Fanboi Channel

รวมพลนักเขียน แชร์เทคนิคประสบการณ์และข่าวสาร [กระทู้ที่ 22]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID6:2ilLrYQpjj

กระทู้เพื่อพูดคุยเทคนิคการเขียน และเรื่องการประกวดต่าง ๆ เกี่ยวกับนิยาย

กระทู้ 1 >>>/literature/2342/
กระทู้ 2 >>>/literature/3442/
กระทู้ 3 >>>/literature/4775/
กระทู้ 4 >>>/literature/5724/
กระทู้ 5 >>>/literature/7084/
กระทู้ 6 >>>/literature/10634/
กระทู้ 7 >>>/literature/12326/
กระทู้ 8 >>>/literature/12952/
กระทู้ 9 >>>/literature/13391/
กระทู้ 10 >>>/literature/13744/
กระทู้ 11 >>>/literature/14253/
กระทู้ 12 >>>/literature/15039/
กระทู้ 13 >>>/literature/15642/
กระทู้ 14 >>>/literature/16386/
กระทู้ 15 >>>/literature/16722/
กระทู้ 16 >>>/literature/17022/
กระทู้ 17 >>>/literature/17223/
กระทู้ 18 >>>/literature/17576/
กระทู้ 19 >>>/literature/17967/
กระทู้ 20 >>>/literature/18263/
กระทู้ 21 >>>/literature/18537/

2 Nameless Fanboi Posted ID6:rMx4oeOg5O

ขอถามถึงตอนจะวางขายหน่อยแฮะ ว่าถ้าหากจะทำ E-book ขายแล้ว เราควรมัดแพ็คติดเหรียญตอนที่ปล่อยอ่านฟรีไปเลยด้วยมั้ย?

3 Nameless Fanboi Posted ID6:BGCuc7CoP6

>>2 ก็แล้วแต่ (ไม่ได้กวนตีน) อยากติดเหรียญหาตังหรืออยากให้อ่านฟรีต่อ อยู่ที่มึงเลยเพื่อน

4 Nameless Fanboi Posted ID6:BGCuc7CoP6

สายนิยายรัก มีใครสายเขียนสั้น ๆ ไม่ถึงแสนคำปะ กุอยากรู้ว่าทำไงมันถึงสั้นได้ เขียนทีไรกุเผลอเขียนยาวแสนคำขึ้นหมดเลย รู้สึกเขียนสั้นละมันยังไม่อิ่ม แค่โมเม้นพระนางก็ยาวววละ มีปมหลัก ปมตลค. บรรยายอะไรมากมายอีก สุดท้ายก็ยาวทะลุแสนหมด อยากเขียนสั้น ๆ ได้บ้าง (จะได้รีบจบรีบขายโว้ย ร้อนตัง 5555) TT

5 Nameless Fanboi Posted ID6:2ilLrYQpjj

>>4 กูเพิ่งอ่านมาเลย 2หมื่นกว่าคำ 9ตอน ขาย79฿ได้ป้ายแดงด้วยโครงคือ
-เจอกันครั้งแรก ระหว่างนี้ก็เล่าใครเป็นใครที่มาที่ไปว่าทำไมถึงต้องมาเจอมาอยู่ด้วยกัน
-เรียนรู้นิสัย เริ่มเกิดความรู้สึกในใจแต่ยังไม่อะไร
-มีเหตุให้ได้กัน ติดใจ
-มีปัญหาเป็นเหตุให้ต้องแยกห่าง เลยยิ่งรู้ตัวว่ารักมาก
-ตามขอคืนดี สารภาพความในใจ ลงเอยด้วยดี
-ตอนพิเศษครอบครัวสุขสันต์
จบละ
ฟีดแบคคือ คอมเมนต์ส่วนใหญ่บอก สนุกมาก เสียดายสั้นไปหน่อย

6 Nameless Fanboi Posted ID6:+X2/vEo0FD

>>4 นิยาย LN ส่วนใหญ่จบที่ 6 หมื่นถึง 8 หมื่นคำเอง ถ้าแค่เปลี่ยนเนื้อหาเป็นรักก็คงเขียนไม่ต่างกันเท่าไร

7 Nameless Fanboi Posted ID6:+X2/vEo0FD

>>3 ไม่ๆ ที่กูสงสัยคือถ้าปล่อยอ่านฟรีไปด้วย คนมันจะซื้อ ebook เหรอ

8 Nameless Fanboi Posted ID:dzpb3XbKEk

>>7 คนอ่านอีบุคมีตลาดของตัวเองอยู่นะ ส่วนที่หวังว่าคนอ่านรายตอนจะตามไปซื้อถ้าเปิดให้อ่านฟรีจนจบโดยไม่คิดจะติดเหรียญเลย... อันนี้มึงต้องพึ่งฝีมือและแฟนคลับหน่อยล่ะ อาศัยความรักในตัวคนเขียนกับผลงานล้วนๆว่าเขาจะชอบจนอยากซัพมึงโดยการตามไปซื้อมั้ย แต่บางคนก็ยินดีโดเนทให้นะถ้าผลงานมึงเข้าตาเขาพอ

