>>45 เหมือนกุเห็นว่านโยบายเม็ดไม่สนับสนุนเรื่องนี้ เม็ดแนะว่าควรทำให้สมบูรณ์ก่อนแล้วค่อยลงขาย ซึ่งกุว่ามันก็จริง ถ้ากดอีบุคแล้วกุก็ไม่อยากอ่านกระปริบกระปรอย ต้องมารอแวะดูอีกว่านข.อัพตอนพิเศษเมื่อไหร่ กุไม่ได้กดรายตอนอ่านนิหว่า อีบุคกุให้เทียบเท่านส.เล่ม ซึ่งมันควรจะสมบูรณ์ในเนื้อหาทั้งหมดแล้วก่อนขายว่ะ

แต่เคสที่กุเห็นนั่น ร้ายแรงกว่าแค่เพิ่มตอนพิเศษ เหมือนจะมีปัญหากับเนื้อหาหลักเลยถึงถูกร้องเรียนซึ่งกุเห็นด้วยกับนโยบายเม็ด แต่ลูกหาบก็ถล่มคนร้องเรียนและเม็ดกันน่าดู

53 Nameless Fanboi Posted ID6:H8TtW2KGEJ

>>49 ตรงตั้งค่าหน้าอ่าน จะมีแถบแสดงความคิดเห็นย่อหน้าให้เลื่อนเปิดปิดอยู่ล่างสุด

>>50 อีโมหรือคห.ในย่อหน้าจะไม่มีแจ้งเตือนหรือไปโผล่ท้ายตอนอย่างการเม้นปกติ เท่าที่รู้ คือกุต้องเปิดแสดงคห.ในย่อหน้าแล้วไล่อ่านนิยายตัวเองดู ถึงจะเจอสติกเกอร์หรือ... ที่บอกว่ามีนอ.เม้นย่อหน้าไว้ให้ ต้องกดเข้าไแดูข้างในถึงจะเห็นข้อความ แต่ติ๊กเกอร์จะเห็นได้เลยบางส่วน

54 Nameless Fanboi Posted ID:HN02Dj+3IL

ปรึกษาเรื่องการตัดฉากหน่อยเพื่อน สมมติแนวสืบสวนงี้ กุเขียนฉากสั้น ๆ อาจจะเป็นตำรวจคุยกัน 4-5 ประโยคหรือน้อยกว่านั้น จบละตัดไปฉากใหม่ย่อหน้าใหม่ ทำงี้ถือว่าเป็นเรื่องที่รับได้มั้ย แบบว่าฉากนึงกุจำเป็นต้องเขียนยาว ๆ บรรยายร้อยแปดพันเก้าเป็นหน้าหรือเปล่า หรือสั้นจู๋ยังไงก็ได้ แล้วแต่สไตล์การเขียน กุกลัวเขียนฉากสั้นละมันถือว่าห้วนไป ถ้าไม่นับเป็น bad writing จะได้จัดโลด 55555

55 Nameless Fanboi Posted ID:LQT9rkLWfc

>>51 เจอแล้ว ขอบคุณมากก ไปงมหาในตั้งค่าหน้าหลักตั้งนาน

56 Nameless Fanboi Posted ID:tgzgy6IrI2

>>54 รับได้ถ้าไม่ได้เยอะหลายฉาก กูเคยเห็นหลายเรื่องนะที่ตัดฉากมาคุยกันสัั้นๆ แล้วจบแค่นั้น โผล่มาเรื่องละฉากสองฉาก

57 Nameless Fanboi Posted ID:J9iB5FYD0U

>>54 ถ้ามีความสำคัญกับเรื่อง เช่นเงื่อนงำเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องค่อยๆ เอาไปประกอบกัน คำพูดหรือท่าทีที่สื่อให้เห็นถึงบุคลิกตัวละครหลักหรือตัวละครสำคัญ รับได้นะ แต่ถ้าเล็กๆ แบบที่ไม่รู้จะโผล่มาทำไมอันนี้ก็จะงงๆ หน่อยว่าทำไมต้องมี

58 Nameless Fanboi Posted ID6:RldZzOsOcm

นักเขียนเดี๋ยวนี้อ่อนไหวจังวะ คนอ่านคอมเม้นนิดหน่อย ไม่พอใจละ กุอ่านๆเม้นดูไม่เห็นมันจะมีไรขนาดนั้นเลย ดีนะุยังไม่ได้คอมเม้นไร 5555555

