Fanboi Channel

รวมพลนักเขียน แชร์เทคนิคประสบการณ์และข่าวสาร [กระทู้ที่ 22]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID6:2ilLrYQpjj

กระทู้เพื่อพูดคุยเทคนิคการเขียน และเรื่องการประกวดต่าง ๆ เกี่ยวกับนิยาย

กระทู้ 1 >>>/literature/2342/
กระทู้ 2 >>>/literature/3442/
กระทู้ 3 >>>/literature/4775/
กระทู้ 4 >>>/literature/5724/
กระทู้ 5 >>>/literature/7084/
กระทู้ 6 >>>/literature/10634/
กระทู้ 7 >>>/literature/12326/
กระทู้ 8 >>>/literature/12952/
กระทู้ 9 >>>/literature/13391/
กระทู้ 10 >>>/literature/13744/
กระทู้ 11 >>>/literature/14253/
กระทู้ 12 >>>/literature/15039/
กระทู้ 13 >>>/literature/15642/
กระทู้ 14 >>>/literature/16386/
กระทู้ 15 >>>/literature/16722/
กระทู้ 16 >>>/literature/17022/
กระทู้ 17 >>>/literature/17223/
กระทู้ 18 >>>/literature/17576/
กระทู้ 19 >>>/literature/17967/
กระทู้ 20 >>>/literature/18263/
กระทู้ 21 >>>/literature/18537/

2 Nameless Fanboi Posted ID6:rMx4oeOg5O

ขอถามถึงตอนจะวางขายหน่อยแฮะ ว่าถ้าหากจะทำ E-book ขายแล้ว เราควรมัดแพ็คติดเหรียญตอนที่ปล่อยอ่านฟรีไปเลยด้วยมั้ย?

3 Nameless Fanboi Posted ID6:BGCuc7CoP6

>>2 ก็แล้วแต่ (ไม่ได้กวนตีน) อยากติดเหรียญหาตังหรืออยากให้อ่านฟรีต่อ อยู่ที่มึงเลยเพื่อน

4 Nameless Fanboi Posted ID6:BGCuc7CoP6

สายนิยายรัก มีใครสายเขียนสั้น ๆ ไม่ถึงแสนคำปะ กุอยากรู้ว่าทำไงมันถึงสั้นได้ เขียนทีไรกุเผลอเขียนยาวแสนคำขึ้นหมดเลย รู้สึกเขียนสั้นละมันยังไม่อิ่ม แค่โมเม้นพระนางก็ยาวววละ มีปมหลัก ปมตลค. บรรยายอะไรมากมายอีก สุดท้ายก็ยาวทะลุแสนหมด อยากเขียนสั้น ๆ ได้บ้าง (จะได้รีบจบรีบขายโว้ย ร้อนตัง 5555) TT

5 Nameless Fanboi Posted ID6:2ilLrYQpjj

>>4 กูเพิ่งอ่านมาเลย 2หมื่นกว่าคำ 9ตอน ขาย79฿ได้ป้ายแดงด้วยโครงคือ
-เจอกันครั้งแรก ระหว่างนี้ก็เล่าใครเป็นใครที่มาที่ไปว่าทำไมถึงต้องมาเจอมาอยู่ด้วยกัน
-เรียนรู้นิสัย เริ่มเกิดความรู้สึกในใจแต่ยังไม่อะไร
-มีเหตุให้ได้กัน ติดใจ
-มีปัญหาเป็นเหตุให้ต้องแยกห่าง เลยยิ่งรู้ตัวว่ารักมาก
-ตามขอคืนดี สารภาพความในใจ ลงเอยด้วยดี
-ตอนพิเศษครอบครัวสุขสันต์
จบละ
ฟีดแบคคือ คอมเมนต์ส่วนใหญ่บอก สนุกมาก เสียดายสั้นไปหน่อย

6 Nameless Fanboi Posted ID6:+X2/vEo0FD

>>4 นิยาย LN ส่วนใหญ่จบที่ 6 หมื่นถึง 8 หมื่นคำเอง ถ้าแค่เปลี่ยนเนื้อหาเป็นรักก็คงเขียนไม่ต่างกันเท่าไร

7 Nameless Fanboi Posted ID6:+X2/vEo0FD

>>3 ไม่ๆ ที่กูสงสัยคือถ้าปล่อยอ่านฟรีไปด้วย คนมันจะซื้อ ebook เหรอ

8 Nameless Fanboi Posted ID:dzpb3XbKEk

>>7 คนอ่านอีบุคมีตลาดของตัวเองอยู่นะ ส่วนที่หวังว่าคนอ่านรายตอนจะตามไปซื้อถ้าเปิดให้อ่านฟรีจนจบโดยไม่คิดจะติดเหรียญเลย... อันนี้มึงต้องพึ่งฝีมือและแฟนคลับหน่อยล่ะ อาศัยความรักในตัวคนเขียนกับผลงานล้วนๆว่าเขาจะชอบจนอยากซัพมึงโดยการตามไปซื้อมั้ย แต่บางคนก็ยินดีโดเนทให้นะถ้าผลงานมึงเข้าตาเขาพอ

9 Nameless Fanboi Posted ID:C5O+2yE/Z.

ไม่รู้ถามมู้ไหนดี กุแค่สงสัยแนวเด็กเสี่ย / FWB (เพราะไม่เคยอ่านน่ะ) เวลาพระเอกมันยื่นข้อเสนอให้ตอนแรกเนี่ย มันมาไม้ไหนถึงไม่ดูเหี้ยเกินวะ 555 คือจู่ ๆ มีผช.ไม่รู้จักมาถามว่าเธอขายไหม อยากเป็นเด็กเสี่ยไหม เป็นกูกูขมวดคิ้วนะ คือผช.ดี ๆ มันคงไม่ถามคนไม่รู้จักแบบนั้นอะ 55555 **กุไม่อะไรกับพล้อตแนวนี้นะ ตกลงคอนเซ้นกันก็โอเค แค่สงสัยว่ามันเริ่มยังไงว้า 555555

10 Nameless Fanboi Posted ID6:UjeQt2D.qy

>>9 ประเด็นนี้ไม่ได้อยู่ที่พระเอกเว้ย เพราะคนเสนอจะถูกมองเหี้ ย ตลอดอยู่แล้ว นข.จะให้พระเอกพูดตรง พูดอ้อมยังไงความหมายก็มีหนึ่งเดียวคือเลวอยู่ดี มีเรื่องนึง ตอนผู้ชาย(พระเอก)เสนอเงินให้เพื่อให้มาผูกปิ่นโต นางเอกโกรธและไม่ยอม ซึ่งคนทั่วไปต้องรักศักดิ์ศรีไม่ยอมใช่ป่ะ แต่ๆๆ ชีวิตต้องไม่ราบรื่น ลำบาก ขัดสน นางเอกมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วน พ่อเข้ารพ. น้องรถชน พี่สาวจะตัย แม่ป่วยหนัก ซึ่งถึงทางตันจริงๆ ถูกบีบคั้นทุกทาง ข้อเสนอพระเอกจึงเหมือนขอนไม้เดียวที่เกาะไว้ได้ให้ไม่จมลงไป แล้วตอนนั้นแหละ ข้อเสนอพระเอกก็เหมือนยอมขายวิญญาณให้ซาตาน ดูเลวยังไง แต่ก็เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด

11 Nameless Fanboi Posted ID6:UjeQt2D.qy

ส่วนFWBนี่ กูคิดว่าต่างก็มีความเง่นอยู่ก่อนแล้ว ชอบๆอยู่บ้างแต่ไม่อยากเอาใจไปเล่น ขึ้นอยู่กับว่าใครกล้าพูดก่อนแล้วตกลงดีล ซึ่งคนเปิดก่อนจะมองว่า อินี้เลวหื่นก็ได้ จะมองว่าเป็นคนตรงๆแฟร์ๆกล้าถามในสิ่งที่ต้องการก็ได้

12 Nameless Fanboi Posted ID:C5O+2yE/Z.

>>10 โอเค อันนี้อีกมุมนึง แต่ตัวอย่างมึงนี่มันไม่โดนฉอดใช่มั้ยวะ 5555 มันดูจำใจขายตัวแลกเงินยังไงไม่รู้ **ย้ำ ไม่ได้ว่าอะไร** อยากรู้แนวที่นางเอกเต็มใจแต่แรกมั่ง (แม่งจะมีคนเต็มใจมั้ยวะ 55555)

13 Nameless Fanboi Posted ID:2ioa82GwRx

>>12 กุเคยเจอ พอ.มองนอ.แล้วชอบอยากได้ นอ.ก็รู้แต่ไม่อะไร ทีนี้เจอวิกฤตถุกเวลาบีบคั้นเลยมาเปิดทางเองเลย เพราะคิดว่ายังไงให้พอ.คนเดียวดีกว่าหลายคน แล้วก็รู้ว่าพอ.ภาษีดีไม่มั่วแน่ๆ (อันนี้ตรรกะโรมานส์เลย ชีวิตจริงกุคงอยากตีซักที พึ่งรุ้จักจะมามั่นใจอะไรวะว่าเขาไม่มั่ว555)

14 Nameless Fanboi Posted ID6:cmuUha6I8Z

>>12 มี ช่วงนี้เยอะเลย เรื่องที่นางเอกมันเสนอก่อนนี่แหละว่าร้อนเงิน นอนกับชั้นได้นะ พล็อตเต็มใจมีเยอะอยู่นะมึงช่วงนี้

เขาเลยชอบเขียนให้นางเอกหลงหน้าตาพระเอกกับพระเอกเคยทำดีให้มาก่อนหน้านี้แล้วไง บางทีเป็นฟีลสวยมาก อยากได้สักคืน แต่พอได้ละติดใจเลยขอร่างสัญญารายปี (อาจเป็นรุ่นพี่สมัยเรียน เพื่อนพี่ชาย เคยเห็นเขากางร่มให้แมว บลาๆๆ) พอร้อนเงินเวลาถูกเสนอดีลเลยตอบตกลงกันหมด กูเคยเจอบางคนก็เขียนให้เขารู้โดยทั่วกันว่าพระเอกน่าจะชอบเลี้ยงเด็ก ชอบเป็นเสี่ย เพื่อนแนะนำมาอีกทีว่าได้ข่าวเปย์หนัก ให้นางเอกไปเสนอขายเองได้เลย แต่เอาจริงเรื่องเสี่ยเลี้ยงที่พระเอกเสนอดีลก่อนก็ไม่ค่อยมีคนฉอดนะมึง พล็อตยอดฮิต ไม่โดนอะไรหรอก แต่ถ้ากลัวๆก็ให้นางเอกไปเสนอก่อนก็ได้ บางทีคืนเดียวรับตังค์แต่ติดใจ พระเอกก็เลยผูกปิ่นโตให้นางเอกรับเงินยาวๆก็มี เรื่องจะได้โฟลวต่อได้

15 Nameless Fanboi Posted ID6:UjeQt2D.qy

แนวสามัญประจำเมด ท็อปเมดนี่เยอะแยะเลย ทั้งนางเอกเสนอก่อน หรือพระเอกเสนอก่อน ตัวแม่สายโรมานซ์เรตติ้ง500อัพ ต้องมีผ่านแนวนี้กัน เมกฮวงฎาว พอ.เสนอ เรตติ้งพันกว่า, ภีละกาน ของ ตยก. เรตติ้ง5ร้อยกว่า นางเอกเป็นลูกคุณหนูแอบชอบพระเอกเห็นว่าพระเอกไม่จริงจังกับใครถนัดมีเด็กเลี้ยง เลยมาขอสมัครเป็นเด็กเลี้ยงจะได้ใกล้ชิด ส่วนพระเอกก็พวกตั้งใจจะไม่จริงจังแต่พอได้แซ่บ1ครั้งจากนั้นก็จะติดกีเธอขาทุกราย 555

16 Nameless Fanboi Posted ID6:QDZl6q/uo6

โม่งทำยังไงเมื่อรู้สึกว่าตัวเองชอบเขียนบรรยายเวิ่นเว้ออะ

คือกูอ่านเองอะไม่รู้สึกหรอกนะ เพราะกูติดความสมบูรณ์แบบเลยพยายามใส่ประโยคให้มันดูครบๆ ทั้งที่ความจริงแล้วไอ้ที่เสริมมานั่นตัดไปก็ได้ไม่มีปัญหา ซึ่งพอมาดูในมุมมองคนอ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่ามันดูล้นๆ อะไรทำนองนั้น จนต้องมานั่งตัดเอาทีหลังอีกหนทุกทีเลย

ดูอย่างที่กูพิมพ์ถามก็น่าจะรู้ได้ว่าแม้กระทั่งตอนคุยปกติกูก็จะเขียนล้นๆ เช่นกัน

17 Nameless Fanboi Posted ID:TM.o1gIXPt

>>16 เขียนล้นดีกว่าเขียนขาด คำตอบอยู่ในคำถามของมึงแล้วนั่นไง คือตัดออกทีหลังได้ตอนมาอ่านทวน ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย ทุกคนต้องมีการรีไรท์งานทั้งนั้นอะมึง นอกจากคนทำงานลวกๆ จริงๆ แบบเขียนครั้งเดียวจบส่งขายเลย

18 Nameless Fanboi Posted ID:zMdF2C0bm2

เรื่องทั้งหมดของแอ้ดเทียน เป็นเรื่องที่แอ้ดเทียนฝันไปเอง ตอนนี้เป็นตอนที่อ่านแล้วเส้า จนน้ำตาไหล สงสารแอ้ดเทียน การผจญภัยทั้งหมดเป็นเพียงความฝันที่อยากจะมีเพื่อนในขณะที่นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาลวันหนึ่ง ฉากในโรงพยาบาล แอ้ดเทียนตื่นขึ้นมา และเจอพ่อกับแม่และเพื่อนๆ ครบทุกคนยืนอยู่รอบเตียง แล้วแอ้ดเทียนก็ถามถึงโม่ง ทุกคนกลับปฎิเสธว่า ไม่รู้จักและบอกแอ้ดเทียนว่า แอ้ดเทียนหลับมานานเป็นปีแล้ว เนื่องจากไม่สบาย และแอ้ดเทียนก็นึกย้อนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับโม่งทั้งการผจญภัยต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงความฝันเท่านั้นโม่ง fanboi.ch ล้วนเป็นความฝันของเขาทั้งสิ้นแอ้ดเทียน เป็นเด็กที่ไม่แข็งแรง และไม่มีเพื่อนรักที่จะอยู่ด้วย เขาต้องนอนโรงพยาบาลตลอดเวลา และเขาก็หลับไป

ฉากต่อมา เริ่มที่ พ่อแม่และเพื่อนๆของโนบิตะร้องไห้กันอยู่ในงานศพของโนบิตะ..เขาจากไปก่อนวัยอันควร.. และเรื่องราวทุกอย่างก็จบลง ที่โนบิตะฝันถึงโดราเอมอน และอนาคตนั้นเป็นเพราะเขารู้ดีว่า เขาจะต้องตายในอีกไม่นาน เขาจึงอยากที่จะมีอนาคตมีเพื่อนรัก มีการผจญภัยสนุกสนาน

แต่ฝันของเขาก็ไม่มีวันเป็นจริง... ตลอดไป.....