9 Nameless Fanboi Posted ID:C5O+2yE/Z.

ไม่รู้ถามมู้ไหนดี กุแค่สงสัยแนวเด็กเสี่ย / FWB (เพราะไม่เคยอ่านน่ะ) เวลาพระเอกมันยื่นข้อเสนอให้ตอนแรกเนี่ย มันมาไม้ไหนถึงไม่ดูเหี้ยเกินวะ 555 คือจู่ ๆ มีผช.ไม่รู้จักมาถามว่าเธอขายไหม อยากเป็นเด็กเสี่ยไหม เป็นกูกูขมวดคิ้วนะ คือผช.ดี ๆ มันคงไม่ถามคนไม่รู้จักแบบนั้นอะ 55555 **กุไม่อะไรกับพล้อตแนวนี้นะ ตกลงคอนเซ้นกันก็โอเค แค่สงสัยว่ามันเริ่มยังไงว้า 555555

10 Nameless Fanboi Posted ID6:UjeQt2D.qy

>>9 ประเด็นนี้ไม่ได้อยู่ที่พระเอกเว้ย เพราะคนเสนอจะถูกมองเหี้ ย ตลอดอยู่แล้ว นข.จะให้พระเอกพูดตรง พูดอ้อมยังไงความหมายก็มีหนึ่งเดียวคือเลวอยู่ดี มีเรื่องนึง ตอนผู้ชาย(พระเอก)เสนอเงินให้เพื่อให้มาผูกปิ่นโต นางเอกโกรธและไม่ยอม ซึ่งคนทั่วไปต้องรักศักดิ์ศรีไม่ยอมใช่ป่ะ แต่ๆๆ ชีวิตต้องไม่ราบรื่น ลำบาก ขัดสน นางเอกมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วน พ่อเข้ารพ. น้องรถชน พี่สาวจะตัย แม่ป่วยหนัก ซึ่งถึงทางตันจริงๆ ถูกบีบคั้นทุกทาง ข้อเสนอพระเอกจึงเหมือนขอนไม้เดียวที่เกาะไว้ได้ให้ไม่จมลงไป แล้วตอนนั้นแหละ ข้อเสนอพระเอกก็เหมือนยอมขายวิญญาณให้ซาตาน ดูเลวยังไง แต่ก็เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด

11 Nameless Fanboi Posted ID6:UjeQt2D.qy

ส่วนFWBนี่ กูคิดว่าต่างก็มีความเง่นอยู่ก่อนแล้ว ชอบๆอยู่บ้างแต่ไม่อยากเอาใจไปเล่น ขึ้นอยู่กับว่าใครกล้าพูดก่อนแล้วตกลงดีล ซึ่งคนเปิดก่อนจะมองว่า อินี้เลวหื่นก็ได้ จะมองว่าเป็นคนตรงๆแฟร์ๆกล้าถามในสิ่งที่ต้องการก็ได้

12 Nameless Fanboi Posted ID:C5O+2yE/Z.

>>10 โอเค อันนี้อีกมุมนึง แต่ตัวอย่างมึงนี่มันไม่โดนฉอดใช่มั้ยวะ 5555 มันดูจำใจขายตัวแลกเงินยังไงไม่รู้ **ย้ำ ไม่ได้ว่าอะไร** อยากรู้แนวที่นางเอกเต็มใจแต่แรกมั่ง (แม่งจะมีคนเต็มใจมั้ยวะ 55555)

13 Nameless Fanboi Posted ID:2ioa82GwRx

>>12 กุเคยเจอ พอ.มองนอ.แล้วชอบอยากได้ นอ.ก็รู้แต่ไม่อะไร ทีนี้เจอวิกฤตถุกเวลาบีบคั้นเลยมาเปิดทางเองเลย เพราะคิดว่ายังไงให้พอ.คนเดียวดีกว่าหลายคน แล้วก็รู้ว่าพอ.ภาษีดีไม่มั่วแน่ๆ (อันนี้ตรรกะโรมานส์เลย ชีวิตจริงกุคงอยากตีซักที พึ่งรุ้จักจะมามั่นใจอะไรวะว่าเขาไม่มั่ว555)

14 Nameless Fanboi Posted ID6:cmuUha6I8Z

>>12 มี ช่วงนี้เยอะเลย เรื่องที่นางเอกมันเสนอก่อนนี่แหละว่าร้อนเงิน นอนกับชั้นได้นะ พล็อตเต็มใจมีเยอะอยู่นะมึงช่วงนี้

