โม่งคุยเรื่องเพื่อน >>>/lounge/1154/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน >>>/lifestyle/1526/
โม่งคุยเรื่องเพื่อนx2 >>>/lifestyle/2189/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน x3 >>>/lifestyle/3960/
Last posted
Total of 1000 posts
โม่งคุยเรื่องเพื่อน >>>/lounge/1154/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน >>>/lifestyle/1526/
โม่งคุยเรื่องเพื่อนx2 >>>/lifestyle/2189/
โม่งคุยเรื่องเพื่อน x3 >>>/lifestyle/3960/
โม่งๆ โรลเพลย์นี่มันคืออะไรวะ เพื่อนกลุ่มใหม่กูมันชอบเล่นกัน กูไม่เข้าใจจริงๆ จะเล่นตามแม่งก็น่าอายสัส
แต่กูสงสัยไง แก่นแท้ของโรลเพลย์คืออะไร เล่นแล้วได้อะไร กูต้องการจะเข้าใจ ไม่ได้ประชดนะ แต่จะถามพวกมันก็ไม่กล้า
พวกคอมมู วาดรูปบลาๆเชิญทางนี้นะหนูๆ
https://fanboi.ch/subculture/
เพื่อนกูไปคบกับผู้หญิงตอแหลว่ะ กูรู้จักนางดี ขณะที่เพื่อนกูไม่รู้อะไรเลย กูไม่ควรบอกอะไรมันใช่มั้ยวะ ปล่อยให้มันเจอกับตัวเองเลยจะดีกว่ามั้ย
>>8 อันนี้ยากว่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อนมึงฟังมึงมากแค่ไหน ถ้าสนิทกันมากเตือนได้เตือนไปเถอะ แต่ถ้ามึงกลัวมันไม่เชื่อก็ให้มันเจอกับตัวเองก็ได้ เดี๋ยวมึงไปพูดให้ฟังก่อนแล้วมันจะหาว่ามึงไส่สีตีไข่นาง อีกแง่คือถ้านางไม่ตอแหลใส่เพื่อนมึงแล้วอยู่ด้วยกันได้หรือเพื่อนมึงรับนิสัยนางได้งี้มึงก็คงทำไรไม่ได้ว่ะ รอดูท่าทีไปก่อนดีสุด
ทุกวันนี้เวลากูเจอหน้าเพื่อนเก่ากูละกูรู้สึกเจ็บใจตลอดเลยวะ กูไม่อยากมีความรู้สึกแบบนี้เลยกูควรจะทำยังไงให้หายวะ คือกูเคยโดนเค้าตัดเพื่อน ทำร้ายความรู้สึกกูสาระพัดแต่ก็ยังต้องวนเวียนอยู่ในสังคมเดียวกับมันอีกนานอะ แค่มองหน้าเหมือนเรื่องร้ายๆมันก็ขึ้นมาในหัวกูขนาดห่างหายกันไปหลายเดือนก็ยังไม่ดีขึ้นเลย
>>11 กูให้คำปรึกษามึงไม่ได้ว่ะ เพราะกูก็เป็นแบบมึง กูเชื่อคำว่าแก้วที่แตกไปแล้วทำยังไงก็ให้กลับมาเหมือนเดิมไม่ได้ คสพ.ที่พังไปแล้วให้กลับมายิ้มให้กันสดใสเหมือนเดิมแม่งยาก กูก็พยายามไม่ทำอะไรให้ได้อยู่ใกลๆให้ได้เจอหน้ามันว่ะ ถ้าเจอก็ช่างแม่งทำเฉยเอาไว้ ทำปกติสุดๆเอาไว้
คนรู้จักใตห้องแม่งโคตรเหี้ย รร.กูมีงานบำเพ็ญประโยชน์ ซึ่ง มี8คนที่แม่งจะออกแนวผู้นำหน่อย ตอนพรีเซ้นท์มันออกมาไม่ค่อยดี กลุ่มนางแม่งเรียกไปประชุม ไม่ดิ กูว่าเรียกไปด่ามากกว่า “ทำไมเงียบกันวะ ปากมีไว้ประดับหน้าหรอ” “มึงเป็นเหี้ยไรกันวะ ไม่ช่วยงานเหี้ยไรเลย” ด่าสารพัดต่างๆนาๆ กูอยากจะถีบหน้ามึงให้หยุดพูดมาก กูก็รู้ว่ากูมีส่วนผิดนะ แต่กูรู้สึกว่า การทำงานเนี่ย แม่งต้องมีส่วนนึงที่เป็นผู้นำค่อยสั่งการว่ะ ซึ่งพวกมึงเป็นคนเริ่มเป็นผู้นำแล้วแล้วมึงไม่สั่งลูกน้องแล้วไปทำอยู่ส่วนด้วย บวกกับมาด่า กุว่าแม่งเหี้ยเกิน มึบอกว่าเด็กใหม่”ไม่มีทางรู้ความรู้สึก” กุเกลียดคำนี้มาก มึงไปรู้อะไรกูวะ มึงรู้หรอว่ากูเรียนอะไร กุทำอะไรบ้างตอนม.ต้น มาบอกว่ากูไม่รู้เรื่อง อีเหี้ย เก็บปากเน่าๆของมึงไปแดกปลาเหอะ เผื่อทำให้มึงฉลาดขึ้น
กูเป็นคนที่พูดเบามาก ขนาดเวลาที่คิดว่าพูดดังแล้วเพื่อนก็ยังไม่ได้ยิน สามคนแล้วที่บอกว่ากูพูดเบามาก TT. แต่เวลาอยู่กับน้องกูพูดปกติมันก็ได้ยินนะ ทำไงดีเพื่อนโม่ง ทำยังไงให้พูดเสียงดังขึ้น กูสังเกตุเพื่อนคนนึงเขาไม่ต้องทำอะไรมากก็พูดออกมาได้เสียงดังฟังชัดคล่องปรื๋อ ทำไมกูพูดไม่ดังเหมือนคนอื่นเขาวะ
>>14 กูเป็นคนพูดเบาเหมือนกัน ชอบพูดอยู่ในคอ เวลาพูดก็จะอ้าปากไม่ค่อยกว้าง แต่เพราะรู้ตัวว่าเป็นคนเสียงไม่ดังนี่แหละ ตอนเรียนเวลาต้องพรีเซนต์หรือแสดงละครหน้าห้องกูจะรีบหยิบไมค์เลย อันนี้แก้ที่ปลายเหตุนะ
ถ้าแบบแก้ที่ต้นเหตุก็คือ เวลาพูดมึงต้องมั่นใจในตัวเองหน่อย ถ้าต้องการสื่อสารอะไรที่มันสำคัญๆ ก็พูดช้าๆชัดๆ อ้าปากกว้างๆ ใช้แรงลมจากในช่องท้องในการช่วยเปล่งเสียง แต่สิ่งสำคัญคือความมั่นใจเวลาพูดอะ
>>11 สำหรับวิถีคนเหี้ยอย่างกู กูทําตัวเหี้ยใส่มัน และทําตัวให้ดูสูงกว่าแล้วรู้สึกดีขึ้นหว่ะ
ของกูคือโดนบุลลี่จากเพื่อนกลุ่มเดียวกัน แต่ชีวิตกูไปได้ดีกว่ามัน เป็นแบบนี้เพราะกุตั้งใจด้วยแหละ ทําทุกอย่างให้เก่งไม่ให้ถูกดูถูกได้
หลังๆเจอกันก็เป็นประจบทําตัวดีเลียขากุใหญ่ พูดด่ามันต่อหน้าโครตสะใจ lol แบบมันเป็นสัญชาตญาณพอกูใหญ่กว่าก็กลัว โดนด่าก็ไม่กล้าทําอะไร
ไอ่สัสวันนี้เพื่อนเก่าสมัยม.ต้นนัดเจอเว้ย กูไม่ค่อยสนิทกับมันหรอก แต่เห็นมันนัดเจอที่โรงเรียนเก่าเลยไปหาหน่อยก็แล้วกัน ไอ้เหี้ย นั่งคุยได้ไม่ถึง 3 นาที แม่งขายยาสีฟันให้กูแล้ว ถ้าไม่เห็นว่าลูกมันนั่งอยู่ด้วย กูจะแฉว่าแม่งแอบชักว่าวในห้องเรียนตอนม. 2 แล้ว ไอ้สัส เยดเข้
กูโดนเพื่อนแกล้ง ล้อบ่อยครั้ง วันนึงแม่งล้อเสียงกู กูเลยหยิบขวดน้ำฟาดหน้าหันแต่ทุกคนหัวเราะ ขอหาวิธีตอบโต้ที่ทำให้มันล้อหรือแกล้งกูน้อยลงที(จะเลิกเลยคงไม่ได้ สันดานแม่งอย่างนั้นแหละ) หรือกูต้องตบมันด้วยมือจริงๆ วะ
เขาบอกเอ็นดูล้อเล่นกับกู แต่กูรำคาญ เพราะมันหลายครั้งแล้ว กูบอกไม่ชอบก็แซะกู ด่ากูอีก คือกูต้องทนใช่มะ?
กูเรียนคนละคณะกับเอและบี เคยเห็นเอโพสต์ตัดพ้อแบบ ไม่มีใครเข้าใจหรอก,จบไปแล้วก็ต่างคนต่างอยู่ดิ ฯลฯ
จนบีมาเล่าให้ฟังว่าจริงๆช่วงนั้นคือ เอไปแซ่บนัวกับแฟนเพื่อนอีกกลุ่ม จนมาถึงแฟนเพื่อนในกลุ่ม ก็เลยโดนแบนไปตามระเบียบ มาล่าสุดนางโพสต์ทำนองว่า ไม่เข้าใจคนที่มีแฟนแล้วแต่ยังไปคุยกับคนอื่น บลาๆๆ เหมือนจะโดนเข้าเองแต่มันย้อนแย้งกับสิ่งที่ไปทำกับคนอื่นอะมึง
ละกูเพิ่งนึกได้ว่าตอนมัธยมเวลามีคนมาคุยกับกูเค้าก็จะรู้จักเพื่อนๆกูปกติใช่ปะ พวกเพื่อนในกลุ่มมันเคยทักว่ากูไม่สังเกตบ้างหรอ กูคุย6คน เอทักเค้าไปคุยด้วยทุกวัน3คนละ แต่ตอนนั้นกูใสๆ เค้าอาจจะคุยกันคลิกกว่ากูก็ได้ พวกมึงอะคิดมาก
ยาวจัง โทด อะพอมาตอนนี้กูเริ่มวิเคราะห์ละว่านี่คืออาการป่วย ต้องการความรัก กลัวว่าคนอื่นจะได้รับความรักมากกว่ารึเปล่า (เอเป็นลูกคนเดียว) ตอนกูเริ่มสนิทกับเพื่อนอีกคน นางก็เคยบอกว่าไม่ชอบละเริ่มพาลเพื่อนคนนั้นนิดๆ
หรือจริงๆแล้วไม่มีอะไรวะ ก็แค่หงี่ แล้วแฟนเพื่อนก็หงี่ เลยเอากัน จบ
ไลฟ์สไตล์การใช้เงินกูกับเพื่อนไม่ค่อยตรงกันว่ะ แบบมีเงินพอใช้จ่ายกันได้ทั้งคู่อะ ละกูก็ชอบเอาเงินไปกิน ซื้อหนังสือบ้างละมันแพง(แต่ก็เงินกูนะ)เพื่อนก็ชอบว่าว่ากูใช้เงินเยอะ ฯลฯ เวลาไปห้างกันกูอยากกินตามร้านเพื่อนก็ไม่ยอมเว้ย จะกินในฟู้ดพาร์ก ทั้งๆที่แม่งก็มีเงินอะ บางทีไปไหนกูก็เน้นสะดวกสบายแต่เสียเงินนิดหน่อย เพื่อนก็ไม่เว้ยจะเดิน กูเศร้าว่ะ ทำไงดีวะ บางเรื่องที่ประหยัดได้ก็โอเค แต่แบบบางเรื่องที่แม่งประหยัดแล้วลำบากตัวเองเนี่ย ทำไมต้องทำวะ
>>25 คำตอบก็อยู่ในคำถามมึงไง ไลฟ์สไตล์การใช้เงินไม่ตรงกัน ไอ้เรื่องกินฟู้ดคอร์ทเนี่ยต้องดูว่ามึงกับมันไปเดินห้างบ่อยไหม ถ้านานๆ ทีเนี่ยแปลก แต่ถ้าไปแม่งเกือบทุกวัน มันจะประหยัดเงิน ไม่แดกร้านอาหารก็ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไร
สำหรับเรื่องการเดินทาง มึงบอกว่าเสียเงินนิดหน่อย อันนี้กูว่ามึงพูดเข้าข้างตัวเอง บอกหน่อยดิว่าเสียเงินนิดหน่อยคืออะไร เช่น จะเดินไปเรียนก็ได้ แต่มึงขี้เกียจ มึงเลยนั่งมอไซค์วิน แบบนี้ใช่ปะ? ถถถ ส่วนตัวกูไม่นิยมขึ้นมอไซค์ว่ะถ้าไม่สายจริงๆ หรืออย่าง bts เนี่ย ถ้าสถานีเดียวกูไม่ขึ้นนะ เดินอย่างเดียว
มันอาจไม่มีใครผิดไม่มีใครถูกสำหรับเรื่องนี้ แต่อยากให้มึงลองคิดดูว่า ปัจจุบันมึงมีเงินเก็บมากน้อยเท่าไหร่ กูเห็นเพื่อนกูบางคนพ่อแม่ก็ให้เงินใช้เดือนละเป็นหมื่นแต่เงินเก็บแม่งยังน้อยกว่ากูและเพื่อนหลายๆคนที่ได้เดือนละหลักพันอีก (สมัยยังเรียนอยู่) ก็แนะนำว่าให้หัดประหยัดบ้างนะ ต่อไปจะได้บริหารเงินเป็น ไม่ต้องรบกวนพ่อแม่เวลาชักหน้าไม่ถึงหลัง
>>26 เดินห้างนานมากๆทีนึงวะ ปีนึงไม่ถึงสี่ครั้งอะที่ไปด้วยกัน เสียเงินที่กูพูดถึงคือไปตจว.กันมีกระเป๋าสัมภาระ เดินระยะทางประมาณเกิน 5-8 กม. เพื่อไปที่พักอะ ละแดดแม่งแรงเหี้ยๆ ถ้าระยะทางสั้นๆแบบที่มึงยกมากูจะไม่อะไรเลย
เรื่องเงินเก็บกูก็เริ่มเก็บๆอยู่แหละ ตอนนี้ประหยัดละ กูก็มีเงินเก็บแหละแค่ไม่ได้เยอะมากอะไร แต่นานๆไปเที่ยวกันทีก็อยากชิวๆบ้าง
>>19 โดนแกล้งแบบไหนอะ แบบเล็กๆน้อยๆ หรือโดนรุมแกล้งแบบเล่นใหญ่ใส่ไข่พิเศษ กูแยกไม่ออก
คือถ้าโดนแกล้งเล็กน้อยกูก็จะเมินๆไปอะ(ปกติกูไม่คิดมากอยู่แล้ว) ไปมีปฏิกิริยาทุกครั้งมันก็เหนื่อยใช่ปะ แต่ถ้ามึงคิดจะสู้ต้องสู้แบบเลือตกยางออกไปเลย อย่าไปทำครึ่งๆกลางๆไม่งั้นมันก็มองมึงแบบเดิมนั้นแหละ ถึงมึงจะสู้มันไม่ได้ก็ต้องสู้ มันจะรู้ว่าเล่นกับมึงไม่ได้ แล้วมันก็จะหันไปหาคนอื่นต่อ
ตอนนี้กูรู้สึกแย่สัสๆ จะร้องไห้น้ำตาปริ่มล้ะ แต่ก็ไม่อยากร้อง จะว่าเป็นเรื่องเล็กก็ได้ แต่ก็รู้สึก bully เหี้ยๆ คือกุอ่ะอาจจะรสนิยมไม่ดี กุชอบแต่งตัวแบบเสื้อฮูด กางเกงวอมไรงี้ คือกูก็อยากใส่เสื้อแขนกุดขาสั้นกางเกงยีนนะ แต่คือกูอวบๆอ่ะ ขาใหญ่มากกก ให้แต่งก็ไม่มั่นใจ ประเด็นคือวันนี้กูไปกินข้าว แล้วเพื่อนสายโคก็ลงรูปที่ถ่ายรวม แล้วเพื่อนกลุ่มที่กุอยู่แบบสนิทอ่ะ เห็นในไอจีก็แคปมาลงไลน์กลุ่ม แล้วก็ขำ หัวเราะ แชทประมาณมึงเปลี่ยนการแต่งตัวเถอะ แต่งอะไรของมึง แล้วก็ขำกันไม่หยุด คือรูปนั้นอ่ะมันก็อาจจะดูอ้วนก็จริง เพราะกุยืนริมหันเฉียงๆ แต่ชุดนี้กุยืนส่องกระจกก่อนออกจากบ้านมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ไม่ได้ฮู้ดวอมแบบแย่ ก็แฟชั่นเรียบๆหน่อยๆ กุก็ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่แปลกเลยออกจากบ้าน แต่เจอเพื่อนทั้งกลุ่มกุพิมพ์แบบนั้น กุเฟลเหี้ย โอเค กุอาจจะรสนิยมแย่ แต่มึงต้องพิมพ์ขนาดนั้นเลยหรอวะ เพื่อนอาจจะหวังดี กุรับฟังนะถ้าพวกมึงจะคอมเม้นอะไรกุ แต่กุไม่โอเคที่พิมพ์เชิงลบแล้วหัวเราะต่อท้าย หัวเราะแบบ555ยาวมาก เรียกว่าทุกประโยคต้องมี55555ต่อท้าย ตอนนี้กุเลยอ่านไม่ตอบ กุคิดอยู่ว่าพรุ่งนี้เจอหน้ากุควรทำตัวปกติ หรือถ้าเพื่อนถามว่าทำไมไม่ตอบกุควรพูดตรงๆ รึเปล่า กุน้อยใจอ่ะมึง มันไม่ใช่ครั้งแรกนะ ก่อนหน้านี้ก็มีเรื่อยๆ แต่มันต่อหน้าอ่ะ กุยังพอผ่านๆได้ แต่ครั้งนี้กุว่าแรงสุด ถึงจะรู้จักได้ปีครึ่ง แต่กุยังไม่กล้าพูดแบบนี้ใส่เพื่อนอ่ะ จะว่ากุมีปมเรื่องการแต่งตัวก็ได้เลยยิ่งคิดมาก ไม่ว่ากุจะเลือกอะไรแม่กุชอบค้านตลอดว่าไม่สวยเฉยบลาๆ ทำให้กูรู้สึกว่าตัวเองรสนิยมไม่ดี กุเวลาจะซื้อเสื้อผ้าคือให้แม่เลือกตลอด กุก็พยายามเลียนแบบการแต่งตัวของเพื่อนๆนะว่าสมัยนี้วัยรุ่นแต่งไง แต่ส่วนใหญ่ก็แบบแขยกุดเกงขาฟิตๆ ซึ่งกุไม่กล้าใส่อ่ะ
กุ >30 หรือว่าเพื่อนกุไม่ชอบกุจริงๆวะ.. เป็นการ bully แบบตั้งใจรึเปล่า?
>>30 โหหห กูพอเข้าใจฟีล คือกูก็อวบๆ ส่วนใหญ่จะใส่แต่ชุดนักศึกษา แต่โชคดีตอนมาเรียนตปท.ไม่ค่อยมีคนสนใจเสื้อผ้ากูเท่าไรเสื้อที่ไม่เคยใส่ตอนอยู่ไทยเลยได้มาใส่ตอนอยู่ตปท. เสื้อผ้ามันอยู่ที่ความมั่นใจด้วยมึง กูเป็นคนไม่ชอบใส่ขาสั้นเกงขาดๆ แนวนั้นเพราะรู้สึกไม่เข้ากะกู ที่กูใส่เลยเป็นแนวยูนิโคลอะ ใส่ง่าย แล้วก็ไม่ได้ดูแย่ กูชอบใส่ชุดทรงตรงไม่เข้าเอว ไม่จัมป์ใต้อก มันทำให้กูดูอ้วน555 รองเท้าใส่แบบเสริมส้นนิดๆ ให้ขาดูเรียว กางเกงกูจะพยายยามเลือกขา 4 ส่วนที่โชว์ข้อเท้า คือถ้าใส่ขายาวละขากางเกงมันไปกองๆ มันทำให้กูดูตันอะ ลองดูวิธีการแต่งตัวของดาราก็ได้ ส่วนใหญ่ที่กูดูไว้เป็นเรฟคือ คุณแม่โอปอลล์ พี่แก้มวิชญ์ เจนนี่ปาหนัน ถ้าสายเกาก็เป็นทไวซ์จีฮโย คือเขาผอมกว่ากูมากแหละ แต่เป็นคนมีหน้าอกเหมือนกันก็พอใช้เป็นเรฟได้5555 คือถ้าเอาการแต่ตัวของมึงไปเทียบกับเพื่อนในกลุ่มอาจจะโดนขำเพราะว่าคนละแนวกับเพื่อนส่วนใหญ่ไง แต่กูชอบแต่งสไตล์นี้เพราะมันใส่ไปไหนก็ได้ 5555 เวลาไปซื้อเสื้อผ้าก็ขอร้านลองเลย คือดูในหุ่นมันสวยแต่เอามาใส่จริงๆ แล้วสั้นบ้าง อ้วนบ้าง กูก็ท้อ5555 ร้านไหนไม่ให้ลองกูก็เทจ้าาา สู้ๆ นะมึงงงง
>>30 เพื่อนกูหนักร้อยโล ใส่แซคแขนกุด ใส่แขนกุดขาสั้น ไม่เห็นเป็นไรรึมีใครว่าไรเลย เอาจริงๆฮู้ดวอมมันทำให้มึงยิ่งดูอ้วนป่าววะ บางที่เสื้อที่ใหญ่กว่าตัวมันทำให้ยิ่งดูอ้วนมากกว่าจะช่วยพรางนะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อนมึงควรให้คำปรึกษาดีๆไม่ใช่มารวมกลุ่มกันหัวเราะมึง เพื่อนกูใส่อะไรแล้วดูไม่ดีกูก้อบอก ไปซื้อเสื้อด้วยกันกูก้อห้าม ถ้ามันไม่ฟังกูก้แค่แอบมาบ่นกันเองลับหลังไม่เคยไปว่าให้เพื่อนเสียใจ
มีใครมีแนวทาง ห้ามเพื่อน ให้หยุดแดกไหมว่ะ เพื่อนกูแม่งเบาหวานแดกแล้ว ตอนนี้อายุแค่20เอง ชอบชวนกูไปแดกไอติม ขนม เบเกอรี่ชิบหาย กูเป็นเพื่อนกับมันมา6-7ปี กูไม่เคยเห็นมันกินน้ำเปล่าแม้แต่ครั้งเดียว กินแต่น้ำอัดลม หรือไม่ก็น้ำหวานกลิ่นชา แถมยังเสือกกินเค็มชิบหาย เค็มชนิดที่คนปกติ เอาเข้าบอกไปแล้วสะดุ้ง แดกต่อไม่ได้อ่ะ พอกูบอกเบาๆเค็มหน่อย แม่งก็บอก เงินกู กูจะกินยังไงก็ได้ ส่วนเรื่องชวนกูไปแดกขนม กูก็พยายามบอกว่า กูไม่อยากกิน เผื่อว่ามันจะได้ไม่กินด้วย ผลคือ ล่อทุเรียนเป็นลูก ใช่ค่ะ มึงอ่านไม่ผิด เป็นลูก ล่อบิงชูทั้งถ้วย แล้วมันเสือกเป็นคนเป็นเบาหวานที่ผอมแห้งไง มีการมาบอกกู “ที่มึง ไม่กินหวาน ทำไมอ้วนกว่ากู” โธ่อีสัส ฮอร์โมนอินซูลินกูไม่เพี้ยนไหมล่ะ กูไม่ได้อ้วนนะ กูน้ำหนัก50กว่าๆเอง แต่ก็อ้วนกว่ามันแหละ น้ำหนักแค่40ต้นๆเองมั้ง กูล่ะเป็นห่วงมันจัง ไม่รู้ว่า ระหว่างไตพังกับขาเน่า อะไรจะเจอก่อนกัน
>>30 มึงลองพูดแย้ปๆไหมว่าเฮ้ยยยเค้าเสียยยใจจน้าาาา เวลากุไม่อยากปะทะความรู้สึกตรงๆกุก็แกล้งพูดเล่นๆแต่เนื้อความในใจจริงๆไปอ่ะ5555555555 อย่างน้อยก็ได้สื่อสารออกไปอีกฝั่งจะคิดได้ไหมก็แล้วแต่ละ แต่การเอามาขำยาวมากๆนี่ก็แย่อ่ะ.... มึงมั่นใจปะว่าเค้าชอบมึง ไม่ใช่ลับหลังเอาไปนินทาไรงี้นะ
กูรู้สึกแย่มาก เพื่อนที่มหาลัยคิดว่าคนที่โดนbully เค้าจะไม่คิดอะไรหรอ กูอยู่ในคณะที่ผชเยอะกว่าผญมากๆ เพื่อนผชเรียกกูว่าอิช้าง มึงกูรู้ว่ากูอ้วนนะ แต่กูแค่รู้สึกว่าไม่มีใครควรโดนแบบนี้อะ
ปล.เอาจริงก็ไม่อ้วนมากๆ คือกูสูง159 หนัก64
เห็นเพื่อนโม่งระบายกันกุก็อยากระบายด้วย
กูเป็นคนที่ชอบคุยอะ ไม่ได้พูดมากนะแค่ชอบคุย แต่รสนิยมกูจะไม่ตรงกับคนอื่นเลยเว้ย แบบว่ากูเรียนสายวาดรูป คณะกูเพื่อนๆก็แนวนึง แต่กูก็อีกแนวนึงเลย ประมาณว่ากูชอบfine artแต่คนอื่นจะการ์ตูนมากๆ(กุมาทำอะไรที่นี่) อึดอัดแบบเต็มMax ส่วนเรื่องอื่นกูชวนคุยแต่เขาก็ไม่รู้จักอะ ที่เขาคุยๆกันชอบๆกันกูก็ไม่รู้จักอีก มันไม่ใช่รสนิยมกุกุก็นั่งเหงาฟังเขาพูดไปยาวๆ55555555 บางพยายามชวนคุยเพิ่มแล้วแต่มันก็ต่อหัวข้อไม่ได้ ส่วนเมทกุก็พูดน้อยมากมากกกกกกก โลกส่วนตัวสูงด้วย เหงาสัสๆ ทุกวันนี้เวลาอยากคุยก็แชทกับพี่ที่รู้จักในไลน์เอา เจอหน้าพี่ๆเขาทีก็บ่นยาวเป็นมหากาพย์
ก่อนมาคิดว่าจะมีเพื่อนๆแนวเดียวกันแล้วนะ เหมือนคิดผิดเลย หรือว่าหน้าตากูดูเป็นคนเรียบร้อยเงียบๆเขาเลยเกรงใจวะ เพื่อนโม่งทำยังไงกัน เราต้องปรับบุคลิกรึเปล่า หรือก็เป็นในแบบที่เราเป็นไปวะ
กูควรจะอัปเปหิเพื่อนที่เป็นมนุษย์ย้อนแย้งดีไหมวะ ตอนแรก ๆ แม่งก็มาเป็นคนปกติแค่เป็นคนแบบแนวเมโทรหน่อย ๆ รสนิยมสูง ชอบของแบรนด์ ชอบอะไรตามกระแสสังคม ซึ่งอันนี้ทุกคนในกลุ่มยอมรับได้มันเป็นปกติ แต่หลัง ๆ นี่พอมันอกหักไปนี่เริ่มทำตัวนิวโลว์มาก กลายเป็นคนย้อนแย้ง อะไรที่เคยด่าเคยไม่ชอบ มันจะทำแบบนั่นเช่นปากบอกไม่ชอบคนไทยแบ่งแยกฐานะ แต่ตัวมันเสือกเลือกผู้หญิงที่การศึกษาต้องดี การงานต้องดี หน้าตาต้องดี ยอมให้เย็ดตลอด เพอร์เฟควูแมนอะไรของมัน เอาจริง ๆ คือแค่ดีนิดหน่อยแม่งก็จบแค่เย็ดแล้วไม่คบ เงี่ยนก็ไม่ซื้อกินบอกไม่เร้าใจ พอได้เย็ดก็ไม่ถูกใจว่ะ อยากได้ดีกว่านี้อีก กูนี่อึ้งไปเลย แถมแม่งพลัสความน่ารำคาญขึ้นเช่นเตือน พร่ำเพ้อทำอะไรในสิ่งที่คนอื่นเค้าไม่ทำอย่าง KY
คือโอเคกูไม่ได้เดือดร้อนเพราะมันนะ แต่บางทีก็แบบคุยกับมันไม่รู้เรื่องว่ะ เหมือนคุยกับเด็กที่โตแค่ขนหมอยมากกว่าอายุก็ไม่น้อย ๆ แต่จุดยืนแม่งเหมือนไม่มี เรื่องรสนิยมกูไม่เถียงเพราะอย่างน้อยมันก็มีปัญญาหาหญิงมาเย็ดซึ่งน่าจะดีกว่ากู แต่นิสัยแบบเอาย้อนแย้งและเอาตัวเองเป็นมาตราฐานนี่แหละที่กูและคนในกลุ่มเริ่มจะรับไม่ได้
กูเกลียดตัวเองที่ขี้อาย ขี้กลัวไม่เข้าเรื่อง กลัวคนเยอะๆ
ตัวสั่น ใจสั่น รู้สึกหายใจไม่ทัน คิดอะไรไม่ออก เวลาต้องคุยหรือพูดต่อหน้าคนอื่นๆ
ตอนประถมไปเข้าค่ายก็ไม่กล้าคุยกับใครเลย คนที่เรียนชั้นเดียวกันบางคนจำกูไม่ได้ด้วยซ้ำ
สมัยอนุบาลกูกลัวแม่ค้าทั้งๆที่ป้าเค้าก็ดูใจดี ก็ยังกลัว ตอนนั้นไปซื้อขนมเองยังไม่กล้าเลย
ตอนนี้ดีขึ้นนิดนึง มีเพื่อนแล้ว2-3คนแต่ไม่สนิทมาก คือไม่รู้จะคุยอะไรกับเขาดี
เพราะเป็นแบบนี้ล่ะมั้งถึงมีเพื่อนน้อย สมเพชตัวเองว่ะ เป็นเหี้ยไรไม่รู้
กูอยากคุยกับคนเก่งกว่านี้ อยากมีเพื่อน อยากเลิกกลัวคน กูควรทำยังไงดี ต้องทำยังไง...
>>46 จะไปเข้าค่าย,ไปเข้าชมรม,งานสัมมนาอะไรก็ว่ากันไป หรือไม่ก็ไปหางานพิเศษทำที่มันต้องเจอกับคนเยอะๆเช่น พนักงานเสิฟไรงี้ แต่อันนี้กูแนะนำวิธีของกูนะ ถ้ามึงอยู่ในกรุงเทพแล้วมีเวลาว่าง(ตังค์เยอะๆด้วย)มึงก็นั่งแท็กซี่ไปลงที่ไกลๆก็ได้ที่มีรถเมล์ผ่าน(ต้องไม่รู้ทางกลับ) ไม่ต้องพกโทรศัพท์ไปด้วยนะ
แล้วพอมึงจะนั่งรถเมล์กลับ มึงก็ต้องถามกระเป๋ารถเมล์ว่าไปลงไหนต่อสายไหน เป็นการฝึกแบบภาคบังคับไปในตัว
>>46 กูเคยเป็นคล้ายๆมึงแต่ตอนนี้้หายละ เดี๋ยวกูจะบอกวิธีที่กูเคยฝึกจนได้ผลให้เท่าที่นึกออก
ขั้นแรกคือส่วนวิธีคิด : ก่อนอื่นมึงต้องเข้าใจคอนเซ็ปท์ของความกล้าก่อน ความกล้าคือการที่จู่ๆมึงก็ลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่กลัวไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หรืออาจจะไม่ต้องสนเหตุผลเลยก็ได้ ดังนั้นสิ่งที่มึงต้องเข้าใจก็คือ ถ้ามึงอยากหายกลัวอะไร มึงก็ต้องทำสิ่งนั้นไปเรื่อยๆจนความกลัวมันจะหายไปเอง แรกๆมึงจะรู้สึกฝืนใจและทรมาณเหี้ยๆเพราะมึงกำลังหักดิบทำสิ่งที่ขัดกับตัวตนเดิมของมึง แต่ถ้ามึงสามารถอดทนจนผ่านช่วงนีี้ไปได้ ตัวตนเดิมของมึงจะค่อยๆเปลี่ยนไปกลายเป็นตัวมึงคนใหม่ที่มีความกลัวน้อยลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็หมดไป พูดสั้นๆก็คือ มึงทำติดต่อกันจนชิน ซึ่งระยะเวลาที่คนเราต้องใช้ในการเข้าสู่ความเคยชินอย่างเร็วที่สุดก็จะอยู่ที่ประมาณ 30 วัน และเป็น 30 วันที่มึงต้องทำทุกๆวันห้ามขาด ดังนั้น วิธีฝึกก็คือ มึงจะต้องเริ่มโดยการไปหาเรื่องชวนคุยกับใครก็ได้ที่ไม่ใช่คนในครอบครัวมึง จะเป็นเพื่อนหรือใครก็ได้ หรือถ้าจะเอาแบบง่ายๆก็พวกพ่อค้าแม่ค้าก็ได้ ปกติถ้ามึงไปซื้อของหรือกินข้าวที่ไหน ก็ลองหาเรื่องชวนเขาคุยดู อย่างเช่นถามรายละเอียดสินค้า ยังไงซะพวกคนค้าขายก็ย่อมยินดีคุยกะลูกค้าอยู่แล้ว แล้วก็ไม่จำเป็นต้องคุยมากก็ได้ เอาแค่ไม่กี่ประโยคก็โอเคแล้ว และถ้ากลัวจริงๆก็สามารถหาใครไปเป็นเพื่อนก็ได้ไม่ว่ากัน แต่เงื่อนไขสำคัญคือมึงต้องเป็นคนคุยเอง และต้องฝึกแบบนี้สม่ำเสมอจนครบ 30 วัน ขอย้ำอีกครั้งว่ามึงจะรู้สึกฝืนใจและทรมาณเหี้ยๆจากการที่จุู่ๆมึงลุกขึ้นมาหักดิบทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวมึง ซึ่งไอ้ความรู้สึกนี้นี่แหละที่มันมาจากความกลัว ความกลัวที่มึงไม่รู้ว่ากำลังจะเจอกับอะไร ความกลัวว่ามึงจะทำผิดพลาด เผลอพูดผิดพูดอะไรแปลกๆ หรือเผลอทำอะไรเปิ่นๆ ซึ่งกูบอกเลยว่ามึงจะได้ทำพลาดจุดใดจุดนึงแน่ แต่อย่าไปกลัว ใครๆก็พูดผิดทำพลาดกันทั้งนั้น อย่างกูนี่เมื่อวานก็เผลอพูดอะไรมึนๆในกลุ่มเพื่อนไปสองรอบ ก็สตั๊นกลางวงไปพักนึงก็แค่นั้น 555555
ต่อไปเป็นเรื่องวิธีการในการเข้าวงสนทนากับคนอื่น : คือปกติคนที่คุยไม่เก่ง ไม่รู้จะคุยอะไร ไม่กล้าคุย ก็มักจะมีสาเหตุหลักๆคือ การที่ไม่ได้เตรียมวัตถุดิบของบทสนทนาไว้ในหัวเลย ไอ้วัตถุดิบที่ว่านี้ก็คือ ข้อมูลข่าวสารหรือความรู้ทั่วไปในกระแสสังคมในปัจจุบัน พวกนี้แหละคือวัตถุดิบอย่างดีในการเปิดการสนทนาในแต่ละกลุ่มคน สิ่งที่มึงต้องทำก็คือติดตามข้อมูลข่าวสารหรือกระแสในสังคม เรื่องอะไรก็ได้หามาให้จำนวนหัวข้อมันเยอะๆ แล้วก็ไม่ต้องเจาะลึกมาก เอาแค่พอให้รู้คร่าวๆ รู้แบบกว้างๆแต่ไม่ต้องรู้ลึกเพราะเดี๋ยวคู่สนทนามึงจะเป็นคนพามึงเจาะลึกให้เอง ถ้ามึงตั้งใจจะเป็นคนที่จะชวนเขาคุยบทบาทของมึงส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนเปิดประเด็น เผลอๆถ้าเป็นเรื่องที่มึงชอบหรือสนใจเป็นการส่วนตัวแล้วบังเอิญว่าคู่สนทนาก็สนใจเรื่องเดียวกันพอดีก็จะยิ่งคุยกันมันส์แถมยังเป็นโอกาสในการกระชับความสนิทสนมเพิ่มขึ้น ส่วนตัวอย่างหัวข้อเรื่องเม้าท์ตามกระแสช่วงนี้ก็เช่น เด็กติดถ้ำ บอลโลก น้ำท่วมหนักที่ญี่ปุ่น ละครทีวี ดารา ไอดอล bnk หนังดังตามกระแสแต่ละช่วง ก็อะไรประมาณนี้ หรือถ้าเป็นเรื่องอื่นๆก็เอาง่ายๆเลยคือสิ่งที่อยู่รอบๆตัวมึงก็เอามาเปิดประเด็นคุยก็ได้นะ อย่างเช่นช่วงนี้มึงไปเจอเรื่องอะไรที่น่าสนใจมาก็สามารถเอามาเปิดประเด็นได้ สมมติมึงเผลอเดินเหยียบขี้มา งวดที่แล้วโดนหวยแดก หรือแม้แต่ปัญหาเรื่องที่มึงอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากเลิกกลัวคน เรื่องพวกนี้ก็สามารถใช้คุยได้หมด โดยเฉพาะเรื่องปัญหาของมึงเรื่องนี้ ถ้ามึงยังไม่เคยปรึกษาเพื่อนไม่สนิท 2-3 คนที่ว่านี่ ถ้ายังไงกูคิดว่ามึงน่าจะลองชวนคุยขอคำแนะนำเขาดูก็ได้นะ ถ้า 2-3 คนที่ว่านี่เขาก็เห็นมึงเป็นเพื่อนเหมือนกันกูว่าอย่างน้อยเขาก็น่าจะรับฟังปัญหาของมึง ช่วยได้รึเปล่าไม่สำคัญ สำคัญคือมึงได้หัดเป็นฝ่ายเริ่มคุย เริ่มเข้าหาคน
วิธีแบบ >>47 ก็ดีนะ กูเคยลองทำมาหมดแล้วได้ผลดีทีเดียว (แต่กูไม่นั่งแท็กนะแม่งเปลือง กูขึ้นรถเมล์นี่แหละ แต่เสือกงี่เง่าขึ้นผิดสายเลยได้หลงทางอยู่พักนึงเลยได้คุยกระเป๋ายาว 55555) งานสมนานี่ก็เป็นที่ฝึกที่ดี แต่ต้องหาที่มันไม่แพง ฟรีได้ยิ่งดี แล้วก็อาจจะต้องเลือกงานหน่อย ระวังเจอพวกสัมนาหลอกลวง
ส่วนเรื่องตัวสั่นใจสั่น หายใจไม่ทันอันนี้กูไม่รู้ว่ะ บางทีมึงอาจจะลองหาหมอดูก่อน กูกลัวๆอยู่ว่าถ้าเป็นโรคอะไรที่มันไม่ควรฝึกแบบหักดิบแบบที่กูแนะนำไปแล้วมึงเสือกเป็นอะไรไปนี่กูเหี้ยยาวๆเลย ก็เอาเป็นว่าก่อนจะทำอะไรไปปรึกษาหมอเช็คสุขภาพให้ชัวร์ว่าร่างกายมึงพร้อมไว้ก่อนจะดีกว่า ที่จริงก็ลองไปหาจิตแพทย์แล้วก็ปรึกษาเรื่องกลัวคนโดยตรงเลยก็ได้ หมอเขาน่าจะช่วยมึงได้ตรงจุดกว่ากูชัวร์แหละ
กูเหงาอะ กูมีเพื่อนนะแต่กูรู้สึกว่ากลุ่มเพื่อนก็ไม่ได้สนิทกันมากๆอะไรแบบคนอื่น ไม่ได้ไปไหนไปกัน หรือมีอะไรก็แชร์ให้กัน ถ้าเดือดร้อนก็คงไม่ได้ช่วยอะไรกันอาจจะยืนมองแบบเห็นใจเฉยๆ ไม่มีการช่วยบอกงานเวลาเพื่อนหยุด อ.ต้องบอกเองตลอด ทุกคนมีจุดของตัวเอง พอกูไปมองกลุ่มเพื่อนคนอื่นๆเขาพร้อมจะยืนข้างกัน เป็นห่วงกัน ช่วยเหลือกัน ละกูก็รู้สึกแบบอยากมีแบบนั้นบ้าง ทั้งๆที่กูก็มีเพื่อนกลุ่มกูอะ กูอาจจะรู้สึกไปคนเดียวรึเปล่า กูมีเพื่อนเยอะนะแต่ไม่มีใครสนิทมากๆแบบคนอื่นๆเลย กูคิดว่าถ้าจบม.6ไป กลุ่มกูอาจจะไม่คุยกันอีกเลยก็ได้มั้ง เพราะเรื่องที่คุยในแต่ละวันก็แค่เรื่องเรียน งานที่ทำร่วมกันเฉยๆ
กูควรทำไงดีวะ คือกูกับเพื่อนสนิทตอนเด็กอยู่กลุ่มด้วยกัน แล้วคือกูบอกให้แม่งไปทำงาน (ตอนแรกแม่งบอกทำงานส่วนนี้เอง) สักพักมันบอกไม่ทำแล้ว แล้วโยนให้กูทำละโทษคนอื่นในกลุ่มทุกคนยกเว้นตัวเอง
ไอสัส ถ้ากูรู้ว่ามันจะไม่ทำ ป่านนี้กูซิ่งอยู่คนละกลุ่มกับแม่งละ ไม่อยากใส่ชื่อแม่งแต่ก็ไม่อยากมีปัญหา ทำงานร่วมกันหลายอย่างบ่อย แต่ก็สุดจะทน แม่งโยนงานมาให้กูตอนวันสุดท้ายด้วย
แต่กูก็ผิดที่ไม่ได้เฉลียวใจอะไรเลย ไม่ได้ถามความคืบหน้ามันมาก (ตอนถามมันก็ตอบกำลังทำ)
คือเบื่อ แม่งเคยตัดกูออกจากกลุ่มด้วยครั้งนึงแล้วหัวเราะเยาะ กูอยากใจแข็งแบบแม่งบ้างอะ ทำไงดี
>>50 ตอนมัธยมกลุ่มเพื่อนกูค่อนข้างเกื้อกูลกัน แต่พอมามหาลัยแล้วก็อาการเดียวกะมึงอะ กูก็โอเคนะ เพราะไม่ได้อยากสนิทกับพวกมหาลัยมากเท่าไร ทุกคนนิสัยดี แต่กูมาเรียนไกลบ้าน มันไม่ค่อยผูกพันกับคนที่นี่ด้วยอะ ส่วนเพื่อนมัธยมแม่งไปเรียนที่เดียวกันเป็นก้อน ยังสนิทกันเหมือนเดิม ยกเว้นกูที่เด้งมาไกลชาวบ้าน ห่างเหินกันสุดๆ เศร้าสัสๆ
กุผมหยึกมาก ไปโรงเรียนเพื่อนก็ล้อกู ดึงผมกูแรงๆบ้าง กูท้อ บอกแม่แม่ก็บอกให้ทน แค่นี้ทำไมทนไม่ได้ บอกครูครูก็บอกว่าเะอนแค่เล่นก้วยทำไมต้องคิดมาก แต่เวลาเพื่อนล้อก็ล้อกูว่า หัวหมอยบ้าง หมอยขึ้นหัวบ้าง กระชากหัวกูแรงๆบ้าง กูเจ็บทั้งหัวเจ็บทั้งใจ กูเสียใจที่ครูไม่ห้ามเพื่อน แม่กูไม่ใส่ใจบอกให้กูทน กูไม่ไหวแล้ว กูไม่อยากอยู่โรงเรียนนี้ กูไม่อยากเจอใคร กูไม่ไหวแล้ว กูร้องไห้ทุกวันเลย แต่ไม่มีใครเห็นใจกู ตอนเพื่อนแกล้งจนกูร้องไห้ก็โดนด่าว่าสำออย มีแต่คนพูดว่าแค่นี้เองทำไมไม่ทน แต่กูโดนแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก จนทุกวันนี้ก็ยังโดน ทำไมไม่มีใครแคร์ว่ากูโดนมาจนรับไม่ไหวแล้วบ้าง ทำไมวะ ไม่มีใครเข้าใจกูเลย
มีใครหาเพื่อนทางโลกโซเชียลบ้างประมาณว่าพิมพ์แชท+นานๆทีนัดเจอกัน กูคนนึง ส่วนตัวกูว่าเพื่อนในโรงเรียนส่วนมากไม่เข้ากับกูซะเท่าไหร่ ประมาณว่ากูชอบอ่านการ์ตูนแต่มีแค่2-3คนในขั้นเท่านั้นที่อ่าน คือกูก็ไม่ได้ไรมากมาย ประเด็นคือคนอื่นมีคติว่าพวกอ่านการ์ตูนเป็นพวกโง่ไม่เอาการเอางานประมาณนี้ นิสัยก็ใช่ว่าจะดีด้วย กูเลยตัดสินใจหาเพื่อนในเฟสดีกว่า คุยแล้วสบายใจกว่าในรร.มาก เสียอยู่อย่างคือถ้าไม่ค่อยคุยแล้วจะโคตรเหงา แต่อยู่แบบนี้รู้สึกสบายใจกว่าจริงๆ
>>56 กูมีเพื่อนสนิทสองคนจากในเกมนี่แหละ แต่คนอื่นๆเลิกคบไปแล้ว คือโลกเสมมือนจริงอ่ะมึงเราจะสร้างตัวตน เปิดเผยตัวตนยังไงก็ได้ เพื่อนกูสองคนนี้คือมันเหมือนกับในเกมเลยอ่ะนะ ไม่ได้สร้าง แต่คนอื่นๆไม่โอเคว่ะ ถ้าพูดจริงๆตามความรู้สึกกู เพื่อนจริงๆแม่งดีกว่าคบกับเพื่อนในเฟสว่ะ แต่ถ้านานๆเจอทีก็เพื่อนในเฟสอยู่ด้วยกันแล้วสบายใจดี
>>50 กูนึกว่ามึงคือกูอะ55555 คือกูประสบปัญหาเดียวกันเป๊ะ ละคือพวกมันอยู่ห้องเดียวกันด้วย กูเสือกแยกมาอีกห้องปีนี้ ทำให้กูรู้สึกแบบคุยเหี้ยอะไรไม่ค่อยได้ แล้วก็มีช่องว่างระหว่างกูกับเพื่อนกูมากขึ้นอะ... กูปลงๆละเรื่องนี้ กูปีนี้ก็ม.6เซม มึงโฟกัสเรื่องสอบเข้ามหาลัยเหอะ ละรอหาเพื่อนใหม่ในนั้นเอา กูแบบเห็นกลุ่มอื่นไปเที่ยวกัน ละหันมาดูกลุ่มตัวเองแล้วท้อชิบหาย55555 ทำไมดูไม่สนิทกันจังเลยวะ
เริ่มเป็นเพื่อนกับผู้ชายนี่เริ่มยังไงดีอะ กูไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายมาก่อนเลย ตั้งแต่ประถมจนมัธยมคือกูเรียนสหนะ แต่กูแทบไม่คุยกับเพื่อนผู้ชายเลย แต่พอขึ้นมหาลัยแล้วในกลุ่มมีเพื่อนผู้ชาย ซึ่งกูก็ไม่ค่อยชินเท่าไหร่เลยไม่ค่อยได้คุย ไม่รู้จะคุยอะไรกันด้วย แล้วทางกลับบ้านกูกับเขามันทางเดียวกัน ระหว่างทางคือนั่งเงียบกันตลอด พอหาเรื่องคุยกันได้ซักพักก็กลับไปเงียบอีกอะ โคตรอึดอัดเลย แล้วกูก็ชวนคุยไม่เก่งด้วย ไม่อยากคุยแต่เรื่องเรียน(คือทอปิคที่คุยได้เยอะสุดคือเรื่องเรียน แต่มันดูจะเครียดไปอะ)
และเพื่อนกูในกลุ่มมันเพิ่งมาเล่าให้ฟังว่าเพื่อนผู้ชายคนนั้นเขาไม่โอเคกับกู เขาคิดว่ากูดูแปลกๆอะ ที่เหมือนจะคุยแต่ก็ไม่คุย ไม่อยู่ใกล้ไม่อะไร เหมือนพยายามเลี่ยงเขา ซึ่ง มันก็ไม่ใช่เว้ย แต่กูแค่ทำตัวไม่ถูกเฉยๆอะ...