19 Nameless Fanboi Posted ID6:/swZzcmCC6

Ky เวลาพิมพ์คำพูดที่โดนตัดโดนขัดชั่วคราว ส่วนใหญ่คนชอบแบบไหนตามหลังมากกว่ากันอะ ระหว่าง … กับ — ตอนแรกกูก็ใช้ … นี่แหละ แต่แวะไปอ่านนิยายคนอื่นแล้วรู้สึกว่า — มันได้ฟีลโดนพูดขัดมากกว่า เพิ่งหาวิธีพิมพ์ให้ตัวขีดมันยาวในคอมพ์ได้ด้วย555 ก็เลยอยากรู้ว่าเอาแบบไหนดี เพราะถ้าจะแก้กูก็ต้องย้อนแก้ยาวเลยเหมือนกัน ถ้าคนใช้เยอะ ชอบเยอะ จะได้ฮึดสู้มีแรงแก้

20 Nameless Fanboi Posted ID:QXAyGf2nVF

>>19 แบบขีดได้อารมณ์กว่า แบบจุดเหมือนลากเสียงท้ายให้ยาวๆ

21 Nameless Fanboi Posted ID6:brACgET9Au

กูโหวต —
ในครส.เหมือนเสียงหาย โดนตัด มีอุปสรรคมาขัดฉับพลัน
… เหมือนคนพูดจงใจหยุดพูดเอง บางทีก็เหมือนทิ้งระยะ

22 Nameless Fanboi Posted ID6:nZACM6kVVC

ky โม่งมึงพอมีนิยายที่อาชีพศักดิ์สิทธิ์อย่างตำรวจ ทหาร หมอ พยาบาล ครู เป็นตัวร้ายไหมวะ กูกำลังเขียนเรื่องที่ตัวร้ายเป็นอาชีพพวกนี้อยู่แล้วจู่ๆ ก็เกิดป๊อดขึ้นมาว่ะ กลัวสังคมหาว่ากูเขียนใส่ร้ายพวกเขา แต่กูตั้งใจจะเขียนสื่อถึงพวกที่ไม่ดีในกลุ่มนี้ไง ไม่ได้จะดิสเครดิต อยากมาขอนิยายตัวอย่างที่ทำได้ดีเป็นกำลังใจว่ะ

23 Nameless Fanboi Posted ID:+er3KVuCqM

>>22 ห๊ะ เต็มบ้านเต็มเมืองเลยนะมึง โดยเฉพาะตำรวจ ทหารเนี่ย เขียนๆไปเถอะ อย่าไปแตะบรรดาสถาบันกับศาสนาก็พอ

24 Nameless Fanboi Posted ID6:gC2NymPF5f

>>23 อ้าวเหรอ ขอบคุณ กูก็กลัวมันจริงเกิน 555

25 Nameless Fanboi Posted ID6:GcbaP36cl.

>>20-21 ขอบคุณมากๆ มีแรงใจแก้ละ

Ky เดี๋ยวนี้มีลูก 5 คนถือว่าเยอะมั้ย กูกำลังเขียนโรมานซ์ เหลือตอนพิเศษ ตั้งใจจะให้มี 5 คนมาแต่แรกละ แต่ช่วงนี้ไปเจอพวกลัทธิมอมอนแม่ลูก 8 ใน x แล้วไม่สบายใจ แต่เป็นความต้องการของนางเอกกูเอง ไม่มีใครบังคับ นางมีปมอยากให้ลูกมีพี่น้องเยอะๆ และพระเอกก็ช่วยได้ ไม่ติดขัด แต่มันน่าจะอันตรายป่าววะ สมัยนี้ แล้วกูก็ดันใจร้อนคอมมิชภาพเด็ก5คนไปละ พูดให้กูสบายใจทีว่าสมัยนี้ยังมี ฮือ

26 Nameless Fanboi Posted ID6:pO.lpzVevz

>>25 เพื่อนกู 30+ เป็นลูกสาวคนเล็กสุด คนที่ 6 ไม่ได้เป็นลูกหลงด้วย แต่มันกับพี่คนโตสุดคือแทบเป็นพ่อลูกกันได้ 5555

27 Nameless Fanboi Posted ID:ZIKsZ965JW

>>25 ในไทยโดยภาพรวมอาจจะถือว่าลูกดกไปนิด แต่มันก็มี เขียนได้แหละน่าจะแค่คนส่วนน้อยที่คิดมาก อย่างญาติกุมีสองเมีย เมียหนึ่ง 7 คน เมียสอง 5 คน เด็กเกิดรุ่นเดียวกับกูคือช่วง 1990-2010 เนี่ย ไม่ได้ยุคโบราณมาก โดยเฉลี่ยแล้ววงศาขณาญาติกุขยันทำด้วยแหละ 5555 น้าๆ ป้าๆ กุมีลูก 3-4 คนเกือบทุกคน

28 Nameless Fanboi Posted ID6:t8dQGXuqAS

>>25 กำลังเป็นกระแสเลย มึงก็เกริ่นหน่อยว่านางเอกอยากมีลูกเยอะๆ ฝันแบบนี้มาตลอด มีปมในใจใดๆว่าไป ชูประเด็นนี้เยอะๆ ไม่ใช่ต้องละทิ้งความฝันนักบัลเลต์จูลิอาร์ดมามีลูกดก

29 Nameless Fanboi Posted ID6:pMLe5yP1jS

>>25 กุไม่ได้ตาม x แต่ถ้าพ่อแม่พร้อม มีปัญญาเลี้ยงให้ดีตามควร จะกี่คนก็มีไปสิวะ ทุกวันนี้คนไม่อยากมีเพราะค่าเลี้ยงดูมันสูง ส่วนที่คนขยันมีมันก็ไม่พร้อมจะเลี้ยงออกมาให้โตดีๆ ทำไมต้องฟาดค่านิยมมารัดคนขนาดนั้นด้วยวะ กุล่ะไม่เข้าใจชาว x เลย ปากบอกร้องหาความเท่าเทียมปชต.แต่ข้อเรียกร้องแต่ละอย่าง แม่งมีแต่ขีดกรอบชาวบ้าน เอียงจนแทบจะเป็นสังคมนิยมแบบเกาเหนือล่ะวะ
แต่ใดๆ อัตราการมีลูก เท่าที่กุประมาณจากปสก.ที่เห็นและฟังผู้เฒ่าเล่านะ
baby boomer ลูกเฉลี่ย 8-12
เจน x เหลือ 3-6
เจน y เหลือ 1-4
ปัจจุบัน 0.5-2

30 Nameless Fanboi Posted ID6:pMLe5yP1jS

>>29 ลืมตอบ ในนิยายมึงจะเขียนยังไงก็เขียนไปเหอะ ขอแค่ใส่เหตุใส่ผลให้ฟังแล้วคนอ่านคล้อยตามก็พอ แค่ใส่ว่านอ.อยากมีตามคห.บนๆว่ายังได้เลย

31 Nameless Fanboi Posted ID6:GcbaP36cl.

>>26-30 ขอบคุณทุกคนมากกก กราบงามๆ ข้อมูลมีประโยชน์สุดๆ กูสบายใจขึ้นเยอะเลย คงเพราะช่วงนี้กูเห็นพวกไฮโซคนรวยก็ไม่ได้มีลูกเยอะไปถึงขั้น 5 ส่วนใหญ่เฉลี่ยมากสุดเอาแค่เด็กแฝดชายหญิง 4 คนก็เหมือนจะปิดอู่กันละ กูเลยลังเลนิดหน่อยว่ามันเยอะไปป่าวว้า
นางเอกกูมีปมประมาณครอบครัวสุขสันต์ พ่อแม่ตายไปก็เหลือพี่น้องดูแลกัน รักกัน แต่พี่น้องดันมาตายในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ถ้าเป็นไปได้นางเลยอยากมีให้มากกว่า 2 เพราะการถูกทิ้งให้จัดงานศพคนเดียว ไม่มีคนที่รักมากอดปลอบมันทรมานเกินไป ไม่อยากให้ลูกต้องโดดเดี่ยว แล้วพระเอกก็ไหว รวยด้วย นางเลยขอไปให้สุดเลย แต่กูคงต้องเพิ่มฉากแสดงทัศนคติดีๆเข้าไปแหละ มีการจ้างพี่เลี้ยง ช่วยกันเลี้ยงลูก ให้เงินเดือนเมีย นางเอกก็ยังไม่ทิ้งความฝันตัวเอง

32 Nameless Fanboi Posted ID6:pMLe5yP1jS

>>31 แอบแชร์ปสก.ตรงนะ กุดีใจมากที่พ่อแม่กุมีลูกเยอะจนกุมีพี่น้องเยอะ เวลาพ่อแม่ป่วยขึ้นมา คนเดียวคือหลังหักแน่ ยิ่งป่วยพร้อมกันด้วยนะมึงเอ้ย! มันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่มันมีเรื่องของการขอความช่วยเหลือและซัพพอร์ตทางจิตใจด้วย เวลามึงจนมุมมึงร้องหาพี่หาน้องมึงมาช่วยได้ ร้องไห้กับพี่กับน้องให้เค้าปลอบได้ เป็นอะไรที่โคตรจะล้ำค่า กุมองหลานกุที่เป็นลูกคนเดียวแล้วนึกถึงวันหน้าเลย ถ้าพี่กุกับพี่สะใภ้กุป่วยพร้อมกัน หลานคนเดียวจะแยกร่างที่ไหนมาดูแลคอยพาหาหมอวะ ยังมีงานการที่ต้องดูแลอีก แต่ใดๆก็นั่นล่ะ ในข้อแม้ว่าพี่น้องต้องดีด้วยนะมึง ถ้าห่วยแม่งก็ฝันร้ายไปอีกแบบเหมือนกัน

33 Nameless Fanboi Posted ID6:GcbaP36cl.

>>32 ขอบคุณที่มาแชร์ปสก.นะมึง กูก็มีพี่น้องที่รักกันดี ไม่ได้ห่วยแตกมาก เวลาเขียนนิยายเลยชอบให้พระนางเขามีพี่น้องหรือไม่ก็ตอนจบมีลูกสักสองคนขึ้นไป แต่ก็เข้าใจฟีลคนมีพี่น้องห่วยแตก แม่งก็แย่มากจริงๆ ต้องมาผูกพันกับคนทรามๆ ด้วยสายเลือด แต่ที่ดีก็อุ่นใจจริงๆ เหมือนในโลกเฮงซวยยังมีคนที่พร้อมช่วยเราแน่ๆ ตั้งหน่อสองหน่อ
บางทีกูก็ชอบอ่านนิยายแล้วลองคิดตามว่าตอนจบพระนางจะมีลูกกี่คน555 เพราะนิสัย คาแรคเตอร์ กับการถูกเลี้ยงดูมันสัมพันธ์ต่อจำนวนลูกในตอนจบเยอะเลย (ถ้าไม่มีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยว) ถ้าตัวละครมีพี่น้องห่วยแตก ตอนจบก็จะชอบมีลูกคนเดียว บางทีปมคือพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน ตัวเอกก็เลือกที่จะมีแค่คนเดียวเพื่อมอบความรักให้เต็มที่ ไม่อยากให้ถูกเมินเหมือนที่ตัวเองโดน ครั้งนึงกูเคยโดนนักอ่านติงว่าพระนางรักกันขนาดนี้ทำไมมีลูกแค่คนเดียว ส่วนพวกมีพี่น้องดีๆป่วนๆส่วนใหญ่คือลูก 2 ขึ้นไปกันทั้งนั้น

34 Nameless Fanboi Posted ID:Qx+.yYOs+D

>>25 คห.กุ แบบคหสต.เลย กุนี่แหละคนคิดมาก 55555 ขออภัยด้วย ส่วนตัวกุชอบมองความเรียลไว้ก่อน ต่อให้ลูกสาวมึงต้องการ เต็มใจมีลูก กุก็รู้สึกแปลก ๆ น่ะ รู้สึกเหมือนเจอ fetish breeding kink 5555 ไม่รู้มึงเคยมีลูกมั้ย แต่คือท้องทีคลอดทีมันทรมานน่ะมึง TT มี 5 คนนี่จะให้ห่างกันกี่ปี มันต้องเว้นช่วงเลี้ยง ช่วงแซ้บกับผัวด้วย มันไม่ใช่แค่คลอดละฟิตเลอ ลูกยังไม่หย่านมมึงท้องใหม่ละ อันนี้ก็ทรหดหน่อย แต่ถ้าเว้นนานหน่อย กว่าจะครบ 5 คนก็นานอีก หรือถ้าให้เป็นลูกแฝดแทน อันนี้ก็หนัก 555 ท้องแฝดแม่งความเสี่ยงเยอะมากนะ แต่คนชอบมองข้าม
มีลูกเยอะสมัยนี้กุให้มากสุด 4 คนอะ กำลังโอเค ถ้า 5 นี่เริ่มตงิด ๆ แระ แต่ถ้ามึงเขียนให้ดีมีเหตุผลพร้อมซัพก็คงไม่ไรมากหรอก อันนี้ช่วยแสดงความเห็นมุมคนไม่โอนะ มึงต้องเจอคนอย่างกูบ้างแหละ แค่บางทีเขาไม่เผยตัว 5555 แต่คนชอบก็มีแน่ ๆ ฉะนั้นอยากเขียนไรก็เขียนโลด ลางเนื้อชอบลางยาอยู่ละ

35 Nameless Fanboi Posted ID:Qx+.yYOs+D

ยกตัวอย่างเพิ่มละกัน เจอเรื่องนึงเป็นภาคต่อนิยายดัง พระนางมีลูก 5 หรือ 6 ไม่แน่ใจ แต่มีแฝด 2 คู่ (ช 2 ญ 2) เสียงนักอ่านมีทั้งคนฟริน ๆ เอ็นดูลูกหลาน ดีจังครอบครัวใหญ่ แต่ก็เห็นเสียงว่า มีลูกเยอะไป เหมือนกัน (จำไม่ได้ว่าเห็นในเม้ดหรือที่อื่น น่าจะที่อื่นมั้ง) ใด ๆ พวกนี้มีไม่เยอะหรอก เชื่อกุ ปัจจุบันคนไม่กล้าออกความเห็นกันแล้ว อย่างกุนี่ถ้าไม่ชอบอะไรก็ไม่บอกหรอก อาจจะถอดล้อกอินไปให้ดาวแล้วไปเลย 5555

36 Nameless Fanboi Posted ID6:pMLe5yP1jS

>>34 คือมึง ในแง่ความเรียลลูกดกเนี่ยถ้ามึงว่ากันเฉพาะเรื่องสรีระและธรรมชาติการเจริญพันธ์ของมนุดนะ มึงต้องไปถามคนอายุ 70-80 ดู นี่จะเป็นคนรุ่นที่ยังมีพี่น้องกันทีเป็น 10 กว่าคนอยู่ หัวปีท้ายปีกับผัวเดียวเมียเดียวเนี่ยแหละ สาเหตุไม่มีไรเลย ก็แค่การคุมกำเนิดไม่แพร่หลายเท่านั้นเอง

แต่ใดๆ อย่างที่โม่งนี่บอก มึงเขียนให้ถูกใจทุกคนไม่ได้หรอก คนอ่านแต่ละคนมีปสกชีวิต มีชอบชัง มีทริดเกอร์ต่างกันหมดแหละ คิดเสียว่าถ้ามึงขายกะเพราเขาอยากกินสลัด มึงก็ต้องปล่อยเขาไปแหละ

37 Nameless Fanboi Posted ID6:EtyO79i+Pa

>>32 พ่อแม่มุงน่าจะนิสัยดี ลูกเลยไม่ชัง

38 Nameless Fanboi Posted ID6:H8TtW2KGEJ

>>37 ป่าว พ่อกุนิสัยไม่ดีเลย ตอนเด็กมากๆกุเคยเกลียดเขาจนคิดว่าขอให้เขาไม่ต้องกลับบ้านมาแล้วนะด้วย(ให้ตุยนอกบ้านไม่ต้องกลับมาน่ะ)​ แม่กุเวลาทำบุญยังเคยขอว่าขอเจอพ่อกุชาติเดียวพอ อย่าได้มีชาติหน้าเลย
แต่เขาก็ยังมีข้อดีที่ใช้ได้อยู่บ้างนั่นแหละ ไม่ไร้ความรับผิดชอบต่อลูกเมียไปทั้งหมด โตแล้วถึงจะพอเข้าใจขึ้นมาได้
ส่วนที่พี่น้องบ้านกุดี น่าจะเพราะพ่อกุไม่ดีเนี่ยแหละ มีตัวอย่างไม่ดีให้เห็นตำตาเลยเห้แบบนั้นกันไม่ลง

39 Nameless Fanboi Posted ID6:t4MpSBjnpz

Ky ถ้าอยากให้ตลค.พูดประโยคให้กำลังใจทำนองว่า"ตัวเราในอนาคตรอเราคนปัจจุบันอยู่"แต่ไม่อยากใช้ประโยคนี้ตรงๆ มีคำพูด หรือประโยคที่ความหมายคล้ายๆกันไหมเพื่อนโม่ง ใจกูพอได้ยินประโยคนี้มันนึกออกแต่ มึงรอต่อไปเถอะกูจะนอนorz