เขาเลยชอบเขียนให้นางเอกหลงหน้าตาพระเอกกับพระเอกเคยทำดีให้มาก่อนหน้านี้แล้วไง บางทีเป็นฟีลสวยมาก อยากได้สักคืน แต่พอได้ละติดใจเลยขอร่างสัญญารายปี (อาจเป็นรุ่นพี่สมัยเรียน เพื่อนพี่ชาย เคยเห็นเขากางร่มให้แมว บลาๆๆ) พอร้อนเงินเวลาถูกเสนอดีลเลยตอบตกลงกันหมด กูเคยเจอบางคนก็เขียนให้เขารู้โดยทั่วกันว่าพระเอกน่าจะชอบเลี้ยงเด็ก ชอบเป็นเสี่ย เพื่อนแนะนำมาอีกทีว่าได้ข่าวเปย์หนัก ให้นางเอกไปเสนอขายเองได้เลย แต่เอาจริงเรื่องเสี่ยเลี้ยงที่พระเอกเสนอดีลก่อนก็ไม่ค่อยมีคนฉอดนะมึง พล็อตยอดฮิต ไม่โดนอะไรหรอก แต่ถ้ากลัวๆก็ให้นางเอกไปเสนอก่อนก็ได้ บางทีคืนเดียวรับตังค์แต่ติดใจ พระเอกก็เลยผูกปิ่นโตให้นางเอกรับเงินยาวๆก็มี เรื่องจะได้โฟลวต่อได้

15 Nameless Fanboi Posted ID6:UjeQt2D.qy

แนวสามัญประจำเมด ท็อปเมดนี่เยอะแยะเลย ทั้งนางเอกเสนอก่อน หรือพระเอกเสนอก่อน ตัวแม่สายโรมานซ์เรตติ้ง500อัพ ต้องมีผ่านแนวนี้กัน เมกฮวงฎาว พอ.เสนอ เรตติ้งพันกว่า, ภีละกาน ของ ตยก. เรตติ้ง5ร้อยกว่า นางเอกเป็นลูกคุณหนูแอบชอบพระเอกเห็นว่าพระเอกไม่จริงจังกับใครถนัดมีเด็กเลี้ยง เลยมาขอสมัครเป็นเด็กเลี้ยงจะได้ใกล้ชิด ส่วนพระเอกก็พวกตั้งใจจะไม่จริงจังแต่พอได้แซ่บ1ครั้งจากนั้นก็จะติดกีเธอขาทุกราย 555

16 Nameless Fanboi Posted ID6:QDZl6q/uo6

โม่งทำยังไงเมื่อรู้สึกว่าตัวเองชอบเขียนบรรยายเวิ่นเว้ออะ

คือกูอ่านเองอะไม่รู้สึกหรอกนะ เพราะกูติดความสมบูรณ์แบบเลยพยายามใส่ประโยคให้มันดูครบๆ ทั้งที่ความจริงแล้วไอ้ที่เสริมมานั่นตัดไปก็ได้ไม่มีปัญหา ซึ่งพอมาดูในมุมมองคนอ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่ามันดูล้นๆ อะไรทำนองนั้น จนต้องมานั่งตัดเอาทีหลังอีกหนทุกทีเลย

ดูอย่างที่กูพิมพ์ถามก็น่าจะรู้ได้ว่าแม้กระทั่งตอนคุยปกติกูก็จะเขียนล้นๆ เช่นกัน

17 Nameless Fanboi Posted ID:TM.o1gIXPt

>>16 เขียนล้นดีกว่าเขียนขาด คำตอบอยู่ในคำถามของมึงแล้วนั่นไง คือตัดออกทีหลังได้ตอนมาอ่านทวน ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย ทุกคนต้องมีการรีไรท์งานทั้งนั้นอะมึง นอกจากคนทำงานลวกๆ จริงๆ แบบเขียนครั้งเดียวจบส่งขายเลย