สรุปคือ เป็นเพื่อนกับผู้ชายนี่ต้องทำยังไงวะ ต้องคุยอะไรยังไงอะ กูคิดหาเรื่องที่คุยกันเหมือนแบบที่คุยกับเพื่อนผู้หญิงไม่ออกเลย ไม่รู้เริ่มต้นคุยยังไงด้วย..
>>60 ก็ไม่รู้นะ ผู้ชายก็เหมือนผู้หญิงปะ อยากเป็นเพื่อนก็ทำดีด้วย แต่อย่าให้มากเกินงามเดี๋ยวแม่งเสือกมีคนเข้าใจผิดว่าแอบชอบเค้าหรอเธอว์
เรื่องชวนคุยก็ดูว่าเขาสนใจอะไร ของกินก็ได้ มนุษษย์คนไหนก็ชอบของกินปะ 555 เรื่องอะไรอีกอะ เรื่องหนัง เรื่องดนตรี เรื่องเกมมั้ง เจอหน้ากันก็แซวบ้าง หยอดมุกตลกขำๆบ้างไรงี้ พูดเหี้ยอะไรก็ได้ ทุกแป้กก็เล่นๆไป ดีกว่านั่งเงียบใส่กันปะ คนเราพอไม่รู้ว่าอีกฝั่งคิดอะไรก็ชอบคาดเดาไปในทางไม่ดีก่อนอยู่แล้ว
เอาจริงๆนะ มึงอยากเป็นเพื่อนกับเค้า แต่ถ้าเค้าไม่อยากเป็นเพื่อนกับมึง ก็ปล่อยๆไปดีกว่าปะ เพื่อนมันควรเป็นได้โดยธรรมชาติ ฝืนตัวเองเพื่อคนอื่นไปมากๆ คอยดูเหอะจะเครียดตายห่า ไม่มีใครมาชื่นชมหรอกนะ
บางคนมึงโดนแบนบ้างเพื่อนเมินบ้างเพราะมึงเบียว เลิกๆเบียวๆบ้าง โครตรำคาญ โตได้แล้วหี
แนะนําวิธีดูว่าเบียวปล่าว มึงลองเอาการกระทํามึงไปเปรียบเทียบคนปกติ มันจะมีความแตกต่างเยอะ แบบการกระทํามึงโครตเด็กเห่อหมอยอ่ะ
วันนี้เพื่อนกูแข่งบอลกับรร.อื่น มันจะมีเสื้อบอลประจำทีมช้ะ แล้วมีชื่อติดอยู่หลังเสื้อ ชื่อเพื่อนกูฮาสัส แม่งชื่อ Gaylord แล้วเสือกเป็นตัวเต็ง ยิงคนเดียว 3 ลูก ความฮาเริ่มตรงเพื่อนกูคนนึงเริ่มตะโกนชื่อมันซ้ำๆตอนที่มันยิงเข้า คนแม่งเริ่มเชียร์ตาม เกย์ลอร์ดๆๆๆ ตะโกนกันดังสัส แม่งโคตรจี้
เพื่อนกูมันรวยเพราะผัวมันมีเงิน แต่งได้ซักพักก็เปิดร้านค้าเป็นของตัวเองพร้อมแคปชั่นสวยๆ อยากมีเงินต้องพยายาม พยายามไร พยายามหาผัวรวยหรอ //มองบน
ครูที่เรียนพิเศษเค้าแนะนำมาว่าไปเจอเพื่อนใหม่มหาลัย อย่าพูดมาก อย่าบอกเรื่องของตัวเองให้ใครรู้เยอะ อย่าแสดงตัว ละแบบนิสัยกูนี่ตรงกันข้ามเลย แต่กูก็พยายามทำตามก็พอได้เพื่อนกันแต่ไม่ได้สนิทอ่ะ ในขณะที่เพื่อนอีกคนคือโชว์ความเป็นตัวเองสุดๆๆมาก กบายเป็นก็สนิทกับเพื่อนสองสามคนเลย กูควรทำไงดี อยากสนิทกับเพื่อนควรทำตามคำครูมั้ยเนี่ย
มาเล่าเรื่องเพื่อนให้ฟัง ถ้ากูเล่าว่ากูมีเพื่อนเป็นเจ้าชายคงไม่มีใครเชื่อสินะ แต่ก็อยากเล่าอยู่ดี 555
เรื่องก็คือ กูเจอเจ้าชายคนนี้ในเกมๆนึงชื่อ Dota 2 ตอนแรกกูก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นถึงเจ้าชาย แต่นานๆทีจะเจอคนเล่นซัพพอร์ท ซัพไม่พอแถมยังโดนด่าอีก กูนี่ออกตัวช่วยเลย มันเปนไรกัน เขาซัพให้ก็ดีแล้ว กูโน้มน้าวจนพวกแม่งร่วมมือกันได้ในที่สุด ไม่พอกูช่วยซัพออกหวาดด้วยแครี่ด้วยนะกู สุดท้ายจบเกมชนะได้เพราะพวกกู 2 คน เขาแอดกูมาเว้ย ตอนแรกก็อึ้งมาก สตรีมเลเวล 200 กว่า เวลคอมเพนเดี้ยมเป็นแสน ไอสัสตอนแรกกูนึกว่าบัคเลยไม่ได้สนใจ เขาก็ทักมาคุยว่าอยากเป็นเพื่อนกับกู กูดูเป็นคนดี ขนาดเจอเกรียนยังใจเย็น ใจดีกับพวกเกรียน กูรู้สึกได้ถึงความเหงาแปลกๆของเขาพอคุยๆไป แบบเขาเล่าให้ฟังว่าไม่เคยเจอใครจริงใจเลย มีน้อยมาก คนที่เจอ เจอไปก็จำหน้าไม่ได้ ต้องใส่หน้ากากอีก นานๆจะเจอคนแบบกูที่ไม่ได้สนใจเปลือกนอก กูรู้สึกสงสัยความรู้สึกแบบนี้มันจะเป็นในกลุ่มคนรวยเว้ย กูก็เข้าใจ เพราะกูก็รวยพอสมควรแต่ไม่ถึงกับมหาเศรษฐีนะ แต่กูเริ่มสงสัย เลยลองไปเสริ์ชชื่อเขาดู เชี่ย ปรากฏเป็นเจ้าชายอาหรับที่ผลักดันสิทธิของผู้หญิงให้ขับรถได้ ให้มีโอกาสทำงานได้มากขึ้น แบบใจโคตรงาม คุยกันเผินๆกูยังสัมผัสได้ ขนาดตอนไม่รู้ว่าเป็นเจ้าชาย จะว่าเก๊ก็ไม่น่าใช่ เพราะต้องเติมอย่างน้อยเกือบๆ 3 ล้านเวลแม่งถึงจะขึ้นขนาดนั้น ประวัติตัวจริงก็อายุแค่ 30 กว่า เป็นไปได้ว่าวัยนี้ยังเล่นเกมอยู่แบบพวกกู แต่เขาทำให้กูรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเลย เพราะอย่างน้อยขนาดเจ้าชายอายุ 30 ก็ยังดูเมะ 55555 กูนึกว่าตัวเองดูเมะตอนอายุ 28 ประหลาดมาตลอด แม่งรู้สึกเหมือนคุ แต่คงจะไม่ใช่สินะ แบบคนมีหน้าที่การงานดีกว่ากูเขาก็ยังดูยังติดเมะ
กูพูดเหี้ยไรไปคนก็ไม่เชื่อถือ คือกูเป็นคนที่พูดวนไปมาพูดไม่ค่อยรูเรื่องด้วยอ่ะ พูดแล้วคนก็จะชอบขัดขึ้นมาเลย บางทีก็จะถูกจับผิดตลอดเวลาเหมือนพูดเหี้ยไรไปแล้วกูก็ต้องเป็นงั้นให้ได้ตลอดพอไม่ได้เป็นตามนั้นก็จะถูกหาว่าย้อนแย้ง ทั้งๆที่บางทีสิ่งที่กูพูดกับสิ่งที่มันคิดเป็นคนละอย่างกัน แต่กูก็จะกายเป็นคนผิดตลอด เพราะอธิบายอะไรไปก็ไม่ฟัง พอให้เหตุผลมากๆก็จะโดนหาว่าแถ เวิ่นเว้อ
คือพอไปๆมาๆ กูก็ชักจะรำคาญคนที่ขัด แม่งเหมือนทำเหี้ยไร พุดเหี้ยไรแม่งก็จ้องจะจับผิดตลอด บางทีแค่เล่าเรื่องอะไรให้ฟังแม่งก้ต้องขัด รำคาญชิบหาย จนไปๆมาๆพอพูดไม่เข้าใจกันกูก็เริ่มคืดละว่า กูพูดไม่รู้เรื่องเองหรือแม่งอคติจับผิดกูทุกเม็ดจนตีความไปคนละทางเองกันแน่ รู้สึกประสาทแดกมาก รู้สึกว่าไม่อยากพูดเหี้ยไรละ ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่ เหมือนโดนด่าว่าโง่ตลอดเวลา
หรือเพราะกูไม่เคยขัดใครเลยวะ คนอื่นเลยไม่เคยคิดว่าตัวเองก็เข้าใจผิด แม่งก็เลยยิ่งเสริมความมั่นใจให้แม่งว่ากูพูดอะไรก็ผิดไปหมด จนกูโดนซ้ำๆๆอย่างงี้
แล้วเพื่อนโม่งอ่านดู มึงคิดว่ากูพูดจาไม่รู้เรื่องรึเปล่าวะ
ทำไมคน (กูไม่อยากใช้คำว่าเพื่อนอ่ะ แต่มันจะดูเป็นการตั้งแง่ไปป่ะวะ ช่างเหอะ) ในกรุ๊ปไลน์คณะกูนี่เขาดูเข้ากับคนอื่นได้ง่ายกันจังวะ
กูนี่แบบ เงียบ ๆ หงิม ๆ ไปเลยอ่ะ ทั้งที่ตอนอยู่โรงเรียน ถึงกูจะไม่ใช่คนที่ชอบไปคุยกับคนแปลกหน้าก่อน แต่พอมีนักเรียนใหม่เข้ามา
กูก็เป็นฝ่ายชวนเขาคุยก่อนแทบทุกคนอ่ะ ไม่รู้ทำไมกูถึงกลายเป็นคนแบบนี้ แล้วกูจะหาเพื่อนได้มั้ยวะเพื่อนโม่ง รู้สึกโดดเดี่ยวชิบหาย
เหงาว่ะไม่มีเพื่อนคุยเรื่องที่สนใจเลย มีแต่มาเม้าท์คนอื่นกับบ่นชีวิตหมูหมากาไก่ของตัวเอง
มีเพื่อนเป็นผู้ชายคนนึง ชอบมาปรึกษาเรื่องผู้หญิงที่มันคุยอยู่อะ แล้วชอบพิมพ์รัวๆ มาหาทั้งวัน ปรึกษาทุกประโยค ตอบยังไงต่อดี เครียด คิดมาก นู่นนี่ วอแวมาก นี่นานๆ ทีตอบแล้วเพราะรำคาญ ก็ยังทักมาเช้ากลางวันเย็นก่อนนอน กูควรทำไงกะมันดีวะเพื่อนโม่ง ตอนแรกก็พิมพ์ดีๆ เห็นเพื่อนเครียดอะไรแบบนี้ หลังๆ แม่งเริ่มไม่ใช่แล้วอะ ให้คำแนะนำไปก็เถียงอยู่นั่น แล้วก็พิมพ์มาเรื่อยๆ ทำไงดี เค้าจะเทกูมั้ย รำคาญมันสัสๆ จะไม่ตอบก็ไม่ได้เพราะเห็นโนติเด้งทั้งวันจนประสาทเสีย ช่วยแนะนำกูที ปรึกษาเพื่อนไม่ได้เลย เพราะเพื่อนคนนี้แม่งเป็นแฟนเก่ากูอะ ที่เลิกกันตั้งแต่สมัยมัธยม แต่กลับมาสนิทกันปีที่แล้ว ตอนนี้รำคาญมันจนทนไม่ไหว พอไปปรึกษาเพื่อนก็บอกว่ากูดราม่ารึเปล่า แบบไม่อยากเห็นมันไปคบคนอื่น -*-
>>79 ไหนข้างบนมึงบอกโนติเด้งทั้งวันจนประสาทเสีย? แก้ง่ายๆ 2 วิธี 1.เลิกตามใจมัน เปิดแชทมาอ่านตอนที่อยากตอบ 2.เลิกเกรงใจบอกแม่งตรงๆ
คือกูไม่เข้าใจว่ามึงมาปรึกษาทำไม กลัวมันงอล? ผู้ชายนะไอ้เหี้ย ถ้าแม่งจะงอนกับเรื่องแค่นี้ให้แม่งไปตัดหำเหอะ กลัวมันตัดเพื่อน? มันสำคัญกับชีวิตมึงมากขนาดที่มึงต้องเก็บมาหงุดหงิดคนเดียว? คือกูไม่เคยเห็นคนอื่นมาปรึกษาเรื่องง้องแง้งกับเพื่อนผชแบบมึงเลย ผชไม่ใช่เพศที่ต้องมาคอยเกรงใจรักษาน้ำใจแบบผญ ผชที่ด่าไม่ได้ไม่ใช่เพื่อนว่ะ
อยากเลิกคบเพื่อนคนนึง คือเมื่อ2ปีก่อนจารฝากให้กูดูแลนางที เพราะนางเป็นโรคเกี่ยวกับสารในสมองไรงี้(ประมาณโรคซึมเศร้า เท่าที่จารบอกนะ) กุก็เลยยอม คุยกับมันจนสนิท ประเด็นคือกุอยากเลิกคบกับมันมาก มันจะมีบางช่วงที่อารมณ์นางเปลี่ยนไป ตรรกะนางก็จะเปลี่ยน ทำให้กูรำคาญมากๆ แต่ถ้ากูเลิกคบนาง นางก็จะโดดเดี่ยวทันที แถมจารแม่งก็จะจับกูอยู่กับนางทุกปี อีกปีเดียวกุก็จะจบแล้ว ขอให้กูอยู่แบบไม่มีนางเหอะะะ
เพื่อนกูไปติดเพื่อนใหม่ที่เจอในเนต กูก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก เพราะไปไหนก็ไป2คนไม่ชวนกู แต่พอมันอยากไปเที่ยวที่แพงๆแบบเพื่อนในเนตคนนั้นไม่มีเงินจ่าย มันกลับมาชวนกูไปแทน เพื่อนงี้เลิกคุยด้วยดีมั้ยวะ
ชวนเพื่อนคุยในแชทแล้วโดนเมินบ่อยมาก พยายามคิดว่าเขาอาจจะไม่ว่างตอบ แต่เรารู้สึกไม่ค่อยโอเค T T)
ถามหน่อยมึง คือเมื่อก่อนกูก็ติดการ์ตูนละมีความบ้าๆบอๆอ่ะ คนที่เป็นคนปกติไม่ค่อยคบกู จนตอนนี้ขึ้นมหาลัย คือกูเลิกบ้าๆบอๆละไง แต่เหมือนพวกที่บ้าการ์ตูนคือเพื่อนในคอมฟอร์ทโซนกูเพราะแม่งคุยง่าย เป็นพวกไม่ทำอันตรายคนไรงี้ แต่พอกูคบกับพวกนี้คนปกติจะไม่ค่อยมาคบด้วยเพราะเพื่อนชอบพูดจาแปลกๆไง กูอยากคบกับเพื่อนคนปกติอ่ะ กูก็หันมาบ้าเกาหลี แต่งหน้าได้ หัดเล่นกีตาร์ ออกกำลังกายงี้ แต่ก็เหมือนคุยกับคนปกติไม่ค่อยสนิทกันซักที แล้วอยู่ด้วยไม่สบายใจเท่ากับพวกบ้าการ์ตูนอ่ะ แต่แบบกูไม่อยากคบกับเพื่อนสายการ์ตูนแล้วเข้าใจกูป่ะ กูอยากคบกับคนธรรมดาอ่ะ กูไม่อยากใข้ชีวิตกับคนเบียวๆ พูดจาแปลกๆ ทำตัวแปลกแยกจากสังคมอ่ะ กูอยากมีเพื่อนเยอะๆ คุยเก่งๆ มีแต่คนเข้าหาอ่ะ ไม่อยากปลีกวิเวกมากับพวกโอตาคุแล้วง่ะ แงๆๆๆๆ ช่วยด้วย กูแใงมีปัญหารุนแรงจัง
>>90 มึงทำให้กูรู้สาเหตุว่าทำไมเพื่อนไม่ค่อยไปเที่ยวกะกูเหมือนตอนเด็กๆละ เพื่อนกลุ่มกูก็เบียวแต่โตมาเป็นคนธรรมดากันหมด เที่ยวกลางคืน แดกเหล้า ติดผัว กูก็เข้าใจนะว่ามันต้องเข้าสังคม แต่บางทีก็อยากให้มันไปกะกูบ้าง มันคงรู้สึกว่ากูเบียวจนไม่อยากคบกะกูแบบมึงก็ได้มั้ง
ความจริงทุกวันนี้ไปเรียนกูก็แอ๊บเป็นคนธรรมดานะ แต่กูอยู่กะพวกมันกูก็สบายใจที่จะทำตัวเบียวๆเฮฮาบ้าบอไปตามประสา อยู่กับเพื่อนที่มหาลัยเป็นแบบนึง อยู่กะเพื่อนติดการ์ตูนกูก็เป็นอีกแบบนึง ถ้าอยู่กับพวกมันแล้วกูเป็นตัวของตัวเองไม่ได้อีกแล้ว กูก็ไม่มีเพื่อนที่ไหนที่จะแสดงออกด้านนี้ได้แล้วว่ะ มึงจำไว้นะว่ายิ่งโตคนที่นับเป็นเพื่อนได้จริงๆยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ กูเองยังรู้สึกว่าโตมาโดยที่โดนพวกมันทิ้งให้กูอยู่กับความสนุกในวัยเด็กคนเดียวเลย ทั้งที่เมื่อก่อนเคยสนุกด้วยกันขนาดนั้นแท้ๆ สุดท้ายก็เหลือกูที่ยังติดการ์ตูนอยู่คนเดียว กูน่ะเหงาชิบหายเลย เหมือนทำเพื่อนสนิทในตอนเด็กหายไปตอนไหนก็ไม่รู้
ยังไงสำหรับกูพวกมันก็ยังเป็นไม่กี่คนที่เรียกว่าเพื่อนได้อยู่ ต่อให้ทุกวันนี้กูจะต้องทนไปเที่ยวกับพวกมันแบบคนธรรมดา เล่นมุกไรเบียวๆกันไม่ได้แล้ว แต่กูก็ยอมไปกับมันเพราะเป็นเพื่อนกันอยู่ดี เพื่อนมันวัดที่คุณภาพไม่ใช่จำนวนเว้ย ถ้าเป็นเพื่อนดีๆมึงก็รักษาไว้เหอะ
สำหรับเรื่องที่มึงถามว่าทำไงดี มึงคุยกะเพื่อนมึงได้ป่ะล่ะ ว่ามึงอยากเป็นคนธรรมดา ดูจากนิสัยมันแล้วมันจะโกรธมึงไหม สำหรับตัวกูตอนพวกเพื่อนกูบอกแบบนี้กูไม่โกรธนะ กูแค่เสียดายหน่อยๆ แล้วก็แซวมันไปว่า เดี๋ยวนี้มึงแม่งเป็นคนธรรมดาแล้วว่ะ5555
>>90 _กูก็โอตะแต่แอ๊บคนปกติตอนมหาลัยและตอนนี้ประสบความสำเร็จสัสๆ อาจจะแนะนําอะไรได้?
_ที่กูอยากเปลี่ยนคือที่ผ่านมากูอยู่กลุ่มคุตลอดแล้วโดนบุลลี่หลายๆครั้ง แบบไม่ได้แรงแต่กูก็รำคาญ
และกูก็รําคานพวกเบียวๆด้วย แม่งเด็กเกินแล้วไม่เข้าสังคม ตามที่มึงว่าๆกัน
แต่ความเป็นคุมันก็เอาออกไปไม่ได้หรอก แม่งอนิเมะคือความผิดพลาดสัสๆ
_ขึ้นมหาลัยมากูเลยเปลี่ยน
โดยกูเป็นพวกเวียนหลายๆกลุ่ม มีทั้งกลุ่มปกติกลุ่มคุ แต่ที่แฮงค์เอาท์หลักๆเลยไปเรียนไปแดกคือกลุ่มปกติ แล้วกลุ่มปกติกูจะไม่บอกว่าเป็นคุ ไม่แสดงตัวคุๆ เวลาคุยกับกลุ่มคุมันก็จะไม่เห็นกูเลยด้วย55555
_สําหรับวิธีเข้าหาคนปกติ
การแต่งตัว ก็แต่งตัวให้ชิคๆ คิดไม่ออกก็เอาแนวๆที่เด็กสยามใส่ๆกัน ส่วนกูก็มีสไตล์แฟชั่นกูเองแต่ไม่บอกหรอกเดี๋ยวโม่งแตก
_เรื่องที่พวกมันคุยก็ไม่ได้ยากนะ คุยเรื่องส่วนตัวกันส่วนใหญ่ เช่นเครื่องสำอาง ผู้ชาย กิจวัตรประจำวัน ก็เอ่อๆอ่อๆไป แซวๆไป แต่คําพูดพวกคุเราๆจะไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรแปลกๆไป มันจะมีสํานวนการพูดเบียวๆแฝง ของกูใช้วิธีก๊อปปี้คําเอาจากพวกปกติ เอาตรงๆบางครั้งกูก็พลาดพูดอะไรเอ๋อๆ แต่ก็แก้เกมโดยพูดอะไรปกติๆมาทดแทนเย๊อะๆ อ่อเสียงบางครั้งต้องดัดเสียงสองเสียงสาม ก็ดูว่าไอเพื่อนมึงทําไงก็ทําให้คล้ายๆ เพราะถ้ามากไปก็โดนรำคาญ
_เรื่องโซเชียลนี่ก็ต้องแคร์สัสๆ อัพไอจีสตอรี่อะไรบลาๆ
_ถามว่าสนิทมั้ย?
ก็คบมาไม่ได้สนิทขนาดนั้น แล้วก็คบหลายๆกลุ่ม
แล้วในรั้วมหาลัยก็มีกิจกรรม ก็เข้าไปทําเลยถ้าแย่กได้เพื่อนเยอะ แบบไปไหนไปกับใครได้หมด แต่ถ้าอยากมีคนไว้ใจก็หากลุ่มหลักซัก1-2กลุ่ม ซึ่งกูก็มีกลุ่มหลักเป็นเพื่อนเก่าที่เป็นคุ และก็เพื่อนเรียนอีกลุ่มไรงี้ แค่นี้ก็สบายใจละ
_กูอยากเสริมเรื่องนี้ คือเพื่อนคนรู้จักที่เป็นโอตะแล้วพยายามเปลี่ยนตัวเองแต่ยังโดนเมินมีเยอะ ซึ่งแสดงว่ามึงยังแสดงออกความเบียว คนปกติก็ยี้กันอ่ะมึง อ่อและถ้ามึงเป็นคนที่แบบอยากมีจุดยืน กูจะเป็นโอตะแล้วไปมีเพื่อนปกติ กูเห็นไปไม่รอดหลายรายละ ก็นะสังคมตอนนี้ก็ยี้ๆพวกWeaboosเยอะ
_ถามว่าชีวิตโอเครมั้ย?
การที่มาคบคนปกติมีเพื่อนเยอะๆมันดีนะตรงที่เราได้ขึ้นมาเป็นผู้นํากิจกรรมได้ มีเพื่อนเยอะ มีคนนับถือ มีความเป้นผู้เป็นคนมีตัวตน
แต่โมเม้นน่าเบื่อก็มีแบบพวกนี้มันทําอะไรซํ้าๆเป็นกิจวัตรเยอะเกิน ไอช่วงน่าเบื่อกูก็ไปกลุ่มอื่น ไปหาพวกคุบ้างก็มี
แต่โดยรวมดีกว่าตอนเป็นคุเต็มตัวหลังตีนเป็นหน้ามือเลยสัส
>>90 กูไม่ค่อยเข้าใจคำว่าคนธรรมดาของมึงว่ะ คือเพื่อนสายการ์ตูนมึงนี่เบียวระดับไหนว่ะ ถึงว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้ คือถ้ามึงจะนิยามคนปกติต้องมีสังคมแบบเที่ยวกลางคืน แดรกเหล้า ติดผัว ติดเมีย มึงต้องเปลี่ยนความคิดอย่างแรง เพราะไอ้พวกนี้แหละแม่งคือปลายทางแห่งความเสื่อมของแท้ ยิ่งมึงไปให้น้ำหนักมันมากชีวิตมึงจะเลวร้ายยิ่งกว่ามึงคบกับพวกเบียวอีก ถ้าเป็นชายมึงก็อาจโดนยัดเยียดความเป็นผัว โดนเจ้าที่เล่นงาน มึงอาจจะตายทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ฟันหญิง ถ้าเป็นหญิงก็อาจได้ประสบการณ์ gangbang อะไรแบบนี้
ถ้าตราบใดที่ไอ้พวกนั่นมันยังมีการมีงานทำ ไม่ก่อความเดือดร้อนให้มึง ส่วนตัวกูก็ไม่เห็นว่ามันจะน่ารังเกียจอะไรนะ แต่ถ้าแบบคุสัด ๆ คุแบบที่พวกเมะยุ่นมันชอบนำเสนออันนี้กูเข้าใจว่ามันก็เกินไป คือกูอยากให้มึงมองว่ามันก็เป็นสังคมแบบนึงเหมือนกัน คน ๆ นึงมึงจะอยู่กี่สังคมก็ได้ตราบใดที่มึงคุยกับเค้ารู้เรื่องและโอเคในสิ่งสังคมนั่น ๆ มันเป็น คนเรามันไม่จำเป็นเบียวจนพูดไม่รู้เรื่องอย่างเดียว มันต้องเป็นไปตามกาลเทศะ
ส่วนตัวกูโม่งชาย ยังไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ลงอ่างเลย แต่กูก็คบกับคนแบบนี้ได้เพราะกูมองว่าพวกมันก็คนเหมือนกัน นอกจากเรื่องนั่นมันก็ต้องคุยเรื่องงาน บ้านเมือง สารพัดเรื่องได้ตามปกติแหละ คิดซะว่าตราบใดที่มันไม่ทำตัวหนักหัวเรามันก็โอเค อย่าไปคิดมากเกิน
>>94 ก็พวกเบียวๆมันแปลกแยกกว่าสังคมทั่วไป มันก็โดนคนมองแปลกๆอยู่แล้วป่ะ 90 มันไม่อยากโดนสังคมมองแปลกๆแค่นั้น มันมีผลกับสถานะทางสังคม มึงจะมาเพ้อคนธรรมดาคือปลายทางแห่งความเสื่อมเห้ยอะไรของมึงโคตรเบียวเลย
อ่ะเอาเรื่องสังคมการ์ดเกมก็ได้สังคมเล็กๆ มึงเคยเจอไม้พวกเบียวๆที่จั่วการ์ดด้วยท่า destiny draw ตลอด พอได้การ์ดที่ต้องการจะเปิดลำโพงโทรศัพท์ ธีมการ์ดใบนั้นมาเลย ตามด้วยการวาดมือแปลกๆเหมือนฝึกหน้ากระจกหลายร้อยรอบ ลงการ์ดด้วยท่าแปลกๆตามด้วยคำพูดที่ซ้อมในห้องน้ำ
กูเห็นฝั่งตรงข้ามที่เล่นด้วย กับโต๊ะข้างๆยังแสดงท่าทีรังเกียจเลย นี่ขนาดสังคมเดียวกัน
คนมันเบียวไปอยู่สังคมไหนมันก็เบียวหมดแหละ
>>94 กู >>90 เองนะ คือกูเป็นคนนึงที่อยากเป็นคนสำคัญ มีคนนับถือ มีเพื่อนเยอะๆ เป็นแกนนำอะไรแบบนี้ แต่ด้วยนิสัยคุที่ส่วนใหญ่ จะไม่กล้าออกมาแสดงตัว พูดจาแปลกๆ ทำตัวแปลกแยก ถ้ากูต้องคบด้วยก็ต้องทำตามเค้าด้วยไง แต่กูไม่อยากทำ แต่พอมาทำตัวกับคนธรรมดาๆกูก็รู้สึกเข้ากับเค้าไม่ได้เพราะกูก็เคยเบียวมาตั้งสามสี่ปีจนทำให้มีปัญหาเรื่องโดนเพื่อนแบนไปปีนึงอ่ะเป็นปัญหาฝังใจกูเลย กูเลยไม่อยากอยู่ในโลกคุๆแบบนี้แล้วโว้ย ละม.กูก็เด็กค่อนข้างมีคุณภาพอ่ะ กูเลยไม่ห่วงเท่าไหร่ จริงๆกูยอมไปกินเหล้าเข้าผับก็ได้นะถ้ามันทำให้กู fit in อ่ะ กูโอเค
>>94 จาก ปสกกุ กลุ่มคนธรรมดามันค่อนข้างแคร์กิจกรรมแนวสังสรรค์เชื่อมสัมพันธ์พวกนี้มาก
เช่นไปกินข้าวด้วยกัน ตีแบด อะไรเทือกนี้ต่อให้กิจกรรมนั้นเมิงไม่สนใจเช่าไปร้านข้าวที่ไม่ชอบ พวกคนธรรมดาก็ยังไปอยู่ดีเพราะถือเป็นการเข้าสังคม
ส่วนพวกคุถ้าร้านไม่โดนก็บอกว่าไม่ไปแล้ว ทีนี้พวกคนธรรมดามันมักจะมองพวกคุว่าเป็นไรมากปะทำไมไม่ไปด้วยกันเมิงมีประเด็นเหรอ
จุดนี่แหละทำคุคบกับคนธรรมดาไม่ค่อยติดด้วยแรกๆตอนที่กุคบกลุ่มธรรมดาก็รู้สึกว่าไม่ค่อยมีคนชวนไปไหนซึ่งตอนนั้นกุก็ไม่โชว์ความคุอะไรนะเก็บเงียบ พอเปลี่ยนกลุ่มแล้วทีนี้กุลองแบบไปไหนไปกันกิจกรรมกากสถุลแค่ไหนถ้าคนไปกันกุก็ไป ก็รู้สึกว่าสังคมดีขึ้นนะมีคนทักคนชวนไปไหนมาไหนแบบเราไม่ต้องเริ่มเข้าหาเอง
เรื่องพวกแก้งกินเหล้าอะไรนี่เราก็ยังสามารถไปได้โดนไม่กินนะไปนั่งเฉยๆคุยเล่นเก็บศพกลับบ้านไม่ถึงกลับต้องไปทุกครั้งแต่มีเสนอหน้าไปบ้างก็ดี
>>97 นี่แหละอีกปัญหาหลักกูเลย คือกูโคตรเบื่อเต้นไก่ย่าง โอ้ทะเลแสนงาม แต่เพื่อนที่ป๊อบๆกูนี่บอกว่าสนุกมากกก กูก็ทำท่าสนุกไปกับพวกนางแต่อารมณ์เบื่อมันล้นมากๆ ส่วนพวกไปนู่นมานี่กูพยายามไปทุกครั้งแต่แบบเหมือนเป็นคนชวนคุยไม่เก่งอ่ะ ไปทีไรก็จะเป็นฝ่ายเงียบๆ ทำหน้าอึนๆ(พยายามปั้นหน้ายิ้มแล้ว แต่อารมณ์คือมันเบื่อสุดๆจนปิดไม่มิด) มันอึดอัดอ่ะ อยากพูดมากแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร พอเงียบเยอะก็กลายเป็นโดน left out เค้าเฮฮากันเองไม่ต้องมีกูก็ได้ มันเลยไม่อยากไป
กุล่ะเบื่อขอพูดหน่อยแล้วกันคนที่ชอบไปสังสรรค์ไปผับหรือไปเยก็มีหลายระดับ ไม่ใช่มีแต่พวกตลาดล่างเยแล้วท้องหรือไปขมขืนก่อcrimeอย่างเดียวนะสัส
>>100 มันก็ถูก แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ถูกป่ะ ว่าถึงมึงจะไปแบบมีระดับมันก็ต้องมีความเสี่ยงที่เจอไอ้พวกระดับล่าง ๆ อยู่ดีป่ะ บางทีไอ้เขม่นกันก็เป็นไอ้พวกเจ้าถิ่นนี่แหละ
แต่ก็นะ บางทีในแถว ๆ ที่กูอยู่มันอาจจะมีแต่ไอ้พวกระดับล่าง ๆ ก็ได้ กูเลยมองแบบนั่นเพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ถ้าเอาประสบการณ์ถิ่นกูนี่แบบกล้าคอนเฟิร์มเลย 80% Crime เลยมึง
>>96 กู 94 นะ คือกูว่าถ้าอยากเป็นผู้นำกลุ่ม ก่อนอื่นมึงต้องเป็นตัวของตัวเองก่อนว่ะ ส่วนตัวกูคิดว่ามึงไม่จำเป็นต้องไปตามน้ำมึงก็สามารถเป็นผู้นำเป็นจุดสนใจของเพื่อน ๆ ได้นะ ส่วนใหญ่คนที่มันป็อปจุดร่วมที่สังเกตคือมันต้องเข้าแล้วรู้สึกคุยง่ายอะไร ไม่ทำตัวน่ารำคาญ
อย่างถ้ามึงอยู่กับเพื่อนคุ ๆ ก็คุยบ้างอะไรบ้างแต่อยู่ในจุดที่มึงไม่ไหวจะเคลียร์กับพวกมันมันแล้วนี่ ต้องหาจุดที่สามารถแฟดตัวเองออกมาโดยที่พวกมันไม่เคืองได้นี่ ส่วนตัวกูนับว่ามึงเป็นที่สนใจแล้วนะ
คนเราจะสนใจหลาย ๆ อย่างมันก็เป็นเรื่องที่ดี คนเรามีคอนเนคชั่นเยอะดีกว่าไม่มีเลยไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งแหละ แต่กูคิดว่ามันไม่จำเป็นที่ต้องไปพยายามทำให้ Fit in 100% อยู่ดี
คิดว่าตัวเองจะมีกลุ่มที่อยู่กันไปยันจบ พอขึ้นปีสองแล้วดันมีเรื่องกัน กุกลายเป็นหมาหัวเน่า
เข้าคณะเกี่ยวกับภาษา ละมีเพื่อนใหม่แนะนำตัวแบบ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ พร้อมติ้กเก้อสองนิ้วแตะหางคิ้วขยิบตา บอกช่องทางติดต่อก็พิมพ์มาเป็นญี่ปุ่น อยากสะกิดเตือนว่ามึงเพลาๆความเบียวหน่อย
เบื่อพวกอยากเป็นหัวหน้า เพื่อให้เป็นที่โดดเด่น แต่ไม่มีความเป็นหัวหน้าแม้แต่นิดเดียว งานก็ไม่ส่ง อาจารย์รับผิดชอบอะไรก็มาโยนให้คนข้างๆ เคยเป็นเพื่อนกับนาง ตอนแรกก็ดีนะ ผ่านไปปีนึงนางเปลี่ยนไปเยอะเลย ถือว่านั่นคือธาตุแท้ของนางละกัน
กูเพิ่งรู้ว่าใกล้ถึงวันเกิดเพื่อนละ แล้วทีนี้เพิ่งไปซื้อครีมมาตัวนึงเป็นแบบซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง กูจะเอาที่แถมไปให้เป็นของขวัญ มันจะน่าเกลียดมั้ย
มึง กุเศร้า ตอนม.ปลายกุเปนชนกลุ่มน้อย พอเข้ามอเลยพยายามเปลี่ยนตัวเอง พยายามชวนเพื่อนไปนู่นนี่นั่น แต่เขาไม่เคยึิดจะชวนกุกลับเลยอิเหิ้ย กุเสียเจย ปล.ม.กุเพิ่งเปิดได้สองทิต กุรีบคาดหวังเกินไปป่ะวะ?