59 Nameless Fanboi Posted ID6:RldZzOsOcm

เลื่อนไปเรื่อยๆกุเจอว่าคนอ่านไม่คิดวิเคราะห์ แฟนคลับก็เห็นดีเห็นงามเด้ 555555

60 Nameless Fanboi Posted ID6:yHOIbI9aFN

>>39 มึงลองใช้พร๊อพ ใช้ฉาก/สถานการณ์ ช่วยสื่อบ้างก็ได้ ไม่ต้องใช้คำคมสื่อความอย่างเดียวหรอก สไตล์นี้ที่เห็นฮิตๆคือชอบใช้กระจก อัลบั้มภาพอะไรงี้ แบบมองแล้วก็บอกตัวเอง "เจอกันพรุ่งนี้นะ" บรรยายดึงฟีลให้ดราม่านิดหนึ่ง อะไรทำนองนี้แหละ
ถ้าให้โม่งคิดให้แล้วมึงเอาไปใช้ มึงโม่งแตกแน่ๆล่ะวะ 555

61 Nameless Fanboi Posted ID6:yHOIbI9aFN

>>58 ยังไม่ชินเหรอวะ 555
ไวรัสนักเขียนจักรพรรดิ์น้อยมันระบาดจนคอมเมนต์แทบจะสูญพันธ์แล้วนะ ที่เหลือตอนนี้ถ้าไม่เกรียนไปเลยก็มีแต่อวย เมนต์ติคุณภาพซึ่งปกติมีน้อยอยู่แล้วนี่ตอนนี้น่าจะขึ้นบัญชีอนุรักษ์ ระดับ aaaaa แล้วล่ะ

62 Nameless Fanboi Posted ID6:4B/sRLy2Ki

>>58 ช่วยไปเม้ามู้สับแหลกได้ป่ะ อยากเห็นพิกัดเสือก555

63 Nameless Fanboi Posted ID6:yHOIbI9aFN

>>54 ถ้ามันแทรกมาระหว่างบทยาวๆแล้วมีความหมายกูเฉยๆอ่า แต่ถ้าสั้นๆติดกันมันจะรู้สึกจังหวะอารมณ์กระตุกเหมือนนั่งรถแล้วคนขับเหยียบเบรคทุก 5 นาทีแทน
ที่กุเขียนสั้นสุด คือ ตปก.1 เดินผ่านเจอตัวเอกทำอะไรลับๆล่อๆ แล้วจากไป ตปก.1 กุเกาหัวบอก มันทำอะไรของมันวะ
แค่นี้แหละ 1 ฉาก 555 แต่มีไว้hintให้คนอ่านให้เดาแผนร้ายตัวเอกกุไปพลางๆระหว่างรอตอนใหม่

64 Nameless Fanboi Posted ID6:Zf/T8q3xKk

งืมมม อัพแบบรายตอนมีคนอ่านแค่ราวๆ วันละ 30-40 คนเอง ว่าจะลองไปทำลงตลาด ebook ดูบ้างละ
ว่าแต่จะทำ ebook นี่ต้องยังไงบ้างวะ? มีที่ไหนแนะนำตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวางขายบ้างมั้ย

65 Nameless Fanboi Posted ID6:mkpz+23TfS

>>64 https://www.youtube.com/watch?v=RsX5R-aD86g

66 Nameless Fanboi Posted ID6:mkpz+23TfS

>>64 นอกจากไฟล์ที่อัพ PDF ก็อัพไฟล์เวิร์ดให้เขาทำ EPUB ด้วย แนะนำว่า มึงหน้าใหม่ ตั้งค่าวันลงขายล่วงหน้าหลายๆ วันก่อน พอเม็ดอนุมัติ ค่อยขอกิฟท์โคดมาเช็กก่อนจะได้แก้ไขทัน เปิดตัวจะได้ปังๆ ไม่ใช่ปังปินาศ