18 Nameless Fanboi Posted ID:zMdF2C0bm2

เรื่องทั้งหมดของแอ้ดเทียน เป็นเรื่องที่แอ้ดเทียนฝันไปเอง ตอนนี้เป็นตอนที่อ่านแล้วเส้า จนน้ำตาไหล สงสารแอ้ดเทียน การผจญภัยทั้งหมดเป็นเพียงความฝันที่อยากจะมีเพื่อนในขณะที่นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาลวันหนึ่ง ฉากในโรงพยาบาล แอ้ดเทียนตื่นขึ้นมา และเจอพ่อกับแม่และเพื่อนๆ ครบทุกคนยืนอยู่รอบเตียง แล้วแอ้ดเทียนก็ถามถึงโม่ง ทุกคนกลับปฎิเสธว่า ไม่รู้จักและบอกแอ้ดเทียนว่า แอ้ดเทียนหลับมานานเป็นปีแล้ว เนื่องจากไม่สบาย และแอ้ดเทียนก็นึกย้อนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับโม่งทั้งการผจญภัยต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงความฝันเท่านั้นโม่ง fanboi.ch ล้วนเป็นความฝันของเขาทั้งสิ้นแอ้ดเทียน เป็นเด็กที่ไม่แข็งแรง และไม่มีเพื่อนรักที่จะอยู่ด้วย เขาต้องนอนโรงพยาบาลตลอดเวลา และเขาก็หลับไป

ฉากต่อมา เริ่มที่ พ่อแม่และเพื่อนๆของโนบิตะร้องไห้กันอยู่ในงานศพของโนบิตะ..เขาจากไปก่อนวัยอันควร.. และเรื่องราวทุกอย่างก็จบลง ที่โนบิตะฝันถึงโดราเอมอน และอนาคตนั้นเป็นเพราะเขารู้ดีว่า เขาจะต้องตายในอีกไม่นาน เขาจึงอยากที่จะมีอนาคตมีเพื่อนรัก มีการผจญภัยสนุกสนาน

แต่ฝันของเขาก็ไม่มีวันเป็นจริง... ตลอดไป.....

19 Nameless Fanboi Posted ID6:/swZzcmCC6

Ky เวลาพิมพ์คำพูดที่โดนตัดโดนขัดชั่วคราว ส่วนใหญ่คนชอบแบบไหนตามหลังมากกว่ากันอะ ระหว่าง … กับ — ตอนแรกกูก็ใช้ … นี่แหละ แต่แวะไปอ่านนิยายคนอื่นแล้วรู้สึกว่า — มันได้ฟีลโดนพูดขัดมากกว่า เพิ่งหาวิธีพิมพ์ให้ตัวขีดมันยาวในคอมพ์ได้ด้วย555 ก็เลยอยากรู้ว่าเอาแบบไหนดี เพราะถ้าจะแก้กูก็ต้องย้อนแก้ยาวเลยเหมือนกัน ถ้าคนใช้เยอะ ชอบเยอะ จะได้ฮึดสู้มีแรงแก้

20 Nameless Fanboi Posted ID:QXAyGf2nVF

>>19 แบบขีดได้อารมณ์กว่า แบบจุดเหมือนลากเสียงท้ายให้ยาวๆ

21 Nameless Fanboi Posted ID6:brACgET9Au

กูโหวต —
ในครส.เหมือนเสียงหาย โดนตัด มีอุปสรรคมาขัดฉับพลัน
… เหมือนคนพูดจงใจหยุดพูดเอง บางทีก็เหมือนทิ้งระยะ

22 Nameless Fanboi Posted ID6:nZACM6kVVC

ky โม่งมึงพอมีนิยายที่อาชีพศักดิ์สิทธิ์อย่างตำรวจ ทหาร หมอ พยาบาล ครู เป็นตัวร้ายไหมวะ กูกำลังเขียนเรื่องที่ตัวร้ายเป็นอาชีพพวกนี้อยู่แล้วจู่ๆ ก็เกิดป๊อดขึ้นมาว่ะ กลัวสังคมหาว่ากูเขียนใส่ร้ายพวกเขา แต่กูตั้งใจจะเขียนสื่อถึงพวกที่ไม่ดีในกลุ่มนี้ไง ไม่ได้จะดิสเครดิต อยากมาขอนิยายตัวอย่างที่ทำได้ดีเป็นกำลังใจว่ะ

23 Nameless Fanboi Posted ID:+er3KVuCqM

>>22 ห๊ะ เต็มบ้านเต็มเมืองเลยนะมึง โดยเฉพาะตำรวจ ทหารเนี่ย เขียนๆไปเถอะ อย่าไปแตะบรรดาสถาบันกับศาสนาก็พอ

24 Nameless Fanboi Posted ID6:gC2NymPF5f

>>23 อ้าวเหรอ ขอบคุณ กูก็กลัวมันจริงเกิน 555

25 Nameless Fanboi Posted ID6:GcbaP36cl.

>>20-21 ขอบคุณมากๆ มีแรงใจแก้ละ

Ky เดี๋ยวนี้มีลูก 5 คนถือว่าเยอะมั้ย กูกำลังเขียนโรมานซ์ เหลือตอนพิเศษ ตั้งใจจะให้มี 5 คนมาแต่แรกละ แต่ช่วงนี้ไปเจอพวกลัทธิมอมอนแม่ลูก 8 ใน x แล้วไม่สบายใจ แต่เป็นความต้องการของนางเอกกูเอง ไม่มีใครบังคับ นางมีปมอยากให้ลูกมีพี่น้องเยอะๆ และพระเอกก็ช่วยได้ ไม่ติดขัด แต่มันน่าจะอันตรายป่าววะ สมัยนี้ แล้วกูก็ดันใจร้อนคอมมิชภาพเด็ก5คนไปละ พูดให้กูสบายใจทีว่าสมัยนี้ยังมี ฮือ