40 Nameless Fanboi Posted ID6:JxoJH+jcNd

Ky ในฐานะนักอ่านสงสัยว่าทำไมนักเขียนไม่ลงขายอีบุ๊คพร้อมตอนพิเศษไปเลยอะ คือเห็นหลายคนแล้วที่มาอัพเดทอีบุ๊คที่มีตอนพิเศษทีหลังเป็นเดือน ตอนนั้นนักอ่านอย่างกูมูฟออนไปเรื่องใหม่นานแล้ว บางทีก็ทำงานไม่ว่างมาส่องแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวหรอกว่าจะมาตอนไหน กว่าจะได้มาอ่านมันก็ไม่ใช่ความรู้สึกเดียวกับตอนแรกแล้วอะ อย่างเรื่องล่าสุดที่เจอคือนอกับพอเพิ่งดีกันแล้วจบเลย แต่ยังไม่ได้กลับมาคบกัน ทั้งเรื่องแทบไม่มีซีนหวานพระนาง แล้วมาทิ้งว่าจะมีตอนพิเศษนะคะ คืองงว่าทำไมไม่รอขายตอนจบเรื่องสมบูรณ์ไปเลย จะสนุกจะฟินไรก็ไม่สุด ความสนุกมันลดลง

41 Nameless Fanboi Posted ID6:xVR6Qi3.vn

>>40 สำหรับกูมีเหตุผลคือ นักอ่านชอบถามหา ถ้าไม่มีตอนพิเศษ แต่เวลาเขียนบางทีอินเนอร์มันจบแค่นั้น ยังไม่ได้อยากเขียน แต่แปะกันไว้ก่อน 55555 เผื่อโดนหักคะแนนเพราะไม่มีตอนพิเศษ คนอื่นม่ายรู้เน้อ

42 Nameless Fanboi Posted ID:R3SJ0tU8dd

>>40 สำหรับกูคือเขียนเนื้อหาหลักจบแล้ว อยากได้ตังค์แล้วก็เลยลงก่อน เพราะตอนพิเศษคือเนื้อหาแถมที่ไม่ได้มีผลกับเนื้อหาหลัก กว่าจะเขียนเรื่องหลักจบมันใช้พลังงานพอสมควรนะเว้ย กูก็อยากอยากมีเวลาพักบ้างอะไรบ้าง

43 Nameless Fanboi Posted ID6:JxoJH+jcNd

>>42 >>41 เข้าใจฝั่งนักเขียนนะ ส่วนตัวกูคิดว่าตอนพิเศษไม่จำเป็นต้องมี ขึ้นอยู่กับนขว่าอยากเขียนไหม แต่พอลงขายพร้อมเขียนในเล่มหลังตอนจบว่าจะมีตอนพิเศษมันเลยให้ความรู้สึกเป็นงานขายที่ยังไม่สมบูรณ์ไม่เสร็จ100%น่ะ อารมณ์แบบมันเป็นcommitment ที่นขต้องทำแทน

44 Nameless Fanboi Posted ID:te5fxL5NCh

>>43 กุเป็นนักอ่าน ถ้าเรื่องไหนนักเขียนบอกว่าจะมีตอนพิเศษตามมา หรือจะพิสูจน์อักษรแบบสมบูรณ์ทีหลัง กุจะโหลดช่วงโปรไว้ก่อนแล้วรออ่านทีหลังตอนมัน 100% แล้วนะ ก็ไม่มีปัญหาไร จัดการตัวเอง 555

45 Nameless Fanboi Posted ID6:NaL0sdt3Gz

>>44 สงสัยว่าถ้าเอาสินค้าอื่นที่ทำไม่เสร็จมาขาย ผู้บริโภคที่จ่ายเงินซื้อไปแล้วจะบ่นจะเคลมไหม หรือต้องจัดการตัวเองด้วย

46 Nameless Fanboi Posted ID6:xVR6Qi3.vn

>>45 มันไม่ใช่สินค้าที่ไม่เสร็จ มันเสร็จแล้วค้าบ แต่ตอนพิเศษมันคือแถมให้ตามรีเควสประมาณนั้นอาเพิ่ลโม่ง

47 Nameless Fanboi Posted ID6:JxoJH+jcNd

>>45 เห้ย ใจเย็นนนนนน อย่ามาแซะในท็อปปิคที่กุตั้งเลย เสียว นี่ไม่ใช่ทู้ดราม่าด้วย แค่ตั้งเพราะอยากรู้เหตุผลฝั่งนขเฉยๆ
>>44 เออ แบบวิธีที่มึงว่าก็ดี5555555555

48 Nameless Fanboi Posted ID:te5fxL5NCh

>>47 ลองดูมึง สันติวิธี แฮปปี้ทุกฝ่าย 5555

49 Nameless Fanboi Posted ID:Oob9I89RtU

ขอสอบถามอีกรอบบ พึ่งกลับมาอ่าน รอร คือตอนอ่านนิยายมันทีให้ใส่สติ๊กเกอร์แสดงความรู้สึกด้วยระหว่างบรรทัด ไม่ชอบเลยแต่หาที่ปิดไม่เจออ่า มันอยู่ตรงไหน ปิดได้ไหมนี่

50 Nameless Fanboi Posted ID:SJNCkDz6g/

>>49 ขอเกาะถามด้วย เห็นตอนนั้นมีเพื่อนโม่งบอกว่ามันไม่แจ้งเตือนนับยอดหลัก คือนข.ต้องกดดูเองแต่ละตอนเหรอ รึยังไง ???

51 Nameless Fanboi Posted ID6:256dBcEkvu

>>49 ตรงหน้าเนื้อหาที่มีรูป AA อะ

52 Nameless Fanboi Posted ID6:H8TtW2KGEJ

>>45 เหมือนกุเห็นว่านโยบายเม็ดไม่สนับสนุนเรื่องนี้ เม็ดแนะว่าควรทำให้สมบูรณ์ก่อนแล้วค่อยลงขาย ซึ่งกุว่ามันก็จริง ถ้ากดอีบุคแล้วกุก็ไม่อยากอ่านกระปริบกระปรอย ต้องมารอแวะดูอีกว่านข.อัพตอนพิเศษเมื่อไหร่ กุไม่ได้กดรายตอนอ่านนิหว่า อีบุคกุให้เทียบเท่านส.เล่ม ซึ่งมันควรจะสมบูรณ์ในเนื้อหาทั้งหมดแล้วก่อนขายว่ะ

แต่เคสที่กุเห็นนั่น ร้ายแรงกว่าแค่เพิ่มตอนพิเศษ เหมือนจะมีปัญหากับเนื้อหาหลักเลยถึงถูกร้องเรียนซึ่งกุเห็นด้วยกับนโยบายเม็ด แต่ลูกหาบก็ถล่มคนร้องเรียนและเม็ดกันน่าดู

53 Nameless Fanboi Posted ID6:H8TtW2KGEJ

>>49 ตรงตั้งค่าหน้าอ่าน จะมีแถบแสดงความคิดเห็นย่อหน้าให้เลื่อนเปิดปิดอยู่ล่างสุด

>>50 อีโมหรือคห.ในย่อหน้าจะไม่มีแจ้งเตือนหรือไปโผล่ท้ายตอนอย่างการเม้นปกติ เท่าที่รู้ คือกุต้องเปิดแสดงคห.ในย่อหน้าแล้วไล่อ่านนิยายตัวเองดู ถึงจะเจอสติกเกอร์หรือ... ที่บอกว่ามีนอ.เม้นย่อหน้าไว้ให้ ต้องกดเข้าไแดูข้างในถึงจะเห็นข้อความ แต่ติ๊กเกอร์จะเห็นได้เลยบางส่วน

54 Nameless Fanboi Posted ID:HN02Dj+3IL

ปรึกษาเรื่องการตัดฉากหน่อยเพื่อน สมมติแนวสืบสวนงี้ กุเขียนฉากสั้น ๆ อาจจะเป็นตำรวจคุยกัน 4-5 ประโยคหรือน้อยกว่านั้น จบละตัดไปฉากใหม่ย่อหน้าใหม่ ทำงี้ถือว่าเป็นเรื่องที่รับได้มั้ย แบบว่าฉากนึงกุจำเป็นต้องเขียนยาว ๆ บรรยายร้อยแปดพันเก้าเป็นหน้าหรือเปล่า หรือสั้นจู๋ยังไงก็ได้ แล้วแต่สไตล์การเขียน กุกลัวเขียนฉากสั้นละมันถือว่าห้วนไป ถ้าไม่นับเป็น bad writing จะได้จัดโลด 55555

55 Nameless Fanboi Posted ID:LQT9rkLWfc

>>51 เจอแล้ว ขอบคุณมากก ไปงมหาในตั้งค่าหน้าหลักตั้งนาน

56 Nameless Fanboi Posted ID:tgzgy6IrI2

>>54 รับได้ถ้าไม่ได้เยอะหลายฉาก กูเคยเห็นหลายเรื่องนะที่ตัดฉากมาคุยกันสัั้นๆ แล้วจบแค่นั้น โผล่มาเรื่องละฉากสองฉาก

57 Nameless Fanboi Posted ID:J9iB5FYD0U

>>54 ถ้ามีความสำคัญกับเรื่อง เช่นเงื่อนงำเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องค่อยๆ เอาไปประกอบกัน คำพูดหรือท่าทีที่สื่อให้เห็นถึงบุคลิกตัวละครหลักหรือตัวละครสำคัญ รับได้นะ แต่ถ้าเล็กๆ แบบที่ไม่รู้จะโผล่มาทำไมอันนี้ก็จะงงๆ หน่อยว่าทำไมต้องมี

58 Nameless Fanboi Posted ID6:RldZzOsOcm

นักเขียนเดี๋ยวนี้อ่อนไหวจังวะ คนอ่านคอมเม้นนิดหน่อย ไม่พอใจละ กุอ่านๆเม้นดูไม่เห็นมันจะมีไรขนาดนั้นเลย ดีนะุยังไม่ได้คอมเม้นไร 5555555

59 Nameless Fanboi Posted ID6:RldZzOsOcm

เลื่อนไปเรื่อยๆกุเจอว่าคนอ่านไม่คิดวิเคราะห์ แฟนคลับก็เห็นดีเห็นงามเด้ 555555

60 Nameless Fanboi Posted ID6:yHOIbI9aFN

>>39 มึงลองใช้พร๊อพ ใช้ฉาก/สถานการณ์ ช่วยสื่อบ้างก็ได้ ไม่ต้องใช้คำคมสื่อความอย่างเดียวหรอก สไตล์นี้ที่เห็นฮิตๆคือชอบใช้กระจก อัลบั้มภาพอะไรงี้ แบบมองแล้วก็บอกตัวเอง "เจอกันพรุ่งนี้นะ" บรรยายดึงฟีลให้ดราม่านิดหนึ่ง อะไรทำนองนี้แหละ
ถ้าให้โม่งคิดให้แล้วมึงเอาไปใช้ มึงโม่งแตกแน่ๆล่ะวะ 555

61 Nameless Fanboi Posted ID6:yHOIbI9aFN

>>58 ยังไม่ชินเหรอวะ 555
ไวรัสนักเขียนจักรพรรดิ์น้อยมันระบาดจนคอมเมนต์แทบจะสูญพันธ์แล้วนะ ที่เหลือตอนนี้ถ้าไม่เกรียนไปเลยก็มีแต่อวย เมนต์ติคุณภาพซึ่งปกติมีน้อยอยู่แล้วนี่ตอนนี้น่าจะขึ้นบัญชีอนุรักษ์ ระดับ aaaaa แล้วล่ะ

62 Nameless Fanboi Posted ID6:4B/sRLy2Ki

>>58 ช่วยไปเม้ามู้สับแหลกได้ป่ะ อยากเห็นพิกัดเสือก555

63 Nameless Fanboi Posted ID6:yHOIbI9aFN

>>54 ถ้ามันแทรกมาระหว่างบทยาวๆแล้วมีความหมายกูเฉยๆอ่า แต่ถ้าสั้นๆติดกันมันจะรู้สึกจังหวะอารมณ์กระตุกเหมือนนั่งรถแล้วคนขับเหยียบเบรคทุก 5 นาทีแทน
ที่กุเขียนสั้นสุด คือ ตปก.1 เดินผ่านเจอตัวเอกทำอะไรลับๆล่อๆ แล้วจากไป ตปก.1 กุเกาหัวบอก มันทำอะไรของมันวะ
แค่นี้แหละ 1 ฉาก 555 แต่มีไว้hintให้คนอ่านให้เดาแผนร้ายตัวเอกกุไปพลางๆระหว่างรอตอนใหม่

64 Nameless Fanboi Posted ID6:Zf/T8q3xKk

งืมมม อัพแบบรายตอนมีคนอ่านแค่ราวๆ วันละ 30-40 คนเอง ว่าจะลองไปทำลงตลาด ebook ดูบ้างละ
ว่าแต่จะทำ ebook นี่ต้องยังไงบ้างวะ? มีที่ไหนแนะนำตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวางขายบ้างมั้ย

65 Nameless Fanboi Posted ID6:mkpz+23TfS

>>64 https://www.youtube.com/watch?v=RsX5R-aD86g

66 Nameless Fanboi Posted ID6:mkpz+23TfS

>>64 นอกจากไฟล์ที่อัพ PDF ก็อัพไฟล์เวิร์ดให้เขาทำ EPUB ด้วย แนะนำว่า มึงหน้าใหม่ ตั้งค่าวันลงขายล่วงหน้าหลายๆ วันก่อน พอเม็ดอนุมัติ ค่อยขอกิฟท์โคดมาเช็กก่อนจะได้แก้ไขทัน เปิดตัวจะได้ปังๆ ไม่ใช่ปังปินาศ

67 Nameless Fanboi Posted ID6:D5aOxrTp/w

>>64 สำนวนคุ้นมาก มึงคือคนที่ชอบมาถามในโม่งบ่อยๆสินะ555
อันนี้แนะนำเผื่ออยากได้อะไรยิบย่อยอย่างการจัดหน้า word ไรงี้ด้วย ไม่รู้เพื่อนโม่งเคยแนะนำไปยัง แต่คนนี้เลย เป็นนักเขียนสายรักวัยรุ่นกับโรมานซ์มีขายเองกับลงวต.ที่บางคนเคยเห็นผ่านตาบ่อยๆ ลองส่องคลิปอื่นในช่องเขาได้ เขาสอนยันวิธีจัดหน้า ช่องไฟ การเอารูปปกแปะให้เต็มหน้าใน word ยันอะไรจุกจิกอย่างการใส่เลขหน้าให้ด้านซ้ายเขียนชื่อหนังสือ ด้านนึงเขียนนามปากกา ควรใช้ฟ้อนต์เท่าไหนถ้าจะทำเล่ม ฟ้อนต์เท่าไหนถึงจะเหมาะกับอีบุ๊ค แล้วสองแบบนี้จัดหน้าต่างกันยังไง ช่องไฟบลาๆ มีประโยชน์มาก กูไม่ได้เรียนมหาลัยเลยใช้โปรแกรมพวกนี้ไม่เป็น ตอนกูมือใหม่มากๆทำพลาดก็เยอะ ได้คลิปเขานี้แหละถึงไปย้อนแก้ไฟล์นิยายเก่าๆที่วางขายแล้วได้

https://คุณtu.be/gA_Yyg4I8lw?si=4rGnWAsxxMXxbVHH (เปลี่ยนคุณเป็นyou)

68 Nameless Fanboi Posted ID6:Zf/T8q3xKk

>>66 >>67 ที่อยากได้ตอนนี้คือเรื่องการจัดหน้า กับการทำไฟล์ PDF ก่อนเลย เพราะปกติกูพิมพ์แต่ใส่ word อย่างเดียว
อีกอย่างนี่กูต้องหาคนทำไทโปให้กูอีก เฮ้ออออ