กูมีเพื่อนชอบเล่นมุกเสี่ยงคุกบ่อยๆ กูรู้สึกรำคาญมุกที่แม่งเล่นมากๆไม่เสี่ยงคุกก็มักจะเป็นมุกฝืด แล้วกูไม่รู้จะตอบยังไงได้แต่หัวเราะแห้งๆไปไม่ก็เมินๆทำเป็นไม่ได้ยิน มีใครพอจะให้คำแนะนำกับกูบ้างว่าควรทำไงเวลาเพื่อนเล่นดี
ป.ล. จริงๆกูก็ว่ามันเล่นบ่อยอยู่วันนึงแม่งเล่นครั้งสองครั้ง………
เพื่อนโม่งคิดว่า คนที่มองโลกในแง่ดี(ไม่ใช่ทุ่งลาเวนเดอร์ ไม่ยอมรับว่าเรื่องแย่ๆมีจริงนะ แต่เป็นมองแบบหาข้อดีในเรื่องแย่ๆได้ มองโลกแบบปลงๆ) พูดแบบตรงไปตรงมา(ไม่หยาบคาย แต่พูดแบบอาจฟังดูเย็นชาหน่อยๆ) แล้วก็ไม่ขัดคนอื่น ใครพูดไรก็เออออห่อหมกตามเค้าหมด ไม่ก็รับคำเฉยๆแล้วก้ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลาเนี่ย มึงว่าน่าคบมั้ย ดูเป็นคนโง่ไม่มีความเป็นตัวของตัวเองป่าววะ
>>116 มีแบบหลังอยู่คน ไม่ได้ดูโง่ ฉลาดด้วยซ้ำ แต่บางอารมณ์รู้สึกเหมือนไม่จริงใจกะกูอะ แบบกูอะไรก็ผสมโรงเออออห่อหมกไปทุกอย่าง บางทีกูก็อยากได้ความเห็นบ้าง อยากได้เพื่อนไม่ใช่ลูกไล่ในละคร พูดกะมัรไปหน สักพักก็เป็นเหมือนเก่า พื้นฐานครอบครัวมันไม่ค่อยดี กลัวถูกเท เลยตามใจชาวบ้านไปทั่ว
ถามว่าฉลาดยังไง คือบุคคลอกมันเหมือนเป็นลูกไล่แบบนี้แหล่ะ เพื่อนแม่งเยอะ งอกที่โน่นที่นี่ไปหมด ตอนคุยกับกูเหมือนเป็นคนไม่มีเพื่อน มันย้ำแกต่างหากอย่าทิ้งกูนะๆ ปรากฏพูดงี้กับทุกคนจ้า ตอนไปงานคอมิคด้วยกันมันไปทักคนนั้นคนนี้กูนี่แบบขนลุก เหมือนไม่ใช่เพื่อนที่กูรู้จัก ไปๆใาๆแม่วสร้าวคอนเนคชัานไว้เยอะกว่ากูอีก ทุกวันนี้กูก็คุนนะ แต่กูคุยน้อยลง รู้สึกว่าแม่งน่ากลัวสัดๆ
*คำผิดเยอะนะกูรีบพิม รถเมมาพอดัเดวขึ้นรถไม่ทัน 555
ไม่มีอะไรแค่อยากระบาย มีใครรู้สึกบ้างว่าเวลาเจอตัวจริงต่อหน้าแล้วไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่พอเห็นความคิดบางอย่างในเฟซหรือทวีตแล้วโคตรรำคาญมั้ยมึง... ทำยังไงให้ทำใจกับความเบียวของคนอื่นบ้างวะ เห็นทีไรแล้วอยากแย้งขึ้นมาทุกที กุไม่อยากเป็นคนใจแคบเลย
กุไปมหาลัยแล้วแทบไม่มีเพื่อนเลยว่ะ กิจกรรมคณะก่อนเปิดเทอมก็มีเยอะอยู่นะ แต่กุก็แทบไม่ได้รู้จักใครเท่าไหร่ ตอนนี้เปิดเทอมมาวันที่ 3 แล้ว กุอยากรู้ว่าใช้เวลาเท่าไหร่กันวะถึงเจอกลุ่มเพื่อนที่คลิกกับเราจริงๆ อย่างกุอยู่วิดวะแต่ไม่ได้เป็นคนแบบ เล่นกีฬา แดกเหล้า เล่นเกม อะไรงั้นอะ ซึ่งคนส่วนใหญ่ในคณะกุเป็นแนวนั้น กุชอบอ่านนิยาย ดูหนัง เล่นบอร์ดเกม ทำอะไรแนวๆนั้นมากกว่า แล้วกุก็ค่อนข้างเงียบมากๆถ้ายังไม่สนิทกันจริงๆ แต่เห็นคนส่วนใหญ่เค้าก็มีเพื่อนกันแล้ว ชีวิตมหาลัยดูสนุกสนาน ซึ่งต่างจากกุโดยสิ้นเชิง เวลาไปกินข้าวโรงอาหารไรงี้ก็อึดอัดที่มีคนเยอะๆ คือกุก็ไม่ได้เหงานะ แต่รู้สึกแบบ I don’t belong here อะ ทำไงดีวะ
ขอระบายหน่อย กูเบื่อเพื่อนในห้องมาก คือเฟสจะเป็นเฟรนด์ทุกคนในห้อง แล้วเพื่อนคนนึงชอบแซะคนอื่น เอาไอนั่นไอนี่มาแซะ บางทีก็ไปเม้นสอน เม้นวุ่นวายคนอื่น หัวร้อนง่าย วีนเก่ง คำเรียกนั่นนี่นู่นค่อนข้างเป็นคำไม่ให้เกียรติคนอื่น รวมๆก็คือเป็นคนไม่มีมารยาท
ทีนี้มันไปนินทาอะไรก็ไม่รู้กับเพื่อนกู แล้วเพื่อนต่างห้องเขามาเห็น เพื่อนต่างห้องคนนี้เคยมีประเด็นกับมันเรื่องที่มันเอารูปถ่ายเขาไปไม่ขอ แล้วพอเขาโพสต์ลอยๆว่าอย่าเอารูปคนอื่นไปใช้ไม่ขอเพราะไม่อยากชี้ตัวก็ลบหนี ไม่ไปขอโทษเขาด้วย ละเขามาเจอมันเม้นคุยกับเพื่อนกูว่าไม่ชอบมัฟฟินที่แจกเลย เป็นขนมที่ทำคาบคหกรรมของต่าวห้อง เพื่อนคนนั้นทำแต่คือมันไปแดกของเขามาเยอะ เขาก็ไม่ชอบ เขาก็แซะมันว่าเออเนอะ ไม่ชอบมัฟฟิน แต่กินมัฟฟินเขาสี่ห้าชิ้น
ทีนี้แม่งมาโวยวายกับเพื่อนกู ว่าเพื่อนกูคาบข่าวไปบอกเขา (เพื่อนกูกับคนต่างห้องรู้จักกัน นั่งรถรร.กลับด้วยกัน) ตอนแรกก็พูดว่าไม่รู้จักนางมาแขวะกันทำไม ไปๆมาๆก็บอกมึง(เพื่อนกู)ไม่รู้เหรอว่ามันกับเขาไม่ถูกกัน บลาๆ กลายเป็นว่าเพื่อนกูเป็นที่รองรับอารมณฺ ทั้งที่โพสต์นั้นมันสาธารณะ ใครจะเห็นก็ได้
สุดท้ายแล้วแม่งก็พ่นดราม่าลงเฟสยาวเหยียดไปหมด มีแต่คนรำคาญ แต่ก็ไม่มีใครอยากไปยุ่ง ตอนนี้กูกดเลิกติดตามแม่งละ
กูเป็นโม่งหญิงนะ พูดไม่ค่อยเก่งอ่ะ หาหัวข้อมาพูดไม่ค่อยได้ แล้วกูเจอเพื่อนผช.ในคณะแต่ละคนคือตลกมาก พูดน้ำไหลไฟดับ เลขมุขเก่ง กูอยากทำให้ได้อย่างเค้าอ่ะ มันดูถึงหน้าตาไม่่ดี แค่ดูมีเสน่ห์ว่ะ ดูน่าเข้าหา อยากมีเพื่อนเยอะๆแบบเค้า แนะนำหน่อย
>>128 กูชอบอ่านมุกตลกนะ อ่านแบบตั้งใจจะจำไปเล่นกับเพื่อน ตั้งแต่เด็กๆแล้ว แรกๆมึงจะมีมุกก๊อบทื่อๆ ไม่มีการประยุกต์อยู่ในหัวเยอะมาก แล้วก็อาจจะนึกมาใช้ไม่ทันตามสถานการณ์ แต่มึงจะเริ่มเรียนรู้จังหวะความตลก อะไรควรเล่นอะไรไม่ควรเล่น และมึงจะเริ่มหัวไวขึ้น นึกมุกทันเหตุการณ์มากขึ้น พอมึงคล่องแล้วก็กลายเป็นคนมีอารมณ์ขัน หลังจากนั้นมึงก็อาจจะลองไปยื่นใบสมัครเข้าคณะเชิญยิ้ม ชวนชื่น เถิดเทิง หรือกระทั่งจ๊กมกได้เลยนะเว้ยยย
หงุดหงิดเพื่อนสนิทตัวเองว่ะ เมื่อวานบังเอิญเจอแฟนเก่ามัน ที่จริงๆ ก็เป็นเพื่อนสนิทกูเหมือนกัน แต่โอเคตอนมันคบกันกูก็เฟดตัวออกมา ไม่อยากให้มีปัญหากัน พอเลิกแล้วเพื่อนกูดันเกลียดแฟนเก่ามัน (ที่เป็นเพื่อนกูอีกคน) แบบเข้าไส้ ทีนี้พอเจอกูก็ทักทายปกติ ไม่ได้จงใจทักมันคนเดียวด้วย แค่บังเอิญไปกินข้าวร้านเดียวกัน กูก็ทักเพื่อนกลุ่มมันเฉยๆ ยังไงก็สนิทกันหมดอยู่แล้ว คนอื่นๆ ในกลุ่มมันกูก็สนิทเหมือนกัน
ปรากฏว่าเพื่อนกูเสือกนอยด์แดก พอเห็นกูทักก็ด่ากูยับเลย แล้วไม่ยอมคุยกับกูด้วย คุยกับทุกคน แต่พอกูเรียกก็ไม่สนใจ เวลากูพูดไรก็ไม่ตอบ ประชดกูด้วย หงุดหงิดเหี้ยๆ คือกูทำอะไรผิดวะ โตๆ กันแล้ว ไม่เห็นใช้เหตุผลคุยกันเลย ไม่อยากง้อแม่ง เดี๋ยวเคยตัว แต่เดี๋ยววันจันทร์ต้องเจอ ต้องทำงานด้วยกันอีก ทำไงดีวะเพื่อนโม่ง
>>130 กูเคยมีเพื่อนเเบบนี้ ใครทักแฟนเก่าหรือเเฟนใหม่ของเเฟนเก่ามันไม่ได้เลย เป็นบ้าด่าว่ากูหักหลังเพื่อนไรของเเม่งไม่รู้ เเนะนำให้มึงทำตามปกติ เเฟนเก่าเพื่อนไม่ใช่ปัญหาของมึง เเล้วมึงก็ไม่จำเป็นต้องโอ๋เพื่อนของมึง ปล่อยมันนอยด์แดกของมันไปคนเดียว มีงานก็คุยเฉพาะเรื่องงานไป
รู้สึกเลยว่าเพื่อนเมินแชทกูแบบไม่ใยดี พอยิงมุกก็ด่าใส่ ทุกคนกริบหมด ไม่อ่านแชทกูแต่ไปตอลไลน์กลุ่ม ไลน์กลุ่มก็เมินกู ลากคนอื่นเข้ากลุ่มโดยไม่ถามก่อน แล้วมันไม่เคยบอกกูเลยว่าไม่พอใจเรื่องไร กูรู้สึกได้มาสองสามวันแล้ว กูไม่กล้าถามด้วย กลัวพวกมันหาว่าคิดไปเอง
ไม่รู้จะปรึกษาได้ไหม คือเวลาทำงานคู่กูไม่มีคู่เลย โดนเพื่อนทอดทิ้งตลอด บอกไปหาคู่กันเอง (ละกูก็ไปไม่ได้ด้วยเพราะในห้องเขาก็มีคู่เป็นของตัวเองกันอยู่ละ อีผี) ละจะไปขอจาร์ย จาร์ยก็ด่าเป็นเด็กมีปัญหาหรือไง ไปหาคู่มาให้ได้ จนกูหงุดหงิดพาลไม่ส่งงานแม่ง ทำไงถึงจะแก้หายวะ พยายามไปขอคู่นู่นนั่นก็บอกมีคู่กันละ เบื่อสัส
กูได้เมทเป็นรุ่นพี่ แล้วแม่งไม่ชอบทำความสะอาดห้อง จานชามแดกมาสี่วันแล้วยังไม่ล้าง ถังขยะถ้ากูไม่เอาถุงไปใส่ก็กองๆข้าวเอาไว้ปลายเตียง นอนตีสองตีสาม แล้วเปิดดูหนังตลอด ไม่ยอมใส่หูฟัง เปิดไฟทิ้งไว้จนกว่าแม่งจะนอน กว่าจะอาบน้ำก็ตีสามตีสี่กว้าจะนอน บางทีแม่งไม่ล็อคประตูห้อง แล้วชอบเปิดไฟทิ้งไว้เป็นสามสี่ชั่วโมงตอนออกไปเรียนกูก็ไม่อยู่ห้องไง อยู่มาอาทิตย์กว่ากูไม่ไหวแล้วสัด อยากย้ายแต่ก็ไม่มีตังค์ ต้องรอกว่าจะได้หอในเทอมหน้าหรือปีหน้า แม่งๆๆ
อยู่มากูยังไม่เห็นแม่งเก็บห้อง กงาดห้อง หรือขัดห้องน้ำเลยสัด มาก็เปิดแอร์ ดูหนัง อิสัส
กูขอระบายหน่อย
กูโม่งหญิง นิสัยแมนๆหน่อย กวนตีน คุยง่าย ชอบเล่นมุกไปเรื่อย แล้วปกติกูก็จะเป็นที่ปรึกษา/ที่ระบายให้กับทุกๆคน แล้วชีวิตกูมีปัญหาที่กูมีเพื่อนผช.เยอะ เพราะแม่งสบายใจดี ไม่งี่เง่าเท่าผญ. งานอดิเรกคล้ายกันด้วย แล้วทีนี้คนที่กูคิดว่าเราเป็นเพื่อนกัน มักจะชอบกู บางคนก็สนิทมากๆ ก็ดันชอบกู หลายกลุ่ม หลายคนเลย
มันทำให้กูรู้สึกว่ากูเสียคอมฟอร์ทโซนอ่ะ จะเล่นเหมือนเดิมก็ไม่ได้ จะห่างไปเลยก็ไม่ดี เพราะกูก็ยังอยากรักษามิตรภาพอ่ะ
กูแค่อยากเป็นเพื่อนกับมึง ไหงชอบกูซะงั้นวะ กูทำอะไรผิดตรงไหน กูก็ปฏิบัติแบบนี้กับทุกคนนะ กูไม่รู้ว่ากูควรแก้ตรงไหน กูไม่ได้ให้ความหวังใครเลย กูมั่นใจว่าวางตัวค่อนข้างดีนะ ไม่เคยหยอด ไม่ชวนเที่ยว2:2 ไม่เสี่ยว ไม่แสดงความเป็นห่วงจนมากเกินขอบเขต
ทำไมมันต้องออกมาเป็นแบบนี้ตลอดเลยวะ กูกลุ้ม กูแค่อยากเป็นเพื่อนกับพวกมึง
กูอวบ(เข้าขั้นจะอ้วนละ) แล้วเพื่อในกลุ่มกูที่ผอมมากๆ(นน.ประมาณ39-41) ก็เอาแต่พูดใส่กูว่ากูอ้วน ไปลดน้ำหนักหรือให้หยุดกินไรงี้ กูไม่ชอบเลย กูรู้กูอ้วน แล้วจะมายุ่งเรื่องเหี้ยไรกู คิดว่ากูอยากอ้วนรึไงวะ เบื่อ
เพื่อน กุอยากขอคำปรึกษาหน่อย กุมีเพื่อนสนิทคนนึง สนิทมาตั้งแต่เด็กละ แล้วทีนี้มันเป็นคนค่อนข้างเอาแต่ใจอ่ะ ยกตัวอย่าง กุเก็บเงินก้อนแรกในชีวิตอยากไปเที่ยวตปท.ครั้งแรก กุก็ชวนมันไป ตกลงกันว่าจะไปสถานที่หรือทำกิจกรรมที่ตัวเองอยากทำคนละครึ่ง ปรากฎว่าแม่งก็ไปแต่ที่ๆมันอยากไป กินของที่มันอยากกิน กุอยากทำอะไรก็ไม่ได้ทำ จนกุรู้สึกว่ากูเสียเงินเก็บกุไปโดยเปล่าประโยชน์มาก กุก็อยากจะทิ้งมันแล้วเที่ยวคนเดียวนะ แต่แม่งก็หาว่ากุเป็นคนชวนมันมาแล้วจะมาทิ้งมัน กูก็อดทน ทีนี้ต่อมาช่วงนี้มันเพิ่งเลิกกับแฟนมันก็ชอบชวนกูกินข้าวเป็นเพื่อนอ่ะ แล้วคือมันชวนกูบ่อยมากก แทบจะทุกอาทิตย์เลย แล้วกินแต่ร้านในห้าง คือวันนึงหมดเป็นพันอ่ะ แล้วกุก็ทำงานไม่ได้มีเงินมากอะไร คือกุเดือดร้อน บอกมันแม่งก็หาว่ากุไม่เห็นมันเป็นเพื่อน พอมาวันนี้ ตอนแรกก็คุยกันตั้งแต่4-5วันก่อนว่าจะไปเที่ยวกัน แล้วมันก็ว่าจะนัดวันกะสถานที่กุมาอีกที แล้วมันก็หายไปเลย กุรอจนเมื่อคืนก็ยังเงียบ ปกติกุก็จะโทรไปถามมันว่าตกลงเอาไง กี่โมงไรงี้ แต่กุอยากรู้ว่าถ้ากุไม่ทำมันจะโทรมาไหม ซึ่งก็ไม่ จน11โมงวันต่อมา เพิ่งโทรมาว่ามันออกจากบ้านแล้ว ให้มาเจอมันที่นี่ๆ คือกุก็ต้องมีแผนชีวิตกุเปล่าวะ มันไม่นัดมากุก็แพลนไปทำอย่างอื่นไง แล้วพอกุบอกว่ากุไม่ว่างแล้วแม่งก็หาว่ากุผิดนัด นัดตั้งนานแล้ว แล้วมาโกรธกุ คือกุงง กุต้องพร้อมแสตนด์บายกระดิกหางไปหาเวลามันเรียกเหรอวะ เพื่อนมันเป็นความสัมพันธ์สองฝ่ายเปล่า กุรู้สึกโดนเอาเปรียบและเริ่มอึดอัดมากขึ้นทุกที กุอยากจะเลิกคบ แต่แม่งก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตแบบจะตัดเพื่อนได้ กุควรทำยังไงดี กุอึดอัดมาก
>>140 กูว่ากูก็อยู่ของกูดีๆนะ ถ้ากูอ่อยจริงๆแม่งไม่รอดแล้ว 5555555
>>141 ถูกหวยรางวัลที่ 1 ง่ายกว่า 55555
>>144 นั่นไม่ใช่เพื่อนแล้วเว่ย เพื่อนจริงๆเค้าจะไม่เอาเปรียบมึงแบบนี่ กูแนะนำว่าให้เลิกสนใจมันไป ถ้าแม่งคิดได้คงปรับปรุงตัว แต่ถ้าไม่ได้ก็ตัดทิ้งเลย เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน อย่าเอาความผูกพันมาทำให้มึงต้องลำบากดิ่
>>147 ถ้ามึงยังเห็นแก่มันอยู่ มึงต้องปฏิเสธบ้าง อย่างมันไปร้านแพงบอกเลยว่าให้ไปอีกร้านช่วงนี้ไม่มีเงิน จากเจอบ่อยๆเอาแต่อาทิตย์ละหนพอ คืออย่าตามใจมันหมด มันเหมือนไปเที่ยวกัน มึงมีลิสของมึง มึงก็ต้องแข็ง ถ้ามันไม่อยากไปด้วยก็ให้มีวันนึงฟรีเดย์ที่แยกกันเที่ยว ถ้าอันไหน อยากไปด้วยกันถึงจะไป กูเที่ยวกับเพื่อนก็ทำแบบนี้ เพราะถ้าตกลงจะไปไหนด้วยกันจะไม่มีบ่นและไม่ต้องเกรงใจ.
ความเกรงใจคือความไม่เกรงใจ
>>139 (เข้าใจว่า >>145 ก็คนเดียวกัน)
นี่โม่งชายนะ อยากบอกว่าเหมือนเราเห็นเพื่อนสนิทเราในตัวทางนั้นเลยอ่ะ
และใช่ เราก็ชอบเพื่อนสนิทคนนั้นเหมือนกัน เพราะว่าการที่สามารถคุยได้ทุกเรื่อง เข้าใจทุกเรื่อง สามารถแม้แต่จะขอว่ามึงบีบมือกูหน่อย ลูบหัวกูหน่อยอ่ะ มันไม่ใช่อะไรที่ผู้ชายปกติทำกันเอง และไม่ใช่อะไรที่จะขอให้เพื่อนผู้หญิงที่ไหนก็ได้ทำนะ
ความรู้สึกว่าคนนี้แหละที่คุยได้ทุกเรื่อง คนนี้แหละที่พร้อมเข้าใจเรา ต่อให้วางตัวดีแค่ไหนว่ามันเป็นไปไม่ได้ เราว่าสองความรู้สึกข้างต้นมันคือ baseline ที่โคตรแน่นหนาในการจะชอบใครก็ตามนะ และใช่ ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้หรอก เราเคยพยายามห้ามแล้ว กลายเป็นแย่กว่าเดิมอีก
เพราะแบบนี้แหละ ถึงเราจะชอบคนไปแล้วกี่คนก็เหอะ ลึกๆ เราก็ยังชอบเพื่อนคนนี้อยู่ดี ต่างกันหน่อยตรงที่เคสเราฝ่ายเพื่อนหญิงก็รู้ว่าเราชอบนะ แต่ว่าเค้าก็รู้ว่าเรารู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ และเราก็เข้าใจดีว่ามันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ก็วางตัวให้ถูก ไม่ขออะไรที่ไม่ควรขอ (ลูบหัวนี่ขอเมื่อสองปีที่แล้ว 5555555) ถึงตอนนี้ก็ยังคุยกันแบบสบายใจมากๆ ทั้งคู่อยู่ดี
ทำไมรู้สึกว่าความเอาใจใส่ที่มีให้เพื่อน กับที่ได้รับกลับมามันไม่เท่ากันวะ จะว่ากูขี้น้อยใจก็ได้ แต่อยากงอแงอะ ตอนกูจะออกไปซื้อข้าว กูก็หันมาถามรูมเมทเสมอนะ ว่าจะฝากซื้ออะไรมั้ย ส่วนใหญ่มันก็ฝากอะ จนบางครั้งกูรู้สึกว่ามันรอกูถามเปล่าวะ แต่พอมันจะออกไปซื้อบ้าง อยู่ดีๆก็ออกไปเลย ไม่บอกไม่กล่าว ไม่ถามว่ากูหิวมั้ยด้วยซ้ำ
>>149 ก็เข้าใจนะว่าความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ คือกูก็แคร์ความรู้สึกของเพื่อนกูเหมือนกัน เพราะว่ากูไม่ได้ชอบมันอ่ะ แต่ก็ไใ่อยากให้มันรู้สึกแย่ พยามจะประณีประนอมความรู้สึกทั้งสองฝ่าย แต่มันก็ยากอ่ะ เก็ทป่ะ
ถ้ากูเว้นระยะห่างไปเลย(เพื่อให้มันตัดใจ) เพื่อนก็จะเสียใจ โทษตัวเอง นู่นนี่ ที่หนักๆหน่อยคือมางี่เง่าโวยวายใส่กู ซึ่งกูไม่ชอบมากๆ
ถ้ายังทำตัวเหมือนเดิม กูจะรู้สึกอึดอัด ละเพื่อนมันก็จะตัดใจไม่ได้ซักที
แค่อยากให้มัน move on อ่ะ ไม่อยากให้ยึดติดกับคนอย่างกู 5555555
อือ แต่บางคนพอตัดใจได้ มันก็เอาเรื่องที่กูเคยปรึกษาไปเล่าให้คนอื่นฟังงี้ คือความไว้ใจในช่วงที่เราสนิทกัน มันพังไปเลย
บางทีก็รุ้สึกแค่ว่าแบบ ที่ทำดีด้วยเพราะอยากจีบแค่นี้ พอมีคนใหมาได้ก็ขายกันทิ้งแบบนี้เลยอ่ะนะ โคตรผิดหวังที่กูจริงใจกับมึง มีค่าแค่นี้เองหรอ
ขอระบายหน่อย ตั้งแต่กุขึ้นม.6 มานี่เหมือนกุห่างๆเพื่อนยังไงก็ไม่รู้ เล่าก่อนคือกุเป็นคนค่อนข้างขยันและมองอนาคตอ่ะ กุเลยอ่านหนังสือทุกครั้งที่มีเวลาว่างที่ รร. แต่เพื่อนกุส่วนใหญ่นั่งเล่นทรศ.กัน(มีคนอ่านแบบกุประมาณ 2-3 คน)แล้วการที่กุอ่านแทบตลอดนี่แหละเลยไม่ค่อยได้คุยอะไรกับเพื่อน ตอน ม.5 ยังเล่นๆกันปกตินะ (ตอนนั้นก้อ่านอยู่แต่ไม่ขยันเท่าตอนนี้) กุสังเกตได้เลยว่าเพื่อนเริ่มห่างๆบางครั้งกุพูดอะไรก็เมินหรือตอบกุแบบหน้านิ่งๆ ความจริงกุก็ค่อนข้างน้อยใจแหละ แต่กุก็ต้องอ่านเพื่อสอบให้ได้มหาลัยดีๆ บางทีกุก้คิดนะว่าเพื่อนกุหมั่นไส้กุรึเปล่าคือกุเป็นคนที่ค่อนข้างเก่งอ่ะ รางวัลวิชาการได้มาหลายรายการ บางครั้งก็ไปแข่งเป็นตัวแทน รร. ตอนนี้กุรู้สึกเหงาและน้อยใจมากเหมือนไม่มีเพื่อนเลย เศร้าชิหัย
เพื่อนไม่ยอมคุยกับกูเพราะกูไปสนิทกับคนที่มันชอบ คือมันเป็นความผิดกูหรอวะที่กุจะมีเพื่อนเยอะ แล้วหนึ่งในนั้นคือคนที่มันชอบ กูไม่ได้ไปแข่งไปแย่งเลยนะ ที่สำคัญคือเค้าเข้ามาหากูเองด้วย แล้วการที่เราจะมีไมตรีกลับไปมันผิดหรอ
กูก้เชียร์ให้มัน บางทียังช่วยหาโอกาสให้มันด้วยซ้ำ แต่แค่การที่กูสนิมกับเค้ามากขึ้น ก็มาโกรธกูเลยหรอ คือกูไม่ควรมีเพื่อนผู้ชายว่างั้น ผู้หญิงแม่งคบยากจังวะ กูโดนตึงใส่จากคนมาสามคนละทั้งเดาสาเหตุได้และไม่ได้ แต่แม่งไม่เมกเซ้นเลย กูยังไม่ได้แย่งเลยนะ ตอนกูหาโอกาสให้ก็ไม่สานต่อเอง กูผิดหมายยยย
กูไม่ได้วางเค้าอยู่ในฐานะคนที่จะจีบเลยนะโว้ย แค่เป็นเพื่อนธรรมดาแล้วมีปัญหามากนัก งั้นกูก็ไม่คบผู้หญิงแล้วก็ได้ อยากได้เค้าก็พยายามดิวะ มาโกรธเวลาคนอื่นไปเป็นเพื่อนเค้ามันใช่หรอ
เบื่อจังไม่มีเพื่อน ไม่ได้เข้าสังคม
ขอปรึกษาหน่อย เครียด+จิตตกมาซักพักแล้ว ขอเล่าตั้งแต่เนิ่นๆ คือตอนเราเข้ามหาลัยมาตอนแรกๆเราก็อยู่กับเพื่อนสนิทที่มาจากโรงเรียนเดียวกัน แล้วตอนนั้นเพื่อนในห้องก็เริ่มจับกลุ่มกันแล้ว ทำให้เราไม่ค่อยสนิทและไม่มีกลุ่มอยู่ในห้อง เวลาทำอะไรไปไหนมาไหนก็ทำคนเดียวตลอด เราลองเข้าหาคนอื่นแล้ว แต่เขาก็มีเพื่อนสนิทกันหมดแล้วเข้าไปแทรกไม่ทันแล้วอ่ะ เวลาไปกินข้าวตอนเย็นจะไปกับกลุ่มเพื่อนผช เพราะมันไปกินข้าวหน้ามอกัน แล้วทีนี้กุชอบเพื่อนผช คนนึงในกลุ่มที่ไปกินข้าวด้วยกัน (แต่มันมีคนที่ชอบแล้ว) แรกๆก็สนิทกัน คุยกันเล่นกัน แต่พอโดนแซวจากเพื่อนในห้อง มันก็เริ่มห่างๆเราไปอ่ะ แบบว่า คุยด้วยก็ไม่ค่อยคุย เล่นด้วยก็ไม่ เวลาเราเดินไปใกล้ๆมันก็เดินหนีอ่ะ คือเครียดมากคือกลัวเสียเพื่อน เพราะเราไม่มีเพื่อนเลย แล้วคือในห้องเราจะเป็นคนที่โดนเมินตลอด ตอนทำกยศ เพื่อนก็ไปกันโดยไม่บอก แล้วเราต้องไปย้อนหลังคนเดียว เวลามีงานอะไรหรือจะไปไหนก็เป็นคนที่โดนลืมตลอดอ่ะ พอโดนมากๆมันเฟล มันเครียด ถามอะไรในกลุ่มเพื่อนไม่เคยตอบเลย ถามงานก็ไม่ตอบ เวลามีเรื่องอะไรพอหันไปจะคุยกับเพื่อนรอบข้าง พอหันไปแล้วไม่มีใครที่จะคุยด้วยได้มันจุกมากๆ แต่เวลามีงานอะไรเราช่วยทำหมด ไม่ว่าจะงานกลุ่มงานเดี่ยว คือเครียดมากจนร้องไห้ ในห้องก็มีคนที่ไม่ชอบเราด้วย ชอบแซะอะไรงี้อ่ะมันทำให้ท้อ ไม่รู้จะเรียกใครว่าเพื่อนได้เลย เหมือนเป็นส่วนเกินของห้อง รู้สึกว่าถ้าเราหายไปคงไม่มีใครรู้สึกอะไรอยู่ดี แล้วเมื่อวานเราถามในแชทว่ามีใครจะไปกินข้าวหน้ามอไหม มีแต่คนอ่านไม่ตอบเราก็นั่งรออ ประมาณครึ่งชม พอถามอีกทีเพื่อนบอกว่าออกมากันแล้วแล้วเราก็ต้องเดินไปหน้ามอคนเดียวตอนทุ่มกว่าๆ เราไม่ได้เป็นคนเข้มแข็งอะไรขนาดนั้นอ่ะ เป็นคนคิดมากแล้วก็เซ็นส์สทีฟด้วย จิตตกสุดๆเลย
กูรู้สึกว่าเพื่อนผู้หญิงคบยากจังวะ คือกูโดนผู้หญิงตึงๆใส่ตลอดแต่ไม่ค่อยมีปัญหากับเพื่อนผู้ชายเลย ทำไมวะ แบบปกติตอนอยู่ในเฟสก็พูดดีด้วย แต่พอเจอกันก็จะทำเหมือนกับกูเป็นคนนอก ไม่คุยด้วย เมิน หรือพูดจาแบบอยากให้กูไปไกลๆ
เอาจริงๆนะถึงเค้าจะไม่ได้แสดงออกประเจิดประเจ้อแต่คนโดนแม่งก็รู้สึกได้ ทั้งๆที่กูก็ทำดีกับทุกคนนะ จะผุ้หญิงหรือชายก็ให้ความสำคัญเท่ากัน แต่พอโดนตึงใส่บ่อยๆกูก็อึดอัดนะ พาลจะไม่อยากคบผู้หญิงไปด้วย ทำไมวะ ทั้งๆที่ตอนแรกก็ดีๆกันแท้ๆ เรื่องเหี้ยๆกูก็ไม่เคยไปทำใส่ใคร หรือเพราะกูสนิทกับเพื้อนเค้าที่เป็นผู้ชายมากไป หรือยังไงวะ กูล่ะงงสัส
แต่กูเนี่ยโดนผู้หญิงหมั่นใส้บ่อยมาก ทั้งๆที่ก็ไม่ได้สวยหุ่นดีด้วย อะไรของพวกแม่งวะ
กูผู้หญิง อันนี้เป็นประสบการณ์กู ผู้ชายคุยง่ายกว่า ตอนทำงานด้วยไม่ค่อยมีปัญหา เคยอยู่กับผู้หญิงนี่งานนึงนัดเป็นสิบ เถียงกันไปเถียงกันมา ตกลงกันไม่ได้ซักที ตอนหลังถ้าหากลุ่มไม่ได้กูก็เข้าไปหากลุ่มผู้ชายขออยู่ด้วยก็ไม่เห็นมีปัญหา ส่วนผู้ชายที่มักจะมีปัญหาส่วนใหญ่เป็นเพศที่สาม ต้องเป๊ะๆๆ แต่เพศที่สามก็มักจะไปอยู่กับผู้หญิงอยู่แล้ว อีกอย่างคือกูเหม็นเครื่องสำอาง เหม็นน้ำหอมผู้หญิง เหม็นอะไรหวานๆ ขึ้นลิฟต์ทีนี่แม่งมาหมด วนิลา กุหลาบ ขนมอะไรซักอย่าง แล้วกูก็คุยกับผู้หญิงไม่รู้เรื่องด้วย สนใจคนละแนวกัน
>>159 ตกลงเพื่อนสนิทที่มาจากโรงเรียนมึงอยู่ไหน จับมันมาถามเลยว่า มึงไปทำอะไรให้ใครไม่อยากคบ ดูแล้วมึงเหมือนไม่รู้ตัวเลย กูว่ามันต้องมีสาเหตุ เขาแซะมึงเรื่องอะไรกัน
ปกติคนที่ไม่สนิท กูก็คุยด้วยหมดนะ ยิ่งเปิดเทอมใหม่ๆกูคุยดะ จะแบนใครก็มักมีเรื่องนิสัยเป็นหลัก มึงต้องถาม ขอร้องเพื่อนเคยสนิทคนนั้นให้มันช่วยมึง จะได้แก้ถูกจุด
ของกูนี่สมัยมัธยมเพื่อนผู้หญิงนี่ดี แต่ผู้ชายแย่มาก ต่อหน้าก็ทำเป็นปกติแต่นินทากันลับหลังแรงมากๆ พอกูรู้ตัวก็รวมหัวกันเมินกู
กูเคยอยู่กับเพื่อนผู้หญิงเจ็ดแปดคน บอกเลยอีเหี้ยงูพิษ แย่งรุ่นพี่ ขิงกัน คุยกันอยู่ดีๆพอคนนึงลุกหนีแม่งนินทาอีกคนที่ลุก จุกจิกไม่เข้าเรื่อง ไปเยี่ยวก็ต้องชวนกันไป ทำงานห่าเหวอะไรก็เถียงกันวุ่นวายไปหมด
พอกูเปลี่ยนที่เรียน กูอยู่กลุ่มสี่คน เพื่อนผู้ชายสาม เก้งสองโอตาคุหนึ่ง แต่คบแล้วสบายใจชิบหาย คุยง่าย เพื่อนเก้งกูดูแลกูดีมาก เป็นเพื่อนสาว เป็นเจ๊ เป็นขุ่นแม่ ไอ่ที่เป็นโอตะก็ง่ายๆสบายๆ กวนตีนๆ คบสามคนนี้แม่งโคตรดีกว่าตอนมีเพื่อนผู้หญิงเป็นสิบ
อ่ะกูลืม >>159 อยู่มหาลัยแล้วเหรอ กูบอกเลยมึงต้องหัดอยู่คนเดียวให้ได้ ไปไหนคนเดียวให้ได้ ไม่ต้องรอใครทั้งนั้น มีคนมากมายบนโลกที่รอทำความรู้จักกับมึงมากกว่าพวกนี้ อย่าลืมว่าตัวมึงใจมึงสำคัญที่สุด เซ็นซิทีฟกับตัวเอง อย่าไปเซ็นซิทีฟกับคนอื่น ไม่มีใครอยู่กับมึงตลอดไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็จะเหลือแค่มึงที่อยู่กับตัวมึง ดูแลตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ
กู >>161 นะ คือแบบแม่งไม่ใช่แค่คนเดียวนะที่หมั่นกูอ่ะ มีช่องให้กัด ก็กัดกูตลอด มีอะไรหักล้างความน่าเชื่อถือกูได้ก็ทำ ถึงขนาดให้ไปคุ้ยขยะมาเพื่อหาข้อโต้แย้งในสิ่งที่กูพูดเลยอ่ะ ทั้งๆที่ได้คำตอบแล้วด้วยนะไม่จำเป็นต้องหาหลักฐานมายืนยัน แต่ลงทุนทำขนาดนั้นเพื่อความสาแก่ใจ เสร็จแล้วก็ยิ้มเยาะ
คือพอใจมากมั้ยอ่ะที่แบบได้กดกูให้จมตีนไปเลย เรื่องเล็กๆ เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ทำซะยังกับมันใหญ่โต กูล่ะโมโหหนักมาก มองหาประโยชน์จากสิ่งที่ทำไม่เจอนอกจากการได้ฉีกหน้ากัน การได้บอกว่าตัวเองถูก เบื่อสัส กูยังไม่ทำถึงขนาดนี้กับใครเลยนะ มันเหี้ยไรวะ ทำไมต้องเกลียดกูกันขนาดนั้น กูนี่แม่งขวางหูขวางตามากรึไง
เพื่อนสนิทกูก็มีแต่คนออกไปทางแมนๆทั้งนั้นเลย เออ คบผู้ชายแม่งง่ายกว่าเยอะเลยสัส
กูเบื่อเพื่อนกูมาก นิสัยนาง แบบกูพูดไรไม่ตั้งใจฟัง แต่ชอบตามน้ำ คือจะว่าอยู่เป็นก็อยู่เป็น แต่กูดูออกว่าไม่จริงใจกะกูอะ
อย่างกูเล่าเรื่องๆนึง ไปงี้ แม่งยังไม่เข้าใจเลยว่าพุดเรื่องอะไร รัวเลขห้ามาก่อนเลย เนียนๆเหมือนรุ้เรื่อง
เคยบอกมันตรงๆแล้วว่าถ้าไม่เก็ทไม่อินก็พูด แสดงตัวเองออกมา จริงใจกะกูหน่อย ทำแบบนี้มันปลอม มันก็เออๆขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ไม่อยากขัดมึง
แล้วก็เหมือนเดิม เวลาเม้าใครแม่งเออออตามไปหมด ย จนเริ่มคิดว่าควรคบมันต่อดีมั้ย หรือเฟดแม่งห่างออกมาดี เพราะมันก็ไมไ่ด้สนิทกับกูคนเดียว สนิทคนไปทั่ว น่ากลัว
ไม่รู้จะถามตรงไหนขอถามมู้นี้ละกัน ในนี้มีใครอยู่ มก แล้วสักบ้าง พอดีกูอยากไปสักตรงแขนอ่ะ กูอยากรู้ว่ามันจะมีปัญหาอะไรป่าว
>>170 วิทยาเขตไหนอ่ะ ศรีราชาห้ามให้เห็น บางเขนไม่ได้มีบอกเป็นพิเศษแต่เอาให้ชัวร์ไปถามองค์การนิสิต แต่อาจารย์ในม.รุ่นใหญ่ๆกุก็กลัวจะมาคอยจับผิดมึงมากกว่า เอาให้ปัญหาน้อยสุดสักใต้ร่มผ้าหรือเล็กๆพอเอาคอนซีลกลบได้ ถึงมึงเป็นนิสิตชายก็ใส่เสื้อแขนยาวก็คงไม่ได้อีกอ่ะพอพละก็ต้องใส่แขนสั้นอยู่ดี
>>171 ร้านปกติเค้าเทพวกสีกับน้ำออกมาแบ่งไว้ในถ้วย/แก้ว แบบใช้แล้วทิ้งให้เห็นเลยนะ เอาจากขวดมันลำบากเลอะเทอะกว่าอีก แต่ก็นั่นแหละ ดูร้านดีๆละกัน
กูเปิดเว็บเครื่องสำอางแล้วกูก็วี้ดว้ายกับเพื่อนไปตามประสาผู้หญิงว่าจะซื้อตัวไหนก่อนดี คือมันก็เป็นเซ็ตเครื่องสำอางราคาแพงประมาณ 10000+ แต่กูอยากได้มาก เสือกโดนบอกว่าไม่ต้องซื้อหรอก เอาเงินมาให้มันยืมจะดีกว่า แล้วมันก็ยืมเงินกู กล่อมกูสารพัดว่าเครื่องสำอางซื้อเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เพื่อนเดือดร้อนควรช่วยเพื่อน พอกูทำท่าจะไม่ให้ยืมจะไปซื้อเครื่องสำอางมันก็น้อยใจนั่นนี่ กูควรทำไงดีวะ เงินกูก็ควรซื้ออะไรที่กูอยากได้ แล้วซื้อทีหลังอาจจะไม่ได้ราคานี้แล้ว แต่มันจะยืมตังหมื่นนึงกูเห็นแววว่าไม่ได้คืนแหงๆอะดิ
ปรึกษาหน่อยคือเพื่อนสนิทกูคบกันมาตั้งแต่ม.ต้น แม่งชอบยืมเงิน ก็มียืมๆคืนๆมาเรื่อยๆตั้งแต่ช่วงมหาลัย ส่วนนึงเพราะแม่งชอบแทงบอลและกีฬาอื่นๆทางเว็บ พอทำงานช่วงปีก่อนดีขึ้น มันบอกว่าเลิกเล่นแล้ว แต่เดือนที่ผ่านมาช่วงบอลโลกนี่เกิดมายืมเงินอีกแล้วซึ่งกูก็ไม่รู้นะว่าเกี่ยวกับบอลโลกมั้ย ถามแม่งก็บอกเลิกแล้วแต่กูเห็นแม่งมีเข้าเว็บพนันเรื่อยๆ(ซึ่งแม่งบอกเข้าไปดูถ่ายทอดสด)
ทีนี้ที่หนักคืออาทิตย์ที่ผ่านมาแม่งซมซานมาบ้านกูไม่พูดไม่จาบอกมีเรื่องอยากพักใจไรงี้ กูก็ให้ขึ้นบ้านไป เสือกเดินไปทำท่าจะเอาดิ้วเหล็กของกูตีหัวตัวเอง ซักพักถามครัวอยู่ไหนมีมีดมั้ยจะเอามีดฆ่าตัวตาย มีบอกถ้าโดดลงจากระเบียงสองชั้นจะตายมั้ยอีกกูก็ถามไปมาตกลงบอกว่าแม่แฟนป่วยเลยเอาเงินบริษัทไปช่วยแสนกว่าบาท จนตอนนี้ความแตก แฟนหนีไปแล้วไม่รู้ไปไหน จะโดนไล่ออกโดนเค้าฟ้องติดคุก ที่บ้านก็ไม่ช่วยโดนพ่อไล่ออกจากบ้านมา พ่อบอกเห็นผู้หญิงดีกว่าพ่อแม่เลยโกรธจัดขู่จะเอาปืนยิง ก็ระบายไปเรื่อยๆกูแม่งเริ่มเอะใจขึ้นมาละ หลังจากระบายไปชั่วโมง2ชั่วโมงก็ตามคาด แม่งจบลงที่อยากขอให้พ่อกูช่วยให้เอาบัตรเครดิตไปซื้อทองแล้วขายเอาเงินมาใช้บริษัทส่วนนึงซัก3หมื่น(กูใช้บัตรเสริมของพ่ออยู่) กูก็เห้ยแม่งไม่ใช่ละแม่งจะให้โทรขอพ่อให้ได้เลย อิดออดอยู่พักใหญ่ๆแม่งก็ก้มหัวขอร้องเลยว่ะจนกูต้องยอมจนได้แต่แน่นอนพ่อกูไม่ให้แล้วด่าเช็ดเลยบอกอยู่ดีไม่ว่าดีเสือกจะหาหนี้ให้พ่อใช้แทนคนอื่นหละ มันก็ยังตื๊อเว้ยจนสุดท้ายพ่อกูบอกถ้ากูจะช่วยก็เอาเงินเดือนที่กูเก็บไว้ในบช.เตรียมซื้อหุ้นสะสมทุกเดือนให้มันไป ของเดือนนี้ยังเหลือหมื่นกว่าๆ กูก็เสียไม่ได้ต้องโอนให้แม่งไป แต่แม่งก็บอกยังไม่พอเลยขอค้างซักคืน ใช้คอมติดต่อคนโน้นคนนี้ทางแชทเฟสตลอด มีคุยโทรศัพท์เถียงกับที่บ้านกับบริษัทเรื่อยๆ จนตอนเช้าบอกเงินเกือบครบแล้วเลยกลับไป
ทีนี้พอวันจันทร์มาบอกว่าโอเคละ ที่ทะเลาะกับที่บ้านก็ตกลงกันได้กลับไปง้อเค้า บริษัทยังให้ทำงานต่อแต่ต้องหักเงินส่วนที่เหลือใช้เค้า แล้วเงินบริษัทก็ยังได้ถืออยู่นะแต่ต้องมีคนอื่นเซ็นให้ก่อนด้วยเวลาเอาไปใช้ บอกจะค่อยๆผ่อนคืนกู ส่วนผู้หญิงที่ไปเปย์ก็ไม่ใช่ว่าที่เมียที่จะแต่งด้วย เป็นอีกคนที่คบซ้อนอยู่ กูก็เอ๊ะแม่งแปลกๆว่ะ จากเรื่องที่ดูหนักเหมือนแม่งจบง่ายไงไม่รู้แถมรายละเอียดบางอย่างแม่งเปลี่ยนไป ที่กูงงคือยักยอกเงินบริษัทนะเว้ยแม่งยังให้ทำงานอยู่ได้ไงวะถึงจะคืนแล้วไม่ฟ้องแล้วมันก็น่าจะโดนไล่ออกปะ มันบอกหัวหน้าช่วยปิดให้เพราะเอาเงินไปคืนส่วนใหญ่แล้ว แต่ตอนแรกบอกโดนไล่ออกแล้วนี่หว่า -*- คือตอนนี้กูไม่รู้แล้วว่าถ้าแม่งบอกว่าแย่แล้วๆนี่คือมันแย่จริงรึเปล่า ที่เล่าให้กูฟังนี่จริงซักกี่เปอร์เซน ถ้าครั้งนี้แกล้งคือเล่นใหญ่มากขนาดจะฆ่าตัวตายเลยนะเว้ย แล้วต่อไปจะเชื่ออะไรมันได้มั่ง พ่อแม่กูก็เตือนว่าแบบนี้อันตรายต่อไปจะยืมมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าต้องทำใจตัดเพื่อนก็ต้องทำ แต่กูก็กลัวนะว่าถ้าตอนไหนเกิดเรื่องจริงแล้วกูไม่ให้แม่งจะไปฆ่าตัวตายจริงไหม นี่กูก็พยายามพูดเตือนเรื่องพนันบ่อยๆมาตลอดอยู่แล้ว เรื่องใช้เงินเปย์หญิงก็เคยคุยกันมาบ้างแล้ว แม่งทำไมคิดไม่ได้วะ ตอนนี้กูก็ได้แต่เตือนเรื่องใช้เงินก็ไม่รู้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ แม่งเงินเดือนมันเยอะกว่ากูอีกทำไมเป็นงี้ก็ไม่รู้
>>178 เรื่องที่เพื่อนมึงพูดน่ะจะเชื่อได้กี่เปอร์เซ็นต์กัน
ไม่มีหรอกโว้ยขโมยเงิน บ. แล้วเค้ายังให้ทำงานต่อน่ะ + เรื่องจบง่ายเกิน
ถ้ามีประวัติติดพนันด้วยนี่ กูเดาว่าจะยืมเงินมึงไปจ่ายที่ค้างโต๊ะบอลน่ะแหละ มันเล่นใหญ่เพราะถ้าขอมึงไปจ่ายโต๊ะบอลมึงไม่ยอมแน่ๆ
พวกนี้กูเคยรู้จัก โกหกได้ทุกอย่างเพื่อเอาเงินไปจ่ายพนัน กูเคยเจอหนักสุดก็หลอกเอารถแฟนไปขาย เลวชาติมากๆ เป็นไปได้มึงตัดมันดีกว่า
เกิดมา20กว่าปีไม่เคบเจอความคิดแบบนี้
คืองี้ อาจารย์สั่งงานกลุ่ม แล้วส่งพร้อมกัน2งาน งานแรก10คะแนนงานสอง20คะแนน แล้วในกลุ่มใหญ่ก็จะมีกลุ่มกูกับอีกกลุ่ม คือไม่สนิทกัน แล้วคือกลุ่มกูก็ไปของาน10คะแนนมาทำเองคือแบบแบ่งงานกันทำไปเลยเพราะกลุ่มกูคนน้อยกว่า แล้วอีกกลุ่มมันไม่ให้เว้ย เหตุผลของมันคือ ถ้าแยกกันทำแล้วเหมือนกลุ่มเขาทำงานหนักกว่าแล้วพวกกูได้คะแนนเยอะฟรีงี้ พวกกูก็เงิบไปดิเถียงไม่ออก แต่ไม่เคยเจออะไรแบบนี้จริง
>>180 บางคนเค้ารักษาผลประโยชน์ตัวเองน่ะ อยู่ที่ดีเทลงานด้วย บางทีงาน 20 คะแนนมันมีดีเทลเยอะกว่าก็เหมือนมึงเอาเปรียบมัน
หรืออีกประเด็นคือ คนในกลุ่มใหญ่มันไม่ค่อยทำงานกัน คนที่โวยน่าจะรู้ว่าเอางาน 20 คะแนนมาน่าจะมีคนทำไม่กี่คนที่เหลือเกาะเป็นปลิง
มึงก็ให้ทั้งกลุ่มทำๆแม่งทั้ง 2 งานให้มันจบๆไปน่ะแหละไม่ต้องแบ่ง
>>179 เรื่องบ.ตามคอมมอนเซนส์ก็ควรจะแบบนั้นแหละ แต่กูก็เผื่อใจไว้นิดนึงว่ากูอาจมีปสก.ทำงานบ.น้อยกว่ามันเพราะของกูเพิ่งทำที่แรกส่วนมันเปลี่ยนงานมาบ่อยแล้ว แต่ถามใครๆเค้าก็พูดเหมือนมึง5555 บ.แม่งค่อนข้างใหญ่ด้วยนะไม่ใช่กิจการครอบครัวไรงี้ ครั้งนี้เรื่องที่มันเล่าแม่งแหม่งๆเกือบหมดเลย
ตอนนี้กูก็คุยๆดูท่าทีไปก่อน พอคิดๆดู รู้สึกเหมือนมันเริ่มพูดเรื่องพวกเรา(กู มันและเพื่อนอีก5-6คน)คบกันมานานตั้งแต่ม.ต้น ผูกพันกันมานานบลาๆๆมาพักนึงตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องนี้ละ นี่เมื่อวานโทรมาก็ยังพูดเรื่องนี้อยู่ไม่รู้ว่าเป็นจิตวิทยาให้กูใจอ่อนเบิกทางสำหรับการขอยืมเงินรึเปล่า ห่าตอนนี้แม่งทำอะไรกูก็ระแวงไปหมด แต่อีกใจก็เพื่อนกันมานานถ้าไม่ถึงที่สุดก็ไม่อยากตัด แถมนอกจากมันในกลุ่มกูก็ไม่ได้สนิทกับคนอื่นเท่านี้
>>182 ให้มึงบ่นๆเรื่องเงินให้มันฟัง แบบอยากได้นั่นนี่แต่ไม่ค่อยมีเงินเลยว่ะช่วงนี้ เวลามันยืมเงินจะได้บอกว่าไม่มีได้เต็มปาก
ถ้ามึงอยากรู้ความจริงต้องถามที่บ้านมัน แต่ถ้ามันรู้มีวงแตก 555
ปล. เรื่องมันขโมยเงินไปช่วยแฟนแม่งโคตรแปลก เหมือนเรื่องแต่ง มึงไม่รู้จักแฟนมันใช่มะ?