26 Nameless Fanboi Posted ID6:pO.lpzVevz

>>25 เพื่อนกู 30+ เป็นลูกสาวคนเล็กสุด คนที่ 6 ไม่ได้เป็นลูกหลงด้วย แต่มันกับพี่คนโตสุดคือแทบเป็นพ่อลูกกันได้ 5555

27 Nameless Fanboi Posted ID:ZIKsZ965JW

>>25 ในไทยโดยภาพรวมอาจจะถือว่าลูกดกไปนิด แต่มันก็มี เขียนได้แหละน่าจะแค่คนส่วนน้อยที่คิดมาก อย่างญาติกุมีสองเมีย เมียหนึ่ง 7 คน เมียสอง 5 คน เด็กเกิดรุ่นเดียวกับกูคือช่วง 1990-2010 เนี่ย ไม่ได้ยุคโบราณมาก โดยเฉลี่ยแล้ววงศาขณาญาติกุขยันทำด้วยแหละ 5555 น้าๆ ป้าๆ กุมีลูก 3-4 คนเกือบทุกคน

28 Nameless Fanboi Posted ID6:t8dQGXuqAS

>>25 กำลังเป็นกระแสเลย มึงก็เกริ่นหน่อยว่านางเอกอยากมีลูกเยอะๆ ฝันแบบนี้มาตลอด มีปมในใจใดๆว่าไป ชูประเด็นนี้เยอะๆ ไม่ใช่ต้องละทิ้งความฝันนักบัลเลต์จูลิอาร์ดมามีลูกดก

29 Nameless Fanboi Posted ID6:pMLe5yP1jS

>>25 กุไม่ได้ตาม x แต่ถ้าพ่อแม่พร้อม มีปัญญาเลี้ยงให้ดีตามควร จะกี่คนก็มีไปสิวะ ทุกวันนี้คนไม่อยากมีเพราะค่าเลี้ยงดูมันสูง ส่วนที่คนขยันมีมันก็ไม่พร้อมจะเลี้ยงออกมาให้โตดีๆ ทำไมต้องฟาดค่านิยมมารัดคนขนาดนั้นด้วยวะ กุล่ะไม่เข้าใจชาว x เลย ปากบอกร้องหาความเท่าเทียมปชต.แต่ข้อเรียกร้องแต่ละอย่าง แม่งมีแต่ขีดกรอบชาวบ้าน เอียงจนแทบจะเป็นสังคมนิยมแบบเกาเหนือล่ะวะ
แต่ใดๆ อัตราการมีลูก เท่าที่กุประมาณจากปสก.ที่เห็นและฟังผู้เฒ่าเล่านะ
baby boomer ลูกเฉลี่ย 8-12
เจน x เหลือ 3-6
เจน y เหลือ 1-4
ปัจจุบัน 0.5-2

30 Nameless Fanboi Posted ID6:pMLe5yP1jS

>>29 ลืมตอบ ในนิยายมึงจะเขียนยังไงก็เขียนไปเหอะ ขอแค่ใส่เหตุใส่ผลให้ฟังแล้วคนอ่านคล้อยตามก็พอ แค่ใส่ว่านอ.อยากมีตามคห.บนๆว่ายังได้เลย

31 Nameless Fanboi Posted ID6:GcbaP36cl.

>>26-30 ขอบคุณทุกคนมากกก กราบงามๆ ข้อมูลมีประโยชน์สุดๆ กูสบายใจขึ้นเยอะเลย คงเพราะช่วงนี้กูเห็นพวกไฮโซคนรวยก็ไม่ได้มีลูกเยอะไปถึงขั้น 5 ส่วนใหญ่เฉลี่ยมากสุดเอาแค่เด็กแฝดชายหญิง 4 คนก็เหมือนจะปิดอู่กันละ กูเลยลังเลนิดหน่อยว่ามันเยอะไปป่าวว้า
นางเอกกูมีปมประมาณครอบครัวสุขสันต์ พ่อแม่ตายไปก็เหลือพี่น้องดูแลกัน รักกัน แต่พี่น้องดันมาตายในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ถ้าเป็นไปได้นางเลยอยากมีให้มากกว่า 2 เพราะการถูกทิ้งให้จัดงานศพคนเดียว ไม่มีคนที่รักมากอดปลอบมันทรมานเกินไป ไม่อยากให้ลูกต้องโดดเดี่ยว แล้วพระเอกก็ไหว รวยด้วย นางเลยขอไปให้สุดเลย แต่กูคงต้องเพิ่มฉากแสดงทัศนคติดีๆเข้าไปแหละ มีการจ้างพี่เลี้ยง ช่วยกันเลี้ยงลูก ให้เงินเดือนเมีย นางเอกก็ยังไม่ทิ้งความฝันตัวเอง