69 Nameless Fanboi Posted ID6:mkpz+23TfS

>>68 ไทโปไปเข้าพวกกลุ่มปกสำเร็จแล้วโพสหาได้ ถูกแพงมีให้เลือกเยอะ ถูกสุดที่กูเห็นพระเจ้า 30 บ คุณภาพก็ขึ้นกับราคา แต่บางทีร้านดังแพงก็ไม่อยากคุยด้วยนะ อีโก้เยอะ แนะนำให้เลือกร้านที่กลางๆ หรือเอาเท่างบที่ไหว

70 Nameless Fanboi Posted ID6:7uTybMfM3K

>>67 รู้สึกคุ้นเหมือนกัน รู้สึกว่ามันมาบ่อย555

71 Nameless Fanboi Posted ID6:Zf/T8q3xKk

>>70 ก็สิงอยู่โม่งอยู่ 5-6 ปีละนี่ล่ะ
แค่ปีนี้กลับมาเขียนนิยายหลังจากร้างหายไปนาน เลยเหมือนต้องมารื้อความรู้ใหม่หมด จึงต้องเข้ามาถามหาบ่อยๆ
ไม่ได้ตั้งใจจะสร้างความรำคาญอะไร แต่คือมันไม่มีที่ไหนให้ถามแล้วจริงๆ

72 Nameless Fanboi Posted ID6:rBZc0HWZlV

>>71 เท่าที่อ่านมันก็ไม่ได้บอกว่ารำคาญมึงนะ แค่บอกคุ้น แต่กุไม่คุ้นนะ ไงก็โม่งทุกตัวแหละ แต่บางทีมึงก็อาจเจอเกรียนอวตารมาตอบบ้าง

ไทโปมึงเอาแคนวาทำเอาเองก็ได้ถ้าไม่อยากจ้าง ส่วน pdf สมัยนี้ทำจากเวริ์ดอย่างง่าย ก็แค่ save as เอง และถ้าจำไม่ผิดนะ คลิปที่ 66 กะ 67 บอกมันก็สอนหมดนะ ทั้งการจัดหน้าการเซฟ ไม่งั้นไปค้น yt ว่าจัดหน้า ebook ก็ได้ มันมีคลิปให้ค้นไม่เยอะหรอก ค่อยๆทำไปเรียนไป เดี๋ยวก็ทำเป็นเอง

73 Nameless Fanboi Posted ID:5xvVxwgUqT

ky กูถามหน่อย ถ้ามีบทพูดเป็นภาษาอังกฤษ พวกโม่งเขียนยังไงช่วยตอบหน่อยจะเป็นพระคุณมาก
1. เขียนเป็นประโยคภาษาอังกฤษแบบไม่แปล เช่น "I love you" เขาบอกเธอ
2. เขียนเป็นประโยคภาษาอังกฤษแล้วแปลตามหลัง เช่น "I love you" เขาบอกเธอเป็นความหมายว่า ผมรักคุณ
3. เขียนเป็นภาษาไทยแต่บรรยายว่าเขาพูดด้วยภาษาอังกฤษ เช่น "ผมรักคุณ" เขาบอกเธอเป็นภาษาอังกฤษ
4. วิธีอื่น (ช่วยยกตัวอย่างให้ด้วย)

74 Nameless Fanboi Posted ID6:s8m9xp.Pjh

>>73 แล้วแต่บริบทในฉากว่ะเพื่อน มันคุยกันเป็นภาษาอังกฤษทั้งคู่ หรือคนพูดพูดอิ้งคนเดียว พูดประโยคเดียวหรือประโยคถัดไปก็เป็นอิ้งทั้งยวง ใดๆ มันแล้วแต่คนชอบแหละ อย่างกุถ้าอยากเขียนอิ้ง +เป็นประโยคเบสิคศัพท์ง่ายเด็กมัธยมแปลออกแน่ก็ไม่แปลให้ แต่ถ้าอยากได้แค่ความหมาย กุไม่เขียนอิ๊งแต่แปลไทยให้เลย แล้วทำตัวเอียง+บรรยายว่ามันพูดภาษาอังกฤษ แค่นั้น

75 Nameless Fanboi Posted ID:BMUdqsuO1s

>>73 กุชอบ ”i love you. (ผมรักคุณ)” แต่ปกติประโยคง่ายๆ หรือปย.ที่แปลไทยแล้วไม่ได้อารมณ์กุไม่แปลให้อ่ะ

76 Nameless Fanboi Posted ID6:EdIKT5vUGi

เรื่องพล็อตล้ำนี่มันต้องล้ำขนาดไหนวะ มันเป็นยังไงถึงพล็อตล้ำ บางเรื่องกูเห็นแค่บิดพล็อตนิดนึงก็โดนชมว่าล้ำแล้ว เคยเจอมังฮวาเรื่องนึงแนวทะลุเข้านิยายเป็นตัวประกอบในคุก แค่นางเอกอิเซไกมาเป็นคนคุกแค่นี้โดนอวยว่าพล็อตล้ำแปลกใหม่ ทั้งที่จริงก็แค่โดนพี่มันส่งเข้าคุกสำหรับขุนนางไปเก็บตัวแล้วไปเจอพระเอกก่อนนางเอกนิยายเลยไปสอยผัวเขามาเป็นผัวตัวเองไม่ต่างจากเรื่องอื่น พระเอกก็โบ้คลั่งรัก มีผู้ชายมาตามรักเป็นพรวน มันแปลกใหม่อย่างไร

77 Nameless Fanboi Posted ID:n3Hg+W.b1l

>>76 กูละเบื่อพล็อตแย่งผัวนางเอกนิยาย ตอนนี้แม่งเริ่มฮิต เห็นบ่อยมาเต็ม พี่สาวคะ เวลาเขียนไม่สะกิดใจอะไรบ้างเร้ออออ

78 Nameless Fanboi Posted ID:n3Hg+W.b1l

หมายถึงนิยายไทยอะ

79 Nameless Fanboi Posted ID:5xvVxwgUqT

>>74 >>75 ขอบคุณมาก

80 Nameless Fanboi Posted ID:5xvVxwgUqT

>>76 กูนึกถึงซีรีส์เกาหลีอย่างเรื่องมูฟวิ่ง บลัดฟรี อะไรพวกนี้

81 Nameless Fanboi Posted ID:UM6U3oQStw

>>76 ก็ถ้าเอาแบบคห.ทั่วไปก็ตอบไม่ได้ว่ะ มันขึ้นกันปสก.คนอ่าน อ่านมาน้อยก็เจอพล๊อต(ที่รู้สึก)​ว่าล้ำง่ายหน่อย อ่านมาเยอะก็จะธรรมดาไปหมด
สำหรับกุมีตั้งแต่ง่ายๆ แค่อาจแล้วคาดไม่ถึงเด็ดขาดว่ามันจะมาเวย์นี้ หรือบางทีล้ำแบบกาวๆก็ถือว่าเข้าข่ายนะ อย่างอีมังฮวานักรบสามขา หรืองานสตอรี่ของเมะชินไคหลายเรื่องก็เข่าข่าย พวกนี้คนเอามาเล่นซ้ำยาก เลยยังคงความทรงจำว่าพลอตล้ำต่อไปในใจผู้เสพ
พวกทะลุมิติเล่มแรกๆก็พลอตล้ำอยู่ แต่มาตอนนี้ฮิตเกลื่อนจะลืมหมดแล้วว่านข.เรื่องแรกที่มันล้ำมาคือใคร

82 Nameless Fanboi Posted ID6:EdIKT5vUGi

>>81 กูแค่งงการอวยมันอะ นางเอกมันแค่เปลี่ยนสถานที่อิเซไกจากห้องนอนคุณหนูลูกดยุคมาเป็นคุกสำหรับขุนนางเฉยๆ แต่อื่นๆเหมือนเดิมเป๊ะ เจอพระเอกก่อนนางเอกนิยาย ทำดีด้วยเอานมแนบ พระเอกหันมาคลั่งรักไม่เอานางเอกเมียมันแล้ว มันแปลกใหม่พล็อตล้ำอย่างไร

83 Nameless Fanboi Posted ID:Uh6g30lWm7

>>82 ที่อวยว่าล้ำๆๆ พล็อตแปลกใหม่นั่นนี่ อาจจะมองว่ามันคือเซ็ตติ้งที่เปลี่ยนไปรึเปล่า จากเซ็ตติ้งอยู่ห้องหรูๆลูกทั่นดยุคก็เปลี่ยนเป็นนอนหลังลูกกรง แต่กูเข้าใจที่มึงบ่นนะ เพราะมีแค่เซ็ตติ้งที่เปลี่ยนแต่โครงสร้างเรื่องแม่งแพทเทิร์นเดิมเป๊ะๆ มึงรู้จักโครงสร้างแบบ "Hero’s Journey" ป่ะ ที่เดอะลอร์ด, แฮร์รี่, สตาร์วอส์ หนัง 3 เรื่องใช้เหมือนๆกันในภาคแรกๆ เช่นเดียวกันกับมังฮวาแนวที่มึงว่าคือ 1.ตื่นมาสวมร่างใครก็บ่ฮู้ 2.เจอพระเอกก่อนใคร 3.รู้สปอยว่ากูต้องทำดีกับไอ้นี่ 4.ไอ้นี่ที่ว่าหันมาคลั่งรักแทน 5.เอ๋ๆๆๆทำไมมารักฉันล่ะคะ?? นี่แหละโครงสร้างแบบ "Dokthong’s Journey" หวังว่าจะคลายข้อสงสัยให้มึงได้นะ

84 Nameless Fanboi Posted ID6:U9+MCjxd+f

>>83 ผ่านมาเจอ อ่านตั้งนานเจอดอกทองเจอหนี้กูลั่นเลย55555555

85 Nameless Fanboi Posted ID6:EdIKT5vUGi

>>83 กูขำการผจญภัยของอีดอก 5555555555555555

แนว Hero’s Journey ถึงขนบมันจะมาทรงเดียวกันแบบผู้กล้าออกปราบเหล่าร้าย แต่รายละเอียดกับเซ็ตติ้งโลกมันต่างกันแบบเซ็ตติ้งใครเซ็ตติ้งมัน อีแฮร์รี่ก็ต่อยกับท่านลอร์ดไร้ดั้งในโลกเวทมนต์ บักลุคก็ต่อยกับพ่อมันในอวกาศ โฟรโดต่อยกับกอลลั่มที่ภูเขาไฟ ส่วนอีสวมร่างนางร้ายในมังฮวาไม่มีความต่างอะไร เปลี่ยนชื่อตัวละครกับสถานที่หน่อยนึง แต่ได้ผัวท่านดยุคเมะหึ/จักรพรรดิทรราช/เจ้าแห่งหอคอยเวทมนต์ที่จะกลายมาเป็นผัวโบ้ลูกหมาขอเลียตีนเธอ ที่เปลี่ยนชื่อกับตำแหน่ง แต่ทุกอย่างเหมือนเดิม เอาตรงไหนมาอวยว่าแปลกใหม่วะ

86 Nameless Fanboi Posted ID6:RhNJs9PitG

>>85 แครักเตอร์ถอดบล็อคเดียวกันมาหมดด้วย555

87 Nameless Fanboi Posted ID6:9kF7S/d0pX

ky ลงนิยายที่นายin นี่เขาโอนเข้าบัญชีทุกสามเดือนใช่ไหมวะ ดูยอด real time ไม่ได้ด้วย แปลกดี

88 Nameless Fanboi Posted ID6:lDOvDXe/RE

>>87 เงินเย็นมากมึง ถ้าร้อนเงินลงที่นี่มีเครียดนะ เช็กยาก+เงินนาน

89 Nameless Fanboi Posted ID6:LU4skWV0rb

Kyถามทริค ถ้าเพื่อนนักเขียนมาถามกูว่าลงโปเกมอนวอลเล็ตได้รึยัง แต่กูเป็นคนรวยเงียบที่มีเงินเก็บมากกว่า5แสน กูต้องบอกยังไงวะที่ดูไม่อวดรวยและคนไม่รู้ว่ามีเงิน เพราะกูเคยโดนยืมไม่คืนมาแล้ว บอกไปว่าอายุ15ก็ไม่ได้กูเขียนนิยาย18+

90 Nameless Fanboi Posted ID6:flCiRtUsEj

>>89 เอาที่กูใช้มั้ย กูบอกกับคนที่ถามว่า กูไม่อยากได้ ไม่อยากมีเวรมีกรรมกับ ปท.แบบนี้อีก หัวเราะขำๆ แล้วก็ไม่มีใครถามอีก

91 Nameless Fanboi Posted ID:+mDUFZMmHe

>>89 ไม่อยากขายข้อมูลให้รัฐ รำคาญมิจฉาชีพชอบโทรมา (ถึงข้อมูลพวกเราจะหลุดไปนานแล้วก็เหอะ555)

92 Nameless Fanboi Posted ID6:FucntsR4+E

>>89 บอกไปว่าหนีทหารอยู่

93 Nameless Fanboi Posted ID6:nOrYMjm6Mp

รู้สึกเริ่มขี้เกียจเขียนรายตอนแล้วอัพสม่ำเสมอแล้วว่ะ
ต้องอัพทุกวันแบบนี้เหมือนโดนไฟลนก้นตลอด กดดันให้เขียนออกมาเรื่อยๆ เลย

94 Nameless Fanboi Posted ID6:C4xI+U45A/

>>93 ลองเขียนให้จบแล้วค่อยอัพดีกว่ามั้ย จะได้ไม่ต้องกดดันตัวเอง

95 Nameless Fanboi Posted ID6:dK4vjKKAyO

>>94 ถ้าเรื่องสั้นๆ อะทำได้ไง แต่กูเขียนแนวแฟนตาซี วางเรื่องเอาไว้แบบยิงยาวไปเรื่อยๆ หลายร้อยตอนเนี่ยสิ
ขนาดนี่เขียนสต๊อกไว้หลายเล่ม ยังรู้สึกว่าต้องขยันเขียนทุกวันไม่งั้นโดนไล่หลังทันอยู่เลย คราวก่อนหยุดพักไปเกือบๆ 2 เดือน คราวนี้ต้องมาใช้กรรมปั่นงานตาเหลือกละ

96 Nameless Fanboi Posted ID:Db1LwWUl6f

เพื่อนโม่งเคยมีใคร writer’s block นาน ๆ แล้วหายได้บ้างมั้ย กูรู้ว่าปกติเวลาเจอแบบนี้ควรต้องหยุดเขียนก่อน ไปทำอย่างอื่น ไปหาแรงบันดาลใจ แต่กูก็หยุดมาหลายเดือนแล้วอะมึง มันยังไม่ดีขึ้นเลย กูกลัวมาก ๆ ว่ากูจะเขียนนิยายไม่ได้อีกแล้ว กูมีพล็อตมีทุกอย่างแล้วแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองเขียนไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน เหมือนกูเสียความมั่นใจไปแล้วอะ เครียด

97 Nameless Fanboi Posted ID:SbbK5TMuWD

>>96 กุมีแต่แบบไม่นาน ไม่รู้ช่วยมึงได้มั้ย บล๊อคแม่งสารพัด ตั้งแต่เรื่องแย่ๆในชีวิต อารมณ์ไม่ดี อากาศร้อน เมนมา เขียนคำสะดุดคำ คิดพลอตไม่ออก คิดฉากไม่มา ตัวละครวิ่งลงเหวกลายเป็นอีกคนเพราะกุติดบั๊กทางอารมณ์ คิดฟีลเรื่องสดใสแต่ชีวิตหม่นหมองเขียนทีไรก็ติดฟีลหม่น แม้แต่จู่ๆคลังคำหายเขียนไม่ออกหยั่งกะไม่มีคลังคำในหัวจนเวลาไปดูงานเก่าแล้วร้องเชี่ยก็ยังมี ทำไมกูพัฒนาตัวเองลงเหวขนาดนี้วะ ของเก่าอ่านลื่นคำหลากหลายกว่าไม่รู้กี่เท่า
บล๊อคจนแม่งถ้าพึ่งพามันหาข้าวให้กินกูคงอดตาย
วิธีแก้แต่ละอย่างไม่ค่อยเหมือนกันด้วย สุ่มหาไฟหาฟืนกองใหม่ทุกครั้ง บางครั้งตั้งสติดีๆไม่ต้องไปสนใจเรื่องอื่นนอกจากเรื่องราวของตลค. หรือนิยายแล้วก็ลงมือเลยก็ดึงออกมาได้อยู่นะ หลอกตัวเองว่าบล๊อค เบลิกอะไร คำนี้กุไม่รู้จัก กุจะเขียนๆๆๆๆๆ
ส่วนที่ได้ผลบ่อยที่สุดคือ หาเรื่องราวมาสเตอร์พีซใหม่ๆที่จะทำให้มึงใจสั่นติดตรึงเหมือนโดนดูดเข้าไปในนั้นให้เจอ ไม่จำกัดว่าจะเป็นนิยาย หนัง การ์ตูน อะไรก็ได้ ให้มึงลืมฐานะนักเขียนกลายเป็นนักอ่านที่โดนอีกโลกนึงดูดเข้าไปน่ะ
มันจะเป็นเวลาที่เหมือนกลับไปเป็นตอนที่กำลังจะเขียนนิยายเล่มแรก มันจะคึกๆฟุ้งๆกะเรื่องนั้นอยู่พักนึง พอเริ่มจาง แรงบันดาลใจจะมาเอง
เค้าว่าถ้าทำงานโดยยังต้องใช้อารมณ์คือยังไม่ใช่มืออาชีพ กุยอมรับแหละ และอิจฉาพวกออกงานรายเดทอนอย่างมากเช่นกัน