>>185 กูก็พูดเรื่อยๆมานานหลายปีแล้วแหละเรื่องพ่อแม่ไม่ค่อยให้เงิน เงินเดือนจะเข้ากองกลางให้พ่อแม่หมดไรงี้ซึ่งส่วนนึงก็จริงด้วย แต่แม่งก็ยังจะยืม555 ต่อไปก็ต้องปฏิเสธจริงจังแล้วแหละ ต่อไปคงต้องเริ่มพูดว่าถ้ามีอะไรมากูช่วยไม่ได้ละนะไรงี้ เพราะกูเริ่มรู้สึกเหมือนมันหรืออาจจะบ้านมันด้วยเห็นกูเป็นของตายว่ะ คือทางบ้านพ่อแม่แม่งเหมือนปัดสวะอะ มีเหี้ยไรมามันก็จะบอกพ่อแม่ไม่สนไม่ช่วย แล้วสุดท้ายก็คือทางกูที่จะต้องให้ยืมมากบ้างน้อยบ้างแต่ก็ต้องให้แบบเสียไม่ได้ตลอด แล้วตอนนี้ก็จะเริ่มลามมาพ่อกู พ่อกูบอกกลัวมรดกที่จะให้กูกลายเป็นขายบ้านใช้ให้พวกแม่งหมดจะชิบหาย
ส่วนแฟน คนที่แม่งบอกจะแต่งเป็นเมียกูไม่รู้จัก แค่เคยได้ยินผ่านที่มันเล่าให้ฟังตลอดมาหลายปี ส่วนคนที่เป็นปัญหาเนี่ยยิ่งไม่รู้จักมากกว่า เพราะเป็นคนที่มันคบซ้อน เพิ่งเล่าให้ฟังได้ไม่กี่เดือนมั้ง รายละเอียดรู้ไม่เยอะ เคยเห็นแค่รูป
มึงทำไงดี บางทีกูก็อยากมีโมเม้นไปเที่ยวเล่นไรงี้กับเพื่อนมั่งนะเว้ย แต่พอกูชวนทีไรแม่งก็ตอบกูแบบ ไม่ไปอ่ะ ขี้เกียจ ไรงี้อ่ะมึง บางทีกูก็นอยนะ ชวนแล้วไม่ไปแม่งรู้สึกเหมือนตัวเองไม่สำคัญเลยว่ะ
เบื่อเพื่อนคนนึง บ้าทำกิจกรรมมอชนิดที่ร่างพังก็ไม่หยุด ยอมขาดเรียนไปทำงาน โดดงานกลุ่ม อดนอนประชุมงานมอจนดึกดื่นละตื่นสาย ก็มาสาย ขาดเรียน ทุกวันนี้ร่างกายมีปัญหาสารพัดทั้งขาทั้งเข่าทั้งระบบทางเดินอาหารเพราะชีวิตที่แม่งกินนอนไม่เป็นเวลา แต่บอกรึด่าให้ตายยังไงก็ไม่สน จะทำ กูจะทำ กูต้องทำอยู่นั่น ขนาดเพื่อนนัดทำงานด่วนก็ไม่ยอมมา บอกนั่นงานใหญ่นี่งานเล็กจนเพื่อนเอือมกันหมด ทะเลาะกับเพื่อนที่ทำวิจัยคู่กันเพราะไม่ยอมไปช่วยทำแล็บเก็บผล แต่พยายามเตือน บอกกล่าวยังไงก็ไม่ฟังเลย จนกูปลง เตือนเท่าที่มันซีเรียส ที่เหลือมึงจะไม่มาจนโดนเพื่อนเกลียดก็เรื่องของมึง คนดื้อด้านดันทุรังในเรื่องแบบนี้จะทำยังไงถึฃจะเปลี่ยนความคิดวะ รึควรปล่อยแม่งไปให้ชีวิตมันพังไปตามยถากรรมของมันเองดี ทุกวันนี้ที่ไม่ยอมปล่อยก็เพราะคำว่าเพื่อนมันค้ำคอ แต่ก็เกินจะทนแล้วเหมือนกันบางที
>>190 ถามจริง มึงจะไปแคร์ทำไมวะ มันยังไม่แคร์ไม่ห่วงอนาคตตัวเองเลย มาเรียนมหาลัยนะโว้ย เป้าหมายหลักของมึงคือเรียนให้จบ เก็บความรู้ให้แน่นๆ ทำพอร์ตให้เยอะๆก่อนจบ ออกไปทำงานจริงๆเด๋อๆด๋าๆไม่รู้เรื่อง ความรู้ไม่แน่น โดนเค้าดูถูกอีก มึงไม่ต้องไปห่วงมันหรอก ห่วงตัวเองดีกว่า ถึงขั้นทิ้งงานกลุ่ม ทิ้งงานวิจัยคู่เพราะบ้ากิจกรรมได้ นี่มึงควรจะตัดได้แล้ว
มึงเป็นเพื่อนนะ ท่องไว้ ไม่ใช่พ่อแม่มัน โตเป็นควายเป็นปัญญาชนขนาดนี้ยังคิดไม่ได้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ เรียงลำดับความสำคัญไม่ได้ มึงก็ปล่อยมันไปเถอะ เดี๋ยวมัน F มันติดโปร โดนไทร์แล้วเดี๋ยวมันก็ตาสว่างเอง ไม่มีใครทำให้มันคิดได้หรอกพวกเหี้ยนี่กูเจอตอนเรียนจนเบื่อละ นอกจากมันจะโดนแบบที่กูบอกอะถึงจะตาสว่าง
ช่วยเท่าที่ช่วยได้ เอาเท่าที่ไหว เพราะมึงคือเพื่อน ไม่ใช่พ่อแม่มัน มึงท่องไว้ มันไม่ทำก็ตัดมันออกจากกลุ่มไปแค่นั้น มึงเลือกเอาว่าจะรักษาเพื่อนดีๆที่ช่วยกันเรียน กับเสียเวลาไปตามรักษานํ้าใจว่าจะต้องช่วยเพื่อนช่วย คนแบบนี้คนเดียวที่จะทำให้เหนื่อยและปวดหัวกันไปหมด
มึงสมมุติมึงมีเพื่อนกลุ่ม 1 แต่เขาไม่ค่อยคุยไรกับมึงมาก แต่ก็คุยบ้างอะ (แต่แบบไม่สนิท แต่กูอยากสนิทกับเขา) แล้วพอกลุ่มมีเพื่อนเขามาใหม่ แม่งสนิทกว่ากูอีก
ถามว่ากูเคยทำอะไรให้คนในกลุ่มไม่พอใจไหม ก็มีบ้าง
คือ กูควรทำไงวะ กูรู้สึกเหมือนโดนมองข้ามอะ โคตรน้อยใจเอาจริงๆ ในกลุ่มก็มีที่ให้ปรึกษานะ แต่กลัวเขาบอกว่าคิดมาก
>>192 อะไรที่มึงเคยทำให้คนในกลุ่มไม่พอใจล่ะ ถ้ามึงรู้ตัวแล้วก็อย่าทำซํ้า แค่นั้นแหละ
อะไรที่ไม่ดีที่เคยทำให้คนอื่นไม่ชอบมึงก็อย่าทำอีก อยู่กับคนหมู่มากก็ต้องเก็บนิสัยแย่ๆหรือที่คนในสังคมเค้าคิดว่าไม่โอเคไว้ที่บ้าน
ของอย่างนี้มันต้องใช้เวลาหน่อยว่ะ ก็ทำตัวปกติอย่าทำนิสัยแบบนั้นอีก ปรับตัวให้ดีขึ้น ใช้เวลานานหน่อย เดี๋ยวเพื่อนมึงก็คงเห็นเองว่ามึงเปลี่ยนแล้ว
แต่ถ้าทำแล้วยังไม่เวิร์คเค้ายังเมินอีก ก็ต้องแล้วแต่มึงจะพิจารณาแล้วล่ะว่าจะอยู่กับพวกนี้ได้รึเปล่า
>>194 ปกติในกลุ่มสังคมมันจะมีการจัดอันดับความสำคัญบุคคลอยู่แล้ว ในกรณีนี้คือมึงไม่ค่อยมีความสำคัญกับกลุ่มไงมีก็ได้ไม่มีก็ได้ +เพื่อนที่เข้าใหม่อาจจะเข้าสังคมเก่ง คุยเก่งมันก็เรื่องธรรมดาว่ะ
กูก็เป็นคนอยู่ในเงามืดของกลุ่มมาตลอดตั้งกะเรียนจนจบ ความเห็นกูถึงจะถูกต้องแต่ถูกมองข้ามเสมอ มีช่วงน้อยใจไม้ก็มี เพียงแต่มองๆไปก็มีคนอย่างกูอยู่ในกลุ่มอีกหลายคน กูเลยไม่คิดมากไปเฮฮากะคนที่ถูกจัดอันดับในกลุ่มไว้ต่ำแบบกูแทน
ถ้าสมมติแชร์คลิปหมาแมวให้เพื่อนผุ้ชายทางอินบอปซ์ มันจะดูเหมือนเราไปจีบมันมั้ยวะ
เหี้ยเอ๊ยยยยยยย อิเพื่อนเชี่ยตอแหลกุว่าส่งงานแล้ว ได้เกรดแล้ว ดีนะที่เพื่อนอีกคนในกลุ่มกูแคลงใจเลยให้กูไปเช็คกับครู ปรากฎว่าส่งแบบกองไว้เฉยๆอ่ะ ความจริงคือครูกูให้ส่งแบบตัวต่อตัว กุถามครูครูก็บอกว่ายังไม่มีเกรด เกือบติด 0 แล้วกลุ่มกรูต้องมานั่งแก้งานตอนปิดเทอม ดกทง
กูรู้นะว่ามันเป็นเรื่องปกติที่คนจะถามว่าทำไมวันนี้ไม่มา ทำไมดรอป แต่กูโดนถามอะไรแบบนี้แล้วรู้สึกคุกคามว่ะ
กูแค่ไม่อยากไป แค่ขี้เกียจเรียน ขี้เกียจทำงานส่ง ไม่มีเวลาอ่านวิชาอื่น พอคนมาถามทำให้กูต้องคิดเหตุผลตอแหลให้มันดูดีตลอด
ทำไมต้องอยากรู้เรื่องชาวบ้านด้วยวะ กูยังไม่เคยไปถามใครเขาเลย ไม่เห็นจะอยากรู้ เรื่องของใครของมัน
มึงงง กลุ่มเพื่อนกูมันเหมือนจะสนิทกันมีสร้างกลุ่มแชทเฟสแต่เวลาคุยมีคนตอบแค่กูกับเพื่อนอีกคนพอมีปัญหาเหี้ยอะไรถามแม่งก็ไม่ตอบกัน แล้วตอนสอบมันก็นัดแยกกันไปติวมีกูกับเพื่อนไม่กี่คนที่ไม่รู้แถมกูพึ่บรู้ว่าแม่งสร้างแชทกลุ่มแยกในไลน์โดยมีเพื่อนอีกกลุ่มอยู่แต่มีกูมั้งที่ไม่อยู่ตอนนั้นกูน้อยใจสัส ตอนรู้ว่ามีกลุ่ทแยกคือตอนมีสอบแม่งลงรูปเฉลยข้อสอบปีที่แล้วกูถามว่าเอามาจากไหนแม่งบอกว่าเอามาจากในกลุ่มตอนนั้นคือแม่งโป๊ะแตก บ้างครั้งแม่งทำอะไรก็ไม่รอหรือชวนกู น้อยใจสัส
>>207 กลุ่มมึงไม่ได้สนิทกันจริง มีความเป็นไปได้ว่า
1. อาจมีการเมืองในกลุ่มที่มึงไม่รู้ แล้วมึงสนิทกะอีกข้างนึงเค้าเลยไม่เอามึงเข้ากลุ่มย่อยของอีกข้าง หรือ
2. มึงอาจทำอะไรให้ขาใหญ่ในกลุ่มไม่พอใจ เค้าเลยไปตั้งกลุ่มย่อยมาเมาท์มึงโดยเฉพาะ
3. ในกลุ่มมีคนที่อาจมีเรื่องกะคนอื่น กลุ่มย่อยคือกลุ่มที่ไม่ชอบคนนั้น แล้วไม่อยากคุยด้วยเลยรวมตัวคนที่สนิทจริงๆมั่นใจว่าจะไม่เอาความลับในกลุ่มย่อยไปบอกอีคนนั้น ซึ่งไม่มีมึงเพราะมึงวางตัวเป็นกลางหรืออะไรก็แล้วแต่
กูแค่สงสัยนะ ไม่ได้อะไรกับเพื่อน คือแบบในสังคมมหาลัยเป็นแบบนี้ทุกคณะเลยมั้ยอ่ะ แบบกินบุเฟต์ราคาหัวละ 500Up (ราคาปกติที่กินกันคือ 799) คือเพื่อนกลุ่มกุชอบกินแบบนี้ตลอดเลยอ่ะ คือทุกสัปดาห์ก็ว่าได้ (มีเว้นสัปดาห์บ้าง) กุก็เคยเปรยๆว่ากินบุฟแล้วมันต้องกินเยอะอ่ะ กลัวอ้วน เพื่อนก็บอกว่ามึงกินที่คุณภาพสิ ไม่ได้เน้นกินเยอะ ในใจกุแบบ... ส่วนตัวเองก็เสียดายตังด้วย คือถ้านานๆทีเดือนละหนก็โอเคอ่ะ พอกุมองไปที่เพื่อนกลุ่มอื่นก็แนวๆนี้อ่ะ คือกลายเป็นมื้อล้ะ 600 ถือว่าปกติ (แต่กลางวันกินที่มอ ชามละ40ก็กินกันได้นะ) พวกมันมองว่าเป็นรางวัลชีวิต(จากการเรียนหนัก...) หรือว่าเป็นปกติของคนกรุง? (เราก็กรุงนะ แต่ไม่ได้เข้าสยามบ่อย5555)
มึงกุสงสัยหรือคิดมากไปเองวะ แบบตอนอยู่รรกุสนิทกับเพื่อนคนนึง ละพอเข้ามหาลัยคืออยู่คนละมอแต่ยังติดต่อคุยเล่นกันอยุ่นะแต่พอขึ้นปี2กุรุ้สึกห่างๆอ่ะแบบกุทักสตอรี่มันไป แท็คมันในเฟสไรงี้หลายครั้งคือแม่งก็ไม่ตอบกัอ่ะแล้วมันก้ลงรูปลงสตอรี่ตลอดหลังจากกุทักไปงี้จะบอกว่าไม่ว่างก้ไม่ใช่อ่ะหรือขี้เกียจตอบ จนกุแบบรู้สึกน้อยใจวะจนแบบกุไปทำไรให้แม่งวะเจอยังไม่ค่อยเจอเลยเดี๋ยวนี้ไลน์ยังไม่ได้คุยกันเลยถึงจะห่างกันแต่กุยังคุยเหมือนเดิมแต่นี้คือไม่ตอบไรกุเลย
>>208 กลุ่มกูเหมือนกลุ่มที่แดกข้าวกลางวันกับกลับบ้านทางเดียวกัน และกลุ่มกูจะมีพวกพอสอบย่อยแม่งไม่ช่วยกันเลยแบบให้ลอกหรือช่วยๆกันไม่มี หรือเวลาติวมันจะชวนคนที่มันสนิทหรือเรียนเก่งไปติวแยกแล้วไม่ชวนกูหรือเพื่อนบ้างคนไป ถ้ามีจับกลุ่มหรือได้เฉลยการบ้านแม่งไม่ค่อยแชร์กันในกลุ่มให้แต่รายตัว กูงอแงไปป่าววะ
เพื่อนกูชอบบ่นไรงี้ว่ากูแบบไม่ค่อยทำอะไรเอง แบบชอบฝากคนนู้นหยิบนี้ หยิบนั่น ส่งของให้ไรงี้ ซึ่งมาจากกูขี้เกียจอะ กูก็โอเคปรับตัว ถ้าจะให้ทำให้ก็จะถามเป็นเชิงขอร้องมากกว่า แต่พอกูมาดูๆเพื่อนแม่งชอบบ่นแต่ก็ทำให้ตลอดเลย บางอย่างกูพูดเล่นๆแบบขีดเส้นให้หน่อยก็ขีดให้จริง กูงงมาก เพื่อนโดนกูป้ายยาปะวะ หรือเพื่อนแค่เป็นคนดี
กูผิดป่ะที่ไม่ชอบมัน เพราะกุเห็นแก่ตัวมั้ย
คือเพื่อนชอบโดดเรียน เรียนไม่เก่ง ตอนแรกก็ตงิดๆ แต่ก็ไม่อะไร ไม่เสือกอนาคตใครอนาคตมัน กุเป็นแนว เนิดๆนั่งหน้าห้อง
มาเริ่มไม่ชอบตอนนางขอลอกการบ้านอ่ะ แงงง เราปฏิเสธไปว่า บ้า555 แต่เราควรปฏิเสธว่ายังไงดี ให้มันซอฟๆ
ไม่พูดตรงๆเพราะเราเป็นเด็กใหม่พึ่งย้ายมาแต่เค้าอยู่มาก่อนเรา มีเพื่อนเยอะกว่าเรา แล้วเราอยู่รร ในตปท ด้วยคนไทยน้อย ไม่อยากโดนแบน
รู้สึกว่าเหมือนโดนเพื่อนหมั่นไส้แต่ไม่รู้ว่าคิดไปเองมั้ย มีวิธีสังเกตป่ะวะ?
>>219 ขึ้นอยู่กับว่าเมืองที่มึงอยู่ สังคมที่มึงอยู่ ศิวิไลซ์ไหม เป็นตะวันออกหรือตะวันตก สำหรับตะวันออก กุคงให้คห.อะไรไม่ได้
แต่ถ้าเป็นอเมริกา กุบอกได้อย่าง อย่าให้ใครข่มมึง อยากได้รับการยอมรับจากพวกนี้ (และชีวิตสงบสุข) คือถ้ามันตวาดให้มึงยอมให้ลอก มึงต้องตวดกลับดังกว่าว่ากุไม่ให้!
อย่าให้ใครข่มว่ามึงเป็นเป็นเอเชี่ยนต่างด้าวแล้วด้อยกว่า อิเผือกพวกนั้นไม่เคยกล้ากับสาวผิวสีเพราะพวกชีโหดมว้ากกกก
กูมีเพื่อนที่ชอบมโนว่ามีแฟนในจินตนาการว่ะ กูควรทำยังไงดีวะ
>>219 เพื่อนที่ว่าคือคนไทยใช่ปะ ถ้าใช่มันจะแบนก็ปล่อยมันแบนไปจร้า แล้วไปคบกับคนเอาเรียนที่เป็นชาติอื่นจะสบายใจกว่า สังคมคนไทยในต่างแดนที่ไม่ใช่พวกตั้งใจเรียน(ระดับนึง คือเกรดต้องไม่กาก)แม่งเน่าหนอนหมดอะ เหมือนเอานิสัยเหี้ยของคนไทยมายัดรวมกันในคนไม่กี่คน ไม่ต้องสุงสิงด้วยจะดีสุด
รูมเมทชวนเพื่อนมาเที่ยวบ้าน เที่ยงคืนกว่าไม่นอนหัวเราะคิกๆ พรุ่งนี้กูมีสอบแคล อิเมทเหี้ย เปิดประตูด่า เงียบๆหน่อยสิ ก็ยังดัง ควววววolo
มีกลุ่มเพื่อนในแชทเกมวะ จะมีอีคนนึงขี้อวดชิบหาย อวดว่าตัวเองร่ำรวยแต่ก็ขายกู๊ดหากินไปขายตรงยัดเยียดให้ซื้อ อวดไม่พอชอบบลัฟคนอื่นทับถมคนอื่นเหมือนเป็นพวกขี้อิจฉาเรียกร้องความสนใจ พอไม่มีใครอยากคุยด้วยแม่งก็ฟลัดจุดเต็มแชทไปหมด รำคาญ อยากด่าตรงๆลงไปมาก แต่ก็ไม่อยากมีเรื่อง ได้แต่ปิดโนติแล้วก็อดทน
เวลาใกล้สอบกลุ่มเพื่นอกูแม่งหายหัวแยกจับกลุ่ทย่อยอ่านกันเองถามในกลุ่มว่าอ่านที่ไหนแม่งเงียบสัส ฟวยพองี้เสือกไม่ช่วยกัน
เพื่อนหรือคนที่กูรู้จักส่วนใหญ๋มีแต่คนบ้านมีเงินทั้งนั้นเลย บ้านกูก็ไม่ได้ฐานะแย่หรอกแต่จะว่าไงดีวะ กูรู้สึกนอยด์ๆ กูไม่ได้อยากได้เชิงขโมยของเขามาเป็นของตัวเองแต่กูอยากให้ตัวเองมีแบบเขาบ้างอะ บ้านหลังร้อยล้าน รถคันหลายล้าน ตระกูลมีเกียรติไรงี้ ช็อปเสื้อผ้าแบรนด์ได้แบบไม่ต้องกังวล เปย์ทุกอย่างได้แบบชิวๆอะ ฮืออ กูอยากผลักตัวเองไปได้แบบนั้น แต่จริงๆคนที่ทำก็คือพ่อแม่เพื่อนกูอะนะไม่ใช่เพื่อนกู กูอยากทำได้บ้างงง
กูถามหน่อย ผญเกลียดผญด้วยกันเองนี้ ต้องเป็นผญประเภทไหนวะ
เพื่อนกูชวนกูไปกินข้าวแล้วมันสนิทกับเพื่อนห้องเก่ากู มันเลยชวนไปกินกัน พอกูไปนึกว่ามันจะเฮฮาที่ไหนได้ไม่มีที่ให้กูยืนเลยวะทั้งที่สมัยก่อนสนิทกันนะแต่พอขึ้นมปลายกูย้ายห้อง แล้วไม่ได้ไปหาเลย มันก็กลุ่มเดิมและมีคนมาเพิ่มแต่เหมือนกูไปยืนรวมกลุ่มกับมันไม่ได้แล้ววะ กูก็แบบมาทำไมวะ เซงๆ
ข้องใจคน ก่อนเรามาเจอเพื่อนคนนี้ อิเพื่อนมันก็ไม่เห็นจะอะไร ไม่ได้มาทำอะไรกะมัน ไม่มีการชวนกันออกบูธขายของตามงานการ์ตูนงี้ พอกูมา ชวนเขาออกบูธ ทำนั่นนี่ แม่งเสือกจะอยากมาแทรก เสือกขยันชวนแล้วก็แย่งไปเฉยๆ
เอ๊ะมันยังไงกันวะ ความหน้าหีนี่
เพื่อนเราทำเครื่องสำอางเราแตก เราโมโหมากจนบอกให้มันเอาไปทิ้ง มันไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรเลย ทำของที่เราเพิ่งได้มาจากคนที่เรารัก
กูควรพูดกับมนุษย์เพื่อนไงดี คือ กูเก็บของออกจากหอมา2-3อาทิตย์ละแต่ลืมเอกสารกับของไว้บอกให้เพื่อนส่งไปรษณีย์มาให้หน่อยเดี๊ยวโอนค่าส่งกับค่าแรงไรให้มันบอกไม่มีเวลาแต่เห็นกลับมาเที่ยวทุกวันลงภาพเที่ยวทุกวันเห้อออเซง เราไม่อยากไปเอาเองเพราะมันอยู่ต่างจังหวัดช่วงนี้ติดเรื่องเรียนโคตรเซงอ่ะ TT ใครอยู่กทมย่านบางกะปิไปเอาให้หน่อยให้ค่าจ้างฮ่าาาาาาา
Test.....
กุโม่ง ญ นะ
ตอนนี้กุประสบปัญหาอย่างนึงในชีวิตคือ กุไม่เคยมีเพื่อนผุชายเลยว่ะ....
กุจบ ญ ล้วน คณะกุก้มีแต่ ผญ. จบมาทำงานในออฟฟิศก้ญ. ล้วนอีก อิห่า ล่าสุดกุเบื่อสังคมเลยลาออกมาอยุบ้าน สรุปเลยกุไม่เคยมีเพื่อนผุชายจิงๆจังๆ ไม่ต้องพูดไปถึงแฟนเลยเพราะทั้งชีวิตกุไม่มี.
นี่แม่งเครียดจิงจังนะ เพราะกุคือเข้าสังคมเพื่อน ผช ไม่เป็นอ่ะ ทั้งที่ใจอยากมากนะ แตาคาร์กุมันเหมือนแบบเจ๊ๆที่คุยกับเพื่อน ญ เพื่อนกระเทยได้มากกว่าอ่ะ. เพื่อนชายบางคนที่คุยในเยตมันก้ไม่ได้สนิทจิงจัง บางทีกุไปคุยด้วย เม้าไรก็เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มอย่างโอตะ หรือ เน้นฟังปัญหามัน แต่สุดท้ายมันก้ไม่ได้นับกุเป็นเพื่อนจิงๆจังๆอ่ะ. ทำไงดีวะะ
ัญหาของการที่โดนจับเข้า ญ ล้วนเลยนะเนี่ยย ฮือออ หรือกุมันไม่มีเสน่ห์เพื่อนที่น่าคบจิงวะะ
>>245 มีทอปปิคอะไรไปคุยกะผู้ชายอะ
สนใจเรื่องแมสๆ ของผู้ชายส่วนใหญ่ก่อนก็ได้อย่างเช่น ดูบอล 555 กูก็ไม่ได้มีเพื่อนผู้ชายเยอะนะ ยิ่งวัยมึงทำงานออฟฟิศแล้วด้วอาจจะยากหน่อย มันไม่ใช่ช่วงเปิดใจใสๆ วัยมัธยมแล้วอะ ถ้าเอาตามเทรนด์เดี๋ยวนี้ก็งานวิ่ง ไม่ก็คอร์สธุรกิจ ไม่งั้นอาจจะต้องเรียนภาษา คุยในเนตมันไม่ไวเท่าเจอตัวป่าววะ??
ปรึกษาหน่อย คือกูนิสัยเนิร์ดๆ เด็กเรียนมาก ชอบนั่งดูหนังไรงี้ แต่กูค่อยข้างดูแลตัวเอง ชอบแต่งตัว ละกูอยากคบกับกลุ่มป๊อปๆคนสวยๆอ่ะ ทำไง พวกนี้เค้านิสัยยังไงกันวะ
>>248 คนสวยๆ อาจจะชอบให้คนชม โอเคเค้าอาจจะได้ยินมาบ่อยแล้วแต่ชมไปหน่อยก็ดี อย่างวันนี้แต่งตัวสวยจัง เสื้อของอะไร ซื้อที่ไหน ใช้น้ำหอมอะไรทำไมตัวหอมงี้ หรือถ้ามีเฟสเค้าแล้วเค้าลงรูปไลฟ์สไตล์ก็ไปลงไปไลค์หน่อย เจอหน้าก็ถามแบบที่เที่ยวเป็นไงอาหารอร่อยมั้ย มึงก็ลองส่องๆ ไปอะ เผื่อเจอทอปปิคที่คุยกันได้ ทีนี้ก็ยาวเลย
กุล่ะสุดจะทนกับความโลกหมุนรอบตัวเองของรูมเมทชิบหายยย คิดว่าตัวเองทำทุกอย่างกูไม่เคยช่วยทำอะไรเลย แต่ไอ้เรื่องที่ตัวเองไม่ทำนี่ไม่เคยเอามาพุดเลยนะ จานชามกินเสร็จก็ไม่ล้างกูก็ต้องล้างให้ บ้านกุก้กวาดถูให้ ทำพื้นที่ส่วนกลางรกกูก็มาเก็บ ขยะกูก็เอาไปทิ้งออกจะบ่อยเวลาที่แม่งไม่อยู่ กูไม่เคยเอามาพูดมาบ่นเหี้ยไรเลยนะ
แต่มึงเข้าใจป่ะ ว่าบ้านแม่งมันจะอาดตลอดเวลาได้ไงวะ พอกูไม่ได้ทำให้ทุกวันจนบางทีแม่งมีเศษผม เศษฝุ่นกองบ้าง แม่งก็จะเหมาเลยว่ากูไม่ช่วยทำไรเลย หรือเห็นจานยังไม่ล้างบ้างก็หาว่ากูไม่ยอมล้างจาน ทั้งๆที่ไม่เคยสำเหนียกเลยว่าจานใหม่ๆที่มีให้กินมันจะมาจากไหน ในเมื่อตัวเองก็ไม่เคยล้างสักครั้วเดียว แค่พอตอนนี้กูไม่มาตามล้างให้บ้างแม่งเป็นปัญหาเลยเชียวนะ เจอขยะเต็มถังก็หาว่ากูไม่ทิ้งนี่ไม่รู้หรอว่าขยะมันก็เพิ่มได้ทุกวัน กุต้องมาตามเก็บให้ทุกวันไง๊ แล้วอยุ่ด้วยกันทำไมกุต้องมารับใช้ด้วยวะ เห็นกุเป็นอะไร ต้องให้กุทำความสะอาดให้ทุกวันตัวเองไม่ทำห่านไรเลยถึงจะพอใจ? จัดเวรไปแล้วก็ไม่เห็นทำ พอกูไม่ทำบ้างล่ะเป็นเรื่อง
กูไม่เคยพูดเลยนะ ไม่เคยเอามาว่าเลยซักครั้ง แต่แม่งพูดเหมือนกูไม่เคยทำเหี้ยไรเลยแบบนี้แม่งเคืองสัสๆ เกลียดมากการมาทำเหมือนว่าตัวเแงเหนื่อยมากทำงานอยู่คนเดียว กูไม่มานั่งกวาดห้องให้เห็นก็ไม่ได้หมายความว่ากูไม่ทำนะเว้ย เวลามีเศษผมร่วมก้หาว่าเป้นผมกู นี่ทั้งบ้านกูมีผมอยู่คนเดียวรึไงห๊ะ กูไม่ใช่คนสะอาดเวอร์บ้านต้องเนี๊ยบตลอดเวลาก็จริงแต่ก็ไม่ได้สกปรกนะเว้ย อยากได้บ้านสะอาดตลอดเวขนาดนั้นจ้างแม่บ้านเลยมั้ย ก้ไม่ มันก็ต้องทำเองมั้ยสัส แล้วมันมีปัญหาอะไรนักหนา ถ้ากูไม่ทำเหี้ยไรเลยจริงๆกูจะไม่เคืองเลยนะ แต่นี่กูทำไง กูทำเวลาที่รู้สึกว่ามันสกปรกไง แต่พอไม่ทำให้เห็นก็มาว่ากันแบบนี้ ก็ทำเองไปเลยป่ะ แม่ง กูจะไม่ทนแล้ว
แม่งเหมือนคาดหวังว่ากลับบ้านมาทุกอย่างต้องสะอาด บ้านต้องไม่มีฝุ่น ถังต้องไม่มีขยะ จานต้องไม่มีอยู่ในอ่าง ตัวเองไม่ต้องทำอะไรเลยนอนสวยๆ นี่กะผลักภาระให้กูทำคนเดียวชัดๆ แม่ง
>>252 ก็พอกูไม่ทำแม่งก็เลยมาด่ากูไง ว่าไม่ทำเหี้ยไรเลย ไอ้ที่แล้วๆมาแม่งไม่เคยรับรู้หรอก ถือว่าถ้ากูไม่ทำให้เห็นแปลว่ากูไม่ได้ทำไง
คือถ้าบ้านไม่สะอาดแล้วมันต้องมาทำเอง แม่งก็จะว่ากูเลยเว้ย แม่งคาดหวังว่ากลับบ้านมาแล้วไม่ต้องทำเหี้ยไรเลยมั้ง สงสัยคิดว่ากูเป็นขี้ข้าต้องปัดกวาดเช็ดถุให้บ้านสะอาดตลอดเวลา มันกลับมาไม่ต้องทำห่านไรเลย ตรงไหนที่ว่าช่วยกันวะถ้ามาคาดหวังอะไรแบบนี้ กูย้ายออกแน่รอหาหอใหม่ได้ก่อนเหอะ หลายทีละ รำคาญ ต้องมารับใช้แม่งแล้วยังโดนด่าอีก ทำแล้วยังโดนด่าแบนี้ไม่โอเคสัสๆ
>>248 ไม่รู้มีประโยชน์สำหรับมึงรึเปล่านะ คือกูก็เนิร์ดๆ เรียนเก่งประมาณนึง แต่ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งหน้าแต่งตัวเลย
แล้วกูก็ไม่ค่อยถูกกับผู้หญิงแนวเปรี้ยวๆ ชอบแต่งหน้าแต่งตัวอะไรแบบนี้ด้วย
พอขึ้นเทอมใหม่มีวิชาที่อาจารย์ random กลุ่มทำ lab ให้ แล้วต้องอยู่ด้วยกันไปทั้งเทอม แล้วในกลุ่มได้ผู้หญิงสไตล์นี้ติดมาคน
ก็เลยได้คุยๆกับนางบ้าง ก็คิดว่านิสัยมันไม่ได้แย่อย่างที่คิดตอนแรกนะ
คือนางอยู่กลุ่มผู้หญิงที่ดูแรดๆแรงๆไรงี้ สำหรับกูตอนนั้นคือรู้สึกว่าคนอะไรวะในหัวมีแต่เรื่องเที่ยวกับแต่งตัวไปวันๆ
แล้วบางทีก็เหวอๆกับนิสัยเฟรนลี่เวอร์ๆของนางนะ แบบชอบเผลอคิดว่าคนอะไรวะโคตรแรด กูกลัว
พอได้คุยกันบ้างเวลานางมีปัญหาเรื่องเรียนอะไรงี้ก็เลยมาขอให้กูช่วย เหมือนรู้ตัวอีกทีก็สนิทกันไปแล้ว
แต่กูก็ไม่ได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มนางนะ สุดท้ายก็สนิทกับมันโดยไม่เคยคุยกับเพื่อนคนอื่นในกลุ่มมันเลยซักแอะเดียว
เหมือนต่างฝ่ายต่างรู้ว่าไม่ใช่สไตล์คนที่จะคลิกกันได้ก็เลยไม่ได้สนใจจะคุยกัน
จริงๆกูว่าการที่คนเราสนิทกันมันไม่จำเป็นต้องมี lifestyle ตรงกันก็ได้นะ
เพราะกูกับเพื่อนคนนี้เวลาเจอกันแค่เม้าเรื่องชาวบ้าน บ่นเรื่องงาน กินขนม ถ่ายรูปกันก็หมดเวลาแล้ว
ถ้าต้องเม้าเรื่อง lifestyle อีกนี่คงไม่มีเวลา ขนาดเจอเพื่อนที่ lifestyle ตรงกันยังแทบไม่ค่อยได้คุยเรื่องพวกนี้เลย
>>255 กุอ่ะ ไม่เคยทำห้องเน่าเลย ข้าวของก็เก็บ จานก็ล้าง แค่กูไม่ได้ทำ ณ ตอนนั้นแต่สุดท้ายก็เป็นกูที่ทำมาโดยตลอดเป็นปีๆเพราะไม่มีหน้าไหนทำหรอก พูดมาได้ไงว่ากูไม่ทำอะไรเลย ตอนไม่อยู่กูก็ทำ คงไม่เคยสังเกตุเลยว่าบางช่วงห้องมันก็สะอาดโดยที่แม่งก็ไม่ได้ต้องมาทำห่าอะไร แต่พอช่วงไหนที่กูไม่ได้ทำแล้วแม่งต้องมาทำเอง แม่งทำซะยังกับกูไม่เคยทำเหี้ยอะไรทั้งนั้นตัวเองต้องทำคนเดียว มันก็เกินไปป่ะวะ กูเป็นรูปเมทนะมึงไม่ใช่ขี้ข้า เงินก็จ่ายแล้วกูยังต้องมารับใช้อีกหรอวะ คิดว่าตัวเองเป็นใครวะ
เราเคยถามเพื่อนคนนึง ว่าทำไมมีเพื่อนสนิทสองคน แล้วทรีตคนนั้นดีกว่าเรา แบบใจดีด้วย โอนอ่อนด้วย ประนีประนอม
นางก็นิ่งคิดละบอกว่า เพราะชีวิตคนนั้นลำบากกว่ามั้ง เรื่องครอบครัวเรื่องไรงี้ ทำไมเรารู้สึกว่ามันไม่ค่อยยุติธรรมนะ
แบบเวลาเรามีเพื่อนเราโฟกัสแค่ตัวเพื่อน ไม่ได้คิดว่าคนนั้นบ้านรวยไม่ต้องทรีตดีมาก คนนี้บ้านลำบากใจดีกับเขาหน่อยเถอะ
รึคนทั่วๆไป เขาคิดแบบนี้จริงๆ? เราสงสัย ขอความเห็นหน่อย
>>257 จริงๆ มันก็เป็นได้หลายอย่างนะ คนนั้นเขาอาจจะเป็นคนนิสัยน่าเอ็นดูอยู่แล้ว ใครเห็นก็ยิ่งอยากดูแลโดยที่ไม่เกี่ยวกับพื้นฐานที่บ้านก็ได้ หรือว่าเพื่อนมึงเองเป็นคนขี้สงสาร เห็นใจคนอื่นด้วย ยิ่งรู้ว่าคนอื่นผ่านเรื่องไม่ดีมาก็อยากดูแล มันก็ไม่แปลกอะมึง โดยปกติแล้วถ้าเรารู้อดีตหรือพื้นฐานชีวิตของใครซักคน ก็ไม่แปลกที่เรื่องพวกนั้นจะส่งผลกระทบกับวิธีที่เราทรีตเขานะ
เช่น สมมติว่า เอ เป็นคนขี้งกมาก ไม่เคยแบ่งของอะไรให้เพื่อนเลย แต่ บี ที่เป็นเพื่อนสนิทเอมีอะไรก็แบ่งให้เอตลอด ดูแลดีมาก ในขณะที่กับมึง บีก็แค่สนิทเฉยๆ แต่ไม่ได้ดูแลอะไรมึงมาก มึงอาจจะรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม หรือรู้สึกว่าทำไมเอดูเห็นแก่ตัวจัง ไรงี้ก็ได้ แต่ถ้าสมมติวันนึงมึงมารู้ว่าบ้านเอจนมาก วันๆ นึงเลิกเรียนกลับบ้านต้องทำงานพิเศษเพิ่ม หรือไม่ค่อยมีเงินได้กินของดีๆ มึงจะยังรู้สึกว่าบีลำเอียงอยู่อีกมั้ยอะ
>>257 อันนี้ตัวกูเลยนะ กูทรีทเพื่อนสนิทไม่เหมือนกันจริง จะว่าลำเอียงก็ได้แต่แบบคือกูแพ้ทางเพื่อนนิสัยแบบนี้ไงมึง คือเคยโกรธมากๆแล้วเค้าขอโทษตัดหน้าที่เราจะพูด คือความโกรธสลายเป็นฝุ่น จะอ้าปากด่าคือด่าไม่ออกสตั้นแบบ อห พูดไปอัติโนมัติว่าไม่เป็นไร อีกคนคือโกรธละโกรธนานกว่าหน่อย เพราะนิสัยเพื่อนไม่เหมือนกัน
อีกอย่างคือเวลาคุยกะเพื่อนก็มีทอปปิกคนละอัน กูเหมือนมีหลายบุคลิกเป็นการคุยกับแต่ละคน กะคนนี้เป็นติ่งเกาหลี กะคนนั้นเป็นติ่งนิยายจีนไรเงี้ยย ฟีลลิ่งมันต่างกันน
คือถ้าเป็นเรื่องนิสัยเราเข้าใจนะ เพราะคนเรามันก็คบกันที่นิสัยนี่แหละ เพียงแต่แค่คิดว่า background ต้องนำมาคิดด้วยเหรอเวลาเป็นเพื่อนกับใคร
เพื่อนคนนั้นจริงๆบ้านรวยกว่าเราอีกมั้ง แต่มีปัญหากะทางบ้านเขาไม่ค่อยให้ใช้เงินงี้ เพื่อนเลยเห็นใจ
จริงๆที่มาถาม เพราะเราทรีตเพื่อนคนนั้นดีมากๆๆๆ แบบเป็นทุกสิ่งให้เธอแล้ว แต่พอรู้ว่าอ่าว ทีกับเราชอบพูดไม่ดี
แต่ทำไมพูดดีกับเพื่อนคนนี้ ถ้าเป็นเพราะนิสัยเรายอมรับ เราปรับปรุงได้ แต่ถ้าจะเป็นแบ็คกราว เราก็ไม่รู้จะปรับยังไงเหมือนกัน
คงประมาณก็ทำดีมากมาย เหมือนให้อะไรไปแล้วได้กลับมาไม่เท่าคนอื่นงี้มั้ง
มีใครเป็นแบบกูบ้าง
คือกลุ่มที่กูคุยอะ มีอยู่3คน คุยกันดีๆแหละ แล้วมีวันนึง มีใครก็ไม่รู้มาคุยกะเพื่อนกู2คนโดยที่กูไม่รู้จักเว้ย แล้วนางก็ไม่มาทักทายกู เมินโคตรๆ พอกูกลับมาคุยกัน3คนปกติ บางครั้งมันจะมีไอ้ชื่อคนนั้นอยู่ในบทสนทนาเว้ย จะด่ากูว่ากูไม่เป็นมิตรก็ได้ แต่รู้สึกเกลียดๆไอ้คนที่เข้ามาคุยกับเพื่อนกูยังไงไม่รู้ เหมือนไม่ถูกชะตา
มีเรื่องมาเม้ามึ๊งงงงง
คือกูลืมของไว้ที่กทมแล้วกูบอกเพื่อนว่าส่งมาให้หน่อยโอนค่าส่งให้เอาเลขมา แม่งไม่ตอบจนเดือนกว่ากูให้คนรู้จักไปเอาให้เว้ยกูบอกในเฟสดีๆนะพร้อมบอกใจมากลบกูออกจากเพื่อนงงมะ เห้ย มึงย้ายหอไม่บอกกูเก็บเอกสารให้รึป่าวก็ไม่รู้ลิปที่รีดผมของใช้มึงเอาไปใช้หรอหรือยังไงไม่บอกพอถามถามโดยถามอีกคนละให้อีกคนถามมันต่อนางบอกไม่มีเวลาแต่อัพเฟสไปแดกข้างไปเลี้ยงผชมึงตอแหลเว่อออออออออออออ
เอาเถอะ มึงต้องรู้ว่าเพื่อนไม่ดี ตัดทิ้งไปจากชีวิตแล้วจะมีความสุขขึ้น
กูอยากหาที่ระบาย กูไม่ไหวแล้ว
กูเพิ่งปีหนึ่ง เปิดเทอมมาได้ไม่นานใช่มะ ยังไม่สนิทกับเพื่อนในคลาสเท่าไหร่หรอก ทีนี้อาจารย์ให้จับกลุ่มทำรายงานกูเลยจับกับเพื่อนทีนั่งข้างๆกัน พอได้หัวข้อที่ต้องทำรายงาน ดันไม่มีคนช่วยกูทำเลย กูต้องทำคนเดียวหมด ทุกคนอ้างว่าหาข้อมูลไม่ได้ หาไม่เจอ แต่กูไม่เข้าใจว่าแล้วที่กูหามาได้ทั้งหมดจนออกมาเป็นรูปเล่มมันคืออะไรวะ กูเหนื่อยมาก กูเสียเงินซื้อหนังสือ เสียเงินไปตระเวณตามหอสมุดต่าๆงเพื่อหาข้อมูลมาทำรายงาน ในขณะที่ในกลุ่มกูไม่เคยคิดจะถามหรือจะช่วยกูทำเลย ทั้งๆที่พวกมันก็เห็นกูอ่านหนังสือ อ่านเนื้อหาเพื่อทำรายงาน พอกูทำรูปเล่มเสร็จกูส่งไปให้คนในกลุ่มอ่านบอกให้อ่านกันนะ จะได้รู้เนื้อหาที่ต้องพรีเซ้นต์ แต่คำตอบที่ได้มาคือ ทำไมเนื้อหามันละเอียดเยอะจัง แล้วจบ!!! คือต้องให้กูพรีเซ้นต์คนเดียวด้วยเปล่าวะ เอาจริงๆตอนนี้กูเริ่มรู้สึกว่าถ้ากูพรีเซ้นต์เองเลยกูจะสบายใจกว่ามากด้วยว่ะ กูควรทำไงดีวะ กูอยากขออาจารย์ว่าขอทำเดี่ยวเลยได้มั๊ย แต่กูก็ควรเพื่อนในกลุ่มมองกูไม่ดีอีก แล้วสมมติรอบนี้จบ ถ้าต้องจับกลุ่มรอบหน้าอีกกูจะโดนเกาะอีกมั๊ย กูเหนื่อยแบบไม่ไหวแล้ว
รู้สึกเหมือนโดนเพื่อนกีดกันไม่ให้รู้จักเพื่อนอีกคน
คือเราพึ่งมาใหม่ พวกนางมาปีก่อนเรา เราไม่ใช่คนพูดเก่ง แต่เราคาดหวังให้มันแนะนำเรากับเพื่อนมันบ้าง อย่างน้อยแค่ชื่อให้กูรู้จักก็ยังดี นี่เหมือนเมิน ไม่แนะนำอะไรเลยอ่ะ แล้วจะพากุไปทำไมวะ รู้สึกหน้าชามากๆ ในคลาสก็เมินมันไม่ได้ เพื่อนเราไม่มีจริงๆ เปิดเทอมได้สักพักแล้วไม่มีเพื่อนเลยอ่ะ
กูว่าไม่ถึงกับต้องซิ่วหรอก มึงหาทางแก้ดีๆ เปิดใจคุย อย่าใช้อารมณ์ เล่าเหตุผลให้เพื่อนมึงเข้าใจให้กระจ่างว่ามึงสละเวลาแค่ไหน ถ้ารอบหน้าพวกมึงเป็นงี้อีกกูไม่ทำด้วยแล้วนะ บลาๆให้มันเด็ดขาดไป ไม่งั้นทางเลือกสุดท้ายก็หาอาจารย์ จารพร้อมช่วยเหลืออยู่แล้ว (มอที่กุอยู่ไม่มีแบบนี้นะ มึงหาสังคมดีๆอยู่ดิ นี่เพิ่งปีหนึ่งยังไม่ค่อยรู้ใจคน ไม่แปลกที่เจอคนเห็นแก่ตัว หาเพื่อนใหม่ที่ขยันๆดิ )
เพื่อนทำขี้บ่นกลับดึกก็ด่า ไปคนเดียวก็ด่า ไปหลายคนก็ด่า ไปกับรุ่นพี่ก็ด่า ไปกับผู้ชายก็ด่า ไปแดกนมเฉยๆยังด่าเลย กูรู้ว่าเวลามันดึก แต่เลิกสองสามทุ่มกว่าจะหาไรกินมันก็ต้องดึกดิ ละชอบหาว่าไปไม่ชวน พอชวนแล้วก็ไม่ไป
>>272
1. รอบนนี้มึงทำๆไปให้เสร็จๆ แล้วจำขี้หน้าปลิงไว้อย่าให้มันเกาะอีก
2. มึงพึ่งปี 1 พยายามหากลุ่มเพื่อนที่ OK อยู่ด้วยก่อน มองไปรอบๆห้องจะมีกลุ่มที่ขยันอยู่ให้เข้าไปคุยไปถามงาน ซักพักก็เนี่ยนเข้าไปอยู่ในกลุ่ม บอกเลยกูโง่ว่ะแต่จบได้เพราะได้กลุ่มเทพ ทำสรุปให้ จัดติวกันเองในกลุ่ม กูเป็นเบ้กลุ่มวิ่งถ่ายเอกสาร อย่าไปจมปลักกับกลุ่มแย่ๆ มันจะพยายามเกาะมึงกูบอกไว้เลย ทำงานให้เสร็จแล้วตีตัวออกมาห่างๆ ไปหากลุ่มอื่นอยู่ให้ไว
มึงเคยคิดตัดเพื่อนจริงๆป่ะ
อย่าว่ากูเห็นแก่ตัวนะ กูเบื่อ มันไม่เหมือนตอนมัธยมเลยคิดอยากหาเพื่อนใหม่ในที่เรียนใหม่
งึมมมม เพื่อนโม่งทั้งหลายกูขอปรึกษาหน่อย คือกูกำลังสงสัยว่าตัวเองนี่มันเป็นคนไม่น่าเข้ามาคุยด้วยหรือยังไงหว่า?
คือกูอะเป็นคนเพื่อนน้อยมาตั้งแต่เด็กละ ตอนแรกก็ไม่ใส่ใจหรอกนะเพราะกูเป็นคนคุยไม่เก่ง แต่ระหว่างนั้นก็สังเกตมาตลอดว่าที่จริงแล้วไม่ใช่ว่ากูแค่คุยไม่เก่งว่ะ แต่กลายเป็นว่าคนอื่นแม่งไม่ค่อยกล้าจะเข้ามาคุยด้วยซะงั้น อย่างตอนนี้กูโตจนทำงานทำการเป็นหัวหน้างานละ แต่กูก็รู้สึกได้เลยว่าเหมือนมีกำแพงกั้นระหว่างกูกับคนอื่นๆ เอาไว้ จนไม่เคยได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มซักทีว่ะ
คือทุกครั้งที่กูคุยอะไรออกไป มักจะได้ผลปฏิบัติกลับมาแบบเป็นทางการตลอด แทบจะไม่มีการหยอกล้อหรือล้อเล่นอะไรเลยซักครั้ง อย่างล่าสุดโพสต์ในกลุ่มไลน์ กลุ่มเฟส คำตอบรับก็อย่างกับว่าคุยกับผู้ใหญ่ที่มีระดับสูงกว่าทุกครั้งเลย ไม่มีการหัวเราะ 5555 หรือไม่มีการพูดเล่นด้วยเลย ตอนไปงานเลี้ยงสังสรรก็เหมือนกับทุกคนไม่อยากจะหันมาคุยเล่นด้วย จนกูต้องนั่งอยู่ขอบๆ นั่งกินเหล้าอยู่เงียบๆ ตลอดจนกลายเป็นว่ากูไม่เคยมีเพื่อนที่อยู่ในรุ่นเดียวกันเลยซักครั้ง
กลับกันคนที่เป็นเพื่อนพอคุยกับกูได้ดันมีแต่ผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่าซัก 10 ปีขึ้นทั้งนั้นเลยซะงั้น จึงทำเอากูสงสัยว่ะว่าทำไมเป็นแบบนี้
เพิ่มเติม หรือว่านี่กูมีนิสัยแก่เกินวัยในสายตาคนรุ่นเดียวกันวะ? พอดีกูนี่ถูกคนอื่นเรียก ลุง / ป๋า มาตั้งแต่ตอนอายุ 15 เลย
กูรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเหลวแหลกขึ้นทุกวันละ
สังคมเพื่อนกูไม่ได้บังคับให้กูกินเหล้า สูบบุหรี่นะ แต่รอบข้างที่เหลือของกูคือทำให้กูรู้สึกว่าเครียด จนบางทีต้องหันหาพวกของมึนเมาอะ
มึงถ้าเพื่อนมึงย้ายบ้านโดยที่ไม่บอกไรเลยมึงรู้สึกไงวะ อีเหี้ย เหมือนกูไม่ใช่เพื่อนมันแล้วอ่ะ แบบจู่ๆก็ไม่มาเรียน ไม่มาสอบอะไรทั้งสิ้น แล้วฝากครูมาบอกว่าลาออกแล้วนะ จะย้ายบ้าน แล้วก็ปิดเฟส ปิดไอจีทุกอย่าง เลิกติดต่อกับคนในห้อง ไม่บอกเหตุผลอะไรเลยจู่ๆก็หายไป ที่กูแคร์เพราะตอนแรกกูก็สนิทกับมันนะแต่หลังๆมันเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้ในห้องมันมีเรื่องกันด้วยนิดหน่อย ไม่ใช่เรื่องของมันนะ แต่มันเก็บไปคิด คิดเยอะจนคิดว่าทุกคนเกลียดมัน ทั้งที่จริงๆไม่มีใครเกลียดเลย แล้วมันก็พูดแต่ว่ากูเกลียดมันอย่างงั้นอย่างงี้ แรกๆกูก็พยายามใจเย็นคุยด้วยดีๆ แต่มันเยอะจนหมดความอดทนกูเลยเมินไม่สนใจแม่ง คือแค่กูไม่ได้หันไปมองหน้าเพราะกูคุยกับเพื่อนอีกคนอยู่ก็มาหาว่ากูรังเกียจมันคิดว่ามันเป็นเชื้อโรค รังเกียจจนไม่อยากมองหน้างี้อ่ะมึง มีหลายเรื่องมากที่มันคิดไปเองแล้วคิดว่ากูทำ งงป่ะ เหมือนแม่งหลอนไปเอง บางทีกูก็คิดนะว่าแม่งกูทำให้เพื่อนลาออกป่าววะ
วันนี้วันเกิดกู แต่เพื่อนสนิทกู นางไม่แฮปหรือคิดจะทักกูเลย เฟสมันก็แจ้งเตือนนะ แต่ก็มีมีวี่แววอยู่ดี (ส่วนตัวกูรู้สึกว่าเวลาวันเกิดใครซักคนก็ควรแฮปเขานะ ไม่รู้เพื่อนกูเขาคิดแบบนั้นมั้ย รู้สึกเสียความรู้สึก ฮือ)
กูหงุดหงิดว่ะ คือ บางทีอ่ะเข้าใจนะเพศญต้ิงสนใจเพศชายอ่ะแต่นี่หลงจนไปเอาเงินไปเลี้ยงผชเที่ยวเตร่เงี้ยพอเราถามบอกไม่ว่าง ไม่ว่าง แต่ผชโทรหาแต่งตัวออกแรดๆๆๆๆๆๆอ่ะ แล้วมันย้ายหอกูจะไปเอาของสายก็ไม่รับมีอะไรแก้เข็ดมันบ้างทวงมาจนจะเดือนแล้วอ่ะกูทักไปขอดีๆแค่เอาลงมาให้ไม่ก็บอกอยู่ไหนก็จบกูไปเอาเองนะมึง เบื่อว่ะ
>>281 กูมีเพื่อนคนนึงคล้ายๆมึงเลยอ่ะ มีปัญหาในห้องมัน ซึ่งไม่เกี่ยวกับมัน แล้วมันก็คิดว่าทุกคนในห้องเกลียดมัน แบนมัน ทั้งๆที่ไม่มีใครอะไรกับมันเลย สุดท้ายก็ย้ายโรงเรียนไป
หลังจากนั้นสักพักนึงแม่งก็ส่งข้อความมาหากูทางไลน์เหมือนมาหาเรื่องทะเลาะ ประมาณว่ากูก็ไม่ได้มองว่ามันเป็นเพื่อน ตอแหลใส่มัน และไปด่าลับหลัง แล้วบล็อคไลน์กู กูเลยทักไปถามในเมสเซนเจอร์ว่าเป็นอะไร อยู่ๆมาด่าแล้วบล็อค มันบอกว่าเข้าใจผิด คิดว่ากูเป็นเพื่อนอีกคนนึง กูก็เลยเอาไอดีไลน์ให้มันแอดมาใหม่ พอมันแอดมา สักพักก็มาด่ากูตอแหลแล้วก็บล็อคกูอีก กูรำคาญเลยไม่คุยกับแม่งเเล้ว เลยไปลองถามเพื่อนในกลุ่มมัน (ก็กลุ่มเก่ากูนี่แหละ แค่พักหลังกูสนิทกับกลุ่มอื่นมากกว่า แต่ก็แวะไปคุยเล่นเม้ามอยตามปกติ) ประมาณว่าช่วงนี้มันเป็นไงบ้าง อยู่โรงเรียนใหม่สบายดีมั้ย กลายเป็นว่าทุกคนในกลุ่มโดนเหมือนกันหมด...