32 Nameless Fanboi Posted ID6:pMLe5yP1jS

>>31 แอบแชร์ปสก.ตรงนะ กุดีใจมากที่พ่อแม่กุมีลูกเยอะจนกุมีพี่น้องเยอะ เวลาพ่อแม่ป่วยขึ้นมา คนเดียวคือหลังหักแน่ ยิ่งป่วยพร้อมกันด้วยนะมึงเอ้ย! มันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่มันมีเรื่องของการขอความช่วยเหลือและซัพพอร์ตทางจิตใจด้วย เวลามึงจนมุมมึงร้องหาพี่หาน้องมึงมาช่วยได้ ร้องไห้กับพี่กับน้องให้เค้าปลอบได้ เป็นอะไรที่โคตรจะล้ำค่า กุมองหลานกุที่เป็นลูกคนเดียวแล้วนึกถึงวันหน้าเลย ถ้าพี่กุกับพี่สะใภ้กุป่วยพร้อมกัน หลานคนเดียวจะแยกร่างที่ไหนมาดูแลคอยพาหาหมอวะ ยังมีงานการที่ต้องดูแลอีก แต่ใดๆก็นั่นล่ะ ในข้อแม้ว่าพี่น้องต้องดีด้วยนะมึง ถ้าห่วยแม่งก็ฝันร้ายไปอีกแบบเหมือนกัน

33 Nameless Fanboi Posted ID6:GcbaP36cl.

>>32 ขอบคุณที่มาแชร์ปสก.นะมึง กูก็มีพี่น้องที่รักกันดี ไม่ได้ห่วยแตกมาก เวลาเขียนนิยายเลยชอบให้พระนางเขามีพี่น้องหรือไม่ก็ตอนจบมีลูกสักสองคนขึ้นไป แต่ก็เข้าใจฟีลคนมีพี่น้องห่วยแตก แม่งก็แย่มากจริงๆ ต้องมาผูกพันกับคนทรามๆ ด้วยสายเลือด แต่ที่ดีก็อุ่นใจจริงๆ เหมือนในโลกเฮงซวยยังมีคนที่พร้อมช่วยเราแน่ๆ ตั้งหน่อสองหน่อ
บางทีกูก็ชอบอ่านนิยายแล้วลองคิดตามว่าตอนจบพระนางจะมีลูกกี่คน555 เพราะนิสัย คาแรคเตอร์ กับการถูกเลี้ยงดูมันสัมพันธ์ต่อจำนวนลูกในตอนจบเยอะเลย (ถ้าไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยว) ถ้าตัวละครมีพี่น้องห่วยแตก ตอนจบก็จะชอบมีลูกคนเดียว บางทีปมคือพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน ตัวเอกก็เลือกที่จะมีแค่คนเดียวเพื่อมอบความรักให้เต็มที่ ไม่อยากให้ถูกเมินเหมือนที่ตัวเองโดน ครั้งนึงกูเคยโดนนักอ่านติงว่าพระนางรักกันขนาดนี้ทำไมมีลูกแค่คนเดียว ส่วนพวกมีพี่น้องดีๆป่วนๆส่วนใหญ่คือลูก 2 ขึ้นไปกันทั้งนั้น

34 Nameless Fanboi Posted ID:Qx+.yYOs+D

>>25 คห.กุ แบบคหสต.เลย กุนี่แหละคนคิดมาก 55555 ขออภัยด้วย ส่วนตัวกุชอบมองความเรียลไว้ก่อน ต่อให้ลูกสาวมึงต้องการ เต็มใจมีลูก กุก็รู้สึกแปลก ๆ น่ะ รู้สึกเหมือนเจอ fetish breeding kink 5555 ไม่รู้มึงเคยมีลูกมั้ย แต่คือท้องทีคลอดทีมันทรมานน่ะมึง TT มี 5 คนนี่จะให้ห่างกันกี่ปี มันต้องเว้นช่วงเลี้ยง ช่วงแซ้บกับผัวด้วย มันไม่ใช่แค่คลอดละฟิตเลอ ลูกยังไม่หย่านมมึงท้องใหม่ละ อันนี้ก็ทรหดหน่อย แต่ถ้าเว้นนานหน่อย กว่าจะครบ 5 คนก็นานอีก หรือถ้าให้เป็นลูกแฝดแทน อันนี้ก็หนัก 555 ท้องแฝดแม่งความเสี่ยงเยอะมากนะ แต่คนชอบมองข้าม
มีลูกเยอะสมัยนี้กุให้มากสุด 4 คนอะ กำลังโอเค ถ้า 5 นี่เริ่มตงิด ๆ แระ แต่ถ้ามึงเขียนให้ดีมีเหตุผลพร้อมซัพก็คงไม่ไรมากหรอก อันนี้ช่วยแสดงความเห็นมุมคนไม่โอนะ มึงต้องเจอคนอย่างกูบ้างแหละ แค่บางทีเขาไม่เผยตัว 5555 แต่คนชอบก็มีแน่ ๆ ฉะนั้นอยากเขียนไรก็เขียนโลด ลางเนื้อชอบลางยาอยู่ละ