98 Nameless Fanboi Posted ID6:DbbChieXlO

>>96 กูเพิ่งเป็นไป 4 เดือน ตอนนี้หายแล้ว แต่ตอนที่เป็นคือก็พยายามเขียนตลอดนะ แค่มันเขียนไม่ออก เขียนได้น้อยมากกก 555

สิ่งที่กูทำคือเขียนที่เดิม เวลาเดิมทุกวัน โยนมือถือทิ้งตอนจะตั้งใจเขียน แล้วก็เขียนแบบไม่ต้องแคร์ว่าจะออกมาดีไหม เขียนอะไรก็ได้ออกมาก่อเดี๋ยวค่อยเกลาสำนวนเอา แล้วพอกูเขียนเสร็จหนึ่งเบรก กูก็จะไปพักสุ่มเปิดนิยายที่ติดอันดับขายดี นิยายมาแรง นิยายชั้นครู ฯลฯ นิยายที่มีหลักฐานว่ามีคนอ่านจำนวนหนึ่งแน่ๆ อ่ะ กูจะเปิดอ่านซักบทนึงงี้ แล้วในหัวกูก็จะค่อยๆ ผ่อนคลายลงว่านิยายคนอื่นเขาก็ไม่ได้เขียนด้วยภาษาต่างดาวนี่หว่า เขาก็เล่าไปเรื่อยๆ ด้วยภาษาเขียนเหมือนที่กูจะทำเนี่ยแหละ พอกูมาเขียนต่อกูก็จะมีภาพของ ‘นิยาย‘ ในหัวชัดขึ้น มันก็เขียนออกไปเองอ่ะมึง ลองดูนะ สู้

99 Nameless Fanboi Posted ID6:DbbChieXlO

>>97 ตั้งแต่ตอนบล๊อคจนตอนนี้กูก็ยังคิดว่าทำไมกูพัฒนาลงเหวแบบนี้วะเหมือนกัน 5555 เรื่องเก่ากูเขียนได้ไงวะอัจฉริยะสุดๆ

100 Nameless Fanboi Posted ID6:Sep.VbzqVb

>>96 กูบล๊อคไป 2 เดือนแบบคิดอะไรไม่ออกเลย เพิ่งจะเริ่มมีอารมณ์เขียนเนี่ย
แต่กว่าจะต่อติดคือต้องย้อนกลับไปอ่านเรื่องตัวเองตั้งแต่ต้นกันเลย

101 Nameless Fanboi Posted ID:kNnmrOGJcJ

มาขอถาม 2 ข้อหน่อยว่าโม่งว่ามีใครรู้ระบบการทำงานครูบ้าง กูอยากรู้ว่าช่วงปิดเทอมเขาทำอะไรบ้าง
กับกรณีคนไข้เด็กมีอาการโคม่าเป็นเจ้าหญิงนิทรา น้องจะอยู่ห้องแบบไหนเหรอ ห้องที่มีกระจกใหญ่ๆ พ่อแม่ดูลูกข้างนอก หรือห้องปกติ เพราะกูเคยดูการ์ตูนเรื่องหนึ่ง พระเอกมันโคม่า แต่แม่ก็พามารักษาต่อที่บ้าน

102 Nameless Fanboi Posted ID6:AAFcvm.05K

>>101 ทำคะแนนนักเรียน แล้วก็จะมีนัดวันรับผลการเรียนอีกรอบ ถ้า รร รัดบานก็เดี๋ยวมีนัดมารับเงินค่าชุดก่อนเปิดเทอม แต่รร ก็จะมีร้านมาให้เลือกหรือสั่งได้ หรือจะอออกไปซื้อเอง แต่เก็บบิลกลับมาให้คุงคูด้วยค่า มีเตรียมประชุม ผปค และงานช่วงปิดเทอมที่แม่งสรรหาให้ทำ ต้องทำข้อมูล เกียมตัวรับการประเมินอะไรสักอย่างสองอย่าง ประเมินห้องส้วม ประเมินห้องเรียน ประเมินอนามัย ประเมิน บลาๆๆ ปิดเทอมเด็ก แต่ไม่ได้ปิดเทอมครู รร ไหน ผอ.สุดจัด ก็ต้องมาทำงานที่ รรเหมือนเดิม หยุดแค่เสาร์อาทิตย์ รร ไหน ผอ ใจดีหน่อย ก็ทำงานอยู่กับบ้าน แต่ต้องแสนบายด์ให้เรียกตลอดเวลานะสาว เพราะฉะนั้นมึงจะไปเที่ยวไหน ต้องบอกกล่าวกันล่วงหน้าไว้เลย และกูอยู่ตั้งนานเพิ่งรู้ ถ้ามึงจะไปต่างประเทศในช่วงปิดเทอมต้องแจ้งให้ทางเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งอีเขตนี้คือควบคุมดูแลครูในสังกัดพื้นที่แต่ละจังหวัด และเป็นที่สรรสร้างงาน แล้วแต่พ่ีจะรังสรรค์มาให้ ทดสอบสูตรคูณ ทดสอบการอ่าน ทดสอบๆๆๆ และประเมินๆ รับทราบและอนุญาตให้ไปต่างประเทศได้ เพราะยังไงช่วงปิดเทอมก็ยังถือว่าเป็นเวลาราชการ แต่ไม่ใช่การลานะ แค่ต้องแจ้งอะ เพราะเผื่อมีอะไรทางนี้ยังคุ้มครอง เพราะถ้าไม่แจ้ง แล้วเกิดเรื่องชิบหายขึ้น จะไม่มีการรับผิดชอบและโดนลงโทษด้วย เอาเป็นว่าใครที่อยู่ รร ที่ได้หยุด ถือว่าโชคดีมักๆๆ

103 Nameless Fanboi Posted ID6:AAFcvm.05K

>>101 ลืมถามเด็กไหน ที่กูบอกที่ของประถมนะ จะมีกรอกคะแนน ประเมินตัวเด็กอะไรอีกมากมาย ส่วนมัธยมอันนี้รอเพื่อนโม่งสายมัธยมแล้วกัน

104 Nameless Fanboi Posted ID:kNnmrOGJcJ

>>103 เด็กมัธยมจ้า ถ้าเจาะจงก็เด็กม.ปลาย แต่เห็นงานแล้ว คนที่ไม่รู้เนื้องานครูอย่างกูซีดเลย ขอบคุณที่ให้ความรู้น้า

105 Nameless Fanboi Posted ID6:So5jb3bv5c

>>101 ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยแหละ นอนโคม่านานรึยัง อยู่รพ.เอกชนหรือร้าบาน พ่อแม่มีตังจ่ายค่าห้องมั้ย รพ.คนแน่นมากมั้ย มีห้องว่างรึเปล่า ฯลฯ ส่วนที่เอากลับมาดูที่บ้านส่วนใหญ่จะโคม่ามานานแล้ว อาการพอเสถียร หมอให้กลับบ้านได้ เอาไปดูแลเองประหยัดเงินกว่า แต่ก็ต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญดูแลอะนะ

106 Nameless Fanboi Posted ID6:ZBjaAt5.MO

มึงกูถามหน่อยมึงตัดอายุไมเนอร์ที่เท่าไหร่กันวะ 18หรือ20 กูแต่งเซ็ตติ้งนักกีฬาทีมมหาลัยอเมริกาตัวเอกเป็น freshman ปี1 อายุ19 กับอดีตดาวรุ่งทีาเจ็บจนรีไทร์อายุ26 ไม่มีฉากอย่างว่ามีแค่จูบ แล้วมีฉอดมาเมนท์กูว่าให้ติดเตือนด้วยว่าตัวเอกเป็นผู้เยาว์

107 Nameless Fanboi Posted ID6:yjPLlbX3Gu

>>106
18
กุหมั่นอิฉอดว่ะ

108 Nameless Fanboi Posted ID:o/QCFT53wW

>>106 มันถึงขั้นต้องติดเตือนเลยเหรอ 18 ก็พ้นผู้เยาว์แล้วมั้ย

109 Nameless Fanboi Posted ID6:dSK+gzMDVr

อะไรมันจะอ่อนไหว เคร่องศีลธรรม ปลอมๆ ขนาดนี้วะ อย่าให้รู้นะแอบอ่านเรื่องเสียง ครูนักเรียน อาหลาน ลุงข้างบ้านเด็กสิบแปด5555

110 Nameless Fanboi Posted ID6:3E8OwFi9sm

>>106 18 มีสิทธิ์เลือกตั้ง กินเหล้าสูบบุหรี่ ทำใบขับขี่ ทำสัญญาซื้อขายได้ แต่สมมติพ่อแม่รู้เข้า สามารถขอใช้สิทธิ์ผู้ปกครองแคนเซิลได้ ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ซะทีเดียว

แต่เอาแบบปลอดภัยชัวร์ๆคือ 20 อันนี้บรรลุนิติภาวะ ทำธุรกรรมแบบซื้อขายที่ดิน อสังหา ทำห่าไรก็ได้ไม่ต้องรอพ่อแม่ผู้ปกครองมาอนุญาตเพราะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว

แต่มีอีกกรณีคือแต่งงาน ตอนนี้กฎหมายไทยยังอนุญาตให้แต่งงานได้ตอนอายุ 17 (แต่อนาคตคงแก้กฎหมายให้แต่งได้ตอน 18 ขึ้นไป) คือถ้าแต่งงานตอนอายุเท่านี้ ถือว่ามึงสละความเป็นผู้เยาว์ไปเลย มีสิทธิ์เทียบเท่าผู้ใหญ่คนนึงแล้ว แต่พ่อแม่ต้องอนุญาตและรับรู้อีกเหมือนกัน มึงจะไปเอาเด็ก 17 มาแต่งแบบพ่อแม่เขาไม่รู้ไม่ได้ ยังไงเด็ก 17 ก็ยังถือว่าเป็นผู้เยาว์อยู่

111 Nameless Fanboi Posted ID6:vzqI99UlSN

>>110 แต่เซ็ตติ้งเป็นเมกาก็บรรลุนิติภาวะ 18นะ

112 Nameless Fanboi Posted ID6:0a2UJOWdum

>>111 เมกาต้องแล้วแต่รัฐด้วยว่ะ ถีงส่วนใหญ่จะ 18 แต่บางรัฐให้บรรลุนิติภาวะตอน 21 ก็มีแบบรัฐมิสซิสซิปปี้ บางรัฐก็ 19 แบบอลาบาม่า

แต่ของไทย 20 เด้อ

113 Nameless Fanboi Posted ID:w0x02aG+Zj

ในบริบทเรื่องเกิดที่อเมริกา ในเรื่องมีแค่ฉากจูบ แต่นอ.บอกให้ติดเตือนตัวเอกเป็นผู้เยาว์อันนี้ประสาทแดกเกิน ไม่ดูสี่ดูแปด อเมริกานี่เยเย่กันตั้งแต่ยังไม่จบไฮสกูลก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายป้ะ นี่แค่จูบ

114 Nameless Fanboi Posted ID6:0a2UJOWdum

>>113 กูมองเป็นกรณี เด็กไฮสคูล-มหาลัยได้กัน อันนี้เรื่องปกติ จัดปาร์ตี้ที่บ้านแล้วพากันไปนัวๆเยกันในห้อง เป็นเรื่องของเด็กกับเด็ก แต่พอมีอีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานแล้วเข้ามาเกี่ยวข้อง มันก็จะมองอีกแบบไปเลย ถึงจะบอกอายุห่างกันไม่มาก แต่ยังไงนั่นก็ยังวัยทีนกับวัยทำงาน เหมือนมันมีเส้นแบ่งแบบผู้ใหญ่กับเด็กอยู่อะดิ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะให้ติดว่าเป็นผู้เยาว์แม่งก็ปสด.เกิน 18 ก็ทำใบขับขี่กับเลือกตั้งได้แล้ว ผิดชอบชั่วดีก็น่าจะรู้ในระดับหนึ่ง ไม่ใช่เด็กม.ต้นวัยเบียวแบมือขอเงินพ่อแม่ ถ้าเอาให้ปลอดภัยหน่อยก็ให้พ้น 20 ไปก่อนก็ได้จะได้ไม่มีประเด็นหยุมหยิมแบบนี้

115 Nameless Fanboi Posted ID6:gyfvitKEJE

>>106 คิดซะว่าติดไว้เป็นยันต์กันด่ามึง อยู่เมืองดัดจริตชีวิตต้องป๊อป เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม สังคมสมัยนี้เซฟตัวเองไว้ก่อน คิดซะว่าติดให้มันจบๆไป เพราะการติดป้ายเตือนที่แย่ที่สุดที่กูเคยเจอมา คือคำเตือนในนิยายชชว่านิยายเรื่องนี้มีผู้หญิง ไม่มีอะไรเลวร้ายเท่าสิ่งนี้ละ

116 Nameless Fanboi Posted ID:w0x02aG+Zj

>>114 มองอีกมุมหนึ่งเด็กจัดปาร์ตี้กันได้กัน อันนี้แม่งต้องติดคำเตือนแรงๆ หนักๆ เลยด้วยซ้ำเพราะเป็นตัวอย่างไม่ดี เด็กไม่มีวุฒิภาวะมั่วสุมกัน แม่ง ถ้าเป็นตัวพระเอกนางเอก ไม่กลัวเยาวชนเลียนแบบเหรอ อิพวกฉอดชอบด่าคนอื่นนักนี่ว่ากลัวเลียนแบบๆ

117 Nameless Fanboi Posted ID:.MXUe2kbQ9

กุล่ะอยากให้พวกฉอดปิดจอไปลงพื้นที่ตจว.บ้าง นั่นล่ะจุดที่มันควรไปเอดุเขต ไปรณรงค์จริงๆ สังคมเสื่อมๆ แม่งอยู่ทางโน้น หรือไปดูข่าวโลกจริงบ้าง เห็นแต่ละข่าวแล้ว เฮ้อ และกุไม่เชื่อว่าพวกนี้จะเป็นแบบนี้เพราะนิยายตามที่พวกมันฉอดด้วย บางคน 11 12 ที่ก่อเรื่องนี่จะบอกว่ามันอ่านหนังสือแทบจะไม่ออกด้วยนะ หลักสูตรการศึกษาเราแย่ลงมาก แต่มีปัญหาการคุกคามทางเพศกันแล้ว
นั่งโลกสวยไฟท์แต่ในจินตนาการจริงๆ เมินปัญหาในโลกจริงสุดๆ ตื่นรู้แบบใดห์

118 Nameless Fanboi Posted ID6:w/tc0.EoW5

>>116 ไลฟ์สไตล์เด็กฝรั่งก็เป็นแบบนี้กัน จัดปาร์ตี้ที่บ้าน เชิญเพื่อนมางาน แต่ของจริงไม่เว่อร์อลังการแบบในหนัง พ่อแม่คนจัดปาร์ตี้ก็อยู่ในบ้านนั่นล่ะ เช้ามาบ้านเละพอสมควรก็ช่วยกันเก็บกวาด พวกเมาแล้วเรื้อนก็มีแต่เขาก็ชดใช้ให้