67 Nameless Fanboi Posted ID6:D5aOxrTp/w

>>64 สำนวนคุ้นมาก มึงคือคนที่ชอบมาถามในโม่งบ่อยๆสินะ555
อันนี้แนะนำเผื่ออยากได้อะไรยิบย่อยอย่างการจัดหน้า word ไรงี้ด้วย ไม่รู้เพื่อนโม่งเคยแนะนำไปยัง แต่คนนี้เลย เป็นนักเขียนสายรักวัยรุ่นกับโรมานซ์มีขายเองกับลงวต.ที่บางคนเคยเห็นผ่านตาบ่อยๆ ลองส่องคลิปอื่นในช่องเขาได้ เขาสอนยันวิธีจัดหน้า ช่องไฟ การเอารูปปกแปะให้เต็มหน้าใน word ยันอะไรจุกจิกอย่างการใส่เลขหน้าให้ด้านซ้ายเขียนชื่อหนังสือ ด้านนึงเขียนนามปากกา ควรใช้ฟ้อนต์เท่าไหนถ้าจะทำเล่ม ฟ้อนต์เท่าไหนถึงจะเหมาะกับอีบุ๊ค แล้วสองแบบนี้จัดหน้าต่างกันยังไง ช่องไฟบลาๆ มีประโยชน์มาก กูไม่ได้เรียนมหาลัยเลยใช้โปรแกรมพวกนี้ไม่เป็น ตอนกูมือใหม่มากๆทำพลาดก็เยอะ ได้คลิปเขานี้แหละถึงไปย้อนแก้ไฟล์นิยายเก่าๆที่วางขายแล้วได้

https://คุณtu.be/gA_Yyg4I8lw?si=4rGnWAsxxMXxbVHH (เปลี่ยนคุณเป็นyou)

68 Nameless Fanboi Posted ID6:Zf/T8q3xKk

>>66 >>67 ที่อยากได้ตอนนี้คือเรื่องการจัดหน้า กับการทำไฟล์ PDF ก่อนเลย เพราะปกติกูพิมพ์แต่ใส่ word อย่างเดียว
อีกอย่างนี่กูต้องหาคนทำไทโปให้กูอีก เฮ้ออออ

69 Nameless Fanboi Posted ID6:mkpz+23TfS

>>68 ไทโปไปเข้าพวกกลุ่มปกสำเร็จแล้วโพสหาได้ ถูกแพงมีให้เลือกเยอะ ถูกสุดที่กูเห็นพระเจ้า 30 บ คุณภาพก็ขึ้นกับราคา แต่บางทีร้านดังแพงก็ไม่อยากคุยด้วยนะ อีโก้เยอะ แนะนำให้เลือกร้านที่กลางๆ หรือเอาเท่างบที่ไหว

70 Nameless Fanboi Posted ID6:7uTybMfM3K

>>67 รู้สึกคุ้นเหมือนกัน รู้สึกว่ามันมาบ่อย555

71 Nameless Fanboi Posted ID6:Zf/T8q3xKk

>>70 ก็สิงอยู่โม่งอยู่ 5-6 ปีละนี่ล่ะ
แค่ปีนี้กลับมาเขียนนิยายหลังจากร้างหายไปนาน เลยเหมือนต้องมารื้อความรู้ใหม่หมด จึงต้องเข้ามาถามหาบ่อยๆ
ไม่ได้ตั้งใจจะสร้างความรำคาญอะไร แต่คือมันไม่มีที่ไหนให้ถามแล้วจริงๆ

72 Nameless Fanboi Posted ID6:rBZc0HWZlV

>>71 เท่าที่อ่านมันก็ไม่ได้บอกว่ารำคาญมึงนะ แค่บอกคุ้น แต่กุไม่คุ้นนะ ไงก็โม่งทุกตัวแหละ แต่บางทีมึงก็อาจเจอเกรียนอวตารมาตอบบ้าง

ไทโปมึงเอาแคนวาทำเอาเองก็ได้ถ้าไม่อยากจ้าง ส่วน pdf สมัยนี้ทำจากเวริ์ดอย่างง่าย ก็แค่ save as เอง และถ้าจำไม่ผิดนะ คลิปที่ 66 กะ 67 บอกมันก็สอนหมดนะ ทั้งการจัดหน้าการเซฟ ไม่งั้นไปค้น yt ว่าจัดหน้า ebook ก็ได้ มันมีคลิปให้ค้นไม่เยอะหรอก ค่อยๆทำไปเรียนไป เดี๋ยวก็ทำเป็นเอง

73 Nameless Fanboi Posted ID:5xvVxwgUqT

ky กูถามหน่อย ถ้ามีบทพูดเป็นภาษาอังกฤษ พวกโม่งเขียนยังไงช่วยตอบหน่อยจะเป็นพระคุณมาก
1. เขียนเป็นประโยคภาษาอังกฤษแบบไม่แปล เช่น "I love you" เขาบอกเธอ
2. เขียนเป็นประโยคภาษาอังกฤษแล้วแปลตามหลัง เช่น "I love you" เขาบอกเธอเป็นความหมายว่า ผมรักคุณ
3. เขียนเป็นภาษาไทยแต่บรรยายว่าเขาพูดด้วยภาษาอังกฤษ เช่น "ผมรักคุณ" เขาบอกเธอเป็นภาษาอังกฤษ
4. วิธีอื่น (ช่วยยกตัวอย่างให้ด้วย)