จนเรื่องผ่านมาหลายเดือน อยู่ๆก็มาแอดเฟสกู แต่กูไม่ได้รับมัน เพราะกูขี้เกียจ มันก็ทักมาว่าแบบ กูเคยไปทำตัวหลอนๆใส่มึงมั้ย กูขอโทษ บลาๆๆ แล้วขอให้กูรับแอดมัน กูก็แบบ อ่าวอีสัส ที่กูโดนมึงด่าเอาๆ มึงจำไม่ได้เลยหรอ? แต่ก็รับแอดมันอยู่ดีนะ แค่ไม่คุยด้วยแล้ว 555555
กูนี่กลับกันเลย ตอนม.ปลายโดนเพื่อนบอยคอตบ่อยมาก เพื่อนทั้งห้องไม่คุยด้วย เพื่อนสนิทส่งอีเมล์มาด่า เพราะกูเป็นคนขวานผ่าซาก พูดตรงๆ ไม่ไว้หน้าใคร พอกูถามว่ามีอะไรรึเปล่า คนก็บอกว่าไม่มี คิดมาก คิดไปเอง แต่มันสัมผัสได้จริงๆ ว่ามี คนไม่พอใจมึงแค่คนเดียว มันก็ทำให้คนอื่นๆ เกลียดมึงต่อได้ กูได้ยินคำนินทากูตลอด จนอยากจะย้ายโรงเรียนหนี แต่ที่บ้านไม่สนับสนุน
คนทั้งห้องเกลียดกูขนาดว่า ครูให้จับกลุ่มเขียนบทละครประกวด 5 คน ห้องกูมีแค่ 41 คน กูเป็นเศษ 1 คนที่เหลืออ่ะ ปรากฏว่ากูส่งไปคนเดียว เสือกชนะระดับสายชั้น กลายเป็นคำถามอีกว่าทำไมถึงชนะ เรียนเลขกูได้เกรด 4 อยู่คนเดียว ก็หาว่ากูประจบครู ถึงขั้นไปถามครูว่าทำไมกูได้ 4 ครูต้องยอมเปิดข้อสอบเปิดคะแนนให้ดู ทั้งๆ คือกูแค่ชอบถามคำถาม ชอบตอบ ไม่เข้าใจก็ถาม อีกวิชา ชีวะกูได้เยอะกว่าเพื่อนก็หาว่ากูโกงข้อสอบ แอบเอาโพยเข้าไป สรุปคือกูรำคาญ เปลี่ยนกล่องดินสอเป็นซองใส จะได้ไม่มีใครมาปากหอยปากปู สุดท้ายตอนม.หกที่สถานการณ์ดีขึ้นเพราะมันเปลี่ยนเป้าไปบูลลี่คนอื่นอ่ะ อีเวร
พอเรียนมหาลัยกูติดจุฬาอยู่คนเดียว ส่วนคนอื่นคือซิ่วกันมา เขานัดกินข้าวกันที่สยามก็ทำมาเป็นโทรมา เนี่ยเป็นไงบ้าง ทุกคนอยากเจอนะ คิดถึงมากเลยนะนั่นนี่ อีตอแหล กูไม่ไป
เล่าให้ฟังเล่นๆละกัน ตอนม.ต้นกูเป็นเด็กเก็บตัว มีกลุ่มเพื่อนอยู่หรอก แต่เวลาจับกลุ่มกูจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายตลอด บางทีไม่ลงตัวกูก็จะเป็นคนที่หลุดกลุ่ม และกูไม่สนิทกับกลุ่มอื่นเลย ทำให้บางทีก็ไม่ได้กลุ่มต้องทำคนเดียว
แต่ตอนนี้มันคืออดีตที่แสนไกลว่ะ ผ่านมานานแล้ว สังคมรอบข้างเปลี่ยนไป ตัวกูเองเปลี่ยนไป โตขึ้นบ้างอะไรบ้าง ก็ยังเก็บตัวอยู่แต่รู้จักใช้ชีวิตกับคนอื่นแล้ว
มึงว่าเกี่ยวรึเปล่าที่โลกรอบตัวแม่งมีเรื่องให้กูเผือกเต็มไปหมด ทั้งไลน์ ทั้งเฟช กูเลยชอบอยู่คนเดียวบ่อยๆเวลารู้สึกว่าแม่งoverload information มันจะทำให้กูกลายเป็นintrovert รึเปล่า แต่ถ้ากูเลิกเล่นโซเชี่ยลกูก็จะไม่ทันโลกอีก
กูสงสัยว่าทุกคนเหมือนกันรึป่าว
คือเพื่อนกูตั้งแต่มีผชนางเทเปย์มีเงินเท่าไหร่ให้ผชจนล่าสุดเลิกกันก็ให้ทองผชไป(?)ผชข้าราชการนะมึงทำงานลูกจ้างร้านอาหารเลิกจนมาพัทยาพันตัวเองมาขาย...อันนี้เรื่องจริงนะ และโวยวายว่าจะไม่เอาผชแล้วบลาๆแต่ล่าสุดพอนางมีเงินหน่อยมีเด็กน้อยมาติดเด็กก็น่ารักล่ะนางพาไปกินเลี้ยงเวลากูอยู่ด้วยเงี้ยจะคุยกันแค่1-2คำนอน และนางทำงานเที่ยวจนเอาผชมานอนบ้างแต่กูไม่ได้อะไรหรอก แล้วนางบอกมีเงินทำอะไรก็ได้ก็ใช่แต่พอมาค่าห้องนางมาโวยวายนางไม่มีเงี้ยพาลโกธรกูทั้งๆกูมีกูถามนะเอาไปก่อนมั้ยนางได้เงินจากการขายหลายพันเลยนะต่อวันนึงกูพยายามไม่กลับห้องจนกูออกมาแล้วเพราะอึดอัด กูรู้สึกว่าผชจะทำให้คนรอบข้างเปลี่ยนไปหรอว่ะ กูเซ็ง บางทีมันมาเล่าว่ามาเอามันแล้วไม่จ่ายมันก็ไม่ซีอะไร ชอบบ่นไม่มีเงินแต่เที่ยวถี่มากใครก็รู้ว่าค่าครองชีพกทมแพงไหนมันต้องส่งให้ที่บ้านและมาพาลกูอีก กูก็พูดอะไรไม่ได้ไม่ดิไม่อยากพูดละจนตอนนี้กูไม่คุยกับมันแม่งอึดอัดสมัยตอนอยู่บ้านกูกูไม่บ่นเรื่องแฟบหรือยาสระผมนะเอาจริงๆนานทีเลยกูถึงใช้แล้วมันบ่นของหมดใช้ไรหนักหนาทีหลังซื้อเอง กุเลยซื้อเองแม่งของกูซื้อมาจะใช้อะไรใช้เลยกูไม่พุด
คือเพื่อนกูมีเรื่องกับคนๆนึง กูก็แบบเข้าข้างเพื่อนกู แล้วพอมารู้ทีหลังว่าสรุปเพื่อนกูเองที่ผิด และนางไม่ยอมเล่าความจริงให้ฟังด้วย กูรู้มาจากปากคนอื่น เสียความรู้สึกชิบหายเลยว่ะ รู้สึกว่ากูไม่อยากเชื่อใจนางแล้วอ่ะ แล้วรอบนี้นางไปก่อเรื่องอีก ฝ่ายตรงข้ามก็อยากเคลียร์ให้จบๆ แต่นางก็หนีปัญหาไม่ยอมมาคุย สุดท้ายก็ไม่ได้เคลียร์กัน
นางเอาแต่พูดกรอกหูกูกับเพื่อนในกลุ่มว่านางไม่ผิด ถ้าไม่ผิดจริงนางจะหนีหรอวะถามจริง กูเนี่ยเหนื่อยใจ ความเชื่อใจที่มีให้มันหมดไปแล้วไง โอเค ได้ระบายกูพอใจล่ะ อัดอั้นมาก
กูมีเพื่อนเยอะ เพื่อนในกลุ่มเดียวกันมีประมาณ 6 คน(กูสนิทอยู่2-3คน) ส่วนเพื่อนคนอื่นๆเป็นความสัมพันธ์แบบรู้จักนะแต่ไม่ค่อยคุย แบบถ้าทักไปคุยหรือขอให้ช่วยอะไรนิดๆหน่อยๆก็ได้ แต่ปกติก็ไม่ค่อยได้คุยกัน กูเหงาๆกับความสัมพันธ์แบบนี้ว่ะ บางครั้งมันเหมือนสถานะคนรู้จักมากกว่า กูอยากทำให้คนอื่นๆขยับมาเป็นสถานะเพื่อน ให้กูมีตัวตนกับความสำคัญมากขึ้น กูควรทำไงวะ
โดนเพื่อนที่ระดับแค่รู้จักผิวเผินบล็อกวะ เล่นเกมด้วยกันเฉยๆ อยู่ๆก็บล็อก กูคุยกะคนอื่นว่ากูไปทำอะไรเขาป่าววะ เขาเลยเกลียดกู เพื่อนกูก็บอกว่า ไม่อ่ะ เห็นแต่ทางนั้นจะบวกมึงรัวๆ แต่กูก็ไม่สบายใจอยู่ดี เพื่อนสนิทก็บอกให้กูบล็อกๆมันคืนไป จะได้จบ แต่กูบล็อกเขาคืนไปแล้วกูก็ไม่สบายใจอยู่ดีวะ เหมือนกูเป็นคนเลวไปทำอะไรเขาเลย
โดนคนรู้จักลบเฟส ไปคนที่ 2 ละ กลุ่มเดี่ยวกันแต่คุยน้อย เคืองชิบหาย
>>293 กุเคยเจอแบบนี้เหมือนกัน กุไปเคยจีบผญ.แบบนี้แหละ มีอะไรไม่บอกตรงๆไปเล่าให้เพื่อนฟังข้างเดียวหมด สุดท้ายกุเลิกยุ่งเลย ทั้งเพื่อนของเธอด้วย คนแบบนี้เล่าอยู่ฝ่ายเดียว พอเวลามีปัญหาจริงๆไม่ยอมพูดตรงๆ ขนาดถามหลายรอบแล้วนะว่ามีปัญหาอะไรรึเปล่า ไม่บอกต่อหน้าอะ ไปพูดลับหลังคนแบบนี้นี่แหละ เกลียดสุดๆเลย สุดท้ายกุเข้าใจมึงนะว่าโดนอะไรแบบไหนมาบ้าง ปล่อยๆมันไปเถอะ
อยู่คนเดียวในมหาลัยไม่คบเพื่อนในภาคนี่รอดป่ะวะ แบบอาจมีคบแค่เผินๆแต่ไม่ยุ่งลึก คือกูไม่ชอบนิสัยนางคนนึงในกลุ่มมากเลย นางชอบด่าชอบหาเรื่องกูทั้งที่กูอยู่เฉยๆ กูรู้สึกเบื่อกับอะไรแบบนี้ว่ะเลยไม่อยากอยู่กลุ่มนี้แล้ว มันรำคาน มึงว่ากูจะรอดไหม
กูมีเรื่องมาถามว่ากูควรให้เพื่อนกูเจออะไรแย่ๆจนให้มันกลับตัวเองหรือจะเตือนดี
กูเอาเรื่องนี้ไปคุยกับเพื่อนอีกคนเขาบอกจะคอยเตือนให้
อย่างเมาเอาผชมาเอาในห้องให้กูดู
เลี้ยงเด็กผช ทั้งๆต้องส่งเงินให้ที่บ้าน
เห็นผชดีกว่า
ผชไม่ได้ให้เกียรติมันเลย มาเอาเสร็จทิ้งถุงยางเกลื่อนห้อง
กูมาบ่น กูเบื่อเพื่อนสนิท คิดว่าสนิทมากเเล้วจะเหี้ยใส่กูยังไงก็ได้เหรอวะ พอกูโกรธไม่สนใจก็ซื้อของมาให้ทำเป็นเนียนนักนะมึง ทีตอนทำไม่คิดบ้างอ่ะ กูก็แม่งกากขี้ใจอ่อนไปอีกเบื่อชิบหายเลยโว้ย
มีใครรู้จักพวกที่ไปเรียนนอกแล้งอยู่ไม่ได้กลับมาไทยบ้างไหมวะ ส่วนใหญ่อยู่ไม่ได้เพราะไร
บ่นปกติมีเพื่อนทำงานด้วยทุกคาบยกเว้นคาบคหกรรม คือในคาบนี้จะแบ่งกลุ่มกัน กูเรียนอินเตอนะ มีคนไทยอีกคน คนจีน กู แล้วก็เด็กแม้กซิโก คือเด็กแม้กซิโกกับคนไทยรู้จักกันมาก่อนปีที่แล้ว ก็อาการแบบเค้าเมินๆกูอ่ะ กูก็เฉยๆ เค้าทำขนมคุยจุ้กจิ้กกูก็ทำการบ้านไปไม่ได้ช่วยเพราะเค้าไม่ได้บอกให้กูทำอะไร ปกติเค้าขอให้กูล้างจาน เช็ดจาน เก็บของให้ กูก็ทำ ปกติกูจะช่วยพวกงานก่อนทำอาหาร ทำความสะอาดโต๊ะไรงี้ แต่หลังจากนั้นปล่อยพวกนางสนุกกันไป วันนี้กูทำงานรัวๆนางมาสั่งให้กูล้างจานต่อ กูบอกไม่ นางมองหน้ากูแล้ววิ่งไปบอกครูเลย อิห่า
ปกติกูช่วย วันนี้กูไม่ช่วยมีปัญหาเนอะ วันอื่นเวลาเพื่อนคนไทยไม่อยู่นางไม่ทำอะไรเลยคุยเล่นกับเพื่อนกลุ่มอื่นไปทั่ว กูยังไม่ว่าอะไรเลย แต่ในใจก็ด่าแหละ เซ็ง ปกติแทบเมินกัน พอเล่นกันเสร็จกูไม่ช่วยเก็บกวาดก็มาทำงี้ ปกติก็แทบไม่มีจุดยืนในกรุ้ปอยู่ละ ดรอปไม่ได้ด้วยผ่านมาจะเทอมนึงละ เบื่อ
มึงกูเหงา กูมีเพื่อนนะแต่หลายปีที่ผ่านมากูเหงาๆนิดหน่อย ไลฟสไตล์กูกับเพื่อนบางเรื่องไปกันไม่ค่อยได้ หลักๆก็เรื่องเงิน คือกูยังวัยรุ่นอะ กูก็อยากชวนไปหาอะไรกิน ไปซื้อของ ไปดูหนังด้วยกัน แต่เพื่อนจะไม่เอาเลยสักอย่าง ประหยัดมากจนกูรู้สึกลำบากใจว่าทำไมต้องอะไรขนาดนี้ ทั้งๆที่ทางบ้านเพื่อนก็ไม่ยากจน แต่การไปกินข้าวมื้อนึง 2-300 ในรอบครึ่งปี-ปี กลับไม่ได้ แล้วก็ชอบพูดว่ากูรวยทั้งๆที่กูก็ได้เงินไม่ต่างกันมาก แต่กูแค่กล้าใช้(ส่วนเพื่อนกูกูก็ไม่รู้ว่าเงินอยู่ส่วนไหนทั้งๆที่ประหยัด เพราะชวนกี่ครั้งก็บอกว่าไม่มีเงิน) แต่บางครั้งก็เข้าข่ายเสือกชีวิตกูแบบ ทำไมใช้เงินเยอะจัง หยุดเอาไปซื้อ..(พวกของที่กูชอบ) ซึ่งบอกเลยว่ากูไม่เคยยืมเงินใครมาซื้อของ เงินที่กูใช้คือเงินที่กูมี กูซื้อของที่กูชอบไปหลายพันบอกกูว่าซื้อทำไม ทำไมไม่เก็บไปซื้ออย่างอื่น ซึ่งทั้งๆที่จริงๆแล้วต่อให้กูซื้อของกูไปหลายพันกูก็ยังมีเงินพอที่จะซื้อของอื่นๆที่เพื่อนยกมาอยู่ดี อยากได้เพื่อนที่พร้อมใช้เงินเท่าๆกันจัง
>>312 กินข้าวมื้อนึง 2-300 ในรอบครึ่งปี-ปี เลยเหรอ มึงคบกันนานขนาดไหนแล้วเนี่ย
ถ้าที่มึงเล่าจริง กูบอกได้เลยว่าเพื่อนมึงไม่ได้มีเงินใช้เท่าๆกันอย่างที่มึงคิด อาจจะเป็นการเงินทางบ้านมีปัญหา หรือได้เงินค่าขนมน้อย หรือเค้าอยากเก็บไว้ทำอย่างอื่นมากกว่า และที่เพื่อนแสดงให้มึงเห็นมาเกินปีมันก็ชัดแล้วว่าเค้าให้มึงได้แค่นี้ การที่มึงไม่พยายามเข้าใจเรียกว่าเห็นแก่ตัวได้เลยนะ
>>313 แต่กูรู้สึกว่าเพื่อนของ 312 เสือกมากกว่าว่ะ โอเคล่ะ ต่อให้เพื่อนมีเงิน ก็อาจจะอยากเก็บไว้ทำอย่างอื่นมากกว่าเลยไม่ไปกินข้าว ถ้าเป็นกูกูโอเคกะจุดนี้นะ ไม่ไปเรื่องของมึง แต่กูจะใช้เงินยังไงคือเรื่องของกูอะ 312 ยังไม่ได้เสือกวิธีการใช้เงินเพื่อนเลย ทำไมเพื่อนต้องเสือกของมันด้วยอะ ที่บริษัทกูก็เป็น กูซื้ออะไรทีแม่งมาละ ซื้อเก่งงง รวยจัง ซื้ออีกแล้วเหรอ กูก็ได้แต่ยิ้มส่วนในใจก็ด่าเสือกไปแล้วสิบรอบ
กลับมาที่ >>312 แสดงว่าไลฟ์สไตล์ไปกันกับเพื่อนไม่ได้ว่ะ ถ้ารู้สึกว่านอกจากเรื่องนี้แล้วทุกอย่างเพื่อนโอเคหมด ก็เป็นเพื่อนกันต่อไปนั่นแหละ แต่ก็ลองขยายสังคมตัวเองดู คบเพื่อนกลุ่มอื่นที่ไลฟ์สไตล์ประมาณเดียวกันด้วย สนิทกับคนหลายกลุ่มไม่ใช่เรื่องผิดอยู่แล้ว
>>314 ไม่เหมือนกัน มึงเอามุมมองของผู้ใหญ่ไปตัดสินเด็ก ของที่ทำงานมึงคือแซว แซะ กัด เสือก แล้วแต่มึงจะแปลความหมายตามความรู้สึกของมึงต่อคนๆนั้น
ของวัยเด็กที่มีต่อเพื่อนมันไม่ใช่แบบนั้น มันคือการเอาตัวเองไปสวมเป็นเพื่อนแล้วอยากให้เพื่อนเป็นเหมือนเรา ถ้ามึงบอกว่านี่คือเสือก >>312 มันก็เสือกวิธีการใช้เงินของเพื่อนไม่ต่างกัน
กูกำลังคิดว่ากูจะไปดีมั้ยว่ะ
เพื่อนกูมันไม่รู้ว่ากูเริ่มไม่ถูกกับเพื่อนอีกคนแล้วจู่ๆมาอันเฟรนไม่ตอบแชทกูเลยห่างๆแล้วเพื่อนสนิทกูจะชวนไปเที่ยวไง กูอยากปฎิเสธนะ แต่เพื่อนสนิทกูจะงี่เง่าป่ะ
กูมีปัญหากับเพื่อนสนิทว่ะ เกี่ยวกับเงินๆทองๆ คือกูปกติไม่ค่อยลำบาก มีเงินผ่านมือตลอด แล้วมีเพื่อนของเพื่อนฝากขายของ ตอนนั้นกูเห็นว่าขายใครไม่ได้เลย กูเลยรับไว้ แต่กูโอนทันทีไม่ได้ เพราะกูกำลังจะเปิดร้านขายของ กูบอกเพื่อนตลอด แต่นิสัยมันเหมือนไม่ค่อยสนใจอะไรที่กูพูด แล้วก็เป็นคนขอโทษบ่อยมากพอๆกับทำลูปบ่อยมาก
กูนัดไว้ว่าต้นเดือนก็ติดต่อมาถ้าจะขาย ปรากฏว่าเงียบ กูไม่เห็น กูนึกว่าเขาเปลี่ยนใจไม่ขายไปแล้ว กูก็เลยเอาไปลงทุนนั่นนี่ เหลือติดบัญชีนิดหน่อย กูต้องไปเบิกบช.หลักเข้าบช.กู ซึ่งบุ๊คป๊ากูเป็นคนเก็บ กูฝากไว้เอง (กูอยู่ลาดพร้าว ป๊าอยู่สาทร) ซึ่งกูจะไปวันจันทร์ มีติดตัวพันนึง และนัดดูห้องใหม่พรุ่งนี้ คือสำหรับกูมันสบายมากๆ แต่
อยู่ๆเมื่อวาน เพื่อนบอกให้กูรีบโอน เพื่อนมันจะใช้วันพรุ่งนี้ มาทวงแล้ว ก็งง งงมากว่าอ้าวขายเหรอสรุป ไหนบะญชี ไหนของ ก็เพิ่งเอามากางให้ดูเหมือนนึกขึ้นได้ กูไม่โอเคมากๆ รู้สึกเหมือนหักคอกูให้จ่าย (เคยมีกรณีคล้ายๆแบบนี้คือ เพื่อนไปเอฟของให้กู ปรากฏว่าแม่ค้ามีประวัติไม่ส่งของ แต่เพื่อนก็ยังบังคับให้โอน เพราะมันบอกมันเอฟไปแล้ว) กูบ่นเยอะเลยแหล่ะเพราะไม่ชอบอะไรแบบนี้ เพราะไม่ใช่ตัวกูที่ผิดนัด มันก็ขอโทษ แล้วก็เฉยอะ ขอโทษไปงั้นๆเหมือนทุกครั้ง กูเลยรู้สึกส่ากูหมดความอดทนละ กูเลยโอนค่าของแปดร้อยให้เพื่อน แล้วบอกว่ากูไม่เอาของ และมึงถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องทักอะไรกูมาอีก
เพื่อนมันก็อ้อนวอนกูนะ บอกไม่อยากเลิกคบ อยากอยู่ด้วย อยากคุยกับกู กูกฌโบ้มล่ะว่าเป็นงี้กี่ครั้งกี่หนแล้ว ที่แม่วพอเกิดอะไรก็ยืนดูกูมีปัญหา กูบอกไปตามตรงละว่าตอนนี้กูมีติดตัวเท่านั้น มันบอกว่าจะโอนมาให้ แต่คือกูไม่เอาแล้ว กูบอกว่าราคานั้นจ้างเลิกคุยก็ได้นะ กูเหนื่อยจริงๆกับคำขอโทษไม่จบไม่สิ้น
สรุปอีกพักนึงในกรุ๊ปแชท คนที่ตามตื้อมันอยู่ อยู่ๆก็พูดว่าเครียด เป็นห่วงเพื่อน ก็เลยแคปอันนี้ไปถามว่าคืออะไร มันก็ตอบเลี่ยงๆว่าสงสัยเป็นเรื่องมันไปตจว. แต่ในใจกูไม่เชื่ออะ กูคิดว่าแม่งไปเล่าให้ฟัง แล้วเช้าวันนี้คือเพื่อนอันฟอลทวิตจ้า ทั้งที่กูแทบยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเลย
ตอนนี้กูเริ่มสับสนว่ากูควรทำไง กูรู้ตัวนะว่าเป็นคนขี้บ่น บางทีก็เหวี่ยง แต่กูให้ใจเพื่อนทุกคนเต็มร้อยมาก แต่สิ่งที่มันแสดงกับกูมันกลับไปกลับมาอะ บอกอยากอยู่กับกูแต่อันฟอลกู ขอโทษแล้วก็ทำผิดซ้ำๆ กูควรจะเก็บเพื่อนแบบนี้ไว้มั้ย หรือปล่อยแม่งไปตามทางดี
เหนื่อยใจกับเพื่อนสนิทตัวเองมา 3-4 ปีละ อยากจะเทก็ทำไม่ลง ทำไมกูต้องเป็นฝ่ายรู้สึกผิดกับการเทใครสักคนที่ทำให้กูไม่มีความสุขด้วยวะ
>>318 ขอบคุณมึง สรุปกูก็ไม่ได้ตัดอะไรมันนะ แต่กูไม่คุยแล้ว ไม่ให้ใจแม่งแล้ว เป็นเพื่อนมาหลายปีแม่งหาแต่เรื่องลำบากใจมาให้ คนที่ช่วยเหลือกูดันเป็นแฟนกูที่เพิ่งคบได้ไม่ถึงครึ่งที่คบกับมันซะงั้น เค้าเห็นกูมีติดตัวเท่านี้กลัวกูไม่มีเงินกินข้าว ไว้กูเบิกบัญชีเรียบร้อยก็จะใช้คืนเขาล่ะ
>>320 ทุกวันนี้ก็เทไปเยอะละมึง แต่เหมือนมันยังตัดขาดไม่ได้ว่ะ ไม่โทรคุย ไม่แชทไปหา มีแต่มันแชทมาหากูก่อน แต่เวลามันทักมามีแต่เรื่องลบๆ แย่ๆ กูอ่านก็หงุดหงิด อารมณ์เสียไปหมด จนหมดอารมณ์ทำอะไรหลายๆ อย่าง จะตัดขาดเลยก็รู้สึกแย่ เพราะสมัยก่อนตอนกูเฟลชีวิตมันอยู่กับกูตลอด เหมือนเป็นหนี้บุญคุณอ่ะ
>>322 กุเคยมีเพื่อน toxic อะ ประมาณไม่มีปัญหาแม่งไม่เคยทักมา พอมีปัญหาแล้วทักมาแต่ละทีก็เรื่องเดิมๆอะ บล๊อคทิ้งไปละ ตอนแรกๆก็รู้สึกผิดแต่พอนึกที่เรื่องที่มันมาเล่าแต่ละทีบล๊อคไปก็คิดว่าคิดไม่ผิดอะ ตอนนี้อยู่แบบสบายใจดีกว่าอย่างน้อยมันก็ดีกับตัวเองอะ อีกคนผลักภาระให้เราคนเดียวทั้งชีวิตไม่ได้หรอกอะ
กูมีเพื่อนแบบสนิทระดับหนึ่ง แต่หลังๆมันชอบโทมาคุยเรื่องผีเรื่องพระ(หัดเล่นพระ) คุยที2-3ชมแล้วกูไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ด้วยเลยขี้เกียจคุย
ช่วงก่อนกูติดเกมเล่นยาวๆยันตีหนึ่งตีสองกว่าจะเห็นว่ามีมิสคอลก็เช้าวันต่อมา ไลน์ไปบอกตอนหลังว่าดูหนังมั่ง เล่นนู่นนี่มั่ง ปิดเสียงมั่ง บางทีโทรไปแม่งก็ไม่ค่อยรับ เหมือนต้องเป็นฝั่งมันโทรมามันถึงจะคุย
ช่วงหลังๆแม่งไม่โทรมาละ แต่เหมือนชอบมาตัดบทกูในห้องไลน์ เหมือนโดนหักหน้าบ้าง จิกๆบ้าง งงว่ะ แค่ไม่รับสายเมิงเกลียดกูเลยหรอวะ หรือกูไปทำไรก็นึกไม่ออก คุยแต่ในไลน์ไม่เจอตัวกัน
หงุดหงิด ไอ้เหี้ยติดเกมก็ผิด
เหงาจังครับ อยากมีเพื่อน
เพื่อน toxic ของกูมีปัญหาที่ทำงาน อยากลาออกอีกแล้ว เอาละกู เตรียมใจรับพลังลบรัวๆ ได้เลย แม่งเอ๊ย ทุกวันนี้กูเองก็เครียดเรื่องเรียนจะตายห่าอยู่แล้ว เพื่อนแม่งทำงานได้ไม่กี่เดือนก็งอแงๆ จะลาออกเพราะปรับตัวไม่ได้ แบบนี้มา 2 รอบละ แนะนำหางานใหม่ หรือให้มาเรียนต่อเหมือนกูก็ไม่เอา แค่คิดก็ปวดหัวละ
กูขอระบายกูรำคาญมาก เพื่อนที่มาปรึกษาปัญหากู ให้กูช่วย พอกูจะช่วยแนะนำทางนั้นก็ทำไม่ได้ ทางนี้ก็ไม่ได้ ไม่ได้สักอย่าง แล้วก็งอแงแก้ปัญหาไม่ได้ กูแนะให้ก็ไม่แก้ กูบ่นก็หาว่ากูเอาแต่ใจ บีบบังคับให้มันทำตาม อีดอก ปัญหากูก็ไม่ใช่ ไม่ใช่แม่มันด้วยต้องมาช่วยเหี้ยอะไรมัน บอกแล้วไม่ทำตามกูไม่แคร์ก็งี่เง่าอีชิบหาย เบื่อมาก
>>331 ขอโทษนะถ้ากูตะพูดอะไรรุนแรงสักหน่อย กูไม่ได้พูดให้มึง แต่กูจะยกตัวอย่างคำพูดมึงและจะพูดให้ไอ้อีที่ไหนที่สันดานแบบนี้กับเพื่อนมาอ่านจะได้ฟื้นสติมั่งนะว่า
ควยเหอะจ้า
ปรึกษาเพื่อระบายเนี่ยนะพวกมึงเห็นเพื่อนเป็นโถขี้เหรอ เจอเหี้ยเจอห่าอะไรมา สร้างปัญหาอะไรมากูเกี่ยวด้วยมั้ย ก็ไม่ แต่ความเป็นเพื่อนอะรับฟังได้ แต่ไม่ใช่ทุกเรื่อง รู้จักกันมั่งมั้ยคำว่าเกรงใจอะ จัดการตัวเองกันเป็นมั้ยโตเป็นควายขนาดนี้แล้ว กูก็โตมาเท่ามึงอะ บอกให้กูช่วยแต่ไม่อยากได้คำแนะนำ อยากให้กูฟังปัญหาส้นตีนๆเสร็จแล้วสบายใจแล้วก็ไปเนี่ยน่ะเหรอ
"ถึงจุดนึงถ้าเค้าได้ฟูมฟายจนพอใจเค้าจะจะลุกไปแก้ปัญหาของเค้าเอง แต่มึงอาจจะรำคาญทนไม่ได้ไปซะก่อน"
คือกูไม่ได้เกิดมาเพื่ออดทนใครเว้ย ให้กูฟูมฟายกลับมั้ยล่ะเอามั่งมั้ย มันไม่ใช่ความผิดของกูเลยด้วยซ้ำนะถ้ากูจะรำคาญ ฟุมฟายเสร็จปัดตูดหนีแล้วกูล่ะจมอยู่กับกองอ้วกที่แม่งสำรอกออกมาเนี่ยนะ เห็นแก่ตัวจังวะ กูไม่ได้หวังว่าต้องทำตามที่กูบอก แต่กูเกลียดอีพวกนิสัยเห็นคนอื่นเป็นสนามอารมณ์ ใครทำกับเพื่อนแบบนี้มาอ่านมึงจำไว้เลยนะทุกคนก็มีเรื่องมีปัญหาเหมือนกันทั้งนั้นแหล่ะ จะนิสัยแบบนี้ไปคุยกับส้วมโน่นไป
>>331 "ถึงจุดนึงถ้าเค้าได้ฟูมฟายจนพอใจเค้าจะจะลุกไปแก้ปัญหาของเค้าเอง"
55555555555555555
ไม่จริง อส
มันมีคนที่บ่นๆๆๆๆๆๆงอแงๆๆๆๆๆๆเครียดๆๆๆๆๆๆ พูดไรไม่รับไม่ฟัง สุดท้ายแม่งบ่นเสร็จหายเครียดก็ลืม "โดยที่ไม่แก้ไขอะไรเลย" แล้วแม่งก็วนลูปอยู่อย่างงี้ตลอดชีวิตมัน
หัวควย
ทำไมกูรู้? เพราะกูก็เป็นไอ้นิสัยเอาแต่บ่นไม่ปรับปรุงตัวเนี่ย แต่กูบ่นเบาๆไม่งอแง แต่พอซ้ำ 3 รอบใน 3 เดือน แค่เดือนละครั้งเองนะเว้ย แค่นี้เพื่อนยังรำคาญชิบหายเลย
มึง กูอึดอัดมาก ขอพื้นที่ให้กูระบายหน่อย เรื่องนี้กูพูดกับใครไม่ได้ อดกลั้นจนรู้สึกแน่นไปหมดแล้ว ถ้ามึงรำคาญก็เลื่อนข้อความกูหนีไปได้เลย
กูมีเพื่อนคนนึงที่คบกันมาได้ 10 กว่าปีแล้ว เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ยังติดต่อคบหากันอยู่ อาจจะไม่ได้เจอกันบ่อย แค่ปีละครั้งสองครั้ง แต่กูยกให้เป็นเพื่อนสนิทของกูคนนึง ซึ่งกูรักมันมาก พวกกูเข้ากันได้ดี เวลาอยู่กับกูก็นิสัยดีมาก ช่วยเหลือ ให้กำลังใจยามกูลำบากมาตลอด
แต่มีเรื่องเดียวที่กูไม่โอเคคือเรื่องมุมมองการใช้ชีวิตอะ พอเป็นเรื่องคนนอกตัวความคิดมันโอเคนะ แต่พอเป็นเรื่องของครอบครัวมันแล้ว กูรู้สึกว่าตรรกกะมันบิดเบี้ยวชอบกล คือโลกหมุนรอบครอบครัว ครอบครัวมันสำคัญสุด เออ กูรู้ว่าครอบครัวใครมันก็สำคัญ มันเป็นเรื่องปกติอะ แต่กูรู้สึกไม่โอเคที่มันทำให้ครอบครัวอื่นชีวิตเขาพัง ซึ่งไม่ใช่ว่ามันไม่ได้รับผลกระทบนะ เอาจริงๆมันผิดกันทั้งสองครอบครัวเลยอะ แต่มันมองว่าเป็นความผิดฝั่งนั้นทั้งหมด กูเป็นเพื่อนสนิทที่รู้เรื่องของมัน มันเป็นเพื่อนรักกู กูก็รู้สึกจุกๆ ถ้าให้เลือกกูก็ต้องเลือกข้างเพื่อนกูอยู่แล้วอะ แต่กูรู้สึกว่าอีกบ้านเขาลำบากมากจริงๆนะ เขาผิดจริงแต่กูว่าไม่ใช่ความผิดบ้านนั้นทั้งหมด อีเหี้ย กูรู้สึกแย่ เพราะกูรู้สึกเหมือนเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด กูเหมือนมีส่วนไปทำให้ชีวิตครอบครัวนึงพัง กูรู้ถ้ากูไปแย้งแทนบ้านนั้น กูกับเพื่อนได้ตัดขาดกันแน่ๆ คือกูไม่อยากเสียเพื่อนไป ณ เวลานั้นกูไม่เคยนึกเลยว่าการที่กูช่วยซัพพอร์ตเป็นสืื่อกลางให้มันกลับมาลงเอยแบบนี้ได้ กูนึกว่าสองครอบครัวจะลงเอยกันด้วยดี ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
นี่เรื่องมันจบไปแล้วก็จริง กูพยายามลืมๆไป คิดซะว่ามันเป็นเรื่องบุญกรรมชาติก่อนที่เขาทำร่วมกันมา กูภาวนาขอให้บ้านนั้นคิดได้ แล้วได้เจอคนดีๆที่เข้ากับครอบครัวเขาได้ ส่วนกูกับเพื่อนก็ไม่แตะถึงเรื่องนี้กันอีก กูกลับมายิ้ม หัวเราะกับเพื่อนได้โดยเลี่ยงไม่พูดถึงเรื่องนี้ ขอแค่คุยเรื่องสัพเพเหระ ใช้เวลาร่วมกันนานๆที เห็นมันสบายดีกูก็มีความสุขแล้ว จนกูเชื่อว่าสักวันกูคงจะลืมเรื่องนี้ไปได้จริงๆ
แต่ล่าสุด กูไม่รู้ว่ากูระแวงไปเองอีกรึเปล่า คือการเป็นสื่อกลาง รึการช่วยซัพพอร์ตคนที่มีใจให้กัน มันก็คงจะเป็นเรื่องดีเหมือนที่กูเคยคิดสมัยก่อน แต่ตอนนี้กูไม่คิดแบบนั้นแล้ว กูไม่อยากเกี่ยวแล้ว ไม่ใช่เพื่อนเดือดร้อนแล้วกูไม่อยากช่วย แต่เรื่องนี้กูไม่อยากยุ่งอีก กูรู้สึกผิดถ้าเขาต้องมาแยกจากกันโดยที่ตอนสานสัมพันธ์มีกูเป็นคนช่วยอยู่ข้างหลัง ถ้ามันอยากเริ่มต้นใหม่กูอยากให้มันเริ่มต้นด้วยตัวเอง จะว่าไงดีวะ สำหรับกูถ้ากูรักใครจริงๆกูคงหาหนทางด้วยตัวเองอะ เชี่ยเอ๊ย กูควรจะพูดยังไง มันขมุกขมัวในอกกูเต็มไปหมดอะ กูอยากให้มันดีกับคนอื่นเหมือนที่ดีกับกู กูคิดว่ามันจริงใจและห่วงใยกูจริงๆนะ กูเชื่อว่าถ้ามันทำแบบนี้กับคนอื่น เขาก็ต้องดีกับมันตอบอะ ทำไมตอนมันอยู่กับกูกูรู้สึกมันเป็นเพื่อนที่ดีจนไม่อยากจะเสียมันไป แต่ทำไมพอกูมองเวลามันทำกับคนอื่นกูรู้สึกเหมือนมันเป็นคนที่กูไม่รู้จักเลย กูรู้สึกแย่ บางทีรอบนี้กูอาจจะคิดไปเองก็ได้ กูภาวนาขอให้เป็นแบบนั้น เพราะถ้ามันเข้าอีหรอบเดิมอีก กูว่าคราวนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกกูคงเป็นเหมือนเดิมต่อไม่ได้แล้ว กูไม่อยากให้เป็นงี้เลย กูรักมันมาก กูไม่อยากเสียมันไป แต่ถ้ามันยังทำแบบเดิมอีก กูก็ทนดูอย่างข้างๆมันไม่ไหวแล้ว
เขาเป็นเพื่อนที่ดีของมึง แต่เป็นคนที่เลวกับคนอื่น ก็แล้วแต่จะเลือกสิ ทนได้ก็อยู่ไมไ่ด้ก็ไป
รักครอบครัวจนแยกถูกผิดไม่ออกก็เกินไปป่าว เออรักครอบครัวมันก็ถูกแต่รักแบบผิดๆก็มีแต่เรื่องรึเปล่าอะ คบกันมากี่ปีก็ตามเถอะ มันเอาแต่ทำเรื่องผิดๆก็ไม่ต้องยุ่งกันดีกว่ามั้ง
กุเบื่อนิสัยเพื่อนคนไทยอ่ะ คือแม่ง ชอบพูดอะไรให้รู้สึกแย่ ตอนแรกกุก็นึกว่าเป็นนิสัยส่วนตัวบางคน แต่เอาจริงๆ เป็นกันแบบนี้ 80% up ยิ่งสนิทนะมึง พูดไม่เกรงใจเลย กุได้แต่ยิ้มอ่อน ทำเป็นหูทวนลม ไม่ว่าจะเรื่องขาใหญ่/อ้วนเอย หรือเรื่องกุไปทำตาสองชั้นมาแล้วมันยังไม่เข้าที่อ่ะมึง คือแบบพูดต่อหน้า แบบพูดกับกูเลยอ่ะว่า มึงไม่น่าทำเลยมันแย่มาก ชอบตาเก่ามากกว่า สถานการณ์นี้กุควรตอบไงอ่ะ? อีกอย่างกุก็ชอบนะ แต่งตาง่ายขึ้นถึงไม่แต่งกุว่าก็ไม่ได้แย่อะไร ค.จริงถ้าพูดแค่ครั้งเดียวกุยังพอเข้าใจว่า เออเป็นประโยคบอกเล่า แต่แม่งพูดบ่อย กุทำมาจะครึ่งปีล้ะ แม่งยังพูดอยู่ทุกวันนี้..
กุเคยไปเรียนเมกามาช่วงนึง คือเขาเป็นคนตรงๆ แต่ในเชิงpositiveอ่ะ ไม่มีอ่ะ เจอหน้าแล้วทักว่าอ้วนขึ้น หรือห้ามกูใส่ขาสั้นเพราะขาใหญ่(เพื่อนผชกุพูเอง) กุเบื่อสังคมแบบนี้อ่ะ อหหห
กูรำคาญเพื่อนคนนึงของกูมาก คือเป็นเหี้ยไรกะนมกูนักหนา เหมือนหมกมุ่นอะอีควาย เจอหน้าทีไรต้องหาเรื่องวนมาพูดเรื่องนมเล็กๆๆ
แล้วคือกูไม่ได้อารมณ์ดีตลอดเวลาอะ พอด่าคืนก็บอกว่ามันตลก ชอบล้อ สนุก มึงไม่ขำแต่กูขำไรงี้ ควย
อีเหี้ย เมียมันก็ไม่ห้าม แฟนกูก็ช่วยไรไม่ได้ อีควาย ปล่อยผัวมานั่งพล่ามเรื่องนมผู้หญิงคนอื่นอยู่ได้อีสัส
โมโห จะเลิกคบหลายทีแล้วก็ทำไม่ได้เพราะต้องดีลงานกันอยู่
หลังๆกูไม่คุยกะแม่งเลยยกเว้นตอนดีลงาน ขนาดนี้ยังอุตส่าห์ล้ออยู่ได้ไม่เลิก บางทีก็อยากฟาดหน้าแม่งซักทีด้วยความรำคาญอะ
แบบ มีวันนึงนั่งแดกสเต็กกันอยู่ แล้วมันแซวขึ้นมา กูโมโหจนอยากเอามีดหั่นสเต็กทิ่มหน้ามันอะ
คืออีเหี้ย ทนมาหลายปีแล้วนะ อีควาย ทนจนจะทนไม่ไหวแล้ว แค่คิดว่าต้องเจอหน้าก็ไม่อยากเจอแล้ว แต่งานยังต้องทำ งานแฟนกูก็โคกะมันอีก แล้วเสือกเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันอีก รำคาญชิบหาย
>>339 มึงลองหาโอกาสที่จังหวะอยู่กัน2คนป้ะ แล้วพูดเคลียร์ๆไปเลย แต่อย่าใช้อารมณ์นะ พูดด้วยนํ้าเสียงจริงจัง มี eye contact
อย่าใช้อารมณ์ตอนพูด ถ้ามันจะทำเป็นติดตลกกลบเกลื่อน มึงก็เรียกชื่อมันสั้นๆพร้อมจ้องตามันให้รู้ว่ามึงกำลังจริงจังและซีเรียส
แล้วพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ช้าๆ ชัดๆ เน้นๆ ว่ามึงรู้สึกไม่โอเคกับการที่โดนล้อแบบนี้ มึงไม่ชอบ นํ้าเสียงมึงต้องจริงจังด้วยนะ
เสียงต้องดังในระดับนึง พูดชัดๆ มองตาไปด้วยระหว่างที่พูด เป็นการกดดันทางภาษากาย อย่ายิ้ม อย่าหัวเราะ เพราะมันจะเป็นโอกาสให้มัน
ตลกเฉไฉเปลี่ยนเรื่องได้ หลังจากที่มึงพูดในสิ่งที่มึงอยากพูดจบแล้วเนี่ยให้สังเกตุว่ามันมีท่าทียังไง ถ้ายังจะพยายามติดตลกเหมือนเดิม
ก็ให้เรียกชื่อมันสั้นๆ ดังๆ แล้วเงียบ ทิ้งช่วงสัก 5-10 วิให้รู้ว่านี่คือเรื่องที่ซีเรียสสำหรับมึงมากๆ ระหว่างพูดอาจมีการเปรียบเทียบ
เช่นถ้ามันโดนเรียกไอ้ควยเล็กบ้าง จะรู้สึกยังไง ซึ่ง 100%ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบที่ถูกล้อเรื่องนี้ มันเป็นการจี้ใจดำของผู้ชายมากๆ
ต่อให้ไม่แสดงออกต่อหน้าแต่ลับหลังก็ต้องมีคิดบ้างถ้าโดนสวนด้วยดอกนี้
หลังจากพูดจบแล้ว ซึ่งในตอนท้ายสุดไม่ว่ามันจะรับฟังหรือไม่รับฟังหรือ ตลกกลบเกลื่อนต่อแต่ร้อยทั้งร้อย ธรรมชาติของมนุษย์จะค่อนข้างรู้สึก
ตกใจและประหลาดใจที่อีกฝ่ายเปิดใจคุยเรื่องที่อีกฝ่ายไม่พอใจเกี่ยวกับตัวเองถ้าไม่แสดงออกในตอนนั้น ภายใน 5-10 นาทีหลังจากนั้น
ก็จะเก็บไปคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ถึงจะลืมไปแต่จิตใต้สำนึกก็จะบันทึกเหตุการณ์นี้เอาไว้ อย่างน้อยๆเวลาเจอหน้ากันก็จะจำเหตุการณ์นี้ได้เสมอ ก็ช่วยได้ระดับนึงให้มันฉุกคิดก่อนที่จะพูดอะไรแย่ๆออกมา ทีนี้ก็สุดแท้แล้วแต่ปัญญาของมันแล้วว่าจะคิดได้หรือไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าที่ไม่พูดเลย เพราะการที่มึงพูดออกไปเนี่ยมันเป็นการ Defend ตัวเองในระดับนึง ทำให้อีกฝ่ายรู้แล้วว่ามึงไม่ได้ตกอยู่ในภาวะจำยอมเหมือนที่ผ่านมาอีกตลอดไปแล้ว
ปล กูแนะนำอีกครั้งนึง ถ้าหลังจากเหตุการณ์นี้ทั้งหมดแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลย ยังเกิดเรื่องแบบนี้เสมอๆ หาโอกาสในตอนที่อยู่ด้วยกันหลายคน เช่นกินข้าวกับเพื่อนที่ทำงาน หรือ งานเลี้ยงในแผนกไรงี้ ถ้ามันแซวเรื่องนี้อีก ก็ให้ตอบกลับไปว่าไม่ควรเอาเรื่องแบบนี้มาพูดกับผู้หญิงนะ
มันดูไม่แมน ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลย พูดไปพร้อมกับจ้องตาไปด้วย การจ้องตาหรือมองตาเป็นสิ่งสำคัญมากนะ สังเกตุดูเวลาเราคุยกับใครแล้วเราถูกอีกฝ่ายจ้องตาหรือมองตาเราตลอด เราจะรู้สึกกดดัน ถูกจับตามองเสมอ อึดอัด เป็นภาษากายง่ายๆขั้นพื้นฐาน
ซึ่งการพูดในที่สาธารณะเนี่ยก็มีส่วนช่วยมึงได้คือ ธรรมชาติของมนุษย์เนี่ยจะอายถ้าถูกหักหน้าในที่สาธารณะ แต่วิธีนี้ให้ใช้หลังสุด ถ้าไม่ไหวแล้วจริงๆหรือต้องการแตกหักไปเลยเพราะยังไม่เลิกนิสัยแย่ๆ ก็ลุยเลย แต่แแนะนำใช้วิธีแรกก่อนนะ
สู้ๆนะมึงกูเอาใจช่วย ผู้ชายไม่ได้เหี้ยแบบไอส้นตีนนี่ทุกคน จุ้บๆ
เพื่อนแม่งโครตเห้ มานอนแล้วกรนกรอกหู ทำตัวไม่เกรงใจอีก วันหลังกุจะด่ามันได้ป่าววะ แม่งโตกว่ากุ 3 ปี ทำตัวง๊องแง๊งชิบหาย ห้องมันก็มีแต่เสือกให้คนอื่นอยู่แล้วตัวมันก็มานอนห้องกุอะ แทนที่จะไปนอนห้องตัวเองแต่มาผลักภาระให้กุ ด่ามันตั้งแต่เปิดเทอมยันตอนนี้ก็ทำเป็นไม่ฟัง ทำยังไงดีวะ อีก 2 อาทิตย์กุก็เรียนจบละ ทนๆไปดีกว่ารึเปล่า?