35 Nameless Fanboi Posted ID:Qx+.yYOs+D

ยกตัวอย่างเพิ่มละกัน เจอเรื่องนึงเป็นภาคต่อนิยายดัง พระนางมีลูก 5 หรือ 6 ไม่แน่ใจ แต่มีแฝด 2 คู่ (ช 2 ญ 2) เสียงนักอ่านมีทั้งคนฟริน ๆ เอ็นดูลูกหลาน ดีจังครอบครัวใหญ่ แต่ก็เห็นเสียงว่า มีลูกเยอะไป เหมือนกัน (จำไม่ได้ว่าเห็นในเม้ดหรือที่อื่น น่าจะที่อื่นมั้ง) ใด ๆ พวกนี้มีไม่เยอะหรอก เชื่อกุ ปัจจุบันคนไม่กล้าออกความเห็นกันแล้ว อย่างกุนี่ถ้าไม่ชอบอะไรก็ไม่บอกหรอก อาจจะถอดล้อกอินไปให้ดาวแล้วไปเลย 5555

36 Nameless Fanboi Posted ID6:pMLe5yP1jS

>>34 คือมึง ในแง่ความเรียลลูกดกเนี่ยถ้ามึงว่ากันเฉพาะเรื่องสรีระและธรรมชาติการเจริญพันธ์ของมนุดนะ มึงต้องไปถามคนอายุ 70-80 ดู นี่จะเป็นคนรุ่นที่ยังมีพี่น้องกันทีเป็น 10 กว่าคนอยู่ หัวปีท้ายปีกับผัวเดียวเมียเดียวเนี่ยแหละ สาเหตุไม่มีไรเลย ก็แค่การคุมกำเนิดไม่แพร่หลายเท่านั้นเอง

แต่ใดๆ อย่างที่โม่งนี่บอก มึงเขียนให้ถูกใจทุกคนไม่ได้หรอก คนอ่านแต่ละคนมีปสกชีวิต มีชอบชัง มีทริดเกอร์ต่างกันหมดแหละ คิดเสียว่าถ้ามึงขายกะเพราเขาอยากกินสลัด มึงก็ต้องปล่อยเขาไปแหละ

37 Nameless Fanboi Posted ID6:EtyO79i+Pa

>>32 พ่อแม่มุงน่าจะนิสัยดี ลูกเลยไม่ชัง

38 Nameless Fanboi Posted ID6:H8TtW2KGEJ

>>37 ป่าว พ่อกุนิสัยไม่ดีเลย ตอนเด็กมากๆกุเคยเกลียดเขาจนคิดว่าขอให้เขาไม่ต้องกลับบ้านมาแล้วนะด้วย(ให้ตุยนอกบ้านไม่ต้องกลับมาน่ะ)​ แม่กุเวลาทำบุญยังเคยขอว่าขอเจอพ่อกุชาติเดียวพอ อย่าได้มีชาติหน้าเลย
แต่เขาก็ยังมีข้อดีที่ใช้ได้อยู่บ้างนั่นแหละ ไม่ไร้ความรับผิดชอบต่อลูกเมียไปทั้งหมด โตแล้วถึงจะพอเข้าใจขึ้นมาได้
ส่วนที่พี่น้องบ้านกุดี น่าจะเพราะพ่อกุไม่ดีเนี่ยแหละ มีตัวอย่างไม่ดีให้เห็นตำตาเลยเห้แบบนั้นกันไม่ลง

39 Nameless Fanboi Posted ID6:t4MpSBjnpz

Ky ถ้าอยากให้ตลค.พูดประโยคให้กำลังใจทำนองว่า"ตัวเราในอนาคตรอเราคนปัจจุบันอยู่"แต่ไม่อยากใช้ประโยคนี้ตรงๆ มีคำพูด หรือประโยคที่ความหมายคล้ายๆกันไหมเพื่อนโม่ง ใจกูพอได้ยินประโยคนี้มันนึกออกแต่ มึงรอต่อไปเถอะกูจะนอนorz

