เห็น >>185 แล้ว จึงมาขอจังหวะ KY มาระบายบ้าง เพราะกูรู้สึกว่าพาตัวเองไปไม่ถึงฝั่งซักทีว่ะ
โน๊ตหน่อยคือกูอะหัดเขียนนิยายมาตั้งแต่ตอนยังเยาว์วัย (ราวๆ ประถมปลาย แล้วเขียนจริงจังตอน ม.ต้น) โดยได้แรงบันดาลใจจากช่วงนิยายแปลบูมๆ ก่อนจะตามมาด้วยยุครุ่งเรืองของนิยายไทย ซึ่งเมื่อก่อนกูก็ตั้งเป้าว่าอยากจะเป็นนักเขียนหาเลี้ยงตัวเองด้วยการเขียนนั่นล่ะ
แต่แล้วจนถึงทุกวันนี้กูก็ไม่เคยไปถึงจุดนั้นเลยซักครั้ง แม้ว่ากูจะมีความสามารถในการเขียน เขียนได้เร็ว ปิ๊งไอเดียได้เร็ว วางปูมเรื่องได้ ฯลฯ แต่ทุกครั้งที่กูเผยแพร่ก็ไม่เคยได้รับการตอบรับดีๆ เลยซักครั้ง ถึงช่วงเรียนมหาลัยฯ จะเคยได้รับโอกาสตีพิมพ์กับสนพ. ก็เถอะ แต่ก็ดันเป็นยุคขาลงทำให้ได้ออกแค่เล่มเดียว แถมยอดขายไม่ดีจึงโดนกลืนหายไปกับกาลเวลาเลย ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาที่กูเขียนมาตลอดนี่ก็น่าจะ 20 ปีได้ละกูยังไม่อาจไปถึงจุดที่ฝันได้เลย
มาทุกวันนี้ก็ปลงเรื่องหารายได้จากการเขียน กลับสู่โลกความจริงทำงานประจำมีเงินเดือนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นกูก็ทิ้งสิ่งที่เคยฝันไม่ลงแล้วหาเวลามาเขียนตลอด ทว่าพอดูกระแสตอบรับในทุกวันนี้ที่ต่ำกว่าที่เคยๆ ประสบมาจากประวัติการเขียนกูแล้ว กูก็เริ่มกลับมาตั้งคำถามตัวเองแล้วล่ะว่าทำไมกูยังต้องมาเขียนอยู่ ทำไมต้องมาเสียเวลาชีวิตวันละ 2-4 ชั่วโมงหลังเลิกงานมาทำงานเพิ่มโดยไม่ได้อะไรกลับมา ทั้งที่เลือกเอาเวลาไปนอนตีพุงหย่อนใจก็ทำได้
เคยมีโม่งทักว่ากูสับสนในตัวเอง เพราะเคยบอกว่ากูไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่อยากขายนิยาย ซึ่งตรงนี้ต้องอธิบายหน่อยคือกูไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินจริงๆ งานประจำกูรายได้พอตัว ไม่สูงแต่ก็ไม่ลำบาก แต่ที่กูตั้งเป้าเอาไว้ก็คือ อยากจะขายนิยายให้ได้เป็นเงินจำนวนที่ใกล้เคียงหรือมากกว่าเงินเดือนของงานประจำ เพื่อให้เหมือนชีวิตได้ปลดล็อค Achievement พิสูจน์ว่าตัวเองก็สามารถเป็นนักเขียนคนนึงที่หาเลี้ยงตัวเองโดยการเขียนนิยายได้นั่นล่ะ
ทุกวันนี้เขียนไปก็บ่นไป แต่ที่ยังเขียนอยู่ก็เพราะยังไม่อยากทิ้งเรื่องที่เริ่มเอาไว้แม้ว่ายอดวิวจะไม่ดีก็เถอะ แต่อีกใจแม่งก็คิดหลายครั้งแล้วนะว่าควรเลิกเขียนแล้วเอาเวลาไปทำอย่างอื่นซะที ถึงจะมีตัวอย่างหลายๆ คนที่กว่างานเขียนจะดังก็ตอนคนเขียนตายก็เถอะ แต่กูก็ไม่อยากจะไปถึงจุดนั้นเลยว่ะ orz