ขอมาระบายด้วย
คือกูมีเพื่อนชอบตอแหลแต่ยังต้องคบมันเพราะเรื่องานกลุ่มกู มันก็ไม่เชิงตอแหลอ่ะ คือแม่งชอบทำตัวแบบ สมมุติแม่งมีคนมาถามว่าถ้าให้เลือกหน้าที่ทำงานแบบที่1,2,3มึงสะดวกทำอันไหน แม่งก็จะตอบว่า กูสามารถทำได้หมดทั้งสามอันเพราะกูเคยทำแล้ว กูลงหน้าที่ทั้งหมด แล้วแม่งก็จะมาบ่นลับหลังใส่กูว่า เฮ้อ งานกนักจังเลยนะ เนี่ย หน้าที่เยอะจัง กูเลยได้แต่หัวเราะแห้งๆไป คือมึงไปขอหน้าที่แล้วมึงจะมาบ่นทำไมวะ พอเวลามีงานกลุ่มงี้ แม่งก็จะรีบแย่งงานอันเยอะๆไปแล้วกลับลูปมาบ่นใส่กูว่า เนี่ย ถ้าไม่มีมันนะ งานคงไม่เสร็จหรอก
แม่งวนอย่างงี้มาหลายรอบมาก กูก็ได้แต่อาศัยความหัวเราะกลบเกลื่อนของตัวเองเอาตัวรอดมาตลอดสามปี คือนอกจากแม่งเป็นเพื่อนที่ลงกลุ่มงานด้วยกันบ่อยมากแบ้วคือยังเป็นหนึ่งในแก๊งงะ ส่วนตัวกูไม่ได้สนิทกับแก๊งนั้นไรมากแต่มึงเก็ทป่ะว่าแยกเดี่ยวแล้วชีวิตแม่งอยู่ยากกูเลยเกาะๆไปก่อน พูดแล้วกูดูเหี้ยแต่ เออ นั่นแหละ ไม่ใช่ว่าไม่นับเป็นเพื่อนอะไรแบบนั้นอ่ะ แบ้วอีกนิสัยนางที่กูรำคาญสุดคือชอบคีพลุคเป็นสาวไม่แต่งตัว แต่คือแม่งพกแป้ง พกลิป แต่งตัว แล้วเวลากูถามแบบ เออ ลิปซื้อมาจากไหนอ่ะ สวยดี แม่งก็จะตอบแบบ พี่สาวกูยัดมาให้ บังคับให้ใส่กระเป๋ามา
อีเหี้ย ขอโทษเถอะมึง แต่พี่สาวเหี้ยไรขี้เสือกกับชีวิตน้องจังวะ พี่มึงมานั่งตรวจกระเป๋าทุกวันอ่อว่าวันนี้มึงพกแป้งมาป่าว ลิปใส่ไปยัง พอถามถึงเรื่องหน้าม้าก็บอกพี่สาวจับตัด คือกูควรเชื่อจริงๆเหรอวะ ....
ไอเหี้ยเอ้ย เสียวๆ ว่าเพื่อนจะมาบ่นกูในนี้มั่งว่ะ 55555
>>345 กูไม่รู้ว่าเวลามึงบ่นในนี้ มึงดัดแปลงเรื่องหรือเปล่า กุอ่านละขนลุกเหมือนโดนด่า 55555555 แต่ของกุเพิ่งสองปี กุชอบให้เพื่อนๆเลือกงานไปแล้วกุทำอะไรก็ได้ไม่ซีเรียส ปต่กุก็ไม่ได้บ่นอะไรมากนะ แค่บอกว่า เหนื่อยหน่อยนะทุกคน และกุก็เป็นคนมีลุคไม่ชอบแต่งตัวอีกต่างหาก แต่กุพกลิปมันเพราะกูปากแตกปากลอก แต่กูไม่มีแป้ง และกุก็ตัดหน้าม้าด้วย ก็มีคนถามนี่แหละ กุก็บอกว่าแม่กุตัดให้ ซึ่งแม่กุตัดให้จริงๆ ไม่รู้จะตอแหลทำซากอะไร อ่านแล้วสะดุ้งง่ะ ถ้าไม่ใช่จริงๆกุก็เผ่นล่ะ 55555555
>>345 มันมีจริงๆนะเว้ยไม่ได้คีพลุคห่าไรด้วย คือพี่ก้โยนๆของให้เเต่ไม่เชิงบังคับยัดหรอก เรื่องตัดผมก็ธรรมดาปะวะ ส่วนเรื่องเเบ่งงานกุว่าอันนี้น่าจะไม่รุ้ตัวเป็นนิสัยไปละค่อนข้างไม่ดีเเต่ไม่ถึงกับเหี้ย เเต่คราวหน้ามึงควรเเบ่งงานให้เท่าๆกันชัดเจนดิคนไหนทำไรยังไง เเล้วมึงจะไม่มีปัญหานี้อีกตลอดชีวิต
ปวดหัวเวลาทำงานกับเพื่อนที่เป็นเพอเฟคชันนิสเหลือเกิน บางทีก็โอเค บางทีก็พลอยทำกุประสาทแดก
ระบายหน่อย กูมีเพื่อนสองคนที่ไม่สวยเลย อ้วนๆ ดำๆ เป็น introvert อีกต่างหาก ไม่แต่งตัว ไม่ถ่ายรูป ไม่ดูแลตัวเอง แล้วกูเวลาไปเจอคนเยอะๆกับมันแล้วอายว่ะ เพื่อนแบบแต่งตัวเหมือนป้ามาเลย หน้าก็ไม่แต่ง ทำท่าทำทางตลกๆอีก เพื่อนอีกคนก็ชอบแคะฟันในที่สาธารณะแบบไม่ห่วงสวยเหี้ยไรทัง้นั้นอ่ะ กูไปไหนด้วยแล้วอายว่ะ อยากเลิกคบ อยากอยู่กับคนสวยๆมากกว่า
>>353 มึงคิดว่าเขาเป็นเพื่อนมึงจริงๆเหรอกูถามหน่อย จากคำพูดคำจามึงคงไม่อยากเป็นเพื่อนกับพวกเขาแล้ว มึงก็เลิกคบแล้วไปหาเพื่อนสวยๆที่มึงอยากได้สิ อีกอย่าง ตัวมึงนี่คงสวยหยาดฟ้ามาดิน แล้วก็แต่งตัวดีมากกกกเลยสินะ คนเป็นเพื่อนกันเขาไม่มาดูถูกเพื่อนแบบนี้หรอก ถ้าเป็นเพื่อนกันจริงมึงไม่ลองแนะนำเขาละ แต่ถ้าคิดไม่เป็นก็เลิกคบไปเหอะ กูสงสารสองคนนั้นวะที่มีเพื่อนแบบมึง
>>355 มึงก็หาคบเพื่อนคนอื่นที่ไลฟ์สไตล์เดียวกับมึงเพิ่มดูสิ เพื่อนกลุ่มเดิมก็คบเหมือนเดิมไปนั่นแหละ เพื่อนกันบางทีไลฟ์สไตล์มันก็ไม่เหมือนกัน อย่างกลุ่มกู แม่งมีไลฟ์สไตล์ตรงกันอย่าเดียวคือเรื่องแดกกกกก อย่างอื่นคนละเรื่องเลย ที่มึงบอกแนะนำแล้วเขาไม่ทำ ก็บังคับไม่ได้วะ ก็อย่างที่มึงว่าไลฟ์สไต์มันต่างกัน แต่อยู่ด้วยแล้วสบายใจไหมละ มึงก็ถามใจมึงดูแล้วกัน ส่วนเรื่องแต่งตัว สุขภาพ ถึงจุดๆนึงมันคงคิดได้กันเองนะกูว่า อย่าไปพยายามบังคับ เดี๋ยวจะผิดใจกันเปล่าๆ
อยู่กับเพื่อนสวยๆ มึงจะเป็นคนไม่สวย เพราะมึงจะแอบเทียบข้อบกพร่องแบบไม่รู้ตัว
แต่อยู่กับเพื่อนไม่สวย มึงจะสวยที่สุด ก็เลือกเอา
เครียด มีเพื่อนคนนึงคือแม่งค่อนข้างเป็นศูนย์กลางกลุ่ม คือกูเฉยๆเพราะไม่ได้สนิทใจกับกลุ้มอะไรเบอร์นั้น ค่อนข้างชอบสันโดษมากกว่า แล้วไอเพื่อนคนนั้นมายืมกูบ้างเป็นช่วงๆ กูก็ไม่ได้อะไรช่วงแรกๆแต่คือแม่งเป็นคนประเภทยืมแล้วคืนยาก สมมุติมันยืมกู200 บอกว่าผ่อนอาทิตย์ละ100 ผ่านมา1-2สัปดาห์ยังไม่คืนกูเลยไปทวงเพราะกูจะใช้ตังและกูกลัวลืม แม่งก็จะเริ่มแบบ รอไม่ได้เหรอวะ แค่นี้เอง รีบจังวะ ขี้งก ด่ากูเหมือนกูผิดอ่ะ เอ้าอีสัส ตอนยืมล่ะไม่อิดออดบ้างวะ แล้วแม่งยึดตัวเองเป็นหลักอ่ะ สมมุติในกลุ่มเพื่อน4คนออยากไปกินที่aแต่มันbแม่งก็จะเริ่มอาละวาดแบบ ทำไมไม่ไปbวะ ก็กูไม่อนงยากกินa กูไม่ไปบ่ะ ส่วนตัวกูเองกูไม่ได้ตามไปง้องอนอะไรมาก ที่ไปเป็นกลุ่มเพราะเสือกอยากแดกที่เดียวกันเฉยๆ ถ้ามันไม่ไปก็กะไปคนเดียวไรงี้ เพื่อนอีกคนแม่งก็ขี้ง้อ ใจอ่อนง้ายก็จะตามไปง้อ แม่งก็ได้ใจไปอีก กูเคยบอกไปแล้ว ไอคนตามง้อแม่งก็บอกหนักใจแต่ก็ยังให้ท้ายมันบ่อยๆ ปัจจุบันคือแม่งติดตังกูและกูเหนื่อยจะทวงชิบหาย เดี๋ยวมาฟาดงวงฟาดงาเหมือนกูยัดเงินให้แม่งยืมอีก เหนื่อย
สมเพสรูมเมทชิบหาย แม่งไม่มีเพื่อน ตอนแรกก็ประหลาดใจทำไมไม่มี พออยู่ๆด้วยกันไป อ่อ ไม่มีมารยาท ไม่มีความเกรงใจ สกปรก วันๆเอาแต่เล่นเกม จนตีสองตีสามแบ้วก็รอนไม่อาบน้ำ หีเหม็น
กูพึ่งแยกกับเมทกู แบบต่างคนต่างไปอยู่กันคนละหอ แล้วกูพึ่งเห็นมันถ่ายรูปแล้งมันใส่เสื้อกูอยู่ กูควงทวงมะ
เพื่อนมาขอเลคเชอร์สรุปสอบกุอ่ะ ถ้ากุคิดเงินเพื่อนมันจะเหี้ยไปป่ะวะ แต่คือกุก็นั่งจดเลคเชอร์กุนานอ่ะ
กุงอนเพื่อนอ่ะ
แบบ เวลามันมีปัญหาอะไร หรือมันไม่สบายใจอะไร มันโทรหากุได้ตลอดเลยนะ กุรับสายตลอด ดึกแค่ไหนกุก็รับสาย
แต่พอกุมีปัญหาอะไรต้องการความช่วยเหลือ กุไม่เคยติดต่อมันได้เลยอ่ะ ส่วนนึงก็นิสัยมันด้วยที่เป็นคนไม่ติดโทรสับ+ไม่ค่อยเล่นไลน์ ถ้ามันไม่ได้จะใช้โทรสับมันจะเปิดnight modeทั้งวัน โทรให้ตายมันก็ไม่ได้ยิน
ตอนนี้กุนอยเรื่องเรียนแล้วอยากคุยกับมัน มันก็ไม่รับสายเลย 2วันละที่ติดต่อไม่ได้เลย งอนว่ะ วีคที่แล้วมันจะส่งโปรเจคมัน กุขนของไปอยู่ห้องมันช่วยมันทำงานนอนดึกทุกคืน พอส่งงานเสร้จมันหนีไปนอนแล้วหายไปเลยยยยย
คือมันเป็นเพื่อนที่ดีมากๆๆไ เรื่องไม่ดีอย่างเดียวคือติดต่อยากอ่ะ
กูหวงเพื่อนนี่แปลกไหมวะ ? หวงพี่ข้างบ้านที่สนิทกันตั้งแต่เด็กด้วย มีหลายเหตุการณ์เช่น พี่กู(ญ)มีความรัก กูก็จะปลอมตัวไปจีบผู้ชายคนนั้นให้เลิกยุ่งกับพี่กูงี้ หรือตอนพี่กูมีแฟนกูก็สร้างเรื่องให้พี่กูกับแฟนทะเลาะแล้วยุให้เลิกกัน กับเพื่อนก็เหมือนกันว่ะ กูชอบยุให้เพื่อนเลิกกับแฟนตอนมันทะเลาะกัน เพราะเพื่อนไม่ค่อยสนใจกู หรืออย่างเพื่อนอีกคนกูเฟรนลี่มากคุยกับคนอื่นไปทั่ว กูก็เสนอหน้าไปคุยด้วย เหมือนไม่อยากให้เขามีเพื่อนใหม่แล้วลืมกู ละทีนี้กูเริ่มมีเพื่อนเป็นผู้ชาย กูก็ทำตัวหวงจนเหมือนกูเป็นแฟนเขา กูชอบตามเขาไปนั่นนี่ เรียกว่าแทบจะติดกันตลอดเวลา กูกลัวเขารำคาญกูว่ะ แต่กูก็หวง กูเหงา กูเพื่อนน้อย สนใจกูหน่อย ฮัลโหลลลลล ประมาณนี้อ่ะ
>>363 ให้เเต่ต้องดูเเนวโน้มมัน คือต้องเป็นที่เอาการเอางานสามารถสร้างประโยชน์กับมึงได้ในอนาคตอันใกล้หรือไกล ไม่ว่าเรื่องอะไรก้เเล้วเเต่ เเละก่อนจะให้ต้องมีชั้นเชิงให้มันรุ้สึกติดหนี้บุญคุณมึง มันจะได้ตอบเเทนมึงเยอะๆ เเละมึงไม่ควรเเจกเเลกเชอร์มั่ว เพราะมันจะทำให้เเลกเชอมึงพัยลิกมากเกินไปวายู่่เเลคเชอมึงก็จะดรอปตาม ควรเเจกรายคนเป็นการส่วนตัว
>>366 ปลงซะปล่อยให้เขามีชีวิตเองมึงไม่สามารถเกาะเเกะเขาได้ตลอดเวลาหรอก ปล.สิ่งที่มึงทำกับเขานี้ใจร้ายมากนะ
>>367 กู 366 กูก็เข้าใจว่ากูควรปลงๆ บ้าง ความจริงกูชอบเขานานแล้ว รู้จักกันนาน แต่ไม่ได้สนิทอะไรกันขนาดนั้น พึ่งมาสนิทได้ไม่นานนี้เอง เขาเป็นเพื่อนกับรุ่นน้องกู เลยได้มีโอกาสพูดคุยไรกันเยอะขึ้น สนิทกันกว่าเดิม เหมือนเขาก็สนใจกูนะ แต่กูก็ไม่อยากคิดไปเองเพราะเขาก็เฟรนลี่กับคนอื่นมากเหมือนกัน จนบางทีเหมือนลืมกูไปเลยด้วยซ้ำ แต่กูก็ชอบเขาที่เป็นแบบนี้แหละ เลยคอยมองดู เอาใจใส่ตลอด จนบางทีเหมือนเยอะเกินไป แต่พอกูห่างๆ ลองไปคุยกับคนอื่นบ้างเขาก็ทำตัวเหมือนกู คือสอบเสนอหน้ามาคุยด้วย เหมือนหวงๆ กูเหมือนกัน แต่กูก็ไม่อยากคิดไปเองเพราะเขาเฟรนลี่นี่แหละ
มีเด็กในกรุ๊ปแชทกูคนนึง อายุ14-15 แต่นิสัยชอบโกหกว่ะ เป็นพวกชอบเรียกร้องความสนใจ อยากให้คนนั้นคนนี้อิจฉาตัวเอง ทำให้ตัวเองดูพิเศษ เลยชอบโกหกแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ กูก็พยายามไม่สนใจเท่าไหร่นะ ไม่สนิทกัน ซึ่งกูปล่อยเบลอตลอด แต่ก็จับโป๊ะได้ตลอด โกหกแม้กระทั่งค่าคอนแทคเลนส์ที่เกินจริง เพื่อนร่วมห้องเป็นลูกชายเจ้าของนิตยสาร จะไปขอส่วนลด ฯลฯ จะว่าไปกูก็พยายามจับโป๊ะแม่งครั้งนึง ที่มันอวดแรงค์กิ้งเกมว่าได้ลำดับที่สองพันปั่นคืนเดียว ไม่มีไอเท็มช่วยอะไรเลย ซึ่งกูเล่นทุกวันมากกว่ามันยังได้แรงค์ห้าพัน คือตอแหลซึ่งๆหน้า พอกูถามก็เปลี่ยนเรื่อง ไม่ยอมตอบกู แต่มันก็เหมือนจะรู้ว่ากูอะรู้ทันมัน เลยเอาไปพูดกับคนอื่นว่ากลัวกูไปซะงั้น กูว่าคนอื่นก็จับได้พอกันล่ะ แต่ไม่มีใครกล้าพูด คิดเหมือนกันนะว่าต่อไปจะโกหกอะไรไปมากกว่านี้รึเปล่า แต่ก็ดูคนตอแหลทุกวัน สนุกดี
ถ้าเพื่อนโชว์โง่ในเรื่องที่มึงรู้ดีกว่าแล้วฟูมฟายโวยวายออกเฟซ มึงควรไปเบิกเนตรหรือควรปล่อยให้ดักดานวะ อันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาต่อต่างประเทศนะ
>>371 ตอนนี้นางประกาศด่าปาวๆ โวยวายว่าวีซ่าไม่ผ่านเพราะสถานทูตเกลียดคนไทยใช่มั้ย นางรวย มีเงินนะ แต่มันต้องหมุนนั่นนี่ ประเด็นคือกูอ่านจดหมายที่นางได้มามันบอกว่าแม่งเขียนเหตุผลในการเรียนต่อไม่พอ...กูเข้าไปบอกดีๆละ แต่ยังตีโพยตีพายไม่หยุด ปล่อยแม่งควายต่อไปเถอะ
ขอวิธีปฏิเสธเพื่อนแบบถนอมน้ำใจที ตอนแรกเพื่อนชวนกูไปเที่ยวกลางคืน กูก็นึกว่าจะเป็นพวกร้านเหล้ากินอะไรงี้เลยตอบตกลงไป แต่ปรากฏว่าเป็นผับสายแดนซ์ ซึ่งกูโคตรไม่ชอบที่เสียงดังๆที่คนเยอะๆ แถมไม่อยากเต้นด้วย จะบอกไงให้ดูไม่น่าเกลียดดี
>>373 มีธุระตอนเช้ามืด รีบนอน ไปไม่ได้, พ่อแม่ไปธุระ ต้องอยู่บ้าน หรือพูดไปตามตรงว่าไม่รู้ว่าเป็นผับแดนซ์ อยู่ที่เสียงเบสหนักๆไม่ได้ ปวดหน้าอก กินร้านธรรมดาก่อน ถ้าจะไปแดนซ์แยกกันโอเคมั้ย
อันนี้ที่กูใช้มาตลอด แต่กูอยู่เบสหนักไม่ได้จริงๆ หน่วงอก บอกไปตรงๆเพื่อนมันก็เข้าใจนะ สุขภาพเรา
มีเพื่อนร่วมคลาสคนนึง นั่งหน้า ดูตั้งใจ ฉลาดๆ แต่มีโอกาสได้คุยกันสั้นๆ เขาบอกว่าก่อนหน้านี้ทำคะแนนได้ไม่ค่อยดี(ต่ำกว่ามีนนิดหน่อย) กูอยากรู้จัก อยากช่วยเหลือ เวลาเห็นเพื่อนที่เราติวให้ได้คะแนนดีโคตรภูมิใจ นี่พึ่งคุยกันครั้งแรก แล้วแปปเดียวด้วย ชื่อกันยังไม่รู้เลย จะทักยังไงดี คือเขาไม่ได้ขอ แล้วกูเสนอหน้าไปแบบ เธอๆ เราเจอกันตอนกลางวันอะ มาอ่านหนังสือด้วยกันป่าว5555 ถ้าเป็นพวกมึงจะรู้สึกไงวะ
>>366 กูโคตรเกลียดคนนิสัยแบบมึงเลย ประเภทชอบสร้างความร้าวฉานให้คนอื่นเนี่ย
มึงมันนิสัยทุเรศ รักแค่ตัวเอง คนที่โดนมึงปั่นจนชีวิตต้องชิบหายเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวของมึง ไม่อยากให้คนอื่นมาแย่งเพื่อน แย่งคนสนิทของตัวเองไป นิสัยโคตรเด็กเลย อ่านแล้วปรี๊ดชิบหาย เลิกเถอะนะ นิสัยสันดานแบบนี้ อยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้หรอก
ยิ่งถ้าเพื่อนมึงหรือคนรอบตัวมึงรู้สันดานที่แท้ทรูแบบนี้ของมึงๆ จะยิ่งไม่มีใครคบแล้วจะเหงาหีแตดกว่าเดิม
หวงเพื่อนห่าเหวไรมึง แค่นิสัยเด็กเห็นแก่ตัว ไม่อยากโดนคนอื่นแย่งความสนใจแย่งความรักไป จนต้องทำให้คนอื่นทะเลาะกัน
เพียงเพราะความเห็นแก่ตัวของมึง อ่านแล้วหงุดหงิดชิบหาย อยู่ใกล้ๆนี่กูจะถวายส้นตีนให้ซักที จะได้เลิกบ้าเสียทีอีสัส
กูผชนะ แต่อยากก้านคอมึงชิบหายอีเหี้ย
>>366 เพื่อนที่สนิทมากๆของกูเป็นคนแบบมึงเป๊ะเลย ทุกวันนี้กูเลิกคุยกับมันมาปีกว่าแล้ว คือเป็นบ้าแบบมึงจนกูหลอน กูหมดความมั่นใจในตัวเอง นึกถึงชื่อมันทีไรก็อยากจะร้องไห้ ทุกครั้งที่กูทนไม่ไหวมันก็จะมาขอโทษกูทุกครั้ง แต่ก็ยังทำสันดานเดิมๆ ซึ่งด้วยความที่ไม่รู้ว่ากูเป็นคนดีหรือโง่ กูก็ให้อภัยมันทุกครั้ง จนแม่งเคยตัว พอถึงจุดที่กูทนไม่ไหวคือกูสติแตกเลย ตะโกนด่า ร้องไห้เป็นบ้า ทุกวันนี้กูก็ยังสติแตกทุกครั้งที่มันพยายามทักแชทมา พูดตรงๆ ถ้ามึงยังเห็นแก่ความเป็นเพื่อนอยู่ มึงเลิกนิสัยนี้เถอะนะ ก่อนที่มึงจะไม่เหลือใครให้คบอีก
มึงจะทำยังไงดี กูว่ากูโดนเพื่อนในห้องเริ่มแอนตี้ว่ะ ส่วนตัวกูเป็นคนแปลกอยู่แล้ว ในสายตาพวกมันคือกูเป็นคนเงียบๆ ความสนใจคนละเรื่องกับเพื่อนแทบทั้งห้องอะ ละเพื่อนกูคนนึงมันโดนนินทาก่อน ละทะเลาะอะไรกับเพื่อนอีกคนนี่แหละ มันเลยไม่มาเรียน (เพื่อนในห้องพยายามบอกกูว่าอย่าไปยุ่งกับมัน กูก็ฟังหูไว้หู แต่ไม่เคยนินทาอะไรเสียๆ หายๆ เลยนะ) แล้วทีนี้มันมาเรียน กูก็ทำตัวปกติกับมัน จะให้ไปทำหน้าบึ้งทำเป็นไม่รู้จักมันก็ไม่ใช่ปะวะ แล้วทีนี้เพื่อนคนนึงในห้องก็โพสด่าเชิงแบบ ทำไมต้องไปยุ่งกับมันทั้งๆ ที่ไม่อยากยุ่ง (กูไม่แน่ใจว่าหมายถึงกูหรือใคร เพราะกูมีเพื่อนอีกคนนึงที่ห้ามกูว่าอย่าไปยุ่งกับเพื่อนที่ไม่มาเรียน... ต่อเรปล่าง
แต่มันก็ไปยุ่งไปเล่นด้วยแบบเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น) แต่พอเลิกเรียนผญ.ทั้งห้องรวมกลุ่มกัน ยกเว้นกูกับเพื่อนอีกคนที่ไปยุ่ง กุได้ยินชื่อกุมาแว่วๆ พอกุเดินผ่านก็โดนแขวะว่าสุดจริง (จากปากของเพื่อนที่ไม่มาเรียน) ในใจกุก็แบบทำไมเป็นแบบนี้วะ สังคมนี้แม่งไว้ใจใครไม่ได้เลยจริงๆ ละกุทำอะไรผิดถึงต้องมาลงที่กุกันวะ กุไปด่ามันเหรอก็ไม่ กุยังโดนโพสด่าว่าเห็นแก่ตัวอีก กุควรทำยังไงดีเพราะกุต้องเรียนนี่ไปอีกสามปี ควรทักไปคุยให้แน่ใจเลยดีปะวะ
>>391 ตอแหลกับสังคมตอแหลถึงจะอยู่รอด คือนินทามันมีอยู่ทุกที่แหละ ทําใจไว้ เพราะพวกนี้ไม่กล้าต่อหน้าหลอก ก็ทําตัวไม่รู้ไม่ชี้ไม่ได้ยินแล้วก็พยายามคุยกับเพื่อนปกติต่อๆไป แล้วพวกความเป็นโลกส่วนตัวก็ลดให้น้อยๆลง เปิดกว้างกับเพื่อน หรือจะอีกแบบเลยก็คือช่างเพื่อนแม่ง กูอยู่คนเดียวได้ แต่อันนี้จะผลเสียเยอะตรงพวกการทํางานกลุ่มไรงี้ ดังนั้นแนะนําต้องตออหลให้อยู่รอดต่อไป ถึงแม่งจะเป็นเรื่องเหี้ยก็ตาม
คือก็เป็นเหมือนกัน ค่อนข้างจะมีความชอบไม่เหมือนคนอื่น ก็โดนแยกห่างๆ เพราะมันคุยไม่สนิทกันอ่ะเพราะชอบคนละเรื่องกัน แต่ส่วนตัวก็แยกตัวเองออกมาด้วยแหละ เพราะรำคาญเรื่องตอแหลนินทากันเอง คนจริงใจจริงๆมันหายาก ก็คิดเหมือนกันนะว่าไม่เหนื่อยหลอวะ ต้องมาโกหกคนนู้นนี้ ._. แต่นี่อยู่มหาลัยละ คนมันก็เริ่มแยกแยะออกว่าเรื่องไหนเรื่องงานเรื่องเพื่อน งานกลุ่มมันก็ให้อยู่รวมกันแหละ เอาเรื่องงานก่อน แล้วลับหลังไปนินทาอะไรก็เรื่องของเมิง แต่ถ้าเป็นมัฐยมนี่อยู่คนเดียวโครตลําบาก ไม่มีใครเชื่อใจได้ ก็พยายามหาคนที่เชื่อใจได้เปอร์เซ็นต์เยอะกว่าชาวบ้านหน่อย เกาะๆกลุ่มไปแล้วกัน
อยากรู้หว่ะว่าพวกโม่งที่จะเปลี่ยแปลงตัวเองขึ้นมห่ลัยตอนนี้เป็นไงกันบ้างวะ เห็นหลักๆเลยก็อยากมีเพื่อนเยอะ เป็นที่ป๊อปปูล่าไรงี้ กูก็เป็นคนที่พิมพ์ไปงี้แหละ เอาเข้าจริงมีเพื่อนเยอะแล้วโครตน่ารำคาญเลยสัส อันนี้ความเห็นส่วนตัว แล้วกูต้องไปดัดจริตทําตัวให้เข้ากับพวกมันเพื่อให้ได้เพื่อนเยอะๆ โครตเอ๋อเลยสัสกู แม่งสุดท้ายอยู่กับคนที่ตัวเองสบายใจดีกว่าหว่ะ ถึงจะเป็นเพื่อนในเน็ตในด้อมก็ตาม แล้วอยู่คนเดียวนี่สรุปสบายสุดและแม่ง แล้วกูก็แยกออกจากเพื่อนมา ก็โดนแบนเฉยเลยอยากจะขําไอเหี้ย ปญอหว่ะ แล้วก็นินทาสร้างเรื่องกูซะมั่วเลย 5555555 ตอนนี้ก็สบายใจที่สุดละ อุอิ
>>394 ตอนนี้กูก็มีเพื่อนเยอะขึ้นล่ะ ยังไงดีล่ะ มีทั้งเพื่อนสนิท เพื่อนที่ไว้ใจได้ เพื่อน hangout ไปแดกชาบูไรงี้ด้วยกันได้อ่ะ จนไปถึงเพื่อนที่เจอก็ทักไรงี้ กับรุ่นพี่ก็สนิทและรู้จักหลายคน ตอนแรกกูแอบเครียดเพราะพยายามไปเข้ากลุ่มกับเพื่อนที่ไลฟ์สไตล์ตรงข้าม พวกสายกินเหล้าไรงี้ แก๊งคนสวยหล่อไรงี้(ไม่ได้ว่ามันไม่ดีนะ แค่มันไม่เข้ากับกูเฉยๆ) พยายามทำตัวให้เข้ากับทุกคน แน่นอนว่ามันก็มีเพื่อนคนที่เห็นค่ากูและไม่เห็นอ่ะนะ แต่จู่ๆกูก็คิดเองได้ว่าจะไปแคร์พวกแม่งที่ไม่เห็นค่ากูทำไมในเมื่อมีเพื่อนอีกตั้งหลายคนที่เค้าโอเคและเห็นค่าในสิ่งที่กูทำบวกกับช่วงนั้นไปทำค่ายอาสาเลยรู้ตัวเองว่าชอบทำอะไรและเพื่อนแบบไหนที่รสนิยมคล้ายๆกัน การทำอาสา ไปค่าย ทำสโมมันทำให้กูรู้จักคนเยอะจนช่างแม่งแกงค์สวยหล่ออ่ะ คือไม่ได้ตั้งตัวเป็นศัตรูนะ เจอก็ทัก ก็คุย แค่ไม่แบ่งสรุปไรงี้ให้เฉยๆ55555555 แต่การที่กูทำตัวเฟรนด์ลี่มันทำให้หากลุ่มที่ทำงานดีๆด้วยได้อ่ะ ไม่ต้องเป็นเศษเหลือ เพื่อนๆก็ช่วยกันทำงานหมด เร่งงานได้ ทวงงานได้ ส่วนเรื่องป๊อปปูล่ากุช่างแม่ง เพราะกุโดนเพื่อนด่ามาว่าอย่ามองคนที่หน้าตามากเกินไปเลยสำนึกได้บวกกับกูอาจเริ่มรักตัวเองมั้งเลยมั่นใจในตัวเองมากขึ้น แบบ เออ กูก็มีดีของกูนะเว้ย และกูโอเคกับการที่เป็นฝ่ายไปจีบเขามากกว่า ถ้ากูป๊อปแต่มีแต่คนที่ไม่ตรงไทป์มาจีบก็ไม่โอว่ะ แต่บอกเลยว่ากูรักชีวิตมหาลัยสัสๆ เหมือนส่วนใหญ่โตๆกันแล้วอ่ะ ม.กูสังคมมันดีด้วยมัน อีพวกสวะหน้าหีเล่นพรรคพวกตอนเรียนม.ปลายไม่มีปัญญาสะเออะเข้าม.นี้ได้แน่นอน สังคมดีๆก็มีส่วนในระดับนึงอ่ะนะ
>>395 คล้ายๆกูเลย / กูรู้สึกว่าพลาดมากๆที่เลือกเพื่อนผิดกลุ่มจำใจคบเพราะกิจกรรมเหี้ยๆมหาลัยแท้ๆ
กูดีและจริงใจกับพวกแม่งไม่เว้นแต่เพื่อนต่างกลุ่มเพราะกูดีกับทุกคนจนเข้ากับทุกกลุ่มได้
จนมาถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้กูรู้ว่าคนนิสัยแบบเดียวกันจะมาอยู่รวมกัน
ทำให้กูอยากออกชิบหายแต่หาทางลงไม่ได้ มีเพื่อนออกไปก่อนหน้ากู
แล้วสองคนแต่ทั้งสองทำทีว่าคบๆไปเฉยๆเวลานึงก็ไปอยู่กับกลุ่มนึงแค่นั้น
ในกล่มก็ไม่เคยเห็นหัวกันอยู่แล้ว รู้ว่าอยู่ไปคงไม่มีทางพัฒนาความสัมพันธ์ไปมากกว่านี้ได้
หนำซ้ำยังจะตกเป็นเหยื่อของการโยนงานอีก มีอะไรพวกแม่งก็ไปลับหลังกันเองอยู่แล้ว
ทั้งหมดนี้สำหรับกูมันก็ไม่ได้แย่สุดๆขนาดนั้นเพราะกูปลง ปลงกับการที่แม่งทำแบบนี้แล้วกูเหนื่อย
เหนื่อยที่กูจริงใจไปสุดท้ายแม่งก็ทำเหี้ยกับกู ไม่ใช่แค่กูที่โดนก่อนหน้านี้ก็มีมันขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นรายต่อไป
อยากบอกคนที่เข้ามหาลัยว่า เลือกเพื่อนให้ดี เพราะเปลี่ยนกลุ่มมันเหนื่อย ทำดีและจริงใจกับทุกคน เพราะผลตอบแทนมันคุ้มมากๆ
ระอาเพื่อนคนนึงแบบบอกไม่ถูก คุยห่าไรไม่รู้อยู่ได้โลกหมุนรอบตัวเองสัสๆ ชอบพูดจาเพ้อเจ้อแบบ กูไปเที่ยวก็ชอบมาบอกว่าไปด้วย พอชวนไปก็เสือกมาบอกว่าไม่ไปหรอกไม่ว่าง แล้วก็วนลูปเดิมคือมาพูดซ้ำๆว่าไปด้วยๆ แต่พอชวนก็ตอบว่าไปได้ที่ไหน ไม่ว่าง เอ้าอีห่า มึงจะเอาไงกะกู จะให้ชวนหรือไม่ให้ชวน
บางทีก็มาบอกว่ากูไม่ชวน พอกูชวนก็มาอีหรอบเดิม คือเป็นไร ต้องการไรจากกู คุยกันทีก็เหมือนถามส่งๆให้กูตอบแล้วก็พุดวนเข้าเรื่องตัวเอง แล้วก็วนมาถามเรื่องเดิมๆอีกเหมือนไม่ได้อ่านไอ้ที่กูเคยตอบไป แล้วก็เอาแต่พุดเพ้อเจ้อบ้าบอ จับใจความไม่ได้ว่าต้องการอะไรกันแน่ เหมือนอยากจะพุดไรก็พุด ไม่สนใจคู่สนทนา พูดไปเรื่อยๆแล้วก็มาเค้นเอาคำตอบจากกู แต่ไม่เคยใส่ใจสิ่งที่กุตอบเหมือนแค่อยากให้มีคนมาคุยด้วยแต่ไม่สนใจคู่สนทนาเลย กุทนแบบนี้มาหลายเดือนละ ตอนนี้รำคาญมากๆละสัส มึงจะเอาอะไรจากกูวะ
สุดท้ายแล้วทีสิสมหาลัยก็ไม่ใช่งานที่กุอยากทำที่สุด แต่เป็นงานที่ทำแม่งไปให้จบๆแทนงั้นเหรอวะ
กุไม่น่าเลือกมาเรียนมอเหี้ยนี่เลยจริงๆ
>>398 หัวข้อธีสิสเกิดจากการตกลงกันของนศษกับอ.ที่ปรึกษา ถ้าไม่สามารถทำหัวข้อที่อยากทำได้แสดงว่ามึงมี่สามารถโน้มน้าวอ.ได้ ความผิดใคร?
อะสมมติให้เป็นกรณีที่อ.เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ การที่เลือกอ.คนนี้/คณะนี้/ม.นี้ ใครเป็นคนเลือก?