40 Nameless Fanboi Posted ID6:JxoJH+jcNd

Ky ในฐานะนักอ่านสงสัยว่าทำไมนักเขียนไม่ลงขายอีบุ๊คพร้อมตอนพิเศษไปเลยอะ คือเห็นหลายคนแล้วที่มาอัพเดทอีบุ๊คที่มีตอนพิเศษทีหลังเป็นเดือน ตอนนั้นนักอ่านอย่างกูมูฟออนไปเรื่องใหม่นานแล้ว บางทีก็ทำงานไม่ว่างมาส่องแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวหรอกว่าจะมาตอนไหน กว่าจะได้มาอ่านมันก็ไม่ใช่ความรู้สึกเดียวกับตอนแรกแล้วอะ อย่างเรื่องล่าสุดที่เจอคือนอกับพอเพิ่งดีกันแล้วจบเลย แต่ยังไม่ได้กลับมาคบกัน ทั้งเรื่องแทบไม่มีซีนหวานพระนาง แล้วมาทิ้งว่าจะมีตอนพิเศษนะคะ คืองงว่าทำไมไม่รอขายตอนจบเรื่องสมบูรณ์ไปเลย จะสนุกจะฟินไรก็ไม่สุด ความสนุกมันลดลง

41 Nameless Fanboi Posted ID6:xVR6Qi3.vn

>>40 สำหรับกูมีเหตุผลคือ นักอ่านชอบถามหา ถ้าไม่มีตอนพิเศษ แต่เวลาเขียนบางทีอินเนอร์มันจบแค่นั้น ยังไม่ได้อยากเขียน แต่แปะกันไว้ก่อน 55555 เผื่อโดนหักคะแนนเพราะไม่มีตอนพิเศษ คนอื่นม่ายรู้เน้อ

42 Nameless Fanboi Posted ID:R3SJ0tU8dd

>>40 สำหรับกูคือเขียนเนื้อหาหลักจบแล้ว อยากได้ตังค์แล้วก็เลยลงก่อน เพราะตอนพิเศษคือเนื้อหาแถมที่ไม่ได้มีผลกับเนื้อหาหลัก กว่าจะเขียนเรื่องหลักจบมันใช้พลังงานพอสมควรนะเว้ย กูก็อยากอยากมีเวลาพักบ้างอะไรบ้าง

43 Nameless Fanboi Posted ID6:JxoJH+jcNd

>>42 >>41 เข้าใจฝั่งนักเขียนนะ ส่วนตัวกูคิดว่าตอนพิเศษไม่จำเป็นต้องมี ขึ้นอยู่กับนขว่าอยากเขียนไหม แต่พอลงขายพร้อมเขียนในเล่มหลังตอนจบว่าจะมีตอนพิเศษมันเลยให้ความรู้สึกเป็นงานขายที่ยังไม่สมบูรณ์ไม่เสร็จ100%น่ะ อารมณ์แบบมันเป็นcommitment ที่นขต้องทำแทน

44 Nameless Fanboi Posted ID:te5fxL5NCh

>>43 กุเป็นนักอ่าน ถ้าเรื่องไหนนักเขียนบอกว่าจะมีตอนพิเศษตามมา หรือจะพิสูจน์อักษรแบบสมบูรณ์ทีหลัง กุจะโหลดช่วงโปรไว้ก่อนแล้วรออ่านทีหลังตอนมัน 100% แล้วนะ ก็ไม่มีปัญหาไร จัดการตัวเอง 555

45 Nameless Fanboi Posted ID6:NaL0sdt3Gz

>>44 สงสัยว่าถ้าเอาสินค้าอื่นที่ทำไม่เสร็จมาขาย ผู้บริโภคที่จ่ายเงินซื้อไปแล้วจะบ่นจะเคลมไหม หรือต้องจัดการตัวเองด้วย

46 Nameless Fanboi Posted ID6:xVR6Qi3.vn

>>45 มันไม่ใช่สินค้าที่ไม่เสร็จ มันเสร็จแล้วค้าบ แต่ตอนพิเศษมันคือแถมให้ตามรีเควสประมาณนั้นอาเพิ่ลโม่ง

47 Nameless Fanboi Posted ID6:JxoJH+jcNd

>>45 เห้ย ใจเย็นนนนนน อย่ามาแซะในท็อปปิคที่กุตั้งเลย เสียว นี่ไม่ใช่ทู้ดราม่าด้วย แค่ตั้งเพราะอยากรู้เหตุผลฝั่งนขเฉยๆ
>>44 เออ แบบวิธีที่มึงว่าก็ดี5555555555

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.