วัฒนธรรมเรากับเขาไม่เหมือนกันไม่ได้อยากให้ว่ามันเป็นตัวอย่างไม่ดีอะมึง เขียนคนเมกาก็ต้องใช้มายด์เซ็ทเดียวกับเขาเด่ะ

119 Nameless Fanboi Posted ID:PSI1dPhF1O

>>118 ก็อิฉอดข้างบนมันมองมุมอเมริกากี่โมง

120 Nameless Fanboi Posted ID:PSI1dPhF1O

ฉอดจะเป็นจะตายกับผู้ใหญ่กับไมเนอร์ แต่ไมเนอร์ 19 กับ 26 ก็สไลด์หน้ามาฉอดนี่กุว่าดักดานเกินไปหน่อย แล้วนิยายที่พวกฉอดฟิน เด้กมหาลัยเยกัน เด็กมัธยมเอากัน ก็เอาเหอะ สังคมดีๆ อิพวกฉอด กุจะอ้วก

121 Nameless Fanboi Posted ID:RTToiFybM9

ถ้าอิฉอดไม่ปสด.ไปซะทุกเรื่องก็คงไม่มีโม่งนข.ลงมาถามที่ห้องนี้หรอกว่าอันนี้ๆๆแต่งได้มั้ย

122 Nameless Fanboi Posted ID:cnVnNc14DX

เวลาเจอนข.ย้ำดอกจันขอให้อ่านตัวอย่างก่อนซื้อแล้วกุแอบหดหู่แฮะ (เจอเยอะด้วยสิ ไม่ว่าตัวใหญ่ตัวเล็ก) แม่งมีจริงๆ เหรอพวกไม่อ่านตย.แล้วซื้อ (แล้วผิดหวัง?) กุนึกว่าเป็นเรื่อง common ซะอีก Orz

123 Nameless Fanboi Posted ID6:gRgSNGJlx0

โชคดีที่กูรู้จักโม่ง ไม่งั้นกลายเป็นคนจิตอ่อน ไม่กล้าเขียนห่าอะไรสักอย่าง

124 Nameless Fanboi Posted ID6:gyfvitKEJE

>>122 มะ มี กูแหละคนนึง อ่านแค่คำโปรย ดูปก ดูนักเขียนแล้วซื้อเลย 🙏

125 Nameless Fanboi Posted ID6:.o0HYxcxOR

>>122 พวกป้าๆก็เป็นแบบนี้เยอะเลยนะ พวกแฮชแท็กซื้อก่อนให้ทันโปรอ่านเมื่อไหร่ไม่รู้น่ะ เห็นเขาว่าดีncแซ่บของมันต้องมีก็ซื้อๆตามกัน ไม่อ่านตย. แล้วก็ทำเป็นโทษตัวเองพอเป็นพิธีที่ไม่ยอม อ่านต.ย.เพราะเชื่อใจนข.บ้าง โทษคนรีวิวว่าอวยเกินบ้าง ทั้งที่จริงๆไม่ต้องพิมพ์อะไรลบๆให้คนรู้สึกแย่ก็ได้แต่ไหนๆเสียตังค์แล้วก็ขอระบายสักหน่อย

126 Nameless Fanboi Posted ID6:.o0HYxcxOR

แต่กุขอบอก นข.ว่าเจอนักอ่านแบบนี้ ตั้งสติดีๆ ไม่ต้องเอามาแขวนหรือตอบโต้ด่ากราดนะจะยิ่งไปกันใหญ่ ไหนๆก็ขึ้นว่า-มีแล้ว ของซื้อของขายแม้ใจจะอยากถีบ ก็จงพิมพ์ตอบด้วยคำสุภาพ น้อมรับคำติชมแล้วจะนำไปปรับปรุงในงานหน้านะคะ ก็ว่ากันไป พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส คนอ่านคอมเม้นที่มีสติเขารู้และแยกแยะได้ว่าคนไม่อ่านตัวอย่างแล้วมาเม้นลบๆโทษนู่นโทษนี่ ควรจัดไว้หมวดไหน

127 Nameless Fanboi Posted ID6:gyfvitKEJE

>>126 จริง และนข.บางคนปากบอกจะปรับปรุงก็ปรับตามที่นอ.แนะสักนิดก็ได้ บางคนตัวอย่างสนุก แต่พอกลางเรื่องกับช่วงครึ่งหลังรีบเร่งเขียนให้จบ เอาให้ทันเดดไลน์ หมดไฟกลางทางก็เยอะนะ มีนอ.หลายคนอ่านตัวอย่างและตัดสินใจซื้อเพราะตัวอย่าง ที่เขาวิจารณ์ก็เพราะอ่านมาทั้งเล่มแล้วจับจุดได้ว่ามันมีปัญหาตรงส่วนไหน

นข.บางคนเข้าใจไปว่านอ.ไม่ถูกใจเพราะไม่ได้อ่านตัวอย่าง ก็เลยติดคำเตือนไว้ ซึ่งไม่จริงเสมอไป เพราะอ่านทั้งเล่มนี่แหละถึงรู้ว่าการดำเนินเรื่องหลังจากนั้นมันมีอะไรเปลี่ยนไปมาก

128 Nameless Fanboi Posted ID6:r/21TnRSts

>>125 อ้าวอย่างน้อยป้าๆ เขาก็โทษตัวเองนะ มึงจะเอาไรอีกอะ โทษตัวเองบ้างซิว่าเขียนไม่สนุก5555

129 Nameless Fanboi Posted ID6:r/21TnRSts

แล้วไอ้เรื่องอวย ถ้าป้ามันเชื่ออวย ที่คนอ่านชอบจริงอวยจริง อันนี้ป้าแกทำตัวเอง แต่อีกกรณี พวกรับจ้างอวยอะจร้า มึงว่าป้าจะรู้กันบ้างมั้ยว่ามีแบบนี้ด้วย

130 Nameless Fanboi Posted ID6:arY2FsShMM

กุสังเกตหลายรอบละ โม่งมันชอบด่าคนในเอ็กซ์แล้วมาอวยป้าๆในเฟซว่ะ ใครจุดประเด็นด่าป้า มันจะมาทันทีเจ้าที่แรงมาก ที่ว่าป้าๆไม่เล่นโม่งนี่ไม่จริงม้าง

131 Nameless Fanboi Posted ID6:r/21TnRSts

>>130 ไม่เล่นจริงค่ะ อีห่า นี่ก็เล่นกับพวกมึงมาสามชาติสี่ชาติ หาว่ากูเป็นพวกป้าอีก แต่รำคาญเวลาพวกมึงทำสันดาน เหมือนตัวเองดีกว่านอกโม่ง กูอยากตบเรียกสติ สติค่ะสติ

132 Nameless Fanboi Posted ID6:r/21TnRSts

แล้วไอ้สันดานบอกคนอื่นเป็นพวกนู้นพวกนี้ เวลามาอวยก็หาว่าม้า เป็นมาตั้งแต่โม่งก่อตั้ง ก็ไม่เลิกสันดานนี้สักที ขำ55555555555555

133 Nameless Fanboi Posted ID6:XsRxVHmVdB

>>130 รุ่นป้าส่วนใหญ่ไม่เล่นโม่งจริง ไม่ว่าง ต้องไปกินเลี้ยงโต๊ะแชร์ ไปสังสรรค์ ไปเที่ยวกับเพื่อนฝูง ไหนจะต้องตามดูละคงละครกับอ่านนิยายไว้เม้ามอยอีก บางคนลำบากหน่อยต้องวุ่นวายกับลูกหลานจะไปสอบเข้าที่นั่นที่นี่ คนเล่นโม่งรุ่นเด็กกว่าป้าทั้งนั้นแหละ แต่มีหน้าที่การงานไง ไม่อยากเสี่ยงโดนแหกบนบก ส่วนพวกโม่งรุ่นเล็กๆเด็กม.ต้นกินขนมแจ๊บๆแล้วจิ้มมือถือไปด้วย คือพวกที่มาคอยจัดจ์ว่าโม่งไหนเป็นพวกไหน มึงต้องเป็นอีฉอด ส่วนมึงก็อีป้า แล้วมึงโม่งนั้นก็เป็นอีแก่ ฯลฯ

134 Nameless Fanboi Posted ID6:gAZKXeX8+6

ช่างสังเกต แล้วมึงเคยสังเกตมั้ย ว่าโม่งมันจะมี วัฏจักร เมื่อก่อนถมถุยป้าๆ พวกนี้ พอชาวเอ็กซ์เริ่มด่าป้า โม่งก็ลุกขึ้นมาเข้าข้างป้า โลตัสสมัยดังแรกๆ โม่งถมถุยในมู้สับมู้ตู้นิยายบ่อยๆ ว่านิยายพล็อตไม่เห็นแปลกใหม่ คนอวยว่าแปลกกันทำไม พอชาวเอ็กซ์เริ่มระรานชี โม่งก็อวยและเข้าข้างชี

135 Nameless Fanboi Posted ID:Sxj8jl44h.

ขอขัดบรรยากาศมู้หน่อยนะ กูไม่ใช่นักเขียนโด่งดังอะไรหรอก กูแค่แต่งฟิคเฉยๆ แต่ตอนล่าสุดที่ลงคือผลตอบรับแย่ไม่มีคนอ่าน กูเลยเฟลมาก ไม่ได้ไปเขียนต่อมาหลายเดือนแล้ว แต่กูก็อยากไปเขียนต่อ เลยอยากถามว่าพวกมึงมีวิธีดันตัวเองให้เขียนต่อยังไงอ่ะ

136 Nameless Fanboi Posted ID:MGEUgUPZ+0

>>135 ไม่รู้คำตอบของกูจะช่วยได้ไหม กูเขียนทั้งนิยายและแฟนฟิค แต่ทุกครั้งจุดประสงค์ที่กูเขียนฟิคคือกูติ่งเมะเรื่องนั้นๆ จนจิ้น จนอยากสร้างเรื่องราวในแบบฉบับของตัวเองขึ้นมา ก็แค่เขียนไป เข้าใจมึงนะที่พอไม่มีคนอ่านมันก็ท้อ มึงไม่ได้ผิดอะไรเลย เราก็อยากให้มีคนมาร่วมหวีด อยากเจอคนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน แล้วแฟนฟิคเนี่ยเป็นอะไรที่ใช้ใจ ใช้อารมณ์ล้วนๆ ถ้าไม่ไหวมึงก็ต้องพัก แต่ถ้ามึงอยากเขียนต่อจริงๆ มึงก็ไปมองคนที่เขาผลตอบรับไม่ดีเหมือนกัน หรือคนที่แย่กว่า อาจจะช่วยพอให้มึงมีกำลังใจสู้ต่อไปบ้างว่าเอออย่างน้อยมึงก็ไม่ได้โดดเดี่ยว แล้วก็ลองย้อนคิดถึงฟีลตอนมึงเปิดเรื่องๆ นี้ขึ้นมา ตอนมึงลุกขึ้นมาแต่ง อาจพอทำให้กลับมามีแรงนะมึง

137 Nameless Fanboi Posted ID:JcwSYrU7yM

>>135 ใช้แค่ความอยากเห็นผลงานเสร็จสำเร็จสมบูรณ์นั่นแหละดึงไป
ท้อบ้างเฟลบ้าง ก็ใช้เวลากับเรื่องอื่นๆในชีวิตช่วยดึงไม่ให้หมกมุ่น สักพักความเฟลก็จาง ความอยากเขียนก็กลับมา
กลับไปถามตัวเองว่าตอนแรกมึงเขียนเพราะอยากเห็นงานสำเร็จเป็นตัวเป็นตน หรือหวังจะได้เสียงอวย
ถ้าตอบอันแรก มึงก็จะพอบอกตัวเองได้ว่า แต่แรกกุก็ไม่ได้หวังเสียงอวยนี่หว่า ไม่ได้หวังแล้วเฟลทำไมวะ หลงทางลืมจุดหมายแรกเริ่มไปรึเปล่า
มันก็มีหลายมุมมองนะ ที่จะดึงตัวเองขึ้นมา ก็ขึ้นอยู่กะนิสัยมึง เป้าหมายของมึงแล้วล่ะ ว่าให้ค่ากับอะไรมากกว่ากัน

138 Nameless Fanboi Posted ID6:UYL7MCyVEu

กูไม่ใช่ 135 แต่อยากมาขอแบบ136 137 อีก กูจะแคปไว้เป็นยาใจ อ่านยามท้อ ไหว้ย่อจ้า

139 Nameless Fanboi Posted ID6:Xr0dPfohIO

Ky เวลามีพลอตตั้งต้นแต่ปิดไม่ลงยังคิดไม่ลงตัว ทำยังไงได้บ้าง กูอยากหาคนปรึกษาเพราะมันอยู่แค่ในหัวแล้วมันวนไปวนมากับเรื่องเดิมๆ แต่ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร

140 Nameless Fanboi Posted ID6:qNp21O/.aW

>>139 เบต้ารีดหรือกรุ๊ป นักเขียนเงา จ้างมาเป็นที่ปรึกษาหน่อย

141 Nameless Fanboi Posted ID6:qhYbf9VAeX

>>139 คุยกะเพื่อน / เปิดประสบการณ์ตัวเอง / ดูหนังฟังเพลง / อ่านข่าว
ถ้าคิดไม่ออกให้ย้ายที่คิด ไอเดียใหม่ๆมันจะมาจากแหล่งใหม่ๆ
คิดมากๆบางทีมันก็แค่หมกมุ่นเกินไป ถอยห่างด้วยการวางลงสักสองสามวันแล้วกลับมามองใหม่ ก็จะเห็นไอเดียที่มันผูกกันกระจายออกมาเอง

142 Nameless Fanboi Posted ID6:i4/6e+X.OM

>>135 กูเอาแรงใจจากการที่ไม่มีคนเขียนเรื่องแบบที่กูอยากอ่านอะ แต่เห็นด้วยกะ>>137 นะ ต้องลองถามตัวเองก่อนแหละว่าทำไมถึงเริ่มเขียนขึ้นมา หรือไม่ก็ลองใช้วิธีอย่างลงหลายๆเว็บไรงี้ อย่างกูคือฟีลอยากเผยแผ่ศาสนาอะ555 เผื่อมีคนหลงมาอ่านละเกิดอยากเขียนฟิคแนวเดียวกันบ้าง กูจะได้มีฟิคให้อ่านเพิ่ม เพราะของกูมันด้อมเล็กหาฟิคถูกใจยากชิบหาย จะให้ไปขุดฟิคจีนหรือญปกูเกิลบางทีแปลได้โคตรห่วยอีก ลงท้ายเลยเขียนเองแม่ง

143 Nameless Fanboi Posted ID6:UYL7MCyVEu

>>142 มึงเขียนฟิคไยบะรึป่าววะ

144 Nameless Fanboi Posted ID6:i4/6e+X.OM

>>143 กูก็อยู่ด้อมนี้นะแต่ไอ้ที่พึ่งพูดถึงไปอะไม่ใช่ฟิคด้อมนี้หรอก

145 Nameless Fanboi Posted ID:b3tSUQteHB

>>143 ไยบะด้อมไม่เล็กเลยนะเพื่อน

146 Nameless Fanboi Posted ID6:U8zwoSVo0s

>>135 กูไม่สนเรื่องนั้นเลยว่ะเวลาเขียนฟิคคู่ชิป ฟีลตอนนั้นแค่อยากเขียนเพื่อเห็นคู่ชิปกูทำแบบนี้ ลงเอยกันแบบนี้แค่นั้นเอง อฟช.มันไม่มีวันประทานฉากนี้มาให้แน่ๆกูก็มีแต่จะต้องปรุงเองจากวัตถุดิบเท่านั้น กูเขียนให้ตัวเองอ่านเองฟินเอง จะมีคนมาอ่านมั้ยคือผลพลอยได้เฉยๆ ถ้ามีก็ดีจะได้มีคนร่วมหวีด แต่ไม่มีก็ไม่เป็นไร

แต่ปกติแล้วถ้าไม่ใช่คู่แรร์ คู่เรือผีไม้จิ้มฟันแบบที่มั่นใจว่ามึงชิปอยู่คนเดียวบนโลก(เช่นคู่ซาสึเกะxโพคาฮอนทัส) หรือด้อมเล็กขนาดนั้นบางทีมันก็มีคนหลงมาหวีดด้วยเป็นระยะๆนะมึง ถ้าแบบไม่มีคนอ่านเลยมึงลองไปเกาะตามคอมมูของด้อมเพื่อหาเพื่อนดูก่อนมะ ถ้าเจอคนที่ชิปตรงกันเดี๋ยวคนเม้ามอยก็ตามมาเอง ไปหวีดหรือคอมเมนต์รูปภาพแฟนอาร์ตอะไรก็ได้แต่อย่าให้น่ารำคาญไป คอมเมนต์ฟิคคนอื่นแบบดีๆตั้งใจๆ ชวนเขาคุยสนุกๆหวีดโมเมนต์เดี๋ยวเขาก็มาอ่านฟิคมึงเอง ยิ่งชิปคู่เดียวกันยิ่งจูนกันติดง่ายมาก กูทำแบบนี้ทุกด้อมเลยคนอ่านก็มีประมาณนึงนะ

147 Nameless Fanboi Posted ID6:xDZGK4cVqa

>>146 อึ้งมากพี่สาว ซาสึเกะxโพคาฮอนทัส มีอยู่จริง!!!!!!!!!!