ตอนกูทำธีสิส เพื่อนภาคกูที่มีหัวข้อในใจได้ทำหัวข้อที่ตัวเองสนใจ(ระดับนึงอาจไม่ตรงใจ100%)กันทั้งนั้นอะว่ะ
คนที่อะไรยังไงก็ได้ไม่ต้องพูดถึงนะ ไม่ได้มี passion มากพอ จะโดนยัดหัวข้อที่ค่อนไปทางน่าเบื่อก็ไม่แปลก
ขอบ่นมั่ง กูเองก็เลือกทำธีสิสในหัวข้อที่กูสนใจ ตอนแรกวาดฝันไว้ดีมาก ว่าจะทำแบบนั้น ทำแบบนี้ จะทำให้มันเต็มที่ที่สุด อยากทำให้มันดีโคตรๆ เพราะมันคือสิงที่กูเลือกแล้ว และมันคือสิ่งที่กูชอบด้วย
แต่พอมาลงมือทำจริงๆ ไอ้เหีี้ย ยากชิบหาย ผลที่ออกมามันแย่กว่าที่คาดไว้ จนกูอยากจะทำงานแบบเทๆ ให้มันจบๆ ไป ไม่อยากทำให้มันสมบูรณ์ที่สุดแล้ว เพราะกูเหนื่อย กูอยากให้งานมันเสร็จไวๆ ก็พอแล้ว
>>403 ความฝันกับความจริงมันคนละแบบกัน อย่างแรกที่ต้องทำเลยคือหาข้อมูลยิ่งเยอะ ยิ่งดีจะได้เขียนง่ายๆ อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือทบทวนวรรณกรรม ทั้งสองอย่างยิ่งหาเยอะยิ่งมีน้ำหนัก ที่เหลืออยู่ที่ตัวเองวิเคราะห์อะ ไม่มีอะไรง่ายหรอกนะ ทำให้มันดีๆ ถ้าส่งไปแล้วก็แก้ไม่ได้ ถ้าจบไปแล้วบางทีอาจจะเสียใจก็ได้ที่ทำไม่ดี
กูเริ่มจะรำคาญเพื่อนคนนึง คือมันไปสู่รู้รู้จักชื่อพ่อกู แบะเหมืนอไมามีอะไรทำเลยตะโกนเย้วๆล้อชื่อพ่อ ซึ่งกูไม่เดือดร้อนอะไรอ่ะ มันดูเด็กๆ แต่ตอนหลังแม่งชักเยอะจนน่ารำคาญ พูดเยอะมาก ตะโกนอีก บางครั้งก็แบบ ครางชื่อ*ชื่อพ่อกู*หน่อยสิ คืออะไรวะ ขาดความอบอุ่นหรือหาจุดอื่นมาล้อกูไม่ไหว แล้วกูมีพ่อเก่า คือเป็นพ่อที่กูรู้จักแต่ชื่อ ละแม่งก็รู้ว่าพ่อคนนั้นคือตายไปแล้ว แม่งก็ยังตะโกนล้อ กำลังคิดว่าถ้ามีอีกครั้งกูคงไม่ทนแล้วว่ะ
>>403 >>407
สัส อ่านแล้วนึกถึงตัวกูเองตอนทำ เดอะสิส เลยไอ้ฉิบหายเอ้ย คือตอนเริ่มทำทีสิสนี่แม่งคาดหวัง + ฝัน ว่าแม่งจะออกมาเจ๋งแน่ๆ ร้อนวิชาชิบหาย อยากทำนู่นนี่ อยากเอานั่นมาใส่เอามานี่มาเพิ่ม อยากทำให้แม่งอาร์ตๆ ติสแตกหลุดโลกไปเลย กูเรียนภาพยนตร์ ม.รัฐ ไง
คิดเหี้ยไรไม่รู้เห็นเพื่อนทำหนัง ทำภาพนิ่ง ทำฟิล์มกันหมด ตอนนั้นกูกำลังสนใจ doc (ภาพยนตร์สารคดี) พอดี ไม่เคยทำมาก่อน
อยากลองสัสท้าทายขีดจำกัดตัวเอง ลุยเข้าป่าเข้าเขา ลงหาวัตถุดิบมาทำหนัง ทีแรกไปป่าไม่เวิร์คจับประเด็นอะไรไม่ได้
ทีนี้ดีดเหี้ยไรไม่รู้ ขึ้นเขาไปหาหมู่บ้านกะเหรี่ยงที่เชียงราย in to the wild life สัสๆ สัญญาณมือถือในหมู่บ้านก็ไม่มี ตอนกลางคืนก็มืดเหี้ยๆ
เพราะเขาไม่เปิดไฟกันนอนกันตั้งแต่หัวคํ่า กูกับเพื่อน(ลืมบอกว่าทำคู่)ไม่มีไรทำตอนกลางคืนเลยมานั่ง ถ่ายดาวเล่น ถ่าย time lape เล่นกัน
เพราะนอนไม่หลับปกตินอนกัน ตี2-3 ไง สุดท้ายการจะได้ข้อมูลวัตถุดิบในการทำ doc แม่งต้องฝังตัวลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลนานมากๆๆๆ
สุดท้ายไม่ไหว เพราะต้องไปกลับเชียงราย + ไม่มีประสบการณ์ทำ doc เลยแม่งเลยประเมินสถานการณ์อะไรไม่ออกเลยว่าควรจะหาข้อมูลยังไง
จับประเด็นไหน จะเล่าอะไร สุดท้ายแห้ว ต้องพับโปรเจ็คนี้ไปทั้งๆที่แม่งน่าสนใจไม่น้อย กลับมาเอาตีนก่ายหน้าผากที่กรุงเทพ
พร้อมๆกับจบช้าไปหนึ่งปีเต็มๆ กว่าจะจบได้โดนแก้เล่มไปยับเลย เครียดชิบหายกว่าจะจบ จบช้ากว่าเพื่อนสัสเอ๋ย
แถมผลงานที่ออกมาก็ไม่ได้ดั่งใจเท่าไหร่ คิดแล้วเซ็ง เก็บไว้เป็นประสบการณ์เตือนและสอนใจตัวเอง
โม่งคนไหนจะทำธีสิส เตือนไว้ก่อนนะ เอาเรื่องที่มึงเชี่ยวชาญจริงๆ ถนัดจริงๆ และมั่นใจว่าคุมได้ เอาอยู่แน่ๆ
อย่าไปเล่นเรื่องไกลตัวมากไปจะคุมไม่อยู่ โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องไป reseach ข้อมูลไกลๆๆแบบ ตจว เลยให้คิดดีๆก่อน
ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง+ค่าที่พัก เหนื่อยแน่ๆ
กว่าจะจบได้แทบอ้วก ไม่น่าห้าวหีเลยกรูทำหนังแนวที่ถนัดก็จบชัวร์ๆแล้ว ฮือๆๆๆ
ทำไงดีวะ เพื่อนชอบยืมโทรศัพท์ไปเล่น แล้วกุเป็นคนขี้เกรงใจอะ บางครั้งกุจะเอามาเล่นบ้างมันก็บอกแปปนึง แปปนึงนี่กว่ากุจะได้ (เพื่อนมันไม่มีโทรศัพท์ถูกพ่อแม่ยึด) กุก็เข้าใจว่ามันไม่ได้เล่นโทรศัพท์เลย จะได้เล่นก็ต่อเมื่อยืมของกูเล่น แต่กุก็อยากใช้บ้างปะวะ มันยืมทีเอาไปครึ่งวัน กุเคยไม่เอาโทรศัพท์มาเรียนแล้วแต่ครูให้เอามา พอลองอ้างแบตหมดไวเพื่อนกุก็เตรียมสายชาร์จมาพร้อม ถ้ายืมบางครั้งกุจะไม่ว่าเลย แต่นี่ยืมทุกวัน ไม่รู้จะทำไงแล้วว่ะ เพื่อนคนนี้ไม่ได้สนิทกับกุมาก ถ้าเพื่อนสนิทกุจะเข้าใจอะว่ามันของส่วนตัว
เบื่อว่ะ เพื่อนรอบตัวชอบทำตัวมีปัญหาไม่ก็เอาปัญหามาใส่กู ใช้งานกูมั่ง ให้กูเป็นตัวกลางมั่ง ไม่ก็ทะเลาะกันเองและโทรมาด่าๆๆอัดๆๆให้กูฟัง ไม่พอพาลเหวี่ยงกูอีก รำคาญ ทำไมรอบตัวมีแต่คน toxic วะ กูทำบาปมาหรอถึงต้องมาเจอเจ้ากรรมนายเวรรูปแบบเพื่อน
กูเบื่อ เหมือนไม่ทีเพื่อนเลยอะ หรือกูอินโทรเวิตเกินไปวะมึงแบบกุดูเป็นคนชอบทำอะไรคนเดียว แต่เนี่ยช่วงสอบ กุคาดหวังว่าเพื่อนจะชวนไปอ่าน แต่มันก็ไม่ชวน พอกูถามว่า อ๋อจะไปอ่านที่นี่หรอ ก็ทำหน้าตายๆแล้วตอบว่า จะไปหรอก็มาดิ คือมันดูออกนะ กูก็คบกะมันมานาน กุพยายามจะไม่คิดแล้ว พยายามจะไม่แคร์ละนะแต่กูก็นอยว่ะ
กูมีเพื่อนคนนึงที่ชอบทำตัวมีปัญหาเหมือนกัน คือแม่งจะชอบมางอน มาโมโหเพราะแค่กูไม่ทัก พอกูไม่ทัก แม่งก็จะไม่คุยกับกู ทำหน้าตึงๆแบบให้เห็นชัดๆละเหวี่ยงไปทั่ว พอกูมากับเพื่อนในกลุ่มแม่งก็จะพาลใส่เพื่อนคนนั้นไม่คุย ซึ่งไอเพื่อนที่โดนพาลคือสนิทกับเพื่อนขี้เหวี่ยงมากกว่าเพราะกูชอบแยกตัวมากกว่า นิสัยกูเข้ากับแม่งไม่ได้อ่ะ เรื่องไปเที่ยวงี้ก็ได้ระ แต่แม่งชอบทำตัวโลกหมุนรอบตัวเองชิบหาย มึงต้องง้อกูสิ กูไม่มีผิด กูก็ไม่ใช่คนชอบง้อ ถ้ากูผิดหรือมันไม่ใช่เรื่องที่เกิดถี่ๆกูก็ตะง้อเพราะปกติกูไม่ค่อยจะโกรธอะไรใครเพราะกูปลงๆเลยออกแนวเฉยๆ
กูรู้สึกโชคดีเพราะกูไม่ได้สนิทอะไรมากชิบหาย อีเพื่อนเจ้าปัญหาแม่งชอบใช้งานเพื่อนอีกคนที่ไม่มีปากเสียง ตอนนั้นแท่งบอกว่าตัวเองงานเยอะเลยโยนงานให้อีกคนทำ แล้วตอนทำงานแม่งนั่งเล่นทวิต ตลก 55555 ตอนแรกแม่งก็งอแงจะให้กูทำด้วยแต่กูตอกกลับไปว่างานก็งานมึง กูก็มีงานของตัวเองป่ะ แม่งกริบละโกรธกูไปอีกหลายวัน ซึ่งกูก็ช่างแม่งแบบเดิม
มึงเอาไงดีวะ อีก2เดือนกูต้องเอนละมีเพื่อนคนนึงสมัยม.ต้นที่อยู่คนละโรงเรียน ตอนนั้นสนิทกันเพราะไปแลกเปลี่ยนด้วยกัน ละก็แบบฟอลไอจีรองกู ก็คุยกันบ้างบางช่วงแต่ไม่บ่อย จู่ๆเขาก็มาขอหนังสือเรียนกูทั้งเล่มไปอ่านสอบเอนเลยอะ มันเป็นหนังสือคอร์สเรียนพิเศษ เออturbo davanceอะ5555 ที่กูไปทนเรียนคอร์สสดมาสองเดือน เลิกเกือบ4ทุ่ม ละกูจดละเอียดมาก ละมันวันนี้ก็ไดเรคมาหากู ขอหนังสือกูไปอ่าน กูแบบอิหยังวะ กูทนเรียนแทบตาย สนิทก็ไม่ ขอไปอ่านหน้าด้านๆแบบนี้เลยอ่อ55555 กูควรทำไงดีวะ ปฏิเสธก็ไม่ได้ พอกดไปอ่านละแม่งก็ต้องตอบ กูก็ตอบกลับไปว่าได้ๆ แล้วจะให้เอาหนังสือให้ยังไง ให้ถ่ายรูปไปหรอ(คือมึง จะให้กูตอบว่าไงอะ ไม่ได้ เรื่องเหี้ยไรจะให้ ก็ไม่ได้ป้ะ5555) มาเล่าเพราะอยากรู้ว่ากูควรตอบมันยังไงดี เป็นการปฏิเสธแบบดูไม่แล้งน้ำใจ กูยอมรับว่ากูหวงความรู้ ก็กูไปเรียนแทบตายอะ มึงจะมาขอกูหน้าด้านๆละอ้างว่าเรียนคอร์สintensiveไม่ทัน มันได้อ่อวะ กูไม่สนหรอกนะใครจะได้คะแนนมากกว่ากูหรือน้อยกว่า แต่กูไม่ชอบที่ไม่พยานามเรียนแล้วมาขอของกู เพราะรู้ว่าจดละเอียด ช่วยตอบหน่อย อยากรู้ว่าตอบไงดี
รำคาญคนคุยของเพื่อนสนิทว่ะ คือเพื่อนคนนี้ติดกูมาก เป็นเหมือนน้องสาวอ่ะ อยู่ด้วยกันตลอดเวลา เพราะเป็นเมทกันมา 6-7 ปี ไม่รู้ว่ากูสันดานเสียหรือเปล่านะ แต่กูขวางหูขวางตาคนนี้มากๆ คือรู้จักกันมาครึ่งปี ไม่เคยแสดงทีท่าสนใจเพื่อนกูเลยสักนิด แต่พอกูไปเรียนต่อต่างประเทศได้แค่ 3-4 วัน แม่งมาชวนเพื่อนกูไปกินข้าว เพื่อนกูก็ไปเพราะมันเหงาไม่มีกูไปกินข้าวเป็นเพื่อน คิดว่าชวนเฉยๆ สรุปมาขอจีบ ขอคุยด้วยได้มั้ย คือกูอ่ะว่ามันแปลกๆ คือรู้จักกันมาครึ่งปีมึงไม่จีบ พอกูไม่อยู่ เหมือนแม่งได้ช่องอ่ะ แล้วเวลาเพื่อนกูอัพเฟสอะไรแม่งไลค์ทุกอัน แต่เมื่อวานแม่งอัพว่ากูซื้อตุ๊กตาให้ แม่งไม่ไลค์ คือไรวะ กูอึดอัดเว้ย รู้สึกคือถ้ากูยังอยู่ไทยเพื่อนกูก็ไม่เอามันอ่ะ เหมือนเพื่อนกูเหงา แล้วมันหาช่องพอดี กูควรทำไงไม่ให้หงุดหงิดวะ
>>423 กูคิดว่างั้นนะ เหมือนกูเป็นก้างอ่ะ พอไม่มีกูเลยมาเสียบ คือในใจกูมันรู้สึกเฟลๆไง กูไม่ได้คิดจะขวางเวลาเพื่อนมีใครนะ เวลามีคนมาจีบมันกูก็บอกให้มันลองคุยดู เวลามันจะไปเดทกับเขากูก็ทำตัวหายไปจากสารโลก ข้อความยังไม่ส่งไปกวนเลย ให้มันใช้เวลาเต็มที่ อันนี้มันเหมือนผู้ชายหาจังหวะเสียบตอนที่เพื่อนกูเหงาอ่ะ เหตุผลที่เพื่อนกูไปกับมันก็แค่ว่าตั้งแต่กูไม่อยู่ มันกินข้าวคนเดียวทุกวันเลย กูก็เอ้าาาาา
>>424 กูก็ไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องของกูนี่ กูแค่ขวางหูขวางตา ไม่ได้ไปบอกให้เพื่อนเลิกคุยเลิกคบ คือกูก็มีสิทธิ์จะคิดเนอะ มีสิทธิ์ที่จะไม่ชอบผู้ชายที่มองกูเป็นก้างขวางคออ่ะ ทั้งที่กูก็ไม่ได้ไปเสือกเวลามันคุยกัน กูเคยถามแค่ครั้งเดียวเองว่าผู้ชายคนนี้มีไลฟ์สไตล์บางอย่างที่ไม่ตรงกับมันอย่างสิ้นเชิง มันโอเคเหรอ มันตอบมาว่ามันเคยเกริ่นๆแล้ว มันคิดว่าจะเปลี่ยนผู้ชายคนนี้ได้ ซึ่งกูในฐานะเพื่อน กูก็บอกมันแค่ว่าบางทีคนเราไม่สามารถเปลี่ยนคนอื่นได้หรอกนะ ถ้าเปลี่ยนไม่ได้จะทำยังไง มันจะรับได้เหรอ แล้วกูก็พูดเรื่องผู้ชายคนนี้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่เคยไปจุกจิกอะไรเลย ยกเว้นเมื่อวานมันอัพรูปของที่กูซื้อส่งไปให้ ผู้ชายที่ปรกติไลค์ทุกตัส คือไม่ไลค์อันนี้ กูก็สงสัยนะว่ามันไม่ชอบกูป่ะวะ ตอนอยู่ไทยแม่งก็ไม่คุย เขม่นๆ ชอบมองแปลกๆ กูก็อึดอัดได้เน้อ
>>425 ไม่ได้คิดอย่างนั้น ถ้าจะคบกันจริงๆ คงคบกันไปนานแล้ว มันเหมือนดูแลกันมามั้ง คนอยู่ด้วยกันทุกวัน 7 ปีอ่ะ เกิดเรื่องดีหรือร้ายก็อยู่ข้างกัน กว่าจะมาเรียนต่อได้นี่กูปลอบมันจนเหนื่อยอ่ะ มันหมดน้ำตาไปหลายลิตร ดราม่าไม่อยากให้กูมา กูคิดนะว่าช่วงจิตใจมันอ่อนไหว อ่อนแอ ถ้ามีคนมาหลอกฟันมันตอนกูไม่อยู่กูจะทำยังไงวะ กูไปรับปากพ่อมันก่อนเขาจะเสียด้วยว่าจะดูแลลูกเขาให้
มึงมีสิทธิ์จะคิดจะไม่ชอบได้ก็จริง เเต่คือมึงต้องปล่อยเพื่อนให้มีทางของตัวเอง ต่อให้เพื่อนมึงจะโดนหลอกเเดกหลอกฟันอะไรก็ตามเหอะ พ่อเเม่คนยังห้ามไม่ได้ มึงเเค่เพื่อนอ่ะ รับปากพ่อมันเเล้วไงวะ มึงไม่ใช่เเม่ทูลหัวเพื่อนมึงนี่ ที่มึงทำได้เเค่เตือนซึ่งมึงก็ทำเเล้ว ที่เหลือคือปล่อยทุกอย่างให้เป็นไป ไม่ต้องคอยคิดระวังเเทนเพื่อนมึงว่าคนจีบมันจะเหี้ยมั้ยหรืออะไรอ่ะ ไม่ใช่หน้าที่มึง ถ้าผลออกมาเหี้ยนี่เเหละมึงมีหน้าที่ใหม่ละคือให้กำลังใจเพื่อนก็แค่นั้น มึงมานั่งคิดมากเเต่ถ้าเพื่อนมึงเลือกเเล้ว มึงก็ทำไรไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นปล่อยวางซะ อะไรที่อึดอัดขัดใจก็มองข้ามบ้างมึงจะได้มีความสุขนะเพื่อนโม่ง
ผญที่ชอบสกินชิปนี่ไม่คิดอะไรกันเลยเหรอวะ คือแบบเพื่อนกูชอบมาใกล้ๆตอนทำงาน แล้วบางทีหน้าอกมาโดนกู.... กูไม่รู้จะทำตัวยังไงดี
>>429 นั่นเค้าเรียกว่าอ่อยแล้วละพ่อหนุ่มหมัดเมา กูว่าถ้าถ้าผญไม่ชอบมึงคงไม่รุกขนาดเอานมไปชน ผู้ชายหรอก
คือของสงวนอะ เหมือนมึงเอากระดอไปถูตูดเพื่อนผู้หญิงไรงี้อ่ะ
ถ้าเป็นกูๆชอบนะ ต่อให้แม่งไม่คิดอะไรกับกูก็เหอะ กำไรกูล้วนๆ
ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะสัส ย่อมมีแข็งมีโด่เป็นธรรมดา อิอิอิอิอิ
หวัดดี เพื่อนโม่ง มีเรื่องจะมาระบายและขอคำปรึกษา คือเพื่อนกุคนนึงเป็นผู้ชายออกสาวๆหน่อย แต่ก็เป็นผู้ชายแท้อะแหละ เวลากุเล่นกับเขา เขาก็ชอบรุนแรงใส่ แบบหยิกบ้าง ต่อยบ้าง บางทีก็เตะ 555 กุบอกไม่ชอบ หลังจากนั้น
เขาก็เบาลงบ้างนะ แต่ปากก็ยังหนักอยู่ดี แต่ด้วยการที่ว่ากุทำงานกับเขามากๆ จนชอบเขาว่ะ (แต่แบบก็บอกชอบเขาไม่ได้ เพราะกุเผลอตอแหลว่ามีแฟนแล้ว) แบบไปทำงานข้างนอกด้วยกันครั้งนึง เราเขาเคยโอบแขนขวากุนิดหน่อยด้วย เขินจัง แต่บางทีก็ปากจัดมือหนักใส่ จนบางทีกุก็คิดว่า กุเป็นมาโซคิสม์รึเปล่าฟระ 55555 เรื่องนี้มันก็มีปนหลายๆเรื่องนะ ทั้งเรื่องความรักบ้าง เรื่องเพื่อน และก็เรื่องมารยาทระหว่างเพื่อน มีอยู่วันนึงทำงานเลิกดึกหน่อย เดินกลับบ้านกัน 2 คน กุทนไม่ไหว ละกุบอกกุชอบเขา แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร วันต่อมาก็ปกติ แต่ก็สนิทขึ้นบ้าง คือบางที กุชอบเขา แต่พอเขาทำไม่ดี กุก็ออกห่างเขา แล้วก็เข้าหาเขา โอ้ย สับสนตัวเองว่ะ คือที่เขาทำไม่ดีสำหรับกุคือ การที่เขาปากจัดใส่กุนี่แหละ ด้วยความที่เขาเป็นคนตรงๆด้วยละมั้ง อย่างแบบ กุเอาคัตเตอร์ที่ไว้ใช้ทำงานมันค่อนข้างจะฝืดหน่อย เอามารูดขึ้นลงหลายครั้ง จนมันตวาดใส่เราดังมาก (อันนี้ก็น่าด่าจริงๆแหละ) หรือไม่ก็โดนว่าใส่ ตอนจะไปซื้อของ ทั้งๆที่ร้านจะใกล้ปิด (อันนี้ก็น่าด่าเหมือนกัน) งื้อ รู้ว่าผิด แต่ก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นเสียงแบบนี้ป่ะ ละวันนี้กะแบบ กลับบ้านด้วยกัน 3 คน มีเรา เพื่อนผู้หญิงคนนึง ละก็ผู้ชายคนนี้แหละ ละแบบเพื่อนผู้หญิงคุยโทรศัพท์นานมากกก ละพอคุยเสร็จ กุก็ถามว่าใครโทรมาหรอ เพื่อนก็บอกว่าเพื่อนโทรมาอะไรแบบนี้ ละเพื่อนผู้ชายก็มาว่ากุว่า บางเรื่องมันไม่จำเป็นต้องรู้ จำที่มันพูดไม่ได้นะ แต่แรงกว่านั้นหน่อยนึง ต่อหน้าเพื่อนที่กุถาม บางทีก็คิดว่า กุเสียมารยาทรึเปล่านะ แต่บางทีอยู่กับเจ้านี้ ทำตามที่มันพูดตลอด ก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกันนะ กุก็รู้ว่าอาจจะเป็นด้วยนิสัยของมัน บางทีมันพูดออกมา มันอาจจะไม่ได้คิดอะไรด้วยซ้ำมั้ง แต่มันทำให้กุรู้สึกแย่อ่ะ 555 มันก็มีความรู้สึกหลายอย่างปนกัน อย่าง อาจจะชอบเขาบ้างในบางเวลา อย่างวันนี้เขานอนต่อหน้ากุ ละแบบ กุรู้สึกว่าเวลาเขานอนนี่น่ารักสุดละ แต่ก็ไม่ชอบปากเขาสักเท่าไหร่ ประมาณนี้ คือบางทีก็เกลียดความเซ็นซิทีฟ ความขี้ลังเล หรือแม้แต่การไม่เอาใจใส่ผู้อื่นของตัวเองเหมือนกันแฮะ มันถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ มาระบายแค่นี้แหละ กุโม่งหญิงเพิ่งเข้าเรียนมหาฯลัยนะแต่ก็คิดว่าความคิดของตัวเองมันเด็กยิ่งกว่ามัธยมซะอีก งื้อ มีอะไรที่จะทำให้ตัวเองเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ยอมรับสิ่งที่เขาพูดโดยที่ไม่หงุดหงิดใจ หรือเมื่อเราถูก แต่ก็พยายามจะไม่เถียงเขา หรือไม่ชอบใครง่ายๆ ไม่เซ็นซิทีฟต่ออะไรง่ายๆ ไม่ลังเล ตัดสินใจอะไรเด็ดขาดบ้างมั้ย
มึงเลิกคบกลุ่มเพื่อนในมหาลัยแล้วไปคบกลุ่มใหม่ยังไง กูไม่ใช่คนสนิทกับคนง่ายอ่ะ แล้วยิ่งเป็นคนมีกลุ่มอยู่แล้วด้วย รู้สึกเข้ายาก แต่กูไม่อยากอยู่กลุ่มนี้แล้ว กูต้องไป
เพื่อนพี่น้องชาวโม่ง กูมีเรื่องมาระบาย กูมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง คบกันมาตั้งแต่ม.ต้น นางเป็นคนที่ไลฟสไตล์ความชอบเหมือนกันกับกู คือมันก็ดีนะ แต่ช่วงนี้นางแปลกมากคือกูจะทำอะไรก็ทำตามกูไปหมด อย่างตอนทำงานในห้อง คือกูวาดกรอบเป็นเถาวัลย์มีดอกไม้กรุ้งกริ้ง กูก็นั่งๆทำไปจนเสร็จ ทีนี้หันหน้าไปจะถามนางว่าเสร็จยัง อ่าวววว กรอบเหมือนกูเลยอิสัส ย้อนกลับไปช่วงก่อนเปิดเทอมกูตัดผมสั้นประบ่าแล้วก็อัพลงig วันต่อมานางส่งรูปตัวเองตัดผมมาในแชทกลุ่ม แล้วก็บอกว่าตัวเองพึ่งไปตัดผมมาแต่ช่างตัดมาสั้นกว่าประบ่าที่นางอยากได้ เพื่อนสนิทกูอีกคนเลยพิมพ์ขำๆว่ามึงก๊อปอิ(ชื่อกู)หรอ นางก็บอกว่าเปล่านางอยากตัดตั้งแต่ก่อนปิดเทอมแล้ว อ้าววว แล้วทำไมมึงไม่ตัด อย่างของใช้ก็ใช้ตามกู แปรงสีฟันโมชิโมชิงี้กูก็ซื้อขำๆ สัปดาห์ต่อมาไปโมชิโมชิอีก นางถามว่าแปรงสีฟันใช้ดีมะจะได้ซื้อ กูก็บอกว่าไม่ดีไปซื้อวัตสันเหอะ นางบอกว่าจะเอาอันนี้แหละ แต่ที่กูอิหยังวะสุดๆคืออิแปรงที่สีเหมือนกูหมด นางก็เดินไปถามพนักงานเลยจ้า คือปกตินางไม่เป็นแบบนี้อะ อีกเรื่องคือกระเป๋าเรียนกับกระเป๋าดินสอ ปกติกระเป๋าเรียนนางเป็นเป้ จู่ๆแม่งนึกครึ้มอะไรเปลี่ยนมาใช้กระเป๋าสะพายตามกู ไม่พอสีเหมือนกันลายอะไรก็เหมือนกัน อิกระเป๋าดินสอกูกับเพื่อนสนิทอีกคนซื้อมาใช้ด้วยกันเพราะมันลดราคา กูก็ใช้ของกูมาตั้งนานล่าสุดไปซื้อมาใช้ตาม ผมกูมันประบ่ามัดได้กูก็มัด แต่ผมนางอ่ะสั้นมัดไม่ได้ก็มัดตามกู เรื่องแว่นก็เหมือนกัน ปกตินางใส่แว่นกรอบสีชมพู แต่เปิดเทอมมาใส่แว่นกรอบดำยี่ห้อกับรุ่นเดียวกันกับกูเลย เอาจริงๆคือกูหลอนเพื่อนตัวเอง
ถ้าอาทิตย์ที่แล้วมึงไปปาร์ตี้กับเพื่อนมา แล้วอาทิตย์นี้มึงรู้มาว่ามีปาร์ตี้อีกแต่เพื่อนมึงไม่ชวนมึงไปทั้งๆที่มึงเคยบอกว่ามึงอยากไป แปลว่าเพื่อนไม่อยากให้มึงไปด้วยป่าววะ
มึงคือกุกับเพื่อนที่ทำงานวางแผนจะไปเที่ยวญปกัน จองตั๋วอะไรเรียบร้อย เพื่อนสนิท(ไม่ได้ทำงานด้วยกัน รู้จักกันตอนมหาลัยและสนิทกัน)มารู้ เลยงอแงจะขอไปด้วย บอกว่าสัญญาว่าจะไม่งอแง แล้วเพื่อน2คนนี้ค่อนข้างเยอะ มีความเยอะพอสมควร เรากลัวจะเข้ากับน้องที่ทำงานไมาได่ เพราะเที่ยวกันคนละแนว เพื่อนเราเน้นสบาย เพื่อนที่ทำงานเน้นถูกและเทั่ยวเยอะ แบคแพค
กุก็บอกเพื่อนกุไปแบบนั้น เพื่อนกุก็บอก ขอร้องๆๆๆๆๆ สัญญาจะไม่ดื้อจริงๆ แล้วสรุปก็ไปด้วยกัน
กุคนกลาง กุลำบากใจมากๆจนไม่อยากไปแล้ว แต่กุก็ปฏิเสธเพื่อนไม่ลง เพราะมัน2คนเป็รพวกแบบ รวยแต่ไม่ค่อยได้เที่ยวเพราะไปเองไม่เป็น ถ้ากุไม่พาไปก็คงไม่ได้ไป กุก็สงสาร แอบกลัวมันงอนด้วย เพราะเพื่อนสนิทกุก็มีแค่มัน2คนนี่แหละ
แต่คือกุไปกับเพื่อนที่ทำงานไง มันจะไปกันรอดได้ยังไง น้องที่ทำงานบอกโอเค แต่ถ้าเพื่อนพี่ดื้อ(แบบไม่ตื่นตามเวลา ไม่ทนเหนื่อย)หนูไม่รอนะ ทิ้งเลยนะ กุก็โอเค
ในใจคือกุไม่อยากให้ไปเลยยย เป็นคนกลางแม่งโคตรเหนื่อย แถมรู้ทั้งรู้ว่าเพื่อนกุกับเพื่อนที่ทำงานแม่งเที่ยวคนละแนวมากๆ แต่ก็นั่นอ่ะ ไม่กล้าปฏิเสธเพื่อน กุแม่งโง่ชิบหาย ทำไงดีวะเนี่ย
กุแค่อยากมาระบายอ่ะ จะไปเที่ยวกุมภานี้ละ แอบเซ็งตั้งแต่ยังไม่ต้นปี
อีกอย่างคือน้องที่ทำงานที่เป็นแม่งานชวนไปเขาเที่ยวเก่ง มักจะพาไปที่เก๋ๆที่คนไม่ค่อยไปกะน มันก็ไม่จำเจไม่ใช่แค่เที่ยวโตเกียว ดิสนี่ โอซาก้า ไรงี้ กุก็เลยอยากไปกับเขา
ถ้าถึงวันจริงเพื่อนกุเลทจริง แล้วกุทิ้งเพื่อน แม่งก็งอนกุอีก โว้ย ยังไงดีวะสัสสส
>>448 อย่าเด็ดขาด กูเคยเสียเพื่อนเพราะไปเที่ยวต่างประเทศมาแล้ว
กูเคยมีแบบนี้ ไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน (เพื่อนสนิทสมัยม.ปลาย บ้านรวย เรื่องมาก) มารบเร้าขอไปด้วย
ชักแม่น้ำทั้งห้า อย่างงู้งอย่างงี้ กูก็ใจอ่อนให้ติดไปด้วย
ถึงเวลาเอาเข้าจริง แม่งเรื่องมากชิบหาย จะกินร้านนู้นร้านนี้ พอกูเดินไกลหน่อยก็บ่นเหนื่อย
พอบอกว่าแยกกันเดิน เจอกันที่ xxx เวลา xxx ก็หาว่าทิ้งกัน ไอ้บ้า
ทำกูปวดหัวตลอดทริป กูด่ายับเลย
กลับมาไทย ก็ทำเป็นงอน ไม่คุยด้วย แถมยังมีหน้ามาบอกว่ากูเรื่องมาก
มึงนั่นแหละ ไอ้สัส ขอโทษด้วยที่บ่นเยอะไปหน่อย พูดแล้วอารมณ์เสีย
>>452 ถ้าเพื่อนงอแงจริงๆ ขึ้นมา เป็นกูคงเลือกเที่ยวกับเพื่อนก่อนอะ
ที่เก๋ๆ ที่มึงว่า ถ้ายังอยากไปจริงๆ ก็ถามรายละเอียดจากน้องดู คุยกับเพื่อนว่าถ้าไปนี่ๆ จะโอเคมั้ย แต่ไม่ต้องจัดตารางให้แน่นมาก มึงก็ได้เที่ยวที่ที่อยากไป ไม่เสียเพื่อน ส่วนถ้าคุยกันแล้วเพื่อนไม่อยากไปก็แยกย้าย มึงไปกะน้อง เพื่อนเที่ยวเอง (บางวันก็ได้) โตแล้ว ให้มันดูแลตัวเองเหอะ แค่ใช้เหตุผล คุยกันดีๆ อย่าด่ากันก็พอแล้ว
กูรู้สึกโชคดีเลยที่ไปกับเพื่อนแล้วไม่มีเรื่องอะไรกัน...เอาจริงคือก็ทะเลาะตั้งแต่วันแรกที่ไปนะ5555 มันชอบถ่ายรูป แต่กูสายเก็บบรรยากาศมากกว่า พอกูถ่ายรูปไม่สวย มันก็อยากได้รูปมันสวยๆบ้าง เลยถ่ายซ่อมกันนานมากจนแสงจะหมด สุดท้ายกูรำคาญเพราะกูอยากกลับแล้ว เลยพาลไม่คุยกันตลอดทางกลับ แต่ซักพักก็มาเคลียร์กัน55555
ละถามหน่อย ปกติมึงกับเพื่อนๆนี่เวลาไปเที่ยวกันสองคนพวกมึงคุยกันตลอดเลยปะวะ กูกับเพื่อนอะจะไม่ค่อยคุยกัน ต่างคนต่างฟังเพลงดูวิวงี้มากกว่า แต่บางทีกูก็คิดว่าเพื่อนมันจะเบื่อปะวะ นั่งกันเฉยๆงี้
>>454 เออ เพื่อนกุเหมือนเพื่อนมึงอ่ะ สายถ่ายรูป แต่กุก็เป็น ถ่ายเซลฟี่+เก็บบรรยากาศ ก็ช่วยๆกันไป ไม่มีปัญหาเรื่องนี้หรอก แต่กับน้องที่ทำงานนี่ เขาจะแนวถ่ายให้ครบทุกมุม+เซลฟี่อย่างละภาพพอ แล้วดื่มด่ำ แต่คิดว่าคงไม่เป็นไร ตอนเราถ่ายรูปก็แยกกันไป เที่ยวเสร็จเจอกันไรงีเ
แก๊งกูก็ขาเม้า แต่กุก็ไท่รู้เพื่อนกุกับน้องที่ทำงานจะเข้ากันได้ไหม ภาวนาวนไป
>>453 น้องที่ทำงานเที่ยวแน่นมากๆๆๆๆ อารมร์แบบแก๊งทัวร์เลย 6ตื่น7อาหาร8เดินทาง ไรทำนนี้ แต่กุไม่มาย แต่เพื่อนกุไม่รู้ว่าจะมายไหม มันติดสบายกันซะเยอะ ต้องบอกว่าเพื่อนกุโง่เรื่องเที่ยวมากๆ คิดว่าถ้าปล่อยมันไปกันเองคงตายอ่ะ เวลามันเที่ยวมันจะเหมือนเด็กๆอ่ะ เพราะไม่ค่อยได้เที่ยว จะตื่นเต้นกับอะไรเล็กน้อย ซื้อของทีซื้อเยอะเหมือนจะไม่มีขายแล้ว ไรงี้ แลบสุดกู่มากๆ
อยากจีบน้องที่เป็นเด็กช่างอ่ะคับ ทำไงดี
มีเพื่อนที่ชอบคุยเเต่เรื่องตัวเองนี่ทำไงวะ
เรื่องเที่ยวกูก็เคยมีปัญหา กูไปกับกลุ่มเพื่อนที่ไม่ค่อยสนิทอ่ะแต่ก็เพื่อนสาขาเดียวกัน แต่ก็มีปัญหาในกลุ่ม เรื่องไลฟ์สไตล์การเที่ยวมั่งเรื่องนิสัยมั่ง แต่ก็พยายามอดทน ยังไงก็ต้องอยู่ด้วยกันตลอดทริป เกิดทะเลาะกันขึ้นมาพาลจะเที่ยวไม่สนุกหนักกว่าเก่า สู้ๆนะมึงขอให้อยู่รอดจนบินกลับบ้าน
>>457 จี้ใจดำกู กูชอบบ่นเรื่องงานกูให้เพื่อนฟัง เพื่อนกูก็จะ โหยแย่เลย/อะไรของเขาวะ/โหงี้ได้ไง แล้วตัดบทเปลี่ยนเรื่องกู บางทีก็หายไปเลย
เข้าใจว่าว่าเรื่องพวกนี้บางทีฟังแล้วมันรู้สึกไม่ดี จะบอกว่ากูเลวที่ทำเหมือนเพื่อนกูเป็นถังขยะรับเรื่องลบๆจากกูไปก็ได้ แต่กูก็อยากมีคนฟังว่ะ คนที่กูบ่นเรื่องในชีวิตให้ฟังมีแค่ไม่กี่คนหรอก เวลามันบ่นที่ทำงานกูก็ช่วยมันด่าที่ทำงานมันเหมือนกันถือว่าแลกกัน
ถ้ารำคาญมากๆเมิงจะตัดบทเปลี่ยนเรื่องก็ได้ เดี๋ยวมันก็ไปหาคนอื่นพูดด้วยเองแหละ
กุมีเพื่อนคนนึงที่นิสัยแม่งต่างกันมากแต่เป็นเพื่อนกันได้เพราะความชอบเรื่องดนตรีคล้ายๆกัน แต่หลังๆมานี้กุรู้สึกฝืนๆเวลาไปไหนมาไหนหรือคุยกับมัน อย่างกุไม่ชอบคุยโทรสับชอบพิมมากกว่า แต่มันไม่ชอบแชท กุชอบอยู่บ้านอยู่กับตัวเองเงียบๆ มันชอบแฮงเอาท์ หาเรื่องพูดได้ไม่หยุด เอาง่ายๆคือกุเป็นintrovertสุดส่วนมันก็extrovertสุดเลยอะ กุกับมันก็พยายามปรับตัวเข้าหากันตลอดนะให้ความเป็นเพื่อนมันไปได้แต่กุว่านิสัยมันเข้ากันไม่ได้จริงๆจนบางทีกุก็รู้สึกว่าอยากให้มันเป็นเพื่อนห่างๆมากกว่าเพื่อนสนิท แต่ก็ไม่อยากให่มันเสียความรู้สึกอะ ควรทำไงดี
เราคือเพื่อนรักนายเอง
เราเป๋นพวก introvert จะสนิทกับพวกเข้าสังคมยังไงดี อยากอยู่กับเพื่อนเยอะๆ
>>468 พออยู่ด้วยกันก็ไม่รู้จะพูดเรื่องอะไรอ่ะ เหมือนถามจบก็ไปต่อไท่ถูก ถามเยอะก็กลัวว่าเหมือนไปสัมภาษณ์เค้า พูดเยอะกลัวเค้ามองว่าเราขี้โม้เอาแต่พูด กลัวพูดอะไรแล้วจะทำให้เค้ามองเราว่าเป็นคนแปลก หรือพูดแล้วไปทำร้ายจิตใจเค้า คิดเยอะมากกว้จะพูดอะไรบางทีก็เหนื่อย
กูมีเพื่อนพวกประเภทเรียนมา3ปีทําห่าไรไม่เป็นเลยอยู่หวะเเล้วชอบอวดรู้พูดจาเหมือนประมาณว่ารู้ต้องทําอะไรยังไงเเต่จริงๆคือมันไม่รู้เหี้ยไรเลยอะ
ยกตัวอย่าง กูคุยงานกลุ่มกับเพื่อนอยู่(มันอยู่ในกลุ่ม)คุยเกี่ยวกับเทคนิคที่จะถ่ายงานส่งอาจารณ์เเม่งเสนอมาบอกตรงนีมุมนี้ถ่ายได้บลาๆเพื่อนกูอีกคนซึ่งรู้เรื่องกล้อง100เปอร์เซ็นยืนยันว่าเเม่งทําไม่ได้เวลาไม่พอ ไอ้นี่ก็เถียงอีกอะว่า คนอื่นเขายังทําได้เลย(เหี้ยเกลียดคํานี้ฉิบหาย)เเล้วเพื่อนกูคนนี้กับอีนี่มันดันเป็นเเฟนกันไงทะเลาะยาวงานช้าอีกเเล้วพอเเม่งโกรธเพื่อนกูต้องไปง้ออีก อยากถามว่า "เพื่อ!!!" คือตัวเเม่งในวันนั้นไม่ใช่เเกนหลักของงานไง(เพราะทําเหี้ยไรไม่เป็นซักอย่าง) เเล้วทําไมต้องไปเเคร์ไอคนที่ไม่รู้ห่าไรด้วยก็ไม่รู้ กูเจอเเบบนี้ตลอด3ปีละ เครียดเรื่องหาที่ฝึกงานไม่พอต้องมาเครียดเรื่องของเเม่งอีก
คือกูต้องอยู่กับกลุ่มนรกนี่ไงเพราะมึงเข้าใจใช่ปะสังคมมหาลัยอะมันเเบ่งพวกกันตั้งเเต่ปี2ซึ่งถ้าให้กูย้ายกลุ่มไปเกาะคนอื่นตอนนี้งานกลุ่มกูคงไม่ราบรื่นเเน่เพราะที่เหลือเเม่งก็พวกเด็กใต้คณะที่ส่วนใหญ่ไม่มีอัธยาศัยที่ดี กูเลยจําใจต้องอยู่กับพวกนี้(เพราะปี1สนิทมากเพราะตอนนั้นยังไม่รู้สันดานมัน)
โม่งบอกกูทีกูควรรับมืออีนี่ไงดีในงานกลุ่ม
นี่ถ้ากูเรียนสาขาที่งานส่วนใหญ่เป็นงานเดี่ยวป่านนี้กูสบายไปละ
>>461 >>465 อห เรา >>464 นะ
ไม่รู้ว่าจะใช่คนรู้จักรึเปล่านะ(โม่งอาจจะยังไม่แตก?)
แนะนำว่าก็พยายามทำตัวให้ยุ่งๆอะ เช่นเวลาเพื่อนคนนั้นมาชวนก็บอกว่าติดงาน ติดสอบ ติดอ่านหนังสือ ติดเรียน ติดธุระ
ติดวาดรูป??? ติดเล่นกับแมว อยู่ร้านกาแฟ บลาๆ เน้นแชทคุยกันก็พอ เดี๋ยวเพื่อนชวนบ่อยๆแล้วเธอไม่ค่อยว่าง
เพื่อนคนนั้นก็คงเลิกเจ๊าะแจ๊ะเองอะ บอกไปว่าช่วงนี้ธุระเยอะไปไม่ได้ โทรมาก็ไม่ต้องรับ บอกทำงานอยู่ไรงี้
พยายามอัพโซเชียลทำเหมือนตัวเองยุ่งๆ(เอาแค่ช่วงนี้ก็พอซัก 2-3โพสต์) แนวบ่นๆว่าช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลย
อยากมีเวลาไปเที่ยวบ้างไรงี้ให้เหมือนว่าตัวเองยุ่งสุดๆจนไม่มีเวลาทำอย่างอื่น
ประมานนี้
ขอถามอีกทีแนวเพลงที่ชอบกับเพื่อนนี่ใช่
>>470 มึงก็ทนมาขนาดนี้เเล้ว ทางเลือกมึงมีเเค่
1.ทนต่อไป 2.ไปกลุ่มอื่น เเต่มึงบอกว่าไปกลุ่มอื่นงานไม่ราบรื่น มึงก็เลือกเอา จะเลือกงานไม่ราบรื่น +อาจมีปัญหาอื่นๆงอกมาเพิ่ม หรือจะเลือกอดทนปวดสมองกะเพื่อนมึง
ข้อไหนก็เหี้ยทั้งคู่ ชั่งน้ำหนักว่าข้อไหนสร้างความฉิบหายต่อตัวมึงน้อยกว่า
หรือไม่ลองเรียกเพื่อนมาปรับทัศนคติ แต่กูเดาว่าคงเหมือนสีซอให้ควายฟังมากกว่า สันดานคนเปลี่ยนยาก
กูเป็นคนที่เลือกคบเพื่อนมาก กูไม่กล้าพูดว่าใครบ้างที่เป็นเพื่อนกับกูบ้าง เพราะบางคนถ้ากูคิดกับเขาว่าเป็นเพื่อน เขาอาจจะไม่นับกูเป็นเพื่อนก็ได้ กูเลยนับเพื่อนเฉพาะคนที่สนิทจริงๆ เท่านั้น คนอื่นกูนับว่าเป็นคนรู้จักซะมากกว่า เขาอาจจะมีเพื่อนหลายคน แต่สำหรับกูมีเขาเป็นเพื่อนแค่คนเดียว พอเขาไปเล่นกับคนอื่นแล้วกูเหงามากจริงๆ พอเขาไม่มีใคร เขาก็กลับมาหากู กูก็มีความสุขมากเหมือนกัน กูทำอะไรไม่ได้ กูงอแงไม่ได้ พูดอะไรมากก็ไม่ได้ กูไม่อยากให้เขารำคาญกู กูทำได้แค่ยิ้มแล้วก็พูดจากับเขาให้เหมือนปกติแค่นั้น บางครั้งกูก็เศร้า บางครั้งกูก็คิดว่าช่างแม่งไปเถอะคนแบบนี้ แต่กูก็ใจอ่อนกับเขาทุกครั้ง กูทิ้งเขาไม่ลงจริงๆ ต่อให้เขาจะกลับมาหากูกี่ครั้งกูก็จะพยายามไม่เอาแต่ใจแล้วอยู่ข้างๆ จนเพื่อนเขามา กูก็จะไปอยู่ที่ๆ กูควรอยู่ กูคิดว่าถ้าวันนั้นเขาไม่บอกว่า"เราไม่ใช่เพื่อนหรอ" กูคงไม่คิดมากขนาดนี้ กูไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าจะได้เป็นเพื่อนกับเขา กูอยู่ห่างกับเขามาก กูแค่ได้ปลื้มอยู่แค่ห่างๆ ก็พอใจแล้ว ก่อนหน้านั้นที่จะเป็นเพื่อนกันเขาทิ้งกูไป กูก็รู้สึกแย่แต่กว่ากูจะทำใจได้ก็ใช้เวลาพักใหญ่ แต่ตอนนี้เรากลับใกล้กันกว่าเดิม แต่ดันกลายเป็นว่าพอเขาห่างออกไปกูดันทุกข์กว่าเดิมซะอย่างงั้น หวังว่ากูจะทำใจให้ชินได้ไวๆ
คือกูเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มเพื่อนผู้ชายอ่ะ แล้วเพื่อนก็ไม่ค่อยมองกูเป็นผู้หญิงซักเท่าไหร่ ตรงนี้กูโอเคนะ ไม่ได้อะไรมาก แต่มีพี่คนนึงในกลุ่มเขาชอบมาจับตัวกูแบบ จับเอวบ้างอะไรบ้าง คือเขาก็แกล้งๆกูแหละ แต่กูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ กูควรบอกเขาไงดีวะ บอกอ้อมๆดีมั้ยหรือยังไงดี คือกลัวเพื่อนจะมองกูเรื่องเยอะไป
พวกมึง เพื่อนในห้องกูมันทะเลาะกัน (โพสด่ากันแรงมาก) แล้วกูคือคนที่ไม่เข้าใคร คือกูไม่อยากมีปัญหากับใครเลย จะว่าคนกลางก็ได้ พวกมึงว่าคนแบบกูนี่เห็นแก่ตัวมั้ย แต่กูก็ไม่เคยเป็นนกสองหัวนินทาคนนู้นให้คนนี้ฟังนะ ไม่ใช่แนวกูอะ กูต้องทำยังไง อีกฝั่งก็เป็นเพื่อนที่สนิทแต่ไม่มาก อีกฝั่งก็เป็นเพื่อนที่เล่นเฮฮาด้วยกัน กูหนักใจมากเลยตอนนี้
กู(ญ)รู้สึกเหมือนโดนหักหลังเลยว่ะ เพื่อน ช กูในกลุ่มคนนึงอยากไปเที่ยว เขาก็ชวนกูไปเที่ยวและชวนคนอื่นๆ ด้วย แต่ไม่มีใครอยากไปเท่าไหร่เพราะยุ่งๆ ทีนี้กูก็บอกไปว่าชวน A(ญ) ให้ได้ดิ เดี๋ยวกูไปด้วย แล้วมันก็ไปชวน A แล้วกลับมาบอกกูว่า "Aบอกว่าถ้ากูไป A ก็ไปด้วยเหมือนกัน" กูก็ว่างๆ พอดี กูก็เลยโอเค กูก็ไปบอก A ว่า กูไปด้วยนะ ไปด้วยกันดิ แล้ว A มันก็ตอบตกลงว่ามันจะไป แล้วจากนั้นกูก็คิดว่าคงไม่ว่างกันเพราะไม่ไดุ้ยเรื่องไปเที่ยวกันเลย จนกูเห็นในเฟสว่า เพื่อนกูคนนั้นไปเที่ยวกับ A กัน 2 คน
รู้สึกรำคาญเพื่อนผู้หญิงในออฟฟิซคนนึง ชอบมโนฟุ้งน้ำท่วมทุ่งอะไรของนางไม่รู้แล้วก็ทักแชทมาหากูบ่อยๆ
บางทีกูก็อ่านผ่านแล้วตอบเออๆออๆตามมารยาท มันก็มีการมาแซะเหมือนว่ากูโง่ที่จับประเด็นผิดอีก
แถมชอบคิดว่าตัวเองสวยซึ่งไม่รู้ไปเอาความมั่นมาจากไหน ทั้งที่เบ้าหน้าคืองั้นๆมาก มีดีแค่ขาว
พี่ที่ออฟฟิซก็เหมือนจะชงให้กูเป็นคู่จิ้นกับมันอีก มีการมาพูดแหย่ๆว่าคนนี้น่ารักนะงู้นงี้ แม่งรู้สึกโคตรเหี้ย
คือเพื่อนผู้หญิงสมัยมหาลัยกูนี่สวยกว่ามันมีเยอะแยะ กูแค่ไม่ได้เอามาโพสอวดลงเฟสให้พวกมึงดูไง
มึงเพื่อนกุมันชวนกุไปเที่ยวตอนแรกมันยังไม่มีใครไปเปนเพื่อนไงกุก้เลยเอออาจไปด้วยแต่ยังไม่ตกลงนะ ละตอนนี้มันหาเพื่อนได้แล้วแต่กุไม่อยากไปอ่ะแม่งไกล+ไม่มีตังเลยปฏิเสธมันไป อหคือกุรุ้สึกผิดอ่ะแล้วอยุ่คนละมอยิ่งไม่ค่อยได้เจอหรือกุควรไปกับมันดีวะไลน์ไปหามันยังไม่ตอบเลยกลัวแม่งรุ้สึกแย่กับกุอีก
เอ้อ กูถามเพื่อนโม่งหน่อย ว่าไอ้การที่ตอบไลน์ปฏิเสธว่า "ไม่" ทันทีนี่เสียมารยาทขนาดนั้นเลยเหรอวะ
คือเพื่อนกูชวนทำบุญ และออกกำลังกายด้วย กูขี้เกียจ เลยตอบตรงๆ ว่า "ไม่อ่ะ" ไป นางก็เลยบอกว่า อย่าตอบปฏิเสธตรงๆ และทันทีแบบนี้สิ ตอบว่า "อึม" จะดีกว่า ไอ้กูก็บอกว่า ตอบว่า อึมมันก็ไม่ต่างจากเราตอบรับสิ (อึม กับอืมมันเขียนคล้ายๆ กันน่ะ) กูเลยบอกนางว่า ก็ยังดีกว่าอ่านแล้วไม่ตอบน่ะนะ (ตอนนั้นกูก็ยุ่งๆ กับงานด้วยล่ะ ส่วนนางว่างงานอยู่) นางบอกว่า อ่านแล้วไม่ตอบก็ยังดีกว่าตอบปฏิเสธแบบนี้ มันทำให้คนที่เสนอแนะอะไรให้เสียความรู้สึกน่ะ ไม่เชื่อไปถามคนอื่นดูได้นะ..