74 Nameless Fanboi Posted ID6:s8m9xp.Pjh

>>73 แล้วแต่บริบทในฉากว่ะเพื่อน มันคุยกันเป็นภาษาอังกฤษทั้งคู่ หรือคนพูดพูดอิ้งคนเดียว พูดประโยคเดียวหรือประโยคถัดไปก็เป็นอิ้งทั้งยวง ใดๆ มันแล้วแต่คนชอบแหละ อย่างกุถ้าอยากเขียนอิ้ง +เป็นประโยคเบสิคศัพท์ง่ายเด็กมัธยมแปลออกแน่ก็ไม่แปลให้ แต่ถ้าอยากได้แค่ความหมาย กุไม่เขียนอิ๊งแต่แปลไทยให้เลย แล้วทำตัวเอียง+บรรยายว่ามันพูดภาษาอังกฤษ แค่นั้น

75 Nameless Fanboi Posted ID:BMUdqsuO1s

>>73 กุชอบ ”i love you. (ผมรักคุณ)” แต่ปกติประโยคง่ายๆ หรือปย.ที่แปลไทยแล้วไม่ได้อารมณ์กุไม่แปลให้อ่ะ

76 Nameless Fanboi Posted ID6:EdIKT5vUGi

เรื่องพล็อตล้ำนี่มันต้องล้ำขนาดไหนวะ มันเป็นยังไงถึงพล็อตล้ำ บางเรื่องกูเห็นแค่บิดพล็อตนิดนึงก็โดนชมว่าล้ำแล้ว เคยเจอมังฮวาเรื่องนึงแนวทะลุเข้านิยายเป็นตัวประกอบในคุก แค่นางเอกอิเซไกมาเป็นคนคุกแค่นี้โดนอวยว่าพล็อตล้ำแปลกใหม่ ทั้งที่จริงก็แค่โดนพี่มันส่งเข้าคุกสำหรับขุนนางไปเก็บตัวแล้วไปเจอพระเอกก่อนนางเอกนิยายเลยไปสอยผัวเขามาเป็นผัวตัวเองไม่ต่างจากเรื่องอื่น พระเอกก็โบ้คลั่งรัก มีผู้ชายมาตามรักเป็นพรวน มันแปลกใหม่อย่างไร

77 Nameless Fanboi Posted ID:n3Hg+W.b1l

>>76 กูละเบื่อพล็อตแย่งผัวนางเอกนิยาย ตอนนี้แม่งเริ่มฮิต เห็นบ่อยมาเต็ม พี่สาวคะ เวลาเขียนไม่สะกิดใจอะไรบ้างเร้ออออ

78 Nameless Fanboi Posted ID:n3Hg+W.b1l

หมายถึงนิยายไทยอะ

79 Nameless Fanboi Posted ID:5xvVxwgUqT

>>74 >>75 ขอบคุณมาก

80 Nameless Fanboi Posted ID:5xvVxwgUqT

>>76 กูนึกถึงซีรีส์เกาหลีอย่างเรื่องมูฟวิ่ง บลัดฟรี อะไรพวกนี้

81 Nameless Fanboi Posted ID:UM6U3oQStw

>>76 ก็ถ้าเอาแบบคห.ทั่วไปก็ตอบไม่ได้ว่ะ มันขึ้นกันปสก.คนอ่าน อ่านมาน้อยก็เจอพล๊อต(ที่รู้สึก)​ว่าล้ำง่ายหน่อย อ่านมาเยอะก็จะธรรมดาไปหมด
สำหรับกุมีตั้งแต่ง่ายๆ แค่อาจแล้วคาดไม่ถึงเด็ดขาดว่ามันจะมาเวย์นี้ หรือบางทีล้ำแบบกาวๆก็ถือว่าเข้าข่ายนะ อย่างอีมังฮวานักรบสามขา หรืองานสตอรี่ของเมะชินไคหลายเรื่องก็เข่าข่าย พวกนี้คนเอามาเล่นซ้ำยาก เลยยังคงความทรงจำว่าพลอตล้ำต่อไปในใจผู้เสพ
พวกทะลุมิติเล่มแรกๆก็พลอตล้ำอยู่ แต่มาตอนนี้ฮิตเกลื่อนจะลืมหมดแล้วว่านข.เรื่องแรกที่มันล้ำมาคือใคร

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.