148 Nameless Fanboi Posted ID6:LPrxQlaSgS

>>147 มีคนชิปจริงๆกูไม่ได้พูดเล่น ลองหาคลิปในยูทูปดู ตัดต่อเป็นเรื่องเป็นราวมาก 5555555

เอาเป็นว่าถ้าชิปมึงไม่ได้แรร์ระดับนี้ เดี๋ยวก็มีคนหลงมาเองเชื่อกู ลองเวิ่นๆคู่ชิปลงทวิตดู บางทีก็มีคนหาอะไรอ่านจากชื่อตัวละคร เช่นมึงชิปคู่ทันจิโร่×อิโนะสุเกะ มึงก็หวีดโมเมนต์เข้าไป ทันจิโร่เทคแคร์อิโนะดีจังเลย บลาๆๆๆๆ ถ้าคนชิปเดียวกับมึงเขาจะเข้ามาหวีดกับมึงเอง

149 Nameless Fanboi Posted ID6:xDZGK4cVqa

>>148 ไปดูมาแล้วที่ท่อ555

150 Nameless Fanboi Posted ID6:+ouFMgHv5O

เพื่อนโม่งในนี้มีใครแต่งนิยายพอร์น เน้นเยไม่เน้นเนื้อเรื่องกันไหม คือกูมีความคิดอยู่ ไปคุ้ยดูพวกหมวดซีเคร็ตแล้วก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่ สรุปว่าหมวดพวกนี้ในเนื้อหาสามารถใช้คำตรง หลีๆกวยๆ เย้x เด้x อะไรงี้เลยได้ไหม? หรือว่าต้องเซ็นเซอร์คำ? ขอบคุณทุกคนที่ตอบล่วงหน้า

151 Nameless Fanboi Posted ID6:l8kpkWyPde

>>150 หมวดผู้ใหญ่ก็ ใช้ตรงๆไม่ได้นะ 🚫ฮี ฆว ย yes คือห้ามเลย🚫ถ้าเจอคือหลงหูหลงตาเอไอ ถ้ามึงหมั่นไส้ถ่ายรูปไปแจ้งเมดให้ระงับการขายชั่วคราวได้
นข.ที่ขาย"ดี"ในหมวดรักผู้ใหญ่เรตติ้งสามร้อยกว่า (เรื่องที่หน้าปกเป็นหนุ่มวิดวะใส่เสื้อช็อปน่ะ)เลี่ยง เป็น เสียวหั วค... ,เย็... แบบนี้ได้ บางคนก็ k, เย ,กร ะเ ด้ า ,ปี้ ,น้ำหอยแตก ,ดุ้น ,ท่อนลำ คำที่เพลย์เซฟสุดแต่ยังพอได้ฟีลลิ่งหยาบๆคือ เอา ,อึ๊ บ

152 Nameless Fanboi Posted ID6:v1vFIBdcPb

>>151 ขอบคุณเพื่อนโม่งมากนะที่มาตอบ แต่กูหมายถึงวางขายรายตอนในเว็บรอร.น่ะเพื่อน ขอโทษที่ถามไม่เคลียร์แต่แรก

153 Nameless Fanboi Posted ID6:4rtdIQs4R0

>>152 ถ้าติดเหรียญเขียนตรงๆได้จ้า เยอะแยะเลยหมวดซีเคร็ต (แต่ก็ต้องระวังเจอคนหมั่นไส้มารีพอร์ท แต่ส่วนใหญ่ไม่มีหรอก มีแต่เม้ดอะจะโดน แต่ถ้ารี้ดก็ชิลๆมึง) เขียนชชแม่นบ่ะ? โคยเต็มหมวดนี้อะ เขียนโลด

154 Nameless Fanboi Posted ID:jXrYhSvUi3

>>153 ใช่ๆ กูอยากลองชาเล้นความหัวโบราณตัวเอง เห็นเดี๋ยวนี้คนชอบอ่านแบบนี้กันน่ะ 55555 ขอบคุณเพื่อนโม่งมากๆจ้า

155 Nameless Fanboi Posted ID:S+.AfxIx7V

>>152 จริงๆจะ เมพ หรือจะเวบดิบก็ห้ามคำตรงๆทั้งหมดนะมึง มันสุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้องเรียนคดีเผยแพร่สื่อลามก ที่มึงเห็นกันเยอะๆนั่นอาศัยหลงหูหลงตากับจงใจปล่อยเบลอ ถ้าลงก็เตรียมใจหน่อย ถูกคนรีพอร์ทได้ทุกเมื่อ และถูกเวบล้างบางได้เป็นระยะ ขึ้นกับกระแสสังคมล้วนๆ
แต่ถ้าคิดว่าอายุนิยายแนวนี้ไม่ค่อยยาว ก็รีบโกยรีบจาก ก็ไม่เป็นไร กระแสล้างบางเพิ่งมีไปปีสองปีก่อน กว่าจะจุดติดอีกนาน แต่เข้าใจไว้หน่อยว่าที่ทำได้ ไม่ใช่ว่าถูกต้องเพราะเห็นคนทำกันเยอะก็พอ

156 Nameless Fanboi Posted ID6:JLtcMU6Y3d

ky สักนิด จะลงนิยายเรื่องแรกชายหญิง แต่ไม่มีปกวาดเลย ถ้าใช้ปกกราฟฟิกจะมีคนสนใจไหม หรือควรกัดฟันจ้างนักวาดเลยจะดีกว่า

157 Nameless Fanboi Posted ID6:P8brIvcsA/

>>156 ถ้าสนุกโดนใจ ปกกราฟฟิกก็เฟี้ยวได้มึง

158 Nameless Fanboi Posted ID6:TGXnG4C+Gj

มีใครใช้ machanical keybord เขียนนิยายมั้ย อยากได้รีวิว ควรตำรึเปล่าไอเท็มนี้

159 Nameless Fanboi Posted ID6:/2S+w8D7Sx

>>158 ขึ้นอยู่กับคน และขึ้นอยู่กับมึงว่าอยากได้เพราะอะไร เพราะมันดูทำให้เขียนนิยายไว? เพราะมันตั้งโต๊ะถ่ายลงเพจแล้วสวย?

แต่เข้าใจว่าช่วงนี้ไถต๊อกๆไม่ก็ส่องเฟสนักเขียนแล้วเจอคีย์บอร์ดพวกนี้เป็นไอเท็มยอดฮิตบนโต๊ะใช่ม้า555 มันไม่ใช่ไอเท็มที่เหมาะกับทุกคน อย่างกูเมื่อก่อนก็บ้ามาก แต่เพิ่งมาค้นพบว่าตัวเองเขียนไวกว่าตอนใช้คีย์บอร์ด apple แบบแบนๆ ไร้เสียง อันเล็กๆ จบเลย ไม่ตื่นเต้นกับไฟหลากสีและเสียงแต๊กๆ แล้ว แนะนำให้ลองใช้ก่อนนะ ถ้ามีเพื่อนเล่นคีย์บอร์ดแนวนี้ ลองยืมมาใช้สักวันสองวัน ไม่ก็ไปห้างไปดูตามบูธที่เขาขายคีย์บอร์ด ไปลองเล่นดู

ตัวคีย์บอร์ดอะไม่เท่าไหร่ สวิตช์ต่างหากที่สำคัญ red blue brown มีแยกย่อยเพิ่มอีก มึงชอบเสียงดังมั้ย เพราะพวกนี้ถึงคนจะรีวิวว่า brown เบา red เบา แต่พวกนี้ยังไงก็ดังเกินมาตรฐานคีย์บอร์ดปกติอยู่ดี บางตัวต้องออกแรงกดมากหน่อย บางคนไม่ชอบนะ เวลาเขียนนิยายมันเสียสมาธิ ยิ่งเขียนกลางบ้านพ่อแม่ด่าอ่ะ แต่บางคนชอบ อยู่ห้องส่วนตัว เพราะเสียงกดมันทำให้ทำงานไว มีความสุขกับการเขียน อะไรก็ว่าไป ขึ้นอยู่กับคนว่ะ ถ้างบเหลือก็ลองซื้อมาสักอันก็ได้ ไม่ถูกใจค่อยขายต่อเอา

160 Nameless Fanboi Posted ID6:1hLbEQMakr

Kyกุเป็นนักอ่าน อ่านเรื่องนึงแล้วไม่ชอบ ขัดใจ รู้สึกอิหยังวะสุดๆกับเหตุผลและการกระทำของนางเอก (แต่รีวิวส่วนใหญ่ไม่มีใครพูดถึงประเด็นนี้เลย) กุควรบอกนักเขียนตรงๆดีไหมว่าไม่ชอบเพราะอะไร หรือช่างแม่ง

161 Nameless Fanboi Posted ID6:8MMvvHRdcY

>>160 บอกได้นะ อย่าลืมไปตั้งค่าไม่ระบุตัวตนด้วยแล้วกัน และถ้าไม่อยากให้เค้าดาวสะเทือน มึงไม่ต้องกดดาวได้นะ มันไม่มีผลต่อเรตติ้ง

162 Nameless Fanboi Posted ID6:Zs4xlMsPD.

>>159 ขอบใจมาก เดี๋ยวต้องไปลองกด ๆ ของจริงดู ที่สนใจเพราะเห็นว่าเขาพิมพ์มันส์มือน่ะ เผื่อจะจิ้มเพลินกว่าเดิม 5555 แต่นักเขียนในไลฟ์ก็มีเป็นไอเท็มยอดฮิตจริงแหละ 5555 บางทีก็ทึ่งพวกนี้อยู่ ตัวกูถ้าตั้งกล้องส่องตัวเองงั้นคนดูคงได้เห็นกุนั่งนิ่งแต่งไรไม่ออกแน่ 55555

163 Nameless Fanboi Posted ID:5x3x68br31

KY ปกตินิยายความยาวเรื่องประมาณ 100K มึงจ้างบก.อิสระเรื่องละกี่บาทกัน แล้วเขาใช้เวลาทำจนเสร็จนานมั้ยวะ กูกำลังจะหาจ้าง แต่กลัวโดนโขกราคาว่ะ

164 Nameless Fanboi Posted ID6:UwHR2iGsO8

>>163 กูเคยเห็นนักเขียนดังจ้าง 15k ถ้าขายดีถึงหลักล้าน มีทิปหลักหมื่นให้ต่างหาก

165 Nameless Fanboi Posted ID:djvws5WGsS

>>164 บก.ที่เพิ่งมีข่าวเรื่องเงินอ่ะนะ

166 Nameless Fanboi Posted ID6:UwHR2iGsO8

>>165 เก่งมากก 👏🏽👏🏽👏🏽

167 Nameless Fanboi Posted ID6:xZHptHvD8w

>>166 แล้วมันก็ไปยืมเงินเขาก้อนใหญ่มาก กลายเป็นน้องรักหักเหลี่ยมโหดเพราะหนีหนี้ ใครก็อย่าเผลอไปจ้างบกมิจจี้นะ

168 Nameless Fanboi Posted ID6:w9RWyCf7P9

พวกขายนิยายเป็นแสนเป็นล้านนี่ต้องทำยังไงกันวะนั่น
นิยายกูคนอ่านเฉลี่ยวันละ 20-30 คน เรื่องหารายได้นี่คงไม่ต้องหวัง

169 Nameless Fanboi Posted ID:MZvMIz8.gR

>>168 มีเรื่องในสต๊อกเยอะประมาณหนึ่ง +เวลาที่ใช้ในการสร้างฐานแฟน สร้างสมความสามารถ และสะสมยอดขาย
กุไม่รู้มึงจะเข้าใจผิดเหมือนกุเคยเข้าใจผิดไหมมั้ย แต่ยอดสิบล้านที่อวดๆกันอ่ะ มันไม่ใช่ยอดเดือนเดียวนะมึง
แต่เดือนละแสนนี่ใช่ ถ้ามันปังเวลาลงเรื่องใหม่ก็ไปได้ถึงอยู่ แต่เวลาไม่มีงานใหม่มาออกยอดมันก็จะลดแหละ ไม่ใช่ว่าถาวรทุกเดือน

170 Nameless Fanboi Posted ID6:CFOerbLpuX

>>165 แสดงว่าจ้างบก. 15k นี่แพงมากแล้วสิ เพราะนี่คือบก.มีชื่อเสียงมากๆ แล้วในวงการ / อยากรู้เลยว่าเงินเดือนบก.สนพ.นี่เท่าไหร่กัน กูว่าเขาไม่ให้เกิน 20k ต่อเดือนแหง แล้วดูทำไม่รู้กี่เล่มต่อเดือนงั้นอ่ะ

171 Nameless Fanboi Posted ID:Yy3/vgmR3d

>>170 เอาเท่าที่รู้นะ แรกเข้าเป็นเด็กกองก็เงินเดือนทั่วไป 15k แล้ว ถ้าขึ้นเป็น บก.ก็อัปขึ้น แต่กูไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ แต่ไม่ต่ำกว่า 20k หรอก จำนวนงานทำตามแผนสนพ.กำหนด ช่วงงานหนังสืองานจะล้นมือ ทำกันไม่ได้หลับได้นอน สำหรับบก.มิจจี้กูมองว่าโอเวอร์เรตไป เขาไม่เคยเป็นเด็กกองด้วยซ้ำ อาศัยชื่อเสียงจากการรีวิว สนิทนักเขียน และความเอ็นดูของนักเขียนดังดันตัวเองขึ้นมาเป็นบก.เลย ลัดขั้นตอนไปมาก ผลเลยเป็นอย่างที่เห็น ตำแหน่งบก.จริงๆ แม่งศักดิ์สิทธิ์มากนะ สมัยก่อนต้องเป็นเด็กกองเก็บประสบการณ์ตั้งหลายปีกว่าจะขยับขึ้นมาเป็น บก. คนเป็นบก. มันต้องปั้นนักเขียนจนดังได้อะ แต่ทุกวันนี้เหมือนใครก็ตั้งตัวเป็นบก.ได้ บก.ไม่ได้ปั้นนักเขียนแต่นักเขียนปั้นบก.