บางที กูอ่านแล้วไม่ตอบ นางก็บ่นว่า ไม่มีใครสนใจนาง กูตอบว่า อืม ตอนนางบ่นเรื่องแย่ๆ นางก็หาว่า กูไม่สนใจ ให้กูแสดงอารมณ์เป็นเพื่อนนางหน่อย เฮ้อ... จริงๆ ก็เห็นใจนางแหละ เพื่อนนางก็มีไม่กี่คน (รวมกูด้วยก็แค่ 4 คน) แถมนางยังบ่นว่า เพื่อนนางไม่เห็นสนใจนางเลย เอ่อ คนอื่นต้องทำมาหากินไหมอ่ะ ใครจะมาสนใจคนอื่นตลอดเวกัน โตจนทำงานแล้ว เขาไม่พร่ำเพ้อแบบนี้หรอกนะ
กูเคยบอกนางให้ลองหาเพื่อนคนใหม่ๆดูบ้าง เพราะไม่อยากให้นางยึดติดกับเพื่อนมากเกินไป ต้องหัดอยู่ได้ด้วยตัวเองบ้าง นางก็บอกว่า นางอยากสนิทกับเพื่อนที่เคยสนิทมาก่อนอ่ะ...มึงว่า ตรรกะนางแปลกไหมวะ
เวลากุปฏิเสธกุจะตอบว่า
มั่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ไมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม่
แบบนั้นแหละ
>>490 เพื่อนมึงคล้ายๆเพื่อนกูเลย จะร้อง เพื่อนกูก็แบบนี้แหละ มึงต้องตอบอ้อมๆหน่อยแบบ อืมม คิดแปบ เช็คแปบ แล้วสักพักค่อยขอโทษ ปฏิเสธ ระหว่างนั้นนางก็อาจจะร่ำไห้งอแง มึงก็ต้องหนักแน่นเข้าไว้ให้รู้ว่าไม่ว่าง ไปไม่ได้
เรื่องหาเพื่อนใหม่นี่น่าจะยากถ้านางไม่คิดจะทำเอง น่าจะยึดติดกับกลุ่มเพื่อนเก่าด้วยสาเหตุส่วนตัวอ่ะมึง ไม่ว่าจะเป็นไม่กล้า ไม่เปิดใจ หรือกลัวก็ตาม แล้วก็กลัวพวกมึงทิ้งเลยยิ่งทำให้อยากได้การตอบรับละยิ่งงอแง (ซึ่งกูรำคาญมาก กูเข้าใจด้วย ก็ทำงานจะเอาเวลาไหนไปตอบตลอดเวลาวะ)
>>490 สัสสสสสสสสสสสส ตรรกะนี้กูโครตเกลียด คือในฐานะคนถามแล้วมาเจอตอบแบบไม่เคลียร์นี่ก็ไม่โอหว่ะ เช่นแบบสมมติชวนไปเที่ยวแล้วจริงๆแม่งไม่อยากไปแล้วมาอ้อมค้อมว่า อ๋อเดี๋ยวดูก่อน แล้ววันนัดค่อยบอกไม่ว่างเพราะไม่กล้าตอบปฎิเสธตรงๆ แล้วไอสัสกูเสียเวลาหว่ะ แล้วเสียความรู้สึกด้วย สําหรับกูแล้วปฏิเสธ”ไม่”ไปตรงๆยังดีกว่า กูก็ห่างๆกับพวกเหี้ยนี่ไปหลายคนละ เอ๋อเกิน
กู >>490 เอง ขอบใจเพื่อนโม่งที่ช่วยกันตอบนะ กูเองก็ถามคำถามกับพี่ๆ เพื่อนๆ ที่ทำงานที่สนิทกันเรื่องนี้แหละ ทุกคนก็ตอบว่า กูตอบว่า "ไม่" ไปตรงๆ ไม่ผิดหรอก แถมยังยุให้กูเลิกคบนางเลยดีกว่า เพราะตรรกะประหลาดน่ะ...
จะบอกว่ากูเคยเลิกคุยนางไปตั้ง 2 ครั้งน่ะ ครั้งแรก กูไปเที่ยวค้างคืนต่างจังหวัดเป็นเพื่อนนาง เพราะนางเพิ่งเลิกกับแฟนมา แต่นางดันพาผู้ (ไม่ใช่แฟนนะ) มานอนค้างด้วย โดยที่ไม่บอกกูล่วงหน้า กูโกรธนาง แถมยังว่า ถ้าพลาดท้องไม่มีพ่อจะทำไงวะ แต่นางบอกว่า เพื่อนกันไม่เห็นเป็นไรเลย ต่างเพศแล้วไงล่ะ...รอบแรกนางเป็นฝ่ายเลิกคุย แล้วกลับมาคุยกับกูใหม่ประมาณเดือนกว่า กูก็สงสารนาง เพราะนางไม่ค่อยมีเพื่อน ก็มาคบกันใหม่
ครั้งที่ 2 นางมาหากูถึงที่ทำงาน (แอบมา) เพราะมาให้กำลังใจกู เพราะเห็นกูบ่นเรื่องเจอเพื่อนร่วมงานเหี้ยๆ แต่กูไม่ชอบ เพราะอยากมีความเป็นส่วนตัว แถมยังมีเพื่อนร่วมงานเหี้ยๆ พวกนั้นคอยจับผิดกูอยู่ กูทำเหี้ยอะไรผิดก็ชอบประจานเสียงดัง กูกลัวว่าแม่งจะมาประจานเหยียดกูเรื่องเพื่อนว่างงาน ถึงขั้นมีเวลามาหากูได้ (กูก็ยอมรับว่ากูคิดมากไปหน่อยตรงส่วนนี้) เพื่อนกูก็เลยดราม่าควีน หาว่ากูดูถูกนางที่นางว่างงาน เหมือนที่แฟนเก่าทำกับนาง แล้วกูก็เฟลๆ เลยบล็อกไลน์นางเกือบๆ 3 เดือน อีกอย่างนึง กูอยากให้นางอยู่ได้ด้วยตัวเองบ้าง แล้วก็ได้ผล กูตัดสินใจกลับมาคุยกันใหม่ นางก็ดูเหมือนจะปรับตัวได้ละ แต่ก็ดันมีเรื่องงี่เง่าที่นางทำล่าสุดที่กูเพิ่งเล่าอีกละ...
>>495 เพื่อนกูบอกว่า คนอื่นๆ ที่นางคบมีแต่คนไม่จริงใจ นางเลยเลิกคบ ถึงขั้นเปลี่ยนเฟส จนกูกว่าจะติดต่อนางได้ก็ตั้ง 5 ปีหลังเรียนจบ แถมเจอโดยบังเอิญหลังกูเลิกงานพอดี นางบอกว่ามีแต่กู กับเพื่อนอีก 3 คน (รวมตาผู้ที่นางเคยพามาพักด้วย) เป็นเพื่อนที่จริงใจที่สุดละ
>>497 มีครั้งนึง นางชวนกูไปกินข้าวเย็นหลังเลิกงาน ตอนแรกกูก็ตอบตกลงไป แต่กูดันมีงานต้องรีบทำ ทำให้กลับบ้านดึก เลยบอกไม่ไปก่อนวันนัดวันนึง นางก็คะยั้นคะยอให้กูไปให้ได้อยู่นั่นล่ะ กูก็ปฏิเสธนาง เพราะไม่อยากให้นางคอยเก้อ และไม่อยากกดดันตัวเองด้วยล่ะ สุดท้ายนางเลยพูดประชดกับกูว่า "เออ..ไปกินคนเดียวก็ได้" -_-;
เพื่อนแม่งชอบพูดคำว่าfilter เป็นฟิตเลอร์ตลอดเวลา พอกูบอกว่าจริงๆมันอ่านว่าฟิลเตอร์นะ นางก็เถียงตลอด เรื่องอ่านผิดไม่เท่าไหร่แต่ทำผิดแล้วไม่ยอมฟังอะไรนี่มันชวนปวดหัวจริงๆ
เล่นเกมกับเพื่อนหลายๆคนกันสนุกๆ
เพื่อนอีกคนสู้ไม่ได้ ก็มาพูด
"ปล่อยให้ N เล่นเองดิงั้นมันจะสนุกอะไรวะ"
สอนคนเล่นไม่เป็น มันก็ปกติปะวะ
พอผ่านไปซักพักเล่นไงก็ไม่ชนะ
"มึงดูทีมกูดิ ไอ้L กับ P ยังเดินกันไม่เป็นเลย"
"กูเล่นกันหนุกๆ มึงทำเป็นเล่นจริงจังไปได้ มันจะสนุกอะไร"
คือ มึงเป็นด้อยไรวะ เป็นคนชวนเล่นเอง อยู่ก็มาพูดให้กูรู้สึกผิด ถ้ามันสนุกกับจริงมึงจะออกปากที่หลังทำไมวะ เสียความรู้สึก
ไปอยู่ในกลุ่มที่รู้สึกว่าเราไม่เป็นส่วนหนึ่งของเขา แบบที่ต่อให้ช่วยอะไรแค่ไหน หรืออยู่ข้างๆในเวลาสำคัญก็ยังกลายเป็นคนที่โดนลืมอยู่ดี พยายามคุยแล้วด้วย แต่สุดท้ายก็คุยแต่เรื่องที่ตัวเองเข้าใจกันเอง รู้สึกแย่ชิบหายเลยว่ะ ขนาดรูปกลุ่มที่อัพลงไอจีก็ยังเป็นรูปที่หน้ากูโดนบังไปครึ่ง ตอนถ่ายก็ไม่ได้บอกเลยว่าให้กูเขยิบหรือคนข้างหน้าเขยิบ ตอนนี้ก็รู้สึกแบบ กูอยู่ทำไมวะ? ที่ตรงนี้มันไม่มีที่ให้ตัวตนกูอยู่เลย ทำอะไรก็ไม่มีใครเห็นไม่มีใครสนใจ ไม่ได้เกลียดกันแต่ไม่มีใครจำกูได้หรือสนใจกูอะ แต่จะออกก็ทำไม่ได้เพราะมันมีภาระผูกพันกันอยู่ อึดอัดชิบหาย จะถอยก็ไม่ได้ อยู่ต่อก็อึดอัด พยายามปรับให้เข้าหามากขึ้นก็แล้ว ช่วยเป็นที่ปรึกษาก็แล้ว แต่แม่งก็โดนมองว่าจืดจางตลอด กูเกลียดความรู้สึกนี้ชิบหาย แม่งรู้สึกแย่อะ ทำไงให้มันดีขึ้นดีวะ
ปล. กูอยู่ในกลุ่มนี้มา3ปีแล้ว
รำคาญคนนึงอ่ะ คือเหมือนนางอยากสนิทกับเพื่อนกูมากๆ เวลากูคุยกับเพื่อนกูงี้นางก็ชอบเข้ามาพูดแทรกอ่ะ แทรกแบบกูยังพูดไม่ทันจบประโยคนางก็พูดอีกเรื่องขึ้นมาเฉย หักหน้าเหี้ยๆ เวลากูเดินกับเพื่อนนางก็ชอบเข้ามาเบียดอ่ะ เข้ามาแทรกตรงกลางเลย ถามจีง ต้องกระเหี้ยนกระหืออยากสนิทอะไรขนาดนั้น
>>504 อ่านมึงแล้วนึกถึงกูกับเพื่อนตอนเรียนเลยว่ะ กูกับเพื่อนแม่งสนิทกันมากแบบชอบอะไรคล้ายกัน ไลฟ์สไตล์คล้ายกัน แล้วกูเป็นพวกเอื่อยๆเรียบง่ายเรียกไปไหนไปมีนัดเดทกินขนมบ่อยๆตอนเย็นแต่โมเม้นเหมือนคนแอบลักลอบคับกัน คือนางมีเพื่อนสนิทอยู่แล้ว กูก็ดูออกนะว่าเพื่อนสนิทนางแม่งไม่ชอบกู แรกๆขัดขากูทุกอย่าง เสือกต้องทำงานกลุ่มกันบ่อย กูเสนออะไรก็ขัดกู กูจะคุยกับเพื่อนเรื่องงานก็ขัดกู แต่กูก็เฉยๆ ไปทำงานนอกสถานที่งี้กูแม่งไม่ได้เดินกับเพื่อนคนนี้เลยโดนกีดกันขั้นสุด ลับหลังเที่ยวกันบ่อยมากแต่กูกับเพื่อนไม่เคยถ่ายรูปคู่กันเลย แท็กสถานที่แม่งยังเอาขึ้นคู่กันไม่ได้ สถานะแอบคบสัสๆ
เหนื่อยว่ะ คนเป็นเพื่อนกันนี่ พอสนิทกันแล้วก็ไม่ต้องใส่ใจกันแล้วเหรอวะ
กุมีเพื่อนนะ แต่กุชอบการอยู่คนเดียวมาก ไปไหนคนเดียวกินข้าวคนเดียว
คือจริงๆกุว่ากุชินกับการอยู่กับที่บ้าน ไปไหนมาไหนกับพี่มากกว่า มันสนิทใจดี
พอต้องมาอยู่กับคนอื่นแล้วกุอึดอัด เลยตัดปัญหาด้วยการไปไหนมาไหนคนเดียว แฮปปี้ดี
ตอนแรกกุก็คิดว่าไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่หรอก ยังเข้าสังคมได้ปกติ แต่มีวันนึงพอเจอเพื่อนที่พยายามจะขยับเข้ามาเป็นเพื่อนสนิทกับกุมากๆแล้วกุอึดอัดว่ะ สกินชิปอะไรแบบนั้น หรือจู่ๆก็เล่าเรื่องชีวิตตัวเอง ทำให้กุเผลอเล่าออกมาด้วยทั้งๆที่ไม่ได้คิดจะเล่า แต่บรรยกาศมันพาไป
คือก็ไม่ได้รังเกียจนะ เพื่อนไม่ได้ทำไรผิดเลย แต่กุกลับรู้สึกไม่อยากสนิทไปมากกว่านี้อะ ควรทำไง เหี้ยจังวะ
กูต้องเป็นห่วงเพื่อนกูป่าววะ
คือปกติเนี่ยเพื่อนกูมันจะเป็นคนห้าวๆ ชอบทำอะไรคนเดียว ไปตปท.คนเดียว พูดจาตรงไปตรงมา
แล้วคือมันมีปัญหากับที่ทำงานจนไปทำขายตรง แล้วแม่งเหมือนมันเปลี่ยนไปเป็นอีกคน
เช่นทำตัวเป็นจุดเด่นมากๆ เปลี่ยนทรงผมทุกวัน เสื้อผ้าไม่เคยใส่ซ้ำ (จนกูคิดว่าพวกขายตรงมันมีร้านเสื้อให้เช่าข้างในป่าววะ หรือเค้ามีโครงการยืมกันใส่),
ตัดสินใจอะไรไวแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง อันนี้กูดูว่าเป็นปัญหามาก ตัวอย่างเช่น แต่งกับฝรั่งที่มึงคุยวีดีโอคอลมาปีนึงกับเค้ามาหาได้ไม่กี่วัน
เงินไม่ได้มีเยอะแถมต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถอีก แต่เอาไปลงทุนแปลกๆเช่นซื้อปล่อยเช่าคอนโด(ตจว.) แต่จุดที่คอนโดมึงอยู่เนี่ยมันไม่ใช่ทางหลักโว้ยคงจะมีคนมาเช่าอ่ะ
แล้ววันนี้อะไรคือการที่มึงใส่กี่เผ้ามาทำงานคนเดียววะ ไม่มีนัดเพื่อน??? มึงเป็นไรมากป่าววะเนี่ย - -a
พวกมึงอาจอยู่ออฟฟิศเดียวกัน มีเพื่อนคนเดียวกันก็เป็นได้
ชีวิตเป็นของเราใช้ให้สุด ๆ อย่าไปแคร์สายตาใคร เริ่มจากใส่กี่เผ้ามาทำงานคนเดียวก็ได้
แต่ใส่กี่เพ้ามาทำงานคนเดียวนี่ ในเชิงธุรกิจถือว่าประสบผลสำเร็จแค่ไหนวะ แบบเชิงๆว่า
A:มึงๆ วันนี้ C ใส่กี่เพ้ามาทำงานคนเดียวเลยว่ะ
B:อะไรทำไมมั่นจังวะ ฯลฯ
B:ไม่รู้ว่ะ แต่ได้ยินว่าไปขายตรงกับ***มา
คือแค่คนที่รู้จักกันสนิทๆหน่อย กับคนที่รู้จักผ่านๆมาเห็น ข่าวมันก็แพร่ไปเยอะละนะ ละมีแนวโน้มว่าชื่อ บ.ขายตรงก็จะแพร่ติดไปด้วย
ของกูเคยมีใส่ชุดไทยรัตนโกสินทร์มา ไม่ได้ขายตรงและไม่ได้ไปงานอุ่นไอรัก..
บ.กูก็ใส่กี่เผ้ามากันหลายคนนะ แต่แผนกก็มีคนเดียว ก็ไม่เห็นจะเป็นไร น่ารักดี
กูว่าจะใส่อะไรก็เรื่องเค้าว่ะ แค่เพื่อนไม่มาขายตรงกะมึงก็พอแล้วมั้ง
ทำงานกลุ่มกันแล้วกูให้เพื่อนช่วยพิมพ์ประโยคที่คิดกันไว้แล้วเขียนในกระดาษมาให้กู (15ข้อ สั้นๆข้อละไม่ถึงบรรทัด) แล้วกูจะเอามาจัดหน้าทำงานต่อเอง เพื่อนคนนึงบอกให้กูทำเอง เพราะจะไปนอน พอกูบอกเพื่อนอีกคน เพื่อนกำลังทำงานอีกวิชา(งานค้างที่เลยกำหนดส่งมาแล้ว) ถามกูว่าทำไมต้องให้พิมพ์ ละก็บอกให้กูไปพิมพ์เอง
กูท้อใจ ปัดกันเหมือนไม่ใช่งานตัวเองอะไอสัส ตอนคิดกูก็ช่วยคิด ยังต้องมาบอกให้ทำงานอีก กูพิมพ์เองทั้งหมดก็ได้แต่กูก็มีงานต้องทำไหมล่ะ พรุ่งนี้ก็มีสอบ แทนที่จะแบ่งเวลามาคนละนิด กลับปัดไปปัดมา กูควรทำไงกับเพื่อนดีวะ แม่ง หัวร้อน
กุเคยเห็นเขาบอกกันว่าเพื่อนผู้ชายทะเลาะกัน ต่อยกันเสร็จก็จบ จับมือคืนดีได้ กุสงสัยว่าถ้าเกิดอะต่อยกัน แต่อีกฝั่งเก่งกว่า ยำอีกคนเละข้างเดียว อย่างงี้มันยังคืนดีได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจปะวะ
ควิซก่อนเรียนตอนคนอื่นไม่มาใส่ชื่อมันได้แต่พอกูไม่มาพวกมึงลืมกู หรือเพราะกลุ่มมันครบเลยไม่สนใจ น้อยใจวะ
>>521 อ่านเม้นมึงแล้วนึกถึงตัวเองว่ะ กูเคยต่อยกับเพื่อนเพราะเรื่องโคตรปัญญาอ่อนเลยไอ้สัส
คือเล่นวินนิ่งกัน สามคนที่บ้านเพื่อน สมมติมันชื่อ A กูกับไอเอ แข่งวินนิ่งกันอย่างดุเดือดและเมามัน
โดยมีไอ้ B เจ้าของบ้านนั่งเชียร์ สักพักนึงเตะจุดโทษ ต่างฝ่ายต่างแอบมองจอยกัน
แรกๆก็ขำๆ หลังๆชักเริ่มด่ากัน ด่าไปด่ามา เริ่มหัวร้อนไอ้สัสเอ๋ย
เท่านั้นแหละซัดกันนัวหน้าจอทีวี ไอ้ B เจ้าของบ้านต้องเข้ามาห้าม
หลังจากวันนั้นมากูกับไอ้ A ก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยว่ะ จากที่มันอยู่ในกลุ่มกู มันก็ย้ายกลุ่มไปอยู่อีกกลุ่มนึง
ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กเหี้ย แล้วพอจบ ม3 มันก็ย้ายตามกลุ่มเด็กเหี้ยนี่ไปเรียน ช่างแถวหัวหมาก
หลังจากนั้นไม่ได้ข่าวคราวมันเลย มารู้ข่าวอีกที ตอนมันถูกยิงตายหน้าบ้าน ก่อนวันรับวุฒิจบ ปวช.ปี 3 แค่อาทิตย์เดียว
กูช็อคสัสๆเลย ทุกวันนี้กูโทษตัวเองตลอดว่าถ้าไม่ปัญญาอ่อนต่อยกันเพราะเรื่องเท่าหมอยหมา
แล้วมันไม่ออกจากกลุ่มไป ชีวิตมันคงไม่ต้องกลายเป็นเด็กใจแตก ทะเลาะกับพ่อแม่มัน เพราะคบเพื่อนเหี้ยๆ
ทำให้พ่อแม่มันทุกข์ใจ สุดท้ายก็จากโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวนี้มาจากตัวกูแท้ๆ คิดไปคิดมาแล้วเศร้า
จบเหี้ยไร สมัยมหาลัยเพื่อนกูแม่งทะเลาะกันตอนปีหนึ่ง ไม่เผาผียันเรียนจบ
อีกคน เพื่อนปอโทโดนด่าลับหลัง แม่งแค้นจะต่อยเขา ต่อยเสร็จแม่งจบ(มันชนะ) แต่คอยตามเสี้ยมคนอื่นในห้องให้เกลียดอีกคนต่อ
คนที่รงต่อยกันแย่งผญ ต่อเสร็จแม่งฟ้องhrเสี้ยมให้ไล่อีกคนออกหาว่าติดยา
ผชมันก็เจ้าคิดเจ้าแค้นขี้นินทาขี้เสี้ยมเหมือนผญแหละ ที่ว่าต่อยจบๆนั่นมันละคร
เพื่อนโม่ง กูถามหน่อยสิ ว่ากูอคติเกินไป หรือเพื่อนกูโลกสวยไปวะกับเคสนี้...
กู (ญ) มีเพื่อนเป็น (ญ) ทีนี้เพื่อนกูไลน์ชวนกูไปเที่ยวห้าง กูก็ตอบตกลง แต่เพื่อนกูก็ไลน์มาว่า วันนั้นนางจพพาผู้ที่รู้จกกันทางเว็บหาคู่ (ไม่กี่เดือนไปด้วย กูรู้สึกกระอักกระอ่วม เลยบอกปัดไป เพื่อนกูเลยพูดว่า กูไม่ไว้ใจนางเลยเหรอ ที่กูปฏิเสธนางเพราะพาผู้ที่เพิ่งรู้จักไม่นานไปด้วย แล้วเพื่อนกูก็บอกว่า ต่างเพศเราเป็นเพื่อนกันได้นะ ถึงแม้ว่า เราจะเพิ่งรู้จักกันผ่านทางเพื่อนที่รู้จักผู้คนนั้น นางเคยนอนร่วมห้องกับผู้ 2 คนมาแล้ว และกูเคยโดนนางจับนอนรวมกับผู้ที่กูเพิ่งเคยเห็นหน้ามาแล้วครั้งนึง (นอนรวมกันสามคน ญ 2 ช 1) กูคือ >>498 เองหละ
กูรู้แหละว่าผู้หญิงที่ไม่ถือสาอะไรแบบนางมันก็มีนั่นล่ะ แต่กูถือไง เพราะกูเคยมองผู้ติดลบมาก่อน ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะ แต่มองบวกขนาดนางไม่ได้ว่ะ..
กูเริ่มรำคาญเพื่อนกูว่ะ เอาจริงๆกูว่าแม่งนิสัยน่ารำคาญมาตั้งนานละ แบบชอบทำเหมือนตัวเองเป็นคนสำคัญอ่ะ ทุกคนต้องพูดถึง ทุกคนต้องสนใจ เวลากูคุยกับคนอื่นเรื่องอื่นแม่งก็จะชอบแทรกเข้ามาพูดเรื่องของตัวเอง เช่น
กู: คนนี้กับคนนี้เป็นแฟนกันนะ เห็นไปกินข้าวด้วยกัน
มัน: กูก็เคยมีแฟน แต่เลิกไปละ ให้ทายแฟนกูเป็นใคร
กู:........
คือเก็ตฟีลป่ะ คุยเรื่องคนอื่นแต่เสือกลากเข้าเรื่องตัวเอง คุยประเด็นเหี้ยไรก็ลากเข้าเรื่องตัวเอง เหมือนกับมึงจะพูดเหี้ยไรก็ตามแม่งก็้จะไปจบที่เรื่องของมันตลอดจนกูไม่อยากคุยด้วย บางทีก็จะชอบมาคิดว่าคนนู้นคนนี้พูดถึงมันรึเปล่า กูเล่าเรื่องมันให้ใครฟังรึเปล่า คือไอสัส มึงไม่ได้สำคัญอะไรเลยที่กูจะต้องเอาเรื่องชีวิตมึงไปเล่าให้ทุกคนที่กูเจอฟัง แล้วทำไมคนอื่นจะต้องมาอยากรู้ชีวิตมึงวะ ไร้สาระชิบหาย
แล้วนี่ก็มาง้องแง้งใส่กู ทำเหมือนต้องการคำปรึกษาแต่พอพูดไปแล้วก็เหมือนพายเรือในอ่าง พูดวนไปวนมาอยู่นั่น เหนื่อย ไม่รู้จะรับมือไงดี คือแบบชอบมาตั้งคำถามให้กูหาคำตอบที่มันเองก็รู้คำตอบอยู่แล้วอ่ะ แต่เสือกให้กูพยายามหาคำตอบ คือกูก็ไม่ได้อยากรู้มั้ย กูต้องพยายามขนาดนั้นมั้ยวะ อยากจะบอกก็บอก ไม่อยากก็ไม่ต้อง นี่จะบอกแต่เสือกกั๊ก เสียเวลากู ไม่มีสาระอะไรเลย เจอบ่อยๆก็เซ็งนะเว้ย
ไอเหี้ย เพื่อนสนิทที่ไหนเค้ากล้าเรียนตัวเองว่าเพื่อนสนิทแต่ลับหลังพยายามทำให้กูถูกแบน พอมาต่อหน้าก็ให้กูติวหนังสือให้แล้วลับหลังก็เอากูไปพูดว่าเก่งแต่แบบนี้ระวังจะไม่ได้เรียนต่อ เป็นเหี้ยอะไร มึงอยากให้กูโดนให้ออก โดนสังคมรังเกียจ แต่พอมึงเข้ากับเพื่อนกลุ่มใหม่ไม่ได้ก็กลับมาเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้นนี่คืออะไร
จริงๆกูควรรู้ตัวว่าไอเหี้ยนี่กลับตัวไม่ได้ตั้งแต่ที่มันพูดทำนองว่าที่เพื่อนทำให้มันเพราะเพื่อนมันโง่หลอกใช้ง่ายแล้ว มึงพูดขนาดนี้ตอนถ้านั้นกูไม่ได้มองมึงในแง่ดีจริงๆกูซัดปากแตกไปแล้ว กูพึ่งมารู้ส่ามันสะใจตอนกูโดนอ.ด่า ตอนกูตกตํ่า ไอเหี้ย
ออ ที่มันเอากูไปด่าไปทำให้ถูกแบนเพราะกูเตือนมันให้เกรงใจกูบ้าง ของๆกูไม่ใช่ของๆมึง
>>530 แล้วกูก็เคยเตือนมันไปแล้วว่าอย่าทำตัวลอบกัดแบบนี้ มันจะทำให้คนอื่นมองว่ามึงไว้ใจไม่ได้ แล้วมันก็เอากูไปด่าลับหลังอีก สุดท้ายมันก็โดนทั้งกลุ่มแบนเพราะสร้างวีรกรรมครบทุกคน(พอกูไม่เอามัน มันก็ไม่สนใจไปสนิทกับคนอื่น ซึ่งก็โดนเหมือนกู มันเลยย้ายคนไปเรื่อยๆเหมือนไม่ได้แคร์ว่าเป็นใคร ไม่ตามใจกูก็หาใหม่แล้วด่าคนเก่าให้คนใหม่ฟังวนไป)
กูก็อยากรู้จริงๆว่าถ้ากลุ่มกูหมดความเมตตาแล้วเล่าให้คนอื่นฟังเหมือนกับที่มึงทำกับพวกกู มึงยังจะเหลือพื้นที่ในสังคมไหม
ออ ไม่นับที่มันทำให้กูเป็นส่วนเกินของเพื่อนตัวเองนะ แต่ดีที่พอกูไม่แคร์มัน ไม่สนใจมัน กูก็กลับมาสนิทกับเพื่อนหลายๆคนเหมือนเดิม
>>530 ลับหลังมึงจะด่าว่ากูโง่ กูงี่เง่าเอาแต่ใจควายแค่ไหนกูก็ไม่ว่าแค่ไม่อยู่กับมึง แต่ถ้าถึงขั้นอยากเห็นกูตกตํ่านอกจากจะคบไม่ได้คงมีตบกลับบ้างแล้ว กูถือว่ากูเตือนแล้ว
มันเป็นคนดีไม่เคยจำระยำไม่เคยลืม ไม่เคยมองว่าตัวเองผิด ถึงมองว่าตัวเองผิดก็มักจะมองว่าคนอื่นผิดกว่าเสมอ ยิ่งสนิทยิ่งมองแบบนี้ รุกลํ้าความเป็นส่วนตัว สแกนลายนิ้วมือในไอแพดเพื่อนโดยไม่ของี้ ใช้ของกูเหมือนของตัวเองโดยไม่คิดถึงกูบ้างงี้ ไม่พอใจอะไรก็ไม่เคยพูดแต่ไปด่าสาดเสียเทเสียแล้วก็มานั่งกินข้าวนั่งเรียนข้างๆกันงี้หรอ กูยังไม่พูดถึงวีรกรรมที่หนักกว่านี้เพราะโม่งแตกแน่ๆ วีรเลวขนาดนี้เล่าแล้วโม่งแตกแน่นอน ถึงจริงๆกูจะไม่แคร์ที่โม่งแตกเพราะรอเวลาจะใส่กลับอยู่พอดี
แต่นํ้าหน้าอย่างมันต่อให้กูด่ามันต่อหน้ามันก็คงทำตัวน่าสงสารให้เพื่อนด่าพวกกูลับหลังละมั้ง สมเพชวะ สมแล้วที่มึงเคยบอกกูกับมึงต่างกันมากไม่น่าเป็นเพื่อนกันได้ เออ เป็นกันไม่ได้จริงๆ
รู้สึกแอบน้อยใจหน่อยๆที่เพื่อนมหาลัยคนนึงแต่งงานแล้วไม่บอกหรือชวนกูไปงานเลยซักแอะ มารู้อีกทีก็ตอนโพสรูปลงเฟซหลังจบงานไปแล้ว
ถึงจะไม่ได้สนิทมากแต่ก็เคยคุยกันบ้างเป็นระยะ แล้วตอนเรียนกูก็ช่วยมันทำโปรเจคมาตั้งหลายงาน
>>533 เพื่อนมหาลัยกูคนนึงแต่งงาน กูไม่ได้ไป(เขาไม่ได้ชวน) กูก็ไม่อะไร จนวันนึงนัดกลุ่มกัน แม่งบ่น งานแต่งเรา นัดนู่นนี่ ฯลฯ ทำไมไม่มาเลย
สรุปแม่งชวนผ่านเพื่อนอีกคนที่กูสนิท อีเพื่อนคนนั้นก็เหี้ยไรไม่รู้ไม่มาบอกต่อกู กูได้แต่ยิ้มแห้ง ไม่ว่างเลยยยยยย งานเยอะะ
อีสัสส ชวนตอนไหนกูไม่รู้เรื่องเลยเว้ย รู้ตัวอีกทีอยู่นอกวงเฉย
ถามหน่อย ไม่รู้ถูกที่ป่าวนะ
กุมีเพื่อนคนนึง มีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้า หรือไม่มันก็คงเป็นไปแล้วล่ะ ชอบคิดมาก
มันไม่ได้ทำงาน กุไม่รู้ว่าเป็นเพราะมันไม่ค่อยได้เจอใครด้วยรึป่าว เลยคิดมาก คิดคนเดียวเลยคิดไปไกล
ทีนี้อยากให้มันลองไปหาหมอดู แต่ไม่รู้จะบอกมันยังไงดี กลัวมันจะไปกันใหญ่
ควรทำไงดีวะ
>>536 เพื่อนมึงมีอาการไงล่ะ ปกติชอบเก็บตัวหรือชอบสังคม มึงสนิทเพื่อนคนนี้มากน้อยแค่ไหน
ถ้าสนิทมากพูดตรงๆไปเลยว่าอยากให้ไปตรวจ มึงจะพาไป ถ้าคุยเเล้วเพื่อนมึงไม่อยากไปก็ปล่อยเค้า เค้าเลือกเอง
หรือให้ซับซ้อนไปอีก ไปนั่งคุยกะเพื่อนว่าตัวมึงเองมีอาการแบบนี้ๆ(อาการการของเพื่อนมึงแต่ติ๊ต่างว่ามึงเป็นเอง)
เพื่อนมึงอาจจะนึกว่าอุ้ยมึงเหมือนกูเลย พวกมึงก็จูงมือกันไปตรวจ
กูไม่เข้าใจเพื่อนที่คิดร้ายกับกุเลยว่ะ กุไม่เคยแช่งมันหรือทำห่าไรเลยนะ แค่ไม่อยากไปไหนหรืออยู่กับมันลำพัง2คน เพราะกูอึดอัดเวลากูจะนั่งด้วยมันชอบพูดเหมือนไม่อยากให้กูนั่งและทำหน้าไม่พอใจ ตอนแรกกูก็คิดว่าไม่มีอะไรเพราะกูก็ไม่เคยทำไรมัน สรุปคือแม่งโวยวายไม่พอใจที่กูสอบติดที่เดียวกับมันอยู่หน้าห้อง กูรู้นะว่าคนแบบนี้ไม่ควรคบหาแต่กูก็อยากรู้ว่าคนเราจะเกลียดกันแบบโง่ๆได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ ตอนแรกก็ไม่ได้เกลียดนะกูเฉยๆกับมันเลยแหละตอนนี้กูเกลียดมันว่ะ ตอนแรกก็ว่าเรียนจบไปจะยังคบ(แบบผิวๆ)อยู่ตอนนี้กูตัดสินใจว่าเรียนจบไปแล้วกูตัดขาดทันที เพื่อนคนไหนจะคบต่อก็คบไปแต่กูตัดจริง
รู้สึกคนคนนึงประสาทแดกกับกูมาก สั่งให้คนในกิลด์ (เค้าเป็นหัวหน้ากิลด์ในกลุ่มเกม) มาคอยไล่ล่ากู ต่อให้ทีมเดียวกันก็คอยจะฆ่าให้ตาย ละพิมด่ากูเสมอ
ล่าสุดออกกิลด์แล้ว ยังตามรังควาน รับมืออย่างไรดี เลิกเล่นก็ยาก เพราะเพื่อนก็ยังเล่นอยู่หลายคน แต่คนแบบนี้ทำให้สนุกน้อยลงจริงๆ
กูควรดีใจไหมที่กูขัดหูขัดตาเขาจนประสาทแดกขนาดนี้ อายุไม่ใช้น้อยๆละนะ งี่เง่าไปอะ
กูใจร้ายไปป่ะวะที่คิดว่าเพื่อนที่กำลังอกหักอยู่ทำตัวน่ารำคาญชิบหาย
คือแม่งอกหักไงแล้วก็มาระบาย ซึ่งแรกๆกูยินดีช่วยนะ ยินดีรับฟัง แต่ไมน์เซ็ทแม่งแบบทำตัวเป็นดราม่าควีนอ่ะ เช่น รักแท้ไม่มีจริง ทุกคนก็เหมือนกันหมด แล้วก็มาขอให้ปลอบใจหน่อย แต่พอปลอบอะไรไปก็เอาแต่ไม่ได้ๆ แล้วก็บ่นโวยวายรักไม่มีจริงเหมือนเดิม ร้องไห้ และอีกมากมาย
กูรู้ว่าคนมันอกหักมันก็ฟุ้งซ่านนะ แต่เหมือนคุยไม่รู้เรื่อง จะฟังเฉยๆก็ไม่ได้ เหมือนกูต้องมาพูดเรื่องซ้ำซากทึกวันๆ จนประสาทเสียอ่ะ ต้องการอะไรวะ พอบอกให้ก้าวต่อไปก็บอกทำไม่ได้แล้วก็มาถามว่าทำไงดี บอกอะไรๆก็ทำไม่ได้แล้วจะให้กูทำไงวะ แล้วทำเหมือนอยู่ในเอ็มวีต้องบอกให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองเศร้าตลอดเวลา บอกทุกคน ไปๆมาๆชักรู้สึกว่าเยอะชิบหาย
รูมเมทนอนดึกมาก แถมยังเสียงดัง กูเป็นคนหลับยากด้วย ทำไงดีวะ คุยกับมันแล้วนะว่านอนกูนอนอย่าเสียงดัง แต่มันก็ยังเล่นเกม พาเพื่อนพาแฟนมาชิทแชทอย่างออกรส ดูคลิปในเฟซในยูทูปจนกูต้องโยนหูฟังให้ แต่ก็เท่านั้น วันต่อมามันก็ไม่ใช้หูฟังอยู่ดี แม่งเสือกหลับง่าย ปิดไฟปุ๊บกรนปั๊บ ตัดภาพมาที่กู.... ประเด็นคือจะสอบแล้ว กูต้องพักผ่อนหนักๆ เห้อ ทำไงดี
>>545 ย้ายออกไปอยู่คนเดียว
ไม่ก็ หาเมทพร้อมห้องใหม่ กูจำได้ว่ามันน่าจะมีพวกกลุ่มในเฟซบุ๊คที่หาหาหอ หาเมท อยู่นะ ลองไปหาดูสิ
แล้วก็ระบุนิสัยเมทที่ต้องการ หรือที่มึงคาดหวังอะ ไรงี้ ลองดูนะ
เพราะดูแล้วเมทมึงคนปัจจุบันมันไม่เปลี่ยนหรือไม่แก้นิสัยหรอก มันเป็นสันดานแล้วอะ
มึงบ่นจนปากเปียกปากแฉะก็คงแก้ได้ชั่วคราวเดี๋ยวก็กลับมาทำใหม่
ทางที่ดี ไม่หาหอใหม่ ก็หาเมทพร้อมห้องใหม่ซะ
>>546 +1 นิสัยเสียมันแก้ไม่ได้ง่ายๆ แก้ที่ตัวเองง่ายสุด
เมื่อก่อนกูอยู่หอกับเพื่อนสองคน แม่งไปๆมาๆย้ายเข้ามาอยู่เป็น5คนทั้งห้อง (จ่ายค่าห้อง3 เนียนๆ1 มาเล่น1) แม่งโคตรชิบหาย ก่อนหน้าเมทกูก็นอนดึกดีดๆอยู่แล้ว พอห้าคนไอ้เหี้ยเละ บางวันนอนตีห้า(แต่ตื่นเที่ยง) ช่วงสอบอ่านหนังสือไม่ได้เลยแม่งกวนนู่นนี่ โชคดีกูเป็นคนพอสวิตซ์ปิดแล้วหลับสนิทเลยนอนช่วงหัวค่ำ แล้วตื่นเช้ามาอ่านตอนพวกแม่งหลับ
สุดท้ายกูก็ย้ายออกนะ ชีวิตดีขึ้นเยอะ
เมิงเป็นกันไหม เวลาบ่นให้เพื่อนฟังแล้วเพื่อนไม่สนใจ แม่งเคือง พอมันบ่นบ้างก็อยากทำเมินใส่บ้าง
ช่วงก่อนกูบ่นเรื่องงานให้มันฟัง แม่งปล่อยกูบ่นๆในไลน์ พอมาอ่านแม่ง โหๆ แย่เลย แล้วตัดบทไปคุยเรื่องอื่น
วันนี้แม่งบ่นบ้าง แต่กูเหม็นๆแล้วทีกูเมิงยังไม่ฟังเลย
เพื่อนกูมันมีแฟนกูว่าจะไม่อะไรกับมันละไม่รู้ดิให้มันไปอยู่แต่กัแฟนมันอ่ะดีป่ะ 555
วันนี้วันเกิดแต่เพื่อนสนิทดันลืมแล้วนัดไปเที่ยวกับเพื่อนใหม่ที่เพิ่งเริ่มสนิทกันที่มหาลัย ขนาดกูบอกมันแล้วนะ😂
แอบน้อยใจนิดหน่อยกุจะดูงีเง่าปะวะ แง555555
เพื่อนโกรธเพราะกุไม่ได้ชวนไปกินข้าววันเกิดกู แล้วก็ไปพิมพ์บ่นประชดประชันด่ากูกับเพื่อนอีกคนในกลุ่มที่มันสนิท ส่งมาหากุด้วยแต่ลบไป กุอ่านไม่ทัน
กุแบบ เหี้ยไรอ่ะ กุรำคาญมันมานานละ มันเป็นเพื่อนประเภทขี้ประชดอ่ะ เหมือนแบบ มันชวนกุไปที่นึงทกุไม่ไป ใันก็จะประชดใส่ ใช่สิ ไอมันไม่สำคัญเท่า_(เพื่อนอีกคน)นี่ ยผุยอมไปกับเขาแต่ไม่ไปกับไอ ไอมันแผนสำรองของยูนี่ มาหาไอแค่เวลายูไม่มีใคร (ซึ่งอิสัส กุไม่เคยทำ กุไปหามึงแค่เวลาคิดถึงมึง) แล้วมันก็ชอบล้อสำเนียงกู ชอบทำหน้ากวนตีนเวลากุออกเสียงคำไม่ถูกแล้วก็แบบ หมายถึงคำนี้เหรอ (สำเนียงจัดเต็ม) กุเลยไม่ค่อยชอบมัน รำคาญอ่ะ แต่ก็รักด้วยเพราะก็มีช่วงเวลาดีๆด้วยกัน เกทปะ ทั้งรักทั้งเกลียดทั้งรำคาญ เพื่อนคนอื่นในกลุ่มไม่ล้อมีแต่ช่วยกันแก้ไข ไอ้นี่ชอบทำหน้าทำตาล้อเลียน พอเรียนจบมปลายเลยห่างมันไป แล้วมันก็มาโวยใส่ คือกุก็ไม่ได้แคร์ แค่ไม่ชอบที่โดนด่าอยู่ฝ่ายเดียวเกทปะ แล้วมันลบแชททิ้งไป กุจะพูดกับมันตรงๆก็ไม่ได้ พอกุส่งไปถามว่า ยูส่งไรมา มันก็บอก ป่าวไม่มีอะไร ไม่มีเหี้ยไรมึงด่ากูกับเพื่อนอีกคนอยู่เนี่ย
เพื่อนที่กูเคยสนิท แต่ไม่ได้คุยกันเลยมานานเกือบสิบปี อยู่ๆก็มาชวนให้กูไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวงานแต่งนางหว่ะ คือกูดีใจนะที่นางนึกถึงกู นึกถึงช่วงที่เคยสนิทกันนี่มันดีนะ แต่มันห่างกันไปละไง รู้สึกแปลกๆนิดหน่อย แบบเห้ยเพื่อนเจ้าสาวเลยนะเว้ยไรงี้ คือสำหรับกูระดับความสัมพันธ์มันไม่ใช่ละไง เหมือนกลายเป็นแค่คนรู้จักกันไปมากกว่า
เพื่อนผิดนัดอะ น่าเบื่อ เวลาจะวางแพลนไปเที่ยวก็ให้รอ โคตรรำคาญ
เพื่อนในคณะส่วนใหญ่มีแต่คนเข้าสังคมเก่ง ซึ่งไม่ใช่กูไง เวลากูจะทำอะไรก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินตลอด
กูไม่รู้ว่าคนอื่นคิดยังไง แต่กํไม่สามารถเอ็นจอยไปกับทุกคนได้ทั้งๆที่กูโคตรอยากจะเอ็นจอย
เหนื่อยว่ะ คือรู้ทั้งรู้ว่านี่ไม่ใช่ที่ของกู แต่ก็อยากจะเข้าไปให้ได้ สุดท้ายแม่งก็ไม่ไหว กูเหนื่อย กูเหงา
ปรึกษานะครับ
ผมมีเพื่อนคนนึงมันบอกมันสนิทกับผมนะ แต่ไปไหนไม่ชวนเลยมันก็รู้ว่าผมชอบออกไปข้างนอกแต่ไม่ชอบไปคนเดียวผมก็บอกไปไหนชวนหน่อยดิ แต่ไม่ชวนอัพภาพลง หรือผมคิดไปเองว่าตั้งแต่เพื่อนมีแฟนแล้วติดแฟนมีสังคมของเขาผมเลิกคบดีมั้ยทนไม่มีเพื่อนไปก่อนแล้วค่อยหาใหม่
>>561 มันไม่ใช่แค่นั้นไงมึงกูเกริ่นๆ แล้วกูไม่ได้อะไรกับแฟนมันเลยมันเคยด่ากูว่าติดหีลืมเพื่อนพอกูพูดบ้างบอกไม่ชอบตอนนั้นทำไมด่ากูได้บ้าป่ะพอกูถามดีๆไม่ตอบแต่ไปเม้นภาะแฟนได้งงป่ะ ติดควยคือติดควยครับอย่างอ้าง เพราะกูเคยบอกแล้วไปไหนชวนบ้างนะเวลากูไปไหนก็ชวนอีสัสอย่าให้กูรู้นะว่ามึงคือมันไอ้ติดควยเห็นควยดีกว่าเพื่อนนอนกอดควยมึงในโลกมึงนู่นไม่ต้องแหกหีออกมาเจอคนอื่นหรอก
>>559 >>560 >>562 >>563 >>564
ไอ้เด็กเหี้ยขนตูดเป็นเหี้ยไรของมึงไอสวะ ปิดเทอมแล้วอย่ามาเกรียนเดี๋ยวกูโบกให้หัวเกรียนหายเหม็นเขียวเสียนี่
ถ้ามึงจะประสาทแดกขนาดนั้นอย่ามาถามอะไรในโม่ง ถ้ามึงรับคำตอบไม่ได้แล้วสติแตกแบบนี้นะไอเหี้ยเอ๋อ
สมควรแล้วที่เพื่อนมึงจะทิ้งมึงไปเพราะมึงมันเอ๋อไงไอ้สัส กรั่กๆๆๆ
กูเห็นมึงแล้วเหมือนพวกโรคจิตอะ เป็นเหี้ยไรไล่ด่าคนอื่นที่ตอบไม่ถูกใจตัวเอง
แม่มึงเดินอยู่กับนิโกรที่สวนลุมเป็น10คนเลยว่ะ ไปช่วยแม่มึงทำงานบ้างไอ้เด็กเหี้ยเอ๋อขนตูด
เท่าที่กูอ่านอีผชนั่นปูเรื่องมาไม่มีหยาบนะ แต่มึงหยาบใส่เขาเลยหยาบกลับมึงด่าแม่ ชีวิตจริงอย่าไปเบียวใส่ใครแบบนี้แหละเดี๊ยวปากแตกถ้ามึงตอบไม่สร้างสรรค์หรือตอบไม่ได้ไม่ต้องตอบแต่กูดีใจด้วยนะที่ออกมาจากเพื่อนติดควยของมึงได้กูก็เจอไม่ต้องไปยึดติดหีแตดใดใด
โคตรฮาถามดีไม่มีหยาบด่าแม่กูเฉ๊ยยย มีปมอะดิอย่าคิดว่าแม่คนอื่นจะเหมือนแม่เธอจะโดนนิโกรรุม
เหลานะ คือนางติดควยจ้าตอนสมัยมีผัวฉันไปไหนมาไหนกับผัวแล้วนางด่าฉันคิดควยแต่ฉันขำๆไม่ซีแล้วพอนางมีผัวนางอัพภาพนางเที่ยวไม่ชวนก็แซวกลัวนางบอกไม่อืมงื้มๆด่าไรคนอื่นเข้าตัวหมดจ้าเลยมาถามเลิกคบดีป่ะหาสังคมใหม่บลาๆเป็นเหี้ยไรด่าคนอื่นด่าแม่คนอื่นเอ๋อๆหรือไม่มีแม่ไงด่าแม่คืนเลยไม่เจ็บสรุปกูบลอคนางไปละฉันเลยติดซีรียยาวรอสอบมิดเทอมเกร๋ๆ
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.