172 Nameless Fanboi Posted ID:2V4GFlXQxk

>>171 มีโซเซียล มีคนอวย ก็เป็นได้ทุกอย่างอ่ะ ตอนนี้ คนจ้างก็ซวยไป
ม.ต้นอ่านนิยายมาเยอะเลยมารับพิสูจน์อักษร
นักวาดหัดได้3 วันรูปเหมือนเด็กหัดจับดินสอ ออกมารับงานขายงาน 50-100
นักเขียนที่ไม่เคยอ่านหนังสือเลยสะกดคำผิดๆถูกๆออกนิยายขายอีบุค
ภาพเดียวกันหมด
ไม้ใช่ว่าอายุน้อยทำไม่ได้ พอยน์คือ คนที่ความรู้ความสามารถ ความเข้าใจยังไม่ถึง แต่เข้าใจผิเคิดว่าตัวเองทำได้ ออกสู่ตลาดกันเป็นแถว อันทึ่ส่องงงานแล้วบอกได้ก็ดีไป ไอ้ที่มองไม่ค่อยออกนี่คนจ้างก็ลำบากไป

173 Nameless Fanboi Posted ID6:FXcvwvEJxQ

ถ้าหมายถึง บก.มิจจี้กูว่างานเขาโอเคนะมึง กูดูจากงานที่ผ่านเขาคือเรื่องที่กูชอบแทบทั้งนั้นเลยว่ะ อาจจะเสริมด้วยนข.ที่มีฝีมืออยู่แล้วเขาได้นับความสนับสนุนเอ็นดูเป็นพิเศษจริง ซึ่งกูไม่เถียง โดยรวมเขาเรียนจบด้านนี้มาด้วยกูว่างานเขาโอเค …แต่…นิสัยส่วนตัวและการจัดการด้านการเงินมีปัญหา และเป็นปัญหาใหญ่สุด บ้งสุดที่กลบทุกความเก่งด้านอื่นไปเลย

174 Nameless Fanboi Posted ID6:ddHr06xYNs

พูดถึงบก. กูอยากรู้ว่าบก.ที่นข. แพรflower แล้วส่งงานช้านี่ใครวะ กูกลัวจะเป็นคนเดียวกับที่กูจองคิวไว้จัง ได้ข่าวว่าคนนี้ทำงานช้าอยู่ด้วย

175 Nameless Fanboi Posted ID6:eVx.eb0.YB

>>173 โดยส่วนตัวกูไม่ได้ชอบงานที่เขาเป็นบก.เลย แต่รู้สึกว่าคนนี้เขาวาทะศิลป์ดี เวลานข.ออกเล่มแล้วก็มาอวย มาบอกเล่าความรู้สึก แล้วเรียบเรียงคำพูดดีมาก นข.ส่วนใหญ่ก็แทบให้ใจบก.กันอยู่ละ หน้าบ้านยังขนาดนี้ หลังบ้านก็คงที่พักใจพอสมควร คิดว่าคงเป็นคนนิสัยดีด้วยมะ? ช่วงโดนบิดเงินหรือตอนนี้ก็เลยยังไม่ได้แพร่สะพัดข่าวฉาว ยังให้เหลือฐานแฟนๆกับคนที่เชื่อมั่นในบก.คนนี้อยู่ เพราะยังคิดว่าคนดีคนนี้จะปรับปรุงตัวได้ พร้อมให้อภัยเสมอ

176 Nameless Fanboi Posted ID6:FXcvwvEJxQ

>>175 จริงอย่างมึงว่าว่ะ วาทศิลป์ดีจริง กุเคยคุย ดูจริงใจนิสัยดี นอบน้อม พร้อมทำงาน ดูน่าไว้เนื้อเชื่อใจ ตอนกุได้ยินข่าวนี่ช็อกอยู่

177 Nameless Fanboi Posted ID:IKe46xUJ86

>>175 กุไม่เรียกนิสัยดีนะทรงนี้ กุเรียกเข้าหาคนเก่ง นิสัยดีต้องดูนาน ๆ แล้วเรื่องเงินยังทำกับคนที่มีบุญคุณขนาดนี้ เรื่องอื่นจะไว้ใจได้เหรอ อันนี้พื้นฐานเลยนะ

178 Nameless Fanboi Posted ID6:kVPPo7bb5s

Ky ถ้าไปเจอเรื่องนึงคล้ายกับที่เขียนอยู่ [พอ.กับนอ.ทำงานที่เดียวกัน บังเอิญเมาแล้วได้กัน แล้วเลยตามเลยแอบคบกัน แล้วพัฒนาเป็นความรัก] เป็นมึงจะไปต่อหรือพอแค่นี้ดี TT

179 Nameless Fanboi Posted ID6:Z8N6+/PZGw

>>178 ไปต่อดิวะ พอทำไมอ่ะ พล็อตเกร่อโคตร ถ้าไม่อ่านงานเขาซะอย่าง ยังไงระหว่างทางกับอีเว้นต์จีบ คำพูดหยอด ปมตัวละคร คาร์แรคเตอร์ ยังไงก็ไม่มีทางเหมือนกันอะ ไม่ถือว่าก๊อป ถ้าโดนคนกล่าวหาก็มาบอกในนี้เลย เดี๋ยวไปช่วยวอร์

180 Nameless Fanboi Posted ID:YMuLMA4P5H

>>178 ถ้าแค่นี่เนี่ย โคตรคลิเช่ ผลิตซ้ำมาไม่รู้กี่พันเรื่องแล้วมั้ง

181 Nameless Fanboi Posted ID6:kVPPo7bb5s

Ok 179 180 ขอบคุณมากกก

182 Nameless Fanboi Posted ID:uThtkqzhmA

>>158 แนะนำพวก low profile พิมพ์ดีต่อข้อนิ้วกว่านะ

183 Nameless Fanboi Posted ID:uThtkqzhmA

>>163 จ้างมาตลอด ก็หมื่นห้าขึ้น แต่มีบก.มันดีกว่าไม่มีนะ ใครยังไม่เคยลองจ้าง อยากให้ลองลงทุนส่วนนี้ดู

184 Nameless Fanboi Posted ID6:iWcYvWcX4T

>>178 พล็อตเกร่อมากมึง ถ้าดีเทลไม่เหมือนก็ไม่ต้องกังวลหรอก

185 Nameless Fanboi Posted ID:JEJ7J4hfqi

กู >>135 เองนะ ขอบคุณ >>136 >>137 >>142 และเพื่อนๆโม่งทุกคนนะ ขอโทษที่มากราบตักช้าเพราะกูไปไล่เขียนฟิคตามที่พวกมึงบอกอยู่ พอกลับมาเขียนแล้ว กูก็รู้สึกมีความสุขจริงๆนะที่ได้ใช้จินตนาการ(ถึงคู่ชิป)แบบนี้ ไอ้เรื่องฟีดแบคที่เคยบ่นๆดูไม่สำคัญไปเลยฟินว่ะ

แต่กูมีปัญหาอย่างหนึ่งคือ เวลากูมีไอเดียปุ๊ป กูก็รีบร่ายไอเดียลงในโน้ตคร่าวๆไว้ประมาณ 40% แต่ส่วนอื่นๆหรือครึ่งหลังคือกูไปต่อไม่เป็นอ่ะ ไม่รู้จะหาทางลงไปต่อยังไงดี🥺

186 Nameless Fanboi Posted ID:YMuLMA4P5H

>>183 ถ้าเป็นบก.มือดีนี่จ้างสักทีน่าจะดีกว่าลงคอร์สนข แต่สำหรับกูคือ มองรายได้จากเรื่องที่เคยขายแล้ว.... ถ้าจะเปย์คือยอมเข้าเนื้อเอาความรู้จริงๆล่ะ

>>185 เรื่องปกติ ทำไรไม่ได้ ได้แต่นึกไปเรื่อยๆ ว่าจะเติมจะลากยังไงให้มันไปถึงปลายทางแบบสมูทๆ ไม่อิหยังวะจนเกินไป ปิ๊งไอเดียเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ถ้าจำเป็นต้องใช้สารตั้งต้นก็นึกถึงนิสัยคาร์ไว้ก็ได้ คาร์แบบนี้ใช้ชีวิตยังไง ชอบไปไหน ไปแล้วจะเกิดอะไร จะมาชนกันประมาณไหน ก็พอให้มีไอเดียอยู่

คือไอ้ฉากสปาร์คๆ ที่เป็นแรงบันดาลใจ นึกแล้วฟินจนทำให้อยากเขียนอ่ะ แม่งยอดน้ำแข็งทั้งนั้นเสี้ยวเดียวของนิยายตัวเต็มเหอะ ยังต้องใช้ความพยายามอีกเยอะ ใครบอกนิยายก็แค่เขียนๆ ต้องลองลงมือเองสักเรื่องแล้วจะเข้าใจ

187 Nameless Fanboi Posted ID6:SvEn1XJTAa

เห็น >>185 แล้ว จึงมาขอจังหวะ KY มาระบายบ้าง เพราะกูรู้สึกว่าพาตัวเองไปไม่ถึงฝั่งซักทีว่ะ

โน๊ตหน่อยคือกูอะหัดเขียนนิยายมาตั้งแต่ตอนยังเยาว์วัย (ราวๆ ประถมปลาย แล้วเขียนจริงจังตอน ม.ต้น) โดยได้แรงบันดาลใจจากช่วงนิยายแปลบูมๆ ก่อนจะตามมาด้วยยุครุ่งเรืองของนิยายไทย ซึ่งเมื่อก่อนกูก็ตั้งเป้าว่าอยากจะเป็นนักเขียนหาเลี้ยงตัวเองด้วยการเขียนนั่นล่ะ

แต่แล้วจนถึงทุกวันนี้กูก็ไม่เคยไปถึงจุดนั้นเลยซักครั้ง แม้ว่ากูจะมีความสามารถในการเขียน เขียนได้เร็ว ปิ๊งไอเดียได้เร็ว วางปูมเรื่องได้ ฯลฯ แต่ทุกครั้งที่กูเผยแพร่ก็ไม่เคยได้รับการตอบรับดีๆ เลยซักครั้ง ถึงช่วงเรียนมหาลัยฯ จะเคยได้รับโอกาสตีพิมพ์กับสนพ. ก็เถอะ แต่ก็ดันเป็นยุคขาลงทำให้ได้ออกแค่เล่มเดียว แถมยอดขายไม่ดีจึงโดนกลืนหายไปกับกาลเวลาเลย ซึ่งถ้าเทียบกับเวลาที่กูเขียนมาตลอดนี่ก็น่าจะ 20 ปีได้ละกูยังไม่อาจไปถึงจุดที่ฝันได้เลย

มาทุกวันนี้ก็ปลงเรื่องหารายได้จากการเขียน กลับสู่โลกความจริงทำงานประจำมีเงินเดือนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นกูก็ทิ้งสิ่งที่เคยฝันไม่ลงแล้วหาเวลามาเขียนตลอด ทว่าพอดูกระแสตอบรับในทุกวันนี้ที่ต่ำกว่าที่เคยๆ ประสบมาจากประวัติการเขียนกูแล้ว กูก็เริ่มกลับมาตั้งคำถามตัวเองแล้วล่ะว่าทำไมกูยังต้องมาเขียนอยู่ ทำไมต้องมาเสียเวลาชีวิตวันละ 2-4 ชั่วโมงหลังเลิกงานมาทำงานเพิ่มโดยไม่ได้อะไรกลับมา ทั้งที่เลือกเอาเวลาไปนอนตีพุงหย่อนใจก็ทำได้

เคยมีโม่งทักว่ากูสับสนในตัวเอง เพราะเคยบอกว่ากูไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่อยากขายนิยาย ซึ่งตรงนี้ต้องอธิบายหน่อยคือกูไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินจริงๆ งานประจำกูรายได้พอตัว ไม่สูงแต่ก็ไม่ลำบาก แต่ที่กูตั้งเป้าเอาไว้ก็คือ อยากจะขายนิยายให้ได้เป็นเงินจำนวนที่ใกล้เคียงหรือมากกว่าเงินเดือนของงานประจำ เพื่อให้เหมือนชีวิตได้ปลดล็อค Achievement พิสูจน์ว่าตัวเองก็สามารถเป็นนักเขียนคนนึงที่หาเลี้ยงตัวเองโดยการเขียนนิยายได้นั่นล่ะ

ทุกวันนี้เขียนไปก็บ่นไป แต่ที่ยังเขียนอยู่ก็เพราะยังไม่อยากทิ้งเรื่องที่เริ่มเอาไว้แม้ว่ายอดวิวจะไม่ดีก็เถอะ แต่อีกใจแม่งก็คิดหลายครั้งแล้วนะว่าควรเลิกเขียนแล้วเอาเวลาไปทำอย่างอื่นซะที ถึงจะมีตัวอย่างหลายๆ คนที่กว่างานเขียนจะดังก็ตอนคนเขียนตายก็เถอะ แต่กูก็ไม่อยากจะไปถึงจุดนั้นเลยว่ะ orz

188 Nameless Fanboi Posted ID6:A+UbIEVuFh

>>187 ตอนเปิดเรื่อง มึงก็ลงทุนยิงแอด หรือจ้างพวกแอครีวิวใน ตต ใน x ดิ มีงบก็เอาเลย ให้ติดหน้าใหม่มาแรงให้ได้

189 Nameless Fanboi Posted ID:YMuLMA4P5H

>>187 จะว่ายังไงดีล่ะ ถ้ามึงเอาผลตอบรับเป็นถ้วย มึงก็ต้องปรับวิธีตามผู้ตัดสินอ่ะ ซึ่งในที่นี้ก็คือตลาด
เทคนิคการเขียนมึง ลีลาการเขียนมึง จากประสบการณ์ กูคิดว่าพื้นฐานคงไม่มีปัญหาแล้วมั้ง ถ้ามึงหวังถ้วย ซึ่งกุก็ไม่รู้ว่าบาร์มึงคือเท่าไหร่ ก็กลับมาดูแนวที่มึงเขียน วิธีการนำเสนอ ไปวิเคราะห์ตลาดออกมาก่อน ถ้าบาร์มึงหลักล้าน จะไปไฟท์ตลาดสยองขวัญกุว่สก็อ่อมแน่ล่ะ ดังนั้นกลับมาที่ตลาดนิยายรักจะง่ายกว่า
ถ้าตั้งทาร์เกตแล้ว ปั่นงานแล้ว ทีนี้ก็อย่างโม่งบนว่า การตลาด อินฟลู เกาะแก๊ง บลาๆ เอาให้คนมามองงานมึง สร้างอุปทานมาสนใจงานมึงได้ ทุกอย่างช่วยมึงไปถึงฝันได้หมดนะ
แต่ถึงทำทั้งหมดแล้วสุดท้ายบางทียอดก็อาจไม่ส่งมึงก็เป็นได้ เพราะความสามารถ วิชามาร ไม่ใช่เรื่องที่จะการันตีความสำเร็จได้ 100% ถ้าทั้งหมดนี้พามึงไปไม่ถึงถ้วยที่มึงต้องการ กูขอแนะนำที่สุดท้าย ธรรมะทำใจ
บางทีการไม่หวังมากแม่งมีความสุขมากกว่าดิ้นรนโดยไม่รู้ว่าจะดิ้นไปทำไมอีก
ถึงจะได้ถ้วยมาจริงๆ มึงอาจพบว่าเวลาความสุขแม่งสั้นจังวะ แค่ไม่กี่เดือนก็อยากได้ถ้วยให้งานใหม่อีกแล้ว ก็เป็นได้

190 Nameless Fanboi Posted ID:wYebQrz+y8

แง ขอเข้ามาบ่น กุเป็นคนไอเดียเยอะแต่เขียนช้ามาก เขียนลบๆ เขียนได้เรื่องเดียวแล้วหมดพลังไปสองสามปี ระหว่างนี้มีแต่เขียนแดร๊บเบิล ไม่ก็อะไรโน้ตที่น่าสนใจเก็บไว้ แต่ไม่ได้เขียนอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน อ้อ มีวันช็อตไม่ถึงหมื่นคำสองสามเรื่อง ทีนี้พอจะกลับมาเขียนก็เลยเอาทีละขั้นอยากจะเริ่มจากเรื่องสั้นก่อน วอร์มมือ แต่พอขีดๆ พล็อตแล้วก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องยาวได้เลยนี่หว่าก็เลยพับเก็บไว้แล้วไปคิดเรื่องใหม่ พอจะเขียนๆ มันก็ดูทรงยาวอีก เป็นอย่างงี้สี่ห้าเรื่อง จนผ่านมาสามเดือนละกุยังไม่ได้มีเรื่องที่เริ่มจริงจังซะที อยากละทิ้งทุกอย่างแล้วไปนั่งเขียนกระท่อมปลายนาไม่มีอะไรมาทำให้จิตใจวอกแวกจังโว้ยย

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.